24.01.2015 Views

กลยุทธ์การลงทุน - ASP

กลยุทธ์การลงทุน - ASP

กลยุทธ์การลงทุน - ASP

SHOW MORE
SHOW LESS
  • No tags were found...

You also want an ePaper? Increase the reach of your titles

YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.

1 st Quarter, 2013<br />

กลยุทธ์ลงทุนไตรมาส 1/2556 1<br />

แนวโน้มตลาดหุ้นไตรมาส 1/2556 2<br />

วิเคราะห์ทางเทคนิค 16<br />

วิเคราะห์ SET50 Index Futures & Options 23<br />

วิเคราะห์ OIL Futures 24<br />

วิเคราะห์ GOLD Futures 25<br />

แนวโน้มอุตสาหกรรมรายกลุ่ม<br />

กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 26<br />

กลุ่ม การแพทย์ 28<br />

กลุ่ม เกษตร - อาหาร 30<br />

กลุ่ม เกษตร - ยางพารา 34<br />

กลุ่ม น้ําตาลทราย 36<br />

กลุ่ม เดินเรือ 38<br />

กลุ่ม ขนส่งทางบก 40<br />

กลุ่ม ขนส่งทางอากาศ 42<br />

กลุ่ม ค้าปลีก – ค้าส่ง 44<br />

กลุ่ม ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 46<br />

กลุ่ม ท่องเที่ยว/โรงแรม 48<br />

กลุ่ม เทคโนโลยีสารสนเทศ 50<br />

กลุ่ม ธนาคารพาณิชย์ 54<br />

กลุ่ม หลักทรัพย์ 58<br />

กลุ่ม บันเทิง 60<br />

กลุ่ม ปิโตรเคมี/โรงกลั่น 62<br />

กลุ่ม ปิโตรเลียม/ถ่านหิน 66<br />

กลุ่ม โรงไฟฟ้า 68<br />

กลุ่ม ยานยนต์ 70<br />

กลุ่ม พัฒนาที่อยู่อาศัย 72<br />

กลุ่ม นิคมอุตสาหกรรม 74<br />

กลุ่ม รับเหมาก่อสร้าง 76<br />

กลุ่ม วัสดุก่อสร้าง 78<br />

กลุ่ม เหล็ก 80<br />

CPALL 82<br />

DTAC 84<br />

HMPRO 86<br />

INTUCH 88<br />

KBANK 90<br />

MCS 92<br />

PS 94<br />

ROJNA 96<br />

TOP 98<br />

กลยุทธ์กองทุน 100<br />

กลยุทธ์ตราสารหนี้ 104<br />

การลงทุนต่างประเทศ 106<br />

ราคาผลิตภัณฑ์ที่สําคัญ 110<br />

เศรษฐกิจมหภาค 114<br />

สถิติหลักทรัพย์ 117<br />

Earnings Guide 134<br />

สถิติกองทุน 138<br />

ดัชนีเศรษฐกิจ 140<br />

หุ้นเด่น<br />

ตลาดหุ้นถูกขับเคลื่อนด้วย Money Supply ที่ไหลเข้า<br />

มาอย่างต่อเนื่อง ทําให้มีโอกาสที่ SET Index จะปรับ<br />

ขึ้นไปได้ โดยมีเป้าหมายที่ PER 14 เท่า หรือ 1,422<br />

จุด หุ้นเด่นได้แก่ DTAC, HMPRO, KBANK, PS และ<br />

TOP<br />

กองทุนเด่น<br />

ปัจจัยพื้นฐานเริ่มฟื้นตัว จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ<br />

ทั่วโลก แนะนําลงทุนกองทุนหุ้นต่างประเทศ ABAPAC,<br />

<strong>ASP</strong> S&P-500<br />

ตราสารหนี้<br />

คาดว่าเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ระยะ<br />

กลางถึงยาวจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วนอัตราผลตอบแทน<br />

พันธบัตรระยะสั้นยังผันผวน แต่ในกรอบแคบๆ ในช่วง<br />

1Q56 แนะนําให้เพิ่ม Duration ของพอร์ตเป็น 5 ปี<br />

การลงทุนต่างประเทศ<br />

ICBC กําหนดเป้าหมายเป็น Global Bank ทําให้มีการ<br />

เติบโตอย่างรวดเร็ว ขณะที่ Hyundai มีประสิทธิภาพ<br />

การทํากําไรสูงสุดในบรรดาค่ายผู้ผลิตรถยนต์


กลยุทธ์ลงทุนไตรมาส 1/2556 ดัชนีตลาด<br />

Target ปี 2556<br />

มูลค่าตลาด<br />

1,378.4 จุด<br />

1,422.0 จุด<br />

11,679 พันล้านบาท<br />

ต้องเลือกหุ้นอย่างเข้มงวด<br />

SET มี upside จํากัด ต้องเลือกหุ้นอย่างระมัดระวัง<br />

Top Picks: DTAC, HMPRO, KBANK, PS และ TOP<br />

หุ้นต่างประเทศ: IRBC, Hyundai<br />

กลยุทธ์การลงทุน<br />

มาตรการผอนคลายการเงินทั่วโลก มีสวนสําคัญที่หนุนให<br />

ป 2556 เปนปทองของตลาดหุนโลก โดยเฉพาะไทย และ<br />

ฟลิปปนส สามารถใหผลตอบแทนในอัตราสูงถึง 33%<br />

เทากัน และเปนระดับสูงสุดของโลก ขณะที่คา PER ของ<br />

ตลาดหุนไทยในป 2555 ทําสถิติสูงสุดที่ 15.5 เทา และ<br />

กําลังจะทดสอบ PER ที่ 14 เทา ป 2556 ซึ่งเปนดัชนี<br />

เปาหมายที่ 1,422 จุด จะเห็นวามี upside เหลือนอย ทํา<br />

ใหผลตอบแทนตลาดหุนไทยในป 2556 นาจะนอยกวาป<br />

2555 อยางมาก<br />

และหากเปรียบเทียบคา PER ตลาดหุนไทยกับตลาด<br />

ภูมิภาคเอเซีย เฉพาะประเทศกําลังพัฒนา พบวาตลาดหุน<br />

ไทยอยูกลุมที่คอนขางแพง แมจะมีคา PER 13.6 เทา<br />

โดยเปนรองเพียง ฟลิปปนส และมาเลเซีย ดังนั้นจึงเชื่อวา<br />

หากยังมีเงินทุนไหลเขาเอเซียตอเนื่องในตนป 2556 ตลาด<br />

ที่นาสนใจนาจะเปนตลาดจีน และเกาหลี เพราะนอกจาก<br />

PER ต่ํากวา 10 เทา แลว ป 2555 ยังเปนตลาด ที่ Under<br />

Perform อยางมาก<br />

กลยุทธการลงทุนยังเนนถือหุน 40% โดยแนะนําใหปรับ<br />

พอรตขายหุนที่เกิน Fair Value ป 2556 และโยกเงินมาเขา<br />

ลงทุนในหุนรายบริษัทที่ยังมี upside ไดแก CPALL,<br />

DTAC, HMPRO, INTUCH, KBANK, MCS, PS, ROJNA<br />

และ TOP<br />

สวนทางเลือกการลงทุนอื่นๆ แนะนํากองหุนตางประเทศ<br />

ABAPAC, <strong>ASP</strong> S&P - 500 หรือลงทุนในหุนตางประเทศ<br />

โดยตรงคือ ICBC และ Hyundai<br />

(X)<br />

18.0<br />

16.4<br />

16.0<br />

14.0<br />

12.0<br />

10.0<br />

8.0<br />

6.0<br />

4.0<br />

2.0<br />

0.0<br />

Philippines<br />

PER ปี 2556 ของตลาดหุ้นภูมิภาคเอเซีย<br />

15.6<br />

Japan<br />

14.3 14.2<br />

Taiwan<br />

Malaysia<br />

ที่มา :ประมาณการโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

13.9 13.6 13.4<br />

Singapore<br />

Thailand(<strong>ASP</strong>)<br />

Indonesia<br />

12.7<br />

Thailand(Cons.)<br />

น้ําหนักการลงทุนรายกลุ่ม<br />

10.9<br />

Hong Kong<br />

9.4 9.2<br />

กลุมอุตสาหกรรม น้ําหนักการลงทุน เปลี่ยนแปลง<br />

การแพทย เทาตลาด ↔<br />

บันเทิง นอยกวาตลาด ↔<br />

เดินเรือ นอยกวาตลาด ↔<br />

ขนสงทางบก เทาตลาด ↔<br />

ขนสงทางอากาศ นอยกวาตลาด ▼<br />

เทคโนโลยีสารสนเทศ มากกวาตลาด ▲<br />

คาปลีก - คาสง เทาตลาด ↔<br />

หลักทรัพย นอยกวาตลาด ↔<br />

กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย เทาตลาด ↔<br />

ยานยนต เทาตลาด ▼<br />

ทองเที่ยว/โรงแรม นอยกวาตลาด ▼<br />

รับเหมากอสราง เทาตลาด ↔<br />

วัสดุกอสราง เทาตลาด ↔<br />

เหล็ก นอยกวาตลาด ↔<br />

นิคมอุตสาหกรรม มากกวาตลาด ↔<br />

พัฒนาที่อยูอาศัย มากกวาตลาด ↔<br />

เกษตร - อาหาร เทาตลาด ↔<br />

อิเล็กทรอนิกส เทาตลาด ↔<br />

ธนาคารพาณิชย มากกวาตลาด ↔<br />

ปโตรเคมี/โรงกลั่น เทาตลาด ↔<br />

ปโตรเลียม/ถานหิน มากกวาตลาด ↔<br />

โรงไฟฟา เทาตลาด ↔<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 1<br />

Korea<br />

China


แนวโน้มตลาดหุ้นไตรมาส 1/2556<br />

แนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วง 6 เดือนข้างหน้า<br />

ปี 2555 เป็นปีทองตลาดหุ้นไทย จึงคาดว่าปี 2556 ผลตอบแทนน่าจะน้อยลง<br />

การตัดลดงบขาดดุลในยุโรป และสหรัฐฯ ยังกดดันเศรษฐกิจและการค้าโลก<br />

งวด 1Q56 อาจมีแรงขาย LTF 2.6 หมื่นล้านบาท มีต้นทุนดัชนีที่ 674 จุด กดดัน<br />

ปี 2555 ตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนสูง<br />

มาก ปี 2556 อาจจะไม่ดีเท่า<br />

ปนี้นับเปนปที่ดีมากสําหรับตลาดหุนโลก สะทอนจาก<br />

ผลตอบแทนที่อยูในเกณฑที่นาพอใจ ทั้งนี้เปนผลจากที่ธนาคาร<br />

กลางโลก ใชนโยบายผอนคลายทางการเงินตอเนื่องนับจาก<br />

ปลายป 2554 จนถึงปจจุบัน และมีสวนสําคัญทําใหปริมาณเงิน<br />

ขยายตัวเพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะในเอเซีย (ดังภาพ)<br />

11,000<br />

10,800<br />

10,600<br />

10,400<br />

10,200<br />

10,000<br />

9,800<br />

9,600<br />

9,400<br />

9,200<br />

9,000<br />

Money Supply ของสหรัฐอเมริกา<br />

US<br />

0.52%<br />

9,690<br />

9,722<br />

9,747<br />

9,863<br />

9,907<br />

9,841<br />

9,919<br />

9,958<br />

10,023<br />

ธ.ค. 54<br />

ม.ค. 55<br />

ก.พ. 55<br />

มี.ค. 55<br />

เม.ย. 55<br />

พ.ค. 55<br />

มิ.ย. 55<br />

ก.ค. 55<br />

ส.ค. 55<br />

ที่มา : Bloomberg, ฝายวิจัย<br />

ก.ย. 55<br />

10,123<br />

ต.ค. 55<br />

10,205<br />

พ.ย. 55<br />

10,307<br />

สหรัฐ<br />

EU<br />

มาตรการผ่อนคลายของธนาคารกลางโลก<br />

ป 2553 ป 2554 ป 2555<br />

QE2 วงเงิน 6 แสนลานเหรียญฯ เริ ่มใช Operation Twist ตออายุ Operation Twist<br />

QE3 (4 หมื่นลานเหรียญฯตอเดือน)<br />

QE4 (4.5 หมื่นลานเหรียญฯตอเดือน)<br />

กอตั ้งกองทุนฟ นฟู EFSF เงินกูดอกเบี้ยต่ํา (LTRO) LTRO ขนาด 5.3 แสนลานยูโร<br />

วงเงิน 4.89 แสนลานยูโร โครงการรับซื้อพันธบัตรไมจํากัดจํานวน<br />

ตั้งกองทุน ESM อยางเปนทางการ<br />

จีน - ลด RRR 1 ครั้ง 0.5% ลดดอกเบี้ย 2 ครั้งรวม 0.56%<br />

ลด RRR 2 ครั้งรวม 1%<br />

ลงทุนสาธารณูปโภค 1 ลานลานหยวน<br />

อินเดีย - - ลดดอกเบี้ย 1 ครั้ง 0.5%<br />

ลด RRR 4 ครั้งรวม 1.75%<br />

12,500<br />

12,300<br />

12,100<br />

11,900<br />

11,700<br />

11,500<br />

11,300<br />

11,100<br />

10,900<br />

10,700<br />

11,556<br />

11,135<br />

Money Supply ของกลุ่มยุโรป<br />

EU<br />

0.06%<br />

11,278<br />

11,602<br />

11,636<br />

11,504<br />

10,830<br />

11,113<br />

10,885<br />

11,165<br />

11,421<br />

11,632<br />

ญี่ปุน ขยายวงเงิน QE 2 ครั้ง ขยายวงเงิน QE 3 ครั้ง ขยายวงเงิน QE 5 ครั ้ง<br />

รวม 25 ลานลานเยน รวม 20 ลานลานเยน รวม 45 ลานลานเยน<br />

(ลาสุด 20 ธ.ค.55 ขยาย 10 ลานลานเยน)<br />

ที่มา : Bloomberg, Bank of Japan, ฝายวิจัย<br />

พ.ย. 54<br />

ธ.ค. 54<br />

ม.ค. 55<br />

ก.พ. 55<br />

ที่มา : Bloomberg, ฝายวิจัย<br />

มี.ค. 55<br />

เม.ย. 55<br />

พ.ค. 55<br />

มิ.ย. 55<br />

ก.ค. 55<br />

ส.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

ต.ค. 55<br />

2<br />

Invest+ 1 st Quarter, 2013


แนวโน้มตลาดหุ้นไตรมาส 1/2556<br />

11,200<br />

10,900<br />

10,600<br />

10,300<br />

10,500<br />

10,600<br />

Money Supply ของญี่ปุ่น<br />

Japan<br />

-0.49%<br />

10,200<br />

10,400<br />

10,300<br />

10,500<br />

10,500<br />

10,500<br />

10,200<br />

335<br />

330<br />

325<br />

320<br />

315<br />

310<br />

315<br />

Money Supply ของอินโดนีเซีย<br />

Indonesia<br />

0.79%<br />

317<br />

316<br />

318<br />

318<br />

316<br />

325<br />

323<br />

324<br />

326<br />

330<br />

10,000<br />

9,900<br />

9,800<br />

9,900<br />

305<br />

300<br />

300<br />

9,700<br />

295<br />

ธ.ค. 54<br />

ม.ค. 55<br />

ก.พ. 55<br />

มี.ค. 55<br />

เม.ย. 55<br />

พ.ค. 55<br />

มิ.ย. 55<br />

ก.ค. 55<br />

ส.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

ต.ค. 55<br />

พ.ย. 55<br />

ที่มา : Bloomberg, ฝายวิจัย<br />

Money Supply ของไทย<br />

Thai<br />

500<br />

490<br />

480<br />

470<br />

460<br />

450<br />

440<br />

430<br />

420<br />

410<br />

400<br />

432<br />

430<br />

443<br />

454<br />

451<br />

0.87%<br />

พ.ย. 54<br />

ธ.ค. 54<br />

ม.ค. 55<br />

ก.พ. 55<br />

มี.ค. 55<br />

เม.ย. 55<br />

พ.ค. 55<br />

มิ.ย. 55<br />

449<br />

435<br />

444<br />

449<br />

456<br />

472<br />

479<br />

ก.ค. 55<br />

ส.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

ต.ค. 55<br />

ที่มา : Bloomberg, ฝายวิจัย<br />

Money Supply ของฟิลิปปินส์<br />

Phillipines<br />

1,140<br />

1,120<br />

1,100<br />

1,080<br />

1,060<br />

1,040<br />

1,020<br />

1,009<br />

1,046<br />

1,025<br />

1,036<br />

1,036<br />

0.89%<br />

1,062<br />

1,032<br />

1,103<br />

1,078<br />

1,070<br />

1,107<br />

1,122<br />

1,000<br />

พ.ย. 54<br />

ธ.ค. 54<br />

ม.ค. 55<br />

ก.พ. 55<br />

มี.ค. 55<br />

เม.ย. 55<br />

พ.ค. 55<br />

มิ.ย. 55<br />

ก.ค. 55<br />

ส.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

ต.ค. 55<br />

ที่มา : Bloomberg, ฝายวิจัย<br />

Money Supply ของจีน<br />

China<br />

17,000<br />

16,500<br />

16,000<br />

15,500<br />

15,000<br />

14,500<br />

14,000<br />

13,500<br />

13,000<br />

12,500<br />

12,000<br />

13,518<br />

13,566<br />

13,776<br />

14,218<br />

14,165<br />

0.97%<br />

ธ.ค. 54<br />

ม.ค. 55<br />

ก.พ. 55<br />

มี.ค. 55<br />

เม.ย. 55<br />

14,130<br />

14,555<br />

พ.ค. 55<br />

มิ.ย. 55<br />

ก.ค. 55<br />

ส.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

ต.ค. 55<br />

พ.ย. 55<br />

พ.ย. 54<br />

ธ.ค. 54<br />

ม.ค. 55<br />

ก.พ. 55<br />

มี.ค. 55<br />

เม.ย. 55<br />

พ.ค. 55<br />

มิ.ย. 55<br />

ก.ค. 55<br />

ส.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

ต.ค. 55<br />

ที่มา : Bloomberg, ฝายวิจัย<br />

Money Supply ของมาเลเซีย<br />

Malaysia<br />

450<br />

440<br />

430<br />

420<br />

410<br />

400<br />

390<br />

380<br />

370<br />

373<br />

384<br />

407<br />

416<br />

410<br />

1.22%<br />

420<br />

400<br />

407<br />

พ.ย. 54<br />

ธ.ค. 54<br />

ม.ค. 55<br />

ก.พ. 55<br />

มี.ค. 55<br />

เม.ย. 55<br />

พ.ค. 55<br />

มิ.ย. 55<br />

ก.ค. 55<br />

ส.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

ต.ค. 55<br />

414<br />

418<br />

429<br />

432<br />

ที่มา : Bloomberg, ฝายวิจัย<br />

Money Supply ของสิงคโปร์<br />

Singapore<br />

4,100<br />

3,900<br />

3,700<br />

3,500<br />

3,300<br />

3,100<br />

3,448<br />

3,420<br />

3,551<br />

3,565<br />

3,609<br />

0.81%<br />

3,633<br />

3,503<br />

3,559<br />

3,669<br />

3,705<br />

3,762<br />

3,798<br />

2,900<br />

พ.ย. 54<br />

ธ.ค. 54<br />

ม.ค. 55<br />

ก.พ. 55<br />

มี.ค. 55<br />

เม.ย. 55<br />

พ.ค. 55<br />

มิ.ย. 55<br />

ก.ค. 55<br />

ส.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

ต.ค. 55<br />

ที่มา : Bloomberg, ฝายวิจัย<br />

Money Supply ของอินเดีย<br />

India<br />

14,444<br />

14,566<br />

15,013<br />

15,013<br />

15,173<br />

1,600<br />

1,550<br />

1,500<br />

1,450<br />

1,400<br />

1,350<br />

1,300<br />

1,356<br />

1,449<br />

1,475<br />

1,433<br />

1,442<br />

0.66%<br />

ธ.ค. 54<br />

ม.ค. 55<br />

ก.พ. 55<br />

มี.ค. 55<br />

เม.ย. 55<br />

พ.ค. 55<br />

มิ.ย. 55<br />

ก.ค. 55<br />

ส.ค. 55<br />

1,387<br />

1,391<br />

1,398<br />

1,407<br />

1,464<br />

1,460<br />

1,467<br />

ก.ย. 55<br />

ต.ค. 55<br />

พ.ย. 55<br />

ที่มา : Bloomberg, ฝายวิจัย<br />

ที่มา : Bloomberg, ฝายวิจัย<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+<br />

3


แนวโน้มตลาดหุ้นไตรมาส 1/2556<br />

ทั้งนี้หากพิจารณาเปนรายประเทศพบวาประเทศไทยนาจะไดรับ<br />

ผลตอบแทนในระดับสูงสุด กลาวคือ หากพิจารณาผลตอบแทน<br />

จากตนปจนปจจุบัน พบวาใหผลตอบแทนสูงสุดของโลก โดย<br />

หากยึดจากดัชนีสูงสุดของปนี้ที่ 1,366 จุด จะใหผลตอบแทน<br />

ราว 33% ใกลเคียงกับฟลิปปนส รองลงมาคือ ตลาดหุนเยอรมัน<br />

(30%) และอินเดีย (27%) โดยตลาดหุนทั้ง 4 แหงยังคงทรงตัว<br />

อยูในระดับสูงทั้งสิ้น สังเกตจากผลตอบแทนตั้งแตตนป 2555<br />

จนปจจุบัน (ytd) ใกลเคียงกับผลตอบแทนสูงสุด<br />

ผลตอบแทนตลาดหุ้นโลกจากยอดสูงสุดในปี 2555 และเฉลี่ย ytd<br />

40.0%<br />

35.0%<br />

30.0%<br />

25.0%<br />

20.0%<br />

15.0%<br />

10.0%<br />

5.0%<br />

0.0%<br />

-5.0%<br />

33.4%<br />

28.9%<br />

33.2%<br />

32.9%<br />

29.8%<br />

29.6%<br />

26.9%<br />

25.3%<br />

22.8%<br />

22.0%<br />

21.3%<br />

ฟ ลิ ปป นส<br />

ไทย<br />

เย อ รมั น<br />

อิ นเดี ย<br />

ฮ องกง<br />

ที่มา : Bloomberg, ฝายวิจัย<br />

ผลตอบแทนตั้งแตตนปจนถึงจุดสูงสุดของป 2555 ผลตอบแทนตั้งแตตนป 2555<br />

17.4%<br />

19.9%<br />

19.3%<br />

17.2%<br />

13.7%<br />

15.5%<br />

ญี่ ปุ น<br />

สิ งคโปร<br />

S&P 500<br />

8.1%<br />

ไต หวัน<br />

14.6%<br />

12.5%<br />

15.8%<br />

15.2%<br />

12.7%<br />

12.7%<br />

อิ นโดนี เซี ย<br />

ฝรั่ งเศส<br />

-1.7%<br />

จีน<br />

9.2%<br />

11.8%<br />

8.3%<br />

9.7%<br />

8.4%<br />

7.5%<br />

6.5%<br />

และแมพิจารณาผลตอบแทนในชวง 2 ปคือจาก 2554 ถึง<br />

ปจจุบัน ตลาดหุนไทยยังใหผลตอบแทนสูงสุดราว 32% เปนรอง<br />

เพียงฟลิปปนสเพียงประเทศเดียวเชนเดิม โดยตลาดหุน<br />

ฟลิปปนสใหผลตอบแทนสูงถึง 33% ทิ้งหางประเทศอื่นที่ให<br />

ผลตอบแทนรองลงมา เชน อินโดนีเซีย 16% และดัชนีดาวโจนส<br />

ของสหรัฐฯ ราว 14% และเปนที่สังเกตวา ตลาดหุนไทยไดทํา<br />

สถิติยอดสูงตอเนื่อง โดยสูงกวายอดเดิมที่ทําไว 924.7 จุด เมื่อ<br />

พ.ย.2550 กอนเกิดวิกฤติซับไพรมในสหรัฐฯป 2551 จนปจจุบัน<br />

หรือใหผลตอบแทนกวา 47% ในชวงเวลาเกือบ 5 ป<br />

40%<br />

30%<br />

20%<br />

10%<br />

0%<br />

-10%<br />

-20%<br />

-30%<br />

-1%<br />

33%<br />

ไทย<br />

ผลตอบแทนตลาดหุ้นโลก ปี 25554 และ 2554<br />

-15%<br />

30%<br />

เย อรมั น<br />

4%<br />

29%<br />

ฟ ลิ ปป นส<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

25%<br />

-25%<br />

อิ นเดี ย<br />

-20%<br />

22%<br />

ฮ องกง<br />

ผลตอบแทนป 2554 ผลตอบแทนตั้งแตตนป 2555<br />

-17%<br />

19%<br />

สิ งคโปร<br />

-17%<br />

17%<br />

ญี่ ปุ น<br />

-17%<br />

15%<br />

ฝรั่ งเศส<br />

0%<br />

14%<br />

S&P 500<br />

3%<br />

13%<br />

อิ นโดนี เซี ย<br />

-11%<br />

9%<br />

เกาห ลี ใต<br />

1%<br />

เกาห ลี ใต<br />

6%<br />

ดาวโจนส<br />

8%<br />

8%<br />

8%<br />

มาเลเซี ย<br />

ดาวโจนส<br />

-21%<br />

ไต หวัน<br />

มาเลเซี ย<br />

-6%<br />

7%<br />

อั งกฤษ<br />

อั งกฤษ<br />

-22%<br />

-2%<br />

จีน<br />

ผลตอบแทนตลาดหุ้นโลก จากจุดต่ําสุดปี 25551 (วิกฤติซับไพร์ม)<br />

350%<br />

300%<br />

250%<br />

200%<br />

150%<br />

100%<br />

50%<br />

0%<br />

295%<br />

อินโดนีเซีย<br />

259%<br />

ไทย<br />

235%<br />

ฟลิปปนส<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

152%<br />

อินเดีย<br />

ผลตอบแทนตลาดหุนโลกตั้งแตจุดต่ําสุดเมื่อป 2551 เทียบกับระดับปจจุบัน<br />

123%<br />

เกาหลีใต<br />

114%<br />

สิงคโปร<br />

111%<br />

ฮองกง<br />

107%<br />

มาเลเซีย<br />

93%<br />

ไตหวัน<br />

93%<br />

S&P 500<br />

90%<br />

78%<br />

เยอรมัน<br />

ดาวโจนส<br />

62%<br />

อังกฤษ<br />

42%<br />

28%<br />

ตรงกันขาม ตลาดที่พบวาใหผลตอบแทนต่ําสุดคือตลาดหุน<br />

เอเซีย นําโดยจีนติดลบมากสุด 6% และหากนับยอนหลัง 2 ป<br />

คือตั้งแตป 25554 พบวาติดลบกวา 19% (ตั้งแตจุดสูงสุดกอน<br />

เกิดวิกฤติหนี้ซับไพรม พบวาตลาดหุนจีนติดลบไปเกือบ 70%)<br />

ตามมาดวยตลาดหุนไตหวัน แมปนี้อาจจะเปลี่ยนแปลงนอย<br />

มาก แตหากพิจารณาปที่ผานมา พบวาใหผลตอบแทนติดลบไม<br />

แพประเทศจีน ทําใหผลตอบแทนในชวงเกือบ 2 ปติดลบ 20%<br />

สวนเกาหลีใต ปนี้ใหผลตอบแทนนอยเพียง 9% และเมื่อ<br />

คํานวณรวมผลตอบแทนในป 2554 ที่ติดลบ 11% ทําให<br />

ผลตอบแทน 2 ป ของเกาหลีติดลบอยู 2%<br />

ผลตอบแทนตลาดหุ้นไทย แยกเป็นรายกลุ่มปี 2554 และ 2555<br />

80%<br />

60%<br />

40%<br />

20%<br />

0%<br />

-20%<br />

-40%<br />

-1%<br />

74%<br />

อสังหาฯ<br />

40%<br />

คาปลีก<br />

71%<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

43%<br />

49%<br />

สื่อสาร<br />

59%<br />

47%<br />

การแพทย<br />

ผลตอบแทนป 2554 ผลตอบแทนตั้งแตตนป 2555<br />

-18%<br />

47%<br />

ยานยนต<br />

และหากพิจารณาผลตอบแทนตลาดหุนไทยรายกลุม พบวา<br />

กลุมอุตสาหกรรมที่ใหผลตอบแทนสูงสุด 3 ลําดับแรก คือ<br />

อสังหาฯ 74%, คาปลีก 71% และสื่อสาร 49% และหาก<br />

พิจารณาในชวง 2 ป (2554-2555) พบวาอุตสาหกรรมที่ให<br />

ผลตอบแทนสูงสุด 3 ลําดับแรกคือ คาปลีก 111% การแพทย<br />

106% และสื่อสาร 92% ดวยผลตอบแทนของตลาดหุนไทยที่สูง<br />

อยางมากดังกลาว ทําใหแนวโนมผลตอบแทนในป 2556 นาจะ<br />

ลดนอยลง ภายใตปจจัยเสี่ยงภายนอกยังมีอยู และที่สําคัญ<br />

ตลาดหุนไทยมี PER อยูในระดับกลาง เมื่อเทียบกับประเทศ<br />

เพื่อนบาน<br />

-4%<br />

41%<br />

ธนาคาร<br />

16%<br />

36%<br />

อาหาร<br />

-1%<br />

33%<br />

SET<br />

-5%<br />

31%<br />

วัสดุกอสราง<br />

ญี่ปุน<br />

-7%<br />

5%<br />

พลังงาน<br />

ฝรั่งเศส<br />

-33%<br />

30%<br />

จีน<br />

4%<br />

ปโตรเคมี<br />

4<br />

Invest+ 1 st Quarter, 2013


แนวโน้มตลาดหุ้นไตรมาส 1/2556<br />

การตัดลดขาดดุลงบประมาณในสหรัฐ<br />

และยุโรป ยังกดดันเศรษฐกิจโลก<br />

ปญหาหนี้สาธารณะที่สูงขึ้น จนเกินผลิตภัณฑมวลรวม<br />

ประชาชาติในประเทศ (GDP) ไดเกิดขึ้นอยางแพรหลาย ไม<br />

เพียงแตเกิดในกลุมสหภาพยุโรป แตเกิดขึ้นในประเทศพัฒนา<br />

แลวอีกหลายแหงทั่วโลก เชน สหรัฐฯ เนื่องจากการใชนโยบาย<br />

ขาดดุลงบประมาณอยางตอเนื่อง จนเปนเหตุใหรัฐบาลเหลานี้<br />

ตองกอหนี้สาธารณะสะสมเพิ่มขึ้น ซึ่งกลายเปนปจจัยกดดัน<br />

ความนาเชื่อถือ รวมถึง ตนทุนการกูยืมฯ การบริหารจัดการลด<br />

ขาดดุลงบประมาณ และการลดภาระหนี้สาธารณะ จึงเปน<br />

ปจจัยกดดันการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกนับจากนี้<br />

%<br />

2<br />

0<br />

-2<br />

-4<br />

-6<br />

-8<br />

-10<br />

-12<br />

-14<br />

-16<br />

เอสโตเนีย<br />

ขาดดุลงบประมาณต่อ GDP ของประเทศพัฒนาแล้ว<br />

ลักเซมเบิรก<br />

ฟนแลนด<br />

เยอรมัน<br />

ออสเตรีย<br />

มอลตา<br />

เบลเยี่ยม<br />

ที่มา : Bloomberg, EUROSTAT<br />

%<br />

160<br />

140<br />

120<br />

100<br />

80<br />

60<br />

40<br />

20<br />

0<br />

กรีซ<br />

อิตาลี<br />

อิตาลี<br />

โปรตุเกส<br />

หนี้สาธารณะต่อ GDP ของประเทศพัฒนาแล้ว<br />

โปรตุเกส<br />

ไอรแลนด<br />

เบลเยี่ยม<br />

ฝรั่งเศส<br />

ที่มา : Bloomberg, EUROSTAT<br />

ไซปรัส<br />

• สหรัฐยังเผชิญกับปัญหา Fiscal Cliff<br />

เยอรมัน<br />

ปจจุบันสหรัฐฯ ไดกอหนี้สาธารณะจนกระทั่งชนเพดานหนี้ที่<br />

16.4 ลานลานเหรียญฯ หรือคิดเปน 107% ของ GDP ซึ่งทําให<br />

ประธานาธิบดี บารัค โอบามา จําเปนจะตองดําเนินการตัดลด<br />

งบประมาณขาดดุลจากปจจุบันที่อยูในระดับ 8% ของ GDP ลง<br />

แตในลักษณะคอยเปนคอยไป เพื่อลดผลกระทบตอภาวะการ<br />

ชะลอตัวเศรษฐกิจ มิใหรุนแรงเกินไปเหมือนเหตุการณที่เกิดขึ้น<br />

เนเธอรแลนด<br />

มอลตา<br />

สโลวาเกีย<br />

สเปน<br />

ฝรั่งเศส<br />

ออสเตรีย<br />

ไซปรัส<br />

เนเธอรแลนด<br />

สโลเวเนีย<br />

ฟนแลนด<br />

สหรัฐ<br />

สโลวาเกีย<br />

สเปน<br />

สโลเวเนีย<br />

กรีซ<br />

ลักเซมเบิรก<br />

ไอรแลนด<br />

เอสโตเนีย<br />

ในสหภาพยุโรป เพราะนับตั้งแตเกิดปญหาวิกฤติหนี้สาธารณะ<br />

ในป 2551 กลุมสหภาพยุโรป ไดออกมาตรการใหประเทศ<br />

สมาชิก ตองตัดลดขาดดุลงบประมาณใหเหลือ 3% ของ GDP<br />

ในป 2557 แตจนแลวจนรอด ก็ยังมีหลายประเทศที่ยังไม<br />

สามารถปฏิบัติได เชน กรีซ อิตาลี สเปน โปรตุเกส ฝรั่งเศส เปน<br />

ตน โดยสิ่งที่สหรัฐฯ กําลังดําเนินการอยูในขณะนี้ก็คือ พยายาม<br />

ตัดลดขาดดุลงบประมาณ ผานการเพิ่มฐานการเก็บภาษีรายได<br />

และการลดรายจาย ซึ่งเปนประเด็นที่ยังมีการถกเถียงกัน<br />

ระหวางพรรครีพลับรีกัน ในฐานะที่เปนรัฐบาล มีความพอใจที่<br />

จะเสนอแนวทางการเพิ่มรายไดของรัฐดวยการขึ้นภาษีคนรวย<br />

2% ไปอยูในอัตราเดิม (กอนที่ประธานาธิบดีจอรจ บุช จะ<br />

ประกาศลดในระหวางที่บริหารประเทศ ซึ่งสิ้นสุดป 2551 แต<br />

มาตรการลดภาษีไดถูกยืดออกไปอีก 4 ป สิ้นสุด 2555 เมื่อนาย<br />

บารัคฯ เขามาบริหารประเทศ) ขณะที่มาตรการตัดลด<br />

งบประมาณรายจาย ดูเหมือนโอบามา จะใหน้ําหนักตอการตัด<br />

ลดงบประมาณนอย เพราะกังวลตอผลกระทบตอเศรษฐกิจ<br />

ฐานภาษีเงินได้ของผู้ที่มีรายได้ปานกลางถึงสูง ในสหรัฐ<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

ลานลานเหรียญ<br />

18<br />

16<br />

14<br />

12<br />

10<br />

8<br />

6<br />

4<br />

2<br />

0<br />

6 เม.ย. 36<br />

10 ส.ค. 36<br />

คนโสด<br />

ป 2543 ป 2546<br />

ระดับรายได อัตราภาษี ระดับรายได อัตราภาษี<br />

ไมเกิน $6,000 10% ไมเกิน $7,000 10%<br />

$6,000 - $27,950 15% $7,000 - $28,400 15%<br />

$27,950 - $67,700 27% $28,400 - $68,800 25%<br />

$67,700 - $141,250 30% $68,800 - $143,500 28%<br />

$141,250 - $307,050 35% $143,500 - $311,950 33%<br />

เกินกวา $307,050 38.60% เกินกวา $311,950 35%<br />

คูสมรส<br />

ป 2543 ป 2546<br />

ระดับรายได อัตราภาษี ระดับรายได อัตราภาษี<br />

ไมเกิน $12,000 10% ไมเกิน $14,000 10%<br />

$12,000 - $46,700 15% $14,000 - $56,800 15%<br />

$46,700 - $112,850 27% $56,800 - $114,650 25%<br />

$112,850 - $171,950 30% $114,650 - $174,700 28%<br />

$171,950 - $307,050 35% $174,700 - $311,950 33%<br />

เกินกวา $307,050 38.60% เกินกวา $311,950 35%<br />

บิล คลินตัน<br />

(2536 - 2543)<br />

ขยายหนี้ 6 ครั้ง<br />

รวม 1.805 ลานลานเหรียญ<br />

8 ก.พ. 39<br />

การขยายเพดานหนี้ของสหรัฐในอดีต<br />

12 มี.ค. 39<br />

29 มี.ค. 39<br />

5 ส.ค. 40<br />

28 มิ.ย. 45<br />

จอรจ ดับเบิลยู บุช<br />

(2544 - 2551)<br />

ขยายหนี้ 7 ครั้ง<br />

รวม 5.365 ลานลานเหรียญ<br />

ที่มา : Congressional Research Service, ฝายวิจัย<br />

27 พ.ค. 46<br />

19 พ.ย. 47<br />

20 มี.ค. 49<br />

29 ก.ย. 50<br />

30 ก.ค. 51<br />

3 ต.ค. 51<br />

บารัค โอบามา (2552 - )<br />

ขยายหนี้ 4 ครั้ง<br />

รวม 5.079 ลานลานเหรียญ<br />

17 ก.พ. 52<br />

28 ธ.ค. 52<br />

12 ก.พ. 53<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+<br />

2 ส.ค. 54<br />

5


แนวโน้มตลาดหุ้นไตรมาส 1/2556<br />

เปนที่สังเกตวา ตราบที่สหรัฐฯ ยังขาดดุลงบประมาณอยู นั่น<br />

หมายความวาสหรัฐฯ ยังจําเปนที่จะตองกอหนี้สาธารณะ<br />

เพิ่มเติม และจําเปนตองไดรับการขออนุมัติจากสภาครองเกรส<br />

แตเชื่อวาในที่สุดนาจะผานไปได เพราะหากพิจารณาสถิติใน<br />

อดีต พบวาประธานาธิบดีสหรัฐฯ เกือบทุกสมัย ลวนมีการขอ<br />

เพิ่มเพดานหนี้สาธารณะมาตลอด เชน นายบิล คลินตัน ดํารง<br />

ตําแหนง 2 สมัย ไดขยายเพดานหนี้สาธารณะ 6 ครั้ง จาก 4.15<br />

ลานลานเหรียญฯ เปน 5.95 ลานลานเหรียญฯ นายจอรจ<br />

ดับเบิ้ลยู บุช บริหารงาน 8 ป ขยายเพดานหนี้ 7 ครั้ง จาก 6.44<br />

ลานลานเหรียญฯ เปน 11.3 ลานลานเหรียญฯ และ นายบารัค<br />

โอบามา สมัยแรก 4 ป (2552-55) ขยายเพดานหนี้ไปแลว 4<br />

ครั้ง จาก 11.3 ลานลานเหรียญฯ เปน 16.4 ลานลานเหรียญฯ<br />

แตอยางไรก็ตามพบวาแตละครั้งตองใชเวลาในการอนุมัติจาก<br />

สภาครองเกรส นานราว 7-8 เดือน (ดังภาพขางตน)<br />

■ แม้กรีซผ่อนคลาย แต่หนี้ระยะสั้นในกลุ่ม<br />

PIIGS ยังมีโอกาสกลับมากดดันอีก<br />

สถานการณการแกไขปญหาหนี้สาธารณะในกรีซ ถือวามี<br />

แนวโนมผอนคลาย และเปนไปในทางที่ดีขึ้น ภายหลังจากที่<br />

ประชุมของ TROIKA พรอมจะอนุมัติเงินชวยเหลือแกกรีซงวด<br />

ใหม มูลคา 4.37 หมื่นลานยูโร (ยอดเงินที่เหลือจากวงเงิน<br />

ชวยเหลือรอบแรก 1.1 แสนลานยูโร) เนื่องจากพอใจตอการที่<br />

กรีซไดปฏิบัติตามเงื่อนไขบาง เชน สามารถลดหนี้สาธารณะ<br />

บางสวน ผานการซื้อคืนหนี้คืน เปนตน โดยจะไดรับเงิน<br />

ชวยเหลืองวดแรก 3.44 หมื่นลานยูโร และที่เหลือจะทยอยจาย<br />

เปน 3 งวดยอยๆ ภายใน 1Q56 แตมีเงื่อนไขวา กรีซตองทําการ<br />

ปฏิรูปนโยบายภาษีเพิ่มเติม<br />

หนี้สาธารณะ และเงินช่วยเหลือที่ได้รับอนุมัติ ของกลุ่ม PIIGS<br />

พันลานยูโร<br />

2,400<br />

1,900<br />

หนี้สาธารณะ วงเงินชวยเหลือจาก IMFและ EU สัดสวนหนี้สาธารณะตอ GDP(แกนขวา)<br />

161%<br />

1,905<br />

180%<br />

160%<br />

140%<br />

หนี้สาธารณะที่ครบกําหนดใน 10 ปีข้างหน้า<br />

พันลานยูโร อิตาลี สเปน กรีซ โปรตุเกส ไอรแลนด<br />

600<br />

500<br />

400<br />

300<br />

200<br />

100<br />

0<br />

2555 2556 2557 2558 2559 2560 2561 2562 2563 2564 2565<br />

ที่มา : Bloomberg, ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

แตอยางไรก็ตาม เชื่อวาปญหาหนี้สาธารณะในยุโรปยังมีอยู<br />

และอาจจะกลับมากดดันตลาดในระยะสั้น เพราะหากพิจารณา<br />

หนี้สินสาธารณะของกลุม PIIGS มีทั้งสิ้น 3.3 ลานลานเหรียญฯ<br />

พบวาในจํานวนนี้เปนของอิตาลี กับสเปน รวมกันราว 80%<br />

ขณะที่หนี้ระยะสั้นที่กําลังจะครบกําหนดในป 2556 จะเปนของ<br />

2 ประเทศนี้ในสัดสวนที่สูง รายละเอียดดังปรากฏในภาพขางตน<br />

■<br />

เศรษฐกิจและการค้าโลก มีแนวโน้มชะลอตัว<br />

ใน 3-6 เดือนแรกของปี 2556<br />

ผลกระทบจากวิกฤติหนี้สาธารณะ กดดันเศรษฐกิจโลกทั่วโลก<br />

สะทอนจากปริมาณการคาโลกในงวด 10 เดือนแรกของป 2555<br />

ชะลอตัว จากระยะเดียวกันของปกอน ชัดเจน เรียงลําดับจากที่<br />

ชะลอตัวมากสุด ในกลุมประเทศพัฒนาแลว ไดแก ไตหวัน<br />

เกาหลีใต อังกฤษ และญี่ปุน สวนประเทศกําลังพัฒนา พบวา<br />

อินเดียประสบภาวะตกต่ํามากสุด รองลงมาคือ อินโดนีเซีย<br />

มาเลเซีย และไทย เปนตน (ดังภาพถัดไป) ซึ่งถือเปนปจจัย<br />

สําคัญที่กดดันให GDP Growth ป 2555 ของประเทศในเอเซีย<br />

ชะลอตัวลง และมีแนวโนมต่ํากวาเปาหมายที่ IMF คาดการณไว<br />

% การเปลี่ยนปริมาณการค้าโลก งวด 10M55 (yoy)<br />

1,400<br />

900<br />

102%<br />

107%<br />

เงินอัดฉีดรอบแรก<br />

และ รอบ 2<br />

(110+130<br />

พันลานยูโร)<br />

วงเงินที่อนุมัติ<br />

โดยที่ประชุม EU<br />

Summit<br />

731<br />

68%<br />

120%<br />

120%<br />

100%<br />

80%<br />

60%<br />

6%<br />

4%<br />

2%<br />

0%<br />

400<br />

175 167<br />

78 85<br />

351<br />

240<br />

100<br />

40%<br />

20%<br />

-2%<br />

-4%<br />

(100)<br />

PORTUGA L IRELA ND GREECE SPAIN ITA LY<br />

ที่มา : OECD, Bloomberg, ฝายวิจัย<br />

0%<br />

-6%<br />

เขตยูโร<br />

สหรัฐฯ<br />

สิงคโปร<br />

ฮองกง<br />

ญี่ปุน<br />

อังกฤษ<br />

เกาหลีใต<br />

ไตหวัน<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

6<br />

Invest+ 1 st Quarter, 2013


แนวโน้มตลาดหุ้นไตรมาส 1/2556<br />

% การเปลี่ยนแปลงงปริมาณการค้าโลก งวด 10M55 (yoy)<br />

ยอดขายรถยนต์ของเยอรมัน<br />

16%<br />

14%<br />

12%<br />

10%<br />

8%<br />

6%<br />

4%<br />

2%<br />

0%<br />

เวียดนาม<br />

จีน<br />

ไทย<br />

ฟลิปปนส<br />

มาเลเซีย<br />

อินโดนีเซีย<br />

อินเดีย<br />

450000<br />

400000<br />

350000<br />

300000<br />

250000<br />

200000<br />

150000<br />

100000<br />

50000<br />

0<br />

ม.ค. 51<br />

พ.ค. 51<br />

ก.ย. 51<br />

ม.ค. 52<br />

พ.ค. 52<br />

Auto Sales<br />

ก.ย. 52<br />

ม.ค. 53<br />

พ.ค. 53<br />

ก.ย. 53<br />

% YoY<br />

ม.ค. 54<br />

พ.ค. 54<br />

ก.ย. 54<br />

ม.ค. 55<br />

พ.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

50%<br />

40%<br />

30%<br />

20%<br />

10%<br />

0%<br />

-10%<br />

-20%<br />

-30%<br />

-40%<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

แนวโนมการชะลอตัวของเศรษฐกิจในกลุมสหภาพยุโรป ยังถือ<br />

เปนปจจัยกดดันเศรษฐกิจในระยะถัดไป โดยหากพิจารณา<br />

GDP Growth ในงวด 9M55 พบวาประเทศสมาชิกในสหภาพ<br />

ยุโรป ประสบภาวะหดตัวแทบทั้งสิ้น ยกเวนเพียงประเทศที่มี<br />

ขนาดเศรษฐกิจใหญ 2 อันดับแรกของยุโรป ไดแก เยอรมันและ<br />

ฝรั่งเศส เปนตน แตอยางไรก็ตาม ลาสุดพบวาดัชนีชี้นํา<br />

เศรษฐกิจที่สําคัญ ๆ ทั้งภาคครัวเรือนและอุตสาหกรรม มี<br />

สัญญาณซบเซา (รายละเอียดดังภาพถัดไป)<br />

อัตราการว่างงานของเยอรมัน<br />

%<br />

Unemployment Rate<br />

9<br />

8.5<br />

8<br />

7.5<br />

7<br />

6.5<br />

6<br />

5.5<br />

ม.ค. 51<br />

พ.ค. 51<br />

ก.ย. 51<br />

ม.ค. 52<br />

พ.ค. 52<br />

ก.ย. 52<br />

ม.ค. 53<br />

พ.ค. 53<br />

ก.ย. 53<br />

ม.ค. 54<br />

พ.ค. 54<br />

ก.ย. 54<br />

ม.ค. 55<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

พ.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

ยอดค้าปลีกของเยอรมัน<br />

Retail Sale<br />

% YoY<br />

ยอดค้าปลีกของฝรั่งเศส<br />

102<br />

101<br />

100<br />

99<br />

98<br />

97<br />

96<br />

95<br />

94<br />

93<br />

92<br />

91<br />

ม.ค. 51<br />

พ.ค. 51<br />

ก.ย. 51<br />

ม.ค. 52<br />

พ.ค. 52<br />

ก.ย. 52<br />

ม.ค. 53<br />

พ.ค. 53<br />

ก.ย. 53<br />

ม.ค. 54<br />

พ.ค. 54<br />

ก.ย. 54<br />

ม.ค. 55<br />

พ.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

3%<br />

2%<br />

1%<br />

0%<br />

-1%<br />

-2%<br />

-3%<br />

-4%<br />

-5%<br />

100<br />

98<br />

96<br />

94<br />

92<br />

90<br />

88<br />

86<br />

84<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

%<br />

ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมของเยอรมัน<br />

Industrial Production (YoY)<br />

20<br />

15<br />

10<br />

5<br />

0<br />

-5<br />

-10<br />

-15<br />

-20<br />

-25<br />

ม.ค. 51<br />

พ.ค. 51<br />

ก.ย. 51<br />

ม.ค. 52<br />

ม.ค. 51<br />

พ.ค. 52<br />

ก.ย. 52<br />

ม.ค. 53<br />

พ.ค. 53<br />

ก.ย. 53<br />

ม.ค. 54<br />

พ.ค. 54<br />

ก.ย. 54<br />

ม.ค. 55<br />

พ.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

พ.ค. 51<br />

ก.ย. 51<br />

ม.ค. 52<br />

พ.ค. 52<br />

Retail Sale<br />

ก.ย. 52<br />

ม.ค. 53<br />

พ.ค. 53<br />

ก.ย. 53<br />

% YoY<br />

ม.ค. 54<br />

พ.ค. 54<br />

ก.ย. 54<br />

ม.ค. 55<br />

พ.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

6%<br />

4%<br />

2%<br />

0%<br />

-2%<br />

-4%<br />

-6%<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

%<br />

ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมของฝรั่งเศส<br />

Industrial Production (YoY)<br />

15<br />

10<br />

5<br />

0<br />

-5<br />

-10<br />

-15<br />

-20<br />

-25<br />

ม.ค. 51<br />

พ.ค. 51<br />

ก.ย. 51<br />

ม.ค. 52<br />

พ.ค. 52<br />

ก.ย. 52<br />

ม.ค. 53<br />

พ.ค. 53<br />

ก.ย. 53<br />

ม.ค. 54<br />

พ.ค. 54<br />

ก.ย. 54<br />

ม.ค. 55<br />

พ.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+<br />

7


แนวโน้มตลาดหุ้นไตรมาส 1/2556<br />

ยอดขายรถยนต์ของฝรั่งเศส<br />

Auto Sales<br />

% YoY<br />

จํานวนการสร้างบ้านใหม่ของสหรัฐ<br />

Housing Start Index<br />

% YoY<br />

300<br />

250<br />

200<br />

150<br />

100<br />

50<br />

0<br />

60%<br />

50%<br />

40%<br />

30%<br />

20%<br />

10%<br />

0%<br />

-10%<br />

-20%<br />

-30%<br />

1200<br />

1000<br />

800<br />

600<br />

400<br />

200<br />

0<br />

60%<br />

40%<br />

20%<br />

0%<br />

-20%<br />

-40%<br />

-60%<br />

ม.ค. 51<br />

พ.ค. 51<br />

ก.ย. 51<br />

ม.ค. 52<br />

พ.ค. 52<br />

ก.ย. 52<br />

ม.ค. 53<br />

พ.ค. 53<br />

ก.ย. 53<br />

ม.ค. 54<br />

พ.ค. 54<br />

ก.ย. 54<br />

ม.ค. 55<br />

พ.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

%<br />

อัตราการว่างงานของฝรั่งเศส<br />

Unemployment Rate<br />

12<br />

11<br />

10<br />

9<br />

8<br />

7<br />

6<br />

5<br />

4<br />

ม.ค. 51<br />

พ.ค. 51<br />

ก.ย. 51<br />

ม.ค. 52<br />

พ.ค. 52<br />

ก.ย. 52<br />

ม.ค. 53<br />

พ.ค. 53<br />

ก.ย. 53<br />

ม.ค. 54<br />

พ.ค. 54<br />

ก.ย. 54<br />

ม.ค. 55<br />

พ.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

ม.ค. 51<br />

พ.ค. 51<br />

ก.ย. 51<br />

ม.ค. 52<br />

พ.ค. 52<br />

ก.ย. 52<br />

ม.ค. 53<br />

พ.ค. 53<br />

ก.ย. 53<br />

ม.ค. 54<br />

พ.ค. 54<br />

ก.ย. 54<br />

ม.ค. 55<br />

พ.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

ยอดขายบ้านของสหรัฐ<br />

New Home Sale<br />

% YoY<br />

700<br />

600<br />

500<br />

400<br />

300<br />

200<br />

100<br />

0<br />

40%<br />

30%<br />

20%<br />

10%<br />

0%<br />

-10%<br />

-20%<br />

-30%<br />

-40%<br />

-50%<br />

-60%<br />

ม.ค. 51<br />

พ.ค. 51<br />

ก.ย. 51<br />

ม.ค. 52<br />

พ.ค. 52<br />

ก.ย. 52<br />

ม.ค. 53<br />

พ.ค. 53<br />

ก.ย. 53<br />

ม.ค. 54<br />

พ.ค. 54<br />

ก.ย. 54<br />

ม.ค. 55<br />

พ.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

ขณะที่ทางดานสหรัฐ แมเริ่มเห็นสัญญาณการฟนตัวของ<br />

เศรษฐกิจอยางตอเนื่องตลอดป 2555 แตในลักษณะคอยเปน<br />

คอยไป โดยเฉพาะการบริโภคภาคครัวเรือนที่ฟนตัวอยางมั่นคง<br />

สะทอนจากยอดคาปลีก และตลาดบาน (ทั้งบานใหม และบาน<br />

เกา) แมตัวเลขอัตราการวางจะยังอยูในระดับ 6.7% ก็ตาม แตก็<br />

ไดลดลงตอเนื่องมาหลายเดือน อยางไรก็ตามปญหา Fiscal cliff<br />

ดังที่กลาวขางตน อาจเปนปจจัยกดดันเศรษฐกิจสหรัฐใหสะดุด<br />

ไดในป 2556<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

ยอดผู้ขอรับสวัสดิการครั้งแรกและอัตราการว่างงานสหรัฐ<br />

Initial Jobless Claims Unemployment Rate %<br />

750<br />

14<br />

12<br />

600<br />

10<br />

450<br />

8<br />

300<br />

6<br />

4<br />

150<br />

2<br />

0<br />

0<br />

ม.ค. 51<br />

พ.ค. 51<br />

ก.ย. 51<br />

ม.ค. 52<br />

พ.ค. 52<br />

ก.ย. 52<br />

ม.ค. 53<br />

พ.ค. 53<br />

ก.ย. 53<br />

ม.ค. 54<br />

พ.ค. 54<br />

ก.ย. 54<br />

ม.ค. 55<br />

พ.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

ยอดค้าปลีกของสหรัฐ<br />

GDP Growth งวด 9M55 ในประเทศพัฒนาแล้ว<br />

Retail Sale<br />

% YoY<br />

450<br />

400<br />

350<br />

300<br />

250<br />

200<br />

150<br />

100<br />

50<br />

0<br />

15%<br />

10%<br />

5%<br />

0%<br />

-5%<br />

-10%<br />

-15%<br />

3%<br />

2%<br />

1%<br />

0%<br />

-1%<br />

-2%<br />

ม.ค. 51<br />

พ.ค. 51<br />

ก.ย. 51<br />

ม.ค. 52<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

พ.ค. 52<br />

ก.ย. 52<br />

ม.ค. 53<br />

พ.ค. 53<br />

ก.ย. 53<br />

ม.ค. 54<br />

พ.ค. 54<br />

ก.ย. 54<br />

ม.ค. 55<br />

พ.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

-3%<br />

ญี่ปุน<br />

สหรัฐฯ<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

เยอรมนี<br />

ฝรั่งเศส<br />

อังกฤษ<br />

เขตยูโร<br />

สเปน<br />

อิตาลี<br />

8<br />

Invest+ 1 st Quarter, 2013


แนวโน้มตลาดหุ้นไตรมาส 1/2556<br />

9%<br />

8%<br />

7%<br />

6%<br />

5%<br />

4%<br />

3%<br />

2%<br />

1%<br />

0%<br />

GDP Growth งวด 9M55 ในประเทศกําลังพัฒนา<br />

จีน<br />

ฟลิปปนส<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

อินโดนีเซีย<br />

มาเลเซีย<br />

อินเดีย<br />

รัสเซีย<br />

ขณะที่ในแถบเอเซีย ซึ่งเศรษฐกิจลวนพึ่งพาการสงออก และ<br />

ตลาดหลัก ยังกระจุกตัวในกลุมในประเทศพัฒนาแลวที่มีปญหา<br />

ดังกลาวขางตน จึงไดรับผลกระทบทั้งทางตรง และทางออม<br />

อยางหลีกเลี่ยงไมได (ประเทศคูคา ตางก็ทําการคากับประเทศ<br />

สหภาพยุโรปและสหรัฐดวย) โดยเฉพาะจีน ซึ่งเปนเศรษฐกิจ<br />

หลักในเอเซีย การฟนตัวของจีน จึงเปนไปอยางลาชา แม<br />

ธนาคารกลางจีนจะใชนโยบายการเงินผอนคลาย และออก<br />

มาตรการกระตุนเศรษฐกิจ ผานการลงทุนในสาธารณูปโภค<br />

พื้นฐานดังกลาวขางตนแลวก็ตาม แตอยางไรก็ตาม การ<br />

เปลี่ยนแปลงทางการเมือง ดวยการเปลี่ยนผูนําในเดือน มี.ค.<br />

2556 (ทั้งประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรี) นาจะทําใหมีการ<br />

ออกมาตรการกระตุนเศรษฐกิจรอบใหมเพิ่มเติม ซึ่งนาจะหนุน<br />

ใหเศรษฐกิจสามารถฟนตัวไดมั่นคงขึ้น แมปญหาในซีกโลก<br />

ตะวันตกจะยังมีอยูก็ตาม<br />

ยอดค้าปลีกของจีน<br />

Retail Sale<br />

ออสเตรเลีย<br />

ไทย<br />

% YoY<br />

เกาหลีใต<br />

สิงคโปร<br />

บราซิล<br />

ไตหวัน<br />

200%<br />

150%<br />

100%<br />

50%<br />

0%<br />

-50%<br />

ก.พ. 52<br />

พ.ค. 52<br />

ส.ค. 52<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

พ.ย. 52<br />

ยอดขายบ้านใหม่ของจีน<br />

ก.พ. 53<br />

พ.ค. 53<br />

ส.ค. 53<br />

New Home Sale<br />

พ.ย. 53<br />

สวนอินเดีย เปนอีกประเทศที่มีบทบาทสําคัญในเอเซีย พบวา<br />

ดัชนีชี้นําเศรษฐกิจที่สําคัญยังสงสัญญาณชะลอตัวชัดเจน ทั้ง<br />

ภาคครัวเรือน และอุตสาหกรรม ทําใหลาสุดทางการอินเดีย ได<br />

ทําปรับลดประมาณการ GDP ในป 2555 ลงมาเหลือ 5.7-5.9%<br />

ต่ํากวาประมาณการครั้งลาสุดเมื่อ มี.ค.2555 ที่ระดับ 7.6%<br />

104<br />

103<br />

102<br />

101<br />

100<br />

99<br />

98<br />

97<br />

96<br />

95<br />

ม.ค. 51<br />

พ.ค. 51<br />

ก.ย. 51<br />

ม.ค. 52<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

พ.ค. 52<br />

ก.พ. 54<br />

พ.ค. 54<br />

ยอดค้าปลีกของอินเดีย<br />

ก.ย. 52<br />

Retail Sale<br />

ม.ค. 53<br />

พ.ค. 53<br />

ก.ย. 53<br />

% YoY<br />

2000<br />

1800<br />

1600<br />

1400<br />

1200<br />

1000<br />

800<br />

600<br />

400<br />

200<br />

0<br />

ม.ค. 51<br />

พ.ค. 51<br />

ก.ย. 51<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

ม.ค. 52<br />

พ.ค. 52<br />

ก.ย. 52<br />

ม.ค. 53<br />

พ.ค. 53<br />

ก.ย. 53<br />

ม.ค. 54<br />

พ.ค. 54<br />

ก.ย. 54<br />

ม.ค. 55<br />

พ.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

35%<br />

30%<br />

25%<br />

20%<br />

15%<br />

10%<br />

5%<br />

0%<br />

ยอดขายรถยนต์ของจีน<br />

2000000<br />

1800000<br />

1600000<br />

1400000<br />

1200000<br />

1000000<br />

800000<br />

600000<br />

400000<br />

200000<br />

0<br />

Auto Sales<br />

% YoY<br />

140%<br />

120%<br />

100%<br />

80%<br />

60%<br />

40%<br />

20%<br />

0%<br />

-20%<br />

-40%<br />

ม.ค. 51<br />

พ.ค. 51<br />

ก.ย. 51<br />

ม.ค. 52<br />

พ.ค. 52<br />

ก.ย. 52<br />

ม.ค. 53<br />

พ.ค. 53<br />

ก.ย. 53<br />

ม.ค. 54<br />

ม.ค. 54<br />

พ.ค. 54<br />

พ.ค. 54<br />

ก.ย. 54<br />

ส.ค. 54<br />

ม.ค. 55<br />

ก.ย. 54<br />

พ.ค. 55<br />

พ.ย. 54<br />

ก.ย. 55<br />

ม.ค. 55<br />

ก.พ. 55<br />

พ.ค. 55<br />

พ.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

ส.ค. 55<br />

พ.ย. 55<br />

6%<br />

5%<br />

4%<br />

3%<br />

2%<br />

1%<br />

0%<br />

-1%<br />

-2%<br />

-3%<br />

-4%<br />

-5%<br />

1800000<br />

1600000<br />

1400000<br />

1200000<br />

1000000<br />

800000<br />

600000<br />

400000<br />

200000<br />

0<br />

ยอดขายรถยนต์ของอินเดีย<br />

Auto Sales<br />

% YoY<br />

80%<br />

70%<br />

60%<br />

50%<br />

40%<br />

30%<br />

20%<br />

10%<br />

0%<br />

-10%<br />

-20%<br />

-30%<br />

ม.ค. 51<br />

พ.ค. 51<br />

ก.ย. 51<br />

ม.ค. 52<br />

พ.ค. 52<br />

ก.ย. 52<br />

ม.ค. 53<br />

พ.ค. 53<br />

ก.ย. 53<br />

ม.ค. 54<br />

พ.ค. 54<br />

ก.ย. 54<br />

ม.ค. 55<br />

พ.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+<br />

9


แนวโน้มตลาดหุ้นไตรมาส 1/2556<br />

ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของอินเดีย<br />

%<br />

Industrial Production (YoY)<br />

25<br />

20<br />

15<br />

10<br />

5<br />

0<br />

-5<br />

-10<br />

-15<br />

ม.ค. 51<br />

พ.ค. 51<br />

ก.ย. 51<br />

ม.ค. 52<br />

พ.ค. 52<br />

ก.ย. 52<br />

ม.ค. 53<br />

พ.ค. 53<br />

ก.ย. 53<br />

ม.ค. 54<br />

พ.ค. 54<br />

ก.ย. 54<br />

ม.ค. 55<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

พ.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

%<br />

9<br />

8<br />

7<br />

6<br />

5<br />

4<br />

3<br />

2<br />

1<br />

0<br />

GDP Growth ปี 2555 และ 2556 ประเทศแถบเอเซีย<br />

7.8<br />

8.2<br />

6<br />

6.3<br />

5.6<br />

6<br />

5.1<br />

5.9<br />

4.9<br />

6<br />

4.8<br />

4.8<br />

4.4<br />

4.7<br />

2.7<br />

3.6<br />

จีน<br />

อิ นโดนีเซี ย<br />

ไทย<br />

เวียดนาม<br />

อิ นเดีย<br />

ฟ ลิปปนส<br />

มาเลเซี ย<br />

เกาหลีใต<br />

ที่มา : IMF<br />

คาดการณ GDP ป 2555 คาดการณ GDP ป 2556<br />

2.2<br />

ญี่ปุน<br />

1.2<br />

อัตราเงินเฟ้อของอินเดีย<br />

%<br />

12<br />

10<br />

8<br />

6<br />

Inflation Rate<br />

เศรษฐกิจไทย มีแนวโน้มชะลอตัวในปี<br />

2556 หลังทํายอดสูงสุดใน 4Q55<br />

4<br />

2<br />

GDP Growth รายไตรมาส<br />

0<br />

15%<br />

-2<br />

ม.ค. 51<br />

พ.ค. 51<br />

ก.ย. 51<br />

ม.ค. 52<br />

พ.ค. 52<br />

ก.ย. 52<br />

ม.ค. 53<br />

พ.ค. 53<br />

ก.ย. 53<br />

ม.ค. 54<br />

พ.ค. 54<br />

ก.ย. 54<br />

ม.ค. 55<br />

พ.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

10%<br />

5%<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

0%<br />

-5%<br />

โดยภาพรวมในป 2555 IMF ไดคาดการณเศรษฐกิจโลกจะ<br />

เติบโตในอัตรา 3.3% แตจะเพิ่มขึ้นเปน 3.6% ภายใตสมมติฐาน<br />

หลัก ปริมาณการคาโลกป 2555 จะอยูที่ 3.2% ชะลอตัวจาก<br />

5.8% ในป 2554 แตจะขยับขึ้นเปน 4.5% ในป 2556<br />

-10%<br />

1Q 2554<br />

2Q 2554<br />

3Q 2554<br />

4Q 2554<br />

1Q 2555<br />

ที่มา : ธปท.และคาดการณโดย <strong>ASP</strong><br />

2Q 2555<br />

3Q 2555<br />

4Q 2555F<br />

9M 2555<br />

%<br />

5<br />

4<br />

3<br />

2<br />

1<br />

0<br />

-1<br />

-2<br />

-3<br />

GDP Growth ปี 2555 และ 2556 ซีกโลกตะวันตก<br />

คาดการณ GDP ป 2555 คาดการณ GDP ป 2556<br />

3.3<br />

3.6<br />

3.7<br />

3.8<br />

2.2<br />

2.1<br />

1.9<br />

2.0<br />

0.9<br />

0.9<br />

0.1<br />

0.4<br />

-0.4<br />

1.1<br />

-0.4<br />

0.2<br />

-1.5<br />

-1.3<br />

โลก<br />

รัสเซี ย<br />

สหรัฐฯ<br />

แคนาดา<br />

เยอรมนี<br />

ฝรั่งเศส<br />

อั งกฤษ<br />

เขตยูโร<br />

สเปน<br />

ที่มา : IMF<br />

-2.3<br />

-0.7<br />

อิ ตาลี<br />

เชนเดียวกับประเทศเพื่อนบานในแถบเอเซีย ไทยไดรับ<br />

ผลกระทบจากปริมาณการสงออกที่หดตัวมาก อันเกิดจากภาวะ<br />

ชะลอตัวของตลาดสงออกหลักๆ ของไทย โดยเฉพาะกลุม<br />

ประเทศพัฒนาแลว ไดแก ยุโรป (สัดสวนราว 8% ของปริมาณ<br />

การสงออกรวมของไทย) และญี่ปุน (10.2%) หดตัวสูงถึง<br />

19.2% หดตัว 6.3% ตามลําดับ (ทั้ง 2 ตลาด หดตัวติดตอกัน 4<br />

ไตรมาส) รองมาคือ จีน (11.2%) และอาเซียน (9 ประเทศ<br />

สัดสวนราว 23%) ลดลง 11.8%yoy และลดลง 9%yoy<br />

ตามลําดับ นับเปนการหดตัวเปนครั้งแรกของปนี้ และสุดทาย<br />

สหรัฐ (9.7%) แมงวดนี้หดตัวเพียง 1.2%yoy แตคาดวางวด<br />

4Q55 มีแนวโนมหดตัวรุนแรงกวางวด 3Q55 เนื่องจาก<br />

ผลกระทบของภัยธรรมชาติพายุแซนดี ที่เกิดขึ้นชวงปลายเดือน<br />

ต.ค. ที่ผานมา<br />

10 Invest+ 1 st Quarter, 2013


แนวโน้มตลาดหุ้นไตรมาส 1/2556<br />

% YoY<br />

25<br />

20<br />

15<br />

10<br />

5<br />

0<br />

-5<br />

-10<br />

-15<br />

-20<br />

ที่มา : ธปท.<br />

% YoY<br />

15<br />

10<br />

5<br />

0<br />

-5<br />

-10<br />

-15<br />

ที่มา : ธปท.<br />

ยอดส่งออกของไทย ในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว<br />

สหรัฐฯ<br />

Q155 Q255 Q355 9M55<br />

ญี่ปุน<br />

ยอดส่งออกของไทย ในกลุ่มประเทศกําลังพัฒนาแล้ว<br />

อาเซียน<br />

สหภาพยุโรป<br />

ตะวันออกกลาง<br />

(15)<br />

ฮองกง<br />

Q155 Q255 Q355 9M55<br />

ในป 2555 <strong>ASP</strong> ประเมิน GDP Growth ไวที่ 4.4% ขณะที่งวด 9<br />

เดือนแรกของป 2555 เติบโตอยูที่ 2.6% ดังนั้นจึงคาดวางวด<br />

4Q55 GDP Growth นาจะเติบโตสูงถึง 10.5% ซึ่งเกิดจากฐาน<br />

GDP งวด 4Q54 ที่ต่ํามาก อันเปนผลกระทบจากปญหาน้ําทวม<br />

ในปลายป 2554 รายละเอียดดังปรากฏในภาพถัดไป<br />

GDP รายไตรมาสของประเทศไทย<br />

(%YoY) 1Q54 2Q54 3Q54 4Q54 1Q55 2Q55 3Q55 4Q55F 9M 2555<br />

อัตราการขยายตัวของ GDP 3.2 2.7 3.7 -8.9 0.4 4.4 3.0 10.5 2.6<br />

การบริโภค 3.0 2.5 2.8 -3.0 2.4 5.6 6.5 5.8 4.9<br />

ภาคเอกชน 3.3 2.7 2.4 -2.8 2.9 5.3 6.0 6.5 4.7<br />

ภาครัฐ 1.8 1.0 4.9 -4.1 -0.2 7.4 9.0 2.0 5.7<br />

การลงทุน 9.3 4.1 3.3 -3.6 5.2 10.2 15.5 13.0 10.3<br />

ภาคเอกชน 12.6 8.6 9.1 -1.3 9.2 11.8 16.2 12.0 12.4<br />

ภาครัฐ -1.4 -9.9 -10.9 -12.1 -9.6 4.0 13.2 17.0 3.3<br />

การสงออก 16.0 12.0 17.3 -6.4 -3.2 1.1 -2.8 17.3 -1.7<br />

การนําเขา 16.8 15.1 20.1 3.3 4.3 8.6 -1.8 14.4 3.5<br />

ที่มา : ธปท.และคาดการณโดย <strong>ASP</strong><br />

สวนป 2556 คาดวาเศรษฐกิจไทยมีแนวโนมที่จะเติบโตในอัตรา<br />

ชะลอตัวลงเหลือ 4% โดยมีปจจัยขับเคลื่อนหลักๆ คือ<br />

1) การบริโภคโดยรวม ป 2556 จะเติบโตราว 4.8% (ชะลอตัว<br />

จาก 5.1% ป 2555) โดยยังไดรับแรงหนุนจากนโยบายขึ้น<br />

คาแรงขั้นต่ําใน 70 จังหวัดที่เหลือ (1 เม.ย. 2555 ไดขึ้นคาแรง<br />

ขั้นต่ํา 300 บาท เพียง 7 จังหวัด คือ กทม. นนทบุรี ปทุมธานี<br />

นครปฐม สมุทรปราการ สมุทรสาคร และภูเก็ต) และการลด<br />

อัตราภาษีเงินได 5% ของผูมีรายไดปานกลางและสูง<br />

จีน<br />

ออสเตรเลีย<br />

2) การลงทุนโดยรวม คาดวาจะเติบโตสูงถึง 9.8% แตลดลงจาก<br />

10.9% ป 2555 เพราะภาคเอกชน ไดผานชวงเวลาของการฟนฟู<br />

กิจการหลังเหตุการณน้ําทวมในป 2554 ไปมากแลว ตรงกันขาม<br />

ภาครัฐ จะขยายตัวในอัตราสูง 9% เพิ่มขึ้นจาก 7% ในป 2555<br />

ตามแผนการพัฒนาสาธารณูปโภคที่สําคัญๆ<br />

3) คาดการณปริมาณสงออกป 2556 ไวที่ 5% และนําเขา 7%<br />

ฟนตัวตามเศรษฐกิจโลก<br />

สมมติฐาน GDP Growth ปี 2555 และ 2556<br />

% YoY 2555F 2556F<br />

อัตราการขยายตัวของ GDP 4.4 4.0<br />

การบริโภค 5.1 4.8<br />

ภาคเอกชน 5.2 5.0<br />

ภาครัฐ 4.8 4.0<br />

การลงทุน 10.9 9.8<br />

ภาคเอกชน 11.0 10.0<br />

ภาครัฐ 6.0 9.0<br />

การสงออก 2.6 5.0<br />

การนําเขา 6.1 7.0<br />

อัตราเงินเฟอทั ่วไป 3.4 2.8<br />

ราคาน้ํามันดิบดูไบ (เหรียญฯตอบารเรล) 100 100<br />

อัตราแลกเปลี ่ยน (เหรียญฯตอบาท) 30 31<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

