You also want an ePaper? Increase the reach of your titles
YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.
<strong>January</strong> <strong>2018</strong> l Vol.13 <strong>No</strong>.<strong>142</strong><br />
7 Benefits of<br />
Oregano Essential Oil<br />
Experience Foods<br />
from Chile<br />
Ensuring<br />
Consumer Safety<br />
and Brand Protection<br />
Sweet<br />
& Snack Trends<br />
Healthy and Diversity<br />
The Key<br />
Food Driver<br />
for <strong>2018</strong><br />
EEC:<br />
New Flagship<br />
for Thailand in Global Stage<br />
Food Defense:<br />
Protection against<br />
Intentional Contamination
Make Your Benefit<br />
Tel.: (66) 0 2136 3156 Fax.: (66) 0 2136 316 www.sentapack.com
www.anton-paar.com<br />
info.th@anton-paar.com
20 ปีแห่งการสานต่อ<br />
นวัตกรรมส่วนผสมอาหาร<br />
สู่การยกระดับอุตสาหกรรมอาหารไทย<br />
เมื่อก่อนนี้ผู้ผลิตอาหารยังไม่ตื่นตัวเรื่องความปลอดภัยอาหารเท่าไรนัก<br />
ใช้เครื่องจักรง่ายๆ ใช้แรงงานราคาประหยัด เน้นแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร<br />
จากท้องถิ่น เช่น ผักและผลไม้ต่างๆ แต่ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทาง<br />
ที่ดีขึ้น เช่น มีการนำมาตรฐาน GMP ให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการควบคุม<br />
กระบวนการผลิตอาหาร ด้านสถาบันการศึกษาก็มีการเรียนการสอนสาขา<br />
วิทยาศาสตร์การอาหารมากขึ้น จึงมีบุคลากรที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ<br />
เฉพาะทางเพิ ่มขึ้นมาก อีกทั้งอาหารไทยเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ<br />
ส่งผลให้การเติบโตของอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปของไทยมีความต่อเนื่องและ<br />
เข้มแข็งมากขึ้น<br />
ทีละก้าวของ นิธิฟู้ดส์” สู่การพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารสมัยใหม่<br />
เมื่อความสะดวกสบายกลายเป็นเงื่อนไขในชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ซึ่งส่งผล<br />
ต่อผู้ผลิตอาหารยุคใหม่ที่ต้องปรับตัวพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารให้มีความสะดวก<br />
ในการบริโภคมากขึ้น อย่างที่เห็นได้จากความต้องการอาหารพร้อมรับประทาน<br />
ในร้านสะดวกซื้อซึ่งนับวันจะยิ่งมีความหลากหลายมากขึ้นเรื่อยๆ “นิธิฟู้ดส์”<br />
จึงได้นำโจทย์ความต้องการนี้มาเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนการดำเนินธุรกิจ<br />
โดยในช่วง 10 ปีแรก “นิธิฟู้ดส์” มุ่งเน้นที่จะเป็นผู้ผลิตเครื่องเทศที่มี<br />
คุณภาพสูง มีมาตรฐานระดับสากล ซึ่งก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และ<br />
เราเป็นโรงงานเครื่องเทศรายแรกๆ ของไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน HACCP<br />
ทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจในคุณภาพ อีกทั้งช่วยให้ลูกค้าสามารถขยายตลาด<br />
เพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว<br />
“ในช่วง 10 ปีต่อมาซึ่งผมได้เข้ามารับช่วงต่อนั้น “นิธิฟู้ดส์” เริ่มเข้าสู่การพัฒนา<br />
ผลิตภัณฑ์อาหารมูลค่าสูงขึ้น เพื่อรองรับตลาดผู้บริโภคเฉพาะกลุ่มและส่งออก<br />
ไปยังต่างประเทศ โดยเราเน้นพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารที่มีนวัตกรรมและความคิด<br />
สร้างสรรค์ให้กับผู้บริโภค เช่น ซอสผงข้าวอบต้มยำในหม้อหุงข้าว ซอสผงทำอาหาร<br />
แบบเอเชียฟิวชั่น และอีกกว่า 40 ผลิตภัณฑ์ ภายใต้ 4 แบรนด์ของเราอย่าง<br />
เออร์เบิร์นฟาร์ม พ๊อคเก็ตเชฟ อีสคิทเช่น และคิทเช่น คิทเช่น” คุณสมิต กล่าว<br />
พร้อมเผยกลยุทธ์สู่ความสำเร็จในก้าวต่อไป<br />
4 FOOD FOCUS THAILAND JAN <strong>2018</strong><br />
,<br />
“เมื่อ 20 ปีก่อน อุตสาหกรรมอาหารของไทยเพิ่งจะเริ่มเ ก ิ ด ก า ร<br />
ขยายตัว โดยมีบริษัทด้านอาหารและส่วนผสมอาหารใหม่ๆ เกิดขึ้น<br />
มากมาย และ “นิธิฟู้ดส์” เองก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน” คุณสมิต<br />
ทวีเลิศนิธิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นิธิฟู้ดส์ จำกัด ให้สัมภาษณ์ถึง<br />
ความเป็นมาของ บริษัท นิธิฟู้ดส์ จำกัด และเผยกลยุทธ์แห่งความสำเร็จ<br />
ในฐานะผู้ผลิตส่วนผสมอาหารที่มุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาเพื่อ<br />
ยกระดับอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปของไทยมากว่า 20 ปี<br />
“<br />
สำหรับก้าวต่อไปในการผลักดันอุตสาหกรรมอาหารของไทยนั้น “นิธิฟู้ดส์”<br />
ได้วางกลยุทธ์การดำเนินงานใน 3 เสาหลักที่สำคัญ เรื่องแรก คือ สร้างความเข้มแข็ง<br />
ให้กับกลุ่มเกษตรกรภายในประเทศด้วยการส่งเสริมการเพาะปลูกกระเทียม<br />
อย่างยั่งยืน ทำให้มั่นใจในคุณภาพ รักษาสิ่งแวดล้อมของเกษตรต้นน้ำ และกลุ่ม<br />
เกษตรกรยังมีความเข้มแข็งจากการที่บริษัทรับซื้อผลผลิตอย่างสม่ำเสมอทุกปี<br />
เรื่องที่สอง คือ การคิดค้นนวัตกรรมเครื่องปรุงรสอาหารสำหรับธุรกิจการให้บริการ<br />
ด้านอาหาร หรือที่เรียกว่า HoReCa โดยบริษัทฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ปรุงรสอาหาร<br />
รูปแบบผงสำหรับเมนูหลากหลายสัญชาติเพื่อทดแทนการนำเข้า เช่น เมนูอาหารจีน<br />
ญี่ปุ่น และเกาหลี ผลิตภัณฑ์นวัตกรรมนี้ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถบริหารจัดการ<br />
วัตถุดิบได้ง่ายและประหยัดขึ้นกว่าแบบน้ำที่ใช้อยู่ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมองถึง<br />
การพัฒนาผลิตภัณฑ์ปรุงรสให้กับอุตสาหกรรมอาหารแช่แข็งต่อไปด้วย<br />
เรื่องที่สาม คือ การวิจัยส่วนผสมอาหารเพื่อสุขภาพที่เหมาะกับผู้ที่เฝ้าระวัง<br />
โรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง โดยจะนำองค์ความรู้<br />
ทางโภชนาการและวัตถุดิบอาหารนวัตกรรมมาสู่การใช้ในเชิงพาณิชย์ให้มากขึ้น<br />
แผนธุรกิจสำคัญซึ่งขับเคลื่อนด้วย<br />
ทีมวิจัยและพัฒนาโดย “นิธิฟู้ดส์”<br />
1. สร้างความเข้มแข็งให้กลุ่มเกษตรกรภายในประเทศ<br />
2. พัฒนานวัตกรรมเครื่องปรุงรสอาหารเพื่อธุรกิจ HoReCa<br />
3. วิจัยส่วนผสมอาหารเพื่อสุขภาพสำหรับผู้บริโภคเฉพาะกลุ่ม<br />
ก้าวแห่งนวัตกรรมของ นิธิฟู้ดส์” ในยุคอุตสาหกรรม 4.0<br />
“<br />
“เมื่อเราเองสามารถพัฒนาสินค้าใหม่ที่มีนวัตกรรมอาหารออกมาได้หลากหลาย<br />
สามารถหยิบเอาองค์ความรู้สมัยใหม่มาใช้ได้อย่างรวดเร็ว ผมพบว่าเรามีความสามารถ<br />
ด้านวิทยาศาสตร์ของการพัฒนารสชาติอาหารในระดับสูง จึงเกิดแนวความคิดที่จะ<br />
สร้างสรรค์ “นวัตกรรมแบบเปิด” (Open Innovation) โดยจัดตั้งสถาบันวิจัยรสชาติอาหาร<br />
บริษัท นิธิฟู้ดส์ จำกัด เพื่อช่วยเหลือและสนับสนุน SMEs หรือ OTOP ที่มีความต้องการ<br />
จะพัฒนารสชาติผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ให้มาใช้ความสามารถและ<br />
ประสบการณ์ของเราได้” คุณสมิต กล่าว<br />
“เมื่อเราเป็นส่วนหนึ่งที่เชื่อมต่อธุรกิจอาหารของไทยเข้าสู่องค์ความรู้ทาง<br />
วิทยาศาสตร์ เชื่อว่าอุตสาหกรรมอาหารของไทยจะก้าวสู่ยุค 4.0 ที่มุ่งเน้นการใช้<br />
นวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ได้เร็วขึ้นอย่างแน่นอน” คุณสมิต กล่าวสรุป
ADVERTORIAL<br />
Advertorial<br />
Serving the Food Industry with Premium Quality Ingredients<br />
คุณสมิต ทวีเลิศนิธิ<br />
Mr.Smith Taweelerdniti<br />
Managing Director<br />
Nithi Foods Co., Ltd.<br />
20 years ago, Thailand’s food industry started growing<br />
and a lot of companies were launched during that period<br />
including “Nithi Foods”- explained Nithi Foods’s Managing<br />
Director, Mr.Smith Taweelerdniti introducing us to the<br />
company’s history and revealed its business strategy as the<br />
leading ingredients manufacturer who has been focusing<br />
on research and development for more than 2 decades.<br />
In the past, food safety was not a big concern. Many food manufacturers<br />
used basic technologies, low-wage labour and local raw materials such as<br />
agricultural products found in the area. Today, food safety is more important<br />
than ever and we can see that the industry has contributed to the positive<br />
change such as introducing the GMP standard as part of food production<br />
control. Currently, higher education institutions have provided more classes<br />
on Food Science and Technology, which increase the number of graduates<br />
entering the food industry in Thailand. Moreover, Thai food is internationally<br />
recognized, resulted in the continuous growth of Thailand food industry<br />
while reinforcing its strong manufacturing.<br />
“Nithi Foods”, Step by Step to the Development of<br />
Modern Food Industry<br />
When convenience is the main condition in this era, food manufacturers<br />
have to develop and create food products that are more convenient to<br />
consume. As we can see from the rising demand for ready-to-eat foods in<br />
convenience stores and the increasingly diverse product development<br />
concept, “Nithi Foods”, as the leading ingredients manufacturer, has applied<br />
this demand as a part of its business strategy.<br />
Over the first decade, “Nithi Foods” focused on being a premium quality<br />
spices manufacturer. We are one of the first few spice production facilities<br />
in Thailand that are HACCP certified. This lead to customers’ confidence<br />
and ease them to rapidly expand their market.<br />
“10 years after I took responsibility, we entered into the development<br />
of value-added products in response to consumer market and international<br />
export. We put a lot of effort in creating innovative and creative food products<br />
such as seasoning Tom Yum rice in a rice cooker, cooking kit for Asian<br />
Fusion food, as well as 40 other products under our 4 brands, namely, Urban<br />
Farm, Pocket Chef, East Kitchen and Kitchen Kitchen,” said Mr.Smith.<br />
For the next steps, “Nithi Foods” aims to strengthen Thailand’s food<br />
industry with 3 strategic plans. First of all, we plan to strengthen local farmers<br />
by promoting sustainable cultivation of garlic. We are confident in the produce<br />
quality, conserve environment, and strong farmer group because we are a<br />
reliable market for them.<br />
Secondly, we are focusing on innovative ingredients for food service<br />
industry, also known as HoReCa business. We offer seasoning products<br />
that made locally for Asian recipes like Chinese, Japanese and Korean. Our<br />
seasoning is powder-based so the supply chain management is much easier<br />
than current liquid-based products. We also aim to expand into developing<br />
food ingredients for frozen food industry after this.<br />
The third plan is to research healthy food ingredients that are suitable<br />
for consumers who have health and wellness concerns such as<br />
cardiovascular disease, diabetes, and hypertension. We aim to bring the<br />
knowledge of nutrition and innovative ingredients into commercialization in<br />
a larger scale.<br />
The key business areas fueled<br />
by Nithi Foods’ R&D team<br />
1. Strengthen local farmers by promoting sustainable cultivation.<br />
2. Develop new innovative ingredients for HoReCa business.<br />
3. Research and enhance healthy food ingredients for consumers<br />
with health and wellness concerns.<br />
Innovative Steps of “Nithi Foods” in Industry 4.0 Era<br />
“When we can create varieties of innovative food products, I found that we<br />
possess high level of scientific ability in flavor development. As a result, I<br />
developed an idea for “Open Innovation” by setting up Flavor Research<br />
Institute of Nithi Foods to support SMEs or OTOP entrepreneurs who want<br />
to create a unique flavor in their products but do not know where to start.<br />
We want to extend our help to those small businesses,” said Mr.Smith.<br />
“As “Nithi Foods” becomes a bridge for Thailand food Industry to the<br />
scientific knowledge, we believe that the Thai food industry can certainly<br />
reach its goal for Thailand 4.0, where businesses can utilize innovation and<br />
creativity,” concluded Mr.Smith.<br />
JAN <strong>2018</strong><br />
FOOD FOCUS THAILAND<br />
5
<strong>January</strong> <strong>2018</strong> / Vol. 13 / <strong>No</strong>. <strong>142</strong><br />
CONTENTS<br />
BONUS ATTRACTIONS<br />
• SURF THE AEC<br />
22 EEC - Thailand’s Flagship Special Economic Zone (SEZ)<br />
ชูธงอีอีซี…นำไทยสู่เวทีโลก<br />
By: Paisan Maraprygsavan, Ph.D., Trade Policy and Strategy Office,<br />
Ministry of Commerce<br />
22<br />
• SPECIAL REPORT<br />
26 Mindful Choices…The Key Food Driver for <strong>2018</strong><br />
ความต้องการหลักของผู้บริโภคทั่วโลกคือต้องการรู้จักและเข้าใจในส่วนผสม<br />
บนฉลากมากขึ้นอย่างชัดเจน<br />
By: Innova Market Insights<br />
• SEE THROUGH MARKET<br />
46 Foods from Chile “The Bounty of Our Land Delivered<br />
to Your Table”<br />
อาหารจานโปรดจากแผ่นดินชิลีส่งตรงถึงโต๊ะท่าน<br />
By: ProChile<br />
26<br />
40<br />
REGULAR ATTRACTIONS<br />
• STAR ITEMS<br />
20 ผลิตภัณฑ์ดาวเด่นประจำฉบับ<br />
• SPECIAL FOCUS<br />
30 Snack Trends<br />
แนวโน้มของผลิตภัณฑ์อาหารมื้อว่าง<br />
By: Nutraceuticalsworld<br />
36 6 Exciting Trends in Confectionery & Snack<br />
Packaging for <strong>2018</strong><br />
6 เทรนด์มาแรงของอาหารมื้อว่างในปี 2561<br />
By: Kevin Kramer<br />
38 Frozen Bakery Market Forecast for <strong>2018</strong><br />
คาดการณ์แนวโน้มผลิตภัณฑ์เบเกอรีแช่แข็งปี 2561<br />
By: Foodexecutive<br />
• STRONG QC & QA<br />
40 Food Defense<br />
การป้องกันการก่อการร้ายในธุรกิจอาหาร<br />
By: Tawatchai Khamvijitraporn,<br />
MT Operation Co., Ltd.<br />
• STRATEGIC R & D<br />
43 7 Amazing Benefits Of Oregano<br />
Essential Oil<br />
7 คุณประโยชน์อัศจรรย์...น้ำมันหอมระเหยออริกาโน<br />
By: OrganicFacts<br />
• SMART PRODUCTION<br />
50 Ensuring Consumer Safety<br />
and Brand Protection<br />
การสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของผู้บริโภค<br />
และการปกป้องแบรนด์<br />
By: Mettler-Toledo (Thailand) Limited
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน)<br />
ได้ร่วมกันจัดทำมาตรฐานอาชีพ<br />
และคุณวุฒิวิชาชีพสาขาวิชาชีพการผลิตอาหาร<br />
และเครื่องดื่ม สาขาอุตสาหกรรมน้ำตาล<br />
โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้กลุ่มสาขา<br />
อาชีพ จัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพที่สอดคล้องกับ<br />
ความต้องการของผู้ประกอบการ มีความเป็นสากลและเหมาะสมกับประเทศไทย ประกอบด้วย<br />
8 อาชีพ ดังนี้<br />
ช่างลูกหีบ<br />
ช่างพักใส<br />
ช่างหม้อต้ม<br />
ช่างหม้อเคี่ยว<br />
ช่างหม้อปั่น<br />
ช่างน้ำตาล<br />
รีไฟน์<br />
ช่างอบแห้ง<br />
น้ำตาล<br />
ผู้ควบคุม<br />
คุณภาพใน<br />
อุตสาหกรรม<br />
น้ำตาล<br />
โดยแต่ละอาชีพจะมี 3 คุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งในอนาคตสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน)<br />
จะเปิดรับสมัครบุคคลที่อยู่ในอาชีพทั้ง 8 อาชีพดังกล่าว เพื่อเข้ารับการประเมินสมรรถนะตาม<br />
มาตรฐานอาชีพฯ เพื่อขอรับรองมาตรฐานต่อไป<br />
จึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนบุคคลที่สนใจให้ทราบโดยทั่วกัน และขอให้ติดตามข่าวสารได้ที่<br />
สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน)<br />
โทรศัพท์ 02-617-7970, 095-367-5006<br />
โทรสาร 02-617-7577 อีเมล์ info@tpqi.go.th<br />
Official Facebook: สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน)<br />
www.tpqi.go.th<br />
โครงการประกาศนียบัตรบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีของน้ำตาล<br />
คณะอุตสาหกรรมเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์<br />
โทรศัพท์ 02-562-5000 ต่อ 5343 โทรสาร 02-942-8861<br />
อีเมล์ kusugartech@gmail.com
<strong>January</strong> <strong>2018</strong> / Vol. 13 / <strong>No</strong>. <strong>142</strong><br />
CONTENTS<br />
OCCASIONAL ATTRACTIONS<br />
• STORAGE, HANDLING & LOGISTICS<br />
52 Good Manufacturing Practice…From Factory to the Hand<br />
of the Customers with Safety<br />
GMP จากกระบวนการผลิตถึงผู้บริโภคอย่างปลอดภัย<br />
By: Material World Co., Ltd.<br />
• STRENGTHEN THE PACKAGING<br />
54 Form-Fill-Seal Packaging Machine…Innovation for<br />
Food Manufacturers<br />
บรรจุภัณฑ์และเครื่องบรรจุภัณฑ์แบบ Form-Fill-Seal กับการพัฒนาที่ตอบโจทย์<br />
ตลาดผู้ผลิตในปัจจุบัน<br />
By: Iddhiputt Thamsuriya, Thai Sek Son Co., Ltd.<br />
43<br />
EXHIBITION ATTRACTIONS<br />
• SHOWTIMES<br />
56 Pre Show – Food Pack Asia <strong>2018</strong><br />
พร้อมแล้วกับก้าวที่กล้าสู่ยุค Food Tech 4.0<br />
36<br />
38<br />
62<br />
U Share. V Care.<br />
The Winners of U Share. V Care.<br />
NOVEMBER 2017 Issue<br />
DEPARTMENTS<br />
แบบสอบถามความคิดเห็น<br />
พร้อมลุ้นรับของรางวัล<br />
Share your comment and win a gift<br />
“Smart T-Shirt By<br />
Food Focus Thailand”<br />
3 Lucky Winners<br />
14 Advertising Index<br />
รายชื่อผู้ลงโฆษณา<br />
18 Schedule of Events<br />
ข้อมูลงานนิทรรศการ การประชุม สัมมนา และฝึกอบรมต่างๆ<br />
57 Surrounds<br />
อัพเดทข่าวสารในวงการอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม
22 March <strong>2018</strong><br />
เกาะกระแสที่มาแรงไม่เคยจาง<br />
ในวงการอุตสาหกรรมอาหารและ<br />
เครื่องดื่ม พบกับโอกาสและเทรนด์ที่<br />
ท้าทายในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร<br />
และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและ<br />
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เสริมสุขภาพ<br />
กลยุทธ์ด้านการตลาด และกฎหมาย<br />
ที่เกี่ยวข้อง มาสร้างความมั่นใจว่า<br />
ผลิตภัณฑ์ที่พัฒนาขึ้นมานั้นถูกทาง…<br />
ตอบโจทย์เวลาที่ใช่โดนใจความต้องการ<br />
และเลือกสรรเทคโนโลยีได้อย่าง<br />
เหมาะสม<br />
Trend & Market Opportunities<br />
• เจาะใจผู้บริโภค ค้นหาความต้องการ เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มที่ตอบโจทย์ตลาด<br />
Consumer insight and market evaluation<br />
Ideation and Creativity in R & D<br />
• คิดค้น วิจัย และพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เสริมสุขภาพ<br />
Research & development for functional food & beverage<br />
Innovative Processing & Packaging<br />
• กระบวนการผลิตและการบรรจุที่ช่วยรักษาคุณประโยชน์<br />
ทางโภชนาการและสุขภาพ<br />
Innovative processing & packaging that maintains<br />
health benefit of functional food & beverage<br />
When it comes<br />
to the<br />
healthoriented<br />
market<br />
Standard & Regulation<br />
• กฎระเบียบและการกล่าวอ้างผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ<br />
และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เสริมสุขภาพ<br />
Regulations and health claims for functional food & beverage<br />
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณชาลินี 08 6908 2377
EDITOR’S TALK<br />
ฝ่ายบรรณาธิการ / Editorial Department<br />
บรรณาธิการบริหาร / Managing Editor:<br />
ศิรินทรา บุญสำเร็จ / Sirintra Boonsumrej<br />
ผู้ช่วยบรรณาธิการ / Assistant Editor:<br />
อัครพล อนันตโชติ / Arkkrapol Anantachote<br />
ผู้สื่อข่าวอาวุโส / Senior Journalist:<br />
พิมพ์ชนก กนกลาวัณย์ / Pimchanok Kanoklawan<br />
editor@foodfocusthailand.com<br />
ฝ่ายขายและการตลาด / Sales & Marketing Department<br />
ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจ / Business Director:<br />
เพ็ญแข ประวัติพัฒนากูล / Phenkhae Prawatphatthanakoon<br />
ผู้จัดการฝ่ายขาย / Sales Manager:<br />
สิริวรรณ ขาวสะอาด / Siriwan Khaosaard<br />
เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายโฆษณา / Advertising Sales Executive:<br />
นิภาพร ละครอนันต์ / Nipaporn Lakornanan<br />
sales@foodfocusthailand.com<br />
ฝ่ายสมาชิก / Circulation Department<br />
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสมาชิก / Circulation Officer:<br />
จิตสุดา ทองปาน / Jitsuda Thongparn<br />
ชาลินี จันทานนท์ / Chalinee Chanthanon<br />
นาถเรขา ทัพภูตา / Natrekha Tapputa<br />
seminar@foodfocusthailand.com<br />
ฝ่ายศิลปกรรม / Graphic Department<br />
ผู้อำนวยการฝ่ายศิลปกรรม / Graphic Director:<br />
สุรีรัตน์ หลักบุตร / Sureerat Lukbud<br />
เจ้าหน้าที่ฝ่ายศิลปกรรม / Graphic Designer:<br />
นภพงศ์ กรประเสริฐ / Napaphong Kornprasert<br />
graphic@foodfocusthailand.com<br />
Sirintra Boonsumrej<br />
Managing Editor<br />
Food Focus Thailand Magazine<br />
Publisher<br />
Be Media Focus (Thailand) Co., Ltd.<br />
5/38 Soi Ngamwongwan 25 Yak 26, Bangkhen,<br />
Muang <strong>No</strong>nthaburi, <strong>No</strong>nthaburi 11000 Thailand<br />
T +66 2192 9598<br />
F +66 2116 5732<br />
E contact@foodfocusthailand.com<br />
W www.foodfocusthailand.com<br />
ฝ่ายบัญชีและการเงิน / Accounting & Finance Department<br />
ผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงิน / Accounting & Finance Manager:<br />
นาตยา พงษ์สัตยาพิพัฒน์ / Nataya Pongsatayapipat<br />
account@foodfocusthailand.com<br />
The texts and photos in Food Focus Thailand, as well as personal<br />
comments of contributors are all rights reserved. Reproduction of the<br />
magazine, in whole or in part, is prohibited without the prior written<br />
consent of the publisher.<br />
ช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 นี้คาดว่าการใช้จ่ายของคนกรุงฯ จะมีมูลค่ากว่า 29,600 ล้านบาท<br />
ขยายตัวร้อยละ 4.0 เมื่อเทียบกับปีก่อน กำลังซื้อของผู้บริโภคในภาพรวมยังถูกกดดันด้วย<br />
หนี้ครัวเรือนและค่าครองชีพที่ยังคงอยู่ในระดับสูง รวมถึงความกังวลกับกำลังซื้อในอนาคต ทำให้<br />
การวางแผนใช้จ่ายยังเป็นไปอย่างระมัดระวัง โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้มีฐานรายได้ต่อเดือนไม่สูงมาก<br />
ทั้งนี้ ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า เม็ดเงินที่ใช้จ่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่แยกเป็นค่าใช้จ่าย<br />
อาหารและเครื่องดื่ม 9,000 ล้านบาท รองลงมาคือ ท่องเที่ยวในประเทศ (เฉพาะค่าที่พักและ<br />
ค่าเดินทาง) 8,200 ล้านบาท ซื้อของขวัญ/ของฝาก (ทั้งมอบให้ตัวเองและผู้อื่น) 8,100 ล้านบาท<br />
การให้เงินพ่อแม่/พี่น้องเป็นของขวัญปีใหม่ 2,000 ล้านบาท และทำบุญ/ไหว้พระ 1,600 ล้านบาท<br />
และค่าใช้จ่ายอื่นๆ (อาทิ ดูหนัง ฟังเพลง) 700 ล้านบาท ในขณะที่งบประมาณใช้จ่ายเฉลี่ยต่อคน<br />
อยู่ที่ 5,400 บาท<br />
คนกรุงฯ ร้อยละ 75 ยังเลือกจับจ่ายใช้สอยสินค้าและบริการจากร้านค้าปลีกที่มีหน้าร้าน นำโดย<br />
ห้างสรรพสินค้า เนื่องจากต้องการเลือกซื้อสินค้าและสัมผัสของจริง รองลงมาคือ เดินเล่นและร่วม<br />
กิจกรรมที่ถูกจัดขึ้น ตามลำดับ ดังนั้น กลุ่มนี้จึงเป็นลูกค้าที่ผู้ประกอบการควรเข้าไปทำตลาดและ<br />
กระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายให้ได้มากที่สุด ส่วนกลยุทธ์การตลาดที่คาดว่าจะสามารถดึงดูดความสนใจ<br />
ผู้บริโภคได้ น่าจะเป็นการชูเรื่องความคุ้มค่า คุ้มราคา เพราะการจับจ่ายเลือกซื้อสินค้า โดยเฉพาะ<br />
ของขวัญของฝากในปีนี้ยังเน้นไปที่สินค้าที่หาซื้อง่าย สามารถสื่อแสดงถึงน้ำใจภายใต้งบประมาณ<br />
ที่ไม่สูงนัก<br />
During the <strong>2018</strong> New Year holiday celebrations, Bangkok populace is expected<br />
to spend around THB 29.6 billion, up 4.0 percent over 2017. Overall spending<br />
sentiment is still being pressured by consumers’ household debts and a relatively<br />
high cost of living, causing concern toward their future purchasing power.<br />
Thus, the consumers – particularly low income earners – are planning their<br />
spending carefully for this New Year.<br />
Of the total spending during the holiday, THB 9 billion is expected to be spent<br />
on food & beverages, followed by THB 8.2 billion on domestic travel (e.g.,<br />
accommodation and travel costs), THB 8.1 billion on gifts/souvenirs (for themselves<br />
and others), THB 2 billion on money presented to their parents/siblings,<br />
THB 1.6 billion on merit making/temple visits, and the other THB 700 million on<br />
miscellaneous items (e.g., movies and music). Bangkok city dwellers are thus<br />
expected to spend THB 5,400 per person over the New Year holiday.<br />
This year, 75 percent of Bangkok populace will likely purchase products and<br />
services mostly from physical retailers, ‘offline’, led by department stores. The<br />
main reason they still prefer to shop at traditional stores is because they want<br />
to experience goods physically, and because they enjoy strolling in malls and<br />
joining in on entertaining activities there, respectively. Such customers should<br />
be focused upon in retailers’ marketing campaigns to encourage greater spending.<br />
Marketing strategies that may attract consumers’ attention should likely<br />
focus on value for money because the spending mood this year will likely emphasize<br />
prudence and merchandise that is easy to find, yet expresses the<br />
goodwill of the gift-giver, while not being overly costly.<br />
Food Focus Thailand Magazine<br />
10 FOOD FOCUS THAILAND DEC 2017
BOARD OF CONSULTANTS<br />
Sakchai Sriboonsue D.V.M., LB.<br />
President of the Milk Board<br />
Dairy Farming Promotion Organization of Thailand<br />
Boonpeng Santiwattanatam<br />
Chairman<br />
Food Processing Industry Club<br />
The Federation of Thai Industries<br />
Visit Limprana<br />
Honorary Advisor<br />
Food Processing Industry Club<br />
The Federation of Thai Industries<br />
Sakkhee Sansupa<br />
Director<br />
Thai Packaging Centre<br />
Thailand Institute of Scientific and Technological Research<br />
Prof. Pavinee Chinachoti, Ph.D.<br />
President<br />
Food Science and Technology Association of Thailand (FoSTAT)<br />
Assoc. Prof. Winai Dahlan, Ph.D.<br />
Founding Director<br />
The Halal Science Center<br />
Chulalongkorn University<br />
Assoc. Prof. Sombat Chinawong, Ph.D.<br />
Director<br />
Institute of Food Research and Product Development<br />
Kasetsart University<br />
Yongvut Saovapruk<br />
President<br />
National Food Institute, Ministry of Industry<br />
Phanit Laosirirat, Ph.D.<br />
Executive Director<br />
Thailand Productivity Institute<br />
Assoc. Prof. Ratchanee Kongkachuichai, Ph.D.<br />
Director<br />
Institute of Nutrition, Mahidol University<br />
Prof. Visith Chavasit, Ph.D.<br />
Institute of Nutrition, Mahidol University<br />
Assoc. Prof. Sittiwat Lertsiri, Ph.D.<br />
Dean<br />
Faculty of Science, Mahidol University<br />
Poj Aramwattananont, Ph.D.<br />
President<br />
Thai Frozen Foods Association<br />
Pravith Chotiprayanakul<br />
CEO<br />
GS1 Thailand<br />
The Federation of Thai Industries<br />
ENDORSEMENT<br />
Food and Drug Administration<br />
Ministry of Public Health<br />
Food Processing Industry Club<br />
The Federation of Thai Industries<br />
Thailand Institute of Scientific<br />
and Technological Research<br />
Thai Packaging Centre<br />
Thailand Institute of Scientific<br />
and Technological Research<br />
Food Science and Technology<br />
Association of Thailand<br />
The Halal Science Center<br />
Chulalongkorn University<br />
Institute of Food Research<br />
and Product Development<br />
Kasetsart University<br />
Faculty of Agro-Industry<br />
Kasetsart University<br />
National Food Institute<br />
Ministry of Industry<br />
Thailand Productivity Institute<br />
Ministry of Industry<br />
Office of Small and Medium<br />
Enterprises Promotion<br />
Thai Frozen Foods Association<br />
GS1 Thailand<br />
The Federation of Thai Industries<br />
RFID Institute of Thailand<br />
The Federation of Thai Industries
<strong>2018</strong><br />
6<br />
CHIANG MAI<br />
9 Feb <strong>2018</strong><br />
@ SIMA THANI<br />
HOTEL<br />
NAKHON<br />
RATCHASIMA<br />
(Korat)<br />
AYUTTHAYA<br />
1<br />
3<br />
4<br />
5<br />
CHON BURI<br />
SAMUT<br />
SAKHON<br />
2<br />
SONGKHLA<br />
(Had Yai)<br />
FREE...<br />
Food Focus Thailand Roadshow <strong>2018</strong><br />
นิตยสาร ฟูด โฟกัส ไทยแลนด เดินสาย 6 จังหวัดทั่วไทย รวมเปนสวนหนึ่ง<br />
ในการสรางพื้นฐานองคความรูเรื่อง “อาหารปลอดภัย” เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ<br />
ในการแขงขันของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มของไทยใหพรอมกาวสูตลาดในระดับสากล<br />
อยางแข็งแกรงและยั่งยืน...กับงานสัมมนาในธีม “Food Safety Roadshow” ตลอดป 2561<br />
foodfocusthailand<br />
@foodfocusthailand
ADVERTISING INDEX<br />
ADVERTISING<br />
INDEX<br />
<strong>January</strong> <strong>2018</strong><br />
Company<br />
Service<br />
Info<br />
Page<br />
<strong>No</strong>.<br />
Anton Paar (Thailand) Ltd. B491 3<br />
Developing Professional Qualification B455 7<br />
in Sugar Industries Project<br />
Dhawath Technology Systems Co., Ltd. B251 IBC<br />
Food & Hotel Asia <strong>2018</strong> B179 39<br />
Food Focus Thailand Roadmap # 42: 9<br />
Functional F&B Edition<br />
Food Thailand Roadshow <strong>2018</strong> 13<br />
Food Focus Thailand (New Website) 15<br />
Food Pack Asia <strong>2018</strong> B222 11<br />
GNT Singapore Pte. Ltd. B298 25<br />
Hi-Cook (Thailand) Co., Ltd. B325 33<br />
Hotelex Shanghai <strong>2018</strong>/ Expo Finefood <strong>2018</strong> B217 27<br />
Inthaco Co., Ltd. B074 45<br />
KH Roberts (Thailand) Co., Ltd. B231 BC<br />
Material World Co., Ltd. B137 53<br />
Mettler-Toledo (Thailand) Ltd. B010 51<br />
Nithi Foods Co., Ltd. B490 IFC, 4-5<br />
Official Equipment Manufacturing Co., Ltd. B084 14<br />
Propak Asia <strong>2018</strong> B181 29<br />
Senta Pack Machinery & Service Co., Ltd. B025 Insert<br />
Siam Pro (Thailand) Co., Ltd. B486 31<br />
Thai Sek Son Co., Ltd. B001 55<br />
THAIFEX-World of Food Asia <strong>2018</strong> B178 49<br />
Be Media Focus (Thailand) Co., Ltd.<br />
T +66 2192 9598<br />
E sales@foodfocusthailand.com<br />
W www.foodfocusthailand.com<br />
14 FOOD FOCUS THAILAND JAN <strong>2018</strong>
Your support means a lot to us.<br />
We are stepping into the 13 th Anniversary<br />
Year 2017 has been a challenge for us, but without you,<br />
we could not have turned these challenges into great challenges.<br />
We appreciate your valuable contribution and unwavering<br />
support in making a great success.<br />
Thank you for being a part of our journey and for<br />
believing in us to help strengthen<br />
the Food & Beverage Industry in Thailand.<br />
We wish you a great year ahead!
