Circulatory system
Create successful ePaper yourself
Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.
ระบบหมุนเวียนเลือด<br />
(Circulation System)<br />
1
เนื้อหาและเวลาที่ใช้สอน<br />
• การล าเลียงสารในร่างกายของสัตว์ 2 ชั่วโมง<br />
(circulation in animals)<br />
• การล าเลียงสารในร่างกายคน 6 ชั่วโมง<br />
(circulation in human body)<br />
• ระบบน าเหลือง (Lymphatic <strong>system</strong>) 1 ชั่วโมง<br />
• ระบบภูมิคุ้มกัน (Immune <strong>system</strong>) 3 ชั่วโมง<br />
รวม 12 ชั่วโมง<br />
2
จุดประสงค์การเรียนรู้<br />
• สืบค้นข้อมูล ทดลอง อภิปราย และอธิบายการล าเลียงสารในร่างกายของสัตว์บางชนิด<br />
• สืบค้นข้อมูล ทดลอง อภิปราย และสรุปเกี่ยวกับการล าเลียงสารในร่างกายคน<br />
• สืบค้นข้อมูล ทดลอง อภิปราย และสรุปเกี่ยวกับส่วนประกอบและหน้าที่ของเลือด<br />
• สืบค้นข้อมูล อภิปราย และสรุปเกี่ยวกับระบบน าเหลือง ระบบภูมิคุ้มกัน และกลไกการ<br />
สร้างภูมิคุ้มกัน<br />
• สืบค้นข้อมูล อภิปราย สรุป และจัดแสดงผลงานเกี่ยวกับการศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการ<br />
ท างานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย<br />
3
การล าเลียงสารในร่างกายของสัตว์<br />
(Circulation in animals)<br />
4
Circulation in animals<br />
Sponge<br />
Hydra<br />
สิ่งมีชีวิตชั้นต่ า<br />
Planaria<br />
รูปจาก http://slideplayer.com/slide/10416529/<br />
รูปจาก http://slideplayer.com/slide/9117144/<br />
สิ่งมีชีวิตชั้นต่ าสามารถแลกเปลี่ยนสารกับสภาพแวดล้อมโดยตรง<br />
5
Circulation in animals<br />
สัตว์ที่มีโครงสร้างซับซ้อน : ระบบหมุนเวียนแบบปิด (close circulatory <strong>system</strong>)<br />
ไส้เดือนดิน (earthworm)<br />
หัวใจ<br />
pseudoheart (Heart)<br />
Blood<br />
Blood vessels<br />
(หลอดเลือด)<br />
Interstitial fluid<br />
(ของเหลวภายในร่างกาย)<br />
Small blood vessels<br />
(หลอดเลือดขนาดเล็ก)<br />
ช่องว่าภายในล าตัว<br />
แก้ไขจาก Campbell Biology 9 th Edition @2011 Pearson Education.<br />
Pseudohearts Blood vessels<br />
(หัวใจเทียม) 6
Circulation in animals<br />
สัตว์ที่มีโครงสร้างซับซ้อน : ระบบหมุนเวียนแบบเปิด (open circulatory <strong>system</strong>)<br />
ตั๊กแตน (grasshopper)<br />
Heart<br />
Hemolymph in sinuses<br />
surrounding organs<br />
ช่องว่าภายในล าตัว<br />
แก้ไขจาก Campbell Biology 9 th Edition @2011 Pearson Education.<br />
Heart<br />
7
Circulation in animals<br />
สัตว์ที่มีโครงสร้างซับซ้อน : ระบบหมุนเวียนแบบเปิด (open circulatory <strong>system</strong>)<br />
กุ้ง (shrimp)<br />
เส้นเลือดฝอยบริเวณเหงือก (gill capillaries)<br />
ช่องว่าภายในล าตัว<br />
รูปจาก https://www.slideshare.net/kleinkea/chapter-9-arthropods<br />
8
Circulation in animals<br />
Open circulatory <strong>system</strong><br />
Close circulatory <strong>system</strong><br />
Heart<br />
Heart<br />
Hemolymph in sinuses<br />
surrounding organs<br />
Interstitial<br />
fluid<br />
Blood<br />
Small branch vessels<br />
In each organ<br />
- เลือดไม่ได้ไหลเวียนในหลอดเลือด<br />
ตลอดเวลา<br />
- พบในแมลง (arthropod)<br />
- เลือดไหลเวียนในหลอดเลือด<br />
