Inception report 2017-02-25 บทที่ 19 ประเมินผลและแผน
Create successful ePaper yourself
Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.
รายงานเบื้องต้น โครงการรณรงค์ส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ ปีงบประมาณ <strong>25</strong>60<br />
<strong>บทที่</strong> <strong>19</strong><br />
ที่ปรึกษาจะต้องวิเคราะห์ ประเมิน และสรุปผลงาน/ ผลลัพธ์ที่ได้จากการประชาสัมพันธ์<br />
ตลอดทั้งโครงการ พร้อมจัดทําแผนส่งเสริม ประชาสัมพันธ์ พร้อมรายละเอียดที่<br />
สามารถนําไปปฏิบัติในปีต่อไป เพื่อให้เกิดการใช้งานเชื้อเพลิงชีวภาพให้เป็นไปตาม<br />
แผน AEDP ของประเทศ<br />
เนื่องจากข้อกําหนดฯ ได้ระบุเรื่องการวัดประเมินผลสื่อไว้ในหลายข้อของขอบเขต ได้แก่<br />
1) ข้อกําหนดฯที่ 1.5.4 เรื่องการผลิตภาพยนตร์โฆษณาอนิเมชั่น กําหนดให้ต้องเสนอแผนการ<br />
ประเมินประสิทธิภาพการเผยแพร่<br />
2) ข้อกําหนดฯที่ 1.5.5 เรื่องการจัดทําบทวิทยุและผลิตสปอตโฆษณา ต้องเสนอแผนการ<br />
ประเมินประสิทธิภาพการเผยแพร่<br />
3) ข้อกําหนดฯที่ 1.5.6 เรื่องการศึกษาและออกแบบ New Media ต้องเสนอแผนการประเมิน<br />
ประสิทธิภาพการเผยแพร่<br />
4) ข้อกําหนดฯที่ 1.5.16 เรื่องการประเมินผลและจัดทําแผนการประชาสัมพันธ์ต่อไป ต้อง<br />
วิเคราะห์ ประเมิน และสรุปผลงาน ผล/<br />
ลัพธ์ที่ได้จากการประชาสัมพันธ์ตลอดทั้งโครงการ<br />
การรณรงค์ประชาสัมพันธ์ทั้งโครงการนี้ แต่ละกิจกรรมและแต่ละสื่อมีความสัมพันธ์เพื่อใช้สนับสนุน<br />
ซึ่งกันและกัน สามารถประเมินประสิทธิภาพทั้งในระดับกิจกรรมเดียว หรือสื่อเดียวได้ในขณะเดียวกันก็ควรจะ<br />
ประเมินประสิทธิภาพในระดับภาพรวมเป็นกลุ่มหรือภาพรวมทั้งโครงการ เพื่อให้อ่านเข้าใจง่าย จึงรวมเนื้อหา<br />
ที่จะนําเสนอเกี่ยวกับการประเมินประสิทธิภาพของการเผยแพร่แต่ละข้อ และประเมินผลภาพรวมทั้งโครงการ<br />
ไว้ในบทนี้บทเดียว ซึ่งเนื้องานแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก ได้แก่<br />
1) การประเมินผลโครงการ<br />
(1.1) การประเมินประสิทธิภาพของสื่อแต่ละหัวข้อ<br />
(1.2) การประเมินผลโดยรวมของโครงการ<br />
2) การจัดทําแผนส่งเสริมประชาสัมพันธ์<br />
โดยขอนําเสนอรายละเอียด ดังนี้<br />
<strong>19</strong>.1 การประเมินผลโครงการ<br />
การประเมินโครงการเป็นกระบวนการทํางานด้านการวัดผลและค้นหาผลสะท้อนจากการดําเนิน<br />
โครงการ เพื่อนําผลที่วัดได้ และผลสะท้อนกลับมาใช้ประโยชน์ในรูปแบบต่างๆ ในกระบวนการบริหารโครงการ<br />
ซึ่งต้องดําเนินการด้วยกระบวนวิธีที่ถูกต้องเหมาะสมจึงจะได้ผลลัพธ์ตามวัตถุประสงค์ ในหัวข้อนี้แบ่งออกเป็น<br />
2 กลุ่ม ขอบเขตการประเมินผลโครงการ คือ<br />
[<strong>19</strong>-1] กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
รายงานเบื้องต้น โครงการรณรงค์ส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ ปีงบประมาณ <strong>25</strong>60<br />
1) ขอบเขตระดับประเมินผลสื่อ หมายถึงประเมินผลสําเร็จการใช้สื่อ ทําในระดับสื่อที่ใช้เผยแพร่<br />
แต่ละรายการ เช่น สื่อ Social Media 1 ชนิดที่เผยแพร่ได้ผลเท่าไร กิจกรรมทางออนไลน์ 1 กิจกรรมใน 1 สื่อ<br />
ที่ดําเนินการได้ผลเท่าไร เป็นต้น และระดับกลุ่มสื่อที่คิดเป็นชุด เช่น กิจกรรมร่วมสนุก 1 กิจกรรมแต่ใช้สื่อ<br />
หลายสื่อ (Facebook Youtube และ Event) ได้ผลเท่าไร หรือชุดสื่อออนไลน์ทั้งดครงการรวมกันเข้าถึง<br />
กลุ่มเป้าหมายได้จํานวนเท่าไร เป็นต้น ซึ่งค่าประสิทธิภาพใช้บ่งบอกการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของสื่อ ถ้า<br />
ประสิทธิภาพมีค่าสูงจะยิ่งดีส่วนค่าประสิทธิผลใช้บ่งบอกความคุ้มค่าของสื่อในหน่วยบาทต่อจํานวนคนที่เข้าถึง<br />
ดังนั้น ประสิทธิผล มีค่าต่ําจะยิ่งดี<br />
2) ขอบเขตระดับประเมินผลสําเร็จของโครงการจะวัดผลในระดับภาพรวมของโครงการให้เห็น<br />
ว่าได้ประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ผลกระทบเท่าไร เช่น เปรียบเทียบความรู้ความเข้าใจก่อนและหลังดําเนิน<br />
โครงการนี้ เปรียบเทียบอัตราการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพก่อนและหลังดําเนินโครงการ หรือผลสํารวจทัศนคติ<br />
เปรียบเทียบก่อนและหลังดําเนินโครงการ เป็นต้น<br />
โดยแบ่งอธิบายเป็น 2 หัวข้อ คือ<br />
(1) การประเมินผลสื่อ<br />
(2) การประเมินผลโครงการ<br />
มีรายละเอียดดังนี้<br />
<strong>19</strong>.1.1 การประเมินผลสื่อ<br />
จากการศึกษารวบรวมทฤษฎีและแนวคิดการประเมินผลสื่อและการประชาสัมพันธ์ นํามากําหนดเป็น<br />
การประเมินผลที่จะดําเนินการในโครงการนี้ได้ดังนี้<br />
1) การวัดค่าประสิทธิภาพและประสิทธิผลของสื่อ<br />
การวัดค่าประสิทธิภาพ (Effectiveness) หมายถึงการวัดผลสําเร็จที่ได้รับในการวางแผนสื่อ<br />
โฆษณา เช่น ในการวางแผนสื่อโฆษณาตามงบประมาณจานวน 16 ล้านบาท ได้ผลสําเร็จ คือสามารถจะเข้าถึง<br />
กลุ่มเป้าหมาย (Reach) คิดเป็นร้อยละ 80 ของกลุ่มเป้าหมายรายการ (TV Audiences) จํานวน 24,066,245<br />
คน แต่ละคนจะเห็นทั้งหมดจํานวน 124 ครั้ง เฉลี่ยคนละ 3.14 ครั้ง (Frequency) เป็นต้น<br />
การวัดค่าประสิทธิผล (Efficiency) หมายถึง การวัดค่าความประหยัดของการวางแผนสื่อ<br />
โฆษณานั้นว่าคุ้มค่ากับเงินงบประมาณหรือไม่ เช่น ในการวางแผนสื่อโฆษณา ตามงบประมาณจานวน16 ล้าน<br />
บาท จะเสียค่าใช้จ่ายต่อ 1 ค่าความนิยม (Cost per Rating) คิดเป็นเงิน 12,304.<strong>02</strong> บาท ค่าใช้จ่ายต่อ 1,000<br />
คน (Cost per Thousand) คิดเป็นเงิน 4,203.01 บาท เป็นต้น<br />
ค่าประสิทธิภาพหากมีค่าสูงแสดงว่าการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ได้ผลดี แต่ค่าประสิทธิผลจะเป็น<br />
ในทางกลับกัน คือถ้าค่าต่ําแสดงว่าประชาสัมพันธ์ได้คุ้มค่าเงินงบประมาณ<br />
[<strong>19</strong>-2] กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
รายงานเบื้องต้น โครงการรณรงค์ส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ ปีงบประมาณ <strong>25</strong>60<br />
โดยรวมแล้วการประเมินผลสื่อ จะพิจารณา 4 ค่า คือ<br />
- การเข้าถึง หรือได้เห็นสื่อ (Reach)<br />
- ความถี่ที่ได้รับสื่อ (Frequency)<br />
- ผลกระทบจากสื่อ (Impact)<br />
- ต้นทุนต่อหน่วยผู้ที่ได้รับสื่อ (Cost)<br />
ซึ่งสามารถกําหนดเป็นค่าที่สามารถเก็บข้อมูลและคํานวณได้จริงสําหรับสื่อที่ใช้ในโครงการนี้ ได้แก่<br />
2) สื่อวิทยุ นิยมใช้ค่า<br />
