Sauvignon Blanc Effect of Different Rootstocks on Growth ... - CRDC

์์Agricultural Sci. J. 42(2)(Suppl.): 233-236 (2011) ว. วิทย์. กษ. 42(2)(พิเศษ): 233-236 (2554)ผลของต้นตอต่างพันธุ ์ต่อการเจริญเติบโต ผลผลิต คุณภาพผล และคุณภาพไวน์ขององุ ่นพันธุ<strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ปลูกในดินด่างที เกิดจากหินปูน<strong>Effect</strong> <strong>of</strong> <strong>Different</strong> <strong>Rootstocks</strong> on Growth, Yield, Fruit Quality and Wine Quality <strong>of</strong> ‘<strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong>’Grape on Alkaline Soil Derived from Limestoneสุรศักดิ นิลนนท์1 รัฐพล ฉัตรบรรยงค์1 และ จิระนิล แจ่มเกิด 1Nilnond, S. 1 , Chatbanyong, R. 1 and Jaemkerd, J. 1AbstractA study <strong>of</strong> growth, yield and wine quality <strong>of</strong> ‘<strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong>’ grape grown on alkaline soil derivedfrom limestone was carried out using ‘<strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong>’ grape cuttings (own-rooted) and ‘<strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong>’grape budded on 9 different grape rootstocks, namely: 110R, 140Ru, 1103P, 5BB, 5C, 8B, SO4, Ramsey and1613C. The results revealed that ‘<strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong>’ grape budded on 9 different grape rootstocks and ownrootedsignificantly affected on growth, chlorophyll content, yield, fruit and wine quality. ‘<strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong>’grape budded on different rootstocks showed over growth symptom except for those budded on 1613Cshowed normal growth. ‘<strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong>’ grape budded on the rootstocks gave higher number <strong>of</strong> cluster pervine and yield per vine than own-rooted. ‘<strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong>’ grape budded on all rootstocks had lower TSS,higher TA and lower juice pH than own-rooted except for 1103P rootstock that had lower TA than own-rootedand Ramsey and SO4 rootstocks had higher juice pH than own-rooted. Wine produced from ‘<strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong>’grape budded on 140Ru, 5BB and 1613C grape rootstocks gave highest score <strong>of</strong> sensory evaluation.Keywords: rootstock, wine grape, limestoneบทคัดย่อการศึกษาการเจริญเติบโต ผลผลิต คุณภาพผล และคุณภาพไวน์ขององุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ปลูกในดินด่างทีเกิดจากหินปูน โดยใช้กิงปักชําขององุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> และติดตาองุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> บนต้นตอองุ ่นจํานวน 9 พันธุ ์คือ 110R, 140Ru, 1103P, 5BB, 5C, 8B, SO4, Ramsey และ 1613C พบว่า องุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong>ติดตาบนต้นตอองุ ่นพันธุ ์ต่างๆ รวมทั งกิงปักชํา มีการเจริญเติบโต ปริมาณคลอโรฟิ ลล์ในใบ ผลผลิต คุณภาพผล และคุณภาพไวน์แตกต่างกันทางสถิติ องุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ทีติดตาบนต้นตอองุ ่นทุกพันธุ ์แสดงอาการ over growthยกเว้นองุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ทีติดตาบนต้นตอพันธุ ์ 1613C มีการเจริญเติบโตปกติ การติดตาบนต้นตอทุกพันธุ ์ให้จํานวนช่อดอก และนํ าหนักผลผลิตสูงกว่ากิงปักชํา การติดตาบนต้นตอทุกพันธุ ์ให้เปอร์เซ็นต์ TSS ของนํ าคั นตํากว่ากิงปักชํา ให้เปอร์เซนต์ TA สูงกว่ากิงปักชํา และให้ค่า pH ของนํ าคั นตํากว่ากิงปักชํา ยกเว้นการใช้ต้นตอพันธุ ์ 1103P ให้เปอร์เซนต์ TA ตํากว่ากิงปักชํา และการใช้ต้นตอพันธุ ์ Ramsey และ SO4 ให้ค่า pH ของนํ าคั นสูงกว่ากิงปักชํา องุ ่นพันธุ<strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ทีติดตาบนต้นตอพันธุ ์ 140Ru, 5BB และ 1613C เมือนํามาทําไวน์ ได้รับคะแนนความพึงพอใจในการชิมไวน์มากทีสุดคําสําคัญ: ต้นตอ องุ ่นทําไวน์ หินปูนคํานํา<strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> เป็ นองุ ่นชนิด Vitis vinifera L. นิยมปลูกกันมากเพือใช้ผลิตไวน์ขาว เป็ นพันธุ ์ทีแตกตาและเก็บเกียวเร็ว ทนต่อโรครานํ าค้างและผลเน่าพอสมควร แต่ไม่ทนต่อโรคราแป้ ง โรคเน่าดํา และไส้เดือนฝอย (Galet, 1980) ซึงเป็ นปัญหาสําคัญในการปลูกองุ ่นทําให้รากผิดปกติมีลักษณะเป็ นปม องุ ่นชนิดทีสามารถต้านทานไส้เดือนฝอยได้ ได้แก่ V.champini, V. cinerea และ V. longii (Mullins และคณะ, 1992) สําหรับในประเทศไทยนิยมใช้ต้นตอพันธุ ์ 1613C เป็ น1ภาควิชาพืชสวน คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จตุจักร กรุงเทพฯ 109001Department <strong>of</strong> Horticulture, Faculty <strong>of</strong> Agriculture, Kasetsart University, Jatujak, Bangkok, 10900

์์234 6 ปี ที 42 ฉบับที 2 (พิเศษ) พฤษภาคม - สิงหาคม 2554 ว. วิทยาศาสตร์เกษตรลูกผสมระหว่าง Solonis × Othello 1613 มีการเจริญเติบโตปานกลาง ทนต่อสภาพดินชื นแฉะ ต้านทานไส้เดือนฝอยได้ดีแต่ไม่ทนต่อดินด่าง ทําให้ยอดพันธุ ์ดีแสดงอาการใบเหลือง (Chlorosis) ดินด่าง คือ ดินทีมีระดับ pH สูงเกินกว่า 7 เกิดจากวัตถุต้นกําเนิดดินทีเป็ นด่าง เช่น หินปูน หินปูนในประเทศไทยมีอยู ่มากพอประมาณในแถบจังหวัดสระบุรี ลพบุรีนครราชสีมา และกาญจนบุรี (คณาจารย์ภาควิชาปฐพีวิทยา, 2548) ซึงค่า pH ทีเป็ นด่างของดินมีผลต่อการเจริญเติบโตผลผลิต คุณภาพขององุ ่นและไวน์ด้วย จะสามารถแก้ไขได้โดยการใช้ต้นตอองุ ่นทีเหมาะสมเช่น Richter, Ruggeri,Paulsen, 5BB, 5C, 8B, SO4 และ Ramsey (Galet, 1980) ดังนั นจึงจําเป็ นอย่างยิงทีจะต้องศึกษาหาต้นตอองุ ่นทีส่งผลให้องุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ปลูกในดินด่างทีเกิดจากหินปูน เจริญเติบโตดี ให้ผลผลิตดี มีคุณภาพ และให้ไวน์ทีมีคุณภาพดีด้วย เพือเป็ นแนวทางให้เกษตรกรและอุตสาหกรรมการปลูกองุ ่นลดความเสียงและประสบผลสําเร็จในการผลิตองุ ่นทีปลูกในดินด่างทีเกิดจากหินปูนได้ต่อไปอุปกรณ์และวิธีการทําการทดลองโดยปลูกองุ ่นทีสถานีวิจัยกาญจนบุรี สถาบันค้นคว้าและพัฒนาระบบนิเวศเกษตรมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จังหวัดกาญจนบุรี เมือวันที 18 ธันวาคม 2551 ซึงมีค่าความเป็ นกรด-ด่าง (pH) ของดินเท่ากับ7.79 โดยใช้ระยะปลูก 1.5 x 4 เมตร ทําค้างแบบตัว T และมุงหลังคาพลาสติก วางแผนการทดลองแบบ RandomizedComplete Block Design แบ่งการทดลองเป็ น 10 treatment มี 3 ซํ า แต่ละซํ าใช้ 4 ต้น รวมเป็ น 120 ต้น การทดลองประกอบด้วย treatment จํานวน 10 treatment ดังนี Treatment 1 Control (กิงปักชําขององุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong>)Treatment 2 องุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ติดตาบนต้นตอพันธุ ์ 110R Treatment 3 องุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ติดตาบนต้นตอพันธุ ์ 140Ru Treatment 4 องุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ติดตาบนต้นตอพันธุ ์ 1103P Treatment 5 องุ ่นพันธุ<strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ติดตาบนต้นตอพันธุ ์ 5BB Treatment 6 องุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ติดตาบนต้นตอพันธุ ์ 5CTreatment 7 องุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ติดตาบนต้นตอพันธุ ์ 8B Treatment 8 องุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ติดตาบนต้นตอพันธุ ์ SO4 Treatment 9 องุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ติดตาบนต้นตอพันธุ ์ Ramsey และ Treatment 10 องุ ่นพันธุ<strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ติดตาบนต้นตอพันธุ ์ 1613Cเก็บและบันทึกข้อมูลเส้นผ่าศูนย์กลางของต้นทีตําแหน่งบนและล่างจากจุดติดตา 5 เซนติเมตร ทีระยะตัดแต่งกิงหลังปลูก 11 เดือน (วันที 2 พฤศจิกายน 2552) เก็บผลผลิตเมือวันที 2 มีนาคม 2553 โดยศึกษา ปริมาณคลอโรฟิ ลล์ในใบจํานวนช่อดอกต่อต้น นํ าหนักช่อผล ผลผลิตต่อต้น และคุณภาพของนํ าองุ ่น จากนั นนําผลผลิตทีได้มาผลิตไวน์แล้วทดสอบคุณภาพของไวน์โดยผู ้เชียวชาญในการชิมไวน์จํานวน 3 คน มีเกณฑ์การให้คะแนนดังนี มากทีสุด 5 คะแนน มาก 4 คะแนนพอใช้ 3 คะแนน น้อย 2 คะแนน และน้อยทีสุด 1 คะแนน ใช้ระยะเวลาในทดลองตั งแต่เดือน ตุลาคม 2551 ถึงเดือนสิงหาคม 2553ผลและวิจารณ์ผลการทดลองการเจริญเติบโตของต้นตอทุกพันธุ ์ทีระยะตัดแต่งกิง (11 เดือนหลังจากปลูก) มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของต้น2.7-3.5 เซนติเมตร ส่วนองุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ทีติดตาบนต้นตอทุกพันธุ ์มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.8-4.1 เซนติเมตรการเจริญเติบโตขององุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> เป็ นแบบ over growth ยกเว้นองุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ทีติดตาบนต้นตอพันธุ ์ 1613C มีการเจริญเติบโตปกติ สําหรับกิงปักชําพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ให้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.6 เซนติเมตร(Table 1) ซึงแสดงให้เห็นว่าต้นตอพันธุ ์ต่างๆ มีอิทธิพลส่งผลให้องุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> มีการเจริญเติบโตสูงกว่าต้นตอ ซึงสอดคล้องกับ วิจิตร (2529) ทีกล่าวว่าต้นตอบางชนิดทําให้ต้นพันธุ ์ดีเจริญเติบโตได้เร็วองุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ทีติดตาบนต้นตอทุกพันธุ ์รวมทั งกิงปักชํามีปริมาณคลอโรฟิ ลล์ในใบไม่แตกต่างกันทางสถิติแต่ต้นตอทุกพันธุ ์มีแนวโน้มให้ปริมาณคลอโรฟิ ลล์ในใบสูงกว่ากิงปักชํา (Table 1)องุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ทีติดตาบนต้นตอองุ ่นทุกพันธุ ์ให้จํานวนช่อดอกต่อต้น (7-13 ช่อ) แตกต่างจากกิงปักชํา ซึงให้จํานวนช่อดอกต่อต้นน้อยทีสุด 5.25 ช่อ ยกเว้นองุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ทีติดตาบนต้นตอพันธุ ์ 1103P, 5C,SO4 และ 110R ซึงไม่แตกต่างจากกิงปักชํา (Table 1) เนืองจากต้นตอมีอิทธิพลต่อจํานวนช่อดอก และผลผลิตขององุ ่นพันธุ ์ดี (Climaco และคณะ, 1999)องุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ทีติดตาบนต้นตอองุ ่นทุกพันธุ ์ให้นํ าหนักเฉลียของช่อผล (62-99 กรัมต่อช่อ) ไม่แตกต่างจากกิงปักชํา (72.20 กรัมต่อช่อ) (Table 1 และ Figure 1)

์ว. วิทยาศาสตร์เกษตร ปี ที 42 ฉบับที 2 (พิเศษ) พฤษภาคม - สิงหาคม 2554 235องุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ทีติดตาบนต้นตอองุ ่นทุกพันธุ ์ให้นํ าหนักผลผลิต (0.43-1.45 กิโลกรัมต่อต้น) สูงกว่ากิงปักชําซึงให้ผลผลิต 0.38 กิโลกรัมต่อต้น (Table 1) สอดคล้องกับการทดลองของ Hedberg (1980) ทีรายงานว่าการติดตาต้นองุ ่นพันธุ ์ดี 12 พันธุ ์ บนต้นตอ 14 พันธุ ์ พบว่าผลผลิตของต้นองุ ่นพันธุ ์ดีทุกพันธุ ์สูงกว่าการปลูกโดยไม่ใช้ต้นตอองุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ทีติดตาบนต้นตอองุ ่นทุกพันธุ ์ให้เปอร์เซ็นต์ total soluble solids (TSS) (15.03-18.40 เปอร์เซ็นต์) ตํากว่ากิงปักชําองุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ซึงให้เปอร์เซ็นต์ TSS 18.60 เปอร์เซ็นต์ (Table 1) องุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ทีติดตาบนต้นตอองุ ่นทุกพันธุ ์ให้เปอร์เซ็นต์ tritratable acidity (TA) (0.47-0.59 เปอร์เซ็นต์) สูงกว่ากิงปักชําองุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ซึงให้เปอร์เซ็นต์ TA 0.48 เปอร์เซ็นต์ ยกเว้นองุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ทีติดตาบนต้นตอพันธุ ์ 1103P ให้เปอร์เซ็นต์ TA ตําสุด (0.47 เปอร์เซ็นต์) (Table 1) องุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ทีติดตาบนต้นตอองุ ่นทุกพันธุ ์ให้ค่า pH (3.27-3.48) ตํากว่ากิงปักชําองุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ซึงให้ค่า pH (3.44) ยกเว้นองุ ่นพันธุ<strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ทีติดตาบนต้นตอพันธุ ์ Ramsey และ SO4 ให้ค่า pH 3.48 และ 3.45 ตามลําดับ (Table 1) ซึง Ciramiและคณะ (1984) พบว่าองุ ่นทีได้จากการปลูกโดยไม่ใช้ต้นตอมีค่า pH ตํากว่าต้นทีติดตาบนต้นตอองุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ทีติดตาบนต้นตอพันธุ ์ 140Ru, 5BB และ 1613C ได้คะแนนความพึงพอใจในการชิมไวน์มากทีสุด (5 คะแนน) องุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ทีติดตาบนต้นตอพันธุ ์ 5C, 8B, SO4 และ Ramsey มีคะแนนความพึงพอใจในการชิมไวน์มาก (4 คะแนน) และองุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ทีติดตาบนต้นตอพันธุ ์ 110R และ 1103P รวมทังกิงปักชําองุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> มีคะแนนความพึงพอใจในการชิมไวน์พอใช้ (3 คะแนน) (Table 1) จะเห็นได้ว่าในดินด่างทีเกิดจากหินปูนต้นตอแต่ละพันธุ ์จะให้คุณภาพไวน์ขององุ ่น <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> แตกต่างกันไป สอดคล้องกับ Kasererและคณะ (1997) พบว่า ต้นตอมีอิทธพลต่อความเข้มข้นของนํ าตาล ปริมาณกรด และคุณภาพของไวน์Table 1 Influence <strong>of</strong> different rootstocks on diamater <strong>of</strong> trunk, chlorophyll content in leaves, number <strong>of</strong> clusterper vine, cluster weight, yield per vine, TSS, TA, pH and wine tasting <strong>of</strong> ‘<strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong>’ grape onalkaline soil derived from limestoneRootstock Diameter Chlorophyll Cluster/vine Cluster wt Yield/vine TSS TA pH WineScion(cm)Rootstock(cm)content(µg cm -2 )(No) (g) (Kg) (%) (%)tasting(score)Own root 2.6 - 22.56 b 1/ 5.25 d 1/ 72.20 ab 1/ 0.38 d 1/ 18.60 a 1/ 0.48 c 1/ 3.44 ab 1/ 3110R 4.1 3.5 26.32 ab 9.08 bcd 98.97 a 0.92 bc 15.73 ef 0.54 b 3.28 c 3140Ru 3.6 3.4 27.44 a 11.03 abc 95.67 a 0.79 bcd 17.20 bcd 0.59 a 3.31 c 51103P 3.5 3.3 25.15 ab 7.92 cd 74.60 ab 0.43 cd 15.47 ef 0.47 c 3.40 b 35BB 3.0 2.8 25.58 ab 9.92 abc 77.00 ab 0.80 bcd 15.03 f 0.48 c 3.30 c 55C 3.1 2.7 25.01 ab 8.08 cd 75.73 ab 0.61 bcd 16.53 cde 0.52 bc 3.31 c 48B 3.3 2.8 24.56 ab 11.42 abc 62.17 b 0.74 bcd 16.03 def 0.58 a 3.27 c 4SO4 3.5 3.2 26.04 ab 8.92 bcd 73.93 ab 0.64 bcd 17.60 abc 0.49 bc 3.45 ab 4Ramsey 3.2 2.9 26.45 ab 12.17 ab 87.87 ab 1.45 a 18.40 ab 0.49 bc 3.48 a 41613C 2.8 2.8 25.10 ab 13.33 a 73.97 ab 1.07 ab 16.53 cde 0.50 bc 3.43 ab 5C.V. (%) - - 9.38 21.42 18.79 33.59 4.15 5.01 1.21 -Note: 1/ Means followed by the same letter within a column are not significantly different at the 5% level by DMRT

