HARMAN/KARDON - Piyanas
HARMAN/KARDON - Piyanas
HARMAN/KARDON - Piyanas
You also want an ePaper? Increase the reach of your titles
YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.
TEST REPORT <<br />
TEXT มนตรี คงมหาพฤกษ์ PHOTO ฐานทอง กาญจน์ภูดิส<br />
G M 2 0 0 0 SEPTEMBER 2012<br />
056<br />
<strong>HARMAN</strong>/<strong>KARDON</strong><br />
HK990<br />
INTEGRATED AMPLIFIER<br />
ผมไม่แน่ใจว่านานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้พบเจอเครื่องเสียงในกลุ่มไฮไฟสเตอริโอของฮาร์แมนการ์ดอน แต่น่า<br />
จะนานพอจนทำให้ผมเกือบลืมไปแล้วว่าเครื่องเสียงแบรนด์เนมจากอเมริการายนี้ไม่ได้เก่งแค่ทำ<br />
เอวีรีซีฟเวอร์สำหรับตลาดโฮมเธียเตอร์เท่านั้น การได้ลองเล่นอินทิเกรตแอมป์ HK990 ซึ่ง ‘จัดเต็ม’ มา<br />
แทบจะทุก specification และ feature จึงทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับถูกท้าทายให้พิสูจน์ว่าชื่อของ<br />
ฮาร์แมนการ์ดอนยังสามารถสถิตอยู่ ณ แถวหน้าของทำเนียบแบรนด์เนมเครื่องเสียงไฮไฟสเตอริโอ<br />
เหมือนเช่นในอดีตได้อยู่หรือไม่<br />
Harman/Kardon’s Signature<br />
เป็นอะไรที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า HK990 นั้นมีรูปร่างหน้าตา<br />
ที่ถอดแบบมาจากเอวีรีซีฟเวอร์ของ HK เองแทบจะทุก<br />
กระเบียดนิ้ว การออกแบบเช่นนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีก็<br />
คือมองแค่หางตาก็รู้ว่าว่าเป็นยี่ห้ออะไร แต่ข้อเสียก็คืออิมเมจ<br />
หรือภาพลักษณ์ที่แยกกันไม่เด็ดขาดส ำหรับแอมป์ฟังเพลง<br />
และแอมป์ดูหนัง ซึ่งถ้าไม่พูดแบบเอาใจช่วยก็ต้องยอมรับ<br />
กันว่าแอมป์สำหรับฟังเพลงโดยเฉพาะมักจะมีภาพลักษณ์ที่<br />
วางตัวอยู่เหนือกว่าเสมอ แต่เอาเป็นว่าถ้าคุณไม่มีปัญหากับ<br />
หน้าตาของ HK990 แล้ว ส่วนที่เหลือของอินทิเกรตแอมป์<br />
ตัวนี้ล้วนแล้วแต่น่าสนใจทั้งสิ้น<br />
HK990 เป็นอินทิเกรตแอมป์ที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่<br />
และหนัก (19.6 กิโลกรัม) มาพร้อมกับก ำลังขับที่พูดได้เต็ม<br />
ปากว่า ‘บึกบึน’ สมตัวที่ระดับ 150 วัตต์ต่อข้างในระบบ<br />
เสียงสเตอริโอ เป็นการบอกพิกัดกำลังขับกันแบบจริงใจ<br />
เพราะกำกับมาด้วยว่า วัดเป็นกำลังขับต่อเนื่องโดยเฉลี่ย<br />
ตามมาตรฐาน FTC และวัดพร้อมกัน 2 แชนเนลที่โหลด 8<br />
