รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว ฉบับที่ 4
Download ISSUU: https://issuu.com/terforissuu/docs/tourism_economic_review_issue_4
Download ISSUU:
https://issuu.com/terforissuu/docs/tourism_economic_review_issue_4
Create successful ePaper yourself
Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.
จำนวนนักทองเที่ยวตางชาติ ไตรมาสที่ 2<br />
ป 2557 - 2559<br />
+8.23<br />
+36.92<br />
-15.94<br />
5.10<br />
ลานคน<br />
6.98<br />
ลานคน<br />
7.55<br />
ลานคน<br />
ป 2557 ป 2558<br />
ป 2559<br />
4 <strong>ฉบับที่</strong><br />
เม.ย. - มิ.ย. 2559<br />
CULINARY TRAIL<br />
ทองเที่ยวดานอาหารไทย แตะ 5 แสนลานบาท<br />
SPIRITUAL TOURISM<br />
ทองเที่ยวอิมใจ สุขใจ เกิดปญญา<br />
ทองเที่ยวโลก<br />
ขยายตัว 5.3%<br />
ทองเที่ยวไทย ไตรมาส 2/2559<br />
ขยายตัวตอเนื่อง 8.23%
บทบรรณาธิการ<br />
รายงานภาวะเศรษฐกิจทองเที่ยว <strong>ฉบับที่</strong> 4 นําเสนอสถานการณทองเที่ยวของโลก<br />
ที่มีการขยายตัวรอยละ 5.3 เปนผลมาจากราคานํ้ามันที่ลดลง ทําใหเกิดการเดินทาง<br />
ระหวางประเทศเพิ่มมากขึ้น สถานการณทองเที่ยวไทยมีรายไดจากการทองเที่ยว<br />
ในไตรมาส 2/2559 จํานวน 571,681.93 ลานบาท ขยายตัวรอยละ 11.89 เปนรายได<br />
จากนักทองเที่ยวชาวตางชาติรอยละ 13.20 และนักทองเที่ยวไทยรอยละ 8.65<br />
ในเลมนําเสนอบทความการทองเที ่ยวเชิงอาหาร ที ่สะทอนถึงวัฒนธรรมของ<br />
แตละทองถิ่นไทย ซึ่งอาหารเปนสวนหนึ่งของกิจกรรมการทองเที่ยว ในป 2558<br />
ประเทศไทยมีรายไดจากการทองเที่ยวเชิงอาหารรวม 456,000 ลานบาท คิดเปน<br />
รอยละ 20 ของรายไดรวมจากการทองเที่ยวทั้งหมด และบทความการทองเที่ยว<br />
เชิงศาสนาและจิตใจ เปนอีกบทความที่สะทอนใหเห็นถึงรูปแบบการทองเที่ยว<br />
ที่ไดรับความนิยมเพิ่มขึ้นจากสภาพสังคม วิถีชีวิต คุณภาพชีวิตในปจจุบันที่เกิด<br />
ความเครียด ความไมสบายใจ นําไปสูการเดินทางเพื่อความผอนคลายจากความ<br />
ทุกข โดย World Tourism Organization (UNWTO) วิเคราะหวา ในชวงทศวรรษ<br />
ที่ผานมา การทองเที ่ยวเชิงศาสนาและจิตใจ มีการเติบโตขึ้นอยางรวดเร็วใน<br />
ดานปริมาณ โดยเฉพาะในกลุมเอเชียตะวันออกเฉียงใต และกลุมสถานที่สักการะ<br />
ทางศาสนา ดวยประเทศไทยเปนดินแดนแหงพุทธศาสนา มีทรัพยากรที่สามารถ<br />
นํามาพัฒนาตอยอดใหเกิดการทองเที่ยวเชิงศาสนาซึ่งควรใหความสําคัญยิ่ง<br />
สํานักงานปลัดกระทรวงการทองเที่ยวและกีฬา กระทรวงการทองเที่ยวและกีฬา<br />
หวังเปนอยางยิ่งวารายงานภาวะเศรษฐกิจทองเที่ยวฉบับนี้ จะเปนประโยชนกับ<br />
ผูสนใจทุกทาน หากมีขอติชมประการใด ทีมบรรณาธิการยินดี และพรอมที่จะ<br />
รับฟงเพื่อนําไปปรับปรุงแกไขใหเกิดความสมบูรณมากขึ้น<br />
สํานักงานปลัดกระทรวงการทองเที่ยวและกีฬา
Tourism Vol4-Cover process.indd 2-3<br />
-15.94<br />
+36.92<br />
+8.23<br />
ป 2557 ป 2558<br />
ป 2559<br />
7/30/16 7:32 PM<br />
สารบัญ<br />
02 หน้าเปิดเรื่อง<br />
03 สถานการณ์การท่องเที่ยวโลก<br />
08 สถานการณ์นักท่องเที่ยวอาเซียนของไทย<br />
ไตรมาสที่ 2 ปี 2559<br />
10 สรุปสถานการณ์การท่องเที่ยวของไทย<br />
ไตรมาสที่ 2 ปี 2559<br />
22 แนวโน้มสถานการณ์ท่องเที่ยวไตรมาสที่ 3<br />
ปี 2559 และตลอดปี 2559<br />
24 12 เมืองต้องห้าม...พลาด พลัส<br />
กลุมสารสนเทศเศรษฐกิจการทองเที่ยวและกีฬา<br />
กองเศรษฐกิจการทองเที่ยวและกีฬา<br />
กระทรวงการทองเที่ยวและกีฬา<br />
เลขที่ 4 ถนนราชดำเนินนอก แขวงวัดโสมนัส เขตปอมปราบศัตรูพาย กรุงเทพมหานคร 10100<br />
โทรศัพท : 0-2283-1500 โทรสาร : 0-2356-0746<br />
ภายใตโครงการจัดทำรายงานภาวะเศรษฐกิจการทองเที่ยวรายไตรมาส<br />
บรษัท เอ็กเซลเลนท บิสเนส แมเนจเมนท จำกัด<br />
32 แนวโน้มการลงทุนในธุรกิจโรงแรมในประเทศไทย<br />
38 การท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ด้านอาหาร<br />
46 การท่องเที่ยวเชิงศาสนาและจิตใจ<br />
58 ตัวชี้วัดเศรษฐกิจการท่องเที่ยว<br />
จำนวนนักทองเที่ยวตางชาติ ไตรมาสที่ 2<br />
ป 2557 - 2559<br />
5.10<br />
ลานคน<br />
ทองเที่ยวโลก<br />
ขยายตัว 5.3%<br />
6.98<br />
ลานคน<br />
7.55<br />
ลานคน<br />
<strong>ฉบับที่</strong> 4<br />
ทองเที่ยวไทย ไตรมาส 2/2559<br />
ขยายตัวตอเนื่อง 8.23%<br />
<strong>ฉบับที่</strong><br />
เม.ย. - มิ.ย. 2559<br />
เมษายน - มิถุนายน 2559<br />
คณะที่ปรึกษา:<br />
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์<br />
ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา<br />
นางธิดา จงก้องเกียรติ<br />
รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา<br />
นายนเร เหล่าวิชยา<br />
รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา<br />
บรรณาธิการอานวยการ:<br />
นางธิดา จงก้องเกียรติ<br />
รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา<br />
4<br />
CULINARY TRAIL<br />
ทองเที่ยวดานอาหารไทย แตะ 5 แสนลานบาท<br />
SPIRITUAL TOURISM<br />
ทองเที่ยวอิมใจ สุขใจ เกิดปญญา<br />
03<br />
38<br />
46<br />
32<br />
กองบรรณาธิการ:<br />
คณะทางานพัฒนาข้อมูลรายงานภาวะเศรษฐกิจ<br />
การท่องเที่ยวรายไตรมาส<br />
กลุ่มสารสนเทศเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา<br />
กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา<br />
สานักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา<br />
จัดทาโดย:<br />
สานักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา<br />
เลขที่ 4 ถนนราชดาเนินนอก แขวงวัดโสมนัส<br />
เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพ 10100<br />
ภายใต้โครงการจัดทารายงานภาวะเศรษฐกิจ<br />
การท่องเที่ยวรายไตรมาส<br />
บริษัท เอ็กเซลเลนท์ บิสเนส แมเนจเม้นท์ จากัด
การท่องเที่ยวโลกในปี 2016 มีแนวโน้มขยายตัว<br />
WTTC (World Travel and Tourism Council) คาดว่า GDP ของการเดินทางและการท่องเที่ยวโลกในปี 2016 เติบโตร้อยละ 3.3<br />
สูงกว่าปีก่อนที่เติบโตร้อยละ 2.8 ผลจากราคาน ้ามันลดลง ส่งเสริมให้เกิดผลดีต่อการเดินทางและการท่องเที่ยว และการลงทุน<br />
การท่องเที่ยวเติบโตร้อยละ 4.7 ในปี 2016 นอกจากนี้ IATA Airlines Financial Monitor คาดการณ์ว่าราคาค่าโดยสารเครื่องบิน<br />
จะลดลงประมาณร้อยละ 4.0<br />
สถานการณ์ท่องเที่ยวของประเทศไทย ไตรมาส 2 ปี 2559 เติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา<br />
นักท่องเที ่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามายังประเทศไทย ในไตรมาส 2/2559 ขยายตัวร้อยละ 8.23 ก่อให้เกิดรายได้ด้านการท่องเที่ยว<br />
แก่ประเทศไทยคิดเป็นมูลค่า 362,933.27 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 13.20 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในขณะที่รายได้จากการ<br />
ท่องเที่ยวภายในประเทศ 208,748.66 ขยายตัวร้อยละ 8.65 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา<br />
แนวโน้มสถานการณ์ท่องเที่ยวของประเทศไทย ไตรมาสที่ 3 ปี 2559 เติบโตต่อเนื่อง<br />
ทั้งจากปัจจัยภายนอกประเทศ และปัจจัยภายในประเทศ<br />
โดยคาดว่า นักท่องเที่ยวระหว่างประเทศจะเติบโตมากกว่าไตรมาสที่ 2 จากการเติบโตของนักท่องเที่ยวจีน มาเลเซีย นักท่องเที่ยวมุสลิม<br />
และนักท่องเที่ยวยุโรป ขณะที่การท่องเที่ยวภายในประเทศได้รับการสนับสนุนจากการเพิ่มวันหยุดพิเศษต่อเนื่อง โดยคาดว่านักท่องเที่ยว<br />
ชาวต่างชาติจะขยายตัวร้อยละ 11 และการท่องเที่ยวภายในประเทศจะขยายตัวร้อยละ 8<br />
การท่องเที่ยวเชิงศาสนาและจิตวิญญาณในประเทศไทย<br />
ศาสนาไม่เพียงแต่จะเป็นหนึ ่งในสถาบันหลักของชาติแต่ยังมีบทบาทสาคัญต่อวิถีชีวิตของชาวไทย และโดยที่ประเทศไทยเปิดเสรีในการ<br />
นับถือศาสนามาแต่อดีตจึงทาให้มีความหลากหลายของศาสนา รวมถึงมีพระภิกษุ นักบวช นักการศาสนาที่มีความรู้ ความสามารถ<br />
ตลอดจนศาสนถานที่สาคัญทั่วประเทศ ปัจจุบันการท่องเที่ยวเชิงศาสนาและจิตวิญญาณมีแนวโน้มได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นไม่เพียงแต่<br />
ในหมู่ชาวไทยเท่านั้น ยังรวมถึงชาวต่างชาติที่ต้องการปฏิบัติธรรมเพื่อยกระดับจิตใจ และเพื่อความสบายใจ การท่องเที่ยวประเภทนี้<br />
สร้างรายได้ให้แก่ประเทศทั้งจากค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ค่าที่พัก และค่าอาหาร และในหลายพื้นที่เป็นกิจกรรมส าคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว<br />
ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะกลุ่มที่เดินทางมาด้วยแรงศรัทธาเพื่อความสบายใจซึ่งเป็นกลุ่มที่มีขนาดใหญ่ที่สุด สาหรับกลุ่มที่<br />
เดินทางมาเพื่อยกระดับจิตใจมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะชาวต่างชาติ แต่สถานปฏิบัติธรรมส่วนใหญ่ยังขาดความพร้อม<br />
ทั้งด้านสถานที่ และบุคลากร<br />
การท่องเที่ยวอาหารจากการท่องเที่ยวทางเลือกสู่กลยุทธ์การสร้างศักยภาพการแข่งขัน<br />
การท่องเที่ยวอาหารมีความสาคัญมากขึ้น จากเดิมที่เป็นส่วนหนึ่งการท่องเที่ยวทางเลือกปัจจุบันที่บทบาทเพิ่มขึ้น จนเป็นหนึ่งในกลยุทธ์<br />
ที่ก่อให้เกิดศักยภาพทางการแข่งขันอย่างยั่งยืนได้ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากกระแสความนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่ให้ความส าคัญมากขึ้น<br />
ต่ออาหารและสุขภาพ โดยในปี 2015 องค์การท่องเที่ยวโลกคาดว่า การท่องเที่ยวอาหารสร้างรายได้รวมกว่า 150 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ<br />
สาหรับประเทศไทยในปี 2558 มีรายได้รวมจากการซื้ออาหารและเครื่องดื่มของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศกว่า 4.56<br />
แสนล้านบาท โดยเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ท่องเที่ยวในประเทศ 1.74 แสนล้านบาท และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 2.82<br />
แสนล้านบาท โดยเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวจีน 0.71 แสนล้านบาท นอกจากนี้ การท่องเที่ยวอาหารยังสร้างรายในด้านอื่นๆ<br />
ให้แก่ประเทศ เช่น รายได้จากการเรียนทาอาหาร และการเยี่ยมชมฟาร์มเกษตร เป็นต้น<br />
02 <strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong>
สถานการณ์การท่องเที่ยวโลก<br />
สถานการณ์การท่องเที่ยวโลก<br />
แนวโน้มนักท่องเที่ยวโลก มองหาประสบการณ์ใหม่ สร้างความประทับใจ<br />
แนวโน้มพฤติกรรมนักท่องเที่ยวในปี 2030<br />
บริษัท อมาเดอุส และฟรอสต์แอนด์ซัลลิแวน (Amadeus and<br />
Frost & Sullivan) จัดทารายงานผลการศึกษา ‘Future Traveller<br />
Tribes 2030: Building a More Rewarding Journey’ เพื่อ<br />
นาเสนอลักษณะของนักท่องเที่ยวในปี 2030 ได้แบ่งนักท่องเที่ยว<br />
ออกเป็น 6 กลุ่ม ได้แก่ 1) Obligation Meter’s เป็นกลุ่มที่เดินทางเพื่อ<br />
ดาเนินกิจกรรมที่จาเป็น เช่น นักท่องเที่ยวทางธุรกิจ 2) Simplicity<br />
Searchers เป็นกลุ่มที่ต้องการความสะดวกจากแหล่งข้อมูล<br />
3) Ethical Travelers เป็นกลุ่มที่นาปัจจัยด้านสภาพแวดล้อม และ<br />
จริยธรรมวางแผนในการท่องเที่ยว 4) Reward Hunters เป็นกลุ่ม<br />
ที่ให้รางวัลกับตัวเองจากการทางาน 5) Cultural Purists เป็นกลุ่ม<br />
ที่เดินทางค้นหาวัฒนธรรมใหม่ๆ ที่แตกต่างจากสิ่งที่คุ้นเคย<br />
6) Social Capital Seekers เป็นกลุ่มที่นิยมแชร์ประสบการณ์<br />
ท่องเที่ยวผ่านสื่อสังคมออนไลน์เพื่อต้องการเป็นที่ยอมรับ โดยทั้ง<br />
6 กลุ่มนี้จะได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางจิตวิทยา และเทคโนโลยี<br />
เป็นสาคัญ<br />
สิ่งที่ทาให้นักท่องเที่ยวเลือกใช้บริการบริษัทนาเที่ยวสืบเนื่องจาก<br />
ราคา เทคโนโลยี และความสามารถในการเข้าใจลูกค้า โดยร้อยละ<br />
42 ของผู้ใช้บริการบริษัทนาเที่ยว ชื่นชอบบริษัทที่พวกเขารู้สึกว่า<br />
ได้มีส่วนร่วม และรับฟังความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้เรื่องสินค้า<br />
การบริการ การสร้างประสบการณ์ให้แก่ลูกค้ารวมถึงด้านราคา การ<br />
เข้าใจการเปลี่ยนแปลงที่มีอยู่ตลอดเวลาของลูกค้า พฤติกรรมด้าน<br />
การท่องเที่ยวของลูกค้า การใช้เทคโนโลยีเพื่อเป็นเครื่องมือทาง<br />
การตลาดเป็นสิ่งที่ต้องคานึงถึง เพื่อประโยชน์ของธุรกิจ และ<br />
ของลูกค้าเช่นกัน ซึ่งในประเด็นนี้ Mr. Simon Er ผู้จัดการทั่วไป<br />
General Manage ของ Global Travel and Scenic Travel<br />
บริษัทนาเที่ยวยักษ์ใหญ่ในสิงคโปร์ กล่าวว่า “บริษัทนาเที่ยว<br />
ต้องนาเสนอบริการที่ออกแบบเพื่อเป็นแรงบัลดาลใจให้กับลูกค้า<br />
และสร้างประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์และน่าจดจา” ดังนั้น ลูกค้า<br />
มีความคาดหวังในการเดินทางท่องเที่ยวจะได้รับประสบการณ์<br />
การท่องเที่ยวที่ดีที่สุด<br />
ในปัจจุบันนักท่องเที่ยวคาดหวังการได้รับข้อมูลจากบริษัทนาเที่ยว<br />
รวมทั้งการเสนอประสบการณ์ที่แปลกใหม่ เป็นที่ปรึกษาที่ดีแก่<br />
นักท่องเที่ยวทั้งแบบออนไลน์ และออฟไลน์<br />
<strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
03
สถานการณ์การท่องเที่ยวโลก<br />
ค่าโดยสารเครื่องบินมีแนวโน้มจะปรับตัว<br />
เพิ่มขึ้น<br />
ช่วงกลางปี 2017 สายการบิน Delta สายการบิน American และ<br />
สายการบิน United มีแนวทางร่วมกันขึ้นค่าโดยสารอย่างค่อยเป็น<br />
ค่อยไปเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อความต้องการของลูกค้า รายงาน<br />
ของ IATA Airlines Financial Monitor ฉบับเดือนเมษายน 2016<br />
ได้สรุปข้อมูลด้านการบินที่สาคัญ คือ<br />
• แม้ปัจจุบันราคาน้ามันจะปรับเพิ่มขึ้นแต่ยังคาดการณ์ว่า<br />
ราคาน้ามันจะยังคงอยู่ที่ต่ากว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล<br />
จนถึงปี 2018<br />
• คาดการณ์ว่าราคาค่าโดยสารเครื่องบินจะลดลงประมาณ 4%<br />
ตรงกันข้ามกับอัตราการแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น<br />
ทั่วโลก และการขึ้นของราคาน้ามันร้อยละ 65 ตั้งแต่เดือน<br />
มกราคม ทาให้มีแนวโน้มในการขึ้นค่าโดยสารในอนาคต<br />
• การเดินทางทั่วโลกยังมีจานวนมากในไตรมาสที่ 1 ไม่แตกต่าง<br />
จากไตรมาสแรกของปีที่แล้ว และมีอัตราการลดลงในช่วงแรก<br />
ของไตรมาสที่ 2<br />
การประชุม CAPA SUMMIT<br />
การประชุม CAPA (Centre for Aviation) Airlines in Transition<br />
ผู้เชี่ยวชาญด้านธุรกิจการบินจากทั่วโลกได้หารือเกี่ยวกับอนาคต<br />
และแนวโน้มของการเดินทางของโลก ซึ่งส่งผลต่อการวางแผน<br />
การเดินทาง และการตัดสินใจดาเนินธุรกิจด้านการบิน Kevin Toland<br />
จาก Dublin Airport ได้กล่าวว่าในปี 2015 สนามบินมีผู้โดยสารถึง<br />
3.3 ล้านคน นับได้ว่าเป็นสนามบินที่มีอัตราการเติบโตสูงในกลุ่ม<br />
ประเทศแถบยุโรป และมีเส้นทางเชื่อมโยงที่คล่องตัวหลายเส้นทาง<br />
เชื่อมต่อกับเมืองต่างๆ ในประเทศอังกฤษ และอเมริกาเหนือ<br />
Peter Harbison ตาแหน่ง Executive Chairman ของ CAPA กล่าว<br />
ถึงการเติบโตทางธุรกิจการบินของประเทศอิหร่าน และสายการบิน<br />
ต้นทุนต่ามีการสั่งซื้อเครื่องบินเกือบครึ่งหนึ่งของการสั่งทั้งหมด<br />
ในโลกปัจจุบันนี้ ทาให้สายการบินแบบ Full Service Carriers<br />
(FSCs) มุ่งเน้นการแข่งขันในด้านความสะดวกสบาย และการปรับ<br />
เส้นทางการบินระยะสั้นใหม่ แนวโน้มความต้องการของผู้บริโภค<br />
ต่อธุรกิจการบินในอนาคต คือ การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เป็น<br />
ช่องทางการซื้อ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์มากกว่าตัวสินค้า<br />
04 <strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong>
สถานการณ์การท่องเที่ยวโลก<br />
Global Connectivity<br />
Ranking<br />
The world's Top 20 most connected cities<br />
RANK CITY COUNTRY<br />
1 − London United Kingdom<br />
2 − Paris France<br />
3 − Frankfurt am Main Germany<br />
4 − Amsterdam Netherlands<br />
5 1 ▲ Istanbul Tukey<br />
ลอนดอนได้ตาแหน่งอันดับที่หนึ่งของ<br />
Global Connectivity Ranking<br />
รายงานTransport Focus Report ของ Rome2rio ของประเทศ<br />
ออสเตรเลีย ได้จัดลาดับประเทศที่มีเครือข่ายการเชื่อมโยงทาง<br />
อากาศ (Global Connectivity Ranking) 20 ประเทศแรกที่มีเที่ยวบิน<br />
ตรงระหว่างประเทศมากที่สุด โดย กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ<br />
มีเส้นทางเชื่อมโยงที่มากที ่สุดในโลก ซึ่งมีเที่ยวบินตรงระหว่าง<br />
ประเทศมากถึง 351 เส้นทาง<br />
โดยข้อมูลจาก Global Connectivity Ranking เป็นข้อมูลสาคัญต่อ<br />
การคาดการณ์แนวโน้มอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ซึ่งได้แก่<br />
• เมืองโตรอนโต (Toronto) เป็นเมืองที่มีเส้นทางเชื่อมโยงระหว่าง<br />
ประเทศมากที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือมี 154 เส้นทางการบิน<br />
• เมืองนิวยอร์ค มีสนามบิน 3 แห่ง เชื่อมโยงเส้นทางการบิน<br />
ระหว่างประเทศทั้งหมด 137 เส้นทางส่วนใหญ่เป็นเส้นทาง<br />
การบินภายในประเทศ เมืองนิวยอร์คจึงมีความสาคัญน้อยกว่า<br />
หลายประเทศในภูมิภาคยุโรป<br />
• สาหรับประเทศอังกฤษ เมืองที่เป็นรองลอนดอน คือ เมือง<br />
แมนเชสเตอร์ซึ่งมีเที่ยวบินตรงระหว่างประเทศ 162 เที่ยวบิน<br />
• เมืองอีสตันบูล ประเทศตุรกีมีอัตราการเพิ่มเที่ยวบินถึง<br />
ร้อยละ 20 ซึ่งเป็นเส้นสู่จุดหมายปลายทางใหม่ 40 แห่ง<br />
อีสตันบูลจึงถือเป็นเมืองที่มีเส้นทางเชื่อมโยงมากที่สุดในหมู่<br />
ประเทศมุสลิม ซึ่งมีผลมาจากการขยายตัวของภาคธุรกิจ และ<br />
ชนชั้นกลางที่มีฐานะที่ดีขึ้น ทาให้เกิดความต้องการในการ<br />
เชื่อมโยงเส้นทางหรือคู่ค้าใหม่ๆ<br />
• เมืองเคียฟ ประเทศยูเครน เส้นทางเชื่อมโยงมีอัตราลดลงอย่าง<br />
ต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2014 จากเดิม 83 เส้นทาง เหลือเพียง<br />
60 เส้นทาง โดยเส้นทางที่ลดลงส่วนใหญ่ อยู่ในประเทศรัสเซีย<br />
ผลจากความขัดแย้งของคาบสมุทรไครเมียน (Crimean Conflict)<br />
6 1 ▲ Munich Germany<br />
7 1 ▲ Brussels Belgium<br />
8 3 ▼ Dubai UAE<br />
9 1 ▲ Rome Italy<br />
10 2 ▲ Diisseldorf Germany<br />
11 2 ▲ Vienna Austria<br />
12 3 ▲ Milan Italy<br />
13 2 ▼ Ziirich Switzerland<br />
14 − Manchester United Kingdom<br />
15 6 ▼ Moscow Russia<br />
16 2 ▲ Barcelona Spain<br />
17 − Toronto Cannada<br />
18 4 ▲ Berlin Germany<br />
19 10 ▲ Dublin Ireland<br />
20 1 ▲ Hong Kong Hong Kong<br />
https://www.rome2rio.com<br />
• ฮ่องกง เมืองที่มีเส้นทางเชื่อมโยงมากที่สุดในภูมิภาคเอเชีย<br />
เชื่อมโยงสู่ 147 เมือง รองลงมา ได้แก่ กรุงโซลมี 141 เส้นทาง<br />
กรุงเทพฯ 131 เส้นทาง และสิงคโปร์ 129 เส้นทาง ตามลาดับ<br />
• จีน ประเทศที่น่าจับตามอง มีเที่ยวบินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง<br />
นับตั้งแต่ปี 2014 เป็นต้นมา เช่นปักกิ่งมีเส้นทางเพิ่มขึ้น<br />
22 เมือง เซี่ยงไฮ้เพิ่มขึ้น 17 เมือง และกวางโจวเพิ่มขึ้น 12 เมือง<br />
CLMVT Forum 2016 ครั้งแรกจัดโดยไทย<br />
จากการที่รัฐบาลไทยมุ่งยกระดับเศรษฐกิจในภูมิภาคและความ<br />
ร่วมมือทางการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว กับประเทศกลุ่ม<br />
CLMVT กระทรวงพาณิชย์ จึงร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและ<br />
กีฬา กระทรวงอุตสาหกรรม และสานักงานคณะกรรมการส่งเสริม<br />
การลงทุน จัดการประชุมและเสวนา “CLMVT Forum 2016”<br />
ขึ้นเป็นครั้งแรก (16-18 มิถุนายน 2559) ภายใต้แนวคิด Towards a<br />
Shared Prosperity หรือ ประสาน แบ่งปัน มั่งคั่ง ยั่งยืน มีผู้เข้าร่วม<br />
เกือบ 1,000 คน การประชุมเสวนาครั้งนี้มุ่งเน้น 4 ข้อหลัก ได้แก่<br />
<strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
05
สถานการณ์การท่องเที่ยวโลก<br />
1. Unleashing CLMVT: การปลดปล่อยศักยภาพ และเชื่อมโยง<br />
เครือข่าย 2. Unlocking CLMVT: สร้างความเชื่อมโยงแบบ<br />
ไร้รอยต่อหรือปลดล็อกจากอุปสรรค 3. Quality CLMVT: พัฒนา<br />
ศักยภาพของผู้ประกอบการ 4. Digital CLMVT: สนับสนุน<br />
โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิตอล<br />
การประชุมครั้งนี้เพื่อสานต่อให้ Asean Connect เป็นรูปธรรม ซึ่ง<br />
ประเทศไทยเน้นเรื่องการเติบโตของการท่องเที่ยวใน Intra ASEAN<br />
แลกเปลี่ยนความเห็นในเรื่องการกระจายออกเป็น 3 ส่วน<br />
เพื่อเพิ่มการเติบโตด้านท่องเที่ยว คือ 1) เวลา คานึงถึง low season<br />
(rainny season หรือ green season) 2) สถานที่ ไปยังเมืองรอง<br />
เน้นภาคอีสาน 3) คานึงถึงการกระจายไปยังภาคส่วนอื่นๆ ในการ<br />
ได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยว เช่น ภาคการเกษตร เป็นการ<br />
แชร์ข้อมูลร่วมกันเพื่อการวางแผน และทาตลาดด้านการท่องเที่ยว<br />
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยว<br />
