WOW 2022 : Wonder of Well-Being City

Photo Courtesy of The Association of Siamese Architects under Royal Patrouge

ASA JOURNAL 

COMMITTEE 

2020-2022 

Advisor 

Chana Sumpalung 

Chairperson of Committee 

Assoc.Prof. M.L. Piyalada 

Thaveeprungsriporn, Ph.D. 

Committee 

Asst. Prof. Saithiwa 

Ramasoot, Ph.D. 

Vorapoj Tachaumnueysuk 

Padirmkiat Sukkan 

Prachya Sukkaew 

Namtip Yamali, Ph.D. 

Kulthida Songkittipakdee 

Jenchieh Hung 

Secretary 

Theerarat Kaeojaikla 

Editor-in-Chief 

Mongkon Ponganutree 

Editor 

Supreeya Wungpatcharapon 

Managing Editor 

Kamolthip Kimaree 

Assistant Editor 

Pichapohn Singnimittrakul 

English Translators 

Tanakanya Changchaitum 

Pawit Wongnimmarn 

English Editors 

Daniel Cunningham 

Sheena Sophasawatsakul 

Graphic Design 

art4d WORKS 

Wasawat Dechapirom 

Jitsomanus Kongsang 

Special Thanks 

ASA WOW 

Asae Sukhyanga 

Baramizi Lab 

Chalermpon Sombutyanuchit 

Cloud-Floor 

Has design and research 

Kullaphut Senevong Na Ayudhaya 

Asst. Prof. Pechladda 

Pechpakdee, Ph.D. 

Phaithaya Banchakitikun 

Publisher 

The Association of 

Siamese Architects 

under Royal Patronage 

Copyright 2023 

No responsibility can be 

accepted for unsolicited 

manuscripts or photographs. 

ISSN 0857-3050 

Contact 

asajournal@asa.or.th 

The Association 

of Siamese Architects 


248/1 Soi Soonvijai 4 (Soi 17) 

Rama IX Rd., Bangkapi, 

Huaykwang, Bangkok 10310 

T : +66 2319 6555 

F : +66 2319 6419 

W : asa.or.th 

E : asaisaoffice@gmail.com 

Subscribe to ASA Journal 

T : +662 319 6555 

บทความหรือภาพที่ลงในวารสาร 

อาษาหรือสื่ อออนไลน์ สมาคมฯ 

ขอสงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย 

การนำาบทความหรือภาพจาก 

วารสารอาษาไปตีพิมพ์ อ้างอิง 

หรือประโยชน์ ใดในสิ่งพิมพ์หรือ 

สื่ อออนไลน์อื่น ต้องได้รับอนุญาต 

จากสมาคมฯ ผู้เป็ นเจ้าของ 

ลิขสิทธิ์ตามกฎหมายเท่านั้น

Photo Credit: Seksan Saowarot

04 

MESSAGE 

FROM THE PRESIDENT 

คณะกรรมการจัดงาน WOW 2022 

ไพทยา บััญชากิิติิคุุณ 

ผศ.ดร.นิิรมล เสรีสกุุล 

ชญาน์์นััทช์ พงศ์นิิธิิพาณิช 

ผศ.ดร.คััทลียา จิิรประเสริฐกุุล 

เอกิฉัันท ์ เอียมอนัันิติ์วััฒนิะ 

ปุยฝ้้ าย คุุณาวััฒน์์ 

กิชกิร วัรอาคุม 

สัจิจิพงศ์ เล็กอ ุทัย 

เมธิิกิา แติงแก้้วัฟ้้ า 

พิชยา รัตินิ์ปิ ยะสุนิทร 

อัจิฉัวัรรณ วช ิรธินิุศร 

จัักิรดาวั นิาวัาเจร ิญ 

ภััทร ภััทรธิราดล 

นิพพล พิสุทธิอานินิท์ 

ธินิพงศ์ วิิชคำำาหาญ 

ชุติิมา ขจิรณรงค์์วณ ิช 

วศ ินิ ชุลีวััฒนิะพงศ์ 

วิินิ จิิระกิรานินิท์ 

อรสิริ แติงทอง 

สารจากนายกสมาคม 

ที่ผ่านมา ทางสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์มีการจัดงานเสวนา ASA 

Real Estate ขึ ้นทุกปี อยู่แล้วเพื่อพู ดคุยกับกลุ่มนักพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ 

แต่เราคิดว่าน่าจะขยายเนื้อหาให้กว้างขึ ้นเพื่อพู ดคุยกับกลุ่มคนอื่นๆ นอกเหนือจาก 

นักออกแบบเพียงอย่างเดียว ประกอบกับทางกรุงเทพมหานคร ได้หารือกับสมาคม 

สถาปนิกสยามฯ เพื่อหาวิธีการที่จะได้มาซึ ่งผังเมืองที่ดีสำาหรับกรุงเทพฯ ซึ ่งกระบวน- 

การเหล่านี้ยากเกินกว่าที่อาสาสมัครเพียงฝ่ ายเดียวจะทำ าได้ จำาเป็ นต้องพึ ่งพามืออาชีพ 

ที่มีประสบการณ์ตรง รวมถึงองค์ความรู้ที่หลากหลายมาร่วมออกแบบเมืองด้วยกัน 

เนื่องด้วยประเด็นเกี่ยวกับเมืองเป็ นเรื่องใหญ่ และเป็ นเรื่องที่ทางสมาคมสถาปนิกสยามฯ 

ทำาโดยลำาพังไม่ได้ นี่คือจุดเริ ่มต้นของการจัดงานเทศกาล WOW Wonder of Wellbeing 

ขึ ้นมาครั้งแรกในปี พ.ศ. 2565 โดยเกิดจากความร่วมมือขององค์กรมากมายมา 

ร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการพัฒนาเมือง ไม่ว่าจะนักออกแบบ นักพัฒนา 

โครงการ กลุ่มผู้สร้างสรรค์นวัตกรรม หน่วยงานของกรุงเทพมหานคร องค์กรอิสระ 

อื่นๆ และประชาชนทั่วไป ให้กลายเป็ นเทศกาลที่เล่าเรื่องเกี่ยวกับเมืองในหลายๆ มิติ 

งาน WOW Wonder of Well-being ยังเป็ นการเปิ ดโอกาสสำาหรับสมาชิกของสมาคมฯ 

ในการอัปเดตแนวทางการออกแบบและพัฒนาโครงการในอนาคต ผ่านนิทรรศการ 

ต่างๆ ที่ได้ชวนคิดและจินตนาการร่วมกันว่าเมืองที่น่าอยู่จะเป็ นอย่างไร รวมทั้งภายใน 

งานยังมีการนำาเสนอตัวอย่างโครงการพัฒนาเมือง งานวิจัยต่างๆ และการมอบรางวัล 

WOW Awards ซึ ่งเมื่อรัฐบาล เทศบาลเมือง หรือประชาชนทั่วไปได้เห็น ก็อาจจะรับรู้ 

ได้ว่าโครงการเหล่านี้ ไม่ได้แค่สวย แต่ยังผ่านกระบวนการคิดและความตั้งใจที่จะนำ าพา 

เมืองไปสู่การพัฒนาในอีกระดับหนึ ่ง 

สำาหรับวารสารอาษาฉบับพิเศษ WOW Wonder of Well-being ฉบับนี้ จึงรวบรวม 

ทั้งข้อมูลงานวิจัย เนื้อหาจากงานเสวนา และนิทรรศการต่างๆ ตลอดจนการบันทึก 

บรรยากาศของงานเทศกาลและความร่วมมือที่เกิดขึ ้น ที่อาจนับได้ว่าผลจากการจัดงาน 

ครั้งนี้เราประสบความสำาเร็จขั้นหนึ ่งแล้วในการเชิญหลากหลายองค์กรมาพูดคุยกัน 

อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ ้นมาก่อน และเป้ าหมายที่สำาคัญที่สุดคือ ทางสมาคมสถาปนิกสยามฯ 

อยากผลักดันให้เกิดงานวิจัยและออกแบบเมืองในทุกมิติ รวมถึงการนำ าเอานวัตกรรม 

จากหลายๆ แหล่งมาร่วมมือกันในการแก้ ไขปั ญหาเมือง แลกเปลี่ยนวิสัยทัศน์ และเห็น 

เป้ าหมายที่ตรงกัน ซึ ่งถ้าเป็ นไปได้ก็หวังจะให้เกิดการจัดงานเทศกาล WOW นี้ขึ ้นอีกทุกปี 

เพื่อที่เราจะได้มีโอกาสมาพูดคุยกันอีกซ้ำ าๆ จนสิ่งนี้กลายเป็ นเรื่องของทุกคนในเมืองกับ 

การมีส่วนร่วมกันสร้างเมืองที่น่าอยู่ และเป็ นความภาคภูมิใจของคนที่อยู่ในเมืองต่างๆ 

ของประเทศ 

คณะกรรมการ Wonder of Well Being 

Photo Contest 2022 

นิิธิิ สถาปิ ติานินิท์ 

ชนิะ สังพลัง 

วิิวััฒน์์ กุุลจัันิทร์ 

ผศ.ดร.ชวัาล คููร์พิพัฒน์์ 

สุวิิชา เปรมใจิช่นิ 

คณะทำำางาน WOW RUN 

เฉล ิมพล สมบััติิยานุุชิติ 

ธิงชาติิ ชินส ีห์ 

อเส สุขยางค์์ 

ทรงพจินิ์ สายสืืบ 

คณะกรรมการ WOW Architour 

สุเมธิ ฐิติาริยกุุล 

เฉล ิมพล สมบััติิยานุุชิติ 

สาโรช พระวังศ์ 

ณัฐภููมิ รับัคุำอ ินิทร์ 

ณัฏฐพงศ์ จัันิทร์วััฒนิะ 

ปุณณรัตินิ์ จร ุงคุนิธิ์ 

รุจิ รัตินิพาหุ 

กิิจิจิา ล่ามกิิจิจิา 

พิมพ์ชนิกิ อิศรภัักด ี 

นิภััสกิร ศิลวิิรัตินิ์ 

คณะกรรมการ WOW Awards 

รศ.ดร.ไขศรี ภัักิดิสุขเจร ิญ 

ชนิะ สัมพลัง 

ผศ.ดร.ปริญญ์ เจีียรมณี โชติิชัย 

ชาคร ิติ จัันิทร์รุ่งสกุุล 

รศ.ดร.พนิิติ พู่จิินิดา 

นำำช ัย แสนส ุภัา 

คุุณดนุุชา พิชยนัันท ์ 

ทำ่ปรึกษาโครงการ 

ศุภล ักิษ์์ สุวััตถ ิ 

ปวัันร ัศมิ คุ้้มมณี 

คณะทำำางาน 

Construction Management 

บร ิษััท ดี ซิิกิซิ์ติี ทรี จำำากิัด 

Designer 

บร ิษััท คุลาวด ์ฟ้ลอร์ จำำากิัด 

Designer 

บร ิษััท เอ็กิซิ์ดีไซินิ์ 49 จำำากิัด 

Designer 

บร ิษััท อัญแปลนิ จำำากิัด 

Graphic Designer 

บร ิษััท จีีเอ 49 จำำากิัด 

Reseach 

บร ิษััท บัารามีซิี จํํากััด 

Co-Host ในการจัดงาน 

บร ิษััท อมรินิทร์พรินติ้้งแอนด ์พับล ิชชิง 

จำำากิัด มหาชนิ

05 

Photo Credit: Songphol Thesakit

06 

MESSAGE 

FROM THE PRESIDENT 

While the Siamese Architect Association under Royal Patronage has 

hosted ASA Real Estate on an annual basis as a platform for discussion 

with real-estate developers, we have wished to broaden the topics 

and contents of conversations and share ideas with other groups of 

professionals and relevant parties besides designers and architects. 

The Bangkok Metropolitan Office has consulted with the ASA to find 

the best possible solutions for Bangkok’s city plan. These processes 

are far too challenging to accomplish solely by volunteers. Designing 

and developing a city requires collaborations between experts with 

direct and diverse experiences and know-how. The issues concerning 

Bangkok’s urban development are significant and complicated and can 

only be handled partially by the ASA. This realization resulted in the 

birth of WOW Wonder of Well-Being in 2022, the festival that initiates 

collaborations between a large number of organizations, including 

designers and architects, real-estate project developers, innovators, 

Bangkok Metropolitan’s agencies, other independent organizations, 

and the public sector, all of which come together to share and exchange 

thoughts on how Bangkok could be developed. This festival tells stories 

of cities in many different and possible dimensions. 

WOW Wonder of Well-Being also grants an opportunity for the 

members of the Architect Association to be informed about the latest 

updates regarding possible future approaches in design and project 

developments through various exhibitions that call for everyone to 

contemplate and imagine a livable city together. The festival will also 

feature exciting projects and research on urban developments and the 

WOW Awards. By shining a light on these works, the governmental 

sector and local authorities such as city municipalities, as well as the 

general public, will be able to see and understand that these projects 

are far more than just nice-looking appearances but the products of 

carefully thought-out processes and an intention to take the city to the 

next level of development. 

This special issue of the ASA Journal, ‘WOW Wonder of Well-Being,’ 

puts together the presented research data and contents, as well as the 

activities and collaborations that took place at the festivals. WOW 

Wonder of Well-Being is a successful attempt at bringing together 

organizations on this unprecedented scale. Our most important goal 

is to push for more research and developments in every dimension of 

urban planning, including incorporating innovations from different 

fields of knowledge and expertise to help realize and reconcile cityrelated 

issues. We hope to see more visions exchanged and goals 

shared in the future and to see WOW Festival held annually. WOW 

will become a platform to discuss these issues more thoroughly and 

comprehensively, to the point where all parties and sectors realize the 

importance of their contribution and participation in creating better 

and more livable cities in which everyone can take pride. 

WOW Comittee 2022 


Niramon Serisakul 

Chayanat Pongnitipanitch 

Cuttaleeya Jiraprasertkun 

Ekkachan Eiamananwattana 

puiphai khunawat 

kotchakorn voraakhom 

Sajjapong Lekuthai 

maythika tangkaewfa 

Pitchaya Ratpiyasoontorn 

ACHAWAN WACHIRATANUSORN 

Chakdao Navacharown 

Patt Pattaratharadol 

noppon pisutha arnond 

Tanapong witkhamhan 

Chutima Kachonnarongvanish 

Vasin Chuleewattanapong 

Win Jiragranon 

Onsiri Tangthong 

Wonder of Well-Being Photo Contest 

Committee 2022 

Nithi sthapitanonda 

Chana sumbing 

Wiwat Kulchan 

Asst. Prof. Chawan Koopipat (Ph.D.) 

Suvicha Premjaicheun 

WOW RUN Committee 


Thongchad Chinasi 

Asae Sukhyanga 

Songpot Saisueb 

WOW Architour Committee 

Sumet Titareyakul 


Xaroj Pharwong 

Nattapoom Rubkhamin 

Nattapong Janwattana 

Punnarat Jarungkon 

Ruj Rattanapahu 

Kitcha Larmkitcha 

Pimchanok Issarapakdee 

Napatsakorn Silwirat 

WOW Awards Committee 

Assoc. Prof. Khaisri Paksukcharern (Ph.D.) 

Chana sumbing 

Asst.Prof. Prin Jhearmaneechotechai (Ph.D) 

Shakrit Chanrungsakul 

Assoc. Prof. Panit Pujinda (Ph.D.) 

Namchai Saensupha 

Danucha Pichayanan 

Advisory Committee 

Supalux Suvathi 

Pawanrat Kummanee 

Working Committee 

Construction Management 

D-63 Co., Ltd 

Designer 

CLOUDFLOOR Co., Ltd 

Designer 

X DESIGN49 Co., Ltd 

Designer 

UNPLAN Co., Ltd 

Graphic Designer 

GA 49 Co., Ltd 

Reseach 

BARAMIZI Co., Ltd 

Organizing Partner 

Amarin Printing and Publishing 

Public Company Limited

07 

Photo Credit: Songphol Thesakit

08 

FOREWORD 

Photo Courtesy of The Association of Siamese Architects Under Royal Patronage 

WOW- Wonder of Well-Being City 2022 เทศกาล ‘อัศจรรย์เมือง 

น่าอยู่’ นับเป็นอีกย่างก้าวหนึ่งที่สำ าคัญ ที่เราได้เห็นสมาคมสถาปนิกสยาม 

ในพระบรมราชูปถัมภ์ แวดวงสถาปนิก นักออกแบบมีส่วนริเริ่มร่วมกับ 

ภาคีเครือข่ายในการร่วมกันคิด ร่วมกันสร้างสรรค์ และตั้งคำาถาม หา 

แนวทางให้กับงานพัฒนาในระดับเมือง ในขอบเขตที่นอกเหนือจากงาน 

สถาปัตยกรรม และนวัตกรรมการก่อสร้างที่คุ้นเคยดังเช่นในงานสถาปนิก 

ที่จัดขึ้นเป็นประจำาในทุกๆ ปี 

เมื่อเรื่องของการพัฒนาเมืองเป็นเรื่องของคนทุกคนที่อาศัยอยู่ในเมือง 

และมีความซับซ้อนด้วยประเด็นที่หลากหลาย ในช่วงระยะเวลากว่า 

5 วัน ตั้งแต่วันที่ 23-27 พฤศจิกายน 2565 ของ เทศกาล ‘WOW 

อัศจรรย์เมืองน่าอยู่’ จึงเป็นการเปิดพื้นที่ให้แต่ละภาคส่วนของการ 

พัฒนาเมือง ทั้งภาครัฐ เอกชน วิชาการ ภาคประชาสังคม และสาธารณะ 

ได้ร่วมกันพูดคุยหารือ แลกเปลี่ยน นำาเสนอความคิดเห็น ผ่านกิจกรรม 

หลากหลายรูปแบบ ทั้งการสัมมนาวิชาการเข้มข้น ตลอดจนกิจกรรม 

สันทนาการผ่อนคลายร่วมกัน ซึ่งได้รวบรวมเนื้อหาสาระสำาคัญไว้ใน 

วารสารอาษาฉบับพิเศษนี้ ให้เป็นเสมือนบันทึกเพื่อการต่อยอดทาง 

ความคิด และนำาไปใช้ประโยชน์ได้ต่อไปในอนาคต 

‘WOW เทศกาลเมืองน่าอยู่’ ยังเป็นการแสดงออกถึงจินตนาการร่วม 

ของพลเมืองผู้มีส่วนได้เสีย ในการเสนอแนวทางการพัฒนาเมืองที่ 

ตอบรับกับความหลากหลายมิติของเมือง ที่เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศ 

ของงานเทศกาลที่สนุกสนาน ในสภาพแวดล้อมของสวนป่าเบญจกิติ 

ที่ร่มรื่น ช่วยกระตุ้นให้เกิดการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้คน กับสภาพแวดล้อม 

ธรรมชาติในเมือง เพราะท้ายที่สุดแล้วนั้นเป้าหมายสูงสุดของการออกแบบ 

เมืองน่าอยู่ คือเป็นทั้งกระบวนการให้ทุกผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองมีส่วนร่วม 

สร้างสรรค์เมือง และเกิดผลลัพธ์เป็นเมืองแห่งความสุขไปพร้อมกัน 

WOW-Wonder of Well-Being City 2022 is a significant step 

forward for the Association of Siamese Architects under Royal 

Patronage. We get to see the local community of architects and 

designers collaborate with other parties within the network to 

imagine, create, question, and explore possible approaches to 

urban development at an urban scale, expanding the boundary 

beyond the expertise in architecture and construction innovations 

that are typically featured at the annual architecture 

festival. 

Urban development involves everyone who lives in the city 

and involves many different, complex issues. WOW- Wonder 

of Well-Being City 2022 served as a platform for each sector 

with roles and responsibilities in urban development, from 

government, private, public, academic, and civil society, to 

present, discuss, and share ideas and inputs through a wide 

range of activities, from academic seminars to recreational 

activities. The details of these events are featured in this 

special issue of the ASA Journal, which will serve as an 

archive of ideas that could be further developed and put to 

good use in the future. 

‘WOW- Wonder of Well-Being City 2022’ also demonstrated 

the stakeholders’ shared goals and visions through various 

proposed possibilities that resonate with many aspects of the 

city. The event was held in the festive spirit of a festival, with 

the verdant Benchakitti Forest Park as a background. The lovely 

atmosphere encourages and inspires positive interactions 

between people and urban green space, embodying the ultimate 

objective of designing a livable city, which embraces the 

process by which everyone who lives in the city can participate 

in the creation of the city they live in, with the result 

being a city of tremendous and sustainable happiness for all.

WOW 

WONDER OF 

WELL-BEING 

CITY 

Thematic Pavilion 

Thematic Pavilion, the main 

exhibition space of “WOW: Wonder 

of Well-Being,” features content 

from Baramizi Lab’s research data 

and is an experience-based exhibition 

that invites viewers to share their 

ideas and aspirations for the city 

of the future. 

26 

12 

Photo Courtesy of The Association of Siamese Architects under Royal Patronage 

Photo Courtesy of The Association of Siamese 

Architects under Royal Patronage 


Introduction 

Phaithaya 

Banchakitikun 


shared how the WOW event 

started, his vision for the city, 

and how urban development 

is a key factor in the country’ 

development 

34 


Happy Ground- 

Happy Hour 

an event that explored nature’s 

wonders and gained a healthy 

and peaceful spirit, slowed the 

speed of urban life, and brought 

happiness back to Bangkok 

city life. 

WOW Research 

and Development 

18 

Photo Courtesy of The Association of Siamese Architects under Royal Patronage

Photo Courtesy of The Association of Siamese 

Architects under Royal Patronage 

City Co-Creation 

The City CO-CREATION workshop 

aims to turn Pathumwan of 

Bangkok’s city center into a more 

livable neighborhood, and coincides 

with the new Bangkok governor’s 

walkable city and green city policies. 

48 

92 

The Wonder 

of Well-Being 

Awards 

The Wonder of Well-Being 

Awards, hosted by the Association 

of Siamese Architects 

under Royal Patronage, are 

initiated to bring recognition to 

projects related to the development 

of urban spaces, people’s 

quality of life, and well-being. 

The award hopes to promote 

various aspects of sustainable 

urban development as well as 

support and publish projects 

developed by the government, 

private, and public sectors, 

enabling them to serve as models 

for the development of the 

country’s and city’s well-being. 


ARCHI TOUR 

The tour introduces visitors 

to Bangkok’s architectural 

works and local ways of life, 

allowing them to gain insight 

into the wisdom and knowhow 

of people living in various 

communities. 

138 


WOW Forum 

Every development would create 

change, as we know, especially 

in the development of the 

“urban” level; every change will 

naturally affect the stakeholders 

in the ecosystem that form the 

city’s constituents. There is no 

exception, even when the “city” 

is of a diversity of people and 

dwellers. Developing a city that 

sustainably meets various needs 

can not be caused by just one 

person but arises from the joint 

planning of different groups of 

people within that city, and 

do it systematic. 

WOW 2022 

Photo Contest 

Photo Credit: Thammarat Sawatdichai 

Photo Courtesy of The Association of Siamese Architects 


150 

WOW for All 

ASA Run 2022 

Photo Credit: Thammarat Sawatdichai 

124 

Photo Courtesy of The Association of 

Siamese Architects under Royal Patronage 

WOW Supporting 

160 

Partners

12

PHAITHAYA BANCHAKITIKUN 

13 

Phaitaya Banchakitikun, vice president of 

the Association of Siamese Architects under 

Royal Patronage and chairman of the WOW 

Festival 2022, discussed the starting point and 

work process of the WOW Festival 2022 and 

his views on the importance of the Festival 

and urban development. 

Phaithaya 

Banchakitikun 

Chairman of WOW 2022 

WOW Festival มีที่มาและจุดเริ่มต้นอย่างไร? 

ไพทยา บัญชากิติคุณ: งาน WOW เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ช่วงที่ 

คุณชนะ สัมพลัง ได้รับเลือกเป็นนายก สมาคมฯ ปี พ.ศ. 2563 

โดยนำากิจกรรมต่างๆ ที่สมาคมเคยจัดมาต่อยอด หนึ่งใน 

กิจกรรมสำาคัญคือ ASA Real Estate Award ที่จัดในปี 

2018-2019 ริเริ่มในสมัยอาจารย์อัชชพล ดุสิตานนท์ เป็น 

นายกสมาคมโดยมี คุณวีรพล จงเจริญใจ เป็นประธานจัดงาน 

เป็นงานที่ทางสมาคมฯ เห็นความสำาคัญของการเติบโตด้าน 

การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในช่วงนั้น มีการจัดทำารางวัลเพื่อ 

มอบให้กับโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีเน้นคุณภาพ 

ชีวิตที่ดีและสร้างให้เกิดความยั่งยืน เป็นรูปแบบงานสัมมนา 

และงานเลี้ยงมอบรางวัล เมื่อมาถึงกรรมการชุดนี้มองว่าการ 

พัฒนาเมืองมีความสำาคัญโดยตรงกับการพัฒนาประเทศและ 

เกี่ยวข้องกับผู้คนในหลายมิติ ทั้งยังสอดคล้องกับสิ่งที่ทั่วโลก 

กำาลังให้ความสำาคัญอย่างมากในเรื่อง ‘Urbanization’ ที่การ 

อยู่อาศัยของผู้คนจะย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองเป็นหลัก มีการคาด- 

การณ์ว่า ในปี ค.ศ. 2050 ประชากรโลก 70-80 เปอร์เซ็นต์ 

จะอาศัยอยู่ในเมือง 

How did the WOW Festival get 

started? 

Phaithaya Banchakitikun: The WOW event 

started when the present ASA president, Khun Chana 

Sumpalang, was elected president in 2020. He then 

brought back various activities the former ASA committee 

had organized and developed further. One of 

those important activities is the ASA Real Estate 

Award, organized in 2018–2019. That was initiated 

when Dr. Atchapol Dusitnanond was president of the 

ASA and Khun Werapol Chongjaroenjai was appointed 

the event’s chairman. It was an event that the ASA 

saw the importance of real estate development growth 

at that time. Awards are given to real estate development 

projects focusing on quality of life and sustainability. 

It was organized in the form of seminars and 

gala dinners. When it comes to the current committee, 

we see that urban development plays a significant role 

in the country’s development, and it involves people 

in many dimensions. It is also in line with ‘Urbanization,’ 

which the world focuses on. It is believed that most 

people are moving to the city, and it is estimated that 

by the year 2050, 70 to 80 percent of the world’s 

population will live in cities.

14 

ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาจะเห็นว่าเมืองเป็นสิ่งที่ผู้คนให้ความ 

สำาคัญมากยิ่งขึ้น มองเห็นปัญหาของบ้านเมือง พยายาม 

ร่วมกันแสดงความคิดเห็นและร่วมหาแนวทางในการแก้ปัญหา 

เพื่อให้บ้านของเรามีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น ภาค 

เอกชนเข้ามามีส่วนร่วมกับภาครัฐและพยายามร่วมกันทำา 

โครงการเพื่อเมืองเพื่อสาธารณะมากขึ้นอย่างกว้างขวาง 

ประเด็นเรื่องเมืองเป็นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับผู้คนในวงกว้าง 

กิจกรรมที่จัดจึงต้องสามารถสร้างความรู้สึกร่วมได้ทุกกลุ่มคน 

มีความ Inclusive ซึ่งจะทำาให้วิชาชีพสถาปนิกเป็นที่รู้จักสำ าหรับ 

ประชาชนทั่วไป ในมุมที่หลากหลายมากขึ้น เราเปิดทีโออาร์ 

คัดสรรค์ทีมร่วมพัฒนาโครงการและได้ทีมรวม 3 บริษัทคือ 

Baramizi Lab D63 และ GA49 ที่เน้นการทำา research and 

development และมี background เรื่องการพัฒนาเมืองอย่างดี 

จึงได้รับการคัดเลือก 

เราทำา R&D เก็บข้อมูลจากกลุ่มคนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 

กับงานเมืองทุกกลุ่มทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนเพื่อ 

พัฒนาแนวทางการจัดงานและได้ข้อสรุปว่ารูปแบบการจัดงาน 

แบบ ‘เทศกาลเมือง’ น่าจะเป็นวิธีที่ทำาให้เข้าถึงทุกกลุ่มคน 

ได้ง่าย กว้างขวาง หลากหลายและจะสามารถดึงดูดคนในต่าง 

อุตสาหกรรมต่างความถนัดมาร่วมงานได้มาก เพราะรูปแบบ 

มีความสนุกสนานสอดแทรกความรู้ ความเข้าใจและความมี 

ส่วนร่วมของผู้คนกับการเห็นประโยชน์ของเมืองที่ดีได้ 

เราเริ่มเตรียมงานตั้งแต่ต้นปี 2020 ซึ่งมีการแพร่ระบาด 

ของโควิด-19 วางแผนงานว่าจะจัดขึ้นปลายปี 2020 แต่ 

สถานการณ์ Covid รุนแรงมากขึ้น งานจึงเลื่อนการจัดมา 

เรื่อยๆ และได้มาจัดช่วงปลายปี 2022 

ในมุมมองของคุณไพทยาและในฐานะประธาน 

จัดงาน คิดว่าภาพรวมของการจัดงาน ปี นี้เป็น 

อย่างไร? 

ไพทยา บัญชากิติคุณ: ถ้าพูดต่อเนื่องจากสิ่งที่เราตกผลึก 

จากการทำา R&D กันมานาน เราอยากให้งานนี้เป็นเหมือน 

แพลตฟอร์มใหม่ของเมืองที่เปิดโอกาสให้ผู้คนหลายหลาย 

กลุ่มเข้ามาเปิดมุมมองร่วมคิดร่วมสร้างสิ่งที่ดีสู่สังคม สู่ 

สาธารณะ ร่วมกันพัฒนาบ้านเมืองไปด้วยกัน 

Interview 

In the past 4-5 years, cities have become more important 

to people. We also see the problems of the cities, 

and people have come to share their opinions and find 

solutions to make our cities better and more liveable. We 

see the private sector engage with the public one and 

make concerted efforts on more public urban projects. 

Urban issues involve a wide range of people, so the 

events and activities must create a sense of belonging 

for all groups of people, and being inclusive will make 

the architect profession more known to the general 

public from more diverse perspectives. We finally 

opened TOR to select a team to develop the project 

jointly and got a team of Baramizi Lab, D63, and 

GA49, who focus on research and development 

and have a good background in urban development. 

So they were selected. 

To develop event guidelines, we did R&D, collecting 

data from all groups of people and agencies related to 

urban work, including the government sector, private 

sector, and the public. We came to the conclusion 

that a ‘City Festival’ could be a way to easily reach all 

groups of people, wide and diverse, and will be able 

to attract a lot of people from different industries and 

different skills because the format is fun and open to 

integrating knowledge, understanding, and engagement 

so people can be well aware of the benefits of a 

good city. 

We started preparing for the event at the beginning of 

2020 with the outbreak of COVID-19. The event was 

actually planned to be held at the end of 2020, but the 

COVID situation became more severe, so it has been 

postponed until the end of 2022. 

As the event’s chairman, what 

do you think about this year’s event? 

Phaithaya Banchakitikun: From what we got 

from comprehensive research, we want this event 

to be like the city’s new platform that allows people 

from different groups to open their perspectives and 

collaborate to create good things for society, for the 

public, and to develop the country together. 

ในช่วงแรก การจัดหาพาร์ทเนอร์ร่วมจัดงาน เป็นขั้นตอนที่ 

ยากมากเพราะเป็นงานรูปแบบใหม่ การจะทำาให้ทุกคนเข้าใจ 

รูปแบบงานและเนื้อหางานเป็นไปได้ยาก ใช้เวลาพัฒนา 

รูปแบบงานพร้อมกับวิธีการนำาเสนอให้มีความชัดเจนขึ้นทีละ 

ส่วนจนได้ข้อมูลที่เริ่มทำาให้ทุกพาร์ทเนอร์เริ่มเห็นภาพงาน 

ชัดเจนขึ้น 

In the beginning, finding partners to organize events 

was very difficult because it was a brand-new project. 

Making everyone understand the event format and content 

is difficult. It took time to develop the format and 

how to present it so that it was clearer, step by step, 

until we got information that started to make every 

partner start to see the work clearly.


15 

ตอนเข้าไปนำาเสนอโครงการกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย 

(ททท.) เราได้ผลตอบรับเชิงบวกดีมาก ททท.มองว่างานนี้ 

เป็นกิจกรรมเมืองที่สำาคัญ แตกต่างจากงานขายของทั่วไปและ 

ยังสามารถแสดงออกถึงศักยภาพองค์ความรู้และความเจริญ 

ก้าวหน้าของการพัฒนาประเทศเราได้อย่างดีอีกด้วย 

นอกจากผลตอบรับที่ดีจากหลากหลาย 

หน่วยงานและองค์กรแล้ว ผลตอบรับจาก 

สมาชิก สมาคม หรือบุคคลทั่วไปที่มาเข้า 

ร่วมงานเป็ นอย่างไรบ้าง? 

ไพทยา บัญชากิติคุณ: สำาหรับงานนี้เราเน้นการมีส่วนร่วม 

ของกลุ่มประชาชนทั่วไป ไม่จำากัดเพียงกลุ่มอุตสาหกรรม 

การออกแบบและก่อสร้าง ผลตอบรับที่ได้มาจากกลุ่มสมาชิก 

สถาปนิกคือ เป็นงานที่มีรูปแบบแปลกใหม่เข้าถึงง่าย สร้าง 

ความสุขให้กับเมืองได้ ประชาชนทั่วไปมีส่วนร่วมได้ง่าย และ 

สามารถเข้าถึงเข้าใจวิชาชีพสถาปนิกได้มากขึ้นว่าสถาปนิก 

ทำาอะไรได้บ้างมีบทบาทกับเมืองที่อยู่อาศัยของเค้าอย่างไร 

สำาหรับในปี ถัดไป หรือกิจกรรมในปี 2023 

สิ ่งที่อยากผลักดันต่อจากนี้คืออะไร? 

ไพทยา บัญชากิติคุณ: ตอนนี้อยู่ในช่วงสรุปข้อมูลการ 

จัดงาน เพื่อเป็นข้อมูลให้กลุ่มพาร์ทเนอร์ ความตั้งใจของสมาคม 

มองว่าจะมีการจัดในครั้งต่อๆ ไปอย่างแน่นอน เพราะถือว่า 

เราผ่านด่านแรกที่ยากที่สุดมาแล้ว ในการสร้างแพลตฟอร์ม 

สร้างแพทเทิร์นการจัดงานขึ้นมาใหม่ รู้ว่าจุดไหนต้องปรับปรุง 

จุดไหนมีประโยชน์และได้รับการตอบรับที่ดี งานในครั้งถัดไป 

เราจะสามารถพัฒนาเนื้อหารายละเอียด กิจกรรมต่างๆ 

ให้สอดคล้อง และน่าสนใจได้มากยิ่งขึ้น ตอบรับกลุ่มคนใน 

วงกว้างให้มีกลุ่มพาร์ทเนอร์ในอุตสาหกรรมอื่นๆ เข้ามามี 

ส่วนร่วมมากขึ้น ทั้งการท่องเที่ยว แวดวงการศึกษา อาหาร 

สุขภาพ และอื่นๆ เพราะเมืองประกอบขึ้นจากทุกคน ทุกความ 

ถนัด และทุกอุตสาหกรรม 

When we presented the project to the Tourism Authority 

of Thailand (TAT), they were very positive and 

enthusiastic about it. The TAT sees this event as an 

important urban event different from other commercial 

ones, and it can also show the potential for knowledge 

and progress in our country’s development. 

What is the result of the ASA members 

and other people who came to the 

event, in addition to the good feedback 

from different agencies and groups? 

Phaithaya Banchakitikun: For the WOW Festival, 

we emphasized more participation of the general 

public, not just the design and construction industries. 

The feedback from the architects and ASA members 

was that it has a new and interesting approach that is 

easy to access and can bring happiness to the city. The 

general public can easily participate and understand 

more about the architect profession, what architects 

can do, and how they play a role in the city they live in. 

For the next year or 2023, what do you 

want to push from now on? 

Phaithaya Banchakitikun: We are now in the 

stage of summarizing and presenting to our partner 

groups. The ASA intends that it will be organized 

in the future since we have already passed the first 

difficult level—building the platform and creating a 

new event pattern—and we know where to improve 

and which points are helpful and get good feedback. 

In the next event, we will be able to develop content, 

details, and activities that are more consistent and 

interesting to respond to a broader group of people 

and have more partners in other industries to take 

part in, like tourism, education, food, health, and more, 

because a city is made up of everyone, every skill, and 

every industry. 

01 

ภาพบรรยากาศการ 

ร่วมวางแผนและระดม 

ความคิดการจัดงาน 

WOW 2022 

1

16 

Interview 

02 

บรรยากาศการนำาเสนอ 

รูปแบบการจัดกิจกรรม 

ภายในงานโดย 

คุณไพทยา บัญชากิติคุณ 

2


We want to see people of different specialties 

come together and share their potential. 

This will help drive the vision of the city to 

move forward in the direction that we all 

want it to go: toward remarkable prosperity 

and a sustainable city. 

17 

WOW Festival ครั้งต่อไป จะถูกจัดขึ ้นในรูปแบบ 

เอาท์ดอร์ เฟสติวัล ในสวน รูปแบบเดียวกันนี้ 

เลยหรือเปล่า? 

ไพทยา บัญชากิติคุณ: คิดว่าคุณค่าของความเป็นเทศกาล 

เมืองจะยังคงอยู่ เพราะเป็นส่วนสำาคัญ ส่วนหนึ่ง ที่ทำาให้งานนี้ 

มีประชาชนมาร่วมงานมากกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ การเลือก 

พื้นที่จัดงานในสวนกลางเมืองเป็นส่วนสำาคัญในการสร้างให้ 

เกิดงานรูปแบบใหม่ให้เมืองเรา เป็นงานที่ผู้คนสามารถมา 

ร่วมงานได้พักผ่อนหย่อนใจใกล้ชิดกับธรรมชาติใกล้ชิดเมือง 

ไปพร้อมๆ กับความสนุกสนาน ของกิจกรรมและการเผยแพร่ 

องค์ความรู้ที่สอดแทรกอยู่ในแต่ละส่วนของงาน 

ตอนทำา research and development เราก็มีพูดคุยกันว่า 

งานของเราจะมีการย้ายตำาแหน่งไปเรื่อยๆ หรือย้ายไปนอก 

กรุงเทพฯ ด้วย อาจจะมีงานในต่างจังหวัดประกอบด้วย 

ข้อจำากัดเชิงกายภาพยังเป็นสิ่งสำาคัญ สวนเบญฯ เป็นสถานที่ 

ที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ตอบโจทย์ดีที่สุดตอนนี้ แล้วเราก็ได้รับ 

การสนับสนุนที่ดีมากๆ จากหน่วยงานเอกชน อย่างเช่น 

ศูนย์สิริกิติ์ ที่เข้ามาสนับสนุนเรื่องของสถานที่ จอดรถให้กับ 

โครงการของเราแบบไม่มีค่าใช้จ่าย สถานที่จัดงานในครั้ง 

ต่อไปก็ยังอาจจะเป็นสวนเบญฯ อีกครั้ง 

อยากให้คุณไพทยากล่าวทิ ้งท้ายถึง WOW 

Festival และเชิญชวนผู้ที่สนใจเข้าร่วมงาน 

ในครั้งถัดไปสั้นๆ? 

ไพทยา บัญชากิติคุณ: เราเห็นถึงโอกาสและความเป็นไปได้ 

ของประเทศไทย ทั้งที่กรุงเทพและจังหวัด อื่นๆ การที่เมือง 

ไทยมีกิจกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นในพื้นที่ใหม่ๆ พร้อมเรื่องราว 

ใหม่ๆ จะทำาให้เห็นมุมมอง ของเมืองในมิติที่หลากหลายจาก 

ผู้คนหลากหลายความถนัดมาร่วมกันแสดงศักยภาพ เพื่อ 

ช่วยกัน ขับเคลื่อนวิสัยทัศน์ของเมืองให้พัฒนาไปในทิศทาง 

ที่ทุกคนอยากให้เป็น มีความเจริญ เป็นอัศจรรย์ เมืองน่าอยู่ 

อย่างยั่งยืน 

Will the next WOW Festival be in the 

form of an outdoor festival in a garden 

in the same format as the first one? 

Phaithaya Banchakitikun: I think the value 

of being a city festival will remain. Because it is an 

important part of why this event has more people 

attending than we expected, selecting a venue 

in the city center is also considered an essential 

factor in creating a new style of possibility for our 

city. It is an event that people can join to relax, be 

close to nature and the city, have fun activities, and 

disseminate knowledge in each part of the festival. 

At the time we worked on the research and development, 

we talked about the festival being constantly 

moved each time; it could be even outside of Bangkok, 

or there may be activities in other provinces. 

Anyway, physical limitations are also significant. So 

Benjakitti Park has the best infrastructure that meets 

most of the requirements right now. And we also 

got really good support from private agencies such 

as the Queen Sirikit National Convention Center, 

which provided parking spaces for our project free of 

charge. So perhaps the venue for the next event may 

still be Benjakitti Park again. 

Would you give a brief ending about 

WOW Festival and invite those 

interested in attending the next 

event? 

Phaithaya Banchakitikun: We saw the opportunity 

and possibility of Thailand, both in Bangkok 

and other provinces. The fact that Thailand has new 

activities occurring in new areas with new stories will 

show the perspectives of the city in various dimensions 

as people of different specialties come together 

and share their potential. This will help drive the vision 

of the city to move forward in the direction that we 

all want it to go: toward remarkable prosperity and 

a sustainable city.

18 

Wonder of Well-Being 2022 

Research 

and 

Development 

Text: Baramizi Lab 


and Baramizi Lab except as noted

WOW RESEARCH AND DEVELOPMENT 

19 

The starting point was the needs of the people 

involved; the WOW - Wonder of Well-Being 2022... 

a festival by the Association of Siamese Architects 

under the Royal Patronage (ASA). 

The Association of Siamese Architects under Royal 

Patronage, as an independent professional organization, 

has an important mission to serve society in 

developing architecture and the environment and 

preserve the rich national cultural heritage. ASA’s 

initiative then is to build on the events that have 

been organized to meet the changing needs of cities, 

people, and society in a time of dynamic changes. 

The ASA Real Estate Forum, developed by the ASA 

2 years ago, was one of the initiatives that the ASA 

wishes to grow further with objectives and activities 

that meet these requirements and benefit more 

people even more. 

จากรากของความต้องการของผู้คนที่เกี่ยวข้องสู่งานเทศกาล ‘WOW 2022 อัศจรรย์ 

เมืองน่าอยู่’ โดยสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ (ASA) 

จากโจทย์ที่สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ ในฐานะองค์กรทางวิชาชีพอิสระ 

มีภารกิจสำคัญด้านหนึ ่งคือการบำเพ็ญประโยชน์ ให้กับสังคมในการสร้างสรรค์ความเจริญ 

งดงามทางสถาปั ตยกรรมและสิ่งแวดล้อม และรักษาอารยธรรมของชาติ จึงมีความคิด 

ริเริ่มที่จะต่อยอดงานกิจกรรมที่ได้เคยสร้างสรรค์ ไว้ ให้ตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยน 

แปลงไปของเมือง ผู้คน และสังคมในยุคสมัยของความก้าวหน้าที่เปลี่ยนแปลงไป งาน ASA 

Real Estate Forum งานประกาศรางวัลสำคัญของวงการการพัฒนาสถาปั ตยกรรม 

และอสังหาริมทรัพย์ที่ทาง ASA ได้ก่อร่างสร้างขึ ้นมาเป็ นเวลา 2 ปี แล้วจึงถูกริเริ่มในการ 

พัฒนาต่อยอดให้มีวัตถุประสงค์และรูปแบบกิจกรรมที่ตอบโจทย์วัตถุประสงค์นี้และสร้าง 

ประโยชน์ ให้ผู้คนมากกว่าเดิม

20 

เพราะความต้องการที่จะสร้างงานที่สร้างแรงกระเพื่อมด้านบวกให้เมือง 

และสังคม ในหัวข้องานอีเวนต์สร้างสรรค์เพื่อการออกแบบและพัฒนา 

เมือง เราเริ่มต้นจากฟังเสียงผู้คนที่เกี่ยวข้องเพื่อค้นหา Missing Piece 

ที่จะมาเป็นโจทย์สำาคัญของการจัดงาน เพื่อให้งานที่จะเกิดขึ้นเป็นส่วน 

หนึ่งในการทำาให้การพัฒนาเมืองเกิดขึ้นได้จริง ขั้นตอนในช่วงแรกนี้ทาง 

ASA ได้บริษัท บารามีซี่ จำากัด ที่ปรึกษาด้านการสร้างแบรนด์และ 

พัฒนาธุรกิจเข้ามาช่วยดำาเนินการในขั้นตอนการวิจัยและกำาหนดกลยุทธ์ 

ให้กับงานในครั้งนี้ ผลจากการวิจัยด้วยการฟังเสียงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 

ในการพัฒนาเมืองซึ่งประกอบด้วย ภาคเอกชนกลุ่มผู้พัฒนาอสังหา- 

ริมทรัพย์ กลุ่มนักพัฒนาเมือง สื่อมวลชนซึ่งเป็นตัวแทนเสียงสะท้อน 

จากประชาชน หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเมือง และ 

กลุ่มผู้ประกอบการ Supplier ด้านวัสดุตกแต่งก่อสร้างและเทคโนโลยี 

เพื่อการพัฒนาเมือง Missing Piece สำาคัญที่ค้นพบหรือภาษาการวิจัย 

เรียกว่า Unmet Needs (ความต้องการที่ซ่อนเร้น) ของผู้เข้าร่วมที่มี 

ต่อการพัฒนาเมือง ที่สำาคัญที่สุดคือ ‘Inspire for Future City’ ความ 

ต้องการงานอีเวนต์ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเมืองที่จะช่วยสร้างแรง- 

บันดาลใจให้คนจินตนาการถึงภาพเมืองในอนาคต การเป็นงานที่ช่วย 

Educate ให้คนทั่วไปเกิดความเข้าใจ จากนั้นนำาไปสู่การ Collaborate 

รวมพลังของคนทุกภาคส่วนทำาให้เกิดพลังในการขับเคลื่อน และงาน 

เป็นพื้นที่ได้โชว์ศักยภาพของนวัตกรรมการพัฒนาเมืองที่ทำาได้จริง 

โดยแนวคิดการจัดงานที่ชื่อ ‘Co-creation for Better City’ เป็นแนวคิดที่ 

ได้รับความสนใจมากที่สุดเพราะผู้เข้าร่วมการวิจัยชื่นชอบแนวคิดที่ 

เป็นการเชิญชวนให้ทุกภาคส่วนมาร่วมแรงร่วมใจให้เกิดการพัฒนาเมือง 

เสริมด้วยภาพของการเล่าถึงอนาคต Drive the Future ให้ความรู้ใหม่ๆ 

เปิดโลกเปิดมุมมอง คู่ไปกับ Future City Showcase พื้นที่ปล่อยของ 

ของคนรุ่นใหม่ นำาผลงานที่โดดเด่นมาจัดแสดงให้เป็นรูปธรรมและให้ 

ความรู้สึกเป็นวิธีการที่จับต้องได้ นอกจาก Insight เหล่านี้จากการวิจัย 

ยังได้มาซึ่งความสนใจในคอนเทนต์ รูปแบบกิจกรรม และบรรยากาศ 

ของงานด้วย ซึ่งนับเป็นวัตถุดิบสำาคัญของการกำาหนดกลยุทธ์แบรนด์ 

ของงานอีเวนต์สร้างสรรค์เพื่อการพัฒนาเมืองในครั้งนี้ 

ในการต่อยอดจากข้อมูลวิจัยสู่กลยุทธ์นั้นสมาชิกสมาคม ASA ทั้งใน 

วิชาชีพสถาปนิก แวดวงอสังหาริมทรัพย์ นักพัฒนาเทคโนโลยี นักพัฒนา- 

เมือง ได้มาช่วยกันระดมสมองเสนอไอเดียที่จะช่วยกันรังสรรค์ให้กลาย 

เป็นงานที่ดีที่สุดเพื่อตอบโจทย์ทุกคน 


According to the desire to create events that generate a 

positive impact on the city and society in the form of creative 

events for urban design and development, we started by 

listening to the voices of the people involved to find the 

Missing Piece that would be the central theme of the event. 

