กุ้งขาวแวนนาไม 70 ตัว/กก 101.12
à¹à¸à¹à¸à¸·à¸à¸à¸à¸¤à¸©à¸ าà¸à¸¡ 2555 - สำà¸à¸±à¸à¸à¸²à¸à¹à¸¨à¸£à¸©à¸à¸à¸´à¸à¸à¸²à¸£à¹à¸à¸©à¸à¸£
à¹à¸à¹à¸à¸·à¸à¸à¸à¸¤à¸©à¸ าà¸à¸¡ 2555 - สำà¸à¸±à¸à¸à¸²à¸à¹à¸¨à¸£à¸©à¸à¸à¸´à¸à¸à¸²à¸£à¹à¸à¸©à¸à¸£
You also want an ePaper? Increase the reach of your titles
YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.
สินค้าเกษตร<br />
สินค้าที่เป็นประเด็นร้อน<br />
สถานการณ์ราคาและการผลิตสินค้าเกษตร ประจําสัปดาห์ที่ 4 เดือนพฤษภาคม ๒๕๕๕<br />
สัปดาห์ที่ 3 สัปดาห์ที่ 4 %<br />
การเปลี่ยนแปลง ต้นทุน<br />
21–27 พ.ค.55 28พ.ค.–3 มิ.ย.55<br />
บาท / ตัน,<strong>กก</strong>.<br />
สินค้าที่เป็นประเด็นร้อน (Hot Issue)<br />
ปาล์มน้ํามัน : ราคาปรับ<strong>ตัว</strong>สูงขึ้นตามราคาน้ํามันปาล์มดิบในตลาดล่วงหน้ามาเลเซีย<br />
ยางพารา: ราคาลดลงเนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น และราคาปรับ<strong>ตัว</strong>ลดลงตามทิศทางตลาดล่วงหน้า TOCOM<br />
รวมทั้งราคาน้ํามันดิบที่ปรับ<strong>ตัว</strong>ลดลง<br />
ไข่ไก่ : ราคาสูงขึ้นเนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนทําให้อัตราการให้ไข่ลดลง<br />
สินค้าตามฤดูกาล<br />
มังคุด: ราคาลดลงเนื่องจากฝนตกทําให้คุณภาพไม่ดี<br />
เงาะโรงเรียน: ราคาลดลงเนื่องจากเป็นช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก<br />
ลิ้นจี่: ราคาสูงขึ้นเนื่องจากผลผลิตออกสู่ตลาดลดลง<br />
สินค้าที่มีมูลค่าการผลิตมาก<br />
มันสําปะหลัง: ราคาสูงขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงปลายฤดูกาล<br />
สุกร: ราคาลดลงเนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคลดลง<br />
สัปดาห์หน้าคาดว่าราคาสินค้าเกษตรส่วนใหญ่ใกล้เคียงกับสัปดาห์นี้<br />
๑ ต้นทุนสุกร เดือนมีนาคม ๒๕๕๕ สํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร<br />
๒ ต้นทุนไก่เนื้อ เดือนมีนาคม ๒๕๕๕ สํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร<br />
๓<br />
ต้นทุนไข่ไก่ เดือนมีนาคม ๒๕๕๕ สํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร<br />
ระดับราคาอยู่ในเกณฑ์วิกฤต หมายถึง ราคาที่ต่ํากว่าต้นทุน<br />
ระดับราคาอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง หมายถึง ราคาที่อยู่ระหว่างต้นทุน + กําไร ๒๐ %<br />
ระดับราคาอยู่ในเกณฑ์ดี หมายถึง ราคาที่สูงกว่าต้นทุน + กําไร ๒๐ %<br />
% ผลต่าง<br />
(ราคากับ<br />
ต้นทุน)<br />
ปาล์มน้ํามัน >๑๕ <strong>กก</strong>. 4.96 5.01 1.01 ๒.๙๐ 72.76<br />
สับปะรดโรงงาน 2.74 2.76 0.73 3.55 -22.25<br />
ยางพาราแผ่นดิบ ชั้น ๓ 98.30 98.14 -0.16 61.65 59.19<br />
ไข่ไก่สด เบอร์ 3 (ร้อยฟอง) 267.12 274.27 2.68 263 ๓ 4.29<br />
<strong>กุ้งขาวแวนนาไม</strong> <strong>70</strong> <strong>ตัว</strong>/<strong>กก</strong>. 109.35 109.32 -0.03 <strong>101.12</strong> 8.11<br />
สินค้าตามฤดูกาล<br />
ทุเรียนหมอนทองคละ 32.03 32.10 0.22 13.95 130.11<br />
มังคุดผิวมันขนาดกลาง 40.00 35.00 -12.50 15.76 122.08<br />
เงาะโรงเรียนคละ 7.35 7.00 -4.76 7.73 -9.44<br />
ลิ้นจี่พันธุ์ฮงฮวย เกรด AA 12.89 13.50 4.73 12.15 11.11<br />
สินค้าที่มีมูลค่าการผลิตมาก<br />
ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น ๑๕% 10,226 10,331 1.03 ๙,๒๐๓ 12.26<br />
มันสําปะหลังคละ 1.87 1.97 5.35 ๑.๗๗ 11.30<br />
สุกรน้ําหนักเกิน ๑๐๐ <strong>กก</strong>. 62.40 61.60 -1.28 58.03 ๑ 6.15<br />
ไก่รุ่นพันธุ์เนื้อ 43.22 43.49 0.62 33.95 ๒ 28.10<br />
เกณฑ์การ<br />
เตือนภัย
ปฏิทินงานติดตามการผลิตและการแก้ไขปัญหาสินค้าเกษตร ปี 2555<br />
เดือน ชื่อพืช กิจกรรม<br />
หน่วยงาน<br />
สถานภาพการดําเนินงาน<br />
รับผิดชอบ<br />
วันที่ดําเนินงาน<br />
พ.ค. ปาล์มน้ํามัน - สถานการณ์การผลิต สศก. - ปี 2555 สํานักงานเศรษฐกิจการเกษตรประมาณการผลิตปาล์มน้ํามันว่าจะมี<br />
ประมาณ 11.62 ล้านตัน คิดเป็นผลผลิตน้ํามันปาล์มดิบ 1.98 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก<br />
10.78 ล้านตัน และผลผลิตน้ํามันปาล์มดิบ 1.83 ล้านตัน ในปี 2554 ร้อยละ<br />
7.79 และ 8.20 ตามลําดับ เนื่องจา<strong>กก</strong>ารขยายพื้นที่เพาะปลูกปาล์มน้ํามันตั้งแต่ปี<br />
2551 ประกอบกับราคาผลปาล์มน้ํามันที่เกษตรกรขายได้อยู่ในเกณฑ์ดี เกษตรกรจึง<br />
ให้การดูแลและใส่ปุ๋ยมากขึ้น<br />
- ในเดือนพฤษภาคม 2555 ผลผลิตปาล์มน้ํามันคาดว่ามีประมาณ 1.133 ล้านตัน<br />
คิดเป็นน้ํามันปาล์มดิบ 0.193 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 0.876 ล้านตัน คิดเป็นน้ํามัน<br />
ปาล์มดิบ 0.149 ล้านตันของเดือนเมษายน 2555 ร้อยละ 29.31<br />
- ราคาปาล์มน้ํามันที่เกษตรกรขายได้ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา<br />
เนื่องจากราคาตลาดล่วงหน้ามาเลเซียปรับ<strong>ตัว</strong>เพิ่มขึ้น<br />
พ.ค. สับปะรด - สถานการณ์การผลิต สศก. - การผลิตสับปะรดปี 2555 คาดว่ามีปริมาณ 2.52 ล้านตัน ลดลงจากปริมาณ<br />
2.59 ล้านตันของปี 2554 ร้อยละ 2.<strong>70</strong> เนื่องจากราคาสับปะรดที่เกษตรกรขายได้<br />
