Annual Report 2010 - Hemaraj Land and Development PCL
Annual Report 2010 - Hemaraj Land and Development PCL
Annual Report 2010 - Hemaraj Land and Development PCL
You also want an ePaper? Increase the reach of your titles
YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.
รายงานประจำปี 2553 <br />
<strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong><br />
P roperty<br />
Industrial<br />
estates<br />
U<br />
tilities<br />
บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน)<br />
<strong>Hemaraj</strong> <strong>L<strong>and</strong></strong> And <strong>Development</strong> Public Company Limited
สารบัญ<br />
Contents<br />
02 <br />
จุดเด่นทางการเงิน<br />
03 <br />
สาส์นจากคณะกรรมการบริษัทฯ<br />
04 <br />
ข้อมูลของคณะกรรมการและคณะผู้บริหาร <br />
09 <br />
ลักษณะการดำเนินธุรกิจและโครงสร้างธุรกิจ<br />
13 <br />
เหตุการณ์ที่สำคัญในปี 2553<br />
23 <br />
ภาวะเศรษฐกิจและการแข่งขัน<br />
24 <br />
บทรายงานและการวิเคราะห์ของฝ่ายบริหาร<br />
27 <br />
โครงสร้างการจัดการ<br />
32 <br />
การปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี<br />
39 <br />
รายงานความรับผิดชอบของคณะกรรมการ<br />
ในการจัดทำรายงานทางการเงินประจำปี 2553 <br />
40 <br />
รายงานของคณะกรรมการตรวจสอบประจำปี 2553<br />
42 <br />
รายงานของผู้สอบบัญชีรับอนุญาต<br />
43 <br />
งบการเงิน<br />
53 <br />
หมายเหตุประกอบงบการเงิน<br />
96 <br />
โครงสร้างผู้ถือหุ้นและโครงสร้างองค์กร<br />
97 <br />
รายการระหว่างกัน<br />
100 <br />
โครงสร้างการลงทุนและรายได้ของบริษัท บริษัทย่อย<br />
และบริษัทร่วม<br />
96 <br />
ข้อมูลการดำรงตำแหน่งของกรรมการและผู้บริหาร<br />
ในบริษัท บริษัทย่อยและบริษัทร่วม<br />
103 <br />
ค่าตอบแทนของผู้สอบบัญชี<br />
104 <br />
บุคคลอ้างอิงอื่นๆ<br />
<br />
105<br />
Financial Highlights<br />
106<br />
Message from the Board of Directors<br />
107<br />
Information of Board of Directors <strong>and</strong> Management<br />
112<br />
The Company’s Business Profile<br />
<strong>and</strong> Business Structure<br />
116<br />
Major/Significant Events in <strong>2010</strong><br />
126<br />
Economic & Competitive Condition<br />
127<br />
Management Analysis<br />
130<br />
Management Structure<br />
135<br />
Good Corporate Governance<br />
142<br />
<strong>Report</strong> on Responsibilities of the Board of Directors<br />
Towards the Financial <strong>Report</strong> of the Year <strong>2010</strong><br />
143<br />
Audit Committee <strong>Report</strong> for <strong>2010</strong><br />
145<br />
Independent Certified Public Accountants’ <strong>Report</strong><br />
146<br />
Financial Statements<br />
156<br />
Notes to Financial Statements<br />
199<br />
Shareholding & Organization Structure<br />
200<br />
Transactions with Related Parties<br />
204<br />
Holding Structure <strong>and</strong> Revenue of the Company,<br />
Subsidiaries <strong>and</strong> Associated Companies<br />
206<br />
Information of Directors <strong>and</strong> Management in Company,<br />
Subsidiaries <strong>and</strong> Associated Companies<br />
207<br />
The Remuneration of the Auditor of Company<br />
208<br />
Other References
Corporate<br />
Vision, <br />
Mission &<br />
Strategy<br />
Corporate Vision<br />
To create long-term shareholder value in a controlled way<br />
achieved through focused appropriate strategic, business,<br />
financial <strong>and</strong> governance disciplines.<br />
This long-term value can be realized by demonstrating <strong>and</strong><br />
communicating respect for our customers, employees, <strong>and</strong><br />
stakeholders while behaving in a manner that is communally,<br />
ethically, <strong>and</strong> environmentally responsible.<br />
Mission<br />
“To Develop World Class Industrial Estates Utilities <strong>and</strong><br />
Property Customer Solutions”<br />
<strong>Hemaraj</strong> Strategy<br />
1. Developing industrial estate, utility, <strong>and</strong> property solutions<br />
that have predictable growing revenue <strong>and</strong> superior profit<br />
opportunities in order to optimize shareholder value.<br />
2. Leveraging complementary management expertise in property,<br />
utilities infrastructure <strong>and</strong> environmental competence.<br />
3. Utilizing company financial resources selectively for<br />
competing investment opportunities.
0<br />
จุดเด่นทางการเงิน<br />
ตัวเลขทางการเงิน<br />
(ล้านบาท) 2551 2552 2553<br />
รายได้จากการขายและบริการ* 4,714 2,229 4,220<br />
รายได้จากการขายที่ดินอุตสาหกรรม* 2,854 704 1,501<br />
รายได้จากระบบสาธารณูปโภค* 922 1,026 1,472<br />
รายได้จากอสังหาริมทรัพย์สำหรับเช่า<br />
และจากค่าบริการ* 480 515 480<br />
รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์* 459 (15) 766<br />
รายได้รวม 4,983 2,223 4,020<br />
กำไรสุทธิ 1,342 575 1,216<br />
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 932 910 3,517<br />
สินทรัพย์รวม 13,712 13,680 18,715<br />
เงินกู้ 3,454 4,023 8,011<br />
หนี้สินรวม 5,574 5,222 9,577<br />
ส่วนของผู้ถือหุ้น 8,138 8,458 9,138<br />
กำไรสุทธิต่อหุ้น (บาท) 0.14 0.06 0.13<br />
ราคาพาร์ (บาท) 0.40 0.40 0.40<br />
หมายเหตุ : *การจัดประเภทงบการเงินใหม่ภายใน<br />
รายได้จากการขายและบริการ<br />
6,000<br />
5,000<br />
4,000<br />
3,000<br />
2,000<br />
1,000<br />
0<br />
-1000<br />
(ล้านบาท)<br />
4,714<br />
459<br />
480<br />
922<br />
2,854<br />
2551 2552 2553<br />
สินทรัพย์รวมและหนี้สินรวม<br />
<br />
2,229<br />
515<br />
1,026<br />
704<br />
(-15)<br />
รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์<br />
รายได้จากอสังหาริมทรัพย์สำหรับเช่าและจากค่าบริการ<br />
4,220<br />
766<br />
480<br />
1,472<br />
1,501<br />
รายได้จากระบบสาธารณูปโภค<br />
รายได้จากการขายที่ดินอุตสาหกรรม<br />
อัตราส่วนทางการเงิน<br />
2551 2552 2553<br />
อัตราทุนหมุนเวียน 2.35 2.42 5.27<br />
อัตราหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 0.57 0.51 0.66<br />
อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวม 8% 4% 5%<br />
อัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น 13% 6% 11%<br />
อัตรากำไรสุทธิ 27% 26% 30%<br />
กำไรสุทธิต่อหุ้น พื้นฐาน (บาท) 0.14 0.06 0.13<br />
กำไรสุทธิต่อหุ้น ปรับลด (บาท) 0.14 0.06 0.13<br />
มูลค่าหุ้นตามบัญชี (บาท) 0.87 0.87 0.94<br />
จำนวนหุ้นที่ออกและชำระแล้ว (ล้านหุ้น) 9,381.84 9,705.19 9,705.19<br />
จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิ (ล้านหุ้น) 327.55 - -<br />
กำไรสุทธิ<br />
1,400<br />
1,200<br />
1,000<br />
800<br />
600<br />
400<br />
200<br />
0<br />
(ล้านบาท)<br />
1,342<br />
2551 2552 2253<br />
อัตราหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น<br />
<br />
575<br />
1,216<br />
20,000<br />
18,715<br />
1.00<br />
15,000<br />
10,000<br />
13,712<br />
13,680<br />
9,577<br />
0.75<br />
0.50<br />
0.57<br />
0.51<br />
0.66<br />
5,000<br />
5,574 5,222<br />
0.25<br />
0<br />
(ล้านบาท)<br />
2551 2552 2553<br />
0.00<br />
(เท่า)<br />
2551 2552 2553<br />
สินทรัพย์รวม หนี้สินรวม<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
สาส์นจากคณะกรรมการบริษัทฯ<br />
0<br />
บริษัทเหมราชพัฒนาที่ดินจำกัด (มหาชน) มีผลการดำเนินงานสำหรับปี 2553 ด้วยผลกำไรสุทธิ 1,215.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 111 จากปี<br />
2552 ซึ่งผลกำไรสุทธิสำหรับปีนี้ได้รวมกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจากโครงการลงทุนซึ่งยังไม่ได้เริ่มดำเนินการ 394 ล้านบาท โดย<br />
บริษัทฯ มีรายได้รวม 4,020.2 ล้านบาทเปรียบเทียบกับรายได้รวมในปี 2552 จำนวน 2,223 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 81 <br />
ผลการประกอบการปี 2553 ได้สะท้อนถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทยที่เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันขึ้นอย่างมาก เนื่องจาก<br />
การลงทุนในประเทศไทยนั้นสามารถเข้าถึงตลาดต่างๆ ที่มีการขยายตัวอย่างสูง ความสามารถในการแข่งขันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของต้นทุนการผลิต<br />
และอัตราแลกเปลี่ยน รวมถึงโอกาสการควบรวมกิจการเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของบริษัทต่างๆ <br />
ยอดขายที่ดินอุตสาหกรรมของบริษัทฯ ในปี 2553 มีจำนวนทั้งหมด 930 ไร่ (หรือ 372 เอเคอร์) จากความต้องการของอุตสาหกรรมยานยนต์<br />
ที่เพิ่มมากขึ้น จะเห็นได้จาก ตั้งแต่ต้นปี 2553 บริษัทฟอร์ด มอเตอร์ ที่ได้มาตั้งโรงงานผลิตระดับภูมิภาคแห่งใหม่พื้นที่ 468ไร่ (หรือ 187 เอเคอร์)<br />
ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด ในพื้นที่ซึ่งรู้จักกันในนาม “ดีทรอยต์ตะวันออก” ศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์<br />
บริษัทฯเชื่อว่าโอกาสด้านอุตสาหกรรมสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของการผลิตยานยนต์เป็นจำนวน 1,645,000 คัน (อันดับที่ 13 ของโลกในปี 2553)<br />
หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 65 เมื่อเทียบกับปี 2552 นอกจากนี้ยังมีโรงงานประกอบรถยนต์ที่กำลังดำเนินการสร้าง รวมถึงผู้ผลิตและผู้จัดซื้อ ชิ้นส่วน<br />
ยานยนต์ที่จะเกิดขึ้นใหม่ซึ่งจะมาพร้อมกับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีความหลากหลายมากขึ้น<br />
การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทยได้สร้างเสริมบรรยากาศการลงทุน อีกทั้งการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังได้ช่วยลดความเสี่ยงทางด้าน<br />
การเมือง อย่างไรก็ตาม การที่ภาครัฐยังไม่ให้ความสำคัญอย่างเพียงพอในด้านความเป็นธรรมแก่ผู้ลงทุนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินการในหลักเกณฑ์<br />
การประเมินผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมซึ่งขณะนี้หลายโครงการยังคงอยู่ระหว่างการดำเนินการขออนุมัติผลการศึกษาผลกระทบดังกล่าว<br />
ทั้งนี้เป็นโอกาสดีของประเทศไทยที่จะได้รับประโยชน์จากการขยายตัวของการลงทุนและการรวมศูนย์การผลิตนำไปสู่การเลือกทำเลที่ตั้งใหม่ที่มี<br />
ศักยภาพพร้อม การรวมกลุ่มกันของธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ ปิโตรเคมี และอุตสาหกรรมอื่นในระยะยาวจะดำเนินต่อไปโดยเฉพาะอย่างยิ่ง<br />
กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ในนิคมอุตสาหกรรมของเหมราช “ดีทรอย์ตะวันออก” บริษัทฯ เชื่อมั่นว่ากลยุทธและแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ ในภาค<br />
อุตสาหกรรม ยังคงมีประสิทธิภาพ<br />
สำหรับแผนการลงทุนของบริษัทฯ นั้นบริษัทฯ ได้ตกลงที่จะเข้าลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ซึ่งใช้เงินลงทุนจำนวนสูงซึ่งจะนำมาซึ่งโอกาสและ<br />
การดำเนินงานอย่างมีศักยภาพและมีฐานรายได้ที่กว้างขึ้น ในขณะเดียวกันบริษัทฯ ยังคงนโยบายในการรักษาฐานะทางการเงินให้มีทั้งสภาพคล่องและ<br />
ความแข็งแกร่ง บริษัทฯได้ลงทุนในโครงการโรงงานไฟฟ้าอิสระ เก็คโค่-วัน ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง และลงทุนในโครงการไฟฟ้าอื่นๆ<br />
โรงงานสำเร็จรูป รวมถึงโครงการสาธารณูปโภคอื่นๆ ในปี 2553 บริษัทฯได้ซื้อหุ้นส่วนที่เหลืออีก 75% ในเขตประกอบการอุตสาหกรรมเหมราช<br />
สระบุรี และเขตประกอบการอุตสาหกรรมเหมราชระยอง จากเครือซีเมนต์ไทยอีกด้วย<br />
ทางด้านการเงิน บริษัทเหมราชยังคงรักษางบดุลที่แข็งแกร่งและสภาพคล่องสำหรับดำเนินตามแผนงาน ณ สิ้นปี 2553 บริษัทฯ มีสินทรัพย์<br />
ทั้งหมด 18,715 ล้านบาทซึ่งรวมถึงเงินสดและเงินสดที่ฝากไว้ 4,283 ล้านบาท มีหนี้สิน 9,577 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 9,138 ล้านบาท<br />
อัตราส่วนหนี้ต่อทุนอยู่ที่ 0.66 ต่อ 1 เท่า ซึ่งต่ำกว่า 1 ต่อ 1 เท่า<br />
สำหรับการจัดหาเงินทุนในปี 2553 บริษัทฯ ได้ออกหุ้นกู้เป็นประเภทไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน กำหนดอัตราดอกเบี้ยคงที่ จำนวน 6 พันล้าน<br />
บาทโดยมีระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอน 3 ถึง 9 ปี เพื่อเป็นการขยายแหล่งเงินทุนและเป็นการจัดการทางการเงินล่วงหน้าในช่วงเวลาที่อัตราดอกเบี้ย<br />
อยู่ในระดับที่ต่ำมากและมีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้นในอนาคตอันใกล้<br />
บริษัทยึดถือแนวปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี โดยตระหนักถึงความสำคัญและความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทมาโดยตลอด<br />
ด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท และความร่วมมืออย่างเต็มที่ของทุกฝ่ายทำให้บริษัทได้รับการจัดอันดับอยู่ในเกณฑ์ ‘ดีเลิศ’ จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการ<br />
บริษัทไทยในปี 2553 <br />
ดังนั้นในภาพรวมของแผนทั้งหมดของบริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นแผนกลยุทธ แผนธุรกิจ แผนการเงินและแผนการดำเนินการตามหลักกำกับดูแล<br />
กิจการที่ดีได้สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาโอกาสทางธุรกิจของบริษัทฯ ให้ได้รับผลตอบแทนสูงสุดนี้ให้แก่ผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้<br />
บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงสภาวะทางการเมือง เศรษฐกิจและสภาวะความเสี่ยงของตลาด เช่นเดียวกันกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก คณะกรรมการ<br />
และคณะผู้บริหารของบริษัทฯ ขอแสดงความขอบคุณที่ท่านได้ให้ความไว้วางใจให้ดูแลและรับผิดชอบต่อการบริหารของบริษัทฯ เสมอมา<br />
(นายเดวิด ริชาร์ด นาร์โดน)<br />
กรรมการผู้จัดการ<br />
10 มีนาคม 2553<br />
(นายชวลิต เศรษฐเมธีกุล)<br />
ประธานคณะกรรมการบริษัทฯ<br />
10 มีนาคม 2553<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
0<br />
ข้อมูลของคณะกรรมการและคณะผู้บริหาร<br />
บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน)<br />
คณะกรรมการบริษัทฯ<br />
นายชวลิต เศรษฐเมธีกุล<br />
ประธานคณะกรรมการ,<br />
กรรมการสรรหาและพิจารณาผลตอบแทน<br />
อายุ : 64 ปี <br />
วุฒิทางการศึกษา / การอบรม : ปริญญาโท รัฐศาสตร์มหาบัณฑิต (บริหารรัฐกิจ) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์<br />
ปริญญาบัตร วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่น 40<br />
เนติบัณฑิตไทย สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา<br />
ปริญญาตรี นิติศาสตร์บัณฑิต (เกียรตินิยมดี) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์<br />
สถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) หลักสูตร DAP 6/2003 และ DCP 74/2006<br />
Kellogg School of Management หลักสูตร Strategic Thinking <strong>and</strong><br />
Executive Action (Kellogg School of Management, Evanston, Illinois,<br />
Campus of Northwestern University, USA)<br />
<br />
การดำรงตำแหน่งปัจจุบัน : <br />
• ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. ศรีราชาฮาร์เบอร์ <br />
ประสบการณ์การทำงาน : <br />
อธิบดีกรมศุลกากร<br />
<br />
รองปลัดกระทรวงการคลัง<br />
<br />
ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง <br />
รองอธิบดีกรมสรรพสามิต<br />
<br />
ประธานกรรมการ บรรษัท ประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) <br />
รองประธานกรรมการ การไฟฟ้านครหลวง <br />
รองประธาน บจ. ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) <br />
รองประธาน<br />
บมจ. ทีโอที<br />
กรรมการ ในคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานกฤษฎีกา <br />
• กรรมการ ในคณะกรรมการเนติบัณฑิตสภา <br />
สัดส่วนการถือครองหลักทรัพย์ <br />
ณ วันที่ 31/12/53 : 0.00% <br />
นายสุทธิพันธุ์ จารุมณี<br />
กรรมการอิสระ,<br />
ประธานคณะกรรมการตรวจสอบ<br />
ประธานคณะกรรมการสรรหาและพิจารณา<br />
ผลตอบแทน<br />
อายุ : 67 ปี <br />
วุฒิทางการศึกษา/การอบรม : วิชาการบัญชีชั้นสูง จากสถาบันชาร์เตอร์แอคเค้าแทนท์ ประเทศอังกฤษและเวลล์<br />
สถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) <br />
หลักสูตร ACP 6/2005, DAP 2/2003, DCP 57/2005, MIA 3/2008, <br />
MIR 4/2008, QFR 3/2006, RCC 8/2009, DCP Re 2/2009 <br />
การดำรงตำแหน่งปัจจุบัน :<br />
• กรรมการ บจ. วสุภัคแอสโซซิเอทส์ <br />
ประสบการณ์การทำงาน :<br />
• กรรมการ บจ. ยูเนียนอุตสาหกรรมสิ่งทอ <br />
• กรรมการ บจ. ยูเนียนอุตสาหกรรมด้าย <br />
สัดส่วนการถือครองหลักทรัพย์ <br />
ณ วันที่ 31/12/53 : 0.00% <br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
0<br />
อาย : 58 ปี <br />
วุฒิทางการศึกษา / การอบรม : มัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนโรจน์เสรีอนุสรณ์ <br />
สถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) หลักสูตร DAP 77/2009 <br />
การดำรงตำแหน่งปัจจุบัน :<br />
• บริษัทย่อย<br />
ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและกรรมการในบริษัทย่อยของบริษัทฯนอก<br />
ตลาดหลักทรัพย์ จำนวน 12 บริษัท<br />
<br />
• บริษัทอื่นๆ <br />
กรรมการ บจ. ลีฟสมาร์ท <br />
กรรมการ บจ. ร่วมฤดี แคปปิตอล <br />
ประสบการณ์การทำงาน :<br />
กรรมการ บจ. แพนสุขภัณฑ์ <br />
• กรรมการ<br />
เจ้าของธุรกิจส่วนตัว <br />
สัดส่วนการถือครองหลักทรัพย์ <br />
ณ วันที่ 31/12/53 : 0.02% <br />
นายธงชัย ศรีสมบูรณานนท์<br />
กรรมการ, ประธานคณะกรรมการบริหาร<br />
กรรมการสรรหาและพิจารณาผลตอบแทน<br />
อายุ : 55 ปี <br />
วุฒิทางการศึกษา / การอบรม : ปริญญาโทบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนอร์ทอีสเทอร์น บอสตัน สหรัฐอเมริกา<br />
สถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) หลักสูตร DCP 57/2005 <br />
การดำรงตำแหน่งปัจจุบัน : <br />
• บริษัทย่อย<br />
ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและกรรมการในบริษัทย่อยของบริษัทฯนอก<br />
ตลาดหลักทรัพย์ จำนวน 14 บริษัท<br />
<br />
• บริษัทร่วม<br />
<br />
รองประธานกรรมการ บจ. เก็คโค่-วัน <br />
ประธานกรรมการ บจ. โคเฟลี (ประเทศไทย) <br />
กรรมการ บจ. ห้วยเหาะไทย <br />
กรรมการ บจ. ห้วยเหาะเพาเวอร์ <br />
สัดส่วนการถือครองหลักทรัพย์ <br />
ณ วันที่ 31/12/53 : 0.43% <br />
นายเดวิด ริชาร์ด นาร์โดน<br />
กรรมการและกรรมการบริหาร<br />
กรรมการผู้จัดการ<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
0<br />
นายวิวัฒน์ จิรัฐติกาลสกุล<br />
กรรมการและกรรมการบริหาร<br />
รองกรรมการผู้จัดการ<br />
อายุ : 55 ปี <br />
วุฒิทางการศึกษา / การอบรม : ปริญญาตรีคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาสุขาภิบาล จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย<br />
สถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) หลักสูตร DAP 2/2003 และ DCP 38/2003 <br />
การดำรงตำแหน่งปัจจุบัน :<br />
• บริษัทย่อย ดำรงตำแหน่งกรรมการในบริษัทย่อยของบริษัทฯนอกตลาดหลักทรัพย์ จำนวน 14<br />
บริษัท<br />
<br />
• บริษัทร่วม<br />
<br />
กรรมการ บจ. เก็คโค่-วัน <br />
กรรมการ บจ. โคเฟลี (ประเทศไทย) <br />
กรรมการ บจ. ห้วยเหาะไทย <br />
กรรมการ บจ. ห้วยเหาะเพาเวอร์ <br />
สัดส่วนการถือครองหลักทรัพย์ <br />
ณ วันที่ 31/12/53 : 0.09% <br />
นายปีเตอร์ จอห์น เอ็ดมันสัน<br />
กรรมการอิสระ<br />
กรรมการตรวจสอบ<br />
อายุ : 61 ปี <br />
วุฒิทางการศึกษา : ปริญญาตรีเกียรตินิยมเคมี มหาวิทยาลัยเชพฟิลล์ อังกฤษ <br />
การดำรงตำแหน่งปัจจุบัน : <br />
• ที่ปรึกษาด้านการลงทุน หน่วยงานภาคเอกชนต่างๆ <br />
ประสบการณ์การทำงาน:<br />
ผู้จัดการทั่วไป West Merchant Bank ประเทศสิงคโปร์ <br />
กรรมการ St<strong>and</strong>ard Charter Merchant Bank ประเทศสิงคโปร์ <br />
ผู้จัดการอาวุโส The Arab Investment Company ริยาบร์และบารเรนห์ <br />
• ผู้จัดการ Williams & Glyn’s Bank <br />
สัดส่วนการถือครองหลักทรัพย์ <br />
ณ วันที่ 31/12/53 : 0.05% <br />
นางพรรณี วรวุฒิจงสถิต<br />
กรรมการอิสระ, กรรมการตรวจสอบ<br />
กรรมการบรรษัทภิบาล<br />
อายุ :<br />
59 ปี <br />
วุฒิทางการศึกษา / การอบรม : ปริญญาโทบัญชี จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย <br />
สถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) หลักสูตร ACP 2/2004, DAP 2/2003, DCP<br />
38/2003, MFM 1/2009, <br />
MFR 5/2007, MIA 1/2007, MIR 2/2008, QFR 1/2006, RCC 7/2008,<br />
DCP Re 2/2009 <br />
วุฒิบัตร CPA ประเทศไทย <br />
วุฒิบัตร CIA สมาคมตรวจสอบภายในสหรัฐอเมริกา <br />
วุฒิบัตร CPIA, QIA สมาคมตรวจสอบภายในประเทศไทย <br />
Chartered Director <br />
การดำรงตำแหน่งปัจจุบัน : <br />
กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ บมจ.บรู๊คเคอร์ กรุ๊ป <br />
กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ บจ.ไทยวาโก้ <br />
กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ บจ. โมโนเทคโนโลยี <br />
กรรมการ บจ. บุญกร <br />
กรรมการด้านบัญชีภาษีอากร สภาวิชาชีพบัญชีในพระบรมราชูปถัมภ์ <br />
• กรรมการภาษีอากร สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย <br />
ประสบการณ์การทำงาน : <br />
• กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ บมจ. จีเอ็ม มัลติมีเดีย <br />
สัดส่วนการถือครองหลักทรัพย์ <br />
ณ วันที่ 31/12/53 : 0.00% <br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
อายุ : 49 ปี <br />
วุฒิทางการศึกษา / การอบรม : ปริญญาโทบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์<br />
สถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) <br />
หลักสูตร DAP 1/2003, DCP 55/2005, RCC 9/2009<br />
การดำรงตำแหน่งปัจจุบัน :<br />
<br />
• บริษัทย่อย<br />
ดำรงตำแหน่งกรรมการในบริษัทย่อยของบริษัทฯนอกตลาดหลักทรัพย์ จำนวน 11 บริษัท<br />
• บริษัทร่วม <br />
กรรมการ บจ. โคเฟลี (ประเทศไทย) <br />
กรรมการ บจ. เก็คโค่ - วัน <br />
กรรมการ บจ. ห้วยเหาะไทย <br />
• บริษัทอื่น <br />
กรรมการ บจ. ซี เอ โพสท์ ไทยแลนด์ <br />
สัดส่วนการถือครองหลักทรัพย์ <br />
ณ วันที่ 31/12/53 : 0.00% <br />
นางสาวปัทมา หอรุ่งเรือง<br />
กรรมการและกรรมการบริหาร<br />
รองกรรมการผู้จัดการ<br />
กรรมการบรรษัทภิบาล<br />
0<br />
อายุ : 67 ปี <br />
วุฒิทางการศึกษา / การอบรม : ปริญญาโทบริหารธุรกิจ (การเงิน) มหาวิทยาลัยมิชิแกนเสตท สหรัฐอเมริกา <br />
(ทุน ก.พ.)<br />
<br />
สถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) หลักสูตร ACP 13/2006, DCP 62/2005,<br />
MFM 1/2009, MFR 9/2009, MIA 5/2009, MIR 6/2009<br />
RCP 17/2007, DCP Re 2/2009<br />
การดำรงตำแหน่งปัจจุบัน : <br />
• ประธานคณะกรรมการตรวจสอบ บมจ. ประสิทธิ์พัฒนา <br />
• ประธานคณะกรรมการ บจ. เอราวัญสิ่งทอ <br />
• ประธานกรรมการตรวจสอบ บจ. ไทยซีคอมพิทักษ์กิจ <br />
ประสบการณ์การทำงาน :<br />
ประธานคณะกรรมการตรวจสอบ ธนาคารออมสิน <br />
ประธานกรรมการ<br />
คณะกรรมการบริหารโครงการปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจ ม. ธรรมศาสตร์<br />
ประธานกรรมการ<br />
องค์การคลังสินค้า กระทรวงพาณิชย์<br />
• อนุกรรมการ<br />
คณะอนุกรรมการจัดทำบันทึกข้อตกลงและประเมินผลการดำเนินงาน<br />
ของรัฐวิสาหกิจ สนง. คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ กระทรวงการคลัง<br />
กรรมการ บมจ. สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง <br />
• เลขาธิการ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน <br />
สัดส่วนการถือครองหลักทรัพย์ <br />
ณ วันที่ 31/12/53 : 0.00% <br />
<br />
นายสมพงษ์ วนาภา<br />
กรรมการอิสระ<br />
ประธานคณะกรรมการบรรษัทภิบาล<br />
อายุ : 40 ปี <br />
วุฒิทางการศึกษา / การอบรม : ปริญญาโทบริหารธุรกิจ (การเงิน) มหาวิทยาลัยนอร์ธอีสเทิรน์ สหรัฐอเมริกา<br />
สถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) หลักสูตร DCP 64/2005, DCP Re 2/2009 <br />
การดำรงตำแหน่งปัจจุบัน :<br />
กรรมการผู้จัดการ บมจ. ศรีราชาฮาร์เบอร์ <br />
รองกรรมการผู้จัดการ บจ. ที.ซี เอ็กซ์ซิบิชั่น <br />
กรรมการ บจ. ซันเทคเมทัลส์ <br />
กรรมการ บจ. เฟรมมิ่ง พร๊อพเพอร์ตี้ <br />
กรรมการ บจ. อีสเทอร์นเวลธ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ <br />
• กรรมการ บจ. ซีเอ โพสท์ (ประเทศไทย) <br />
ประสบการณ์การทำงาน<br />
<br />
กรรมการ บจ. พรหมนเรศวร <br />
• รองกรรมการผู้จัดการ บจ. Neo Step <br />
สัดส่วนการถือครองหลักทรัพย์ <br />
ณ วันที่ 31/12/53 : 1.12%<br />
นายวิกิจ หอรุ่งเรือง<br />
กรรมการ<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
0<br />
17 10 8 5 14 16 4 2 1 3 9 11 12 15 6 13<br />
คณะผู้บริหาร<br />
1 นายเดวิด ริชาร์ด นาร์โดน อายุ 55 <br />
วุฒิทางการศึกษา<br />
ปริญญาโทบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนอร์ทอีสเทอร์น บอสตัน สหรัฐอเมริกา<br />
<br />
การดำรงตำแหน่งปัจจุบัน<br />
กรรมการ, กรรมการบริหาร, กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร <br />
ร่วมงานกับบริษัทฯ เหมราชตั้งแต่ปี 2536<br />
% การถือครองหลักทรัพย์ ณ วันที่ 31/12/53 0.43%<br />
2 นายวิวัฒน์ จิรัฐติกาลสกุล อายุ 55 <br />
วุฒิทางการศึกษา<br />
ปริญญาตรีคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาสุขาภิบาล จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย<br />
<br />
การดำรงตำแหน่งปัจจุบัน<br />
กรรมการ, กรรมการบริหาร และรองกรรมการผู้จัดการ <br />
ร่วมงานกับบริษัทฯ เหมราชตั้งแต่ปี 2532<br />
% การถือครองหลักทรัพย์ ณ วันที่ 31/12/53 0.09%<br />
3 นางสาวปัทมา หอรุ่งเรือง อายุ 49 <br />
วุฒิทางการศึกษา<br />
ปริญญาโทบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์<br />
<br />
การดำรงตำแหน่งปัจจุบัน<br />
กรรมการ, กรรมการบริหาร, รองกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน <br />
ร่วมงานกับบริษัทฯ เหมราชตั้งแต่ปี 2546<br />
% การถือครองหลักทรัพย์ ณ วันที่ 31/12/53 0.00%<br />
4 นายสุนทร คงสุนทรกิจกุล อายุ 60 <br />
วุฒิทางการศึกษา<br />
ปริญญาตรีวิศวกรรมเครื่องกล คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย <br />
การดำรงตำแหน่งปัจจุบัน<br />
ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายปฎิบัติการธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม <br />
ร่วมงานกับบริษัทฯ เหมราชตั้งแต่ปี 2550<br />
% การถือครองหลักทรัพย์ ณ วันที่ 31/12/53 0.00%<br />
5 นายปรีเปรม มาลาสิทธฺ์ อายุ 58 <br />
วุฒิทางการศึกษา<br />
ปริญญาโทบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนอร์ทเทอร์น อิลีนอยล์ สหรัฐอเมริกา<br />
<br />
การดำรงตำแหน่งปัจจุบัน<br />
ผู้อำนวยการฝ่ายศูนย์การฝึกอบรมนิคมอุตสาหกรรม <br />
ร่วมงานกับบริษัทฯ เหมราชตั้งแต่ปี 2550<br />
% การถือครองหลักทรัพย์ ณ วันที่ 31/12/53 0.00%<br />
6 นายศิริศักดิ์ กิจรักษา อายุ 50 <br />
วุฒิทางการศึกษา<br />
ปริญญาตรีคณะบัญชี มหาวิทยาลัยกรุงเทพ<br />
<br />
การดำรงตำแหน่งปัจจุบัน<br />
ผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและกฏหมาย <br />
ร่วมงานกับบริษัทฯ เหมราชตั้งแต่ปี 2533<br />
% การถือครองหลักทรัพย์ ณ วันที่ 31/12/53 0.00%<br />
7 นายคำฮอง รัศมานี อายุ 44 <br />
วุฒิทางการศึกษา<br />
ปริญญาโทบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ<br />
<br />
การดำรงตำแหน่งปัจจุบัน<br />
ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนโครงการระบบน้ำและโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก <br />
ร่วมงานกับบริษัทฯ เหมราชตั้งแต่ปี 2538<br />
% การถือครองหลักทรัพย์ ณ วันที่ 31/12/53 0.00%<br />
8 นางสาวลัดดา โรจนาวิไลวุฒิ อายุ 43 <br />
วุฒิทางการศึกษา<br />
ปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ, ปริญญาโทด้านภาษาญี่ปุ่น มหาวิทยาลัยสตรีนารา,<br />
นารา, ญี่ปุ่น <br />
การดำรงตำแหน่งปัจจุบัน<br />
ผู้อำนวยการฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม <br />
ร่วมงานกับบริษัทฯ เหมราชตั้งแต่ปี 2544<br />
% การถือครองหลักทรัพย์ ณ วันที่ 31/12/53 0.00%<br />
9 นางสาวอัญชลี ประเสริฐจันทร์ อายุ 41 <br />
วุฒิทางการศึกษา<br />
ปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ,ปริญญาโทด้านภาษาญี่ปุ่น มหาวิทยาลัยเคโอ <br />
โตเกียว ญี่ปุ่น <br />
การดำรงตำแหน่งปัจจุบัน<br />
ผู้อำนวยการฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม <br />
ร่วมงานกับบริษัทฯ เหมราชตั้งแต่ปี 2544<br />
% การถือครองหลักทรัพย์ ณ วันที่ 31/12/53 0.00%<br />
10 นางสาวสมใจ วชิรห้า อายุ 50 <br />
วุฒิทางการศึกษา<br />
ปริญญาตรีสาขาการบริหารงานทั่วไป คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรามคำแหง <br />
การดำรงตำแหน่งปัจจุบัน<br />
ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน <br />
ร่วมงานกับบริษัทฯ เหมราชตั้งแต่ปี 2533<br />
% การถือครองหลักทรัพย์ ณ วันที่ 31/12/53 0.00%<br />
11 นางสาวจิณณพัต ทองวิเศษกุล อายุ 41 <br />
วุฒิทางการศึกษา<br />
ปริญญาโทสาขาเศรษฐศาสตร์ธุรกิจและการจัดการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย<br />
<br />
การดำรงตำแหน่งปัจจุบัน<br />
ผู้อำนวยการฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์โครงการธุรกิจที่พักอาศัย <br />
ร่วมงานกับบริษัทฯ เหมราชตั้งแต่ปี 2536<br />
% การถือครองหลักทรัพย์ ณ วันที่ 31/12/53 0.00%<br />
12 นางสาวฉันทนา หินแก้ว อายุ 41<br />
วุฒิทางการศึกษา<br />
ปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยนอตติ้งแฮม อังกฤษ, ปริญญาโทวารสารศาตร์สาขาวิชาสื่อสาร<br />
มวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์<br />
<br />
การดำรงตำแหน่งปัจจุบัน<br />
ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด <br />
ร่วมงานกับบริษัทฯ เหมราชตั้งแต่ปี 2547<br />
% การถือครองหลักทรัพย์ ณ วันที่ 31/12/53 0.00%<br />
13 นายอภิชาติ ตรงสุขสรรค์ อายุ 46<br />
วุฒิทางการศึกษา<br />
ปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์, ปริญญาโทสาขาคอมพิวเตอร์<br />
มหาวิทยาลัยมหิดล<br />
<br />
การดำรงตำแหน่งปัจจุบัน<br />
ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายระบบข้อมูลและบริการ <br />
ร่วมงานกับบริษัทฯ เหมราชตั้งแต่ปี 2537<br />
% การถือครองหลักทรัพย์ ณ วันที่ 31/12/53 0.00%<br />
14 นายธนินทร์ ทรัพย์บุญเรือง อายุ 47<br />
วุฒิทางการศึกษา<br />
ปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ<br />
<br />
การดำรงตำแหน่งปัจจุบัน<br />
ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาโครงการธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม <br />
ร่วมงานกับบริษัทฯ เหมราชตั้งแต่ปี 2539<br />
% การถือครองหลักทรัพย์ ณ วันที่ 31/12/53 0.00%<br />
15 นายเผ่าพิทยา สมุทรกลิน อายุ 40<br />
วุฒิทางการศึกษา<br />
ปริญญาโทด้านการเงิน มหาวิทยาลัยเดรกเซล สหรัฐอเมริกา<br />
<br />
การดำรงตำแหน่งปัจจุบัน<br />
ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนและนักลงทุนสัมพันธ์ <br />
ร่วมงานกับบริษัทฯ เหมราชตั้งแต่ปี 2539<br />
% การถือครองหลักทรัพย์ ณ วันที่ 31/12/53 0.00%<br />
16 นายนิพนธ์ หาญพัฒนพานิชย์ อายุ 54<br />
วุฒิทางการศึกษา<br />
ปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย<br />
<br />
การดำรงตำแหน่งปัจจุบัน<br />
ผู้อำนวยการฝ่ายวางแผนโครงการธุรกิจที่พักอาศัย <br />
ร่วมงานกับบริษัทฯ เหมราชตั้งแต่ปี 2546<br />
% การถือครองหลักทรัพย์ ณ วันที่ 31/12/53 0.00%<br />
17 นางสาวปรารถนา กิจจานนท์ อายุ 46 <br />
วุฒิทางการศึกษา<br />
ปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์<br />
<br />
การดำรงตำแหน่งปัจจุบัน<br />
ผู้อำนวยการฝ่ายจัดหา <br />
ร่วมงานกับบริษัทฯ เหมราชตั้งแต่ปี 2551<br />
% การถือครองหลักทรัพย์ ณ วันที่ 31/12/53 0.00%<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
ลักษณะการดำเนินธุรกิจและโครงสร้างธุรกิจ<br />
0<br />
บริษัทฯ เป็นผู้นำในด้านการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมและระบบสาธารณูปโภคในประเทศไทยนับตั้งแต่ปี 2531เป็นต้น<br />
มา “ดีทรอย์ออฟเดอะอีสท์” ในอีสเทิร์นซีบอร์ด เป็นศูนย์รวมของกลุ่มอุตสาหกรรมรถยนต์ระดับชั้นนำ เป็นที่ตั้งของบริษัทฟอร์ด<br />
บริษัทมาสด้า บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัท<br />
ร่วมทุนระหว่างฟอร์ดและมาสด้า และอีกกว่า 140 บริษัททั่วโลกที่ได้เลือกนิคมของบริษัทฯ เป็นฐานที่ตั้งการผลิตในประเทศไทย<br />
ด้วยทำเลที่ตั้งใกล้กับศูนย์ปิโตรเคมีแห่งชาติ ท่าเรือน้ำลึกมาบตาพุดในจังหวัดระยองและท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังในจังหวัดชลบุรี<br />
นิคมอุตสาหกรรมของบริษัทฯ จึงเป็นศูนย์รวมของอุตสาหกรรมในกลุ่มปิโตรเคมี และอุตสาหกรรมอื่นๆ มาเป็นเวลากว่า 20 ปี <br />
นอกเหนือจากที่ดินในนิคมอุตสาหกรรม ระบบสาธารณูปโภค โรงงานสำเร็จรูปสำหรับขายและเช่า การให้บริการใน<br />
นิคมอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่รวมไปถึงระบบโลจิสติกส์และระบบการบริหารจัดการ Supply Chain ในนิคมอุตสาหกรรมและเขต<br />
ประกอบการอุตสาหกรรมของบริษัทฯ ทั้ง 6 แห่งซึ่งส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในเขตอีสเทิร์นซีบอร์ดประเทศไทยแล้ว บริษัทฯ มีความมุ่งมั่น<br />
ในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมมีการวางนโยบายและแผนงานในนิคมอุตสาหกรรมของบริษัทฯ จากความสำเร็จในการดำเนิน<br />
การจัดตั้ง “ศูนย์ป้องกันและเฝ้าระวังทางด้านสิ่งแวดล้อมแบบครบวงจร” หรือ “ศูนย์ E=MC2” การได้รับการรับรองระบบ<br />
คุณภาพ ISO 14001, ISO 9001:2000 และรางวัลจาก EIA ด้านการจัดการเรื่องสิ่งแวดล้อมจากกระทรวงวิทยาศาสตร์<br />
เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงผลการประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทยประจำปี 2553 ใน<br />
ระดับ “5 ดาว” หรือ “ดีเลิศ” ทำให้บริษัทฯ ได้รับการคัดเลือกให้เป็นนิคมฯต้นแบบในการบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมเชิง<br />
เศรษฐนิเวศน์ (Eco Industrial Estate) ร่วมกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในปี 2553 <br />
นิคมอุตสาหกรรม<br />
บริษัทฯ ได้พัฒนาและบริหารนิคมอุตสาหกรรมจำนวน 4 แห่งและเขตประกอบการอุตสาหกรรมจำนวน 2 แห่งมีพื้นที่<br />
รวมกว่า 31,350 ไร่ (13,000 เอเคอร์) ด้วยจำนวนลูกค้ากว่า 426 รายจากจำนวนสัญญาที่รวมสัญญาเช่าจำนวน 643 สัญญา<br />
ในจำนวนนี้เป็นกลุ่มลูกค้ายานยนตร์จำนวน 148 รายจากจำนวน 223 สัญญา ด้วยเงินลงทุนรวมกันกว่า 20,000 ล้านเหรียญ<br />
ดอลล่าร์สหรัฐและจำนวนพนักงานรวมกว่า 80,000 คน<br />
1. นิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด (H-ESIE)<br />
2. นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ESIE) <br />
3. นิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก (HEIE)<br />
4. นิคมอุตสาหกรรมเหมราชชลบุรี (HCIE)<br />
5. เขตประกอบการอุตสาหกรรมเหมราชระยอง (HRIL)<br />
6. เขตประกอบการอุตสาหกรรมเหมราชสระบุรี (HSIL)<br />
<br />
ที่ตั้ง BOI โซน พื้นที่ (ไร่) อุตสาหกรรมหลักที่สำคัญ<br />
H-ESIE อำเภอปลวกแดง ระยอง 2, 3, เขตปลอดภาษี 8,126 ผลิตรถยนต์และวัสดุอุปกรณ์รถยนต์<br />
ESIE อำเภอปลวกแดง ระยอง 2, 3, เขตปลอดภาษี 8,628 ผลิตรถยนต์และวัสดุอุปกรณ์รถยนต์<br />
HEIE อำเภอมาบตาพุด ระยอง 3 3,546 เคมี ปิโตรเคมี เหล็ก พลังงาน<br />
HCIE อำเภอบ่อวิน ชลบุรี 2, เขตปลอดภาษี 3,993 อิเล็กทรอนิกส์ เหล็ก พลังงาน<br />
HRIL อำเภอบ้านค่าย ระยอง 3 3,438 เคมีเบา สินค้าอุปโภคบริโภค<br />
HSIL อำเภอหนองแค สระบุรี 2 3,619 วัสดุก่อสร้าง อิเล็กทรอนิกส์<br />
รวมทั้งสิ้น 31,350<br />
<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
10<br />
ระบบสาธารณูปโภคในนิคมอุตสาหกรรม<br />
บริษัทฯ เป็นบริษัทเอกชนผู้ให้บริการจัดหาน้ำดิบ<br />
น้ำประปาเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมรายใหญ่ที่สุดด้วยปริมาณน้ำที่<br />
สามารถจ่ายได้ถึง 165,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน และความ<br />
สามารถในการบำบัดน้ำเสียได้ถึง 96,000 ลูกบาศก์เมตร<br />
ต่อวัน บริษัทฯ ให้บริการด้านระบบสาธารณูปโภคในนิคม<br />
อุตสาหกรรมที่มีความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรม<br />
มีการบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมและระบบสาธารณูปโภค<br />
เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าในอุตสาหกรรมการผลิต นอกจากนี้นิคมอุตสาหกรรมทุกนิคมอุตสาหกรรมของบริษัท ฯ<br />
ได้รับการรับรองระบบคุณภาพ ISO 14001, ISO 9001:2000 และรางวัลจาก EIA ด้านการจัดการเรื่องสิ่งแวดล้อมจาก<br />
กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม <br />
พลังงาน:<br />
- บริษัท เก็คโค่-วัน เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง<br />
บริษัทฯ กับบริษัทโกลว์พลังงาน ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มของ GDF<br />
Suez Energy (เดิมคือ Tractebel Belgium) ในโครงการ<br />
โรงไฟฟ้าอิสระกำลังการผลิต 660 เมกกะวัตต์ โดยกลุ่มบริษัท<br />
โกลว์เป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 65 และ บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 35<br />
ในการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่ง<br />
ประเทศไทย (กฟผ.) โดยโครงการเก็คโค่-วัน นี้ได้รับการอนุมัติ<br />
ผ่านการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม<br />
2551 และอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง มีกำหนดเริ่มดำเนินการต้นปี 2555<br />
- บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 5 ในบริษัท โกลว์ ไอพีพี ซึ่งเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ด้วยกำลังการผลิต 713 เมกะวัตต์<br />
ที่ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราช ชลบุรี <br />
- บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 12.75 ในโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ห้วยเหาะพาวเวอร์ในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตย<br />
ประชาชนลาว โดยถือผ่านบริษัทห้วยเหาะไทยจำกัด ซึ่งมีผู้ถือหุ้นหลักคือ บริษัทฯ และบริษัทในกลุ่มโกลว์ ห้วยเหาะพาวเวอร์เป็น<br />
บริษัทที่ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาด 152 เมกะวัตต์ ในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวที่ได้รับสัมปทาน<br />
จากรัฐบาลลาวเป็นระยะเวลา 30 ปี<br />
น้ำ:<br />
- บริษัท เหมราช วอเตอร์ จำกัด เป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้น<br />
ร้อยละ 100 เพื่อพัฒนาและบริหารแหล่งน้ำและจัดจำหน่ายน้ำให้แก่ลูกค้ากลุ่ม<br />
โรงงานอุตสาหกรรม<br />
- บริษัท เหมราช คลีน วอเตอร์ จำกัด เป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือ<br />
หุ้นร้อยละ 100 เพื่อผลิตและจัดจำหน่ายน้ำที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตให้แก่<br />
ลูกค้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรม<br />
การให้บริการและระบบสาธารณูปโภคอื่นๆ: <br />
บริษัท ฯ ให้บริการด้านสาธารณูปโภคและบริการด้านอุตสาหกรรม<br />
อื่นๆ แก่ลูกค้าเพื่อประโยชน์ของลูกค้าในการใช้ทรัพยากรร่วมกัน ซึ่งเป็นการ<br />
ขยายขีดความสามารถของบริษัท ฯ และบริษัทฯ คู่ค้าในระดับสากลที่นอก<br />
เหนือไปจากการบริหารจัดการในธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมของบริษัท ฯ <br />
- บริษัท โคเฟลี (ประเทศไทย) เดิมชื่อบริษัท เอลโย่ เอช ฟาซิลิตี้<br />
แมนเนจเม้นท์ เป็นบริษัทร่วมทุนกับบริษัท GDF Suez Energy และบริษัท<br />
เตียวฮง สีลม จำกัด โดยบริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 40 เพื่อให้บริการในด้านการ<br />
จัดการดูแลระบบสาธารณูปโภคให้แก่ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมในนิคม<br />
อุตสาหกรรม ลูกค้าหลัก เช่น ESSO, Glow , Lite On, Saint-Gobain<br />
Sekurit, Thai German Ceramic และกลุ่มของ Siam Ceramic <br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
- บริษัท อีสเทิร์นไพพ์ไลน์เซอร์วิสเซส เป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 100 เพื่อดำเนินธุรกิจบริการให้เช่าฐาน<br />
วางท่อสำหรับการขนส่งสารเคมี ไอน้ำ และแก๊สที่ใช้ในอุตสาหกรรมสำหรับลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมหนักด้วยเงินลงทุนกว่า 200<br />
ล้านบาท<br />
- บริษัท เอช-คอนสตรัคชั่น แมนเนจเมนท์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง เป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 100 เพื่อ<br />
ดำเนินธุรกิจการให้บริการด้านการออกแบบ การควบคุมก่อสร้าง และบริการการจัดการในงานก่อสร้าง <br />
<br />
อสังหาริมทรัพย์<br />
โรงงานสำเร็จรูปสำหรับขายและเช่า:<br />
บริษัทฯ ได้ออกแบบและพัฒนาโรงงานสำเร็จรูปที่สามารถขยายพื้นที่ใช้สอยเพื่อตอบสนองต่อความต้องการในอนาคต<br />
ของลูกค้า มีขนาดของโรงงานตั้งแต่ 500 ตารางเมตรถึง 8,000 ตารางเมตรสำหรับเช่าและขาย ตั้งอยู่ในเขตอุตสาหกรรมทั่วไป<br />
และเขตปลอดภาษีในหลายนิคมอุตสาหกรรมหรือเขตประกอบการอุตสาหกรรมของบริษัทฯ <br />
ทั้งนี้โรงงานสำหรับเช่าจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้<br />
กับลูกค้าของบริษัทฯ ทั้งในด้านเงินลงทุน การเงิน รวมไปถึง<br />
โอกาสในการขยายพื้นที่ไปยังโรงงานที่ใหญ่ขึ้น หรือพื้นที่ที่<br />
พัฒนาเมื่อมีการเติบโตของธุรกิจ โดยมี บริษัท เอช-คอน<br />
สตรัคชั่น แมนเนจเม้นท์แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ซึ่งเป็น<br />
บริษัทย่อยของบริษัทฯ เป็นผู้ดูแลจัดการถึงความต้องการใน<br />
ระบบสาธารณูปโภคและขนาดของโรงงานเพื่อตอบสนองต่อ<br />
ความต้องการของลูกค้า ปัจจุบันบริษัทฯ ได้สร้างโรงงาน<br />
สำเร็จรูปจำนวนทั้งสิ้น 125 โรงงานมีพื้นที่รวมทั้งสิ้น<br />
276,000 ตารางเมตรในหลายนิคมอุตสาหกรรมหรือเขต<br />
ประกอบการอุตสาหกรรมของบริษัทฯ <br />
อสังหาริมทรัพย์เฉพาะเจาะจง: <br />
- บริษัท เอช-ฟีนิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ เป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้น<br />
ร้อยละ 100 เพื่อดูแลจัดการด้านการให้เช่าและการขายอสังหาริมทรัพย์ในประเภท<br />
ที่อยู่อาศัยหรือสำนักงาน มีทุนจดทะเบียนและชำระแล้ว 480 ล้านบาท โดย<br />
บริษัทฯ เอช-ฟีนิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ ได้ซื้อกรรมสิทธิ์ในพื้นที่สำนักงานส่วนใหญ่ของ<br />
อาคาร ยูเอ็มทาวเวอร์ และที่ดินที่ติดกันรวม 2ไร่ 3 งาน 55.2 ตารางวา (หรือ<br />
1,155.2 ตารางวา หรือ 4,620.8 ตารางเมตร) อาคารยูเอ็มทาวเวอร์ เป็น<br />
อาคารสูง 31ชั้นตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 2 ไร่ มีพื้นที่ในการเช่าและขายกว่า 35,500<br />
ตารางเมตร อาคารนี้ตั้งอยู่ที่เลขที่ 9 ถนนรามคำแหง ซึ่งอยู่ใกล้กับทางด่วน<br />
สนามบิน ส่วนต่อกับอีสเทิร์นซีบอร์ด และติดกับสถานี Airport Express ที่ได้<br />
เริ่มเปิดดำเนินการในปี 2553 นี้ ด้วยอัตราการเช่าพื้นที่ในปัจจุบันประมาณ 75%<br />