This is for the work that will take place to make the city’s 

development happen. In this initial stage, ASA has commissioned 

Baramizi Co., Ltd., a branding and business development 

consultant, to assist in the research and strategy process 

for the project. The results of the research, by listening 

to the voices of stakeholders in urban development, including 

private sectors, real estate developers, urban development 

groups, the media as the voices of the people, government 

agencies involved in urban development, and a group of entrepreneurs, 

suppliers of building and construction materials 

and all sorts of technology for urban development. The critical 

missing piece or so-called Unmet Needs of the participants 

towards urban development was discovered with the most 

important one - ‘Inspire for Future City’ - the demand for 

urban development-related events that will inspire people to 

imagine the future city. The event should help educate people 

to understand more about our city. Then it leads to collaboration, 

combining the power of people from all sectors, resulting 

in the ability to drive. And finally, the event as a space 

to show the potential of urban development innovation that 

can come true. 

The concept of the event under the theme ‘Co-creation for 

Better City’ was the one that received the most attention 

because the research participants liked the idea of inviting 

all sectors to come together to develop the city. Also, the 

concepts of telling the city’s future, Drive the Future, which 

will provide new knowledge and open up to the world with 

new perspectives, together with Future City Showcase, inspiring 

space for the new gens to bring forth new works and 

display in a more tangible way. In addition to these insights, 

the research has also gained information on the interests in 

new content, activities, and the kind of vibe and ambience 

people want to see in the event. These are the key elements 

in the brand strategy of this creative event. 

Photo Reference 

COPYRIGHT© Baramizi Lab Co., Ltd. 

In extending and developing the research data into strategy, 

ASA members, including those in professional firms or real 

estate circles, technology developers, and city developers, 

came together to brainstorm ideas that help create the best 

event to meet everyone’s needs.


21 


COPYRIGHT© Baramizi Lab Co., Ltd.

22 

และแล้วงาน WOW (Wonder of Wellbeing City) ก็ได้ถือกำาเนิดขึ้น 

จากขั้นตอนรับฟังและระดมไอเดียทั้งหมดที่ได้ลำาดับมา ทีมงานที่ 

ปรึกษาและคณะทำางานของ ASA ได้จัดทำาเป็นข้อสรุปของกลยุทธ์ที่ 

สำาคัญ ดังนี้ 

1) คุณค่าหลักของแบรนด์ WOW (Value Proposition): Better City 

งาน WOW ต้องสะท้อนความหวังและความฝันของผู้คนที่อยากเห็น 

คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นผ่านการออกแบบเมืองที่ทำาให้วันพรุ่งนี้ดีขึ้นกว่าเดิม 


And so the WOW- Wonder of Well-Being event was born. 

From the stage of listening and brainstorming all the ideas. 

The ASA advisory committee and the working group have 

come up with a summary of key strategies as follows: 

1) WOW Brand Core Value (Value Proposition): Better City. 

WOW must reflect the hopes and dreams of people who 

want a better quality of life by designing a city for a better 

tomorrow. 

2) กลุ่มเป้าหมายที่สำาคัญของงานประกอบด้วย กลุ่มหน่วยงานภาครัฐ 

และหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาคธุรกิจ อาทิ อสังหา- 

ริมทรัพย์ เทคโนโลยี นักออกแบบ สถาปนิก ผู้สนใจงานออกแบบ และ 

ประชาชนและสังคมไทย โดยคาดหวังให้งาน WOW มีบทบาทสำาคัญ 

ตั้งแต่การมีส่วนร่วมในการกำาหนดนโยบายของประเทศ การสร้างการ 

เชื่อมโยงทางธุรกิจ การให้ความรู้และแรงบันดาลใจ และการให้คุณค่า 

ต่อการพัฒนาเมือง 

2) The main target groups of the event are government 

agencies and local government agencies, business agencies 

such as real estate, technology, designers, architects, design 

enthusiasts, and people and Thai society. WOW is expected 

to play an important role, from participating in national policy 

formulation and creating business links to providing education, 

inspiration, and value to the city’s development. 




23 

3) องค์ประกอบที่สำาคัญที่งาน WOW ต้องมี 

- People Engagement การสร้างความมีส่วนร่วมใน 

ทุกๆ ภาคส่วน 

- Foresight การมีเนื้อหาเทรนด์เผยแพร่ผ่าน Trend Forum/ 

Trend Exhibition และ Trend Book ที่บอกถึงทิศทางที่สำาคัญ 

ต่อการพัฒนาเมือง 

- Future of Hope การมีนวัตกรรมหรือบริษัทชั้นนำาด้าน 

เทคโนโลยีของการบริหารจัดการเมืองเพื่อทำาให้เมืองในฝันของทุกคน 

เกิดได้จริง 

- Forming Digital Twin การหลอมรวมโลกของกายภาพเข้ากับ 

โลกของดิจิทัล ตลอดจนโลกแห่งความงาม (Aesthetic) กับโลกแห่ง 

วิศวกรรม (Engineering) 

3) Important elements that WOW must have: 

- People Engagement - creating participation 

in all sectors 

- Foresight - the presence of trend content published 

through Trend Forum/ Trend Exhibition and Trend Book 

pointing out essential directions for urban development. 

- Future of Hope - having an innovation or technologyleading 

company in city management to make everyone’s 

dream city come true. 

- Forming Digital Twin - merging the physical world with the 

digital world, as well as the aesthetic and engineering world.

24 


4) กลยุทธ์การบริหารประสบการณ์แบรนด์ (Brand Experience Management) 

แนวทางการออกแบบประสบการณ์ของ WOW คือ Wisdom and 

Fun Experience ที่มาในรูปแบบของ Festival หรืองานเทศกาลโดยมี 

องค์ประกอบที่สำาคัญที่ควรมีจัดลำาดับเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ Hook, Must 

have และ Fulfill 

และทั้งหมดนี้คือจุดเริ่มต้น การรับฟังเสียงผู้คนที่เกี่ยวข้อง การค้นหา 

Unmet Needs ที่เป็น Missing Piece สำาคัญ และหลอมรวมไอเดียสู่ 

การจินตนาการถึงเป้าหมายปลายทางสุดท้ายที่สร้างประโยชน์ให้ผู้คน 

ให้กลายเป็นกลยุทธ์แบรนด์ ซึ่งเปรียบเหมือนเป้าหมายทางการออกแบบ 

งานเทศกาลสำาคัญในครั้งนี้ 

4) Brand Experience Management – WOW’s experience 

design approach is a Wisdom and Fun Experience that 

comes in the form of a festive event or a festival with essential 

elements ranked into 3 groups: Hook, Must have, and Fulfill. 

These are all the beginning. Listen to the voices of those 

involved, find the Unmet Needs which are the key Missing 

Pieces, and merge all ideas into imagining an end goal that 

benefits people into a brand strategy. This is the key design 

goal of the Festival. 




25 



26 


Thematic 

Pavilion 

Inside the Benchakitti Museum, an old tobacco factory 

turned new public urban space, is where the Thematic 

Pavilion, the main exhibition space of ‘WOW: Wonder 

of Well-Being,’ is located. The exhibition features 

content from Baramizi Lab’s research data, with d63 

and Cloud-floor contributing to the design of the 

space. The experience-based exhibition invites 

viewers to share their ideas and aspirations for the 

city of the future in ten years through the presentation 

of various living-related matters such as residential 

Text: ASA WOW 

Photo Courtesy of The Association of Siamese Architects 

under Royal Patronage and Cloud-Floor except as noted

WOW THEMATIC PAVILION 

27 

spaces, modes of transportation, all the way to the 

financial aspect, working and studying, being a part 

of a community, and how people spend their free time 

and take care of their physical and mental well-being. 

Through this main exhibition, opinions and inputs 

reflect varying individual needs. The information has 

been distributed to various urban development networks 

to assist future developments in making cities 

more livable. Since the development of a ‘city’ is 

everybody’s business, any speculated trends or tendencies 

are merely a forecast. The reality derived 

from us stakeholders, on the other hand, is a tangible 

future that we can all help envision. 

01 

พื้นที่นิทรรศการหลัก 

Thematic Pavilion 

ออกแบบโดยทีม D63 

และ Clound-floor 

พื้้นที่่นิที่รรศการหลัักของงาน ‘WOW อัศจรรย์์เมืืองน่าอย์่’ หร้อ Thematic 

Pavilion จัดแสดงอย์่ในบริเวณอาคารพื้ิพื้ิธภััณฑ์์เบญจกิติิที่่ปรับปรุงจากโรงงาน 

ผลิิติย์าส่บเดิมื ซึ่่ งส่วนนิที่รรศการหลัักน่มีีเน้อหาจัดแสดงจากข้อมููลว ิจัย์โดย์ที่่มื 

Baramizi Lab แลัะร่วมืออกแบบพื้้นที่่โดย์ ที่่มื D63 แลัะที่่มื Cloud-floor ในร่ปแบบ 

นิที่รรศการเชิิงประสบการณ์ ที่่เชิิญชิวนทีุ่กคนร่วมืแลักเปลั่ย์นความค ิดแลัะความื 

ต้้องการว่าเมืืองของเราจะเป็ นอย่่างไรในอนาคตอ ีก 10 ปี ข้างหน้า ผ่านการนำาเสนอ 

ประเด็นของการอย์่อาศัย์ในด้านต่่างๆ ได้แก่ ที่่อย์่อาศัย์ การเดินที่าง การบริโภัค 

การเงิน การที่ำางาน การเรีียน การเข้าสังคมื การใช้้เวลัาว่างแลัะการด่แลจ ิติใจ 

การด่แลส ุขภัาพื้ โดย์การแลักเปลั่ย์นความค ิดเห็นผ่านพื้้นที่่นิที่รรศการหลัักน่ 

จะเป็ นภัาพื้สะที่้อนความืติ้องการของแต่่ลัะบุคคลัที่่แติกต่่างกันไป แลัะข้อมื่ลัเหล่่าน่ 

จะถููกส่งต่่อให้ทีุ่กเคร้อข่าย์พื้ัฒนาเมืืองได้เห็นความืติ้องการ แลัะเป็ นโย์ชิน์เพื่่อนำาไป 

พื้ัฒนาเมืืองของเราให้น่าอย์่ติ่อไปในอนาคติ เพื้ราะ ‘เมืือง’ เป็ นเร้องของ ‘ทีุ่กคน’ 

แนวโน้มืในอนาคติที่่มีีการคาดการณ์กันนันเป็ นเพื้่ย์งการพื้ย์ากรณ์ ส่วนเร้องจริง 

จะเกิดข่ นจริงจากเราทีุ่กคนที่่เป็ นผ่้มื่ส่วนได้ส่วนเส่ย์มืาร่วมืวาดภัาพื้อนาคติ 

นันร่วมก ัน

28 

ภายใน Thematic Pavilion ออกแบบให้ทุกคนมาร่วมสร้าง 

ฉากทัศน์แห่งอนาคตของเมืองในประเทศไทย อีก 10 ปี 

ข้างหน้า ไปด้วยกัน กับกิจกรรม Shaping Our Future 

Together เพื่อหาคำาตอบว่าเมืองในอุดมคติของคุณจะมี 

หน้าตาเป็นอย่างไร และผู้คนจะใช้ชีวิตกันอย่างไร โดย 

เนื้อหาแบ่งออกเป็น 


With ‘Shaping Our Future Together,’ the thematic 

pavilion invites everyone to imagine and create the 

future scenario of urban spaces in Thailand in the 

next ten years. The activity aims to find answers 

that will help paint a clearer picture of everyone’s 

ideal city and how their lives will be. The exhibition’s 

featured contents are divided into: 

Future Urban Persona 

ชวนค้นหาว่าคุณเป็นคนแบบไหนในเมืองแห่งอนาคต โดย 

นำาเสนอผลจากการวิจัยที่ศึกษาคนไทยในอนาคตกับความ 

ต้องการที่มีต่อเมืองน่าอยู่ ซึ่งพบว่าสามารถจำาแนกลักษณะ 

ของคนออกเป็น 6 รูปแบบที่มีทัศนคติในการใช้ชีวิต ความ 

สนใจ การตื่นตัวต่ออนาคต และความต้องการการพัฒนา 

รูปแบบเมืองที่แตกต่างกัน 

9 Life-dimensions 

Consumer Behavior & Expectation Trend in 

2032: Impact on 9 Human Life-Dimensions 

ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างและการ 

เปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีใหม่ ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลง 

ของผู้บริโภคและสังคมในทั้ง 9 มิติของการใช้ชีวิตอย่างไร 

ทั้ง Live Work/Consume/Finance/Learn/Socialize/ 

Entertain/Commute/Healthcare ซึ่งสำารวจความเห็นของ 

ผู้เข้าชมว่าเทรนด์ของความคาดหวัง และพฤติกรรมอะไร 

บ้างที่ต้องการให้เกิดขึ้นในเมืองที่อาศัยอยู่มากที่สุด เพื่อ 

นำาเสนอความเป็นไปได้ในอนาคตในทั้ง 9 มิติ 

อุโมืงค์เวลัา Introduction About Change 

การคาดการณ์แนวโน้มโดยเกิดจากการเฝ้าจับตาการเปลี่ยน 

แปลงผ่านอุโมงค์เวลาของประเทศไทย จากวันนี้ถึงปี 2032 

การเปลี่ยนแปลงเชิงระบบและโครงสร้างของประเทศไทย 

จะเป็นไปอย่างไรบ้าง และจะส่งผลต่อชีวิตของเราอย่างไร 

Real Estate & Urban Design 

เพื่อต่อเติมภาพของเมืองและประเทศไทยในอนาคตให้ 

ชัดเจนมากขึ้น ผ่านการจัดแสดงข้อมูล 55 โครงการพัฒนา 

ที่ดิน พัฒนาย่าน และพัฒนาเมืองที่กำาลังดำาเนินการหรือ 

ที่กำาลังจะเกิดขึ้น 

การพื้ัฒนาโครงการดีเพื้่ย์งอย์่างเด่ย์วไมื่ได้…. 

เมื้องติ้องดีด้วย์ 

แนวคิดการพัฒนาเมืองในระดับสากล การพัฒนาระดับ 

โครงสร้างพื้นฐานของเมืองเพื่อคุณภาพชีวิต การใช้ชีวิตที่มี 

ประสิทธิภาพมากขึ้น และแนะนำาหน่วยงานผู้พัฒนาแนวคิด 

เพื่อเพิ่มสมรรถนะทางการแข่งขันให้กับเมืองในระยะยาว 

Future Urban Persona 

Explore your identity in the future world; the exhibition 

is based on research that looks at future generations 

of Thai people and their desires for a livable 

city. The findings present six personas, each with 

their attitudes toward life, interests, awareness, and 

desires for the future of urban spaces and developments. 

9 Dimensions of Human Life 

Consumer Behaviors & Speculated Trends 

of 2032: Impacts on the 9 Dimensions of 

Human Life 

Structural changes and technological advancements 

have significantly impacted society and 

the nine dimensions of human life: living, working, 

consumption, finance, learning, socializing, entertainment, 

commuting, and access to healthcare. 

This part of the exhibition explores viewers’ perspectives 

to determine what trends, expectations, 

and behaviors they seek in the most livable city of 

the future to present various possibilities across all 

nine dimensions. 

The Time Tunnel: Introduction to Changes 

A trend forecast based on a close look into 

Thailand’s time tunnel from the present time to 

the year 2032 predicts how Thailand’s systematic 

and structural changes will play out and affect 

people’s ways of life. 

Real Estate & Urban Design 

The exhibition highlights 55 ongoing and upcoming 

real estate development, neighborhood building, 

and urban development projects to enhance further 

the envisioned image of the future of urban spaces 

and Thailand. 

Behind every high-quality project 

development are high-quality cities 

and infrastructures 

This exhibition section presents internationally 

recognized urban development concepts,


29 

ร่วมืออกแบบเมื้องในอุดมืคติิ 

เมื่อเห็นโอกาสและความเป็นไปได้แล้ว เมืองน่าอยู่ในอุดมคติ 

ของแต่ละคนจะมีคุณสมบัติอย่างไร เป็นกิจกรรมสรุปผลที่ 

จะถูกแปลงผลออกมาเป็นภาพเมืองในฝันของผู้เข้าชมทุกคน 

ผ่านการร่วมสร้างภาพด้วยเครื่องมือ Midjourney และได้ 

รับภาพโดยการสนับสนุนการพิมพ์จาก Canon กลับไปเป็น 

ที่ระลึกด้วย 

infrastructural developments of liveable cities for 

improving people’s quality of life, and more efficient 

ways of living, along with suggestions for policymakers 

and thinkers to strengthen a city’s long-term 

competitive ability. 

Co-Creating an Ideal City 

Given all the opportunities and possibilities, what 

is each person’s ideal city made of? The exhibition 

concludes by summarizing and processing the 

entire experience into each viewer’s vision of a 

dream city via an image generation process using 

the Midjourney device. With the assistance of 

Canon, an image is printed for each viewer to take 

home as a souvenir. 

2 

3 

02-03 

แนวคิดการออกแบบ 

ของ Clound-floor ที่เน้น 

ความเป็นอุโมงค์เวลาของ 

การพัฒนาเมืองในอนาคต

30 

4

31 

04 

บรรยากาศของ Pavilion 

ที่จัดแสดงไว้ภายในอาคาร 

พิพิธภัณฑ์เบญจกิติที่ 

ปรับปรุงจากโรงงานผลิต 

ยาสูบเดิม เป็นโครงเหล็ก 

ที่คลุมด้วยผ้าสีสันตาม 

corporate identity (CI) 

ของงาน ASA WOW

32 


5 

05 

การจัดแสดงภายใน 

ข้อมูลเนื้อหาจากงานวิจัย 

ของ Baramizi Lab 

06 

แนวคิดการออกแบบ 

ของนิทรรศการเชิง 

ประสบการณ์ที่พยายาม 

ให้ผู้เข้าชมมีส่วนร่วมกับ 

การแลกเปลี่ยนความคิด 

เห็นของเมืองในอนาคต 

6 

นอกจากนี้ ยังมีส่วนจัดแสดงนิทรรศการ ‘WOW Future 

city exhibition’ ที่ชวนมองถึงอนาคตของการอยู่อาศัย 

ว่าจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ซึ่งในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา 

การก้าวกระโดดของเทคโนโลยี ทำาให้ชีวิตความเป็นอยู่ของ 

คนเมืองเปลี่ยนแปลงไปมาก ทั้งเรื่องความสะดวกของกิจวัตร 

ประจำาวัน การทำางานจากที่ไหนก็ได้ในโลก ไปจนถึงความ 

น่ากลัวของการเข้าถึงข้อมูลและความเป็นส่วนตัว การเชื่อม- 

โยงผู้คนบนโลก ความสามารถในการเข้าถึงของ device 

ขนาดเล็กที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของได้ ไปจนถึงระดับ 

Space Technology การทำางานของดาวเทียมในอวกาศที่ 

เชื่อมต่อและ Monitor พื้นที่ บอกเรื่องราวต่างๆ รายงาน 

ข้อมูล ใช้วิเคราะห์เพื่อวางแผนคลี่คลายปัญหาของอนาคต 

ไว้ล่วงหน้า ในยุคต่อไปของการแข่งขันเพื่อศักยภาพเศรษฐกิจ 

ประเทศมหาอำานาจได้ออกเดินทางเพื่อครอบครองทรัพยากร 

ไปไกลถึงนอกโลกแล้ว 

Included as a part of the curatorial program is 

‘WOW Future City,’ the exhibition that invites 

viewers to imagine how people’s lifestyles and 

ways of living will change in the future. The technological 

advances that have occurred in recent 

years have significantly impacted how people live 

in cities. They range from the ease and routine of 

daily life to the ability to work from anywhere, to the 

threats and risks posed by the invasion of private 

information, how people around the world stay 

connected, people’s ability to access technological 

devices, all the way to space technology, where 

satellites not only connect and monitor different 

parts of the globe but also report data and information 

that can be used to help plan solutions for 

future problems.Powerful nations will begin to hunt 

for resources in outer space in the coming era of 

competitive economic potential.

07 

พื้นที่จัดแสดงผลงานการ 

พัฒนาเมือง ที่ได้รับรางวัล 

ASA WOW AWARD 2022 


New space economy เป็นแนวคิดที่ว่านวัตกรรมอวกาศ 

จะชี้นำารูปแบบชีวิตของผู้คนในอนาคต และหนึ่งในกุญแจ 

สำาคัญของเรื่องนี้คือ แร่หายากที่ชื่อว่า ‘Rare Earth’ กลุ่ม 

ธาตุโลหะหายาก 17 ชนิด Rare Earth ถูกนำามาใช้เป็น 

ส่วนประกอบในการผลิตอุปกรณ์เทคโนโลยีมากมาย ไม่ว่า 

เป็นชิปคอมพิวเตอร์ ชิปโทรศัพท์ อุปกรณ์ใยแก้วนำาแสง 

เครื่องยนต์ของเครื่องบิน อุตสาหกรรมพลังงาน รวมถึง 

อาวุธต่างๆ รวมทั้ง ชุดอวกาศ อาหารอวกาศ โครงการ 

นวัตกรรมด้านวัสดุของอนาคต นวัตกรรมการสื่อสารล้ำ ายุค 

จาก Hua wai เทคโนโลยี หุ่นยนต์ สิ่งประดิษฐ์ และโครงการ 

platform จรวดต้นแบบ เปิดโอกาสการเรียนรู้วิธีใช้ประโยชน์ 

จากเทคโนโลยีอวกาศที่ทุกคนเข้าถึงได้ 

โดยในนิทรรศการนี้ มีองค์กรพันธมิตรที่ร่วมนำาเทคโนโลยี 

อวกาศมาแสดงในงานหลากหลาย อาทิ กองทัพอากาศ/ 

บริษัท ไทยคม จำากัด (มหาชน)/สำานักงานพัฒนาวิทยา- 

ศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช)/สำานักงานพัฒนา 

เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA)/ National 

Aeronautics and Space Administration (NASA) and 

SERVIR/จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย/สถาบันเทคโนโลยี 

พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง/Asian Disaster 

Preparedness Center (ADPC)/U.S. Space & Rocket 

Center (USSRC)/โรงเรียนอัสสัมชัญ/Future STEAM Corp. 

33 

The concept of the new space economy revolves 

around how space innovations will determine the 

possible ways people will live in the future. A group 

of seventeen metallic elements known as ‘Rare 

Earth’ is one of the keys to the success of the new 

space economy. These seventeen elements have 

produced numerous technological parts and equipment, 

including computer and telephone ships, 

fiber optic equipment, and airplane engines. The 

elements are also in high demand by the power 

and arms industries, as well as in the production 

of space suits, space food, future materials, and 

cutting-edge communication innovations, ranging 

from Huawei products to artificial intelligence and 

robotic technologies to rocket prototype platforms 

that allow everyone to access, learn about, and 

benefit from space technology. 

The exhibition not only features a wide range of 

space technologies but also brings together allied 

organizations, including the Air Force, Thaicom 

Public Company Limited, the National Science and 

Technology Technology Development Agency, the 

Geo-Informatics and Space Technology Development 

Agency (GISTDA), the National Aeronautics 

and Space Administration (NASA), and SERVIR, 

Chulalongkorn University, King Mongkut Institute 

of Technology Ladkrabang, the Asian Disaster 

Preparedness Center (ADPC), the U.S. Space & 

Rocket Center (USSRC), Assumption College, and 

Future STEAM Corp. 

fb.com/ASAWOW 

7

34 


Happy 

Ground 

— 

Happy 

Hour 



WOW HAPPY GROUND-HAPPY HOUR 

35 

This event was planned to explore nature’s wonders through 

various joyful activities in Benchakitti Forest Park, to gain 

a healthy and peaceful spirit for mental, physical, and daily 

behaviors. Organized by ASA and Amarin Group, WOW—Wonder 

of Well-Being values the relationship between people, animals, 

water, and forests, presenting WOW Happy Ground—Happy 

Hour as one of the key pillars of the festival through activities 

that explore the quality of life of city people through creative 

sensorial experiences—eating, playing, talking and chatting, 

viewing art, and listening to the sounds of nature. The modest 

and ordinary things in the garden scene with trees in the middle 

of the pond became an extraordinary miracle that made one 

love and cherish the creatures around them more. It will slow 

the speed of hectic urban life and allow one to live according to 

the up-and-down phenomenon of the sun in the city. With the 

help of network partners and designers, the event organizer, 

and various private agencies, each activity in the Happy 

Ground—Happy Hour in more than 20 areas scattered around 

the Benchakitti Forest Park aimed to bring happiness back to 

Bangkok city life. 

สำำรวจความอััศจรรย์์ขอังธรรมชาติิผ่่านกิิจกิรรมคนเมือังในสำวนป่่ าเบญจกิิติิ 

เพื่่อัสำ่งเสร ิมสุุขภาวะทางจิติใจ ร่างกิย์ และพื่ฤติิกิรรมป่ระจำวัน ASA และ 

Amarin Group ในฐานะผ่้จัดงาน WOW อััศจรรย์์เมือังน่อัย์้่ ท่ให้้ความสำำคัญ 

กัับความสััมพื่ันธ์ระหว ่างคน สััตว ์ นำ และป่่ า จึงนำเสำนอั WOW Happy Ground 

- Happy Hour เป็็ นห้นึ งในกิิจกิรรม Key Pillars ในเทศกิล ผ่่านกิิจกิรรมท่ชวน 

สำำรวจคุณภาพชีีว ิติท่ด่ขอังคนเมือังผ่่านกิรสร ้างป่ระสำบกิรณ์กิิน เล่น พื่้ด-คุย์ 

ด้งานศิลป่ะ และฟัั งเสำ่ย์งธรรมชาติิ ความธรรมดาขอังกิิจวัติรป่ระจำวันในฉกิ 

ขอังสำวน และต้้นไม้้กลางบึงนำ ท่อัจจะกิลย์เป็็ นสำิงอััศจรรย์์ ใหม ่ท่ทำให้้เรรักิ 

และห้วงแห้นสำิงม่ช่วิติรอับขงมกิขึ น นาฬิิกิช่วิติท่เร่งร่บในเมือังท่หม ุนชลง 

และไดใชช่วิติไป่ติมป่รกิฏกิรณ์ขึ น-ลงขอังแสำงอาท ิติย์์ ในเมือัง โดย์ในแต่่ละ 

กิิจกิรรมยัังไดรับความร่วมมือัจกิภค่เครือข ่ย์และนักิอัอักิแบบ นักจ ัดกิิจกิรรม 

และหน ่วย์งานเอักิชนท่ห้ลกิห้ลย์ มร่วมสร ้างสำรรค์พื้้นท่ความสุุขขอังคนเมือัง 

กว ่า 20 จุด กิระจย์อัย์้่ภย์ในสำวนป่่ าเบญจกิิติิ

36 


Local to the Table 

Designer: HAS design and research 

กิจกรรมสำารวจความหลากหลายของวัตถุดิบในการทำาอาหารจากหลาก- 

หลายวัฒนธรรมที่ประกอบกัน เป็นสำารับทั้งที่คุ้นเคยและแปลกใหม่ 

สำาหรับคนเมือง พร้อมร่วมชิมอาหารคาว-หวานที่จะสลับหมุนเวียน 

ไม่ซ้ำากันในแต่ละวันท่ามกลางบรรยากาศสวนป่า-บึงน้ำา 

The event explores the variety of culinary ingredients from 

various cultures that comprise a new menu that offers both 

familiar and exotic tastes and experiences. Different savory 

and sweet dishes will be served and rotated each day in the 

setting of a forest park by the lake. 

(การตกแต่งของจุดนี้สร้างสรรค์ด้วยสีธรรมชาติ สีจระเข้ เป็ นมิตรกับสิ ่งแวดล้อม 

ผลิตจากหินปูน ธรรมชาติ) 

Honey 

& Hidden bar 

Designer: Junesekino Architect and Design 

กิจกรรม Talk and Sip 1 สอนชิมน้ำาผึ้งป่ากว่า 130 รสชาติจากนักสะสม 

น้ำาผึ้งไทย คุณเบนซ์ วุฒิชัย อินทร์ประยงค์ ผู้ก่อตั้งน้ำ าผึ้งบำารุงสุข เรียนรู้ 

นิเวศทางธรรมชาติผ่านรสชาติอันหลากหลายของน้ำาผึ้งที่พบในชุมชน 

ต่างๆ จาก 4 ภาคของไทย ให้รู้ว่าน้ำาผึ้งไม่ได้มีแค่ความหวานกับหอม 

แต่ยังมีความซับซ้อนใน รสชาติ รสสัมผัส และกลิ่น 

กิจกรรม Talk and Sip 2 ชวนชิมและฟังเรื่องราวของ mocktail สูตร 

เฉพาะ พร้อมร่วมสนทนากับ คุณก๊อตจิ ธีรดนย์ ดิสระ จาก Sugar Ray 

ถึงการทำาบาร์ในเมืองกรุง และ passion ในเครื่องดื่มสู่การเตรียมตัว ใน 

เวทีการแข่งขันผสมเครื่องดื่ม 

‘Honey is more than just about flavor and aroma; it also 

represents complexity in taste, texture, and scent.’ At this 

bar, visitors can sample over 130 flavors of wild honey from 

a Thai honey collector and Bamrung Suk Honey founder, 

Wuttichai Inprayong, and explore the natural ecology through 

the diverse tastes of honey found in four areas of Thailand. 

Taste a one-of-a-kind mocktail and learn about its background 

and recipe. Join Gotji, Teeradon Disra, of Sugar Ray 

were in a discussion on opening a bar in the city and his passion 

for cocktails that has led him to the competition stage. 

BIO*LUMINESCEN 

Designer: Khopfa Chanpensri X YIMSAMER 

‘The meeting of creatures to witness the 

flowers of sustainability - pollination.’ 

ส่วนจัดแสดงศิลปะการจัดวางไฟนำาเสนอเรื่องราวของเหล่าฝูงสิ่งมีชีวิต 

กำาลังโบยบินและมุ่งหน้าสู่ดอกไม้ แห่งความยั่งยืนซึ่งตั้งอยู่ภายในสวน 

เบญจกิติ กรุงเทพฯ ดอกไม้นี้พร้อมที่จะให้เหล่าสิ่งมีชีวิตได้มาเก็บ และ 

กระจายเกสรแห่งความยั่งยืน เป็นการสื่อสารเชิงสัญลักษณ์ถึงการเผย 

แพร่อุดมการณ์แห่งความสมบูรณ์ และการมีชีวิตชีวาของพื้นที่สวน 

ใจกลางกรุงเทพฯ 

Swarms of creatures are flying towards the Sustainable 

Flower, located in Benchakitti Park, Bangkok. This flower is 

ready for cross-pollination, which symbolizes the dissemination 

of exuberance and the vibrant garden in the center of 

the city. 

ORI ALIVE: 

Land of Livings 

Designer: XD49 

งานจัดแสดงแสงและเสียงสื่อถึงดินแดนของ ‘อัศจรรย์เมืองน่าอยู่’ 

จาก WOW x Origin ที่ปลุก ORI หรือ เนินดินในบริเวณ Wetland ทั้ง 9 

ในพื้นที่ของสวนเบญจกิติ ให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตตอนกลางคืนที่อยู่เป็น 

ฝูงละ 3 ตัว และชอบเสียงกลองเป็นชีวิตจิตใจ หากเดินไปผ่านสามารถ 

ตีกลองเพื่อเรียกความสนใจและ เล่นหรือถ่ายรูปกับ ORI ได้ แนวคิด 

ในการสร้างแลนด์มาร์กนี้ขึ้นเพราะสวนเบญจกิตินี้ไม่เพียงรองรับแค่ 

มนุษย์ แต่ยังเป็นบ้านถาวรของสิ่งมีชีวิตน้อยใหญ่ การรวมตัวกันของ 

คนรักเมืองจึงเป็นเสมือนการร่วมมือ กันทำาให้เมืองน่าอยู่ ปลุกสวนป่า 

ให้มีชีวิตและทักทายผู้คนเสมือนกำาลังอยู่ในนิทานที่เกิดขึ้นบนโลกแห่ง 

ความจริงผ่านภาพ เสียง และ แสงที่อยู่รายล้อม 

Through the nine ORI wetland hills in Benchakitti Park, the 

light and sound exhibition portrays the wonders of a livable 

city, which not only welcomes citizens but also serves as a 

permanent home for all living beings. The gathering of city 

lovers represents a commitment to working together to make 

the city more livable and to bring the forest to life. The park’s 

designed visuals, lighting, and sound will greet visitors with 

a real-life fairy tale ambiance. 

(การตกแต่งของจุดนี้สร้างสรรค์ด้วยสีธรรมชาติ สีจระเข้ เป็ นมิตรกับสิ ่งแวดล้อม ผลิตจาก 

หินปูน ธรรมชาติ ปลอดภัยไร้สารพิษ)


37 

01 

Benchakitti Rain Forest 

Observatory ศาลาและ 

หอสังเกตการณ์กลาง 

สวนป่า ออกแบบโดย 

HAS design and research 

1

38 


2


Perfect Circle 

Challenge 

Thepoke.co.uk 

39 

การขยับตัวแต่น้อยของคนในเมือง อาจทำาให้ศักยภาพของร่างกายเรา 

ลดลง! WOW ชวนมาเช็คประสาท สัมผัส ประลองทักษะการเหวี่ยงแขน 

เป็นวงกลม กิจกรรมยอดฮิตที่ถูกแชร์ล้านวิวบนโลกออนไลน์ ที่ดูจะ แสน- 

ง่าย แต่ตามสถิติ 10 คน สามารถทำาวงกลมได้แค่ 1 เท่านั้น Let’s the 

battle begins! 

City Screening 

Designer: MakeAscene 

จุดแวะพัก และรวมตัวชมภาพยนตร์และสารคดีที่จุดประกายการใช้ชีวิต 

คนเมือง ในแง่มุมต่างๆ อาทิ Mori, the Artist’s Habitat ภาพยนตร์สร้าง 

จากเรื่องจริงของศิลปินชาวญี่ปุ่น Kumagai Morikazu ที่ ไม่ออกนอกบ้าน 

เลยเป็นเวลากว่า 30 ปี และใช้เวลาในบ้านเฝ้ามองสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในสวน 

เพื่อเป็นแรง บันดาลใจในการสร้างงาน 

City Screening is a stopover and gathering spot for people to 

watch movies and documentaries that reignite different aspects 

of urban life. Mori, the Artist’s Habitat, is a film based 

on the true story of a Japanese artist, Kumagai Morikazu, 

who has not left his home in more than 30 years and spends 

his time indoors, gazing at the elements in the garden for 

inspiration for his creations, and is one of the highlights. 

Houses of 

Worry-Free 

Designer: Atom Design / AR: Keen Collective 

จุดจัดแสดง ‘บ้านน่าอยู่’ ที่จะทำาให้ทุกคนอยู่ในสภาวะ ‘หายห่วง 

คลายกังวล’ ด้วยการจำาลองกิจกรรม ชีวิตประจําวันในบ้าน 3 หลัง 

ของคนเมืองผ่านเทคโนโลยี Augmented Reality (AR) 

The ‘livable home’ exhibit point aimed to put visitors in a state 

of ‘worry and anxiety-free.’ It employs augmented reality (AR) 

technology to recreate daily routines in three metropolitan 

houses. 

3 

WOW encourages the city dwellers to put their physical 

flexibility to the test by swinging your arms to draw a circle, 

a popular online challenge that has been viewed and shared 

millions of times. Even though it looks easy, only one out of 

every ten participants can make a proper circle. Let’s the 

battle begins! 

Cluddle Flied 

Designer: Big knit 

ศิลปะการจัดวางงานถัก Knitting ขนาดใหญ่ โอบอุ้มการมาพบปะ 

สังสรรค์กันของผู้คนในพื้นที่ สาธารณะผ่านการออกแบบกระบวนการ 

ผลิตด้วยการใช้วัสดุเหลือใช้อย่างเสื้อยืดเก่า และไหมพรม reuse มา 

สร้างสรรค์เป็นผลงานที่นั่งในสวน งานตกแต่งต้นไม้ เนินดอกไม้ และ 

กิจกรรมถักนิตติ้งยักษ์! 

The installation art in the form of a huge knitted piece, which 

embodies the idea of gathering in public space, was designed 

and created from waste materials such as discarded t-shirts 

and used yarn. With our knitting activities, the visitors were 

invited to make garden seats and plant and flower decorations 

together! 

02 

ซุ้ม ‘Worry Free Home : 

WFH บ้าน หาย ห่วง’ 

โดย บริษัท ทีคิวเอ็ม 

อินชัวร์รันส์ โบรคเกอร์ 

จำากัด และ บริษัท บิลค์ วัน 

กรุ๊ป จำากัด (BUILK ONE 

GROUP) 

03 

ศิลปะงานถัก Knitting 

จากวัสดุเหลือใช้ 

ออกแบบโดย Big knit

40 


Giant Art Court 

Saratta.space 

ส่วนจัดแสดงภาพศิลปะขนาดใหญ่ จากผลงานของศิลปินรับเชิญชื่อดัง 

ได้แก่ NUTDAO, Lolay & Family, Noppanan, Tuna Dunn, Try2benice 

และ Wisut (Mamuang) และภาพจากการประกวด ถ่ายภาพ ASA Photo 

Contest ที่มารวมกันพูดเรื่องเมืองน่าอยู่ผ่านภาพ คน ต้นไม้ เมือง และ 

Mass Transit 

Giant Art Court is an open art gallery featuring works by wellknown 

artists such as NUTDAO, Lolay & Family, Noppanan, 

Tuna Dunn, Try2benice, and Wisut (Mamuang), as well as 

photographs from the ASA Photo Contest. It is also a forum for 

addressing livability issues across a variety of topics. 

TOYTING 

เมืองหลวงน่าอยู่ 

4 

โชว์ LIVE ART โดย Roman Ninja & Family, และ Kon to Mor บน 

ศิลปะการจัดวางชุด ‘ต้อยติ่ง เป๊าะแป๊ะ’ Anada x Embassy เลือก 

สัญลักษณ์ต้อยติ่ง มาสื่อถึง ‘เมืองหลวงน่าอยู่’ เพราะเป็น เมล็ดพันธุ์ 

ธรรมชาติหาได้ทั่วไป มักถูกนำามาเป็นของเล่นสร้างรอยยิ้มและความสุข 

ได้ง่าย 

Toyting is a live art performance by Roman Ninja & Family and 

Kon to Mor that takes place in collaboration with the installation 

art ‘Toy Ting Poe Pae.’ Waterkanon, or ‘Toy Ting,’ was 

chosen as a symbol to represent the ‘livable capital city’ as it 

is a natural toy that quickly inspires smiles and happiness. 

Hear the Unheard 

Sound 

Designer: Supermachin 

พื้นที่การจัดวางทางเสียง เพื่อเปิดให้เราได้ฟังและโอบรับความหลาก- 

หลายที่เกิดขึ้นในเมืองจากทั้งคน และสิ่งมีชีวิตนานา WOW × Hear & 

Found จึงนำาประสบการณ์ทางเสียงของกลุ่มชาติพันธุ์ ธรรมชาติ สรรพ- 

สัตว์ มาสร้างประสบการณ์เมืองน่าอยู่ในสวนป่า 

The sound installation allows one to listen to individuals and 

all living beings while celebrating the city’s diversity. WOW 

x Hear & Found combines the sounds of ethnic groups, 

nature, and animals to create a livable city in the forest park 

of Benchakitti. 

(งานนี้มีเทปคาสเซ็ทมาให้ฟังด้วย) 

5


41 

Shiny Planets 

& the Sun Flower 

เมื่อดอกทานตะวันคือพวกเราทุกคน WOW X SC ASSET จับมือกันนำา 

เสนอการจัดวางงาน Mirror ball และ Sun Flower Installation ขนาดใหญ่ 

ที่ถูกวางไว้คู่กันเพื่อสะท้อนเรื่องราววิถีชีวิตคนเมือง และการร่วมมือกัน 

เพื่อสร้างเมืองที่น่าอยู่และสุขภาวะที่ดีขึ้น 

Sunflowers are us! WOW and SC Asset were working together 

to show the huge Mirror Ball and Sun Flower installation 

art. These pieces of art are placed next to each other to reflect 

the urban lifestyle, with the goal of making cities better and 

making people feel better. 

6 

04-07 

นิทรรศการกลางสวนที่เปิด 

ให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม 

ได้ฟรีตลอดช่วงวันจัดงาน 

7

42 


08 

‘Gravity painter’ 

ผ้า hologram ยาว 32 เมตร 

โดย PHTAA Living Design 

ที่ถูกขึงกลางสวน เพื่อทำา 

หน้าที่เป็นเครื่องมือในการ 

ระบายสีลงบนผลงานของ 

ศิลปิน Jirayu Koo


43 

8

44 


Drip Painting 

with CARE 

Experimental LIVE ART หรือ งานศิลปะแนวทดลองที่ทุกคนมีส่วนร่วม 

สร้างผ่านกระบวนการหยดสีที่ ปราศจากกลิ่นฉุน ไม่เป็นอันตรายจาก 

TOA เพื่อให้เกิด Marble effect ตามธรรมชาติ ชิ้นงานที่ได้ใน แต่ละจุด 

จะประกอบร่างกลายเป็นผลงานที่ศิลปินนักวาดภาพประกอบ Jirayu Koo 

ได้รังสรรค์ขึ้นเป็น พิเศษสําหรับงานนี้ 

Drip Painting with CARE is an experimental live art form where 

anyone can make their own work of art using TOA’s odor-free 

and nontoxic paint and dripping techniques to achieve a natural 

marble effect. The pieces collected at each station will be 

combined into artwork created exclusively for this event by 

illustrator Jirayu Koo 

Seed Soil Soul 

Designer: N7A 

เมื่อดินมีชีวิตและเป็นอาหารของต้นไม้ การเรียนรู้วิธีปรุงอินทรีย์วัตถุ 

ให้เกิดดินจึงสำาคัญ และเป็นพื้นฐาน เพื่อให้เข้าใจต้นไม้ที่ปลูก WOW X 

Big Trees & Friends ป่าล้อมเมือง ชุมชนพูนสุข สมาคมรุกขกรรมไทย 

จึงรวมตัวกันเพื่อจัดกิจกรรมรู้จักเมล็ดพันธุ์ เข้าใจดิน รู้ใจต้นไม้ และปิด 

ท้ายด้วยการร่วมเป็นนักดูแล ตัดแต่งต้นไม้ในเมืองให้ถูกหลัก ‘เพราะ 

ต้นไม้ปลอดภัย คนก็ปลอดภัย’ 

Soil is an essential food source for plants; thus, learning how 

to mix organic matter serves as the foundation for understanding 

the planted trees. WOW x Big Trees & Friends, City 

Forest, Poonsuk Planet, and Thai Arboriculture Association 

have collaborated to arrange an activity that provided knowledge 

about seeds, soil ecology, tree comprehension, and 

how to become an arborist as it is believed that ‘people are 

safe if trees are safe.’ 