และกีฬา ได้เสวนาในหัวข้อ Seamless Travel in CLMVT และ<br />
ได้กล่าว คาดหวังจานวนนักท่องเที ่ยวจากกลุ่มประเทศ CLMVT<br />
จะเดินทางมาเที่ยวเพิ่มขึ้นร้อยละ 50 ทั้งต้องการขยายเส้นทาง<br />
คมนาคม โดยเฉพาะสายการบินเพื่ออานวยความสะดวกในการ<br />
เดินทางท่องเที่ยว โดยเฉพาะเส้นทางการบินไปยังเมืองรองของ<br />
แต่ละประเทศเพื่อขยายการท่องเที่ยวให้มากขึ้น และต้องการผลักดัน<br />
เส้นทางการท่องเที่ยวทางน้า โดยเฉพาะลุ่มแม่น้าโขง อ่าวไทย<br />
WTTC รายงานผลกระทบทางเศรษฐกิจ<br />
ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว<br />
WTTC (World Travel and Tourism Council) คาดว่าการเติบโต<br />
ของ GDP การเดินทางและการท่องเที ่ยวโลกในปี 2016 ลดลง<br />
จากเดิมที่เคยคาดการณ์โดยเติบโตร้อยละ 3.3 และถึงแม้ว่ามีการ<br />
ปรับลดอัตราการเติบโต แต่การเดินทางและท่องเที่ยวจะยังคง<br />
เติบโตได้มากกว่าเศรษฐกิจโลก<br />
• การเติบโตในปี 2016 ร้อยละ 3.3 เมื่อเทียบกับร้อยละ 2.8<br />
ในปี 2015 ผลมาจากการเพิ ่มขึ้นของเศรษฐกิจการท่องเที่ยว<br />
ยังเติบโตแม้จะมีการลดลงของ GDP โลก และการลดลงของ<br />
ราคาน้ามันในช่วงเวลาที่ผ่านมาส่งผลให้เกิดการเดินทางระหว่าง<br />
ประเทศอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ราคาน้ามันลดลงส่งเสริมให้เกิด<br />
ผลดีต่อการเดินทาง และการท่องเที่ยว การปรับลดราคาน้ามัน<br />
ส่งผลให้เศรษฐกิจประเทศส่งออกน้ามันลดลงจึงทาให้เกิดคาถาม<br />
ที่ว่า การปรับลดราคาน้ามันส่งผลดีหรือไม่ต่อการท่องเที่ยว<br />
ที่เพิ่มขึ้นทั้งหมดโดยรวม<br />
• การเดินทางและการท่องเที่ยวในปี 2016 คาดว่าจะเติบโตได้<br />
เร็วขึ้นกว่าในปี 2015 การลงทุนการท่องเที่ยวเติบโตร้อยละ<br />
4.7 ในปี 2016 ขณะที่การเดินทางและการท่องเที่ยวใช้จ่าย<br />
ภายในประเทศ และต่างประเทศคาดว่าจะเติบโตร้อยละ 3.3<br />
และร้อยละ 3.0 ตามลาดับ<br />
• ในปี 2016 การแข็งค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลต่อ<br />
แนวโน้มการท่องเที่ยวของระบบเศรษฐกิจที่สกุลเงินผูกกับ<br />
ดอลลาร์สหรัฐฯ เช่น ประเทศฮ่องกง กาตาร์ ซาอุดิอาระเบีย และ<br />
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์<br />
06 <strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong>
สถานการณ์การท่องเที่ยวโลก<br />
• ประเทศไทย ในปี 2026 จะมีนักท่องเที่ยวมากเป็นอันดับ 2<br />
ของโลก สูงกว่าประเทศจีน และสเปน<br />
• ประเทศจีน สหรัฐอเมริกา เยอรมนี และอังกฤษ เป็นประเทศ<br />
ที่มีการใช้จ่ายด้านการท่องเที่ยวสูงสุด 4 อันดับแรกในปี 2026<br />
Brexit จะไม่ส่งผลกระทบต่อภาค<br />
การท่องเที่ยว<br />
จากการที่เสียงส่วนใหญ่ของสหราชอาณาจักรลงมติออกจาก<br />
สหภาพยุโรป (Brexit) ส่งผลต่อตลาดเงินของอังกฤษ ค่าเงินปอนด์<br />
อ่อนค่าลงทันทีร้อยละ 10 สาหรับผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยว<br />
ดังนี้<br />
• GDP ด้านการเดินทางและการท่องเที่ยวในปี 2016<br />
ลาตินอเมริกาหดตัวร้อยละ 0.5 เนื่องจากการหดตัวของ GDP<br />
ของบราซิล ที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในภูมิภาค หรือครึ่งหนึ่ง<br />
ของละตินอเมริกา ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของภูมิภาค<br />
แนวโน้มการท่องเที่ยวในปี 2016-2026<br />
• ใน 10 ปีข้างหน้า คาดว่า GDP ภาคการท่องเที่ยวจะเติบโต<br />
โดยเฉลี่ยร้อยละ 4.0 ต่อปี<br />
• ในปี 2026 การท่องเที่ยวจะส่งผลให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น<br />
ทั้งหมด 370 ล้าน ตาแหน่งงานทั่วโลก ซึ่งถือเป็น 1 ใน 9 ของ<br />
ตาแหน่งงานทั้งหมดในโลก<br />
• ในปี 2026 เอเชียใต้จะมีการเติบโตของ GDP ภาคการท่องเที่ยว<br />
มากที่สุด ร้อยละ 7.1 โดยอินเดียเติบโตร้อยละ 7.5 จีนร้อยละ 7.0<br />
ส่วนภูมิภาคที่คาดว่าจะเติบโตในช่วงร้อยละ 4.0-6.0 ได้แก่<br />
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ร้อยละ 5.8 เอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ<br />
ร้อยละ 5.6 แอฟริการ้อยละ 4.2 ตะวันออกกลางร้อยละ 4.9 และ<br />
แอฟริกาเหนือร้อยละ 4.2 ในขณะที่ภูมิภาคที่คาดว่าจะเติบโต<br />
ต่ากว่าค่าเฉลี่ยของโลก (ร้อยละ 4.0) คือ ลาตินอเมริการ้อยละ<br />
3.7 อเมริกาเหนือร้อยละ 3.5 แคริบเบียนร้อยละ 3.4 และยุโรป<br />
ร้อยละ 2.8<br />
• ประเทศจีนจะมีการลงทุนทางการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมากกว่า<br />
สหรัฐอเมริกาแต่คาดการณ์ว่า GDP การท่องเที่ยวของ<br />
สหรัฐอเมริกาจะเติบโตมากกว่า<br />
• ประเทศอินเดีย ในปี 2026 จะอยู่ใน 10 อันดับประเทศด้านการ<br />
ท่องเที่ยว รวมถึงเมียนมา นามิเบีย แทนซาเนีย ยูกันดา<br />
เวียดนาม และแซมเบีย<br />
1) การวิเคราะห์ของ Mike Olson นักวิจัยอาวุโส จาก Piper Jaffray<br />
คาดว่าภาคการท่องเที่ยวของสหภาพยุโรป และสหราชอาณาจักร<br />
จะไม่ได้รับผลกระทบในทันที เนื ่องจากยังไม่มีสัญญาณที ่แสดงให้<br />
เห็นถึงแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค นักท่องเที่ยวอังกฤษ<br />
สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยกว่า 69,000 ล้านบาท ในปี 2558 ซึ่ง<br />
สูงเป็นอันดับที่ 3 คาดว่าในระยะแรก หรือ 3 เดือน นับจากการลง<br />
ประชามติจะยังไม่ส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวไทย เนื่องจาก<br />
นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้วางแผนการเดินทางล่วงหน้า นอกจากนี้<br />
คุณเจริญ วังอานนท์ นายกสมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว หรือ แอตต้า<br />
เชื่อว่า ต้องใช้เวลาติดตามผลกระทบอย่างน้อย 6 เดือน<br />
2) การวิเคราะห์ของ Stephen Dunk กรรมการผู้จัดการภาคพื้น<br />
ยุโรปของทราเวลซู (Travel Zoo) เว็ปไซต์ตัวแทนผู้ให้บริการด้าน<br />
การท่องเที ่ยวรายใหญ่ของโลก คาดว่า ธุรกิจการบินใน<br />
สหราชอาณาจักรอาจได้รับผลกระทบทางตรงจากการไม่ได้รับ<br />
ประโยชน์จากความตกลงเปิดน่านฟ้าเสรี (Open Skies Agreement)<br />
โดยเฉพาะสายการบินต้นทุนต่า และผลกระทบทางอ้อมจาก<br />
อัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากการชาระค่าเชื้อเพลิงเป็นเงิน<br />
ดอลลาร์สหรัฐฯ สาหรับธุรกิจโรงแรม คาดว่าจะได้รับผลกระทบจาก<br />
ค่าจ้างแรงงานที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจุบันแรงงานในธุรกิจโรงแรม<br />
ส่วนใหญ่เป็นผู้อพยพจากสหภาพยุโรป และจากการสารวจของ<br />
Travelzoo พบว่า สิ่งที่ชาวยุโรป และชาวสหราชอาณาจักร<br />
เป็นกังวลหลังการออกจากสหภาพยุโรป คือ ค่าใช้จ่ายค่าประกันภัย<br />
ด้านการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น<br />
สาหรับประเทศไทย หากรัฐบาลอังกฤษดาเนินมาตรการต่างๆ<br />
เพื่อเตรียมความพร้อมด้านเศรษฐกิจและสังคม คาดว่า จะไม่ส่งผล<br />
กระทบต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ รวมถึงจะไม่มีผลกระทบ<br />
ใดๆ ต่อภาคการท่องเที่ยวของไทย<br />
<strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
07
สถานการณ์นักท่องเที่ยวอาเซียนของไทย<br />
สถานการณ์นักท่องเที่ยวอาเซียนของไทย<br />
ไตรมาสที่ 2 ปี 2559<br />
“นักท่องเที่ยวอาเซียนขยายตัวลดลงในปี 2559 จากการปรับฐานสู่แนวโน้มปกติ”<br />
ในไตรมาสที่ 2 ปี 2559 มีนักท่องเที่ยวอาเซียนเดินทางมาประเทศไทย<br />
2,176,641 คน ขยายตัวร้อยละ 6.34 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่<br />
ผ่านมา ลดลงจากร้อยละ 32.12 ในปีก่อนที่ขยายตัวสูงหลังการ<br />
หดตัวในปี 2557 จากสถานการณ์การเมืองในขณะนั้น การเติบโตของ<br />
นักท่องเที่ยวอาเซียนในปี 2559 จึงเป็นการปรับฐานเข้าสู่แนวโน้ม<br />
จานวนนักท่องเที่ยวอาเซียนของไทย ไตรมาส 2 ปี 2557 - 2559P<br />
ปกติ สาหรับนักท่องเที่ยวอาเซียนที่มีจานวนมากที่สุด 3 อันดับ<br />
แรก คือ มาเลเซีย ลาว และสิงคโปร์ (สัดส่วนร้อยละ 39.15 ร้อยละ<br />
15.21 และร้อยละ 11.45 ตามลาดับ) มีสัดส่วนรวมกันเท่ากับ<br />
ร้อยละ 65.81 สาหรับนักท่องเที่ยวอาเซียนที่มีอัตราการขยายตัว<br />
สูงสุด 3 อันดับแรก คือ เมียนมา กัมพูชา และสปป.ลาว ตามลาดับ<br />
จำนวน (คน)<br />
2,500,000<br />
2,000,000<br />
1,500,000<br />
1,000,000<br />
500,000<br />
จำนวนนักทองเที่ยว<br />
2,046,875 2,176,641<br />
+32.12<br />
1,549,235<br />
+6.34<br />
+17.33<br />
2557 2558 2559<br />
จำนวนนักทองเที่ยว<br />
อัตราการเปลี่ยนแปลงจากปที่ผานมา<br />
%CH (Y-o-Y)<br />
+40.00<br />
+30.00<br />
+20.00<br />
+10.00<br />
+0.00<br />
-10.00<br />
-20.00<br />
หมายเหตุ : P ข้อมูลเบื้องต้น<br />
ที่มา : กรมการท่องเที่ยว<br />
จานวนนักท่องเที่ยวอาเซียนรายประเทศของไทย ไตรมาส 2 ปี 2559P<br />
จำนวน (คน)<br />
852,203<br />
จำนวนนักทองเที่ยว สัดสวน (รอยละ)<br />
%CH (Y-o-Y)<br />
Malaysia (39.15%)<br />
-1.03<br />
331,043<br />
Laos (15.21%)<br />
+11.40<br />
249,181<br />
239,101<br />
Singapore (11.45%)<br />
Vietnam (10.98%)<br />
+1.01<br />
+1.58<br />
191,966<br />
Cambodia (8.82%)<br />
+42.91<br />
132,506<br />
Indonesia (6.09%)<br />
+9.22<br />
91,636<br />
Myanmar (4.21%)<br />
+44.24<br />
82,263<br />
Philippines (3.96%)<br />
+2.49<br />
2,742 Brunei (0.13%)<br />
-15.58<br />
หมายเหตุ : P ข้อมูลเบื้องต้น<br />
ที่มา : กรมการท่องเที่ยว<br />
08 <strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong>
สถานการณ์นักท่องเที่ยวอาเซียนของไทย<br />
นักท่องเที่ยวอาเซียนสร้างรายได้กว่า 6 หมื่นล้านบาท<br />
ในไตรมาสที่ 2/2559 นักท่องเที่ยวอาเซียนสร้างรายได้ 60,887.63<br />
ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 8.53 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา<br />
โดยขยายตัวลดลงจากปีก่อนที่สูงถึงร้อยละ 42.62 ตามทิศทาง<br />
การเติบโตของจานวนนักท่องเที่ยว สาหรับนักท่องเที่ยวอาเซียน<br />
ที่สร้างรายได้สูงสุด 3 อันดับแรก คือ มาเลเซีย สิงคโปร์ และ<br />
รายได้จากนักท่องเที่ยวอาเซียนของไทย ไตรมาส 2 ปี 2557 - 2559P<br />
เวียดนาม (สัดส่วนร้อยละ 35.09 ร้อยละ 14.91 และร้อยละ<br />
12.76 ตามลาดับ) สัดส่วนรวมกันเท่ากับร้อยละ 62.76 และ<br />
นักท่องเที่ยวอาเซียน ที่รายได้ขยายตัวสูงสุด 3 อันดับแรก คือ<br />
เมียนมา กัมพูชา และสปป.ลาว ตามลาดับ<br />
รายได (ลานบาท)<br />
70,000<br />
60,000<br />
50,000<br />
40,000<br />
30,000<br />
20,000<br />
10,000<br />
รายไดจากนักทองเที่ยว<br />
56,102.24<br />
+42.62<br />
60,887.63<br />
39,337.52<br />
+8.53<br />
-18.68<br />
2557 2558 2559<br />
จำนวนนักทองเที่ยว<br />
อัตราการเปลี่ยนแปลงจากปที่ผานมา<br />
%CH (Y-o-Y)<br />
+50.00<br />
+40.00<br />
+30.00<br />
+20.00<br />
+10.00<br />
+0.00<br />
-10.00<br />
-20.00<br />
-30.00<br />
หมายเหตุ : P ข้อมูลเบื้องต้น<br />
ที่มา : กรมการท่องเที่ยว<br />
รายได้จากนักท่องเที่ยวอาเซียนรายประเทศของไทย ไตรมาส 2 ปี 2559P<br />
รายไดจากนักทองเที่ยว<br />
รายได (ลานบาท) สัดสวน (รอยละ) %CH (Y-o-Y)<br />
21,362.49<br />
Malaysia (35.09%)<br />
+0.97<br />
9,080.89<br />
7,771.33<br />
Singapore (14.91%)<br />
Vietnam (12.76%)<br />
+3.01<br />
+3.45<br />
5,988.85<br />
Laos (9.85%)<br />
+13.62<br />
4,930.27<br />
3,912.20<br />
Cambodia (8.10%)<br />
Myanmar (6.43%)<br />
+45.53<br />
+47.11<br />
3,881.67<br />
3,834.44<br />
Philippines (6.38%)<br />
Indonesia (6.30%)<br />
+4.52<br />
+11.41<br />
3,834.44<br />
Brunei (0.19%)<br />
-14.13<br />
หมายเหตุ : P ข้อมูลเบื้องต้น<br />
ที่มา : กรมการท่องเที่ยว<br />
<strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
09
สรุปสถานการณ์การท่องเที่ยวของไทย<br />
สรุปสถานการณ์การท่องเที่ยวของไทย<br />
ไตรมาสที่ 2 ปี 2559<br />
“ท่องเที่ยวระหว่างประเทศของไทย ไตรมาส 2 ปี 2559 เติบโตลดลง<br />
จากช่วงที่ผ่านมา จากการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวจีน”<br />
ไตรมาส 2/2559P ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติขยายตัวต่อเนื่อง<br />
ไตรมาส 2/2559 ตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยยังคงขยายตัว<br />
ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาในอัตราที่ลดลง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการ<br />
ชะลอตัวของนักท่องเที่ยวจีน (คิดเป็นร้อยละ 30 ของนักท่องเที่ยว<br />
ต่างชาติในไตรมาส 2) โดยในช่วงไตรมาสที่ 2 นักท่องเที่ยว<br />
ที่มีจานวนมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ จีน มาเลเซีย และลาว<br />
เทศกาลถือศีลอดส่งผลให้นักท่องเที่ยวตะวันออกกลาง และมาเลเซีย<br />
หดตัวร้อยละ 19 และร้อยละ 10 การขยายตัวของนักท่องเที่ยว<br />
คาดว่าจะขยายตัวดีขึ้นในไตรมาส 3 ตามการเติบโตของ<br />
นักท่องเที่ยวจีน และนักท่องเที่ยวมุสลิม<br />
รายได้นักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยในไตรมาส 2/2559 ขยายตัว<br />
ต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาในอัตราที่ลดลง โดยนักท่องเที่ยวภูมิภาค<br />
เอเชียตะวันออกมีอัตราการขยายตัวสูงสุด สาหรับนักท่องเที่ยว<br />
ที่สร้างรายได้สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ จีน มาเลเซีย และ<br />
สหราชอาณาจักร<br />
10 <strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong>
สรุปสถานการณ์การท่องเที่ยวของไทย<br />
จานวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ไตรมาส 2 ปี 2556 ถึง 2559<br />
หนวย : จำนวนนักทองเที่ยว (คน) หนวย : % การเปลี่ยนแปลงจากปที่ผานมา<br />
8,000,000<br />
7,000,000<br />
6,000,000<br />
5,000,000<br />
4,000,000<br />
3,000,000<br />
2,000,000<br />
1,000,000<br />
2556<br />
+24.31<br />
-15.94<br />
+36.92<br />
2557 2558 2559P<br />
+8.23<br />
+40.00<br />
+30.00<br />
+20.00<br />
+10.00<br />
+0.00<br />
-10.00<br />
-20.00<br />
-30.00<br />
-40.00<br />
หมายเหตุ : P ข้อมูลเบื้องต้น<br />
ที่มา : กรมการท่องเที่ยว<br />
จำนวน (คน)<br />
อัตราการเปลี่ยนแปลงจากปกอนหนา (แกนขวา)<br />
จานวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 10 อันดับแรกของไทย ในไตรมาส 2/2559P<br />
หนวย : จำนวนนักทองเที่ยว (คน) หนวย : อัตราการเปลี่ยนแปลง (Y-o-Y)<br />
2,270,011<br />
China<br />
+13.38<br />
852,203<br />
Malaysia<br />
-1.03<br />
334,055<br />
331,043<br />
Laos<br />
India<br />
+11.40<br />
+13.09<br />
309,143<br />
Japan<br />
+0.90<br />
จำนวน : 7,323,111 คน<br />
%Share : 70.48%<br />
299,552<br />
249,181<br />
Korea<br />
Singapore<br />
+1.01<br />
+11.91<br />
239,101<br />
Vietnam<br />
+1.58<br />
224,906<br />
USA<br />
+12.88<br />
213,916<br />
United Kingdom<br />
+1.94<br />
หมายเหตุ : P ข้อมูลเบื้องต้น<br />
ที่มา : กรมการท่องเที่ยว<br />
<strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
11
่<br />
สรุปสถานการณ์การท่องเที่ยวของไทย<br />
รายได้จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 10 อันดับแรกของไทย ในไตรมาส 2/2559P<br />
หนวย : รายไดจากการทองเที่ยว (ลานบาท) หนวย : อัตราการเปลี่ยนแปลง (Y-o-Y)<br />
114,928.33<br />
China<br />
+23.62<br />
21,362.49<br />
16,873.99<br />
Malaysia<br />
United Kingdom<br />
+0.97<br />
+3.93<br />
16,384.79<br />
Australia<br />
+40.51<br />
16,287.95<br />
India<br />
+15.25<br />
จำนวน : 252,190.65 ลานบาท<br />
%Share : 69.49%<br />
15,687.41<br />
15,116.41<br />
Russia<br />
USA<br />
-0.62<br />
+15.06<br />
13,420.60<br />
Japan<br />
+14.10<br />
12,947.94<br />
Korea<br />
+2.81<br />
9,180.74<br />
Singapore<br />
+15.24<br />
หมายเหตุ : P ข้อมูลเบื้องต้น<br />
ที่มา : กรมการท่องเที่ยว<br />
โครงสร้างตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทย ในไตรมาส 2/2559P<br />
นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามายังประเทศไทยในไตรมาส<br />
2/2559 มีจานวน 7,553,011 คน ขยายตัวร้อยละ 8.23 ลดลงจาก<br />
ไตรมาสก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 15.45 ตามแนวโน้มของนักท่องเที่ยว<br />
ภูมิภาคเอเชียตะวันออก และภูมิภาคอื่นๆ ยกเว้นภูมิภาคยุโรปที<br />
นักท่องเที่ยวขยายตัวสูงขึ ้นจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวรัสเซีย<br />
นักท่องเที่ยวต่างชาติของไทยขยายตัวต่อเนื่อง โดยเป็นผล<br />
มาจากการเติบโตของนักท่องเที่ยวจีน มาเลเซีย รัสเซีย และ<br />
ตะวันออกกลาง ประกอบกับการแข่งขันของสายการบินที่มีเป็น<br />
จานวนมาก และราคาค่าโดยสารเครื่องบินที่ลดลงตามราคา<br />
น้ามันดิบในตลาดโลก<br />
นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียตะวันออก มีจานวน 5,396,840 คน<br />
ขยายตัวร้อยละ 8.20 ลดลงจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัวร้อยละ<br />
19.63 ตามการชะลอตัวของนักท่องเที่ยวจีน มาเลเซีย สิงคโปร์<br />
ฮ่องกง ญี่ปุ่น เป็นต้น และคาดว่าในไตรมาสที่ 3 การขยายตัวของ<br />
นักท่องเที่ยวจะปรับตัวดีขึ้นจากการปิดภาคการศึกษาในประเทศจีน<br />
และวันหยุดของชาวมุสลิมในวันตรุษอีฏิ้ลฟิตริ<br />
นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรป มีจานวน 1,039,243 คน ขยายตัว<br />
ร้อยละ 10.67 เพิ่มขึ้นจากเดิมที่ขยายตัวร้อยละ 8.56 ในไตรมาส<br />
ก่อน ผลจากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวรัสเซีย และเยอรมนี<br />
ขยายตัวกว่าร้อยละ 37.83 และ 13.05 จากช่วงเวลาเดียวกันของ<br />
ปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรปบางประเทศมีจานวน<br />
ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที ่ผ่านมาเป็นผลจากการแข่งขัน<br />
ฟุตบอลแห่งชาติยุโรปในเดือนมิถุนายน ได้แก่ สวิตเซอร์แลนด์<br />
(-5.69%) รวมถึงนักท่องเที่ยวเบลเยี่ยมที่ยังหดตัวอย่างต่อเนื่อง<br />
ในไตรมาสนี้ (-2.84%) หลังเหตุระเบิดในกรุงบรัสเซลส์ อย่างไรก็ตาม<br />
คาดว่าในไตรมาสที่ 3 การขยายตัวของนักท่องเที่ยวจะปรับตัวดีขึ้น<br />
ตามการเติบโตของนักท่องเที่ยวตลาดหลัก<br />
นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอื่นๆ มีจานวน 1,116,928 คน ขยายตัว<br />
ร้อยละ 6.21 ลดลงจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 8.85 ตามการ<br />
ขยายตัวของนักท่องเที่ยวเกือบทุกภูมิภาค เช่น สหรัฐอเมริกา และ<br />
ออสเตรเลีย ขณะที่นักท่องเที่ยว อาร์เจนติน่า บราซิล มีการขยายตัว<br />
ในอัตราที่สูง นักท่องเที่ยวภูมิภาคอื่นคาดว่ามีแนวโน้มการขยาย<br />
ตัวในไตรมาสที่ 3 ดีขึ้น ตามทิศทางการเติบโตจาก สหรัฐอเมริกา<br />
ตะวันออกกลาง อินเดีย<br />
12 <strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong>
สรุปสถานการณ์การท่องเที่ยวของไทย<br />
จานวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากภูมิภาคต่างๆ ไตรมาส 1/2557 ถึงไตรมาส 2/2559P<br />
หนวย : จำนวนนักทองเที่ยว (คน)<br />
10,000,000<br />
9,000,000<br />
8,000,000<br />
7,000,000<br />
6,000,000<br />
5,000,000<br />
4,000,000<br />
3,000,000<br />
2,000,000<br />
1,000,000<br />
0<br />
Q1<br />
2557<br />
Q2 Q3 Q4 Q1<br />
2558<br />
Q2<br />
Q3 Q4 Q1<br />
2559P<br />
Q2<br />
East Asia<br />
Europe<br />
Other<br />
Grand Total<br />
หมายเหตุ : P ข้อมูลเบื้องต้น<br />
ที่มา : กรมการท่องเที่ยว<br />
อัตราการเปลี่ยนแปลงของจานวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากภูมิภาคต่างๆ<br />
ไตรมาส 1/2557 ถึง ไตรมาส 2/2559P<br />
หนวย : % การเปลี่ยนแปลงจำนวน<br />
นักทองเที่ยว (Y-o-Y)<br />
+70.00<br />
+60.00<br />
+50.00<br />
+40.00<br />
+30.00<br />
+20.00<br />
+10.00<br />
+0.00<br />
-10.00<br />
-20.00<br />
-30.00<br />
Q1<br />
2557<br />
Q2 Q3 Q4 Q1<br />
2558<br />
Q2<br />
Q3<br />
Q4<br />
Q1<br />
2559P<br />
Q2<br />
East Asia<br />
Other<br />
Europe<br />
Grand Total<br />
หมายเหตุ : P ข้อมูลเบื้องต้น<br />
ที่มา : กรมการท่องเที่ยว<br />
<strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
13
สรุปสถานการณ์การท่องเที่ยวของไทย<br />
ร้อยละของจานวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากภูมิภาคต่างๆ<br />
ไตรมาส 1/2557 ถึงไตรมาส 2/2559P<br />
ไตรมาสที่ 1 ป 2557 ไตรมาสที่ 1 ป 2558 ไตรมาสที่ 1 ป 2559<br />
15.01% 13.45% 12.68%<br />
East Asia<br />
East Asia<br />
49.85% Europe<br />
24.85% 61.90% Europe<br />
23.18% 64.14%<br />
35.14%<br />
Other<br />
Other<br />