สำหรับที่ดินที่ติดกันจะเป็นส่วนที่สร้างโอกาสให้กับบริษัทฯ ในการพัฒนา<br />
อสังหาริมทรัพย์ในอนาคตต่อไป<br />
- “เดอะพาร์ค ชิดลม” โครงการคอนโดมิเนียมที่พักอาศัยระดับหรูใจกลาง<br />
กรุงเทพฯ ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นภายใต้แนวคิด “สุนทรียภาพแห่งที่พักอาศัย (A<br />
Symphony in Living)” ที่พรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกอันทันสมัย และได้<br />
มาตรฐานระดับโลก ในทำเลที่สะดวกที่สุดของกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ในที่ดินขนาด 5.5 ไร่<br />
ประกอบด้วยอาคารชุดพักอาศัยจำนวน 2 อาคาร คืออาคารสมคิด ซึ่งมีความสูง<br />
35 ชั้น และอาคารชิดลม ซึ่งมีความสูง 28 ชั้น รวมห้องพัก 218 ยูนิต ด้วยขนาด<br />
พื้นที่รวม 87,000 ตารางเมตร หรือคิดเป็นพื้นที่ขายสุทธิ 53,299 ตารางเมตร<br />
ซึ่งได้รับรางวัลชนะเลิศที่พักอาศัยอาคารสูงยอดเยี่ยมของประเทศไทย ในงาน<br />
ประกาศผลรางวัลซีเอ็นบีซี เอเชีย แปซิฟิก อะวอร์ด 2008 จัดขึ้นที่ประเทศสิงคโปร์<br />
11<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
12<br />
บริษัทย่อย<br />
บริษัทร่วม<br />
นิคมอุตสาหกรรม/<br />
เขตประกอบการอุตสาหกรรม<br />
บจ.อีสเทิร์น ซีบอร์ด <br />
อินดัสเตรียลเอสเตท (ระยอง) <br />
60%<br />
บจ.เหมราช อีสเทิร์น ซีบอร์ด <br />
อินดัสเตรียลเอสเตท<br />
99.99%<br />
บจ.อีสเทิร์น อินดัสเตรียลเอสเตท<br />
99.99%<br />
<br />
บจ.เหมราช สระบุรี ที่ดินอุสาหกรรม<br />
99.99%<br />
99.99%<br />
บจ.เหมราช ระยอง<br />
ที่ดินอุสาหกรรม<br />
น้ำ<br />
บจ.เหมราช คลีน วอเตอร์<br />
99.99%<br />
99.99%<br />
บจ.เหมราช วอเตอร์<br />
อื่นๆ<br />
บจ.เอช-คอนสตรัคชั่น แมนเนจเม้นท์<br />
แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง<br />
99.99%<br />
บจ.เอสเอ็มอี แฟคเทอรี่ <br />
99.99%<br />
25%<br />
บจ.อีสเทิร์น ไพพ์ไลน์ เซอร์วิสเซส<br />
74.99%<br />
บจ.เอช-ฟีนิกซ์<br />
99.99%<br />
บจ.เดอะพาร์ค เรสซิเดนซ์<br />
99.99%<br />
<br />
บจ.โคเฟลี (ประเทศไทย)<br />
39.99%<br />
บจ.โรงไฟฟ้าห้วยเหาะ<br />
(ประเทศ สปป.ลาว)<br />
25%<br />
อื่นๆ<br />
H-International (BVI)<br />
100%<br />
<strong>Hemaraj</strong> International<br />
100%<br />
บจ.ห้วยเหาะไทย<br />
51%<br />
โครงสร้างธุรกิจ<br />
บมจ.เหมราชพัฒนาที่ดิน<br />
บริการสาธารณูปโภค อสังหาริมทรัพย์<br />
พลังงาน<br />
บจ.เก็คโค่-วัน<br />
35%<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
เหตุการณ์ที่สำคัญในปี 2553<br />
ยอดขายที่ดินอุตสาหกรรม<br />
<br />
หลังจากภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจในปี<br />
2552 บริษัทเหมราชฯ ได้เห็นถึงการกลับมาอย่างต่อ<br />
เนื่องของเศรษฐกิจในภาคการผลิตที่สำคัญและการ<br />
กลับมาของเศรษฐกิจในระดับโลกในปี 2553 โดย<br />
เฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมยานยนต์และในด้าน<br />
การลงทุนของอุตสาหกรรมในตลาดเกิดใหม่ โดย<br />
เฉพาะในประเทศไทย ด้วยการสนับสนุนจากการ<br />
เติบโตของตลาด สภาวะการแข่งขัน และโอกาสในการ<br />
รวมตัวกัน ส่งผลให้ยอดขายที่ดินอุตสาหกรรมในปี<br />
2553 เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 930 ไร่ (372 เอเคอร์)<br />
จากความต้องการอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมยานยนต์ เน้นย้ำถึงความสำเร็จของ“ ดีทรอย์ออฟเดอะอีสท์” และการ<br />
ขยายความสัมพันธ์มาเป็นเวลายาวนานกว่า 16 ปี บริษัทฟอร์ด มอเตอร์จำกัด ได้เลือกนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีส<br />
เทิร์นซีบอร์ดให้เป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่ในประเทศไทยบนเนื้อที่ 468 ไร่ (187 เอเคอร์) เมื่อต้นปี 2553 <br />
จำนวนสัญญาในปี 2553 มีจำนวนทั้งสิ้น 41 สัญญา เป็นลูกค้าใหม่จำนวน 19 รายและเป็น การขยาย<br />
โครงการของลูกค้าเก่าอีก 22 ราย โดยรวมแล้วบริษัทฯ มีลูกค้ารวมทั้งหมด 426 รายจากจำนวนสัญญา 643 สัญญา<br />
เป็นลูกค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์จำนวน 148 รายจากจำนวนสัญญา 223 สัญญา<br />
13<br />
บริษัทฯ ใช้สิทธิซื้อหุ้นส่วนที่เหลือ 75% ในบริษัท เอส ไอ แอล ที่ดินอุตสาหกรรม<br />
<br />
บริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้นส่วนที่เหลือร้อยละ 75 ในบริษัท เอส ไอ แอล ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด(เอส ไอ แอล) จาก<br />
บริษัท ซีเมนต์ไทย โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ บมจ.ปูนซีเมนต์ไทย เป็นมูลค่าโดยประมาณ 763.7 ล้านบาท รวม<br />
กับเงินให้กู้ยืมของบริษัทกับ เอส ไอ แอล จำนวนเงิน 380 ล้านบาท รวมเป็นจำนวนเงิน 1,143,.7 ล้านบาท<br />
บริษัท เอส ไอ แอล ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด (เอส ไอ แอล) เป็นบริษัทพัฒนาเขตประกอบการอุตสาหกรรม ตั้ง<br />
อยู่ที่จังหวัดสระบุรี ประเทศไทย และเป็นผู้ถือหุ้นทั้งหมดในบริษัท ระยองที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด (อาร์ ไอ แอล) ตั้งอยู่ที่<br />
จังหวัดระยอง โดยมีที่ดินรวมทั้ง 2 บริษัทอยู่กว่า 7,000 ไร่<br />
โดยเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2553 บริษัทฯ ได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อ บริษัท ระยองที่ดิน อุตสาหกรรม จำกัด เป็น<br />
บริษัทเหมราช ระยอง ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด และเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2553 บริษัท ได้จดทะเบียนเปลี่ยนชื่อ บริษัท<br />
เอส ไอ แอล ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด เป็น บริษัท เหมราช สระบุรี ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด <br />
บริษัทฯ ร่วมกับ กสท. ให้บริการวงจรสื่อสารความเร็วสูงในนิคมของเหมราช <br />
<br />
เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2553 บริษัทฯ ร่วมกับ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ลงนามบันทึกข้อ<br />
ตกลง (MOU) จัดทำ “โครงการความร่วมมือการให้บริการวงจรสื่อสารความเร็วสูง” ทั้งนี้ เพื่อยกระดับระบบสื่อสาร<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
14<br />
โทรคมนาคมภายในนิคมอุตสาหกรรมในกลุ่มเหมราชฯ ให้มีระบบสื่อสารโทรคมนาคมที่มีศักยภาพ ทันสมัย รวดเร็ว ตอบ<br />
สนองต่อความต้องการของผู้ประกอบการ และนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยกสท.จะเป็นผู้ดำเนินการ<br />
จัดหาวางระบบโครงข่ายเคเบิลใยแก้วให้ครอบคลุมพื้นที่ในนิคมฯ ทั้งหมดด้วยเทคโนโลยี Fiber To The Factory ซึ่ง<br />
นับเป็นโครงการนำร่องในนิคมอุตสาหกรรมเป็นแห่งแรกของประเทศไทย <br />
<br />
ทริสเรตติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรที่ “A-” และปรับแนวโน้มจาก“ลบ”เป็น “คงที่”<br />
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2553 ทริสเรทติ้งยืนยันอันดับเครดิตของบริษัทฯ ที่ระดับ “A-” โดยอันดับเครดิตสะท้อน<br />
ถึงผลงานในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมซึ่งเป็นที่ยอมรับ ตลอดจนรายได้จากบริการสาธารณูปโภคที่แน่นอน และ<br />
โครงสร้างทางการเงินที่อยู่ในระดับดี ในขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังปรับแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทเป็น “คงที่”<br />
จาก “ลบ” ซึ่งสะท้อนถึงการฟื้นตัวของยอดขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมของบริษัทและแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ<br />
โลกซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมโดยรวมเพิ่มขึ้นในอนาคต อย่างไรก็ตามสถานการณ์ทางการ<br />
เมืองภายในประเทศที่ยังไม่มีเสถียรภาพและปัญหาในพื้นที่มาบตาพุดยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการพิจารณาอันดับเครดิต<br />
แนวโน้มอันดับเครคิต “คงที่” สะท้อนถึงการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของการผลิตในภาคอุตสาหกรรมที่สำคัญ ซึ่งจะส่งผลให้<br />
ความต้องการที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น รายได้จากธุรกิจบริการสาธารณูปโภคและค่าเช่าที่เพิ่มขึ้นจะช่วยเพิ่ม<br />
กระแสเงินสดและช่วยลดความผันผวนของรายได้จากการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมให้แก่บริษัท ทั้งนี้ทริสเรทติ้งคาด<br />
หวังว่าบริษัทจะยังคงดำเนินธุรกิจอย่างระมัดระวังและสามารถรักษาอัตราส่วนเงินกู้ต่อโครงสร้างเงินทุนให้ต่ำกว่าเกณฑ์<br />
50% ได้<br />
<br />
บริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับในเกณฑ์ดีเลิศจากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย<br />
และดีเยี่ยมจากสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย<br />
จากการประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนประจำปี 2553 โดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการ<br />
บริษัทไทย บริษัทฯ ได้คะแนนประเมินอยู่ในเกณฑ์ “ดีเลิศ“และจากการประเมินการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี<br />
2553 โดยสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย บริษัทฯ ได้รับคะแนนอยู่ในเกณฑ์ “ดีเย่ียม“<br />
<br />
งานลูกค้าสัมพันธ์ที่สำคัญในระหว่างปี <br />
• บริษัทฯ แสดงความยินดีกับ บริษัท ฟอร์ดมอเตอร์ ประเทศไทย ในโอกาสวางศิลาฤกษ์โรงงานแห่งใหม่<br />
บริษัทฯ ร่วมแสดงความยินดีกับ ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ประเทศไทย ในพิธีวางศิลาฤกษ์โรงงานผลิตรถยนต์<br />
แห่งใหม่ของฟอร์ดบนพื้นที่ 468 ไร่ ในนิคมฯ เหมราช อีสเทิร์นซี<br />
บอร์ด โอกาสเดียวกันยังเป็นการฉลองวาระครบรอบ 15 ปี แห่ง<br />
ความสัมพันธ์ในการร่วมสร้าง “ดีทรอยท์แห่งตะวันออก” ให้เติบโต<br />
ด้วย บริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ประเทศไทย ได้ประกาศการ<br />
ลงทุน 15,000 ล้านบาท เพื่อก่อสร้างโรงงานผลิตรถยนต์แห่งใหม่<br />
นี้ ซึ่งจะเริ่มผลิตรถยนต์นั่ง ในปี 2555 ด้วยกำลังการผลิต<br />
150,000 คันต่อปี <br />
• บริษัท อิตะคุระ จิทซึเงียว เซ็นสัญญาซื้อโรงงานสำเร็จรูป<br />
ที่นิคมเหมราชฯ<br />
บริษัท อิตะคุระ จิทซึเงียว จำกัด ได้ลงนามสัญญาซื้อ<br />
โรงงานสำเร็จรูปภายในนิคมอุตสาหกรรม เหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด<br />
โดยโรงงานแห่งนี้จะประกอบชิ้นส่วนกระจกรถยนต์เพื่อส่งให้กับ<br />
บริษัท ซูซูกิ ออโตโมบิล แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
• ชาลิปส์ ไซลินเดอร์ ซื้อที่ดิน 70 ไร่ในนิคมฯ อีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง)<br />
บริษัท ชาลิปส์ ไซลินเดอร์ จำกัด ผู้นำในการผลิตถังบรรจุ<br />
ก๊าซความดันสูงจากอิตาลี ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายที่ดินจำนวน<br />
70 ไร่ภายในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง) เพื่อเป็นที่<br />
ตั้งโรงงานแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งจะใช้เป็นฐานการผลิตภาชนะ<br />
สำเร็จรูปสำหรับบรรจุก๊าซอัด หรือก๊าซเหลว ด้วยกำลังการผลิต<br />
200,000 ชิ้นต่อปี โดยมีแผนเริ่มการผลิตในปี 2554 ด้วยเงิน<br />
ลงทุน 2,000 ล้านบาท <br />
15<br />
• เอ็มแอนด์ทีฯ ซื้อที่ดินเพิ่มในนิคมฯ อีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง)<br />
บริษัท เอ็มแอนด์ที อัลไลด์ เทคโนโลยี่ส์ จำกัด ผู้นำใน<br />
การผลิตและประกอบชิ้นส่วนอุปกรณ์ยานยนต์สำหรับรถยนต์จาก<br />
ประเทศญี่ปุ่นได้ลงนามในสัญญาซื้อที่ดินเพิ่ม 5 ไร่ เพื่อขยาย<br />
โรงงานภายในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง) <br />
เอ็มแอนด์ทีฯ เป็นบริษัทผลิตคันเกียร์รถยนต์และตัวแขวนยาง<br />
อะไหล่ การขยายโรงงานในครั้งนี้ เป็นไปตาม แผนงานขยายกำลัง<br />
การผลิตเพื่อส่งให้กับบริษัทผลิตรถยนต์ชั้นนำ อาทิ โตโยต้า อีซูซุ<br />
ฮอนด้า ฟอร์ด มาสด้า และซูซูกิ<br />
• เคซี อัลเทคฯ เซ็นสัญญาซื้อโรงงานสำเร็จรูปที่นิคมเหมราชฯ<br />
บริษัท เคซี อัลเทค (ประเทศไทย) จำกัด ได้ลงนามใน<br />
สัญญาซื้อโรงงานสำเร็จรูปภายในนิคม โรงงานแห่งนี้จะใช้ผลิตท่อ<br />
อลูมิเนียมเพื่อส่งให้กับ บริษัท แอลจี อีเลคทรอนิคส์ (ประเทศไทย)<br />
จำกัด และ บริษัท ฮาลล่า ไคลเมท คอนโทรล (ประเทศไทย) จำกัด<br />
ด้วยทุนจดทะเบียน 37 ล้านบาท<br />
• ไดเคียวนิชิกาวา (ประเทศไทย) เตรียมขยายโรงงานซื้อ<br />
ที่ดินเพิ่ม 14 ไร่ ในนิคมฯ เหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด<br />
บริษัท ไดเคียวนิชิกาวา (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งใน<br />
ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์พลาสติกที่ใหญ่ที่สุดจากประเทศญี่ปุ่นซื้อที่ดินเพิ่ม<br />
14 ไร่ จากเดิมที่มีพื้นที่ 25 ไร่ เพื่อขยายโรงงานในเขตนิคม<br />
อุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด โดยคาดว่าโรงงานแห่งใหม่จะ<br />
สามารถเพิ่มกำลังการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกสำหรับรถยนต์เพื่อป้อน<br />
ให้ บริษัท ออโต้ อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด <br />
<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
16<br />
• โบลเวลล์ โฮลดิ้งส์ (ไทยแลนด์) ซื้อโรงงานสำเร็จรูปใน<br />
นิคมฯ เหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด<br />
บริษัท โบลเวลล์ โฮลดิ้งส์ (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัท<br />
ผู้เชี่ยวชาญในด้านการผลิตชิ้นส่วนพลาสติกจากประเทศออสเตรเลีย<br />
ได้เซ็นสัญญาซื้อที่ดินและโรงงานสำเร็จรูปในนิคมอุตสาหกรรม<br />
เหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด โรงงานแห่งนี้จะผลิตชิ้นส่วนพลาสติกเพื่อ<br />
ส่งออก โดยมีกำลังการผลิตสูงสุด 75,000 ชิ้น ต่อปี <br />
• นารูมิ (ประเทศไทย) เซ็นสัญญาซื้อโรงงานสำเร็จรูปใน<br />
นิคมฯ อีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง)<br />
บริษัท นารูมิ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เซ็นสัญญาซื้อ<br />
โรงงานสำเร็จรูป ในนิคมอุตสาหกรรม อีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง)<br />
ด้วยเงินทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท โรงงานแห่งนี้จะผลิตที่<br />
เปิดประตูรถยนต์ เพื่อจัดส่งให้แก่ มิตซูบิชิ แหลมฉบัง โดยมีกำลัง<br />
การผลิต 2 ล้านชิ้นต่อปี<br />
• ยูโรเครา (ประเทศไทย) เช่าโรงงานสำเร็จรูปในนิคมฯ เหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด<br />
บริษัท ยูโรเครา (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตแก้วเซรามิค<br />
กันความร้อนชั้นนำจากฝรั่งเศส ได้เซ็นสัญญาเช่าโรงงานสำเร็จรูป<br />
ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด เพื่อผลิตชิ้นส่วนแก้ว<br />
เซรามิคสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าในห้องครัว โดยจะเปิดทำการอย่าง<br />
เต็มรูปแบบภายในปี 2554<br />
<br />
<br />
• คาทูน นาที (ไทยแลนด์) ขยายโรงงานในนิคมฯ เหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด<br />
บริษัท คาทูน นาที (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้นำด้านการ<br />
บริการระบบโลจิสติกส์แบบเพิ่มมูลค่าจากประเทศเบลเยียม ได้เซ็น<br />
สัญญาซื้อที่ดินจำนวน 65 ไร่ ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์น<br />
ซีบอร์ด เพื่อขยายโรงงานและฐานบริการระบบโลจิสติกส์ โดยจะให้<br />
บริการขนส่งสินค้า รับฝากและจัดเก็บสินค้า รวมถึงการจัดการ<br />
คลังสินค้า บรรจุภัณฑ์และฉลาก เป็นต้น <br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
• แสงเจริญ อีสเทิร์น กัลวาไนซ์ ซื้อที่ดิน 21 ไร่ ในนิคมฯ<br />
เหมราชชลบุรี<br />
บริษัท แสงเจริญ อีสเทิร์น กัลวาไนซ์ จำกัด ผู้ให้บริการ<br />
งานชุบเคลือบสังกะสี และโลหะ ได้เซ็นสัญญาซื้อที่ดิน 21 ไร่<br />
ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชชลบุรี เพื่อสร้างโรงงานแห่งใหม่<br />
ด้วยเงินลงทุนจดทะเบียน 25 ล้านบาท <br />
17<br />
• มิโนรุ (ไทยแลนด์) เซ็นสัญญาซื้อโรงงานสำเร็จรูปใน<br />
นิคมฯ อีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง)<br />
บริษัท มิโนรุ (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์<br />
จากประเทศญี่ปุ่น ได้เซ็นสัญญาซื้อโรงงานสำเร็จรูปในนิคม<br />
อุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง) โดยโรงงานแห่งนี้จะผลิต<br />
ท่อแอร์รถยนต์, สปอยเลอร์ และกล่อง HVAC ด้วยกำลังผลิต<br />
350,000 ชิ้นต่อเดือน เพื่อจัดจำหน่ายให้บริษัทผู้ผลิตรถยนต์และ<br />
ชิ้นส่วนรถยนต์อื่น ๆ <br />
• ทานากะ อาอิ (ประเทศไทย) ขยายโรงงานในนิคมฯ <br />
อีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง)<br />
บริษัท ทานากะ อาอิ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการ<br />
ตัดแผ่นผ้าปลอดเชื้อสำหรับผ้าอ้อมชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่น ได้<br />
เซ็นสัญญาซื้อที่ดินเพิ่ม 12 ไร่ เพื่อขยายโรงงานในนิคม การซื้อ<br />
ที่ดินเพิ่มครั้งนี้จะทำให้ บริษัท ทานากะ อาอิ (ประเทศไทย) มีพื้นที่<br />
ประกอบการรวมทั้งสิ้นประมาณ 92 ไร่ ในนิคมฯ อีสเทิร์นซีบอร์ด<br />
(ระยอง)<br />
การส่งเสริมและใส่ใจคุณภาพสังคม<br />
<br />
• เหมราชฯ ร่วมมือกับ สอศ. และ สพฐ.จัดทำโครงการส่งเสริมทักษะอาชีวอุตสาหการให้แก่เด็กนักเรียน<br />
ในจังหวัดระยองและชลบุรี<br />
นางสาวนริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการ<br />
กระทรวงศึกษาธิการ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีลงนามความ<br />
ร่วมมือ (MOU) ”โครงการส่งเสริมทักษะอาชีวอุตสาหการให้<br />
นักเรียนในโรงเรียนขยายโอกาส และโรงเรียนในสังกัดสำนักงาน<br />
คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน” ในเขตพื้นที่จังหวัดระยองและ<br />
ชลบุรี ระหว่าง บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) กับ<br />
สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) และสำนักงาน<br />
คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โครงการดังกล่าว<br />
มีวัตถุประสงค์ที่จะสอนทักษะทางวิชาชีพอาชีวอุตสาหการ ในวิชาไฟฟ้าเบื้องต้น และวิชาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย<br />
ให้เยาวชนในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น เพื่อให้มีทักษะที่เป็นประโยชน์กรณีเข้าสู่ตลาดช่างฝีมือแรงงานในอนาคต รวมทั้ง<br />
เป็นการเปิดโลกวิชาชีพด้านอาชีวศึกษาให้เป็นทางเลือกการในศึกษาต่อหรือประกอบอาชีพเพื่อตอบรับกับความต้องการ<br />
ในภาคอุตสาหกรรม โดยโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการในระยะแรกเป็นโรงเรียนอยู่รายรอบเขตนิคมอุตสาหกรรมของ<br />
เหมราชในจังหวัดระยองและชลบุรีรวม 7 โรงเรียน<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
18<br />
• เหมราชฯ บริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่เฮติ<br />
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความ<br />
มั่นคง ร่วมเป็นสักขีพยานในการรับมอบเงินบริจาคจำนวนกว่า 6.6<br />
ล้านบาท จาก ผู้บริหาร และพนักงานของ บริษัทฯ และบริษัท<br />
ในเครือ ให้แก่ นายวีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายก<br />
รัฐมนตรี เพื่อสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในประเทศ<br />
เฮติ ที่ทำเนียบรัฐบาล <br />
• เหมราชฯ ได้รับรางวัล CSR Excellence Awards ประจำปี<br />
2553 จากหอการค้าอเมริกันฯ <br />
บริษัทฯ ได้รับรางวัลองค์กรที่มีผลงานด้านความรับผิดชอบต่อสังคม<br />
ดีเด่น ประจำปี 2553 (CSR Excellence Awards <strong>2010</strong>) จาก<br />
หอการค้าอเมริกันในประเทศไทย (AMCHAM) รางวัลดังกล่าวจัดขึ้น<br />
เพื่อเชิดชูคุณความดีบริษัทฯ สมาชิก ที่ได้ดำเนินโครงการ และกิจกรรมที่<br />
เป็นประโยชน์และรับผิดชอบต่อสังคมในรูปแบบต่างๆ ทั้งนี้ เหมราชฯ<br />
ได้ดำเนินธุรกิจโดยใช้ระบบธรรมาภิบาล ควบคู่ไปกับการทำกิจกรรมเพื่อ<br />
สังคมอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนมากว่า 20 ปี <br />
• เหมราชฯ จัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ในนิคมฯ อีสเทิร์นซีบอร์ด<br />
(ระยอง)<br />
บริษัทฯ จัดโครงการปลูกต้นไม้ในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์น<br />
ซีบอร์ด (ระยอง) เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวและเสริมแนวกันชนให้กับพื้นที่<br />
ภายในนิคมฯ ในการปลูกต้นไม้ จำนวน 1,000 ต้น ร่วมกับ บริษัทฯ<br />
ผู้นำชุมชน สมาชิกชุมชน และผู้ประกอบการในนิคมฯ อีสเทิร์นซีบอร์ด<br />
(ระยอง) <br />
• เหมราชฯ จัดโครงการ “วาดศิลป์...ที่บ้านเกิด“<br />
บริษัทฯ ได้จัดโครงการ “วาดศิลป์...ที่บ้านเกิด“ เป็นโครงการ<br />
ต่อเนื่อง โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2552 โดยจัดเป็นค่ายศิลปะสำหรับเด็ก<br />
นักเรียน โดยเชิญศูนย์ศิลปะวัฒนธรรมสัญจรมาให้ความรู้เบื้องต้นทาง<br />
ศิลปะ ทั้งภาคทฤษฎีอย่างง่ายๆ และภาคปฏิบัติที่สนุกสนานพร้อม<br />
เชื่อมโยงศิลปะเข้ากับสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมท้องถิ่นเพื่อเพิ่มความรู้<br />
ด้านศิลปะ ส่งเสริมการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ รวมทั้งปลูกจิตสำนึก<br />
ให้เด็กๆ เกิดความภูมิใจและรักถิ่นฐานของตนเอง <br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
• ชมรมความปลอดภัย นิคมฯ เหมราชตะวันออก จัดกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์<br />
ชมรมความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม (ESEC) นิคม<br />
อุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก (มาบตาพุด) ร่วมกับ การนิคม<br />
อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จัดกิจกรรม “ESEC Day in<br />
School” ที่โรงเรียนวัดมาบชลูด จังหวัดระยอง เพื่อให้ความรู้ใน<br />
ด้านความปลอดภัยแก่ผู้เกี่ยวข้องในโรงเรียน โดยมีตัวแทนผู้<br />
ประกอบการในนิคมฯ ร่วมกันปรับปรุงพื้นที่ต่างๆ ในโรงเรียนให้<br />
เกิดความปลอดภัย อาทิ การทาสีตีเส้นจราจร และการปรับปรุง<br />
แผ่นปิดรางระบายน้ำในโรงเรียน<br />
19<br />
• เหมราชฯ สนับสนุนสโมสรชลบุรี เอฟซีในการแข่งขัน<br />
ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก <strong>2010</strong><br />
บริษัทฯ ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของสโมสรชลบุรีเอฟซี<br />
ร่วมงานแถลงข่าวความพร้อมของสโมสรชลบุรีเอฟซีใน “การแข่งขัน<br />
ฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก <strong>2010</strong>” ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 13<br />
มีนาคม – 30 ตุลาคม 2553 ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เข้าร่วมสนับสนุน<br />
สโมสรชลบุรีเอฟซีมาตั้งแต่ปี 2551 โดยมอบเงินให้แก่สโมสรปีละ<br />
6,000,000 บาท เป็นระยะเวลา 3 ปีติดต่อกัน รวมเป็นเงินทั้งสิ้น<br />
18 ล้านบาท<br />
• เอส ไอ แอล รับมอบโล่และเกียรติบัตร CSR-DIW<br />
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม มอบโล่<br />
และเกียรติบัตรรับรองการปฏิบัติตามมาตรฐานของกรมโรงงาน<br />
อุตสาหกรรม ว่าด้วยการแสดงความรับผิดชอบของโรงงาน<br />
อุตสาหกรรมต่อสังคม (CSR-DIW) ให้แก่ นายสุนทร คงสุนทรกิจกุล<br />
ผู้ช่วยกรรมการผุ้จัดการ บริษัท เอส ไอ แอล ที่ดินอุตสาหกรรม<br />
จำกัด ภายหลังผ่านการอบรมและทวนสอบจากสถาบันรับรอง<br />
มาตรฐานไอ เอส โอ (MASCI) ทั้งนี้ เอส ไอ แอล เป็นหนึ่งในสอง<br />
บริษัทในจังหวัดสระบุรีที่ได้รับการรับรอง CSR-DIW <br />
• เหมราชฯ ต่อยอดโครงการสอนแบบบูรณาการ แก่ครูประถมในอีสเทิร์นซีบอร์ด <br />
บริษัทฯ ร่วมกับ มูลนิธิหอการค้าอเมริกันแห่งประเทศไทย จัด “สัมมนาและนิทรรศการการศึกษาแบบ<br />
บูรณาการ” เพื่อต่อยอดจากโครงการ Adopt A School : Train the Trainers ที่อีซี่พลาซ่า 1 นิคมฯ อีสเทิร์น<br />
ซีบอร์ด (ระยอง) โดยมี 6 โรงเรียนนำร่อง ในจังหวัดระยองและชลบุรีซึ่งได้เข้ารับการอบรมและสัมมนาการจัดการเรียน<br />
การสอนโดยเน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลาง แทนการเรียนแบบการท่องจำ<br />
โดยโรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา จังหวัดบุรีรัมย์ นำโครงงาน การ<br />
บริหารจัดการ และประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้นมาพูดคุยแลกเปลี่ยน อีกทั้ง<br />
ยังได้นำชิ้นงานของนักเรียนที่ได้รับการเรียนการสอนแบบบูรณาการ<br />
ดังกล่าวมาจัดแสดงให้ชมด้วย นอกจากนี้ยังเปิดรับสมัครโรงเรียนที่สนใจ<br />
เข้าร่วมโครงการเพิ่ม โดยบริษัทเหมราชฯ และ มูลนิธิหอการค้า<br />
อเมริกันฯ จะยังคงให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องต่อไป<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
20<br />
• เหมราชฯ แจกจ่ายน้ำให้แก่ผู้ประสบภัยแล้งที่ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง<br />
บริษัทฯ ร่วมกับ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย องค์การ<br />
บริหารส่วนตำบลปลวกแดง จังหวัดระยอง แจกจ่ายน้ำให้กับชุมชนต่างๆ<br />
ในเขต อบต.ปลวกแดงที่ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำในการอุปโภคบริโภค<br />
อันเนื่องมาจากสถานการณ์ภัยแล้ง โดยตั้งแต่เดือนมีนาคม - เดือน<br />
พฤษภาคม ได้แจกจ่ายน้ำให้แก่ชุมชนไปแล้วกว่า 1400 ลูกบาศก์เมตร<br />
• เหมราชฯ มอบอุปกรณ์การศึกษาแก่ 51 โรงเรียน<br />
ในจังหวัดระยองและชลบุรี<br />
บริษัทฯ ร่วมกับลูกค้าและพันธมิตรในนิคมอุตสาหกรรมของ<br />
เหมราชฯ มอบอุปกรณ์การศึกษาและกีฬาประจำปี 2553 ให้แก่<br />
เด็กนักเรียนกว่า 13,700 คน จาก 51 โรงเรียน ในจังหวัดระยอง<br />
และชลบุรี ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นหนึ่งในกิจกรรมเพื่อสังคมที่บริษัท<br />
เหมราชฯ จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องมากว่า 12 ปี<br />
• กนอ. และชมรมผู้ประกอบการในเขตมาบตาพุดสนับสนุนเอกชนดึงรายได้สู่ท้องถิ่นระยอง<br />
การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ร่วมกับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และชมรม<br />
ผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ลงนามบันทึก<br />
แสดงเจตนารมณ์ร่วมกันสนับสนุนให้ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม<br />
พื้นที่มาบตาพุดดึงรายได้สู่ท้องถิ่น จ.ระยอง โดยการให้หน่วยงาน และ<br />
บุคลากรของแต่ละองค์กร โอนย้ายทะเบียนรถและทะเบียนราษฎร์สู่<br />
จังหวัดระยอง เพื่อนำรายได้จากภาษีธุรกิจ ภาษีล้อเลื่อนและภาษีบุคคล<br />
มาพัฒนาพื้นที่ และคุณภาพชีวิตของชาวจังหวัดระยอง โดยมีผู้ประกอบการ<br />
แจ้งความจำนงค์ที่จะย้ายทะเบียนรถมาเป็นทะเบียนจังหวัดระยองแล้ว<br />
กว่า 1,500 คัน เป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของผู้ประกอบการ<br />
อุตสาหกรรมในพื้นที่<br />
• เหมราชฯ จัดหน่วยวัดสายตา ตัดแว่นฟรีให้ชุมชน<br />
บริษัทฯ ได้จัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ เข้าร่วมโครงการตลาดนัด<br />
สุขภาพ ประจำปี 2553 จัดโดยองค์การบริหารส่วนตำบลตาสิทธิ์<br />
จังหวัดระยอง เพื่อให้บริการวัดสายตาประกอบแว่นแก่ประชาชนในตำบล<br />
ตาสิทธิ์ <br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
• เหมราชฯ ช่วยเหลือชุมชนมาบชลูด<br />
ทีมงานดับเพลิงของบริษัทฯ และบริษัท ศรีราชากรีนพ้อยท์<br />
จำกัด ร่วมช่วยเหลือชุมชนมาบชลูดและการเคหะห้วยโป่ง ในบริเวณ<br />
ใกล้เคียงนิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก (มาบตาพุด) ทำความ<br />
สะอาดและเตรียมสถานที่จัดงานวันแม่แห่งชาติ ปี 2553 โดยบริษัทฯ<br />
ช่วยเหลือน้ำจำนวน 5,000 ลิตร ในการทำความสะอาดครั้งนี้<br />
21<br />
• เหมราชฯ ร่วมประกาศเจตนารมณ์ ขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมเชิงนิเวศน์ <br />
บริษัทฯ ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในผู้ริเริ่มผลักดันการพัฒนา<br />
อุตสาหกรรมเชิงนิเวศน์ ในการประชุมเชิงปฏิบัติการหัวข้อ “เดินหน้า<br />
ประเทศไทย ก้าวไกลสู่อุตสาหกรรมเชิงนิเวศน์” จัดโดยกระทรวง<br />
อุตสาหกรรม พร้อมกันนี้ได้ร่วมลงนามบันทึกความร่วมมือระหว่าง<br />
กระทรวงอุตสาหกรรม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กรม<br />
โรงงานอุตสาหกรรม และผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรม เพื่อประกาศ<br />
เจตนารมณ์ร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาและนำแนวคิดอุตสาหกรรม เชิงนิเวศน์<br />
ไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเป็นครั้งแรก <br />
• เหมราชฯ บริจาคเงิน 1 ล้านบาทช่วยน้ำท่วม<br />
บริษัทฯ เป็นตัวแทนเขตประกอบการอุตสาหกรรม เอสไอแอล<br />
(สระบุรี) มอบเงินบริจาคจำนวน 1,000,000 บาท แก่นายถาวร<br />
พรหมมีชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เพื่อสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบ<br />
ภัยน้ำท่วมในจังหวัดสระบุรี <br />
การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม<br />
บริษัทฯ มุ่งเน้นนโยบายในเรื่องการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปกับการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมโดยเน้น<br />
ย้ำถึงการพัฒนาที่ดินควบคู่ไปกับการเพิ่มศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการสาธารณูปโภค นอกเหนือไป<br />
จากการเน้นในเรื่องการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว บริษัทฯ ได้ส่งเสริมบริษัทที่ตั้งในนิคมอุตสาหกรรมของบริษัทฯ<br />
ให้ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและความสัมพันธ์กับชุมชนรอบด้าน โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อผล<br />
ประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกคน จึงได้มีการการจัดตั้งชมรมสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยขึ้น ซึ่งมีโรงงานผู้<br />
ประกอบการในนิคมฯ ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกและร่วมดำเนินกิจกรรมร่วมกันโดยมีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมการรักษาสิ่ง<br />
แวดล้อม และจัดกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และชุมชน นอกจากนี้แล้วบริษัทฯ ได้จัดให้มีการฝึกเตรียม<br />
ความพร้อมการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินทั้งภายในและภายนอกอย่างสม่ำเสมอรวมไปถึงในระดับนิคมฯ และร่วมกับชุมชนรอบ<br />
ด้านซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมหลัก อีกทั้งบริษัทฯ ได้มีการวางแผนการบริหารการจัดการเพื่อดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างเป็น<br />
ระบบ ผ่านระบบการบริหารจัดการที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสำหรับ Environmental Management System:<br />
ISO14001 รวมทั้งการได้รับรางวัลการจัดการสิ่งแวดล้อมดีเด่น (EIA Award) <br />
<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
22<br />
ในปี 2553 เป็นปีที่บริษัทฯ ได้รวมโครงการด้านสิ่งแวดล้อมและกิจกรรมต่อสังคมจากโครงการที่ได้ดำเนินการใน<br />
ปีที่ผ่านมาและได้เพิ่มโครงการใหม่ในระหว่างปีเพื่อพัฒนาคุณภาพของสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และความปลอดภัยสำหรับ<br />
ชุมชนโดยรอบนิคมให้ดียิ่งขึ้น จากความสำเร็จในการดำเนินการจัดตั้ง “ศูนย์ป้องกันและเฝ้าระวังทางด้านสิ่งแวดล้อมแบบ<br />
ครบวงจร” หรือ “ศูนย์ E=MC2” ในปี 2552 ควบคู่ไปกับโครงการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน ทำให้บริษัทฯ ได้<br />
รับการคัดเลือกให้เป็นนิคมฯ ต้นแบบในการบริหารจัดการนิคมอุตสาหกรรมเชิงเศรษฐนิเวศน์ (Eco Industrial Estate)<br />
ร่วมกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยในปี 2553 ซึ่งเป็นนโยบายหลักของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย<br />
ต่อทุกนิคมอุตสาหกรรมเพื่อให้เป็นนิคมอุตสาหกรรมที่มีการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายในปี 2557<br />
<br />
การส่งเสริมและใส่ใจคุณภาพสังคม (Corporate Social Responsibility) ก็เป็นเครื่องมือที่สำคัญที่บริษัทฯ<br />
ใช้เพื่อรวมประสิทธิภาพของการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและชุมชนเข้าไว้ด้วยกัน โดยตลอดปี 2553 บริษัทฯ ได้จัด<br />
กิจกรรมหลากหลายเพื่อส่งเสริมและใส่ใจคุณภาพสังคมขึ้น อีกทั้งได้ริเริ่มเรื่องความร่วมมือด้านการส่งเสริมและใส่ใจ<br />
คุณภาพสังคมกับผู้เชียวชาญ เจ้าหน้าที่ที่มากด้วยประสบการณ์เพื่อช่วยสร้างสิ่งแวดล้อมให้ดียิ่งขึ้นรวมไปถึงการแก้ปัญหา<br />
สังคมเพื่อผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกคน นอกจากนี้แล้วบริษัทฯ ยังยึดมั่นในเรื่องของการเฝ้าติดตามเรื่องของ<br />
สิ่งแวดล้อมและการเข้ามามีส่วนร่วมของชุมชนใกล้เคียงด้วยความโปร่งใส บริษัทฯ ได้จัดให้มีการรับฟังข้อคิดเห็น (Public<br />
Hearing) จากชุมชนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการจัดทำแผนในระหว่างการเริ่มพัฒนาที่ดินแปลงใหม่ด้วย<br />
บริษัทฯ ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการดำเนินโครงการรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่วันแรก บริษัทฯ เชื่อมั่น<br />
และยึดถือในหลักการของการรักษาสิ่งแวดล้อมและชุมชนให้อยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนดังที่เป็น สัญญาที่ให้ไว้กับสาธารณะ<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
ภาวะเศรษฐกิจและการแข่งขัน <br />
ภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยในปี 2553 คาดการณ์ว่าจะขยายตัวร้อยละ 7.8 เปรียบเทียบกับร้อยละ -2.3 ใน<br />
ปี 2552 ด้วยปัจจัยต่างๆ จากการขยายตัวของการส่งออกทั้งสินค้าและบริการ และจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของ<br />
ประเทศคู่ค้าที่สำคัญๆ ทั้งในเอเซียและในตลาดเกิดใหม่ แม้ว่าจะมีปัจจัยลบเช่น การแข็งค่าของเงินบาทและปัญหาน้ำท่วม<br />
ในช่วงครึ่งปีหลังก็ตาม <br />
ในปี 2553 ดัชนีการบริโภคของภาคเอกชนเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.9 เนื่องมาจากการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น ราคาผลผลิต<br />
ทางการเกษตรสูงขึ้น และจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นภายหลังจากความไม่สงบทางการเมือง ดัชนีภาคอุตสาหกรรม<br />
เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.9 และอัตราการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 63.4 ดัชนีการลงทุนของภาคเอกชนเพิ่มขึ้นร้อยละ<br />
17.6 ขณะที่มูลค่าการส่งออกของประเทศไทยก็เพิ่มขึ้นเป็น 195.3 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 28 มูลค่า<br />
การนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 37 คิดเป็นมูลค่า 179.6 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดนำเข้าวัตถุดิบและสินค้า<br />
ทุนที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 42 และ 27 ตามลำดับ ยอดบัญชีเดินสะพัด ณ สิ้นปีมียอดเกินดุล 14.8 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ และ<br />
มีดุลการชำระเงินเกินดุลที่ 31.3 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ <br />
สำหรับภาคธุรกิจที่ดินเพื่ออุตสาหกรรมมียอดเพิ่มขึ้นร้อยละ 294 จาก 901 ไร่ในปี 2552 เป็นจำนวน 3,622 ไร่<br />
ในปี 2553 ซึ่งเหมราชขายที่ดินเพื่ออุตสาหกรรมได้ 930 ไร่ในปี 2553 หรือคิดเป็นร้อยละ 26 ของส่วนแบ่งตลาด<br />
ทั้งหมด โครงการที่ได้รับการส่งเสริมจากกรมส่งเสริมการลงทุน (BOI) ในปี 2553 ก็เพิ่มขึ้นอย่างมากด้วยมูลค่าทั้งสิ้น<br />
491,300 ล้านบาท เทียบกับปี 2552 ซึ่งมีมูลค่า 281,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 75 ด้วยจำนวนโครงการที่ได้รับ<br />
การส่งเสริมเป็นจำนวน 1,566 โครงการเพิ่มขึ้นร้อยละ 56 เมื่อเทียบกับปี 2552 <br />
ประเทศไทยยังเป็นศูนย์การผลิตรถยนต์ที่สำคัญในระดับภูมิภาคของ ASEAN โดยเฉพาะรถยนต์ปิกอัพขนาด 1 ตัน<br />
และรถส่วนบุคคลขนาดเล็ก ในปี 2553 ยอดการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 1,645,000 คันจาก 999,378 คันในปี 2552 หรือ<br />
เพิ่มขึ้นร้อยละ 65 ด้วยยอดขายรถยนต์ภายในประเทศจำนวน 800,357 คันและส่งออก 896,065 คัน โดยในปี 2552<br />
ยอดการส่งออกรถยนต์มีมูลค่าร้อยละ 10 ของมูลค่าการส่งออก<br />
อัตราการเดิบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ<br />
อัตราการใช้กำลังการผลิต<br />
23<br />
%<br />
10.0<br />
8.0<br />
7.8<br />
6.0<br />
4.0<br />
5.1<br />
4.5<br />
4.9<br />
3.0<br />
2.0<br />
0.0<br />
-2.0<br />
-2.3<br />
-4.0<br />
2548 2549 2550 2551 2552 2253<br />
ตลาดที่ดินเพื่ออุตสาหกรรมในประเทศไทย<br />
%<br />
110<br />
100<br />
90<br />
80<br />
70<br />
60<br />
50<br />
40<br />
30<br />
20<br />
10<br />
2543 2545 2547 2549 2551 2553<br />
ทั้งหมด ปิโตรเคมี ยานยนต์และส่วนประกอบ<br />
โครงการที่ได้รับการส่งเสริมจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน<br />
5,000<br />
4,000<br />
3,000<br />
2,000<br />
1,000<br />
0<br />
ไร่<br />
2548<br />
3,236<br />
2,865<br />
4,617<br />
4,170<br />
2549 2550 2551 2552<br />
900<br />
2553<br />
3,546<br />
1 ไร่ = 1,600 ตารางเมตร หรือ 0.4 เอเคอร์<br />
ที่มา : ธนาคารแห่งประเทศไทย มีนาคม 2553, คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน มกราคม 2553<br />
CB Richard Ellis ไตรมาสที่ 4 ปี 2552<br />
<br />
800<br />
700<br />
600<br />
500<br />
400<br />
300<br />
200<br />
100<br />
0<br />
พันล้านบาท<br />
744<br />
571<br />
500<br />
491<br />
373 <br />
281<br />
2548 2549 2550 2551 2552 2553<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
24<br />
บทรายงานและการวิเคราะห์ของฝ่ายบริหาร<br />
สรุปผลการดำเนินงาน<br />
<br />
สำหรับปี 2553 บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิทั้งสิ้น 1,215.9 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 111 จากปี 2552<br />
การเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิในปี 2553 มาจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายที่ดินอุตสาหกรรม การเพิ่มขึ้นของรายได้จาก<br />
สาธารณูปโภคในนิคมอุตสาหกรรม การเพิ่มขึ้นจากการเช่าและขายโรงงานสำเร็จรูปและจากการขายโครงการที่พักอาศัย<br />
รวมไปถึงกำไรจากการลงทุนในบริษัทร่วม (ซึ่งส่วนสำคัญเป็นกำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจากอัตราแลกเปลี่ยนในโครงการพลังงาน<br />
จำนวน 394 ล้านบาท) เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.125 บาทต่อหุ้น<br />
เพิ่มขึ้นร้อยละ 105 เมื่อเทียบกับปี 2552<br />
สำหรับปี 2553 บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 4,020.2 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี<br />
2552 จำนวน 2,222.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 81 โดยมีรายได้จากการประกอบธุรกิจหลักจำนวน 4,219.7 ล้านบาท<br />
หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 89 เปรียบเทียบกับปี 2552 รายได้การขายที่ดินนิคมอุตสาหกรรมสำหรับปี 2553 ซึ่งรวมกำไรจาก<br />
นิคมอุตสาหกรรมร่วมทุนจำนวน 1,501.0 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 113 โดยมีรายได้จากการขายพื้นที่นิคม<br />
อุตสาหกรรมที่รอการรับรู้อีกเป็นจำนวน 788 ล้านบาท จากวิธีการรับรู้รายได้ตามการแล้วเสร็จของการพัฒนานิคม<br />
อุตสาหกรรมเฟสใหม่อีก 3 เฟส โดยจะเริ่มใช้มาตราฐานบัญชีใหม่ของประเทศไทยที่เปลี่ยนวิธีการรับรู้รายได้ในปี 2554<br />
รายได้จากระบบสาธารณูปโภครวมถึงค่าบริการระบบสาธารณูปโภคในนิคมอุตสาหกรรม กำไรและเงินปันผล<br />
จากบริษัทร่วมด้านพลังงานและสาธารณูปโภค และค่าบริการระบบสาธารณูปโภคและบริการอื่นๆ ที่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวน<br />
1,472.4 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 43 โดยรายได้จากระบบสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้นร้อยละ 26 เป็น 967.7 ล้านบาท<br />
จากความต้องการน้ำที่เพิ่มขึ้นและจากการรวมงบการเงินของเขตประกอบการอุตสาหกรรมเหมราชสระบุรีและเขต<br />
ประกอบการอุตสาหกรรมเหมราชระยองในไตรมาส 4 ปี 2553 อย่างไรก็ตามมีการลดลงของรายได้จาก capacity<br />
charge ของธุรกิจปิโตรเคมีที่สะท้อนให้เห็นในรายได้จากสาธารณูปโภคอื่นๆและค่าบริการที่ลดลงร้อยละ 79<br />
รายได้จากเช่าที่รวมถึงการเช่าโรงงานสำเร็จรูป การให้เช่าฐานวางท่อ และการให้เช่าออฟฟิสสำนักงานและอื่นๆ<br />
รวมเป็นจำนวน 480.4 ล้านบาท หรือลงลงร้อยละ 7 ซึ่งเป็นผลจากการลดลงของรายได้จากการจัดการการก่อสร้างที่<br />
ลดลงร้อยละ 64 อย่างไรก็ตามรายได้จากการเช่าโรงงานสำเร็จรูป การให้เช่าฐานวางท่อ และการให้เช่าออฟฟิส<br />
สำนักงานนั้นเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 จากความต้องการในการเช่าที่เพิ่มมากขึ้น<br />
รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ที่รวมถึงการขายโรงงานสำเร็จรูปและการขายโครงการที่พักอาศัย เพิ่มขึ้น<br />
จากปี 2552 ซึ่งไม่มียอดขาย เป็นจำนวน 766 ล้านบาท <br />
<br />
ฐานะทางการเงิน<br />
<br />
ฐานะทางการเงินรวมของบริษัทฯ ในปี 2553 สามารถสรุปได้ดังนี้ <br />
ในปี 2553 บริษัทฯ มีสินทรัพย์รวมทั้งสิ้น 18,715 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 37 จากจำนวน 13,681 ล้านบาท<br />
ในปี 2552 ในส่วนของสินทรัพย์หมุนเวียนนั้น ในปี 2553 มีจำนวน 11,202 ล้านบาท เปรียบเทียบกับปี 2552 ซึ่งมี<br />
จำนวน 7,684 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 46 ซึ่งรวมเงินสดและเงินฝากจำนวน 3,517 ล้านบาท ลูกหนี้การค้า<br />
จำนวน 561 ล้านบาท และที่ดินที่รอการพัฒนาจำนวน 7,046 ล้านบาท<br />
สินทรัพย์อื่นๆ ในปี 2553 มีจำนวน 7,513 ล้านบาท ในจำนวนนี้รวมถึงที่ดินที่รอการพัฒนาในเชิงพาณิชย์<br />
จำนวน 315 ล้านบาท สินทรัพย์ให้เช่าจำนวน 2,021 ล้านบาท และเงินลงทุนในบริษัทอื่นๆจำนวน 3,479 ล้านบาท<br />
ซึ่งรวมถึง การลงทุน 5% ในบริษัท โกลว์ไอพีพี ผู้ผลิตไฟฟ้าจำนวน 713 เมกะวัตต์ การลงทุน 51% ในบริษัทห้วยเหาะ<br />
ไทยซึ่งถือหุ้น 25% ในห้วยเหาะ พาวเวอร์ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาด 152 เมกะวัตต์<br />
ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และการลงทุน 35% ในบริษัท เก็คโค่-วัน โครงการผู้ผลิตไฟฟ้าจำนวน<br />
660 เมกะวัตต์ รวมเป็นเงินฝากจำนวน 766 ล้านบาท ไว้กับธนาคารเพื่อเป็นหลักประกันในการชำระค่าหุ้นของบริษัท<br />
เก็กโค่-วัน อนึ่งโครงการพลังงานทั้งสามโครงการเป็นการร่วมลงทุนกับบริษัทในกลุ่มโกลว์พลังงาน (จีดีเอฟ ซุเอซ)<br />
หนี้สินรวมในปี 2553 จำนวน 9,577 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 82 จากจำนวน 5,222 ล้านบาท ในปี 2552<br />
ลดลงเนื่องจากในปี 2553 บริษัทได้มีการออกหุ้นกู้ประเภทไม่มีหลักประกันจำนวน 6,000 ล้านบาท เพื่อชำระคืน<br />
ตราสารหนี้ระยะสั้น และเพื่อสนับสนุนโครงการลงทุนต่างๆ ของบริษัท โดยเฉพาะโครงการลงทุนในธุรกิจโรงงาน<br />
พลังงานไฟฟ้าและโครงการอสังหาริมทรัพย์ <br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
ส่วนของผู้ถือหุ้น ในปี 2553 มีจำนวน 9,138 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2552<br />
จำนวน 8,459 ล้านบาทจากผลกำไรจากการดำเนินกิจการของปี 2553 และจากการเติบโตของรายได้ของบริษัท ณ วันที่<br />
31 ธันวาคม 2552 มีหุ้นสามัญจำหน่ายแล้ว 9,705.19 ล้านหุ้น สำหรับสัดส่วนของหนี้สินสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น<br />
ในปี 2553 อยู่ในระดับที่ 0.66 ต่อ 1<br />
<br />
ปัจจัยความเสี่ยง<br />
<br />
ความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก<br />
บริษัทฯ มีความเสี่ยงจากการลงทุนและการดำเนินงานอันเกี่ยวเนื่องมาจากปัจจัยภายนอกไม่ว่าจะเป็นจาก<br />
นโยบายของรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย จากสภาวะทางการเมือง กฎหมาย และเศรษฐกิจของประเทศไทย<br />
ประเทศเพื่อนบ้านและประเทศอื่นๆ การลงทุนจากต่างประเทศ ภาวะเงินเฟ้อ การเปลี่ยนแปลงของราคาน้ำมัน อัตรา<br />
ดอกเบี้ยและราคาที่ดิน วัสดุก่อสร้าง การก่อสร้างที่ล่าช้า และการขาดแคลนแรงงานที่มีฝีมือล้วนเป็นปัจจัยที่จะมี<br />
