01.07.2015 Views

แสง - KruSamart

แสง - KruSamart

แสง - KruSamart

SHOW MORE
SHOW LESS

Create successful ePaper yourself

Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.

3.4 เสนลวด 2 เสน ที่มีกระแสผานและวางขนานกันจะเกิดแรงกระทําซึ่งกันและกัน<br />

F =<br />

KI 1<br />

d I 2l<br />

l = ความยาวของสวนที่ขนานกัน<br />

d = ระยะหางของลวดทั้งสอง<br />

ถา I ไหลทางเดียวกันเกิดแรงดึงดูดกัน ถา I ไหลสวนทางกันเกิดแรงผลักกัน<br />

3.5 เมื่อมีกระแสไหลในโครงลวดจะเกิดแรงกระทํา ทําใหเกิดโมเมนตแรงคูควบ<br />

M C = BINA cos θ θ คือ มุมระหวางระนาบขดลวดกับ B<br />

4. การเหนี่ยวนํากระแสไฟฟา<br />

4.1 เมื่อเคลื่อนขดลวดหรือแมเหล็กจะเกิดแรงเคลื่อนไฟฟาเหนี่ยวนํา<br />

ε =<br />

∆φ<br />

∆t<br />

4.2 ทิศของแรงเคลื่อนไฟฟาเหนี่ยวนําหาไดจากการใชมือขวา<br />

- โดยการกํามือ ใหนิ้วหัวแมมือเปนแมเหล็กขั้วเหนือที่สราง นิ้วทั้ง 4 แทนทิศของ E เหนี่ยวนํา<br />

N<br />

N ที่สราง<br />

ε<br />

- ใหนิ้วหัวแมมือแทน B ที่สราง ซึ่งจะมีทิศตรงขาม ∆B นิ้วทั้ง 4 แทนทิศ E เหนี่ยวนํา<br />

ε<br />

B<br />

B ที่สราง<br />

4.3 เมื่อเสนลวดเคลื่อนที่ตัดเสนแรงแมเหล็กจะเกิดแรงเคลื่อนไฟฟาเหนี่ยวนํา<br />

ε = B l v<br />

ทิศของ E หาจากการใชกฎมือขวา ใหนิ้วทั้ง 4 แทน v, F ฝามือหันหา B นิ้วหัวแมมือแทน ε, I<br />

5. หมอแปลงไฟฟา ใชแปลงความตางศักยไฟฟา โดยใชกับไฟฟากระแสสลับ<br />

E<br />

E1<br />

2<br />

R<br />

V 2<br />

1<br />

2<br />

N1<br />

N2<br />

5.1 E E =<br />

5.2 E 1 อาจเขียนเปน V 1 แต E 2 จะเทากับ V 2 เมื่อขดลวดไมมีความตานทาน<br />

5.3 เมื่อประสิทธิภาพ 100% ไดวา I 1 V 1 = I 2 V 2<br />

N N 1<br />

2<br />

2008<br />

โครงการแบรนดซัมเมอรแคมป 2008 __________________________วิทยาศาสตร ฟสิกส (175)

Hooray! Your file is uploaded and ready to be published.

Saved successfully!

Ooh no, something went wrong!