05.08.2018 Views

Ebook

Create successful ePaper yourself

Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.

การเรียนการสอนเชิงปฎิบัติ<br />

เรื่องการเย็บแผล และ การตัดไหม<br />

ศิวพร อู ่อรุณ<br />

พยาบาลวิชาชีพ หน่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉิน<br />

โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา


วัตถุประสงค์การเรียนรู ้<br />

1. สามารถจ าแนกประเภทของบาดแผลต่างๆ สามารถประเมินแผลทีต้องเย็บและไม่ต้องเย็บได้<br />

2. ประเมินความเสียงที่อันตรายของแผลฉีกขาดที่ต้องเย็บได้<br />

3. มีความรู ้เกี่ยวกับเครื่องมือและอุปกรณ์เย็บแผล การตัดไหม และสามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง<br />

4. ปฎิบัติการเย็บแผล และ การตัดไหม ได้อย่างถูกต้อง


WOUND (TRAUMA)<br />

บาดแผล (Wound)<br />

จากอุบัติเหตุ


บาดแผล (WOUND)<br />

หมายถึง :การบาดเจ็บ (trauma or injury) ต่อผิวหนังเนื ่องจากแรงทาง<br />

กายภาพหรือสารเคมี ส่วนแผลที ่ไม่ได้เกิดจากการบาดเจ็บหรือท าลาย<br />

เนื้อเยื ่อ เรียกว่าแผล (ulcer) เช่น แผลกระเพาะอาหาร แผลกดทับ


การแบ่งประเภทของแผลแบ่งได้หลายแบบ<br />

1. ความสะอาดของแผล เช่น แผลสะอาด แผลติดเชื ้อ ฯลฯ<br />

2. แบ่งตามการท าลายของผิวหนัง เช่นแผลเปิด หรือ แผลปิด<br />

3. สาเหตุการเกิดแผล เช่น โดยเจตนา(แผลผ่าตัด) หรือ ไม่เจตนา<br />

4. ระยะเวลาที่เกิดแผล เช่น แผลใหม่ แผลเรื ้อรัง


บาดแผลแบ่งออกเป็ น 2 ประเภท<br />

• บาดแผลปิ ด (Closed wound)<br />

เกิดจากการได้รับอันตรายจากวัตถุไม่มีคม ท าให้เกิดฟกช ้า ไม่มีรอยฉีกขาดของผิวหนัง แต่อาจมี<br />

การแตกของหลอดเลือดใต้ผิวหนัง ท าให้เห็นเป็นรอยช ้าเขียว<br />

• บาดแผลเปิ ด (Opened wound)<br />

เกิดจากการได้รับอันตรายจากวัตถุมีคม มีรอยฉีกขาดของผิวหนัง ท าให้มีการแยกของเนื ้อเยื ้อ<br />

จะมองเห็นเป็นเลือดออกมา มี 7 ประเภท


แผลฟกช ้า<br />

( contusion ,bruise)<br />

ประเภทของบาดแผล<br />

(ชนิดแผลปิ ด : CLOSED WOUND)


ประเภทของบาดแผล<br />

(ชนิดแผลปิ ด : CLOSED WOUND)<br />

1. แผลฟกช ้า (contusion/ bruise)<br />

เป็นการฉีกขาดของกล้ามเนื ้อใต้ผิวหนังพบรอยฟกช ้า เส้นเลือดแตก เลือดออกแทรกเข้าไปในเนื ้อเยื่อ อาจรวม<br />

เป็นก้อนเลือด (hematoma) จะมีกระบวนการเปลี่ยนสีของ Hemoglobin ท าให้สีต่างๆบริเวณที่เกิดการฟกช ้า<br />

2. แผลกระทบกระเทือน (concussion) มักใช้เกี่ยวกับการกระทบกระเทือนของระบบประสาท<br />

3. แผลแตก (rupture) เป็นการแตก ฉีกขาดของอวัยวะภายในร่างกาย<br />

4. แผลผ่าตัด(surgical incision) ขอบแผลเรียบ กล้ามเนื ้อและผิวหนังถูกเย็บปิด


ประเภทของบาดแผล<br />

(ชนิดแผลเปิ ด : OPENED WOUND)<br />

1.แผลถลอก (Abrasion wound)<br />

เป็นแผลที่มีการปริแตกของผิวหนังเท่านั ้น ไม่มีการหายไปของผิวหนัง เช่นแผลที่การเสียดสี<br />

2.บาดแผลฉีกขาด(Laceration wound)<br />

● ขอบเรียบ(incised wound)<br />

- แผลถูกแทง (Penetrating wound or Stab wound) เช่น ถูกมีดแทง ( ความยาวแผล < ลึก)<br />

- ถูกฟัน/เฉือน ( Cut wound) เช่น มีด หรือแก้วบาด ( ความยาวแผล > ลึก)<br />

● ขอบไม่เรียบ (Laceration wound)<br />

- เป็นแผลที่เกิดจากแรงวัตถุที่ไม่มีคม มักเกิดจากการกระแทกเช่น ตกจากที่สูง หกล้ม ถูกขว้างด้วยของแข็ง<br />

- แผลที่มีการฉีกขาดแบบผิวหนังถลกและเนื ้อเยื่อหลุดออกไป (Avulsion) พบในอุบัติเหตุรุนแรง เช่น รถชน


ประเภทของบาดแผล<br />

(ชนิดแผลเปิ ด : OPENED WOUND) (ต่อ)<br />

3.แผลถูกทิ่มต า (Puncture wound) เป็นแผลที่ถูกวัตถุเล็กแหลมทิ่มแทง เช่น ตะปู เข็ม<br />

4.แผลถูกกระสุนปืน (Gunshot wound)<br />

5. แผลไฟไหม้ น ้าร้อนลวก หรือ สารเคมี (Burn wound)<br />

6. แผลอวัยวะถูกตัดขาด (Amputated wound) เช่น มือ ขา นิ ้ว


Burn 2 nd<br />

Amputate<br />

Gunshot wound<br />

Avulsion


Laceration wound<br />

Cut wound<br />

Stab wound<br />

Abasion<br />

Puncture<br />

wound


การปฐมพยาบาลแผล : การห้ามเลือด<br />

การกดบาดแผลโดยตรง<br />

การยกอวัยวะให้สูง


การปฐมพยาบาลแผล : การห้ามเลือด (ต่อ)<br />

กดเส้นเลือดแดง<br />

การขันชะเนาะ


การเย็บแผล<br />

(Suture)


วัตถุประสงค์ในการเย็บแผล<br />

1. เพื ่อการห้ามเลือด (Stop Bleeding)<br />

2. ซ่อมแซมส่วนที ่บาดเจ็บ (Reconstruction)<br />

3. ลดอาการปวดและการติดเชื้อ (Decrease pain and infection)<br />

4. ลดรอยแผลเป็ นที ่อาจเกิดจากบาดแผลนั้น ๆ (Reduce scar)<br />

5. รวมถึงเพิ ่มการหายของแผล (Increase healing of ulcer)


การประเมินการเย็บแผล<br />

1.ขนาดและลักษณะของบาดแผล<br />

2.การเสียเลือดออกจากแผล


การประเมินการเย็บแผล<br />

ขนาดและลักษณะของบาดแผล<br />

สอบถามจากผู ้ป่ วย<br />

ขนาดของแผลใหญ่<br />

มากและลึก<br />

แผลในช่วง 6 ชม<br />

แรก แต่ไม่เกิน 12<br />

ชม.<br />

สิ่งแปลกปลอมสงสัย<br />

ค้างในแผล<br />

อยู ่ในชั ้นใต้ผิวหนัง<br />

(subcutaneous)<br />

ไม่ใช่กล้ามเนื ้อหรือ<br />

tendon


การประเมินการเย็บแผล<br />

การเสียเลือดจากแผล<br />

สัญญาณชีพ( vital sign)<br />

เลือดออกจากเส้นเลือดใด มี<br />

โอกาสที่จะเสียเลือดมาก<br />

ตามมาภายหลังถ้าไม่รีบเย็บ


การประเมินการเสียเลือด<br />

ปริมาตรเลือดร่างกาย 70 ml/kg ถ้า Bleed > 15<br />

% (ประมาณ 750 ml) ......เริ่มมีอาการแสดง<br />

เลือดที่ออกออกจากเส้นเลือดใด Venous , Artery<br />

,capillay


บาดแผลที ่ไม่ควรเย็บ(โดยทั ่วไป)<br />

• สุนัขกัด<br />

• ตกน ้าคร า<br />

• แผลติดเชื้อ<br />

• แผลที ่นานเกิน 12 ชม.<br />

• แผลที ่ถูกเอ็น หรือ กล้ามเนื้อ


การหายของแผล (TYPES OF HEALING)<br />

PRIMARY INTENTION : แผลสะอาด ไม่มีปัญหาแทรกซ้อน หรือ skin graft<br />

Delay primary closure : เปิดแผลไว้ยังไม่เย็บปิดรอก่อนมี granulation tissue แผลก็จะกลายเป็นแบบ primary closure