ผลกระทบต่อการดำเนินงานธุรกิจของบริษัทฯ ทั้งสิ้น <br />
อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ได้ตระหนักถึงความเสี่ยงและผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าว โดยพยายามติดตามและ<br />
วิเคราะห์ผลกระทบต่อการดำเนินงานอย่างเป็นระบบและต่อเนื่องเพื่อป้องกันหรือลดผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าวให้เหลือ<br />
น้อยที่สุด ในระดับที่รับได้เมื่อเทียบกับผลตอบแทนที่คาดไว้ คณะกรรมการบริษัท และคณะผู้บริหาร ได้ดำเนินกลยุทธ์<br />
ธุรกิจอย่างรอบคอบและได้มีการปรับแผนเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันอย่างเหมาะสมที่สุด โดยจะเห็นได้จาก<br />
ผลของความสำเร็จจากฐานรายได้จากการดำเนินงานที่กว้างขึ้น อัตราส่วนกำไรที่มั่นคง รายได้จากการเช่าโรงงาน<br />
สำเร็จรูปและรายได้จากระบบสาธารณูปโภคที่มีความสม่ำเสมอช่วยเพิ่มสมดุลให้แก่โครงสร้างรายได้ นิคมอุตสาหกรรม<br />
และเขตประกอบการอุตสาหกรรมทั้งหกแห่งของบริษัทฯ ซึ่งมีลูกค้าขยายธุรกิจในสัดส่วนที่สูงและการลงทุนในโครงการ<br />
อสังหาริมทรัพย์เฉพาะกลุ่มยังช่วยลดความเสี่ยงอีกด้วย<br />
แม้กระนั้นด้วยฐานรายได้ที่กว้างและงบดุลที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ประกอบกับพื้นที่สำหรับอุตสาหกรรมได้มี<br />
การพัฒนาให้มีความพร้อมอยู่เสมอช่วยลดผลกระทบอันเนื่องมาจากปัจจัยดังกล่าว<br />
ความเสี่ยงด้านการเงิน<br />
ความสามารถในการบริหารการเงินของบริษัทฯ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ ทั้งจากผลประกอบการ ฐานะ<br />
ทางการเงินของบริษัท ภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยและประเทศอื่นๆ รวมถึงการระดมเงินทั้งจากตลาดเงิน/ตลาดทุน<br />
ทั้งในและต่างประเทศและอัตราดอกเบี้ย<br />
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนและมีการแข่งขันสูงเพื่อให้บริษัทฯ มีศักยภาพในการดำเนิน<br />
ทางธุรกิจ บริษัทฯ จึงมีความจำเป็นต้องจัดหาแหล่งเงินทุนที่เหมาะสมและพอเพียงโดยมีต้นทุนอยู่ในระดับที่เหมาะสม<br />
หลังจากวิกฤตการณ์เศรษฐกิจเป็นต้นมา บริษัทฯ ได้มีการปรับโครงสร้างทางการเงินของบริษัทฯ อย่างต่อเนื่องดังจะเห็น<br />
ได้จากผลการดำเนินงานในระยะเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯ มีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนในระดับที่ต่ำ ทั้งนี้เพื่อให้บริษัทฯ<br />
สามารถดำรงสภาพคล่องในการดำเนินการขยายธุรกิจและลดความเสี่ยงด้านการเงิน บริษัทฯ จึงดำเนินการโดยให้มี<br />
งบดุลที่มีสภาพแข็งแกร่ง มีหนี้สินในระดับต่ำ รักษาเงินสดในมือให้มีความคล่องตัว ไม่มีเงินกู้ยืมในเงินตราต่างประเทศ<br />
และพยายามจัดแหล่งเงินกู้ที่หลากหลาย ปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมานี้จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้บริษัทฯ ในการขยายธุรกิจ<br />
และลดความเสี่ยงทางด้านการเงิน<br />
ความเสี่ยงจากการพึ่งพาลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเละยานยนต์<br />
บริษัทฯ มีความเสี่ยงจากการพึ่งพาลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีเละยานยนต์ โดยบริษัทฯ มีลูกค้ากลุ่ม<br />
อุตสาหกรรมปิโตรเคมี (49) เละยานยนต์จำนวน (148) 197 ราย จากจำนวนลูกค้าทั้งหมด 426 รายคิดเป็น 46%<br />
ของจำนวนลูกค้าทั้งหมดของบริษัทฯ หากการลงทุนจากอุตสาหกรรมดังกล่าวลดลงหรือชะลอตัวลง ก็อาจส่งผลกระทบ<br />
ต่อ ยอดขายที่ดินของบริษัทฯ และรายได้ส่วนอื่นที่เกี่ยวข้องของบริษัทฯ<br />
บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงความเสี่ยงและผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าวโดยมีการวางแผนทางการตลาดเจาะกลุ่มเป้า<br />
หมายที่หลากหลาย ไม่เพียงแต่ กลุ่มปิโตรเคมี หรือ ยานยนต์เท่านั้น เพื่อไม่ให้พึ่งพาอุตสาหกรรมใดมากเกินไป โดยนิคม<br />
อุตสาหกรรมและเขตประกอบการอุตสาหกรรมทั้ง 6 แห่ง ของบริษัทได้เจาะกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน เช่น<br />
อิเล็กทรอนิกส์ พลังงาน เหล็ก วัสดุก่อสร้าง เป็นต้น ในไตรมาสที่ 4 ปี 2553 บริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้นส่วนที่เหลือร้อยละ<br />
75 ในบริษัท เอส ไอ แอล ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด (เอส ไอ แอล) จากบริษัทในเครือบมจ.ปูนซีเมนต์ไทย โดยมีพื้นที่<br />
รวมทั้ง 2 บริษัทอยู่กว่า 7,000 ไร่ ขณะเดียวกันก็ได้ขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมอื่นๆ นอกเหนือจากที่บริษัท<br />
มีอยู่แล้วด้วย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังติดตามและวิเคราะห์ถึงสัดส่วนการลงทุนของกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆที่เข้ามาลงทุน<br />
ในประเทศ เพื่อปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับสภาวะดังกล่าว<br />
25<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
26<br />
ความเสี่ยงจากการเข้าร่วมลงทุนในโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP)<br />
บริษัทฯ ได้เข้าร่วมลงทุนในโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) ในบริษัท เก็คโค่-วัน จำกัด กับบริษัท<br />
ในกลุ่มโกลว์ พลังงาน ทั้งนี้เป็นไปตามแผนกลยุทธ์การดำเนินกิจการของบริษัทฯ ที่ต้องการขยายฐานรายได้ของบริษัทฯ<br />
ไปยังธุรกิจที่จะให้ผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจที่มีความต่อเนื่องสม่ำเสมอในระยะยาว ความเสี่ยงของโครงการขนาด<br />
ใหญ่นี้ เช่น ความเสี่ยงทางกฎหมาย ข้อบังคับ และนโยบายของรัฐบาล ความล่าช้าจากการก่อสร้าง ความเสี่ยงจากการ<br />
หาแหล่งเงินทุน ความเสี่ยงจากปัญหาสิ่งแวดล้อม ความเสี่ยงจากวัตถุดิบ ความเสี่ยงจากการที่มีลูกค้าเป็นการไฟฟ้า<br />
ฝ่ายผลิตเพียงรายเดียว ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ย ฯลฯ ความเสี่ยงที่เกิดจากปัจจัยเหล่านี้ อาจมี<br />
ผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญและอาจจะทำความเสียหายให้กับโครงการดังกล่าวและบริษัทฯ ได้<br />
บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงความเสี่ยงและผลกระทบจากปัจจัยดังกล่าว โดยได้มีการศึกษาข้อดีข้อเสียและความ<br />
เป็นไปได้ของโครงการ (Feasibility Study) และมีการศึกษาผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ (Sensitivity Analysis) เพื่อ<br />
ครอบคลุมทุกด้าน ประกอบกับการพิจารณาอัตราผลตอบแทนซึ่งโครงการจะให้ผลตอบแทนในระยะยาวและเป็น<br />
ผลตอบแทนที่มีความ ต่อเนื่องและสม่ำเสมอที่บริษัทฯ จะได้รับหากโครงการดังกล่าวเปิดดำเนินการ โครงการนี้บริหาร<br />
งานโดยทีมงานของ บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) ทีมงานบริหารมีความรู้ความชำนาญประสบความสำเร็จ<br />
จากการดำเนินงานโรงงานไฟฟ้าในประเทศไทยมาหลายโรงงานแล้วภายใต้การสนับสนุนของ กลุ่มบริษัท จีดีเอฟ-สุเอซ<br />
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำระดับโลกในธุรกิจด้านพลังงาน นอกจากนี้บริษัท เก็คโค่ - วัน จำกัด ได้ผ่านการศึกษา<br />
ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และอยู่ระหว่างการดำเนินการในการยื่นผลการศึกษาผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม<br />
(EHIA) ต่อคณะกรรมการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และได้เซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้า<br />
กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เซ็นสัญญาซื้อถ่านหินระยะยาวกับคู่ค้า เซ็นสัญญากู้ยืมเงินกับสถาบันการเงิน<br />
ต่างๆ เซ็นสัญญาก่อสร้างกับผู้รับเหมา โดยโรงไฟฟ้าเก็คโค่วันได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วและคาดว่าจะเปิดดำเนินงานได้<br />
ในปี 2555 นอกจากนี้ยังเซ็นสัญญาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (F/X Swap) หรือ จากอัตราดอกเบี้ย<br />
(Interest Rate Swap) สัญญาซื้อขายถ่านหินล่วงหน้า และสัญญาอื่นๆ เพื่อให้รายรับ รายจ่าย เงินกู้ และอัตราดอก<br />
เบี้ยที่มีหลากหลายสกุลเงินมีความสอดคล้องกัน เพื่อลดความเสี่ยงจากปัจจัยต่างๆ <br />
ความคืบหน้าในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าเก็คโค่ วัน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 สร้างแล้วเสร็จ 88% <br />
ความเสี่ยงจากเหตุการณ์มาบตาพุด <br />
ในเดือนกันยายน 2552 ศาลปกครองกลาง ได้มีคำสั่งให้ 8 หน่วยงานราชการระงับการดำเนินการของ<br />
โครงการที่ก่อผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงในพื้นที่รวม 76 โครงการในพื้นที่มาบตาพุดและพื้นที่ใกล้เคียง ไว้เป็นการ<br />
ชั่วคราว จนกว่าจะได้มีการดำเนินการเพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 67 วรรค 2 ต่อมาในเดือน<br />
ธันวาคม 2552 ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งแก้คำสั่งของศาลปกครองกลาง โดยให้เพิกถอนใบอนุญาตสำหรับโครงการ<br />
ที่ออกหลังจากรัฐธรรมนูญปี 2550 และอยู่ในโครงการหรือกิจกรรมในประเภทอุตสาหกรรม 11 ประเภทโครงการที่อาจ<br />
ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมฉบับลงวันที่ 31<br />
สิงหาคม 2553 จนกว่าจะได้มีการปฏิบัติตามมาตรา 67 วรรค 2 แล้ว ทั้งนี้ ถึงปัจจุบัน หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้ง<br />
ในภาครัฐ ภาคเอกชนผู้ลงทุน และชุมชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดและออกกฏระเบียบต่างที่เกี่ยวข้องในราย<br />
ละเอียดเพื่อเป็นเกณฑ์ในการปฏิบัติแก่โครงการที่เข้าข่ายเป็นโครงการที่อาจมีผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรง อันจะต้อง<br />
ทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบในด้านสิ่งแวดล้อมและด้านสุขภาพ (EHIA) ซึ่งได้มีการทะยอยออกหลักเกณฑ์ต่างๆ<br />
แต่โดยที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานจำนวนมากและชุมชน ดังนั้น ผลกระทบจึงขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการดำเนินการจัดทำและ<br />
ออกกฏระเบียบในรายละเอียดที่เหมาะสมและเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย<br />
ในส่วนของบริษัท แม้ในปัจจุบันโครงการนิคมอุตสาหกรรมของบริษัทฯยังมิได้เข้าข่ายในการต้องจัดทำรายงาน<br />
การวิเคราะห์ผลกระทบในด้านสิ่งแวดล้อมและด้านสุขภาพ (EHIA) แต่เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม และเพื่อสามารถ<br />
จะให้ข้อมูลแก่นักลงทุนได้บริษัทได้ตั้งคณะทำงานขึ้นเป็นการเฉพาะเพื่อประสานงานและให้ข้อมูลต่างๆ อันเป็นประโยชน์<br />
กับหน่วยงานจากภาครัฐและเอกชน และชุมชนอย่างเต็มที่เพื่อแก้ใขปัญหาดังกล่าวให้ลุล่วงอย่างเหมาะสมโดยเร็ว <br />
นอกจากนี้สำหรับการเตรียมการรับมือในระยะยาวนั้น บริษัทมีนโยบายที่จะขยายฐานรายได้ของบริษัทออกไปใน<br />
ธุรกิจต่างๆที่มีความสม่ำเสมอเช่นรายได้จากการให้บริการสาธารณูปโภค ฯลฯ เพื่อลดการพึ่งพารายได้จากการขายที่ดิน<br />
เพียงอย่างเดียวโดยในปี 2553 บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากการดำเนินงานอื่นๆ ที่ไม่ใช่มาจากการขายที่ดินถึงร้อยละ 63<br />
ของรายได้ที่มาจากการดำเนินงานทั้งหมด<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
โครงสร้างการจัดการ<br />
คณะกรรมการบริษัท <br />
<br />
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 ประกอบด้วยกรรมการจำนวน 10 ท่าน คือ <br />
1. นายชวลิต เศรษฐเมธีกุล* ประธานกรรมการ / กรรมการ<br />
2. นายธงชัย ศรีสมบูรณานนท์ กรรมการ / ประธานกรรมการบริหาร / <br />
กรรมการสรรหาและพิจารณาผลตอบแทน<br />
3. นายเดวิด ริชาร์ด นาร์โดน กรรมการผู้จัดการ / กรรมการบริหาร<br />
4. นายสุทธิพันธุ์ จารุมณี กรรมการอิสระ / ประธานกรรมการตรวจสอบ/<br />
ประธานกรรมการสรรหาและพิจารณาผลตอบแทน<br />
5. นายปีเตอร์ จอห์น เอ็ดมันสัน กรรมการอิสระ / กรรมการตรวจสอบ<br />
6. นางพรรณี วรวุฒิจงสถิต** กรรมการอิสระ / กรรมการตรวจสอบ / กรรมการบรรษัทภิบาล /<br />
กรรมการสรรหาและพิจารณาผลตอบแทน<br />
7. นายวิวัฒน์ จิรัฐติกาลสกุล กรรมการ / กรรมการบริหาร<br />
8. นางสาวปัทมา หอรุ่งเรือง กรรมการ / กรรมการบริหาร / กรรมการบรรษัทภิบาล<br />
9. นายสมพงษ์ วนาภา กรรมการอิสระ / ประธานกรรมการบรรษัทภิบาล<br />
10. นายวิกิจ หอรุ่งเรือง กรรมการ<br />
โดยมีนายศิริศักดิ์ กิจรักษา เป็นเลขานุการบริษัท<br />
* ได้ลาออกจากการเป็นกรรมการสรรหาและพิจารณาผลตอบแทน มีผลตั้งแต่ วันที่ 28 ก.พ. 54<br />
** ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการสรรหาและพิจารณาผลตอบแทนเมื่อวันที่ 28.ก.พ.54<br />
กรรมการอิสระของบริษัทมีจำนวน 4 คน มีคุณสมบัติเข้มกว่าตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ<br />
ไทยและ ก.ล.ต. ดังต่อไปนี้<br />
1. ถือหุ้นไม่เกินร้อยละ 0.50 ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัท บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย<br />
บริษัทร่วม หรือนิติบุคคลที่อาจมีความขัดแย้ง ทั้งนี้ ให้นับรวมการถือหุ้นของผู้ที่เกี่ยวข้องของกรรมการอิสระรายนั้น ๆ ด้วย<br />
2. ไม่เป็นหรือเคยเป็นกรรมการที่มีส่วนร่วมบริหารงาน ลูกจ้าง พนักงาน ที่ปรึกษาที่ได้เงินเดือนประจำ หรือ<br />
ผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัท บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย บริษัทร่วม บริษัทย่อยลำดับเดียวกัน หรือนิติบุคคลที่อาจมีความ<br />
ขัดแย้ง เว้นแต่จะได้พ้นจากการมีลักษณะดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่าสองปีก่อนวันที่ยื่นคอขออนุญาตต่อสำนักงาน<br />
3. ไม่เป็นบุคคลที่มีความสัมพันธ์ทางสายโลหิต หรือโดยการจดทะเบียนตามกฎหมาย ในลักษณะที่เป็น บิดา<br />
มารดา คู่สมรส พี่น้อง และบุตรรวมทั้งคู่สมรสของบุตร ของผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ผู้มีอำนาจควบคุม หรือบุคคล<br />
ที่จะได้รับการเสนอให้เป็นผู้บริหารหรือผู้มีอำนาจควบคุมของบริษัท หรือบริษัทย่อย<br />
4. ไม่มีหรือเคยมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับบริษัท บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย บริษัทร่วม หรือนิติบุคคลที่อาจ<br />
มีความขัดแย้ง ในลักษณะที่อาจเป็นการขัดขวางการใช้วิจารณญาณอย่างอิสระของตน รวมทั้งไม่เป็นหรือเคยเป็นผู้ถือหุ้น<br />
รายใหญ่ กรรมการซึ่งไม่ใช่กรรมอิสระ หรือผู้บริหาร ของผู้ที่มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับบริษัท บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย<br />
บริษัทร่วม หรือนิติบุคคลที่อาจมีความขัดแย้ง เว้นแต่จะได้พ้นจากการมีลักษณะดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่าสองปีก่อน<br />
วันที่ยื่นคำขออนุญาตต่อสำนักงาน<br />
ความสัมพันธ์ทางธุรกิจ รวมถึงการทำรายการทางการค้าที่กระทำเป็นปกติเพื่อประกอบกิจการ การเช่าหรือ<br />
ให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ รายการเกี่ยวกับสินทรัพย์หรือบริการหรือการให้หรือรับความช่วยเหลือทางการเงิน ด้วยการรับ<br />
หรือให้กู้ยืม ค้ำประกัน การให้สินทรัพย์เป็นหลักประกันหนี้สิน รวมถึงพฤติการณ์อื่นทำนองเดียวกัน ซึ่งเป็นผลให้ผู้ขอ<br />
อนุญาตหรือคู่สัญญาภาระหนี้สินที่ต้องชำระต่ออีกฝ่ายหนึ่ง ตั้งแต่ร้อยละสามของสินทรัพย์ที่มีตัวตนสุทธิของผู้ขออนุญาต<br />
หรือตั้งแต่ยี่สิบล้านบาทขึ้นไป แล้วแต่จำนวนใดจะต่ำกว่า ทั้งนี้การคำนวณภาระหนี้สินดังกล่าวให้เป็นไปตามวิธีการ<br />
คำนวณมูลค่าของรายการที่เกี่ยวโยงกันตามประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่าด้วยการเปิดเผย<br />
ข้อมูลและการปฎิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในรายการที่เกี่ยวโยงกัน โดยอนุโลม แต่ในการพิจารณาภาระหนี้ดังกล่าว<br />
ให้นับรวมภาระหนี้สินที่เกิดขึ้นในระหว่างหนึ่งปีก่อนวันที่มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับบุคคลเดียวกัน<br />
27<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
28<br />
5. ไม่เป็นหรือเคยเป็นผู้สอบบัญชีของบริษัท บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย บริษัทร่วม หรือนิติบุคคลที่อาจมีความขัดแย้ง<br />
และไม่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ กรรมการซึ่งไม่ใช่กรรมการอิสระ ผู้บริหาร หรือหุ้นส่วนผู้จัดการของสำนักงานสอบบัญชี ซึ่งมี<br />
ผู้สอบบัญชีของบริษัท บริษัทใหญ่ บริษัทย่อยบริษัทร่วม หรือนิติบุคคลที่อาจมีความขัดแย้งสังกัดอยู่ เว้นแต่จะได้พ้นจาก<br />
การมีลักษณะดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่าสองปีก่อนวันที่ยื่นคำขออนุญาตต่อสำนักงาน<br />
6. ไม่เป็นหรือเคยเป็นผู้ให้บริการทางวิชาชีพใดๆซี่งรวมถึงการให้บริการเป็นที่ปรึกษากฏหมายหรือที่ปรึกษา<br />
ทางการเงิน ซึ่งได้รับค่าบริการเกินกว่าสองล้านบาทต่อปีจากบริษัท บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย บริษัทร่วม หรือนิติบุคคล<br />
ที่อาจมีความขัดแย้ง ทั้งนี้กรณีที่ผู้ให้บริการทางวิชาชีพเป็นนิติบุคคล ให้รวมถึงการเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ กรรมการ<br />
ซึ่งไม่ใช่กรรมการอิสระ ผู้บริหาร หรือหุ้นส่วนผู้จัดการ ของผู้ให้บริการทางวิชาชีพนั้นด้วย เว้นแต่จะได้พ้นจากการ<br />
มีลักษณะดังกล่าวมาแล้วไม่น้อยกว่าสองปีก่อนวันที่ยื่นคำขออนุญาตต่อสำนักงาน<br />
7. ไม่เป็นกรรมการที่ได้รับการแต่งตั้งขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนของกรรมการของบริษัท ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือผู้ถือหุ้น<br />
ซึ่งเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท<br />
8. ไม่มีลักษณะอื่นใดท่ีทำให้ไม่สามารถ ให้ความเห็นอย่างเป็นอิสระเกี่ยวกับการดำเนินงานของบริษัท<br />
หน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริษัท : <br />
คณะกรรมการบริษัทฯ มีหน้าที่หลักในการกำหนดวิสัยทัศน์ นโยบายโดยรวม ตลอดจนกลยุทธ์สำคัญในการ<br />
ดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ด้วยความสามารถและความสุจริตรอบคอบเพื่อรักษาผลประโยชน์ของบริษัทฯและของผู้ถือหุ้น<br />
อย่างต่อเนื่องยาวนาน รวมถึงการควบคุมกำกับฝ่ายบริหารจัดการของบริษัทฯ ให้ดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมายอย่าง<br />
มีประสิทธิภาพ และอย่างถูกต้องตามกฏหมาย วัตถุประสงค์ ข้อบังคับของบริษัทและมติคณะกรรมการ มติของที่ประชุม<br />
ผู้ถือหุ้นตลอดจนข้อกำหนดขององค์กรกำกับดูแลต่างๆ ตลอดจนของบริษัทฯ เอง อีกทั้งมีความสอดคล้องกับหลักเกณท์<br />
การกำกับดูแลกิจการที่ดี ทั้งนี้ คณะกรรมการอาจแต่งตั้งหรือมอบหมายให้กรรมการคนหนึ่งคนใดหรือหลายคนหรือ<br />
บุคคลอื่นกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดแทนคณะกรรมการ ทั้งสามารถยกเลิก เปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขอำนาจนั้นๆ ได้ตาม<br />
ที่เห็นสมควร<br />
วาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการ :<br />
ในการประชุมสามัญประจำปี กรรมการบริษัทต้องออกจากตำแหน่งจำนวน 1 ใน 3 ถ้าจำนวนกรรมการที่จะ<br />
แบ่งออกให้ตรงเป็นสามส่วนไม่ได้ ให้ออกโดยจำนวนใกล้ที่สุดกับส่วน 1 ใน 3 กรรมการบริษัทที่ออกไปนั้นอาจได้รับเลือก<br />
ตั้งให้ดำรงตำแหน่งต่อไปอีกได้<br />
คณะกรรมการบริหาร<br />
<br />
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 ประกอบด้วยกรรมการบริหารจำนวน 4 คน คือ<br />
1. นายธงชัย ศรีสมบูรณานนท์ ประธานกรรมการบริหาร<br />
2. นายเดวิด ริชาร์ด นาร์โดน กรรมการบริหาร<br />
3. นายวิวัฒน์ จิรัฐติกาลสกุล กรรมการบริหาร<br />
4. นางสาวปัทมา หอรุ่งเรือง กรรมการบริหาร<br />
คณะกรรมการบริหาร ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการของบริษัทฯ ให้ช่วยงานด้านนโยบายและวางแผน ให้<br />
แก่คณะกรรมการของบริษัทฯ รวมถึงการกำกับดูแลให้ฝ่ายจัดการของบริษัทฯ นำนโยบายและแผนกลยุทธ์ที่ได้รับความ<br />
เห็นชอบแล้วนั้นไปดำเนินการปฏิบัติอย่างมีความรับผิดชอบ ความระมัดระวังและความซื่อสัตย์สุจริต รวมทั้งปฏิบัติให้เป็น<br />
ไปตามกฎหมาย วัตถุประสงค์ ข้อบังคับของบริษัท และมติของคณะกรรมการตลอดจนมติของที่ประชุมผู้ถือหุ้น<br />
ขอบเขตอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการบริหาร<br />
1. พิจารณากลั่นกรองและสอบทานแผนธุรกิจและแผนการลงทุนและงบประมาณต่างๆ ของบริษัทฯ ที่นำเสนอ<br />
จากฝ่ายบริหารจัดการก่อนนำเสนอให้คณะกรรมการบริษัทพิจารณาอนุมัติ<br />
2. ติดตาม กำกับ และควบคุมให้การปฏิบัติงานบรรลุเป้าหมายของแผนงานที่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการ<br />
หรือตามที่คณะกรรมการมอบหมาย<br />
3. พิจารณาอนุมัติให้ดำเนินการ หรืออนุมัติการใช้จ่ายเงินเพื่อการดำเนินการต่างๆ ในส่วนที่เกินกว่าอำนาจ<br />
หรือเกินวงเงินอนุมัติของฝ่ายจัดการ ทั้งนี้ให้เป็นไปตามระเบียบอำนาจอนุมัติของบริษัทฯ หรือตามงบประมาณที่ได้รับ<br />
การอนุมัติแล้ว<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
4. กำหนดผังโครงสร้างองค์กร อำนาจการบริหารจัดการ นโยบายอัตราค่าตอบแทน และโครงสร้างเงินเดือน<br />
ของบริษัทฯ เพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการ<br />
5. มอบหมายเพื่อให้บุคคลหนึ่งหรือหลายบุคคลมีอำนาจกระทำการใดๆ แทนคณะกรรมการบริหารตามที่<br />
คณะกรรมการบริหารเห็นสมควร และคณะกรรมการบริหารอาจยกเลิกเพิกถอนเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขอำนาจนั้นๆ ได้<br />
6. ดำเนินการอื่นๆ ตามที่คณะกรรมการบริษัทมอบหมาย<br />
ทั้งนี้ ขอบเขตอำนาจที่คณะกรรมการบริหารได้รับมอบหมายไม่ครอบคลุมถึงรายการที่กรรมการบริหารผู้ใดผู้<br />
หนึ่งหรือบุคคลที่อาจมีความขัดแย้งตามประกาศสำนักงาน ก.ล.ต. คนใดคนหนึ่ง มีส่วนได้เสียหรือมีความขัดแย้งทางผล<br />
ประโยชน์กับบริษัทฯ หรือบริษัทย่อย ในกรณีเช่นนั้นคณะกรรมการบริหารจะต้องนำเสนอเรื่องสู่การพิจารณาให้ความเห็น<br />
ชอบโดยคณะกรรมการบริษัทฯ และ/หรือ ที่ประชุมผู้ถือหุ้น ตามแต่กรณี เว้นแต่คณะกรรมการบริษัทฯ และ/หรือที่<br />
ประชุมผู้ถือหุ้นจะได้ยกเว้นโดยชอบเป็นเฉพาะกรณีไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว<br />
คณะกรรมการตรวจสอบ <br />
<br />
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 ประกอบด้วยกรรมการตรวจสอบจำนวน 3 คน คือ<br />
1. นายสุทธิพันธุ์ จารุมณี ประธานคณะกรรมการตรวจสอบ (เป็นกรรมการตรวจสอบที่มี<br />
ความรู้และประสบการณ์ในการสอบทานงบการเงินของบริษัท)<br />
2. นายปีเตอร์ จอห์น เอ็ดมันสัน กรรมการตรวจสอบ<br />
3. นางพรรณี วรวุฒิจงสถิต กรรมการตรวจสอบ (เป็นกรรมการตรวจสอบที่มีความรู้และ<br />
ประสบการณ์ในการสอบทานงบการเงินของบริษัท)<br />
คณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทมีขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบตามชาร์เตอร์ของตนต่อคณะกรรมการ<br />
บริษัทฯ ดังนี้<br />
1. สอบทานว่าบริษัทฯ มีการรายงานทางการเงินอย่างถูกต้องและเพียงพอ<br />
2. สอบทานว่าบริษัทฯ มีระบบการควบคุมภายใน (Internal control) และการตรวจสอบภายใน (Internal<br />
Audit) ที่เหมาะสมและมีประสิทธิผล และพิจารณาความเป็นอิสระของหน่วยงานตรวจสอบภายใน ตลอดจนให้ความเห็น<br />
ชอบในการพิจารณาแต่งตั้ง โยกย้าย เลิกจ้างหัวหน้าหน่วยงานตรวจสอบภายใน หรือหน่วยงานอื่นใดที่รับผิดชอบเกี่ยวกับ<br />
การตรวจสอบภายใน<br />
3. สอบทานว่าบริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ข้อกำหนดของ<br />
ตลาดหลักทรัพย์ และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทฯ<br />
4. พิจารณา คัดเลือก เสนอแต่งตั้งบุคคลซึ่งมีความเป็นอิสระเพื่อทำหน้าที่เป็นผู้สอบบัญชีของบริษัท และเสนอ<br />
ค่าตอบแทนของบุคคลดังกล่าว รวมทั้งเข้าร่วมประชุมกับผู้สอบบัญชีโดยไม่มีฝ่ายจัดการเข้าร่วมประชุมด้วยอย่างน้อย ปีละ<br />
1 ครั้ง <br />
5. พิจารณารายการที่เกี่ยวโยงกัน หรือรายการที่อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ให้เป็นไปตามกฎหมายและ<br />
ข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ ทั้งนี้ เพื่อให้มั่นใจว่ารายการดังกล่าวสมเหตุสมผลและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อบริษัท<br />
6. จัดทำรายงานของคณะกรรมการตรวจสอบเปิดเผยไว้ในรายงานประจำปีของบริษัทฯ ซึ่งรายงานดังกล่าว<br />
ต้องลงนามโดยประธานคณะกรรมการตรวจสอบและต้องประกอบด้วยข้อมูลอย่างน้อยดังต่อไปนี้<br />
- ความเห็นเกี่ยวกับความถูกต้อง ครบถ้วน เป็นที่เชื่อถือได้ของรายงานทางการเงินของบริษัท<br />
- ความเห็นเกี่ยวกับความเพียงพอของระบบควบคุมภายในของบริษัท<br />
- ความเห็นเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ข้อกำหนดของ<br />
ตลาดหลักทรัพย์ หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท<br />
- ความเห็นเกี่ยวกับความเหมาะสมของผู้สอบบัญชี<br />
- ความเห็นเกี่ยวกับรายการที่อาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์<br />
- จำนวนการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบ และการเข้าร่วมประชุมของกรรมการตรวจสอบแต่ละท่าน<br />
- ความเห็นหรือข้อสังเกตโดยรวมที่คณะกรรมการตรวจสอบได้รับจากการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎบัตร (charter)<br />
- รายการอื่นที่เห็นว่าผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนทั่วไปควรทราบ ภายใต้ขอบเขตหน้าที่และความรับผิดชอบที่ได้รับ<br />
มอบหมายจากคณะกรรมการบริษัท<br />
29<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
30<br />
7. รายงานการดำเนินงานของคณะกรรมการตรวจสอบให้คณะกรรมการของบริษัทฯ ทราบเป็นประจำอย่างน้อย<br />
ไตรมาสละ 1 ครั้ง<br />
8. ปฏิบัติการอื่นใดตามที่คณะกรรมการของบริษัทฯ ได้มอบหมายด้วยความเห็นชอบจากคณะกรรมการตรวจสอบ<br />
คณะกรรมการตรวจสอบมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 3 ปี เมื่อครบกำหนดออกตามวาระอาจได้รับแต่งตั้ง<br />
ให้ดำรงตำแหน่งต่อไปอีกได้<br />
<br />
คณะกรรมการบรรษัทภิบาล<br />
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 ประกอบด้วยกรรมการบรรษัทภิบาลจำนวน 3 คน คือ<br />
1. นายสมพงษ์ วนาภา ประธานคณะกรรมการบรรษัทภิบาล<br />
2. นางพรรณี วรวุฒิจงสถิต กรรมการบรรษัทภิบาล<br />
3. นางสาวปัทมา หอรุ่งเรือง กรรมการบรรษัทภิบาล<br />
คณะกรรมการบรรษัทภิบาล ทำหน้าที่พิจารณานำเสนอแนวปฏิบัติและให้คำแนะนำด้านการกำกับดูแลกิจการ<br />
ที่ดีและเป็นไปตามแนวทางของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)<br />
รวมทั้งสอดคล้องกับข้อเสนอของสถาบันต่างๆ บริษัทได้มีการจัดทำนโยบายการกำกับดูแลกิจการรวมทั้งจรรยาบรรณ<br />
ธุรกิจ ตามข้อเสนอแนะและแนวทางของคณะกรรมการบรรษัทภิบาล คณะกรรมการบรรษัทภิบาลได้พิจารณาแก้ไขและ<br />
นำเสนอต่อคณะกรรมการบริษัท โดยได้รับอนุมัติให้ประกาศใช้แล้ว คณะกรรมการบรรษัทภิบาลมีวาระการดำรงตำแหน่ง<br />
คราวละ 3 ปี เมื่อครบกำหนดออกตามวาระอาจได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งต่อไปอีกได้<br />
<br />
คณะกรรมการสรรหาและพิจารณาผลตอบแทน<br />
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 ประกอบด้วยกรรมการจำนวน 3 คน คือ<br />
1. นายสุทธิพันธุ์ จารุมณี ประธานคณะกรรมการสรรหาฯ<br />
2. นายชวลิต เศรษฐเมธีกุล กรรมการสรรหาฯ<br />
3. นายธงชัย ศรีสมบูรณานนท์ กรรมการสรรหาฯ<br />
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2554 นายชวลิต เศรษฐเมธีกุล ได้ขอลาออกจากคณะกรรมการสรรหาและพิจารณาผล<br />
ตอบแทนและคณะกรรมการได้มีมติแต่งตั้ง นางพรรณี วรวุฒิจงสถิต เข้าดำรงตำแหน่ง คณะกรรมการสรรหาและ<br />
พิจารณาผลตอบแทนแทน<br />
ในส่วนของการสรรหาคณะกรรมการสรรหาฯ จะทำหน้าที่สรรหา คัดเลือกและจัดเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่<br />
เหมาะสมที่จะเข้าดำรงตำแหน่งกรรมการที่ว่างลงหรือที่พึงตั้งเพิ่ม หรือตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ โดยนำเสนอสู่การ<br />
พิจารณาของคณะกรรมการบริษัทฯ รายชื่อผู้เหมาะสมพร้อมประวัติจะได้รับการนำเสนอล่วงหน้าโดยกรรมการหรือโดย<br />
ผู้ถือหุ้น เพื่อการเตรียมพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ซึ่งจะคำนึงในอันดับแรกถึงความต้องการของบริษัทฯ<br />
ก่อนเริ่มการพิจารณาในเชิงลึกเกี่ยวกับชื่อเสียง ประสบการณ์ ความน่าเชื่อถือ ความสามารถ วิสัยทัศน์และจริยธรรมที่ดี<br />
ตลอดจนประเด็นเกี่ยวข้องอื่นของบุคคลนั้นๆ โดยรายชื่อที่คณะกรรมการมีมติรับรองจะได้รับการนำเสนอต่อที่ประชุม<br />
ผู้ถือหุ้นเพื่อการพิจารณาอนุมัติต่อไป <br />
คณะกรรมการสรรหาและพิจารณาผลตอบแทนมีหน้าที่พิจารณากำหนดค่าตอบแทนของคณะกรรมการรวมทั้ง<br />
สำหรับคณะกรรมการชุดย่อยเพื่อนำเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทพิจารณาและพิจารณาอนุมัติโดยที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น<br />
ประจำปีโดยคณะกรรมการสรรหาและพิจารณาผลตอบแทนจะมีการประเมินค่าตอบแทนเทียบเคียงกับท้องตลาดรวมถึง<br />
ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ภาระหน้าที่ความรับผิดชอบและผลงาน รวมถึงฐานะทางการเงินและ<br />
ผลประกอบการของบริษัทฯด้วย คณะกรรมการสรรหาฯ จะมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 3 ปี เมื่อครบกำหนดออก<br />
ตามวาระอาจได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งต่อไปอีกได้ <br />
<br />
ฝ่ายจัดการ<br />
คณะผู้บริหาร ประกอบด้วย :<br />
1. นายเดวิด ริชาร์ด นาร์โดน กรรมการผู้จัดการ<br />
2. นายวิวัฒน์ จิรัฐติกาลสกุล รองกรรมการผู้จัดการ<br />
3. นางสาวปัทมา หอรุ่งเรือง รองกรรมการผู้จัดการ<br />
4. นายสุนทร คงสุนทรกิจกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ-ฝ่ายปฏิบัติการธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม <br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
5. นายธนินทร์ ทรัพย์บุญเรือง ผู้อำนวยการ - ฝ่ายพัฒนาโครงการธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม<br />
6. นายศิริศักดิ์ กิจรักษา ผู้อำนวยการ - ฝ่ายบัญชี และกฎหมาย<br />
7. นางสาวสมใจ วชิรห้า ผู้อำนวยการ - ฝ่ายการเงิน<br />
8. นายนิพนธ์ หาญพัฒนพานิชย์ ผู้อำนวยการ - ฝ่ายวางแผนโครงการธุรกิจที่พักอาศัย<br />
9. นายคำฮอง รัศมี ผู้อำนวยการ - ฝ่ายวางแผนโครงการระบบน้ำและโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก <br />
10. นายเผ่าพิทยา สมุทรกลิน ผู้อำนวยการ - ฝ่ายวางแผนและนักลงทุนสัมพันธ์<br />
11. นางสาวจิณณพัต ทองวิเศษกุล ผู้อำนวยการ - ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์โครงการธุรกิจที่พักอาศัย<br />
12. นางสาวลัดดา โรจนาวิไลวุฒิ ผู้อำนวยการ - ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม<br />
13. นางสาวอัญชลี ประเสริฐจันทร์ ผู้อำนวยการ - ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม<br />
14. นางสาวฉันทนา หินแก้ว ผู้อำนวยการ - ฝ่ายการตลาด<br />
15. นายปรีเปรม มาลาสิทธิ์ ผู้อำนวยการ - ฝ่ายศูนย์การฝึกอบรมนิคมอุตสาหกรรม<br />
16. นางสาวปรารถนา กิจจานนท์ ผู้อำนวยการ - ฝ่ายจัดหา<br />
17. นายอภิชาติ ตรงสุขสรรค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ - ฝ่ายระบบข้อมูลและบริการ <br />
กรรมการผู้จัดการเป็นผู้รับผิดชอบต่อการมอบหมายอำนาจหน้าที่ที่เหมาะสมแก่บุคลากรในฝ่ายจัดการแต่ละราย<br />
เพื่อให้บริษัทฯ สามารถนำนโยบายและแผนกลยุทธ์ตลอดจนแผนธุรกิจต่างๆ ออกปฎิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพและ<br />
ประสิทธิผล ตามเป้าหมายและกรอบงบประมาณที่คณะกรรมการและ/หรือคณะกรรมการบริหารของบริษัทฯ ได้กำหนด<br />
หรือให้ความเห็นชอบไว้<br />
<br />
ค่าตอบแทนกรรมการ/ผู้บริหาร<br />
<br />
1. ค่าตอบแทนของคณะกรรมการบริษัทจำนวน 10 ท่าน ในปี 2553 เป็นเงิน 16,150,000บาท (ในปี<br />
2552 เป็นเงิน 15,795,000 บาท) โดยจ่ายเป็นเบี้ยประชุมและค่าตอบแทน รวมถึงค่าเบี้ยประชุมคณะกรรมการ<br />
ชุดย่อยด้วย โดยมีรายละเอียดแยกตามรายกรรมการ ดังนี้<br />
<br />
กรรมการ ตำแหน่ง ค่าตอบแทน (บาท)<br />
เบี้ยประชุม ค่าตอบแทน รวม<br />
กรรมการ<br />
1. นายชวลิต เศรษฐเมธีกุล ประธานกรรมการ/กรรมการสรรหาและ 270,000.00 1,500,000.00 1,770,000.00<br />
พิจารณาผลตอบแทน<br />
<br />
2. นายธงชัย ศรีสมบูรณานนท์ กรรมการ/ประธานกรรมการบริหาร/ 195,000.00 2,000,000.00 2,195,000.00<br />
กรรมการสรรหาและพิจารณาผลตอบแทน<br />
3. นายสุทธิพันธุ์ จารุมณี กรรมการอิสระ/ประธานกรรมการตรวจสอบ/ 365,000.00 1,000,000.00 1,365,000.00<br />
ประธานกรรมการสรรหาและพิจารณา<br />
ผลตอบแทน<br />
<br />
4. นายเดวิด ริชาร์ด นาร์โดน กรรมการ/กรรมการบริหาร 175,000.00 1,750,000.00 1,925,000.00<br />
5. นายปีเตอร์ จอห์น เอ็ดมันสัน กรรมการอิสระ/กรรมการตรวจสอบ 260,000.00 1,000,000.00 1,260,000.00<br />
6. นางพรรณี วรวุฒิจงสถิต กรรมการอิสระ/กรรมการตรวจสอบ/ 335,000.00 1,000,000.00 1,335,000.00<br />
กรรมการบรรษัทภิบาล<br />
<br />
7. นายวิวัฒน์ จิรัฐติกาลสกุล กรรมการ/กรรมการบริหาร 175,000.00 1,750,000.00 1,925,000.00<br />
8. นางสาวปัทมา หอรุ่งเรือง กรรมการ/กรรมการบริหาร/ 215,000.00 1,750,000.00 1,965,000.00<br />
กรรมการบรรษัทภิบาล<br />
<br />
9. นายสมพงษ์ วนาภา กรรมการ/ประธานกรรมการบรรษัทภิบาล 235,000.00 1,000,000.00 1,235,000.00<br />
10. นายวิกิจ หอรุ่งเรือง กรรมการ 175,000.00 1,000,000.00 1,175,000.00<br />
รวม<br />
2,400,000.00 13,750,000.00 16,150,000.00<br />
<br />
2. ค่าตอบแทนรวมกรรมการบริหารและฝ่ายบริหารจัดการในรูปของเงินเดือน เงินสมทบกองทุนสำรอง<br />
เลี้ยงชีพ และเงินรางวัลประจำปี จำนวน 19 คน ในปี 2553 เป็นจำนวนเงิน 115.90 ล้านบาท<br />
31<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
32<br />
การปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี <br />
บริษัทเล็งเห็นถึงความสำคัญของการกำกับดูแลกิจการที่ดี จึงมีนโยบายนำหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีของ<br />
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมาเป็นแนวทางปฏิบัติและพยายามปรับปรุงการปฏิบัติให้ครบถ้วนต่อเนื่องตลอดมา เพื่อ<br />
ให้มีมาตรฐานการจัดการกิจการที่ดีสร้างประสิทธิภาพความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจของบริษัท และสร้างความเชื่อมั่น<br />
แก่ผู้ถือหุ้น นักลงทุนและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยมีเนื้อหาสำคัญดังนี้<br />
<br />
สิทธิของผู้ถือหุ้น<br />
<br />
บริษัทฯตระหนักถึงหน้าที่ในการดูแลสิทธิและผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น โดยการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ<br />
สร้างความเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนแก่บริษัทและมีผลตอบแทนที่เหมาะสมให้ผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ รวมถึงส่งเสริมให้ผู้ถือหุ้น<br />
ได้ใช้สิทธิของตนในการประชุมผู้ถือหุ้น และจะไม่กระทำการอันเป็นการละเมิดหรือลิดรอนสิทธิของผู้ถือหุ้น <br />
ผู้ถือหุ้นทุกรายจะได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุมสามัญประจำปีหรือการประชุมวิสามัญ (ถ้ามี) โดยมีการจัดส่ง<br />
หนังสือเชิญประชุมพร้อมวาระการประชุมเพื่อพิจารณาก่อนประชุมทุกครั้ง ผู้ถือหุ้นมีสิทธิออกเสียงได้ตามจำนวนหุ้นที่<br />
ครอบครองและผู้ถือหุ้นแต่ละคนต้องใช้คะแนนเสียงที่มีอยู่ทั้งหมดในการออกเสียงเพื่อลงมติการประชุมและรักษา<br />
ผลประโยชน์ในฐานะผู้ลงทุน และให้ความเห็นต่อการตัดสินใจที่สำคัญ เช่น การจัดสรรเงินกำไรและพิจารณาจ่าย<br />
เงินปันผล การแต่งตั้งผู้สอบบัญชี การกำหนดค่าตอบแทนและการเลือกตั้งคณะกรรมการบริษัท การแก้ไขกฎข้อบังคับ<br />
ของบริษัทฯ และการเพิ่มทุน เป็นต้น ผู้ถือหุ้นทุกรายมีสิทธิ์จะได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง เปิดเผย เพียงพอและทันต่อเหตุการณ์<br />
และผู้ถือหุ้นซึ่งต้องการแต่งตั้งตัวแทนเข้าร่วมประชุมสามารถกระทำได้โดยแต่งตั้งบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่ตนเห็นสมควร<br />
หรือจะแต่งตั้งประธานคณะกรรมการตรวจสอบผู้เป็นกรรมการอิสระตามคำแนะนำของสำนักงานคณะกรรมการกำกับ<br />
หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้ ในการประชุมบริษัทฯได้เปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นซักถามในเรื่องที่เกี่ยวกับบริษัท<br />
ได้อย่างเท่าเทียมกันตามความเหมาะสม<br />
ในการประชุมผู้ถือหุ้นแต่ละครั้ง คณะกรรมการบริษัท ผู้บริหารระดับสูงที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นหน้าที่และความ<br />
รับผิดชอบในการเข้าร่วมประชุมเพื่อร่วมชี้แจงรายละเอียดที่เกี่ยวข้องของระเบียบวาระต่างๆ รวมถึงตอบข้อซักถามของ<br />
ผู้ถือหุ้นด้วย โดยหากมีเหตุจำเป็นไม่สามารถเข้าร่วมประชุมได้ จะมีการแจ้งให้ประธานกรรมการหรือสำนักงานเลขานุการ<br />
บริษัททราบล่วงหน้า <br />
<br />
การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน<br />
<br />
บริษัทฯ ให้ความสำคัญและดูแลให้มีการปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นทุกรายอย่างเท่าเทียมกันและเป็นธรรม<br />
เพื่อให้การพิจารณามีความชัดเจนและโปร่งใสรวมทั้งช่วยให้บริษัทสามารถปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการ<br />
ที่ดี บริษัทฯ จึงเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นส่วนน้อยเสนอวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น และชื่อบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นกรรมการ<br />
ล่วงหน้า โดยกำหนดหลักเกณฑ์การให้ผู้ถือหุ้นส่วนน้อยเสนอระเบียบวาระการประชุมสามัญผู้ถือหุ้น และชื่อบุคคลเพื่อ<br />
แต่งตั้งเป็นกรรมการล่วงหน้า สำหรับใช้ในการพิจารณากลั่นกรองระเบียบวาระอันจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัท ในการ<br />
คัดสรรบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทและต่อผู้มีส่วน<br />
ได้เสียทุกฝ่าย โดยจะได้เผยแพร่หลักการไว้บนเว็บไซต์ของบริษัทฯ <br />
ผู้ถือหุ้นทุกรายจะได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุมสามัญหรือวิสามัญผู้ถือหุ้นทุกครั้งที่บริษัทฯ จัดขึ้น และได้จัดส่ง<br />
หนังสือเชิญประชุมพร้อมระบุวาระการประชุมเพื่อให้พิจารณาล่วงหน้าก่อนประชุมทุกครั้งโดยเฉพาะก่อนการประชุม<br />
สามัญผู้ถือหุ้นซึ่งกำหนดให้มีปีละครั้งภายในเดือนเมษายน ทั้งนี้ บริษัทฯ จะไม่มีการเพิ่มวาระที่สำคัญโดยไม่แจ้งให้<br />
ผู้ถือหุ้นทราบล่วงหน้า เพื่อให้ผู้ถือหุ้นมีโอกาสศึกษาข้อมูลประกอบระเบียบวาระก่อนการตัดสินใจ<br />
ผู้ถือหุ้นที่ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมด้วยตนเองได้ บริษัทได้อำนวยความสะดวกให้ โดยจัดส่งหนังสือมอบฉันทะ<br />
ตามแบบที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดทุกแบบให้แก่ผู้ถือหุ้นพร้อมหนังสือเชิญประชุม เพื่อให้ผู้ถือหุ้นสามารถมอบฉันทะ<br />
ให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งเข้าร่วมประชุมแทนได้ และบริษัทจะเสนอชื่อพร้อมข้อมูลของกรรมการอิสระของบริษัท อย่างน้อย<br />
1 คน เพื่อเป็นทางเลือกเพิ่มเติมให้ผู้ถือหุ้น <br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
ในการออกเสียงลงคะแนน ผู้ถือหุ้นมีสิทธิ์ออกเสียงได้ตามจำนวนหุ้นที่ครอบครองและผู้ถือหุ้นแต่ละคนต้องใช้<br />
คะแนนเสียงที่มีอยู่ทั้งหมดในการออกเสียงเพื่อลงมติการประชุมและรักษาผลประโยชน์ของผู้ลงทุน เพื่อความโปร่งใสและ<br />
สามารถตรวจสอบได้ ในการลงคะแนนเสียงอย่างน้อยสำหรับวาระที่สำคัญ บริษัทได้ใช้บัตรลงคะแนนซึ่งจะมอบให้ผู้ถือหุ้น<br />
ตอนลงทะเบียน บัตรลงคะแนนจะมีเท่ากับวาระการประชุม โดยเมื่อมีการตอบข้อซักถามจนเป็นที่พอใจบริษัทจะให้<br />
ผู้ถือหุ้นลงคะแนนในบัตรลงคะแนนตามวาระนั้นๆ จากนั้นจะเก็บบัตรลงคะแนนจากผู้ถือหุ้นเพื่อนำมานับคะแนนเสียง<br />
และจะจัดให้บุคคลที่เป็นกลางเข้าเป็นผู้นับคะแนนเสียง เพื่อความโปร่งใส<br />
บริษัทได้บันทึกรายงานการประชุมอย่างถูกต้องและเหมาะสมชัดเจนในสาระสำคัญ และจัดส่งรายงานการประชุม<br />
ให้แก่ผู้ถือหุ้นทุกราย ภายหลังจากที่ได้จัดส่งรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ และ ก.ล.ต.แล้วหลังการประชุมเสร็จสิ้น 14 วัน<br />
เสมอ และได้เผยแพร่รายงานดังกล่าวไว้บนเว็บไซต์ของบริษัทด้วย <br />
บริษัทได้กำหนดแนวทางการเก็บรักษาข้อมูล และการป้องกันการใช้ข้อมูลภายในเป็นลายลักษณ์อักษรในการ<br />
กำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัท เพื่อความเป็นธรรมต่อผู้ถือหุ้นและจะแจ้งเตือนไม่ให้กรรมการ พนักงาน และบุคคลที่<br />
เกี่ยวข้อง ได้แก่ คู่สมรส บุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และ Nominee ใช้ข้อมูลภายในที่เป็นสาระสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลง<br />
ราคาหุ้น และยังไม่ได้เปิดเผยแก่สาธารณะชน ไปซื้อขายหุ้น ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์<br />
พ.ศ. 2535 กรรมการและผู้บริหารจะต้องรายงานการถือหลักทรัพย์ของบริษัท เมื่อแรกเข้ารับตำแหน่ง และรายงานทุก<br />
ครั้งเมื่อมีการซื้อขายหลักทรัพย์ภายใน 3 วันทำการต่อ ก.ล.ต. และบริษัทจะนำรายงานดังกล่าวรวบรวมเป็นระเบียบวาระ<br />
แจ้งให้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัททราบเป็นประจำ<br />
<br />
บทบาทของผู้มีส่วนได้เสีย<br />
<br />
บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงสิทธิของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกกลุ่ม ตั้งแต่ผู้ถือหุ้น พนักงาน ลูกค้า เจ้าหนี้ คู่ค้าและคู่แข่ง<br />
สิ่งแวดล้อมและสังคม หน่วยงานของรัฐ ให้ได้รับการดูแลสิทธิตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือตามข้อตกลงโดยต้องไม่ถูก<br />
ละเมิดใดๆ โดยกำหนดหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียแต่ละกลุ่ม ดังนี้<br />
ผู้ถือหุ้น<br />
การเปิดเผยข้อมูลที่สำคัญทั้งข้อมูลการเงิน และข้อมูลไม่ใช่ทางการเงินต่อผู้ถือหุ้นอย่างถูกต้อง เหมาะสม<br />
เท่าเทียม และทันเวลา โดยผ่านช่องทางต่างๆ เช่น การแจ้งข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัทฯ การประกาศทาง<br />
หนังสือพิมพ์ หรือการส่งจดหมายเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นต้น<br />
พนักงาน<br />
บริษัทให้ความสำคัญกับพนักงานโดยถือว่าเป็นทรัพยากรที่มีค่าไม่ว่าจะทำงานอยู่ในส่วนใด โดยให้ผลตอบแทน<br />
ที่เป็นธรรมต่อพนักงาน มีการจ่ายผลตอบแทนให้แก่พนักงานอย่างเหมาะสม สร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี<br />
ปลอดภัย และจัดให้พนักงานทุกคนรับทราบนโยบายและสวัสดิการที่พนักงานพึงได้รับ โดยมีคู่มือพนักงานซึ่งกำหนด<br />
ระเบียบข้อบังคับการทำงาน คู่มือประกันสุขภาพแบบกลุ่ม การประกันชีวิตแบบกลุ่ม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นต้น ให้<br />
ความสำคัญต่อการพัฒนาความรู้ ความสามารถ และทักษะของพนักงาน โดยส่งเสริมให้พนักงานได้รับการอบรม สัมมนา<br />
ทั้งจากภายในและภายนอกบริษัทฯ โดยได้จัดตั้งงบประมาณในฝึกอบรมประจำปีในด้านต่างๆ ให้แก่พนักงาน เพื่อให้พนัก<br />
งานได้รับการพัฒนาจนมีความเชี่ยวชาญ ความชำนาญ และความสามารถในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ<br />
ลูกค้า<br />
ให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของลูกค้า และปฏิบัติตามสัญญาหรือเงื่อนไขต่างๆ ที่ตกลงกันไว้อย่างเคร่งครัด<br />
และใส่ใจต่อการแก้ไขปัญหาในทุกเรื่องที่ลูกค้าร้องเรียนหรือให้ข้อแนะนำ<br />
เจ้าหนี้ คู่ค้าและคู่แข่ง<br />
ประพฤติปฏิบัติภายใต้กรอบกติกาของการแข่งขันที่ดี เช่น การปฏิบัติตามเงื่อนไขและข้อกำหนดของสัญญา<br />
การไม่เอาเปรียบทางการค้า ไม่หาประโยชน์โดยการให้ข้อมูลเท็จหรือปกปิดข้อความจริง ไม่ใช้วิธีการที่ไม่สุจริตเพื่อทำลาย<br />
คู่แข่งขัน<br />
33<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
34<br />
สิ่งแวดล้อมและสังคม<br />
ด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม บริษัทฯ มีนโยบาย ด้านสิ่งแวดล้อมโดยให้การพัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่<br />
เป็นธุรกิจของบริษัทฯ ต้องควบคู่ไปกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม ตามมาตรฐานระบบการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ISO<br />
14001 ด้านการมีส่วนในสังคม บริษัทมีนโยบายที่จะส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับหน่วยงานต่างๆในสังคม ชุมชนและ<br />
บริเวณใกล้เคียงทั้งในการศึกษาการดูแลรักษาความปลอดภัยและอัคคีภัยและอื่นๆ เช่นการจัดให้มีโครงการทุนการศึกษา<br />
