Create successful ePaper yourself
Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
สถิติ<br />
ในปัจจุบันชีวิตคนเราต้องพบกับ ข้อมูล (Data) มากมาย หากเราต้องการน าข้อมูลเหล่านี้ไปใช้ให้เกิด<br />
ประโยชน์ในสาขาต่างๆ เช่น เศรษฐศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เป็นต้น เราจะต้องท าการวิเคราะห์ข้อมูลซึ่งเป็นที่มา<br />
ของวิชา สถิติศาสตร์ (Statistics) ซึ่งเราจะได้ศึกษากันในบทนี้<br />
จากสถิติแล้ว ข้อสอบ PAT1 มีการออกข้อสอบ<br />
ในบทนี้ทุกครั้งประมาณครั้งละ<br />
5-6 ข้อ ที่ส<br />
าคัญระดับความยากถือว่าไม่ยากมากน่าเก็บคะแนนเป็นอย่างยิ่ง<br />
ครับ<br />
สถิติ<br />
1. การน าเสนอข้อมูล<br />
2. ค่ากลางข้อมูล<br />
3. ต าแหน่งสัมพัทธ์ของข้อมูล<br />
4. ค่าการกระจายข้อมูล<br />
5. ค่ามาตรฐานและการแจกแจง<br />
แบบปกติ<br />
6. ความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชัน<br />
ระหว่างข้อมูล<br />
1
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
1. การน าเสนอข้อมูล<br />
ได้ 2 รูปแบบ<br />
การแจกแจงความถี่<br />
เป็นการจัดเรียงล าดับข้อมูลดิบที่เก็บรวบรวมมาได้<br />
โดยจัดให้เป็นหมวดหมู่<br />
ซึ่งท<br />
า<br />
1. การแจกแจงความถี่แบบตาราง<br />
1.1 ตารางแจกแจงความถี่<br />
1.2 ตารางแจกแจงความถี่สะสม<br />
1.3 ตารางแจกแจงความถี่สัมพัทธ์<br />
1.4 ตารางแจกแจงความถี่สะสมสัมพัทธ์<br />
2. การแจกแจงความถี่แบบใช้แผนภูมิหรือกราฟ<br />
2.1 ฮิสโทแกรม<br />
2.2 รูปหลายเหลี่ยมความถี่<br />
2.3 โค้งความถี่<br />
2.4 โค้งความถี่สะสม<br />
2.5 แผนภาพต้น-ใบ<br />
ตัวอย่างตารางและแผนภาพการแจกแจงความถี่แบบต่างๆ<br />
2
NOTE<br />
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
3
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
2. ค่ากลางข้อมูล<br />
ข้อควรรู้<br />
2.1 ค่าเฉลี่ยเลขคณิต<br />
(Arithmetic mean)<br />
ข้อมูล มีสูตรดังนี้<br />
ประชากร หมายถึง กลุ่มของสมาชิกทุกหน่วยที่เราต้องการศึกษาลักษณะ<br />
กลุ่มตัวอย่าง<br />
หมายถึง กลุ่มย่อยของสมาชิกในกลุ่มของประชากรที่สุ่มเลือกมาเพื่อศึกษา<br />
ค่าเฉลี่ยเลขคณิต<br />
เรียกสั้นๆว่าค่าเฉลี่ย<br />
คือค่าของผลรวมของข้อมูลทั้งหมดหารด้วยจ<br />
านวน<br />
เมื่อ<br />
Xi แทน ข้อมูลแต่ละตัว และ n แทน จ านวนข้อมูล<br />
นอกจากนี้ยังมีค่าเฉลี่ยเลขคณิตในแบบต่างๆ<br />
ได้แก่<br />
- ค่าเฉลี่ยเลขคณิตแบบถ่วงน้าหนัก<br />
เมื่อ<br />
wi คือ น้าหนักถ่วงของแต่ละข้อมูล<br />
4
NOTE<br />
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
- ค่าเฉลี่ยเลขคณิตรวม<br />
- ค่าเฉลี่ยเลขคณิตของข้อมูลที่แจกแจงความถี่แล้ว<br />
2.2 มัธยฐาน (Median)<br />
เมื่อ<br />
fi แทนความถี่ของแต่ละอันตรภาคชั้น<br />
และ xi แทน จุดกึ่งกลางของแต่ละอันตรภาคชั้น<br />
ค่าเฉลี่ยเลขคณิตแบบลดทอน<br />
มัธยฐาน คือค่าของข้อมูลที่อยู่ต<br />
าแหน่งกึ่งกลางของชุดข้อมูลเมื่อมีการจัดเรียงข้อมูลจากน้อย<br />
ไปมากหรือมากไปน้อย โดยแบ่งเป็น 2 กรณี<br />
- กรณีข้อมูลไม่มีการแจกแจงความถี่<br />
N 1<br />
มัธยฐาน คือ ค่าของข้อมูลต าแหน่งที่<br />
2<br />
***ข้อควรระวัง การหาค่ามัธยฐานข้อมูลต้องมีการเรียงล าดับจากน้อยไปมากแล้ว<br />
5
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
- กรณีข้อมูลมีการแจกแจงความถี่<br />
เมื่อ<br />
L แทนขอบล่างของชั้นที่มีมัธยฐานอยู่<br />
I แทนความกว้างของชั้นที่มีมัธยฐานอยู่<br />
L<br />
f แทนความถี่สะสมจนถึงขอบล่างของชั้นที่มีมัธยฐานอยู่<br />
f Med แทนความถี่ของชั้นที่มีมัธยฐานอยู่<br />
2.3 ฐานนิยม (Mode)<br />
ฐานนิยม คือข้อมูลที่มีความถี่สูงสุด<br />
แบ่งเป็น 2 กรณี<br />
- กรณีข้อมูลไม่มีการแจกแจงความถี่<br />
NOTE<br />
- กรณีข้อมูลมีการแจกแจงความถี่<br />
ฐานนิยม คือ ข้อมูลที่มีความถี่(จ<br />
านวน)สูงสด<br />
เมื่อ<br />
L แทนขอบล่างของชั้นที่มีฐานนิยมอยู่<br />
I แทนความกว้างของชั้นที่มีฐานนิยมอยู่<br />
d แทนผลต่างความถี่ของชั้นที่มีฐานนิยมอยู่กับชั้นที่อยู่ติดกันที่ต่ากว่า<br />
L<br />
d แทนผลต่างความถี่ของชั้นที่มีฐานนิยมอยู่กับชั้นที่อยู่ติดกันที่สูงกว่า<br />
U<br />
6
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
2.4 สมบัติของค่ากลางข้อมูล<br />
-<br />
n<br />
<br />
i1<br />
nX X<br />
n<br />
<br />
i1<br />
- X X <br />
n<br />
<br />
i<br />
i<br />
0<br />
- <br />
i1<br />
i<br />
2<br />
X k มีค่าน้อยที่สุด<br />
เมื่อ<br />
kX -<br />
n<br />
<br />
i1<br />
Xik มีค่าน้อยที่สุด<br />
เมื่อ<br />
k Med<br />