คาดเงินทุนชะลอไหลเข้าอย่างน้อยจนถึง<br />

ไตรมาสแรกของปี 2556<br />

ลานเหรียญฯ<br />

30000<br />

20000<br />

10000<br />

0<br />

-10000<br />

-20000<br />

-30000<br />

ยอดซื้อ-ขาย สุทธิ ในตลาดเอเซีย ปี 2554-2555<br />

(8,584)<br />

เกาหลีใต<br />

13,819<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

(9,074)<br />

ไตหวัน<br />

4,931<br />

2554 2555 YTD<br />

(420)<br />

2,523<br />

ไทย<br />

1,329<br />

2,418<br />

ฟลิปปนส<br />

2,950<br />

1,596<br />

อินโดนีเซีย<br />

(13,799)<br />

25,288<br />

เอเซีย 5<br />

ประเทศ<br />

ป 2555 นับเปนปที่ Fund Flow ไหลเขาตลาดหุนเอเซียอยาง<br />

มากมาย โดยในชวงจากตนปจนถึงปจจุบัน (ytd) พบวา นัก<br />

ลงทุนตางชาติเขาซื้อหุนเอเซีย (5 ประเทศ ดังปรากฏในภาพ<br />

ขางตน) ราว 2.5 หมื่นลานเหรียญฯ หลังจากขายสุทธิ 1.4 หมื่น<br />

ลานเหรียญฯเมื่อป 2554 โดยหากพิจารณาเปนรายประเทศ<br />

พบวา ยอดซื้อสุทธิสวนใหญเกินกวาครึ่งหนึ่ง มาจากประเทศ<br />

เกาหลีใต รองลงมาคือ ไตหวัน (เทียบกับยอดขายสุทธิเมื่อปที่<br />

ผานมา) ตามมาดวย ไทยมียอดซื้อสุทธิสะสม 2.5 พันลาน<br />

เหรียญฯ (หลังจากขายสุทธิเมื่อปกอน)<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 11


แนวโน้มตลาดหุ้นไตรมาส 1/2556<br />

ทั้งนี้ นักลงทุนตางชาติ ไดปรับลดพอรตการลงทุนตั้งแตกลางป<br />

2555 จนถึง 30 พ.ย. ที่ผานมา โดยไดขายสุทธิหุนไทยไปมาก<br />

ที่สุด กวา 28% ของยอดซื้อสุทธิสูงสุดในรอบนี้ที่ราว 3.2<br />

พันลานเหรียญฯ (หรือปรับพอรตขายออกมากวา 3 หมื่นลาน<br />

บาท หลังจากที่ปรับปรุงรายการ Big lots ออกแลว เชน<br />

ADVANC, CPALL, CPF, BAY เปนตน ทําใหเงินทุนไหลเขา<br />

ไทยรอบนี้ ตั้งแต 29 พ.ย. 2554 จนมาแตะจุดสูงสุด เดือน พ.ค.<br />

2555 รวมเกือบ 1 แสนลานบาท) และตามมาดวยตลาดหุน<br />

ไตหวัน พบวาตางชาติขายสุทธิราว 27% ของยอดซื้อสุทธิสูงสุด<br />

ในของรอบนี้ที่ราว 6.8 พันลานเหรียญฯ<br />

อยางไรก็ตามในชวงเดือน ธ.ค. ปกติตางชาติจะมีการซื้อขาย<br />

นอย แตในปนี้ไดกลับมาสะสมหุนในภูมิภาค โดยมียอดซื้อ<br />

สะสมมากถึงกวา 4.3 พันลานเหรียญฯ โดยเขาซื้อในเกาหลีใต<br />

มากที่สุด 2 พันลานเหรียญฯ ตามมาดวย ไตหวัน และไทย 1.7<br />

พันลานเหรียญฯ และ 410 ลานเหรียญฯ ตามลําดับ ทําใหยอด<br />

ซื้อสะสมหุนไทยตั้งแต 29 พ.ย.2554 กลับมายืนเหนือระดับ 8<br />

หมื่นลานบาทอีกครั้ง (หลังจากที่เคยลงไปต่ําสุดที่ 6.6 หมื่นลาน<br />

บาทเมื่อ 27 พ.ย.2555)<br />

ดวยเหตุนี้ฝายวิจัย เชื่อวานักลงทุนตางชาติ นาจะพลิกกลับมา<br />

ขายสุทธิหุนไทยในชวงเดือน ม.ค. เพราะการซื้อสะสมเขามา<br />

ตอเนื่องอยางรวดเร็วในเดือน ธ.ค. ทั้งที่ ตามปกติ มักเลือกที่จะ<br />

ปรับพอรตขายตามฤดูกาล นอกจากนี้ สถิติ 7 ปยอนหลังบงชี้วา<br />

มีโอกาสถึง 57% ที่ตางชาติจะขายสุทธิออกมาในเดือน ม.ค.<br />

ของทุกป<br />

ฐานะสุทธินักลงทุนต่างชาติ ในช่วง พ.ค. – 14 ธ.ค. เทียบกับยอด<br />

ซื้อสุทธิสูงสุดของรอบนี้<br />

Fund Flow ตั้งแต 29 พ.ย.2554-ตน พ.ค. 2555<br />

Fund Flow ตั้งแตตนพ.ค.2555 - ปจจุบัน<br />

% ของ Fund Flow ชวงหลัง พ.ค.2555 เทียบกับชวงกอน พ.ค.2555<br />

ลานเหรียญฯ<br />

141.1%<br />

14,000 13,018<br />

160%<br />

11,000 9,226<br />

10,446<br />

140%<br />

120%<br />

8,000<br />

6,786<br />

88.2%<br />

100%<br />

5,000<br />

2,000<br />

3,547<br />

3,177<br />

80%<br />

1,513<br />

1,735 1,714 60%<br />

(129)<br />

283<br />

40%<br />

(1,000)<br />

34%<br />

(477)<br />

20%<br />

(4,000)<br />

1.9% 15%<br />

16.3%<br />

0%<br />

อินเดีย เกาหลีใต ไตหวัน ไทย อินโดนีเซีย ฟลิปปนส<br />

* หมายเหตุ : จุดสิ้นสุดของ Fund Flow ขาเขาอาจเลื่อมล้ํากันเล็กนอยเปน<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

และหากพิจารณาสถิติในอดีตระหวางป 2538-2554 พบวา<br />

ในชวงของการปรับลดพอรตนั้น ตางชาติมีการขายหุนราว 18-<br />

100% ของยอดซื้อสุทธิในแตละชวง ดังนั้น เบื้องตน หาก<br />

ตั้งสมมติฐานวาขายสุทธิระหวาง 40% ของยอดซื้อสุทธิสะสม<br />

รอบนี้ คาดวาตางชาตินาจะขายขั้นต่ํา 2 หมื่นลานบาท ในชวง<br />

ไตรมาสแรกของปหนา<br />

100%<br />

90%<br />

80%<br />

70%<br />

60%<br />

50%<br />

40%<br />

30%<br />

20%<br />

10%<br />

0%<br />

ความน่าจะเป็นในการซื้อ-ขายของนักลงทุนต่างชาติในแต่ะเดือน<br />

57%<br />

43%<br />

14%<br />

86%<br />

43% 43%<br />

57% 57%<br />

57%<br />

43%<br />

43%<br />

57%<br />

14%<br />

86%<br />

43%<br />

57%<br />

29% 29%<br />

71% 71%<br />

Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

โอกาสที่นักลงทุนตางชาติซื้อสะสมสุทธิ โอกาสที่นักลงทุนตางชาติขายสะสมสุทธิ<br />

■ คาดเม็ดเงิน LTF จะเทขายหนักกว่า 1 หมื่น<br />

ล้านบาทช่วงต้นปี 2556<br />

ในชวงตนป 2556 ตลาดหุนไทย อาจมีปจจัยลบเพิ่มเติมเขามา<br />

กระทบ คือการเทขายทํากําไรจากกองทุน LTF ตามหลักแลว จะ<br />

ไดรับอนุญาตใหขายไดเมื่อครบกําหนด 5 ปปฏิทิน ในชวง 5 ป<br />

หลังสุด (ตั้งแตป 2550 เปนตนมา) ดัชนีหุนไทย มักมีการปรับ<br />

ฐานในเดือน ม.ค. โดยเฉลี่ย 3.5% คาดวาเหตุการณดังกลาว<br />

นาจะกลับมาซ้ํารอยในชวงตนป 2556 เชนกัน จากการรวบรวม<br />

ขอมูลของฝายวิจัย พบวาเม็ดเงินที่เขาซื้อ LTF ในป 2552 จะ<br />

ครบกําหนด 5 ปปฏิทินในป 2556 มีมูลคารวมกวา 2.6 หมื่น<br />

ลานบาท เพิ่มขึ้นจากเมื่อป 2551 ถึงเกือบ 3 พันลานบาทหรือ<br />

13% และหนวยลงทุนดังกลาวมีตนทุนเฉลี่ยที่ SET Index เพียง<br />

674 จุดเทานั้น จากการที่ SET Index ปรับตัวขึ้นตอเนื่องตั้งแต<br />

หลังวิกฤติซับไพรมในสหรัฐฯ มาอยูที่ระดับเกิน 1,300 จุด ทําให<br />

ผูถือหนวยลงทุนไดกําไรไปแลวกวา 100% (และยังไมนับรวม<br />

สิทธิประโยชนทางภาษี) ถือวามีโอกาสสูงมากที่จะเห็นการเท<br />

ขายกําไรออกมาพรอมกัน โดยในชวง 4 ปหลังสุดพบวา แรงขาย<br />

จากสวนนี้อยูในระดับ 50-90% หากประเมินเบื้องตนวา แรง<br />

ขายนาจะเกิดขึ้นราว 50% ของยอดเงินรวม (ราว 1.3 หมื่นลาน<br />

บาท) นาจะเกิดขึ้นชวงเดือน ม.ค.-ก.พ. และจะสรางแรงกดดัน<br />

ตอตลาดหุนไทยในชวงเวลาสั้นๆ<br />

71%<br />

29%<br />

57%<br />

43%<br />

12 Invest+ 1 st Quarter, 2013


แนวโน้มตลาดหุ้นไตรมาส 1/2556<br />

ยอดเงิน LTF ในปี 2552 ที่เตรียมครบกําหนดขายได้ต้นปี 2556<br />

50,000<br />

45,000<br />

40,000<br />

35,000<br />

30,000<br />

25,000<br />

20,000<br />

15,000<br />

10,000<br />

5,000<br />

0<br />

5,431<br />

22<br />

มูลคาขายทั้งหมดของกองทุน LTF รายป (ลานบาท) จํานวนกองทุน(แกนขวา)<br />

7,924<br />

30<br />

34<br />

11,586<br />

ตั้งแตตนป 2556 มี LTF ที่ครบกําหนดขาย<br />

ได 2.58 หมื่นลานบาท โดยมีตนทุนเฉลี่ยที่<br />

SET 674 จุด<br />

17,041<br />

22,895<br />

25,816<br />

37,134<br />

53 52 53 54<br />

41,686<br />

2547 2548 2549 2550 2551 2552 2553 2554<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

32,000<br />

27,000<br />

22,000<br />

17,000<br />

12,000<br />

7,000<br />

2,000<br />

ยอดซื้อ LTF ในแต่ละเดือนของปี 2552 และต้นทุนเฉลี่ย<br />

ลานบาท<br />

1,436<br />

445 437<br />

262<br />

มูลคาซื้อกองทุน LTF รายเดือนในป 2552 SET Index เฉลี่ยรายเดือน(แกนขวา)<br />

370<br />

425<br />

343<br />

459<br />

612<br />

543<br />

877<br />

595 597<br />

582<br />

718<br />

647<br />

909<br />

701<br />

2,555<br />

722<br />

4,230<br />

694<br />

12,921<br />

716<br />

Index<br />

25,816<br />

80<br />

70<br />

60<br />

52 50<br />

40<br />

30<br />

20<br />

10<br />

0<br />

800<br />

700<br />

674<br />

600<br />

500<br />

400<br />

300<br />

กําไรสุทธิรายไตรมาสของบริษัทจดทะเบียน<br />

ลานบาท<br />

250,000<br />

221,580<br />

214,551<br />

216,507<br />

60%<br />

200,000<br />

44%<br />

38% 40%<br />

31%<br />

162,562 156,591<br />

20%<br />

150,000<br />

5%<br />

129,946<br />

0%<br />

-3%<br />

100,000<br />

-20%<br />

-20%<br />

54,838<br />

-40%<br />

50,000<br />

-60%<br />

-61%<br />

-<br />

-80%<br />

1Q54 2Q54 3Q54 4Q54 1Q55 2Q55 3Q55<br />

net profit %yoy<br />

ที่มา : รวบรวมโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

โครงสร้างกําไรของบริษัทจดทะเบียน 9M55<br />

PETRO, 6%<br />

ETRON, 2%<br />

FOOD, 6%<br />

PROP, 6%<br />

ENERG, 31%<br />

ICT, 7%<br />

CONMAT, 4%<br />

BANK, 24%<br />

ที่มา : รวบรวมโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

(3,000)<br />

ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. Total<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

คาดการณ์แรงขายของนักลงทุนสถาบันช่วง ม.ค.-ก.พ.2556<br />

30,000 ลานบาท<br />

25,000<br />

20,000<br />

15,000<br />

10,000<br />

5,000<br />

-<br />

(5,000)<br />

(10,000)<br />

(15,000)<br />

(20,000)<br />

ยอดซื้อ/ขายสุทธิ ของนักลงทุนสถาบันในประเทศ ในเดือน ม.ค.<br />

ยอดซื้อ/ขายสุทธิ ของนักลงทุนสถาบันในประเทศ ในเดือน ก.พ.<br />

ยอดซื้อ/ขายสุทธิ ของนักลงทุนสถาบันในประเทศ ในเดือน รวม(ม.ค.-ก.พ.)<br />

ยอด LTF ที่ครบกําหนดขายไดทั้งหมด<br />

สัดสวนยอดขายสุทธิของ LTF(แกนขวา)<br />

ฝายวิจัยคาดการณ<br />

89%<br />

7,924<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

71%<br />

11,586<br />

17,041<br />

49%<br />

22,895<br />

60%<br />

(13,826)<br />

2552 2553 2554 2555 2556<br />

พื้นฐานตลาดหุ้นไทยอยู่ในระดับปานกลาง<br />

และแพงกว่าหลายแห่งในเอเซีย<br />

■<br />

25,816<br />

กําไรสุทธิรายไตรมาสปี 2555 ผันผวนจาก<br />

อิทธิพลสินค้าโภคภัณฑ์<br />

0%<br />

200<br />

100%<br />

90%<br />

80%<br />

70%<br />

60%<br />

50%<br />

40%<br />

30%<br />

20%<br />

10%<br />

นับแตชวงตนป 2555 เปนตนมาผลประกอบการรายไตรมาส<br />

ของบริษัทจดทะเบียนมีลักษณะที่คอนขางผันผวน (พิจารณา<br />

ภาพขางตน) โดยแกวงตัวอยูในชวง 1.3 แสนลานบาท จนถึง<br />

2.17 แสนลานบาท ซึ่งจากการศึกษาลงไปในรายละเอียดพบวา<br />

มีสาเหตุหลักมาจากฐานกําไรสุทธิของกลุมพลังงาน ซึ่งสัดสวน<br />

ราว 30% ของฐานกําไรสุทธิรวมทั้งตลาด มีความผันผวนตาม<br />

การเคลื่อนไหวของราคาสินคาโภคภัณฑ เฉพาะอยางยิ่งสวนที่<br />

เกี่ยวเนื่องกับน้ํามัน และปโตรเคมี ทําใหบริษัทจดทะเบียนใน<br />

กลุมดังกลาว ตองทําการบันทึกกําไร/ ขาดทุน จากการตีมูลคา<br />

สินคาคงเหลือในระดับที่มีนัยสําคัญในแตละไตรมาส<br />

สําหรับภาพรวมของกําไรบริษัทจดทะเบียนงวด 9M55 พบวามี<br />

กําไรสุทธิรวม 5.61 แสนลานบาทเพิ่ม 6.2%YoY หรือเฉลี่ย<br />

1.87 แสนลานบาท/ไตรมาส หากพิจารณารายกลุม<br />

อุตสาหกรรม พบวาอุตสาหกรรมที่มีฐานกําไรสุทธิสูงกวา 2<br />

หมื่นลานและมีการเติบโตที่โดดเดน ประกอบดวย กลุมปโตร<br />

เคมี กําไรเติบโต 48.6%YoY มาอยูที่ 3.47 หมื่นลานบาท, กลุม<br />

อาหารเติบโต 32.5%YoY มาอยูที่ 3.38 หมื่นลานบาท, กลุม<br />

อสังหาฯ เติบโต 31.7%YoY มาอยูที่ 3.15 หมื่นลานบาท และ<br />

กลุมธนาคารพาณิชย เติบโต 18.9%YoY มาอยูที่ 1.31 แสน<br />

ลานบาท ยกเวนกลุมพลังงานมีฐานกําไรสุทธิงวด 9M55 ลดลง<br />

2.8%YoY มาอยูที่ 1.73 แสนลานบาท<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 13


แนวโน้มตลาดหุ้นไตรมาส 1/2556<br />

■<br />

กําไรตลาดงวด 4Q55 จะอ่อนตัวจาก 3Q55<br />

แต่เติบโตอย่างมากจาก 4Q54<br />

จากการประเมินผลประกอบการรายกลุมของนักวิเคราะห <strong>ASP</strong><br />

ทําใหไดภาพรวมกําไรตลาดทั้งป 2555 ที่ 7.23 แสนลานบาท<br />

หรือเติบโต 16%YoY ซึ่งหมายความวาหากกําไรจะเปนไปตาม<br />

ความคาดหมาย ในงวด 4Q55 บริษัทจดทะเบียนตองสามารถ<br />

ทํากําไรสุทธิโดยรวมไดที่ 1.65 แสนลานบาทหรือเติบโต 201%<br />

จากฐานกําไรสุทธิ 4Q54 เพราะไดรับผลกระทบอยางรุนแรง<br />

จากเหตุน้ําทวมใหญจนมีกําไรเหลือเพียง 5.48 หมื่นลานบาท<br />

ซึ่งฝายวิจัยยังเห็นวาเปาหมายกําไรดังกลาวมีความเปนไปได<br />

โดยหากจะพิจารณาแยกตามกลุมอุตสาหกรรมสรุปไดดังนี้<br />

กลุ่มที่คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจาก 3Q55:<br />

o กลุมสื่อสาร ไดรับผลบวกจากเทศกาลปลายปงวด<br />

4Q55 มักจะเห็นปริมาณการใชงานโทรศัพทเคลื่อนที่<br />

ระดับสูง อีกทั้งเปนชวงเวลาที่มีการเปดตัว<br />

โทรศัพทเคลื่อนที่รุนใหม เฉพาะอยางยิ่ง iPhone 5<br />

ซึ่งจะทําใหรายไดจากการขายโทรศัพทเพิ่มขึ้น และ<br />

กระตุนการใชบริการ non voice<br />

o กลุมพัฒนาอสังหาริมทรัพย ในสวนของธุรกิจ<br />

พัฒนาที่อยูอาศัย ในงวด 4Q55 จะมีการโอนฯ<br />

คอนโดมิเนียม และรับรูรายไดเปนจํานวนมาก ซึ่งจะ<br />

ชวยทําใหกําไร 4Q55 เปนจุดสูงสุด ขณะที่ธุรกิจนิคม<br />

อุตสาหกรรม มีการรับผลกําไรจากการขายสินทรัพย<br />

เขา Property Fund ประกอบกับยอดขายที่ดินใหมก็<br />

มีแนวโนมสูงขึ้น สวนรับเหมากอสราง คาดวาจะเห็น<br />

การรับรูรายไดจากโครงการขนาดใหญตามความ<br />

คืบหนาของงานที่มากขึ้นตามชวงเวลา ซึ่งสงผลดีตอ<br />

ประสิทธิภดาพการทํากําไรตามมา<br />

o กลุมคาปลีก โดยปกติงวดไตรมาสที่ 4 จะเปนชวง<br />

ฤดูกาลที่มีการจับจายใชสอยมากเปนพิเศษ ซึ่งสงผล<br />

ทําใหยอดขายและกําไรของผูประกอบการในกลุม<br />

ปรับสูงขึ้น ยกเวน CPALL ซึ่งตองบันทึกคาใขจายใน<br />

การขาย และ บริหาร มากกวาปกติในงวดไตรมาส<br />

สุดทายของทุกป<br />

o กลุมยานยนต นอกจากความตองการรถยนตที่<br />

เพิ่มขึ้นแลว มาตรการรถยนตคันแรกของรัฐ ผลักดัน<br />

ใหยอดผลิตรถยนตในชวง 10M55 อยูที่ระดับสูงถึง<br />

1.97 ลานคัน เพิ่ม 48.03%YoY และคาดวาในชวง<br />

สุดทายของมาตรการรถยนตคันแรก และการจัดงาน<br />

14 Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

■<br />

Motor Expo ในชวงปลายป นาจะหนุนใหมีการใช<br />

กําลังการผลิต อยูในเกณฑสูงตอเนื่องไปจนถึง<br />

กลางป 2556<br />

กลุ่มที่คาดว่าผลประกอบการจะชะลอตัวจาก 3Q55<br />

o กลุมธนาคารพาณิชย คาดหมายผลประกอบการ<br />

ลดลง 14.9% QoQ โดยไดรับแรงกดดันจากการปรับ<br />

ลดอัตราดอกเบี้ยทําใหสวนตางอัตราดอกเบี้ย (Net<br />

Interest Margin, NIM) ปรับลดลง ขณะที่ปกติในงวด<br />

ไตรมาสที่ 4 มักจะเปนชวงที่มีการตั้งสํารองตางๆ<br />

รวมถึงคาใชจายในการบริหารอยูในระดับสูง<br />

o กลุมพลังงาน คาดหมายวาฐานกําไรสุทธิจะปรับ<br />

ลดลงประมาณ 10% จาก 3Q55 เนื่องจากในงวด<br />

4Q55 จะไมมีการบันทึกกําไรจากการตีมูลคาสินคา<br />

คงเหลือ (Stock Gain) เหมือนไตรมาสที่ผานมา<br />

o กลุมเกษตร และอาหาร โดยในชวงไตรมาส 4 ถือ<br />

เปนชวงนอกฤดูการสงออก ทําใหยอดขายของกลุม<br />

ซึ่งสวนใหญมาจากการสงออกชะลอตัว<br />

ปี 2556 ยังเติบโตใกล้เคียงกับปี 2555 จาก<br />

วัสดุก่อสร้าง, ค้าปลีก และ สื่อสาร<br />

แนวโนมผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนรวมในงวดป 2556<br />

ฝายวิจัยประเมินวานาจะเห็นการเติบโตในอัตรา 15% มาสู<br />

ระดับ 8.31 แสนลานบาท ซึ่งเปนอัตราการเติบโตในระดับ<br />

ใกลเคียงกับป 2555 ที่ผานมาโดยกลุมอุตสาหกรรมหลักที่มีการ<br />

เติบโตในอัตราสูง (ดูกราฟดานลางประกอบ) ไดแก กลุมวัสดุ<br />

กอสรางเติบโต 29% โดยหลักมาจาก SCC และ TPIPL<br />

นอกจากนี้ยังมีผูประกอบการวัสดุกอสรางประเภทตางๆ ที่มี<br />

ความตองการเพิ่มขึ้นตามภาคการกอสราง ตามมาดวยกลุม<br />

ICT เติบโต 20% นําโดย THCOM ซึ่งไมตองรับสวนแบงขาดทุน<br />

จากบริษัทยอย หลังจากขายออกไปเมื่อปลายป 2555 และ<br />

ผูประกอบการโทรศัพทเคลื่อนที่สามารถเดินหนาไดเต็มที่ หลัง<br />

ไดใบอนุญาต 3G อยางเปนทางการ และกลุมคาปลีกเติบโต<br />

18% สวนใหญเกิดจากการขยายสาขาเพิ่มเปนหลัก และมีบาง<br />

แหงที่เติบโตจากสาขาเดิม เชน CPALL และ BIGC เปนตน<br />

ขณะที่กลุมพลังงานคาดวากําไรเติบโต 13% นอยกวากวาการ<br />

เติบโตของตลาด ทั้งนี้เปนการจัดทําประมาณการแบบอนุรักษ<br />

นิยม สะทอนจากสมมุติฐานหลักในการจัดทําประมาณการ<br />

กลุมพลังงาน และปโตรเคมี คงระดับสมมุติฐานราคาน้ํามันดิบ<br />

ดูไบเทากับป 2555 อยูที่ 100 เหรียญฯ/บารเรล ขณะที่ Spread<br />

ของผลิตภัณฑ ปโตรเคมีทรงตัวเมื่อเทียบกับป 2555


แนวโน้มตลาดหุ้นไตรมาส 1/2556<br />

INSUR<br />

TRANS<br />

TOURISM<br />

CONMAT<br />

PETRO<br />

ICT<br />

COMM<br />

SET<br />

BANK<br />

AUTO<br />

ENERG<br />

PROP<br />

AGRI<br />

FIN<br />

IM M<br />

MEDIA<br />

HELTH<br />

FOOD<br />

ETRON<br />

การเติบโตของกําไของตลาดปี 2556 รายกลุ่มฯ<br />

-3%<br />

-11%<br />

-19%<br />

32%<br />

29%<br />

21%<br />

20%<br />

18%<br />

15%<br />

14%<br />

14%<br />

13%<br />

12%<br />

9%<br />

7%<br />

7%<br />

6%<br />

BCH, BH<br />

TUF. OISHI, LST<br />

CCET, DELTA, HANA<br />

306%<br />

47%<br />

BKI, BLA<br />

PSL, BTS, AOT<br />

ERW, CENTEL<br />

SCCC, VNG, TPIP L,, DCC<br />

IVL, VNT, PTTGC<br />

TRUE JAS, THCOM<br />

ROBINS, HMPRO, BIGC, CPALL<br />

KBA NK, BBL, KK, TISCO, TCAP<br />

IRC, SA T, STANLY, A P CS<br />

GLOW, IRP C, TOP<br />

CK, AMATA, SENA, TPOLY<br />

GFP T, CPI, STA<br />

ASK, TK<br />

KKC, SNC<br />

BEC, MAJOR, RS<br />

-40% -20% 0% 20% 40% 60% 80% 100% 120%<br />

ที่มา : รวบรวมโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

โครงสร้างกําไรบริษัทจดทะเบียน ปี 2556E<br />

Trans, 1.85%<br />

Comm, 4.41%<br />

Food, 5.23%<br />

Others, 10.85%<br />

Energ, 28.48%<br />

ทําให SET Index ลงไปต่ํากวา PER 12 เทา ไดในชวงเวลานั้นๆ<br />

เชนกัน กอนที่จะดีดกลับสูฐานราคาเดิม สะทอนจากภาพ SET<br />

Index ในชวงป 2555 พบวาไดรับแรงหนุนจาก Fund Flow เปน<br />

อยางดีโดยในชวงตนเดือน พ.ค.2555 มียอดซื้อสะสมของนัก<br />

ลงทุนตางชาติมากถึง 1 แสนลานบาททําให SET Index ปรับขึ้น<br />

ไปซื้อขายเปนคา Current PER สูงกวา 15.5 เทา แตหลังจาก<br />

นั้นก็เริ่มมีแรงขายออกมาจน SET Index กลับเขาใกล PER 14<br />

เทาอีกครั้ง<br />

ประมาณการ SET Index ที่ค่า PER ต่างๆ<br />

Index Sensitivity<br />

(เทา) ธ.ค.55E มี.ค.56E มิ.ย.56E ก.ย.56E ธ.ค. 56E<br />

PER 11 972 1,008 1,044 1,081 1,117<br />

PER 12 1,060 1,100 1,139 1,179 1,218<br />

PER 12.5 1,104 1,146 1,187 1,228 1,269<br />

PER 13 1,149 1,192 1,234 1,277 1,320<br />

PER 13.5 1,193 1,237 1,282 1,326 1,371<br />

PER 14 1,237 1,283 1,329 1,375 1,422<br />

PER 15 1,325 1,375 1,424 1,474 1,523<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

Prop, 5.64%<br />

Commat, 5.98%<br />

Petro, 6.26%<br />

ที่มา : รวบรวมโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

ICT, 9.01%<br />

Bank, 22.31%<br />

อิงระดับ PER 14 เท่า จะได้ SET Index<br />

ที่เหมาะสมสิ้นปี 2556 ที่ 1,422 จุด<br />

จากการศึกษาพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของ SET Index โดยใช<br />

PER Bands เปนเครื่องมือ พบวาในภาวะปกติ SET Index<br />

มักจะเคลื่อนไหวอยูในชาง PER 12–14 เทา แตในภาวะที่มี<br />

Fund Flow ไหลเขามามากกวาปกติก็อาจจะเห็นการดีดตัวขึ้น<br />

ไปของ SET Index สูระดับ PER 15 เทา หรือสูงกวาเล็กนอย แต<br />

ก็เปนเพียงชวงระยะเวลาสั้น ๆ กอนที่จะปรับตัวเขาสูฐานราคา<br />

ชวง PER 12–14 เทา และในทางตรงขามหากมีปจจัยลบที่อาจ<br />

สรางความแตกตื่นใหกับนักลงทุนจนพากันเทขายออกมา ก็อาจ<br />

สําหรับแนวโนมในป 2556 ยังเชื่อวา SET Index นาจะยัง<br />

เคลื่อนไหวอยูในกรอบเดิม ทําใหฝายวิจัยกําหนดระดับ PER<br />

เปาหมายของ SET Index ที่ 14 เทา ซึ่งจะใหมูลคา SET Index<br />

ที่เหมาะสม ณ สิ้นป 2556 ที่ 1,422 จุด หรือคาดหวัง<br />

ผลตอบแทนจากดัชนีหุนไทย ณ ระดับราคาปจจุบัน ไดไมเกิน<br />

5% ดังนั้นหากนักลงทุนตองการผลตอบแทนที่สูงกวาเกณฑ<br />

ดังกลาว ก็จะตองใหความสําคัญกับการทํา Stock Picks มาก<br />

ขึ้น<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 15


วิเคราะห์ทางเทคนิค DOWJONES<br />

DOWJONES<br />

Invest+ 3Q55 ที่ผานมา คาดหมายไววา DOWJONES จะขึ้นไมเกิน<br />

13,895 จุดกอนปรับฐานใหญ a-b-c ทดสอบ 13,305 และ 12,876 จุด<br />

ผลปรากฏออกมาวา DOWJONES มาไดเกือบตรงตามจังหวะที่คาด<br />

ดัชนีตันอยูตรงที่ 13,653 จุด กอนที่จะทําการปรับฐานหนักตอเนื่องเปน<br />

จังหวะ a-b-c จนลงลึกถึง 12,471 จุด หลังจากดัชนีก็เริ่มตั้งลําและฟนตัว<br />

ขึ้น จนกลับมาอยูที่ 13,235 จุด<br />

DOWJONES อยูในชวงสราง Intermediate Wave ชุดใหม โดยมีการ<br />

สรางชุดเครื่องภายในระดับ Major Wave 1 ซึ่งภายในคลื่นหลักที่ 1 นี้ มี<br />

การสราง Minor Wave เสร็จสิ้นไปแลว 1 ชุด เทียบเทากับการสราง Sub-<br />

Minor wave หรือคลื่นยอยเปนองคประกอบ 1-2-3-4-5-a-b-c ครบไป<br />

ในชวง 5 มิ.ย. – 16 พ.ย.55 การฟนตัวในชวง ธ.ค.55 มองวาเปนการ<br />

เริ่มทํา Minor wave ชุดใหม ซึ่งปจจุบันอาจกําลังอยูในชวงทํา Sub-<br />

Minor wave 3 ประเมินดัชนีไมนามีต่ํากวา 13,055 จุด ก็จะเดินหนาขึ้น<br />

ตอเพื่อทดสอบ 13,305 13,657 และ 13,895 จุด<br />

สรุปการคาดการณ์<br />

DOWJONES: ระดับปจจุบันอยูที่ 13,235.39 จุด งวด 1Q56<br />

คาดวาจะขึ้นทํา Minor Wave ชุดใหม ทดสอบ 13,305<br />

13,657 และ 13,895 จุด<br />

16<br />

Invest+ 1 st Quarter, 2013


แนวโน้มตลาดหุ้นไตรมาส 1/2556<br />

วิเคราะห์ทางเทคนิค SET<br />

ภาพรวม<br />

Invest+ ฉบับ 4Q55 ที่ผานมา ฝายวิจัยวาดภาพทางเทคนิค SET Index<br />

จะไปจบคลื่นรอง 5 (Minor Wave 5) พรอมๆกับจบคลื่นหลัก 1 (Major<br />

wave 2) ไปดวยที่ 1,309 จุด หลังจากนั้นดัชนีนาจะทําคลื่นหลัก 2 (Major<br />

wave 2) ดวยการทําคลื่นรอง (Minor Wave) เปน a-b-c ทดสอบ 1,229<br />

และ 1,131 จุด<br />

ผลที่เกิดขึ้น SET Index ขึ้นติดที่ 1,309 จุดในจังหวะแรก กอนพยายามดัน<br />

ขึ้นตอแตก็ไมเกิน 1,314 จุด หลังจากนั้นดัชนีก็ทําจังหวะปรับฐานเปน<br />

Complex Correction มี a-b-c 2 ชุด ถูกคั่นกลางดวย X-Wave ทุกอยางดู<br />

เหมือนจะเปนไปตามคาด แตสุดทายดัชนีก็ลงลึกสุดแค 1,263 จุด ถือวา<br />

เปนระดับที่สูงเกินกวาประมาณการณไวคอนขางมาก ถัดจากนั้น SET ก็<br />

ฟนตัวยาวปรับเพิ่มขึ้นตอเนื่อง 3 สัปดาหติดจนทํา New High ในรอบ 16 ป<br />

ที่ 1,366 จุด แมวาจังหวะการเคลื่อนไหวระยะสั้นจะผิดเพี้ยนไปจากที่คาด<br />

ไวบาง แตทิศทางโดยรวมยังถือวาเปนไปตามแผนที่ฝายวิจัยวางมาตั้งแต<br />

ตนป วา SET จะสรางชุดคลื่น Major Wave ชุดใหม หรือ Intermediate<br />

Wave 3 ตอจาก Intermediate Wave 1 และ 2 ที่สรางเสร็จไปในชวง 3 ปที่<br />

ผานมา (พ.ย.51 – ต.ค.54) ตามหลักของ Elliott Wave แลว ถัดจากนี้ ไม<br />

นาเกิน 3 ป ดัชนีจะวากันยาวถึง 1,611 จุด<br />

สรุปการคาดการณ์<br />

ระดับดัชนี ณ 17 ก.ย.2555 อยูที่ 1,159.09 จุด<br />

SET ระยะสั้น (ภายใน 1-2 สัปดาห นับจากนี้): ติดอยูใต<br />

1,379 จุด จังหวะปรับฐานไมนาลึกเกิน 1,334 จุด<br />

SET ระยะกลาง (ภายใน 1-2 เดือน นับจากนี้) : หลังจาก<br />

ลงปรับฐานไมต่ํากวา 1,334 จุดแลว ดัชนีนาจะถูไลขึ้นอีก<br />

รอบเพื่อไปจบคลื่นยอย 1 ที่ 1,407-1,419 จุด<br />

SET ระยะยาว (จากนี้จนจบไตรมาส 1 ของป 2556) : ตน<br />

ปหนาเมื่อดัชนีขึ้นทดสอบ 1,407-1,419 จุด ซึ่งนาจะเปน<br />

ระดับสูงสุดของไตรมาส ก็จะเริ่มถูกแรงขายทํากําไรกด<br />

กระหน่ําให SET ตองมาตั้งหลักกันใหมถึง 1,307 – 1,323<br />

จุด<br />

ในชวงปลายงวด 4Q55 คาดวา SET จะขึ้นไมเกิน 1,379 จุด ถัดมาจังหวะ<br />

ยอตัวจะไมลึกเกิน 1,334 จุด พอถึงตนงวด 1Q56 ดัชนีนาจะถูกดันขึ้นตอ<br />

เพื่อทดสอบ 1,407-1,419 จุด ซึ่งที่ระดับนี้นาจะเปนจุดสูงสุดของ 1Q56<br />

จบ Sub Minor Wave 1 กอนที่จะเกิดการปรับฐานทําคลื่นยอย 2 ตาม<br />

จังหวะจนกลับมาที่ 1,307 – 1,323 จุดอีกครั้ง<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+<br />

17


แนวโน้มตลาดหุ้นไตรมาส 1/2556<br />

DTAC :<br />

DTAC มีจุดเดนอยุ 2 อยางคือ เคลื่อนไหวตามกรอบ parallel Line in<br />

uptrend มาไดอยางตอเนื่อง และราคาเพิ่งจะทํา Pattern Breakout ออก<br />

จากกรอบพักฐานลึก (เปนจังหวะที่ราคาลงจาก 94 ถึง 80 บาท) ดวย<br />

จุดเดนทั้ง 2 อยางดังกลาว ทําใหการเคลื่อนไหวปจจุบันมีโอกาสที่จะ<br />

เดินหนาขึ้นตอเนื่อง แมวาระยะสั้นจะมีจังหวะยอตัวตามการขายทํากําไร<br />

แตคาดวาจะไมต่ํากวา 86 – 87 บาท หลังจากนั้นก็นาจะฟนตัวขึ้นทดสอบ<br />

97 และ 100 บาท<br />

สรุปการคาดการณ์<br />

DTAC : ราคาลาสุดอยูที่ 87.25 บาท คาดวาจะยอตัวไมต่ํา<br />

กวา 86-87 บาท ถัดจากนั้นราคานาจะเริ่มเดินหนาขึ้นตอเพื่อ<br />

ทดสอบ 94 97 และ 100 บาท<br />

กลยุทธ์การลงทุน<br />

รอซื้อที่ 86-87 บาท ทํากําไรตามจังหวะที่ 94 97 และ 100<br />

บาท<br />

HMPRO :<br />

Invest+ ฉบับ 4Q55 ที่ผานมา ไดแนะนําใหซื้อสะสมตอนราคาแกวงแถว<br />

12.30 บาท เพื่อเปาหมายทํากําไรที่ 13.7 บาท ซึ่งหากทําตามคําแนะนําก็<br />

นาจะไดกําไรแนนอน เพราะ HMPRO เคลื่อนไหวตรงตามจังหวะและไปได<br />

ไกลเกิน 13.7 บาท กอนจะเกิดการ Dilution Effect หลัง XD หุนปนผล<br />

ปรับฐานราคาลงมา 16.7% สําหรับงวด 1Q55 คาดวา HMPRO จะ<br />

เดินหนาขึ้นตามกรอบ Parallel Line เพื่อไปทดสอบ 13.30 บาท กอนจะจะ<br />

ถูกกดลงมาตั้งฐานกันที่ 12.10 บาท<br />

สรุปการคาดการณ์<br />

HMPRO : ราคาลาสุดอยูที่ 12.20 บาท คาดวาไมนานราคาจะ<br />

เดินหนาขึ้นตอเพื่อทดสอบ 13.30 บาท กอนที่จะซึมลงมาที่<br />

12.10 บาทอีกครั้ง<br />

กลยุทธ์การลงทุน<br />

ซื้อและขายที่ 13.30 บาท<br />

18<br />

Invest+ 1 st Quarter, 2013


แนวโน้มตลาดหุ้นไตรมาส 1/2556<br />

INTUCH :<br />

INTUCH เมื่อมองดูภาพระยะกลางจะพบวา อยูในชวงฟนตัวจากการ<br />

ปรับฐานใหญตามรูปดานบน จังหวะปจจุบันมองวากําลังอยูในชวงพัก<br />

ตัว ราคาไมนาที่จะลงต่ํากวา 65.25 บาท หลังจากนั้นก็จะเริ่มตั้งลําดีด<br />

ตัวขึ้นทดสอบยอด High เดิมที่ 71 และ 72.50 บาท<br />

สรุปการคาดการณ์<br />

INTUCH : ราคาปจจุบันอยูที่ 66.50 บาท คาดวาจะยอไมต่ํา<br />

กวา 65.25 บาท ก็จะยิงขึ้นตอเนื่องเพื่อไป 71 บาทและ 72.50<br />

บาท<br />

กลยุทธ์การลงทุน<br />

ซื้อและขายทํากําไรที่ 72.50 บาท<br />

MCS :<br />

MCS หุนทําทรงฟนจากหลุม ราคาพบ Bottom ไปแลวที่ 5.60 บาท ที่<br />

นาสนใจก็คือจังหวะปจจุบันราคายังอยูในโหมดตั้งลําพักตัวเหนือ 6.25<br />

บาท ทําใหอิทธิพลของการไลราคาเมื่อ 29 พ.ย.55 ยังไมจบลง อาการ<br />

แบบนี้เชื่อวาไมนานราคาจะตองเกิดการดีดตัววิ่งแรงรวดเดียวเกิน 6.90<br />

บาท เพื่อไปยัง 7.4 และ 7.7 บาท<br />

สรุปการคาดการณ์<br />

MCS : ราคาลาสุดอยูที่ 6.45 บาท ไมนานจะตองดีดตัวขึ้น<br />

ทดสอบ 6.9 บาท และไปตอถึง 7.7 บาท<br />

กลยุทธ์การลงทุน<br />

ซื้อเพื่อลุนราคาไป 7.7 บาท<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+<br />

19


แนวโน้มตลาดหุ้นไตรมาส 1/2556<br />

PS :<br />

Invest + ฉบับ 4Q55 ที่ผานมา คาดวาราคาจะไมต่ํากวา 16.50 และจะ<br />

มีจังหวะขึ้นทดสอบ 18.50 บาท กอนลงมาถูกรับที่ 17.70 บาทก็จะขึ้น<br />

ตอ Break 18.50 บาทเพื่อมุงหนาสู 20 บาท<br />

ผลที่ออกมา PS ยังมาตามที่คาด และทําใหรอบนี้ถือเปนไตรมาสที่ 2<br />

แลวที่ PS มาตรงตามจังหวะที่วาดไวพอดีๆ สําหรับ 1Q56 คาดวาราคา<br />

อาจลงมาตั้งหลักกันใหมที่ 20.40 บาท กอนที่จะเริ่มถูกไลขึ้นอีกครั้ง เพื่อ<br />

ไปทดสอบ 21.8 และ 22.50 บาท<br />

สรุปการคาดการณ์<br />

PS : ราคาลาสุดอยูที่ 21.40 บาท คาดวาราคากําลังอยูในชวง<br />

ปรับฐาน นาจะลงมาตั้งหลักกันใหมที่ 20.4 บาท กอนที่จะเริ่ม<br />

ถูกดันขึ้นใหมอีกครั้งเพื่อไปยัง 22.50 บาท<br />

กลยุทธ์การลงทุน<br />

รอซื้อที่ 20 – 20.4 บาท<br />

KBANK :<br />

Invest + ฉบับ 4Q55 ที่ผานมา ตอนนั้นราคายังอยูที่ 181 บาท คาดไว<br />

วาราคาจะไมลงไปต่ํากวา 177 บาท ก็จะเริ่มดีดตัวกระชากทีเดียวไปถึง<br />

193 บาท กอนที่จะเกิดการปรับฐานใหญ รวงลงกลับ 177 – 164 บาท<br />

ผลปรากฎออกมา KBANK ขึ้นไปไดสูงสุดแค 188 บาท ก็ลงมาตาม<br />

จังหวะที่วางเอาไวจนลึกถึง 170 บาท แตหลังจากนั้นราคาก็ฟนแรงและ<br />

ยาว จนทํา New High สูงถึง 203 บาท คาดวาราคาจะเริ่มปรับลดลง<br />

ตามการ Take profit โดยมีแนวรับสําคัญอยูที่ 188 บาท หลังจากนั้น<br />

ราคาจะเริ่มตีกลับขึ้นตออีกครั้ง เพื่อไปยัง 203 และ 216 บาท<br />

สรุปการคาดการณ์<br />

KBANK : ราคาปจจุบันอยูที่ 194 บาท คาดวาจะลงทดสอบ<br />

188 บาทกอนจะดีดกลับขึ้นมาที่ 203 และ 216 บาท<br />

กลยุทธ์การลงทุน<br />

รอซื้อที่ 188 บาท<br />

20<br />

Invest+ 1 st Quarter, 2013


แนวโน้มตลาดหุ้นไตรมาส 1/2556<br />

ROJNA :<br />

ROJAN หุนสุดโปรด ราคาทําทรง V-Shape หลังฟนขึ้นมาจาก 9 บาท<br />

แตจังหวะปจจุบันยังไมไดเกิด เมื่อขึ้นมาติดแนวตานสําคัญ 10.7 – 10.9<br />

บาท คาดวาราคาจะไมปรับยอต่ํากวา 10.10 บาท ก็จะเริ่มตั้งลํา เตรียม<br />

ขึ้นทดสอบ 10.7 บาทอีกรอบ ซึ่งครั้งนี้หากผานได คาดวาไปยาวถึง 12<br />

บาท<br />

สรุปการคาดการณ์<br />

ROJNA : ราคาลาสุดอยูที่ 10.40 บาท คาดราคาไมนาลงต่ํา<br />

กวา 10.10 บาทก็จะเริ่มดีดกลับวิ่งเกิน 10.9 บาทเพื่อไปยัง 12<br />

บาท<br />

กลยุทธ์การลงทุน<br />

รอซื้อที่ 10.1 บาทเพื่อ 12 บาท<br />

TOP :<br />

TOP หุนดีที่ถูกฝงอยูภายใตกรอบ Sideway ขนาดใหญ ราคาอยูภายใต<br />

แนวเสน Downtrend Line ขนาดใหญ ระยะสั้นอาจตองวนกลับลงมาที่<br />

65.25 บาทอีกครั้ง แตปหนาเชื่อวา TOP ตองมีจังหวะ Break ผาน<br />

68.50 บาท หากทําไดก็จะเปนการเปดศักราชใหม ราคาอาจวิ่งยาวถึง<br />

72.50 บาท<br />

สรุปการคาดการณ์<br />

TOP : ราคาลาสุดอยูที่ 36.75 บาท ระยะสั้นคงตองลงมาที่<br />

65.25 บาทอีกครั้ง แตตนปหนา หากผาน 68.5 บาท จะเปน<br />

สัญญาณยิงยาวถึง 72.50 บาท<br />

กลยุทธ์การลงทุน<br />

รอซื้อตามตอน Break 68.50 บาท<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+<br />

21


แนวโน้มตลาดหุ้นไตรมาส 1/2556<br />

SET50 Index Futures<br />

SET 50 Index<br />

Invest+ ฉบับ 4Q55 ที่ผานมา คาดการณเอาไววา ดัชนีจะขึ้นทดสอบ 880<br />

จุดและผานเลยไปจนถึง 900 จุด กอนที่จะเริ่มปรับฐานใหญปรับลง<br />

ตอเนื่องจนถึง 847 จุด และ 779 จุด<br />

ผลที่ปรากฎออกมา ดัชนีขึ้นตอและเขาใกล 900 จุดกอนจะปรับฐานลงมา<br />

หนักจริง เพียงแตจังหวะปรับฐานดัชนีลงมาลึกสุดแค 855 จุด หางไกล<br />

จากที่ฝายวิจัยประเมินไวที่ 847 และ 779 จุด พอสมควร<br />

สําหรับการคาดการณในชวง กลาง ธ.ค. เรื่อยไปจนถึงสิ้น มี.ค. 2556 ชวง<br />

เดือน ธ.ค.55 ดัชนีไมมีเกิน 936 จุด โดยจังหวะยอตัวคาดวาจะไมต่ํากวา<br />

916 จุด ตอมาในตนงวด 1Q56 คาดวาดัชนีจะถูกไลขึ้นอีกรอบจนไป<br />

ทดสอบ 980 จุด ซึ่งจะเปนระดับสูงสุดของไตรมาส ถัดจากนั้นดัชนีจะถูก<br />

ทิ้งกระหน่ํากดลงมาลึกถึง 890 จุด<br />

กลยุทธ์การลงทุน<br />

ระดับดัชนี ณ วันที่ 17 ธ.ค.55 อยูที่ 922.78 จุด<br />

ระหวาง ธ.ค. 2555 – ม.ค. 2556 : จังหวะ Upside<br />

เหลือนอยนิด ใหรอดูการเคลื่อนไหวของดัชนีในกรอบ<br />

916 – 936 จุด โดยอาจรอ Long ที่ระดับ 916 จุด<br />

ระหวาง ม.ค. 2556 – ก.พ. 2556 : เนนเปด Long เพื่อ<br />

ลุนทํากําไรที่ระดับ 980 จุด<br />

ระหวาง ก.พ. 2556 – มี.ค. 2556 : ปด Long รับรูกําไร<br />

ที่ 980 จุด กอนที่จะเปด Short เพื่อหวังผลทํากําไรที่ที่<br />

890 จุด<br />

สรุปการคาดการณ์<br />

SET50 ระยะสั้น (ภายใน 1-2 สัปดาห นับจากนี้) : ดัชนีจะขึ้นไมเกิน 936<br />

จุด และตองมีจังหวะยอตัวซึ่งก็ไมนาต่ํากวา 916 จุด<br />

SET50 ระยะกลาง (ภายใน 1-2 เดือน นับจากนี้) : หลังจากตังหลักกันที่<br />

916 จุดแลว ดัชนีจะเดินหนาขึ้นตอเพื่อมาทดสอบ 980 จุด<br />

SET50 ระยะยาว (จากนี้จนจบไตรมาสหนึ่งของป 2556) : ที่ 980 จุดจะ<br />

เปนจุดสูงสุดของงวด 1Q56 เมื่อมาทดสอบที่ระดับนี้แลว ดัชนีจะตองถูกเท<br />

ขายกดลงมาลึกถึง 890 จุด<br />

22<br />

Invest+ 1 st Quarter, 2013


ความสัมพันธ์ของ Spread ที่เกิดขึ้น กับ Spread ของ<br />

<strong>ASP</strong> Carry Cost Model<br />

15.0<br />

10.0<br />

5.0<br />

-<br />

-5.0<br />

-10.0<br />

-15.0<br />

Point<br />

Theory Spread<br />

Actual Spread<br />

10.2<br />

6.3<br />

6.9<br />

7.5<br />

4.9 4.6<br />

5.4<br />

4.4<br />

3.6<br />

1.2<br />

2.3<br />

0.8<br />

0.6<br />

0.1<br />

0.9<br />

-0.5<br />

0.5<br />

-0.9<br />

-2.3 -2.2<br />

-3.5-3.8 -3.2 -1.9 -0.8 -1.3 -1.7 -1.1<br />

-1.3<br />

-2.4<br />

-2.5<br />

-3.7 -3.2 -5.3 -3.1<br />

-4.8-5.2 -5.3<br />

-4.1<br />

-6.5<br />

-5.0<br />

-4.0 -5.0<br />

-6.7<br />

-6.8<br />

-5.6<br />

-5.0<br />

-6.3<br />

-5.3<br />

-7.7 -6.5 -6.6<br />

-7.7<br />

-9.5<br />

2Q06<br />

3Q06<br />

4Q06<br />

1Q07<br />

2Q07<br />

3Q07<br />

4Q07<br />

1Q08<br />

2Q08<br />

3Q08<br />

4Q08<br />

1Q09<br />

2Q09<br />

3Q09<br />

4Q09<br />

1Q10<br />

2Q10<br />

3Q10<br />

4Q10<br />

1Q11<br />

2Q11<br />

3Q11<br />

4Q11<br />

1Q12<br />

2Q12<br />

3Q12<br />

4Q12F<br />

เป้าหมาย Spread ระหว่าง Series อื่นๆ ในช่วง 1H56<br />

เปาหมาย Spread ซีรียไกล - ซีรียใกล<br />

S50F13 S50G13 S50H13 S50J13 S50K13 S50M13<br />

ณ 30 ม.ค.56 ณ 27 ก.พ.56 ณ 28 มี.ค.56 ณ 29 เม.ย.56 ณ 30 พ.ค.56 ณ 27 มิ.ย.56<br />

S50F13<br />

S50G13 -0.89 จุด<br />

S50H13 -1.99 จุด -1.11 จุด<br />

S50J13 -7.97 จุด -7.08 จุด -5.97 จุด<br />

S50K13 -7.95 จุด -7.06 จุด -5.95 จุด 0.02 จุด<br />

S50M13 -6.03จุด -5.19 จุด -4.10 จุด 1.93 จุด 1.92 จุด<br />

เกณฑ์ที่ใช้ในการคัดเลือก Option สําหรับการลงทุน<br />

1. All in Premium ซึ่งใชอธิบายวา SET50 จะตองเปลี่ยนแปลงไป<br />

ในทิศทางที่เราตองการกี่ % จึงจะทําให ถึงจุดคุมทุนจากการใช<br />

สิทธิของ Option ดังกลาว ( ยิ่งต่ํายิ่งดี )<br />

2. Imply Volatility บอกถึงความถูกแพงของ Option ในเชิง<br />

เปรียบเทียบกับ Option Series อื่น (ยิ่งต่ํายิ่งดี)<br />

3. OI บงบอกถึงสภาพคลองของ Option Series นั้นๆ (ยิ่งสูงยิ่งดี)<br />

4. Effective Gearing บอกถึง % การเปลี่ยนแปลงของคาพรีเมียม<br />

เมื่อดัชนี SET50 เปลี่ยนแปลง 1% ( ยิ่งสูงยิ่งดี )<br />

วิเคราะห์ SET50 Index Futures & Options<br />

วิเคราะห์ SET50 Index Futures<br />

คาดการณ์ Spread โดยใช้ Carry Cost Model<br />

<strong>ASP</strong> Carry Cost Model นับเปนเครื่องมือที่สามารถใชในการ Trade<br />

Spread และกําหนดกลยุทธการ Trade Spread ไดอยางแมนยํา ตั้งแต<br />

เริ่มใชจริงในงวด 3Q52 (ตามภาพประกอบดานซาย) โดยเฉพาะในชวง<br />

ป 2555 ระดับ Spread ที่เกิดขึ้น ตรงกับเปาหมายที่คํานวณไวแทบไมมี<br />

ผิดเพี้ยน<br />

ภายใต <strong>ASP</strong> Carry Cost Model คาดการณวา ณ สิ้นงวด 1Q56<br />

Spread ระหวาง S50M13 ลบดวย S50H13 ณ วันที่ 28 มี.ค. 2556 จะ<br />

เปน -4.1 จุด ทั้งนี้เกิดจากตนทุนในการถือครอง หรือ ตนทุนจาก<br />

ดอกเบี้ยในชวง เม.ย. – มิ.ย. 2556 คาดวาจะอยูที่ 0.625% ตอ<br />

ไตรมาส และสามารถแปลงเปนระดับดัชนีไดเทากับ 5.79 จุด หักออก<br />

ดวยผลตอบแทนจากเงินปนผลของ SET50 ในชวงเดียวกัน คาดวาจะ<br />

อยูที่ 1.06% หรือเทากับ 9.86 จุด<br />

กลยุทธ์การลงทุน<br />

นักลงทุนสามารถนํา Spread ที่ไดจาก <strong>ASP</strong> Carry Cost Model มา<br />

ชวยกําหนดกลยุทธการ Trade Spread ไดดังนี้<br />

1) Short Spread เมื่อ Spread ของ S50H13M13 มีคาสูงกวา-2 จุด<br />

(คํานวณจาก Spread ที่คาดไว รวม ตนทุน = -4.10 + 2 จุด)<br />

2) Long Spread เมื่อ Spread ของ S50H13M13 มีคาต่ํากวา-6.1 จุด<br />

(คํานวณจาก Spread ที่คาดไว หัก ตนทุน = -4.1 – 2 จุด)<br />

วิเคราะห์ SET50 Index Options<br />

ภาวะการลงทุนของตลาดหุนชวง 4Q55 เต็มไปดวยความคาดหวังใน<br />

เชิงบวก ทั้งเรื่องการออกมาตรการกระตุนเศรษฐกิจของเฟด และการ<br />

แกไขปญหาวิกฤติหนี้ในยุโรป เชนเดียวกับตลาดหุนไทย ที่ไดรับแรง<br />

หนุนจาก Fund Flow ตางชาติที่เขาซื้อสะสมตอเนื่อง ทําให SET50<br />

ปรับตัวขึ้นไปกวา 40 จุด ในชวงเวลา 3 เดือนที่ผานมา<br />

มุมมองชวง 1Q56 เชื่อวาปจจัยบวกที่สวนใหญไดถูกสะทอนในราคา<br />

หุนไปแลว ขณะที่ความเสี่ยงที่กําลังเผขิญ คือ ภาวะหนาผาทางการ<br />

คลังของสหรัฐ หลังมาตรการกระตุนเศรษฐกิจหลายอยางสิ้นสุดลง<br />

รวมถึงปญหาวิกฤติหนี้ยุโรปที่ยังไมจบ อาจทําให SET 50 เกิดการปรับ<br />

ฐานลงมาได โดยเฉพาะชวงตนปที่จะมีแรงขายจาก LTF ออกมา<br />

ภายใตสถานการณขางตน การเลือกใชกลยุทธ Long Put ถือวามี<br />

ความเหมาะสม โดยนักลงทุนที่ใช Option เปนเครื่องมือเก็งกําไร<br />

แนะนํา Long Put Option Series H13 ชวง Exercise Price ระหวาง<br />

900-950 จุด เมื่อ SET50 อยูในระดับใกลเคียง 966 จุด เทียบเทา PER<br />

15 เทา ขณะที่นักลงทุนที่ใช Put Option เปนเครื่องมือปองกันความ<br />

เสี่ยง แนะนําใหใชสัญญา Put Option 1 สัญญา ตอมูลคาพอรตลงทุน<br />

หุน 1.8-1.9 แสนบาท โดยกรอบลางของ SET50 ที่ 901 จุด เทียบเทา<br />

PER 14 เทา นาจะเปนแนวรับสําคัญ สําหรับการปดสถานะ Long Put<br />

เพื่อรับรูกําไร หรือเปลี่ยนทิศทางมาเปดสถานะ Long Call แทน<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+<br />

23


วิเคราะห์ Oil Futures<br />

ความสัมพันธ์ระหว่างราคาน้ํามันดิบ Brent และ ราคา TFEX Oil<br />

Futures และปริมาณการซื้อขายรายวัน<br />

3,800<br />

3,650<br />

3,500<br />

3,350<br />

3,200<br />

3,050<br />

2,900<br />

2,750<br />

May-12<br />

Jun-12<br />

Jul-12<br />

TFEX Vol TFEX Oil Fut Brent Crude Fut<br />

Aug-12<br />

Sep-12<br />

Oct-12<br />

Nov-12<br />

5000<br />

4500<br />

4000<br />

3500<br />

3000<br />

2500<br />

2000<br />

1500<br />

1000<br />

ส่วนต่างระหว่างราคา TFEX Oil Futures กับน้ํามันดิบ Brent<br />

150<br />

100<br />

50<br />

0<br />

-50<br />

-100<br />

-150<br />

Apr-12<br />

May-12<br />

TFEX Oil Futures - ICE Brent Futures<br />

Jul-12<br />

ความสัมพันธ์ระหว่างราคาน้ํามันดิบ Brent และ ราคา TFEX Oil<br />

Futures และปริมาณการซื้อขายรายวัน<br />

140<br />

130<br />

120<br />

110<br />

100<br />

92<br />

90<br />

88<br />

86<br />

84<br />

82<br />

80<br />

90<br />

Dec-11<br />

Mln Barrel<br />

94<br />

Dec-10<br />

3Q55 ICE Brent Price<br />

Upperbound<br />

Jan-12<br />

Feb-12<br />

Mar-12<br />

Apr-12<br />

May-12<br />

Jun-12<br />

Jul-12<br />

Aug-12<br />

Sep-12<br />

Sep-12<br />

Oct-12<br />

Nov-12<br />

Nov-12<br />

500<br />

3Q55 ICE Brent Price Forecast<br />

Low erbound<br />

ส่วนต่างระหว่าง Demand Supply น้ํามันของ OPEC<br />

Jan-11<br />

OPEC Crude Oil Supply Data Refined Oil Product Demand Spread ระหวาง Demand Supply<br />

Feb-11<br />

Mar-11<br />

Apr-11<br />

May-11<br />

Jun-11<br />

Jul-11<br />

Aug-11<br />

Sep-11<br />

Oct-11<br />

Nov-11<br />

Dec-11<br />

Jan-12<br />

Feb-12<br />

Mar-12<br />

Apr-12<br />

May-12<br />

Jun-12<br />

Jul-12<br />

Aug-12<br />

Sep-12<br />

Oct-12<br />

Nov-12<br />

0<br />

Mln Barrel<br />

6<br />

4<br />

2<br />

0<br />

-2<br />

3 เดือนข้างหน้าโอกาสปรับขึ้นมีค่อนข้างมาก<br />

Demand (+) ทิศทางความตองการน้ํามันในงวด 1Q56 มีแนวโนมเพิ่มสูงขึ้น<br />

หลังจากอยูภายใตแรงกดดันของเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวทั้งในยุโรปและสหรัฐฯ<br />

ซึ่งมาตรการอัดฉีดเม็ดเงินเสริมสภาพคลองทั่วโลกที่ไดดําเนินการไปตั้งแตปลาย<br />

3Q55 นาจะสงผลตอเศรษฐกิจโลกใหเริ่มฟนตัวไดในชวงไตรมาสแรกของป<br />

2556 และจะสะทอนถึงปริมาณความตองการใชน้ํามันใหเพิ่มสูงขึ้น สวน<br />

เศรษฐกิจฝงเอเซียโดยเฉพาะอยางยิ่งจีนหลังการเปลี่ยนผานรัฐบาลชุดใหมเริ่ม<br />

มีสัญญาณการฟนตัวอยางมีเสถียรภาพ อีกทั้งนโยบายกระตุนการบริโภค<br />

ภายในประเทศมากขึ้นแทนการไดดุลการคากับตางประเทศชวยผลักดันปริมาณ<br />

การใชน้ํามันของจีนเพิ่มสูงตอเนื่องตั้งแตปลายป 2555 นอกจากนี้การที่ IEA ได<br />

ออกมาปรับเพิ่มปริมาณความตองการใชน้ํามันดิบโลกป 2556 ยิ่งเสริมสราง<br />

demand ใหมีอยางตอเนื่อง แตอยางไรก็ดีความกังวลตอปญหาทางการเมือง<br />

และความไมสงบในตะวันออกกลางที่อาจเกิดเหตุการณที่ไมคาดฝนขึ้น อาจ<br />

สงผลใหเกิดแรงเก็งกําไรในสินคาโภคภัณฑอยางน้ํามัน ทําใหราคาเคลื่อนไหว<br />

ในลักษณะที่ผันผวนรุนแรง<br />

Supply (+) แนวโนมกําลังการผลิตน้ํามันโลกในงวด 1Q56 มีทิศทางเพิ่มขึ้น ซึ่ง<br />

เปนผลมาจากปริมาณการผลิตของกลุมผูผลิตน้ํามันนอกกลุมโอเปกที่มีแนวโนม<br />

ขยายตัวขึ้นประมาณ 1 ลานบารเรลตอวัน โดยคาดวาประเทศที่ผลิตน้ํามันได<br />

เพิ่มขึ้นมากที่สุดหนึ่งในนั้นคือสหรัฐฯ สอดคลองกับนโยบายทางการเมืองที่<br />

ตองการลดการนําเขาน้ํามันจากตางประเทศ แตอยางไรก็ดีการที่กลุมประเทศ<br />

โอเปกตัดสินใจคงกําลังการผลิตน้ํามันอยูที่ระดับ 30 ลานบารเรล/วัน และ<br />

สามารถเพิ่มขึ้นในอนาคตเพื่อตอบสนอง demand นาจะผอนคลายความกังวล<br />

ในเรื่องความตึงเครียดในตะวันออกกลางไปได<br />

เชื่อวาในระยะสั้นแรงผลักจาก demand ที่มีจีนเปนตัวขับเคลื่อนที่สําคัญ และ<br />

อิทธิพลจากแรงเก็งกําไรของกลุมที่ยังมีความกังวลตอวิกฤตหนี้ยุโรปและความ<br />

ไมเชื่อมั่นในการฟนตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ นาจะทําใหราคาน้ํามันดิบ Brent<br />

สามารถปรับตัวสูงขึ้น โดยมีกรอบแนวตานสําคัญบริเวณ 118 – 120 เหรียญฯ/<br />

บารเรล ขณะที่ Supply และปริมาณสต็อกน้ํามันดิบทั่วโลกที่ยังมีอยูมากพอจะ<br />

เปนตัวกดไมใหราคาน้ํามัน Brent ปรับขึ้นมากเกินไป ขณะเดียวกันก็จะชวย<br />

ควบคุมไมใหราคาปรับลดลงแรง ทั้งนี้เชือวาราคาน้ํามันดิบ Brent ที่บริเวณ 105<br />

– 110 เหรียญฯ/บารเรล จะทําหนาที่เปนแนวรับที่สําคัญ<br />

กลยุทธ์การลงทุน : Long ช่วง 105 - 110<br />

เหรียญฯ และ Short ที่ 118 – 120 เหรียญฯ<br />

กลยุทธสําหรับการลงทุนใน Oil Futures งวด 1Q56 ยังคงตองเปนลักษณะของ<br />

การ Trading เปนรอบๆ โดยชวงระดับราคาที่เปนกรอบบนชวง 118 – 120<br />

เหรียญฯ/บารเรล การที่อยูในสถานะ Short นาจะมีโอกาสทํากําไรไดมากกวา<br />

และในทางตรงขาม หากราคาปรับลดลงมาที่แนวรับชวง 105 – 110 เหรียญฯ/<br />

บารเรล โอกาสที่จะทํากําไรจากขา Long ก็จะมีมากกวา ทั้งนี้ในการตัดสินใจ<br />

ตองพิจารณาที่ระดับอัตราแลกเปลี่ยนประกอบดวย และเนื่องจากทิศทางการ<br />

เคลื่อนไหวของราคาที่คาดวาจะเปนไปดวยความผันผวน และการลงทุนใน<br />

สัญญาซื้อขายลวงหนา ถือเปนการลงทุนที่มีอัตราทด (Leverage) สูง นักลงทุน<br />

จึงตองใชความระมัดระวัง และมีวินัยในการลงทุน โดยในการเขาไปมีสถานะ<br />

ใดๆ ก็ตามตองตั้งจุดจํากัดขาดทุน (Cut Loss) ไวทุกครั้ง และปฎิบัติตามอยาง<br />

เครงครัด<br />

24<br />

Invest+ 1 st Quarter, 2013


การเคลื่อนไหวของราคาทองคํารายวัน<br />

Gold Price ( US/Oz)<br />

2,400<br />

2,000<br />

1,600<br />

1,200<br />

800<br />

400<br />

0<br />

ก.ค. 52<br />

ก.ย. 52<br />

พ.ย. 52<br />

ม.ค. 53<br />

มี.ค. 53<br />

พ.ค. 53<br />

ก.ค. 53<br />

ก.ย. 53<br />

พ.ย. 53<br />

ม.ค. 54<br />

มี.ค. 54<br />

พ.ค. 54<br />

ก.ค. 54<br />

ก.ย. 54<br />

พ.ย. 54<br />

ม.ค. 55<br />

มี.ค. 55<br />

พ.ค. 55<br />

ราคาสูงสุด-ราคาต่ําสุด Gold US<br />

(เหรียญฯ/ออนซ ) 4Q54 1Q55 2Q55 3Q55 4Q55<br />

ราคาต่ําสุด 1,546 1,564 1,540 1,567 1,678<br />

ราคาสูงสุด 1,795 1,784 1,678 1,777 1,790<br />

Max-Min 249 221 138 210 112<br />

ราคาเฉลี่ย 1,679 1,691 1,614 1,656 1,727<br />

S.D 66.5 49.0 36.0 51.5 27.0<br />

% return -3.7% 6.7% -4.3% 10.9% 11.0%<br />

หมายเหตุ ขอมูล 4Q55 ตั้งแต 1 ต.ค.-17 ธ.ค. 55<br />

การเคลื่อนไหวระหว่างราคาทองคําและ Dollar Index<br />

2,000<br />

1,800<br />

1,600<br />

1,400<br />

1,200<br />

1,000<br />

800<br />

15 พ.ค. 52<br />

USD/Troy Ounce<br />

15 ก.ค. 52<br />

15 ก.ย. 52<br />

15 พ.ย. 52<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

15 ม.ค. 53<br />

15 มี.ค. 53<br />

15 พ.ค. 53<br />

15 ก.ค. 53<br />

15 ก.ย. 53<br />

15 พ.ย. 53<br />

Dollar Index<br />

15 ม.ค. 54<br />

15 มี.ค. 54<br />

15 พ.ค. 54<br />

15 ก.ค. 54<br />

15 ก.ย. 54<br />

15 พ.ย. 54<br />

15 ม.ค. 55<br />

ก.ค. 55<br />

15 มี.ค. 55<br />

London AM<br />

สถานะการถือครองทองคําของประเทศต่างๆ<br />

ก.ย. 55<br />

15 พ.ค. 55<br />

พ.ย. 55<br />

15 ก.ค. 55<br />

15 ก.ย. 55<br />

120<br />

100<br />

80<br />

60<br />

40<br />

20<br />

0<br />

Dollar Index<br />

ประเทศ<br />

ปริมาณการถือครองทองคํา ( ตัน ) % การคือครอง<br />

Mar-12 Jun-12 Sep-12 Dec-12 ทองคํา<br />

1. United States 8,134 8,134 8,134 8,134 25.8%<br />

2. Germany 3,396 3,396 3,396 3,391 10.8%<br />

3. IMF 2,814 2,814 2,814 2,814 8.9%<br />

4. Italy 2,452 2,452 2,452 2,452 7.8%<br />

5. France 2,435 2,435 2,435 2,435 7.7%<br />

6. China 1) 1,054 1,054 1,054 1,054 3.3%<br />

7. Switzerland 1,040 1,040 1,040 1,040 3.3%<br />

8. Russia 883 918 935 935 3.0%<br />

9. Japan 765 765 765 765 2.4%<br />

10. Netherlands 613 613 613 613 1.9%<br />

Other 7,693 7,739 7,854 7,858 25.0%<br />

รวม 31,279 31,359 31,491 31,491 100.0%<br />

ที่มา : www.gold.org<br />

ราคาทองในรูปดอลลาร์ VS. บาท<br />

GOLD Londin AM ( USD/Ounce )<br />

FX ( บาท/ USD )<br />

15 พ.ย. 55<br />

30.00 30.25 30.50 30.75 31.00<br />

1,680 23,957 24,156 24,356 24,555 24,755<br />

1,700 24,242 24,444 24,646 24,848 25,050<br />

1,720 24,527 24,731 24,936 25,140 25,345<br />

1,740 24,812 25,019 25,226 25,432 25,639<br />

1,760 25,097 25,306 25,516 25,725 25,934<br />

1,780 25,383 25,594 25,806 26,017 26,229<br />

1,800 25,668 25,882 26,096 26,309 26,523<br />

1,820 25,953 26,169 26,385 26,602 26,818<br />

1,840 26,238 26,457 26,675 26,894 27,113<br />

London Gold AM Fixing * (15.244/31.1035) * (0.965/0.995) * (THB/USD)<br />

ราคาสูงสุด-ราคาต่ําสุด (US/Oz)<br />

90<br />

88<br />

86<br />

84<br />

82<br />

80<br />

78<br />

76<br />

74<br />

72<br />

70<br />

วิเคราะห์ GOLD Futures<br />

ทองคํา 1Q56 เน้น Trading ทํากําไร<br />

ในชวง 4Q55 ราคาทองคําตลาดโลกมีการเคลื่อนไหวในทิศทางขาลง<br />

มาโดยตลอด โดยราคาทองคําปรับฐานลงมากวา 110 เหรียญฯ จาก<br />

ระดับสูงสุด 1,790 เหรียญฯ/ทรอยออนซ มาต่ําสุดที่ 1,677 เหรียญฯ<br />

โดยลาสุดมาอยูที่บริเวณ 1,688 เหรียญฯ ทั้งนี้เปนผลมาจากแรงขาย<br />

ทํากําไร หลังมีสัญญาณแนวโนมเศรษฐกิจสหรัฐฟนตัวดีขึ้นในชวงที่<br />

ผานมา ขณะที่ราคาทองคําไมตอบสนองเชิงบวกตอขาวการประกาศ<br />

มาตรการผอนคลายเชิงปริมาณรอบใหมลาสุดของเฟด ผานการเขาซื้อ<br />

พันธบัตรรัฐบาลในวงเงิน 4.5 หมื่นลานดอลลาร/เดือน แทน Operation<br />

Twist ที่จะหมดลงในสิ้นปนี้ เนื่องจากไดถูกเก็งกําไรขึ้นไปลวงหนาจาก<br />

ประเด็นขาวดังกลาวไปแลว<br />

แนวโนมการเคลื่อนไหวของราคาทองคําในชวง 1Q56 ประเมินวานาจะ<br />

ผันผวนในกรอบ 1,680-1,750 เหรียญฯ โดยในระยะสั้นมีโอกาสดีดตัว<br />

ขึ้นมายืนเหนือ 1,700 เหรียญฯ จากแรงผลักดันของ dollar Index ที่<br />

ออนคาลง หลังการอัดฉีดเม็ดเงินเพิ่มสภาพคลองใหปริมาณเงิน<br />

(Money Supply) รอบใหมมีผลทางปฎิบัติ ขณะที่ประเด็นสําคัญ<br />

เกี่ยวกับการแกไขปญหาหนาผาการคลัง (Fiscal Cliff) ของสหรัฐ<br />

ประเมินวาผลสรุปที่จะไดภายในสิ้นป 2555 นี้ หรืออยางชาตนป 2556<br />

นาจะออกมาในลักษณะของการประนีประนอม (Compromise) เชน<br />

การปรับขึ้นภาษีบุคคลธรรมดาอาจไมถึง 2% หรือการปรับลด<br />

งบประมาณรายจายก็อาจไมไดมากตามแผนเดิม เปนตน ซึ่งก็นาจะ<br />

เปนแรงกดดันอีกประการหนึ่งให Dollar Index ออนคาลง อยางไรก็<br />

ตามความผันผวนจากสถานการณวิกฤติหนี้สินในยุโรปที่ยังขาด<br />

แนวทางแกปญหาที่เปนเอกภาพ จะทําใหเกิดกระแสทั้งเชิงบวก และ<br />

ลบ สลับกันอยูตลอดเวลา บวกกับมุมมองของนักลงทุนที่มีตอทองคําก็<br />

มีการเปลี่ยนแปลงอยูเสมอ โดยในชวงที่มีสถานการณการแกปญหาใน<br />

ยุโรปออกมาในเชิงลบ<br />

หรือการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจออกมาไมดี<br />

ทองคําก็จะถูกมองในฐานะทางเลือกการลงทุนที่ปลอดภัย (Save<br />

Heaven) แตเมื่อเกิดกระแสตรงขามหรือมีมาตรการบางอยางออกมาก็<br />

อาจถูกมองในฐานะที่เปนสินทรัพยที่มีความเสี่ยง (Risky Asset) ทําให<br />

การลงทุนในทองคํายังคงมีความเสี่ยง<br />

กลยุทธ์...เล่นรอบ 1,680-1,750 เหรียญฯ<br />

ทิศทางราคาทองคําที่มีแนวโนมแกวงตัวผันผวน ทําใหกลยุทธการ<br />

ลงทุนใน Gold Future จึงควรทําในลักษณะ Trading เปนรอบ ๆ อยูใน<br />

กรอบราคาทองคําในตลาดโลกที่ 1,680 – 1,750 เหรียญฯ/ทรอยออนซ<br />

โดยที่โอกาสทํากําไรในสถานะ Long จะมีมากกวา กรณีที่ระดับราคา<br />

ทองคําต่ํากวา 1,700 เหรียญฯ (เทียบเทา 24,900 บาท อิงอัตรา<br />

แลกเปลี่ยน 30.6 บาท/USD) และโอกาสทํากําไรในขา Short จะมี<br />

มากกวา หากราคาทองคําปรับขึ้นไปเหนือ 1,750 เหรียญฯ (เทียบเทา<br />

25,600 บาท) โดยเลือกมีสถานะใน GFG13 ซึ่งจะหมดอายุในเดือน<br />

กุมภาพันธ 2556 อยางไรก็ตามนักลงทุนตองกําหนดจุด Cut Loss ทุก<br />

ครั้งเพื่อจํากัดผลขาดทุน ตามขีดความสามารถในการรับความเสี่ยง<br />

ของแตละทาน ซึ่งโดยปกติ <strong>ASP</strong> Research จะกําหนดไมเกิน 100<br />

บาท/บาททองคํา หรือ ประมาณ 3 $US ในแตละรอบ<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 25


กลุ่มกองทุนรวมอสังหาฯ<br />

น้ําหนัก เท่าตลาด<br />

แม้ราคาปรับขึ้นแต่ Dividend Yield ยัง 7%<br />

Div Yield ยังน่าสนใจเฉลี่ย 7% ต่อปี<br />

ประกาศใช้ REITs วันที่ 1 ม.ค. 2556 ช่วยเพิ่มทางเลือกในการลงทุน<br />

แนะนําลงทุน CPNRF, POPF, SPF และ TFUND<br />

Dividend Yield ยังน่าสนใจเฉลี่ย 7% ต่อปี<br />

สิ้นงวด 3Q55 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพยเพิ่มเปน 40 กอง จาก<br />

38 กองใน 2Q55 แบงเปนกองทุนแบบถือครองกรรมสิทธิ์ใน<br />

ทรัพยสิน (Free Hold) 25 กองทุน และถือครองสิทธิการเชาใน<br />

ทรัพยสิน (Lease Hold) 15 กองทุน คิดเปนมูลคาตลาดรวม<br />

(Market Cap) สูงตอเนื่อง 1.79 แสนลานบาท โดยการลงทุนใน<br />

Property Fund คงใหผลตอบแทนในรูปแบบเงินปนผลสม่ําเสมอ<br />

เฉลี่ยเกือบ 7% ตอป แยกเปนกองทุนแบบ Leasehold ให<br />

ผลตอบแทนเฉลี่ย 7.3% สูงกวากองทุนแบบ Free Hold ซึ่งเฉลี ่ย<br />

6.6% ตอป โดยผลตอบแทนดังกลาว ยังถือวานาสนใจเมื่อเทียบ<br />

กับการลงทุนในรูปแบบอื่น อาทิเชน พันธบัตรรัฐบาล หรือเงินออม<br />

8.0%<br />

7.0%<br />

6.0%<br />

5.0%<br />

4.0%<br />

3.0%<br />

2.0%<br />

1.0%<br />

0.0%<br />

อัตราผลตอบแทนรูปแบบต่าง ๆ สิ้นงวด 3Q55<br />

7.3% 6.9% 6.6%<br />

กองทุน<br />

Lease Hold<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

Property<br />

Fund รวม<br />

Dividend<br />

กองทุน Free<br />

Hold<br />

3.5%<br />

Gov. Bond<br />

10 Yrs.<br />

2.6% 2.5%<br />

0.8%<br />

SET Fixed 12 M Saving<br />

นอกจากนี้ มีจุดนาสนใจตรงความเสี่ยงตอการลดลงของเงินตนอยู<br />

ในระยะต่ํา เนื่องจากพบวามี Beta ต่ําเพียง 0.135 เทา สะทอน<br />

ราคาหนวยลงทุนมีความผันผวนต่ํามากเมื่อเทียบกับ SET Index<br />

ซึ่งเปนลักษณะที่ชวยปองกันความเสี่ยงจากการลดลงของราคา<br />

หนวยลงทุนไดคอนขางดี<br />

คาดผลตอบแทนปี 2556 ยืนต่อได้ 7%<br />

จากคุณสมบัติหลักของกลุม Property Fund ที่มีการสรางรายได<br />

จากคาเชา-บริการ ในสินทรัพยที่เปนสิทธิของกองทุน ทําใหเชื่อวา<br />

ฐานรายไดจะไมผันผวน และขณะเดียวกันก็จะไดรับประโยชนตาม<br />

การขยายตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งนาจะทําใหผลตอบแทนการลงทุนใน<br />

Property Fund ป 2556 ยืนตอเนื่องได 7% ตอป โดยสามารถ<br />

ประเมินแนวโนมแยกตามประเภทสินทรัพยที่กองทุนถือครองดังนี้<br />

สนามบินเกาะสมุย: ปริมาณธุรกิจเพิ่มขึ้นทั้งจํานวนนักทองเที่ยว<br />

และจํานวนเที่ยวบินที่คาดเติบโต 10% และ 7%yoy ตามลําดับ<br />

สอดคลองกับภาพอุตสาหกรรมทองเที่ยวที่ยังมีแนวโนมสดใส และ<br />

การเปดเสนทางบินใหมมายังสมุยมากขึ้น ขณะที่ความสามารถใน<br />

การรองรับผูโดยสารของสนามบินเกาะสมุยยังมีเหลือ<br />

ศูนยการคา: อัตราการเชาพื้นที่ในศูนยการคายืนอยูเหนือ 95%<br />

ตอเนื่อง และอัตราคาเชาเฉลี่ยปรับขึ้นอยางนอย 5% ตอป ขณะที่<br />

รายไดของกองทุนป 2556 จะขยายตัวจากสินทรัพยที่เพิ่มขึ้นจาก<br />

26<br />

Invest+ 1 st Quarter, 2013


การที่ CPNRF มีแผนซื้อสิทธิการเชาศูนยการคา 2 แหง คือ<br />

เชียงใหม และ รามอินทรา เขากองทุนเพิ่มเติม<br />

โรงงานอุตสาหกรรม: เห็นสัญญาณการเชาฟนตัวตอเนื่อง หลัง<br />

เหตุการณน้ําทวมทั้งในกองทุน TFUND และ TLOGIS อีกทั้งจะ<br />

รับรูรายไดเต็มปจากการซื้อโรงงานเพิ่มในชวงป 2555 นอกจากนี้<br />

กองทุนใหญทั้ง 2 กอง ยังมีแผนซื้อโรงงานเพิ่มตอเนื่องในป 2556<br />

โรงแรม: มีแนวโนมเติบโตตามการทองเที่ยว แตก็มีโอกาสเกิด<br />

ความผันผวนของรายไดตามชวงฤดูกาล ซึ่งเปนไปตามภาพรวม<br />

ของอุตสาหกรรม<br />

ประกาศบังคับใช้ REITs ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2556<br />

แนวทางการจัดตั้งกองทรัสตเพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย<br />

(Real Estate Investment Trust – REITs) มีความชัดเจนมากขึ้น<br />

ภายหลัง ก.ล.ต. ประกาศบังคับใช REITs ตั้งแตวันที่ 1 ม.ค. 2556<br />

เปนตนไป แตกระบวนการแปลงจากกองทุนอสังหาริมทรัพย<br />

ปจจุบัน (กอง 1) เปน REITs อาจจะยังไมสามารถเกิดขึ้นไดงาย<br />

จนกวาไดขอสรุปที่ชัดเจนเกี่ยวกับคาธรรมเนียมในการโอน<br />

สินทรัพยจากกอง 1 เปน REITs รวมถึงสิทธิประโยชนทางภาษีเงิน<br />

ปนผลสําหรับบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล จากกรมสรรพากร ซึ่งไม<br />

สามารถกําหนดกรอบระยะเวลาไดวาจะมีความชัดเจนเมื่อใด โดย<br />

หากประเด็นดังกลาวสามารถสรุปได เชื่อวาทายที่สุดการเกิดขึ้น<br />

ของ REITs จะเพิ่มทางเลือกใหมและสรางความนาสนใจในการ<br />

ลงทุนเหมือนในตางประเทศ เพราะจะทําใหการลงทุนใน<br />

อสังหาริมทรัพยที่มีอยูในตลาดมีความหลากหลาย และมีโอกาส<br />

ไดรับผลตอบแทนมากกวาเดิม เนื่องจาก REITs มีความยืดหยุน<br />

การลงทุนและบริหารจัดการมากกวากองทุนในปจจุบัน กลาวคือ<br />

1) กอง REITs สามารถลงทุนในอสังหาริมทรัพยในประเทศไทย<br />

ไดทุกประเภทที่มีการจัดหาผลประโยชนจากรายไดคาเชา แต<br />

ตองไมเปนการเชาเพื่อทําธุรกิจที่ไมเหมาะสม หรือผิด<br />

กฏหมาย รวมถึงลงทุนอสังหาริมทรัพยที่ตั้งในตางประเทศได<br />

นอกจากนี้เปดโอกาสใหลงทุนในโครงการที่อยูระหวางการ<br />

พัฒนาไดถึง 10% ของทรัพยสินรวม ซึ่งตางจากกองทุนรวม<br />

อสังหาฯประเภทกอง 1 มีขอจํากัดการลงทุนใน<br />

อสังหาริมทรัพยเพียงบางประเภทตามที่ทาง ก.ล.ต.กําหนด<br />

2) สามารถกูยืมเงินเพื่อนําไปลงทุนหรือซอมแซมทรัพยสินได<br />

คลองตัวกวา โดยกูไดมากขึ้นจากเดิม 10% เปน 35% ของ<br />

มูลคาทรัพยสินสุทธิ และหากกองใดไดรับการจัดอันดับความ<br />

นาเชื่อถือในระดับ Investment Grade จะสามารถกูยืมไดถึง<br />

60% ของมูลคาทรัพยสินสุทธิ ซึ่งจะทําใหกองทุนสามารถ<br />

สรางผลตอบแทนไดสูงขึ้น โดยที่ยังไดรับสิทธิประโยชนทาง<br />

ภาษีเงินไดนิติบุคคลตามเดิม<br />

3) ผูจัดตั้ง REITs อาจไมเจาะจงเฉพาะ บลจ. แตขยายถึงผูที่มี<br />

ความเชี่ยวชาญดานการลงทุนและบริหารอสังหาริมทรัพย<br />

โดยตองขอความเห็นชอบจาก ก.ล.ต.<br />

4) ผอนคลายขอจํากัดในการถือหนวยของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง<br />

มากขึ้น จากเดิมไมเกิน 1 ใน 3 เปน ไมเกิน 50% ของหนวย<br />

ลงทุนทั้งหมด<br />

ลงทุน CPNRF, POPF, SPF และ TFUND<br />

ฝายวิจัยคงแนะนําการลงทุนเทากับตลาดสําหรับกลุม Property<br />

Fund โดยเลือกลงทุนในกองทุนที่มีความมั่นคงในการสรางรายได<br />

ของสินทรัพย, สภาพคลองในการซื้อขายสูง และมีโอกาสขยาย<br />

ขนาดกองทุนในอนาคต ประกอบดวย<br />

CPNRF: ลงทุนแบบสิทธิเชาศูนยการคาและอาคาร<br />

สํานักงาน 3 แหง (พระราม 2, พระราม 3 และ ปนเกลา)<br />

ใหเงินปนผลสูงขึ้นตอเนื่องทุกป คิดเปนผลตอบแทนป<br />

2556 เกือบ 7% และมีโอกาสเพิ่มมากขึ้นจากการซื้อ<br />

โครงการศูนยการคา 2 แหงเขามาเพิ่ม<br />

POPF: ลงทุนสิทธิการเชาอาคารสํานักงาน 2 แหง<br />

(อาคารเพลินจิต เซ็นเตอร และ ยูบีซี 2) ซึ่งมีการเชา<br />

เฉลี่ยเกิน 95% และให Div Yield ป 2555 เฉลี่ย 7%<br />

และคาดเพิ่มเปน 7.2% ในป 2556 นอกจากนี้กองทุน<br />

ยังมีแผนขยายการลงทุนเพิ่มเติมในอาคารสํานักงาน<br />

แหงใหม ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นในป 2556<br />

SPF: ลงทุนสิทธิการเชาในสนามบินสมุย ซึ่งมีทิศทาง<br />

สดใสตามอุตสาหกรรมทองเที่ยว ทําใหคาด Div Yield<br />

ป 2556 ยังนาสนใจ 7.38% ตอป ขณะเดียวกันมีการ<br />

ประกันรายไดขั้นต่ํา 6% ของขนาดกองทุน หรือ เทากับ<br />

570 ลานบาทตอป ตลอดอายุสัญญาเชา 30 ป<br />

TFUND: ลงทุนกรรมสิทธิ์ในโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่ง<br />

เห็นการฟนตัวดีขึ้นหลังน้ําทวม และการซื้อโรงงานใหม<br />

รวม 38 แหงในป 2555 จะสรางรายไดเต็มปในป 2556<br />

รวมถึงมีแผนทุนซื้อโรงงานใหมเพิ่มอีกใน 2H56 โดย<br />

คาดเงินปนผลเฉลี่ย 7% ในป 2556<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 27


กลุ่ม การแพทย์<br />

น้ําหนัก เท่าตลาด<br />

ตลาดผู้ป่วยต่างชาติหนุนการเติบโตในระยะยาว<br />

ส่วนแบ่งตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพของไทยยังเป็นรองสิงคโปร์<br />

รพ. ยกระดับมาตราฐานรองรับการไหลเข้าของผู้ป่วยต่างชาติ<br />

BGH มีเครือข่ายแข็งแกร่งสุด เหมาะแก่การซื้อลงทุน<br />

ไทยครองส่วนแบ่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ<br />

อันดับ 2 ในเอเซียใต้และตะวันออกเฉียงใต้<br />

จากการประเมินตัวเลขขอมูลตลาดทองเที่ยวเชิงสุขภาพในป 2555<br />

คาดการณวาจะมีมูลคาสูงถึง 1.74 ลานลานบาท (5.8 หมื่นลาน<br />

เหรียญสหรัฐ) โดยภูมิภาคเอเชียใต และเอเชียตะวันออกเฉียงไต<br />

ครองสวนแบงตลาดรวมกันราว 15% ของมูลคาตลาดทองเที่ยว<br />

เชิงสุขภาพโลก โดยประเทศผูใหบริการดานสุขภาพที่สําคัญอันดับ<br />

1 คือ สิงคโปร มีสวนแบงตลาด 33% คิดเปนมูลคาราว 9 หมื่น<br />

ลานบาท รองมาคือ ไทย มีสวนแบงตลาด 26% หรือราว 7 หมื่น<br />

ลานบาท อันดับที่ 3 อินเดีย มีสวนแบงตลาด 19% หรือ 5 หมื่น<br />

ลานบาท อันดับที่ 4 และ 5 มาเลเซีย และ ฟลิปปนส ตามลําดับ<br />

ส่วนแบ่งตลาดท่องเที่ยงเชิงสุขภาพในเอเชียใต้และตะวันออกเฉียงใต้<br />

รพ.ไทยได้รับมาตราฐาน JCI มากสุด<br />

แมสวนแบงตลาดทองเที่ยวเชิงสุขภาพของไทย ยังเปนรองสิงคโปร<br />

เพราะความกาวหนาทางเทคโนโลยีทางการแพทยสิงคโปร ยัง<br />

เหนือกวาของไทย อยางไรก็ตามรพ.ตาง ๆ ในประเทศไทยตาง<br />

ปรับตัวยกระดับมาตรฐานการรักษาสูระดับสากล เพื่อเตรียม<br />

พรอมรองรับผูปวยตางชาติ ที่มีแนวโนมเพิ่มขึ้นตอเนื่องในอนาคต<br />

สะทอนไดจาก ตัวเลขจํานวนรพ..ไทยที่ไดรับมาตรฐาน Joint<br />

Commission International (JCI Accrediation) ซึ่งเปนมาตรฐาน<br />

ที่รับรองโดยหนวยงานรับรองมาตรฐานโรงพยาบาลนานาชาติของ<br />

สหรัฐอเมริกา เพิ่มขึ้นจาก 11 แหงในป 2553 มาเปน 28 แหงใน<br />

สิ้นป 2554 มากสุดในภมิภาคตะวันออกเฉียงใต<br />

จํานวนรพ.ที่ได้รับ JCI ในประเทศแถบภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้<br />

อื่น<br />

22%<br />

สิงคโปร<br />

33%<br />

อินเดีย<br />

19%<br />

ไทย<br />

26%<br />

ที่มา :Joint Commission International<br />

ที่มา :Joint Commission International (JCI)<br />

28<br />

Invest+ 1 st Quarter, 2013


คาดธุรกิจ รพ.ไทย ได้รับประโยชน์จากการ<br />

เปิดเสรีการค้าเอเซี่ยนมากสุด<br />

ดวยความพรอมของรพ.ไทยที่ไดรับมาตรฐาน JCI มากสุด ขณะ<br />

ประเทศเพื่อนบานอยาง พมา ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ที่<br />

วิวัฒนาการทางการแพทยยังลาหลัง โดยยังไมมีรพ.ที่ไดรับ<br />

มาตรฐาน JCI ยกเวนเวียดนามที่มีเพียง 1 แหง ขณะที่ประเทศ<br />

ดังกลาวเริ่มมีเศรษฐกิจที่ดีขึ้นตอเนื่อง จากการไหลเขาไปลงทุนเขา<br />

ไปลงทุนในโครงการตาง ๆ ของชาวตางชาติ เพื่อเตรียมพรอม<br />

สําหรับการเปดเสรีอาเซี่ยนที่จะเกิดขึ้นในป 2558 ทําใหประเทศ<br />

เหลานั้นมีกลุมเศรษฐีใหมเกิดขึ้นจํานวนมาก และมีแนวโนมเดิน<br />

ทางเขามารับการรักษาในประเทศไทยมากขึ้น เพราะมาตรฐาน<br />

การรักษาที่มีคุณภาพ และมีราคาที่ถูกกวาสิงคโปรคอนขางมาก<br />

ดังนั้นหากมีการเปดเสรีการคาเอเซี่ยน (AEC) อยางจริงจรัง คาด<br />

วาธุรกิจการแพทยจะไดรับประโยชนจากการที่ชาวตางชาติ<br />

เดินทางมารับการรักษาพยาบาลในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นอยาง<br />

ตอเนื่อง โดยเฉพาะนักธุรกิจจากประเทศเพื่อนบานแถบอินโดจีน<br />

30<br />

25<br />

20<br />

15<br />

10<br />

5<br />

0<br />

แหง<br />

กัมพูชา<br />

จํานวนรพ.ที่ได้รับมาตราฐาน JCI ณ สิ้นปี 2554<br />

0 0 0 0<br />

บรูไน<br />

พมา<br />

ลาว<br />

1<br />

เวียดนาม<br />

ที่มา :Joint Commission International<br />

4 4<br />

BGH พร้อมสุด เพราะมีรพ.ที่ได้รับ JCI ถึง<br />

12 แห่งกระจายอยู่ทั่วประเทศ<br />

รพ.ที่มีความพรอมสุดกับการไหลเขาของผูปวยตางชาติ หลังเปด<br />

เสรีประชาคมเอเซียน (AEC) คือ BGH เนื่องจากมีรพ.ในเครือขาย<br />

มากสุด คือ 29 แหง ในประเทศไทย 27 แหง และในกัมพูชา 2 แหง<br />

รวมทั้งปจจุบันมีรพ.ที่ไดรับมาตรฐาน JCI ในไทยทั้งสิ้น 12 แหง<br />

และอยูระหวางการขอมาตรฐาน JCI อีก 2 แหง คือ รพ.พญาไท 2<br />

และพญาไท 3 ทั้งนี้ BGH กําลังอยูระหวางการกอสรางรพ.<br />

กรุงเทพเชียงใหม คาดจะเปดใหบริการในกลางป 2557 เพื่อรองรับ<br />

การเปนศูนยกลางรพ.ในเขตภาคเหนือ พรอมรองรับคนไขชาวพมา<br />

และลาวตอนบนที่มีโอกาสเดินทางมารับการรักษาในอนาคต และ<br />

มีการเปดใหบริการ รพ.กรุงเทพ อุดร ขนาด 120 เตียง อยางเปน<br />

ทางการในปลายปนี้ เพื่อรองรับคนไขที่เดินทางมาจากประเทศลาว<br />

ฟลิปปนส<br />

อินโดนิเซีย<br />

9<br />

มาเลเซีย<br />

22<br />

สิงคโปร<br />

28<br />

ไทย<br />

มาตรฐาน JCI ทําให BH เปนรพ.ที่ไดรับการยอมรับจาก<br />

ชาวตางชาติมากสุด อยางไรก็ตามดวยขอจํากัดที่มีสาขาเพียงแหง<br />

เดียวคือ สํานักงานใหญที่ซอยนานา สุขุมวิท สงผลใหกําลังการ<br />

ใหบริการปจจุบันยังไมเพียงพอที่จะรองรับผูปวยตางชาติที่จะเพิ่ม<br />

ขึ้นมากในอนาคตจากผลบวกของการเปด AEC ทั้งนี้ BH<br />

พยายามเพิ่มกําลังใหบริการ โดยจะเปดเพิ่มชั้นอาคารผูปวยนอก<br />

อีก 5 ชั้น คือ ชั้นที่ 18-22 ตั้งแตตนก.พ. 2556 เพื่อเพิ่มกําลังการ<br />

ใหบริการผูปวยนอกจาก 4 พันคนตอวัน เปน 5.5 พันคนตอวัน<br />

และเตรียมเพิ่มกําลังการใหบริการผูปวยในจากปจจุบันที่มีอยู 484<br />

เตียง เปน 600 เตียงภายใน 2 ป จากการยายพนักงาน Back<br />

office ออกไปทํางานขางนอก นอกจากนี้ยังมีแผนกอสรางอาคาร<br />

7 ชั้นที่ซอยนานา 1 ซึ่งหางจากสถานที่ปจจุบันเพียง 50 เมตร คาด<br />

จะเสร็จในอีก 2 ปขางหนา เพื่อเปนศูนยตรวจสุขภาพ ฟนฟู และ<br />

หองแล็บ รวมทั้งจะสรางอาคาร 28-30 ชั้นที่ถนนเพชรบุรีตัดใหม<br />

ขนาดจํานวน 150-200 เตียง คาดจะเสร็จภายใน 3 ป อยางไรก็<br />

ตามดวยแผนการขยายพื้นที่การใหบริการที่ยังตองใชเวลาอีก 2-3<br />

ป สงผลใหความพรอมของ BH ในการรองรับการเปดเสรี AEC ยัง<br />

เปนรอง BGH อยูมาก<br />

สวน BCH คาดจะไดรับประโยชนจาก AEC นอยมาก แมเริ่มเปด<br />

รพ.ระดับพรีเมียม “The World Medical Center” ที่แจงวัฒนะ”<br />

ในชวง ธ.ค. นี้ อยางไรก็ตามโอกาสที่จะประสบความสําเร็จ<br />

คอนขางยาก เพราะ BCH เปนรพ.ที่มีขื่อเสี่ยงดานการใหบริการ<br />

ผูปวยโครงการประกันสังคมมากสุด แตยังขาดประสบการณและ<br />

ความชํานาญในการใหบริการผูปวยตางชาติ สงผลใหรพ.พรีเมียม<br />

ที่เปดใหมดังกลาวอาจประสบผลขาดทุนตอเนื่องมากกวา 3 ป<br />

และกลายเปนตัวฉุดรั้งการเติบโตของ BCH<br />

คงคําแนะนํา “เท่าตลาด” Top Pick: BGH<br />

แรงหนุนจากผูปวยตางชาติที่มีแนวโนมเพิ่มขึ้นตอเนื่อง และผูปวย<br />

ไทยที่ใสใจสุขภาพมากขึ้น สงผลใหคาดวากําไรปกติของกลุม ร.พ.<br />

ในป 2556 จะเติบโต 15% ใกลเคียงกับการเติบโตของกําไรตลาด<br />

โดยเลือก BGH (FV@B129) เปน Top Pick เนื่องจากคาดวากําไร<br />

ปกติป 2556 จะเติบโตราว 17% สูงสุดในกลุมการแพทย โดยคง<br />

คําแนะนํา “ถือ” BH (FV@B87) และยืนยัน “ขาย” BCH<br />

(FV@B9.70)<br />

สรุปคําแนะนําการลงทุน<br />

ขณะที่ BH แมจะมีสัดสวนรายไดจากผูปวยตางชาติสูงถึง 55%<br />

สูงสุดในประเทศไทย (BGH มีสัดสวนรายไดจากผูปวยตางชาติ<br />

29%) จากจุดเดนของการที่ BH เปนรพ.แหงแรกในเอเซียที่ไดรับ<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 29


กลุ่ม เกษตร-อาหาร<br />

น้ําหนัก เท่าตลาด<br />

ภาพรวมปี 2556 มีสัญญาณดีกว่าปี 2555<br />

ราคาเนื้อสัตว์บกเริ่มกระเตื้องจาก Supply ที่ทยอยปรับลด<br />

ความกังวลของภาวะขาดแคลนวัตถุดิบเริ่มผ่อนคลายลง<br />

แนะนําซื้อ CPF ที่กําลังฟื้นตัว และเติบโตโดดเด่นในปี 2556<br />

ภาพรวมปี 2556 น่าจะดีกว่าปี 2555<br />

ผลการดําเนินงานของกลุมเกษตร-อาหารในป 2556 มีแนวโนมฟน<br />

ตัวโดดเดนจากป 2555 โดยมีปจจัยขับเคลื่อนหลักๆ จากอุปสงค<br />

ภายในประเทศที่ยังแข็งแกรงตอเนื่อง รวมถึงปญหา Oversupply<br />

ของผลิตภัณฑสัตวบก (ทั้งไก และสุกร) ที่เริ่มคลี่คลายไปมากแลว<br />

จึงชวยใหราคาผลิตภัณฑสัตวบกในประเทศไทย ทยอยฟนตัว<br />

สะทอนตนทุนการผลิตที่สูงขึ้นในชวงที่ผานมา ซึ่งสถานการณ<br />

ดังกลาว จะสงผลบวกตอประสิทธิภาพการทํากําไรในกลุมเกษตร-<br />

อาหาร อยางไรก็ตาม สําหรับภาพรวมมูลคาสงออกอาหารของ<br />

ไทยในป 2556 อาจเติบโตในอัตราที่ไมสูงมากนัก เห็นไดจาก<br />

สถาบันอาหารไทยที่ประเมินไวระดับ 1.03-1.08 ลานลานบาท<br />

เพิ่มขึ้นเพียง 5-10%yoy เพราะยังมีปจจัยเสี่ยงจากความไม<br />

แนนอนของการฟนตัวของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้ แมวาการเติบโตของ<br />

มูลคาการสงออกดูไมสดใสมากนัก แตบางกลุมสินคายังเติบโตได<br />

ดี โดยเฉพาะการสงออกไกสดที่คาดวาจะขยายตัวเพิ่มขึ้นหลังจาก<br />

มีการเพิ่มกําลังการผลิตรองรับตลาดหลักอยางสหภาพยุโรป และ<br />

อีกหลายๆ ประเทศที่อนุญาตใหนําเขาไกสดจากไทยได (อาทิ<br />

รัสเซีย และแอฟริกาใต) โดยรวมแลว ฝายวิจัยยังเชื่อวาแนวโนม<br />

ผลการดําเนินงานของกลุมฯ ในป 2556 จะสดใสกวาป 2555 โดย<br />

คาดการณกําไรปกติ (ไมรวมรายการพิเศษ) ของกลุมเกษตร-<br />

อาหาร (CPF, GFPT และ TUF) ในป 2556 เทากับ 2.43 หมื่นลาน<br />

บาท เติบโตโดดเดนถึง 47%yoy<br />

แนวโน้มผลการดําเนินงานของกลุ่มเกษตร-อาหารในปี 2552-57<br />

ลานบาท<br />

30,000<br />

25,000<br />

20,000<br />

15,000<br />

10,000<br />

5,000<br />

0<br />

2552<br />

2553<br />

ที่มา : รวบรวมโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

2554<br />

กําไรปกติ<br />

2555F<br />

รายการพิเศษ<br />

สําหรับปจจัยเสี่ยงที่ตองติดตามสําหรับกลุมเกษตร-อาหาร ใน<br />

ระยะสั้นคือ ทิศทางคาเงินบาท/ดอลลารสหรัฐฯ ที่มีแนวโนมแข็ง<br />

คาขึ้นตอเนื่อง หลังจากที่สหรัฐฯ ยังคงดําเนินนโยบายผอนคลาย<br />

ทางการเงินเพิ่มขึ้น ซึ่งจะสงผลลบตอยอดขายของบริษัทในกลุมฯ<br />

เนื่องจากสัดสวนรายไดสวนใหญ อยูในรูปสกุลเงินตางประเทศ<br />

(สวนใหญเปนสกุลดอลลารสหรัฐฯ) ขณะที่คาใชจายสวนใหญเปน<br />

สกุลเงินบาท อยางไรก็ตาม คาเงินบาท ณ ปจจุบัน อยูที่ระดับ<br />

30.58 บาท/ดอลลารสหรัฐฯ สูงกวาสมมติฐานของฝายวิจัยที่<br />

กําหนดไวที่ระดับ 30 บาท/ดอลลารสหรัฐฯ จึงไมนากังวลมากนัก<br />

โดยจากผลการศึกษาของฝายวิจัย พบวา ทุกๆ 1 บาทที่แข็งคา จะ<br />

สงผลใหประมาณการกําไรกลุมฯ ในป 2556 ปรับตัวลดลง 3.2%<br />

จากเดิม<br />

2556F<br />

2557F<br />

30<br />

Invest+ 1 st Quarter, 2013


วิเคราะห์ความอ่อนไหวของค่าเงินบาทต่อกําไรสุทธิ<br />

ทุกๆ 1 บาทของเงินบาทที่แข็งคา<br />

การเปลี่ยนแปลงของ<br />

กําไรสุทธิจากเดิม<br />

STA -5.5%<br />

KSL -5.0%<br />

TUF -4.0%<br />

GFPT -3.2%<br />

CPF -2.7%<br />

รวม -3.2%<br />

ที่มา : รวบรวมโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

ราคาเนื้อสัตว์บกเริ่มกระเตื้องจาก Supply<br />

ที่ทยอยปรับลด<br />

สถานการณราคาผลิตภัณฑไกเปนในประเทศไทย เริ่มปรับสูงขึ้น<br />

ตั้งแตในเดือน พ.ย.2555 หลังจากที่ผูประกอบการในประเทศเริ่ม<br />

ปรับลดกําลังการผลิตลง เพราะไมตองการแบกรับภาระขาดทุน<br />

จากราคาขายที่ต่ํากวาตนทุนการผลิต สงผลใหปริมาณผลผลิตไก<br />

เปนในประเทศ เริ่มปรับตัวลดลงเขาสูระดับใกลเคียงกับความ<br />

ตองการบริโภคประชาชน และทําใหราคาไกเปน ณ ปจจุบัน ทยอย<br />

ฟนตัวในลักษณะคอยเปนคอยไป เพื่อสะทอนตนทุนการผลิตที่<br />

แทจริงของผูประกอบการ อยางไรก็ตาม ฝายวิจัยเชื่อวาราคาไก<br />

เปนไมนาจะปรับตัวเพิ่มขึ้นรวดเร็วจนเกินไป เพราะยังมีกําลังการ<br />

ผลิตใหมๆ ที่พรอมเขามาในตลาดอีกครั้ง โดยรวมแลว ฝายวิจัย<br />

กําหนดใหสมมติฐานราคาเฉลี่ยของไกเปนในป 2556 เทากับ 40<br />

บาท/กก. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.5%yoy<br />

ราคาไก่เป็นในประเทศไทย<br />

65<br />

55<br />

45<br />

35<br />

25<br />

15<br />

บาท / กิโลกรัม Avg 2553 = 40.07<br />

Avg 2554 = 44.88<br />

ธ.ค. 53<br />

ก.พ. 54<br />

เม.ย. 54<br />

มิ.ย. 54<br />

ที่มา : กรมการคาภายใน<br />

ส.ค. 54<br />

ต.ค. 54<br />

ธ.ค. 54<br />

ก.พ. 55<br />

เม.ย. 55<br />

Avg 2555 = 36.2<br />

มิ.ย. 55<br />

ส.ค. 55<br />

ต.ค. 55<br />

ธ.ค. 55<br />

สําหรับแนวโนมปริมาณสงออกไกสดและแปรรูปของไทย ในป<br />

2556 คาดวาจะยังเติบโตตอเนื่อง 7-8%yoy โดยมีปจจัยสนับสนุน<br />

จากกลุมประเทศสหภาพยุโรป รัสเซีย และแอฟริกาใตอนุญาตให<br />

นําเขาเขาไกสดจากไทยได จึงทําใหผูประกอบการในประเทศ<br />

สามารถขยายตลาดไกในตางประเทศไดมากขึ้น นอกจากนี้ ฝาย<br />

วิจัยเชื่อวามีความเปนไปไดสูงที่อีกหลายประเทศทั่วโลก อาทิ<br />

เกาหลีใต และญี่ปุนซึ่งเปนตลาดสงออกหลักของไทยจะยอมรับ<br />

การนําเขาไกสดแชแข็งจากไทยอีกครั้งภายในป 2556 ซึ่งจะชวย<br />

ดูดซับสภาพคลองสวนเกินของผลผลิตไกในประเทศ และถือเปน<br />

ปจจัยบวกที่ฝายวิจัยยังไมไดรวมไวในสมมติฐานราคาไกเปน ในป<br />

2556 และสงผลบวกตอหุน GFPT และ CPF ที่มีสัดสวนรายได<br />

จากธุรกิจไกราว 25% และ 15% ของรายไดรวม ตามลําดับ<br />

แนวโน้มปริมาณส่งออกไก่สดและแปรรูปของไทย<br />

ตัน<br />

500,000<br />

400,000<br />

300,000<br />

200,000<br />

100,000<br />

-<br />

388,913<br />

154,464<br />

2546<br />

26,137<br />

193,767<br />

2547<br />

96<br />

276,438<br />

2548<br />

2,662<br />

294,295<br />

2549<br />

11,052<br />

332,471<br />

2550<br />

14,367<br />

387,127<br />

2551<br />

18,260<br />

378,809<br />

2552<br />

17,054<br />

418,005<br />

2553<br />

เนื้อไกสด เนื้อไกแปรรูป & ปรุงสุก<br />

ที่มา : Thai Broiler Processing Exporters Association<br />

เชนเดียวกับแนวโนมราคาสุกรหนาฟารมในป 2556 คาดวาจะฟน<br />

ตัวในทิศทางเดียวกับราคาไกเปน (สินคาทดแทน) ซึ่งฝายวิจัย<br />

กําหนดใหสมมติฐานราคาเฉลี่ยของสุกรหนาฟารมในป 2556<br />

เทากับ 60 บาท/กก. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6.9% yoy ซึ่งจะสงผลบวกตอ<br />

หุน CPF ที่มีสัดสวนรายไดจากธุรกิจฟารมเลี้ยงสุกรในประเทศราว<br />

14% ของรายไดรวม<br />

ราคาสุกรหน้าฟาร์มในประเทศไทย<br />

80<br />

75<br />

70<br />

65<br />

60<br />

55<br />

50<br />

45<br />

40<br />

บาท / กิโลกรัม.<br />

Avg 2010 = 59.51<br />

Avg 2011 = 66.44<br />

พ.ค. 51<br />

ก.ค. 51<br />

ก.ย. 51<br />

พ.ย. 51<br />

ม.ค. 52<br />

มี.ค. 52<br />

พ.ค. 52<br />

ก.ค. 52<br />

ก.ย. 52<br />

พ.ย. 52<br />

ม.ค. 53<br />

มี.ค. 53<br />

พ.ค. 53<br />

ก.ค. 53<br />

ก.ย. 53<br />

พ.ย. 53<br />

ม.ค. 54<br />

มี.ค. 54<br />

พ.ค. 54<br />

ก.ค. 54<br />

ก.ย. 54<br />

พ.ย. 54<br />

ม.ค. 55<br />

มี.ค. 55<br />

พ.ค. 55<br />

ก.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

พ.ย. 55<br />

ที่มา : กรมการคาภายใน<br />

Avg 2012 = 56.12<br />

คาดราคากุ้งขาวยังทรงตัวระดับสูงต่อเนื่อง<br />

สถานการณราคากุงขาวในชวง 1Q56 จะทรงตัวระดับสูงตอเนื่อง<br />

จากงวดกอนหนา ผลจากอุตสาหกรรมกุงขาวยังอยูในชวง Low<br />

season จึงทําใหผลผลิตกุงขาวในประเทศออกสูตลาดคอนขาง<br />

นอย นอกจากนี้ ฝายวิจัยคาดวาราคากุงขาวในป 2556 จะยังมี<br />

ทิศทางสดใสตอเนื่องจากปกอนหนา เนื่องจากความตองการ<br />

27,258<br />

435,267<br />

2554<br />

41,000<br />

439,000<br />

2555F<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 31


บริโภคในตางประเทศที่ยังคงเขามาตอเนื่อง ขณะที่สภาพอากาศที่<br />

แปรปรวน และเกิดโรคระบาด 3 โรคหลัก คือ โรคอีเอ็มเอส ขี้ขาว<br />

และตัวแดงดวงขาว จึงทําใหผลผลิตกุงขาวออกสูตลาดไมเพียงพอ<br />

ตอความตองการ ซึ่งถือเปนปจจัยบวกตอราคากุงขาวในตลาดโลก<br />

ดังนั้น ฝายวิจัยประเมินวาสถานการณราคากุงขาวที่ยืนอยูใน<br />

ระดับสูงเชนนี้ ถือเปนประโยชนตอ CPF ซึ่งเปนผูประกอบการ<br />

สงออกที่มีฟารมเลี้ยงกุงเปนของตนเอง ขณะที่ TUF ซึ่งเปน<br />

ผูประกอบการสงออกกุงแชแข็ง (สัดสวน 18% ของรายไดรวม)<br />

อาจอยูในสถานะที่เสียเปรียบกวาเล็กนอย เนื่องจากไมมีฟารม<br />

เลี้ยงกุงเปนของตนเอง ทําใหตองแบกรับภาระตนทุนวัตถุดิบที่อยู<br />

ในระดับสูง แตไมนากังวลมากนัก เพราะ TUF กําหนดกลยุทธ<br />

ราคาขายสินคาดวยวิธี Cost Plus เพื่อรักษาระดับ Margin ของ<br />

บริษัทฯ เอาไว จึงทําใหชวยบรรเทาผลกระทบเชิงลบจากความผัน<br />

ผวนของราคากุงขาวไปไดมาก โดยสมมติฐานของฝายวิจัยสําหรับ<br />

ราคาเฉลี่ยกุงขาวทั้งป 2556 จะเทากับ 135 บาท/กก. ปรับตัว<br />

สูงขึ้น 4.6%yoy<br />

160<br />

140<br />

120<br />

100<br />

80<br />

บาท / กิโลกรัม<br />

ราคากุ้งขาวแวนาไมท์<br />

Avg 2553 = 121.79<br />

Avg 2554 = 135.24<br />

Avg 2555 = 128.95<br />

มี.ค. 54<br />

เม.ย. 54<br />

พ.ค. 54<br />

มิ.ย. 54<br />

ส.ค. 54<br />

ก.ย. 54<br />

ต.ค. 54<br />

พ.ย. 54<br />

ธ.ค. 54<br />

ม.ค. 55<br />

ก.พ. 55<br />

เม.ย. 55<br />

พ.ค. 55<br />

มิ.ย. 55<br />

ก.ค. 55<br />

ส.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

พ.ย. 55<br />

ธ.ค. 55<br />

ที่มา : กรมการคาภายใน<br />

ราคาปลาทูน่าชะลอตัวในช่วงสั้นๆ แต่ยังเป็น<br />

ขาขึ้นในระยะยาว<br />

ฝายวิจัยเชื่อวา ราคาปลาทูนายังมีแนวโนมขาขึ้นในระยะยาว<br />

หลังจากที่ปริมาณปลาทูนาในมหาสมุทรแปซิฟก และแอตแลนติค<br />

เริ่มลดนอยลงกวาในอดีต เพราะสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง<br />

นอกจากนี้ กฎหมายในการจับปลาที่เขมงวดมากขึ้น จึงทําให<br />

ปริมาณวัตถุดิบทูนาออกสูตลาดนอยลง อยางไรก็ตาม ทิศทาง<br />

ราคาปลาทูนาในชวง 4 ปที่ผานมาปรับตัวสูงขึ้นอยางตอเนื่อง หรือ<br />

คิดเปนอัตราการเติบโต 8%p.a. ซึ่งถือเปนอัตราสูงกวาผลิตภัณฑ<br />

ชนิดอื่นๆ ซึ่งอาจทําใหความตองการของผูบริโภคเริ่มมีแนวโนม<br />

ชะลอตัวลง และฝายวิจัยคาดวาสถานการณดังกลาวจะเปนแรง<br />

กดดันใหทิศทางราคาปลาทูนาในป 2556 อาจปรับตัวเพิ่มขึ้นไม<br />

มากนัก ทั้งนี้ สถานการณราคาปลาทูนาที่เริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น<br />

นาจะสงผลบวกตอ TUF ซึ่งเปนผูประกอบการในธุรกิจทูนา<br />

กระปองที่มีสัดสวนรายไดทูนา เทากับ 50% ของรายไดรวมของ<br />

TUF เนื่องจากบริษัทฯ สามารถบริหารจัดการสต็อกสินคาคงเหลือ<br />

ไดอยางมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะสงผลสืบเนื่องตอ<br />

ประสิทธิภาพในการทํากําไรขั้นตนของ TUF เชนกัน โดยรวมแลว<br />

ฝายวิจัยยังคงมุมมองเชิงบวกตอธุรกิจทูนาของ TUF ในระยะยาว<br />

เนื่องจากบริษัทฯ จัดเปนผูนําของธุรกิจปลาทูนาในตลาดโลก ซึ่งมี<br />

สวนแบงการตลาดมากเปนอันดับหนึ่งของโลก ทําใหบริษัทฯ<br />

สามารถกําหนดราคาขาย และมีอํานาจในการตอรองราคารับซื้อ<br />

วัตถุดิบปลาทูนาดามากกวาคูแขงอื่นๆ<br />

ราคาวัตถุดิบปลาทูน่ารายเดือน ตั้งแต่ปี 2550-55<br />

2,500<br />

2,000<br />

1,500<br />

1,000<br />

500<br />

-<br />

ม.ค.50<br />

ที่มา : TUF<br />

US$/ton Avg 2553 = 1,287<br />

Avg 2554 = 1,766<br />

Avg 2555 = 2,148<br />

เม.ย.50<br />

ก.ค.50<br />

ต.ค.50<br />

ม.ค.51<br />

เม.ย.51<br />

ก.ค.51<br />

ต.ค.51<br />

ม.ค.52<br />

เม.ย.52<br />

ก.ค.52<br />

ความกังวลของภาวะขาดแคลนวัตถุดิบเริ่ม<br />

ผ่อนคลายลง<br />

ดานตนทุนวัตถุดิบอาหารสัตวในตลาดโลก ไดแก กากถั่วเหลือง<br />

(คิดเปนสัดสวน 25% ของวัตถุดิบอาหารสัตว) และขาวโพดเลี้ยง<br />

สัตว (คิดเปนสัดสวน 40% ของวัตถุดิบอาหารสัตว) ในป 2556<br />

คาดวาจะชะลอตัวลงจากป 2555 โดยมีสาเหตุหลักๆ จากปริมาณ<br />

Supply ที่คาดวาจะออกสูตลาดมากขึ้น หลังจากที่มีการขยาย<br />

พื้นที่เพาะปลูกกันมากขึ้น เนื่องจากเกษตรกรเห็นราคาใน<br />

ตลาดโลกอยูในระดับสูงจูงใจเทียบกับการเพาะปลูกพืชชนิดอื่นๆ<br />

ผนวกกับสภาพภูมิอากาศที่ฟนตัวมากขึ้น ซึ่งจากขอมูลของ<br />

กระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ (USDA) ไดรายงานถึงแนวโนม<br />

ผลผลิตถั่วเหลืองทั่วโลกในป 2556 จะเทากับ 267 ลานตัน ปรับตัว<br />

เพิ่มขึ้น 11.7%yoy โดยสาเหตุหลักๆ มาจากคาดการณผลผลิตถั่ว<br />

เหลืองในประเทศบราซิล (ผูผลิตอันดับสองของโลก) และอารเจนติ<br />

นา (ผูผลิตอันดับสามของโลก) จะปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 21.8%yoy<br />

และ 34%yoy ตามลําดับ ซึ่งสามารถหักลางการชะลอตัวของ<br />

ผลผลิตในสหรัฐฯ ซึ่งเปนผูผลิตอันดับหนึ่งของโลกไดทั้งหมด<br />

ต.ค.52<br />

ม.ค.53<br />

เม.ย.53<br />

ก.ค.53<br />

ต.ค.53<br />

ม.ค.54<br />

เม.ย.54<br />

ก.ค.54<br />

ต.ค.54<br />

ม.ค.55<br />

เม.ย.55<br />

ก.ค.55<br />

ต.ค.55<br />

32<br />

Invest+ 1 st Quarter, 2013


300<br />

250<br />

200<br />

150<br />

100<br />

50<br />

0<br />

ที่มา : USDA<br />

ปริมาณผลผลิต และสต็อกของถั่วเหลืองในตลาดโลก<br />

ลานตัน<br />

2551/52<br />

2552/53<br />

ปริมาณผลผลิต<br />

2553/54<br />

2554/55<br />

สต็อกสินคาคงเหลือ<br />

ฝายวิจัยเชื่อวาความกังวลเกี่ยวกับภาวะขาดแคลนวัตถุดิบกากถั่ว<br />

เหลืองเริ่มคลี่คลายลงคอนขางมาก จะชวยใหทิศทางราคาถั่ว<br />

เหลือง และกากถั่วเหลืองในตลาดโลกมีแนวโนมปรับตัวลดลงในป<br />

2556 อยางไรก็ตาม ราคาในชวง 1H56 อาจยังไมเห็นการปรับตัว<br />

ลดลงอยางมีนัยฯ มากนัก เนื่องจากสต็อกสินคาคงเหลือที่อยูใน<br />

ระดับต่ํามาก อาจทําใหสถานการณยังอยูในสภาวะตึงตัวชั่วคราว<br />

แตเมื่อผลผลิตออกสูตลาดมากขึ้นตอเนื่อง ก็จะสงผลใหราคา<br />

สินคาปรับตัวลดลง ซึ่งฝายวิจัยประเมินวานาจะเปนชวง 2H56<br />

เปนตนไป<br />

ราคากากถั่วเหลืองในตลาดสหรัฐฯ<br />

700<br />

600<br />

500<br />

400<br />

300<br />

200<br />

100<br />

-<br />

ม.ค. 53<br />

เหรียญฯ/ตัน<br />

เม.ย. 53<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

ก.ค. 53<br />

ต.ค. 53<br />

ม.ค. 54<br />

เม.ย. 54<br />

สําหรับราคาขาวโพดเลี้ยงสัตว คาดวามีเสถียรภาพมากขึ้นในป<br />

2556 โดยผูประกอบการเลี้ยงสัตวในประเทศไทยจัดหาวัตถุดิบ<br />

ขาวโพดในประเทศทั้งหมด ซึ่งผลผลิตมีความเพียงพอกับความ<br />

ตองการใช หรือหากมีบางชวงเวลาที่เกิดภาวะขาดแคลนวัตถุดิบ<br />

ทางภาครัฐก็จะใชวิธีนําเขาจากประเทศเพื่อนบาน และขายใน<br />

ราคาที่ต่ํา เพื่อชวยเหลือผูประกอบการฟารมเลี้ยงสัตว ดังนั้น ฝาย<br />

วิจัยจึงเชื่อวาราคาขาวโพดเลี้ยงสัตวในประเทศไมนาจะมีความผัน<br />

ผวนตามทิศทางราคาในตลาดโลกมากนัก โดยรวมแลว<br />

สถานการณดังกลาวถือเปนปจจัยบวกที่ชวยผลักดันตออัตรากําไร<br />

ขั้นตนของผูประกอบการที่ดําเนินธุรกิจฟารมเลี้ยงสัตว ไดแก CPF<br />

และ GFPT ซึ่งมีสัดสวนรายไดจากธุรกิจฟารมเลี้ยงสัตว เทากับ<br />

33% และ 18% ของรายไดรวมของบริษัทฯ ตามลําดับ<br />

ก.ค. 54<br />

ต.ค. 54<br />

ม.ค. 55<br />

เม.ย. 55<br />

ก.ค. 55<br />

2555/56<br />

ต.ค. 55<br />

13<br />

12<br />

11<br />

10<br />

9<br />

8<br />

บาท/กก.<br />

ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศไทย<br />

ม.ค. 54<br />

ก.พ. 54<br />

มี.ค. 54<br />

เม.ย. 54<br />

พ.ค. 54<br />

มิ.ย. 54<br />

ก.ค. 54<br />

ส.ค. 54<br />

ก.ย. 54<br />

ต.ค. 54<br />

พ.ย. 54<br />

ธ.ค. 54<br />

ม.ค. 55<br />

ก.พ. 55<br />

มี.ค. 55<br />

เม.ย. 55<br />

พ.ค. 55<br />

มิ.ย. 55<br />

ก.ค. 55<br />

ส.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

ต.ค. 55<br />

พ.ย. 55<br />

ธ.ค. 55<br />

ที่มา : กรมการคาภายใน<br />

แนะนําซื้อ CPF ที่กําลังฟื้นตัว และเติบโตโดด<br />

เด่นในปี 2556<br />

ฝายวิจัยยังคงน้ําหนักการลงทุนเทากับตลาด สําหรับกลุมเกษตร-<br />

อาหาร โดยทิศทางผลการดําเนินงานของกลุมฯ ในป 2556 คาดวา<br />

จะกลับเติบโตโดดเดนอีกครั้ง หลังจากที่ราคาผลิตภัณฑสัตวบก<br />

ทยอยฟนตัวตอเนื่อง ซึ่งสวนทางกับตนทุนวัตถุดิบที่จะปรับตัว<br />

ลดลง ทั้งนี้ ฝายวิจัยเลือกหุน CPF เปนหุน Top pick ของกลุมฯ<br />

เนื่องจากธุรกิจฟารมเลี้ยงสัตว (สัดสวน 31% ของรายไดรวม) จะ<br />

เริ่ม Turnaround ในป 2556 หลังจากที่ราคาเนื้อสัตวบกมี<br />

สัญญาณฟนตัวชัดเจนมากขึ้น ขณะที่ราคาวัตถุดิบหลักจะเริ่ม<br />

ชะลอตัวใน 2H56 ดวยความคาดหวังวาปริมาณผลผลิตจะออกสู<br />

ตลาดมากขึ้น จากสภาพภูมิภาคที่ไมแหงแลง และการผลิตที่มี<br />

แนวโนมเพิ่มขึ้น<br />

หากนักลงทุนสามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนในตางประเทศ<br />

ได ฝายวิจัยแนะนําหุน Austevoll Seafood (AUSS NO EQUITY)<br />

สัญชาตินอรเวย ซึ่งประกอบธุรกิจจําหนายสัตวน้ํา โดยเฉพาะ<br />

ปลาแซลมอน และสัตวน้ําทะเลชนิดอื่นๆ แมวาราคาหุนปจจุบันมี<br />

PER ป 2555 สูงถึง 14.17 เทา แตแนวโนมกําไรสุทธิที่เติบโตในป<br />

2556 จึงทําใหคา PER ป 2556 ลดลงเหลือเพียง 6.51 เทา อีกทั้ง<br />

ยังมี Upside มากถึง 27% จากคาเฉลี่ยของมูลคาพื้นฐานในระยะ<br />

12 เดือนขางหนา (รวบรวมจาก Bloomberg Consensus)<br />

สรุปคําแนะนําของหุ้นในกลุ่มอาหารของไทย และต่างประเทศ<br />

Rec. /<br />

Upside PBV<br />

PER<br />

BB Rating ราคาปจจุบัน ราคาเปาหมาย (%) 2555F 2556F 2555F 2556F<br />

CPF BUY 35.00 38.38 10 2.72 2.51 13.09 15.50<br />

TUF BUY 74.00 94.00 27 2.28 2.08 14.11 11.64<br />

GFPT HOLD 8.15 8.50 4 1.83 1.68 630.28 20.93<br />

MCDONALDS CORP 4.19 92.22 101.86 10 6.17 5.71 16.57 15.02<br />

TYSON FOODS-A 3.29 15.67 20.89 33 0.96 0.89 8.00 7.78<br />

DALIAN TIANBAO-A 4.40 7.66 12.73 66 2.10 1.80 15.11 11.73<br />

AUSTEVOLL SEAFOO 4.13 25.70 31.00 21 0.61 0.58 10.21 6.47<br />

NESTLE SA-REG 3.58 59.20 58.78 (1) 3.13 2.94 17.76 16.39<br />

JM SMUCKER CO 3.82 75.96 82.89 9 1.59 N.A. 14.96 13.70<br />

BRF - BRASIL FOO 3.81 28.60 40.28 41 1.64 1.51 18.27 13.05<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 33


กลุ่ม เกษตร-ยางพารา<br />

ราคายางโลกเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น<br />

มาตรการแทรกแซงของกลุ่มผู้ผลิตยาง...จํากัด Downside ราคายางโลก<br />

จากสถิติย้อนหลัง 10 ปี ราคายางโลกมักปรับสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก<br />

คาดราคาหุ้น STA ผ่านพ้นจุดต่ําสุดแล้ว...แต่ PER ปี 2556 ยังแพง<br />

มาตรการแทรกแซงของกลุ่มผู้ผลิตยาง...<br />

จํากัด Downside ราคายางโลก<br />

ฝายวิจัยคาดวาราคายางพาราโลกในชวง 3 เดือนขางหนา จะมี<br />

เสถียรภาพมากขึ้น โดยมีปจจัยสนับสนุนจากมาตรการแทรกแซง<br />

ราคายาง ซึ่งไดแก 1) มาตรการพยุงราคายางในประเทศไทย<br />

(ผูผลิตยางพารารายใหญอันดับหนึ่งของโลก) ดวยการอนุมัติ<br />

งบประมาณ 3 หมื่นลานบาท เพื่อใชในโครงการรักษาเสถียรภาพ<br />

ราคายางพารา ซึ่งจะทําการรับซื้อยางพาราจากเกษตรกรสวนยาง<br />

ในราคาที่สูงกวาราคาตลาด เริ่มตั้งแตเดือน ต.ค.2555 - มี.ค.2556<br />

และยังตั้งวงเงินสินเชื่อดอกเบี้ยต่ํา 1.5 หมื่นลานบาท เพื่อให<br />

เอกชนกูไปใชในการรับซื้อยางเก็บไวในสต็อก และ 2) มาตรการ<br />

จํากัดปริมาณการสงออกของผูผลิตยางรายใหญของโลก (ไดแก<br />

ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย) โดยมีขอตกลงที่จะลดปริมาณ<br />

ยางพาราออกไปจากตลาดโลกรวม 4.5 แสนตัน (คิดเปนสัดสวน<br />

4% ของผลผลิตยางโลก) ภายในชวงเดือน ต.ค.2555 - มี.ค.2556<br />

โดยทั้งสองมาตรการนี้ลวนจํากัดใหปริมาณ Supply ยางโลกออก<br />

สูตลาดลดลง และใกลเคียงกับความตองการใชยางทั่วโลก จึงชวย<br />

หนุนราคายางโลกเริ่มเห็นการฟนตัวในงวด 1Q56 โดยฝายวิจัย<br />

ประเมินวาราคายางเฉลี่ยป 2555 ในตลาด TOCOM จะเทากับ<br />

260 เยน/กิโลกรัม (เทียบเทา 97.5 บาท/กิโลกรัม) ปรับตัวลดลงถึง<br />

31.5%yoy แตจะคอยๆ ทยอยฟนตัวในลักษณะคอยเปนคอยไป<br />

ในชวงป 2556 โดยคาดการณราคายางเฉลี่ยในป 2556 เทากับ<br />

34 Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

268 เยน/กิโลกรัม (เทียบเทา 100.4 บาท/กิโลกรัม) หรือเพิ่มขึ้น<br />

3%yoy<br />

ราคายางพาราในตลาดโลก (อ้างอิงตลาด TOCOM)<br />

600<br />

500<br />

400<br />

300<br />

200<br />

100<br />

0<br />

ธ.ค. 43<br />

เยน/กก.<br />

ธ.ค. 44<br />

ธ.ค. 45<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

ธ.ค. 46<br />

ธ.ค. 47<br />

ธ.ค. 48<br />

ธ.ค. 49<br />

สําหรับแนวโนมป 2556 แม IRSG คาดการณวา ความตองการ<br />

ใชยางพาราโลกจะเติบโตในอัตราเพียง 4.3%yoy ใกลเคียงกับ<br />

ปริมาณผลผลิตที่คาดวาจะเติบโต 4.4%yoy (ยังไมไดรวม<br />

ผลกระทบจากมาตรการแทรกแซงราคายาง) แตหากพิจารณา<br />

ความตองการเปนรายประเทศ พบวา จีนและอินเดียมีความ<br />

ตองการเพิ่มในอัตราสูงกวา คือ 4.2% และ 7.7% ตามลําดับ และ<br />

เปนความตองการใชที่เกิดจากอุตสาหกรรมยานยนตเปนหลัก<br />

สอดคลองกับการศึกษาของ Autofacts (สถาบันวิจัยเกี่ยวกับ<br />

ตลาดยานยนตโลก) คาดการณวาภาพรวมการผลิตรถยนตในชวง<br />

5 ปขางหนา (2554–2560) จะเติบโต เฉลี่ย 4.33% ตอป (CAGR)<br />

ธ.ค. 50<br />

ธ.ค. 51<br />

ธ.ค. 52<br />

ธ.ค. 53<br />

ธ.ค. 54<br />

ธ.ค. 55<br />

ธ.ค. 56


โดยกลุมประเทศที่มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดไดแก เอเซีย (ไมรวม<br />

จีน) เฉลี่ยถึง 9.2% ตอป อันเปนผลมาจากการยายฐานการผลิต<br />

ในทวีปอื่นๆ เขามาสูเอเซียมากขึ้น และการเติบโตของเศรษฐกิจที่<br />

อยูในเกณฑสูง โดยเฉพาะประเทศจีน คาดวาจะมีอัตราเติบโต<br />

สูงสุดเฉลี่ยถึง 6.4% รองลงมาคือ ยุโรป 4.6% สหรัฐ 3.7%<br />

ยกเวน ญี่ปุน/เกาหลี คาดวาจะหดตัว 1.4% อันเปนผลการที่<br />

ผูประกอบการสวนใหญไดยายฐานการผลิตออกนอกประเทศ<br />

Demand / Supply ของยางพาราในตลาดโลก<br />

Year Supply Demand Supply-Demand<br />

2551 10,477 10,723 (246)<br />

2552 9,690 9,329 361<br />

2553 10,399 10,778 (379)<br />

2554 10,977 10,920 57<br />

2555F 11,332 11,195 137<br />

2556F 11,827 11,676 151<br />

2557F 12,495 12,325<br />

ที่มา : International Rubber Study Group<br />

170<br />

จากสถิติย้อนหลัง 10 ปี ราคายางโลกมัก<br />

ปรับสูงขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก<br />

จากการวิเคราะหเชิงสถิติของฝายวิจัย <strong>ASP</strong> พบวาการเคลื่อนไหว<br />

ของราคายางพาราในอดีต (ชวงป 2545-54) สวนใหญมักจะ<br />

ปรับตัวสูงขึ้นอยางตอเนื่องในชวงครึ่งปแรกของแตละปเสมอ<br />

โดยเฉพาะชวงเดือน ม.ค. – ก.พ. ราคายางจะปรับตัวสูงขึ้น 9.8%<br />

mom และ 6.3% mom ตามลําดับ ดวยความนาจะเปนที่ให<br />

ผลตอบแทนเปนบวกมากถึง 80% ทั้งนี้ ฝายวิจัยคาดวาสาเหตุ<br />

หลักของการเคลื่อนไหวของราคายางพาราในแตละเดือน ตามที่<br />

แสดงในแผนภาพ นาจะมาจากผลพวงของชวงฤดูกาลผลผลิต<br />

ยางพารา โดยธรรมชาติผลผลิตยางจะออกมามากในชวงเดือน<br />

พฤศจิกายน, ธันวาคม และ มกราคม (คิดเปนสัดสวนรวม 30%<br />

ของผลผลิตทั้งป) กอนที่จะปดการกรีดยางในชวง กุมภาพันธ ถึง<br />

เมษายน ซึ่งเปนชวงหนาแลง และเปนชวงฤดูผลัดใบของตนยาง<br />

ทําใหตนยางมีน้ํายางนอย และสงผลให Supply ของยาง ออกมา<br />

ในตลาดนอย เห็นไดจากสถิติในชวงเดือน ก.พ.-เม.ย. ของแตละป<br />

มีผลผลิตยางรวมกันออกมาเพียง 17.3% ของผลผลิตทั้งป ซึ่งปกติ<br />

มักจะทําใหราคายางพาราในชวงที่มีผลผลิตนอย ปรับตัวสูงขึ้น<br />

20%<br />

15%<br />

10%<br />

5%<br />

0%<br />

-5%<br />

การเปลี่ยนแปลงราคายางเฉลี่ยรายเดือนปี 2545-ปัจจุบัน<br />

9.8%<br />

80% 82% 64%<br />

6.3%<br />

ผลตอบแทนของราคายางเฉลี่ยรายเดือนในตลาด TOCOM<br />

โอกาสใหผลตอบแทนเปนบวกรายเดือน(RHS)<br />

0.8%<br />

6.0%<br />

80%<br />

2.1%<br />

70%<br />

4.6%<br />

60%<br />

30% 30%<br />

40%<br />

70%<br />

40%<br />

90%<br />

80%<br />

70%<br />

60% 60%<br />

50%<br />

40%<br />

30%<br />

20%<br />

-0.2%<br />

-0.8%<br />

10%<br />

-2.0% -1.9% -1.9%<br />

-3.7% 0%<br />

Jan Feb Mar Apr May Jun Jul Aug Sep Oct Nov Dec<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

คาดราคาหุ้น STA ผ่านพ้นจุดต่ําสุดแล้ว แต่<br />

PER ปี 2556 ยังแพง<br />

ฝายวิจัยคาดวากําไรสุทธิของ STA ในป 2556 จะฟนตัวโดดเดน<br />

21%yoy โดยมีปจจัยบวกจาก 1) กลยุทธการเติบโตของธุรกิจเชิง<br />

รุกของบริษัทฯ ในป 2556 โดยตั้งเปาหมายปริมาณขายรวมเติบโต<br />

10%yoy จากการขยายกําลังการผลิตของโรงงานในไทย และ<br />

อินโดนีเซีย และ 2) ทิศทางราคายางพาราในตลาดโลกที่เริ่มมี<br />

เสถียรภาพมากขึ้นในป 2556 ชวยให STA สามารถบริหารจัดการ<br />

สต็อกสินคาคงเหลือไดอยางมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะสง<br />

ผลบวกสืบเนื่องตอ Gross margin ของบริษัทฯ เชนกัน อยางไรก็<br />

ตาม ราคาหุนปจจุบันของ STA มีคา PER และ PBV ป 2556 ที่<br />

คอนขางสูงราว 21.72 เทา และ 1.08 เทา ตามลําดับ ดังนั้น ฝาย<br />

วิจัยจึงยังไมแนะนําใหเขาลงทุนในหุน STA สําหรับนักลงทุนที่<br />

สามารถรับความเสี่ยงจากการลงทุนตางประเทศได ฝายวิจัย<br />

แนะนําหุน JA WATTIE (JAWA IJ EQUITY) สัญชาติอินโดนีเซีย<br />

ซึ่งประกอบธุรกิจสินคาเกษตรครบวงจร และมีผลิตภัณฑที่<br />

หลากหลาย โดยราคาหุนปจจุบันมี PER ในป 2556 อยูในระดับ<br />

ต่ําเพียง 8.4 เทา และมี Upside กวา 51% จากคาเฉลี่ยมูลคา<br />

พื้นฐานในระยะ 12 เดือนขางหนา (รวบรวมจาก Bloomberg<br />

Consensus)<br />

สรุปคําแนะนําหุ้นในกลุ่ม Soft Commodity ของไทย และต่างประเทศ<br />

Rec. /<br />

Upside PBV PER<br />

BB Rating ราคาปจจุบัน ราคาเปาหมาย (%) 2555F 2556F 2555F 2556F<br />

STA HOLD 16.30 17.41 7 1.13 1.08 21.72 17.90<br />

GMG GLOBAL LTD 3.00 0.12 0.13 1 1.13 1.03 13.78 12.40<br />

WILMAR INTERNATI 2.64 3.02 3.34 11 1.08 1.00 14.80 11.48<br />

NOBLE GROUP LTD 4.52 1.27 1.56 23 1.31 1.16 10.99 8.68<br />

OLAM INTERNATION 4.21 1.95 2.34 20 1.37 1.22 11.40 8.74<br />

J.A. WATTIE TBK 5.00 355 567 60 1.10 0.98 8.66 7.55<br />

GOLDEN AGRI-RESO 4.40 0.67 0.84 26 0.78 0.73 11.12 9.73<br />

FIRST RESOURCES 4.56 2.02 2.33 15 2.33 2.01 13.04 11.49<br />

FELDA GLOBAL VEN 2.56 4.74 4.87 3 2.75 2.48 16.75 15.70<br />

ที่มา : รวบรวมโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 35


กลุ่ม น้ําตาลทราย<br />

Supply ล้นตลาดเริ่มคลี่คลาย<br />

แนวโน้มผลผลิตเริ่มชะลอ สวนทางกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในปี 2556<br />

คาดกําไรกลุ่มฯ ปี 2556 ชะลอตัวเล็กน้อยจากราคาที่กดดัน<br />

Top pick ยังเลือก KSL<br />

แนวโน้มผลผลิตโลกเริ่มชะลอ สวนทางกับ<br />

ความต้องการที่เพิ่มขึ้นในปี 2556<br />

คาดวาความกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ําตาลโลกลนตลาด<br />

