แบบเสนอโครงร่างปัญหาพิเศษ - คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัย ...
แบบเสนอโครงร่างปัญหาพิเศษ - คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัย ...
แบบเสนอโครงร่างปัญหาพิเศษ - คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัย ...
You also want an ePaper? Increase the reach of your titles
YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.
<strong>แบบเสนอโครงร่างปัญหาพิเศษ</strong><br />
ภาควิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ <strong>คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ</strong><br />
ระบบตอบคําถามเกยวกบ ี่ั ปัญหาของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์<br />
โดยใช้วิธีตรรกะแบบฟัซซีบนอินเทอร์เน็ต<br />
A Consulting System for Computer Hardware Problem<br />
Using Fuzzy Logic Method on the Internet<br />
นายขยันทํา สําเร็จแน่<br />
สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ รหัส xx-xxxx-xxx-x<br />
คณะกรรมการสอบปัญหาพิเศษ<br />
………………………………………. ประธานกรรมการ<br />
………………………………………. กรรมการ<br />
………………………………………. กรรมการ<br />
ลงนามรับรอง …………………….<br />
ลงนามรับรอง ……………………<br />
ลงนามรับรอง …………………….
่<br />
่<br />
่<br />
่<br />
่<br />
้<br />
่<br />
่<br />
้<br />
้<br />
้<br />
่<br />
่<br />
่<br />
่<br />
่<br />
็<br />
2<br />
แบบเสนอหัวข้อปัญหาพิเศษ<br />
ู ่ ผ้เสนอ<br />
: นายขยันทํา สําเร็จแน รหัสประจําตัว xx-xxxx-xxx-x<br />
ชื่อภาษาไทย : ระบบตอบคําถามเกยวกบ ี่ั ปัญหาของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์โดยใช้วิธีตรรก<br />
แบบฟัซซีบนอินเทอร์เน็ต<br />
ชื่อภาษาอังกฤษ : A Consulting System for Computer Hardware Problem Using Fuzzy<br />
Logic Method on the Internet<br />
อาจารย์ที่ปรึกษา : ผู้ชวยศาสตราจารย์ ดร.พยุง มีสัจ<br />
1. ความเป็ นมาและความสําคัญของปัญหา<br />
ปัจจุบันคอมพิวเตอร์มีบทบาทสําคัญในชีวิตประจําวันมากขึน เนื่องจากเราได้นํา<br />
คอมพิวเตอร์มาใช้งานในด้านตาง ่ ๆ มากขึน อยางไรกตามใน ่ ็ บางครังผู้ใช้ทัวไป ้ ่ ไมสามารถหา<br />
สาเหตุและวิธีแกไขปัญหาได้ด้วยตนเอง<br />
้ ซึ ่งปัญหาที่เกดขึนนันอาจจะเป็นปัญหาที่เล็กน้อยจนถึง<br />
ิ ้ ้<br />
ปัญหาที่ใหญจนไมสามารถแกไขได้ด้วยตนเอง<br />
่ ่ ้ สาเหตุหนึ ่งคือผู้ใช้งานไมทราบถึงหลักการทํางาน<br />
ของคอมพิวเตอร์ ซึ ่งเป็นสาเหตุทําให้ใช้งานอยางไมถูกต้องและอาจทําให้เกดความเสียหายกบ<br />
่ ่ ิ ั<br />
คอมพิวเตอร์ได้ในที่สุด [1]<br />
วิธีการวิเคราะห์และตอบปัญหาเกยวกบคอมพิวเตอร์นัน<br />
ี่ั ้ กระทําได้หลายแนวทาง<br />
ตัวอยางเชน<br />