R
16-18 HORECA KUWAIT <strong>2018</strong><br />
@ Kuwait<br />
E kanokwan@blithailand.com<br />
W www.horeca-kuwait.com<br />
18-20 FOOD HOSPITALITY WORLD INDIA<br />
(FHW INDIA) <strong>2018</strong><br />
@ Mumbai, India<br />
E kanokwan@blithailand.com<br />
W www.fhwexpo.com<br />
21-23 WINTER FANCY FOOD SHOW<br />
<strong>2018</strong><br />
@ San Francisco, U.S.A.<br />
E kanokwan@blithailand.com<br />
W www.specialtyfood.com<br />
28-31 ISM <strong>2018</strong><br />
@ Cologne, Germany<br />
W www.ism-cologne.com<br />
1-3 VEGETARIAN FOOD ASIA <strong>2018</strong><br />
@<br />
E<br />
W<br />
JANUARY<br />
FEBRUARY<br />
LOHAS EXPO <strong>2018</strong><br />
Hong Kong<br />
project@yimexhibitions.com<br />
www.vegfoodasia.com<br />
www.lohasexpohk.com<br />
1-4 FOOD PACK ASIA <strong>2018</strong><br />
@ BITEC, Bangkok, Thailand<br />
E vipregis2015@gmail.com<br />
W www.foodpackthailand.com<br />
7-9 FRUIT LOGISTICA <strong>2018</strong><br />
@ Berlin, Germany<br />
E info@gp-events.com<br />
W www.fruitlogistica.de/en<br />
27 FEB – 2 MAR<br />
INGREDIENTS RUSSIA <strong>2018</strong><br />
@ Moscow, Russia<br />
E fm@ite-exhibitions.com<br />
W www.ite-expo.ru<br />
27 FEB – 3 MAR<br />
SALIMA <strong>2018</strong><br />
@ Czech Republic<br />
E kanokwan@blithailand.com<br />
W www.bvv.cz/en/salima<br />
18 FOOD FOCUS THAILAND JAN <strong>2018</strong><br />
1-3 FOOD, HOTEL & TOURISM BALI <strong>2018</strong><br />
@ Bali, Indonesia<br />
E project@yimexhibitions.com<br />
W www.fhtbali.com<br />
15-18 THAILAND COFFEE, TEA & DRINKS<br />
<strong>2018</strong><br />
@<br />
E<br />
W<br />
MARCH<br />
THAILAND BAKERY & ICE CREAM <strong>2018</strong><br />
IMPACT, <strong>No</strong>nthaburi, Thailand<br />
unchalee@kavinintertrade.co.th<br />
www.thailandcoffee.net<br />
20-22 PROPAK VIETNAM <strong>2018</strong><br />
@ HCMC, Vietnam<br />
E arayabhorn@besallworld.com<br />
(Arayabhorn Sukpornchaikul)<br />
W www.propakvietnam.com<br />
22 March <strong>2018</strong><br />
@ Challenger Hall, IMPACT<br />
By Be Media Focus (Thailand) Co., Ltd.<br />
T +66 2192 9598<br />
E contact@foodfocusthailand.com<br />
W www.foodfocusthailand.com<br />
20-23 ANUGA FOODTEC <strong>2018</strong><br />
@ Cologne, Germany<br />
W www.anugafoodtec.com<br />
20-23 HORECA LEBANON <strong>2018</strong><br />
@ Lebanon<br />
E kanokwan@blithailand.com<br />
W www.horecashow.com<br />
22-24 SWEETS & BAKES ASIA <strong>2018</strong><br />
@ Singapore<br />
E carine@cems.com.sg<br />
W www.sweetsbakesasia.com.sg<br />
22-24 CHINA FOOD & DRINKS FAIR<br />
(CFDF) <strong>2018</strong><br />
@ Chengdu, China<br />
E kanokwan@blithailand.com<br />
W www.cfdf.org<br />
www.blithailand.com<br />
26-29 FINE FOOD SHANGHAI <strong>2018</strong><br />
@ Shanghai, China<br />
E helen.fan@ubmsinoexpo.com<br />
W www.finefood.hotelex.cn/en-us<br />
27-29 HEALTH INGREDIENTS<br />
SOUTH EAST ASIA (Hi-SEA) <strong>2018</strong><br />
@ Jakarta, Indonesia<br />
E nongnaphat.j@ubm.com<br />
W www.figlobal.com/hisoutheastasia<br />
APRIL<br />
10-12 WORLDFOOD WARSAW <strong>2018</strong><br />
@ Warsaw, Poland<br />
E agnieszka@worldfood.pl<br />
(kanokwan@blithailand.com)<br />
W www.worldfood.pl<br />
11-13 WINE & GOURMET JAPAN <strong>2018</strong><br />
@ Tokyo, Japan<br />
E s.schaefer@koelnmesse.com.sg<br />
W www.wineandgourmetjapan.com<br />
16-18 PACK EXPO EAST <strong>2018</strong><br />
@ Pennsylvania, U.S.A.<br />
E bmurray@pmmi.org<br />
W www.packexpoeast.com<br />
22-23 NATURAL & ORGANIC PRODUCTS<br />
EUROPE <strong>2018</strong><br />
@ London, England<br />
E kanokwan@blithailand.com<br />
W www.naturalproducts.co.uk<br />
24-27 FOODANDHOTELASIA<strong>2018</strong><br />
@ Singapore<br />
E project@yimexhibitions.com<br />
W www.foodnhotelasia.com
SEMINAR & TRAINING<br />
24-27 PROWINE ASIA <strong>2018</strong><br />
@ Singapore<br />
E steffensc@messe-duesseldorf.de<br />
W www.prowineasia.com<br />
MAY<br />
1-4 SEOUL FOOD & HOTEL <strong>2018</strong><br />
@ Seoul, Korea<br />
E lina@kemallworld.com<br />
(kanokwan@blithailand.com)<br />
W www.seoulfoodnhotel.co.kr<br />
2-4 FOOD INGREDIENTS &<br />
HEALTH INGREDIENTS<br />
ISTANBUL (Fi & Hi<br />
ISTANBUL) <strong>2018</strong><br />
@ Istanbul, Turkey<br />
E nongnaphat.j@ubm.com<br />
W www.figlobal.com/istanbul<br />
2-4 SIAL CANADA <strong>2018</strong><br />
@ Toronto, Canada<br />
E jlesongeur@expocanadafrance.com<br />
kanokwan@blithailand.com<br />
W www.sialcanada.com<br />
15-17 VITAFOODS EUROPE <strong>2018</strong><br />
@ Geneva, Switzerland<br />
E susie.wang@informa.com<br />
W www.vitafoods.eu.com<br />
16-18 FOOD INGREDIENTS<br />
VIETNAM (Fi VIETNAM) <strong>2018</strong><br />
@ HCMC, Vietnam<br />
E nureen.c@ubm.com<br />
W www.figlobal.com/vietnam/home<br />
16-18 SIAL CHINA <strong>2018</strong><br />
@ Shanghai, China<br />
E info@sialchina.cn<br />
rudee@francothaicc.com<br />
(Franco-Thai Chamber of<br />
Commerce)<br />
W www.sialchina.com<br />
25-27 IFEX PHILIPPINES <strong>2018</strong><br />
@ Manila, The Philippines<br />
E ifexphilippines@citem.com.ph<br />
W www.ifexphilippines.com<br />
29 MAY – 2 JUNE<br />
THAIFEX – WORLD OF<br />
FOOD ASIA <strong>2018</strong><br />
@ IMPACT, <strong>No</strong>nthaburi, Thailand<br />
E l.how@koelnmesse.com.sg<br />
W www.worldoffoodasia.com<br />
JUNE<br />
6-8 FOOD & HOTEL MYANMAR<br />
<strong>2018</strong><br />
@ Yangon, Myanmar<br />
E supaporn.a@besallworld.com<br />
W www.foodandhotelmyanmar.com<br />
6-8 SIMA ASEAN THAILAND <strong>2018</strong><br />
@ IMPACT, <strong>No</strong>nthaburi, Thailand<br />
E ajjimar@impact.co.th<br />
W www.sima-asean.com<br />
11-13 FOOD INGREDIENTS,<br />
HEALTH INGREDIENTS &<br />
NATURAL INGREDIENTS ASIA<br />
– CHINA (Fi, Hi & Ni ASIA-CHINA)<br />
<strong>2018</strong><br />
@ Shanghai, China<br />
E lydia.ma@ubmsinoexpo.com<br />
W www.figlobal.com/asia-china/<br />
home<br />
12-14 EXPOVINIS BRAZIL <strong>2018</strong><br />
@ Sao Paulo, Brazil<br />
E visitante.fev@informa.com<br />
W www.expovinis.com.br<br />
12-15 FOOMA JAPAN <strong>2018</strong><br />
@ Tokyo, Japan<br />
W www.foomajapan.jp<br />
13-15 SIAL ASEAN <strong>2018</strong><br />
@ Manila, The Philippines<br />
E dominique.lasseur@comex<br />
posium.com<br />
W www.sialasean.com<br />
13-16 PROPAK ASIA <strong>2018</strong><br />
@ BITEC, Bangkok, Thailand<br />
E piyaporn@besallworld.com<br />
W www.propakasia.com<br />
<strong>January</strong><br />
10 ISO 9001:2015 Requirement<br />
By: British Standard Institution (BSI)<br />
11 Introduction to GMP<br />
By SGS (Thailand) Limited<br />
12 Business Risk Management for ISO 9001:2015 with<br />
ISO 31000:2009 Guideline<br />
By: British Standard Institution (BSI)<br />
15 Business Risk Management for ISO 14001:2015 with<br />
ISO 31000:2009 Guideline<br />
By: British Standard Institution (BSI)<br />
15 Cleaning Program and Cleaning Validation<br />
By SGS (Thailand) Limited<br />
18 IDEA Generation & Value Creation Program<br />
By Thailand Productivity Institute<br />
18-19 BRC Food Issue 7 Requirement and Interpretation<br />
By<br />
FSSC 22000 Version 4.1 Requirement and Interpretation<br />
SGS (Thailand) Limited<br />
22-26 IRCA Certified ISO 14001:2015 Lead Auditor Training Course<br />
IRCA A17903<br />
By: British Standard Institution (BSI)<br />
23 Food Allergen & Intolerance<br />
By SGS (Thailand) Limited<br />
24 Traceability and Product Recall<br />
By SGS (Thailand) Limited<br />
29-30 ISO 14001:2015 Internal Audit<br />
By: British Standard Institution (BSI)<br />
29 <strong>January</strong> - 2 February <strong>2018</strong><br />
IRCA Certified ISO 9001:2015 Lead Auditor Training Course<br />
IRCA A17955<br />
By:<br />
Energy Management Systems (ENMS) Auditor/Lead<br />
Auditor (ISO 50001:2011) IRCA A17573<br />
British Standard Institution (BSI)<br />
30 Effective Quality Management Representative (QMR)<br />
By: British Standard Institution (BSI)<br />
CONTACT<br />
British Standard Institution (BSI)<br />
T 0 2294 4889<br />
E infothai@bsigroup.com<br />
SGS (Thailand) Limited<br />
T 0 2678 1813 # 2098 (Nuttapong Lithiti)<br />
E nuttapong.lithiti@sgs.com<br />
Thailand Productivity Institute<br />
T 0 2619 5500 # 451-455<br />
E training@ftpi.or.th<br />
JAN <strong>2018</strong><br />
FOOD FOCUS THAILAND<br />
19
STAR ITEMS<br />
Empure ®<br />
Functional and<br />
Application-Friendly<br />
Zesti Smoke Cloud S-5<br />
Fresher for Longer<br />
Series 500+<br />
Linerless Labelling System<br />
เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคใน<br />
ผลิตภัณฑ์เบเกอรีที่มีฉลากสะอาดนั้นมีมากขึ้น<br />
ผลิตภัณฑ์ Empure ® ที่ เ ป ็ น ผ ลิ ต ภั ณ ฑ ์<br />
คลีนเลเบล และสามารถประยุกต์ใช้ได้โดยให้<br />
คุณสมบัติที่หลากหลายและสามารถตอบโจทย์นี้<br />
ให้กับผู้ผลิตผลิตภัณฑ์เบเกอรีได้จึงถูกพัฒนา<br />
และคิดค้นให้ใช้งานได้ง่ายและหลากหลาย<br />
หน้าที่ โดยสามารถช่วยปรับปรุงความยืดหยุ่น<br />
ของโด ช่วยปรับปรุงด้านโครงสร้าง ช่วยเพิ ่ม<br />
ปริมาตรในการอบ นอกจากนั้นยังช่วยปรับปรุง<br />
ในส่วนการทำไส้ครีม หรือไส้ผลไม้ให้มีความ-<br />
สมดุลมากยิ่งขึ้น<br />
Due to the growing demand for bakery<br />
products that are free from additives,<br />
Empure ® has been developed to be<br />
functional products with application-friendly<br />
properties for bakery indusrty. Empure ®<br />
clean label product solution is used in many<br />
applications in which they have a positive<br />
effect on a variety of functions. Empure ®<br />
improves dough elasticity, crumb structure<br />
and provides better baking volume.<br />
Furthermore, it also optimizes fruit and<br />
cream fillings.<br />
Zesti Smoke Cloud S-5 ผลิตภัณฑ์กลิ่นควัน<br />
สกัดเข้มข้นจากธรรมชาติที่ช่วยคงความสดใหม่<br />
ของอาหารและเก็บไว้ได้นานยิ ่งขึ้น ซึ่งผ่าน<br />
กระบวนการค้นคว้าและทดลองทาง<br />
วิทยาศาสตร์ว่าสามารถยับยั้งการเจริญเติบโต<br />
ข อ ง แ บ ค ที เ รี ย แ ล ะ จ ุ ล ิ น ท รี ย ์ ใ น อ า ห า ร<br />
จนสามารถนำไปใช้ได้ในหลากหลายผลิตภัณฑ์<br />
เช่น เนื้อสัตว์ อาหารทะเล ผลิตภัณฑ์จากนม<br />
และผลไม้ต่างๆ ตอบโจทย์ผู้บริโภคปัจจุบัน<br />
ที่มองหาผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและ Clean label<br />
ผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพ และสามารถยืดอายุ<br />
สินค้าให้เก็บไว้ได้นานยิ่งขึ้นกว่าเดิม<br />
Zesti Smoke Cloud S-5, Kerry’s smoke<br />
condensate, takes smoke to a whole new<br />
level, by naturally keeping food fresher for<br />
longer. It is made from natural hardwood<br />
and has been scientifically proven to inhibit<br />
bacterial and mold growth, and eliminate<br />
pathogens. To deliver safe and clean label<br />
foods, made with trusted ingredients, that<br />
taste better and last longer, Zesti Smoke<br />
Cloud S-5 can be applied in a wide variety<br />
of foods, including meats, seafood, dairy,<br />
and fruits to answer those needs.<br />
ระบบการติดฉลาก Logopak Series 500+<br />
จาก แบรนด์ Logopak ใหม่ล่าสุด ที่มาพร้อม<br />
ความยืดหยุ่นของตัวเครื่อง สามารถปรับตั้งให้<br />
ใช้งานได้กับฉลากหลากหลายชนิดถึงกว่า<br />
30 แบบ อย่างง่ายดาย สามารถใช้ติดฉลาก<br />
ในตำแหน่งมาตรฐานได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น<br />
ด้านบน ด้านหน้า หรือด้านข้าง สามารถใช้ติด<br />
ฉลากที่มีขนาดสูงสุดถึง A5 ทำงานด้วยระบบ<br />
Direct Thermal Printing<br />
The Logopak Series 500+ labelling system<br />
can be easily customized with over 30 types<br />
of applicators. It also flexibly supports all<br />
standard application methods (top-, frontand<br />
side-application). For labels up to A5<br />
size, the Series 500+ Linerless labelling<br />
system provides direct thermal printing<br />
outside wound labels.<br />
By: Emsland Asia Food Innovation Corp. Co., Ltd.<br />
www.emsland-group.de<br />
By: Kerry<br />
www.kerry.com<br />
By: Logopak Systeme GmbH & Co.KG<br />
www.logopak.com<br />
20 FOOD FOCUS THAILAND JAN <strong>2018</strong>
่<br />
STAR ITEMS<br />
S-SWISSE<br />
<strong>No</strong>n-caloric Sweetener<br />
Blends<br />
Vaculex<br />
Vacuum Lifter<br />
X36 Series Bulk<br />
Innovative Bulk Solution<br />
S-SWISSE สารให้ความหวานชนิดผสมที่<br />
ปราศจากพลังงาน ที่ผ่านการพัฒนาให้เป็น<br />
สารทดแทนน้ำตาลเพื ่อให้ตอบโจทย์ความ-<br />
ต้องการของตลาด มีลักษณะความหวาน<br />
เหมือนกับน้ำตาลธรรมชาติ ซึ่งนักวิจัยและ<br />
พัฒนาผลิตภัณฑ์สามารถประยุกต์ใช้<br />
ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพได้<br />
รวมถึงสามารถลดต้นทุนผลิตภัณฑ์และ<br />
สะดวกต่อการนำไปใช้ได้อีกด้วย<br />
S-SWISSE is a non-caloric sweetener<br />
blends which has sweetness profile as<br />
same as natural sugar. S-SWISSE was<br />
originally developed as a sugar substitute<br />
to meet individual needs in market.<br />
Researchers and developers can apply<br />
S-SWISSE into any healthy products.<br />
S-SWISSE also decreases cost and<br />
ensures convenient production.<br />
By: Nutrition Sc Co., Ltd.<br />
www.nutritionsc.co.th<br />
เครื่องยกระบบสุญญากาศคุณภาพสูง<br />
ช่วยเพิ ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยใน<br />
การทำงาน ลดโอกาสที่จะเกิดอาการบาดเจ็บ<br />
ที่หลังอันเกิดจากการยกของหนักซ้ำๆ<br />
เป็นเวลานาน สามารถยกวัสดุตั้งแต่น้ำหนัก<br />
25-200 kg. นอกจากนี้ตัวเครื่องยังถูก<br />
ออกแบบให้ใช้งานง่ายโดยสามารถติดตั้ง<br />
เข้ากับ Jib Crane สำหรับการทำงานเฉพาะ<br />
ตำแหน่ง (Work Station) หรือแบบราง<br />
(Overhead Rail) ทำให้ครอบคลุมพื้นที<br />
การทำงานบริเวณกว้าง หัวจับสามารถใช้<br />
ยกวัสดุหลายหลากรูปแบบ เช่น กล่อง<br />
กระสอบ ครอบคลุมสินค้าและวัสดุในทุกกลุ่ม<br />
อุตสาหกรรม<br />
High quality vacuum lifter for a higher<br />
working efficacy and safety. Help reduce<br />
the risk of back injury from lifting heavy<br />
goods continuously. The lifter can lift<br />
products from 25 kg. and up to 200 kg. Its<br />
build is specially designed for easy-to-use<br />
and can be installed to Jib crane<br />
seamlessly for a specific work station or<br />
an overhead rail. This advantage makes<br />
the vacuum lifter the capability to cover<br />
a wide range of work and can be used to<br />
lift many type of products with different<br />
surfaces; i.e. boxes, big sacks and many<br />
more.<br />
By: Material World Co., Ltd.<br />
www.materialworld.co.th<br />
ระบบเอ็กซเรย์ตรวจสอบสิ่งปลอมปน X36 Series<br />
Bulk โซลูชันการตรวจสอบสินค้าปริมาณมากที่<br />
ล้ำสมัย ได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้กับผลิต-<br />
ภัณฑ์อาหารจำนวนมากที่เคลื่อนที่อย่างต่อเนื่อง<br />
มาพร้อมอุปกรณ์คัดแยกให้เลือกใช้หลากหลาย<br />
ตั้งแต่ระบบคัดแยกแบบหลายถ้วยไปจนถึงระบบ<br />
คัดแยกแบบหัวฉีดพ่นลม ใช้พลังงานในการ-<br />
กำเนิดรังสีเอ็กซ์ที่ต่ำลง ซึ่งช่วยลดการใช้พลังงาน<br />
และต้นทุนการดำเนินการ ทั้งยังได้รับการ-<br />
ออกแบบอย่างถูกสุขลักษณะตามมาตรฐาน<br />
GMP, NSF และ EHEDG ซึ่งมาพร้อมกับค่า IP69<br />
ซึ่งถือเป็นมาตรฐานทำให้สามารถเข้าถึงเพื่อ<br />
ทำความสะอาดได้อย่างเต็มที่<br />
Designed for loose bulk-flow food products,<br />
the X36 Series Bulk x-ray system offers<br />
outstanding contaminant detection before<br />
further value is added to the product,<br />
saving costs. A choice of reject devices,<br />
from multiple scoop to air blast nozzles,<br />
offer a range of solutions depending on the<br />
application needs. The advanced detector<br />
technology enables lower power x-ray<br />
generation offering reduced power<br />
consumption and running costs. Classleading<br />
hygienic design following GMP,<br />
NSF and EHEDG principles with IP69 as<br />
standard and an innovative design enabling<br />
full cleaning access.<br />
By: Mettler-Toledo (Thailand) Ltd.<br />
ww.mt.com<br />
JAN <strong>2018</strong><br />
FOOD FOCUS THAILAND<br />
21
SURF THE AEC<br />
ดร.ไพศาล มะระพฤกษ์วรรณ<br />
Paisan Maraprygsavan, Ph.D.<br />
Director<br />
Industrial and Service Trade Research Division<br />
Trade Policy and Strategy Office<br />
Ministry of Commerce<br />
paisan711@gmail.com<br />
ชูธงอีอีซี...นำไทยสู่เวทีโลก<br />
โครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor; EEC) มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี<br />
เมื่อญี่ปุ่น จีน รัสเซีย และสิงคโปร์ ต่างให้ความสนใจในการเข้ามาลงทุนในโครงการ EEC เป็นอย่างมาก เพื่อเป็นฐานการผลิตป้อนตลาด<br />
เอเชียและตลาดโลก<br />
ญี่ปุ่นแสดงความสนใจอย่างชัดเจนเป็นพิเศษ<br />
โดยเมื่อวันที่ 11-13 กันยายน 2560 ที่ผ่านมา ได้มีคณะ<br />
ผู้บริหารระดับสูงและซีอีโอจากบริษัทแม่ รวมทั้งเจโทร<br />
ฟูกูโอกะ และนิเคอิ กว่า 570 คน นำโดยนายฮิโรชิเกะ<br />
เซโกะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ-การค้าและ<br />
อุตสาหกรรม (METI) ได้เดินทางมาเยือนประเทศไทย<br />
โดยมีเป้าหมายหลักเป็นการศึกษาความพร้อมของ<br />
โครงการ EEC ในภาคตะวันออกของไทย ทางคณะ<br />
ให้ความสนใจลงทุนใน 4 สาขาอุตสาหกรรม คือ<br />
1. อุตสาหกรรมยานยนต์ การบิน ศูนย์ซ่อมอากาศยาน<br />
2. อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ หุ่นยนต์ 3. อุตสาหกรรมการแพทย์ การเกษตร อาหาร<br />
เป็นต้น 4. อุตสาหกรรมบริการ การค้า ค้าปลีก โลจิสติกส์ เป็นต้น จึงทำให้มั่นใจ<br />
ได้ระดับหนึ่งว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะยังคงอยู่ในประเทศไทยตอบรับกับ<br />
อุตสาหกรรมนี้ที่กำลังก้าวสู่ยุคยานยนต์ไฟฟ้า และสอดคล้องกับนโยบายส่งออก<br />
การลงทุนของนายกรัฐมนตรีอาเบะในสาขาหลัก อันได้แก่ การผลิตอัตโนมัติ<br />
ด้วยคอมพิวเตอร์ (Automation) หุ่นยนต์อุตสาหกรรม และ Internet of things<br />
(การเชื่อมโยงการผลิต/การทำงานหลากหลายออนไลน์) ที่จำเป็นอย่างยิ่งในการเชื่อมโยง<br />
ห่วงโซ่อุปทานขนาดใหญ่ในระเบียงเศรษฐกิจเป็นหนึ่งเดียวเข้าไว้ด้วยกัน<br />
นอกจากนั้นก็ยังมีคณะนักธุรกิจญี่ปุ่นเดินทางมาเยี่ยมชมโครงการ EEC กันอย่างต่อเนื่อง<br />
โดยล่าสุดเมื่อในเดือนพฤศจิกายน 2560 ได้มีคณะตัวแทนธุรกิจจากจังหวัด<br />
ยามานาชิ 10 บริษัท มาเยี่ยมชมโครงการ EEC ของไทยด้วยเช่นกัน<br />
ญี่ปุ่นยังคงเป็นนักลงทุนใหญ่เป็นอันดับ 1 ในประเทศไทยคิดเป็น<br />
ร้อยละ 36.2 ของการลงทุนทั้งหมด (ข้อมูลจากปี 2559) สำหรับช่วง<br />
6 เดือนแรกของปี 2560 ญี่ปุ่นก็ยังครองความเป็นอันดับ 1 เช่นกัน<br />
ตามมาด้วยสิงคโปร์ และจีน คิดเป็นร้อยละ 14.8 และ 14.3 ตามลำดับ<br />
แม้ว่าสัดส่วนการลงทุนของจีนจะยังน้อยเมื่อเทียบกับญี่ปุ่น แต่ก็มี<br />
การขยายตัวสูงอย่างต่อเนื่อง เป็นเรื่องยากที่ญี่ปุ่นจะสละตำแหน่งแชมป์<br />
ให้กับจีนในเมื่อญี่ปุ่นเองได้สร้างเครือข่ายห่วงโซ่อุปทานที่เข้มแข็ง<br />
ไว้ในประเทศไทยแล้ว การย้ายฐานการผลิตจากไทยไปประเทศอื่น<br />
ก็เท่ากับว่าญี่ปุ่นจะต้องเริ่มต้นจากศูนย์ อย่างไรก็ตาม การแข่งขันกัน<br />
เติบโตของบริษัทญี่ปุ่นและจีนในไทย กลับเป็นสิ่งดีต่อประเทศไทยและ<br />
จะมีส่วนที่สำคัญในการสร้างความมั่นใจให้ประเทศอื่นๆ ให้เข้ามาลงทุน<br />
ในโครงการ EEC ด้วยเช่นกัน<br />
ความสนใจอย่างกระตือรือร้นของนักลงทุนญี่ปุ่นเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ย<br />
กับที่จีนเปิดเกมรุกในการลงนามทำความตกลงด้านการลงทุนรถไฟ<br />
ความเร็วสูงกับ สปป.ลาว อินโดนีเซีย และประเทศไทย ภายใต้อภิมหา<br />
โปรเจกต์หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (One Belt One Road) ที่ครอบคลุม<br />
ไปทั่วโลก ซึ่งสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคือระเบียงเศรษฐกิจตามแนวเส้นทาง<br />
ดังกล่าว และจะมาเชื่อมกับโครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก<br />
ในอีกด้านหนึ่งการขยายการดำเนินธุรกิจของ Alibaba และ Alipay<br />
ในไทยของแจ็ค หม่า จะมีส่วนช่วยอย่างมากในการตัดสินใจเข้ามาลงทุน<br />
ของธุรกิจจีนในไทยมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันรัฐบาลจีนก็ได้ส่งเสริมการ<br />
ลงทุนของรัฐวิสาหกิจและวิสาหกิจจีนไปลงทุนในต่างประเทศ เป็นผลให้<br />
22 FOOD FOCUS THAILAND<br />
JAN <strong>2018</strong>
SURF THE AEC<br />
มีชาวจีนเดินทางไปประกอบธุรกิจในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น เป็นที่น่าสังเกต<br />
ว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีชาวจีนโพ้นทะเลมากเป็นอันดับ 1 ของโลก<br />
จำนวน 9.39 ล้านคน รองลงมาเป็นมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และอินโดนีเซีย<br />
จำนวน 6.65, 4.95 และ 2.83 ล้านคน ตามลำดับ (ข้อมูลจาก World Economic<br />
Forum ปี 2559) สะท้อนให้เห็นถึงความน่าสนใจของประเทศไทยที่มีต่อคนจีน<br />
ในอีกด้านหนึ่ง ความเปลี่ยนแปลงด้านภาวะโลกร้อนกลับกลายเป็นโอกาส<br />
ใหม่ที่จะช่วยให้รัสเซียกลายเป็นคู่ค้าสำคัญรายใหม่ของไทย การละลายของ<br />
น้ำแข็งที่ขั้วโลกเหนือเป็นผลให้เกิดเส้นทางเดินเรือเส้นใหม่ ซึ่งก็คือหนึ่งแถบ<br />
หนึ่งเส้นทางของรัสเซีย พาดผ่านขั้วโลกเหนือเชื่อมรัสเซีย-อาเซียนที่ใช้เวลา<br />
น้อยลงมากถึงร้อยละ 30 เมื่อเทียบกับเส้นทางอื่น และไม่ต้องใช้เรือตัดน้ำแข็ง<br />
นำร่องทำให้ต้นทุนลดลงด้วย ล่าสุดเมื่อกลางปี 2560 บริษัทซอฟคอมฟลอต<br />
(Sovcomflot) ของรัสเซียได้ประเดิมเดินเรือในเส้นทางนี้เป็นรายแรกด้วยเรือ<br />
คริสทอฟ เดอ มาร์เจอรีบรรทุกก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) มายังเกาหลีใต้<br />
ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจไทย-รัสเซียได้พัฒนามากขึ้นเป็นลำดับ<br />
โดยปัจจุบันรัสเซียมีนโยบายหันหน้าสู่ตะวันออก (Turn to the East) ที่ต้องการ<br />
พัฒนาภาคตะวันออกไกลของรัสเซียเชื่อมโยงกับอาเซียนและเอเชียแปซิฟิก<br />
ที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง นับแต่ปี 2558 เป็นต้นมาได้มี<br />
การจัดประชุมเศรษฐกิจภูมิภาคตะวันออก (Eastern Economic Forum; EEF)<br />
เป็นประจำทุกปี โดยมีวลาดิวอสต็อกเป็นประตูสู่เอเชีย ในการประชุม EEF<br />
ครั้งที่ 3 เมื่อเดือนกันยายน 2560 ณ เมืองท่าวลาดิวอสต็อก ไทย-รัสเซีย<br />
เห็นพ้องกันในการเพิ่มมูลค่าการค้าสองฝ่ายเป็น 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ<br />
ภายในปี 2563 (ที่มา: TPSO, www.tpso.moc.go.th) พร้อมทั้งขยาย<br />
ความร่วมมือระหว่างท่าเรือแหลมฉบังและวลาดิวอสต็อก ในโอกาสเดียวกันนี้<br />
กระทรวงพาณิชย์ของไทยได้จัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ (Business matching) ขึ้น<br />
ซึ่งสินค้าไทยที่ฝ่ายรัสเซียให้ความสนใจมาก ได้แก่ อาหาร สปาและความงาม<br />
และชิ้นส่วนยานยนต์และอะไหล่เสริม (เนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์ของ<br />
รัสเซียกำลังเติบโต) ความสัมพันธ์สองฝ่ายไทย-รัสเซีย เป็นไปในลักษณะเกื้อกูลกัน<br />
โดยรัสเซียนำเข้าสินค้าเกษตร/อาหาร จากไทยเป็นหลัก ทั้งนี้ สินค้าอาหาร<br />
เกี่ยวข้องกับความมั่นคงด้านอาหารของรัสเซียโดยตรง ในขณะที่ความสัมพันธ์กับ<br />
ประเทศตะวันตกมีความเปราะบาง และรัสเซียนำเข้าอาหาร/สินค้าเกษตรจาก<br />
ประเทศตะวันตกลดลง ในด้านการนำเข้าของไทยจากรัสเซียนั้น ส่วนใหญ่<br />
เป็นสินค้าทุนและปัจจัยการผลิต เช่น เหล็ก น้ำมันดิบ และปุ๋ย เนื่องจากรัสเซีย<br />
มีทรัพยากรธรรมชาติมากและอุดมสมบูรณ์ ล่าสุดเมื่อเดือนเมษายน 2560<br />
ไทย-และรัสเซีย ได้ทำความตกลงกันเพื่อจัดตั้งคณะทำงานสำหรับความร่วมมือ<br />
ระหว่างโครงการ EEC ของไทยและโครงการพัฒนาของรัสเซียโดยตรง<br />
โดยฝ่ายรัสเซียจะจัดคณะนักธุรกิจขนาดใหญ่มาเยือน EEC ของไทยเร็วๆ นี้<br />
เช่นเดียวกับญี่ปุ่น นับเป็นการยกระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระดับสูง<br />
อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน<br />
ความสนใจของทั้ง 3 ประเทศในการเข้ามาลงทุนในไทยแสดงให้เห็น<br />
ในแง่มุมหนึ่งว่า พลวัตรของเศรษฐกิจโลกกำลังเคลื่อนตัวสู่อาเซียนและเอเชีย<br />
มากยิ่งขึ้น โดยธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชียได้ระบุว่า GDP ของอาเซียน<br />
จะมีสัดส่วนร้อยละ 40 และร้อยละ 52 ของ GDP โลกในปี 2573 และ 2593<br />
ตามลำดับ โดยแนวโน้มดังกล่าวมีความเป็นจริงอยู่ไม่น้อย เนื่องจากปัจจุบัน<br />
ขนาดเศรษฐกิจของอาเซียน +4 (รวมญี่ปุ่น จีน อินเดีย และเกาหลีใต้) มีสัดส่วน<br />
ใน GDP โลกถึงร้อยละ 30 เข้าไปแล้ว<br />
ย้อนกลับไปที่สิงคโปร์ที่เป็นผู้ลงทุนในไทยสูง เป็นรองแต่เฉพาะจีนเท่านั้น<br />
สาขาที่สำคัญที่สิงคโปร์เข้ามาลงทุนในไทย คือ สาขาอิเล็กทรอนิกส์และบริการ<br />
(ร้อยละ 30 ของการลงทุนในไทย) สาขาบริการเป็นสาขาที่มีความสำคัญที่สุด<br />
ของสิงคโปร์ โดยมีสัดส่วนมูลค่าเพิ่มต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ<br />
มากกว่า 2 ใน 3 และมีการจ้างงานประมาณร้อยละ 70 ของแรงงานทั้งหมด<br />
สาขาบริการที่สิงคโปร์มีความชำนาญ คือ การเงินและการประกันภัย การบริการ<br />
ด้านธุรกิจ บริการด้านที่พักและอาหาร การค้าส่งและค้าปลีก การขนส่งและโกดัง<br />
ขณะที่สาขาที่มีความเข้มแข็ง คือ การเงินและธนาคาร ถือได้ว่าการเข้ามา<br />
ขยายฐานด้านบริการในไทยในช่วงเวลาที่ไทยกำลังก้าวเข้าสู่การเป็นฮับด้าน<br />
โลจิสติกส์ของอาเซียนและกำลังพัฒนาโครงการระเบียงเศรษฐกิจ EEC ถือได้ว่า<br />
เป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาด รู้เขารู้เราอย่างเหมาะเจาะลงตัว จึงควรอย่างยิ่งที่<br />
ประเทศไทยจะมีการตื่นตัวในการส่งเสริมธุรกิจบริการด้วยเช่นกัน<br />
การจัดตั้งระเบียงเศรษฐกิจไม่ง่ายนัก แต่การจะทำให้ประสบความสำเร็จ<br />
มีนักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุนอย่างจริงจังเป็นสิ่งที่ยากกว่ามาก ถือได้ว่ารัฐบาล<br />
ไทยประสบความสำเร็จระดับหนึ่งในการสร้างการยอมรับให้เกิดขึ้นในบรรดา<br />
บริษัทข้ามชาติได้ ระเบียงเศรษฐกิจจึงเป็นคำตอบในยุค 4.0 ที่การค้าโลก<br />
ต่างแข่งขันกันด้วยเทคโนโลยีระดับสูง โครงการ EEC จะช่วยดึงดูด FDI<br />
สู่ประเทศไทยได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเป็นการรวมแหล่งการผลิต ห่วงโซ่อุปทาน<br />
และตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงเข้าด้วยกัน โดยจะเห็นได้ว่าโครงการ EEC<br />
นอกจากจะมีความน่าสนใจในตัวเองแล้ว FDI ยังสามารถต่อยอดเชื่อมโยงไปยัง<br />
เขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย สีหนุวิลล์ หวุ่งเตา (เวียดนาม) เขตเศรษฐกิจพิเศษ<br />
กว่างซีจ้วง (ใกล้พรมแดนจีน-เวียดนาม) ได้อีกด้วย จึงไม่น่าแปลกใจที่โครงการ<br />
EEC ได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั่วโลก ไม่จำกัดเฉพาะญี่ปุ่น จีน รัสเซีย และ<br />
สิงคโปร์เท่านั้น เนื่องด้วยเป็นการรวมจุดเข้มแข็งของหลายประเทศเข้าไว้ด้วยกัน<br />
จึงกล่าวได้ว่าโครงการ EEC เป็นกลไกสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยก้าวสู่<br />
การเป็นประเทศแนวหน้าด้านการค้าโลกอีกประเทศหนึ่ง<br />
JAN <strong>2018</strong><br />
FOOD FOCUS THAILAND<br />
23
SURF THE AEC<br />
Special Economic Zone (SEZ)<br />
Thailand’s Eastern Economic Corridor (EEC), the Special Economic Zone (SEZ) for<br />
the future of ASEAN is likely to be greatly successful after investors from Japan, China,<br />
Russia, and Singapore, showed some interests in investing in the zone to make it a<br />
new production base for Asian and the global markets.<br />
Japan has shown particular interests. On September 11-13, 2017,<br />
more than 570 executives and CEOs from several companies’<br />
headquarters, as well as JETRO, Fukuoka, and Nikkei, led by<br />
Hiroshige Seko, Minister of Economic, Trade and Industry (METI),<br />
had visited Thailand with the main purpose to study the readiness of<br />
the EEC in the eastern region of Thailand. The group is keen to invest<br />
in 4 industries; 1) automotive, aviation, and aircraft overhaul centre,<br />
2) electronics and robotics, 3) medical, agriculture, and food, 4)<br />
service, trade, retail, and logistics. The interest ensures, to some<br />
extent, that the automotive industry will remain in Thailand and go<br />
along with the dynamic of the industry towards electric vehicles. <strong>No</strong>t<br />
only that, the intention of the Japanese investors is in accordance<br />
with Japan’s export policy under Prime Minister Shinzo Abe which<br />
promotes automation, industrial robotics, and internet of things<br />
(production network/online multitasking). These industries are crucial<br />
for linking large scale supply chain in the economic corridor.<br />
Furthermore, groups of Japanese businessmen are visiting EEC<br />
continually, as seen in <strong>No</strong>vember 2017 when representatives from<br />
10 companies in Yamanashi prefecture visited the area.<br />
Japan remains the biggest investor in Thailand, accounting for<br />
36.2% of total investment (data from 2016). During the first 6 months<br />
of 2017, Japan has still been the top investor, followed by Singapore<br />
and China whose investments account for 14.8% and 14.3%,<br />
respectively. Although the proportion of investment from China is<br />