นาจะคลี่คลายลง หลังจากที่สถาบันวิจัยชั้นนําของโลกหลายแหง<br />

เริ่มมีการปรับลดประมาณการผลผลิตน้ําตาลโลกลงในป 2555/56<br />

เห็นไดจาก เมื่อเดือน พ.ย.2555 กระทรวงเกษตรและสหกรณของ<br />

สหรัฐฯ (USDA) ไดเปดเผยประมาณการผลผลิตน้ําตาลโลกใน<br />

ป 2555/56 เทากับ 172.3 ลานตัน (ลดลงจากประมาณการเดิม<br />

เมื่อเดือน พ.ค.2555 ที่ระดับ 174.5 ลานตัน) ทรงตัวใกลเคียงกับ<br />

ป 2554/55 ซึ่งเปนผลจากแนวโนมผลผลิตน้ําตาลในประเทศ<br />

อินเดียจะออกสูตลาดลดลงถึง 11%yoy (จากเดิมที่คาดการณวา<br />

จะปรับตัวสูงขึ้น 3.2%yoy) เนื่องจากปริมาณน้ําฝนที่นอยกวาปกติ<br />

จึงทําใหผลผลิตน้ําตาลตอไร ออกมานอยกวาประมาณการเดิมที่<br />

คาดไว และผูประกอบการในอินเดียหันมาใชผลผลิตออยบางสวน<br />

มาเปนวัตถุดิบในการเลี้ยงสัตวมากขึ้น เชนเดียวกับ สถานการณ<br />

ในสหภาพยุโรป (EU) เนื่องจากสภาพภูมิอากาศที่ไมเอื้ออํานวย<br />

เกิดขึ้นในบริเวณแหลงเพาะปลูกของตนบีท (Beet) ซึ่งเปนวัตถุดิบ<br />

หลักในการผลิตน้ําตาล จึงทําใหคาดการณวาผลผลิตน้ําตาลของ<br />

EU ในป 2555/56 จะปรับตัวลดลง 10%yoy<br />

อยางไรก็ตาม แนวโนมผลผลิตน้ําตาลทรายในบางประเทศยังเห็น<br />

การเติบโตที่สดใส นําโดยประเทศบราซิล และจีน (ผูผลิตอันดับ<br />

หนึ่งและสี่ของโลก) คาดวามีผลผลิตในป 2555/56 เติบโตที่ระดับ<br />

3.7%yoy และ 18.1%yoy ตามลําดับ จึงชวยหักลางสถานการณ<br />

ในประเทศอินเดีย และสหภาพยุโรปที่มีผลผลิตลดลง และทํา<br />

ใหผลผลิตทั่วโลกคาดวาจะยังทรงตัวระดับสูงตอเนื่องจากปกอน<br />

หนา ทั้งนี้ ผูประกอบการในบราซิลยังคงหันมาสงออกน้ําตาลทราย<br />

ไปยังตางประเทศมากขึ้น จากเดิมที่เคยนําผลผลิตบางสวนมาใช<br />

เปนวัตถุดิบทําเอทานอล ในขณะเดียวกัน เกษตรกรในจีนยังคง<br />

เดินหนาขยายพื้นที่เพาะปลูกออยและตนบีทมากขึ้น เพื่อทดแทน<br />

การปลูกพืชมันสําปะหลัง เนื่องจากผลตอบแทนในการเพาะปลูก<br />

พืชออยและตนบีท ยังอยูในระดับที่สูงกวาการปลูกพืชมัน<br />

สําปะหลัง จึงทําใหมีการประเมินวาในป 2555/56 จีนจะนําเขา<br />

น้ําตาลทรายจากตางประเทศลดลงอยางมีนัยฯ 50%yoy เหลือ 2<br />

ลานตันเทานั้น<br />

Demand & Supply ของอุตสาหกรรมน้ําตาลทั่วโลก<br />

180<br />

170<br />

160<br />

150<br />

140<br />

130<br />

120<br />

ลานตัน<br />

ที่มา : USDA<br />

2008/09<br />

2009/10<br />

2010/11<br />

Production<br />

2011/12<br />

Consumption<br />

ดานการบริโภคน้ําตาลทรายโลกในป 2555/56 คาดวาปรับเพิ่มขึ้น<br />

สูระดับ 162 ลานตัน เติบโต 2.1%yoy ตามจํานวนประชากรที่<br />

เพิ่มขึ้น ผนวกกับราคาน้ําตาลโลกที่ปรับตัวลดลงในชวงที่ผานมา<br />

2012/13<br />

36<br />

Invest+ 1 st Quarter, 2013


จะชวยทําใหความตองการใชในดานพลังงานทดแทนปรับตัวสูงขึ้น<br />

เนื่องจากสินคาเกษตรชนิดอื่นๆ อาทิ ถั่วเหลือง และขาวโพดมี<br />

ราคาอยูในระดับสูงมาก โดยรวมแลว ฝายวิจัยเชื่อวาแนวโนม<br />

ผลผลิตน้ําตาลโลกที่จะออกสูตลาดลดลงจากเดิมที่คาดไว และอยู<br />

ในระดับที่ใกลเคียงกับความตองการบริโภค ขณะที่ตนทุนการผลิต<br />

เฉลี่ยทั่วโลกอยูในระดับสูงใกลเคียงกับราคาขายปจจุบันแลว ทํา<br />

ใหแนวโนมราคาน้ําตาลโลกมีโอกาสทรงตัว แตอาจปรับขึ้นได หาก<br />

ปริมาณผลผลิตโลกต่ํากวาเปาหมาย<br />

ที่มา : USDA<br />

สัดส่วนผลผลิตน้ําตาลทราย แบ่งตามประเทศ<br />

อื่นๆ<br />

39%<br />

ไทย<br />

6%<br />

จีน<br />

8%<br />

บราซิล<br />

22%<br />

ยุโรป<br />

10%<br />

อินเดีย<br />

15%<br />

คาดกําไรกลุ่มฯ ปี 2556 ชะลอตัวเล็กน้อย<br />

จากราคาที่กดดัน<br />

ภาพรวมธุรกิจน้ําตาลในป 2555/56 คาดวาจะไดรับปจจัยกดดัน<br />

จากทิศทางราคาน้ําตาลโลกที่ยังทรงตัวระดับต่ํา แมวาฝายวิจัย<br />

คาดวาบริษัท ออยและน้ําตาลไทย จํากัด (อนท.) ไดเริ่มทําสัญญา<br />

ขายลวงหนาสําหรับผลผลิตป 2555/56 ไปแลวกวา 43% ที่ระดับ<br />

ราคาเฉลี่ย 24-25 เซ็นต/ปอนด (ซึ่งฝายวิจัยคาดวา KSL และ<br />

KBS นาจะทําสัญญาขายลวงหนาที่ระดับเดียวกับ อนท.) ดังนั้น<br />

หากราคาน้ําตาลโลกในชวงที่เหลือของป 2555 และตอเนื่องจนถึง<br />

ป 2556 ยังทรงตัวระดับต่ําที่ราคาปจจุบัน ก็จะสงผลใหราคาขาย<br />

เฉลี่ยน้ําตาลในป 2555/56 เทากับ 21 เซ็นต/ปอนด ใกลเคียงกับ<br />

สมมติฐานของฝายวิจัย แตลดลง 22%yoy จึงทําใหคาดวาผลการ<br />

ดําเนินงานของกลุมน้ําตาลในป 2556 อาจจะชะลอตัวเล็กนอย<br />

จากปกอนหนา อยางไรก็ตาม ฝายวิจัยยังเชื่อมั่นวา KSL จะมี<br />

กําไรสุทธิในป 2556 ทรงตัวระดับสูงใกลเคียงกับป 2555 โดยมี<br />

ปจจัยสนับสนุนจากการขยายกําลังการผลิตของโรงงานน้ําตาล<br />

เพื่อเพิ่มปริมาณขายน้ําตาลทราย ประกอบกับธุรกิจเสริมที่ตอยอด<br />

ไปยังธุรกิจขั้นปลายทั้งโรงไฟฟา เอทานอล ยังคงเดินหนาขยาย<br />

กําลังการผลิตตอเนื่อง และมีสัดสวนกําไรสุทธิของธุรกิจตอยอด<br />

มากขึ้นเปน 40% ของกําไรสุทธิรวม (จากเดิม 25% ของกําไรสุทธิ<br />

รวม) ซึ่งจะชวยหักลางกับปจจัยลบจากราคาขายน้ําตาลในป<br />

2556 ที่ชะลอตัวไปไดทั้งหมด<br />

40<br />

30<br />

20<br />

10<br />

เซ็นต/ปอนด<br />

0<br />

มี.ค.51<br />

มิ.ย.51<br />

ราคาน้ําตาลทรายดิบในตลาดโลก<br />

ก.ย.51<br />

ธ.ค.51<br />

มี.ค.52<br />

มิ.ย.52<br />

ก.ย.52<br />

ธ.ค.52<br />

มี.ค.53<br />

มิ.ย.53<br />

ก.ย.53<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

Top pick ยังเลือก KSL<br />

ธ.ค.53<br />

มี.ค.54<br />

Avg 2553 = 22.27<br />

Avg 2554 = 26.58<br />

Avg 2555 = 21.56<br />

มิ.ย.54<br />

ก.ย.54<br />

ธ.ค.54<br />

มี.ค.55<br />

มิ.ย.55<br />

ก.ย.55<br />

ธ.ค.55<br />

หากพิจารณาถึงราคาหุน KSL และ KBS ตั้งแตตนป 2555 จนถึง<br />

ปจจุบันใหผลตอบแทนเปนศูนย สวนทางกับดัชนี SET ที่ปรับตัว<br />

เพิ่มขึ้น 33% แสดงถึงราคาหุนปจจุบันที่สะทอนราคาน้ําตาลโลกที่<br />

ปรับตัวลดลงไปมากแลว ขณะที่ PER ป 2556 สําหรับกลุมน้ําตาล<br />

ในประเทศไทยอยูที่ระดับเพียง 9.6 เทา ต่ํากวาตลาดฯ ที่สูงถึง<br />

13.43 เทา ทั้งนี้ ฝายวิจัยเลือก KSL เปนหุน Top pick ของกลุม<br />

น้ําตาล ในฐานะผูประกอบการชั้นนําในกลุมน้ําตาลทราย ซึ่งมีการ<br />

กระจายตัวของธุรกิจที่ดีไปสูธุรกิจขั้นปลายทั้งโรงไฟฟา เอทานอล<br />

และธุรกิจตางประเทศ สําหรับนักลงทุนที่สามารถยอมรับความ<br />

เสี่ยงจากการลงทุนในตางประเทศได ฝายวิจัยเชื่อวากลุมน้ําตาล<br />

ทรายในตางประเทศยังมีความนาสนใจอยู แมวาคาเฉลี่ย PER ป<br />

2556 จะอยูที่ระดับ 13 เทา สูงกวากลุมน้ําตาลไทย แตดวย<br />

ลักษณะธุรกิจของผูประกอบการในตางประเทศที่เนนการกระจาย<br />

ตัวของรายไดในสินคาเกษตรที่หลากหลายและขยายธุรกิจไปยัง<br />

ขั้นปลายมากขึ้น จึงชวยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา<br />

น้ําตาลโลกไดดีกวาผูประกอบการน้ําตาลในประเทศไทย โดยฝาย<br />

วิจัยแนะนําหุน Sao Martinho (SMTO3 BZ EQUITY) สัญชาติ<br />

บราซิล ประกอบธุรกิจจําหนายน้ําตาล และเอทานอล โดยราคา<br />

หุนปจจุบันมี PER ในป 2556 อยูที่ระดับเพียง 12 เทา และมี<br />

Upside กวา 22% จากคาเฉลี่ยของมูลคาพื้นฐาน<br />

สรุปคําแนะนําหุ้นในกลุ่มน้ําตาลของไทย และต่างประเทศ<br />

BB Rating<br />

Upside PBV<br />

Rec. /<br />

ราคาปจจุบัน ราคาเปาหมาย<br />

(%) 2555F 2556F 2555F 2556F<br />

KSL BUY 13.30 15.50 17 1.80 1.62 10.66 11.20<br />

KBS HOLD 10.70 11.30 6 2.00 1.52 6.84 9.23<br />

SHREE RENUKA SUG 3.24 28.55 34.64 21 0.80 0.68 12.24 4.79<br />

BAJAJ HINDUSTHAN 1.89 27.75 29.00 5 0.42 0.47 N.a. N.a.<br />

NANNING SUGAR IN 3.40 10.75 N.a. N.a. N.a. N.a. 18.47 20.02<br />

SAO MARTINHO 4.21 21.64 30.57 41 1.18 1.13 15.14 14.76<br />

COSAN 4.12 31.00 35.78 15 1.24 1.17 20.18 16.15<br />

CJ CORP 4.83 81,000 108,667 34 0.69 0.64 7.46 7.15<br />

ที่มา : รวบรวมโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

PER<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 37


กลุ่ม เดินเรือ<br />

น้ําหนัก น้อยกว่าตลาด<br />

ยังเห็นภาวะซบเซาต่อเนื่องในระยะ 1 ปีข้างหน้า<br />

ปัญหาโอเวอร์ซัพพลายยังคงอยู่ถึงปี 2556 เป็นอย่างน้อย<br />

เดินเรือเทกองทั้ง TTA และ PSL น่าจะประคองตัวเกินคุ้มทุนในปี 2556<br />

ยังไม่เห็นสัญญาณฟื้นตัวในระยะสั้น คงน้ําหนัก “น้อยกว่าตลาด”<br />

ดีมานท์เดินเรือยังเพิ่มขึ้นตามเศรษฐกิจโลก<br />

ความตองการใชบริการขนสงสินคาทางเรือ ทั้งเรือเทกองและเรือตู<br />

คอนเทนเนอร ยังมีแนวโนมเติบโตไดตอเนื่อง ตามขยายตัวของ<br />

เศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะประเทศจีน ที่มีธุรกรรมขนสงสินคาทาง<br />

เรือมากสุด ขณะที่คาดการณวาการเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะฟน<br />

ตัวจาก 3.5% ในปนี้เปน 3.9% ในป 2556 และการเติบของ<br />

เศรษฐกิจจีนจะเพิ่มขึ้นจาก 8% ในปนี้เปน 8.5% ในป 2556<br />

เชนกัน เปนผลใหความตองการใชบริการขนสงทางเรือในป 2556<br />

มีแนวโนมเพิ่มขึ้นจากป 2555 โดยเฉพาะความตองการเรือเทกองที่<br />

คาดวาจะเติบโตกวา 5% สูงกวาป 2555 ที่คาดจะเติบโตราว 4.9%<br />

ปัญหาโอเวอร์ซัพพลายต่อเนื่องถึงปี 2556<br />

อยางไรก็ตามเรือสั่งตอใหมจํานวนมาก ซึ่งเกิดขึ้นในชวงที่ธุรกิจ<br />

เดินเรือเฟองฟู มีกําหนดการสงมอบสวนใหญในชวงป 2553-2556<br />

สงผลใหซัพพลายเรือเพิ่มขึ้นในทองตลาดมากกวาการเพิ่มขึ้นของ<br />

ความตองการใชบริการขนสงทางเรือ ทั้งนี้คาดการณวา ซัพพลาย<br />

เรือเทกองจะเพิ่มขึ้น 8.4% ในป 2555 และเพิ่มขึ้นตอเนื่องอีก<br />

9.4% ในป 2556 กอนที่จะเติบโตเหลือเพียง 3.2% และ 0.4% ใน<br />

ป 2557 และ ป 2558 กดดันใหคาดการณวาปญหาโอเวอรซัพ<br />

พลายยังคงมีอยูถีงป 2556 เปนอยางนอย หากสงมอบเรือสั่งตอ<br />

ใหมไมลาชากวากําหนด<br />

ฃ<br />

ปริมาณการขนส่งทางเรือเทกอง<br />

ยอดเรือเทกองสั่งต่อใหม่ที่จะรับมอบในปี 2555-58<br />

ที่มา : SSY Research, Clarkson (หนวย : ลานตัน)<br />

ที่มา : CRS - PSL<br />

38<br />

Invest+ 1 st Quarter, 2013


อัตราค่าระวางเรือเทกองขนาดเล็กของ<br />

TTA และ PSL แกว่งตัวน้อยกว่าดัชนี BDI<br />

ดัชนี BDI เปนตัวแทนอัตราคาระวางเรือ 4 ขนาด คือ ขนาดยักษ<br />

(Capesize) ขนาดใหญ (Panamax) และขนาดกลาง Supramax<br />

และขนาดเล็ก (Handymax) ซึ่ง 2 ขนาดหลังเปนขนาดที่ TTA<br />

และ PSL ใชบรรทุกสินคา อยางไรก็ตามชวงที่ดัชนี BDI ตกต่ําสุด<br />

ปรากฎวาอัตราคาระวางเรือขนาดกลางและขนาดเล็ก กลับสูงกวา<br />

ขนาดใหญและขนาดกลาง เนื่องจากเปนขนาดที่เหมาะสําหรับขน<br />

บรรทุกสินคาจํานวนไมมากนัก เหมาะในชวงที่ความตองการขนสง<br />

สินคาชะลอตัว ขณะที่ในชวงที่ความตองการเพิ่มขึ้นมาก เรือที่<br />

เหมาะกับการบรรทุกสินคามากขึ้น กลับกลายเปนเรือขนาดกลาง<br />

และขนาดใหญ ทําใหอัตราคาระวางเรือเทกองขนาดเล็กของ TTA<br />

และ PSL ยังมีแนวโนมเคลื่อนไหวในชวงแคบ แมดัชนี BDI อาจมี<br />

ความผันผวน ขณะที่ทั้ง TTA และ PSL ตางขายเรือเกาอายุการใช<br />

งานสูงออกไปจํานวนมาก เพื่อชวยลดภาระคาบํารุงรักษา และ<br />

เพิ่มประสิทธิภาพการบริการและการบริหารตนทุน ทําใหโอกาส<br />

ขาดทุนจากธุรกิจเดินเรือเทกองมีไมมากนัก<br />

ปริมาณการขนส่งทางเรือเทกอง<br />

ที่มา : SSY Research, Clarkson (หนวย : ลานตัน)<br />

ทั้ง PSL และ TTA น่าจะเห็นกําไรในปี 2556<br />

แมคาดอัตราคาระวางเรือของ PSL และ TTA ในป 2556 จะยัง<br />

แกวงตัวในชวงแคบ แตเชื่อวา ทั้ง PSL และ TTA จะพอสรางกําไร<br />

ไดในป 2556 โดยในสวนของ PSL จากผลบวกของกําไรพิเศษที่<br />

ไดรับจากการขายสัญญาสั่งตอเรือใหม 4 ลํา กลับคืนใหผูผลิตเรือ<br />

เนื่องจากไมสามารถสงมอบเรือไดทันกําหนด ซึ่งคาดวาจะรับรู<br />

สวนใหญในป 2556 รวมมูลคาไมต่ํากวา 300 ลานบาท ขณะที่<br />

TTA คาดงวด 2H55 จะเริ่มทยอยพลิกฟนกลับมาสรางกําไรได<br />

จากผลบวกของชวงฤดูกาลของธุรกิจนอกชายฝง-ของบริษัทยอย-<br />

เมอรเมด บวกกับเมอรเมด ซึ่งไดรวมทุนกับพันธมิตร ไดเซ็น<br />

สัญญางานสํารวจและบํารุงรักษาใตน้ําระยะยาว 5 ป มูลคา 530<br />

ลานเหรียญสหรัฐ โดยในสวนของเมอรเมดจะรับรูรายไดราว 60-<br />

70% ซึ่งคาดจะเริ่มใหบริการเต็มที่ตั้งแตงวดบัญชี 3Q55 เปนตน<br />

ไป ขณะที่ บริษัท AOD ซึ่งเปนบริษัทที่เมอรเมดถือหุน 33.75%<br />

จะรับมอบเรือขุดเจาะ Jack–up ลําแรกมี.ค.56 ซึ่งไดเซ็นสัญญา<br />

ใหบริการ 3 ปเริ่มตั้งแต มิ.ย. 56 ดวยอัตรา 1.8 แสนเหรียญสหรัญ<br />

ตอวัน ลําที่ 2 และ 3 รับมอบ มิ.ย. 2556 และ ก.ย. 2556 และ<br />

กําลังอยูระหวางหาลูกคา ผลจากพัฒนาการที่ดีขึ้นของเมอรเมด<br />

คาดจะชวยพลิกให TTA กลับมามีกําไรปกติราว 173 ลานบาท ใน<br />

ป 2556 และเพิ่มขึ้นตอเนื่องเปน 568 ลานบาทในป 2557<br />

สวน RCL มีโอกาสขาดทุนตอเนื่องถึงป 2556 จากปญหาซัพ<br />

พลายเรือใหมที่เพิ่มขึ้นมา หักลางปริมาณความตองการการขนสง<br />

ทางเรือคอนเทนเนอรที่ทยอยฟนตัวตามภาวะเศรษฐกิจ อีกทั้ง<br />

RCL เปนบริษัทที่ขนสงสินคาประจําเสนทาง ซึ่งตองแบกรับภาระ<br />

ตนทุนน้ํามันทั้งหมด จึงมีความเสี่ยงที่เผชิญตนทุนที่เพิ่มขึ้น หาก<br />

ราคาน้ํามันในตลาดโลกกลับเปนขาขึ้นอีกครั้ง<br />

คงน้ําหนัก “น้อยกว่าตลาด”<br />

เชื่อวาธุรกิจเดินเรือยังมีแนวโนมซบเซาตอเนื่องอีก 1-2 ป จาก<br />

ปญหา Oversupply และเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโนมฟนตัวแบบ<br />

คอยเปนคอยไป ฝายวิจัยจึงคงน้ําหนักการลงทุนกลุม “นอยกวา<br />

ตลาด” และแมหุน RCL (FV@B7.70) จะยังมีความเสี่ยงที่จะ<br />

เผชิญขาดทุนตอเนื่องมากสุดในกลุม แตดวยราคาหุนปจจุบันทีต่ํา<br />

เพียว 0.55 เทาของมูลคาทางบัญชีตอหุนป 2556 สงผลใหฝาย<br />

วิจัยคงคําแนะนํา “ถือ” เชนเดียวกับ TTA (FV@B20) และ PSL<br />

(FV@B16) ซึ่งราคาปจจุบันอยูที่ 0.62 เทา และ 0.93 เทา ของ<br />

มูลคาทางบัญชีตอหุนป 2556 และคาดหวังการฟนตัวที่เร็วกวาใน<br />

อนาคต ทั้ง PSL ที่มาจากความพรอมของเรือใหมที่ปจจุบันมีถึง<br />

34 ลํา และมีเรือสั่งตอใหมที่เตรียมลํามอบในชวง 2-3 ปนี้อีกราว<br />

10 ลํา และ TTA ที่ธุรกิจนอกชายฝงที่มีการเซ็นสัญญาระยะยาว<br />

5 ปแลว และจากแผนการซื้อเรือมือสองอายุงานต่ําเพิ่มเติมอีก<br />

10-15 ป อยางไรก็ตาม TTA ยังตองการพยายามหาแหลงเงิน<br />

ลงทุนชองทางอื่นเชน การออกหุนกู เพราะผูถือหุนไมอนุมัติการ<br />

เพิ่มทุน<br />

PBV และ ROE ของ PSL RCL และ TTA เปรียบกับหุ้นเดินเรือทั่วโลก<br />

PBV (X)<br />

PSL<br />

1.00<br />

0.90<br />

COSCO<br />

EVERGREEN<br />

TTA<br />

MEASK<br />

0.80<br />

0.70<br />

0.60<br />

0.50<br />

0.40<br />

0.30<br />

STAR BULK<br />

RCL<br />

SAFE BULKER<br />

DIANA<br />

MITSUI<br />

0.20 GENCO<br />

DRY SHIP<br />

0.10<br />

EAGLE BULK<br />

EXCEL MARITIME<br />

ROE (%)<br />

-<br />

(15.00) (10.00) (5.00) - 5.00 10.00 15.00 20.00 25.00<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 39


กลุ่มขนส่งทางบก<br />

น้ําหนัก เท่าตลาด<br />

BTS และ BECL มีปัจจัยเร่งชัดเจนในปีหน้า<br />

ปริมาณผู้ใช้บริการ 3 ผู้ประกอบการหลักยังเติบโตต่อเนื่องในปี 2556<br />

BTS และ BECL คือ หุ้นที่มีปัจจัยหนุนการเติบโตชัดเจนในปี 2556<br />

น้ําหนัก “เท่าตลาด” เลือก BTS เป็น Top Pick<br />

ผู้โดยสารปีหน้า BTS เติบโตเด่นกว่า BMCL<br />

ฝายวิจัยคาดวาปริมาณผูใชบริการของหุนกลุมรถไฟฟาจะเติบโต<br />

ไดตอเนื่องในป 2556 โดยคาดจะนํามาดวย BTS ซึ่งจะคาดเติบโต<br />

เฉลี่ยไดราว 12.7%yoy ตามมาดวย BMCL ที่ระดับรองลงมาที่<br />

9.0%yoy ทั้งนี้ เพราะคาดวา BTS จะไดประโยชนโดยตรง 2 เรื่อง<br />

คือ 1) การนํารถไฟฟาตูใหมขึ้นใหบริการ ในเสนทางสายสุขุมวิท<br />

ของตนเองอีกถึง 35 ตู (สิ้นสุด แบริ่ง – จุตจักร) ซึ่งจะชวยเพิ่ม<br />

กําลังการใหบริการปจจุบันในเสนทางดังกลาวขึ้นจากปจจุบันอีก<br />

33% ตั้งแตเดือน เม.ย. 2556 เปนตนไป ขณะที่ 2) ปริมาณ<br />

ผูโดยสารของ BTS ยังจะไดอานิสงสจาการเปดสวนตอขยายเสน<br />

ใหมคือเสนทางวงเวียนใหญ – บางหวา ซึ่งเชื่อมตอตรงกับเสนทาง<br />

เดิมของ BTS โดยการเปดจะแบงออกเปน 2 ชวงคือชวงที่ 1 สถานี<br />

วงเวียนใหญ – โพธินิมิตร รวม 3 สถานี ซึ่งจะเปดใหบริการกอน<br />

คือนับจากวันที ่ 12 ม.ค. 2556 และชวงที่ 2 คือ สถานีวุฒากาศ –<br />

บางหวา รวม 2 สถานี ซึ่งจะเปดบริการนับจากวันที่ 12 ส.ค. 2556<br />

เปนตนไป<br />

คาดรถคันแรกหนุนผู้ใช้ทาง BECL ปี 2556<br />

ขณะที่ในดานของปริมาณจราจรของ BECL ฝายวิจัยเชื่อวา การ<br />

เติบโตในป 2556 จะเปนไปอยางตอเนื่องจากปนี้เชนกัน โดยคาด<br />

จะไดรับอานิสงสจากผูที่ทยอยซื้อรถยนตคันแรก ตามนโยบาย<br />

ภาครัฐฯ ในปนี้กวา 9.0 แสนคัน ซึ่งเกินกวาตัวเลขที่ภาครัฐฯ<br />

คาดการณไปกวาเทาตัว จึงทําใหฝายวิจัยยังเชื่อวาจะสงผลบวก<br />

กับ BECL อยางเต็มปในป 2556 จึงหนุนใหฝายวิจัยคาดวาในป<br />

40 Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

2556 จะมีรถยนตที่ใชทางดวนของ BECL เพิ่มสูงขึ้นไดตาม<br />

สมมติฐานฝายวิจัยที่ 5.0%yoy<br />

ผูใชบริการ BTS และ BMCL (ลานคน)<br />

ปริมาณผู้ใช้บริการของ BTS BECL และ BMCL รายไตรมาส<br />

50<br />

40<br />

30<br />

20<br />

10<br />

0<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

เปดสวนตอขยาย<br />

เปนปจจัยเรง<br />

ผูใชบริการ<br />

1Q51<br />

2Q51<br />

3Q51<br />

4Q51<br />

1Q52<br />

2Q52<br />

3Q52<br />

4Q52<br />

1Q53<br />

2Q53<br />

3Q53<br />

4Q53<br />

1Q54<br />

2Q54<br />

3Q54<br />

4Q54<br />

1Q55<br />

2Q55<br />

3Q55<br />

BTS BMCL BECL<br />

130.0<br />

120.0<br />

110.0<br />

100.0<br />

90.0<br />

80.0<br />

70.0<br />

60.0<br />

50.0<br />

40.0<br />

ขายสิทธิรายได้เข้ากองทุนหนุน BTS เด่น<br />

หากพิจารณาหุนรายตัวในกลุมขนสง ฝายวิจัยยังชอบ BTS ที่สุด<br />

เพราะปจจัยเรงที่เกิดจากการขายสิทธิรายไดคาโดยสารสุทธิที่จะ<br />

เกิดขึ้นในอนาคตตามสัญญาสัมปทานที่คงเหลือ 17 ป ในเสนทาง<br />

หลักใหกับกองทุนสาธารณูปโภค (IFF) เนื่องจากหลังการขาย<br />

ใหกับ IFF ในราวงวดบัญชี 4Q55/56 ของ BTS (สิ้นสุด มี.ค.<br />

2556) ภายใตสมมติฐานมูลคาขายสิทธิรายไดให IFF ที่ 5.5 หมื่น<br />

ลานบาท จะสงผลให 1) BTS จะไดกําไรพิเศษจากธุรกรรมครั้งนี้ที่<br />

7.3 พันลานบาท ซึ่งจะบันทึกงวด 4Q55/56 (สิ้นสุด มี.ค 2556)<br />

และไดรับเงินสดราว 5.5 หมื่นลานบาท และ 2) เมื่อกองทุนฯ<br />

จัดตั้งขึ้น BTS จะนําเงินจํานวนราว 1.8 หมื่นลานบาทไปลงทุนไป<br />

รถยนตใชบริการ BECL (ลานคัน)


ถือหุน 33.3% ในกองทุนฯ คาดจะทําใหไดรับสิทธิประโยชน คือ<br />

ฐานรายไดที่นํามาจายเงินปนผล จะไดรับยกเวนไมตองตัด<br />

จําหนายมูลคาสินทรัพยโครงการเปนคาใชจาย ซึ่งคิดเปนราว<br />

30% ของรายไดเฉลี่ยตอเที่ยว และไมตองภาษีเงินไดนิติบุคคล<br />

ขณะที่ 3) BTS จะไดรับเงินสดสุทธิเขามาเพิ่มที่ราว 3.67 หมื่น<br />

ลานบาท ซึ่งปจจุบัน BTS จะไดนําไปพักไวในสถาบันการเงิน<br />

เพื่อใหไดผลตอบแทนในรูปดอกเบี้ยรับเฉลี่ยราว 3% ตอปกอน<br />

เพื่อรอเขาลงทุนในโครงการใหมสวนตอขยายที่จะเปดประมูลใน<br />

อีก 1-2 ปขางหนา (ยังไมรวมในประมาณการ) ไดแก สวนตอขยาย<br />

สายสีเขียว (หมอชิต – สะพานใหม และ แบริ่ง – สมุทรปราการ)<br />

สายสีชมพู (มีนบุรี – แคราย) และรถไฟฟาแบบ Light Rail (บาง<br />

นา – สุวรรณภูมิ) จากประโยชนโดยรวมแลว ทําใหคาดกําไรสุทธิป<br />

2555/56 (สิ้นสุด มี.ค. 2556) ของ BTS จะเติบโตจากปกอนหนา<br />

สูง 5 เทาตัวมาอยูที่ 1.1 หมื่นลานบาท และเชื่อวากําไรปกติป<br />

2556/57 (สิ้นสุด มี.ค 2557) ภายใตโครงสรางธุรกิจใหม จะยัง<br />

สามารถเติบโตตอเนื่องไดถึง 54.5%yoy อยูที่ 2.5 พันลานบาท<br />

ที่มา : BTS<br />

โครงสร้างการดําเนินเงินภายใต้รูปแบบ Infrastructure Fund<br />

มีปัจจัยเร่งอื่นๆ ต่อ BECL อีกในปี 2556<br />

นอกจากประเด็นบวกของปริมาณจราจรที่คาดจะเติบโตดีตอเนื่อง<br />

ในปหนาแลว ฝายวิจัยคาดวาจะมีอีก 2 ปจจัยเรงราคาหุนของ<br />

BECL ในอีก 1 ปขางหนาคือ 1) การปรับขึ้นคาผานทางจาก<br />

ปจจุบัน ที่จะเริ่มไดนับจาก 1 ก.ย. 2556 ซึ่งคาดวาจะปรับเพิ่มได<br />

อีกราว 12% จากปจจุบัน และ 2) การเขาซื้อหุน TTW เพิ่มเติมอีก<br />

ในสัดสวน 11% ซึ่งจะสงผลให BECL ถือหุนเพิ่มเปน 20.2% ใน<br />

TTW นับจากงวด 2Q56 ชวยให BECL ไดประโยชนจาก<br />

ผลตอบแทนที่มากขึ้นจากการถือหุน TTW จากฐานเดิมในอนาคต<br />

ราว 250–300 ลานบาทตอป หรือ เปนผลบวกใหฐานกําไรเพิ่มขึ้น<br />

จากปจจุบันราว 12%-13% ขณะที่มูลคาพื้นฐานจะเพิ่มขึ้นจาก<br />

เดิม 4.5 บาท นอกจากนี้ มูลคาเพิ่มจากบริษัทยอย CK Power<br />

(BECL ถือหุน 30%) ยังเพิ่มจากเดิม เพราะปจจุบัน TTW ถือหุน<br />

ใน CK Power ที่สัดสวน 30% สงผลให BECL จะถือหุนใน CK<br />

Power ทั้งทางตรงและทางออม 36.1% จึงหนุนให BECL ได<br />

ประโยชนจากมูลคาเพิ่มจากการปรับเพิ่มมูลคาของ CK Power<br />

ภายหลังเขาตลาดในชวงตนปหนา ซึ่งจะทําให CK Power มี<br />

แหลงเงินลงทุนและมีแผนขยายการลงทุนที่ชัดเจนมากขึ้น จาก<br />

ปจจุบันที่ฝายวิจัยประเมินคา CK Power โดยอิงจากมูลคาตาม<br />

บัญชี ดังนั้น ฝายวิจัยจึงเทียบเคียงมูลคาเพิ่ม CK Power ภายใต<br />

สมมติฐานคาเฉลี่ย PBV ของกลุมโรงไฟฟาที่ 1.5 เทา จะสงผลให<br />

เกิดมูลคาเพิ่มตอ BECL อีก 2.0 บาท ดังนั้น มูลคาพื้นฐานใหม<br />

ของ BECL จึงพุงไปอยูที่ 40.5 บาท<br />

ส่วนผู้ถือหุ้นใกล้ติดลบตามหลอน BMCL<br />

สวน BMCL แมคาดวาผลขาดทุนในปหนา จะลดลงตอเนื่อง<br />

เพราะนอกจากคาดวาปริมาณผูใชบริการจะเติบโตตอเนื่อง และ<br />

เชื่อวาประโยชนที่ไดรับจากการปรับคาโดยสารจากชวง 15–40<br />

บาทตอเที่ยว ไปเปน 16-40 บาทตอเที่ยว (ปรับเมื่อ 3 ต.ค. 2555)<br />

เต็มปในปหนา จะชวยใหขาดทุนในป 2556 ลดลงเหลือราว 1.0<br />

พันลานบาท จาก 1.18 พันลานบาทในปนี้ แตทั้งนี้ผลขาดทุน<br />

ตอเนื่องมีแนวโนมกดดันใหสวนผูถือหุนของ BMCL ติดลบภายใน<br />

3 ไตรมาสหนา ซึ่งหากติดลบจะเขาขายบริษัทที่ตองฟนฟูกิจการ<br />

ดังนั้นภายใตสมมติฐาน การเพิ่มทุนจํานวน 5 พันลานหุน ที่ราคา<br />

หุนละ 0.5 บาท เพื่อชวยใหสวนผูถือหุนรองรับขาดทุนไดจนกวา<br />

จะพลิกกลับมาทํากําไรอีกครั้งในราวปลายป 2559 ยังถือเปน<br />

ปจจัยกดดัน เพราะ Dilution Effect จะมีแนวโนมสูง 29.5%<br />

น้ําหนัก “เท่าตลาด” BTS คือ Top Pick<br />

ฝายวิจัยยังคงน้ําหนักการลงทุนลุมจาก “เทาตลาด” โดยเลือก<br />

BTS (FV@B7.5) เปน Top Pick เพียงตัวเดียว แมราคาปจจุบัน<br />

จะเริ่มมี Upside จํากัดจากมูลคาพื้นฐาน แตมูลคาพื้นฐาน<br />

ปจจุบันของฝายวิจัยยังคงอิงหลักอนุรักษนิยม โดยไมรวมสวนตอ<br />

ขยายในอนาคตอีก 3 เสนทางที่คาดวาจะเริ่มเปดให BTS เขา<br />

ประมูลนับจากป 2556 เปนตนไป ขณะที่ฝายวิจัยกลับมาชอบ<br />

และแนะนํา “ซื้อ” BECL (FV@40.5) อีกครั้ง หลังไดประโยชน<br />

จากการถือหุน TTW ในสัดสวนที่มากขึ้น สวน BMCL(FV@B0.7)<br />

ยังมีความจําเปนเรื่องการเพิ่มทุนกดดันจึงคงคําแนะนําเพียง “ถือ”<br />

สรุปคําแนะนํากลุ่มขนส่งทางบก<br />

2556F<br />

Rec. Close Fair value Upside EPS PER PBV Div<br />

(B) (B) (%) (B) (X) (X) (%)<br />

BTS ซื้อ 6.85 7.50 9% 0.21 32.1 1.4 2.18<br />

BECL ซื้อ 33.00 40.50 23% 2.98 11.1 1.2 4.36<br />

BMCL ถือ 0.70 0.70 0% (0.06) na. 5.3 0.00<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 41


กลุ่มขนส่งทางอากาศ<br />

น้ําหนัก น้อยกว่าตลาด<br />

ผลตอบแทนหุ้นในกลุ่ม Outperform ไปมากแล้ว<br />

ปริมาณผู้ใช้บริการหุ้นในกลุ่มงวด 1Q56 มีแนวโน้มโดดเด่นตามช่วงฤดูกาล<br />

กําไรกลุ่มปี 2556 โตโดดเด่น แต่อยู่ในความคาดหมายของตลาด<br />

ราคาหุ้น Outperform มากจนไม่มี Upside ลดน้ําหนัก “น้อยกว่าตลาด”<br />

ผู้ใช้บริการจะเติบโตโดดเด่นตามช่วงฤดูกาล<br />

ฝายวิจัยคาดวา ปริมาณผูใชบริการของหุนในกลุมยังมีแนวโนม<br />

เติบโตตอเนื่องในงวด 1Q56 เพราะยังคงอยูในชวงฤดูกาล<br />

ทองเที่ยว โดยหากพิจารณาจากผลการศึกษาอัตราการเติบโตของ<br />

ปริมาณผูใชบริการของหุนในกลุมงวดไตรมาสที่ 1 เทียบกับ<br />

ไตรมาสที่ 4 ในงวด 3 ปยอนหลัง พบวาโดยเฉลี่ยแลว AAV คือ<br />

บริษัทที่มีอัตราการเติบโตที่โดดเดน คือราว 15.5%qoq รองมา คือ<br />

AOT และ THAI ซึ่งอยูที่ราว 13.3% และ 9.6% ตามลําดับ<br />

ขณะที่แนวโนมอัตราการเติบโตของปริมาณผูเดินทางทั้งป 2556<br />

ของกลุม ฝายวิจัยยังมองวาจะยังโดดเดน โดยคาดวาปริมาณ<br />

ผูโดยสารของ AAV ในงวดป 2556 จะเติบโตโดดเดนสุด คือราว<br />

22.4%yoy จากจุดเดนราคาตั๋วเครื่องบินที่มีราคาถูก และการ<br />

เดินทางที่ประหยัดเวลา ซึ่งเปนจุดขายที่กระตุนใหเกิดความ<br />

ตองการใชบริการ ที่เขามาสอดรับแผนการขยายฝูงบินอีกราว 6<br />

ลํา หรือ เพิ่มขึ้น 22.2% จากจํานวนเครื่องบินในป 2555 และรอง<br />

มา เชื่อวาจะเปน AOT เพราะในงวดปบัญชี 2556 (ปด ก.ย.<br />

2556) จะมีแนวโนมเห็นฐานผูใชบริการที่เติบโตสูง เมื่อเทียบกับ<br />

ชวง ต.ค. – ธ.ค. 2554 ซึ่งเกิดเหตุภาวะน้ําทวมในกรุงเทพและ<br />

ภาคกลาง โดยรวมจึงเชื่อวาจะเปนแรงหนุน ใหการเติบโตเปนไป<br />

ตามเปาหมายของที่บริษัทและฝายวิจัยตั้งไวราว 7%yoy ขณะที่<br />

THAI นาจะมีแนวโนมเติบโตนอยสุด แมจะการขยายฝูงบินกวา<br />

17 ลํา แตในงวดป 2556 THAI วางแผนถอดฝูงบินเดิมออกไปใน<br />

สัดสวนเทาๆ กัน สงผลใหโดยรวมแลวกําลังการใหบริการจะเพิ่ม<br />

42 Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

เล็กนอยราว 3-4% และหากพิจารณาจากการแขงขันที่ยังรุนแรง<br />

จากทั้งสายการบินตนทุนต่ํา และคูแขงในตะวันออกกลาง เชื่อวา<br />

จะเปนปจจัยกดดันใหปริมาณผูใชบริการในป 2556 เติบโตเพียง<br />

3-4% ใกลเคียงกับกําลังการใหบริการที่เพิ่มขึ้นเทานั้น<br />

ปริมาณผูใชบริการ THAI (ลานคนต อ กม.)<br />

และ AOT (พันคน)<br />

ปริมาณผู้ใช้บริการของ AOT THAI และ AAV รายไตรมาส<br />

25,000<br />

20,000<br />

15,000<br />

10,000<br />

5,000<br />

0<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

3Q52<br />

4Q52<br />

1Q53<br />

2Q53<br />

3Q53<br />

4Q53<br />

1Q54<br />

2Q54<br />

3Q54<br />

4Q54<br />

1Q55<br />

2Q55<br />

3Q55<br />

รายไดตอคน ตอ กม. (THAI)<br />

จํานวนผูใชบรืการ AOT (ลานคน)<br />

รายไดตอคน ตอ กม. (AAV)<br />

2,300<br />

2,100<br />

1,900<br />

1,700<br />

1,500<br />

1,300<br />

1,100<br />

900<br />

700<br />

500<br />

พื้นที่เช่าดอนเมือง หนุนกําไร AOT ปีหน้า<br />

หากพิจารณาหุนรายตัวในกลุม สําหรับ AOT คาดวาผลกําไรจะ<br />

เติบโตไดสูงราว 31%yoy ในงวดปบัญชี 2556 (สิ้นสุด ก.ย. 2556)<br />

หลักๆ นอกจากแรงหนุนของการเติบโตของฐานผูใชบริการแลว<br />

ยังไดประโยชนจากการกลับมาเปดพื้นที่ปลอดภาษี และพื้นที่เชา<br />

ในสนามบินดอนเมืองอีกครั้งนับจากงวดบัญชีป 2556 เพราะชวย<br />

ให AOT มีรายไดรับเริ่มตนที่ปละ 956 ลานบาท (ภายใตอายุ<br />

สัญญา 10 ป ผลตอบแทนรายไดจะปรับเพิ่ม 10% ทุกป) ขณะที่<br />

ยังไดรับอานิสงสจากฐานภาษีท ี่ลดลงจาก 30% เหลือ 23%<br />

หลังจากมีการมาปรับใชลาชากวาบริษัทอื่นๆ 1 ป<br />

ปริมาณผูใชบริการ AAV (ลานคนตอ กม.)


AAV ยังมีประเด็นบวกต่อในปี 2556....<br />

นอกจากกําไรปกติปหนาที่จะเติบโต 45.6%yoy จากประโยชนของ<br />

การขยายฝูงบินในปหนาแลว การยายกลับสูสนามบินดอนเมือง ที่<br />

คาดจะหนุนใหประสิทธิภาพการใชน้ํามัน (46% ของตนทุน) ดีขึ้น<br />

จากปจจุบันราว 1% และคาใชจายที่เกี่ยวของกับกิจกรรมใน<br />

สนามบินยังมีแนวโนม (5% ของตนทุน) ลดลงตามมาตรการ<br />

ชวยเหลือของ AOT และจากการสอบถามฝายบริหารลาสุด พบวา<br />

AAV อยูระหวางทบทวนแผนการขยายฝูงบินมากขึ้นกวา 6 ลําในป<br />

หนา ซึ่งนาจะมีโอกาสเหนือกวาความคาดหมายของตลาด ทั้งนี้<br />

เพื่อตองการจะลดศักยภาพของคูแขงรอง คือ บางกอก แอรเวยส<br />

และ นกแอร ที่เตรียมขยายฝูงบินเพิ่ม หลังไดรับเงินทุนเพิ่ม จากที่<br />

คาดวาจะเขาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพยราวกลางปหนา ทั้งนี้<br />

หากการเรงขยายฝูงบินเพิ่ม จะเปนการสรางความไดเปรียบ เหนือ<br />

คูแขง คือ AAV จะสามารถเขาไปลอคชวงเวลาบินที่มีผูใชบริการ<br />

หนาแนนไดกอน ซึ่งเบื้องตนแลว หากมีการขยายมากกวาที่ตลาด<br />

คาดไวจริง เชื่อวาจะสงผลบวกตอฐานกําไรและมูลคาพื้นฐาน<br />

ปจจุบันราว 3-4% ตอลํา นอกจากนี้ มูลคาพื้นฐานของ AAV ยัง<br />

อาจขยับขึ้นไดอีกจาก ประสิทธิภาพการใชน้ํามันที่ดีกวาที่ฝายวิจัย<br />

ตั้งสมมติฐานไวที่ 1% โดยฝายวิจัยจะมีการทบทวนอีกครั้ง หลัง<br />

ทราบตัวเลขที่ชัดเจนราว 1Q56 นี้<br />

THAI เสี่ยง หลังขยายฝูงบินหลักแสนล้าน<br />

สวน THAI แมฝายวิจัยจะคาดการณผลกําไรในป 2556 ที่เติบโต<br />

ขึ้น 29%yoy แตอัตราการเติบโตอาจต่ํากวาตัวเลขขางตน จาก 2<br />

เหตุผล คือ 1) จากการประชุมรวมฝายบริหาร THAI ลาสุด THAI<br />

ยังคงคาดวาการแขงขันกับสายการบินตะวันออกกลาง และสาย<br />

การบินตนทุนต่ําจะยังอยูในระดับสูง สงผลใหรายไดตอคนตอ กม.<br />

(Passenger Yield) ที่ฝายวิจัยคาดวาจะทรงตัว yoy ในปหนา<br />

อาจมีแนวโนมต่ํากวาคาดได ขณะที่ 2) ตนทุนราคาน้ํามัน<br />

เครื่องบิน แมฝายวิจัยจะตั้งสมมติฐานตนทุนเฉลี่ยในปหนาที่ 130<br />

ดอลลารตอบารเรล ซึ่งใกลเคียงกับราคาน้ํามันเครื่องบินเฉลี่ยทั้งป<br />

2555 แตความผันผวนของราคาน้ํามันในตลาดโลก ยังถือเปน<br />

ปจจัยเสี่ยงตอประมาณการเชนกัน นอกจากนี้ หากพิจารณาถึง<br />

โครงสรางตนทุนที่มีความยืดหยุนนอย เพราะคาด THAI จะมี<br />

ภาระตนทุนคงที่ในระยะ 3-4 ปขางหนา เพิ่มขึ้นมากจากป 2555<br />

ถึงปละกวา 3 พันลานบาท จากคาเสื่อมราคาและดอกเบี้ยจาย ที่<br />

ตามมาจากเงินลงทุนซื้อเครื่องบินใหมกวา 5 หมื่นลานบาท และ<br />

4.8 หมื่นลานบาท ในป 2556 และ 2557 ตามลําดับ สงผลใหโดย<br />

ภาพรวมแลว ฝายวิจัยมองวา THAI อาจไมใชตัวเลือกที่เหมาะสม<br />

สําหรับการลงทุนอยางนอยในระยะ 1–2 ปขางหนาจากปจจัย<br />

เสี่ยงที่มีคอนขางมากและผันผวนกวาหุนอื่นๆ ในกลุม<br />

Outperform ตลาดมากไปแล้ว ... ให้น้ําหนัก<br />

“น้อยกว่าตลาด”<br />

ราคาหุนในกลุมที่ปรับตัวขึ้นเฉลี่ยถึง 18.2% ในระยะ 3 เดือนหลัง<br />

เหนือกวา SET ที่ปรับตัวขึ้นเพียง 8.3% สงผลใหราคาหุนในกลุม<br />

สวนใหญลวนซื้อ–ขายกันในระดับที่ใกลเคียงและแพง หากเทียบ<br />

หุนกลุมเดียวกันในตางประเทศแลว (ดังรูป) นอกจากนี้ ราคาหุน<br />

ยังมี Upside ที่จํากัดจากมูลคาพื้นฐานป 2556 แลว ฝายวิจัยจึง<br />

ปรับลดน้ําหนักการลงทุนกลุมจาก “เทาตลาด” เปนเพียง “นอย<br />

กวาตลาด” และยังคงคําแนะนําเพียง “ถือ” หุนทั้ง 3 ตัวในกลุม<br />

คือ AOT (FV@B92) AAV(FV@B4.73) และ THAI(FV@B25.6)<br />

ตามลําดับ<br />

PER (x)<br />

Expected PER และ EPS Growth ปี 2556 หุ้นสนามบินต่างประเทศ<br />

40.00<br />

35.00<br />

30.00<br />

25.00<br />

20.00<br />

15.00<br />

10.00<br />

5.00<br />

Sydney Airport<br />

Auckland Int<br />

Malaysia<br />

Airport<br />

Airports<br />

Fraport AG<br />

Aeroports de<br />

AOT<br />

Flughafen Paris<br />

Beijing Capital<br />

Flughafen Wien<br />

Airport<br />

Shenzhen airport<br />

Zuerich AG<br />

Shanghai Airport<br />

Guangzhou<br />

Airpoty<br />

0.00<br />

-40.00% -20.00% 0.00% 20.00% 40.00%<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

PBV (x)<br />

ROE (%)<br />

Expected PBV และ ROE ปี 2556 หุ้นสายการบิน Full Service<br />

1.6<br />

1.4<br />

1.2<br />

1.0<br />

0.8<br />

0.6<br />

0.4<br />

0.2<br />

Air France KLM<br />

Air China<br />

Eva Airw ays<br />

Asiana Airlines<br />

Cathay Pacific China Eastern<br />

China Southern<br />

Airlines<br />

Singapore<br />

All Nippon Airlines<br />

Airlines<br />

Airway<br />

Lufhansa<br />

THAI Airways<br />

Fin Air<br />

0.0<br />

-5.0 0.0 5.0 10.0 15.0 20.0<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

PER (x)<br />

ROE (%)<br />

Expected PER และ EPS Growth ปี 2556 หุ้นสายการบินต้นทุนต่ํา<br />

16<br />

14<br />

12<br />

10<br />

8<br />

6<br />

4<br />

2<br />

Cebu Air<br />

easy Jet<br />

Air Asia Berhad<br />

Ryanair Holding<br />

Westjet Airlines<br />

Vueling Airlines<br />

JetBlue Airw ays<br />

Spirit Airline<br />

AAV<br />

Southw est Airline<br />

0<br />

-20.0% 0.0% 20.0% 40.0% 60.0% 80.0%<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

EPS grow th (%)<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 43


กลุ่ม ค้าปลีก-ค้าส่ง<br />

น้ําหนัก เท่าตลาด<br />

1Q56 ทรงตัวจาก 4Q55..เลือก HMPRO, CPALL<br />

ปี 2556 ยังเด่นจากการบริโภคและการเปิดสาขาใหม่ แต่งวด 1Q56 ยังไม่เด่น<br />

ร้านขนาดเล็กแข่งขันสูงขึ้น แต่ CPALL ยังนําขาด<br />

คงน้ําหนัก “เท่าตลาด” เลือก HMPRO, CPALL เป็น Top picks<br />

ปี 2556 ยังเด่น..การบริโภคยังแข็งแกร่ง<br />

คาดกําไรสุทธิโดยรวมกลุมคาปลีกป 2556 จะเติบโตตอเนื่องจากป<br />

2555 ราว 25% โดยไดรับแรงหนุนจากมาตรการกระตุนเศรษฐกิจ<br />

ซึ่งจะสงผลบวกตอคนในวงกวาง และหนุนภาคการบริโภคใน<br />

ประเทศอยางแข็งแกรง จากหลายนโยบายสําคัญ อาทิ การเพิ่ม<br />

คาแรงขั้นต่ํา 300 บาททั่วประเทศ ซึ่งดีตอคนรายไดต่ําแตเปนคน<br />

สวนใหญของประเทศซึ่งมีอยูราว 8 ลานคนจากจํานวนผูที่อยูใน<br />

วัยทํางานทั้งหมดราว 38 ลานคน และมาตรการลดภาษีบุคคล<br />

ธรรมดา ซึ่งบวกตอประชากรรายไดที่ระดับสูงขึ้น ตั้งแต 1.5 แสน<br />

บาท (หลังคาลดหยอน) หรือ 2.4 แสนบาท(กอนคาลดหยอน) ขึ้น<br />

ไป และชวยเพิ่มรายไดสุทธิเฉลี่ยราว 2% (กลุมดังกลาวมีจํานวน<br />

ราว 2.4 ลานคน) โดยสรุป 2 มาตรการดังกลาวเปนการกระตุน<br />

กําลังซื้อของประชาชนในหลายกลุม ทั้งนี้ ฝายวิจัยไดรวมผลของ<br />

นโยบายปรับขึ้นคาแรงขั้นต่ําไวแลว ซึ่งกระทบคนวงกวางและเปน<br />

ฐานลูกคาที่สําคัญของกลุมคาปลีก (โดยเฉพาะ BIGC, CPALL<br />

และ MAKRO) ขณะที่ยังไมไดรวมผลของมาตรการลดภาษีบุคคล<br />

ธรรมดา ซึ่งเชื่อวาจะสงผลบวกตอ HMPRO และ ROBINS เปน<br />

หลัก เพราะเปนฐานลูกคาที่สําคัญ อยางไรก็ตาม เรายังคง<br />

ประมาณการเดิมซึ่งทําบนสมมติฐานดานบวก (Optimistic) ไว<br />

แลว โดยคาดวาทั้ง HMPRO และ ROBINS จะเติบโตใกลเคียง<br />

กันและสูงสุดในกลุมฯที่ 35% YoY<br />

44 Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

1Q56 แค่ทรงตัวจาก 4Q55..CPALL เด่น<br />

อยางไรก็ตาม หากพิจารณาผลประกอบการกลุมระยะสั้นงวด<br />

1Q56 คาดแนวโนมจะยังทรงตัวจากงวด 4Q55 แมงวด 4Q55<br />

เปนชวง High season และกําไรแตะจุดสูงสุดทุกบริษัท ยกเวน<br />

CPALL ซึ่งคาดเปนตัวเดียวในกลุมฯที่กําไรงวด 1Q56 จะโดดเดน<br />

กวา 4Q55 เนื่องจากไตรมาส 4 CPALL จะมีคาใชจายในการขาย<br />

และบริหารสูงเปนปกติทุกป และเนื่องจากฐานกําไร CPALL คิด<br />

เปนสัดสวนถึง 45% ของกําไรกลุมฯ จึงทําใหภาพรวมกําไรกลุมฯ<br />

งวด 1Q56 ยังทรงตัวจาก 4Q55<br />

นอกจากนี้ มีปจจัยที่ตองติดตามใน 1Q56 คือ ผลของการปรับขึ้น<br />

คาแรงขั้นต่ําครบ 300 บาท ทั่วประเทศจากป 2555 มีเพียง 7<br />

จังหวัด แมในระยะสั้นอาจมีผลกระทบใหตนทุนสูงขึ้น แตฝายวิจัย<br />

มองวาจะเปนประโยชนตอกลุมคาปลีกในระยะยาว เพราะเปนการ<br />

เพิ่มกําลังซื้อ และยังไดรับชดเชยดวยอัตราภาษีจายที่จะลดลงจาก<br />

23% ป 2555 เหลือ 20% ในป 2556 บวกกับการปรับเพิ่มคาแรง<br />

รอบนี้เปนการปรับเพิ่มขึ้นราว 20% ของฐานคาแรงเฉลี่ยทั้งระบบ<br />

ซึ่งมีผลกระทบนอยกวารอบแรกป 2555 ที่เพิ่มขึ้นถึง 40% อยางไร<br />

ก็ตาม หากผลกระทบมีมากกวาที่คาดไวอาจทําใหกําไรไมเปนไป<br />

ตามประมาณการของฝายวิจัย<br />

การขยายสาขายังโดดเด่นต่อเนื่อง<br />

ผลประกอบการของกลุมฯในชวง 2-3 ปนี้ ยังคอนขางสดใส จาก<br />

นโยบายเปดสาขาใหมเชิงรุกตอเนื่อง โดยเฉพาะบริษัทที่มีสาขา


จํานวนนอยและมีสาขาคลอบคลุมเพียงไมกี่จังหวัด (ตามภาพ<br />

ดานลาง) อาทิ ROBINS ตั้งเปาเปดสาขาใหมปละ 5 สาขาในชวง<br />

5 ปจากนี้ และ HMPRO วางแผนเปด 8 สาขาในป 2556 ขณะที่<br />

MAKRO และ BIGC นั้นมีจํานวนสาขาคอนขางมาก และ<br />

ครอบคลุมหลายจังหวัดแลว โดยเฉพาะ BIGC ทําใหการหาพื้นที่<br />

เปดสาขาใหมตอจากนี้จะมีขอจํากัดมากขึ้น และอาจสงผลตอ<br />

แนวโนมการเติบโตของกําไรระยะยาว อยางไรก็ตาม ในระยะสั้นป<br />

2556 ยังไมเห็นผลกระทบดังกลาว โดย MAKRO จะเปดอยางต่ํา<br />

3 สาขา สวน BIGC ตั้งเปาเปดไฮเปอรมารเก็ต (8,000 ตร.ม.) 7<br />

แหงและซุปเปอรมารเก็ต (บิ๊กซี มารเก็ต)(ขนาด 750-2,000 ตร.ม.)<br />

ราว 14-20 แหง<br />

จํานวนสาขาและจํานวนจังหวัดที่คลอบคลุม<br />

จํานวนสาขา จํานวนจังหวัดที่เปดสาขาแลว *<br />

Lotus 134 58<br />

BIGC 130 49<br />

HMPRO 53 27<br />

MAKRO 57 40<br />

ROBINS 30 20<br />

Total 404 68<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

สาขา<br />

150<br />

130<br />

110<br />

90<br />

70<br />

50<br />

30<br />

10<br />

-10<br />

20<br />

10<br />

120<br />

จํานวนสาขาและเป้าหมายในแต่ละปี<br />

Hypermarket 7<br />

Super market 14-20<br />

8<br />

3<br />

8<br />

5<br />

45 52<br />

5<br />

5<br />

25<br />

BIGC* HMPRO MAKRO ROBINS<br />

สาขา ณ สิ้นป 2554 สาขาใหมในป 2555 สาขาใหมในป 2556<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

8,000<br />

7,000<br />

6,000<br />

5,000<br />

สาขา<br />

550<br />

530<br />

6276<br />

CPALL<br />

ขณะที่การเปดสาขาในระยะยาว คาดจะเห็นการรุกตลาด<br />

ตางประเทศเพิ่มขึ้น โดย ณ ปจจุบัน HMPRO มีความคืบหนา<br />

ชัดเจนที่สุด โดยตั้งเปาเปดในประเทศมาเลเซีย ขณะนี้อยูระหวาง<br />

การเซ็นสัญญาซื้อที่ดิน ซึ่งคาดวาจะเริ่มเปดสาขาแรกไดราวชวง<br />

ตนป 2557 เปนตนไป ทั้งนี้ ฝายวิจัยยังไมไดรวมผลของเรื่อง<br />

ดังกลาวไวในประมาณการจนกวาจะมีความชัดเจนอีกครั้ง ขณะที่<br />

บริษัทที่เหลืออยูระหวางการศึกษาโดยเนนหนักในประเทศ<br />

เวียดนาม, กัมพูชา, ลาวและพมา โดยเชื่อวานาจะเห็นความ<br />

คืบหนาในชวง 1-2 ปจากนี้ เพื่อเปนการเตรียมตัวพรอมรับการเปด<br />

เสรีอาเซียนปลายป 2558<br />

ร้านสะดวกซื้อแข่งขันสูง..CPALL ยังเป็นผู้นํา<br />

ขณะที่แนวโนมการเปดสาขาของรานสะดวกซื้อยังคอนขางสดใส<br />

และมีศักยภาพมาก เพราะใชเงินลงทุนที่ต่ําและขอจํากัดในการ<br />

เปดสาขานอย และสอดคลองกับพฤติกรรมผูบริโภคสมัยใหม ทั้งนี้<br />

แมกระทั่ง CPALL ยังมีสาขาครอบคลุมในระดับอําเภอทั่วประเทศ<br />

เพียง 63% ถือวายังมีโอกาสทางการตลาดสูง และสอดคลองกับ<br />

ภาพรวมขอมูลรานสะดวกซื้อของไทย เทียบกับญี่ปุนและไตหวัน<br />

แลว พบวาไทยมีอัตราประชากรตอรานสะดวกซื้อสูงถึง 5,700 คน/<br />

ราน ขณะที่ญี่ปุนและไตหวันอยูที่ราว 2,800 และ 2,400 คน/ราน<br />

จํานวนสาขาร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศ<br />

6.3%1.1%<br />

3.5% 4.9%<br />

5.3%<br />

0.9%<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

61%<br />

17.8%<br />

7-eleven<br />

Mini Big C<br />

108 shop<br />

Fresh Mart<br />

Family Mart<br />

TOPS<br />

Lotus<br />

Express<br />

Others<br />

6,773<br />

96<br />

600<br />

392<br />

714<br />

119<br />

553<br />

2000<br />

อยางไรก็ตาม คาดตั้งแตป 2556 เปนตนไป จะเห็นการแขงขันใน<br />

รานขนาดเล็กเพิ่มขึ้น จากผูเลนรายใหญๆ ทั้ง เทสโก โลตัส, บิ๊กซี<br />

และกลุมเซ็นทรัล (รานแฟมิลี่ มารท) ที่หันมาทําตลาดมากขึ้น แต<br />

ยังเชื่อวาจะไมเปนปจจัยกดดันตอการเติบโตของ CPALL<br />

เนื่องจากมีความไดเปรียบทางดานการแขงขันที่โดดเดนกวาจาก<br />

1) เปนผูนําในกลุมฯ ดวย Market share มากกวา 50% และ<br />

ขยายเปาเปดสาขาใหมจากเดิม 500 แหง/ป เปน 550 แหง/ป นับ<br />

จากนี้ ซึ่งมากที่สุดในกลุมและเพื่อตองการฉีกหนีคูแขงยิ่งขึ้นไปอีก<br />

ทั้งนี้ โลตัส เอ็กซเพลส, มินิ บิ๊กซี และแฟมิลี่ มารท มีแผนเปด<br />

300, 150, และ 150 แหงตามลําดับ ในป 2556 2) มีการบริหาร<br />

จัดการโลจิกติกตที่มีประสิทธิภาพจากศูนยกระจายสินคาที่มี<br />

ครอบคลุมทั่วประเทศ และการประหยัดจากขนาด และ 3)<br />

CPALL มีโรงงานผลิตเปนของตัวเองโดยเฉพาะกลุมอาหารที่มี<br />

Margin สูง ทําใหแตกตางและไดเปรียบคูแขง<br />

เท่าตลาด…Top picks : HMPRO, CPALL<br />

แมแนวโนมกําไรรวมของกลุมฯป 2556 ยังเติบโตถึง 25% YoY แต<br />

งวด 1Q56 คาดเติบโตยังไมโดดเดนทั้ง QoQ และ YoY จากงวด<br />

4Q55 ซึ่งมีฐานกําไรสูง เพราะเปนชวง high season และฐานที่สูง<br />

ของงวด 1Q55 เพราะยังไมมีผลของการปรับขึ้นคาแรงในรอบแรก<br />

แตกลับไดสิทธิประโยชนลดอัตราภาษีเหลือ 23% ทําใหฝายวิจัย<br />

ยังคงน้ําหนักกลุม “เทากับตลาด” และ Top picks คือ HMPRO<br />

(FV@B15.6) ที่ราคายัง Laggard และถูกสุดในกลุมโดยมี PER ป<br />

2556 เพียง 24 เทาเทียบกับกลุมที่ 27 เทา ขณะที่จะเติบโตถึง<br />

36% YoY สูงสุดในกลุมฯ รวมทั้ง ยังมีประเด็นบวกจากแผนการ<br />

ลงทุนในธุรกิจรูปแบบเดียวกับคูแขง (GLOBAL, ไทวัสดุ) ซึ่งจะลง<br />

มาเลนในกลุมผูรับเหมาและขายวัสดุกอสรางมากขึ้น รวมทั้ง ยัง<br />

แนะนํา “ซื้อ” CPALL (FV@B52) จากกําไรงวด 1Q56 ที่คาดยัง<br />

โดดเดนทั้ง QoQ และ YoY<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 45


กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์<br />

น้ําหนัก เท่าตลาด<br />

ภาพรวมปี 2556 ฟื้นตัวบนความเสี่ยงเศรษฐกิจโลก<br />

ผลิตภัณฑ์ขั้นปลายหนุนยอดขายชิ้นส่วนฯ ฟื้นตัวในปี 2556<br />

คาดกําไรกลุ่มชิ้นส่วนฯ ปี 2556 เติบโตถึง 26%yoy จากฐานที่ต่ําปี 2555<br />

เน้นหุ้น Value Stock...เลือก DELTA เป็น Top pick<br />

ผลิตภัณฑ์ขั้นปลายหนุนยอดขายชิ้นส่วนฯ<br />

ฟื้นตัวในปี 2556<br />

ภาพรวมธุรกิจชิ้นสวนอิเล็กทรอนิกสในป 2556 คาดวาจะมีทิศทาง<br />

สดใสมากขึ้น โดยคาดอัตราการเติบโตของยอดขายชิ้นสวนฯ ทั่ว<br />

โลกในป 2556 จะอยูที่ระดับ 4.5%yoy (อางอิงจากสถาบันวิจัย<br />

WSTS) สดใสมากขึ้นจากป 2555 ที่ประเมินวาหดตัวลง 3.2%yoy<br />

โดยมีปจจัยสนับสนุนหลักๆ มาจากการเติบโตของตลาดสินคา<br />

Consumer โดยเฉพาะอุปกรณ Smartphone และอุปกรณแท็ป<br />

เล็ต ซึ่งสอดคลองกับมุมมองของ Gartner ที่ประเมินวายอด<br />

จําหนายในกลุมอุปกรณ Smartphone และแท็ปเล็ต (คิดเปน<br />

สัดสวน 70% ของอุปกรณอิเล็กทรอนิกสทั่วไป) ในป 2556 จะทํา<br />

ระดับสูงสุดเปนประวัติการณ 1.2 พันลานเครื่อง หรือเติบโตอยาง<br />

มีนัยฯ ถึง 46%yoy แมวาเศรษฐกิจโลกจะยังคงเผชิญกับความผัน<br />

ผวนก็ตาม แตเนื่องจากโลกในปจจุบันที่ตองพึ่งพาเทคโนโลยี<br />

ขาวสาร ประกอบกับราคาสินคาตอหนวยที่ปรับตัวลดลงจน<br />

ผูบริโภคสามารถเขาถึงได จึงสงผลใหความตองการอุปกรณ<br />

อิเล็กทรอนิกสขั้นปลายในตลาด Consumer ยังเห็นการเติบโตที่ดี<br />

ตอเนื่องในป 2556<br />

350<br />

325<br />

300<br />

275<br />

250<br />

225<br />

200<br />

ที่มา : WSTS<br />

ประมาณการยอดขายชิ้นส่วนฯ ทั่วโลก ตั้งแต่ปี 2555-57<br />

พันลานเหรียญฯ<br />

2548<br />

2549<br />

2550<br />

2551<br />

2552<br />

2553<br />

2554<br />

2555F<br />

2556F<br />

ยอดขาย การเปลี่ยนแปลง (yoy)<br />

2557F<br />

35%<br />

30%<br />

25%<br />

20%<br />

15%<br />

10%<br />

5%<br />

0%<br />

-5%<br />

-10%<br />

-15%<br />

อยางไรก็ตาม สําหรับการลงทุนดานสารสนเทศ (IT) ของ<br />

ภาคเอกชนในป 2556 คาดวาจะปรับสูงขึ้นเพียง 2.5%yoy สูระดับ<br />

2.68 ลานลานเหรียญฯ โดยมีเพียงเฉพาะการลงทุนของกลุมบริษัท<br />

สื่อสารและบริการที่ยังเติบโตดี เนื่องจากความตองการใชระบบ<br />

เชื่อมตออินเตอรเน็ตไรสายปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่เงินลงทุนดาน IT<br />

ของภาครัฐยังมีแนวโนมชะลอตัวตอเนื่องในป 2556 เปนผลจาก<br />

มาตรการควบคุมคาใชจายของรัฐบาลในตางประเทศ เพราะตอง<br />

เผชิญกับปญหาหนี้สินสาธารณะในระดับสูง จึงทําใหแนวโนม<br />

อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกสในป 2556 อาจเติบโตไมสูงมาก<br />

เทาที่ควร<br />

46<br />

Invest+ 1 st Quarter, 2013


คาดกําไรกลุ่มชิ้นส่วนฯ ปี 2556 เติบโตถึง<br />

26%yoy<br />

ฝายวิจัยคาดวาผลการดําเนินงาน (ไมรวมรายไดพิเศษ) ของกลุม<br />

ชิ้นสวนฯ ในป 2556 จะเติบโตถึง 28%yoy ดวยปจจัยสนับสนุน<br />

จาก 1) การกลับมาเดินเครื่องเต็มที่ของกําลังการผลิตในโรงงาน<br />

(ซึ่งไดแก HANA, KCE, SMT และ SVI) ที่เคยไดรับความเสียหาย<br />

จากวิกฤติน้ําทวม จึงหนุนใหยอดขายของกลุมชิ้นสวนฯ ปรับตัว<br />

สูงขึ้น 12%yoy และสงผลบวกตอ Gross margin เชนกัน<br />

เนื่องจากอัตราใชกําลังการผลิตที่สูงขึ้น จะชวยใหตนทุนการผลิต<br />

ตอหนวยปรับตัวลดลง และ 2) คาใชจายในการดําเนินงานปรับตัว<br />

ลดลงสูระดับปกติ เนื่องจากไมมีคาใชจายในการซอมแซมโรงงาน<br />

เกิดขึ้นหลังจากผานพนวิกฤติน้ําทวมไปแลว อีกทั้งยังสามารถ<br />

คาดหวังเงินประกันชดเชยความเสียหายจากโรงงาน และการ<br />

หยุดชะงักทางธุรกิจของผูประกอบการที่ไดรับความเสียหายน้ํา<br />

ทวม ซึ่งสวนใหญไดรับเงินประกันมาแลวเพียง 35% ของยอดเค<br />

ลมเงินประกันทั้งหมดจากบริษัทประกัน (อางอิงขอมูล ณ สิ้นงวด<br />

9M55) โดยคาดวาจะทยอยรับเงินประกันไดในชวง 1H56 ซึ่งฝาย<br />

วิจัยยังไมไดรวมไวในประมาณการ<br />

คาดการณ์กําไรของกลุ่มชิ้นส่วนฯ ปี 2555-57<br />

ลานบาท<br />

12,000<br />

10,000<br />

8,000<br />

6,000<br />

4,000<br />

2,000<br />

-<br />

(2,000)<br />

(4,000)<br />

(6,000)<br />

2552 2553 2554 2555F 2556F 2557F<br />

ที่มา : รวบรวมโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

กําไรปกติ<br />

รายการพิเศษ<br />

ปัจจัยเสี่ยงในปี 2556...บาทแข็งค่า<br />

ปจจัยเสี่ยงที่ตองติดตามสําหรับกลุมชิ้นสวนฯ ในชวง 1Q56 คือ<br />

ทิศทางคาเงินบาท/ดอลลารสหรัฐฯ ที่มีแนวโนมแข็งคาขึ้นตอเนื่อง<br />

หลังจากที่สหรัฐฯ ดําเนินนโยบายผอนคลายทางการเงินเพิ่มมาก<br />

ขึ้น ซึ่งจะสงผลลบตอยอดขายของบริษัทฯ ในกลุมฯ เนื่องจาก<br />

สัดสวนรายไดสวนใหญจะอยูในรูปสกุลเงินตางประเทศ (สวนใหญ<br />

เปนสกุลเงินดอลลารสหรัฐฯ) ขณะที่คาใชจายเกือบทั้งหมดเปน<br />

สกุลเงินบาท อยางไรก็ตาม คาเงินบาท ณ ปจจุบัน อยูที่ระดับ<br />

30.58 บาท/ดอลลารสหรัฐฯ ซึ่งสูงกวาสมมติฐานของฝายวิจัยที่<br />

กําหนดไวที่ระดับ 30 บาท/ดอลลารสหรัฐฯ จึงไมนากังวลมากนัก<br />

โดยทุกๆ 1 บาทที่แข็งคา จะสงผลใหประมาณการกําไรกลุมฯ ในป<br />

2556 ปรับตัวลดลง 3.4% จากเดิม<br />

เลือก DELTA เป็น Top pick…คุ้มค่าในฐานะ<br />

Value Stock<br />

ฝายวิจัยใหน้ําหนักการลงทุนเทากับตลาด สําหรับกลุมชิ้นสวนฯ<br />

โดยเชื่อวาราคาหุนในกลุมชิ้นสวนฯ สะทอนปจจัยลบจากการ<br />

ชะลอตัวของคําสั่งซื้อตางประเทศในป 2555 ไปแลว ขณะที่คําสั่ง<br />

ซื้อในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกสคาดจะเริ่มฟนตัวในงวด 2Q56<br />