ตลอดเวลา<br />
- พบในสัตว์มีกระดูกสันหลัง<br />
ไส้เดือนดิน และหมึก<br />
แก้ไขจาก Campbell Biology 9 th Edition @2011 Pearson Education. Inc<br />
9
Circulation in animals<br />
ระบบหมุนเวียนของสัตว์มีกระดูกสันหลัง (vertebrate)<br />
เส้นเลือดฝอยบริเวณเหงือก<br />
(gill capillaries)<br />
Heart<br />
Artery<br />
Ventricle<br />
Atrium<br />
Vein<br />
Gill circulation<br />
Systemic<br />
circulation<br />
เส้นเลือดฝอยบริเวณเหงือก<br />
(<strong>system</strong>ic capillaries)<br />
แก้ไขจาก Campbell Biology 9 th Edition @2011 Pearson Education. Inc<br />
10
การล าเลียงสารในร่างกายคน<br />
(Circulation in Human Body)<br />
11
Circulation in Human Body<br />
2. Blood vessels<br />
1. Heart<br />
รูปจาก https://www.tmjsleepcentresfv.com/services/sleep-apnea-treatment/<br />
12
Heart<br />
Circulation in Human Body<br />
ถุงเยื่อหุ้มหัวใจ (pericardium) มีของเหลวท าหน้าที่หล่อลื่น และป้องกันการเสียดสีระหว่างหัวใจกับปอด<br />
เส้นเลือดที่น าเลือดมาเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ<br />
13
Heart<br />
Circulation in Human Body<br />
Heart ประกอบด้วยเนื อเยื่อ 3 ชั น<br />
Pericardium<br />
1. ชั้นนอก (epicardium)<br />
2. ชั้นกลาง (Myocardium)<br />
เป็นชั นของกล้ามเนื้อหัวใจ<br />
(cardiac muscle)<br />
3. ชั้นใน (endocardium)<br />
14
Circulation in Human Body<br />
Heart<br />
ซุพีเรียเวนาคาวา<br />
(superior vena cava)<br />
พัลโมนารีอาร์เตอรีขวา<br />
(right pulmonary artery)<br />
เอเตรียมขวา (right atrium)<br />
พัลโมนารีเวนขวา<br />
(right pulmonary veins)<br />
ลิ้นเซมิลูนาร์วาล์ว<br />
(semilunar valve)<br />
ลิ้นไตรคัสปิด<br />
(tricuspid valve)<br />
เวนตริเคิลขวา (right ventricle)<br />
โครงสร้างของหัวใจ<br />
เอออร์ตา (aorta)<br />
พัลโมนารีอาร์เตอรี<br />
(pulmonary artery)<br />
พัลโมนารีอาร์เตอรีซ้าย<br />
(left pulmonary artery)<br />
พัลโมนารีเวนซ้าย<br />
(left pulmonary veins)<br />
เอเตรียมซ้าย (left atrium)<br />
ลิ้นเซมิลูนาร์วาล์ว<br />
(semilunar valve)<br />
ลิ้นไบคัสปิด<br />
(bicuspid valve)<br />
เวนตริเคิลซ้าย (left ventricle)<br />
อินฟีเรียเวนาคาวา (inferior vena cava)<br />
แก้ไขจาก Campbell Biology 9 th Edition @2011 Pearson Education. Inc<br />
15
Circulation in Human Body<br />
Heart<br />
ในการหมุนเวียนเลือดบริเวณ heart จ าแนกหลอดเลือดออกเป็น 2 ประเภท<br />
1. หลอดเลือดอาร์เตอรี<br />
(arterial blood vessel)<br />
Heart<br />
2. หลอดเลือดเวน<br />
(venous blood vessel)<br />
Tissue<br />
แก้ไขจาก Campbell Biology 9 th Edition @2011 Pearson Education. Inc<br />
16
Circulation in Human Body<br />
Heart<br />
Right pulmonary artery<br />
Superior vena cava<br />
Right atrium)<br />
Right pulmonary veins<br />
การหมุนเลียนเลือดในหัวใจ<br />
Aorta<br />
Pulmonary artery<br />
Left pulmonary artery<br />
Left atrium<br />
Left pulmonary veins<br />
Aortic semilunar valve<br />
Tricuspid valve<br />
Right ventricle<br />
Semilunar valve<br />
Bicuspid valve<br />
Left ventricle<br />
Inferior vena cava<br />