ตกต่ําในช่วงเดือนพฤศจิกายน – ธันวาคม 2555 ส่งผลให้เกษตรกรส่วนใหญ่ซึ่งเป็น<br />
เกษตรกรรายย่อยขาดเงินทุนในการดูแลรักษา ทําให้ผลผลิตบางส่วนได้รับความ<br />
เสียหาย<br />
1
เดือน ชื่อพืช กิจกรรม<br />
หน่วยงาน<br />
รับผิดชอบ<br />
สถานภาพการดําเนินงาน<br />
วันที่ดําเนินงาน<br />
- ในเดือนพฤษภาคม 2555 ผลผลิตคาดว่าจะออกสู่ตลาดประมาณ 0.290 ล้าน<br />
ตัน เพิ่มขึ้นจาก 0.240 ล้านตันของเดือนเมษายน 2555 ร้อยละ 20.83<br />
- ราคาสับปะรดโรงงานที่เกษตรกรขายได้ ทรง<strong>ตัว</strong>เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา<br />
เนื่องจากเลยช่วง ที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมาก (peak) แล้ว<br />
-มาตรการแก้ไขปัญหา สศก. - ครม. ในคราวประชุมเมื่อวันที่ 1 พ.ค. 55 เห็นชอบในหลั<strong>กก</strong>ารโครงการแก้ไข<br />
ปัญหาสับปะรด ปี 2555 โดยให้ดําเนินการเฉพาะในส่วนการรับซื้อสับปะรดสดเพื่อ<br />
การแปรรูป ดังนี้<br />
- ค่าใช้จ่ายเป็นค่ารับซื้อผลผลิตสับปะรดส่วนเกินในราคาสับปะรดคละ ณ จุดรับ<br />
ซื้อ 4 บ./<strong>กก</strong>. ในวงเงินไม่เกิน 800 ล้านบาท โดยให้ใช้จ่ายจากเงินกู้ของ ธ.ก.ส.<br />
- ค่าใช้จ่ายเป็นค่าจ้างผลิตสับปะรดกระป๋อง เพื่อระบายจําหน่ายต่อไป<br />
ประกอบด้วย ค่าจัดจ้างแปรรูป ค่าเช่าคลังสินค้า ค่าขนส่งในการระบายสินค้า ค่า<br />
ประกันภัยสินค้า รวมทั้งการตรวจสอบคุณภาพของสินค้าให้ได้มาตรฐาน ค่าใช้จ่ายใน<br />
การดําเนินการชี้แจงโครงการฯ และค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการโครงการฯ ใน<br />
วงเงินรวมไม่เกิน 674 ล้านบาท และให้ใช้จ่ายโดยถัวจ่ายกันได้และเป็นเงินจ่ายขาด<br />
เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 งบกลาง รายการ<br />
เงินสํารองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจําเป็น<br />
- ให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบและเร่งรัดดําเนินการ<br />
จําหน่ายสับปะรดกระป๋องที่ผลิตได้จากโครงการฯ<br />
- ระยะเวลาดําเนินการ 1 พ.ค.-30 มิ.ย.55 ระยะเวลาโครงการ 1 พ.ค.55-28<br />
ก.พ. 56<br />
2
เดือน ชื่อพืช กิจกรรม<br />
หน่วยงาน<br />
สถานภาพการดําเนินงาน<br />
รับผิดชอบ<br />
วันที่ดําเนินงาน<br />
- ความคืบหน้าในการดําเนินการ สศก. -18 พค.55 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดทําข่าวประชาสัมพันธ์การดําเนินงาน<br />
โครงการผ่านสื่อหนังสือพิมพ์ และข้อความวิ่งทางโทรทัศน์แล้ว<br />
-24 พค.55 สํานักงบประมาณ, สศก. , อ.ต.ก. , กสก., และกระทรวงพาณิชย์ ได้มีการประชุม<br />
หารือการขอเบิกจ่ายเงินงบกลางเพื่อดําเนินโครงการฯ ซึ่งสํานักงบประมาณให้หน่วยงานที่<br />
รับผิดชอบในแต่ละกิจกรรมไปแจงรายละเอียดค่าใช้จ่าย และนําเสนอสํานักงบประมาณต่อไป<br />
-29 พค.55 ครม. มีมติเห็นชอบให้ อ.ต.ก. เป็นผู้กู้ยืมเงินจาก ธ.ก.ส. ในการดําเนินโครงการฯ<br />
พ.ค. ยางพารา - สถานการณ์การผลิต สศก. - สถานการณ์การผลิตยางพารา ปี 2555 คาดว่าจะมีผลผลิต 3.585 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก<br />
3.312 ล้านตันของปี 2554 ร้อยละ 8.24 เนื่องจากมีพื้นที่เปิดกรีดเพิ่มมากขึ้น<br />
- ในเดือนพฤษภาคม 2555 ผลผลิตคาดว่าจะมีประมาณ 0.207 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 0.102<br />
ล้านตันของเดือนเมษายน 2555 ร้อยละ 102.94 เนื่องจากใบยางเริ่มแก่ทําให้เกษตรกรหันมา<br />
กรีดยางเพิ่มมากขึ้น<br />
- ราคายางแผ่นดิบคุณภาพ 3 ที่เกษตรกรขายได้ ลดลงจากสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากผลผลิต<br />
ออกสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น และราคายังปรับ<strong>ตัว</strong>ลดลงตามทิศทางเดียวกับราคาตลาดล่วงหน้า<br />
TOCOM รวมทั้งราคาน้ํามันที่ปรับ<strong>ตัว</strong>ลดลง ประกอบกับนักลงทุนวิต<strong>กก</strong>ังวลเกี่ยวกับภาวะ<br />
เศรษฐกิจทั้งของจีน สหรัฐอเมริกา และของยุโรปที่ซบเซา ทําให้ระมัดระวังในการซื้อขาย ส่งผลให้<br />
ราคายางปรับ<strong>ตัว</strong>ลดลงดังกล่าว<br />
พ.ค. ไข่ไก่ -สถานการณ์การตลาด สศก. -ราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรขายได้ สูงขึ้น เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อน<br />
อย่างต่อเนื่องทําให้อัตราการให้ไข่ลดลง<br />
3
เดือน ชื่อพืช กิจกรรม<br />
หน่วยงาน<br />
สถานภาพการดําเนินงาน<br />
รับผิดชอบ<br />
วันที่ดําเนินงาน<br />
พ.ค. กุ้งขาว- -สถานการณ์การตลาด สศก. - ราคา<strong>กุ้งขาวแวนนาไม</strong>ที่เกษตรกรขายได้ทุกขนาด ลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา<br />
แวนนาไม เนื่องจากมีปริมาณผลผลิตกุ้งออกสู่ตลาดมากขึ้น ประกอบกับโรงงานแปรรูปชะลอการรับซื้อ<br />
วัตถุดิบเข้าสต๊อก<br />
-มาตรการแก้ไขปัญหา ปม. - เมื่อ 22 พค.55 คชก. ได้มีมติเห็นชอบให้กรมประมงดําเนินโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาราคา<br />
<strong>กุ้งขาวแวนนาไม</strong>ตกต่ํา โดยอนุมัติเงินจ่ายขาดวงเงิน 562.38 ล้านบาท โดยรัฐชดเชยราคา<br />
ส่วนต่างที่ห้องเย็นรับซื้อจากเกษตรกรกับราคาเป้าหมายนําตามชั้นคุณภาพกุ้งผ่าน ธ.ก.ส.<br />