considerably low comparing to Japan, the number continues to grow<br />
steadily. However, it is not easy for Japan to renounce its position to<br />
China, as it has established a strong supply chain in Thailand. Moving<br />
away from Thailand means that Japan will have to start from zero.<br />
<strong>No</strong>netheless, the competition between Japanese and Chinese firms<br />
is beneficial to Thailand and is an important factor to ensure other<br />
countries to invest in the EEC.<br />
Japan’s enthusiasm occurred around the same time as China<br />
pushes forward its high speed train cooperation with Lao PDR,<br />
Indonesia, and Thailand, under its global mega project “One Belt,<br />
One Road.” The result is that several economic corridors are aimed<br />
to pop up along the route and link to the EEC. On the other hand,<br />
the expansion of Jack Ma’s Alibaba and Alipay to Thailand will heavily<br />
influence the investment of Chinese business in the country. The<br />
Chinese government, at the same time, promotes state and non-state<br />
enterprises to invest overseas, which resulted in more and more<br />
Chinese investors upcountry. <strong>No</strong>ticeably, Thailand takes in the most<br />
number of overseas Chinese, 9.39 million. The country is followed<br />
by Malaysia, the U.S., and Indonesia, which are home to 6.65 million,<br />
4.95 million, and 2.83 million overseas Chinese respectively. (Data<br />
from World Economic Forum 2016). The number reflects the<br />
attractiveness of Thailand among Chinese.<br />
On the other side, global warming has created a new opportunity<br />
for Russia to become a new major trade partner for Thailand. The<br />
thinning ice sheet at the <strong>No</strong>rth Pole is resulting in a new Arctic Sea<br />
Route crossing from Russia to ASEAN. The new route decreased<br />
30% of the travelling time between the destinations comparing to<br />
other routes at a lower cost as icebreaker is no longer required.<br />
In mid-2017, Russia’s Sovcomflot had launched its first service on<br />
this route shipping LNG to South Korea with its Christophe de Margerie<br />
Ship.<br />
The economic relationship between Thailand and Russia has<br />
been gradually developed. Recently, Russia announced a “Turn to<br />
the East Policy” with aims to develop its far-eastern region to link with<br />
the growing ASEAN and Asia Pacific economies. Since 2015, the<br />
Eastern Economic Forum (EEF) has been held annually in<br />
Vladivostok, which is assigned as a gateway port to Asia. In the 3 rd<br />
EEF in September 2017 in Vladivostok, Thailand and Russia agreed<br />
to increase the bilateral trade to USD 10 billion by 2020 (source:<br />
www.tpso.moc.go.th) and enhance cooperation between Laem<br />
Chabang port and Vladivostok port. In this same occasion, Thailand’s<br />
24 FOOD FOCUS THAILAND JAN <strong>2018</strong>
SURF THE AEC<br />
Ministry of Commerce also held a business matching event, in which<br />
Thai products such as food, spa, beauty, automobile parts, and spare<br />
parts, have gained much interests (due to the booming automobile<br />
industry in Russia). The Thai-Russian relationship is in a<br />
complementary manner as Russia imports agricultural/food products<br />
mainly from Thailand. Conspicuously, food products are directly crucial<br />
to the food security of Russia. Markedly, Russia’s relationship with<br />
western countries are relatively fragile, and it has imported less food/<br />
agricultural products from the west. Otherwise, Thailand imports from<br />
Russia are mainly capital goods and input such as steel, crude oil,<br />
and fertilizer, as Russia has advantageous natural resources. In April<br />
2017, Thailand and Russia reached an agreement to establish a joint<br />
working group to boost the cooperation between Thailand’s EEC and<br />
Russia’s development projects. Russia is also planning to send a<br />
large group of investors to the EEC, similar to that of Japan’s, which<br />
symbolizes the strong economic cooperation as never seen before.<br />
The intention to invest in Thailand from the three countries shows<br />
that the dynamic of the global economy is moving towards ASEAN<br />
and Asia. The Asian Development Bank (ADB) stated that the ASEAN<br />
GDP will account for 40% and 52% of the global GDP by 2030 and<br />
2050, subsequently. The trend is highly possible as the size of<br />
ASEAN+4 economy (including Japan, China, India, and South Korea)<br />
has already accounted for 30% of the global GDP.<br />
We will take a little step back to Singapore. The island country is<br />
among the biggest investors in Thailand, second only to China, and<br />
has invested intensively in electronics and service sectors (roughly<br />
30% of total investment in Thailand). The service sector is the most<br />
important industry of Singapore, contributing to two-third of the<br />
country’s GDP and creating 70% of employment. Singapore is skillful<br />
in finance and insurance, business service, accommodation and food<br />
service, transportation and storage, with the greatest strength in<br />
banking and finance. The expansion amid Thailand’s transformation<br />
to become the regional logistics hub and the EEC development is<br />
considerably a wise great move. And Thailand must be observant in<br />
promoting its service sector at the same time.<br />
Setting up an economic corridor is not an easy task, but to succeed<br />
and attract serious investors is much more difficult. One can say that<br />
the Thai government is successful to some degree after it gained<br />
recognition from multinational corporates. The economic corridor is<br />
an answer in the 4.0 era when the global trade is competing with high<br />
technology. Undoubtedly, the EEC will attract foreign direct investment<br />
to Thailand as the zone is not only a production base, but also a<br />
rapidly growing market with high potential. Moreover, the project is<br />
not only interesting on its own, but it can also belinked to other special<br />
economic zones in the region such as Dawei, Sihanoukville, Vũng<br />
Tàu (Vietnam), and Guangxi (near China-Vietnam borders). There<br />
is no surprise that the EEC is alluring to investors from all over the<br />
world and not only those from Japan, China, Russia, and Singapore,<br />
as it combines the strengths of many countries. The EEC is the key<br />
factor to push forward Thailand in becoming a world leading trading<br />
country in the world.<br />
JAN <strong>2018</strong><br />
FOOD FOCUS THAILAND<br />
25
SPECIAL FOCUS REPORT<br />
Innova Market Insights<br />
www.innovadatabase.com<br />
Translated By: Editorial Team<br />
Food Focus Thailand Magazine<br />
Mindful Choices<br />
The Key Food Driver for <strong>2018</strong><br />
กว่า 7 ใน 10 ของผู้บริโภคชาวสหรัฐอเมริกาและอังกฤษต่างต้องการ<br />
รู้จักและเข้าใจในส่วนผสมบนฉลากมากขึ้นอย่างชัดเจน<br />
ผู้บริโภคที่ค่อนข้างรอบคอบและมีความระมัดระวังในการรับประทานจะมีบทบาทสำคัญในการ<br />
ผลักดันความเปลี่ยนแปลงในกระบวนการผลิต การบรรจุและบรรจุภัณฑ์ และฉลากสินค้า<br />
ความตื่นตัวในการเลือกซื้อสินค้าอย่างมีความรับผิดชอบ ส่งผลให้ผู้บริโภคทั้งในสหรัฐอเมริกา<br />
และอังกฤษถึง 4 ใน 10 เลือกซื้อสินค้าเพื่อสุขภาพมากขึ้น และอีก 7 ใน 10 ต้องการทราบรายการ<br />
ส่วนผสมทั้งหมด นอกจากนี้ ผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาถึง 1 ใน 5 ยังได้รับอิทธิพลจากฉลาก<br />
ที่ระบุว่ามีส่วนผสม “จริง” และคำกล่าวอ้างด้านจริยธรรม นอกจากนี้ ฉลากที่ระบุว่า “ดีกว่า<br />
สำหรับคุณ” ยังได้รับความนิยมต่อเนื่องและชิงส่วนแบ่งในตลาดเพิ่มเป็นร้อยละ 49 ในปี 2560<br />
เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 42 ในปี 2555<br />
“ปัจจุบัน ผู้บริโภคแสดงออกถึงความระมัดระวังอย่างมากในการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพและใส่ใจใน<br />
สิ่งแวดล้อม” ลู แอนน์ วิลเลี่ยม ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรม จาก Innova Market Insights ระบุ “ดังนั้น จึงไม่<br />
น่าแปลกใจที่ผู้บริโภคเริ่มให้ความสำคัญในการเลือกซื้ออาหารมากขึ้น และอยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับส่วนผสม<br />
ในอาหาร เพื่อการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าที่คำนึงถึงสุขภาพ ความยั่งยืน และจริยธรรม”<br />
Top 5 Trends to Look for in <strong>2018</strong><br />
1. Mindful Choices<br />
ผู้บริโภคมีความตระหนักในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อาหารมากขึ้น<br />
อย่างต่อเนื่อง ความอยากรู้ในสิ่งที่กินแบบลงลึกก็มีมากขึ้นตามมาด้วย<br />
ทั้งส่วนผสม หรือวิธีการผลิตต่างๆ ซึ่งล่าสุด ข้อมูลจ่าก Innova Market<br />
Insight ได้ชี้ให้เห็นว่า ครึ่งหนึ่งของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ<br />
และเยอรมนีได้หยุดใช้เวลาอ่านส่วนผสมบนฉลากมากขึ้น และ<br />
ประมาณ 7 ใน 10 ของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษยังต้องการ<br />
ทราบและเข้าใจในรายชื่อส่วนผสมด้วย ในขณะเดียวกัน ความสนใจ<br />
ในจริยธรรมที่มีของผู้ผลิตในกลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่ๆ ก็มีเพิ่มขึ้นชัดเจน<br />
ผู้บริโภคหันมาใส่ใจในการกล่าวอ้างถึงประเด็นนี้บนบรรจุภัณฑ์<br />
มากขึ้น ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็พบผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีการกล่าวอ้าง<br />
ด้วยประเด็นนี้มากขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงปี 2554-2559 มีการเติบโตถึง<br />
ร้อยละ 44 CAGR เลยทีเดียว<br />
2. Lighter Enjoyment<br />
ขณะที่ผู้บริโภคยังคงมองหาวิธีการกินดื่มแบบที่ดีต่อสุขภาพ<br />
มากขึ้น ผลิตภัณฑ์ทางเลือกเพื่อสุขภาพที่ยังแฝงไว้ด้วยความ-<br />
ดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แบบเบาๆ ไปจนถึง<br />
ทั้งในแง่ของความหวาน กลิ่นรส เนื้อสัมผัส และในบางครั้ง<br />
ปริมาณของผลิตภัณฑ์ ก็ยังนับเป็นปัจจัยที่สำคัญ และที่แน่นอน<br />
ที่สุด ทั้งหมดนี้ต้องดีต่อสุขภาพ เป็นที ่คุ้นเคย และเป็นมิตรต่อ<br />
กระเป๋าสตางค์ด้วย<br />
26 FOOD FOCUS THAILAND<br />
JAN <strong>2018</strong>
SPECIAL REPORT<br />
3. Positively Processed<br />
ในขณะที่ความเป็นธรรมชาติ<br />
และกระบวนการผลิตผลิตภัณฑ์<br />
ในปัจจุบันกำลังเป็นที่กังขา<br />
อย่างต่อเนื่องในกลุ่มผู้บริโภค<br />
ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมอาหารและ<br />
เครื่องดื่มต่างก็กำลังชุบชีวิต<br />
การผลิตแบบดั้งเดิมให้สามารถ<br />
มีประสิทธิภาพสูงเพื่อนำกลับมา<br />
ใช้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารเครื่องดื่ม<br />
อีกครั้ง ตัวอย่างเช่น กระบวนการหมัก หรือชากาแฟที่ชงแบบ “Cold brew” ต่างก็<br />
ถูกนำมาใช้ควบคู่ไปกับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เป็นต้น<br />
4. Going Full Circle<br />
ไอเดียของผู้บริโภคที่กำลังมองหาบริษัทผู้ผลิตที่ใจดี มีจริยธรรม พร้อมผลิตภัณฑ์<br />
คุณภาพมีมาตรฐาน เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม ทั้งหมดคือเทรนด์ที่ผู้บริโภค<br />
กำลังมองหามากขึ้น แต่ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ก็ต้องเป็นนวัตกรรม มีคุณภาพ ตอบโจทย์<br />
ความต้องการได้ด้วย ตัวอย่างเช่น การลดของเหลือทิ้ง การย่อยสลายได้ และการนำ<br />
กลับมาใช้ใหม่ของบรรจุภัณฑ์ เป็นต้น<br />
5. Beyond the Coffeehouse<br />
ในขณะที่กาแฟกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในหมู่ผู้บริโภคในกลุ่มมิลเลนเนียม<br />
และ เจน “Z” ชาก็กำลังพยายามที่จะสร้างชื่อตัวเองกลับเข้ามาครองใจกลุ่มคนรุ่นหลัง<br />
เช่นกัน ทั้งหมดนี้ ด้วยรสชาติและภาพลักษณ์ที่เป็นที่รู้กันว่าดีต่อสุขภาพของทั้งชา<br />
และกาแฟ จึงทำให้อุตสาหกรรมหันมาใช้กาแฟและชาเป็นส่วนผสมในสูตร<br />
เพิ่มเติมรสชาติให้กับผลิตภัณฑ์อื่นๆ มากมาย หลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนา<br />
สูตรใน Energy bars โยเกิร์ต ไปจนถึงในแยมเลยทีเดียว<br />
JAN <strong>2018</strong><br />
FOOD FOCUS THAILAND<br />
27
SPECIAL REPORT<br />
Mindful Choices<br />
The Key Food Driver for <strong>2018</strong><br />
7 in 10 US and UK consumers want to know<br />
and understand the ingredient list<br />
The increasingly thoughtful and mindful consumer will continue to catalyze<br />
changes in the way that companies produce, package and label their<br />
products. More conscious than ever about making responsible food<br />
choices, 4 in 10 US and UK consumers increased their consumption of<br />
“healthy foods,” 7 in 10 want to know and understand the ingredient list,<br />
1 in 5 in the US are most influenced by “real” ingredients, and ethical<br />
claims on packaging are top of mind. In response, better-for-you claims<br />
continue to be on-trend, having increased their market penetration from<br />
42% in 2012 to 49% in 2017 YTD.<br />
“Today’s consumer displays a high level of mindfulness about<br />
well-being and the environment,” reports Lu Ann Williams, Director<br />
of Innovation at Innova Market Insights. “So it is no surprise that<br />
consumers are becoming increasingly mindful in their food choices,<br />
wanting to know what is in their foods in order to make decisions<br />
about health, sustainability and ethical issues.”<br />
Top 5 Trends to Look for in <strong>2018</strong><br />
1. Mindful Choices<br />
Consumers are more conscious than ever about making<br />
responsible food choices, and increasingly want to know what is in<br />
their food and how it is produced. Innova Market Insights research<br />
data indicates that 1 in 2 US, UK and German consumers read<br />
ingredient labels often and that 7 out of 10 US and UK consumers<br />
want to know and understand ingredient lists. At the same time, rising<br />
levels of interest in ethical issues have resulted in the use of ethical<br />
claims for food and drink NPD soaring in recent years, with a CAGR<br />
of 44% over the 2011-2016 period.<br />
5. Beyond the Coffeehouse<br />
While coffee is clearly trending among Millennial and Generation<br />
Z consumers, tea is also seeking to reinvent itself among the younger<br />
generations. With the taste and experiential associations of coffee<br />
and the healthy image of tea, the industry is increasingly using coffee<br />
and tea as ingredients and flavors outside the hot drinks and iced<br />
tea and coffee sub-categories across a wide variety of products as<br />
varied as energy bars, yogurt and jam.<br />
2. Lighter Enjoyment<br />
As consumers continue to look for ways to eat and drink more<br />
healthily, lightness in terms of alcohol content, sweetness, flavor,<br />
texture or even portion size is increasing its appeal, although definitely<br />
not at the expense of a familiar, high quality and indulgent taste profile.<br />
3. Positively Processed<br />
As consumers become more concerned about naturalness and<br />
minimal processing techniques, the industry is reviving traditional<br />
processes such as fermented foods and cold brew tea and coffee,<br />
alongside the development of new ones.<br />
4. Going Full Circle<br />
The notion of closing the circle is increasingly taking hold, with<br />
greater consumer expectation that companies and brands will be<br />
more resource-smart via developments such as tip-to-tail eating,<br />
innovative uses for food waste and more biodegradable and<br />
renewable packaging.<br />
28 FOOD FOCUS THAILAND<br />
JAN <strong>2018</strong>
SPECIAL FOCUS<br />
Nutraceuticalsworld<br />
Translated By: Editorial Team<br />
Food Focus Thailand Magazine<br />
แนวโน้มของ<br />
ผลิตภัณฑ์<br />
อาหารมื้อว่าง<br />
ข้อมูลจาก Nutraceuticalsworld ระบุว่าผู้บริโภคกำลัง<br />
มองหาคุณสมบัติเชิงบวกของผลิตภัณฑ์ขนมขบเคี้ยว และ<br />
ส่วนผสมอาหารเพียงไม่กี่ชนิด ประหนึ่งว่า…ง่ายๆ แต่มีคุณค่า…<br />
ชาวอเมริกันใส่ใจกับสุขภาพของตนเองมากขึ้น จึงสนใจส่วนผสมในอาหารที่บริโภค<br />
ว่ามีและไม่มีอะไรบ้าง พวกเขามองหาผลิตภัณฑ์คลีนลาเบล และเริ่มเป็นผู้อ่าน (ฉลาก)<br />
ที่ดี โดยอ่านข้อมูลของส่วนผสมอย่างละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้น<br />
Darren Seifer กรรมการบริหารของกลุ่มบริษัท NPD ณ พอร์ท วอชิงตัน รัฐนิวยอร์ก<br />
กล่าวว่า “ผู้คนกำลังมองหาความบริสุทธิ์และความแน่แท้ พวกเขาจะกวาดสายตามอง<br />
รายการส่วนผสมบนฉลากอย่างรวดเร็ว เพื่อดูว่ามีส่วนผสมอะไรที่ไม่รู้จัก หรือรู้จักแต่<br />
ไม่ได้มาจากธรรมชาติบ้าง นั่นเพราะต้องการส่วนผสมอาหารที่เรียบง่ายและคุ้นเคย”<br />
เทรนด์โดนๆ ของผลิตภัณฑ์อาหารมื้อว่างเพื่อสุขภาพ<br />
• แนวคาวๆ เข้ามาเยือน<br />
ปัจจุบันกลุ่มชาวอเมริกันที่ตระหนักในเรื่องสุขภาพต่างหันหลังให้กับความหวาน<br />
จากน้ำตาล ผู้ผลิตเริ่มรับรู้ความต้องการของผู้บริโภคด้วย<br />
การผลิตขนมหวาน ขนมขบเคี้ยว ที่ใช้น้ำตาลในสูตรลดลง และ<br />
เพิ่มรสเผ็ดหรือมีรสชาติของอาหารคาวมากขึ้น นอกจากนี้<br />
จากผลการสำรวจโดย Canadean ในปี 2558 พบว่า<br />
ร้อยละ 54 ของผู้บริโภคกล่าวว่าพวกเขาพยายามกินผัก<br />
ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้<br />
Kashi นำเสนอขนมขบเคี้ยวในรูปแบบแท่งหรือบาร์<br />
2 รสชาติ คือ ถั่วขาวผสมใบโหระพาและน้ำมันมะกอก (Basil<br />
White Bean & Olive Oil) และข้าวโพดผสมควินัวและพริกไทยคั่ว<br />
(Quinoa Corn & Roasted Pepper) ทางด้าน Larabar เปิดตัวบาร์ซูเปอร์ฟู้ด<br />
ออร์แกนิก มาใน 3 รสชาติเผ็ดร้อน คือ คะน้าผสมมะพร้าวและโกโก้ (Coconut<br />
Kale Cacao) เฮเซลนัทผสมกัญชงและโกโก้ (Hazelnut Hemp Cacao) และบีท<br />
ผสมขิงและขมิ้น (Turmeric Ginger Beet)<br />
บริษัทขนาดย่อมลงมาก็ยังหันมาเล่นในตลาดนี้ อย่างเช่น Mediterra<br />
ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์บาร์หลากหลายรสชาติ ได้แก่ คะน้ากับเมล็ดฟักทอง (Kale<br />
and Pumpkin Seeds) พริกหยวกกับมะกอกเขียว (Bell Peppers and Green<br />
Olives) และมะเขือเทศตากแห้งกับใบโหระพา<br />
(Sundried Tomato and Basil) ด้าน Ginger’s<br />
Healthy Habits ได้เปิดตัว Veggie trail mix<br />
ออกมา 2 รสชาติ เป็นการนำผัก ถั่ว และเมล็ด<br />
ธัญพืชมาผสมกัน โดยหนึ่งในนั้นปรุงรสด้วย<br />
น้ำตาลและเมเปิ้ลซีรัป<br />
สำหรับคนรักเนื้อ ทาง Wild Zora นำเสนอ Meat & Veggie<br />
Bars หลายรสชาติ เ ช่น เนื้อแกะเมดิเตอร์เรเนียนผสมผักโขม<br />
(Mediterranean Lamb with Spinach) โรสแมรีและขมิ้น<br />
(Rosemary & Turmeric) ส่วน Wilde Boldr มีบาร์ที่ผลิตจาก<br />
เนื้อวัว เนื้อไกง วง และเนื้อไก่ ที่ย่างให้สุกอย่างช้าๆ “ทำจาก<br />
ส่วนผสมที่หาได้ในครัวของคุณเอง”<br />
“การเติมรสชาติจัดจ้านลงไปในผลิตภัณฑ์บาร์เป็นอีกวิธีหนึ่ง<br />
ในการสื่อถึงผู้บริโภคว่ามีผู้ผลิตให้ความตระหนักในการผลิตสินค้า<br />
มากขึ้น” Tom Vierhile ผู้อำนวยการด้านนวัตกรรมของ Canadean กล่าว<br />
“สามารถนำมาเป็นจา นเคียงรับประทานคู่กับอาหารมื้อกลางวัน<br />
30 FOOD FOCUS THAILAND JAN <strong>2018</strong>
SPECIAL FOCUS<br />
ด้วยคุณลักษณะแล้วผลิตภัณฑ์กลุ่มนี้เกือบจะแทนที่มันฝรั่งทอด<br />
ได้เลย ทั้งยังมีสารอาหารที่ดีอีกด้วย” เขาอธิบาย<br />
“บาร์สักคู่หนึ่งก็เป็นอาหารเที่ยงของคุณได้แล้ว และคุณ<br />
ก็จะไม่มีอาการ Sugar crash หรือรู้สึกอ่อนเพลียหลังจาก<br />
การบริโภคน้ำตาลมากเกินไป” Carl Jorgensen ผู้อำนวยการ<br />
ด้านสุขภาพและกลยุทธ์ผู้บริโภคทั่วโลก จาก Daymon<br />
บริษัทผู้ให้คำปรึกษาด้านการค้าปลีกทั่วโลก ซึ่งตั้งอยู่ในเมือง<br />
สแตมฟอร์ด รัฐคอนเนตทิคัต กล่าว เขาคิดว่าบนเส้นทาง<br />
อันเผ็ดร้อนนี้ยังมีที่ว่างสำหรับผลิตภัณฑ์บาร์อีกมาก<br />
การเติบโตของอาหารขบเคี้ยวรูปแบบแท่งไม่ใช่เรื่อง<br />
ที่น่าประหลาดใจ Mr.Seifer แห่งกลุ่มบริษัท NPD กล่าวว่า<br />
เนื่องจากอาหารขบเคี้ยวมีบทบาทอย่างมากในชีวิตประจำวัน<br />
ของเราอยู่แล้ว เพียงแต่สินค้ากลุ่มนี้ไม่สามารถตอบ<br />
ความเอาแต่ใจของผู้บริโภคได้เหมือนเดิมอีกต่อไป<br />
เพราะประเด็นเรื่องสุขภาพได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้น<br />
เราจะเห็นได้ว่ามีการบริโภคอาหารขบเคี้ยวรูปแบบแท่งที่มี<br />
รสชาติแบบอาหารคาวเพิ่มมากขึ้น และในขณะเดียวกัน<br />
การบริโภคขนมขบเคี้ยวรสหวานก็ลดลง<br />
• ทางเลือกแบบชิพๆ<br />
ผลิตภัณฑ์บาร์ไม่ใช่รูปแบบเดียวของนวัตกรรมขนมขบเคี้ยว ผลิตภัณฑ์ในรูปแบบแผ่นหรือชิพ (Chip)<br />
ตลอดจนรสชาติใหม่ๆ ก็ยังร้อนระอุในเส้นทางของทางเลือกนี้ด้วย<br />
อย่างเช่นป๊อบคอร์นสำเร็จรูป (Pre-popped popcorn) ซึ่งขายดิบขายดีใน 4 ปีที่ผ่านมา จากข้อมูล<br />
ของ Nielsen พบว่าในเดือนตุลาคม 2560 มียอดขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 จากปี 2559 โดยเพิ่มขึ้นจาก<br />
ร้อยละ 12 ของปีก่อนหน้า<br />
NatureBox นำเสนอ Pop Pops ป๊อบคอร์น<br />
ที่ทำให้พองบางส่วน มี 2 รสชาติให้เลือก ส่วนแบรนด์<br />
Open Road Snacks ก็เปิดตัว Poplets ซึ่งทางบริษัท<br />
กล่าวว่า “ส่งมอบความพึงพอใจ และรสชาติเยี่ยม<br />
• ว่าด้วยผลไม้ล้วนๆ<br />
ตลาดของบาร์รสอาหารคาวเริ่มคุกรุ่นขึ้น แต่ผลไม้ก็เริ่ม<br />
ฉายแววโดดเด่น บริษัท KIND เปิดตัวผลิตภัณฑ์บาร์ 4 ชนิด<br />
ภายใต้ชื่อ Pressed by Kind ซึ่งผลิตจากผลไม้ (มี 2 ชนิด<br />
ที่ผสมผักและเมล็ดเชียลงไปด้วย) และยังมีผลิตภัณฑ์ That’s<br />
It has That’s It bars ที่เป็นผลไม้ล้วนๆ<br />
Jordan Rost รองประธานฝ่ายข้อมูลเชิงลึกของผู้บริโภค<br />
แห่ง Nielsen กล่าวว่า แม้ผู้บริโภคจะพยายามหลีกเลี่ยงน้ำตาล<br />
แต่น้ำตาลในผลไม้ก็เป็นสิ ่งที่ยอมรับได้ “ไม่มีอะไรที่จะแย่<br />
โดยสิ้นเชิง และผู้บริโภคก็ยอมรับว่าผลิตผลสดเป็นแหล่งที่ดี<br />
ของสารอาหาร”<br />
“บาร์ผลไม้นี้ยังดึงดูดผู้บริโภคมากขึ้นได้อีกระดับ เนื่องด้วย<br />
มีส่วนผสมเพียงไม่กี่อย่าง จึงเป็นผลิตภัณฑ์คลีนลาเบลอีกด้วย”<br />
Mr.Rost กล่าวเพิ่มเติม<br />
JAN <strong>2018</strong><br />
FOOD FOCUS THAILAND<br />
31
SPECIAL FOCUS<br />
ของข้าวโพดที่มีส่วนผสมของไฟเบอร์มากขึ้น และไขมันกับแคลอรีที่ลดลง” ในเดือน<br />
ตุลาคม Ips Snack ได้วางจำหน่ายป๊อบคอร์น 2 รสชาติ ในชื่อ Ips Pop ซึ่งเพิ่ม<br />
เวย์โปรตีนเข้าไปด้วย<br />
ในเรื่องของรสชาติ ผู้บริโภคต่างสามารถเลือกหาได้ทุกรสชาติ ตั้งแต่รสซอสศรีราชา<br />
ไปจนถึงซอสเปรี้ยวหวาน (Sweet-and-sour buffalo) และซอสสับปะรด (Pineapplehabanero)<br />
“ป๊อปคอร์นเป็นสื่อนำรสชาติที่ดีเยี่ยม” Mr.Jorgensen กล่าว “เรียบง่าย และ<br />
สามารถเติมแต่งรสชาติที่น่าสนใจตามต้องการได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังให้เรากินตามใจ<br />
ตัวเอง โดยอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ ไม่กระทบต่อสุขภาพมากนัก”<br />
เขายังกล่าวเพิ่มเติมว่า ยังมีนวัตกรรมอีกมากมายในตลาดขนมกรุบกรอบ โดย<br />
คิดว่าจะส่งผลให้ตลาดของมันฝรั่งทอดซบเซาลงอย่างแน่นอน<br />
สินค้าเหล่านี้ทำมาจากแป้งมากกว่าที่จะเป็นมันฝรั่ง ดังนั้น จึงเป็นการง่ายที่จะ<br />
ปรุงรส ผลงานของทุกแบรนด์จะมีหลากหลายรสชาติให้เลือก ตั้งแต่แบบดั้งเดิมไปจนถึง<br />
รสชาติแปลกใหม่ที่ท้าทายให้ลิ้มลองมากขึ้น โดยรสดั้งเดิมเป็นรสมาตรฐานที่รับประกัน<br />
ว่าขายได้แน่ๆ ส่วนรสชาติแปลกใหม่ก็เป็นการสร้างความตื่นเต้นและสร้างเทรนด์<br />
ให้กับบริษัท<br />
“รสชาติแปลกใหม่ที่ท้าทายให้ลิ้มลองเปรียบเสมือนสิ่งที่ทำให้แบรนด์วิ่งไป<br />
รอบๆ สนาม ด้วยความหวังว่ามันจะเป็นโฮมรัน และกลายเป็นรสชาติยอดนิยมไปอีก<br />
ตลอดกาล นี่เป็นความพยายามสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ที่มีความเสี่ยงต่ำ” เขากล่าว<br />
ชิพในรูปแบบอื่นๆ ที่น่าสนใจ คือ โปรตีนจากพืช ซึ่งยังคงแข็งแกร่ง เป็นที่ดึงดูด<br />
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้บริโภคอาหารมังสวิรัติ จากข้อมูลของกลุ่มบริษัท NPD เผยว่า<br />
ผู้ใหญ่ราวครึ่งหนึ่งบอกว่าตนพยายามที่จะเสริมโปรตีนในอาหารให้มากขึ้น<br />
ผลิตภัณฑ์ Bean Stalks จากแบรนด์ Saffron Road ซึ่งมีส่วนผสมของแป้งถั ่ว<br />
ถั่วลันเตา ถั่วปินโต ถั่วขาว และแป้งมันฝรั่ง มีจำหน่ายในรสเกลือทะเล รสเนยแข็ง<br />
เชดดาร์ และรสบาร์บีคิว<br />
“ด้วยความห่วงใยในปัญหา<br />
สุขภาพอย่างโรคอ้วนและ<br />
โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ที่เพิ่มสูงขึ้น<br />
เป็นแรงผลักดันให้ผู้บริโภค<br />
เพิ่มความระมัดระวังในการเลือก<br />
ซื้ออาหารทานเล่นมากขึ้นด้วย<br />
นี่เป็นผลดีที่ทำให้ขนมขบเคี้ยวทางเลือกที่ทำจากถั่วชิกพีได้รับความสนใจ” Mr.Vierhile<br />
อธิบาย<br />
ปัจจัยอื่นๆ คือ หนุ่มสาวสมัยนี้สนใจในเรื่องสุขภาพมากขึ้น จากผลการสำรวจของ<br />
Canadean ในปี 2559 ระบุว่าร้อยละ 57 ของผู้บริโภคตระหนักว่าการมีสุขภาพ<br />
ที่ดีและอยู่ดีกินดีเป็นสิ่งส ำคัญ แต่สำหรับกลุ่มอายุ 25–34 ปี ตัวเลขนี้กระโดด<br />
ไปถึงร้อยละ 65<br />
Chic-a-Peas วางขายถั่วชิกพีอบกรอบใน 4 รสชาติ ทางด้าน Sensible<br />
Portions มีข้าวเกรียบผักทั้งแบบแผ่นและแบบแท่ง Peeled Snacks<br />
นำเสนอพัฟที่ทำจากโปรตีนถั่วออร์แกนิก ภายใต้แบรนด์ Peas Please<br />
นอกจากนี้ยังมี Veggie Harvest จาก<br />
SunChips ซึ่งเป็นแบรนด์ของ Frito Lay<br />
ที่ผลิตมาจากถั่วลันเตาสีเหลือง โดยกล่าว<br />
อ้างว่ามีไขมันน้อยกว่ามันฝรั่งแผ่นถึง<br />
ร้อยละ 30<br />
32 FOOD FOCUS THAILAND JAN <strong>2018</strong><br />
• ขนมก็ดื่มได้<br />
หัวใจสำคัญของขนมขบเคี้ยวในวันนี้ คือ สะดวกสบาย และง่ายต่อการพกพา<br />
ผู้ผลิตบางรายจึงต่อยอดแนวคิดนี้ด้วยขนมแบบดื่ม<br />
Chobani นำเสนอเครื่องดื่ม Chobani และ Dannon ก็เปิดตัว<br />
เครื่องดื่มโปรตีนแบบพกพาออกมาทำตลาดในชื่อ Oikos สิ่งนี้<br />
กลายเป็นแรงกระเพื่อมเล็กๆ ในวงการ ข้อมูลของ Canadean<br />
ในปี 2557-2558 พบว่ามีการบริโภคโยเกิร์ตพร้อมดื่มเพิ่มมากขึ้น<br />
ร้อยละ 7 โดยการเติบโตนี้ส่วนใหญ่เกิดจากลูกค้าวัยหนุ่มสาว<br />
มีหลายปัจจัยอยู่เบื้องหลังความนิยมของเครื่องดื่มเหล่านี้<br />
อย่างแรกคือ หากดื่มยังไม่หมด สามารถเก็บไว้ดื่มต่อทีหลังได้<br />
ประการต่อมาคือ มีน้ำตาลน้อย (ประมาณครึ่งหนึ่งของน้ำตาลที่มี<br />
ในน้ำอัดลม) ทั้งยังมีโปรตีนสูง ในปี 2558 ผลการสำรวจของ<br />
Canadean เผยว่าผู้บริโภคชาวอเมริกันร้อยละ 20 มองหาปริมาณโปรตีนบนฉลาก<br />
ข้อมูลโภชนาการอยู่เสมอ และร้อยละ 26 ทำแบบเดียวกันเพื่อหาปริมาณน้ำตาล<br />
“ดาวแห่งโปรตีนกำลังสุกสกาว ดังนั้น…จึงผลักดันให้โยเกิร์ตเติบโตต่อไป<br />
โดยเฉพาะโยเกิร์ตพร้อมดื่มยิ่งรุ่งโรจน์ ด้วยเพราะเป็นของว่างที่พกพาได้”<br />
Mr.Vierhile กล่าว<br />
แต่โยเกิร์ตไม่ใช่สิ่งเดียวที่ผู้บริโภคพกพาเพื่อดื่มในยามรีบเร่ง น้ำผลไม้คั้น<br />
ก็กำลังขึ้นมายืนแถวหน้า ดังเช่น GoGo squeeZ ผู้ผลิตโยเกิร์ตและสินค้าจาก<br />
แอปเปิ้ล ด้าน Munk Pack ซึ่งวางจำหน่ายข้าวโอ๊ตบดผสมผลไม้ในฤดูใบไม้ผลิ<br />
ปี 2558 ที่ผ่านมา และบริษัทฯ ได้เผยถึงตัวเลขการเจริญเติบโตถึงร้อยละ 450<br />
ซึ่งวางขายในร้านขายของชำแบบดั้งเดิม<br />
“ซีเรียลบรรจุกล่องได้รับความนิยมลดลง ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าความเร่งรีบ<br />
ของผู้บริโภคทำให้พวกเขามองหาสินค้าที่สะดวกกว่า แต่ยังต้องคงคุณค่าเหมือนเดิม”<br />
Michelle Glienke ผู้ร่วมก่อตั้ง Munk Pack กล่าว “ตัวสินค้านั้นจะต้องดีงามกับทั้ง<br />
เด็กและผู้ใหญ่ เฉกเช่นเดียวกับนักกีฬาที่ต้องการเติมพลังอย่างรวดเร็ว”<br />
Mr.Vierhile มองว่านี่เป็นโอกาส แม้ว่าเขาจะยอมรับว่าบรรจุภัณฑ์แบบเพ้าช์<br />
อาจไม่ดึงดูดผู้ใหญ่เพราะมองว่าเป็นอาหารสำหรับทารก “เป็นสิ่งที่น่าสนใจ<br />
ที่จะได้เห็นว่านักการตลาดจะสามารถปรับเปลี่ยนทัศนคติของผู้บริโภคได้หรือไม่”<br />
เขากล่าว<br />
“ผมคิดว่า เราแค่เพิ่งได้เห็นจุดเริ่มต้นของขนมขบเคี้ยวแบบดื่ม”<br />
Mr.Jorgensen ตั้งข้อสังเกต “ผมคิดว่าเราจะยังเห็นการเติบโตอีกมาก ด้วยรูปแบบ<br />
แล้วมันสามารถพลิกแพลงได้มาก ง่าย และพกพาสะดวก ซึ่งสามารถตอบสนอง<br />
ความต้องการทั้งหมดและตอบทุกโจทย์ที่เรามี โยเกิร์ตนั้นง่ายต่อการปรุงรสชาติ<br />
ด้วยอะไรก็ได้ตามแต่จะสร้างสรรค์เช่นเดียวกับป๊อบคอร์น ผมทำนายว่าต่อไป<br />
เราจะได้เห็นโยเกิร์ตที่เป็นรสอาหารคาว ซึ่งนั่นเป็นการย้อนกลับไปเหมือนยุค<br />
เริ่มต้นของการกินโยเกิร์ต”<br />
• แมลงกำลังมา<br />
ด้วยประชากรที่เพิ่มขึ้นและทรัพยากรอาหารที่ลดลง ทำให้นักพยากรณ์<br />
หลายคนเชื่อว่าในอนาคตผู้คนจะหันมาบริโภคแมลงกันมากขึ้น ตามรายงานของ
SPECIAL FOCUS<br />
Persistence Market Research เมื่อปี 2559 ได้ทำนายว่า<br />
ตลาดแมลงที่บริโภคได้จะขยายตัวทั่วโลก โดยมีอัตราการเติบโต<br />
เฉลี่ยต่อปีที่ร้อยละ 6 ในระหว่างปี 2559-2567<br />
เราได้เห็นปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นแล้ว<br />
ในตลาด มีสินค้าแมลงวางบนชั้นขายมากขึ้น<br />
ทุกวัน ทาง Bitty Foods นำเสนอพัฟที่ผลิตจาก<br />
แป้งถั่วกับแป้งจิ้งหรีดในชื่อ Chiridos ส่วนค่าย Six<br />
Foods ได้วางขายข้าวเกรียบจิ้งหรีดใน 3 รสชาติ<br />
แบรนด์ Chirps โดยใช้สโลแกนว่า “eat what bugs<br />
you” อย่างไรก็ตาม ขนมขบเคี้ยวจากแมลง<br />
น่าจะยังไม่ขึ้นมาครองตลาดในเร็ววันนี้<br />
บริษัทขนาดเล็กเหล่านี้มักจะมีฐานการผลิตอยู่ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งสร้างความเชื่อถือให้กับลูกค้า<br />
ได้เป็นอย่างดี<br />
ตัวผลิตภัณฑ์จะมีลักษณะที่บางลงและกรอบมากขึ้น อย่างเช่น Mary’s Gone<br />
Crackers ซึ่งผลิตขนมปังกรอบที่บางสุดขีดออกมา และ Sinfully Thin popcorn ของ<br />
Open Road Snacks แม้กระทั่ง Wheat Thins ซึ่งอยู่ในตลาดมานานเป็นทศวรรษ<br />
ก็ได้นำเสนอ Wheat Thins Even Thinner ที่บางกว่าเดิมถึงร้อยละ 14 ลูกค้าต้องกินถึง<br />
22 ชิ้น เพื่อให้ได้พลังงานเท่ากับที่เคยกิน 16 ชิ้น “ด้วยสิ่งนี้ ผู้บริโภคกำลังหลอกตัวเอง<br />