แก้ไขจาก Campbell Biology 9 th Edition @2011 Pearson Education. Inc<br />
17
Circulation in Human Body<br />
Heart<br />
การหมุนเลียนเลือดในหัวใจ<br />
7<br />
Superior vena cava<br />
Capillaries of<br />
head and forelimbs<br />
Pulmonary artery<br />
Capillaries<br />
of right lung<br />
Pulmonary vein<br />
3<br />
9<br />
11<br />
Aorta<br />
6<br />
2<br />
4<br />
3<br />
Pulmonary artery<br />
Capillaries<br />
of left lung<br />
Pulmonary vein<br />
Right atrium<br />
Right ventricle<br />
10<br />
1<br />
5<br />
Left atrium<br />
Left ventricle<br />
Aorta<br />
Inferior vena cava<br />
แก้ไขจาก Campbell Biology 9 th Edition @2011 Pearson Education. Inc<br />
8<br />
Capillaries of<br />
abdominal organs<br />
and hind limbs<br />
18
Circulation in Human Body<br />
Heart<br />
อัตราการเต้นของหัวใจ<br />
กล้ามเนื อหัวใจหัวใจหดตัวและคลายตัวเป็นจังหวะ เรียกว่า ชีพจร (pulse)<br />
- วัดได้ที่หลอดเลือด artery<br />
- นับจ านวนครั งต่อ 1 นาที<br />
- อัตราการเต้นของหัวใจของคนปกติอยู่ที่ 60-100 ครั งต่อนาที<br />
https://www.choc.org/heart/cardiac-catheterization-program/electrophysiology-program/electrocardiograms/<br />
http://www.wyomingnews.com/news/wyoming-s-medical-board-websi<br />
-low-score-from-report/article_2274922c-14-eb76023e3373.html<br />
ตรวจการเปลี่ยนแปลงความต่างศักย์ไฟฟ้าของ<br />
หัวใจ (electrocardiography) ผลการวัดออกมาเป็น<br />
กราฟ เรียกว่า คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (ECG หรือ EKG)<br />
19
Circulation in Human Body<br />
Heart<br />
ความดันโลหิต<br />
http://www.bbvitamin.com/%E0%B8%84%E0%B8%A7<br />
Blood pressure<br />
- วัดจากหลอดเลือด Artery ที่บริเวณต้นแขน<br />
- ผลการวัดความดันโลหิตในผู้ใหญ่ที่ปกติ เท่ากับ<br />
120/80 mmHg<br />
120 : ค่าความดันเลือดสูงสุดขณะหัวใจบีบตัว<br />
เรียกว่า systolic pressure<br />
80 : ค่าความดันเลือดขณะหัวใจคลายตัว<br />
เรียกว่า diastolic pressure<br />
https://pantip.com/topic/30897843<br />
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความดันเลือด เช่น อายุ เพศ อารมณ์<br />
น าหนัก อาหาร สภาพอากาศ และสภาพร่างกาย เป็นต้น<br />
20
Circulation in Human Body<br />
Heart<br />
ความผิดปกติของหัวใจ<br />
1. โรคหัวใจขาดเลือด<br />
(ischemic heart disease)<br />
หลอดเลือดหัวใจตีบและแข็ง<br />
(atherosclerosis)<br />
- ความดันเลือดสูง<br />
- ภาวะไขมันในเลือดสูง<br />
- โรคเบาหวาน<br />
- สูบบุหรี่<br />
2. โรคลิ้นหัวใจผิดปกติ<br />
(heart valve disease)<br />
- โรคลิ นหัวใจรั่ว (heart valve regurgitation)<br />
- โรคลิ นหัวใจตีบ (heart valve stenosis)<br />
ท าให้การหมุน<br />
เวียนเลือดมีปัญหา<br />
ภาวะหัวใจล้มเหลว<br />
(Heart failure)<br />
ปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคหัวใจ เช่น สูบบุหรี่ ดื่มสุรา<br />
เสพสารเสพติด การบริโภคอาหาร และการออกก าลังกาย http://www.greaterkashmir.com/news/jammu/two-vaishno-<br />
21<br />
devi-pilgrims-die-of-heart-attack-in-jammu/188859.html
Circulation in Human Body<br />
Heart<br />
Artificial pace maker<br />
เครื่องกระตุ้นการเต้นของหัวใจ (artificial pace maker)<br />