แก่โรงเรียนในชุมชนโครงการเปิดให้สถานศึกษาต่างๆเข้าชมนิคมและงานด้านต่างๆของบริษัท และการจัดตั้งศูนย์<br />
ความปลอดภัยและดับเพลิงของกลุ่มบริษัท<br />
หน่วยงานของรัฐ<br />
ปฏิบัติตามกฎหมาย กฎระเบียบและข้อกำหนดต่างๆ ของทางราชการ รวมทั้งการให้ความร่วมมือที่ดีกับ<br />
หน่วยงานรัฐ<br />
บริษัทมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานทางด้านสิ่งแวดล้อมอย่างเคร่งครัดโดยกำหนดให้ผู้บริหาร<br />
และพนักงานทุกคน ยึดถือและปฏิบัติงานให้เป็นไปตามระเบียบ ข้อบังคับ กฎหมาย นโยบาย ข้อกำหนดและมาตรฐาน<br />
ด้านคุณภาพ ความปลอดภัย อาชีวอนามัย และด้านสิ่งแวดล้อม ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และได้เผยแพร่ประชาสัมพันธ์<br />
เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ ขั้นตอนวิธีปฏิบัติ และข้อควรระวังต่างๆ ตลอดจนการนำไปปฏิบัติอย่างถูกต้อง ไม่ก่อให้เกิด<br />
อันตรายต่อสุขภาพ ทรัพย์สินและสิ่งแวดล้อม และมีการพัฒนา ทบทวน แก้ไข การมีส่วนร่วมในการรับผิดชอบต่อสังคม<br />
ด้านความปลอดภัย ชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง การใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด<br />
โดยตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยของผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งการส่งเสริมกิจกรรม<br />
ทางสังคมในการรักษาสิ่งแวดล้อมและพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน <br />
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้กำหนดให้มีช่องทางสำหรับแจ้งเบาะแสกระทำผิดให้คณะกรรมการทราบ ผ่าน website<br />
ของบริษัท หรือสามารถแจ้งเบาะแสการกระทำผิด โดยมีช่องทางการรับเรื่องดังนี้<br />
1. ยื่นเรื่องโดยตรงที่สำนักงานเลขานุการบริษัท<br />
1.1 โทรศัพท์ หมายเลข 02-719-9555<br />
1.2 โทรสาร หมายเลข 02-719-9546-47<br />
1.3 E-mail ของสำนักงานเลขานุการบริษัท <br />
E-mail : secretarycompany@hemaraj.com <br />
2. ยื่นเรื่องโดยตรงถึงประธานกรรมการตรวจสอบ<br />
E-mail : auditcommittee@hemaraj.com <br />
<br />
การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส<br />
<br />
บริษัทฯ มีการเปิดเผยข้อมูลสารสนเทศทางการเงินและอื่นๆที่เกี่ยวกับธุรกิจและผลประกอบการของบริษัทอย่าง<br />
ถูกต้อง เพียงพอ สม่ำเสมอ ทันเวลา เชื่อถือได้ ผ่านช่องทางตลาดหลักทรัพย์ในแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (แบบ<br />
56-1) และรายงานประจำปี (56-2) ตามที่กำหนด และบริษัทยังได้นำข้อมูลลงบน Website ของบริษัทที่<br />
www.hemaraj.com และที่ invest@hemaraj.com ทั้งภาษาไทยและอังกฤษโดยได้มีการพัฒนาปรับปรุงข้อมูลให้ทัน<br />
สมัยอยู่เสมอ เพื่อให้นักลงทุนสามารถรับทราบ และ/หรือ ศึกษาเกี่ยวกับบริษัทฯ ได้อย่างชัดเจน ทั้งในเชิงกว้างและลึก<br />
อีกทั้งผู้บริหารระดับสูงยังได้จัดให้มีการสัมมนาประชุมระหว่างผู้บริหารระดับสูงกับนักลงทุนสัมพันธ์ นักวิเคราะห์ และ<br />
นักข่าวเศรษฐกิจ ทั้งในและต่างประเทศอย่างสม่ำเสมอ และการจัดให้ผู้สนใจจากแวดวงสำคัญต่างๆ เข้าเยี่ยมชมนิคม<br />
อุตสาหกรรมของบริษัทฯ อีกด้วย<br />
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้จัดให้มีหน่วยงาน “นักลงทุนสัมพันธ์” ซึ่งรับผิดชอบโดยตรงในการทำหน้าที่<br />
ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อนักลงทุน ผู้ถือหุ้น ผู้เกี่ยวข้อง สาธารณะชนทั่วไป สถาบันการเงิน และ<br />
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ โดยให้ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ของบริษัท ที่จะเป็นประโยชน์ต่อนักลงทุน<br />
สารสนเทศที่สำคัญของบริษัทประกอบด้วยข้อมูลทางการเงินและข้อมูลที่ไม่ใช่ทางการเงิน โดยเฉพาะในส่วนของ<br />
งบการเงินนั้น ได้ผ่านการสอบทาน/ตรวจสอบจากผู้สอบบัญชี ว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักการบัญชีที่รับรอง<br />
ทั่วไป และผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการตรวจสอบ/คณะกรรมการบริษัทก่อนเปิดเผยแก่ผู้ถือหุ้น โดยคณะ<br />
กรรมการบริษัทได้เปิดเผยรายงานความรับผิดชอบต่อรายงานทางการเงินในรายงานประจำปีด้วย สำหรับการเปิดเผย<br />
ข้อมูลที่ไม่ใช่ทางการเงินนั้น บริษัทได้เปิดเผยรายการระหว่างกัน บทวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการและการบริหารความเสี่ยง<br />
รวมถึงรายงานการกำกับดูแลกิจการที่ดีไว้ในรายงานประจำปี และแบบ 56-1 และในเว็บไซต์ของบริษัทด้วย <br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
บริษัทได้เปิดเผยรายละเอียดบทบาทหน้าที่ ความรับผิดชอบของคณะกรรมการ คณะกรรมการชุดย่อยต่างๆ<br />
จำนวนครั้งของการประชุม และจำนวนครั้งที่คณะกรรมการแต่ละท่านเข้าร่วมประชุม รวมทั้งความเห็นของคณะ<br />
กรรมการในการดำเนินงาน และได้เปิดเผยนโยบายการจ่ายค่าตอบแทนกรรมการและผู้บริหารระดับสูงไว้ในแบบแสดง<br />
รายการข้อมูลประจำปีของบริษัท (แบบ 56-1) และรายงานประจำปีของบริษัทด้วย<br />
<br />
ความรับผิดชอบของคณะกรรมการ โครงสร้างและคณะกรรมการชุดย่อยชุดต่างๆ<br />
<br />
โครงสร้างคณะกรรมการ<br />
คณะกรรมการของบริษัทสามารถจัดกลุ่มตามลักษณะ คือ <br />
- กรรมการซึ่งเป็นฝ่ายบริหาร<br />
- กรรมการซึ่งไม่เป็นผู้บริหาร<br />
- กรรมการอิสระ<br />
คณะกรรมการบริษัท ประกอบด้วยกรรมการอิสระไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของกรรมการทั้งหมด แต่ต้องไม่น้อย<br />
กว่า 3 คน ปัจจุบันคณะกรรมการของบริษัทมีจำนวน 10 คน ประกอบด้วยกรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหารจำนวน 6 คนซึ่ง<br />
4 ใน 6 คน เป็นกรรมการอิสระ<br />
คณะกรรมการมีวาระการดำรงตำแหน่ง 3 ปี โดยในการประชุมสามัญประจำปีทุกครั้งให้กรรมการออกจาก<br />
ตำแหน่ง 1 ใน 3 หากแบ่งให้ตรงเป็นสามส่วนไม่ได้ ก็ให้ออกโดยจำนวนใกล้ที่สุดกับส่วน 1 ใน 3 โดยกรรมการที่ออก<br />
จากตำแหน่งนี้จะได้รับการเลือกตั้งให้กลับเข้ามารับตำแหน่งอีกก็ได้<br />
บริษัทได้กำหนดคุณสมบัติของกรรมการอิสระของบริษัท ประกอบด้วยบุคคลผู้มีความรู้ด้านการเงิน เศรษฐศาสตร์<br />
การบัญชี การบริหารรัฐกิจ และธุรกิจแขนงอื่นอย่างหลากหลายหลายแขนงเป็นอย่างดี เหมาะสมต่อการเป็นองค์ประกอบ<br />
ของมาตรการปกป้องผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้นและอื่นๆ นอกจากนี้ยังครอบคลุมคุณสมบัติที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดของ<br />
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการก.ล.ต. <br />
บริษัทมีนโยบายให้กรรมการบริษัทดำรงตำแหน่งกรรมการในบริษัทอื่นๆ ได้ตามสมควร ไม่ให้มากเกินไป และ<br />
หากดำรงตำแหน่งกรรมการในกิจการประเภทเดียวกันจะต้องเปิดเผยข้อมูลการดำรงตำแหน่งของกรรมการแต่ละคนให้<br />
ผู้ถือหุ้นทราบด้วย<br />
บริษัทมีนโยบายให้กรรมการบริษัทดำรงตำแหน่งกรรมการในบริษัทจดทะเบียนไม่เกิน 5 บริษัท และหากดำรง<br />
ตำแหน่งกรรมการในกิจการประเภทเดียวกันจะต้องเปิดเผยข้อมูลการดำรงตำแหน่งของกรรมการแต่ละคนให้ผู้ถือหุ้น<br />
ทราบด้วย<br />
การไปดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัทอื่นของกรรมการผู้จัดการและผู้บริหารระดับสูง บริษัทมีนโยบายไม่ให้ดำรง<br />
ตำแหน่งมากเกินไปจนทำให้ไม่มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน และหากดำรงตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการหรือผู้บริหาร<br />
ระดับสูงในบริษัทอื่นในกิจการเดียวกันจะต้องเปิดเผยข้อมูลการดำรงตำแหน่งของกรรมการแต่ละคนให้ผู้ถือหุ้นทราบด้วย<br />
บริษัทได้มีการแบ่งแยกผู้ดำรงตำแหน่งและหน้าที่ความรับผิดชอบของประธานกรรมการบริษัท และกรรมการ<br />
ผู้จัดการออกจากกันอย่างชัดเจน <br />
บริษัทได้แต่งตั้งเลขานุการบริษัทเพื่อทำหน้าที่ให้คำแนะนำด้านกฏหมาย กฎเกณฑ์ ข้อกำหนดต่างๆ ของ<br />
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ และกฎหมายต่างๆ ที่<br />
ควรทราบ รวมทั้งประสานงานให้มีการปฏิบัติตามมติคณะกรรมการ และดูแลกิจกรรมของคณะกรรมการด้วย<br />
บทบาท หน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริษัท<br />
การกำหนดอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริษัทให้เป็นไปตามกฎหมายกฎเกณฑ์ และข้อ<br />
กำหนดที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของคณะกรรมการชุดย่อยต่างๆ ไว้ เพื่อให้คณะกรรมการ<br />
บริษัทและคณะกรรมการชุดย่อยต่างๆ พิจารณาและให้ความเห็นได้ตามขอบเขตอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบได้<br />
อย่างถูกต้อง<br />
โดยบทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริษัท มีดังนี้<br />
- คณะกรรมการบริษัท ต้องมีความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินธุรกิจ<br />
มีความสนใจในกิจการของบริษัทที่ตนเองเป็นกรรมการ มีความตั้งใจและมีจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ<br />
- คณะกรรมการบริษัท ต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมายด้วยความสุจริตและตั้งใจดูแลการดำเนินการ<br />
ของบริษัทให้เป็นไปตามกรอบข้อกฎหมาย ข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและสำนักงานคณะกำกับหลัก<br />
ทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และเป็นไปตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี<br />
35<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
36<br />
- คณะกรรมการบริษัทฯ มีหน้าที่หลักในการกำหนดวิสัยทัศน์ นโยบายโดยรวม ตลอดจนกลยุทธ์สำคัญในการ<br />
ดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ด้วยความสามารถและความสุจริตรอบคอบเพื่อรักษาผลประโยชน์ของบริษัทฯ และของผู้ถือหุ้น<br />
อย่างต่อเนื่องยาวนาน รวมถึงการควบคุมกำกับฝ่ายบริหารจัดการของบริษัทฯ ให้ดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมายอย่าง<br />
มีประสิทธิภาพ และอย่างถูกต้องตามข้อบังคับของกฏหมายและข้อกำหนดขององค์กรกำกับดูแลต่างๆ ตลอดจนของ<br />
บริษัทฯ เอง อีกทั้งมีความสอดคล้องกับหลักเกณฑ์การกำกับดูแลกิจการที่ดี ทั้งนื้คณะกรรมการอาจแต่งตั้งหรือมอบหมาย<br />
ให้กรรมการคนหนึ่งคนใดหรือหลายคนหรือบุคคลอื่นกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดแทนคณะกรรมการ ทั้งสามารถยกเลิก<br />
เปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขอำนาจนั้นๆ ได้ตามที่เห็นสมควร<br />
- คณะกรรมการบริษัท ต้องดำเนินการให้บริษัทมีระบบการควบคุมภายในและการตรวจสอบภายในที่มี<br />
ประสิทธิผล<br />
คณะกรรมการชุดย่อย<br />
คณะกรรมการบริษัท ได้จัดให้มีคณะกรรมการชุดย่อยเพื่อปฏิบัติหน้าที่เฉพาะเรื่องและเสนอเรื่องให้คณะ<br />
กรรมการบริษัทได้พิจารณาหรือรับทราบ และได้กำหนด คุณสมบัติ และขอบเขตหน้าที่ความรับผิดชอบของคณะ<br />
กรรมการชุดย่อยเฉพาะเรื่องไว้ ดังนี้<br />
- คณะกรรมการบริหาร ขณะนี้ประกอบด้วยกรรมการจำนวน 4 คน ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการของ<br />
บริษัทฯ ให้เป็นผู้ช่วยงานด้านนโยบายและวางแผน ให้แก่คณะกรรมการของบริษัทฯ รวมถึงการกำกับ ติดตาม ดูแลให้<br />
ฝ่ายจัดการของบริษัทฯ นำนโยบายและแผนกลยุทธ์ที่ได้รับความเห็นชอบแล้วนั้นดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพและ<br />
โดยระมัดระวังเพื่อการบรรลุเป้าหมายของกิจการ <br />
- คณะกรรมการตรวจสอบ ประกอบด้วยกรรมการบริษัทที่เป็นกรรมการอิสระจำนวน 3 คน โดยกรรมการ<br />
ตรวจสอบทุกคนมีความรู้ ความเข้าใจ และมีประสบการณ์การทำงานด้านบัญชี กฎหมายหรือการเงินเป็นอย่างดี มีขอบเขต<br />
หน้าที่และความรับผิดชอบต่อคณะกรรมการบริษัทและเป็นไปตามที่กำหนดโดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์<br />
และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยคณะกรรมการตรวจสอบทำหน้าที่สอบทานการดำเนินงานให้ถูกต้องตามนโยบาย<br />
และระเบียบข้อบังคับ ตลอดจนกฎหมาย ระเบียบปฏิบัติและข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแล ส่งเสริมให้พัฒนาระบบ<br />
รายงานทางการเงินและบัญชีให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลเหมาะสมกับบริษัท รวมทั้งสอบทานให้มีระบบการควบคุม<br />
ภายใน ระบบตรวจสอบภายใน และระบบบริหารความเสี่ยงที่เพียงพอและเหมาะสม คณะกรรมการตรวจสอบปฏิบัติ<br />
หน้าที่และแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ โดยมีหน่วยงานตรวจสอบภายในซึ่งบริษัทได้ว่าจ้างจากภายนอกรายงาน<br />
ตรงต่อคณะกรรมการตรวจสอบเป็นหน่วยปฏิบัติรวมทั้งมีการปรึกษาหารือกับผู้สอบบัญชีที่ปรึกษาเป็นประจำรวมทั้งการ<br />
ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและบัญชีในกรณีที่จำเป็น โดยคณะกรรมการตรวจสอบจะมีการประชุมร่วมกับผู้สอบ<br />
บัญชีโดยไม่มีฝ่ายจัดการเข้าประชุมอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อขอความเห็นจากผู้สอบบัญชีในเรื่องต่างๆ<br />
- คณะกรรมการสรรหาและพิจารณาผลตอบแทน ประกอบด้วยกรรมการจำนวน 3 คน มีขอบเขตหน้าที่และ<br />
ความรับผิดชอบดังนี้<br />
- สรรหาคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมต่อการได้รับเสนอชื่อเป็นกรรมการบริษัทหรือกรรมการผู้จัดการใหญ่ของ<br />
บริษัทอย่างมีหลักเกณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อนำเสนอให้พิจารณาโดยคณะกรรมการบริษัทหรือที่ประชุมผู้ถือหุ้นต่อไป ตามแต่<br />
กรณี<br />
- พิจารณาค่าตอบแทนของคณะกรรมการรวมทั้งสำหรับคณะกรรมการชุดย่อยต่างๆ และนำเสนอเพื่อ<br />
พิจารณาโดยคณะกรรมการบริษัทเพื่อเสนอพิจารณาอนุมัติในที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีต่อไป<br />
- คณะกรรมการบรรษัทภิบาล ประกอบด้วยกรรมการจำนวน 3 คน ทำหน้าที่พิจารณานำเสนอแนวปฏิบัติและ<br />
ให้คำแนะนำการปรับปรุงต่างๆ ด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดีและเป็นไปตามแนวทางของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ<br />
ไทยและสำนักงานคณะกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ต่อคณะกรรมการบริษัท<br />
นโยบายการกำกับดูแลกิจการ คณะกรรมการของบริษัทฯ ได้มีนโยบายเกี่ยวกับการกำกับดูแลกิจการที่ดีและการ<br />
ปฏิบัติตามนโยบายดังกล่าว กับมีการทบทวนนโยบายและการปฏิบัติดังกล่าวให้เหมาะสมอยู่เสมออย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง<br />
จรรยาบรรณธุรกิจ บริษัทฯได้จัดทำจรรยาบรรณธุรกิจของบริษัท เพื่อเป็นคู่มือให้คณะกรรมการ ผู้บริหาร และ<br />
พนักงาน เข้าใจมาตรการด้านจริยธรรมที่บริษัทใช้ในการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้นำไปปฏิบัติอย่างทั่วถึง <br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
การป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ คณะกรรมการและฝ่ายบริหารของบริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญต่อ<br />
กฎหมาย ข้อบังคับ และจริยธรรมว่าด้วยความขัดแย้งของผลประโยชน์และรายการระหว่างกัน โดยได้เปิดเผยข้อมูล<br />
พร้อมคำชี้แจงเหตุการณ์ไว้ ในหนังสือรายงานประจำปี และในแบบ 56-1 ของบริษัทฯ อย่างถูกต้อง ครบถ้วนและ<br />
ชัดเจนเพียงพอในสาระสำคัญ ตามระบุในกฏหมายและข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์และของคณะกรรมการกำกับ<br />
หลักทรัพย์ นอกจากนี้บริษัทฯ มีการสอบทานโดยคณะกรรมการตรวจสอบ พร้อมผลรายงานของผู้ตรวจสอบภายใน<br />
ผู้สอบบัญชีภายนอก และที่ปรึกษากฎหมาย เพื่อให้แน่ใจว่าบริษัทฯ ได้ถือปฏิบัติอย่างสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ที่ได้กล่าวไว้ <br />
นอกจากนั้น บริษัทและบริษัทย่อยอาจมีรายการระหว่างกันกับกรรมการ ผู้บริหาร หรือบุคคลที่มีความเกี่ยวข้อง<br />
ในอนาคต ในกรณีที่เป็นรายการธุรกิจปกติหรือรายการสนับสนุนธุรกิจปกติ คณะกรรมการบริษัทอนุมัติในหลักการให้<br />
ฝ่ายจัดการสามารถอนุมัติการทำธุรกรรมดังกล่าวเหล่านั้นได้ โดยต้องมีข้อตกลงทางการค้าในลักษณะเดียวกับที่วิญญูชน<br />
จะพึงกระทำกับคู่สัญญาทั่วไปในสถานการณ์เดียวกัน ด้วยอำนาจต่อรองทางการค้าที่ปราศจากอิทธิพลในการที่ตนมีสถานะ<br />
เป็นกรรมการ ผู้บริหาร หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2551<br />
ระบบการควบคุมภายในและการตรวจสอบภายใน บริษัทได้ให้ความสำคัญต่อรายการควบคุมภายในโดยมุ่งเน้น<br />
ให้มีระบบความควบคุมภายในที่เพียงพอ และเหมาะสมในการดำเนินธุรกิจเพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับ<br />
บริษัทฯ คณะกรรมการตรวจสอบทำหน้าที่พิจารณาสอบทานความเพียงพอของระบบการควบคุมภายในของบริษัท โดย<br />
จากการประชุมหารือรายไตรมาสกับผู้ตรวจสอบภายในมืออาชีพ (ที่ว่าจ้างจากภายนอก) ร่วมกับผู้สอบบัญชีรับอนุญาต<br />
ผู้มีประสบการณ์สูงและกับตัวแทนของฝ่ายจัดการเองด้วยแล้ว ผลของการสอบทานนี้คณะกรรมการตรวจสอบได้รายงาน<br />
ต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เป็นรายไตรมาสเพื่อรับทราบ <br />
การบริหารความเสี่ยง คณะกรรมการได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการบริหารความเสี่ยงเป็นอย่างมาก โดยกำหนด<br />
ให้บริษัททำการประเมินปัจจัยความเสี่ยงในการประกอบธุรกิจอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งวิเคราะห์ผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น<br />
จากความเสี่ยงและการกำหนดมาตราการป้องกันหรือลดความเสี่ยง และรายงานให้แก่คณะกรรมการทราบเป็นประจำ <br />
การดูแลเรื่องการใช้ข้อมูลภายในของบริษัท บริษัทได้จัดวางมาตราการเพื่อสนองนโยบายของตลาดหลักทรัพย์<br />
ในอันที่จะป้องกันมิให้ข้อมูลภายในที่สำคัญของบริษัทฯถูกนำไปใช้ประโยชน์โดยบุคคลากรของบริษัท (หรือผู้เกี่ยวข้อง)<br />
ในครรลองที่มิชอบ หรือรั่วไหลสู่บุคคลภายนอกเป็นการเฉพาะรายหรือเฉพาะกลุ่มก่อนที่บริษัทฯ จะเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าว<br />
เป็นการทั่วไป ทั้งนี้บริษัทได้เผยแพร่ต่อบุคลากรโดยเฉพาะระดับบริหารถึงจรรยาบรรณ ชื่อเสียงภาพพจน์ขององค์กร<br />
ตลอดจนกฎเกณฑ์และวิธีการของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และ<br />
ตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในเรื่อง รวมถึงหน้าที่ที่ต้องเปิดเผยและรายงานการถือและการเปลี่ยนแปลงการถือหุ้น<br />
ในบริษัทเป็นที่ชัดเจน<br />
การประชุมคณะกรรมการ<br />
คณะกรรมการบริษัทเป็นผู้กำหนดวันประชุมโดยกำหนดเป็นการล่วงหน้า โดยได้กำหนดให้มีการประชุมคณะ<br />
กรรมการอย่างน้อยปีละ 4 ครั้ง เพื่อรับรองงบรายไตรมาสของบริษัท ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบ ได้มีการพิจารณาสอบ<br />
ทานความถูกต้องครบถ้วนของข้อมูลงบการเงินและรายงานผลการประชุมให้คณะกรรมการของบริษัทฯ ทราบทุกไตรมาส <br />
นอกจากการประชุมตามที่ได้กำหนดเป็นรายปีไว้แล้วบริษัทยังมีการประชุมเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ<br />
ต่างๆ ตามความจำเป็นรวมทั้งอาจมีการประชุมเป็นกรณีเร่งด่วนอีกด้วย <br />
ในการประชุมแต่ละครั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการ จะได้ร่วมกันพิจารณากำหนดเรื่องต่างๆ ที่จะ<br />
นำเข้าวาระการประชุม นอกจากนี้คณะกรรมการบริษัทแต่ละคนสามารถเสนอเรื่องที่เห็นว่ามีความสำคัญและจำเป็น<br />
เข้าประชุมได้<br />
ในการประชุมบริษัทจะส่งหนังสือเชิญประชุมพร้อมวาระการประชุมพร้อมรายละเอียดประกอบให้คณะกรรมการ<br />
ทราบและพิจารณาล่วงหน้าก่อนการประชุมทุกครั้งตามข้อบังคับของบริษัท และสำหรับเรื่องที่เป็นวาระไม่เปิดเผยจะนำ<br />
เรื่องเข้าอภิปรายในที่ประชุม<br />
ประธานคณะกรรมการจะจัดสรรเวลาเพื่อให้ฝ่ายจัดการได้เสนอเรื่องและกรรมการจะอภิปรายปัญหาต่างๆ<br />
อย่างพอเพียง รอบคอบและทั่วถึง <br />
ในการประชุมคณะกรรมการอาจเชิญผู้บริหารระดับสูงเข้าร่วมประชุมเพื่อให้สารสนเทศ รายละเอียด และข้อมูล<br />
เพิ่มเติมในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับปัญหานั้นๆ เพื่อให้ที่ประชุมสามารถได้รับทราบข้อมูลอย่างเพียงพอในฐานะผู้เกี่ยวข้องและ<br />
ผู้ปฏิบัติงาน <br />
37<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
38<br />
บริษัทมีนโยบายให้กรรมการอิสระที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการมีการประชุม เพื่ออภิปรายปัญหาต่างๆ<br />
ร่วมกันโดยไม่มีฝ่ายจัดการเข้าร่วมประชุมด้วย <br />
ในระหว่างเดือนมกราคม ถึง เดือนธันวาคม ปี 2553 บริษัทได้จัดประชุมคณะกรรมการรวม 5 ครั้ง อันเป็น<br />
จำนวนที่ครอบคลุมทั้งการประชุมในวาระปกติและวาระฉุกเฉิน ซึ่งกรรมการส่วนใหญ่เข้าร่วมประชุมครบถ้วน เว้นแต่<br />
ติดภาระกิจสำคัญเร่งด่วนหรือในกรณีเป็นวาระฉุกเฉินไม่สามารถเดินทางจากต่างประเทศได้ทัน<br />
สำหรับการเข้าร่วมประชุมของกรรมการบริษัทแต่ละท่านสรุปได้ดังนี้ <br />
<br />
รายชื่อคณะกรรมการ คณะกรรมการ คณะกรรมการ คณะกรรมการ คณะกรรมการ<br />
บริษัท ตรวจสอบ สรรหาและพิจาราณา บรรษัทภิบาล<br />
ผลตอบแทน<br />
นายชวลิต เศรษฐเมธีกุล 5/5 - 1/1 -<br />
นายธงชัย ศรีสมบูรณานนท์ 5/5 - 1/1 -<br />
นายเดวิด ริชาร์ด นาร์โดน 5/5 - - -<br />
นายสุทธิพันธุ์ จารุมณี 5/5 4/4 1/1 -<br />
นายปีเตอร์ จอห์น เอ็ดมันสัน 4/5 4/4 - -<br />
นางพรรณี วรวุฒิจงสถิต 5/5 4/4 - 2/2<br />
นายวิวัฒน์ จิรัฐติกาลสกุล 5/5 - - -<br />
นางสาวปัทมา หอรุ่งเรือง 5/5 - - 2/2<br />
นายสมพงษ์ วนาภา 5/5 - - 2/2<br />
นายวิกิจ หอรุ่งเรือง 5/5 - - -<br />
การประเมินตนเองของคณะกรรมการ<br />
คณะกรรมการของบริษัทฯ จะต้องประเมินผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการตามแบบประเมินของบริษัทเป็น<br />
ประจำ เพื่อให้คณะกรรมการร่วมกันพิจารณาผลงานและปัญหา เพื่อหาแนวทางปรับปรุงแก้ไขให้มีการดำเนินการที่มี<br />
ประสิทธิภาพยิ่งขึ้น <br />
เพื่อจัดเตรียมบุคลากรให้สามารถปฏิบัติหน้าที่แทนกรณีกรรมการผู้จัดการใหญ่ / ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร<br />
ไม่สามารถปฏิบัติงานได้หรือครบวาระการดำรงตำแหน่ง ตลอดจนลดความเสี่ยงหรือผลกระทบจากการขาดความต่อเนื่อง<br />
ในการบริหารจัดการบริษัท บริษัทจึงได้จัดทำแผนสืบทอดตำแหน่ง รวมทั้งจัดอบรมและพัฒนาความรู้ความสามารถให้แก่<br />
ผู้บริหาร เพื่อให้มีความเข้าใจ มีประสบการณ์และความพร้อมในการบริหารงาน อันเป็นการคัดสรรผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะ<br />
สมตามที่กำหนดเข้ารับการคัดเลือกในตำแหน่งนี้ได้<br />
ค่าตอบแทนของคณะกรรมการและผู้บริหาร<br />
ค่าตอบแทนของคณะกรรมการและคณะกรรมการชุดย่อยจะได้รับการพิจารณาและกลั่นกรองจากคณะกรรมการ<br />
สรรหาและพิจารณาผลตอบแทนก่อนนำเสนอคณะกรรมการของบริษัทเพื่อพิจารณานำเสนอเพื่อการพิจารณาอนุมัติจาก<br />
ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี โดยมีการประเมินค่าตอบแทนเทียบเคียงกับท้องตลาดรวมถึงข้อมูลที่ได้รับจาก<br />
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วย ในส่วนของการกำหนดค่าตอบแทนของฝ่ายจัดการระดับสูงและกรรมการผู้จัดการ<br />
เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารของบริษัทโดยคำนึงถึงอัตราพื้นฐานภายใน สภาวะการว่าจ้างในท้องตลาด<br />
ประสิทธิภาพการทำงานหรือผลงานเฉพาะตัว ระดับความทุ่มเทที่ให้แก่องค์กรรวมถึงความจำเป็นของบริษัทฯ ในการ<br />
ว่าจ้างด้วย ข้อพิจารณาเหล่านี้ถือเป็นองค์ประกอบร่วมที่เหมาะสมต่อการดึงดูดและการรักษาไว้ซึ่งบุคลากรที่มีคุณภาพ<br />
เพื่อประโยชน์แก่กิจการของบริษัทฯ <br />
การพัฒนากรรมการและผู้บริหาร<br />
คณะกรรมการของบริษัทฯ มีนโยบายส่งเสริมให้มีการฝึกอบรมและให้ความรู้แก่กรรมการ กรรมการตรวจสอบ<br />
ผู้บริหาร เลขานุการ และพนักงานบริษัท เกี่ยวกับระบบการกำกับดูแลกิจการ จรรยาบรรณธุรกิจและการปฏิบัติตาม<br />
มาตรฐานระบบการจัดการด้านคุณภาพของการบริการ ISO 9001 : 2000 เพื่อนำมาปรับปรุงการปฏิบัติงานอย่าง<br />
ต่อเนื่อง โดยเฉพาะกรรมการและเลขานุการของบริษัทฯ สนับสนุนให้มีการเข้าร่วมอบรมตามหลักสูตรต่างๆ ของสมาคม<br />
ส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย<br />
บริษัทได้จัดทำคู่มือกรรมการที่มีข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะและการดำเนินธุรกิจของบริษัทไว้เพื่อให้กรรมการใหม่<br />
สามารถศึกษาและเป็นประโยชน์รวมทั้งเป็นแนวทางในการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการใหม่ด้วย<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
รายงานความรับผิดชอบของคณะกรรมการ<br />
ในการจัดทำรายงานทางการเงินประจำปี 2553<br />
39<br />
คณะกรรมการบริษัทฯ มีหน้าที่และความรับผิดชอบในฐานะกรรมการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์<br />
แห่งประเทศไทย ในการกำกับดูแลให้รายงานทางการเงินประจำปีบัญชี 2553 ของบริษัทฯ ที่จัดทำขึ้น มีข้อมูลทางบัญชี<br />
ที่ถูกต้องครบถ้วนในสาระสำคัญ โปร่งใส อย่างเพียงพอ รวมทั้งได้ถือปฏิบัติตามมาตรฐานการบัญชีที่รับรองโดยทั่วไป ใช้<br />
นโยบายบัญชีที่เหมาะสมและถือปฏิบัติโดยสม่ำเสมอ ตลอดจนมีการพิจารณาถึงความสมเหตุสมผล และความรอบคอบใน<br />
การจัดทำงบการเงินรวมของบริษัทฯ และบริษัทย่อย และงบการเงินเฉพาะบริษัทฯ รวมถึงข้อมูลสารสนเทศทางการเงิน<br />
ที่ปรากฏในรายงานประจำปีบัญชี 2553 ทั้งนี้คณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการบริษัท<br />
ประกอบด้วย กรรมการอิสระผู้ซึ่งมีคุณสมบัติครบถ้วนตามข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทำหน้าที่สอบ<br />
ทานให้บริษัทฯ มีรายงานทางการเงินอย่างถูกต้องเพียงพอ มีการเปิดเผยข้อมูลรายการที่เกี่ยวโยงกัน หรือรายการที่อาจ<br />
มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์อย่างโปร่งใส ถูกต้อง และครบถ้วน รวมทั้งให้มีการบริหารความเสี่ยง การควบคุมภายใน<br />
การตรวจสอบภายในและการกำกับดูแลที่เหมาะสมและมีประสิทธิผล มีการปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ<br />
นโยบายต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง และข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย <br />
คณะกรรมการบริษัทฯ มีความเห็นว่างบการเงินและข้อมูลทางการเงินประจำปี 2553 ที่คณะกรรมการตรวจ<br />
สอบได้สอบทานร่วมกับฝ่ายจัดการและผู้สอบบัญชี ได้มีการแสดงข้อมูลอย่างถูกต้องครบถ้วน ในสาระสำคัญเกี่ยวกับฐานะ<br />
ทางการเงิน ผลการดำเนินงานและกระแสเงินสดของบริษัทและบริษัทย่อยแล้ว และได้ปฏิบัติตามหลักการบัญชีที่รับรอง<br />
ทั่วไป และใช้นโยบายบัญชีที่เหมาะสมและถือปฏิบัติโดยสม่ำเสมอและปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง<br />
(นายเดวิด ริชาร์ด นาร์โดน)<br />
(นายชวลิต เศรษฐเมธีกุล)<br />
กรรมการผู้จัดการ ประธานคณะกรรมการบริษัทฯ<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
40<br />
รายงานของคณะกรรมการตรวจสอบประจำปี 2553<br />
คณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทเหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) มีองค์คณะประกอบด้วยกรรมการ<br />
อิสระผู้ปราศจากบทบาทด้านงานบริหาร ตามรายชื่อต่อไปนี้<br />
1. นายสุทธิพันธุ์ จารุมณี ประธานคณะกรรมการตรวจสอบ<br />
2. นายปีเตอร์ เจ. เอ็ดมอนด์สัน กรรมการตรวจสอบ<br />
3. นางพรรณี วรวุฒิจงสถิต กรรมการตรวจสอบ<br />
กรรมการตรวจสอบแต่ละรายเป็นผู้มีคุณสมบัติตามข้อกำหนดและกฎระเบียบของสำนักงานคณะกรรมการกำกับ<br />
หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์และของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งหน้าที่ตน และใน<br />
ฐานะคณะกรรมการตรวจสอบได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบภายใต้กฏเกณฑ์ทางการและตามเงื่อนไขกฏบัตรที่คณะ<br />
กรรมการบริษัทกำหนดไว้<br />
คณะกรรมการตรวจสอบได้จัดประชุมอย่างเป็นทางการขึ้น 4 ครั้ง เพื่อปฏิบัติหน้าที่ประจำปีการเงิน2553โดย<br />
การประชุมดังกล่าวได้เชิญผู้ตรวจสอบภายใน ผู้สอบบัญชีภายนอก และฝ่ายจัดการที่เกี่ยวข้องซึ่งรวมถึงรองกรรมการผู้<br />
จัดการสายงานการเงินและการบัญชี โดยมีกรรมการผู้จัดการใหญ่และที่ปรึกษากฎหมายภายนอกของบริษัทฯเข้าร่วม<br />
ประชุมด้วยเป็นครั้งคราวตามคำขอของคณะกรรมการตรวจสอบ นอกจากนี้กรรมการตรวจสอบยังได้มีการพบปะหารือ<br />
ต่างหากกับผู้ตรวจสอบภายในและผู้สอบบัญชีภายนอกในลักษณะที่ปราศจากผู้บริหารของบริษัทฯร่วมอยู่ โดยจัดประชุม<br />
เต็มคณะอย่างเป็นทางการ 2 ครั้ง ในช่วงกลางปีและปลายปี ทั้งได้มีการหารือนอกรอบตามที่เห็นสมควรด้วย<br />
การปฏิบัติภารกิจโดยคณะกรรมการตรวจสอบครอบคลุมหัวข้อดังนี้<br />
1. สอบทานงบการเงินรายไตรมาสและงบการเงินประจำปี 2553 เพื่อให้มั่นใจว่ามีความถูกต้อง<br />
สมบูรณ์และมีการเปิดเผยสาระสำคัญอย่างเพียงพอ การสอบทานนี้ได้ใช้ข้อมูล คำชี้แจง และความเห็น จากฝ่ายจัดการ<br />
และผู้สอบบัญชีภายนอกเป็นปัจจัยพื้นฐาน โดยคณะกรรมการตรวจสอบได้ข้อสรุปเช่นกันกับผู้สอบบัญชีภายนอกว่า งบ<br />
การเงินดังกล่าวได้จัดทำขึ้นอย่างถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีที่รับรองทั่วไป ทั้งนี้ไม่อาจขาด<br />
การกล่าวเสริมว่าบริษัทฯในฐานะกิจการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นั้น ณ สิ้นปี 2553 กำลังอยู่ระหว่างการประเมิน<br />
ผลกระทบที่จะเกิดต่อตนเองจากมาตรฐานการบัญชีใหม่ ที่สภาวิชาชีพบัญชีแห่งประเทศไทยได้กำหนดให้เริ่มบังคับใช้จาก<br />
ปี2554 เพื่อความสอดคล้องกับมาตรฐานการบัญชีสากล <br />
2. สอบทานระบบการควบคุมภายใน เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นระบบที่เหมาะสมและบังเกิดผลในภาคปฏิบัติ<br />
ตามที่มุ่งหมาย การสอบทานนี้ได้ใช้ผลการตรวจของผู้ตรวจสอบภายในควบคู่กับการหารือผลการตรวจกับผู้สอบบัญชี<br />
ภายนอก ซึ่งไม่ปรากฏการได้พบจุดอ่อนหรือข้อบกพร่องที่สำคัญ คณะกรรมการตรวจสอบและผู้ตรวจทั้งสองคณะจึงมี<br />
ความเห็นร่วมกันว่าระบบควบคุมภายในที่ปัจจุบันใช้ปฏิบัติอยู่ มีความเหมาะสมตามข้อกำหนดของสำนักงานคณะกรรมกา<br />
รก.ล.ต และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทั้งมีประสิทธิภาพในการปกป้องทรัพย์สินและในการเปิดเผยข้อมูลอย่างถูก<br />
ต้องเพียงพอ<br />
3. สอบทานว่าการดำเนินงานตรวจสอบภายในกระทำอย่างมีประสิทธิภาพและด้วยความ<br />
เป็นอิสสระ การตรวจสอบภายในของบริษัทฯและบริษัทย่อยนั้นได้มอบหมายให้สำนักงานบัญชีภายนอกที่มีชื่อเสียงเป็น<br />
ที่รู้จักแห่งหนึ่งเป็นผู้ดำเนินการ โดยถือปฏิบัติตามแผนงานต่อเนื่องที่คณะกรรมการตรวจสอบและฝ่ายจัดการได้ร่วม<br />
พิจารณาและให้ความเห็นชอบด้วยแล้ว ทั้งนี้ผู้ตรวจสอบภายในจะนำส่งรายงานให้แก่ทั้งคณะกรรมการตรวจสอบและฝ่าย<br />
จัดการของบริษัทฯเป็นรายไตรมาส โดยคณะกรรมการตรวจสอบเชื่อว่าระบบงานตรวจสอบภายในของกิจการนั้นเหมาะ<br />
สม มีความเป็นอิสระ และบรรลุผล<br />
4. สอบทานว่าได้มีการปฏิบัติตามกฎหมายและกฏระเบียบทางการ อันรวมถึงกฏหมายว่าด้วย<br />
หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนระเบียบกฏเกณฑ์ต่างๆของสำนักงานคณะกรรมกา<br />
รก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย อีกทั้งระเบียบข้อบังคับภายในและพันธสัญญากับภายนอกด้วย ในการสอบ<br />
ทานเรื่องนี้คณะกรรมการตรวจสอบได้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับผู้ตรวจสอบภายใน และมิได้พบข้อบกพร่องที่เป็นสาระ<br />
สำคัญแต่อย่างใด<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
5.สอบทานและให้ความเห็นต่อรายการที่เกี่ยวโยงกัน และต่อรายการที่อาจจะเกิดความ<br />
ขัดแย้งทางผลประโยชน์ รวมถึงประเด็นการเปิดเผยข้อมูลรายการดังกล่าว อันมีข้อกำหนดของ<br />
สำนักงานคณะกรรมการก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นปัจจัยสำคัญ ในหัวข้อนี้คณะกรรมการตรวจสอบ<br />
ตลอดจนผู้ตรวจสอบภายในและและผู้สอบบัญชีภายนอก ต่างเห็นพ้องต้องกันว่ารายการที่กล่าวถึงได้มีการเปิดเผยอย่าง<br />
เหมาะสมครบถ้วนไว้ในงบการเงินและในหมายเหตุประกอบงบการเงินแล้ว โดยเป็นรายการธุรกิจปกติที่เป็นประโยชน์ต่อ<br />
กิจการของบริษัทฯ<br />
6. พิจารณาและเสนอแต่งตั้งผู้สอบบัญชีภายนอกและค่าตอบแทนของผู้สอบบัญชี<br />
ประจำปี2554 โดยคณะกรรมการตรวจสอบได้ให้ความเห็นต่อคณะกรรมการบริษัท เพื่อการนำเสนอและขออนุมัติต่อ<br />
ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปีต่อไปแล้ว ทั้งนี้จากการได้พิจารณาถึงผลงาน ความเป็นอิสระ รวมถึงระดับค่าตอบแทน<br />
ของผู้สอบบัญชีภายนอกในระยะเวลาที่ผ่านมา คณะกรรมการตรวจสอบมีความพึงพอใจในผู้ตรวจสอบของสำนักงานสอบ<br />
บัญชี เอ.เอ็ม.ที.แอสโซซิเอท ในทุกด้านที่กล่าว ดังนั้นคณะกรรมการตรวจสอบ จึงเสนอแนะให้แต่งตั้งนางณัฐสรัคร์ สโรช<br />
นันท์จีน (ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตหมายเลข 4563) ผู้ได้ทำหน้าที่ในปี 2553 หรือ ศาตราจารย์เกษรี ณรงค์เดช (ผู้สอบ<br />
บัญชีรับอนุญาตหมายเลข 76) หรือนายสุมิตร ขอไพบูลย์ (ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตหมายเลข 4885) แห่งสำนักงาน<br />
เอ.เอ็ม.ที.แอสโซซิเอท เป็นผู้สอบบัญชีภายนอกของบริษัทฯสำหรับปีการบัญชีสิ้นสุดณวันที่ 31 ธันวาคม 2554 ในอัตรา<br />
ค่าตอบแทน 1,240,000 บาท (หนึ่งล้านสองแสนสี่หมื่นบาทถ้วน) โดยส่วนที่เพิ่มขึ้น 110,000 บาท (หนึ่งแสนหนึ่ง<br />
หมื่นบาทถ้วน) จากอัตราของปี 2552-2553 มีสาเหตุหลักจากงานจัดทำงบการเงินรวมที่ขยายปริมาณจากจำนวน<br />
บริษัทลูกที่ได้เพิ่มขึ้น 3 บริษัท<br />
คณะกรรมการตรวจสอบยังได้เสนอแนะให้แต่งตั้งนางณัฐสรัคร์ สโรชนันท์จีน หรือ ศาตราจารย์เกษรี ณรงค์เดช<br />
หรือนายสุมิตร ขอไพบูลย์ หรือนายชัยยุทธ อังศุวิทยา (ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตหมายเลข 3885) หรือนายสมชัย<br />
กาญจนวงศ์ไพศาล (ผู้สอบบัญชีรับอนุญาตหมายเลข 3428) แห่งสำนักงาน เอ.เอ็ม.ที. แอสโซซิเอท ให้เป็นผู้สอบบัญชี<br />
ภายนอกของบริษัทย่อยประจำปี2554 ในจำนวนเงินค่าตอบแทน 3,400,000 บาท (สามล้านสี่แสนบาทถ้วน) โดยส่วน<br />
ที่เพิ่มขึ้น 700,000 บาท (เจ็ดแสนบาทถ้วน) จากอัตราของปี 2552-2553 มีสาเหตุสำคัญจากจำนวนบริษัทลูกที่เพิ่ม<br />
ขึ้น 3 บริษัทดังกล่าว<br />
อนึ่งผู้สอบบัญชีภายนอกที่ได้รับการเสนอแต่งตั้งข้างต้น มิได้มีความสัมพันธ์ทางครอบครัว หรือมีผลประโยชน์<br />
ทางการเงินที่เกี่ยวข้อง หรือเป็นลูกจ้างบริษัทฯหรือบริษัทย่อย หรือมีความสัมพันธ์ทางการลงทุนหรือทางธุรกิจ กับ<br />
บริษัทฯหรือบริษัทย่อย ยกเว้นการดำรงฐานะผู้สอบบัญชีภายนอกเท่านั้น<br />
โดยสรุปแล้วคณะกรรมการตรวจสอบในขั้นตอนของการปฏิบัติหน้าที่ในความรับผิดชอบตามกฏบัตรที่คณะ<br />
กรรมการบริษัทมอบหมาย ได้พบจากการสอบทานว่าบริษัทฯได้นำเสนอข้อมูลด้านการเงินและด้านปฎิบัติการอย่างถูก<br />
ต้องเป็นธรรม มีระบบควบคุมภายใน ระบบตรวจสอบภายใน และการจัดการความเสี่ยงทางธุรกิจที่เหมาะสมและได้ผล<br />
การดำเนินกิจการได้ยึดถือตามระเบียบกฎเกณฑ์ <br />
ข้อบังคับของกฎหมาย และพันธะทางธุรกิจ ทั้งได้มีการเปิดเผยรายการที่เกี่ยวโยงกันอย่างถูกต้องโปร่งใส ทั้งนี้<br />
บริษัทฯได้ให้ความสำคัญและถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์บรรษัทภิบาลอย่างจริงจัง โดยระหว่างปี 2553 ยังคงได้รับการจัด<br />
อันดับความน่าเชื่อถือจากคณะกรรมการบรรษัทภิบาลแห่งชาติในระดับ “ดีเลิศ” ทั้งจากแง่ของการดำเนินการประชุม<br />
สามัญผู้ถือหุ้นประจำปีของบริษัทฯ และจากแง่ของการกำกับดูแลกิจการภายใต้หลักบรรษัทภิบาล ระหว่างกิจการใน<br />
ตลาดหลักทรัพย์ด้วยกัน<br />
<br />
<br />
<br />
41<br />
<br />
(นายสุทธิพันธุ์ จารุมณี)<br />
<br />
<br />
ประธานคณะกรรมการตรวจสอบ<br />
12 มีนาคม 2554<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
42<br />
รายงานของผู้สอบบัญชีรับอนุญาต<br />
<br />
เสนอ ผู้ถือหุ้น บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) <br />
<br />
ข้าพเจ้าได้ตรวจสอบงบดุลรวม ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 งบแสดงการเปลี่ยนแปลงส่วนของผู้ถือหุ้นรวม<br />
งบกำไรขาดทุนรวม และงบกระแสเงินสดรวม สำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของแต่ละปีของ บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด<br />
(มหาชน) และบริษัทย่อย และได้ตรวจสอบงบการเงินเฉพาะของ บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) ด้วยเช่นกัน ซึ่งผู้<br />
บริหารของกิจการเป็นผู้รับผิดชอบต่อความถูกต้องและครบถ้วนของข้อมูลในงบการเงินเหล่านี้ ส่วนข้าพเจ้าเป็นผู้รับผิดชอบใน<br />
การแสดงความเห็นต่องบการเงินดังกล่าวจากผลการตรวจสอบของข้าพเจ้า ตามที่กล่าวไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงินข้อ 10<br />
ข้าพเจ้าไม่ได้ตรวจสอบงบการเงินของบริษัทย่อยสองแห่ง (ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2553 บริษัทฯ ได้ลงทุนเพิ่มจากร้อยละ 25<br />
เป็นร้อยละ 100) ซึ่งรวมอยู่ในการจัดทำงบการเงินรวมสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 งบการเงินของบริษัทย่อย<br />
เหล่านั้นมียอดรวมสินทรัพย์ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 เป็นจำนวนเงิน 1,499.92 ล้านบาท มียอดรวมรายได้ตั้งแต่วันที่ 1<br />
ตุลาคม 2553 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2553 เป็นจำนวนเงิน 29.42 ล้านบาท งบการเงินของบริษัทย่อยดังกล่าวตรวจสอบโดย<br />
ผู้สอบบัญชีอื่น โดยข้าพเจ้าได้รับรายงานของผู้สอบบัญชี และการเสนอรายงานการตรวจสอบของข้าพเจ้าในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ<br />
จำนวนเงินของรายการต่างๆ ของบริษัทย่อยดังกล่าว ซึ่งรวมอยู่ในงบการเงินรวมสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 ได้<br />
ถือตามรายงานของผู้สอบบัญชีอื่นนั้น<br />
ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติงานตรวจสอบตามมาตรฐานการสอบบัญชีที่รับรองทั่วไป ซึ่งกำหนดให้ข้าพเจ้าต้องวางแผนและ<br />
ปฏิบัติงานเพื่อให้ได้ความเชื่อมั่นอย่างมีเหตุผลว่า งบการเงินแสดงข้อมูลที่ขัดต่อข้อเท็จจริงอันเป็นสาระสำคัญหรือไม่ การตรวจ<br />
สอบรวมถึงการใช้วิธีการทดสอบหลักฐานประกอบรายการ ทั้งที่เป็นจำนวนเงินและการเปิดเผยข้อมูลในงบการเงิน การประเมิน<br />
ความเหมาะสมของหลักการบัญชีที่กิจการใช้ และประมาณการเกี่ยวกับรายการทางการเงินที่เป็นสาระสำคัญซึ่งผู้บริหารเป็น<br />
ผู้จัดทำขึ้น ตลอดจนการประเมินถึงความเหมาะสมของการแสดงรายการที่นำเสนอในงบการเงินโดยรวม ข้าพเจ้าเชื่อว่า<br />
การตรวจสอบดังกล่าวให้ข้อสรุปที่เป็นเกณฑ์อย่างเหมาะสมในการแสดงความเห็นของข้าพเจ้า<br />
จากการตรวจสอบของข้าพเจ้าและจากรายงานการตรวจสอบของผู้สอบบัญชีอื่นตามที่กล่าวไว้ในวรรคแรก ข้าพเจ้า<br />
เห็นว่า งบการเงินข้างต้นแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 ผลการดำเนินงาน และกระแสเงินสด<br />
สำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันของแต่ละปีของ บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย และเฉพาะของ บริษัท<br />
เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) โดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป<br />
โดยไม่เป็นเงื่อนไขในการแสดงความเห็นต่องบการเงิน ข้าพเจ้าขอให้สังเกตเรื่องที่กล่าวในหมายเหตุประกอบงบการ<br />
เงินข้อ 10.2 ว่า ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2553 บริษัทฯ ได้ลงทุนในบริษัทร่วมสองแห่งเพิ่มจากร้อยละ 25 เป็นร้อยละ 100 มีผล<br />
ทำให้บริษัทร่วมทั้งสองแห่งดังกล่าวเปลี่ยนฐานะเป็นบริษัทย่อย ดังนั้น งบการเงินรวมของบริษัทฯ จึงได้รวมงบดุล ณ วันที่ 31<br />
ธันวาคม 2553 และงบกำไรขาดทุนตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2553 ของบริษัทย่อยดังกล่าวแล้ว<br />
เงินลงทุนส่วนที่เพิ่มใหม่ในบริษัทย่อยดังกล่าว ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2553 บริษัทฯ จ่ายซื้อเป็นจำนวนเงิน 763.69 ล้านบาท<br />
เกิดกำไรจากการต่อรองราคาซื้อ ซึ่งแสดงเป็นรายได้ในงบกำไรขาดทุนรวมสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 เป็นจำนวน<br />
เงิน 145.41 ล้านบาท<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
(นางณัฐสรัคร์ สโรชนันท์จีน)<br />
ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต<br />
ทะเบียนเลขที่ 4563<br />
สำนักงาน เอ.เอ็ม.ที. แอสโซซิเอท <br />
กรุงเทพมหานคร <br />
วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
งบดุล<br />
บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย<br />
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552<br />
บ า ท<br />
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะบริษัท<br />
สินทรัพย์ หมายเหตุ 2553 2552 2553 2552<br />
43<br />
สินทรัพย์หมุนเวียน<br />
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 6 3,516,614,394.23 909,430,084.97 3,001,237,078.14 525,127,783.23<br />
เงินลงทุนชั่วคราว - หลักทรัพย์<br />
ในความต้องการของตลาด สุทธิ 755,798.96 600,342.36 755,798.96 600,342.36<br />
ลูกหนี้การค้า<br />
กิจการที่เกี่ยวข้องกัน สุทธิ 7 70,620.40 2,286,088.44 34,258,661.43 29,175,393.14<br />
อื่น ๆ สุทธิ 7 195,246,817.85 132,980,476.01 17,634,387.72 9,268,004.19<br />
มูลค่างานที่เสร็จแต่ยังไม่ได้เรียกเก็บ 7 365,485,061.27 215,482,928.21 78,960,609.00 63,380,832.09<br />
เงินให้กู้ยืมระยะสั้นและเงินทดรองแก่<br />
กิจการที่เกี่ยวข้องกัน 5 5,629,016.44 5,627,942.47 1,033,768,366.76 724,452,492.75<br />
สินค้าคงเหลือ 11,040,000.00 11,520,000.00 11,040,000.00 11,520,000.00<br />
ต้นทุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สุทธิ 9, 28 และ 29 7,046,528,352.61 6,371,980,818.17 1,486,393,762.01 1,884,398,188.52<br />
สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น<br />
ลูกหนี้กรมสรรพากร 41,282,628.25 2,171,777.95 31,045,720.45 -<br />
ดอกเบี้ยค้างรับ 456,968.67 4,340,592.42 456,968.67 4,340,592.42<br />
อื่นๆ 18,754,961.58 28,019,473.20 6,192,868.10 8,067,948.54<br />
รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 11,201,864,620.26 7,684,440,524.20 5,701,744,221.24 3,260,331,577.24<br />
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน<br />
เงินฝากสถาบันการเงินที่มีภาระผูกพัน 6 และ 28 766,176,577.64 2,059,901,000.00 766,176,577.64 2,059,901,000.00<br />
เงินลงทุนในบริษัทย่อย 5, 10 และ 28 - - 3,935,034,591.50 2,931,595,206.50<br />
เงินลงทุนในบริษัทร่วม 2.2, 5, 10, 28 และ 29 3,479,385,280.15 763,408,020.52 2,988,869,244.04 640,369,244.04<br />
เงินลงทุนระยะยาวอื่น<br />
กิจการที่เกี่ยวข้องกัน สุทธิ 11 1,500,000.00 1,500,000.00 - -<br />
อื่น ๆ สุทธิ 11, 28 และ 29 142,783,002.50 142,783,002.50 142,500,002.50 142,500,002.50<br />
สินทรัพย์ให้เช่า สุทธิ 12 และ 28 2,021,019,844.15 2,077,394,869.55 85,720,072.77 91,324,397.16<br />
ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ สุทธิ 13 และ 28 574,087,219.51 440,117,205.76 91,494,979.75 94,123,951.27<br />
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น<br />
สิทธิการเช่าและที่ดิน<br />
เพื่อจัดหาผลประโยชน์ สุทธิ 14 และ 28 314,936,500.00 314,936,500.00 314,936,500.00 314,936,500.00<br />
กองทุนจม สุทธิ 15 และ 29 80,309,310.50 82,359,744.69 19,683,721.98 21,214,259.95<br />
เงินจ่ายล่วงหน้าค่าสิทธิ 109,890,841.22 106,937,302.50 109,890,841.22 106,937,302.50<br />
อื่น ๆ สุทธิ 23,436,191.39 6,891,466.15 20,277,429.05 2,935,055.66<br />
รวมสินทรัพย์ไม่หมุนเวียน 7,513,524,767.06 5,996,229,111.67 8,474,583,960.45 6,405,836,919.58<br />
รวมสินทรัพย์ 18,715,389,387.32 13,680,669,635.87 14,176,328,181.69 9,666,168,496.82<br />
หมายเหตุประกอบงบการเงินถือเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
44<br />
งบดุล (ต่อ)<br />
บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย<br />
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552<br />
บ า ท<br />
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะบริษัท<br />
หนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น หมายเหตุ 2553 2552 2553 2552<br />
หนี้สินหมุนเวียน<br />
เงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน 16 - 450,000,000.00 - 450,000,000.00<br />
เจ้าหนี้การค้า<br />
กิจการที่เกี่ยวข้องกัน 4,073,977.41 2,921,314.93 893,241.35 6,991,431.36<br />
อื่น ๆ 209,246,369.23 216,492,490.17 11,478,466.91 9,479,728.02<br />
เงินกู้ยืมระยะยาวส่วนที่ถึงกำหนด<br />
ชำระภายในหนึ่งปี 20 และ 28 656,428,432.70 719,483,965.00 353,750,750.00 389,805,500.00<br />
