03.01.2015 Views

AW TEST Audio Quest.indd - Piyanas

AW TEST Audio Quest.indd - Piyanas

AW TEST Audio Quest.indd - Piyanas

SHOW MORE
SHOW LESS

You also want an ePaper? Increase the reach of your titles

YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.

<strong>TEST</strong>REPORT<br />

เรื่อง : ธานี โหมดสงา ภาพ : ปฐวี โอฐสรอยสำอางค<br />

‘..The Colorado & CV-8’s DBS puts a continuous 72<br />

volt potential (DC bias) between the very center of<br />

cable, and an outer shield-like layer. All the dielectric<br />

in-between is fully aligned all the time. There is no<br />

interaction with the signal conductors. Nothing is<br />

put in the signal path.’<br />

<strong>Audio</strong><strong>Quest</strong><br />

Interconnect &<br />

Speaker Cable<br />

Colorado & CV-8<br />

‘..อันความรู รูกระจางแตอยางเดียว แตใหเชี่ยวชาญเถิดจะเกิด<br />

ผล..’ ขอความที่ตัดตอนมาจากบทกลอนสอนใจของพระยาศรีสุนทร<br />

โวหาร (นอย อาจารยางกูร) ที่คนไทยเราคุนหูทอนนี้ดูจะเปนจริง<br />

เสมอ โดยเฉพาะเมือยกขึ้นมาเทียบเคียงกับสิงตางๆ ที่เกิดขึ้นอยู<br />

รอบตัวเรา ไมเวนแมในวงการเครืองเสียงแหงนี้<br />

ยี่หอที่มุงมั่นผลิตสินคาประเภทใดประเภทหนึ่งอยางตอเนืองมา<br />

เปนเวลานาน โดยไมวอกแวกไปกับการผลิตผลิตภัณฑอืนๆ เลย<br />

ยอมมีความชำนาญในผลิตภัณฑนั้นๆ มากเปนพิเศษ และมักจะเปน<br />

คนที่นำเสนอเทคโนโลยีใหมๆ ในการออกแบบและผลิตสินคา<br />

ประเภทนั้นออกมาอยูเนืองๆ<br />

<strong>Audio</strong><strong>Quest</strong> กับ DBS<br />

William E. Low หัวหนาวิศวกรและผูกอตั้ง เริ่มออกแบบสายออดิโอ<br />

เคเบิลยี่หอ ‘<strong>Audio</strong><strong>Quest</strong>’ มานานเกือบสามสิบปแลว ซึ่งตลอดเวลา<br />

รวมครึ่งทศวรรษที่ผานมา Bill Low ไดทำการทดลองและคนควาปจจัยที่มี<br />

ผลกับเสียงมาแลวทุกดาน ไมวาจะเปนปจจัยพื้นฐานหลักๆ ของสาย อยาง<br />

เชน ตัวนำ (conductor) และฉนวน (dielectric) ไปจนถึงปจจัยทางดาน<br />

เทคนิคของการออกแบบสายที่มีผลตอเสียง อาทิ รูปแบบโครงสรางการจัด<br />

เรียงตัวนำ, ลักษณะการออกแบบขั้วตอที่ใชกับสายชนิดตางๆ ฯลฯ<br />

ซึ่งเทคนิคที่เขางัดออกมาใชในการออกแบบชวงแรกๆ นั้นก็ไมคอยที่<br />

จะหวือหวาอะไรมากมายนัก เนื่องเพราะวามันเปนเทคนิคที่ผูผลิตสายเจา<br />

อื่นๆ เขาก็คิดแบบเดียวกัน..<br />

จนถึงเทคนิคพิเศษที่ชื่อวา DBS หรือ Dielectric-Bias System ที่<br />

เขานำมาใชในการออกแบบสายชวงหลังๆ นี่เองที่ทำให <strong>Audio</strong><strong>Quest</strong><br />