เปนตนไป นอกจากนี้ หากพิจารณาถึงคาเฉลี่ย PER ป 2556 ของ<br />

กลุมชิ้นสวนฯ ของไทย ที่ระดับ 11.25 เทา ใกลเคียงกับคาเฉลี่ยทั่ว<br />

โลก สําหรับหุน Top pick ของกลุมฯ ยังคงเลือก DELTA (ซื้อ<br />

FV@B36) เนื่องจากบริษัทฯ ไดรับอานิสงคจากการเติบโตของ<br />

อุตสาหกรรมสื่อสารและบริการ รวมถึงกลุมผลิตภัณฑ Data<br />

Center ในตางประเทศ อีกทั้งยังมีคา PER ในป 2556 เพียง 9.6<br />

เทา ต่ํากวาคาเฉลี่ยของกลุมชิ้นสวนฯ<br />

สําหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงจากการลงทุนในตางประเทศได<br />

ฝายวิจัยแนะนําหุน Samsung Electronics (005930 KS<br />

EQUITY) สัญชาติเกาหลี ประกอบธุรกิจอิเล็กทรอนิกสครบวงจร<br />

ชั้นนําของโลก โดยกลุมผลิตภัณฑหลักของบริษัทฯ ครอบคลุมทั้ง<br />

ชิ้นสวนอิเล็กทรอกนิกส และอุปกรณอิเล็กทรอนิกสในตลาด<br />

Consumer โดยเฉพาะอุปกรณ Smartphone และแท็ปเล็ต<br />

(ภายใตแบรนด Galaxy) ซึ่งไดรับอานิสงคจากกระแสนิยมอยาง<br />

มากจากผูใชทั่วโลก โดยราคาหุนปจจุบันมี PER ป 2556 ต่ําเพียง<br />

8 เทา และมี Upside ถึง 23% จากคาเฉลี่ยมูลคาพื้นฐานในระยะ<br />

12 เดือนขางหนา (รวบรวมจาก Bloomberg Consensus)<br />

สรุปคําแนะนําของหุ้นในกลุ่มชิ้นส่วนฯ ของไทย และต่างประเทศ<br />

Rec. /<br />

Upside PBV PER<br />

BB Rating ราคาปจจุบัน ราคาเปาหมาย (%) 2555F 2556F 2555F 2556F<br />

HANA HOLD 22.40 22.00 (2) 1.21 1.15 10.31 11.10<br />

DELTA BUY 31.75 36.00 13 1.81 1.66 9.57 9.63<br />

CCET SELL 3.10 1.85 (40) 0.72 0.71 13.33 12.11<br />

SVI HOLD 3.96 4.20 6 3.42 3.05 5.65 11.28<br />

KCE BUY 10.20 12.00 18 1.52 1.38 6.61 8.49<br />

SMT HOLD 11.10 8.50 (23) 1.73 1.61 2.81 13.73<br />

VENTURE CORP LTD 4.50 7.93 8.72 10 1.18 1.18 15.13 12.71<br />

FLEXTRONICS INTL 4.07 6.09 7.71 27 1.55 1.24 6.75 6.00<br />

SAMSUNG ELECTRON 3.48 1,505,000 1,845,455 23 0.72 1.67 10.19 8.31<br />

INTEL CORP 3.45 20.53 23.10 13 2.08 1.87 9.42 10.28<br />

FOXCONN TECHNOLO 3.39 89.50 113.53 27 1.67 1.46 14.12 10.82<br />

SANMINA CORP 3.33 10.31 10.83 5 0.82 0.76 7.03 6.05<br />

PLEXUS CORP 3.33 23.46 23.36 (0) 1.17 1.05 11.46 10.64<br />

CELESTICA INC 3.27 7.80 7.93 2 1.14 0.98 8.93 10.36<br />

BENCHMARK ELECTR 2.50 15.60 14.95 (4) 0.76 0.70 13.33 12.63<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 47


กลุ่มท่องเที่ยว/โรงแรม<br />

น้ําหนัก น้อยกว่าตลาด<br />

ท่องเที่ยวปี 2556 ทิศทางยังดี แต่หุ้นเต็มมูลค่า<br />

เข้าสู่ฤดูกาล ท่องเที่ยวคึกคักตั้งแต่ 4Q55 ต่อเนื่อง 1Q56<br />

กําไรกลุ่มโรงแรมยังสดใสตามธุรกิจท่องเที่ยว<br />

ราคาหุ้นส่วนใหญ่เต็มมูลค่า แนะนําน้ําหนัก น้อยกว่าตลาด<br />

ท่องเที่ยวคึกคัก รับ High Season 4Q55<br />

อุตสาหกรรมทองเที่ยวไทยยังมีทิศทางสดใส และคึกคักมากขึ้น<br />

หลังเริ่มเขาสูชวง High Season ในงวด 4Q55 พิจารณาไดจาก<br />

จํานวนนักทองเที่ยวตางชาติที่เดินทางเขามาในประเทศไทยมี<br />

ปริมาณเพิ่มขึ้นตอเนื่อง โดยเดือน ต.ค. 2555 เติบโต 20.5%yoy<br />

และ 6.3%mom สูระดับ 1.7 ลานคน และเพิ่มเปน 2.07 ลานคน<br />

ในเดือน พ.ย. ที่ผานมา ซึ่งระดับดังกลาวนับวาสูงสุดเปน<br />

ประวัติการณ โดยขยายตัว 21%mom และสูงถึง 60.6%yoy สวน<br />

หนึ่งเปนผลมาจากการหดตัวของนักทองเที่ยวในป 2554 เนื่องจาก<br />

เหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคกลาง โดยเฉพาะกรุงเทพฯ เชื่อวาแนวโนม<br />

เดือน ธ.ค. 2555 ซึ่งเขาสูชวงฤดูกาลทองเที่ยวเต็มที่ คาดมีจํานวน<br />

นักทองเที่ยวตางชาติเขามาในไทยไมต่ํากวา 2.1 ลานคน และหนุน<br />

ใหทั้งป 2555 มีปริมาณนักทองเที่ยวตางชาติทําสถิติสูงสุดอีกครั้ง<br />

21.9 ลานคน เพิ่มขึ้น 14%yoy<br />

2,500 พันคน<br />

2,000<br />

1,500<br />

1,000<br />

500<br />

0<br />

ก.พ. 52<br />

พ.ค. 52<br />

ส.ค. 52<br />

จํานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติรายเดือน<br />

พ.ย. 52<br />

ก.พ. 53<br />

ที่มา : กรมการทองเที่ยวไทย.<br />

จํานวนนักทองเที่ยวชาวตางชาติ<br />

พ.ย. 55 = 2,074 พันคน<br />

%yoy = 60.6%<br />

พ.ค. 53<br />

ส.ค. 53<br />

พ.ย. 53<br />

48 Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

ก.พ. 54<br />

พ.ค. 54<br />

ส.ค. 54<br />

พ.ย. 54<br />

ก.พ. 55<br />

พ.ค. 55<br />

ส.ค. 55<br />

พ.ย. 55<br />

80%<br />

60%<br />

40%<br />

20%<br />

0%<br />

-20%<br />

-40%<br />

ไร้ปัจจัยกดดัน ท่องเที่ยวปี 2556 สดใสต่อ<br />

แนวโนมป 2556 ภายใตเงื่อนไขเหตุการณทางการเมืองในประเทศ<br />

ไมมีความเคลื่อนไหวที่รุนแรง และรัฐบาลสามารถควบคุม<br />

สถานการณความสงบเรียบรอยเหมือนปจจุบัน เชื่อวาการ<br />

ทองเที่ยวไทยยังเติบโตไดอยางตอเนื่อง ตามการดําเนินมาตรการ<br />

สนับสนุนของภาครัฐ ไมวาจะเปนการจัดกิจกรรมสงเสริม<br />

การตลาดเชิงรุก และการขยายฐานลูกคาสูตลาดใหมที่มีภาวะ<br />

เศรษฐกิจเติบโตและมีกําลังซื้อเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ความ<br />

รวมมือดานการทองเที่ยวระหวางประเทศสมาชิกประชาคม<br />

เศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) ที่เกิดขึ้นอยางตอเนื่อง โดยเฉพาะการ<br />

เดินทางแบบเชื่อมโยมทั้งเสนทางบกและเสนทางอากาศชวยสราง<br />

จุดขาย ก็จะชวยเพิ่มความหลากหลายทางการทองเที่ยวใหกับ<br />

ประเทศไทยมากขึ้น และผลักดันใหป 2556 มีนักทองเที่ยว<br />

ตางชาติเดินทางเขามาในไทยเพิ่มเปน 23.5 ลานคน หรือ 7%yoy<br />

แนวโน้มจํานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในไทย<br />

25<br />

20<br />

15<br />

10<br />

5<br />

0<br />

ลานคน<br />

10.1 10.8 10.0<br />

11.7 11.5<br />

13.8 14.5 14.5 14.1<br />

2544 2545 2546 2547 2548 2549 2550 2551 2552 2553 2554 2555F 2556F<br />

15.8<br />

9/11 SARS TSUNAMI Coup Bomp Airport H1N1 Protest<br />

ที่มา : กรมการทองเที่ยวไทย และ ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

19.2<br />

21.9<br />

23.5


ฤดูกาลท่องเที่ยว หนุนกําไรโรงแรมโดดเด่น<br />

ปจจัยบวกจากภาพรวมธุรกิจทองเที่ยวที่สดใสดังขางตน จะสง<br />

ผลบวกตอกลุมบริษัทที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจโรงแรมภายใตการดูแล<br />

3 บริษัทไดรับประโยชนเต็มที่จากการเพิ่มขึ้นของอัตราการเขาพัก<br />

และคาหองพัก โดยคาดจะหนุนใหการดําเนินงานงวด 4Q55 ซึ่ง<br />

เปนชวง High Season มีกําไรจากการดําเนินงานเติบโต 47%yoy<br />

สูระดับ 1.15 พันลานบาท และคาดโดดเดนตอเนื่องใน 1Q56 ซึ่ง<br />

โดยปกติจะเปนชวงพีคสุดของกําไรรายไตรมาส จากอานิสงคชวง<br />

Peak Season โดยทั้งป 2555 คาดกลุมบริษัทโรงแรมมีกําไรจาก<br />

การดําเนินงาน 4.16 พันลานบาท เติบโตสูง 66%yoy และตอเนื่อง<br />

15.6% หรือ 4.8 พันลานบาทในป 2556<br />

ทิศทางผลประกอบการของกลุ่มโรงแรมภายใต้การดูแล 3 บริษัท<br />

60,000<br />

ลานบาท<br />

50,000<br />

40,000<br />

30,000<br />

20,000 1,846<br />

1,995<br />

10,000<br />

0<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

2,270<br />

2,414<br />

2,513<br />

1,323<br />

919<br />

4,169<br />

2548 2549 2550 2551 2552 2553 2554 2555F 2556F<br />

รายได<br />

กําไรจากการดําเนินงานปกติ<br />

ลานบาท<br />

6,000<br />

4,818 5,000<br />

4,000<br />

3,000<br />

2,000<br />

1,000<br />

MINT เติบโตจากทุกธุรกิจในเครือ<br />

แนวโนม 4Q55 คาดกําไรจากการดําเนินงาน 820 ลานบาท<br />

เติบโต 16%yoy จากอานิสงคของชวงฤดูกาลทองเที่ยว, การ<br />

เติบโตตอเนื่องของธุรกิจอาหาร และรายไดจากการโอน คอนโดฯ<br />

ST. Regis มูลคา 200-300 ลานบาท รวมถึงโครงการ Time<br />

Share ไมต่ํากวา 350 ลานบาท (เทียบกับ 190 ลานบาทในงวด<br />

4Q54) ขณะที่ป 2556 คาดกําไรเติบโต 11%yoy จากทุกธุรกิจใน<br />

เครือ โดยธุรกิจโรงแรมมีการเปดโรงแรมใหมที่ภูเก็ตงวด 2H56<br />

และรับบริหารโรงแรมใหมเพิ่ม 7 แหง สวนธุรกิจพัฒนา<br />

อสังหาริมทรัพย คาดรับรูรายไดหลักจากโครงการ Time Share<br />

มูลคา 2.1 พันลานบาท เติบโตจาก 1.4 พันลานบาทในป 2555<br />

และธุรกิจอาหาร ก็มีการขยายสาขารานอาหารตอเนื่อง 70-80<br />

สาขา จากสิ้นป 2555 ที่คาดมีสาขารวมกวา 1.3 พันแหง<br />

0<br />

สงผลใหทั้งป 2555 มีกําไรจากการดําเนินงาน 1.16 พันลานบาท<br />

ขยายตัว 79%yoy และคาดโตตอเนื่องอีก 23% ในป 2556 โดยมี<br />

กําไรทําสถิติสูงสุดใหมที่ 1.37 พันลานบาท เนื่องจากธุรกิจโรงแรม<br />

ยังเติบโตตามการทองเที่ยว และการเปดโรงแรมใหมแหงที่ 2 ที่<br />

เกาะมัลดีฟทเดือน ก.พ. 2556 อีกทั้งบริษัทมีแผนรับบริหารโรงแรม<br />

เพิ่มใหไดปละ 10 แหง สวนธุรกิจอาหาร ตั้งเปาขยายสาขา<br />

รานอาหารใหมเพิ่ม 70-80 แหง จาก 678 สาขา ณ สิ้นป 2555<br />

ERW มีแผนขายสินทรัพย์ หนุนกําไรโดดเด่น<br />

ดวยโครงสรางรายไดหลักเกือบ 100% มาจากธุรกิจโรงแรม ทําให<br />

ERW จะไดรับประโยชนเต็มที่จากชวงฤดูกาลทองเที่ยว คาดหนุน<br />

ใหการดําเนินงานงวด 4Q55 พลิกกลับมามีกําไรอีกครั้ง และมาก<br />

ขึ้นในงวด 1Q56 กอนโดดเดนในงวด 2Q56 จากการบันทึกกําไร<br />

พิเศษ 600-800 ลานบาท เนื่องจากมีแผนขายโรงแรม IBIS 2 แหง<br />

(ปาตองและพัทยา) มูลคา 1.5-2 พันลานบาท (คาดบริษัทถือ<br />

สัดสวนในกองทุนไมต่ํากวา 15%) เขากองทุน Property Fund ซึ่ง<br />

ยังไมไดรวมไวในประมาณการป 2556 โดยเบื้องตนคงประเมิน<br />

กําไรจากการดําเนินงาน 159 ลานบาท เติบโตสูง 69% จากป<br />

2555 ที่มีฐานกําไรต่ํา 94 ลานบาท<br />

ราคาหุ้นเต็มมูลค่า ลงทุน น้อยกว่าตลาด<br />

แมกําไรของกลุมโรงแรมมีแนวโนมสดใสตามชวงฤดูกาลทองเที่ยว<br />

แตราคาหุนของกลุมฯ ในชวงรอบปที่ผานมาไดปรับตัวขึ้นอยางแรง<br />

ตอเนื่อง และมากกวาดัชนีตลาดฯ ทําใหราคาหุนหลักในกลุมเต็ม<br />

มูลคาพื้นฐาน และ มีโอกาสที่จะถูกขายทํากําไร หากดัชนีเกิดการ<br />

ปรับฐานขึ้น แนะนําใหลงทุนน้ําหนักนอยกวาตลาด ทั้งนี้ ERW<br />

(FV @ B 4.10) นาจะเดนสุด แตควรซื้อเมื่อราคาออนตัวลง<br />

เนื่องจากผลประกอบการที่จะฟนตัวมีกําไรอีก 3 ไตรมาสขางหนา<br />

(ตั้งแต 4Q55 -2Q56) ขณะที่ MINT แนะนําถือ และ ขายสําหรับ<br />

CENTEL จากราคาปจจุบันปรับตัวขึ้นมาแรงจนเต็มมูลคาป 2556<br />

เปรียบเทียบผลตอบแทนรายบริษัทตั้งต่ต้นปี – 19 ธ.ค. 2555<br />

CENTEL<br />

ERW<br />

MINT<br />

85%<br />

79%<br />

152%<br />

CENTEL สดใสจากอาหาร & โรงแรมใหม่<br />

TOURISM<br />

SET<br />

33%<br />

56%<br />

ปจจัยบวกจากธุรกิจโรงแรม ซึ่งไดผลบวกของชวงฤดูกาลทองเที่ยว<br />

และธุรกิจอาหารที่มีแนวโนมสดใส คาดผลักดันใหงวด 4Q55 มี<br />

กําไรจากการดําเนินงาน 265 ลานบาท เติบโต 90.8%yoy และ<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

0.0% 50.0% 100.0% 150.0% 200.0%<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 49


กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ<br />

น้ําหนัก มากกว่าตลาด<br />

ผู้ให้บริการมือถือรับประโยชน์มากสุดจาก 3G ใหม่<br />

ผู้ให้บริการมือถือเริ่มโอนลูกค้าสู่บริการ 3G ใหม่ นับจาก 2Q56<br />

อานิสงส์ 3G ใหม่ไปถึงหุ้นเล็กไม่กี่บริษัท และน้อยกว่าเจ้าใหญ่<br />

น้ําหนัก “มากกว่าตลาด” เลือก INTUCH และ DTAC เป็น Top Picks<br />

กสทช. ไฟเขียวมอบใบอนุญาตใหม่แล้ว<br />

หลังจากที่ กสทช. ไดผลผูชนะประมูลใบอนุญาต 3G ใหม คลื่น<br />

ความถี่ 2.1 GHz ทั้ง 3 ราย ซึ่งคือ บริษัทยอยของ ADVANC,<br />

DTAC และ TRUE ตั้งแตวันที่ 16 ต.ค. 2555 แมวาจะเกิดปญหา<br />

ขอกังขาดานความโปรงใสของผลประมูลใบอนุญาต 3G ใหม<br />

คลื่นความถี่ 2.1 GHz ขึ้นจนกระทั่งเกิดกรณีการฟองรองของ<br />

ผูตรวจการแผนดินตอศาลปกครองกลาง ที่ขอใหคุมครองและ<br />

ระงับผลประมูลใบอนุญาต 3G ใหม 2.1 GHz แตหลังจากที่ศาล<br />

ปกครองกลางมีคําตัดสินชี้ขาดเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 2555 โดยไมรับคํา<br />

รองของผูตรวจการแผนดิน ปจจุบันสงผลให กสทช. มีความมั่นใจ<br />

ในความถูกตองของขบวนการประมูล จึงไดทําการออกใบอนุญาต<br />

3G 2.1 GHz ใหผูชนะการประมูลทั้ง 3 ราย ซึ่งคือ บริษัทยอยของ<br />

ADVANC, DTAC และ TRUE เรียบรอยแลวตั้งแตในวันที่ 11-12<br />

ธ.ค. 2555 ที่ผานมา<br />

กําหนดการประมูลใบอนุญาต 3จี ใหม่ 2.1 GHz<br />

กสทช.<br />

ประกาศใช ดําเนินการ แจงการใช จัดทําแผน กําหนด ยื่นขอ ประมูลคลื่น มอบ ประกอบ<br />

กฎหมาย เลือก กสทช. คลื่นและ แมบท หลักเกณฑ ใบอนุญาต (กรณีใช ใบอนุญาต กิจการภายใต<br />

องคกรฯ ความจําเปน ประกอบการ คลื่น) ใบอนุญาต<br />

6 เดือน 9 เดือน 6 เดือน 6 เดือน<br />

ธ.ค. 2553 ก.ค. 2554 มี.ค. 2555 ต.ค. 2555 ธ.ค. 25556 เม.ย. 2556<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

เริ่มโอนลูกค้าไปใช้ 3G ใหม่ตั้งแต่ 2Q56<br />

ฝายวิจัยคาดวาผูใหบริการโทรศัพทมือถือ 3 ราย จะเริ่มติดตั้ง<br />

โครงขาย 3G ใหมในจุดสําคัญ คือ กทม. และหัวเมืองใหญ ให<br />

เสร็จในระยะเวลา 3-4 เดือน โดยคาดจะเริ่มใหบริการไดนับจาก<br />

งวด 2Q56 นี้ ทั้งนี้ ดวยการใหบริการภายใตใบอนุญาตใหม 3G<br />

2.1 GHz จะเปนประโยชนตอผูประกอบการใน 2 เรื่องหลัก คือ<br />

1) การเติบโตรายไดบริการขอมูลที่จะสูงตอเนื่องจากปจจุบัน (ดัง<br />

รูป) จากประสิทธิภาพการใหบริการดานขอมูลที่จะดีขึ้นอยางมีนัย<br />

ฯ เพราะคลื่น 2.1 GHz ถูกออกแบบเปนคลื่นมาตรฐานเพื่อ<br />

ใหบริการ 3G ตางจากการใหบริการ 3G ภายใตคลื่นความถี่บน<br />

สัมปทานปจจุบัน ที่ยังมีขอจํากัดดานกําลังการใหบริการ<br />

คอนขางมาก<br />

2) ผูประกอบการยังจะไดประโยชน จากตนทุนสวนแบงรายไดที่<br />

ลดลงจากปจจุบันที่สูงราว 25-30% ของรายไดคาบริการลงมา<br />

เหลือเพียง 10-15% ของรายไดคาบริการ (รวมตนทุนคาประมูล<br />

ใบอนุญาต) ดังนั้น จึงเชื่อวาภายหลังจากการใหบริการภายใต<br />

ใบอนุญาต ผูประกอบการจะทยอยเรงเดินหนาโอนยายลูกคา 3G<br />

จากคลื่นความถี่ปจจุบันที่มีตนทุนแพงมายังใหบริการภายใต<br />

ใบอนุญาตที่ตนทุนถูกกวา<br />

50<br />

Invest+ 1 st Quarter, 2013


13,000<br />

12,000<br />

11,000<br />

10,000<br />

9,000<br />

8,000<br />

7,000<br />

6,000<br />

5,000<br />

4,000<br />

ลานบาท<br />

1Q52<br />

อัตราการเติบโตของรายได้ Non - Voice<br />

2Q52<br />

CAGR 5.8% qoq<br />

3Q52<br />

4Q52<br />

ที่มา :รวบรวมโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

100%<br />

80%<br />

60%<br />

40%<br />

20%<br />

0%<br />

1Q53<br />

2Q53<br />

3Q53<br />

4Q53<br />

1Q54<br />

CARG 12.2%<br />

qoq<br />

สัดส่วนรายได้บริการ Voice : Non - Voice<br />

2Q54<br />

3Q54<br />

4Q54<br />

1Q55<br />

2Q55<br />

86% 85% 83% 84% 84% 83% 82% 82% 81% 80% 79% 78% 76% 74% 72%<br />

14% 15% 17% 16% 16% 17% 18% 18% 19% 20% 21% 22% 24% 26% 28%<br />

1Q52<br />

2Q52<br />

3Q52<br />

4Q52<br />

1Q53<br />

2Q53<br />

3Q53<br />

4Q53<br />

1Q54<br />

2Q54<br />

3Q54<br />

4Q54<br />

1Q55<br />

2Q55<br />

3Q55<br />

Non Voice<br />

ที่มา : รวบรวมโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

Voice<br />

กําไรผู้ให้บริการมือถือ จะเติบโตทุกไตรมาส<br />

ฝายวิจัยคาดวากําไรของกลุมผูใหบริการโทรศัพทมือถือในป 2556<br />

ยังมีแนวโนมเติบโตตอเนื่องทุกไตรมาส แมนับจาก 1Q56<br />

ผูประกอบการจะตองเริ่มรับรูตนทุนคาใบอนุญาตใหมเต็มไตรมาส<br />

แตฝายวิจัยยังเชื่อวาจะไดรับการชดเชยทั้งหมดจากอานิสงสชวง<br />

ฤดูกาลในงวดไตรมาส 4 และผลบวกของการขาย iPHONE 5<br />

(เปดตัว ตน พ.ย.) เต็มไตรมาส คาดวาจะเปนอีกแรงหนุนชวยให<br />

ทั้งยอดขายโทรศัพทมือถือ ยอดสมาชิก และรายไดบริการ Non –<br />

voice ดีขึ้นมากจากเดิม ขณะที่นับจากงวด 2Q56 เชื่อวา ผลการ<br />

ทยอยโอนลูกคาชั้นดีไปจากคลื่นปจจุบันไปยังใบอนุญาต 3G ใหม<br />

2.1 GHz จนครบตามสมมติฐานของฝายวิจัยที่ 10% ของฐาน<br />

ลูกคาของผูประกอบการในป 2556 ประโยชนจากตนทุนเฉลี่ยที่<br />

ลดลงของใบอนุญาตใหม คาดจะเปนแรงหนุนสําคัญตอกําไรป<br />

2556 ของกลุมผูใหบริการโทรศัพทมือถือ<br />

โดยบริษัทที่เติบโตมากสุด คือ DTAC ที่คาดกําไรจะเพิ่มขึ้น<br />

18%yoy เพราะมีฐานตนทุนเดิมที่สูงกวา กลาวคือ มีตนทุนสวน<br />

แบงรายไดตามสัญญาสัมปทานปจจุบันสูง 30% ของรายได<br />

คาบริการ ขณะที่หากเทียบกับ ADVANC ที่มีตนทุนสวนแบง<br />

รายไดตามสัญญาสัมปทานของ ADVANC นอยกวา DTAC คือ<br />

อยูที่เพียง 25% สงผลใหคาดวากําไรสุทธิจะเติบโตเพียง 12%yoy<br />

3Q55<br />

สวน TRUE คาดวายังประสบภาวะขาดทุน แมจะดีขึ้นเล็กนอย<br />

หรือ ลดลงจาก 6.4 พันลานบาทในป 2555 เหลือขาดทุน 4.2<br />

พันลานบาทในป 2556 เพราะ TRUE ตองแบกภาระการขยาย<br />

โครงขายตามขอกําหนดที่มีกับ CAT และ กสทช. คือ 1) โครงขาย<br />

ตามสัญญา 3G คลื่น 850 MHz รวมกับ CAT ที่จะขยายสถานี<br />

ฐานจากปจจุบันที่ราว 7.0 พันสถานีใหครบ 13.5 พันสถานีกลางป<br />

หนา และ 2) การลงทุนเพิ่มเติมภายใตใบอนุญาต 3G ใหม 2.1<br />

GHz ที่ไดรับมาใหม ซึ่ง กสทช. มีขอกําหนดใหตองขยายโครงขาย<br />

ใหครอบคลุม 50% และ 80% ของจํานวนประชากร ภายหลังเริ่ม<br />

ใหบริการดวยใบอนุญาตใหมครบ 2 ปและ 3 ป ตามลําดับ<br />

มีหุ้นเล็ก 3-4 บริษัทที่ได้ประโยชน์จาก 3G<br />

นอกจากผูใหบริการโทรศัพทมือถือที่ไดประโยชนโดยตรงจาก<br />

ใบอนุญาตใหม 3G 2.1 GHz แลว ยังมีหุนเล็กบางตัวที่มีแนวโนม<br />

ไดประโยชน โดยฝายวิจัยไดสรุปหุนที่มีโอกาสไดประโยชน ดังนี้<br />

1) กลุมที่ไดประโยชนดานการวางโครงขาย : ในการวางโครงขาย<br />

โดยทั่วไปแลว มูลคางานจะแบงเปน 2 สวน สวนที่ 1 คือ งาน<br />

อุปกรณเพื่อสงสัญญาณตางๆ ซึ่งคิดเปนราว 75% ของมูลคางาน<br />

ในสวนนี้ เชื่อวาบริษัทอื่น ๆ อยูในกลุมสื่อสาร ซึ่งมีรายไดหลักจาก<br />

การเปนผูรับเหมาโครงขายโทรคมนาคม อาทิ SAMTEL (100%<br />

ของรายได), LOXLEY (62% ของรายได), AIT (97.9% ของ<br />

รายได) และ JTS (98.7% ของรายได) มีแนวโนมไมไดรับ<br />

ประโยชนโดยตรงจากการขยายโครงขายของเอกชน 3 รายใหญ<br />

เทาไรนัก เพราะตามปกติแลวผูใหบริการโทรศัพทมือถือทั้ง 3 ราย<br />

จะดีลกับซัพพลายเออรในตางประเทศโดยตรง อาทิ ZTE,<br />

Huawei, SIEMENS, Motorola หรือ Ericsson และติดตั้งดวย<br />

ตนเองอยูแลว ดังนั้น ฐานลูกคาของบริษัทในกลุมรับเหมาทํา<br />

โครงขายสวนใหญโดยปกติ จึงไมใชกลุมผูใหบริการโทรศัพทมือถือ<br />

เอกชน แตกลับกลายเปนกลุมของหนวยงานภาครัฐฯ และ<br />

รัฐวิสาหกิจ อาทิ TOT, CAT, กระทรวง ทบวง และกรมตางๆ<br />

มากกวา (ดังตารางประกอบ) ทั้งนี้ เนื่องจากซัพพลายเออร<br />

ตางประเทศขางตน คอนขางขาดความเชี่ยวชาญในการดีลกับ<br />

หนวยงานภาครัฐฯ โดยเฉพาะในดานความสัมพันธ และขอ<br />

กฎหมายตางๆ จึงเปนเหตุใหซัพพลายเออรจากตางประเทศไม<br />

ตองการเขาไปรับงานภาครัฐฯ โดยตรง และเนนการรับงานใน<br />

รูปแบบที่ผานมาเอกชนเพียงอยางเดียว<br />

คู่ค้าหลักของกลุ่มผู้รับเหมาวางโครงข่ายโทรคมนาคม<br />

บริษัท คูคาหลัก สัดสวนรายไดคูคาหลัก (%)<br />

SAMTEL TOT, PEA (การไฟฟา), AOT 60%<br />

AIT TOT, CAT 65%<br />

LOXLEY ภาครัฐบาล 90%<br />

JTS TOT, CAT , กระทรวงตางๆ 75%<br />

ที่มา : รวบรวมจากผูประกอบการ<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 51


สวนที 2 เปนงานสายเคเบิ้ลที่เชื่อมระหวางโครงขายแตละจุดราว<br />

25% ของมูลคางาน ซึ่งตรงนี้แมจะมีความเปนไปไดที่อาจจะถูก<br />

Subcontract หรือ เชากับผูประกอบการรายอื่นๆ ที่มีซัพพลายสาย<br />

เคเบิ้ล อาทิ ILINK (จําหนายติดตั้ง และใหเชาสายเคเบิ้ล) SYMC<br />

(ใหเชาวงจรโครงขาย) อยางไรก็ตาม ประโยชนจากการขายสาย<br />

เคเบิ้ลตอฐานกําไรของผูจําหนายอาจไมมากนัก เพราะเปนสินคา<br />

ที่ไมมีความแตกตาง อัตรากําไรจึงมีแนวโนมต่ํา ขณะที่การเชาเชื่อ<br />

วาจะเปนเพียงสัญญาชั่วคราวชวงสั้นๆ มากกวา เพราะภายใต<br />

ใบอนุญาต 3G ใหม คลื่นความถี่ 2.1 GHz กําหนดใหสิทธิความ<br />

เปนเจาของโครงขายตกเปนสิทธิของผูประกอบการ สงผลให<br />

ทายสุดที่แลว ผูประกอบการมีแนวโนมลงทุนดวยตนเอง เพื่อ<br />

ครอบครองและใชทรัพยสินระยะยาวมากกวา<br />

52<br />

สัดส่วนเงินลงทุนในโครงข่ายเพื่อให้บริการ 3จี<br />

25%<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

งานอุปกรณโครงขายเพื่อสงสัญญาณ 3G<br />

งานสายเคเบิ้ลที่เชื่อมระหวางโครงขาย<br />

Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

75%<br />

2) กลุมที่ไดประโยชนภายหลังจากการเริ่มใหบริการ 3G ภายใต<br />

ใบอนุญาตใหม : ผูจําหนายอุปกรณโทรศัพทมือถือและ<br />

อุปกรณเสริม อาทิ SIM, JMART, MLINK และ TWZ ซึ่งได<br />

ประโยชน เพราะหากอิงจํานวนผูใชบริการโทรศัพทมือถือทั่ว<br />

ประเทศ ปจจุบันมีเพียงสวนนอยราว 20% - 25% เทานั้นที่เครื่อง<br />

ลูกขายสามารถรองรับบริการ 3G คลื่น 2.1 GHz ได ดังนั้น กลุม<br />

ผูใชบริการที่เหลือ หากตองการใชงานบริการ 3G จึงตองเปลี่ยน<br />

เครื่องโทรศัพทมือถือ แตอยางไรก็ตาม ทั้งกลุมผูจําหนาย<br />

โทรศัพทมือถือ เชื่อวาจะเพียง JMART เทานั้นที่แขงขันไดดี<br />

เพราะมีการขายสินคาแบรนดหลากหลายและมีสาขามากกวาเจา<br />

อื่นๆ แตทั้งนี้ คาดวา JMART จะตองเผชิญการแขงขันรุนแรงกับผู<br />

ใหบริการโทรศัพทมือถือ ที่อาจใชกลยุทธเชิงรุกในการกระตุน<br />

ลูกคายายมายังใบอนุญาตใหม โดยการเสนอสวนลดราคา<br />

เครื่องโทรศัพท เพื่อจูงใจใหโอนยายมายังบริการภายใต<br />

ใบอนุญาตใหม โดยเฉพาะสําหรับลูกคาที่มีการใชงาน<br />

คอนขางมากและสรางรายไดสูง<br />

ยี่ห้อโทรศัพท์มือถือที่ผู้ประกอบการแต่ละรายจําหน่าย<br />

บริษัท Brand ที่จําหนาย จํานวนสาขา<br />

JMART iPHONE, Samsung, SONY, NOKIA, LG, Jfone 250<br />

MLINK จําหนาย NOKIA เปนหลัก 87<br />

SIM จําหนาย I-Mobile เปนหลัก 62<br />

TWZ จําหนาย TWZ ผานชองทาง TWZ 10<br />

จําหนายแบรนดอื่นๆผาน Telewiz 26<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

3G ไม่กระเทือนอินเตอร์เนตความเร็วสูง<br />

สวนผูประกอบการที่เกี่ยวของ ซึ่งคาดวามีแนวโนมเสียประโยชน<br />

จากบริการ 3G เต็มรูปแบบนั้น คือ กลุมผูใหบริการอินเตอรเนต<br />

ความเร็วสูง อาทิ JAS, TRUE เพราะความเร็วสูงสุดบริการ 3G<br />

นั้นสูงสุดไปถึง 42 MB ตอวินาที ขณะที่อินเตอรเนตความเร็วสูง<br />

ตามบานความเร็วทั่วไปอยูที่ 10 MB ตอวินาที - 16 MB ตอวินาที<br />

อยางไรก็ตาม ฝายวิจัยยังเชื่อวาบริการอินเตอรเนตความเร็วสูงจะ<br />

ไมไดรับผลกระทบ และยังจะสามารถเติบโตตอเนื่องไดในอยาง<br />

นอย 2-3 ปขางหนา เพราะถึงแมวาความเร็วสูงสุดของบริการ 3G<br />

จะสูงกวา แตในการใชงานจริงยังตองแชรความเร็วกันระหวาง<br />

ผูใชบริการ 3G ในบริเวณใกลเคียงกัน นอกจากนี้ การใชบริการ<br />

ดานขอมูลดวยบริการ 3G ความเร็วสูง 42 MB ตอวินาที ยังมี<br />

ขอจํากัดอีกประการ คือ แมผูใหบริการมือถือจะกําหนดให<br />

ผูใชบริการรายเดือนแบบแพ็คเกจระดับกลางและระดับสูง<br />

สามารถใชบริการอินเตอรเน็ตมือถือไมจํากัด อยางไรก็ตาม ยังมี<br />

การกําหนดขอจํากัดวาหากผูใชบริการรายเดือน ใชบริการขอมูล<br />

ถึงจํานวนที่กําหนดคือ 1GB (1 GB เทากับ 1000 MB) สําหรับ<br />

แพ็คเกจระดับกลาง และ 3GB สําหรับแพ็คเกจระดับสูง ในเดือน<br />

นั้นแลว ความเร็วในการใชบริการรับสงขอมูลจะถูกลดมาสูระดับ<br />

เพียง 384 KB ตอวินาที ซึ่งความเร็วชากวาอินเตอรเนตความเร็ว<br />

สูงแบบแพ็คเกจต่ําสุดกวา 30 เทา (1000 KB ตอวินาที เทากับ 1<br />

MB ตอวินาที) เพื่อจํากัดปริมาณการใชงานของผูรับบริการ โดย<br />

หากผูบริโภคที่ตองการใชบริการดวยความเร็วสูงสุดเทาเดิม<br />

ผูบริโภคตองจายเงินซื้อแพ็คเก็ตเสริมในเดือนนั้น<br />

ดังนั้น อินเตอรเนตความเร็วสูงจึงยังมีขอไดเปรียบเหนือกวา 3G<br />

เพราะสามารถใชงานปริมาณขอมูลดวยความเร็วสูงไดอยางไม<br />

จํากัด จึงเหมาะกับการใชงานเปนประจํา มากกวา 3G ที่เหมาะ<br />

สําหรับการใชงานนอกบาน หรือเปนครั้งคราว นอกจากนี้ เมื่อ<br />

ประกอบกับ สัดสวนผูใชงานบริการอินเตอรเนตทั่วประเทศไทยที่มี<br />

สัดสวนเพียงราว 30% ของครัวเรือนทั้งหมด ถือวายังต่ํามากหาก<br />

เทียบกับประเทศที่พัฒนาแลว รวมถึงประเทศที่กําลังพัฒนาอื่นๆ<br />

(ดังตาราง) ทําใหเชื่อวายังมีโอกาสเติบโตไดอยางตอเนื่อง<br />

Penetration Rate ผู้ใช้บริการอินเตอร์เนตในต่างประเทศ<br />

120%<br />

100%<br />

80%<br />

60%<br />

40%<br />

20%<br />

0%<br />

40% 40%<br />

30% 32%<br />

22%<br />

11%<br />

India<br />

Indonesia<br />

Thailand<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

Philippines<br />

Avg<br />

Developing<br />

China<br />

97% 97%<br />

75% 78% 80%83% 83% 83% 84% 84%89%<br />

69%<br />

61%<br />

Malaysia<br />

Hongkong<br />

Taiwan<br />

US<br />

Japan<br />

South<br />

Korea<br />

Germany<br />

Canada<br />

UK<br />

Switzerland<br />

Finland<br />

Norway<br />

Singapore


มูลค่าเพิ่ม THCOM ยังอยู่ภายใต้เงื่อนไข<br />

ฝายวิจัยเชื่อวามูลคาพื้นฐานหุนของ THCOM ที่จะเพิ่มขึ้นได ตอง<br />

ขึ้นอยูกับ 2 เงื่อนไข ที่ตองมีความชัดเจนขึ้นกวาปจจุบัน ไดแก 1)<br />

2 ดีลใหญของดาวเทียม iPSTAR คือ การขายกําลังการใหบริการ<br />

ลอตใหญที่อินเดียที่เหลืออีก 80% (กําลังการใหบริการที่อินเดีย<br />

คิดเปน16.1% ของกําลังการใหบริการทั้งหมดของ iPSTAR) และ<br />

กําลังการใหบริการที่จีนที่เหลืออีกเกือบ 100% (กําลังการ<br />

ใหบริการที่จีน คิดเปน 24.4% ของกําลังการใหบริการทั้งหมดของ<br />

iPSTAR) ซึ่งยังอยูระหวางการเจรจา ซึ่งเชื่อวายังตองใชเวลา<br />

เพราะเปนการขายจํานวนมาก 2) ดาวเทียมไทยคม 7 แมจะมี<br />

กําหนดการสงขึ้นทองฟาราวตนป 2557 แตปจจุบันยังคงอยู<br />

ระหวางกอสราง และยังไมไดเริ่มตนทําตลาด ทั้งนี้ เงินลงทุน<br />

ดาวเทียมไทยคม 7 จะเปนของพันธมิตร คือ Asia Satellite 100%<br />

แตเมื่อเปดใหบริการ สิทธิการใชงานของทรานสปอนเดอรครึ่งหนึ่ง<br />

คือ 14 ทรานสปอนเดอร จะตกเปนของ THCOM โดย THCOM<br />

จะจายเงินเปนคาเชาใชงานใหกับ Asia Satellite ซึ่งเบื้องตนคาด<br />

วาตนทุนจะใกลเคียงกับคาเสื่อมราคา และดอกเบี้ยในกรณี<br />

THCOM ตองลงทุนเอง แตทั้งนี้ แม THCOM จะไดประโยชน คือ<br />

ตนทุนที่จะลดลงมากจากปจจุบัน เพราะดาวเทียมดังกลาวจะอยู<br />

ภายใตใบอนุญาตจาก กสทช. ซึ่งมีตนทุนราว 5.75% ของรายได<br />

คาบริการ ขณะที่สวนแบงรายไดสัมปทานปจจุบันสําหรับ<br />

ดาวเทียมไทยคม 4 5 และ 6 อยูที่ราว 20.5% แตโอกาสไดรับ<br />

ประโยชนจากตนทุนที่ลดลง ยังคงตองอิงลูกคาใหม ซึ่งอาจไมเรื่อง<br />

งายนัก เพราะดาวเทียมไทยคม 7 อยูที่ตําแหนง 120 องศา ซึ่งจาน<br />

รับดาวเทียมของผูรับสัญญาณหรือกลุมลูกคาในประเทศสวนใหญ<br />

ของ THCOM ยังหันไปทาง 78.5 องศา ซึ่งเปนตําแหนงของ<br />

ดาวเทียมไทยคม 5 และ 6 มากกวา ทําใหการจูงใจเพื่อยายลูกคา<br />

เดิมซึ่งใชบริการไทยคม 5 และ 6 ไปยังไทยคม 7 ยังเปนไปยาก<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

พื้นที่ให้บริการดาวเทียมแต่ละดวงของ THCOM<br />

เน้นหุ้นใหญ่ และให้น้ําหนัก “มากกว่าตลาด”<br />

ฝายวิจัยใหน้ําหนักการลงทุนกลุม “มากกวาตลาด” ตามแนวโนม<br />

อานิสงสของใบอนุญาตใหม 3G 2.1 GHz ที่เปนประโยชนโดยตรง<br />

ตอหุนใหญในกลุม สะทอนจากราคาหุนปจจุบันที่ยังมี Upside อีก<br />

มากจากมูลคาพื้นฐานป 2556 ขณะที่ยังซื้อ – ขายกันโดยเฉลี่ยต่ํา<br />

กวาหุนกลุมสื่อสารในกลุมประเทศกําลังพัฒนา (ดังรูป) โดยฝาย<br />

วิจัยยังเลือก INTUCH (FV@B87.0) และ DTAC (FV@B110.0)<br />

เปน Top Picks ของกลุม จาก Upside จากราคาปจจุบันที่ยังมีสูง<br />

ถึง 28% และ 24% ตามลําดับ สวน ADVANC (FV@B250.0)<br />

ยังคงคําแนะนํา “ซื้อ” แมราคาหุนจะปรับตัวขึ้นมาบางแลว แต<br />

Upside ยังเหลือถึง 18%<br />

ขณะที่ TRUE (FV@B3.60) ฝายวิจัยแนะนํา “ขาย” เนื่องจาก<br />

ธุรกิจยังไมสามารถพลิกฟนมามีกําไรในชวง 1-2 ปขางหนา จาก<br />

ภาระเงินลงทุนสูง สวน JAS (FV@B5.60) ยังคงคําแนะนํา “ถือ”<br />

เพราะแมคาดจะยังเติบโตไดดีตามฐานสมาชิก แตราคาหุน<br />

ปจจุบันไดสะทอนจนมี Upside จํากัดแลว เชนเดียวกับ THCOM<br />

(FV@B25.0) ที่มูลคาเพิ่มยังคงอยูภายใตเงื่อนไขในอนาคต<br />

25<br />

20<br />

15<br />

10<br />

5<br />

0<br />

Expected PER ปี 2556 ของหุ้นสื่อสารต่างประเทศ<br />

8.1 8.8 9.6 11.0 11.4 11.9 12.3 13.0 13.3 14.1 14.6 14.1 14.7 14.8 15.2 15.9 17.4 17.3 17.6 18.2 19.5 20.6<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

สรุปคําแนะนําหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศที่ฝ่ายวิจัยติดตาม<br />

2556F<br />

Rec. Close Fair value Upside EPS PER PBV Div<br />

(B) (B) (%) (B) (X) (X) (%)<br />

ADVANC ซื้อ 211.00 250.00 18% 13.26 15.9 12.9 6.29<br />

DTAC ซื้อ 88.75 110.00 24% 6.00 14.8 5.5 5.41<br />

TRUE ขาย 5.00 3.60 -28% (0.29) na. 6.7 0.00<br />

INTUCH ซื้อ 67.75 87.00 28% 5.22 13.0 7.1 7.38<br />

THCOM ถือ 23.00 25.00 9% 1.19 19.4 1.6 2.06<br />

JAS ถือ 5.25 5.60 7% 0.35 15.2 3.4 1.98<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

สรุปคําแนะนําหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศอื่นๆ (Analyst Consensus)<br />

Rec. Close Consensus Upside 2556F<br />

Last 12 M<br />

(B) Fair Value (B) (%) EPS (B) PER (x) EPS (B) PER (x)<br />

ILINK N/A 17.9 20.5 14.53% 1.19 15.04 0.92 19.46<br />

SYMC N/A 23 24.8 7.83% 0.98 23.47 0.78 29.49<br />

SAMTEL N/A 19.4 20.33 4.79% 1.63 11.90 1.29 15.06<br />

AIT N/A 57.25 60.5 5.68% 6.47 9.35 5.71 10.03<br />

หุนที ่ไมมี Consensus<br />

JTS N/A 2.2 N/A N/A N/A N/A 0.04 55.00<br />

JMART N/A 14 N/A N/A N/A N/A 0.57 24.56<br />

TWZ N/A 0.37 N/A N/A N/A N/A 0.01 37.00<br />

SIM N/A 2.12 N/A N/A N/A N/A 0.01 212.00<br />

MLINK N/A 1.69 N/A N/A N/A N/A -2.80 N/A<br />

ที่มา : Bloomberg และ Settrade<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 53


ปี 2556...ปีทองของแบงก์ ปีแห่งการลงทุน<br />

ธ.พ.สหรัฐฯ และเอเซียยังเป็นตัวเลือกลงทุนที่ดีกว่ายุโรป<br />

Top picks หุ้นต่างประเทศยังเป็น JP Morgan, Well Fargo และ ICBC<br />

ธ.พ.ไทย – ปีทอง 2556 รับอานิสงค์การลงทุนใหญ่ของภาครัฐ<br />

Top picks ธ.พ.ไทย เลือก KBANK, TCAP<br />

ธ.พ.สหรัฐฯ เริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์<br />

ราคาหุนกลุม ธ.พ. สหรัฐฯ (S&P500 Financials Index) ปรับตัว<br />

เพิ่มขึ้นกวา 22.86% ตั้งแตตนป 2555-ปจจุบัน (จากที่ลดลงไป<br />

อยางมีนัยฯ ถึง 20.2% ในป 2554) สามารถ outperform การ<br />

ปรับตัวขึ้นของดัชนี S&P500 ที่เพิ่มขึ้นเพียง 12.9% ซึ่งหาก<br />

พิจารณาเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของ S&P500 Financials Index<br />

ในงวด 4Q55 (ถึงปจจุบัน) แมจะเห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง<br />

2.48%qoq แตก็ยังสามารถ outperform เล็กนอยเมื่อเทียบกับ<br />

S&P500 Index ที่ปรับลดลง 1.5%qoq<br />

ทั ้งนี้ ภาพรวมของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น<br />

โดยเฉพาะอยางยิ่งตัวเลขในตลาดแรงงานที่ฟนตัวขึ้นอยาง<br />

ตอเนื่อง นอกจากนี้ การประกาศขยายอายุมาตรการผอนปรนเชิง<br />

ปริมาณ (QE) รอบที่ 3 ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ดวยการ<br />

เขาซื้อพันธบัตรระยะยาววงเงิน 4.5 หมื่นลานเหรียญฯ (ราว 1.3<br />

ลานลานบาท) ตอเดือน เพื่อตองการกดอัตราดอกเบี้ยพันธบัตร<br />

ใหต่ํา สําหรับการกระตุนการใชจายและการลงทุนในประเทศ<br />

อยางไรก็ตาม ประเด็นเรื่องการออกหลักเกณฑการควบคุมการทํา<br />

ธุรกรรมของ ธ.พ.ที่เขมงวดมากขึ้นยังคงดําเนินไปอยางตอเนื่อง<br />

โดยลาสุด เฟดไดเตรียมใชหลักเกณฑทางการเงินใหมเพื่อบังคับ<br />

ใหบรรดา ธ.พ.ตางชาติที่มีสาขาอยูในสหรัฐฯ ซึ่งมีจํานวนมากกวา<br />

100 แหง และ Non bank ตองอยูภายใตการควบคุมดูแลที่<br />

เขมงวดเดียวกับธนาคารในประเทศ อีกทั้งยังตองเขารับการ<br />

ทดสอบ Stress test เพื่อวิเคราะหความเสี่ยงและความสามารถ<br />

ในการรับมือหากเกิดวิกฤติทางการเงิน จากทั้งภายในและ<br />

ภายนอกอีกดวย คาดวาจะมีผลบังคับตั้งแต 1 ม.ค.58 เปนตนไป<br />

สําหรับภาพรวมการเติบโตของสินเชื่อของกลุม ธ.พ. สหรัฐฯ<br />

ในชวง 4Q55 แมโดยรวมแลวจะยังคอนขางแผวตัว เนื่องจาก<br />

54 Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

กลุ่ม ธนาคารพาณิชย์<br />

น้ําหนัก มากกว่าตลาด<br />

ผูประกอบการสวนใหญยังคงชะลอการลงทุน (Frozen) และใช<br />

ความระมัดระวังมากขึ้น (Cautious) ตอแผนการลงทุนใหมๆ แต<br />

ก็ยังมีความเปนไปไดที่จะเห็นการเติบโตของสินเชื่อในบางกลุม<br />

โดยเฉพาะสินเชื่อรายยอย อาทิ สินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อ<br />

รถยนต (เนน duration ที่สั้น เพราะสินเชื่อที่มี Duration สูง จะ<br />

สงผลกระทบตอฐานเงินกองทุนขั้นที่ 1 มากขึ้นตามหลักเกณฑ<br />

Basel 3 เมื่ออัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น) นอกจากนี้ ยังไดรับ<br />

ปจจัยหนุนจากแนวโนมการเขาซื้อกิจการ (M&A) ที่คาดวาจะ<br />

เปนไปในเชิงรุกมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุม ธ.พ.ขนาดกลาง-เล็ก<br />

เพื่อสรางการเติบโตของธุรกิจ บวกกับความประสงคในดานของ<br />

ผูขายที่แสดงเจตจํานงคที่ชัดเจนมากขึ้น เนื่องจากตองเผชิญกับ<br />

แรงกดดันในเรื่องของตนทุนธุรกิจที่สูงขึ้นทั้งในสวนของ<br />

กฎระเบียบ (Compliance cost) การทํา Stress test การปลอยกู<br />

ดวยหลักเกณฑที่เทาเทียมกัน (Fair lending) รวมถึงหลักเกณฑ<br />

การดํารงเงินกองทุนตอสินทรัพยเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น ซึ่งลวนเปนการ<br />

สรางแรงกดดันตอ ธ.พ.ขนาดกลาง-เล็ก ใหเกิดการควบรวม<br />

กิจการมากขึ้นในกลุม<br />

ฝายวิจัยเริ่มมีมุมมองที่เปนบวกมากขึ้นตอกลุม ธ.พ.สหรัฐฯ โดย<br />

คาดหวังถึงการทยอยฟนตัวอยางตอเนื่องของแนวโนมผลการ<br />

ดําเนินงานในงวด 4Q55 และป 2556 จากสัญญาณบวกที่เกิดขึ้น<br />

ในงวด 3Q55 โดยการประกาศ EPS ของกลุม ธ.พ.ใหญ ที่ออกมา<br />

นั้นถือวาดีกวาการคาดการณของตลาดราว 4% แมจะเห็นการ<br />

ลดลงของ NIM อยางตอเนื่องจากมาตรการ QE 3 ที่เกิดขึ้น บวก<br />

กับการแขงขันดานราคาเพื่อแยงชิงลูกคาสินเชื่อที่มีคุณภาพ แต<br />

ดวยกลยุทธของ ธ.พ. สวนใหญที่เนนการเติบโตของสินเชื่อมาก<br />

ขึ้น เพื่อหักลางผลกระทบดังกลาว<br />

ทั้งนี้ ราคาหุนกลุม ธ.พ.สหรัฐฯ สวนใหญยังมี PBV และ PER<br />

ป 2556 ต่ําเพียง 0.6-1 เทา และ 9-10 เทา ตามลําดับ ดวย


upside คงเหลือเฉลี่ยราว 12% จากราคาหุนปจจุบัน ดวยการ<br />

รวบรวมขอมูลจาก Bloomberg consensus ฝายวิจัยยังคงเลือก<br />

Wells Fargo (WFC US) ซึ่งไดรับผลบวกจากการฟนตัวของ<br />

สินเชื่อเพื่อที่อยูอาศัย เปนหุน Top pick ของกลุม ธ.พ.สหรัฐฯ<br />

โดยระดับราคาหุนปจจุบันยังมี PBV และ PER ป 2556 ต่ําเพียง<br />

1.1 เทา และ 9.1 เทา ตามลําดับ<br />

60<br />

50<br />

40<br />

30<br />

20<br />

4 Jan 11<br />

9 Mar 11<br />

11 May 11<br />

BKX Index เทียบกับ S&P 500 Index<br />

15 Jul 11<br />

19 Sep 11<br />

BKX Index (LHS)<br />

21 Nov 11<br />

27 Jan 12<br />

2 Apr 12<br />

6 Jun 12<br />

9 Aug 12<br />

12 Oct 12<br />

S&P500 Index (RHS)<br />

ที่มา : Bloomberg, ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

สรุปคําแนะนําลงทุนหุ้นกลุ่ม ธ.พ. สหรัฐฯ<br />

Bloomberg Current Target<br />

1,800<br />

1,400<br />

1,000<br />

600<br />

200<br />

Rating Price (L) Price (L) % Upside 2012F 2013F 2012F 2013F<br />

American International 4.36 33.94 39.53 16.5% 0.49 0.47 9.02 9.85<br />

JPMorgan Chase & Co. 4.21 42.81 47.25 10.4% 0.84 0.78 8.55 8.13<br />

Wells Fargo & Co. 4.19 33.15 38.85 17.2% 1.20 1.10 9.90 9.12<br />

Citigroup Inc. 4.16 37.60 42.86 14.0% 0.58 0.54 10.40 8.20<br />

Morgan Stanley 3.54 18.05 20.03 11.0% 0.59 0.55 32.70 9.11<br />

Goldman Sachs Group 3.53 119.36 131.72 10.4% 0.83 0.77 10.09 9.48<br />

Bank of America Corp. 3.37 10.58 10.49 -0.9% 0.51 0.49 18.40 10.83<br />

ที่มา : Bloomberg, ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

ธ.พ.ยุโรป - ยังมีทางเลือกลงทุนที่ดีกว่าทั้งใน<br />

ธ.พ.สหรัฐและเอเซีย<br />

ดัชนีราคาหุนกลุมสถาบันการเงินของยุโรป (Eurostoxx<br />

Financials Index) ปรับตัวเพิ่มขึ้นกวา 15.1% ตั้งแตตนป 2555<br />

ถึงปจจุบัน สามารถ outperform เล็กนอยเมื่อเทียบกับ<br />

Eurostoxx Index ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 13.6% ในชวงเวลาเดียวกัน<br />

อยางไรก็ตาม หากพิจารณาเฉพาะในงวด 4Q55 (ถึงปจจุบัน) จะ<br />

เห็นวา Eurostoxx Financials Index ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง<br />

4% จากสิ้นงวด 3Q55 แมจะตอบรับขาวบวกเรื่องมาตรการ<br />

ชวยเหลือวิกฤติหนี้ยุโรปครั้งใหม แตการปรับตัวขึ้นของดัชนีกลุมฯ<br />

ยังคง underperform เมื่อเทียบกับ Eurostoxx Index ที่เพิ่มขึ้นถึง<br />

7.2% ในชวงเวลาเดียวกัน<br />

ทั้งนี้ ปจจัยกดดันจากวิกฤติสถาบันการเงินในยุโรป แมวิกฤติหนี้<br />

ในกรีซจะเริ่มคลี่คลายลงไปบางก็ตาม อีกทั้งเมื่อเร็วๆ นี้ ECB ไดมี<br />

มติใหคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไวที่ 0.75% โดยที่ไมไดมีประกาศ<br />

มาตรการกระตุนเศรษฐกิจเพิ่มเติม แตไดขยายระยะเวลาการให<br />

กูยืมเงินดอกเบี้ยต่ํากับสถาบันการเงินในยุโรปไปจนถึงเดือน ก.ค.<br />

2556 เพื่อเปนการอัดฉีดสภาพคลองเขาสูระบบ อีกทั้งยังมีการ<br />

ปรับลดคาดการณการเติบโตของเศรษฐกิจในป 2556 มาที่ -0.9%<br />

ถึง 0.3% จากเดิม -0.4% ถึง 1.4% ในขณะที่ Moody’s ไดปรับ<br />

อันดับความนาเชื่อถือของกลไกการเงินเพื่อเสถียรภาพยุโรป<br />

PBV<br />

PER<br />

(ESM) จาก Aaa เหลือ Aa1 พรอมทั้งใหแนวโนมเปนลบ ตาม<br />

อันดับความนาเชื่อของประเทศฝรั่งเศสที่ไดถูกปรับลดไปกอนหนา<br />

ดวยเหตุผลวาประเทศเยอรมนี ฝรั่งเศส อังกฤษ และเนเธอรแลนด<br />

ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจคิดเปนสัดสวนเกือบครึ่งหนึ่งของเศรษฐกิจใน<br />

EU ตองเผชิญกับความเสี่ยงมากขึ้น ซึ่งลวนเปนปจจัยลบที่กดดัน<br />

ตอสถาบันการเงินยุโรปไปอีกนานจนกวาจะสามารถดําเนินการ<br />

แกไขใหแลวเสร็จ<br />

ทั้งนี้ ฝายวิจัยยังคงมุมมองเชิงลบตอหุนกลุม ธ.พ. ยุโรป ในชวง<br />

1Q56 จากภาพรวมอุตสาหกรรมที่ยังไมสดใส ซึ่งยังคงสรางแรง<br />

กดดันอยางตอเนื่องของแนวโนมผลการดําเนินงานของกลุม ธ.พ.<br />

ยุโรป โดยเฉพาะการชะลอตัวของสินเชื่อที่ตอเนื่องมาตั้งแตชวง<br />

2H54 ซึ่งยังไมเห็นสัญญาณการฟนตัวที่ชัดเจนในขณะนี้ อีกทั้ง<br />

การกํากับดูแลธุรกิจอยางเขมงวดจากภาครัฐ โดยเฉพาะในธุรกิจ<br />

วาณิชธนกิจ ธุรกิจหลักทรัพย รวมถึงการดํารงเงินกองทุนตาม<br />

หลักเกณฑ Basel 3 นอกจากนี้ ลาสุดซึ่งที่ประชุม ครม.คลังของ<br />

ยุโรป มีมติมอบอํานาจใหแก ECB ทําหนาที่เปนคณะกรรมการ<br />

สวนกลาง เพื่อกํากับดูแลภาคธนาคารในประเทศที่ใชเงินสกุลยูโร<br />

โดยตรง ภายใตมติที่มีชื่อวา กลไกควบคุมการเงินกลางของยุโรป<br />

(SSM) สงผลให ธ.พ.ขนาดใหญที่มีสินทรัพยมากกวา 3 หมื่นลาน<br />

ยูโร ราว 200 แหง จากทั้งหมด 6 พันแหง ใน 17 ประเทศยูโรโซน<br />

ตองอยูภายใตการดูแลของ ECB โดยปริยาย ซึ่งจะมีผลตั้งแตวันที่<br />

1 มี.ค.2557 เปนตนไป ซึ่งถือเปนกาวยางสําคัญในการปูทางไปสู<br />

การจัดตั้งสหภาพการธนาคารแหงยุโรป (Union Bank) เพื่อ<br />

ควบคุมวินัยของสถาบันการเงิน และจัดสรรงบประมาณของ<br />

สมาชิกอยางมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นตามแผนแกไขวิกฤติหนี้ที่ยังคง<br />

ยืดเยื้อมานานกวา4 ปแลว<br />

350<br />

300<br />

250<br />

200<br />

150<br />

100<br />

0 Jan 00<br />

Eurostoxx Financial Index เทียบกับ Eurostoxx Index<br />

14 Feb 11<br />

28 Mar 11<br />

11 May 11<br />

22 Jun 11<br />

3 Aug 11<br />

14 Sep 11<br />

26 Oct 11<br />

7 Dec 11<br />

19 Jan 12<br />

1 Mar 12<br />

16 Apr 12<br />

28 May 12<br />

9 Jul 12<br />

20 Aug 12<br />

1 Oct 12<br />

12 Nov 12<br />

Eurostoxx Financials (Price) EUR (LHS)<br />

ที่มา : Bloomberg, ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

Eurostoxx Index (RHS)<br />

สรุปคําแนะนําลงทุนหุ้นกลุ่ม ธ.พ. ยุโรป<br />

Bloomberg Current Target<br />

3,500<br />

3,000<br />

2,500<br />

2,000<br />

1,500<br />

1,000<br />

Rating Price (L) Price (L) % Upside 2012F 2013F 2012F 2013F<br />

BNP PARIBAS (EUR) 4.31 43.92 47.53 8.2% 0.72 0.68 8.06 8.13<br />

UBS AG-REG (CHF) 4.17 15.04 16.09 7.0% 1.10 1.09 17.49 13.56<br />

HSBC HLDGS PLC (GBp) 4.05 641.60 674.80 5.2% 0.56 0.66 7.22 6.45<br />

BARCLAYS PLC (GBp) 3.77 255.60 271.08 6.1% 0.58 0.55 7.16 6.85<br />

STANDARD CHARTER (GBp) 3.76 1,497.50 1,611.64 7.6% 0.83 0.77 7.02 6.36<br />

SOC GENERALE (EUR) 3.47 29.25 29.48 0.8% 0.51 0.49 9.77 7.69<br />

CREDIT SUISS-REG (CHF) 3.31 22.65 22.91 1.1% 0.82 0.83 12.29 9.04<br />

DEUTSCHE BANK-RG (EUR) 3.29 32.70 35.85 9.6% 0.54 0.51 8.70 7.38<br />

CREDIT AGRICOLE (EUR) 3.00 5.95 6.22 4.4% 0.35 0.33 n.m. 5.71<br />

COMMERZBANK (EUR) 2.40 1.43 1.39 -2.6% 0.35 0.33 12.20 9.77<br />

BANKIA SA (EUR) 1.38 0.69 0.37 -46.4% 0.15 0.11 n.m. 9.20<br />

ที่มา : Bloomberg, ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

PBV<br />

PER<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 55


ธ.พ.ไทย – ปีทอง 2556 รับอานิสงค์การ<br />

ลงทุนใหญ่ในประเทศ<br />

ฝายวิจัยคาดแนวโนมการเติบโตของสินเชื่อสุทธิป 2556 ของกลุม<br />

ธ.พ. จะเปนไปในทิศทางบวกตอเนื่อง ที่ระดับ 13.6%yoy<br />

สอดคลองกับการเติบโตของ GDP ป 2556 จากการคาดการณ<br />

ของสภาพัฒนฯ ลาสุดที่ระดับ 4-5% ดวยปจจัยขับเคลื่อนจาก<br />

แนวโนมการลงทุนภาครัฐที่คาดวาจะเปนไปในทิศทางที่เรงตัว<br />

มากขึ้นเมื่อเทียบกับป 2555 (คาดการณการเติบโตป 2556 ลาสุด<br />

โดยสภาพัฒนฯ เทากับ 7%yoy แตอาจสูงกวานี้ เนื่องจากการ<br />

ลงทุนที่ลาชาซึ่งมีความเปนไปไดที่จะต่ํากวาเปาในป 2555<br />

ที่ประเมินไว 8.1%yoy โดยเฉพาะโครงการลงทุนภายใตแผนการ<br />

บริหารจัดการน้ําระยะเรงดวนยังคอนขางลาชา ทําใหสงผล<br />

กระทบตอความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและนักลงทุน) จากการ<br />

เบิกจายงบประมาณ และการดําเนินการตามโครงการลงทุน<br />

สําคัญๆ ของภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ อีกทั้งแนวโนมการเรงรัด<br />

เบิกจายงบประมาณลงทุนของภาครัฐ (งบประมาณรายจาย<br />

ประจําป 2555 ยังมียอดคงคางที่ยังไมไดเบิกจายถึง 2.3 แสนลาน<br />

บาท หรือคิดเปนเพียง 90.3% ของวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น 2.38<br />

แสนลานบาท สวนใหญเกิดจากความลาชาในการใชจายเงิน<br />

งบประมาณในสวนของรายจายเพื่อการลงทุน รวมถึงยังมีเม็ดเงิน<br />

จาก พรก.ใหอํานาจกระทรวงการคลังกูเงินจํานวน 3.5 แสนลาน<br />

บาท ซึ่งยังมีการเบิกจายคอนขางต่ํา) ซึ่งจะชวยชดเชยการชะลอ<br />

ตัวของภาคการสงออกในป 2556 จากผลกระทบของเศรษฐกิจ<br />

โลกที่ชะลอตัวลง ขณะที่แนวโนมการลงทุนของภาคเอกชนใน<br />

ป 2556 คาดวายังเห็นการเติบโตในระดับสูงใกลเคียงกับป 2555<br />

ที่ 7.7%yoy (คาดการณโดยสภาพัฒนฯ ลาสุด) ซึ่งเปนโครงการ<br />

การลงทุนที่ไดรับผลบวกตอเนื่องจากการลงทุนของภาครัฐ อาทิ<br />

กลุมรับเหมากอสราง และวัสดุกอสราง เปนตน นอกจากนี้ ยังเห็น<br />

โครงการลงทุนเพื่อฟนฟูกําลังการผลิตของภาคอุตสาหกรรมที่มี<br />

ความลาชาตั้งแตชวง 1H55 ที่ผานมา รวมถึงการลงทุนเพื่อยาย<br />

ฐานการผลิตในประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากปญหาอุทก<br />

ภัย นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนใหมๆ ของภาคเอกชนที่ยังมีแนวโนม<br />

การขยายตัวที่ดี สะทอนไดจากเม็ดเงินของโครงการลงทุนทีขอรับ<br />

สนับสนุนการลงทุนจาก BoI ในชวง 9M55 เติบโตถึง 51.9% จาก<br />

สิ้นป 2554 จากที่หดตัวตอเนื่องในชวง 3 ปที่ผานมา<br />

สัญญาณบวกของภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศที่ยังเห็นตอเนื่อง<br />

ในป 2556 จะชวยผลักดันความตองการสินเชื่อจาก ธ.พ.ไทยให<br />

เติบโตอยางแข็งแกรงในชวง 4Q55 และป 2556 โดยฝายวิจัยคาด<br />

แนวโนมการเติบโตของสินเชื่อสุทธิในชวง 4Q55 ถึง 4.4%qoq<br />

(จากชวง 9M55 ที่เติบโตไปแลวถึง 9.4% จากสิ้นป 2554) ทําให<br />

คาดการณการเติบโตของสินเชื่อสุทธิโดยรวมทั้งป 2555 เพิ่มขึ้นสู<br />

ระดับ 13.9%yoy และตอเนื่องอีก 13.6%yoy ในป 2556 จาก<br />

ความตองการสินเชื่อในกลุมสินเชื่อรายใหญทั้งภาครัฐและเอกชน<br />

(สัดสวน 43% ของสินเชื่อรวม) จากการเบิกใชสินเชื่อที่ไดทยอย<br />

อนุมัติไปในชวงที่ผานมา ซึ่งถือเปนการลงทุนที่ยังอยูในชวง<br />

วัฎจักรการลงทุนใหญของประเทศหรือ Capex cycle โดยในสวน<br />

ของการเติบโตของสินเชื่อภาครัฐนั้น จะไดรับอานิสงคจากการ<br />

เรงรัดเบิกจายงบประมาณและเรงรัดการดําเนินการตามแผนฟนฟู<br />

และสรางอนาคตของประเทศดังกลาวขางตน ขณะที่การเติบโต<br />

ของสินเชื่อรายใหญภาคเอกชนก็จะไดรับผลบวกจากธุรกิจที่<br />

56 Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

เกี่ยวเนื่องกับการลงทุนภาครัฐ รวมถึงการเตรียมพรอมของ<br />

ผูประกอบการเพื่อรองรับการเปดเสรีประชาคมอาเซียน (AEC) ใน<br />

ป 2558 โดยการขยายขนาดธุรกิจขยายการลงทุนไปใน<br />

ตางประเทศ รวมถึงความตองการสินเชื่อสําหรับการเขาซื้อกิจการ<br />

ในตางประเทศ โดยเฉพาะในทวีปยุโรปและสหรัฐฯ ในชวงที่คาเงิน<br />

บาทแข็งคาอยางตอเนื่อง โดยฝายวิจัยคาดการณการเติบโตของ<br />

สินเชื่อสุทธิเฉลี่ยของกลุมสินเชื่อรายใหญที่ระดับเฉลี่ย 1-1.5 เทา<br />

ของ GDP หรือราว 4-7.5%yoy<br />

โครงสร้างสินเชื่อของกลุ่ม ธ.พ. ณ สิ้นงวด 9M55<br />

ลานบาท Corporate SME Retail Corporate SME Retail สินเชื่อรวม<br />

BAY 26% 26% 48% 203,813 203,813 376,270 783,895<br />

BBL 63% 26% 11% 976,669 403,070 170,530 1,550,269<br />

KBANK 44% 36% 20% 566,412 463,428 257,460 1,287,299<br />

KTB 53% 20% 27% 805,683 304,031 410,442 1,520,157<br />

SCB 39% 19% 42% 581,117 283,108 625,818 1,490,043<br />

TMB 49% 32% 19% 213,429 139,382 82,758 435,570<br />

LHBANK 0% 61% 39% - 44,184 28,249 72,432<br />

TCAP 22% 10% 68% 154,635 70,289 477,963 702,886<br />

KK 12% 11% 77% 19,183 17,584 123,089 159,856<br />

TISCO 18% 9% 73% 41,078 20,539 166,595 228,212<br />

Industry 43% 24% 33% 3,562,019 1,949,428 2,719,173 8,230,620<br />

ที่มา : รวบรวมโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

สัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก (รวมและไม่รวม B/E) ของ ธ.พ.ทั้งระบบ<br />