่ ใช้ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้เกยวกบคอมพิวเตอร์ ี่ั และใช้ระบบผู้เชี่ยวชาญ [2] ซึ ่งแตละวิธี<br />
มีทังข้อดีและข้อเสียแตกตางกนไป<br />
้ ่ ั เชน ่ การใช้ผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้เกยวกบคอมพิวเตอร์<br />
ี่ั เป็น<br />
ผู้กระทํานัน ้ มีความหยืดหยุนสูง ่ ทํางานตามเวลาที่กาหนด ํ แตอยางไรกตาม ่ ่ ็ สมรรถนะการทํางานไม่<br />
แนนอน ่ เกดความ ิ เปลี่ยนแปลงได้ และคาใช้จายสูง ่ ่ สวน ่ การใช้ระบบผู้เชี่ยวชาญนัน ้ สามารถทํางาน<br />
ได้ตลอดเวลา สมรรถนะการทํางานดี ความเร็วสูง และคาใช้จาย ่ ่ อยูในระดับที่ยอมรับได้ อยางไรก<br />
ตามการแกปัญหาของระบบผู้เชี่ยวชาญนันจะเป็นการ<br />
้ ้ นําข้อมูลจากฐานความรู้มาใช้ ทําให้ขาดการ<br />
หาเหตุผลในความไมแนนอนของคําถามของผู้ใช้งาน<br />
่ ่ จึงทําให้ได้คําตอบหลายคําตอบและอาจไม่<br />
ถูกต้องได้ [2]<br />
สภาพทัวไปของดําเนินชีวิตจริงเกด ิ ความไมแนนอนขึนอยูเสมอ<br />
่ ่ ้ ่ ดังนันระบบผู้เชี่ยวชาญ<br />
จะต้องสามารถตีความภายใต้ความไมแนนอนได้ ่ ่ เพื่อที่จะแกปัญหา ้ เชน ่ ทฤษฎีความนาจะเป็นของ<br />
เบยส์ และทฤษฎีฟัซซีเซตของซาเดห์ [3] ซึ ่งแตละทฤษฏีมีทังข้อดีและข้อเสีย<br />
่ ้ แตกตางกนั โดยใน<br />
ทฤษฎีความนาจะเป็นของเบยส์นัน<br />
้ ลักษณะของปัญหาจําเป็นต้องมีโครงสร้างที่ดี สมรรถในการ<br />
คํานวณอยู ่ในระดับน้อย แตตัวทฤษฎีสามารถทําความเข้าใจงาย<br />
่ กวา่ ทัง ้ การคํานวณและการอบรม
ิ<br />
ิ<br />
่<br />
่<br />
่<br />
่<br />
้<br />
่<br />
้<br />
่<br />
่<br />
่<br />
้<br />
่<br />
3<br />
ให้เข้าใจและการประยุกต์ใช้งาน สวนทฤษฎีฟัซซีเซตของซาเดห์นัน<br />
้ ลักษณะของปัญหาไม่<br />
จําเป็นต้องมีโครงสร้างที่ดี สมรรถการคํานวณอยู ่ในระดับน้อยจนถึงมาก การประยุกต์ใช้งานทฤษฎี<br />
ไมมีความยุงยากมากนัก<br />
่ ่ ดังนัน ้ จากการเปรียบเทียบข้างต้นสรุปได้วาควรเลือกใช้ ทฤษฎีฟัซซีเซต<br />
ของซาเดห์ เพราะมีความเหมาะสมกบั สภาพการใช้งานมากกวาทฤษฎีความนาจะเป็นของเบยส์<br />
่ ่<br />
มีการประยุกต์ใช้งานตรรกะแบบฟัซซีอยางแพรหลายในอุปกรณ์<br />
่ ่ เครื่องใช้ในชีวีต<br />
ประจําวันตางๆ ่ เชนระบบควบคุมการทํางานของเครื่องซักผ้า<br />
่ เครื่องกรองนํา ้ กล้องถายภาพ ่ กล้อง<br />
วีดิทัศน์ และระบบควบคุมการขับเคลื่อนและเบรกของรถยนต์ เป็นต้น นอกจากนี ้ยังมีการใช้งาน<br />
ตรรกะแบบฟัซซีในงานอุตสาหกรรม งานวิจัยและการพัฒนาอื่นๆ เชน ่ การประมวลสัญญาณ การ<br />
ประมวลภาพทางดิจิตอล วิศวกรรมโทรคมนาคม ระบบ Virtual Reality และรวมถึงนํามาชวยใน<br />
การวิเคราะห์ข้อมูลตางๆ ่ เชน การวิเคราะห์ราคาหุ้นและการซือขายหุ้น ้ ระบบชวยในการ<br />
วินิจฉัยโรค เป็นต้น<br />
การสื่อสารของมนุษย์นันสวนใหญใช้ ้ ่ ่ ภาษาธรรมชาติ [4] ทังนีเพื่อ ้ ้ ถายทอดความคิด<br />