Observation 

Signs by WOW 

Designer: UNPLAN 

Sponsored by: ThaiBev and SC Asset 

ร่วมสังเกตการณ์ธรรมชาติไปกับเทศกาล ‘อัศจรรย์เมืองน่าอยู่’ ด้วย 

การเก็บเกร็ดความรู้บนป้ายข้อมูล และอุปกรณ์ดีไซน์พิเศษเพื่อเข้าใจ 

ความสัมพันธ์ระหว่างสัตว์น้ำา ป่า และนิเวศอื่นๆ ในสวนเบญจกิติ 

Join in the natural observation activities as part of ‘Wonder of 

Well-being’ festival by gathering information from observation 

directory boards and using our specially designed devices to 

learn about the relationships between animals, water, forests, 

and the ecosystems of Benchakitti Park. 

Solar Life 

Designer: MultiStudio 

Sponsored by: SCG Solar Roof Solutions 

ศิลปะอุโมงค์ Solar Kaleidoscope ปิดผิวภายนอกด้วยวัสดุกระจกทั้ง 

ส่วนงานจัดแสดงเพื่อเป็นการ ผนวกรวมเป็นส่วนหนึ่งกับสภาพแวดล้อม 

ภายนอก ภายในฉายภาพที่ให้ผู้เข้าชมวาดได้เอง พร้อมภาพ video visual 

ที่สะท้อนมุมมองดีๆ จากธรรมชาติ ทั้งนี้ ยังมีส่วนจัดแสดงการติดตั้ง 

และระบบการทำางาน ของชุดโซลาร์เซลล์อย่างง่ายที่เป็นส่วนหนึ่งของ 

พลังงานในอุโมงค์ เมื่อพลังงานแสงอาทิตย์สามารถเข้า กับไลฟ์สไล์ของ 

ยุคได้อย่างไม่ยากเย็น ผู้เชี่ยวชาญที่ตอบทุกโจทย์ของพลังงานไฟฟ้าใน 

บ้าน จึงชวนมาเปิดมุมมองใหม่ในการ ‘เปลี่ยน’ มาใช้พลังงานสะอาด 

The Solar Kaleidoscope Tunnel Art’s exterior is covered 

entirely with glass and blends perfectly with its surroundings. 

Inside, visitors’ drawings are shown, together with video 

visuals of scenic vistas of nature. A simple version of the 

solar cell system that powers the tunnel is also available to 

be observed. 

09 

SCG Solar Roof 

Solutions ซุ้มงาน 

แสดงศิลปะ จาก 

‘พลังงานสะอาด’


45 

9

46 


10 

ภาพคุณชัชชาติ สินธิพันธุ์ 

และคุณไพทยา บัญชากิติคุณ 

ระหว่างเดินชมงาน 

11 

บรรยากาศกิจกรรมนั่งชม 

ดนตรีกลางสวนยามค่ำาคืน 

10 

Making Friends 

with Butterfly 

กิจกรรมเรียนรู้เกี่ยวกับวงจรชีวิตของผีเสื้อจากจุลฟาร์ม ตั้งแต่เป็น 

ไข่หนอนที่แม่ผีเสื้อวางบนต้นไม้ ตัวหนอน ดักแด้ สู่การเป็นผีเสื้อที่ 

เป็นห่วงโซ่สำาคัญของระบบนิเวศและพันธุ์ไม้ พร้อมกิจกรรมสำาหรับ 

ครอบครัว เช่น เลี้ยงหนอนผีเสื้อ เพนท์ปีกกระดาษ และให้น้ำาหวาน 

ผีเสื้อ กิจกรรมเดินถ่ายภาพ ที่นักสำารวจมาชวนร่วมหามุมมอง ‘มินิมอล’ และ 

Through family activities like raising caterpillars, painting 

paper wings, and feeding butterflies, the visitors will learn 

about the life cycle of butterflies, from the stage of larvae 

eggs laid on countless trees by mother butterflies to the 

stage of caterpillars and pupae, before becoming butterflies, 

one of the most important species of ecosystems. 

Photo Walk 

Activities 

‘Exploring Wonder Park’ by Minimal 

Gallery x National Geographic Thailand 

หัด@ลุยสวน by หัด Street x National Geographic 

Thailand 

แนว ‘สตรีท’ ในเทศกาล WOW เพื่อมองหาความอัศจรรย์ของความเรียบ- 

ง่ายแต่หลากหลายในสวนป่ากลางเมือง พร้อมแบ่งปันเทคนิคที่อาจนำาไป 

สู่การเปลี่ยนมุมมองในการถ่ายภาพแบบเดิม 

Guests were invited to join the professional photographers in 

the mission of finding the street views of the WOW festival, 

where wonders of simplicity and variety in the urban forest 

park are hiding. It is also a great opportunity to learn new 

techniques that may lead to new perspectives on traditional 

photography.


47 

Street 

Performance 

for WOW 

Designer: N7A 

กิจกรรมความบันเทิงจากกลุ่มศิลปินไทยที่มาแต่งเติมบรรยากาศ 

เทศกาลในสวนช่วงปลายปี อาทิ การแสดงดนตรี และสอนเต้นสวิงใน 

สวนโดยครูสุ และครูแพท The Stumbling Swingout รวมถึง Circus 

Art & Magic Performance จากกลุ่มเทศกาลละครกรุงเทพ หรือ Bangkok 

Theatre Festival (BTF) 

Thai artists put on events for recreation at the end of the year 

that would add a festival ambiance to the park. These activities 

include music performances, swing dance lessons in 

the garden by the Stumbling Swingout, and the Circus Art & 

Magic Performance by the Bangkok Theater Festival. WOW 

Art & Design market. 

WOW Art 

& Design Market 

พื้นที่ตลาดที่รวบรวมร้านค้าแนวอาร์ตแอนด์ดีไซน์ส่วนหนึ่งจาก Bangkok 

Art Biennale BKK รวมไปถึงสินค้าประเภทอาหาร ต้นไม้ และสินค้า 

จากชุมชนสร้างสรรค์ มาไว้เป็นส่วนสำาคัญอีกจุดของเทศกาลเพื่อตอบ- 

โจทย์มิติการใช้ชีวิตในเมือ 

WOW Art & Design market is another key component of the 

festival that brings together the Bangkok Art Biennale BKK’s 

art and design products, as well as food, plants, and goods 

from the creative communities 

11

48 


City Co- 

Creation 



WOW CITY CO-CREATION 

49 

Co-create the Pathumwan neighborhood with 

Pathum WOW! WOW City Co-Creation reimagines 

and rediscovers the urban district through a collaborative 

approach that brings together multiple 

sectors to envision and take part in the discussion 

in an attempt to turn Pathumwan of Bangkok’s 

city center into a more livable neighborhood, and 

an ideal place to live, work and learn. The project 

coincides with the new Bangkok governor’s walkable 

city and green city policies. The Pathumwan neighborhood 

revival is a revision and expansion of the 

250 Bangkok project, which was first conceived in 

2014 and aimed to interconnect the potential for 

urban development of areas around sky train and 

subway stations, as well as the city’s main roads, 

into “quarters inside urban blocks,” the development 

of a network of walkable routes, and small public 

green spaces scattered throughout the neighborhood. 

ร่่วมสร้้างย่่านปทุุมวัน ส่ ปทุุม WOW! เป็ นกิิจกิร่ร่มร่่วมสร้้างย่่านด้้วย่แนวคิิด้ 

City Co-Creation ทุ่หลาย่ภาคส ่วนได้้ม่โอกิาสมาร่่วมคิิด้-ร่่วมหารืือ ให้ย่่าน 

ปทุุมวัน อันเป็ นพื้้นทุ่ศููนย์์กิลางกิลางเมืองของกิรุ่งเทุพื้มหานคิร่ ส่เมืองทุ่น่าอย่่- 

น่าทำำางาน-น่าเร่่ย่นรู้้ สอด้คิล้องกัับนโย่บาย่เมืองเดิินได้้และเมืองส่เขีียวของ 

ผู้้ว ่าร่าชกิาร่กิรุ่งเทุพื้มหานคิร่ สำาหรัับแนวคิิด้กิาร่ฟื้้ นฟื้่ย่่านปทุุมวันเป็ นกิาร่ 

ทุบทุวนและต่่อย่อด้จากิโคิร่งกิาร่กิรุ่งเทุพื้ฯ 250 ทุ่จัด้ทุำาไว้ต่ังแต่่ปี พื้.ศู. 2557 

ทุ่มุ่งเชือมโย่งศัักิย่ภาพื้กิาร่พื้ัฒนาพื้้นทุ่ร่อบสถานีีรถไฟื้ฟื้้ าและริิมถนนสาย่หลักิ 

ส่ “พื้้นทุ่ชุมชนด้้านในของบล็อกิ” กิาร่พื้ัฒนาโคิร่งข่าย่กิาร่เดิินเท้้าและสร้้างพื้้นทุ่ 

ส่เขีียวสาธาร่ณะขนาด้เล็กิกิร่ะจายทั่่วย่่าน

50 

กิจกรรม City Co-Creation workshop จึงเป็นส่วนหนึ่งของ 

ASA WOW 2022 โดยสมาคมสถาปนิกสยามฯ และกรุงเทพ- 

มหานคร ที่ผสานเข้ากับกิจกรรมการเรียนการสอนของ 

นิสิตหลักสูตรสถาปัตยกรรมผังเมือง คณะสถาปัตยกรรม- 

ศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ UDDC สมาคม 

สถาปนิกผังเมือง PNUR, WE!PARK, BIGTREE และ 

สำานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) 

ในการจัดกิจกรรม City Co-Creation Workshop ได้รับเกียรติ 

จาก รศ.ดร.จิตติศักดิ์ ธรรมาภรณ์พิลาส รองอธิการบดี 

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่เอื้อเฟื้อสถานที่และให้เกียรติ 

ร่วมเปิดงาน ร่วมด้วยคุณไพทยา บัญชากิติคุณ อุปนายก 

สมาคมสถาปนิกสยามฯ และประธานจัดงานเล่าถึงงาน 

ASA WOW และความสำาคัญของโครงการ City Co-Creation 

ปทุมวัน-ปทุม WOW และ ผศ.ดร.ปริญญ์ เจียรมณีโชติชัย 

นายกสมาคมสถาปนิกผังเมือง นำาเสนอศักยภาพ โอกาส 

และความสำาคัญของย่านปทุมวันทั้งนี้ในกิจกรรม มีผู้เข้าร่วม 

กระบวนการร่วมสร้างสรรค์กว่า 60 คน จาก 16 องค์กร 

อันประกอบด้วยหน่วยงานภาครัฐ เช่น กรุงเทพมหานคร 

สำานักบริหารระบบกายภาพ และสถาบันการขนส่ง จาก 

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ภาควิชาการวางแผนภาคและเมือง 

คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ และภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า 

คณะวิศวกรรมศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กลุ ่ม 

CU WALK สำานักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) องค์กร 

จากภาคเอกชนและประชาสังคม เช่น เพจ ACCESSIBILITY 

IS FREEDOM, ORIGIN PROPERTY, LANDOMETER 

MUVMI FUTURETALES LAB BY MQDC, BARAMIZI 

และตัวแทนชุมชนในย่าน จากชุมชนย่านสะพานเขียว 

มัสยิดอินโดนีเซีย และประชาชนทั่วไปผู้สนใจที่ลงทะเบียน 

จากออนไลน์ 

นอกจากนี้ ส่วนหนึ่งในกิจกรรม ASA WOW 2022: City 

Co-Creation ยังมีการประกวดรางวัลการออกแบบร่วม 

สร้างย่านปทุมวัน ด้วยโจทย์ ‘เมืองเดินได้-เดินดี’ และ 

ได้มอบรางวัลไปภายในวันงาน โดยคุณชยพล สิทธิกรวรกุล 

ได้รับรางวัลชนะเลิศ ผลงานการออกแบบพื้นที่ถนนกรุงเกษม 

ส่วนคุณณัฏฐธิดา กาวี และคุณดรัลรัตน์ อุทโท ได้รับรางวัล 

รองชนะเลิศอันดับ 1 ผลงานการออกแบบพื้นที่ถนนเจริญเมือง 

และทีมคุณณัฐนิชกุล วนิชพิสิฐพันธ์ คุณรุจิเรข ผูกพัน และ 

คุณอภิสรา อรรฆนิพัทธ์ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 

ผลงานการออกแบบพื้นที่สุขุมวิทซอย 10-15 


The City Co-Creation workshop is considered 

a part of ASA WOW 2022, co-hosted by the Association 

of Siamese Architects under Royal Patronage 

and the Bangkok Metropolitan Administration. The 

activity is integrated into the curriculum of Chulalongkorn 

University’s Faculty of Architecture’s Urban 

Architecture program, with participation from 

UDDC, the Thai Urban Designers Association, 

PNUR, WE!PARK, BIGTREES, and the Thai Health 

Promotion Foundation. 

The City Co-Creation Workshop welcomed 

Associate Professor Dr. Jittisak Thammaphonpilart, 

Vice Dean of Chulalongkorn University, who not only 

lent space for the event but also attended the opening 

day as one of the honorable guests. Also present 

was Paithaya Banchakittikhun, vice president of 

the Association of Siamese Architects under Royal 

Patronage and chairman of the steering committee, 

who expressed the importance of ASA WOW and 

projects such as the City Co-Creation: Pathumwan- 

Pathum WOW. Assistant Professor Dr. Prinn Jienmaneechotechai, 

President of the Thai Urban Designers 

Association, spoke at the workshop about 

Pathumwan’s potential, opportunities, and significance. 

Over 60 participants from 16 organizations 

attended the workshop, including the Bangkok 

Metropolitan Administration, Chulalongkorn University’s 

Office of Physical System Management and Institute 

of Transportation, the Department of Regional 

and Urban Planning of Chulalongkorn University’s 

Faculty of Architecture, the Department of Electrical 

Engineering from Chulalongkorn University’s Faculty 

of Engineering, CU Walk, and DEPA. Also joining the 

activity were organizations and representatives from 

the private and public sectors, such as Accessibility 

is Freedom, Origin Property, Landometer, Muvmi 

Futuretales Lab by MQDC, BARAMIZI, and representatives 

from local neighborhoods such as Saphan 

Kheaw Bridge Community and Indonesian Mosque 

Community. Interested individuals were also welcome 

to participate in the workshop through online 

registration. 

The design competition for Pathumwan neighborhood 

creation with the theme ‘Good Walk, Walkable 

City’ was also included as a part of ASA WOW 2022: 

City Co-Creation. At the awarding ceremony, the 

winners were announced, with Chayaphol Sitthikornworakul’s 

design of Krungkasem Road winning the 

grand prize. The first runner-up was Nattathida Kawee 

and Daranrat Utto’s design of Charoen Mueng Road, 

while the second runner-up was given to Natchanikul 

Wanichpisitphan, Rujirek Pookphan and Apisara 

Akkanophat for their reimagination of urban space 

on Soi Sukhumvit 10–15 Street. 

01 

บรรยากาศกิจกรรม 

Workshop 

02 

ภาพคุณไพทยา 

บัญชากิติคุณ บนเวที 

ระหว่่างเล่าถึงที่มาของ 

งาน ASA WOW

WOW CITY CO-CREATION 

51 

2 

1 

3 

4 

03-04 

บรรยากาศการร่วม 

ระดมความคิดสร้างสรรค์ 

ของผู้เข้าร่วมกิจกรรม 

Workshop 

05 

ประธานจัดกิจกรรม 

ทุกท่านร่วมถ่ายภาพหมู่ 

กับผู้เข้าร่วมกิจกรรม 

Workshop 

5

52 


FORUM 

Every development would create change, 

as we know, especially in the development of 

the ‘urban’ level; every change will naturally 

affect the stakeholders in the ecosystem 

that form the city’s constituents. There is no 

exception, even when the ‘city’ is of a diversity 

of people and dwellers. Developing a city that 

sustainably meets various needs can not be 

caused by just one person but arises from the 

joint planning of different groups of people 

within that city, and do it systematic. 

Text: Asst. Prof. Dr. Pechladda Pechpakdee and Kullaphut Seneevong Na Ayudhaya

WOW FORUM 

53 

One of the main activities of the WOW-Wonder of Well-Being 

2022 Festival, a wonderful, livable city event - is WOW FORUM 

exchange platform. The Forum aims to reflect diverse perspectives 

from all sectors of the city on various factors to pass on 

the change and/or affected by urban development by emphasizing 

how all elements that are constituents are related to 

each other as well as reflecting visions, attitudes, including 

listening to the voices of many people who think differently. 

How are all factors that are constituents related to each 

other? It is one of the mechanical concepts that determine the 

direction of urban development of the 20 th century that can 

help find solutions to complex problems in cities with different 

contexts. 

WOW FORUM opens up an exchange platform for ideas, information, 

knowledge, and work experience from city activists 

throughout the 5 days of the festival, with 5 main themes 

consisting of Into the City/ People and the City/ Co-Creation 

for Future City/ Enjoy the City/ Into the Future. These sessions 

demonstrate not only what the city is facing and how it is 

today but invite each other to question the future of the city 

together - how can we as citizens cope with those changes? 

เราคงปฏิิเสธไม่่ได้้ว่่าในทุุกการพััฒนา ย่่อม่สร้างการเปลี่่ย่นแปลี่ง โด้ย่เฉพัาะการพััฒนาในระดัับ ‘เมืือง’ ทุุกการเปลี่่ย่นแปลี่ง 

นันย่่อมส ่งผลี่กระทุบต่่อผ้มีีส ่ว่นเก่ย่ว่ข้้องในระบบนิเว่ศทุ่ก่อตััวร ่ว่ม่กันเป็ นองค์ประกอบข้องเมืือง รว่ม่ทุังเม่ือ ‘เมืือง’ คือ 

พัืนทุ่แห่่งคว่าม่ห่ลี่ากห่ลี่าย่ข้องผ้คน การจะพััฒนาเมืืองทุ่ต่อบโจทุย่์คว่าม่ต่้องการทุ่ห่ลี่ากห่ลี่าย่อย่่างย่ังยืืนนัน คงไม่่ได้้ 

เกิดขึ้้ นจากเพั่ย่งบุคคลี่ใดบ ุคคลี่ห่น้ ง แต่่เกิดขึ้้ นจากว่างแผนร่ว่ม่กันข้องกลีุ่่ม่คนทุ่ต่่างๆ ภาย่ในเมืืองนันๆ อย่่างเป็ นระบบ 

ในเทุศกาลี่ WOW-Wonder of Well-Being 2022 อัศจรรย่์เม่ืองน่าอย่้่ ห่น้ งในกิจกรรม่ห่ลี่ักข้องงาน คือ WOW FORUM 

เว่ทุ่แลี่กเปลี่่ย่น สะทุ้อนมุ่ม่ม่องทุ่ห่ลี่ากห่ลี่าย่จากทุุกภาคส่ว่นข้องเม่ือง ต่่อปั จจัย่ด้้านต่่างๆ ทุ่จะส่งต่่อการเปลี่่ย่นแปลี่ง แลี่ะ 

ห่รือได้้รับผลี่กระทุบจากการพััฒนาเม่ือง โด้ย่การเน้นให่้เห่็นว่่าทุุกปั จจัย่ทุ่ลี่้ว่นเป็ นองค์ประกอบซ้ งกันแลี่ะกันม่่คว่าม่สัม่พัันธ์ 

ต่่อกันอย่่างไร อีกทุั้งการสะทุ้อนว่ิสัย่ทุัศน์ ทุัศนคต่ิ รว่ม่ทุั้งการรับฟั งเส่ย่งข้องห่ลี่าย่คนทุ่คิด้ต่่าง เป็ นห่น้ งในแนว่คิด้เชิงกลี่ 

ไกการกาห่นด้ทุิศทุางข้องการพััฒนาเม่ืองแห่่งศต่ว่รรษทุ่ 21 ทุ่จะสาม่ารถช่ว่ย่ห่าคาต่อบข้องโจทุย่์ทุ่สลี่ับซับซ้อนในเม่ืองทุ่ม่่ 

บริบทุทุ่แต่กต่่างกันได้้ 

WOW FORUM จ้งเปิ ดพื้้นทุ่แลี่กเปลี่่ย่นให้้กับแนว่คว่ามค ิด้ ข้้อม่้ลี่ คว่าม่ร้้ แลี่ะประสบการณ์์การทุางานจากผ้ข้ับเคลื่่อน 

เรืองเมืือง ต่ลี่อด้ระย่ะเว่ลี่า 5 วัันข้องงานเทุศกาลี่ ใน 5 ธ่ม่ห่ลี่ัก ประกอบด้้ว่ย่ Into the City/People and the City/ 

Co-Creation for Future City/Enjoy the City/Into the Future ทุ่ไม่่เพั่ย่งบอกเลี่่าถึงสิ่งทุ่เป็ นอย่้่ในว่ันนี้ แต่่ชว่นกันต่ั้ง 

คำถาม่กับอนาคต่ข้้างห่น้าข้องเม่ืองไปพัร้อม่กัน ว่่าเราในฐานะพัลี่เม่ืองจะรับม่ือกับการเปลี่่ย่นแปลี่งเห่ลี่่านั ้นอย่่างไรได้้บ้าง

54 

Into the City 

23 November 2022 


เวที WOW Forum 2022 เริ่มต้นด้วย ‘Introduction to City 101’ โดย 

รศ.ดร.พนิต ภู่จินดา เปิดการเสวนาแรกของวันโดยเน้นให้เห็นว่า เมือง คือ 

ศูนย์รวมเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่มารวมกัน แล้วเชื่อมกับเมืองอื่นๆ ระหว่าง 

กัน และมีพัฒนาการขึ้นเรื่อยๆ หน้าที่ของรัฐคือเป็นผู้สนับสนุนความพร้อม 

ในการพัฒนา (facilitator) และผู้กำาหนดกรอบกติการพัฒนา (regulator) 

และโลกในอนาคตสาธารณูปการต่างๆ จะเปลี่ยนเป็นสาธารณูปโภค คือ 

บริการต่างๆ ของรัฐจะเข้าสู่ระบบออนไลน์ เมืองจะมีความเป็นธรรมมากขึ้น 

จากการเปิดเผยข้อมูลและการใช้เทคโนโลยี และเมื่อการเข้าถึงเทคโนโลยี 

ที่ดีทำาให้การทำางานจากที่ไหนก็ได้ ทำาให้ประเทศไทยได้โอกาสจากกลุ่ม 

digital nomads และเมืองต้องกำาหนดภาพลักษณ์เฉพาะ (branding) เพื่อ 

สร้างโอกาสและความแตกต่างในการพัฒนา 

‘Open Government Data’ นำาเสนอตัวอย่างรูปธรรมของการนำาข้อมูลมา 

ใช้ในการตัดสินใจและวางแผนพัฒนาเมือง โดยคุณอาสา สุขขัง ผู้อำ านวยการ 

กองสารสนเทศระบายน้ำา กล่าวถึงสภาพภูมิศาสตร์ของกรุงเทพมหานครที่ 

ต่ำากว่าระดับน้ำาทะเล โดยได้มีการแบ่งโซนปิดล้อม เพื่อจัดการน้ำ า 3 โซน ตาม 

ระบบ polder system คือการจัดกลุ่มเป็นหลุมๆ ของที่ดิน ในโซนกรุงเทพ- 

ตะวันตก กรุงเทพชั้นใน และกรุงเทพฯตะวันออก สำานักการระบายน้ำา ได้มี 

การเปิดเผยข้อมูลในการบริหารจัดการน้ำา และมีการเชื่อมข้อมูล ทำา dashboard 

ที่ประชาชนทั่วไป สามารถติดตามได้ และความคาดหวังในอนาคต 

คือการพัฒนาเทคโนโลยี โดยการใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI คำ านวณควบคุม 

เพื่อลด human error และสร้างทางเลือกในการเดินทาง ให้สะดวกสบาย 

ยิ่งขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงเส้นทาง น้ำาท่วมวิกฤต 

คุณเทพพร จำาปานวน นายกเทศบาลตำาบลอาจสามารถ จังหวัดร้อยเอ็ด 

เล่าการทำางานของเทศบาลตำาบลอาจสามารถที่นำาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ใน 

การบริหารจัดการชุมชนเมือง ทำาให้สามารถสื่อสารโดยตรงกับประชาชน 

ได้สะดวก ลดขั้นตอนการทำาจดหมาย การเดินทาง โดยที่ทั้งประชาชนและ 

เทศบาลต่างมีข้อมูลอยู่ในมือ โดยเทศบาลได้ติดสติ๊กเกอร์ที่หน้าบ้านให้ 

ประชาชนได้ร้องเรียน และเข้าถึงข้อมูลอย่างว่องไว เช่น การร้องเรียนเรื่อง 

น้ำาประปาไม่ได้มาตรฐาน ภายหลังได้มีการพัฒนาคุณภาพน้ำาและแสดงค่า 

มาตรฐานให้ประชาชนมั่นใจว่าน้ำาประปาดื่มได้ และมีระบบอัจฉริยะ โดย 

ไม่ต้องส่งเจ้าหน้าที่ไปจดเลข เก็บค่าประปา แต่ใช้ระบบไอโอทีส่งไปยัง 

gateway ของเทศบาล และสามารถรู้ตำาแหน่งท่อแตกรั่ว ตรวจสอบได้ถึง 

ปริมาณการใช้น้ำาในแต่ละบ้าน และประชาชนสามารถสแกนคิวอาร์โค้ด 

ชำาระค่าประปาได้เลย โดยได้รับความช่วยเหลือจากกระทรวงดิจิทัลเพื่อ 

เศรษฐกิจและสังคม ซึ่งระบบทั้งหมดน่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในกุมภาพันธ์ 

พ.ศ. 2566 


1-4. The Association of Siamese Architects under Royal Patronage 

The WOW Forum 2022 started with ‘Introduction to City 101’ 

by Assoc. Prof. Dr. Panit Pujinda, who opened the day’s first talk 

by emphasizing that a city is a center of expertise that comes 

together, connects with other cities, and then continues to 

develop. The government has to support development as a 

facilitator and regulator. In the future, public facilities will become 

public utilities, and government services will go online. 

The city will be fairer and more equal in terms of information 

disclosure and the use of technology. And when access to good 

technology makes working possible from anywhere, Thailand 

can gain opportunities from digital nomads. The city must establish 

a specific image, or ‘brand’ to create opportunities and 

differentiate in city development. 

‘Open Government Data’ presents concrete examples of how 

data can be used in decision-making and urban development 

planning by Asa Sukkhang, Director of the Drainage Information 

Division. He described Bangkok’s geography, which is below 

sea level, and how the city was divided into enclosed zones 

to manage water in three zones based on the polder system, 

which is divided into holes of land in the western Bangkok 

zone, inner Bangkok zone, and eastern Bangkok zone. The 

department has disclosed information on water management. 

A data connection is created to make a dashboard that the 

general public can track. The future expectations are the 

development of technology using artificial intelligence or AI 

to calculate control, reduce human error, and create alternative 

travel options to be more comfortable and avoid the critical 

flooding route. 

Thepporn Champanava, Mayor of the Municipality of Atsamat 

Subdistrict, Roi Et Province, shared the work of the sub-district 

municipality that brings technology to use in the management 

of urban communities, making it possible to communicate 

directly with the public conveniently and reducing the process 

of making letters, travel. By doing so, citizens and municipality 

both have information in hand. The municipality, in addition, has 

posted a sticker in front of the house for people to complain and 

gain quick access to information, such as complaints about substandard 

tap water. Later, the quality of the water was developed, 

and the standard was shown to assure the public that tap water 

was drinkable. The municipality also provides an intelligent 

system, so there is no need to send officials to write down water 

bill numbers. Instead, use the IoT system to send data to the 

municipal gateway and to know the location of the leaking pipe 

and the amount of water used in each home. The municipal 

members can scan the QR code to pay for water bills immediately 

with assistance from the Ministry of Digital Economy and 

Society. The entire system is expected to be completed by 

February 2023.


55 

1 

3 

2 

4

56 


ส่วน ดร.วสันต์ ภัทรอธิคม ผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม ‘Traffy Fondue’ ชี้ให้เห็น 

ประโยชน์ของการเปิดเผยข้อมูลต่างๆ ของเมืองจะส่งเสริมให้เกิดความร่วม- 

มือจากภาคส่วนต่างๆ และแตกยอดแนวคิดการทำางานในการพัฒนาเมือง 

แก้ปัญหาเมืองได้หลากหลายมากขึ้น โดยทั้งภาครัฐในกรุงเทพมหานคร 

และต่างจังหวัด ภาควิชาการ และภาคธุรกิจอย่างสตาร์ทอัพ ที่สามารถนำา 

ข้อมูลไปใช้ เพื่อพัฒนาธุรกิจ และอุดช่องว่างการทำางานที่เกิดขึ้นในเมือง 

ส่วนสำาหรับนิยามของเมืองน่าอยู่นั้น มีความหลากหลายจากความแตกต่าง 

ของแต่ละคน เมืองที่ดีจึงเป็นเมืองที่ควรมีความสามารถรองรับความหลาก 

หลายของผู้คน และกิจกรรมการอยู่อาศัย ซึ่งเทคโนโลยี จะมาช่วยรองรับ 

5 

ความหลากหลายตรงนี้ได้ 

ในหัวข้อ ‘Reshaping cities with visionary companies’ เป็นการนำาเสนอ 

ให้เห็นบทบาทของการให้บริการด้านข้อมูลและพื้นที่จากภาคเอกชนที่ส่งผล 

ซึ่งกันต่อการใช้ชีวิตของคนเมืองในปัจจุบัน โดยมีคุณฐิตารีย์ อุดมกิจธนสาร 

จาก Grab Thailand ที่ยกตัวอย่างเมืองต่างๆ ที่มีความแตกต่างของนิยาม 

ความสุขของแต่ละเมือง เช่น ประเทศภูฏาน เน้นการมีความสุขธรรมชาติ 

ประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศสิงคโปร์ เน้นการพัฒนานวัตกรรมนำามา 

สู่ความสุข ปัจจุบันเทคโนโลยีมาเปลี่ยนวิถีชีวิตมนุษย์ และ Grab เป็นส่วน 

หนึ่งที่เข้ามาช่วยเชื่อมระบบนิเวศเมืองทั้งสี่ร้อยแปดสิบเมือง ในแปดประเทศ 

แถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งการเดินทางและการรับประทานอาหาร 

โดยมุ่งตอบสนองให้การใช้ชีวิต เมืองสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งต้องเข้าใจ 

พฤติกรรมมนุษย์ตั้งแต่ตื่นนอนยันเข้านอน เข้าใจภูมิสังคมแต่ละแห่ง เสาะ- 

แสวงหาร้านท้องถิ่นที่มีความเฉพาะเจาะจงในแต่ละสถานที่ ซึ่งเป็นเสน่ห์ของ 

เมือง ทั้งประเทศไทยและในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Grab เข้ามา 

เป็นส่วนหนึ่งในการค้นหาอาหารและการเดินทาง โดย Grab เริ่มกลายเป็น 

คำากริยา ของผู้คนเมืองในการค้นหาสิ่งเหล่านี้ เช่น วันนี้ Grab อะไรดีเหมือน 

กับที่ Google กลายเป็นคำากิริยาในการค้นหาข้อมูลของคนทั่วโลก ซึ่งแสดง 

ถึงเทคโนโลยีได้หลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตมนุษย์และสังคม 

คุณศารณีย์ บุญฤทธิ์ธงไชย จาก Google Thailand ชี้ให้เห็นถึงบทบาทของ 

กูเกิล คือการจัดระเบียบข้อมูล ให้เข้าถึงง่าย และสะดวกสบายที่สุด ในเรื่อง 

เมืองก็เช่นกัน Google ได้ทำาการจัดระเบียบเมืองให้เข้าใจง่าย ผ่านแผนที่ 

ผ่านข้อมูล เช่น Google และปัจจุบัน มี Google Environmental Insights 

Explorer ทำาให้สังคม เข้าใจถึงการปล่อยคาร์บอนภายในเมือง การเปรียบ 

เทียบระหว่างการเดินทาง อาคาร ว่าสิ่งใดจะปล่อยคาร์บอนได้มากกว่ากัน 

ซึ่งจะช่วยให้การวางแผนผังเมืองและแก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่างเช่น 

การค้นหาข้อมูลเที่ยวบินสำาหรับเดินทาง Google จะช่วยแสดงให้เห็นเส้น 

ทางที่ปล่อยคาร์บอนแตกต่างกัน ให้ผู้บริโภคได้ใช้ข้อมูลตัดสินใจเลือก 

เปรียบเทียบ ทั้งมิติราคาและมิติสิ่งแวดล้อม ทำาให้ผู้ประกอบการต้องคำานึง 

ประเด็นนี้ด้วยจากข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ ยกตัวอย่างเช่น เมือง Yokohama 

ประเทศญี่ปุ่น ได้นำามาใช้สอนนักเรียนในเรื่อง zero carbon city ในระดับ 

องค์กร Google ได้ตั้งพันธกิจเป็นองค์กรที่เป็น carbon neutral ตั้งแต่ปี 2017 

และมุ่งหมายสู่ net zero การใช้พลังงานหมุนเวียน ในปี 2030 คุณศารณีย์ 

ยังได้ยกประเด็นที่น่าขบคิดจาก Google CEO อย่างคุณพิชัย ซุนดา ผู้ให้ 

มุมมองว่าในอดีตและปัจจุบันมนุษย์มีความสุขที่ได้อยู่ในกระแสและการ 

เชื่อมต่อ ในอนาคตพวกเขามีความสุขที่ได้หลุดออกจากกระแสและการ 

เชื่อมต่อเช่นกัน Google จึงพยายามเข้าใจมนุษย์ โดยมีการพัฒนาแอป- 

พลิเคชันช่วยอำานวยความสะดวก สร้างสุขภาวะที่ดี (well-being) ให้กับ 

มนุษย์ได้ 

7 

6


57 

Dr. Wasan Pattara-atikom, the developer of the ‘Traffy Fondue’ 

platform, pointed out the benefits of disclosing information 

about the city, which will encourage cooperation from various 

sectors and generate diverse ideas for working in urban 

development to solve a wide variety of issues. The government 

sector in Bangkok and other provinces, the academic sector, 

and the business sector, like startups, can use the information 

to develop businesses and fill work gaps in the city. As for the 

definition of a livable city, there are a variety of ways to define 

each person’s differences. A good city is one that should have 

the ability to accommodate a variety of people and living activities, 

and technology will help support the diversity here. 

8 

The theme ‘Reshaping cities with visionary companies’ presents 

the role of information services and private space in the interconnectedness 

of today’s urban lifestyles. Thitaree Udomkitthanasarn 

from Grab Thailand gave examples of different cities with 

different definitions of happiness. For instance, Bhutan focuses 

on having natural happiness, while the USA and Singapore 

focus on developing innovations that lead to happiness. Today 

technology has changed human life, and Grab is a part of that 

ecosystem that helps connect the ecosystem of more than four 

hundred and eighty cities in eight countries in Southeast Asia, 

either for travel or dining, by focusing on responding to life in 

the city and making it more comfortable. To achieve that, one 

must understand human behavior from waking up to going to 

bed, understand each social landscape, and constantly search 

for local shops specific to each location, which are the charm 

of the city. In Thailand and Southeast Asia, Grab has become 

a part of the search for food and travel. It has become a verb 

for urban people to search for these things, like Google has 

become a verb for people worldwide. It shows that technology 

has integrated into human life and society. 



9 

Saranee Boonritthongchai from Google Thailand pointed out 

that the role of Google is to organize information for easy access 

and comfort. In terms of cities as well, Google has organized 

cities to be easy to understand. Through data maps such as 

Google and now Google Environmental Insights Explorer, the 

public can understand the carbon emissions within cities, comparing 

travel and building, which emit more carbon. This will 

make it easier for city planning and problem-solving. For example, 

a Google search for flight information will help reveal routes 

with different carbon emissions and enable consumers to use 

the information to make comparisons regarding price and environmental 

concerns. In light of this information, entrepreneurs 

must also consider this issue. For example, in Yokohama, Japan, 

students are taught about zero-carbon cities. At the corporate 

level, Google has been committed to becoming carbon neutral 

since 2017 and aiming for net zero renewable energy by 2030. 

Saranee also brought up an intriguing point made by Google 

CEO Sundar Pichai, who stated that humans are happy to be 

in the flow and connected in the past and present. In the future, 

they’re happy to break away from trends and connections, so 

Google also tries to understand humans by developing an application 

to facilitate comfort and create good health for humans.

58 


10 

11 

12 

13

ส่วนในช่วงสุดท้ายของวันเป็นพิธีเปิดงานเทศกาล WOW 2022: WONDER 

OF WELL-BEING CITY 2022 ‘อัศจรรย์เมืองน่าอยู่’ อย่างเป็นทางการ 

โดยคุณชนะ สัมพลัง นายกสมาคมสถาปนิกสยามฯ ได้กล่าวถึงรายละเอียด 

โครงการว่าทางสมาคมฯ ได้วางแผนงานไว้นานนับ 3 ปี และเมื่อสถานการณ์ 

โควิดซาลง จึงสามารถจัดงานนี้ได้เพื่อให้คนได้มาพบปะกันอีกครั้ง โดยเน้น 

ความหลากหลายในระดับเมือง ไม่เพียงแต่สถาปนิกเท่านั้น แต่ได้ดึงภาค 

ส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อมาร่วมสนทนา แสดงผลงานอนาคตของเมืองที่มี 

สุขภาวะ และพร้อมรับมือกับภัยพิบัติต่างๆ นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก 

รศ.ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในพิธี 

เปิดงานการจัดงาน WOW ในครั้งนี้ โดยถือเป็นนิมิตหมายของพื้นที่สาธารณะ 

ที่มีคุณภาพ ซึ่งเมืองจะมีความน่าอยู่ได้ มีสุขภาวะที่ดีได้ จะต้องมีพื้นที่ 

สาธารณะที่มีคุณภาพ เพื่อให้เราสามารถจัดแสดงความรู้และเปิดให้คนเข้า 

มาร่วมกิจกรรม และได้ยกตัวอย่างถึงพื้นที่โรงงานยาสูบที่เดิมมีบทบาทใน 

การผลิตยาสูบ ปัจจุบันเป็นพื้นที่ใจกลางเมือง ก็จัดว่าเป็นการปรับเปลี่ยน 

จากพื้นที่ของหน่วยงานภาครัฐให้ได้มีการพัฒนาเป็นพื้นที่สวนที่มีสุขภาวะ 

เป็นการเปลี่ยนแปลงที่มีความยืดหยุ่น และสร้างคุณภาพการอยู่อาศัยในเมือง 

ส่วนคุณกรณ์ จาติกวณิช ผู้มีความฝันอยากเป็นสถาปนิก เพราะเป็นอาชีพที่ 

มีความสร้างสรรค์ อิสระ มีผลงานจับต้องได้ที่ยาวนาน ได้ยกความแตกต่าง 

ของคำาว่า wow กับคำาว่า well being เป็นคนละประเด็นกัน ความ wow มี 

ขึ้นเพื่อสร้างความแตกต่าง สร้างภาพลักษณ์ แต่ความมีสุขภาวะ หรือ well 

being เป็นองค์ประกอบที่ทำาให้คนในเมืองมีความสุขน่าประทับใจ สิ่งที่ควร 

จะต้องเกิดขึ้นคือ ทั้ง wow และ well being ต้องถูกพัฒนาไปด้วยกัน อย่างไร 

ก็ตาม ยังมีความท้าทายเชิงเศรษฐศาสตร์คือผลกำาไร ที่จะทำาอย่างไรให้ 

ผู้ประกอบการเห็นชอบและมีอุดมการณ์พัฒนาเมืองในทางเดียวกัน การ 

หาความสมดุลของการพัฒนาจึงเป็นเรื่องท้าทายเพื่อให้ทุกคนได้อยู่อาศัย 

ร่วมกันอย่างมีความสุข 


59 

At the end of the first day was the official opening of the 

festival WOW 2022: WONDER OF WELL-BEING 2022, by 

Chana Sumpalang, President of the Association of Siamese 

Architects under Royal Patronage. He spoke about the project 

details that the ASA had been planning for 3 years. When 

the COVID-19 situation recovered, the ASA made the event 

possible and brought back the opportunity for people to meet 

again. He also emphasized that WOW would look at a city at 

a diverse level, not only in the circles of architects but also in 

various related sectors, to join the conversation. The event 

will showcase the future of a liveable and healthy city ready 

to deal with disasters. 

The ASA was honored by Assoc. Prof. Dr. Chadchart Sittipunt, 

Governor of Bangkok, who presided over the event’s opening 

ceremony, which is an excellent sign. The governor addressed 

the fact that, to be livable and healthy, a city must have quality 

public space so that people can share knowledge and participate 

in activities. He gave the example of thwe old tobacco 

factory area that used to play a role in tobacco production but 

is now a city center area. It is transforming from a government 

agency into a wonderful park. It’s a good example of resilience 

and improves the quality of living in the city. 

Korn Chatikavanij, the former Minister of Finance, was another 

honorable guest. He said he dreamed of being an architect 

because it is a profession that is creative, independent, and 

produces lasting, tangible work. He raised the difference 

between WOW and Well-being, implying different issues. 

Wow is meant to make a difference, to create an image, but 

happiness or well-being is an element that makes city people 

happy and delightful. What should happen is that both WOW 

and Well-being must be developed hand in hand. However, 

there is an economic challenge regarding profitability: how 

can we make entrepreneurs agree and have the ideology of 

urban development in the same way? Therefore, finding a 

good balance in development is a challenge for everyone to 

make the city a better and happier place to live. 


10-13. The Association of Siamese Architects under Royal Patronage

60 


“This event is a good sign of creating 

good public space. I think a city will be 

livable and healthy; we need quality 

public spaces where all of us can come 

and share our knowledge and connect 

without borders.” 

Chadchart Sittipunt 

Governor of Bangkok 

14 


14. The Association of Siamese Architects under Royal Patronage


61

62 

People and the City 



เมื่อเราเริ่มต้นพิจารณาองค์ประกอบของปัจจัยสำาคัญที่มีผลต่อการพัฒนา 

เมือง จะพบว่าทรัพยากรมนุษย์คือเป็นปัจจัยพื้นฐานที่มีความสำาคัญที่สุด 

เมื่อมนุษย์ได้รับการพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพย่อมส่งผลต่อความเปลี่ยน 

แปลงของเมืองอย่างยั่งยืน ในหัวข้อ ‘People and the City’ จะพาเราไป 

สำารวจถึงมิติต่างๆ ของมนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับเมือง ทั้งในมิติเชิงโครงสร้าง 

มิติของชุมชน วัฒนธรรม และมิติทางด้านปัจเจก ที่ล้วนเกี่ยวเนื่องต่อการ 

พัฒนาเมืองในอนาคต 

หัวข้อแรกเป็นการฉายภาพแนวโน้มของทิศทางเทรนด์แห่งอนาคตภายใต้ 

ธีมเรื่อง ‘Future Lab’ จากทีมงาน Baramizi Group โดย อ.ประดิษฐ์ 

รัตนวิจิตราศิลป์ นำาเสนอประเด็นในหัวข้อ ‘Megatrend Impact on 

Consumer & Business in 2030’ ที่อธิบายถึงการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ 

(Paradigm Shift) ของมนุษยชาติ ภายหลังจากการปฏิวัติทางเทคโนโลยี 

ดิจิตัล (Digitalization) ที่เปลี่ยนแปลงสังคมมนุษย์ในเชิงโครงสร้าง 

ที่ส่งผลให้นวัตกรรมใหม่ๆ ได้เข้าไปสู่ผู้บริโภคอย่างรวดเร็ว สิ่งเหล่านี้ 

ส่งผลต่ออุดมการณ์ จิตสำานึก ความคิด และวิถีชีวิต ตัวอย่างเช่น ความ 

เปลี่ยนแปลงด้านการจ้างงานที่เปลี่ยนแปลงไปสู่รูปแบบใหม่ การทำางาน 

ในรูปแบบองค์กรที่เปลี่ยนไปสู่การทำางานแบบยืดหยุ่น ความเปลี่ยนแปลง 

ด้านพฤติกรรมของผู้บริโภคจากการบริโภคสินค้าที่ขึ้นอยู่กับรสนิยม 

ของแต่ละยุคสมัย (Generation) ไปสู่การบริโภคตามความต้องการของ 

ปัจเจกบุคคล เนื่องจากการเข้าถึงเทคโนโลยีที่มีเสรีภาพส่งผลต่อรสนิยม 

การอุปโภคบริโภค ที่ก่อให้เกิดตลาดเฉพาะตัว (Niche Market) และมี 

ความซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งตลาดจะต้องสอบสนองต่ออัตลักษณ์เฉพาะของ 

ปัจเจกบุคคลที่จะทวีบทบาทเข้มข้นมากยิ่งขึ้นในทุกๆ สาขาวิชาชีพ 

ในลำาดับต่อมา คุณปรมา ทิพย์ธนทรัพย์ Chief Trend & Research Officer 

ได้มาร่วมพูดคุยในหัวข้อ ‘Xperience Design Future Trend for Property 

Sector 2023-2025’ สำารวจมิติของเทรนด์สำาหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ 

ในระยะใกล้และระยะกลาง ซึ่งได้ทำาการวิจัยตลาดเพื่อเฟ้นหาโมเดลสำาหรับ 

การสร้างความเข้าใจ โดยอาศัยกรอบความคิดในด้านทัศนคติการใช้ชีวิต 

มิติความต้องการเมืองในอุดมคติ จนสามารถสังเคราะห์แนวโน้มทิศทาง 

ได้ 4 รูปแบบ คือ 1. Value for Business นวัตกรรมด้านธุรกิจ 2. Value 

for people นวัตกรรมที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์ 3. Value for city นวัตกรรม 

ที่เกี่ยวกับเมือง 4. Value for earth นวัตกรรมที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม ซึ่ง 

ในแต่ละด้านนั้นมีนวัตกรรมต่างๆ ที่ได้หยิบยกมาแลกเปลี่ยนบนเวที 

สามารถกล่าวโดยสรุปได้ว่า แนวโน้มในระยะใกล้-กลาง คือการทำาความ 

เข้าใจต่อโลกนวัตกรรมในปัจจุบันเพื่อต่อยอดการพัฒนาธุรกิจ แนวโน้ม 

ในระยะไกล คือการปรับตัวต่อการพัฒนา วางแผนและนโยบายให้กับการ 

บริหารองค์กร 



Human resources are the most important fundamental factor 

of all the key factors affecting city development. When humans 

are developed efficiently, it will result in sustainable changes in 

the city. The topic of the WOW Forum on 24 November 2022- 

‘People and the City’ - took us to explore various perspectives 

of humans related to the city - structural, community, cultural, 

and individual, all related to the future development of our city. 