https://medlineplus.gov/ency/article/007369.htm<br />
ท าให้เกิดสัญญาณไฟฟ้า ไปกระตุ้นกล้ามเนื อหัวใจให้ท างานเป็นปกติ<br />
22
Blood vessels<br />
Circulation in Human Body<br />
Blood vessel แบ่งเป็น 3 ประเภท ดังนี<br />
ประเภทย่อยแบ่งแตามขนาด<br />
ประเภทหลัก ขนาดใหญ่ที่สุด ขนาดเล็ก ขนาดเล็กที่สุด<br />
1. หลอดเลือดอาร์เตอรี (arterial blood vessel) Aorta Arteriole Capillaries<br />
1.<br />
2.<br />
2. หลอดเลือดเวน (venous blood vessel) Vena cava Venule Capillaries<br />
3.<br />
Aorta Arteriole capillary<br />
Vena cava<br />
Venule<br />
capillary<br />
23
Blood vessels<br />
1. หลอดเลือด artery<br />
Circulation in Human Body<br />
เป็นหลอดเลือดขนาดใหญ่มีผนังหนา<br />
ประกอบด้วยเนื อเยื่อ 3 ชั นได้แก่<br />
1. เนื อเยื่อบุผิวชั นใน (endothelium)<br />
2. เนื อเยื่อกล้ามเนื อ (smooth muscle)<br />
3. เนื อเยื่อเกี่ยวพัน (connective tissue)<br />
แก้ไขจาก Campbell Biology 9 th Edition @2011 Pearson Education. Inc<br />
หลอดเลือดอาร์เทอรีที่มีขนาดใหญ่จะมีผนังที่มีความยืดหยุ่นดีมาก โดยเฉพาะ aorta ท าให้สามารถขยายตัวเพื่อ<br />
รับแรงดันเลือดซึ่งเป็นแรงดันที่ค่อนข้างสูง เนื่องจากมีการบีบตัวของ left ventricle ซึ่งมีความส าคัญมากในการปรับ<br />
แรงดันของเลือดมีผลท าให้เลือดไหลไปยังส่วนต่างๆของร่างกาย 24
Blood vessels<br />
2. หลอดเลือด vein<br />
Circulation in Human Body<br />
มีผนัง 3 ชั นเช่นเดียวกับหลอดเลือด artery<br />
แต่มีผนังบางกว่าจึงมีความยืดหยุ่นน้อยกว่า<br />
ภายในมีลิ น (valve) อยู่เป็นระยะ<br />
http://womansvibe.com/three-amazing-home-remedies-treat-varicose-veins-naturally-2/<br />
แก้ไขจาก Campbell Biology 9 th Edition @2011 Pearson Education. Inc<br />
25
Blood vessels<br />
2. หลอดเลือด vein<br />
Circulation in Human Body<br />
Valve (open)<br />
Direction of blood<br />
flow in vein<br />
กล้ามเนื อลาย<br />
(Skeletal muscle)<br />
Valve (closed)<br />
http://ib.bioninja.com.au/standard-level/topic-6-human-physiology/62-the-blood-<strong>system</strong>/veins.html<br />
26
Blood vessels<br />
Circulation in Human Body<br />
3. capillaries<br />
เป็นหลอดเลือดที่มีขนาดเล็ก ผนังบางมาก ประกอบด้วยเนื อเยื่อบุผิวเพียงชั นเดียว<br />
มีเยื่อบาง ๆ หุ้มภายนอกอีกชั นหนึ่ง และมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 8 ไมโครเมตร<br />
สานกันเป็นร่างแหแทรกอยู่ตามเนื อเยื่อทั่วร่างกาย<br />
แก้ไขจาก Campbell Biology 9 th Edition @2011 Pearson Education. Inc<br />
27
Circulation in Human Body<br />
Blood vessels<br />
1.หลอดเลือด Artery<br />
Endothelium<br />
Smooth muscle<br />
Connective<br />
tissue<br />
Artery<br />
Vein<br />
Basal lamina<br />
3. Capillary<br />
2.หลอดเลือด Vein<br />
Valve<br />
Endothelium<br />
Smooth muscle<br />
Connective<br />
tissue<br />
Arteriole<br />
Red blood cell<br />
Capillary<br />
แก้ไขจาก Campbell Biology 9 th Edition @2011 Pearson Education. Inc<br />
Venule<br />
28
Blood<br />
Circulation in Human Body<br />
- ท าหน้าที่น าสารอาหารและแก๊สออกซิเจน (oxygen; O 2 ) ไปให้ cell<br />