โอห์ม ตั้งแต่ความถี่ 20Hz-20kHz ที่ระดับความเพี้ยนต่ ำ<br />
กว่า 0.07% THD อีกทั้งวงจรขยายเสียงใน HK990 ยังเป็น<br />
แบบ High Instantaneous Current Capability (HCC)<br />
จ่ายกระแสฉับพลันได้สูงสุดถึง +/-200 แอมป์ และเป็นแบบ<br />
ultrawide-bandwidth (10Hz – 100kHz)<br />
ข้อมูลทางเทคนิคพื้นฐานของ HK990 ระบุเอาไว้ค่อน<br />
ข้างน่าสนใจไม่ว่าจะเป็นตัวเลขก ำลังขับข้างละ 150 วัตต์ ที่<br />
โหลด 8 โอห์ม (
SEPTEMBER 2012<br />
058<br />
G M 2 0 0 0<br />
เลือกเชื่อมต่อสัญญาณเสียงทางอินพุตอะนาล็อก Balanced เพิ่มมาได้ด้วย<br />
แต่ละอินพุตของ HK990 สามารถเลือกปรับตั้งค่าเกนขยายแยกกันได้อิสระ<br />
ตั้งแต่ -6dB จนถึง +6dB ส ำหรับอินพุต Processor มีช่วงการปรับตั้งกว้างกว่า<br />
นั้นคือตั้งแต่ -24dB จนถึง +6dB แต่ละอินพุตยังสามารถตั้งค่า Audio mode<br />
เพื่อเลือกใช้หรือไม่ใช้งานวงจร DSP, Bass Management หรือ Tone Control<br />
สำหรับในโหมดอินพุตสัญญาณอะนาล็อกสามารถเลือกให้ทางเดินของสัญญาณ<br />
ทั้งหมดเป็นแบบ Direct Path คือไม่ผ่านวงจรดิจิตอลโปรเซสซิ่งใดๆ (ในการ<br />
ทดสอบคราวนี้ ผมเลือกใช้งานโหมดนี้เสียเป็นส่วนใหญ่ครับ)<br />
ลองใช้ลองฟังให้หายคาใจ<br />
ในการใช้งาน HK990 ถ้าคุณใช้งานมันเสมือนเป็นแอมป์สเตอริโอตัวหนึ่ง ไม่ได้<br />
ไปยุ่งเกี่ยวกับระบบเบสเมนเนจเมนต์ (Analog Input, Direct Path) ผมว่ามัน<br />
ก็รู้สึกเหมือนกำลังใช้งานอินทิเกรตแอมป์สเตอริโอทั่วไปเลยล่ะครับ หรืออาจ<br />
จะต้องบอกว่าเหมือนแอมป์สเตอริโอระดับมิดเอนด์แก่ๆ เลยก็ยังได้ ยิ่งถ้าพูดถึง<br />
เรื่องเสียงบอกได้เลยว่าให้ลืมเสียงหลอนๆ ที่คุณอาจจะเคยพบเจอในเอวีรีซีฟ<br />
เวอร์บางตัวไปได้เลย<br />
ภาคขยายเสียงใน HK990 ทำหน้าที่ของมันได้ค่อนข้างเหนือไปกว่าความ<br />
คาดหมายของผมเลยทีเดียว ถ้ามีใครสักคนถามว่า “มันเสียงดีมั้ย?” อย่างน้อย<br />
ผมก็มั่นใจที่จะตอบกลับไปทันทีว่า “เสียงดีครับ” หลังจากนั้นก็ค่อยว่ากันในราย<br />
ละเอียดต่อไป<br />
ในระหว่างการใช้งานตัวถังของ HK990 จะค่อนข้างร้อน โดยเฉพาะ<br />
บริเวณฮีทซิงค์ 2 แผงใหญ่ๆ นั่นถ้าเปิดใช้งานไปสักพักแนะน ำเลยว่าไม่ควรไป<br />
สัมผัสโดยไม่จำเป็นแม้ว่าจะเปิดใช้งานในห้องแอร์ก็ตาม มันทำให้ผมเข้าใจได้<br />
ทันทีเลยว่าทำไมถึงต้องออกแบบให้ฮีทซิงค์ทั้ง 2 แผงวางโปร่งโล่งแบบไม่มีฝา<br />
ปิดทั้งด้านบนและด้านล่างอย่างนั้น แถมยังมีพัดลมระบายความร้อนฝังเอา<br />