โดดเดนขึ้นมาในแวดวงของ ‘คนชอบเลนสาย’ ระดับไฮเอ็นดอยางมาก<br />

เพราะเจากระบอกใสถานไฟฉายขนาดเล็กที่แพ็คติดมาขางๆ ตัวสายนั่น<br />

แหละที่ดึงดูดความสนใจ และทำใหสายเคเบิลของยี่หอนี้ดูแตกตางไปจาก<br />

สายออดิโอ เคเบิลทั่วๆ ไป เห็นแลวใหความรูสึกวามันมีอะไร ‘พิเศษ’ ซอน<br />

อยูแนๆ<br />

DBS คืออะไร.<br />

อธิบายสั้นๆ ไดวา คือเทคนิคพิเศษที่ Bill Low คิดคนขึ้นมาเพื่อ<br />

จัดการกับไฟฟาสถิตที่เกิดขึ้นบนฉนวนของสายออดิโอ เคเบิล ไมใหสงผล<br />

เสียตอคุณภาพเสียง โดยการใชถานไฟฉายที่มีกำลังไฟสูงถึง 72V ปลอย<br />

กระแสไฟ DC วิ่งวนระหวางแผนฟอยลที่หุมอยูรอบนอกของตัวนำกับเสน<br />

ตัวนำที่แทรกอยูบริเวณแกนในของสาย เพื่อใหสนามพลังแมเหล็กไฟฟาที่<br />

เกิดจากการไหลของระบบ DBS ไปเหนี่ยวนำใหไฟฟาสถิตที่เกิดขึ้นบน<br />

ฉนวนที่หุมอยูรอบๆ ตัวนำของสาย มีทิศทางที่ไมสงผลกระทบตอ<br />

กระแสอิเล็กตรอน (สัญญาณ) ที่ไหลผานตัวนำในสายเคเบิลเสนนั้นไป<br />

โดยปกติแลว เมื่อมีสัญญาณเสียงที่อยูในรูปของสัญญาณไฟฟา วิ่ง<br />

ผานตัวนำภายในสาย จะทำใหเกิดสนามแมเหล็กไฟฟาขึ้นมารอบๆ<br />

ตัวนำ และพลังงานของสนามแมเหล็กไฟฟาที่เกิดขึ้นนี้จะไปมีผล<br />

เหนี่ยวนำโมเลกุลของฉนวนที่อยูรอบๆ ตัวนำใหเรียงตัวไปในลักษณะที่<br />

ทำใหเกิดไฟฟาสถิตขึ้นบนฉนวนเหลานั้น และเนื่องจากไฟฟาสถิตที่<br />

เกิดขึ้นบนฉนวนนั้นเปนไฟฟาสถิตที่เกิดขึ้นเพราะการเหนี่ยวนำของ<br />

กระแสไฟเอซี (สัญญาณ) ที่วิ่งไปตามสายตัวนำนั่นเอง ทำให<br />

ไฟฟาสถิตบนฉนวนมีรูปแบบ,ทิศทาง และกำลังที่สงผลสัมพันธกับการ<br />

ไหลของกระแสไฟฟา (สัญญาณ) ภายในตัวนำในลักษณะที่เปน<br />

ปฏิกิริยาตอบสนองซึ่งกันและกัน (reaction) และเมื่อไฟฟาสถิตที่เกิด<br />

บนฉนวนนี้ไปผนวกเขากับปญหา skin effect ของสายตัวนำ (ที่<br />

ออกแบบไมถูกตอง) เอง นี้จึงเปนที่มาของปญหาความเพี้ยนของเสียง<br />

2 ประการสำคัญ อันแรกคือ (1) non-linear phase error คือ<br />

ทำใหเฟสของสัญญาณเพี้ยนไปจากตนแบบที่เขามาทางอินพุตของสาย<br />

และเปน phase-error แบบไมคงที่ซะดวย สวนปญหาประการที่สอง<br />

คือ (2) Different amonts of time delay for different<br />

parts of the signal คือทำใหเกิดการหนวงของเวลาในการเดินทาง<br />

ผานสายตัวนำของสัญญาณเสียงเปนจุดๆ แบบไมสม่ำเสมอขึ้น<br />

ปญหาทั้งสองประการที่เกิดจากปรากฏการณนี้ กอใหเกิดความ<br />

ผิดเพี้ยนของสัญญาณที่วิ่งผานสายเสนนั้นไป ซึ่งสงผลตอคุณภาพเสียง<br />

ในขั้นตอนสุดทายหลังจากที่มัน (สัญญาณ) ผานออกไปทางดาน<br />

เอาตพุตของสายแลว<br />

<strong>Audio</strong><strong>Quest</strong> : Colorado + CV-8<br />

interconnect + speaker cable<br />

สายสัญญาณกับสายลำโพงที่ผมไดรับมาทดสอบครั้งนี้ชื่อรุนวา<br />

Colorado เปนสายสัญญาณที่ติดขั้วตอแบบ RCA ความยาวขางละ<br />

1 เมตร ฉนวนภายนอกนั้นหุมดวยโพลี่ฯ ลายดำ-เทา-แดง เนื้อตัวนำ<br />

ขางในเปนทองแดงที่ผลิตดวยกรรมวิธีพิเศษเรียกวา Perfect-<br />

Surface Copper+ (PSC+) ซึ่งเปนทองแดงแกนเดี่ยว (solid core)<br />

ที่มีความบริสุทธิ์สูง ผานการหลอมและดึงใหเปนเสนดวยกรรมวิธีพิเศษ<br />

087 GM2000


<strong>TEST</strong>REPORT<br />

ทำใหโมเลกุลของเสนทองแดงถูกยืดขยาย<br />

ออกไปเปนเสน ซึ่งทากับวา เสนตัวนำแบบ<br />

PSC+ นี้มีจำนวนโมเลกุลในเนื้อสายที่นอย<br />

มาก ซึ่งมีขอดีคือทำใหการถายเทอิเล็กตรอน<br />

ไปบนเนื้อสายมีความตอเนื่อง ลื่นไหล ไม<br />

เกิดอาการสะดุดเนื่องจากอิเล็กตรอนกระโดด<br />