สิ้นสุดเดือน ต.ค.55<br />

120%<br />

110%<br />

100%<br />

90%<br />

80%<br />

70%<br />

60%<br />

50%<br />

93%<br />

87% 88%<br />

96% 94%<br />

86%<br />

100%<br />

108%<br />

88% 90%<br />

95% 95%<br />

91%<br />

ธ.ค.50 ธ.ค.51 ธ.ค.52 ธ.ค.53 ธ.ค.54 ส.ค.55 ก.ย.<br />

2555<br />

LDR<br />

ที่มา : รวบรวมโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

91%<br />

LDR + B/E (RHS)<br />

ต.ค.<br />

2555<br />

95%<br />

91%<br />

สภาพคล่องเริ่มผ่อนคลาย...แรงกดดันจาก<br />

ดอกเบี้ยลดจะทําให้ NIM สะดุดช่วงสั้น<br />

แรงกดดันจากทิศทางอัตราดอกเบี้ยในระบบที่ปรับตัวลดลง เริ่ม<br />

กลับมาสรางความกังวลตอศักยภาพการทํากําไรจากสวนตางของ<br />

อัตราดอกเบี้ย (NIM) ของกลุม ธ.พ. อีกครั้ง จากลาสุดที่<br />

คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติใหปรับลดอัตรา<br />

ดอกเบี้ยนโยบาย (RP 1 วัน) ลง 0.25% เหลือ 2.75% ไปเมื่อวันที่<br />

17 ต.ค.2555 ที่ผานมา เนื่องจากความกังวลที่มีมากขึ้นในเรื่อง<br />

ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว ตอภาวะเศรษฐกิจ<br />

ของไทย ดวยการใชมาตรการผอนคลายดานอัตราดอกเบี้ยเปนไป<br />

ในทิศทางที่สอดคลองกับในหลายๆ ประเทศทั่วโลก บวกกับความ<br />

คาดหวังของ ธปท. ตอการกระตุนภาวะเศรษฐกิจในประเทศ<br />

โดยเฉพาะความตองการของผูบริโภค รวมถึงแนวโนมการลงทุนที่<br />

คาดวาจะเห็นการฟนตัวจากปจจัยหนุนในเรื่องภาวะอัตรา


ดอกเบี้ยในประเทศที่อยูในระดับต่ํา โดยที่ ธ.พ. ใหญ ไดแก BBL<br />

ถือเปนผูนํารองการประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก-กูลงใน<br />

รอบนี้ โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกูทุกประเภทลง 0.125%<br />

ขณะที่ดานเงินฝาก แมจะปรับลดลงมากกวาการปรับลดอัตรา<br />

ดอกเบี้ยเงินกู แตก็เปนการปรับลดในสวนของอัตราดอกเบี้ยเงิน<br />

ฝากประจําตั้งแต 3 เดือนขึ้นไปในอัตรา 0.125-0.50% โดยที่ยังคง<br />

อัตราดอกเบี้ยเงินฝากออมทรัพยไวเทาเดิมที่ 0.75% ตามดวย<br />

SCB KBANK และ BAY ซึ่งปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกูลง<br />

0.125% เฉพาะ MLR แตยังคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู MOR และ<br />

MRR ขณะที่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจําในอัตราที่<br />

ใกลเคียงกับ BBL ถือวาสวนทางกับการคาดการณของตลาด<br />

ในชวงที่ผานมา แมวาสภาพคลองในระบบจะเริ่มผอนคลายมาก<br />

ขึ้น แตก็เนื่องมาจากการระดมเงินฝากเชิงรุกของ ธ.พ. ดังกลาวใน<br />

ขางตน ยังไมไดเปนผลจากความตองการสินเชื่อที่ชะลอตัวลง จึง<br />

ทําใหเปนภาระตอตนทุนดอกเบี้ยจายที่ปรับตัวสูงขึ้นอยูในขณะนี้<br />

โดยการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก-กูนั้น จะสงผลกระทบตอ<br />

NIM ของ ธ.พ. ทันทีในงวด 4Q55 เนื่องจากการปรับลดอัตรา<br />

ดอกเบี้ยเงินกูจะสงผลกระทบตอรายไดดอกเบี้ยรับและ Yield ของ<br />

เงินใหสินเชื่อทันที จากการที่ ธ.พ. มีโครงสรางสินเชื่อที่เปนอัตรา<br />

ดอกเบี้ยลอยตัวเฉลี่ยราว 73% ของสินเชื่อรวม (ที่เหลือเปนอัตรา<br />

ดอกเบี้ยคงที่) ขณะที่ดานเงินฝากนั้น สัดสวนของเงินฝากที่เปน<br />

อัตราดอกเบี้ยลอยตัวถึง 53% นั้นไมไดมีการปรับลดลงแตอยาง<br />

ใด โดยปรับลดเฉพาะอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจําที่มีสัดสวนต่ํา<br />

กวาหรือเพียง 47% ของเงินฝากรวม ซึ่งจะคอยๆ ทยอยปรับลดลง<br />

เมื่อครบกําหนดระยะเวลา ฝายวิจัยจึงคาดวาผลกระทบจะเกิดขึ้น<br />

ชัดเจนตอ NIM ในงวด 4Q55 ทั้งนี้ จากการทํา Sensitivity<br />

analysis ผลกระทบตอ NIM ของ ธ.พ.ทั้ง 10 แหงที่ศึกษา กรณีที่<br />

อัตราดอกเบี้ยลดลงทุกๆ 12.5bp จะเห็นวา ธ.พ.ที่คาดวาจะไดรับ<br />

ผลกระทบมากที่สุดเรียงตามลําดับจากมากไปนอยคือ KBANK,<br />

TMB, KTB, BBL และ SCB ภายใตสมมติฐานที่กําหนดใหอัตรา<br />

ดอกเบี้ยเงินกูลดลงทุกประเภท และอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลดลง<br />

เฉพาะเงินฝากประจํา โดย ธ.พ.ที่คาดวาจะไดรับผลบวกจากการ<br />

ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเรียงตามลําดับจากมากไปนอยคือ TISCO,<br />

KK, TCAP, LHBANK และ BAY<br />

แนวโน้มกําไร 4Q55 อ่อนตัว QoQ แต่จะ<br />

กลับมาเติบโตอีกครั้งใน 1Q56<br />

ฝายวิจัยประเมินวาทิศทางกําไรของกลุม ธ.พ. ในชวง 4Q55 จะ<br />

ออนตัวลง QoQ สะทอนไดจากกําไรสุทธิ งวด 9M55 ของกลุมฯ ที่<br />

คิดเปนสัดสวนถึง 77% ของประมาณการกําไรสุทธิป 2555 ที่คาด<br />

แตเนื่องจากแนวโนมกําไร 4Q55 ที่คาดวาจะออนตัวลง 14.9%<br />

qoq แตยังเติบโต 78.9%yoy (เพราะงวด 4Q54 ไดรับผลกระทบ<br />

จากเหตุการณน้ําทวม สงผลใหคาใชจายสํารองหนี้ฯ ปรับตัวขึ้น)<br />

เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของคาใชจายดําเนินงานในชวงฤดูกาล และ<br />

การเพิ่มขึ้นของคาใชจายสํารองหนี้ฯ ของ KTB ซึ่งจะปรับตัวสูงขึ้น<br />

ในชวง 4Q อยางไรก็ตาม ฝายวิจัยประเมินวาแนวโนมกําไรสุทธิ<br />

ของกลุมฯ จะกลับมาเติบโตอีกครั้งในงวด 1Q56 หนุนดวยกําไร<br />

จากการดําเนินงานที่ยังเติบโตตอเนื่อง ขณะที่การตั้งสํารองหนี้ฯ<br />

คาดวาจะปรับตัวลดลงสูระดับนโยบายปกติ เชนเดียวกับ<br />

คาใขจายดําเนินงานที่คาดวาจะปรับตัวลดลงภายหลังผานพน<br />

ชวงฤดูกาลไปแลว<br />

สัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก (รวมและไม่รวม B/E) ของ ธ.พ.ทั้งระบบ<br />

สิ้นสุดเดือน ต.ค.2555<br />

50,000<br />

45,000<br />

40,000<br />

35,000<br />

30,000<br />

25,000<br />

20,000<br />

15,000<br />

10,000<br />

5,000<br />

0<br />

ล านบาท<br />

1Q55<br />

1Q54<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

2Q55<br />

Top picks ยังชอบ KBANK, TCAP<br />

2Q54<br />

ฝายวิจัยใหน้ําหนักการลงทุนมากกวาตลาด สําหรับหุนกลุม ธ.พ.<br />

แมราคาหุนกลุม ธ.พ.ไทย ในปจจุบันจะมี PBV ป 2555 ที่ ระดับ<br />

1.8 เทา สูงกวาคาเฉลี่ยภูมิภาคที่ 1.5 เทาเล็กนอย แตเมื่อ<br />

เปรียบเทียบกับหุนกลุม ธ.พ. ชั้นนําในประเทศอินโดนีเซีย<br />

มาเลเซียและฟลิปปนส ซึ่งมี PBV ป 2555 สูงเกิน 2 เทา ดวย<br />

ปจจัยหนุนจากการเติบโตอยางแข็งแกรงของ GDP จากการลงทุน<br />

ภาครัฐ เชนเดียวกับ ธ.พ.ไทย ฝายวิจัยจึงมีความเห็นวาราคาหุน<br />

กลุม ธ.พ.ไทย สมควรที่จะ re-rate ฐานราคาขึ้นไปเทียบเทากับ<br />

ธ.พ.ชั้นนําในภูมิภาคไดไมยาก โดยเฉพาะ ธ.พ.ใหญ โดยฝายวิจัย<br />

เลือก KBANK (ซื้อ: Fair value 237.33 บาท) และ TCAP<br />

(ซื้อ: Fair value 49.14 บาท) เปนหุน Top picks ของกลุมฯ<br />

คําแนะนํา<br />

ราคาปด<br />

(บาท)<br />

3Q55<br />

3Q54<br />

สรุปคําแนะนําลงทุนในหุ้นกลุ่ม ธ.พ.<br />

Fair value<br />

(บาท)<br />

ป 2556<br />

Upside<br />

(%)<br />

4Q55F<br />

ป 2556<br />

4Q54<br />

EPS<br />

Div Yield<br />

PER (x) PBV (x)<br />

(บาท)<br />

(%)<br />

BAY ซื้อ 30.75 1.91 38.00 24% 2.67 11.5 1.5 3.9% 14.0%<br />

BBL ซื้อ 197.00 1.58 245.00 24% 20.78 9.5 1.3 3.6% 11.6%<br />

KBANK ซื้อ 193.50 2.70 237.33 23% 18.23 10.6 2.2 2.1% 22.3%<br />

KTB ซื้อ 19.30 1.69 23.69 23% 2.13 9.1 1.4 4.4% 15.9%<br />

SCB ซื้อ 178.50 2.89 213.42 20% 13.65 13.1 2.4 2.5% 22.0%<br />

TMB ถือ 1.88 1.32 1.78 -5% 0.11 16.7 1.4 1.8% 8.6%<br />

LHBANK ซื้อ 1.36 1.47 1.75 28% 0.06 21.4 1.1 2.3% 6.7%<br />

KK ซื้อ 47.75 1.31 51.10 7% 5.36 8.9 1.1 6.3% 12.3%<br />

TCAP ซื้อ 36.75 1.21 49.14 34% 4.79 7.7 0.9 4.1% 29.2%<br />

TISCO ถือ 52.00 1.94 52.00 0% 5.90 8.8 1.9 5.2% 23.1%<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

3.50<br />

3.00<br />

2.50<br />

2.00<br />

1.50<br />

1.00<br />

0.50<br />

0.00<br />

X<br />

2.91<br />

INDONESIA<br />

2.46<br />

2.36<br />

PHILIPPINES<br />

2.14<br />

Target<br />

PBV (X)<br />

PBV ของหุ้นกลุ่ม ธ.พ. ไทยเทียบกับภูมิภาค<br />

ที่มา : Bloomberg/ ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

2.30<br />

MALAYSIA<br />

2.09<br />

1.98<br />

THAILAND<br />

1.79<br />

1.74<br />

AUSTRALIA<br />

1.66<br />

PBV 2555F<br />

1.68<br />

INDIA<br />

1.49<br />

PBV 2556F<br />

1.33<br />

SINGAPORE<br />

1.24<br />

1.33<br />

HONG KONG<br />

1.20<br />

1.20<br />

CHINA<br />

1.02<br />

Average 2556F = 1.59 X<br />

0.94<br />

TAIWAN<br />

0.89<br />

0.67<br />

JAPAN<br />

0.63<br />

0.61<br />

S. KOREA<br />

0.56<br />

ROE<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 57


กลุ่ม หลักทรัพย์<br />

น้ําหนัก น้อยกว่าตลาด<br />

ปี 2556 บล.เร่งแข่งขันหารายได้เสริมธุรกิจหลัก<br />

4Q55 กําไร บล.ยังดี จากภาวะตลาดสดใสเกินคาด<br />

2556 อาจเห็นการควบรวมของ บล.ลดลงหลังมีการจับคู่กันส่วนใหญ่<br />

คงน้ําหนัก “น้อยกว่าตลาด” ความสามารถในการทํากําไรมีความผันผวนสูง<br />

4Q55 กําไรยังดี จากภาวะตลาดสดใสเกินคาด<br />

จากการไหลเขาของ Fund Flow หลังประกาศมาตรการ QE3 และ<br />

QE4 ของสหรัฐอเมริกา ทําให Volume ตลาด (ไมรวม Prop Trade)<br />

ในงวด 4Q55 (1 ต.ค. – ปจจุบัน 17 ธ.ค. 2555) เพิ่มขึ้น 20.6%qoq<br />

มาอยูที่ระดับเฉลี่ย 32,900 ลานบาทตอวัน ซึ่งจะชวยหนุนใหรายได<br />

คานายหนาจากการซื้อขายหลักทรัพยของบริษัทหลักทรัพย (บล.) ใน<br />

งวดดังกลาวมีแนวโนมดีขึ้นตาม ขณะที่ธุรกิจอื่นๆของ บล.ที่ถือเปน<br />

รายไดสําคัญ อาทิ รายไดคานายหนาจากการซื้อขายตราสารอนุพันธ<br />

คาดวาจะมีแนวโนมทรงตัวจากงวด 3Q55 เนื่องจากปริมาณการซื้อ<br />

ขายเฉลี่ยตั้งแตตนงวด 3Q55 จนถึงปจจุบัน (14 ธ.ค. 2555) อยูที่<br />

ระดับ 4.35 หมื่นสัญญาตอวัน ซึ่งคาดวาชวงที่เหลือกอนสิ้นไตรมาส<br />

จะเพิ่มขึ้นมาใกลเคียงกับงวด 3Q55 ที่ระดับ 4.5 หมื่นสัญญาได<br />

นอกจากนี้ ดวยภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศที่ยังเติบโตตอเนื่อง<br />

หนุนธุรกิจ IB คาดจะมีหุน IPO ที่เขาเทรดทันกอนสิ้นปในงวด 4Q55<br />

ราว 8-9 บริษัท ทําใหคาดรายไดจากธุรกิจ IB ในงวด 4Q55 จะทรง<br />

ตัวจากงวด 3Q55 เชนกัน<br />

20.00%<br />

15.00%<br />

10.00%<br />

5.00%<br />

0.00%<br />

-5.00%<br />

การเคลื่อนไหวของ SET ในปี 2555 รายไตรมาส<br />

16.72%<br />

1,196.77<br />

1,172.11<br />

58 Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

1,298.79<br />

10.81%<br />

1,359.09<br />

4.64%<br />

-2.06%<br />

1Q55 2Q55 3Q55 4Q55 (QTD)<br />

ที่มา : SETSMART และ ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

1,400<br />

1,350<br />

1,300<br />

1,250<br />

1,200<br />

1,150<br />

1,100<br />

1,050<br />

แตอยางไรก็ตาม เนื่องจากดัชนีตลาดฯ ปรับตัวขึ้นถึง 10.8% ในชวง<br />

งวด 3Q55 โดยขึ้นมาอยูที่ระดับ 1,298 จุด ณ สิ้นงวด ขณะที่ลาสุด<br />

ณ วันที่ 17 ธ.ค. 2555 ดัชนีอยูที่ 1,359 จุด เพิ่มขึ้นจากสิ้นงวด<br />

3Q55 เพียง 4.6% สงผลใหคาดกําไรจากพอรตลงทุนของโบรกเกอร<br />

อาจจะไมสดใสเทาไตรมาสกอนหนา นอกจากนี้ คาดในงวด 4Q55<br />

จะมีการบันทึกโบนัสพนักงานและคาตอบแทนพิเศษสําหรับผูบริหาร<br />

สูงกวาปกติ จะกดดันกําไรสุทธิของ บล.ในงวด 4Q55 ใหออนตัวลง<br />

จากงวด 3Q55 และเปนผลทําใหกําไรทั้งป 2555 มีแนวโนมลดลง<br />

จากปกอนหนา<br />

2556 อาจเห็นการควบรวม บล.ลดน้อยลง<br />

การเปดเสรีคาคอมมิชชั่นอยางเต็มรูปแบบในป 2555 และการเปด<br />

เสรีทางการเงินของประชาคมอาเซียน (AEC) ในป 2558 ทําใหในป<br />

2555 บล.หลายแหงเรงปรับตัว โดยการเพิ่มรายไดจากแหลงอื่นที่<br />

มิใชคานายหนาจากการซื้อขายหลักทรัพย และเพิ่มศักยภาพในการ<br />

แขงขันผานการควบรวม (M&A) เพื่อขยายฐานเงินลงทุนและสวน<br />

แบงตลาด โดยที่ผานมามีดีลใหญๆ อาทิเชน KK ประกาศควบรวม<br />

กิจการกับ บล.ภัทร (PHATRA) เพื่อดําเนินธุรกิจรวมกัน ผานการ<br />

แลกหุนในอัตราสวน 0.9135 หุน KK ตอ 1 หุน PHATRA และไดเพิก<br />

ถอน PHATRA ออกจากตลาดฯ แลวในชวงไตรมาส 3 นอกจากนี้ยัง<br />

มี บล.ขนาดเล็กอีก 2 บริษัท คือ บล.ซีไอเอ็มบี อินเตอรเนชั่นแนล<br />

(CIMBI) ซึ่งถูกประกาศทําคําเสนอซื้อจาก CSI ประเทศมาเลเซีย<br />

และสงทายปดวย บล.โอเอสเค (OSK) ถูกประกาศทําคําเสนอซื้อ<br />

และดําเนินการเพิกถอนออกจากตลาดฯ จาก อารเอชบี แคปตอล<br />

เบอรฮาด (RHB Capital) ประเทศมาเลเซีย โดยฝายวิจัยคาดในป


2556 จะเห็นการควบรวมระหวาง บล.นอยลง เนื่องจากปจจุบัน บล.<br />

สวนใหญสามารถจับคูกับพันธมิตร ที่มีความเชี่ยวชาญในดานที่<br />

แตกตางกันเปนที่เรียบรอยแลว สวน บล.ที่ยังไมสามารถหาพันธมิตร<br />

ได ตองพยายามหาทางสรางรายไดจากแหลงอื่นที่มิใชคานายหนาฯ<br />

เพื่อเพิ่มความแข็งแกรงในการทําธุรกิจภายใตการแขงขันที่รุนแรงขึ้น<br />

ตอไป<br />

บริษัทหลักทรัพย์ที่มีการ M&A ในปี 2555<br />

ที่มา : บริษัท และ ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

ธุรกิจวาณิชธนกิจ จะเติบโตโดดเด่นต่อเนื่อง<br />

ตลอดทั้งป 2555 เปนปที่กระแสหุนไอพีโอคึกคัก พบวานับตั้งแตตนป<br />

จนถึงปจจุบัน มีหุนเขาจดทะเบียนในตลาดฯ จํานวน 24 หลักทรัพย<br />

แบงเปน ตลาดหลักทรัพย 8 บริษัท ตลาดหลักทรัพยเอ็มเอไอ 10<br />

บริษัท กองทุน 6 กองทุน โดยภาพรวมแลวถือวาไดรับการตอบรับ<br />

จากนักลงทุนเปนอยางดี เนื่องจากไดรับปจจัยหนุนจากดัชนีหุนที่<br />

ปรับตัวขึ้นอยางรอนแรง สวนแนวโนมหุนไอพีโอ ที่จะเขาจดทะเบียน<br />

ในป 2556 นั้น นาจะคึกคักอยางตอเนื่อง เพราะชวงตน ธ.ค.2555 มี<br />

บริษัทยื่นไฟลิ่งกับ ก.ล.ต. เพื่อขอเตรียมเขาจดทะเบียนตลาด<br />

หลักทรัพย 7 บริษัท ตลาดหลักทรัพยเอ็มเอไอ 11 บริษัท และ 3<br />

กองทุน ในป 2556 ทําใหคาดวาตลอดทั้งป 2556 นาจะมีดีลอีกไมต่ํา<br />

กวา 20 บริษัท สงผลใหมูลคาการระดมทุนผานหุนไอพีโอในป 2556<br />

คาดจะสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปนี้อยางแนนอน<br />

รายชื่อบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์งวด 4Q55<br />

บริษัท<br />

CSI<br />

RHB Capital<br />

จํานวนหุน<br />

(ลานหุน)<br />

CIMBI<br />

OSK<br />

CSI<br />

RHB Capital<br />

คาด<br />

เสนอขาย ที่ปรึกษาการเงิน ผูจัดจําหนายและรับประกัน<br />

้<br />

วีจีไอ โกลบอล มีเดีย 88.0 4Q55 บล.ทิสโก บล.ทิสโกและ บล.บัวหลวง SET<br />

ที.เอ็ม.ซี.อุตสาหกรรม 90.0 4Q55 ฟนเน็กซแอดไวเซอรี่ บล.ฟนันเซีย ไซรัส MAI<br />

ดับบลิวเอชเอ คอรปอเรชั่น 129.4 4Q55 บล.กสิกรไทย ธ.ไทยพาณิชย บล.กสิกรไทย ธ.ไทยพาณิชย SET<br />

ทีเอส ฟลาวมิลล 85.0 4Q55 บล.เอเซีย พลัส บล.เอเซีย พลัส MAI<br />

เจ เอ็ม ทีเน็ทเวอรค เซอรวิสเซ็ส 75.0 4Q55 บล.เอเซีย พลัส บล.เอเซีย พลัส SET<br />

อนันดา ดีเวลลอปเมนท 1,333.0 4Q55 บล.บัวหลวง บล.บัวหลวง และ บล.เคทีซีมิโก SET<br />

บิวตี้คอมมูนิตี<br />

82.5 4Q55 บล.ฟลลิป บล.ฟลลิป SET<br />

ดีเอ็นเอ 2002 80.0 4Q55 ฟนเน็กซแอดไวเซอรี่ บล.คันทรี่กรุป MAI<br />

แอรโรวซินดิเคท 50.0 4Q55 บล.ฟลลิป บล.ฟลลิป<br />

ที่มา :SET และ ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

MAI<br />

ความเสี่ยงจากพอร์ตจะเป็นตัวกดดันกําไร<br />

จากการเปดเสรีคาคอมฯ ตั้งแตชวงตนป 2555 แมสงผลกระทบทําให<br />

อัตราคาคอมฯสุทธิของ บล.ออนตัวลง แตฝายวิจัยเชื่อวานับจากนี้<br />

จนถึงป 2556 ผลกระทบนาจะอยูในระดับที่จํากัด เนื่องจากปจจุบัน<br />

คาคอมฯลดลงมาต่ํามากแลวจาก 0.173% ณ สิ้นป 2554 เหลือเพียง<br />

ราว 0.155% ทั้งนี้คาคอมฯที่ออนตัวลง คาดจะไดรับชดเชยจาก<br />

Volume ที่จะสามารถทรงตัวไดในระดับเฉลี่ย 26,000 ลานบาทตอ<br />

วัน (ไมรวม Prop Trade) และทําใหสุทธิแลวรายไดคานายหนาจาก<br />

การซื้อขายหลักทรัพยของ บล. ในป 2556 จะออนตัวลงกวาป 2555<br />

เพียงเล็กนอย นอกจากนี้ ตลอดทั้งป 2555 ดัชนี SET มีการปรับตัว<br />

ขึ้นอยางตอเนื่องจนถึงปจจุบัน ราว 33% ตามการฟนตัวของบริษัท<br />

จดทะเบียนหลังผานพนวิกฤติน้ําทวมปลายป 2554 และสภาพคลอง<br />

โลกที่เพิ่มขึ้น จากการอัดฉีดเงินเขาสูระบบ ของธนาคารกลางหลาย<br />

แหงทั่วโลก อยางไรก็ตามฝายวิจัยประเมินเบื้องตนวา กําไรจาก<br />

พอรตลงทุน ในป 2556 นามีโอกาสหดตัวลงจากป 2555 อยางมีนัยฯ<br />

เนื่องจากโอกาสที่ดัชนี SET จะปรับตัวขึ้นมากเหมือนป 2555 คง<br />

เปนไปไดอยางลําบาก อีกทั้งยังมีประเด็นความเสี่ยงที่ตองติดตาม<br />

เกี่ยวกับการแกปญหา Fiscal Cliff โอกาสทํากําไรจากพอรตจึงขึ้นอยู<br />

กับความสามารถในการบริหารของแตละ บล.เปนหลัก ขณะที่รายได<br />

จากธุรกิจ IB ยังคงมีแนวโนมเติบโตตอเนื่อง ตามภาวะเศรษฐกิจ<br />

ภายในประเทศและภูมิภาคเอเชีย ที่เติบโตไดดีไปจนถึงชวง 1H56<br />

อีกทั้งคาดวาการเปดเสรีประชาคมอาเซียน จะเปนปจจัยเรงให<br />

บรรดาบริษัททั้งหลายเรงปรับตัวสรางความแข็งแกรงทางธุรกิจ ซึ่งจะ<br />

ชวยหนุนใหเกิดการระดมทุนผานตลาดหลักทรัพย และมีการควบ<br />

รวมกับกิจการอื่นมากขึ้น ซึ่งคาดวานาจะสามารถชดเชยรายไดคา<br />

นายหนาฯ และพอรตลงทุนที่ออนตัวลงไดบางสวน กดดันใหกําไร<br />

สุทธิของ บล. ในป 2556 ออนตัวลงจากป 2555 ราว 5.7%yoy<br />

กําไรสุทธิของกลุมฯ (ลานบาท)<br />

3,500<br />

3,000<br />

2,500<br />

2,000<br />

1,500<br />

1,000<br />

500<br />

-<br />

1,793<br />

2550<br />

กําไรสุทธิของ บล. รายปี<br />

561<br />

2551<br />

1,678<br />

2552<br />

ที่มา :SETSMART และ ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

ไร้ปัจจัยบวกหนุนคงน้ําหนัก“น้อยกว่าตลาด”<br />

ฝายวิจัยยังคงน้ําหนักการลงทุน “นอยกวาตลาด” เพื่อสะทอน<br />

ประสิทธิภาพในการทํากําไรของธุรกิจที่มีแนวโนมลดลงตอเนื่อง โดย<br />

คาดวา บล.ที่จะสามารถรักษาระดับผลประกอบการใหประคองตัว<br />

อยูได คือ บล.ที่มีสวนแบงการตลาดสูง มีพอรตการลงทุนของบริษัทที่<br />

ไมผันผวน สามารถหางานดานวาณิชธนกิจไดอยางตอเนื่อง และให<br />

ผลตอบแทนจากเงินปนผลสูง แตหากพิจารณาหุนรายตัว สวนใหญ<br />

ราคาตลาดใกลเคียงกับ Fair Value ป 2556 แลว จึงแนะนําเพียง<br />

“ถือ” เกือบทุกบริษัท โดยมีบางบริษัทที่มีเงินปนผลโดดเดน เชน<br />

MBKET และ CGS ที่มี Div Yield ที่สูงประมาณ 7-8%<br />

3,011<br />

2553<br />

2,572<br />

2554<br />

2,392<br />

2555F<br />

2,255<br />

2556F<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 59


โอกาสทองของสื่อใหม่ ๆ สื่อหลักแข่งขันหนักขึ้น<br />

วงการโทรทัศน์เข้าสู่ยุคเปลี่ยนถ่าย เป็นโอกาสของผู้ประกอบการรายเล็ก<br />

สื่อทางเลือกยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง หากไม่ขยายการลงทุนผิดทาง<br />

คงน้ําหนัก “น้อยกว่าตลาด” เลือก VGI, WORK เป็น Top Picks<br />

สื่อทางเลือกใหม่ มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องใน<br />

ระดับสูง ตามกระแสความนิยม<br />

หากพิจารณาจากเม็ดเงินโฆษณาในชวง 11 เดือนแรกของปนี้<br />

พบวาเติบโต 11.4% จากระยะเดียวกันของปกอน (yoy) ปจจัย<br />

หลัก มาจากการฟนตัวจากชวงที่ไดรับผลกระทบจากเหตุการณน้ํา<br />

ทวมในงวด 4Q54 โดยสื่อที่มีการเติบโตระดับเกินกวาคาเฉลี่ยลวน<br />

เปนสื่อทางเลือกใหม ๆ อาทิ สื่อในหาง สื่อโรงภาพยนตร และสื่อ<br />

อินเตอรเน็ต ซึ่งเติบโต 70.15%, 66.04% และ 21.53% yoy<br />

ตามลําดับ เนื่องจากจับกลุมคนรุนใหมซึ่งมีแนวโนมใชบริการ<br />

เพิ่มขึ้นอยางตอเนื่อง ขณะที่มีอัตราคาโฆษณาที่คอนขางต่ํามาก<br />

หากเทียบเปรียบกับสื่อหลักโทรทัศนที่มีอัตราคาโฆษณาเฉลี่ยนาที<br />

ละ 1 แสนบาท และสื่อหลักโทรทัศนซึ่งมีฐานเปนเงินโฆษณาสวน<br />

ใหญคือมีสัดสวนสูงถึง 58% ของเม็ดเงินโฆษณา จึงมีอัตราการ<br />

เติบโตเพียง 7.98% ต่ํากวาคาเฉลี่ย<br />

เม็ดเงินโฆษณา 11 เดือนแรกของปี 2556 แยกตามประเภทสื่อ<br />

จํานวนมากบังสัญญาณ และในเขตตางจังหวัดบางพื้นที่ซึ่งอยูใน<br />

พื้นที่หางไกลจากสัญญาณคอนขางมาก สงผลใหประชาชนหันมา<br />

รับสัญญาณฟรีทีวีผานชองทาง เคเบิ้ลทีวี และทีวีดาวเทียม ซึ่งมี<br />

ชองรายการของตนเองตามมาดวย ทําใหปจจุบันสัดสวนครัวเรือน<br />

ที่รับสัญญาณฟรีทีวีผานเสาอากาศเหลือเพียง 49% ขณะที่<br />

สัดสวนการรับสัญญาณผานจานดาวเทียมเพิ่มขึ้นเปน 31% ตาม<br />

มาดวย True Vision 11% และเคเบิ้ลทองถิ่น 9% โดยการรับ<br />

สัญญาณทีวีผานจานดาวเทียมมีแนวโนมเติบโตตอเนื่องและแซง<br />

หนาการรับสัญญาณผานเสาอากาศในอนาคต เพราะสัญญาณ<br />

ภาพคมชัดคาติดตั้งถูก และไมตองจายคาชมรายเดือน รวมทั้งยังมี<br />

ชองรายการใหรับชมอีกจํานวนถึง 80-100 ของ<br />

11%<br />

กลุ่ม บันเทิง<br />

น้ําหนัก น้อยกว่าตลาด<br />

ช่องทางการรับสัญญาณทีวี<br />

9%<br />

31%<br />

49%<br />

Satellite TV<br />

TRUE Vision (National Cable TV)<br />

Traditional TV<br />

Local Cable TV<br />

ที่มา :นีลเส็น มีเดีย รีเสิรช<br />

การรับสัญญาณทีวี ผ่านจานดาวเทียมมี<br />

แนวโน้มมาแทนที่เสาอากาศในอนาคต<br />

เนื่องจากการรับสัญญาณฟรีทีวีผานเสาอากาศทั่วไป มีปญหาการ<br />

รับสัญญาณในหลายพื้นที่ ทั้งเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีอาคารสูง<br />

60 Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

ที่มา :นีลเส็น มีเดีย รีเสิรช<br />

สื่อทีวีดาวเทียม มาแรง แย่งส่วนแบ่งเม็ดเงิน<br />

โฆษณาสื่อทีวี<br />

ดวยสัดสวนการการรับสัญญาณแพรภาพทีวีผานจานดาวเทียมที่มี<br />

แนวโนมเพิ่มขึ้นตอเนื่อง บวกกับชองดาวเทียมบางชองประสบ<br />

ความสําเร็จไดรับความนิยมจากผูชม จนทําให นีลเส็น มีเดียส รี<br />

เสิรช มีการวัดเรตติ้งผูชมชองทีวีดาวเทียมตั้งแตตนปที่ผานมา<br />

สงผลใหเอเจนซี่โฆษณาใหความสนใจลงโฆษณาชองทีวีดาวเทียม


ที่มีเรตติ้งผุชมสูงเพิ่มขึ้นอยางตอเนื่อง บวกกับอัตราคาโฆษณาที่<br />

คอนขางต่ําเฉลี่ย 2-3 พันบาทตอนาที สงผลใหชองทีวีดาวเทียมที่<br />

ฐานผุชมรายการสูง มีแนวโนมปรับขึ้นอัตราคาโฆษณาในระดับสูง<br />

เฉลี่ยปละ 30-50% ในระยะเวลา 5 ปนับจากนี้ อาทิเชน ชอง<br />

Workpoint ของ WORK ชอง 8 และ สบายดีทีวี ของ RS และ<br />

National Channel ของ NBC ทั้งนี้บริษัทที่ประสบความสําเร็จ<br />

ธุรกิจทีวีดาวเทียมมากสุดคือ WORK เพราะมีชองทีวีดาวเทียม<br />

เพียงชองเดียวแตไดรับความนิยมสูง ขณะที่ RS มี 4 ชองทีวี<br />

ดาวเทียม แตประสบความสําเร็จเพียง 2 ชองดังกลาวขางตน อีก 2<br />

ชอง ไมประสบความสําเร็จ จึงตองปรับเปลี่ยนผังและรูปแบบ<br />

รายการ รวมทั้งเปลี่ยนชื่อชองใหม รวมทั้งปจจุบันขยายธุรกิจสู<br />

ธุรกิจทีวีดาวเทียมแบบสมาชิกรายเดือน โดยมีการซื้อลิขสิทธิ์บอล<br />

ลาลิกามาเปนตัวชูโรง ซึ่งยังตองติดตามวาจะประสบความสําเร็จ<br />

หรือเปนตัวฉุดรั้งการเติบโต เพราะในชวงแรกลิขสิทธิ์ยังประสบ<br />

ภาวะขาดทุนอยู เชนเดียวกับ GRAMMY ที่คาดจะยังขาดทุน<br />

ตอเนื่องในระยะ 1-2 ป จากการลงทุนซื้อลิขสิทธิ์รายการมุลคา 3<br />

พันลานบาท เพื่อทําธุรกิจทีวีดาวเทียมแบบสมาชิกรายเดือน ซึ่งจะ<br />

สามารถเริ่มเก็บคาสมาชิกตั้งแตตนป 2557<br />

จํานวนครับเรือนที่เข้าถึงทีวีดาวเทียม+เคเบิ้ลทีวี และอัตราการเติบโต<br />

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ ฉบับ 8 ต.ค. 2555<br />

สื่อทีวีฟรีทีวี เผชิญการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจาก<br />

การประมูลทีวีดิจิตอลอีก 24 ช่อง<br />

ปจจุบัน กสทช. เปดรับสมัครใหผุประกอบการทีวีดาวเทียมและ<br />

เคเบิ้ลยื่นใบสมัครขอใบอนุญาตการใหบริการแบบไมใชคลื่น<br />

ความถี่อยางเปนทางการ ซึ่งแมจะทําใหผูประกอบการทีวี<br />

ดาวเทียมมีคาใชจายเพิ่มเติมที่ตองจายใหกสทช. 4% ของรายได<br />

(2% เปนรายไดคาธรรมเนียมรายป และอีก 2% เปนเงินสนับสนุน<br />

เขากองทุนฯ) แตถือวาการใหบริการทีวีดาวเทียม มีหนวยงาน<br />

กํากับดูแลที่ชัดเจน และสามารถทําธุรกิจทีวีดาวเทียมบอกรับ<br />

สมาชิกไดอยางเปนทางการ ขณะที่ผูประกอบการฟรีทีวีและวิทยุ<br />

ยังสามารถใหบริการดวยระบบอนาล็อคตอไปไดอีก 10 ป และ 5<br />

ปตามลําดับ และยังขอใบอนุญาตทดลองออกอากาศในระบบ<br />

ดิจิตอลควบคูกันไปโดยไมมีคาใชจาย สงผลบวกให MCOT ยังไม<br />

ตองจายคาธรรมเนียมรายป และเงินอุดหนุนเขากองทุนตอไปอีก<br />

10 ป แตทั้งนี้ธุรกิจฟรีทีวีนอกจากจะมีชองทีวีดาวเทียมที่เขามา<br />

แยงสวนแบงเม็ดเงินโฆษณาแลว ยังจะมีคูแขงเพิ่มขึ้น หลังจาก<br />

ที่กสทช. เปดใหมีการประมูลชองทีวีดิจิตอล 24 ชองในกลางป<br />

2556 ประกอบดวย รายการสําหรับเด็ก 5 ชอง / ขาว สาธารณะ 5<br />

ชอง/ ทั่วไป (SD) 10 ชอง/ HD 4 ชอง และคาดจะสามารถ<br />

ใหบริการไดในชวง 1-2 ปขางหนา หลังจากติดตั้งระบบสมบูรณ<br />

อยางไรก็ตามในชวงเริ่มตน การรับชมชองทีวีดิติตอลยังมีอุปสรรค<br />

เพราะตองติดตั้งกลองรับสัญญาณ หากระบบทีวียังเปนรุนเกาที่ไม<br />

รองรับการรับสัญญาณระบบดิจิตอล<br />

สื่อนอกบ้านทั้งรถไฟฟ้าและในห้าง ดาวเด่น<br />

สื่อนอกบานที่เติบโตโดดเดนไดแก 1) สื่อขนสงมวลชน (Transit)<br />

โดยงวด 11 เดือนแรกของปนี้มีเม็ดเงินโฆษณาสูงราว 2.7 พันลาน<br />

บาท หลัก ๆ เกิดจากสื่อรถไฟฟา BTS ที่ยังมีแนวโนมเติบโต<br />

ตอเนื่องจากแผนการเพิ่มสวนตอขยายภาครัฐ มายังเขตชานเมือง<br />

และเขตปริมณฑล และ 2) สื่อโฆษณาในหาง (In-store) โดยงวด<br />

11 เดือนแรกของปนี้มีเม็ดเงินโฆษณาราว 2.6 พันลานบาท หลัก ๆ<br />

มาจากหางโลตัส และบิ๊กซี ที่มีแผนขยายสาขาเชิงรุกอยางตอเนื่อง<br />

และมีผูใชบริการเพิ่มขึ้นตามพฤติกรรมผูโภคที่เปลี่ยนแปลงไป<br />

โดยการเติบโตของ สื่อทั้ง 2 ประเภท สงผลบวกตอ VGI โดยตรง<br />

เพราะVGI ไดรับสัญญาใหบริการสื่อโฆษณาใน BTS เพียงราย<br />

เดียว รวมทั้งไดเซ็นสัญญาเปนผูใหบริการสื่อโฆษณาในหางบิ๊กซี<br />

และโลตัสแตเพียงบริษัทเดียว ทําให VGI มีสวนแบงตลาดอันดับ<br />

หนึ่งในสื่อทั้ง 2 ประเภท ขณะที่ความตองการลงโฆษณาในบริเวณ<br />

รถไฟฟา BTS มีสูงมาก แตพื้นที่มีจํากัด สงผลให VGI ไดประโยชน<br />

จากการขายพวงโฆษณาสื่อในหาง ควบคูไปกับสื่อบนรถไฟฟา<br />

และชวยให VGI สามารถปรับอัตราคาโฆษณาอยางตอเนื่องทุกป<br />

ขณะที่แมเม็ดเงินโฆษณาสื่อโรงหนังเติบโตแบบกาวกระโดด แต<br />

คาดรายไดธุรกิจโฆษณาและสนับสนุนการตลาดของ MAJOR จะ<br />

ในป 2555 จะเติบโตไมเกิน 15% เพราะรายไดคาสนับสนุน<br />

การตลาดอื่นนอกเหนือจากโฆษณาในโรงหนัง เชนคา Naming<br />

Sponsor มีโอกาสปรับขึ้นราคาคอนขางยาก เพราะเปนสัญญา<br />

ระยะยาว ขณะที่โปรแกรมการฉายภาพยนตรในป 2556 ไมโดด<br />

เดน ฝายวิจัยจึงคงคําแนะนํา “ขาย” MAJOR (FV@B19)<br />

คงคําแนะนํา “น้อยกว่าตลาด” เลือก VGI<br />

เป็น Top Pick ขณะ WORK ดาวเด่นสื่อทีวี<br />

ขณะที่มีปจจัยกดดันการเติบโตของฟรีทีวีในระยะยาว จาก<br />

ทางเลือกรับชมชองรายการใหม ๆ ทั้งทีวีดิจิตอล และทีวีดาวเทียม<br />

สงผลใหฝายวิจัยคงคําแนะนําการลงทุนกลุม “นอยกวาตลาด”<br />

อยางไรก็ตาม สื่อทางเลือกใหมยังมาแรง โดยเฉพาะสื่อรถไฟฟา<br />

และสื่อในหาง ฝายวิจัยจึงคงคําแนะนํา “ซื้อ” VGI และเลือกเปน<br />

Top Pick กลุม แมราคาปจจุบันจะเกิน Fair Value ป 2555/56 แต<br />

ฝายวิจัยจะปรับมาใช Fair Value ป 2556/57 หลังประกาศงบงวด<br />

3Q55/56 ในชวงเดือนก.พ. 2556 โดยเบื้องตน Fair Value อยูที่<br />

100 บาท ทั้งนี้ในสวนของผูใหบริการสื่อทีวี ฝายวิจัยชื่นชอบ<br />

WORK (FV@50) มากสุด เนื่องจากกําไรในป 2556 มีแนวโนม<br />

เติบโตกาวกระโดด จากการปรับขึ้นอัตราคาโฆษณารายการในฟรี<br />

ทีวีเฉลี่ยราว 10% และปรับขึ้นอัตราคาโฆษณาทีวีดาวเทียมจาก 6<br />

พันบาทตอนาทีเปน 1 หมื่นบาทตอนาที รวมทั้งขยายเวลาการ<br />

ออกอากาศรายการใหมตอวันจาก 8 เปน 12 ชั่วโมงตอวัน และลด<br />

การรีรันรายการดังกลาวจาก 2 รอบตอวัน (รอบละ 8 ชั่วโมง)<br />

เหลือเพียง 1 รอบตอวัน (รอบละ 12 ชั่วโมง)<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 61


กลุ่มปิโตรเคมีและโรงกลั่น<br />

น้ําหนัก เท่าตลาด<br />

นาทีนี้ต้อง TOP เด่นทั้งอะโรเมติกส์ และ GRM<br />

ราคากลุ่มอะโรเมติกส์โดดเด่น...Bz เดินหน้าทํา New High เป็นประวัติการณ์<br />

ค่าการกลั่นในงวด 1Q56 ยังได้รับผลบวกจากช่วงฤดูกาล<br />

Top Pick เลือก TOP<br />

แนวโน้มธุรกิจปิโตรเคมีสดใสขึ้น...อะโรเมติกส์<br />

โดดเด่นสุด<br />

ฝายวิจัยมีมุมมองเชิงบวกตอธุรกิจปโตรเคมีในระยะ 1-3 เดือน<br />

ขางหนา จากสถานการณราคาผลิตภัณฑปโตรเคมีโดยรวมที่เริ่ม<br />

ปรับตัวสูงขึ้นจากที่ลดลงไปต่ําสุดในชวงเดือน มิ.ย. ที่ผานมา ซึ่ง<br />

สอดคลองกับสถานการณภาพรวมเศรษฐกิจที่เห็นการฟนตัวจาก<br />

จุดต่ําสุด จึงทําใหความตองการใชผลิตภัณฑปโตรเคมีปรับตัว<br />

สูงขึ้น อีกทั้งความชัดเจนภายหลังการปรับเปลี่ยนผูนําของประเทศ<br />

มหาอํานาจทั้งหลาย อาทิ สหรัฐฯ จีน เกาหลี และ ญี่ปุน นาจะ<br />

นํามาซึ่งการใชมาตรการกระตุนเศรษฐกิจในระยะอันใกล<br />

โดยเฉพาะจากจีนซึ่งถือวาเปนผูบริโภคผลิตภัณฑปโตรเคมีหลัก<br />

ของภูมิภาค สะทอนไดจากทิศทางราคาผลิตภัณฑที่แข็งแกรง และ<br />

ปรับตัวสูงขึ้นอยางตอเนื่องในงวด 4Q55 ซึ่งกลุมอะโรเมติกสถือ<br />

เปนกลุมที่มีการปรับตัวโดดเดนสุดในกลุมปโตรเคมี โดยราคา<br />

ผลิตภัณฑหลักพาราไซลีน (Px) และเบนซีน (Bz) ดีดตัวกลับมายืน<br />

ในระดับสูง โดยเฉพาะราคา เบนซีน (Bz) ที่เดินหนาทําสถิติสูงสุด<br />

ใหมเปนประวัติการณ ขณะที่กลุมโอเลฟนสนั้นภาพรวมในงวด<br />

4Q55 และตอเนื่องในงวด 1Q56 คาดจะยังเห็นการเติบโตจากงวด<br />

3Q55 รายละเอียดดังนี้<br />

กลุมผลิตภัณฑสายอะโรเมติกส (TOP, PTTGC, ESSO,<br />

IRPC) พบวาราคาผลิตภัณฑทั้งพาราไซลีน (Px) และเบนซีน (Bz)<br />

ไดปรับตัวเพิ่มขึ้นอยางตอเนื่องในชวง 3 เดือนที่ผานมา โดยเฉพาะ<br />

ราคาเบนซีน (Bz) ที่ดีดตัวอยางมีนัยฯทําสถิติสูงสุดใหมเปน<br />

62 Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

ประวัติการณที่ 1.5 พันเหรียญฯตอตัน โดยราคาเฉลี่ยตั้งแตตน<br />

งวด 4Q55 ถึงปจจุบัน ไดปรับตัวสูงขึ้น 13%qoq เนื่องจากไดรับ<br />

อานิสงคจากราคากาซฯที่ตกต่ําในสหรัฐฯจากการคนพบ Shale<br />

Gas จึงทําใหผูประกอบการโอเลฟนสหันไปใชกาซเปนวัตถุดิบกัน<br />

มากขึ้น ซึ่งจะทําใหผลิตภัณฑ Pygas ที่ไดจากกระบวนการผลิตโอ<br />

เลฟนสโดยใชแนฟทาเปนวัตถุดิบปรับตัวลดลง กดดัน Supply<br />

ของ Bz โดยรวมในตลาด อีกทั้งคาดวาในอนาคตหาก<br />

ผูประกอบการในสหรัฐฯจะมีการลงทุนสรางโรงงานโอเลฟนส<br />

ใหมๆ ก็คาดวาจะใชกาซฯเปนวัตถุดิบมากขึ้น ซึ่งจะทําให<br />

สถานการณ Demand และ Supply เบนซีนอยูในภาวะตึงตัว<br />

สงผลใหราคาเบนซีนยังมีแนวโนมปรับตัวเพิ่มขึ้นอยางตอเนื่อง<br />

เชนเดียวกับราคาพาราไซลีน (Px) ที่ไดดีดตัวสูงในรอบ 9 เดือนที่<br />

ผานมา มาอยูที่ 1.653 พันเหรียญฯตอตัน โดยราคาเฉลี่ยตั้งแตตน<br />

งวด 4Q55 ถึงปจจุบันไดปรับตัวเพิ่มขึ้น 8%qoq เนื่องจากยังไดรับ<br />

ปจจัยบวกจากโรงงาน PTA (ใช Px เปนวัตถุดิบ) ใหม ที่เริ่มทยอย<br />

ดําเนินการผลิตเชิงพาณิชย รวมถึงการเลื่อนการผลิตของโรงงาน<br />

Px ใหม จึงยังทําใหสถานการณ Demand และ Supply ของ PX<br />

ยังอยูในภาวะตึงตัว<br />

และหากพิจารณา Spread ผลิตภัณฑอะโรเมติกสจะพบวาในงวด<br />

4Q55 มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราที่มากกวาการปรับตัวเพิ่มขึ้น<br />

ของราคาผลิตภัณฑ เนื่องจากราคาแนฟทาซึ่งเปนวัตถุดิบในการ<br />

คํานวณ Spread เฉลี่ยในงวด 4Q55 ปรับตัวลดลง 7.1%qoq มา<br />

อยูที่ 933 เหรียญฯตอตัน โดย Spread (Bz-Naptha) เฉลี่ยในงวด<br />

4Q55 ปรับตัวเพิ่มขึ้นกวา 213%qoq มาอยูที่ระดับ 568 เหรียญฯ


ตอตัน เชนเดียวกับ Spread (Px-Naptha) ที่ปรับตัวสูงขึ้นกวา<br />

57%qoq มาอยูที่ระดับสูงถึง 720 เหรียญฯตอตัน<br />

สายอะโรเมติกส์ : Demand และ Supply ของ พาราไซลีน<br />

ที่มา : ขอมูลจาก PTTGC<br />

อยางไรก็ตามคาดแนวโนมราคาและ Spread ผลิตภัณฑกลุมอะโร<br />

เมติกสในระยะ 3 เดือน ขางหนา ยังอยูในทิศทางขาขึ้น เพราะ<br />

นอกจากปจจัยบวกทางดานพื้นฐานที่ไดกลาวไปแลว คาดในระยะ<br />

อันใกลอาจจะไดเห็นการกลับมาใชมาตรการกระตุนเศรษฐกิจของ<br />

ประเทศจีน ซึ่งถือเปนผูบริโภคหลักของภูมิภาคอีกครั้ง จากการ<br />

ปรับเปลี่ยนผูนําของจีน ซึ่งจะผลักดันใหความตองการใช<br />

ผลิตภัณฑปโตรเคมีโดยรวมกลับมา โดยในเบื้องตนคาดการณใน<br />

ป 2556 จีนจะมีการนําเขา Px เพิ่มขึ้น ตามอัตราการเติบของโพลี<br />

เอสเตอรเฉลี่ย 6% ตอป<br />

กลุมผลิตภัณฑสายโอเลฟนส (PTTGC, IRPC) พบวาราคา<br />

และ Spread ผลิตภัณฑตั้งแตตนงวด 4Q55 ที่ผานมาถึงปจจุบัน<br />

เริ่มเห็นการทยอยฟนตัว แตอาจไมโดดเดนเมื่อเทียบกับกลุมอะโร<br />

เมติกส โดยราคาผลิตภัณฑขั้นตน ไดแก เอทิลีน และ โพรพิลีน มี<br />

การปรับตัวเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเพียง 10%qoq และ 1%qoq มาอยูที่<br />

1.296 พันเหรียญฯ/ตัน และ 1.255 พันเหรียญฯตอตัน ตามลําดับ<br />

เชนเดียวกับราคาผลิตภัณฑเม็ดพลาสติกขั้นปลายที่เห็นการฟนตัว<br />

หลังจากที่ทรงตัวนิ่งมานาน โดยลาสุดราคา HDPE และ LDPE<br />

ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5%qoq และ 4%qoq มาอยูที่ 1.391 และ 1.372<br />

พันเหรียญฯตอตัน ตามลําดับ มีเพียงผลิตภัณฑขั้นปลายชนิด<br />

พิเศษ PS (ผลิตภัณฑหลักของ IRPC คิดเปนสัดสวนเกือบ 10%<br />

ของผลิตภัณฑปโตรเคมีรวม) ที่เห็นการปรับตัวโดดเดนสุดในกลุม<br />

ฯ 11.8%qoq<br />

สายโอเลฟินส์ : Demand และ Supply ของ เอทิลีน<br />

แตหากพิจารณา Spread ผลิตภัณฑกลุมโอเลฟนสพบวาสวน<br />

ใหญปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากราคาวัตถุดิบแนฟทา (ที่ใชอางอิงใน<br />

การคํานวณ Spread) ปรับตัวลดลง 7%qoq มาอยูที่ 933 เหรียญ<br />

ฯตอตัน ซึ่งสวนทางกับการเพิ่มขึ้นของราคาผลิตภัณฑ ซึ่งถือวายัง<br />

สงผลบวกตอผลการดําเนินงานของกลุมฯ<br />

อยางไรก็ตาม ฝายวิจัยคาดแนวโนมราคาผลิตภัณฑกลุมโอเลฟนส<br />

ในงวด 1Q56 นาจะสูงขึ้นเมื่อเทียบกับงวด 4Q55 ตามความ<br />

ตองการใชของผูประกอบการที่จะกลับมาเก็บสตอกวัตถุดิบ<br />

(Restocking) ในชวงตนป 2556 หลังจากกอนหนามีการเก็บ<br />

สตอกระดับต่ํามาก นอกจากนี้ยังเปนการเตรียมความพรอมที่จะ<br />

ผลิตสินคาไวขายในชวงเทศกาลตรุษจีน รวมถึงยังคาดหวังปจจัย<br />

บวกจากมาตรการกระตุนเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในระยะอันใกล<br />

นอกจากนี้หากพิจารณาสถานการณดาน Demand และ Supply<br />

ในระยะยาว ยังพบวาปจจัยกดดันทางดาน Supply ใหมที่เขาสู<br />

ตลาดมีแนวโนมลดลงในเกือบทุกผลิตภัณฑ ซึ่งถือเปนอีกปจจัย<br />

หนุนตอการดีดตัวขึ้นของราคาผลิตภัณฑ ทั้งนี้คาด Supply<br />

ผลิตภัณฑโอเลฟนสโดยรวมจะเขาสูตลาดเพียง 3 ลานตันตอป<br />

นอยกวาการเติบโตของความตองการใชเฉลี่ยตอปที่ 5-6 ลานตัน<br />

(ภายใตสถานการณปกติ)<br />

สายโอเลฟินส์ : Demand และ Supply ของ HDPE<br />

ที่มา : ขอมูลจาก PTTGC<br />

สายโอเลฟินส์ : Demand และ Supply ของ LDPE<br />

ที่มา : ขอมูลจาก PTTGC<br />

ที่มา : ขอมูลจาก PTTGC<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 63


กลุมผลิตภัณฑ PET และเสนใยโพลีเอสเตอร (IVL) พบวา<br />

สวนตางราคาผลิตภัณฑ PET-PTA จะทรงตัวระดับต่ําตอเนื่อง<br />

หลังจากที่ความตองการใชผลิตภัณฑขั้นปลายไมฟนตัว ขณะที่<br />

สวนตางราคาผลิตภัณฑ PTA-PX คาดวาจะยังไดรับแรงกดดัน<br />

หลักจากกําลังการผลิตใหมๆ ที่ทยอยเขาสูตลาดเอเชียตอเนื่อง<br />

เห็นไดจากโรงงาน PTA ขนาดใหญในจีน (Hengli และ Yisheng)<br />

ซึ่งมีกําลังการผลิตรวม 5.7 ลานตัน/ป เริ่มดําเนินการผลิตในงวด<br />

4Q55 และมีกําลังการผลิตใหมเกิดขึ้นอีก 6 ลานตัน/ปทยอยเขาสู<br />

ตลาดในป 2556 ประกอบกับราคาวัตถุดิบ PX ที่ปรับตัวขึ้นแรง จึง<br />

มีผลทําใหกําไรสุทธิของ IVL ในชวง 4Q55-1Q56 ไมสดใสมากนัก<br />

ราคาผลิตภัณฑ์ PET และ PTA ในตลาดโลก<br />

2,000<br />

1,600<br />

1,200<br />

800<br />

400<br />

-<br />

เหรียญฯ/ตัน<br />

PTA<br />

PET<br />

MEG<br />

2552 2553 2554 2555<br />

ที่มา : ขอมูลจาก Datastream<br />

กลุมผลิตภัณฑ PVC (TPC, VNT) สถานการณ Spread<br />

โดยรวมในงวด 4Q55 ตอเนื่องถึงงวด 1Q56 ยังเอื้อตอ VNT จาก<br />

ราคาผลิตภัณฑ PVC ในงวด 4Q55 ถึงปจจุบัน ที่ยังทรงตัวจาก<br />

งวดกอนหนาที่ระดับ 970 เหรียญฯตอตัน ขณะที่ตนทุนวัตถุดิบ<br />

EDC (วัตถุดิบหลักของ TPC) และวัตถุดิบเอทิลีน (วัตถุดิบหลัก<br />

ของ VNT) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9%qoq และ 10%qoq มาอยูที่ 300<br />

เหรียญฯตอตัน และ 1.296 พันเหรียญฯตอตัน จึงทําให Spread<br />

(PVC-EDC) และ Spread (PVC-เอทิลีน) ปรับตัวลดลงราว<br />

10%qoq มาอยูที่ 650 และ 340 เหรียญฯตอตัน แตทั้งนี้ในสวน<br />

ของ VNT ยังถือวามีความไดเปรียบหากเทียบกับ TPC เนื่องจาก<br />

VNT มีผลิตภัณฑพลอยได (By Product) คือโซดาไฟ ที่ระดับ<br />

ราคามีการปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.4%qoq มาอยูที่ 430 เหรียญฯตอตัน<br />

จึงทําให Spread (PVC-เอทิลีน) บวกกับราคาโซดาไฟ ยังสูงถึง<br />

770 เหรียญฯตอตัน<br />

เข้าสู่ฤดูหนาว...GRM เริงร่า<br />

ฝายวิจัยคาดแนวโนมคาการกลั่น (GRM) ในระยะ 1-3 เดือน<br />

ขางหนา อยูในทิศทางขาขึ้น เนื่องจากจะไดรับปจจัยหนุนจากการ<br />

เขาสูชวงฤดูหนาวในหลายทวีปทั่วโลก รวมถึงปริมาณสํารอง<br />

น้ํามันสําเร็จรูปในประเทศตางๆที่อยูในระดับต่ํา จึงทําใหความ<br />

64 Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

ตองการใชน้ํามันรวมถึงการสตอกน้ํามันไวใชในฤดูหนาวปรับตัว<br />

สูงขึ้น สงผลตอเนื่องไปยังคาการกลั่น (GRM) ที่คาดจะไตระดับทํา<br />

New High ของป ไดในชวงงวด 1Q56 และตอเนื่องไปยังงวด<br />

2Q56<br />

ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์<br />

20<br />

15<br />

10<br />

5<br />

0<br />

-5<br />

ธ.ค. 53<br />

เหรียญฯ/บารเรล 14/12/55 = 5.5 (-0.07)<br />

ก.พ. 54<br />

เม.ย. 54<br />

มิ.ย. 54<br />

ส.ค. 54<br />

ต.ค. 54<br />

ธ.ค. 54<br />

ก.พ. 55<br />

เม.ย. 55<br />

มิ.ย. 55<br />

ส.ค. 55<br />

ต.ค. 55<br />

ธ.ค. 55<br />

ไตรมาส 2548 2549 2550 2551 2552 2553 2554 2555<br />

1Q 6.23 4.58 6.85 6.93 5.45 4.92 7.43 7.65<br />

2Q 7.14 8.94 9.53 8.10 4.11 3.70 8.60 6.66<br />

3Q 8.15 4.74 6.42 5.88 3.14 4.23 9.16 9.15<br />

4Q 6.00 3.88 7.68 3.86 1.96 5.44 7.92 6.66<br />

คาเฉลี่ย 6.88 5.53 7.59 6.17 3.64 4.57 8.29 7.56<br />

ที่มา : ขอมูลจาก APEX<br />

และหากพิจารณาสถานการณ Demand และ Supply ในป 2556<br />

พบวาจะเริ่มมี Supply ใหมเขาสูระบบรวม 1.3 ลานบารเรลตอวัน<br />

แตเปนการทยอยดําเนินการผลิตเชิงพาณิชย แตมีโรงกลั่นในญี่ปุน<br />

และจีนปดเปนการถาวรราว 2.3 แสนบารเรลตอวัน จึงคาดวา<br />

Supply ใหมที่เขามาจะยังไมมีผลกดดัน Demand ที่ยังเติบโต<br />

เฉลี่ยปละ 8-9 แสนบารเรลตอวัน ซึ่งจะยังคงชวยหนุนคาการกลั่น<br />

ใหยืนในระดับ 4-5 เหรียญฯตอบารเรล อยางไรก็ตามฝายวิจัยคาด<br />

วาหลังจากป 2557 แลวธุรกิจโรงกลั่นอาจจะตองเผชิญกับแรง<br />

กดดันอีกครั้ง เพราะจะมี Supply ใหมทยอยเกิดขึ้นราว 3 ลาน<br />

บารเรลตอวัน (สวนใหญมาจากจีน อินเดีย และประเทศใน<br />

ตะวันออกกลาง) ขณะที่คาดการณความตองการใชน้ํามัน<br />

สําเร็จรูปยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นตอเนื่องเฉลี่ยปละไมเกิน 1 ลาน<br />

บารเรลตอวัน ซึ่งคาดจะสงผลใหคาการกลั่นออนตัวลงได<br />

CDU Capacity additional VS Additional Demand<br />

ที่มา : ขอมูลจาก TOP


แนวโน้มกําไรกลุ่มฯงวด 1Q56 เติบโตโดด<br />

เด่น จากทั้งปิโตรเคมี และโรงกลั่น<br />

ฝายวิจัยคาดผลการดําเนินงานปกติของกลุมปโตรเคมีและโรงกลั่น<br />

ในงวด 4Q55 จะยังเห็นการเติบโตตอเนื่องจากงวด 3Q55 ตาม<br />

Spread ผลิตภัณฑปโตรเคมีที่ปรับตัวสูงขึ้นจากงวดกอนหนา<br />

โดยเฉพาะจากกลุมอะโรเมติกส (TOP และ PTTGC มีสัดสวน<br />

กําไรจากธุรกิจอะโรเมติกสราว 35% และ 25% ตามลําดับ) อีกทั้ง<br />

ยังไดในสวนของปริมาณการผลิตและจําหนายที่ปรับตัวสูงขึ้นจาก<br />

โรงงานเม็ดพลาสติกของ PTTGC ที่กลับมาเดินเครื่องปกติ<br />

หลังจากหยุดซอมบํารุงในงวดที่ผานมา ขณะที่ในสวนของธุรกิจโรง<br />

กลั่นนั้นคาดวาคาการกลั่นนาจะยืนไดในระดับ 6 เหรียญฯตอ<br />

บารเรล ใกลเคียงกับงวด 3Q55 เนื่องจากความตองการใช<br />

Gasoline ในภูมิภาคยังคงปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงจะเริ่มเขาสูชวง<br />

ฤดูกาลซึ่งเปนชวงฤดูหนาวซึ่งจะสงผลใหความตองการใชน้ํามัน<br />

Middle Distillate ทั้งเจ็ท และดีเซล นาจะกลับมาอีกครั้ง แตหาก<br />

พิจารณาแนวโนมกําไรสุทธิงวด 4Q55 เทียบกับงวด 3Q55 คาดจะ<br />

เห็นการปรับตัวลดลง เนื่องจากในงวด 4Q55 จะไมมีการบันทึกําไร<br />

จากสตอกน้ํามันในระดับสูงเชนที่เกิดขึ้นในงวด 3Q55<br />

แตหากพิจารณาแนวโนมกําไรจากการดําเนินงานปกติในงวด<br />

1Q56 นั้น คาดจะเห็นการเติบโตอยางตอเนื่องจากงวด 4Q55 จาก<br />

ทั้ง Spread ปโตรเคมีที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นตอเนื่อง ซึ่งเริ่มเห็น<br />

สัญญาณตั้งแตในชวงเดือน ธ.ค. 2555 ที่ Spread ผลิตภัณฑ<br />

ปโตรเคมี โดยเฉพาะสายอะโรเมติกสดีดตัวขึ้นอยางมีนัยฯ ทําให<br />

เปนบวกตอกําไรในงวด 1Q56 เพราะปกติแลวสัญญาซื้อขาย<br />

ผลิตภัณฑปโตรเคมี จะกําหนดจากราคายอนหลังเฉลี่ยราว 1<br />

เดือน นอกจากนี้คาดในสวนของธุรกิจโรงกลั่นจะเห็นการปรับตัว<br />

ขึ้นของคาการกลั่น เนื่องจากเขาสูชวงฤดูหนาวเต็มที่ อีกทั้งในชวง<br />

ปลายงวด 1Q56 โรงกลั่นหลายแหงในโลกยังมีแผนหยุดเดินเครื่อง<br />

เพื่อซอมบํารุงประจําป ซึ่งอาจจะทําให Supply หดหายไป<br />

บางสวน และทําใหราคาน้ํามันสําเร็จรูปปรับตัวสูงขึ้นได<br />

ทั ้งนี้ ฝายวิจัยคาดวาการเติบโตของผลการดําเนินงานปกติของ<br />

กลุมฯในงวด 4Q55 ตอเนื่องไปยังงวด 1Q56 นั้น TOP ซึ่งมี<br />

สัดสวนกําไรจากธุรกิจปโตรเคมี 30-35% และจากธุรกิจโรงกลั่น<br />

65-70% จะมีการฟนตัวโดดเดนสุดจากการปรับตัวขึ้นอยางมีนัยฯ<br />

ของ Spread ผลิตภัณฑอะโรเมติกส อีกทั้งคาดในงวด 1Q56<br />

ธุรกิจโรงกลั่นนาจะกลับมามีความโดดเดนไดตามชวงฤดูกาล<br />

พิจารณาไดจากคาการกลั่นในอดีตที่จะเริ่มไตระดับทําระดับสูงสุด<br />

ของปในชวงไตรมาส 1 และตอเนื่องในไตรมาส 2<br />

สําหรับในสวนของ BCP นั้น แนวโนมกําไรในงวด 4Q55 อาจเห็น<br />

การเติบโตที่มีนัยฯโดดเดนสุดในกลุม เนื่องจากหนวยกลั่นหลักของ<br />

BCP (กําลังการกลั่น 8 หมื่นบารเรลตอวัน) ที่ไดรับความเสียหาย<br />

จากเหตุเพลิงไหมสามารถกลับมาเริ่มเดินเครื่องผลิตเชิงพาณิชย<br />

อีกครั้งเมื่อวันที่ 6 พ.ย. ที่ผานมา ซึ่งจะสงผลใหอัตราการ<br />

เดินเครื่องโรงกลั่นในงวด 4Q55 นาจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 125%qoq<br />

มาอยูที่ 9 หมื่นบารเรลตอวัน ขณะที่คาดคาการกลั่นอาจปรับตัว<br />

ลดลงจาก 14 เหรียญฯ มาสูระดับปกติที่ 7-8 เหรียญตอบารเรล<br />

เนื่องจากมีการเดินเครื่องโรงกลั่นเต็มกําลังทําใหความไดเปรียบใน<br />

การเลือกใชน้ํามันดิบในการผลิตหมดลง นอกจากนี้ยังมี Upside<br />

ที่คาดวาจะเพิ่มขึ้นไดซึ่งฝายวิจัยยังไมรวมไวในประมาณการ จาก<br />

การบันทึกเงินชดเชยจากการเคลมประกัน (Property Damage<br />

และ Business Interruption) ซึ่งในเบื้องตนคาดจะเริ่มทยอย<br />

บันทึกตั้งแตงวด 4Q55 เปนตนไป<br />

น้ําหนักลงทุนกลุ่มฯ “เท่ากับตลาด”….Top<br />

Pick เลือก TOP<br />

ฝายวิจัยยังคงมีมุมมองเชิงบวกตอกลุมปโตรเคมีและโรงกลั่นใน<br />

ระยะ 1-3 เดือนขางหนา ที่คาดจะกลับมาเติบโตตามเศรษฐกิจ แต<br />

คาดการเติบโตของกลุมฯจะเปนการทยอยฟนตัวหลังจากปรับตัว<br />

ลดลงอยางมีนัยฯในชวงกลางป 2555 ที่ผานมา จึงยังคงให<br />

น้ําหนักการลงทุนกลุมฯ “เทาตลาด” โดยเลือก TOP (FV@<br />

B80.12) เปนหุน Top Pick ของกลุมฯ จากแนวโนมธุรกิจปโตรเคมี<br />

สายอะโรเมติกสที่โดดเดน (TOP มีสัดสวนกําไรจากธุรกิจอะโรเม<br />

ติกสมากกวา PTTGC) รวมถึงธุรกิจโรงกลั่นที่จะเขาสูชวง Peak<br />

Season ของอุตสาหกรรมอีกครั้งในงวด 1Q56<br />

สรุปประมาณการและคําแนะนําหุ้นกลุ่มปิโตรเคมี / โรงกลั่น<br />

REC./BB<br />

Upside<br />

PBV<br />

PER<br />

Company<br />

ราคาปจจุบัน ราคาเปาหมาย<br />

Rating<br />

(%) 2555F 2556F 2555F 2556F<br />

CHINA<br />

CHINA PETROLEU-H 3.91 8.55 8.77 2.6% 1.15 1.06 10.02 8.15<br />

PETROCHINA CO-H 3.44 10.86 11.17 2.9% 1.50 1.39 12.48 11.04<br />

WINTIME ENERGY-A 4.89 9.17 10.00 9.1% 1.90 1.68 15.87 11.05<br />

TAIWAN<br />

FORMOSA PLASTIC 3.14 77.80 77.41 -0.5% 2.06 1.96 26.83 18.09<br />

NAN YA PLASTICS 2.23 55.90 49.73 -11.0% 1.67 1.62 62.88 25.19<br />

FORMOSA CHEM & F 2.63 70.80 71.69 1.3% 1.68 1.62 42.45 19.53<br />

JAPAN<br />

TOSOH CORP 3.00 185.00 195.50 5.7% 0.63 0.60 13.78 8.00<br />

MITSUI CHEMICALS 3.40 198.00 197.14 -0.4% 0.55 0.54 45.65 12.01<br />

JX HD 4.54 458.00 550.00 20.1% 0.63 0.59 8.73 7.00<br />

HONG KONG<br />

SINOPEC SHANG-H 3.29 2.52 2.53 0.3% 0.90 0.87 - 17.20<br />

SINOPEC KANTONS 4.60 5.09 7.10 39.5% 1.44 1.47 22.83 13.29<br />

Malaysia<br />

PCHEM 3.29 6.09 6.42 5.4% 2.25 2.06 13.97 12.79<br />

PETRONAS DAGANGA 2.50 22.16 20.44 -7.8% 3.96 3.74 23.04 20.98<br />

THAILAND<br />

PTT PCL BUY 331.00 420.12 26.9% 1.59 1.43 9.26 9.04<br />

PTT GLOBAL CHEM BUY 67.50 73.39 8.7% 1.31 1.21 10.90 10.73<br />

THAI OIL PCL BUY 66.75 80.12 20.0% 1.39 1.30 10.77 10.62<br />

IRPC PCL BUY 4.26 5.46 28.2% 1.15 1.04 64.67 10.93<br />

BANGCHAK PETROLE BUY 29.50 34.02 15.3% 1.27 1.20 10.69 10.40<br />

ESSO THAILAND HOLD 9.95 11.81 18.7% 1.3 n.a. 8.9 n.a.<br />

INDORAMA VENTURE HOLD 25.75 26.50 2.9% 2.07 1.86 20.69 14.16<br />

VINYTHAI PUB CO BUY 18.10 24.64 36.1% 1.1 0.9 10.1 8.2<br />

THAI PLASTIC CHM BUY 30.00 32.30 7.7% 1.6 1.5 9.3 9.1<br />

AVERAGE<br />

1.50 1.41 13.47 12.27<br />

หมายเหตุ - บริษัทที่มีคา PER หรือ PBV ที่ผิดปกติจะไมรวมอยูในการคํานวณคาเฉลี่ย<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong> / Bloomberg<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 65