(2.1) ความครอบคลุม (Coverage) คือ วัดประสิทธิภาพ จํานวนผู้ได้รับฟังซึ่งคิดเป็น<br />
เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด มีหน่วยเป็น % Coverage = (จํานวนผู้ได้รับฟัง / จํานวน<br />
ทั้งหมดที่ส่งสัญญาณไปถึง) x 100<br />
วิธีการวัดค่า โดยการสุ่มลงพื้นที่สํารวจประมาณ 50% ของพื้นที่เผยแพร่<br />
เช่น การเผยแพร่ 11 จังหวัด ของโครงการนี้ จะเลือก 5 จังหวัดเป็นตัวแทน เพื่อลง<br />
สํารวจด้วยการเดินสํารวจ สอบถามถึงการได้รับฟังสปอตที่เผยแพร่ออกไป โดยใช้<br />
แบบสอบถามและสัมภาษณ์ตัวต่อตัวในพื้นที่ที่คลื่นวิทยุครอบคลุม และสอบถามกับ<br />
กลุ่มเป้าหมายที่คาดหวัง เช่น ผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัว ร้านค้า และพนักงาน ในเขตเมือง<br />
และชานเมือง เป็นต้น จากนั้นนําข้อมูลมาสรุปเป็นค่าความครอบคลุม<br />
3) สื่อดิจิตอล (Digital Media) ในปัจจุบันสร้างเครื่องมือวัดและรายงานค่าการมีปฏิสัมพันธ์ของ<br />
ผู้รับชมกับสื่อไว้อย่างดีแล้ว เช่น การวัดและรายงานจํานวนผู้ที่ คลิก (Click) ชม (View) แสดงความคิดเห็น<br />
(Comment) ชอบ (Like) แบ่งปัน (Share) ติดตาม (Follow, Subscribe) เข้าร่วมกลุ่ม (Enter to Group)<br />
หรือการร่วมกิจกรรมออนไลน์ เป็นต้น โดยผู้ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อไม่ต้องสํารวจข้อมูล ซึ่งมีการวัดและรายงาน<br />
ที่จะนํามาใช้ ดังนี้<br />
(3.1) ค่าความครอบคลุม เนื่องจากสื่อดิจิตอลมี 2 ช่องทาง คือ กลุ่มเว็บไซต์ และ กลุ่ม<br />
Social Media ที่แตกต่างกันดังนี้<br />
- เว็บไซต์ ใช้ค่า Click Rate (CR) จํานวนคลิก วัดประสิทธิภาพ เป็นค่าจํานวนครั้ง<br />
ที่ผู้ชมเข้าไปชมใช้กับหน้าเว็บเพจ<br />
- Social Media ใช้ค่าการมีส่วนร่วม (Engagement Rate) ได้แก่ การวัดผลข้อมูล<br />
จากจํานวน View, Like, Share, Comment, Follow, Add Friend บน Social<br />
Media นั้นๆ เช่น Facebook, Youtube, Line เป็นต้น ซึ่งช่องทางเหล่านี้ล้วน<br />
จัดทําการวัดผลไว้พร้อมบริการให้แล้วโดยผู้ใช้ช่องทางเหล่านี้ไม่ต้องสร้างขึ้นเอง<br />
[<strong>19</strong>-3] กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
รายงานเบื้องต้น โครงการรณรงค์ส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ ปีงบประมาณ <strong>25</strong>60<br />
(3.2) ค่าใช้จ่ายต่อพันคน (Cost Per Thousand : CPM) วัดประสิทธิผล มีหน่วยเป็น<br />
บาทต่อพันคน ใช้สําหรับสื่อดิจิตอลทั้งหมดได้ โดยถ้าเป็นการใช้สื่อดิจิตอลช่องทาง<br />
เดี่ยวและใช้งบประมาณแยกจากสื่ออื่นก็สามารถวัดผลเฉพาะสื่อนั้นเปรียบเทียบ<br />
กับงบประมาณได้ทันที แต่ถ้าใช้สื่อหลายช่องทางจะต้องนําไปคิดรวมทั้งจํานวน<br />
คลิกและค่าใช้จ่าย<br />
ในการนําไปใช้กับสื่อ Social Media ก็จะนับ View, Like, Share, Comment,<br />
Follow, Add Friend เป็นการคลิกของเว็บไซต์ แต่การให้น้ําหนักกับค่าการมีส่วน<br />
ร่วมที่ไม่เท่ากัน เช่น การ Share มีน้ําหนักมากกว่า View เป็นต้น<br />
วิธีการประเมินผลสื่อดิจิตอลที่นําเสนอมาอยู่บนหลักการเดียวกับการ<br />
วัดผลของสื่อ ออฟไลน์ เช่น โทรทัศน์ วิทยุ สิ่งพิมพ์ เป็นต้น แต่ปรับเครื่องมือในการ<br />
วัดและเก็บข้อมูลมาเป็นเครื่องมือในช่องทางดิจิตอลนั้นๆ ซึ่งผลการที่ผู้ถูกสํารวจ<br />
ตอบรับว่าได้รับสื่อ นั่นคือแสดงถึงการจดจําสื่อนั้นได้ เป็นความสําเร็จระดับแรกของ<br />
การประชาสัมพันธ์<br />
<strong>19</strong>.1.2 การประเมินผลโครงการ<br />
การประเมินผลโครงการโดยรวมเป็นส่วนสําคัญเพื่อค้นหาประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และผลกระทบ<br />
จากการดําเนินโครงการ เพื่อให้ทราบว่าโครงการนี้ ทําได้อย่างมีประสิทธิภาพ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากกลุ่ม<br />
เป้าหมายรับรู้ และเข้าใจได้ดี จดจําได้ดี คล้อยตามสื่อที่ส่งออกไป และสามารถนําไปสู่ขั้นการเปลี่ยนพฤติกรรม<br />
ได้หรือไม่ การประเมินผลโดยรวมนี้จะไม่ประเมินผลย่อยของสื่อหรือกิจกรรมแต่ละรายการ แต่จะบ่งบอกเป็น<br />
ผลของทั้งโครงการที่มีต่อกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งแยกการประเมินสําหรับสื่อออนไลน์ โดยในหัวข้อการประเมินผลสื่อ<br />
ได้วัดผลในระดัการจดจําไปแล้ว ในหัวข้อการประเมินผลโครงการนี้ จึงจะวัดผลในระดับที่สูงขึ้น คือ ระดับ<br />
ความเข้าใจ และระดับทัศนคติ มีดังนี้<br />
1) ประเมินผลด้วยการสอบถามความคิดเห็น<br />
(1.1) ระดับความเข้าใจ<br />
- จํานวนและเปอร์เซ็นต์ ผู้มีความรู้ความเข้าใจเชื้อเพลิงชีวภาพมากขึ้น (การคิด<br />
เปอร์เซ็นต์เปรียบเทียบกับจํานวนทั้งหมดได้ 2 ฐาน คือ จํานวนประชากรทั้งหมด<br />
ในช่วงอายุ Gen-Y หรือ จํานวนประชากรทั้งหมดที่ใช้ Social Network ซึ่งมีสถิติ<br />
เผยแพร่อย่างเป็นทางการจากศูนย์ข้อมูลต่างๆ)<br />
- ค่าใช้จ่ายต่อพันคน (บาทต่อพันคน) ที่มีความรู้ความเข้าใจเชื้อเพลิงชีวภาพเพิ่มมากขึ้น<br />
[<strong>19</strong>-4] กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
รายงานเบื้องต้น โครงการรณรงค์ส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ ปีงบประมาณ <strong>25</strong>60<br />
(1.2) ระดับทัศนคติ เป็นการประเมินผลสําเร็จของโครงการในระดับสูงขึ้น จากความ<br />
เข้าใจเป็นทัศนคติ โดยใช้วิธีการ ช่องทาง และชุดสํารวจไปพร้อมกับระดับความ<br />
เข้าใจ แต่เพิ่มช่องข้อมูลในระดับทัศนคติเข้าไป แบ่งเป็น 2 ค่าเช่นเดียวกัน ได้แก่<br />
- จํานวนและเปอร์เซ็นต์ผู้มีทัศนคติต่อเชื้อเพลิงชีวภาพดีขึ้น<br />
- ค่าใช้จ่ายต่อพันคน (บาทต่อพันคน) ที่มีทัศนคติต่อเชื้อเพลิงชีวภาพดีขึ้น<br />
2) ประเมินผลด้วยแบบทดสอบ โดยใช้แบบทดสอบความรู้ความเข้าใจและทัศนคติทําการ<br />
ทดสอบก่อนและหลังการรณรงค์ โดยใช้การทดสอบออนไลน์ทั้งหมด 2 ช่วง ดังนี้<br />
(2.1) ก่อนเริ่มรณรงค์ เป็นช่วงตั้งแต่กลุ่มเป้าหมายเริ่ม Add Line กด Like บน Facebook<br />
หรือติดตามบน Youtube ซึ่งเป็นเวลาที่ยังไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารความรู้หรือการ<br />
เชิญชวนรณรงค์ส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ จึงเป็นการทดสอบก่อนเริ่มการณรงค์<br />
(2.2) หลังรณรงค์ เป็นช่วงที่การรณรงค์ใกล้จะสิ้นสุดกําหนดเวลา หรือสิ้นสุดกําหนดเวลา<br />
แล้วได้มีการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจและเชิญชวนให้ใช้เชื้อเพลิงชีวภาพตามที่<br />