SECONDARY INTENTION<br />

SECONDARY INTENTION : ถูกปล่อยให้หายเองตามกระบวนการหายของแผล ถ้าไม่หายจะกลายเป็ นแผลเรื้อรัง<br />

กระบวนการหายของแผล


TERTIARY INTENTION<br />

TERTIARY INTENTION : เปิดแผลหลายวันมี granulation tissue แล้วค่อยเย็บปิดหรือท าปลูกถ่ายผิวหนัง (skin graft)


อุปกรณ์เย็บแผล


SUTURE SET & MATERIAL<br />

• Tooth Forceps<br />

• Non Tooth forceps<br />

• Needle Holder<br />

• Scissors<br />

• Needle<br />

• Gauze<br />

• ผ้า sterile เจาะกลาง<br />

• วัสดุเย็บ ( แบ่งแบบไหมละลายได้ หรือไม่ละลาย ใช้กับต าแหน่งใดในการเย็บ)


ประเภทของไหมและด้าย (TYPE OF SUTURE MATERIAL)<br />

(ไหมละลาย)<br />

(ไหมไม่ละลาย)<br />

การพิจารณาการเลือกใช้ไหมที ่จะเย็บขึ้นกับ<br />

อวัยวะที่จะเย็บ ระยะเวลาการยึดติดของลักษณะแผลนั ้นๆ เช่น หน้า แขน ขา ชั ้นไขมัน แผลผ่าตัด<br />

การสลายตัวขึ้นกับชนิดของวัสดุที่เย็บแผล


ชื ่อ<br />

กลุ ่ม<br />

Plain<br />

catgut<br />

Chromic catgut<br />

Polyglactic acid<br />

(Vicryl)<br />

Polyglyconate<br />

(Maxon)<br />

Polyglycolic acid<br />

(Dexon)<br />

ไหมละลาย<br />

ผลิตจาก ท าจากล าไส้ของสัตว์พวกวัวหรือแกะ ท าจากล าไส้ของสัตว์พวกวัวหรือแกะ<br />

(เคลือบเกลือโครเมียม)<br />

สังเคราะห์<br />

มีหลายรุ่น<br />

สังเคราะห์<br />

สังเคราะห์<br />

การ<br />

สลายตัว<br />

ปฎิกิริยากับ<br />

เนื ้อเยื่อ<br />

5-7 วัน 10 -20 วัน 60-90 วัน 180 วัน 21-28 วัน<br />

Inflammation ง่าย Inflammation น้อย inflammatory น้อย inflammatory น้อย inflammatory น้อย<br />

นิยมที่ใช้ เย็บชั ้นหนังก าพร้า<br />

ใช้เย็บที่หน้า<br />

รายที่ไม่สามารถใช้ tissue<br />

adhesives<br />

การตัดไหมท าได้ยาก<br />

การประหยัดเวลาต่อการดูแลแผล<br />

บริเวณลิ ้น<br />

เยื่อบุช่องปาก<br />

บริเวณปลายนิ ้ว<br />

และเนื ้อเยื่อส่วนใต้เล็บ (nail bed)<br />

เย็บบาดแผลที่อยู ่ในบริเวณใต้เฝือก<br />

Muscle ,<br />

Subcutaneous<br />

Deep closure<br />

nailbed<br />

Mouth<br />

มีความแข็งแรงของปมไหม<br />

muscle, fascia,<br />

capsule, tendon<br />

Deep closure<br />

หมายเหตุ<br />

เอ็นชุบน ้ายา<br />

ไม่แช่น ้า เพราะความเหนียวลดลง<br />

(Monocryl)<br />

จับและผูกได้ดี<br />

ราคาสูง<br />

มีความฝืดมาก<br />

ผูกปมได้แน่น


ชื ่อ<br />

กลุ ่มไหม<br />

Silk<br />

2. Nylon<br />

[Dermalon, Ethilon]<br />

3. Prolene, Surgilene<br />

[Polypropylene]<br />

4. Novafil<br />

[Polybutester]<br />

ไม่ละลาย<br />

ผลิตจาก เส้นใยธรรมชาติ เป็นใยสังเคราะห์จากสารประเภทพลาสติก<br />

ปฎิกิริยากับ<br />

เนื ้อเยื่อ<br />

Inflammation ง่าย เพราะเป็นใยไหม Inflammation น้อย inflammatory น้อย inflammatory น้อย<br />