The first topic was a projection of the future trends under the 

theme ‘Future Lab’ from the Baramizi Group by Ajarn Pradit 

Ratanawijitrasilp, on the title ‘Megatrend Impact on Consumer 

& Business in 2030’. It explains the paradigm shift of humanity 

after the Digitalization or digital revolution that changes human 

society down to its structure. As a result, innovations quickly 

reach consumers, affecting ideologies, consciousness, perspectives, 

and way of life. For example, a recruiting process 

has shifted to various new models, working in an organization 

has gone to flexible working or agile office, and consumer 

behaviors have moved from consuming products that depend 

on the tastes of each generation to consumption according 

to individual needs. Since access to technology with freedom 

affects consumer tastes, which creates niche markets and 

becomes more complex, the market will have to respond to 

the unique identity of the individual, which will play a more 

significant role in every profession. 

Porama Tiptanasup, Chief Trend & Research Officer, joined 

in a discussion on the topic ‘Xperience Design Future Trend for 

Property Sector 2023-2025’ to explore the trends for real estate 

sectors in the near and medium term of time. The market research 

to find models for understanding based on the ideal 

city’s life attitude, desires, and needs can be synthesized into 

4 trends - 1. Value for the business - business innovation 

2. Value for the people - human-related innovation 3. Value 

for the city - urban innovation 4. Value for the earth - environmental 

innovation. To summarize, trends in the near-medium term 

are to understand the current world of innovation to develop the 

business further. The long-distance one is to adapt to development, 

planning, and policies for the organization’s management. 

‘City Dev Talks’ discusses how to drive the city through 

work processes with various sectors. Pornnaris Chuanchaisit, 

Chairman of the National Charter, said city development planning 

in Thailand often needs more participation from many 

sectors, but there are a few models which are successful. One 

of those examples is the model of Khon Kaen Province as the 

first model city, with the process of exchanging ideas and research 

for the joint development of the city with contributions of 

academic departments, the private sector, and the public sector. 

Also, the case of Phuket Province, which employs a new urban


63 

15 

16 

17 

18

64 


‘City Dev Talks’ เป็นการเสวนาในเรื่องของการขับเคลื่อนเมืองผ่าน 

กระบวนการทำางานโดยภาคส่วนต่างๆ โดยคุณพรนริศ ชวนไชยสิทธิ์ 

ประธานกฎบัตรแห่งชาติ กล่าวว่าการวางแผนพัฒนาเมืองจากประสบการณ์ 

ในเมืองไทยมักประสบปัญหาจากการขาดกระบวนการมีส่วนร่วมของ 

หลายภาคส่วน จึงได้ยกกรณีตัวอย่างความสำาเร็จจากต้นแบบของจังหวัด 

ขอนแก่นในการเป็นเมืองต้นแบบเมืองแรก ที่มีกระบวนการแลกเปลี่ยน 

ความคิด วิจัย เพื่อพัฒนาเมืองร่วมกันของภาควิชาการ ภาคเอกชน และ 

ภาครัฐ และกรณีของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นมิติใหม่ของกระบวนการพัฒนา 

เมืองที่น่าจับตามอง ในขณะที่ อ.ฐาปนา บุญยประวิตร นายกสมาคมการ 

ผังเมืองไทย ได้แลกเปลี่ยนในเรื่องของเกณฑ์การออกแบบด้านสภาพ- 

แวดล้อมเมืองและชุมชน ด้วยการนำาเกณฑ์ Leadership in Energy and 

Environmental Design (LEED) มาใช้ในการกำาหนดบทบาทและหน้าที่ 

ของแต่ละภาคส่วนของการพัฒนาเมือง ส่วนคุณภูษิต ไชยฉ่ำา กลุ่มนัก- 

พัฒนาเมืองระยอง และคุณนพดล ธรรมวิวัฒน์ จากกลุ่มนักพัฒนาเมือง 

สระบุรี และ ดร.สุวันชัย แสงสุขเอี่ยม ผู้แทน สมุทรสาครพัฒนาเมือง 

(วิสาหกิจเพื่อสังคม) นำาประสบการณ์การพัฒนาเมืองของตนมาร่วม 

แลกเปลี่ยน โดยมองว่าการจัดตั้งบริษัทพัฒนาเมืองจะเป็นกลไกสำาคัญ 

ที่ช่วยขับเคลื่อนแผนและนโยบายเมือง ที่ไม่ใช่เพียงแต่ภาครัฐ แต่เป็น 

การบูรณาการเชิงรุกของภาคประชาสังคม และภาคเอกชน โดยมีภาค 

วิชาการเป็นส่วนสนับสนุน ในขณะที่คุณทิพรัตน์ นพลดารมย์ ที่ปรึกษา 

สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) กล่าวถึงมิติการพัฒนา 

อสังหาริมทรัพย์สำาหรับทุกคนว่าเป็นประเด็นที่มีความสำาคัญมากที่สุด 

เนื่องจากความมั่นคงของที่อยู่อาศัยจะช่วยรับประกันคุณภาพชีวิตขั้น 

พื้นฐานของมนุษย์ รัฐจำาเป็นต้องมุ่งส่งเสริม โดยนำากรณีศึกษาโครงการ 

บ้านมั่นคง มาร่วมแบ่งปันรูปแบบของการพัฒนาชุมชนทั้งในมิติทาง 

นิตินัยและพฤตินัย และรศ.ดร.ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม ได้สำาทับถึงรูปแบบ 

การพัฒนาเมืองแห่งศตวรรษใหม่จำาเป็นต้องรับฟังเสียงทุกภาคส่วน และ 

คำานึงถึงทุกปัจจัยแวดล้อมที่ทวีความซับซ้อนในปัจจุบัน 

19 

ในหัวข้อ ‘Silom where everyone enjoys’ คุณอรฤดี ณ ระนอง ได้นำา- 

เสนอประวัติศาสตร์สังคม วัฒนธรรม และด้านเศรษฐกิจของย่านสีลม 

จากพื้นที่พาณิชยกรรมที่สัมพันธ์กับย่านท่าเรือ และสถานทูตของต่างชาติ 

มาสู่ย่านพาณิชยกรรมที่สำาคัญของกรุงเทพฯ โดยดำาเนินการศึกษา วิจัย 

เพื่อหาแนวทางการออกแบบพัฒนาย่านสีลม ผ่านการปรับปรุงภูมิทัศน์ 

เมืองให้สอดรับกับวิถีชีวิตของผู้ใช้สอยพื้นที่ ทั้งการเพิ่มพื้นที่สีเขียว การ 

ปรับปรุงทางเท้าบาทวิถี โดยเป็นการพัฒนาร่วมกับระหว่างภาคเอกชน 

ภาควิชาการ ผ่านกลุ่ม SHMA และภาครัฐคือ กรุงเทพมหานคร 

20 

ส่วน ‘Young Co-creation’ คือช่วงเสวนาที่ชวนสำารวจกิจกรรมของ 

คนรุ่นใหม่กับการพัฒนาเมือง โดย คุณทัศนวรรณ บรรจง ผู้อำานวยการ 

มูลนิธิการศึกษาเพื่อสร้างพลเมืองไทย (Rethink Urban Space) และ 

คุณฤทัยธัมม์ โสฬส เป็นตัวแทนจากโครงการริทัศน์ได้ร่วมแลกเปลี่ยน 

กิจกรรมที่เกิดขึ้นจากการระดมความคิดของเยาวชน ที่ร่วมกันออกแบบ 

การแก้ปัญหาการเดินทาง สภาพแวดล้อม อาหาร และขยะของเมือง 

คุณยศพล บุญสม จาก We!park ได้นำาเสนอโครงการการขับเคลื่อนพื้นที่ 

สีเขียวให้กับเมือง ที่ร่วมงานกับสำานักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริม 

สุขภาพ (สสส.) และกรุงเทพมหานคร ด้วยการเปลี่ยนแนวคิดการพัฒนา 

พื้นที่รกร้าง (Gray Area) ของเมืองให้เป็นพื้นที่ที่มีความสำาคัญต่อ 

21

22 


65 

development process, could be an interesting case study. 

Ajarn Thapana Bunyapravitra, President of the Thai Association 

for Town Planning, exchanged design criteria for urban and 

community environments by applying Leadership in Energy and 

Environmental Design (LEED) measures to determine the roles 

and responsibilities of each sector of urban development. As 

for Phusit Chaicham from Rayong City Development, Noppadol 

Thamwiwat from Saraburi City Development, and Dr. Suwanchai 

Sangsukiam, the representative of ‘Samut Sakhon City Development’ 

(Social Enterprise) presented their own urban development 

experiences in each province. Establishing a city development 

company could be an essential mechanism that helps drive city 

plans and policies that is not just the government. Still, it is a 

proactive integration of civil society and the private sector, with 

the academic sector as support. Tipparat Noppaladarom, 

Advisor to Community Organizations Development Institute 

(Public Organization), mentioned that real estate development is 

one of the most important issues for everyone since the strength 

and security of housing will ensure the essential quality of life 

of city dwellers and it is for the government to promote this. A 

case study of the Baan Mankong Project was shared to demonstrate 

the model of community development both legally and 

practically. Assoc. Prof. Dr. Pun Thiangburanatham emphasized 

that the model of urban development in the new century requires 

listening to the voices of all sectors and considering all factors 

in today’s ever-increasing complexity. 

23 

On the topic ‘Silom where everyone enjoys’, Ornruedee Na- 

Ranong presented the social, cultural, and economic history of 

the Silom neighborhood, from the commercial area associated 

with the port area and foreign embassies to the important commercial 

district of Bangkok nowadays. The research studies 

aim to set up guidelines for designing and developing the Silom 

district by improving the urban landscape to match the lifestyles 

of users living in the area through increasing the green area 

sidewalk improvement and improving the urban landscape in 

line with the lifestyle of the occupants. It is a joint development 

between the private sector, the academic sector through the 

SHMA group, and the public sector, which is Bangkok Metropolitan 

Authority. 



24 

‘Young Co-creation is a session to explore the activities of the 

new generation and urban development, started with the two 

speakers, Thatsanavanh Banchong, Director of the Thai Civic 

Education Foundation (Rethink Urban Space) and Ruedhaidham 

Soros, Representatives from the ‘RTUS’ Project, shared activities 

arising from the brainstorming with the youth and collaborating 

with them to design and find solutions to the issues of 

travel, environment, food, and waste in the city. Yossapon Boonsom 

from We!park presented a project to drive green spaces 

for the city in collaboration with the Thai Health Promotion 

Foundation (ThaiHealth) and the Bangkok Metropolitan Administration 

by transforming the concept of developing wasteland 

(Gray Area) of the city into an area vital to the ecosystem such 

as a health garden, public park, urban farm or Green Link, 

connecting green spaces with the city’s infrastructure system.

66 


25 

26 

27 

28 

29

ระบบนิเวศ ในการสร้างสวนสุขภาพ สวนสาธารณะ สวนรับน้ำา Urban Farm 

หรือ Green Link เชื่อมต่อพื้นที่สีเขียวกับระบบโครงสร้างพื้นฐานของเมือง 

เนื่องจากสวนสาธารณะเป็นเวทีที่ทำาหน้าที่เป็นกลไกกลางในการเชื่อมโยง 

ทรัพยากรมนุษย์กับพื้นที่ชุมชน ในขณะเดียวกันกระบวนการสร้างสวน 

สามารถเกิดขึ้นมาได้จากรูปแบบต่างๆ ที่ไม่ใช่เพียงภาครัฐ ซึ่งอาจเกิดขึ้น 

จากภาคเอกชน หรือภาคประชาสังคมที่มีที่ดิน และมีเจตจำานงร่วมกัน 

ส่วน ม.ล.จิรทิพย์ เทวกุล นักวิจัยและสถาปนิกของศูนย์บริการวิจัยและ 

ออกแบบของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และตัวแทน 

กลุ่มยังธน ที่ใช้รูปแบบการพัฒนาแบบอาสาสมัคร ในการจัดกิจกรรมใน 

พื้นที่บริเวณย่านธนบุรี ผ่านการทำากิจกรรมออนไลน์ และในพื้นที่ (Area 

Based) ในขณะที่คุณวิภาวี กิตติเธียร กลุ่มพัฒนาเมืองที่เน้นการสร้าง 

กระบวนการมีส่วนร่วมและพัฒนาเมืองในมิติต่างๆ ได้นำาเสนอกิจกรรม 

จากโครงการ Mayday ที่ดำาเนินการด้านการสื่อสาร เพื่อพัฒนาระบบขนส่ง 

สาธารณะ ผ่านการออกแบบป้ายรถเมล์ ที่รอรถเมล์ และการจัดทำาแผนที่ 

รวมไปถึงการขยายผลไปสู่จังหวัดต่างๆ เช่น จังหวัดเชียงใหม่ หรืออำาเภอ 

หาดใหญ่ โดยเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นจากการจัดทำากระบวนการมีส่วน 

ร่วมของผู้ใช้งานขนส่งสาธารณะจริง 

สำาหรับหัวข้อสุดท้ายของวัน ‘Music and city’ เป็นการสำารวจบทบาทของ 

ดนตรีกับเมือง งานมหรสพ เทศกาลดนตรี ที่เกิดขึ้นภายในเมืองเป็นหนึ่ง 

ในเสน่ห์ที่หลอมรวมอยู่ในวัฒนธรรมของเมือง เริ่มต้นเสวนาโดย 

คุณโอม ปัณฑพล ประสารราชกิจ จากวง Cocktail ได้เปิดประเด็นเสวนา 

ถึงความสำาคัญของดนตรีในมิติทางวัฒนธรรมร่วมสมัย และได้ตั้งข้อ 

สังเกตถึงความสำาคัญของบทบาทภาครัฐที่จำาเป็นต้องช่วยสนับสนุนศิลปิน 

ไทยให้ขยายฐานตลาดไปสู่ต่างประเทศมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็มีความ 

เห็นว่ารัฐควรส่งเสริมการสร้างเวทีให้กับศิลปิน ซึ่งในปัจจุบันเวทีดังกล่าว 

มีน้อยและอุตสาหกรรมดนตรีร่วมสมัยผูกอยู่กับกลไกตลาดของธุรกิจ 

บันเทิงและธุรกิจเครื่องดื่มและสถานบริการ ในขณะที่คุณพล หุยประเสริฐ 

บริษัท H.U.I. กล่าวเสริมว่ากระบวนการส่งเสริมศิลปินไทยในทุกมิติควร 

เป็นกลไกที่สำาคัญที่ควรเกิดขึ้นจากการวางยุทธศาสตร์โดยภาครัฐ ดังเช่น 

กรณีของการส่งเสริมอุตสาหกรรมดนตรีในประเทศเกาหลีใต้ ที่เกิดขึ้นจาก 

การวางยุทธศาสตร์ในการสนับสนุนของรัฐอย่างเป็นระบบ และหากเกิด 

กลไกที่รัฐช่วยสนับสนุนให้เกิดเวทีดนตรีสาธารณะ หรือกิจกรรมดนตรี 

ของเมือง จะช่วยสร้างให้เกิดกระบวนการขับเคลื่อนวัฒนธรรมของเมือง 

ผ่านงานศิลปะ ที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ และขับเคลื่อนวัฒนธรรมและ 

เศรษฐกิจได้หลากหลายกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน 

จากภาพรวมของเสวนาภายใต้ธีม ‘People and the City’ นี้ จะเห็นได้ว่า 

นอกเหนือจากการพัฒนาเมืองในมิติกายภาพนั้น การพัฒนาทรัพยากร 

มนุษย์ในเมืองจำาเป็นต้องดำาเนินการควบคู่กันในทุกมิติ ทั้งในด้านปัจจัย 

พื้นฐาน การมีที่อยู่ ที่ทำากิน การมีสาธารณูปโภคที่ดี การเดินทางขนส่ง 

มวลชนที่สะดวก ปลอดภัย มีสวนสาธารณะ และมีพื้นที่ให้ได้แสดงออก 

ในเชิงวัฒนธรรม ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ซึ่งล้วนเป็น 

สิ่งสำาคัญในการพัฒนาเมืองสู่พรมแดนที่มีความซับซ้อนและท้าทายใหม่ๆ 

ในอนาคต 


67 

Yossapol emphasized that a public park is a place that acts as 

a central mechanism to link humans with community areas, and 

planning or building a park is a process that can be done in many 

forms not only by the government but can be made possible by 

the private sector or civil society with land or a common intention. 

M.L. Jiratip Devakula, researcher and architect of the Research 

and Design Service Center of King Mongkut Institute of Technology 

Thonburi and representatives of Young-Thon Group that 

uses a voluntary development model in organizing activities 

in the Thonburi area through online and area-based activities. 

While Vipavee Kittitien, an urban development activist, focuses 

on creating a process of participation and city development at 

various levels. Vipavee presented activities from the Mayday 

Project that operates in communication to develop public transport 

through the design of bus stops, bus waiting areas, and 

mapping. Arise from the actual public transport user participation 

process; these projects also expand to other provinces such as 

Chiang Mai or Hat Yai district. 

The final topic of the day, ‘Music and city’, explores the hidden 

role of music in the city. The parades and music festivals in the 

city are one of the most integral aspects of the city’s culture. The 

talk, started by Ohm Panthapol Prasarnrajkit from the Cocktail 

band, opened up a discussion on the importance of music in 

contemporary culture. He remarked on the government’s role in 

supporting Thai artists to expand their market bases abroad. At 

the same time, the government should promote the creation of a 

platform for artists. Currently, there are few such arenas, and the 

modern music industry is tied to the market forces of the entertainment 

and beverage businesses and service establishments. 

On the other Pol, Phon Huiprasert from H.U.I. added that promoting 

Thai artists at all levels can be essential and should come 

from the government’s strategy. One interesting example is the 

case of the music industry in South Korea, which arises from a 

systematic state support strategy. A mechanism supported by 

the government to create a public music platform or music events 

in the city will help drive the city’s culture through art and inspire 

and drive a broader range of cultures and economies. 

‘People and the City’, in summary, has demonstrated that in 

addition to physical development for a city, such as infrastructures 

and others, human resource development is equally 

significant and needs to be carried out in parallel at all levels, 

whether fundamental factors, places to live, good utilities, convenient 

and safe public transportation, parks and cultural and 

recreational spaces. It can be achieved through the participation 

process of all sectors, which are all important in developing 

the city into a new complex and challenging frontier in the future. 



68 

Co-Creation for Future 

City Future City 



ในส่วนช่วงต้นของธีม Co-Creation for Future City เริ่มต้นด้วยการฉาย 

ภาพ ‘Future City’ จากมุมมองของวิทยากรในหลายสาขา เริ่มต้นด้วย 

Space Tech for City Well-Beings โดย คุณกฤษณ์ คุณผลิน บริษัท Future 

STEAM ผู้แทนศูนย์อวกาศและจรวดแห่งชาติสหรัฐฯ และศูนย์ข้อมูลข่าว- 

สาร NASA (ประจำาประเทศไทย) ฉายภาพให้เห็นว่าเทคโนโลยีอวกาศจะ 

ช่วยเมืองได้ ด้วยโครงข่ายการวางระบบดาวเทียมที่เห็นความเป็นไปของ 

เมืองเช่น การใช้พลังงาน การใช้ไฟฟ้าจากเมืองยามค่ำาคืน การเคลื่อนไหว 

เดินทางภายในเมือง ด้วยเทคโนโลยี GIS ได้แก่ 1. การเก็บข้อมูล (information 

collection) 2. เรียลไทม์และในอดีต 3. ความสามารถในการ 

วิเคราะห์ประมวลผล ความสามารถในการวิเคราะห์ 4. การเชื่อมโครงข่าย 

ข้ามองค์กรในเวลาเดียวกันกัน (Networking across issues and organizations 

at the same time) 5. ความสามารถในการเตรียมพร้อมแนวทาง 

แก้ปัญหา (Ability to provide solutions) เช่น เครื่องมือ cropmonitoring. 

eos.com ช่วยภาคการเกษตรในการเข้าใจพื้นที่เหมาะสมแก่การเพาะปลูก 

ในอนาคต เครื่องมือเหล่านี้จะเห็นชัดมากขึ้นในการบริหารจัดการเมืองที่ 

ซับซ้อน และจะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีอวกาศกับเมืองมีความสัมพันธ์กัน 

อย่างมาก อย่างการติดตั้งโครงข่ายดาวเทียม LEO (Leo Earth Orbit) มี 

หลักการทำางานสำาคัญที่เกี่ยวข้องกับเมือง คือ GPS การนำาทางเดินทางที่ 

แม่นยำา ระบบการเดินทาง (Logistics) แบบไร้รอยต่อ มีโดรนเข้ามาช่วย 

มี IOT ข้อมูล อุปกรณ์ต่างๆ เชื่อมโยงกัน มี HOI (Human of Internet) 

ข้อมูลร่างกายถูกส่งประมวลผลจัดการผ่านดาวเทียม ช่วยในการดูแล 

รักษา EOS (Earth Observation system) หรือแม้กระทั่งภาพเมืองแบบ 

Real time ผ่านรังสีอินฟราเรดที่ช่วยป้องกันอัคคีภัยจากการตรวจสอบ 

คลื่นรังสีที่ฉับไวแม่นยำา เทคโนโลยี Tele medicine เชื่อมต่อข้อมูลคนไข้ 

และโรงพยาบาลอย่างแม่นยำา ช่วยในการรักษาพยาบาลที่แม่นยำาสูง การ 

เตือนภัยพิบัติและเตรียมความพร้อม (Disaster warning and preparedness) 

การจัดการการจราจรโดยระบบ (Traffic management) โดยใช้ปัญญา- 

ประดิษฐ์ (AI) บริหารจัดการในเมือง และการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ 

(Security) 

30 

31 

32


69 

The theme of co-creation for the future city began with projections 

of the ‘future city’ from various perspectives of speakers 

in various fields, beginning with Space Tech for City Well- 

Beings by Krit Kunplin from Future STEAM and Representative 

of the US National Space and Rocket Center, who described 

how space technology could help cities, with a network of 

satellite systems that track overviews of cities such as power 

consumption, electricity from the city at night, and movement 

within the city with GIS technology, which are - 1. Information 

collection2. Real-time and the past 3. Analysis and processing 

capabilities Analysis ability 4. Networking across issues and 

organizations at the same time 5. Ability to provide solutions 

33 

One of the examples is crop-monitoring.eos.com, which helps 

the agricultural sector understand the suitable areas for future 

cultivation. These tools are increasingly evident in managing 

complex cities, and it can be seen that space technology and 

the city are very closely related. For example, the installation 

of the LEO (Leo Earth Orbit) satellite network provides some 

significant working principles related to the city, like GPS, 

accurate travel navigation, seamless logistics systems assisted 

by drones, IOT, information, connected devices, and HOI 

(Human of the Internet), where body data is processed and 

managed via satellite, assisting in the maintenance of the EOS 

(Earth Observation System), or even real-time city images 

through infrared rays that help prevent fires from fast, precise 

radiation detection; telemedicine technology that accurately 

connects patient and hospital information helps in providing 

highly accurate medical care; disaster warning and preparedness; 

traffic management using artificial intelligence (AI); and 

urban management and security in the area. 



34 

Prof. Dr. Atch Sreshthaputra from the Faculty of Architecture 

at Chulalongkorn University presented on the topic ‘The Future 

of Green Architecture,’ saying that green architecture, or green 

building, is a concept that has been around for over a decade. 

In the past and present, many buildings used a lot of steel, 

glass, and cement, which meant they had a large carbon footprint. 

The difference in real estate carbon emissions is that 

a house’s carbon footprint comes from building materials. In 

contrast, the carbon footprint of an office building is based 

on energy consumption. The zero carbon building concept can 

be achieved by various factors: building with less embodied 

energy or recycled materials, using local materials that reduce 

transportation, selfsufficient design, saving space, sharing 

facilities, modular or prefabrication or knock-down construction 

that reduces waste or scrap, designing to save energy 

during use, producing renewable energy, saving water, reducing 

wastewater emissions, reducing methane emissions, using

70 


35 

36 

37 

38 




71 

ศ.ดร.อรรจน์ เศรษฐบุตร จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ 

มหาวิทยาลัย กับหัวข้อ The Future of Green Architecture ที่นำาเสนอให้ 

เห็นว่า Green architecture หรืออาคารเขียวเป็นแนวคิดที่มีมานานร่วม 

สิบปี โดยในอดีตและปัจจุบันมีอาคารที่ใช้เหล็ก กระจก ซีเมนต์มาก ซึ่ง 

หมายถึงอาคารที่มี carbon footprint มากด้วย ความแตกต่างของการ 

ปล่อยคาร์บอนในงานอสังหาริมทรัพย์คือ carbon footprint ของบ้านมา 

จากวัสดุก่อสร้าง แต่ carbon footprint ของอาคารสำานักงานจะเป็นการ 

ใช้พลังงาน แนวคิดอาคารคาร์บอนเป็นศูนย์ สามารถทำาได้โดยการสร้าง 

อาคารด้วยวัสดุที่มี embodied energy น้อยหรือวัสดุรีไซเคิล การใช้วัสดุ 

พื้นถิ่นที่ลดการขนส่ง การออกแบบพอเพียง ประหยัดพื้นที่ และแชร์สิ่ง- 

อำานวยความสะดวก การก่อสร้าง modular หรือ prefab หรือ knock down 

ลดขยะหรือเศษวัสดุ การออกแบบให้ประหยัดพลังงานระหว่างการใช้สอย 

และผลิตพลังงานทดแทน การประหยัดน้ำาลดการปล่อยน้ำาเสีย ลดการ 

ปล่อยมีเธน การใช้พลังงานสะอาด เพื่อ offset การปล่อยคาร์บอนจาก 

การใช้พลังงาน การใช้วัสดุที่เป็น carbon sink เช่น ไม้จากป่าปลูก 

ดร.พิชญะ จันทรานุวัฒน์ นายกสมาคมผู้ตรวจสอบอาคาร (BSA) กับหัวข้อ 

Move Fire Safety to Smart City with Digital Technology โดยระบบเพลิง 

ไหม้กับดิจิทัลเทคโนโลยีนั้นมีข้อคำานึงคือ เมื่อเกิดอัคคีภัยมีข้อจำากัดในการ 

จัดการ คือเวลา ซึ่งดิจิทัลแพลตฟอร์มสามารถช่วยได้ online platform 

service ซึ่งมีข้อมูลการบริหารจัดการอาคารเป็นข้อมูลที่ต้องเปิดเผยไม่ใช่ 

เฉพาะช่าง เพราะเป็นความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินผู้ใช้อาคาร แพลท- 

ฟอร์มนี้จะสามารถช่วยการอพยพหนีไฟ แต่ละบุคคลเมื่อเกิดอัคคีภัย ระบบ 

การดูแลรักษาสภาพของตัวตรวจจับอัคคีภัย การตรวจสอบดูแลต้องสามารถ 

เข้าถึงได้แบบเปิดเผยทั้งจากผู้ใช้อาคารและเจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัย 

หัวข้อ Future of Smart Building Technology for Cities Life โดย 

คุณกฤษฎา สาธุกิจชัย จากบริษัท Netizen และ Trandar Acoustic 

พูดถึง Smart City ว่ามีองค์ประกอบ คือ 1. แพลทฟอร์มโปรแกรมหรือกลุ่ม 

ของโปรแกรมที่ได้รับการประยุกต์ออกแบบเพื่อใช้ทำางาน (Application 

Software Platform) 2. ข้อมูล (Data) และ 3. โครงสร้างพื้นฐานการ 

สื่อสาร (Communication Infrastructure) โดยเมืองในอนาคตจะใส่ใจกับ 

พลังงานแสงอาทิตย์ (solar energy) การเดินทางสัญจร (Transportation) 

มีรูปแบบเปลี่ยนแปลงไป เช่น รูปแบบ ลิฟท์ขนรถส่วนตัว ทางเข้าบ้าน 

ที่รองรับการสัญจรทางอากาศ (Drone) ได้ การใส่ใจกับวัสดุศาสตร์ที่ใช้ 

ก่อสร้างและง่ายต่อการดูแลรักษา (Building material and science) 

อาคารที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ แต่การปลูกต้นไม้ต้องการเทคโนโลยีเข้า 

มารองรับในการดูแลและอยู่ร่วมกันในระยะยาว ตลอดจนการเป็นมิตร 

กับสัตว์เลี้ยง (Natural friendly building) การนำาหุ่นยนต์หรือปัญญา- 

ประดิษฐ์มาใช้ทุกแห่งหน เช่น การขนส่ง การบริการ ซึ่งส่งผลต่อการ 

ออกแบบที่รองรับหุ่นยนต์ในอนาคต (Robot (AI) everywhere) การ 

ยืนยันตัวตนทางชีวภาพ (Hybrid bio recognition) เช่น การควบคุม 

ความปลอดภัยในการเข้าถึงอาคาร การดูแล ผู้สูง ผู้พิการในอาคาร มี 

ระบบปฏิบัติการประมวลระบบข้อมูลต่างๆในพื้นที่ (Dashboard) โดย 

ความยั่งยืน (Sustainability) เป็นประเด็นที่สำาคัญตามสามเสาหลัก 

คือ สภาพแวดล้อม สังคม และระบบเศรษฐกิจ ซึ่งปัจจุบันอย่างในยุโรป 

ได้ให้ความสำาคัญกับหลักการ 3Z ได้แก่ การปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ 

(Zero Carbon emission) การปล่อยของเสียเป็นศูนย์ (Zero waste) 

clean energy to offset carbon emissions from energy use, 

and using carbon sink materials such as wood from planted 

forests. 

In ‘Move Fire Safety to Smart City with Digital Technology’, 

Dr. Pichaya Chantranuwat, President of the Building Inspectors 

Association (BSA), talked about the fire system and digital technology 

with several issues that need to be considered. When 

there is a fire, there is a limitation in management, which is time, 

and digital platforms can help. The online platform service that 

contains building management information must be open, not 

known only among technicians, because it means the safety 

of life and property. This platform will help with individual fire 

evacuation in the event of a fire. The fire detector maintenance 

system must be monitored and accessible to both building 

occupants and the mitigation team. 

Kridsada Satukijchai from Netizen and Trandar Acoustic discussed 

the ‘Future of Smart Building Technology for City Life.’ 

Smart cities are made up of: 1. application software platforms; 

2. data; and 3. communication infrastructure. The city of the 

future will pay more attention to solar energy. Transportation will 

change tremendously. Possible scenarios are a private car lift 

model, an entrance to the house that can support air traffic like 

a drone, intelligent building materials and science, buildings that 

are friendly to nature, but planting trees requires technology 

to fund long-term care and coexistence as well as being petfriendly, 

and the use of robots or artificial intelligence everywhere, 

such as transportation and services, which will affect 

the design that supports robots in the future. There is more use 

of hybrid biorecognition, such as for building access security 

control and care for the elderly and disabled in the building. 

There is an operating system to process various information systems 

like Dashboard. Sustainability is an important issue based 

on three pillars: the environment, society, and the economy. 

Currently, as in Europe, the 3 Z principles are emphasized: zero 

carbon emissions, zero waste, and zero inequality. To conclude, 

ESG, or the concept of sustainable organizational development, 

which stands for Environment, Social, and Governance and 

focuses on doing business concerning these three primary 

responsibilities, will play a role in every organization and will be 

considered by investors around the world as one of the main 

concepts for investment consideration. 

The next session was presented by Jullakiat Sinchaichukiat 

from Baramizi Group on the theme of ‘Green Transformation.’ It 

emphasizes climate change’s green transformation as a current 

global threat. So ‘going green’ is not an option, but it’s a solution 

everyone must realize, execute, and turn into an opportunity. 

Humans generally change through crises and visions, so being 

up-to-date with green has to be a shift starting with a vision. 

Whether in the agricultural or business sectors, organizations 

must begin with the transition to green. Those who cannot catch 

up with the changing paradigm will be included in global rules 

for corporations or companies that cannot engage in business 

activities that thrive alongside tackling climate change. According

72 

และความไม่เท่าเทียมเป็นศูนย์ (Zero inequality) และได้สรุปตอนท้ายว่า 

ESG หรือ แนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาขององค์กรอย่างยั่งยืน ซึ่งย่อมาจาก 

Environment Social และ Governance ที่ให้ความสำาคัญกับการทำาธุรกิจที่ 

คำานึงถึงความรับผิดชอบ 3 ด้านหลัก คือ สิ่งแวดล้อม สังคม และการกำากับ 

ดูแลโดยรัฐ ปัจจุบัน ESG จะเข้ามามีบทบาทในทุกองค์กร และได้รับความ 

นิยมจากนักลงทุนทั่วโลกเนื่องจากเป็นแนวคิดที่ใช้ประกอบการพิจารณาลงทุน 


to McKinsey and Company, today’s green building business has 

grown second only to the transportation business. It is, therefore, 

a good opportunity for the real estate sector. Green transformation 

is not just CSR or image but must change products, processes, 

and people, and change at the green school or climate school 

level. It is a process of change and cultivation, like planting 

powerful seeds for our children. 

คุณจุลเกียรติ สินชัยชูเกียรติ จาก Baramizi group กับหัวข้อ Green Transformation 

ที่เน้นถึงการเปลี่ยนสู่ความเป็นกรีน (Green transformation) 

ว่ามีที่มาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate change) เป็นภัย 

คุกคามระดับโลก ดังนั้นเรื่อง ‘Green’ ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางรอดที่ 

ต้องทำา และทำาให้กลายเป็นโอกาส โดยทั่วไปแล้วมนุษย์เปลี่ยนแปลงจาก 

วิกฤตและวิสัยทัศน์ ดังนั้นความเป็นกรีนที่ทันต่อเหตุการณ์จึงต้องเป็นการ 

เปลี่ยนแปลงจากวิสัยทัศน์ องค์กรจึงต้องเริ่มจากการเปลี่ยนแปลงสู่ความ 

เป็น Green ไม่ว่าจะเป็นภาคเกษตรกร ภาคธุรกิจ ซึ่งเกิดการกีดกันจาก 

กติกาของโลกสำาหรับองค์กรหรือธุรกิจที่ไม่สามารถเข้าสู่การดำาเนินกิจกรรม 

ทางธุรกิจที่เติบโตคู่กับการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ 

จากข้อมูลของ McKinsey and Company ระบุว่าธุรกิจอาคารเขียวเติบโต 

เป็นอันดับสองรองจากธุรกิจการคมนาคมขนส่ง จึงเป็นโอกาสของภาคธุรกิจ 

อสังหาริมทรัพย์ Green transformation จึงไม่ใช่แค่ CSR หรือภาพลักษณ์ 

ซึ่งต้อง เปลี่ยนแปลง product/process/people และการเปลี่ยนในระดับ 

green school/climate school เป็นการเปลี่ยนแปลง การปลูกฝัง เพาะ- 

เมล็ดพันธุ์ต่อเด็กที่ทรงพลัง 

Future Material Tech โดยคุณธิติ ศรีรัตนา ผู้อำานวยการฝ่ายนวัตกรรม 

และเทคโนโลยี สีจระเข้ เล่าถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์สีจระเข้ที่สามารถดูดซับ 

คาร์บอนไดออกไซด์ได้ เช่นเดียวกับหลักการของต้นไม้ โดยใช้เทคโนโลยี 

ปูนหมักจากปูนขาวร่วมกับเทคโนโลยี graphene ซึ่งมีคุณสมบัติทำาให้เกิด 

การยึดเกาะพื้นผิวได้ดี ไม่มีฝุ่นแบบสีจากปูนขาวเดิม ซึ่งวิธีการใช้สีปูนหมัก 

เป็นกรรมวิธีที่ใช้ในโบราณสถานที่มีคุณสมบัติในการตรึงก๊าซคาร์บอนได- 

ออกไซด์ เมื่อรวมกับคุณสมบัติของกราฟีนที่นำาไฟฟ้าและความร้อนได้ 

ดีกว่าทองแดง 6 เท่า จึงทำาให้สีชนิดนี้มีแรงยึดเกาะดี ไม่มีการปล่อยสาร 

ฟอมัลดีไฮด์หลังการทา สีนี้ยังสามารถดูดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อีก 

ด้วย ความท้าทายของนวัตกรรมผลิตภัณฑ์สีดังกล่าวนี้จึงเป็นตัวอย่างของ 

ภาคธุรกิจที่ต่อเนื่องจากที่คุณจุลเกียรติได้ชี้ให้เห็นถึง Green Transformation 

คือการดำาเนินกิจกรรมทางธุรกิจที่เติบโตคู่กับการแก้ปัญหาการเปลี่ยน- 

แปลงสภาพภูมิอากาศ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยไม่เป็นอันตราย อีกทั้ง 

ยังมีมาตรฐานรับรองจากหน่วยงานวัสดุต่างๆ เพื่อรับรองความเป็น Green 

จากผลการทดลองว่าการทาสีมีคุณสมบัติเทียบเท่ากับการปลูกต้นไม้ และ 

เข้ากับเกณฑ์อาคารเขียว 

ในหัวข้อ The Standardize of Well-Being Material โดย คุณศิริพงค์ 

วิมานทอง จาก Harmony group พูดถึงมนุษย์และอาคารมีส่วนสร้าง 

คาร์บอนไดออกไซด์ และการปรับอากาศในอาคารเป็นสิ่งที่สิ้นเปลืองพลัง- 

งานสูงมาก รวมถึงผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในอาคาร มักมีการปล่อยสารพิษจาก 

การระเหยในอาคาร หรือ VOC: Volatile Organic Compounds หมายถึง 

กลุ่มสารประกอบอินทรีย์ที่ระเหยเป็นไอได้ง่าย กระจายตัวไปในอากาศได้ 

ในอุณหภูมิและความดันปกติ วัสดุก่อสร้างจึงควรคำานึงถึงการปลดปล่อย 

Thiti Sriratana, Director of Innovation and Technology at Jorakay 

corporation Company Limited, talked about Future Material Tech, 

which is about developing new paint products that can absorb 

carbon dioxide effectively, similar to a tree, using lime mortar 

technology combined with graphene technology. The new paint 

has good surface adhesion properties, and there is no colored 

dust from the original lime. The method of using fermented 

cement paint is a process used in ancient buildings that can fix 

carbon dioxide, which, when combined with graphene’s 6 times 

better conductivity than copper, makes the paint have good 

adhesive properties. There is no formaldehyde release following 

application. This challenge of paint innovation is an example 

of a continuous business sector that Chulakiat has previously 

pointed out about ‘green transformation’—conducting business 

activities that grow together with solving climate change problems 

and are environmentally friendly without harm. There are also 

standards certified by various material agencies based on 

experiments demonstrating that painting is equivalent to tree 

planting and meets the green building criteria. 

In ‘The Standardize of Well-Being Material,’ Siripong Vimarnthong 

from Harmony Group talks about how humans and buildings 

contribute to creating carbon dioxide. Building air conditioning 

is very energy-intensive, and various products in buildings frequently 

emit toxic substances from volatile indoors, or VOC, 

which refers to a group of volatile organic compounds that are 

easily dispersed in the air at normal temperature and pressure. 

Construction materials should therefore be considered in terms 

of the release of toxic substances that affect indoor air quality. 

Water use must take into account zero discharge, i.e., future 

buildings will not release wastewater to the public, while wastewater 

must be recycled for reuse. In addition, it should also 

consider the design of lighting that makes building users comfortable, 

no more, no less, since the light comes with the heat 

load in the building. A building can use Low-E or insulated glass 

or other controllable indoor and outdoor shade applications, 

including a design that considers the state of mind. For example, 

noise within the building, or noise criteria, is a noise control in a 

residential building that affects the health of residents from both 

outside and inside noise, which means architects or owners must 

consider various elements such as the floor, wall, and ceiling. The 

Well Standard certifies materials that have passed the standard, 

such as recycled materials, materials that are harmless to health, 

alternative materials for natural materials that have sound properties, 

a long-lasting life cycle, reduce energy consumption during 

use, reduce waste, and use renewable energy.


73 

39 

40 

41 

42 

43 



74 


สารพิษที่มีผลต่อคุณภาพอากาศในอาคาร การใช้น้ำาต้องคำานึงถึงการปล่อย 

ของเสียเป็นศูนย์ (zero discharge) คือ อาคารในอนาคตจะไม่ปล่อยน้ำาเสีย 

สู่สาธารณะ แต่ต้องสามารถนำาน้ำาเสียไปรีไซเคิลเพื่อกลับมาใช้ประโยชน์ 

ใหม่ นอกจากนี้ยังควรการคำานึงถึงการออกแบบแสงที่ทำาให้ผู้ใช้อาคารอยู่ 

สบายไม่มากไม่น้อยเกินไป เนื่องจากแสงมาพร้อมกับภาระความร้อนใน 

อาคาร สามารถใช้กระจก Low-E หรือ Insulated Glass หรือการใช้ร่มเงา 

จากในและนอกอาคารที่สามารถควบคุมได้ รวมถึงการออกแบบที่คำานึง 

ถึงสภาวะจิตใจ อย่างเสียงรบกวนภายในอาคาร (Noise criteria) เป็น 

การควบคุมเสียงในอาคารอยู่อาศัย ทั้งจากเสียงข้างนอก และเสียงภายใน 

อาคารที่มีผลต่อสุขภาวะผู้อยู่อาศัย ซึ่งต้องคำานึงถึง พื้น ผนัง ฝ้า โดย 

Well Standard มีการเลือกใช้วัสดุที่ผ่านมาตรฐาน อันประกอบด้วย มี 

ส่วนประกอบจากวัสดุรีไซเคิล วัสดุที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ วัสดุ 

ทดแทนวัสดุธรรมชาติ มีคุณสมบัติทางด้านเสียง มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน 

(Life cycle) ลดการใช้พลังงานในช่วงการใช้งาน ลดของเสีย และการใช้ 

พลังงานหมุนเวียน 

Xperience Design Trend 

for Future Living 

Baramizi Lab นำาเสนอศึกษาผลการวิจัยเพื่อหาแนวทางออกแบบสร้าง- 

สรรค์นวัตกรรมให้แก่ผู้ประกอบการในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่ม 

นักออกแบบสถาปนิก โดยร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการหา 

Xperience Design Future Trends for Property Sector เพื่อธุรกิจอสังหา- 

ริมทรัพย์ประจำาปี 2023-2025 โดย คุณปรมา ทิพย์ธนทรัพย์ และทีมวิจัย 

จากศูนย์วิจัยเทรนด์และคอนเซปต์แห่งอนาคต Baramizi Lab นำาเสนอ 10 

Outstanding trends ดังนี้ 

44 

1. BIODIVERSE WELL-LIVING ประสบการณ์สุขภาพดีท่าม 

กลางความหลากหลายทางชีวภาพ ไม่ได้เน้นมนุษย์เป็นศูนย์กลาง 

แต่เพียงอย่างเดียวแต่เป็นการคำานึงถึงระบบนิเวศที่ดีของการพัก 

อาศัย ทั้งมนุษย์และธรรมชาติ 

2. THE SERENEXURIOUS การสร้างประสบการณ์ความนิ่สงบ 

เข้าถึงจิตวิญญาณเพื่อสร้างสมดุล โดยออกแบบสเปซในบ้านให้ 

รู้สึกผ่อนคลาย ดึงตัวตนออกจากความกังวลใจ นำาสู่การตรึกตรอง 

และความสงบสู่จิตวิญญาณ 

3. ALL-IN-HOME ประสบการณ์ของบ้านที่รองรับทุกมิติการ 

ใช้ชีวิต คือการใช้เทคโนโลยีเชื่อมต่อกับประสบการณ์ พฤติกรรม 

กิจกรรมในบ้าน 

4. ACTIVE-AGING EXTENDED ซึ่งช่วงผู้สูงวัยจะมี 3 ช่วง คือ 

ผู้สูงวัยที่ยังสามารถทำากิจกรรมต่างๆ ได้เอง ผู้สูงอายุที่เริ่มอยู่กับ 

บ้าน และผู้สูงอายุที่เริ่มป่วยจนติดเตียง จึงเป็นเทรนด์การออกแบบ 

บ้าน โครงการอสังหาริมทรัพย์ และเมืองที่ช่วยยืดช่วงเวลาที่ผู้สูงวัย 

ยังสามารถทำากิจกรรมต่างๆ ได้เองให้ยาวนานขึ้น 

5. RENT I/O (Instead of) OWN PHENOMENA คนรุ่นใหม่มี 

แนวคิดยอมรับที่จะเช่าแทนการเป็นเจ้าของ 

45 




75 

46 

Xperience Design Trend 

for Future Living 

Baramizi Lab presented research to find innovative design 

solutions for entrepreneurs in the real estate sector, architects, 

and designers, in collaboration with Chulalongkorn University, 

in the search for Xperience Design Future Trends for the Property 

Sector for the real estate business of the years 2023–2025. In 

the session, Porama Thiptanasub and the research team from 

Baramizi Lab’s Future Trends and Concepts Research Center 

presented 10 outstanding trends as follows: 

1. BIODIVERSE WELL-LIVING 

a healthy living experience amid biodiversity, not focusing 

only on humans as the center but considering the 

good ecosystem of living both man and nature. 

2. THE SERENEXURIOUS 

Creating a peaceful experience and reaching out to the 

soul to achieve balance by designing a relaxed space 

in the house and removing the inner self from anxiety 

into reflection and soul peace 

3. ALL-IN-HOME 

An experience of a home that supports all dimensions 

of living, integrating technology to connect with experiences, 

behaviors, and activities in the home. 