และน าของเสียใน cell ไปก าจัดออก<br />
- ในร่างกายคนมีเลือดอยู่ประมาณร้อยละ 7 ถึง 8 ของน าหนักตัว<br />
องค์ประกอบของเลือด<br />
จากการใส่สารเฮพาริน<br />
(heparin) แล้วปั่นแยก<br />
55%<br />
45%<br />
พลาสมา<br />
(plasma)<br />
เซลล์เม็ดเลือด<br />
(blood cell)<br />
และ<br />
เพลตเลต<br />
(platelet)<br />
29
Circulation in Human Body<br />
Blood<br />
blood cells, hemocytes, hematocytes<br />
45%<br />
Separated<br />
blood elements<br />
Cell type<br />
Cellular elements<br />
Number<br />
per L (mm 3 ) of blood<br />
Erythrocytes<br />
(red blood cells) 5–6 million<br />
Leukocytes<br />
(white blood cells)<br />
Functions<br />
Transport oxygen<br />
and help transport<br />
carbon dioxide<br />
5,000–10,000 Defense and<br />
immunity<br />
Basophil<br />
Lymphocyte<br />
Eosinophil<br />
Platelets<br />
Neutrophil<br />
250,000<br />
400,000<br />
Monocyte<br />
Blood clotting<br />
แก้ไขจาก Campbell Biology 9 th Edition @2011 Pearson Education. Inc<br />
30
Circulation in Human Body<br />
Blood<br />
blood cells, hemocytes, hematocytes<br />
เซลล์เม็ดเลือดแดง<br />
(red blood cells, erythrocytes)<br />
เซลล์เม็ดเลือดขาว<br />
(white blood cells, leukocytes)<br />
แก้ไขจาก https://www.huffingtonpost.com/2013/07/05/white-blood-cells-cancer-spread-metastasis_n_3530154.html<br />
31
Circulation in Human Body<br />
Blood<br />
Red blood cells<br />
ประกอบด้วย ฮีโมโกลบิน (hemoglobin; Hb) ท าหน้าที่รับส่งแก๊ส CO 2 ละแก๊ส O 2<br />
ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่มีธาตุเหล็กเป็น รูปร่างกลมแบนตรงกลางบุ๋ม ไม่มี<br />
องค์ประกอบ มีสีแดง ท าให้มีความสามารถใน nucleus และไม่มี mitochondria<br />
การจับแก๊สต่าง ๆ เช่น O 2 และ CO 2<br />
https://www.medicinenet.com/hemoglobin/article.htm<br />
https://doctorstock.photoshelter.com/image/I0000ZFiibmc7MP0<br />
32
Circulation in Human Body<br />
Blood<br />
Red blood cells<br />
- มีอายุประมาณ 100 - 120 วัน หลังจากนั นจะถูกท าลายที่ ตับ และม้าม<br />
- ในระยะ embryo นั น red blood cells เป็น cell ที่มี nucleus สร้างจาก liver spleen และ<br />
bone marrow<br />
- ตั งแต่ระยะทารกใกล้คลอดจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่จะสร้าง red blood cells เฉพาะใน bone marrow<br />
โดย red blood cells ที่สร้างขึ นใหม่ จะเป็น cells ที่มี nucleus<br />
Liver<br />
ท าลาย<br />
Erythroblast<br />
Erythrocyte<br />
Spleen 33
Circulation in Human Body<br />
Blood<br />
White blood cells<br />
ท าหน้าที่ป้องกัน และท าลายเชื อโรค หรือสิ่งแปลกปลอม มีจ านวนน้อยกว่า red blood cells<br />
สร้าง และเจริญที่ bone marrow แต่บางชนิดจะเจริญในต่อม Thymus มีอายุ 2-3 วัน<br />
White blood cells<br />
Agranulocytes<br />
Granulocytes<br />
https://www.visionlearning.com/es/library/Biologia/2/Blood-Biology-I/242<br />
34
Circulation in Human Body<br />
Blood<br />
White blood cells<br />
1. Agranulocytes<br />
กลุ่มที่ไม่มี granule มี nucleus ขนาดใหญ่ ประกอบด้วย 2 ชนิด คือ<br />
Monocyte, macrophage<br />
Lymphocyte<br />