- ถ้าข้อมูลชุด Y ทุกๆตัวสัมพันธ์กับข้อมูลชุด X แต่ละตัว ตามสมการ i i <br />
ว่า Y mXCหรือ Y mXC หรือ Y mXC REVIEW<br />
Med Med<br />
7<br />
Mod Mod<br />
Y mX C จะได้<br />
ตัวอย่าง ข้อมูลน้าหนัก<br />
(ก.ก.) ของนักเรียน 9 คนเป็นดังนี้<br />
50 64 72 43 57 59 64 41 50<br />
จงหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต<br />
มัธยฐานและฐานนิยมของข้อมูลชุดนี้
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
ตัวอย่าง จงค านวณผลการเรียนเฉลี่ยของนักเรียนคนหนึ่งซึ่งมีผลการเรียนดังนี้<br />
รายวิชา คณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา ภาษาอังกฤษ<br />
หน่วยกิต 3 2 1.5 1.5 2<br />
เกรดที่ได้<br />
4 2.5 3 3.5 1.5<br />
ตัวอย่าง นักเรียนห้องหนึ่งมีนักเรียนทั้งหมด<br />
24 คน เป็นนักเรียนชาย 16 คน โดยส่วนสูงเฉลี่ยของ<br />
นักเรียนชายและหญิง คือ 172 และ 158 เซนติเมตร ตามล าดับ จงหาส่วนสูงเฉลี่ยของนักเรียนห้องนี้<br />
ตัวอย่าง ตารางแจกแจงความถี่สะสมของคะแนนสอบของนักเรียน<br />
100 คน เป็นดังนี้<br />
คะแนน จ านวนนักเรียนสะสม<br />
20-29 2<br />
30-39 11<br />
40-49 24<br />
50-59 44<br />
60-69 74<br />
70-79 89<br />
80-89 99<br />
90-99 100<br />
จงหาค่าเฉลี่ยเลขคณิต<br />
มัธยฐานและฐานนิยมของคะแนนสอบ<br />
8
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
ตัวอย่าง จงหาค่า a-b เมื่อ<br />
a คือค่าที<br />
12 20 และ b คือค่าที่ท<br />
าให้<br />
8<br />
bYiมีค่าน้อยที i1<br />
่ท าให้ aX <br />
9<br />
5<br />
<br />
i1<br />
i<br />
2<br />
มีค่าน้อยที่สุดส<br />
าหรับข้อมูล X : 2 3 6<br />
่สุดส าหรับข้อมูล Y : 16 15 10 8 7 6 5 3<br />
ENT ต.ค. 41 ข้อมูลชุดหนึ่งเรียงล<br />
าดับจากน้อยไปมากได้เป็น 10, 20, 30, 30, a, b, 60, 60, 90, 120 ถ้า<br />
ฐานนิยมและมัธยฐานของคะแนนชุดนี้เป็น<br />
30 และ 40 ตามล าดับ แล้วข้อมูลชุดต่อไปนี้<br />
คือ 11, 22, 33, 34,<br />
a+5, b+6, 67, 68, 99, 130 มีค่าเฉลี่ยเลขคณิตเท่ากับข้อใด<br />
1. 50 2. 55.5 3. 60 4. 60.5
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
ENT มี.ค. 42 เมื่อสร้างตารางแจกแจงความถี่ของนักเรียน<br />
36 คน โดยใช้ความกว้างของแต่ละอันตรภาคชั้น<br />
เป็น 10 แล้ว ปรากฏว่ามัธยฐานของคะแนนทั้งหมดอยู่ในช่วง<br />
50-59 ถ้ามีนักเรียนที่สอบได้คะแนนต่ากว่า<br />
49.5 คะแนนอยู่จ<br />
านวน 12 คน และมีนักเรียนได้คะแนนต่ากว่า<br />
59.5 คะแนนอยู่จ<br />
านวน 20 คน แล้วมัธยฐาน<br />
ของคะแนนการสอบครั้งนี้มีค่าเท่ากับเท่าใด<br />
1. 53 2. 54 3. 56 4. 57<br />
ENT มี.ค. 44 ก าหนดให้ x1, x2,…, x10 มีค่าเป็น 5, 6, a, 7, 10, 15, 5, 10, 10, 9 ตามล าดับ โดยที่<br />
a
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
ENT มี.ค. 48 ข้อมูลชุดหนึ่งประกอบด้วย<br />
x1, x2,…, x13 โดยที่<br />
xn = | 5-n | เมื่อ<br />
n = 1, 2,…, 13 จ านวน<br />
จริง a ที่ท<br />
าให้<br />
13<br />
<br />
i1<br />
x a<br />
n<br />
มีค่าน้อยที่สุด<br />
เท่ากับเท่าใด<br />
PAT1 มี.ค. 52 ข้อมูลชุดหนึ่งมี<br />
99 จ านวน เรียงล าดับจากน้อยไปมากได้เป็น x1, x2,…, x99 ถ้าค่าเฉลี่ยเลข<br />
คณิตของข้อมูลชุดนี้เท่ากับมัธยฐาน<br />
แล้วข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง<br />
1.<br />
49 99<br />
<br />
x x<br />
i i<br />
i1i51 49 99<br />
<br />
2. x x x x <br />
3.<br />
50 i 50 i<br />
i1i51 49 99<br />
<br />
x x x x<br />
50 i 50 i<br />
i1i51 49 2 99<br />
2<br />
<br />
4. x x x x <br />
50 i 50 i<br />
i1i51 11
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
PAT1 มี.ค. 53 นักเรียนห้องหนึ่งสอบวิชาคณิตศาสตร์ได้คะแนนเฉลี่ยเลขคณิตเท่ากับ<br />
40 คะแนน ถ้า<br />
นักเรียนชายสอบได้คะแนนเฉลี่ยเลขคณิต<br />
35 คะแนนและนักเรียนหญิงสอบได้คะแนนเฉลี่ยเลขคณิต<br />
50<br />
คะแนน อัตราส่วนของนักเรียนชายต่อนักเรียนหญิงตรงกับข้อใดต่อไปนี้<br />
1. 3:2<br />
2. 2:3<br />
3. 2:1<br />
4. 1:2<br />
PAT1 ก.ค. 53 สร้างตารางแจกแจงความถี่ของคะแนนการสอบของนักเรียนกลุ่มหนึ่ง<br />
โดยให้ความกว้างของ<br />
แต่ละอันตรภาคชั้นเป็น<br />
10 แล้วปรากฏว่ามัธยฐานของคะแนนการสอบเท่ากับ 57 คะแนนซึ่งอยู่ในช่วง<br />
50-59<br />
ถ้ามีนักเรียนที่สอบได้คะแนนต่ากว่า<br />
49.5 คะแนน อยู่จ<br />
านวน 12 คน และมีนักเรียนได้คะแนนต่ากว่า<br />
59.5<br />
คะแนน อยู่จ<br />
านวน 20 คน จงหาว่านักเรียนกลุ่มนี้มีทั้งหมดกี่คน<br />
12
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