กําหนดไว้ครบถ้วนแล้ว จะทดสอบอีกครั้งเพื่อนําไปเปรียบเทียบกับก่อนรณรงค์สิ่ง<br />
ที่จะทดสอบคือข้อมูลความรู้ความเข้าใจและทัศนคติว่ากลุ่มเป้าหมายมีความรู้<br />
ความเข้าใจและทัศนคติเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือไม่ เพื่อเป็นบทสรุปของ<br />
โครงการนี้<br />
วิธีการประเมินผลในหัวข้อนี้ สําหรับสื่อวิทยุ การจัดกิจกรรมเปิดตัว และการจัดแสดง New Media<br />
จะไม่ประเมินผลเจาะจงไปยัง 3 ช่องทางนี้ เพราะไม่ได้กําหนดวัตถุประสงค์หลักไว้เป็นการสร้างความรู้ความ<br />
เข้าใจและทัศนคติที่ดีต่อเชื้อเพลิงชีวภาพ แต่เป็นเพียงการประชาสัมพันธ์โครงการ กิจกรรม และ Line เป็น<br />
หลัก จึงประเมินผลในหัวข้อนี้เฉพาะสื่อดิจิตอลทั้งหมด คือ Facebook, Youtube, Line และอื่นๆ ซึ่งเป็น<br />
แหล่งเผยแพร่เนื้อหาและสร้างภาพลักษณ์เชื้อเพลิงชีวภาพ ซึ่งผู้รับสื่ออยู่ในช่องทางดิจิตอลทั้งหมด จึงจะ<br />
สํารวจด้วยช่องทางดิจิตอลเช่นกัน คือ แบบสอบถามออนไลน์<br />
<strong>19</strong>.2 การจัดทําแผนส่งเสริมประชาสัมพันธ์<br />
จากการดําเนินโครงการส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ ปีงบประมาณ <strong>25</strong>58 ได้มีการจัดทําแผน<br />
ส่งเสริมประชาสัมพันธ์เชื้อเพลิงชีวภาพระหว่างปี <strong>25</strong>58 – <strong>25</strong>62 แล้ว โดยใช้ 5 ขั้นตอน ซึ่งประกอบด้วย<br />
ขั้นตอนการสร้างการรับรู้ ขั้นตอนการสร้างความรู้ความเข้าใจ ขั้นตอนการเปลี่ยนและปรับทัศนคติที่ดี ขั้นตอน<br />
การกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ และขั้นตอนการส่งเสริมพฤติกรรมเชิงสังคม สามารถสรุปได้โดยสังเขป ดังนี้<br />
[<strong>19</strong>-5] กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
รายงานเบื้องต้น โครงการรณรงค์ส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ ปีงบประมาณ <strong>25</strong>60<br />
1) การประชาสัมพันธ์ 5 ขั้นตอน<br />
1.1) เพื่อสร้างการรับรู้ (Creating Awareness) โดยการนําเสนอข้อมูลโดยเลือกใช้สื่อ<br />
และกิจกรรมที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย เกี่ยวกับการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ และการ<br />
ปรับแต่งเครื่องยนต์โดยใช้ FFV Conversion Kit ให้เป็นที่รู้จักของกลุ่มเป้าหมาย<br />
1.2) เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจที่ดี (Creating Knowledge and Understanding) โดย<br />
การใช้เนื้อหาที่โน้มน้าวให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความสนใจ เกี่ยวกับการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ และ<br />
การปรับแต่งเครื่องยนต์โดยใช้ FFV Conversion Kit<br />
1.3) เพื่อสร้างและปรับเปลี่ยนทัศนคติที่ดี (Creating and Attitude Change) โดยการใช้<br />
เนื้อหาที่โน้มน้าวให้กลุ่มเป้าหมายเกิดความสนใจเกี่ยวกับการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ<br />
และการปรับแต่งเครื่องยนต์โดยใช้ FFV Conversion Kit ของกลุ่มเป้าหมาย<br />
1.4) เพื่อกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ (Reinforcing Decision) ของกลุ่มเป้าหมายที่มีรถยนต์<br />
ใช้งานอยู่แล้วเกี่ยวกับการทดลองใช้เชื้อเพลิงชีวภาพและการปรับแต่งเครื่องยนต์โดย<br />
ใช้ FFV Conversion Kit และกลุ่มเป้าหมายที่กําลังจะซื้อรถยนต์คันใหม่เกี่ยวกับ<br />
การเลือกซื้อรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์รองรับการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ<br />
1.5) เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมเชิงสังคม (Promoting Behavior) การยอมรับการใช้เชื้อเพลิง<br />
ชีวภาพอย่างต่อเนื่องของกลุ่มเป้าหมายที่มีรถยนต์ที่มีเครื่องยนต์รองรับการใช้<br />
เชื้อเพลิงชีวภาพ หลังจากที่ได้ตัดสินใจทดลองใช้เชื้อเพลิงชีวภาพในครั้งแรกไปแล้ว<br />
2) ประเภทสื่อ<br />
2.1) สื่อออนไลน์<br />
(1) Facebook Fan Page หลักของโครงการ มีการนําเสนอเนื้อหา ข่าวสาร ข้อมูล<br />
กิจกรรมการประชาสัมพันธ์ เรื่องราว ฯลฯ ไม่น้อยกว่า 30 เรื่อง มีคนกดไลค์ไม่<br />
น้อยกว่า 80,000 คนต่อปี มีกิจกรรมร่วมสนุกไม่น้อยกว่า 6 ครั้งต่อปี<br />
(2) เว็บไซต์ (Website) จัดทําเป็น Responsive web design สามารถเข้าถึง<br />
ข้อมูลสารสนเทศได้ทุกอุปกรณ์ (Device) โดยมีคนเข้าเยี่ยมชมปีละไม่ต่ํากว่า<br />
80,000 คน มีกิจกรรมร่วมสนุกไม่น้อยกว่า 6 ครั้งต่อปี<br />
(3) YouTube Channel หลักของโครงการ มีการเพิ่มเนื้อหาเชื้อเพลิงชีวภาพไม่<br />
ต่ํากว่าปีละ 20 เรื่อง และคนกดติดตาม (Subscriptions) ปีละไม่ต่ํากว่า<br />
10,000 คน<br />
(4) สร้าง Touch Point โดยการซื้อโฆษณาในเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการจัดสินใจ<br />
ซื้อรถยนต์ จํานวน 5 เว็บไซต์ ระยะเวลาตลอด 12 เดือนในแต่ละปี<br />
(5) การประกวดเว็บไซต์ Top biofuel online : ให้บุคคลทั่วไปร่วมพัฒนาเว็บไซต์<br />
ความรู้ความเข้าใจ เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร สร้างเครือข่ายสังคมออนไลน์<br />
[<strong>19</strong>-6] กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
รายงานเบื้องต้น โครงการรณรงค์ส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ ปีงบประมาณ <strong>25</strong>60<br />
แบ่งปันประสบการณ์ ตอบข้อสงสัย แก้ข่าวแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ดีเด่น ปี<br />
ละ 1 ครั้ง มีผู้เข้าร่วมการประกวดไม่น้อยกว่าปีละ 100 เว็บไซต์ หรือเพจ หรือ<br />
บล็อก ซึ่งมุ่งเน้นการพิจารณาการเข้าถึง และความนิยมของกลุ่มเป้าหมาย<br />
(6) การจัดทําแอพพลิเคชั่น หรือสติ๊กเกอร์ หรือสื่อเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้การใช้<br />
เชื้อเพลิงชีวภาพออนไลน์ โดยจัดให้มีกิจกรรมสร้างการมีส่วนร่วม เช่น ประกวด<br />
แข่งขัน ชิงรางวัล แคมปิ้ง แสดงผลงาน ฯลฯ<br />
(7) การจัดทําและประกวดสื่อไวรัลวีดิโอ (Viral Video) เพื่อเสริมสร้างความรู้<br />
และทัศนคติเกี่ยวกับการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ โดยเชิญชวนเยาวชน องค์กร และ<br />
ประชาชนทั่วไปร่วมส่งเข้าประกวด ไม่น้อยกว่า 30 ชุด พร้อมกับคัดเลือก และ<br />
นําออกเผยแพร่<br />
2.2) สื่อออฟไลน์ เน้นสื่อใหม่ (New Media) ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่น Gen-Y และ<br />