East Asia<br />
Europe<br />
Other<br />
ไตรมาสที่ 2 ป 2557 ไตรมาสที่ 2 ป 2558 ไตรมาสที่ 2 ป 2559<br />
18.89%<br />
East Asia<br />
15.07%<br />
20.25% 60.86% Europe<br />
13.46%<br />
71.47%<br />
Other<br />
East Asia<br />
Europe<br />
Other<br />
13.76%<br />
14.79%<br />
71.45%<br />
East Asia<br />
Europe<br />
Other<br />
หมายเหตุ : P ข้อมูลเบื้องต้น<br />
ที่มา : กรมการท่องเที่ยว<br />
วันพักเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ไตรมาส 2/2559P<br />
วันพักเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายังประเทศไทย<br />
ในช่วงไตรมาส 2 ปี 2559 มีจานวน 9.54 วัน ใกล้เคียงกับช่วงเวลา<br />
เดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยนักท่องเที่ยวภูมิภาคยุโรปพักยาวนาน<br />
จานวนวันพักเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากภูมิภาคต่างๆ<br />
ไตรมาส 1/2557 ถึงไตรมาส 2/2559P<br />
ที่สุด 18.20 วัน นักท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียตะวันออกพัก 7.32 วัน<br />
และนักท่องเที่ยวภูมิภาคอื่นๆ พัก 12.20 วัน<br />
หนวย : จำนวนวันพักเฉลี่ย (วัน)<br />
20.00<br />
18.00<br />
16.00<br />
14.00<br />
12.00<br />
10.00<br />
8.00<br />
6.00<br />
4.00<br />
2.00<br />
0.00<br />
Q1<br />
2557<br />
Q2 Q3 Q4 Q1<br />
2558<br />
Q2<br />
Q3 Q4 Q1<br />
2559P<br />
Q2<br />
East Asia<br />
Europe<br />
Other<br />
Grand Total<br />
หมายเหตุ : P ข้อมูลเบื้องต้น<br />
ที่มา : กรมการท่องเที่ยว<br />
14 <strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong>
สรุปสถานการณ์การท่องเที่ยวของไทย<br />
ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ไตรมาส 2/2559P<br />
ไตรมาส 2/2559 นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ<br />
5,037.03 บาท/วัน ขยายตัวร้อยละ 4.05 ลดลงจากไตรมาสก่อน<br />
ที่ขยายตัวร้อยละ 6.41<br />
ภูมิภาคยุโรป นักท่องเที่ยวมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 4,060.20 บาท/วัน<br />
ขยายตัวร้อยละ 2.34 ปรับตัวลดลงจากเดิมที่ขยายตัวร้อยละ 4.47<br />
ในไตรมาสก่อน<br />
ภูมิภาคเอเชียตะวันออก นักท่องเที่ยวมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ<br />
5,456.30 บาท/วัน ขยายตัวร้อยละ 5.56 ลดลงจากไตรมาสก่อน<br />
ที่ขยายตัวร้อยละ 6.58<br />
ภูมิภาคอื่นๆ นักท่องเที่ยวมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยคนละ 5,100.26 บาท/วัน<br />
ขยายตัวร้อยละ 1.51 ลดลงจากไตรมาสก่อน ที่ขยายตัวร้อยละ 6.07<br />
ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตจากภูมิภาคต่างๆ<br />
ไตรมาส 1/2557 ถึงไตรมาส 2/2559 P<br />
หนวย : คาใชจายเฉลี่ย (บาท/คน/วัน)<br />
7,000.00<br />
6,000.00<br />
5,000.00<br />
4,000.00<br />
3,000.00<br />
2,000.00<br />
1,000.00<br />
0.00<br />
Q1<br />
2557<br />
Q2 Q3 Q4 Q1<br />
2558<br />
Q2<br />
Q3<br />
Q4<br />
Q1<br />
2559P<br />
Q2<br />
East Asia<br />
Other<br />
Europe<br />
Grand Total<br />
หมายเหตุ : P ข้อมูลเบื้องต้น<br />
ที่มา : กรมการท่องเที่ยว<br />
อัตราการเปลี่ยนแปลงของค่าใช้จ่ายเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากภูมิภาคต่างๆ<br />
ไตรมาส 1/2557 ถึงไตรมาส 2/2559 P<br />
หนวย : % การเปลี่ยนแปลงของ<br />
คาใชจายเฉลี่ย (Y-o-Y)<br />
+10.00<br />
+8.00<br />
+6.00<br />
+4.00<br />
+2.00<br />
+0.00<br />
-2.00<br />
-4.00<br />
Q1<br />
2557<br />
Q2 Q3 Q4 Q1<br />
2558<br />
Q2<br />
Q3<br />
Q4<br />
Q1<br />
2559P<br />
Q2<br />
East Asia<br />
Other<br />
Europe<br />
Grand Total<br />
หมายเหตุ : P ข้อมูลเบื้องต้น<br />
ที่มา : กรมการท่องเที่ยว<br />
<strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
15
สรุปสถานการณ์การท่องเที่ยวของไทย<br />
รายได้จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ไตรมาส 2/2559P<br />
การใช้จ่ายในด้านต่างๆ ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมายัง<br />
ประเทศไทยในช่วงไตรมาส 2/2559 ก่อให้เกิดรายได้ด้านการ<br />
ท่องเที่ยวแก่ประเทศไทยคิดเป็นมูลค่า 362,933.27 ล้านบาท<br />
ขยายตัวร้อยละ 13.20 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า<br />
ลดลงจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 20.15<br />
นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียตะวันออก สร้างรายได้<br />
215,574.54 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 15.01 จากช่วงเวลาเดียวกัน<br />
ของปีที่ผ่านมา ลดลงจากไตรมาสก่อนที่ขยายตัวร้อยละ 27.69<br />
โดยนักท่องเที่ยวที่สร้างรายได้สูงสุด 3 อันดับแรก คือ จีน มาเลเซีย<br />
และเกาหลี<br />
นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรป สร้างรายได้ 76,794.04 ล้านบาท<br />
ขยายตัวร้อยละ 13.30 เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนนักท่องเที่ยว<br />
ที่สร้างรายได้สูงสุด 3 อันดับแรก คือ สหราชอาณาจักร รัสเซีย<br />
และเยอรมนี<br />
นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอื ่นๆ สร้างรายได้ 70,564.69 ล้านบาท<br />
ขยายตัวร้อยละ 7.91 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ชะลอตัว<br />
จากไตรมาสก่อน ที่ขยายตัวร้อยละ 13.23 นักท่องเที่ยวที่สร้าง<br />
รายได้สูงสุด 3 อันดับแรก คือ อินเดีย สหรัฐอเมริกา และ<br />
ออสเตรเลีย<br />
รายได้จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากภูมิภาคต่างๆ ไตรมาส 1/2557 ถึงไตรมาส 2/2559P<br />
500,000.00<br />
450,000.00<br />
400,000.00<br />
350,000.00<br />
300,000.00<br />
250,000.00<br />
200,000.00<br />
150,000.00<br />
100,000.00<br />
50,000.00<br />
0.00<br />
หนวย : รายไดจากนักทองเที่ยว<br />
(ลานบาท)<br />
Q1<br />
2557<br />
East Asia<br />
Other<br />
หมายเหตุ : P ข้อมูลเบื้องต้น<br />
ที่มา : กรมการท่องเที่ยว<br />
Q2 Q3 Q4 Q1<br />
2558<br />
Europe<br />
Grand Total<br />
Q2<br />
Q3 Q4 Q1<br />
2559P<br />
Q2<br />
16 <strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong>
สรุปสถานการณ์การท่องเที่ยวของไทย<br />
อัตราการเปลี่ยนแปลงของรายได้จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจากภูมิภาคต่างๆ<br />
ไตรมาส 1/2557 ถึงไตรมาส 2/2559<br />
หนวย : % การเปลี่ยนแปลงของ<br />
รายได (Y-o-Y)<br />
+100.00<br />
+80.00<br />
+60.00<br />
+40.00<br />
+20.00<br />
+0.00<br />
-20.00<br />
-40.00<br />
Q1<br />
2557<br />
Q2 Q3 Q4 Q1<br />
2558<br />
Q2<br />
Q3<br />
Q4<br />
Q1<br />
2559P<br />
Q2<br />
East Asia<br />
Other<br />
หมายเหตุ : P ข้อมูลเบื้องต้น<br />
ที่มา : กรมการท่องเที่ยว<br />
การท่องเที่ยวภายในประเทศของไทย<br />
ไตรมาสที่ 2 ปี 2559 ขยายตัวต่อเนื่อง<br />
การท่องเที่ยวภายในประเทศในไตรมาสที่ 2 ปี 2559 ขยายตัว<br />
ต่อเนื่องจากช่วงที่ผ่านมา โดยสถานพักแรมโดยรวมมีอัตราการ<br />
เข้าพักเฉลี่ยเท่ากับร้อยละ 65.61 ขยายตัวร้อยละ 2.12 จากช่วงเวลา<br />
เดียวกันของปีที่ผ่านมา และก่อให้เกิดรายได้ 571,681.93 ล้านบาท<br />
ขยายตัวร้อยละ 11.89 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา<br />
โดยปัจจัยที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ขยายตัว คือ การเผยแพร่สื่อ<br />
ประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย<br />
และการเพิ่มวันหยุดพิเศษต่อเนื่องในเดือนพฤษภาคม<br />
อัตราการเข้าพักของสถานพักแรม ไตรมาส<br />
2/2559P<br />
อัตราการเข้าพักของสถานพักแรมในช่วงไตรมาส 2/2559 โดยรวม<br />
เท่ากับร้อยละ 65.61 ภูมิภาคที่มีอัตราการเข้าพักสูงสุด 3 อันดับ<br />
แรก คือ กรุงเทพฯ ภาคตะวันออก และภาคใต้ และเมื่อเปรียบ<br />
เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา พบว่า อัตราการเข้าพัก<br />
เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.12 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ลดลง<br />
จากไตรมาสก่อนหน้าที ่ขยายตัวร้อยละ 4.22 ภูมิภาคที่อัตราการ<br />
เข้าพักแรมขยายตัวสูงสุด 3 อันดับแรก คือ ภาคกลาง ภาคเหนือ<br />
และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (ขยายตัวร้อยละ 3.58 ร้อยละ 3.54<br />
และร้อยละ 2.72 ตามลาดับ)<br />
อัตราการเข้าพักของสถานพักแรมรายภูมิภาค ไตรมาส 1/2557 ถึงไตรมาส 2/2559P<br />
หนวย : อัตราการเขาพักเฉลี่ย (รอยละ)<br />
90<br />
80<br />
70<br />
60<br />
50<br />
40<br />
30<br />
20<br />
10<br />
0<br />
Q1<br />
2557<br />
กรุงเทพฯ<br />
ภาคตะวันออก<br />
หมายเหตุ : P ข้อมูลเบื้องต้น<br />
ที่มา : กรมการท่องเที่ยว<br />
Europe<br />
Grand Total<br />
Q2 Q3 Q4 Q1<br />
2558P<br />
ภาคเหนือ<br />
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ<br />
ภาคตะวันตก<br />
ภาคใต<br />
Q2<br />
ภาคกลาง<br />
รวม<br />
Q3<br />
Q4<br />
Q1<br />
2559P<br />
Q2<br />
<strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
17
สรุปสถานการณ์การท่องเที่ยวของไทย<br />
รายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศ ไตรมาส 2/2559P<br />
รายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศ ไตรมาส 2/2559 มีมูลค่า<br />
เท่ากับ 208,748.66 ล้านบาท โดยภูมิภาคที่มีรายได้จากการท่องเที่ยว<br />
ภายในประเทศสูงสุด 3 อันดับแรก คือ กรุงเทพฯ 78,156.76<br />
ล้านบาท ภาคใต้ 37,949.91 ล้านบาท และภาคเหนือ 25,504.28<br />
ล้านบาท ตามลาดับ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี<br />
ที่ผ่านมา พบว่า ขยายตัวร้อยละ 8.65 เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน<br />
หน้าที่ขยายตัวร้อยละ 8.34 ทั้งนี้สภาพอากาศที่ร้อนเป็นอุปสรรค<br />
และส่งผลกระทบต่อความพึงพอใจของนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม<br />
การเติบโตของรายได้จากการท่องเที่ยวส่วนหนึ่งเป็นผลจากการ<br />
เผยแพร่สื่อประชาสัมพันธ์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ<br />
การเพิ่มวันหยุดพิเศษต่อเนื่องในเดือนพฤษภาคม มีผลช่วยกระตุ้น<br />
การท่องเที ่ยวภายในประเทศให้เติบโตขึ ้น โดยจากการสารวจของ<br />
กรมการท่องเที่ยวพบว่า ในระหว่างวันที่ 5-9 พฤษภาคม 2559 มี<br />
รายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศ 11,400 ล้านบาท เพิ่มขึ้น<br />
ร้อยละ 5 จากการท่องเที่ยวในช่วงปกติ<br />
รายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศรายภูมิภาค ไตรมาส 1/2557 ถึงไตรมาส 2/2559P<br />
หนวย : รายไดจากการทองเที่ยว (ลานบาท)<br />
250,000.00<br />
200,000.00<br />
150,000.00<br />
100,000.00<br />
50,000.00<br />
0.00<br />
Q1<br />
2557<br />
Q2 Q3 Q4 Q1<br />
2558<br />
Q2<br />
Q3<br />
Q4<br />
Q1<br />
2559P<br />
Q2<br />
กรุงเทพฯ<br />
ภาคตะวันออก<br />
ภาคเหนือ<br />
ภาคตะวันตก<br />
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ<br />
ภาคใต<br />
ภาคกลาง<br />
รวม<br />
หมายเหตุ : P ข้อมูลเบื้องต้น<br />
ที่มา : กรมการท่องเที่ยว<br />
แรงงานภาคการท่องเที่ยว<br />
แรงงานภาคการท่องเที่ยวในไตรมาสที่ 2 ปี 2559 มีจานวน<br />
38,517,261 คน คิดเป็นร้อยละ 11.14 ของจานวนแรงงานทั้งหมด<br />
ใกล้เคียงกับไตรมาสก่อนที่เท่ากับร้อยละ 11.06 โดยประเภทของ<br />
ธุรกิจที่มีสัดส่วนแรงงานภาคการท่องเที่ยวสูงสุด 3 อันดับแรก คือ<br />
การบริการอาหารและเครื่องดื่ม การขนส่งโดยสาร และสถานพักแรม<br />
โดยมีสัดส่วนเท่ากับร้อยละ 50.62 ร้อยละ 17.24 และร้อยละ 12.23<br />
ตามลาดับ ซึ่งมีสัดส่วนรวมกันประมาณร้อยละ 80 ขณะที่ภาค<br />
บริการอื่น ๆ มีสัดส่วนแรงงานเฉลี่ยเพียงร้อยละ 4 เท่านั้น<br />
18 <strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong>
สรุปสถานการณ์การท่องเที่ยวของไทย<br />
สัดส่วนจานวนแรงงานภาคการท่องเที่ยวต่อจานวนแรงงานทั้งหมด<br />
ปี 2557 ถึงไตรมาส 2/2559P<br />
หนวย : รอยละตอจำนวน<br />
นักทองเที่ยวทั้งหมด<br />
สัดสวนจำนวนแรงงาน<br />
100%<br />
90%<br />
80%<br />
70%<br />
60%<br />
50%<br />
40%<br />
30%<br />
20%<br />
10%<br />
0%<br />
89.26%<br />
10.74%<br />
89.13%<br />
10.87%<br />
88.94%<br />
11.06%<br />
88.86%<br />
11.14%<br />
2557<br />
2558<br />
ไตรมาสที่ 1/2559<br />
ไตรมาสที่ 2/2559<br />
ภาคการทองเที่ยว<br />
ภาคธุรกิจอื่นๆ<br />
หมายเหตุ : P ข้อมูลเบื้องต้น<br />
ที่มา : กรมการท่องเที่ยว<br />
สัดส่วนแรงงานภาคการท่องเที่ยวจาแนกตามบริการ ไตรมาส 2/2559P<br />
สัดสวนจำนวนแรงงานภาคการทองเที่ยว<br />
6.08%<br />
4.26%<br />
12.23%<br />
สถานพักแรม<br />
6.47%<br />
การบรการอาหารและเคร่องดี่ม<br />
1.31%<br />
1.79%<br />
การขนสงโดยสาร<br />
ตัวแทนบรษัทนำเที่ยว<br />
การแสดง การละเลนพ้นบาน ศิลปวัฒนธรรม<br />
บรการกีฬาและนันทนาการ<br />
17.24%<br />
50.62%<br />
การขายสินคาเพ่อการทองเที่ยว<br />
บรการอื่นๆ ดานการทองเที่ยว<br />
หมายเหตุ : P ข้อมูลเบื้องต้น<br />
ที่มา : กรมการท่องเที่ยว<br />
การท่องเที่ยวไทยในไตรมาส 2/2559 มีจานวนนักท่องเที่ยวและ<br />
รายได้เพิ่มขึ้นแต่เป็นการเพิ่มในอัตราที่น้อยกว่าไตรมาสก่อน<br />
เป็นผลมาจากการลดลงของการเติบโตนักท่องเที่ยวจีนในไตรมาส 2<br />
ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 30 ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้งหมด จึงเป็น<br />
จุดเสี่ยงของการท่องเที่ยวไทยที ่มีนักท่องเที่ยวจากตลาดใดตลาด<br />
หนึ่งมากเกินไป ดังนั้น การกระจายนักท่องเที่ยวไปยังตลาดอื่น<br />
เช่น ยุโรป จึงมีความสาคัญในการลดความเสี่ยงดังกล่าว นอกจากนี้<br />
การบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงนักท่องเที่ยวจีนจึงเป็นประเด็น<br />
ที่ควรคานึงถึงเพื่อป้องกันผลกระทบต่อภาพรวมการท่องเที่ยว<br />
ของไทย สาหรับการท่องเที่ยวภายในประเทศเติบโตต่อเนื่อง<br />
จากช่วงก่อนหน้า โดยเฉพาะรายได้ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่ง<br />
เป็นผลจากการดาเนินมาตรการกระตุ้นด้านการท่องเที่ยวของ<br />
ภาครัฐทั้งด้านการประชาสัมพันธ์ และการเพิ่มวันหยุดพิเศษ<br />
ต่อเนื่อง นอกจากนี้ ในไตรมาสที่ 2/2559 แรงงานภาคการท่องเที่ยว<br />
มีสัดส่วนประมาณร้อยละ 11 ของจานวนแรงงานทั้งหมด และ<br />
ส่วนใหญ่เป็นแรงงานในธุรกิจการบริหารอาหารและเครื่องดื่ม<br />
การขนส่งโดยสาร และสถานพักแรม<br />
<strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
19
สรุปสถานการณ<br />
ทองเที่ยวไทย<br />
ป 2559p<br />
ไตรมาสที่ 2 ¨Ó¹Ç¹áÅÐÃÒÂä´Œ¨Ò¡¡Ò÷‹Í§à·ÕèÂÇ äµÃÁÒÊ·Õè 2<br />
»‚ 2556 - 2559p<br />
2556 2557<br />
2558<br />
2559<br />
+24.31%<br />
6.06<br />
Ōҹ¤¹<br />
+28.49%<br />
0.26<br />
ŌҹŌҹºÒ·<br />
-15.94<br />
5.10<br />
Ōҹ¤¹<br />
-14.07<br />
0.22<br />
ŌҹŌҹºÒ·<br />
+36.92%<br />
6.98<br />
Ōҹ¤¹<br />
+42.53%<br />
0.32<br />
ŌҹŌҹºÒ·<br />
+8.23%<br />
7.55<br />
Ōҹ¤¹<br />
+13.20%<br />
0.36<br />
ŌҹŌҹºÒ·<br />
¨Ó¹Ç¹¹Ñ¡·‹Í§à·ÕèÂÇ<br />
ÃÒÂä´Œ¨Ò¡Ò÷‹Í§à·ÕèÂÇ<br />
%CH (Y-O-Y)<br />
ÊÒ¹¡Òó¹Ñ¡·‹Í§à·ÕèÂÇ äµÃÁÒÊ·Õè 2 »‚ 2559p<br />
East Asia<br />
Europe<br />
Others<br />
¨Ó¹Ç¹¹Ñ¡·‹Í§à·ÕèÂÇ Çѹ¾Ñ¡à©ÅÕè ¤‹Ò㪌¨‹ÒÂà©ÅÕè µ‹Í¤¹/Çѹ ÊÌҧÃÒÂä´Œ<br />
+8.20%<br />
+0.05 Çѹ<br />
+5.56%<br />
+15.01%<br />
5.39 7.32 5,456.30 2.15<br />
Ōҹ¤¹<br />
Çѹ<br />
ºÒ·/Çѹ<br />
áʹŌҹºÒ·<br />
+10.67%<br />
1.03<br />
Ōҹ¤¹<br />
+6.21%<br />
1.11<br />
Ōҹ¤¹<br />
-0.01 Çѹ<br />
18.20<br />
Çѹ<br />
+0.01 Çѹ<br />
12.20<br />
Çѹ<br />
+2.43%<br />
4,060.20<br />
ºÒ·/Çѹ<br />
+1.51%<br />
5,100.26<br />
ºÒ·/Çѹ<br />
+13.30%<br />
0.76<br />
áʹŌҹºÒ·<br />
+7.91%<br />
0.70<br />
áʹŌҹºÒ·<br />
Grand total<br />
+8.23%<br />
7.55<br />
Ōҹ¤¹<br />
+0.05 Çѹ<br />
9.54<br />
Çѹ<br />
+4.05%<br />
5,037.03<br />
ºÒ·/Çѹ<br />
+13.20%<br />
3.62<br />
áʹŌҹºÒ·<br />
·ÕèÁÒ : ¡ÃÁ¡Ò÷‹Í§à·ÕèÂÇ<br />
%CH (Y-O-Y)
¨Ó¹Ç¹¹Ñ¡·‹Í§à·ÕèÂǵÒÁÊÑÞªÒµÔ ÃÒÂä´Œ¨Ò¡¹Ñ¡·‹Í§à·ÕèÂǵÒÁÊÑÞªÒµÔ<br />
China<br />
+1.01%<br />
Singapore<br />
0.24<br />
Ōҹ¤¹<br />
1<br />
+13.38%<br />
2.27<br />
Ōҹ¤¹<br />
+11.40%<br />
India<br />
0.33<br />
Ōҹ¤¹<br />
4 +0.90% 5<br />
+11.91% 6<br />
7 8 9 10<br />
+1.58%<br />
Vietnam<br />
0.23<br />
Ōҹ¤¹<br />
2<br />
Malaysia<br />
-1.03%<br />
0.85<br />
Ōҹ¤¹<br />
Japan<br />
0.30<br />
Ōҹ¤¹<br />
USA<br />
0.22<br />
Ōҹ¤¹<br />
Laos<br />
3<br />
+13.09%<br />
0.39<br />
Ōҹ¤¹<br />
Korea<br />
0.29<br />
Ōҹ¤¹<br />
+1.94%<br />
+12.88%<br />
United<br />
Kingdom<br />
0.21<br />
Ōҹ¤¹<br />
%CH (Y-O-Y)<br />
China<br />
1<br />
+23.62%<br />
1.14<br />
áʹŌҹºÒ·<br />
+40.51% 4 +15.25% 5<br />
-0.62% 6<br />
Australia<br />
0.16<br />
áʹŌҹºÒ·<br />
+15.06%<br />
USA<br />
0.15<br />
áʹŌҹºÒ·<br />
2<br />
United Kingdom<br />
+3.93%<br />
0.16<br />
áʹŌҹºÒ·<br />
7 8 9 10<br />
+14.10%<br />
Japan<br />
0.13<br />
áʹŌҹºÒ·<br />
India<br />
0.16<br />
áʹŌҹºÒ·<br />
Korea<br />
0.12<br />
áʹŌҹºÒ·<br />
3<br />
Malaysia<br />
+0.97%<br />
0.21<br />
áʹŌҹºÒ·<br />
Russia<br />
0.15<br />
áʹŌҹºÒ·<br />
+15.24%<br />
+2.81%<br />
Singapore<br />
0.09<br />
áʹŌҹºÒ·<br />
%CH (Y-O-Y)<br />
¨Ó¹Ç¹¹Ñ¡·‹Í§à·ÕèÂÇÍÒà«Õ¹¢Í§ä·Â »‚ 2559<br />
(Á.¤.-ÁÔ.Â.)<br />
646,833 คน<br />
+10.36%<br />
672,561คน<br />
+19.26%<br />
+12.14%<br />
+19.35%<br />
+6.70%<br />
717,634 คน<br />
712,668 คน<br />
741,764 คน722,209 คน<br />
+3.17%<br />
ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย.<br />
%CH (Y-O-Y)<br />
·ÕèÁÒ : ¡ÃÁ¡Ò÷‹Í§à·ÕèÂÇ
แนวโน้มสถานการณ์ท่องเที่ยว<br />
แนวโน้มสถานการณ์ท่องเที่ยวไตรมาสที่ 3<br />
ปี 2559 และตลอดปี 2559<br />
การท่องเที่ยวไทยในไตรมาสที่ 3 ปี 2559 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสที่ผ่านมา โดยรายได้<br />
จากการท่องเที่ยวระหว่างประเทศขยายตัวร้อยละ 11 และรายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศขยายตัวร้อยละ 8<br />
ตั ้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวทั้งสิ้น<br />
1,383,241.82 ล้านบาท เป็นรายได้จากการท่องเที่ยว<br />
ระหว่างประเทศ 958,614.37 ล้านบาท (1 ม.ค. - 28 ก.ค. 59) และ<br />
รายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศ 424,627.45 ล้านบาท<br />
(ม.ค. - มิ.ย. 59) นอกจากนี้ การพยากรณ์โดยใช้แบบจาลอง<br />
stochastic simulation ประกอบกับข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญ<br />
ด้านการท่องเที่ยวถึงแนวโน้มในไตรมาส 3 ปี 2559 คาดว่า<br />
ภาคการท่องเที่ยวจะก่อให้เกิดรายได้รวม 597,018.72 ล้านบาท<br />
ขยายตัวประมาณร้อยละ 10 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา<br />
โดยมีจานวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติประมาณ 8 ล้านคน และ<br />
สร้างรายได้ 393,599.15 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 11 จาก<br />
ช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการเติบโต<br />
ต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนของนักท่องเที่ยวจีน นักท่องเที่ยว<br />
อาเซียน ยุโรป อเมริกา เอเชียใต้ และตะวันออกกลาง<br />
ปัจจัยสาคัญที่ส่งเสริมการเติบโตของนักท่องเที่ยว<br />
ในไตรมาส 3 เป็นผลมาจากสถานการณ์การท่องเที่ยวของโลก<br />
22 <strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong>
แนวโน้มสถานการณ์ท่องเที่ยว<br />
สถาบันการศึกษาในประเทศจีนอยู่ในช่วงปิดภาคเรียน<br />
ราคาตั๋วโดยสารเครื่องบินระหว่างประเทศที่อยู่ในระดับต่า<br />
และการท่องเที่ยวในวันตรุษอีฎิ้ลฟิตริของนักท่องเที่ยวมุสลิม<br />
แนวโน้มสถานการณ์ท่องเที่ยวภายในประเทศ คาดว่ามีผู้เดินทาง<br />
36 ล้านคน-ครั้ง และสร้างรายได้ 203,419.57 ล้านบาท ขยาย<br />
ตัวร้อยละ 8 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจาก<br />
กระแสการท่องเที่ยวตามโครงการ 12 เมือง ต้องห้าม...พลาด<br />
และ12 เมือง ต้องห้าม...พลาด พลัส<br />
การเพิ่มวันหยุดพิเศษในเดือนกรกฎาคม เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว<br />
นอกฤดูกาล (low season) โดยการเพิ่มวันหยุดดังกล่าวในช่วง<br />
ที่ผ่านมาพบว่า สามารถกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ<br />