3. ต าแหน่งสัมพัทธ์ของข้อมูล<br />
ในหัวข้อที่แล้วเราได้ศึกษาการหาค่ากึ่งกลางของข้อมูลไปแล้ว<br />
ไม่ว่าจะเป็น ค่าเฉลี่ยเลขคณิต<br />
มัธยฐาน<br />
และฐานนิยม ส าหรับในบทนี้เราจะศึกษาค่า<br />
ณ ต าแหน่งใดๆของข้อมูล ได้แก่ ควอร์ไทล์ (แบ่งข้อมูลออกเป็น<br />
4 ส่วนเท่าๆกัน) เดไซล์ (แบ่งข้อมูลออกเป็น 10 ส่วนเท่าๆกัน) และเปอร์เซนไทล์ (แบ่งข้อมูลออกเป็น 100<br />
ส่วนเท่าๆกัน) โดยข้อมูลจะต้องถูกเรียงล าดับจากน้อยไปมากก่อนเสมอ<br />
NOTE<br />
แบ่งเป็น 2 กรณี<br />
D1<br />
แผนภาพอธิบายต าแหน่งสัมพัทธ์ของข้อมูล<br />
P25<br />
Q1<br />
D2.5<br />
การค านวณหาค่าควอร์ไทล์ เดไซล์และเปอร์เซนไทล์มีลักษณะคล้ายๆกับการค านวณค่ามัธยฐาน โดย<br />
- กรณีข้อมูลไม่มีการแจกแจงความถี่<br />
Med<br />
P50<br />
Q2<br />
D5<br />
r<br />
ควอไทล์ที่<br />
r (Qr) คือข้อมูลต าแหน่งที่<br />
N 1<br />
4<br />
13<br />
P75<br />
Q3<br />
D7.5<br />
D9
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
r<br />
เดไซล์ที่<br />
r (Dr) คือข้อมูลต าแหน่งที่<br />
N 1<br />
10<br />
r<br />
เปอร์เซนไทล์ที่<br />
r (Pr) คือข้อมูลต าแหน่งที่<br />
N 1<br />
100<br />
***ข้อควรระวัง ในการหาค่าควอร์ไทล์ เดไซล์และเปอร์เซนไทล์ข้อมูลต้องมีการเรียงล าดับจากน้อยไปมาก<br />
แล้ว<br />
- กรณีข้อมูลมีการแจกแจงความถี่<br />
r Q<br />
เมื่อ<br />
L แทนขอบล่างของชั้นที่มีควอร์ไทล์<br />
เดไซล์หรือเปอร์เซนไทล์อยู่<br />
I แทนความกว้างของชั้นที่มีควอร์ไทล์<br />
เดไซล์หรือเปอร์เซนไทล์อยู่<br />
f แทนความถี่สะสมจนถึงขอบล่างของชั้นที่มีควอร์ไทล์<br />
เดไซล์หรือเปอร์เซนไทล์อยู่<br />
L<br />
f , r D f , r P f แทนความถี่ของชั้นที่มีควอร์ไทล์<br />
เดไซล์หรือเปอร์เซนไทล์อยู่<br />
***ข้อควรระวัง ในการหาค่าควอร์ไทล์ เดไซล์และเปอร์เซนไทล์ของข้อมูลที่แจกแจงความถี่แล้ว<br />
จะใช้<br />
ต าแหน่งโดยไม่ต้องบวกหนึ่ง<br />
มีแผนภาพอีกชนิดหนึ่งที่ช่วยให้เห็นการกระจายข้อมูลได้ชัดเจนยิ่งขึ้น<br />
เรียกว่า แผนภาพกล่อง (Box<br />
plot) ซึ่งจะบอกค่าทางสถิติทั้งหมด<br />
5 ค่า ได้แก่ ข้อมูลต่าสุด<br />
ข้อมูลสูงสุด ข้อมูลในควอร์ไทล์ที่<br />
1, 2, 3 โดยรูป<br />
ด้านล่างแสดงตัวอย่างของแผนภาพกล่อง<br />
14
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
องค์ประกอบของแผนภาพกล่อง ได้แก่ ตัวกล่องซึ่งจุดปลายกล่องทางด้านซ้าย<br />
ตรงกลางและขวาจะ<br />
เป็นข้อมูลในควอร์ไทล์ที่<br />
1 2 และ 3 ตามล าดับ และกิ่งซึ่งจะยื่นออกมาจากกล่อง<br />
โดยจุดปลายกิ่งซ้ายและกิ่ง<br />
ขวาคือ ข้อมูลต่าสุดและสูงสุดตามล<br />
าดับ<br />
ตัวอย่าง จากข้อมูล 18.3 20.6 19.3 22.4 20.2 18.8 19.7 20.0 19.6 18.8 จงหา P89 – Q3 + D4<br />
ตัวอย่าง ส่วนสูงของนักเรียนกลุ่มหนึ่งเป็นดังตาราง<br />
จงใช้ตารางในการตอบค าถามต่อไปนี้<br />
ส่วนสูง (cm) จ านวนนักเรียน<br />
150-154 5<br />
155-159 10<br />
160-164 12<br />
165-169 14<br />
170-174 8<br />
175-179 7<br />
180-184 4<br />
15
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
ก. นายด าและนายแดงเป็นนักเรียนในกลุ่มนี้<br />
โดยนายด ามีส่วนสูงอยู่ในต<br />
าแหน่งควอร์ไทล์ที่<br />
3 และนายแดงมีส่วนสูงอยู่ในต<br />
าแหน่งเปอร์เซนไทล์ที่<br />
45 ดังนั้นนายด<br />
าและนายแดงมีส่วนสูงต่างกันเท่าไร<br />
ข. นางสาวขาวมีส่วนสูง 159.5 เซนติเมตร คิดเป็นเดไซล์ที่เท่าไร<br />
ENT มี.ค. 46 ก าหนดตารางแจกแจงความถี่ของคะแนนสอบวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนห้องหนึ่งได้ดังนี้<br />
่<br />
คะแนน ความถี<br />
16-18 a<br />
19-21 2<br />
22-24 3<br />
25-27 6<br />
28-30 4<br />
ถ้าควอร์ไทล์ที่<br />
1 (Q1) เท่ากับ 18.5 คะแนน แล้วมัธยฐานของคะแนนสอบวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนห้องนี้<br />
เท่ากับเท่าใด<br />
16
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
A-NET 49 โรงงานแห่งหนึ่งมีพนักงานจ<br />
านวน 40 คน และตารางการแจกแจงความถี่สะสมของอายุ<br />
พนักงานเป็นดังนี้<br />
อายุ(ปี) ความถี่สะสม<br />
11-20 6<br />
21-30 14<br />
31-40 26<br />
41-50 36<br />
51-60 40<br />
ถ้าผู้จัดการมีอายุ<br />
48.5 ปี แล้วพนักงานที่มีอายุระหว่างค่ามัธยฐานของอายุพนักงานและอายุของผู้จัดการ<br />
มี<br />
จ านวนประมาณเท่ากับข้อใด<br />
1. 31.5%<br />
2. 33.7%<br />
3. 35.0%<br />
4. 37.0%<br />
PAT1 ต.ค. 52 ข้อมูลชุดหนึ่งมี<br />
5 จ านวนและมีค่าเฉลี่ยเลขคณิตเท่ากับ<br />
12 ถ้าควอไทล์ที่<br />
1 และ 3 ของ<br />