1. B-lymphocyte (B-cell) สร้างและเจริญในไขกระดูก<br />
2. T-lymphocyte (T-cell) สร้างในไขกระดูก แล้วไปเจริญที่ thymus<br />
ท าหน้าที่เกี่ยวกับ ภูมิคุ้มกัน (Immunity)<br />
35
Blood<br />
Circulation in Human Body<br />
2. Granulocytes<br />
White blood cells<br />
มี granule กระจายอยู่ทั่วไปใน cytoplasm และมี nucleus ขนาดใหญ่คอดเป็น lobe สร้างจาก<br />
bone marrow ลักษณะแตกต่างกันแบ่งเป็น 3 ชนิด คือ Eosinophil, Basophil และ Neutrophil<br />
Neutrophils Eosinophils Basophils<br />
- multilobed nucleus<br />
- pale granules<br />
- phagocytic, target bacteria<br />
- bilobed nucleus<br />
- pink granules<br />
- allergic reaction, target parasites<br />
- obscured nucleus<br />
- purple granules<br />
- mediate inflammation<br />
36
Circulation in Human Body<br />
Blood<br />
โรคที่เกี่ยวกับเลือด<br />
1. โรคเอดส์ (AIDS : Acquired Immune Deficiency Syndrome)<br />
สาเหตุมาจากเชื อ HIV (Human Immunodeficiency Virus) ท าให้<br />
white blood cells โดยเฉพาะ lymphocyte ลดลง<br />
37
Circulation in Human Body<br />
Blood<br />
โรคที่เกี่ยวกับเลือด<br />
2. โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว (leukemia)<br />
เกิดจากการสร้าง white blood cells ที่ bone marrow ผิดปกติ white blood cells ที่<br />
สร้างขึ นไม่สามารถท างานได้อย่างปกติ และเพิ่มจ านวนโดยปราศจากการควบคุมของร่างกาย<br />
38
Circulation in Human Body<br />
Blood<br />
Platelets<br />
มีขนาดเล็กมาก รูปร่างไม่แน่นอน มีอายุประมาณ 10 วัน<br />
https://www.thoughtco.com/role-of-platelets-373385<br />
https://linampn.com/2013/09/06/blood-cancer-awareness-post-6-platelets/<br />
39
Circulation in Human Body<br />
Blood<br />
Blood clotting<br />
http://ib.bioninja.com.au/standard-level/topic-6-human-physiology/63-defence-against-infectio/clotting.html<br />
40
Circulation in Human Body<br />
Blood<br />
ความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด<br />
โรคฮีโมฟิเลีย (hemophilia) มีอาการเลือดไม่แข็งตัว หรือแข็งตัวได้น้อย<br />
http://www.koate-dviusa.com/about-hemophilia-a-pages-13.php<br />
41
Circulation in Human Body<br />
Water<br />
Blood<br />
Constituent<br />
Icons (blood electrolytes<br />
Sodium<br />
Potassium<br />
Calcium<br />
Magnesium<br />
Chloride<br />
Bicarbonate<br />
Plasma proteins<br />
Albumin<br />
Plasma<br />
Fibrinogen<br />
Immunoglobulins<br />
(antibodies)<br />
Major functions<br />
Solvent for<br />
carrying other<br />
substances<br />
Osmotic balance<br />
pH buffering, and<br />
regulation of<br />
membrane<br />
permeability<br />
Osmotic balance,<br />
pH buffering<br />
Clotting<br />
Defense<br />
Substances transported by blood<br />
Nutrients (such as glucose, fatty acids, vitamins)<br />
Waste products of metabolism Respiratory gases<br />
(O 2 and CO 2 ) Hormones<br />
แก้ไขจาก Campbell Biology 9 th Edition @2011 Pearson Education. Inc<br />
Plasma<br />
55%<br />
Separated<br />
blood elements<br />
ท าหน้าที่ล าเลียงสารอาหารที่ย่อยแล้ว<br />
แร่ธาตุ และแอนติบอดี (antibody)<br />