ระยะเวลาดําเนินการ พค.-ตค.55 ในขั้นต้นให้เริ่มดําเนินการ พค.-กค.55 ปริมาณกุ้งเดือนละ<br />
10,000 ตัน โดยกําหนดราคาชดเชยส่วนต่าง ดังนี้<br />
ขนาดกุ้ง (<strong>ตัว</strong>/<strong>กก</strong>.) ห้องเย็นซื้อ (บ./<strong>กก</strong>.)<br />
ราคาเป้าหมายนํา ส่วนต่างที่ชดเชย<br />
ตลาด (บ./<strong>กก</strong>.) (บ./<strong>กก</strong>.)<br />
40 145 165 20<br />
50 135 155 20<br />
60 125 145 20<br />
<strong>70</strong> 115 135 20<br />
80 105 125 20<br />
90 100 110 10<br />
100 100 110 10<br />
4
เดือน ชื่อพืช กิจกรรม<br />
หน่วยงาน<br />
สถานภาพการดําเนินงาน<br />
รับผิดชอบ<br />
วันที่ดําเนินงาน<br />
พ.ค. ผลไม้ภาค -สถานการณ์การผลิต สศก. - เมื่อ 6 มี.ค.55 คณะทํางานจัดทําข้อมูลไม้ผลเศรษฐกิจได้สรุปสถานการณ์การผลิตผลไม้ 4 ชนิด<br />
ตะวันออก (ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง) ของ 3 จังหวัดภาคตะวันออก (จันทบุรี ระยอง และตราด)<br />
(ทุเรียน มังคุด ปี 2555 ว่าจะมีผลผลิตรวม <strong>70</strong>9,908 ตัน ลดลงจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 6.45 เนื่องจากสภาพ<br />
เงาะ อากาศแปรปรวนมีฝนตกหลงฤดูในช่วงปลาย ธ.ค.-ม.ค. และปลาย ก.พ. ทําให้แตกใบอ่อน ดอกร่วง<br />
และลองกอง สลัดลูกทิ้ง โดยผลผลิตผลไม้ทั้ง 4 ชนิดจะกระจุก<strong>ตัว</strong>ออกสู่ตลาดมากที่สุดในช่วงเดือน พ.ค.<br />
ประมาณ 3 แสนตัน หรือร้อยละ 40 ของผลผลิตทั้งหมดของภาคตะวันออก<br />
โดยแยกสถานการณ์ผลไม้รายชนิด ได้ดังนี้<br />
- ทุเรียน คาดว่าจะมีผลผลิต 308,801 ตัน ลดลงจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 10.26 โดยผลผลิตจะ<br />
กระจุก<strong>ตัว</strong>ออกสู่ตลาดมากที่สุดช่วงปลายเดือน เม.ย.-ต้นเดือน พ.ค. ประมาณ 143,000 ตัน<br />
หรือร้อยละ 46 ของผลผลิตทุเรียนทั้งหมดของภาคตะวันออก<br />
- มังคุด คาดว่าจะมีผลผลิต 101,327 ตัน ลดลงจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 8.81 โดยผลผลิตจะ<br />
กระจุก<strong>ตัว</strong>ออกสู่ตลาดมากที่สุดช่วงปลายเดือน มี.ค.-ต้นเดือน พ.ค. ประมาณ 22,000 ตัน หรือ<br />
ร้อยละ 22 ของผลผลิตมังคุดทั้งหมดของภาคตะวันออก<br />
- เงาะ คาดว่าจะมีผลผลิต 243,647 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 2.55 โดยผลผลิตจะ<br />
กระจุก<strong>ตัว</strong>ออกสู่ตลาดมากที่สุดช่วงกลางเดือนมิถุนายน ประมาณ 58,000 ตัน หรือร้อยละ 24<br />
ของผลผลิตเงาะทั้งหมดของภาคตะวันออก<br />
- ลองกอง คาดว่าจะมีผลผลิต 56,133 ตัน ลดลงจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 15.02 โดยผลผลิตจะ<br />
กระจุก<strong>ตัว</strong>ออกสู่ตลาดมากที่สุดช่วงปลายเดือน เม.ย.-ต้นเดือน มิ.ย. ประมาณ 13,000 ตัน หรือ<br />
ร้อยละ 23 ของผลผลิตทุเรียนทั้งหมดของภาคตะวันออก<br />
- ขณะนี้ (29 พ.ค.55) ผลผลิตผลไม้ทั้ง 4 ชนิดออกสู่ตลาดแล้วประมาณ 535,753 ตัน หรือ<br />
ร้อยละ 75.47 เมื่อเทียบกับผลผลิตทั้งหมดของ 3 จังหวัดภาคตะวันออก<br />
5
เดือน ชื่อพืช กิจกรรม<br />
หน่วยงาน<br />
รับผิดชอบ<br />
สถานภาพการดําเนินงาน<br />
วันที่ดําเนินงาน<br />
- ราคาผลไม้ที่เกษตรกรขายได้ แยกรายชนิดได้ ดังนี้<br />
- ทุเรียนพันธุ์หมอนทอง เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากในช่วงนี้ผลผลิตออกสู่<br />
ตลาดน้อยลง ในขณะที่ความต้องการยังคงมีอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะทุเรียนคุณภาพเพื่อการส่งออก<br />
- มังคุด ลดลง เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากช่วงนี้ฝนตกชุกทําให้มังคุดเป็นเนื้อแก้ว<br />
และยางไหลในผล คุณภาพไม่เป็นที่ต้องการของตลาด<br />
- เงาะ ลดลง เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากผลผลิตกระจุก<strong>ตัว</strong>ออกสู่ตลาดเพิ่มมากขึ้น<br />
- ลองกอง ลดลง เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากผลผลิตเริ่มออกสู่ตลาดมากขึ้น<br />
-มาตรการแก้ไขปัญหาด้านราคา กสก. - เมื่อ 23 มี.ค.55 คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ได้อนุมัติ<br />
วงเงิน 137.841 ล้านบาท (เงินทุนหมุนเวียน 400,000 บาท และเงินจ่ายขาด 137.441 ล้าน<br />
บาท) ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดําเนินโครงการป้องกันแก้ไขปัญหา<br />
ผลไม้ภาคตะวันออก ปี 2555 โดยการส่งเสริมการแปรรูป การบริหารจัดการคุณภาพผลผลิต การ<br />
กระจายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิต และการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการบริโภคผลไม้ไทย ซึ่งมี<br />
ระยะเวลาดําเนินการ เมษายน-กรกฎาคม 2555 ระยะเวลาโครงการ เมษายน-ธันวาคม 2556<br />
-ความคืบหน้าในการดําเนินการ<br />
กสก. - ขณะนี้ จังหวัดจันทบุรีดําเนินการตามมาตรการกระจายผลผลิต โดยเปิดจุดรับซื้อเงาะจํานวน<br />
37 จุด ราคาไม่ต่ํากว่ากิโลกรัมละ 11.50 บาท งบประมาณ 62.50 ล้านบาท<br />
6
เดือน ชื่อพืช กิจกรรม<br />
หน่วยงาน<br />
สถานภาพการดําเนินงาน<br />
รับผิดชอบ<br />
วันที่ดําเนินงาน<br />
พ.ค. ลิ้นจี่ -สถานการณ์การผลิต สศก. - เมื่อ 20 ก.พ. 55 คณะทํางานจัดทําข้อมูลไม้ผลเศรษฐกิจได้สรุปสถานการณ์การผลิตลิ้นจี่<br />