กลุ่มปิโตรเลียมและถ่านหิน<br />

น้ําหนัก มากกว่าตลาด<br />

มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจะช่วยหนุนการเติบโต<br />

ความต้องการใช้น้ํามันในปี 2556 มีโอกาสเติบโตตามเศรษฐกิจ<br />

คาดจะเห็นการฟื้นตัวของราคาถ่านหินในช่วง 2H56<br />

Top Pick ของกลุ่มฯ เลือก PTT<br />

ความต้องการใช้น้ํามันยังแปรผันตามการ<br />

เติบโตของเศรษฐกิจโลก<br />

ฝายวิจัยยังมีมุมมองเชิงบวกตอภาพรวมอุตสาหกรรมปโตรเลียม<br />

ในระยะ 1-3 เดือนขางหนา โดยคาดแนวโนมทิศทางราคาน้ํามันใน<br />

ป 2556 นาจะทรงตัวไดในระดับใกลเคียงกับปจจุบันที่เฉลี่ย 100-<br />

105 เหรียญฯตอบารเรล (อางอิงดูไบ) ถึงแมสถาบันดานพลังงาน<br />

ในหลายๆ ประเทศจะทยอยออกมาปรับลดอัตราการเติบโตของ<br />

ความตองการใชน้ํามันในป 2556 ตามการคาดการณอัตราการ<br />

เติบโตทางเศรษฐกิจของโลก ที่อาจจะออกมาต่ํากวาที่คาดไวกอน<br />

หนาจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของโลก ที่ยังชะลอตัวอยูใน<br />

ปจจุบัน แตทั้งนี้ความตองการใชน้ํามันในป 2556 จากการ<br />

คาดการณของสถาบันพลังงาน สวนใหญก็ยังเห็นการเติบโตจากป<br />

2555 อาทิ องคการพลังงานระหวางประเทศ (IEA – International<br />

Energy Agency) ลาสุดไดปรับลดประมาณการความตองการใช<br />

น้ํามันทั่วโลกในป 2556 มาอยูที่ 90.4 ลานบารเรลตอวัน จากเดิม<br />

ที่คาดการณไวที่ 91.4 ลานบารเรลตอวัน แตยังเติบโตจากความ<br />

ตองการในป 2555 ที่ 89.6 ลานบารเรลตอวัน<br />

World Oil Supply and Demand<br />

2011<br />

2012<br />

2013<br />

2009 2010<br />

2011<br />

2012<br />

2013<br />

1Q11 2Q11 3Q11 4Q11 1Q12 2Q12 3Q12 4Q12 1Q13 2Q13 3Q13 4Q13<br />

OECD DEMAND<br />

Americas 23.7 24.1 24.2 23.8 24.2 24.0 24.1 23.5 23.8 23.9 23.8 23.7 23.6 23.6 24.0 24.0 23.8<br />

Europe 14.7 14.7 14.3 14.2 14.8 14.2 14.4 13.8 13.8 14.0 13.7 13.8 13.4 13.4 14.0 13.8 13.8<br />

Asia Oceania 8.0 8.1 8.6 7.4 8.0 8.6 8.1 9.1 8.0 8.3 8.6 8.5 9.1 7.8 8.0 8.4 8.3<br />

Total OECD 46.3 46.9 47.1 45.4 47.0 46.7 46.6 46.4 45.6 46.2 46.1 46.1 46.1 44.8 46.0 46.1 45.8<br />

NON -OECD DEMAND<br />

FSU 4.0 4.2 4.2 4.4 4.6 4.6 4.4 4.4 4.5 4.7 4.6 4.5 4.6 4.6 4.8 4.9 4.7<br />

Europe 0.7 0.7 0.7 0.7 0.7 0.7 0.7 0.7 0.7 0.7 0.7 0.7 0.7 0.7 0.7 0.7 0.7<br />

China 7.9 8.8 9.3 9.3 9.0 9.4 9.2 9.6 9.3 9.4 9.8 9.5 9.8 9.7 9.6 10.0 9.8<br />

Other Asia 10.3 10.9 11.1 11.1 10.8 11.2 11.0 11.3 11.4 11.1 11.5 11.3 11.6 11.6 11.3 11.7 11.6<br />

Latin America 5.7 6.0 6.1 6.3 6.5 6.4 6.3 6.3 6.4 6.7 6.5 6.5 6.4 6.6 6.8 6.7 6.6<br />

Middle East 7.1 7.3 6.9 7.4 7.8 7.3 7.4 7.1 7.7 8.0 7.4 7.6 7.5 7.8 8.2 7.7 7.8<br />

Africa 3.4 3.3 3.3 3.3 3.2 3.3 3.3 3.4 3.4 3.4 3.4 3.4 3.5 3.5 3.5 3.5 3.5<br />

Total Non-OECD 39.1 41.1 41.6 42.3 42.6 43.0 42.4 42.8 43.3 43.9 44.0 43.5 43.8 44.6 45.0 45.2 44.7<br />

Total Demand 85.4 88.1 88.7 87.7 89.5 89.7 88.9 89.2 89.0 90.1 90.1 89.6 89.9 89.4 91.0 91.3 90.4<br />

OECD SUPPLY<br />

Americas 13.6 14.1 14.3 14.3 14.5 15.2 14.6 15.6 15.5 15.5 16.1 15.7 16.3 16.3 16.4 16.8 16.5<br />

Europe 4.5 4.1 4.0 3.7 3.5 3.7 3.8 3.8 3.6 3.1 3.3 3.5 3.4 3.2 3.1 3.3 3.3<br />

Asia Oceania 0.6 0.7 0.6 0.6 0.6 0.6 0.6 0.5 0.5 0.6 0.5 0.6 0.5 0.5 0.5 0.5 0.5<br />

Total OECD 18.8 18.9 18.9 18.6 18.6 19.6 18.9 19.9 19.6 19.3 20.0 19.7 20.2 20.1 20.1 20.6 20.2<br />

NON -OECD SUPPLY<br />

FSU 13.3 13.5 13.6 13.6 13.5 13.6 13.6 13.7 13.6 13.6 13.7 13.7 13.7 13.6 13.3 13.6 13.6<br />

Europe 0.1 0.1 0.1 0.1 0.1 0.1 0.1 0.1 0.1 0.1 0.1 0.1 0.1 0.1 0.1 0.1 0.1<br />

China 3.8 4.1 4.2 4.2 4.0 4.0 4.1 4.2 4.1 4.2 4.3 4.2 4.3 4.2 4.2 4.2 4.2<br />

Other Asia 3.6 3.7 3.7 3.5 3.6 3.6 3.6 3.6 3.5 3.5 3.5 3.6 3.5 3.5 3.4 3.4 3.5<br />

Latin America 3.9 4.1 4.2 4.2 4.2 4.3 4.2 4.3 4.1 4.1 4.2 4.2 4.3 4.3 4.4 4.5 4.4<br />

Middle East 1.7 1.7 1.8 1.7 1.7 1.5 1.6 1.4 1.5 1.5 1.5 1.5 1.5 1.5 1.5 1.5 1.5<br />

Africa 2.6 2.6 2.6 2.6 2.6 2.6 2.6 2.4 2.3 2.3 2.3 2.3 2.4 2.4 2.4 2.5 2.4<br />

Total Non-OECD 29.0 29.8 30.2 29.8 29.8 29.7 29.9 29.8 29.2 29.3 29.7 29.5 29.7 29.7 29.4 29.8 29.6<br />

Total Non - OPEC 51.4 52.6 52.8 52.4 52.7 53.2 52.8 53.4 52.8 52.9 53.8 53.2 53.7 53.9 54.1 54.7 54.1<br />

Total OPEC 34.0 34.6 35.7 35.1 35.6 36.2 35.7 37.4 37.8 37.8<br />

Total Supply 85.4 87.3 88.4 87.6 88.3 89.4 88.4 90.8 90.7 90.7<br />

ที่มา : IEA Oil Market Report, Nov 2012<br />

66 Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

อยางไรก็ตามฝายวิจัยเชื่อวาหากกลุมประเทศหลักๆของโลก อาทิ<br />

สหรัฐฯ จีน ญี่ปุน และเกาหลีใต มีการเปลี่ยนถายอํานาจทางการ<br />

เมืองแลวเสร็จในชวงตนป 2556 ภาพรวมเศรษฐกิจโลกนาจะเริ่มมี<br />

สัญญาณบวกอีกครั้ง ซึ่งนาจะกลับมาสงผลบวกตอภาพรวม<br />

อุตสาหกรรม และแนวโนมราคาปโตรเลียม<br />

ตลาดถ่านหินอยู่ในภาวะ Oversupply...<br />

กดดันต่อราคาถ่านหินใน 1-3 เดือนข้างหน้า<br />

ภาพรวมอุตสาหกรรมถานหินในปจจุบัน ถือวายังอยูในสถานะ<br />

Oversupply จากความตองการใชถานหินที่อยูในภาวะชะลอตัว<br />

ตามสถานการณเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะในกลุมประเทศหลักๆ<br />

ของโลก อาทิ กลุมทวีปยุโรป สหรัฐอเมริกา และจีน เปนตน รวมถึง<br />

การคนพบเชื้อกาซธรรมชาติจาก Shale Gas ซึ่งมีราคาต่ํากวา<br />

ราคาถานหิน ทําใหผูประกอบการตางๆหันไปใชกาซธรรมชาติเปน<br />

เชื้อเพลิงทดแทนถานหินกันมากขึ้น จึงกดดันราคาถานหินปรับตัว<br />

ลดลงทําระดับต่ําสุดของปในชวงเดือน พ.ย. 2555 ที่ราว 80<br />

เหรียญฯตอตัน (อางอิง BJI) โดยในปจจุบันเริ่มเห็นราคาถานหิน<br />

เริ่มปรับตัวสูงขึ้นมาอยูที่ระดับ 90-95 เหรียญฯตอตัน แตทั้งนี้ยัง<br />

ไมไดบงบอกถึงภาวะการฟนตัวที่ชัดเจน แตถือเปนการฟนตัวตาม<br />

ฤดูกาล (Seasonal) ซึ่งเปนชวงฤดูหนาวอาจทําใหมีการกลับมา<br />

เก็บสตอกถานหินเพื่อใชเปนเชื้อเพลิงในฤดูหนาว โดยเปนการซื้อ<br />

ในตลาด Spot จึงทําใหเห็นการดีดตัวขึ้นของราคาไดในระยะสั้น


อยางไรก็ตาม ฝายวิจัยคาดจะเห็นการฟนตัวของราคาถานหิน<br />

อยางชัดเจนไดในชวง 2H56 เนื่องจากในชวงปลายป 2555<br />

ประเทศสหรัฐอเมริกา มีแผนที่จะยกเลิกใบอนุญาตประกอบธุรกิจ<br />

เหมืองถานหินเปนการชั่วคราว สําหรับเหมืองถานหินที่ปลอย<br />

มลพิษสูสิ่งแวดลอมเกินอัตราที่รัฐบาลกําหนด ซึ่งจะสงให Supply<br />

ถานหินโดยรวมในตลาดโลกลดลง รวมถึงคาระวางเรือในปจจุบัน<br />

ที่เริ่มเห็นสัญญาณฟนตัว จะเปนผลใหการขนสงถานหินระหวาง<br />

ภูมิภาคมีตนทุนที่สูงขึ้น ซึ่งจะทําใหไมมีการขนสงถานหินขาม<br />

ภูมิภาคเพื่อกดดันราคาถานหินระหวางภูมิภาคได<br />

นอกจากนี้หากพิจารณาในระยะยาว ฝายวิจัยยังคงคาดความ<br />

ตองการใชถานหินจะกลับมาเติบโตอยางนอยในระดับปกติไดที่<br />

เฉลี่ยราว 5% ตอป เนื่องจากถานหินสวนใหญถูกนําไปใชเปน<br />

เชื้อเพลิงในโรงไฟฟา ซึ่งเปนสาธารณูปโภคพื้นฐานของหลายๆ<br />

ประเทศทั่วโลกทั้งในประเทศจีน, อินเดีย และญี่ปุน อีกทั้งหาก<br />

พิจารณาตนทุนในการผลิตถานหินในสหรัฐฯ หรือรัสเซีย รวมถึงจีน<br />

พบวาสวนใหญตนทุนอยูสูงถึง 80-90 เหรียญฯตอตัน แสดงถึง<br />

Downside ที่เริ่มจํากัดของราคาถานหิน เพราะหากราคาลดลงต่ํา<br />

กวาตนทุนจะสงผลใหเหมืองถานหินตองปดตัวลงเปนจํานวนมาก<br />

และทําให Supply ปรับตัวลดลง<br />

คาดกําไรปกติของกลุ่มฯ จะกลับมาเห็นการ<br />

เติบโตในงวด 1Q56<br />

ฝายวิจัยคาดแนวโนมกําไรจากการดําเนินงานปกติของกลุม<br />

ปโตรเลียมและถานหินโดยรวมในงวด 4Q55 อาจเพียงทรงตัวจาก<br />

งวด 3Q55 เนื่องจากปริมาณการผลิตและจําหนายปโตรเลียมที่<br />

คาดวาจะลดลงของ PTTEP จากการหยุดซอมบํารุงแทนขุดเจาะ<br />

ประจําปในชวงไตรมาส 4 ของทุกป รวมถึงการแนวโนมราคาขาย<br />

ถานหินของ BANPU และ LANNA ที่คาดจะเห็นการออนตัวลง<br />

อยางตอเนื่องจากงวด 3Q55 ตามทิศทางราคาถานหิน ซึ่งสวน<br />

ใหญราคาขายตามสัญญาจะมี Lag-time จากราคา Spot ราว 3<br />

เดือน อีกทั้งในสวนของ BANPU ยังมีการหยุดเดินเครื่องเพื่อซอม<br />

บํารุงโรงไฟฟาประจําปของ BLCP (BANPU ถือหุน 50%) ซึ่งจะ<br />

สงผลใหกําไรของ BANPU ในงวด 4Q55 ปรับตัวลดลงอยางมีนัยฯ<br />

และหากพิจารณาแนวโนมกําไรสุทธิในงวด 4Q55 คาดจะเห็นการ<br />

ปรับตัวลดลงจากงวด 3Q55 เนื่องจากจะไมมีการบันทึกกําไร<br />

จากสตอกน้ํามันระดับสูงจากบริษัทโรงกลั่นลูกๆของ PTT เชนที่<br />

เกิดขึ้นในงวด 3Q55<br />

อยางไรก็ตามฝายวิจัยคาดงวด 1Q56 จะเห็นการกลับมาเติบโต<br />

ของกําไรกลุมฯอีกครั้ง ซึ่งหลักๆ ยังเปนผลมาจากธุรกิจปโตรเลียม<br />

ที่คาดวา จะไดรับปจจัยหนุนจากปริมาณการจําหนายผลิตภัณฑที่<br />

ปรับตัวสูงขึ้นของ PTTEP จากการกลับมาเดินเครื่องผลิตเต็มที่ของ<br />

โครงการตางๆหลังจากหยุดซอมประจําปไปในงวด 4Q55 อีกทั้ง<br />

ตามแผนจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชยสําหรับโครงการ มอนทาราใน<br />

ประเทศออสเตรเลีย ในชวงปลายงวด 1Q56 ขณะที่คาดราคาขาย<br />

เฉลี่ยปโตรเลียมจะยังทรงตัวไดในระดับสูง เชนเดียวกับ PTT ที่<br />

คาดวาจะไดรับอานิสงคจากทั้ง PTTEP และบริษัทลูกในกลุมโรง<br />

กลั่นและปโตรเคมี ที่คาดวาคาการกลั่นจะปรับตัวสูงขึ้นตาม<br />

ฤดูกาล รวมถึง Spread ผลิตภัณฑปโตรเคมีที่ยังอยูในทิศทาง<br />

ขาขึ้น ขณะที่ในสวนของธุรกิจถานหินนั้นคาดราคาขายจะยังเปน<br />

ปจจัยหลักที่กดดันกําไรโดยรวมของธุรกิจ แตยังมีปริมาณการผลิต<br />

และจําหนายถานหินที่ปรับตัวสูงขึ้นมาชวงพยุงไวบางสวน<br />

น้ําหนักการลงทุนกลุ่มฯ “มากกว่าตลาด”<br />

...Top Pick เลือก PTT<br />

ฝายวิจัยใหน้ําหนักการลงทุนหุนกลุมปโตรเลียม และถานหิน<br />

“มากกวาตลาด” เนื่องจากเชื่อวาประเทศมหาอํานาจตางๆ<br />

โดยเฉพาะจีนนาจะออกมาตรการกระตุนเศรษฐกิจในระยะอันใกล<br />

ซึ่งจะถือเปนปจจัยบวกสําคัญตอราคาสินคา Commodity ตางๆ<br />

โดยเลือก PTT (FV@B420.12) เปนหุน Top Pick ของกลุมฯ จาก<br />

แนวโนมผลการดําเนินงานที่แข็งแกรงสุดในกลุมฯ รวมถึงหาก<br />

พิจารณาการปรับตัวของราคาหุนในชวงที่ผานมาพบวายังคอนขาง<br />

laggard เมื่อเทียบกับราคาหุนของบริษัทในกลุมฯ และยังคง<br />

คําแนะนําซื้อ PTTEP (FV@B195.69) แตแนะนําเพียงถือสําหรับ<br />

BANPU (FV@B515.27) และ LANNA (FV@B25.36) เนื่องจาก<br />

ยังมีปจจัยบวกที่จะเขามาหนุนในระยะ 1-3 เดือนขางหนา<br />

สรุปคําแนะนําหุ้นกลุ่มปิโตรเลียม<br />

REC./BB<br />

Upside<br />

PBV<br />

PER<br />

Company<br />

ราคาปจจุบัน ราคาเปาหมาย<br />

Rating<br />

(%) 2555F 2556F 2555F 2556F<br />

JAPAN<br />

INPEX CORP 4.76 451500.00 682076.94 51.1% 0.71 0.68 8.80 10.93<br />

JAPAN PETROLEUM 4.45 2995.00 3912.50 30.6% 0.45 0.42 - 11.75<br />

JX HD 4.54 458.00 550.00 20.1% 0.63 0.59 8.73 7.00<br />

CHINA<br />

CHINA PETROLEU-A 4.25 6.61 8.67 31.2% 1.10 1.01 10.15 8.62<br />

PETROCHINA CO-A 4.00 8.91 9.99 12.1% 1.53 1.42 13.24 11.71<br />

MIE HOLDINGS COR 4.45 2.27 2.68 18.2% 1.28 1.05 6.05 5.19<br />

HONG KONG<br />

CHINA PETROLEU-H 3.91 8.55 8.77 2.6% 1.15 1.06 10.02 8.15<br />

PETROCHINA CO-H 3.44 10.86 11.17 2.9% 1.50 1.39 12.48 11.04<br />

CNOOC LTD 3.38 16.58 17.08 3.0% 1.92 1.67 9.14 9.13<br />

INDIA<br />

CAIRN INDIA 4.11 326.00 373.74 14.6% 1.10 0.97 5.75 6.23<br />

INDIAN OIL CORP 3.55 261.30 284.71 9.0% 0.97 0.90 9.51 8.24<br />

OIL & NATURAL GA 4.28 257.80 303.65 17.8% 1.46 1.31 8.62 7.82<br />

RELIANCE INDS 3.14 834.15 818.82 -1.8% 1.41 1.29 13.07 12.29<br />

AUSTRALIA<br />

WOODSIDE PETRO 3.43 34.19 39.55 15.7% 1.90 1.78 13.04 13.84<br />

SANTOS LTD 4.29 10.88 14.67 34.9% 1.11 1.07 17.46 18.73<br />

ORIGIN ENERGY 3.92 11.24 14.35 27.7% 0.93 0.92 14.52 13.51<br />

THAILAND<br />

PTT PCL BUY 331.00 420.12 26.9% 1.59 1.43 9.26 9.04<br />

PTT EXPL & PROD BUY 158.00 195.69 23.9% 2.64 2.29 10.74 10.03<br />

AVERAGE<br />

1.30 1.18 10.62 10.18<br />

หมายเหตุ - บริษัทที่มีคา PBV ที่ผิดปกติจะไมรวมอยูในการคํานวณคาเฉลี่ย<br />

PER หรือ<br />

ที่มา : ขอมูลจาก Bloomberg<br />

สรุปคําแนะนําหุ้นกลุ่มถ่านหิน<br />

REC./BB<br />

Upside<br />

PBV<br />

PER<br />

Company<br />

ราคาปจจุบัน ราคาเปาหมาย<br />

Rating<br />

(%) 2555F 2556F 2555F 2556F<br />

Hong Kong<br />

CHINA SHENHUA-H 4.43 32.95 35.30 7.1% 2.06 1.83 11.04 10.51<br />

CHINA COAL ENE-H 3.61 8.30 7.98 -3.9% 1.00 0.94 9.90 9.58<br />

YANZHOU COAL-H 2.36 12.60 9.91 -21.4% 1.08 1.02 9.76 10.89<br />

China<br />

INNER MONGOLIA-B 4.50 5.66 6.53 15.3% 2.39 1.91 8.14 7.84<br />

CHINA SHENHUA-A 5.00 23.37 27.54 17.8% 1.82 1.66 9.85 9.19<br />

CHINA COAL ENE-A 4.17 7.51 8.43 12.2% 1.11 1.09 11.24 10.49<br />

YANZHOU COAL-A 3.84 17.53 19.35 10.4% 1.95 1.87 14.05 15.22<br />

Indonesia<br />

ADARO ENERGY TBK 4.03 1590.00 1556.55 -2.1% 1.95 1.80 10.94 11.73<br />

BAYAN RESOURCES 1.20 9250.00 3650.00 -60.5% 5.62 5.16 20.32 28.94<br />

TAMBANG BATUBARA 4.14 15700.00 17422.32 11.0% 3.87 3.45 11.81 11.88<br />

BUMI RESOURCES 3.06 610.00 745.56 22.2% 1.19 1.07 - 12.60<br />

India<br />

COAL INDIA LTD 4.02 351.80 390.29 10.9% 4.38 3.60 13.29 12.01<br />

THAILAND<br />

BANPU PUB CO LTD HOLD 422.00 515.27 22.1% 1.08 0.96 12.00 10.99<br />

LANNA RESOURCES HOLD 23.50 25.36 7.9% 1.83 1.76 8.65 12.06<br />

AVERAGE<br />

2.24 2.01 11.62 11.15<br />

หมายเหตุ - บริษัทที่มีคา PER หรือ PBV ที่ผิดปกติจะไมรวมอยูในการคํานวณคาเฉลี่ย<br />

ที่มา : ขอมูลจาก Bloomberg<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 67


กลุ่ม โรงไฟฟ้า<br />

น้ําหนัก เท่าตลาด<br />

เปิดประมูล IPP ต้นปี 2556...ผลักดันการเติบโตกลุ่มฯ<br />

IPP รอบใหม่ช่วยหนุนการเติบโตในระยะยาว<br />

บุกต่างประเทศ...อีกปัจจัยหลักหนุนการเติบโต<br />

Top Pick เลือก RATCH<br />

ชนะประมูล IPP จะเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตใน<br />

ระยะยาว...RATCH / EGCO ได้เปรียบ<br />

ฝายวิจัยยังมีมุมมองเชิงบวกตอกลุมโรงไฟฟา โดยปจจัยหนุน<br />

สําคัญในระยะอันใกลไดแก การเปดประมูลโรงไฟฟาจาก<br />

ภาคเอกชนรายใหญ (IPP) จํานวน 6 โรง กําลังการผลิตรวม 5,400<br />

เมกะวัตต (โรงละ 900 เมกะวัตต ซึ่งจะทยอยเขาระบบตั้งแตป<br />

2564 เปนตนไปเฉลี่ยปละ 1 โรง จนครบ) ซึ่งคาดวาจะเกิดขึ้น<br />

ในชวงตนป 2556 และจะประกาศผลผูชนะการประมูลไดในชวง<br />

2H56<br />

แผน PDP 2010 ใหม่ ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3<br />

กําลังการผลิตไฟฟาใหมชวง ป 2555-2573<br />

(หนวย: เมกะวัตต)<br />

PDP 2010 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3<br />

กําลังการผลิตไฟฟา ณ ธันวาคม 2554 32,629<br />

กําลังการผลิตไฟฟาใหม ในชวงป 2555-2573 55,065<br />

กําลังการผลิตไฟฟาที่ปลดออกจากระบบ ในชวงป 2555-2573 -16,847<br />

รวมกําลังผลิตไฟฟาทั้งสิ้นถึงป 2573 70,847<br />

สรุปกําลังการผลิตไฟฟาใหมชวง ป 2555-2573<br />

ประเภทโรงไฟฟา PDP 2010 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3<br />

โรงไฟฟาพลังงานหมุนเวียน 9,516<br />

โรงไฟฟาระบบ Cogeneration 6,374<br />

โรงไฟฟาความรอนรวม (กาซธรรมชาติ) 25,451<br />

โรงไฟฟาถานหินสะอาด 4,400<br />

โรงไฟฟาพลังงานนิวเคลียร 2,000<br />

โรงไฟฟากังหันแกส 750<br />

รับซื้อจากตางประเทศ 6,572<br />

รวมกําลังผลิตไฟฟาทั้งสิ้นถึงป 2573 55,063<br />

ที่มา : EGAT<br />

การเปดประมูลโรงไฟฟาดังกลาวเปนไปตามแผนพัฒนากําลังการ<br />

ผลิตไฟฟาของประเทศไทย พ.ศ.2553-2573 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3<br />

(PDP 2010) โดยตามแผน PDP ฉบับใหมนี้ จะมีการเปดใหรับซื้อ<br />

ไฟฟาจากภาคเอกชน (ประมูล IPP) ซึ่งแตกตางจากแผน PDP<br />

2010 ฉบับเดิมที่ไมมีการเปดประมูล IPP รวมถึงชนิดของเชื้อเพลิง<br />

ที่ใชก็มีการเปลี่ยนแปลงเชนกัน โดยตามแผนใหมจะเปนการเพิ่ม<br />

สัดสวนการกอสรางโรงไฟฟาที่ใชกาซธรรมชาติเปนเชื้อเพลิง และ<br />

68 Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

พลังงานหมุนเวียนมากขึ้น ขณะที่ลดการใชเชื้อเพลิงถานหิน และ<br />

พลังงานนิวเคลียรลง<br />

ทั้งนี้ ฝายวิจัยเชื่อวาทั้ง RATCH, EGCO และ GLOW ซึ่งถือเปน<br />

ผูผลิตไฟฟาเอกชนอิสระรายใหญของประเทศ จะไดรับประโยชน<br />

จากการเปดประมูลโรงไฟฟา IPP ในรอบนี้ โดยในเบื้องตนคาดวา<br />

ผูผลิตไฟฟารายใหญทั้ง 3 แหง ไดเตรียมความพรอมในทุกๆ ดาน<br />

เพื่อรองรับการเปดประมูลในครั้งนี้ไวแลว ซึ่งจากการประเมิน<br />

เบื้องตนของฝายวิจัยคาดทั้ง RATCH และ EGCO ถือวามีความ<br />

ไดเปรียบเพราะสามารถสรางโรงไฟฟาใหมในพื้นที่ที่มีอยูเดิมไดคือ<br />

บริเวณโรงไฟฟาราชบุรีสําหรับ RATCH และ บริเวณโรงไฟฟา<br />

ระยองสําหรับ EGCO ซึ่งไดผานการทํารายงานศึกษาผลกระทบ<br />

สิ่งแวดลอม (EIA) ไวลวงหนาแลว อีกทั้งมีความพรอมในเรื่องของ<br />

สาธารณูปโภคพื้นฐานตางๆ (Facilities) อาทิ แนวทอสงกาซฯ<br />

สายสงไฟฟา เปนตน ทําใหไมตองใชเงินลงทุนเพิ่มมากนัก ขณะที่<br />

ในสวนของ GLOW นั้น ดวยขอจํากัดในพื้นที่โรงไฟฟาเดิมในนิคม<br />

อุตสาหกรรมมาบตาพุด ทําใหมีการเตรียมพื้นที่ไวใหม (อ.ปลวก<br />

แดง จ.ระยอง) และถึงแมจะไดรับ EIA แลว แตอาจจะตองใชเงิน<br />

ลงทุนสําหรับสาธารณูปโภคพื้นฐานตางๆ มากกวาหากเทียบกับ<br />

RATCH และ EGCO ที่ใชพื้นที่เดิม<br />

อยางไรก็ตามโดยรวมแลวฝายวิจัยคาดผูผลิตไฟฟาทั้ง 3 แหงมี<br />

โอกาสที่จะชนะการประมูล เนื่องจากมีการเปดประมูลโรงไฟฟา<br />

ใหมรวมทั้งสิ้น 6 โรง ซึ่งจะสามารถสรางฐานกําไรใหเติบโต และ<br />

เพิ่มมูลคาใหกับบริษัทในอนาคต ทั้งนี้จากการประเมินเบื้องตน<br />

ภายใตวิธี Replacement Cost โดยใชสมมติฐานตนทุนการ


กอสรางโรงไฟฟาที่ 8 แสนเหรียญฯตอเมกะวัตต (ไมรวมตนทุน<br />

Facilities) และอัตราสวน D/E อยูที่ 3:1 พบวาหาก RATCH,<br />

EGCO และ GLOW ชนะประมูลโรงไฟฟา 1 แหงจะเพิ่มมูลคา<br />

พื้นฐานไดราว 3.72, 10.18 และ 3.69 บาทตอหุน ตามลําดับ หรือ<br />

เพิ่มขึ้น 6.8%, 9.5% และ 5.9% จาก Fair Value ป 2556<br />

ตามลําดับ<br />

ขยายการลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น...ต่อ<br />

ยอดกําไรให้แข็งแกร่ง<br />

นอกจากการขยายการลงทุนในประเทศ ผานทั้งการประมูล<br />

โรงไฟฟาขนาดเล็ก (SPP) รวมถึงขนาดใหญซึ่งจะเกิดขึ้นภายใน<br />

ป 2556 แลวนั้น ผูผลิตไฟฟาไฟฟาหลายรายไดเริ่มขยายการลงทุน<br />

ในธุรกิจไฟฟาในตางประเทศมากขึ้น เพราะคาดวาจะสามารถ<br />

สรางฐานการเติบโตไดในระยะยาว อาทิ RATCH ไดเขาไปลงทุน<br />

ในโรงไฟฟาประเทศออสเตรเลียผานบริษัทยอย RATCH-Australia<br />

กําลังการผลิตกวา 500 เมกะวัตต ในปจจุบัน รวมถึง EGCO ที่เขา<br />

ไปถือหุนโรงไฟฟาเคซอน ในฟลิปปนส กําลังการผลิต 503 เมกะ<br />

วัตต สัดสวน 98% เปนตน รวมถึงยังมองหาโอกาสที่จะขยายการ<br />

ลงทุนในตางประเทศเพิ่มขึ้น<br />

คาดกําไรกลุ่มฯ งวด 1Q56 กลับมาเติบโต<br />

หลังจากอ่อนตัวตามผลของฤดูกาล<br />

ฝายวิจัยคาดแนวโนมกําไรกลุมโรงไฟฟาทั้ง 3 แหงที่ฝายวิจัย<br />

ศึกษาในงวด 1Q56 นาจะเห็นการกลับมาเติบโตอีกครั้ง จากการ<br />

กลับมาเดินเครื่องโรงไฟฟาเต็มกําลัง หลังจากออนตัวลงในงวด<br />

4Q55 ตามผลของฤดูกาล (seasonal) ซึ่งเปนชวงฤดูหนาวของ<br />

ประเทศไทย ทําใหความตองการใชไฟฟาปรับตัวลดลง อีกทั้ง<br />

โรงไฟฟาหลายแหงอาจเดินเครื่องครบกําหนดตามสัญญาตอปที่<br />

ทําไวกับ EGAT ตามสัญญา PPA ไปแลวตั้งแตชวงตนไตรมาส 4<br />

ทําใหในชวงเดือนสุดทายของป โรงไฟฟาอาจจะเดือนเครื่องไมเต็ม<br />

กําลังการผลิต ซึ่งจะสงผลกระทบตอรายไดคาความพรอมจาย<br />

(AP-Availability Payment) ใหปรับตัวลดลง รายละเอียดดังนี้<br />

RATCH : ฝายวิจัยคาดแนวโนมกําไรปกติในงวด 4Q55 จะออน<br />

ตัวลงจากงวด 3Q55 ตามผลของฤดูกาล ซึ่งเปนชวงฤดูหนาวทํา<br />

ใหความตองการใชไฟฟาของประเทศจะปรับตัวลดลง ประกอบกับ<br />

ชั่วโมงการเดินเครื่องของโรงไฟฟาสวนใหญไดเดินเครื่องครบ<br />

กําหนดตามสัญญาไปแลวตั้งแตชวง 9 เดือนแรกของป สงผลให<br />

รายไดคาความพรอมจาย (AP-Availability Payment) ปรับตัว<br />

ลดลงทําระดับต่ําสุดของป และคาดจะกลับมาเห็นการเติบโตของ<br />

กําไรอีกครั้งในงวด 1Q56 หลังจากการเดินเครื่องเขาสูสภาวะปกติ<br />

EGCO : เชนเดียวกับ RATCH ที่คาดกําไรงวด 4Q55 จะออนตัว<br />

ลงตามผลของฤดูกาล นอกจากนี้กําไรงวด 4Q55 ของ EGCO ยัง<br />

ถูกกดดันจากจากแนวโนมสวนแบงกําไรจากเงินลงทุนจาก<br />

โรงไฟฟา BLCP (EGCO ถือหุน 50%) ที่จะปรับตัวลดลงอยางมี<br />

นัยฯจากงวด 3Q55 เนื่องจากจะมีการหยุดเดินเครื่องเพื่อซอม<br />

บํารุงประจําปราว 1 เดือน แตคาดในงวด 1Q55 จะกลับมาเปน<br />

การเติบโตของกําไรอยางมีนัยฯ<br />

GLOW : คาดแนวโนมกําไรปกติในงวด 4Q55 จะยังสามารถทรง<br />

ตัวในระดับใกลเคียงกับงวด 3Q55เนื่องจากคาดจะไดรับปจจัย<br />

หนุนจาก แนวโนมกําไรจากโรงไฟฟา Gheco-one ที่คาดวาจะ<br />

ปรับตัวสูงขึ้น จากการเดินเครื่องผลิตไฟฟาเต็มทั้งไตรมาส รวมถึง<br />

คาดปริมาณขายของโรงไฟฟา Cogeneration จะปรับตัวสูงขึ้น<br />

เนื่องจากในงวด 4Q55 จะมีการหยุดเดินเครื่องเพื่อซอมบํารุง<br />

โรงไฟฟาเพียง 1 หนวย คือ CFB2 อีกทั้งลูกคารายใหญที่หยุด<br />

เดินเครื่องโรงงานไปในงวด 3Q55 ก็จะกลับมาเดินเครื่องโรงงาน<br />

เต็มที่อีกครั้งในงวด 4Q55 ซึ่งสามารถชวยชดเชยแนวโนมกําไร<br />

จากโรงไฟฟา GLOW IPP และหวยเฮาะที่คาดวาจะออนตัวลงจาก<br />

งวด 3Q55 เนื่องจากเขาสูชวง Low Season ของการใชไฟฟาทํา<br />

ให EGAT อาจสั่งเดินเครื่องโรงไฟฟาลดลงหลังจากที่ไดเดินเครื่อง<br />

ผลิตไฟฟาครบตามกําหนดในสัญญาตอป<br />

ให้นําหนักลงทุนกลุ่ม “เท่าตลาด”…Top Pick<br />

เลือก RATCH<br />

ฝายวิจัยมีมุมมองบวกตอกลุมโรงไฟฟาในระยะยาว แตเนื่องจาก<br />

ราคาไดมีการปรับตัวขึ้นสะทอนปจจัยบวกตางๆ ที่เกิดขึ้นไปใน<br />

ระดับหนึ่งแลว จึงใหน้ําหนักการลงทุนกลุมโรงไฟฟา “เทาตลาด”<br />

โดยยังคงเลือก RATCH (FV@B61.90) เปนหุน Top Pick ของ<br />

กลุมฯ จากความโดดเดนในดานโครงการลงทุนที่มีอยูในมือ อาทิ<br />

โครงการโรงไฟฟาหงสา และโครงการพลังน้ํา น้ํางึม 3 เปนตน ซึ่ง<br />

จะนําไปสูการเติบโตของฐานกําไรไดอยางตอเนื่องในระยะ 3-5 ป<br />

ขางหนา นอกจากนี้ยังมีสถานะทางการเงินแข็งแกรงสุดในกลุมฯ<br />

อีกทั้งในมูลคาพื้นฐานปจจุบัน<br />

สรุปประมาณการ และคําแนะนําหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า<br />

REC./BB<br />

Upside<br />

PBV<br />

PER<br />

Company<br />

ราคาปจจุบัน ราคาเปาหมาย<br />

Rating<br />

(%) 2555F 2556F 2555F 2556F<br />

CHINA<br />

CHINA YANGTZE-A 4.58 6.76 8.14 20.4% 1.37 1.25 12.09 11.60<br />

HUANENG POWER-H 3.93 7.02 7.00 -0.2% 1.40 1.30 13.06 10.06<br />

DATANG INTL PO-H 3.56 2.92 3.05 4.4% 0.77 0.72 10.05 7.81<br />

HONGKONG<br />

CHINA RES POWER 4.69 18.70 20.91 11.8% 1.63 1.46 13.17 10.81<br />

CHINA POWER INTE 4.57 2.40 2.81 17.0% 0.71 0.65 8.23 6.90<br />

JAPAN<br />

ELECTRIC POWER D 4.00 2186.00 2400.00 9.8% 0.77 0.74 11.70 11.04<br />

CHUBU ELEC POWER 2.69 1188.00 1042.22 -12.3% 0.63 0.68 - -<br />

CHUGOKU ELEC PWR 2.25 1371.00 1090.00 -20.5% 0.84 0.92 - -<br />

INDIA<br />

NTPC LTD 3.96 154.50 181.90 17.7% 1.58 1.46 12.57 11.29<br />

NHPC LTD 3.00 24.40 22.18 -9.1% 1.01 0.95 13.13 11.90<br />

RELIANCE POWER 2.11 100.15 91.93 -8.2% 1.52 1.44 29.90 25.45<br />

PHILIPPINES<br />

ABOITIZ POWER 4.33 36.45 38.51 5.6% 3.24 2.82 11.78 12.68<br />

FIRST GEN CORPOR 4.56 22.65 23.34 3.1% 1.36 1.21 12.86 10.05<br />

THAILAND<br />

RATCHABURI ELEC BUY 57.00 61.90 8.6% 1.55 1.46 10.52 12.66<br />

ELEC GENERATING BUY 137.00 147.57 7.7% 1.23 1.21 6.35 9.73<br />

GLOW ENERGY PCL HOLD 71.75 75.25 4.9% 2.84 2.62 18.10 13.41<br />

AVERAGE<br />

1.40 1.31 11.82 10.77<br />

หมายเหตุ - บริษัทที่มีคา PER PBV ที่ผิดปกติจะไมรวมอยูในการคํานวณคาเฉลี่ย<br />

หรือ<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 69


กลุ่ม ยานยนต์<br />

น้ําหนัก เท่าตลาด<br />

รถคันแรก+ส่งออก ดันยอดผลิตปี 2556 โต 5%<br />

ปี 2555...ปีแห่งการทําลายสถิติ ยอดผลิตสูงสุด 2.45 ล้านคัน<br />

ส่งมอบรถคันแรกและเพิ่มส่งออก จะหนุนยอดผลิตปี 2556 สู่ 2.5-2.6 ล้านคัน<br />

เลือก SAT หุ้น Laggard และ STANLY หุ้นมั่นคง เป็น Top Picks<br />

ปี 2555 พลิกสถิติ ผลิตรถ 2.45 ล้านคัน<br />

ป 2555 นับเปนปทองของอุตสาหกรรมยานยนต โดยสามารถฟน<br />

ตัวอยางรวดเร็วจากภาวะตกต่ําในป 2554 และสามารถทําลาย<br />

สถิติทั้งยอดขาย และ ยอดผลิตรถยนตมาสรางจุดสูงสุดใหม<br />

โดยเฉพาะตลาดรถยนตในประเทศ ไดอานิสงคอยางมากจาก<br />

นโยบายรถยนตคันแรกตามนโยบายของรัฐบาล และ การเปดตัว<br />

รถยนตรุนใหมอยางตอเนื่อง โดยเฉพาะรถยนตนั่งขนาดเล็กหรือ<br />

อีโคคารที่เขาเกณฑไดรับสิทธิประโยชนจากโครงการรถยนตคัน<br />

แรก สงผลใหตลาดรถยนตในประเทศชวง 11M55 (ม.ค. – พ.ย.<br />

2555) มียอดขายรวม 1.29 ลานคัน หรือ เฉลี่ย 1.2 แสนคันตอ<br />

เดือน และคาดจะยืนตอเนื่องในเดือน ธ.ค. 2555 เนื่องจากไดแรง<br />

หนุนจากการจัดงาน Motor Expo ที่สามารถทํายอดจองรถยนต<br />

ใหมสูงสุดเปนประวัติการณ 8.59 หมื่นคัน และจะผลักดันใหทั้งป<br />

2555 มียอดขายรถยนตรวมในประเทศทําลายสถิติสูงสุด 1.45<br />

ลานคัน เติบโต 82.6%yoy<br />

ยอดจําหน่ายรถยนต์ในประเทศ<br />

คัน<br />

200,000<br />

150,000<br />

100,000<br />

50,000<br />

0<br />

พ.ย.53<br />

ธ.ค.53<br />

ม.ค.54<br />

ก.พ.54<br />

มี.ค.54<br />

เม.ย.54<br />

พ.ค.54<br />

มิ.ย. 54<br />

ก.ค.54<br />

ส.ค.54<br />

ก.ย. 54<br />

ต.ค.54<br />

พ.ย.54<br />

ธ.ค. 54<br />

ม.ค.55<br />

ก.พ.55<br />

มี.ค.55<br />

เม.ย.55<br />

พ.ค. 55<br />

มิ.ย.55<br />

ก.ค.55<br />

ส.ค.55<br />

ก.ย.55<br />

ต.ค.55<br />

พ.ย. 55<br />

ดานตลาดสงออกรถยนต แมไมไดเติบโตโดดเดนเหมือนตลาด<br />

รถยนตในประเทศ สวนหนึ่งเปนเพราะคายผูผลิตรถยนตโยกกําลัง<br />

การผลิตเพื่อรองรับความตองการรถยนตในประเทศมากขึ้น ทําให<br />

การสงออกรถยนตงวด 11M55 ขยายตัว 34%yoy อยู 9.4 แสนคัน<br />

หรือ เฉลี่ย 8-9 หมื่นคันตอเดือน คาดจะตอเนื่องในเดือน ธ.ค.<br />

2555 เนื่องจากมีออเดอรจากลูกคาตางประเทศ โดยเฉพาะจาก<br />

กลุมลูกคาหลักในภูมิภาคเอเชีย (สัดสวน 33%) ตะวันออกกลาง<br />

(24%) และ ออสเตรเลีย/นิวซีแลนด (20%) ขณะเดียวกันตลาด<br />

สงออกรถยนตไปยุโรป ก็มีสัดสวนเพียง 7% ของยอดสงออก<br />

รถยนตรวม ทําใหไมไดรับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจใน<br />

สหภาพยุโรป เชื่อวาการสงออกรถยนตของไทยป 2555 ยังเติบโต<br />

ได 36% yoy หรือ ประมาณ 1 ลานคัน ซึ่งถือเปนระดับสูงสุดเปน<br />

ประวัติการณเชนกัน โดยยอดสงออกปนี้จะทําใหไทยขยับขึ้นเปน<br />

อันดับ 6 ของโลก<br />

ยอดส่งออกรถยนต์ของไทยรายเดือน<br />

120,000<br />

100,000<br />

80,000<br />

60,000<br />

40,000<br />

20,000<br />

0<br />

คัน<br />

ก.ย.53<br />

ต.ค .53<br />

พ.ย.53<br />

ธ.ค .53<br />

ม.ค .54<br />

ก.พ.54<br />

มี.ค .54<br />

เม.ย.54<br />

พ.ค .54<br />

มิ.ย.54<br />

ก.ค .54<br />

ส .ค.54<br />

ก.ย.54<br />

ต.ค .54<br />

พ.ย.54<br />

ธ.ค .54<br />

ม.ค .55<br />

ก.พ.55<br />

มี.ค .55<br />

เม.ย.55<br />

พ.ค .55<br />

มิ.ย.55<br />

ก.ค .55<br />

ส .ค.55<br />

ก.ย.55<br />

ต.ค .55<br />

พ.ย.55<br />

ที่มา : สภาอุตสาหกรรมแหงประเทศ<br />

ที่มา : โตโยตา มอเตอรส (ประเทศไทย) / สภาอุตสาหกรรมแหงประเทศ<br />

70 Invest+ 1 st Quarter, 2013


ปจจัยบวกของตลาดรถยนตในประเทศและสงออกขางตน ทําให<br />

คาดป 2555 การผลิตรถยนตจะทําลายสถิติสูงสุดระดับ 2.45 ลาน<br />

คัน ขยายตัว 68%yoy (งวด 11M55 มียอดผลิตรถยนต 2.23 ลาน<br />

คัน เพิ่มขึ้น 64.34%yoy) และเปนผูผลิตรายใหญติดอันดับ 1 ใน<br />

10 ของโลก และมีแนวโนมที่ดีขึ้นอยางตอเนื่อง<br />

คาดผลิตรถยนต์ปี 2556 เติบโต 5%<br />

ปจจัยบวกที่ยังมีผลตอเนื่องมาจากป 2555 นาจะทําใหป 2556<br />

เปนอีกปที่อุตสาหกรรมยานยนตไทยมีโอกาสทําสถิติสูงสุดไดตอ<br />

ทั้งในสวนของภาคการผลิตและตลาดสงออก แมตลาดในประเทศ<br />

จะหมดแรงกระตุนจากโครงการรถยนตคันแรกซึ่งดึงความตองการ<br />

รถยนตลวงหนามาใช ทําใหยอดขายรถยนตใหมในประเทศป<br />

2556 กลับสูภาวะปกติ แตในภาคการผลิตเชื่อวางวด 1H56 จะยัง<br />

มียอดอยูในระดับสูงตอเนื่องจากปลายป 2555 เนื่องจากยังมีการ<br />

สงมอบรถยนตคงคางจองกันอยู โดยหากประเมินจากแผนการ<br />

ผลิตที่คายรถยนตไมสามารถผลิตรถยนต ประกอบกับยอดใชสิทธิ<br />

รถยนตคันแรกที่คาดสูงเกิน 1 ลานคัน (ปจจุบันมียอดผูมาขอใช<br />

สิทธิแลว 9 แสนคัน) คาด ณ สิ้นป 2555 จะยังมียอดการผลิตที่<br />

ตองสงมอบรถยนตในป 2556 ประมาณ 3 แสนคัน แตหลังจากนั้น<br />

งวด 2H56 นาจะคอยๆชะลอตัวลง ทําใหคายรถยนตตองดําเนิน<br />

กลยุทธผานการเปดตัวรถยนตใหม รวมถึงจัดกิจกรรมสงเสริมการ<br />

ขายเพื่อรักษาการขายในประเทศ ควบคูไปกับการปรับเพิ่มสัดสวน<br />

การผลิตเพื่อรองรับตลาดสงออกมากขึ้น ทั้งนี้โดยภาพรวมประเมิน<br />

วายอดการผลิตรถยนตรวมป 2556 นาจะอยูที่ 2.5-2.6 ลานคัน<br />

เพิ่มขึ้นประมาณ 5%yoy<br />

แนวโน้มการผลิตรถยนต์ของไทย<br />

3,500,000 คัน<br />

3,000,000<br />

2,500,000<br />

2,000,000<br />

1,500,000<br />

1,000,000<br />

500,000<br />

0<br />

2545<br />

2546<br />

2547<br />

2548<br />

2549<br />

2550<br />

2551<br />

2552<br />

2553<br />

2554<br />

2555F<br />

2556F<br />

2557F<br />

2558F<br />

2559F<br />

2560F<br />

ตลาดสงออก ตลาดในประเทศ ยอดผลิตรถยนต<br />

ที่มา : สภาอุตสาหกรรมแหงประเทศไทย และ ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

ค่ายรถลงทุนเพิ่ม หนุนการผลิตเติบโตยาว<br />

อุตสาหกรรมยานยนตไทยยังมีศักยภาพเติบโตอยางมั่นคงในระยะ<br />

ยาว ปจจัยผลักดันจากนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต<br />

ของภาครัฐ นอกจากนี้การเปดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี)<br />

ในป 2558 ที่จะทําใหตลาดรถยนตใหญขึ้นจากจํานวนประชากร<br />

ในอาเซียนจะรวมเปน 600 ลานคน และแรงกดดันจากคาเงินเยน<br />

ของญี่ปุนที่แข็งคา รวมถึงขอพิพาทระหวางจีน-ญี่ปุน ทําใหคาย<br />

รถยนตญี่ปุนหันมาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น อาทิ อีซูซุ โตโยตา<br />

นิสสัน มิตซูบิชิ ซูซูกิ และ เอเอที ดําเนินการขยายโรงงานเพิ่มกําลัง<br />

การผลิตอยางตอเนื่อง เพื่อรองรับความตองการรถยนตทั้งในและ<br />

ตางประเทศ ดวยแรงขับเคลื่อนดังกลาว ทําใหมั่นใจวา<br />

อุตสาหกรรมยานยนตไทยยังเติบโตยั่งยืน โดยมีเปาหมายการผลิต<br />

รถยนตในประเทศไทยเพิ่มเปน 3 ลานคันภายในป 2560<br />

เลือก STANLY และ SAT เป็นหุ้นเด่น<br />

ฝายวิจัยคงแนะนําลงทุน เทากับตลาด สําหรับกลุมยานยนต โดย<br />

มองวาการดําเนินงานของกลุมชิ้นสวนยานยนตทั้ง 6 บริษัทเติบโต<br />

ไปในทิศทางเดียวกับภาคการผลิตรถยนต กลาวคือมีกําไรจากการ<br />

ดําเนินงานป 2555 ที่ระดับ 3.5 พันลานบาท เพิ่มขึ้น 1.37 เทาตัว<br />

สวนป 2556 อัตราการเติบโตชะลอตัวลงมาอยูที่ระดับ 20.7%<br />

หรือมีกําไรจากการดําเนินงาน 4.26 พันลานบาท ขณะที่<br />

Sentiment การลงทุนออนลงหลังหมดอายุมาตรการรถยนตคัน<br />

แรก สําหรับหุนเดนในกลุมยานยนต เลือก SAT (FV @ B40.64 อิง<br />

PER 13 เทา) และ STANLY (FV @ B268.34 อิง PER 13 เทา)<br />

60,000<br />

50,000<br />

40,000<br />

30,000<br />

20,000<br />

10,000<br />

0<br />

ทิศทางผลประกอบการของกลุ่มยานยนต์ 6 บริษัท<br />

2548<br />

ลานบาท<br />

2549<br />

2550<br />

รายได<br />

ที่มา : บริษัท และ ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

2551<br />

2552<br />

2553<br />

2554<br />

2555F<br />

ลานบาท<br />

กําไรจากการดําเนินงานปกติ<br />

2556F<br />

5,000<br />

4,000<br />

3,000<br />

2,000<br />

1,000<br />

0<br />

SAT: หุน Laggard สุดในกลุมที่มี upside สูงถึง 48%<br />

ขณะเดียวกันคาด EPS Growth ป 2556 เติบโตมากสุด<br />

21.4%yoy จากยอดขายที่เติบโตตามภาคการผลิตและการทํา<br />

กําไรปรับตัวดีขึ้น หลังโรงงานใหมผลิตไดอยางมีประสิทธิภาพ<br />

มากขึ้น<br />

STANLY: เปนอีกบริษัทที่มีความโดดเดนทั้งฐานะการเงิน<br />

แข็งแกรง และฐานธุรกิจมั่นคง โดยคาด EPS Growth ป 2556<br />

เติบโต 17.7%yoy และระดับ PER ซื้อขายต่ํา 8.7 เทา<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 71


กลุ่ม พัฒนาที่อยู่อาศัย<br />

น้ําหนัก มากกว่าตลาด<br />

ปี 2556 มียอดขายรอโอนฯ เกือบ 1 แสนล้านบาท<br />

Presale ปี 2555 คาดทะลุ 2 แสนล้านบาท ปี 2556 โตต่อเนื่อง<br />

ปี 2556 มี Backlog ที่รอบันทึกรายได้แล้วเกือบ 1 แสนล้านบาท<br />

น้ําหนักมากกว่าตลาด เลือก PS, RML และ MJD เป็น Top Picks<br />

4Q55 ทํากําไรสูงสุดของปี 2555<br />

ผลงานงวด 9M55 ของบริษัทจดทะเบียน 15 แหงที่ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

วิเคราะห อยูในเกณฑที่ดี โดยมี Presale รวม 1.59 แสนลานบาท<br />

เพิ่ม 17.5%YoY การบันทึกรายไดรวมอยูที่ 1.04 แสนลานบาท<br />

และมีกําไรจากการดําเนินงาน 1.34 หมื่นลานบาท ใกลเคียงกับ<br />

ชวงเดียวกันของปที่ผานมา แตดวย Presale ที่สูงกวาการบันทึก<br />

รายไดมาก ทําให Backlog ณ สิ้น 3Q55 อยูที่ระดับ 2.3 แสนลาน<br />

บาท สูงเปนประวัติการณ โดยที่ในงวด 4Q55 มีกําหนดการโอนฯ<br />

และบันทึกรายได จากคอนโดมิเนียมใหมเปนจํานวนมาก ซึ่งเมื่อ<br />

รวมกับยอดขายสตอกคอนโดฯ และโครงการแนวราบในงวด<br />

4Q55 คาดวาจะทําใหการบันทึกรายได สูงถึง 6.8 หมื่นลานบาท<br />

และสรางกําไรในงวด 4Q55 สูงกวา 1.1 หมื่นลานบาท ดาน<br />

โครงสรางการเงินมีแนวโนมที่ดีขึ้นตอเนื่อง โดยที่อัตราสวน Net<br />

Gearing ปรับลดลงมาอยูที่ 1.01 เทา ลดลงจาก 1.1 เทาในชวง<br />

ไตรมาสกอนหนานี้ และดวยแผนการโอนฯ ดังกลาวขางตน<br />

คาดหมายวา กระแสเงินสดจากการดําเนินงาน (CFO) ที่จะพลิก<br />

กลับเปนบวกอยางมีนัยสําคัญ นาจะถูกนําไปลดภาระหนี้ ขณะที่<br />

ฐานทุนใหญขึ้นจากการบันทึกกําไร ดวยองคประกอบดังกลาว<br />

คาดวาจะทําใหอัตราสวน Net Gearing เฉลี่ยของกลุมพัฒนาที่อยู<br />

อาศัย ปรับลดลงไปอยูที่ระดับต่ํากวา 1 เทา ตามที่ฝายวิจัยเคย<br />

คาดการณไวตั้งแตชวงตนป 2555<br />

Backlog ของ 15 บริษัทใน Coverage ของ <strong>ASP</strong> สิ้นสุด 3Q55<br />

ลานบาท<br />

250,000<br />

200,000<br />

150,000<br />

100,000<br />

50,000<br />

0<br />

3Q50<br />

4Q50<br />

1Q51<br />

2Q51<br />

3Q51<br />

4Q51<br />

1Q52<br />

2Q52<br />

3Q52<br />

4Q52<br />

1Q53<br />

2Q53<br />

3Q53<br />

4Q53<br />

1Q54<br />

2Q54<br />

3Q54<br />

4Q54<br />

1Q55<br />

2Q55<br />

3Q55<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

แนวราบ<br />

Condo<br />

ปี 2556 คาดรายได้กว่า 2 แสนล้านบาท<br />

จากการศึกษาโครงสราง Backlog ณ สิ้น 3Q55 ที่ประกอบดวย<br />

คอนโดฯ 1.91 แสนลานบาท และโครงการแนวราบ 3.89 หมื่นลาน<br />

บาท พบวา Backlog ในสวนโครงการคอนโดมิเนียมจาก 15<br />

บริษัทใน Coverage ของฝายวิจัย จะมีโครงการที่กอสรางเสร็จใน<br />

ป 2556 และบันทึกรายไดจํานวน 58 โครงการ คิดปนมูลคา<br />

Backlog 6.75 หมื่นลานบาท หรือคิดเปน 35% ของ Backlog<br />

คอนโดมิเนียม ณ สิ้น 3Q55 ซึ่งก็หมายความวา 15 บริษัทนาจะ<br />

สามารถบันทึกรายไดจากโครงการคอนโดมิเนียมที่สรางเสร็จใหม<br />

อยางนอย 6.75 หมื่นลานบาท นอกจากนี้จะมีการบันทึกราย<br />

เพิ่มเติมจากการขายสตอกใน 58 โครงการดังกลาว และการโอนฯ<br />

โครงการคอนโดมิเนียมเดิมที่ยกมาจากปลายป 2555 อีกสวนหนึ่ง<br />

ดวย ซึ่งโดยภาพรวมนาจะทําใหการบันทึกรายไดจากโครงการ<br />

179,217<br />

37,346<br />

191,510<br />

38,769<br />

72<br />

Invest+ 1 st Quarter, 2013


คอนโดมิเนียมรวมในป 2556 อาจอยูที่ระดับประมาณ 1 แสนลาน<br />

บาท สวนโครงการแนวราบจากการประเมินคาเฉลี่ย Backlog<br />

ยอนหลัง 4 ไตรมาสลาสุด พบวาอยูที่ระดับประมาณ 3.6 หมื่น<br />

ลานบาท โดยที่แตละไตรมาสมีการบันทึกรายไดเฉลี่ยไมนอยกวา<br />

2 หมื่นลานบาทตอไตรมาส สวนในป 2556 คาดวาตลาดของ<br />

โครงการแนวราบ นาจะเติบโตชัดเจนมากขึ้น หลังจากความกังวล<br />

เรื่องปญหาน้ําทวมลดลงไป จึงเปนไปไดวาการขายและบันทึก<br />

รายไดจากโครงการแนวราบนาจะอยูที่ประมาณ 1 แสนลานบาท<br />

สวนแรงจูงใจในการสรางการเติบโตของยอดขายใหม โดย<br />

ภาพรวมนาจะเปนเรื่องของการขยายตัวของผูประกอบการสูตลาด<br />

ตางจังหวัด, การขยายตัวของระบบขนสงมวลชน, กําลังซื้อที่ดีขึ้น<br />

จากนโยบายการเพิ่มรายไดใหประชาชนผานหลายๆ แนวทาง<br />

ขณะที่อัตราดอกเบี้ยที่อยูระดับต่ําชวยกระตุนการซื้อเพื่อการลงทุน<br />

ลานบาท<br />

30,000<br />

25,000<br />

20,000<br />

15,000<br />

10,000<br />

5,000<br />

Backlog คอนโดมิเนียม ที่ถึงกําหนดโอนฯ ในแต่ละไตรมาส<br />

0<br />

4,930<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

21,197<br />

14,066<br />

27,269<br />

1Q56 2Q56 3Q56 4Q56<br />

การโอนฯ โครงการคอนโดมิเนียมใหม่ปี 2556 ของ 15 บริษัท<br />

ลานบาท<br />

12,000<br />

10,000<br />

8,290<br />

8,000<br />

6,000<br />

4,000<br />

2,000<br />

0<br />

AP<br />

LH<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

0<br />

MK<br />

NOBLE<br />

QH<br />

8,995<br />

PS<br />

SC<br />

5,442<br />

SPALI<br />

10,646<br />

SIRI<br />

LPN<br />

10,656<br />

คาดกําไรปี 2556 เติบโต 23.9%YoY<br />

PF<br />

PRIN<br />

SENA<br />

MJD<br />

6,816<br />

เปาหมายการบันทึกรายไดจากธุรกิจหลักป 2556 คาดหมายวาจะ<br />

เติบโต 18%YoY ตามขอมูลการวิเคราะหที่นําเสนอขางตน จะ<br />

สงผลดีตอเนื่องไปยังประสิทธิภาพการทํากําไรของผูประกอบการ<br />

โดยฝายวิจัยประเมินวา Norm Profit Margin เฉลี่ยของ<br />

RML<br />

ผูประกอบการ 15 ราย นาจะปรับเพิ่มขึ้นเปน 15% เทียบกับ<br />

14.3% ในป 2555 ทั้งนี้เปนผลโดยตรงมาจากการเพิ่มขึ้นรายไดที่<br />

เร็วกวาคาใชจายในการขายและบริหาร ประกอบกับภาระภาษีเงิน<br />

ไดนิติบุคคลที่ปรับลดลงมาเหลือ 20% จาก 23% และดวย<br />

โครงสรางการทํากําไรดังกลาว ฝายวิจัยประเมินวา 15 บริษัทใน<br />

กลุมพัฒนาที่อยูอาศัย จะมีกําไรจากการดําเนินงาน 3.07 หมื่น<br />

ลานบาท เพิ่มขึ้น 23.9% จากฐาน 2.48 หมื่นลานบาทในป 2555<br />

MB<br />

35,000<br />

30,000<br />

25,000<br />

20,000<br />

15,000<br />

10,000<br />

5,000<br />

0<br />

คาดการณ์ผลประกอบการปี 2555 ของ 15 บริษัท<br />

12.2%<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

14.8%<br />

16.3%<br />

15.3%<br />

18,150.9<br />

13.0%<br />

24,781.1<br />

14.3%<br />

30,704.5<br />

2550 2551 2552 2553 2554 2555E 2556E<br />

Norm Prof it<br />

Norm Profit Margin<br />

15.0% 15%<br />

ปัจจัย แรงงาน และต้นทุน เป็นความเสี่ยง<br />

ปจจัยเสี่ยงสําหรับกลุมพัฒนาที่อยูอาศัยสําหรับป 2556 ที่สําคัญ<br />

ที่สุดนาจะเปนเรื่องของการสงมอบซึ่งมี 2 องคประกอบเขามา<br />

เกี่ยวของไดแก ปจจัยดานแรงงาน ซึ่งปจจุบันอยูในภาวะที่ขาด<br />

แคลน และอาจมีแนวโนมรุนแรงมากขึ้น หลังการใชคาแรงขั้นต่ํา<br />

300 บาท/วัน ทั่วประเทศ เนื่องจากอาจทําใหแรงงานที่เคยเขามา<br />

ทํางานกอสรางในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ยายออกไปในตางจังหวัด<br />

มากขึ้น สวนอีกองคประกอบหนึ่งเปนเรื่องของการควบคุมตนทุน<br />

ในการกอสราง เหตุเพราะรายการขายที่อยูอาศัยเปนการทํา<br />

สัญญาขายลวงหนา และตองใชระยะเวลาในการกอสรางเพื่อสง<br />

มอบ หากไมมีการควบคุมที่ดี ก็อาจทําใหอัตรากําไรปรับลดลงได<br />

มากกว่าตลาด PS, RML, MJD …Top Picks<br />

ผลประกอบการ 4Q55 และตอเนื่องป 2556 ที่ยังอยูระดับสูงทําให<br />

ยังคงคําแนะนํา ลงทุนน้ําหนักมากกวาตลาด หุน Top Pick เลือก<br />

PS (FV@B 28) คาดวาทั้งยอดขาย กําไร และราคาหุนนาจะสราง<br />

จุดสูงสุดใหมในป 2556, RML(FV@B 2.45) การโอนโครงการ The<br />

River และ 185 ราชดําริ ซึ่งเปนโครงการขนาดใหญจะสรางกําไรที่<br />

โดดเดน ขณะที่ประเด็นเรื่องการติด Cash Balance จะหมดไป<br />

หลังการประกาศงบงวดป 2555 สวน MJD(FV@B 3.65) ผล<br />

ประกอบการจะพลิกกลับมาโดดเดนตั้งแต 4Q55 ตอเนื่องถึงป<br />

2556 ทั้งป โดยมี Backlog ที่เตรียมโอนฯ 3.12 พันลานบาท<br />

17%<br />

16%<br />

14%<br />

13%<br />

12%<br />

11%<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 73


กลุ่ม นิคมอุตสาหกรรม<br />

น้ําหนัก มากกว่าตลาด<br />

ปีทองของกลุ่มนิคมฯทั้งในแง่ยอดขายและกําไร<br />

FDI จากญี่ปุ่น+จีน และ AEC ยังหนุนยอดขายที่ดินอยู่ในระดับสูง<br />

Backlog กว่า 1.1 หมื่นล้านบาท หนุนกําไรปี 2556 เติบโต 36% YoY<br />

ROJNA มี Upside สูงสุด ส่วน TICON ให้ Div Yield มากสุด<br />

FDI ยังมีแนวโน้มไหลเข้าไทยอย่างต่อเนื่อง<br />

ป 2555 ถือเปนปแหงการลงทุนของภาคอุตสาหกกรม โดยเฉพาะ<br />

การเขามาตั้งโรงงานใหมของนักลงทุนตางชาติ ที่นาจะสูงสุดเปน<br />

ประวัติการณ ประเมินจากตัวเลขการขอรับสงเสริมการลงทุน BOI<br />

เดือน ม.ค.-ต.ค. 2555 มีมูลคาสะสม 8.62 แสนลานบาท เพิ่มขึ้น<br />

94%YoY เกินเปาทั้งปที่ทางการตั้งไว 8 แสนลานบาท โดยญี่ปุนเปน<br />

ประเทศที่เขามาลงทุนในไทยอันดับหนึ่งในสัดสวนถึง 60% ของยอด<br />

รวม สูงกวาภาวะปกติที่ 40% เนื่องจากเงินเยนที่แข็งคา ทําให<br />

ความสามารถทางการแขงขันของผูประกอบการลดลง ประกอบกับ<br />

ตองประสบปญหาขาดแคลนไฟฟา ภายหลังกระแสตอตาน<br />

โรงไฟฟานิวเคลียร สงผลใหป 2556 แนวโนมการยายฐานการผลิต<br />

เขาไทยยังมีมาตอเนื่อง โดยเฉพาะกลุมธุรกิจ SME ของญี่ปุนใน<br />

อุตสาหกรรมยานยนต เครื่องใชไฟฟา และอิเล็คทรอนิกส ขณะที่<br />

การลงทุนจากประเทศจีนมีการขยายตัวสูงเชนกัน โดยชวง 2-3 ปที่<br />

ผานมา มียอดขอรับการสงเสริมการลงทุนเพิ่ม 42% ตอป โดยสวน<br />

ใหญเปนกลุมเกษตรแปรรูป เพื่อนําวัตถุดิบกลับประเทศ หรือใชเปน<br />

ฐานการผลิตเพื่อสงออก อาทิ บริษัท หลิงหลง ผูผลิตยางรถยนต<br />

ของประเทศจีนไดซื้อที่ดิน 306 ไร ในนิคมฯเหมราชอีสเทิรนซีบอรด<br />

จ.ระยอง ขณะที่นิคมฯจีน ที่ตั้งอยูในอมตะซิตี้ จ.ระยอง ก็มีลูกคา<br />

ใหมจองพื้นที่ไปแลวกวา 500 ไร จากทั้งหมด 1 พันไร ทั้งนี้การ<br />

ลงทุนทางตรงจากจีนจะมีบทบาทมากขึ้นในอนาคต ดวยการ<br />

สนับสนุนของภาครัฐบาลใหเกิดการคา-การลงทุนระหวางกันมาก<br />

ขึ้น รวมถึงดานโครงสรางพื้นฐาน เชน รถไฟความเร็วสูงไทย-จีน<br />

74 Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

พันลานบาท<br />

1,000<br />

800<br />

600<br />

400<br />

200<br />

-<br />

ที่มา : BOI<br />

ตัวเลขการขอรับส่งเสริมการลงทุน BOI<br />

263 305 637 674 494<br />

2545<br />

2546<br />

2547<br />

2548<br />

2549<br />

635<br />

2550<br />

AEC หนุนยอดขายปี 2556 ทรงตัวระดับสูง<br />

ยอดขายที่ดินชวง 9M55 ของ 3 นิคมฯ ที่ฝายวิจัย Cover สอดคลอง<br />

กับ Sentiment ที่สดใส โดยมียอดสูงถึง 3.78 พันไร เพิ่มขึ้น<br />

69%YoY แบงเปน HEMRAJ 1.95 พันไร, AMATA 1.33 พันไร และ<br />

ROJNA 500 ไร และคาดวาทั้งป 2555 ยอดขายจะสรางสถิติสูงสุด<br />

ที่ 5 พันไร เพิ่มจาก 3.7 พันไรในป 2554 โดยงวด 4Q55 ถือเปน<br />

High Season ของการขายที่ดิน เพราะเปนชวงที่บริษัทญี่ปุนจะ<br />

ไดรับอนุมัติงบลงทุนประจําป สวนป 2556 คาดวายอดขายที่ดินจะ<br />

ยังทรงตัวระดับสูง เพราะยังไดรับอนิสงคจากการเปดเสรีการคา<br />

ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ป 2558 ที่ไทยมีขอไดเปรียบ<br />

ดานทําเลที่เปนจุดศูนยกลาง และอุตสาหกรรมตางๆ ของไทยมี<br />

432<br />

2551<br />

723<br />

2552<br />

412<br />

2553<br />

673<br />

2554<br />

444<br />

10M54<br />

862<br />

10M55


ความแข็งแกรง อาทิ กลุมยานยนตและอิเล็คทรอนิกส นอกจากนี้<br />

ไทยยังเปนแหลงผลิตสินคาเกษตรและอาหารสําคัญของโลก จึงเชื่อ<br />

วาตางชาติจะใชไทยเปน Hub of ASEAN ดานโลจิสติกสเพื่อ<br />

เชื่อมโยง Supply Chain ไปยังประเทศเพื่อนบานตอไป ซึ่งจะสง<br />

ผลบวกตอกลุมนิคมฯของไทยในระยะยาว ทั้งในดานการขายที่ดิน<br />

และการใหบริการสาธารณูปโภคของผูประกอบการนิคมฯ อยาง<br />

AMATA HEMRAJ และ ROJNA รวมถึงผูพัฒนาโรงงาน/คลังสินคา<br />

ใหเชาอยาง TICON และ WHA<br />

ไร<br />

6,000<br />

5,000<br />

4,000<br />

3,000<br />

1,000<br />

ประมาณการยอดขายที่ดินของกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม<br />

1,995<br />

2,000 1,602<br />

2,573<br />

1,762<br />

3,383 3,144<br />

804<br />

3,733<br />

2,864<br />

2,244<br />

3,782<br />

5,000 4,800<br />

การยกเวนภาษีจาก BOI สําหรับแนวโนมประสิทธิภาพการทํา<br />

กําไรป 2555-2556 นาจะเห็นการปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากบริษัทสวน<br />