ขามระหวางโมเลกุล<br />

Colorado ใชเสนทองแดงตัวนำถึง 3<br />

เสน (แตละเสนมีขนาดหนาตัดเทากับ 20<br />

<strong>AW</strong>G) เรียงตัวกันอยูภายในสายดวยรูปแบบ<br />

ที่เรียกวา Triple-Balanced สามารถนำไป<br />

เชื่อมตอกับขั้วตอ XLR ใชงานกับสัญญาณ<br />

บาลานซไดโดยไมตองเบิ้ลสาย เสนตัวนำ<br />

แตละเสนถูกหอหุมไวดวยฉนวนที่เขาเรียกวา<br />

Teflon Air-Tubes เปนทอเทฟลอนที่มี<br />

อากาศเติมอยูในทอเพื่อชวยลดความ<br />

ตานทานกับปญหา skin effect กอนจะถูก<br />

หุมหอดวยแผนฟอยลที่เชื่อมกับขั้วลบของ<br />

ระบบ DBS กอนจะทับหนาดวยสิ่งที่ออดิโอ<br />

เควสเรียกวา Noise-Dissipation System<br />

คือวัสดุฉนวน 3 ชั้นที่ชวยปองกันคลื่น RF ใน<br />

อากาศแทรกเขาไปรบกวนความบริสุทธิ์ของ<br />

สัญญาณที่วิ่งอยูในสายตัวนำ<br />

สวน CV-8 ซึ่งเปนสายลำโพงที่สงมา<br />

พรอมกันนั้น เปนสายลำโพงที่มีสีสันของ<br />

เปลือกฉนวนภายนอกเหมือนกับสาย<br />

สัญญาณ Colorado คือเลนสีแดง-เทา-ดำ<br />

มีการเชื่อมตอขั้วตอลำโพงแบบ single biwire<br />

คือใชสายลำโพงแบบซิงเกิลที่มีตัวนำ<br />

จำนวน 8 เสนมาทำเปนสายไบ-ไวรฯ โดยติด<br />

ตั้งขั้วตอ +/- ทางดานอินพุตของสาย (จาก<br />

หลังแอมป) ไวแคคูเดียว สวนทางดาน<br />

เอาตพุตของสาย (เขาที่หลังลำโพง) ถูกแยก<br />

ขั้วตอมาให 2 คู (+/- อยางละสอง) เหมาะใช<br />

งานกับลำโพงที่มีขั้วตอสาย 2 ชุด<br />

ทั้ง Colorado และ CV-8 ใชเทคนิค<br />

DBS System ทั้งคู ..<br />

ติดตั้ง+เซ็ตอัพ<br />

ที่จริงแลว สำหรับระบบ DBS นั้น คุณ<br />

สามารถเลือกที่จะใช (เสียบสายแบตฯ) หรือ<br />

ไมใช (ดึงสายแบตฯ ออก) ก็ได หรือจะลอง<br />

เปรียบเทียบผลของเสียงระหวางใชกับไมใช<br />

DBS ก็ได แตสำหรับผม จำเปนตองลอง<br />

เพราะมันเปนงานครับ ผมจำเปนตองคนหา<br />

วา DBS มันเขาไปทำอะไรใหเกิดขึ้นกับ<br />

คุณภาพเสียงบาง..<br />

ซึ่งหลังจากลองเทียบกันแลว ผมบอก<br />

คุณไดคำเดียววา ที่เขาใสมาใหนั้นมันมีทั้ง<br />

เหตุผล และมูลคาในตัวมันเอง จึงไมมี<br />

เหตุผลที่จะไมใชมัน และเทาที่ผมลองดูก็ยัง<br />

ไมพบวาจะมีสถานการณไหนที่ทำใหการไม<br />

ใช DBS แลวจะใหเสียงออกมาดีกวาที่จะใช<br />

(แบตเตอรี่ที่อยูในกระบอก DBS มีอายุหลาย<br />

ปครับ และมันก็เปนถานไฟฉายที่มีราคาไม<br />

แพง หาซื้อไดทั่วไป)<br />

ลูกศรปลายทาง<br />

ลูกศรตนทาง<br />

ลูกศรแสดงทิศทางของสายสัญญาณ ซึ่งจะเห็นวา กระบอก DBS ของสาย<br />

สัญญาณไดถูกติดตั้งไวทางดาน ‘ตนทาง’ ผิดกับสายลำโพง ซึ่งจะติดตั้ง<br />

กระบอก DBS ไวทางดานปลายทาง<br />

AQ ใหความสำคัญกับ ‘ทิศทาง’ ของ<br />

ตัวนำดวย เขาจะพิมพลูกศรแสดงเสนทางเดิน<br />

ของสัญญาณไวบนขั้วตอ RCA ทั้งสองดาน<br />

สวนสายลำโพงก็เชนกัน มีลูกศรแสดงทิศทาง<br />

กำกับไว เวลานำไปตอเชื่อมในซิสเต็มตอง<br />

ตรวจเช็กทิศทางที่วานี้ดวย ระหวางสาย<br />

สัญญาณกับสายลำโพงเขาติดตั้งระบบ DBS<br />

ไวคนละดานกัน คือตัวสายสัญญาณ<br />

Colorado นั้นเขาติดตั้งกระบอก DBS ไว<br />

ทางดาน ‘ตนทาง’ ของสาย สวนกระบอก<br />

DBS ของสายลำโพง CV-8 นั้นเขาติดตั้งไว<br />

ทางดานปลายทางของสาย (ดานที่ใกลกับ<br />

ลำโพง มีพิมพตัวอักษรคำวา ‘SPEAKER<br />

END’ เอาไว)<br />

สายลำโพงตัว CV-8 ที่ผมไดรับมา<br />

ทดสอบนี้เปนแบบ 1>2 คือทางฝงที่ตอกับ<br />

เอาตพุตของแอมปมีขั้วตอ +/- อยู<br />

แคคูเดียว สวนทางดานที่ตอเขากับ<br />

ลำโพงนั้นมีอยู 2 คู (+/- อยางละ<br />