นิยมที่ใช้ การท าผ่าตัดหรือหัตถการทางการแพทย์<br />

ที่สะอาด เย็บชั ้นนอก เพราะเป็นแผล<br />

สะอาด<br />

ศีรษะ<br />

แขน ขา อวัยวะภายนอกตาม<br />

ร่างกาย<br />

Skin<br />

Skin<br />

หมายเหตุ มีความแข็งแรงน้อยที่สุดในไหมไม่ละลาย<br />

จับและผูกได้ง่าย<br />

ไม่นิยมใช้เย็บแผลเล็กๆ<br />

ไม่ค่อยนิยมใช้แล้ว<br />

ไม่ดูดซึมน ้าและซีรั่ม<br />

ปมผูกหลุดง่าย<br />

ราคาถูก นิยมใช้มาก<br />

ต้องผูก 3-4 ปมเพื่อให้ไม่หลุด<br />

ลื่นต้องผูก 4-5 ปม<br />

ความยืดหยุ ่นสูงสามารถยืดได้ในแผลที่บวม<br />

จับและผูกได้ดี<br />

ราคาสูง<br />

สามารถยืดได้ในแผลที่บวม ลด<br />

suture mark


ขนาดของไหมในการเลือกเย็บแผล<br />

พิจารณา ตามอวัยวะและการดึงรั้งของเนื้อเยื ่อ<br />

(ขนาดเลขยิ ่งเพิ ่ม ขนาดไหมยิ ่งเล็ก)<br />

• 0/0 มีขนาดใหญ่ แรงดึงรั ้งมาก เหมาะส าหรับเย็บแผลบริเวณที่มีผิวหนัง เช่น หนังศีรษะ<br />

• 2/0 แรงดึงรั ้งมาก เท้า ส้นเท้า ฝ่าเท้า ศีรษะ<br />

• 3/0 แรงดึงรั ้งมาก และมีการขยับมาก ศีรษะ ฝ่าเท้า ข้อเท้า ศอก เข่า<br />

• 4/0 ส าหรับเย็บแขนขา ล าตัว นิ ้ว<br />

• 5/0 เย็บใบหน้า และ หู ปลายนิ ้ว หรือเนื ้อที่บางมาก<br />

• 6/0 หน้า หู ส่วนใหญ่ใช้ในศัลยกรรมตกแต่ง หรือ เย็บหน้าในเด็ก(ป้องกันรอยเย็บจากไหม)<br />

3<br />

4<br />

5 ,6<br />

4 4<br />

ขนาดไหมที ่นิยมใช้<br />

(Nylon)<br />

3<br />

4<br />

4 4<br />

4 4 4<br />

5<br />

4<br />

3 3 3 3


ยาชา (XYLOCAINE 1 % , 2%)<br />

วิธีการเลือก<br />

Xylocaine without adrenaline<br />

ขนาดแผล และ ความเข้มข้นที ่จะใช้ และต าแหน่งของอวัยวะ<br />

เป็นยาชาเฉพาะที่ที่ออกฤทธิ์ได้เร็วมาก การกระจายฤทธิ์ได้ดี และมีฤทธิ์อยู ่ได้นานไม่ระคายเคือง<br />

Xylocaine with adrenaline<br />

ซึ่งมีฤทธิ์ท าให้เส้นโลหิตหดตัว เลือดที่ออกจากบาดแผลจะออก น้อยลง เหมาะส าหรับผู ้ป่ วยที่มีเลือดออกจากบาดแผล มาก แต่ควรระวังในการฉีดโดยเฉพาะอวัยวะส่วน<br />

ปลายของร่างกาย เช่น ปลายนิ ้วมือ นิ ้วเท้า ติ่งหู ซึ่งมีฤทธิ์ท าให้เส้นโลหิตหดตัวท าให้เกิด Cyanosis และ gangrene<br />

• เป็นยาชาเฉพาะที่ที่นิยมใช้มากที่สุด ราคาถูก<br />

• ออกฤทธิ์เร็ว onset of action ประมาณ 3-5นาที<br />

• ควรให้เวลาสักครู่ ไม่ควรท าหัตถการทันที<br />

• lidocaine จะออกฤทธิ์นานประมาณ 1-2 ชั่วโมง<br />

• ปริมาณยาสูงสุดที่ร่างกายจะได้รับโดยไม่มีผลเสียคือ 4.5 mg./kg/dose มากสุด 300 mg ต้องเว้น 2 ชม.<br />