ของ 4 จังหวัดภาคเหนือ (เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา และน่าน) ปี 2555 ว่าจะมีผลผลิต 62,018 ตัน<br />
เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 93.51 เนื่องจากสภาพอากาศเหมาะสมต่อการออกดอกและติดผล<br />
โดยผลผลิตจะกระจุก<strong>ตัว</strong>ออกสู่ตลาดมากที่สุดในเดือน พ.ค. ประมาณ 33,872 ตัน หรือร้อยละ<br />
54.62 ของผลผลิตทั้งหมดของ 4 จังหวัดภาคเหนือ<br />
-ขณะนี้ (29 พค.55) ผลผลิตลิ้นจี่ของ 4 จังหวัดภาคเหนือออกสู่ตลาดแล้ว 40,747 ตัน<br />
หรือร้อยละ <strong>70</strong>.82 ของผลผลิตลิ้นจี่ทั้งหมดของ 4 จังหวัดภาคเหนือ<br />
- ราคาลิ้นจี่พันธุ์ฮงฮวยที่เกษตรกรขายได้ เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากอยู่ในช่วงปลาย<br />
ฤดู ทําให้มีผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย<br />
-มาตรการแก้ไขปัญหาด้านราคา กสก. - เมื่อ 23 มี.ค.55 คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) ได้อนุมัติ<br />
วงเงิน 44.8515 ล้านบาท (เงินทุนหมุนเวียน 800,000 บาท และเงินจ่ายขาด 44.0515 ล้าน<br />
บาท) ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดําเนินโครงการป้องกันแก้ไขปัญหา<br />
ลิ้นจี่ปี 2555 โดยการส่งเสริมการแปรรูป การกระจายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิต และการ<br />
ประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการบริโภคผลไม้ไทย ซึ่งมีระยะเวลาดําเนินการ 1 พ.ค.-30 มิ.ย.<br />
2555 ระยะเวลาโครงการ 1 พ.ค.-30 มิ.ย. 2556<br />
-ความคืบหน้าในการดําเนินการ กสก. - ขณะนี้ (28 พค.55) ได้มีการดําเนินการตามมาตรการกระจายผลผลิตออกนอกแหล่งผลิต<br />
ใน 4 จังหวัด (เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา และน่าน) รวม 7,877 ตัน วงเงิน 5 ล้านบาท (เป้าหมาย<br />
15,<strong>70</strong>0 ตัน วงเงิน 39.250 ล้านบาท)<br />
7
เดือน ชื่อพืช กิจกรรม<br />
หน่วยงาน<br />
สถานภาพการดําเนินงาน<br />
รับผิดชอบ<br />
วันที่ดําเนินงาน<br />
พ.ค. ข้าวนาปรัง - สถานการณ์การผลิต สศก. - ข้าวนาปรัง ปี 2555 คาดการณ์ ณ เดือน มี.ค. 55 มีพื้นที่ปลูก 16.915 ล้านไร่<br />
ปี 2555 ผลผลิต 11.261 ล้านตันข้าวเปลือก ผลผลิตต่อไร่ 666 กิโลกรัม เทียบกับ<br />
ปี 2554 พื้นที่ปลูก ผลผลิตและผลผลิตต่อไร่ เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.04 ร้อยละ 11.04<br />
และร้อยละ 5.71 ตามลําดับ<br />
- คาดว่าเกษตรกรจะเก็บเกี่ยวในเดือน พ.ค. 55 ประมาณ 2.435 ล้านตัน<br />
ข้าวเปลือก คิดเป็นร้อยละ 21.62 ของผลผลิตข้าวนาปรังทั้งหมด<br />
ข้าวนาปี - สถานการณ์การผลิต สศก. - ข้าวนาปี ปี 2555/56 คาดการณ์ ณ เดือน มี.ค. 55 มีพื้นที่ปลูก 62.625<br />
ปี 2555/56 ล้านไร่ ผลผลิต 24.710 ล้านตันข้าวเปลือก ผลผลิตต่อไร่ 395 กิโลกรัม เทียบกับ<br />
ปี 2554/55 พื้นที่ปลูก ผลผลิตและผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้น ร้อยละ 1.25<br />
ร้อยละ 21.34 และร้อยละ 20.06 ตามลําดับ<br />
- ราคาข้าวขาว ข้าวหอมมะลิ ข้าวเหนียวที่เกษตรกรขายได้ ราคาปรับ<strong>ตัว</strong>สูงขึ้น<br />
เล็กน้อยจากสัปดาห์ก่อน เนื่องจากมีความต้องการซื้อเพื่อการส่งออกและใช้<br />
ภายในประเทศมากขึ้น ขณะที่ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย<br />
8
9<br />
เดือน ชื่อพืช กิจกรรม<br />
มติ ครม. เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 55 รับทราบกรอบ ชนิด ราคา<br />
ปริมาณ ระยะเวลา วิธีการ หลักเกณฑ์ และเงื่อนไข การรับ<br />
จํานําข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2555 ดังนี้<br />
1) ชนิดและราคารับจํานําข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2555 ให้<br />
กําหนดชนิดและราคารับจํานําข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2555 ณ<br />
ความชื้นไม่เกิน 15 % ดังนี้<br />
1) ข้าวเปลือกเจ้า 100% ตันละ 15,000 บาท<br />
ข้าวเปลือกเจ้า 5% ตันละ 14,800 บาท<br />
ข้าวเปลือกเจ้า 10% ตันละ 14,600 บาท<br />
ข้าวเปลือกเจ้า 15 % ตันละ 14,200 บาท<br />
ข้าวเปลือกเจ้า 25 % ตันละ 13,800 บาท<br />
2) ข้าวเปลือกปทุมธานี 1 (42 กรัม)ตันละ 16,000 บาท<br />
3) ข้าวเปลือกเหนียว 10% เมล็ดยาว ตันละ 16,000 บาท<br />
ข้าวเปลือกเหนียว 10% เมล็ดสั้น ตันละ 15,000 บาท<br />
ทั้งนี้ ราคารับจํานําข้าวเปลือกปทุมธานี 1 ให้ปรับเพิ่ม –<br />
ลดตามจํานวนกรัมในอัตรากรัมละ 200 บาท<br />
2) เป้าหมายการรับจํานํา ไม่จํากัดปริมาณข้าวเปลือกที่รับ<br />
จํานําทั้งโครงการ โดยรับจํานําผลผลิตข้าวเปลือกนาปรัง ปี<br />
2555 ที่ผลิตในประเทศไทยทั้งหมด ซึ่งกระทรวงเกษตรและ<br />
สหกรณ์คาดการณ์ว่าจะมีผลผลิตรวม 11.11 ล้านตัน<br />
หน่วยงาน<br />
รับผิดชอบ<br />
พณ.<br />
สถานภาพการดําเนินงาน<br />
วันที่ดําเนินงาน
10<br />
เดือน ชื่อพืช กิจกรรม<br />
3) ปริมาณจํานําของเกษตรกรแต่ละราย จะคํานวณตามพื้นที่<br />
เพาะปลูก ผลผลิตเฉลี่ยรายจังหวัด และผลผลิตรวมของ<br />
เกษตรกรตามหนังสือรับรองที่กรมการส่งเสริมการเกษตรออก<br />