ข้อมูลชุดนี้เท่ากับ<br />
5 และ 20 ตามล าดับ แล้วเดไซล์ที่<br />
5 ของข้อมูลชุดนี้มีค่าเท่าใด<br />
17
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
PAT1 ต.ค. 53 ในการสอบวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียน 2 ห้อง ซึ่งท<br />
าคะแนนเฉลี่ยได้<br />
60 คะแนน โดยห้อง<br />
แรกมีนักเรียนจ านวน 40 คน และห้องที่สองมีนักเรียนจ<br />
านวน 30 คน ถ้าคะแนนสอบในห้องแรก เปอร์เซน<br />
ไทล์ที่<br />
50 มีค่า 64 คะแนนและฐานนิยมมีค่าเป็น 66 คะแนน แล้วคะแนนเฉลี่ยของนักเรียนห้องที่สองมีค่า<br />
เท่ากับเท่าใด<br />
PAT1 มี.ค. 54 ในการสอบคณิตศาสตร์คะแนนเต็ม 60 คะแนน มีนักเรียนเข้าสอบ 30 คน นาย ก. เป็น<br />
นักเรียนคนหนึ่งที่เข้าสอบในครั้งนี้<br />
นาย ก. สอบได้ 53 คะแนนและมีจ านวนนักเรียนที่มีคะแนนสอบน้อยกว่า<br />
53 คะแนนอยู่<br />
27 คน ถ้ามีการจัดกลุ่มคะแนนสอบเป็นช่วงคะแนนโดยมีอันตรภาคชั้นกว้างเท่าๆกัน<br />
คะแนน<br />
สอบของนาย ก. อยู่ในช่วงคะแนน<br />
51-60 จ านวนนักเรียนที่สอบได้คะแนนในช่วงคะแนน<br />
51-60 นี้มีทั้งหมดกี่<br />
คน<br />
1. 3<br />
2. 4<br />
3. 5<br />
4. 9<br />
18
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
4. ค่าการกระจายข้อมูล<br />
ในหัวข้อที่ผ่านมาเราได้ศึกษาถึงค่ากลางของข้อมูลเพื่อใช้เป็นตัวแทนของข้อมูลทั้งหมด<br />
แต่ยังมีอีกสิ่ง<br />
หนึ่งที่ควรจะวิเคราะห์ประกอบกันนั่นคือ<br />
การกระจายตัวของขัอมูล ซึ่งจะช่วยให้เราเข้าใจข้อมูลที่เรามีได้<br />
ละเอียดขึ้น<br />
โดยการวัดการกระจายตัวของข้อมูลแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ การวัดการกระจายสัมบูรณ์และการ<br />
วัดการกระจายสัมพัทธ์ ซึ่งแต่ละประเภทจะมีตัววัดการกระจายข้อมูลอีก<br />
4 แบบ ซึ่งจะได้ศึกษาต่อไป<br />
4.1 การวัดการกระจายสัมบูรณ์ คือ การวัดการกระจายตัวของข้อมูลเพียงชุดเดียว เพื่อดู<br />
ว่าข้อมูลชุดนั้นมีการกระจายตัวมากน้อยเพียงใด<br />
โดยที่นิยมใช้มีอยู่ทั้งหมด<br />
4 แบบ ได้แก่<br />
- พิสัย<br />
- ส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์<br />
- ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย<br />
- ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน<br />
สูตรการค านวณ พิสัย (Range)<br />
- กรณีข้อมูลไม่มีการแจกแจงความถี่<br />
- กรณีข้อมูลมีการแจกแจงความถี่<br />
พิสัย = ค่าสูงสุด – ค่าต่าสุด<br />
( xmax xmin)<br />
พิสัย = ขอบบนของอันตรภาคชั้นที่มีข้อมูลที่มีค่าสูงสุด<br />
– ขอบล่างของอันตรภาคชั้นที่มีข้อมูลที่มีค่าต่าสุด<br />
สูตรการค านวณ ส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์<br />
(Quartile deviation : QD)<br />
- กรณีข้อมูลไม่มีการแจกแจงความถี่และมีการแจกแจงความถี่<br />
สูตรการค านวณ ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย<br />
(Mean deviation : MD)<br />
- กรณีข้อมูลไม่มีการแจกแจงความถี่<br />
19
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
- กรณีข้อมูลมีการแจกแจงความถี่<br />
สูตรการค านวณ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน<br />
(Standard deviation : SD)<br />
- กรณีข้อมูลไม่มีการแจกแจงความถี่<br />
- กรณีข้อมูลมีการแจกแจงความถี่<br />
NOTE<br />
ถ้าข้อมูลชุด Y ทุกๆตัว สัมพันธ์กับข้อมูลชุด X แต่ละตัว ตามสมการ จะได้ว่า<br />
ค่าการกระจายของข้อมูลชุด Y เป็น |m| เท่าของชุด X<br />
4.2 การวัดการกระจายสัมพัทธ์ จะใช้ก็ต่อเมื่อมีข้อมูลตั้งแต่สองชุดขึ้นไป<br />
ซึ่งอาจเป็น<br />
ข้อมูลคนละประเภทแต่สามารถน ามาวัดการกระจายได้ โดยที่นิยมใช้มีอยู่ทั้งหมด<br />
4 แบบ ได้แก่<br />
- สัมประสิทธิ์ของพิสัย<br />
- สัมประสิทธิ์ของส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์<br />
- สัมประสิทธิ์ของส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย<br />
- สัมประสิทธิ์ของความแปรผัน<br />
20
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
สูตรการค านวณ สัมประสิทธิ์ของพิสัย(Coefficient<br />
of Range : CR)<br />
สูตรการค านวณ สัมประสิทธิ์ส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์<br />
(Coefficient of quartile deviation : CQ)<br />
สูตรการค านวณ สัมประสิทธิ์ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย<br />
(Coefficient of average deviation : CA)<br />
สูตรการค านวณ สัมประสิทธิ์ของความแปรผัน<br />
(Coefficient of variation : CV)<br />
ข้อควรรู้<br />
ตัวอย่าง อายุของสมาชิกในครอบครัวหนึ่งซึ่งมี<br />
5 คน ได้แก่ 10, 30, 30, 30, 60 ปี จงหาค่าการ<br />