เงินกู้ยืมระยะยาวส่วนที่มีกำหนดชำระ<br />
ตามประมาณการโอนภายในหนึ่งปี 20 และ 28 93,505,125.00 311,641,440.00 17,343,625.00 244,885,250.00<br />
เงินกู้ยืมระยะสั้นและเงินทดรองจาก<br />
กิจการที่เกี่ยวข้องกัน 5 - 267,394,103.76 - 237,394,103.76<br />
เงินกู้ยืมระยะสั้นจากกิจการและบุคคลอื่น 17 และ 28 30,000,000.00 450,000,000.00 - 420,000,000.00<br />
หนี้สินหมุนเวียนอื่น<br />
ค่างวดที่ยังไม่รับรู้เป็นรายได้และ<br />
รายได้รับล่วงหน้า 8 861,882,623.30 599,683,192.77 11,704,688.88 20,178,712.02<br />
ดอกเบี้ยค้างจ่าย 65,027,324.08 5,204,181.87 64,841,907.67 4,895,318.17<br />
ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย 49,174,322.08 29,329,504.66 28,697,289.89 18,032,693.99<br />
เจ้าหนี้อื่น 5,276,024.15 6,815,234.01 1,178,616.39 1,155,885.37<br />
ภาษีเงินได้นิติบุคคลค้างจ่าย 26 48,511,027.84 62,921,742.41 - 44,636,676.76<br />
เจ้าหนี้กรมสรรพากร 19,955,087.37 12,562,607.03 10,920,832.41 6,872,793.47<br />
ภาษีธุรกิจเฉพาะและ<br />
ค่าธรรมเนียมการโอนค้างจ่าย 18,864,315.28 - 4,602,959.37 -<br />
เงินปันผลค้างจ่าย 22 8,143,925.76 6,425,129.06 8,143,684.77 6,424,825.22<br />
อื่น ๆ 57,270,784.05 24,164,497.25 9,103,066.41 10,814,358.09<br />
รวมหนี้สินหมุนเวียน 2,127,359,338.25 3,165,039,402.92 522,659,129.05 1,871,567,276.23<br />
หนี้สินไม่หมุนเวียน<br />
หุ้นกู้ 18 6,000,000,000.00 - 6,000,000,000.00 -<br />
เงินกู้ยืมระยะยาวอื่น สุทธิ 20 และ 28 1,230,982,991.68 1,859,139,214.38 975,000,000.00 1,135,114,750.00<br />
เงินกู้ยืมระยะยาวและเงินทดรอง<br />
จากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน 5 และ 19 - - 988,693,397.33 1,058,559,125.42<br />
หนี้สินไม่หมุนเวียนอื่น<br />
เงินประกันผลงานก่อสร้าง 71,274,799.45 78,731,424.74 20,352,439.61 27,869,881.94<br />
เงินมัดจำการเช่าและค้ำประกันรับ 120,712,702.01 96,831,540.63 3,529,000.00 5,169,050.00<br />
รายได้ค่าสิทธิการเช่ารอตัดบัญชี<br />
กิจการที่เกี่ยวข้องกัน สุทธิ 5 - - 55,879,791.88 58,363,791.84<br />
อื่น ๆ สุทธิ 15,049,613.35 16,987,857.64 - -<br />
อื่น ๆ 11,379,029.85 5,353,007.81 9,766,447.31 2,705,526.11<br />
รวมหนี้สินไม่หมุนเวียน 7,449,399,136.34 2,057,043,045.20 8,053,221,076.13 2,287,782,125.31<br />
รวมหนี้สิน 9,576,758,474.59 5,222,082,448.12 8,575,880,205.18 4,159,349,401.54<br />
หมายเหตุประกอบงบการเงินถือเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
งบดุล (ต่อ)<br />
บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย<br />
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552<br />
บ า ท<br />
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะบริษัท<br />
หมายเหตุ 2553 2552 2553 2552<br />
ส่วนของผู้ถือหุ้น<br />
ทุนเรือนหุ้น - มูลค่าหุ้นละ 0.40 บาท<br />
ทุนจดทะเบียน<br />
หุ้นสามัญ 15,000,000,000 หุ้น 6,000,000,000.00 6,000,000,000.00 6,000,000,000.00 6,000,000,000.00<br />
ทุนที่ออกและชำระแล้ว<br />
หุ้นสามัญ 9,705,186,191 หุ้น 3,882,074,476.40 3,882,074,476.40 3,882,074,476.40 3,882,074,476.40<br />
ส่วนเกิน (ต่ำกว่า) มูลค่าหุ้นสามัญ สุทธิ 438,704,620.10 438,704,620.10 438,704,620.10 438,704,620.10<br />
กำไร (ขาดทุน) ที่ยังไม่เกิดจากหลักทรัพย์เผื่อขาย 477,211.62 321,755.02 477,211.62 321,755.02<br />
ผลต่างจากการแปลงค่างบการเงิน (32,062,345.83) (30,268,955.06) - -<br />
กำไรสะสม<br />
จัดสรรแล้วเป็นทุนสำรองตามกฎหมาย 22 588,247,395.00 535,664,645.14 409,930,799.66 378,570,532.18<br />
ยังไม่ได้จัดสรร 3,894,949,609.59 3,265,337,687.05 869,260,868.73 807,147,711.58<br />
รวมส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ 8,772,390,966.88 8,091,834,228.65 5,600,447,976.51 5,506,819,095.28<br />
ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย 366,239,945.85 366,752,959.10 - -<br />
รวมส่วนของผู้ถือหุ้น 9,138,630,912.73 8,458,587,187.75 5,600,447,976.51 5,506,819,095.28<br />
รวมหนี้สินและส่วนของผู้ถือหุ้น 18,715,389,387.32 13,680,669,635.87 14,176,328,181.69 9,666,168,496.82<br />
45<br />
หมายเหตุประกอบงบการเงินถือเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
46<br />
งบกำไรขาดทุน<br />
บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย<br />
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552<br />
บ า ท<br />
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะบริษัท<br />
หมายเหตุ 2553 2552 2553 2552<br />
รายได้<br />
รายได้จากการขายที่ดิน 1,486,183,484.53 688,618,386.66 183,832,522.11 1,199,909.36<br />
รายได้จากการขาย<br />
อาคารโรงงานอุตสาหกรรมสำเร็จรูป 272,175,113.80 42,776,200.00 - -<br />
รายได้จากการขายอาคารชุด 493,722,496.82 (57,472,769.71) 493,722,496.82 (57,472,769.71)<br />
รายได้ค่าบริการ 5 1,433,175,676.88 1,375,831,672.83 156,492,200.34 156,260,762.96<br />
รายได้อื่น<br />
กำไรจากการต่อรองราคาซื้อ 10.2 145,408,440.80 - - -<br />
ดอกเบี้ยรับ 5 77,485,444.44 73,798,505.45 91,418,172.49 83,133,604.49<br />
รายได้ค่าบริหารงานและค่านายหน้า 5 23,963,966.83 33,184,365.20 77,376,177.91 67,000,593.60<br />
รายได้เงินปันผล 10 64,616,271.82 35,966,583.35 611,335,485.52 695,536,334.94<br />
กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน - 30,122.33 69,584,941.05 33,984,147.92<br />
อื่น ๆ 23,488,593.78 29,968,823.69 14,408,142.11 13,134,084.21<br />
รวมรายได้ 4,020,219,489.70 2,222,701,889.80 1,698,170,138.35 992,776,667.77<br />
ค่าใช้จ่าย<br />
ต้นทุนขายที่ดิน 964,293,216.18 385,271,928.68 134,577,533.91 335,239.42<br />
ต้นทุนขายอาคารโรงงานอุตสาหกรรมสำเร็จรูป 178,643,192.87 35,654,970.94 - -<br />
ต้นทุนขายอาคารชุด 270,623,225.07 (20,538,302.18) 270,623,225.07 (14,418,302.18)<br />
ต้นทุนบริการ 5 841,585,894.74 789,102,263.82 111,243,024.42 125,621,493.82<br />
ค่าใช้จ่ายในการขาย 122,262,065.63 59,537,781.15 55,816,021.13 32,975,439.02<br />
ค่าใช้จ่ายในการบริหาร 421,696,408.84 334,114,552.48 258,139,889.74 193,565,634.31<br />
ค่าตอบแทนกรรมการ 23 24,690,000.00 24,335,000.00 16,150,000.00 15,795,000.00<br />
รวมค่าใช้จ่าย 2,823,794,003.33 1,607,478,194.89 846,549,694.27 353,874,504.39<br />
กำไรก่อนส่วนแบ่งผลกำไร<br />
จากเงินลงทุนในบริษัทร่วม 1,196,425,486.37 615,223,694.91 851,620,444.08 638,902,163.38<br />
ส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม 2.2 และ 10 421,954,962.86 80,619,045.21 - -<br />
กำไรก่อนต้นทุนทางการเงินและภาษีเงินได้ 1,618,380,449.23 695,842,740.12 851,620,444.08 638,902,163.38<br />
ต้นทุนทางการเงิน 5 (284,069,552.72) (143,753,206.61) (268,467,016.80) (144,660,125.59)<br />
กำไรก่อนภาษีเงินได้ 1,334,310,896.51 552,089,533.51 583,153,427.28 494,242,037.79<br />
ภาษีเงินได้ 26 (46,896,960.95) 46,793,493.91 44,051,922.26 102,295,701.62<br />
กำไรสุทธิ 1,287,413,935.56 598,883,027.42 627,205,349.54 596,537,739.41<br />
การแบ่งปันกำไร<br />
ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ 1,215,926,597.31 575,238,626.43 627,205,349.54 596,537,739.41<br />
ส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย 71,487,338.25 23,644,400.99 - -<br />
1,287,413,935.56 598,883,027.42 627,205,349.54 596,537,739.41<br />
กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน<br />
กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ 0.13 0.06 0.06 0.06<br />
จำนวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก (หุ้น) 9,705,186,191 9,482,856,164 9,705,186,191 9,482,856,164<br />
หมายเหตุประกอบงบการเงินถือเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
งบแสดงการเปลี่ยนแปลงในส่วนของผู้ถือหุ้น<br />
บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย<br />
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552<br />
งบการเงินเฉพาะบริษัท<br />
บ า ท<br />
กำไรสะสม<br />
ทุนเรือนหุ้น ใบสำคัญ ส่วนเกิน (ต่ำกว่า) กำไร (ขาดทุน) จัดสรรแล้วเป็น ยังไม่ได้จัดสรร<br />
ที่ออก แสดงสิทธิ มูลค่าหุ ้น ที่ยังไม่เกิดจาก ทุนสำรอง กำไรสะสม -<br />
่อขาย ตามกฎหมาย ยังไม่ได้จัดสรร รวม<br />
้นสามัญ สามัญ สุทธิ หลักทรัพย์เผื<br />
้อหุ<br />
่จะซื<br />
หมายเหตุ และชำระแล้ว ที<br />
ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 1 มกราคม 2553 3,882,074,476.40 - 438,704,620.10 321,755.02 378,570,532.18 807,147,711.58 5,506,819,095.28<br />
กำไรที่ยังไม่เกิดจากหลักทรัพย์เผื่อขาย - - - 155,456.60 - - 155,456.60<br />
กำไรสุทธิ - - - - - 627,205,349.54 627,205,349.54<br />
สำรองตามกฎหมาย 22 - - - - 31,360,267.48 (31,360,267.48) -<br />
เงินปันผลจ่าย 22 - - - - - (533,731,924.91) (533,731,924.91)<br />
ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 3,882,074,476.40 - 438,704,620.10 477,211.62 409,930,799.66 869,260,868.73 5,600,447,976.51<br />
ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 1 มกราคม 2552 3,752,736,411.60 927,637.64 475,608,366.36 94,558.36 348,743,645.21 568,796,041.94 5,146,906,661.11<br />
กำไรที่ยังไม่เกิดจากหลักทรัพย์เผื่อขาย - - - 227,196.66 - - 227,196.66<br />
กำไรสุทธิ - - - - - 596,537,739.41 596,537,739.41<br />
สำรองตามกฎหมาย 22 - - - - 29,826,886.97 (29,826,886.97) -<br />
เงินปันผลจ่าย 22 - - - - - (328,359,182.80) (328,359,182.80)<br />
ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ 21 129,338,064.80 (927,637.64) (36,903,746.26) - - - 91,506,680.90<br />
ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 3,882,074,476.40 - 438,704,620.10 321,755.02 378,570,532.18 807,147,711.58 5,506,819,095.28<br />
หมายเหตุประกอบงบการเงินถือเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้<br />
47<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
48<br />
งบแสดงการเปลี่ยนแปลงในส่วนของผู้ถือหุ้น<br />
บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย<br />
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552<br />
งบการเงินรวม<br />
บ า ท<br />
ส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่<br />
ทุนเรือนหุ ้น ใบสำคัญ ส่วนเกิน (ต่ำกว่า) กำไร (ขาดทุน) ผลต่างจากการ กำไรสะสม รวม<br />
ที ่ออก แสดงสิทธิ มูลค่าหุ ้น ที ่ยังไม่เกิดจาก แปลงค่า จัดสรรแล้วเป็นทุน ส่วนของผู ้ถือหุ ้น ส่วนของผู ้ถือหุ ้น<br />
หมายเหตุ และชำระแล้ว ที ่จะซื ้อหุ ้นสามัญ สามัญ สุทธิ หลักทรัพย์เผื ่อขาย งบการเงิน สำรองตามกฎหมาย ยังไม่ได้จัดสรร บริษัทใหญ่ ส่วนน้อย รวม<br />
ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 1 มกราคม 2553 3,882,074,476.40 - 438,704,620.10 321,755.02 (30,268,955.06) 535,664,645.14 3,265,337,687.05 8,091,834,228.65 366,752,959.10 8,458,587,187.75<br />
กำไรที่ยังไม่เกิดจากหลักทรัพย์เผื่อขาย - - - 155,456.60 - - - 155,456.60 - 155,456.60<br />
ผลต่างจากการแปลงค่างบการเงิน - - - - (1,793,390.77) - - (1,793,390.77) - (1,793,390.77)<br />
รายการที่ยังไม่รับรู้ในงบกำไรขาดทุน - - - 155,456.60 (1,793,390.77) - - (1,637,934.17) - (1,637,934.17)<br />
กำไรสุทธิ - - - - - - 1,215,926,597.31 1,215,926,597.31 71,487,338.25 1,287,413,935.56<br />
สำรองตามกฎหมาย 22 - - - - - 52,582,749.86 (52,582,749.86) - - -<br />
เงินปันผลจ่าย 22 - - - - - - (533,731,924.91) (533,731,924.91) - (533,731,924.91)<br />
ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยที่เพิ่มขึ้นระหว่างปี - - - - - - - - 190.00 190.00<br />
เงินปันผลที่บริษัทย่อยจ่ายให้ผู้ถือหุ้นส่วนน้อย - - - - - - - - (72,000,541.50) (72,000,541.50)<br />
ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 3,882,074,476.40 - 438,704,620.10 477,211.62 (32,062,345.83) 588,247,395.00 3,894,949,609.59 8,772,390,966.88 366,239,945.85 9,138,630,912.73<br />
ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 1 มกราคม 2552 3,752,736,411.60 927,637.64 475,608,366.36 94,558.36 (28,991,779.31) 467,851,405.48 3,086,271,483.08 7,754,498,083.21 383,109,447.82 8,137,607,531.03<br />
กำไรที่ยังไม่เกิดจากหลักทรัพย์เผื่อขาย - - - 227,196.66 - - - 227,196.66 - 227,196.66<br />
ผลต่างจากการแปลงค่างบการเงิน - - - - (1,277,175.75) - - (1,277,175.75) - (1,277,175.75)<br />
รายการที่ยังไม่รับรู้ในงบกำไรขาดทุน - - - 227,196.66 (1,277,175.75) - - (1,049,979.09) - (1,049,979.09)<br />
กำไรสุทธิ - - - - - - 575,238,626.43 575,238,626.43 23,644,400.99 598,883,027.42<br />
สำรองตามกฎหมาย 22 - - - - - 67,813,239.66 (67,813,239.66) - - -<br />
เงินปันผลจ่าย 22 - - - - - - (328,359,182.80) (328,359,182.80) - (328,359,182.80)<br />
ส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยที่ลดลงระหว่างปี - - - - - - - - (21.00) (21.00)<br />
เงินปันผลที่บริษัทย่อยจ่ายให้ผู้ถือหุ้นส่วนน้อย - - - - - - - - (40,000,868.71) (40,000,868.71)<br />
ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ 21 129,338,064.80 (927,637.64) (36,903,746.26) - - - - 91,506,680.90 - 91,506,680.90<br />
ยอดคงเหลือ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 3,882,074,476.40 - 438,704,620.10 321,755.02 (30,268,955.06) 535,664,645.14 3,265,337,687.05 8,091,834,228.65 366,752,959.10 8,458,587,187.75<br />
หมายเหตุประกอบงบการเงินถือเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
งบกระแสเงินสด<br />
บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย<br />
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552<br />
บ า ท<br />
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะบริษัท<br />
หมายเหตุ 2553 2552 2553 2552<br />
49<br />
กระแสเงินสดจากกิจกรรมดำเนินงาน :<br />
กำไรสุทธิ 1,287,413,935.56 598,883,027.42 627,205,349.54 596,537,739.41<br />
รายการปรับกระทบกำไรสุทธิเป็นเงินสดรับ(จ่าย)<br />
ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (711,471.08) 1,356,103.56 (2,321,838.54) 1,558,600.82<br />
ส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุนตาม<br />
วิธีส่วนได้เสีย - บริษัทร่วม 2.2 และ 10 (421,954,962.86) (80,619,045.21) - -<br />
กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน - - (69,765,728.09) (33,915,610.59)<br />
กำไรจากการขายอุปกรณ์ (155,622.85) (1,862,605.82) (62,165.91) (775,697.93)<br />
บริจาคทรัพย์สิน - 2,957,619.47 - 2,957,619.47<br />
ค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์ 12 และ 13 181,033,182.68 169,960,500.15 20,567,024.34 22,015,880.53<br />
ค่าตัดจำหน่ายกองทุนจม 15 5,405,121.69 5,077,961.10 1,530,537.97 1,530,537.87<br />
สำรองค่าซ่อมแซม 5,139,627.04 4,639,857.92 (4,117,754.34) 74,522.47<br />
สำรองค่าภาษีเงินได้ถูก หัก ณ ที่จ่าย - 1,942,929.98 - -<br />
ปรับปรุงเงินประกันผลงานก่อสร้าง - (1,002,190.75) - (1,002,190.75)<br />
กำไรจากการต่อรองราคาซื้อ 10.2 (145,408,440.80) - - -<br />
รายได้เงินปันผล 10 (64,616,271.82) (35,966,583.35) (611,335,485.52) (695,536,334.94)<br />
รายได้ค่าสิทธิการเช่าตัดบัญชี -<br />
กิจการที่เกี่ยวข้องกัน 5 - - (2,483,999.96) (2,483,999.96)<br />
รายได้ค่าสิทธิการเช่าตัดบัญชี - อื่น ๆ (1,938,244.29) (1,372,508.09) - -<br />
ต้นทุนทางการเงิน 5 284,069,552.72 143,753,206.61 268,467,016.80 144,660,125.59<br />
ภาษีเงินได้ 26 46,896,960.95 (46,793,493.91) (44,051,922.26) (102,295,701.62)<br />
1,175,173,366.94 760,954,779.08 183,631,034.03 (66,674,509.63)<br />
สินทรัพย์ดำเนินงานลดลง (เพิ่มขึ้น)<br />
ลูกหนี้การค้ากิจการที่เกี่ยวข้องกัน 2,215,468.04 1,153,141.23 (5,083,268.29) 75,184,227.10<br />
ลูกหนี้การค้ากิจการอื่น (61,554,870.76) (1,062,711.61) (6,044,544.99) (5,437,499.11)<br />
มูลค่างานที่เสร็จแต่ยังไม่ได้เรียกเก็บ (150,002,133.06) 880,644,988.01 (15,579,776.91) 815,389,978.94<br />
สินค้าคงเหลือ 480,000.00 240,000.00 480,000.00 240,000.00<br />
ต้นทุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (577,393,989.22) (459,654,295.91) 398,004,426.51 (159,799,082.31)<br />
สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 8,609,102.85 31,511,183.52 5,758,704.19 3,620,580.57<br />
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น (17,375,492.51) (24,571,627.54) (20,295,912.11) (28,370,895.92)<br />
หมายเหตุประกอบงบการเงินถือเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
50<br />
งบกระแสเงินสด (ต่อ)<br />
บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย<br />
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552<br />
บ า ท<br />
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะบริษัท<br />
หมายเหตุ 2553 2552 2553 2552<br />
หนี้สินดำเนินงานเพิ่มขึ้น (ลดลง)<br />
เจ้าหนี้การค้าบริษัทที่เกี่ยวข้อง 1,152,662.48 (292,883.09) (6,098,190.01) 5,390,095.04<br />
เจ้าหนี้การค้าอื่น (7,246,120.94) (107,602,244.51) 1,998,738.89 (29,156,716.13)<br />
ค่างวดที่ยังไม่รับรู้เป็นรายได้และรายได้รับล่วงหน้า 262,199,430.53 (426,750,273.25) (8,474,023.14) (21,161,630.64)<br />
ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย 19,844,817.42 (41,148,750.28) 10,664,595.90 (35,461,013.43)<br />
เจ้าหนี้อื่น (1,539,209.86) (1,205,075.50) 22,731.02 1,020,330.42<br />
ภาษีธุรกิจเฉพาะและค่าธรรมเนียมโอนค้างจ่าย 18,864,315.28 (344,768.73) 4,602,959.37 (1,326,513.32)<br />
หนี้สินหมุนเวียนอื่น 35,359,140.10 (55,196,533.84) 6,454,501.60 (46,213,436.35)<br />
เงินประกันผลงานก่อสร้าง (7,456,625.29) (42,224,238.50) (7,517,442.33) (41,144,448.75)<br />
เงินค้ำประกันรับ 23,881,161.38 (3,070,768.91) (1,640,050.00) (524,687.90)<br />
หนี้สินไม่หมุนเวียนอื่น 6,026,022.04 (3,293,265.97) 7,060,921.20 (2,134,878.10)<br />
เงินสดได้มาจาก(ใช้ไปใน)กิจกรรมดำเนินงาน 731,237,045.42 508,086,654.20 547,945,404.93 463,439,900.48<br />
จ่ายต้นทุนทางการเงิน (262,120,974.13) (216,739,384.17) (213,856,490.67) (168,649,632.28)<br />
จ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคล (98,124,729.95) (176,395,007.35) (31,630,474.95) (101,240,311.54)<br />
เงินสดสุทธิได้มาจาก(ใช้ไปใน)กิจกรรมดำเนินงาน 370,991,341.34 114,952,262.68 302,458,439.31 193,549,956.66<br />
หมายเหตุประกอบงบการเงินถือเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
งบกระแสเงินสด (ต่อ)<br />
บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย<br />
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552<br />
บ า ท<br />
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะบริษัท<br />
หมายเหตุ 2553 2552 2553 2552<br />
กระแสเงินสดจากกิจกรรมลงทุน :<br />
เงินให้กู้ยืมระยะสั้นและเงินทดรองแก่<br />
กิจการที่เกี่ยวข้องกันเพิ่มขึ้น (1,073.97) (5,627,942.47) (170,901,112.95) (580,658,648.28)<br />
เงินลงทุนในบริษัทย่อยลดลง (เพิ่มขึ้น) 10.2 - - (763,689,385.00) 240,499,979.00<br />
เงินสดรับจากการซื้อบริษัทย่อย 10.2 34,730,597.00 - - -<br />
เงินลงทุนในบริษัทร่วมเพิ่มขึ้น (2,307,937,010.11) (267,219,274.04) (2,588,250,000.00) (267,219,274.04)<br />
เงินปันผลรับจากบริษัทย่อย - - 395,889,729.30 737,774,717.85<br />
เงินปันผลรับจากบริษัทร่วม 13,914,713.34 9,274,986.00 13,914,713.34 9,274,986.00<br />
เงินปันผลรับจากบริษัทอื่น 64,616,271.82 35,966,583.35 63,116,281.82 34,916,590.35<br />
เงินฝากที่ติดภาระผูกพันลดลง 1,293,724,422.36 - 1,293,724,422.36 -<br />
เงินสดรับจากการขายอาคารและอุปกรณ์ 2,189,085.94 1,862,616.82 2,095,628.00 775,700.93<br />
อาคารและอุปกรณ์เพิ่มขึ้น (181,197,186.79) (113,031,157.23) (14,367,190.52) (4,170,972.61)<br />
สินทรัพย์ให้เช่าเพิ่มขึ้น (33,279,183.30) (70,326,192.15) - -<br />
กองทุนจมเพิ่มขึ้น (3,354,687.50) (6,780,133.46) - -<br />
เงินสดสุทธิได้มาจาก(ใช้ไปใน)กิจกรรมลงทุน (1,116,594,051.21) (415,880,513.18) (1,768,466,913.65) 171,193,079.20<br />
51<br />
กระแสเงินสดจากกิจกรรมจัดหาเงิน :<br />
เงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงินลดลง (450,000,000.00) (685,000,000.00) (450,000,000.00) (685,000,000.00)<br />
หุ้นกู้เพิ่มขึ้น 18 6,000,000,000.00 - 6,000,000,000.00 -<br />
เงินกู้ยืมระยะสั้นจากกิจการและบุคคลอื่นลดลง 17 (420,000,000.00) 420,000,000.00 (420,000,000.00) 420,000,000.00<br />
เงินกู้ยืมระยะสั้นและเงินทดรองจาก<br />
กิจการที่เกี่ยวข้องกันเพิ่มขึ้น (ลดลง) (232,058,040.39) 222,058,040.39 (232,058,040.39) (550,557,892.42)<br />
เงินกู้ยืมระยะยาวจากกิจการที่เกี่ยวข้องกันลดลง - - (100,000.00) (20,624,720.00)<br />
เงินกู้ยืมระยะยาวอื่นเพิ่มขึ้น (ลดลง) (909,348,070.00) 601,237,322.40 (423,711,125.00) 819,805,500.00<br />
เงินสดรับจากการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญ - 91,506,680.90 - 91,506,680.90<br />
เงินปันผลจ่าย 22 (532,013,065.36) (329,852,792.82) (532,013,065.36) (329,853,076.37)<br />
เงินปันผลจ่ายผู้ถือหุ้นส่วนน้อย (102,000,604.35) (40,000,868.71) - -<br />
เงินสดรับ(จ่าย)จากผู้ถือหุ้นส่วนน้อย 190.00 (21.00) - -<br />
เงินสดสุทธิได้มาจาก (ใช้ไปใน) กิจกรรมจัดหาเงิน 3,354,580,409.90 279,948,361.16 3,942,117,769.25 (254,723,507.89)<br />
ผลต่างจากการแปลงค่างบการเงิน (1,793,390.77) (1,277,175.75) - -<br />
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดเพิ่มขึ้น<br />
(ลดลง) สุทธิ 2,607,184,309.26 (22,257,065.09) 2,476,109,294.91 110,019,527.97<br />
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดต้นปี 909,430,084.97 931,687,150.06 525,127,783.23 415,108,255.26<br />
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดปลายปี 6 3,516,614,394.23 909,430,084.97 3,001,237,078.14 525,127,783.23<br />
หมายเหตุประกอบงบการเงินถือเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
52<br />
งบกระแสเงินสด (ต่อ)<br />
บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย<br />
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552<br />
บ า ท<br />
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะบริษัท<br />
หมายเหตุ 2553 2552 2553 2552<br />
ข้อมูลเพิ่มเติมประกอบกระแสเงินสด<br />
กิจกรรมดำเนินงาน<br />
กิจกรรมลงทุนและกิจกรรมจัดหาเงินที่ไม่กระทบเงินสด<br />
การเพิ่มสัดส่วนเงินลงทุนในบริษัทย่อย<br />
เงินลงทุนในบริษัทย่อยเพิ่มขึ้น (280,312,989.89) - - -<br />
เงินลงทุนในบริษัทร่วมลดลง 280,312,989.89 - - -<br />
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดปลายงวด<br />
เพิ่มขึ้นเนื่องจากการเพิ่มสัดส่วนเงินลงทุน<br />
ในบริษัทย่อย ณ วันซื้อธุรกิจ<br />
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดปลายงวดเพิ่มขึ้น (30,710,983.77) - - -<br />
ลูกหนี้การค้ากิจการที่เกี่ยวข้องกันเพิ่มขึ้น (3,460.79) - - -<br />
ลูกหนี้การค้ากิจการอื่นเพิ่มขึ้น (20,447,958.91) - - -<br />
ต้นทุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้น (1,410,856,508.61) - - -<br />
สินทรัพย์หมุนเวียนอื่นเพิ่มขึ้น (2,308,721.53) - - -<br />
อาคารและอุปกรณ์เพิ่มขึ้น (35,394,695.05) - - -<br />
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่นเพิ่มขึ้น (197,792.30) - - -<br />
เจ้าหนี้การค้าบริษัทที่เกี่ยวข้องเพิ่มขึ้น 2,483,782.80 - - -<br />
เจ้าหนี้การค้าอื่นเพิ่มขึ้น 7,823,643.95 - - -<br />
ค่าใช้จ่ายค้างจ่ายเพิ่มขึ้น 5,369,662.81 - - -<br />
เจ้าหนี้อื่นเพิ่มขึ้น 724,800.43 - - -<br />
ภาษีธุรกิจเฉพาะและค่าธรรมเนียมโอนค้างจ่ายเพิ่มขึ้น 345,637.30 - - -<br />
ภาษีเงินได้นิติบุคคลค้างจ่ายเพิ่มขึ้น 9,311,645.70 - - -<br />
หนี้สินหมุนเวียนอื่นเพิ่มขึ้น 16,846,075.27 - - -<br />
เงินประกันผลงานก่อสร้างเพิ่มขึ้น 107,305.00 - - -<br />
เงินค้ำประกันรับเพิ่มขึ้น 166,650.00 - - -<br />
เงินกู้ยืมระยะสั้นจากกิจการที่เกี่ยวข้องกันเพิ่มขึ้น 380,000,000.00 - - -<br />
กำไรสะสมเพิ่มขึ้น 576,740,917.70 - - -<br />
หมายเหตุประกอบงบการเงินถือเป็นส่วนหนึ่งของงบการเงินนี้<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
1. ข้อมูลทั่วไป <br />
<br />
1.1 เรื่องทั่วไป<br />
หมายเหตุประกอบงบการเงิน<br />
บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย<br />
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552<br />
บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) จดทะเบียนจัดตั้งขึ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและ<br />
พาณิชย์ของประเทศไทยเป็นบริษัทจำกัดเมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2531 ต่อมาได้จดทะเบียนเป็นบริษัทจด<br />
ทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ตามกฎหมายว่าด้วยบริษัท<br />
มหาชนจำกัด เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2535 และวันที่ 12 กรกฎาคม 2536 ตามลำดับ<br />
บริษัทเป็นบริษัทใหญ่ในกลุ่มบริษัทเหมราชฯ มีธุรกิจหลักคือ โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ดังนี้<br />
1. นิคมอุตสาหกรรมในภาคพื้นชายฝั่งทะเลตะวันออกของประเทศไทยตามสัญญาร่วมดำเนินงานกับการ<br />
นิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ซึ่งดำเนินการในนามของบริษัทและบริษัทย่อยอีก 3 แห่ง<br />
ดังนี้<br />
บริษัท นิคมอุตสาหกรรม สถานที่ตั้ง<br />
บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) เหมราชชลบุรี อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี<br />
บริษัท อีสเทิร์นอินดัสเตรียลเอสเตท จำกัด เหมราชตะวันออก (มาบตาพุด) อำเภอเมือง จังหวัดระยอง<br />
บริษัท อีสเทิร์น ซีบอร์ด อินดัสเตรียล เอสเตท อีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง) อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง<br />
<br />
(ระยอง) จำกัด<br />
บริษัท เหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด เหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด อำเภอปลวกแดง จังหวัดระยอง<br />
อิสดัสเตรียลเอสเตท จำกัด<br />
<br />
2. เขตอุตสาหกรรม ซึ่งดำเนินการในนามของบริษัทย่อย 2 แห่ง ดังนี้<br />
บริษัท เขตประกอบการอุตสาหกรรม สถานที่ตั้ง<br />
บริษัท เหมราช สระบุรี ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด เหมราชสระบุรี อำเภอหนองแค สระบุรี<br />
(เดิมชื่อ “บริษัท เอส ไอ แอล ที่ดินอุตสาหกรรม <br />
จำกัด”)<br />
บริษัท เหมราช ระยอง ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด เหมราชระยอง อำเภอบ้านค่าย ระยอง<br />
(เดิมชื่อ “บริษัท ระยองที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด”)<br />
3. อาคารชุดเพื่อขาย ซึ่งดำเนินการในนามของบริษัท โดยใช้ชื่อโครงการว่า “โครงการเดอะพาร์คชิดลม” มี<br />
สถานที่ตั้งที่ถนนชิดลม กรุงเทพมหานคร<br />
4. ธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่องกับนิคมอุตสาหกรรมและเขตประกอบการอุตสาหกรรมดังกล่าวข้างต้น ซึ่ง<br />
ประกอบด้วย การบริการสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวก การขายและให้เช่าอาคารสำนักงาน<br />
การขายและให้เช่าอาคารโรงงานสำเร็จรูป การให้เช่าที่ดิน อาคารพาณิชย์ สถานที่และฐานวางท่อขน<br />
ถ่ายวัตถุในนิคมอุตสาหกรรม การรับจ้างก่อสร้างต่อเติมอาคารและอื่นๆ<br />
กลุ่มบริษัทเหมราชฯ มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ ชั้น 18 อาคาร ยูเอ็ม ทาวเวอร์ เลขที่ 9 ถนนรามคำแหง แขวง<br />
สวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย 10250<br />
53<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
54<br />
1.2 ศาลปกครองกลางสั่งคุ้มครองชั่วคราว 76 โครงการในจังหวัดระยอง<br />
ตามที่ศาลปกครองกลางได้มีคำสั่งเมื่อวันที่ 29 กันยายน 2552 ให้หน่วยงานของรัฐ 8 หน่วยงานสั่งระงับ<br />
โครงการหรือกิจกรรมรวม 76 โครงการในจังหวัดระยองไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาหรือ คำ<br />
สั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น ยกเว้นโครงการหรือกิจกรรมที่ได้รับใบอนุญาตก่อนวันประกาศใช้บังคับ<br />
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 และโครงการหรือกิจกรรมที่ไม่ต้องทำรายงานผลกระทบ<br />
ต่อสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment : EIA) ตามประกาศของกระทรวง<br />
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงวันที่ 16 มิถุนายน 2552 ต่อมาเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2552 ศาล<br />
ปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งให้แก้ไขคำสั่งศาลปกครองกลางที่สั่งให้คุ้มครองชั่วคราวต่อโครงการลงทุน 76 โครงการ<br />
โดยมีคำสั่งผ่อนปรน 11 โครงการ และยังระงับโครงการต่อไปอีก 65 โครงการ ซึ่งหากในอนาคตโครงการที่<br />
เหลือ 65 โครงการมีการดำเนินการ ภายใต้มาตรา 67 วรรค 2 ตามรัฐธรรมนูญปี 2550 แล้ว จึงสามารถยื่น<br />
ขอออกจากคำสั่งคุ้มครองได้ และในเดือนมกราคม 2553 บริษัทย่อยซึ่งมีหนึ่งในโครงการที่เป็นผู้มีส่วนได้เสีย<br />
ได้ขอให้การนิคมฯพิจารณาว่าการที่โครงการขยายของบริษัทได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการนิคมอุตสาหกรรม<br />
(ขยายนิคมอุตสาหกรรม) เขตนิคมอุตสาหกรรมในเดือนกันยายน 2549 เป็นการได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ซึ่ง<br />
มีอำนาจตามกฎหมายเฉพาะ ซึ่งหมายความว่า เป็นโครงการที่ได้รับอนุญาตก่อนวันประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่ง<br />
ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ตามคำสั่งจากศาลปกครองกลาง ในเดือนธันวาคม 2552 ทั้งนี้บริษัทได้<br />
รับแจ้งจากการนิคมฯแก่บริษัทย่อยว่าเป็นผู้ที่ได้รับอนุญาตตามความหมายที่ศาลปกครองกลางได้พิเคราะห์ไว้ <br />
เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2553 ศาลปกครองได้มีคำพิพากษา โดยตัดสินให้ในกรณีที่โครงการหรือกิจกรรมใดที่ใบ<br />
อนุญาตออกหลังรัฐธรรมนูญปี 2550 มีผลบังคับใช้ และถูกกำหนดให้เป็นประเภทโครงการหรือกิจกรรมที่อาจ<br />
ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงฯ ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ฉบับลง<br />
วันที่ 31 สิงหาคม 2553 และยังดำเนินการไม่ครบถ้วนตามมาตรา 67 วรรค 2 ของรัฐธรรมนูญฯ ให้เพิกถอน<br />
ใบอนุญาตของโครงการหรือกิจกรรมนั้นๆ และให้คำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลปกครองกลาง ซึ่งแก้ไขโดยศาล<br />
ปกครองสูงสุดบังคับต่อไปจนกว่าคดีจะถึงที่สุด หรือจนกว่าศาลปกครองสูงสุดจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างอื่น<br />
โดยผลของคำพิพากษาของศาลปกครองดังกล่าวข้างต้นและตามหนังสือของการนิคมฯที่บริษัทได้รับแจ้งเรื่อง<br />
การพิจารณาโครงการที่ไม่เข้าข่ายโครงการที่ส่งผลกระทบรุนแรงว่าโครงการส่วนขยายในกลุ่มของบริษัททั้ง 2<br />
โครงการไม่เข้าข่ายเป็นโครงการที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงตามประกาศกระทรวง<br />
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดังนั้น ฉบับลงวันที่ 31 สิงหาคม 2553 โครงการส่วนขยายทั้ง 2<br />
โครงการจึงสามารถดำเนินการตามที่เคยได้รับอนุญาตไว้<br />
1.3 การประกาศใช้มาตรฐานการบัญชีใหม่<br />
ในเดือนพฤษภาคม 2552 สภาวิชาชีพบัญชีได้ออกประกาศสภาวิชาชีพบัญชีฉบับที่ 12/2552 เรื่อง การจัดเลข<br />
ระบุฉบับมาตรฐานการบัญชีของไทยให้ตรงตามมาตรฐานการบัญชีระหว่างประเทศ ดังนั้นการอ้างอิงเลข<br />
มาตรฐานการบัญชีในงบการเงินนี้ได้ถือปฏิบัติตามประกาศสภาวิชาชีพฉบับดังกล่าว<br />
ในระหว่างปีปัจจุบัน สภาวิชาชีพบัญชีได้ออกมาตรฐานการบัญชีฉบับปรับปรุงและมาตรฐานการบัญชีใหม่ ซึ่งได้<br />
ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว <br />
1) มาตรฐานการบัญชีที่มีผลบังคับใช้ในปีปัจจุบัน มีดังนี้<br />
แม่บทการบัญชี (ปรับปรุง 2552)<br />
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายบริหารของบริษัทฯ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่ามาตรฐานการบัญชีดังกล่าวข้างต้น ไม่มีผล<br />
กระทบอย่างเป็นสาระสำคัญต่องบการเงินสำหรับปีปัจจุบัน<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
2) มาตรฐานการบัญชี และมาตรฐานการรายงานทางการเงินที่ยังไม่มีผลบังคับใช้ในปีปัจจุบัน มีดังนี้<br />
วันที่มีผลบังคับใช้<br />
มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 1 (ปรับปรุง 2552) เรื่อง การนำเสนองบการเงิน 1 มกราคม 2554<br />
มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 2 (ปรับปรุง 2552) เรื่อง สินค้าคงเหลือ 1 มกราคม 2554<br />
มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 7 (ปรับปรุง 2552) เรื่อง งบกระแสเงินสด 1 มกราคม 2554<br />
มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 8 (ปรับปรุง 2552) เรื่อง นโยบายการบัญชีการเปลี่ยนแปลง 1 มกราคม 2554<br />
ประมาณการทางบัญชีและข้อผิดพลาด <br />
มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 10 (ปรับปรุง 2552) เรื่อง เหตุการณ์ภายหลัง 1 มกราคม 2554<br />
รอบระยะเวลารายงาน <br />
มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 11 (ปรับปรุง 2552) เรื่อง สัญญาก่อสร้าง 1 มกราคม 2554<br />
มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 12 เรื่อง ภาษีเงินได้ 1 มกราคม 2556<br />
มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 16 (ปรับปรุง 2552) เรื่อง ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ 1 มกราคม 2554<br />
มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 17 (ปรับปรุง 2552) เรื่อง สัญญาเช่า 1 มกราคม 2554<br />
มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 18 (ปรับปรุง 2552) เรื่อง รายได้ 1 มกราคม 2554<br />
มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 19 เรื่อง ผลประโยชน์ของพนักงาน 1 มกราคม 2554<br />
มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 20 (ปรับปรุง 2552) เรื่อง การบัญชีสำหรับเงินอุดหนุน 1 มกราคม 2556<br />
จากรัฐบาล และการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ<br />
ความช่วยเหลือจากรัฐบาล <br />
มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 21 (ปรับปรุง 2552) เรื่อง ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลง 1 มกราคม 2556<br />
ของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ <br />
มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 23 (ปรับปรุง 2552) เรื่อง ต้นทุนการกู้ยืม 1 มกราคม 2554<br />
มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 24 (ปรับปรุง 2552) เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ 1 มกราคม 2554<br />
บุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน <br />
วันที่มีผลบังคับใช้<br />
มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 26 เรื่อง การบัญชีและการรายงาน 1 มกราคม 2554<br />
โครงการผลประโยชน์เมื่อออกจากงาน <br />
มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 27 (ปรับปรุง 2552) เรื่อง งบการเงินรวมและ 1 มกราคม 2554<br />
งบการเงินเฉพาะกิจการ <br />
มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 28 (ปรับปรุง 2552) เรื่อง เงินลงทุนในบริษัทร่วม 1 มกราคม 2554<br />
มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 29 เรื่อง การรายงานทางการเงินใน 1 มกราคม 2554<br />
สภาพเศรษฐกิจ ที่เงินเฟ้อรุนแรง <br />
มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 31 (ปรับปรุง 2552) เรื่อง ส่วนได้เสียในการร่วมค้า 1 มกราคม 2554<br />
มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 33 (ปรับปรุง 2552) เรื่อง กำไรต่อหุ้น 1 มกราคม 2554<br />
มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 34 (ปรับปรุง 2552) เรื่อง งบการเงินระหว่างกาล 1 มกราคม 2554<br />
มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 36 (ปรับปรุง 2552) เรื่อง การด้อยค่าของสินทรัพย์ 1 มกราคม 2554<br />
มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 37 (ปรับปรุง 2552) เรื่อง ประมาณการหนี้สิน หนี้สินที่ 1 มกราคม 2554<br />
อาจเกิดขึ้น และสินทรัพย์ที่อาจเกิดขึ้น <br />
มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 38 (ปรับปรุง 2552) เรื่อง สินทรัพย์ไม่มีตัวตน 1 มกราคม 2554<br />
มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 40 (ปรับปรุง 2552) เรื่อง อสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน 1 มกราคม 2554<br />
มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 2 เรื่อง การจ่ายโดยใช้หุ้นเป็นเกณฑ์ 1 มกราคม 2554<br />
มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 3 เรื่อง การรวมธุรกิจ 1 มกราคม 2554<br />
(ปรับปรุง 2552) <br />
มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 5 เรื่อง สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน ที่ถือไว้ 1 มกราคม 2554<br />
(ปรับปรุง 2552) เพื่อขาย และการดำเนินงานที่ยกเลิก<br />
มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 6 เรื่อง การสำรวจและการประเมินค่า 1 มกราคม 2554<br />
แหล่งทรัพยากรแร่<br />
<br />
การตีความมาตรฐานการรายงานทางการเงิน สัญญาการก่อสร้าง 1 มกราคม 2554<br />
ฉบับที่ 15 เรื่อง อสังหาริมทรัพย์ <br />
55<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
56<br />
บริษัทจะเริ่มถือปฏิบัติมาตรฐานการบัญชี มาตรฐานการรายงานทางการเงิน และการตีความมาตรฐานการ<br />
รายงานทางการเงินในวันที่มีผลบังคับใช้ ยกเว้น มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 3 (ปรับปรุง 2552)<br />
บริษัทได้ถือปฏิบัติก่อนวันที่มีผลบังคับใช้ ฝ่ายบริหารของบริษัท ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า<br />
1. มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 20 (ปรับปรุง 2552) มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 31 (ปรับปรุง 2552) มาตรฐาน<br />
การรายงานทางการเงินฉบับที่ 2 และมาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 6 ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการ <br />
2. มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 12 มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 16 (ปรับปรุง 2552) มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 18<br />
(ปรับปรุง 2552) มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 19 มาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 40 (ปรับปรุง 2552) และการ<br />
ตีความมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ฉบับที่ 15 อยู่ระหว่างการพิจารณาผลกระทบต่องบการเงินในปีที่เริ่ม<br />
ใช้มาตรฐานการบัญชีดังกล่าว<br />
3. มาตรฐานการบัญชีและมาตรฐานการรายงานทางการเงินอื่นๆ ฝ่ายบริหารพิจารณาแล้วเห็นว่าจะไม่มีผล<br />
กระทบอย่างเป็นสาระสำคัญต่องบการเงิน <br />
1.4 ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และภาษีธุรกิจเฉพาะ<br />
พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ 472 พ.ศ. 2551 และ<br />
ฉบับที่ 488 พ.ศ. 2552) ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและ<br />
นิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน กรณีสนับสนุนการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรี<br />
กำหนด และประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตาม<br />
กฎหมายว่าด้วยอาคารชุด กรณีสนับสนุนการซื้อขายห้องชุดตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ได้ประกาศ<br />
ลดภาษีธุรกิจเฉพาะจากอัตราร้อยละ 3.3 เหลืออัตราร้อยละ 0.11 สำหรับการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรม<br />
เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่ได้กระทำในระหว่างวันที่ 28 มีนาคม 2551 ถึงวันที่ 28 มีนาคม 2553 และลดค่า<br />
จดทะเบียนการโอนอสังหาริมทรัพย์จากอัตราร้อยละ 2 เหลืออัตราร้อยละ 0.01 สำหรับการจดทะเบียนสิทธิและ<br />
นิติกรรมเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่ได้กระทำในระหว่างวันที่ 28 มีนาคม 2551 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2553<br />
<br />
2. เกณฑ์ในการจัดทำและการแสดงรายการในงบการเงินและงบการเงินรวม<br />
2.1 เกณฑ์ในการจัดทำงบการเงิน<br />
งบการเงินของบริษัท ได้จัดทำขึ้นตามมาตรฐานการบัญชีที่รับรองทั่วไป รวมถึงการตีความและแนวปฏิบัติ<br />
ทางการบัญชีที่ประกาศใช้โดยสภาวิชาชีพบัญชี <br />
งบการเงินของบริษัทได้จัดทำขึ้นเป็นภาษาไทยตามระเบียบข้อบังคับหรือกฎหมายไทย ซึ่งแปลเป็นภาษาอังกฤษ<br />
เพื่อความสะดวกของผู้อ่านงบการเงิน <br />
รายการในงบการเงินปี 2552 บางรายการได้จัดประเภทใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับรายการในปี 2553 ซึ่งไม่มีผล<br />
กระทบต่อกำไรสุทธิและส่วนของผู้ถือหุ้นตามที่ได้รายงานไปแล้ว<br />
2.2 เกณฑ์ในการจัดทำและการแสดงรายการในงบการเงินรวม<br />
งบการเงินรวมของบริษัทได้รวมงบการเงินของบริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) และของบริษัทย่อยที่<br />
ถือหุ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมเกินกว่าร้อยละ 50 ของทุนที่ออกจำหน่าย และได้จัดทำขึ้นโดยใช้หลักเกณฑ์เดียว<br />
กับ งบการเงินรวมสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2552 <br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
บริษัทย่อยทั้งหมด จดทะเบียนจัดตั้งในประเทศไทย ยกเว้น H-International (BVI) Company Limited และ<br />
<strong>Hemaraj</strong> International Limited ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นใน British Virgin Isl<strong>and</strong>s และ Cayman<br />
Isl<strong>and</strong>s ตามลำดับ<br />
นอกจากนี้งบการเงินรวมสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม ได้รวมส่วนแบ่งผลกำไร(ขาดทุน)ของบริษัทร่วม ดังนี้<br />
ล้านบาท<br />
2553 2552<br />
บริษัท โคเฟลี (ประเทศไทย) จำกัด *<br />
(เดิมชื่อ “บริษัท เอลโย่-เอช ฟาซิลีตี้ แมนเนจเมนท์ จำกัด”) 3.63 3.60<br />
บริษัท เหมราช สระบุรี ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด **<br />
(เดิมชื่อ “บริษัท เอส ไอ แอล ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด”)<br />
(งบการเงินรวม) (หมายเหตุ 10) 14.81 14.85<br />
บริษัท เก็คโค่-วัน จำกัด ** 393.51 74.25<br />
บริษัท ห้วยเหาะไทย จำกัด (งบการเงินรวม) ** 10.01 (12.08)<br />
รวม 421.96 80.62<br />
<br />
* ใช้ข้อมูลจากงบการเงินที่จัดทำขึ้นโดยฝ่ายบริหารและไม่ผ่านการตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชี<br />