47 

4. ACTIVE-AGING EXTENDED 

There are 3 phases for the elderly: the elderly who can 

do activities alone, older people starting to stay at home, 

and the elderly who became sick until they were stuck in 

bed. It is, therefore, a new trend in home design, real 

estate projects, and a city that extends the time that the 

elderly can do their activities. 

5. RENT I/O (Instead of) OWN PHENOMENA 

The new generation has the concept of accepting rent 

instead of owning. 

6. REAL ESTATE AS A SERVICE 

Creating lifelong customers by transforming the business 

model to identify new gaps in future residents’ lifestyles 

and consider service as support in terms of living, working, 

and living will result in long-term business continuity. 

7. AI ASSISTANCE 

Using artificial intelligence to help with activities, behaviors, 

living, and changing the use of space in the house. 

48 

8. NET ZERO AGENDA 

This is one of the targets for research and development 

investment in making houses that do not burden the city 

or the environment, such as water treatment, bringing 

clean energy, and using renewable energy in the project.

76 


49 

51 

50 



52


77 

6. REAL ESTATE AS A SERVICE สร้าง Life-Long Customer 

ด้วยการทรานส์ฟอร์มโมเดลธุรกิจหาช่องว่างใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นใน 

ไลฟ์สไตล์ผู้อยู่อาศัยในอนาคต แล้วคิดบริการมารองรับ ด้านการ 

อยู่อาศัย ทำางาน ใช้ชีวิต พื่อนำาไปสู่ธุรกิจต่อเนื่องระยะยาว 

7. AI ASSISTANCE การนำาปัญญาประดิษฐ์มาช่วยเหลือใน 

กิจกรรมพฤติกรรม การอยู่อาศัยและเปลี่ยนแปลงการใช้พื้นที่ในบ้าน 

8. NET ZERO AGENDA เป็นหนึ่งเป้าหมายในการลงทุนวิจัยและ 

พัฒนา ในการทำาบ้านที่ไม่สร้างภาระแก่เมืองและสิ่งแวดล้อม เช่น 

การบำาบัดน้ำา การนำาพลังงานสะอาด พลังงานหมุนเวียนใช้ใน 

โครงการ 

9. HUMANITY RESILIENCE ที่อยู่อาศัยที่สามารถรับมือกับนํ้า- 

ท่วมหรืออยู่กับนํ้าท่วมได้ การเลือกใช้วัสดุที่ช่วยปกป้องจากภัย 

พิบัติต่างๆ การนำานวัตกรรมที่คาดการณ์ถึงสภาพภัยพิบัติอื่นๆ 

ที่อาจเกิดขึ้น 

10. NEW FRONTIER การวิจัยและพัฒนาเพื่อการต่อยอดเทคโน- 

โลยีอวกาศมาแก้ปัญหาบนพื้นโลก 

Co-Creation City 

ในธีม ‘Co-Creation for Future City’ นี้ หัวข้อ Co-Creation นับเป็นอีก 

ประเด็นหลักของงานเสวนา WOW Forum 2022 และเป็นหนึ่งในแนวคิด 

เชิงกลไกการกำาหนดทิศทางของการพัฒนาเมือง ที่เปิดโอกาสให้กับความ 

หลากหลายของคนในเมืองได้ร่วมแสดงความคิดเห็นต่อการพัฒนาเมือง 

นำามาซึ่งโอกาสใหม่ที่หน่วยงานของรัฐและเอกชนจะสามารถสร้างมูลค่า 

ทางเศรษฐกิจไปพร้อมกับรวมภาคส่วนต่างๆ เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนา 

เมืองที่มีคุณภาพ 

วงเสวนาในหัวข้อนี้จึงเริ่มต้นด้วย City Co-Creation กรณีศึกษาย่านปทุมวัน 

พระโขนง และบางนา โดย ผศ.ดร.นิรมล เสรีสกุล ผู้อำานวยการศูนย์ UDDC 

คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงความหลาก- 

หลายของย่านปทุมวัน ในการพัฒนาพื้นที่นี้จะไร้ประโยชน์ ถ้าขาดการเชื่อม 

ต่อกันในการพัฒนา ให้เป็นพื้นที่เมืองเดินได้เดินดี เนื่องจากการเดินเป็นการ 

กระจายความมั่งคั่ง ยกตัวอย่างเช่นกรุงปารีส มีร้านค้าย่อยตามถนน ที่มี 

จำานวนผู้ค้าสูง เป็นอันดับต้นๆของโลก ถนนและทางเดินที่ดีทำาให้เมืองเกิด 

ความเท่าเทียม และเมืองควรมีพื้นที่รองรับผู้คนให้ฟื้นฟูได้ในภาวะวิกฤต 

และได้อ้างอิงถึงการศึกษาแนวโน้มของเมืองในอนาคตจาก Baramizi Lab 

2022 มี 3 ประเด็นที่สำาคัญ คือ 1. การเดินทาง-seamless-affordablepredictive 

2. สุขภาพ-self-care-preventive 3. การเรียนรู้-life-longupskill-reskill 

และได้ยกตัวอย่างถึงประสบการณ์การศึกษาเมือง กรุงเทพฯ 

250 ได้มีการกำาหนดกลยุทธ์เมืองเดินได้ และเกิดรูปแบบ co-creation 

แบบ 4P Model คือ Public-Private-People-Partnership ทั้งภาครัฐ 

ประชาชน เอกชน ร่วมกันเป็นเครือข่ายการพัฒนาเมือง ตลอดจนตัวอย่าง 

การพัฒนาพื้นที่พระโขนง บางนา ย่านปทุมวัน ล้วนแต่เป็นการสร้างความ 

ร่วมมือจากภาคส่วนต่างๆ ที่หลากหลายในพื้นที่เมือง 

9. HUMANITY RESILIENCE 

Housing that can withstand or live through floods by 

using materials that protect against various disasters and 

introducing innovation that anticipates other potential 

catastrophic conditions. 

10. NEW FRONTIER 

Research and development to extend space technology 

to solve problems on earth. 

Co-Creation City 

Co-Creation is a central theme of the WOW Forum 2022 and 

is one of the concepts that shapes the direction of urban development. 

It provides an opportunity for a variety of people in the 

city to share their opinions on the city’s development. It brings 

new opportunities for the government and private sectors to 

create economic value while integrating various sectors as part 

of quality urban development. 

The discussion on this topic began with City Co-Creation, a 

case study in the Pathum Wan, Phra Khanong, and Bang Na 

areas by Asst. Prof. Dr. Niramon Serisakul, Director of the 

UDDC Center, Faculty of Architecture, Chulalongkorn University. 

Dr. Niramon discussed the variety of the Pathumwan area. Developing 

this area is useless if there is a lack of connection in 

the development of a walkable urban area because walking is 

the distribution of wealth. Paris, for example, is filled with small 

shops along the road with a high number of traders and is 

ranked one of the tops in the world. Good roads and walkways 

equal cities, and cities should have space to accommodate 

people to recover in times of crisis. Referring to the study of 

future urban trends from Baramizi Lab 2022, there are 3 important 

issues: 1. Travel: smooth, inexpensive, and predictable. 

2. Health: self-care and preventive 3. Learning: lifelong upskilling 

and reskilling 

An example of the experience of studying the city of Bangkok 

250, a walkable city strategy has been established together 

with the co-creation of the 4P model: public-private-peoplepartnership. 

Other good examples of the development are Phra- 

Khanong, Bang Na, and Pathum Wan, all created by cooperation 

from various sectors in the urban area. 

Dr. Niramon, Preechaya Nawarat from PNUR Urban Architect, 

and Adisak Guntamuanglee, an urban data scientist at the 

Faculty of Architecture at Chulalongkorn University, have studied 

the Pathumwan area. Because the data from the city data center 

found that it is a central area for both business sectors and 

education and learning, formal and informal, Adisak said this 

area is home to 35 medical facilities and various communities 

along alleys that still need to be reached. The information and 

issues bring new opportunities for quality urban development. 

Preechaya proposed development guidelines for the Pathumwan 

area by opening, modifying, and fusing diversity.

78 


ทั้ง ผศ.ดร.นิรมล คุณปรีชญา นวราช จาก PNUR Urban Architect และ 

คุณอดิศักดิ์ กันทะเมืองลี้ Urban Data Scientist คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ 

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ให้ความสนใจกับย่านปทุมวัน เนื่องจากข้อมูล 

จากศูนย์ข้อมูลเมืองพบว่า เป็นพื้นที่ศูนย์กลางทั้งภาคธุรกิจ การศึกษา 

เรียนรู้ทั้งในระบบและนอกระบบ คุณอดิศักดิ์กล่าวว่าพื้นที่นี้เป็นแหล่งรวม 

สถานที่รักษาพยาบาลถึง 35 แห่ง และมีชุมชนต่างๆ ตามตรอกซอกซอยที่ 

ยังเข้าถึงได้ยาก ข้อมูลและประเด็นต่างๆ เหล่านี้จะนำามาซึ่งโอกาสใหม่ใน 

การพัฒนาเมืองที่มีคุณภาพ ส่วนคุณปรีชญา ได้เสนอแนวทางการพัฒนา 

พื้นที่ย่านปทุมวัน จากการเปิด ปรับ เปลี่ยน และหลอมรวมความหลากหลาย 

เข้าด้วยกัน ในส่วนสุดท้าย ผศ.ดร.นิรมล ได้สรุปหลักการพัฒนาพื้นที่ไว้ 

ดังนี้ 1. ทลาย super block 2. เชื่อมโยงพื้นที่ด้านในบล็อก 3. พัฒนาโครง- 

ข่ายการเดินทาง 4. เพิ่มพื้นที่สีเขียวสาธารณะ 

ในช่วงสุดท้ายเป็นวงเสวนาแลกเปลี่ยนประเด็น Co-Creation City ร่วมกัน 

ของผู้ร่วมเสวนาจากหลายภาคส่วนนั้น ได้สะท้อนมุมมองของการพัฒนาที่ 

สำาคัญในหลายประเด็น อันประกอบด้วย 

54 

ดร.ชวพล จริยาวิโรจน์ ผู้บริหารระดับสูงจาก Huawei Thailand กับมุมมอง 

ของ ‘สมาร์ทซิตี้’ กับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ กับสมองของเมือง ตั้งแต่ 

สุขภาพระดับบุคคล อุปกรณ์ต่างๆสามารถสื่อสารกันได้เป็นระบบนิเวศ 

(ecosystem) ส่งผ่านข้อมูลหากันได้ทั้งหมดเพื่อการบริหารจัดการเมือง ใน 

ขณะที่คุณประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต CEO Ananda Development เชื่อว่า 

กรุงเทพสามารถพัฒนาเทียบชั้นกับกรุงลอนดอน จากศักยภาพหลากหลาย 

เช่น การรักษาพยาบาลชั้นดี การศึกษาระดับโรงเรียนนานาชาติชั้นดี มีผู้คน 

ที่จิตใจดี อย่างไรก็ตาม เมืองไทยยังขาดคนในระดับปฏิบัติการเชี่ยวชาญ 

(technician) หรืออาชีวะ จึงควรหาแผนพัฒนาร่วมกันกับมหาวิทยาลัย เพื่อ 

สร้างคนที่ทำางานเป็นระบบ มีประสิทธิภาพมาพัฒนาเมือง และเห็นว่าพื้นที่ 

บางนาเป็นที่หมายตาของนักลงทุน และที่อยู่อาศัย พื้นที่บริการ ศูนย์การค้า 

ระดับดี เป็นพื้นที่น่าส่งเสริมการพัฒนา โดยมีความเชื่อมั่นว่ากรุงเทพฯ มี 

ศักยภาพ และต้องทำาให้กรุงเทพไร้รอยต่อกับปริมณฑลเพื่อการพัฒนาที่ 

เชื่อมโยง ส่วนคุณสมสกุล แสงสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานออกแบบ 

ผลิตภัณฑ์ Origin ในฐานะนักพัฒนานั้นมองว่า ‘เมืองน่าอยู่’ นั้นทำ าได้ 

แน่นอน แต่จะต้องมองประเด็นให้หลากหลาย แต่ละหน่วยงานจะต้องทำางาน 

อย่างไรให้เต็มศักยภาพ ขึ้นอยู่กับว่าเมืองน่าอยู่นั้น ถูกตีโจทย์ไว้อย่างไร 

55 

ผศ.ดร. นิรมล เสรีสกุล ผู้อำานวยการศูนย์การออกแบบและพัฒนาเมือง 

UDDC ให้ความเห็นต่อการพัฒนาเมืองที่ผ่านมาว่าอาจจะขาดแค่โอกาส จาก 

ประสบการณ์การทำางานของ UDDC หรือเครือข่ายภาคี ที่ได้ร่วมทำางานไม่มี 

ที่ไหนที่ปราศจากความกระตือรือร้น ทุกภาคส่วนสนใจที่อยากจะพัฒนา 

ขับเคลื่อน และผู้บริหารกรุงเทพมหานครชุดนี้ ก็ได้เปิดโอกาสสร้างแพลต- 

ฟอร์มที่มีความหลากหลายในหลายมิติ จึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะร่วมกัน 

พัฒนาเมือง ร่วมกัน ส่วนมุมมองของ รศ.ดร.สิงห์ อินทรชูโต หัวหน้าคณะ 

ที่ปรึกษา ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (RISC) ได้ให้ความสำ าคัญ 

กับ WELL-BEING CITY MEANS FUTURE-READY CITY และมองว่าเมือง 

ที่พร้อมสำาหรับอนาคต คือเราต้องรู้ว่า เมืองจะไม่ function ไม่มีสุขภาวะ 

(well being) นั้นมาจากเรื่องอะไรบ้าง โดยต้องหา 3 เสาหลักแห่งความ 

ยั่งยืนมาดูร่วมกันหลักการพิจารณาเมืองพลวัต (resilience city) เพื่อหา 

แนวทางการพัฒนาที่เหมาะกับแต่ละเมือง 

56


79 

In the last part, Dr. Niramon summarized the principles of area 

development as follows: 

1. Breaking the superblock 

2. Connecting the area within the block 

3. Developing the travel network 

4. Adding public green space 

57 

58 

In the group discussion session, participants from various 

sectors reflected on the perspectives of important developments 

in a variety of Co-Creation City issues, including: Dr. Chawapol 

Jariyawiroj, a senior executive from Huawei Thailand, presented 

his perspective of a ‘smart city’ by connecting various devices 

to the city’s brain from the perspective of individual health. 

Devices can communicate with each other as an ecosystem, 

transmitting information to each other for the management of the 

city. Prasert Taedullayasatit, the CEO of Ananda Development, 

believed that Bangkok could be developed compared to London, 

seeing that Bangkok has various potentials, such as good medical 

care, good international school education, and good-hearted 

people. Yet Thailand still needs more people at the operational 

level, whether experts, technicians, or vocational workers, so it 

should find a joint development plan with the university to create 

systematic and efficient people to develop the city. He also saw 

the Bangna area as a target for investors and housing, a good 

shopping center, and a service area. It is an area that should 

promote development. Bangkok has good potential and must 

make it seamless with its interconnected perimeter for growth. 

Somsakul Sangsuwan, Chief Product Origin Property of Design 

Officer, as a developer, views ‘Living City’ as definitely possible 

but must look at various issues, like how each agency can work 

to reach its full potential. After all, it depends on how we define 

the meaning of a livable city. 

Asst. Prof. Dr. Niramon Seriesakul, director of the Center for 

Urban Design and Development (UDDC), commented on the 

past urban development that may have only lacked opportunities. 

From the experience of the UDDC or associate network, there 

is no place without enthusiasm. All sectors are interested in 

developing, driving, and managing. The new administrative team 

of the Bangkok Metropolitan Administration has already opened 

up the opportunity to create a platform that is diverse on many 

levels. So this is an excellent opportunity to develop the city 

together. According to Assoc. Prof. Dr. Singh Intrachooto, the 

head of the advisory the Sustainable Research and Innovation 

for Sustainability Center (RISC), a well-being city means a futureready 

city, and we need to know where the city’s well-being 

comes from. To find a suitable development approach for each 

city, we must identify the three pillars of sustainability and 

consider the resilience city principle. 



80 

คุณกฤษดา สาธุกิจชัย ผู้ก่อตั้ง Netizen, Trandar and Harmony เสริมว่า 

ประเทศไทยมีการพูดคุยเรื่อง Smart City กันมาหลายปีแล้ว แต่ยังขาดเพียง 

แพลตฟอร์มที่จะมารองรับข้อมูลให้เชื่อมโยงกัน ตลอดจนการ implement 

ข้อมูลและเทคโนโลยี ที่จะนำามาใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ในขณะที่ 

คุณธีรนันท์ กรศรีทิพา รองกรรมการผู้จัดการ สายงานพัฒนาธุรกิจรีเทล 

บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำากัด (มหาชน) เน้นถึง 

smart city คือเมืองที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตคน สังคมผู้สูงอายุในอนาคต 

การเดินทาง พื้นที่สาธารณะสำาหรับการใช้งานและการเข้าถึงเศรษฐกิจของ 

ชุมชนในพื้นที่ การสร้างระบบนิเวศที่เข้าใจความหลากหลายและมองเห็น 

ภาพรวมในทิศทางเดียวกัน 

จากประสบการณ์ของบริษัท สยามพิวรรธน์ จำ ากัด คุณนราทิพย์ รัตตประดิษฐ์ 

ในฐานะรองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโสสายงานปฏิบัติการ ได้แลกเปลี่ยน 

ถึงกลยุทธ์ในการทำาธุรกิจเรื่อง Co-Creation และ Shared Value ที่ทาง 

บริษัทได้ลงมือทำาเพื่อพัฒนาเมืองและชุมชนแวดล้อม ซึ่งทำาให้คนในพื้นที่ 

ชุมชนได้มีส่วนร่วม และรู้สึกอยากพัฒนา เพื่อให้พื้นที่ชุมชนได้เป็นพื้นที่ที่ 

น่าอยู่ยิ่งขึ้นได้ และคุณสุณัฏฐา พงษ์เจริญ ผู้อำ านวยการวิจัยด้านการคาด- 

การณ์อนาคต FutureTales Labs by MQDC ย้ำาถึงความสำาคัญของการที่ 

เมืองในอนาคตต้องเริ่มจากคน เพราะคนคือจุดศูนย์กลางของเมือง ดังนั้น 

เมืองในอนาคตต้องตอบโจทย์แก่คนที่อยู่อาศัย 

ในส่วนช่วงท้ายของวันโดยบุคลากรจากทางภาครัฐ อาทิ คุณศานนท์ 

หวังสร้างบุญ ในฐานะรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ชี้ถึงประเด็นที่ว่า 

จะทำาอย่างไรให้ข้อมูลต่างๆ ได้ถูกนำามาร่วมใช้แก้ปัญหาได้จริง ช่วยลด 

ความเหลื่อมล้ำาทางการศึกษา และการเข้าถึงทรัพยากรต่างๆ โดยเป็นเรื่อง 

สำาคัญมากที่ Smart City ต้อง Smart สำาหรับทุกคน และเข้าถึงได้ทุกคน 

ทำาให้ผู้คนรู้สึกรัก รู้สึกเป็นเจ้าของเมือง และมีส่วนร่วม นอกจากนี้ 

คุณวราวุธ ศิลปะอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยกรธรรมชาติและ 

สิ่งแวดล้อม ยังเน้นย้ำาอีกด้วยว่า เมืองในอนาคตต้องคิดถึงการวางแผน 

เพื่อบรรเทาภัยพิบัติ (Mitigation) และการปรับเปลี่ยน (Adaptation) 

โดยยกตัวอย่างการปรับเปลี่ยนวิสัยทัศน์ของสิงคโปร์จาก Garden City สู่ 

City in the Garden หรือเมืองในสวน เพื่อยกระดับสู่ความเป็นธรรมชาติ 

มากขึ้น กรุงเทพก็ควรต้องตระหนักถึงการสร้างเมืองให้สอดคล้องกับความ 

เป็นไปของธรรมชาติ และสรุปถึงความสำาคัญของ Co-Creation คือการ 

ทำางานร่วมกันสู่ความเป็นไปได้ 

ปิดท้ายของเวทีเสวนาในธีม ‘Co-Creation for Future City’ คุณชนะ 

สัมพลัง ในฐานะนายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ จึง 

กล่าวถึงความสำาคัญของเวทีแลกเปลี่ยนใน WOW Forum นี้ว่าเป็นจุดเริ่ม 

ต้นที่น่าสนใจมาก เพราะเป็นโอกาสที่หน่วยงานสำาคัญๆ ทั้งภาคเอกชน 

และจากกรุงเทพมหานคร รวมถึงทุกๆ ท่านที่มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อน 

เมือง ได้มาร่วมพูดคุยร่วมเป็น Partners ที่จะมาผลักดันให้เมืองน่าอยู่ขึ้น 



Kridsada Satukijchai, founder of Netizen, Trandar, and Harmony, 

added that Thailand has been talking about smart cities for 

years, yet there is a lack of a platform to support data integration 

and the implementation of data and technology to be used 

for maximum benefit. 

While Teeranan Kornsritipha, Deputy Managing Director Retail 

Business Development Division, Frasers Property (Thailand) 

PCL, focused on a smart city that meets the needs of people’s 

lives, a future aging society, travel, public space for use, and 

access to the local community economy, It is important to create 

an ecosystem that understands diversity and sees the big picture 

in the same direction. 

From the experience of Siam Piwat, Narathip Rattapradit, as 

Senior Vice President of Operations, exchanged business 

strategies on co-creation and shared value. He said the company 

has done a lot to develop the city and communities, which 

allows people in the community to participate and feel like 

participating so that the community area can become a more 

livable area. Sunattha Pongcharoen, Director of Future Forecast 

Research, emphasized the importance of starting with people 

in the future city because people are the center of the city, so 

the city of the future must meet the needs of its dwellers. 

At the end of the session, there were presentations by government 

executives. Sanon Wangsrangboon, Deputy Governor of 

Bangkok, pointed out the issue of what to do to provide various 

information that has been used together to solve real problems, 

help reduce educational inequality, and provide access to resources. 

It’s imperative that a smart city be smart for everyone 

and accessible to everyone to make people feel loved, feel like 

city owners, and participate. 

In addition, Varawut Silpa-archa, Minister of Natural Resources 

and Environment, also emphasized that future cities must concern 

with mitigation and adaptation planning. A good example 

is Singapore, where it transforms the vision of the Garden City 

into the City in the Garden to uplift the city and give it a more 

natural spirit. In the same vein, Bangkok should be aware of the 

significance of designing a city based on natural possibilities. 

He finally spoke about the importance of co-creation, which is 

working together toward making things possible together. 

At the end of the ‘Co-Creation for the Future City’ forum, Chana 

Sumpalung, President of the Association of Siamese Architects 

under Royal Patronage, mentioned the importance of the exchange 

platform in the WOW Forum, which is a fascinating 

starting point as it is an opportunity for important agencies, both 

private sector and from Bangkok, including everyone involved in 

driving the city, to join the conversation as a team. This will push 

forward efforts to make the city a better place in the future for all. 


59. The Association of Siamese Architects under Royal Patronage


81 

59 

“On behalf of the Association of 

Siamese Architects, I truly hope 

this event will be a stimulus in 

terms of economy, knowledge of 

what being a good urban citizen is, 

and how to combine knowledge 

from different organizations to 

come together and bring about 

integration that will show us 

directions of development of a 

livable city in various possible 

ways.” 

Chana Sumpalung 

President, The Association of Siamese 

Architects under Royal Patronage

82 

Enjoy the City 


ภาพถ่ายภูมิทัศน์เมือง งานกราฟิตี เทศกาลประจำาเมือง ลักษณะทาง 

สถาปัตยกรรมของเมือง สิ่งเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งขององคาพยพที่ประกอบ 

กันขึ้นมาเป็นปัจจัยเกื้อหนุนให้เมืองมีชีวิต งานเสวนา WOW Forum ใน 

ธีม ‘Enjoy the City’ จึงพาเราไปร่วมสนทนากับกลุ่มคนทำางานจากหลาย 

แวดวงถึงความสำาคัญและทิศทางแนวโน้มของศาสตร์ต่างๆ ที่จะช่วยกัน 

ขับเคลื่อนสังคม วัฒนธรรม และเศรษฐกิจให้กับเมืองที่เราอยู่อาศัย 


Photo and City 

เริ่มต้นด้วยเรื่อง ‘Photo and City’ การมองเมืองผ่านภาพถ่าย โดยมี 

คุณกันตพัฒน์ พฤฒิธรรมกูล เจ้าของเพจ ‘กอล์ฟมาเยือน’ ได้ร่วมแลก 

เปลี่ยนในมิติของการเป็นนักถ่ายภาพภูมิทัศน์ของเมือง ก่อนที่จะผันตัวมา 

ทำางานด้านการสร้างสรรค์คอนเทนต์ (Content Creator) ที่นำาเสนอเมือง 

ผ่านรูปถ่ายภูมิทัศน์ระหว่างความเก่ากับความใหม่ ระหว่างมรดกทาง 

ประวัติศาสตร์กับการพัฒนาเมืองเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและแสดงออก 

ผ่านภาพถ่ายเมืองได้ ในขณะที่คุณวีระพล สิงห์น้อย (Beer Singnoi) 

เจ้าของเพจถ่ายภาพสถาปัตยกรรม และทำางานถ่ายภาพสถาปัตยกรรม 

สมัยใหม่ (Modernism Architecture) ภายใต้เพจ foto_momo ได้นำา 

เอาประสบการณ์ในการถ่ายภาพสถาปัตยกรรมมาร่วมแลกเปลี่ยน โดย 

คุณวีระพลมองว่าภาพถ่ายเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังในการสร้าง 

ความเข้าใจต่อเมือง เป็นสื่อกลางที่ใช้สื่อสารระหว่างผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง 

ในหลายๆ ภาคส่วนได้เป็นอย่างดี แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องพึงระลึกว่า 

ภาพถ่ายอาจไม่ใช่ตัวแทนของปัญหาทั้งหมด ส่วนคุณคุณโต้ วิรุนันท์ 

ชิตเดชะ และคุณตุลย์ หิรัญญลาวัลย์ จากโรงเรียนสังเคราะห์แสง ที่แบ่ง 

ปันประสบการณ์ของการจัดหลักสูตรให้กับนักถ่ายภาพ และผู้ที่สนใจ 

พัฒนางานถ่ายภาพไปสู่การใช้ภาพถ่ายเป็นหนึ่งในกระบวนการสร้าง 

การมีส่วนร่วมให้กับชุมชน ผ่านกิจกรรมภาพถ่ายชุมชนในพื้นที่เมืองเก่า 

สงขลา ผ่านมุมมองของช่างภาพและคนในชุมชน และกิจกรรมฟิล์มม้วน 

แรกให้กับเด็กๆ ในชุมชนเมืองเก่าระยอง เป็นกิจกรรมที่ใช้การถ่ายภาพ 

เป็นเครื่องมือสร้างความเข้าใจต่อชุมชน 

61 

60 

62


83 

Urban landscape photography, graffiti, festive events, and 

architectural features of the city are all part of the urban 

fabrics that make up the city’s life. ‘Enjoy the City’ the theme 

of WOW Forum, brings up a discussion with professionals 

and people from various circles about their importance and 

direction, and trends in various sciences that will help drive 

society, culture, and economy for the city we live. 

63 

Photo and City 

The Forum started with the story ‘Photo and City’, looking 

at the city through photographs. Kattapat Golf Phutthamkul, 

shared his experience as an urban landscape photographer 

before turning to a content creator, presenting the city through 

landscape photographs of the old and the new, the old historical 

heritage and new urban development and express it through 

urban photography. 

While Beer Singnoi, the architecture photographer who works 

on modern architecture photography under the foto_momo 

page, brings his experiences in architectural photography to 

share. Beer sees photography as one of the most powerful tools 

for understanding the city, a medium to communicate between 

people involved in many areas. Yet, according to Beer, we must 

remember that photos may be one of many tools to present the 

whole problem. 

64 

Toh Virunan Chiddaycha and Tul Hiranyalawan from the School 

of Photographic Arts share their experience of organizing courses 

with photographers and those interested in developing the photography 

to use as one of the processes to create participation 

for the community. Some of their works are community photo 

activities in the old city of Songkhla through the perspectives 

of photographers and people in the community, and the first 

film roll for children project in the old town Rayong, which is an 

activity using photography as a tool to create understanding for 

the community. 

Baan Yue Dee 

‘Well-being house solution- Baan Yue Dee’ was presented by 

Wutthipon Meesamart, who introduced a paint technology 

that protects volatile organic compounds from the growth of 

fungi, bacteria, and viruses through interior paints from TOA. 

This paint product material developed from a bio-based 

product is one of the new interior paint innovations that TOA 

has developed recently. 

65 



84 


Baan Yue Dee 

‘Well-being house solution- บ้านอยู่ดี’ โดยคุณวุฒิพงษ์ มีสมรรถ 

ได้นำาเสนอเทคโนโลยีสีที่ปกป้องสารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (Volatile 

organic compound) การเติบโตของเชื้อรา แบคทีเรีย และไวรัสผ่าน 

นวัตกรรมสีทาอาคารภายในจาก TOA ที่ใช้วัสดุชีวภาพ (Bio-based 

product) เป็นหลัก ได้อธิบายถึงคุณสมบัติเด่นของนวัตกรรมสีทาภายใน 

ใหม่ที่ทาง TOA ได้พัฒนาขึ้น 

Graffiti 

ส่วนในการเสวนาเรื่อง ‘Graffiti’ คุณณกรณ์ สุภาเกตุ (Nagon Foolfame) 

สนทนาถึงเสน่ห์ของงานศิลปะกราฟิตีที่มีต่อเมือง โดยยกตัวอย่างของพื้นที่ 

งานสตรีทอาร์ต (Street Art) ในเชียงใหม่ ซึ่งเกิดขึ้นจากการสร้างสรรค์ 

ของศิลปินท้องถิ่น ซึ่งนอกจากความสวยงามแล้วคุณค่าของงานกราฟิตีต่อ 

การพัฒนาคุณภาพของเมือง ผ่านการตั้งคำาถามที่คมคาย ชวนให้ผู้ชม 

ที่เดินผ่านได้ขบคิดต่อปัญหาเชิงโครงสร้างของสังคม กลายเป็นหนึ่งใน 

เอกลักษณ์ของศิลปะกราฟิตีที่มอบให้กับเมือง คุณวิทยา เอมาวัฒน์ เสริม 

ว่าคุณค่าของงานกราฟิตีที่เหมาะสมจะช่วยพัฒนาพื้นที่รกร้างของเมือง 

(Brownfield land) เพราะศิลปะประเภทนี้อยู่กับพื้นที่สาธารณะไม่เก็บค่าชม 

เป็นงานศิลปะที่ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด โดยหยิบยกกรณีศึกษาที่ 

เยอรมนี งานกราฟิตีบนกำาแพงเบอร์ลิน ที่งานศิลปะกราฟิตีได้กลายเป็น 

ส่วนหนึ่งของมรดกทางประวัติศาสตร์โลก ขณะที่คุณหฤษฎ์ ธรรมประชา 

(Infinite riot) กล่าวเสริมถึงการใช้กราฟิตีเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของ 

เมืองและอนุรักษ์มรดกทางสถาปัตยกรรมของเมือง ผ่านกรณีศึกษา หมู่บ้าน 

สายรุ้ง (Rainbow Village) ที่ประเทศไต้หวัน ซึ่งศิลปะประเภทนี้สามารถ 

รักษาหมู่บ้านจากการถูกรื้อถอน และเปลี่ยนโฉมหมู่บ้านท้องถิ่นให้กลาย 

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สร้างรายได้ขึ้นมา 

Travel 

ในหัวข้อเกี่ยวกับ ‘Travel’ นั้น คุณพลอยไพลิน ตั้งประภาพร (Pigkaploy) 

เล่าถึงแรงบันดาลใจของการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วโลก โดยอาศัย 

สื่อสังคมออนไลน์เป็นเครื่องมือในการสร้างความเข้าใจระหว่างกัน สร้าง 

ความเคารพวัฒนธรรม และขนบธรรมเนียม ผ่านการศึกษาเรียนรู้ด้วย 

การท่องเที่ยว เช่นเดียวกับคุณวรฉัตร ธำารงวรางกูร (เฉียง ไปอยู่ไหนมา) 

ที่เล่าเรื่องราวระหว่างการเดินทาง พบกับประสบการณ์แปลกใหม่ จาก 

การเดินทาง ซึ่งพบว่าเราดำารงอยู่ในยุคสมัยที่การเดินทางท่องเที่ยวเกิดขึ้น 

ได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น ส่งผลโดยตรงต่อประสบการณ์ของนักเดินทาง 

และสะท้อนกลับมายังเมืองที่เราอาศัยอยู่ ในขณะที่คุณยลภัทร รุจิธรรมกุล 

(Airchitect) ผู้ถ่ายทอดเอกลักษณ์ของเมืองผ่านเส้นสายสถาปัตย์ ที่มอง 

ว่าการเข้าใจบริบทของเมือง องค์ประกอบของเมือง รูปแบบทางสถาปัตย- 

กรรม จะเกิดขึ้นได้จากการพินิจ พิจารณา จากการเดินเท้าในเมือง ใช้ระบบ 

ขนส่งมวลชนสาธารณะ จะช่วยสร้างความเข้าใจต่อเมืองที่ไม่ใช่เพียงแค่ 

ผิวเผิน 

Graffiti 

In the session on ‘Graffiti’, Nagon Supagate (Nagon Foolfame) 

talked about the charm of graffiti art in the city. He gave an 

example of local artists creating a street art space in Chiang- 

Mai. Apart from the aesthetic, the value of the work to the development 

of the city’s quality through witty questioning invites 

viewers to think about the structural problems of society. It has 

become one of the signatures of graffiti art given to the city. 

Witthaya Emawat added that the value of the exemplary graffiti 

work would help develop the urban wasteland (Brownfield land) 

since graffiti art is in public space and does not collect fees. 

It is a work of art that is closest to the people. He brought up a 

case study in German graffiti on the Berlin Wall, where graffiti 

art has become part of the world’s historical heritage. The last 

speaker of the session, Harid Thamapacha (Infinite riot), added 

that graffiti could drive the city’s economy and preserve the 

city’s architectural heritage, as in the case of Rainbow Village 

in Taiwan. Graffiti art has helped save the village from being 

demolished and eventually transformed a local town into a 

tourist destination that generates income for the community. 

Travel 

Ploypailin Thangprabhaporn (Pigkaploy) shared with audiences 

the inspiration of traveling to different places around the world, 

relying on social media as a tool to create mutual understanding, 

as well as to culminate respect for culture and customs through 

education. Worachat Cheang Thamrongwarangkura told the 

stories of his journey, where he gained new experiences from 

travel. He found that we live in an era where traveling is much 

easier and more convenient, a nd it directly affects the traveler’s 

experience and reflects the city in which we live. While Yolaphat 

Rujithamkul (Airchitect), who conveys the identity of the city 

through his line drawings of architecture, said that understanding 

the context of the city, architecture in the city, and urban fabrics 

can be possible from the consideration of walking in the city, or 

the use of public transport will help create a deeper understanding 

of the city, not just superficial. 

Design the Future 

‘Design the Future’ is a discussion session on the new solutions 

to facade design. It aims towards new directions and guidelines 

for designing for the future. Phaithaya Banchakitikun, the managing 

director and partner of Atom Design, views user empathy as 

crucial as environmental concerns. From his experience designing 

the building envelope, he opted for an attractive design and 

pattern, easy and quick to build, and mainly using flexible, reusable 

materials. The architect likes to explore new materials such 

as aluminum composite. While Ploy Harisadhi Leelayuwapan, the 

co-founder of PHTAA Living Design, came up with a presentation, 

‘Living with Pattern’, where the studio widely experiments with 

the design of building envelopes concerning a relationship with 

the context of the city. These patterns of the building envelope can 

be developed flexibly from the project owner’s story, for example, 

whether it is for a tailor shop or hotels in the city center.


85 

67 

68 

69 70 

72 

71 



86 


Design the Future 

‘Design the future’ อีกช่วงเสวนาเพื่อร่วมกันหาแนวทางการออกแบบ 

เปลือกอาคาร (Facade Design) ต่อทิศทางและแนวทางใหม่ในการออกแบบ 

เพื่ออนาคต โดยคุณปอย ไพทยา บัญชากิติคุณ (Managing director and 

partner atom design) มองว่าการคำานึงถึงผู้ใช้สอยสถาปัตยกรรม (User 

Empathy) เป็นสิ่งที่สำาคัญควบคู่ไปกับการคำานึงถึงระบบนิเวศวิทยา ซึ่งจาก 

ประสบการณ์การออกแบบเปลือกอาคาร ผู้ออกแบบเลือกใช้การออกแบบ 

แบบแผน (pattern) ที่ดึงดูดไปพร้อมกับการสร้างง่าย สร้างได้เร็ว และใช้ 

วัสดุที่มีความยืดหยุ่นสามารถนำามาใช้ใหม่ได้ โดยผู้ออกแบบเลือกใช้วัสดุ 

รูปแบบใหม่เช่น อลูมิเนียมคอมโพสิต (Aluminum Composite) ในขณะที่ 

คุณพลอย หฤษฎี ลีละยุวพันธ์ (Co-founder PHTAA living design) มา 

แลกเปลี่ยนภายใต้ชื่อ ‘Living with pattern’ ที่ใช้งานเชิงทดลองในการ 

ออกแบบเปลือกอาคารให้มีความสัมพันธ์ต่อบริบทโดยรอบของเมือง ซึ่ง 

รูปแบบสามารถพัฒนาได้จากเรื่องราวของผลิตภัณฑ์ของเจ้าของโครงการ 

ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบเปลือกอาคารสำาหรับร้านตัดสูท หรือโรงแรม 

กลางใจเมือง 

Entertainment & City Light 

ในช่วงเสวนาสุดท้ายของวัน ‘Entertainment & city light’ โดยคุณพงศ์สิริ 

เหตระกูล จาก Timeout เล่าถึงการจัดกิจกรรมที่ช่วยให้เกิดความสนุก 

ขึ้นในเมือง ที่จะนำามาซึ่งการหลั่งใหลของผู้คนจากทั่วทุกสารทิศ เพื่อขับ 

เคลื่อนเศรษฐกิจ โดยยกกรณีศึกษา เช่น การจัดกิจกรรม Vivid city ที่ 

เมือง Sydney กิจกรรม South by Southwest ที่เมือง Austin รัฐ Texas 

และงาน Awakening Bangkok ที่กรุงเทพฯ ที่ชี้ให้เห็นว่าการจัดเทศกาล 

เมือง เวทีสำาหรับจัดงานศิลปะและการออกแบบแสงสีขึ้นในเมือง เป็นหนึ่ง 

ในเครื่องมือที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจขึ้นได้ ซึ่งปรากฏการณ์นี้เป็นแม่ 

เหล็กดึงดูดคนให้เข้ามามีส่วนร่วมโดยอาศัยมรดกทางวัฒนธรรมทางย่าน 

เป็นพื้นฐาน 

73 

เมืองยังมีมิติของความสลับซับซ้อนที่เกี่ยวโยงสัมพันธ์ต่อกันในหลายระดับ 

ความมีชีวิตชีวาที่เกิดขึ้นมาจากผลผลิตทางวัฒนธรรมจากยุคสมัยของเรา 

เปรียบได้กับลมหายใจที่เกื้อหนุนให้เมืองมีชีวิต จิตใจ มีความรู้สึก ไม่ได้ 

เป็นแต่เพียงการดำารงอยู่ของลักษณะทางกายภาพ แต่คือเวทีที่อนุญาตให้ 

เกิดบทสนทนาแห่งความแตกต่างหลากหลาย และสิ่งนี้คือความสนุกของ 

เสรีภาพที่เกิดขึ้นภายใต้เมืองของเรา 

74 

76 




87 

“The challenge is having Wow and 

Well-Being together in the same 

place. Development and improvement 

of the original tobacco factory 

to be this Queen Sirikit Convention 

Center, to be the Benjakitti Forest 

Park, is a good example of the 

balance of both the Wow and Well- 

Being as one - to be an inspiration 

for everyone and hopes for the people 

about the direction of our city’s 

development.” 

Korn Chatikavanich 

Former Minister of Finance 

Entertainment & City Light 

In the last talk of the day, ‘Entertainment & City Light’, Pongsiri 

Hetrakul from Timeout explains events and activities that help 

make the city more fun and bring a good mass of crowds from 

all areas to drive the city economy. Such famous case studies 

are the Vivid City event in Sydney, the South by Southwest event 

in Austin, Texas, and the Awakening Bangkok event in Bangkok. 

These events indicate that the city festival, stage for art, and 

lighting design in the city are some of the tools that can drive 

the economy. This phenomenon is a magnet to attract people to 

participate based on the cultural heritage of the neighborhood. 

78 

Cities also have complex dimensions that are interrelated at 

many levels. The liveliness produced by these cultural products 

of our time is like the breath that keeps the city alive, mentally 

and emotionally, not merely the existence of its physical characteristics. 

It is a platform that allows dialogue of diversity. It is 

nothing but the joy of freedom that takes place in our city.

88 

Into the Future 



WOW Forum ในธีม ‘Into the Future’ ในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2565 

ชวนเราตั้งคำาถามต่อบทบาท หน้าที่ และประสบการณ์จากการดำาเนินการ 

ในหัวข้อที่สำาคัญต่อการขับเคลื่อนเมือง เช่น ต้นไม้ในเมือง ระบบขนส่ง 

ภายในเมือง การศึกษาของพลเมือง และบทบาทของสำานักงานเศรษฐกิจ 

สร้างสรรค์ ถึงสถานการณ์ ทิศทาง และแนวโน้มของเมืองในปัจจุบัน รวม 

ถึงวิสัยทัศน์ของสิ่งที่จะเกิดในอนาคต 

การเสวนาเริ่มต้นด้วย ‘Trees in the city’ โดย ผศ.ดร.พรเทพ เหมือนพงษ์ 

อาจารย์ประจำาภาควิชาวนวัฒนวิทยา คณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตร- 

ศาสตร์ ที่ชี้ให้เห็นถึงความสำ าคัญของต้นไม้ในฐานะองค์ประกอบหนึ่งของเมือง 

และการปลูกต้นไม้ในเมืองเป็นเรื่องของการวางแผนล่วงหน้า โดยหยิบยก 

เอากรณีศึกษาการดูแลต้นไม้จากที่ต่างๆ ทั่วโลกที่มีประสบการณ์ รวมถึง 

กระบวนการดูแลรักษาต้นไม้ทั้งในมิติกายภาพและในเชิงสังคมผ่านการอบรม 

รุกขกรในระดับนานาชาติ ในขณะที่คุณสันติ โอภาสปกรณ์กิจ ผู้แทนเครือข่าย 

ต้นไม้ในเมือง BIG Trees ได้เล่าถึงที่มาการก่อตั้งสมาคมรุกขกรรมไทย และ 

กระบวนการการฝึกอบรมรุกขกร เพื่อสร้างบุคคลากรที่มีความรู้ความเข้าใจใน 

การดูแลรักษาต้นไม้ ตามคำาแนะนำาของผู้เชี่ยวชาญด้านต้นไม้จากต่างประเทศ 

และการขับเคลื่อนให้การดูแลต้นไม้เป็นวาระที่สำ าคัญ ส่วนคุณปาจริยา มหา- 

กาญจนะ ผู้แทนจากกรุงเทพมหานคร ปิดท้ายการเสวนาในประเด็นนี้ด้วย 

นโยบายปลูกต้นไม้ล้านต้น และนโยบายรุกขกรประจำ าเขตในปัจจุบัน ที่จำาเป็น 

ต้องมีการปลูกต้นไม้อย่างมียุทธศาสตร์ มีการติดตามผลประเภทของต้นไม้ 

ที่ปลูกผ่านการกำาหนดพิกัด และมีการจัดทำาคู่มือปลูกต้นไม้ที่ทำ าร่วมกับภาคี 

เครือข่าย 

79 

ในหัวข้อ ‘Creativity in the city’ คุณพิชิต วีรังคบุตร จาก CEA (Creative 

Economy Agency) นำาเสนอถึงบทบาทของสำานักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ใน 

การดำาเนินการ เพื่อขับเคลื่อนแนวนโยบายที่ภาครัฐต้องการกระตุ้นกิจกรรม 

ของย่านโดยอาศัยความร่วมมือจากภาคีเครือข่าย ไม่ว่าจะเป็นภาคีภาประชา- 

สังคม ภาควิชาการ ภาคเอกชน และชุมชนท้องถิ่น ในการใช้กิจกรรมสร้าง- 

สรรค์เป็นตัวนำาร่องให้เกิดการกระตุ้นกิจกรรมในพื้นที่ ซึ่งกิจกรรมที่เกิด 

ขึ้นมาจำาเป็นจะต้องให้ความสำาคัญต่อคนเป็นอันดับแรก เนื่องจากทรัพยากร 

มนุษย์เป็นหัวใจสำาคัญของการพัฒนาเมือง ในจุดนี้ความคิดสร้างสรรค์จึงเป็น 

สื่อกลางในการเชื่อมโยงคน เข้ากับพื้นที่และสินทรัพย์ ในด้านการดำ าเนินการ 

สำานักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์จัดทำาฐานข้อมูล (Database) เพื่อใช้เก็บข้อมูล 

ในการศึกษาความเปลี่ยนแปลงเชิงสถิติ เพื่อทราบผลของดัชนีชี้วัดที่ เกิดขึ้น 

หลังการดำาเนินกิจกรรม โดยพื้นที่นำาร่องที่สำานักงานเศรษฐกิจสร้างสรรค์ได้ 

จัดทำากิจกรรม คือ พื้นที่ย่านเจริญกรุง ที่ใกล้กับที่ตั้งของ านักงาน สำ (อาคาร 

ไปรษณีย์กลางบางรัก) หรือกิจกรรมที่สร้างความพยายามทดลอง (Sandbox 

project) ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบป้ายรถเมล์ โครงการตลาดน้อย โครงการ 

Bangkok Design Week ในพื้นที่ทองหล่อ-เอกมัย เขตพระนคร ฯลฯ ท้ายที่สุด 

แล้วกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสรรค์เมืองล้วนเป็นงานเชิงทดลองที่มี 

ลักษณะเฉพาะตัวตามบริบทแวดล้อมที่แปรเปลี่ยนไป แต่จำาเป็นต้องได้รับ 

การวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาต่อยอดการทดลองสร้างสรรค์นั้น 

81 

80


89 

The WOW Forum themed ‘Into the Future’ on November 27, 2022, 

invited audiences to question the roles, responsibilities, and experiences 

of city dwellers, reflecting on topics that are vital to 

driving the city, such as urban trees, urban transport system civic 

education and the roles of the Creative Economy Agency about 

the current situation, direction and trend of the city, including a 

vision of what will happen in the future. 