์234 236 6 ปี ที 42 ฉบับที 2 (พิเศษ) พฤษภาคม - สิงหาคม 2554 ว. วิทยาศาสตร์เกษตรOwn-rooted 110R 140Ru 1103P 5BB 5C 8B SO4 Ramsey 1613CFigure 1 Characteristics <strong>of</strong> ‘<strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong>’ grape cluster on different rootstocksสรุปผลจากการศึกษาอิทธิพลของต้นตอต่างพันธุ ์ต่อการเจริญเติบโต ผลผลิต คุณภาพผล และคุณภาพไวน์ขององุ ่นพันธุ<strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> ปลูกบนดินด่างทีเกิดจากหินปูน สรุปได้ดังนี 1. ต้นตอพันธุ ์ Ramsey ส่งผลให้ต้นองุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> แสดงอาการ over growth มีปริมาณคลอโรฟิ ลล์ในใบ 26.45 µg cm -2 จํานวนช่อดอกต่อต้น 12.17 ช่อ นํ าหนักของช่อผล 87.87 กรัมต่อช่อ ปริมาณผลผลิต1.45 กิโลกรัมต่อต้น) และมีคะแนนความพึงพอใจของไวน์มาก2. ต้นตอพันธุ ์ 140Ru ส่งผลให้ต้นองุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> แสดงอาการ over growth มีจํานวนช่อดอก11.03 ช่อต่อต้น นํ าหนักของช่อผล 95.67 กรัมต่อช่อ ให้ผลผลิตสูง 0.79 กิโลกรัมต่อต้น และได้คะแนนความพึงพอใจของไวน์มากทีสุด3. ต้นตอพันธุ ์ 5BB ส่งผลให้ต้นองุ ่นพันธุ ์ <strong>Sauvignon</strong> <strong>Blanc</strong> แสดงอาการ over growth มีจํานวนช่อดอก 9.92ช่อต่อต้น นํ าหนักของช่อผล 77.00 กรัมต่อช่อ ให้ผลผลิตสูง 0.80 กิโลกรัมต่อต้น และได้คะแนนความพึงพอใจของไวน์มากทีสุด4. ต้นตอพันธุ ์ 1613C ให้ผลผลิต 1.07 กิโลกรัมต่อต้น และความพึงพอใจในการชิมไวน์มากทีสุด แต่การปลูกในดินด่างทีเกิดจากหินปูนจะมีปัญหาเรืองเกิดอาการใบเหลือง (Chlorosis)คําขอบคุณขอขอบคุณสถาบันวิจัยและพัฒนาแห่ง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทีให้ทุนสนับสนุนการดําเนินงานวิจัยในครั งนี และขอขอบคุณสถานีวิจัยกาญจนบุรีทีเอื อเฟื อสถานทีทําการทดลองเอกสารอ้างอิงคณาจารย์ภาควิชาปฐพีวิทยา, 2548, ปฐพีวิทยาเบื องต้น, พิมพ์ครั งที 10, ภาควิชาปฐพีวิทยา คณะเกษตรมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, กรุงเทพฯ.วิจิตร วังใน, 2529, หลักการไม้ผล, ภาควิชาพืชสวน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, กรุงเทพฯ.Cirami, R.M., McCarthy, M.G. and Glenn, T., 1984, Comparison <strong>of</strong> the <strong>Effect</strong>s <strong>of</strong> Rootstock on Crop, Juice andWine Composition in a Replanted Nematode-infected Barossa Valley vineyard, Austral. J. Expr. Ag.Anim., 24: 283-289.Climaco, P., Carneiro, L.C. and Castro, R., 1999, Influence <strong>of</strong> Cultivar and Rootstock on Yield and Quality <strong>of</strong>Must, Bull.Oiv., 72: 631-641.Galet, P., 1980, A Practical Ampelography Grapevine Identification, 2 nd eds., Unitied Kingdom by Cornelluniversity Press, Ltd, London.Hedberg, P., 1980, Increased Wine Grape Yields with <strong>Rootstocks</strong>, Farmers' Newsletter, 147: 22-24.Kaserer, H., Blahous, D., Brandes, W. and Intrieri, C., 1997, Optimizing Wine Grape Quality by ConsideringRootstock Scion Interaction, Acta Hort., 427: 267-276.Mullins, G.M., Bouquet, A. and Williams, L.E., 1992, Biology <strong>of</strong> the Grapevines, Cambridge University Press,NY.