GEN C Magazine : LIVE WITH PASSION

PASSION
“ในฐานะที่เราเป็นนักออกแบบ
เจ้าของแบรนด์ และเป็นส่วนหนึ่ง
ของกลไกธุรกิจที่ต้องผลิตสินค้า
สู่ตลาด เราต้องมีส่วนรับผิดชอบ
ต่อสิ่งแวดล้อมด้วย”
M a d m at t e r
Pa s s i o n f o r E n v i r o n m e n t & E c o
PHOTOGRAPHER:
BINN BUEMUANCHOL
WRITER:
M. RUJIRA
illustration :
Narongchai Chuyod
“แต่ละปีมีเสื้อผ้าเก่าถูกทิ้งเป็นขยะฝังกลบถึงประมาณ 20 ล้านตัน ซึ่งต้องใช้เวลาเป็นร้อยๆ ปี กว่าจะย่อย
สลายหมด” ธนิสรา โพธิ์นทีไท และปธานิน งามกิจเจริญลาภ บอกเล่าถึงความจริงของเสื้อผ้าตัวโปรดที่
เคยแขวนในตู้เสื้อผ้าว่า สุดท้ายกลายเป็นขยะที่สร้างมลพิษให้กับโลก ทำาให้เกิดไอเดียสร้างวัฏจักรใหม่ให้
เสื้อผ้ามือสอง เปลี่ยนเป็นหมวกใบใหม่ดีไซน์เท่ภายใต้แบรนด์ "Madmatter”
ความหลงใหลในเสื้อผ้ามือสองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว บางชิ้นมีลวดลายและ
เท็กซ์เจอร์ที่หาไม่ได้จากเสื้อผ้ามือหนึ่ง ทำให้ทั้งคู่ออกเสาะแสวงหาเสื้อผ้ามือสองจาก
ตลาดมือสอง จนรู้ว่าประเทศไทยมีตลาดเสื้อผ้ามือสองเยอะมาก และเกิดเป็นความ
สงสัยว่าเสื้อผ้าพวกนี้มาจากไหน?
“เราหาข้อมูลจนพบข้อเท็จจริงว่า ประเทศแถบอเมริกา ยุโรป เกาหลี และญี่ปุ่น
เป็นประเทศเมืองหนาวที่มี 4 ฤดู ทำให้เขาต้องคอยผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าทุกปี วัฒนธรรม
ประเทศเขาคือ เมื่อเสื้อผ้าออกไปจากตู้หนึ่งตัว มักหาซื้อเสื้อผ้าใหม่เพิ่มเข้ามาอีกตัว
แล้วนำตัวเก่าไปบริจาค เสื้อผ้าที่ไม่ใช้แล้วเหล่านั้นจะถูกส่งมายังประเทศกำลังพัฒนา
อย่างบ้านเรา เมื่อปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ จึงกลายเป็นธุรกิจเสื้อผ้ามือสอง”
ถ้าทั้งโลกมีเสื้อผ้าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ขนาดนี้ แล้วท้ายสุดเสื้อผ้ามันหายไปไหน?
เป็นสิ่งที่พวกเขาตั้งคำถามจนนำไปสู่การค้นคว้าเพิ่มเติมจนได้รู้ว่าวัฏจักรสุดท้ายของ
มัน คือเป็นขยะถูกฝังกลบในกองขยะ ที่ต้องใช้เวลาเป็นร้อยๆ ปีจึงย่อยสลายได้หมด
อุตสาหกรรมแฟชั่น นอกจากเป็นอุตสากรรมที่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติมหาศาลแล้ว ยัง
สร้างมลพิษให้กับโลกด้วย “เรามองว่า ตัวเราน่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดขยะตรง
นี้ได้ เสื้อผ้ามือสองจากต่างประเทศส่วนใหญ่ก็ยังอยู่ในสภาพดี ไม่ขาด ไม่เปื่อย ทำให้
เกิดไอเดียนำวัสดุที่ยังมีคุณค่าในตัวเหล่านั้น กลับมาสร้างประโยชน์ใหม่ กลายเป็นจุด
เริ่มต้นของแบรนด์ Madmatter นั่นเอง”
เสื้อผ้ามือสองถูกคัดสรรแต่ละชิ้นอย่างพิถีพิถัน คัดเลือกสีสัน ลวดลาย และคุณภาพ
ที่ต่อยอดใช้งานได้จริง จากนั้นนำมาเข้ากระบวนการฆ่าเชื้อในโรงงาน ก่อนสร้างสรรค์
เป็นหมวกที่มีเอกลักษณ์ไม่ซํ้าใคร “โดยเฉลี่ยแล้วเสื้อหนึ่งตัวสามารถทำหมวกได้ 2 - 4 ใบ
แต่บางแพทเทิร์นที่ต้องใช้ผ้าต่อกันหลายชิ้น เสื้อหนึ่งตัวสามารถทำหมวกได้ถึง 10 ใบ
แต่ถึงจะใช้ผ้าจากเสื้อตัวเดียวกัน หมวกแต่ละใบของ Madmatter ก็ไม่เหมือนกัน เรียกได้
ว่าเป็นหมวกใบเดียวในโลกก็ได้”
ปัจจุบันแบรนด์ Madmatter จำหน่ายทั้งช่องทางออนไลน์ และวางจำหน่ายในห้าง
สรรพสินค้าและช็อปชั้นนำหลายแห่ง อาทิ สยามดิสคัฟเวอรี่ พารากอน เซ็นทรัล
ลาดพร้าว ช็อป Greyhound และ Red Dot Design Museum ประเทศสิงคโปร์ เป็นต้น
และในอนาคตยังเตรียมต่อยอดพัฒนาเป็นกระเป๋า และรองเท้าด้วย “ถือเป็นจังหวะดี
สำหรับเราด้วย ที่องค์กรและแบรนด์ใหญ่ต่างๆ ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
มากขึ้น ทำให้เกิดการส่งเสริมสนับสนุนสินค้า Eco มากขึ้น”
“คนมักมองว่าเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องไกลตัว ทำไมต้องผลิตสินค้า Eco เป็นมิตร
กับสิ่งแวดล้อมด้วย ทั้งที่ต้นทุนสูงกว่า ราคาสินค้าแพงกว่า หน้าตาก็ไม่ค่อยดึงดูด
ลูกค้าสักเท่าไหร่ แต่สำหรับแบรนด์ของเรา เราทำการบ้านว่าโจทย์ของเราคืออะไร
และสามารถนำเสนอคุณค่าอะไรให้กับผู้บริโภคได้บ้าง สำหรับเรา ​Madmatter ชูเรื่อง
สิ่งแวดล้อมควบคู่กับดีไซน์ด้วย”
“แม้คนที่ไม่รู้เรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมก่อน แต่สนใจผลิตภัณฑ์ Madmatter ในเรื่อง
ดีไซน์ ก็สามารถได้รับความรู้เพิ่มเติมว่าผลิตภัณฑ์ของเราดีและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
อย่างไร ในที่สุดลูกค้าอาจไม่ได้ตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าแค่เรื่องความสวยงามอย่างเดียว
แต่เพราะสิ่งแวดล้อมด้วย”
www.madmatterstore.com
GEN C MAGAZINE
026
027
GEN C MAGAZINE