สอง) และมีตัวอักษรเขียนกำกับไว<br />

ชัดเจนวาคูไหนใชตอกับขั้วตอ<br />

ลำโพงเสียงแหลม (Treble) และคู<br />

ไหนใชตอกับขั้วตอสายลำโพงเสียง<br />

ทุม (Bass) เวลาตอใชงานควร<br />

ปฏิบัติตามนั้น<br />

สายสัญญาณและสายลำโพง<br />

คูนี้แสดงพฤติกรรมออกมาบาง<br />

ประการที่แตกตางไปจากสายออดิ<br />

โอ เคเบิลอื่นๆ ที่คุนเคยมา คือผม<br />

รูสึกวามันใชเวลาในการเบิรนอิน<br />

นอยมาก!<br />

ปุมกด<br />

ปกติแลว ถาเปนสายระดับออดิโอไฟลที่<br />

มีราคาสูงๆ คุณไมควรจะรีบดวนสรุปกับน้ำ<br />

เสียงของมันถายังใชงานไมถึง 100 ชั่วโมง<br />

เพราะโดยมากแลว ลักษณะเสียงที่ไดในการ<br />

ใชงานชั่วโมงแรกๆ มักจะออกมาทึบและอั้น<br />

ตื้อ ไมเปดเผยเทาที่ควร อีกทั้งรายละเอียดก็<br />

จะยังออกมาไมกระจางชัด ตอง<br />

ผานการใชงานไปแลวอยางต่ำ 20-<br />

30 ชั่วโมงเสียงที่ไดจึงจะคอยๆ<br />

คลี่คลายออกมาในแตละดาน แต<br />

กับสายเคเบิลของออดิโอเควสคูนี้<br />

ผมพบวา มันแทบจะใหเสียงที่เปด<br />

เผยและหลุดลอยเปนอิสระออกมา<br />

ตั้งแตชั่วโมงแรกที่ไดลองใชงานนั่น<br />

เลย<br />

นาแปลกมาก..!!<br />

แมวาในชั่วโมงแรกๆ ของการ<br />

ใชงานนั้น ‘เนื้อเสียง’ โดยรวมจะยัง<br />

คงมีอาการทึบแนน ยังไมผลิฉ่ำเทา<br />

ที่ควร แตทางดาน ‘เวทีเสียง’ และ<br />

‘ไดนามิกเสียง’ นั้นมีลักษณะของการผอน<br />

ปรนและเปดเผยออกมาแทบจะในทันทีที่<br />

เสียบใชงาน เมื่อเทียบกับสายทั่วไปคุณจะพบ<br />

วาสายเคเบิลของ AQ ใชเวลา ‘เผาหัว’ สั้น<br />

กวาสายยี่หออื่นมาก ผมคิดวา ระบบ DBS ที่<br />

เขาไปชวยปรับสมดุลเรื่องไฟฟาสถิตของ<br />

ฉนวนไมใหไปรบกวนการไหลของกระแส<br />

สัญญาณบนตัวนำ อาจจะเปนตนเหตุสำคัญ<br />

ที่ทำใหเสียงออกมาเปดเผยและผอนคลายเร็ว<br />

อยางที่วา และจากการทดลองฟงติดตอกัน<br />

เปนระยะเวลานานพบวา อาการเปดเผยและ<br />

ผอนคลายที่วานี้ จะมีความเสมอตนเสมอ<br />

ปลายโดยตลอดซะดวย คือคุณจะรูสึกวา<br />

เสียงดนตรีมันเคลื่อนไหวดำเนินลีลาตอเนื่อง<br />

ไปเรื่อยๆ คลายกับวา เสียงที่ไดยินมันไมมี<br />

อะไรมา ‘ดึงรั้ง’ หรือคอย ‘กระตุก’ ใหเวที<br />

ไฟสีเขียว<br />

วิธีการเช็กปริมาณไฟในกระบอก DBS หากยังมีไฟเต็ม จะมีไฟแอลอีดีสีเขียว<br />

สวางขึ้นมาใหทราบ เมื่อคุณออกแรงกดลงไปบนปุมตรวจเช็กอันเล็กๆ ที่อยู<br />

ขางหลอดไฟคางไว<br />

เสียงและไดนามิกมีอาการผลุบๆ โผลๆ หรือ<br />

รั้งๆ ปลอยๆ เหมือนสายเคเบิลทั่วไป<br />

แตอยางไรก็ตาม เมื่อใชงานดวยการฟง<br />

เพลงหลากหลายแนวดวยระดับความดังที่<br />

สลับไป-มาระหวางดัง-คอยไปอีกระยะหนึ่ง<br />

(ประมาณ 50 ชั่วโมงผานไป) สิ่งที่แปรเปลี่ยน<br />

ไปก็คือ ‘เนื้อเสียง’ ซึ่งจะพบวามีลักษณะ<br />

ความนวลเนียนมากขึ้น ความรูสึกหยาบ<br />

กรานลดนอยลง กับอีกจุดหนึ่งที่รูสึกถึงความ<br />

เปลี่ยนแปลงก็คือ ‘ความตอเนื่อง’ ของการ<br />

ปรับเปลี่ยนระดับความดังของเสียง (ไดนามิก<br />

คอนทราสต) ที่ดีขึ้น การสวิงของเสียงทั้งจาก<br />

ดังไปเบาและจากเบาไปดังของเครื่องดนตรี<br />

ประเภทเครื่องสายอยางพวกไวโอลิน,เชลโล<br />

ฯลฯ เสียงรอง และเครื่องเปาอยางพวกแซ็กโซ<br />

โฟน,คลาริเน็ต,ฟรุต ฯลฯ มีความราบรื่น<br />

เกาะเกี่ยวตอเนื่องลื่นไหลเปนเนื้อเดียวกัน<br />

มากยิ่งขึ้น ซึ่งเปนชวงที่รูสึกไดวา ตัวสายมัน<br />

สามารถ ‘แสดง’ ความไพเราะของเพลงที่<br />

ฟงออกมามากยิ่งขึ้น สามารถปลดปลอย<br />

ความลุมลึกของอารมณเพลงออกมาไดมาก<br />

ยิ่งขึ้น<br />

หลังจากพน 50 ชั่วโมงไปแลว เมื่อมี<br />