ให้แก่เกษตรกรเป็นข้อมูลประกอบ กรณีผลผลิตของเกษตรกร<br />
สูงกว่าปริมาณผลผลิตเฉลี่ย ให้ปรับเพิ่มได้อีกไม่เกิน 20%<br />
(ณ ความชื้น 15%) โดยให้เกษตรกรรับรองว่าข้าวเปลือกของ<br />
เกษตรกรเองและแจ้งให้อนุกรรมการติดตามและกํากับดูแลการ<br />
รับจํานําระดับจังหวัดสุ่มตรวจสอบอย่างน้อย 20% ของ<br />
เกษตรกรที่มีผลผลิตเกินกว่าผลผลิตเฉลี่ยที่กําหนด<br />
4) การกําหนดพันธุ์ข้าวที่จะเข้าร่วมโครงการ ให้เป็นไปตาม<br />
มติคณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติด้านการผลิตเมื่อวันที่<br />
23 ธันวาคม 2554 ที่เห็นชอบให้เกษตรกรสามารถนําข้าวทุก<br />
พันธุ์เข้าร่วมโครงการฯ ได้ รวมทั้งพันธุ์ข้าวที่ปลูกและให้<br />
ข้าวสารคุณภาพต่ํา จํานวน 18 พันธุ์ ซึ่งในโครงการรับจํานํา<br />
ข้าวเปลือกนาปี ปี 2554/55 ไม่ได้ให้เข้าร่วมโครงการ<br />
หน่วยงาน<br />
รับผิดชอบ<br />
สถานภาพการดําเนินงาน<br />
วันที่ดําเนินงาน
11<br />
เดือน ชื่อพืช กิจกรรม<br />
5) ระยะเวลาดําเนินการ<br />
(1) ระยะเวลาเพาะปลูกและเก็บเกี่ยว ให้เป็นไป<br />
ตามที่คณะอนุกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติด้านการผลิตมีมติ<br />
เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2554<br />
การปลูก 1 พ.ย. 54 – 30 เม.ย. 55<br />
ภาคใต้ 1 มี.ค.– 15 มิ.ย. 55<br />
การเก็บเกี่ยว 1 ก.พ. – 31 ส.ค. 55<br />
ภาคใต้ 1 มิ.ย. – 15 ตุ.ค.55<br />
การขึ้นทะเบียน 4 ม.ค. – 31 พ.ค. 55<br />
ภาคใต้ 1 เม.ย. – 15 ก.ค.55<br />
การประชาคม 20 ม.ค. – 15 มิ.ย. 55<br />
ภาคใต้ 1 พ.ค. – 31 ก.ค.55<br />
การออกใบรับรอง 20 ม.ค. – 30 มิ.ย. 55<br />
ภาคใต้ 2 พ.ค. – 15 ส.ค55<br />
(2) ระยะเวลาดําเนินการรับจํานํา 1 มีนาคม – 15<br />
กันยายน 2555 ภาคใต้ 1 กรกฎาคม – 31 ตุลาคม 2555<br />
ระยะเวลาไถ่ถอน 4 เดือน นับถัดจากเดือนที่รับจํานํา<br />
ระยะเวลาโครงการ เดือนมีนาคม 2555 – มกราคม 2556<br />
หน่วยงาน<br />
รับผิดชอบ<br />
สถานภาพการดําเนินงาน<br />
วันที่ดําเนินงาน
12<br />
เดือน ชื่อพืช กิจกรรม<br />
6) วิธีการรับจํานํา ให้รับจํานําเฉพาะใบประทวนเท่านั้นโดยให้<br />
อคส. และ อ.ต.ก. รับสมัครโรงสีเข้าร่วมโครงการ เพื่อเป็นจุด<br />
รับฝากข้าวเปลือกและออกใบประทวนให้เกษตรกรที่นํา<br />
ข้าวเปลือกมาจํานําภายใน 3 วันทําการ เพื่อให้เกษตรกรนําใบ<br />
ประทวนไปจํานํากับ ธ.ก.ส. และ ธ.ก.ส. ต้องจ่ายเงินให้<br />
เกษตรกรภายใน 3 วันทําการ โดยให้โรงสีที่รับฝากข้าวเปลือก<br />
ไว้ดําเนินการสีแปรสภาพข้าวเปลือกเป็นข้าวสารส่งมอบเข้า<br />
โกดังกลางตามหลักเกณฑ์และมติของอนุกรรมการกํากับดูแล<br />
การรับจํานําข้าวโดยเคร่งครัด<br />
7) หลักเกณฑ์การรับจํานํา<br />
(1) เกษตรกรผู้มีสิทธิจํานํา จะต้อง (1) มีหนังสือรับรอง<br />
เกษตรกรจา<strong>กก</strong>รมส่งเสริมการเกษตร ซึ่งผ่านการทําประชาคม และ<br />
เกษตรกรลงชื่อรับรอง<strong>ตัว</strong>เอง พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้ที่ได้รับ<br />
มอบหมายลงชื่อรับรองด้วย (2) เป็นข้าวเปลือกที่เกษตรกร<br />
เพาะปลูกเองในฤดูการผลิตข้าวนาปรัง ปี 2555 และ (3) เป็น<br />
ลูกค้าของ ธ.ก.ส. ทั้งนี้ เกษตรกรสามารถเข้าร่วมโครงการรับจํานํา<br />
ข้าวของรัฐบาลได้ไม่เกินปีละ 2 ครั้ง โดยไม่จํากัดว่าเป็นข้าวนาปี<br />
หรือข้าวนาปรัง สําหรับการจํานําข้าวของสถาบันเกษตรกรหรือ<br />
กลุ่มเกษตรกร ให้ อคส. และ อ.ต.ก. ออกใบประทวนให้เกษตรกร<br />
แต่ละรายเพื่อนําไปทําสัญญาและรับเงินจาก ธ.ก.ส. ทั้งนี้ ให้<br />
สถาบันเกษตรกรหรือกลุ่มเกษตรกรคิดค่าขนส่งและค่าบริหาร<br />
จัดการจากเกษตรกรได้ ไม่เกินตันละ 200 บาท<br />
หน่วยงาน<br />
รับผิดชอบ<br />
สถานภาพการดําเนินงาน<br />
วันที่ดําเนินงาน
13<br />
เดือน ชื่อพืช กิจกรรม<br />
(2) พื้นที่รับจํานํา เกษตรกรสามารถรับจํานําข้าวเปลือกได้<br />
ในพื้นที่จังหวัดของตนเองเท่านั้น ยกเว้นพื้นที่ตําบลติดต่อกัน<br />
โดยการจํานําข้ามเขตของเกษตรกรและการจํานําข้ามเขตของ<br />
โรงสี ให้ดําเนินการเช่นเดียวกับโครงการรับจํานําข้าวเปลือกนา<br />
ปี ปีการผลิต 2554/55<br />
8) การเข้าร่วมโครงการของโรงสี การสีแปรสภาพ การเก็บ<br />
รักษา การระบาย และการกํากับดูแล ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์<br />
ที่กําหนด<br />
หน่วยงาน<br />
รับผิดชอบ<br />
สถานภาพการดําเนินงาน<br />
วันที่ดําเนินงาน
หน่วยงาน<br />
สถานภาพการดําเนินงาน<br />
เดือน ชื่อพืช กิจกรรม<br />
รับผิดชอบ<br />
วันที่ดําเนินงาน<br />
พ.ค. มันสําปะหลัง - สถานการณ์การผลิต สศก. - ปี 2555 (พยากรณ์ ณ มีนาคม 2555) มีผลผลิต 24.85 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก<br />
21.91 ล้านตัน ของปี 2554 คิดเป็นร้อยละ 13.42<br />
- ในเดือนพฤษภาคม 2555 คาดว่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาด 0.73 ล้านตัน<br />
(ร้อยละ 2.94 ของผลผลิตทั้งหมด) ลดลงจาก 0.76 ล้านตัน ของช่วงเดียวกันในปีที่<br />
ผ่านมาคิดเป็นร้อยละ 3.95<br />
ทั้งนี้ผลผลิตออกสู่ตลาดแล้ว (ต.ค.54- เม.ย 55) ประมาณ 21.97 ล้านตัน<br />
(ร้อยละ 88.43 ของผลผลิตทั้งหมด)<br />