82 

The discussion started with ‘Trees in the City’ by Asst. Prof. Dr. 

Pornthep Meunpong, lecturer at the Department of Forestry, 

Faculty of Forestry, Kasetsart University, points to the importance 

of trees as an element of the city and that planting trees in cities is 

a matter of planning. The speaker also picked up several interesting 

case studies of tree care worldwide, with experiences including 

preserving trees in physical and social dimensions through 

international arborist training. Santi Opaspakornkij from the BIG 

Trees urban tree network talked about the origin of the Thai Arboretum 

Association and arborist training process to create personnel 

with knowledge and understanding of tree preservation 

according to the advice of tree experts from abroad and the drive 

to make tree care a critical agenda. Pajariya Mahakanjana, the 

representative from Bangkok Metropolitan Authority, ended the 

discussion on this issue with a million tree planting policies and 

current local arborist policies requiring strategic tree planting. 

The types of trees planted are tracked through the determination 

of coordinates, and there is a guide to growing trees made in 

collaboration with network partners. 

83 



84 

On the topic of “Creativity in the City”, Pichit Virankabutra from 

CEA (Creative Economy Agency) presented the role of the Creative 

Economy Agency in operation to drive the policy that the government 

wants to stimulate the district’s activities through the cooperation 

of network partners whether it is a civil society partner, 

academic sector, private sector, and local communities. Using 

creative activities as a pilot to stimulate activities in the area needs 

to give importance to people as the topmost priority. Because, 

after all, human resources are the heart of urban development. At 

this point, creativity is a medium for connecting people to the area 

and assets in terms of operations. CEA has created a database 

to collect data for statistical change studies to know the results 

of the indicators that occur after the activity. The pilot area that 

the CEA has so far organized activities is Charoen Krung which 

is close to the location of the CEA office (Bang Rak Grand Postal 

Building) or activities that create experimental efforts (Sandbox 

project), whether it is the design of a bus stop, Talat Noi Project, 

Bangkok Design Week Project in Thonglor-Ekkamai area, Phra 

Nakhon District, etc. Ultimately, all urbanization-related activities 

are experimental works that are unique following changing contexts. 

But it also needs to be measured and evaluated to develop 

further that creative experiment.

90 

‘Education for better city’ เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของวิทยากร 

ด้านการศึกษาจากภาคส่วนอื่นๆ นอกเหนือจากภาครัฐ อาทิ คุณคริสติยา 

เจียรวัติวงศ์ และ คุณนภัส ชิ้นศิริกุล จาก Saturday school องค์กรที่มุ่งส่ง 

เสริมการศึกษานอกห้องเรียนให้กับนักเรียน และบุคคลากรทางการศึกษา 

โดยพัฒนาผ่านการจัดกิจกรรมที่น่าดึงดูด และเป็นเวทีให้กับการแลกเปลี่ยน 

ระหว่างพี่เลี้ยง นักเรียน และครูที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม คุณชลิพา ดุลยากร 

จาก Inskru ร่วมแลกเปลี่ยนถึงปัญหาของการเรียนการสอน ที่มุ่งสร้างแรง- 

บันดาลใจให้กับครูที่อยู่ในระบบการศึกษาซึ่งมีภาระงานมากกว่าการสอน 

ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการสอนนักเรียน โดย Inskru เป็นแพลทฟอร์ม 

ชุมชนกลางในการแบ่งปันไอเดียการสอน ในส่วนของคุณชยพร ตันติสุขารมย์ 

จาก Skooldio เป็นภาคเอกชนที่มุ่งสร้างกระบวนการเรียนรู้ตลอดชีวิต 

(Live-long learning) ตามความสนใจ ในแขนงต่างๆ เช่น ความรู้ทาง 

ด้านการเงิน การเขียนโปรแกรม การออกแบบ การวิเคราะห์ข้อมูล การ 

พัฒนาแพลทฟอร์มให้กับโรงเรียน เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ผ่านทักษะที่ 

จำาเป็นนอกเหนือจากการศึกษาในระบบ เมื่อมองในมิติของเมืองแล้วจะพบ 

ว่าด้วยเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การพัฒนาทักษะที่จำาเป็น 

ในโลกดิจิตอลเป็นสิ่งที่มีความสำาคัญในการพัฒนาศักยภาพมนุษย์ที่อาศัย 

อยู่ในเมือง ภาคส่วนเอกชนที่มาร่วมเสวนาในช่วงนี้เป็นส่วนหนึ่งของการ 

เติมเต็มช่องว่างให้กับกลไกของการพัฒนาทักษะของคนภายในเมือง 


‘Education for a Better City” is an exchange of experiences of 

educational speakers from other sectors in addition to the government 

one. Guest speakers are Kristiya Jiarawattiwong and Napas 

Chinsirikul from Saturday School Foundation. This organization 

aims to promote education outside the classroom for students and 

educational personnel developed through engaging activities and 

a platform for exchanges between mentors, students, and teachers 

interested in participating in the activity. Chalipa Dulyakorn from 

Inskru, a central community platform for sharing teaching ideas, 

shared the problems of teaching and learning, aimed to inspire 

teachers in the education system whose workload beyond teaching 

affects the effectiveness of their routine teaching jobs. While Chayaporn 

Tantisukarom from Skooldio, a private sector that aims to 

create a process of Live-long learning based on interests in various 

fields such as financial knowledge, programming, design, data 

analysis, school platform development, to develop human resources 

through necessary skills beyond formal education. When looking at 

the multi layers of the city, one will find that technology is changing 

rapidly. Developing the skills needed in the digital world is thus 

essential in developing the human potential of city dwellers. The private 

sectors participating in this session are part of filling the gaps 

in the skills development mechanism of those who live in the city. 

ในหัวข้อการเสวนาสุดท้ายคือเรื่อง ‘Mobility in the city’ ดร.กฤษดา 

กฤตยากีรณ CEO (founder team) MuvMi มาร่วมแลกเปลี่ยนในเรื่อง 

การสัญจรระยะสั้น (Micro Transit) เนื่องจากข้อจำากัดของการขนส่ง 

มวลชนในเมืองใหญ่ที่การเดินทางมีรอยต่อระหว่างที่พักอาศัยกับสถานี 

ขนส่งมวลชนส่งผลให้ผู้โดยสารจำาเป็นต้องใช้การสัญจรระยะสั้นเป็นตัวจ่าย 

เข้าสู่ระบบ (Feeder system) MuvMi จึงออกแบบรถตุ๊กตุ๊กไฟฟ้าที่เป็นมิตร 

ต่อสิ่งแวดล้อม ออกแบบซอฟแวร์ สำาหรับแอพพลิเคชั่นในการโดยสาร 

ร่วมกันให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดขึ้นมา ในขณะที่คุณ Taty Azman Head 

of government & public affairs (Malaysia, Thailand) BEAM บริษัท 

ผู้ให้บริการการสัญจรระยะสั้น ด้วยรูปแบบสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า จักรยานยนต์- 

ไฟฟ้า และจักรยานไฟฟ้า ก่อตั้งในสหรัฐอเมริกา มีสำ านักงานใหญ่ที่สิงคโปร์ 

และดำาเนินกิจการในประเทศแถบเอเชียแปซิฟิก ซึ่งในไทยบริษัท BEAM ได้ 

เริ่มดำาเนินการตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 ในภูเก็ต เชียงใหม่ และกรุงเทพฯ (โดย 

นำาร่องในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า 

เจ้าคุณทหารลาดกระบัง) ด้วยลักษณะเด่นของการเดินทางด้วยสกู๊ตเตอร์ 

ไฟฟ้า หรือจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่เหมาะสมต่อเมืองขนาดใหญ่ที่มีลักษณะ 

‘ซูเปอร์บล็อก’ (Superblocks) ระบบถนนไม่สัมพันธ์กับระบบขนส่งมวลชน 

ทางรางที่เกิดขึ้นใหม่ มีซอยตันจำ านวนมาก ทำาให้ธุรกิจการพัฒนาการสัญจร 

ระยะสั้นเป็นหนี่งในนวัตกรรมของการสัญจรยุคใหม่ ที่กำาลังเติบโตขึ้นและ 

ตอบสนองต่อความต้องการของตลาด ในขณะเดียวกันการพัฒนาเทคโนโลยี 

ทั้งในด้านกายภาพ และด้านซอฟแวร์ได้ช่วยส่งเสริมให้นวัตกรรมการขนส่งนี้ 

เป็นที่น่าจับตามอง เพื่อเติมเต็มข้อจำากัดที่ท้าทายไปพร้อมกับการพัฒนา 

คุณภาพชีวิตของคนภายในเมืองไปพร้อมกัน 

เมืองแห่งศตวรรษต่อไปจะขับเคลื่อนไปด้วยฐานของการใช้ความคิดสร้าง- 

สรรค์ การทดลองเรียนรู้ การเปิดโอกาสให้เกิดความเป็นไปได้ใหม่ๆ ภายใต้ 

สภาพแวดล้อมที่เกื้อหนุนให้บุคคลากรในเมืองเติบโตอย่างยั่งยืน ก้าวย่าง 

ต่อไปของเมืองจึงเป็นสิ่งที่น่าจับตามองต่อพัฒนาการของการเติบโตซึ่งย่อม 

ต้องเผชิญกับความท้าทายและอุปสรรคใหม่ๆ ที่เราไม่เคยประสบมาก่อน 

The last topic of discussion on 27 January was ‘Mobility in the City’. 

Dr. Krisada Kritayakirana, CEO (founder team) of MuvMi joined to 

share some ideas on short-distance traffic (Micro Transit). Due to 

the limitations of mass transit in big cities where there is a connection 

between the residence and the mass transit station, resulting 

in passengers needing to use short-distance traffic as a payer into 

the system (Feeder system). MuvMi has designed an environmentally 

friendly electric tuk tuk and a software design for applications 

in passenger sharing to achieve maximum efficiency. The next 

speaker, Taty Azman, Head of Government & Public Affairs (Malaysia, 

Thailand) of short-distance travel company BEAM, presented 

the electric scooter model electric moped and electric bike. Founded 

in the United States with a Singapore headquarters and operates 

in Asia-Pacific countries, including Thailand, BEAM has been 

operating since 2021 in Phuket, Chiang Mai, and Bangkok (with a 

pilot at Chulalongkorn University and King Mongkut’s Institute of 

Technology Ladkrabang). BEAM sees traveling with an electric 

scooter or an electric motorcycle as suitable for a large city with 

characteristics of ‘Superblocks’ where the road system is not quite 

in line with the emerging mass transit system and there are many 

dead-end alleys. This makes the short-distance mobility development 

business one of the innovations of modern mobility that is 

growing and responding to market demands. At the same time, the 

development of technology in both the physical and software has 

helped to promote this transportation innovation one to watch as a 

tool to fulfill challenging limitations while improving the quality of 

life of the city residents at the same time. 

Undoubtedly, the city of the next century will be driven by a platform 

of creativity and learning experiments, opening up new possibilities 

in an environment that supports city dwellers to grow sustainably. 

Therefore, the next step for the city is an eye-opening growth development 

that will come along with new challenges and obstacles 

that we have never experienced before.


91 

85 

86 

87 



88 

ผศ.ด้ร. 

เพัชรลี่ัด้ด้า เพั็ชรภักด้่ 

เป็ นอาจารย์ประจำาคณะ 

สถาปั ตยกรรมศาสตร์ 

ผังเมืองและนฤมิตศิลป์ 

มหาวิทยาลัยมหาสารคาม 

มีความสนใจในเรื่อง 

การเมืองและการพัฒนา 

เมือง โดยจบการศึกษา 

ด้าน Development 

Studies จาก School 

of Politics and International 

Studies, The 

University of Leeds, UK 

มีประสบการณ์ ในด้านการ 

ศึกษาวิจัยและวางแผน 

พัฒนาเมืองให้กับ กรมโยธา 

ธิการและผังเมือง การเคหะ 

แห่งชาติ เทศบาลต่างๆ และ 

กรุงเทพมหานคร 

กุลี่พััชร์ เสน่ว่งศ์ 

ณ์ อยุ่ธย่า 

ปั จจุบันเป็ นนักวิจัยที่ 

บริษัท NPPN Company 

และนักศึกษาปริญญาเอก 

สาขาสถาปั ตยกรรมพื้นถิ ่น 

คณะสถาปั ตยกรรมศาสตร์ 

มหาวิทยาลัยศิลปากร สนใจ 

ศึกษามรดกทางวัฒนธรรม 

และขณะนี้กำาลังทำาวิจัย 

เกี่ยวกับสภาพแวดล้อม 

สรรค์สร้างในพื้นที่ภูมิทัศน์ 

วัฒนธรรมมลายู 

Asst. Prof. Dr. 

Pechladda Pechpakdee 

is an instructor at the 

Faculty of Architecture, 

Urban Design, and 

Creative Arts at Mahasarakham 

University. 

She has worked on city 

development plans 

with Thailand’s Department 

of Public Works 

and Town and Country 

Planning, the National 

Housing Authority, a 

number of municipal 

governments, and the 

Bangkok Metropolitan 

Administration. 

Kullaphut Seneevong 

Na Ayudhaya 

is a researcher at NPPN 

Company and a Ph.D. 

candidate in Silpakorn 

University’s faculty of 

architecture’s verna 

cular architecture program. 

He has a passion 

for cultural heritage and 

is currently conducting 

research about the 

built environment of 

the Malay cultural 

landscape.

92 


Wonder 

of Well- 

Being 

Awards 



WONDER OF WELL-BEING AWARDS 

93 

The Wonder of Well-Being Awards, 

hosted by the Association of Siamese 

Architects under Royal Patronage, 

are initiated to bring recognition to 

projects related to the development of 

urban spaces, people’s quality of life, 

and well-being. The award hopes to 

promote various aspects of sustainable 

urban development as well as 

support and publish projects developed 

by the government, private, and 

public sectors, enabling them to serve 

as models for the development of the 

country’s and city’s well-being. 

รางวััล Wonder of Well-Being Awards โดยสมาคมสถาปนิิกสยามฯ 

จััดขึ้้ นิเพื่่อเชิิดชููโครงการที่่เก่ยวัขึ้้องกับการพื่ัฒนิาเม่อง พื่ัฒนิาคุณภาพื่ 

ชีีวิิต และควัามเป็ นิอยูขึ้องผูู้้คนิ สงเสริมให้้เกิดควัามยังยืืนในม ิติตางๆ 

พื่ร้อมทั้้งสนัับสนุุนิ และเผู้ยแพื่รโครงการที่่ม่การพื่ัฒนิาโดยห้นิวัยงานิ 

ภาครัฐ ภาคเอกชินิและชุุมชินิ เพื่่อให้้เป็ นิโครงการตัวัอยางที่่สร้าง 

แรงบันิดาลใจัที่่ด่ให้้กับการพื่ัฒนิาคุณภาพื่ชิ่วัิตควัามเป็ นิอยูขึ้อง 

บ้านิเม่องและประเที่ศ

94 

หลักเกณฑ์การมอบรางวัลพิจารณาจากโครงการที่พัฒนารูปแบบทางด้าน 

กายภาพ เช่น อาคาร ที่อยู่อาศัย และโครงการที่พัฒนาคุณภาพชีวิตความ 

เป็นอยู่ของประชาชนด้านสังคม วัฒนธรรมและองค์ความรู้ โดยแบ่งประเภท 

การพิจารณาออกเป็น โครงการจากภาคเอกชน และโครงการจากภาครัฐ ใน 

ประเภทต่างๆ ได้แก่ 1.อาคาร/กลุ่มอาคาร 2.ย่าน/ชุมชน 3.เมือง 4.พื้นที่ 

สาธารณะ และ 5.พื้นที่พิเศษ โดยได้มีการมอบรางวัลโครงการต่างๆ ไป 

ภายในงาน WOW เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2565 

สำาห้รับคณะกรรมการตัดสินิรางวััล WOW Awards ประกอบด้วัย 

1. รศ.ดร.ไขศรี ภักดิ์สุขเจริญ อุปนายกสภาสถาปนิก (ACT) 

2. คุณชาคริต จันทร์รุ่งสกุล ประธานกรรมการบริหาร 

และผู้ก่อตั้งบริษัท ไฟร์ วัน วัน จำากัด 

3. คุณสาธิต กาลวันตวานิช ผู้ก่อตั้งบริษัท Phenomena, 

Propaganda, Studio Avocado 

4. รศ.ดร.พนิต ภู่จินดา นายกสมาคมนักผังเมืองไทย (TCPS) 

5. ผศ.ดร.ปริญญ์ เจียรมณีโชติชัย นายกสมาคมสถาปนิก 

ผังเมืองไทย (TUDA) 

6. คุณนำาชัย แสนสุภา นายกสมาคมภูมิสถาปนิกประเทศไทย 

(TALA) 

7. คุณชนะ สัมพลัง นายกสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรม- 

ราชูปถัมภ์ (ASA) 

รายชิ่อโครงการต่างๆ ที่่ได้รับรางวััล มีดังนิ่ 

1. เดอะ ฟอเรสเทียส์ โดย MQDC 

2. สินธร วิลเลจ 

3. พาร์ค สีลม 

4. สามย่าน มิตรทาวน์ 

5. ธรรมาศรม 

6. ดิ เอ็มดิสทริค 

7. ถนนคนเดินสยามสแควร์ 

8. คลองผดุงกรุงเกษม 

9. บ้านราคาประหยัดเพื่อคนไร้บ้านในชุมชนคลองเตย 

10. สวนผักคนเมืองเชียงใหม่ 

11. โครงการพัฒนาพื้นที่ริมคลองแม่ข่าและลำ าน้ำาสาขาอย่างรอบด้าน 

12. โครงการปรับปรุงฟื้นฟูย่านคลองโอ่งอ่าง 

13. โครงการคลองเตยลิงก์ 

14. ต่อยอดแสงหลวง 

15. DECAAR โดย SCG ร่วมกับ ชุมชนโชฎึก 

16. หาดใหญ่เมืองน่าอยู่ 

17. สระบุรีพัฒนาเมือง 

18. สวนเบญจกิติ 

19. สนามปั่นจักรยาน ‘เจริญสุขมงคลจิต’ 

20. อุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

21. สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา 

22. สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) 

23. กลุ่มบิ๊กทรีส์ / เครือข่ายต้นไม้ในเมือง / สมาคมรุกขกรรมไทย 

24. สมาคมเรารักสีลม 

25. กลุ่ม We!Park 

26. ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน 

27. ศูนย์วิจัยนวัตกรรมการแพทย์โยธี 

28. Urban Recognition : มหาวิทยาลัยศิลปากร 

29. ฟิวเจอร์เทลส์ แล็บ โดย MQDC 


The judging criteria consider projects with outstanding physical 

development, ranging from residential buildings to other architectural 

projects, that improve social, cultural, and intellectual aspects of 

people’s quality of life. The works are categorized into projects from 

the private and public sectors - 

1. Building / Building Complex 2. Neighborhood / Community 

3. Urban Area 4. Public Space 5. Special Space 

The Awarding ceremony was held as part of the WOW Festival on 

November 23, 2023. 

The Members of the WOW Awards’ judging panel are: 

1. Associate Professor Dr. Khaisri Paksukchareon, 

Vice President of the Architect Council of Thailand (ACT) 

2. Shakrit Chanroongsakul, Chief Executive Officer 

and founder of Fire One One Company Limited 

3. Satit Kanwantawanich, founder of Phenomena, 

Propaganda, Studio Avocado 

4. Associate Professor Dr. Panit Phuchinda, the 

President of the Thai City Planners Society (TCPS) 

5. Assistant Professor Prin Jienmaneechotechai, the 

President of the Thai Urban Designers Association (TUDA) 

6. Namchai Sansupha, the President of the Thai 

Association of Landscape Architects (TALA) 

7. Chana Samphalang, the President of the Association 

of Siamese Architects under Royal Patronage (ASA) 

The Winner Project are: 

1. The Forestias by MQDC 

2. Sindhorn Village 

3. Park Silom 

4. Samyan Mitrtown 

5. Learning Community of Mindfulness Healing 

6. THE EM DISTRICT 

7. Siam Square Walink Street 

8. Phadung Krungkasem Canal 

9. Economical Housing for Homeless People 

in Klongtoey Community 

10. Chiang Mai Urban Farm 

11. The development of areas around the Mae Kha Canal 

and Distributary Channels 

12. Ong Ang Canal Urban Space Development 

13. Klongtoey Link 

14. ‘Lost and Found’ the Missing Moment Experience 

15. DECCAR by SCG x Choduek Community 

16. Hat Yai Livable City 

17. Saraburi City Development 

18. Benchakitti Park 

19. Happy and Healthy Bike Lane 

20. Chulalongkorn University Centenary Park 

21. Chao Phraya Sky Park 

22. Community Organizations Development Institute 

(Public Organizations) 

23. Big Trees Project Foundation / Urban Tree Networks / 

Thai Arboriculture Association (TAA) 

24. We Love Silom Association 

25. We!Park 

26. Research & Innovation for Sustainability Center; RISC 

27. Yothi Medical Innovation District 

28. Urban Recognition: Silpakorn University 

29. FutureTales LAB by MQDC

The Forestias 

by MQDC 

Bang Phli, Samut Prakan 


95 

Developer and Designer: 

Magnolia Quality Development 

Corporation Limited 

Foster + Partners Limited 

Architect 49 Limited 

TK Studio Company Limited 

เดอะ ฟอเรสเทียส์ เกิดขี้นจากวิสัยทัศน์ที่จะสร้างพรีเมียร์โมเดล ที่เหมาะ 

กับทุกคน ทุกเจเนอเรชั่น ทุกเพศทุกวัย สัตว์ทุกชนิดในโครงการ รวมไป 

ถึงธรรมชาติและ จะเป็นเมืองแห่งความสุขต้นแบบของโลก ภายใต้รูปแบบ 

Theme Project โมเดลแรกของโลกที่จะสร้างนิยาม ของความสุขที่แท้จริง 

โดยเน้นการอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิตและธรรมชาติและระบบนิเวศที่สมดุล 

เป็นโครงการเมืองที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยสิ่งอำานวยความสะดวก 

ที่หลากหลายและพื้นที่กิจกรรมส่วนกลางที่ทุกๆ คนสามารถเข้ามาร่วม 

ใช้ชีวิตด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น โครงการที่อยู่อาศัย ร้านค้า พื้นที่สำานักงาน 

โรงแรม 6 ดาว ศูนย์การแพทย์และสุขภาพ ศูนย์วัฒนธรรมชุมชน สถาบัน 

การศึกษา และพื้นที่สีเขียวอันเป็นธรรมชาติ เพื่อสร้างสังคมแห่งความสุข 

และมีคุณภาพ และความยั่งยืนให้เกิดขึ้นอย่างแท้จริง 

The Forestias was created with the goal of creating an ideal premier 

model for everyone, regardless of generation, age, animal, 

or nature. It will be the world’s prototype city of happiness under 

the theme project, the world’s first model defining true happiness 

by emphasizing the coexistence of living beings and nature in a 

well-balanced ecosystem. The project is a city within a city that 

answers all questions, an urban project that meets all lifestyles 

with a variety of facilities and common area activities where everyone 

can come and live together—a residential project, shops, 

office space, a 6-star hotel, medical and healthcare facilities, a 

community cultural center, an academy, and ample natural green 

areas—to create a society of happiness where quality and sustainability 

indeed go hand in hand. 

mqdc.com

96 

Sindhorn Village 

Pathum Wan, Bangkok 



Siam Sindhorn Company Limited 

Plan Architect Company Limited 

สินธร วิลเลจ เป็นโครงการพัฒนาที่ดินแบบผสมผสานระดับซูเปอร์ลักชัวรี 

บนพื้นที่ 42 ไร่ บนพื้นที่หลังสวน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสร้างมาตรฐานใหม่ 

ของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยและความเป็นเลิศด้านคุณภาพการอยู่อาศัย 

ใจกลางกรุงเทพฯ ประกอบด้วยอสังหาริมทรัพย์ระดับไฮเอนด์ ได้แก่ 

อาคารพักอาศัย 5 หลัง โรงแรมระดับ 5 ดาว 3 แห่ง อาคารสำานักงาน 

1 หลัง และพื้นที่ค้าปลีก 1 แห่ง 

โครงการได้รับการพัฒนาโดยสถาปนิกและวิศวกรชาวไทยที่เข้าใจวิถีชีวิต 

เมืองไทยอย่างแท้จริง และโครงสร้างโดยรวมยังสามารถอยู่ได้นานถึงร้อยปี 

พร้อมการออกแบบที่คำานึงถึงความปลอดภัยจากแผ่นดินไหวและมีระบบ 

ป้องกันน้ำาท่วมที่มีประสิทธิภาพ อาคารทั้งหมดมีพื้นที่ธรรมชาติสูงสุดโดย 

มีอัตราส่วนอาคารที่มีความหนาแน่นต่ำา ซึ่งหมายถึงการจัดสรรพื้นที่สีเขียว 

เพิ่มขึ้นสองเท่า เมื่อเทียบกับมาตรฐานที่ยอมรับกันทั่วไป ด้วยพื้นที่สวน 

กว่า 3 ไร่ การพัฒนาที่เป็นเอกลักษณ์นี้นอกจากเป็นการเฉลิมฉลอง Life 

in the park อาคารทั้งหมดยังเป็น ‘อาคารสีเขียว’ ที่ได้รับการรับรอง LEED 

วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมทั้งหมดที่ใช้ในโครงการได้รับการรับรอง 

ประสิทธิภาพสูงสุด 

Sindhorn Village is the super luxury mixed-use development project 

on 42 rai on Langsuan area, which aims to set a new standard 

of the Thai real estate industry and excellence for quality of living 

in the heart of Bangkok. It comprises high-end properties, including 

five residential buildings, three five-star hotels, one office 

building, and one retail space. 

The project has been developed by Thai architects and engineering 

entities who truly understand Thai cities’ lifestyles. The overall 

structure can last up to 100 years, with earthquake resistance to 

counter the region’s high-risk seismic rating as well as an effective 

flood defense system. All buildings feature maximum natural areas 

with a low-density building ratio. This translates to a generous 

‘double the allocation of green space’ as compared to accepted 

standards. With over 3 rai of gardens, this inimitable development 

is a celebration of Life in the park. All buildings are also ‘green 

building’ with LEED certification. All eco-friendly materials utilized 

at the project are certified for maximum efficiency. 

sindhornvillage.com

The Park Silom 

Bang Rak, Thailand 


97 


Nye And Rgp Development Company Limited 

HB Design Company Limited 

โครงการ พาร์ค สีลม เป็นโครงการอาคารสำานักงานและร้านค้าเชิงพาณิชย์ 

(Mixed-use) ระดับพรีเมียม มีความสูง 39 ชั้น บนพื้นที่ 6 ไร่ ใจกลางถนน 

สีลม พัฒนาภายใต้แนวคิด ‘New Breed of Silom’ ที่คำานึงถึงผู้คน ชุมชน 

และการใช้ชีวิตของทุกคนในย่านสีลม โดดเด่นด้วยสวนสีเขียวบริเวณด้าน 

หน้าโครงการ ขนาดใหญ่กว่า 1 ไร่ สำาหรับเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจให้กับคน 

ในย่านสีลม 

ในส่วนของร้านค้า โครงการพาร์ค สีลม ได้ร่วมมือกับ ‘สยามพิวรรธ์’ สร้าง 

One of a kind ‘Retail Experience’ พัฒนาพื้นที่ค้าปลีกกว่า 5 ชั้นภายใน 

โครงการ ครอบคลุมเนื้อที่กว่า 10,000 ตารางเมตร เพื่อนำาเสนอรูปแบบ 

และคอนเซ็ปต์ที่แปลกใหม่ พร้อมส่งมอบประสบการณ์และความสุขให้กับ 

ผู้มาเยือน โครงการพาร์ค สีลม เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำ านวยความสะดวก และ 

สิ่งอำานวยความสุขครบครัน เป็นจุดศุนย์รวมของไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย 

สามารถใช้ชีวิตในแต่ละวันได้อย่างสมดุล 

The Park Silom is a premium mixed-use office building and commercial 

project with 39 floors on six rai in the heart of Silom Road. 

It is developed under the concept of ‘A New Breed of Silom’ that 

takes into account people, communities, and the lives of everyone 

in the Silom area. It is distinctive with a green garden in front of 

the project, larger than one rai to be a place to relax for people in 

the Silom area. 

For the shops and commercial zone, the project has collaborated 

with ‘Siam Piwat’ to create a one-of-a-kind ‘Retail Experience’ to 

develop more than five floors within the project, covering an area 

of more than 10,000 square meters, with new styles and concepts 

to deliver joyful experiences to the visitors. Equipped with full 

utilities and facilities, the project aims to be the center of various 

lifestyles and enable the dwellers and residents to live each day 

in balance. 

parksilom.com 

facebook.com/ParkSilom

98 

Samyan Mitrtown 



Developer: 

Frasers Property (Thailand) 

Public Company Limited 

สามย่าน มิตรทาวน์ เป็นโครงการมิกซ์ยูสภายใต้แนวคิด ‘คลังแห่งอาหารและ 

การเรียนรู้’ โดยเฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย ที่มีการออกแบบพื้นที่ 

ส่วนต่างๆ ของอาคารให้ตอบโจทย์กับผู้ใช้งานทุกเพศทุกวัย ผ่านแนวคิดที่ 

ต้องการสร้างพื้นที่ให้เป็น place making ด้วยตำ าแหน่งที่ตั้งโครงการบริเวณ 

หัวมุมถนนพญาไท-พระราม 4 และการเชื่อมต่อการเดินทางได้อย่างสะดวก 

‘ผ่านอุโมงค์เชื่อมมิตร’ อุโมงค์ใต้ดินที่เชื่อมระหว่างโครงการและสถานีรถไฟฟ้า 

ใต้ดินสถานีสามย่าน 

ภายในโครงการยังมีโซน SAMYAN CO-OP พื้นที่ co-learning space ที่เปิด 

ให้บริการฟรี 24 ชั่วโมง สำาหรับการเป็นแหล่งเรียนรู้ไม่รู้จบ ของคนทุกวัย 

ตลอดจนการให้ความสำาคัญไปถึงเรื่องของการเป็นมิตรกับผู้ใช้งาน ชุมชน 

และสิ่งแวดล้อม จึงทำาให้โครงการมิกซ์ยูสแห่งนี้ ได้รับการรับรองมาตรฐาน 

ประหยัดพลังงาน LEED ระดับ GOLD และได้รับรางวัล Thailand Energy 

Awards 2021 ซึ่งเป็นเครื่องยืนยัน ความเป็นมิตรแบบครบวงจรของโครงการ 

Samyan Mitrtown is a mixed-use project under the concept of a 

‘Food and Learning Storehouse’ developed by Frasers Property 

Thailand. The project accommodates various design areas to meet 

the needs of users of all genders and ages through the idea of 

creating space as place-making since the location of the project 

is at the corner of Phayathai-Rama 4 Road with convenient travel 

connections through the ‘friendly tunnel’, an underground tunnel 

connecting the project and the Sam Yan MRT station. 

Also in the project is the Samyan CO-OP Zone, a co-learning 

space open 24 hours a day for free as an endless source of learning 

for people of all ages, as well as giving importance to user 

friendliness for the users, community, and environment. As a result, 

this mixed-use project was certified with LEED energy saving 

standards at the GOLD level and received the Thailand Energy 

Awards 2021, confirming the project’s all-around friendliness. 

samyan-mitrtown.com 

facebook.com/SAMYANMITRTOWN

Dharmasharam 

Bang Khen, Bangkok 


99 


Sathira Dhammasathan 

Deca Atelier Company Limited 

แนวคิดที่เป็นแกนหลักและธงนำาสำาคัญในการทำางานทั้งออกแบบและก่อสร้าง 

รวมถึงการใช้อาคารธรรมาศรมนี้ คือความตั้งใจที่จะรับใช้และ เยียวยสังคม 

โดยการหลีกเลี่ยงที่จะเบียดเบียนธรรมชาติ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมให้ 

มากถึงมากที่สุด การลดละด้วยการใช้พื้นที่อยู่อาศัย ที่ปราศจากเครื่องปรับ 

อากาศ (Air Condition) เพื่อตอบโจทย์ทั้งลดปริมาณความร้อนและการ 

ถ่ายเทระบายอากาศได้ดี จึงเป็นกุญแจสำาคัญ ของการออกแบบทั้งภายนอก 

และภายในอาคารธรรมาศรมหลังนี้ 

ผนังภายนอกได้รับการออกแบบให้เป็นเปลือกห่อหุ้มอาคารเพื่อป้องกันแสง 

แดดและความร้อน ไม่ให้เข้าถึงพื้นที่ภายใน แต่ในเวลา เดียวกันทําหน้าที่ 

ท้ังถ่ายเทอากาศและระบายความร้อน เพื่อความสบายให้ผู้อยู่อาศัยภายใน 

อาคาร ด้วยงานออกแบบที่มีลักษณะโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์ที่ออกแบบให้ 

เปลือกของอาคารมีท้ังส่วนปิดทึบและเปิดโล่ง ที่หลากหลายทั้งขนาดและ 

ลวดลายของซีเมนต์บล็อกช่องลม ที่ออกแบบและผลิตมาเป็นการเฉพาะให้ 

กับอาคารธรรมาศรม เพื่อจุดประสงค์ต้องการตอบสนองแนวคิดการใช้ 

อาคารแบบ ‘สุขง่าย ใช้น้อย’ ของ คุณแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ผู้นําชุมชน 

แห่งการเรียนรู้ เสถียรธรรมสถาน 

The critical concept that is at the core and flagship of both design 

and construction work, including the use of this Dharmasharam 

building, is to serve and heal society by avoiding harming nature 

and being environmentally friendly as much as possible. There are 

also ideas of less possession and minimal living by using living 

spaces without air conditioning to meet the needs of both reducing 

the amount of heat and having good ventilation. It is, therefore, 

the key to the design of the exterior and interior of this project. 

The exterior wall of the building was designed to protect the interior 

from sunlight and heat while also allowing air transfer and 

providing cooling for the comfort of the users. The design has a 

distinctive and unique look; the building shells have both closed 

and open areas, with various sizes and patterns of cement block 

vents designed and manufactured specifically for the project. This 

noble design aims to reflect the use of the building as ‘simple 

happiness, use less,’ as in the teachings of Mae Chee Sansanee 

Sthirasuta, the leader of the learning community at Sathira Dhammasathan 

Meditation Center. 

sdsweb.org 

facebook.com/people/DECA-ATELIER-CoLtd

100 

The EM District 

Khlong Toei, Bangkok 


Developer: 

The Mall Group 

เดอะมอลล์ กรุ๊ป เป็น บริษัทชั้นนำาในวงการค้าปลีกไทย ซึ่งได้สร้างศูนย์- 

การค้าที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ในโครงการ ‘THE EM DISTRICT’ 

อันประกอบด้วย THE EMPORIUM, THE EMQUARTIER และโครงการ 

ล่าสุด THE EMSPHERE ซึ่งเป็นโครงการที่ต้องการนำาเสนอความแปลก 

ใหม่ ทันสมัยให้กับย่านสุขุมวิทใจกลาง กรุงเทพมหานคร เป็นมิติใหม่แห่ง 

ย่านธุรกิจการค้าในอนาคตที่ยิ่งใหญ่และ สมบูรณ์แบบ เพื่อสร้างปรากฏการณ์ 

ย่านการค้า แหล่งธุรกิจ และศูนย์ความบันเทิง แห่งใหม่ ที่แปลกใหม่ ทันสมัย 

และยิ่งใหญ่ระดับโลก เป็นพลังขับ เคลื่อนสำาคัญ ที่จะยกระดับกรุงเทพ- 

มหานครและ ประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางเวทีการค้าระดับโลก นำามา 

ซึ่งความสำาเร็จและ ความภาคภูมิใจให้กับคนไทย 

The Mall Group is a leading company in the Thai retail industry 

that has created an internationally renowned shopping center in 

the project ‘The Em District,’ consisting of The Emporium, The 

Emquartier, and the latest project, The Emsphere, which is a project 

that wants to present a modern novelty for the Sukhumvit area 

in the heart of Bangkok. The project aims to bring new dimensions 

to the future big and perfect business district to create a phenomenon 

of exotic, modern, and world-class commercial districts, 

business districts, and entertainment centers. It is a vital driving 

force that will elevate Bangkok and Thailand to be the center 

of the world trade arena, bringing success and pride to the Thai 

people. 

themallgroup.com

Siam Square 

Walking Street 



101 

Developer: 

Property Management of 

Chulalongkorn University 

Siam Square Walking Street คือพื้นที่ส่วนหนึ่งของศูนย์การค้าแนวราบ 

ใจกลาง ย่านการค้าและการศึกษา Siam Square ที่มีการขับเคลื่อนทั้งเรื่อง 

Trend Setter, Learning Experience แหล่งการเรียนรู้ไม่จำากัด และการ 

สร้างความสนุกสนานและ แปลกใหม่ รวมถึงการการเชื่อมโยงทุกพื้นที่ของ 

ทุก generation ให้เป็นหนึ่งเดียวกัน โดยเปิดพื้นที่ถนนซอย 7 แกนกลาง 

Walking Street ให้เป็นพื้นที่ Event Space สำาหรับจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ 

ความบันเทิง และเปิดโอกาสให้ทุกคนสามารถ เข้ามามีส่วนร่วมในพื้นที่ได้ 

ไม่ว่าจะเป็นการแสดงดนตรี การเต้น การโชว์ performance ต่างๆ พร้อม 

ส่งเสริมย่านเศรษฐกิจรวมถึงร่วมสนับสนุน การสร้างโอกาสให้ธุรกิจร้านค้า 

ต่างๆ ให้ขับเคลื่อนด้วยความแข็งแรงไปด้วยกัน 

Siam Square Walking Street is part of Siam Square, the low-rise 

shopping center in the heart of Bangkok. The project is a new 

refurbishment of the Siam Square area, a famous commercial and 

educational district driven by trendsetters, learning experiences, 

unlimited learning resources, and the creation of fun and novelty, 

as well as connecting all areas of every generation to be one. By 

opening the area of Soi 7, which is the center of Walking Street, 

this new refurbishment has turned it into an event space for entertainment 

activities. It allows everyone to participate in the area, 

whether it’s music performances, dance performances, or various 

performances. It also promotes the economic district and creates 

opportunities for businesses in the area to grow together. 

cu100.chula.ac.th 

facebook.com/SiamSquareOfficial

102 

Phadung 

Krungkasem Canal 

Phra Nakhon, Bangkok 



Bangkok Metropolitan Administration 

Landprocess Company Limited 

City Planning and Urban Development 

Department (BMA), Chulalongkorn 

University 

ในอดีต คลองผดุงกรุงเกษมขุดสร้างขึ้นเพื่อการขยายเมืองชั้นที่ 3 ตั้งแต่ 

สมัยรัชกาลที่ 4 ปัจจุบันยังเป็นคลองกลางเมืองที่เชื่อมต่อ ล้อ-ราง-เรือ ได้ 

(การสัญจรทางรถ รถไฟฟ้า และเรือโดยสาร) แต่พื้นที่รองรับการเดินเท้า 

กลับไม่เอื้อต่อการสัญจร อีกทั้งยังไม่มีทางจักรยาน ที่เอื้อต่อการสร้าง 

โครงข่ายเส้นทางจักรยาน และยังคล้ายเป็นคลองที่ถูกลืม แม้ว่ามีชุมชน 

ตลอดจนบริบทของพื้นที่ที่น่าสนใจ 

ช่วงแรกที่มีการปรับภูมิทัศน์นี้เป็นช่วงที่ 2 ย่านหัวลำาโพง จากสะพาน 

เจริญสวัสดิ์ ถึงสะพานกษัตริย์ศึก และการมองคลองในหลายมิติ ทั้งการ 

เป็นพื้นที่สาธารณะ ประวัติศาสตร์เชื่อมโยงเมือง แหล่งชุมชน และเชิงนิเวศ 

วิทยาคลอง (Ecology) นี้เอง ทำาให้เกิดแนวคิดพัฒนาและการ จัดการพื้นที่ 

เชิงกายภาพอย่างไร้รอยต่อ ส่วนที่เชื่อมต่อกับแหล่งชุมชน มีการปรับปรุง 

ทางลาดที่เป็นมิตรกับผู้ใช้ และเพิ่มจุดทางข้ามทางม้าลาย รวมถึงทำาทาง 

เดินลอดใต้สะพานกษัตริย์ศึก มีทางเดินข้ามไปฝั่งโบ๊เบ๊ได้ ช่วยเชื่อมคน 

เข้ากับคลองได้ง่ายและปลอดภัยขึ้น 

Text: The Cloud, Parichat Kamward 

Since King Rama IV’s reign, the Phadung Krung Kasem Canal has 

been excavated to expand the third-tier city. Nowadays, it is still 

a popular canal in the city that can connect traffic by car, electric 

train, and passenger boat, but the pedestrian walkways are not so 

good. There is also no bike path that is conducive to the construction 

of a bike network. It’s like a forgotten canal, although there is 

a community as well as the context of the area of interest. 

The first part of this landscape refurbishment was the second part 

of the Hua Lamphong area, from Charoen Sawat Bridge to Kasat 

Suek Bridge. It was an approach that thoroughly looked at canals 

in many aspects, both as a historical public space feature connecting 

the city, the community, and the canal ecology. This led to 

the seamless development of concepts and area management. The 

part that connects to community resources is user-friendly ramps, 

which are being improved and added as a pedestrian crossing 

point, including building a walkway under the Kasat Suek Bridge 

and a walkway to Bo-Be Market, to help connect people to the 

canal easier and safer. 

main.bangkok.go.th 

citydata.in.th/khlong-phadung-krung-kasem


Economical Housing 

for Homeless People in 

Klongtoey Community 

Bangkok, Thailand 

103 


Vin Varavarn Architects 

Company Limited 

โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัยให้กับ 

ผู้ด้อยโอกาสในกรุงเทพฯ และอีก 25 จังหวัดภาคกลาง เพื่อสนับสนุน 

โครงการจิตอาสา ตามพระบรมราโชบายของรัชกาลที่ 10 โดยต้ังแต่ปี 

พ.ศ. 2562-2565 โครงการ ได้สร้างบ้านมาแล้วท้ังสิ้นจํานวน 87 หลัง 

โดย 47 หลังสุดท้ายเป็นการทำางานร่วมกันของทีมสถาปนิก Vin Varavarn 

Architects ร่วมกับกองทัพภาคที่ 1 จากการประสานงาน และสนับสนุน 

งบประมาณ โดยมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ (CPF) โดยสังเขปโครงการมีวิธี 

การคัดเลือกบ้านจากความสมัครใจ ของคนในชุมชนลงชื่อเข้าร่วม ซึ่งมี 

บ้านทรุดโทรมต้องการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านบนพื้นที่เดิม 

บ้านแต่ละหลังในโครงการมีพื้นที่ที่ดินที่แตกต่างกัน มีจำ านวนสมาชิกผู้อยู่- 

อาศัยที่หลากหลาย นอกจากเรื่องการออกแบบแล้ว ต้องคำ านึงถึง เรื่องวิธีการ 

ทำางานร่วมกับทีมทหารช่าง และวิธีการเขียนแบบที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ 

ภายใต้ตัวแปรของงบประมาณ เวลาที่จำากัด การก่อสร้าง ที่ยากลำาบาก และ 

ความต้องการของชุมชน สิ่งสำาคัญคือความเข้าใจบนพื้นฐานมาตรวัตรที่ 

แตกต่าง 

This project is part of a residential renovation project for underprivileged 

people in Bangkok and 25 other provinces in the central 

region to support volunteer projects according to the royal policy 

of King Rama 10. From 2019 to 2022, the project has built 87 

houses, of which the last 47 were a collaboration between the 

Vin Varavarn Architects team and the First Army Region, with help 

and financial support from the Charoen Pokphand Foundation 

(CPF). The selection criteria were based on a voluntary approach 

where people in the community whose house is dilapidated and 

who want to renovate the house on their land can join the project. 