ด้วยวิธีที่ชาญฉลาดกว่า นั่นคือไม่ได้ทดแทนด้วยอย่างอื่น ยังกินเหมือนเดิม เพียงแค่ทำให้<br />
มันลดลง” Mr.Jorgensen กล่าว<br />
“ยังคงมีอุปสรรคอีกมากที่จะต้องเผชิญ แต่ด้วยสรรพคุณที่ดี<br />
ต่อสุขภาพของผู้บริโภค ท้ายที่สุดพวกเขาจะยอมรับได้” Mr.Rost<br />
กล่าว “มันอาจจะเกี่ยวกับเจนเนอเรชันของผู้บริโภคด้วย ผู้บริโภค<br />
ยุคใหม่เปิดกว้างให้กับรสชาติและรูปแบบของอาหารใหม่ๆ มากกว่า<br />
คนยุคเก่า ผมจึงยังไม่สามารถชี้ชัดได้ในตอนนี้”<br />
“นี่เป็นสิ่งที่น่าสนใจในจุดยืนของส่วนผสม” Mr.Vierhile<br />
กล่าว “คุณยังสามารถใช้โปรตีนจากแหล่งอื่นได้ เช่น ถั่วลันเตา<br />
โดยไม่จำเป็นต้องไปแตะโปรตีนจากแมลง นอกจากนี้ การผลิต<br />
โปรตีนจากแมลงก็ยังมีเรื ่องสิ่งแวดล้อมที่เข้ามาเกี่ยวข้องอีก”<br />
เขาให้ข้อสังเกต<br />
• เทรนด์อื่นๆ ที่ชวนให้เคี้ยว<br />
ขนมขบเคี้ยวจากเนื้อสัตว์ก็ยังคงเติบโตประมาณร้อยละ 3<br />
ต่อปี ซึ่งสูงกว่าการเติบโตโดยรวมของผลิตภัณฑ์บาร์ แต่ก็ถือว่า<br />
ลดลงจากที่เคยเติบโตด้วยเลข 2 หลัก เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมา<br />
โดยมีความต้องการโปรตีนและอาหารว่างของคาวของผู้บริโภค<br />
เป็นแรงขับ ผู้ผลิตต่างนำเสนอสินค้าด้วยรสชาติที่แปลกใหม่ และ<br />
รูปแบบที่แตกต่าง ยกตัวอย่างเช่น Epic ได้นำเสนอ Meat trail<br />
mix บาร์จากเนื้อวัวกระทิงผสมเมล็ดเชีย เบคอน ลูกเกด และ<br />
บาร์หมูฝอยรสสับปะรด<br />
ผู้บริโภคยังต้องการอาหารที่มีไฟเบอร์สูง ดังนั้นบาร์จาก<br />
ธัญพืชจึงยังคงได้รับความนิยมต่อไป<br />
การเติบโตที่แข็งแกร่งไม่ได้มาจากบริษัทที่ติด 100 อันดับแรก<br />
แต่กลับเป็นบริษัทเล็กๆ ที่มีความสัมพันธ์อันดีกับคนพันธุ์มิลเลนเนียล<br />
ผู้ซึ่งเปิดกว้างที่จะลองสินค้าใหม่ๆ คนวัยหนุ่มสาวมักจะไม่ค่อยเชื่อ<br />
บริษัทขนาดใหญ่เหมือนกับพ่อแม่ของพวกเขา Mr.Seifer กล่าวว่า<br />
บางครั้งคนยุคมิลเลนเนียลแค่อยากจะต้องการรู้สึกว่าเป็น<br />
ผู้ให้การสนับสนุนผู้ประกอบการหน้าใหม่ และโดยแท้แล้ว<br />
JAN <strong>2018</strong><br />
FOOD FOCUS THAILAND<br />
33
SPECIAL FOCUS<br />
Snack<br />
Trends<br />
Refer to Nutraceuticalsworld, consumers are seeking<br />
more positive attributes and fewer ingredients from<br />
their snacks and nutrition bars.<br />
Americans concerned about their health are evaluating products for<br />
both what they contain and also what they don’t. They’re looking for clean<br />
labels and are becoming careful readers of ingredient panels.<br />
“People are looking for purity and authenticity,” said Darren Seifer,<br />
Executive Director of the NPD Group, Port Washington, NY. “They are<br />
giving the ingredient list a quick glance to see if there’s anything they don’t<br />
recognize—or anything they do recognize as not natural. They want simple,<br />
recognizable ingredients.”<br />
Let’ s See The Healthy Snack Trends To Chew On<br />
• Savory Bites<br />
<strong>No</strong>w that the health-conscious American public has turned its back on<br />
sugar, manufacturers have perked up and taken notice, producing snacks<br />
with less sugar and a decidedly savory bent. Additionally, according to a<br />
2015 survey by market research company Canadean, 54% of consumers<br />
say they’re trying to eat as many vegetables as possible.<br />
Kashi has launched savory bars with two flavors: Basil White Bean &<br />
Olive Oil and Quinoa Corn & Roasted Pepper. Meanwhile, Larabar has<br />
launched organic Superfoods bars in three savory flavors: Coconut Kale<br />
Cacao, Hazelnut Hemp Cacao and Turmeric Ginger Beet.<br />
Smaller companies are also going savory. Mediterra has come out<br />
with a savory bar line that includes Kale and Pumpkin Seeds, Bell Peppers<br />
and Green Olives, and Sundried Tomato and Basil. And from Ginger’s<br />
Healthy Habits there’s veggie trail mix in two flavors (one includes sugar<br />
and maple syrup), made with raw veggies, nuts and seeds.<br />
On the meatier side, from Wild Zora there are new Meat & Veggie Bars<br />
in flavors such as Mediterranean Lamb with Spinach, Rosemary & Turmeric.<br />
Wilde Boldr offers slow-roasted meat bars (beef, turkey, chicken), “made<br />
from ingredients you can find in your kitchen.”<br />
“Taking bars into a spicy flavor profile is another way to telegraph to<br />
consumers that it’s something less inclined to be guilt producing,” said<br />
Tom Vierhile, Canadean’s Innovation Insights Director. “These could be a<br />
side dish for lunch. With a savory profile they’re almost taking the place<br />
of chips and there are some nutrients in them as well,” he explained.<br />
“A couple of these will do the job for lunch and you’re not going to have<br />
a sugar crash later on,” said Carl Jorgensen, Director of Global Consumer<br />
Strategy and Wellness at Daymon, a global consumables retail consultancy<br />
in Stamford, CT. “I think there’s a lot of room for bars in this savory<br />
direction.”<br />
The rise in savory snack bars is no surprise. “Since snack foods<br />
are playing a bigger role in our daily lives they are not solely indulgent<br />
anymore,” said the NPD Group’s Mr.Seifer. “Health is playing a much<br />
bigger role than it did, and as such we’ve seen savory snack foods<br />
increase in consumption, and at the same time, sweet snacks have<br />
declined.”<br />
• <strong>No</strong>thing But Fruit<br />
The savory bar market may be heating up, but fruit has also been<br />
gaining the spotlight. KIND offers Pressed by Kind, four types of bars<br />
that contain nothing but fruit (two also contain vegetables/chia), and<br />
That’s It has That’s It bars, which also contain just fruit alone.<br />
Even though consumers are avoiding sugar, the sugar in fruits is<br />
acceptable, said Jordan Rost, Vice President of Consumer Insights<br />
with Nielsen. “<strong>No</strong>thing is inherently bad and consumers accept that<br />
fresh produce is a good source of nutrients.”<br />
Bars that are nothing but fruit also appeal to consumers on another<br />
level, Mr.Rost added. They have very few ingredients, so have very<br />
clean labels.”<br />
• Chipping Away At Alternatives<br />
Bars aren’t the only area of the snack food market witnessing<br />
innovation. Chip-like products are on fire with an array of alternatives,<br />
as well as new flavors.<br />
First, there’s pre-popped popcorn, which has seen soaring sales<br />
for the past four years. In October, sales had increased 17% over the<br />
previous year, up from 12% the year prior, according to Nielsen.<br />
NatureBox offers Pop Pops, which are partially popped in two<br />
flavors; Open Road Snacks has Poplets, which the company said<br />
“deliver a satisfying crunch and a great corn center taste with more<br />
fiber and less fat and calories.” In October, Ips Snack launched Ips<br />
Pop popcorn that includes whey protein in two flavors.<br />
In terms of flavor, consumers can find everything<br />
from sriracha to sweet-and-sour buffalo and<br />
pineapple-habanero.<br />
“Popcorn is a great vehicle for flavor,” said<br />
Mr.Jorgensen. “It’s clean and simple and it’s so easy<br />
to add interesting flavors to it. It’s also a permissible<br />
indulgence.”<br />
34 FOOD FOCUS THAILAND JAN <strong>2018</strong>
SPECIAL FOCUS<br />
There’s a lot of innovation in the popped chips market, too, he<br />
added, “and I think they’ll be taking a lot of market share away from<br />
deep fried potato chips.”<br />
These products are made from a batter, rather than a potato, so<br />
it’s easy to add flavors, Mr. Jorgensen noted. “Every brand’s portfolio<br />
needs to have a range of traditional through more adventurous flavors.”<br />
This is so standard flavors ensure sales and unusual flavors generate<br />
excitement and help position the company as trend-forward, he<br />
explained.<br />
“The adventurous flavors are where brands can run around in<br />
hopes of getting a homerun that will turn into a perennial favorite. It’s<br />
a relatively low risk way to innovate,” he continued.<br />
In alternative chips, vegetable protein is strong, appealing to vegans<br />
and vegetarians especially. And according to the NPD Group, about<br />
half of adults said they’re trying to get more protein into their diets.<br />
Saffron Road’s Bean Stalks include bean flour, green peas, red<br />
pinto beans, white cannellini beans and potato starch, and are available<br />
in sea salt, cheddar or barbeque flavors.<br />
“With increasing concern over health issues like obesity and type<br />
2 diabetes, pressure is growing on consumers to incorporate health<br />
and wellness concerns when making snack choices, which is helping<br />
alternative snacks like those made from chickpeas gain traction,”<br />
explained Mr.Vierhile.<br />
Another factor is that younger customers especially are more<br />
interested in health. According to a 2016 Canadean survey, 57% of<br />
consumers said health and well-being is important, but for consumers<br />
aged 25 to 34, that figure jumped to 65%.<br />
Chic-a-Peas sells Baked Crunchy Chickpeas in four flavors while<br />
other offerings come from Sensible Portions (Veggie Chips and Veggie<br />
Straws) and Peeled Snacks (Peas Please—organic puffed snacks<br />
made with pea protein). Then there’s Veggie Harvest from SunChips,<br />
a Frito Lay brand. These are made from dried yellow peas and claim<br />
to have 30% less fat than regular potato chips.<br />
• Drinkable Snacks<br />
Convenience and portability are key elements of snacking today.<br />
Some manufacturers are capitalizing on this trend with drinkable<br />
snacks.<br />
Chobani has launched Drink Chobani and Dannon has launched<br />
an Oikos beverage promoted as “protein on-the-go.” These are making<br />
small ripples in the industry. According to Canadean, in the period of<br />
2014 to 2015, per capita consumption of drinkable yogurt was up 7%.<br />
This growth, the company said, is mostly coming from younger<br />
consumers.<br />
There are several factors behind the popularity of these drinks,<br />
according to Mr.Vierhile. They’re re-sealable; they’re low in sugar<br />
(about half that of a can of soda), and they’re high in protein. In 2015<br />
a Canadean survey revealed that 20% of American consumers “always”<br />
check nutritional labeling for protein content; 26% say the same about<br />
sugar.<br />
“Protein’s star is continuing to rise ... [so] the trend is bullish for<br />
yogurt, especially drinkable yogurt, which also has strong potential as<br />
a portable snack,” Mr. Vierhile said.<br />
Yogurt’s not the only thing consumers are drinking on the go—<br />
squeezable fruit drinks are coming to the forefront. Companies in this<br />
category include GoGo squeeZ, which has yogurt and apple products,<br />
and Munk Pack, which hit shelves in the spring of 2015. Munk Pack’s<br />
oatmeal/fruit products are marketed as a cereal alternative, and the<br />
company is quoting some gaudy growth numbers, citing 450% growth<br />
in conventional grocery.<br />
“Given the decline in boxed cereals, our thesis was<br />
that busy consumers would increasingly reach for more<br />
convenient, yet healthy, products,” said Michelle<br />
Glienke, Co-founder of Munk Pack. The products,<br />
she explained, are resonating with both adults and<br />
kids, as well as athletes seeking quick nutrition.<br />
These have potential, according to Mr.Vierhile, though he admitted that<br />
pouch packaging may not appeal to adults since it has a perception of<br />
being used for baby food. “It will be interesting to see if product marketers<br />
can change that perception,” he said.<br />
“I think we’re just seeing the beginning of drinkable snacks,” noted<br />
Mr.Jorgensen. “I think we’ll see a lot of growth in them—the formats make<br />
them very flexible; they’re very convenient and portable. It fulfills all the<br />
requirements and hits all the right buttons for the trends we’re seeing. And<br />
like popcorn, yogurt’s such a bland start that you can add just about anything<br />
to it. I predict that next up, we’ll see savory yogurt flavors, which is a more<br />
traditional way of eating yogurt.”<br />
• Bugging Out<br />
An increasing population and dwindling food sources mean many<br />
forecasters believe consumers will be eating more insects in the future. A<br />
report out last year from Persistence Market Research predicted that the<br />
global edible insects market will expand at a CAGR of 6% between 2016<br />
and 2024.<br />
This trend is already visible in the marketplace with more products on<br />
store shelves. Bitty Foods’ Chiridos air-puffed chips are made with lentil<br />
flour and cricket flour, and Six Foods offers Chirps “eat what bugs you”<br />
brand cricket chips in three flavors. However, buggy snacks aren’t going<br />
to be topping the charts just yet.<br />
“There’s still a hurdle to get over … [but] if it helps consumers be healthy<br />
they might accept it,” said Mr.Rost. “It might be generational—younger<br />
consumers are more open to new flavors and types of food, so I wouldn’t<br />
rule anything out, though transparency is important.”<br />
“This is very interesting from an ingredient standpoint,” said Mr.Vierhile.<br />
“You can use other types of protein—like pea protein—that don’t have the<br />
baggage of insect protein.” Additionally, “there’s a big environmental case<br />
to be made for insect protein,” he noted.<br />
• More Trends to Chew On<br />
Meat snacks continue to grow at 3% annually, which exceeds bar<br />
growth overall, but is down from the double-digit growth of the previous<br />
two to three years. Consumer demand for protein and savory products is<br />
driving this. Companies are offering meat snacks in unusual flavors and<br />
different formats. Epic, for example, offers a meat trail mix in bison-chiabacon-raisin<br />
and pulled pork-pineapple flavors.<br />
Consumers are also seeking fiber so grain-based bars remain popular.<br />
Strong growth is coming from companies that are not in the top 100.<br />
These smaller companies often have strong connections with Millennials,<br />
who are also open to trying new products. Younger generations often aren’t<br />
as trusting of larger corporations as their parents are, said Mr. Seifer. Plus,<br />
sometimes Millennials just want to feel they’re supporting start-ups. Another<br />
check mark for these companies: they’re usually U.S.-based, which appeals<br />
to many consumers.<br />
Products are also getting thinner and crispier, such as Mary’s Gone<br />
Crackers’ Thins line and Open Road Snacks Sinfully Thin popcorn. Even<br />
Wheat Thins, which have been on the market for decades, are now available<br />
as Wheat Thins Even Thinner. They’re 14% thinner than the originals and<br />
a person could eat 22 rather than the former 16 for the same calorie count.<br />
“With this, consumers are tricking themselves, but in a very clever way—not<br />
replacing things, just slimming things down,” said Mr.Jorgensen.<br />
เอกสารอ้างอิง/References<br />
Nutraceuticalsworld<br />
JAN <strong>2018</strong><br />
FOOD FOCUS THAILAND<br />
35
SPECIAL FOCUS<br />
Kevin Kramer<br />
www.thinkkaleidoscope.com<br />
Translated By: Editorial Team<br />
Food Focus Thailand Magazine<br />
6 เทรนด์มาแรง<br />
ของอาหารมื้อว่างในปี 2561<br />
สินค้าตัวต่อไปที่จะนำเสนอสู่ตลาด…อาจจะรุ่งหรือร่วง…ขึ้นอยู่กับบรรจุภัณฑ์ด้วยเช่นกัน<br />
ไม่มีสิ่งใดที่จะรับประกันได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต แต่หลังจากการเยี่ยมชมงาน Sweets &<br />
Snacks Expo ที่ผ่านมา ณ กรุงชิคาโก เราก็พอจะเห็นภาพได้…และนี่คือ 6 เทรนด์ที่น่าจับตามอง<br />
ของบรรจุภัณฑ์สำหรับอาหารมื้อว่าง ไม่ว่าจะเป็น ขนมขบเคี้ยว ลูกอมและลูกกวาด<br />
1. มันก็จะร้อนขึ้นหน่อยๆ<br />
หลายๆ แบรนด์ต่างสรรหาแนวทางในการนำเสนอประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับ<br />
ผลิตภัณฑ์ขนมหวานผ่านการสอดแทรกความรุ่มร้อนให้กับตัวผลิตภัณฑ์<br />
ความเผ็ดร้อนไม่ได้มีเพียงแค่มิติเดียวอีกต่อไป แต่ยังสามารถเข้าถึงอารมณ์<br />
ความรู้สึก ลักษณะเนื้อสัมผัส และแน่นอนคือ กลิ่นรสของผลิตภัณฑ์เอง<br />
2. เล่นกับโปรตีนทางเลือก<br />
โปรตีนทางเลือกเป็นเทรนด์ที่เติบโตขึ้นมากในช่วง 5-10 ปีที่ผ่านมา โปรตีน<br />
จากพืช (ผัก) ได้ถูกยกระดับให้มาอยู่ในรูปแบบที่เหนือความคาดหมาย เช่น<br />
ในผลิตภัณฑ์นมและสมูธตี้ นอกจากนี้ยังถูกนำไปผสมผสานในรูปแบบของ<br />
ขนมขบเคี้ยวต่างๆ อย่างเช่น แครกเกอร์ ชิพ และผงโปรตีน เป็นต้น ทางแบรนด์<br />
Ripple และ แบรนด์ Off the Eaten Path ก็ได้นำหน้าไปก่อนด้วยการนำเสนอ<br />
โปรตีนจากถั่วลันเตาและผักชนิดต่างๆ ซึ่งไม่ใช่แค่เพื่อสร้างความแตกต่างจาก<br />
คู่แข่งเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ด้วย<br />
“<br />
3. การผลิตแบบ แบทช์” จะกลายเป็น ทำมืออย่างประณีต”<br />
ได้หรือไม่?<br />
กระแสของสินค้าทำมือดูเหมือนจะแผ่วลง และเริ่มที่จะเข้าไปรับช่วงต่อ<br />
จากสินค้ากลุ่มกาแฟ และขยายมายังผลิตภัณฑ์เบียร์ และแม้กระทั่งลูกอม<br />
ลูกกวาด หลายๆ แบรนด์ได้พยายามสรรหาวิธีเพื่อสร้าง<br />
ความแตกต่างด้วยการสื่อสารถึงเรื่องราวของสินค้าโดยใช้<br />
วลีต่างๆ เช่น “ผลิตแบบแบทช์ (Batch made)” เพื่อถ่ายทอด<br />
ความรู้สึกอันล้ำค่าและสื่อถึงที่มา หากมีการใช้คำว่า “ทำมือ<br />
อย่างประณีต” หรือ “Craft” ก็จะเป็นไปในแนวทางที่ให้<br />
ความรู้สึกโรแมนติก อย่างเช่น “ทำมือด้วยความใส่ใจ<br />
(Consciously crafted)” หรือ “ทำมือสดๆ ใหม่ๆ (Freshly<br />
crafted)”<br />
“<br />
1<br />
4. ประสบการณ์แห่งรสชาติที่หลากหลาย<br />
แค่รสชาติแปลกและน่าทึ่งนั้นไม่เพียงพออีกต่อไป เพราะผู้บริโภคยังคงมอง<br />
หาประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ให้ความรู้สึกหลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง<br />
ในผลิตภัณฑ์ขนมหวาน อย่างเช่นแบรนด์ Jolly Rancher ที่นำเอาทุกความรู้สึก<br />
มารวมกันไว้ใน “Filled pops” อมยิ้มสอดไส้ซึ่งแข็งนอก หนุบใน เคี้ยวได้ และ<br />
ยังมีรสชาติหลากหลาย<br />
5. ป๊อบคอร์นแบบพรีเมียมต้องหลากสีสัน<br />
แบรนด์ดังอย่าง Gary Poppins, Tiny But Mighty และ Angie’s Boom Chicka<br />
Pop ยังยึดฐานที่มั่นกับการสร้างสรรค์ป๊อปคอร์นซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับ<br />
ความนิยมมาอย่างยาวนาน และต่อลมหายใจโดยการเพิ่มสีสันสดใส รสชาติ<br />
แปลกใหม่ และรูปแบบที่แตกต่าง นับเป็นการสร้างความคึกคักและเติมพลัง<br />
ให้กับช่วงเวลาของอาหารมื้อว่าง<br />
6. เหมือนจะเหมือน<br />
ตัวอย่างสินค้าลอกเลียนแบบนั้นมีให้เห็นหลากหลาย โดยพยายามที่จะทำให้<br />
ดูคล้ายกับสินค้าไฮเอนด์ แต่มีคุณภาพแตกต่างกับของแท้อย่างลิบลับ<br />
เช่น ผลิตภัณฑ์กลุ่มกาแฟ และเครื่องประดับ<br />
2<br />
36 FOOD FOCUS THAILAND JAN <strong>2018</strong>
SPECIAL FOCUS<br />
in Confectionery & Snack Packaging for <strong>2018</strong><br />
Staying on top of packaging trends can make or break the success of your next product<br />
launch. There’s no guarantee for what the future may hold, but after visiting the Sweets &<br />
Snacks Expo in Chicago, we received a glimpse at what to expect. Here are our top six<br />
trends in confectionery and snack packaging to keep an eye out for in the coming months.<br />
1. Heating Up The Candy Aisle<br />
Brands are finding more and more ways to bring heat into the sweet<br />
treats experience. Hot and spicy is no longer one dimensional, but<br />
can rather come to life through literal heated temperature sensations,<br />
textures, and of course flavor.<br />
2. Playing Up Alternative Proteins<br />
Alternative proteins have been a growing trend for the past 5-10 years<br />
now, with vegetable proteins being leveraged in unexpected formats<br />
like milk and smoothies. In a more traditional sense, they are also<br />
being incorporated into snacking offerings like crackers, chips, and<br />
protein powders. Brands like Ripple and Off the Eaten Path have<br />
started to lead with a pea protein and real vegetable story as not only<br />
a differentiator, but a reason to believe in the brand.<br />
3. Could “BATCH” Be The New “CRAFT”?<br />
As the term craft becomes diluted and is starting to take over<br />
categories spanning coffee to beer and even candy, brands are looking<br />
to differentiate in the ways they communicate their story by using<br />
phrases such as “batch made” to convey a sense of preciousness<br />
and origin. If craft is being used, it is romanced in ways such as<br />
“consciously crafted” or “freshly crafted”.<br />
4. Multi-Sensorial Experiences<br />
It is no longer enough to provide amazing flavor; consumers are<br />
seeking longer-lasting, multi-sensorial experiences especially in<br />
relation to the confectionery space. Take a look at Jolly Rancher who<br />
brings all senses together in their new “filled pops” — Hard on the<br />
outside, chewy on the inside, with multiple flavor sensations inbetween.<br />
5. Premium Popcorn Delivered In Color<br />
Gary Poppins, Tiny But Mighty, and Angie’s Boom Chicka Pop continue<br />
to breathe fresh air into the longtime snacking favorite, popcorn. Fresh<br />
colors, flavors, and formats are bringing a new energy to this snacking<br />
occasion.<br />
6. Category Mimic<br />
There were several examples of brands mimicking the look & feel of<br />
a completely different high-end product type/category such as coffee<br />
and jewelry.<br />
3<br />
4<br />
5<br />
6<br />
เอกสารอ้างอิง/Reference<br />
Kevin Kramer. 2017. Six Exciting Trends in Confectionery and Snack Packaging for <strong>2018</strong>. Available at<br />
http://www.thinkkaleidoscope.com/blog/six-exciting-trends-in-confectionery-and-snack-packaging-for-<strong>2018</strong>/<br />
JAN <strong>2018</strong><br />
FOOD FOCUS THAILAND<br />
37
SPECIAL FOCUS<br />
Forecast for <strong>2018</strong><br />
คาดการณ์แนวโน้มผลิตภัณฑ์เบเกอรี่แช่แข็งปี 2561<br />
www.foodexecutive.com<br />
Translated By: Editorial Team<br />
Food Focus Thailand Magazine<br />
2-3 ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมทั่วโลกมีการเติบโตขึ้นมาก<br />
อันเนื่องมาจากวิถีชีวิตที่รีบเร่งและผู้คนมีความตระหนัก<br />
เรื่องข้อมูลด้านโภชนาการกันมากขึ้น เป็นผลให้ตลาดเติบโต<br />
อย่างมาก และคาดว่าจะยังคงเติบโตต่อไปในอนาคต<br />
ยกตัวอย่างขนมปัง ซึ ่งเป็นหนึ่งในอาหารหลักที่บริโภคกันแพร่หลายทั่วโลก<br />
ปัจจัยต่างๆ เช่น ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์เบเกอรี่ และความต้องการสินค้า<br />
ที่มีคุณภาพของผู้บริโภค ส่งผลให้ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์เบเกอรี่แช่แข็งบางราย<br />
ได้ขยายเครือข่ายไปทั่วโลก เราจึงเห็นสินค้าเบเกอรี่แช่แข็งตามร้านค้าปลีกและ<br />
เคาน์เตอร์ขายเบเกอรี่มากขึ้น นอกจากนี้ ความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป ตลอดจน<br />
พฤติกรรมของผู้บริโภคยุคใหม่ก็ได้ส่งผลให้ปริมาณการบริโภคสินค้ากลุ่มนี้สูงขึ้นด้วย<br />
ธุรกิจเบเกอรี่ขยายตัวเพิ่มขึ้นทั่วโลกจากการที่ผู้บริโภคนิยมเลือกซื้อเบเกอรี่<br />
แช่แข็งเนื่องจากมีราคาสมเหตุสมผลกว่าฟาสท์ฟู ้ดประเภทอบอื่นๆ โดยเฉพาะใน<br />
อเมริกาเหนือและยุโรปยิ่งเห็นความเติบโตอย่างเด่นชัด เบเกอรี่แช่แข็งสามารถ<br />
เก็บไว้ได้นาน ทั้งยังเป็นทางเลือกที่โดนใจในเรื่องความสะดวกสบาย ผลิตภัณฑ์<br />
เบเกอรี่แช่แข็งจึงยังคงมีแนวโน้มเติบโตต่อไป และเปิดโอกาสให้กับผลิตภัณฑ์<br />
เบเกอรี่ใหม่ๆ ที่มีความพิเศษและเน้นนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภค<br />
ที่รักสุขภาพ<br />
เบเกอรี่แช่แข็งเป็นสัดส่วนที่สำคัญของตลาดการแปรรูปอาหารทั่วโลก การค้า<br />
เบเกอรี่เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้ผลกำไรเป็นกอบเป็นกำ และส่วนใหญ่มักมีผล<br />
ตอบแทนที่ดี คุ้มค่ากับการลงทุน อุตสาหกรรมนี้ยังมีเสถียรภาพและมั่นคงทั่วโลก<br />
ซึ่งสินค้าในกลุ่มนี้รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ขนมอบแช่แข็งที่นำไปใช้สำหรับการผลิตสินค้า<br />
ชนิดอื่นๆ หรือใช้ในธุรกิจการบริการอาหาร อย่างเช่น ฐานพิซซ่า (Pizza crust)<br />
ตลาดเบเกอรี่แช่แข็งทั่วโลกคิดเป็นเกือบร้อยละ 8 ของตลาดอาหารแช่แข็ง<br />
ทั้งหมด และยังคงเฟื่องฟูเนื่องจากมีการพัฒนาที่หลากหลาย เนรมิตเป็นผลิตภัณฑ์<br />
ที่มีความซับซ้อนและดีต่อสุขภาพมากขึ้น นอกจากนี้ ผู้บริโภคยุคนี้มีความตระหนัก<br />
เรื่องสุขภาพ ส่งผลให้มีความต้องการส่วนผสมอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น<br />
จึงคาดว่าในอนาคตส่วนผสมอาหารระดับพรีเมียมจะช่วยเพิ่มมูลค่าตลาดเบเกอรี่<br />
แช่แข็งได้อย่างแน่นอน<br />
ทาง Research & Market ได้จัดหมวดหมู่ของตลาดทั่วโลกโดยอิงจากประเภท<br />
ของสินค้า ช่องทางการกระจายสินค้า และลักษณะทางภูมิศาสตร์ โดยประเมิน<br />
ความต้องการของทั้งตลาดโลกและตลาดระดับภูมิภาค รายงานนี้ได้วิเคราะห์<br />
The global industry has been on a higher growth<br />
trajectory for the last few years. The growth is largely<br />
fuelled by hectic schedules and rising awareness of<br />
nutritional facts amongst people. The market has<br />
grown considerably in recent times and is expected<br />
to continue its growth in the future.<br />
For instance, bread is considered as one of the leading staple food<br />
worldwide. Factors such as availability of a variety of bakery products<br />
and quality demand of buyers have encouraged quite a few leading<br />
frozen bakery product suppliers to expand their chain across the world.<br />
There has been a considerable rise in the number of over-the-counter<br />
and retail bakeries. Better value for money and new gender behaviour<br />
are a few of the other reasons for the increase in consumption of<br />
products.<br />
The world is witnessing an increase in the number of bakery<br />
businesses, with consumers opting for the more reasonably priced<br />
frozen bakery products to other baked fast foods. The segment is<br />
anticipated to show robust growth in <strong>No</strong>rth America and Europe.<br />
Consumers are also benefited with the purchase of frozen bakery, as<br />
it is easy for them to keep it for a longer period of time. The growth of<br />
this market segment banks on consumer preference for a convenient<br />
alternative to freshly baked products. This growth will be maintained<br />
in the future with an opportunity to produce new specialty bakery with<br />
plenty of innovation for health-conscious consumers.<br />
Frozen bakery makes up a significant portion of the global food<br />
processing market. The bakery trade is one of the most profitable fields<br />
and most bakeries have good return on capital. This industry maintains<br />
the characteristics of a stable and robust sector throughout the world.<br />
This category also includes those frozen baked products which are<br />
used in the manufacturing of other items or used in institutional food<br />
services, such as pizza crusts.<br />
The global market accounts for almost 8% of the total frozen food<br />
market and it is progressing towards more diversified operations that<br />
offer more healthy and sophisticated products. People are becoming<br />
more health-conscious, which is increasing the demand for healthy<br />
ingredients. These premium priced ingredients are expected to increase<br />
the market value of the frozen bakery sector over the next several<br />
years.<br />
The new report from Research & Market categorizes the global<br />
market for products based on types, distribution channels, and<br />
geography. It estimates demand for global as well as different regional<br />
markets. This report provides a comprehensive analysis of the market,<br />
which is witnessing steady growth because of its diverse product<br />
portfolio. Frozen pizza crust comprises of important share of 32.2% of<br />
38 FOOD FOCUS THAILAND JAN <strong>2018</strong>
SPECIAL FOCUS<br />
ตลาดอย่างครอบคลุม พบว่ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเนื่องจาก<br />
ผลิตภัณฑ์มีความหลากหลาย โดยฐานพิซซ่าแช่แข็งมีส่วนแบ่งการตลาด<br />
ถึงร้อยละ 32.2 ของตลาดรวมทั้งหมด ขนมปังแช่แข็งมีส่วนแบ่งเกือบ<br />