กระจายสัมบูรณ์ทั้ง<br />
4 แบบ<br />
21
ข้อควรรู้<br />
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
ความแปรปรวน ( ) เป็นการวัดการกระจายสัมบูรณ์อีกชนิดหนึ่ง<br />
โดย<br />
ความแปรปรวน = ค่าของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน<br />
2<br />
และเมื่อมีข้อมูล<br />
2 ชุดที่แต่ละชุดทราบความแปรปรวน<br />
สามารถหาความแปรปรวนรวมได้จาก<br />
ตัวอย่าง ในการสอบครั้งหนึ่ง<br />
ค่าเฉลี่ยเลขคณิตและความแปรปรวนของคะแนนสอบของนักเรียนเป็น<br />
14 คะแนนและ 1.4 คะแนน 2 ตามล าดับ จงหาค่าเฉลี่ยเลขคณิตและความแปรปรวนเมื่อ<br />
ก. ผู้สอนเพิ่มคะแนนเก็บให้กับทุกคน<br />
คนละ 5 คะแนน<br />
ข. หากผู้สอนปรับคะแนนเต็มจากเดิม<br />
20 คะแนนเป็น 60 คะแนน<br />
22
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
ENT มี.ค. 43 ข้อมูลชุดหนึ่งประกอบด้วย<br />
x1, x2, x3,…, x20 โดยมีสมบัติดังนี้<br />
20<br />
Xia มีค่าน้อยที<br />
i1<br />
่สุดเมื่อ<br />
a=5 และ<br />
20<br />
2<br />
( Xib) มีค่าน้อยที<br />
i1<br />
1. ข้อมูลชุดนี้มีค่าเฉลี่ยเลขคณิตน้อยกว่าค่ามัธยฐาน<br />
2. ผลรวมของข้อมูลชุดนี้ทั้งหมดเท่ากับ<br />
100<br />
3. ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูลชุดนี้มีค่าเท่ากับ<br />
5<br />
4. สัมประสิทธิ์ของการแปรผันของข้อมูลชุดนี้มีค่าเท่ากับ<br />
50%<br />
23<br />
20<br />
2<br />
( Xi<br />
5) 500<br />
i1<br />
<br />
่สุดเมื่อ<br />
b=8 ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง<br />
ENT ต.ค. 45 ข้อมูลชุดหนึ่งเรียงล<br />
าดับจากน้อยไปมาก คือ a 4 5 6 b ซึ่งมีค่าเฉลี่ยเลขคณิตและส่วน<br />
เบี่ยงเบนเฉลี่ยเท่ากับ<br />
6 และ 3 ตามล าดับ สัมประสิทธิ์ของพิสัยของข้อมูลชุดนี้เท่ากับเท่าใด<br />
,
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
ENT มี.ค. 47 ถ้า 20, x2,…,x25 เป็นข้อมูลที่เรียงจากค่าน้อยไปค่ามากและเป็นล<br />
าดับเลขคณิตและควอร์ไทล์<br />
ที่หนึ่งของข้อมูลชุดนี้เท่ากับ<br />
31 แล้วส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยของข้อมูลชุดนี้เท่ากับข้อใดต่อไปนี้<br />
1. 6.24<br />
2. 10.28<br />
3. 12.48<br />
4. 24.96<br />
ENT ต.ค 47 ให้ x1, x2,…, x5 เป็นข้อมูลชุดหนึ่งซึ่งมีค่าเฉลี่ยเลขคณิตเท่ากับ<br />
6 ถ้า<br />
แล้ว ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูลชุดนี้เท่ากับข้อใดต่อไปนี้<br />
1. 2<br />
2. 2<br />
3. 6<br />
4. 2 2<br />
24<br />
5<br />
2<br />
( Xi<br />
4) 30<br />
i1
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
PAT1 ก.ค. 52 ถ้าความยาวของรัศมีวงกลม 10 วงมีค่าเฉลี่ยเลขคณิตเท่ากับ<br />
3 และมีความแปรปรวนเท่ากับ<br />
5 แล้วผลรวมของพื้นที่วงกลมทั้ง<br />
10 วงนี้<br />
มีค่าเท่ากับเท่าใดต่อไปนี้<br />
1. 90<br />
2. 95<br />
3. 140<br />
4. 340<br />
PAT1 ต.ค. 53 พิจารณาข้อความต่อไปนี้<br />
ก. ในการสอบของนักเรียน 3 คน พบว่าค่าเฉลี่ยเลขคณิตของคะแนนสอบเท่ากับ<br />
80 คะแนน ค่ามัธย-<br />
ฐาน 75 คะแนน และพิสัยเท่ากับ 25 คะแนน คะแนนสอบของนักเรียนที่ได้คะแนนต่าสุดเท่ากับ<br />
70 คะแนน<br />
ข. ข้อมูลชุดที่หนึ่งมี<br />
5 จ านวน คือ x1, x2, x3, x4, x5 และข้อมูลชุดที่สองมี<br />
4 จ านวน คือ x1, x2, x3,<br />
x4 โดยที่ค่าเฉลี่ยเลขคณิตของข้อมูลทั้งสองชุดเท่ากัน<br />
ถ้า a และ b เป็นส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของข้อมูลชุดที่<br />
หนึ่งและชุดที่สองตามล<br />
าดับ แล้ว<br />
b<br />
a <br />
ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง<br />
1. ก. ถูก และ ข. ถูก<br />
2. ก. ถูก แต่ ข. ผิด<br />
3. ก. ผิด แต่ ข. ถูก<br />
4. ก. ผิด และ ข. ผิด<br />
5<br />
2<br />
25
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
5. ค่ามาตรฐานและการแจกแจงแบบปกติ<br />
5.1 ค่ามาตรฐาน<br />
ในหัวข้อนี้<br />
หากเราต้องการเปรียบเทียบข้อมูลตั้งแต่สองชุดขึ้นไป<br />
เช่น นาย ก. ได้คะแนนสอบ<br />
วิชาคณิตศาสตร์ 90% ส่วนวิชาฟิสิกส์ 98% เราไม่สามารถกล่าวได้ว่า นาย ก. เก่งวิชาฟิสิกส์มากกว่าวิชา<br />
คณิตศาสตร์ แต่เราต้องค านึงถึงค่าเฉลี่ยและการกระจายของคะแนนทั้งสองวิชาด้วย<br />
นักสถิติจึงคิดค่าทางสถิติ<br />
ใหม่อีกหนึ่งตัวเพื่อใช้เปรียบเทียบข้อมูลซึ่งมาจากคนละชุด<br />
นั่นก็คือ<br />
ค่ามาตรฐาน (Standard score : z) โดย<br />
หาได้จาก<br />
สมบัติของค่ามาตรฐาน<br />
-<br />
n<br />
<br />
i1<br />
z<br />
i<br />
0<br />
- z 0 และ SD 1 เสมอ<br />
z<br />
- The 95% rule กล่าวว่า “โดยทั่วไปข้อมูลที่อยู่ระหว่าง<br />
