MU_06June56.pdf - CMMU - Mahidol University
MU_06June56.pdf - CMMU - Mahidol University
MU_06June56.pdf - CMMU - Mahidol University
You also want an ePaper? Increase the reach of your titles
YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.
<strong>Mahidol</strong> <strong>University</strong><br />
on Kanchanaburi Campus<br />
ปีที่ ๓๘ ฉบับที่ ๐๖ (๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๖) <strong>MU</strong> Newsletter 2013, Vol.06
Editor’s Note<br />
บก. แถลง<br />
ขอแสดงความยินดีกับบัณฑิตทุกท่านที่จะเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร ประจ ำปีการศึกษา ๒๕๕๕ ในวันที่ ๔ กรกฎาคม<br />
๒๕๕๖ ณ อาคารชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ หอประชุมกองทัพเรือ ซึ่งมหิดลสารจะน ำภาพบรรยากาศการแสดงความยินดีมา<br />
ฝากกันในฉบับหน้า และนับเป็นข่าวดีที่ในปีหน้าบัณฑิตของมหาวิทยาลัยมหิดลจะได้รับพระราชทานปริญญาบัตร ณ “มหิดล<br />
สิทธาคาร” หอประชุมแห่งแรกของมหาวิทยาลัยมหิดล<br />
ในระหว่างวันที่ ๑๕-๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๖ มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นเจ้าภาพร่วมกับส ำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา<br />
(สกอ.) จัดประชุมเชิญปฏิบัติการ “การด ำเนินกิจกรรมบนเครือข่ายสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา ครั้งที่ ๒๗” (Workshop<br />
on Uninet Network & Computer Application –WUNCA) ณ มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตกาญจนบุรี มีเรื่องความ<br />
ก้าวหน้าของวงการไอทีที่น่าสนใจอย่างยิ่ง จึงขอเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานในวันดังกล่าว<br />
ในฉบับยังมีเนื้อหาการวิจัยการประเมินคุณภาพสีเนื้อผลของกีวีฟรุตที่ปลูกในประเทศไทยที่ได้ทุนของมูลนิธิโครงการหลวง<br />
และการประกาศผลรางวัลมหาวิทยาลัยมหิดล ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๕ ที่คัดเลือกผลงานของอาจารย์ นักวิชาการที่เป็น<br />
ประโยชน์ต่อวงการวิชาการและประชาชนทั่วไป ร่วมถึงกิจกรรมของหน่วยงานต่างๆ ...ขอเชิญติดตามได้เลยครับ<br />
๐๓ เรื่องจากปก<br />
• มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเครือข่ายสารสนเทศ<br />
เพื่อการศึกษา WUNCA ครั้งที่ ๒๗ รองรับแผนปรับเปลี่ยน<br />
เครือข่ายอินเทอร์เน็ตสู่เวอร์ชั่น ๖<br />
๐๔ ICT-Based <strong>University</strong><br />
• การจัด E-learning ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี<br />
แต่เป็นเรื่องของการบริหารการเปลี่ยนแปลง<br />
๐๖ Special Article<br />
• เมี่ยงคำ อาหารว่างไทยให้คุณค่าครบห้าหมู่<br />
• AEC ไม่ใช่ประชาคมอาเซียน<br />
• สาระสำคัญของ (ร่าง) พระราชบัญญัติส่งเสริมโอกาส<br />
และความเสมอภาคระหว่างเพศฉบับประชาชน<br />
• เทคนิคการประเมินคุณภาพทางด้านสีเนื้อผลของกีวีฟรุต<br />
• คณะศิลปศาสตร์ร่วมจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ๑๕๐ ปี<br />
สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า<br />
๑๑ Harmony in Diversity<br />
• วิทยาลัยการจัดการ ม.มหิดล ผสานความร่วมมือระหว่างรามาธิบดี<br />
และศิริราช เปิดหลักสูตรใหม่ “การจัดการสุขภาพแบบองค์รวม”<br />
พร้อมจัดสัมมนาทางวิชาการครั้งใหญ่แห่งปี<br />
• ศิริราชรักษ์สิ่งแวดล้อม<br />
• ม.มหิดล จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ “นักสร้างสุของค์กร (นสอ.)”<br />
๑๓ Research Excellence<br />
• คณะทันตแพทยศาสตร์ ม.มหิดล เปิดศูนย์ปฏิบัติการ<br />
ซิมมิวเลชั่นที่มีจำนวนยูนิตมากที่สุดในโลก<br />
๑๔ <strong>MU</strong> Society<br />
ใคร อะไร ที่ไหน<br />
2 • <strong>MU</strong> Newsletter 2013, Volume 06<br />
Contents<br />
(ผู้ช่วยศาสตราจารย์พีระ สิทธิอ ำนวย)<br />
รองอธิการบดีฝ่ายบริหารและสภามหาวิทยาลัย<br />
บรรณาธิการ มหิดลสาร<br />
๑๖ Teaching&Learning Excellence<br />
• เผยผลรางวัลมหาวิทยาลัยมหิดล ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๕<br />
• นศ.มหิดล อินเตอร์คว้ารางวัลออกแบบผลิตภัณฑ์ Kiehl’s<br />
๑๗ Special Scoop<br />
• สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนิน<br />
ทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารโครงการอุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ<br />
และทรงเปิดอาคารมหิดลอดุลยเดช-พระศรีนครินทรฯ และหอพระราชประวัตฯ<br />
• คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นเจ้าภาพจัดประชุมคณบดี<br />
คณะเภสัชศาสตร์จากสถาบันชั้นนำต่างๆ ในกลุ่มอาเซียนครั้งแรก<br />
• โรงเรียนสาธิตนานาชาติมหาวิทยาลัยมหิดลร่วมมือกับสถาบันรับรองมาตรฐาน<br />
การศึกษาจากสหรัฐอเมริกา WASC ยกระดับมาตรฐานโรงเรียนนานาชาติ<br />
ในเมืองไทยเทียบเท่าระดับสากล<br />
• พิธีปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ มหาวิทยาลัยมหิดล และพิธีไหว้ครู<br />
ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๖<br />
• ม.มหิดล ร่วมกับ กองทัพเรือร่วมบันทึกข้อตกลงการประสาน<br />
ความร่วมมือทางวิชาการ<br />
๒๒ Information<br />
• สถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน จัดการบรรยายพิเศษ<br />
“ภาวะผู้นำเพื่อการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน”<br />
• เสวนาการดูแลผู้ป่วยระยะท้ายในมิติจิตวิญญาณ<br />
• ม.มหิดลคว้าอันดับ ๑ ของประเทศไทยจากการจัดอันดับ<br />
QS Asian <strong>University</strong> Rankings 2013<br />
๒๕ เพื่อสุขภาพ<br />
• เคล็ดลับหลับสบาย<br />
๒๖ Softnews<br />
๒๗ Activities Agenda<br />
ที่ปรึกษา อธิการบดี รองอธิการบดีทุกฝ่าย ผู้อำนวยการทุกกอง บรรณาธิการ รองอธิการบดี ฝ่ายบริหารและสภามหาวิทยาลัย ผู้จัดการ กณิศอันน์ มโนพิโมกษ์ กองบรรณาธิการ<br />
เกษรี วุฒิศักดิ์ชัยกุล ฐิติรัตน์ เดชพรหม สาธิดา ศรีชาติ สุพรรณรัช ภูริวัฒนกุล วราภรณ์ น่วมอ่อน ศรัณย์ จุลวงษ์ พรทิพา สุดวิเศษ ออกแบบรูปเล่ม ฐยาน์ ธีรหัตถเศรษฐ์<br />
ประสานงานกลาง ฐิติรัตน์เดชพรหม <strong>MU</strong> Newsletter Internet ศรทัต ขำดำรงเกียรติสมชาย โพธิ ภาพ สวัสดิ์จินเดหวา จัดส่ง ไมตรีบัวศรีจันทร์ สวัสดิ์ จินเดหวา พิมพ์ที่ ่บริษัท<br />
ชุมเอกชูโชค จำกัด ที่อยู่สำนักงาน งานประชาสัมพันธ์ กองบริหารงานทั่วไป อาคารสำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ชั้น ๔ ถนนพุทธมณฑลสาย ๔ ตำบลศาลายา อำเภอพุทธ<br />
มณฑล จังหวัด นครปฐม ๗๓๑๗๐ โทร. ๐-๒๘๔๙-๖๒๐๘-๑๐ โทรสาร ๐-๒๘๔๙-๖๒๑๑, ๐-๒๘๔๙-๖๒๒๒ E-mail: opmupr@mahidol.ac.th Website: www.mahidol.ac.th
เรื่องจากปก<br />
สาธิดา ศรีชาติ<<br />
มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นเจ้าภาพ<br />
จัดประชุมเครือข่ายสารสนเทศ<br />
เพื่อการศึกษา WUNCA ครั้งที่ ๒๗<br />
รองรับแผนปรับเปลี่ยนเครือข่าย<br />
อินเทอร์เน็ตสู่เวอร์ชั่น ๖<br />
มหาวิทยาลัยมหิดลรับเป็นเจ้าภาพร่วมกับ<br />
สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา<br />
(สกอ.) จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ “การดำเนิน<br />
กิจกรรมบนเครือข่ายสารสนเทศเพื่อ<br />
พัฒนาการศึกษา ครั้งที่ ๒๗” (Workshop on<br />
Uninet Network & Computer Application<br />
– WUNCA) ระหว่างวันที่ ๑๕ – ๑๗<br />
กรกฎาคม ๒๕๕๖ ณ มหาวิทยาลัยมหิดล<br />
วิทยาเขตกาญจนบุรี<br />
รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ อาทิตย์ อังกา<br />
นนท์ รองอธิการบดีฝ่ายสารสนเทศ มหาวิทยาลัย<br />
มหิดลในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวย<br />
การจัดการประชุมปฏิบัติการ WUNCA ครั้งที่<br />
๒๗ เปิดเผยว่า การประชุมปฏิบัติการครั้งนี้ จัด<br />
ขึ้นเพื่อเพิ่มพูนความรู้และถ่ายทอด<br />
ประสบการณ์ในการดูแลระบบและบริหาร<br />
จัดการเครือข่ายสารสนเทศที่ต้องใช้งานร่วมกัน<br />
เนื่องจากเทคโนโลยีในปัจจุบันมีการ<br />
เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จำเป็นต้องให้สถาบัน<br />
การศึกษาทั้งของรัฐและเอกชนได้มีโอกาสรับรู้<br />
ข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีเครือข่ายใหม่ๆ รวมทั้ง<br />
ยังเป็นการให้กลุ่มสมาชิกได้รับทราบข้อมูลของ<br />
เครือข่ายการศึกษาและวิจัยในระดับนานาชาติ<br />
ทั้งในด้านเครือข่ายสารสนเทศ (Information<br />
Network) และเนื้อหา (content) เพื่อประโยชน์<br />
สูงสุดในการนำข้อมูลใหม่ๆ มาใช้สนับสนุนการ<br />
ศึกษา ทั้งยังเป็นการพัฒนาศักยภาพของ<br />
บุคลากรให้สามารถทำงานได้อย่างมี<br />
ประสิทธิภาพ<br />
อย่างไรก็ตามในขณะนี้การใช้เครือข่าย<br />
อินเทอร์เน็ตในประเทศไทยมีอัตราการเติบโต<br />
อย่างรวดเร็ว จำนวนหมายเลขไอพี รุ่นที่ ๔<br />
(IPv4) ซึ่งใช้กันอยู่กำลังจะหมดไป ไม่เพียงพอ<br />
ต่อการใช้งานในอนาคตอันใกล้ การเปลี่ยนถ่าย<br />
สู่เครือข่ายอินเทอร์เน็ตรุ่นที่ ๖ (IPv6) จะช่วย<br />
แก้ปัญหาการขาดแคลนหมายเลขไอพี รวมทั้ง<br />
ยังมีการปรับปรุงประสิทธิภาพและความ<br />
ปลอดภัย เพื่อรองรับแอพพลิเคชั่นที่จะเกิดขึ้น<br />
ในอนาคต นับเป็นการปรับปรุงระบบ<br />
อินเทอร์เน็ตครั้งใหญ่สุดในรอบ ๓๐ ปี ดังนั้น<br />
จึงจำเป็นต้องให้สถาบันการศึกษาทุกระดับ<br />
เตรียมพร้อมเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงดัง<br />
กล่าว<br />
การจัดประชุมครั้งนี้ มีการบรรยายพิเศษเรื่อง<br />
“UniNet พบมหาวิทยาลัย” โดย ผศ.วิชาญ<br />
เลิศวิภาตระกูล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหาร<br />
เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา, การ<br />
บรรยายพิเศษ เรื่อง “Educational Paradigm<br />
Shift in the 21 st Century” โดย<br />
ศาสตราจารย์ นพ.วิจารณ์ พานิช นายกสภา<br />
มหาวิทยาลัยมหิดล, การเสวนาเรื่อง “การ<br />
ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศกับการ<br />
จัดการภัยพิบัติ” โดย ดร.รอยล จิตรดอน<br />
ผู้อำนวยการสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ<br />
และการเกษตร กระทรวงวิทยาศาสตร์และ<br />
เทคโนโลยีและการเสวนาเรื่อง “การประยุกต์ใช้<br />
เทคโนโลยีสารสนเทศกับการจัดการสัตว์ป่า”<br />
โดย นายสัตวแพทย์ ดร.ปานเทพ รัตนากร<br />
คณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย<br />
มหิดล และ ศาสตราจารย์ ดร.พิไล พูลสวัสดิ์<br />
ผู้เชี่ยวชาญและนักวิจัยนกเงือก จากคณะ<br />
วิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และการ<br />
บรรยายพิเศษในห้วข้อ “รู้เท่าทันภัยไซเบอร์”<br />
โดย พ.ต.อ.ญาณพล ยั่งยืน รองอธิบดีกรม<br />
สอบสวนคดีพิเศษการประชุมเชิงปฏิบัติการ<br />
“การดำเนินกิจกรรมบนเครือข่ายสารสนเทศ<br />
เพื่อพัฒนาการศึกษา” ครั้งที่ ๒๗ (27 th WUN-<br />
CA) จะจัดงาน ๓ วัน ระหว่างวันที่ ๑๕ - ๑๗<br />
กรกฎาคม ๒๕๕๖ ณ มหาวิทยาลัยมหิดล<br />
วิทยาเขตกาญจนบุรี ๑๙๙ หมู่ ๙ ตำบลลุ่มสุ่ม<br />
อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ผู้สนใจ<br />
สามารถดูรายละเอียดได้ที่ http://www.<br />
wunca.uni.net.th/wunca27/ <strong>MU</strong><br />
มหิดลสาร ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๕ • 3
การจัด E-learning ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี<br />
แต่เป็นเรื่องของการบริหารการเปลี่ยนแปลง<br />
เมื่อวันที่ ๒๗ - ๒๘ พฤษภาคม ที่ผ่านมา ผม<br />
มีโอกาสได้ไปร่วมงาน Digital Education<br />
Show Asia 2013 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศ<br />
มาเลเซีย เป็นการจัดงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้<br />
เทคโนโลยีการศึกษา ซึ่งแน่นอนว่าต้องเกี่ยวกับ<br />
ระบบคอมพิวเตอร์และ E-learning มีผู้เข้าร่วม<br />
ประชุม เท่าที่คาดคะเนจากสายตา ประมาณ<br />
๕๐๐ คน จากหลายๆ ประเทศใน Asia และมี<br />
Speaker ที่ทำงานเกี่ยวกับเทคโนโลยีการศึกษา<br />
หรือการพัฒนารูปแบบการศึกษาจากหลาย<br />
ประเทศ เช่น New Zealand, Hong Kong และ<br />
USA เป็นต้น<br />
ในงานมีผู้บรรยายซึ่งเป็นผู้นำด้านการนำ e-<br />
learning มาใช้ในสถาบันการศึกษาของตน หรือ<br />
เป็นผู้นำทางความคิดเกี่ยวกับเทคโนโลยีการ<br />
ศึกษามาบรรยายหลายท่าน ผู้บรรยายท่านแรก<br />
มาจาก Massey <strong>University</strong> ในประเทศ New<br />
Zealand ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่มี 3 campuses<br />
ใหญ่ๆ ในประเทศ และยังมี World<br />
Campus ซึ่งมีลักษณะเป็น virtual campus<br />
ด้วย นอกเหนือจากเป็นมหาวิทยาลัยที่ได้ชื่อว่า<br />
เป็นผู้นำ Moodle ซึ่งเป็นระบบ Learning<br />
Management System ที่เรารู้จักกันดีมาใช้ใน<br />
มหาวิทยาลัยอย่างกว้างขวางแล้วยังมีผลิตภัณฑ์<br />
ด้าน Education technology ที่มีชื่อเสียงของ<br />
มหาวิทยาลัยนี้อีก ได้แก่ Mahara ซึ่งเป็นระบบ<br />
E-portfolio เป็นต้น<br />
สิ่งที่ผู้บรรยายเน้นก็คือ สิ่งที่นักศึกษาใน<br />
ศตวรรษที่ ๒๑ จะต้องเผชิญ หรือต้องสามารถ<br />
ที่จะบรรลุ คือการเรียนรู้ จะต้อง Learning to<br />
be, Learning to know, Learning to do,<br />
Learning to live together และยังต้อง Learning<br />
to change and transform (ศตวรรษที่<br />
๒๑ นั้นมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ความ<br />
สามารถในการปรับเปลี่ยน change and trans-<br />
4 • <strong>MU</strong> Newsletter 2013, Volume 06<br />
form จะทำให้อยู่รอดในศตวรรษนี้ได้อย่าง<br />
ประสบความสำเร็จ) นักศึกษา หรือผู้ที่เติบโตมา<br />
ในศตวรรษที่ ๒๑ จะต้องมี Digital literacy,<br />
Digital citizenship และ Digital identity<br />
การเรียนรู้โดยใช้เทคโนโลยีทางการศึกษาจึง<br />
เป็นเครื่องมือสำคัญของการเรียนรู้ในยุคนี้ ใน<br />
การนำ e-learning เข้ามาใช้นั้น เราควรจะก้าว<br />
ข้ามเรื่องความสนใจเฉพาะเรื่องเทคโนโลยี ไปสู่<br />
การพัฒนาคุณภาพของกระบวนการ e-learning<br />
เพราะแนวทางสำคัญในการทำงานใดๆ ก็ตาม<br />
ไม่ว่าจะเป็นการสร้างระบบใหม่ ปรับปรุงระบบ<br />
เก่า ใช้เทคโนโลยีหรือไม่ สิ่งสำคัญที่ต้องสร้างขึ้น<br />
คือ วัฒนธรรมคุณภาพ หรือ quality culture<br />
ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่พยายามปรับปรุงสิ่งที่กำลัง<br />
ทำอยู่ให้ดีขึ้นกว่าเดิมเสมอ<br />
สำหรับการปรับปรุงเทคโนโลยีในสถาบันนั้น<br />
ขอให้เข้าใจว่า ความตื่นเต้นจากการได้เห็นของ<br />
ใหม่ (Hype) เป็นสิ่งที่ต้องรู้จัก เวลาได้พบกับ<br />
เทคโนโลยีใหม่ คนทั่วไปมักจะตื่นเต้น และคิด<br />
ว่าเทคโนโลยีนั้นสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้<br />
ทันที ผู้บรรยายได้เสนอแนะให้เรา go beyond<br />
the hype คือรู้จักสิ่งใหม่ๆ ให้ดี รู้จุดแข็งจุด<br />
อ่อนของมัน แล้วใช้มันอย่างมีคุณภาพ ปกติแล้ว<br />
เวลามีเทคโนโลยีใหม่ออกมา เทคโนโลยีนั้นจะ<br />
ต้องผ่านการพิสูจน์ตนเองในช่วงระยะเวลาหนึ่ง<br />
ก่อน มีผู้อธิบายปรากฏการณ์นี้ไว้หลายท่าน ที่<br />
รู้จักดีได้แก่ Technology Expectation Cycle<br />
โดย Cuban ในปี ๑๙๘๖ หรือ Gartner hype<br />
cycle ที่มีการ update ออกมาทุกปี เป็นต้น<br />
สถาบันการศึกษาส่วนหนึ่งใช้เทคโนโลยีเพียง<br />
แต่เพื่อ reinforce traditional outcome (การ<br />
ใช้วิธีนี้ ผู้บรรยายใช้คำว่า pump, pump,<br />
dump)แต่ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีเพื่อเป็นเครื่องมือ<br />
ในการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของนักศึกษา<br />
การที่จะเปลี่ยนแปลงนักศึกษาได้นั้น จะต้องใช้<br />
เทคโนโลยีอย่างมีคุณภาพ<br />
ผู้บรรยายใช้คุณภาพในการผลิต ice-cream<br />
ในการเปรียบเทียบกับมุมมองเกี่ยวกับคุณภาพ<br />
โดยความคิดแรกคือ<br />
๑. Mass production metaphor คือการ<br />
ทำทุกอย่างออกมาให้เหมือนกันหมด เช่น มี<br />
ice-cream รสเดียว คือ vanilla เพราะการทำ<br />
ซ้ำใช้ต้นทุนการผลิตต่ำกว่า เปรียบเสมือนการ<br />
สร้าง standard ขึ้นมาโดยหวังให้เป็น standard<br />
กลาง แต่จุดอ่อนของมุมมองนี้คือ นักเรียนแต่ละ<br />
คนมีความแตกต่างกันออกไป<br />
๒. Boutique craft metaphor มุ่งทำ icecream<br />
ที่มีจุดเด่นเฉพาะของตัวเองแล้วผลักดัน<br />
ให้เป็นที่นิยม ทั้งนี้ เป็นที่เข้าใจว่าไม่ใช่ทุกคนที่<br />
ชอบ ice-cream รสนี้ แต่จะมีลูกค้าบางคนที่<br />
ชอบและเป็นผู้ติดตามประจำ จุดอ่อนของมุม<br />
มองนี้คือ ทุกคนจะพยายามสร้าง standard ของ<br />
ตัวเอง จนมี standards มากมายและทำให้เกิด<br />
ความสับสน<br />
๓. Individual ethos metaphor แนวคิด<br />
นี้สรุปว่า quality เป็น relative concept จะ<br />
ยอมรับว่า ระดับคุณภาพของแต่ละคนไม่เท่ากัน<br />
ผู้บรรยายสรุปว่าลักษณะคุณภาพของ<br />
e-learning อาจมีลักษณะดังต่อไปนี้<br />
• Contestable<br />
• Idiosyncratic<br />
• Context bound<br />
• Discipline Specific<br />
• Is a moving target<br />
• Involve X factor<br />
สำหรับผู้ที่สนใจพัฒนาคุณภาพ มี resource<br />
ที่สามารถนำมาใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพของ<br />
e-learning ได้แก่<br />
• Sloan Consortium http://sloanconsortium.org/
• Quality Matters https://www.qualitymatters.org/rubric<br />
ผู้บรรยายกล่าวเพิ่มเติมว่าเราควรต้องพัฒนา<br />
อาจารย์ โดยทำความเข้าใจอาจารย์ ตระหนักถึง<br />
ความรู้สึกของอาจารย์ให้ดี ทำให้เกิด Professional<br />
Trust และทำให้อาจารย์ตระหนักว่าตน<br />
เป็นผู้รับผิดชอบต่อคุณภาพของระบบ<br />
e-learning ที่ตนเองดูแลอยู่ ทั้งนี้ อาจใช้ระบบ<br />
peer review เป็นการประเมินอาจารย์ด้วย<br />