Each house in the project has a different land area and a wide 

variety of resident members. In addition to the design, the project 

team also needs to consider how to work with the military engineering 

team and how to deliver fast, efficient construction drawings 

under the constraints of budget, time, construction methods, and 

community needs. It is essential to understand the basis of these 

different measures. 

facebook.com/VinVaravarnArchitectsLimited

104 

Chiang Mai 

Urban Farm 

Mueang Chiang Mai, Chiang Mai 



Chiang Mai Municipality 

Friend of Chiangmai Urban Farm 

Jaibaan Studio Company Limited 

โครงการสวนผักคนเมืองเชียงใหม่ Chiangmai Urban Farm ได้ถูกริเริ่ม 

ขึ้นจากภาคีความร่วมมือหลากหลายภาคส่วน ร่วมกับชุมชน และเทศบาล 

นครเชียงใหม่ ในการเปลี่ยนพื้นที่รกร้างที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์กลางเมืองของ 

หน่วยงานรัฐ ให้กลายเป็นพื้นที่สร้างความมั่นคง ทางด้านอาหารสำาหรับ 

ชุมชนเมืองในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด และยังเป็นพื้นที่สาธารณะ 

สีเขียวในเมืองรูปแบบใหม่ 

ความสำาเร็จของโครงการนี้ได้สร้างต้นแบบรูปธรรมสำาคัญ ในการสร้าง 

พื้นที่สาธารณะสีเขียวจากการริเริ่มของภาคประชาสังคมและชุมชน ใน 

การเรียกร้อง ร่วมแรงร่วมใจกันลงมือทำา จนเกิดการผลักดันในการนำา 

ที่สาธารณะประโยชน์ของรัฐที่ไม่ได้ถูกใช้ มาสร้างประโยชน์สาธารณะ 

เพื่อสร้างพื้นที่หยืดหยุ่นทางสังคมในการรองรับความไม่แน่นอนของการ 

เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น 

The Chiang Mai Urban Farm project has been initiated by various 

sectors together with the community and Chiang Mai municipality, 

to transform the government’s unused wasteland in the city center 

into a facility for food security in urban communities during the 

COVID-19 pandemic. It is also a new type of urban green public 

space. 

The success of this project has created an important concrete 

prototype in creating green public spaces from civil society and 

community initiatives coming together, working together, and 

bringing public benefits out of unused, vacant, and waste areas. 

Finally, the project has established itself as a socially resilient 

space to accommodate the uncertainty of the changes that may 

occur. 

facebook.com/ChiangmaiUrbanFarm

Development 

Planning of Mae Kha 

Canal and Network 



105 


Chiang Mai Municipality 

Imagine MaeKha 

Jaibaan Studio Company Limited 

โครงการพัฒนาพื้นที่ริมคลองแม่ข่าและลำ าน้ำาสาขาอย่างรอบด้านนี้ เป็นการ 

ร่วมกันผลักดันให้เกิดการพัฒนา คลองแม่ข่าและโครงข่ายคลองในเมืองและ 

ชุมชนโดยรอบ เพื่อให้พื้นที่คลองแม่ข่าซึ่งเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ในอดีต 

และเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำาคัญในการพัฒนาเมืองในอนาคต กลายเป็นพื้นที่ 

แห่งความหวังในการพัฒนาเมืองในอนาคตในด้านต่างๆ เช่น การบริหารการ 

จัดการน้ำาเสียของเมือง การจัดการพื้นที่สาธารณะของเมือง ควบคู่ไปกับการ 

วางแผนการจัดการที่อยู่อาศัยชุมชน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจ 

ไปพร้อมกัน และให้สอดคล้องกับโอกาสการพัฒนาเมืองในอีก 10 ปีข้างหน้า 

ปัจจุบันได้เกิดการพัฒนาภูมิทัศน์สองฝั่งคลองระยะทางรวม 755 เมตร เพื่อ 

เปิดพื้นที่สาธารณะของเมือง ซึ่งเป็นโครงการนำ าร่องในระยะแรกในการสร้าง 

ความมั่นใจให้เกิดขึ้นกับชุมชนและสาธารณชน โครงการในระยะต่อไป 

Development Planning of the Mae Kha Canal and Network is a 

collaborative project to push forward the development of the Mae 

Kha Canal and the canal network in the city and surrounding communities. 

The Canal is a historical and essential strategic area for 

future urban development. It has become a promising community 

for future urban development, including managing the city’s wastewater, 

city public space, and new community housing. These aim 

to improve the quality of life and the economy and align with the 

urban development plan for the next ten years. 

Currently, landscapes on both sides of the Canal have been developed 

for a total distance of 755 meters to open up the city’s 

public areas. It is a pilot project in the early stages to build confidence 

in the community and the public for the projects in the next 

phase. 

facebook.com/ImagineMaeKha

106 

Ong Ang Canal Urban 

Space Development 



Developer: 


คลองโอ่งอ่างเป็นคลองโบราณสถานที่ขุดขึ้นมาตั้งแต่สร้างกรุงรัตนโกสินทร์ 

ในสมัยรัชกาลที่ 1 ได้รับการขึ้นทะเบียนโดยกรมศิลปากร เป็นโบราณสถาน 

ระดับชาติ ในอดีตบริเวณพื้นที่ริมคลองเป็นชุมชนการค้าริมน้ำาดั้งเดิมเชื่อม 

ต่อย่านการค้าสำาคัญของกรุงเทพฯ มีแหล่งมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องได้และ 

จับต้องไม่ได้จำานวนมาก รูปแบบการค้าได้มีการขยายตัวจนเกิดการปลูก- 

สร้างสิ่งรุกล้ำาพื้นที่ตลอดทั้ง 2 ฝั่งคลอง จนพื้นที่ชุมชนริมคลองถูกแทนด้วย 

ร้านค้าแผงลอยที่หนาแน่นและแออัด โครงสร้างที่รุกล้ำาคลองกีดขวางทางน้ำา 

ทำาให้น้ำาไม่สามารถไหลผ่านได้ คลองกลายเป็นพื้นที่ระบายน้ำาเสียและเป็น 

ที่ทิ้งขยะของอาคารบ้านเรือนริมคลอง จึงเป็นโอกาสที่สำาคัญในการฟื้นฟู 

ชุมชนริมคลองโอ่งอ่างให้กลับมามีชีวีตชีวาให้สอดคล้องกับการพัฒนาเมือง 


กรุงเทพมหานครได้ดำาเนินการรื้อถอนอาคารและสิ่งปลูกสร้างจนเสร็จ 

เรียบร้อยในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2558 และได้มีการจัดทำา ผังแม่บทฟื้นฟู 

ชุมชนริมคลองโอ่งอ่างผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมจากหลายภาคส่วน 

ดำาเนินงานปรับปรุงฟื้นฟูพื้นที่ตามแบบการปรับปรุงภูมิทัศน์ และการจัด 

กิจกรรมในพื้นที่ชุมชนคลองโอ่งอ่าง ประกอบด้วย ปรับปรุงระบบสาธาร- 

ณูปโภค ปรับปรุงภูมิทัศน์เพื่อฟื้นฟูอัตลักษณ์และส่งเสริม คุณค่ามรดก 

วัฒนธรรม สร้างพื้นที่กิจกรรมให้ชุมชน สร้างเครือข่ายการบริหารจัดการ 

พื้นที่โดยประชาคมย่านคลองโอ่งอ่าง และได้มี การจัดกิจกรรมประเพณี และ 

กิจกรรมทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เช่น กิจกรรมถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง 

กิจกรรมสตรีทอาร์ต เทศกาลลอยกระทง เทศกาลดีวาลี เป็นต้น 

Ong Ang Canal is an ancient canal excavated since the Rattanakosin 

period of King Rama I’s reign. It has been registered by the 

Fine Arts Department as a national historic site. In the past, the 

area along the canal was a traditional waterfront trading community, 

connecting major commercial areas of Bangkok. There are 

many cultural heritage sites, and the form of trade has expanded 

to the point that construction has encroached on both sides of the 

canal until the community area along the canal has been replaced 

by dense and crowded stalls. The structure encroaching on the 

canal obstructs the waterway, preventing it from flowing. The canal 

became a wastewater drainage area and a dumping ground for the 

houses along the canal. It is, therefore, a significant opportunity to 

revitalize communities along the Ong Ang Canal and bring them 

back to life in line with future urban development. 

The Bangkok Metropolitan Administration completed the demolition 

of buildings and structures in October 2015 and has prepared 

a master plan to rehabilitate communities along the Ong Ang Canal 

with participation from many sectors. The development and rehabilitation 

of the area according to the landscape improvement plan 

and organizing activities in the Khlong Ong Ang community area 

consist of improving the utility system, refurbishing the landscape 

to restore identity and promote cultural heritage values, creating 

an activity area for the community, establishing a network of area 

management by the community in the Khlong Ong Ang area, and 

organizing traditional and creative economic activities such as the 

Khlong Ong Ang Walking Street event, street art activities, Loi 

Krathong Festival, Diwali Festival, etc. 

main.bangkok.go.th

Klongtoey Link 

Hat Yai, Songkhla 


107 


Songkhla Urban Lab 

‘คลองเตย’ เป็นคลองที่พาดผ่านเมืองในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ ความ 

ยาวประมาณ 11 กิโลเมตร มีความกว้างไม่มากนัก เดิมเป็นแหล่งระบาย 

น้ำาเสีย ต่อมาเทศบาลนครหาดใหญ่ได้มีโครงการรวบรวมและแยกท่อระบาย- 

น้ำาเสียไม่ให้ไหลลงสู่คลองเตย บางพื้นที่มีการสร้างสวนหย่อมและพื้นที่ 

สาธารณะคร่อมคลองเตย กระนั้น การพัฒนาคลองเตยก็มิได้มีทิศทางใน 

การตอบโจทย์ การใช้ประโยชน์อย่างเป็นองค์รวม 

‘Klong Toey’ is a canal that runs through the city in Hat Yai municipality 

with a length of about 11 kilometers and not much width. It 

used to be a wastewater drainage station. Later, Hat Yai Municipality 

initiated a project to collect and separate sewer pipes so 

they do not flow into the canal. Some areas have gardens and 

public spaces to cover the canal. However, the development of 

Klong Toey does not have a direction to meet the utilization needs 

with a holistic approach. 

facebook.com/citylabthailand

108 

‘Lost and Found’ 

the Missing Moment 

Experience 




Faculty of Architecture, Chiang Mai University 

College of Arts, Media and Technology, 

Chiang Mai University 

การทดลองนวัตกรรมแสงกับองค์เจดีย์หลวงนี้ ทําให้ศาสนาและเทคโนโลยี 

มาพบกันจนเกิดเป็นความงามล้ำาสมัย ด้วยการฉายแสงเลเซอร์เติมไปใน 

บริเวณส่วนยอดขององค์เจดีย์หลวงที่หายไป โดยเป็นการใช้ปรากฏการณ์ 

แสงเติมรูปทรง และสัดส่วนความสูงให้กับองค์เจดีย์หลวง ด้วยเทคนิคการ 

ฉายอุโมงค์แสง ให้เกิดเป็นเส้นรอบรูปไปที่องค์เจดีย์ เพื่อแสดงสัดส่วนและ 

ความสูงของเจดีย์ที่สมบูรณ์ ทําให้คนเชียงใหม่มีโอกาสได้ย้อนไปสัมผัส 

ความสง่างาม ขององค์เจดีย์หลวงในอดีตอีกครั้ง หลังจากที่ไม่มีใครเคยเห็น 

มากว่า 500 ปี 

This Light Innovation Experiment project at the Chedi Luang has 

brought technology to meet religion in creating modern beauty. 

This light phenomenon fulfilled the shape and proportion of the 

Chedi by casting a light tunnel to form a perimeter towards the 

Chedi to show the proportion and height of the entire pagoda 

by projecting a laser on the missing top of the Chedi Luang. The 

project has allowed Chiang Mai residents to relive the elegance 

of the Chedi Luang in the past, which had been hidden for nearly 

500 years. 

uniserv.cmu.ac.th


DECAAR by SCG x 

Choduek Community 

Samphanthawong, Bangkok 

109 

Developer: 

The Siam Cement Public Company Limited 

(SCG; SET: SCC) 

ชุมชนโชฎึก ชุมชนดั้งเดิมในย่านเมืองเก่ามีพื้นที่จำ ากัดเพียง 0.50 ไร่ ประสบ 

ปัญหาใช้พื้นที่ได้ไม่เต็มศักยภาพ ไม่สามารถสร้าง ประโยชน์ต่อส่วนรวม 

อย่างแท้จริง DECAAR by SCG จึงได้ริเริ่มโครงการ พัฒนาสวนชุมชนโชฎึก 

ผนึกกำาลังกับ art4d, We!Park และปั้นเมือง ระดมความคิดและสร้างทีม 

สถาปนิกคนรุ่นใหม่ที่มีจิตสาธารณะมาร่วมกันออกแบบ โดยได้รับเกียรติ 

จากคุณวสุ วิรัชศิลป์ จาก VaSLab Architecture และคุณมนัสพงษ์ สงวน- 

โรจนวุฒิ จาก Hypothesis รับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้กับทีมสถาปนิก 

ขณะเดียวกันนั้น DECAAR by SCG ก็ได้ค้นพบศักยภาพและความเป็นไป 

ได้ใหม่ๆ ของวัสดุตกแต่งฟาซาดที่มีอยู่หลากหลาย ซึ่งได้นำามาใช้เป็น 

วัสดุหลักในการออกแบบครั้งนี้ รวมถึงพัฒนาโซลูชั่นการจบงานและดีเทล 

การติดตั้ง เพื่อสร้างสรรค์พื้นที่ชุมชน ให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สวยงาม 

ปลอดภัย และเป็นพื้นที่สำาหรับผู้ใช้งานในชุมชนอย่างแท้จริง 

Choduk Community is an old neighborhood in the old city area, 

with a limited space of only half a rai. It is facing the problem of 

not using the site to its full potential and not truly benefiting the 

public. The Choduk Community Park Development Project was 

then started by DECAAR by SCG with the help of art4d, We!Park, 

and Punmuang. The group came up with ideas and put together 

a team of young, public-minded architects to design the projects, 

with two top architects, Vasu Virajsilp from VaSLab Architecture 

and Manaspong Sanguanrotjanawut from Hypothesis, working 

with the architect team as consultants. 

In this project, DECAAR by SCG has also discovered new potential 

and possibilities of various façade materials, which were used 

as the primary material in the design, including new solutions for 

finishing work and installation details that help create this community 

space to be unique, beautiful, safe, and indeed a space for 

users in the community. 

decaarbyscg.com

110 

Hat Yai Livable City 

Hat Yai, Song Kla 


Developer: 

Depa Thailand 

Smart City Thailand Office 

Hat Yai Municipality 

เมืองน่าอยู่ น่าเที่ยว น่าลงทุน ด้วยสร้าง สาน เสริม ทุนและศักยภาพทั้งใน 

และนอกพื้นที่ โดยนโยบายพัฒนาเทศกาล นครหาดใหญ่ 9 ประการ ได้แก่ 

การแก้ปัญหาเร่งด่วน เช่น โครงสร้างพื้นฐาน ความสะอาด และจราจร, 

การบริหารภาครัฐ ยกระดับการบริหารที่ดี สร้างทีมเข้มแข็ง, ยกระดับ 

เศรษฐกิจ ด้วยการส่งเสริมการท่องเที่ยวและอาชีพ, การพัฒนาสถานบัน 

การบริการสาธารณสุข และระบบแพทย์ฉุกเฉิน, สถานศึกษา 4.0 ศาสนา 

และวัฒนธรรม, การควบคุมและสร้างความปลอดภัยให้กับโครงสร้างพื้นฐาน 

สาธารณูปโภค, สร้างความร่วมมือด้านการดูแล ทรัพยากรธรรมชาติและ 

สิ่งแวดล้อม, ป้องกัน บรรเทา และสาธารณภัย, และการพัฒนาเทคโนโลยี 

และ logistics ในชีวิตประจำาวัน 

A livable city that is appealing to visitors and worth investing in 

by constructing, sustaining, and expanding capital and potential 

both within and outside the area. The following nine Hat Yai 

City Festival Development Policies will be implemented: solving 

urgent problems such as infrastructure, cleanliness, and traffic; 

improving public and governmental administration; raising the 

level of good management; building a strong team; and boosting 

the economy, promoting tourism and careers, developing public 

health service institutions and emergency medical systems, educational 

institutions 4.0, religion and culture, controlling and securing 

public infrastructure, building cooperation in natural resources 

and environment protection, prevention, relief, and disaster, and 

developing technology and logistics in everyday life. 

citydata.in.th/hatyai

Saraburi : 

A place to visit and 

get an extraordinary 

experience 

Saraburi, Thailand 


111 

Developer: 

Saraburi City Development Company Limited 

เมืองไม่ใช่แค่ผืนดินที่ให้คนได้มาอยู่อาศัยรวมกัน แต่เมืองเป็นเหมือนสิ่งมี- 

ชีวิต ซึ่งประกอบไปด้วยผู้คนในเมืองที่ต้องทำาหน้าที่หล่อเลี้ยง ชีวิตของเมือง 

ร่วมกัน ถ้าผู้คนในเมืองไม่ช่วยและร่วมมือกันทำาให้เมืองมีเศรษฐกิจที่ดี มี 

ความมั่นคง ไม่ช่วยกันดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและ สุขภาวะที่ดี ไม่ร่วมกัน 

ทำาให้สังคมปลอดภัยน่าอยู่ มีมิตรไมตรีต่อกัน ไม่ร่วมกันสร้าง และบ่มเพาะ 

เยาวชนคนรุ่นใหม่ที่มีคุณภาพ มีศักยภาพที่จะช่วยดูแลและสร้างสรรค์เมือง 

ให้เป็นเมืองที่น่าอยู่ของทุกคนในอนาคต ผู้คนก็คงไม่อยากอยู่ในเมืองนั้นอีก 

ต่อไป และค่อยๆ ย้ายออก และในที่สุดถ้าเมืองปราศจากผู้คนเมืองก็จะตาย 

กลายเป็นเมืองร้างไปในที่สุด 

สระบุรีพัฒนาเมืองเกิดจากกลุ่มคนเล็กๆในเมืองที่ไม่อยากเห็นเมืองที่ตัวเอง 

เกิด เมืองที่ตัวเองอยู่และเมืองที่คาดหวังให้ลูกหลาน อยู่ในเมืองนี้ร่วมกัน 

อย่างมีความสุขต่อๆ ไป ต้องกลายเป็นเมืองร้างในอนาคต โครงการนี้จึง 

ชวนให้คนในเมืองช่วยกันคิด ช่วยกันทำา ช่วยกันพัฒนาสระบุรีให้เป็นเมือง 

น่าอยู่อย่างยั่งยืนเพื่อชาวสระบุรีและเพื่อลูกหลานต่อไป 

A city is not just a land where people can live together but is like 

a living thing that consists of people in the city who have to work 

together to support the life of the city. People in the city should 

help and collaborate to ensure the city’s economy and stability, 

as well as to help each other preserve the environment and good 

health and join together to make society safe and liveable. City 

dwellers should foster a new generation of quality youth with the 

potential to help maintain and create a livable city for all in the 

future. Only then would people want to stay in that city and not 

move out. If the city is devoid of people, it will eventually die and 

become a deserted city. 

Saraburi has been developing its city as a result of a small group 

of people who do not want to see the city where they were born 

and live, as well as the city that expects children to live happily in 

this city. It must not become a deserted city in the future. This city 

development project invites locals to join forces and collaborate 

to make Saraburi a more sustainable city for the future. 

sbcd.co.th

112 

Benjakitti Park 

Khlong Toei, Bangkok 


Developer: 

The Treasury Department, Ministry of Finance 

สวนเบญจกิติ เป็นสวนสาธารณะในเมืองที่ตั้งอยู่ในพื้นที่โรงงานยาสูบเดิม 

ของกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง มีพื้นที่ครอบคลุม 450 ไร่ (720,000 

ตารางเมตร) ประกอบด้วยสวนเบญจกิติ 130 ไร่ สวนป่าเบญจกิติ เฟสหนึ่ง 

61 ไร่ และสวนป่าเบญจกิติ เฟสสอง-สาม 259 ไร่ หลังจากย้ายโรงงาน 

ยาสูบแล้ว ก็มีการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้กลายเป็นสวนสาธารณะในเมือง 

ของกรุงเทพฯ 

สวนเบญจกิติ จัดตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ 

พระบรมราชินีนาถ ครบ 60 พรรษา โดยพระราชทานนามสวนว่า เบญจกิติ 

ตามชื่อของพระองค์ ทั้งยังได้เสด็จพระราชดำาเนินไปพัฒนาสวนสาธารณะ 

แห่งแรกให้เป็นสวนป่าในเมืองเชื่อมกับสวนเบญจกิติ 

แนวคิดการออกแบบสวนป่าเบญจกิติ คือ ประการแรก ตามพระวิสัยทัศน์ 

ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อเสริมสร้างความรู้ความ 

เข้าใจของประชาชนเกี่ยวกับระบบนิเวศ ป่าไม้ อุทกวิทยา และสิ่งแวดล้อม 

แก่ชุมชนเมือง ประการที่สอง เพื่อเป็น ‘ความคิดริเริ่ม’ ของการพัฒนา 

อุทยานเชิงนิเวศ และประการสุดท้าย เพื่อให้บริการชุมชนเมืองและรักษา 

ระบบนิเวศสิ่งแวดล้อมของเมือง คงปริมาตรน้ำ าให้อยู่ที่ 128,000 ลูกบาศก์- 

เมตร ในฤดูฝนและสามารถผลิตน้ำาสะอาดได้ 1,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน 

Benjakitti Park is an urban park located in The former Tobacco 

factory area, owned by the Treasury Department, Ministry of 

Finance. The site covers 450 Rais (720,000 sq.m.), 130 Rais of 

Benjakitti Lake Park, 61 Rais of Benjakitti Forest Park phase 1, and 

259 Rais of Benjakitti Forest Park phase 2-3. After the Tobacco 

factory was relocated, the site was developed to become an urban 

park in Bangkok. 

Benjakitti Park was established to celebrate the 60th Birthday of 

Her Majesty Queen Sirikit, The Queen Mother, given the Park name 

‘Benjakitti’ after her. Her Majesty went to The Park’s first development, 

The Urban Forest Park linked to the Benjakitti Lake Park. 

The design concepts of the Benjakitti Forest Park were, Firstly, 

Following Her Majesty’s visions to improve public understanding 

and knowledge about the ecology, forest, hydrology, and environment 

of the urban community. Secondly, To become an ‘Initiative’ 

of Ecological Park Development. Lastly, To serve the urban communities 

and preserve the ecological environment of the city, 

retaining the 128,000 cubic meters of water in the rainy season 

and producing clean water 1,600 cubic meters/day. 

treasury.go.th

Happy and Healthy 

Bike Lane 

Bang Phli, Samut Prakan 


113 


Cycling Track Management Social Enterprise 

Company Limited 

สนามปั่นจักรยาน ‘เจริญสุขมงคลจิต’ หรือในชื่อ ‘HAPPY AND HEALTHY 

BIKE LANE’ เกิดขึ้นจากวิสัยทัศน์ของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ต้องการแสดง 

ความความรับผิดชอบต่อสังคม (Corporate Social Responsibility) คำานึงถึง 

ประโยชน์ต่อชุมชนและสังคม เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนทุกเพศ ทุกวัย ใส่ใจ 

เรื่องการออกกำาลังกายและดูแลสุขภาพเพิ่มมากขึ้น สามารถเข้าถึงสถานที่ 

ออกกำาลังกาย ที่ปลอดภัยและได้มาตรฐานระดับสากลโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ 

ธนาคารไทยพาณิชย์จึงได้ร่วมมือกับบริษัท อากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) 

พัฒนาโครงการลู่ปั่นจักรยานที่ได้มาตรฐานบริเวณโดยรอบ ท่าอากาศยาน 

สุวรรณภูมิ โดยสร้างสิ่งอํานวยความสะดวกภายในบริเวณ ประกอบด้วย ลู่ปั่น 

จักรยานระยะทาง 23.5 กิโลเมตร ลู่ปั่นระยะสั้น/ลู่วิ่ง ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร 

ลู่ปั่นจักรยานสำาหรับเด็ก ระหว่างอายุ 4-12 ปี สนามปั่นจักรยานขาไถ 

(Balance Bike) สำาหรับเด็กเล็กอายุไม่เกิน 5 ขวบ ศูนย์ออกกําลังกายกลาง- 

แจ้ง และศูนย์พยาบาลประจําตลอดเวลา 

The cycling field, ‘Charoen Suk Mongkon Jiit’ or ‘HAPPY AND 

HEALTHY BIKE LANE’ arose from the vision of Siam Commercial 

Bank as a Corporate Social Responsibility (CSR) project. The 

project considers the community and societal benefits of encouraging 

people of all genders and ages to pay more attention to 

exercise and health and to have free access to a safe and internationally 

standard fitness facility. 

The Siam Commercial Bank has cooperated with Thai Aircraft 

PCL to develop a bicycle lane project around Suvarnabhumi 

Airport that meets international standards by building facilities 

within the area. The program consists of a 23.5-kilometer bicycle 

lane, a 1.5-kilometer short-distance track or running track, a bicycle 

track for children between 4 and 12 years old, a balance bike for 

young children under five years old, and a 24-hour outdoor fitness 

center and medical center. 

hhblbikelane.com 

facebook.com/hhblbikelane

114 

Chulalongkorn 

University 

Centenary Park 




Property Management of Chulalongkorn 

University 

N7A architects Company Limited 

Landprocess Company Limited 

เนื่องในโอกาสที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก่อตั้งครบรอบ 100 ปี นอกจาก 

การจัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง ความพิเศษหนึ่ง ที่สร้างความ 

ภาคภูมิใจไม่แพ้กันคือการมอบพื้นที่กว่า 30 ไร่ใจกลางเมืองเพื่อสร้างเป็น 

สวนสาธารณะ มอบให้แก่คนกรุงเทพฯ แนวคิดที่แตกต่างสะท้อนสู่สวน 

สาธารณะ ที่ไม่เหมือนใคร 

หน้าที่แรกของอุทยาน 100 ปีจุฬาฯ คือกักเก็บน้ำาทุกหยดไว้ใช้ พื้นที่โดย 

รวมของสวน จึงถูกยกขึ้นจนลาดเอียงเพื่อให้น้ำาฝนไหลมารวมกัน ที่สระ 

รับน้ำาด้านหน้าสุด (Retention Pond) รวมถึงไหลลงด้านข้างที่มีส่วนพื้นที่ 

ชุ่มน้ำา (Wetland) ไว้รองรับน้ำา ขณะที่บริเวณอื่นซึ่งเป็น ผืนดินก็มีทั้งสนาม- 

หญ้าและต้นไม้ช่วยดูดซับน้ำา ส่วนที่เป็นปูน ก็ใช้วัสดุอย่างคอนกรีตรูพรุน 

(Porous concrete) แทนคอนกรีตปกติที่น้ำา ซึมสู่ดินไม่ได้ และถ้ามีน้ำา 

เหลือบนพื้น น้ำานั้นจะไหลไปสู่สวนน้ำาฝน (Rain Garden) ทางระบายน้ำาที่ 

ไม่ได้มีการวางท่อ แต่เป็นทางที่เรียงรายด้วยไม้พุ่มและพืชคลุมดิน ต้นไม้ 

เล็กๆ ซึ่งช่วยซับน้ำา 

Text: นิตยสารบ้านและสวน 

On the occasion of the 100th anniversary of the establishment 

of Chulalongkorn University, the country’s oldest university, in 

addition to organizing various activities to celebrate this special 

occasion, the university has given more than 30 rai of land in the 

heart of Bangkok to create a public park. Different unique concepts 

are reflected in the uniqueness of the park. 

The Chulalongkorn University Centenary Park’s most important 

job is to gather every drop of water for use. Therefore, the overall 

area of the garden was raised to a slope to allow rainwater to flow 

to the retention pond and down to the side where there is a wetland 

to support the water. In contrast, other areas, which are soil parcels, 

also include lawns and trees that help absorb water. In the 

landscape, where it is cement or hardscape, landscape architects 

use materials such as porous concrete instead of normal ones 

that are water impervious to the soil. If water is left on the ground, 

it flows into the rain garden, which is a non-piped drainage channel 

lined with shrubs and ground cover, as well as small trees that 

absorb water well. 

cu100.chula.ac.th/cu-centenary-park

Chao Phraya 

Sky Park 



115 



City Planning and Urban Development 

Department (BMA), Chulalongkorn University 

Urban Design Development Center (UDDC), 

Chulalongkorn University 

Chakdao Navacharoen 

Kotchakorn Voraakhom 

สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา (Chao Phraya Sky Park) สะพานคนเดินข้ามแม่น้ำา 

เจ้าพระยา แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของคนกรุงเทพฯ ถือเป็นสวนลอยฟ้าแห่ง 

แรกของประเทศไทยและสวนลอยฟ้าข้ามแม่น้ำาแห่งแรกของโลก ที่ตั้งของ 

สวนลอยฟ้าเจ้าพระยานั้นเดิมคือ ‘โครงการรถไฟฟ้าลาวาลิน’ ที่เป็นโครงการ 

รถไฟฟ้าโครงการแรกของประเทศไทย 

ด้านภูมิสถาปัตยกรรมนั้นมุ่งเน้นการใช้งาน บำารุงรักษาง่าย เลือกใช้พันธุ์ 

พืชที่เหมาะสมกับสภาพอากาศของกรุงเทพฯ และไม่ใช้ต้นไม้ใหญ่ เพื่อ 

ลดน้ำาหนักโครงสร้างและลดอันตรายจากกิ่งไม้-ใบไม้ เพื่อความปลอดภัย 

ของผู้ใช้จราจรบนสะพานพระปกเกล้า พืชบนสวนลอยฟ้า ยังมีประโยชน์ 

กับแมลงและระบบนิเวศโดยรวมด้วยและกรุงเทพมหานครได้เปิดประกวด 

ให้ตั้งชื่อสวนสาธารณะลอยฟ้าดังกล่าวและตัดสินคัดเลือกใช้ชื่อว่าสวน- 

ลอยฟ้าเจ้าพระยา (Chao Phraya Sky Park) โดยเปิดให้ใช้บริการเมื่อ 

เดือนมิถุนายน พ.ศ. 2563 

Chao Phraya Sky Park is a pedestrian bridge over the Chao Phraya 

River and a new landmark in Bangkok. The project is considered 

the first sky garden in Thailand and the first sky garden across the 

river in the world. The location of this sky garden was originally 

the Lavalin Electric Train Project, the first electric train project in 

Thailand. 

The landscape architects working on the project are considering 

how people will use it, how easy it will be to maintain it, which 

plants will thrive in Bangkok’s climate, and whether or not to plant 

large trees in order to reduce the weight of the structure and the 

danger that tree branches and leaves pose to people driving on 

the Phra Pok Klao Bridge. The plants in the sky garden also benefit 

insects and the ecosystem as a whole, and the Bangkok Metropolitan 

Administration opened a contest to name the sky park and 

decided to choose the name Chao Phraya Sky Park. It was officially 

opened to the public in June 2020. 

main.bangkok.go.th 

Credit: Bangkok Tourism Division

116 

Community 

Organizations 

Development 

Institute 




Community Organizations Development Institute 

(CODI) 

โครงการพัฒนาชุมชนจากการมีส่วนร่วมระหว่าง พอช. องค์กรชุมชน และ 

ภาคีนักออกแบบร่วมกันออกแบบวางผังชุมชน ที่เหมาะสมกับวิถีชีวิตความ 

ต้องการและความสามารถในการจ่ายของผู้มีรายได้น้อยและคนไร้บ้าน ให้ 

ได้สิทธิ์ในการมีที่อยู่อาศัย อย่างถูกต้องและมั่นคงในระยะยาว โดยชุมชนเป็น 

ผู้ดำาเนินการพัฒนาโครงการด้วยชุมชนเอง และ พอช.สนับสนุนกระบวนการ 

ศึกษาและออกแบบ อุดหนุนงบประมาณในการพัฒนา และสนับสนุนสินเชื่อ 

ระยะยาว 

1. โครงการชุมชนเย็นอากาศ 2 Community Affordable Housing 

364 ครัวเรือน พัฒนาชุมชนแออัดในย่านกลางเมือง: ATOM 

Design 

2. โครงการชุมชนบ้านครัว พลิกฟื้นย่านเก่าในเมือง พัฒนา 

ชุมชนประวัติศาสตร์ ต่อยอดสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์: สถาบัน 

อาศรมศิลป์ 

3. โครงการศูนย์พัฒนาศักยภาพคนไร้บ้านปทุมธานี-บ้านพูนสุข 

ที่พักพิงที่กระตุ้นให้คนไร้บ้านพัฒนาตนเองและกลับสุ่สังคม 

Text: Pitirat Yoswattana 

This community development project is a collaboration of CODI, 

community organizations, and designer partners jointly designing 

a community plan for the lifestyles, needs, and affordability of 

low-income and homeless people so that they have the right to 

have a place to live legally and more securely in the long term. 

The community is in charge of developing the project on its own, 

while CODI helps with the study and design of the process, 

subsidizes the budget for development, and provides long-term 

loans. 

1. The Yen Akat 2 Community Affordable Housing Project 

- will help 364 families build slums in the middle of the 

city. ATOM Design 

2. The Baan Krua Community Project - aims to revitalize 

an old city neighborhood and build up historical communities 

as an extension of the creative economy. 

3. Pathum Thani Homeless Potential Development Center 

Project - Baan Poonsuk, a shelter that encourages 

homeless people to develop themselves and return to 

living a normal life in society. 

en.codi.or.th


Big Trees Project 

foundation / Urban Tree 

Network / Thai Arboriculture 

Association (TAA) 

Bangkok, Samut Prakan 

117 


Big Trees Group 

กลุ่มบิ๊กทรีส์ เกิดจากการรวมตัวกันของคนที่มีอาชีพแตกต่างกัน แต่มี 

อุดมการณ์ร่วมกันในเรื่องสิ่งแวดล้อมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า เรานำ าทักษะ 

ที่หลากหลายร่วมกันสร้างเครือข่ายเพื่อสร้างความตระหนัก ปลูกฝังความ 

เข้าใจ ร่วมทำาหน้าที่ปลูกดูแล รักษาโรค ตัดแต่งปกป้องต้นไม้ใหญ่ ผ่านการ 

จัดการด้านรุขกรรมในการสร้างพื้นที่สีเขียวที่ยั่งยืนให้กับเมืองและพื้นที่อื่นๆ 

Big Trees was formed by a combination of people with different 

occupations who shared a common ideology in regard to the environment 

and a desire for a better quality of life. The foundation 

brings a wide range of skills together to create a network to raise 

awareness, cultivate understanding, and participate in the duty of 

planting, taking care of, healing, pruning, and protecting big trees 

through the management of sustainable green spaces for cities 

and other areas. 

Bigtreesthai.com/th 

facebook.com/BIGTreesProject

118 

We Live Silom 

Association 



Developer: 

We Love Silom Association 

โครงการปรับปรุงภูมิทัศน์ถนนสีลม เกิดจากการให้ความสำาคัญกับย่าน 

เศรษฐกิจสำาคัญแห่งแรกของกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นถนนสายธุรกิจที่มีประวัติ 

ความเป็นมายาวนาน เป็นศูนย์กลางธุรกิจและการค้า ตลอดจนเป็น 

Financial District ที่มีอาคารสำานักงาน ธนาคาร บริษัทขนาดใหญ่ 

สถานฑูต และบริษัทหลักทรัพทย์ชั้นนำามากมาย จนได้สมญานามว่า 

Wall Street of Thailand 

นอกจากนี้ สีลม ยังเป็นเป็นย่านที่มีการรวมตัวของคนหลากหลายอาชีพ 

หลากหลายช่วงวัย และยังเป็นศูนย์รวมความแตกต่างของวัฒนธรรม 

กลายเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นดึงดูดให้ผู้คนเข้ามาใช้ชีวิตในพื้นที่แห่งนี้ 

ไหลเวียนเข้ามาทำากิจกรรมตลอดทั้งวัน ทำาให้ย่านสีลม จำาเป็นต้องรับมือ 

และมีการปรับปรุงการจัดการพื้นที่ ทัศนียภาพโดยรอบที่ส่งผลต่อความ 

สะดวกสบาย และความปลอดภัยของผู้คนในพื้นที่แห่งนี้ 

The Silom Road landscape improvement project was born from 

the focus on Bangkok’s first major economic district, a business 

street with a long history. It is the center of business, trade, and 

finance in Thailand. It has a lot of high-rise office buildings, banks, 

large corporations, embassies, and securities firms, which is why 

it is called the Wall Street of Thailand. 

Silom is also a neighborhood with people of different ages and 

jobs, and it is also where different cultures meet. People flow in 

for activities throughout the day, causing the Silom area to need 

to cope, manage the area, and improve the surrounding scenery 

that affects the comfort and safety of people in the community. 

www.iurc.eu/wp-content/uploads/2021/08/4.4_ 

Business-Talk_We-Love-Silom_Ornruedi-Na-Ranong.pdf

We! Park 



119 

Developer: 


ThaiHealth Promotion Foundation 

TALA Thai Association of Landscape Architects 

WE!PARK – WE CREATE PARK! 

แพลตฟอร์มเพื่อการพัฒนาพื้นที่สาธารณะสีเขียวในเมืองอย่างมีส่วนร่วมนี้ 

ได้เริ่มตั้งแต่แนวคิดในการดำาเนินงานที่เห็นถึงศักยภาพ ของพื้นที่ทิ้งร้างซึ่ง 

มีกระจัดกระจายอยู่ทั่วเมืองจากการขยายตัวที่ไม่เป็นระบบ กระบวนการ 

สร้างพื้นที่สีเขียวแห่งใหม่ที่จะไม่กลับไป เป็นที่รกร้าง จากการมีส่วนร่วม 

ของชุมชน ความพยายามในการสร้างการ มีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนอย่างมี 

คุณภาพ ภายใต้นโยบาย Green Bangkok 2030 ตลอดจนการทดลองไอเดีย 

และพัฒนากระบวนการดูแลสวนร่วมกับคนในพื้นที่ โดยเฉพาะด้านการสร้าง 

กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ก่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนในชุมชน เพื่อเป็นเงินทุน 

ในการบริหารจัดการและดูแลสภาพสวนด้วยตัวชุมชนเอง 

ในปีที่ผ่านมาได้มีการตั้งเป้าหมาย Green Bangkok 2030 ซึ่งจะพัฒนาเมือง 

กรุงเทพมหานครให้เป็นเมืองสีเขียวตามมาตรฐาน ระดับนานาชาติให้ได้ 

ใน 10 ปี ซึ่งยึดหลักเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO ว่าเมืองที่ดี 

จะต้องมีพื้นที่สีเขียวต่อประชากรอยู่ที่ 10 ตารางเมตร/คน และคนในเมือง 

จะต้องเข้าถึงพื้นที่สีเขียวได้ในระยะ 400 เมตร ซึ่งในกรณีของกรุงเทพฯ 

หมายถึงการสร้างสวนขนาดเล็ก กระจายอยู่ในทุกเขต ทุกย่าน ทั่วทั้งเมือง 

และเชื่อมกันเป็นโครงข่าย 

WE!PARK is a platform for the collaborative development of green 

urban public spaces, based on a business model that recognizes 

the potential of abandoned areas scattered throughout the city 

as a result of unsystematic growth.The project is creating a new 

green space that will not return to wasteland through community 

participation efforts to generate participation in every process 

with quality under the Green Bangkok 2030 policy. WE!PARK 

also experiments with ideas and develops garden and landscape 

maintenance processes with local people, especially in creating 

economic activities that generate revolving income in the community 

to fund the management and maintenance of the park by itself. 

In the past year, Green Bangkok 2030 has been set up to develop 

Bangkok into a green city according to international standards 

within ten years. The policy is based on the World Health Organization 

(WHO) criteria that a good city must have a green area per 

population of 10 square meters per person, and its dwellers must 

be able to access green areas within 400 meters. In the case of 

Bangkok, this means establishing small gardens in every district, 

every neighborhood, and throughout the city, all of which are linked 

as a network. 

wepark.co 

facebook.com/wecreatepark

120 

Research 

& Innovation for 

Sustainability 

Center; RISC 



Developer and Researcher: 

Research & Innovation for Sustainability 

Center; RISC 

ศูนย์วิจัยและนวัตกรรมเพื่อความยั่งยืน (Research & Innovation for 

Sustainability Center; RISC) บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวลอปเมนต์ 

คอร์ปอเรชั่น จำากัด (MQDC) เป็นศูนย์ค้นคว้าและพัฒนาที่เน้นนวัตกรรม 

ด้านคุณภาพชีวิตแห่งแรกของเอเชีย ประกอบด้วยเครือข่ายนักวิจัย นวัตกร 

ผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งผู้ผลิต เพื่อให้เกิดนวัตกรรมที่หลากหลายที่สามารถ 

ต่อยอดไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิต และสุขภาวะของสิ่งมีชีวิต ทุกชีวิต 

ในโลก รวมไปถึงการฟื้นฟูและรักษาสภาพแวดล้อมให้อยู่ในสมดุล เอื้อ 

ต่อการใช้ชีวิตของทุกสรรพสิ่งได้อย่างมีความสุข มีคุณภาพ และยั่งยืน 

ผลงานวิจัยที่ศึกษาและค้นคว้าขึ้น ไม่เพียงเพื่อนำามาใช้เฉพาะกับโครงการ 

ต่างๆ ขององค์กรเท่านั้น แต่ยังพร้อมเปิดพื้นที่วิจัยนี้ให้กับทุกคน ทุกองค์กร 

ที่สนใจด้านการพัฒนาและก่อสร้างอย่างยั่งยืน เสมือนห้องค้นคว้าของ 

ประชาชน บุคคลภายนอกได้เข้ามาเรียนรู้ นำาไปประยุกต์ใช้จริง เพื่อยก 

มาตรฐานความเป็นอยู่ให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์ ตลอดจนสร้างนวัตกรรม 

ต่างๆ เพื่อช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ที่มีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต 

The Research and Innovation for Sustainability Center (RISC) 

of Magnolia Quality Development Corporation Limited (MQDC) 

is the first research and development center in Asia to focus 

on improving the quality of life. It is a network of researchers, 

innovators, experts, and manufacturers who work together to 

come up with new ideas that can be used to improve the lives 

and well-being of all living things on earth. It also wants to bring 

the environment back into balance and keep it that way so that 

it can support the lives of all living things in terms of quality and 

sustainability. 

The research results that have been studied and performed 

are not used only for MQDC projects but are also available to 

everyone, including every organization interested in sustainable 

development and construction. RISC would function as a public 

research laboratory where people from outside the real estate 

industry could come to learn and put their knowledge into 

practice—to raise living standards for the industry and create 

innovations to help solve problems that affect our quality of life. 

risc.in.th

Yothi Medical 

Innovation District 



121 


Yothi Medical Innovation District 

ย่านนวัตกรรมการแพทย์โยธี คือพื้นที่ตั้งบริเวณถนนโยธี อยู่ระหว่างถนน 

ราชวิถี และถนนศรีอยุธยา เชื่อมต่อกับถนนพระราม 6 และถนนพญาไท เพราะ 

ถนนโยธีแห่งนี้เป็นที่ตั้งของศูนย์การแพทย์ สถาบันการแพทย์และโรงพยาบาล 

ของรัฐ และมหาวิทยาลัย ชั้นนำาของไทยหลายแห่งในพื้นที่บริเวณนั้นมาเป็น 

เวลายาวนาน เสมือนหนึ่งเป็นดั่ง Medical Academy District ของกรุงเทพ 

ที่สำาคัญ จึงเป็นที่มาของการริเริ่มยกระดับย่านศูนย์การแพทย์แห่งนี้ ขึ้นเป็น 

‘ย่านนวัตกรรมการแพทย์โยธี’ 

ย่านนวัตกรรมการแพทย์โยธีแห่งนี้ เกิดขึ้นและดําเนินงานภายใต้ความร่วมมือ 

ของพันธมิตร 3 กระทรวง หลักแห่งระบบการศึกษาไทย ได้แก่ กระทรวง 

การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข และ 

กระทรวงศึกษาธิการ มีเป้าหมายร่วมกันคือนำ าพา ประเทศไปสู่โอกาสและ 

ความสำาเร็จแห่งอนาคต บนแผนพัฒนาพื้นที่ต้นแบบในการพัฒนานวัตกรรม 

ด้านการแพทย์ของประเทศเป็นหลัก ซึ่งจะเป็นธงนำ าในการขับเคลื่อนเศษฐกิจ 

ประเทศ ควบคู่ไปกับการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงการบริการเทคโนโลยีการ 

แพทย์ ที่ทันสมัยของประชาชนได้ 

Yothi Medical Innovation District is located on Yothi Road between 

Rajavithi and Sri Ayutthaya Road, connected to Rama 6 and Phayathai 

Road. Yothi Road has been the location of the medical 

centers, many leading public medical institutions and hospitals, 

and universities in that area for decades. It is also known as a 

significant medical academy district in Bangkok. So that was the 

starting point of the initiative to upgrade this medical center area 

to be the ‘Yothi Medical Innovation District’. 

Yothi Medical Innovation District occurs and operates under the 

cooperation of alliances from the 3 main ministries of the Thai 

education system, namely the Ministry of Higher Education, 

Science, Research and Innovation, the Ministry of Public Health, 

and the Ministry of Education. The common goal is to lead the 

country to future opportunities and success based on the model 

area development plan to primarily develop medical innovation in 

the country, which will be the leading flag in driving the country’s 

economy while also increasing people’s access to modern medical 

technology services. 

ymid.or.th 

facebook.com/YMIDofficial

122 

Urban Recognition: 

Silpakorn University 




Assistant Professor Supitcha Tovivich, Ph.D. 