ไปยังส่วนต่าง ๆ ของ ร่างกาย ช่วย<br />
รักษาสมดุลกรด-เบส สมดุลน า และ<br />
รักษาระดับอุณหภูมิของร่างกาย<br />
42
Blood<br />
Circulation in Human Body<br />
หมู่เลือดและการให้เลือด<br />
การจ าแนกหมู่เลือดตามชนิดของ glycoprotein หรือ antigen บนผิว red blood cells<br />
1. หมู่เลือด ABO<br />
43
Circulation in Human Body<br />
Blood<br />
หมู่เลือดและการให้เลือด<br />
2. หมู่เลือดระบบ Rh<br />
หมู่เลือด Rh+ หมู่เลือด Rh-<br />
Antigen Rh<br />
Antibody Rh<br />
ไม่สร้าง antibody Rh<br />
ไม่สร้าง antibody Rh<br />
second time<br />
44
Circulation in Human Body<br />
Blood<br />
หมู่เลือดและการให้เลือด<br />
Erythroblastosis fetalis<br />
Rh- blood Rh+ blood Rh+ antibody<br />
https://www.biologycorner.com/anatomy/blood/notes_bloodtype.html<br />
45
ระบบน้ าเหลือง<br />
(Lymphatic <strong>system</strong>)
Lymphatic System<br />
http://ib.bioninja.com.au/higher-level/topic-11-animal-physiology/111-antibody-production-and/lymphatic-<strong>system</strong>.html<br />
47
Lymphatic System<br />
1. น้ าเหลือง (lymph)<br />
2. หลอดน้ าเหลือง<br />
(lymph vessel)<br />
3. ต่อมน้ าเหลือง<br />
(lymph node)<br />
http://bio1152.nicerweb.com/Locked/media/ch43/lymphatic.html<br />
48
Lymphatic System<br />
Lymph<br />
Lymph คือ ของเหลวที่อยู่รอบ ๆ cell มีองค์ประกอบคล้ายกับ plasma แต่มีโปรตีนน้อย<br />
กว่า ส่วนประกอบของ lymph มีความแตกต่างกันตามอวัยวะที่เป็นแหล่งที่มา ท าหน้าที่ใน<br />
การล าเลียงสารอาหารประเภทไขมันที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่จากช่องว่างระหว่างเซลล์เนื อเยื่อ<br />
https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Illu_lymph_capillary_hr.svg<br />
49
Lymphatic System<br />
Lymph vessel<br />
ท าหน้าที่ ล าเลียงน้ าเหลือง โครงสร้างมี<br />
valve เป็นระยะ ๆ ลักษณะคล้ายกับหลอด<br />
เลือด vein<br />
https://www.slideshare.net/nionoveno/unit-11-lymphatic-<strong>system</strong><br />
http://nekaeportfolio.blogspot.com//objective-38-relate-edema-and-lymph.html<br />
50
ระบบภูมิคุ้มกัน<br />
(Immune <strong>system</strong>)<br />
51
Immune System<br />
https://www.organicfacts.net/home-remedies/15-best-foods-to-boost-your-immune-<strong>system</strong>.html<br />
52
Immune System<br />
อวัยวะและเนื้อเยื่อที่เกี่ยวข้องกับ immune <strong>system</strong><br />
Organs ที่เกี่ยวข้อง<br />
กับ immune <strong>system</strong><br />
Respiratory wall<br />
Tissues ที่เกี่ยวข้อง<br />
กับ immune <strong>system</strong><br />
Skin<br />
Gastrointestinal wall<br />
สร้างและพัฒนา<br />
lymphocytes<br />
ดักจับและท าลาย<br />
สิ่งแปลกปลอม<br />
แก้ไขจาก http://zoology111.pbworks.com/w/page/8550479/Organ%20System%3A%20Lymphatic%20and%20Immune<br />
53
กลไกการสร้างภูมิคุ้มกัน<br />
Immune System<br />
กลไกการต่อต้านหรือท าลายสิ่งแปลกปลอมในร่างกาย<br />
(defense mechanism)<br />
1. กลไกการต่อต้านหรือท าลาย<br />
สิ่งแปลกปลอมแบบไม่จ าเพาะ<br />
(Nonspecific defense)<br />
2. กลไกการต่อต้านหรือท าลาย<br />
สิ่งแปลกปลอมแบบจ าเพาะ<br />
(Specific defense)<br />