z = -2 และ z = 2 จะมีปริมาณ 95%<br />
ของข้อมูลทั้งหมด”<br />
หมายความว่าข้อมูลทั้งหมดจะอยู่ในช่วง<br />
(z – 2SD, z + 2SD) แสดงว่าเรา<br />
อาจประมาณ พิสัย เท่ากับ 4SD ได้<br />
5.2 เส้นโค้งความถี่และการแจกแจงแบบปกติ<br />
เส้นโค้งความถี่<br />
แสดงให้เห็นถึงลักษณะการแจกแจงของข้อมูลมีทั้งหมด<br />
3 แบบ ได้แก่<br />
26
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
สิ่งที่เราได้จากเส้นโค้งความถี่<br />
นั่นคือ<br />
สามารถค านวณหาต าแหน่งสัมพัทธ์ของข้อมูล (มัธยฐาน ควอร์<br />
ไทล์ เดไซล์ เปอร์เซนไทล์) ได้ โดยอาศัยพื้นที่ใต้เส้นโค้งปกติ<br />
ซึ่งมีหลักการง่ายๆ<br />
ได้แก่<br />
1. เราจะต้องเปลี่ยนข้อมูลของเราให้อยู่ในรูปค่ามาตรฐาน<br />
แล้วน าไปสร้างเส้นโค้งปกติ<br />
มาตรฐาน ซึ่งมีสมบัติว่า<br />
พื้นที่ใต้เส้นโค้งปกติมาตรฐานจะเท่ากับ<br />
1.00<br />
2. ใช้ตารางแสดงความสัมพันธ์ระหว่างพื้นที่ใต้เส้นโค้งปกติมาตรฐานกับค่ามาตรฐาน<br />
โดย<br />
ค่าที่ระบุในตารางจะแสดงพื้นที่ที่วัดระหว่าง<br />
z=0 ไปถึง z ใดๆที่ระบุในตาราง<br />
3. หาค่าต าแหน่งสัมพัทธ์ที่ต้องการโดยน<br />
าพื้นที่ที่ได้ไปเปลี่ยนเป็นค่ามาตรฐาน<br />
เช่น การหาเปอร์เซนไทล์ที่<br />
65 จะท าได้โดยการเปิดตารางพื้นที่<br />
0.65-0.5=0.15 ซึ่งจะได้ว่าค่า<br />
z=0.385 หรือ เปอร์เซนไทล์ที่<br />
20 จะท าได้โดยการเปิดตาราง 0.5-0.2=0.3 ซึ่งจะได้ค่า<br />
z=0.841 แต่เนื่องจาก<br />
เป็นพื้นที่ทางด้านซ้าย<br />
จะได้ z=-0.841<br />
ตัวอย่าง นายแดงสอบวิชาภาษาไทยและคณิตศาสตร์ได้คะแนน 48 และ 35 คะแนนตามล าดับ โดย<br />
ค่าเฉลี่ยเลขคณิตของคะแนนสอบวิชาภาษาไทยและคณิตศาสตร์เท่ากับ<br />
45 และ 32 คะแนนตามล าดับ และ<br />
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ<br />
12 และ 10 คะแนนตามล าดับ จงหาว่านายแดงสอบวิชาใดได้ดีกว่ากัน<br />
27
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
ตัวอย่าง คนงาน 100 คน มีอายุเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานของอายุเป็น<br />
25 และ 13 ปี<br />
ตามล าดับ ถ้าผลรวมของค่ามาตรฐานของอายุคนงาน 99 คนเป็น -0.25 แล้ว อายุของคนงานอีกคนที่เหลือ<br />
เป็นเท่าใด<br />
ตัวอย่าง ถ้าคะแนนสอบวิชาเคมีมีการแจกแจงปกติ โดยมีคะแนนเฉลี่ยและความแปรปรวนเป็น<br />
60<br />
และ 25 ตามล าดับ และผู้สอบผ่านต้องได้ไม่น้อยกว่า<br />
54 คะแนน สมมตินาย ก ข และ ค ทราบว่าตนเองได้<br />
คะแนนอยู่ในต<br />
าแหน่งเปอร์เซนไทล์ที่<br />
10 15 และ 33 ตามล าดับ จงหาว่านาย ค สอบได้คะแนนเท่าใดและ<br />
นักเรียนทั้งสามคนนี้ใครสอบผ่านบ้าง<br />
ก าหนดให้ตารางแสดงพื้นที่ใต้โค้งปกติตั้งแต่ค่ามาตรฐาน<br />
0 ถึง z ดังนี้<br />
่<br />
Z 0.35 0.40 0.44 1.20<br />
พื้นที<br />
0.1368 0.1554 0.1700 0.3849<br />
ENT มี.ค. 43 โรงเรียนแห่งหนึ่งมีนักเรียนชั้น<br />
ม.6 จ านวน 300 คน สมชาย สมศักดิ์และสมศรี<br />
เป็นนักเรียน<br />
ชั้น<br />
ม.6 ของโรงเรียนนี้<br />
โดยที่<br />
เกรดเฉลี่ยของสมชายอยู่ในต<br />
าแหน่งเดไซล์ที่<br />
8.15 เกรดเฉลี่ยของสมศักดิ์คิดเป็น<br />
ค่ามาตรฐานเท่ากับ 1 นักเรียนชั้น<br />
ม.6 ที่ได้เกรดเฉลี่ยมากกว่าสมศรีมีจ<br />
านวน 50 คน ถ้าสมมติว่าเกรดเฉลี่ย<br />
ของนักเรียนชั้น<br />
ม.6 มีการแจกแจงปกติ ข้อใดต่อไปนี้เป็นรายชื่อนักเรียนเรียงล<br />
าดับจากคนที่ได้เกรดเฉลี่ยมาก<br />
ที่สุดไปน้อยที่สุด<br />
(ก าหนดพื้นที่ใต้โค้งปกติ<br />
z=0 ถึง z=1 มีค่าเท่ากับ 0.3413)<br />
1. สมชาย สมศักดิ์<br />
สมศรี<br />
2. สมศักดิ์<br />
สมศรี สมชาย<br />
3. สมศรี สมศักดิ์<br />
สมชาย<br />
4. สมศักดิ์<br />
สมชาย สมศรี<br />
28
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
ENT ต.ค. 45 ในการสอบวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนห้องหนึ่ง<br />
ซึ่งมีคะแนนเต็ม<br />
70 คะแนน มีสัมประสิทธิ์<br />
ของการแปรผันของคะแนนเท่ากับ 2/7 ถ้านายบัณฑิตสอบได้ 65 คะแนน ซึ่งคิดเป็นคะแนนมาตรฐานเท่ากับ<br />
3 และนางสาวบังอรสอบได้คะแนนซึ่งคิดเป็นค่ามาตรฐานเท่ากับ<br />
1.9 แล้ว นางสาวบังอรสอบได้คะแนนเท่ากับ<br />
ข้อใดต่อไปนี้<br />
1. 50 คะแนน<br />
2. 52 คะแนน<br />
3. 54 คะแนน<br />
4. 56 คะแนน<br />
ENT มี.ค. 46 การแจกแจงความสูงของนักเรียนกลุ่มหนึ่งเป็นการแจกแจงปกติ<br />
ถ้านักเรียนที่มีความสูง<br />
มากกว่า 149.4 เซนติเมตร มีอยู่<br />
3% และนักเรียนที่มีความสูงน้อยกว่าฐานนิยมแต่มากกว่า<br />
136.5 เซนติเมตร<br />
มีอยู่<br />
25.8% แล้ว ข้อใดต่อไปนี้คือฐานนิยมและความแปรปรวนของความสูงของนักเรียนกลุ่มนี้ตามล<br />