กันเองมาช่วยประเมินคุณภาพของระบบ<br />
e-learning ที่อาจารย์ดูแลอยู่นั้นก็ได้ ตัวอย่าง<br />
ของระบบนี้ได้แก่ระบบที่ใช้ที่ Massey <strong>University</strong><br />
ชื่อ Massey Peer Assistance and Review<br />
of Teaching (PART) ที่ http: //peerreview.<br />
masseay.ac.nz<br />
ผู้บรรยายคนต่อมามาจาก UAE ได้กล่าวว่า<br />
UAE ได้กำหนดให้นักศึกษาทุกคนต้องมีและใช้<br />
iPad ตั้งแต่เมษายน ๒๕๕๕ หลังจากได้เริ่ม<br />
มาตรการนี้แล้ว ผลกระทบในเชิงบวกที่เห็นได้ชัด<br />
ได้แก่ นักศึกษามี Engagement, Motivation,<br />
Perception of student creativity เพิ่มขึ้นมี<br />
ความรู้สึกว่า โลกใบนี้เล็กลง และตนเองเป็น<br />
พลเมืองของโลกมากขึ้นและทำให้เกิด<br />
กระบวนการคิดใหม่ทำใหม่ในด้าน methodology,<br />
course content และ assessment ในระบบ<br />
e-learning<br />
ผู้บรรยายคนถัดมามาจาก Hong Kong ใน<br />
เรื่อง Learning through content creation<br />
ในหัวข้อนี้ ผู้บรรยายกล่าวถึงการใช้เทคโนโลยี<br />
อย่างเหมาะสม ผู้ที่เป็นผู้วางแผนในการนำ<br />
เทคโนโลยีมาใช้ ควรพิจารณา high level criteria<br />
ทั้งในด้านกระบวนการ ผู้ใช้ วิธีการจัดการ<br />
เรียนการสอน และด้านเทคนิค และควรสร้าง<br />
กระบวนการทบทวนและพัฒนา โดยเหนี่ยวนำ<br />
ให้เกิดการรวมกลุ่มของอาจารย์ที่มีความตั้งใจที่<br />
จะพัฒนา e-learning ให้มีคุณภาพและทำ<br />
อาจารย์กลุ่มนี้ให้มีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจ<br />
กำหนดทิศทางการพัฒนา e-learning ของ<br />
สถาบันและพยายามกำหนดให้มี community<br />
engagement ในทุกระดับของอาจารย์ถ้าเป็น<br />
ไปได้<br />
สำหรับประเด็นของการพัฒนาคุณภาพ ควร<br />
ให้ครอบคลุมทั้ง content, teaching process<br />
และ learning process ควรให้มีการศึกษาถึง<br />
pedagogy ใหม่ ที่เน้นเรื่องการพัฒนาคุณภาพ<br />
ของ e-learning สำหรับทิศทางการพัฒนา ควร<br />
มองไปถึงเป้าหมายของ e-learning ที่เป็น social<br />
learning ที่เน้นลักษณะการมีส่วนร่วมของ<br />
อาจารย์และนักศึกษา มีความยั่งยืน และที่ส ำคัญ<br />
ที่สุด คือต้องมีลักษณะ professor friendly<br />
ผู้บรรยายถัดมาคือ Marc Prensky (marcprensky@gmail.com)<br />
ซึงเป็นผู้แต่งหนังสือ<br />
เรื่อง Brain Gain และอื่นๆ ได้กล่าวถึงนักศึกษา<br />
ในปัจจุบันซึ่งเป็น digital natives และมีความ<br />
สามารถด้านการใช้เทคโนโลยีดีกว่าอาจารย์<br />
สถาบันการศึกษาและอาจารย์ควรปรับปรุง<br />
กระบวนการการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับความ<br />
คาดหวังของนักศึกษา ซึ่งเติบโตมาในยุคและ<br />
สิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว แตก<br />
ต่างจากในยุคที่อาจารย์เติบโตมามากและจะ<br />
ต้องมีชีวิตและทำงานอยู่ในโลกและสิ่งแวดล้อม<br />
ในอนาคตที่ยังไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเป็น<br />
อย่างไร นักศึกษาในยุคนี้มีความสามารถด้าน<br />
การใช้เทคโนโลยีที่สูงมาก มีความคล่องตัวและ<br />
พึ่งพาเทคโนโลยีได้ เปรียบเสมือนเทคโนโลยีเป็น<br />
อากาศที่ใช้หายใจ สมองของนักศึกษาในยุคนี้<br />
เป็นสมองที่ถูก enhanced โดยเทคโนโลยี หรือ<br />
extended brain เราควรปรับตัวเพื่อให้สมอง<br />
ของนักศึกษาเหล่านี้ได้เรียนรู้ด้วยกระบวนการ<br />
ที่ดีที่สุด<br />
นักศึกษาในยุคนี้ควรจะมีความตระหนักว่า<br />
สิ่งที่เราเชื่อว่าเป็นความถูกต้องในปัจจุบัน อาจ<br />
จะถูกพิสูจน์ได้ว่าผิดพลาดในอนาคต เมื่อมีผู้ถาม<br />
ผู้นำด้านวิชาการและการศึกษาท่านหนึ่ง ว่าเรา<br />
ควรจะส่ง message อะไรถึงนักศึกษาใน<br />
ศตวรรษที่ ๒๑ นี้ ท่านกล่าวว่า “Everything I<br />
am about to tell you is wrong.” ดังนั้น<br />
ความสามารถในการหาความรู้ รู้เท่าทัน และ<br />
พัฒนาตนเองจึงเป็นทักษะที่สำคัญของพลเมือง<br />
ในศตวรรษที่ ๒๑<br />
ความก้าวหน้าในด้านเทคโนโลยีทำให้โลก<br />
สามารถเชื่อมต่อกันได้ในลักษณะที่ไม่เคยเป็นมา<br />
ก่อน เราควรฉวยโอกาสจากความก้าวหน้านี้เพื่อ<br />
สร้างสรรค์กระบวนการเรียนรู้ที่ดีกว่าเดิม เพราะ<br />
ถึงแม้ในอดีต การศึกษาก็คือ การ “Connecting<br />
brains to people and resources through<br />
the best available ways possible”เทคโน<br />
โลยีในอนาคตจะทำให้ประชากรในโลกเชื่อมต่อ<br />
กันอย่างรวดเร็วและทั่วถึงเปรียบเสมือนคนหนึ่ง<br />
คนเป็นหนึ่ง node ของ network ดังนั้นเราควร<br />
จะมองการศึกษาเป็น hierarchy ของ network<br />
นั้นการใช้เทคโนโลยี ไม่ควรจะมองเป็นเพียงนำ<br />
มาใช้เพื่อ leverage traditional education<br />
เนื่องจากเทคโนโลยีเป็นรากฐานที่สำคัญของ<br />
กระบวนการเรียนรู้ศตวรรษที่ ๒๑ ทุกวันนี้<br />
ประชากร ๒ ใน ๓ ของโลกมี mobile phones<br />
เราคงไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเทคโนโลยีการ<br />
เชื่อมต่อจะเป็นอย่างไรในอีก ๒๐ ปีข้างหน้า แต่<br />
ICT-Based <strong>University</strong><br />
รศ.อาทิตย์ อังกานนท์ รองอธิการบดีฝ่ายสารสนเทศ<<br />
อย่างไรก็ดี อุปกรณ์ในการเชื่อมต่อ หรือ device<br />
เปรียบเสมือนเพียงเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย สิ่งที่<br />
สำคัญกว่า คือ connection ดังนั้น ผู้บรรยาย<br />
กล่าวว่าเราควรปรับเปลี่ยนความสนใจจากจุดมุ่ง<br />
หมายที่เป็นเรื่องเล็กน้อยไปเป็นจุดมุ่งหมายที่ยิ่ง<br />
ใหญ่และกว้างขวางกว่า เช่น ไม่ควรจะมองเพียง<br />
ระบบ e-learning ว่าเป็น repository ของ<br />
digitally converted learning material แต่<br />
ควรใช้ให้เกิดการเปลี่ยน rote thinking ให้เป็น<br />
critical and creative thinking เป็นต้น<br />
สำหรับอาจารย์ บทบาทของอาจารย์ควรเป็น<br />
อะไรที่เครื่องจักรหรือคอมพิวเตอร์ทำไม่ได้ โดย<br />
เฉพาะอย่างยิ่ง การที่อาจารย์มี empathy ต่อ<br />
นักศึกษา และการกระตุ้นในนักศึกษาเกิด passion<br />
และโดยเฉพาะการทำให้นักศึกษาได้ทราบ<br />
ถึง passion ของตนเอง ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญใน<br />
การประสบความสำเร็จในชีวิตในศตวรรษที่ ๒๑<br />
อาจารย์หรือสถาบันควรจะให้นักศึกษามีส่วน<br />
สำคัญในการตัดสินใจเลือกเทคโนโลยีทีจะใช้ ใน<br />
เรื่องการเลือกเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้ ควรจะ<br />
approach แบบ bottom up กับนักศึกษาสิ่ง<br />
สำคัญ คือ เป้าหมายของการฝึกให้นักศึกษาคุ้น<br />
เคยกับ technical skill และควรสนใจว่า<br />
นักศึกษาทำอะไรได้ (ในภาพใหญ่) มากกว่า<br />
กำหนดเครื่องมือที่นักศึกษาจะต้องใช้ เนื่องจาก<br />
เครื่องมือมีการพัฒนาตลอด ยกตัวอย่างเช่น<br />
หากต้องการให้นักศึกษา ค้นคว้า เขียน และทำ<br />
รายงานเป็น เดิมอาจจะใช้ห้องสมุด สมุดจด และ<br />
การพูดหน้าชั้น พัฒนามาเป็นการใช้ internet<br />
resource, word processor และ PowerPoint<br />
และต่อมาก็อาจพัฒนาเป็น social research<br />
tools, blogging และการสร้าง video เป็นต้น<br />
ผู้บรรยายเน้นการสร้าง video ว่าเป็น skill พื้น<br />
ฐานที่คนในศตวรรษที่ ๒๑ ควรจะมี เนื่องจาก<br />
เครื่องมือในการสร้าง video มีอยู่หลากหลาย<br />
และการเผยแพร่ทำได้ง่ายมาก ผู้ที่รู้สึกอึดอัด<br />
เวลาถูกถ่าย video ควรเอาชนะความอึดอัดนั้น<br />
และยอมรับเทคโนโลยีนี้ และใช้ให้เป็นผู้บรรยาย<br />
กล่าวว่า “Video is a serious mean of discourse,<br />
replacing text. Make the student<br />
make video than text.”<br />
สำหรับผู้ที่สนใจเรื่อง framework ของ 21 st<br />
Century Skills มี resource ที่น่าสนใจที่ International<br />
Society for Technology in<br />
Education https://www.iste.org/<br />
สุดท้าย สิ่งสำคัญที่อาจารย์และผู้บริหารการ<br />
ศึกษาควรถามตัวเองเสมอ คือคำถามที่ว่า “If<br />
we have tech, how can we use it to<br />
enhance learnings” <strong>MU</strong><br />
มหิดลสาร ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๕ • 5
Special Article<br />
ศิริพร โกสุม หัวหน้างานสื่อสารองค์กรและสารสนเทศ<br />
สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล<<br />
เมี่ยงคำ<br />
ว่าการกินเมี่ยงคำนอกจากทำให้เราได้รับรสชาติ<br />
ครบทุกรสชาติแล้ว ยังเป็นอาหารว่างที่ทำให้เรา<br />
กินอาหารได้ครบ ๕ หมู่ ในคำๆ เดียว นั่นคือ หมู่<br />
เนื้อสัตว์ ซึ่งให้สารอาหารประเภทโปรตีน ที่มีอยู่<br />
ในเมี่ยงคำ ก็ได้แก่ กุ้งแห้งและถั่วลิสง หมู่แป้ง<br />
น้ำตาล ก็ได้แก่ น้ำตาลปี๊บ มะพร้าวคั่ว หมู่ไขมัน<br />
ได้แก่ มะพร้าวคั่ว ถั่วลิสงคั่ว หมู่ผัก ได้แก่ ขิง<br />
พริกขี้หนู ใบทองหลาง/ใบชะพลู ส่วน มะนาว<br />
อาจจัดอยู่ในหมู่ผักหรือผลไม้ก็ได้<br />
สำหรับคุณค่าทาง<br />
โภชนาการของเมี่ยง<br />
คำนั้น ผศ.ดร.สมศรี<br />
เจริญเกียรติกุล<br />
อาจารย์ประจำ<br />
สถาบันโภชนาการ<br />
มหาวิทยาลัยมหิดล<br />
ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน<br />
คุณค่าทางโภชนาการของอาหารไทย ให้ข้อมูล<br />
ว่า สถาบันโภชนาการให้ความสนใจศึกษาคุณค่า<br />
ทางโภชนาการของอาหารไทยหลากหลายชนิด<br />
ทั้งอาหารหลักและอาหารว่างอย่างต่อเนื่องมา<br />
เป็นเวลานานกว่า ๑๐ ปี แล้ว<br />
ผลการวิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการของ<br />
เมี่ยงคำพบว่า ในหนึ่งหน่วยบริโภค (๕ คำ) ให้<br />
โปรตีน ๕ กรัม คาร์โบไฮเดรต ๒๐ กรัม (๗%ของ<br />
ปริมาณที่แนะนำต่อวัน)ไขมัน ๑๐ กรัม (๑๕%<br />
ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน) แล้วยังให้วิตามิน<br />
ซึ่งได้แก่ วิตามินซี ๖%ของปริมาณที่แนะนำต่อ<br />
วัน วิตามินเอ ๔%ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน<br />
ให้แร่ธาตุ เช่น โซเดียม ๑๑%ของปริมาณที่<br />
แนะนำต่อวัน แคลเซี่ยม ๖%ของปริมาณที่<br />
อาหารว่างไทยให้คุณค่าครบห้าหมู่<br />
เมี่ยงคำ เป็นอาหารว่างของไทย ที่เป็นที่นิยมของคนไทยมาแต่โบราณ แต่ปัจจุบัน<br />
เมี่ยงคำนับเป็นอาหารว่างที่หารับประทานยากขึ้นทุกที อาจจะเนื่องมาจากเครื่องเคียง<br />
ที่มีมากมาย และเครื่องเคียงบางอย่างก็ต้องใช้ความพิถีพิถันและเวลาในการท ำ ทำให้<br />
คนรุ่นใหม่ที่มักบอกว่าตนเองมีเวลาน้อยหรือไม่มีเวลาให้ความสนใจเมี่ยงคำลดน้อยลง<br />
ไป กลับไปให้ความสำคัญกับอาหารว่างที่หาซื้อง่าย เช่น ขนมเค้ก โดนัท เป็นต้น ซึ่ง<br />
มีวางขายทั่วไป อีกทั้งบางชนิดบางยี่ห้อก็มีการโฆษณาชักจูงโน้มน้าวให้เกิดความสนใจ<br />
จนต้องซื้อหามากินกัน จนลืมเมี่ยงคำอาหารว่างแบบไทยไทย<br />
เมี่ยงคำ เป็นอาหารที่มีรสชาติ เค็ม หวาน มัน โดยมีส่วนประกอบที่แบ่งเป็น<br />
สองส่วนคือ น้ำเมี่ยงคำ และเครื่องเคียงหรือเครื่องประกอบต่างๆ ที่ใส่ในเมี่ยง<br />
คำ ซึ่งประกอบด้วย มะพร้าวหั่นซอยคั่ว ขิงอ่อน หอมแดง มะนาว กุ้งแห้ง ถั่ว<br />
ลิสงคั่ว พริกขี้หนู ใบทองหลางหรือใบชะพลู สำหรับน้ำเมี่ยงคำประกอบด้วย<br />
น้ำตาลปี๊บ มะพร้าวคั่ว กุ้งแห้งโขลกละเอียด ขิงแก่หั่นละเอียด หอมแดงซอย<br />
กะปิ น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำเปล่า และถั่วลิสงคั่วป่นละเอียด ดังนั้นจะเห็นได้<br />
แนะนำต่อวัน ธาตุเหล็ก ๑๐% ของปริมาณที่<br />
แนะนำต่อวัน นอกจากนี้ยังมีธาตุแมกนีเซียม<br />
ทองแดง สังกะสี และโปแตสเซียม เป็นต้น<br />
นอกจากสารอาหารแล้วยังให้สารที่ไม่ใช้สาร<br />
อาหาร เช่น ใยอาหาร ที่มีประโยชน์ต่อระบบขับ<br />
ถ่ายของร่างกายคนเรา ๔ กรัม (๑๖% ของ<br />
ปริมาณที่แนะนำต่อวัน)<br />
ปริมาณที่นักโภชนาการแนะนำให้รับ<br />
ประทานเมี่ยงคำใน ๑ มื้อ (หรือ ๑ ครั้ง) ก็คือ<br />
๕ คำ ซึ่งการรับประทานเมี่ยงคำปริมาณดังกล่าว<br />
จะทำให้ได้พลังงาน ๒๐๐ กิโลแคลอรี่ เท่ากับ<br />
๑๐% ของความต้องการพลังงานของคนเราต่อ<br />
สำหรับ ขิง และหอมแดง นอกจากให้วิตามินและ<br />
แร่ธาตุแล้วยังยังมีสรรพคุณเป็นยาสมุนไพรช่วย<br />
ขับลมในกระเพาะอาหาร ดังนั้น การเลือกรับ<br />
ประทานเมี่ยงคำเป็นอาหารว่างจึงมีประโยชน์<br />
ต่อสุขภาพ ดีกว่าการเลือกรับประทานอาหาร<br />
ว่างประเภทที่มีแป้งและน้ำตาลเป็นส่วน<br />
ประกอบหลัก เช่น ขนมเค้ก โดนัท ข้าวตังทอด<br />
หรือขนมกรุบกรอบ อย่างไรก็ตามผู้ช่วย<br />
ศาสตราจารย์ ดร.สมศรี เจริญเกียรติกุล ก็ได้ฝาก<br />
คำเตือนถึงผู้ที่นิยมรับประทานเมี่ยงคำด้วยว่า<br />
ต้องระวังการรับประทานมากเกินไป เนื่องจาก<br />
เมี่ยงคำมีการใส่มะพร้าวคั่วและถั่วลิสงคั่ว ซึ่งให้<br />
ไขมันสูง ซึ่งนอกจากใส่มะพร้าวคั่วและถั่วลิสง<br />
คั่วเป็นส่วนประกอบแล้ว ในน้ำเมี่ยงคำก็มีการ<br />
ใส่มะพร้าวคั่วและถั่วลิสงคั่วด้วยแล้วยังมีการใส่<br />
น้ำตาล น้ำปลาและกะปิด้วย นอกจากจะให้<br />
พลังงานสูงแล้ว การใส่น้ำเมี่ยงคำมากเกินไปก็<br />
ยิ่งทำให้ได้รับพลังงานมากยิ่งขึ้น และอีกเรื่อง<br />
หนึ่งที่ต้องระวังก็คือ การเลือกใส่เครื่องปรุง<br />
เฉพาะที่ตนเองชอบ เช่น การไม่กินขิง หรือ<br />
หอมแดง ทำให้สูญเสียโอกาสที่จะได้รับ<br />
ประโยชน์อย่างครบถ้วน<br />
คุณอทิตดา บุญประเดิม ผู้เชี่ยวชาญด้านการ<br />
ปรุงอาหารไทย สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัย<br />
มหิดล ได้ให้สูตรในการทำเมี่ยงคำ ทั้งส่วน<br />
ประกอบ ผัก/เครื่องเคียง ส่วนผสมและวิธีทำน้ำ<br />
เมี่ยงคำ ซึ่งการปรุงน้ำเมี่ยงคำจะต้องเตรียมส่วน<br />
ผสมซึ่งได้แก่<br />
1. มะพร้าวคั่ว ๒ ถ้วยตวง (๑๑๗ กรัม)<br />
2. กุ้งแห้งโขลกละเอียด ๑ ๑/๒ ถ้วยตวง (๖๓ กรัม)<br />
3. ขิงแก่หั่นละเอียด ๙ ช้อนโต๊ะ (๙๑ กรัม)<br />
4. หอมแดงซอย ๙ ช้อนโต๊ะ (๗๒ กรัม)<br />
5. กะปิ ๓ ช้อนโต๊ะ (๔๑ กรัม)<br />
6. น้ำตาลปี๊บ ๕ ๑/๔ ถ้วย (๙๔๖ กรัม)<br />
7. น้ำปลา ๓/๔ ถ้วยตวง (๘๒ กรัม)<br />
8. น้ำ ๒ ๑/๒ ถ้วยตวง<br />
9. ถั่วลิสงป่นละเอียด ๓/๔ ถ้วยตวง (๙๔ กรัม)<br />
สำหรับวิธีทำโขลกมะพร้าวคั่ว ขิงแก่<br />
หอมแดง แต่ละอย่างแยกกัน แล้วนำเครื่องปรุง<br />
ทุกอย่างที่โขลกแล้วรวมทั้งกะปิและกุ้งแห้งโขลก<br />
ละเอียดที่เตรียมไว้ใส่ลงในหม้อ ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำ<br />
เปล่า นำขึ้นตั้งไฟปานกลาง โดยต้องคอยคนไม่<br />
6 • <strong>MU</strong> Newsletter 2013, Volume 06
AEC ไม่ใช่ประชาคมอาเซียน<br />
มีคนเข้าใจผิดว่า AEC คือ ประชาคมอาเซียน<br />
ข้อเขียนนี้จึงเกิดขึ้น<br />
Special Article<br />
ผู้ช่วยศาสตราจารย์วชิราภรณ์ วรรณดี<br />
วิทยาลัยศาสนศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล<<br />
อาเซียน ASEAN หรือ สมาคมประชาชาติ<br />
แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Association<br />
of South East Asian Nations) เป็นองค์กร<br />
ที่เกิดจากการรวมตัวของประเทศในภูมิภาค<br />
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ๑๐ ประเทศ ได้แก่<br />
ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์<br />
บรูไน เวียดนาม ลาว พม่า และกัมพูชา โดย<br />
มีไทยเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้ง จากการรวมมือร่วมใจ<br />
กัน ๕ ประเทศ คือ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย<br />
ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่ง<br />
เสริมความเข้าใจอันดีต่อกันระหว่างประเทศ<br />
ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ธำรงไว้ซึ่ง<br />
สันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่นคงทางการ<br />
เมือง สร้างสรรค์ความเจริญก้าวหน้าทั้งด้าน<br />
เศรษฐกิจ การพัฒนาสังคมและวัฒนธรรม การ<br />
กินดีอยู่ดีบนพื้นฐานของความเสมอภาคและผล<br />
ประโยชน์ร่วมกัน<br />
การรวมตัวกันนี้ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง<br />
ครั้งใหญ่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้<br />
ประเทศสมาชิกทั้งสิบประเทศต่างพากันปรับ<br />
ตัวในหลายๆ ด้าน กระตือรือร้นทำความเข้าใจ<br />
หาวิธีรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เพื่อจะ<br />
พัฒนาไปสู่ความเป็นประชาคมเดียวกันอย่าง<br />
สมบูรณ์ทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม<br />
ในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ การปรับตัวของประเทศ<br />
ให้ติดก้นหม้อ รอจนเดือด จึงค่อยๆ โรยถั่วลิสง<br />
ป่นที่เตรียมไว้ลงไป ระยะเวลาตั้งแต่ตั้งหม้อจน<br />
กระทั่งเดือดใช้เวลา ประมาณ ๑๕ นาที จาก<br />
นั้นจึงใส่น้ำปลา คนต่อไปอีกประมาณ ๕ นาที<br />
จึงยกลง ลักษณะของน้ำเมี่ยงคำที่ดี จะต้องข้น<br />
หนืด<br />
เมื่อเตรียมน้ำเมี่ยงคำเสร็จแล้ว ก็มาเตรียม<br />
ในส่วนของส่วนประกอบและผัก/เครื่องเคียง<br />
ของเมี่ยงคำ ส่วนประกอบของเมี่ยงคำประกอบ<br />
ด้วย<br />
1. มะพร้าวซอยคั่ว ๘ ๑/๒ ถ้วยตวง<br />
(ครึ่งกิโลกรัม)<br />
2. ขิงอ่อนหั่นขนาด ๐.๕ ซม. ๑ ๑/๓ ถ้วยตวง<br />
(๑๔๐ กรัม)<br />
3. หอมแดงหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ขนาด ๑ ซม.<br />
(๑๗๐ กรัม) ๑ ๑/๒ ถ้วยตวง<br />
4. มะนาวหั่นสี่เหลี่ยม ขนาด ๐.๕ X ๑ ซม.<br />
(๒๒๕ กรัม) ๑ ๑/๒ ถ้วยตวง<br />
5. กุ้งแห้งอย่างดีไม่มีเปลือก ๑ ถ้วยตวง<br />
(๙๐ กรัม)<br />
6. ถั่วลิสงคั่ว ๑ ๑/๓ ถ้วยตวง<br />
(๒๐๑ กรัม)<br />
เมื่อเตรียมทุกอย่างข้างต้นเสร็จแล้ว มา<br />
เตรียมผักและเครื่องเคียงซึ่งได้แก่ ใบทองหลาง<br />
๑๓๖ ใบ ใบชะพลู ๑๓๖ ใบ พริกขี้หนูสวน<br />
เม็ดเล็กหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ๑/๔ ถ้วย (๒๗ กรัม)<br />
ในการรับประทาน นำผักที่เตรียมไว้ซึ่งล้าง<br />
สะอาดแล้วมาตัดส่วนที่โคนใบที่แข็งออก จัด<br />
วางในถาดนำเครื่องเมี่ยงคำใส่วางบนผัก แล้ว<br />
จึงโรยด้วยมะพร้าวคั่ว เวลารับประทานก็จับใบ<br />
ผักที่มีเครื่องเมี่ยงมาจีบหรือห่อเป็นกระทงแล้ว<br />
ตักน้ำเมี่ยงใส่เล็กน้อยแล้วรับประทาน<br />
สำหรับสูตรที่นำเสนอนี้ เป็นสูตรที่รับ<br />
ประทานได้ ๕๔ คน (คนละ ๕ คำ)<br />
เมื่อทราบถึงประโยชน์ของเมี่ยงคำแล้ว ก็<br />
สมาชิกอาเซียนที่สำคัญ คือ การสร้างประชาคม<br />
อาเซียน (ASEAN Community) เพื่อให้องค์กร<br />
มีความแข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้น จนมีกฎบัตร<br />
อาเซียน (ASEAN Charter) ซึ่งเป็นธรรมนูญ<br />
ที่ประเทศสมาชิกอาเซียนเห็นชอบร่วมกัน ให้<br />
สัตยาบันร่วมกันว่าจะปฏิบัติตามและมีผล<br />
ผูกพันทางกฎหมาย หากไม่ปฏิบัติตามก็จะ<br />
มีความผิด ประเทศที่เสียประโยชน์สามารถ<br />
ดำเนินการผ่านช่องทางที่จัดไว้ในการฟ้องร้อง<br />
เรียกค่าเสียหายได้<br />
กฎบัตรอาเซียนนี้ ทำให้อาเซียนเป็นองค์กร<br />
ที่มีกฎ มีเกณฑ์ มีกฎหมายรองรับ และกลาย<br />
เป็นศูนย์กลางของความร่วมมือต่าง ๆ ที่จะเกิด<br />
ขึ้นในเอเชีย (ASEAN Centrality) เป็นตัวเชื่อม<br />
ให้คนในภูมิภาคอื่นได้ และถือเป็นเครื่องมือ<br />
สำคัญอย่างหนึ่งในการดำเนินนโยบายระหว่าง<br />
ประเทศ ในกฎบัตรนี้ มีบันทึกหลักสำคัญ<br />
ว่า การสร้างประชาคมอาเซียนที่สมบูรณ์<br />
ประกอบด้วย ๓ เสาหลัก ได้แก่ ๑) ประชาคม<br />
การเมืองและความมั่นคงอาเซียน หรือ APSC<br />
(ASEAN Political-Security Community)<br />
๒) ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC<br />
(ASEAN Economic Community) และ ๓)<br />
ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน หรือ<br />
ASCC (ASEAN Socio-Cultural Community)<br />
ในรายละเอียด ๓ เสาหลักนี้ ประเทศ<br />
สมาชิกอาเซียนจะต้องร่วมมือร่วมใจกันแก้<br />
ปัญหาในเรื่องการเมืองด้วยการเจรจา ไม่ใช้<br />
กำลังทหารและความรุนแรง ในเรื่องเศรษฐกิจ<br />
จะต้องได้ประโยชน์กันทุกฝ่าย ผู้คนอยู่ดีกินดี<br />
มากขึ้น ประเทศที่มีความสามารถแข่งขันด้าน<br />
เศรษฐกิจน้อยก็จะได้รับการดูแล ไม่ถูกเอารัด<br />
เอาเปรียบ และในด้านสังคมวัฒนธรรม แต่ละ<br />
ประเทศต้องส่งเสริมให้มีการเรียนรู้ด้านสังคม<br />
และวัฒนธรรมของกันและกันด้วย ไม่ว่าจะเป็น<br />
คนชาติใด นับถือศาสนาใด พูดภาษาใด จะได้<br />
รับสิทธิเท่ากับคนอื่นๆ ทุกประเทศสมาชิกมี<br />
ความแตกต่างกัน แต่ต้องยอมรับความแตกต่าง<br />
นั้นๆ ได้ ดังคำขวัญของอาเซียนว่า “หนึ่งวิสัย<br />
ทัศน์ หนึ่งเอกลักษณ์ หนึ่งประชาคม” (One<br />
Vision, One Identity, One Community)<br />
อาเซียนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งที่ชาวไทย<br />
ในฐานะเป็นประเทศร่วมผู้ก่อตั้งองค์กรแห่งนี้<br />
จะต้องรู้จัก ทำความเข้าใจ และเรียนรู้ในเรื่อง<br />
ประชาคมอาเซียนให้ลึกซึ้ง เพื่อเตรียมรับมือ<br />
กับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นอีก ๒ ปีข้าง<br />
หน้า โดยเฉพาะควรเข้าใจเป็นเบื้องต้นก่อนว่า<br />
ประชาคมอาเซียน ประกอบด้วย APSC AEC<br />
และ ASCC ไม่ใช่แค่ AEC <strong>MU</strong><br />
อยากเชิญชวนให้เลือกรับประทานเมี่ยงคำเป็น<br />
อาหารว่าง แต่ปัจจุบันเมี่ยงคำอาจหาซื้อยาก<br />
ขึ้น เด็กรุ่นใหม่จำนวนมากไม่รู้จักหรือไม่เคย<br />
ลองลิ้มชิมรสเมี่ยงคำ จึงอยากเชิญชวนให้มา<br />
ร่วมอนุรักษ์อาหารว่างไทย “เมี่ยงคำ” ด้วยการ<br />
ทำรับประทานเองที่บ้าน หลายๆ ท่านอาจจะ<br />
เห็นว่าเมี่ยงคำ มีเครื่องปรุงและส่วนประกอบที่<br />
มากมายหลากหลายดูยุ่งยาก แต่จริงๆ แล้วทำ<br />
ไม่ยากเลย เราสามารถเตรียมน้ำเมี่ยงคำเก็บ<br />
ไว้ในตู้เย็น ส่วนมะพร้าวคั่วหากไม่สะดวกที่จะ<br />
ทำเอง ก็สามารถหาซื้อชนิดสำเร็จรูปได้ไม่ยาก<br />
เมื่ออยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาลูกหลานก็นั่ง<br />
ล้อมวงหั่นเครื่องเมี่ยงคำและกินเมี่ยงคำร่วมกัน<br />
ได้ทั้งความอร่อย สุขภาพ และความอบอุ่นใน<br />
ครอบครัว <strong>MU</strong><br />
มหิดลสาร ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๕ • 7
Special Article<br />
ผศ.ดร.สุชาดา ทวีสิทธิ์ suchada.tha@mahidol.ac.th<<br />
สาระสำคัญของ (ร่าง)<br />
พระราชบัญญัติส่งเสริมโอกาส<br />
และความเสมอภาคระหว่างเพศ<br />
“เพศ” เป็นสาเหตุ<br />
หนึ่งของความไม่เท่า<br />
เทียมและเป็นที่มาของ<br />
การกระทำความรุนแรงที่<br />
ส่งผลกระทบทางกาย<br />
จิตใจ สังคม และเศรษฐา<br />
ผศ.ดร.สุชาดา นะของบุคคล อคติทาง<br />
เพศที่ดำรงอยู่ในวัฒนธรรมเป็นความรุนแรงเชิง<br />
โครงสร้างที่สร้างปัญหารูปธรรมมากมาย เช่น<br />
การกีดกันด้านการศึกษา อาชีพ ค่าจ้าง โอกาส<br />
ก้าวหน้าในตำแหน่งงาน การเข้าถึงบริการ<br />
สาธารณะ การมีส่วนร่วมทางการเมือง ความ<br />
รุนแรงทางเพศ รวมทั้งการคุกคามทางเพศ<br />
เป็นต้น ถ้าหากการผลักดัน (ร่าง) พระราช<br />
บัญญัติส่งเสริมโอกาสและความเสมอภาค<br />
ระหว่างเพศประสบความสำเร็จ ย่อมชี้ว่าสังคม<br />
ไทยได้พัฒนาไปสู่ความศิวิไลซ์เชิงเนื้อหาสาระ<br />
จริงๆ ไม่ใช่ศิวิไลซ์แค่ในเชิงวัตถุเท่านั้น ที่กล่าว<br />
เช่นนั้น เพราะว่ากฎหมายนี้หยิบยกเอาอคติทาง<br />
เพศที่มองไม่เห็นหรือมองข้ามกันมานานมา<br />
แก้ไข โดยใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ ผู้เขียนจึง<br />
อยากเก็บเอาสาระใน (ร่าง) กฎหมายนี้มานำ<br />
เสนอ เพื่อให้ผู้อ่านเกิดการรับรู้อย่างถูกต้อง<br />
เกี่ยวกับกฎหมายนี้ โดยแบ่งเป็น ๓ ประเด็น<br />
ดังนี้<br />
ความครอบคลุมของการคุ้มครอง หลายคน<br />
เข้าใจผิดว่าร่างกฎหมายนี้คุ้มครองแต่เฉพาะผู้<br />
หญิง จึงรู้สึกต่อต้านและอาจไม่สนับสนุนให้<br />
กฎหมายนี้ผ่านรัฐสภาออกมาบังคับใช้ ความ<br />
จริงที่ควรทราบก็คือ กฎหมายนี้หากคลอดออก<br />
มา จะคุ้มครองคนทุกเพศ (หญิง ชาย และ เพ<br />
ศอื่นๆ) เพราะกฎหมายนี้เน้นว่า การกระทำหรือ<br />
ไม่กระทำการใดอันเป็นการแบ่งแยก กีดกัน ไม่<br />
ยอมรับ และจำกัดสิทธิ หรือทำให้เสียสิทธิประ<br />
โยชน์ใดๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมเพราะเหตุ<br />
แห่งเพศ ตลอดจนการทำความรุนแรงและการ<br />
คุกคามทางเพศ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย<br />
นอกจากนี้ ยังห้ามไม่ให้หน่วยงานของรัฐ หรือ<br />
องค์กรเอกชนใดๆ กำหนดนโยบาย กฎ ระเบียบ<br />
มาตรการ โครงการ หรือ วิธีปฏิบัติ ในลักษณะ<br />
ที่เป็นการเลือกปฏิบัติเพราะเหตุแห่งเพศไว้อีก<br />
ด้วย หน่วยงานและองค์กรจึงต้องแก้ไขระเบียบ<br />
8 • <strong>MU</strong> Newsletter 2013, Volume 06<br />
ฉบับประชาชน<br />
ภายในที่มีอยู่เดิมซึ่งก่อให้เกิดการเลือกปฏิบัติ<br />
เพราะเหตุแห่งเพศ<br />
กลไกของการคุ้มครอง คณะกรรมการวินิจฉัย<br />
การเลือกปฏิบัติเพราะเหตุแห่งเพศ (วลพ.) เป็น<br />
กลไกอิสระหลักที่กฎหมายนี้บัญญัติให้มีขึ้น เพื่อ<br />
ทำหน้าที่รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน และ<br />
ตรวจสอบว่ามีการละเมิดสิทธิจริงหรือไม่ ผู้เสีย<br />
หายจากการถูกเลือกปฏิบัติเพราะเหตุแห่งเพศ<br />
หรือ ผู้เสียหายจากการถูกกระทำความรุนแรง<br />
เพราะเหตุแห่งเพศ ซึ่งอาจเป็นผู้ชาย ผู้หญิง หรือ<br />
เพศอื่นๆ สามารถใช้กฎหมายนี้เป็นเครื่องมือ<br />
ปกป้องสิทธิของตนเองได้ตามระบอบ<br />
ประชาธิปไตย โดยสามารถยื่นคำร้องต่อ วลพ.<br />
ถ้าหาก วลพ. ตรวจสอบและวินิจฉัยแล้วพบว่า<br />
มีการละเมิดสิทธิหรือเลือกปฏิบัติจริง ก็มีคำสั่ง<br />
ให้ปฏิบัติตามมาตรการช่วยเหลือ คุ้มครองสิทธิ<br />
บรรเทาทุกข์ และชดเชยในฐานะผู้เสียหาย<br />
ภายในเวลาที่กฎหมายกำหนด<br />
กฎหมายนี้ไม่ได้มีจุดยืนเพื่อลงโทษ แต่เป็น<br />
กฎหมายที่มีข้อบัญญัติเพื่อให้เกิดการส่งเสริม<br />
โอกาสและความเสมอภาค อีกทั้งไม่ได้ถูก<br />
ออกแบบมาเพื่อลงโทษผู้ชายเป็นหลัก แต่<br />
ออกแบบมาโดยเอาคนที่ถูกละเมิดสิทธิหรือถูก<br />
เลือกปฏิบัติเป็นศูนย์กลาง และเพื่อป้องกันไม่ให้<br />
มีการกระทำผิด กฎหมายนี้จึงได้บัญญัติบท<br />
ลงโทษเอาไว้ด้วย คนที่กระทำผิดคือละเมิดสิทธิ<br />
หรือเลือกปฏิบัติต่อผู้อื่น ต้องระวางโทษจ ำคุกไม่<br />
เกิน ๓ ปี หรือปรับไม่เกิน ๓๖๐,๐๐๐ บาท หรือ<br />
ทั้งจำทั้งปรับ กรณีเป็นการกระทำแก่ผู้สืบ<br />
สันดาน ศิษย์ ลูกจ้าง ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา ผู้อยู่<br />
ในความปกครอง ผู้กระทำผิดต้องระวางโทษ<br />
หนักกว่าที่กล่าวมา ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้มี<br />
อำนาจเหนือกว่าใช้อำนาจของตนกระทำกับผู้ที่<br />
ด้อยอำนาจกว่า<br />
กลไกของการส่งเสริมโอกาส กฎหมายนี้<br />
บัญญัติให้จัดตั้งกองทุนขึ้นกองทุนหนึ่ง เรียกว่า<br />
กองทุนส่งเสริมโอกาสและความเสมอภาค<br />
ระหว่างเพศ โดยให้นำเงินร้อยละ ๑ ของงบ<br />
ประมาณแผ่นดินในปีหนึ่งๆ มาเข้ากองทุนฯ<br />
ทั้งนี้เพื่อเป็นทุนใช้จ่ายเกี่ยวกับการส่งเสริม<br />
โอกาสและความเสมอภาคระหว่างเพศ ประกอบ<br />
ด้วย (๑) เพื่อกิจกรรมหรือกิจการที่เกี่ยวข้องกับ<br />
การพัฒนาศักยภาพสตรี รวมทั้งการส่งเสริม<br />
โอกาสและความเสมอภาคระหว่างเพศ (๒) เพื่อ<br />
คุ้มครองและป้องกันมิให้มีการเลือกปฏิบัติ<br />
เพราะเหตุแห่งเพศและความรุนแรงเพราะเหตุ<br />
แห่งเพศ (๓) เพื่อช่วยเหลือหรือบรรเทาทุกข์แก่<br />
บุคคลที่ตกเป็นผู้เสียหายจากการเลือกปฏิบัติ<br />
เพราะเหตุแห่งเพศ (๔) เพื่อการสอดส่องดูแล<br />
และให้คำแนะนำหรือคำปรึกษาเกี่ยวกับการ<br />
ดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐและหน่วยงาน<br />
ของรัฐในการปฏิบัติตามพระราชบัญญัตินี้ (๕)<br />
เพื่อส่งเสริมการศึกษา การวิจัย ประเมินผล และ<br />
การเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการป้องกัน มิให้เกิด<br />
การเลือกปฏิบัติเพราะเหตุแห่งเพศและความ<br />
รุนแรงเพราะเหตุแห่งเพศ (๖) เพื่อการติดต่อ<br />
ประสานงาน สนับสนุนให้หน่วยงาน หรือองค์กร<br />
ต่างๆ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชา<br />
สังคม มีส่วนร่วมในการดำเนินงานส่งเสริม<br />
โอกาสและความเสมอภาคระหว่างเพศ ตลอด<br />
จนขจัดการเลือกปฏิบัติและการกระทำความ<br />
รุนแรงเพราะเหตุแห่งเพศ<br />
คงต้องช่วยกันลุ้นให้รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์<br />
ชินวัตร หยิบเอา (ร่าง) พระราชบัญญัติส่งเสริม<br />
โอกาสและความเสมอภาคระหว่างเพศฉบับที่<br />
ประชาชน และคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย<br />
(คปก.) เสนอไปเมื่อหลายเดือนที่แล้ว เข้าสู่วาระ<br />
การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีเสียที อย่าให้ต้อง<br />
กลายเป็นกฎหมาย ‘ชายขอบ’ที่รัฐบาลไม่ให้<br />
ความสำคัญเหมือนที่ผ่านๆ มาเลย <strong>MU</strong><br />
ที่มา: www.ipsr.mahidol.ac.th/newsletter
Special Article<br />
ธนาโชค ตติเจริญ<<br />
เทคนิคการประเมินคุณภาพ<br />
ทางด้านสีเนื้อผลของกีวีฟรุต<br />
โดยทั่วไปกีวีฟรุตที่นิยมวางจำหน่ายมี ๒<br />
กลุ่ม คือ พันธุ์เนื้อเขียว มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า<br />
Actinidia deliciosa และพันธุ์เนื้อเหลือง<br />
(Actinidia chinensis) ผลกีวีฟรุตที่พบเห็นใน<br />
ท้องตลาดนั้นนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น<br />
นิวซีแลนด์ และจีน ปัจจุบันประเทศไทย<br />
สามารถปลูกกีวีฟรุต และให้ผลผลิตได้แล้วภาย<br />
ใต้การบริหารจัดการของมูลนิธิโครงการหลวง<br />
แต่ปัญหาที่พบเสมอของกีวีฟรุตที่ผลิตใน<br />
ประเทศไทย คือ ความไม่สม่ำเสมอของสีเนื้อ<br />
ผลเมื่อเวลารับประทาน ซึ่งปัญหานี้ส่งผลกระ<br />
ทบต่อความมั่นใจ และความประทับใจของผู้<br />
บริโภคที่จะตัดสินใจซื้อในครั้งต่อไป ถึงแม้ว่าจะ<br />
มีการสุ่มตรวจคุณภาพก่อนวางจำหน่ายตามวิธี<br />
ปกติ แต่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เพราะในขั้น<br />
ตอนการตรวจจำเป็นต้องผ่าทำลายเพื่อ<br />
ประเมินดูสีเนื้อภายใน ส่งผลให้เกิดการสูญเสีย<br />
ผลผลิตโดยเฉพาะกลุ่มคุณภาพสูงที่สามารถวาง<br />
จำหน่ายในท้องตลาดได้ นอกจากนี้ในการตรวจ<br />
ประเมินคุณภาพแต่ละครั้งจะต้องทำลายผลทิ้ง<br />
เป็นจำนวนมากนำไปสู่การสูญเสียรายได้ ดังนั้น<br />
มหาวิทยาลัยมหิดลได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัย<br />
เกษตรศาสตร์ภายใต้ทุนสนับสนุนการวิจัยของ<br />
มูลนิธิโครงการหลวงดำเนินโครงการวิจัยที่จะ<br />
นำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้เพื่อ<br />
หาวิธีการประเมินคุณภาพสีเนื้อผลแบบไม่<br />
ทำลายตัวอย่าง<br />
เทคโนโลยีชนิดหนึ่งที่สามารถนำมาใช้ใน<br />
การประเมินลักษณะสีเนื้อผลโดยไม่จำเป็นต้อง<br />
ทำลายผลได้ก็คือ Near Infrared spectroscopy<br />
(NIRs) ซึ่งมีหลักการทำงาน คือเครื่อง NIRs จะ<br />
ปล่อยแสงที่มีความยาวคลื่นตั้งแต่ 700-1100<br />
nm ไปยังวัตถุ ซึ่งวัตถุแต่ละชนิดนั้นจะมีองค์<br />
ประกอบทางเคมีอินทรีย์ที่แตกต่างกัน และจะ<br />
ดูดกลืนความยาวคลื่นแสงที่แตกต่างตามแต่<br />
ชนิดขององค์ประกอบสารเคมีอินทรีย์ภายใน<br />
วัตถุนั้นๆ หลังจากนั้นแสงจะสะท้อนกลับไปยัง<br />
จุดรับของตัวเครื่อง NIRs ก็จะได้ค่าสเปคตรัมที่<br />
แสดงการดูดกลืนแสงที่ความยาวคลื่นแตกต่าง<br />
กันไปตามชนิดขององค์ประกอบสารเคมีอินทรีย์<br />
แล้วนำไปเปรียบเทียบกับค่าสเปคตรัมขององค์<br />
ประกอบทางเคมีอินทรีย์มาตรฐาน<br />
จากการใช้เครื่อง NIRs ประเมินสีเนื้อกับกลุ่ม<br />
ผลกีวีฟรุตทั้งกลุ่มเนื้อเขียว และเนื้อเหลืองใน<br />
ระยะเก็บเกี่ยวปกติที่ผลิตได้จากสถานีเกษตร<br />
หลวงอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เปรียบเทียบ<br />
กับค่าการประเมินสีเนื้อผลจากเครื่อง Chroma<br />
meter แล้วนำค่าที่ได้จากทั้งสองมาเทียบเพื่อ<br />
สร้างสมการในการประเมินลักษณะสี สมการ<br />
การประเมินสีเนื้อผลที่ได้จากผลกีวีฟรุตกลุ่มนี้ที่<br />
เรียกว่า Calibration set จะถูกนำไปทดสอบ<br />
ความแม่นยำของสมการด้วยลักษณะสีเนื้อของ<br />
ผลในกลุ่ม validation set ก่อนที่จะนำสมการ<br />
ที่ได้ไปใช้จริง ต่อจากนี้ไปจะสามารถทำนายสี<br />
เนื้อผลกีวีฟรุตในเวลารวดเร็วด้วยเครื่อง NIRs<br />
โดยการอ่านค่าจากเครื่องที่ทราบผลทันทีใน<br />
เวลาไม่กี่วินาที และที่สำคัญไม่จำเป็นต้องผ่า<br />
ทำลายผลทิ้ง ทำให้ลดความสูญเสียผลผลิตกีวี<br />
ฟรุตได้อีกด้วย <strong>MU</strong><br />
มหิดลสาร ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๕ • 9
Special Article<br />
ดรณ์ แก้วนัย ศูนย์สยามทรรศน์ศึกษา<br />
คณะศิลปศาสตร์<<br />
คณบดีคณะศิลปศาสตร์กราบบังคมทูลรายงานนิทรรศการและรับพระราชทานเกียรติบัตร<br />
คณะศิลปศาสตร์ร่วมจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ ๑๕๐ ปี<br />
สมเด็จพระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า<br />
ในวโรกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ<br />
สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทอด<br />
พระเนตรนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติเนื่องใน<br />
โอกาสการจัดงาน “เฉลิมฉลองวาระ ๑๕๐ ปี<br />
พระราชสมภพแห่งสมเด็จพระศรีสวรินทิรา<br />
บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า” ระหว่าง<br />
วันที่ ๑๙ – ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๖ ณ โรงพยาบาล<br />
สมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา จังหวัด<br />
ชลบุรี โดยความร่วมมือระหว่างคณะ<br />
ศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กับโรง<br />
พยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา<br />
จังหวัดชลบุรี และคณะกรรมการจัดนิทรรศการ<br />
เฉลิมพระเกียรติ ๑๕๐ ปี สมเด็จพระศรีสวรินทิ<br />
รา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า จาก<br />
หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน คณะ<br />
ศิลปศาสตร์จึงดำริที่จะจัดพิมพ์หนังสือที่ระลึก<br />
เนื่องในโอกาสสำคัญดังกล่าว<br />
คณะศิลปศาสตร์ดำริว่า สมเด็จพระศรีสวริ<br />
นทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า<br />
ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงบำเพ็ญพระราช<br />
กรณียกิจเพื่อพสกนิกรมาตลอดวาระแห่งพระ<br />
ชนมชีพ แม้ในวาระที่เสด็จ พระราชดำเนินมา<br />
ประทับ ณ ตำหนักศรีราชา เมืองชลบุรี เพียง<br />
ชั่วระยะหนึ่งก็มีพระราชอุตสาหะสงเคราะห์<br />
ราษฎรอยู่เป็นนิตย์ สมควรจะได้รวบรวมและ<br />
เรียบเรียงเรื่องราว ตลอดจนเหตุการณ์ที่<br />
10 • <strong>MU</strong> Newsletter 2013, Volume 06<br />
คณะกรรมการศูนย์สยามทรรศน์ศึกษาทูลเกล้าฯ ถวายหนังสือ “บรมราชเทวีชลบุรีสถิต”<br />
เกี่ยวข้องเพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งน้ำพระราชหฤทัย<br />
ให้เป็นที่ประจักษ์ ทั้งนี้ คณะศิลปศาสตร์ได้รับ<br />
ความกรุณาเป็นอย่างยิ่งจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์<br />
ดร.ประพจน์ อัศววิรุฬหการ ประธานฝ่าย<br />
วิชาการมูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า<br />
และประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดทำหนังสือที่<br />
ระลึกการจัดงานเฉลิมฉลองวาระ ๑๕๐ ปี พระ<br />
ราชสมภพแห่งสมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรม<br />
ราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ให้ชื่อหนังสือ<br />
นี้ว่า “บรมราชเทวีชลบุรีสถิต”<br />
หนังสือเล่มนี้ได้แสดงพระประวัติและ<br />
บทความอันเนื่องด้วยพระราชกรณียกิจของ<br />
สมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพัน<br />
วัสสาอัยยิกาเจ้า ได้แก่ ปฐมกถาสมเด็จพระพัน<br />
วัสสาราชการุณย์สู่ภูมิภาคตะวันออก บรมชนก<br />
นาถราชสถาน รัชกาลที่ ๔ กับเมืองชลบุรี: จาก<br />
พระบรมชนกนาถสู่พระราชธิดา ศาสนการราช<br />
ศุภกิจ สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้ากับการ<br />