First line defense<br />
B-cell response<br />
Second line defense<br />
T-cell response<br />
54
Nonspecific defense<br />
Immune System<br />
First line defense โดยกระบวนการ physical barrier<br />
First line defense<br />
- Keratin protein<br />
- Cells เรียงตัวกันหลายชั น<br />
- ต่อมเหงื่อ<br />
- ต่อมไขมัน<br />
Skin<br />
- Epithelium<br />
ควบคุมการผ่านเข้าออก<br />
- Mucus<br />
- Cilia<br />
- Epithelium<br />
- Mucus<br />
- Acid<br />
- Enzyme<br />
- Normal flora<br />
- Epithelium<br />
- Mucus<br />
http://www.vce.bioninja.com.au/aos-2-detecting-and-respond/defence-against-disease/first-line-of-defence.html<br />
55
Immune System<br />
Nonspecific defense<br />
Second line defense<br />
First line defense โดยกระบวนการ phagocytosis<br />
Blood stream<br />
Phagocytosis<br />
Monocyte<br />
Neutrophil<br />
Tissue<br />
ท าลายหนอนพยาธิ<br />
ด้วย enzyme<br />
Macrophage<br />
Eosinophil<br />
56
Immune System<br />
Nonspecific defense<br />
Second line defense<br />
http://slideplayer.com/slide/4767139/<br />
57
Immune System<br />
Specific defense<br />
การท างานของ B lymphocyte (B-cell)<br />
แก้ไขจาก Campbell Biology 9 th Edition @2011 Pearson Education. Inc<br />
58
Immune System<br />
Specific defense<br />
การท างานของ B lymphocyte (B-cell)<br />
Antigen and antibody<br />
แก้ไขจาก Campbell Biology 9 th Edition @2011 Pearson Education. Inc<br />
59
Immune System<br />
Specific defense<br />
การท างานของ T lymphocyte (T-cell)<br />
1. T helper cells (CD4 + )<br />
60
Immune System<br />
Specific defense<br />
การท างานของ T lymphocyte (T-cell)<br />
2. Cytotoxic T cells (CD8 + )<br />
T-cell บางเซลล์ อาจสร้างสารที่ท าหน้าที่ควบคุมการตอบสนองทางภูมิคุ้มกัน<br />
โดยสร้างสารไปกดการท างานของ B-cell หรือเซลล์อื่น ๆ เรียกว่า suppressor T-cell<br />
61
Specific defense<br />
Immune System<br />
62
Immune System<br />
Immunity<br />
1. ภูมิคุ้มกันก่อเอง<br />
(active immunization)<br />
2. ภูมิคุ้มกันรับมา<br />
(passive immunization)<br />
1.1 วัคซีน (vaccine)<br />
1.2 ทอกซอยด์ (toxoid)<br />
2.1 ซีรัม (serum)<br />
2.3 ส่งผ่านรกจากแม่สู่ลูก<br />
ข้อดี อยู่ได้นาน<br />
ข้อเสีย ใช้ระยะเวลาการสร้าง antibody นาน<br />
ข้อดี ออกฤทธิ์รวดเร็ว<br />
ข้อเสีย อยู่ได้ไม่นาน และอาจเกิดอาการแพ้<br />
63
Immune System<br />
Immunity<br />
Antibody<br />
1. Active immunization<br />
Antigen<br />
B-cell<br />
1.1 Vaccine<br />
Vaccines may contain weakened<br />
or dead microbes = Antigen<br />
https://www.huffingtonpost.com/2014/10/30/college-flu-shots_n_6054946.html<br />
64
Immune System<br />
Immunity<br />
1. Active immunization<br />
toxin<br />
modified<br />
toxin<br />
1.2 Toxoid<br />
antibody<br />
65
Immune System<br />
Immunity<br />
2. Passive immunization<br />
antigen<br />
2.1 Serum<br />
66
Immune System<br />
Immunity<br />
2. Passive immunization<br />
2.2 Through<br />
placenta<br />
placenta<br />
fetus<br />
67
Thank you<br />
for your kind attention
Change language