- ราคามันสําปะหลังที่เกษตรกรขายได้ เพิ่มขึ้น จากสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจาก<br />
เป็นปลายฤดูการเก็บเกี่ยวทําให้ปริมาณหัวมันเข้าสู่ตลาดลดลง ประกอบกับการ<br />
ส่งออกแป้งมันมีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากคู่ค้าต่างประเทศมีสั่งซื้อมากขึ้น ส่วนการ<br />
ส่งออกมันเส้น ยังคงมีปัญหาด้านท่าเรือ เนื่องจากคําสั่งห้ามขนถ่ายสินค้ามันเส้นที่<br />
ท่าเรือเหลียนหยุน ยังไม่ชัดเจน ในขณะที่ราคาแอลกอฮอล์ในตลาดจีนลดลงเล็กน้อย<br />
ทําให้ผู้ซื้อจีนรอดูความชัดเจนและชะลอการนําเข้ามันเส้น<br />
1. หลักเกณฑ์การดําเนินโครงการฯ<br />
พณ.<br />
คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2555<br />
เห็นชอบการดําเนินโครงการรับจํานํามันสําปะหลังสด โดยมี<br />
หลักเกณฑ์ดําเนินงานดังนี้<br />
1.1 ราคารับจํานํา(เชื้อแป้ง 25% ปรับขึ้นลงตาม<br />
เปอร์เซ็นต์เชื้อแป้งในอัตรากิโลกรัมละ 2 สตางค์)<br />
กุมภาพันธ์ 2555 <strong>กก</strong>.ละ 2.75 บาท<br />
มีนาคม 2555 <strong>กก</strong>.ละ 2.80 บาท<br />
14
15<br />
เมษายน 2555<br />
<strong>กก</strong>.ละ 2.85 บาท<br />
เดือน ชื่อพืช กิจกรรม<br />
เมษายน 2555 <strong>กก</strong>.ละ 2.85 บาท<br />
พฤษภาคม 2555 <strong>กก</strong>.ละ 2.90 บาท<br />
1.1 ระยะเวลาดําเนินการ<br />
1 กุมภาพันธ์ 2555 – 31 พฤษภาคม 2555<br />
1.3 เป้าหมาย<br />
1) ปริมาณเป้าหมายรับจํานํารวม 10 ล้านตัน<br />
2) ไม่เกิน 250 ตัน/ครัวเรือน<br />
ทั้งนี้เกษตรกรผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการจะต้องมีหนังสือรับรองเกษตรกรจา<strong>กก</strong>ระทรวงเกษตร<br />
และสหกรณ์ (เกษตรกรผู้ปลูกมันสําปะหลัง ที่ขึ้นทะเบียนฯ มีทั้งหมด 63 จังหวัด) มีผลผลิตมัน<br />
สําปะหลังเป็นของตนเอง และเป็นลูกค้า ธ.ก.ส.<br />
1.4 ค่าใช้จ่ายดําเนินโครงการ (มติ ครม. วันที่ 31 ม.ค. 55)<br />
เงินหมุนเวียนรับจํานํามันสําปะหลัง จํานวน 28,250 ล้านบาท ใช้จากโครงการรับจํานํา<br />
ข้าวเปลือกนาปี ปีการผลิต 2554/55 (วงเงิน 269,160 ล้านบาท) ทั้งนี้หากในระหว่างที่ยัง<br />
ไม่สามารถใช้วงเงินกู้ตามโครงการฯ ดังกล่าวได้ ให้ใช้เงินของ ธ.ก.ส. ดําเนินการไปพลางก่อน<br />
และให้ชดเชยต้นทุนเงินให้ ธ.ก.ส. ในอัตรา FDR+1) ส่วนวงเงินจ่ายขาดจํานวน 3,846.277<br />
ล้านบาท ให้ดําเนินการตามที่ผู้อํานวยการสํานักงบประมาณเสนอเพิ่มเติม โดยให้หน่วยงานที่<br />
เกี่ยวข้อง (อคส. ธ.ก.ส. กรมการค้าภายใน กรมส่งเสริมการเกษตร และกรมการค้าต่างประเทศ)<br />
ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2555 ที่ตั้งไว้สําหรับการดําเนิน<br />
โครงการรับจํานําผลิตผลทางการเกษตร ปีการผลิต 2554/55 และหากไม่เพียงพอให้หน่วยงานที่<br />
เกี่ยวข้องขอตกลงรายละเอียดกับสํานักงบประมาณเพื่อขดใช้จ่ายจากเงินงบกลางเพิ่มเติมแล้วให้<br />
หน่วยงาน<br />
รับผิดชอบ<br />
สถานภาพการดําเนินงาน<br />
วันที่ดําเนินงาน
16<br />
นําเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป<br />
เดือน ชื่อพืช กิจกรรม<br />
ต่อมา มติ ครม. เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2555 ให้ ธ.ก.ส. สามารถบริหารจัดการเงินกู้<br />
ด้วยการกู้เงินจากสถาบันการเงินต่างๆ หรือ Refinance หรือ Roll Over โดยกระทรวงการคลัง<br />
ค้ําประกันเงินต้นพร้อมดอกเบี้ย และให้หน่วยงานที่จําหน่ายสินค้า และรับชําระค่าสินค้าแล้ว ให้<br />
นําส่งเงินแก่ ธ.ก.ส ภายใน 7 วัน รวมทั้งให้กระทรวงพาณิชย์แต่งตั้งอนุกรรมการปิดบัญชี<br />
แทรกแซงตลาดมันสําปะหลัง ปี 2554/55<br />
1.5 อัตราแปรสภาพ ค่าใช้จ่ายในการแปรสภาพ อัตราค่าขนส่งผลิตภัณฑ์มันสําปะหลัง<br />
และค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษา<br />
1) อัตราแปรสภาพ<br />
หัวมันสด : มันเส้น = 2.42 : 1<br />
หัวมันสด : แป้งมัน = 4.40 : 1<br />
2) ค่าใช้จ่ายในการแปรสภาพ<br />
มันเส้น 380 บาท/ตัน<br />
แป้งมัน 3,320 บาท/ตัน<br />
3) อัตราค่าขนส่งผลิตภัณฑ์ถึงโกดังกลาง (ใช้อัตราเดียวกับปี 2551/52)<br />
3.1) ระยะทาง 50 กม.แรก เหมาจ่าย 100 บาท/ตัน<br />
3.2) ระยะทาง 51-100 กม. อัตรา 1.55 บาท/ตัน/กม.<br />
3.3) ระยะทาง 101-200 กม. อัตรา 1.38 บาท/ตัน/กม.<br />
3.4) ระยะทาง 201-300 กม. อัตรา 1.29 บาท/ตัน/กม.<br />
3.5) ระยะทาง 301 กม.ขึ้นไป อัตรา 1.20 บาท/ตัน/กม.<br />
4) อัตราค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษา (ใช้อัตราเดียวกับปี 2551/52 ยกเว้นค่าจ้าง<br />
หน่วยงาน<br />
รับผิดชอบ<br />
สถานภาพการดําเนินงาน<br />
วันที่ดําเนินงาน
17<br />
แรงงานปรับจาก 10 บาท/ตัน เป็น 15 บาท/ตัน)<br />
4.1) ค่าฝากเก็บ ค่าเบี้ยประกันภัย 21.90 บาท/ตัน/เดือน<br />
4.2) ค่าดูแลรักษา (ค่าพลิ<strong>กก</strong>อง 2 เดือน/ครั้ง) 16.00 บาท/ตัน/ครั้ง<br />
เดือน ชื่อพืช กิจกรรม<br />
4.3) ค่าตรวจสอบคุณภาพ 17.10 บาท/ตัน<br />
4.4) ค่าแรงงานขนเข้า-ออก มันเส้น 15.00 บาท/ตัน<br />
แป้งมัน 85 บาท/ตัน<br />
5) การจ่ายผลิตภัณฑ์มันสําปะหลังเป็นค่าแปรสภาพและค่าขนส่ง<br />
ราคาผลิตภัณฑ์มันสําปะหลัง (มันเส้นและแป้งมัน) ที่ใช้เป็นเกณฑ์ในการจ่าย<br />