พระศาสนาในเมืองชลบุรีและพิพิธอาชีวการ<br />
กรณีย์ สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้ากับการ<br />
สงเคราะห์อาชีพในเมืองชลบุรีและบูรพาสมัยวิถี<br />
บรมราชเทวีสมัย วิถีชีวิตและวัฒนธรรมชลบุรี<br />
ในสมัยสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ดังนั้น จึง<br />
เป็นหนังสือที่สำแดงเกียรติประวัติของเมือง<br />
ชลบุรีและเผยแพร่พระราชประวัติสมเด็จพระศรี<br />
สวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า<br />
ผู้ทรงมีพระมหากรุณาต่อราษฎรในด้านการ<br />
สาธารณสุข การสงเคราะห์อาชีพ และการพระ<br />
ศาสนา จนเป็นผลสืบเนื่องให้เมืองชลบุรีเจริญ<br />
รุ่งเรือง ให้ปรากฏแพร่หลายสืบไป<br />
ในงานดังกล่าวนอกจากจะมีนิทรรศการอัน<br />
เนื่องด้วยสมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี<br />
พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า แล้วยังมีกิจกรรมอื่นๆ<br />
เช่น การประกวดภาพถ่ายมหามงคลแห่ง<br />
แผ่นดิน ณ ศรีราชา ภาพเก่าเล่าเรื่องเมือง<br />
ศรีราชา และการสัมมนาวิชาการ “งานเฉลิม<br />
ฉลองวาระ ๑๕๐ ปี พระราชสมภพสมเด็จพระ<br />
ศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พระพันวัสสา<br />
อัยยิกาเจ้า” เป็นต้น<br />
ในการนี้ อาจารย์ ดร.อภิลักษณ์ เกษมผลกูล<br />
คณบดีคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล<br />
เฝ้ารับเสด็จและกราบบังคมทูลรายงาน<br />
นิทรรศการ “บรมราชเทวีชลบุรีสถิต” และเข้า<br />
รับพระราชทานเกียรติบัตรในฐานะคณะ<br />
กรรมการจัดงาน นอกจากนี้ คณะกรรมการศูนย์<br />
สยามทรรศน์ศึกษาและคณะศิลปศาสตร์ยังได้<br />
ทูลเกล้าฯ ถวายหนังสือ “บรมราชเทวีชลบุรี<br />
สถิต” แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยาม<br />
บรมราชกุมารี ในวโรกาสที่พระองค์เสด็จ<br />
พระราชดำเนินทอดพระเนตรนิทรรศการเฉลิม<br />
พระเกียรติฯ ดังกล่าว <strong>MU</strong>
วิทยาลัยการจัดการ ม.มหิดล ผสานความร่วมมือระหว่างรามาธิบดี<br />
และศิริราช เปิดหลักสูตรใหม่“การจัดการสุขภาพแบบองค์รวม”<br />
พร้อมจัดสัมมนาทางวิชาการครั้งใหญ่แห่งปี<br />
เมื่อวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖ วิทยาลัย<br />
การจัดการ (CM<strong>MU</strong>) จัดแถลงข่าวพิธีลงนาม<br />
ความร่วมมือทางวิชาการ (MOU) ระหว่างคณะ<br />
แพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี นำโดย<br />
ศาสตราจารย์นายแพทย์วินิต พัวประดิษฐ์<br />
คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี<br />
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล นำโดย<br />
ศาสตราจารย์นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา<br />
รองคณบดี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล<br />
และ วิทยาลัยการจัดการ นำโดย รอง<br />
ศาสตราจารย์ ดร.อรรณพ ตันละมัย คณบดี<br />
วิทยาลัยการจัดการ ในการพัฒนาหลักสูตรใหม่<br />
“การจัดการมหาบัณฑิต (หลักสูตรนานาชาติ)<br />
สาขาวิชาการจัดการสุขภาพแบบองค์รวม หรือ<br />
Master of Management in Healthcare<br />
and Wellness Management” เพื่อผลิตนัก<br />
บริหารจัดการรองรับตลาดธุรกิจสุขภาพที่<br />
สามารถรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงต่างๆ และ<br />
บริหารองค์กรให้มีประสิทธิผล ณ โรงแรม<br />
เชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท โดยมี ศาสตราจารย์<br />
นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน อธิการบดี<br />
มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นประธานกล่าวเปิดงาน<br />
ในงานยังจัดให้มีการสัมมนาทางวิชาการ<br />
เรื่อง “Healthcare in Turbulent times.<br />
What is the new role of the healthcare<br />
professionals” โดยได้รับเกียรติจาก นาย<br />
แพทย์ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการ<br />
กระทรวงสาธารณสุข ร่วมการสัมมนา และมี<br />
ผู้ทรงคุณวุฒิในวงการสุขภาพของเมืองไทย มา<br />
ร่วมอภิปรายในประเด็นที่แตกต่างอย่างน่า<br />
สนใจ ได้แก่ นายแพทย์ชาญวิทย์ ทระเทพ รอง<br />
ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ศาสตราจารย์นาย<br />
แพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา รองคณบดีคณะ<br />
แพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และผู้อำนวยการ<br />
Harmony in Diversity<br />
งานประชาสัมพันธ์ วิทยาลัยการจัดการ<<br />
โรงเรียนแพทย์ศิริราช พร้อมด้วย นาย<br />
แพทย์ชาตรี ดวงเนตร ประธานคณะผู้<br />
บริหารศูนย์การแพทย์ โรงพยาบาล<br />
กรุงเทพ และ Mr.Paul Tan จาก บริษัท<br />
ไอบีเอ็มฯ โดยมีผู้สนใจในแวดวงการแพทย์และ<br />
สุขภาพเข้าร่วมฟังเป็นจำนวนมาก<br />
สำหรับผู้ที่สนใจหลักสูตร “การจัดสุขภาพ<br />
แบบองค์รวม” (Master of Management in<br />
Healthcare and Wellness Management)<br />
สามารถดูรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่<br />
http://inside.cm.mahidol.ac.th/<br />
healthcare/ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่<br />
วิทยาลัยการจัดการ ถนนวิภาวดีรังสิต โทรศัพท์<br />
๐-๒๒๐๖-๒๐๐๐ <strong>MU</strong><br />
ศิริราชรักษ์สิ่งแวดล้อม<br />
งานประชาสัมพันธ์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล<<br />
เมื่อวันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๕๖ รศ.นพ.ปรีชา<br />
สุนทรานันท์ รองคณบดีฝ่ายสื่อสารองค์กรและ<br />
กิจกรรมเพื่อสังคม คณะแพทยศาสตร์ศิริราช<br />
พยาบาล ม.มหิดล เป็นประธานเปิดงาน<br />
“ศิริราชรักษ์สิ่งแวดล้อม”ประจำปี ๒๕๕๖ ณ<br />
โถงอาคาร ๑๐๐ ปี สมเด็จพระศรีนครินทร์<br />
จากนั้นนำเดินรณรงค์ภายในโรงพยาบาลและ<br />
ตลาดวังหลัง พร้อมด้วยผู้บริหาร ชาวศิริราช<br />
ชุมชนบางกอกน้อย และเหล่าศิลปิน มยุรา<br />
เศวตศิลา โบว์ AF 5 เนสท์-เอิร์ท AF 9<br />
งานศิริราชรักษ์สิ่งแวดล้อม จัดเป็นประจำ<br />
ทุกปี ในปีนี้กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๓ – ๗<br />
มิถุนายน ๒๕๕๖ เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความ<br />
เข้าใจ และรณรงค์ปลุกจิตสำนึกให้กับบุคลากร<br />
ศิริราชและชุมชนรอบโรงพยาบาลศิริราชร่วม<br />
กันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและ<br />
ทรัพยากรธรรมชาติ<br />
ภายในงาน มีนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ<br />
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นิทรรศการ “๑๐<br />
นโยบาย มุ่งสู่การเป็นศิริราชสีเขียว”ที่เชื่อมต่อ<br />
ระหว่างระบบการบริหารจัดการโรงพยาบาล<br />
กับระบบสุขภาพ เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่าง<br />
ยั่งยืน อันจะนำไปสู่การปรับปรุงสิ่งแวดล้อม<br />
สุขภาพของประชาชน<br />
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมรณรงค์ใช้ปิ่นโต<br />
ภาชนะส่วนตัวเพื่อช่วยลดปริมาณขยะ การ<br />
ออกร้านจำหน่ายพันธุ์ไม้ ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ<br />
เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การประกวดจัดสวน<br />
หย่อมจากวัสดุเหลือใช้ ประกวดวาดภาพแต่ง<br />
แต้มสีสัน เสวนาสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการ<br />
เยียวยา การแสดงดนตรีในสวน อาทิ โดม กวาง<br />
จูเนียร์ จากเดอะ สตาร์ ณ รพ.ศิริราช <strong>MU</strong><br />
มหิดลสาร ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๕ • 11
12 • <strong>MU</strong> Newsletter 2013, Volume 06
Research Excellence<br />
สาธิดา ศรีชาติ<<br />
คณะทันตแพทยศาสตร์ ม.มหิดล เปิดศูนย์ปฏิบัติการ<br />
ซิมมิวเลชั่นที่มีจำนวนยูนิตมากที่สุดในโลก<br />
เมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๕๖ ศาสตราจารย์<br />
นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน อธิการบดี<br />
มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นประธานเปิดศูนย์ปฏิบัติ<br />
การซิมมิวเลชั่นซึ่งเป็นศูนย์ฝึกปฏิบัติงานจริง<br />
สำหรับทันตแพทย์ที่มีจำนวนยูนิตมากที่สุดใน<br />
โลก ณ อาคาร ๔ ชั้น ๑ คณะทันตแพทยศาสตร์<br />
มหาวิทยาลัยมหิดล<br />
รองศาสตราจารย์ทันตแพทย์พาสน์ศิริ นิสา<br />
ลักษณ์ คณบดีคณะทันตแพทยศาสตร์<br />
มหาวิทยาลัยมหิดลเปิดเผยว่าปัจจุบันการเรียน<br />
การสอนในคณะทันตแพทยศาสตร์ ต้องจัดให้<br />
นักศึกษาฝึกปฏิบัติงาน แต่ยังไม่ครบวงจร เพราะ<br />
ขาดการจำลองสภาวการณ์ทางคลินิกในสภาพที่<br />
ใกล้เคียงกับการปฏิบัติงานจริงในผู้ป่วย ดังนั้น<br />
การจัดสภาพแวดล้อมให้ใกล้เคียงกับการปฏิบัติ<br />
ม.มหิดล จัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ<br />
หลักสูตร “นักสร้างสุของค์กร (นสอ.)”<br />
ตามที่มหาวิทยาลัยมหิดลได้กำหนด<br />
ยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล พ.ศ.๒๕๕๖ –<br />
๒๕๕๙ ด้าน Human Resource Excellence<br />
โดยมีเป้าประสงค์หลักเพื่อขับเคลื่อน<br />
มหาวิทยาลัยโดยเน้นการพัฒนาบุคลากร และมี<br />
การกำหนด Corporate KPI ในด้านที่ ๙ Human<br />
Resource Index โดยมีเป้าหมายคะแนน<br />
เฉลี่ย Happiness ในระดับ ๗ ใน ๑๐ คะแนน<br />
ภายในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐ นั้น ในการ<br />
ดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านดัง<br />
กล่าว คณะกรรมการบริหารทรัพยากรบุคคล<br />
คราวประชุม ครั้งที่ ๓/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๘<br />
กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ได้ให้ความเห็นชอบให้<br />
สถาบันวิจัยประชากรและสังคม และกอง<br />
ทรัพยากรบุคคลร่วมดำเนินการสำรวจความสุข<br />
ของบุคลากรในมหาวิทยาลัยมหิดล ด้วยแบบ<br />
สำรวจความสุขด้วยตนเอง Happinometer<br />
(Online) และได้มีการดำเนินการสำรวจไปแล้ว<br />
งานจริงในคลินิกจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะช่วย<br />
พัฒนาให้เกิดการเรียนรู้ของนักศึกษาทันตแพทย์<br />
ได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพในการเตรี<br />
ยมความพร้อมให้นักศึกษาสามารถปฏิบัติงาน<br />
จริงในการรักษาผู้ป่วยได้อย่างมั่นใจ คณะทันต<br />
แพทยศาสตร์ ม.มหิดล จึงดำเนินการจัดตั้งศูนย์<br />
ณชัยริทธิ์ หลงสมบูรณ์<<br />
๒ รอบ คือ รอบ ๑ ช่วงเดือนเมษายน –<br />
พฤษภาคม ๒๕๕๕ และ รอบ ๒ ช่วงเดือน<br />
กันยายน ๒๕๕๕ และได้แจ้งผลการสำรวจให้<br />
ส่วนงานรับทราบ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการ<br />
เสริมสร้างความสุขให้แก่บุคลากรในส่วนงาน<br />
และเพื่อเป็นการสนับสนุนการขับเคลื่อน<br />
ยุทธศาสตร์ดังกล่าวให้แก่ส่วนงานต่างๆ<br />
มหาวิทยาลัยจึงได้กำหนดจัดโครงการอบรมเชิง<br />
ปฏิบัติการ หลักสูตร “นักสร้างสุของค์กร<br />
(นสอ.)” ขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนานัก<br />
สร้างสุของค์กรให้เกิดขึ้นในทุกส่วนงานและร่วม<br />
เป็นพลังในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ให้เป็นไป<br />
ตามเป้าหมายที่มหาวิทยาลัยกำหนด โดยมี<br />
กิจกรรมการอบรมและสัมมนาฯ ดังนี้<br />
ครั้งที่ ๑ กิจกรรม “โครงการอบรมเชิง<br />
ปฏิบัติการ นักสร้างสุของค์กร (นสอ.)” วันที่<br />
๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๖ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๒.๓๐<br />
น. ณ ห้องประชุม ประชาสังคมอุดมพัฒน์ ชั้น<br />
ปฏิบัติการซิมมิวเลชั่น (Simulation lab) โดย<br />
การใช้หุ่นจำลองในการเรียนการสอนใน<br />
หลักสูตรทันตแพทยศาสตรบัณฑิต เป็นการ<br />
จำลองสภาวะเสมือนจริงของผู้ป่วยให้นักศึกษา<br />
ได้เรียนรู้และปฏิบัติงานจริงในผู้ป่วย เพื่อให้<br />
นักศึกษาเกิดการพัฒนาการเรียนรู้ได้อย่างมี<br />
ประสิทธิภาพ และพร้อมให้การรักษาผู้ป่วยได้<br />
อย่างมั่นใจ อีกทั้งศูนย์ปฏิบัติการซิมมิวเลชั่น<br />
(Simulation lab) แห่งนี้ยังใช้เป็นศูนย์สอ<br />
บการฎิบัติงานในภาวะจำลองและศูนย์ศึกษาต่อ<br />
เนื่องในระดับชาติและนานาชาติอีกด้วย ซึ่ง<br />
เป็นการเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมเศรษฐกิจ<br />
อาเซียน และมุ่งหวังในการยกระดับเป็นสถาบัน<br />
การศึกษาชั้นนำระดับโลก <strong>MU</strong><br />
Harmony in Diversity<br />
๑ สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัย<br />
มหิดล<br />
ครั้งที่ ๒ กิจกรรม “โครงการพัฒนานัก<br />
สร้างสุของค์กรด้วย MapHR” รุ่นที่ ๑ วันที่<br />
๑๔ - ๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๖ และ รุ่นที่ ๒ วันที่<br />
๓ - ๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ณ เทวมันต์ทรา<br />
รีสอร์ท แอนด์ สปา จังหวัดกาญจนบุรี<br />
ครั้งที่ ๓ กิจกรรม “การสัมมนาเชิงปฏิบัติ<br />
การเพื่อถอดบทเรียนการขับเคลื่อนงานสร้าง<br />
สุของค์กร” รุ่นที่ ๑ วันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๖<br />
และรุ่นที่ ๒ วันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๕๗ ณ<br />
โรงแรม เอสดี อเวนิว กรุงเทพมหานคร <strong>MU</strong><br />
หมายเหตุ: กำหนดการดังกล่าวอาจปรับเปลี่ยนได้<br />
ตามความเหมาะสม<br />
มหิดลสาร ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๕ • 13
<strong>MU</strong> Society<br />
ฐิติรัตน์ เดชพรหม<<br />
ปฐมนิเทศรับสมาชิกใหม่ครอบครัว<br />
ราชพฤกษ์ (๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖)<br />
งานบริหารการศึกษาและกิจการนักศึกษา<br />
คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล<br />
จัดพิธีปฐมนิเทศ “รับสมาชิกใหม่ครอบครัว<br />
ราชพฤกษ์” ปีการศึกษา ๒๕๕๖ โดยมีพิธีถวาย<br />
ราชสักการะ พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระ<br />
มหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราช<br />
ชนก โดย รองศาสตราจารย์ นายแพทย์พิทยา<br />
จารุพูนผล คณบดีคณะสาธารณสุขศาสตร์ เป็น<br />
ประธานในพิธี<br />
พัฒนาอุตสาหกรรมยาสมุนไพร<br />
(๕ มิถุนายน ๒๕๕๖)<br />
รองศาสตราจารย์ ดร.จุฑามณี สุทธิสีสังข์<br />
คณบดีคณะเภสัชศาสตร์ เป็นประธานกล่าว<br />
เปิดกิจกรรมพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ สาขา<br />
การแพทย์แผนไทยที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรมยา<br />
สมุนไพร ณ ห้องประชุม ๖๐๖ อาคารราชรัตน์<br />
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล<br />
เวทีวิจัยชุมชน (๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๖)<br />
ศาสตราจารย์นายแพทย์ประสิทธิ์ ผลิตผลการ<br />
พิมพ์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัย<br />
มหิดล เป็นประธานกล่าวเปิดเวทีสรุปนำเสนอ<br />
งานวิจัยของนักวิจัยชุมชน อำเภอพุทธมณฑล<br />
จังหวัดนครปฐม จัดโดย กลุ่มภารกิจวิจัยและ<br />
พัฒนาชุมชนของมหาวิทยาลัยมหิดล ณ ห้อง<br />
บุญศิริ สถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน<br />
ICT แถลงข่าวหลักสูตร(๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๖)<br />
คณะเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร<br />
(ICT) ม.มหิดล ร่วมกับพันธมิตร ๔ องค์กร<br />
หลัก ได้แก่ สวทช. SIPA Microsoft และ DELL<br />
จัดงานแถลงข่าวอบรมหลักสูตร Certificate<br />
for cloud Specialists ภาคภาษาอังกฤษเพื่อ<br />
รองรับ AEC นับเป็นหลักสูตรแรกและหลักสูตร<br />
เดียวของประเทศไทยในขณะนี้ ณ โรงแรม<br />
แกรนด์ มิลลิเนียม สุขุมวิท กรุงเทพฯ<br />
รณรงค์ไม่สูบบุหรี่ (๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖)<br />
ศ.พญ.สุวรรณา เรืองกาญจนเศรษฐ์ รองอธิการบดี และทีมผู้บริหารมหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมเปิด<br />
โครงการรณรงค์การไม่สูบบุหรี่ ณ ศูนย์การเรียนรู้มหิดล มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา เน้นให้<br />
บุคลากร นิสิต นักศึกษา ตระหนักถึงพิษภัยของบุหรี่ โดยจัดนิทรรศการให้ความรู้ และเปิดคลินิก<br />
“ฟ้าใส” เพื่อให้การบำบัด รักษาแก่ผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ เพื่อให้มหิดลเป็นมหาวิทยาลัยปลอดบุหรี่<br />
อย่างจริงจัง โดยถือเอาที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖ วันงดสูบุหรี่โลก เป็นวันเริ่มต้นของการรณรงค์<br />
อย่างเต็มรูปแบบ<br />
ลงนามอินโดนีเซีย<br />
(๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๖)<br />
รศ.ดร.วิสิฐ จะวะสิต ผู้อำนวยการสถาบัน<br />
โภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา ลง<br />
นามความร่วมมือทางวิชาการ ( Memorandum<br />
of Co-operation) ด้าน food science และ<br />
technology กับ Ms . Ita Sulistyawati<br />
คณบดีคณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัย<br />
Soegijapranata Catholic ประเทศอินโดนีเซีย<br />
14 • <strong>MU</strong> Newsletter 2013, Volume 06<br />
ต้อนรับอินโดนีเซียดูงาน<br />
(๕ มิถุนายน ๒๕๕๖)<br />
รศ.ดร.สุรีย์พร พันพึ่ง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัย<br />
ประชากรและสังคม พร้อมด้วย รศ.ดร.อมรา<br />
สุนทรธาดา และ รศ.ดร.อรพินทร์ พิทักษ์มหา<br />
เกตุ ให้การต้อนรับ National Population and<br />
Family Planning Board (NPFPB/BKKBN)<br />
จากประเทศอินโดนีเซียในโอกาสมาอบรมและ<br />
ศึกษาดูงานด้าน “Population and Family<br />
Planning in Thailand” ณ ห้องประชุมราชาวดี<br />
ชั้น ๓ สถาบันวิจัยประชากรและสังคม ม.มหิดล<br />
ศาลายา<br />
ราชสุดาสู่อัมพวา (๑๓ – ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๖)<br />
คณบดี ผู้บริหาร และบุคลากรวิทยาลัยราชสุดา<br />