การใชงานตอเนื่อง พบวา น้ำเสียงโดยรวม<br />

ของสายคูนี้เริ่มที่จะ ‘นิ่ง’ แลว เริ่มไมแสดง<br />

ความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนักแลว<br />

เสียง!<br />

‘.. a manufacturer should not be<br />

limited by opinions about what<br />

somebody else has made. But the<br />

reviewing community, people who<br />

aren’t actually going to go design<br />

and manufacture the product, in<br />

many ways are better off turning off<br />

their brains and just listening..’<br />

Bill Low แสดงความเห็นขางตนนี้ไวใน<br />

บทสัมภาษณที่เขามีใหกับนักวิจารณเครื่อง<br />

เสียงคนหนึ่งในเว็บไซต ซึ่งผมเห็นวามันเปน<br />

มุมมองที่นาสนใจทีเดียว เขาวา ผูผลิต<br />

(อุปกรณเครื่องเสียง) ไมควรจะจำกัดความ<br />

คิดเห็นของตนเองเอาไวแคสิ่งที่คนอื่นเคยทำ<br />

มา สวนนักวิจารณเครื่องเสียง ซึ่งไมใชกลุม<br />

คนที่จะมีหนาที่เปนผูผลิตเครื่องเสียงนั้น ไม<br />

วาจะมองจากมุมไหน (เขาวา) มันควรจะดี<br />

กวา ถา (นักวิจารณ) จะใชสมองในการคิดให<br />

นอยลง แลวเปลี่ยนมาเปนแค (ใชหู) ฟง<br />

เทานั้นพอ..<br />

แนวคิดของ Bill Low ในประเด็นนี้จะ<br />

คลายกับสิ่งที่ผมยึดเหนี่ยวอยูทุกวันนี้ในการ<br />

ทำหนาที่วิจารณอุปกรณเครื่องเสียง คือผมจะ<br />

ทดลองฟงเสียงของมันใหรูกอนวาคุณภาพ<br />

เสียงเปนอยางไร จากนั้นจึงคอยไปสนใจวา<br />

(อุปกรณชิ้นนั้น) ถูกออกแบบมาอยางไร.<br />

เพราะผมวามันเปนวิธีที่ไมเสียเวลาดี คือถา<br />

ลองฟงแลวเสียงไมถูกใจ ออกมาไมดีตาม<br />

มาตรฐานของผม ผมก็จะผานมันไปโดยไม<br />

ตองเสียเวลาไปศึกษาวามันถูกสรางขึ้นมา<br />

ดวยวิธีการใด<br />

สิ่งแรกที่สายสัญญาณและสายลำโพง<br />

AQ คูนี้สะดุดหูผม นั่นคือ คุณสมบัติของ<br />

ความอิสระโลงของเสียงที่แสดงตัวออกมาให<br />

ไดยินตั้งแตชั่วโมงแรกๆ ของการใชงาน ซึ่ง<br />

เปนคุณสมบัติที่ถือวาแปลกมากสำหรับสาย<br />

ออดิโอ เคเบิลที่ผมเคยฟงมา และถือวาเปน<br />

จุดเดนมากๆ สำหรับสายเคเบิลของ AQ คูนี้<br />

คุณสมบัติเดนขอนี้ของมันทำใหเกิดมรรคผล<br />

ตอเสียงในแงของเวทีเสียงครับ.. คือมันจะ<br />

ทำใหเวทีเสียงมีลักษณะที่เปดกวาง มิใชเพียง<br />

แคมิติใดมิติหนึ่ง หากแตเปนการแผขยายรูป<br />

วงออกไปรอบดานทั้งสามมิติ คือกวาง, ลึก<br />

และสูง กอปรเปนรูปวงที่มีมิติครบทุกดาน ให<br />

มุมมองของเลยเอาตของตำแหนงชิ้นดนตรีที่<br />

จัดเรียงกันอยางเปนสัดสวนครบทั้งสามมุม<br />

มอง มีหนา-มีหลัง ซาย-ขวา และสูง-ต่ำ<br />

ความเดนชัดของตัวตน (image) ของ<br />

เสียงดนตรีแตละชิ้นก็เปนอีกจุดหนึ่งที่สาย<br />

เคเบิลคูนี้โชวออกมาไดอยางโดดเดนมาก<br />

มันสามารถสกัดชิ้นดนตรีขึ้นมาในอากาศให<br />

ปรากฏแกหูไดอยางกับวากำลังสดับฟงเสียง<br />

จริงของเครื่องดนตรีชิ้นนั้นถูกบรรเลงสดๆ อยู<br />

ภายในหองฟง ตอหนา-ตอตา โดยไมมีมาน<br />

หมอกมากั้นขวาง<br />

สายเคเบิลบางตัวที่ไมสามารถสกัดกั้น<br />

noise หรือสัญญาณรบกวนออกไปจากระบบ<br />

ไดหมดสิ้นนั้น จะใหบุคลิกเสียงที่มีลักษณะ<br />

เหมือนเรากำลังนั่งอยูนอกหอง ฟงวงดนตรีที่<br />

กำลังบรรเลงกันอยูภายในหองโดยมีแผน<br />

กระจกขวางกั้นอยูเบื้องหนา ความสดของ<br />

บรรยากาศของวงที่กำลังบรรเลงมิไดถูก<br />

ถายเทมาถึงตัวตรงตำแหนงที่เรานั่งฟงอยู ซึ่ง<br />

คุณสมบัติขอนี้เปนคุณสมบัติที่หาไดยากจาก<br />

อุปกรณเครื่องเสียงทั่วไป<br />

แตสายสัญญาณและสายลำโพงคูนี้ให<br />