ผลิตภัณฑ์มันสําปะหลังเป็นค่าแปรสภาพและค่าขนส่ง มาจากราคาทุก 10 วันย้อนหลังเฉลี่ย<br />
ของสมาคมและของกรมการค้าภายใน ดังนี้<br />
(1) เฉลี่ยระหว่างวันที่ 1-10 ของเดือน สําหรับการคํานวณปริมาณผลิตภัณฑ์มัน<br />
สําปะหลังที่จะหักเป็นค่าแปรสภาพและค่าขนส่งในช่วงการรับจํานําในวันที่ 11-20 ของเดือน<br />
(2) เฉลี่ยระหว่างวันที่ 11-20 ของเดือน สําหรับการคํานวณปริมาณผลิตภัณฑ์<br />
มันสําปะหลังที่จะหักเป็นค่าแปรสภาพและค่าขนส่งในช่วงการรับจํานําในวันที่ 21-30 ของ<br />
เดือน<br />
(3) เฉลี่ยระหว่างวันที่ 21-31 ของเดือน สําหรับการคํานวณปริมาณผลิตภัณฑ์มัน<br />
สําปะหลังที่จะหักเป็นค่าแปรสภาพและค่าขนส่งในช่วงการรับจํานําในวันที่ 1-10 ของเดือนถัดไป<br />
1.6 การขยายระยะเวลาขึ้นทะเบียนเกษตรกร (ครม. มีมติเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์<br />
2555)<br />
(1) ให้ขยายระยะเวลาการขึ้นทะเบียนและออกหนังสือรับรองเกษตรกร ออกไป<br />
จนถึงวันที่ 31 มีนาคม 2555<br />
(2) เกษตรกรที่เพาะปลูกในพื้นที่ที่นอกเหนือจากพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์ให้ขึ้นทะเบียน<br />
ได้เฉพาะเกษตรกรที่เคยขึ้นทะเบียนในปี 2552/53 โดยไม่เกินพื้นที่ที่เคยขึ้นทะเบียนปี<br />
หน่วยงาน<br />
รับผิดชอบ<br />
สถานภาพการดําเนินงาน<br />
วันที่ดําเนินงาน
้<br />
18<br />
2552/53 และไม่รับขึ้นทะเบียนรายใหม่ในพื้นที่ดังกล่าว<br />
เดือน ชื่อพืช กิจกรรม<br />
2. มาตรการเสริม<br />
เนื่องจา<strong>กก</strong>ารดําเนินโครงการแทรกแซงตลาดมันสําปะหลัง ปี 2554/55 ประสบปัญหา<br />
ผู้เข้าร่วมโครงการฯ และจุดรับจํานํามีน้อย ทําให้เกษตรกรไม่สามารถนําผลผลิตเข้าร่วมโครงการ<br />
ได้ จึงมีมาตรการเสริมดังนี้<br />
2.1 โครงการให้เงินกู้เพื่อชะลอการขุดหัวมันสําปะหลังปี 2554/55 มีหลักเกณฑ์การ<br />
ดําเนินโครงการดังนี้<br />
(1) จ่ายเงินกู้ให้เกษตรกรตามโครงการให้เงินกู้เพื่อชะลอการขุดหัวมันสําปะหลังปี<br />
2554/55 วงเงินไม่เกิน 9,000 ล้านบาท โดยเกษตรกรแต่ละรายกู้เงินจาก ธนาคารเพื่อ<br />
การเกษตรและสหกรณ์ (ธ.ก.ส.) ไม่เกินร้อยละ 30 ของมูลค่าหัวมันสด ส่วนที่ยังไม่ได้ขุดแต่ไม่<br />
เกินรายละ 50,000 บาท ทั้งนี้ การประเมินมูลค่าผลผลิตหัวมันสดส่วนที่ยังไม่ขุดให้คํานวณโดย<br />
ใช้ราคาจํานําตามที่โครงการรับจํานํามันสําปะหลังกําหนด<br />
(2) ระยะเวลาดําเนินการโครงการ ให้เงินกู้ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2555 – พฤษภาคม 2555<br />
กําหนดระยะเวลาชําระเงินกู้เสร็จสิ้นภายใน 3 เดือนนับถัดจากเดือนที่รับเงินกู้ ทั้งนี้ เมื่อ<br />
เกษตรกรนําผลผลิตมันสําปะหลังเข้าร่วมโครงการรับจํานํามันสําปะหลังปี 2554/55 เกษตรกร<br />
ต้องยินยอมให้ธนาคารหักชําระหนี้เงินกู้ตามโครงการนี<br />
(3) หลักเกณฑ์การให้เงินกู้ให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายมันสําปะหลัง เมื่อ<br />
วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2555 โดยรัฐบาลชดเชยต้นทุนเงินให้แก่ ธ.ก.ส. ในอัตรา FDR+1 (ปัจจุบัน<br />
เท่ากับร้อยละ 3.406 ต่อปี) ระยะเวลาไม่เกิน 4 เดือน<br />
หน่วยงาน<br />
รับผิดชอบ<br />
สถานภาพการดําเนินงาน<br />
วันที่ดําเนินงาน
19<br />
เดือน ชื่อพืช กิจกรรม<br />
(4) อนุมัติค่าใช้จ่ายการดําเนินโครงการให้เงินกู้เพื่อชะลอการขุดหัวมันสําปะหลังปี<br />
2554/55 ให้แก่ ธ.ก.ส. ได้แก่ วงเงินชดเชยต้นทุนเงิน 102.18 ล้านบาท และค่าบริหาร<br />
โครงการของ ธ.ก.ส. อัตราร้อยละ 2.5 ของ ต้นเงินคงเป็นหนี้ระยะเวลาไม่เกิน 4 เดือน คิดเป็น<br />
วงเงินค่าบริหารโครงการ 75 ล้านบาท โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ<br />
พ.ศ. 2555 ที่ตั้งไว้แล้วสําหรับดําเนินโครงการรับจํานําผลิตผลการเกษตรปี 2554/55 และ<br />
หากไม่เพียงพอให้ตกลงรายละเอียดกับสํานักงบประมาณเพื่อขอใช้จ่ายจากงบกลางเพิ่มเติม ทั้งนี้<br />
หากเกิดความเสียหายแก่ ธ.ก.ส. ในการดําเนินโครงการนี้รัฐบาลจะดูแลชดเชยความเสียหายให้<br />
ตามที่เกิดขึ้นจริง<br />
2.2 การให้ค่าใช้จ่ายขนส่งแก่เกษตรกรและผู้ประกอบการลานมัน/โรงแป้ง ที่รับจํานํานอก<br />
พื้นที่<br />
ให้จ่ายค่าขนส่งหัวมันสดให้แก่เกษตรกรที่นําหัวมันสดไปจํานํา ณ จุดรับจํานําที่<br />
ระยะทางตั้งแต่ 50 กม.ขึ้นไปเพิ่มเติม จากที่จ่ายค่าขนส่งหัวมันสดให้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการกรณี<br />
เปิดจุดรับจํานํานอกพื้นที่ ทั้งนี้ ให้หักจากผลิตภัณฑ์มันสําปะหลังตามมูลค่าค่าขนส่งในหลั<strong>กก</strong>าร<br />
เดียวกับการจ่ายค่าแปรสภาพและค่าขนส่งผลิตภัณฑ์มันสําปะหลังเข้าโกดังกลางตามโครงการ<br />
แทรกแซงตลาดมันสําปะหลังปี 2554/55<br />
2.3 โครงการรับซื้อผลิตภัณฑ์มันสําปะหลัง ปี 2554/55<br />
เห็นชอบให้ดําเนินโครงการรับซื้อผลิตภัณฑ์มันสําปะหลัง ปี 2554/2555 ตาม<br />
ข้อเสนอของกระทรวงพาณิชย์ โดยมีเงื่อนไขให้ลานมันเส้น/โรงแป้งเร่งดําเนินการรับจํานําจาก<br />
เกษตรกรโดยเร็ว และอนุมัติวงเงินหมุนเวียนเพื่อรับซื้อผลิตภัณฑ์มันสําปะหลัง 10,000 ล้าน<br />
บาท และวงเงินจ่ายขาด 1,341 ล้านบาท<br />
หน่วยงาน<br />
รับผิดชอบ<br />
สถานภาพการดําเนินงาน<br />
วันที่ดําเนินงาน
20<br />