เดินทางไปพัฒนาบุคลากรประจำปี ๒๕๕๖ ณ<br />
บ้านปลาทับทิมรีสอร์ท จ.สมุทรสงคราม เพื่อ<br />
เป็นการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยมี<br />
กิจกรรมการปลูกป่าชายเลนคลองโคน ล่องเรือ<br />
ทำบุญไหว้พระ เดินชม เที่ยวตลาดน้ำอัมพวา<br />
ร่วมทำกิจกรรมสันทนาการเชื่อมสัมพันธ์กัน<br />
ระหว่างผู้บริหาร อาจารย์และบุคลากรของ<br />
วิทยาลัยให้เกิดความรักและสามัคคีกัน และยัง<br />
สามารถนำมาปรับใช้ในการทำงานเพื่อพัฒนา<br />
องค์กรต่อไป
สานสัมพันธ์พุทธ-อิสลาม<br />
(๗ พฤษภาคม ๒๕๕๖)<br />
วิทยาลัยศาสนศึกษาได้จัดประชุมคณะกรรมการ<br />
นโยบายโครงการสานสัมพันธ์พุทธ-อิสลาม<br />
ระดับนานาชาติ ครั้งที่ ๑ ณ ห้องประชุม<br />
๒๐๖ วิทยาลัยศาสนศึกษา ม.มหิดล โดยมี<br />
รศ.ดร.วาทินี บุญชะลักษี (คณบดีวิทยาลัย<br />
ศาสนศึกษา) เป็นประธานในการประชุมและ<br />
ได้รับเกียรติจากท่านจุฬาราชมนตรี (นายอาศิส<br />
พิทักษ์คุมพล) เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ด้วย<br />
การดำเนินงานของศูนย์ฯ ตั้งอยู่ในรูปของคณะ<br />
กรรมการ ๒ คณะ คือ คณะกรรมการนโยบาย<br />
และคณะกรรมการดำเนินการ ประกอบกับ<br />
ความร่วมมือกับหน่วยงานเครือข่ายทั้งระดับ<br />
ชาติและนานาชาติ<br />
วันสิ่งแวดล้อมโลก (๕ มิถุนายน ๒๕๕๖)<br />
รศ.ดร.กัมปนาท ภักดีกุล คณบดีคณะสิ่ง<br />
แวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ ม.มหิดล<br />
เป็นประธานเปิดงานวันสิ่งแวดล้อมโลก<br />
ประจำปี ๒๕๕๖ ภายใต้ Concept “THINK.<br />
EAT.SAVE กิน อยู่ รู้ คิด เป็นมิตรกับสิ่ง<br />
แวดล้อม” เพื่อเป็นการระลึกถึงความสำคัญของ<br />
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ภายในงาน<br />
มีกิจกรรมที่ให้ผู้บริหาร คณาจารย์ เจ้าหน้าที่<br />
รวมทั้งนักเรียนในชมรมรักษ์สิ่งแวดล้อม จาก<br />
โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว ชาวบ้านและผู้ร่วม<br />
งานร่วมกันปลูกต้นไม้บริเวณโดยรอบคณะสิ่ง<br />
แวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ และปล่อยปลา<br />
บริเวณท่าน้ำวัดสุวรรณาราม จ.นครปฐม พร้อม<br />
ทั้งเยี่ยมชุมชนรายรอบมหาวิทยาลัย<br />
มหาสังฆทาน<br />
(๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖)<br />
คณะเทคนิคการแพทย์ นำโดย ศาสตราจารย์<br />
ดร.วีระพงศ์ ปรัชชญาสิทธิกุล คณบดีฯ จัดงาน<br />
พิธีถวายมหาสังฆทาน แด่พระสงฆ์ ๔๕ รูป จาก<br />
๙ วัด ได้แก่ วัดปุรณาวาส วัดสาลวัน วัดหทัย<br />
นเรศวร์ วัดมะเกลือ วัดสุวรรณาราม วัดพุทธ<br />
บารมี (ม.ร่วมเกื้อ) วัดมหาสวัสดิ์นาคพุฒาราม<br />
วัดมงคลประชาราม และวัดโกมุทพุทธรังสี โดย<br />
เป็นการทำบุญร่วมกับส่วนงานและหน่วยงาน<br />
ต่างๆ ในมหาวิทยาลัยมหิดลและชุมชนรอบข้าง<br />
เพื่อเป็นการจัดงานบุญใหญ่เสริมสร้างความ<br />
เป็นสิริมงคลรวมทั้งเป็นการอุทิศส่วนกุศลแด่<br />
เจ้าบ้าน เจ้าที่และดวงวิญญาณต่างๆ ที่สถิต<br />
อยู่ ณ พื้นที่ศาลายา<br />
ศิริราชมอบเนคไท–โบว์ไทต้อนรับ นศ. (๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖)<br />
ศ.คลินิก นพ.อุดม คชินทร คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล เป็นประธาน<br />
มอบเนคไท – โบว์ไท ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๖ ให้แก่ นักศึกษาชั้นปีที่ ๒ หลักสูตร<br />
กายอุปกรณศาสตรบัณฑิตและนักศึกษาหลักสูตรกายอุปกรณศาสตรบัณฑิต (หลักสูตร<br />
นานาชาติ) โดยมี รศ.พญ. นิศารัตน์ โอภาสเกียรติกุล ผอ.รร.กายอุปกรณ์สิรินธร ร่วมใน<br />
พิธี ณ อาคาร รร.กายอุปกรณ์สิรินธร คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล<br />
ลงนามบิ๊กซี (๖ มิถุนายน ๒๕๕๖)<br />
ศาสตราจารย์ ดร.มาลียา เครือตราชู คณบดี พร้อมด้วยอาจารย์สุมาลี วิเศษรัตน์ รอง<br />
คณบดีฝ่ายบริหาร วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดลเข้าร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง<br />
โครงการอบรมหลักสูตร “Executive Degree in Leadership Program” (EDLP) ระหว่าง<br />
วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล และบริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน)<br />
โดยมีนาย Stephen Camilleri รองประธานฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ และนาย Philippe Prejent<br />
รองประธานฝ่ายการดำเนินงาน บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมใน<br />
พิธี ณ ห้องสัมมนา พินนาเคิล ๓ โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพฯ<br />
อบรมเครื่องมือแพทย์ รุ่นที่ ๒๗ (๒๗ พฤษภาคม – ๗ มิถุนายน ๒๕๕๖)<br />
ศูนย์วิจัยและพัฒนาอุปกรณ์ชีวการแพทย์ สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล นำโดย ผศ.ยง<br />
ยุทธ ขจรปรีดานนท์ จัดอบรมหลักสูตร การใช้และการดูแลเครื่องมือแพทย์ในหอผู้ป่วยวิกฤติ<br />
สำหรับพยาบาล รุ่นที่ ๒๗ โดยมีพยาบาลหอผู้ป่วยวิกฤติจากโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ<br />
เข้ารับการอบรม จำนวน ๑๘๑ คน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจด้านหลัก<br />
การของเครื่องมือแพทย์ที่มีความสำคัญสูง การใช้งานที่ถูกวิธีและเต็มประสิทธิภาพ ตลอดจน<br />
การบริหารจัดการเครื่องมือแพทย์ ทั้งภายในหอผู้ป่วยวิกฤติและในภาพรวมของโรงพยาบาล<br />
โดยแบ่งออกเป็นภาคทฤษฎี และภาคการสอนแสดงด้วยเครื่องมือแพทย์จริง<br />
มหิดลสาร ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๕ • 15
Teaching&Learning Excellence<br />
ฐิติรัตน์ เดชพรหม<<br />
เผยผลรางวัลมหาวิทยาลัยมหิดล<br />
เมื่อวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๖ ณ ห้องประชุม<br />
อาคารสตางค์ มงคลสุข คณะวิทยาศาสตร์<br />
พญาไท ศาสตราจารย์ นายแพทย์ รัชตะ รัช<br />
ตะนาวิน อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล เป็น<br />
ประธานแถลงข่าวผลรางวัลมหาวิทยาลัยมหิดล<br />
ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๕<br />
มหาวิทยาลัยมหิดลคัดเลือกผลงานของ<br />
อาจารย์ นักวิชาการที่เป็นประโยชน์ต่อ<br />
วงการวิชาการและประชาชน ให้ได้รับรางวัล<br />
มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งผู้ได้รับการคัดเลือก<br />
จะเข้ารับพระราชทานรางวัลจาก สมเด็จพระ<br />
เทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในพิธี<br />
พระราชทานปริญญาบัตร ๔ กรกฎาคม ๒๕๕๖<br />
ณ หอประชุมกองทัพเรือ<br />
รางวัลมหาวิทยาลัยมหิดลจัดตั้งขึ้นเมื่อปี<br />
พ.ศ. ๒๕๑๘ ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเกียรติ<br />
และเป็นขวัญกำลังใจแก่บุคลากรที่มีความวิริยะ<br />
อุตสาหะและปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพจน<br />
มีผลงานดีเด่นในสาขาต่างๆ ซึ่งผู้ได้รับรางวัล<br />
นอกจากจะได้เข้ารับพระราชทานรางวัลในพิธี<br />
พระราชทานปริญญาบัตรแล้ว จะได้รับเงินสด<br />
รางวัลละ ๒๐๐,๐๐๐ บาท สำหรับปีการศึกษา<br />
๒๕๕๕ นี้ มีผู้ได้รับรางวัลประเภทดีเด่นเฉพาะ<br />
ทางทั้งหมด ๕ สาขา ได้แก่ สาขาความเป็นครู<br />
สาขาการวิจัย สาขาการประดิษฐ์ สาขาการแต่ง<br />
ตำรา และ สาขาการบริการ ดังนี้<br />
รางวัลมหาวิทยาลัย<br />
มหิดล สาขาความเป็น<br />
ครู<br />
ผู้ช่วยศาสตราจารย์<br />
ดร.อทิตยา ศิริภิญญา<br />
นนท์ ภาควิชาเคมี<br />
คณะวิทยาศาสตร์<br />
มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้ได้รับรางวัลนัก<br />
วิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ จากมูลนิธิส่งเสริม<br />
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในพระบรม<br />
ราชูปถัมภ์ รางวัลนักวิทยาศาสตรรุนเยาว<br />
(2011 TWAS Prize for Young Scientists<br />
in Thailand) สาขาเคมี และทุนวิจัยลอรีอัล<br />
ประเทศไทย “เพื่อสตรีในงานวิทยาศาสตร์”<br />
เป็นอาจารย์ที่พยายามสอนโดยกระตุ้นให้<br />
นักศึกษามีส่วนร่วมในการถามคำถาม ตอบ<br />
16 • <strong>MU</strong> Newsletter 2013, Volume 06<br />
ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๕<br />
คำถาม และแสดงความคิดเห็น นอกจากนี้ยัง<br />
ได้พัฒนาวิธีการและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี<br />
ทางการวิเคราะห์ที่มีอยู่ในห้องปฏิบัติการ<br />
รองศาสตราจารย์<br />
ดร.นายแพทย์<br />
ภัทรชัย กีรติสิน ภาค<br />
วิชาจุลชีววิทยา คณะ<br />
แพทยศาสตร์ศิริราช<br />
พยาบาล มหาวิทยาลัย<br />
มหิดล อดีตนายกสโมสร<br />
นักศึกษาแพทย์ศิริราชและผู้รับรางวัลนักศึกษา<br />
แพทย์ผู้ทำคุณประโยชน์ของคณะฯ เป็นคนไทย<br />
คนแรกที่ได้รับรางวัลนักวิจัยรุ่นเยาว์จากสมาคม<br />
จุลชีววิทยาของประเทศสหรัฐอเมริกา เคยดำรง<br />
ตำแหน่งผู้ช่วยคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา และ<br />
ได้รับรางวัลอาจารย์ดีเด่นทางปรีคลินิก ทุน<br />
เจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี รวมถึงได้<br />
รับรางวัลจากผลงานการแต่งตำราและผลงาน<br />
วิจัย อาจารย์มีความมุ่งมั่นสอนลูกศิษย์ให้เป็น<br />
แพทย์ ไม่ใช่ด้วยใบปริญญา แต่เป็นแพทย์ที่มีจิต<br />
วิญญาณความเป็นมนุษย์ ดังปณิธานของ สมเด็จ<br />
พระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรม<br />
ราชชนก<br />
รางวัลมหาวิทยาลัย<br />
มหิดล สาขาวิจัย<br />
รองศาสตราจารย์<br />
ดร. มธุรส พงษ์ลิขิต<br />
มงคล ภาควิชาชีวเคมี<br />
คณะวิทยาศาสตร์<br />
มหาวิทยาลัยมหิดล ผล<br />
งานการวิจัย เรื่อง “โปรตีน E6* จากฮิวแมน<br />
พาพิวโลมาไวรัสชนิด ๑๖ ส่งเสริมการดื้อยาใน<br />
เซลล์มะเร็งปากมดลูก” เป็นการค้นพบหน้าที่<br />
ใหม่ของโปรตีนจากเชื้อฮิวแมนพาพิวโลมาไวรัส<br />
หรือ HPV ชนิด ๑๖ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของ<br />
มะเร็งปากมดลูก โดยพบว่าโปรตีนนี้สามารถ<br />
รบกวนการทำงานของยีนมนุษย์ มีผลทำให้<br />
เซลล์มะเร็งปากมดลูกสร้างเอนไซม์ Aldo-keto<br />
reductase เพิ่มขึ้น และมีความสามารถใน<br />
การดื้อต่อยาบางชนิดสูงขึ้น ซึ่งความรู้นี้จะเป็น<br />
ประโยชน์ต่อแนวทางการรักษามะเร็งปากมดลูก<br />
ด้วยเคมีบำบัด<br />
รางวัลมหาวิทยาลัย<br />
มหิดล สาขาการ<br />
ประดิษฐ์<br />
รองศาสตราจารย์<br />
ดร.สิริจิต วงศ์กำชัย<br />
ภาควิชาปรสิตวิทยา<br />
คณะแพทยศาสตร์ศิริราช<br />
พยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ผลงานการ<br />
ประดิษฐ์ “ชุดตรวจวินิจฉัยโรคเท้าช้างแบบ<br />
รวดเร็ว” ซึ่งได้รับการจดสิทธิบัตรจากกรม<br />
ทรัพย์สินทางปัญญา และได้รางวัล”นวัตกรรม<br />
แห่งชาติ” โดยสามารถทดแทนการนำเข้าชุด<br />
ตรวจจากต่างประเทศซึ่งมีราคาแพง วิธีใช้งาน<br />
ง่าย อ่านผลง่าย รู้ผลการตรวจภายใน ๑๕ นาที<br />
สามารถควบคุมและกำจัดโรคเท้าช้างแบบ one<br />
stop service เจ้าหน้าที่สามารถจ่ายยาได้ทันที<br />
หากพบการติดเชื้อ<br />
ผู้ช่วยศาสตราจารย์<br />
ดร.เซง เลิศมโนรัตน์<br />
ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า<br />
คณะวิศวกรรมศาสตร์<br />
ผลงานการประดิษฐ์<br />
“เดินดี เครื่องกระตุ้น<br />
ไฟฟ้าแก้ปลายเท้าตก”
สำหรับช่วยผู้ป่วยทางระบบประสาทที่มีอาการ<br />
อัมพฤกษ์ไม่สามารถสั่งยกปลายเท้าตนเองได้<br />
เครื่องจะตรวจจับการยกรอยของส้นเท้า และ<br />
จะกระตุ้นกล้ามเนื้อเพื่อช่วยยกปลายเท้าขึ้น<br />
ขณะก้าวเดินทำให้เดินได้ง่ายขึ้น สิ่งประดิษฐ์<br />
มีขนาดกระทัดรัดมากเพียงกล่องไม้ขีดทำให้ใช้<br />
สะดวก และราคาถูกกว่าของต่างประเทศกว่า<br />
๑๐ เท่า สามารถช่วยผู้ป่วยไทยในวงกว้างให้มี<br />
คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น<br />
รางวัลมหาวิทยาลัยมหิดล สาขาการแต่งตำรา<br />
รองศาสตราจารย์<br />
น า ย แ พ ท ย ์<br />
ทนงชัย สิริอภิสิทธิ์<br />
ภาควิชารังสีวิทยา คณะ<br />
แพทยศาสตร์ศิริราช<br />
พยาบาล มหาวิทยาลัย<br />
มหิดล ผลงานการแต่ง<br />
ตำรา “เอกซเรย์คอมพิวเตอร์ของหัวใจและ<br />
หลอดเลือด” ซึ่งแต่งขึ้นสำหรับประกอบการ<br />
เรียนการสอนในหลักสูตรเพื่อการฝึกอบรม<br />
แพทย์ประจำบ้าน อายุรแพทย์ และแพทย์ที่<br />
สนใจ ให้เข้าใจเทคนิคในการตรวจ การแปลผล<br />
และเพื่อให้ส่งตรวจได้อย่างถูกต้องเหมาะสม<br />
รวมทั้งรังสีเทคนิคให้เข้าใจขั้นตอนและเทคนิค<br />
ในการตรวจ เพื่อการตรวจเป็นไปอย่างถูกต้อง<br />
เหมาะสมให้ได้ภาพที่มีคุณภาพดีที่สุด<br />
รางวัลมหาวิทยาลัย<br />
มหิดล สาขาการบริการ<br />
ศาสตราจารย์คลินิก<br />
นายแพทย์พรชัย มูล<br />
พฤกษ์ ภาควิชาออร์โธ<br />
ปิดิกส์ คณะแพทยศาสตร์<br />
โรงพยาบาลรามาธิบดี<br />
มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งหน่วย<br />
ออร์โธปิดิกส์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาล<br />
รามาธิบดี ริเริ่มนำเครื่องตรวจคลื่นเสียงความถี่<br />
สูงมาช่วยในการตรวจคัดกรองโรคข้อสะโพก<br />
หลุดในเด็กแรกเกิดซึ่งได้ผลเป็นอย่างดี ได้รับ<br />
รับคำชมเชยจากผู้ป่วยและญาติอย่างสม่ำเสมอ<br />
จนได้รับรางวัล “คนดีศรีรามา” ในปี ๒๕๕๔<br />
นศ.มหิดล อินเตอร์<br />
คว้ารางวัลออกแบบผลิตภัณฑ์ Kiehl’s<br />
งานประชาสัมพันธ์ วิทยาลัยนานาชาติ<<br />
และในช่วงวิกฤตการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ใน<br />
ปี ๒๕๕๔ ได้ร่วมให้ข้อคิดเห็นด้านการดูแล<br />
สุขภาพการจัดเตรียมยาที่จำเป็น และข้อมูล<br />
ทางการแพทย์เพื่อช่วยเหลือประชาชน<br />
รองศาสตราจารย์<br />
นายแพทย์ประดิษฐ์<br />
สมประกิจ รองคณบดี<br />
ฝ่ายการคลัง คณะ<br />
แพทยศาสตร์ศิริราช<br />
พยาบาล มหาวิทยาลัย<br />
มหิดล เป็นผู้นำการ<br />
พัฒนากระบวนการเชื่อมโยงระหว่างระบบ<br />
การเงินและระบบการบริหารจัดยา, ผู้นำพัฒนา<br />
ระบบการรับ-ส่งใบสั่งยาและการส่งยาผู้ป่วยใน,<br />
ผู้ร่วมนำการเปลี่ยนแปลงระบบบัญชีของคณะฯ<br />
จากเกณฑ์เงินสด เป็นเกณฑ์พึงรับพึงจ่าย โดย<br />
ใช้ระบบบริหารทรัพยากรองค์กร (ERP) และ<br />
ระบบคลังข้อมูลการบริหารจัดการ ทำให้คณะฯ<br />
มีข้อมูลในการกำหนดนโยบายด้านการเงินและ<br />
การคลังที่เหมาะสม <strong>MU</strong><br />
น.ส.กีรดา ส่งวัฒนา นักศึกษาสาขาวิชาการตลาด และ น.ส.ณัฏฐ์ธิดา ทิพยรัตน์<br />
นักศึกษาสาขาวิชาสังคมศาสตร์ วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดลได้รับรางวัล<br />
ชนะเลิศการแข่งขันออกแบบฉลากผลิตภัณฑ์คีลส์ “You can Change the World<br />
with Kiehl’s 2013” ภายใต้แนวคิดรักษ์โลก (Save the World) ออกแบบฉลาก<br />
ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยการแข่งขันดังกล่าวจัดขึ้นเป็นปีที่ ๓ มีสถาบัน<br />
การศึกษาชั้นนำในประเทศไทยกว่า ๔๐ สถาบันส่งนักศึกษาเข้าร่วมแข่งขันออกแบบ<br />
ฉลากสำหรับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นให้เกิดความตระหนัก<br />
ในการรักษาสิ่งแวดล้อม สำหรับผลงานการออกแบบของนักศึกษาที่ได้รับรางวัลชนะ<br />
เลิศจะถูกนำไปใช้เป็น ฉลากของผลิตภัณฑ์เพื่อบำรุงผิวหน้าของคีลส์ต่อไป <strong>MU</strong><br />
มหิดลสาร ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๕ • 17
Special Scoop<br />
สุพรรณรัช ภูริวัฒนกุล<<br />
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี<br />
เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารโครงการอุทยานธรรมชาติวิทยา<br />
สิรีรุกขชาติ และทรงเปิดอาคารมหิดลอดุลยเดช-พระศรีนครินทร หอพระราชประวัติศรี<br />
สวรินทิราราชภักดี และหอพระราชประวัติบรมราชบุพการีกิตติประกาศ<br />
เมื่อวันที่ ๑๐ มิถุนายน ๒๕๕๖ เวลา ๑๕.๓๐<br />
น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราช<br />
กุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีวาง<br />
ศิลาฤกษ์อาคารโครงการอุทยานธรรมชาติวิทยา<br />
สิรีรุกขชาติ และทรงเปิดอาคารมหิดลอดุลย<br />
เดช-พระศรีนครินทร และหอพระราชประวัติ<br />
ศรีสวรินทิราราชภักดี-หอพระราชประวัติบรม<br />
ราชบุพการีกิตติประกาศ ณ คณะพยาบาล<br />
ศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา โดยมี<br />
ศาสตราจารย์รัชตะ รัชตะนาวิน อธิการบดี<br />
มหาวิทยาลัยมหิดล รองศาสตราจารย์ฟอง<br />
คำ ติลกสกุลชัย คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ ผู้<br />
บริหาร และนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดล เฝ้า<br />
ทูลละอองพระบาทรับเสด็จ<br />
จากนั้น เสด็จเข้าสู่พลับพลาพิธี ศาสตราจารย์<br />
นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน อธิการบดี<br />
มหาวิทยาลัยมหิดลกราบบังคมทูลรายงาน รอง<br />
ศาสตราจารย์ ฟองคำ ติลกสกุลชัย คณบดีคณะ<br />
พยาบาลศาสตร์ กราบบังคมทูลเบิก ผู้มีอุปการ<br />
คุณเข้ารับพระราชทานของที่ระลึก จากนั้น<br />
เสด็จไปยังมณฑลพิธี ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิม<br />
แผ่นศิลาฤกษ์ ทอดพระเนตรแบบจำลองอาคาร<br />
โครงการอุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ ทรง<br />
กดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้ายชื่ออาคาร “มหิดล<br />
อดุลยเดช-พระศรีนครินทร” และ “หอพระ<br />
ราชประวัติศรีสวรินทิราราชภักดี -หอพระราช<br />
ประวัติบรมราชบุพการีกิตติประกาศ” และ<br />
ทรงปลูกต้นพิกุล เสด็จเข้าภายในอาคาร ทอด<br />
พระเนตรนิทรรศการและหอพระราชประวัติฯ<br />
18 • <strong>MU</strong> Newsletter 2013, Volume 06<br />
จากนั้น ทรงเป็นองค์ปาฐกเกียรติยศในปาฐกถา<br />
คุณหญิงพิณพากย์ พิทยาเภท ครั้งที่ ๑๓ เพื่อ<br />
เฉลิมพระเกียรติ ๑๕๐ ปี พระราชสมภพสมเด็จ<br />
พระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสา<br />
อัยยิกาเจ้า<br />
โครงการอุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ<br />
ตั้งอยู่บนพื้นที่ ๑๔๐ ไร่ ภายในมหาวิทยาลัย<br />