ไว้ในตัวด้วยต่างหาก (มาทราบทีหลังเพราะพัดลมทำงานเงียบมาก) ถ้าภาค<br />
ขยายเสียงภายใน HK990 เป็นวงจรคลาสเอบีก็น่าจะเป็นคลาสเอบีที่ตั้งกระแส<br />
ไบอัสมาทางคลาสเอครอบคลุมกำลังขับมาค่อนข้างสูง อาจจะในระดับ 10-15<br />
วัตต์โดยประมาณเลยก็เป็นได้ ผมเลยไม่แปลกใจสักนิดที่ HK990 จะเป็นแอมป์<br />
กำลังขับค่อนข้างมากตัวหนึ่งที่ให้รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ออกมาได้ดีและน่าฟัง<br />
แตกต่างจากแอมป์ที่เน้นแต่พละก ำลังให้เปิดดังตูมตามเพียงอย่างเดียว<br />
HK990 สามารถขับลำโพงเล็กๆ 2-3 ทางทั่วไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ<br />
มันมีความสามารถในการขับและมีน้ำเสียงที่เข้ากับลำโพงอย่าง B&W : 685<br />
Limited หรือแม้แต่ลำโพงเล็กเสียงดีมากอย่าง Devore Fidelity : Gibbon<br />
3XL ได้อย่างเป็นปี่เป็นขลุ่ย ใช้ฟังเพลงร้อง แจ๊ส ป๊อป ทั่วไปให้คุณภาพได้แบบ<br />
เหลือๆ สามารถถ่ายทอดอารมณ์ดนตรีจากไฟล์ดิจิตอล hi-res อย่างอัลบั้ม Tea<br />
for the Tillerman [A&M, 24/192] ของ Cat Stevens ด้วยความที่เป็นเพลง<br />
คอมเมอร์เชี่ยล การบันทึกเสียงจึงท ำได้ดีแค่ประมาณหนึ่ง ถ้าหากชุดเครื่องเสียง<br />
ไม่สามารถถ่ายทอดความเป็นดนตรีได้แล้ว อารมณ์ของเพลงจะขาดความอิ่มเอมละเมียดละไม ซึ่ง<br />
HK990 ในโหมดต่อใช้งานช่องอินพุตบาลานซ์สามารถให้อารมณ์และรายละเอียดจากอัลบั้มนี้ได้ดี<br />
มาก โดยเฉพาะเสียงกีตาร์ที่สดใสเป็นประกาย มีรายละเอียดและความพลิ้วหวาน<br />
และเมื่อผมขยับไปฟังเพลงที่มีสเกลใหญ่ขึ้นอีกนิดทั้งในแง่ของรายละเอียดและเนื้อหาอย่าง<br />
ไฟล์ hi-res ชุด CSN 2012 [CSN Records, 24/48] ของ Crosby, Stills & Nash พลังของดนตรีที่<br />
ถ่ายทอดจาก HK990 ก็มีออกมาให้สัมผัสได้โดยตลอด ท ำให้ดนตรีมีชีวิตชีวา มีความสด ให้สุ้มเสียง<br />
ที่ออกมาในแนวทางกระจ่างชัด คมเข้มและไม่มีสากเสี้ยนหรือความหยาบกร้านที่สะดุดหูปะปนออก<br />
มาด้วย สรุปได้ชัดเจนว่าเป็นแอมป์ที่มีน้ ำเสียงน่าฟังมากตัวหนึ่ง แม้จะมีลักษณะจริงจังไม่ฉ่ ำหวาน<br />
เอาใจหูอย่างแอมป์หลอดบางตัวก็ตาม<br />
ช่วงหนึ่งของการลองใช้งานผมใช้ HK990 เป็นแค่ปรีแอมป์โดยต่อสัญญาณปรีเอาต์ออกไปเข้า<br />
อินพุตของเพาเวอร์แอมป์ Symphonic Line : RG7 Mk4 ผมไม่แปลกใจที่ได้ยินเสียงดีขึ้นชัดเจน<br />