งานพัฒนาฟื้นฟูชุมชน เป็นตัวอย่างงานออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่เรา 

เห็นกันได้บ่อยๆ โดยเฉพาะในชุมชนเล็กๆ ที่มักมีคนนอกพื้นที่ เข้าไปช่วย 

ปรับปรุงให้สวยงามน่ามอง แต่บ่อยครั้ง สิ่งที่ตามมามักเป็นประเด็นถกเถียง 

ระหว่างคนนอก ต้ังแต่สถาปนิก นักผังเมือง นักออกแบบ กับคนในพื้นที่ 

ผู้อยู่อาศัย ที่ตั้งคําาถามกับงานที่ไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาใดๆ ให้ชุมชน ซ้ำายัง 

อาจเข้าไปเปลี่ยนวิถีชีวิตเดิมให้เสน่ห์สูญหายไป ทําให้งานพัฒนาชุมชน 

เป็นงานที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องไม่เพียงต้องใช้ทักษะในการออกแบบเท่าน้ัน 

แต่ต้องเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์และเข้าใจสิ่งที่ชุมชนต้องการอย่างแท้จริง ซึ่ง 

เป็นทักษะที่อาศัยองค์ความรู้ร่วมกันระหว่างคนนอกและคนในพื้นที่ 

สิ่งที่โครงการนี้พยายามทําคือใช้ design process ชวนให้คนเข้ามามี 

ปฏิสัมพันธ์กัน การฟังเสียงความต้องการของชุมชนและดึงชุมชน เข้ามา 

มีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ การสนับสนุนให้เกิดความตระหนักรู้ในคุณค่าของ 

ชุมชนตนเอง และการสนับสนับสนุนให้เกิด sense of place ของ ชุมชน 

ที่ชัดเจนยิ่งขึ้น 

Community rehabilitation development is an example of architectural 

design we often see today, especially in small communities. 

When people outside the area or neighborhood go in to help improve 

it to be beautiful and attractive, what follows is often a point 

of debate between outsiders among architects, urban planners, 

designers, and community members. This raises questions and 

works that do little to help the community solve its problems.In 

addition, they may change the original way of life, so the place’s 

charm has been lost along the way. It causes community development 

projects to require not only the stakeholders’ design skills 

but also interaction and an understanding of what the community 

really needs. This skill relies on the knowledge shared between 

outsiders and people in the community. 

This project uses the design process to invite people to interact 

with each other, listen to the community’s needs, and pull the community 

out and get fully involved. The project has raised awareness 

of the value of the people in the community and supported a vivid 

sense of place in the community. 

su.ac.th/th/faculty-architecture.php

FutureTales LAB 

by MQDC 

Prakanong, Bangkok 


123 

Developer: 

Magnolia Quality Development 

Corporation Limited 

FutureTales Lab เป็นศูนย์อนาคตวิทยาที่จัดตั้งโดยบริษัท Magnolia Quality 

Development Corporation (MQDC) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ าของไทย 

โดยเน้นไปที่การศึกษา วิเคราะห์ และระบุสัญญาณและตัวขับเคลื่อนของการ 

เปลี่ยนแปลง และทำาให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้รับความรู้และเครื่องมือในการ 

ตัดสินใจสำาหรับการวางแผนสู่อนาคตที่ดีขึ้น ห้องปฏิบัติการ FutureTales 

Lab นี้ ใช้การศึกษาอนาคตและการคาดการณ์ เพื่อตรวจสอบอนาคตของการ 

ใช้ชีวิต การทำางาน การเรียนรู้ การพักผ่อน การเคลื่อนไหว และความยั่งยืน 

นักวิจัยของ FutureTales Lab ทำาการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสำารวจและร่วมสร้าง 

สถานการณ์ในอนาคตที่เป็นไปได้และน่าจะเป็น โดยมีส่วนร่วมในความร่วม- 

มือด้านการวิจัยทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติ และอำ านวยความสะดวก 

ให้นักอนาคตวิทยาจากหน่วยงานราชการ ธุรกิจ สถาบันการศึกษา และคน 

ทุกรุ่น ร่วมสร้างอนาคตที่ดีและน่าอยู่ นับตั้งแต่ก่อตั้งในเดือนมกราคม 2563 

FutureTales Lab ได้ตีพิมพ์รายงานวิจัยฉบับพิเศษร่วมกับ ARUP Foresight 

and Innovation เรื่อง ‘Future of Urbanization and The Greater Bangkok 

2050’ และ ‘Futures and Beyond - Navigating Thailand toward 2030’ 

กับสำานักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) 

FutureTales Lab by MQDC is a private futurology center set up by 

top Thai property developer, Magnolia Quality Development Corporation 

(MQDC). The center focuses on studying, analyzing, and 

identifying signals and drivers of change, and equipping stakeholders 

with knowledge and decision-making tools for planning 

toward better futures. The lab utilizes future studies and foresight 

methodologies to investigate the futures of living, work, learning, 

leisure, mobility, and sustainability. 

FutureTales Lab’s researchers conduct data analysis to explore 

and co-build scenarios of possible and probable futures. We 

engage in national and international research collaborations and 

facilitate futurologists from government agencies, businesses, 

educational institutions, and all generations to co-structure preferable 

and livable futures. Since its establishment in January 

2020, FutureTales Lab has published a featured research report 

in collaboration with ARUP Foresight and Innovation on ‘Future 

of Urbanization and The Greater Bangkok 2050’, and ‘Futures 

and Beyond - Navigating Thailand toward 2030’ with National 

Innovation Agency (NIA). 

futuretaleslab.com

124 


2022 

Photo 

Contest 



WOW 2022 Photo Contest 

125 

WOW 2022 Photo Contest: Wonder of Well Being, hosted by 

the Association of Siamese Architects under Royal Patronage in 

collaboration with Photofile and Thai Minimal Photo (Julaphap 

Minimal), is part of the WOW 2022 Festival. The first of the two 

categories of the contest is ‘Wonder of Thailand, Wonder of 

Livable Cities.’ The category looks for photographs that capture 

the city from original and unique perspectives to discover images 

encapsulating the urban charm and way of life. The second category 

features works that capture the ‘spirit of the WOW 2022 Festival’ 

and the joy and stunningly lush surroundings of Benchakitti 

Park, depicting the wonder of livable cities. The contest includes 

46 awards totaling over THB 770,000 in prize money and is 

open to works by amateur and professional photographers and 

interested individuals. The judging criteria encompass the concepts 

and meanings behind each captured image and its interesting 

compositions and creativity. 

โครงการประกวดภาพถ่่าย ‘อััศจรรย์เมืือังน่่าอัย่’ จัดโดย สมืาคมืสถ่าปนิิกสยามื ใน่พระบรมืราชููปถััมภ ์ ร่วมก ับ 

โฟโต้้ ไฟล์์ แล์ะจุล์ภาพ minimal โดยเป็ นส ่วน่หน่่ งขอังกิจกรรมืงาน่เทศกาล์ WOW 2022 ทังน่้ร่ปแบบการ 

ประกวดแบ่งอัอักเป็ น่ 2 ประเภท โดยประเภทท้ 1 ในห ัวข้อั ‘เมืือังไทยอััศจรรย์เมืือังน่่าอัย่’ การมือังวิถีีมุุมืเมืือังแบบ 

ใหม่่ ไม่่ใช่่อย ่างท้เคยเห็น่เพือค ้น่หาภาพท้ถ่่ายทอัดถึึงบรรยากาศ แล์ะวิถ่้ชู้วิต้ขอังเมืือังใน่มืุมืมือังท้แปล์กใหม่่อััศจรรย์ 

ท้สุด ส่วน่ประเภทท้ 2 ในห ัวข้อั ‘ภาพถ่่ายบรรยากาศภายใน่งาน่ WOW 2022’ ท้แสดงอัอักถึึงความืสนุุกสน่าน่ 

รืน่รมย ์ขอังงาน่เทศกาล์ภายใน่สวน่เบญจกิติิท้สวยงามื สะท้อัน่มืุมืมือังความือััศจรรย์ขอังเมืือังท้น่่าอัย่ ซึ่่ งทัง 

สอังประเภทเป็ น่การชิิงเงิน่รางวัล์รวมืทังสิน่กว่า 46 รางวัล์ มููลค ่ารวมื 770,000 บาท แล์ะเปิ ดรับภาพถ่่ายจาก 

ช่่างภาพมืือัสมััครเล่่น่ หรือัมืือัอัาชีีพแล์ะบุคคล์ทัวไปท้สน่ใจ โดยมีีเกณฑ์์ ใน่การตััดสิน่ ท้พิจารณาจากแน่วคิดแล์ะ 

ความืหมืายขอังภาพ อังค์ประกอับภาพท้น่่าสน่ใจ แล์ะความค ิดสร้างสรรค์ ใน่การถ่่ายภาพ 

The judges are: 

1. Nithi Sthapitanonda 

National Artist, Architectural Arts 

2. Chana Sumpalung 

President of the Association of Siamese Architects 


3. Wiwat Kulchan 

Former President of the Photographic Society of 

Thailand under the Royal Patronage of His Majesty 

the King 

4. Asst. Prof. Dr. Chawan Koonphiphat 

Head of Department of Imaging and Printing 

Technology Faculty of Science Chulalongkorn 

University 

5. Suwicha Premchaichuen 

Executive Director, Photo File Co., Ltd. 

สำาหรับกรรมืการต้ัดสิน่ผู้ทรงคุณวุฒิภาพถ่่ายใน่ครั้งน่้ ประกอับด้วย 

1. น่ิธิ สถ่าปิ ต้าน่น่ท์ 

ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะสถาปัตยกรรม 

2. ชูน่ะ สัมืพล์ัง 

นายกสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ 

3. วิวัฒน่์ กุล์จัน่ทร์ 

อดีตนายกสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ 

4. ผศ. ดร.ชูวาล์ คูร์พิพัฒน่์ 

หัวหน้าภาควิชาเทคโนโลยีภาพและการพิมพ์ คณะวิทยาศาสตร์ 

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

5. สุวิชูา เปรมืใจชูืน่ 

กรรมการบริหาร บริษัท โฟโต้ไฟล์ จำากัด

126 


Wonder of Thailand, Wonder of Livable Cities 


(ประเภทที่ 1) 

รางวัล์ชูน่ะเล์ิศ 

ภาพแปลงเมล่อน ลอยฟ้ า 

โดย ธรรมรัตน์ สวัสดิชัย 

รางวัล์รอังชูน่ะเล์ิศ อััน่ดับ 1 

ภาพศิลปะของการอยู่ร่วมกัน 

โดย เพ็ญจันทร์ ขจรเดชะ 


ภาพมหัศจรรย์มุมเมือง 

โดย เสกสรร เสาวรส 


(Category 1) 

Winner 

Loi Fah Melon Plot 

Thammarat Sawatdichai 

First runner-up 

The art of coexistence 

Penchan Kachorndecha 

Second Runner-up 

Amazing picture in the corner of the city 

Seksan Saowarot 

รางวัล์ชูมืเชูย 

รางวัล์เข้ารอับสุดท้าย 

Honorable prizes 

Finalists 

ภาพเมืองเลย เมืองที่ไม่ได้ 

ยิ ่งใหญ่ไปกว่าภูเขา 

โดย ชนาธิป อินทรวิชะ 

ภาพ City of lifestyle 

โดย พรชัย กิตติวงศ์สกุล 

ภาพชีวิตชนบทและชีวิตในเมือง 

โดย ทรงพล เทศกิจ 

ภาพป่ าในเมือง 

โดย จิรา ชุมศรี 

ภาพสีสันยามคํ ่าแห่งเมืองหลวง 

โดย ธนชาติ จึงแย้มปิ่น 

ภาพเบตง เมืองในสายหมอก 

โดย นพคุณ วิโรภาส 

ภาพเกาะปั นหยี อัศจรรย์วิถีชีวิต 

หมู่บ้านกลางทะเล 

โดย สุรกิจ แสวงชิต 

ภาพความสนุกที่กลางเมือง 

โดย ทศพร สหกูล 

ภาพบ้านเล็กในเมืองใหญ่ 

โดย ประยนต์ ช่างเกวียน 

ภาพสวนเบญจกิติ 

โดย อิสรานุวัฒน์ เอื้อจิรกาล 

ภาพ Icon of Bangkok 

โดย ชัชชัย เนื่องเจริญพร 

ภาพแสงสุดท้ายในฤดูฝน 

โดย คเณศ สินก่อเกียรติ 

ภาพ Rain Garden In Town 

โดย หรรษา ตั้งมั่นภูวดล 

ภาพสวนสวยกลางเมืองใหญ่ 

โดย พลฤทธิ์ ฐิติวริทธินันท์ 

ภาพ A night 

โดย Rudeemard Thubpakdee 

ภาพหมู่บ้านเล็กๆ ในหุบเขา 

โดย เลอสม ล่วงพ้น 

ภาพบรรยากาศร้านอาหาร 

สุดเก๋ 

โดย กิตติรัชต์ วิภาตกนก 

ภาพศูนย์กลางแห่งเมือง 

นครปฐม 

โดย ทินกร ว่องวชิราพาณิชย์ 

ภาพทางกลับบ้าน 

โดย ปรีดา เลิศล้ำา 

Loei city, a city that is not 

greater than mountains 

Chanatip Intaravicha 

City of lifestyle 

Pornchai Kittiwongsakul 

Rural life and city life 

songphol Thesakit 

Forest in the City 

Jira Chumsri 

Photography of the city 

at night 

Thanachart Jungyampin 

Betong, the City in the Mist 

Noppakun Wiropart 

Koh Panyee: Amazing 

way of life in a village 

in the middle of the sea 

Surakit Swaengchit 

Fun in the middle of the city 

Thosaporn Sahakul 

A small house in a big city 

Prayon Changkwian 


Isaranuwat Auajirakan 

Icon of Bangkok 

Chatchai Nuengcharoenporn 

The last light in the rainy 

season 

Ganesh Sinkorkiat 

Rain Garden In Town 

Hansa Tangamanpoowadol 

Beautiful gardens in the 

middle of the big city 

Phonrit Thitivarithinun 

A night 

Rudeemard Thubpakdee 

A small village in the valley 

Lersom Loungpon 

A chic restaurant 

atmosphere 

Kittirach Wipakanok 

Image of the city center 

of Nakhon Pathom 

Tinnakorn Wongwachirapanich 

On the way back home 

Prida Lertlum


127 

Winner: 

First 

runner-up: 

Second 

Runner-up: 



Amazing picture in the corner 

of the city 



Penchan Kachorndecha 

Honorable prizes: 

Loei city, a city that is not 

greater than mountains 

Chanatip Intaravicha 

City of lifestyle 


Rural life and city life 

songphol Thesakit 

Forest in the City 

Jira Chumsri 

Photography of 

the city at night 

Thanachart Jungyampin 

Betong, the City 

in the Mist 

Noppakun Wiropart 

Koh Panyee: Amazing way 

of life in a village in 

the middle of the sea 

Surakit Swaengchit 

Fun in the middle of the city 

Thosaporn Sahakul 

A small house in a big city 

Prayon Changkwian 


Isaranuwat Auajirakan 

Finalists: 

Icon of Bangkok 

Chatchai Nuengcharoenporn 

Rain Garden In Town 

Hansa Tangamanpoowadol 

Beautiful gardens in the 

middle of the big city 

Phonrit Thitivarithinun 

A night 

udeemard Thubpakdee 

The last light in the rainy 

season 

Ganesh Sinkorkiat 

A small village in the valley 


A chic restaurant atmosphere 


Image of the city center 

of Nakhon Pathom 

Tinnakorn Wongwachirapanich 

On the way back home 

Prida Lertlum

128 


Winner: 


Thammarat Sawatdichai


129

130 


First runner-up: 


Penchan Kachorndecha


131 

Second Runner-up: 

Amazing picture in the corner of the city 

Seksan Saowarot

132 


Spirit of the WOW 2022 Festival 


(ประเภทที่ 2) 

รางวัล์ชูน่ะเล์ิศ 

ภาพรื่นรมย์กลางสายฝน 

โดย ธรรมรัตน์ สวัสดิชัย 


ภาพสีสันงาน WOW2022 

โดย นายสุกฤษฏิ์ หิรัญสารพงศ์ 

รางวัล์ POPULAR in social media 

ภาพอารมณ์ดีเพราะมีความสุข 

โดย นายวิสรรค์ แพงประเสริฐ 


(Category 2) 

Winner 

Pleasant picture in the rain 


First runner-up 

Colorful pictures of WOW 2022 

Sukrit Hiransaraphong 

Popular in social media award 

Good mood because of happiness 

Wisan Paengprasert 

รางวัล์ชูมืเชูย 

รางวัล์เข้ารอับสุดท้าย 

Honorable prizes 

Finalists 

ภาพสีสันแห่งความสุข 

โดย ภาสกร บรรดาศักดิ์ 

ภาพลวดลายสีสัน 


Colors of happiness 

Passakorn Bandasak 

Colorful patterns 

Phonrit Thitiwaritthinan 

ภาพเติบโต 

โดย อนุพงษ์ บุญรักษา 

ภาพทุ่งดอกไหมพรม 


ภาพเดินไปด้วยกัน 

โดย อนุสรณ์ แก่นวงษ์ 

ภาพมีสุ ข 

โดย มนชัย ประทีปพิชัย 

ภาพ Festival colors 

โดย จิรา ชุมศรี 

ภาพ Learn 

โดย นฤเบศร์ งามใส 

ภาพในฝั น 

โดย นรชัย กุลเวศภัทรวงศ์ 

ภาพสะกดคําว่า WOW 

โดย ธนกฤต สิงหกลางพล 

ภาพ Little Big Wings 

โดย วรวุฒิ ชัยกิตติกรณ์ 

ภาพสีสันในสวน 

โดย กิตติรัชต์ วิภาตกนก 

ภาพความสุขของทานตะวัน 

โดย เอกรินทร์ เอกอัจฉริยะวงศ์ 

ภาพบรรเลงสีสร้างศิลปะ 

โดย อัครายชญ์ เพ็ชร์อำาไพ 

ภาพ Happy Ground 

โดย เสกสรร เสาวรส 

ภาพ WOW 

โดย หรรษา ตั้งมั่นภูวดล 

ภาพโลกแห่งสีสันและความสุข 

โดย ศิริพงศ์ ปทุมอัครินทร์ 

ภาพมิติสีสันแห่งความสุข 

สนุกสนาน 

โดย ดนัย ดอกไม้ทอง 

ภาพความพอดี 

โดย เลอสม ล่วงพ้น 

ภาพโลกสีเขียว 

โดย พรชัย กิตติวงศ์สกุล 

Grow 

Anupong bunruksa 

A field of silk flowers 


Walk together 

Anusorn Kaenwong 

Happy photo 

Monchai Parteeppichai 

Festival colors 

Jira Chumsri 

Learn 

Naruebet Ngamsai 

Dream 

Norachai Kulvespattarawong 

Spelling WOW 

Thanakrit Singhaklangpol 

Little Big Wings 

Vorawut Chaikittikorn 

Colorful painting 

in the garden 


Happiness of Sunflower 

Ekarin Ekchariyawong 

Colored art 

Akkarai Petampai 

Happy Ground 



Hansa Tangmanphuwadol 

A world of colors 

and happiness 

Siripong Patumaukkarin 

Colorful images 

of happiness and fun 

Danai Dokmaithong 

Fit 


Green World 

Pornchai Kittiwongsakul


Winner: 

First 

runner-up: 

Popular in social 

media award: 

133 

Pleasant picture in the rain 


Colorful pictures 

of WOW 2022 

Sukrit Hiransaraphong 

Good mood because 

of happiness 

Wisan Paengprasert 

Honorable prizes: 

Colors of happiness 

Passakorn Bandasak 

Grow 

Anupong bunruksa 

A field of silk flowers 


Walk together 

Anusorn Kaenwong 

Happy photo 

Monchai Parteeppichai 

Festival colors 

Jira Chumsri 

Learn 

Naruebet Ngamsai 

Dream 

Norachai Kulvespattarawong 

Spelling WOW 

Thanakrit Singhaklangpol 

Little Big Wings 

Vorawut Chaikittikorn 

Finalists: 

Colorful patterns 


Colorful painting in the garden 


Happiness of Sunflower 

Ekarin Ekchariyawong 

Colored art 

Akkarai Petampai 

Happy Ground 


A world of colors 

and happiness 

Siripong Patumaukkarin 

Colorful images of 

happiness and fun 

Danai Dokmaithong 

Fit 


Green World 



Hansa Tangmanphuwadol

134 


Winner: Pleasant 

picture in the rain 

Thammarat Sawatdichai


135

136 


First runner-up: 

Colorful pictures of WOW 2022 

Sukrit Hiransaraphong


137 

Popular in social media award: 

Good mood because of happiness 

Wisan Paengprasert

138 


ARCHI 

TOUR 

WOW ARCHI-TOUR was envisioned to introduce new sides of 

Bangkok that will make people fall in love with the city more than 

ever before. Visitors are able to explore architectural works and 

local ways of life, ranging from visits to historical buildings to 

activities that allow visitors to gain insight into the wisdom and 

know-how of people living in various local communities. The tour 

includes a stroll through the old town district, visits to modern 

architecture, and some interesting insights about the future concepts 

and projects devised for the city’s economic districts to 

generate more contemporary benefits. Participants in the ARCHI - 

TOUR also get a closer look at how ideas can be adapted and used 

as case studies for future urban developments to best fit today’s 

residential areas and how people use and live in cities. 


Photo Courtesy of The Association of Siamese Architects under Royal Patrouge

WOW ARCHI TOUR 

139 

The project marks the first time the Association of 

Siamese Architects under Royal Patronage (ASA), the 

Institution of Siamese Architects (ISA), and TIME OUT 

BANGKOK have collaborated. The two editions of WOW 

ARCHI - TOUR will allow everyone to share and exchange 

their experiences. The Exclusive Tour takes participants 

to buildings and residential neighborhoods, alongside 

some fascinating tidbits about local history and architecture, 

all of which reflect era-defining cultures and 

popular trends, all the way down to people’s lifestyles 

and food culture. The five routes of the tour are Urban 

Forest, Bangkok Night-light, Old Town Living, Living 

with Nature, and Visit Parliament. The OpenHouse Tour 

takes participants to landmark buildings and projects 

in Bangkok, some of which are usually closed to the 

public. The experts chosen to lead the tours will share 

fascinating stories about the design concepts and 

architectural features developed to serve the various 

purposes of each building. 

ทััวร์์สถาปัั ตยกร์ร์ม เปิิ ดเส้นทัางสร้้างมุมมองใหม่ ให้เร์ารัักเมืองมากย่งขึ้้ นกว่าเด่ม กับ 

WOW ARCHI - TOUR ก่จกร์ร์มพาชมงานสถาปัั ตยกร์ร์ม และว่ถีชีว่ต ร์วมทัังสําร์วจอาคาร์ 

ปัร์ะวัต่ศาสตร์์สถาปัั ตยกร์ร์มและก่จกร์ร์มทัีสะท้้อนความร์้้ภู้ม่ปัั ญญาขึ้องชุมชน ทัังในย่าน 

เมืองเก่า ร์วมไปถ ึงสถาปัั ตยกร์ร์มสมัยใหม่ และแนวค่ดโคร์งการ์แห่งอนาคตเพือปัร์ะโยชน์ 

ใช้สอยร่่วมสมัยในย่านเศร์ษฐก่จ ส้่การ์นําไปัใช้เป็็ นกร์ณีีศ้กษาในการ์หาแนวทัางพัฒนาเมือง 

ให้เหมาะสมกับพืนทัีอย้่อาศัยและร์องรัับกับลักษณีะสังคมเมืองในปัั จจุบัน 

โดยโคร์งการ์นีเป็็ นความร่่วมมือคร์ังแร์กขึ้องสมาคมสถาปน ิก-สยาม ในพร์ะบร์มร์าช้ปัถัมภ์์ 

(ASA) ร่่วมกับสถาบันสถาปน ิกสยาม (ISA) และ TIME OUT BANGKOK ทัีเปิิ ดโอกาสให้ 

ทุุกคนมามีส่วนร่่วมแลกเปัลียนปัร์ะสบการ์ณี์ กับ 2 ร์้ปัแบบเฉพาะขึ้อง WOW ARCHI - TOUR ทัี 

ปัร์ะกอบด้วย Exclusive Tour กับเส้นทัางนำำชมอาคาร์และย่านชุมชนพร้้อมเกร็็ดความร์้้ 

เกียวกับปัร์ะวัต่ศาสตร์์ชุมชนและสถาปัั ตยกร์ร์ม ทัีสะท้้อนวัฒนธร์ร์ม และความน่ยมในแต่ละ 

ยุคสมัย ร์วมทัังสัมผััสชีว่ตความเป็็ นอย้่ อาหาร์การก ินขึ้องย่านชุมชนใน 5 เส้นทัาง คือ 

Urban Forest/Bangkok Nighlight/Old Town Living/ Living with Nature/Visit 

Parliament และในอีกร์้ปัแบบขึ้อง OpenHouse Tour กับการ์นําชมอาคาร์และโคร์งการที่่ 

เป็็ น Landmark ขึ้องกรุุงเทัพฯ โดยผั้เชียวชาญ นำำชมโคร์งการที่่มีความน่าสนใจด้านแนวค่ด 

การ์ออกแบบ และแสดงออกถ้งคุณค ่าทัางการ์ออกแบบสถาปัั ตยกร์ร์มเพือตอบสนองการ์ใช้ 

งานในวัตถุปัร์ะสงค์ทัีแตกต่างกัน ร์วมทัังยังเป็็ นสถานทัีทัีอาจเขึ้้าเยียมชมได้ยาก

140 

Exclusive Tour 


1 

01 

บรรยากาศสวนเบญจกิติ 

Urban Forest : สวนเบญจกิติ 

เส้นทาง Urban Forest ที่ชวนทุกคนออกสำารวจ ‘ป่าในเมือง’ 

ณ สวนเบญจกิติ ที่เกิดจากการพัฒนาพื้นที่โรงงานยาสูบเก่า 

ให้กลายเป็น ‘ปอดขนาดใหญ่’ ที่มีระบบนิเวศน์หมุนเวียนที่ 

อุดมสมบูรณ์ทั้งพืชและสัตว์ ยิ่งไปกว่านั้นคือการเป็นพื้นที่ 

สีเขียวสาธารณะที่สามารถเยียวยาจิตใจของคนเมืองได้เป็น 

อย่างดี โดยมีวิทยากรในเส้นทางนี้ ได้แก่ ชัชนิล ซัง และ 

พรหมมนัส อมาตยกุล ทีมผู้ออกแบบสวนเบญจกิติ จาก 

สถาปนิกชุมชนและสิ่งแวดล้อม อาศรมศิลป์ เล่าแนวคิด 

การออกแบบพื้นที่ เช่น โซนบ่อน้ำ า อัฒจันทร์กลาง ทางเดิน 

ลอยฟ้า ฯลฯ รวมถึงให้ความรู้เรื่องพรรณไม้ ผ่านการเดินชม 

ในสถานที่จริง 

Urban Forest : Benchakitti Forest Park 

The Urban Forest Route invites visitors to Benchakitti 

Forest Park in Bangkok to explore the city’s urban 

forest. The park was built by transforming an old 

tobacco factory into a massive urban lung with its 

flourishing ecosystem of plants and animals, serving 

admirably as a green public space that can soothe 

the body and mind of city dwellers. Chatchanin 

Sung and Prommanas Amatyakul, two members of 

Arsomsilp Community and Environmental Architect, 

led the tour, providing some interesting insights into 

the design of the park’s program from the ponds, 

central amphitheater, skywalk, and so on, as well 

as some botanical knowledge through a real walk 

through the park. 

Chatchanin Sung 

architect and professor 

at Arsom Silp Institute 

of the Art’s Department 

of Community 

Prommanas Amatyakul 


at Arsom Silp Institute 

of the Art’s Department 

of Community


141 

Bangkok Night-Light : China Town 

สัมผัสวิถีชีวิตของชาวไทยเชื้อสายจีนในย่าน China Town 

(เยาวราช) กับเรื่องราวน่าสนใจที่ซ่อนอยู่ในแสงสียามค่ำ าคืน 

สถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่สะท้อนความรุ่มรวยทางศิลปวัฒน- 

ธรรมตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันซึ่งพบเห็นได้ทั่วย่าน รวมถึง 

รสชาติและกลิ่นที่ฟุ้งกระจายไปตลอดความยาวของเยาวราช 

ถนนที่ไม่เคยหลับใหล 

Bangkok Night-Light : Chinatown 

Experience the Chinese-Thai way of life in Bangkok’s 

bustling China Town, Yaowarat, with some fascinating 

stories hidden behind the brightly lit neon signs. 

Experience the long-standing architectural structures 

that reflect the flamboyance of art and culture 

from the past to the present found throughout the 

area, accompanied by the tastes and smells of 

food one can experience throughout the sleepless 

Yaowarat Road. 

02 

บรรยากาศร้านค้าอาหาร 

ริมทางตลอดความยาว 

เยาวราช 

03 

บรรยากาศแสงสียามค่ำาคืน 

ของย่าน Chaina town 

2 

3

142 


4 

Old Town Living : ฝั ่ งพร์ะนคร์ 

ดร.พีรียา บุญชัยพฤกษ์ อาจารย์ประจำาคณะสถาปัตยกรรม- 

ศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร พร้อมผู้จัดการร้าน Craftsman 

จะมารับหน้าที่วิทยากร แนะนำาอาคารโรงพิมพ์บำารุงนุกูลกิจ 

และการปรับรูปแบบอาคารเก่ามาใช้เป็น Pop up café 

ชั่วคราว รวมถึงเดินสำารวจร้านเก่าแก่ในย่าน อาทิ บ้าน 

หมอหวาน ร้านขายยาแผนไทยในบ้านสถาปัตยกรรมสมัย 

รัชกาลที่ 6 บ้านขนมปังขิง รวมถึงชมงานสถาปัตยกรรม 

เก่าแก่บนถนนตะนาวและย่านสามแพร่ง 

Old Town Living : Phra Nakorn District 

Dr. Pheereeya Boonchaiyapruek, a professor 

from Silpakorn University’s Faculty of Architecture 

and the owner of Craftsman, is the special guide 

selected for the tour of the Bamrungnukulkij Printing 

House, which was converted into a pop-up café. 

The tour took participants on a walk through old 

neighborhoods, including Baan Mor Whan, a shop 

selling Thai medicines inside a house built by King 

Rama 6, the local gingerbread house, and other 

old architectural creations on Tanow Road and 

Samprang district. 

04-05 

บรรยากาศย่านเมืองเก่า 

Dr. Pheereeya 

Boonchaiyapruek 

professor from Silpakorn 

University and owner 

of Craftsman 

5


143 

Living with Nature : สถาบันอาศร์มศิลปั์ 

ธนา อุทัยภัตรากูร สถาปนิกและอาจารย์ประจำาสาขาวิชา 

สถาปัตยกรรมเพื่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม สถาบันอาศรมศิลป์ 

พาเราไปทำาความรู้จักกับสถาบันอาศรมศิลป์ให้มากขึ้น 

ตั้งแต่การก่อตั้ง เป้าหมาย แนวทางการสอนเรื่องสถาปัตย- 

กรรมที่เชื่อมโยงชีวิต ชุมชน และสิ่งแวดล้อม พร้อมพาชม 

สถาปัตยกรรมที่น่าสนใจ อาทิ หอศิลป์ไม้ไผ่ (Bamboo 

Architecture) อาคารรพินทร ฯลฯ 

Living with Nature : Arsom Silp Institute 

of the Arts 

Thana Uthaipattrakoon, architect and professor 

at Arsom Silp Institute of the Art’s Department of 

Community and Environmental Architecture, takes 

participants on a tour of the Arsom Silp Institution, 

including its history, goals, and approach to architectural 

education that integrates life, community, 

and the environment, as well as a look at some 

intriguing works such as the bamboo architecture 

of the Bamboo Art Gallery and the Pinthorn 

Building, to name a few. 

6 

Thana Uthaipattrakoon 


at Arsom Silp Institute of 

the Art’s Department 

of Community 

06 

หอศิลป์ไม้ไผ่ในสถาบัน 

อาศรมศิลป์

144 


7


145 

8 

07-08 

บรรยากาศภายใน 

สัปปายะสภาสถาน 

Visit Parliament : สัปัปัายะสภูาสถาน 

สองสถาปนิก ชาตรี ลดาลลิตสกุล จากต้นศิลป์สตูดิโอ และ 

ปิยเมศ ไกรฤกษ์ จาก บลูแพลนเนตดีไซน์ อินเตอร์เนชั่นแนล 

ผู้ออกแบบรัฐสภาโฉมใหม่หลังที่ 3 ของประเทศไทย พานำ าชม 

‘สัปปายะสภาสถาน’ อาคารรัฐสภาแห่งใหม่ริมแม่น้ำ าเจ้าพระยา 

สถาปัตยกรรมทางการเมืองที่ใหญ่ที่สุด โดยเป็นการสำารวจ 

สัปปายะสภาสถานทั้งบรรยากาศภายใน ตั้งแต่ห้องรับรอง 

และบริเวณโถงชั้น 1 ห้องประชุมใหญ่ ส.ส. ที่ชั้น 2 และโถง 

รัฐพิธี ที่ชั้น 11 รวมถึงพื้นที่ภายนอกอาคาร ได้แก่ ศาลาแก้ว 

สวนประชาชน สวนประชาธิปไตย รวมถึงงานศิลปกรรม 

‘ดอกบัวทอง’ ที่ออกแบบโดยอาจารย์แสงอรุณ รัตกสิกร 

Visit Parliament : Sappaya-Sapasathan 

The architects behind the design of the new parliament 

building, Chatree Ladalalitsakul of Tonsilpa 

Studio and Piyamate Krairuek of Blue Planet Design 

International, led the visit to ‘Sappaya-Sapasathan,’ 

the third and current meeting place of the National 

Assembly of Thailand. This edifice, located by the 

Chao Praya River, is the largest political structure 

this country has ever seen. The tour will take participants 

on a visit of the building’s stunning interiors, 

including the reception room, the first-floor atrium, 

the House of Representative Chamber on the second 

floor, and the state ceremony hall on the 11 th floor, 

as well as the exterior components and landscape, 

which include the Sala Keaw Pavilion, People’s 

Park, Democracy Park, and the ‘Golden Lotus’ art 

piece designed by Associate Professor Saengarun 

Rattakasikorn. 

Chatree Ladalalitsakul 

Tonsilpa Studio 

Piyamate Krairuek 

Blue Planet Design International

146 


OpenHouse Tour 

9 

The Forestias by MQDC 

หนึ่งตัวอย่างของการสร้างสังคมเมืองน่าอยู่ ด้วยวิธีคิดและ 

หลักการที่คำานึงถึงการอยู่ร่วมกับของผู้คนและธรรมชาติ 

เพื่อสร้างสังคมที่อาจจะเป็นคำาตอบของรูปแบบชีวิตเมืองที่ 

น่าอยู่และดีที่สุดในเวลานี้ และชวนคิดว่าหากต้นแบบนี้จะ 

ขยายวงกว้างออกไปในสังคมเมืองใหญ่จะเป็นอย่างไร โดย 

ในกิจกรรมทัวร์มีการนำาชมโครงการตัวอย่าง อาคารและ 

ห้องตัวอย่างในส่วน Residence Area พื้นที่ Forest Area และ 

อาคาร Forest Pavillion ในส่วน Public area ที่ออกแบบโดย 

Foster & Partners และ TK Studio 

The Forestias by MQDC 

One method of creating a livable city is to consider 

the thought processes and principles that factor in 

the coexistence of people and nature to create a 

society with the best possible urban lifestyle and 

livability. The project encourages people to imagine 

this type of urban community on a larger scale 

through the tour, which encompasses stops at the 

project’s buildings and model units, the Residential 

Area, Forest Area, and Forest Pavilion, including 

the public area designed by Foster & Partners and 

landscape architecture by TK Studio. 

09 

อาคาร Forest Pavillion 

ในโครงการ Forestia 

โดย MQDC


147 

10 

บรรยากาศภายใน 

ธรรมมาศรม 

ธร์ร์มาศร์ม ณี เสถียร์ธร์ร์มสถาน 

‘สุขง่าย ใช้น้อย’ หลักปฏิบัติเพื่อขัดเกลาและฟื้นฟูจิตใจ 

ของสถานปฏิบัติธรรม เสถียรธรรมสถาน เป็นแนวคิดที่ 

คุณสมชาย จงแสง สถาปนิกจาก Deca Atelier ออกแบบ 

อาคารธรรมาศรม เพื่อใช้เป็นอาคารพักอาศัยรองรับผู้สนใจ 

เข้าร่วมประกอบกิจกรรมในสถานที่แห่งนี้ นี่คืออีกตัวอย่างที่ 

สถาปัตยกรรมสามารถตอบโจทย์และถ่ายทอดวิถีความสงบ 

ของจิตใจและมีความงดงามโดยไม่จำาเป็นต้องใช้ส่วนประกอบ 

ของอาคารที่ฟุ่มเฟือย โดยที่สถาปัตยกรรมสามารถส่งเสริม 

และกลมกลืนไปกับความเรียบง่าย ที่ผู้เข้าร่วมชมสามารถ 

สัมผัสถึงบรรยากาศความสงบในสังคมเมืองที่วุ่นวาย ผ่าน 

งานสถาปัตยกรรมและการบรรยายโดยผู้ออกแบบ และการ 

ทดลองทำาสมาธิสั้นๆ 

Dharmashram 

Learning Community of Mindfulness Healing at 

Sathira Dhammasathan Meditation Center ‘Simple 

happiness from minimal living’ is the guiding principle 

of Sathira Dhammasathan Meditation Center’s 

practice of mind refinement and rehabilitation. 

Deca Atelier’s Somchai Jongsaeng incorporates the 

concept in the design of the Learning Community of 

Mindfulness Healing Building, which serves as an 

accommodation facility for participants who participate 

in the center’s activities. The architect creates 

architecture that functionally and aesthetically expresses 

the Sathira Dhammasathan practice and 

the peaceful state of mind it helps achieve. As the 

architecture embraces and combines itself with 

simplicity, the building exemplifies how beauty can 

be crafted without the need for excessive elements. 

Visitors can be subsumed in serenity amid chaotic 

urban society by the presence of this brilliant work 

of architecture, with the architect who designed the 

building serving as the honorable guide before trying 

out a short meditation session. 

10 

Somchai Jongsaeng 

Deca Atelier

148 


11 

Klong Toey Low-cost Micro House 

คือกลุ่มอาคารที่อยู่อาศัยในชุมชนคลองเตย ออกแบบโดย 

Vin Varavarn Architects ในงานจิตอาสาเพื่อสังคม ซึ่ง 

กลุ่มบ้านรูปกล่องหลังคาเพิงหมาแหงนที่แทรกตัวอยู่แต่ 

ยังสอดคล้องไปกับการสร้างคุณภาพชีวิตบนวิถีความเป็น 

อยู่ในชุมชนแออัดคลองเตย ที่ถูกออกแบบและสร้างขึ้น 

อย่างเรียบง่าย แต่โดดเด่นและกลมกลืน เป็นไปตามเงื่อนไข 

ข้อจำากัดของพื ้นที ่ชุมชน แสดงให้เห็นเป็นตัวอย่างของการ 

พัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนที่ดีขึ้นผ่านการออกแบบ และ 

ความร่วมมือของภาคส่วนต่างๆ และคนในชุมชนเพื่อสังคม 

ที่ดีกว่า ซึ่งผู้ออกแบบและผู้นำาชุมชนได้พาผู้เข้าร่วมงาน 

เดินสังเกตชีวิตความเป็นอยู่และแนวทางการออกแบบ 

ที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตในชุมชนแออัด 

Klong Toey Low-cost Micro House 

Vin Varavarn Architects volunteered to design the 

residential buildings in Bangkok’s Klong Toey neighborhood, 

resulting in this impressive community 

architecture project. A cluster of houses with slanted 

roofs nestled in the surroundings while attempting 

to improve the quality of life for those living in the 

urban neighborhood. The simple structures are 

designed and built to blend into the environment, 

adapting to the site’s conditions. The work provides 

an intriguing example of how design, participation 

from various sectors, and community members can 

create a better quality of life. The tour features the 

architect and community leader leading a neighborhood 

walk where everyone can experience and learn 

about people’s way of life in this urban area, as well 

as the approach to architectural design that contributes 

to the improvement of the resident’s quality 

of life in this urban shantytown. 

11-12 

โครงการออกแบบที่อยู่ 

อาศัยในคลองเตย โดย 

Vin Varavarn Architects 

12


149 

Tiny Museum 

ตั้งอยู่ที่ คณะ ๑ วัดโสมนัสราชวรวิหาร ที่อาจเรียกได้ว่าเป็น 

พิพิธภัณฑ์ที่มีขนาดเล็กที่สุดเท่าที่เคยมีมาที่หนึ่งและด้วย 

เจตนารมณ์ที่จะดูแลและเก็บรักษา ‘กเบื้องจาน’ เครื่องมือ 

ยุคหินใหม่อายุราว 2,000-20,000 ปี ที่ถูกค้นพบในสมัย 

สงครามโลกครั้งที่ 2 นี้ไว้บนพื้นที่ที่แทรกตัวอยู่ในซอก 

ท่ามกลางกลุ่มอาคารอนุรักษ์ขนาดเล็กภายในวัด จึงเป็น 

การท้าทายการออกแบบสำาหรับคุณสุริยะ อัมพันศิริรัตน์ 

สถาปนิกแห่ง WALLLASIA ในการแสดงชิ้นงานและการเก็บ 

รักษาเป็นอย่างมากและผลงานนี้ได้สะท้อนให้เห็นถึงบทบาท 

หน้าที่ของพื้นที่ทางศาสนา ที่มีผลต่อการอนุรักษ์คุณค่าทาง 

ประวัติศาสตร์ เพื่อเป็นมรดกความรู้ของสังคมต่อไป 

Tiny Museum 

Tiny Museum, located inside Quarter 1 of Somanat 

Ratchaworawiharn Temple, is one of the world’s 

smallest museums. This museum was built to preserve 

and display ‘Korbuengjarn,’ valuable archeological 

artifacts from the ancient period, specifically 

the New Stone Age, which dates back 2,000 to 

20,000 years and is discovered and excavated during 

the Second World War. Suriya Umpansiriratana, the 

architect and founder of Walllasia, faced a significant 

challenge in designing a space that can both exhibit 

and reserve the artifacts in a small space enclosed 

in the middle of other small, conserved ancient 

buildings inside the temple. The project reflects on 

the role of religious spaces in preserving historical 

values that will be passed down as part of society’s 

cultural and intellectual legacy. 

fb.com/ASAWOW 

13-14 

Tiny Museum 

โดย WALLLASIA 

13 14

150 


for All 

ASA Run 

2022 


Photo Courtesy of The Association of Siamese Architects under Royal Patrouge, 

Chalermpon Sombutyanuchit and Asae Sukhyanga except as noted

ASA RUN 2022 WOW FOR ALL 

151 

ASA Run 2022: WOW for All is another featured activity 

at WOW Wonder of Well-Being initiated to encourage the 

general public, fellow members of the association and their 

families, the senior citizens, including wheelchair users, 

and people with disabilities and hearing and visual impairments 

who require guide runners, to adopt a healthy lifestyle 

through a fun walking and running event. On the early 

morning of November 27, 2022, inside Benchakitti Forest 

Park, ASA Run 2022 hosted a 10-kilometer minimarathon 

and a 4.5-kilometer fun run, with the front of the museum 

building as the start and finish lines. Following the run, participants 

could stroll through the park and along the skywalk 

route and enjoy the fun programs, such as the photo 

corners created especially for the event. The net proceeds 

were donated to the Association of Siamese Architects 

under Royal Patronage. 

เป็็ นอีีกหน่ งในกิจกรรมภายในงาน ‘อััศจรรย์เมือีงน่าอีย่’ ที่่ต้้อีงการ 

ส่่งเสร ิมและสน ับสน ุนให้ป็ระชาชนทั่่วไป็ ส่มาชิกขอีงส่มาคมฯ และ 

ครอีบครัว ผู้่้ส่่งอีายุ และรวมถึึงผู้่้พิิการ ทั้้งผู้่้พิิการที่างการได้้ยิน 

ผู้่้พิิการส่ายต้าที่่ต้้อีงมี Guide Runner และผู้่้ที่่ใช้รถึเข็น มาร่วม 

อีอีกกำล ังกายด้้วยการเดิินและวิงเพิือีสุ่ขภาพิด้้วยกัน โด้ยได้้จัด้ข่ น 

เวลาเช้าต้ร่่ วันที่่ 27 พิฤศจิกายน 2565 บริเวณภายในส่วนป่่ า 

เบญจกิติิ และแบ่งป็ระเภที่การวิงอีอีกเป็็ น 2 ป็ระเภที่ คือี MINI 

MARATHON ระยะที่าง 10 KM และป็ระเภที่ FUN RUN ในระยะที่าง 

4.5 KM มีจุด้เริมต้้นและเส้้นชัยบริเวณหน้าอีาคารพิิพิิธภัณฑ์์ หลังจาก 

งานวิงเสร ็จ ยังมีกิจกรรมที่่ทีุ่กคนส่ามารถึ เดิินชมส่วน-ชมงาน 

ที่างเดิินลอียฟ้้ า และมุมถ่่าย-รููปภายในงาน โด้ยรายได้้จากการ 

จัด้งานหลังหักค่าใช้จ่ายนำาเข้าส่มที่บส่มาคมส่ถึาปน ิกส่ยาม ใน 

พิระบรมราชููปถััมภ์ 

fb.com/ASAWOW

152 


01 

ทีมงานจากสมาคม 

สถาปนิกฯ ร่วมกิจกรรม 

ASA RUN FOR ALL 

02 

ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ 

ร่วมวิ่งในกิจกรรม 


03 

ทีมงาน ASA WOW 

และกลุ่มสถาปนิก 

ผู้เข้าร่วมกิจกรมม 

ASA RUN 

04 

ถ้วยรางวัล ASA RUN 

1 

2 

4 

3

ASA RUN 2022 WOW FOR ALL 

153 

5 

05-06 

บรรยากาศการมอบรางวัล 


6

154

155 

Photo Credit: Jira Chumsri

156

157 


158

159 

Photo Credit: Chanatip Intaravicha

160 


SUPPORTING PARTNERS 

Supporting 

Partners

WOW 2022 : Wonder of Well-Being City

You also want an ePaper? Increase the reach of your titles

Delete template?

Save as template?