ร้อยละ 25.5 ตามมาด้วยเพสทรีแช่แข็ง ร้อยละ 15.5<br />
ในรายงานยังอธิบายถึงตลาดทั่วโลก ซึ่งครอบคลุมอเมริกาเหนือ<br />
(สหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโก) ยุโรป (สหราชอาณาจักร เยอรมนี<br />
ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน รัสเซีย เป็นต้น) เอเชียแปซิฟิก (จีน ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย<br />
เป็นต้น) และภูมิภาคอื่นๆ ( บราซิล แอฟริกาใต้ เป็นต้น)<br />
ยุโรปเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของเบเกอรี่แช่แข็ง คาดการณ์กันว่า<br />
ในช่วงปี 2556-2561 จะมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ร้อยละ 6.9<br />
รองลงมาคือ อเมริกาเหนือ ซึ่งคาดว่าจะมีความต้องการอาหารแปรรูป<br />
เพิ่มขึ้น และผู้คนจะมีวิถีชีวิตที่รีบเร่ง สำหรับเอเชียแปซิฟิกซึ่งผู้บริโภค<br />
เพิ่งจะรู้จักสินค้าเบเกอรี่แช่แข็งได้ไม่นานนักจะมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว<br />
ถึงร้อยละ 7.7 ในช่วงปี 2556-2561 นับเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตสูงที่สุด<br />
อัตราการเติบโตดังกล่าวนี้ เนื่องมาจากความต้องการอาหารที่มี<br />
คุณค่าทางโภชนาการและดีต่อสุขภาพ ตลอดจนความต้องการผลิตภัณฑ์<br />
อาหารสำเร็จรูปที่เพิ่มขึ้น โดยสหรัฐอเมริกาเป็นผู้เล่นรายใหญ่ที่สุด<br />
ในธุรกิจเบเกอรี่แช่แข็ง<br />
เอกสารอ้างอิง/Reference<br />
Frozen Bakery Market: Global Trends & Forecasts to <strong>2018</strong>.<br />
Available from www.foodexecutive.com<br />
the total market. Frozen breads hold almost 25.5% of the total market followed<br />
by frozen pastries with 15.5% share.<br />
This report also describes the market across the globe. The regions<br />
covered include <strong>No</strong>rth America (U.S., Canada, and Mexico), Europe (U.K.,<br />
Germany, France, Italy, Spain, Russia, etc.), Asia-Pacific (China, Japan,<br />
Australia, etc.), and Rest of the World (Brazil, South Africa, etc.).<br />
Europe is the largest market for frozen bakery and it is estimated to grow<br />
at a CAGR of 6.9% from 2013 to <strong>2018</strong>, followed by <strong>No</strong>rth America which is<br />
estimated to be the second largest market due to increase in demand for<br />
processed food and busy life-styles of the population. Asia-Pacific is projected<br />
to gain the fastest growth of 7.7% during the concerned period. In the Asia-<br />
Pacific region, the people are introduced with frozen bakery in recent years,<br />
so the growth rate in this region would be the highest.<br />
The growth is also attributed to the growing demands for healthy and<br />
nutritious products and increase in the demand for processed food. U.S. is<br />
one of the largest players in the frozen bakery business.<br />
JAN <strong>2018</strong><br />
FOOD FOCUS THAILAND<br />
39
STRONG QC & QA<br />
ธวัฒน์ชัย ขำวิจิตราภรณ์<br />
Tawatchai Khamvijitraporn<br />
Consultant<br />
MT Operation Co., Ltd.<br />
mtoperation@gmail.com<br />
Food Defense<br />
การเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการและผู้ที่เกี่ยวข้องในธุรกิจอาหารเกี่ยวกับการป้องกัน<br />
การก่อการร้ายในธุรกิจอาหารควรครอบคลุมทุกภาคส่วนของกิจกรรมที่เกี่ยวข้องตลอดห่วงโซ่อาหาร<br />
ของมนุษย์ การผลิตอาหารสัตว์ รวมถึงการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่ใช้บรรจุอาหาร โดยมีแนวทางที่สำคัญ<br />
ก็คือการทำความเข้าใจและการให้ความสำคัญกับประเด็นปัญหาการก่อการร้ายในธุรกิจอาหาร<br />
และการพิจารณาถึงผลกระทบและมูลเหตุสำคัญของการเกิดการก่อการร้าย ตลอดจนร่วมกันพิจารณา<br />
หาแนวทางการป้องกัน หรือแนวทางการแก้ไข รวมถึงมาตรการตอบโต้อย่างเหมาะสมกับสถานการณ์<br />
ที่เกิดขึ้นจริง<br />
การป้องกันการก่อการร้ายในธุรกิจอาหารของประเทศไทย โดยกระทรวง<br />
สาธารณสุข ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยด้านอาหารขึ้นในปีพุทธศักราช<br />
2552 โดยความร่วมมือกับประเทศสหรัฐอเมริกา และได้กำหนดแผนการดำเนินงาน<br />
ไว้แล้ว แต่สำหรับการเตรียมพร้อมของผู้ประกอบการด้านธุรกิจอาหารในทุกภาคส่วน<br />
จำเป็นต้องเตรียมความพร้อมในการรับมือถึงผลกระทบซึ่งเกิดจากการก่อการร้าย<br />
ในธุรกิจอาหารและเตรียมรับมือเพื่อกำหนดแนวทางการตอบโต้และการเฝ้าระวัง<br />
เพื่อป้องกันการเกิดสถานการณ์ที่ต้องสงสัยอันสุ่มเสี่ยงต่อการก่อการร้ายในธุรกิจ<br />
อาหาร ซึ่งในประเด็นนี้ระบบการควบคุมและป้องกันการก่อการร้ายในธุรกิจอาหาร<br />
จะมีความแตกต่างจากระบบการจัดการด้านความปลอดภัยในอาหาร เช่น ระบบ<br />
การวิเคราะห์อันตรายและการกำหนดจุดควบคุมวิกฤติ (HACCP) และเพื่อให้เรารู้จัก<br />
และทำความเข้าใจถึงประเด็นปัญหาด้านการก่อการร้ายในธุรกิจอาหาร จึงควร<br />
ทำความเข้าใจถึงมูลเหตุและผลกระทบของการก่อการร้ายที ่อาจเกิดขึ้นในธุรกิจ<br />
อาหารกันก่อน<br />
การพิจารณาถึงสถานการณ์ในปัจจุบันที่สุ่มเสี่ยงต่อการก่อการร้ายในธุรกิจ<br />
อาหารที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา เช่น การจงใจละเมิดมาตรฐานการทำงาน<br />
การจงใจละเลยหรือการจงใจเพิกเฉยต่อการปฏิบัติตามกฎระเบียบการทำงาน<br />
ที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวด หรือแม้แต่ความไม่พร้อมของสภาพอาคารสถานที่<br />
ที ่ไม่สามารถทำการคัดแยกและตรวจสอบเพื่อคัดกรองบุคคลในการเข้าถึงสถานที่<br />
ทำงาน รวมถึงความไม่พร้อมต่อการจัดการกับสถานการณ์การก่อการร้ายในธุรกิจ<br />
อาหาร ดังนั้น การสำรวจตรวจสอบเพื่อประเมินความเหมาะสมของมาตรการควบคุม<br />
และป้องกันที่องค์กรจำเป็นต้องมีการจัดทำขึ้นเพื่อควบคุมสถานการณ์การก่อ<br />
การร้ายในธุรกิจอาหารได้อย่างเหมาะสม สามารถพิจารณามาตรการควบคุมและ<br />
ป้องกันได้ โดยมีแนวทางการดำเนินการดังต่อไปนี้ดัง ต่อไปนี้<br />
แนวทางการดำเนินการเพื่อควบคุมสถานการณ์การก่อการร้าย<br />
ในธุรกิจอาหาร<br />
การดำเนินการในระยะที่ 1 ผู้บริหารทุกระดับขององค์กรจำเป็นต้องทำความ-<br />
เข้าใจถึงผลกระทบของการก่อการร้ายในธุรกิจอาหาร และทำการตรวจสอบ<br />
สภาพแวดล้อมของการทำงานเพื่อทำการประเมินสถานการณ์ที่อาจเข้าข่ายเป็น<br />
ประเด็นการก่อการร้ายในธุรกิจอาหารและนำมาสืบสวนหาสาเหตุและแรงจูงใจ<br />
ของการกระทำดังกล่าวของกลุ่มบุคคลที่ต้องสงสัยว่ามีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงต่อ<br />
การก่อการร้ายในธุรกิจอาหาร การดำเนินการในขั้นตอนนี้อาจจำเป็นต้องอาศัย<br />
ข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญในการประเมินสถานการณ์ของแต่ละองค์กรเพื่อนำมา<br />
จัดทำเป็นฐานข้อมูลที่สำคัญในการจัดทำระบบต่อไป<br />
การดำเนินการในระยะที่ 2 จากผลการดำเนินการในระยะที่หนึ่ง องค์กร<br />
ควรพิจารณาแต่งตั้งคณะทำงานโดยคัดเลือกตัวแทนจากผู้บริหารและ<br />
อาจจำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญในการวิเคราะห์สถานการณ์การก่อการร้าย<br />
โดยคณะทำงานนี้มีหน้าที่ในการพิจารณาข้อมูลจากการสำรวจข้อมูล และ<br />
การพิจารณาหาความเสี่ยงจากการกระทำอันต้องสงสัยที่อาจเกิดขึ้นได้ในแต่ละ<br />
ขั้นตอนของกระบวนการทำงานต่างๆ ในองค์กรเพื่อประเมินถึงบริเวณพื้นที่เสี่ยง<br />
หรือการตรวจพบกิจการอันต้องสงสัยที่อาจเกิดการก่อการร้ายขึ้นได้ โดยการ-<br />
ดำเนินการต่างๆ นี้ควรทำกิจกรรมเฉพาะกลุ่มบุคคลที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น<br />
การดำเนินการในระยะที่ 3 การพิจารณากำหนดมาตรการควบคุมหรือ<br />
แนวทางการป้องกันซึ่งสามารถพิจารณาแนวทางการป้องกันได้ ดังนี้<br />
40 FOOD FOCUS THAILAND JAN <strong>2018</strong>
STRONG QC & QA<br />
1. การประเมินความเหมาะสมของโครงสร้างอาคารสถานที่ ความเหมาะสม<br />
ของโครงสร้างอาคารและการจัดสร้างแนวรั้วควบคุมเส้นทางเข้าออกของบุคคล<br />
มีความสำคัญมาก เนื่องจากจะส่งผลต่อการพิจารณามาตรการป้องกันการ<br />
เข้าถึงสถานที่และการควบคุมการตรวจสอบบุคคลที่เข้าออกสถานที่ได้อย่าง<br />
เหมาะสม ดังนั้น หากองค์กรใดมีการออกแบบโครงสร้างได้ดี มีการพิจารณา<br />
เส้นทางเข้าออกสถานที่และมีมาตรการควบคุมไว้ก่อนแล้วก็จะมีประโยชน์ต่อ<br />
ประสิทธิผลของการใช้มาตรการตรวจสอบการเข้าออกพื้นที่มากยิ่งขึ้น<br />
การตรวจสอบเส้นทางการเข้าถึงสถานที่ โดยเฉพาะบริเวณประตู เส้นทาง<br />
เข้า-ออกจำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบความเหมาะสมของอุปกรณ์การปิดกั้น<br />
ระบบการควบคุม การใช้กุญแจ รวมถึงการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพื่อใช้ใน<br />
การเฝ้าระวัง และใช้ในการตรวจสอบพฤติกรรมกลุ่มบุคคลและใช้เป็นข้อมูล<br />
สำคัญในการสืบสวนหากเกิดเหตุการณ์กรณีที่ต้องสงสัย รวมถึงการจัดหาระบบ<br />
ป้องกันการเข้าถึงสถานที่โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งในปัจจุบันมีหลายองค์กรที่มี<br />
การเลือกใช้หน่วยงานภายนอกมาเป็นผู้ตรวจสอบและคัดกรองบุคคลภายนอก<br />
มาทำหน้าที่ตรวจสอบเพื่อยืนยันข้อมูลบุคคลก่อนเข้าถึงสถานที่ และในกรณีที่<br />
มีความจำเป็นอาจมีการตรวจสอบและการคัดกรองประวัติของบุคคลผู้เข้า-ออก<br />
สถานที่ก่อนพิจารณาอนุญาตให้ผ่านเข้าออกสถานที่<br />
2. การตรวจสอบประวัติอาชญากรรมของกลุ่มบุคคลที่ต้องสงสัย การ-<br />
ตรวจสอบฐานข้อมูลของบุคคลที่องค์กรให้ความสนใจ เช่น พนักงานผู้รับเหมา<br />
หรือบุคคลอื่นที่จำเป็นต้องควบคุม ให้ส่วนงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาตรวจสอบ<br />
ประวัติอาชญากรรม โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการ-<br />
ประเมินความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นภายหลังจากการให้กลุ่มบุคคลดังกล่าวเข้าสู่<br />
พื้นที่ควบคุมขององค์กร<br />
3. การตรวจสอบวัตถุหรือสิ่งของที่ต้องสงสัยที่ตรวจพบในองค์กร วัสดุที่มี<br />
การนำเข้าสู่พื้นที่ในรูปแบบต่างๆ อาทิเช่นพัสดุไปรษณีย์ที่มีการนำเข้าสู่พื้นที่<br />
ควบคุมจำเป็นต้องได้รับการยืนยันถึงความเหมาะสมขออนุญาตให้มีการนำเข้า<br />
สู่พื้นที่ได้<br />
4. การควบคุมการเข้าถึงฐานข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ที่องค์กรมีการ-<br />
จัดเก็บไว้ เพื่อเป็นการป้องกันการเข้าถึงฐานข้อมูลและบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต<br />
จึงจำเป็นต้องมีการควบคุมการเข้าถึงฐานข้อมูลด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์<br />
5. การตรวจสอบความเหมาะสมของตารางการทำงานของพนักงาน จะทำให้<br />
ทราบถึงสถานะของการปฏิบัติงานของพนักงานในแต่ละบริเวณรวมถึง<br />
การกำหนดมาตรการควบคุมที่เหมาะสม การจัดตารางการทำงานของกลุ่มบุคคล<br />
แต่ละกลุ่ม<br />
6. การตรวจสอบของใช้ส่วนบุคคลที่มีการนำเข้าออกในสถานที่ทำงาน<br />
จัดเป็นมาตรการควบคุมในลำดับแรกที่มีการบังคับใช้ในแต่ละองค์กรเพื่อ<br />
ตรวจสอบและควบคุมการนำสิ่งต้องห้ามเข้าสู่พื้นที่ควบคุม<br />
7. การตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารจากหน่วยงานราชการ แนวทาง<br />
การทำงานโดยวิธีนี้ถือเป็นสิ ่งสำคัญที่ใช้ตรวจสอบความน่าเชื่อถือของกลุ่มบุคคล<br />
ที่เข้าสู่พื้นที่ ในหลายองค์กรที่มีการตรวจสอบเอกสารจะพบเหตุการณ์ที่ว่าเอกสาร<br />
ที่ทางราชการออกให้นั้นมักเป็นเอกสารปลอมหรือเป็นเอกสารที่หมดอายุจึงต้อง<br />
มีการเฝ้าระวังมาตรการตรวจสอบให้มีความถูกต้องและความเข้มงวด<br />
8. การตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับการถูกโจมตีโดยผู้มีเจตนาไม่ดีต่อองค์กร<br />
การดำเนินการจำเป็นต้องอาศัยกลุ่มคนที่มีความเข้าใจและมีความเชี่ยวชาญ<br />
ถึงการสืบสวนสอบสวนเหตุการณ์ต่างๆ ที่อาจเข้าข่ายเป็นการก่อการร้ายที่เกิดขึ้น<br />
แล้วจำเป็นต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อพิจารณา<br />
แนวทางและมาตรการตอบโต้ที่เหมาะสม<br />
9. การกำหนดบริเวณการจอดรถที่เป็นสัดส่วน สามารถตรวจสอบได้และ<br />
การตรวจสอบยานพาหนะที่มีการเข้าออกสถานที่ ผลของการดำเนินการพิจารณา<br />
กำหนดมาตรการควบคุมหรือแนวทางการป้องกันในระยะนี้จำเป็นต้องมีการทบทวน<br />
ความเหมาะสมของมาตรการต่างๆ ที่องค์กรนั้นมีการดำเนินการอยู่แล้ว หรือ<br />
การจัดสรรงบประมาณตามความจำเป็นขององค์กรเพื่อปรับปรุงแก้ไขในจุดต่างๆ ที่<br />
คณะทำงาน และผู้บริหารได้เห็นว่าเป็นจุดอ่อนที่สุ่มเสี่ยงต่อการก่อการร้าย<br />
การดำเนินการในระยะที่ 4 เมื่อคณะทำงานและผู้เชี่ยวชาญได้ร่วมกันพิจารณา<br />
ถึงมาตรฐานควบคุมที่เหมาะสมแล้วจำเป็นต้องสื่อสารมาตรฐานควบคุมต่างๆ<br />
ให้กับผู้ปฏิบัติงานและผู้ที่เกี่ยวข้องรับทราบและทำความเข้าใจถึงหลักการและ<br />
เหตุผลของการดำเนินงานตามมาตรการที่ได้กำหนดไว้เป็นมาตรฐาน ทั้งนี้<br />
เพื่อเป็นการเฝ้าระวังพฤติกรรมที่ต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับการละเมิด การละเว้น<br />
รวมถึงการไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับ ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดความเสี่ยงด้าน<br />
การก่อการร้ายในธุรกิจอาหาร<br />
การดำเนินการในระยะที่ 5 คณะทำงานและผู้เชี่ยวชาญได้กำหนดแนวทาง<br />
การเฝ้าระวังตรวจสอบถึงการบังคับใช้มาตรการควบคุมต่างๆ และจำเป็นต้อง<br />
มีการกำหนดมาตรการการเฝ้าระวังมาตรการการตรวจสอบมาตรฐานการแก้ไข และ<br />
อาจรวมถึงการซักซ้อมมาตรการตอบโต้กรณีเกิดเหตุที่ต้องสงสัย โดยกิจกรรม<br />
ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในขั้นตอนนี้จำเป็นต้องใช้กลุ่มบุคคลที่มีความรู้ความเข้าใจ<br />
โดยเฉพาะเพื่อทำให้สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการเกิดพฤติกรรม<br />
ต้องสงสัยได้อย่างเหมาะสมและใกล้เคียงกับสถานการณ์จริง<br />
การดำเนินการในระยะที่ 6 คณะทำงานและผู้เชี่ยวชาญจะมีการนำเสนอ<br />
ผลการดำเนินงานต่อผู้บริหารสูงสุดเพื่อพิจารณาถึงผลการดำเนินงานที่เกิดขึ้น<br />
และดำเนินการพิจารณาความเหมาะสมของมาตรการควบคุมต่างๆ ที่องค์กร<br />
มีการประยุกต์ใช้<br />
จากที่กล่าวมาทั ้งหมดจะพบว่าประเด็นเรื่องการก่อการร้ายในธุรกิจอาหารเป็น<br />
เรื่องสำคัญที่มีผลกระทบในวงกว้างและมีผู้เกี่ยวข้องและต้องให้ความสนใจใน<br />
ประเด็นนี้อยู่ในทุกภาคส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับองค์กร และสามารถกล่าวได้ว่า<br />
แนวทางการจัดการด้านการก่อการร้ายในธุรกิจอาหาร รวมถึงมุมมองของผู้เขียนเอง<br />
ก็ยังเล็งเห็นถึงความจำเป็นของผู้ประกอบการในธุรกิจอาหารที่ต้องให้ความสำคัญ<br />
กับประเด็นดังกล่าวนี้ไม่น้อยไปกว่าการจัดการด้านคุณภาพของอาหาร การจัดการ<br />
ด้านความปลอดภัยในอาหาร รวมถึงประเด็นสำคัญที่มีการกล่าวถึงในปัจจุบัน เช่น<br />
อาหารปลอม (Food frauds) ซึ่งประเด็นดังกล่าวนี้จะส่งผลต่อธุรกิจอาหารทั้งสิ้น<br />
เอกสารอ้างอิง/Reference<br />
https://th.m.wikipedi;.org/wiki/การก่อการร้าย<br />
ศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยด้านอาหาร website : foodsafetytalent.net<br />
JAN <strong>2018</strong><br />
FOOD FOCUS THAILAND<br />
41
STRONG QC & QA<br />
Food Defense<br />
The preparation of entrepreneurs and those involved in the food business related to food<br />
defense should cover all sectors which have related activities throughout the human food<br />
chain, feedmeal and food packaging production. The key approach is to understand and<br />
prioritize on the intentional contamination in the food business and consider all possible<br />
causes of intentional food contamination as well as help find the prevention measure or<br />
corrective measures and appropriate defense measures to the actual situation.<br />
Food defense in Thailand by the Ministry of Public Health – the ministry<br />
in collaboration of the United States has set up the Food Safety Operations<br />
Center in 2009, while the implementation plan has already been drawn<br />
out. Yet, for the preparation of food business operators in all sectors, they<br />
need to prepare to respond to the impact of intentional food harming in<br />
the food business and prepare to set up defense measure and surveillance<br />
strategies to prevent suspicious situations which are risk of insecurity in<br />
food business. Regarding to this concern, the controlling system and the<br />
food defense are different from the safety management system such as<br />
the Hazard Analysis and Critical Control Point (HACCP). To increase<br />
understanding on the issue of intentional food harming, we need to<br />
understand the impact and potential impact of intentional food contamination<br />
which could occur.<br />
Considering on the current possible risk situation of intentional food<br />
contamination that may occur at any time, such as deliberately violating<br />
or ignoring on the stringent work regulations or imperfection of the<br />
workplace to screen or check workforces, and the defaulted to manage<br />
the intentional food contamination in the food business. Therefore, we<br />
need to have a food defense approach in order to control and prevent the<br />
intentional food harming in the food business. The following measures are<br />
as follows.<br />
Food Defense Guidelines for Food Business<br />
The first stage – All management levels of the organization need to<br />
understand the impact of intentional food contamination in the food<br />
business, and investigate the working environment so that they can assess<br />
situations that may be considered as intentional food contamination. After<br />
that, they could investigate the causes and motivation of any persons that<br />
are suspected to create harm in the food business. To proceed on the<br />
process, we may be necessary to rely on professional data for assessing<br />
the situation of each organization and then draw up an important database<br />
for drawing the system in the next step.<br />
The second stage – Following the outcome from the first step, the<br />
organization needs to consider appointing a working committee by selecting<br />
a representative from the management level, while may require experts<br />
to analyze the intentional contamination. This working group is responsible<br />
for reviewing data from the surveying process, as well as considers the<br />
potential risk of suspected action at each stage along the working process<br />
in the organization to assess risk areas or detect any suspected actions.<br />
By doing so, this should be done by responsible working committee only.<br />
The third stage – To consider the controlling measure or food defense<br />
guidelines, which could be considered as follows:<br />
1. Assessing the suitability of building structures - The suitability of<br />
security fences and gates is very important. Since this will affect the<br />
consideration for accessing to the site and control an entry of each person.<br />
Hence, if any organizations have good building structures and suitability<br />
of security operations, it will have high effectiveness in controlling the site<br />
area. Controlling entrance or exit through an opening in a fence or wall,<br />
the organization needs to check up the security equipment, controlling<br />
system, key system, and install the CCTV system, as well as monitor each<br />
people as it can be useful information for investigating process in case of<br />
any suspected actions. Moreover, the organization should prepare the<br />
provision measure to prevent unauthorized access to the site. At present,<br />
many organizations have chosen to employ external security agency to<br />
monitor and screen outsiders, check and verify personal information before<br />
accessing the site. In case of necessity, there may have a personal<br />
background screening for any person before an allowance to the site.<br />
2. Criminal investigation of suspected persons – Checking the database<br />
of focused people in the organization, such as employees, contractors, or<br />
other persons, who need to be monitored. The responsible agency need<br />
to consider investigating on the criminal history provided by the Royal Thai<br />
Police so that that information will be accessed for any risk that may occur<br />
after the person was allowed to enter to the control area of the<br />
organization.<br />
3. Detecting objects or suspicious objects in the organization -<br />
Materials bring into the area in various forms, such as parcels are needed<br />
to be verified for allowing to bring into the site.<br />
4. Control accessing process before getting into the computer<br />
systems of organization - In order to prevent unauthorized access to<br />
databases and unauthorized persons, the electronic database access<br />
control is required.<br />
5. Checking the suitability of employee working schedules. - This<br />
will help the organization acknowledge on the working status of each<br />
employee’s performance in each area, while can draw appropriate<br />
control measures and suitable working schedule for each person.<br />
6. Checking personal stuffs who entry in the working area – This is<br />
the priority control measure which has been implemented in each<br />
organization for inspecting and controlling of prohibited substances into<br />
control areas.<br />
7. Validation of documents from government agencies – The<br />
guideline is important to verify the credibility of the persons who enter<br />
to the site. In many organizations which have documentary check-up<br />
may find the fake or expired documents issued by the government, so<br />
we need to closely monitoring for accuracy and stringent.<br />
8. Checking information about being attacked by adversary on the<br />
organization - Action requires a group of people who are understand<br />
and have expertise to investigate on the situation that may be cause<br />
intentional contamination. The organization needs to have knowledge<br />
and understand the situation in order to determine the appropriate food<br />
defense approach.<br />
9. Facilities car parking and permit allocation policy - this will help<br />
inspect vehicles which are access to the premises. The outcome of the<br />
implementation of this control measures or defense measures of each<br />
organization at this stage need to be revised or allocate funds as needed<br />
to the organization to improve the work of the working group and<br />
executives so that they could see a risk of intentional contamination.<br />
The fourth stage - Once the working group and experts have<br />
considered the appropriate control standards, it is necessary to<br />
communicate to the working taskforces and relevant taskforces so that<br />
they can recognize and understand the principles and rationale of the<br />
implementation measures. This is aimed to monitor suspected behavior<br />
related to abusive, including ignorance and non-compliance to the<br />
regulation which may result in intentional contamination in food business.<br />
The fifth stage - The working panel and experts have set up<br />
surveillance and monitoring systems to enforce the control measures.<br />
Monitoring measures should be established for inspecting the corrective<br />
standard. It may include the rehearsals the counter-attack measure for<br />
suspected situation. All activities that occur at this stage require a<br />
dedicated group of people so that they could enable to analyze the<br />
suspected situation in an appropriate manner and close to the actual<br />
situation.<br />
The sixth stage - the working group and experts will present their<br />
performance to the top management for consideration of their<br />
performance and the appropriateness of the control measures, which<br />
the organization has applied.<br />
As mentioned above, we will find that the food defense guidelines<br />
for food business is crucial, which can create broaden impact as well<br />
as to all relevant people. This issue needs to be closely monitored in<br />
every division of each organization. We can say that the management<br />
approach and the author’s view have both foreseen that essential for<br />
food entrepreneurs to concern on this issue, which should not less than<br />
concern on food quality management, as well as about the food fraud.<br />
All of those issues will affect the food business.<br />
42 FOOD FOCUS THAILAND JAN <strong>2018</strong>
STRATEGIC R & D<br />
OrganicFacts<br />
Translated By: Editorial Team<br />
Food Focus Thailand Magazine<br />
คุณประโยชน์อัศจรรย์...<br />
น้ำมันหอมระเหยออริกาโน<br />
หลายคนรู้จักออริกาโนในฐานะที่เป็นพืชสมุนไพรยอดนิยมชนิดหนึ่งซึ่งใช้เป็นเครื่องเทศที่ช่วยเพิ่มกลิ่นรสให้กับอาหาร อันที่จริงออริกาโนยังจัด<br />
เป็นพืชสมุนไพรประเภทไม้ล้มลุกที่มีอายุหลายปี มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Origanum vulgare โดยเป็นพืชที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากทีเดียว<br />
ซึ่งหลายคนอาจจะยังไม่รู้จักดีพอ ลักษณะของต้นออริกาโนมีความใกล้เคียงกับมินท์ และจัดเป็นพืชในตระกูลเดียวกับสะระแหน่ ดังนั้น พืชตระกูล<br />
ดังกล่าวจึงมีสารประกอบอินทรีย์ที่เหมือนกันและมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่างที่คล้ายกัน โดยชิ้นส่วนของต้นออริกาโนที่นิยมน ำมาใช้ประโยชน์<br />
ก็คือใบ แต่ก็น่าแปลกที่เมื่อนำใบมาทำแห้งแล้วความหอมและกลิ่นรสของออริกาโนกลับอ่อนลงเมื่อเทียบกับใบสด ซึ่งผิดจากสมุนไพรทั่วไป<br />
รู้จักกับน้ำมันหอมระเหยออริกาโน<br />
น้ำมันหอมระเหยออริกาโนมีการนำมาใช้ครั้งแรกในสมัยกรีกโบราณเนื่องจาก<br />
มีคุณสมบัติในการทำลายเชื้อและมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรีย จึงได้รับการยอมรับ<br />
ให้นำมาใช้เพื่อรักษาอาการติดเชื้อจากแบคทีเรียบริเวณผิวหนังหรือบาดแผล<br />
และยังมีการนำไปใช้เพื่อป้องกันอาหารเน่าเสียจากเชื้อแบคทีเรียอีกด้วย<br />
น้ำมันหอมระเหยดังกล่าวนี้สกัดได้จากใบออริกาโนสดโดยใช้กระบวนการกลั่น<br />
ด้วยไอน้ำและได้สารออกฤทธิ์สำคัญหลายชนิด ได้แก่ คาร์วาครอล ไธมอล<br />
ไซมีน แคริโอฟิลลีน ไพนีน ไบซาโบลีน ไลนาโลออล บอนีออล เจอรานิลอะซีเทต<br />
ไลนาลิลอะซีเทต และเทอร์พินีน ทั้งนี้ สารสกัดน้ำมันหอมระเหยออริกาโน<br />
สามารถนำมาใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้อีกหลายรูปแบบเช่นกัน โดยเฉพาะการบำบัด<br />
ด้วยกลิ่นหอมซึ่งถือเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมายาวนานกว่าทศวรรษเลยทีเดียว<br />
และคุณเองก็สามารถนำมาใช้ได้ไม่ว่าจะเป็นการทาที่ผิวโดยตรงหรือใช้คู่กับ<br />
น้ำมันมะพร้าวเพื่อช่วยฟื้นบำรุงสภาพผิวให้ดียิ่งขึ ้น และสุดท้ายสามารถนำมา<br />
รับประทานในรูปแบบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารซึ่งจะกินในปริมาณเพียง<br />
เล็กน้อยเท่านั้น หรือเจือจางกับน้ำผึ้งหรือผสมในเครื่องดื่มที่ไม่ผสมนมทั่วไป<br />
ประโยชน์ด้านสุขภาพของน้ำมันหอมระเหยออริกาโน<br />
นอกจากจะมีฤทธิ์ต้านเชื้อจุลินทรีย์ตามที่กล่าวมาแล้วนั้น น้ำมันหอมระเหย<br />
ออริกาโนยังมีคุณสมบัติเป็นยาและมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายด้านทีเดียว<br />
1ดูแลรักษาระบบทางเดินหายใจ น้ำมันหอมระเหยออริกาโนสามารถทำหน้าที่<br />
คล้ายยาขับเสมหะได้ โดยจะออกฤทธิ์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นช่วยทำให้เมือกหรือ<br />
เสมหะในระบบทางเดินหายใจและโพรงจมูกมีความเหนียวข้นน้อยลง สามารถกำจัด<br />
ออกได้ง่าย นอกจากนี้ยังใช้เป็นบาล์มสูดดมเพื่อบรรเทาอาการปอดและลำคออักเสบ<br />
ซึ่งมักจะกระตุ้นให้เกิดอาการไอ ดังนั้นจึงช่วยป้องกันและบรรเทาอาการโรคในระบบ<br />
ทางเดินหายใจ<br />
2มีคุณสมบัติต้านการอักเสบ น้ำมันหอมระเหยออริกาโนมีคุณสมบัติที่ดี<br />
ในการบรรเทาอาการอักเสบหลายรูปแบบทั้งภายในและภายนอกร่างกาย<br />
อันเนื่องมาจากหลายสาเหตุ โดยเมื่อนำมาทาบริเวณผิวหนังที่อักเสบจะช่วยลด<br />
รอยแดงและการระคายเคืองผิวหนัง และยังช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดที่เกี่ยวข้อง<br />
กับข้อต่ออักเสบหรือการบาดเจ็บได้<br />
3คุณสมบัติในการต้านเชื้อรา เชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคติดต่อ<br />
หรือโรคที่เกิดจากการติดเชื้อนั้นแบ่งเป็น 4 กลุ่มใหญ่ๆ คือ เชื้อไวรัส แบคทีเรีย<br />
เชื้อรา และโปรโตซัว โดยในกลุ่มเชื้อดังกล่าวนี้พบว่าเชื้อราจัดเป็นสาเหตุของการ-<br />
ติดเชื้อทั้งภายในและภายนอกที่น่ากลัวมากและนำไปสู่การเสียชีวิตมากที่สุด โดยมัก<br />
พบการติดเชื้อที่บริเวณหู จมูก และคออย่างร้ายแรง สร้างความเจ็บปวด และเป็น<br />
อันตรายถึงชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาแต่เนิ่นๆ การติดเชื้อที่ผิวหนังส่วนมากก็มี<br />
สาเหตุมาจากเชื ้อราเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การใช้น้ำมันหอมระเหยออริกาโนเป็น<br />
JAN <strong>2018</strong><br />
FOOD FOCUS THAILAND<br />
43
STRATEGIC R & D<br />
ประจำต่อเนื่องทั้งชนิดรับประทานและใช้ภายนอกจะสามารถช่วยป้องกัน<br />
ร่างกายจากการติดเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพ<br />
4ป้องกันการติดเชื้อไวรัส น้ำมันหอมระเหยออริกาโนมีคุณสมบัติ<br />
ป้องกันการติดเชื้อไวรัส โดยมีส่วนช่วยในการเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคหวัด<br />
คางทูม หัด สุกใส และโรคติดเชื้อไวรัสชนิดอื่นๆ โดยสารสกัดดังกล่าวจะ<br />
เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสที่ร้ายแรงหรือแม้แต่<br />
ป้องกันการเกิดโรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการ-<br />
ผลิตและการทำงานของเซลล์เม็ดเลือดขาวซึ่งเป็นเซลล์หลักของระบบ<br />
ภูมิคุ้มกันของร่างกาย<br />
5ป้องกันมะเร็ง ด้วยคุณสมบัติเด่นที่ว่าช่วยป้องกันมะเร็งนี้ทำให้น้ำมัน<br />
หอมระเหยออริกาโนมีความพิเศษอย่างมากเพราะมีส่วนช่วยป้องกัน<br />
ร่างกายจากการถูกทำลายโดยสารอนุมูลอิสระ โดยน้ำมันหอมระเหย<br />
ออริกาโนจะทำให้อนุมูลอิสระเป็นกลางในขณะเดียวกันก็ช่วยซ่อมแซม<br />