ให้เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาปกติได้ประมาณร้อยละ 5 - 8 ดังนั้น<br />
จึงคาดว่าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2559 จะมีรายได้จาก<br />
การท่องเที่ยวรวม 1,848,286.94 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 77 ของ<br />
เป้าหมายรายได้ในปี 2559 เป็นรายได้จากการท่องเที่ยวระหว่าง<br />
ประเทศ 1,220,239.92 ล้านบาท และรายได้จากการท่องเที่ยว<br />
ภายในประเทศ 628,047.02 ล้านบาท<br />
ปัจจัยสาคัญที่ส่งเสริมให้การท่องเที่ยวไทยบรรลุเป้าหมายนั้น คือ<br />
การลดปัจจัยเสี่ยงที่จะมีผลต่อการตัดสินใจในการเดินทางท่องเที่ยว<br />
ของนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ อาทิ ความไม่มั่นใจในภาวะ<br />
เศรษฐกิจ ภาพลักษณ์ของคนไทยในการปฏิบัติต่อนักท่องเที่ยว<br />
บางกลุ่ม ซึ่งเป็นปัจจัยสาคัญที่สามารถทาให้จานวนนักท่องเที่ยวไทย<br />
และต่างชาติมีจานวนสูงถึง 33 ล้านคนในปีนี้*<br />
* หมายเหตุ ปรับปรุงข้อมูลแนวโน้มจานวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในปี 2559 จากเดิม 32 ล้านคน เป็น 33 ล้านคน<br />
เนื่องจากการพยากรณ์ด้วยแบบจาลองโดยใช้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน (มิถุนายน 2559) กว่าที่พยากรณ์ในฉบับก่อนหน้า<br />
(เมษายน 2559) ร่วมกับการวิเคราะห์ด้วยปัจจัยเชิงคุณภาพอื่นๆ<br />
<strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
23
12 เมืองต้องห้าม...พลาด + พลัส<br />
12<br />
“โครงการ”<br />
เมืองต้องห้าม...พลาด<br />
สร้างรายได้3.3 หมื่นล้านบาท ในไตรมาสที่2 ปี 2559<br />
พลัส<br />
สำหรับ การดำเนินการโครงการ 12 เมือง ต้องห้าม...พลาด และ 12 เมือง ต้องห้าม...พลาด<br />
พลัส ในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านมา สามารถดึงดูดให้มีผู้ไปเยือน 11.09 ล้านคน และสร้างรายได้<br />
กว่า 33,095 ล้านบาท โดยขยายตัวร้อยละ 6.84 และ 9.34 จากช่วงเวลาเดียวกันของ<br />
ปีที่ผ่านมา ตามลำดับ ในจำนวนนี้เป็นรายได้จาก 12 เมือง ต้องห้าม...พลาด 17,787 ล้านบาท<br />
ขยายตัวร้อยละ 7.27 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยจังหวัดที่มีรายได้สูงสุด<br />
2 อันดับแรก คือ นครศรีธรรมราช และตราด สำหรับ 12 เมือง ต้องห้าม...พลาด พลัส<br />
สร้างรายได้ 15,308 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 11.85 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา<br />
โดยจังหวัดที่มีรายได้สูงสุด 2 อันดับแรก คือ ระยอง และพิษณุโลก (ที่มา: กรมการท่องเที่ยว)<br />
จากการส่งเสริมการท่องเที่ยวใน 12 เมือง ต้องห้าม...พลาด และ 12 เมือง ต้องห้าม...พลาด<br />
พลัส ส่งผลให้แหล่งท่องเที่ยวใน 24 จังหวัดเป็นที่รู้จักและเกิดการรับรู้อย่างต่อเนื่อง<br />
โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวรองภายในจังหวัดเป็นที่รู้จักมากขึ้น มีการนำเสนอจุดเด่นทาง<br />
การท่องเที่ยวในพื้นที่ด้านอื่นๆ อาทิ แหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนา/ศรัทธา แหล่งท่องเที่ยว<br />
เชิงกีฬา ใน 12 เมือง ต้องห้ามพลาด พลัส มีการเพิ่มขึ้นของนักทัศนาจรที่มากกว่า<br />
นักท่องเที่ยวที่พักค้างคืน ผลจากข้อจำกัดการให้บริการด้านการท่องเที่ยวที่ไม่ครบวงจร<br />
24 <strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong>
12 เมืองต้องห้าม...พลาด + พลัส<br />
•12 เมืองต้องห้าม...พลาด พลัส<br />
สรุปสถานการณ์ท่องเที่ยว 12 เมือง ต้องห้าม...พลาด พลัส<br />
ไตรมาสที่2 ปี 2559<br />
12 เมืองต้องห้าม...พลาด<br />
1 จ.ลำปาง<br />
“เมืองที่ไม่หมุนตามกาลเวลา”<br />
จำนวนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ไตรมาสที่ 2 ปี 2559<br />
12 เมืองต้องห้าม...พลาด พลัส<br />
2<br />
จ.ลำพูน<br />
“เที่ยวเมืองเก่ากลิ่นอาย<br />
ของวันวาน”<br />
จำนวนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ไตรมาสที่ 2 ปี 2559<br />
+9.87% จำนวน +12.68% รายได้<br />
โอกาส<br />
• นักท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่องในอัตรา<br />
ที่สูงกว่าไตรมาสก่อน<br />
ข้อจำกัด<br />
• หมอกควันจากไฟป่า/อากาศร้อนจัด<br />
เป็นอุปสรรคต่อการท่องเที่ยว<br />
ลำปาง<br />
••••<br />
ลำพูน<br />
1<br />
+7.12 จำนวน +10.24% รายได้<br />
โอกาส<br />
• การท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่องในอัตรา<br />
ที่สูงกว่าไตรมาสก่อน<br />
ข้อจำกัด<br />
• ผู้มาเยือนเพิ่มขึ้นแต่ส่วนใหญ่เป็น<br />
นักทัศนาจร<br />
• หมอกควันจากไฟป่า/อากาศร้อนจัด<br />
2<br />
12 เมืองต้องห้าม...พลาด<br />
3<br />
จ.น่าน<br />
“กระซิบรักเสมอดาว”<br />
จำนวนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ไตรมาสที่ 2 ปี 2559<br />
12 เมืองต้องห้าม...พลาด พลัส<br />
4<br />
จ.แพร่<br />
“เที่ยวด้วยตัวเองแบบช้าๆ<br />
ดื่มด่ำรายละเอียด”<br />
จำนวนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ไตรมาสที่ 2 ปี 2559<br />
+1.78 % จำนวน +6.42 % รายได้<br />
โอกาส<br />
• นักท่องเที่ยวมีการขยายตัวต่อเนื่อง<br />
ในอัตราที่น้อยกว่าไตรมาสก่อนโดย<br />
มีชาวจีนมาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น<br />
ข้อจำกัด<br />
• ขาดรถสาธารณะเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยว<br />
นอกตัวเมือง<br />
• ที่จอดรถในตัวเมืองไม่เพียงพอ<br />
น่าน<br />
••••<br />
แพร่<br />
3<br />
4<br />
+4.52 % จำนวน +6.66 % รายได้<br />
โอกาส<br />
• นักท่องเที่ยวมีการขยายตัวต่อเนื่อง<br />
ในอัตราที่น้อยกว่าไตรมาสก่อน เป็นผล<br />
มาจากการเชื่อมโยงกับจังหวัดน่าน<br />
ข้อจำกัด<br />
• ขาดรถสาธารณะสู่แหล่งท่องเที่ยว<br />
• ขาดบริษัทนำเที่ยวและ มัคคุเทศก์<br />
ท้องถิ่น<br />
<strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
25
12 เมืองต้องห้าม...พลาด + พลัส<br />
12 เมืองต้องห้าม...พลาด<br />
5 จ.เพชรบูรณ์<br />
“ภูดอกไม้สายหมอก”<br />
จำนวนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ไตรมาสที่ 2 ปี 2559<br />
+4.01 % จำนวน +8.36 % รายได้<br />
โอกาส<br />
• การเพิ่มขึ้นของรายได้น้อยกว่ า<br />
ไตรมาสก่อน<br />
ข้อจำกัด<br />
• หมอกควันจากไฟป่า/อากาศร้อนจัด<br />
• ขาดกิจกรรมส่งเสริมนอกฤดูกาล<br />
ท่องเที่ยว<br />
12 เมืองต้องห้าม...พลาด<br />
7 จ.เลย<br />
“เย็นสุด...สุขที่เลย”<br />
จำนวนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ไตรมาสที่ 2 ปี 2559<br />
เพชรบูรณ์<br />
••••<br />
5<br />
พิษณุโลก<br />
6<br />
12 เมืองต้องห้าม...พลาด พลัส<br />
6 จ.พิษณุโลก<br />
“เที่ยวธรรมชาติสวยงาม<br />
ภูเขา ดอกไม้สายหมอก”<br />
จำนวนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ไตรมาสที่ 2 ปี 2559<br />
+4.89 % จำนวน +8.18 % รายได้<br />
โอกาส<br />
• นักท่องเที่ยวมีการขยายตัวต่อเนื่อง<br />
ในอัตราที่น้อยกว่าไตรมาสก่อน เป็นผล<br />
จากการเชื่อมโยงนักท่องเที่ยว<br />
จากจังหวัดเพชรบูรณ์<br />
ข้อจำกัด<br />
• มีผู้มาเยือนมากขึ้นแต่ส่วนใหญ่เป็น<br />
นักทัศนาจร<br />
• หมอกควันจากไฟป่า<br />
• ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม<br />
ค่อนข้างน้อย<br />
12 เมืองต้องห้าม...พลาด พลัส<br />
8 จ.ชัยภูมิ<br />
“เที่ยวทางธรรมชาติสวยงาม<br />
UNSEEN และ ADVENTURE”<br />
จำนวนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ไตรมาสที่ 2 ปี 2559<br />
+1.50 % จำนวน +4.17 % รายได้<br />
โอกาส<br />
• นักท่องเที่ยวมีการขยายตัวต่อเนื่อง<br />
ในอัตราที่น้อยกว่าไตรมาสก่อน<br />
ข้อจำกัด<br />
• อากาศร้อนจัด<br />
• ป้ายบอกทางสู่แหล่งท่องเที่ยวไม่เพียงพอ<br />
เลย<br />
••••<br />
ชัยภูมิ<br />
7<br />
+5.35 % จำนวน +4.66 % รายได้<br />
โอกาส<br />
• ผู้เยี่ยมเยือนเพิ่มขึ้นจากวันหยุด<br />
รายได้เพิ่มขึ้นน้อยกว่าไตรมาสก่อน<br />
ข้อจำกัด<br />
8<br />
26 <strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong>
12 เมืองต้องห้าม...พลาด + พลัส<br />
12 เมืองต้องห้าม...พลาด<br />
9 จ.บุรีรัมย์<br />
“เมืองปราสาทสองยุค”<br />
จำนวนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ไตรมาสที่ 2 ปี 2559<br />
+7.39 % จำนวน +8.67 % รายได้<br />
โอกาส<br />
• นักท่องเที่ยวมีการขยายตัวต่อเนื่อง<br />
ในอัตราที่สูงกว่าไตรมาสก่อน<br />
ข้อจำกัด<br />
• ขาดรถสาธารณะสู่แหล่งท่องเที่ยว<br />
นอกตัวเมือง<br />
บุรีรัมย์<br />
••••<br />
9<br />
สุรินทร์<br />
10<br />
12 เมืองต้องห้าม...พลาด พลัส<br />
10 จ.สุรินทร์<br />
“เที่ยวปราสาทหินโบราณ<br />
และอารยธรรมขอม”<br />
จำนวนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ไตรมาสที่ 2 ปี 2559<br />
+5.22 % จำนวน +5.77 % รายได้<br />
โอกาส<br />
• นักท่องเที่ยวมีการขยายตัวต่อเนื่อง<br />
ในอัตราที่สูงกว่าไตรมาสก่อน ผลจาก<br />
การจัดกิจกรรมด้านการท่องเที่ยว และ<br />
นักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้าน<br />
ข้อจำกัด<br />
• ขาดรถสาธารณะสู่แหล่งท่องเที่ยว<br />
นอกตัวเมือง<br />
• นักท่องเที่ยวจากประเทศเพื่อนบ้าน<br />
ไม่กระจายสู่แหล่งท่องเที่ยวนอกตัวเมือง<br />
12 เมืองต้องห้าม...พลาด<br />
11 จ.ราชบุรี<br />
“ชุมชนคนอาร์ต”<br />
จำนวนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ไตรมาสที่ 2 ปี 2559<br />
+8.70 % จำนวน +12.40 % รายได้<br />
โอกาส<br />
• การเพิ่มขึ้นของรายได้น้อยกว่า<br />
ไตรมาสก่อน<br />
ข้อจำกัด<br />
• อากาศร้อนจัดเป็นอุปสรรคต่อ<br />
การท่องเที่ยว<br />
• นักท่องเที่ยววันธรรมดามีน้อย<br />
ราชบุรี<br />
••••<br />
11<br />
สุพรรณบุรี<br />
12<br />
12 เมืองต้องห้าม...พลาด พลัส<br />
12 จ.สุพรรณบุรี<br />
“เที่ยวชมศิลปะพื้นบ้าน<br />
ศิลปะที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่”<br />
จำนวนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ไตรมาสที่ 2 ปี 2559<br />
+5.72 % จำนวน +7.07 % รายได้<br />
โอกาส<br />
• นักท่องเที่ยวมีการขยายตัวต่อเนื่อง<br />
ในอัตราที่น้อยกว่าไตรมาสก่อน<br />
ข้อจำกัด<br />
• แหล่งท่องเที่ยวมีศักยภาพแต่ขาด<br />
การบริหารจัดการที่ดี<br />
• นักท่องเที่ยวหนาแน่นในช่วงวันหยุด<br />
<strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
27
12 เมืองต้องห้าม...พลาด + พลัส<br />
12 เมืองต้องห้าม...พลาด<br />
13 จ.สมุทรสงคราม<br />
“เมืองสายน้ำสามเวลา”<br />
จำนวนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ไตรมาสที่ 2 ปี 2559<br />
12 เมืองต้องห้าม...พลาด พลัส<br />
14 จ.นครปฐม<br />
“เที่ยววิถีชีวิตสายน้ำ”<br />
จำนวนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ไตรมาสที่ 2 ปี 2559<br />
+11.40 % จำนวน +15.70 % รายได้<br />
โอกาส<br />
• การเพิ่มขึ้นของรายได้น้อยกว่า<br />
ไตรมาสก่อน<br />
• ตลาดร่มหุบเปิดให้ค้าขายหลังปิด<br />
ปรับปรุง<br />
ข้อจำกัด<br />
• การจราจรในแหล่งท่องเที่ยวติดขัด<br />
• ผู้มาเยือนส่วนใหญ่เป็นนักทัศนาจร<br />
สมุทรสงคราม<br />
••••<br />
13<br />
นครปฐม<br />
14<br />
+7.86 % จำนวน +9.17 % รายได้<br />
โอกาส<br />
• การท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่องในอัตรา<br />
ที่สูงกว่าไตรมาสก่อน<br />
ข้อจำกัด<br />
• ผู้มาเยือนส่วนใหญ่เป็นนักทัศนาจร<br />
12 เมืองต้องห้าม...พลาด<br />
15 จ.จันทบุรี<br />
“สวนสวรรค์ร้อยพันธุ์ผลไม้”<br />
จำนวนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ไตรมาสที่ 2 ปี 2559<br />
+4.91 % จำนวน +7.86 % รายได้<br />
โอกาส<br />
• นักท่องเที่ยวมีการขยายตัวต่อเนื่อง<br />
ในอัตราที่น้อยกว่าไตรมาสก่อน<br />
ข้อจำกัด<br />
• อากาศร้อนส่งผลกระทบต่อ<br />
แหล่งท่องเที่ยว และปริมาณผลผลิต<br />
การเกษตร<br />
จันทบุรี<br />
••••<br />
15<br />
สระแก้ว<br />
16<br />
12 เมืองต้องห้าม...พลาด พลัส<br />
16 จ.สระแก้ว<br />
“เที่ยวเชื่อมโยงสู่<br />
อรัญประเทศ”<br />
จำนวนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ไตรมาสที่ 2 ปี 2559<br />
+4.41 % จำนวน +5.03 % รายได้<br />
โอกาส<br />
• นักท่องเที่ยวมีการขยายตัวต่อเนื่อง<br />
ในอัตราที่น้อยกว่าไตรมาสก่อน<br />
ข้อจำกัด<br />
• อากาศร้อนส่งผลกระทบต่อ<br />
แหล่งท่องเที่ยวน้ำตก<br />
28 <strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong>
12 เมืองต้องห้าม...พลาด + พลัส<br />
12 เมืองต้องห้าม...พลาด<br />
17 จ.ตราด<br />
“เมืองเกาะในฝัน”<br />
จำนวนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ไตรมาสที่ 2 ปี 2559<br />
+8.89 % จำนวน +13.09 % รายได้<br />
โอกาส<br />
• ผู้เยี่ยมเยือนเพิ่มขึ้นจากวันหยุด<br />
รายได้เพิ่มขึ้นน้อยกว่าไตรมาสก่อน<br />
ข้อจำกัด<br />
• อากาศร้อนส่งผลกระทบต่อ<br />
แหล่งท่องเที่ยว และปริมาณผลผลิต<br />
การเกษตร<br />
ตราด<br />
••••<br />
17<br />
ระยอง<br />
18<br />
12 เมืองต้องห้าม...พลาด พลัส<br />
18 จ.ระยอง<br />
“เที่ยวแบบหรูหรา<br />
เที่ยวทางทะเล”<br />
จำนวนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ไตรมาสที่ 2 ปี 2559<br />
+13.74 % จำนวน +18.64 % รายได้<br />
โอกาส<br />
• การท่องเที่ยวขยายตัวต่อเนื่อง<br />
ในอัตราที่สูงกว่าไตรมาสก่อน<br />
ข้อจำกัด<br />
• อากาศร้อนส่งผลกระทบต่อ<br />
แหล่งท่องเที่ยว และปริมาณผลผลิต<br />
การเกษตร<br />
12 เมืองต้องห้าม...พลาด<br />
12 เมืองต้องห้าม...พลาด พลัส<br />
19 จ.ชุมพร<br />
“หาดทรายสวยสี่ร้อยลี้”<br />
จำนวนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ไตรมาสที่ 2 ปี 2559<br />
20 จ.ระนอง<br />
“เที่ยวทางทะเล/เกาะ<br />
และสวนกาแฟ”<br />
จำนวนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ไตรมาสที่ 2 ปี 2559<br />
+1.64 % จำนวน +1.56 % รายได้<br />
โอกาส<br />
• นักท่องเที่ยวมีการขยายตัวต่อเนื่อง<br />
ในอัตราที่น้อยกว่าไตรมาสก่อน<br />
โดยมีกิจกรรมเทศกาลดนตรี<br />
เป็นตัวดึงดูดนักท่องเที่ยว<br />
ข้อจำกัด<br />
• นักท่องเที่ยววันธรรมดามีน้อย<br />
ชุมพร<br />
••••<br />
19<br />
ระนอง<br />
+6.19 % จำนวน +6.52 % รายได้<br />
โอกาส<br />
• ผู้เยี่ยมเยือนเพิ่มขึ้นจากวันหยุด<br />
รายได้เพิ่มขึ้นน้อยกว่าไตรมาสก่อน<br />
ข้อจำกัด<br />
• การเข้าสู่ฤดูมรสุม และการปิดอุทยาน<br />
แห่งชาติทางทะเล (ประจำทุกปี)<br />
20<br />
<strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
29
12 เมืองต้องห้าม...พลาด + พลัส<br />
12 เมืองต้องห้าม...พลาด<br />
12 เมืองต้องห้าม...พลาด พลัส<br />
21 จ.ตรัง<br />
“ยุทธจักรแห่งความอร่อย”<br />
จำนวนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ไตรมาสที่ 2 ปี 2559<br />
22 จ.สตูล<br />
“เที่ยวด้วยอาหารอร่อย<br />
ขึ้นชื่อของพื้นถิ่น”<br />
จำนวนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ไตรมาสที่ 2 ปี 2559<br />
+3.61 % จำนวน +4.29 % รายได้<br />
โอกาส<br />
• นักท่องเที่ยวมีการขยายตัวต่อเนื่อง<br />
ในอัตราที่น้อยกว่าไตรมาสก่อน<br />
โดยมีการสร้างเส้นทางท่องเที่ยวใหม่<br />
นอกฤดูท่องเที่ยว<br />
ข้อจำกัด<br />
• ความไม่พร้อมของระบบสาธารณูปโภค<br />
แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่มีจำกัด<br />
ตรัง<br />
••••<br />
สตูล<br />
21<br />
+2.22 % จำนวน +5.30 % รายได้<br />
โอกาส<br />
• นักท่องเที่ยวมีการขยายตัวต่อเนื่อง<br />
ในอัตราที่น้อยกว่าไตรมาสก่อน<br />
ข้อจำกัด<br />
22<br />
12 เมืองต้องห้าม...พลาด<br />
12 เมืองต้องห้าม...พลาด พลัส<br />
23 จ.นครศรีธรรมราช<br />
“นครสองธรรม”<br />
จำนวนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ไตรมาสที่ 2 ปี 2559<br />
24 จ.พัทลุง<br />
“เที่ยวแบบธรรมะ<br />
และธรรมชาติ”<br />
จำนวนและรายได้จากผู้เยี่ยมเยือน ไตรมาสที่ 2 ปี 2559<br />
+3.92 % จำนวน +5.07 % รายได้<br />
โอกาส<br />
• นักท่องเที่ยวมีการขยายตัวต่อเนื่อง<br />
ในอัตราที่น้อยกว่าไตรมาสก่อน<br />
ข้อจำกัด<br />
• ป้ายบอกทางเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยว<br />
ไม่เพียงพอ<br />
• การพัฒนาการท่องเที่ยวในหมู่บ้ านคีรีวง<br />
ขาดการบูรณาการระหว่างชุมชน<br />
นครศรีธรรมราช<br />
••••<br />
23<br />
พัทลุง<br />
24<br />
+8.52 % จำนวน +9.48 % รายได้<br />
โอกาส<br />
• ผู้เยี่ยมเยือนเพิ่มขึ้นจากวันหยุด รายได้<br />
เพิ่มขึ้นน้อยกว่าไตรมาสก่อน<br />
ข้อจำกัด<br />
• ผู้มาเยือนส่วนใหญ่เป็นนักทัศนาจร<br />
30 <strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong>
12 เมืองต้องห้าม...พลาด + พลัส<br />
อัตราการเข้าพัก จำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย และรายได้จากชาวไทย ไตรมาสที่ 2 ปี 2559P<br />
จังหวัด อัตราการเข้าพัก จำนวนผู้เยี่ยมเยือน รายได้<br />
OR Δ คน %Δ ล้านบาท %Δ<br />
ลำปาง 52.10 +4.71 213,324 +9.87 635.99 +12.68<br />
ลำพูน 54.46 +5.16 242,733 +7.12 307.32 +10.24<br />
น่าน 51.83 +2.50 185,355 +1.78 613.46 +6.42<br />
แพร่ 41.81 +2.57 144,852 +4.52 251.12 +6.66<br />
เพชรบูรณ์ 49.48 +3.25 465,883 +4.01 1,392.16 +8.36<br />
พิษณุโลก 52.00 +4.66 735,332 +4.89 1,528.91 +8.18<br />
เลย 48.80 +2.89 465,373 +1.50 748.20 +4.17<br />
ชัยภูมิ 48.77 +1.69 345,134 +5.35 361.96 +4.66<br />
บุรีรัมย์ 52.40 +3.63 498,503 +7.39 600.52 +8.67<br />
สุรินทร์ 46.72 +1.91 275,252 +5.22 455.30 +5.77<br />
ราชบุรี 47.08 +3.13 352,476 +8.70 534.64 +12.40<br />
สุพรรณบุรี 78.28 +1.84 454,574 +5.72 920.73 +7.07<br />
สมุทรสงคราม 64.50 +5.26 311,173 +11.40 413.19 +15.70<br />
นครปฐม 68.80 +4.62 659,322 +7.86 815.65 +9.17<br />
จันทบุรี 57.21 +1.33 516,450 +4.91 1,697.37 +7.86<br />
สระแก้ว 55.19 +1.53 399,446 +4.41 1,108.14 +5.03<br />
ตราด 62.88 +3.71 427,322 +8.89 2,921.72 +13.09<br />
ระยอง 73.09 +9.71 1,942,143 +13.74 6,764.56 +18.64<br />
ชุมพร 63.71 +3.23 307,058 +1.64 1,508.30 +1.56<br />
ระนอง 56.50 +5.01 183,588 +6.19 1,074.90 +6.52<br />
ตรัง 64.64 +1.92 367,262 +3.61 1,715.43 +4.29<br />
สตูล 67.63 +5.18 243,870 +2.22 1,074.06 +5.30<br />
นครศรีธรรมราช 63.37 +1.56 1,041,573 +3.92 5,006.10 +5.07<br />
พัทลุง 65.18 +2.49 313,864 +8.52 645.86 +9.48<br />
รวม 60.07 +4.04 11,091,862 +6.84 33,095.59 +9.34<br />
หมายเหตุ : P หมายถึง ข้อมูลเบื้องต้น<br />
ที่มา : กรมการท่องเที่ยว<br />
<strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
31
แนวโน้มการลงทุนในธุรกิจโรงแรมในประเทศไทย<br />
แนวโน้มการลงทุน<br />
ในธุรกิจโรงแรมในประเทศไทย<br />
ธุรกิจโรงแรมมีการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โรงแรมขนาดกลาง<br />
และขนาดเล็กเติบโตมากที่สุด<br />
ในปี 2559 มีสถานพักแรมทั้งหมด 16,749 แห่ง โดยภูมิภาคที่<br />
มีจานวนสถานพักแรมมากที่สุด 2 อันดับแรก คือ ภาคใต้ และ<br />
ภาคเหนือ (ร้อยละ 31 และร้อยละ 19 ตามลาดับ) ขณะที่จานวน<br />
ห้องพักในภาคใต้ และกรุงเทพฯ เป็นภูมิภาคที่มีห้องพักมากที่สุด<br />
2 อันดับแรก (ร้อยละ 29 และ 20 ตามลาดับ) แสดงให้เห็นว่า<br />
ภาคใต้มีการลงทุนสถานพักแรมจานวนมาก และกรุงเทพฯ เป็น<br />
จังหวัดที่มีห้องพักมากที่สุด เนื่องจากเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ<br />
และการท่องเที่ยว<br />
แนวโน้มการลงทุนในธุรกิจโรงแรมมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดย<br />
สัมพันธ์กับการเติบโตของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทาง<br />
มาท่องเที่ยวในประเทศไทย ที่มีการเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 14 ต่อปี<br />
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวมากกว่า<br />
ปีละ 24 ล้านคน ทารายได้ให้กับประเทศมากกว่า 4 แสนล้านบาท<br />
การเติบโตของธุรกิจโรงแรมในประเทศไทย ส่วนใหญ่อยู่ในแหล่ง<br />
ท่องเที่ยวหลัก และมีรูปแบบเปลี่ยนแปลงตามกระแสการท่องเที่ยว<br />
พฤติกรรมนักท่องเที่ยวเปลี่ยนแปลงไป รูปแบบการแข่งขันในตลาด<br />
ออนไลน์ที่มีมากขึ้น ส่งผลให้การลงทุนด้านโรงแรมของไทยเป็น<br />
โรงแรมขนาดเล็ก ลักษณะบูติกโฮเต็ล และโรงแรมราคาประหยัด<br />
(Budget Hotel) มากขึ้น<br />
32 <strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong>
แนวโน้มการลงทุนในธุรกิจโรงแรมในประเทศไทย<br />
จานวนสถานพักแรม และจานวนห้องพักแรม ปี 2559P จาแนกตามภูมิภาค<br />
สัดสวน (รอยละ)<br />
ภาคใต (31.62%)<br />
จำนวนสถานพักแรม<br />
จำนวน (แหง)<br />
5,296<br />
ภาคเหนือ (19.83%)<br />
3,322<br />
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (15.20%)<br />