เดือน ชื่อพืช กิจกรรม<br />
หลักเกณฑ์โครงการรับซื้อผลิตภัณฑ์มันสําปะหลัง ปี 2554/55 มีดังนี้<br />
(คณะกรรมการนโยบายมันสําปะหลัง มีมติเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2555)<br />
(1) ผลิตภัณฑ์มันสําปะหลังที่รับซื้อ<br />
ให้ อคส. รับซื้อผลิตภัณฑ์มันสําปะหลัง ปี 2554/55 ที่เป็นสต็อกส่วน<strong>ตัว</strong>ของ<br />
ผู้ประกอบการลานมัน/โรงแป้ง ที่เข้าร่วมโครงการแทรกแซงตลาดมันสําปะหลัง ปี 2554/55<br />
กับ อคส. โดยมีเงื่อนไขให้ผู้ประกอบการที่ขายผลิตภัณฑ์มันสําปะหลัง ให้ อคส. ต้องรับจํานํา<br />
หัวมันสดจากเกษตรกรในปริมาณที่สอดคล้องกับหัวมันสดที่ใช้ผลิตผลิตภัณฑ์มันสําปะหลังที่ขาย<br />
ให้กับ อคส. โดยคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์มันสําปะหลังเหมือนกับโครงการแทรกแซงตลาดมัน<br />
สําปะหลัง ปี 2554/55<br />
(2) ปริมาณที่รับซื้อ<br />
มันเส้น 1 ล้านตัน แป้งมัน 3 แสนตัน<br />
(3) ระยะเวลาดําเนินการ<br />
เมษายน – พฤษภาคม 2555<br />
(4) พื้นที่รับซื้อผลิตภัณฑ์มันสําปะหลัง<br />
ให้ อคส. กําหนดพื้นที่รับซื้อผลิตภัณฑ์มันสําปะหลังในพื้นที่ที่มีปัญหาและจัดลําดับ<br />
ความสําคัญให้ชัดเจน ทั้งนี้ปริมาณรับซื้อผลิตภัณฑ์มันสําปะหลังควรเหมาะสมกับปริมาณหัวมัน<br />
สําปะหลังสดที่คงเหลือ<br />
หน่วยงาน<br />
รับผิดชอบ<br />
สถานภาพการดําเนินงาน<br />
วันที่ดําเนินงาน
21<br />
เดือน ชื่อพืช กิจกรรม<br />
(5) หลักเกณฑ์การรับซื้อ<br />
(5.1) ราคารับซื้อ ใช้วิธีประมูลซื้อ โดยใช้ราคาของคณะทํางานกําหนดราคาฯ เป็น<br />
ราคากลาง และให้ อคส. กําหนดโกดังกลางปลายทางที่ใช้ส่งมอบ ซึ่งอาจนอกเหนือจากโกดัง<br />
กลางที่กําหนดไว้ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา ชลบุรี กรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อ<br />
ความคล่อง<strong>ตัว</strong>ในการดําเนินงาน กรณีผู้เสนอขาย ส่งมอบผลิตภัณฑ์มันสําปะหลังยังไม่ครบถ้วน<br />
จา<strong>กก</strong>ารประมูลซื้องวดก่อน ไม่มีสิทธิ์เข้าเสนอราคาขายในงวดต่อไป และกรณีผู้เสนอขายไม่<br />
สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์มันสําปะหลังภายในระยะเวลาที่กําหนด ให้ อคส. คิดเบี้ยปรับในอัตรา<br />
ร้อยละ 0.1 ต่อวัน<br />
(5.2) คณะกรรมการประมูลซื้อผลิตภัณฑ์มันสําปะหลัง ประกอบด้วย ผู้แทน<br />
องค์การคลังสินค้า กรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ ธ.ก.ส. และ สํานักงานเศรษฐกิจ<br />
การเกษตร เป็นผู้พิจารณาและต่อรองราคาที่ลานมัน/โรงแป้งมัน เสนอขาย<br />
(5.3) การตรวจรับคุณภาพและปริมาณผลิตภัณฑ์มันสําปะหลัง ให้ อคส. จัดจ้าง<br />
Surveyor ในการตรวจรับคุณภาพและปริมาณผลิตภัณฑ์มันสําปะหลังที่ตกลงซื้อจาก<br />
ผู้ประกอบการ พร้อมทั้งดําเนินการควบคุมภายใน (Internal Audit ) โดยมีกรมการค้าต่างประเทศ<br />
เป็นผู้กํากับดูแลด้วยการสุ่มตรวจสอบอีกทางหนึ่ง<br />
4. การระบายผลิตภัณฑ์มันสําปะหลัง<br />
4.1 โครงการผลิตเอทานอลจากมันสําปะหลัง โดยใช้มันเส้นตามโครงการแทรกแซง<br />
ตลาดมันสําปะหลัง ปี 2554/55 (ครม. มีมติเมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2555)<br />
คณะรัฐมนตรีอนุมัติการระบายมันเส้นจากสต็อคของรัฐบาลที่รับจํานําไว้ตาม<br />
หน่วยงาน<br />
รับผิดชอบ<br />
สถานภาพการดําเนินงาน<br />
วันที่ดําเนินงาน
22<br />
เดือน ชื่อพืช กิจกรรม<br />
โครงการแทรกแซงตลาดมันสําปะหลัง ปี 2554/55 เพื่อนําไปผลิตเอทานอลประมาณ<br />
65,000 ตัน ในราคาตันละ 7,316.50 บาท ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ<br />
หน่วยงาน<br />
รับผิดชอบ<br />
สถานภาพการดําเนินงาน<br />
วันที่ดําเนินงาน<br />
โดยกระทรวงพาณิ ชย์ (พณ.) รายงานว่ า ตามมติ<br />
คณะกรรมการนโยบายมันสําปะหลังครั้งที่ 6/2555 เมื่อวันที่ 20<br />
เมษายน 2555 เห็นชอบราคามันเส้นที่จะจําหน่ายแก่ผู้ผลิตเอทานอลใน<br />
ราคาเท่ากับต้นทุนมันเส้นตามโครงการแทรกแซงตลาดมันสําปะหลัง ปี<br />
2554/55 ตันละ 7,947.90 บาท ปริมาณ 64,000 ตัน โดย<br />
มอบหมายให้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานหารือกับ<br />
โรงงานเอทานอล ให้ได้ข้อยุติเกี่ยวกับราคามันเส้นดังกล่าว ซึ่งกรมพัฒนา<br />
พลังงานทดแทนฯ แจ้งว่า ได้หารือกับโรงงานเอทานอลแล้วมีความเห็น<br />
ร่วมกันว่าให้จําหน่ายมันเส้นให้แก่ผู้ผลิตเอทานอลในราคาตันละ<br />
7,316.50 บาท ตามที่เคยหารือไว้ในปริมาณรวมไม่เกิน 65,000 ตัน<br />
พ.ค. สุกร - สถานการณ์การตลาด สศก. - ราคาสุกรที่เกษตรกรขายได้ ลดลงเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา<br />
เนื่องจากความต้องการบริโภคลดลงจา<strong>กก</strong>ารที่ช่วงนี้ฝนตกบ่อย ทําให้<br />
ผู้บริโภคหันไปบริโภคสัตว์น้ําทดแทน<br />
พ.ค. ไก่เนื้อ - สถานการณ์การตลาด สศก. -ราคาไก่เนื้อที่เกษตรกรขายได้ สูงขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสัปดาห์<br />
ที่ผ่านมา เนื่องจากความต้องการบริโภคมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจา<strong>กก</strong>ารเปิด<br />
ภาคเรียน<br />
ปรับปรุงข้อมูล ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 2555