ความรู้สึก ตางๆ ่ แสดงความคิดเห็นเพื่อใช้เหตุผลในการแกปัญหา ้ โดยมีทฤษฎีการประมวลผล<br />
ภาษาธรรมชาติรองรับและนํามาใช้ในการพัฒนาระบบผู้เชี่ยวชาญ การตัดคําเป็นกจกรรม ิ ที่สําคัญ<br />
กจกรรมหนึ<br />
่งของทฤษฎีการประมวลผลภาษาธรรมชาติ และมีผู้เสนอขันตอนวิธีการตัดคําภาษาไทย<br />
หลายวิธี เชน ่ หลักการตัดคําโดยใช้กฎการตัดคําตามหลักพจนานุกรม ซึ ่งสามารถแบงออกเป็นวิธี<br />
เทียบคําที่ยาวที่สุด [5] และการตัดคําให้ได้จํานวนคําและมีคําที่ไมพบในพจนานุกรมน้อยที่สุด<br />
่ [6]<br />
โดยวิธีการแรกมีความถูกต้องของการตัดคําประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์แต่มีข้อด้อย คือ การเลือกคําที่มี<br />
ความยาวเกนไปตังแตต้นทําให้มีความผิดพลาดได้<br />
้ สวน ่ วิธีที่ 2 นันสามารถใช้แกไข<br />
้ ปัญหานีได้โดย<br />
พิจารณาทางเลือกการตัดคําที่เป็นไปได้ทังหมดกอนที่จะเลือกการตัดคํา<br />
้ ่ ทําให้ลดความผิดพลาดของ<br />
วิธีการแรกได้<br />
จากปัญหาการใช้งานคอมพิวเตอร์ดังกลาวจึงเป็นสาเหตุ ่ จูงใจให้ผู้จัดทําปัญหาพิเศษ มี<br />
แนวคิดในการพัฒนาระบบตอบคําถามเกยวกบ ี่ั การใช้และข้อขัดข้องของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์โดย<br />
ใช้วิธีตรรกะแบบฟัซซีบนอินเทอร์เน็ต และคาดหวังวาจะเป็นทางเลือกทางหนึ<br />
่งสําหรับผู้ใช้งาน<br />
คอมพิวเตอร์ที่สนใจศึกษาค้นคว้าและตรวจสอบปัญหาการใช้งานคอมพิวเตอร์ที่เกดขึนด้วยตนเอง ิ ้<br />
ซึ ่งจะมีผลดีตอการใช้งานคอมพิวเตอร์ในระยะยาวที่จะชวยให้ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์สามารถแกไข<br />
่ ่ ้<br />
ปัญหาและหาจุดบกพรองได้ด้วยตนเอง ่ ทําให้เกดความสะดวก ิ และรวดเร็วยิงขึน ่ ้
้<br />
้<br />
้<br />
่<br />
้<br />
4<br />
2. วัตถประสงค์ ุ<br />
2.1 เพื่อพัฒนาระบบตอบคําถามเกยวกบ ี่ั ปัญหาของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์โดยใช้วิธีตรรกะแบบ<br />
ฟัซซี<br />
2.2 เพื่อประเมินคุณภาพของระบบตอบคําถามเกยวกบ ี่ั ปัญหาของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่<br />
พัฒนาขึน<br />
3. สมมติฐานการวิจัย ุ<br />
ระบบตอบคําถามเกยวกบ ี่ั ปัญหาของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่พัฒนาขึน ้ มีประสิทธิภาพของ<br />
การใช้งานในระดับดี<br />
4. ขอบเขตของการวิจัย<br />
4.1 ระบบตอบคําถามนี ้ใช้ทฤษฎีตรรกะแบบฟัซซี ซึ ่งจะทําให้ระบบวิเคราะห์คําถามจนกวา่<br />
ผู้ใช้จะพบแนวทางการแกไขปัญหาหรือหมดความรู้ในฐานความรู้<br />
้ และในการวิเคราะห์ปัญหาและ<br />
หาคําตอบต้องมีจํานวนคําถามอยางน้อย ่ 60 คําถาม<br />
4.2 วิเคราะห์คําถามจะวิเคราะห์จากประโยคคําถามที่เป็นเฉพาะภาษาไทยเทานัน ่ ้ โดยผู้ใช้งาน<br />