** ใช้ข้อมูลจากงบการเงินที่ตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีอื่น<br />
<br />
3. สรุปนโยบายการบัญชีที่สำคัญ<br />
57<br />
3.1 เกณฑ์การวัดค่าในการจัดทำงบการเงิน<br />
นอกจากที่เปิดเผยไว้ในหัวข้ออื่นๆ ในสรุปนโยบายการบัญชีที่สำคัญ และหมายเหตุประกอบงบการเงินอื่นๆ<br />
เกณฑ์ในการแสดงมูลค่าในงบการเงินใช้ราคาทุนเดิม<br />
3.2 เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด<br />
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ได้แก่ เงินสด เงินฝากธนาคาร ตั๋วเงินฝาก และเงินลงทุนชั่วคราว แสดง<br />
สุทธิจากเงินฝากธนาคารที่ติดภาระผูกพัน<br />
3.3 เงินลงทุนชั่วคราว<br />
เงินลงทุนในหลักทรัพย์เผื่อขาย ได้แก่ เงินลงทุนในตราสารทุนในความต้องการของตลาด แสดงในมูลค่า<br />
ยุติธรรม (สุทธิจากค่าเผื่อการปรับมูลค่าเงินลงทุน)<br />
กำไร (ขาดทุน) จากการปรับมูลค่าเงินลงทุนแสดงไว้ในส่วนของผู้ถือหุ้น<br />
3.4 ลูกหนี้การค้าและค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ<br />
ลูกหนี้การค้าแสดงตามมูลค่าสุทธิที่จะได้รับ บริษัทและบริษัทย่อย บันทึกค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสำหรับผลขาดทุน<br />
โดยประมาณที่อาจเกิดขึ้นจากการเก็บเงินลูกหนี้ไม่ได้ ซึ่งโดยทั่วไปพิจารณาจากประสบการณ์การเก็บเงินและการ<br />
วิเคราะห์อายุลูกหนี้<br />
บริษัทและบริษัทย่อย ตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของลูกหนี้ค่าบริการที่ค้างชำระเกิน 90 วัน<br />
3.5 สินค้าคงเหลือ<br />
สินค้าคงเหลือแสดงมูลค่าตามราคาทุน (วิธีถัวเฉลี่ย) หรือมูลค่าสุทธิที่จะได้รับแล้วแต่ราคาใดจะต่ำกว่า <br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
58<br />
3.6 ต้นทุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์<br />
ต้นทุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แสดงตามราคาทุน ประกอบด้วย ต้นทุนที่ดิน ต้นทุนในการพัฒนา<br />
โครงการ ต้นทุนในการก่อสร้างอาคารโรงงานอุตสาหกรรมสำเร็จรูป ต้นทุนในการก่อสร้างอาคารชุด ต้นทุน<br />
ทางการเงินจากการกู้ยืมเพื่อใช้ในการพัฒนาโครงการก่อสร้างอาคารโรงงานอุตสาหกรรมสำเร็จรูป และก่อสร้าง<br />
อาคารชุด เงินมัดจำค่าที่ดิน และเงินจ่ายล่วงหน้าค่าก่อสร้าง และจะโอนเป็นต้นทุนขายเมื่อมีการขายหรือมีราย<br />
ได้จากโครงการดังกล่าว<br />
ต้นทุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แสดงในราคาทุนหรือมูลค่าสุทธิที่จะได้รับแล้วแต่ราคาใด จะต่ำกว่า <br />
ขาดทุนจากการประเมินราคาโครงการแสดงไว้ในงบกำไรขาดทุน<br />
3.7 การรวมต้นทุนการกู้ยืมเป็นราคาทุนของสินทรัพย์<br />
ต้นทุนการกู้ยืม ถือเป็นค่าใช้จ่ายในงวดบัญชีที่ค่าใช้จ่ายนั้นเกิดขึ้น ยกเว้น ต้นทุนการกู้ยืม ของเงินกู้ยืมระยะยาว<br />
และเงินกู้ยืมจากกิจการและบุคคลอื่น ที่เกิดขึ้นโดยตรงกับการพัฒนาโครงการรวมเป็นส่วนหนึ่งของต้นทุน<br />
โครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยจะหยุดบันทึกเป็นต้นทุนของสินทรัพย์ เมื่อการดำเนินการส่วนใหญ่ที่จำเป็น<br />
ในการเตรียมสินทรัพย์ให้อยู่ในสภาพพร้อมที่จะใช้หรือขายตามประสงค์ และการรวมต้นทุนการกู้ยืมเป็นราคาทุน<br />
ของสินทรัพย์จะหยุดพัก ในระหว่างที่การดำเนินการพัฒนาสินทรัพย์หยุดชะงักลงเป็นเวลาต่อเนื่อง บริษัทและ<br />
บริษัทย่อย จะบันทึกขาดทุนจากการด้อยค่าเมื่อราคาตามบัญชีของสินทรัพย์สูงกว่ามูลค่าที่คาดว่าจะได้รับคืน<br />
3.8 เงินลงทุนและเงินให้กู้ยืม<br />
เงินลงทุน<br />
ก. เงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมแสดงตามวิธีราคาทุนในงบการเงินเฉพาะกิจการ และเงินลงทุนใน<br />
บริษัทร่วมแสดงตามวิธีส่วนได้เสียในงบการเงินรวม<br />
ข. เงินลงทุนทั่วไปได้แก่ เงินลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกันและเงินลงทุนในบริษัทอื่น แสดงในราคาทุนสุทธิ<br />
จากค่าเผื่อการด้อยค่า<br />
ขาดทุนจากการด้อยค่าของเงินลงทุนทั่วไปแสดงไว้ในงบกำไรขาดทุน<br />
เงินให้กู้ยืม<br />
บริษัทและบริษัทย่อยตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจากจำนวนที่คาดว่าจะเรียกเก็บไม่ได้ โดยวิเคราะห์จากฐานะการ<br />
เงินและความสามารถในการชำระหนี้ โดยมีนโยบายหยุดรับรู้รายได้ดอกเบี้ยเมื่อค้างชำระเกิน 180 วัน<br />
3.9 สินทรัพย์ให้เช่า<br />
ที่ดินให้เช่าแสดงในราคาทุน สินทรัพย์ให้เช่าอื่นนอกเหนือจากที่ดิน แสดงในราคาทุนหักค่าเสื่อมราคาสะสม ค่า<br />
เสื่อมราคาคำนวณโดยวิธีเส้นตรงตามเกณฑ์อายุการใช้สินทรัพย์โดยประมาณ 15 ปี สำหรับฐานวางท่อขนถ่าย<br />
วัตถุ และ 20 ปี สำหรับอาคาร ไม่มีการคำนวณค่าเสื่อมราคาสำหรับที่ดินให้เช่า<br />
3.10 ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์<br />
ที่ดินแสดงในราคาทุน อาคาร และอุปกรณ์ แสดงในราคาทุน หักค่าเสื่อมราคาสะสม และค่าเผื่อการด้อยค่า<br />
สินทรัพย์ ยานพาหนะภายใต้สัญญาเช่าทางการเงินแสดงตามราคายุติธรรมหลังหักค่าเสื่อมราคาสะสม ค่าเสื่อม<br />
ราคาคำนวณโดยวิธีเส้นตรงตามเกณฑ์อายุการใช้สินทรัพย์โดยประมาณ 5 ปี สำหรับอุปกรณ์ และ 20 ปี<br />
สำหรับอาคารและสิ่งปลูกสร้าง ไม่มีการคำนวณค่าเสื่อมราคาสำหรับที่ดิน<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
3.11 สิทธิการเช่าและที่ดินเพื่อจัดหาผลประโยชน์<br />
สิทธิการเช่าและที่ดินเพื่อจัดหาผลประโยชน์ เป็นโครงการที่รอการพัฒนาและโครงการที่หยุดการพัฒนาชั่วคราว<br />
ประกอบด้วย สิทธิการเช่าที่ดิน ต้นทุนที่ดิน ต้นทุนในการพัฒนาโครงการและต้นทุนทางการเงินจากการกู้ยืม<br />
เพื่อใช้ในการพัฒนาโครงการ<br />
สิทธิการเช่าและที่ดินเพื่อจัดหาผลประโยชน์ แสดงในราคาทุนหรือมูลค่าสุทธิที่จะได้รับที่ต่ำกว่า <br />
ขาดทุนจากการประเมินราคาโครงการแสดงไว้ในงบกำไรขาดทุน<br />
59<br />
3.12 กองทุนจม<br />
บริษัทและบริษัทย่อยบันทึกกองทุนเพื่อบำรุงรักษาและสร้างทดแทนระบบสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความ<br />
สะดวกในนิคมอุตสาหกรรม ตามเงื่อนไขในสัญญาร่วมดำเนินงานกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย<br />
(กนอ.) เป็นกองทุนจมรอตัดจ่ายและตัดจ่ายเป็นต้นทุนบริการตามวิธีเส้นตรงเป็นระยะเวลา 20 ปี<br />
3.13 ดอกเบี้ยตามสัญญาเช่าซื้อรอตัดบัญชี<br />
ดอกเบี้ยตามสัญญาเช่าซื้อรอตัดบัญชี กำหนดตัดบัญชีตามอัตราผลตอบแทนที่แท้จริงโดยแสดงสุทธิจากเจ้าหนี้<br />
เช่าซื้อ<br />
3.14 การด้อยค่าของสินทรัพย์<br />
บริษัทและบริษัทย่อยมีการประเมินการด้อยค่าของที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ และทรัพย์สินอื่นๆ เมื่อมี<br />
เหตุการณ์หรือมีการเปลี่ยนแปลงสภาพการณ์ที่ทำให้เกิดข้อบ่งชี้ว่ามูลค่าที่คาดว่าจะได้รับคืนของสินทรัพย์มี<br />
จำนวนต่ำกว่าราคาตามบัญชีของสินทรัพย์นั้น โดยบริษัทและบริษัทย่อยจะรับรู้รายการขาดทุนจากการด้อยค่า<br />
เป็นค่าใช้จ่ายในงบกำไรขาดทุน<br />
3.15 ค่างวดที่ยังไม่รับรู้เป็นรายได้และรายได้รับล่วงหน้า<br />
ค่างวดที่ยังไม่รับรู้เป็นรายได้และรายได้รับล่วงหน้า ประกอบด้วยเงินที่รับชำระจากสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินและ<br />
อาคารชุด ส่วนที่เกินกว่ารายได้ที่รับรู้ตามวิธีอัตราส่วนของงานที่แล้วเสร็จ รวมทั้งเงินรับล่วงหน้าจากค่าบริการ<br />
สาธารณูปโภค และค่าเช่า<br />
3.16 ผลประโยชน์พนักงาน<br />
บริษัทและบริษัทย่อย รับรู้ เงินเดือน ค่าจ้าง โบนัส เงินสมทบกองทุนประกันสังคมและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ<br />
และผลประโยชน์อื่นๆ เป็นค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดรายการ<br />
บริษัทและบริษัทย่อย ไม่ได้บันทึกหนี้สินเกี่ยวกับผลประโยชน์พนักงาน ซึ่งอาจต้องจ่ายในภายหน้า ภายใต้<br />
กฎหมายแรงงานไทย<br />
3.17 รายได้ค่าสิทธิการเช่ารอตัดบัญชี<br />
รายได้ค่าสิทธิการเช่ารอตัดบัญชี ได้แก่ ค่าสิทธิการเช่ารับจากการให้เช่าที่ดิน อาคาร ฐานวางท่อขนถ่ายวัตถุ<br />
และค่าเช่าสิทธิในการจำหน่ายน้ำเพื่อการอุตสาหกรรม กำหนดบันทึกบัญชีเป็นรายได้ตามอายุสัญญาเช่า<br />
3.18 การรับรู้รายได้และค่าใช้จ่าย<br />
นอกจากที่เปิดเผยไว้ในหัวข้ออื่นๆ บริษัทและบริษัทย่อยมีนโยบายรับรู้รายได้และค่าใช้จ่ายดังต่อไปนี้<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
60<br />
ก. การรับรู้รายได้และต้นทุนจากการขายที่ดิน<br />
บริษัทและบริษัทย่อยรับรู้รายได้จากการขายที่ดินเมื่อได้มีการทำสัญญาจะซื้อจะขาย และรับเงินค่างวด<br />
แล้ว โดยวิธีอัตราส่วนของงานที่แล้วเสร็จ ซึ่งคำนวณตามอัตราส่วนของต้นทุนการพัฒนาที่เกิดขึ้นแล้วกับ<br />
ต้นทุนทั้งหมดที่ประมาณว่าจะใช้ในการพัฒนาแต่ละโครงการย่อย โดยไม่รวมต้นทุนที่ดิน ส่วนต้นทุนขาย<br />
คำนวณจากรายได้ที่รับรู้แล้วตามอัตราส่วนของประมาณการต้นทุนทั้งหมดกับประมาณการราคาขาย<br />
ทั้งหมดของแต่ละโครงการย่อย<br />
ต้นทุนทั้งหมดและราคาขายทั้งหมดของแต่ละโครงการย่อยที่ประมาณการไว้จะมีการปรับปรุง เมื่อมีการ<br />
เปลี่ยนแปลงอย่างมีสาระสำคัญในจำนวนต้นทุนและราคาขายที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจริงในการพัฒนาแต่ละ<br />
โครงการย่อย<br />
ข. การรับรู้รายได้และต้นทุนจากการขายอาคารโรงงานอุตสาหกรรมสำเร็จรูป <br />
บริษัทและบริษัทย่อยรับรู้รายได้และต้นทุนขายอาคารโรงงานอุตสาหกรรมสำเร็จรูป เมื่อมีการทำสัญญา<br />
ซื้อขายโดยวิธีอัตราส่วนของงานที่แล้วเสร็จ<br />
ค. การรับรู้รายได้และต้นทุนจากการขายอาคารชุด <br />
บริษัทรับรู้รายได้และต้นทุนขายอาคารชุดตามวิธีอัตราส่วนของงานที่แล้วเสร็จ ซึ่งคำนวณตามอัตราส่วน<br />
ต้นทุนของงานที่เกิดขึ้นแล้วกับต้นทุนทั้งหมด โดยไม่รวมต้นทุนที่ดิน ที่ประมาณว่าจะใช้ในการก่อสร้าง<br />
ตามสัญญาซึ่งประเมินโดยวิศวกรที่ปรึกษาของบริษัท บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้เมื่อมีการทำสัญญาจะซื้อจะ<br />
ขายไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของพื้นที่เปิดขายและได้รับชำระเกินกว่าร้อยละ 20 ของแต่ละสัญญา และ<br />
งานระหว่างก่อสร้างได้ผ่านขั้นตอนเบื้องต้นแล้วเกินกว่าร้อยละ 10 ของงานก่อสร้างอาคารชุด<br />
ง. การรับรู้รายได้และต้นทุนค่าบริการ<br />
บริษัทและบริษัทย่อยรับรู้รายได้และต้นทุนค่าบริการตามเกณฑ์สิทธิสำหรับ รายได้ค่าบริการซึ่งประกอบ<br />
ด้วย รายได้ค่าบริการสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวก รายได้จากการขายน้ำประปา น้ำดิบและ<br />
น้ำหมุนเวียน รายได้จากการบำบัดน้ำเสียในนิคมอุตสาหกรรม รายได้จากการรับจ้างก่อสร้างต่อเติม<br />
อาคาร รายได้จากการให้เช่าที่ดิน อาคารพาณิชย์ อาคารคลังสินค้า อาคารโรงงาน ที่พักอาศัย และฐาน<br />
วางท่อขนถ่ายวัตถุในนิคมอุตสาหกรรม รายได้จากศูนย์ฝึกอบรม และ รายได้จากศูนย์ธุรกิจ ส่วนต้นทุน<br />
ค่าบริการเป็นต้นทุนที่เกิดจากการให้บริการดังกล่าว<br />
บริษัทและบริษัทย่อยรับรู้รายได้และต้นทุนจากการรับจ้างก่อสร้างอาคารโรงงานอุตสาหกรรมขนาดกลาง<br />
และขนาดเล็ก เมื่อได้มีการทำสัญญาก่อสร้าง และรับเงินค่างวดแล้วโดยวิธีอัตราส่วนของงานที่แล้วเสร็จ<br />
บริษัทและบริษัทย่อยมีนโยบายหยุดรับรู้รายได้ค่าบริการสาธารณูปโภคจากลูกหนี้ที่หยุดดำเนินกิจการ<br />
และมีปัญหาในการจ่ายชำระหนี้<br />
จ. รายได้และค่าใช้จ่ายอื่น<br />
บริษัทและบริษัทย่อยรับรู้รายได้ ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ต้นทุนทางการเงินและค่าใช้จ่ายอื่นตาม<br />
เกณฑ์สิทธิ<br />
3.19 บัญชีที่เป็นเงินตราต่างประเทศ<br />
ก. งบการเงินของบริษัทย่อยในต่างประเทศแปลงค่าเป็นเงินบาทเพื่อการจัดทำงบการเงินรวมโดยใช้อัตรา<br />
แลกเปลี่ยนดังนี้<br />
ก.1 สินทรัพย์และหนี้สินแปลงค่าโดยใช้อัตราถัวเฉลี่ยขายและซื้อ ณ วันสิ้นปี<br />
ก.2 รายได้และค่าใช้จ่ายแปลงค่าโดยใช้อัตราถัวเฉลี่ยขายและซื้อ ณ วันสิ้นเดือนแต่ละเดือน<br />
ก.3 ส่วนของผู้ถือหุ้นแปลงค่าโดยใช้อัตรา ณ วันที่เกิดรายการ<br />
ผลต่างจากการแปลงค่างบการเงินต่างประเทศ แสดงไว้ในส่วนของผู้ถือหุ้น<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
ข. รายการบัญชีอื่นที่เป็นเงินตราต่างประเทศที่เกิดขึ้นในระหว่างปีแปลงค่าเป็นเงินบาทตามอัตราแลก<br />
เปลี่ยน ณ วันที่เกิดรายการ สินทรัพย์และหนี้สินที่เป็นเงินตราต่างประเทศ ณ วันสิ้นปี แปลงค่าเป็นเงิน<br />
บาทตามอัตราแลกเปลี่ยน ณ วันนั้น<br />
กำไรและขาดทุนจากการแปลงค่าแสดงไว้ในงบกำไรขาดทุน<br />
3.20 ภาษีเงินได้นิติบุคคล<br />
ภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับแต่ละปีบันทึกตามเกณฑ์คงค้าง <br />
3.21 กำไรต่อหุ้น<br />
กำไรต่อหุ้นที่แสดงไว้ในงบกำไรขาดทุนเป็นกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน ซึ่งคำนวณโดยการหารกำไรสุทธิสำหรับปีด้วย<br />
จำนวนหุ้นสามัญถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักที่ออกจำหน่ายและชำระแล้วอยู่ในระหว่างปี<br />
<br />
4. การใช้ดุลยพินิจและประมาณการทางบัญชีที่สำคัญ<br />
ในการจัดทำงบการเงินตามมาตรฐานการบัญชีที่รับรองทั่วไป ฝ่ายบริหารอาจต้องใช้ดุลยพินิจและการประมาณการผล<br />
กระทบของเหตุการณ์ที่ไม่แน่นอนในอนาคตที่อาจมีผลกระทบต่อจำนวนเงินที่แสดงในงบการเงินและการเปิดเผยข้อมูล<br />
ในหมายเหตุประกอบงบการเงิน ด้วยเหตุนี้ผลที่เกิดขึ้นจริงจึงอาจแตกต่างไปจากจำนวนที่ประมาณการไว้<br />
<br />
5. รายการบัญชีกับกิจการที่เกี่ยวข้องกัน<br />
บริษัทมีรายการบัญชีบางส่วนกับกิจการที่เกี่ยวข้องกัน รายการบัญชีระหว่างกันที่เป็นสาระสำคัญได้ตัดออกแล้วในการทำ<br />
งบการเงินรวม รายการดังกล่าวเป็นไปตามเงื่อนไขและเกณฑ์ที่ได้ตกลงร่วมกันระหว่างบริษัท กับกิจการที่เกี่ยวข้องกัน<br />
เหล่านั้น ทั้งนี้การกู้ยืมระหว่างกันเป็นหนี้ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจที่ทำร่วมกัน <br />
กิจการที่ถูกควบคุมโดยบริษัท หรือกิจการที่อยู่ภายใต้การควบคุมเดียวกันกับบริษัท โดยทางตรงหรือทางอ้อมและกิจการ<br />
ที่เป็นบริษัทในเครือเดียวกัน โดยเป็นผู้ถือหุ้นและมีกรรมการร่วมกัน ณ วันที่ 31 ธันวาคม ดังนี้<br />
<br />
ลักษณะ ร้อยละการถือหุ้น<br />
บริษัท ประเภทธุรกิจ ความสัมพันธ์ 2553 2552<br />
บริษัทย่อย<br />
บริษัท อีสเทิร์นอินดัสเตรียลเอสเตท จำกัด พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นผู้ถือหุ้นและ 99.99 99.99<br />
มีกรรมการร่วมกัน<br />
บริษัท อีสเทิร์น ซีบอร์ด อินดัสเตรียล เอสเตท พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ,, 60.00 60.00<br />
(ระยอง) จำกัด<br />
บริษัท เหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ,, 99.99 99.99<br />
อินดัสเตรียล เอสเตท จำกัด<br />
บริษัท เหมราช สระบุรี ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ,, 99.99 -<br />
(เดิมชื่อ “บริษัท เอส ไอ แอล<br />
ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด”)<br />
บริษัท เหมราช ระยอง ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ,, 99.99 -<br />
(เดิมชื ่อ “บริษัท ระยองที ่ดินอุตสาหกรรม จำกัด”)<br />
บริษัท อีสเทิร์น ไพพ์ไลน์ เซอร์วิสเซส จำกัด บริการให้เช่าฐานวางท่อขนถ่ายวัตถุ ,, 99.99 99.99<br />
H-International (BVI) Company Limited Holding Company ,, 100.00 100.00<br />
<strong>Hemaraj</strong> International Limited Holding Company ,, 100.00 100.00<br />
บริษัท เอช-คอนสตรัคชั่น แมนเนจเม้นท์ บริการออกแบบและ ,, 99.99 99.99<br />
แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด ควบคุมการก่อสร้าง<br />
บริษัท เดอะพาร์คเรสซิเดนซ์ จำกัด พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และ ,, 99.99 99.99<br />
บริหารจัดการงานบริการ<br />
61<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
62<br />
ลักษณะ ร้อยละการถือหุ้น<br />
บริษัท ประเภทธุรกิจ ความสัมพันธ์ 2553 2552<br />
บริษัท เหมราช วอเตอร์ จำกัด พัฒนาบริหารและจัดการ เป็นผู้ถือหุ้นและ 99.99 99.99<br />
ทรัพยากรน้ำ มีกรรมการร่วมกัน<br />
บริษัท เอสเอ็มอี แฟคทอรี่ จำกัด ขายและให้เช่าโรงงานสำเร็จรูป ,, 99.99 99.99<br />
บริษัท เอช – ฟีนิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด อาคารชุดเพื่อขาย ให้เช่า และ ,, 99.99 99.99<br />
ให้บริการ<br />
บริษัท เหมราช คลีน วอเตอร์ จำกัด ผลิตและจำหน่าย น้ำเพื่อ ,, 99.99 99.99<br />
การอุตสาหกรรม<br />
<br />
<br />
ลักษณะ ร้อยละการถือหุ้น<br />
กิจการ ประเภทธุรกิจ ความสัมพันธ์ 2553 2552<br />
บริษัทร่วม<br />
บริษัท โคเฟลี (ประเทศไทย) จำกัด ให้บริการเกี่ยวกับ เป็นผู้ถือหุ้นและ 39.99 39.99<br />
ระบบสาธารณูปโภค มีกรรมการร่วมกัน<br />
บริษัท เก็คโค่-วัน จำกัด ผลิตไฟฟ้าและพลังงาน ,, 35.00 35.00<br />
บริษัท เหมราช สระบุรี ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ,, - 25.00<br />
(เดิมชื่อ “บริษัท เอส ไอ แอล ที่ดินอุตสาหกรรม<br />
จำกัด”)<br />
บริษัท เหมราช ระยอง ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ,, - 25.00<br />
(เดิมชื ่อ “บริษัท ระยองที ่ดินอุตสาหกรรม จำกัด”)<br />
บริษัท ห้วยเหาะไทย จำกัด Holding Company ,, 51.00 51.00<br />
บริษัท โรงไฟฟ้าห้วยเหาะ จำกัด ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า ,, 12.75 12.75<br />
บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน<br />
บริษัท ศรีราชา ฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) บริการท่าเทียบเรือและขนส่ง เป็นผู้ถือหุ้นและ 6.40 6.40<br />
มีกรรมการร่วมกัน<br />
บริษัท อีสเทิร์น ฟลูอิด ทรานสปอร์ต จำกัด ซ่อมแซมบำรุงรักษาโครงสร้างส ,, 15.00 15.00<br />
ำหรับฐานวางท่อ<br />
บริษัท สตีลทอป จำกัด ผลิตและขายเหล็ก มีความสัมพันธ์ - -<br />
ผ่านกรรมการ<br />
บริษัท อาหารสยาม จำกัด (มหาชน) อุตสาหกรรมอาหารเกษตร เป็นผู้ร่วมลงทุน - -<br />
บริษัท เตียวฮง สีลม จำกัด ให้บริการเกี่ยวกับระบบสาธารณูปโภค ,, - -<br />
บริษัท ซิเมนต์ไทย โฮลดิ้ง จำกัด Holding Company ,, - -<br />
บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) ธุรกิจพลังงาน ,, - -<br />
บริษัท โกลว์ ไอพีพี2 โฮลดิ้ง จำกัด Holding Company ,, - -<br />
บริษัท โคเฟลี เซาท์ อีสต์เอเซีย พีทีอี ลิมิเต็ด ธุรกิจพลังงาน ,, - -<br />
<br />
<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
ยอดคงเหลือกับกิจการที่เกี่ยวข้องกัน ซึ่งแสดงรวมเป็นส่วนหนึ่งในงบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม มีดังนี้<br />
สินทรัพย์<br />
พันบาท<br />
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะบริษัท นโยบายการคิด<br />
2553 2552 2553 2552 ต้นทุนระหว่างกัน<br />
เงินให้กู้ยืมระยะสั้นและเงินทดรองแก่กิจการที่เกี่ยวข้องกัน<br />
บริษัทย่อย :<br />
บริษัท อีสเทิร์นอินดัสเตรียลเอสเตท จำกัด - - 110,684 - MLR - 0.50%<br />
และเงินปันผลค้างรับ<br />
บริษัท อีสเทิร์น ซีบอร์ด อินดัสเตรียล เอสเตท - - 4,270 55,138 เงินทดรองจ่าย<br />
(ระยอง) จำกัด<br />
และเงินปันผลค้างรับ<br />
บริษัท เหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด อินดัสเตรียล - - 124,000 321,169 MLR - 0.50%<br />
เอสเตท จำกัด<br />
และเงินปันผลค้างรับ<br />
บริษัท เหมราช สระบุรี ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด - - 380,000 - MLR - 0.50%<br />
(เดิมชื่อ “บริษัท เอส ไอ แอล<br />
ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด”)<br />
บริษัท อีสเทิร์น ไพพ์ไลน์ เซอร์วิสเซส จำกัด - - 30,778 20,067 MLR - 0.50%<br />
และเงินปันผลค้างรับ<br />
บริษัท เอสเอ็มอี แฟคทอรี่ จำกัด - - 29,192 27,268 MLR - 0.50%<br />
บริษัท เหมราช คลีน วอเตอร์ จำกัด - - 128,940 24,353 MLR - 0.50%<br />
และเงินปันผลค้างรับ<br />
บริษัท เอช – ฟีนิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด - - 220,275 270,829 MLR - 0.50%<br />
63<br />
บริษัทร่วม:<br />
บริษัท โคเฟลี (ประเทศไทย) จำกัด 5,629 5,628 5,629 5,628 MLR<br />
บริษัทที่เกี่ยวข้อง :<br />
บริษัท ศรีราชาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) * 11,355 11,355 11,355 11,355 ตามอัตราที่กำหนดไว้<br />
ในแผนฟื้นฟูกิจการ<br />
รวม 16,984 16,983 1,045,123 735,807<br />
หัก ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (11,355) (11,355) (11,355) (11,355)<br />
สุทธิ 5,629 5,628 1,033,768 724,452<br />
<br />
* ตามหลักเกณฑ์การตั้งสำรองของบริษัท ในส่วนของ บริษัท ศรีราชาฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) เป็นหนี้ยกมาตั้งแต่ปี 2540<br />
ซึ่งเกิดวิกฤติการณ์เศรษฐกิจ ต่อมาบริษัทที่เกี่ยวข้องกันได้เข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการ บริษัทยังมิได้ปรับสำรองในส่วนของหนี้<br />
ภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการ โดยจะดำเนินการปรับต่อเมื่อได้รับชำระหนี้จากลูกหนี้ ซึ่งได้ชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท<br />
ได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญสำหรับเงินให้กู้ยืมระยะสั้นในกิจการที่เกี่ยวข้องในขณะนั้นไว้เต็มจำนวน<br />
<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
64<br />
<br />
ยอดคงเหลือกับกิจการที่เกี่ยวข้องกัน - สินทรัพย์ มีการเปลี่ยนแปลงระหว่างปี 2553 เป็นดังนี้<br />
พันบาท<br />
ณ วันที่ การเคลื่อนไหวในระหว่างปี ณ วันที่<br />
31 ธันวาคม 2552 เพิ่มขึ้น ลดลง 31 ธันวาคม 2553<br />
งบการเงินรวม<br />
เงินให้กู้ยืมระยะสั้นและเงินทดรองแก่กิจการที่เกี่ยวข้องกัน<br />
บริษัทร่วม (1) 5,628 394,305 (394,304) 5,629<br />
บริษัทที่เกี่ยวข้อง 11,355 113 (113) 11,355<br />
รวม 16,983 394,418 (394,417) 16,984<br />
หัก ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (11,355) - - (11,355)<br />
สุทธิ 5,628 394,418 (394,417) 5,629<br />
งบการเงินเฉพาะบริษัท<br />
เงินให้กู้ยืมระยะสั้นและเงินทดรองแก่กิจการที่เกี่ยวข้องกัน<br />
บริษัทย่อย 718,824 1,198,125 (888,810) 1,028,139<br />
บริษัทร่วม 5,628 394,305 (394,304) 5,629<br />
บริษัทที่เกี่ยวข้อง 11,355 113 (113) 11,355<br />
รวม 735,807 1,592,543 (1,283,227) 1,045,123<br />
หัก ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (11,355) - - (11,355)<br />
สุทธิ 724,452 1,592,543 (1,283,227) 1,033,768<br />
(1) รายการเคลื่อนไหวในระหว่างปี 2553 ของบริษัทร่วมนั้น ประกอบด้วย เงินให้กู้ยืมแก่ บริษัท เหมราช สระบุรี ที่ดิน<br />
อุตสาหกรรม จำกัด (HSIL) จำนวน 380 ล้านบาท (หมายเหตุ 10.2) ดอกเบี้ยรับจำนวน 0.39 ล้านบาท และเงินปันผล<br />
รับจำนวน 13.91 ล้านบาท<br />
<br />
<br />
หนี้สิน<br />
พันบาท<br />
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะบริษัท นโยบายการคิด<br />
2553 2552 2553 2552 ต้นทุนระหว่างกัน<br />
เงินกู้ยืมระยะสั้นและเงินทดรองจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน<br />
กิจการที่เกี่ยวข้องกัน :<br />
บริษัท โกลว์ จำกัด (1) - 237,394 - 237,394 MLR – 2%<br />
บริษัท อาหารสยาม จำกัด (มหาชน) - 30,000 - - เงินปันผลค้างจ่าย<br />
รวม - 267,394 - 237,394<br />
เงินกู้ยืมระยะยาวจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน<br />
บริษัทย่อย :<br />
H-International (BVI) Company Limited - - 988,693 1,058,559 -<br />
รายได้ค่าสิทธิการเช่ารอตัดบัญชี<br />
บริษัทย่อย :<br />
บริษัท เหมราช คลีน วอเตอร์ จำกัด (2)<br />
รายได้ค่าสิทธิการเช่ารอตัดบัญชี - - 62,100 ตามราคาที่ตกลงร่วมกัน<br />
62,100<br />
หัก ตัดจำหน่ายสะสม - - (6,220) (3,736)<br />
<br />
รายได้ค่าสิทธิการเช่ารอตัดบัญชี สุทธิ - - 55,880 58,364<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
(1) บริษัทได้ทำสัญญากู้ยืมเงินระยะสั้นจากบริษัท โกลว์ จำกัด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำมาใช้ในการลงทุนซื้อหุ้นเพิ่มทุนใน<br />
บริษัท ห้วยเหาะไทย จำกัด (ถือหุ้นร้อยละ 51) โดยได้ชำระคืนทั้งจำนวนแล้วในปี 2553<br />
(2) บริษัทและบริษัทย่อย 3 แห่ง ได้ทำสัญญาให้เช่าสิทธิดำเนินการผลิตและจำหน่ายน้ำเพื่ออุตสาหกรรมกับบริษัท เหมราช<br />
คลีน วอเตอร์ จำกัด (เป็นบริษัทย่อย) เป็นจำนวนเงิน 559 ล้านบาทเป็นระยะเวลา 25 ปี<br />
<br />
ยอดคงเหลือกับกิจการที่เกี่ยวข้องกัน - หนี้สิน มีการเปลี่ยนแปลงระหว่างปี 2553 เป็นดังนี้<br />
<br />
พันบาท<br />
ณ วันที่ การเคลื่อนไหวในระหว่างปี ณ วันที่<br />
31 ธันวาคม 2552 เพิ่มขึ้น ลดลง 31 ธันวาคม 2553<br />
งบการเงินรวม<br />
เงินกู้ยืมระยะสั้นและเงินทดรองจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน<br />
บริษัทที่เกี่ยวข้อง 267,394 74,399 (341,793) -<br />
งบการเงินเฉพาะบริษัท<br />
เงินกู้ยืมระยะสั้นและเงินทดรองจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน<br />
บริษัทย่อย - 467,153 (467,153) -<br />
บริษัทที่เกี่ยวข้อง 237,394 2,399 (239,793) -<br />
เงินกู้ยืมระยะยาวจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน<br />
บริษัทย่อย 1,058,559 - (69,866) 988,693<br />
<br />
รายการค้าที่สำคัญกับบริษัทที่เกี่ยวข้องกันสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม มีดังนี้<br />
<br />
ล้านบาท<br />
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะบริษัท นโยบายการคิด<br />
2553 2552 2553 2552 ต้นทุนระหว่างกัน<br />
รายได้ค่าบริการ 1.02 0.01 14.59 11.53 ตามราคาตลาด<br />
ดอกเบี้ยรับ 0.50 0.25 24.28 10.66 MLR – 0.5% และ<br />
MLR<br />
รายได้ค่านายหน้า 23.13 33.18 76.54 67.00 5% -10% ของราคา<br />
และบริหารงาน<br />
ขายตามสัญญา<br />
และ 5%<br />
ของรายได้ค่าบริการรับ<br />
ต้นทุนบริการ 13.15 12.18 1.27 1.21 ตามราคาตลาด<br />
ต้นทุนทางการเงิน 2.40 5.34 2.92 24.24 MLR – 2.00%<br />
และ MLR – 0.50%<br />
รายได้ค่าสิทธิการเช่าตัดบัญชี - - 2.48 2.48 ตามราคาที่ตกลงร่วมกัน<br />
<br />
65<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
66<br />
6. เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด<br />
เพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดทำงบกระแสเงินสดตามมาตรฐานการบัญชีที่เกี่ยวข้อง เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด<br />
ณ วันที่ 31 ธันวาคม ประกอบด้วย<br />
<br />
พันบาท<br />
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะบริษัท<br />
2553 2552 2553 2552<br />
เงินสดและเงินฝากสถาบันการเงิน 563,033 904,334 247,737 525,111<br />
เงินลงทุนชั่วคราว - เงินฝากประจำ 2,953,581 5,096 2,753,500 17<br />
เงินฝากสถาบันการเงินที่มีภาระผูกพัน 766,177 2,059,901 766,177 2,059,901<br />
รวม 4,282,791 2,969,331 3,767,414 2,585,029<br />
หัก เงินฝากสถาบันการเงินที่มีภาระผูกพัน (766,177) (2,059,901) (766,177) (2,059,901)<br />
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 3,516,614 909,430 3,001,237 525,128<br />
<br />
7. ลูกหนี้การค้า สุทธิ<br />
ลูกหนี้การค้า สุทธิ ณ วันที่ 31 ธันวาคม ประกอบด้วย<br />
<br />
พันบาท<br />
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะบริษัท<br />
2553 2552 2553 2552<br />
กิจการที่เกี่ยวข้องกัน<br />
ลูกหนี้ค่าบริการ<br />
ค่าบริการค้างรับ - บริษัทย่อย - - 34,259 26,907<br />
ค่าบริการค้างรับ - บริษัทที่เกี่ยวข้อง 7,476 9,691 - 2,268<br />
ค่าบริการค้างรับ 7,476 9,691 34,259 29,175<br />
หัก ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (7,405) (7,405) - -<br />
ลูกหนี้ค่าบริการ สุทธิ 71 2,286 34,259 29,175<br />
ลูกหนี้การค้า - กิจการที่เกี่ยวข้องกัน สุทธิ 71 2,286 34,259 29,175<br />
กิจการอื่น<br />
ลูกหนี้ค่าบริการ<br />
ค่าบริการค้างรับ 156,579 107,211 34,892 28,854<br />
หัก ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (22,116) (22,445) (17,257) (19,586)<br />
ลูกหนี้ค่าบริการ สุทธิ 134,463 84,766 17,635 9,268<br />
ลูกหนี้อสังหาริมทรัพย์<br />
จำนวนเงินตามที่ได้ทำสัญญาจะซื้อจะขายแล้ว 31,001,064 28,859,504 8,414,177 7,879,676<br />
ค่างวดที่ถึงกำหนดชำระ 30,616,442 28,294,718 8,335,266 7,690,249<br />
หัก เงินรับชำระแล้ว (30,555,658) (28,246,504) (8,335,266) (7,690,249)<br />
ลูกหนี้อสังหาริมทรัพย์ สุทธิ 60,784 48,214 - -<br />
<br />
ลูกหนี้การค้า – กิจการอื่น สุทธิ 195,247 132,980 17,635 9,268<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
มูลค่างานที่เสร็จแต่ยังไม่ได้เรียกเก็บและค่างวดที่ยังไม่รับรู้เป็นรายได้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม ประกอบด้วย<br />
พันบาท<br />
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะบริษัท<br />
2553 2552 2553 2552<br />
การรับรู้รายได้ตามอัตราส่วนของงานที่ทำเสร็จ 30,214,752 27,998,012 8,413,334 7,736,000<br />
หัก ค่างวดที่ถึงกำหนดชำระ (30,616,442) (28,294,718) (8,335,266) (7,690,249)<br />
สุทธิ (401,690) (296,706) 78,068 45,751<br />
รายการดังกล่าวประกอบด้วย<br />
มูลค่างานที่เสร็จแต่ยังไม่ได้เรียกเก็บ 365,485 215,483 78,961 63,381<br />
ค่างวดที่ยังไม่รับรู้เป็นรายได้ (767,175) (512,189) (893) (17,630)<br />
สุทธิ (401,690) (296,706) 78,068 45,751<br />
<br />
ลูกหนี้การค้ากิจการอื่น - สุทธิ ณ วันที่ 31 ธันวาคม แยกตามอายุหนี้ที่ค้างชำระ ดังนี้<br />
<br />
พันบาท<br />
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะบริษัท<br />
2553 2552 2553 2552<br />
ค่าบริการค้างรับ<br />
ไม่เกิน 3 เดือน 134,463 84,766 17,635 9,268<br />
มากกว่า 3 เดือน ถึง 6 เดือน 2,383 868 - 526<br />
มากกว่า 6 เดือน ถึง 12 เดือน 199 1,423 - 1,357<br />
มากกว่า 12 เดือนขึ้นไป 19,534 20,154 17,257 17,703<br />
รวม 156,579 107,211 34,892 28,854<br />
หัก ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (22,116) (22,445) (17,257) (19,586)<br />
รวมค่าบริการค้างรับ สุทธิ 134,463 84,766 17,635 9,268<br />
ลูกหนี้อสังหาริมทรัพย์<br />
ไม่เกิน 3 เดือน 60,784 48,214 - -<br />
มากกว่า 3 เดือน ถึง 6 เดือน - - - -<br />
มากกว่า 6 เดือน ถึง 12 เดือน - - - -<br />
มากกว่า 12 เดือนขึ้นไป - - - -<br />
รวมลูกหนี้อสังหาริมทรัพย์ 60,784 48,214 - -<br />
ลูกหนี้การค้า - กิจการอื่น สุทธิ 195,247 132,980 17,635 9,268<br />
<br />
ในส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญของลูกหนี้การค้ากิจการที่เกี่ยวข้องกันจำนวน 7.40 ล้านบาท และกิจการอื่นจำนวน<br />
16.71 ล้านบาทเป็นรายการที่เกิดจากค่าบริการสาธารณูปโภคส่วนกลางในนิคมอุตสาหกรรมซึ่งบริษัทเหล่านี้ตั้งอยู่ โดยบริษัท<br />
เป็นผู้บริหารและจัดเก็บ ซึ่งเมื่อประเทศไทยเกิดภาวะวิกฤติการณ์เศรษฐกิจในปี 2540 บริษัทเหล่านี้ประสบปัญหาในการดำเนินงาน<br />
บริษัทได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ-ลูกหนี้ค่าบริการในขณะนั้นไว้เต็มจำนวนตามหลักเกณฑ์การตั้งสำรองของบริษัท ต่อมา<br />
บริษัทเหล่านี้ได้มีการปรับโครงสร้างหนี้ภายใต้คณะกรรมการปรับโครงสร้างหนี้ (CDRAC) หรือเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการภายใต้<br />
ศาลล้มละลาย บริษัทจะยังมิได้ปรับปรุงกลับสำรองในส่วนของหนี้ภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการของบริษัทเหล่านี้ จนกระทั่งเมื่อได้รับ<br />
ชำระหนี้ค่าบริการจากลูกหนี้เหล่านี้ซึ่งจะเป็นไปตามแผนฟื้นฟูกิจการหรือแผนปรับโครงสร้างหนี้ของแต่ละบริษัท<br />
67<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
68<br />
<br />
การเปลี่ยนแปลงหนี้สงสัยจะสูญในระหว่างปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม มีดังนี้<br />
พันบาท<br />
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะบริษัท<br />
2553 2552 2553 2552<br />
กิจการที่เกี่ยวข้องกัน<br />
ยอดคงเหลือต้นงวด 7,405 7,405 - -<br />
ตั้งเพิ่มในระหว่างงวด - - - -<br />
ได้รับชำระคืนในระหว่างงวด - - - -<br />
ยอดคงเหลือปลายงวด 7,405 7,405 - -<br />
กิจการอื่น<br />
ยอดคงเหลือต้นงวด 22,445 21,089 19,586 18,028<br />
ตั้งเพิ่มในระหว่างงวด 4,853 2,353 - 1,944<br />
ได้รับชำระคืนในระหว่างงวด (5,182) (997) (2,329) (386)<br />
ยอดคงเหลือปลายงวด 22,116 22,445 17,257 19,586<br />
<br />
8. ค่างวดที่ยังไม่รับรู้เป็นรายได้และรายได้รับล่วงหน้า<br />
ค่างวดที่ยังไม่รับรู้เป็นรายได้และรายได้รับล่วงหน้า ณ วันที่ 31 ธันวาคม ประกอบด้วย<br />
<br />
พันบาท<br />
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะบริษัท<br />
2553 2552 2553 2552<br />
ค่างวดที่ยังไม่รับรู้เป็นรายได้<br />
ลูกหนี้ตามสัญญาจะซื้อจะขาย (9,407,409) (10,834,878) (211,459) (211,459)<br />
หัก เงินรับผ่อนชำระจากลูกหนี้ 9,236,825 10,739,822 211,509 225,509<br />
เงินงวดค้างรับตามสัญญา (170,584) (95,056) 50 14,050<br />
หัก รายได้รอตัดบัญชี 920,998 607,245 843 3,580<br />
ค่างวดที่ยังไม่รับรู้เป็นรายได้ 750,414 512,189 893 17,630<br />
เงินมัดจำรับค่าอสังหาริมทรัพย์ 23,917 2,000 7,156 2,000<br />
ค่าบริการและค่าเช่ารับล่วงหน้า 87,552 85,494 3,656 549<br />
รวมค่างวดที่ยังไม่รับรู้เป็นรายได้และรายได้รับล่วงหน้า 861,883 599,683 11,705 20,179<br />
<br />
9. ต้นทุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สุทธิ<br />
ต้นทุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สุทธิ ณ วันที่ 31 ธันวาคม ประกอบด้วย<br />
<br />
พันบาท<br />
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะบริษัท<br />
2553 2552 2553 2552<br />
ต้นทุนที่ดินกำลังพัฒนา 8,757,844 7,682,741 1,909,333 1,909,333<br />
ต้นทุนในการพัฒนาโครงการ 14,476,996 13,491,101 4,293,424 4,285,231<br />
ต้นทุนทางการเงินที่บันทึกเป็นต้นทุนโครงการ 2,604,139 2,571,601 750,000 750,000<br />
งานเพิ่มเติมระบบงานสาธารณูปโภค 7,192 7,751 7,022 7,581<br />
เงินจ่ายล่วงหน้าค่าก่อสร้าง 22,236 3,023 154 1,150<br />
รวม 25,868,407 23,756,217 6,959,933 6,953,295<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
พันบาท<br />
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะบริษัท<br />
2553 2552 2553 2552<br />
หัก จำนวนที่รับรู้เป็นต้นทุนขายสะสม (17,101,081) (15,729,303) (5,282,927) (4,878,285)<br />
จำนวนที่โอนเป็นสินทรัพย์ให้เช่าสะสม (1,576,960) (1,511,095) (46,774) (46,774)<br />
จำนวนที่โอนสินทรัพย์เพื่อชำระหนี้ (143,838) (143,838) (143,838) (143,838)<br />
ต้นทุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สุทธิ 7,046,528 6,371,981 1,486,394 1,884,398<br />
69<br />
ต้นทุนทางการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม<br />
ที่รวมอยู่ในต้นทุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 32,538 64,041 - 4,125<br />
<br />
ข้อมูลเกี่ยวกับต้นทุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในบริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) บริษัท อีสเทิร์น อินดัสเตรียล<br />
เอสเตท จำกัด บริษัท อีสเทิร์น ซีบอร์ด อินดัสเตรียล เอสเตท (ระยอง) จำกัด บริษัท เหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด อินดัสเตรียล<br />
เอสเตท จำกัด บริษัท เหมราช สระบุรี ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด บริษัท เหมราช ระยอง ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด และ บริษัท<br />
เอสเอ็มอี แฟคทอรี่ จำกัด มีดังนี้<br />
การแสดงมูลค่าในงบการเงิน<br />
ต้นทุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 เป็นต้นทุนที่อยู่ในทำเลเดียวกันของแต่ละ<br />
บริษัท และแสดงในราคาทุนหรือมูลค่าสุทธิที่คาดว่าจะได้รับที่ต่ำกว่า<br />
ภาระผูกพันของสินทรัพย์<br />
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 ที่ดินบางส่วนในโครงการของบริษัทและบริษัทย่อยถูกจดจำนองเพื่อเป็นหลักประกัน<br />
ในการกู้ยืมเงินกับสถาบันการเงินในประเทศหลายแห่ง นิติบุคคล และบุคคลอื่น<br />
<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
70<br />
10. เงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม<br />
10.1 เงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม<br />
ณ วันที่ 31 ธันวาคม บริษัทมีเงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม ดังนี้<br />
<br />
มูลค่าเงินลงทุน (ล้านบาท) เงินปันผลรับ<br />
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะบริษัท มูลค่าทางบัญชี สำหรับปีสิ้นสุด<br />
ทุนชำระแล้ว (ล้านบาท) สัดส่วนเงินลงทุน (ร้อยละ) (ราคาทุน) ตามสัดส่วนเงินลงทุน วันที่ 31 ธันวาคม<br />
บริษัท 2553 2552 2553 2552 2553 2552 2553 2552 2553 2552 2553 2552<br />
บริษัทย่อย : เป็นผู้ถือหุ้นและมีกรรมการร่วมกัน<br />
บริษัท อีสเทิร์นอินดัสเตรียลเอสเตท จำกัด 400.00 400.00 99.99 99.99 - - 400.00 400.00 493.04 515.85 87.00 462.00<br />
บริษัท อีสเทิร์น ซีบอร์ด อินดัสเตรียล เอสเตท<br />
(ระยอง) จำกัด 358.00 358.00 60.00 60.00 - - 214.80 214.80 549.36 550.13 108.00 60.00<br />
บริษัท เหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด<br />
อิสดัสเตรียลเอสเตท จำกัด 1,000.00 1,000.00 99.99 99.99 - - 1,080.96 1,080.96 2,224.18 2,076.97 248.90 50.00<br />
บริษัท เหมราช สระบุรี ที่ดินอุตสาหกรรม<br />
จำกัด (*) (เดิมชื่อ “บริษัท เอส ไอ แอล<br />
ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด”) (1) 500.00 - 99.99 - - - 1,003.44 - 1,015.01 - - -<br />
บริษัท เหมราช ระยอง ที่ดินอุตสาหกรรม<br />
จำกัด (*) (เดิมชื่อ “บริษัท ระยองที่ดิน<br />
อุตสาหกรรม จำกัด”) (2) 1,000.00 - 99.99 - - - - - 1,007.29 - - -<br />
บริษัท อีสเทิร์น ไพพ์ไลน์ เซอร์วิสเซส จำกัด (3) 100.00 100.00 99.99 99.99 - - 56.34 56.34 83.16 108.85 23.25 17.59<br />
H-International (BVI) Company Limited (4) 0.08 0.08 100.00 100.00 - - 0.07 0.07 997.48 1,074.29 - -<br />
<strong>Hemaraj</strong> International Limited (5) 0.03 0.03 100.00 100.00 - - 0.03 0.03 0.03 0.03 - -<br />
บริษัท เอช-คอนสตรัคชั่น แมนเนจเม้นท์<br />
แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด 17.15 17.15 99.99 99.99 - - 17.15 17.15 16.65 17.86 - -<br />
บริษัท เดอะพาร์คเรสซิเดนซ์ จำกัด 0.25 0.25 99.99 99.99 - - 0.25 0.25 1.92 1.34 0.90 5.00<br />
บริษัท เหมราช วอเตอร์ จำกัด (6) 100.00 100.00 99.99 99.99 - - - - 126.04 118.15 - -<br />
บริษัท เอสเอ็มอี แฟคทอรี่ จำกัด 37.00 37.00 99.99 99.99 - - 37.00 37.00 36.02 37.21 - 0.05<br />
บริษัท เอช - ฟีนิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (7) 480.00 480.00 99.99 99.99 - - 480.00 480.00 484.88 483.57 2.40 6.40<br />
บริษัท เหมราช คลีน วอเตอร์ จำกัด 645.00 645.00 99.99 99.99 - - 645.00 645.00 668.36 663.72 63.85 50.31<br />
รวมเงินลงทุน - บริษัทย่อย - - 3,935.04 2,931.60 7,703.42 5,647.97 534.30 651.35<br />
<br />
* งบการเงินของบริษัทย่อยดังกล่าวตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีอื่นซึ่งรวมอยู่ในการจัดทำงบการเงินรวมสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 งบการเงินของบริษัทย่อยทั้งสองบริษัทมียอดรวมสินทรัพย์ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 เป็นจำนวนเงิน<br />
1,499.92 ล้านบาท มียอดรวมรายได้ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2553 เป็นจำนวนเงิน 29.42 ล้านบาท<br />
<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
เงินลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม (ต่อ)<br />
<br />
มูลค่าเงินลงทุน (ล้านบาท) เงินปันผลรับ<br />
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะบริษัท มูลค่าทางบัญชี สำหรับปีสิ้นสุด<br />
ทุนชำระแล้ว (ล้านบาท) สัดส่วนเงินลงทุน (ร้อยละ) (ราคาทุน) ตามสัดส่วนเงินลงทุน วันที่ 31 ธันวาคม<br />
บริษัท 2553 2552 2553 2552 2553 2552 2553 2552 2553 2552 2553 2552<br />
บริษัทร่วม : เป็นผู้ถือหุ้นและมีกรรมการร่วมกัน<br />
บริษัท โคเฟลี (ประเทศไทย) จำกัด<br />
(เดิมชื่อ “บริษัท เอลโย่-เอช ฟาซิลีตี้<br />
แมนเนจเมนท์ จำกัด”) 50.00 50.00 39.99 39.99 26.97 25.14 20.00 20.00 26.97 25.15 1.80 1.40<br />
บริษัท เหมราช สระบุรี ที่ดินอุตสาหกรรม<br />
จำกัด (เดิมชื่อ “บริษัท เอส ไอ แอล<br />
ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด”) (1) - 500.00 - 25.00 - 276.01 - 239.75 - 265.03 10.50 7.87<br />
บริษัท เหมราช ระยอง ที ่ดินอุตสาหกรรม จำกัด<br />
(เดิมชื่อ “บริษัท ระยองที่ดินอุตสาหกรรม<br />
จำกัด”) (2) - 1,000.00 - 25.00 - - - - - - - -<br />
บริษัท เก็คโค่-วัน จำกัด (8) 7,719.00 324.00 35.00 35.00 3,188.88 207.12 2,701.65 113.40 3,188.88 207.12 - -<br />
บริษัท ห้วยเหาะไทย จำกัด (9) 527.69 527.69 51.00 51.00 263.53 255.14 267.22 267.22 285.39 277.17 1.62 -<br />
บริษัท โรงไฟฟ้าห้วยเหาะ จำกัด (9) 50.00 50.00 12.75 12.75 - - - - - - - -<br />
(ล้านเหรียญสหรัฐ) (ล้านเหรียญสหรัฐ)<br />
รวมเงินลงทุน - บริษัทร่วม 3,479.38 763.41 2,988.87 640.37 3,501.24 774.47 13.92 9.27<br />
รวมเงินลงทุน 3,479.38 763.41 6,923.91 3,571.97 11,204.66 6,422.44 548.22 660.62<br />
เงินปันผลรับซึ่งแสดงในงบกำไรขาดทุนสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม<br />
บริษัทย่อย 534.30 651.35<br />
บริษัทร่วม 13.92 9.27<br />
บริษัทอื่น 63.12 34.92<br />
รวม 611.34 695.54<br />
<br />
(1) ในปี 2553 บริษัทได้จ่ายเงินค่าซื้อเงินลงทุนในบริษัท เหมราช สระบุรี ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด (HSIL) แก่บริษัท ซีเมนต์ไทย โฮลดิ้ง จำกัด (CHC) เป็นจำนวนเงิน 763.69 ล้านบาท (หมายเหตุ 10.2)<br />
(2) ถือหุ้นทางอ้อมโดยผ่านบริษัท เหมราช สระบุรี ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด ร้อยละ 99.99<br />
(3) ถือหุ้นทางตรง ร้อยละ 74.99 และถือหุ้นทางอ้อมโดยผ่านบริษัท อีสเทิร์นอินดัสเตรียลเอสเตท จำกัด อีกร้อยละ 25<br />
(4) H-International (BVI) Company Limited จดทะเบียนใน British Virgin Isl<strong>and</strong>s (ใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในการดำเนินธุรกิจ) ไม่มีการสำรองภาษีเงินได้ของประเทศไทยไว้สำหรับกำไรของบริษัทย่อยในต่างประเทศที่ยังไม่ได้แบ่งสรร เนื่องจากบริษัท<br />
ตั้งใจที่จะคงกำไรดังกล่าวไว้ที่บริษัทย่อยเพื่อวัตถุประสงค์ในการลงทุนต่อ<br />
(5) <strong>Hemaraj</strong> International Limited จดทะเบียนใน Cayman Isl<strong>and</strong>s (ใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในการดำเนินธุรกิจ) บริษัทใช้ข้อมูลจากงบการเงินที่จัดทำขึ้นโดยฝ่ายบริหารของบริษัทย่อยและไม่ผ่านการตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชี อย่างไรก็ตามยอดสินทรัพย์<br />
รวมและกำไรสุทธิที่แสดงในงบการเงินดังกล่าวไม่มีสาระสำคัญต่องบการเงินรวม<br />
71<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
72<br />
(6) ถือหุ้นทางอ้อมโดยผ่านบริษัท เหมราช คลีน วอเตอร์ จำกัด ร้อยละ 99.99<br />
(7) ในปี 2552 บริษัท เอช – ฟีนิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ได้เรียกชำระค่าหุ้นครบเต็มจำนวน และได้จดทะเบียนลดทุนจดทะเบียนลงเหลือ 480 ล้านบาท<br />
(8) ถือหุ้นทางตรงในบริษัท เก็คโค่-วัน จำกัดร้อยละ 35 ในปี 2553 บริษัทได้จ่ายชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนให้แก่บริษัท เก็คโค่-วัน จำกัด เป็นจำนวนเงิน 2,588.25 ล้าน<br />
บาท เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นเดิม<br />
(9) ถือหุ้นทางตรงในบริษัท ห้วยเหาะไทย จำกัด ร้อยละ 51 โดย บริษัท ห้วยเหาะไทย จำกัด ถือหุ้นในบริษัท โรงไฟฟ้าห้วยเหาะ จำกัด จดทะเบียนในประเทศ<br />
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (ใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในการดำเนินธุรกิจ) ร้อยละ 25 บริษัทไม่ได้จัดทำงบการเงินรวมในส่วนของ บริษัท ห้วยเหาะไทย<br />
จำกัด เนื่องจากบริษัทเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ส่วนผู้ลงทุนอื่นมีความเชี่ยวชาญในการดำเนินงานโรงไฟฟ้าทั้งหมด และผู้ลงทุนอื่นให้การสนับสนุนทางการเงินกับ<br />