มหิดล ศาลายา เป็นพื้นที่ส่วนขยายของ<br />
สวนสมุนไพรเดิม เพื่อยกระดับพื้นที่อนุรักษ์<br />
ธรรมชาติในลักษณะ Botanical Garden ให้<br />
เป็นต้นแบบ การเรียนรู้ทางธรรมชาติวิทยา<br />
แหล่งรวบรวม ผลิต และทดลองพืชสมุนไพรที่<br />
มีสรรพคุณทางยา โดยเมื่อวันที่ ๒๒ เมษายน<br />
๒๕๕๓ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม<br />
ราชินีนาถ ได้พระราชทานพระราชานุญาตให้<br />
เปลี่ยนชื่อสวน “สมุนไพรสิรีรุกขชาติ” เป็น<br />
“อุทยานธรรมชาติวิทยาสิรีรุกขชาติ” ซึ่ง<br />
ประกอบด้วยอาคาร ๗ หลังภายในศูนย์การ<br />
เรียนรู้ ๔ ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์การเรียนรู้และ<br />
อนุรักษ์เชิงประจักษ์ ศูนย์อนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ<br />
และระบบนิเวศ ศูนย์วิจัยพันธุ์พืชสมุนไพร และ<br />
ศูนย์การเรียนรู้สู่การเปลี่ยนแปลง<br />
“อาคารมหิดลอดุลยเดช-พระศรีนครินทร”<br />
เป็นอาคารที่สร้างขึ้นเพื่อเทิดพระเกียรติและ<br />
สืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระมหิ<br />
ตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก<br />
และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ใน<br />
การสนับสนุนส่งเสริมวิชาชีพการพยาบาลให้<br />
ความรู้ ความก้าวหน้าทัดเทียมนานาชาติ โดย<br />
ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จ<br />
พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ<br />
เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราช<br />
นครินทร์ ในการพระราชทานเงินจากบัญชี<br />
“สมเด็จพระศรีฯ โดยสำนักพระราชวัง” จำนวน<br />
ทั้งสิ้น ๖๑๓,๒๕๘,๙๐๐ บาท (หกร้อยสิบสาม<br />
ล้านสองแสนห้าหมื่นแปดพันเก้าร้อยบาทถ้วน)<br />
ให้แก่คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล<br />
ในการก่อสร้างอาคารสำหรับจัดการเรียนการ<br />
สอน การศึกษาค้นคว้า วิจัย และการสร้าง<br />
องค์ความรู้ใหม่ ทางการพยาบาลแก่นักเรียน<br />
ในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนสามารถ<br />
ส่งเสริมสุขภาพอนามัยแก่ประชาชนได้อย่าง<br />
กว้างขวาง โดย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ<br />
สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรง<br />
วางศิลาฤกษ์อาคาร เมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน<br />
๒๕๕๑ อาคารสร้างแล้วเสร็จเมื่อปีพุทธศักราช<br />
๒๕๕๕ ซึ่งเป็นปีแห่งการเฉลิมพระเกียรติ<br />
๑๕๐ ปี พระราชสมภพ สมเด็จพระศรีสวรินทิ<br />
รา บรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า และ<br />
๑๒๐ ปี พระราชสมภพ สมเด็จพระมหิตลาธิ<br />
เบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก จึงได้<br />
มีการจัดสร้าง “หอพระราชประวัติ ศรีสวรินทิ<br />
ราราชภักดี และหอพระราชประวัติบรมราช<br />
บุพการีกิตติประกาศ” ณ บริเวณชั้น ๑ ภายใน<br />
อาคารแห่งนี้ ด้วยสานึกในพระมหากรุณาธิคุณ<br />
ที่ทั้งสามพระองค์ทรงมีต่อคณะพยาบาลศาสตร์<br />
มหาวิทยาลัยมหิดล และวิชาชีพ การพยาบาล<br />
ไทย <strong>MU</strong>
Special Scoop<br />
ชญานุตม์ นิรมร<<br />
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล<br />
เป็นเจ้าภาพจัดประชุมคณบดี<br />
คณะเภสัชศาสตร์จากสถาบันชั้นนำต่างๆ<br />
ในกลุ่มอาเซียนครั้งแรก<br />
เมื่อวันที่ ๒๐ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ณ ห้อง<br />
ประชุม ๖๐๖ ชั้น ๖ อาคารราชรัตน์ คณะ<br />
เภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ถนนศรีอยุธยา<br />
รศ.นพ.สรนิต ศิลธรรม รองอธิการบดีฝ่าย<br />
นโยบายและแผน มหาวิทยาลัยมหิดล เป็น<br />
ประธานในพิธีเปิดการประชุม The 1 st <strong>MU</strong>-<br />
ASEAN Pharmacy Education Network<br />
ซึ่งคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เป็น<br />
เจ้าภาพจัดการประชุมดังกล่าว โดย รศ.ดร.<br />
จุฑามณี สุทธิสีสังข์ คณบดีคณะเภสัชศาสตร์<br />
มหาลัยวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงวัตถุประสงค์<br />
ของการจัดประชุมเพื่อสนับสนุนให้เกิดเวทีใน<br />
การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระบบยารวมทั้งระบบ<br />
การศึกษาและการวิจัยด้านเภสัชศาสตร์ ตลอด<br />
จนการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างคณะ<br />
เภสัชศาสตร์ของมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อเตรียม<br />
ความพร้อมในการเป็นส่วนหนึ่งของประชาคม<br />
อาเซียนในปี พ.ศ. ๒๕๕๘ และในการประชุม<br />
ครั้งนี้ได้เชิญคณบดีคณะเภสัชศาสตร์ จาก<br />
มหาวิทยาลัยชั้นนำทั้งหมด ๑๒ สถาบัน ในกลุ่ม<br />
ประเทศอาเซียนเข้าร่วมด้วย<br />
จากการที่ผู้นำทั้ง ๑๐ ประเทศในภูมิภาค<br />
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้ตกลงร่วมกันที่จะ<br />
รวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนภายในปี ๒๕๕๘<br />
เพื่อให้อาเซียนสามารถแข่งขันกับภูมิภาคอื่น<br />
และทันต่อการเปลี่ยนแปลงและความท้าทาย<br />
ใหม่ๆ ในอนาคต พัฒนาการที่สำคัญดังกล่าวส่ง<br />
ผลให้ทุกประเทศในอาเซียน รวมทั้งประเทศไทย<br />
เกิดการเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน ทำให้มีผล<br />
กระทบทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม<br />
วัฒนธรรม รวมทั้งด้านการศึกษาและวิชาชีพ<br />
ด้วย ในการเตรียมความพร้อมในการพัฒนาการ<br />
ศึกษาระดับอุดมศึกษา เพื่อรองรับการก้าวสู่<br />
ประชาคมอาเซียน และการเปิดเสรีการศึกษา<br />
สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษาได้จัด<br />
ทำยุทธศาสตร์การเตรียมความพร้อมเพื่อการ<br />
รองรับการเป็นประชาคมอาเซียนและส่งเสริม<br />
บทบาทการเป็นผู้นำในการประสานงานด้าน<br />
การศึกษาในอาเซียนและการเตรียมตัวเพื่อ<br />
รองรับการเปิดเสรีการบริการสาขาการศึกษา<br />
โดยสถาบันอุดมศึกษาของไทยต้องเร่งพัฒนา<br />
ตัวเอง ปรับมาตรฐานให้เป็นที่ยอมรับในระดับ<br />
สากล นำทรัพยากรที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์<br />
สูงสุด พัฒนาคุณภาพงานวิจัย ส่งเสริมการแลก<br />
เปลี่ยนระหว่างสถาบัน สร้างเครือข่ายระหว่าง<br />
สถาบันอุดมศึกษา และสร้างภาพลักษณ์ใน<br />
ความเป็นสากลให้แก่สถาบัน<br />
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลได้เล็ง<br />
เห็นความสำคัญดังกล่าว จึงได้วางยุทธศาสตร์<br />
ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัย<br />
มหิดลในด้านการสร้างความเป็นสากล (Internationalization)<br />
โดยเป็นผู้ริเริ่มในการจัด<br />
ประชุม ASEAN Pharmacy Education Network<br />
เป็นครั้งแรก การประชุมครั้งนี้เป็นจุดเริ่ม<br />
ต้นของการกระตุ้นให้เกิดความร่วมมือทั้งทาง<br />
ด้านการศึกษาและการวิจัยด้านเภสัชศาสตร์<br />
กับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศโดยเน้นกลุ่ม<br />
ประเทศอาเซียนเป็นหลัก ภายในการประชุม<br />
ดังกล่าวจึงมีการเปิดโอกาสให้คณบดีและผู้<br />
บริหารจากคณะเภสัชศาสตร์ในภูมิภาคอาเซียน<br />
ได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารงานด้าน<br />
เภสัชกรรม รวมทั้งระบบการศึกษาและการวิจัย<br />
ด้านเภสัชศาสตร์ในแต่ละประเทศ เพื่อสร้าง<br />
ความเข้าใจและเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ไป<br />
พร้อมกัน ก่อนที่ในช่วงท้ายของการประชุมจะ<br />
มีการร่วมกันระดมสมองเพื่อหารือถึงแนวทาง<br />
การพัฒนาแผนงานและกิจกรรมที่สามารถ<br />
ปฏิบัติร่วมกันจากการสร้างเครือข่ายความร่วม<br />
มือระหว่างคณะเภสัชศาสตร์ในกลุ่มประเทศ<br />
อาเซียนต่อไปใน จากกรอบแนวคิดดังกล่าว ใน<br />
ที่ประชุมจึงได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความ<br />
ร่วมมือ Letter of Intent to Collaborate<br />
ระหว่าง ๑๒ มหาวิทยาลัยในกลุ่มประเทศ<br />
ภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะเอื้อต่อการพัฒนาคุณภาพ<br />
การศึกษาและการวิจัยทางเภสัชศาสตร์ ส่งเสริม<br />
การแลกเปลี่ยนบุคลากรและนักศึกษาระหว่าง<br />
สถาบัน ตลอดจนสร้างเครือข่ายและภาพลักษณ์<br />
ในความเป็นสากลต่อไปในอนาคต <strong>MU</strong><br />
มหิดลสาร ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๕ • 19
Special Scoop<br />
งานประชาสัมพันธ์<<br />
โรงเรียนสาธิตนานาชาติมหาวิทยาลัยมหิดลร่วมมือกับสถาบัน<br />
รับรองมาตรฐานการศึกษาจากสหรัฐอเมริกา WASC ยกระดับ<br />
มาตรฐานโรงเรียนนานาชาติในเมืองไทยเทียบเท่าระดับสากล<br />
เมื่อวันที่ ๔ มิถุนายน ๒๕๕๖ ณ มหาวิทยาลัย<br />
มหิดล ถนนวิภาวดีรังสิต โรงเรียนสาธิต<br />
นานาชาติมหาวิทยาลัยมหิดล (<strong>Mahidol</strong><br />
<strong>University</strong> International Demonstration<br />
School – <strong>MU</strong>IDS) จัดงานแถลงข่าวความ<br />
ร่วมมือกับสถาบันรับรองมาตรฐานการศึกษา<br />
จากสหรัฐอเมริกา Western Association of<br />
Schools and Colleges (WASC) ในการขอรับ<br />
การตรวจสอบมาตรฐานโรงเรียนสู่มาตรฐาน<br />
สากล โดยมีรองศาสตราจารย์นายแพทย์<br />
วิชาญ โชคธนะศิริ ประธานกรรมการบริหาร<br />
โรงเรียนสาธิตนานาชาติมหาวิทยาลัยมหิดล ให้<br />
สัมภาษณ์ร่วมกับ Dr.Marilyn S. George Associate<br />
Executive Director Western Association<br />
of Schools and Colleges (WASC)<br />
รองศาสตราจารย์นายแพทย์ วิชาญ โชค<br />
ธนะศิริ ประธานกรรมการบริหารโรงเรียนสาธิต<br />
นานาชาติมหาวิทยาลัยมหิดลกล่าวถึงแผนการ<br />
ดำเนินงานของโรงเรียนฯ ที่ก่อตั้งขึ้นจากแนว<br />
ความคิดใน ๔ มิติ คือ การเรียนรู้โดยเน้นการ<br />
สร้างปัญญาจากประสบการณ์ ความเป็นเลิศ<br />
ทางวิชาการมุ่งเน้นการศึกษาและการเรียนการ<br />
สอนที่เหนือมาตรฐาน การเสริมสร้างคุณธรรม<br />
และจริยธรรมควบคู่ไปกับการสร้างศักยภาพทาง<br />
ปัญญา และมิติด้านเครือข่ายเพื่อเป็นรากฐานสู่<br />
อนาคต ทั้งหมดนี้จะนำไปสู่การสร้างสิ่งสำคัญ คือ<br />
“ทักษะชีวิต” หรือ LIFE Skill แก่ผู้เรียน<br />
“หลักสูตรของที่นี่เป็นนวัตกรรมทางการ<br />
ศึกษาที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ อิงมาตรฐานการ<br />
ศึกษาที่กำหนดโดยองค์กรทางการศึกษาที่มีชื่อ<br />
เสียงในสหรัฐอเมริกา ผนวกกับมาตรฐานการ<br />
ศึกษาที่กำหนดโดยสำนักงานการศึกษาขั้นพื้น<br />
ฐานกระทรวงศึกษาธิการ ถือเป็นมิติใหม่และเป็น<br />
ครั้งแรกของประเทศไทย ที่นักเรียนจากโรงเรียน<br />
นี้สามารถศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษาได้ในทุก<br />
ระบบการศึกษาทั้งในและต่างประเทศ โดยไม่มี<br />
ข้อจำกัดในการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา<br />
ภาคภาษาไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคณะหรือ<br />
20 • <strong>MU</strong> Newsletter 2013, Volume 06<br />
สาขาวิชาเฉพาะที่ในประเทศไทยยังไม่มีการเปิด<br />
เป็นภาคภาษาอังกฤษ เช่น แพทยศาสตร์ ทันต<br />
แพทยศาสตร์ เป็นโอกาสที่เปิดกว่าผู้เรียนในระบบ<br />
โรงเรียนนานาชาติ ที่ผ่านมาของเมืองไทย”<br />
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการเรียนการสอนใช้ภาษา<br />
อังกฤษเป็นภาษาหลัก แต่สิ่งที่ต่างจากโรงเรียน<br />
นานาชาติอื่นๆ คือ การปลูกฝังความเป็นไทย<br />
ให้แก่เด็กนักเรียนได้มีพื้นฐานและรากฐานแห่ง<br />
วัฒนธรรมไทย พร้อมมุ่งเน้นให้เกิดการวิจัย<br />
ทางการศึกษา กระบวนการเรียนการสอน การ<br />
ออกแบบหลักสูตร และการประเมิน ที่ก่อให้เกิด<br />
การเรียนรู้ที่ดีที่สุดแก่นักเรียน รวมทั้งมีการนำ<br />
ทักษะชีวิตในด้านต่างๆ เข้าไปสอนในทุกวิชา อาทิ<br />
ยุทธศาสตร์ในการเรียนรู้,การคิดและการประดิษฐ์<br />
สิ่งใหม่ๆ, การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ,<br />
คุณธรรมและจริยธรรม, การมีจิตใจเสียสละเพื่อ<br />
ส่วนรวม และการเป็นผู้นำอนาคต โดยให้นักเรียน<br />
ประยุกต์ใช้ทักษะเหล่านี้จากการทำโครงงานและ<br />
การเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ<br />
โรงเรียนสาธิตนานาชาติมหาวิทยาลัยมหิดล<br />
ได้ดำเนินการขอรับการตรวจสอบมาตรฐาน<br />
โรงเรียนสู่มาตรฐานสากลจาก WASC ซึ่ง<br />
เป็นสถาบันรับรองมาตรฐานการศึกษาจาก<br />
สหรัฐอเมริกา ทำหน้าที่รับรองวิทยฐานะของ<br />
สถาบันการศึกษาของโรงเรียนในสหรัฐอเมริกา<br />
และประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก<br />
Dr. Marilyn S. George, Associate Executive<br />
Director Western Association<br />
of Schools and Colleges (WASC) ผู้แทน<br />
จากสถาบันที่ให้การรับรองสถานศึกษาระดับ<br />
ภูมิภาคในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีหน้าที่<br />
สร้างมาตรฐานและให้การรับรองการพัฒนาของ<br />
โรงเรียนโดยการให้ความสนับสนุนโรงเรียนทั้ง<br />
เอกชนและรัฐบาลในทุกระดับชั้น ตั้งแต่ประถม<br />
ศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษาได้เปิดเผยราย<br />
ละเอียดเกี่ยวกับการรับรองมาตรฐานโรงเรียน<br />
ระดับสากล เพื่อเป็นการสร้างมาตรฐานให้แก่<br />
โรงเรียนในชั้นมัธยมศึกษา ตลอดจนให้สถาบัน<br />
การศึกษามุ่งมั่นในการพัฒนาตนเอง โดยคำนึง<br />
ถึงการเรียนรู้ของนักเรียนเป็นสำคัญ<br />
“เรามีความเชื่อว่าเป้าหมายของทุกโรงเรียน<br />
ควรเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อความสำเร็จ<br />
ของนักเรียน โดยแต่ละโรงเรียนต้องพัฒนา<br />
นักเรียนให้เป็นสมาชิกที่ดีของทั้งโรงเรียนและของ<br />
สังคม โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือสร้างความเป็นเลิศ<br />
ให้แก่การศึกษาตั้งแต่ระดับปฐมวัยไปจนถึงระดับ<br />
ผู้ใหญ่ในทุกหลักสูตรที่ได้รับการรับรอง และช่วย<br />
ให้โรงเรียนพัฒนาคุณภาพและการเรียนรู้เพื่อ<br />
นักเรียนทุกคน หน้าที่ของ WASC คือให้ความ<br />
ช่วยเหลืออย่างมืออาชีพให้โรงเรียนมีวิสัยทัศน์ที่<br />
ชัดเจนว่าตั้งเป้าหมายการเรียนรู้ของนักเรียนไว้ว่า<br />
อย่างไร และให้มีระบบที่มีประสิทธิภาพในการพา<br />
นักเรียนทุกคนไปสู่จุดหมายนั้นได้”<br />
ด้วยมุ่งหวังที่จะผลิตนักเรียนที่มีทัศนคติต่อ<br />
การเรียนรู้อย่างถูกต้อง เรียนเพื่อจะเข้าใจใน<br />
ศาสตร์ได้ลึกซึ้ง และเชื่อมโยงให้เข้ากับความ<br />
คิดตัวเองได้ ตามปรัชญาของมหาวิทยาลัย<br />
มหิดล ที่เป็นพระราชดำรัส ของสมเด็จพระมหิ<br />
ตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก<br />
ที่พระราชทานไว้ว่า “ความสำเร็จที่สูงสุด มิใช่<br />
อยู่ที่การเรียนรู้ แต่อยู่ที่การประยุกต์ใช้ความรู้<br />
นั้นให้เกิดประโยชน์ของมนุษยชาติ”<br />
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยว<br />
กับ โรงเรียนสาธิตนานาชาติมหาวิทยาลัย<br />
มหิดล ได้ที่โทร. ๐-๒๔๔๑-๕๒๒๒-๓ โทรสาร<br />
๐-๒๔๔๑-๙๖๔๖ www.muids.mahidol.<br />
ac.th <strong>MU</strong>
เข้าสู่เดือนมิถุนายน ๒๕๕๖ เริ่มต้นปีการ<br />
ศึกษาใหม่ ๒๕๕๖ เพื่อร่วมต้อนรับนักศึกษาใหม่<br />
สู่รั้วมหาวิทยาลัยมหิดล มหิดลสารฉบับนี้ขอนำ<br />
บรรยายกาศภาพพิธีปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่<br />
มหาวิทยาลัยมหิดล และพิธีไหว้ครู ประจำปีการ<br />
ศึกษา ๒๕๕๖ มาให้ชมกัน..<br />
พิธีปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ ประจำปีการศึกษา<br />
๒๕๕๖ จัดขึ้นเพื่อเป็นการต้อนรับนักศึกษาใหม่<br />
ของมหาวิทยาลัยมหิดลทุกคน โดยมีพิธีถวาย<br />
ราชสักการะสมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดช<br />
วิกรมพระบรมราชชนก เป็นพิธีที่ให้นักศึกษาชั้น<br />
ปีที่ ๑ จำนวนกว่าสามพันคนซึ่งเป็นนักศึกษา<br />
น้องใหม่ของมหาวิทยาลัยมหิดลได้ถวายราชสัก<br />
การะ และปฏิญาณตนต่อหน้าพระราชานุสาว<br />
รีย์ สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม<br />
พระบรมราชชนก เพื่อความเป็นสิริมงคล และ<br />
ความภาคภูมิใจในการเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย<br />
มหิดล โดยในปี้นี้พิธีปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่จัด<br />
พิธีปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่<br />
มหาวิทยาลัยมหิดล และพิธีไหว้ครู<br />
ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๖<br />
ม.มหิดล ร่วมกับ กองทัพเรือ ร่วมบันทึกข้อตกลง<br />
การประสานความร่วมมือทางวิชาการ<br />
เมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๖ ศาสตราจารย์<br />
นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน อธิการบดี<br />
มหาวิทยาลัยมหิดล และ พลเรือโทบงสุช สิงห์<br />
ณรงค์ เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ ร่วมประชุม<br />
บันทึกข้อตกลงการประสานความร่วมมือทาง<br />
วิชาการ เพื่อกำหนดขอบข่ายการประสาน<br />
ความร่วมมือในด้านการแลกเปลี่ยนบุคลากร<br />
การพัฒนาหลักสูตรร่วมกัน กิจกรรมทางด้าน<br />
การศึกษาและวิชาการร่วมกัน การใช้ทรัพยากร<br />
ทางการศึกษาและวิชาการร่วมกัน และการจัด<br />
กิจกรรมพิเศษต่างๆ ตามที่สถาบันทั้งสองเห็น<br />
สมควร ที่ได้มีการจัดทำบันทึกข้อตกลงกันไป<br />
เมื่อวันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๕๐ ซึ่งทั้งสอง<br />
สถาบันจะได้ทำวิจัยร่วมกันในเนื้อหาวิชาการที่<br />
เกี่ยวข้อง เช่น ด้านสิ่งแวดล้อมทางทะเลด้าน<br />
วิศวกรรมเครื่องกล สมุทรศาสตร์ สังคมศาสตร์<br />
ฯลฯ นอกจากนี้ ในด้านการจัดวิชาเรียนร่วมกัน<br />
ในส่วนของบุคลากรอาจมีการแลกเปลี่ยน กรณี<br />
มีการอบรมโครงการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ของ<br />
ตรงกับวันที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖ โดยมีคณะ<br />
ผู้บริหารมหาวิทยาลัย นำโดย ศาสตราจารย์<br />