เซลล์ที่ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระเหล่านั้นด้วย จึงช่วยชะลอความแก่และ<br />
ป้องกันมะเร็งได้หลายชนิด ทั้งยังป้องกันการเกิดริ้วรอย โรคจอตาเสื่อม<br />
โรคกระดูกสันหลังเสื่อมเนื่องจากอายุ โรคที่เกิดจากการสูญเสียการ-<br />
มองเห็นและได้ยิน โรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท รวมถึงโรคอื่นๆ ที่<br />
เกี่ยวข้องกับริ้วรอย และผลกระทบจากอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง<br />
น้ำมันหอมระเหยออริกาโนมีส่วนประกอบของฟีนอลซึ่งเป็นสารต้าน-<br />
อนุมูลอิสระที่สำคัญในการช่วยกำจัดอนุมูลอิสระอันเป็นสาเหตุของ<br />
โรคต่างๆ ได้อย่างดี<br />
6ช่วยทำให้ประจำเดือนมาปกติ น้ำมันหอมระเหยออริกาโนมีประโยชน์ในการช่วยให้<br />
ประจำเดือนมาเป็นปกติและชะลอการเข้าสู่วัยทอง ดังนั้นจึงช่วยคลายความกังวลสำหรับ<br />
ใครก็ตามที่กำลังเผชิญกับภาวะประจำเดือนผิดปกติ และเนื่องจากมีสรรพคุณเป็นยาขับฤดู<br />
จึงช่วยลดอาการของผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนได้ รวมถึงปรับความสมดุลของอารมณ์และ<br />
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน<br />
7<br />
ต้านโรคภูมิแพ้ นอกจากการสมานแผลและต้านการติดเชื้อแล้ว ประโยชน์อีกด้านหนึ่ง<br />
ของน้ำมันหอมระเหยออริกาโนคือการต่อต้านโรคภูมิแพ้ โดยอาการภูมิแพ้เป็นปฏิกิริยา<br />
ระหว่างร่างกายกับสิ่งเร้าภายนอกที่มากระตุ้น ซึ่งสารสกัดดังกล่าวนี้จะช่วยลดความไวต่อ<br />
การกระตุ้นของสิ่งเร้าจึงช่วยบรรเทาอาการแพ้ แม้ว่าจะมีฤทธิ์ต้านการอักเสบได้ดีแต่ก็นับว่า<br />
ยังมีส่วนช่วยลดความรุนแรงจากอาการแพ้ได้ดีด้วยเช่นกัน และการต้านโรคภูมิแพ้นี้<br />
มีความสำคัญต่อการเกิดอาการช็อกอันเนื่องมาจากการแพ้อย่างรุนแรงหรืออาการบวมที่<br />
รุนแรงบริเวณลำคอ<br />
อย่างไรก็ตาม น้ำมันหอมระเหยออริกาโนสามารถก่อให้เกิดอาการแพ้ที่ผิวหนังและ<br />
เยื่อเมือกบุผิวได้เช่นกันหากได้รับในปริมาณที่เข้มข้นหรือมากเกินไป สำหรับผู้ที่ตั้งครรภ์ควร<br />
หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันดังกล่าวและควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานร่วมกับมื้ออาหาร<br />
เนื่องจากคุณสมบัติในการกระตุ้นและปรับสมดุลฮอร์โมนซึ่งจะมีผลให้เกิดการคลอด<br />
ก่อนกำหนด อันเนื่องมาจากฮอร์โมนได้รับการกระตุ้น และที่สำคัญเช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์<br />
เสริมอาหารหรืออาหารชนิดอื่นๆ ควรตรวจสอบการแพ้กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยเฉพาะผู้ที่<br />
แพ้อาหารกลุ่มพืชสมุนไพรอย่างโหระพา ลาเวนเดอร์ มาร์จอรัม มินท์ หรือเสจ ก็มักจะแพ้<br />
ออริกาโนหรือสารสกัดน้ำมันหอมระเหยออริกาโนได้ด้วยเช่นเดียวกัน<br />
Amazing Benefits<br />
Of Oregano Essential Oil<br />
Oregano is a popular herb that many people think of as merely a spice to improve or enhance the flavor of their<br />
food, but in reality, this perennial herb, with the scientific name of Origanum vulgare, has a treasure of health<br />
benefits that most people don’t realize at all. Oregano is actually closely related to mint, and its genus is actually<br />
in the same family as Mentha. For this reason, the two share many similar organic components and have many<br />
of the same health benefits. The leaves of oregano are the most commonly used part of the plant, but strangely,<br />
the aroma and flavor of the leaves are far greater when the herb is dried than when the leaves are fresh, which<br />
is somewhat unusual for an herb.<br />
About Oregano Essential Oil<br />
The disinfectant and antibacterial properties of oregano essential oil were<br />
first recognized in ancient Greece where it was often used for treating<br />
bacterial infections on the skin or in the wounds. It was also used to<br />
protect food from bacteria. The essential oil of oregano is extracted<br />
through steam distillation of fresh oregano leaves. Its chief components<br />
are carvacrol, thymol, cymene, caryophyllene, pinene, bisabolene,<br />
linalool, borneol, geranyl acetate, linalyl acetate, and terpinene. It is used<br />
in many ways, like in aromatherapy, which is the most popular since<br />
decades. You can also apply it alone, topically onto the skin or through<br />
a carrier oil like coconut oil for improving your skin quality. Finally,<br />
you can ingest it in very small quantities as a dietary supplement,<br />
usually when diluted with honey or other non-dairy beverages.<br />
Health Benefits of Oregano Essential Oil<br />
Along with being respected for its antimicrobial properties, this oil<br />
has many medicinal properties as well.<br />
44 FOOD FOCUS THAILAND JAN <strong>2018</strong>
STRATEGIC R & D<br />
1Treats Respiratory Conditions Oregano<br />
essential oil can act as an expectorant, which<br />
loosens up or helps to eliminate the uncomfortable<br />
buildups of mucus and phlegm in the respiratory<br />
tracts and sinuses. It is also a soothing balm for<br />
inflamed lungs and throat, which often stimulate<br />
coughing fits. Therefore, oregano essential prevents<br />
and treats symptoms of respiratory ailments.<br />
Anti-inflammatory Properties This oil is good<br />
2 for soothing many types of inflammation, internal<br />
or external, caused by a variety of reasons. When<br />
it is applied topically, it can reduce redness and<br />
irritation to the applied area, can relieve pain<br />
associated with arthritis or injury.<br />
3Antifungal Properties Viruses, bacteria, fungi,<br />
and protozoa are the four agents that are<br />
responsible for communicable and infectious<br />
diseases. Out of these, fungi are responsible for<br />
some of the most dreadful and fatal infections, both<br />
internal and external. They can cause ugly, painful,<br />
and deadly infections in the ear, nose, and throat,<br />
which, if not treated early, may reach the brain and<br />
become lethal. Many skin infections are also caused<br />
by these fungi. Oregano oil, if used regularly, either<br />
internally or externally, can effectively protect the<br />
body against many of these fungal infections.<br />
4Prevents Viral Infections Oregano essential<br />
oil provides protection against viral infections.<br />
This means that it strengthens your immunity against<br />
cold, mumps, measles, pox, and other problems<br />
created by viruses. This boost to the immune system<br />
helps to defend against deadly viral infections and<br />
even autoimmune disorders. Oregano essential oil<br />
stimulates the production and function of white blood<br />
cells, the body’s main line of defense.<br />
5Prevents Cancer This property turns out to be<br />
one of the most celebrated attributes of oregano<br />
essential oil because it protects you from the<br />
damages done to the body by free radicals<br />
(oxidants). It neutralizes the free radicals while<br />
repairing the damage already done. This slows down<br />
the aging process and protects against certain<br />
cancers, macular degeneration, degeneration of<br />
muscle due to aging, wrinkles, loss of vision and<br />
hearing, nervous disorders and many ailments<br />
related to premature aging and the effects of free<br />
radicals. More specifically, oregano essential oil<br />
contains phenols, a powerful form of antioxidant that<br />
scours the body and eliminates free radicals that<br />
cause diseases.<br />
6Regulates Menses This powerful oil is beneficial<br />
for regulating menstruation and delaying the<br />
onset of menopause. Those suffering from<br />
obstructed menses may also find relief by using<br />
oregano essential oil. As an emmenagogue, it can<br />
help a woman reduce her symptoms of oncoming<br />
menopause, including mood balance and hormonal<br />
shifts.<br />
7<br />
Anti-allergenic This is another side of the<br />
sedative and anti-inflammatory properties of<br />
oregano essential oil. Allergies are hyper-reactions<br />
of the body towards external stimuli. Oregano oil, a<br />
sedative in nature, calms down this hyper-sensitivity and is known to give relief from<br />
allergy symptoms. Through its anti-inflammatory quality, the severity of allergies can be<br />
reduced, which is important for serious reactions like anaphylactic shock or a swelling in<br />
the throat.<br />
However, oregano essential oil can cause irritation to the skin and mucus membranes<br />
if taken in high concentration or dosages. Pregnant women should avoid using it and<br />
should consult with a doctor before adding it in any significant way to the diet. Due to its<br />
ability to stimulate and regulate the hormones, it can potentially result in a miscarriage if<br />
the hormone to induce periods is stimulated. Also, like with any new dietary supplement<br />
or food, check with your doctor about allergies. People allergic to basil, lavender, marjoram,<br />
mint or sage are also commonly allergic to oregano and its essential oil.<br />
เอกสารอ้างอิง/Reference<br />
www.organicfacts.net/health-benefits/essential-oils/health-benefits-of-oregano-essential-oil.html<br />
www.organicfacts.net/health-benefits/oregano.html?utm_source=internal&utm_medium=link&utm_<br />
campaign=related-posts<br />
JAN <strong>2018</strong><br />
FOOD FOCUS THAILAND<br />
45
SEE THROUGH MARKET<br />
เอกอัครราชทูตชิลี คริสเตียน เรเรน ที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งเมื่อเร็วๆ นี้<br />
ได้อธิบายเหตุผลที่เลือกประเทศไทยเป็นประเทศแรกในโลกเพื่อริเริ่ม<br />
โครงการนี้ว่า เนื่องจากไทยเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญที่สุดของชิลีด้านการค้า<br />
การลงทุน และการท่องเที่ยว<br />
“นับเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นสำหรับ<br />
ความสัมพันธ์ทวิภาคีของไทยและชิลี เนื่องจาก<br />
ความหลากหลายและความแตกต่างของ<br />
ทั้งสองประเทศ และการซื้อขายระหว่างประเทศ<br />
ตลอดจนความร่วมมือทางการค้า ระหว่างปี<br />
2556 การส่งออกด้านอาหารของชิลีมีมูลค่า<br />
มากกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเป็นกลุ่ม<br />
สินค้าอาหารทะเล ปศุสัตว์ และไวน์ ในขณะที่<br />
ยอดจำหน่ายรถบรรทุกและรถยนต์ของ<br />
ประเทศไทยรวมมูลค่า 400 ล้านเหรียญสหรัฐ แคมเปญอาหารจากประเทศ<br />
ชิลีซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทยนี้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการที่<br />
หล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของเราได้ดีที่สุด” เอกอัครราชทูตชิลี คริสเตียน เรเรน กล่าว<br />
ทั้งนี้ ภายในงานมีการจับคู่ธุรกิจระหว่างบริษัทไทยและชิลี รวมถึงมีสาธิต<br />
การปรุงอาหารด้วยส่วนผสมหลักของชิลีที่จัดทำขึ้น<br />
ในแบบฉบับไทยและชิลี โดยเชฟปิง สุรกิจ เข็มแก้ว<br />
นำเสนอเมนูอาหารจากวัตถุดิบชิลีที่ปรุงด้วย<br />
สไตล์ไทย ทางด้านเชฟพิลาร์ โรดริเกซ ได้จัดเตรียม<br />
อาหารชิลีแบบดั้งเดิม พร้อมส่วนผสมจากประเทศ<br />
บ้านเกิด เมนูทั้งสไตล์ไทยและชิลีถูกจับคู่โดย<br />
ผู้เชี่ยวชาญด้านไวน์ชิลีชื่อดัง ซอมเมอริเยร์ มารเซโล่<br />
ปีโน่ กับไวน์ชิลีที่ได้รับรางวัล ได้แก่ Brut sparkling,<br />
กรมส่งเสริมการส่งออกชิลี<br />
ProChile<br />
www.prochile.gob.cl<br />
อาหารจากประเทศชิลี<br />
อาหารจานโปรดจากแผ่นดินของเรา ส่งตรงถึงโต๊ะท่าน<br />
รัฐบาลชิลีเลือกประเทศไทยเป็นประเทศแรกในการริเริ่มแคมเปญ “อาหารจากประเทศชิลี (Foods from Chile) อาหาร<br />
จานโปรดจากแผ่นดินของเรา ส่งตรงถึงโต๊ะท่าน” แคมเปญนี้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการค้าด้านอาหารและไวน์ของประเทศ<br />
ในแถบละตินอเมริกาในภูมิภาคเอเชียและละตินอเมริกา โดยเปิดตัวครั้งแรกที่ประเทศไทย และเดินทางต่อไปยังประเทศจีน<br />
โคลอมเบีย และบราซิล<br />
46 FOOD FOCUS THAILAND<br />
JAN <strong>2018</strong>
SEE THROUGH MARKET<br />
Sauvignon Blanc, Chardonnay และ Pinot <strong>No</strong>ir รวมถึงปิสโก้ (Pisco)<br />
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประจำชาติชิลีที่ทำจากองุ่น<br />
“ชิลีสืบทอดมรดกที่ดีที่สุดจากโลกใหม่และเก่า ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร<br />
ที่ได้รับความนิยมหลายประเภท เช่น ข้าวโพด มันฝรั่ง มะเขือเทศ และ<br />
อะโวคาโด ผสานกับการเพาะปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์โดยชาวสเปนที่อพยพ<br />
ไปชิลีในศตวรรษที่ 16 ซึ่งเป็นวิธีที่เราเริ่มต้นผลิตองุ่นและไวน์ มะกอก<br />
และน้ำมันมะกอก เนื้อวัว แอปเปิ้ลและเชอร์รี่” มร.ดีเอโก้ โอเซส<br />
ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ชิลี กรมส่งเสริมการส่งออกชิลี สถานทูตชิลี กล่าว<br />
ข้อมูลจากกรมส่งเสริมการส่งออกชิลีระบุว่า ปัจจุบันมีการส่งออก<br />
ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 10 ชนิด ได้แก่ องุ่น เชอร์รี่ บลูเบอร์รี่ พลัม ปลาแซลมอน<br />
สดและแช่แข็ง หอยแมลงภู่ ปลาเทราต์แช่แข็งทั้งตัว เม่นทะเลรมควันและ<br />
มอลต์คั่ว “ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ชิลีได้รวมเทคโนโลยีที่ทันสมัยไว้เพื่อ<br />
การจัดการทางการเกษตร การผลิตสายพันธุ์ใหม่ที่ได้ผลผลิตสูงและคุณภาพ<br />
ที่ยอดเยี่ยม โดยคำนึงถึงความยั่งยืนทางสังคมและสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันชิลี<br />
มีข้อได้เปรียบด้านการแข่งขัน ทำให้สามารถผลิตอาหารที่มีคุณภาพ<br />
ซึ่งโดดเด่นเหนือคู่แข่ง เช่น นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย และแคลิฟอร์เนีย”<br />
มร.โอเซส กล่าว<br />
ความคืบหน้าของเขตการค้าเสรีระหว่างประเทศไทย-ชิลี<br />
ชิลีและไทยได้ลงนามในข้อตกลงเขตการค้าเสรี ซึ่งมีผลบังคับใช้ในเดือน<br />
พฤศจิกายน 2558 ซึ่งได้กลายเป็นสนธิสัญญาที่ 5 ของชิลีที่ลงนามกับ<br />
ประเทศในอาเซียน ต่อจากประเทศสิงคโปร์ บรูไน มาเลเชีย และเวียดนาม<br />
“ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยถือเป็นคู่ค้าคนสำคัญของชิลี<br />
ด้วยการค้าทวิภาคีที่มากถึง 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2559 ชิลียังเป็น<br />
ประเทศคู่ค้าอันดับ 3 จากทวีปอเมริกาใต้กับประเทศไทย รองจากบราซิล<br />
และอาร์เจนตินา นอกจากนี้ยังเป็นประเทศที่มีศักยภาพในการลงทุนสูง<br />
ชิลีเป็นประเทศที่นำเข้าสินค้าอุตสาหกรรมของไทย ในขณะเดียวกัน<br />
ไทยเป็นประเทศที่นำเข้าวัตถุดิบจากธรรมชาติจากชิลี” มร.โอเซส กล่าว<br />
ในข้อตกลงเขตการค้าเสรีระหว่างไทย-ชิลี ไม่มีข้อยกเว้นและสินค้า<br />
ทุกประเภทที่ระบุไว้ในข้อตกลงจะปลอดภาษีภายในระยะเวลา 8 ปี<br />
ผลิตภัณฑ์จากชิลีที่ได้รับการยกเว้นภาษีทันทีหลังการลงนามในข้อตกลงฯ<br />
ได้แก่ อะโวคาโด ถั่ว ลูกเกด นมข้นหวาน เนื้อวัว เนื้อไก่ เนื้อหมู กระดาษ<br />
Foods From Chile “The Bounty of Our Land Delivered to Your<br />
Table” campaign is based on the fact that Chile’s food<br />
products come from a fertile and generous land. Chile’s<br />
unique geographical conditions—the Atacama desert in<br />
the north, the Andes mountain range to the east, the Pacific<br />
Ocean to the west, and the southern ice fields—and its<br />
climatic diversity all along, together with complying with<br />
strict international standards, are natural barriers that isolate<br />
its food production from sanitary risks. Therefore, Chilean<br />
food products are known and appreciated around the<br />
world due to their innocuity (natural phytosanitary barriers),<br />
quality (a result of its geography, climate, experience, and<br />
professionalism), international guarantee (recognition<br />
in global markets), traceability (certified products with<br />
complete production monitoring), and natural flavor (purity<br />
and freshness).<br />
NEED TO KNOW<br />
และกระดาษลัง แคโทดและทองแดง ส่วนผลิตภัณฑ์ของไทย ได้แก่<br />
น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ รถยนต์ รถตู้ สับปะรดกระป๋อง และอื่นๆ ในเดือน<br />
มกราคม 2561 สินค้าทั้ง 250 รายการนี้จะได้รับการยกเว้นภาษีระหว่าง<br />
2 ประเทศนี้<br />
ผู้อำนวยการฝ่ายการพาณิชย์ชิลี กล่าวว่า “ในขณะนี้ชิลีกำลังอยู่ระหว่าง<br />
การเจรจาเรื่องเขตการค้าเสรีกับอินโดนีเซีย และจะริเริ่มการเจรจานี้กับทาง<br />
ฟิลิปปินส์เช่นกัน โดยพิจารณาจากความสำคัญและบทบาททางเศรษฐกิจ<br />
ของประเทศต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”<br />
JAN <strong>2018</strong><br />
FOOD FOCUS THAILAND<br />
47
SEE THROUGH MARKET<br />
“The Bounty of Our Land Delivered to Your Table”<br />
The Government of Chile chose Thailand as the first country to kick-start<br />
“Foods from Chile: The Bounty of Our Land Delivered to Your Table,” a<br />
campaign to promote the Latin American country’s enogastronomic offer in Asia and Latin America. The project<br />
was firstly launched at Bangkok—before it continues to China, Colombia, and Brazil.<br />
As explained by the recently-appointed Chilean Ambassador to<br />
Thailand Christian Rehren, the reason behind choosing The Land of<br />
Smiles as the first country in the world to launch this initiative is<br />
because Thailand is Chile’s most important partner in the region in<br />
terms of trade, investment, and tourism.<br />
“This is an exciting time for Thailand and Chile’s bilateral relations<br />
because the diversity and contrast of both nations are beginning to<br />
consolidate virtuous cycles of exchange and cooperation,” he<br />
explained. “During 2016 Chilean food exports exceeded USD 100<br />
million in seafood, livestock, and wine, while Thailand consolidated<br />
sales of trucks and cars for USD 400 million. This Foods from Chile<br />
campaign—for the first time in Thailand today—is part of this process<br />
which nourishes the noblest of our spirits,” said the Chilean<br />
Ambassador to Thailand Christian Rehren.<br />
At the event, there were a business matching for Thai and Chilean<br />
companies, as well as cooking demonstrations with Chilean staple<br />
ingredients prepared in Thai and Chilean style. Celebrity Thai chef<br />
Surakit “Ping” Khemkaew offered a menu using Chilean ingredients<br />
prepared in Thai-style. In turn, Chilean ambassador chef Pilar<br />
Rodriguez prepared traditional Chilean dishes with ingredients from<br />
her home country. Both menus were paired by Chilean ambassador<br />
sommelier Marcelo Pino with award-winning Chilean wines including<br />
a Brut sparkling, Sauvignon Blanc, Chardonnay, and Pinot <strong>No</strong>ir, as<br />
well as Chile’s national flagship spirit made from grapes, Pisco.<br />
“Chile has inherited the best from the New and the Old World.<br />
Many popular agricultural products such as corn, potatoes, tomatoes,<br />
and avocados were mixed in farm production with plants and cattle<br />
brought by Spanish immigrants to Chile in the XVI century. That’s<br />
how we started producing grapes and wines, olives and oil, beef,<br />
apples, and cherries, to name a few,” explained Mr.Diego Osses, the<br />
Commercial Counsellor, Head of Economic and Trade Office, Trade<br />
Commission of Chile in Thailand, Embassy of Chile.<br />
According to the Chilean Trade Promotion Bureau (ProChile), the<br />
longest north-south trending country in the world currently also leads<br />
worldwide exports of ten products: grapes, cherries, blueberries,<br />
plums, fresh and frozen salmon fillets, mussels, whole frozen trout,<br />
smoked sea urchins, and toasted malt. “In the last 30 years, Chile<br />
has incorporated state-of-the-art technologies for agricultural<br />
management, producing new varieties, high yields, and superb quality,<br />
giving due consideration to social and environmental sustainability.<br />
Today, Chile has comparative and competitive advantages that allow<br />
it to produce food with quality that stands out before our competitors<br />
such as New Zealand, Australia, and California,” he added.<br />
Update on the Thailand-Chile FTA<br />
Chile and Thailand signed a Free Trade Agreement (FTA) which entry<br />
into force took place in <strong>No</strong>vember 2015. This FTA became the fifth<br />
Chile signed with an ASEAN country, after Singapore, Brunei,<br />
Malaysia, and Vietnam.<br />
“Thailand is our main trade partner in Southeast Asia, with bilateral<br />
trade of nearly USD 1 billion in 2016, and Chile is the third largest<br />
trading partner for Thailand in South America, after Brazil and<br />
Argentina, as well as a potential partner for investment,” said<br />
Mr.Osses, “Chile is a net importer of industrial products from Thailand,<br />
while Thailand is a net importer of raw materials based on natural<br />
resources.”<br />
There were no exceptions in the FTA signed between Chile and<br />
Thailand, and every product included will be duty-free after a period<br />
of 8 years. Among the Chilean products that were granted immediate<br />
tariff-free access are avocados, nuts, raisins, condensed milk, beef,<br />
poultry, pork, paper and cardboard, cathodes and copper concentrates;<br />
and for Thailand, oil, natural gas, cars, vans, and canned pineapple,<br />
among others. In <strong>January</strong> <strong>2018</strong>, a total of around 250 products will<br />
become completely duty-free for both countries.<br />
“Chile is currently negotiating an FTA with Indonesia and is close<br />
to starting negotiations with the Philippines as well, stating the<br />
importance it has placed on the economic performance of Southeast<br />
Asian countries,” explained the Commercial Counsellor.<br />
48 FOOD FOCUS THAILAND JAN <strong>2018</strong>
SMART PRODUCTION<br />
บริษัท เมทเล่อร์-โทเลโด (ประเทศไทย) จำกัด<br />
Mettler-Toledo (Thailand) Limited<br />
MT-TH.CustomerSupport@mt.com<br />
Ensuring Consumer Safety<br />
and Brand Protection<br />
การสร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของ<br />
ผู้บริโภคและการปกป้องแบรนด์<br />
ความปลอดภัยทางด้านอาหารถือเป็นมาตรฐานที่ผู้ผลิตให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เพื่อสร้างความมั่นใจต่อผู้บริโภคว่าสินค้าขนมขบเคี้ยว<br />
ที่ผลิตออกมานั้น มีคุณภาพดีที่สุดและไร้สิ่งปนเปื้อนที่เป็นอันตราย ซึ่งหากสารปนเปื้อนเหล่านั้นถูกพบโดยผู้บริโภค แบรนด์อาจได้รับ<br />
ความเสียหายเชิงลบจนไม่อาจแก้ไขได้<br />
เน้นความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นสำคัญ<br />
ในการป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้บริโภคและปกป้องภาพลักษณ์ของแบรนด์<br />
ผู้ผลิตควรใส่ใจคุณภาพในกระบวนการผลิตอย่างจริงจัง ผ่านการวิเคราะห์จุดควบคุม<br />
วิกฤติ (Critical Control Point; CCP) และมาตรการป้องกัน บริษัทยังต้องใส่ใจ<br />
กระบวนการตรวจจับสิ่งปนเปื้อนเพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าที่ดีที่สุดจะถูกส่งถึงมือผู้บริโภค<br />
ผู้บริโภคต้องรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าสินค้าที่ส่งถึงมือนั ้นมีคุณภาพดีที ่สุด และไม่เคย<br />
มีเสียงบ่นจากลูกค้าคนอื่นเกี่ยวกับการปนเปื้อนสารอันตราย<br />
สินค้าต่างชนิดในแพ็คเกจที่แตกต่างกัน<br />
การผลิตแพ็คเกจสินค้าในรูปแบบและขนาดต่างๆ ผู้ผลิตจะต้องมีศักยภาพ<br />
ในการตรวจจับสิ่งปนเปื้อนในสินค้าได้ผ่านอลูมิเนียมฟอยล์ และจะต้องมีเครื่องมือ<br />
ในการเร่งกระบวนการผลิตให้รวดเร็วขึ้นและยังมีความยืดหยุ่นคล่องตัวในการ-<br />
เปลี่ยนแปลงชนิดของสินค้าได้ ดังนั้น เครื่องตรวจสอบสินค้าที่ผู้ผลิตเลือกใช้<br />
จำเป็นจะต้องมีคุณสมบัติเหล่านี้<br />
เครื่องมือที่ถูกต้อง<br />
เครื่องเอ็กซเรย์รุ่นใหม่1 ซึ่งมีช่องทางการตรวจจับสินค้า<br />
หลายช่อง เป็นเครื่องมือที่สมบูรณ์แบบ โดยสินค้าจากไลน์<br />
การผลิตที่มีแพ็คเกจต่างกันสามารถเดินผ่านเครื่องเอ็กซเรย์1<br />
ได้พร้อมกันผ่านช่องตรวจสอบ 2 ช่องที่แยกกัน เครื ่องชนิดนี้<br />
ยังสามารถตรวจจับและคัดแยกสินค้าที่มีการปนเปื้อนออกจากไลน์การผลิต<br />
ผ่านทางชุดสายพานที่ทิ้งสินค้าลงมาในถังสินค้าไม่ผ่านเกณฑ์ซึ่งตั้งอยู่ใต้<br />
สายพานตรวจสอบ กระบวนการนี้ถูกออกแบบมาพร้อมกับระบบความปลอดภัย<br />
ที่มีเพียงบุคลากรที่ได้รับอนุญาตเท่านั ้น เช่น การประกันคุณภาพ (Quality<br />
Assurance; QA) ที่จะสามารถจัดการกับสินค้าที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ และ<br />
ทำการประเมินในขั้นตอนที่ละเอียดขั้นต่อไป<br />
ไม่เพียงเท่านั้น ระบบซอฟต์แวร์พิเศษยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการท ำงาน<br />
โดยสามารถเลือกได้ว่าจะทำการตรวจสอบสินค้าทีละช่องตรวจสอบ หรือ<br />
หลายช่องตรวจสอบพร้อมกัน โดยเครื่องมือนี้ทำให้เครื่องเอ็กซเรย์รุ่นใหม่1<br />
มีขีดความสามารถในการตรวจสอบสินค้าที่บรรจุในถุงขนาดเล็ก (เช่น ขนาด<br />
20 กรัม หรือ 50 กรัม) โดยเลือกการทำงานแบบหลายช่องตรวจสอบ<br />
พร้อมกัน (และตั้งค่าให้ทั้ง 2 ช่องผ่านเครื่องเอ็กซเรย์1 ) หรือตรวจสอบสินค้า<br />
ขนาดใหญ่ เช่น ขนาด 500 กรัม ผ่านคำสั่งการทำงานสายการตรวจสอบ<br />
เพียงช่องเดียว<br />
แม้ว่าคุณภาพสินค้าจะเป็นประเด็นที่สำคัญที่สุด แต่การ-<br />
ผลิตอย่างมีประสิทธิภาพก็ถือเป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน โดย<br />
เครื่องเอ็กซเรย์รุ่นใหม่1 แบบหลายช่องตรวจสอบนี้ สามารถ<br />
ทำให้ผู้ผลิตสามารถพิชิตความท้าทายทั้งในเรื่องคุณภาพและ<br />
ประสิทธิภาพได้<br />
50 FOOD FOCUS THAILAND JAN <strong>2018</strong>
SMART PRODUCTION<br />
Food safety standards are given priority<br />
importance by the manufacturers to<br />
ensure that their Snack products are<br />
manufactured to the highest quality<br />
and are free of contaminants that<br />
could harm consumers. If physical<br />
contaminants are found by the<br />
consumers, the damage to the brand<br />
and adverse effects will be inevitable.<br />
makes it possible to use a new x-ray machine 1 to<br />
monitor products in small bags (such as 20 grams<br />
or 50 grams) by selecting the multi-lane mode (with<br />
both lines entering the single x-ray machine 1 ), or to<br />
inspect products in larger bags such as 500 grams<br />
by operating as a single lane mode.<br />
Although product quality is the most important<br />
issue, the production efficiency is also essential.<br />
Therefore, the new x-ray machine 1 with multi-lane<br />
inspection can accomplish our challenges for both quality and efficiency.<br />
ข้อมูลเพิ่มเติม/Additional Information<br />
1<br />
ระบบเอ็กซเรย์ รุ่น X35 จาก เมทเล่อร์-โทเลโด<br />
1<br />
The X35 X-ray machine by Mettler-Toledo<br />
Focused on Consumer Safety<br />
In order to prevent any harm to consumers as well<br />
as to protect the company’s brand, The<br />
manufacturers have seriously focused on quality<br />
in the manufacturing process through Critical<br />
Control Point (CCP) analysis and prevention<br />
measurements. To ensure that the highest quality<br />
products will be delivered to consumers, the<br />
company has focused on contamination detection.<br />
It must be apparent to consumers that their<br />
products are of the highest quality and they are<br />
never the source of consumer complaints regarding<br />
harmful contaminants.<br />
Various Products in Various Packaging<br />
Types<br />
The manufactures a variety of products packaged<br />
in various formats and as well as different<br />
packaging sizes. They needed to be able to detect<br />
contaminants in products packaged in aluminum<br />
foil, as well as needed a solution to speed up the<br />
production process and to provide ease and<br />
flexibility in changing product types. The product<br />
inspection machine, therefore, must be able to<br />
accomplish these challenges.<br />
The Perfect Solution<br />
A new x-ray machine 1 for multi-lane inspection was<br />
an ideal solution. Products from two packaging<br />
lines can be conveyed through the single x-ray<br />
machine 1 simultaneously by being separated into<br />
two inspection lanes. The machine can also inspect<br />
and separate out contaminated products from the<br />
production line with a series of drop down conveyor<br />
belts. The contaminated products then fall into the<br />
reject bin below the inspection line. This process<br />
has been designed with safety systems allowing<br />
only authorized personnel such as Quality<br />
Assurance (QA) to be able to handle rejected<br />
products and conduct a more detailed examination.<br />
In addition, a special software system provides<br />
added flexibility. The operators can easily choose<br />
to inspect either a single lane or multi-lanes. This<br />
JAN <strong>2018</strong><br />
FOOD FOCUS THAILAND<br />
51
STORAGE, HANDLING & LOGISTICS<br />
Material World Co., Ltd.<br />
sales@materialworld.co.th<br />
Good Manufacturing Practice<br />
From Factory to the Hand of the Customers with Safety<br />
จากกระบวนการผลิตถึงผู้บริโภคอย่างปลอดภัย<br />
