Create successful ePaper yourself
Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.
292<br />
NC-222 ผลงานตีพิมพทางวิทยาศาสตรและ<br />
เทคโนโลยี ของนักวิจัยไทยในฐานขอมูล Science<br />
Citation Index (SCI) ระหวางป พ.ศ.2538-2546<br />
ณรงคฤทธิ์ สมบัติสมภพ, ปรียานุช รัชตะหิรัญ,<br />
ธีระศักดิ์ หมากผิน, นงเยาว เปรมกมลเนตร,<br />
วุฒิสิทธิ์ ยอชัย, มยุรา แซจิว<br />
การประชุมวิชาการวิทยาศาสตรและเทคโนโลยี ครั้งที่ 4,<br />
16 มีนาคม 2548, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร (ศูนย<br />
รังสิต), กรุงเทพฯ<br />
จากการศึ กษาผลงานตี พิ มพ ทางด าน<br />
วิทยาศาสตรและเทคโนโลยีของประเทศไทย ที่ปรากฏใน<br />
ฐานขอมูล Science Citation Index (SCI) ระหวางป<br />
พ.ศ 2538-2546 พบวา บทความของนักวิจัยไทยมี<br />
จํานวนรวมทั้งสิ้น 11,604 บทความ เมื่อพิจารณาใน<br />
ระดับหนวยงานพบวา มหาวิทยาลัยมหิดล จุฬาลงกรณ<br />
มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยเชียงใหม เปนหนวยงานที่<br />
มีจํานวนบทความวิจัยสูงสุด 3 อันดับแรก สําหรับ<br />
สาขาวิชาทิ่มิจํานวนบทความวิจัยสูงสุค คือ Clinical<br />
medicine นอกจากนี้ยังพบวาบทความวิจัยของนักวิจัย<br />
ใทยไครับการอางอิงรวมทั้งสิ้น 51,538 ครั้ง และ<br />
สาขาวิชาที่มีจํานวนครั้งที่บทความวิจัยของนักวิจัยไทยถูก<br />
อางอิงสูงสุดคือ Clinical medicine มหาวิทยาลัยมหิดล<br />
จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยเชียงใหม เปน<br />
สถาบันที่มีจํานวนครั้งที่บทความวิจัยของนักวิจัยไทยถูก<br />
อางอิงสูงสุด 3 อันดับแรก ดานความรวมมือกับตาง<br />
ประเทศ พบวา ประเทศที่มีจํานวนความรวมมือกับ<br />
นักวิจัยไทยในการตีพิมพผลงานวิจัยมากที่สุดคือ ประเทศ<br />
สหรัฐอเมริกา รองลงมาเปนประเทศญี่ปุน และประเทศ<br />
อังกฤษ ตามลําดับ สําหรับสาขาวิชาที่มีจํานวนความ<br />
รวมมือที่นักวิจัยไทยตีพิมพผลงานวิจัยรวมกับนักวิจัยใน<br />
ตางประเทศสูงสุด คือ Clinical medicine โดยจํานวน<br />
ความรวมมือที่นักวิจัยไทยตีพิมพผลงานรวมกับนักวิจัยใน<br />
ตางประเทศสวนใหญมาจากนักวิจัยของมหาวิทยาลัย<br />
มหิคล รองลงมาปนจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ผลจากการ<br />
วิจัยสามารถคาดการณวา การสรางความรวมมือในการทํา<br />
วิจัยกับนักวิจัยในตางประเทศ เปนการเพิ่มจํานวน<br />
บทความวิจัยและจํานวนครั้งที่บทความวิจัยจะไดรับการ<br />
อางอิง<br />
KMUTT Annual Research Abstracts 2005<br />
NC-223 สมบัติทางกลของเหล็กกลาไรสนิมออสเตน<br />
นิทิคและเฟอรริทิคเตรียมดวยโลหะผงวิทยา<br />
ณัฐพงษ กุลจิตติพิพัฒน, นาตยา ตอแสงธรรม,<br />
อรมณี คูวัฒนาชัย, รุงทิพย กระตายทอง, สัญชัญ มาตา,<br />
อนันต ดาราพันธ, ภาณุ เวทยนุกูล, นุชธนา พูลทอง,<br />
เรืองเดช ธงศรี<br />
การประชุมประจําป สวทช. 2548, 27-30 มีนาคม<br />
2548, ศูนยการประชุมอุทยานวิทยาศาสตรประเทศไทย,<br />
สํานักงานพัฒนาวิทยาศาสตรและเทคโนโลยีแหงชาติ,<br />
จ.ปทุมธานี<br />
ไดทําการผสมผงเหล็กกลาไรสนิมออสเตนนิทิค<br />
(303L, 304L, 310L และ 316L) และเฟอรริทิค<br />
(409L, 410L, 430L และ 434L) ในอัตราสวน 50 :<br />
50 จากนั้นนําผงโลหะผสมไปผานกระบวนการโลหะผง<br />
วิทยาเพื่อผลิตเปนเหล็กกลาไรสนิมดูเพล็กซ จากการ<br />
ทดสอบสมบัติเชิงกลของวัสดุที่ผานขั้นตอนซินเทอริงแลว<br />
พบวา ชิ้นงานที่เตรียมจากผงเหล็กกลาโครเมียมสูง 430L<br />
และ 434L ผสมกับผงเหล็กกลาไรสนิมอนุกรม 300 จะมี<br />
สมบัติเชิงกลที่ดอยกวากรณีที่ใชเกรด 409L และ 410L<br />
ในทํานองคลายกันชิ้นงานที่เตรียมจากผงเหล็กกลา<br />
โครเมียมและนิกเกิลสูงเกรด 310L ผสมกับผงเหล็กกลา<br />
ไรสนิมอนุกรม 400 จะมีสมบัติเชิงกลที่ดอยที่สุด อยางไร<br />
ก็ตามสมบัติเชิงกลของวัสดุซินเทอรที่ศึกษาครั้งนี้ยังดอย<br />
กวาวัสดุประเภทเดียวกันที่ผลิตดวยวิธีการหลอ มีความ<br />
จําเปนตองปรับปรุงสมบัติดังกลาวนี้ในอนาคต<br />
NC-224 BUILDING ENERGY CONSERVATION<br />
FOR SUSTAINABILITY<br />
สุรพงศ จิระรัตนานนท, พัฒนะ รักความสุข,<br />
Vu Due Hien, จันทกานต ทวีกุล, วิชุดา เมตตานันท,<br />
ยศวี เสนาะดนตรี<br />
การประชุมวิชาการเครือขายพลังงานแหงประเทศไทย<br />
ครั้งที่ 1, 11-13 พฤษภาคม 2548, โรงแรมแอมบาส-<br />
เดอร ซิตี้ จอมเทียน, จ.ชลบุรี, หนา 63-75<br />
Thailand has adopted an act for<br />
promotion of energy conservation since 1992.<br />
The law mandates issuance of ministerial<br />
regulations for energy conservation in large<br />
commercial buildings and creates an energy<br />
conservation promotion fund. A building energy<br />
National Conference