รัชตะ รัชตะนาวิน อธิการบดีมหาวิทยาลัย<br />
มหิดล ให้เกียรติกล่าวต้อนรับพร้อมทั้งให้โอวาท<br />
แก่นักศึกษาใหม่ทุกคน โดยเน้นย้ำถึงพระราช<br />
ปณิธานของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดช<br />
วิกรม พระบรมราชชนก วัฒนธรรมองค์กรของ<br />
มหาวิทยาลัยมหิดล และคุณสมบัติอันพึงประสงค์<br />
ของนักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดลที่ว่า “เป็นคนดี<br />
มีปัญญา นำพาสุข”<br />
และเมื่อวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๖ ณ อาคาร<br />
ทั้ง ๒ ฝ่าย ในส่วนของนักศึกษา ด้านการเรียน<br />
การสอนอาจมีการแลกเปลี่ยนอาจารย์ หรือให้<br />
นักศึกษาไปศึกษาดูงานบางวิชาที่ทหารเรือมี<br />
หลักสูตรอยู่ นอกจากนี้จะมีแลกเปลี่ยนบทความ<br />
ทางวิชาการ โดย ยศ.ทร.ขอรับการสนับสนุนผู้<br />
เชี่ยวชาญ (Peer Review) จากมหาวิทยาลัย<br />
มหิดล ในด้านความร่วมมือทางการแพทย์การ<br />
พยาบาล จะมีการขยายความร่วมมือให้กว้าง<br />
ขวางกว่าที่เป็นอยู่ อีกทั้งจะให้มีความร่วมมือ<br />
รุจิรารัตน์ บรรจง<<br />
Special Scoop<br />
งานประชาสัมพันธ์<<br />
อเนกประสงค์ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา<br />
อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล เป็นประธานใน<br />
พิธีไหว้ครูนักศึกษาใหม่ ชั้นปีที่ ๑ ประจำปีการ<br />
ศึกษา ๒๕๕๖ โดยได้กล่าวให้โอวาทแก่นักศึกษา<br />
ใหม่ มีใจความสำคัญว่า “ขอให้นักศึกษาทุกคน<br />
ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ยึดมั่นในคุณธรรม เป็นคน<br />
ดีของสังคม ต่อต้านการทุจริตการคอรัปชั่นทุก<br />
รูปแบบ ดำรงไว้ซึ่งความถูกต้อง เพื่อความเจริญ<br />
ก้าวหน้าของประเทศชาติ ให้สมดังปณิธานของ<br />
มหาวิทยาลัยในการเป็น ปัญญาของแผ่นดิน ต่อ<br />
ไปในอนาคต” <strong>MU</strong><br />
ด้านการแลกเปลี่ยนทรัพยากร เช่น ห้องประชุม<br />
สนามกอล์ฟ สถานีบริการน้ำมัน สถานที่พักตาก<br />
อากาศ หรือ การจัดเลี้ยงบนเรือ<br />
ในการดำเนินการต่อไป มหาวิทยาลัยมหิดล<br />
จะนำประเด็นต่างๆ มาหารือ โดยอาจจัดเป็น<br />
working group ในแต่ละประเด็น เพื่อกำหนด<br />
เป้าหมาย และนำกลับไปเสนอในเวลาประมาณ<br />
๑ เดือนข้างหน้า <strong>MU</strong><br />
มหิดลสาร ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๕ • 21
Information<br />
ศ.ดร.กระแส ชนะวงศ์<<br />
สถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน จัดการบรรยายพิเศษ<br />
“ภาวะผู้นำเพื่อการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน”<br />
เมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๖ สถาบันพัฒนา<br />
สุขภาพอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล จัดงาน<br />
เลี้ยงขอบคุณอดีตผู้อำนวยการ แพทย์หญิง<br />
สุพัตรา ศรีวณิชชากร และต้อนรับผู้อำนวยกา<br />
รสถาบันฯ ท่านใหม่ ศ.ดร.สุภา เพ่งพิศ และได้<br />
รับเกียรติจาก ศาสตราจารย์สุวรรณา เรืองกาญ<br />
จนเศรษฐ์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล<br />
ร่วมแสดงความขอบคุณอดีตผู้อำนวยการและ<br />
มอบดอกไม้แสดงความยินดีต้อนรับให้แก่ผู้<br />
อำนวยการท่านใหม่<br />
และในโอกาสนี้ได้รับเกียรติจาก ศ.ดร.<br />
กระแส ชนะวงศ์ แพทย์รางวัลแมกไซไซ คนที่<br />
๖ ของประเทศไทย สาขาผู้นำชุมชน และเป็น<br />
อดีตผู้อำนวยการสถาบันฯท่านแรกให้เกียรติ<br />
เป็นผู้บรรยายพิเศษ เรื่อง “ภาวะผู้นำเพื่อการ<br />
เข้าสู่ประชาคมอาเซียน” ศ.ดร.กระแสได้ให้<br />
หลักสำคัญในการเป็นผู้นำว่าให้เรารู้ว่าเราเป็น<br />
ใคร ให้เรารู้จุดยืนของตนเอง และเป็นตัวของ<br />
ตัวเอง ภาวะผู้นำนั้นไม่ได้หมายถึงเพียงผู้ที่มี<br />
สถานะเป็นผู้นำแต่หมายรวมถึงผู้ที่สามารถ<br />
แสดงภาวะผู้นำได้ การจะเป็นผู้นำที่ดีนั้น สิ่ง<br />
แรกที่ผู้นำทุกคนต้องมีคือการฟัง และคนที่มี<br />
ภาวะผู้นำนั้นคือคนที่ชอบทำให้ผู้อื่นมีความสุข<br />
และความสุขที่ปฏิบัตินั้นก็จะส่งผลให้ตนเองมี<br />
ความสุขมากกว่า ศ.ดร.กระแส ยังกล่าวอีกว่า<br />
การจะเป็นคนที่มีภาวะผู้นำได้นั้น มีบันได ๓ ขั้น<br />
บันไดขั้นที่หนึ่ง คือ คนที่ต้องรู้จักชื่นชม ยกย่อง<br />
และปรารถนาดีต่อผู้อื่น เชื่อว่าคนรอบข้างมี<br />
ความสามารถ เชื่อว่าเขาทำได้เขาก็จะทำได้<br />
สำหรับองค์กรใดๆ นั้น ต้องรู้จักให้ความใส่ใจ<br />
และพัฒนาเจ้าหน้าที่ พนักงานระดับล่างเพื่อให้<br />
เขาสามารถเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรได้อย่าง<br />
ภาคภูมิใจ บันไดขั้นที่สองความรู้สึกภาคภูมิใจ<br />
ในงานที่ทำ เพิ่มคุณค่าและความหมายให้กับ<br />
งานที่ทำ หากสามารถปลุกใจให้คนรู้สึกเช่นนั้น<br />
22 • <strong>MU</strong> Newsletter 2013, Volume 06<br />
ได้ เขาก็จะเป็นคนที่มีภาวะผู้นำ และบันไดขั้น<br />
ที่สามจงเป็นคนที่รู้จักเพิ่มคุณค่าและความ<br />
หมายให้กับตนเอง ไม่ใช่หมายถึงให้ยกย่อง<br />
ตนเอง แต่หมายถึงการทำสิ่งใดๆให้เกิดความ<br />
สำเร็จ และความสำเร็จของเรานั้นยังประโยชน์<br />
ไปให้กับผู้อื่น เป็นแสงสว่างให้กับผู้อื่น การที่เรา<br />
ทำอะไรหรือไปที่ไหนขอให้คิดถึงผู้อื่นก่อนแล้ว<br />
เราจะได้รับความสุขตอบแทนในภายหลัง<br />
สุดท้ายแล้ว ศ.ดร.กระแส ได้ยกเอาพระบรม<br />
ราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขึ้น<br />
มากล่าวว่า การขาดทุนคือกำไร (Our loss is<br />
our gain) หากเราเป็นผู้ให้เสียก่อน สุดท้ายเรา<br />
ก็จะเป็นผู้รับ ที่เชื่อได้ว่าได้รับมากกว่าที่เราให้<br />
ไป ศ.ดร.กระแสได้กล่าวทิ้งไว้ในการบรรยาย<br />
จากนั้น ศ.ดร.สุภา เพ่งพิศ ได้กล่าวถึง<br />
“บทบาทของสถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียน นับ<br />
จากนี้ไป” โดย ศ.ดร.สุภาได้พูดถึงภารกิจหลัก<br />
ที่สถาบันให้ความสำคัญ ด้านการศึกษา<br />
สถาบันฯจะพัฒนาให้มีการศึกษาทางไกล มีการ<br />
เปิดหลักสูตรระดับปริญญาเอก การพัฒนา<br />
หลักสูตร Global Health การทำโครงการ<br />
นักศึกษาแลกเปลี่ยนกับนานาชาติในส่วนงาน<br />
วิจัยจากนี้จะมุ่งทำวิจัยที่สามารถนำไปใช้พัฒนา<br />
รูปแบบที่สามารถนำไปใช้ได้จริง มุ่งสร้างงานตี<br />
พิมพ์นานาชาติ จัดทำ Workshop การสร้าง<br />
งานตีพิมพ์นานาชาติ และสถาบันฯจะพัฒนาใน<br />
เรื่องของความร่วมมือด้านต่างๆกับหน่วยงาน<br />
ภายในมหาวิทยาลัยมหิดล โดย ศ.ดร.สุภาได้<br />
กล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า งานทุกงานจะกลายเป็นเรื่อง<br />
ง่ายๆ หากเราร่วมมือกัน<br />
ติดตามดูรายละเอียดการบรรยายเพิ่มเติม<br />
ได้ที่ http://www.aihd.mahidol.ac.th/<br />
rcenter และรู้จัก ศ.ดร.สุภา เพ่งพิศ ผู้อำนวย<br />
การสถาบันพัฒนาสุขภาพอาเซียนให้มากขึ้น<br />
จากบทสัมภาษณ์<br />
ศ.ดร.สุภา เพ่งพิศ ผู้อำนวยการสถาบัน<br />
พัฒนาสุขภาพอาเซียน<br />
สภามหาวิทยาลัย<br />
มีมติแต่งตั้ง ศ.ดร.สุภา<br />
เพ่งพิศ ให้ดำรง<br />
ตำแหน่ง ผู้อำนวยการ<br />
สถาบันพัฒนาสุขภาพ<br />
อาเซียน มหาวิทยาลัย<br />
มหิดล โดยก่อนเข้ารับ<br />
ตำแหน่งผู้อำนวยการ<br />
ศ.ดร.สุภา ดำรง<br />
ตำแหน่งเป็นหัวหน้าภาควิชาบริหารและ<br />
นโยบายสาธารณสุข คณะสาธารณสุขศาสตร์<br />
มหาวิทยาลัยลิมโปโป้ วิทยาเขตพริทอเรีย<br />
ประเทศแอฟริกาใต้<br />
ศ.ดร. สุภา เพ่งพิศ มีประสบการณ์การ<br />
ทำงานด้านวิชาการที่หลากหลายในต่าง<br />
ประเทศมากว่า ๑๒ ปี และ ๔๐ กว่าประเทศ<br />
ทั่วโลก มีประสบการณ์ด้านการสอนนักศึกษา<br />
ทั้งในระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ร่วมทำ<br />
วิจัยในระดับนานาชาติ และจัดทำหลักสูตร<br />
อบรมพร้อมทั้งเป็นวิทยากรบรรยายในระดับ<br />
นานาชาติปัจจุบันมีงานวิจัยที่อาจารย์ยังคงทำ<br />
ต่อเนื่องซึ่งเป็นความร่วมมือกับต่างประเทศ อีก<br />
มากกว่า ๓๐ ประเทศในทุกภูมิภาคของโลก<br />
อาจารย์มีผลงานวิจัยตีพิมพ์ระดับนานาชาติ<br />
กว่า ๘๐ เรื่อง และผลงานหนังสือ ๕ เล่มในต่าง<br />
ประเทศ<br />
อาจารย์กล่าวว่า ประสบการณ์จากการ<br />
ทำงานที่ผ่านมานั้นน่าจะเป็นประโยชน์ต่อ<br />
ประเทศไทย โดยเฉพาะงานในหน้าที่ผู้อำนวย<br />
การสถาบันฯและในฐานะที่อาจารย์เป็นศิษย์<br />
เก่าของมหาวิทยาลัยมหิดล ศ.ดร.สุภา กล่าวว่า<br />
ท่านรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ที่ได้มีโอกาสกลับมา<br />
ทำงานในสถาบันฯ ที่ท่านรัก
และในฐานะผู้อำนวยการคนใหม่ ศ.ดร.สุภา<br />
เพ่งพิศ มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสถาบันพัฒนา<br />
สุขภาพอาเซียน มหาวิทยาลัยมหิดล โดยมุ่งเน้น<br />
ในเรื่องการพัฒนาศักยภาพของบุคลากร ทั้ง<br />
สายวิชาการและสายสนับสนุน ให้เห็นถึงความ<br />
สำคัญของงาน และสร้างเสริมทักษะที่จำเป็น<br />
ในการทำงาน เพื่อความก้าวหน้าในสายอาชีพ<br />
ของบุคลากร ให้สามารถสร้างผลงานที่ใช้ใน<br />
การนำเสนอเพื่อก้าวสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้นได้ โดย<br />
จะใช้หลักในการบริหารงานแบบมีส่วนร่วมของ<br />
เจ้าหน้าที่ และใช้หลักการเป็นผู้นำแบบเพื่อการ<br />
เปลี่ยนแปลง โดยใช้จิตวิญญาณในการบริหาร<br />
งาน<br />
สำหรับภารกิจงานนั้นจะพัฒนางานตาม<br />
ยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยมหิดลทั้ง ๙<br />
ยุทธศาสตร์หลัก โดยพัฒนาคุณภาพงานบริการ<br />
งานวิชาการและงานวิจัยของสถาบัน ฯ ในส่วน<br />
เนื้องาน ศ.ดร.สุภา ได้กล่าวว่าวิสัยทัศน์ที่ท่าน<br />
ตั้งไว้จะมุ่งเน้นถึงนั้น ได้แก่<br />
๑. เรื่องการเพิ่มบทบาทของสถาบันฯในการ<br />
เป็นผู้นำทางด้านสุขภาพในกลุ่มประเทศ<br />
อาเซียนให้มีบทบาทที่ชัดเจนและเข้มแข็งมาก<br />
ขึ้นทั้ง ด้านการศึกษา การบริการวิชาการ และ<br />
การวิจัย ที่ต้องเพิ่มบทบาทให้ชัดเจนในการเป็น<br />
ศูนย์ประสานงานทางด้านสาธารณสุขมูลฐาน<br />
ขององค์การอนามัยโลก (WHO Collaborating<br />
Centre for Primary Health Care) ทั้งนี้ ต้อง<br />
มีการประสานความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับ<br />
กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานอื่นๆ ที่<br />
เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างต้นแบบในการดำเนินงาน<br />
และศูนย์สาธิตทางด้านสุขภาพและสาธารณสุข<br />
มูลฐานให้แก่ประชาคมอาเซียนและนานาชาติ<br />
ต่อไป<br />
๒. ขยายขอบเขตความร่วมมือแบบสห<br />
วิทยาการในการพัฒนางานและบริการร่วมกับ<br />
คณะต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัย<br />
และระดับนานาชาติ เช่น หลักสูตรการศึกษา<br />
อบรมที่ประยุกต์ใช้ได้ครอบคลุมทุกสภาวะ<br />
สุขภาพแบบไร้พรมแดนสถาบันฯต้องรับบทบาท<br />
ในการเป็นศูนย์ประสานงาน และการจัดการ<br />
ข้อมูลทางสุขภาพและประสานความร่วมมือใน<br />
ระดับนานาชาติ (Centre for Global Health)<br />
๓. การพิจารณาถึงภาวะความต้องการและ<br />
การเปลี่ยนแปลงของตลาดเพื่อพัฒนาและสร้าง<br />
หลักสูตรใหม่ให้ทันกับภาวะความเปลี่ยนแปลง<br />
ของโลก (Global Changes)<br />
๔. เน้นงานวิจัยเพื่อพัฒนาต้นแบบในการแก้<br />
ปัญหาด้านสุขภาพ โดย<br />
เน้นการแก้ปัญหาแบบ<br />
องค์รวมให้ได้ต้นแบบที่<br />
มีประสิทธิภาพและมี<br />
ประสิทธิผล ซึ่งสามารถ<br />
เชื่อมโยงผลงานผลวิจัย<br />
ดังกล่าวไปใช้ในการ<br />
ดำเนินงานได้จริง เพื่อ<br />
ปรับและพัฒนางาน<br />
สาธารณสุข และเครือ<br />
ข่ายงานวิจัย ทำให้มีผล<br />
งานตีพิมพ์และเผยแพร่ในระดับนานาชาติให้<br />
เพิ่มขึ้น<br />
๕. การมีส่วนร่วมกิจกรรมกับชุมชน ภาครัฐ<br />
ภาคธุรกิจ และสื่อสารมวลชน เพื่อแลกเปลี่ยน<br />
ประสบการณ์กับผู้เชี่ยวชาญทั้งในด้านทฤษฏี<br />
และปฏิบัติ การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ของ<br />
สถาบันฯทั้งทางตรงโดยใช้สื่อบุคคล และผ่าน<br />
สื่อมวลชนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสนับสนุนและส่ง<br />
เสริมศิลปวัฒนธรรมและส่งเสริมภูมิปัญญาไทย<br />
ให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ<br />
ศ.ดร.สุภา กล่าวทิ้งท้ายด้วยความเชื่อมั่นว่า<br />
“จากการที่ดิฉันได้มีโอกาสสนทนากับเจ้าหน้าที่<br />
ของสถาบันฯ ซึ่งมีประสบการณ์การทำงานมา<br />
หลายปี บวกกับความกระตือรือร้นของเจ้า<br />
หน้าที่ทุกคน ดิฉันเชื่อว่าสถาบันพัฒนาสุขภาพ<br />
อาเซียนจะมีบทบาทและชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ<br />
ในประชาคมอาเซียน และต่อไปในระดับโลกใน<br />
อีกสองปีข้างหน้านี้” <strong>MU</strong><br />
เสวนาการดูแลผู้ป่วย<br />
ระยะท้าย ในมิติจิต<br />
วิญญาณพรทิพา สุดวิเศษ<<br />
เมื่อวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๖ ณ ห้อง<br />
ประชุมสระบัว ชั้น ๑ อาคารประชาสังคม<br />
อุดมพัฒน์ สถาบันวิจัยประชากรและสังคม<br />
มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา คุณหญิงจำนงศรี<br />
(รัตนิน) หาญเจนลักษณ์ ผู้บริจาคที่ดินในจังหวัด<br />
ประจวบคีรีขันธ์ ให้แก่ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อ<br />
สร้างศูนย์พัฒนาสุขภาวะผู้สูงอายุแบบครบ<br />
วงจรและบริบาลผู้ป่วยระยะท้าย เป็นวิทยากร<br />
ในการเสวนา “การดูแลผู้ป่วยระยะท้าย ใน<br />
มิติจิตวิญญาณ” จัดโดยศูนย์จิตตปัญญาศึกษา<br />
มหาวิทยาลัยมหิดล<br />
ภายในงานเสวนาเป็นไปอย่างกันเอง คุณ<br />
หญิงจำนงศรี ได้แนะนำและกล่าวถึงการดูแลผู้<br />
ป่วยระยะท้ายว่า “เราจะต้องเข้าใจพื้นฐานของ<br />
ตัวเองเสียก่อน ต้องทำความเข้าใจในการที่เรา<br />
จะไปดูแลผู้ป่วยระยะท้าย โดยเฉพาะผู้ป่วยที่<br />
ในจิตใจของเขาเต็มไปด้วยความกลัว ความเจ็บ<br />
ปวด ซึ่งถ้าเราไปดูแลผู้ป่วยในฐานะที่เราเป็นคน<br />
ดูแล นั่นไม่ใช่การดูแลที่มีมิติจิตวิญญาณ เราจะ<br />
ต้องเข้าใจและสามารถยอมรับกับวาระสุดท้าย<br />
ของชีวิต ต้องทำจิตให้บริสุทธิ์ ที่ไม่มีอะไรเข้ามา<br />
เจือปน เช่น ความกังวล ความโกรธ หรือความ<br />
รู้สึกต่างๆ และไม่ควรคิดในเรื่องความคาดหวัง<br />
เพราะสิ่งที่ต่อยอดของความคาดหวังคือ การ<br />
ผิดหวัง และการสมหวัง ทำให้ชีวิตของเราเต็ม<br />
ไปด้วยความคาดหวัง ซึ่งจะมาปิดบังการที่เรา<br />
จะสามารถสัมผัสกับความจริง”<br />
ในช่วงท้าย ได้มีการถามตอบเกี่ยวกับการ<br />
ดูแลผู้ป่วย โดยผู้ที่เข้าร่วมเสวนาครั้งนี้ ได้ข้อคิด<br />
และวิธีการดูแลผู้ป่วยระยะท้าย ซึ่งสามารถนำ<br />
ข้อแนะนำของคุณหญิงจำนงศรีไปดูแลผู้ป่วย<br />
ระยะท้ายได้อย่างเข้าใจ และมีความสุขที่สุด <strong>MU</strong><br />
มหิดลสาร ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๕ • 23
Information<br />
วราภรณ์ น่วมอ่อน<<br />
ม.มหิดลคว้าอันดับ ๑ ของประเทศไทยจากการจัด<br />
อันดับ QS Asian <strong>University</strong> Rankings 2013<br />
Quacquarelli Symonds หรือ QS ได้<br />
ประกาศผลการจัดอันดับ QS Asian <strong>University</strong><br />
Rankings 2013 ซึ่งในปีนี้ มหาวิทยาลัย<br />
มหิดลได้รับการจัดอันดับเป็นอันดับที่ ๑ ของ<br />
ประเทศไทยและเป็นอันดับที่ ๔๒ ของเอเชีย<br />
และยังได้รับการจัดอันดับที่ ๑๔ ของเอเชียใน<br />
สาขาวิทยาศาสตร์สุขภาพ โดยมีการคิดค่าน้ำ<br />
หนักในการพิจารณาจากหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้<br />
๑. คุณภาพงานวิจัย (๖๐%) โดยการสำรวจ<br />
ความมีชื่อเสียงด้านวิชาการ จากผู้ร่วมวิชาชีพ<br />
(Peer Review) ได้แก่ อาจารย์ นักวิชาการ นัก<br />
วิจัยทั่วทั้งเอเชีย สัดส่วนจำนวนผลงานวิจัยที่ได้<br />
รับการตีพิมพ์ต่ออาจารย์ และสัดส่วนการอ้างอิง<br />
ต่อผลงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์<br />
๒. คุณภาพการสอน (๒๐%) โดยการประเมิน<br />
จากสัดส่วนจำนวนนักศึกษาต่ออาจารย์<br />
๓.คุณภาพบัณฑิตที่ได้งาน (๑๐%) โดยได้รับ<br />
การประเมินจากผู้จ้างงานทั่วเอเชีย<br />
๔. ความเป็นนานาชาติ (๑๐%) โดยประเมิน<br />
จาก สัดส่วนจำนวนอาจารย์ชาวต่างประเทศ<br />
สัดส่วนจำนวนนักศึกษาต่างชาติ และจำนวน<br />
นักศึกษาแลกเปลี่ยน<br />
นอกจากนี้ QS ยังมีการจัดอันดับในลักษณะ<br />
ที่เป็นสาขาย่อยเฉพาะทาง ซึ่งมหาวิทยาลัย<br />
มหิดลได้รับการจัดอันดับในสาขาต่างๆ ดังราย<br />
ละเอียดต่อไปนี้<br />
๑. แพทยศาสตร์ อันดับที่ ๑๒ ในเอเชียและ<br />
อันดับที่ ๑๑๑ ของโลก<br />
๒. เภสัชศาสตร์และเภสัชวิทยา อันดับที่ ๗<br />
ของเอเชีย ๕๔ ของโลก<br />
๓. วิทยาศาสตร์ชีวภาพ อันดับที่ ๓๐ ของ<br />
เอเชียและอันดับที่ ๑๘๘ ของโลก<br />
ศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน<br />
อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า จากผล<br />
การจัดอันดับดังกล่าว แสดงให้เห็นว่า<br />
มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของ<br />
ประเทศที่มีคุณภาพการเรียนการสอนเทียบเท่า<br />
ระดับสากล และผลิตผลงานวิจัยที่มีคุณภาพสูง<br />
และได้รับความยอมรับในระดับนานาชาติ มี<br />
ความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล<br />
ความสำเร็จของมหาวิทยาลัยมหิดลนี้เกิดขึ้น<br />
ได้จากความมุ่งมั่นในการพัฒนาการเรียนการ<br />
24 • <strong>MU</strong> Newsletter 2013, Volume 06<br />
สอนอย่างต่อเนื่องและการผลิตผลงานวิจัยที่เป็น<br />
ประโยชน์ต่อสังคมไทยและมนุษยชาติ ตาม<br />
ปณิธานของมหาวิทยาลัยมหิดลที่เป็นปัญญา<br />
ของแผ่นดิน<br />
นอกจากนี้ ผลการจัดอันดับมหาวิทยาลัยยัง<br />
สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมของมหาวิทยาลัย<br />
มหิดลที่จะเป็นศูนย์กลางการศึกษาในระดับ<br />
ภูมิภาค (Regional Education Hub) และ<br />
พร้อมรองรับการเปิดตัวของประชาคมอาเซียน<br />
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยมหิดลได้วางนโยบายและ<br />
แผนการปฏิบัติงานพิเศษที่มุ่งเน้นการเตรียม<br />
ความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียนหลายส่วน อาทิ<br />