โดยเฉพาะเมื่อฟังผ่านล ำโพงที่ให้เสียงเที่ยงตรงเป็นธรรมชาติอย่าง KEF : Reference Model 201/2<br />
แต่ที่น่าสนใจคือราคาที่แตกต่างกันมากพอสมควรของปรีแอมป์และเพาเวอร์แอมป์ชุดนี้ ทว่าเสียงที่<br />
ได้แทบไม่รู้สึกเลยว่ามันอยู่คนละคลาสกันและมีค่าตัวต่างกันเป็นแสนบาท ยิ่งผนวกกับการที่อินพุต<br />
ของ HK990 สามารถปรับเกนขยายได้ด้วยแล้ว ในอนาคตถ้าคุณจ ำเป็นต้องใช้งานภาคขยายเสียงที่<br />
ดีกว่าในตัว HK990 โอกาสในการแมตช์ปรีแอมป์ในตัวมันกับเพาเวอร์แอมป์อื่นๆ จึงน่าจะเป็นโจทย์<br />
ที่ไม่เหลือบ่ากว่าแรง<br />
ช่วงหนึ่งผมลองใช้ HK990 ขับล ำโพงเล็กระดับ Stereophile Class A อย่างเดวอร์ ฟิเดลิตี้<br />
(Devore Fidelity) รุ่น 3XL น้ำเสียงของชุดนี้ไม่มีอะไรให้ต้องสงสัย ผมใช้ชุดนี้เปิดฟังเพลงอยู่พัก<br />
ไมโครโฟนสำหรับ EzSet/EQ<br />
ใหญ่และพบว่ามันให้ความเป็นดนตรีออกมาดีมากๆ คือมีความละเมียดละไม มี<br />
ความใสกระจ่างของตัวโน้ต แถมยังถ่ายทอดออกมาในลีลา easy music ที่ฟัง<br />
สบายหูเอามากๆ ผมเปิดฟังอัลบั้ม Together Again ของ Benny Goodman<br />
Quartet ซึ่งหยิบจากกล่องซีดีบ็อกซ์เซ็ตชุด The Perfect Jazz Collection<br />
[Sony Music Classical] เพลงชุดนี้บันทึกเสียงมาได้อารมณ์แบบฟังสดๆ ใน<br />
ห้องอัด ดุลเสียงโดยรวมเปิดเผย สว่างและ live มาก ฟังกับเครื่องเสียงบางชุด<br />
ผมรู้สึกว่ามันมีลักษณะเสียงที่คมชัดและติดกระด้างเกินจริงไปสักหน่อย แต่กับ<br />
HK990 + 3XL คู่นี้กลับฟังว่าเป็นอะไรที่ลงตัวและฟังได้เพลินมาก ฮาร์มอนิก<br />
เสียงที่เป็นความกังวานของไวบราโฟนได้ยินว่ามันมีหัวเสียงที่ชัดเจนแล้วค่อยๆ<br />
แผ่ตัวออกเป็นความกังวานจริงๆ ไม่ใช่เสียงที่ลอยฟุ้งสะเปะสะปะ เป็นอีกช่วง<br />
หนึ่งของการลองใช้งานที่ท ำให้ผมคิดว่าอินทิเกรตแอมป์ตัวนี้มีอะไรน่าสนใจกว่า<br />
ที่ผมคิดไว้แต่แรกเยอะเหมือนกันแฮะ<br />
ดิจิตอลอินพุต<br />
โดยคุณสมบัติแล้วการที่ HK990 เป็นอินทิเกรตแอมป์ที่สามารถรับสัญญาณอินพุตที่เป็น<br />
ดิจิตอลได้ด้วยเท่ากับว่ามันมี DAC ในตัว แต่ที่น่าสนใจกว่านั้นคือออพชั่นนี้ดูเหมือนตั้งใจ<br />
ให้มาใช้งาน ไม่ใช่เป็นแค่ ‘ของแถม’ จากข้อมูลที่ทราบมาภาค DAC ใน HK990 เป็นชิพ<br />
เบอร์ AD1955 จาก Analog Devices ชิพตัวนี้เป็น Stereo DAC ที่รองรับสัญญาณ<br />
ดิจิตอลไฮเรสฯ ได้ถึงระดับ 24bit/192kHz ซึ่งการที่วิศวกรของฮาร์แมนฯ เลือกใช้<br />
ชิพตัวนี้มาออกแบบเป็นการแสดงชัดแล้วว่าพวกเขาต้องการคุณภาพมากกว่าฟังก์ชั่น<br />