ความเสี่ยงในกระบวนการผลิต 1 เพื่อการบริโภคที่แปรผันตามระบบการจัดการแต่ละองค์กรซึ่งมีความเข้มงวดที่ไม่เหมือนกัน ผู้บริโภคควรจะต้อง<br />
มั่นใจในกระบวนการผลิตที่ได้รับมาตรฐาน Good Manufacturing Practice (GMP) ซึ่งเป็นพื้นฐานที่ผู้ผลิตสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภค<br />
ควรจะต้องมี<br />
ทำไมถึงต้องมี GMP ?<br />
GMP 2 คือ การปฏิบัติที่ดีในการผลิตอาหาร เป็นระบบประกันคุณภาพที่มีการปฏิบัติ<br />
ในการผลิตอาหารเพื่อให้เกิดความปลอดภัย และมั่นใจต่อการบริโภค หลักการของ<br />
GMP จึงครอบคลุมตั้งแต่สถานที่ตั้งของสถานประกอบการ โครงสร้างอาคาร ระบบ-<br />
การผลิตที่มีความปลอดภัย มีคุณภาพ และได้มาตรฐานทุกขั้นตอน นับตั้งแต่เริ่มต้น<br />
วางแผนการผลิต ระบบควบคุมตั้งแต่วัตถุดิบระหว่างการผลิต การจัดเก็บ การควบคุม-<br />
คุณภาพ และการขนส่ง มีระบบบันทึกข้อมูล ตรวจสอบและติดตามผลคุณภาพ<br />
ผลิตภัณฑ์ รวมถึงระบบการจัดการที่ดีในเรื่องสุขอนามัย (Sanitation และ Hygiene)<br />
นอกจากนี้ GMP ยังเป็นระบบประกันคุณภาพพื้นฐานก่อนที่จะพัฒนาไปสู่ระบบ<br />
ประกันคุณภาพอื่นๆ ต่อไป เช่น HACCP (Hazard Analysis Critical Control Point)<br />
และ ISO 9000 เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจในผลิตภัณฑ์ที่ออกสู่ท้องตลาดทั่วโลก<br />
เราจะพบความเสี่ยงอะไรได้บ้างจากกระบวนการผลิต ปัจจัยสำคัญที่<br />
ผู้ประกอบการต้องคำนึงถึง คือ<br />
1. ความเสี่ยงในกระบวนการผลิต การสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค<br />
ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ผลิตควรคำนึงถึง ตั้งแต่การใช้อุปกรณ์หรือเครื่องมือที ่ช่วย<br />
อำนวยความสะดวกให้กับพนักงาน และลดอันตรายจากอุบัติเหตุ หรือการบาดเจ็บ<br />
ขณะทำงาน รวมไปถึงความเป็นสุขอนามัยในพื้นที่การผลิตด้วย<br />
ปัจจุบันอันตรายด้านอาหารที่พบบ่อยขึ้นมักเกิดจากการจัดเก็บ การสัมผัส<br />
เมื่อมีความเสี่ยงก็ต้องลดความเสี่ยงนั้นๆ แต่ไม่ว่าอย่างไรการยับยั ้งความ-<br />
ผิดพลาดที่เกิดขึ้นก่อนก็จะส่งผลดีในระยะยาวต่อผลิตภัณฑ์และผู้บริโภค<br />
2. ความเสี่ยงหลังจากกระบวนการผลิต หากเราพูดถึงการจัดการ<br />
บรรจุภัณฑ์ (Packaging Management) หรือ กระบวนการหรือวิธีการในการ-<br />
ดูแล ห่อหุ้มสินค้า เพื่อการขนส่งที่ปลอดภัยไปยัง<br />
ผู้บริโภคลำดับสุดท้าย ในสภาวะแวดล้อมต่างๆ<br />
หรืออาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันจากอุบัติเหตุที่<br />
เกิดขึ้นจากการขนส่ง ความเสี่ยงที่เราทุกคนอาจ<br />
จะมองข้ามไป และมองว่าจะต้องลดต้นทุน<br />
เพียงอย่างเดียว<br />
การขนส่งสินค้าก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ<br />
ไม่ว่าจะขนส่งทางบก ทางน้ำ หรือแม้กระทั่งขนส่ง<br />
ทางอากาศ ปัจจุบันการขนส่งสินค้าทางบก<br />
ถือเป็นรูปแบบการขนส่งสินค้าหลักของ<br />
ประเทศไทย เนื่องจากมีความสะดวกและ<br />
สามารถส่งสินค้าไปยังลูกค้าได้ใกล้ที่สุด อีกทั้ง<br />
52 FOOD FOCUS THAILAND JAN <strong>2018</strong>
STORAGE, HANDLING & LOGISTICS<br />
ประเทศไทยได้มีการปรับปรุงโครงสร้างเครือข่ายทางถนน<br />
เพื่อรองรับการขนส่งสินค้าเพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคม<br />
เศรษฐกิจอาเซียน ( AEC)<br />
แต่ท้ายที่สุดแล้วหากกระบวนการผลิตดีแต่การบริหาร<br />
จัดการด้านบรรจุภัณฑ์และการขนส่งขาดประสิทธิภาพ<br />
ก็คงยากในการลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นภายใต้ข้อจำกัด<br />
ของเวลาและต้นทุนรวมที่จะเกิดขึ้นจากความเสียหาย<br />
ในการแข่งขันทางธุรกิจได้<br />
Risks in the manufacturing for<br />
consumption process 1 are varied<br />
depending on the management of each<br />
organization, and each organization<br />
has different rigidity in dealing with<br />
risks. Consumers should be able to<br />
trust in Good Manufacturing Practice<br />
(GMP), which is a basic practice all<br />
manufacturers should uphold.<br />
to the emerging of the ASEAN Economic Cooperation (AEC).<br />
In the end, despite good manufacturing process, ineffective package management<br />
and logistic can become the main factors preventing risks reduction, especially under<br />
limited time and cost. In a big picture, this could result in the damage in business<br />
competitiveness.<br />
เอกสารอ้างอิง/References<br />
1<br />
ประเภทของการผลิตอาหาร กับ การจัดการความเสี่ยง. www.isotoyou.com/index.php/article/258-food-safety.html<br />
2<br />
Good Manufacturing Practice / GMP. www.foodnetworksolution.com/wiki/word/0352/good-manufacturingpractice-gmp<br />
Why GMP is Necessary?<br />
GMP 2 is a decent practice in food manufacturing,<br />
and is a quality assurance system that ensures safety<br />
and strengthen consumers’ confidence. GMP covers<br />
from the location of the manufacturer’s establishment<br />
to building construction, and manufacturing process<br />
that guarantees safety, quality, and standard. Every<br />
step of the manufacturing process; production<br />
planning, production control, raw materials, storage,<br />
quality control, transportation, data recording,<br />
tracking and tracing, and sanitation and hygiene<br />
management, must comply with GMP.<br />
Moreover, GMP is a basic quality assurance<br />
system before upgrading to other systems such as<br />
HACCP (Hazard Analysis Critical Control Point) and<br />
ISO 9000, which are created to ensure the customers<br />
about the products that are being released to the<br />
global market.<br />
What are the risks from the manufacturing<br />
process? Key factors operators must consider<br />
are;<br />
1. Risks in the Manufacturing Process Building<br />
trust among consumers is essential and must be<br />
taken into account by operators. Processes such as<br />
the use of tools and equipment in facilitating staffs<br />
and reducing risks to injuries from accidents, and<br />
hygienic management in the production area are<br />
some key examples.<br />
These days, food hazards are commonly found<br />
from storage management and contacts with food.<br />
Risk must be eliminated once it is found, however,<br />
inhibiting error before it takes place would be<br />
expedient to the products and the consumers in<br />
long-term.<br />
2. Risks in the Post-Manufacturing Process<br />
In the post manufacturing process like packaging<br />
management - the process or method of careful<br />
product wrapping - for safe transportation to the final<br />
consumers, unexpected events could arise in various<br />
environment from accidents or transportation. These<br />
risks are sometimes overlooked as we solely focus<br />
on cost reduction.<br />
Transportation is another crucial factor, whether<br />
it is a land, maritime, or aviation transportation. These<br />
days, land transportation is the main transportation<br />
of Thailand, as it is convenient to transport the<br />
products to the customers after Thailand has<br />
improved and built road infrastructure in response<br />
JAN <strong>2018</strong><br />
FOOD FOCUS THAILAND<br />
53
STRENGTHEN THE PACKAGING<br />
อิทธิพัทธ์ ธรรมสุริยะ<br />
Iddhiputt Thamsuriya<br />
Engineering Director<br />
Thai Sek Son Co., Ltd.<br />
iddhi.t@thaisekson.co.th<br />
Form-Fill-Seal Packaging Machine…<br />
Innovation for Food Manufacturers<br />
บรรจุภัณฑ์และเครื่องบรรจุภัณฑ์แบบ Form-Fill-Seal<br />
กับการพัฒนาที่ตอบโจทย์ตลาดผู้ผลิตในปัจจุบัน<br />
ปัจจุบันการตลาดที่มีการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและนวัตกรรมด้านบรรจุภัณฑ์ได้มี<br />
ผลผลักดันให้ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคหันมาใช้เครื่องบรรจุแบบ Form-Fill-Seal (FFS) กันมากขึ้น<br />
เนื่องจากระบบมีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบกระบวนการผลิตได้สะดวกรวดเร็วและมีราคา<br />
ไม่สูง รวมถึงบรรจุภัณฑ์ที่ออกมามีราคาถูกกว่าและยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าเมื่อเทียบกับบรรจุภัณฑ์ชนิดอื่น<br />
เช่น กระป๋อง เป็นต้น โดยบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วยังสามารถที่จะนำกลับมารีไซเคิลได้ง่ายหรือสามารถย่อยสลายได้ในธรรมชาติ<br />
เมื่อพูดถึงเครื่อง FFS เรากำลังพูดถึงบรรจุภัณฑ์ประเภทถุง ซอง ขวด หลอด<br />
บลิสเตอร์ ถ้วย ถาด เป็นต้น ซึ่งขณะนี้ตลาดมีความต้องการสูงมาก โดยคิดเป็น<br />
ร้อยละ 43.1 ของตลาดบรรจุภัณฑ์ทั้งหมดในปี 2560 และจะเติบโตต่อเนื่องอีก<br />
ปีละประมาณ ร้อยละ 5.7 ตั้งแต่ 2560-2568 a โดยตลาดถุงและซองจะมีการเติบโต<br />
มากที่สุดและมีส่วนแบ่งทางตลาดมากเป็นร้อยละ 45 ซึ่งลูกค้าในพื้นที่เอเชีย<br />
แปซิฟิคจะมีอัตราการบริโภคสูงที่สุดในโลกคิดเป็นร้อยละ 40.6<br />
ความยืดหยุ่น อเนกประสงค์ และการเชื่อมต่ออย่างชาญฉลาด<br />
เพื่อตอบโจทย์ 4.0<br />
เทคโนโลยีใหม่ๆ หรือกลไกของเครื่อง FFS เฉพาะตัวเครื่องจักรเองเริ่มมีความ-<br />
อิ่มตัว เราอาจจะไม่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่มากนักเมื่อเทียบกับเมื่อ 10 ปีที่ผ่านมา<br />
ทว่าการออกแบบในยุคต่อไปจะมุ่งเน้นไปที่ความยืดหยุ่นและอเนกประสงค์<br />
มากขึ้น และสามารถเชื่อมต่อแบบบูรณาการอย่างชาญฉลาดกับเครื ่องจักรอื่นๆ<br />
ได้อย่างเป็นระบบมากยิ่งขึ ้น โดยหลักการออกแบบในยุคต่อไปจะต้องใช้ความรู้<br />
เข้าใจที่ลึกซึ้งมากขึ้นเรื่องขนาดบรรจุภัณฑ์ ลักษณะบรรจุภัณฑ์ วัสดุที่นำมาใช้<br />
การถอดเปลี่ยนชิ้นส่วนที่ง่ายและไม่ต้องใช้เครื่องมือ การเพิ่มความเร็วทาง<br />
กลศาสตร์ ขนาดเครื่องจักรที่เล็กลง การใช้ระบบเซอร์โวที่ซับซ้อนมากขึ ้น ระบบ<br />
การตัดสินใจอัตโนมัติต่างๆ ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นส่วนประกอบเล็กๆ แต่สำคัญ<br />
เป็นอย่างยิ่งที่จะสามารถสร้างความต่างที่ยิ่งใหญ่ได้ ทั้งนี้เรื่องการบริการและ<br />
การสนับสนุนเชิงเทคนิคก็เป็นอีกส่วนที่ต้องมีการพัฒนาควบคู่ไปกับการผลักดัน<br />
ตามนโยบายอุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งเครื่องจักรระดับนี้มีผู้สร้างขึ้นมาแล้ว<br />
ในอเมริกาเหนือ ยุโรป และเอเชียตะวันออก แต่ยังมีราคาที่สูงมากจึงยากที่จะ<br />
เข้าถึงทว่าเป็นโอกาสอันดีของผู้ผลิตในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่จะเข้าสู่ขุมทอง<br />
เหล่านี้ แต่ต้องเน้นย้ำที่นวัตกรรม คุณภาพ และเทคโนโลยีที่สูงขึ้นด้วย<br />
คาดการณ์เทคโนโลยีใหม่ที่น่าจะเปิดตัวปี 2561<br />
ผู้ผลิตเครื่องจักร Form-Fill-Seal สัญชาติไทยชั้นนำ 1 ต่างมีการตื่นตัวและ<br />
มีการเตรียมตัวมานานแล้วสำหรับอุตสาหกรรม 4.0 โดยเทคโนโลยีที่คาดว่า<br />
จะพบในการเปิดตัวในปี 2561 นั้น น่าจะเป็นการดึงเอาเรื่องของการรวมระหว่าง<br />
เครื่องจักรและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและเครือข่าย Internet of Things<br />
(IoT) ระบบการทำงานและฐานข้อมูลบนคลาวด์ การตัดสินใจแบบกระจาย<br />
ศูนย์และการรวมองค์ความรู้ด้านปัญญาประดิษฐ์ และระบบการบริการผ่าน<br />
อินเทอร์เน็ตเข้ามาไว้ด้วยกัน โดยเครื่องจักรรูปแบบต่างจะสามารถทำงานและ<br />
สื่อสารกันได้บนภาษาที่แตกต่างกัน สามารถปรับตัวเองด้วยการตัดสินใจของ<br />
54 FOOD FOCUS THAILAND JAN <strong>2018</strong>
STRENGTHEN THE PACKAGING<br />
ตัวเองเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้นเรื่อยๆ และสามารถแก้จุดบกพร่องหรือ<br />
ข้อผิดพลาดได้ด้วยตัวเครื่องจักรเอง แต่อย่างไรก็ตามเทรนด์ในภาพรวมกว้างๆ<br />
ก็ยังต้องคำนึงถึงการนำเทคโนโลยี เช่น “บล็อกเชน” มาใช้ในการตรวจติดตาม<br />
คุณภาพและการสอบย้อนเพื่อเพิ่มคุณค่าทางห่วงโซ่การผลิตให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย<br />
โดยสรุปแล้ว การพัฒนาเครื่องจักร FFS เราไม่ได้มุ่งเน้นถึงการนำมา<br />
ทดแทนทรัพยากรมนุษย์ แต่มุ่งไปที่เรื่องการแก้ไขปัญหาให้กับภาคการผลิต<br />
ที ่กำลังขาดแรงงานมีฝีมือ อัตราการเปลี่ยนงานที่ถี่ขึ้น และช่วยให้สนับสนุน<br />
การผลิตสินค้าที่มีความซับซ้อนมากขึ้นในกระบวนการผลิตโดยเพิ่มความเร็ว<br />
ด้วยระบบเครื่องที่ทำงานได้แบบต่อเนื่อง ง่ายต่อการติดตั้งและสื่อสารกับ<br />
เครื่องจักรอื่นๆ โดยไม่ต้องใช้ความรู้เชิงเทคนิคที่สูงนัก อีกทั้งยังต้องมุ่งเน้น<br />
ด้านความเป็นมิตรในการทำงาน ใช้งานง่าย ใช้เวลาน้อยที่สุดเพื่อเรียนรู้<br />
การใช้งานเครื่องจักร รวมถึงการมีขนาดที่เล็กลงทำให้ผู้ประกอบการสามารถ<br />
ลดพื้นที่การผลิตลงได้และมีอัตราส่วนผลผลิตต่อพื้นที่ที่มากขึ้น นอกจากนี้ยัง<br />
มีประเด็นเรื่องการบริการ การซ่อมบำรุงเครื่องจักร และการบริหารจัดการ<br />
สายการผลิต เป็นประเด็นใหญ่ซึ่งเทคโนโลยี 4.0 สามารถตอบโจทย์ในการลด<br />
การสูญเสีย ลดเวลาเครื่องจักรต้องหยุดทำงาน ลดผลผลิตที่ไม่ได้คุณภาพ<br />
และทำให้ระบบสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนนี้เป็นการลดค่าใช้จ่าย<br />
และต้นทุนการผลิตได้อย่างมาก ซึ่งเราต้องมีการปรับใช้เรื่องของการบริการ<br />
ออนไลน์ที่สามารถแจ้งเตือนและระบุปัญหาหรือข้อขัดข้องและซ่อมบำรุง<br />
เบื้องต้นได้ สร้างความได้เปรียบทางการผลิต<br />
Increasing in rapidly growing market these days<br />
and material innovation enforce the manufacturers<br />
to consider more on Form-Fill-Seal (FFS) machines<br />
which can be flexible, have a lower cost of production<br />
modification, and can be more environmentally friendly<br />
that ease for recycle and degradation comparing to<br />
other type of packaging.<br />
What to expect from Form-Fill-Seal in the <strong>2018</strong><br />
For Form-Fill-Seal manufacturers 1 , when saying about Industrial 4.0<br />
trend, the keyword for next generation FFS machine that are expected<br />
to see in <strong>2018</strong> will likely be the combination of machine and cyber<br />
systems, Internet of Things (IoT), cloud based for system and data<br />
computing, decentralize decision and cognitive of Artificial Intelligence<br />
(AI), Internet of Service (IoS), and Blockchain. The machine and system<br />
must be able to communicate with multi-platform over multi-protocol and<br />
adaptive by self-decision to optimize the process time and correction of<br />
faults. Also, the whole system in overall must equipped with technology<br />
that increase its value chain with track-and –trace ability such as<br />
blockchain.<br />
All in all, machine development does not aim for replace human, but<br />
rather solve the problem of shortage of skilled worker and highly<br />
employment turnover rate, and facilitate complexity production process<br />
by increasing throughput with high speed continuous motion that ease<br />
for integrate and communicate with other system while focusing on userfriendly<br />
where the manufacturer and hire anyone and shorten the time<br />
required to learn how to operate the machine where capability to operate<br />
under reduced floor space. Maintenance and processing line management<br />
is a major issue for manufacturer where 4.0 technology can be used to<br />
optimize in terms of Lost, Downtime, Defect, and Production Continuity,<br />
which affected the cost of operation. The solution of Internet of Service<br />
(IoS) will minimize these lost when the machine is online operable and<br />
diagnostic, providing manufacturer advantages competitiveness.<br />
เอกสารอ้างอิง/Reference<br />
a<br />
www.transparencymarketresearch.com<br />
ข้อมูลเพิ่มเติม/Additional Information<br />
1<br />
บริษัท ไทย เสกสรร จำกัด หนึ่งในผู้ผลิตเครื่องบรรจุ Form-Fill-Seal ชั้นนำของไทย ที่มุ่งเน้น<br />
การพัฒนาด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม<br />
1<br />
Thai Sek Son Co., Ltd., one of a leading Form-Fill-Seal manufacturer, in Thailand is<br />
known to provide high technology and innovative machine for Thailand food industry.<br />
When we talk about FFS machines, we discuss based on packaging<br />
type of bags & pouches, bottles and ampoules, blisters, cups & trays<br />
and other kinds of packaging like squeezable tubes. The demand of<br />
these accounted to 43.1% of the whole packaging market in 2017 and<br />
expected to grow with the rate of CAGR rate of 5.7% per year from<br />
2017-2025 a where bag & pouch will play a major roll with 45% of<br />
customers are in food industry which Asia Pacific accounted for 40.6%<br />
of the demand out of the overall market.<br />
Flexible, Versatile and Integration to Cope with 4.0<br />
Currently, the technology of FFS machine itself is quite saturated.<br />
However, the next generation of FFS machine will be focus on more<br />
versatile design as possible and provide it as integrated solution system.<br />
The versatile and resilience design required the optimized<br />
understanding about package sizing, package types, material<br />
formulate, no tool and quick changing part, increase machine speed<br />
output, machine size footprint, synchronize motion control complexities,<br />
and other minor element but essential to make big differences. The<br />
operation and support for platform should develop correspond to<br />
industrial 4.0. <strong>No</strong>rth America, Western Europe, and East Asia<br />
manufacturer already emerged, however price is very high. So, there<br />
is a big space for the player in South-East Asia manufacturer, but<br />
innovation and high technology integrate must be applied.<br />
JAN <strong>2018</strong><br />
FOOD FOCUS THAILAND<br />
55
SHOW TIMES<br />
Pre Show<br />
Food Pack Asia <strong>2018</strong>…<br />
Ready for Food Tech 4.0<br />
พร้อมแล้วกับก้าวที่กล้าสู่ยุค Food Tech 4.0<br />
1-4 February <strong>2018</strong> @ BITEC<br />
ถึงเวลานับถอยหลังสู่มหกรรมงานแสดงเทคโนโลยีเครื่องจักรสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร<br />
เครื่องดื่ม และบรรจุภัณฑ์อาหารนานาชาติครั้งที่ 9 หรือ Food Pack Asia <strong>2018</strong> เวทีที่รวม<br />
สินค้า บริการ รวมถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีล่าสุดจากเหล่าผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่ายเครื่องจักร-<br />
แปรรูปอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องจักรแปรรูปเนื้อสัตว์ เครื่องจักรบรรจุภัณฑ์ อุปกรณ์เบเกอรี่<br />
เครื่องมือเครื่องใช้ในธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และบรรจุภัณฑ์จากแบรนด์ดังระดับโลก<br />
ตลอดจนพาวิลเลียนจากหลากหลายประเทศ พร้อมพบกับกิจกรรมพิเศษมากมาย การเชื่อมโยง<br />
เครือข่าย การติดต่อและขยายคู่ค้า และการแสวงหาความรู้จากกูรูแถวหน้าทั้งภาคทฤษฎี<br />
และปฏิบัติที่จะมาร่วมแชร์ทุกรายละเอียดในมหกรรมบรรจุภัณฑ์อาหารประจำปีนี้ เพื่อเสริม<br />
ความแข็งแกร่งทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการ นักธุรกิจ และผู้สนใจทั่วไปที่ต้องการก้าวเข้าสู่<br />
อุตสาหกรรมนี้และอัพเดทไปกับความก้าวหน้าทั้งทางเทคโนโลยี กลยุทธ์ทางธุรกิจ<br />
ตลาดยุคใหม่ พิเศษสุด สำหรับ Food Pack Asia <strong>2018</strong> คือ การรุกไล่ให้ทันเทรนด์และการ-<br />
แข่งขันสู่ยุค Food Tech 4.0 จากกว่า 60 หน่วยงานภาครัฐและเอกชนชั้นนำ<br />
กิจกรรมอื่นๆ ที่ไม่ควรพลาดใน Food Pack Asia <strong>2018</strong> ได้แก่ สัมมนาและการบรรยาย<br />
จากผู้เชี ่ยวชาญจากหลายหลายสถาบันชั้นนำระดับประเทศ เช่น “Digital Transformation<br />
กับอุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต” จากสถาบันอาหาร “นวัตกรรมการเพิ่มมูลค่าและยืดอายุ<br />
ผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปในยุค Food Tech 4.0” โดย สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า-<br />
เจ้าคุณทหารลาดกระบัง “Smart and Green Packaging เทรนด์ใหม่ที่ทั่วโลกจับตา”<br />
จากสมาคมการบรรจุภัณฑ์ไทย และอีกมากมาย<br />
Soon arriving is the 9 th Food Pack Asia <strong>2018</strong> which is<br />
ready to greet all local and foreign exhibitors and visitors<br />
to join the ride together toward the era of Food Tech 4.0.<br />
Widely acclaimed as one of the top events for sourcing,<br />
trading and investing in Food and Packaging industry, Food<br />
Pack Asia this year continues to serve producers, operators,<br />
distributors in food and beverage, food processing, food<br />
packaging and other related industries not only for trading<br />
and sourcing for their businesses but also for updating<br />
information, knowledge, modern technologies, and,<br />
especially, innovations, besides helping elevating<br />
Thailand’s packaging industry as a whole. Specially, the<br />
Food Pack Asia <strong>2018</strong> centers on updated trends and<br />
modern technology for best competitions. Count down and<br />
gear up for the 9 th Food Pack Asia <strong>2018</strong>.<br />
Here are only a few of many must-join special activities<br />
in this show: seminars and presentations on hot topics by<br />
famous speakers and specialists from more than 60 leading<br />
institutions and organizations, such as “Digital transformation<br />
for future food industry” by National Food Institute,<br />
“Innovations of value addition and longer life span for<br />
processed food in Food Tech 4.0 era” by King Mongkut’s<br />
Institute of Technology Ladkrabang, “Smart and Green<br />
Packaging” Trend by The Thai Packaging Association and<br />
many more.<br />
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมการเข้าชมงานหรือจองพื้นที่แสดงสินค้าได้ที่/For more information, please visit at<br />
www.foodpackthailand.com or www.facebook.com/foodpack.asia<br />
56 FOOD FOCUS THAILAND JAN <strong>2018</strong>
SURROUNDS<br />
Chiang Mai, 22-24 <strong>No</strong>vember 2017<br />
www.environmentalscience.bayer.co.th<br />
Bayer Learning Lab – New Dimension of Training at FAOPMA-Pest Summit 2017<br />
กลุ่มธุรกิจวิทยาการเพื่อสิ ่งแวดล้อม บริษัท ไบเออร์ไทย<br />
จำกัด หนึ่งในผู้สนับสนุนหลักงานประชุม FAOPMA-Pest<br />
Summit 2017 ครั้งที่ 1 ภายใต้ธีม “New Perspectives in Urban<br />
and Public Health IPM in Asia and Oceania” ซึ่งจัดขึ้นเพื่อ<br />
เสริมสร้างความรู้ให้แก่ผู้ประกอบกิจการกำจัดแมลงในระดับสากล<br />
ในโอกาสนี้ ไบเออร์ ได้ร่วมออกบูธแนะนำ Bayer Learning Lab<br />
ซึ่งเป็นหลักสูตรการฝึกอบรมเกี่ยวกับการจัดการแมลงและศัตรู<br />
รบกวน โดยมีผู้เชี่ยวชาญในแวดวงกีฏวิทยาและธุรกิจกำจัด<br />
แมลงร่วมพัฒนาหลักสูตร และจัดฝึกอบรมในระบบออนไลน์<br />
จึงทำให้สะดวกสามารถเข้าถึงจากที่ใดก็ได้ สามารถศึกษาข้อมูล<br />
เพิ่มเติมได้จาก www.environmentalscience.bayer.co.th/<br />
Pest-Management/My-Services/Bayer-Learning-Lab/<br />
Access-Bayer-Learning-Lab<br />
Bayer Environmental Science was one<br />
of the main sponsor of the FAOPMA-Pest<br />
Summit, the first and the finest integrated<br />
pest management convention under the<br />
theme of “New Perspectives in Urban and<br />
Public Health IPM in Asia and Oceania”. The<br />
conference is a good way to keep abreast<br />
of the latest research findings, technology<br />
and experience relevant to the pest<br />
management industry and indulge the upto-date<br />
information that attendees need to know from the experts. At the event, Bayer<br />
promoted Bayer Learning Lab, the online course for pest management training which<br />
developed by entomology and pest management experts. For more information about<br />
the course, please visit www.environmentalscience.bayer.co.th/Pest-Management/<br />
My-Services/Bayer-Learning-Lab/Access-Bayer-Learning-Lab<br />
South Africa, 15-17 <strong>No</strong>vember 2017<br />
SMS Showcases Innovative Starches for Yogurt at African Dairy Conference and Exhibition 2017<br />
www.smscor.com<br />
บริษัท เอสเอ็มเอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด นำโดย ดร.วีรวัฒน์<br />
เลิศวนวัฒนา คุณพวงรัตน์ จิรวุฒิตานันท์ และ ดร.ณัฎฐวี<br />
ธรรมเจษฎา ได้ร่วมนำเสนอนวัตกรรมแป้งมันสำปะหลังดัดแปร<br />
สำหรับผลิตภัณฑ์โยเกิร์ต “Innovative Starches for Yogurt”<br />
ภายในงานประชุมวิชาการและงานแสดงสินค้า The African<br />
Dairy Conference and Exhibition 2017 ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่<br />
13 โดย Eastern and Southern Africa Dairy Association<br />
ณ Birchwood Hotel & OR Tambo Conference Centre<br />
ที่เมืองโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ โดยได้รับความสนใจ<br />
จากผู้เข้าร่วมชมงานเป็นจำนวนมาก<br />
Dr.Werawat Lertwanawatana, Mrs.<br />
Puangrat Jirawuthitanant and Dr.Nutthawee<br />
Thamjesada from SMS Corporation proudly<br />
presented “Innovative Starches for Yogurt” in<br />
the 13 th Edition of the African Dairy Conference<br />
and Exhibition 2017 (13 th AfDa), at the<br />
Birchwood Hotel & OR Tambo Conference<br />
Centre in Johannesburg, South Africa. The<br />
conference hosted by Eastern and Southern Africa Dairy Association. Attending<br />
to the exhibition this year, SMS strongly reflected potential clients and was such<br />
a success.<br />
Kanchanaburi, 15-16 December 2017<br />
www.mt.com<br />
Mettler-Toledo (Thailand) held its Annual Thank You Party<br />
บริษัท เมทเล่อร์-โทเลโด (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดงานเลี้ยง<br />
ประจำปี เพื่อขอบคุณพนักงานทุกท่านที่เป็นส่วนสำคัญ<br />
ในความสำเร็จของบริษัท ณ ไมด้า รีสอร์ท กาญจนบุรี โดยมี<br />
กิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ การรวมพลังทำกิจกรรมรักษ์โลก<br />
ปลูกป่า ยิงเมล็ดพันธุ์ และทำฝายน้ำล้น ณ อุทยานเขตรักษา<br />
พันธุ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชสลักพระ และปิดท้ายด้วยกิจกรรม<br />
แจกของรางวัล และการประกวดการแต่งกาย ซึ่งปีนี้มาในธีม<br />
“PUNK ROCK “ พร้อมกันนี้คณะผู้บริหารและพนักงานทุกท่าน<br />
ยังได้ร่วมทำบุญมอบเงินสมทบทุนแก่โรงเรียนหมู่บ้านเด็ก<br />
กาญจนบุรี ก่อนเดินทางกลับอีกด้วย<br />
Mettler-Toledo (Thailand) Limited held its Year-end Thank You Company Trip<br />
at Mida Resort Kanchanaburi. As one of the leading multinational company, the<br />
activities done during the trip include reforestation, seed bombing, and weir<br />
creation at Salakpra Wildlife Sanctuary. Additionally, the thank you dinner and<br />
the costume winner under the “PUNK ROCK” theme announcement were also<br />
held in the evening at the resort. Ultimately before leaving to Bangkok, Mettler-<br />
Toledo (Thailand) management team along with staffs had made a donation to<br />
Moo Ban Dek School in Kanchanaburi as well.<br />
JAN <strong>2018</strong><br />
FOOD FOCUS THAILAND<br />
57
SURROUNDS<br />
Nakhon Ratchasima<br />
www.bsigroup.com/en-th<br />
Umm!.. Milk got the Certification of International Standard from BSI<br />
สถาบันมาตรฐานอังกฤษ BSI ร่วมแสดงความยินดีและ<br />
มอบใบรับรองมาตรฐานสากล ISO 9001:2015, ISO 22000:<br />
2005 มาตรฐานระบบการจัดการคุณภาพสากล และ GMP &<br />
HACCP มาตรฐานการผลิตที่ดี ให้แก่ บริษัท โชคชัยฟาร์ม<br />
โปรดิวซ์ จำกัด ผู้ผลิตผลิตภัณฑ์นมภายใต้แบรนด์ Umm!.. Milk<br />
จากความสำเร็จในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ<br />
บริษัทฯ ที่จะพัฒนากระบวนการผลิตและการควบคุมคุณภาพ<br />
ให้อยู่ในมาตรฐานระดับสากลและให้มีประสิทธิภาพอย่าง<br />
ต่อเนื่อง<br />
Recently, British Standard Institution (BSI)<br />
has congratulated and presented certificates of<br />
international standard for Quality Management<br />
System ISO 9001:2015, ISO 22000: 2005 and<br />
Food Safety Systems GMP & HACCP to<br />
Chokchai Farm Produce Co., Ltd., the operator<br />
of “Umm! Milk” products. The certification assists<br />
company to ensure compliance with quality<br />
management systems and food safety standard<br />
and also reflects the commitment to improve the<br />
performance of the production process and the<br />
effectiveness of their quality control systems.<br />
Bangkok, 27-28 <strong>No</strong>vember 2017<br />
www.firn.or.th<br />
Seminar on “Functional Food Innovation & Regulatory and Functional Ingredients”<br />
สมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางอาหารแห่งประเทศไทย (FoSTAT) ร่วมกับสำนักอาหาร สำนักงาน-<br />
คณะกรรมการอาหารและยา โดยได้รับการสนับสนุนจากเมืองนวัตกรรมอาหาร (Food Innopolis) สำนักงาน-<br />
คณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมแห่งชาติ (สวทน.) จัดอบรมเชิงปฏิบัติการในหัวข้อ<br />
“นวัตกรรมและหลักเกณฑ์สำหรับ Functional Food” และ “Functional Ingredient” ณ โรงแรมวินด์เซอร์ สวีทส์<br />
โดยหัวข้อแรกมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจในระบบพิจารณาขออนุญาตผลิตภัณฑ์ฟังก์ชันนอลฟู้ด<br />
ทั้งในและนอกประเทศ และเพื่อสร้างเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญฟังก์ชันนอลฟู้ดในประเทศไทย โดยได้รับเกียรติจาก<br />
คณาจารย์และผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกว่า 70 ท่าน มาร่วมระดมสมองแลกเปลี่ยนความคิดเห็น<br />
เรื่องการกล่าวอ้างทางสุขภาพ และยังได้รับความรู้เกี่ยวกับอนาคตฟังก์ชันนอลฟู้ดประเทศไทย กฎระเบียบข้อบังคับ ฟังก์ชันนอลฟู้ดในประเทศต่างๆ และ<br />
การประเมินความปลอดภัยอาหาร ซึ่งจะช่วยพัฒนาขีดความสามารถบุคลากรและประสิทธิภาพในการพิจารณาอนุญาตผลิตภัณฑ์ฟังก์ชันนอลฟู้ดต่อไป<br />
ในอนาคต<br />
ส่วนหัวข้อที่สองมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเข้าใจในระบบพิจารณาขออนุญาตกล่าวอ้างทางสุขภาพประเภทต่างๆ สำหรับฟังก์ชันนอลอินกรีเดียนท์<br />