Gen-Z<br />
(1) ป้ายโฆษณาประเภทภาพนิ่งและดิจิตอลในพื้นที่ตาม Life Style ของ Gen-X<br />
และ Gen-Y เช่น แหล่งช๊อปปิ้ง โรงภาพยนตร์ รถไฟฟ้า เป็นต้น<br />
(2) การจัดนิทรรศการ สร้างความรู้ความเข้าใจ ที่ห้างสรรพสินค้าหรือสถานที่<br />
สําคัญของจังหวัด โดยให้กระจายไปยังภูมิภาคต่างๆ และในจังหวัดที่มีการใช้<br />
น้ํามันเชื้อเพลิงมาก<br />
(3) จัดกิจกรรม Biofuel Camp / Young Biofuel Talent / Biofuel Ambassador<br />
มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจากสถาบันการศึกษาระดับปริญญาตรี หรือเทียบเท่าไม่ต่ํา<br />
กว่า 200 คน จาก 20 สถาบัน<br />
(4) การสร้างเครือข่ายสื่อสารมวลชน ข่าว และเผยแพร่นโยบายด้วยการจัดทํา<br />
Press Release เผยแพร่ทุกสัปดาห์หรือทุกเดือน<br />
(5) การประกวด Biofuel Smart ร่วมกับผู้ใช้ เช่น ประกวดแต่งรถ สโลแกน<br />
ภาพยนตร์สั้น และภาพหรือเรื่องราวประทับใจเกี่ยวกับเชื้อเพลิงชีวภาพ<br />
(6) การสนับสนุนและประกวดโครงงานส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ โดยเป็น<br />
โครงงานของกลุ่มนักเรียน นักศึกษา เยาวชน องค์กร และประชาชนทั่วไปให้<br />
เกิดการคิด นําเสนอ และเผยแพร่การใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ<br />
(7) การจัดประกวดสื่อสร้างสรรค์ด้านเชื้อเพลิงชีวภาพ โดยร่วมมือกับหน่วยงาน<br />
ราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานเอกชน สถาบันการศึกษา ออกจัดกิจกรรม<br />
เผยแพร่ความรู้โดยการนําเสนอข้อมูลความรู้ความเข้าใจ และเชิญชวนให้จัดทํา<br />
โครงการเผยแพร่ในองค์กรเข้าร่วมประกวดชิงรางวัล<br />
[<strong>19</strong>-7] กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
รายงานเบื้องต้น โครงการรณรงค์ส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ ปีงบประมาณ <strong>25</strong>60<br />
(8) ร่วมกับผู้จําหน่ายน้ํามันเชื้อเพลิงจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด โดยจัดใน<br />
รูปแบบส่งเสริมภาพลักษณ์ กิจกรรมเครือข่ายผู้ใช้แก๊สโซฮอล์<br />
(9) ร่วมงานแสดงรถยนต์และงานแสดงสินค้าเทคโนโลยี เพื่อให้เกิดการจดจําความ<br />
เป็นเทคโนโลยีก้าวหน้าของเชื้อเพลิงชีวภาพ<br />
(10) การจัดทํา Logo / Key Message / Identity Design / Mascot ทีมีเอกลักษณ์<br />
เฉพาะตัวของโครงการ เพื่อสร้างความโดดเด่น ชัดเจนและเป็นหนึ่งเดียวกัน<br />
3) กลุ่มเป้าหมาย<br />
3.1) กลุ่มเป้าหมายหลัก คือ ผู้ที่ใช้รถยนต์โดยเฉาะพกลุ่ม Gen-Y ที่มีศักยภาพสูงทั่งใน<br />
ปัจจุบันและในระยะเวลา 10 ปีจากนี้และจะเป็นกลุ่มเปลี่ยนแปลงค่านิยมหลักของ<br />
ประชาชนทั่วไปทุกกลุ่ม<br />
3.2) กลุ่มเป้าหมายรอง คือ กลุ่ม Gen-Z ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีพฤติกรรม ค่านิยม และ Life Style<br />
คล้ายกับ Gen-X หลายอย่าง และจะเป็นกลุ่มที่เติบโตขึ้นในอนาคต<br />
4) กลยุทธ์และการเลือกใช้สื่อ หรือกิจกรรม<br />
[<strong>19</strong>-8] กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
รายงานเบื้องต้น โครงการรณรงค์ส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ ปีงบประมาณ <strong>25</strong>60<br />
ตารางที่ <strong>19</strong>-1 กลยุทธ์และการเลือกใช้สื่อประชาสัมพันธ์<br />
ปีที่ วัตถุประสงค์ กลยุทธ์การสื่อสาร สื่อออนไลน์ สื่อออฟไลน์<br />
1 เพื่อสร้างการรับรู้<br />
โดยการนําเสนอ<br />
ข้อมูลโดยเลือกใช้<br />
สื่อและกิจกรรมที่<br />
สามารถเข้าถึง<br />
กลุ่มเป้าหมาย<br />
เกี่ยวกับการใช้<br />
เชื้อเพลิงชีวภาพ<br />
ให้เป็นที่รู้จักของ<br />
กลุ่มเป้าหมาย<br />
การสร้างเอกลักษณ์ของโครงการผ่าน<br />
Logo / Key Message / Identity<br />
Design / Mascot<br />
ทีมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของโครงการ<br />
เพื่อสร้างความโดดเด่น ชัดเจนและเป็น<br />
หนึ่งเดียวกัน ซึ่งก่อนการนําเสนอข้อมูล<br />
ผ่านสื่อต่างๆ ทั้งในสื่อออนไลน์และ<br />
ออฟไลน์มีความจําเป็นในการออกแบบ<br />
เพื่อสร้างการจดจํา<br />
1. Facebook Fan Page<br />
2. Website<br />
3.YouTube Channel<br />
4. สร้าง Touch Point โดยการซื้อโฆษณาใน<br />
เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ ท่องเที่ยว กีฬา<br />
หรือข่าว<br />
5. การสร้างกิจกรรม<br />
1. ป้ายโฆษณา จํานวน 8 ป้าย ระยะเวลาเผยแพร่ 5 เดือน<br />
2. กิจกรรมนิทรรศการ จํานวน 5 ครั้ง<br />
4. ป้ายบนรถโดยสาร รวม 10 เส้นทาง เป็นเวลา 6 เดือน จํานวน<br />
400 คัน ต่อเดือน<br />
5. แรลลี่ 1 ครั้ง จํานวนไม่น้อยกว่า 65 คัน<br />
6. สร้างเครือข่ายที่ดีกับสื่อมวลชนและสัมภาษณ์ผู้บริหาร<br />
ไตรมาสละ 1 ครั้ง หรือปีละ 4 ครั้ง<br />
7. การจัดทํา Logo / Key Message / Identity Design /<br />
Mascot ทีมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของโครงการ เพื่อสร้างความ<br />
โดดเด่น ชัดเจนและเป็นหนึ่งเดียวกัน<br />
8. ประกวดสื่อสร้างสรรค์ด้านเชื้อเพลิงชีวภาพ 1 ครั้ง มีผู้เข้าร่วม<br />
ส่งผลงานเข้าประกวดไม่น้อยกว่า 50 ชุด<br />
9. ร่วมเผยแพร่กับรายการโทรทัศน์ 1 ครั้ง ความยาว 30 นาที<br />
10. ร่วมกับสถาบันอุดมศึกษาจัดกิจกรรมเผยแพร่การปรับแต่ง<br />
เครื่องยนต์และใช้อุปกรณ์ FFV Conversion Kit กับรถยนต์<br />
เก่า จํานวน 10 สถาบัน<br />
[<strong>19</strong>-9] กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
รายงานเบื้องต้น โครงการรณรงค์ส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ ปีงบประมาณ <strong>25</strong>60<br />
ตารางที่ <strong>19</strong>-1 กลยุทธ์และการเลือกใช้สื่อประชาสัมพันธ์ (ต่อ)<br />
ปีที่ วัตถุประสงค์ กลยุทธ์การสื่อสาร สื่อออนไลน์ สื่อออฟไลน์<br />
2 เพื่อสร้างความรู้<br />
ความเข้าใจที่ดี<br />
โดยการใช้เนื้อหาที่<br />
โน้มน้าวให้กลุ่ม<br />
เป้าหมายเกิดความ<br />
สนใจ เกี่ยวกับการ<br />
ใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ<br />
1. การให้ข้อเท็จจริงทางกายภาพ<br />
(ผลกระทบทางตรงต่อรถยนต์ การขับ<br />
ขี่ ค่าใช้จ่ายของตัวผู้ใช้เอง)<br />
2. ชี้นําข้อด้อยของการใช้น้ํามัน<br />
ปิโตรเลียมต่อตนเอง ด้านค่าใช้จ่าย<br />
และการปล่อยมลพิษ พร้อมนําเสนอ<br />
ข้อดีของเชื้อเพลิงชีวภาพที่ประหยัด<br />
ค่าใช้จ่ายและลดการปล่อยมลพิษ<br />
3. นําเสนอคุณสมบัติ มาตรฐาน ผลการ<br />
ทดสอบ และการยืนยันจากผู้ผลิต<br />