2,546<br />
ภาคตะวันตก (11.45%)<br />
1,918<br />
ภาคตะวันออก (9.77%)<br />
กรุงเทพ (8.51%)<br />
1,426<br />
1,637<br />
ภาคกลาง (3.62%)<br />
604<br />
สัดสวน (รอยละ)<br />
ภาคใต (29.59%)<br />
จำนวนหองพักแรม<br />
จำนวน (แหง)<br />
200,950<br />
กรุงเทพ (20.03%)<br />
136,043<br />
ภาคตะวันออก (15.08%)<br />
ภาคเหนือ (14.28%)<br />
102,409<br />
96,971<br />
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (10.82%)<br />
73,483<br />
ภาคตะวันตก (5.95%)<br />
ภาคกลาง (4.25%)<br />
28,861<br />
40,437<br />
หมายเหตุ : P ข้อมูลเบื้องต้น<br />
ที่มา : กรมการท่องเที่ยว<br />
ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจโรงแรมมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น จาก<br />
12,895 แห่ง เป็น 16,749 แห่ง เฉลี่ยร้อยละ 14 ต่อปี ทาให้จานวน<br />
ของที่พักเพิ่มขึ้นจาก 550,627 ห้องในปี 2557 เป็น 679,154 ห้อง<br />
ในปี 2559 การเพิ่มขึ้นของผู้ประกอบการส่งผลให้เกิดการแข่งขัน<br />
ที่มากขึ้น ผู้ประกอบการแต่ละกลุ่มใช้กลยุทธ์ต่างๆ ในการพัฒนา<br />
ธุรกิจโรงแรมดังนี้<br />
1) ธุรกิจโรงแรมขนาดใหญ่ที ่เน้นการลงทุนสูง ตั้งอยู่ในแหล่ง<br />
ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยสร้างความประทับใจการบริการ เน้น<br />
ความหรูหรา และเป็นส่วนตัวแก่นักท่องเที่ยว มักกาหนดราคาสูง<br />
เริ่มต้นที่ 10,000 บาท ขึ้นไป เช่น โรงแรมในเครือซิกซ์เซนส์<br />
เซนต์รีจิส เป็นต้น 1<br />
2) โรงแรมกึ่งพรีเมียม เน้นความสะดวกสบาย มีสิ่งอานวย<br />
ความสะดวกราคาเริ่มต้นประมาณ 2,800 บาท เช่น กลุ่ม ไอเอชจี<br />
(IHG) โนโวเทล เป็นต้น 2<br />
1<br />
Hotel Industry Trend: Boutique กับ Budget มันต่างกัน, http://www.oknation.net/blog/kirk/2013/02/16/entry-11<br />
2<br />
อ้างแล้ว 1 และไอเอชจีชูแบรนด์ “โฮเต็ลอินดิโก้” รร.บูติค 5 ดาวดูดนักลงทุน,<br />
น.ส.พ.ประชาชาติธุรกิจ 28 มี.ค. 58<br />
<strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
33
แนวโน้มการลงทุนในธุรกิจโรงแรมในประเทศไทย<br />
3) โรงแรมที่เน้นการออกแบบ (Fashion & Boutique) เน้นความ<br />
แตกต่างให้เป็นเอกลักษณ์ และมีราคาตั้งแต่ระดับกลางถึงสูง เช่น<br />
โรงแรมเทนเฟสแบงค๊อก (Tenface Bangkok) ดับเบิลยูโฮเต็ล<br />
(W Hotel)<br />
5) เซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ และเซอร์วิสคอนโดมีเนียม เป็นกลุ่มเติบโต<br />
สูง ที่พักอาศัยที่มีการจัดแบ่งห้องพักชัดเจนสาหรับการเช่ารายวัน<br />
และรายเดือน ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ และแหล่งท่องเที่ยว<br />
ที่สาคัญ เช่น หัวหิน พัทยา ภูเก็ต เป็นต้น<br />
4) โรงแรมราคาประหยัด (Budget Hotel) เป็นกลุ่มที่เติบโตได้รับ<br />
ความนิยมตามแนวโน้มภาวะเศรษฐกิจ และพฤติกรรมนักท่องเที่ยว<br />
เน้นห้องพักขนาดเล็ก มีความสะอาด แต่มีสิ่งอานวยความสะดวกที่<br />
จาเป็น ให้บริการราคาไม่เกิน 1,500 บาท<br />
จานวนสถานพักแรม และจานวนห้องพักแรม ปี 2557-2559P<br />
ธุรกิจโรงแรมโดยรวมมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ห้องพักที่<br />
เพิ ่มขึ้นแข่งขันรุนแรงทาให้โรงแรมราคาประหยัดขยายตัวสูง<br />
โดยเฉพาะกรุงเทพฯ โรงแรมขนาดเล็ก และห้องพักต่อ<br />
สถานประกอบการลดลงจาก 43 ห้อง เป็น 41 ห้อง พื้นที่ที่ลดลงมาก<br />
คือ กรุงเทพฯ จากแห่งละ 139 ห้อง เป็นแห่งละ 95 ห้อง<br />
จำนวน (แหง)<br />
จำนวนสถานพักแรม<br />
%CH (Y-o-Y)<br />
18,000<br />
16,000<br />
14,000<br />
12,000<br />
10,000<br />
8,000<br />
6,000<br />
4,000<br />
2,000<br />
16,749<br />
15,469<br />
12,895<br />
+19.96<br />
+4.01<br />
2557 2558 2559<br />
+8.27<br />
+25.00<br />
+20.00<br />
+15.00<br />
+10.00<br />
+5.00<br />
+0.00<br />
จำนวนสถานพักแรม (แหง)<br />
อัตราการเปลี่ยนแปลงจากปที่ผานมา<br />
จำนวน (หอง)<br />
800,000<br />
700,000<br />
600,00<br />
500,00<br />
400,00<br />
300,00<br />
200,00<br />
100,00<br />
จำนวนหองพักแรม (หอง)<br />
650,643<br />
+18.16<br />
679,154<br />
550,627<br />
+1.95<br />
2557 2558 2559<br />
+4.38<br />
%CH (Y-o-Y)<br />
+20.00<br />
+18.00<br />
+16.00<br />
+14.00<br />
+12.00<br />
+10.00<br />
+8.00<br />
+6.00<br />
+4.00<br />
+2.00<br />
+0.00<br />
จำนวน (คน)<br />
อัตราการเปลี่ยนแปลงจากปที่ผานมา<br />
หมายเหตุ : P ข้อมูลเบื้องต้น<br />
ที่มา : กรมการท่องเที่ยว<br />
34 <strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong>
แนวโน้มการลงทุนในธุรกิจโรงแรมในประเทศไทย<br />
SMEs พร้อมปรับกลยุทธ์รับมือการแข่งขันสูงของธุรกิจโรงแรม<br />
ข้อมูลการลงทุนด้านโรงแรมจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยพบว่า<br />
ในปี 2559 จานวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และนักท่องเที่ยวชาวไทย<br />
ที่เพิ่มขึ้น จะมีเม็ดเงินสะพัดสู่ธุรกิจโรงแรม 537,000-544,000<br />
ล้านบาท เติบโตร้อยละ 4.7-6.0 คิดเป็นมูลค่า 513,000 ล้านบาท<br />
ผลจากการกระตุ้นการท่องเที่ยวจากภาครัฐซึ่งจะหนุนให้เม็ดเงิน<br />
สะพัดสู่ธุรกิจโรงแรมเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา ธุรกิจโรงแรม<br />
รายใหญ่รุกขยายธุรกิจในประเทศควบคู่ในต่างประเทศทั้งในภูมิภาค<br />
อาเซียน และภูมิภาคอื่นๆ ธุรกิจโรงแรมขนาดกลาง และเล็กมุ่งเจาะ<br />
นักท่องเที่ยวที่ต้องการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ มุ่งสร้างเอกลักษณ์<br />
ของโรงแรม<br />
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า ในปี 2559 ธุรกิจโรงแรมขนาดกลาง<br />
และเล็กต้องปรับกลยุทธ์ดึงดูดนักท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มรายได้ และ<br />
การบริหารจัดการอย่างเป็นระบบเพื่อเพิ่มขีดความสามารถใน<br />
การแข่งขัน ธุรกิจโรงแรมขนาดกลาง และเล็กควรบริหารช่องทาง<br />
การขายควบคู่กันไป เพื่อลดการพึ่งพิงตัวกลางที่ให้บริการจอง<br />
โรงแรมผ่านออนไลน์ โดยมี 6 กลยุทธ์ดึงดูดนักท่องเที่ยวเพื่อเพิ่ม<br />
รายได้ 1. สร้างเอกลักษณ์ เจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับบน 2. น าเสนอ<br />
ความคุ้มค่าและบริการครบวงจร 3. บริหารจัดการข้อมูลอย่างเป็น<br />
ระบบ 4. เพิ่มช่องทางการขายออนไลน์ของตัวเอง 5. พัฒนาระบบ<br />
การชาระเงินแบบออนไลน์ 6. วางแผนจองห้องพักล่วงหน้า 3<br />
แผนภาพที่ 3 จานวนห้องพักแรมต่อสถานพักแรม ปี 2557– 2559P จาแนกตามภูมิภาค<br />
จำนวน (หอง/แหง)<br />
160<br />
140<br />
120<br />
100<br />
80<br />
60<br />
40<br />
20<br />
0<br />
43 42 41<br />
139<br />
95 95<br />
57 56 63 49 49 48<br />
จำนวนหองพักแรมตอสถานพักแรม<br />
รวม กรุงเทพฯ ภาคตะวันออก ภาคกลาง ภาคใต<br />
2557 2556<br />
2559<br />
40 39 38 32 31 29 30 30 29 26 26 21<br />
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ ภาคตะวันตก<br />
หมายเหตุ : P ข้อมูลเบื้องต้น<br />
ที่มา : กรมการท่องเที่ยว<br />
โรงแรมโนโวเทล แบงคอก แพลตตินั่ม<br />
3<br />
SMEพร้อมปรับกลยุทธ์รับมือการแข่งขันสูงของธุรกิจโรงแรม , http://www.kasikornbank.com/TH/SME/KSMEKnowledge/KSMEAnalysis/Documents/SMEHotelStrategy2016.pdf<br />
<strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
35
แนวโน้มการลงทุนในธุรกิจโรงแรมในประเทศไทย<br />
สถานพักแรมสร้างรายได้ 0.87 ล้านบาทต่อห้องต่อปี โดยสถาน<br />
พักแรมในกรุงเทพฯ สร้างรายได้สูงสุด 1.50 ล้านบาทต่อปี รองลง<br />
มาได้แก่ ภาคใต้ ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก ภาคเหนือ ภาคกลาง<br />
และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สะท้อนอัตราการเข้าพักสูงที่สุด<br />
และสามารถเพิ่มราคาห้องพักได้<br />
รายได้จากห้องพักต่อจานวนห้องพักทั้งหมด ปี 2557 - 2558P<br />
ลานบาท / หอง / ป<br />
1.00<br />
0.80<br />
0.60<br />
รายไดจากหองพักตอจำนวนหองพักทั้งหมด<br />
0.88 0.87<br />
+3.86%<br />
-1.80%<br />
0.40<br />
0.20<br />
0.00<br />
2557 2558<br />
%CH (Y-o-Y)<br />
+25.00<br />
+20.00<br />
+15.00<br />
+10.00<br />
+5.00<br />
+0.00<br />
-5.00<br />
-10.00<br />
-15.00<br />
-20.00<br />
-25.00<br />
+11.72<br />
+5.36<br />
+0.30<br />
อัตราการเปลี่ยนแปลงของรายไดจากหองพักตอจำนวนหองพักทั้งหมด<br />
+3.39<br />
-2.13<br />
+0.47 +0.80<br />
-19.87<br />
ภาคเหนือ กรุงเทพฯ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก<br />
ภาคใต รวม<br />
-2.09<br />
+21.78<br />
+11.91<br />
+4.60<br />
+8.50<br />
-5.28<br />
+3.86<br />
-1.80<br />
2557 2558<br />
หมายเหตุ : P ข้อมูลเบื้องต้น<br />
ที่มา : กรมการท่องเที่ยว<br />
ป่าสักทอง รีสอร์ท เชียงราย<br />
36 <strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong>
แนวโน้มการลงทุนในธุรกิจโรงแรมในประเทศไทย<br />
รายได้จากห้องพักต่อจานวนห้องพักทั้งหมด ปี 2558P จาแนกตามภูมิภาค<br />
รายไดจากหองพักตอจำนวนหองพักทั้งหมด<br />
ลานบาท/หอง/ป<br />
กรุงเทพฯ<br />
1.50<br />
ภาคใต<br />
0.93<br />
ภาคตะวันออก<br />
0.58<br />
ภาคตะวันตก<br />
0.70<br />
ภาคเหนือ<br />
ภาคกลาง<br />
0.44<br />
0.44<br />
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ<br />
0.28<br />
หมายเหตุ : P ข้อมูลเบื้องต้น<br />
ที่มา : กรมการท่องเที่ยว<br />
<strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
37
การท่องเที่ยวเชิงอาหาร<br />
การท่องเที่ยวเชิงอาหาร<br />
(Gastronomic Tourism)<br />
รองศาสตราจารย์ ดร.พรรณี สวนเพลง และคณะ<br />
อาหารเป็นสื่อที่บ่งบอกถึงความเป็นมาของสังคมและวัฒนธรรม<br />
ท้องถิ่นของประเทศต่างๆ ดังนั้นการท่องเที่ยวเชิงอาหาร จึงเป็น<br />
สิ่งหนึ่งที่ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติให้เกิด<br />
การเดินทางท่องเที่ยวสู่ท้องถิ่นต่างๆ อันจะส่งผลท าให้การท่องเที่ยว<br />
ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ผลของการท่องเที่ยวเชิงอาหารเกิดประโยชน์<br />
ทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยว โดยการ<br />
ท่องเที่ยวเชิงอาหารก่อให้เกิดการการกระจายรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่น<br />
ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวในทุกกลุ่มคน<br />
การท่องเที่ยวเชิงอาหารในปัจจุบันได้รับการขับเคลื ่อนจากการ<br />
เติบโตของเทคโนโลยี สื่อออนไลน์เป็นส่วนสาคัญในการช่วยส่งเสริม<br />
การท่องเที่ยวเชิงอาหาร โดยเทคโนโลยีสมัยใหม่สร้างความสะดวก<br />
สบายให้กับนักท่องเที่ยวในการค้นหาข้อมูล แหล่งท่องเที่ยว เส้นทาง<br />
ท่องเที่ยวชิมอาหาร แหล่งผลิตอาหารที่เป็นต้นฉบับ ร้านอาหาร<br />
แนะนา เมนูแนะนาท้องถิ่น เป็นต้น โดยการท่องเที่ยวเชิงอาหาร<br />
ที่โดดเด่น ระดับโลกเช่น เส้นทางชิมไวน์ ทัวร์ชิมอาหารของญี่ปุ่น<br />
การท่องเที่ยวชิมผลไม้ในสวนภาคตะวันออก หรือแม้แต่การเข้าร่วม<br />
ในเทศกาลกินเจ เป็นต้น<br />
38 <strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong>
การท่องเที่ยวเชิงอาหาร<br />
สถานการณ์ท่องเที่ยวเชิงอาหารของโลก<br />
องค์การท่องเที่ยวโลก (UNWTO) ได้แสดงให้เห็นว่า การท่องเที่ยว<br />
เชิงอาหารสร้างรายได้มีมูลค่าสูงถึง 150,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ<br />
โดยนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่นิยมรูปแบบการท่องเที่ยว<br />
เชิงอาหารมากที ่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ สเปน ฝรั่งเศล อิตาลี<br />
โดยพิจารณาจากค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศที่มี<br />
การใช้จ่ายด้านอาหารมากที่สุด<br />
กิจกรรมการท่องเที ่ยวเชิงอาหารที่สาคัญ มีรูปแบบกิจกรรมการ<br />
ท่องเที่ยวแบบการเยี ่ยมชมและชิมอาหาร เข้าเรียนทาอาหาร<br />
รับประทานอาหารแบบท้องถิ่น และการซื้อทัวร์ท่องเที่ยวเกี่ยวกับอาหาร<br />
ในปี 2556 - 2557 1 Global Wellness Institute พบว่า การท่องเที่ยว<br />
อาหารทั่วโลก สร้างรายได้ 350,000 - 550,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ<br />
มีมิติการท่องเที ่ยวที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเชิงเกษตร<br />
(Agriculture-tourism) การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (Eco-tourism)<br />
และการท่องเที่ยวยั่งยืน (Sustainable tourism) และในกิจกรรม<br />
การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและความงาม (Wellness tourism) มี<br />
กิจกรรมการทาอาหารเพื่อสุขภาพเป็นกิจกรรมส่วนหนึ่งในการ<br />
ท่องเที่ยว<br />
1<br />
Global Wellness Institute, The Global Wellness Tourism Economy 2013 & 2014<br />
<strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
39
การท่องเที่ยวเชิงอาหาร<br />
สถานการณ์ท่องเที่ยวเชิงอาหารของไทย<br />
จากข้อมูลกรมการท่องเที่ยว พบว่า ในปี 2558 ประเทศไทยมีรายได้<br />
จากการท่องเที่ยวอาหารจานวน 456,000 ล้านบาท หรือคิดเป็น<br />
ร้อยละ 20 ของรายได้รวมจากการท่องเที่ยวทั ้งหมด โดยเป็น<br />
รายได้จากนักท่องเที่ยวชาวไทยเที่ยวไทย 174,000 ล้านบาท และ<br />
นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ 282,000 ล้านบาท<br />
สาหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีการใช้จ่ายในการท่องเที่ยว<br />
ในรูปแบบของรายได้จากอาหารและเครื่องดื่มระหว่างเดินทางของ<br />
นักท่องเที่ยวมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ จีน อังกฤษ และรัสเซีย โดย<br />
ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาพบว่า รายได้จากอาหารและเครื่องดื่มของนัก<br />
ท่องเที่ยวชาวต่างชาติมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 5.74 เป็นผล<br />
มาจากการใช้จ่ายด้านอาหารของนักท่องเที่ยวภูมิภาคโอเชียเนีย<br />
เอเชียตะวันออก และเอเชียใต้<br />
การเพิ่มขึ ้นของรายได้จากการท่องเที่ยวด้านอาหาร รัฐบาล<br />
จึงมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งจาก<br />
นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวในประเทศไทย และ<br />
นักท่องเที่ยวชาวไทยเที่ยวไทย อย่างต่อเนื่อง อาทิ การจัดโครงการ<br />
Amazing Thai Taste เพื่อส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยว<br />
ภายใต้โครงการสานพลังประชารัฐ เพื่อกระจายประโยชน์ทาง<br />
เศรษฐกิจสู่ภาคการเกษตร โดยร่วมกันสร้างภาพลักษณ์ (Brand)<br />
40 <strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong>
การท่องเที่ยวเชิงอาหาร<br />
ของอาหารและผลไม้ไทยให้เป็นสินค้าเกรดดี (Premium Product)<br />
ทั้งส่งเสริมให้ทานผลไม้ไทยตามฤดูกาล ช่วยส่งเสริมให้เกิดการ<br />
กระจายรายได้จากการซื ้ออาหาร/เครื ่องดื่มของนักท่องเที่ยว<br />
ชาวไทยและต่างชาติเพิ่มขึ้นร้อยละ 50 นอกจากนี้ยังได้กาหนด<br />
เป้าหมายอาหารไทย 6 ชนิดของอาหารไทยที่นิยมของนักท่องเที่ยว<br />
คือ ผัดไทย ต้มยากุ้ง แกงเขียวหวาน ส้มตา มัสมั่น และ<br />
ต้มข่าไก่ โดยได้รับการส่งเสริมจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย<br />
จัดทาภาพยนตร์โฆษณา ซึ่งสะท้อนให้เห็นความสาคัญและเรื่องราว<br />
ของผัดไทย ในมุมมองของการท่องเที่ยวเชิงอาหารเผยแพร่<br />
ภายใต้ Discover Amazing Stories : PADTHAI ซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง<br />
ของ Amazing Thailand Discover Amazing Stories.<br />
https://youtu.be/F7pSQ-0Yf-U<br />
<strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
41
การท่องเที่ยวเชิงอาหาร<br />
การท่องเที่ยวเชิงอาหารของไทย<br />
อาหารไทยในแต่ละท้องถิ่นมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันตามวัฒนธรรม<br />
และวัตถุดิบของแต่ละท้องถิ่น จึงทาให้มีรสชาติที่แตกต่างกัน โดย<br />
ในแต่ละจังหวัดมีอาหารแนะนาของแต่ละท้องถิ่น รวมถึงสินค้า<br />
ที่เกี่ยวกับอาหาร เช่น ข้าวซอย ของจังหวัดเชียงใหม่ ไข่เค็ม<br />
ของฝากจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นต้น<br />
ความเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทยทาให้เป็นที่นิยมของ<br />
นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ได้มาลิ้มลอง โดยทางคณะกรรมการ<br />
วัฒนธรรมร่่วมกับรายการ Top Ten ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 9<br />
องค์การสื่อสารมวลชนแห่งประเทศไทย ได้สารวจอาหารไทยที่เป็น<br />
ที่นิยมของชาวต่างประเทศ 10 อันดับ 2 ได้แก่ ต้มยากุ้ง แกงเขียวหวาน<br />
ผัดไทย ผัดกะเพรา แกงเผ็ดเป็ดย่าง ต้มข่าไก่ ยาเนื้อ หมูสะเต๊ะ<br />
ไก่ผัดเม็ดมะม่วง และพะแนงเนื้อ<br />
(Amita Thai Cooking Class)โรงเรียนสอนทาอาหารบลูอีเลเฟ้นท์<br />
(Blue Elephant Cooking School) โรงเรียนสอนทาอาหารไทยสีลม<br />
(Silom Thai Cooking School) Cooking with Poo &Friends<br />
เป็นต้น โดยมีรูปแบบในการกิจกรรมที่หลากหลาย นับตั้งแต่การนา<br />
นักท่องเที่ยวไปเลือกซื้อวัตถุดิบในตลาดสด หรือเลือกใช้วัตถุดิบ<br />
ประเภทพืชสวนครัวจากในไร่ ให้ความรู้เกี่ยวกับวัตถุดิบ สมุนไพร<br />
ไทย สุดท้ายเป็นขั้นตอนในการทาอาหารไทย ซึ่งจากความนิยม<br />
ทาให้เกิดโรงเรียนสอนทาอาหารไทยนั้น จึงคาดการณ์ว่า ธุรกิจ<br />
การสอนทาอาหารไทยสามารถสร้างรายได้ให้แก่ประเทศประมาณ<br />
ปีละกว่า 590 ล้านบาท นอกจากนี้วัตถุดิบ สมุนไพรไทยที่ใช้<br />
ส่วนใหญ่เป็นของผลิตในประเทศ จึงเป็นการช่วยกระจายรายได้<br />
ทางอ้อมสู่ภาคการเกษตร<br />
จากความนิยมของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ได้ลิ้มลองอาหารไทย<br />
จึงต้องการที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับวิธีการทาอาหารไทย เพื่อสามารถ<br />
นากลับไปทารับประทานเองได้เมื่อกลับจากประเทศไทยไปแล้ว<br />
จึงทาให้เกิดโรงเรียนสอนทาอาหาร (Cooking School) ดังนั้น<br />
การเรียนทาอาหารจึงเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมด้าน<br />
การท่องเที่ยว และก่อให้เกิดรายได้ในประเทศ โดยโรงเรียน<br />
สอนทาอาหารไทยมีในเมืองท่องเที่ยวหลัก เช่น เชียงใหม่<br />
ภูเก็ต กรุงเทพฯ ซึ่งได้แก่ โรงเรียนสอนทาอาหารไทยอมิตา<br />
เชียงราย<br />
เชียงใหม่<br />
หนองคาย<br />
จังหวัด<br />
พระนครศรีอยุธยา<br />
สุพรรณบุรี<br />
เพชรบุรี<br />
จันทบุรี<br />
42 <strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
Website สอนทำอำหำรกับพู่ http://www.cookingwithpoo.com/<br />
อาหาร สินค้า/ของที่ระลึกเกี่ยวกับอาหาร<br />
อาหาร ร้านอาหาร สินค้า ร้านค้า<br />
ร้านแหนมนันทวัน<br />
อาหารจีนยูนนาน<br />
แม่สลองอิ่มอร่อย<br />
อาหารพื้นเมือง<br />
ร้านวรรณภา<br />
ชาจีน<br />
ไร่ชา 101<br />
ชาอู่หลง<br />
ไร่ชา 101<br />
ไร่ชาฉุยฟง<br />
ข้าวซอย<br />
อาหารเวียดนาม<br />
แหนมเนือง เฝอ<br />
ก๋วยเตี๋ยวเรือ<br />
ก๋วยเตี๋ยวไก่<br />
ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ<br />
โรตีสายไหม<br />
ผลิตภัณฑ์จากปลา<br />
เช่น ปลาม้า น้าพริกปลาร้า<br />
ขนมสาลี่ และขนมเปี๊ยะ<br />
ข้าวแช่<br />
ขนมหม้อแกง และขนมไทย<br />
หมูชะมวง<br />
ผลไม้ตามฤดูกาล<br />
ข้าวซอยเสมอใจ<br />
ข้าวสอยลาดวนฟ้าฮ่าม<br />
แดงแหนมเนือง<br />
เฝอ ถนนบันเทิงจิต<br />
ก๋วยเตี๋ยวเรือป้าเล็ก<br />
ก๋วยเตี๋ยวไก่ฉีกคุณประนอม<br />
ก๋วยเตี๋ยวเนื้อนายเลี๊ยก<br />
โรตีสายไหมอาบีดีน<br />
สวนอาหารเบญจรงค์<br />
สาลี่แม่ถ้วน<br />
ข้าวแช่แม่นิด<br />
ขนมหม้อแกงแม่กิมไล้<br />
จันทรโภชนา<br />
สุราษฎร์ธานี อาหารทะเล ร้านเพื่อนนักเดินทาง<br />
อาหารพื้นเมือง<br />
แหนมเนือง<br />
หมูยอ<br />
กุนเชียงปลา<br />
โรตีสายไหม<br />
ขนมสาลี่<br />
ข้าวแช่<br />
ขนมหม้อแกง และขนมไทย<br />
หมูชะมวงแช่แข็ง<br />
เส้นจันทร์ผัดไท<br />
อาหารทะเลแปรรูป/ผลไม้แปรรูป<br />
ไข่เค็มไชยา<br />
อาหารทะเลแปรรูป<br />
ร้านวนัสนันท์<br />
ร้านดารงค์<br />
ร้านแดงแหนมเนือง<br />
ร้านหมูยอชื่นจิต<br />
ร้านหมูยอแม่ถ้วน<br />
โรตีสายไหมอาบีดีน<br />
ร้านแม่ชูศรีโรตีสายไหม<br />
ร้านสาลี่แม่ถ้วน<br />
ร้านเอกชัยสาลี่<br />
ร้านข้าวแช่แม่นิด<br />
ร้านขนมหม้อแกงแม่กิมไล้<br />
ร้านบ้านขนมนันทวัน<br />
ร้านแม่วรรณาของฝาก<br />
ร้านอ๋าของฝาก<br />
ร้านต้นตารับ<br />
ร้านจุติมาไข่เค็ม<br />
ร้านไข่เค็มทิพวัลย์<br />
ร้านร้อยเกาะของฝาก OTOP<br />
2<br />
พิมพ์ระวี โรจน์รุ่งสัตย์. (2556). ความสาคัญและกิจกรรมสื่อสารเรียนรู้จากการท่องเที่ยว<br />
“อาหาร” สาหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดผู้หญิงชาวต่างประเทศของไทย.<br />
วารสารการบริการและการท่องเที่ยวไทย. <strong>ฉบับที่</strong> 1, หน้า 61-72.