าดับ<br />
(หน่วยเป็นเซนติเมตร) ก าหนดตารางแสดงพื้นที่ใต้เส้นโค้งปกติมาตรฐานที่อยู่ระหว่าง<br />
0 ถึง z<br />
1. 144.4, 5<br />
2. 144.4, 25<br />
3. 140, 5<br />
4. 140, 25<br />
่<br />
z 0.3 0.7 1.49 1.88<br />
พื้นที<br />
0.1179 0.2580 0.4139 0.4700<br />
29
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
PAT1 มี.ค. 52 ข้อมูลชุดหนึ่งมีการแจกแจงปกติ<br />
ถ้าหยิบข้อมูล a, b, c, d มาค านวณค่ามาตรฐาน ปรากฏว่า<br />
ได้ค่าดังตาราง<br />
ข้อใดต่อไปนี้ถูก<br />
ข้อมูล a b c d<br />
ค่ามาตรฐาน(z) -3 -0.45 0.45 1<br />
1. –a+2b+2c-3d = 0<br />
2. –a+b+c-3d = 0<br />
3. a-2b+3c+2d = 0<br />
4. a-b+c-d = 0<br />
PAT1 มี.ค. 52 ข้อมูลความสูงของนักเรียนชั้น<br />
ม.6 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งมีการแจกแจงปกติ<br />
ถ้าจ านวน<br />
นักเรียนที่มีความสูงน้อยกว่า<br />
140.6 เซนติเมตร มีอยู่<br />
3.01% และจ านวนนักเรียนที่มีความสูงมากกว่าค่ามัธย<br />
ฐานแต่น้อยกว่า 159.4 เซนติเมตร มีอยู่<br />
46.99% แล้วจ านวนนักเรียนที่มีความสูงไม่น้อยกว่า<br />
155 เซนติเมตร<br />
แต่ไม่เกิน 160 เซนติเมตรมีเปอร์เซนเท่ากับข้อใดต่อไปนี้<br />
เมื่อก<br />
าหนดตารางแสดงพื้นที่ใต้เส้นโค้งปกติ<br />
มาตรฐานระหว่าง 0 ถึง z เป็นดังนี้<br />
z 1.00 1.12 1.88 2.00<br />
พื้นที่ใต้เส้นโค้ง<br />
0.3413 0.3686 0.4699 0.4772<br />
1. 12.86%<br />
2. 13.14%<br />
3. 15.87%<br />
4. 13.59%<br />
30
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
PAT1 ต.ค. 52 ก าหนดให้ข้อมูลชุดหนึ่งมีการแจกแจงปกติ<br />
หยิบข้อมูล x1, x2, x3 มาค านวณค่ามาตรฐาน<br />
ปรากฏว่าได้ค่าเป็น z1, z2, z3 ตามล าดับ ถ้า z1+z2 = z3 แล้วค่าเฉลี่ยเลขคณิตของข้อมูลชุดนี้เท่ากับข้อใด<br />
ต่อไปนี้<br />
1. x1+x2-x3<br />
2. x1-x2-x3<br />
3. x3-x2-x1<br />
4. x1+x2+x3<br />
31
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
6. ความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่างข้อมูล<br />
ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ความสัมพันธ์ที่ควรทราบและออกข้อสอบมีอยู่<br />
2 รูปแบบ ได้แก่<br />
1. ฟังก์ชันเส้นตรง<br />
รูปทั่วไป<br />
: Yˆ mX c<br />
สมการปกติ :<br />
n n<br />
<br />
Y mXnc i i<br />
i1 i1<br />
2. ฟังก์ชันพาราโบลา<br />
รูปทั่วไป<br />
:<br />
สมการปกติ :<br />
ˆ<br />
n<br />
XiYi m n<br />
2<br />
Xi c<br />
n<br />
Xi<br />
i1 i1 i1<br />
<br />
2<br />
Y aX bX c<br />
n n<br />
2<br />
n<br />
i i i<br />
i1 i1 i1<br />
<br />
Y a X b X nc<br />
n<br />
XiYi a<br />
n<br />
3<br />
Xi b<br />
n<br />
2<br />
Xi c<br />
n<br />
Xi<br />
i1 i1 i1 i1<br />
<br />
n<br />
2<br />
Xi Yi a<br />
n<br />
4<br />
Xi b<br />
n<br />
3<br />
Xi c<br />
n<br />
2<br />
Xi<br />
i1 i1 i1 i1<br />
<br />
***หมายเหตุ สมการปกติเป็นสมการที่ไว้ใช้หาค่าคงที่<br />
เช่น a, b, c, m<br />
ข้อควรระวัง<br />
การสร้างสมการถดถอยจะสามารถใช้ท านายตัวแปรตาม ( ) จากตัวแปรต้น (X) ได้ แต่ไม่<br />
สามารถใช้สมการเดียวกันท านายตัวแปรต้น (X) จากตัวแปรตาม ( ) ได้นอกจากใช้ท านายค่าตัวแปร<br />
ต้นได้ ณ จุด ถ้าต้องการท านายตัวแปรต้นจะต้องเปลี่ยนรูปสมการให้อยู่ในรูป<br />
32
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
หากข้อมูลของเรามีตัวแปรต้นที่เป็นช่วงที่ห่างเท่าๆกัน<br />
เช่น ช่วงเวลา (พ.ศ.) เราเรียกข้อมูลเหล่านั้นว่า<br />
ข้อมูลที่อยู่ในรูปของอนุกรมเวลา<br />
เราสามารถแทนค่าตัวแปนต้นที่เป็นตัวเลขน้อยๆ<br />
โดยหากมีจ านวนตัวแปร<br />
ต้นเป็นจ านวนคี่<br />
มักจะแทนด้วย …, -2, -1, 0, 1, 2,… โดยตัวแปรต้นตรงกลางแทนด้วย 0 เสมอ หากจ านวน<br />
ตัวแปรต้นเป็นจ านวนคู่<br />
มักจะแทนด้วย …, -3, -1, 1, 3,… โดยตัวแปนต้นคู่ตรงกลางแทนด้วย<br />
-1 และ 1<br />
ตัวอย่าง จากการสอบถามรายจ่ายของ 8 ครอบครัวในหมู่บ้านหนึ่ง<br />
ได้ผลสัมพันธ์กับรายได้ดังตาราง<br />
จงใช้ข้อมูลข้างต้นตอบค าถามต่อไปนี้<br />
รายได้ (พันบาท) 1 3 4 6 8 9 11 14<br />
รายจ่าย (พันบาท) 1 2 4 4 5 7 8 9<br />
ก. ให้หาความสัมพันธ์ที่ใช้ประมาณรายจ่ายจากรายได้<br />
ข. ถ้าครอบครัวหนึ่งในหมู่บ้านแห่งนี้มีรายได้<br />
4,500 บาท จะมีรายจ่ายประมาณเท่าใด<br />
ค. ถ้าครอบครัวหนึ่งในหมู่บ้านแห่งนี้มีรายจ่าย<br />
3,500 บาท จะมีรายได้ประมาณเท่าใด<br />
33
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
ตัวอย่าง ให้สร้างสมการท านายประชากรในท้องที่หนึ่ง<br />