รถยนต์และองค์กรที่น่าเชื่อถือถึง<br />
สมรรถนะ การกัดกร่อนเครื่องยนต์<br />
และการระเหยของเชื้อเพลิงที่ไม่<br />
แตกต่างกัน<br />
1. Facebook Fan Page มีสมาชิก หรือ<br />
ผู้ติดตาม (Follower) ไม่น้อยกว่า 10,000<br />
คน มีผู้กดชอบ (Like) แบ่งปัน (Share) แสดง<br />
ความคิดเห็น (Comment) รวมกันไม่น้อย<br />
กว่า 80,000 คน และมีกิจกรรมร่วมสนุก<br />
ไม่น้อยกว่า 6 ครั้ง<br />
2. Website มีคนเข้าเยี่ยมชมปีละไม่ต่ํากว่า<br />
80,000 คน มีกิจกรรมร่วมสนุกไม่น้อยกว่า<br />
6 ครั้งต่อปี<br />
3. YouTube Channel มีการเพิ่มเนื้อหา<br />
เชื้อเพลิงชีวภาพไม่ต่ํากว่าปีละ 20 เรื่อง มี<br />
ผู้เข้าชม (View) ไม่ต่ํากว่า 50,000 คน และ<br />
คนกดติดตาม (Subscriptions) ชอบ และ<br />
แบ่งปันรวมกันปีละไม่ต่ํากว่า 5,000 คน<br />
4. สร้าง Touch Point โดยการซื้อโฆษณาใน<br />
เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์ ท่องเที่ยว กีฬา<br />
หรือข่าวจํานวน 5 เว็บไซต์ ระยะเวลาตลอด<br />
8 เดือนในแต่ละปี<br />
5. ประกวดเว็บไซต์ Top biofuel online 1<br />
ครั้ง มีเว็บไซต์เข้าร่วมการประกวดไม่น้อยกว่า<br />
50 เว็บไซต์ หรือเพจ หรือบล๊อก<br />
1. ป้ายโฆษณา จํานวน 8 ป้าย ระยะเวลาเผยแพร่ 5 เดือน<br />
2. นิทรรศการ จํานวน 10 ครั้ง<br />
3. แรลลี่ 1 ครั้ง จํานวนไม่น้อยกว่า 65 คัน<br />
4. กิจกรรม Biofuel Camp หรือ Young Biofuel Talent หรือ<br />
Biofuel Ambassador มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจาก<br />
สถาบันการศึกษาระดับไม่ต่ํากว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า<br />
ไม่ต่ํากว่า 200 คน จาก 20 สถาบัน<br />
5. สร้างเครือข่ายที่ดีกับสื่อมวลชนและสัมภาษณ์ผู้บริหาร<br />
ไตรมาสละ 1 ครั้ง หรือปีละ 4 ครั้ง<br />
6. การประกวด Biofuel Smart Car 1 ครั้ง มีรถเข้าร่วมการ<br />
ประกวดไม่น้อยกว่า 50 คัน<br />
7. ประกวดโครงงานส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ จํานวน 5<br />
ครั้ง/ปี เป็นระดับภูมิภาค 4 ครั้ง คือ ภาคกลาง เหนือ อีสาน<br />
และใต้ และระดับประเทศในกรุงเทพมหานคร 1 ครั้งร่วม<br />
กิจกรรม ไม่ต่ํากว่า 20 ทีม โดยมีเป้าหมายให้ทดลองใช้และ<br />
ตรวจวัดประสิทธิภาพจริงด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ค้นหา<br />
ความจริง ค้นหาข้อเปรียบเทียบระหว่างเชื้อเพลิงชีวภาพและ<br />
ปิโตรเลียม ปีละ 1 รอบ โครงงานส่งเข้าร่วมประกวดไม่น้อย<br />
กว่า 30 โครงงาน<br />
8. ประกวดสื่อสร้างสรรค์ด้านเชื้อเพลิงชีวภาพ 1 ครั้ง มีผู้เข้าร่วม<br />
ส่งผลงานเข้าประกวดไม่น้อยกว่า 50 ชุด<br />
[<strong>19</strong>-10] กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
รายงานเบื้องต้น โครงการรณรงค์ส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ ปีงบประมาณ <strong>25</strong>60<br />
ตารางที่ <strong>19</strong>-1 กลยุทธ์และการเลือกใช้สื่อประชาสัมพันธ์ (ต่อ)<br />
ปีที่ วัตถุประสงค์ กลยุทธ์การสื่อสาร สื่อออนไลน์ สื่อออฟไลน์<br />
6. การจัดประกวดแอพพลิเคชั่นหรือสติ๊กเกอร์<br />
หรือสื่อเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้การใช้<br />
เชื้อเพลิงชีวภาพออนไลน์ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรม<br />
การประกวดไม่น้อยกว่า 50 คน และสามารถ<br />
นําสื่อที่ชนะการประกวดไปใช้งานได้จริง<br />
7. ประกวดสื่อไวรัลวีดิโอ (Viral Video) 1 ครั้ง<br />
ร่วมส่งเข้าประกวดไม่น้อยกว่า 30 ชุด และ<br />
สามารถนําสื่อที่ชนะการประกวดไปใช้งาน<br />
ได้จริง<br />
9. การจัดประกวดสื่อสร้างสรรค์ด้านเชื้อเพลิงชีวภาพ โดยร่วมมือ<br />
กับหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานเอกชน<br />
สถาบันการศึกษา ออกจัดกิจกรรมเผยแพร่ความรู้โดยการ<br />
นําเสนอข้อมูลความรู้ความเข้าใจ ภาพพจน์ที่ดี และเชิญชวน<br />
ให้จัดทําโครงการเผยแพร่ในองค์กรเข้าร่วมประกวดชิงรางวัล<br />
ปีละ 1 ครั้ง<br />
10. จัดทําชุดสื่อการเรียนการสอนเชื้อเพลิงชีวภาพระดับ<br />
มัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย โดยจัดทําชุดสื่อ ตํารา<br />
และคู่มือการสอนสําหรับอาจารย์ ร่วมกับหน่วยงานที่<br />
รับผิดชอบด้านการศึกษา เพื่อทําชุดการเรียนการสอนระดับ<br />
มัธยมศึกษาตอนต้น 1 ชุด ตอนปลาย 1 ชุด และทําข้อตกลง<br />
แจกจ่าย ไปใช้งานยังโรงเรียนมัธยมศึกษาทั่วประเทศ<br />
11. ร่วมกับรายการทางโทรทัศน์ ซึ่งมีรูปแบบรายการสนุกสนาน<br />
มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่ต้องใช้ความรู้ความเข้าใจ และเปิดโอกาส<br />
ให้ผู้ชมได้ร่วมสนุกในรายการ 3 รายการ<br />
12. จัดทําภาพยนตร์สั้นหรือสารคดีเฉลิมพระเกียรติ<br />
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชดํารัสและ<br />
พระราชกรณียกิจ ที่เกี่ยวเนื่องกับเชื้อเพลิงชีวภาพ เนื่องใน<br />
มหามงคลฉลองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี (29 มิ.ย.<strong>25</strong>59)<br />
โดยเผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ และสื่อออนไลน์<br />
[<strong>19</strong>-11] กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
รายงานเบื้องต้น โครงการรณรงค์ส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ ปีงบประมาณ <strong>25</strong>60<br />
ตารางที่ <strong>19</strong>-1 กลยุทธ์และการเลือกใช้สื่อประชาสัมพันธ์ (ต่อ)<br />
ปีที่ วัตถุประสงค์ กลยุทธ์การสื่อสาร สื่อออนไลน์ สื่อออฟไลน์<br />
13. ร่วมกับผู้จําหน่ายน้ํามันเชื้อเพลิงจัดกิจกรรมส่งเสริม<br />
การตลาด โดยจัดในรูปแบบส่งเสริมภาพลักษณ์ กิจกรรม<br />
เครือข่ายผู้ใช้ แก๊สโซฮอล์ 100 สถานี<br />
14. แจกสื่อแนะนําเชื้อเพลิงชีวภาพฉบับมินิให้กับโชว์รูมจําหน่าย<br />
รถยนต์เพื่อส่งต่อให้ลูกค้าที่กําลังจะตัดสินใจซื้อรถยนต์จํานวน<br />
300 โชว์รูม โชว์รูมละ 500 ชุด/ปี<br />
15. ร่วมสนับสนุนการจัดสื่อส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ ใน<br />
พื้นที่สถานีบริการน้ํามันเชื้อเพลิง เช่น หน้าร้านสะดวกซื้อ<br />
ศาลาหรือลานพักผ่อน หน้าสถานีบริการ หรือที่หัวจ่าย เป็นต้น<br />
เพื่อใช้เป็นจุดให้ความรู้ข้อมูลข่าวสารที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจริง<br />
300 สถานีทั่วประเทศ และปรับปรุงข้อมูลทุก 6 เดือน<br />
3 เพื่อสร้างและ<br />
ปรับเปลี่ยนทัศน<br />