บริษัทเพื่อนำไปลงทุนในบริษัท ห้วยเหาะไทย จำกัดโดยได้ชำระคืนทั้งจำนวนแล้วในปี 2553<br />
<br />
<br />
10.2 การซื้อธุรกิจ<br />
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2553 บริษัทจ่ายเงินค่าซื้อเงินลงทุนร้อยละ 75 ในบริษัท เหมราช สระบุรี ที่ดิน<br />
อุตสาหกรรม จำกัด (HSIL) ให้แก่บริษัท ซีเมนต์ไทย โฮลดิ้ง จำกัด (CHC) เป็นจำนวนเงิน 763.69 ล้านบาท<br />
ทำให้บริษัทถือหุ้นใน HSIL เพิ่มจากเดิมร้อยละ 25 เป็นร้อยละ 99.99 และเนื่องจาก HSIL ถือหุ้นในบริษัท<br />
เหมราช ระยอง ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด (HRIL) ร้อยละ 99.99 จึงทำให้บริษัทเป็นบริษัทใหญ่ของทั้ง HSIL<br />
และ HRIL ด้วย ดังนั้นงบการเงินรวมของบริษัทจึงได้รวมงบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และงบกำไร<br />
ขาดทุนสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2553 จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2553 ของบริษัทย่อย<br />
ทั้งสองแห่งดังกล่าว<br />
นอกจากการเข้าทำรายการซื้อเงินลงทุนโดยใช้สิทธิ์ซื้อหุ้นที่คงเหลือร้อยละ 75 จาก CHC แล้ว บริษัทได้ให้ HSIL<br />
กู้ยืมเงินจำนวน 380 ล้านบาทเพื่อจ่ายคืนเงินกู้ยืมระยะยาวให้แก่ CHC ด้วย<br />
การจ่ายซื้อเงินลงทุนใน HSIL เป็นจำนวนเงิน 763.69 ล้านบาทดังกล่าวข้างต้น ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2553 ก่อ<br />
ให้เกิดกำไรจากการต่อรองราคาซื้อ ซึ่งแสดงเป็นรายได้ในงบกำไรขาดทุนรวมสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม<br />
2553 เป็นจำนวนเงิน 144.15 ล้านบาท ตามรายละเอียดการซื้อธุรกิจดังต่อไปนี้<br />
(หน่วย : พันบาท)<br />
มูลค่ายุติธรรมสุทธิของสินทรัพย์และหนี้สิน<br />
สินทรัพย์<br />
เงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 34,731<br />
ลูกหนี้การค้า 19,452<br />
ต้นทุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 1,504,000<br />
สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น 2,091<br />
ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ สุทธิ 52,909<br />
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนอื่น 25 1,613,208<br />
หนี้สิน<br />
เจ้าหนี้การค้า 10,343<br />
เงินกู้ยืมระยะสั้นจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน 380,000<br />
ภาษีเงินได้นิติบุคคลค้างจ่าย 10,778<br />
หนี้สินหมุนเวียนอื่น 22,676 423,797<br />
สินทรัพย์สุทธิ 1,189,411<br />
<br />
เงินสดจ่ายซื ้อธุรกิจและมูลค่ายุติธรรมของส่วนได้เสียที ่ถืออยู ่ก่อนซื ้อธุรกิจ<br />
มูลค่ายุติธรรมของส่วนได้เสียที่ถืออยู่ก่อนซื้อธุรกิจ (ร้อยละ 25) 280,314<br />
เงินสดจ่ายซื ้อเงินลงทุนเพิ ่มเติม ณ วันที ่ 1 ตุลาคม 2553 (ร้อยละ 75) 763,689 1,044,003<br />
กำไรจากการต่อรองราคาซื้อ 145,408<br />
<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
บริษัทย่อยทั้งสองแห่งที่ซื้อมามีรายได้จากการขายรวมเป็นจำนวน 29.32 ล้านบาท และผลขาดทุนสุทธิรวมเป็น<br />
จำนวน 1.87 ล้านบาท ซึ่งรวมอยู่ในงบการเงินรวมของบริษัทสำหรับรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม<br />
2553 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2553 ถ้าการซื้อกิจการดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 รายได้รวม<br />
และกำไรสุทธิรวมในงบการเงินรวมของบริษัทย่อยทั้งสองแห่งสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 จะมี<br />
จำนวน 252.57 ล้านบาท และจำนวน 92.23 ล้านบาท ตามลำดับ<br />
<br />
11. เงินลงทุนระยะยาวอื่น สุทธิ<br />
เงินลงทุนระยะยาวอื่น สุทธิ ณ วันที่ 31 ธันวาคม ประกอบด้วย<br />
<br />
พันบาท<br />
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะบริษัท<br />
2553 2552 2553 2552<br />
กิจการที่เกี่ยวข้องกัน<br />
บริษัท ศรีราชา ฮาเบอร์ จำกัด (มหาชน) 15,000 15,000 - -<br />
บริษัท อีสเทิร์น ฟลูอิด ทรานสปอร์ต จำกัด 1,500 1,500 - -<br />
รวม 16,500 16,500 - -<br />
หัก ค่าเผื่อการด้อยค่าของเงินลงทุน (15,000) (15,000) - -<br />
เงินลงทุนระยะยาวอื่น - กิจการที่เกี่ยวข้องกัน สุทธิ 1,500 1,500 - -<br />
อื่นๆ<br />
บริษัท โกลว์ ไอพีพี จำกัด 142,500 142,500 142,500 142,500<br />
บริษัทอื่น 1,000 1,000 - -<br />
รวม 143,500 143,500 142,500 142,500<br />
หัก ค่าเผื่อการด้อยค่าของเงินลงทุน (717) (717) - -<br />
เงินลงทุนระยะยาวอื่น - อื่นๆ สุทธิ 142,783 142,783 142,500 142,500<br />
เงินลงทุนระยะยาวอื่น สุทธิ 144,283 144,283 142,500 142,500<br />
<br />
73<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
74<br />
12. สินทรัพย์ให้เช่า สุทธิ<br />
สินทรัพย์ให้เช่า สุทธิ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 ประกอบด้วย<br />
(หน่วย พันบาท)<br />
การเปลี่ยนแปลงราคาทุน การเปลี่ยนแปลงค่าเสื่อมราคาสะสม มูลค่าตามบัญชีสุทธิ<br />
ยอดต้นปี เพิ่มขึ้น จำหน่าย/โอน ยอดปลายปี ยอดต้นปี ค่าเสื่อมราคา จำหน่าย/โอน ยอดปลายปี ยอดต้นปี ยอดปลายปี<br />
งบการเงินรวม<br />
ที่ดิน (*) 388,524 - (2,144) 386,380 - - - - 388,524 386,380<br />
อาคาร (*) 1,917,051 - 20,381 1,937,432 392,263 96,338 (9,806) 478,795 1,524,788 1,458,637<br />
ส่วนปรับปรุงอาคาร 13,437 944 (145) 14,236 7,220 1,588 (28) 8,780 6,217 5,456<br />
เครื่องตกแต่งและติดตั้ง 3,407 582 - 3,989 891 781 - 1,672 2,516 2,317<br />
ฐานวางท่อขนถ่ายวัตถุ 242,064 31,754 25,040 298,858 111,754 18,874 - 130,628 130,310 168,230<br />
งานระหว่างก่อสร้าง 25,040 - (25,040) - - - - - 25,040 -<br />
สินทรัพย์ให้เช่า สุทธิ 2,589,523 33,280 18,092 2,640,895 512,128 117,581 (9,834) 619,875 2,077,395 2,021,020<br />
งบการเงินเฉพาะบริษัท<br />
ที่ดิน (*) 32,740 - (891) 31,849 - - - - 32,740 31,849<br />
อาคาร (*) 70,897 - (1,324) 69,573 13,129 3,526 (181) 16,474 57,768 53,099<br />
ส่วนปรับปรุงอาคาร 884 - - 884 68 44 - 112 816 772<br />
สินทรัพย์ให้เช่า สุทธิ 104,521 - (2,215) 102,306 13,197 3,570 (181) 16,586 91,324 85,720<br />
<br />
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะบริษัท<br />
2553 2552 2553 2552<br />
ค่าเสื่อมราคาที่รวมอยู่ในงบกำไรขาดทุนสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม :<br />
ต้นทุนบริการ 117,581 113,494 3,570 3,589<br />
<br />
(*) ที่ดินและอาคารให้เช่าเป็นส่วนที่โอนมาจากต้นทุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์<br />
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 สินทรัพย์ให้เช่าของบริษัทและบริษัทย่อยถูกจดจำนองเพื่อเป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงินกับสถาบันการเงินในประเทศหลายแห่ง และบุคคลอื่น<br />
<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
13. ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ สุทธิ<br />
ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ สุทธิ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 ประกอบด้วย<br />
(หน่วย พันบาท)<br />
การเปลี่ยนแปลงราคาทุน การเปลี่ยนแปลงค่าเสื่อมราคาสะสม มูลค่าตามบัญชีสุทธิ<br />
ยอดต้นปี เพิ่มขึ้น (*) จำหน่าย/โอน ยอดปลายปี ยอดต้นปี ค่าเสื่อมราคา (*) จำหน่าย/โอน ยอดปลายปี ยอดต้นปี ยอดปลายปี<br />
งบการเงินรวม<br />
ที่ดิน 4,579 1,420 - 5,999 - - - - 4,579 5,999<br />
อาคารและสิ่งปลูกสร้าง 138,815 73,229 44,373 256,417 51,054 53,571 - 104,625 87,761 151,792<br />
ส่วนปรับปรุงอาคาร 8,876 373,165 2,583 384,624 5,651 368,777 - 374,428 3,225 10,196<br />
เครื่องตกแต่งและอุปกรณ์ 196,738 277,936 3,865 478,539 121,899 281,505 - 403,404 74,839 75,135<br />
ยานพาหนะ 96,803 17,765 (419) 114,149 65,950 16,525 (419) 82,056 30,853 32,093<br />
ท่อส่งน้ำดิบ 129,167 13,281 74,309 216,757 12,629 11,433 - 24,062 116,538 192,695<br />
อ่างเก็บน้ำธรรมชาติ 26,315 - - 26,315 6,833 3,230 - 10,063 19,482 16,252<br />
ระบบผลิตน้ำเพื่ออุตสาหกรรม 100,506 - - 100,506 12,446 5,222 - 17,668 88,060 82,838<br />
งานระหว่างก่อสร้าง 24,946 117,437 (125,130) 17,253 - - - - 24,946 17,253<br />
รวม 726,745 874,233 (419) 1,600,559 276,462 740,263 (419) 1,016,306 450,283 584,253<br />
หัก ค่าเผื่อการด้อยค่าของสินทรัพย์ (*) (10,166) (10,166)<br />
ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ สุทธิ 440,117 574,087<br />
<br />
* ได้รวมทรัพย์สินจากการซื้อธุรกิจในราคาทุน 713.46 ล้านบาท และค่าเสื่อมราคาสะสม 676.81 ล้านบาท หากไม่รวมทรัพย์สินดังกล่าว สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 ทรัพย์สินรวมเพิ่มขึ้นจำนวน 160.77 ล้านบาท และมีค่าเสื่อมราคารวม<br />
จำนวน 63.45 ล้านบาท<br />
<br />
75<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
76<br />
13. ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ สุทธิ (ต่อ)<br />
(หน่วย พันบาท)<br />
การเปลี่ยนแปลงราคาทุน การเปลี่ยนแปลงค่าเสื่อมราคาสะสม มูลค่าตามบัญชีสุทธิ<br />
ยอดต้นปี เพิ่มขึ้น จำหน่าย/โอน ยอดปลายปี ยอดต้นปี ค่าเสื่อมราคา จำหน่าย/โอน ยอดปลายปี ยอดต้นปี ยอดปลายปี<br />
งบการเงินเฉพาะบริษัท<br />
ที่ดิน 2,983 - - 2,983 - - - - 2,983 2,983<br />
อาคารและสิ่งปลูกสร้าง 88,874 - - 88,874 25,907 5,716 - 31,623 62,967 57,251<br />
ส่วนปรับปรุงอาคาร 3,482 - - 3,482 3,290 54 - 3,344 192 138<br />
เครื่องตกแต่งและอุปกรณ์ 78,166 3,026 - 81,192 61,472 6,168 - 67,640 16,694 13,552<br />
ยานพาหนะ 44,927 11,341 - 56,268 36,232 4,658 - 40,890 8,695 15,378<br />
ท่อส่งน้ำดิบ 6,008 - - 6,008 3,415 400 - 3,815 2,593 2,193<br />
งานระหว่างก่อสร้าง 724 - - 724 - - - - 724 724<br />
รวม 225,164 14,367 - 239,531 130,316 16,996 - 147,312 94,848 92,219<br />
หัก ค่าเผื่อการด้อยค่าของสินทรัพย์ (*) (724) (724)<br />
ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ สุทธิ 94,124 91,495<br />
<br />
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะบริษัท<br />
2553 2552 2553 2552<br />
ค่าเสื่อมราคาที่รวมอยู่ในงบกำไรขาดทุนสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ <br />
31 ธันวาคม :<br />
ต้นทุนบริการ 41,488 32,399 2,021 1,905<br />
ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 21,965 24,067 14,975 16,522<br />
รวมค่าเสื่อมราคาสำหรับปี 63,453 56,466 16,996 18,427<br />
อาคารและอุปกรณ์ที่คิดค่าเสื่อมราคาเต็มจำนวนแล้วแต่ยังใช้งานอยู่ 763,692 113,859 81,438 65,830<br />
<br />
(*) ค่าเผื่อการด้อยค่าของสินทรัพย์ทั้งจำนวนเป็นค่าเผื่อการด้อยค่าสำหรับงานระหว่างก่อสร้างในส่วนที่หยุดดำเนินการก่อสร้าง<br />
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 ที่ดิน และอาคารของบริษัทและบริษัทย่อยถูกจดจำนองเพื่อเป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงินกับสถาบันการเงินในประเทศหลายแห่ง<br />
<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
14. สิทธิการเช่าและที่ดินเพื่อจัดหาผลประโยชน์ สุทธิ<br />
สิทธิการเช่าและที่ดินเพื่อจัดหาผลประโยชน์ สุทธิ ณ วันที่ 31 ธันวาคม ประกอบด้วย<br />
พันบาท<br />
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะบริษัท<br />
2553 2552 2553 2552<br />
ต้นทุนที่ดินรอการพัฒนา 10,201 10,201 10,201 10,201<br />
ต้นทุนที่ดินโครงการที่หยุดพัฒนาชั่วคราว 1,135,711 1,135,711 1,135,711 1,135,711<br />
ต้นทุนในการพัฒนาโครงการ<br />
ที่หยุดพัฒนาชั่วคราว 268,452 268,452 268,452 268,452<br />
ต้นทุนทางการเงินที่บันทึกเป็นต้นทุนโครงการ 556,119 556,119 556,119 556,119<br />
สิทธิการเช่าที่ดิน 77,077 77,077 77,077 77,077<br />
รวม 2,047,560 2,047,560 2,047,560 2,047,560<br />
หัก จำนวนที่รับรู้เป็นต้นทุนขายสะสม (841,514) (841,514) (841,514) (841,514)<br />
จำนวนที่โอนสินทรัพย์เพื่อชำระหนี้ (645,413) (645,413) (645,413) (645,413)<br />
ค่าเผื่อการลดมูลค่า (245,696) (245,696) (245,696) (245,696)<br />
สิทธิการเช่าและที่ดินเพื่อจัดหาผลประโยชน์ สุทธิ 314,937 314,937 314,937 314,937<br />
ข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิการเช่าและที่ดินเพื่อจัดหาผลประโยชน์ในบริษัท มีดังนี้<br />
การแสดงมูลค่าในงบการเงิน<br />
ในปี 2551 บริษัทจัดให้มีการประเมินราคาโดยบริษัทผู้ประเมินราคาอิสระ ซึ่งเกิดส่วนลดราคาตามบัญชีจากที่เคย<br />
ประเมินราคาในปี 2549 บริษัทได้บันทึกรายการส่วนลดดังกล่าวเป็นรายการ “ค่าเผื่อการการลดมูลค่าโครงการพัฒนา<br />
อสังหาริมทรัพย์” จำนวน 11.20 ล้านบาทไว้ในงบกำไรขาดทุนสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2551<br />
ภาระผูกพันของสินทรัพย์<br />
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 ที่ดินบางส่วนในโครงการของบริษัทนำไปจดจำนองเพื่อเป็นหลักประกัน<br />
ในการกู้ยืมเงินกับสถาบันการเงินภายในประเทศหลายแห่ง<br />
15. กองทุนจม สุทธิ<br />
ตามที่กล่าวไว้ในหมายเหตุประกอบงบการเงินที่ 29 บริษัทและบริษัทย่อยได้เข้าร่วมดำเนินโครงการจัดตั้งนิคม<br />
อุตสาหกรรมกับการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (“กนอ.”) ตามสัญญาร่วมดำเนินงานฯ ซึ่งกำหนดให้บริษัทและ<br />
บริษัทย่อยเป็นผู้ให้บริการระบบสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม และ<br />
ต้องจัดให้มีกองทุนเพื่อการบำรุงรักษาและสร้างทดแทนระบบสาธารณูปโภค และสิ่งอำนวยความสะดวกในนิคม<br />
อุตสาหกรรม (“กองทุนจม”) บริษัทและบริษัทย่อยได้ชำระเงินสดและโอนที่ดินอีกส่วนหนึ่งจัดตั้งเป็นกองทุนจม และยก<br />
สิทธิ์ในการเบิกจ่ายให้แก่ กนอ. ตามเงื่อนไขในสัญญา ทั้งนี้บริษัทและบริษัทย่อย ได้บันทึกเงินสดและที่ดินที่ชำระให้กับ<br />
การนิคมอุตสาหกรรมเพื่อเป็นกองทุนจม โดยอิงตามผลประโยชน์ที่จะได้รับในอนาคตตามสัญญาร่วมดำเนินงาน ซึ่ง<br />
ตัดจำหน่ายเป็นระยะเวลา 20 ปี<br />
กองทุนจม สุทธิ ณ วันที่ 31 ธันวาคม ประกอบด้วย<br />
พันบาท<br />
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะบริษัท<br />
2553 2552 2553 2552<br />
กองทุนจม 183,777 180,423 52,405 52,405<br />
หัก ตัดจำหน่ายสะสม (103,468) (98,063) (32,721) (31,191)<br />
กองทุนจม สุทธิ 80,309 82,360 19,684 21,214<br />
16. เงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน<br />
เงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน<br />
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 บริษัทมีเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงินในประเทศหลายแห่ง จำนวนเงินรวม 450<br />
ล้านบาท โดยมีอัตราดอกเบี้ย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 เท่ากับร้อยละ 4.40 ถึง 5.375 ต่อปี<br />
77<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
78<br />
เงินเบิกเกินบัญชี<br />
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 บริษัทและบริษัทย่อยมีวงเงินสำหรับเงินเบิกเกินบัญชีจากสถาบันการเงินใน<br />
ประเทศรวมทั้งสิ้น 160 ล้านบาท และ 140 ล้านบาท ตามลำดับ ในอัตราดอกเบี้ยร้อยละ MOR และ MOR + 0.50<br />
ต่อปี เงินเบิกเกินบัญชีดังกล่าว ค้ำประกันโดยการจดจำนองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์บาง<br />
ส่วนของบริษัทและบริษัทย่อย<br />
17. เงินกู้ยืมระยะสั้นจากกิจการและบุคคลอื่น<br />
เงินกู้ยืมระยะสั้นจากกิจการและบุคคลอื่น ณ วันที่ 31 ธันวาคม ประกอบด้วย<br />
พันบาท<br />
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะบริษัท<br />
2553 2552 2553 2552<br />
ตั๋วแลกเงินขายลดในอัตราร้อยละ 2.90-3.75<br />
โดยไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน<br />
- กิจการอื่น - 380,000 - 380,000<br />
- บุคคลอื่น - 40,000 - 40,000<br />
ตั๋วสัญญาใช้เงินอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4.75–5.50<br />
- บุคคลอื่น 30,000 30,000 - -<br />
รวมเงินกู้ยืมระยะสั้นจากกิจการและบุคคลอื่น 30,000 450,000 - 420,000<br />
<br />
18. หุ้นกู้<br />
ในปี 2553 บริษัทได้ออกจำหน่ายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิและไม่มีหลักประกัน จำนวนเงินรวม 6,000 ล้านบาท (6,000,000<br />
หน่วย มูลค่าตราไว้หน่วยละ 1,000 บาท) โดยออกจำหน่ายในราคาหน่วยละ 1,000 บาท จ่ายชำระดอกเบี้ยทุก<br />
ไตรมาส ออกเสนอขายแก่บุคคลในวงจำกัด ผู้ลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนรายใหญ่ ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้<br />
<br />
ครั้งที่ วันที่ ครบกำหนด อัตราดอกเบี้ย จำนวนเงิน (พันบาท)<br />
1/2553 5 มีนาคม 2553 5 มีนาคม 2556 ร้อยละ 4.50 450,000<br />
2/2553 8 เมษายน 2553 8 เมษายน 2556 ร้อยละ 4.50 562,000<br />
8 เมษายน 2553 8 เมษายน 2557 ร้อยละ 4.90 400,000<br />
3/2553 25 พฤษภาคม 2553 25 พฤษภาคม 2556 ร้อยละ 4.50 150,000<br />
25 พฤษภาคม 2553 25 พฤษภาคม 2558 ปีที่ 1-3 ร้อยละ 4.90 1,500,000<br />
ปีที่ 4 ร้อยละ 5.80 และ<br />
ปีที่ 5 ร้อยละ 6.50<br />
4/2553 21 กรกฎาคม 2553 21 กรกฎาคม 2560 ปีที่ 1-3 ร้อยละ 4.90 2,300,000<br />
ปีที่ 4-6 ร้อยละ 6.00 และ<br />
ปีที่ 7 ร้อยละ 6.50<br />
5/2553 5 ตุลาคม 2553 5 ตุลาคม 2562 ปีที่ 1-3 ร้อยละ 4.90 638,000<br />
ปีที่ 4-6 ร้อยละ 6.00<br />
ปีที่ 7 ร้อยละ 6.50 และ<br />
ปีที่ 8-9 ร้อยละ 6.75<br />
รวมทั้งสิ้น<br />
<br />
6,000,000<br />
19. เงินกู้ยืมระยะยาวและเงินทดรองจ่ายจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน<br />
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 บริษัทมีรายการเงินกู้ยืมจาก H-International (BVI) Company Limited ซึ่งเป็น<br />
บริษัทย่อยแห่งหนึ่งในต่างประเทศ จำนวนเงิน 21.66 ล้านเหรียญสหรัฐและ 332.38 ล้านบาท (2552: 21.66 ล้าน<br />
เหรียญสหรัฐและ 332.48 ล้าน<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
20. เงินกู้ยืมระยะยาวอื่น<br />
เงินกู้ยืมระยะยาวอื่น ณ วันที่ 31 ธันวาคม ประกอบด้วย<br />
<br />
เงื่อนไขการกู้ยืม เงินต้นคงเหลือ<br />
วงเงิน ระยะเวลา การจ่ายชำระดอกเบี้ย (ล้านบาท)<br />
(ล้านบาท) การให้สินเชื่อ การจ่ายชำระเงินต้น ทุกงวด อัตรา (ร้อยละ) ต่อปี 2553 2552<br />
บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) <br />
ก. เงินกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ ประกอบด้วย <br />
ก.1 450 มิถุนายน 2551 - ชำระคืนทุก 3 เดือน รวม 28 งวด เริ่มงวดแรก 9 เดือน สิ้นเดือน ปีที่ 1-2 MLR-1.50, 350.00 400.00<br />
ธันวาคม 2558 นับจากวันเบิกถอนเงินกู้งวดแรก ปีที่ 3-4 MLR-1.125,<br />
งวดที่ 1-12 ชำระคืนงวดละ 12.50 ล้านบาท ปีที่ 5 MLR–1.00<br />
งวดที่ 13-20 ชำระคืนงวดละ 15.00 ล้านบาท<br />
งวดที่ 21-27 ชำระคืนงวดละ 22.50 ล้านบาท<br />
งวดที่ 28 ชำระส่วนที่เหลือทั้งหมด<br />
ก.2 500 ธันวาคม 2551 - ชำระคืนทุก 3 เดือน รวม 16 งวด เริ่มงวดแรกในเดือน สิ้นเดือน MLR+0.50 450.00 500.00<br />
ธันวาคม 2556 มีนาคม 2553<br />
งวดที่ 1-8 ชำระคืนงวดละ 12.50 ล้านบาท<br />
งวดที่ 9-12 ชำระคืนงวดละ 37.50 ล้านบาท<br />
งวดที่ 13-16 ชำระคืนงวดละ 62.50 ล้านบาท<br />
ก.3 700 มีนาคม 2552 - ชำระคืนเมื่อมีการปลอดจำนองห้องชุดในโครงการ สิ้นเดือน ปีที่ 1 MLR-1.00, 328.75 589.81<br />
มีนาคม 2555 ปีที่ 2 MLR-0.75,<br />
ปีที่ 3 MLR-0.50<br />
ก.4 436 ธันวาคม 2552 - ชำระคืนทุก 6 เดือน เริ่มงวดแรกเมื่อครบ 13 เดือน สิ้นเดือน MLR - 280.00<br />
ธันวาคม 2557 นับจากวันเบิกถอนเงินกู้งวดแรก<br />
งวด 1 ชำระคืนงวดละ 92.00 ล้านบาท<br />
งวด 2-7 ชำระคืนงวดละ 53.00 ล้านบาท<br />
งวด 8 ชำระคืนงวดละ 13.00 ล้านบาท<br />
งวด 9 ชำระส่วนที่เหลือทั้งหมด<br />
หรือชำระคืนเมื่อมีการปลอดจำนองที่ดิน<br />
79<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
80<br />
<br />
เงินกู้ยืมระยะยาวอื่น (ต่อ)<br />
<br />
เงื่อนไขการกู้ยืม เงินต้นคงเหลือ<br />
วงเงิน ระยะเวลา การจ่ายชำระดอกเบี้ย (ล้านบาท)<br />
(ล้านบาท) การให้สินเชื่อ การจ่ายชำระเงินต้น ทุกงวด อัตรา (ร้อยละ) ต่อปี 2553 2552<br />
ก.5 <br />
1,000 ยังไม่ได้เบิกถอนเงินกู้ ชำระคืนทุก 6 เดือน เริ่มงวดแรกเมื่อครบ 13 เดือน สิ้นเดือน MLR - -<br />
งวดแรก นับจากวันเบิกถอนเงินกู้งวดแรก<br />
งวด 1 ชำระคืนงวดละ 208.00 ล้านบาท<br />
งวด 2-7 ชำระคืนงวดละ 122.00 ล้านบาท<br />
งวด 8 ชำระคืนงวดละ 30.00 ล้านบาท<br />
งวด 9 ชำระส่วนที่เหลือทั้งหมด<br />
หรือชำระคืนเมื่อมีการปลอดจำนองที่ดิน<br />
ก.6 332 กุมภาพันธ์ 2553 - ชำระคืนครั้งเดียวทั้งจำนวน เมื่อครบกำหนดระยะเวลา 60 เดือน สิ้นเดือน MLR 17.34 -<br />
กุมภาพันธ์ 2558 นับจากวันเบิกถอนเงินกู้งวดแรก หรือชำระคืน<br />
เมื่อมีการปลอดจำนองที่ดิน<br />
ก.7 800 ธันวาคม 2553 - ชำระคืนทุก 3 เดือน เริ่มงวดแรกในปี 2555 สิ้นเดือน MLR – 1.50 200.00 -<br />
มีนาคม 2560 ปี 2555 ชำระคืนงวดละ 38.50 ล้านบาท<br />
ปี 2556 - 2558 ชำระคืนงวดละ 43.25 ล้านบาท<br />
ปี 2559 ชำระคืนงวดละ 31.75 ล้านบาท<br />
ปี 2560 ชำระส่วนที่เหลือทั้งหมด<br />
หรือชำระคืนเมื่อมีการปลอดจำนองที่ดิน<br />
รวม 4,218 (*) 1,346.09 1,769.81<br />
(*) เงินกู้ยืมระยะยาวส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปีสำหรับงบการเงินเฉพาะบริษัท สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 เป็นจำนวนเงินประมาณ 353.75 ล้านบาท และ 389.81 ล้านบาท ตามลำดับ<br />
เงินกู้ยืมระยะยาวส่วนที่มีกำหนดชำระตามประมาณการโอนภายในหนึ่งปี สำหรับงบการเงินเฉพาะบริษัท สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 เป็นจำนวนเงินประมาณ 17.34 ล้านบาท และ 244.89 ล้านบาท ตามลำดับ<br />
<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
เงินกู้ยืมระยะยาวอื่น (ต่อ)<br />
เงื่อนไขการกู้ยืม เงินต้นคงเหลือ<br />
วงเงิน ระยะเวลา การจ่ายชำระดอกเบี้ย (ล้านบาท)<br />
(ล้านบาท) การให้สินเชื่อ การจ่ายชำระเงินต้น ทุกงวด อัตรา (ร้อยละ) ต่อปี 2553 2552<br />
บริษัท อีสเทิร์น ซีบอร์ด อินดัสเตรียล เอสเตท (ระยอง) จำกัด<br />
ก. เงินกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ ประกอบด้วย<br />
ก.1 300 มกราคม 2552 - ชำระคืนทุก 3 เดือน งวดละ 12.0 ล้านบาท เริ่มงวดแรกในเดือน สิ้นเดือน MLR-0.75 55.06 103.06<br />
ธันวาคม 2554 มีนาคม 2552 หรือชำระคืนเมื่อมีการปลอดจำนองที่ดิน <br />
ธันวาคม 2546 - ชำระคืนเมื่อมีการปลอดจำนองที่ดิน สิ้นเดือน ปีที่1-3 MLR-2.00,<br />
ธันวาคม 2551 ปีที่ 4-5 MLR-1.00<br />
ก.2 50 กรกฎาคม 2548 - ชำระคืนเป็นรายเดือนๆ ละ 0.84 ล้านบาท รวม 60 งวด สิ้นเดือน ปีที่ 1-2 MLR-1.75, 0.69 10.70<br />
กรกฎาคม 2554 เริ่มชำระงวดแรกในเดือนที่ 13 นับจากวันเบิกถอนเงินกู้งวดแรก ปีที่ 3-4 MLR-1.25,<br />
โดยในเดือนสุดท้ายให้ชำระส่วนที่เหลือทั้งจำนวน ปีที่ 5-6 MLR-1.00<br />
ก.3 80 ธันวาคม 2549 - ชำระคืนทุก 3 เดือน งวดละ 5 ล้านบาทเริ่มงวดแรกในเดือนที่ 15 สิ้นเดือน ปีที่ 1 MLR-1.00, - 15.73<br />
ธันวาคม 2554 นับจากวันเบิกถอนเงินกู้งวดแรก ปีที่ 2 MLR-0.75,<br />
ปีที่ 3 MLR-0.50,<br />
ปีที่ 4-5 MLR <br />
ก.4 175 กันยายน 2551 - ชำระคืนทุก 3 เดือน งวดละ 7.0 ล้านบาท รวม 25 งวด โดย สิ้นเดือน MLR-1.50 90.00 118.00<br />
กันยายน 2558 งวดที่ 25 ชำระส่วนที่เหลือทั้งหมด เริ่มงวดแรกในเดือนที่ 13 <br />
นับจากวันเบิกถอนเงินกู้ งวดแรก หรือชำระคืนเมื่อมีการปลอด<br />
จำนองที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง<br />
<br />
81<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
82<br />
เงินกู้ยืมระยะยาวอื่น (ต่อ)<br />
<br />
เงื่อนไขการกู้ยืม เงินต้นคงเหลือ<br />
วงเงิน ระยะเวลา การจ่ายชำระดอกเบี้ย (ล้านบาท)<br />
(ล้านบาท) การให้สินเชื่อ การจ่ายชำระเงินต้น ทุกงวด อัตรา (ร้อยละ) ต่อปี 2553 2552<br />
ข. เงินกู้ยืมจากบุคคลอื่น<br />
ข.1 63 มีนาคม 2551 - ชำระคืนทุก 3 เดือน งวดละ 3 ล้านบาท เริ่มชำระงวดแรก สิ้นเดือน MLR-0.875 ของ 18.00 45.00<br />
มีนาคม 2554 กันยายน 2551 ธนาคารกสิกรไทยจำกัด <br />
(มหาชน)<br />
รวม 668 163.75 292.49<br />
บริษัท เหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด อิสดัสเตรียลเอสเตท จำกัด<br />
ก. เงินกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ ประกอบด้วย<br />
ก.1 800 ธันวาคม 2548 - ชำระคืนเมื่อมีการปลอดจำนองที่ดิน สิ้นเดือน MLR-1.00 151.35 228.30<br />
ธันวาคม 2553<br />
ก.2 245 มิถุนายน 2550 - ปลอดชำระเงินต้น 2 ปี โดยปีที่ 3-5 ชำระคืนเงินต้นทุก สิ้นเดือน MLR-1.00 115.24 196.92<br />
มิถุนายน 2555 ไตรมาสๆ ละ 20.42 ล้านบาท กำหนดชำระหนี้ให้เสร็จสิ้นใน 5 ปี <br />
นับจากวันที่จัดทำสัญญา หรือชำระคืนเมื่อมีการปลอดจำนองที่ดิน<br />
ก.3 245 พฤศจิกายน 2551 - ชำระคืนทุก 3 เดือน งวดละ 12.09 ล้านบาท รวม 24 งวด สิ้นเดือน MLR-1.00 125.73 232.91<br />
พฤศจิกายน 2558 เริ่มงวดแรกในเดือนที่ 13 นับจากวันที่จัดทำสัญญา หรือชำระคืน<br />
เมื่อมีการปลอดจำนองที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง<br />
รวม 1,290 392.32 658.13<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
เงินกู้ยืมระยะยาวอื่น (ต่อ)<br />
<br />
เงื่อนไขการกู้ยืม เงินต้นคงเหลือ<br />
วงเงิน ระยะเวลา การจ่ายชำระดอกเบี้ย (ล้านบาท)<br />
(ล้านบาท) การให้สินเชื่อ การจ่ายชำระเงินต้น ทุกงวด อัตรา (ร้อยละ) ต่อปี 2553 2552<br />
บริษัท อีสเทิร์นอินดัสเตรียลเอสเตท จำกัด<br />
ก. เงินกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ ประกอบด้วย<br />
ก.1 300 พฤษภาคม 2552 - ชำระคืนทุก 3 เดือน งวดละ 37.50 ล้านบาท รวม 12 งวด สิ้นเดือน ปีที่ 1 MLR-1, 54.81 129.81<br />
พฤษภาคม 2555 หรือชำระคืนเมื่อมีการปลอดจำนองที่ดิน ปีที่ 2-3 MLR-0.75<br />
รวม 300 54.81 129.81<br />
บริษัท เหมราช วอเตอร์ จำกัด<br />
ก. เงินกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ ประกอบด้วย<br />
ก.1 80 ธันวาคม 2549 - ชำระคืนเป็นรายเดือนๆ ละ 1.34 ล้านบาท รวม 60 งวด สิ้นเดือน ปีที่ 1-2 MLR-0.50, 23.94 40.02<br />
ธันวาคม 2555 เริ่มชำระงวดแรกในเดือนที่ 13 นับจากวันที่ลงนามในสัญญาเงินกู้ ปีต่อไป MLR-0.25<br />
โดยในเดือนสุดท้ายให้ชำระส่วนที่เหลือทั้งจำนวน<br />
รวม 80 23.94 40.02<br />
รวมทั้งสิ้น 6,556 1,980.91 2,890.26<br />
หัก เงินกู้ยืมระยะยาวส่วนที่ถึงกำหนดชำระภายในหนึ่งปี (656.43) (719.48)<br />
เงินกู้ยืมระยะยาวส่วนที่มีกำหนดชำระตามประมาณการโอนภายในหนึ่งปี * (93.50) (311.64)<br />
เงินกู้ยืมระยะยาวอื่น สุทธิ 1,230.98 1,859.14<br />
<br />
ที่ดินส่วนใหญ่ในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และสินทรัพย์ให้เช่า ของบริษัทและบริษัทย่อยจดจำนองเพื่อค้ำประกันเงินกู้ยืมดังกล่าว<br />
* เงินกู้ยืมระยะยาวส่วนที่มีกำหนดชำระตามประมาณการโอนภายในหนึ่งปีเป็นส่วนของเงินกู้ยืมระยะยาวที่ประมาณว่าจะคืนให้กับสถาบันการเงินเมื่อมีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินตามเงื่อนไขการกู้ยืม<br />
83<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
84<br />
<br />
21. ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ<br />
บริษัทออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญจำนวน 141,531,150 หน่วย ตามมติที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นของ<br />
บริษัท เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2542 โดยจำหน่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมและนักลงทุนโดยเฉพาะเจาะจง ในราคาหน่วยละ<br />
0.10 บาท ได้รับเงินจากการจำหน่ายทั้งสิ้นจำนวนเงินประมาณ 14.15 ล้านบาท และได้ดำเนินการจดทะเบียนใบ<br />
สำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ)<br />
และตลาดหลักทรัพย์ฯได้อนุมัติให้เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2542 เป็นต้นมา<br />
เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2544 ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทครั้งที่ 1/2544 มีมติให้ขยายอายุใบสำคัญแสดงสิทธิ<br />
เป็น 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยจะสิ้นสุดในวันที่ 30 กันยายน 2552 และให้ปรับลดราคาการใช้<br />
สิทธิเป็นราคาหุ้นละ 3 บาท<br />
ต่อมาเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2545 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 1/2545 มีมติอนุมัติการปรับจำนวนหน่วย<br />
ของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มขึ้นจำนวน 2.33333 หน่วย ต่อจำนวน 1 หน่วยเดิม ตามแนวทางปฏิบัติ<br />
เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิในประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และ<br />
ตลาดหลักทรัพย์ รวมจำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญหลังปรับทั้งสิ้น 471,686,471 หน่วย โดยมีอัตรา<br />
การใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ 1 หน่วย ต่อหุ้นสามัญ 1 หุ้น ในราคาหุ้นละ 3 บาท<br />
เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2546 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 7/2546 มีมติเรื่องการปรับสิทธิให้เป็นไปตาม<br />
เงื่อนไขซึ่งระบุในหนังสือชี้ชวน จากเดิม 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อ 1 หุ้นสามัญ เป็น 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อ<br />
1.05918 หุ้นสามัญ โดยการเปลี่ยนแปลงราคาการใช้สิทธิจะไม่มีการปรับ แต่จะนำไปรวมสะสมกับการปรับสิทธิในครั้ง<br />
ต่อไป ซึ่งการปรับสิทธิดังกล่าวจะมีผลบังคับทันทีนับแต่วันแรกของการเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่<br />
ต่อมาเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2546 ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทมีมติอนุมัติให้เปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้น เป็นผลให้<br />
อัตราการใช้สิทธิเปลี่ยนแปลงจากเดิม 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ ต่อ 1.05918 หุ้นสามัญ เป็น 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิต่อ<br />
10.5918 โดยมีราคาการใช้สิทธิ 0.283 บาทต่อหุ้น แต่เนื่องจากตามแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการใช้<br />
สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิในประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ อนุญาตให้บริษัท<br />
สามารถเลือกใช้วิธีการปรับจำนวนหน่วยของใบสำคัญแสดงสิทธิแทนการปรับอัตราการใช้สิทธิได้ ดังนั้นบริษัทจึงเลือกวิธี<br />
การปรับจำนวนหน่วย ซึ่งส่งผลให้จำนวนใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญจากเดิม 427,084,638 หน่วย เพิ่มขึ้น<br />
เป็นจำนวน 4,527,831,794 หน่วยโดยมีอัตราการใช้สิทธิอัตราเดิมคือ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิต่อ 1 หุ้นสามัญ ในราคา<br />
การใช้สิทธิ 0.283 บาทต่อหุ้น<br />
ณ วันที่ 30 กันยายน 2552 ยอดคงเหลือของใบสำคัญ แสดงสิทธิซื้อหุ้นสามัญที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิดังกล่าว 4,202,737<br />
หน่วย โดยใบสำคัญแสดงสิทธิจำนวนที่เหลือนี้ได้พ้นจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตั้งแต่วันที่<br />
16 กันยายน 2552 และไม่สามารถใช้สิทธิแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญได้อีก<br />
<br />
22. ทุนสำรองตามกฎหมายและงินปันผลจ่าย<br />
ทุนสำรองตามกฎหมายของบรัษัท<br />
เพื่อให้เป็นไปตามมาตรา 116 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 บริษัทจะต้องจัดสรรกำไรสุทธิ<br />
ประจำปีส่วนหนึ่งไว้เป็นทุนสำรองไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของกำไรสุทธิประจำปีหักด้วยยอดขาดทุนสะสมยกมา (ถ้ามี)<br />
จนกว่าทุนสำรองนี้จะมีจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของทุนจดทะเบียน ทุนสำรองตามกฎหมายดังกล่าวไม่สามารถนำ<br />
ไปจ่ายเป็นเงินปันผลได้<br />
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 บริษัทได้จัดสรรกำไรสุทธิสำหรับปี จำนวน 31.36 ล้านบาท และ 29.83<br />
ล้านบาท ตามลำดับ ไปเป็นทุนสำรองตามกฎหมาย<br />
ทุนสำรองตามกฎหมายของบริษัทย่อย<br />
ตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บริษัทย่อยต้องจัดสรรกำไรสุทธิสำหรับปีส่วนหนึ่งไว้เป็น<br />
ทุนสำรองตามกฎหมายไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 ของกำไรสุทธิทุกคราวที่ประกาศจ่ายเงินปันผลจนกว่าทุนสำรองนี้จะมี<br />
จำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของทุนจดทะเบียน ทุนสำรองตามกฎหมายดังกล่าวไม่สามารถนำไปจ่ายเป็นเงินปันผลได้<br />
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 และ 2552 บริษัทย่อยได้จัดสรรกำไรสุทธิสำหรับปี จำนวน 21.22 ล้านบาท และ<br />
37.98 ล้านบาท ตามลำดับ ไปเป็นทุนสำรองตามกฎหมาย<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
เงินปันผลจ่าย<br />
เงินปันผลจ่าย เงินปันผล<br />
เงินปันผล อนุมัติโดย (ล้านบาท) จ่ายต่อหุ้น วันที่จ่ายเงินปันผล<br />
2553<br />
เงินปันผลระหว่างกาลสำหรับปี 2553 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อ 242.58 0.025 8 กันยายน 2553<br />
วันที่ 10 สิงหาคม 2553<br />
เงินปันผลประกาศจ่ายจากกำไร ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท 291.15 0.030 17 พฤษภาคม 2553<br />
ของปี 2552 วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2553 และ<br />
ที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2553<br />
วันที่ 29 เมษายน 2553<br />
รวมเงินปันผลจ่ายระหว่างปี 2553 533.73 0.055<br />
2552<br />
เงินปันผลประกาศจ่ายจากกำไรของ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อ 328.36 0.035 15 พฤษภาคม 2552<br />
ปี 2551 วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2552 และ<br />
ที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2552<br />
วันที่ 29 เมษายน 2552<br />
รวมเงินปันผลจ่ายระหว่างปี 2552 328.36 0.035<br />
<br />
<br />
23. ค่าตอบแทนกรรมการ<br />
ค่าตอบแทนกรรมการซึ่งประกอบด้วย เบี้ยประชุมและค่าตอบแทนรายปีของคณะกรรมการและกรรมการชุดย่อย<br />
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม มีจำนวนดังนี้<br />
<br />
ล้านบาท<br />
2553 2552<br />
บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) 16.15 15.80<br />
บริษัท อีสเทิร์น ซีบอร์ด อินดัสเตรียล เอสเตท (ระยอง) จำกัด 8.54 8.54<br />
<br />
รวม 24.69 24.34<br />
24. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ<br />
บริษัทและบริษัทย่อยทั้ง 5 คือ บริษัท อีสเทิร์นอินดัสเตรียลเอสเตท จำกัด บริษัท อีสเทิร์น ซีบอร์ด อินดัสเตรียล<br />
เอสเตท (ระยอง) จำกัด บริษัท อีสเทิร์น ไพพ์ไลน์ เซอร์วิสเซส จำกัด บริษัท เอช-คอนสตรัคชั่น แมนเนจเม้นท์ แอนด์<br />
เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด และบริษัท เอช - ฟีนิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ร่วมกันจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพทิสโก้ร่วมทุน<br />
มั่นคง ซึ่งจดทะเบียนแล้ว ตามพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ.2530 จึงไม่มียอดปรากฏในงบดุล สมาชิก<br />
ประกอบด้วยพนักงานประจำของบริษัทและบริษัทย่อย ตามระเบียบของกองทุน ในแต่ละเดือนสมาชิกและบริษัทจ่ายเงิน<br />
สะสมเข้ากองทุนในอัตราร้อยละ 4 ถึงร้อยละ 10 ของค่าจ้างโดยขึ้นกับอายุงาน สมาชิกมีสิทธิได้รับเงินสะสมของ<br />
สมาชิกคืนทั้งจำนวนรวมทั้งผลประโยชน์สุทธิ และได้รับเงินสมทบของบริษัทรวมทั้งผลประโยชน์สุทธิ ในอัตราที่กำหนด<br />
ตามอายุงานของสมาชิก กองทุนสำรองเลี้ยงชีพนี้บริหารโดย บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด ในระหว่าง<br />
ปี 2553 และ 2552 บริษัทและบริษัทย่อยจ่ายสมทบเข้ากองทุนเป็นจำนวนเงินประมาณ 9.53 ล้านบาท และ 9.01<br />
ล้านบาท (เฉพาะบริษัท : จำนวนเงินประมาณ 4.35 ล้านบาท และ 4.09 ล้านบาท) ตามลำดับ<br />
85<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
86<br />
บริษัทย่อยอีก 2 บริษัท คือ บริษัท เหมราช สระบุรี ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด และบริษัท เหมราช ระยอง ที่ดิน<br />
อุตสาหกรรม จำกัด ร่วมกันจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานจัดการบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่ง<br />
จดทะเบียนแล้ว และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เครือซิเมนต์ไทย ซึ่งจดทะเบียนแล้ว ตามพระราชบัญญัติกองทุนสำรอง<br />
เลี้ยงชีพ พ.ศ.2530 จึงไม่มียอดปรากฏในงบดุล สมาชิกประกอบด้วยพนักงานประจำของบริษัทย่อย ตามระเบียบ<br />
ของกองทุน ในแต่ละเดือนสมาชิกและบริษัทจ่ายเงินสะสมเข้ากองทุนในอัตราร้อยละ 3 ถึงร้อยละ 10 ของค่าจ้างโดย<br />
ขึ้นกับอายุงาน สมาชิกมีสิทธิได้รับเงินสะสมของสมาชิกคืนทั้งจำนวนรวมทั้งผลประโยชน์สุทธิ และได้รับเงินสมทบของ<br />
บริษัทรวมทั้งผลประโยชน์สุทธิ ในอัตราที่กำหนดตามอายุงานของสมาชิก กองทุนสำรองเลี้ยงชีพนี้บริหารโดย บริษัท<br />
หลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม ไอเอ็นจี จำกัด ในระหว่างปี 2553 บริษัทย่อยทั้งสองแห่งจ่ายสมทบเข้ากองทุน<br />
เป็นจำนวนเงินประมาณ 0.14 ล้านบาท<br />
<br />
25. ค่าใช้จ่ายตามลักษณะ<br />
ค่าใช้จ่ายสำคัญ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม ซึ่งจำแนกตามลักษณะได้ดังนี้<br />
<br />
ล้านบาท<br />
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะบริษัท<br />
2553 2552 2553 2552<br />
การเปลี่ยนแปลงในต้นทุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (674.55) (385.37) 398.00 (160.97)<br />
การลงทุนในต้นทุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 2,085.53 800.89 7.20 142.76<br />
ต้นทุนทางการเงินที่ถือเป็นรายจ่ายฝ่ายทุน 32.54 64.04 - 4.12<br />
การลงทุนในต้นทุนโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์<br />
ที่ถือเป็นรายจ่ายฝ่ายทุน (29.96) (79.17) - -<br />
ค่าใช้จ่ายพนักงาน 240.21 216.31 118.24 105.41<br />
ค่าเสื่อมราคาและค่าใช้จ่ายตัดบัญชี 186.44 175.04 22.10 23.55<br />
ภาษีธุรกิจเฉพาะและค่าธรรมเนียมโอนที่ดิน 62.41 1.32 13.14 (0.06)<br />
ค่าธรรมเนียมให้คำแนะนำและปรึกษา 81.42 18.60 70.05 11.98<br />
ขาดทุน(กำไร)จากอัตราแลกเปลี่ยน 0.17 (0.03) (69.58) (33.98)<br />
<br />
<br />
26. ภาษีเงินได้นิติบุคคล<br />
บริษัทและบริษัทย่อยบันทึกภาษีเงินได้นิติบุคคลทางบัญชีในส่วนของกิจการเกี่ยวกับการขายอสังหาริมทรัพย์ตามหลัก<br />
การรับรู้รายได้และต้นทุนตามวิธีอัตราส่วนของงานที่ทำเสร็จ ส่วนภาษีเงินได้นิติบุคคลตามประมวลรัษฎากรคำนวณตาม<br />
จำนวนเงินค่างวดที่ถึงกำหนดชำระ ทั้งนี้บริษัทและบริษัทย่อยจะทบทวนผลแตกต่างที่เกิดขึ้นนี้ในสิ้นงวดของรอบระยะ<br />
เวลาบัญชีในแต่ละปี รายละเอียดเกี่ยวกับภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม มีดังนี้<br />
<br />
ล้านบาท<br />
งบการเงินรวม งบการเงินเฉพาะบริษัท<br />
2553 2552 2553 2552<br />
ภาษีเงินได้นิติบุคคลทางบัญชี 46.90 (46.79) (44.05) (102.30)<br />
ภาษีเงินได้นิติบุคคลตามประมวลรัษฎากร 68.28 87.90 - 34.32<br />
<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
27. ข้อมูลทางการเงินจำแนกตามส่วนงาน<br />
รายการจัดประเภทสินทรัพย์ของแต่ละส่วนงานทางธุรกิจในประเทศและต่างประเทศในงบดุลรวม ณ วันที่ 31 ธันวาคม มีดังนี้<br />
<br />
ล้านบาท<br />
2553 2552<br />
ในประเทศ ต่างประเทศ ในประเทศ ต่างประเทศ<br />
ธุรกิจ Holding ธุรกิจ Holding<br />
อสังหาริมทรัพย์ อื่นๆ Company รวม อสังหาริมทรัพย์ อื่นๆ Company รวม<br />
ต้นทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สุทธิ 7,046.53 - - 7,046.53 6,371.98 - - 6,371.98<br />
สิทธิการเช่าและที่ดินเพื่อจัดหาผลประโยชน์ สุทธิ 314.94 - - 314.94 314.94 - - 314.94<br />
สินทรัพย์ให้เช่า สุทธิ 1,852.79 168.23 - 2,021.02 1,922.04 155.35 - 2,077.39<br />
ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ สุทธิ 280.46 293.63 - 574.09 244.19 195.93 - 440.12<br />
สินทรัพย์อื่น 8,610.57 134.66 13.59 8,758.82 4,340.96 114.72 20.56 4,476.24<br />
รวมสินทรัพย์ 18,105.29 596.52 13.59 18,715.40 13,194.11 466.00 20.56 13,680.67<br />
<br />
87<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
88<br />
ข้อมูลทางการเงินจำแนกตามส่วนงาน (ต่อ)<br />
ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินงานตามประเภทส่วนงานทางธุรกิจในประเทศและต่างประเทศในงบกำไรขาดทุนรวม สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม มีดังนี้<br />
<br />
ล้านบาท<br />
2553 2552<br />
ในประเทศ ต่างประเทศ ในประเทศ ต่างประเทศ<br />
ธุรกิจ Holding ธุรกิจ Holding<br />
อสังหาริมทรัพย์ อื่นๆ Company รวม อสังหาริมทรัพย์ อื่นๆ Company รวม<br />
รายได้จากการขายที่ดิน 1,486.18 - - 1,486.18 688.62 - - 688.62<br />
รายได้จากการขายอาคารโรงงานอุตสาหกรรมสำเร็จรูป 272.18 - - 272.18 42.78 - - 42.78<br />
รายได้จากการขายอาคารชุด 493.72 - - 493.72 (57.47) - - (57.47)<br />
รายได้ค่าบริการ 921.79 511.38 - 1,433.17 952.01 423.82 - 1,375.83<br />
รวมรายได้จากการขายและบริการ 3,173.87 511.38 - 3,685.25 1,625.94 423.82 - 2,049.76<br />
กำไร(ขาดทุน) จากการดำเนินงาน 522.88 368.66 (5.20) 886.34 167.82 305.14 (5.25) 467.71<br />
รายได้อื่น 188.46 1.09 - 189.55 172.32 0.60 - 172.92<br />
กำไรจากการต่อรองราคาซื้อ 145.41 - - 145.41 - - - -<br />
กำไร(ขาดทุน)จากอัตราแลกเปลี่ยน (0.18) - - (0.18) 0.03 - - 0.03<br />
ค่าตอบแทนกรรมการ (24.69) - - (24.69) (25.44) - - (25.44)<br />
ส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุน ตามวิธีส่วนได้เสีย<br />
- บริษัทร่วม 421.95 - - 421.95 80.62 - - 80.62<br />
ต้นทุนทางการเงิน (282.18) (1.89) - (284.07) (140.94) (2.82) - (143.76)<br />
ภาษีเงินได้ (25.85) (21.05) - (46.90) 62.40 (15.60) - 46.80<br />
กำไร(ขาดทุน)หลังภาษีเงินได้ 945.81 346.81 (5.20) 1,287.41 316.81 287.32 (5.25) 598.88<br />
กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นส่วนน้อย (71.49) (23.64)<br />
กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่ 1,215.92 575.24<br />
<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
28. สินทรัพย์ที่ใช้เป็นหลักประกัน<br />
สินทรัพย์ที่ใช้เป็นหลักประกัน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 ประกอบด้วย<br />
<br />
บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน)<br />
1. เงินฝากประจำ จำนวนเงินประมาณ 766.18 ล้านบาท เพื่อเป็นหลักประกันการร่วมทุนของบริษัทแก่เจ้าหนี้<br />
สถาบันการเงินในโครงการของบริษัท เก็คโค่-วัน จำกัด<br />
2. เงินลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท เหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด อินดัสเตรียล เอสเตท จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย<br />
จำนำเป็นหลักประกันการกู้ยืมเงินกู้ระยะยาวให้กับบริษัทย่อยดังกล่าว<br />
3. เงินลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท เก็คโค่-วัน จำกัด จำนวน 221.34 ล้านหุ้น จำนำเพื่อเป็นหลักประกันการกู้ยืม<br />
เงินให้กับบริษัทดังกล่าว<br />
4. เงินลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัท โกลว์ ไอพีพี จำกัด จำนวน 14.25 ล้านหุ้น จำนำเพื่อเป็นหลักประกันการกู้<br />
ยืมเงินให้กับบริษัทดังกล่าว<br />
5. ที่ดินบางส่วนในโครงการของบริษัทรวมทั้งส่วนควบ ถูกจดจำนองเพื่อใช้เป็นหลักประกันการกู้ยืมกับธนาคาร<br />
พาณิชย์และสถาบันการเงินในประเทศ<br />
6. อาคารชุดพักอาศัยบางส่วนในโครงการของบริษัท ได้นำไปจดจำนองเพื่อใช้เป็นหลักประกันการกู้ยืมของบริษัทกับ<br />