การกระตุ้นและส่งเสริมให้นักศึกษามี<br />
ประสบการณ์ในระดับนานาชาติให้มากที่สุดผ่าน<br />
โครงการแลกเปลี่ยนนักศึกษากับมหาวิทยาลัย<br />
ชั้นนำในกลุ่มประเทศอาเซียนและประเทศอื่น<br />
ทั่วโลก ซึ่งตั้งเป้าไว้ว่า จะส่งนักศึกษาของ<br />
มหาวิทยาลัยมหิดลกว่า ๓,๐๐๐ คน ในโครงการ<br />
แลกเปลี่ยนต่อปีในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ นอกจากนี้ก็<br />
มีมาตรการในการเพิ่มจำนวนอาจารย์อาคันตุกะ<br />
จากต่างประเทศเป็นร้อยละ ๑๐ ของจำนวน<br />
อาจารย์ทั้งหมด เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาของ<br />
มหาวิทยาลัยมหิดลได้มีโอกาสเรียนรู้ในมุมมอง<br />
ที่แตกต่างและช่วยเสริมสร้างความเป็นสากลให้<br />
กับนักศึกษาตลอดหลักสูตร<br />
อีกมาตรการที่ได้ดำเนินการแล้วและประสบ<br />
ความสำเร็จอย่างสูง คือ การจัดการเรียนการ<br />
สอนร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำของอาเซียน<br />
และการจัดกิจกรรมนักศึกษาสัมพันธ์ระหว่าง<br />
นักศึกษามหาวิทยาลัยมหิดลกับนักศึกษา<br />
มหาวิทยาลัยชั้นนำของอาเซียน และในอนาคต<br />
มหาวิทยาลัยมหิดลยังตั้งเป้าที่จะเพิ่มจำนวน<br />
นักศึกษาชาวต่างชาติโดยเฉพาะที่มาจาก<br />
ประเทศในอาเซียนให้เพิ่มเป็น ๒ เท่า จาก<br />
จำนวนที่มีอยู่ในปัจจุบัน ผ่านการเจรจาความ<br />
ร่วมมือในการพัฒนาอาจารย์รุ่นเยาว์ของสถาบัน<br />
การศึกษาในประเทศอาเซียนที่กำลังพัฒนาโดย<br />
ใช้เงินทุนทั้งภายในมหาวิทยาลัยมหิดลและเงิน<br />
ทุนจากประเทศโลกที่ ๓ เพื่อสนับสนุนกิจกรรม<br />
ดังกล่าว<br />
ศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะ รัชตะนาวิน<br />
อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดลยังได้กล่าวเพิ่มเติม<br />
ว่า มีข้อสังเกตที่สำคัญเกี่ยวกับอันดับของ<br />
มหาวิทยาลัยไทยในภาพรวมเมื่อเปรียบเทียบกับ<br />
มหาวิทยาลัยต่างประเทศ คือ อันดับของ<br />
มหาวิทยาลัยไทยมีแนวโน้มลดลงและมีเพียง ๓<br />
มหาวิทยาลัยจากไทยที่อยู่ใน ๑๐๐ อันดับแรก<br />
ได้แก่ มหาวิทยาลัยมหิดลอันดับที่ ๔๒<br />
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยอันดับที่ ๔๘ และ<br />
มหาวิทยาลัยเชียงใหม่อันดับที่ ๙๘ ในขณะที่<br />
อันดับของมหาวิทยาลัยจากจีน ฮ่องกง ไต้หวัน<br />
เกาหลี อินเดียและมาเลเซียมีการปรับตัวสูงขึ้น<br />
และมีจำนวนของมหาวิทยาลัยที่อยู่ใน ๑๐๐<br />
อันดับแรกมากกว่าประเทศไทย ส่วนหนึ่งมาจาก<br />
การทุ่มเทงบประมาณของรัฐบาลของประเทศ<br />
เหล่านั้นในการสนับสนุนการวิจัยในสถาบัน<br />
อุดมศึกษาที่สำคัญของรัฐ ในขณะที่ประเทศไทย<br />
งบประมาณด้านการวิจัยมีแนวโน้มลดถอยลงซึ่ง<br />
อาจส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันใน<br />
ระดับสากลของประเทศไทยอีกด้วย <strong>MU</strong>
เพื่อสุขภาพ<br />
เคล็ดลับหลับสบาย<br />
การนอนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต สมองและ ความเครียด สภาพแวดล้อม โรคของการนอน<br />
ร่างกายใช้ช่วงเวลาขณะหลับในการบำรุง หลับโดยตรง โรคทางจิตเวช ความเจ็บป่วยทาง<br />
ซ่อมแซมส่วนต่างๆ ให้ดีขึ้นเพื่อให้ร่างกายมี ร่างกาย การใช้ยา หรือสารบางชนิด<br />
ประสิทธิภาพที่ดีในการทำงาน ดังนั้นการนอน เมื่อไรจึงควรจะปรึกษาแพทย์<br />
หลับที่เพียงพอจึงมีความสำคัญต่อคุณภาพชีวิต หากอาการนอนไม่หลับเป็นมากกว่า ๑<br />
ที่ดี มนุษย์ใช้เวลานอนหลับ ๑ ใน ๓ ของเวลา สัปดาห์ หรือมีผลกระทบต่อการปฏิบัติงานใน<br />
ทั้งหมด ความต้องการในการนอนหลับของ เวลากลางวัน ควรจะมาปรึกษาแพทย์<br />
แต่ละคนไม่เท่ากัน คนส่วนใหญ่ต้องการนอนวัน เมื่อนอนไม่หลับ แพทย์จะมีแนวทางการ<br />
ละ ๘ ชั่วโมง บางคนนอนแค่วันละ ๕ – ๖ ชั่วโมง ดูแลรักษาอย่างไร<br />
เมื่อไรจึงเรียกว่านอนไม่หลับ<br />
การนอนหลับอย่างพอเพียง ทั้งระยะเวลา<br />
การนอนไม่หลับไม่ใช่โรค แต่เป็นปัญหาการ และคุณภาพของการนอนหลับจะเป็นปัจจัยใน<br />
นอนไม่เพียงพอ เช่น นอนหลับยาก ตื่นบ่อย หรือ การส่งเสริมสุขภาพที่ดีเหมือนกับการรับ<br />
หลับไม่สนิท ทำให้ตื่นขึ้นมาแล้วไม่สดชื่น ซึ่งส่ง ประทานอาหารที่มีคุณภาพและการออกกำลัง<br />
ผลกระทบต่อหน้าที่การทำงานและความ กาย<br />
สัมพันธ์กับผู้อื่น บางคนอาจคิดหมกมุ่นอยู่กับ การรักษาปัญหาการนอนไม่หลับ จะเริ่มต้น<br />
อาการของตน<br />
ด้วยวิธีไม่ใช้ยาก่อน โดยมีหลักการดังนี้<br />
สาเหตุของการนอนไม่หลับ<br />
๑. รักษาตามสาเหตุ โดยขจัดเหตุปัจจัยที่<br />
พบว่าเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ทำให้การนอนไม่เพียงพอ<br />
พญ.กนกวรรณ ลิ้มศรีเจริญ<br />
ศูนย์สุขภาพอารมณ์ ภาควิชาจิตเวชศาสตร์<br />
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล<br />
๒. ปฏิบัติตามสุขอนามัยการนอนหลับ และ<br />
ฝึกให้มีพฤติกรรมที่ส่งเสริมการนอนหลับ ซึ่งทุก<br />
คนสามารถปฏิบัติได้เอง โดยมีขั้นตอนดังนี้<br />
๑) เข้านอนและตื่นนอนตรงเวลาทุกวัน เพื่อ<br />
ให้เกิดความเคยชิน<br />
๒) ลุกจากเตียงนอนทันทีเมื่อตื่น<br />
๓) จัดกิจกรรมผ่อนคลายก่อนนอน เช่น อาบ<br />
น้ำอุ่น ดื่มนม อ่านหนังสือ ไม่ทำงานหรือ<br />
กิจกรรมที่ตึงเครียดก่อนเข้านอน<br />
๔) ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอทุกวัน แต่<br />
ไม่ควรปฏิบัติช่วงใกล้เข้านอน<br />
๕) ควรใช้เตียงนอนสำหรับนอนตอนกลางคืน<br />
และกิจกรรมทางเพศเท่านั้น ไม่ควรนอนเล่นบน<br />
เตียง หรือทำกิจกรรมอย่างอื่น เช่น ทำงาน ดู<br />
โทรทัศน์ หรืออ่านหนังสือ<br />
๖) จัดห้องนอนให้มืด เงียบ สบาย ปลอดภัย<br />
มีอากาศถ่ายเทสะดวก ปรับอุณหภูมิที่พอดี <strong>MU</strong><br />
มหิดลสาร ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๕ • 25
Softnews<br />
งานประชาสัมพันธ์<<br />
ขอแสดงความยินดี กับผู้ได้รับปริญญากิตติมศักดิ์ จำนวน ๗ ท่าน ที่จะเข้ารับพระราชทาน<br />
ปริญญาจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร<br />
มหาวิทยาลัยมหิดล ๔ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ณ หอประชุมกองทัพเรือ ..ปริญญาแพทยศาสตร<br />
ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ได้แก่ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เติมชัย ไชยนุวัติ และ รอง<br />
ศาสตราจารย์ นายแพทย์เชิญ เศขรฤทธิ์, ปริญญาสาธารณสุขศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์<br />
สาขาระบาดวิทยา ได้แก่ ดร.เวิ่น-ต้า ฉั่ว และสาขาบริหารงานสาธารณสุข ได้แก่ นายเดวิด<br />
ร็อกกี้เฟลเลอร์ จูเนียร์, ปริญญาวิทยาศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ได้แก่ ศาสตราจารย์<br />
เกียรติคุณ ม.ร.ว.ชิษณุสรร สวัสดิวัตน์ (ชีวเคมี) และ ศาสตราจารย์ ดร.ยอดหทัย เทพธรา<br />
นนท์ และปริญญาเภสัชศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ได้แก่ รองศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง<br />
ธิดา นิงสานนท์<br />
รองศาสตราจารย์ ดร.บุษบา จินดา<br />
วิจักษณ์ หัวหน้าภาควิชาเภสัชกรรม คณะ<br />
เภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เข้ารับประ<br />
ทานโล่ห์รางวัลเภสัชกรเกียรติคุณ ประจำ<br />
ปี ๒๕๕๖ จากพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์<br />
เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ โดย<br />
มติที่ประชุมสมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล<br />
(ประเทศไทย) เมื่อวันที่ ๒๑ พฤษภาคม<br />
๒๕๕๖ โดยรางวัลดังกล่าวมอบให้แก่ผู้ทำคุณ<br />
ประโยชน์ให้แก่วิชาชีพ อุทิศตนในการทำงาน<br />
อย่างเข้มแข็งเพื่อพัฒนาวิชาชีพเภสัชกรรม<br />
โรงพยาบาล<br />
ศาสตราจารย์ ดร.ฉัตร<br />
เฉลิม อิศรางกูร ณ อยุธยา ได้<br />
รับรางวัลผลงานทางวิชาการ<br />
ดีเด่น TTF AWARD ด้านสิ่ง<br />
แวดล้อมและวิทยาศาสตร์<br />
เทคโนโลยี ประจำปี ๒๕๕๕<br />
จากผลงานหนังสือ เรื่อง “วิศวกรรมโปรตีน<br />
นวัตกรรมการพัฒนาชีวโมเลกุลแห่งยุค” จัด<br />
โดย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ร่วมกมับ<br />
มูลนิธิโตโยต้า ประเทศไทย<br />
มูลนิธิคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลฯร่วมกับคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัย<br />
มหิดล ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน ร่วมทำบุญทอดผ้าป่ามหากุศล เพื่อสมทบกองทุนทำนุ<br />
บำรุง “พระมหามณฑป ประดิษฐานพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (หลวงพ่อทองคำ) วัด<br />
ไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร” และสมทบกองทุนบำรุงรักษาอาคาร “มหิดลอดุลยเดช-พระศรี<br />
นครินทร” คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ในวันเสาร์ที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๕๖ เวลา<br />
๑๔.๐๐ น. ณ วัดไตรมิตรวิทยาราม วรวิหาร สนใจร่วมทำบุญติดต่อได้ที่ มูลนิธิคณะพยาบาล<br />
ศาสตร์ โทร. ๐-๒๔๑๒-๔๖๗๐<br />
ศูนย์จิตตปัญญาศึกษา ขอเชิญเข้าร่วม<br />
อบรมเชิงปฏิบัติการ “Authentic Leadership”<br />
รุ่นที่ ๘ โดย อาจารย์ชัยวัฒน์ ถิระพันธุ์<br />
เลขานุการมูลนิธิการเรียนรู้และพัฒนาประชา<br />
สังคม (CivicNet) หลักสูตรในการอบรม จํา<br />
นวน ๒ หลักสูตร คือ ๑.Authentic Leadership:<br />
Core Competencies Course วันที่<br />
๒๔ - ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ๒.Authentic<br />
Leadership: Foundation for Leadership<br />
วันที่ ๓๐ ตุลาคม ถึง ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๖<br />
ณ คําแสด ริเวอร์แควรีสอร์ท จ.กาญจนบุรี<br />
ค่าลงทะเบียน (ตลอด ๒ หลักสูตร) ๒๕,๐๐๐<br />
บาท (พักคู่), ๒๙,๐๐๐ บาท (พักเดี่ยว) ดู<br />
รายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.ce.mahidol.<br />
ac.th โทร. ๐-๒๔๔๑-๕๐๒๒-๓<br />
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ขอเชิญ<br />
ฟังบรรยายเรื่อง “โรคเนื้องอกในมดลูก” ใน<br />
วันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๒.๐๐<br />
– ๑๖.๐๐ น. ณ ศูนย์ฝึกอบรมการผ่าตัด<br />
สหสาขาผ่านกล้องไทย – เยอรมัน ใน<br />
พระราชูปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราช<br />
สุดาฯ ตึกสยามบรมราชกุมารี จุฑาธุช<br />
ชั้น ๘ โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งจะพบรูป<br />
แบบกิจกรรมให้ความรู้ความเข้าใจและ<br />
เตรียมความพร้อมก่อนการผ่าตัดผ่านกล้อง<br />
ทางนรีเวชวิทยา โดยเน้นการเตรียมความ<br />
พร้อมของผู้ป่วยก่อนทำการผ่าตัด พร้อมทั้ง<br />
ถามตอบทุกปัญหาโดยตรงกับทีมแพทย์ผู้<br />
เชี่ยวชาญ สอบถามและสำรองที่นั่งได้ที่ โทร.<br />
๐-๒๔๑๙-๔๗๗๒, ๐-๒๔๑๙-๔๗๔๔<br />
มหาวิทยาลัยมหิดล ขอเชิญร่วมทำบุญกฐินพระราชทาน ประจำปี ๒๕๕๖ วันศุกร์ที่ ๘<br />
พฤศจิกายน ๒๕๕๖ เวลา ๑๓.๓๐ น. ณ วัดเสนหาพระอารามหลวง ตำบลพระปฐมเจดีย์<br />
อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม บริจาคโดยโอนเงินผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)<br />
บัญชีกระแสรายวัน “มหาวิทยาลัยมหิดล” เลขที่ ๐๑๖-๓๐๐๓๒๕-๖ แฟกซ์สลิปโอนเงินที่<br />
๐-๒๘๔๙-๖๑๙๙ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. ๐-๒๘๔๙-๖๑๐๙<br />
ฮิโตชิ มิยาชิตะ นักศึกษาหลักสูตร<br />
ดุริยางคศาสตร์บัณฑิต ชั้นปีที่ ๓ เครื่องมือ<br />
เอก กีตาร์ สาขาวิชาดนตรีปฏิบัติ วิทยาลัย<br />
ดุริยางคศิลป์ คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ<br />
๑ รับเงินรางวัล ๑ แสนเยน ประกาศนียบัตร<br />
เกียรติคุณ และของรางวัลอื่นๆ จากการเข้า<br />
ร่วมการประกวดกีตาร์คลาสสิก ในงาน 44 th<br />
Tokyo Classical Guitar Competition ณ<br />
กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเร็วๆ นี้<br />
ศูนย์ธาลัสซีเมีย โรงพยาบาลศิริราช ขอเชิญร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการสำหรับครูผู้สอน<br />
(Training for the Trainers) เรื่อง “ทักษะการให้คำปรึกษาแนะนำเพื่อควบคุมป้องกันธาลัส<br />
ซีเมีย รุ่นที่ ๑” ระหว่างวันที่ ๓ – ๕ กรกฎาคม ๒๕๕๖ ณ ห้องเรียน ๔๔๙ ตึกอานันท<br />
ราช ชั้น ๑ โรงพยาบาลศิริราช สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. ๐-๒๔๑๙-๖๔๘๘,<br />
๐-๒๔๑๙-๙๓๕๗<br />
หน่วยบริการวิชาการและโครงการพิเศษ วิทยาลัยนานาชาติขอเชิญอบรมเรื่อง “ภาษาและ<br />
วัฒนธรรมไทยและจรรยาบรรณของวิชาชีพสำหรับชาวต่างประเทศ” ระหว่างวันที่ ๑๐ – ๑๒<br />
กรกฎาคม ๒๕๕๖ ณ ศูนย์ปฏิบัติการโรงแรมศาลายา พาวิลเลียน วิทยาลัยนานาชาติ สอบถาม<br />
รายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทร. ๐-๒๔๔๑-๕๐๙๐ ต่อ ๑๐๒๒, ๑๗๑๒<br />
26 • <strong>MU</strong> Newsletter 2013, Volume 06
ปฏิทินข่าว..<br />
Activities Agenda<br />
วราภรณ์ น่วมอ่อน<<br />
๑ กรกฎาคม ๒๕๕๖ การประชุมวิชาการระดับชาติ “ประชากรและสังคม ๒๕๕๖” ครั้งที่ ๙<br />
เรื่อง ประชากรและสังคมในอาเซียน:ความท้าทายและโอกาส ณ โรงแรมรอยัลริเวอร์ กรุงเทพฯ<br />
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทร. ๐๒-๔๔๑-๐๒๐๑-๔<br />
๓ – ๕ กรกฎาคม ๒๕๕๖ การประชุมเชิงปฏิบัติการสำหรับครูผู้สอน (Training for the Trainers) เรื่อง ทักษะการให้คำปรึกษาแนะนำ<br />
เพื่อควบคุมป้องกันธาลัสซีเมีย รุ่นที่ ๑ ณ ห้องเรียน ๔๔๙ ตึกอานันทราช ชั้น ๑ โรงพยาบาลศิริราช<br />
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ศูนย์ธาลัสซีเมีย โรงพยาบาลศิริราช<br />
โทร. ๐๒-๔๑๙-๖๔๘๘, ๐๒-๔๑๙-๙๓๕๗<br />
๓ กรกฎาคม ๒๕๕๖ การฝึกซ้อมรับพระราชทานปริญญาบัตร (ฝึกซ้อมใหญ่)<br />
ณ อาคารชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หอประชุมกองทัพเรือ ถนนอรุณอัมรินทร์ กรุงเทพฯ<br />
๔ กรกฎาคม ๒๕๕๖ พิธีพระราชทานปริญญาบัตร ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๕<br />
ณ อาคารชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หอประชุมกองทัพเรือ ถนนอรุณอัมรินทร์ กรุงเทพฯ<br />
๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๖ โครงการเสวนาวิชาการ เรื่อง “ทำอย่างไรจะได้เป็นศาสตราจารย์ก่อนอายุ ๔๐ ปี”<br />
ณ ห้องประชุมอเนกประสงค์ สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย<br />
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ สภาคณาจารย์ โทร. ๐๒-๘๔๙-๖๓๕๐-๒<br />
๑๐ – ๑๒ กรกฎาคม การอบรมเรื่อง ภาษาและวัฒนธรรมไทยและจรรยาบรรณของวิชาชีพสำหรับชาวต่างประเทศ<br />
๒๕๕๖ ณ ศูนย์ปฏิบัติการโรงแรมศาลายา พาวิลเลียน วิทยาลัยนานาชาติ<br />
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ หน่วยบริการวิชาการและโครงการพิเศษ<br />
วิทยาลัยนานาชาติ โทร. ๐๒-๔๔๑-๕๐๙๐ ต่อ ๑๐๒๒, ๑๗๑๒<br />
๑๑ – ๑๒ กรกฎาคม เชิญร่วมบริจาคโลหิตเนื่องในโอกาสครบรอบ ๕๐ ปี บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล<br />
๒๕๕๖ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ห้อง ๔๐๘ ชั้น ๔ อาคารบัณฑิตวิทยาลัย<br />
ม.มหิดล ศาลายา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. ๐-๒๔๔๑-๔๑๒๕ ต่อ ๒๑๕, ๒๑๖<br />
๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๖ การปาฐกถาเรื่อง การเตรียมตัวสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ๒๕๕๘: ปัญหาทางจริยธรรมในความหลากหลาย<br />
ทางวัฒนธรรม ณ อาคารศูนย์การเรียนรู้ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา<br />
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทร. ๐๒-๔๔๑-๔๔๐๑-๔ ต่อ ๓๒๑ และ ๐๒-๔๔๑-๔๔๐๗<br />
๑๗ – ๑๙ กรกฎาคม โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การดูแลต่อเนื่องสำหรับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดสมอง/บาดเจ็บไขสันหลัง” รุ่นที่ ๔<br />
๒๕๕๖ ณ ห้องตรีเพ็ชร์ อาคาร ๑๐๐ ปี อาคารสมเด็จพระศรีนครินทร์ ชั้น ๑๕ โรงพยาบาลศิริราช<br />
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู<br />
คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โทร. ๐๒-๔๑๙-๗๕๐๙ ต่อ ๑๐๙<br />
๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๖ การประชุมวิชาการระดับชาติ “ภาษาและวัฒนธรรม ๒๕๕๖”เรื่อง อาเซียนในมิติวัฒนธรรม<br />
ณ สถาบันวิจัยภาษาและวัฒนธรรมเอเชีย ม.มหิดล ศาลายา<br />
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทร. ๐๒-๘๐๐-๒๓๔๔<br />
๒๙ กรกฎาคม- โครงการฝึกอบรมเรื่อง “การประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ” ณ คณะเวชศาสตร์เขตร้อน<br />
๒ สิงหาคม ๒๕๕๖ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ ภาควิชาเวชศาสตร์สังคมและสิ่งแวดล้อม<br />
คณะเวชศาสตร์เขตร้อน โทร. ๐๒–๓๐๖–๙๑๐๐–๑๙ ต่อ ๑๕๖๐, ๑๕๖๔<br />
๒๙ – ๓๑ กรกฎาคม โครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการ “การสร้างบทเรียนอิเล็กทรอนิกส์”<br />
๒๕๕๖ ณ สถาบันนวัตกรรมการเรียนรู้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. ๐๒–๔๔๑–๙๗๒๒ ต่อ ๑๓๐๓<br />
๒๙ – ๓๑ กรกฎาคม การอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่อง “เรียนรู้และฝึกทักษะกับ Protein Expression และ Protein Purification” รุ่นที่ ๑<br />
และ ๑ สิงหาคม ๒๕๕๖ ณ ห้องประชุมศาสตราจารย์เกียรติคุณสิรินทร์ พิบูลนิยมและห้องปฏิบัติการวิจัยชั้น ๔<br />
สถาบันชีววิทยาศาสตร์โมเลกุล<br />
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. ๐๒-๔๔๑-๙๐๐๓-๗ ต่อ ๑๓๘๔, ๑๒๕๔<br />
๓๐ กรกฎาคม – โครงการฝึกอบรมการทดสอบพัฒนาการเด็กปฐมวัยอย่างคัดกรอง<br />
๒ สิงหาคม ๒๕๕๖ ณ สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว<br />
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. ๐๒-๔๔๑-๐๖๐๒ ต่อ ๑๔๑๖<br />
มหิดลสาร ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๕ • 27