และหารือถึงแนวทางการพัฒนาฟังก์ชันนอลอินกรีเดียนท์ เพื่อตอบสนองแก่ภาคธุรกิจ โดยได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่านร่วมบรรยาย และ<br />
เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมงานกว่า 79 ท่าน ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาฟังก์ชันนอลอินกรีเดียนท์เชิงพาณิชย์ ซึ่งจะมีส่วนช่วยพัฒนากลไก<br />
สนับสนุนหลักเกณฑ์และวิธีการขออนุญาตผลิตภัณฑ์ฟังก์ชันนอลอินกรีเดียนท์ให้ไปสู่ตลาดได้รวดเร็วยิ่งขึ้น<br />
The Food Science and Technology Association of Thailand (FoSTAT) in collaboration<br />
with Bureau of Food, Food and Drug Administration (FDA) and supported by Food<br />
Innopolis, National Science Technology and Innovation Policy Office (STI) jointly<br />
organized a workshop entitled “Functional Food Innovation & Regulatory” and<br />
“Functional Ingredient” at Windsor Suites Hotel. The first topic aimed to enhance<br />
knowledge and understanding on functional food’s regulations in Thailand and<br />
internationally, and to build Thailand functional food expert’s network. Over 70 experts<br />
and honored guests from various related fields attended the workshop and shared their<br />
opinions on functional food’s health claims in a brainstorming session and, at the same<br />
time, developed their knowledge through presentations i.e. “Future of Functional Food from Thai FDA perspective” as well as multi-countries<br />
comparison on functional food regulations and food safety assessment. This will help to support human capacity building and effectiveness<br />
of functional food’s approval process in the future.<br />
The second topic aimed to enhance knowledge and understanding on functional food/ingredient health claim’s options and their approval<br />
process and discuss the directions for commercialization. There were interesting presentations by experts on the related topics serving the<br />
objectives to 79 attendees who are food & food ingredient entrepreneurs and researchers. The attendees also got an opportunity to share<br />
their thoughts and discuss how to develop functional ingredients for commercialization in a brainstorming session. This will support a process<br />
development to expedite heath claim’s approval to bring functional food products to the market faster and more effectively.<br />
58 FOOD FOCUS THAILAND JAN <strong>2018</strong>
SURROUNDS<br />
Munich/Shanghai, 9 <strong>No</strong>vember 2017<br />
www.wacker.com<br />
WACKER Further Expands its Production and R&D Capacities in China<br />
Wacker Chemie AG เปิดเผยถึงการขยายกำลังการผลิตผลิตภัณฑ์ซิลิโคนและพอลิเมอร์<br />
ในประเทศจีน และการขยายขีดความสามารถของงานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อเสริม<br />
ความแข็งแกร่งของตลาดในภูมิภาค โดยวางแผนขยายฐานการผลิตยางซิลิโคนในเมือง<br />
จางเจียกั่ง และขยายกำลังการผลิตไวนิลอะซิเตตเอทิลีนโคพอลิเมอร์ของโรงงานในเมืองหนานจิง<br />
ตลอดจนการขยายศูนย์บริการทางเทคนิคของ WACKER ในนครเซี่ยงไฮ้ และห้องปฏิบัติการ<br />
ทางด้านอาหารสำหรับผลิตภัณฑ์จากแผนก WACKER BIOSOLUTIONS อีกด้วย โดยจัดสรร<br />
งบประมาณการลงทุนทั้งหมดกว่า 20 ล้านยูโร<br />
ทั้งนี้ ภายในสิ ้นปี 2561 ห้องปฏิบัติการด้านซิลิโคน ณ เมืองเซี่ยงไฮ้ จะแล้วเสร็จ<br />
เพื่อรองรับการพัฒนาของผลิตภัณฑ์และการประยุกต์ใช้ใหม่ๆ สำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ<br />
รวมทั้งห้องปฏิบัติการด้านการประยุกต์ใช้แห่งใหม่จะเอื้อประโยชน์ให้กับการเติบโต<br />
ของอุตสาหกรรมอาหารในท้องถิ่นอีกด้วย<br />
Bangkok, 29 <strong>No</strong>vember 2017<br />
Thai Union Celebrated its 40 th Anniversary<br />
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หนึ่งในบริษัทอาหารทะเลชั้นนำของโลก<br />
ฉลองครบรอบ 40 ปี และจัดนิทรรศการ ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน<br />
เพื่อบอกเล่าประวัติและเรื่องราวความสำเร็จของบริษัทฯ โดยมีความยั่งยืนและนวัตกรรม<br />
เป็นหัวใจของการทำธุรกิจของไทยยูเนี่ยนในปัจจุบันและอนาคต<br />
“40 ปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องราวที่น่าจดจำอย่างมากของบริษัทฯ และเต็มไปด้วยความสำเร็จ<br />
พวกเรามุ่งมั่นและมีบทบาทในการเป็นผู้นำการเปลี ่ยนแปลงในอุตสาหกรรม” คุณธีรพงศ์<br />
จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ไทยยูเนี่ยน กล่าว “นี่เป็นเรื่องจริงที่ทำให้เห็นถึงความมุ่งมั่น<br />
และพยายามของเราในเรื่องความยั่งยืนและนวัตกรรม เมื่อผมพูดถึงความสำเร็จเหล่านี้ ผมมักนึกถึง<br />
สุภาษิตที่ว่าเราไม่ได้รับโลกนี้เป็นมรดกจากบรรพบุรุษ แต่เราได้ยืมโลกนี้จากลูกหลานของเรา”<br />
นโยบายความยั่งยืนที่เรียกว่า SeaChange ® ซึ่งประกาศไปเมื่อปี 2559 ไทยยูเนี่ยน<br />
เล็งเห็นว่าเป็นความพยายามที่จะให้ครอบคลุมทุกส่วนของธุรกิจอาหารทะเล ตั้งแต่การดูแล<br />
มหาสมุทร ไปจนถึงการกำจัดขยะ ตลอดจนความรับผิดชอบที่บริษัทฯ มีต่อแรงงานและ<br />
การสร้างอนาคตที่สดใสให้กับผู้คนและสังคมที่บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจอยู่<br />
“การตรวจสอบย้อนกลับเป็นเรื่องหลักของนโยบายความยั่งยืนของเรา” ดร.แดเรี่ยน<br />
แมคเบน ผู้อำนวยการกลุ่มการพัฒนาที่ยั่งยืนของไทยยูเนี่ยน กล่าว “เมื่อพูดถึงความยั่งยืน<br />
กุญแจสำคัญคือความสามารถในการตรวจสอบอาหารทะเล ตั้งแต่การจับปลาไปจนถึง<br />
การบริโภค และด้วยการตรวจสอบย้อนกลับในทุกขั้นตอนนี้ ไทยยูเนี่ยนสามารถระบุ ตรวจสอบ<br />
และปรับปรุงแก้ไขในเรื่องเกี่ยวกับแรงงานและการจัดหาได้เป็นอย่างดี”<br />
ด้าน ดร.ธัญญวัฒน์ เกษมสุวรรณ ผู้อำนวยการกลุ่มด้านนวัตกรรมของไทยยูเนี่ยน กล่าวว่า<br />
ภายในปี 2563 นวัตกรรมจะมีบทบาทมากขึ้นในธุรกิจของไทยยูเนี่ยน และคาดว่าจะสร้างรายได้<br />
ร้อยละ 10 ของยอดขายทั้งหมดของบริษัทฯที่คาดไว้ที่ 8 พันล้านเหรียญสหรัฐ<br />
ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยยูเนี่ยนเติบโตขึ้นเป็นบริษัทอาหารทะเลระดับโลก มีพนักงานทั่วโลกรวมกัน<br />
มากกว่า 49,000 คน มีการเติบโตของแบรนด์สินค้าอาหารทะเลที่ได้รับการยอมรับเพิ่มมากขึ้น และ<br />
มีแหล่งผลิตสินค้าอยู่ทั่วโลก สร้างยอดขายต่อปีมากกว่า 3.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยรายได้<br />
จากการขายกว่าร้อยละ 70 ของบริษัทฯ มาจากสหรัฐอเมริกาและยุโรป<br />
“เมื่อมองไปข้างหน้า พวกเราจะมุ่งมั่นและเดินหน้าสร้างความก้าวหน้า ใช้ความเป็นผู้นำ<br />
และความแข็งแกร่งแก้ปัญหาและเผชิญสิ่งท้าทายในอนาคต ผมมีความสบายใจและเชื่อมั่นว่า<br />
ที ่ไทยยูเนี่ยนเรามีพนักงานที่มีความสามารถทำงานที่เหมาะสม ซึ่งสิ่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของ<br />
การทำให้เกิดผลลัพธ์อย่างแท้จริงสำหรับคนรุ่นต่อไป และเรามองไปไกลอีก 40 ปีเลยทีเดียว”<br />
คุณธีรพงศ์ กล่าว<br />
Wacker Chemie AG will expand its<br />
production capacities for silicone and<br />
polymer products in China and continue<br />
to reinforce its research and development<br />
capability in order to further strengthen its<br />
market position in the region. Specifically,<br />
the company is expanding its solid silicone<br />
rubber manufacturing facility in<br />
Zhangjiagang as well as its production<br />
capacity for vinyl acetate-ethylene (VAE)<br />
copolymer dispersions at its plant in<br />
Nanjing. WACKER’s technical center in<br />
Shanghai will also be expanded. A food application lab for products from the<br />
WACKER BIOSOLUTIONS division is also scheduled. A total investment of<br />
EUR 20 million has been earmarked for these expansion projects.<br />
By year-end <strong>2018</strong>, Shanghai will have additional silicone labs for the<br />
development of new products and applications in areas such as coatings,<br />
construction, and consumer care. A new application lab catering to the growing<br />
needs of the local food industry will also be built.<br />
www.thaiunion.com<br />
Thai Union Group PCL, one of the<br />
world’s leading seafood companies,<br />
celebrated its 40 th anniversary with an<br />
exhibition at Siam Paragon’s Royal Paragon<br />
Hall. An elaborate exhibit featuring Thai<br />
Union’s historical milestones traced the<br />
company’s journey over that period, including<br />
a showcase of key recent sustainable<br />
development and innovation initiatives positioned at the heart of Thai Union’s<br />
business—as well as its future.<br />
“It has been a remarkable 40 years for our company, full of tremendous<br />
achievements. We have fully embraced our role as a leading agent for change,”<br />
said Mr.Thiraphong Chansiri, Thai Union’s CEO. “That is particularly true of<br />
our recent efforts in sustainability and innovation. When I reflect on these<br />
accomplishments, I often recall the old saying that we do not inherit the earth<br />
from our ancestors; we borrow it from our children.”<br />
Thai Union’s sustainability strategy, SeaChange ® , launched in 2016. Thai<br />
Union considers SeaChange ® as a journey that covers every aspect of the<br />
seafood business: from how the company looks after the oceans to how it<br />
manages waste; from the responsibility Thai Union takes for its workers to<br />
building brighter futures for the people and communities where the company<br />
operates.<br />
“Traceability is the backbone of our sustainability strategy,” said Dr.Darian<br />
McBain, Thai Union’s global director for sustainable development. “When it<br />
comes to sustainability, the key is the ability to fully trace seafood—from catch<br />
to consumption; with full traceability in place, Thai Union will be able to identify,<br />
investigate and improve key issues such as labor and sourcing.”<br />
“By 2020, innovation will play a bigger role in Thai Union’s business and<br />
is expected to contribute 10% of the company’s total sales projected at USD<br />
8 billion,” said Dr.Tunyawat Kasemsuwan, global innovation director at Thai<br />
Union.<br />
Today, Thai Union has grown into a global seafood company with more<br />
than 49,000 employees worldwide. The company has grown a portfolio of<br />
highly-respected seafood brands and has production facilities around the<br />
world with annual sales exceeding USD 3.7 billion. Over 70% of the company’s<br />
total sales come from the U.S. and Europe.<br />
“Looking forward, we will continue to make progress and use our<br />
leadership position and collective strengths to face down and resolve the<br />
challenges that confront us. I take great solace in the belief that, at Thai<br />
Union, we have the right people in the right places, poised to do our part in<br />
making a real and transformative impact for future generations. We look<br />
forward to the next 40 years.” said Thai Union’s CEO.<br />
JAN <strong>2018</strong><br />
FOOD FOCUS THAILAND<br />
59
SURROUNDS<br />
Samut Sakhon<br />
Understanding Import-Export of Fishery Industry<br />
ภาควิชาผลิตภัณฑ์ประมง คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดการอบรม<br />
เชิงปฏิบัติการในหัวข้อ “ก้าวทันการนำเข้า-ส่งออกอุตสาหกรรมการแปรรูปสัตว์น้ำ” ภายใต้<br />
หลักสูตรการจัดการผลผลิตประมงหลังการจับสัตว์น้ำเพื่อเพิ่มมูลค่า ณ ห้องโชติกา โรงแรม<br />
เซ็นทรัลเพลส เมื่อเร็วๆ นี้ โดยได้รับเกียรติจาก รองศาสตราจารย์ ดร.เชษฐพงษ์ เมฆสัมพันธ์<br />
คณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวเปิดงาน รองศาสตราจารย์ ดร.วันชัย<br />
วรวัฒนเมธีกุล หัวหน้าโครงการฯ กล่าวรายงาน และได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้มีความรู้<br />
ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์จากหลากหลายหน่วยงาน อาทิ สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือ-<br />
แห่งประเทศไทย กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ศูนย์วิจัยและตรวจสอบคุณภาพ<br />
สินค้าประมง สมุทรสาคร และสำนักอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา<br />
ร่วมบรรยาย<br />
ในโอกาสนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.เชษฐพงษ์ กล่าวว่า การจัดอบรมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้<br />
มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ประกอบการในภาคอุตสาหกรรมประมงได้รับทราบถึงกฎระเบียบต่างๆ<br />
ที่เกี่ยวข้อง โดยทางคณะประมงได้ร่วมมือกับกรมประมงในการระดมสมองเรื่องการออก<br />
กฎระเบียบและกฎหมายต่างๆ ผ่านทางการให้ความรู้กับผู้ประกอบการในชุมชน เพื่อให้<br />
ผู้ประกอบการสามารถปรับตัวเข้าสู่มาตรฐานต่างๆ อาทิ กฎหมายควบคุมเครื่องมือประมง<br />
โดยควบคุมขนาดความกว้างของตาอวน เพื่อควบคุมขนาดของปลาที่จับได้ รวมทั้งการให้<br />
คำแนะนำว่าเครื่องมือใดที่จะเหมาะกับการจับสัตว์น้ำในช่วงฤดูใด น่านน้ำใด นอกจากนี้ยัง<br />
ร่วมกันจัดทำมาตรการควบคุมการทำประมงหลังเปิดอ่าว ซึ่งจะช่วยให้เกิดการใช้ประโยชน์<br />
จากทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและเป็นแนวทางหนึ่งเพื่อรักษาทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างยั่งยืน<br />
“แนวโน้มของอุตสาหกรรมประมง คือ การเพิ่มมูลค่าให้กับวัตถุดิบสัตว์น้ำที่จับขึ้นมา<br />
โดยเป็นการเพิ่มมูลค่าทั้งในด้านผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ ซึ่งจำเป็นต้องมีการส่งเสริม<br />
อย่างทั่วถึง ยกตัวอย่างเช่น การสนับสนุนผู้ประกอบการในระดับ SMEs ให้สามารถต่อยอดได้<br />
โดย SMEs จำเป็นต้องมีพี ่เลี้ยง” รองศาสตราจารย์ ดร.เชษฐพงษ์ กล่าว พร้อมเสริมว่า<br />
คณะประมงจะเป็นเสมือนพี่เลี้ยง โดยเลือกชุมชนที่มีความเข้มแข็งในระดับหนึ ่ง ยกตัวอย่าง<br />
ชุมชนต้นแบบ เช่น บ้านจมูกโพรง อำเภอหลังสวน จังหวัดชุมพร แล้วเข้าไปให้ความรู้กับชุมชน<br />
เพื่อช่วยยกระดับสินค้าสัตว์น้ำในชุมชนให้เป็นสินค้าเกรดพรีเมียม ซึ่งทางคณะประมงได้ดำเนินการ<br />
ในเรื่องนี้มากว่า 6 ปีแล้ว<br />
นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องวิกฤตปลานิลที่ปัจจุบันมีปริมาณปลานิลล้นตลาด ส่งผลให้<br />
ราคาปลานิลตกต่ำ จึงควรมีการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรรับทราบถึงข้อมูลความเคลื่อนไหว<br />
ของกลไกตลาด เพื่อประกอบการตัดสินใจและลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นอีกด้วย<br />
ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปัทมา ระตะนะอาพร หัวหน้าภาควิชาผลิตภัณฑ์ประมง กล่าวว่า<br />
กลุ่มงานวิจัยของภาควิชาฯ สามารถแบ่งได้เป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ (1) การพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ<br />
(2) การใช้ประโยชน์จากเศษเหลือในอุตสาหกรรมสัตว์น้ำ อาทิ การสกัดสารแอสตาแซนธีน<br />
จากเปลือกกุ้งขาว สารสกัดกลิ่นรสจากหัวกุ้ง (3) อาหารปลอดภัย และ (4) การแก้ปัญหา<br />
เฉพาะเรื่องในกระบวนการผลิต อาทิ การเพิ่มผลผลิต การปรับเปลี่ยนส่วนผสมอาหาร เป็นต้น<br />
ภาควิชาผลิตภัณฑ์ประมงมีการเรียนการสอนและการทำวิจัยด้านผลิตภัณฑ์ประมง<br />
มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในสาขาเคมี ชีวเคมีของสัตว์น้ำและผลิตภัณฑ์ จุลชีววิทยาและ<br />
เทคโนโลยีชีวภาพของผลิตภัณฑ์ประมง การดูแลระหว่างการจับ ขนส่ง และหลังการจับสัตว์<br />
น ้ำ การแปรรูปผลิตภัณฑ์ประมง การพัฒนาผลิตภัณฑ์ประมง และการประกันคุณภาพ<br />
ผลิตภัณฑ์ประมง การใช้ประโยชน์จากเศษเหลือของผลิตภัณฑ์ประมง และการผลิตผลิตภัณฑ์<br />
ที่ไม่ใช่อาหารจากผลิตผลทางการประมง<br />
ทั้งนี้ ประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกผลิตภัณฑ์ประมงเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากจีน นอร์เวย์<br />
และเวียดนาม โดยมีมูลค่าการส่งออกมากกว่า 2 แสนล้านบาทต่อปี โดยสินค้าสำคัญในการ<br />
ส่งออก ได้แก่ กุ้งสดแช่เย็นและแช่แข็ง เนื้อปลาสดแช่เย็นและแช่แข็ง สัตว์น้ำบรรจุกระป๋อง<br />
เป็นต้น<br />
www.fish.ku.ac.th<br />
The Department of Fishery Products, Faculty of Fisheries, Kasetsart<br />
University held an operational training under the topic “Understanding<br />
Import-Export of Fishery Industry” as part of value-added fishery<br />
management program at Chotika Room, Central Place Hotel. The training<br />
was honored by Associate Professor Dr.Shettapong Meksumpun, Dean of<br />
Faculty of Fisheries, Kasetsart University, who gave an opening remark,<br />
along with Associate Professor Dr.Wanchai Worawattanamateekul, who<br />
made the opening report. <strong>No</strong>t only that, the event welcomed knowledgable<br />
and experienced guest speakers from Thai National Shippers’ Council; the<br />
Department of Fisheries, Ministry of Agriculture and Cooperatives; Samut<br />
Sakhon Fisheries Research and Quality Assessment; and Bureau of Food,<br />
Food and Drug Administration.<br />
On this occasion, Associate Professor Dr.Shettapong, stated that this<br />
operational training aims to enhance entrepreneurs in the fishery industry<br />
with awareness regarding related rules and regulations. So far, the Faculty<br />
of Fisheries has, along with the Department of Fisheries, brainstormed<br />
about the enforcement of new rules and regulations, transferred knowledge<br />
to local communities to help them adjust to new laws such as fishing gear<br />
control regulation which controls the size of the fishnets, as well as advised<br />
them what tool is suitable for fishing in each season and each territorial<br />
waters. Moreover, the two organizations worked on fishing control measure<br />
after the reopening of the gulf, which would effectively utilized natural<br />
resources and sustainably preserve aquaculture resources.<br />
“The trend in the fishery industry is to add value to the captured aquatic<br />
animals, both in terms of product and packaging, and it must be promoted<br />
thoroughly. Promoting SMEs to be able to enhance this strategy, for<br />
example, is necessary and they must be provided with a mentor”, said<br />
Associate Professor Dr.Shettapong. He also added that the Faculty of<br />
Fisheries will be a mentor for particularly strong communities. Ban Cha-<br />
Mook-Prong in Lang Suan district, Chumphon province, remarkably, is a<br />
prototype village where the faculty has engaged with to improve the quality<br />
of local fishery products to become premium grade, therefore, add value<br />
to the goods. The faculty has engaged in this project for more than 6 years.<br />
Moreover, the tilapia crisis occurred from the oversupply, which lowered<br />
the fish’s price, must be reported so that farmers are informed about the<br />
market movement and make less risky decision.<br />
Assistant Professor Dr.Pattama Ratanaarporn, Head of Department<br />
of Fishery Products, informed that the department’s researches are divided<br />
into 4 groups; (1) aquatic animal product development, (2) utilization of<br />
waste from aquatic animal processing such as Astaxanthin extract from<br />
white shrimp shell and flavor extraction from shrimp’s head, (3) food safety,<br />
and (4) emergency problem solving in food processing, e.g. how to increase<br />
yield and ingredients modification.<br />
Department of Fishery Products is responsible for the teaching and<br />
conducting research in the area of chemistry and biochemistry, microbiology<br />
and biotechnology, post-harvest, processing, product development,<br />
engineering, quality control and quality assurance of fishery products,<br />
fishery products utilizations and non-food product from fishery produce.<br />
<strong>No</strong>tably, Thailand is the 4 th biggest exporter of fishery products, following<br />
China, <strong>No</strong>rway, and Vietnam. Its annual export value is worth more than<br />
THB200 billion from the export of chilled and frozen shrimp, chilled and<br />
frozen fish fillet, canned seafood, etc.<br />
60 FOOD FOCUS THAILAND JAN <strong>2018</strong>
SURROUNDS<br />
Bangkok, 19 December 2017<br />
www.mitrphol.com, www.olamgroup.com<br />
Mitr Phol Group and Olam International in Joint Venture for Integrated Sugar Milling and Refining in Indonesia<br />
กลุ่มมิตรผล ผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก และอันดับ 1<br />
ของเอเชีย นำโดยคุณกฤษฎา มนเทียรวิเชียรฉาย (ที่ 2 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่<br />
บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ และคุณบรรเทิง ว่องกุศลกิจ (ซ้าย) ประธาน<br />
เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ จับมือกับ บริษัท โอแลม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด<br />
(โอแลม) หนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจการเกษตรซึ่งดำเนินธุรกิจใน 70 กว่าประเทศ<br />
ทั่วโลก นำโดย Mr.Sunny George Verghese (ที่ 2 จากขวา) ประธานกลุ่ม<br />
เจ้าหน้าที่บริหาร และ Mr.Shekhar Anantharaman (ขวา) ประธานกลุ่ม<br />
เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ ในพิธีลงนามการร่วมทุนในธุรกิจน้ำตาลกับโอแลม<br />
โดยกลุ่มมิตรผลเข้าถือหุ้นร้อยละ 50 ในบริษัท ฟาร์อีสต์ อะกริ จำกัด ของ<br />
โอแลม ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจโรงงานน้ำตาลรีไฟน์ในอินโดนีเชีย ภายใต้ชื่อ<br />
PT Dharmapala Usaha Sukses ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนกลางของเกาะชวา<br />
สำหรับการก่อสร้างโรงงานน้ำตาลทรายแห่งใหม่นี้ คาดว่าจะเสร็จพร้อมเปิด<br />
ดำเนินการได้ภายในปี 2563 โดยจะรับซื้ออ้อยจากชาวไร่อ้อยในพื้นที่ส่งเสริม<br />
รอบโรงงานได้ถึงปีละ 1.2 ล้านตัน การร่วมทุนครั้งนี ้กลุ่มมิตรผลยังคงให้<br />
ความสำคัญในการพัฒนาเกษตรกรชาวไร่อ้อย ด้วยการนำปรัชญาการดำเนิน<br />
ธุรกิจของกลุ่มซึ ่งเป็นแนวทางเดียวกันกับที่โอแลมนำมาใช้ดูแลเกษตรกร<br />
ตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจในอินโดนีเซียตั้งแต่ปี 2539<br />
Bangkok, 1 <strong>January</strong> <strong>2018</strong><br />
Mitr Phol Group (Mitr Phol), the<br />
world’s fourth largest and Asia’s largest<br />
sugar producer led by Mr.Krisda<br />
Monthienvichienchai (2 nd from left),<br />
Chief Executive Officer and President<br />
and Mr.Buntoeng Vongkusolkit (left),<br />
Chief Operating Officer, announced a<br />
strategic partnership with Olam International Limited (Olam), a leading<br />
agri-business operating across the value chain in 70 countries led<br />
by Mr.Sunny George Verghese (2 nd from right), Group Chief Executive<br />
Officer and Mr.Shekhar Anantharaman (right), Group Chief Operating<br />
Officer, in joint venture for investment in Olam’s sugar business in<br />
Indonesia. Mitr Phol will acquire a 50% stake in Olam’s wholly-owned<br />
subsidiary Far East Agri, which operates, PT Dharmapala Usaha<br />
Sukses, a sugar refinery in Cilacap, Central Java.<br />
The new sugar milling plant is expected to be completed and<br />
begin operations in 2020. Upon completion, the sugar mill will source<br />
up to 1.2 million metric tonnes of cane from farmers. In addition to<br />
the joint venture, Mitr Phol will join Olam’s programme of extending<br />
Good Agricultural Practices to farmers across Indonesia, which has<br />
been in place since Olam entered the country in 1996.<br />
www.anton-paar.co.th<br />
Anton Paar - Starting Operation in Bangkok on <strong>January</strong> 1 st , <strong>2018</strong><br />
กว่าทศวรรษแล้วที่ Anton Paar ได้ดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนา<br />
ผลิต และจัดจำหน่ายอุปกรณ์และเครื่องมือสำหรับห้องปฏิบัติการ รวมถึง<br />
ให้บริการระบบการวัดและควบคุมกระบวนการซึ่งใช้ในการตรวจวิเคราะห์<br />
สินค้า ตรวจวัดคุณภาพ และงานวิจัย ตลอดจนการผลิตในระดับอุตสาหกรรม<br />
อาหาร สำหรับด้านอุตสาหกรรมเครื่องดื่มนั้นก็ได้มีทีมผู้เชี่ยวชาญที่สามารถ<br />
ตรวจวิเคราะห์พารามิเตอร์ที่สำคัญด้านงานควบคุมคุณภาพและงานวิจัย<br />
พัฒนาสินค้าได้มากกว่า 14 รายการ นอกจากนี้ บริษัทยังมีสินค้าที่หลากหลาย<br />
ตั้งแต่เครื่องมือตรวจวัดแบบพกพาสำหรับการทดลองในระบบปฏิบัติการ<br />
อัตโนมัติที่ใช้ความแม่นยำสูง หรือเทคโนโลยีการวัดและควบคุมกระบวนการผลิต<br />
ไปจนถึงระบบการปฏิบัติการในรายอุตสาหกรรมที่มีความเฉพาะอีกด้วย<br />
นอกจากนี้ Anton Paar ยังเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีเครื่องมือวัดความหนาแน่น<br />
และความเข้มข้น รวมถึงการตรวจวัดความหนืดของของเหลว และตรวจวัด<br />
ค่าคาร์บอนไดออกไซด์ที่ละลายในของเหลวหรือเครื่องดื่มต่างๆ<br />
หลังจากที่ Anton Paar ได้ทำการเปิดสำนักงานสาขาในประเทศไทย<br />
อย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วนั้น ทีมผู้เชี่ยวชาญจะเข้าให้บริการและ<br />
ให้ความช่วยเหลือด้านแอพพลิเคชันที่ครอบคลุมสำหรับกลุ่มลูกค้าในพื้นที่<br />
นำโดย คุณดวงรัตน์ วุนวิริยะกิจ ซึ่งยินดีให้บริการสาธิตการใช้งานเครื่องมือต่างๆ<br />
สำหรับลูกค้า ณ สำนักงานในประเทศไทย และสามารถติดต่อสำนักงาน<br />
ได้ตามที่อยู่ ดังนี้<br />
บริษัท แอนตัน พาร์ (ประเทศไทย) จำกัด เลขที่ 90 อาคาร ซีดับเบิ้ลยู<br />
ทาวเวอร์ ชั้น 39 ยูนิตเลขที่ A3902 ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง<br />
เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ อีเมล์ info.th@anton-paar.com โทรศัพท์<br />
0 2153 9785 หรือเยี่ยมชมสินค้าและการบริการเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์<br />
www.anton-paar.co.th<br />
For many decades, Anton Paar has been developing, producing,<br />
and distributing laboratory instruments and process measuring<br />
systems which are used in the examination of incoming goods, quality<br />
control, and research throughout production in the food industry. In<br />
the beverage industry, specialists can analyze more than 14 of the<br />
most important parameters for quality control and R&D. The product<br />
portfolio ranges from portable measuring instruments over highprecision<br />
automated laboratory or process measurement technology<br />
to individual, industry-specific solutions. Furthermore, Anton Paar is<br />
the world leader in the measurement of density and concentration,<br />
as well as in rheometry, and the determination of dissolved carbon<br />
dioxide.<br />
After opening our new subsidiary in Thailand, specialists from<br />
Anton Paar will provide service and extensive application support for<br />
you in your area. Our entire team led by Duangrat Woonwiriyakit<br />
looks forward to welcoming you to the new office to demonstrate our<br />
instruments:<br />
Anton Paar (Thailand) Ltd. <strong>No</strong>. 90 CW Tower, 39 th Floor, Unit <strong>No</strong>.<br />
A3902, Ratchadapisek Road, Huai Khwang Sub-District, Huai<br />
Khwang District, Bangkok 10310, Email: info.th@anton-paar.com,<br />
Office telephone: +66 2 153 9785. Discover all Anton Paar instruments,<br />
applications, and services at www.anton-paar.co.th<br />
JAN <strong>2018</strong><br />
FOOD FOCUS THAILAND<br />
61
U SHARE. V CARE.<br />
<strong>January</strong><br />
Let us know which Service info you interested in, please inform<br />
Should you have any enquiries, please inform us the service info code (s)<br />
Advertisement<br />
B<br />
B<br />
B<br />
B<br />
Article<br />
C<br />
C<br />
C<br />
C<br />
Product<br />
P<br />
P<br />
P<br />
P<br />
Please share your comment with us!<br />
Please fill in the form in ENGLISH<br />
Name-Surname:<br />
Position:<br />
Flashlights - Make Your Life Shine!<br />
(Only 2 Lucky Winners)<br />
Bluetooth Speakers -<br />
Happy Sound in a Box!<br />
(Only 3 Lucky Winners<br />
<strong>No</strong>te: This picture is for advertising only.<br />
Company Name:<br />
Company Address:<br />
Tel:<br />
Fax:<br />
E-mail:<br />
Website:<br />
We look forward to your feedback and suggestions.<br />
editor@foodfocusthailand.com, contact@foodfocusthailand.com<br />
+66 2116 5732<br />
The winner of U Share. V Care. in NOVEMBER 2017<br />
1. Phanadda Tangsunawan<br />
Head of Laboratory, Chaiyaphum Plant Product Co., Ltd.<br />
2. Prasit Jarupokkul<br />
Vice President, May Ao Foods Co., Ltd.<br />
3. Sudarat Suwanrattanadej<br />
R&D, Taveephol Product Co., Ltd.<br />
The gift will be delivered to you by post. Thank you.<br />
Smart T-Shirt By Food Focus Thailand 3 Lucky Winners
Understanding >> Accessing >> Developing<br />
For the processes of Foods, Pharmaceuticals,<br />
Beverages, Cosmetics, Feed mills, Petrochemicals,<br />
Plastic and other type of processes.<br />
✓ Powder Process<br />
✓ Fabrication<br />
✓ Piping Service<br />
✓ Utility<br />
✓ Process Machine<br />
✓ Automation<br />
Fabrication<br />
Powder Process<br />
Cup Sealing Machine<br />
Piping Service & Utility<br />
Process Machine<br />
SoliValve ® Evapor ®<br />
Dhawath Technology Systems Co., Ltd.<br />
2 Moo. 3 Lumlukka, Lumlukka, Pathumthani 12150<br />
Tel: +662 5495508 Fax: +662 5495500 E-mail: Sales@dhawathsystems.co.th<br />
www.dhawathsystems.co.th www.facebook.com/dhawathsystems<br />
“Help You to Feed the World”
Change language