พิมพ์ผาน ่ แป้ นพิมพ์ และการวิเคราะห์จะใช้หลักการตามทฤษฎีการประมวลผลภาษาธรรมชาติ<br />
4.3 ฐานข้อมูลองค์ความรู้เกยวกบ ี่ั วิธีการแกปัญหาเกยวกบอุปกรณ์<br />
้ ี่ ั คอมพิวเตอร์ครอบคลุมการ<br />
แกปัญหาในระดับเบืองต้นเทานัน<br />
่ ้<br />
4.4 องค์ความรู้เกยวกบ ี่ั อุปกรณ์คอมพิวเตอร์จะครอบคลุมถึงอุปกรณ์ตอไปนี<br />
4.4.1 เมนบอร์ด (Mainboard)<br />
4.4.2 หนวยความแบบแรม ่ (Random Access Memory)<br />
4.4.3 แหลงจายไฟ ่ ่ (Power Supply)<br />
4.4.4 ฮาร์ดดิสก์ (Hard Disk)<br />
4.4.5 แป้ นพิมพ์ (Keyboard)<br />
4.4.6 จอภาพ (Monitor)<br />
4.4.7 เครื่องอานซีดีรอม ่ (CD-Rom Drive)<br />
4.4.7.1 เครื่องอานแผนซีดี ่ ่ (CD-R Drive)<br />
4.4.7.2 เครื่องอานและเขียนแผนซีดี<br />
่ ่ (CD-RW Drive)
่<br />
่<br />
่<br />
่<br />
่<br />
่<br />
่<br />
่<br />
่<br />
่<br />
่<br />
้<br />
่<br />
่<br />
่<br />
5<br />
4.5 ระบบมีการทํางานในรูปแบบรับ-ให้บริการ (Client-Server) และพัฒนาเป็นลักษณะเว็บ<br />
แอปพลิเคชัน่ (Web Application) เพื่อชวยในการตอบคําถามเกยวกบ<br />
ี่ั ปัญหาของอุปกรณ์<br />
คอมพิวเตอร์ ซึ ่งประกอบด้วยสวนตางๆ ่ ่ ดังนี ้<br />
4.5.1 สวนของผู้ดูแลระบบ<br />
4.5.1.1 สวนเข้าถึงระบบตอบคําถามเกยวกบ<br />
ี่ั ปัญหาของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์<br />
4.5.1.2 สวนกาหนดสิทธิการใช้งานของผู้เชี่ยวชาญแตละคนในระบบ<br />
่ ํ ์ ่<br />
4.5.2 สวนของผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์<br />
4.5.2.1 สวนเพิมเติมและบันทึกข้อมูลอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ตางๆ<br />
4.5.2.2 สวนแกไขและบันทึกข้อมูลอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ตางๆ<br />
่ ้ ่<br />
4.5.2.3 สวนการเพิมเติมและบันทึกข้<br />
่ ่ อมูลเกยวกบการประมวลผล<br />
ี่ั ตรรกะ<br />
แบบฟัซซี<br />
4.5.2.4 สวนการแกไขและบันทึกข้อมูลเกยวกบการประมวลผล<br />
่ ้ ี่ ั ตรรกะแบบฟัซซี<br />
4.5.3 สวนของผู้ใช้งาน<br />
4.5.3.1 สวนสืบค้นหาปัญหา<br />
่ ที่ต้องการคําตอบที่เหมาะสม<br />
4.5.3.2 สวนการรายงานผลและการจัดพิมพ์ข้อมูลแนวทางการแก้ปัญหา<br />
4.6 ขอบเขตด้านฮาร์ดแวร์ ทังสวน ้ ่ รับ-ให้บริการ<br />
4.6.1 หนวยประมวลผลกลาง<br />
่ (CPU) แบบ Intel Pentium II หรือเทียบเทา่<br />
4.6.2 หนวยความจําหลัก ่ (RAM) มึความจุ 256 เมกกะไบต์เป็นอยางน้อย<br />
4.6.3 ฮาร์ดดิสก์มีความจุ 500 เมกกะไบต์เป็นอยางน้อย<br />
4.7 ขอบเขตด้านซอฟต์แวร์ ทังสวนรับ ้ ่ -ให้บริการ<br />
4.7.1 ระบบปฏิบัติการ คือ Windows XP Professional<br />
4.7.2 ระบบเว็บเซิร์ฟเวอร์ คือ Internet Information Services (IIS)<br />
4.7.3 เว็บบราวเซอร์ คือ Internet Explorer รุน ่ 5.5 ขึนไป<br />
4.7.4 ระบบจัดการฐานข้อมูล คือ Microsoft Access XP<br />
4.7.5 เครื่องสําหรับพัฒนาโปรแกรม คือ Macromedia Dreamweaver MX<br />
4.7.6 ภาษาคอมพิวเตอร์ที่ใช้พัฒนาโปรแกรม คือ ภาษา Active Server Page (ASP)<br />
5. คําจํากัดความในการวิจัย<br />
“ฟัซซี” เป็นคําวิเศษณ์ แปลวา ่ “คลุมเครือ” หรือ “ไมกระจาง ่ ” หมายความวา่ เซตที่มี<br />
สมาชิกที่มีคุณสมบัติไม่แนชัดสามารถรวมอยูในเซตนี<br />
้ได้ด้วยระดับความเป็นสมาชิกตางๆ ่ [12]
ุ<br />
้<br />
้<br />
้<br />
้<br />
6<br />
“ตรรกะแบบฟัซซี” หมายถึง วิชาตรรกวิทยา หรือตรรกศาสตร์แขนงหนึ ่งที่ยอมให้มีการนํา<br />
ความยืดหยุน่ ความไมแนนอนเข้ามาใช้ได้ในรูปแบบของตัวเลข<br />
่ ่ หรือการแสดงออกด้วยภาษาคําพูด<br />
[12]<br />
“ผู้เชี่ยวชาญ” หมายถึง ผู้มีความรู้เกยวกบระบบและการทํางาน<br />
ี่ั ของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์<br />
เป็นอยางดี ่ แต่รวมถึงตัวแปรของระบบหรือคาความสัมพันธ์โดยตรงของระบบ<br />
่ [2]<br />
“ระบบผู้เชี่ยวชาญ” หมายถึง โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มีความสามารถในการแกไขปัญหา<br />
โดยอาศัยความรู้ในสาขาใดสาขาหนึ ่ง ซึ ่งรวบรวมประสบการณ์ ความรู้ และความเชี่ยวชาญของ<br />
มนุษย์ในสาขานัน ้ และเกบไว้ในฐานความรู้ ็ และใช้กลไกการตีความในการแกปัญหาเพื่อให้ได้<br />
คําตอบที่ถูกต้อง [12]<br />
“ระบบผู้เชี่ยวชาญแบบฟัซซี” หมายความวา ่ โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่จําลองการแกไข<br />
ปัญหาของมนุษย์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญและตีความหาสาเหตุแบบฟัซซี [10]<br />
“ประสิทธิภาพ” หมายถึง 1) ความเร็วในการทํางานของโปรแกรมในภาพรวม รวมถึง<br />
ความเร็วในการประมวลผล การค้นหา การนําเสนอ การติดตอฐานข้อมูล ่ การบันทึก แก้ไข ลบ<br />
รายการข้อมูล 2)การทํางานของโปรแกรมมีความตอเนื่องสมบูรณ์ ่ และ 3) ความถูกต้องของข้อมูลที่<br />
นําเสนอ<br />
6. การเลือกกล่มตัวอย่าง<br />
กลุมตัวอยางในการทดสอบระบบแบงเป็น<br />
่ ่ ่ 3 กลุม ่ คือ ผู้ใช้งานทัวไปจํานวน ่ 5 คน<br />
ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ 5 คน และผู้ดูแลระบบจํานวน 5 คน<br />
7. สถิติที่ใช้ในการวิจัย<br />
ในขันตอนการประเมินผลระบบกระทําโดยใช้แบบสอบถามจากกลุมตัวอยาง ้ ่ ่ และ<br />
วิเคราะห์แบบสอบถามโดยใช้สถิติ คือ คาเฉลี่ย ่ (Mean) เพื่อใช้แปลความหมายของการทดสอบ<br />
และคาเบี่ยงเบนมาตรฐาน<br />
่ (Standard Deviation) เพื่อใช้แปลความหมายข้อมูล<br />
8. งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง<br />
กระบวนการตอบคําถามหรือการหาวิธีการแก้ไขปัญหาในปัจจุบันมีการศึกษาและพัฒนา<br />
โดยนักวิจัยหลายคนดังนี<br />
Mou et al. [8] ได้นําเสนอระบบผู้เชี่ยวชาญแบบฟัซซีที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาเกยวกบการ ี่ั<br />
ติดต่อสื่อสารของเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล โดยใช้การเลือกปัญหาจากจอภาพว่ามีอาการเสีย
ั<br />
ั<br />
้<br />
้<br />
่<br />
7<br />
อะไรบ้าง ซึ ่งสามารถวิเคราะห์และตอบปัญหาที่ต้องการถามกบระบบได้ ในระดับหนึ ่งโดยมีสวน<br />
ของการตัดสินใจที่ใช้ฟัซซีลอจิกในการเลือกตอบคําถาม<br />
Goel et al. [9] นําเสนอการพัฒนาเปลือกโครงสร้างการทํางานของระบบผู้เชี่ยวชาญแบบ<br />
ฟัซซี เพื่อนํามาใช้งานกบความรู้ทางวิศวกรรมด้านต่าง ๆ โดยนําข้อมูลความรู้ทางด้านวิศวกรรม<br />
ป้ อนเข้าสู ่ระบบ และระบบเลือกตัดสินใจในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่ต้องการ<br />
งานวิจัยของ จุฑามาศ [7] เป็นการพัฒนาระบบฐานข้อมูลองค์ความรู้เรื่องปัญหาการใช้งาน<br />
คอมพิวเตอร์ได้พัฒนาระบบฐานข้อมูลองค์ความรู้สําหรับการวิเคราะห์จุดเสียและซ่อมเครื่องรับ<br />
โทรทัศน์เพื่อใช้ในการค้นหาคําตอบและวิธีการแก้ไขปัญหา ซึ ่งเป็นเพียงระบบฐานข้อมูลที่ใช้ใน<br />
การค้นหาคําตอบและวิธีการแก้ไขเพียงอย่างเดียว ขาดส่วนของการตัดสินใจจากข้อมูลคําถามที่<br />
นําเข้ามาประมวลผล และการค้นหาคําตอบจะไม่สามารถป้ อนข้อมูลคําถามเพียงครังเดียว<br />
Ngai และ Wat [10 ] นําเสนอระบบผู้เชี่ยวชาญแบบฟัซซีมาใช้ในการค้นหาและเลือก<br />
โรงแรมที่พักของนักท่องเที่ยว ระบบจะเลือกตัดสินใจตามเงื่อนไขด้วยฟัซซีลอจิกซึ ่งจะตอบสนอง<br />
ความต้องการของนักท่องเที่ยว<br />
Zadeh [11 ] นําเสนอการพัฒนาฟัซซีลอจิกและการใช้งานบนอินเทอร์เน็ตโดยนําตรรกะ<br />
แบบฟัซซีมาใช้ในการสืบค้นคืนขอมูลให้มีความชาญฉลาดและตั ดสินใจเลือกข้อมูลให้ตรงกบั<br />
ความต้องการของผู้ใช้งานในงานวิจัยนีจะเป็ ้ นพัฒนาระบบผู้เชี่ยวชาญแบบฟัซซี ที่ได้นําทฤษฎี<br />
ฟัซซีเซตมาประมวลผลในลักษณะของการประมวลแบบฟัซซีลอจิกมาใช้เป็นเครื่องมือในการ<br />
ตัดสินใจ ในการรับคําถามจะรับข้อมูลที่เป็นภาษาธรรมชาติและหาคําศัพท์ที่บอกลักษณะข้อมูลเชิง<br />
ปริมาณจากคําถาม นํามาใชในการตัดสินใจจากการตี ความหาเหตุของระบบผู้เชี่ยวชาญแบบฟัซซี<br />
โดยนํากฎฟัซซีมาประมวลผลทางฟัซซีลอจิก แต่ถ้ากฎฟัซซีมีจํานวนมากเกน ิ ซึ ่งจะเป็นผลเสียทําให้<br />
ระบบประมวลผลข้อมูลได้ช้า ดังนันในการพัฒนาระบบผู้<br />
้ เชี่ยวชาญแบบฟัซซี ในงานวิจัยนีจึงได้ ใช้<br />
เทคนิคการจัดกลุ่มของข้อมูลหรือกฎที่ มีจํานวนมากให้แบ่งตามการจัดกลุ่มของข้อมูลหรือ<br />
จุดอ้างอิง นํามาสร้างเป็นกฎฟัซซีของกลุ่มข้อมูลแต่ละกลุ่ม และความแตกต่างของระบบผู้เชี่ยวชาญ<br />
แบบฟัซซีของงานวิจัยนีสามารถ ้ สร้างค่าความเป็นสมาชิก กฎฟัซซีในแต่ละกลุ่มข้อมูล จากข้อมูลที่<br />
นําเข้า และสามารถนําไปใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ<br />
9. วิธีการวิจัย<br />
9.1 ศึกษาและวิเคราะห์ปัญหาที่เกยวข้องกบงานวิจัย ี่ั<br />
9.1.1 การศึกษาปัญหาและวิเคราะห์ความต้องการของระบบ<br />
9.1.2 การศึกษาขันตอนการพัฒนาระบบ<br />
้
้<br />
่<br />
่<br />
้<br />
่<br />
้<br />
้<br />
่<br />
้<br />
้<br />
่<br />
่<br />
8<br />
9.1.3 การศึกษาเครื่องมือตางๆ ่ ที่ใช้ในการพัฒนาระบบ<br />
9.2 การออกแบบระบบและเครื่องมือทดสอบระบบ<br />
9.2.1 ออกแบบระบบในภาพรวม<br />
9.2.2 ออกแบบหน้าจอ<br />
9.2.3 ออกแบบสวนติดตอกบผู้ใช้<br />
่ ั<br />
9.2.4 ออกแบบเครื่องมือทดสอบระบบเพื่อค้นหาจุดบกพรองขันต้น<br />
้ โดยใช้วิธีแบบแบล็ก<br />
บอกซ์ (Blackbox Testing)<br />
9.2.5 สร้างแบบประเมินระบบเพื่อใช้ในขัน ้ แอลฟา (Alpha Stage) โดยให้ลักษณะคําถาม<br />
เป็นแบบมาตราสวนประมาณคา่ (Rating Scale) แบงเป็นระดับ ่ 5 ระดับ มีการให้คะแนนรวบรวม<br />
แบบอันตรภาคชัน ้ (Interval Scale) จากนัน ้ นําแบบประเมินที่ได้รับทังหมดมาตรวจสอบความ<br />
ถูกต้องสมบูรณ์<br />
9.3 การพัฒนาระบบแบงออกเป็น ่ 2 สวนคือ<br />
9.3.1 การพัฒนาระบบทางด้านรับบริการ (Client)<br />
9.3.2 การพัฒนาระบบทางด้านให้บริการ (Server)<br />
องค์ประกอบและขันตอนตางๆ ้ ่ ของระบบแสดงไว้ในแผนภาพที่ 1<br />
9.4 การทดสอบระบบ<br />
9.4.1 การทดลอบระบบในขันแอลฟา ้ (Alpha Stage) เพื่อทดสอบหาข้อบกพรองของระบบ<br />
โดยผู้จัดทําปัญหาพิเศษเอง หลังจากนันทําการแกไขปรับปรุงระบบให้ดีขึน<br />
9.4.2 การทดลอบระบบในขันเบต้า ้ (Beta Stage) เพื่อทดสอบคุณภาพของระบบ ผู้จัดทํา<br />
ปัญหาพิเศษจะติดตัง ้ ระบบลงในเครือขายคอมพิวเตอร์ ่ และให้กลุมตัวอยางทัง ่ ่ ้ 3 กลุมทดลองใช้<br />
ระบบ พร้อมทังตอบแบบประเมินคุณภาพของระบบ หลังจากนันทําการวิเคราะห์ข้ อมูลจากแบบ<br />
ประเมินที่ได้รับ<br />
9.4.3 การทดสอบระบบในขันเบต้าแบงออกเป็น<br />
้ ่ 5 ด้าน คือ Function Requirement Test,<br />
Functional Test, Usability Test, Performance Test และ Security Test<br />
9.5 สรุปผลและจัดทํารูปเลม ่ ปัญหาพิเศษ
่<br />
9<br />
- ผู้ดูแลระบบ<br />
- ผู้เชี่ยวชาญ<br />
- ผู้เขียนกฎฟัซซี<br />
- กฎของฟัซซี<br />
- ระดับการเป็นสมาชิก<br />
ฐานข้อมูลกฎฟัซซี<br />
ทําการฟัซซี<br />
ตีความหาเหตุผล<br />
สรุปเหตุผลฟัซซี<br />
- คําถาม<br />
วิเคราะห์คําถาม<br />
ฐานข้อมูลศัพท์<br />
ประโยค<br />
คําถาม-คําตอบ<br />
ระบบรายงานคําตอบ<br />
เป็นภาษาคําพูด<br />
- ประมวลผลภาษาธรรมชาติ<br />
- ผู้ดูแลระบบ<br />
คําตอบ<br />
- ผู้ใช้งาน<br />
- ผู้เชี่ยวชาญ<br />
ภาพที่ 1 แนวความคิดในการออกแบบระบบในภาพรวม<br />
10. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ<br />
10.1 ได้ระบบตอบคําถามเกยวกบ ี่ั ปัญหาของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์โดยใช้วิธีตรรกะแบบฟัซซี<br />
เพื่อไปใช้ในการวิเคราะห์ปัญหาตางๆ ่ ที่เกยวกบ ี่ั ฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์ ซึ ่งจะเป็นประโยชน์<br />
โดยตรงตอบุคคลในหลายๆ ระดับการศึกษา<br />
10.2 ลดคาใช้จายในการแกปัญหาคอมพิวเตอร์<br />
่ ่ ้ กรณีสอบถามจากผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์<br />
10.3 มีความสะดวกในการค้นหาคําตอบที่ต้องการเพื่อแกไข ้ ปัญหาด้วยตนเอง
่<br />
์<br />
่<br />
้<br />
้<br />
10<br />
เอกสารอ้างอิง<br />
1. อนิรุทธิ รัชตะวราห์, วศิน เพิมทรัพย์ ่ . ผ่าคอมพิวเตอร์ฉบับสมบูรณ์. กรุงเทพฯ : โปรวิชัน่ ,<br />
2545.<br />
2. วิลาศ วูวงศ์, บุญเจริญ ศิริเนาวกุล. ระบบผู ้เชี่ยวชาญ. กรุงเทพฯ : ศูนย์เทคโนโลยี<br />
อิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แหงชาติ ่ , 2535.<br />
3. สัญญา มิตรเอม. “หลักการเบืองต้นของระบบควบคุมแบบฟัซซี” วารสารสมาคมวิชาการ<br />
หุ ่นยนต์ไทย. 1 ฉบับที่ 1 (มีนาคม 2544) : 5-22.<br />
4. ยืน ภูวรวรรณ, ชัยยงค์ วงศ์ชัยสุวัฒน์. การประมวลผลภาษาธรรมชาติ. กรุงเทพฯ : ศูนย์<br />
เทคโนโลยีและอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แหงชาติ ่ , 2535.<br />
5. Poowarawan Y., “Dictionary-based Thai Syllable Separation”. In Proceeding of the 1986<br />
Electronic Engineering, 1986.<br />
6. Sornlert Larmvanich. Word Segmentation for Thai in Machine Translation System. Machine<br />
Translator, Nation Electronic and Computer Technology Center, Bangkok, 1993.<br />
7. จุฑามาศ กระจางศรี . ระบบฐานข้อมูลองค์ความรู ้เรื่องปัญหาการใช้งานคอมพิวเตอร์ . ปัญหา<br />
พิเศษปริญญา วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ คณะเทคโนโลยี<br />
สารสนเทศ บัณฑิตวิทยาลัย สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, 2545.<br />
8. Mou, H., Sanboonsong, S., et al. “Fuzzy Expert System for Personal Computer<br />
Communication”, IEEE Computer, 267-270, 1990.<br />
9. Goel, S. Modi, et al. “Design of Fuzzy Expert System development”, Conference on<br />
Engineering Management, 343-346, 1995.<br />
10. Ngai, E. W. and F.K.T. Wat, “Design and Development of Fuzzy Expert System for Hotel<br />
Selection”, The International Journal of Management Science, 275-283, 2003.<br />
11. Zadeh, L. “Web Intelligence World Knowledge and Fuzzy Logic: The Concept of Web IQ”,<br />
Available online at http://wi-consortium.org/pdf/zadeh-WIQ.pdf.<br />
12. สัญญา มิตรเอม. “หลักการเบืองต้นของระบบควบคุมแบบฟัซซี” วารสารสมาคมวิชาการ<br />
หุ ่นยนต์ไทย. 1 ฉบับที่ 1 (มีนาคม 2544) : 5-22.