• ในผู ้ใหญ่น ้าหนักตัวปกติควรได้รับ lidocaine 1% ไม่เกิน 30 ml. ต่อการท าหัตถการแต่ละครั ้ง


ยาชา (XYLOCAINE 1 % , 2%) (ต่อ)<br />

!! จ าไว้ค านวณการฉีดยา<br />

1 % xylocaine มียาชา 10 mg/ml<br />

2 % Xylocaine มียาชา 20 mg/ml


ผลข้างเคียงที ่เป็ นอันตรายต่อผู ้ป่ วย (ใช้ยาเกินขนาดหรือมีแพ้ยา)<br />

• วิงเวียน ปวดหัว อ่อนเพลีย<br />

• สายตาพร่ามัว<br />

• กล้ามเนื้อกระตุก<br />

• รู ้สึกเจ็บเหมือนมีเข็มทิ ่ม<br />

• ยังคงรู ้สึกชาอยู ่อย่างต่อเนื ่อง<br />

• อาการแพ้ยา เช่น มีผดผื ่นคัน หน้าบวมตัวบวม<br />

หายใจติดขัด ไปจนถึงภาวะชักหรือหัวใจหยุด<br />

เต้น


การเตรียมผิวหนังก่อนการเย็บแผล (DRESSING )<br />

• หลักการท าความสะอาดเช่นเดียวกับท าแผลแต่ต้องมีการ<br />

ฟอกผิวหนังก่อน (เช่นเดียวกับแผลผ่าตัด)<br />

• การใช้ normal saline เทราดลงบริเวณบาดแผล<br />

• การใช้ Detergent ฟอกลงบนบริเวณรอบๆ แผล ที ่ใช้บ่อย<br />

ได้แก่ Hibiscrub หรือ Providine scrub<br />

• การใช้ Antiseptic ทาบริเวณรอบๆ แผลหลังจากการฟอก<br />

ด้วย detergent ที ่นิยมใช้ เช่น Hibitane,Providine iodine<br />

• พยายามหลีกเลี ่ยงการใช้น ้ายาเหล่านี้ทางลงไปในแผล<br />

เนื ่องจากจะ irritate แผล ท าให้แสบแผลและแผลหายช้าลง<br />

Antiseptic


การสวมใส่ชุดอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ก่อนเย็บแผล


PRINCIPLE OF SUTURING (หลักการเย็บแผล)<br />

1. เลือกเข็มให้เหมาะสมกับแผลที ่เย็บ ถ้าเป็ นเข็มตรงให้ใช้<br />

มือจับเย็บได้เลย แต่ถ้าหากเป็ นเข็มโค้ง ต้องใช้ needle<br />

holder จับเข็มโดยจับที ่ประมาณ 1/3 ค่อนมาทางโคนเข็ม<br />

2. การจับ Needle holder มีการจับได้ 2 วิธี แบบ<br />

แผลไม่ลึกและตรง<br />

แผลลึก และกว้าง


PRINCIPLE OF SUTURING<br />

3 3.การเย็บควรปักเข็มลงไปให้ปลายเข็มตั้งฉากกับผิวหนัง หรือเนื้อที ่จะเย็บ จะท าให้ เย็บง่าย ไม่ควรปักเข็มเฉียงๆ


PRINCIPLE OF SUTURING ( Simple suture)<br />

4. ขณะดันเข็มผ่านผิวหนังให้หมุนเข็มให้ปลายเสยขึ้น โดยใช้ข้อมือ อย่างดันตรง เนื ่องจากเข็มอาจหักได้