คติที่ดี โดยการใช้<br />
เนื้อหาที่โน้มน้าว<br />
ให้กลุ่ม เป้าหมาย<br />
เกิดความสนใจ<br />
เกี่ยวกับการใช้<br />
เชื้อเพลิงชีวภาพ<br />
และการปรับแต่ง<br />
เครื่องยนต์โดยใช้<br />
การสร้างภาพลักษณ์และค่านิยมทาง<br />
ความรู้สึก (ผลกระทบเชิงการเป็นที่<br />
ยอมรับในกลุ่ม สังคม จิตวิทยา<br />
ความภูมิใจ การเป็นตัวบ่งชี้ไลฟ์สไตล์<br />
การเป็นผู้นําทางความคิดของผู้ใช้ ซึ่ง<br />
ส่งผลมากต่อพฤติกรรม)<br />
1. ชี้นําภาพลักษณ์การใช้น้ํามัน<br />
ปิโตรเลียมให้เป็นไปในทางลบ<br />
• การเสียเงินให้ต่างประเทศโดยไม่<br />
หมุนเวียนกลับสู่คนไทยและตัวเอง<br />
1. Facebook Fan Page นําเนื้อหาออก<br />
เผยแพร่ปีละไม่น้อยกว่า 30 เรื่อง มีสมาชิก<br />
หรือผู้ติดตาม (Follower) มีผู้กดชอบ (Like)<br />
แบ่งปัน (แชร์) และแสดงความคิดเห็น<br />
(Commend) ปีละไม่น้อยกว่า<br />
80,000 คนต่อปี มีกิจกรรมร่วมสนุกไม่น้อย<br />
กว่า 6 ครั้งต่อปี<br />
2. Website มีผู้เข้าเยี่ยมชม ปีละไม่ต่ํากว่า<br />
80,000 คน มีกิจกรรมร่วมสนุกไม่น้อยกว่า<br />
6 ครั้งต่อปี<br />
1. ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ 10 ป้าย ขนาดพื้นที่รวมไม่น้อยกว่า<br />
1,500 ตารางเมตร ระยะเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน<br />
2. การจัดนิทรรศการ 5 จังหวัด ในกรุงเทพและปริมณฑล และอีก<br />
4 ภาคของประเทศ จํานวนรวมไม่น้อยกว่า 10 ห้างสรรพสินค้า<br />
3. จัดกิจกรรม Biofuel Camp และ Young Biofuel Talent<br />
มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจากสถาบันการศึกษาระดับไม่ต่ํากว่า<br />
ปริญญาตรีหรือเทียบเท่า ไม่ต่ํากว่า 200 คน จาก 20 สถาบัน<br />
4. การสร้างเครือข่ายที่ดีกับสื่อมวลชน แถลงข่าว และ<br />
การสัมภาษณ์ผู้บริหาร เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารสําคัญให้แก่<br />
ผู้สื่อข่าว ปีละ 4 ครั้ง<br />
[<strong>19</strong>-12] กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
รายงานเบื้องต้น โครงการรณรงค์ส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ ปีงบประมาณ <strong>25</strong>60<br />
ตารางที่ <strong>19</strong>-1 กลยุทธ์และการเลือกใช้สื่อประชาสัมพันธ์ (ต่อ)<br />
ปีที่ วัตถุประสงค์ กลยุทธ์การสื่อสาร สื่อออนไลน์ สื่อออฟไลน์<br />
FFV conversion<br />
Kit<br />
• ทําลายสิ่งแวดล้อมตั้งแต่การขุด<br />
เจาะ การขนส่ง การรั่วไหล<br />
การผลิต การใช้งาน<br />
2. ชี้นําภาพลักษณ์การใช้เชื้อเพลิง<br />
ชีวภาพให้เป็นไปในทางบวก เช่น<br />
การรักษาสิ่งแวดล้อม คุณภาพสูง<br />
เชื้อเพลิงแห่งอนาคต เป็นเชื้อเพลิง<br />
รุ่นใหม่ของคนรุ่นต่อไป การอยู่ร่วมกับ<br />
ธรรมชาติอย่างสมดุล ฯลฯ<br />
3. นําเสนอภาพลักษณ์การผลิตและ<br />
คุณภาพเชื้อเพลิงชีวภาพที่เป็นบวก<br />
• กระบวนการผลิตทันสมัยใช้<br />
เทคโนโลยีสูง กระบวนการ<br />
ควบคุมคุณภาพได้มาตรฐาน<br />
ระดับสากล<br />
4. ลบล้างทัศนคติในแง่ลบด้านคุณภาพ<br />
ด้วยการนําเสนอข้อมูลและ<br />
สภาพแวดล้อมด้านเชื้อเพลิงชีวภาพ<br />
ของประเทศและทั่วโลก เช่น สถิติการ<br />
ใช้งานของในประเทศและทั่วโลกที่<br />
เพิ่มขึ้น<br />
3. YouTube Channel เพิ่มเนื้อหาไม่ต่ํากว่าปี<br />
ละ 20 เรื่อง และผู้กดติดตาม<br />
(Subscriptions) ชอบ และแบ่งปัน ปีละไม่<br />
ต่ํากว่า 50,000 คน<br />
4. Touch Point จํานวน 5 เว็บไซต์ ระยะเวลา<br />
ตลอด 12 เดือนในแต่ละปี<br />
5. ประกวดเว็บไซต์ Top biofuel online<br />
1 ครั้ง มีเว็บไซต์เข้าร่วมการประกวดไม่น้อย<br />
กว่า 50 เว็บไซต์ หรือเพจ หรือบล๊อก<br />
6. การจัดประกวดแอพพลิเคชั่นหรือสติ๊กเกอร์<br />
หรือสื่อเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้การใช้เชื้อเพลิง<br />
ชีวภาพออนไลน์ มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมการ<br />
ประกวดไม่น้อยกว่า 50 คน และสามารถนํา<br />
สื่อที่ชนะการประกวดไปใช้งานได้จริง<br />
7. ประกวดสื่อไวรัลวีดิโอ (Viral Video) 1 ครั้ง<br />
ร่วมส่งเข้าประกวดไม่น้อยกว่า 30 ชุด และ<br />
สามารถนําสื่อที่ชนะการประกวดไปใช้งาน<br />
ได้จริง<br />
5. การประกวด Biofuel concept car ประกวดแต่งรถ สโลแกน<br />
เรื่องสั้น เหตุการณ์ ความชื่นชอบ และภาพหรือเรื่องราว<br />
ประทับใจเกี่ยวกับการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพกับรถยนต์<br />
6. กิจกรรมแรลลี่เชื้อเพลิงชีวภาพ 1 ครั้ง ผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า<br />
65 คัน พร้อมนําภาพข่าวกิจกรรมออกเผยแพร่ในสื่อออนไลน์<br />
และสื่อออฟไลน์<br />
7. การจัดประกวดโครงงานส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ<br />
จํานวน 5 ครั้ง/ปี เป็นระดับภูมิภาค 4 ครั้ง คือ ภาคกลาง<br />
เหนือ อีสาน และใต้ และระดับประเทศในกรุงเทพมหานคร<br />
1 ครั้งร่วมกิจกรรม ไม่ต่ํากว่า 20 ทีม โดยมีเป้าหมายให้ทดลอง<br />
ใช้และตรวจวัดประสิทธิภาพจริงด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์<br />
ค้นหาความจริง ค้นหาข้อเปรียบเทียบระหว่างเชื้อเพลิงชีวภาพ<br />
และปิโตรเลียม ปีละ 1 รอบ<br />
[<strong>19</strong>-13] กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
รายงานเบื้องต้น โครงการรณรงค์ส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ ปีงบประมาณ <strong>25</strong>60<br />
ตารางที่ <strong>19</strong>-1 กลยุทธ์และการเลือกใช้สื่อประชาสัมพันธ์ (ต่อ)<br />
ปีที่ วัตถุประสงค์ กลยุทธ์การสื่อสาร สื่อออนไลน์ สื่อออฟไลน์<br />
4 เพื่อกระตุ้น<br />
การตัดสินใจซื้อของ<br />
กลุ่มเป้าหมายที่มี<br />
รถยนต์ใช้งานอยู่<br />
แล้ว เกี่ยวกับการ<br />
ทดลองใช้เชื้อเพลิง<br />
ชีวภาพและ<br />
การจัดสารเชิงเปรียบเทียบ<br />
1. เตรียมข้อมูลทางเทคนิคให้ครบถ้วน<br />
ทุกแง่มุม และเป็นข้อมูลเชิง<br />
เปรียบเทียบ<br />
2. จัดทําชุดข้อมูลเผยแพร่ผ่าน<br />
ทางช่องทางที่เข้าถึงและ<br />
เกิดประสิทธิผล<br />
1. Facebook Fan Page นําเนื้อหาออก<br />
เผยแพร่ปีละไม่น้อยกว่า 30 เรื่อง มีสมาชิก<br />
หรือผู้ติดตาม (Follower) มีผู้กดชอบ (Like)<br />
แบ่งปัน (แชร์) และแสดงความคิดเห็น<br />
(Commend) ปีละไม่น้อยกว่า 80,000 คน<br />
ต่อปี มีกิจกรรมร่วมสนุกไม่น้อยกว่า<br />
6 ครั้งต่อปี<br />
1. ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ 10 ป้าย ขนาดพื้นที่รวมไม่น้อยกว่า<br />