ธนาคารพาณิชย์ในประเทศแห่งหนึ่ง<br />
7. อาคารชุดสำนักงานของบริษัท ได้นำไปจดจำนองเพื่อใช้เป็นหลักประกันการกู้ยืมของบริษัทกับธนาคารพาณิชย์<br />
ในประเทศแห่งหนึ่ง<br />
บริษัท อีสเทิร์นอินดัสเตรียลเอสเตท จำกัด<br />
ที่ดินส่วนใหญ่ในโครงการของบริษัทได้นำไปจดจำนองเพื่อเป็นหลักประกันการกู้ยืมเงินต่อธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง<br />
บริษัท อีสเทิร์น ซีบอร์ด อินดัสเตรียล เอสเตท (ระยอง) จำกัด<br />
1. เงินฝากประจำ จำนวนเงินประมาณ 0.05 ล้านบาท ใช้ค้ำประกันการบริการสาธารณูปโภค<br />
2. ที่ดินส่วนใหญ่ในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และอาคารโรงงานอุตสาหกรรมสำเร็จรูปของบริษัท จดจำนอง<br />
เพื่อค้ำประกันเงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมกับธนาคารพาณิชย์<br />
3. ที่ดินบางส่วนและอาคารโรงงานอุตสาหกรรมสำเร็จรูปขนาดเล็กของบริษัท จดจำนองเป็นหลักประกันเงินกู้ยืม<br />
จากบุคคลอื่น<br />
บริษัท เหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด อินดัสเตรียลเอสเตท จำกัด<br />
ที่ดินและอาคารโรงงานอุตสาหกรรมสำเร็จรูปบางส่วนในโครงการของบริษัทได้นำไปจดจำนองเพื่อเป็นหลักประกันการกู้<br />
ยืมเงินของบริษัทและบริษัทใหญ่ต่อธนาคารพาณิชย์ในประเทศ<br />
บริษัท เอช – ฟีนิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด<br />
อาคารชุดสำนักงานของบริษัท ได้นำไปจดจำนองเพื่อใช้เป็นหลักประกันการกู้ยืมของบริษัทใหญ่กับธนาคารพาณิชย์ใน<br />
ประเทศแห่งหนึ่ง<br />
บริษัท เหมราช สระบุรี ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด<br />
ที่ดินส่วนใหญ่ในโครงการของบริษัท ได้นำไปจดจำนองเพื่อใช้เป็นหลักประกันการกู้ยืมของบริษัทใหญ่กับธนาคารพาณิชย์<br />
ในประเทศแห่งหนึ่ง<br />
บริษัท เหมราช ระยอง ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด<br />
ที่ดินส่วนใหญ่ในโครงการของบริษัท ได้นำไปจดจำนองเพื่อใช้เป็นหลักประกันการกู้ยืมของบริษัทใหญ่กับธนาคารพาณิชย์<br />
ในประเทศแห่งหนึ่ง<br />
89<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
90<br />
29. ข้อผูกพันตามสัญญา<br />
ข้อผูกพันตามสัญญา ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 ประกอบด้วย<br />
ตามที่บริษัทและบริษัทย่อยได้เข้าร่วมดำเนินงานโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม กับการนิคมอุตสาหกรรมแห่ง<br />
ประเทศไทย (“กนอ.”) ตามสัญญาร่วมดำเนินงาน<br />
1) นิคมอุตสาหกรรมเหมราชชลบุรีระยะที่ 1 และระยะที่ 2 สัญญาลงวันที่ 5 กรกฎาคม และวันที่ 29 ธันวาคม<br />
2532 ตามลำดับ ซึ่งบริษัทได้แก้ไขสัญญาร่วมดำเนินงานดังกล่าวกับ กนอ. เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2544 ต่อมา<br />
เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2548 ได้รวมสัญญาทั้ง 2 ฉบับเป็นฉบับเดียว<br />
2) นิคมอุตสาหกรรมเหมราชตะวันออก (มาบตาพุด) สัญญาลงวันที่ 27 ธันวาคม 2532 นั้น บริษัทได้แก้ไขสัญญา<br />
ร่วมดำเนินงานดังกล่าวกับ กนอ. เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2544 ต่อมาเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2548 ได้รวม<br />
สัญญาทั้ง 2 ฉบับเป็นฉบับเดียว<br />
3) นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง) สัญญาเลขที่ 1/ 2539 และเลขที่ 1/2540<br />
4) นิคมอุตสาหกรรมเหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด สัญญาเลขที่ 1/2542 (ทีเอส 21)<br />
โดยเงื่อนไขที่สำคัญสรุปได้ดังนี้<br />
1) บริษัทและบริษัทย่อยเป็นผู้ให้บริการระบบสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการในนิคม<br />
อุตสาหกรรม โดยต้องจ่ายค่าใช้จ่ายในการร่วมดำเนินงานแก่ กนอ.<br />
2) บริษัทและบริษัทย่อยไม่ต้องโอนอสังหาริมทรัพย์ ส่วนควบและอุปกรณ์ ตลอดจนระบบสาธารณูปโภคและสิ่ง<br />
อำนวยความสะดวกแก่ กนอ.<br />
3) บริษัทและบริษัทย่อยต้องจัดให้มีกองทุนเพื่อการบำรุงรักษาและสร้างทดแทนระบบสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวย<br />
ความสะดวกในนิคมอุตสาหกรรม (“กองทุนจม”)<br />
บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน)<br />
1. เงินลงทุนในบริษัท โกลว์ ไอพีพี จำกัด จำนวน 142.50 ล้านบาท บริษัทเข้าถือครองในอัตราส่วนร้อยละ 5<br />
เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นให้เป็นไปตามเงื่อนไขที่ต้องปฏิบัติต่อการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย<br />
2. เงินลงทุนในบริษัท เก็คโค่-วัน จำกัดจำนวน 2,701.65 ล้านบาท บริษัทถือหุ้นในอัตราร้อยละ 35 โดยบริษัท<br />
มีภาระผูกพันที่ต้องชำระค่าหุ้นเพิ่มทุนและให้กู้ยืมเงินตามสัดส่วนของการถือหุ้น โดยบริษัท เก็คโค่-วัน จำกัด<br />
ได้ทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แล้วเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2551<br />
ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า บริษัท เก็คโค่-วัน จำกัด จะขายกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดให้กับ กฟผ. เป็นระยะ<br />
เวลา 25 ปี นับจากวันเริ่มดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ ภายใต้โครงการผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP) ทั้งนี้<br />
บริษัท เก็คโค่-วัน จำกัด ได้วางหนังสือค้ำประกันธนาคารมูลค่า 10 ล้านเหรียญสหรัฐไว้เพื่อเป็นหลักประกันกับ<br />
ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โรงงานผลิตไฟฟ้ากำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้างและค้ำ<br />
ประกันโดยบริษัทตามสัดส่วนการลงทุน<br />
มูลค่าเงินลงทุนในโครงการทั้งสิ้นของบริษัท เก็คโค่-วัน จำกัด อยู่ที่ประมาณ 1,170 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ<br />
38,991 ล้านบาท โดยใช้เงินลงทุนจากผู้ถือหุ้น ประมาณ 13,500 ล้านบาท บริษัทมีข้อผูกพันจะต้องใช้เงิน<br />
ลงทุนตามสัดส่วนการถือหุ้น ร้อยละ 35 เป็นจำนวนเงินประมาณ 4,750 ล้านบาท บริษัท เก็คโค่-วัน จำกัด<br />
ได้รับการสนับสนุนสินเชื่อโครงการจากผู้ให้กู้สถาบันการเงินทั้งต่างประเทศและในประเทศเป็นจำนวนเงิน 460<br />
ล้านเหรียญสหรัฐ และ 9,960 ล้านบาทโดยมีเงื่อนไขตามสัญญาเงินกู้ที่เกี่ยวเนื่องกับบริษัทในการให้บริษัทต้อง<br />
มีเงินฝากหรือหนังสือเลตเตอร์ออฟเครดิตของธนาคารเป็นประกันการร่วมทุนของบริษัทในส่วนที่ยัง ไม่ได้ชำระ<br />
เป็นจำนวนเงินรวม 966.18 ล้านบาท และ บริษัทจะต้องนำหุ้นของบริษัท เก็คโค่-วัน จำกัด ซึ่งบริษัท<br />
ลงทุนจำนำเป็นหลักประกันการกู้ยืมเงินของโครงการนี้ด้วย<br />
บริษัท อีสเทิร์นอินดัสเตรียลเอสเตท จำกัด<br />
บริษัทมีภาระผูกพันตามสัญญางานก่อสร้างในระบบสาธารณูปโภคคิดเป็นจำนวนเงินคงเหลือ 127.33 ล้านบาท<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
บริษัท อีสเทิร์น ซีบอร์ด อินดัสเตรียล เอสเตท (ระยอง) จำกัด<br />
บริษัทมีภาระผูกพันตามสัญญาร่วมลงทุนระหว่าง บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) และบริษัทอีกแห่งหนึ่ง<br />
โดยบริษัทมีภาระต้องจ่ายค่านายหน้าจากการขายที่ดิน ค่าบริหารงานจากการให้บริการสาธารณูปโภค และการให้เช่า<br />
อาคารโรงงานให้แก่ บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) เป็นอัตราร้อยละของยอดรายได้<br />
บริษัท เหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด อินดัสเตรียลเอสเตท จำกัด<br />
บริษัทมีภาระผูกพันตามสัญญาจ้างเหมางานก่อสร้างโรงงานสำเร็จรูป และระบบสาธารณูปโภค คิดเป็นจำนวนเงิน<br />
คงเหลือตามสัญญา 211.33 ล้านบาท<br />
บริษัท เหมราช คลีน วอเตอร์ จำกัด<br />
บริษัทมีภาระผูกพันตามสัญญางานก่อสร้างในระบบสาธารณูปโภคคิดเป็นจำนวนเงินคงเหลือ 7.20 ล้านบาท<br />
บริษัท เอสเอ็มอี แฟคทอรี่ จำกัด<br />
บริษัทมีภาระผูกพันตามสัญญาจ้างเหมางานก่อสร้างโรงงานสำเร็จรูป คิดเป็นจำนวนเงินคงเหลือตามสัญญา 69.68<br />
ล้านบาท<br />
<br />
30. ภาระผูกพันและหนี้สินที่อาจจะเกิดขึ้นในภายหน้า<br />
ภาระผูกพันและหนี้สินที่อาจจะเกิดขึ้นในภายหน้า ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 ประกอบด้วย<br />
1. บริษัทและบริษัทย่อยได้ทำสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินโดยมีเงื่อนไขว่าถ้าผู้จะซื้อมิได้รับการส่งเสริมการลงทุนจาก<br />
คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และ/หรือ ไม่ได้รับอนุญาตในการใช้ที่ดินจากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศ<br />
ไทย (กนอ.) แล้ว บริษัทและบริษัทย่อยจะต้องจ่ายคืนเงินค่างวดและเงินมัดจำแก่ผู้จะซื้อที่ดิน<br />
2. บริษัทและบริษัทย่อยมีภาระผูกพันจากการค้ำประกันการทำสัญญากู้ยืมเงินของบริษัทและบริษัทย่อยหลายแห่ง<br />
เพื่อเป็นหลักประกันในการกู้ยืมวงเงินรวม 7,032 ล้านบาท (เฉพาะบริษัท : 2,434 ล้านบาท)<br />
3. บริษัทและบริษัทย่อยมีภาระผูกพันจากการค้ำประกันการทำสัญญาเช่าซื้อของบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน ซึ่งมียอดคง<br />
เหลือรวม 4.03 ล้านบาท (เฉพาะบริษัท : 0.67 ล้านบาท)<br />
4. บริษัทและบริษัทย่อยมีภาระผูกพันจากการค้ำประกันและการขอให้ธนาคารออกหนังสือค้ำประกันบริษัท ในการ<br />
ปฏิบัติตามสัญญาร่วมดำเนินงานแก่การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ปฏิบัติตามสัญญาต่อกรมศุลกากร<br />
ในเขตปลอดอากรนิคมอุตสาหกรรมการก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคตามสัญญาซื้อขายที่ดินในโครงการ<br />
การก่อสร้างสายส่งไฟฟ้าและสถานีไฟฟ้า การปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายน้ำดิบและอื่นๆ วงเงินรวม 833.36<br />
ล้านบาท (เฉพาะบริษัท : 212.20 ล้านบาท)<br />
5. บริษัทมีข้อพิพาทกับผู้รับเหมารายหนึ่ง (ผู้เรียกร้อง) ได้ยื่นคำเสนอข้อพิพาทต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการ ให้<br />
บริษัทชำระค่างานคงค้างเป็นจำนวนเงิน 82 ล้านบาทและค่าใช้จ่ายอื่นรวมทั้งค่าเสียหายจากการสูญเสีย<br />
ประโยชน์ทางธุรกิจเป็นจำนวนเงิน 510 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมิได้เป็นฝ่ายผิดสัญญาและมิได้ค้างชำระค่างาน<br />
ตามที่ผู้เรียกร้องกล่าวอ้าง รวมถึงไม่ควรต้องรับผิดชอบค่าเสียหายอื่นแต่อย่างใด ในทางกลับกันผู้เรียกร้อง<br />
เป็นฝ่ายที่ไม่สามารถปฏิบัติงานตามสัญญาจ้างเหมา ซึ่งบริษัทได้ยื่นคำคัดค้านและเรียกร้องค่าเสียหายและ<br />
เรียกเงินซึ่งบริษัทได้ชำระเกินจากสัญญาจ้างเหมาต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการแล้ว ขณะนี้คดีอยู่ในระหว่าง<br />
การดำเนินกระบวนพิจารณาขั้นต้น<br />
91<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
่<br />
92<br />
<br />
31. สิทธิและประโยชน์ตามบัตรส่งเสริมการลงทุน<br />
บริษัทและบริษัทย่อย 7 บริษัท ได้รับสิทธิพิเศษทางภาษีจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนการส่งเสริมการลงทุนตาม<br />
พระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 สิทธิประโยชน์ที่สำคัญบางประการสามารถสรุปได้ดังต่อไปนี้<br />
<br />
ขนาด/จำนวนหน่วยที<br />
สิทธิประโยชน์ที ่สำคัญ<br />
วันที ่ได้รับการส่งเสริม ได้รับการส่งเสริม ยกเว้นภาษีเงินได้ ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติ<br />
การลงทุน การลงทุน นิติบุคคลเป็นเวลา (***) บุคคลร้อยละ 50 เป็นเวลา (****)<br />
บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน)<br />
ก. เขตนิคมอุตสาหกรรม<br />
ก.1 29 ธันวาคม 2531 1,500 ไร่ 7 ปี (*) 5 ปี (*)<br />
ก.2 15 กุมภาพันธ์ 2533 2,000 ไร่ 7 ปี (*) ไม่มี<br />
ก.3 25 กรกฎาคม 2544 1,282 ไร่ 7 ปี (**) ไม่มี<br />
ข. พัฒนาอาคารสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม<br />
ข.1 21 มิถุนายน 2543 11 หน่วย 7 ปี (*) ไม่มี<br />
บริษัท อีสเทิร์นอินดัสเตรียลเอสเตท จำกัด<br />
ก. เขตนิคมอุตสาหกรรม<br />
ก.1 8 พฤษภาคม 2532 626 ไร่ 5 ปี (*) 5 ปี (*)<br />
23 กันยายน 2535 1,850 ไร่ 8 ปี (*) 5 ปี (*)<br />
(ส่วนขยาย)<br />
ก.2 27 พฤศจิกายน 2545 1,240 ไร่ 8 ปี 5 ปี<br />
ก.3 17 มีนาคม 2552 576 ไร่ 8 ปี 5 ปี<br />
บริษัท อีสเทิร์น ซีบอร์ด อินดัสเตรียล เอสเตท (ระยอง) จำกัด<br />
ก. เขตนิคมอุตสาหกรรม<br />
ก.1 21 มิถุนายน 2538 2,063 ไร่ 8 ปี (*) 5 ปี (*)<br />
9 สิงหาคม 2539 1,532 ไร่ 8 ปี (*) 5 ปี (*)<br />
(ส่วนขยาย)<br />
ก.2 27 ตุลาคม 2540 2,466 ไร่ 8 ปี (*) 5 ปี<br />
31 กรกฎาคม 2543 325 ไร่ 8 ปี (*) 5 ปี<br />
(ส่วนขยาย)<br />
ก.3 25 กรกฎาคม 2544 716 ไร่ 7 ปี ไม่มี<br />
ก.4 8 ธันวาคม 2547 1,020 ไร่ 8 ปี 5 ปี<br />
ก.5 17 ตุลาคม 2550 520 ไร่ 8 ปี 5 ปี<br />
ข. พัฒนาอาคารสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม<br />
ข.1 19 มกราคม 2543 22 หน่วย 8 ปี (*) 5 ปี<br />
ข.2 21 มิถุนายน 2543 13 หน่วย 8 ปี (*) 5 ปี<br />
ข.3 29 พฤศจิกายน 2543 12 หน่วย 8 ปี (*) 5 ปี<br />
ข.4 16 มกราคม 2545 51 หน่วย 8 ปี 5 ปี<br />
ข.5 27 มีนาคม 2545 22 หน่วย 8 ปี 5 ปี<br />
ข.6 7 กันยายน 2549 6 หน่วย 8 ปี 5 ปี<br />
ข.7 23 มีนาคม 2550 7 หน่วย 8 ปี 5 ปี<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
่<br />
สิทธิและประโยชน์ตามบัตรส่งเสริมการลงทุน (ต่อ)<br />
ขนาด/จำนวนหน่วยที<br />
สิทธิประโยชน์ที ่สำคัญ<br />
วันที ่ได้รับการส่งเสริม ได้รับการส่งเสริม ยกเว้นภาษีเงินได้ ลดหย่อนภาษีเงินได้นิติ<br />
การลงทุน การลงทุน นิติบุคคลเป็นเวลา (***) บุคคลร้อยละ 50 เป็นเวลา (****)<br />
93<br />
<br />
บริษัท เหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด อินดัสเตรียลเอสเตท จำกัด<br />
ก. เขตนิคมอุตสาหกรรม<br />
ก.1 22 พฤษภาคม 2540 1,407 ไร่ 8 ปี 5 ปี<br />
ก.2 22 พฤษภาคม 2540 1,375 ไร่ 8 ปี 5 ปี<br />
ก.3 22 พฤษภาคม 2540 1,485 ไร่ 8 ปี 5 ปี<br />
ก.4 26 กันยายน 2539 1,653 ไร่ 8 ปี 5 ปี<br />
ก.5 23 มกราคม 2551 1,500 ไร่ 8 ปี 5 ปี<br />
ข. พัฒนาอาคารสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม<br />
ข.1 14 สิงหาคม 2550 13 หน่วย 8 ปี 5 ปี<br />
ข.2 29 ธันวาคม 2551 1 หน่วย 8 ปี 5 ปี<br />
ข.3 30 ธันวาคม 2552 1 หน่วย 8 ปี 5 ปี<br />
ข.4 30 ธันวาคม 2552 1 หน่วย 8 ปี 5 ปี<br />
ข.5 30 ธันวาคม 2552 1 หน่วย 8 ปี 5 ปี<br />
ข.6 4 มกราคม 2553 1 หน่วย 8 ปี 5 ปี<br />
บริษัท เหมราช สระบุรี ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด<br />
ก. เขตอุตสาหกรรม<br />
ก.1 21 พฤศจิกายน 2534 1,450 ไร่ 7 ปี (*) -<br />
ก.2 25 สิงหาคม 2537 1,200 ไร่ 7 ปี (*) -<br />
ก.3 27 เมษายน 2548 890 ไร่ 7 ปี -<br />
บริษัท เหมราช ระยอง ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด<br />
ก. เขตอุตสาหกรรม<br />
ก.1 26 มกราคม 2539 1,600 ไร่ 8 ปี (*) 5 ปี (*)<br />
ก.2 16 สิงหาคม 2543 520 ไร่ 8 ปี (*) 5 ปี<br />
ก.3 14 มีนาคม 2544 1,343 ไร่ 8 ปี 5 ปี<br />
บริษัท เหมราช วอเตอร์ จำกัด<br />
ก. กิจการสาธารณูปโภคและบริการพื้นฐาน<br />
ก.1 25 ตุลาคม 2548 12.27 ล้าน ลบ.ม. 8 ปี 5 ปี<br />
บริษัท เอสเอ็มอี แฟคทอรี่ จำกัด<br />
ก. พัฒนาอาคารสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม<br />
ก.1 21 พฤษภาคม 2550 3 หน่วย 7 ปี ไม่มี<br />
* สิทธิประโยชน์ที่สำคัญสิ้นสุดแล้ว<br />
** ยังไม่เริ่มมีรายได้จากการประกอบกิจการจึงยังไม่ได้ใช้สิทธิประโยชน์ที่สำคัญ<br />
*** นับจากวันที่มีรายได้จากการประกอบกิจการ<br />
**** นับจากวันที่การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลหมดลง<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
94<br />
<br />
<br />
รายได้ในประเทศแยกตามส่วนงานทางธุรกิจที่ได้รับการส่งเสริมและไม่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนสำหรับปีสิ้นสุดวันที่<br />
31 ธันวาคม ได้ดังนี้<br />
(หน่วย: พันบาท)<br />
ส่วนที่ได้รับการส่งเสริม ส่วนที่ไม่ได้รับการส่งเสริม รวม<br />
2553 2552 2553 2552 2553 2552<br />
งบการเงินรวม<br />
รายได้จากการขาย<br />
ที่ดิน 1,245,492.96 653,624.67 240,690.52 34,993.72 1,486,183.48 688,618.39<br />
อาคารโรงงาน<br />
อุตสาหกรรมสำเร็จรูป 213,538.48 42,776.20 58,636.63 - 272,175.11 42,776.20<br />
อาคารชุด - - 493,722.50 (57,472.77) 493,722.50 (57,472.77)<br />
รายได้ค่าบริการ 514,389.41 551,466.54 918,786.27 824,365.13 1,433,175.68 1,375,831.67<br />
รวม 1,973,420.85 1,247,867.41 1,711,835.92 801,886.08 3,685,256.77 2,049,753.49<br />
งบการเงินเฉพาะบริษัท<br />
รายได้จากการขาย<br />
ที่ดิน - - 183,832.52 1,199.91 183,832.52 1,199.91<br />
อาคารโรงงาน<br />
อุตสาหกรรมสำเร็จรูป - - - - - -<br />
อาคารชุด - - 493,722.50 (57,472.77) 493,722.50 (57,472.77)<br />
รายได้ค่าบริการ - - 156,492.20 156,260.76 156,492.20 156,260.76<br />
รวม - - 834,047.22 99,987.90 834,047.22 99,987.90<br />
<br />
32. เครื่องมือทางการเงิน<br />
<br />
<br />
นโยบายการบริหารความเสี่ยง<br />
ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย และความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เกิดขึ้นจากการดำเนินธุรกิจตาม<br />
ปกติ ซึ่งขึ้นอยู่กับความเสี่ยงของการเปลี่ยนแปลงอัตราในท้องตลาดหลังวันที่เกิดรายการ<br />
กลุ่มบริษัทเหมราชฯ มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ย และความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่าง<br />
ประเทศด้วยวิธีการ ดังต่อไปนี้<br />
ก. ดำรงสัดส่วนระหว่างเงินกู้ยืมในประเทศและต่างประเทศ<br />
ข. จัดหาเงินกู้ เงินยืมทั้งในรูปอัตราดอกเบี้ยคงที่ และอัตราดอกเบี้ยลอยตัว<br />
ค. การใช้สินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้ยืมเงิน<br />
ทั้งนี้กลุ่มบริษัทเหมราชฯ ไม่มีนโยบายที่จะประกอบธุรกรรมตราสารทางการเงินนอกงบดุลที่เป็นตราสารอนุพันธ์ เพื่อ<br />
การเก็งกำไรหรือการค้า<br />
มูลค่ายุติธรรมของเครื่องมือทางการเงิน<br />
นอกจากที่เปิดเผยในหมายเหตุประกอบงบการเงินที่ 3 มูลค่ายุติธรรมของเครื่องมือทางการเงินที่สำคัญ ประกอบด้วย<br />
ก. มูลค่ายุติธรรมของเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด ลูกหนี้การค้า เงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมจากสถาบัน<br />
การเงิน เจ้าหนี้การค้า และค่าใช้จ่ายค้างจ่าย ประมาณเท่ากับมูลค่าตามบัญชี ซึ่งใกล้เคียงกัน เนื่องจากเป็น<br />
เครื่องมือทางการเงินที่ครบกำหนดในระยะสั้น<br />
ข. มูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนระยะสั้นในหลักทรัพย์เผื่อขายเท่ากับมูลค่าตามราคาตลาด<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
ค. มูลค่ายุติธรรมของเงินให้กู้ยืมระยะสั้นและเงินทดรองแก่กิจการที่เกี่ยวข้องกัน เงินให้กู้ยืมแก่กิจการที่เกี่ยวข้อง<br />
กัน เงินกู้ยืมอื่น เงินกู้ยืมระยะสั้นและเงินทดรองจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน และเจ้าหนี้และเงินกู้ยืมจากกิจการที่<br />
เกี่ยวข้องกัน ไม่สามารถประมาณได้ เนื่องจากมีระยะเวลาในการจ่ายชำระไม่แน่นอน<br />
<br />
33. เหตุการณ์ภายหลังวันที่ในงบการเงิน<br />
เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 1/ 2554 ของบริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด<br />
(มหาชน) ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลอีกในอัตราหุ้นละ 0.03 บาท เมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลที่จ่ายแล้วใน<br />
อัตราหุ้นละ 0.025 บาท เป็นเงินปันผลทั้งปี 2553 ในอัตราหุ้นละ 0.055 บาท ซึ่งจะนำเสนอเพื่อขออนุมัติต่อที่<br />
ประชุมผู้ถือหุ้นต่อไป<br />
<br />
34. การอนุมัติงบการเงิน<br />
งบการเงินนี้ได้รับอนุมัติโดยคณะกรรมการของบริษัท เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2554<br />
<br />
95<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
96<br />
โครงสร้างผู้ถือหุ้นและโครงสร้างองค์กร<br />
รายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 รายแรก ณ วันที่ 25 สิงหาคม 2553<br />
ลำดับที่<br />
<br />
ชื่อ-สกุล จำนวนหุ้น % จำนวนหุ้น<br />
1 น.ส.เพ็ญพรรณี หอรุ่งเรือง 1,068,725,770 11.01<br />
2 Chase Nominees Limited 42 871,192,312 8.98<br />
3 Credit Agricole (Suisse) SA, Singapore Branch 849,906,389 8.76<br />
4 Nomura Singapore Limited – Customer Segregated Account 643,484,500 6.63<br />
5 EFG Bank AG 617,377,000 6.36<br />
6 นางกนกกานต์ ศิริรัตนพันธ 437,910,100 4.51<br />
7 นายสมบัติ เทพสถิตย์ 417,567,600 4.30<br />
9 นายอับดุลเลาะ คานดา 407,954,200 4.20<br />
8 น.ส.กานดา กรกชสกุลวงศ์ 374,782,700 3.86<br />
10 บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 368,914,221 3.80<br />
ผู้ถือหุ้น<br />
คณะกรรมการบริษัท<br />
คณะกรรมการสรรหาและ<br />
พิจารณาผลตอบแทน<br />
คณะกรรมการตรวจสอบ<br />
คณะกรรมการบรรษัทภิบาล<br />
คณะกรรมการบริหาร<br />
กรรมการผู้จัดการ<br />
ผู้ตรวจสอบภายใน<br />
รองกรรมการผู้จัดการ<br />
รองกรรมการผู้จัดการ<br />
ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์<br />
ธุรกิจนิคม<br />
อุตสาหกรรม<br />
ฝ่ายวางแผน<br />
โครงการระบบน้ำ<br />
และโรงไฟฟ้า<br />
ขนาดเล็ก<br />
ฝ่ายระบบข้อมูล<br />
และบริการ<br />
ฝ่ายการตลาด<br />
ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์<br />
โครงการธุรกิจ<br />
ที่พักอาศัย<br />
ฝ่ายการเงิน<br />
ฝ่ายบัญชี<br />
และ<br />
กฎหมาย<br />
ฝ่ายจัดหา<br />
ฝ่ายปฏิบัติการ<br />
ธุรกิจนิคม<br />
อุตสาหกรรม<br />
ฝ่ายพัฒนา<br />
โครงการ<br />
ธุรกิจนิคม<br />
อุตสาหกรรม<br />
ฝ่ายวางแผน<br />
และ<br />
นักลงทุนสัมพันธ์<br />
ฝ่ายวางแผน<br />
โครงการ<br />
ธุรกิจที่พักอาศัย<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
รายการระหว่างกัน<br />
ความจำเป็นและความสมเหตุสมผลของรายการระหว่างกันที่เกิดขึ้น<br />
รายการระหว่างกันที่เกิดขึ้นระหว่างบริษัทฯ กับบริษัทย่อย บริษัทร่วม หรือบริษัทที่เกี่ยวข้องนั้น เป็นรายการที่ดำเนินการทางธุรกิจตามปกติการค้าและมีการพิจารณาค่าตอบแทน<br />
ในราคาตลาดที่ยุติธรรมและสมเหตุสมผล และเป็นไปตามกฏระเบียบของบริษัท โดยได้ผ่านการพิจารณาอนุมัติจากคณะกรรมการ คณะกรรมการบริหารหรือผู้บริหารในแต่ละระดับตามแต่<br />
กรณี รวมถึงการสอบทานโดยคณะกรรมการตรวจสอบ ซึ่งเป็นไปตามกฏหมายต่างๆ และข้อบังคับตามเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลัก<br />
ทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต) รวมทั้งเป็นไปตามมาตรฐานบัญชีเรื่องการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกัน ซึ่งกำหนดโดยสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาต<br />
แห่งประเทศไทย<br />
รายการระหว่างกันที่เกิดขึ้นนระหว่างปี 2553 กับบริษัทฯและบริษัทย่อย มีรายการระหว่างกัน กับบริษัทร่วมและบริษัทที่เกี่ยวข้องมีรายละเอียด ดังนี้<br />
ลักษณะความสัมพันธ์ ลักษณะรายการ (หน่วย : พันบาท) รายละเอียด ความจำเป็น/ความเห็น<br />
ชื่อบริษัทที่มีผลประโยชน์ร่วม รายได้ ดอกเบี้ยรับ รายได้ค่า ต้นทุน ต้นทุนทาง คณะกรรมการตรวจสอบ<br />
ค่าบริการ นายหน้าและ บริการ การเงิน <br />
บริหารงาน <br />
1. บริษัทร่วม : <br />
1.1 บริษัท โคเฟลี (ประเทศไทย) - เป็นบริษัทร่วมลงทุนโดย บริษัทฯ 1,017 333 13,149 - บริษัทฯให้บริการสาธารณูปโภค - อัตราค่าบริการสาธารณูปโภค <br />
จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 39.99 ส่วนกลางแก่บริษัทร่วม ค่าบริการเป็นอัตราตลาด<br />
(เดิมชื่อบริษัท เอลโย่-เอช ฟาซิลิตี้ - กรรมการบริหารบริษัทฯ 3 ท่าน - บริษัทฯ ให้เงินกู้ยืมตั้งแต่ปี 2552<br />
แมนเนจเมนท์ จำกัด) เป็นกรรมการและกรรมการบริหาร จำนวน 5.6 ล้านบาทเพื่อใช้เป็น - การให้กู้ยืมเป็นการให้กู้ยืม <br />
ดำเนินธุรกิจให้บริการเกี่ยวกับการ ในบริษัทร่วม และผู้บริหารเป็น เงินทุนหมุนเวียน ในฐานะผู้ถือหุ้น ตามสัดส่วนการถือหุ้น<br />
ดูแลรักษาระบบสาธารณูปโภค เช่น กรรมการในบริษัทร่วม 1 ท่าน ตามสัดส่วนการถือหุ้น อัตราดอกเบี้ย <br />
ระบบปรับอากาศ ระบบน้ำหล่อเย็น ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของบริษัท MLR ของธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง<br />
เป็นต้น ในการร่วมทุน ชำระดอกเบี้ยเป็นรายเดือน<br />
- บริษัทฯ ได้ใช้บริการในการบำรุง <br />
รักษาเครื่องมือและอุปกรณ์<br />
ในลักษณะ Preventive <br />
Maintenance <br />
และบริการซ่อมแซมในโรงงาน<br />
สำเร็จรูปและนิคมอุตสาหกรรม<br />
จากบริษัทร่วม <br />
97<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
98<br />
ลักษณะความสัมพันธ์ ลักษณะรายการ (หน่วย : พันบาท) รายละเอียด ความจำเป็น/ความเห็น<br />
ชื่อบริษัทที่มีผลประโยชน์ร่วม รายได้ ดอกเบี้ยรับ รายได้ค่า ต้นทุน ต้นทุนทาง คณะกรรมการตรวจสอบ<br />
ค่าบริการ นายหน้าและ บริการ การเงิน <br />
บริหารงาน <br />
1.2 บริษัท เหมราช สระบุรี - เป็นบริษัทร่วมลงทุนโดยบริษัทฯ - บริษัทฯ ให้เงินกู้ยืมโดยมีวัตถุ - อัตราดอกเบี้ยเป็นไปตามอัตรา<br />
ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 25.00 และตั้งแต่ 57 19,764 ประสงค์เพื่อนำไปจ่ายคืนเงินกู้ยืม ตลาดในอัตรา MLR-0.5<br />
(เดิมชื่อ “บริษัท เอส ไอ แอล วันที่ 1 ต.ค. 2553 บริษัทฯ ระยะยาวคงเหลือแก่บริษัท<br />
ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด”) ได้ลงทุนเพิ่มอีกร้อยละ 75 มีผล ซีเมนต์ไทยโฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นไป<br />
ดำเนินธุรกิจเขตอุตสาหกรรม ทำให้บริษัท HSIL เป็นบริษัทย่อย ตามข้อตกลงการซื้อหุ้นส่วนที่เหลือ<br />
ของบริษัทฯ ทั้งหมด (ร้อยละ75) ในบริษัท <br />
- กรรมการบริหารบริษัทฯ เป็น เอสไอแอล ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด<br />
กรรมการและกรรมการบริหาร - บริษัทให้บริการด้านบริหารการ - อัตราค่าบริหารงาน 5% - 8%<br />
ในบริษัทร่วม 2 ท่าน ตามนโยบาย จัดการโครงการเขตอุตสาหกรรม ของรายได้ <br />
ของบริษัทในการร่วมลงทุน - บริษัทย่อยให้บริการด้านการ - อัตราค่าบริการสาธารณูปโภค<br />
ควบคุมงานก่อสร้างและออกแบบ เป็นอัตราตลาด<br />
1.3 บริษัท เหมราช ระยอง - เป็นบริษัทร่วมลงทุนโดยบริษัท 3,368 - บริษัทให้บริการด้านบริหารการ - อัตราค่าบริหารงาน 5% - 8% <br />
ที่ดินอุตสาหกรรม จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 25 (ทางอ้อม) และ จัดการโครงการเขตอุตสาหกรรม ของรายได้ <br />
(เดิมชื่อ “บริษัท ระยองที่ดิน ตั้งแต่ 1 ต.ค.2553 บริษัทฯ - บริษัทย่อยให้บริการด้านการควบคุม - อัตราค่าบริการสาธารณูปโภค<br />
อุตสาหกรรม จำกัด”) ได้ลงทุนเพิ่มอีกร้อยละ 75 มีผล งานก่อสร้างและออกแบบ เป็นอัตราตลาด<br />
ดำเนินธุรกิจเขตอุตสาหกรรม ทำให้ ถือหุ้น ทางอ้อมโดยผ่าน <br />
บริษัท เหมราช สระบุรี ที่ดิน<br />
อุตสาหกรรม จำกัด (ร้อยละ <br />
99.99) ทำให้บริษัท HRIL เป็น<br />
บริษัทย่อยของบริษัทฯ<br />
- กรรมการบริหารฯเป็นกรรมการ<br />
และกรรมการบริหารในบริษัทร่วม <br />
2 ท่าน ตามนโยบายของบริษัท<br />
ในการร่วมลงทุน<br />
2.บริษัทที่เกี่ยวข้องกัน<br />
2.1 บริษัท ศรีราชา ฮาเบอร์ จำกัด - บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 6.40 113 - เป็นดอกเบี้ยจากเงินให้กู้ยืมตั้งแต่ปี - เป็น เงินให้กู้ยืมตามความจำเป็น<br />
(มหาชน) - กรรมการบริษัทฯ เป็นกรรมการ 2539 บริษัทฯให้เงินกู้ยืมในฐานะ และขณะนี้ลูกหนี้อยู่ในระหว่าง<br />
ดำเนินธุรกิจให้บริการท่าเทียบเรือ บริหารของบริษัทที่เกี่ยวข้องกัน ผู้ถือหุ้น (ร้อยละ 15) เป็นจำนวน การดำเนินการตามแผนฟื้นฟู<br />
และขนส่ง 2 ท่าน คือ นายวิกิจ หอรุ่งเรือง เงินกู้ 20 ล้านบาท ต่อมาเกิดช่วง กิจการ<br />
และนายชวลิต เศรษฐเมธีกุล วิกฤติการณ์เศรษฐกิจในปี 2540 <br />
บริษัทศรีราชา ฮาร์เบอร์ไม่สามารถ<br />
ชำระหนี้ได้ และเข้าสู่แผนฟื้นฟู<br />
กิจการ แผนการชำระคืนจึงมีการ<br />
ทะยอยชำระตามแผนฟื้นฟูกิจการ <br />
(ปี 2546)<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
ลักษณะความสัมพันธ์ ลักษณะรายการ (หน่วย : พันบาท) รายละเอียด ความจำเป็น/ความเห็น<br />
ชื่อบริษัทที่มีผลประโยชน์ร่วม รายได้ ดอกเบี้ยรับ รายได้ค่า ต้นทุน ต้นทุนทาง คณะกรรมการตรวจสอบ<br />
ค่าบริการ นายหน้าและ บริการ การเงิน <br />
บริหารงาน <br />
- บริษัทได้ตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัย<br />
จะสูญสำหรับเงินให้กู้ยืมระยะสั้น<br />
ในบริษัท ศรีราชา ฮาเบอร์ ใน<br />
ขณะนั้นไว้เต็มจำนวนตามหลักเกณฑ์<br />
การตั้งสำรองของบริษัท บริษัทยังมิได้ <br />
ปรับสำรองในส่วนของหนี้ภายใต้<br />
แผนฟื้นฟูกิจการ โดยจะดำเนินการ<br />
ปรับต่อเมื่อได้รับชำระจากลูกหนี้<br />
ซึ่งจะชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ <br />
(ตามแผนฟื้นฟู บริษัทจะได้รับชำระ<br />
ดอกเบี้ยในอัตรา 1% ทุกปี ส่วน<br />
เงินต้นได้รับชำระทั้งหมดเต็มจำนวน <br />
ภายใน 10 ปี)<br />
2.2 บริษัท โกลว์ จำกัด - บริษัทมีการร่วมลงทุนในโครงการ 2,399 - บริษัทฯ มีการกู้ยืมเงินระยะสั้น - อัตราดอกเบี้ย MLR-2% <br />
ดำเนินธุรกิจพลังงาน พลังงาน จากบริษัทดังกล่าวโดยมีวัตถุประสงค์ <br />
เพื่อนำไปใช้ในการลงทุนซื้อหุ้นเพิ่มทุน<br />
ในบริษัท ห้วยเหาะไทย จำกัด <br />
(ถือหุ้นร้อยละ 51) ซึ่งเป็น Holding<br />
Company ในโครงการไฟฟ้าพลังน้ำ<br />
ห้วยเหาะในลาว เงินกู้ดังกล่าวครบ<br />
กำหนดในปี 2553 โดยบริษัทฯ<br />
ได้ชำระคืนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว<br />
<br />
นโยบายและมาตรการการอนุมัติการทำรายการระหว่างกันในอนาคต<br />
รายการระหว่างกันในอนาคตจะเป็นรายการที่ดำเนินการตามปกติทางการค้าเป็นไปตามกลไกราคาตลาดทางธุรกิจ และมีการพิจารณาคำเนินการในราคาตลาดที่อนุมัติและสมเหตุสมผล<br />
และเป็นไปตามกฏระเบียบของบริษัท โดยต้องผ่านการพิจารณาอนุมัติจากฝ่ายบริหารในแต่ละระดับ คณะกรรมการบริหาร คณะกรรมการ หรือที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ตามแต่กรณี ซึ่งเป็นไป<br />
ตามขั้นตอนการอนุมัติที่เหมาะสมตามระเบียบของบริษัทฯ ผู้มีส่วนได้เสียหรืออาจมีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ในรายการ ไม่อาจมีส่วนร่วมในการอนุมัติรายการนั้นๆ โดยมีกระบวนการตรวจสอบ/<br />
สอบทานโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต ผู้ตรวจสอบภายใน (ที่ว่าจ้างจากภายนอก) และคณะกรรมการตรวจสอบของบริษัทฯ ตามระบบงานที่ดี และโดยที่บริษัทฯ เปิดเผยรายละเอียดของรายการที่เกี่ยว<br />
โยงกันตามประกาศและข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต) ที่เกี่ยวข้องและตามที่ระบุไว้ในมาตรฐานการบัญชี<br />
อันเป็นที่รับรองทั่วไปที่กำหนดโดยสมาคมนักบัญชีและผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทย<br />
99<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
100<br />
โครงสร้างการลงทุนและรายได้ของบริษัท บริษัทย่อย และบริษัทร่วม<br />
บริษัท ที่อยู่ ประเภทกิจการ ทุนชำระแล้ว % รายได้ (ล้านบาท)<br />
(ล้านบาท) การลงทุน 2553 % 2552 % 2551 %<br />
้น 18 อาคารยูเอ็มทาวเวอร์ พัฒนานิคมอุตสาหกรรม 3,882 1,133.78 26% 240.85 11% 649.00 13%<br />
่ 9 ชั<br />
่ดิน จำกัด (มหาชน) เลขที<br />
่ บมจ. 0107536000676 ถ.รามคำแหง สวนหลวง กรุงเทพฯ 10250 ระบบสาธารณูปโภค<br />
ทุนจดทะเบียน 15,000,000,000 หุ ้น โทรศัพท์ (662) 719-9555 และอสังหาริมทรัพย์<br />
บริษัท เหมราชพัฒนาที<br />
ทะเบียนเลขที<br />
้น โทรสาร (662) 719-9546-7<br />
www.hemaraj.com<br />
E-mail: invest@hemaraj.com<br />
่ออก 9,705,186,191 หุ<br />
ทุนที<br />
บริษัทย่อย ่ ่ ่ <br />
<strong>Hemaraj</strong> International Limited (1) Scotia Centre, 4th Floor Holding Company 0.03 100<br />
P.O.Box 2804, George Town,<br />
Gr<strong>and</strong> Cayman, Cayman Isl<strong>and</strong>s<br />
H-International (BVI) Company Limited (2) Romasco Place, Wickhams Cay 1, Holding Company 0.08 100 - 0% - 0% - 0%<br />
P. O. Box 3140, Road Town, Tortola<br />
British Virgin Isl<strong>and</strong>s.<br />
บริษัท อีสเทิร์นอินดัสเตรียลเอสเตท จำกัด เลขที 9 ชั ้น 18 อาคารยูเอ็มทาวเวอร์ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 400 99.99 336.97 8% 819.66 36% 899.58 18%<br />
ถ.รามคำแหง สวนหลวง กรุงเทพฯ 10250<br />
บริษัท อีสเทิร์นไพพ์ไลน์เซอร์วิสเซส จำกัด (3) เลขที 9 ชั ้น 18 อาคารยูเอ็มทาวเวอร์ บริการให้เช่าวางท่อขนถ่ายวัตถุ 100 99.99 94.45 2% 75.38 3% 67.51 1%<br />
ถ.รามคำแหง สวนหลวง กรุงเทพฯ 10250<br />
บริษัท อีสเทิร์นซีบอร์ดอินดัสเตรียล เอสเตท เลขที 9 ชั ้น 18 อาคารยูเอ็มทาวเวอร์ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 358 60 663.70 15% 317.37 14% 1,216.06 24%<br />
(ระยอง) จำกัด ถ.รามคำแหง สวนหลวง กรุงเทพฯ 10250<br />
<br />
บริษัท เอช-คอนสตรัคชั ่น แมนเนจเม้นท์ เลขที ่ 9 ชั ้น 18 อาคารยูเอ็มทาวเวอร์ ให้บริหารออกแบบและ 17.15 99.99 12.02 0% 23.09 1% 34.12 1%<br />
แอนด์ เอ็นจิเนียริ ่ง จำกัด ถ.รามคำแหง สวนหลวง กรุงเทพฯ 10250 ควบคุมงานก่อสร้าง<br />
บริษัท เดอะพาร์คเรสซิเดนซ์ จำกัด เลขที ่ 9 ชั ้น 18 อาคารยูเอ็มทาวเวอร์ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และ 0.25 99.99 3.31 0% 7.43 0% 5.64 0%<br />
ถ.รามคำแหง สวนหลวง กรุงเทพฯ 10250 บริหารจัดการงานบริการ<br />
บริษัท เหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด เลขที ่ 9 ชั ้น 18 อาคารยูเอ็มทาวเวอร์ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 1,000 99.99 1,242.93 28% 300.24 13% 1,847.48 37%<br />
อินดัสเตรียล เอสเตท จำกัด ถ.รามคำแหง สวนหลวง กรุงเทพฯ 10250<br />
บริษัท เหมราช วอเตอร์ จำกัด (4) เลขที ่ 9 ชั ้น 18 อาคารยูเอ็มทาวเวอร์ พัฒนาบริหารและจัดการ 100 99.99 185.11 4% 147.71 6% 94.39 2%<br />
ถ.รามคำแหง สวนหลวง กรุงเทพฯ 10250 ทรัพยากรน้ำ<br />
บริษัท เอสเอ็มอี แฟคทอรี ่ จำกัด เลขที ่ 9 ชั ้น 18 อาคารยูเอ็มทาวเวอร์ จำหน่ายและให้เช่าโรงงานสำเร็จรูป 37 99.99 1.31 0% 21.13 1% 4.09 0%<br />
ถ.รามคำแหง สวนหลวง กรุงเทพฯ 10250<br />
บริษัท เอช-ฟีนิกซ์ พร็อพเพอร์ตี ้ จำกัด เลขที ่ 9 ชั ้น 18 อาคารยูเอ็มทาวเวอร์ อาคารชุดเพื ่อขาย และให้เช่า 480 99.99 96.32 2% 91.60 4% 80.28 2%<br />
ถ.รามคำแหง สวนหลวง กรุงเทพฯ 10250 และให้บริการ<br />
บริษัท เหมราช คลีน วอเตอร์ จำกัด (5) เลขที ่ 9 ชั ้น 18 อาคารยูเอ็มทาวเวอร์ ผลิตและจำหน่ายน้ำ 645 99.99 220.91 5% 178.24 8% 84.36 2%<br />
ถ.รามคำแหง สวนหลวง กรุงเทพฯ 10250 เพื ่ออุตสาหกรรม<br />
บริษัท เหมราช สระบุรี ที ่ดินอุตสาหกรรม จำกัด * เลขที ่ 111 หมู ่ 7 หนองปลาหมอ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 500 99.99 21.92 1%<br />
(เดิมชื ่อ”บริษัท เอส ไอ แอล ที ่ดินอุตสาหกรรม จำกัด”) หนองแค สระบุรี 18140<br />
บริษัท เหมราช ระยองที ่ดินอุตสาหกรรม จำกัด * (6) เลขที ่ 9 ชั ้น 18 อาคารยูเอ็มทาวเวอร์ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 1,000 99.99 7.49 0%<br />
(เดิมชื ่อ”บริษัท ระยอง ที ่ดินอุตสาหกรรม จำกัด”) ถ.รามคำแหง สวนหลวง กรุงเทพฯ 10250<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
บริษัท ที่อยู่ ประเภทกิจการ ทุนชำระแล้ว % รายได้ (ล้านบาท)<br />
(ล้านบาท) การลงทุน 2553 % 2552 % 2551 %<br />
บริษัทร่วม (9) <br />
<br />
่ยวกับระบบสาธารณูปโภค 50 40 3.63 0% 3.60 0% 2.76 0%<br />
่ 4 ให้บริการเกี<br />
่ 107/1 หมู<br />
้ แมนเนจเมนท์ จำกัด”) นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด(ระยอง)<br />
ปลวกแดง ระยอง<br />
บริษัท โคเฟลี (ประเทศไทย) จำกัด เลขที<br />
(เดิมชื ่อ “บริษัท เอลโย่-เอช ฟาซิลีตี<br />
บริษัท เหมราช สระบุรี ที ่ดินอุตสาหกรรม จำกัด (7) เลขที ่ 111 หมู ่ 7 หนองปลาหมอ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 500 25 13.67 0% 3.55 0% 12.64 0%<br />
(เดิมชื ่อ”บริษัท เอส ไอ แอล ที ่ดินอุตสาหกรรม จำกัด”) หนองแค สระบุรี 18140<br />
บริษัท เหมราช ระยองที ่ดินอุตสาหกรรม จำกัด (6) เลขที ่ 9 ชั ้น 18 อาคารยูเอ็มทาวเวอร์ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 1,000 25 1.14 0% 11.30 1% (6.50) 0%<br />
(เดิมชื ่อ”บริษัท ระยอง ที ่ดินอุตสาหกรรม จำกัด”) ถ.รามคำแหง สวนหลวง กรุงเทพฯ 10250<br />
บริษัท เก็คโค่-วัน พลังงาน จำกัด 195 ตึกเอ็มไพร์ทาวเวอร์ ชั<br />
้น 38 พาร์ควิง ผลิตไฟฟ้าและพลังงาน 7,719 35 393.51 9% 74.25 3% 19.69 0%<br />
ถนน สาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร<br />
กรุงเทพฯ 10120<br />
บริษัท ห้วยเหาะไทย จำกัด ้ ่ 10 / 190-193 อาคารเดอะ เทรนดี ช้น 26 Holding Company 527.69 51 (0.10) 0% (0.19) 0%<br />
ซอยสุขุมวิท 13 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองเตยเหนือ<br />
เขตวัฒนา<br />
บริษัท โรงไฟฟ้าห้วยเหาะ จำกัด (8) P.O.Box 5464, Nong Bone Road ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้า 50 12.75 10.10 0% (11.89) -1%<br />
Bane Fai, Xaysetta District, Vientiane (ล้านเหรียญสหรัฐ)<br />
Lao People’s Democratic Republic<br />
บริษัทที ่เกี ่ยวข้องกัน <br />
บริษัท อีสเทิร์นฟลูอิด ทรานสปอร์ต จำกัด เลขที 618 ถนนนิคมมักกะสัน มักกะสัน ซ่อมแซมและบำรุงรักษา 10 15<br />
ราชเทวี กรุงเทพฯ 10400 โครงสร้างฐานวางท่อ<br />
บริษัท โกลว์ ไอพีพี จำกัด 195 ตึกเอ็มไพร์ทาวเวอร์ ชั ้น 38 พาร์ควิง บริการเกี ่ยวกับไฟฟ้า พลังงานไฟฟ้า 2,850 5<br />
ถนน สาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร<br />
กรุงเทพฯ 10120<br />
<br />
ยอดรวมรายได้ของบริษัท เหมราชพัฒนาที ่ดิน จำกัด (มหาชน) และ บริษัทฯย่อย 4,442.17 100% 2,303.32 100% 5,011.10 100%<br />
<br />
หมายเหตุ <br />
1) จัดตั ้งใน Cayman Isl<strong>and</strong>s<br />
2) จัดตั ้งอาณาเขตของ British Virgin Isl<strong>and</strong>s<br />
3) ถือหุ ้นทางตรงร้อยละ 74.99 และ ถือหุ ้นทางอ้อมโดยผ่านบริษัท อีสเทิร์นอินดัสเตรียลเอสเตรท จำกัด อีกร้อยละ 25<br />
4) ถือหุ ้นทางอ้อมร้อยละ 99.99 โดยผ่านบริษัท เหมราช คลีน วอเตอร์ จำกัด<br />
5) ในปี 2552 บริษัท เหมราช คลีน วอเตอร์ จำกัด ได้เรียกชำระค่าหุ ้นครบเต็มจำนวน (ในปี 2551 บริษัทได้ทำการจัดตั ้งบริษัท เหมราช คลีน วอเตอร์ จำกัด โดยมีทุนจดทะเบียนเริ ่มต้น 645 ล้านบาท และบริษัทได้จ่ายชำระค่าหุ ้นรวม 580.50 ล้านบาท )<br />
6) ถือหุ ้นทางอ้อมโดยผ่านบริษัท เหมราช สระบุรี ที ่ดินอุตสาหกรรม จำกัด ร้อยละ 99.99<br />
7) ในปี 2553 บริษัทได้จ่ายเงินค่าซื ้อเงินลงทุนในบริษัท เหมราช สระบุรี ที ่ดินอุตสาหกรรม จำกัด(HSIL) แก่บริษัท ซีเมนต์ไทย โฮลดิ ้ง จำกัด (CHC)<br />
8) ถือหุ ้นทางตรงในบริษัท ห้วยเหาะไทย จำกัด ร้อยละ 51 โดยบริษัท ห้วยเหาะไทย จำกัด ถือหุ ้นในบริษัท โรงไฟฟ้าห้วยเหาะ จำกัด จดทะเบียนในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (ใช้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในการดำเนินธุรกิจ) ร้อยละ 25<br />
9) ปี 2551 ส่วนแบ่งผลขาดทุนจากเงินลงทุนตามวิธีส่วนได้เสีย - บริษัทร่วม แสดงเป็นค่าใช้จ่ายในงบกำไรขาดทุน<br />
* การจัดทำงบการเงินรวมสิ ้นสุดวันที ่ 31 ธันวาคม 2553 ของบริษัทได้รวมรายได้ของบริษัทย่อยทั ้ง 2 แห่งตั ้งแต่วันที ่ 1 ตุลาคม 2553 ถึง วันที ่ 31 ธันวาคม 2553<br />
101<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
102<br />
ข้อมูลการดำรงตำแหน่งของกรรมการและผู้บริหารในบริษัท บริษัทย่อยและบริษัทร่วม<br />
บริษัทย่อย บริษัทร่วม<br />
บริษัท ห้วยเหาะ เพาเวอร์ จำกัด<br />
บริษัท ห้วยเหาะไทย จำกัด<br />
บริษัท โคเฟลี (ประเทศไทย) จำกัด<br />
บริษัท เก็คโค่-วัน จำกัด<br />
บริษัท เหมราช ระยองที่ดิน<br />
อุตสาหกรรม จำกัด<br />
บริษัท เหมราช สระบุรีที่ดิน<br />
อุตสาหกรรม จำกัด<br />
<strong>Hemaraj</strong> International Co.,Ltd.<br />
H-International (BVI) Co., Ltd.<br />
บริษัท เหมราชคลีน วอเตอร์ จำกัด<br />
บริษัท เอช-ฟีนิกซ์ พร็อพเพอร์ตี้<br />
จำกัด<br />
บริษัท เอสเอ็มอี แฟคทอรี่ จำกัด<br />
บริษัท เหมราช วอเตอร์ จำกัด<br />
บริษัท เอช-คอนสตรัคชั่น<br />
แมนเนจเม้นท์ แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง<br />
จำกัด<br />
บริษัท เดอะพาร์คเรสซิเดนซ์ จำกัด<br />
บริษัท อีสเทิร์นไพพ์ไลน์เซอร์<br />
วิสเซส จำกัด<br />
บริษัท เหมราช อีสเทิร์นซีบอร์ด<br />
อินดัสเตรียล เอสเตท จำกัด<br />
บริษัท อีสเทิร์นซีบอร์ด อินดัสเตรียล<br />
เอสเตท ระยอง จำกัด<br />
บริษัท อีสเทิร์นอินดัสเตรียล<br />
เอสเตท จำกัด<br />
บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด<br />
(มหาชน)<br />
ชื่อ<br />
1 นายชวลิต เศรษฐเมธีกุล /, X<br />
2 นายสุทธิพันธุ์ จารุมณี /<br />
3 นายธงชัย ศรีสมบูรณานนท์ /, // X /, // X / X X X X X / X X<br />
4 นายเดวิด ริชาร์ด นาร์โดน /, // / /, // / X / X / / / / / / / / / X / /<br />
5 นายวิวัฒน์ จิรัฐติกาลสกุล /, // / /, // / / / / / / / / / / / / / / / /<br />
6 นายปีเตอร์ จอห์น เอ็ดมันสัน /<br />
7 นางพรรณี วรวุฒิจงสถิต /<br />
8 นางสาวปัทมา หอรุ่งเรือง /, // / /, // / / / / / / / / / / / /<br />
9 นายสมพงษ์ วนาภา /<br />
10 นายวิกิจ หอรุ่งเรือง /<br />
11 นายสุนทร คงสุนทรกิจกุล / / /<br />
12 นายคำฮอง รัศมานี /<br />
13 นายธนินทร์ ทรัพย์บุญเรือง /<br />
14 นายศิริศักดิ์ กิจรักษา /<br />
หมายเหตุ: / = กรรมการ X = ประธานกรรมการ // = กรรมการบริหาร<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
ค่าตอบแทนของผู้สอบบัญชี<br />
103<br />
ค่าตอบแทนจากการสอบบัญชี (audit fee)<br />
บริษัทและบริษัทย่อยจ่ายค่าตอบแทนการสอบบัญชีให้แก่สำนักงาน เอ. เอ็ม. ที. แอสโซซิเอท ซึ่งเป็นสํานักงาน<br />
ที่ผู้สอบบัญชีสังกัด ในรอบปีบัญชีที่ผ่านมามีจํานวนเงินรวม 4.10 ล้านบาท และ ค่าสอบบัญชีบริษัทย่อยที่ตรวจสอบโดย<br />
ผู้สอบบัญชีอื่นจำนวนเงินรวม 0.50 ล้านบาท <br />
<br />
ค่าบริการอื่น (non-audit fee)<br />
บริษัทและบริษัทย่อยจ่ายค่าตอบแทนของงานบริการอื่น ซึ่งได้แก่ ค่าบริการสำหรับจัดทำรายงานของ BOI ให้<br />
แก่สำนักงาน เอ. เอ็ม. ที. แอสโซซิเอท ซึ่งเป็นสํานักงานที่ผู้สอบบัญชีสังกัด ในรอบปีบัญชีที่ผ่านมามี จํานวนเงินรวม<br />
110,000 บาท<br />
<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
104<br />
บุคคลอ้างอิงอื่นๆ<br />
นายทะเบียนหลักทรัพย์<br />
<br />
บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด<br />
62 อาคารตลาดหลักทรัพย์ประเทศไทย ชั้น 4, 6-7<br />
ถนนรัชดาภิเษก แขวงคลองเตย เขตคลองเตย<br />
กรุงเทพฯ 10110, ประเทศไทย<br />
โทรศัพท์ 0-2229-2800<br />
โทรสาร 0-2654-5427<br />
<br />
ผู้สอบบัญชี <br />
ที่ปรึกษากฎหมาย<br />
นางณัฐสรัคร์ สโรชนันท์จีน CPA No. 4563<br />
สำนักงาน เอ.เอ็ม.ที แอสโซซิเอท<br />
491/27 สีลมพลาซ่า ถนนสีลม เขตบางรัก<br />
กรุงเทพฯ 10500, ประเทศไทย<br />
โทรศัพท์ 0-2234-1676, 0-2234-1678<br />
โทรสาร 0-2237-2133<br />
<br />
บริษัท อัลเลน แอนด์ โอเวอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด<br />
130 อาคารสินธร 3 ชั้น 22 ถนนวิทยุ <br />
กรุงเทพฯ 10330, ประเทศไทย<br />
โทรศัพท์ 0-2263-7600<br />
โทรสาร 0-2263-7699<br />
<br />
ที่ปรึกษาทางการเงิน <br />
พิจารณาตามโครงการ<br />
<br />
<br />
รายงานประจําปี 2553 • <strong>Annual</strong> <strong>Report</strong> <strong>2010</strong>
บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน)<br />
ชั้น 18 อาคารยูเอ็มทาวเวอร์ เลขที่ 9 ถนนรามคำแหง สวนหลวง กรุงเทพมหานคร 10250 ประเทศไทย<br />
โทรศัพท์ : 66-2719-9555 โทรสาร : 66-2719-9546-7<br />
ทะเบียนเลขที่ : บมจ.0107536000676<br />
<strong>Hemaraj</strong> <strong>L<strong>and</strong></strong> And <strong>Development</strong> Public Company Limited<br />
18 th FL., UM Tower, 9 Ramkhamhaeng Rd., Suangluang, Bangkok 10250 THAILAND<br />
Tel : 66-2719-9555 Fax : 66-2719-9546-7<br />
Registration No. : BORMORJOR.0107536000676<br />
e-mail : marketing@hemaraj.com, invest@hemaraj.com<br />
www.hemaraj.com, www.theparkresidence.co.th