การท่องเที่ยวเชิงอาหาร<br />
สินค้าที่ระลึกเกี่ยวกับอาหาร<br />
จากความนิยมในอาหารไทยของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทาให้<br />
นักท่องเที่ยวต้องการเลือกซื้อสินค้าด้านอาหารกลับไปเป็นของฝาก<br />
หรือนาไปใช้ในการประกอบอาหาร ทั้งนี้สินค้าที่นักท่องเที่ยว<br />
ชาวต่างชาตินิยมหาซื้อ ได้แก่ ผลไม้อบแห้ง พริกแห้ง สมุนไพรไทย<br />
อบแห้ง ผลไม้อบแห้ง อุปกรณ์ทาครัว เป็นต้น โดยสินค้าของที่ระลึก<br />
อาทิผลไม้อบแห้ง และนมอัดเม็ด จิตรลดา เป็นที่นิยมของ<br />
นักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นอย่างมาก<br />
สาหรับเทศกาลอาหารของไทยมีการจัดขึ้นทุกภูมิภาคทั่วประเทศ<br />
โดยมีเทศกาลที่สาคัญคล้ายคลึงกับงานเทศกาลของต่างประเทศ<br />
เช่น เทศกาลอาหารถิ่นประเทศไทย จังหวัดชลบุรี เทศกาลอาหาร<br />
หัวหิน เทศกาลอาหารสองทะเล สงขลา และเทศกาลผลไม้จันทบุรี<br />
เป็นต้น โดยเทศกาลอาหารนอกจากจัดในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวแล้ว<br />
ยังมีการจัดเทศกาลอาหารไทยในต่างแดนเพื่อส่งเสริมอาหารไทย<br />
ให้เป็นที่รู้จักและเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหารไทยอีก<br />
ด้วย อาทิ เทศกาลอาหารไทยในญี่ปุ่น เทศกาลอาหาร AEC ที่<br />
โตเกียวและในช่วงปลายปีจะมีการจัดงาน ASEAN Festival<br />
ที่ประเทศเกาหลี<br />
สื่อออนไลน์กับการท่องเที่ยวเชิงอาหาร<br />
ในปัจจุบันสื่อออนไลน์มีความสาคัญต่อการท่องเที่ยวด้านอาหาร<br />
เป็นตัวช่วยในการหาข้อมูลไม่ว่าจะป็นร้านแนะนา เมนูท้องถิ่น<br />
เส้นทางร้านอาหาร โปรโมตร้านอาหาร แชร์ผ่าน Instagram และ<br />
Check in ใน Facebbok เป็นต้น สาหรับเว็บไซต์/แอปพลิเคชั่น<br />
แนะนาอาหารที่นิยมในประเทศไทย เช่น Wongnai EDT guide<br />
Aroireviews<br />
เทศกาลอาหาร<br />
การจัดเทศกาลอาหารยังเป็นกิจกรรมหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมด้าน<br />
การท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง โดยการจัดเทศกาลอาหารในต่างประเทศ<br />
จะมีการจัดงานขึ้นทุกภูมิภาคทั่วโลก โดยเทศกาลที่สาคัญ ได้แก่<br />
เทศกาลไวน์ เทศกาลอาหารท้องถิ่น เทศกาลอาหาร Street food<br />
เทศกาลผลผลิตทางการเกษตร เช่น งานเทศกาล Napa Truffle<br />
Festival และ งานเทศกาล Beaver Creek & Wine Weekend<br />
ของสหรัฐอเมริกา<br />
<strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
43
การท่องเที่ยวเชิงอาหาร<br />
การแนะนาอาหารจากคนดัง<br />
จากการที่สื่อออนไลน์ได้มาเข้ามามีอิทธิพลต่อการตัดสินใจใน<br />
การเดินทางของนักท่องเที่ยว สื่อออนไลน์ เชฟ หรือ บล๊อกเกอร์<br />
ก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่ส่งเสริมกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงอาหาร<br />
ไปยังแหล่งผลิตอาหารที่ได้รับการแนะนาจากบล๊อกเกอร์ เชฟ หรือ<br />
นักชิมคนดัง โดยผู้มีชื ่อเสียงทางการทาอาหารที ่ได้รับความนิยม<br />
ที่มีการกล่าวถึงอาหารไทย อาทิ เจมี่ โอลิเวอร์ เชฟหนุ่มชื่อดัง<br />
ที่รู้จักกันดีในอังกฤษ ที่ได้รณรงค์ต่อต้านการบริโภคอาหารขยะ<br />
ตามโรงเรียนในอังกฤษ โดยจัดโครงการกระตุ้นให้เด็กในอังกฤษ<br />
เลิกรับประทานอาหารขยะและมารับประทาน “แกงไก่” ของไทย<br />
แทน เนื่องจากเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ<br />
มาร์ค วีนส์ ได้นาเสนอเรื่องราวการท่องเที่ยวเชิงอาหาร ว่าตลอด<br />
2 สัปดาห์ในกรุงเทพฯ ได้พบแหล่งท่องเที่ยวด้านอาหารที่น่าสนใจ<br />
มากมาย โดยเฉพาะในเยาวราชที่มีอาหารให้เลือกทานได้ตลอด<br />
ทั้งวัน ทั้งอาหารคาวและอาหารหวาน เช่น กุ้งเผา ข้าวมันไก่<br />
ก๋วยจั๊บ ขนมปังปิ้ง น้าจับเลี้ยง เป็นต้น<br />
หม่อมหลวง ภาสันต์ สวัสดิ์วัตน์ นักชิมซุปตาร์ขั้นเทพของเมืองไทย<br />
ที่ได้ใช้ประสบการณ์จากบิดามาต่อยอดมากขึ้น ได้ให้ค าแนะนาเรื่อง<br />
กินเที่ยวจากร้านอาหารกว่า 5,000 ร้านทั่วโลก และได้แนะนาเมนู<br />
พิเศษที่สร้างสรรค์จากเมนูธรรมดาด้วยการใช้นมข้นจืดคาร์เนชั่น<br />
เป็นส่วนหนึ่งในการประกอบหลัก เช่น เมนูต้มยาทะเลข้นนมแซ่บ<br />
เว่อร์ ที่ใช้นมแทนกะทิให้รสชาติเข้มข้นและดีต่อสุขภาพ<br />
http://waymagazine.org/cooking-with-poo/<br />
ชมพู่ เจ้าของ http://www.cookingwithpoo.com/ คนไทยที่ได้รับ<br />
การยอมรับจากชาวต่างชาติและเชฟชื่อดังอย่างเจมี่ โอลิเวอร์<br />
เป็นผู้นาเสนอการสอนอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติ<br />
โดยมีการทาโครงการ ร่วมกับ Helping Hands ซึ่งเป็น NGO<br />
ในเมืองเมลเบิร์น ออสเตรเลีย โดยรายได้บางส่วนของการสอน<br />
ทาอาหารของชมพู่ นาไปสนับสนุนช่วยเหลือธุรกิจชุมชนในพื้นที่<br />
ชุมชนคลองเตย<br />
44 <strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong>
การท่องเที่ยวเชิงอาหาร<br />
โอกาสและข้อจากัดของการท่องเที่ยวเชิงอาหารไทย<br />
ด้วยความเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทยเป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติ<br />
ทาให้เกิดการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวเชิงอาหารซึ่งเป็นส่วนหนึ่ง<br />
ของกิจกรรมในการท่องเที่ยวทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติและ<br />
ชาวไทย จากความนิยมในปัจจุบันทาให้การท่องเที่ยวเชิงอาหาร<br />
ช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจทางการท่องเที่ยวเกิดการขยายตัวเพิ่ม<br />
มากขึ้น อีกทั้งเป็นการช่วยให้เกิดการกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นและ<br />
ภาคการเกษตรจากวัตถุดิบต่างๆ<br />
ในโลกปัจจุบันการท่องเที่ยวเชิงอาหารยังมีเทคโนโลยีเข้ามามีส่วน<br />
ช่วยในการสร้างการรับรู้ให้กับนักท่องเที่ยว ด้วยการใช้สื่อออนไลน์<br />
หรือแอปพลิเคชั่นต่างๆ ในการส่งเสริม แนะนา และสร้างความ<br />
สะดวกสบายให้กับนักท่องเที่ยวในการค้นหาข้อมูลต่างๆ อีกด้วย<br />
ทั้งนี้ การท่องเที่ยวเชิงอาหารของไทยมีโอกาสและข้อจากัด ดังนี้<br />
• ไทยมีต้นทุนเป็นที่รู้จักของโลกทั้งทางด้านเป็นแหล่งวัตถุดิบ<br />
ที่เป็นอู่ข้าวอู่น้าของภูมิภาค วัตถุดิบอาหารไทยที่มีชื่อเสียง<br />
ระดับโลกเช่น ข้าวหอมมะลิ อาหารทะเล และผลไม้ที่เป็นที่นิยม<br />
ของนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติ อาทิ ทุเรียน ที่เป็นที่นิยม<br />
ของนักท่องเที่ยวจีน มังคุดที่เป็นที่ชื่นชอบของคนญี่ปุ่น เป็นต้น<br />
• การส่งเสริมการผลิตแบบเกษตรอินทรีย์สอดคล้องกับกระแส<br />
สนใจอาหารเพื่อสุขภาพ<br />
• ขาดการส่งเสริมร้านอาหารให้ได้มาตรฐานและเป็นที่รู้จัก<br />
• ขาดการเชื่อมโยงให้เป็นมูลค่าและความสาคัญของการท่องเที่ยว<br />
เชิงอาหารในแง่การกระจายรายได้จากการท่องเที่ยว<br />
• ควรมีการจัดเทศกาลอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว<br />
อย่างสม่าเสมอ<br />
• ควรมีการศึกษาและวางระบบส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอาหาร<br />
อย่างจริงจังสอดคล้องกับโครงการส่งเสริมครัวไทยสู่ครัวโลก<br />
• ส่งเสริมการเชื่อมโยงอาหารไทยสู่ ASEAN Culinary<br />
<strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
45
การท่องเที่ยวเชิงศาสนาและจิตใจ<br />
สินียา ไกรวิมล<br />
การท่องเที่ยวเชิงศาสนาและจิตใจ<br />
Religious and Spiritual Tourism<br />
จะดีแค่ไหนถ้าการเดินทางท่องเที่ยวของเราก่อให้เกิดความอิ่มใจ<br />
สุขใจ เบิกบาน ทั้งกาย และใจ เมื่ออยู่ในสถานที่นั้นๆ และภายหลัง<br />
การท่องเที ่ยวเดินทาง ยิ่งไปกว่านั้นยังก่อให้เกิดปัญญาสั่งสมที่<br />
จะพาให้ปลดปล่อยตัวเองจากความทุกข์ได้ การได้เดินทางไปยัง<br />
สถาปัตยกรรมอันสวยงาม ของวัดวาอาราม สถูปเจดีย์ วิหารใน<br />
คริสตศาสนา หรือมัสยิด ศาสนสถานแห่งมุสลิม อยู่ในวงล้อมสีทอง<br />
ของรูปเคารพของศาสนาต่างๆ ก่อให้เกิดความสงบใจ และราลึกถึง<br />
บุญกุศลอันดีงาม การเที่ยวไปอย่างใฝ่รู้ และเข้าใจในสถานที ่ทาง<br />
ศาสนา เชื่อมโยงกับข้อธรรมคาสอนของพระศาสดา เราพบกับ<br />
สิ่งเหล่านี้ได้ กับการท่องเที่ยวในรูปแบบที่เรียกว่า การท่องเที่ยว<br />
เชิงศาสนาและจิตใจ<br />
ความหมายของการท่องเที่ยวเชิงศาสนา<br />
และจิตใจ<br />
การท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาณ หรือ Spiritual Tourism ว่าเป็นการ<br />
ท่องเที่ยวที่ประกอบไปด้วยศรัทธา เป็นการท่องเที่ยวที่ผู้เดินทาง<br />
อาจไปตามลาพังหรือเป็นกลุ่ม เพื่อไปนมัสการสิ่งที่เคารพในศาสนา<br />
การเดินทางเผยแพร่ศาสนาหรือเดินทางเพื่อความสบายใจ โดยการ<br />
ท่องเที่ยวทางศาสนาที่ใหญ่ที่สุดโดยมีผู้คนจ านวนมาก คือการเดินทาง<br />
ไปยังสถานที่ทาพิธีฮัจญ์ ที่เมืองเมกกะ ประเทศซาอุดิอาระเบีย<br />
นอกจากนี้ได้แก่ การเดินทางไปยังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาต่างๆ<br />
เช่น เยรูซาเล็ม อิสราเอล หรือ พาราณสี อินเดีย เป็นต้น 1<br />
จากการศึกษาของ Asia Society สหรัฐอเมริกา พบว่า<br />
การเดินทางไปยังสถานที่สาคัญทางศาสนาพุทธของพุทธศาสนิกชน<br />
1<br />
https://en.wikipedia.org/wiki/Religious_tourism<br />
46 <strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong>
การท่องเที่ยวเชิงศาสนาและจิตใจ<br />
มิใช่เป็นเพียงการไปเยือนเท่านั้น หากเป็นการปฏิบัติธรรมเพื่อ<br />
ปรับเปลี่ยนภายใน โดยได้ยกมหาปรินิพพานสูตรที่ทรงแสดงถึง<br />
สังเวชนียสถานว่าเพื่อ “ได้เห็น และเป็นสิ่งบันดาลใจให้เกิดการ<br />
เรียนรู้ แล้วเปลี่ยนแปลง เป็นกระบวนการภายในที่นาสู่ความตื่น<br />
และตระหนักรู้ผ่านการปฏิบัติมากกว่าเพียงการได้ผ่านพบ ทุกการ<br />
เดินทางท่องเที่ยวทางพระพุทธศาสนา พึงสร้างเสริมให้ผู้เข้าร่วม<br />
ได้ค้นพบความหมาย และคุณค่าที่แท้ของสถานที่ แล้วสามารถนา<br />
มาเพื่อการขับเคลื่อนเพื่อการคลี่คลายภายในตน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง<br />
ของศรัทธา สู่ความเอาจริงเอาจังในการปฏิบัติธรรม ทั้ง ทาน ศีล<br />
สมาธิ จิต และปัญญา” 2<br />
การเดินทางจาริกแสวงบุญ การเดินทางเชิงศาสนา เป็นการเดินทาง<br />
นับตั้งแต่โบราณในพุทธศาสนา เกิดขึ้นมานับแต่ครั้งพุทธกาล โดย<br />
ชาวพุทธจาริกแสวงบุญ เพื่อเดินทางมาเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า<br />
ต่อมาพระอานนท์ทูลถามพระพุทธเจ้าว่า เมื่อพระองค์เสด็จ<br />
ดับขันธปรินิพพานไปแล้วควรไป ณ สถานที่ใดจึงจะจ าเริญใจเหมือน<br />
ได้เฝ้าพระพุทธเจ้า ซึ่งได้ตรัสตอบว่า สถานที่ควรไปเพื่อยังให้เกิด<br />
ความแช่มชื่น เบิกบานใจ เจริญใจ และสังเวชใจ คือ สังเวชนียสถาน<br />
ทั้ง 4 ตาบล (ลุมพินีวัน พุทธคยา สารนาถ กุสินารา)<br />
นายแพทย์บัญชา พงษ์พานิช กรรมการและเลขานุการมูลนิธิ<br />
หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญได้มีมุมมองของการท่องเที่ยว<br />
ทางศาสนา โดยใช้กรณีศึกษาจากท่านพระพุทธทาสภิกขุ ที่<br />
สวนโมกขพลาราม จังหวัดสุราษฏร์ธานี คือ ท่านพุทธทาสมองว่ามนุษย์<br />
ต้องเดินทางเพื่อศึกษาและเรียนรู้ เติมเต็มสิ่งที่มนุษย์ควรจะได้<br />
ให้เกิดประโยชน์ เมื่อมาที่สวนโมกข์แล้วก็สามารถให้มนุษย์เติมก าลังใจ<br />
มีความผ่อนคลาย มีความเบิกบานทั้งทางกาย และทางใจ เป็น<br />
การเที่ยวให้ถึงธรรม คือ เที่ยวแล้วได้แง่คิด ได้ข้อธรรม ได้ซึมซับ<br />
ได้สัมผัส และได้กลับไปใช้ เกิดปัญญาทางพระพุทธศาสนา<br />
มูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ ได้ศึกษาถึงเรื่องการ<br />
เดินทางท่องเที่ยวทางศาสนา พึงมีลักษณะสาคัญ คือ เป็นการ<br />
ท่องเที่ยวแบบจาริกในทางที่ดีงามหรือบุญจาริกคือ จาริกที่เป็นบุญ<br />
กล่าวคือ เป็นการจาริกไปพร้อมกับการบาเพ็ญบุญ เพื่อความเจริญ<br />
ทั้งในทาน ศีล สมาธิปัญญา ศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้ยิ่งๆ ขึ้น<br />
ทั้งเป็นการเดินทางตามคุณลักษณะแห่งชาวพุทธคือ ใฝ่รู้ใฝ่ศึกษา<br />
และนามาปฏิบัติเพื่อประโยชน์ทั้งของตน และของส่วนรวม สาหรับ<br />
สิ่งที่ควรให้ความสนใจจากการท่องเที่ยวทางธรรมคือ สิ่งที่เกี่ยวเนื่อง<br />
กับประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา และหลักธรรมคาสอน 3<br />
รูปแบบของการท่องเที่ยวเชิงศาสนาและจิตใจ<br />
การท่องเที่ยวเชิงศาสนาและจิตใจที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ได้จาแนก<br />
ออกเป็น 2 ลักษณะคือ การเดินทางท่องเที่ยวเชิงศาสนาเพื่อความ<br />
สบายใจ และการเดินทางท่องเที่ยวเชิงศาสนาเพื่อยกระดับจิตใจ<br />
การเดินทางท่องเที่ยวทางศาสนาเพื่อความสบายใจ เป็นการ<br />
เดินทางท่องเที่ยวที่อยู่ในระดับที่ไม่ลึกซึ้งเท่ากับในอีกรูปแบบหนึ ่ง<br />
ผู้เดินทางท่องเที ่ยวพึงพอใจเพียงแค่ได้ไปถึง ได้สักการะบูชา ใน<br />
สถานที่อันศรัทธา ในบางครั้งมีการเน้นจานวนโดยไปให้ได้จานวน<br />
สถานที่มากๆ อาจจะใช้เวลาภายใน 1 วัน เป็นการท่องเที่ยวที่เน้น<br />
ถึงความสบายใจ การแก้ไขความไม่สบายใจ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์<br />
ความรื่นเริงบรรเทิงในประเพณีวัฒนธรรมทางศาสนา ซึ่งในบางครั้ง<br />
2<br />
มูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ .กรอบแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงศาสนา<br />
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดย ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ,2557<br />
3<br />
นายแพทย์บัญชา พงษ์พานิช. กรรมการและเลขานุการมูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ.สัมภาษณ์<br />
,29มิถุนายน 2559<br />
<strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
47
การท่องเที่ยวเชิงศาสนาและจิตใจ<br />
มีศาสนพานิชย์เข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น ทัวร์ไหว้พระ 9 วัด ทัวร์<br />
เดินทางสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งในและต่างประเทศ การแสวงบุญ<br />
ไหว้พระทาบุญ ในสถานที่ต่างๆ เช่น แสวงบุญเขาคิชกูฏ งานกินเจ<br />
ภูเก็ต งานบุญบั้งไฟพญานาค งานแห่เทียนพรรษา งานชักพระ<br />
ประเพณีทางภาคใต้ เป็นต้น<br />
การเดินทางท่องเที่ยวเชิงศาสนาเพื่อยกระดับจิตใจ เป็นการเดินทาง<br />
ท่องเที่ยวที่ลึกซึ้ง ไม่ฉาบฉวย มากกว่าการไปกราบไหว้บูชาเพื่อ<br />
พบเห็นหรือขอพร มีความใฝ่รู้ ศึกษา แสวงหาความรู้ เกิดแง่คิด<br />
เกิดข้อธรรม เพื่อพัฒนา และยกระดับจิตใจให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปหรือใน<br />
ระดับที่ลึกซึ้งมาก คือการเดินทางไปเพื่อเรียนรู้ ปฏิบัติ ในสถานที่<br />
ที่ใดที่หนึ่งในระยะเวลาหนึ่ง อาจเป็นระยะเวลาช่วงสั้น 3-5 วัน<br />
หรือ 7 วัน หรือยาวนานกว่านั้น เป็นการสั่งสมปัญญาทางศาสนา<br />
เพื่อทุกข์ที่ลดลง เช่น การเดินทางทัศนศึกษาเที่ยวไปในสถานที่ทาง<br />
ศาสนาต่างๆ การเดินทางไปปฏิบัติธรรมในสถานที่ต่างๆ<br />
ปัจจัยส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงศาสนา<br />
และจิตใจ<br />
ประเทศไทยตั้งอยู่ ณ ดินแดนสุวรรณภูมิ โดยรับพระพุทธศาสนา<br />
มาตั้งแต่ครั้งพระเจ้าอโศกมหาราช ซึ่งได้จัดส่งพระศาสนทูตไปยัง<br />
ดินแดนต่างๆ ทาให้พระพุทธศาสนาหยั่งรากลึกมาอย่างยาวนาน<br />
รวมถึงหัวใจของพระพุทธศาสนา ก่อเกิดเป็นศาสนสถาน ศาสนวัตถุ<br />
ที่งดงาม และทรงคุณค่าทางจิตใจ ให้ระลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้า<br />
รวมถึงหลักพระธรรมคาสอน สิ่งเหล่านี้ส่งต่อส่งทอดกันเรื่อยมา<br />
ซึมซับอยู่ในวิถีชีวิตของผู้คน ตั้งแต่เหนือจรดใต้ ตะวันออกจรด<br />
ตะวันตก ภาคกลางของประเทศ ล้วนแล้วแต่มีศาสนสถาน ศิลปะ<br />
อันงดงามทางสถาปัตยกรรมของวัดวาอาราม พระสถูปเจดีย์ รวมถึง<br />
เจดีย์อันเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมธาตุ พระธาตุ อันควรเคารพ<br />
บูชา อีกทั้ง ศาสนวัตถุ ดังเช่น พระพุทธรูปที่งดงาม และมีคุณค่า<br />
ทางใจ ศาสนบุคคล พระสงฆ์ครูบาอาจารย์ ผู้มุ่งหน้าปฏิบัติธรรม<br />
เพื่อเดินตามรอยพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มรดกทางศาสนาอันหาค่า<br />
มิได้ทั้งมวลนี้ ก่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการเดินทางใน<br />
เชิงศาสนาและจิตใจ<br />
นอกจากนี้ ด้วยประเพณีวัฒนธรรม อันเกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา<br />
ที่มีอย่างมากมาย แต่ละภูมิภาคล้วนมีประเพณีวัฒนธรรมทาง<br />
ศาสนา ตามลักษณะภูมิภาคของตน ดังเช่น ฮีต12 ของชาวอีสาน<br />
ซึ่งในจานวนประเพณี 12 เดือนของภาคอีสานนี้ เป็นประเพณี<br />
เกี่ยวเนื่องกับพระพุทธศาสนาถึง 6 เดือน คือ บุญเข้ากรรม บุญข้าวจี่<br />
บุญผะเหวด บุญเข้าวัดสา บุญออกวัดสา และ บุญกฐินภาคใต้<br />
เช่น ประเพณีชักพระ ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ เมืองนครฯ ตักบาตร<br />
ธูปเทียน ภาคกลาง เช่น ประเพณีตักบาตรเทโว ห่มผ้าองค์พระ<br />
ปฐมเจดีย์ ตักบาตรดอกไม้ ประเพณีโยนบัว ภาคเหนือ ประเพณี<br />
ยี่เป็ง ไหว้พระธาตุช่อแฮ สรงน้าพระธาตุหิริภุญชัย ประเพณี<br />
วัฒนธรรมทางศาสนาเหล่านี้ เป็นปัจจัยที่เอื้อต่อการเดินทาง<br />
ท่องเที่ยวในเชิงศาสนา<br />
อีกทั้งด้วยสภาพสังคม เศรษฐกิจ วิถีชีวิต คุณภาพชีวิต ในปัจจุบัน<br />
ที่บีบรัด และบีบคั้นจิตใจในทุกๆ ด้าน ก่อให้เกิดความเครียด ความ<br />
ไม่สบายใจ ความไม่สบายกาย นาไปสู่การแสวงหาการเดินทาง<br />
เพื่อปลดเปลื้องความไม่สบายใจนั้น ภราเดช พยัฆวิเชียร อดีต<br />
ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย มีมุมมองถึงปัจจัยที่ท าให้เกิด<br />
การเดินทางมีด้วยกันหลายปัจจัย แต่ปัจจัยหนึ่ง คือ แรงกดดันของวิถี<br />
ความเป็นอยู่ สังคมหรือสิ่งแวดล้อมรอบตัวของเราเอง เนื่องจาก<br />
เมื่อสังคมโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ความเครียดสะสมจากสังคมแออัด<br />
ในเมืองก็จะมากขึ้น สังคมเปลี่ยนวิถีชีวิตจากเกษตรเป็นอุตสาหกรรม<br />
มากขึ้น ดังนั้น ในวิถีชีวิตการทางานของคนทั่วไปจะมีแรงกดดัน<br />
จากการทางาน คนทั่วไปเมื่อมีแรงกดดันทาให้เกิดความเครียด<br />
ส่งผลให้ผู้คนในเมืองต้องหาการผ่อนคลาย ผู้คนเริ่มถวิลหาการเป็น<br />
ธรรมชาติความเงียบสงบ ซึ่งการเดินทางสามารถตอบสนองการ<br />
ท่องเที่ยวได้ จะเกิดความ สุขกาย สุขใจ สุขกาย คือ สุขภาพที่ดี<br />
สุขใจ คือ จิตใจที่ดี4<br />
4<br />
ภราเดช พยัฆวิเชียร .อดีตผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย .สัมภาษณ์ , 21 มิถุนายน 59<br />
48 <strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong>
การท่องเที่ยวเชิงศาสนาและจิตใจ<br />
ศาสนาและจิตใจ กับการท่องเที่ยว<br />
แนวโน้มที่ผู้คนทั่วโลกต่างดิ้นรนแสวงหาการเยียวยาทางจิตใจ ซึ่ง<br />
การท่องเที่ยวในเชิงศาสนาและจิตใจ สามารถตอบสนองสิ่งนี้ได้<br />
เป็นอย่างดี การท่องเที่ยวทางด้านจิตใจจึงเป็นการท่องเที ่ยวที ่มี<br />
การเติบโตอย่างรวดเร็วมากที่สุดกลุ่มหนึ่ง สาหรับประเทศไทย<br />
การท่องเที่ยวทางศาสนาและจิตใจสามารถแบ่งเป็น 2 กลุ่ม<br />
กลุ่มนักท่องเที่ยวไทย ท่องเที่ยวในเชิงศาสนาและจิตใจ ในประเทศ<br />
ประกอบด้วย การเดินทางท่องเที่ยวเชิงศาสนาเพื่อความสบายใจ<br />
เช่น การทัวร์ไหว้พระ 9 วัด เดินทางแสวงบุญกราบไหว้สิ่งศักสิทธิ์<br />
เที่ยวตามประเพณีต่างๆ เป็นต้น และการเดินทางท่องเที่ยวเชิง<br />
ศาสนาเพื่อยกระดับจิตใจเช่น การเดินทางที่มีการศึกษาข้อมูล<br />
มีการเรียนรู้ พัฒนา และยกระดับจิตใจ การเดินทางไปปฏิบัติฝึกฝน<br />
ให้เกิดปัญญา<br />
กลุ่มนักท่องเที่ยวไทย ท่องเที่ยวในเชิงศาสนาและจิตใจ ในต่าง<br />
ประเทศ ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวไทยเดินทางท่องเที่ยวในเชิง<br />
ศาสนาและจิตใจในต่างประเทศเป็นจานวนมากโดยประเทศที่นิยม<br />
เดินทางไป ได้แก่ อินเดีย เนปาล ศรีลังกา จีน ลาว กัมพูชา<br />
ภูฏาน อินโดนีเซีย โดยเฉพาะอินเดีย และเนปาล เนื่องจากเป็น<br />
ที่ตั้งของสังเวชนียสถานทั้ง 4 ซึ่งเน้นการไปแสวงบุญ การไหว้พระ<br />
หรืออาจมีรูปแบบของการท่องเที่ยวแบบการสืบสาวราวเรื่อง<br />
เชื่อมโยงประวัติศาสตร์ และความเป็นมาของแต่ละสถานที่ โดยมี<br />
กิจกรรมอื่นๆ เสริม เช่นการสวดมนต์ ทาวัตรเช้า ทาวัตรเย็น<br />
สมาทานศีล ฟังบรรยายธรรมะ สนทนาธรรม ของผู้ปฏิบัติเมื่อไป<br />
ถึงอินเดีย 5<br />
นักท่องเที่ยวต่างชาติเที ่ยวเชิงศาสนาและจิตใจในประเทศไทย<br />
นับตั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงเดือนพฤษภาคม 2559 จากสถิติ<br />
จานวนนักท่องเที่ยวของกรมการท่องเที่ยว พบว่า มีนักท่องเที่ยว<br />
ต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย จานวน 14,158,649<br />
คน ขยายตัวร้อยละ 12 จากช่วงเวลาเดียวกัน ของปีที่ผ่านมา<br />
ในจานวนนี้มีนักท่องเที่ยวเยี่ยมชมศาสนสถาน และปฏิบัติ<br />
ศาสนกิจจานวน 6.62 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 46 ของ<br />
นักท่องเที่ยวทั้งหมด และส่วนมากเป็นนักท่องเที่ยวที่จัดการเดินทาง<br />
ผ่านบริษัทนาเที่ยว 6 (จากการสัมภาษณ์) นอกจากนี้ คาดว่า<br />
ในช่วงไตรมาสที่ 4 จะมีนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นจากผู้ที่เดินทาง<br />
มาร่วมงานเทศกาลกินเจในพื้นที่ภาคใต้ เช่น หาดใหญ่ ภูเก็ต เป็นต้น<br />
สาหรับการท่องเที ่ยวในเชิงศาสนาและจิตใจ ของนักท่องเที่ยว<br />
ต่างชาติ ประกอบด้วย 2 รูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวเชิงศาสนา<br />
เพื่อความสบายใจ และการเดินทางท่องเที่ยวเชิงศาสนาเพื่อ<br />
ยกระดับจิตใจ<br />
การเดินทางท่องเที่ยวเชิงศาสนาเพื่อความสบายใจ โดยมาก<br />
เป็นการไหว้พระ และเทพต่างๆ ตามความเชื่อ เช่น พระแก้วมรกต<br />
พระพรหม เอราวัณ เที่ยวชมวัดสวยงาม วัดพระแก้วมรกต วัดโพธิ์<br />
วัดอรุณราชวราราม วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร<br />
การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ โบราณสถาน ซึ่งนักท่องเที่ยว<br />
จีน นิยมกิจกรรมการชมวัดไหว้พระ ส่วนนักท่องเที่ยวเมียนมา<br />
มีทัศนคติว่าครั้งหนึ่งในชีวิตขอให้ได้มาวัดพระแก้ว<br />
5<br />
ดร.แสน ชฏารัม . นวลจันทร์ เพียรธรรม .เจ้าของกิจการทัวร์ . สัมภาษณ์ ,20 มิถุนายน 2559<br />
<strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
49
การท่องเที่ยวเชิงศาสนาและจิตใจ<br />
การเดินทางท่องเที่ยวเชิงศาสนาเพื่อยกระดับจิตใจ เป็นนักท่องเที่ยว<br />
ที่เดินทางเพื่อแสวงหาวิธีปฏิบัติ เป็นนักท่องเที่ยวจากยุโรป และ<br />
อเมริกา มีความสนใจในศาสนา หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา<br />
ปรัชญาต่างๆ การนั่งสมาธิ มักไปยังจังหวัดต่างๆ เช่น อยุธยา<br />
สุโขทัย เชียงใหม่ และเชียงราย อีกทั้งเลือกไปยังสถานที่ต่างๆ ที่เปิด<br />
ให้ต่างชาติเข้าฝึกปฏิบัติได้ เช่น ทีปภาวัน เกาะสมุย สุราษฏร์ธานี<br />
สวนโมกข์นานาชาติ สุราษฏร์ธานี วัดร่าเปิง เชียงใหม่ วัดพระธาตุ<br />