1,500 ตารางเมตร ระยะเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน<br />
2. ป้ายบนรถโดยสารประจําทาง 5 จังหวัด ในกรุงเทพและ<br />
ปริมณฑล และอีก 4 ภาคของประเทศ เส้นทางรวมไม่น้อยกว่า<br />
10 เส้นทาง แต่ละคันระยะเวลาไม่น้อยกว่า 4 เดือน<br />
รวมทั้งหมดไม่น้อยกว่า 400 คันเดือน<br />
3. จัดกิจกรรม Biofuel Ambassador มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจาก<br />
การปรับแต่ง 3. การสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย 2. Website มีผู้เข้าเยี่ยมชม ปีละไม่ต่ํากว่า สถาบันการศึกษาระดับไม่ต่ํากว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า<br />
เครื่องยนต์โดยใช้<br />
FFV Conversion<br />
Kit<br />
และกลุ่มเป้าหมาย<br />
มีปริมาณ (จํานวนกลุ่มเป้าหมาย)<br />
จํานวนครั้งการส่งซ้ํา ระยะเวลา<br />
และความถี่ เพียงพอตามหลักทฤษฎี<br />
การรับรู้ เปลี่ยนทัศนคติ และ<br />
80,000 คน มีกิจกรรมร่วมสนุกไม่น้อยกว่า<br />
6 ครั้งต่อปี<br />
3. YouTube Channel เพิ่มเนื้อหาไม่ต่ํากว่าปี<br />
ละ 20 เรื่อง และผู้กดติดตาม<br />
ไม่ต่ํากว่า 200 คน จาก 20 สถาบัน<br />
4. การสร้างเครือข่ายที่ดีกับสื่อมวลชน แถลงข่าว และการ<br />
สัมภาษณ์ผู้บริหาร เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารสําคัญให้แก่<br />
ผู้สื่อข่าว ปีละ 4 ครั้ง<br />
ที่กําลังจะซื้อ แสดงออกทางพฤติกรรมของผู้บริโภค (Subscriptions) ชอบ และแบ่งปัน ปีละ 5. การประกวด Biofuel Smart Car หรือ Biofuel concept<br />
รถยนต์คันใหม่<br />
เกี่ยวกับการเลือก<br />
ซื้อรถยนต์ที่มี<br />
เครื่องยนต์รองรับ<br />
การใช้เชื้อเพลิง<br />
ชีวภาพ<br />
4. บ่งชี้ประโยชน์ของผู้บริโภคในการใช้<br />
เชื้อเพลิงชีวภาพเพื่อกระตุ้นการ<br />
ตัดสินใจ โดยการสรุปประโยชน์ทาง<br />
กายภาพ ประโยชน์ทางค่านิยมที่<br />
มีมากกว่า<br />
5. เปรียบเทียบกับต้นทุนการเปลี่ยนมา<br />
ทดลองใช้ที่ต้องรับฟังข้อมูลและทํา<br />
ความเข้าใจแค่นั้น<br />
ไม่ต่ํากว่า 50,000 คน<br />
4. Touch Point จํานวน 5 เว็บไซต์ ระยะเวลา<br />
ตลอด 12 เดือนในแต่ละปี<br />
car หรือ Biofuel inner driver ประกวดแต่งรถ สโลแกน เรื่อง<br />
สั้น เหตุการณ์ ความชื่นชอบ และภาพหรือเรื่องราว ประทับใจ<br />
เกี่ยวกับการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพกับรถยนต์<br />
6. กิจกรรมแรลลี่เชื้อเพลิงชีวภาพ 1 ครั้ง ผู้เข้าร่วมไม่น้อยกว่า<br />
65 คัน พร้อมนําภาพข่าวกิจกรรมออกเผยแพร่ในสื่อออนไลน์<br />
และสื่อออฟไลน์<br />
[<strong>19</strong>-14] กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
รายงานเบื้องต้น โครงการรณรงค์ส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ ปีงบประมาณ <strong>25</strong>60<br />
ตารางที่ <strong>19</strong>-1 กลยุทธ์และการเลือกใช้สื่อประชาสัมพันธ์ (ต่อ)<br />
ปีที่ วัตถุประสงค์ กลยุทธ์การสื่อสาร สื่อออนไลน์ สื่อออฟไลน์<br />
6. เลือกใช้สื่อตามความเหมาะสมแต่ละ<br />
เนื้อหา ช่วงเวลา และกลุ่มเป้าหมาย<br />
7. ประเมินผลประสิทธิภาพสื่อ และ<br />
ประสิทธิผลต่อกลุ่มเป้าหมาย พร้อม<br />
วิเคราะห์ข้อบกพร่อง และแนวทาง<br />
ปรับปรุงกิจกรรมส่งเสริมอย่าง<br />
ต่อเนื่อง<br />
7. การจัดประกวดโครงงานส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ<br />
จํานวน 5 ครั้ง/ปี เป็นระดับภูมิภาค 4 ครั้ง คือ ภาคกลาง<br />
เหนือ อีสาน และใต้ และระดับประเทศในกรุงเทพมหานคร<br />
1 ครั้ง ร่วมกิจกรรม ไม่ต่ํากว่า 20 ทีม โดยมีเป้าหมายให้<br />
ทดลองใช้ และตรวจวัดประสิทธิภาพจริงด้วยวิธีการทาง<br />
วิทยาศาสตร์ ค้นหาความจริง ค้นหาข้อเปรียบเทียบระหว่าง<br />
เชื้อเพลิงชีวภาพและปิโตรเลียม ปีละ 1 รอบ<br />
8. การจัดประกวดสื่อสร้างสรรค์ด้านเชื้อเพลิงชีวภาพ โดยร่วมมือ<br />
กับหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานเอกชน<br />
สถาบันการศึกษา จัดกิจกรรมเผยแพร่ความรู้โดยการนําเสนอ<br />
ข้อมูลความรู้ความเข้าใจ ภาพพจน์ที่ดี และเชิญชวนให้จัดทํา<br />
โครงการเผยแพร่ในองค์กรร่วมประกวดชิงรางวัล ปีละ 1 ครั้ง<br />
9. การจัดการแข่งขันตอบปัญหาความรู้เกี่ยวกับเชื้อเพลิงชีวภาพ<br />
ระดับมัธยมศึกษา โดยร่วมมือกับสํานักงานคณะกรรมการ<br />
การศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการดําเนินการจัดงาน<br />
ศิลปหัตถกรรมนักเรียน มาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ระดับจังหวัด<br />
ภูมิภาคและมีผู้เข้าร่วมกิจกรรม ไม่ต่ํากว่า 400 คน<br />
(ต่อยอดกิจกรรมของเครือข่ายพันธมิตรด้านการประชาสัมพันธ์)<br />
10. ร่วมกับรายการทางโทรทัศน์ ซึ่งมีรูปแบบรายการสนุกสนาน<br />
มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่ต้องใช้ความรู้ความเข้าใจ และเปิดโอกาส<br />
ให้ผู้ชมได้ร่วมสนุกในรายการ<br />
[<strong>19</strong>-15] กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
รายงานเบื้องต้น โครงการรณรงค์ส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ ปีงบประมาณ <strong>25</strong>60<br />
ตารางที่ <strong>19</strong>-1 กลยุทธ์และการเลือกใช้สื่อประชาสัมพันธ์ (ต่อ)<br />
ปีที่ วัตถุประสงค์ กลยุทธ์การสื่อสาร สื่อออนไลน์ สื่อออฟไลน์<br />
5 เพื่อส่งเสริม<br />
พฤติกรรมเชิงสังคม<br />
Promoting<br />
Behavior) ในการ<br />
ยอมรับการใช้<br />
เชื้อเพลิงชีวภาพ<br />
อย่างต่อเนื่อง ของ<br />
กลุ่มเป้าหมาย<br />
ที่มีรถยนต์ที่มี<br />
เครื่องยนต์รองรับ<br />
การใช้เชื้อเพลิง<br />
ชีวภาพ หลังจากที่<br />
ได้ตัดสินใจทดลอง<br />
ใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ<br />
ในครั้งแรกไปแล้ว<br />
1. Facebook Fan Page นําเนื้อหาออก<br />
เผยแพร่ปีละไม่น้อยกว่า 30 เรื่อง มีสมาชิก<br />
หรือผู้ติดตาม (Follower) มีผู้กดชอบ (Like)<br />
แบ่งปัน (แชร์) และแสดงความคิดเห็น<br />
(Commend) ปีละไม่น้อยกว่า 80,000 คน<br />
ต่อปี มีกิจกรรมร่วมสนุก<br />
ไม่น้อยกว่า 6 ครั้ง ต่อปี<br />
2. Website มีผู้เข้าเยี่ยมชม ปีละ<br />
ไม่ต่ํากว่า 80,000 คน มีกิจกรรมร่วมสนุก<br />
ไม่น้อยกว่า 6 ครั้งต่อปี<br />
3. YouTube Channel เพิ่มเนื้อหา<br />
ไม่ต่ํากว่าปีละ 20 เรื่อง และผู้กดติดตาม<br />
(Subscriptions) ชอบ และแบ่งปันปีละ<br />