ออกมาได..!!<br />

ในอีกดานหนึ่ง นั่นสะทอนถึงคุณสมบัติ<br />

ทางดาน ‘ความใส’ ของพื้นเสียงที่ยอดเยี่ยม<br />

ที่สายเคเบิลคูนี้ถายทอดออกมาดวย ความ<br />

รูสึกนี้พุงทะลุเขามาในใจผมตอนนั่งฟง Joe<br />

Morello ตวัดไมกลองหวดฉาบตรงทอนสง<br />

ของเพลง Blue Rondo a la Turk (แทร็ค<br />

แรกในอัลบั้มชุด Time Out! ของ Dave<br />

Brubeck Quartet : Columbia/Legacy<br />

CK 65122) ลงไปอยางแรงนั้น กับสายเคเบิล<br />

คูนี้ มันทำใหผมรูสึกไดวา หลังใบฉาบถูกตี<br />

แลวนั้น มันไดแสดงอาการสั่นระรัวและแผ<br />

หางเสียงกระจายออกไปรอบๆ ตัวเอง ในขณะ<br />

ที่สวนใหญแลว เวลาเอาเพลงนี้มาฟงทดสอบ<br />

ในสภาวะทั่วไป บอยครั้งที่ผมมักจะ ‘ไดยิน’<br />

แคเสียงของฉาบที่ถูกตีกระจายอยูเบื้องหนา<br />

แตไมรูสึกถึงการแตกตัวของเสียงหลังจากนั้น<br />

อีก คลายกับเสียงฉาบที่ถูกตีนั้นมันรวบตัวกัน<br />

เปนกระจุกหนาๆ อยูแคตรงตำแหนงที่ถูกตี<br />

ไมแผขยายกระจายเปนริ้วของหางเสียงออก<br />

ไปรอบดานเหมือนตอนที่ฟงผานสายเคเบิล<br />

AQ คูนี้ และไมคอยจะรูสึกวามีสิ่งที่เรียกวา<br />

‘บรรยากาศ’ ของเสียงที่เกิดขึ้นหลังเสียงตี<br />

ฉาบนั้นแผขยายออกมาใหรูสึกสัมผัสไดชัดๆ<br />

เหมือนตอนที่ใชสาย AQ คูนี้ดวย<br />

สรุปคือสาย AQ ชุดนี้สามารถแจกแจง<br />

เสียงฉาบนั้นออกมาใหเห็น ‘รายละเอียดของ<br />

สิ่งที่เกิดขึ้นจริง’ ในปริมาณที่มากกวาที่ผม<br />

เคยสัมผัสจากสายตัวอื่น มันใหหัวเสียง (หรือ<br />

อิมแพ็ค) ของจังหวะกระทบครั้งแรกสุด<br />

ระหวางไมกลองกับใบฉาบที่ชัดเจน มีพลัง<br />

และยังสามารถแสดงใหเห็นถึงสภาวะของ<br />

เสียงใบฉาบหลังถูกตีที่แตกตัวฟุงกระจายเปน<br />

เม็ดฝอยเล็กๆ แผออกไปโดยรอบเหมือนพลุ<br />

กอนที่จะคอยๆ โรยตัวกลืนหายลงไปกับ<br />

ความมืดดำของพื้นเสียงที่เปนฉากหลังแบบมี<br />

ลีลา คือไมไดหายวับไปอยางรวดเร็ว แตทิ้ง<br />

ชวงเวลาใหหูสามารถตรวจจับไดอยูวูบหนึ่ง<br />

กอนจะลวงสลายไปจากการไดยินของหูใน<br />

ที่สุด<br />

จริงๆ แลว สิ่งที่เกิดขึ้นในยอหนาขางตน<br />

นั้น มันเปนสิ่งที่เกิดขึ้นในชวงเวลาเพียงแควูบ<br />

เดียวเทานั้น แตเนื่องเพราะวาสาย AQ คูนี้<br />

สามารถถายทอดรายละเอียดของเหตุการณ<br />

ทั้งหมดนั้นออกมาไดอยางตอเนื่อง ไม<br />

ตกหลน ทำให ‘ภาพ’ ของเสียงนั้นปรากฏตอ<br />

หูของผมไดอยางชัดเจน.. ชัดเจนซะจน<br />

สามารถสาธยายมันออกมาเปนฉากๆ โดยไม<br />

ขาดตอนอยางที่คุณไดอานไปนั่นแหละ<br />

ถาจะเทียบกับเรื่องของภาพ ผมอยากจะ<br />

พูดวา ลักษณะของเสียงที่สาย AQ คูนี้<br />

ถายทอดออกมานั้น มันมีลักษณะคลายการ<br />

สรางสัญญาณภาพแบบ Progressive scan<br />

ที่ทีวีคุณภาพสูงยุคใหมถายทอดออกมา ซึ่ง<br />

มิไดแคมีความละเอียดสูงกวาภาพแบบ<br />

interlace scan อยางที่ทีวียุคเกาใหออกมา<br />

GM2000 088<br />

089<br />

GM2000


บวก<br />

ขั้วตอของสายลำโพงดาน<br />

ที่ใชตอเชื่อมกับขั้วตอของ<br />

ตัวลำโพงของ <strong>Audio</strong>quest<br />

CV-8 ถูกแยกเปน 2 ชุด<br />

สำหรับการใชงานตอเชื่อม<br />

ระบบแบบ bi-wire<br />

Perfect-Surface Silver) ในขณะที่ Colorado ใชสายตัวนำที่ทำ<br />

มาจากทองแดง PSC+<br />

ตอนเอา Sky ตอเชื่อมเขาไปที่ตนทางระหวางเครื่องเลนซีดีมาที่<br />

ปรีแอมป แลวตอเชื่อม Colorado จากปรีแอมปไปหาเพาเวอรแอมป<br />

โดยใชสายลำโพง CV-8 เปนสะพานเชื่อมระหวางเอาตพุตของ<br />

เพาเวอรแอมปกับลำโพง พบวา มันทำใหบุคลิกแตละดานที่กลาวมา<br />

