ÊÒÃй‹ÒÃÙŒ - EHWM - จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ÊÒÃй‹ÒÃÙŒ - EHWM - จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ÊÒÃй‹ÒÃÙŒ - EHWM - จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
You also want an ePaper? Increase the reach of your titles
YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.
ปุ๋ย…ให้คุณหรือโทษ<br />
PAGE 6 ปีที่<br />
3 ฉบับที่<br />
7 ประจำเดือนกรกฎคม 2554<br />
Center of Excellence for Environmental and Hazardous Waste Management<br />
สาระน่ารู้<br />
เกษตรกรในประเทศไทยส่วนใหญ่ยังขาดความรู้เรื่องดินและปุ๋ย<br />
ถึงแม้ว่าความ<br />
รู้ทางวิชาการในด้านนี้จะมีอยู่เป็นจำานวนมาก<br />
แต่ก็ถูกจำากัดอยู่ในแวดวงของ<br />
นักวิชาการและเกษตรกรระดับผู้นำาเท่านั้น<br />
เนื่องจากความสัมพันธ์ระหว่างองค์<br />
ประกอบของดิน ได้แก่ อินทรียวัตถุ แร่ธาตุ น้ำาและอากาศ<br />
มีความสลับซับซ้อนและ<br />
เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา<br />
จึงเป็นเรื่องที่อธิบายให้เข้าใจได้ยาก<br />
รวมทั้งปุ๋ยก็มีอยู่หลาย<br />
ประเภทและหลายสูตร เฉพาะปุ๋ยเคมีที่ขึ้นทะเบียนเพื่อผลิตขายในท้องตลาดเพียง<br />
อย่างเดียวก็มีเกือบ 800 สูตรแล้ว ในขณะที่ความอุดมสมบูรณ์ของดินจะผันแปรไป<br />
ตามการใช้ประโยชน์ที่ดิน<br />
การใช้ปุ๋ย<br />
ภัยพิบัติต่างๆ เช่น อุทกภัย ซึ่งมีผลต่อสภาพดิน<br />
ดังนั้น<br />
เกษตรกรควรวิเคราะห์ดินก่อนการใส่ปุ๋ยในทุกๆ<br />
2 ปี<br />
ประเภทของปุ๋ย<br />
ปุ๋ยจำาแนกออกเป็น<br />
2 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่ ปุ๋ยอินทรีย์<br />
และปุ๋ยอนินทรีย์<br />
1. ปุ๋ยอินทรีย์<br />
เป็นปุ๋ยที่ได้มาจากสิ่งที่มีชีวิตและสัตว์ที่เน่าเปื่อยผุพัง<br />
รวม<br />
ทั้งมูลสัตว์ต่างๆ<br />
ได้แก่ ปุ๋ยคอก<br />
ปุ๋ยหมัก<br />
ปุ๋ยพืชสด<br />
มนุษย์มีการใช้ปุ๋ย<br />
อินทรีย์มาตั้งแต่สมัยโบราณ<br />
จนกระทั่งเริ่มมีการพัฒนาประสิทธิภาพใน<br />
ด้านธาตุอาหารของวัสดุธรรมชาติให้มีประโยชน์มากขึ้น<br />
ทำาให้เกิดการ<br />
พัฒนาปุ๋ยอนินทรีย์หรือปุ๋ยเคมี<br />
ซึ่งมีข้อได้เปรียบที่มีความเข้มข้นของธาตุอาหารพืชสูงกว่าปุ๋ยอินทรีย์<br />
ทำาให้เราลดการ<br />
ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ลงเรื่อย<br />
ๆ จนกระทั่งเกษตรกรบางรายเลิกใช้ปุ๋ยอินทรีย์หรือวัสดุอินทรีย์ไปเลย<br />
เราอาจจำาแนกปุ๋ยอินทรีย์ออกเป็นประเภทต่าง<br />
ๆ ดังนี้<br />
• ปุ๋ยคอก<br />
เป็นปุ๋ยที่ได้จากอุจจาระและปัสสาวะทั้งของคนและสัตว์<br />
เป็นของเหลือหรือผลพลอยได้จากฟาร์ม<br />
การใช้ต้องระมัดระวังพอสมควร เพราะหากเป็นปุ๋ยคอกใหม่<br />
ๆ อาจเป็นอันตรายต่อพืชได้ เนื่องจากความ<br />
เค็มและความร้อนที่เกิดขึ้นขณะย่อยสลายปุ๋ย<br />
นอกจากนั้นอาจมีปัญหาเรื่องเมล็ดวัชพืช<br />
โรค หรือแมลงที่<br />
ปะปนมากับปุ๋ยคอก<br />
จึงควรนำามาหมักหรือปล่อยให้ย่อยสลายก่อน<br />
• ปุ๋ยหมัก<br />
คือ ปุ๋ยที่ได้จากการนำาเศษซากพืชมากองหมักรวมกัน<br />
รดน้ำาให้ความชื้นสม่ำาเสมอและกลับกอง<br />
คลุกเคล้าเป็นครั้งคราว<br />
อาจมีมูลสัตว์ ปุ๋ยเคมีและสารเร่งร่วมด้วย<br />
เพื่อให้ได้ปุ๋ยหมักคุณภาพดีและนำามา<br />
ใช้ได้อย่างรวดเร็วขึ้น<br />
ปุ๋ยหมักที่มีคุณภาพดี<br />
ได้มาตรฐาน ควรมีคุณลักษณะดังนี้<br />
1. มีเกรดปุ๋ยไม่ต่ำากว่า<br />
1:1:0.5 (ไนโตรเจน : ฟอสฟอรัส : โพแทสเซียม)<br />
2. มีความชื้นและสิ่งที่ระเหยได้ไม่มากกว่าร้อยละ<br />
35-40 โดยน้ำาหนัก<br />
3. ความเป็นกรดเป็นด่างอยู่ระหว่าง<br />
6.0-7.5<br />
4. ปุ๋ยหมักที่ใช้ได้แล้วไม่ควรมีวัสดุเจือปนอื่น<br />
ๆ<br />
5. ปุ๋ยหมักที่ใช้ได้แล้วจะต้องไม่มีความร้อนหลงเหลืออยู่<br />
6. จะต้องมีปริมาณอินทรียวัตถุอยู่ระหว่าง<br />
25-50 %<br />
7. จะต้องมีอัตราส่วนระหว่างธาตุคาร์บอนต่อไนโตรเจนไม่มากกว่า 20 ต่อ 1