ไม่ต่ํากว่า 50,000 คน<br />
4. Touch Point จํานวน 5 เว็บไซต์ ระยะเวลา<br />
ตลอด 12 เดือนในแต่ละปี<br />
การบูรณาการความร่วมมือ กับส่วน<br />
ราชการ รัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน<br />
1. การสร้างแรงจูงใจให้องค์กรต่าง ร่วม<br />
รณรงค์และหามาตรการส่งเสริม<br />
พฤติกรรมการยอมรับการใช้เชื้อเพลิง<br />
ชีวภาพอย่างต่อเนื่อง<br />
2. ให้การสนับสนุนและร่วมในโครงการ<br />
เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมการยอมรับการ<br />
ใช้เชื้อเพลิงชีวภาพอย่างต่อเนื่อง<br />
3. การสนับสนุนให้ภาคเอกชน<br />
ประชาสัมพันธ์เพื่อการตลาด เพื่อให้<br />
เกิดยอมรับและการใช้เชื้อเพลิง<br />
ชีวภาพอย่างต่อเนื่อง<br />
โดยดําเนินการตามข้อตกลงกับส่วน<br />
ราชการ ดังนี้<br />
1. สํานักงานคณะกรรมการการศึกษา<br />
ขั้นพื้นฐาน<br />
2. สํานักงานคณะกรรมการ<br />
การอาชีวศึกษา<br />
3. สํานักงานคณะกรรมการ<br />
การอุดมศึกษา<br />
1. ประสานงานกับโครงการจัดประกวด Thailand Energy<br />
Awards ในทุกๆ ปี ซึ่งจัดโดยกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและ<br />
อนุรักษ์พลังงาน (พพ.) โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ เพื่อเป็นการยก<br />
ย่องและแสดงความชื่นชมแก่ผู้ที่มีผลงานดีเด่นด้านการอนุรักษ์<br />
พลังงานและการพัฒนาพลังงานทดแทน เพื่อส่งเสริมให้เกิดการ<br />
ตื่นตัวในการอนุรักษ์พลังงานและผลักดันให้เกิดการพัฒนา<br />
พลังงานทดแทนมากยิ่งขึ้น และเพื่อคัดเลือกผู้ที่จะเป็นตัวแทน<br />
ของประเทศไทยไปประกวดโครงการดีเด่นด้านอนุรักษ์พลังงาน<br />
และพลังงานทดแทนในระดับอาเซียน เพื่อจัดกิจกรรมที่ส่งเสริม<br />
ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและเอกชน ยอมรับการใช้เชื้อเพลิง<br />
ชีวภาพ อย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง โดยการจูงใจให้องค์กร<br />
ต่างๆ ได้รับรางวัลจากเวที Thailand Energy Awards<br />
2. ป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ 10 ป้าย ขนาดพื้นที่รวม<br />
ไม่น้อยกว่า 1,500 ตารางเมตร ระยะเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือน<br />
3. จัดกิจกรรม Biofuel Camp หรือ Young Biofuel Talent<br />
หรือ Biofuel Ambassador มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจาก<br />
สถาบันการศึกษาระดับไม่ต่ํากว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า<br />
ไม่ต่ํากว่า 200 คน จาก 20 สถาบัน<br />
4. การสร้างเครือข่ายที่ดีกับสื่อมวลชน แถลงข่าว และการ<br />
สัมภาษณ์ผู้บริหาร เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารสําคัญให้แก่<br />
ผู้สื่อข่าว ปีละ 4 ครั้ง<br />
[<strong>19</strong>-16] กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
รายงานเบื้องต้น โครงการรณรงค์ส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ ปีงบประมาณ <strong>25</strong>60<br />
ตารางที่ <strong>19</strong>-1 กลยุทธ์และการเลือกใช้สื่อประชาสัมพันธ์ (ต่อ)<br />
ปีที่ วัตถุประสงค์ กลยุทธ์การสื่อสาร สื่อออนไลน์ สื่อออฟไลน์<br />
4. กรมการขนส่งทางบก<br />
5. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา<br />
6. สถานีโทรทัศน์ ททบ.5<br />
โดยดําเนินการตามข้อตกลงกับ<br />
หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ<br />
1. การไฟฟ้านครหลวง<br />
2. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย<br />
3. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย<br />
4. สถานีโทรทัศน์ ThaiTBS<br />
โดยดําเนินการตามข้อตกลงกับบริษัท<br />
ภาคเอกชน<br />
1. บริษัทแม่ผู้ให้บริการสถานีปั๊มน้ํามัน<br />
จํานวน 5 ราย<br />
2. สถานีวิทยุต่าง ๆ ได้แก่ จส.100<br />
สวพ.91 Green Wave สถานีวิทยุ<br />
เพื่อการศึกษาของจุฬาลงกรณ์<br />
มหาวิทยาลัย<br />
5. กิจกรรมแรลลี่เชื้อเพลิงชีวภาพ 1 ครั้ง ผู้เข้าร่วม<br />
ไม่น้อยกว่า 65 คัน พร้อมนําภาพข่าวกิจกรรมออกเผยแพร่ใน<br />
สื่อออนไลน์และสื่อออฟไลน์<br />
6. การจัดประกวดสื่อสร้างสรรค์ด้านเชื้อเพลิงชีวภาพ โดยร่วมมือ<br />
กับหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานเอกชน<br />
สถาบันการศึกษา ออกจัดกิจกรรมเผยแพร่ความรู้โดยการ<br />
นําเสนอข้อมูลความรู้ความเข้าใจ ภาพพจน์ที่ดี และเชิญชวนให้<br />
จัดทําโครงการเผยแพร่ในองค์กรเข้าร่วมประกวดชิงรางวัล<br />
ปีละ 1 ครั้ง<br />
7. ร่วมกับรายการทางโทรทัศน์ ซึ่งมีรูปแบบรายการสนุกสนาน มี<br />
ผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่ต้องใช้ความรู้ความเข้าใจ และเปิดโอกาสให้<br />
ผู้ชมได้ร่วมสนุกในรายการ<br />
8. ร่วมกับผู้จําหน่ายน้ํามันเชื้อเพลิงจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด<br />
โดยจัดในรูปแบบส่งเสริมภาพลักษณ์ กิจกรรมเครือข่ายผู้ใช้<br />
แก๊สโซฮอล์<br />
9. ร่วมสนับสนุนการจัดสื่อส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ ในพื้นที่<br />
สถานีบริการน้ํามันเชื้อเพลิง เช่น หน้าร้านสะดวกซื้อ ศาลาหรือ<br />
ลานพักผ่อน หน้าสถานีบริการ หรือที่หัวจ่าย เป็นต้น เพื่อใช้<br />
เป็นจุดให้ความรู้ข้อมูลข่าวสารที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจริง<br />
โดยขั้นตอนนี้เน้นการส่งเสริมภาพลักษณ์และพฤติกรรมทาง<br />
สังคม 200 สถานีทั่วประเทศ และปรับปรุงข้อมูลทุก 6 เดือน<br />
[<strong>19</strong>-17] กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน
รายงานเบื้องต้น โครงการรณรงค์ส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงชีวภาพ ปีงบประมาณ <strong>25</strong>60<br />
5) การจัดสรรงบประมาณ<br />
5.1) ปี <strong>25</strong>58 รวมทั้งสิ้น 21,050,000 บาท<br />
5.2) ปี <strong>25</strong>59 รวมทั้งสิ้น 58,600,000 บาท<br />
5.3) ปี <strong>25</strong>60 รวมทั้งสิ้น 43,550,000 บาท<br />
5.4) ปี <strong>25</strong>61 รวมทั้งสิ้น 30,000,000 บาท<br />
5.5) ปี <strong>25</strong>62 รวมทั้งสิ้น 32,800,000 บาท<br />
โดยจะนําข้อมูลเบื้องต้นนี้ มาประกอบกับสถานการณ์จริง และผลประเมินของโครงการนี้ แล้วเมื่อถึง<br />
ช่วงเวลาท้ายโครงการจะจัดทําเป็นแผนฉบับใหม่สําหรับปฏิบัติในปีต่อไปตามที่กําหนดไว้<br />
[<strong>19</strong>-18] กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน