สà¹à¸¥à¸à¹à¸à¸£à¸°à¸à¸à¸à¸à¸²à¸£à¸à¸£à¸£à¸¢à¸²à¸¢
สà¹à¸¥à¸à¹à¸à¸£à¸°à¸à¸à¸à¸à¸²à¸£à¸à¸£à¸£à¸¢à¸²à¸¢
สà¹à¸¥à¸à¹à¸à¸£à¸°à¸à¸à¸à¸à¸²à¸£à¸à¸£à¸£à¸¢à¸²à¸¢
- No tags were found...
Create successful ePaper yourself
Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.
บทที่ 4<br />
อาหารเลี้ยงเชื้อ และการก าจัดเชื้อ
อำหำรเลี ้ยงเชื ้อจุลินทรีย์ (medium)<br />
จ ำเป็ นต่อกำรเพำะเลี ้ยงจุลินทรีย์ในห้องปฏิบัติกำร<br />
ต้องใช้อำหำรเลี ้ยงเชื ้อที่เหมำะสมกับจุลินทรีย์<br />
จุลินทรีย์ที่ต่ำงชนิดกันก็ต้องกำรสำรอำหำรที่ต่ำงกัน<br />
ช่วยในกำรคัดแยก จ ำแนกจุลินทรีย์: คุณสมบัติเฉพำะของจุลินทรีย์
อำหำรเลี ้ยงเชื ้อที่ดี<br />
มีสำรอำหำรที่เหมำะสมกับจุลินทรีย์ที่ต้องกำร<br />
ชนิดและปริมำณ มีค่ำพีเอช ควำมชื ้น<br />
ปรำศจำกสำรพิษที่จะยังยั ้งกำรเจริญของจุลินทรีย์ที่ต้องกำร<br />
ปรำศจำกจุลินทรีย์อื่น
ความต้องการสารอาหารของจุลินทรีย์<br />
แหล่งไนโตรเจน<br />
แหล่งคาร์บอน<br />
เกลือแร่<br />
วิตามิน
แหล่งไนโตรเจน<br />
จุลินทรีย์แต่ละชนิดมีควำมต้องกำรไนโตรเจนแตกต่ำงกัน<br />
ใช้ไนโตรเจนในรูปที่แตกต่ำงกัน<br />
แก๊สไนโตรเจน<br />
สำรอินทรีย์ไนโตรเจน : โปรตีน กรดแอมิโน เพบไทด์<br />
สำรอนินทรีย์ไนโตรเจน : เกลือไนไตรต์ ไนเตรต แอมโมเนีย<br />
ทั่วไปมักใช้ peptone, tryptones and trypticases
แหล่งคาร์บอน<br />
จุลินทรีย์แต่ละชนิดมีควำมต้องกำรคำร์บอนแตกต่ำงกัน<br />
ใช้คำร์บอนในรูปที่แตกต่ำงกัน<br />
แก๊สคำร์บอนไดออกไซด์<br />
สำรอินทรีย์คำร์บอน : คำร์โบไฮเดรต โปรตีน ลิพิด<br />
สำรอนินทรีย์คำร์บอน : เกลือคำร์บอเนต<br />
ทั่วไปมักใช้น ้ำตำลและแป้ งเป็ นแหล่งคำร์บอน
เกลือแร่<br />
จุลินทรีย์ต้องกำรน้อยมำกเมื่อเทียบกับไนโตรเจน และคำร์บอน<br />
มีบทบำทส ำคัญในกำรควบคุมกระบวนกำร electrolyte ของเซลล์<br />
จุลินทรีย์แต่ละชนิดก็จะต้องกำรเกลือแร่ที่แตกต่ำงกันออกไป<br />
แบคทีเรียที่เจริญในทะเล<br />
archaeobacteria<br />
ชอบควำมเค็มจัด<br />
ไม่เจริญในอำหำรที่มีเกลือต ่ำกว่ำ 12-15%
วิตำมิน<br />
เป็ นสำรประกอบที่จุลินทรีย์ต้องกำรในปริมำณที่น้อย<br />
แต่ส ำคัญต่อกำรด ำรงชีวิตและกำรเจริญเติบโตของจุลินทรีย์<br />
ท ำหน้ำที่เป็ นโคเอนไซม์ในปฏิกิริยำต่ำง ๆ<br />
บำงชนิดต้องกำรวิตำมินส ำหรับกำรเจริญเติบโต
ควำมต้องกำรวิตำมินของแบคทีเรียบำงชนิด<br />
ไทอำมิน (B 1<br />
)<br />
ไรโบเฟลวิน (B 2<br />
)<br />
ไนอำซิน<br />
ไพริดอกซิน (B 6<br />
)<br />
ไบโอทิน<br />
กรดแพนโทเทนิก<br />
กรดโฟลิก<br />
โคบำลำมิน(B 12<br />
)<br />
วิตำมินเค<br />
Bacillus anthracis<br />
Clostridium tetani<br />
Brucella abortus<br />
Lactobacillus spp.<br />
Leuconostoc mesenteroides<br />
Proteus morganii<br />
Leuconostoc dextranicum<br />
Lactobacillus spp.<br />
Bacteriides melaninogenicus<br />
ที่มำ (นงลักษณ์และปรีชำ, 2544, หน้ำ 77)
ชนิดของอาหารเลี้ยงเชื้อ<br />
แบ่งออกเป็ น 2 ชนิดใหญ่ ๆ คือ<br />
อาหารเลี้ยงเชื้อที่จ าแนกตามส่วนประกอบของอาหาร<br />
chemically define media หรือ synthetic media<br />
artificial media หรือ non-synthetic media<br />
อาหารเลี้ยงเชื้อแบ่งตามการใช้ประโยชน์<br />
enriched media selective media<br />
differential media assay media<br />
media for enumeration of microorganism<br />
media for characterization of microorganism<br />
maintenance media
อาหารเลี้ยงเชื้อที่จ าแนกตามส่วนประกอบของอาหาร<br />
chemically define media หรือ synthetic media<br />
อำหำรเลี ้ยงเชื ้อที่ทรำบส่วนประกอบ<br />
ทำงเคมีที่แน่นอนหรืออำหำรสังเครำะห์<br />
นิยมใช้ในห้องปฏิบัติกำร<br />
เปรียบเทียบกำรเจริญต่อกำรใช้<br />
สำรเคมีต่ำง ๆ ที่ทรำบปริมำณ
ไนเตรทบรอท (nitrate broth)<br />
KNO 3 5 กรัม<br />
กลูโคส 5 กรัม<br />
K2HPO 4 0.5 กรัม<br />
CaC l2 .2H 2 O 0.2 กรัม<br />
MgCO 3 0.2 กรัม<br />
น ้ำกลั่น 1 ลิตร
artificial media หรือ non-synthetic media<br />
ไม่ทรำบส่วนประกอบทำงเคมีที่แน่นอนว่ำประกอบด้วยสำรใด ปริมำณเท่ำไร<br />
ส่วนประกอบเป็ นเนื ้อเยื่อพืช เนื ้อเยื่อสัตว์ : สำรอินทรีย์หลำยชนิด<br />
นิยมใช้เพื่อเลี ้ยงจุลินทรีย์ให้เจริญเติบโต
อีโอซินเมทธีลีนบลูอะกำร์<br />
(Eosin methylene blue agar; EMB agar)<br />
Peptone 10 กรัม<br />
K 2 HPO 4 2 กรัม<br />
อีโอซิน 0.4 กรัม<br />
เมทธีลีนบลู 0.065 กรัม<br />
อะกำร์ 15 กรัม<br />
น ้ำกลั่น 1 ลิตร
enriched media<br />
อาหารเลี้ยงเชื้อแบ่งตามการใช้ประโยชน์<br />
ใช้แยกจุลินทรีย์ที่ต้องกำรออกจำกจุลินทรีย์อื่น<br />
เติมสำรที่ส่งเสริมกำรเจริญของจุลินทรีย์ที่ต้องกำร<br />
และยับยั ้งกำรเจริญของจุลินทรีย์อื่น<br />
selenite broth เป็ นอำหำรที่ส่งเสริมกำรเจริญของ Salmonella<br />
มีซิลีไนท์ที่ยับยั ้งกำรเจริญของแบคทีเรียในล ำไส้อื่น ๆ<br />
แต่ส่งเสริมกำรเจริญของซำโมเนลลำ
selective media<br />
ใช้แยกจุลินทรีย์ที่ต้องกำรออกจำกจุลินทรีย์อื่นเช่นเดียวกัน<br />
เติมสำรเคมีบำงอย่ำงเพื่อยับยั ้งกำรเจริญของจุลินทรีย์ที่ไม่ต้องกำร<br />
แต่ไม่มีผลต่อจุลินทรีย์ที่ต้องกำรศึกษำ<br />
(Eosin methylene blue agar; EMB agar)<br />
Peptone 10 กรัม<br />
K 2 HPO 4 2 กรัม<br />
อีโอซิน 0.4 กรัม<br />
เมทธีลีนบลู 0.065 กรัม<br />
อะกำร์ ยับยั ้งกำรเจริญของแบคทีเรียแกรมบวก 15 กรัม<br />
น ้ำกลั่น แต่แบคทีเรียแกรมลบเจริญได้ 1 ลิตร
E. coli<br />
Enterobacter<br />
ที่มำ (http:// www.microbelibrary.org/microbelibrary/files/ccImages/ Articleimages/Atlas_ EMB/E.coli_EMB_fig1.jpg, 2007)
differential media<br />
ใช้แยกชนิดของจุลินทรีย์ที่เจริญปะปนกันอยู ่หลำยชนิด<br />
อำศัยควำมแตกต่ำงของโคโลนีขณะเจริญในอำหำรเลี ้ยงเชื ้อ<br />
จะเติมสำรเคมีบำงชนิดเพื่อใช้เป็ นอินดิเคเตอร์
lood agar<br />
เป็ นอำหำรแข็งที่เติมเลือด<br />
เชื ้อย่อยสลำยเม็ดเลือดแดงได้สมบูรณ์ : เกิด clear zone รอบโคโลนี<br />
เชื ้อย่อยสลำยเม็ดเลือดแดงได้บำงส่วน : เกิดสีเขียวจำง ๆ รอบโคโลนี<br />
เชื ้อย่อยสลำยเม็ดเลือดแดงไม่ได้ : ไม่เกิดบริเวณใสรอบโคโลนี<br />
โคโลนี บริเวณใส<br />
ที่มำ (Nester, Anderson, Roberts and Nester, 2007, p.100)
media for enumeration of microorganism<br />
ใช้ในกำรตรวจนับจุลินทรีย์จำกแหล่งต่ำง ๆ<br />
: จุลินทรีย์ในน ้ำ นม อำหำร ดิน อำกำศ<br />
องค์ประกอบต้องเหมำะกับกำรเจริญของจุลินทรีย์ในตัวอย่ำง<br />
media for characterization of microorganism<br />
ใช้ตรวจสอบสมบัติในกำรเจริญ<br />
สมบัติที่ท ำให้เกิดกำรเปลี่ยนแปลงทำงสรีรวิทยำและชีวเคมีของจุลินทรีย์
maintenance media<br />
ใช้เก็บรักษำจุลินทรีย์ชั่วครำวก่อนที่จะน ำไปวิเครำะห์ในห้องปฏิบัติกำร<br />
เพื่อให้มีชีวิตอยู ่ได้นำนที่สุด โดยที่สมบัติยังคงเดิม<br />
มีกำรลดองค์ประกอบบำงอย่ำงในอำหำรลง : จุลินทรีย์เจริญ<br />
ปลดปล่อยของเสียน้อยลง<br />
โดยทั่วไปจะประกอบด้วย buffer และเกลือแร่เท่ำนั ้น
อำหำรเลี ้ยงเชื ้อบำงชนิดอำจมีคุณสมบัติได้มำกกว่ำหนึ ่งแบบ<br />
Mac Conkey agar : ใช้ส ำหรับแยกแบคทีเรียแกรมลบที่อยู ่ในล ำไส้<br />
สีคริสตัสไวโอเลต และ bile salt<br />
ยับยั ้งกำรเจริญของ G+<br />
G- สำมำรถเจริญได้<br />
selective media
G- ที่เจริญ<br />
ย่อยน ้ำตำลแลกโทสได้<br />
กรด<br />
โคโลนีจะมีสีแดง<br />
ไม่ก่อโรค<br />
ย่อยน ้ำตำลแลกโทสไม่ได้<br />
โคโลนีจะไม่มีสี<br />
สีของ neutral red (indicator) เปลี่ยนแปลง<br />
differential media
Mac Conkey agar<br />
ที่มำ (Nester, Anderson, Roberts and Nester, 2007, p.100)
การท าให้ปราศจากเชื้อ<br />
กำรศึกษำจุลินทรีย์ในห้องปฏิบัติกำร : เพำะเลี ้ยงเป็ นเชื ้อบริสุทธิ ์ ไม่มีสิ่งมีชีวิตอื่น<br />
ต้องก ำจัดจุลินทรีย์<br />
ในพื ้นที่ปฏิบัติกำร<br />
อำหำรเลี ้ยงเชื ้อ<br />
ภำชนะที่ใช้ในกำรเพำะเลี ้ยงจุลินทรีย์
กำรท ำให้ปรำศจำกสิ่งมีชีวิตในอำหำรเลี ้ยงเชื ้อ วัสดุ และอุปกรณ์ต่ำง ๆ<br />
ที่ใช้ในห้องปฏิบัติกำรที่ใช้กันเป็ นประจ ำมีทั ้งสิ้น 3 วิธี<br />
กำรใช้ควำมร้อนชื ้น<br />
กำรใช้ควำมร้อนแห้ง<br />
กำรกรอง<br />
กำรใช้ควำมร้อนชื ้น<br />
autoclave<br />
ที่มำ (http://www.moe.gov.sg/edumall/tl/digital_resources/biology34.html, 2007)
การท าให้ปราศจากเชื้อด้วยความร้อนชื้น<br />
autoclave เป็ นอุปกรณ์ที่ใช้ในกำรท ำให้ปรำศจำกเชื ้อด้วยควำมร้อนชื ้น<br />
ปรับควำมดันของไอน ้ำให้มีค่ำ 15 ปอนด์ต่อตำรำงนิ้ว<br />
จุดเดือดของน ้ำอยู ่ที่ 121 ° C<br />
สูงพอที่จะท ำลำยเอนโดสปอร์ของจุลินทรีย์
autoclave<br />
ต้องสำมำรถทนต่ออุณหภูมิสูงได้<br />
ไม่เกิดกำรเปลี่ยนลักษณะภำยนอกหรือคุณสมบัติของสำร<br />
ใช้ในกำรท ำให้อำหำรเลี ้ยงเชื ้อ ส ำลีพันปลำยไม้ ให้ปรำศจำกเชื ้อจุลินทรีย์<br />
ใช้ในกำรท ำให้เครื่องแก้ว ปรำศจำกเชื ้อได้โดยใส่สิ่งเหล่ำนี ้ในถุงพลำสติก<br />
ส่วนเวลำที่ใช้ในกำรท ำลำยจุลินทรีย์จะแตกต่ำงกันไป ปกติใช้เวลำ 15-20 นำที<br />
ของเสียหรือวัตถุอันตรำยทำงชีววิทยำ (biohazard) ต้องใช้เวลำอย่ำงน้อย 45 นำที
การท าให้ปราศจากเชื้อด้วยความร้อนแห้ง<br />
ใช้ส ำหรับกำรท ำให้ เครื่องแก้ว<br />
อุปกรณ์โลหะ<br />
สำรบำงชนิด<br />
: ปิ โตรเลียมเจล น ้ำมันแร่ และฟำรำฟิ น<br />
ปรำศจำกเชื ้อจุลินทรีย์<br />
Hot air oven<br />
ใช้อุณหภูมิ 160-180 ° C (320-356 ° F) นำน 2-3 ชั่วโมง<br />
ท ำให้เกิด oxidative destruction ต่อโพรโทพลำซึมของจุลินทรย์<br />
สำมำรถท ำลำยจุลินทรีย์ทุกชนิด รวมทั ้งสปอร์ของแบคทีเรีย<br />
ที่มำ (http://www.labdepotinc.com/Category_Details~id~99.aspx, 2007)
ควำมร้อนแห้งไม่สำมำรถแทรกซึมผ่ำนสิ่งต่ำง ๆ ได้ดีเท่ำกับควำมร้อนชื ้น<br />
ใช้ควำมร้อนสูงกว่ำและเวลำนำนกว่ำ
การท าให้ปราศจากเชื้อด้วยการกรอง<br />
ใช้หลักกำรทำงกำยภำพในกำรก ำจัดจุลินทรีย์จำกสำรละลำยและตัวท ำละลำย<br />
นิยมใช้กับสำรละลำยที่ไม่ทนต่ออุณหภูมิสูง สำรที่ไวต่อควำมร้อน<br />
รวมถึงสำรปฏิชีวนะ น ้ำตำล เอนไซม์<br />
และสำรที่ส่งเสริมกำรเจริญ เช่น วิตำมิน ปรำศจำกจุลินทรีย์<br />
วัสดุกรองท ำจำก polymer สังเครำะห์ หรือ cellulose ester ที่มีรู 0.025-8
มีเฉพำะสำรละลำยเท่ำนั ้นที่ผ่ำนรูพรุนไปได้<br />
ขณะที่แบคทีเรีย ฟังไจ ไวรัสผ่ำนไม่ไปได้<br />
ถูกกรองไว้<br />
ก่อนท ำกำรกรองเครื่องกรองและวัสดุกรองจะต้องท ำให้ปรำศจำกเชื ้อ<br />
ด้วยกำรนึ ่งฆ่ำเชื ้อ ที่อุณหภูมิ 121 ° C นำน 15 นำที<br />
กำรกรองสำรปริมำตร 1-20 มิลลิลิตร<br />
กระบอกฉีดยำดูดของเหลว<br />
แรงดันก้ำนกระบอก<br />
สำรผ่ำนให้ไหลผ่ำนวัสดุกรองลงสู ่ภำชนะปลอดเชื ้อ
ของเหลว<br />
รู<br />
วัสดุกรอง<br />
ของเหลวปลอดเชื ้อ<br />
สุญญำกำศ<br />
ที่มำ (Cowan and Talaro, 2002, p.330)
ค าถามท้ายบท<br />
้<br />
1. อำหำรเลี ้ยงเชื ้อที่ดีควรมีคุณสมบัติอย่ำงไร อธิบำย<br />
2. สำรอำหำรที่จุลินทรีย์ต้องกำรมีกี่ประเภท อธิบำย<br />
3. จงยกตัวอย่ำงอำหำรเลี ้ยงเชื ้อที่ทรำบส่วนประกอบทำงเคมีที่แน่นอน มำ 3 ชนิด<br />
พร้อมแสดงสูตรอำหำรเลี ้ยงเชื ้อ<br />
4. จงยกตัวอย่ำงอำหำรเลี ้ยงเชื ้อที่ไม่ทรำบส่วนประกอบทำงเคมีที่แน่นอน มำ 3<br />
ชนิด พร้อมแสดงสูตรอำหำรเลี ้ยงเชื ้อ<br />
5. จงอธิบำยควำมหมำยของอำหำรเลี ้ยงเชื ้อประเภทต่ำง ๆ ดังนี เอ็นริชมีเดีย อำหำร<br />
คัดเลือก อำหำรเลี ้ยงเชื ้อที่บอกควำมแตกต่ำง อำหำรที่ใช้วิเครำะห์ อำหำรที่ใช้<br />
ตรวจนับจ ำนวนจุลินทรีย์ อำหำรที่ใช้ศึกษำสมบัติของจุลินทรีย์ และอำหำรที่ใช้<br />
เก็บรักษำจุลินทรีย์<br />
6. กำรก ำจัดสิ่งมีชีวิตที่นิยมใช้ห้องปฏิบัติกำรทำงจุลชีววิทยำ มีกี่วิธี อธิบำย