ซึ่งมีข้อมูลที่ส<br />
ารวจมาได้ดังตารางและจากนั้น<br />
ให้ประมาณจ านวนประชากรในท้องที่นี้ในปีพ.ศ.<br />
2547<br />
พ.ศ. 2535 2537 2539 2541 2543<br />
จ านวนประชากร (พันคน) 0.8 0.9 1.1 1.4 2.0<br />
ENT ต.ค. 42 พิจารณาข้อมูลของ x และ y ดังนี้<br />
x -3 -1 0 1 3<br />
y 0 a a+3 a+4 a+6<br />
เมื่อ<br />
a เป็นค่าคงที่<br />
ให้ x และ y มีความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันเป็นกราฟเส้นตรง โดยที่ความชันเท่ากับ<br />
1.55 ถ้า<br />
x=4 จะประมาณค่า y ได้เท่ากับข้อใดต่อไปนี้<br />
1. 8.7<br />
2. 10.8<br />
3. 11.2<br />
4. 12.8<br />
34
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
A-NET 51 ถ้าในการหาความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่างคะแนนสอบวิชาที่หนึ่ง<br />
(X) และวิชาที่สอง<br />
(Y)<br />
ของนักเรียนชั้นหนึ่งมีจ<br />
านวน 10 คน ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง<br />
ได้พจน์ต่างๆที่ใช้ในการค<br />
านวณค่าคงตัวจาก<br />
สมการปกติ ดังนี้<br />
10<br />
<br />
i1<br />
X<br />
i<br />
50<br />
10<br />
<br />
i1<br />
Y 50<br />
i<br />
10<br />
<br />
i1<br />
XY 288<br />
35<br />
i i<br />
10<br />
<br />
i1<br />
X<br />
2<br />
i<br />
304<br />
10<br />
<br />
i1<br />
Y<br />
2<br />
i<br />
284 ได้สมการ<br />
ประมาณคะแนนสอบวิชาที่สองจากคะแนนสอบวิชาที่หนึ่งเป็น<br />
Yˆ1.5 0.7X(ใช้ทศนิยมหนึ่งต<br />
าแหน่ง)<br />
พิจารณาข้อความต่อไปนี้<br />
ก. ถ้านักเรียนสองคนในกลุ่มนี้มีคะแนนสอบวิชาที่หนึ่งต่างกัน<br />
2 คะแนนแล้ว คะแนนสอบวิชาที่สอง<br />
ของนักเรียนสองคนนี้ต่างกันประมาณ<br />
1.4 คะแนน<br />
ข. เมื่อสอบคะแนนสอบวิชาที่สอง<br />
จะประมาณคะแนนสอบวิชาที่หนึ่งของนักเรียนกลุ่มนี้ได้จาก<br />
สมการ Xˆ1.4Y 2.1<br />
ข้อใดต่อไปนี้ถูกต้อง<br />
1. ก. ถูก และ ข. ถูก<br />
2. ก. ถูก และ ข. ผิด<br />
3. ก. ผิด และ ข. ถูก<br />
4. ก. ผิด และ ข. ผิด<br />
PAT ก.ค. 52 ในการหาความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันระหว่างปริมาณสารปนเปื้อนชนิดที่<br />
1 (x) และปริมาณสาร<br />
ปนเปื้อนชนิดที่<br />
2 (y) จากตัวอย่างอาหารจ านวน 100 ตัวอย่าง พบว่าความแปรปรวนของปริมาณสารชนิดที่<br />
1<br />
มีค่าเท่ากับ 1.75 ค่าเฉลี่ยเลขคณิตของปริมาณสารชนิดที่<br />
2 มีค่าเท่ากับ 0.5<br />
100<br />
<br />
i1<br />
x<br />
2<br />
i<br />
100<br />
<br />
i1<br />
xy<br />
i i<br />
100และ<br />
200ถ้าสมการปกติของความสัมพันธ์เชิงฟังก์ชันดังกล่าวอยู่ในรูป<br />
y = ax+b แล้ว เมื่อพบสาร<br />
ปนเปื้อนชนิดที่<br />
1 อยู่<br />
4 หน่วย จะพบสารปนเปื้อนชนิดที่<br />
2 (โดยประมาณ) เท่ากับข้อใดต่อไปนี้<br />
1. 0.5 หน่วย<br />
2. 1 หน่วย<br />
3. 1.5 หน่วย<br />
4. 2 หน่วย
คณิตศาสตร์ สถิติ www.clipvidva.com<br />
เอกสารอ้างอิง<br />
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ. หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้<br />
พื้นฐาน<br />
คณิตศาสตร์ เล่ม 2 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่<br />
5, กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ครุสภาลาดพร้าว,<br />
พิมพ์ครั้งที่<br />
3, 2549.<br />
สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ. หนังสือเรียนสาระการเรียนรู้<br />
เพิ่มเติม<br />
คณิตศาสตร์ เล่ม 1 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่<br />
6, กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ครุสภาลาดพร้าว,<br />
พิมพ์ครั้งที่<br />
4, 2550.<br />
อรรณพ สุขธ ารง. คณิตศาสตร์ Entrance เล่ม 3. ม.ป.ป.<br />
จักรินทร์ วรรณโพธิ์กลาง.<br />
คัมภีร์ คณิตศาสตร์ Entrance ม.4-5-6 สอบตรง สอบโควต้า Admission<br />
PAT1, กรุงเทพมหานคร: พ.ศ. พัฒนา, พิมพ์ครั้งที่<br />
1, 2552.<br />
ฝ่ายวิชาการ บริษัท สกายบุ๊กส์<br />
จ ากัด. รวมสูตรเลขคณิต ช่วงชั้นที่<br />
3-4, ปทุมธานี: สกายบุ๊กส์, พิมพ์ครั้งที่<br />
1,<br />
2548.<br />
ณัฐ อุดมพาณิชย์. เส้นทางสู่<br />
วิศวะฯจุฬา พิชิต PAT1 คณิตศาสตร์, กรุงเทพมหานคร: สถาบันสอนวิชา<br />
คณิตศาสตร์ NUTTY PROFESSIONAL, พิมพ์ครั้งที่<br />
2, 2552.<br />
ทรงวิทย์ สุวรรณธาดา. 1001 TESTS IN MATHS 2, กรุงเทพมหานคร: บริษัท ส านักพิมพ์แม็ค จ ากัด, พิมพ์<br />
ครั้งที่<br />
1, 2550.<br />
ทรงวิทย์ สุวรรณธาดา. 1001 TESTS IN MATHS 3, กรุงเทพมหานคร: บริษัท ส านักพิมพ์แม็ค จ ากัด, พิมพ์<br />
ครั้งที่<br />
1, 2550.<br />
36