อินพุตดิจิตอลของ HK990 ตามสเปคแล้วทราบว่าสามารถรับสัญญาณดิจิตอลได้<br />
ถึง resolution ระดับ 24/192 นั่นหมายความว่าคุณสามารถเล่นไฟล์จากแผ่น DVD-<br />
Audio หรือจากไฟล์ไฮเรสฯ ในคอมพิวเตอร์ผ่านการเชื่อมต่อแบบ Coaxial Digital มา<br />
ถอดรหัสและแปลงสัญญาณเป็นอะนาล็อกในตัว HK990 ได้เลย<br />
เท่าที่ผมมีโอกาสได้ลองเล่นโดยต่อกับดิจิตอลเอาต์พุตจากเครื่องเล่นบลูเรย์<br />
Pioneer : BDP-LX70A และเล่นจากคอมพิวเตอร์ผ่านอุปกรณ์แปลง USB-SPDIF รุ่น<br />
Red Key ของ Firestone Audio พบว่า DAC ในตัว HK990 นั้นให้คุณภาพเสียงน่า<br />
สนใจเลยทีเดียว อย่างเช่นผมเทียบเสียงที่ได้จาก DAC ในตัวเครื่องเล่นบลูเรย์ (ต่อ 2<br />
Ch. Audio Out ออกจากเครื่องเล่นบลูเรย์เข้าอินพุตอะนาล็อกของ HK990) กับเสียง<br />
ที่ได้จาก DAC ในตัว HK990 (ต่อดิจิตอล Coaxial Out จากเครื่องเล่นบลูเรย์เข้าอินพุต<br />
Coaxial ของ HK990) อย่างหลังได้เสียงดีกว่าอย่างชัดเจน เนื้อเสียงเข้มและขึ้นรูปเป็น<br />
ตัว มีโฟกัสคมชัดกว่า เป็นช่องทางการต่อเล่นที่น่าสนใจมากโดยเฉพาะคนที่ใช้เครื่องเล่น<br />
ที่ไม่เน้นคุณภาพของภาค DAC ในตัวภาค DAC ของ HK990 จะช่วยยกระดับคุณภาพ<br />
เสียงขึ้นมากมายอย่างกับฟังจากเครื่องเล่นดิจิตอลระดับมิดเอนด์เลยทีเดียว<br />
นอกจากอินพุตดิจิตอล Coaxial แล้ว อันที่จริงอินพุต HRS-Link น่าสนใจเพราะ<br />
เป็นการเชื่อมต่อทั้งข้อมูลและสัญญาณ clock ำให้ระบบมี ท jitter ต่ ำมาก แต่น่าเสียดาย<br />
ที่มันไม่ใช่ standard ที่มีใช้ทั่วไป และตามความเห็นของผม ฮาร์แมนฯ ควรจะให้อินพุต<br />
Hi-Res Digital อื่นมามากกว่า ไม่ว่าจะเป็นอินพุต USB หรือ Ethernet ที่ก ำลังเป็นที่<br />
นิยมมีใช้แพร่หลายอยู่ในขณะนี้<br />
EzSet/EQ บางทีก็ได้มากกว่าเสีย<br />
ผมยอมรับว่าทีแรกตั้งใจว่าจะไม่พูดถึงในส่วนนี้เลยเพราะคุ้นเคยกับการใช้งานเครื่อง<br />
เสียงแบบไม่ปรับแต่งเสียงเลย (Flat) แล้วไปสนใจที่สภาพอะคูสติกของห้องหรือการเซ็ต<br />
ตำแหน่งลำโพงมากกว่า แต่หลังจากได้รับทราบข้อมูลในรายละเอียดแล้ว ผมคิดว่าทาง<br />
ฮาร์แมนฯ ค่อนข้างให้ความส ำคัญกับระบบ EzSet/EQ ใน HK990 ไม่น้อยเลยนะครับ<br />
EzSet/EQ ใน HK990 จะเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างไมโครโฟนที่ให้มาเพื่อ<br />
วัดค่าการตอบสนองของลำโพงกับสภาพแวดล้อมในห้องของเรา จากนั้นจะเป็นหน้าที่<br />
ของวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่จะประมวลผลและปรับแก้ให้ได้ผลลัพธ์เป็นเสียงที่ได้รับผล<br />
กระทบจากสภาพแวดล้อมของห้องลดลงหรือน้อยที่สุด ระบบนี้จึงเป็นมากกว่า EQ หรือ<br />
อีควอไลเซอร์ที่คนเล่นเครื่องเสียงจริงจังไม่นิยมใช้กัน เพราะมันมีระบบ room acoustic<br />
correction ผนวกเข้ามาด้วย<br />
ช่วงหนึ่งของการทดสอบผมใช้งาน HK990 ในห้องทำงานแบบง่ายๆ เหมือนที่<br />
หลายคนใช้ในห้องรับแขก ห้องนอน หรือแม้แต่ในครัว ผมเลยคิดว่าน่าจะลองระบบนี้<br />
สักหน่อยว่าจะทำหน้าที่ได้ดีสักแค่ไหน การวัดค่าด้วยไมโครโฟนนั้นไม่มีอะไรยุ่งยากไป<br />
กว่าการเลือกเมนู Speaker Setup แล้วเลือกโหมด EzSet/EQ แล้วท ำตามคำสั่งบน<br />
หน้าจอแสดงผลของเครื่อง<br />
โดยลำดับการทำงานจะเริ่มการให้เลือกใช้งานซับวูฟเฟอร์ (SUB1/2 ON/OFF)<br />
หลังจากนั้นระบบจะให้วางไมโครโฟนไว้ที่ตำแหน่งนั่งฟัง (ระดับหู) เครื่องจะปล่อย<br />
สัญญาณ sweep สั้นๆ เป็นช่วงความถี่กว้างๆ ย่านหนึ่ง จากนั้นจะให้เลื่อนไมโครโฟน<br />
ไปวางไว้หน้าลำโพงข้างซ้ายและขวาอย่างละครั้ง ห่างออกจากหน้าล ำโพงประมาณ 60<br />
เซนติเมตรเพื่อวัดสัญญาณ sweep สั้นๆ อีกอย่างละครั้ง เมื่อระบบประมวลเสร็จแล้ว<br />
จะบันทึกค่าการปรับแก้เอาไว้ในเครื่อง เวลาจะเรียกใช้งานก็เพียงแค่กดปุ่ม EQ Preset<br />
ที่รีโมตคอนโทรล โดย EQ Preset ของ HK990 นั้นแบ่งย่อยได้ 3 รูปแบบคือ EQ1,<br />
EQ2 และ EQ3<br />
- EQ1 (LF) ระบบจะช่วยปรับแก้ให้เฉพาะความถี่ต่ ำ (LF) ที่ส่งออกไปทางเอาต์พุต<br />
ซับวูฟเฟอร์ ส่วนย่านความถี่อื่นๆ นั้นมีการตอบสนองที่ราบเรียบตามปกติ (Flat)<br />
- EQ2 (LF+MF) ระบบจะช่วยปรับแก้ให้ทั้งความถี่ต่ ำ (LF) และความถี่เสียงกลาง<br />
(MF) และความถี่ตั้งแต่ 1kHz ขึ้นไปจะมีการตอบสนองที่ราบเรียบตามปกติ<br />
SEPTEMBER 2012<br />
059<br />
G M 2 0 0 0
G M 2 0 0 0 060 SEPTEMBER 2012<br />
- EQ3 (LF+MF+HF) โหมดนี้จะช่วยปรับแก้ทั้งความถี่ต่ ำ กลางและสูง (LF+MF+HF)<br />
ในการลองใช้งานครั้งนี้ผมต่อล ำโพงซ้ายและขวาเหมือนฟังระบบสเตอริโอ 2.0 Ch ตามปกติและ<br />
ไม่ได้ต่อลำโพงซับวูฟเฟอร์เพิ่มเลย ผมว่าโหมด EQ3 ให้ระบบ EQ ปรับแก้ทุกย่านความถี่ให้ผลลัพธ์น่า<br />
สนใจนะครับ แม้ว่าเสียงโดยรวมจะหุบลงเล็กน้อยแต่ผมได้ยินรายละเอียดเสียงชัดขึ้น เสียงถูกเน้นให้<br />
ลอยออกมามากขึ้นไม่จมหายไปกับอะคูสติกห้องท ำงานธรรมดาทั่วไปที่ไม่ได้ปรับแต่งอะไรเลย<br />
การฟังเพลงในขณะนั่งทำงานและไม่ได้นั่งตรงกลางได้สมมาตรกับล ำโพงซ้าย/ขวา ผมได้ยินราย<br />
ละเอียดของเสียงดนตรีและเสียงร้องที่ชัดถ้อยชัดค ำมากขึ้นแม้ว่าบางครั้งจะมีลักษณะตั้งใจเน้นให้ชัด<br />
ขึ้นมาบ้างแต่เมื่อหักลบกลบหนี้กับข้อดีที่ได้มาแล้ว ผมว่าในลักษณะการใช้งานอย่างนี้ EzSet/EQ ของ<br />
ฮาร์แมนฯ น่าสนใจ ให้ผลลัพธ์ในลักษณะเดียวกับระบบ room correction ชั้นดีหลายตัวที่ผมเคยลอง<br />
มา ที่สำคัญมันเหนือชั้นกว่าและง่ายกว่าการปรับแต่งด้วยอีควอไลเซอร์ธรรมดาทั่วไปแบบคนละเรื่องเลย<br />
ใครที่ใช้งานอินทิเกรตแอมป์ตัวนี้ในลักษณะที่เข้าข่ายต้องใช้งาน EQ อย่าได้มองข้ามระบบ EzSet/EQ ใน<br />
ตัวมันไปเชียวล่ะครับ เดี๋ยวจะหาว่าไม่บอกกัน<br />
ช่วงท้ายของการลองฟังแบบผ่าน EzSet/EQ ผมรู้สึกว่าในบางกรณีที่รู้สึกว่าเสียงที่ผ่านการปรับ<br />
EQ3 นั้นฟังไม่สบายหูนัก การลองปรับเป็น EQ2 (LF+MF) คือให้ระบบแก้ไขเฉพาะทุ้มกับกลางก็ให้<br />
เสียงน่าฟังและซอฟต์ลงมาได้ปริมาณหนึ่ง เป็นอีกโหมดหนึ่งที่แนะน ำให้คุณลองใช้ดูได้<br />
เครื่องเสียงร่วมการทดสอบ<br />
ดิจิตอลทรานสปอร์ต - Apple Mac mini (RAM 8GB), Buffalo<br />
2TB Ext.HDD (Firewire800)<br />
USB DAC – Ayre : QB9, Audioquest : DragonFly<br />
USB to SPDIF – Firestone : Red Key<br />
เครื่องเล่นบลูเรย์ – Pioneer : BDP-LX70A<br />
เพาเวอร์แอมป์ – Symphonic Line : RG7 Mk4<br />
ลำโพง - Paradigm : Monitor 7 S.7, B&W : 685 Limited,<br />
Devore Fidelity : Gibbon 3XL, KEF : Reference Model 201/2<br />
สาย USB/สายสัญญาณ - Nordost : Blue Heaven Leif Series<br />
สาย Digital Coaxial – Illumintions : DV-75<br />
สาย Mini to RCA - Audioquest : Big Sur<br />
สายลำโพง Nordost : Blue Heaven Leif Series, Heimdall<br />
(bi-wire), Nordost : Jumper<br />
ปลั๊กพ่วง Clef Audio : PowerBridge 8<br />
สายไฟเอซี WyreWizard : Magus, Kimber Kable : PK10<br />
นำเข้าและจัดจำหน่ายโดย :<br />
บริษัท เอ็ม.ไอ.เอ็นจิเนียริ่ง จ ำกัด<br />
เบอร์โทรศัพท์ 0-2254-3316-9<br />
WEBSITE :<br />
www.harmankardon.com<br />
ราคา : 49,000 บาท<br />
อัลบั้มที่ใช้ในการทดสอบ<br />
REFERENCED PLAYLIST<br />
- Top 12 in Gold Plus [FIM, CD rip]<br />
- Benny Goodman Quartet : Together Again [Sony<br />
Music Classical, CD rip]<br />
- Cat Stevens : Tea for the Tillerman [A&M, HDTracks<br />
24/192]<br />
- Crosby, Stills & Nash : CSN 2012 [CSN Records,<br />
HDTracks 24/48]<br />
- Barb Jungr : Love Me Tender [Linn Records, 24/96]<br />
- Norah Jones : Not Too Late [Blue Note, HDTracks<br />
24/192<br />
อีกหนึ่งของดีจากฮาร์แมนการ์ดอน<br />
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาชื่อฮาร์แมนการ์ดอนนั้นดูเหมือนจะผูกขาดไปแล้ว<br />
กับสินค้าในกลุ่มเอวีรีซีฟเวอร์ และถ้าไม่ได้ลองเล่นอินทิเกรตแอมป์ตัวนี้ผม<br />
คิดไปเองแล้วด้วยซ้ำว่ายี่ห้อนี้เขาไม่เอาดีด้านสเตอริโอไฮไฟแล้ว ซึ่งถ้าเป็น<br />
เช่นนั้นจะน่าเสียดายมากเพราะจุดขายที่มีในสินค้ายี่ห้อนี้ตลอดมานั่นคือ<br />
เรื่อง ‘คุณภาพเสียง’ ลองถามคนที่เล่นเอวีรีซีฟเวอร์ฮาร์แมนการ์ดอนสิครับ<br />
ว่า ซื้อไปเล่นเพราะอะไร?<br />
โดยส่วนตัวผมเองนั้นเล่นอินทิเกรตแอมป์ผ่านมือมาก็จ ำนวนไม่น้อย<br />
แต่ต้องยอมรับว่า HK990 นั้นให้ประสบการณ์ใหม่หลายประการ อย่างแรก<br />
ก็คือมันเป็นแอมป์มีหัวนอนปลายเท้าที่มีก ำลังขับมากแถมยังเสียงดีด้วยแต่<br />
ราคาย่อมเยาอย่างไม่น่าเชื่อ ถ้าเป็นแอมป์โนเนมผมจะไม่แปลกใจเลย<br />
ประการต่อมาก็คือความหลากหลายของการเชื่อมต่อที่ต้องยอมรับ<br />
ว่าเขาตั้งใจเอาหมดเลยทั้งอะนาล็อกและดิจิตอล ไม่ทิ้งแม้แต่คนทั่ง LP แต่<br />
เสียดายนิดเดียวที่มันอาจจะถูกออกแบบมาก่อนยุคสมัยของ USB และ<br />
Ethernet จึงไม่มีขั้วต่อเหล่านี้ให้มาด้วย ส่วนขั้วต่อ HRS-Link ที่ทางเทคนิค<br />
น่าสนใจแต่ในการใช้งานจริงคนที่ไม่ได้ใช้เครื่องเล่นของฮาร์แมนฯ ก็คงไม่ได้<br />
ประโยชน์อะไร<br />
สุดท้ายคือการใส่ระบบ EzSet/EQ มาในอินทิเกรตแอมป์สเตอริโอ ผม<br />
ว่ามันเป็นอะไรที่กล้ามาก เพราะรู้ทั้งรู้อยู่ว่าคนเล่นเครื่องเสียงไฮไฟส่วนมาก<br />
เป็นพวกบริสุทธิ์นิยม การเอาระบบนี้เข้ามาอาจจะไม่ท ำให้คนกลุ่มนี้ตื่นเต้น<br />
มากนักหนำซ้ำยังอาจจะถูกแอนตี้เล็กๆ ด้วยซ้ ำ แต่วิศวกรของฮาร์แมนฯ ก็<br />
ยังใส่มา คงเพราะมั่นใจว่ามันมีคุณภาพดีพอและมีคนต้องการใช้งานอยู่ ซึ่ง<br />
จากการทดสอบผมว่าพวกเขาคิดถูกแล้ว และทั้งหมดนี้ท ำให้ HK990 เป็น<br />
อินทิเกรตแอมป์เสียงดีที่คู่แข่งไม่สามารถวางใจได้ หรือท ำให้คนที่กำลังเลือก<br />
แอมป์ระดับราคานี้ต้องล ำบากใจแน่นอน