ศรีจอมทอง เชียงใหม่ วัดป่าถ้าวัวสุญตาราม แม่ฮ่องสอน<br />
ศูนย์สมาธิวิริยานุภาพ วัดธรรมมงคล กรุงเทพฯ วัดป่านานาชาติ<br />
อุบลราชธานี วัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ เป็นต้น<br />
แนวโน้มของนักท่องเที่ยวต่างชาติที ่แสวงหาการท่องเที่ยวเชิง<br />
ศาสนา โดยเฉพาะพุทธศาสนา คือ ชาวจีน ทั้งในระดับการเดินทาง<br />
ท่องเที่ยวเชิงศาสนาเพื่อความสบายใจ และการเดินทางท่องเที่ยว<br />
เชิงศาสนาเพื่อยกระดับจิตใจ<br />
เชียงใหม่นิวส์ ได้รายงานถึงทัวร์จีนกว่า 1,200 คน เช่าเหมาลาบิน<br />
ตรงสู่เชียงใหม่ เพื่อร่วมงานมหกรรมถวายสังฆทานแด่พระสงฆ์<br />
ไทย 5,000 รูป เสวนาชาวพุทธเถรวาท และมหายาน ครั้งที่ 3 ซึ่ง<br />
จัดขึ้นโดยมหาเถรสมาคม มูลนิธิฮ่องกง และองค์กรแลกเปลี่ยน<br />
พุทธศาสนาและวัฒนธรรมโลก สาธารณรัฐประชาชนจีน และ<br />
คณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีพระมหาเถระผู้นาสงฆ์ฝ่าย<br />
เถรวาท ประมุขสงฆ์แห่งเมียนมา สปป.ลาว กัมพูชา และศรีลังกา<br />
เข้าประชุมแลกเปลี่ยนทัศนะและแนวคิดในการเผยแพร่หลักธรรม<br />
คาสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 17-19 กรกฎาคม 2559<br />
โดยมีการปลงผมบวชในระยะสั้น ที่อุโบสถวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร 7<br />
นอกจากนี้ ปัจจุบันได้มีชาวจีนจานวนหนึ่ง จากหลายๆ มณฑล<br />
50 <strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
จานวนเกือบร้อยคน ได้รวมตัวกันมาศึกษาธรรมะแนวปฏิบัติอย่าง<br />
ลึกซึ้ง อย่างเฉพาะเจาะจง ระยะเวลาหลายวันในวัดทางภาคตะวันออก<br />
รวมถึงมีวิปัสนาจารย์ ไปสอนที่ประเทศจีนในเมืองต่างๆ ซึ่ง<br />
ได้รับความสนใจเป็นอันมาก<br />
การเช่าวัตถุมงคล เป็นสิ่งหนึ่งที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว<br />
ต่างชาติ ปี 2558 มีรายงานการเช่าวัตถุมงคล รวมทั้งสิ้นมูลค่า<br />
15,173.89 ล้านบาท โดยนักท่องเที่ยวจากประเทศต่างๆ ในเอเชีย<br />
ตะวันออกเป็นผู้เช่าวัตถุมงคลมากที่สุด ที่ 11,165.64 ล้านบาท<br />
โดยมีนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน เช่ามากที่สุด มีมูลค่า 8,928.38<br />
ล้านบาท และสูงที่สุดในบรรดาทุกประเทศ รองลงมาคือ ภูมิภาคยุโรป<br />
มีมูลค่า 2,928.36 ล้านบาท ซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศอังกฤษ<br />
ที่ 1,253.56 ล้านบาท (จากการสารวจ, กรมการท่องเที่ยว)<br />
ศาสนาและจิตใจ ในการท่องเที่ยวระดับโลก<br />
นโยบาย และมุมมองของต่างประเทศ<br />
จากการวิเคราะห์ของ World Tourism Organization (UNWTO)<br />
นับเป็นเวลากว่าทศวรรษ ที่กระแสการท่องเที่ยวเชิงศาสนาและจิตใจ<br />
ได้เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในด้านปริมาณ ประเทศต่างๆ ล้วนแต่<br />
มีทรัพยากรที่เอื้อต่อการท่องเที่ยวในรูปแบบนี้ ในกลุ่มเอเชีย<br />
ตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย กลุ่มสถานที่สักการะ<br />
ทางศาสนา เช่น เนปาล อินเดีย กัมพูชา อิหร่าน นอกจากนี้ ยังมี<br />
จีน ญี่ปุ่น เกาหลี ศรีลังกา ปากีสถาน และ ออสเตรเลีย 8<br />
อินเดีย แหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนาและจิตใจที่สาคัญของโลก ด้วย<br />
เป็นดินแดนที่เป็นแหล่งกาเนิดศาสนาของโลก คือ ฮินดู และ พุทธ<br />
ถนนการเดินทางท่องเที่ยวทุกสายจึงมุ่งไปสู่อินเดีย รัฐบาลอินเดีย<br />
7<br />
http://www.chiangmainews.co.th/page/archives/501964<br />
8<br />
https://en.wikipedia.org/wiki/Religious_tourism
การท่องเที่ยวเชิงศาสนาและจิตใจ<br />
ตระหนักถึงเรื ่องนี้เป็นอย่างดี ว่าเป็นสิ่งที่เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจ<br />
ต่อประเทศจานวนมาก จึงให้ความสนใจกับทัวร์เชิงศาสนาเป็นอย่าง<br />
มาก ด้วยการสนับสนุนเส้นทางท่องเที่ยวเชิงศาสนา อานวยความ<br />
สะดวกด้วยยานพาหนะ และรายการเดินทางที่สะดวกสบาย อีกทั้ง<br />
เปิดเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงศาสนาใหม่ๆ ที่เดินทางเชื่อมโยงกัน<br />
นอกจากนี ้ยังทาการตลาดไปยังประเทศต่างๆ โดยเฉพาะในหมู่<br />
ชาวพุทธ ทั้งนี้เพราะสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาพุทธเกือบทั้งหมด<br />
อยู่ในประเทศอินเดีย<br />
เมื่อปี 2551 รัฐบาลอินเดียได้จัดให้มีรถไฟ ที่เรียกว่า Mahaparinirvan<br />
Express ขึ้น เป็นรถไฟที่มีความหรูหรา ออกเดินทางจากกรุงนิวเดลี<br />
ไปตามรัฐต่างๆ สามรัฐด้วยกัน คือ พิหาร อุตตรประเทศ และโอริสสา<br />
โดยแวะเยือนสถานที่ศักดิ์สิทธิ์คือ พุทธคยาที่ซึ่งพระพุทธเจ้าทรง<br />
ตรัสรู้ สารนาถที่ทรงทาปฐมเทศนา พาราณสีที่ทรงแสดงธรรม<br />
และกุสินาราที่เสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน ซึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทาง<br />
พุทธศาสนาในอินเดียส่วนใหญ่อยู่ในรัฐที่ยากจน ซึ่งหาที่พักดีๆ<br />
ปลอดภัย และราคาประหยัดได้ยาก ทั้งการเดินทางยังเข้าถึง<br />
ไม่สะดวก ซึ่งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และรัฐบาลอินเดียเริ่มมอง<br />
เห็นปัญหา และเข้าใจว่าจะต้องทาอะไรบ้างเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว<br />
สาหรับทัวร์เชิงศาสนา พร้อมกันนั้นก็เร่งปรับปรุงทางหลวง<br />
และท่าอากาศยานสาหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการวางแผนการ<br />
เดินทางเองโดยนายกสมาคม Tour Operators ของอินเดีย เชื่อว่า<br />
จะมีนักท่องเที่ยวชาวพุทธปีละสองถึงสามล้านคน โดยรัฐบาลอินเดีย<br />
เรียกโครงการนี้ว่า “Buddhist circuit” หรือ ”วงจรชาวพุทธ” และ<br />
ได้ส่งรัฐมนตรีเพื่อชักชวนให้ญี่ปุ่นเข้าไปลงทุนในภาคการบริการ<br />
ต้อนรับ เพราะญี่ปุ่นเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีชาวพุทธจานวนไม่น้อย<br />
รวมถึงศรีลังกา และไทย นอกจากนี้กระทรวงวัฒนธรรมได้มีการจัด<br />
ตั้งคณะกรรมการระดับชาติเพื่อพัฒนาวงจรท่องเที่ยวทางศาสนา<br />
แหล่งใหม่ขึ้น เป็นสองเส้นทางใหม่ เรียกว่า เส้นทางรามายณะ<br />
และเส้นทางกฤษณะ โดยวงจรรามายณะ จะขยายจาก เนปาล<br />
Rameshwaram และศรีลังกา และวงจรกฤษณะจะเริ ่มที่มถุราไป<br />
จบที่อรุณาจัลประเทศ 9<br />
นอกจากนี้ ที่ผ่านมาประเทศไทย และอินเดียมีความร่วมมือที่ดี<br />
ในการพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงศาสนาร่วมกัน เช่น การพัฒนา<br />
เส้นทางท่องเที่ยวทางพุทธศาสนา และการก่อสร้างโรงแรม 5 ดาว<br />
ในประเทศอินเดีย 10 เป็นต้น<br />
กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที ่ยวของอินเดีย ได้ตระหนักถึง<br />
วัฒนธรรมประวัติศาสตร์ศาสนา และธรรมชาติที่อุดมไปด้วยมรดก<br />
ทางวัฒนธรรมของอินเดีย ซึ่งมีศักยภาพมากสาหรับการพัฒนาของ<br />
การท่องเที่ยว และการสร้างงาน จึงต้องการที่จะยกระดับมาตรฐาน<br />
ของสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอยู่ และการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่<br />
ของมาตรฐานระดับโลก โดยพยายามบูรณาการ และประสานงาน<br />
ที่ดีของภาครัฐบาล โดยเฉพาะการท่องเที่ยวทางศาสนาซึ่งเป็นส่วน<br />
ที่สาคัญของการท่องเที่ยวในประเทศ โดยศาสนาที่สาคัญๆ ของโลก<br />
มีศูนย์แสวงบุญใหญ่และรายย่อยในส่วนต่างๆ ของประเทศ มีเป้าหมาย<br />
ในการบริการที่ดีกว่าและสิ่งอานวยความสะดวกโครงสร้าง<br />
พื้นฐาน ทั ้งเว็บไซต์แสวงบุญสามารถเสริมสร้างประสบการณ์ทาง<br />
จิตวิญญาณของผู้แสวงบุญ ให้ศูนย์วัฒนธรรมเขตต่างๆ ส่งเสริม<br />
ให้ชาวบ้านช่วยทานุบารุงศิลปวัฒนธรรม 11<br />
จีนดินแดนเก่าแก่ทางพุทธศาสนาแห่งหนึ่ง ที่รับวัฒนธรรม<br />
มาจากอินเดีย ในการแสวงบุญยุคแรกๆ ของหลวงจีนฟาเหียน<br />
9<br />
http://articles.economictimes.indiatimes.com/2016-06-06/news/73600759_1_lord-krishna-circuits-rahul-sinha<br />
10<br />
India-Thailand Joint Statement during the visit of Prime Minister of Thailand to India, www.mea.gov.in<br />
11<br />
http://articles.economictimes.indiatimes.com/2015-11-26/news/68582274_1_tourismministry-religious-tourism-new-tourism-destinations<br />
<strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
51
การท่องเที่ยวเชิงศาสนาและจิตใจ<br />
และพระถังซัมจั๋ง ที่เดินทางรอนแรมเป็นเวลานานไปศึกษาพุทธศาสนา<br />
ในดินแดนอินเดีย และคัดลอกพระธรรม พระไตรปิฏก มาสู่ประเทศ<br />
จีน แม้ว่าวัฒนธรรมในหลายๆ ส่วนจะถูกท าลายไปในยุคคอมมิวนิสต์<br />
อันเข้มข้น โลกเสรีนิยมของปัจจุบัน ได้เจือจางคอมมิวนิสต์ของจีน<br />
ให้คลายลง ผู้คนโหยหาศาสนา และสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจ อย่าง<br />
เข้มข้นมีความต้องการเติมสูญญากาศทางจิตวิญญาณที่หายไป<br />
ผู้คนสนใจศาสนาต่างๆ เช่น ลัทธิเต๋า ขงจื้อ คริสตศาสนา อิสลาม<br />
มีคากล่าวว่า “ความเชื่อทางศาสนาได้เบ่งบาน และเจริญรุ่งเรือง<br />
ไกลแซงหน้ากรอบของรัฐบาลที่จะควบคุม” 12 มีศูนย์การศึกษา<br />
ทางศาสนาที ่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศจีน ในหลายพื้นที่<br />
มีการฟื้นฟูประเพณีทางพุทธศาสนาชาวจีนเริ่มเรียนธรรมะที่หายไป<br />
อีกครั้ง รวมทั้งเดินทางท่องเที่ยวเชิงศาสนา ทั้งใน และต่างประเทศ<br />
ในแหล่งท่องเที่ยวที่นิยมของจีนดังเช่น วัดเส้าหลิน แปรเปลี่ยน<br />
เป็นพุทธพานิชย์อย่างเต็มขั้นโดยวัดเส้าหลิน แรกเริ ่มเดิมทีมี<br />
จุดประสงค์ก็เพื่อให้พระภิกษุจากอินเดียมาจ าวัด และเผยแพร่ศาสนา<br />
พุทธนิกายเถรวาท เมื่อประเทศจีนเปลี่ยนแปลงการปกครองเข้าสู่<br />
ระบอบสังคมนิยม วัดเส้าหลินรกร้างลง มีเพียงวิชากังฟูเส้าหลินที่<br />
ยังคงถูกถ่ายทอดกันต่อๆ มาเมื่อจีนเปิดประเทศ เรื่องราวกังฟูของ<br />
เส้าหลินได้สร้างเป็นภาพยนตร์ ส่งอิทธิพลกระตุ้นให้นักท่องเที ่ยว<br />
หลั่งไหลเข้ามาเยี่ยมชมวัดเส้าหลินอย่างไม่ขาดสาย รัฐบาลจีนได้<br />
โอกาสผลักดันวัดเส้าหลินให้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักของ<br />
มณฑลเหอหนาน โดยเน้นชูประวัติความเก่าแก่ของวัด 1,500 ปี กับ<br />
กังฟูแห่งวัดเส้าหลิน โดยมีโรงเรียนเปิดสอนกังฟูเส้าหลินทั่วมณฑล<br />
เหอหนาน และได้ยื่นต่อยูเนสโกให้ 'วัดเส้าหลิน' เป็นมรดกโลก<br />
ปี 2542 เจ้าอาวาสเป็นพระมหาเถระรูปแรก ที่สาเร็จการศึกษาระดับ<br />
ปริญญาโท สาขาบริหารธุรกิจ เริ่มแปลงวัดเส้าหลินจากอารามที่สุข<br />
สงบท่ามกลางธรรมชาติ และจากธรรมสถานต้นตารับศิลปะการ<br />
ต่อสู้แบบกังฟูให้เป็น “พุทธพาณิชย์” ที่มีมูลค่านับแสนล้านบาท<br />
ทาให้แต่ละปี วัดเส้าหลินมีรายได้จากค่าเข้าชมกว่า 750 ล้านบาท<br />
ยังมีรายได้จากการส่งพระเส้าหลินเดินสายไปแสดงศิลปะกังฟู<br />
ยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก ร่วมการแข่งขันชกมวยในลาสเวกัสทั้ง<br />
โครงการแปลงวัดเป็น “คอมเพล็กซ์” ต่อยอดจากโครงการเร่งขยาย<br />
สาขาของวัดเส้าหลินไปยังประเทศต่างๆ ทั่วโลก รวมแล้วราว 40<br />
แห่ง นอกจากนี้การนาวัดเส้าหลินไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์<br />
ในฮ่องกง และเซี่ยงไฮ้ในฐานะเป็นบริษัทท่องเที่ยว โดยสามารถขาย<br />
หุ้นที่เปิดขายต่อสาธารณะได้กว่า 100 ล้านหยวน นับว่าเข้าสู่วงจร<br />
ศาสนาพาณิชย์ จนวัดเส้าหลินดั้งเดิมอาจจะเหลือเพียงตานาน 14<br />
ญี่ปุ่น เป็นประเทศหนึ่งที่รับพระพุทธศาสนามาอย่างยาวนาน<br />
ปัจจุบันมีศาสนาพุทธแบบชินโต เป็นศาสนาประจาชาติ และมี<br />
เสรีภาพทางศาสนาอย่างเต็มรูปแบบ ญี่ปุ่นได้ผนวกศาสนา<br />
และวัฒนธรรมไว้ด้วยกัน เช่นกันกับการท่องเที่ยวเชิงศาสนา มีการ<br />
ออกแบบการเที่ยววัดในเขตภูมิภาคต่างๆ ไปกับวัฒนธรรมของ<br />
แหล่งนั้น ตัวอย่างโปรแกรมการท่องเที่ยวของญี่ปุ ่น เช่น สวดมนต์<br />
ตอนเช้าที่วัดของภูเขา Koya ผ่อนคลายใน YunomineOnsen<br />
อาบน้าพุร้อน ธุดงค์เส้นทางแสวงบุญของ Kumano Kodo<br />
เข้าร่วมในพิธีชงชา เยี่ยมชมศาลเจ้า Ise เข้าพัก เรียวกัง โรงแรม<br />
ขนาดเล็กและเข้าพักที่วัด 15 นอกจากนี้ วัดหลายแห่ง ได้เปิดสอน<br />
แนวทางของเซน โดยเก็บค่าเข้าศึกษา เช่น Eiheiji วัดที่มีชื่อเสียง<br />
โดยมหาวิทยาลัย Komazawa เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ดีที่สุดในโตเกียว<br />
สาหรับการศึกษาวิชาการของพุทธศาสนาและพุทธศาสนานิกายเซน<br />
สอนถึงประเพณีของการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ ปรัชญา และวรรณคดี<br />
และภูมิปัญญาเซน 16<br />
การท่องเที่ยวเชิงศาสนาและจิตใจของไทย<br />
ประเทศไทยเป็นประเทศที ่มีความพรั่งพร้อม ในการท่องเที่ยวเชิง<br />
ศาสนาเป็นอย่างมากด้วยพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่หยั่งลงและ<br />
สืบทอดต่อกันมา ณ ดินแดนแห่งนี้มานานกว่าสองพันปี<br />
52 <strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
ย้อนสู่กาล พ.ศ. 235 ห้วงเวลาที่พระเจ้าอโศกมหาราชได้ทรง<br />
ส่งสมณทูตไปเผยแผ่พระพุทธศาสนายังดินแดนต่างๆ รวม 9 สาย<br />
12<br />
http://www.npr.org/templates/story/story.php?storyId=128544048<br />
13<br />
http://www.chinadaily.com.cn/bizchina/2010-11/19/content_11578399.htm<br />
14<br />
http://www.komchadluek.net/news/detail/211162<br />
15<br />
https://www.insidejapantours.com/self-guided-japan-holidays/i-ppc/pilgrims-paths<br />
16<br />
https://www.insidejapantours.com/japanese-culture/religion/#/
การท่องเที่ยวเชิงศาสนาและจิตใจ<br />
หนึ่งในนั้นคือดินแดนประเทศไทยในปัจจุบัน กล่าวกันว่ามีคณะของ<br />
สมณทูตซึ่งมีพระโสณเถระ และพระอุตตรเถระเป็นหัวหน้าคณะ<br />
เข้ามาเผยแผ่พระพุทธศาสนาเป็นครั้งแรก และมีคณะสมณทูต<br />
เข้ามาเผยแผ่พระพุทธศาสนาในกาลต่อๆ มา ทาให้พระมหากษัตริย์<br />
และชนในดินแดนนี้นับถือพระพุทธศาสนาสืบทอดมาโดยตานาน<br />
พระพุทธเจดีย์ พระนิพนธ์ของสมเด็จกรมพระยาดารงราชานุภาพ<br />
นิพนธ์ไว้ว่า คนไทยเรานั้นได้นับถือพระพุทธศาสนามาก่อนที่จะ<br />
อพยพมาตั้งประเทศไทยในปัจจุบันนี้แล้ว<br />
ครั้งถึงสมัยชนชาติไทยตั้งอาณาจักรสุโขทัย เป็นปึกแผ่นมั ่นคง<br />
พระพุทธศาสนาในประเทศไทยเริ่มเปลี่ยนแปลงจากลัทธิมหายาน<br />
และหินยานแบบเดิม มาเป็นลัทธิหินยานแบบลังกาวงศ์ ซึ่งแพร่<br />
หลายในห้วงเวลานั้น พุทธศักราช 1820 เมื่อพ่อขุนรามคาแหง<br />
มหาราช ได้ทรงสดับกิตติศัพท์ พระสงฆ์ที่ไปศึกษาที่ประเทศ<br />
ลังกา กลับมาสั ่งสอนอยู่ที่เมืองนครศรีธรรมราช มีความรอบรู้<br />
พระธรรมวินัย และมีวัตรปฏิบัติน่าเลื่อมใส จึงได้อาราธนาจากเมือง<br />
นครศรีธรรมราช ขึ้นมาตั้งสานัก และเผยแพร่คาสอน ณ กรุงสุโขทัย<br />
โดยทรงเลื่อมใสศรัทธาอย่างแรงกล้ามากโปรดให้อยู่ ณ วัดอรัญญิก<br />
นอกเมือง ดังมีความในศิลาจารึกว่า “วันเดือนดับ วันเดือนเต็ม<br />
ท่านแต่งช้างเผือก กระพัดลยาง เทียนย่อมงาทอง ขวาชื่อรุจาศรี<br />
พ่อขุนรามขึ้นขี่ไปนบพระอรัญญิกแล้วกลับมา” นับแต่นั้นพระพุทธ<br />
ศาสนาแบบหินยานลัทธิลังกาวงศ์ เข้ามาสู่สยามประเทศ ได้ถือเป็น<br />
แบบอย่างที่ดีงาม และเจริญรุ่งเรืองสืบมาเป็นศาสนาประจ าชาติไทย<br />
จวบจนถึง ณ ปัจจุบัน<br />
ทั้งในยุคสมัย และรัชกาลต่างๆ ของกรุงศรีอยุธยา กรุงธนบุรี<br />
และ กรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานีจนบัดนี้ พระมหากษัตริย์<br />
ได้สร้างวัด และพระพุทธรูปสาคัญ และมีความงดงามในรูปแบบ<br />
ของสถาปัตยกรรม และพุทธลักษณะ ขึ้นอย่างมากมาย อีกทั้ง<br />
ได้ส่งพระมหาเถระร่วมคณะไปสืบพระพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์<br />
ณ ลังกาทวีป ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ในส่วนของพระธรรม สมเด็จ<br />
พระเจ้าตากสินมหาราช ได้ทรงขวนขวายสืบแสวงหาพระไตรปิฎก<br />
มารวบรวมไว้ จากการที่พระไตรปิฎกถูกเผาทาลายเสียจนเกือบสิ้น<br />
นามาให้ราชบัณฑิตคัดลอกรวบรวมไว้ทั้งพระบาทสมเด็จพระพุทธ<br />
ยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดฯ ให้สังคายนาพระไตรปิฏก นับเป็น<br />
ครั้งที่ 9 และครั้งที่ 2 ในดินแดนประเทศไทย (ครั้งที่ 8 สมัยพระเจ้า<br />
ติโลกราช อาณาจักรล้านนา)<br />
การที่พระพุทธศาสนาได้รับการทะนุบารุง ทั้งในด้านศาสนสถาน<br />
พระพุทธปะติมากร การสืบต่อพระธรรม และการส่งต่อคาสอน และ<br />
การปฏิบัติจากชนต่อรุ่นสู่รุ่น สืบทอดต่อเนื่องอย่างยาวนานทาให้<br />
ดินแดนอันได้ชื่อว่าประเทศไทย เป็นดินแดนหนึ่งที่ทรงไว้ซึ่งคุณค่า<br />
ในพุทธศาสนา ดินแดนหนึ่งของโลกสิ่งนี้ก่อเกิดสิ่งที่รองรับ การท่องเที่ยว<br />
ในรูปแบบนี้มากมาย ในสถานที่ต่างๆ เช่น<br />
หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ หรือเรียกกันในนาม<br />
สวนโมกข์กรุงเทพฯ ที่สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) เป็นหอ<br />
จดหมายเหตุศาสนธรรม (Religious Archives) จัดตั้งภายใต้มูลนิธิ<br />
หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญโดยมีกิจกรรมต่างๆ ให้<br />
17<br />
http://www.bia.or.th/html_th/events/2012-03-12-09-31-10.html<br />
<strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
53
การท่องเที่ยวเชิงศาสนาและจิตใจ<br />
ผู้สนใจ เข้าเรียนรู้มากมาย ทั้งกิจกรรมการเจริญสติ เช่น หลักสูตร<br />
อบรม อานาปานสติจากพระโอษฐ์ เป็นการเตรียมความพร้อม<br />
ทางด้านปริยัติ ก่อนลงมือปฏิบัติอานาปานสติภาวนาเพื่อนาไปสู่<br />
ความราบรื่น ก้าวหน้า ในการปฏิบัติโดยจัดทุกวันอาทิตย์สัปดาห์<br />
ที่ 5 ของเดือน (ปีละประมาณ 4 ครั้ง)<br />
หลักสูตรอานาปานสติภาวนา โดยยึดแนวทาง อานาปานสติ 16 ขั้น<br />
ของท่านอาจารย์พุทธทาส กิจกรรมจัดทุกวันอาทิตย์มี 4 ครั้ง<br />
ในหนึ่งเดือน โดยได้รับเมตตาจากพระวิปัสสนาจารย์หลายรูป ที่มา<br />
นาภาวนา ให้คาแนะนา และตอบคาถาม โดยเริ่มจากการวางพื้นฐาน<br />
ไปสู่การปฏิบัติในขั้นสูงต่อไป กิจกรรมวันสาคัญทางศาสนาต่างๆ<br />
เช่น วันเพ็ญอาสาฬหปุรณมีบูชา ขึ้น 15 ค่า เดือน 8 ในวาระปี<br />
แห่งการนาศีลธรรมกลับมาเถิด นอกจากนี้ ยังจัดให้มีกิจกรรม<br />
ฟังธรรมตามกาล กับครูบาอาจารย์ ทั้งของไทย และต่างประเทศ<br />
ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจา 17<br />
ทีปภาวัน เกาะสมุย จ.สุราษฏร์ธานี ทีปภาวัน ธรรมสถาน สร้าง<br />
ขึ้นในปี 2547 โดยมีหลวงพ่อพระภาวนาโพธิคุณ ซึ่งเป็นชาวสมุย<br />
โดยกาเนิดเป็นผู้ริเริ่มให้มีการก่อสร้างขึ้น นับตั้งแต่นั้น ได้ดาเนิน<br />
กิจกรรมส่งเสริมการปฎิบัติธรรมในรูปแบบของการจัดอบรมการ<br />
ปฏิบัติธรรมภาคจิตภาวนา ให้กับประชาชนทั่วไปทั้งใน และต่าง<br />
ประเทศต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน โดยการอบรมสาหรับชาวไทย<br />
เปิดอบรม ในวันที่ 12-17 ของทุกเดือน สาหรับชาวต่างชาติ<br />
โครงการ 1 สัปดาห์ เปิดอบรมทุกวันที่ 20-27 ของทุกเดือน สาหรับ<br />
54 <strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
โครงการสั้น เปิดอบรมทุกวันที่ 7-10 ของทุกเดือน 18<br />
วัดธรรมมงคล กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ที่สุขุมวิท 101 กรุงเทพฯ ซึ่งพระ<br />
ธรรมมงคลญาณหรือหลวงพ่อวิริยังค์สิรินฺธโร ใช้เป็นที่พักธุดงค์ใน<br />
ระหว่างเดินทาง เข้ากรุงเทพฯ ต่อมาได้ตั้งสถาบันพลังจิตตานุภาพ<br />
และได้เปิดสอนครูสมาธิรุ่นแรกขึ้น ในพื้นที่กว่า 30 ไร่ มีสถานที่อัน<br />
สัปปายะ อันเหมาะแก่การปฏิบัติสมาธิ และวิปัสสนาเช่น ถ้ าวิปัสสนา<br />
มีเนื้อที่ 4 ไร่ จาลองบรรยากาศการปฏิบัติในป่า-ถ้า เพื่อเข้าไป<br />
นั่งสมาธิ และฟังธรรมในถ้า สามารถรองรับผู้ปฏิบัติธรรมได้กว่า<br />
200 คน ล้อมรอบด้วยสวนป่า มีไม้ดอกไม้ใบ สระน้า และเนินเขาซึ่ง<br />
ให้บรรยากาศร่มรื่น ศูนย์สมาธิวิริยานุภาพ ตั้งอยู่บริเวณด้านข้าง<br />
ของวัดเป็นสถานที่ที่สร้างขึ้น เพื่อช่วยให้ฆราวาสผู้มาปฏิบัติธรรม<br />
มีที่พัก สถาบันพลังจิตตานุภาพ เป็นสถาบันที่มีหน้าที่สอนหลักสูตร<br />
ครูสมาธิให้แก่ บุคคลทั่วไป ทาการสอนเกี่ยวกับสมาธิเบื้องต้นตั้งแต่<br />
การเริ่มบริกรรม จนถึงสมาธิชั้นสูง ที่หลวงพ่อวิริยังค์ได้เล่าเรียน<br />
ศึกษามาจากพระอาจารย์ใหญ่ทางวิปัสนา ได้แก่ พระอาจารย์มั่น<br />
และพระอาจารย์กงมา รวมถึงประสบการณ์ชีวิตในการปฏิบัติสมาธิ<br />
ของหลวงพ่อวิริยังค์เองกว่า 60 ปี นอกจากผู้เรียนจะได้เข้าใจ การ<br />
ทาสมาธิ ทั้งสมถะ-วิปัสสนา อย่างถี่ถ้วนแล้ว และยังสามารถเป็น<br />
ครูสอนสมาธิให้แก่บุคคลอื่นได้โดยถูกต้องด้วย 19<br />
วัดป่าถ้าวัวสุญญตาราม จ.แม่ฮ่องสอน วัดป่าถ้าวัวสุญญตาราม<br />
มีเจ้าอาวาสคือ พระอธิการสายหยุด ปัญญาธโร จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ<br />
ที่มีชาวต่างชาติมาปฏิบัติธรรมจานวนไม่มากนัก ได้มีลูกศิษย์ชาว<br />
18<br />
http://www.dipabhavan.org<br />
19<br />
http://www.dhammamongkol.com//
การท่องเที่ยวเชิงศาสนาและจิตใจ<br />
Resting in between beautiful mountains of exotic<br />
Mae Hong Son, Thailand is Wat Pa Tam Wua Forest<br />
Monastery. Capturing green nature, running rivers,natural<br />
caves and never-ending waterfalls of this spectacular<br />
Northern country.<br />
เนเธอร์แลนด์ ได้กลับไปเขียนเรื่องราวของวัด และตีพิมพ์ จึงได้<br />
เผยแพร่ไปทั่วโลก ในแต่ละปีจะมีชาวต่างชาติ จาก 140 ประเทศ<br />
ไม่ต่ากว่า 2,000 คน พากันเดินทางมาปฏิบัติธรรม ซึ่งในจานวนนั้น<br />
มีทั้งคนที่นับถือศาสนาคริสต์ และอิสลาม ที่มาปฏิบัติธรรม<br />
ตามหลักของพระพุทธศาสนา โดยไม่มีการแบ่งเชื้อชาติ ชนชั้น<br />
หรือวรรณะ แต่อย่างใด ทุกคนอยู่ร่วมกันด้วยเมตตาธรรม การสอน<br />
ปฏิบัติธรรม จะเน้นที่การกาหนดจิต รู้สติ แต่ในกรณีที่ผู้ปฏิบัติถนัด<br />
ในการทาสมาธิในรูปแบบอื่นๆ ก็ไม่มีการห้ามหรือบังคับแต่อย่างใด<br />
เป็นไปด้วยความสมัครใจ<br />
ในส่วนของคนเอเชีย ส่วนใหญ่ในประเทศสิงคโปร์ ฮ่องกง และ<br />
ไต้หวัน บริษัทต่างๆ นิยมนาพนักงานของบริษัท เดินทางมาใน<br />
ลักษณะกรุ๊ปทัวร์ มาปฏิบัติธรรม ที่วัดป่าถ้าวัว เพื่อเพิ่มสมาธิใน<br />
การทางานให้แก่องค์กร ก่อนที่จะเดินทางไปเที่ยวพักผ่อนในแหล่ง<br />
ท่องเที่ยวของไทย และเดินทางกลับประเทศ โดยผู้บริหารของ<br />
บริษัทเหล่านั ้น เล็งเห็นความสาคัญของการทาสมาธิที่จะส่งผลให้<br />
งานของบริษัทสาเร็จได้โดยง่าย ทั้งนี้พนักงานที่ไม่มีสมาธิหรือ<br />
ไม่รู้จักการทาสมาธิจะปฏิบัติงานสู้คนที่ผ่านการอบรมฝึกทาสมาธิ<br />
ไม่ได้ และส่งผลเสียต่อองค์กรในระยะยาว<br />
ด้วยเป็นสานักปฏิบัติธรรมที่มีความสะอาด สงบ สันติ สิ่งแวดล้อม<br />
ร่มรื่น สวยงาม เหมาะสมที ่จะปฏิบัติธรรม ทาให้วัดป่าถ้าวัว<br />
ติดอันดับ 1 ใน 5 ของสานักปฏิบัติธรรมที่ดีที่สุดในโลก 20<br />
รูปแบบการท่องเที่ยว เชิงศาสนาและจิตใจ<br />
ในห้วงเวลาที่ผ่านมาได้มีการส่งเสริม ค้นคว้า วิจัย เพื่อให้<br />