ขางตนมีความโดดเดนมากขึ้นมาอีกหลายเปอรเซ็นตทีเดียว ไมวาจะ<br />

เปนความใส,รายละเอียด,ความผอนคลาย,ความตอเนื่อง และที่เยี่ยม<br />

ยอดสุดๆ ก็คือเวทีเสียงที่เปดกวางออกไปทุกดานแบบไมมีขีดจำกัด<br />

โลงทะลุผนังออกไปพรอมๆ กันทุกมิติ<br />

เปนสายสัญญาณและสายลำโพงที่จะทำใหคุณเลิกสนใจ<br />

‘ฮารดแวร’ และหันไปหมกมุนกับความล้ำลึกที่แอบซอนอยูในแผน<br />

เพลงมากขึ้น.. มากขึ้น.. และมากขึ้น.!<br />

เทานั้น หากแตยังมีลักษณะของ ‘โมชั่น’ หรือ<br />

การเคลื่อนดำเนินไปของภาพที่ราบรื่นและตอ<br />

เนื่องมากกวาอีกดวย<br />

และเมื่อไดลองฟงทั้งแผนเสียงและแผน<br />

ซีดีผานไปอีกจำนวนหนึ่ง ผมก็ไดมองเห็นถึง<br />

ลักษณะ ‘ความใส’ ที่สาย AQ คูนี้ถายทอด<br />

ออกมาไดชัดขึ้นไปอีกระดับ และอยากจะยก<br />

ขึ้นมาพูดถึง เพราะผมถือวาสิ่งนี้เปน<br />

คุณสมบัติที่ดีเยี่ยมอีกประการหนึ่งของสาย<br />

เคเบิล AQ คูนี้ที่สมควรจะยกยองครับ.!<br />

คือความใสของเสียงที่สาย AQ คูนี้<br />

แสดงออกมานั้น มิไดเปนความใสในลักษณะ<br />

ของการ ‘ดัน’ ตัวเสียงของชิ้นดนตรีที่อยูใน<br />

สนามเสียงให ‘พุงล้ำ’ กระโดดออกมาขาง<br />

หนากวาปกติ ซึ่งแบบนั้นไมถือวาเปน<br />

คุณสมบัติที่ดีในความเห็นของผม เพราะ<br />

แมวามันจะทำใหเราไดยินเสียงชิ้นดนตรี<br />

แตละชิ้นชัดขึ้นก็จริง แตมันก็มีผลขางเคียงที่<br />

ไมดีติดมาดวย คือทำใหรูปวงของเวทีเสียง<br />

เสียไป มีผลตอความเปนสามมิติของเวทีเสียง<br />

อยางมาก คือเสียงโดยรวมจะออกมาแบน<br />

และพุง (forward) มิติดานลึกเสียไป ภาษา<br />

จิ๊กโกเขาเัรียกวามันใสแบบ push SOUND<br />

forward, leave NOISE behind ซึ่งวิธีการ<br />

นี้ไมไดกำจัดสัญญาณรบกวนออกไป มันยัง<br />

คงอยู แตสายเคเบิลพวกนั้นพยายาม ‘ดัน’<br />

เสียงดนตรีใหดังกวาเสียงรบกวนขึ้นมา<br />

ความใสที่สาย AQ คูนี้ถายทอดออกมา<br />

นั้น เปนผลที่ไดมาจากการ ‘ชะลาง’ ขยะและ<br />

ฝุนควันที่คละคลุงอยูในอณูอากาศของพื้น<br />

เสียงออกไป ใหเหลือแตบรรยากาศใสๆ ไล<br />

ตั้งแตอาณาบริเวณที่อยูใกลตัวเราทะลุเลย<br />

ระนาบของเวทีดานหลังสุดลงไป โดยไมไปยุง<br />

ลบ<br />

เกี่ยวกับตัวเสียงเลย จึงทำใหตำแหนงของชิ้น<br />

ดนตรีแตละชิ้นที่รายเรียงกันอยูบนเวทีเสียง<br />

นั้นถูกปลอยใหยึดตรึงอยูกับที่เดิม ตรงนั้น<br />

เมื่อสัญญาณรบกวนซึ่งเปรียบเสมือนมาน<br />

หมอกถูกชะลางทิ้งไป เราจึงมองเห็น (ดวยหู)<br />

ชิ้นดนตรีเหลาั้นั้นขยับตัวเคลื่อนไหวไปมา<br />

ดวยลีลาทาทีที่เดนชัดจะแจงมากขึ้น สามารถ<br />

รับรูถึงความเหลื่อมล้ำของความตื้น-ลึกของ<br />

แนวระนาบของตำแหนงชิ้นดนตรีแตละ<br />

ระนาบไดอยางชัดเจนมากขึ้น โดยที่ตำแหนง<br />

ของชิ้นดนตรีทั้งหมดไมเปลี่ยนไป<br />

สำคัญเหรอ ตรงจุดนี้..<br />

คนที่ชอบฟงเพลงคลาสสิกจะเขาใจ<br />

ความหมายนี้ได และสามารถรับรูถึง<br />

คุณสมบัติเดนขอนี้ไดเปนอยางดี กับเพลง<br />

ประกอบละครบัลเลตเรื่อง La Fille Mal<br />

Gardee จากแผนเสียงสปด 45 ของ<br />

DECCA เบอร SXL 2313/45 ที่ผมชื่นชอบ<br />

มากๆ เปนตัวพิสูจนสิ่งที่พูดถึงนี้ไดอยาง<br />

ชัดเจน แมเสียงฟรุตกับเสียงกระตุกสายดับ<br />

เบิ้ลเบสที่แผวเบาซึ่งสถิตอยูแทบจะแถวหลัง<br />

สุดของเวทีเสียงหางจากจุดนั่งฟงลึกลงไปเปน<br />

เมตรๆ ก็ยังแสดงตัวใหไดยินอยางชัดเจน<br />

อยางนั้นโดยไมรูสึกวามันถูกผลักดันใหลุกล้ำ<br />

ขึ้นมาขางหนาแตอยางใด หรือกับเสียงนักรอง<br />

กลุมประสานเสียงชาย-หญิง และเด็กในแผน<br />

เพลงสวดสรรเสริญพระเจาชุด Now The<br />

Green Blade Riseth (แผนของ Proprius<br />

PRCD 9093) ก็ถูกสาย AQ คูนี้ตรึงเปนแถว<br />

เดินแนวระนาบลึกลงไปอยูดานหลังตำแหนง<br />

ลำโพงอยางเดนชัด แบงแยกนักรองเหลานั้น<br />

ออกเปนกลุมกอนอยางเปนระเบียบ เวลารอง<br />

ประสานขึ้นมาพรอมๆ กัน เสียงที่ไดจะถูก<br />

สวิงขึ้นมาดวยพลังที่หนักแนนมั่นคง แสดง<br />

ศักดิ์อำนาจดึงดูดความรูสึกไดอยางล้ำลึก<br />

โดยไมมีความผิดเพี้ยนทางอิเล็กทรอนิกส<br />

ใดๆ เขามาปะปน รบกวนในชวงเวลาสำคัญนี้<br />

เลยแมเพียงนอย ทำใหฟงแลวเหมือนผม<br />

หลุดเขาไปนั่งอยูในโบสถขนาดใหญที่มี<br />

บรรยากาศอบอุน นาเลื่อมใส โดยมีวง<br />

ประสานเสียงขนาดใหญกับออรแกนทอขนาด<br />

ยักษกำลังบรรเลงอยูขางหนา ฟงแลวได<br />

อารมณที่หลุดลอยไปไกลทีเดียว<br />

แนนอนครับวา สายเคเบิลของ AQ คูนี้<br />

ไมไดเปนคนสรางสิ่งเหลานี้ขึ้นมา ทั้งหมดนั้น<br />

มันเปนสิ่งที่ถูกบันทึกอยูในแผนอยางนั้นมา<br />

โดยตลอด และสายสัญญาณกับสายลำโพง<br />

ของ <strong>Audio</strong><strong>Quest</strong> คูนี้แคทำหนาที่ปลด<br />

ปลอยมันออกมา.. เทานั้น!<br />

โดยไมไปเปลี่ยนแปลง บิดเบือน หรือ<br />

ปนเปอนสิ่งใดๆ ลงไปทั้งสิ้น ซึ่งนั่นคือหนาที่<br />

ของสายสัญญาณและสายลำโพงในอุดมคติที่<br />

ควรจะเปน<br />

สรุป<br />

ตอนทายๆ ของการทดสอบ กอนปดสำนวน<br />

ผมไดขอยืมสายสัญญาณรุน Sky ที่มีราคาสูง<br />

กวา Colorado ประมาณ 3 เทา !! ซึ่งเปน<br />

สายสัญญาณตัวท็อปสุดของซีรีสนี้มาทดลอง<br />

ฟงดวย โดยสวนตัวนั้นอยากจะรูวามันจะดี<br />

กวา Colorado สักแคไหน เพราะดูจาก<br />

ลักษณะดีไซนแลว มันใชเทคนิคเดียวกันกับ<br />

รุน Colorado ที่ผมทำการทดสอบในเลมนี้<br />

เกือบทุกอยาง ตางกันตรงที่สีของเปลือกนอก<br />

กับรุน Sky ใชตัวนำที่ทำมาจากโลหะเงินที่<br />

ผลิตดวยกรรมวิธีที่ชื่อวา PSS (Solid<br />

นำเขาและจัดจำหนายโดย:<br />

บริษัท Global Star Worldwide Co.,Ltd.<br />

โทร.0-2576-0317<br />

ราคา : สายสัญญาณ Colorado = 32,900 บาท<br />

/ตอคู/ความยาวขางละ 1 เมตร<br />

สายลำโพง CV-8 = 29,900 บาท<br />

/ตอคู/ความยาวขางละ 2.40 เมตร (8 ฟุต)<br />

อุปกรณรวมทดสอบ:<br />

เครื่องเลนซีดี : Marantz SA11S2, Marantz DV8400<br />

เปนทรานสปอรต+DAC<br />

ของ Assemblage DAC 2.6<br />

เครื่องเลนแผนเสียง : Acoustic Signature Manfred +<br />

หัวเข็ม Benz Micro Wood M2 (MC) +<br />

โฟโนสเตจ Benz Micro Lukascheck<br />

PP1 & DACT CT100<br />

ปรีแอมป : Audible Illusion Modulus M3A<br />

(Tube/Active), ภาคปรีเอาตของอินทิ<br />

เกรตแอมป Creek 4330 (Solid State/<br />

Passive), Marantz SC-7s2 (Solid<br />

State/Active)<br />

เพาเวอรแอมป: Pass Lab ALEP30, Magnet MA-400<br />

Limited Edition, Marantz MA-9s2<br />

ลำโพง :<br />

Totem The One, Paradigm Studio<br />

20v4, ATC SCM7, Vivid B1<br />

สายไฟเอซี : Furutech Power Link-400, Virture<br />

Dynamics David 2.0,<br />

Shunyata Research Python<br />

เอซี-ดิสตริบิวเตอร : Clef PowerBRIDGE-8, Shunyata<br />

Research Model 6<br />

เอซี-คอนดิชั่นเนอร : Quantum Qx4<br />

เอซี-สเตบิไลเซอร : Clef <strong>Audio</strong> PureSINE-1000<br />

ชั้นวางเครื่อง : Rezet<br />

AD.<br />

GM2000 090<br />

091<br />

GM2000

Hooray! Your file is uploaded and ready to be published.

Saved successfully!

Ooh no, something went wrong!