PRINCIPLE OF SUTURING<br />

5. ปล่อย needle holder ออกจากก้นเข็ม จากนั้นใช้ needle holder มา<br />

จับที ่ปลายอีกด้านหนึ ่งแล้วหมุนเข็มออกมาจากผิวหนังตามความโครง<br />

ของเข็ม<br />

6. ดึงไหมผ่านผิวหนัง จากนั้นผูกไหมด้วยเครื ่องมือเป็ น surgical knot


PRINCIPLE OF SUTURING<br />

7. ใช้มือซ้ายจับโคนเชือกไว้ มือขวาถือคีมจับเข็มรูดออกไป<br />

จนเข็มหลุดจากเชือกแล้ววางคีมมาจับปลายเชือกอีกด้าน<br />

หนึ ่ง จัดความยาวของเชือกสองด้านให้เท่ากัน พร้อมกับดึง<br />

ขอบแผลให้มาติดกันแล้วผูกเงื ่อนตาย<br />

8.ใช้กรรไกรตัดไหม ตัดด้ายโดยให้เหลือโคนไว้ ยาว<br />

ประมาณครึ ่งเซนติเมตร


VERTICAL MATTRESS SUTURE<br />

• การเย็บแบบนี ้จะประกอบด้วยทั ้ง deep และ<br />

superficial bite ดังนั ้นมันจึงมีประโยชน์มาก<br />

ในการเย็บปิดแผลที่อยู ่ค่อนข้างลูก superficial<br />

bite จะช่วยในการ approximate ขอบ<br />

skin อาจท าได้ทั ้งในรูปของ continuous หรือ<br />

interrupted


ลักษณะแผลต่าง ๆ หลังการเย็บหรือใช้อุปกรณ์ช่วยส าหรับให้แผลติด


ความแตกต่างระหว่างแผลเย็บที ่ปกติ - แผลเย็บอักเสบ<br />

NORMAL<br />

ABNORMAL


การตัดไหม<br />

(Off stich)


REMOVING SUTURES<br />

• ระยะการตัดไหมใช้หลักดังนี้<br />

- การหายของแผล ใน area ต่างๆ<br />

- การหายของแผลจะช้าที่สุดในคนสูงอายุ, คน<br />

ที่ทุพโภชนาการ, และการไหลเวียนเลือดไม่ดี<br />

- ถ้าตัวแผล และ พื ้นที่รอบๆ มีการติดเชื ้อ<br />

(บวม แดง ร้อน มีไข้ก็ควร ตัดไหมเร็วกว่าก าหนด<br />

เพื่อเป็นการระบายหนองที่คั่งค้าง ทั ้งนี ้ขึ ้นกับแพทย์<br />

ผู ้รักษาหรือส่งต่อ ร.พ.<br />

- ถ้าครบก าหนดตัดไหม แต่ไม่แน่ใจการติดสนิทของ<br />

แผล ให้ตัดไหม “อันเว้นอัน”<br />

- หลังตัดไหมให้นับจ านวนไหมที่ตัดทบทวนกับ<br />

บันทึกการเย็บ แผลว่าครบจ านวนหรือไม่<br />

- ประเมินแผลว่าหายสนิท หรือ แผลไม่ติด หรือ<br />

ต้องมารับการท าแผลต่อเนื่องอีกระยะ หรือแผลมีปัญหา<br />

ต้องส่งต่อ ร.พ.


จ านวนวันในการตัดไหม<br />

• skin suture ที่ใบหน้า และล าคอ 3-5 วัน<br />

• skin suture ที่อื่นๆ 7 วัน<br />

• skin suture อวัยวะที่มีการเคลื่อนไหวมากๆ เช่นข้อเท้า ข้อเข่า วัน


อุปกรณ์ตัดไหม<br />

Iris scissors<br />

Adson nontooth<br />

Antiseptic solution<br />

Blade no.11<br />

Forceps nontooth


การตัด MAX เย็บแผล


REMOVE SUTURE<br />

1. Clean area ที่จะ remove อย่างระมัดระวังด้วย alcohol<br />

ใช้ hydrogen peroxide เพื่อ remove เอา clot หรือ<br />

serum ที่แข็งตัวออกจากรอบๆ suture<br />

2. จับปลายด้านหนึ่งของ suture ยกขึ ้นด้วย forceps แล้วตัด<br />

suture ที่ต าแหน่งที่ติดกับ skin<br />

3. ค่อยๆ ดึง suture ออกผ่านรู skin อีกด้านหนึ่ง ถ้าหากเป็นการเย็บ<br />

แบบ continuous ให้ตัด suture เพียงด้านเดียวของแผล โดยตัดติด<br />

skin แล้วดึงออกมาในด้านตรงข้ามหลักการส าคัญคือการดึง suture<br />

ออกมาจากแผลจะไม่พยายามให้ suture ที่ expose กับอากาศ<br />

ภายนอก ถูกดึงผ่านเข้าไปในแผลอีก


ขอบคุณครับ

Hooray! Your file is uploaded and ready to be published.

Saved successfully!

Ooh no, something went wrong!