เกิดการท่องเที่ยวเชิงศาสนาและจิตใจ ในหน่วยงานต่างๆ เช่น<br />
20<br />
http://watpatamwua.com<br />
21<br />
มูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ .กรอบแนวทางการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงศาสนา<br />
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดย ภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ,2557/<br />
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม<br />
หอจดหมายเหตุพุทธทาสอินทรปัญโญ ในรูปแบบของการจัดทา<br />
คู่มือเส้นทางการท่องเที่ยวรวมถึงให้ข้อมูลสถานที่ และออกแบบ<br />
เส้นทางการท่องเที่ยว เช่น 108 เส้นทางออมบุญ เที่ยวทั่วไทย<br />
ให้ถึงธรรม ความสุขที่แท้บนเส้นทางบุญทั่วไทย เที่ยวไทยถิ่นธรรมะ<br />
เรียนรู้แก่นแท้พระพุทธศาสนา แนะนาสถานที่ปฏิบัติธรรม<br />
ทั่วประเทศ<br />
โดยหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทรปัญโญ หรือสวนโมกข์<br />
กรุงเทพฯ ได้ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ได้ออกแบบ<br />
เส้นทาง และจัดกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงศาสนาขึ้นมี 4 รูปแบบด้วย<br />
กัน คือ<br />
1. ท่องเที ่ยวตามรอยธรรม คือ ไปดู ไปเรียนรู้ ได้อยู่วัด ได้<br />
เพลิดเพลิน ได้เสริมศรัทธา โดยใช้เวลาไม่นานนักตาม<br />
เส้นทางต่างๆ ที่ได้ออกแบบในแต่ละครั้ง<br />
2. ท่องเที่ยวอาจาริยบูชา คือ ไปงานตามโอกาสต่างๆ เช่น งาน<br />
อาจารย์ชา อาจารย์มั่น อาจารย์เสาร์ ซึ่งมักเป็นในภาคอีสาน<br />
หรืออิงจากวัด อาทิ วัดพระธาตุพนม ที่ได้คิดงานใหม่ขึ้นมา<br />
โดยให้ปฏิบัติธรรมกันทั้งคืน โดยบางงานนั ้นมีอยู่แล้ว<br />
บางงานก็สร้างขึ้นมาใหม่<br />
3. ท่องเที่ยวปฏิบัติใหญ่ คือ การปฏิบัติเลย<br />
4. การอยู่วัดปฏิบัติธรรม 3-7 วัน แล้วแต่จังหวะ โอกาส วันหยุด<br />
สถานที่ และพระ เช่น วัดป่าสุคะโต ปฏิบัติธรรม 1 อาทิตย์<br />
วัดป่าธรรมทัสสีปฏิบัติธรรม 3 วัน วัดป่าโนนกุดหล่ม 2 วัน<br />
เป็นต้น<br />
<strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
55
การท่องเที่ยวเชิงศาสนาและจิตใจ<br />
ตัวอย่างเส้นทางท่องเที่ยวเรียนรู้ และปฏิบัติธรรมตลอดปี 12 เดือน<br />
ประกอบด้วยการเดินทางท่องเที่ยวสักการะบูชา และเรียนรู้<br />
รอยธรรมตามเส้นทางเพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาแล้ว<br />
รับศีลอุโบสถเข้าอยู่วัดปฏิบัติธรรม 1-2 วัน ที่สานักปฏิบัติธรรม<br />
ในเส้นทาง อาทิ วัดพระธาตุแช่แห้ง จังหวัดน่าน วัดพระธาตุ<br />
ผาซ่อนแก้ว จังหวัดเพชรบูรณ์ สวนโมกขพลาราม ไชยา จังหวัด<br />
สุราษฎร์ธานี ขุนน้าเขาหลวง คีรีวง จังหวัดนครศรีธรรมราช<br />
วัดสุนันทวนาราม จังหวัดกาญจนบุรี วัดสุญญตาราม จังหวัด<br />
ประจวบคีรีขันธ์ วัดป่าโสมพนัส จังหวัดสกลนคร วัดป่านานาชาติ<br />
จังหวัดอุบลราชธานี วัดอุโมงค์ จังหวัดเชียงใหม่21<br />
โอกาสและข้อจากัดของไทยต่อการท่องเที ่ยว<br />
เชิงศาสนาและจิตใจ<br />
ประเทศไทยในฐานะเป็นศูนย์กลางทางพุทธศาสนา ของเอเชีย<br />
ตะวันออกเฉียงใต้ เป็นประเทศหนึ่งที่พรั่งพร้อมด้วยสถาปัตยกรรม<br />
ทางพุทธศาสนาอันเก่าแก่งดงาม พระธรรมคาสั่งสอนที่หยั่งรากลึก<br />
มาอย่างยาวนาน และปูชนียบุคคล บูรพาจารย์ต่างๆ ผู้ศึกษาธรรมะ<br />
สิ่งนี้เป็นโอกาสอันดี ต่อการท่องเที่ยวในรูปแบบเชิงศาสนาและ<br />
จิตใจ สาหรับข้อจากัดของการท่องเที่ยวนั้น ผู้ดาเนินการท่องเที่ยว<br />
เชิงศาสนา อย่างหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทรปัญโญ โดย<br />
นายแพทย์บัญชา พานิช ได้สะท้อนว่า ปัจจุบันความต้องการ<br />
การท่องเที่ยวในเชิงศาสนามีปริมาณมาก แต่ผู้จัดไม่พอเพียงกับ<br />
ปริมาณความต้องการที่เกิดขึ้น และการท่องเที่ยวในรูปแบบนี้<br />
รับได้จานวนไม่มากนักต่อการเดินทางในแต่ละครั้ง จึงมีนักท่องเที่ยว<br />
แม้จะมีการพยายามผลักดันจากหน่วยงานต่างๆเช่น การท่องเที่ยว<br />
แห่งประเทศไทย กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งต่าง<br />
ทาไปในทิศทางของตน ไม่มีการประสานให้มีทิศทางที่สอดคล้อง<br />
และมีความสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในทรัพยากรที่มี<br />
นอกจากนี้ ปัจจุบันการท่องเที่ยวเชิงศาสนายังไม่อยู่ในวงกว้าง ไม่มี<br />
อะไรเป็นแรงบันดาลใจใหม่ ทั้งแหล่งท่องเที่ยว และแรงจูงใจในการ<br />
เดินทาง ผู้เดินทางจึงเป็นกลุ่มคนเดิมๆ ที่นิยมเที่ยวในลักษณะนี้<br />
อีกทั้งความที่ไม่มีนิยาม และรูปแบบที่ชัดเจน ทาให้การท่องเที่ยว<br />
ทางศาสนาและจิตใจ ไม่สามารถมีทิศทางในการพัฒนาได้อย่าง<br />
ชัดเจนและมั่นคง<br />
จานวนมากที่ไม่ได้รับการตอบสนอง 22<br />
56 <strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
22<br />
นายแพทย์บัญชา พงษ์พานิช. กรรมการและเลขานุการมูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ.<br />
สัมภาษณ์ ,29มิถุนายน 2559
การท่องเที่ยวเชิงศาสนาและจิตใจ<br />
ข้อเสนอแนะในการดาเนินการของภาครัฐ<br />
และภาคเอกชน<br />
• ควรกาหนดให้การท่องเที่ยวเชิงศาสนาและจิตใจ เป็นหนึ่งใน<br />
การท่องเที่ยวรายสาขาที่จะส่งเสริมและพัฒนาให้เป็น<br />
การท่องเที่ยวที่สาคัญ โดยศึกษาและจัดทายุทธศาสตร์การ<br />
ส่งเสริมและพัฒนาเพื่อเป็นแนวทางในการบูรณาการหน่วยงาน<br />
ที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาอย่างเป็นระบบและยั่งยืน<br />
• จัดทามาตรฐานการท่องเที่ยวเชิงศาสนาและจิตใจ สาหรับแหล่ง<br />
ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและจิตใจ และบริษัทนาเที่ยวเชิงศาสนา<br />
และจิตใจ<br />
• ส่งเสริมให้มัคคุเทศก์ มีปริมาณที่เพียงพอ และมีคุณภาพในการ<br />
ให้ข้อมูลสถานที่ และข้อมูลด้านธรรมะ ต่อการท่องเที่ยว<br />
เชิงศาสนาและจิตใจ<br />
• สร้างสรรค์การท่องเที่ยวในเชิงศาสนาและจิตใจ ให้เชื่อมโยงกับ<br />
คุณภาพที่ดีของกาย และใจ เช่น โยคะ อาหารเพื่อสุขภาพ สปา<br />
เพื่อความผ่อนคลาย เป็นต้น<br />
• สร้างความร่วมมือระหว่างภาครัฐ และภาคเอกชนในการ<br />
จัดบริการท่องเที่ยวเชิงศาสนาและจิตใจที่มีคุณค่า ให้เหมาะสม<br />
และเพียงพอกับความต้องการของนักท่องเที่ยว<br />
• ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงศาสนาและจิตใจแก่นักท่องเที่ยว<br />
ชาวต่างชาติให้มากขึ้น<br />
• ส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวจัดอันดับแหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนา<br />
ประเภทต่างๆ ในประเทศไทย และเผยแพร่ผ่านสื ่อต่างๆ<br />
เพื่อเป็นแนวทางแก่ชาวต่างชาติที่สนใจ และกระตุ้นให้เดินทาง<br />
มาประเทศไทย<br />
ประเทศไทย ในฐานะดินแดนที่พระพุทธศาสนาหยั่งรากมาเนิ่นนาน<br />
เป็นประเทศที่มีศักยภาพ สาหรับการท่องเที่ยวเชิงศาสนาและจิตใจ<br />
เป็นอย่างสูง เพียงเริ่มตระหนักถึงสิ่งนี้ และร่วมสร้างรูปธรรมของ<br />
การท่องเที่ยวให้ชัดเจน โดยความร่วมมือของภาครัฐ และเอกชน<br />
พร้อมกับดูแลให้ทิศทางของการท่องเที่ยวทางศาสนา ให้ไม่กระทบ<br />
ชุมชนผู้เป็นเจ้าของแหล่งท่องเที่ยว ก็จะทาให้ประเทศไทยสามารถ<br />
เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงศาสนาและจิตใจที่สาคัญแห่งหนึ่งของโลก<br />
หากประเทศไทยไม่มีความพร้อมรองรับ อาจเป็นช่องทางที่ไทย<br />
จะสูญเสียโอกาสนี้ไป<br />
<strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
57
ตัวชี้วัดเศรษฐกิจการท่องเที่ยว<br />
ตัวชี้วัดเศรษฐกิจการท่องเที่ยว<br />
(Thailand Tourism Indicators)<br />
จำานวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ปี 2557 – 2559P และอัตราการเปลี่ยนแปลง (Y-o-Y)<br />
หน่วย: จำนวนนักท่องเที่ยว (คน)<br />
Country<br />
of Nationality<br />
2557<br />
Y<br />
2558<br />
Y<br />
2558P<br />
Q1 Q2 Q3P Q4P<br />
2559P<br />
Q1P Q2P<br />
East Asia 14,603,825 19,871,773 4,846,314 4,988,026 5,130,180 4,907,253 5,797,621 5,396,840<br />
Europe 6,161,893 5,629,122 1,930,027 939,035 1,071,722 1,688,338 2,095,250 1,039,243<br />
Other 4,043,965 4,380,196 1,052,812 1,051,654 1,105,806 1,169,924 1,146,022 1,116,928<br />
Grand Total 24,809,683 29,881,091 7,829,153 6,978,715 7,307,708 7,765,515 9,038,893 7,553,011<br />
หน่วย: % กรเปลี่ยนแปลง (Y-o-Y)<br />
Country<br />
of Nationality<br />
2557<br />
Y<br />
2558<br />
Y<br />
2558P<br />
Q1 Q2 Q3P Q4P<br />
2559P<br />
Q1 Q2P<br />
East Asia -8.22 +36.07 +52.47 +60.80 +34.60 +8.76 +19.63 +8.20<br />
Europe -2.28 -8.65 -13.85 -9.02 +1.36 -7.84 +8.56 +10.67<br />
Other -6.59 +8.31 +10.02 +9.21 +12.64 +2.41 +8.85 +6.21<br />
Grand Total -6.54 +20.44 +22.79 +36.92 +24.91 +3.73 +15.45 +8.23<br />
หมยเหตุ : P หมยถึงข้อมูลเบื้องต้น<br />
ที่ม : กรมกรท่องเที่ยว<br />
58 <strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong>
ตัวชี้วัดเศรษฐกิจการท่องเที่ยว<br />
ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อวันของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ปี 2557 – 2559P<br />
และอัตราการเปลี่ยนแปลง (Y-o-Y)<br />
หน่วย: ค่ใช้จ่ยเฉลี่ย (บท/คน/วัน)<br />
Country<br />
of Nationality<br />
2557<br />
Y<br />
2558<br />
Y<br />
2558P<br />
Q1 Q2 Q3P Q4P<br />
2559P<br />
Q1P Q2P<br />
East Asia 5,114.28 5,500.11 5,570.66 5,169.06 5,611.05 5,692.80 5,937.31 5,456.30<br />
Europe 4,208.91 4,270.42 4,146.89 3,963.78 4,115.53 4,534.14 4,332.19 4,060.20<br />
Other 5,266.19 5,416.60 5,054.43 4,926.09 5,284.50 5,722.57 5,227.90 5,100.26<br />
Grand Total 4,774.93 5,072.69 4,919.63 4,841.10 5,173.13 5,238.27 5,234.83 5,037.03<br />
หน่วย: % กรเปลี่ยนแปลง (Y-o-Y)<br />
Country<br />
of Nationality<br />
2557<br />
Y<br />
2558<br />
Y<br />
2558P<br />
Q1 Q2 Q3P Q4P<br />
2559P<br />
Q1P Q2P<br />
East Asia +5.81 +7.54 +9.38 +8.92 +7.87 +5.89 +6.58 +5.56<br />
Europe +2.28 +1.46 +1.08 +2.07 +2.73 -1.92 +4.47 +2.43<br />
Other +4.85 +2.86 +3.43 +3.54 +3.21 -1.66 +6.07 +1.51<br />
Grand Total +3.43 +6.24 +7.77 +8.05 +7.03 +2.15 +6.41 +4.05<br />
หมยเหตุ : P หมยถึงข้อมูลเบื้องต้น<br />
ที่ม : กรมกรท่องเที่ยว<br />
รายได้จากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ปี 2557 – 2559P<br />
และอัตราการเปลี่ยนแปลง (Y-o-Y)<br />
หน่วย: รยได้ (ล้นบท)<br />
Country<br />
of Nationality<br />
2557<br />
Y<br />
2558<br />
Y<br />
2558P<br />
Q1 Q2 Q3P Q4P<br />
2559P<br />
Q1P Q2P<br />
East Asia 504,208.13 759,583.60 184,930.45 187,445.36 205,242.17 181,965.62 236,137.06 215,574.54<br />
Europe 424,381.34 408,447.94 136,061.29 67,779.98 76,525.70 128,080.97 154,036.97 76,794.04<br />
Other 244,208.70 279,126.51 64,944.25 65,390.93 71,318.84 77,472.49 73,533.47 70,564.69<br />
Grand Total 1,172,798.17 1,447,158.05 385,935.99 320,616.27 353,086.71 387,519.08 463,707.50 362,933.27<br />
หน่วย: % กรเปลี่ยนแปลง (Y-o-Y)<br />
Country<br />
of Nationality<br />
2557<br />
Y<br />
2558<br />
Y<br />
2558P<br />
Q1 Q2 Q3P Q4P<br />
2559P<br />
Q1P Q2P<br />
East Asia -4.15 +50.65 +68.00 +85.62 +50.69 +15.94 +27.69 +15.01<br />
Europe -1.00 -3.75 -7.89 -1.68 +6.58 -5.77 +13.21 +13.30<br />
Other -3.25 +14.30 +17.91 +18.84 +18.19 +5.03 +13.23 +7.91<br />
Grand Total -2.85 +23.39 +23.35 +42.53 +31.58 +5.70 +20.15 +13.20<br />
หมยเหตุ : P หมยถึงข้อมูลเบื้องต้น<br />
ที่ม : กรมกรท่องเที่ยว<br />
<strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
59
ตัวชี้วัดเศรษฐกิจการท่องเที่ยว<br />
อัตราการเข้าพักของสถานพักแรมในประเทศ และการเปลี่ยนแปลง (Y-o-Y)<br />
หน่วย: ร้อยละ<br />
ภูมิภาค 2557 2558 2558P<br />
Q1 Q2 Q3 Q4<br />
2559P<br />
Q1 Q2<br />
กรุงเทพฯ 67.50 76.33 75.47 69.03 66.38 78.59 81.16 76.91<br />
ภาคกลาง 50.95 56.27 59.05 55.40 52.34 57.83 63.18 59.34<br />
ภาคเหนือ 50.11 54.2 62.22 48.58 45.92 60.21 65.09 52.00<br />
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 50.48 53.83 57.03 50.06 51.10 57.26 60.44 52.30<br />
ภาคตะวันออก 62.96 68.02 70.41 67.69 61.67 72.32 72.60 72.06<br />
ภาคตะวันตก 58.54 64.26 68.12 59.66 59.23 70.04 71.08 62.18<br />
ภาคใต้ 61.35 66.69 73.69 64.97 57.43 66.68 77.97 67.69<br />
รวม 58.93 65.12 68.58 60.75 56.79 67.79 72.80 65.61<br />
หน่วย: ร้อยละ<br />
ภูมิภาค 2557 2558 2558P<br />
Q1 Q2 Q3 Q4<br />
2559P<br />
Q1 Q2<br />
กรุงเทพฯ -0.84 +8.83 +9.60 +5.74 +2.64 +1.50 +5.69 +1.82<br />
ภาคกลาง +5.60 +5.32 +5.46 +5.57 +6.96 +2.82 +4.13 +3.58<br />
ภาคเหนือ +6.57 +4.09 +3.42 +4.86 +4.93 +3.27 +2.87 +3.54<br />
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ +1.39 +3.35 +3.98 +3.45 +3.94 +2.18 +3.41 +2.51<br />
ภาคตะวันออก +1.39 +5.06 +5.08 +5.98 +4.57 +4.61 +2.19 +2.02<br />
ภาคตะวันตก +3.99 +5.72 +4.85 +5.69 +5.56 +5.12 +2.96 +2.72<br />
ภาคใต้ +2.91 +5.34 +3.43 +5.19 +3.36 +5.41 +4.28 +1.20<br />
รวม +2.63 +6.19 +4.86 +5.02 +3.92 +4.26 +4.22 +2.12<br />
หมยเหตุ : P หมยถึง ข้อมูลเบื้องต้น<br />
ที่ม : กรมกรท่องเที่ยว<br />
60 <strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong>
ตัวชี้วัดเศรษฐกิจการท่องเที่ยว<br />
รายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศของชาวไทย และอัตราการเปลี่ยนแปลง (Y-o-Y)<br />
หน่วย: ล้นบท<br />
ภูมิภาค 2557 2558P 2558P<br />
Q1 Q2 Q3 Q4<br />
2559P<br />
Q1 Q2<br />
กรุงเทพฯ 250,931.26 285,399.26 68,222.48 71,814.05 86,589.24 58,773.49 72,498.11 78,156.76<br />
ภาคกลาง 35,180.27 38,694.36 7,786.79 9,580.46 8,712.43 12,614.68 8,408.83 9,929.13<br />
ภาคเหนือ 97,084.33 108,586.30 30,717.89 23,395.28 18,144.72 36,328.41 33,808.53 25,504.28<br />
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 56,463.65 61,830.06 16,232.42 15,113.79 14,854.22 15,629.63 16,793.88 19,702.06<br />
ภาคตะวันออก 68,972.35 78,794.14 16,023.92 20,841.63 16,178.93 25,749.66 17,856.28 14,277.13<br />
ภาคตะวันตก 53,230.85 60,486.36 13,400.89 12,511.50 13,182.65 21,391.32 15,038.51 23,229.39<br />
ภาคใต้ 139,588.77 156,239.10 46,875.88 37,044.42 30,689.26 41,629.54 51,474.65 37,949.91<br />
รวม 701,451.48 790,029.58 199,260.27 190,301.13 188,351.45 212,116.73 215,878.79 208,748.66<br />
หน่วย: ร้อยละ<br />
ภูมิภาค 2557 2558P 2558P<br />
Q1 Q2 Q3 Q4<br />
2559P<br />
Q1 Q2<br />
กรุงเทพฯ +3.23 +13.74 +13.22 +6.90 +9.83 +31.60 +6.27 +4.24<br />
ภาคกลาง +7.52 +9.99 +11.77 +11.18 +15.67 +4.56 +7.99 +3.02<br />
ภาคเหนือ +16.10 +11.85 +12.73 +15.33 +10.59 +9.61 +10.06 +9.87<br />
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ +4.00 +9.50 +13.12 +11.49 +14.51 +0.28 +3.46 +30.59<br />
ภาคตะวันออก +3.15 +14.24 +13.69 +17.22 +8.33 +16.19 +11.44 +14.11<br />
ภาคตะวันตก +11.25 +13.63 +16.10 +13.61 +16.14 +10.69 +12.22 +10.92<br />
ภาคใต้ +5.52 +11.93 +9.70 +15.21 +8.94 +13.95 +9.81 +6.14<br />
รวม +6.17 +12.63 +12.46 +11.56 +10.66 +15.61 +8.34 +8.65<br />
จำานวนห้องพักของสถานพักแรม ปี 2559 รายภูมิภาค<br />
ภูมิภาค<br />
จำานวนห้องพัก<br />
2558 2559P % การเปลี่ยนแปลง<br />
กรุงเทพมหานคร 138,286 136,043 -1.62<br />
ภาคกลาง 28,463 28,861 +1.40<br />
ภาคเหนือ 95,910 96,971 +1.11<br />
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 67,885 73,483 +8.25<br />
ภาคตะวันออก* 80,443 102,409 +27.31<br />
ภาคตะวันตก 39,082 40,437 +3.47<br />
ภาคใต้ 200,574 200,950 +0.19<br />
รวม 650,643 679,154 +4.38<br />
หมยเหตุ : จังหวัดชลบุรีปรับฐนจำนวนห้องพักตมควมเห็นของสมคมด้นกรท่องเที่ยว กรท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจังหวัดชลบุรี และกรมกรท่องเที่ยว<br />
ที่ม : กรมกรท่องเที่ยว<br />
<strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong><br />
61
ตัวชี้วัดเศรษฐกิจการท่องเที่ยว<br />
จำานวนเที่ยวบินในประเทศ และระหว่างประเทศ และอัตราการเปลี่ยนแปลง (Y-o-Y)<br />
หน่วย : เที่ยวบิน<br />
2558<br />
2558 2559<br />
Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2<br />
Domestic Flight Scheduled Flight 480,368 117,793 117,774 118,803 125,998 125,129 124,408<br />
Non-Scheduled<br />
Flight<br />
25,890 7,393 6,569 5,930 5,998 6,882 5,434<br />
Total 506,258 125,186 124,343 124,733 131,996 132,011 129,842<br />
International Flight Scheduled Flight 367,407 88,681 89,334 92,108 97,284 102,111 97,580<br />
Non-Scheduled<br />
Flight<br />
17,469 6,261 3,701 3,657 3,850 5,449 2,703<br />
Total 384,876 94,942 93,035 95,765 101,134 107,560 100,283<br />
Grand total 891,134 220,128 217,378 220,498 233,130 239,571 230,125<br />
ที่ม : กรมท่อกศยน<br />
หน่วย : ร้อยละ<br />
2558<br />
2558 2559<br />
Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2<br />
Domestic Flight Scheduled Flight +22.37 +21.31 +28.58 +28.44 +13.14 +6.23 +5.63<br />
Non-Scheduled<br />
Flight<br />
-13.65 -10.28 -13.80 -20.10 -10.45 -6.91 -17.28<br />
Total +19.81 +18.84 +25.32 +24.83 +11.81 +5.45 +4.42<br />
International Flight Scheduled Flight +17.77 +10.61 +21.62 +27.20 +13.20 +15.14 +9.23<br />
Non-Scheduled<br />
Flight<br />
-8.34 -14.02 +1.76 -2.77 -12.08 -12.97 -26.97<br />
Total +16.26 +8.56 +20.68 +25.72 +11.97 +13.29 +7.79<br />
Grand total +18.25 +14.18 +23.29 +25.22 +11.88 +8.83 +5.86<br />
ที่ม : กรมท่อกศยน<br />
62 <strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong>
ตัวชี้วัดเศรษฐกิจการท่องเที่ยว<br />
จำานวนผู้โดยสารเที่ยวบินในประเทศ และระหว่างประเทศ และอัตราการเปลี่ยนแปลง (Y-o-Y)<br />
หน่วย : คน<br />
2558 2559<br />
2558<br />
Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2<br />
Domestic Flight Scheduled Flight 62,402,387 15,684,619 14,587,319 15,308,510 16,821,939 17,801,969 16,304,241<br />
Non-Scheduled 550,691 156,921 143,438 130,961 119,371 257,394 121,235<br />
Flight<br />
Total 62,953,078 15,841,540 14,730,757 15,439,471 16,941,310 18,059,363 16,425,476<br />
International Flight Scheduled Flight 59,624,515 15,294,607 14,279,499 14,493,435 15,556,974 17,791,727 15,857,154<br />
Non-Scheduled 2,959,705 1,103,710 616,060 579,012 660,923 1,061,837 478,926<br />
Flight<br />
Total 62,584,220 16,398,317 14,895,559 15,072,447 16,217,897 18,853,564 16,336,080<br />
Grand total 125,537,298 32,239,857 29,626,316 30,511,918 33,159,207 36,912,927 32,761,556<br />
ที่ม : กรมท่อกศยน<br />
หน่วย : ร้อยละ<br />
2558 2559<br />
2558<br />
Q1 Q2 Q3 Q4 Q1 Q2<br />
Domestic Flight Scheduled Flight +25.82 +27.45 +29.71 +28.29 +19.20 +13.50 +11.77<br />
Non-Scheduled +2.08 -12.38 +10.88 +3.90 +13.70 +64.03 -15.48<br />
Flight<br />
Total +25.56 +26.88 +29.49 +28.03 +19.16 +14.00 +11.50<br />
International Flight Scheduled Flight +22.68 +24.96 +33.79 +26.11 +9.57 +16.33 +11.05<br />
Non-Scheduled -14.64 -23.04 -1.54 -6.62 -16.08 -3.79 -22.26<br />
Flight<br />
Total +20.19 +19.92 +31.84 +24.43 +8.22 +14.97 +9.67<br />
Grand total +22.83 +23.24 +30.66 +26.23 +13.55 +14.49 +10.58<br />
ที่ม : กรมท่อกศยน<br />
จำานวนแรงงานในภาคการท่องเที่ยว ปี 2553 – 2559e (ไตรมาสที่ 2)<br />
หน่วย : คน<br />
ภูมิภาค 2553 2554 2555 2556 2557 2558p 2559e<br />
ไตรมาสที่ 1 ไตรมาสที่ 2<br />
สถานพักแรม 348,492 404,849 470,371 494,636 503,854 516,100 522,051 524,766<br />
การบริการอาหารและเครื่องดื่ม 2,314,475 2,142,755 2,119,879 2,083,304 2,100,865 2,129,419 2,153,694 2,171,139<br />
การขนส่งผู้โดยสารทางรถไฟ 15,041 16,405 16,585 16,801 17,053 17,104 17,145 17,145<br />
การขนส่งผู้โดยสารโดยรถโดยสาร 553,872 526,577 589,902 588,819 584,990 592,857 602,342 608,968<br />
การขนส่งทางผู้โดยสารทางทะเล<br />
และชายฝั่ง<br />
29,608 31,829 34,630 37,574 40,661 44,127 44,921 45,281<br />
การขนส่งทางอากาศ 30,493 35,128 39,618 44,071 47,081 51,094 53,751 56,063<br />
การเช่ารถยนต์และอุปกรณ์โดยไม่มี<br />
ผู้ควบคุม<br />
5,851 6,468 9,856 8,488 10,580 11,482 11,734 11,981<br />
ตัวแทนบริษัทนำาเที่ยว 40,016 47,721 57,412 68,223 64,504 70,003 73,783 76,955<br />
การแสดง การละเล่นพื้นบ้าน<br />
ศิลปวัฒนธรรม<br />
69,155 62,938 59,899 52,685 52,645 54,595 56,014 56,239<br />
บริการกีฬาและนันทนาการ 127,300 164,682 246,650 252,793 258,431 265,367 271,629 277,426<br />
การขายสินค้าเพื่อการท่องเที่ยว 287,783 291812 294,362 259,396 240,648 241,851 251,767 260,831<br />
บริกรอื่น ๆ ด้นกรท่องเที่ยว 109,513 122,983 143,275 162,588 168,070 174,084 178,959 182,717<br />
รวมแรงงนภคกรท่องเที่ยว 3,931,599 3,854,147 4,082,439 4,069,378 4,089,382 4,168,083 4,237,792 4,289,509<br />
จำนวนแรงงนทั้งหมด 38,037,342 38,464,670 38,939,127 38,216,622 38,077,430 38,330,420 38,312,290 38,517,261<br />
สัดส่วนแรงงานภาคการท่องเที่ยวต่อ 10.34 10.02 10.48 10.65 10.74 10.87 11.06 11.14<br />
แรงงานทั้งหมด (ร้อยละ)<br />
หมยเหตุ : p หมยถึง ข้อมูลเบื้องต้น e หมยถึง ข้อมูลประมณกร ที่ม : กรมกรท่องเที่ยว<br />
<strong>รายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยว</strong> 63
NOTE
กลุมสารสนเทศเศรษฐกิจการทองเที่ยวและกีฬา<br />
กองเศรษฐกิจการทองเที่ยวและกีฬา<br />
กระทรวงการทองเที่ยวและกีฬา<br />
เลขที่ 4 ถนนราชดำเนินนอก แขวงวัดโสมนัส เขตปอมปราบศัตรูพาย กรุงเทพมหานคร 10100<br />
โทรศัพท : 0-2283-1500 โทรสาร : 0-2356-0746<br />
ภายใตโครงการจัดทำรายงานภาวะเศรษฐกิจการทองเที่ยวรายไตรมาส<br />
บรษัท เอ็กเซลเลนท บิสเนส แมเนจเมนท จำกัด