ใหญมีนิคมฯ ตั้งอยูในภาคตะวันออก โดยเฉพาะ จ.ชลบุรี และ<br />

จ.ระยอง ซึ่งเปนแหลงที่นักลงทุนมีความตองการตั้งโรงงานสูงสุด<br />

ในประเทศ ขณะที่พื้นที่ที่สามารถตั้งเปนเขตอุตสาหกรรมมีอยู<br />

จํากัด จึงสงผลบวกตอกลุมที่สามารถปรับเพิ่มราคาขาย ในขณะที่<br />

ตนทุนที่ดินสวนใหญอยูในระดับต่ํา เพราะซื้อมาสต็อกไวนานแลว<br />

ทั้งนี้ชวง 9M55 กลุมนิคมฯมี Norm Profit Margin 22.8% หลัง<br />

นิคมฯหลายแหงในภาคตะวันออกปรับเพิ่มราคาขายตอเนื่องกวา<br />

20-30% ตั้งแตป 2554 มาจนถึงปจจุบัน<br />

จาก 2 ปจจัยบวกขางตน คาดวาจะชวยผลักดันกําไรป 2556 ของ<br />

กลุมใหเติบโตตอเนื่องที่ระดับ 36%YoY เปน 7.6 พันลานบาท<br />

60%<br />

50%<br />

ประสิทธิภาพการทํากําไรของกลุ่มนิคมอุตสาหกรรม<br />

45.4%<br />

0<br />

2546 2547 2548 2549 2550 2551 2552 2553 2554 9M54 9M55 2555F 2556F<br />

AMATA HEMRAJ ROJNA<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

40%<br />

30%<br />

20%<br />

10%<br />

22.8%<br />

15.3%<br />

คาดกําไรปี 2556 เติบโต 36%YoY<br />

เมื่อพิจารณายอด Backlog พบวาสรางสถิติสูงสุดตามยอดขาย<br />

โดย ณ สิ้น 3Q55 มียอดสะสมกวา 1.1 หมื่นลานบาท แบงเปน<br />

ของ AMATA 5.8 พันลานบาท, HEMRAJ 3.5 พันลานบาท และ<br />

ROJNA กวา 2 พันลานบาท ซึ่งสวนใหญจะมีกําหนดโอนฯ<br />

ภายหลังการขาย 6-12 เดือน หรือภายในป 2556 จึงคาดการณ<br />

รายไดจากการขายที่ดินป 2556 จะเติบโตขึ้นเปน 1.4 หมื่นลาน<br />

บาท เพิ่มจาก 1 หมื่นลานบาทในป 2555 นอกจากนั้นจะไดปจจัย<br />

บวกจากโรงไฟฟาที่เจาของนิคมฯเขาไปถือหุน ทั้ง Gheco-one<br />

600MW (HEMRAJ ถือหุน 35%) ซึ่งเปดดําเนินงานไปในเดือน<br />

ก.ค.55 และ ROJNA Power 265MW (ROJNA ถือหุน 40%) ที่จะ<br />

กลับมาผลิตไฟตนป 2556 รวมถึงสวนขยาย 165 MW ที่จะเปด<br />

ดําเนินงาน 2H56<br />

นอกจากรายไดที่เติบโตแลว กลุมนิคมฯมีจุดเดนในดาน<br />

ประสิทธิภาพการทํากําไรที่อยูในระดับสูงกวาคาเฉลี่ยของตลาดฯ<br />

เห็นไดจาก Norm Profit Margin ซึ่งอยูในกรอบ 15-20% ในภาวะ<br />

ปกติ เนื่องจากธุรกิจขายที่ดินและธุรกิจปลอยเชาโรงงาน/<br />

คลังสินคามีอัตรากําไรขั้นตนสูงถึง 40-50% และ 65-75%<br />

ตามลําดับ ประกอบกับธุรกิจที่เกิดขึ้นภายในนิคมฯสวนใหญไดรับ<br />

0%<br />

2546<br />

2547<br />

2548<br />

2549<br />

2550<br />

Gross Margin Selling & Admin / Sales Norm Profit Margin<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

ROJNA Upside สูง TICON ปันผลเด่น<br />

ฝายวิจัยใหน้ําหนักการลงทุนกลุมนิคมฯ “มากกวาตลาด” โดย<br />

เลือก ROJNA (FV@B14.18) และ TICON (FV@B15.79) เปน<br />

Top picks โดย ROJNA นอกจากมี Upside สูงสุด 35% แลวยังมี<br />

จุดเดนหลายประการ คือดานการบันทึกรายไดจากการขายที่ดินที่<br />

สูงถึง 1.5 พันไร เพิ่มจาก 800 ไรในป 2555 จากการเปด 2 นิคมฯ<br />

ใหมที่ระยอง และปราจีนบุรี ตามมาดวยคอนโดที่จีนเฟส 2<br />

โครงการ Kaina Overseas Chinese City ซึ่งมียอดขายแลวกวา<br />

85% ของมูลคา 3.6 พันลานบาท ซึ่งจะรับรูรายได 2556 เปนสวน<br />

ใหญ และ ROJNA Power 265 MW พรอมกลับมาจายไฟฟาตนป<br />

2556 และยังไดสวนขยายของโรงไฟฟา 165 MW ที่มีกําหนดเปด<br />

ดําเนินการกลางป 2556 เขามาเสริมอีกดวย สําหรับหุน TICON<br />

เปน Top pick มีจุดเดนในดานเงินปนผล ซึ่งคาดวาจะจายที่ 1<br />

บาท/หุน ตนป 2556 (จายปละครั้ง) หรือคิดเปน Div Yield 6.9%<br />

และมีทิศทางเติบโตตอเนื่องจากจํานวนผูเชาที่เพิ่มขึ้น<br />

2551<br />

2552<br />

2553<br />

2554<br />

9M55<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 75


กลุ่ม รับเหมาก่อสร้าง<br />

น้ําหนัก เท่าตลาด<br />

วัฐจักรขาขึ้นของธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง<br />

Backlog เพียบ พร้อม Mega Project ของรัฐฯ มหาศาลที่จะเข้ามาในปีหน้า<br />

โครงสร้างทางการเงินแข็งแกร่งพร้อมรับงานใหญ่ในอนาคต<br />

น้ําหนักการลงทุน เท่าตลาด เลือก STPI และ ITD เป็นหุ้น Top Picks<br />

เตรียมรับอานิสงค์จากเมกะโปรเจคของภาครัฐ<br />

แนวโนมอุตสาหกรรมรับเหมากอสรางในป 2556 ยังคงเติบโตขึ้น<br />

อยางตอเนื่อง จาก Backlog ณ สิ้น 3Q55 ของบริษัทรับเหมา<br />

กอสรางขนาดใหญ 10 แหง ภายใต Coverage ของ <strong>ASP</strong> ที่มี<br />

รวมกันถึง 3.5 แสนลานบาท บวกกับโครงการลงทุนของภาครัฐ<br />

ภายใตงบลงทุน 7 ป ทั้งหมด 2 ลานลานบาท ซึ่งโครงการที่สําคัญ<br />

ไดแก โครงสรางระบบขนสงมวลชน และการพัฒนาระบบบริหาร<br />

จัดการน้ํา ที่จะเริ่มทยอยเปดประมูลมากขึ้นในปหนาเปนตนไป<br />

จะมีสวนผลักดันใหธุรกิจรับเหมากอสราง มีรายไดเติบโตไปไดอีก<br />

ไมต่ํากวา 5 ป<br />

สถานะ Backlog ของบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ 10 แห่ง<br />

ลานบาท<br />

400,000<br />

350,000<br />

300,000<br />

250,000<br />

200,000<br />

150,000<br />

100,000<br />

50,000<br />

0<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

2549 2550 2551 2552 2553 2554 9M55<br />

สําหรับป 2556 นอกจากโครงการบริหารจัดการน้ําซึ่งเปน<br />

โครงการเรงดวนแลว จะมีความคืบหนามากขึ้นในการเปดประมูล<br />

งานกอสรางรถไฟความเร็วสูง หลังไดสรุปแลวใน 2 เสนทาง คือ<br />

กรุงเทพ- เชียงใหม วงเงินกอสราง 3 แสนลานบาท และกรุงเทพฯ<br />

หนองคาย วงเงินกอสราง 1.98 แสนลานบาท โดยคาดวาจะมีการ<br />

76 Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

ประมูลราคาผูรับเหมาในในไตรมาสที่ 3 ป 2556 จะชวยสราง<br />

กระแสเชิงบวกใหกับหุนในกลุมรับเหมากอสราง โดยเฉพาะ 3<br />

ผูรับเหมารายใหญ ไดแก ITD CK และ STEC ซึ่งมีศักยภาพใน<br />

การกอสรางงานระบบรางขนาดใหญ<br />

ประสิทธิภาพการทํากําไรกลุ่มฯ ดีขึ้นต่อเนื่อง<br />

ประสิทธิภาพการทํากําไรโดยรวมของอุตสาหกรรมรับเหมาฯ<br />

ปรับตัวดีขึ้นอยางชัดเจนตั้งแตชวง 4Q54 ที่สามารถพลิกมามี<br />

กําไรจากการดําเนินงานไดอยางตอเนื่อง แมจะไดรับผลกระทบ<br />

จากตนทุนคาแรงและราคาวัสดุกอสรางที่เพิ่มขึ้น แตความ<br />

ประหยัดตอขนาดจากการรับรูรายไดที่เพิ่มขึ้น รวมถึงการแขงขัน<br />

ดานราคาในอุตสาหกรรมลดลง จากปริมาณงานจํานวนมากที่<br />

ออกมาในเวลาใกลเคียงกัน ทําใหอัตรากําไรของบริษัทรับเหมาฯ<br />

สวนใหญปรับตัวดีขึ้น ทั้งในสวนของอัตรากําไรขั้นตนที่เพิ่มขึ้น<br />

และคาใชจายในการขายและบริหารตอยอดขายที่ลดลง ซึ่งเชื่อวา<br />

กลุมรับเหมาฯ นาจะรักษาอัตราการทํากําไรไดดีตอไปในป 2556<br />

12%<br />

8%<br />

4%<br />

0%<br />

-4%<br />

-8%<br />

ประสิทธิภาพการทํากําไรของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง<br />

4Q06<br />

1Q07<br />

2Q07<br />

3Q07<br />

4Q07<br />

1Q08<br />

2Q08<br />

3Q08<br />

4Q08<br />

1Q09<br />

2Q09<br />

3Q09<br />

4Q09<br />

1Q10<br />

2Q10<br />

3Q10<br />

4Q10<br />

1Q11<br />

2Q11<br />

3Q11<br />

4Q11<br />

1Q12<br />

2Q12<br />

3Q12<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

gross margin SG&A/Sale Norm Profit Margin<br />

10.55%<br />

5.00%<br />

3.91%


ขายทรัพย์สิน เพื่อลด Net Gearing ลง<br />

พิจารณาโครงสรางการเงิน ณ สิ้น 3Q55 ของบริษัทรับเหมา<br />

กอสราง พบวาบริษัทที่เนนรับงานทางดานวิศวกรรม คือ STPI,<br />

SRICHA และ TTCL จะดํารงสถาะเปน Net Cash ขณะที่บริษัท<br />

ที่ทําธุรกิจรับเหมากอสรางเพียงอยางเดียว คือ STEC, NWR,<br />

SYNTEC และ SEAFCO จะมี Net Gearing ไมเกิน 1.03 เทา ซึ่ง<br />

ถือเปนระดับที่ปลอดภัย สําหรับรองรับฐานรายไดที่จะเติบโตขึ้น<br />

ในป 2556 แตสําหรับบริษัทรับเหมากอสรางที่เขาไปถือหุนใน<br />

ธุรกิจสัมปทานอยาง ITD และ CK จะมี Net Gearing ที่สูงกวา<br />

บริษัทรับเหมากอสรางทั่วไปอยางชัดเจน อยางไรก็ตามทั้ง ITD<br />

และ CK มีแผนที่จะลดสัดสวน Net Gearing ลง โดยไม<br />

จําเปนตองมีการเพิ่มทุน โดย ITD จะขายหุนเหมืองโปแตชและ<br />

สินทรัพยที่ไมไดใชในการดําเนินงานออกไปบางสวน รวมถึงการ<br />

ขายที่ดินในเขตอุตสาหกรรมพิเศษทวาย ซึ่งจะทําให ITD ไดรับ<br />

เงินสดและกําไรจากการขายเงินลงทุน โดยตั้งเปาจะลด Net<br />

Gearing ใหเหลือเพียง 2.5 เทา ภายในสิ้นป 2556 ขณะที่ CK จะ<br />

นําหุน CK Power บางสวนออกมาขายรวมกับหุน IPO ในชวง<br />

1Q56 และพิจารณาที่จะลดสัดสวนการถือหุนในบริษัทน้ําประปา<br />

ไทยลงบางสวน หลังราคาหุน TTW ปรับขึ้นอยางมากจากตนปนี้<br />

Net Gearing ณ สิ้น 3Q55 ของบริษัทรับเหมาก่อสร้าง<br />

Net Gearing<br />

(เทา )<br />

3.5<br />

3.0<br />

2.5<br />

3.26<br />

2.77<br />

จะเห็นผลตอบแทนการลงทุนหุนในกลุมรับเหมากอสรางป 2556<br />

โดดเดนเหมือนที่เกิดขึ้นในป 2555 จึงใหน้ําหนักการลงทุนหุนกลุม<br />

รับเหมากอสรางเพียง “เทากับตลาด” โดยเลือก ITD (FV@B 5.24)<br />

และ STPI (FV@B 72.55) เปนหุน Top Picks ของกลุมฯ สําหรับ<br />

ITD ถือเปนหุนรับเหมาฯ ที่ยัง Laggard อยูเมี่อเทียบกับตลาดรวม<br />

ขณะที่บริษัทมีแนวโนมผลดําเนินงานที่ดีขึ้น โดยคาดวาจะสามารถ<br />

พลิกกลับมามีกําไรไดอีกครั้งในงวด 4Q55 เปนตนไป อีกทั้ง<br />

โครงการกอสรางทาเรือน้ําลึก และนิคมอุตสาหกรรมทวาย ใน<br />

ประเทศพมา เริ่มมีความคืบหนามากขึ้นตามลําดับ จากการที่<br />

รัฐบาลไทยเขามามีสวนรวมในการผลักดันโครงการทวายให<br />

เดินหนาตอไปได โดยจะมีการสรุปผลการศึกษาเพื่อพัฒนา<br />

โครงการทาเรือทวาย ตามขอตกลงความรวมมือระหวางรัฐบาล<br />

ไทยกับพมาในเดือน ก.พ. 2556 สําหรับโครงการทวายถือวามีสวน<br />

สําคัญอยางมากตอ ITD จากมูลคาโครงการในเฟสแรกที่สูงถึง 2.4<br />

แสนลานบาท ซึ่งจะเปนแหลงสรางงานใหกับ ITD ในอนาคต ได<br />

ไมต่ํากวา 10 ป<br />

การเปลี่ยนแปลงราคาหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง 4 ม.ค.-17 ธ.ค. 55<br />

190%<br />

150%<br />

110%<br />

70%<br />

30%<br />

-10%<br />

NWR<br />

TTCL<br />

SRICHA<br />

STPI<br />

STEC<br />

CK<br />

SEAFCO<br />

SYNTEC<br />

SET<br />

ITD<br />

TPOLY<br />

2.0<br />

1.5<br />

2.03<br />

ที่มา : <strong>ASP</strong><br />

1.0<br />

0.5<br />

0.0<br />

ITD<br />

ที่มา : <strong>ASP</strong><br />

CK<br />

TPOLY<br />

1.03<br />

NWR<br />

1.00<br />

SEAFCO<br />

0.20<br />

SYNTEC<br />

STPI<br />

Net Cash<br />

เท่ากับตลาด มี STPI, ITD เป็น Top Picks<br />

แมป 2556 จะอยูในชวงวัฏจักรขาขึ้นรอบใหญที่สุดของ<br />

อุตสาหกรรมรับเหมากอสราง แตราคาหุนสวนใหญในกลุม<br />

รับเหมาฯ ไดปรับตัวขึ้นมาก เทียบกับตลาดรวม โดยราคาของ<br />

บริษัทรับเหมา 10 แหง ภายใต Coverage ของ <strong>ASP</strong> ไดปรับตัว<br />

ขี้นเฉลี่ย 96% และสวนใหญมีคา PER สูงเกินกวา 20 เทา<br />

ในขณะที่ SET Index ปรับตัวขึ้นเพียง 33% ฝายวิจัยจึงไมคาดวา<br />

SRICHA<br />

TTCL<br />

STEC<br />

ขณะที่ STPI หลังควางานโครงการใหญ คือ Ichthys onshore<br />

LNG Projects มูลคา 739 ลานเหรียญฯ ในประเทศออสเตรเลีย<br />

คาดวา STPI จะมีผลประกอบการที่เติบโตอยางมากในชวง<br />

ระหวางป 2556-2558 ตามมูลคาของงานที่ไดสงมอบ จาก<br />

ประสบการณและการเตรียมความพรอมที่ดี ทําให STPI ปดความ<br />

เสี่ยงเกี่ยวกับตนทุนโครงการไดเกือบทั้งหมด ทั้งนี้โอกาสทางธุรกิจ<br />

ของ STPI ยังมีตอเนื่อง หลังป 2558 จากธุรกิจ LNG ในประเทศ<br />

ออสเตรเลียที่มีการเติบโตสูง เนื่องจากเปนแหลงพลังงานที่สําคัญ<br />

ของโลก แมวาราคาหุน STPI จะปรับตัวขึ้นมาแลว 113% จากตน<br />

ป 2555 แตยังมี Upside จาก Fair Value ของฝายวิจัยอีก 15%<br />

บวกกับผลตอบแทนจากเงินปนผลราว 4% ตอป<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 77


กลุ่ม วัสดุก่อสร้าง<br />

น้ําหนัก เท่าตลาด<br />

ปี 2556 ยังเป็นปีที่ดีของกลุ่มวัสดุก่อสร้าง<br />

ความต้องการใช้วัสดุก่อสร้างยังคงเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง<br />

แนวโน้มผลกําไรกลุ่มฯโดดเด่น รับประโยชน์จากการขยายกําลังการผลิต<br />

น้ําหนักการลงทุน เท่ากับตลาด เลือก DCC เป็น Top Pick<br />

ปริมาณการใช้ปูนฯ เพิ่มสูงสุดในรอบ 18 ปี<br />

ภาคการกอสรางในประเทศที่เติบขึ้นอยางมาก ทั้งงานจากภาครัฐ<br />

ที่เรงผลักดันโครงการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานออกมาจํานวน<br />

มาก และงานในสวนภาคเอกชน ที่มีการขยายการลงทุนทั้งในสวน<br />

ธุรกิจการคาและที่อยูอาศัย ทําใหปริมาณการใชปูนซีเมนตใน<br />

ประเทศชวง 10 เดือนแรกของปนี้ เติบโตขึ้น 10.5%YoY ถือเปน<br />

อัตราการเติบโตมากที่สุดนับตั้งแตป 2547 คาดวาแรงหนุนจะมี<br />

ตอเนื่องในป 2556 จากการเดินหนาโครงการภาครัฐที่สําคัญ<br />

ไดแก ระบบบริหารจัดการน้ํา และโครงการกอสรางรถไฟฟาหลาย<br />

เสนทาง ทําใหบริษัทปูนซีเมนตรายใหญ ไดแก SCC,SCCC และ<br />

TPIPL ที่ปจจุบันใชกําลังการผลิตเต็มที่ ตองลดสัดสวนการสงออก<br />

เพื่อรองรับการใชปูนซีเมนตในประเทศที่เติบโตขึ้น ถือเปนปจจัย<br />

บวกตอการทํากําไรโดยรวม เนื่องจากอัตราการทํากําไรของการ<br />

ขายปูนซีเมนตในประเทศ อยูสูงกวาการสงออกปูนซีเมนตมาก<br />

อัตราการเติบโต (YoY) ของปริมาณการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศ<br />

40%<br />

30%<br />

20%<br />

10%<br />

0%<br />

-10%<br />

บริษัทปูนซีเมนต์ ขยายการลงทุนต่อยอด<br />

แมความตองการปูนซีเมนตในประเทศจะเพิ่มขึ้นตอเนื่อง แตกําลัง<br />

การผลิตสวนเกินในประเทศที่ยังอยูอีกมาก ทําใหบริษัทปูนซีเมนต<br />

ยังไมมีแผนกอสรางโรงปูนซีเมนตแหงใหมในประเทศ ยกเวน<br />

TPIPL ที่ไดเคยลงทุนกอสรางโรงปูนซีเมนตสายการผลิตที่ 4<br />

กําลังการผลิต 3 ลานตัน/ป คางไว นาจะมีการลงทุนกอสรางตอ<br />

ใหเสร็จในป 2557 รวมถึง SCCC ที่เคยหยุดการผลิตเตาเผาปูน<br />

ขนาดเล็ก 2 เตา ไปตั้งแตตนป 2551 อยูในระหวางศึกษาความ<br />

เปนไปได ที่จะนําเตาเผาปูนทั้ง 2 เตา มาเปดการผลิตอีกครั้ง<br />

สําหรับแนวโนมการลงทุนในประเทศของบริษัทปูนซีเมนตจะเปน<br />

การลงทุนตอยอดในสินคาวัสดุกอสรางอื่น ที่ใชปูนซีเมนตเปน<br />

วัตถุดิบ เห็นไดจากการที่ SCCC ประกาศเขาซื้อทรัพยสินที่ใชใน<br />

การประกอบธุรกิจผลิตภัณฑคอนกรีตมวลเบา ตอจากบริษัท<br />

ซุปเปอรบลอก ขณะที่ TPIPL มีแผนลงทุนกอสรางโรงงานผลิต<br />

Fiber Cement รวมถึงโรงไฟฟาที่ใชขยะเปนวัตถุดิบและโรงไฟฟา<br />

ที่ใชความรอนทิ้งจากโรงปูนซีเมนตสายการผลิตที่ 4 ในป 2556<br />

สวน SCC ที่มีเปาหมายกาวสูความเปนผูนําในสินคาวัสดุกอสราง<br />

ระดับโลก โดยมีแผนการลงทุนตอเนื่องทั้งภายในประเทศและ<br />

ตางประเทศ รวมกวา 1.5 แสนลานบาท ในชวงเวลา 5 ปขางหนา<br />

-20%<br />

-30%<br />

ม.ค.-48<br />

พ.ค.-48<br />

ก.ย.-48<br />

ม.ค.-49<br />

พ.ค.-49<br />

ก.ย.-49<br />

ม.ค.-50<br />

พ.ค.-50<br />

ก.ย.-50<br />

ม.ค.-51<br />

พ.ค.-51<br />

ก.ย.-51<br />

ม.ค.-52<br />

พ.ค.-52<br />

ก.ย.-52<br />

ม.ค.-53<br />

พ.ค.-53<br />

ก.ย.-53<br />

ม.ค.-54<br />

พ.ค.-54<br />

ก.ย.-54<br />

ม.ค.-55<br />

พ.ค.-55<br />

ก.ย.-55<br />

ที่มา : ธนาคารแหงประเทศไทย<br />

78 Invest+ 1 st Quarter, 2013


กระเบื้อง และวัสดุมุงหลังคา ยังคงเติบโตได้ดี<br />

การพัฒนาโครงการที่อยูอาศัย ที่ขยายไปสูพื้นที่ตางจังหวัดมากขึ้น<br />

รวมถึงความตองการใชกระเบื้องปูพื้น-บุผนัง และกระเบื้องมุง<br />

หลังคา สําหรับการปรับปรุงอาคารบานเรือน จากกําลังซื้อของ<br />

ผูบริโภคที่มีเพิ่มขึ้น ตามราคาพืชผลการเกษตรที่อยูในระดับสูง ทํา<br />

ใหยอดขายกระเบื้อง มีอัตราการเติบโตไดในระดับ 5-10% ตอป<br />

แมภาวะการแขงขันในปจจุบันยังคงรุนแรง ซึ่งเกิดจากการ<br />

รวมกลุมกันของผูประกอบการบางรายในตลาด และผูเลนรายใหม<br />

ที่เขามา แตบริษัทกระเบื้องใน Coverage ของฝายวิจัยคือ DCC<br />

และ DRT ตางมีแผนรับมือ ดวยการลดตนทุนการผลิต และออก<br />

ผลิตภัณฑใหมในป 2556 รวมถึงการเพิ่มชองทางการตลาด ผาน<br />

รานคาวัสดุขนาดใหญ อยาง รานไทวัสดุ จึงคาดการณวาจะ<br />

สามารถสรางยอดขายไดเติบโตไมต่ํากวา 10%YoY ซึ่งจะสงผลตอ<br />

กําไรสุทธิ และความสามารถในการจายเงินปนผล จากนโยบาย<br />

ของ DCC และ DRT ที่ใหความสําคัญอยางมากตอการจายเงินปน<br />

ผล โดยคาดหวัง Dividend Yield ได ในระดับ 6-7% ตอป<br />

ลานตารางเมตร<br />

200<br />

180<br />

160<br />

140<br />

120<br />

100<br />

80<br />

60<br />

40<br />

20<br />

0<br />

ปริมาณการขายกระเบื้องปูพื้น-บุผนังในประเทศ<br />

2543<br />

2544<br />

2545<br />

2546<br />

2547<br />

2548<br />

2549<br />

2550<br />

2551<br />

2552<br />

2553<br />

2554<br />

ที่มา : ธนาคารแหงประเทศไทย<br />

+6.7%<br />

10M54<br />

10M55<br />

VNG รับประโยชน์จากกําลังการผลิตใหม่<br />

ภาคอสังหาริมทรัพยในประเทศที่เติบโตขึ้น สงผลบวกโดยตรงตอ<br />

ยอดขายของ VNG ในฐานะที่เปนผูผลิต Particle Board และ<br />

MDF ซึ่งใชเปนวัตถุดิบในการผลิตเฟอรนิเจอร และพื้นไมลามิเนต<br />

โดยโรงงาน Particle Board แหงใหม ที่สระบุรี กําลังการผลิต 2.4<br />

ลูกบาศกเมตร<br />

1,400,000<br />

1,200,000<br />

1,000,000<br />

800,000<br />

600,000<br />

400,000<br />

200,000<br />

-<br />

ที่มา : VNG,<strong>ASP</strong> Estimate<br />

กําลังการผลิตของ VNG<br />

2547 2548 2549 2550 2551 2552 2553 2554 2555 2556<br />

Particle Board<br />

MDF<br />

แสน ลบม./ป และโรงงานผลิตแผนพื้นไมสําเร็จรูป กําลังการผลิต 4<br />

ลาน ตรม./ป ไดเริ่มเปดทดสอบการผลิตมาตั้งแตชวง 3Q55 จะเพิ่ม<br />

ยอดขายให VNG 1 พันลานบาท ในป 2556 สําหรับการยกเลิก<br />

มาตรการเก็บภาษี AD ในอัตรา 7.6% จากเกาหลีใต ในสินคาไมอัด<br />

แผนของไทยในเดือน เม.ย. 2555 จะชวยให VNG มีความสามารถ<br />

ในการสงออกสินคา Particle Board ไปเกาหลีใต ซึ่งถือเปนประเทศ<br />

สงออกที่สําคัญของ VNG ไดมากขึ้น<br />

การทํากําไรของธุรกิจยางมะตอยผันผวนสูง<br />

แมธุรกิจยางมะตอยจะไดรับกระแสเชิงบวกจากงบประมาณ<br />

ภาครัฐในการกอสรางถนน แตสัดสวนรายไดหลักกวา 70% ของ<br />

TASCO มาจากการสงออก ซึ่งมีความเกี่ยวของโดยตรงในการ<br />

นําเขาน้ํามันดิบจํานวนมาก เพื่อปอนใหกับโรงกลั่นยางมะตอยใน<br />

มาเลเซีย โดยราคาน้ํามันดิบที่ผันผวน และไมมีความสัมพันธ<br />

ชัดเจนเทียบกับราคายางมะตอย สงผลใหการทํากําไรของ<br />

TASCO มีความผันผวนสูง แมจะมีความพยามปกปองความเสี่ยง<br />

ดวยการเขาไปทําสัญญาซื้อขายลวงหนา และใชสัญญา Option<br />

แลวก็ตาม แตเชื่อวาในระยะยาว TASCO ยังคงมีศักยภาพการ<br />

เติบโตที่ดี จากแผนการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่นยางมะตอย<br />

และเพิ่มกําลังการผลิตขึ้นอีก 20% รวมถึงการจัดซื้อเรือขนสงและ<br />

รถขนสงยางมะตอยเพิ่มขึ้นอยางตอเนื่องในอนาคต<br />

ราคายางมะตอย (บาท/ตัน)<br />

ราคาผลิตภัณฑ์ยางมะตอยในประเทศ และราคาน้ํามันดิบเบรนต์<br />

35,000<br />

30,000<br />

25,000<br />

20,000<br />

15,000<br />

10,000<br />

5,000<br />

0<br />

Jan-47<br />

Jul-47<br />

Jan-48<br />

Jul-48<br />

Jan-49<br />

Jul-49<br />

Jan-50<br />

Jul-50<br />

Jan-51<br />

Jul-51<br />

Jan-52<br />

Jul-52<br />

Jan-53<br />

Jul-53<br />

Jan-54<br />

Jul-54<br />

Jan-55<br />

Jul-55<br />

Jan-56<br />

ยาง AC เกรด 60/70 ยาง AE เกรด CSS-1h Brent<br />

ที่มา : สํานักดัชนีเศรษฐกิจการคา, Bloomberg<br />

เท่ากับตลาด เลือก DCC เป็นหุ้น Top Pick<br />

ภาคการกอสรางที่ยังเติบโตตอเนื่อง สงผลโดยตรงตอความ<br />

ตองการใชวัสดุกอสราง และทําใหผลประกอบการของบริษัทใน<br />

กลุมฯ มีอัตราการเติบโตที่ดีในป 2556 อยางไรก็ตาม หุนในกลุม<br />

วัสดุกอสรางสวนใหญ ไดปรับตัวเพิ่มขึ้นตอบรับปจจัยบวกขางตน<br />

ไปมากแลว ทําใหฝายวิจัยใหน้ําหนักการลงทุนเพียง เทากับตลาด<br />

โดยเลือก DCC (FV@B 52.18) เปนหุน Top Pick ของกลุมฯ จาก<br />

Upside ของราคาหุนที่ยังมีอยูอีกมาก และผลตอบแทนจากเงิน<br />

ปนผลที่คาดวาจะอยูในระดับสูงถึง 7% ตอป<br />

160<br />

140<br />

120<br />

100<br />

80<br />

60<br />

40<br />

20<br />

น้ํามันดิบ WTI (เหรียญฯ/บารเรล)<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 79


กลุ่ม เหล็ก<br />

น้ําหนัก น้อยกว่าตลาด<br />

ยังไม่ใช่ตัวเลือกการลงทุนที่ดีในไตรมาสหน้า<br />

อุตสาหกรรมเหล็กโลกผ่านจุดต่ําสุด แต่การฟื้นตัวยังคงต้องใช้เวลา<br />

บริษัทเหล็กแปรรูป น่าลงทุนมากกว่าบริษัทเหล็กขนาดใหญ่<br />

น้ําหนักการลงทุน น้อยกว่าตลาด เลือก MCS เป็น Top Pick<br />

คาดปี 2556 การใช้เหล็กทั่วโลกเติบโต 3.2%<br />

การฟนตัวของเศรษฐกิจโลกในป 2555 เปนไปอยางเชื่องชา จาก<br />

ปญหาวิกฤติหนี้ในยุโรป และการชะลอความรอนแรงทาง<br />

เศรษฐกิจของจีนลง ไดสงผลกระทบตอเนื่องถึงประเทศเศรษฐกิจ<br />

ขนาดใหญอื่นๆ โดยสถาบันเหล็กโลก (WSA) คาดการณวา<br />

ปริมาณการใชเหล็กทั่วโลกในป 2555 จะเติบโตขึ้นเพียง<br />

2.1%YoY อยูที่ 1,409.4 ลานตัน ขณะที่ป 2556 บนสมมุติฐานวา<br />

สถานการณวิกฤติหนี้ยุโรปจะไมรุนแรงไปกวาเดิม และสหรัฐ<br />

นาจะรับมือกับปญหา Fiscal Cliff ที่เกิดขึ้นได สวนจีนจะออก<br />

มาตรการกระตุนเศรษฐกิจภายในประเทศ นาจะทําใหปริมาณ<br />

การใชเหล็กทั่วโลกเติบโตขึ้น 3.2%YoY เปน 1,464.9 ลานตัน ซึ่ง<br />

ถือเปนอัตราการเติบโตที่คอนขางต่ําเทียบกับชวงเวลาปกติที่การ<br />

ใชเหล็กทั่วโลกจะเติบโตขึ้นในอัตรา 5-7% ตอป<br />

80<br />

Regions<br />

ปริมาณการใช้เหล็กทั่วโลก<br />

Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

ASU, mmt Growth Rates, %<br />

2011 2012 (f) 2013 (f) 2011 2012 (f) 2013 (f)<br />

European Union (27) 153.1 144.5 148.1 5.9 -5.6 2.1<br />

Other Europe 33.2 34.4 36.0 12.7 3.8 4.5<br />

C.I.S. 54.8 55.2 57.4 13.8 0.8 3.9<br />

N.A.F.T.A. 121.3 130.4 135.1 9.0 7.5 3.6<br />

Central & South America 45.7 47.4 50.4 2.6 3.8 6.3<br />

Africa 23.9 25.3 27.3 -3.4 5.8 7.7<br />

Middle East 48.2 49.9 52.8 2.9 3.5 5.9<br />

Asia & Oceania 900.6 922.2 947.9 5.9 2.4 2.8<br />

World 1,380.9 1,409.4 1,454.9 6.2 2.1 3.2<br />

Developed Economies 395.6 394.6 402.1 6.2 -0.3 1.9<br />

Emerging&Deveping Economies 985.2 1,014.8 1,052.8 6.3 3.0 3.7<br />

China 623.9 639.5 659.2 6.2 2.5 3.1<br />

BRIC 759.7 779.9 806.0 6.4 2.7 3.3<br />

MENA 59.8 62.7 66.9 -2.0 4.9 6.7<br />

World excl. China 757.0 769.9 795.6 6.3 1.7 3.3<br />

ที่มา : Worldsteel Association<br />

ราคาเหล็กโลก ขยับขึ้นตามต้นทุนการผลิต<br />

ราคาเหล็กในตลาดโลกเริ่มฟนตัวขึ้นตั้งแตเดือน ต.ค. จากการที่<br />

โรงงานเหล็กหลายแหงทั้งในประเทศจีนและยุโรป พยายามปรับ<br />

ราคาเหล็กขึ้นใหสอดคลองกับตนทุนการผลิต หลังจากไดปรับลด<br />

ปริมาณการผลิตของโรงงานเหล็กลงในเดือน ส.ค. และ ก.ย. ที่<br />

ผานมา ประกอบกับมีสัญญาณวาเศรษฐกิจในประเทศจีนซึ่งเปน<br />

ประเทศที่มีการใชเหล็กมากที่สุดในโลกเริ่มมีแนวโนมที่ดีขึ้น จาก<br />

การผอนคลายเชิงนโยบายของรัฐบาลจีน สะทอนไดจากตัวเลข<br />

ผลผลิตอุตสาหกรรม ซึ่งเปนตัวชี้วัดรายเดือนที่ขยายตัวสูงสุด<br />

นับตั้งแตเดือน มี.ค. 2555 ทําใหผูใชเหล็กในจีนเพิ่มระดับการเก็บ<br />

สต็อกขึ้นอีกครั้ง อยางไรก็ตาม อัตราการใชกําลังการผลิตเหล็กทั่ว<br />

โลกที่ยังคงอยูในระดับต่ํากวา 80% ทําใหการปรับตัวขึ้นของราคา<br />

เหล็กยังคงมีอยางจํากัด เนื่องจากยังมีกําลังการผลิตสวนเกินที่<br />

พรอมจะผลิตเหล็กปอนเขาสูตลาดไดทันที หากราคาเหล็กเพิ่มขึ้น<br />

จนถึงระดับที่โรงงานเหล็กสามารถทํากําไรได<br />

USD/ton<br />

800<br />

700<br />

600<br />

500<br />

400<br />

300<br />

200<br />

100<br />

-<br />

ราคาเหล็กนําเข้าตลาด East Asia<br />

Jan-09<br />

Apr-09<br />

Jul-09<br />

Oct-09<br />

Jan-10<br />

Apr-10<br />

Jul-10<br />

Oct-10<br />

Jan-11<br />

Apr-11<br />

Jul-11<br />

Oct-11<br />

Jan-12<br />

Apr-12<br />

Jul-12<br />

Oct-12<br />

Jan-13<br />

ที่มา : Bloomberg<br />

Rebar billet scrap Iron Ore HRC


ภาครัฐ เริ่มส่งสัญญาณคุ้มครองเหล็กไทย<br />

การนําเขาเหล็กเจือโบรอนจากประเทศจีนมายังประเทศไทย โดย<br />

อาศัยความไดเปรียบเรื่องภาษี ทั้งภาษีนําเขาที่ไดรับการยกเวนใน<br />

อัตรา 5% และการชดเชยอากรขาออกจากรัฐบาลจีนอีก 9% ทํา<br />

ใหประเทศไทยกลายเปนประเทศสงออกเหล็กลวดอันดับหนึ่งของ<br />

จีน แซงหนาเกาหลีใต โดยมียอดสงออกในเดือน ต.ค. 2555 สูงถึง<br />

116,569 ตัน เพิ่มขึ้น 188% จากชวงเดียวกันของปกอน สงผล<br />

กระทบอยางมากตอโรงงานเหล็กรีดรอนและเหล็กลวดของไทย ที่<br />

จะตองขยับราคาขายลงมาเพื่อแขงขัน โดยปลายเดือน พ.ย. ที่<br />

ผานมา TSTH, SSI, GSTEEL และ GJS ไดรวมกันยื่นเรื่องตอ<br />

กรมการคาตางประเทศ เพื่อขอใหมีการเปดไตสวนการทุมตลาดเหล็ก<br />

ลวด และเหล็กแผนรีดรอนจากประเทศจีน ซึ่งคาดวาจะใชเวลา<br />

ประมาณ 1 ปจากนี้ ในการไตสวนเพื่อออกมาตรการปกปองจากการ<br />

นําเขาสินคาและนําไปสูมาตรการตอบโตการทุมตลาดในที่สุด<br />

ปริมาณการส่งออกเหล็กลวดจากประเทศจีน<br />

ที่มา : สถาบันเหล็กและเหล็กกลาแหงประเทศไทย<br />

ฐานะการเงินบริษัทเหล็กไทย อ่อนแอลงมาก<br />

ปญหาราคาเหล็กตกต่ําและการแขงขันกับเหล็กนําเขาจากจีน ทํา<br />

ใหบริษัทเหล็กขนาดใหญของไทย ไมวาจะเปน SSI,GSTEEL และ<br />

TSTH มีผลการดําเนินงานที่ขาดทุนตอเนื่องในป 2555 สงผลตอ<br />

ฐานะการเงินใหออนแอลงตามลําดับ โดยเฉพาะ SSI ที่มี<br />

อัตราสวน Net Gearing ณ สิ้น 3Q55 สูงถึง 4.6 เทา จากการเขา<br />

ไปกอหนี้เพื่อซื้อโรงถลุงเหล็กในประเทศอังกฤษ และผลขาดทุน<br />

มหาศาลที่เกิดขึ้นติดตอกันหลายไตรมาสจนมีสวนของผูถือหุน<br />

โครงสร้างการเงินของบริษัทเหล็กไทย<br />

Net Gearing (เทา )<br />

5.0<br />

4.0<br />

3.0<br />

2.0<br />

1.0<br />

ลดลงมาก ทําให SSI มีความจําเปนตองเขาสูกระบวนการปรับ<br />

โครงสรางการเงิน ซึ่งมีทั้งการเพิ่มทุนใหกับผูถือหุนเดิมและ<br />

พันธมิตรทางธุรกิจ รวมถึงการเจรจาขอยืดระยะเวลาการชําระหนี้<br />

กับเจาหนี้สถาบันการเงิน ขณะที่กลุม GSTEEL ที่ประสบปญหา<br />

ขาดสภาพคลองมายาวนาน ยังคงอยูในระหวางการเจรจากับกลุม<br />

ทุนใหม เพื่อใหสามารถกลับมาเปดการผลิตไดตามปกติในปหนา<br />

การทํากําไรกลุ่มเหล็ก อาจต้องรอถึง 2H56<br />

ภาวะตลาดในปจจุบัน ยังไมเอื้อหนุนใหบริษัทเหล็กขนาดใหญ ทั้ง<br />

SSI,GSTEEL และ TSTH กลับมาทํากําไรได จากราคาผลิตภัณฑ<br />

เหล็กที่ยังไมฟนตัวเต็มที่ อีกทั้งโครงสรางภายในของบริษัทเหล็ก<br />

ขนาดใหญ ที่มีคาใชจายดอกเบี้ยและคาเสื่อมราคาสูง โดยเชื่อวา<br />

การทํากําไรของบริษัทเหล็กขนาดใหญ อาจตองรอถึงชวง 2H56<br />

ซึ่ง SSI จะมีการนําระบบ PCI ( pulverized coal injection ) มาใช<br />

ที่โรงถลุงเหล็ก ซึ่งจะชวยลดตนทุนพลังงานในการถลุงเหล็กลงได<br />

อยางมีนัยสําคัญ ขณะที่แผนการ Turnaround บริษัทภายใตทีม<br />

บริหารชุดใหมของ TSTH นาจะเริ่มเห็นผลชัดเจนมากขึ้นในชวง<br />

2H56 เปนตนไป ทั้งในเรื่องการเพิ่มสัดสวนการขายเหล็กพิเศษที่<br />

ใชในอุตสาหกรรมยานยนต รวมถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับเตาถลุง<br />

เหล็กขนาดเล็ก (Mini Blast Furnace : MBF) ที่หยุดการผลิตไป<br />

ตั้งแตเดือน ส.ค. 2554 แต TSTH ยังตองแบกรับคาใชจายราว 500<br />

ลานบาท/ป โดยบริษัทเหล็กที่นาจะทํากําไรไดดี จะอยูในธุรกิจแปร<br />

รูปเหล็ก ไดแก TMT ,MCS และ SMIT ที่สามารถผลักภาระตนทุน<br />

วัตถุดิบไปยังลูกคาไดมากกวา ทําใหมีอัตราการทํากําไรไมผันผวน<br />

น้อยกว่าตลาด เลือก MCS เป็น Top Pick<br />

ผลประกอบการของบริษัทเหล็กขนาดใหญที่ยังมีความเสี่ยงที่จะ<br />

ประสบปญหาขาดทุนในชวง 1-2 ไตรมาสขางหนา ทําใหฝายวิจัย<br />

ยังคงใหน้ําหนักการลงทุนหุนกลุมเหล็ก”นอยกวาตลาด” โดยเลือก<br />

MCS (FV@B7.96) เปนหุน Top Pick ของกลุมฯ จากผล<br />

ประกอบการที่คาดวาจะผานจุดต่ําสุดไปแลวตั้งแตชวง 1H55<br />

ขณะที่แนวโนมธุรกิจของ MCS เริ่มดีขึ้น จากแผนการตลาดเชิงรุก<br />

ที่หันไปจับตลาดนอกประเทศญี่ปุน โดยเฉพาะออสเตรเลีย ที่ยังมี<br />

อัตราการเติบโตสูง นาจะชวยให MCS มีกําไรที่สม่ําเสมอมากขึ้น<br />

และคาดวากําไรของ MCS จะกลับมาเติบโตไดอีกครั้งในป 2556<br />

0.0<br />

SSI<br />

CSP<br />

TMT<br />

GSTEEL<br />

TSTH<br />

SMIT<br />

BSBM<br />

Net cash<br />

MCS<br />

2553 2554 3Q55<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 81


แนะนํา ซื้อ<br />

CPALL<br />

ซีพีออลล์<br />

ราคาปัจจุบัน 43.75 บาท<br />

Fair Value 52.00 บาท<br />

มูลค่าตลาด 422,206 ล้านบาท<br />

การจัดอันดับบรรษัทภิบาลปี 2554<br />

เร่งเปิดสาขาเชิงรุก รักษาตําแหน่งผู้นํา<br />

การบริโภคยังแกร่ง+เพิ่มเป้าสาขาใหม่..ปี 2556 ยังเด่น<br />

งวด 1Q56 แม้มีผลค่าแรง แต่ยังเด่นทั้ง YoY, QoQ<br />

มีจุดขายเหนือคู่แข่ง สามารถเติบโตมั่นคง<br />

คาดกําไรป 2556 ยังเดนและทําสถิติกําไรสูงสุดตอเนื่อง<br />

โดยไดรับแรงหนุนจากการปรับเพิ่มคาแรงขั้นต่ําทั่ว<br />

ประเทศ300 บาท และบางสวนของการลดอัตราภาษี<br />

บุคคลธรรมดา ซึ่งหนุนใหการบริโภคภายในยังแข็งแกรง<br />

และสงผลบวกตอยอดขายสาขาเดิมยังเติบโตมั่นคงที่ราว<br />

6% บวกกับการเปดสาขาใหมเชิงรุกปรับเพิ่มเปาหมาย<br />

เปน 550 แหงจากเดิม 500 แหง/ป ทําใหยอดขายรวม<br />

เพิ่มขึ้น 14% YoY ขณะที่อัตราการทํากําไรยังเพิ่ม<br />

ตอเนื ่องจากกลยุทธเนนกลุมอาหารพรอมรับประทานซึ่ง<br />

มี Margin สูง (ติ่มซํา,เบเกอรี่, ฟาสฟูดส, อาหารแชเย็น)<br />

โดยตั้งเปาหมายการจําหนายใหครบทั้ง 3 มื้อซึ่งปจจุบัน<br />

มีความคืบหนาจากการเริ่มจําหนายกลุมอาหารเชามาก<br />

ขึ้น และคาดจะมีเพิ่มขึ้นตอเนื่อง รวมทั้งจะเพิ่มสาขาที่<br />

จําหนายอาหารกลองสําเร็จรูป (Chilled food) อีกราว<br />

600 สาขา จากปจจุบันอยูที่ 2,500 สาขา<br />

แมระยะสั้นงวด 1Q56 จะมีปจจัยกดดันจากการปรับขึ้น<br />

คาแรงขั้นต่ําทั่วประเทศ แตเชื่อวาจะไมกระทบกับ<br />

CPALL มากนัก เพราะยังไดรับชดเชยจากอัตราภาษีที่ลด<br />

ตัวเลขสําคัญทางการเงิน (ล้านบาท)<br />

สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2554 2555F 2556F<br />

รายไดจากการขายและบริการ 155,360 186,137 211,447<br />

กําไรสุทธิ 8,008 11,153 14,041<br />

Norm EPS (บาท) 1.78 1.24 1.56<br />

PER (เทา) 26.4 37.9 30.1<br />

DPS (บาท) 1.25 0.93 1.17<br />

Dividend Yield (%) 2.7 2.0 2.5<br />

PBV (เทา) 9.8 13.2 11.2<br />

ROE (%) 40.8 41.7 40.3<br />

EV/EBITDA 14.5 23.3 19.3<br />

82 Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

เหลือ 20% และเนนขายสินคาอุปโภคบริโภคพื้นฐาน ขณะที่ระยะยาว<br />

จะรับผลบวกจากกําลังซื้อที่เพิ่มขึ้น ทําใหคาดผลกําไรงวด 1Q56 ยัง<br />

เดนเมื่อเปรียบเทียบทั้ง YoY และเปนเพียงบริษัทเดียวในกลุมคาปลีกที่<br />

ยังเติบโตจากงวด 4Q55 เพราะไตรมาส 4 เปน High season ของทุก<br />

บริษัท ยกเวน CPALL ที่คาใชจายในการขายและบริหารจะมากที่สุด<br />

ของทุกปในไตรมาส 4<br />

แมการแขงขันตอจากนี้ จะมีแนวโนมสูงขึ้นจากการที่ผูเลนรายใหญ<br />

(Lotus, Big C, Family Mart) รุกขยายตลาดรานสะดวกซื้อมากขึ้น แต<br />

ยังเชื่อวาจะไมเปนปจจัยกดดันตอ CPALL เพราะมีความสามารถใน<br />

การแขงขันที่โดดเดนจาก 1) มี Market share มากกวา 50% และ<br />

ครอบคลุมพื้นที่ทําเลทองไวเปนสวนใหญ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯมี<br />

สาขามากกวา 3 พันแหง และแผนรุกเปดสาขาใหมปรับเพิ่มขึ้นเปน<br />

550 แหงสูงสุดในกลุมฯ เพื่อตอบสนองตอการแขงขัน จะยิ่งทําให<br />

จํานวนสาขาฉีกหนีคูแขง 2) มีการบริหารจัดการโลจิกติกตที่มี<br />

ประสิทธิภาพจากศูนยกระจายสินคาที่มีครอบคลุมทั่วประเทศ และการ<br />

ประหยัดจากขนาด และ 3) CPALL มีโรงงานผลิตเปนของตัวเอง<br />

โดยเฉพาะกลุมอาหารพรอมรับประทานที่มี Margin สูง ทําใหมีจุดเดน<br />

ที่แตกตางและไดเปรียบคูแขง จึงยังคงคําแนะนํา “ซื้อ” (FV@B52)<br />

ภาพรวมตลาดร้านสะดวกซ้อในประเทศไทย<br />

6.3%1.1%<br />

3.5% 4.9%<br />

5.3%<br />

0.9%<br />

ที่มา : ประมาณการโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong> ที่มา : ประมาณการโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

61%<br />

17.8%<br />

7-eleven<br />

Mini Big C<br />

108 shop<br />

Fresh Mart<br />

Family Mart<br />

TOPS<br />

Lotus<br />

Express<br />

Others<br />

6,773<br />

96<br />

600<br />

392<br />

714<br />

119<br />

553<br />

2000


งบการเงิน และอัตราส่วนที่สําคัญทางการเงิน - CPALL<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 83


แนะนํา ซื้อ<br />

DTAC<br />

โทเทิ่ล แอ็คเซส คอมมิวนิเคชั่น<br />

ราคาปัจจุบัน 88.75 บาท<br />

Fair Value 110.0 บาท<br />

มูลค่าตลาด 210,143 ล้านบาท<br />

การจัดอันดับบรรษัทภิบาลปี 2554<br />

Happy DTAC ด้วยใบอนุญาต 3G ใหม่<br />

กําไรพลิกมาเติบโตตั้งแต่งวด 4Q55<br />

ได้ประโยชน์จากใบอนุญาต 3G ใหม่มากที่สุดในกลุ่ม<br />

ราคาปัจจุบัน ยังมี Upside ถึง 23.9% ยืนยัน “ซื้อ”<br />

หลังจากที่ DTAC ไดรับผลกระทบจากการปรับขึ้นสวน<br />

ตลาดรายได (Revenue Sharing) ใหแก CAT จาก 25%<br />

เปน 30% ตั้งแต 16 ก.ย. 2554 สงผลกระทบใหผล<br />

ประกอบการของ DTAC ในป 2555 มีแนวโนมเพียงแค<br />

ประคองตัวใกลเคียงกับป 2554 แมรายไดบริการ Non-<br />

Voice จะเติบโตอยางมีนัยสําคัญตามกระแสความนิยม<br />

สมารทโฟน และจํานวนสมาชิกใหมที่ยังเพิ่มขึ้นตอเนื่อง<br />

อยางไรก็ตามตั้งแต 4Q55 เปนตนไป ซึ่งจะเปนไตรมาสแรก<br />

ที่ฐานสวนแบงรายไดใหกับ CAT เทากับชวงเดียวกันของป<br />

กอน เมื่อบวกกับ ชวงฤดูกาลในงวดดังกลาวและแรงหนุน<br />

ของการเปดตัวโทรศัพทรุนยอดนิยม iPHONE 5 ในระหวาง<br />

งวด เชื่อวาจะชวยหนุนใหทั้งยอดสมาชิกใหม อัตราการใช<br />

งานบริการดาน Non–Voice และรายไดจากการขาย<br />

เครื่องโทรศัพทเติบโตตอเนื่อง จึงสงผลใหฝายวิจัยคาดวา<br />

กําไรงวด 4Q55 จะเปนจุดเริ่มตนในการกลับมาเติบโตจาก<br />

ไตรมาสกอนหนา และจากชวงเดียวกันของปกอนอีกครั้ง<br />

นอกจากนี้ การไดรับใบอนุญาต 3G ใหม 2.1 GHz จาก<br />

กสทช. แลวตั้งแต ธ.ค. ที่ผานมา ยังจะเปนปจจัยสําคัญที่<br />

84 Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

การใหบริการดวยคลื่นมาตรฐาน 3G 2.1 GHz สูงกวาคลื่นความถี่ 850<br />

MHz ในปจจุบันมาก สงผลใหคาดวารายไดจากบริการ Non-Voice จะ<br />

เติบโตไดดีขึ้นกวาเดิม ขณะที่คาดตนทุนบริการจะมีแนวโนมลดลงอยางมี<br />

นัยสําคัญเชนกัน เพราะตนทุนสวนแบงรายไดภายใตใบอนุญาตใหม 3G<br />

2.1 GHz (รวมคาประมูลใบอนุญาต ลดลงเหลือ 10-12% จากสัมปทาน<br />

ปจจุบันที่จายถึง 30% ทําใหคาดวาหลังเปดใหบริการ 3G 2.1GHZ .ในงวด<br />

2Q56 DTAC จะทยอยโอนลูกคาที่ใชบริการ Nov-voice คอนขางหนัก และ<br />

จายคาบริการรายเดือนในอัตราสูง มายังบริการ 3G ใหม โดยคาดจํานวน<br />

ลูกคาที่โอนในป 2556 จะมีสัดสวนราว 10% ของจํานวนลูกคาทั้งหมด ชวย<br />

หนุนใหกําไรสุทธิในงวดป 2556 ถึง 18% สูงสุดในกลุม เนื่องจาก DTAC<br />

ไดประโยชนจากตนทุนสวนแบงรายไดที่ลดลงจากสัมปทานปจจุบัน<br />

มากกวาคูแขงอยาง ADVANC ที่จายเพียง 25% ของรายไดบริการเทานั้น<br />

ดวยทิศทางกําไรที่กลับมาเติบโตอีกครั้ง ฝายวิจัยกําหนดมูลคาพื้นฐานป<br />

2556 ของ DTAC อิงวิธี DCF จะอยูที่ 110 บาท นอกจากยังมี Upside สูง<br />

จากราคาปจจุบันถึง 23.9% แลว ณ ระดับราคาปจจุบัน ยังคาดการณ<br />

ผลตอบแทนเงินปนผลงวด 4Q55 และป 2556 ที่สูงถึงราว 1.3% และ<br />

5.4% ตามลําดับ (ปจจุบัน DTAC มีนโยบายจายเงินปนผลทุกไตรมาส) จึง<br />

ยังเลือกเปน Top Pick ของกลุมและยืนยันคําแนะนํา “ซื้อ”<br />

ชวยผลักดันผลประกอบการในปหนา เพราะประสิทธิภาพ<br />

ตัวเลขสําคัญทางการเงิน (ล้านบาท) ฐานผู้ใช้บริการของ DTAC ณ สิ้นสุดงวด 3Q55<br />

สิ้นสุด 31 ธ.ค 2554 2555F 2556F<br />

รายไดขายและบริการ 79,297 87,415 94,242<br />

กําไรสุทธิ 11,812 12,012 14,209<br />

Norm Profit 12,005 12,012 14,209<br />

EPS (บาท) 4.99 5.07 6.00<br />

PER (x) 17.79 17.50 14.79<br />

DPS (บาท) 17.84 4.57 4.80<br />

Dividend yield (%) 20.1% 5.1% 5.4%<br />

BV (บาท) 14.73 14.77 16.01<br />

EV/EBIDA 7.0 8.8 7.8<br />

ROE (%) 33.9% 34.3% 37.5%<br />

PBV (x) 6.02 6.01 5.54<br />

ที่มา : ประมาณการโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong> ที่มา : DTAC


งบการเงิน และสัดส่วนที่สําคัญทางการเงิน - DTAC<br />

งบกําไรขาดทุน (ลานบาท)<br />

งบกระแสเงินสด (ลานบาท)<br />

สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2553 2554 2555F 2556F สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2553 2554 2555F 2556F<br />

รายไดขายและบริการ 71,504 79,297 87,415 94,242 กระแสเงินสดจากการดําเนินงาน<br />

ตนทุนขายและบริการ (45,550) (50,918) (59,454) (63,020) กําไรสุทธิ 10,885 11,812 12,012 14,209<br />

กําไรขั้นตน 25,954 28,379 27,961 31,221 รายการเปลี่ยนแปลงที่ไมกระทบเงินสด 10,521 10,761 10,706 12,101<br />

คาใชจายในการขาย (11,820) (11,717) (11,742) (12,507) การเปลี่ยนแปลงของสินทรัพยหมุนเวียน 4 (174) (2,143) (889)<br />

กําไรจากการดําเนินงาน 14,135 16,662 16,219 18,715 การเปลี่ยนแปลงของหนี้สินหมุนเวียน 1,304 3,869 (252) (249)<br />

สวนแบงผลกําไรจากเงินลงทุน 55 35 30 36 เพิ่ม/ลด จากกิจกรรมการดําเนินงาน 119 142 (8) (8)<br />

รายได(คาใชจาย)อื่น 1,369 505 612 666 กระแสเงินสดจากการดําเนินงานสุทธิ 22,832 26,296 20,314 25,163<br />

ดอกเบี้ยจาย (1,010) (431) (1,257) (1,657)<br />

กําไรกอนหักภาษี 14,548 16,771 15,604 17,760 กระแสเงินสดจากการลงทุน<br />

ภาษีเงินได (3,670) (4,960) (3,594) (3,552) เพิ่ม/ลด จากการลงทุนระยะสั้น 1,278 - (1) (1)<br />

สวนของผูถือหุนสวนนอย 7 1 1 1 เพิ่ม/ลด จากสินทรัพยถาวร (2,242) (5,216) (19,396) (18,397)<br />

กําไรสุทธิ 10,885 11,812 12,012 14,209 อื่นๆ (5) (814) - -<br />

รายการพิเศษอื่น ๆ 508 (193) 0 0 กระแสเงินสดจากการลงทุนสุทธิ (1,778) (5,214) (19,397) (18,398)<br />

กําไรสุทธิจากการดําเนินงานปกติ 10,377 12,005 12,012 14,209 กระแสเงินสดจากการจัดหาเงิน<br />

เพิ่ม/ลด เงินกู (6,565) (1,321) 19,671 188<br />

เพิ่ม/ลด หนี้สินระยะยาว (3,500) (3,000) 4,000 -<br />

ยอดขาย (YoY%) 9% 11% 10% 8% จายปนผล (4,555) (7,434) (50,292) (11,285)<br />

ตนทุนขาย (YoY%) 5% 12% 17% 6% กระแสเงินสดจากการจัดหาเงินสุทธิ (14,619) (11,755) (26,622) (11,097)<br />

กําไรขั้นตน (YoY%) 17% 9% -1% 12% เพิ่ม/ลด เงินสดสุทธิ 6,434 9,327 (25,704) (4,331)<br />

กําไรสุทธิ (YoY%) 9% 2% 18% กระแสเงินสดสุทธิ 12,547 21,874 (3,831) (8,163)<br />

งบกําไรขาดทุนรายไตรมาส (ลานบาท)<br />

งบดุล (ลานบาท)<br />

4Q54 1Q55 2Q55 3Q55 สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2553 2554 2555F 2556F<br />

รายไดขายและบริการ 20,306 22,517 21,641 21,177 เงินสดและรายการเทียบเทาเงินสด 12,548 21,873 (3,831) (8,163)<br />

ตนทุนขายและบริการ (13,840) (15,487) (14,979) (14,612) ลูกหนี้การคา 6,518 6,575 7,690 8,209<br />

กําไรขั้นตน 6,466 7,030 6,662 6,565 สินคาคงเหลือ 256 384 1,391 1,738<br />

คาใชจายในการขาย (3,063) (2,940) (2,831) (2,757) สินทรัพยหมุนเวียนอื่น 2,076 2,193 2,215 2,237<br />

กําไรจากการดําเนินงาน 3,403 4,090 3,831 3,808 ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ 5,938 5,504 5,231 5,046<br />

สวนแบงผลกําไรจากเงินลงทุน 26 10 5 2 สินทรัพยภายใตสัญญาสัมปทาน 64,338 57,143 66,208 72,791<br />

รายได(คาใชจาย)อื่น 245 100 178 209 สินทรัพยรวม 99,313 103,847 88,980 91,834<br />

ดอกเบี้ยจาย (75) (267) (282) (242)<br />

ภาษีเงินได (915) (900) (905) (896) เจาหนี้การคา 10,777 19,480 19,286 19,093<br />

สวนของผูถือหุนสวนนอย 0 2 (0) (0) สวนของหนี้สินที่ครบกําหนดชําระใน 1 ป 4,321 1,321 4,812 10,299<br />

กําไรสุทธิ 2,378 2,997 2,828 2,881 เงินกูยืมระยะยาว 4,589 3,269 23,448 18,149<br />

รายการพิเศษอื่น ๆ (304) (37) 42 85 หนี้สินรวม 30,435 68,959 53,999 53,930<br />

กําไรสุทธิจากการดําเนินงานปกติ 2,683 3,034 2,786 2,796<br />

ทุนเรียกชําระแลว 4,736 4,736 4,736 4,736<br />

ยอดขาย (QoQ%) 4% 11% -4% -2% สวนเกินมูลคาหุน 23,543 23,543 23,543 23,543<br />

ตนทุนขาย (QoQ%) 13% 12% -3% -2% กําไรสะสม 38,937 4,944 5,039 7,962<br />

กําไรขั้นตน (QoQ%) -12% 9% -5% -1% สวนของผูถือหุน 68,878 34,888 34,981 37,904<br />

กําไรสุทธิ (QoQ%) -13% 13% -8% 0% รวมหนี้สินและสวนของผูถือหุน 99,313 103,847 88,980 91,834<br />

อัตราสวนทางการเงิน<br />

สมมติฐานในการทําประมาณการ<br />

สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2553 2554 2555F 2556F สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2553 2554 2555F 2556F<br />

อัตราสวนสภาพคลอง (เทา) 0.85 0.48 0.25 0.12 ฐานลูกคา (ลานราย)<br />

อัตราสวนหมุนเวียนลูกหนี้การคา(เทา) 10.97 12.06 11.37 11.48 - ระบบรายเดือน 2.33 2.40 2.52 2.76<br />

อัตราสวนหมุนเวียนเจาหนี้การคา (เทา) 4.23 2.61 3.08 3.30 - ระบบเติมเงิน 19.29 20.82 22.71 24.84<br />

หนี้สินตอสวนผูถือหุน(เทา) 0.44 1.98 1.54 1.42 ARPU (บาท/เลขหมาย/เดือน)<br />

ผลตอบแทนจากสินทรัพยเฉลี่ย 11% 11% 13% 15% - ระบบรายเดือน 557 580 572 572<br />

ผลตอบแทนจากผูถือหุนเฉลี่ย 16% 34% 34% 37% - ระบบเติมเงิน 173 173 172 172<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 85


HMPRO<br />

ราคาปัจจุบัน 12.7 บาท<br />

Fair Value 15.6 บาท<br />

มูลค่าตลาด 89,427 ล้านบาท<br />

การจัดอันดับบรรษัทภิบาลปี 2554<br />

คาดกําไรป 2556 ยังโดดเดนตอเนื่อง โดยมีปจจัยหนุน<br />

จาก การเปดสาขาใหมเชิงรุกอยางต่ํา 8 แหง เพิ่มขึ้นจาก<br />

ณ สิ้นป 2555 ที่ 53 แหงเปน 61 แหง และทําให<br />

เปาหมาย 80 แหงในระยะ 3-5 ปนี้ เปนไปตามแผน<br />

ขณะที่คาดยอดขายสาขาเดิมยังเพิ่มขึ้นราว 6% YoY<br />

ตามภาคการบริโภคภายในที่ยังแข็งแกรง โดยเฉพาะใน<br />

ตางจังหวัดที่แนวโนมเปนชุมชนเมืองขยายตัวมากขึ้นและ<br />

มีการปรับปรุงบานพักอาศัยตอเนื่อง รวมทั้งยังได<br />

ประโยชนจากนโยบายลดภาษีบุคคลธรรมดาซึ่งสงผล<br />

บวกผูมีรายไดปานกลางขึ้นไป และถือเปนฐานลูกคา<br />

สําคัญของ HMPRO อยางไรก็ตาม ในระยะสั้นงวด<br />

1Q56 คาดแนวโนมการเติบโตของยอดขายสาขาเดิมอาจ<br />

เปนบวกเพียงเล็กนอยจากฐานที่สูงในงวด1Q55 จากการ<br />

เรงซอมแซมบานหลังน้ําทวม และทําใหกําไรงวด 1Q56<br />

อาจจะเติบโตในระดับปานกลางราว 18% YoY อยางไรก็<br />

ตาม เชื่อวายอดขายสาขาเดิมจะกลับมาเติบโตโดดเดน<br />

ในงวด 2Q55 และ 3Q55 และสามารถบรรลุเปาหมายทั้ง<br />

ปที่ 6% และทําใหภาพรวมกําไรป 2556 ยังสดใสและ<br />

เพิ่มขึ้นราว 36% YoY สูงสุดในกลุมคาปลีก<br />

ตัวเลขสําคัญทางการเงิน (ล้านบาท)<br />

86<br />

โฮม โปรดักส์<br />

เซ็นเตอร์<br />

Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

แนะนํา ซื้อ<br />

เติบโตดี ราคาอยู่ในระดับน่าเข้าซื้อ<br />

สิ ้นสุด 31 ธ.ค. 2554A 2555F 2556F<br />

30%<br />

ยอดขาย 28,363 35,373 43,259<br />

25%<br />

กําไรสุทธิ 2,005 2,700 3,665<br />

EPS FD (บาท) 0.34 0.38 0.52<br />

20%<br />

PER (x) 37.0 33.1 24.4<br />

15%<br />

DPS (บาท) 0.17 0.17 0.22<br />

10%<br />

Dividend Yield (%) 1.31 1.34 1.75<br />

5%<br />

PBV (x) 9.13 9.11 7.37<br />

0%<br />

ROAE (%) 27.93 30.11 33.40<br />

EV/EBITDA 13.82 15.45 14.27<br />

ที่มา : ประมาณการโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong> ที่มา : ประมาณการโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

ปี 2556 ยังเติบโตในระดับสูงถึง 36% YoY<br />

มีโอกาสรุกตลาดวัสดุก่อสร้าง ช่วยหนุนการเติบโต<br />

อยู่ในจุดน่าเข้าซื้อลงทุน มีระดับ PER ต่ําสุด แนะ “ซื้อ”<br />

นอกจากนี้ ยังมี 2 ปจจัยบวกที่ยังไมรวมอยูในประมาณการและชวยหนุน<br />

หนุนมูลคาพื้นฐานใหเพิ่มขึ้นคือ 1) การเปดสาขาในมาเลเซีย โดยอยู<br />

ระหวางการเซ็นสัญญาที่ดิน ซึ่งคาดวาจะเปดสาขาทดลองที่แรกราวตนป<br />

2557 และ 2) การรุกสรางแบรนดใหมจับกลุมผูรับเหมาและเนนขาย<br />

สินคาวัสดุกอสราง (เหมือนกับ GLOBAL และไทวัสดุ) โดยจะเปนสาขา<br />

รูปแบบใหม ซึ่งฝายวิจัยมีมุมมองเชิงบวก เพราะตลาดดังกลาวมีขนาด<br />

ใหญมากรวมมูลคาหลายหมื่นลานบาท ซึ่งผูครองตลาดหลักยังเปนกลุม<br />

ผูประกอบการคาปลีกดั้งเดิม (Traditional trade) อีกทั้ง คูแขงทั้ง<br />

GLOBAL และไทวัสดุ มีสาขาเพียง 19 และ 23 แหงตามลําดับ ทําใหยัง<br />

มีชองวางในการเปดสาขาไดอีกมาก และดวยเหตุที่ผูเลนทั้ง 2 รายมีแผน<br />

เปดสาขาเชิงรุกนับจากนี้ จึงทําใหเชื่อวาหาก HMPRO จะลงมาเปด<br />

ตลาดกลุมดังกลาวจริง นาจะตองดําเนินการในชวงป 2556 เปนตนไป<br />

ฝายวิจัยยังมีมุมมองเชิงบวกตอปจจัยพื้นฐานที่ยังคงแข็งแกรง โดยคาด<br />

อัตราการเติบโตป 2556 เทากับ 36% YoY สูงสุดในกลุม ขณะที่ราคาอยู<br />

ในระดับที่นาสนใจเขาซื้อ โดยมีระดับ PER ป 2556 ที่ 24 เทา ต่ําสุดใน<br />

กลุมซึ่งอยูที่ 27 เทา จึงยืนยัน “ซื้อ” (FV@B15.6)<br />

เปรียบเทียบ Gross margin และ Net margin<br />

1Q51<br />

2Q51<br />

3Q51<br />

4Q51<br />

1Q52<br />

2Q52<br />

3Q52<br />

4Q52<br />

1Q53<br />

2Q53<br />

3Q53<br />

4Q53<br />

1Q54<br />

2Q54<br />

3Q54<br />

4Q54<br />

1Q55<br />

2Q55<br />

3Q55<br />

Gross Margin Net Margin


งบการเงิน และอัตราส่วนที่สําคัญทางการเงิน -HMPRO<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 87


INTUCH ถึงรอบวิ่งไปกับ INTUCH<br />

ชิน คอร์ปอเรชั่น<br />

ราคาปัจจุบัน 67.75 บาท<br />

Fair Value 87.00 บาท<br />

มูลค่าตลาด 217,235 ล้านบาท<br />

การจัดอันดับบรรษัทภิบาลปี 2554<br />

เปนบริษัทโฮลดิ้ง ซึ่งถือหุนใหญใน 2 บริษัท ICT ยักษใหญ<br />

คือ 1) ADVANC (ถือหุน 40.45%) ซึ่งเปนผูนําดาน<br />

ใหบริการโทรศัพทเคลื่อนที่ของไทย ครองสวนแบงตลาด<br />

44% และ 2) THCOM (ถือหุน 41.14%) เปนบริษัทเดียวใน<br />

ประเทศที่ใหบริการสัญญาณดาวเทียม โดยกําไรชวงที่ผาน<br />

มา สวนใหญเกือบ 100% จะมาจากสวนแบงกําไรของ<br />

ADVANC ขณะที่ THCOM ซึ่งเคยประสบขาดทุนมาโดย<br />

ตลอด 4 ปที่ผานมา คาดจะเริ่มมีกําไรตั้งแตป 2555<br />

หลังจาก THCOM ปรับกลยุทธมาขาย iPSTAR เหมา<br />

ยกล็อตใหแกประเทศตาง ๆ จน ปจจุบันอัตราการใชบริการ<br />

เกินจุดคุมทุน 24% แลว เมื่อบวกกับที่ THCOM ไดตัดขาย<br />

บริษัท M-Fone ซึ่งประกอบธุรกิจใหบริการโทรศัพทใน<br />

กัมพูชาที่ขาดทุนมาโดยตลอดตั้งแตงวด 3Q55 ยังมีสวน<br />

ชวยเสริมใหกําไร THCOM ดีขึ้นกวาเดิมไตรมาสละ 100<br />

ลานบาท นับจากงวด 4Q55 ดังนั้น แรงหนุนของการฟนตัว<br />

THCOM บวกกับกําไรป 2555 ของ ADVANC ที่โตโดดเดน<br />

หนุนใหคาดกําไรปกติปนี้ของ INTUCH จะโตสูง 54.6%<br />

ขณะที่ทิศทางการเติบโตในป 2556 INTUCH จะไดรับ<br />

ผลบวกจากการเติบโตของ ADVANC ที่มีแนวโนมเพิ่มขึ้น<br />

หลังจาก ADVANC เริ่มใหบริการ 3G บนยานความถี่<br />

88 Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

แนะนํา ซื้อ<br />

ADVANC ตัวชูโรง มุ่งหน้าต่อด้วยใบอนุญาตใหม่<br />

ทั้งเครือเติบโตสูง 15% ในปีหน้า<br />

เป็นอีกปีที่จะ Outperform ตลาด จาก Upside สูงสุด<br />

2.1GHz ภายใตอนุญาตใหม นับจากงวด 2Q56 ซึ่งจะสงบวก 2 ประการ<br />

หลัก ๆ คือ 1) รายไดบริการ Non-Voice ที่เติบโตอยางตอเนื่อง จากการ<br />

เพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการใหบริการ เพราะปจจุบัน<br />

ADVANC ใชคลื่น 900 MHz ใหบริการทั้งระบบ 2G และ 3G ทําใหกําลัง<br />

การใหบริการและประสิทธิภาพการใชงานมีจํากัด 2) ตนทุนสวนแบง<br />

รายไดภายใตใบอนุญาต (รวมคาประมูลใบอนุญาต) ลดลงเหลือ 10-<br />

12% จากสัมปทานปจจุบันที่จายถึง 25% ทําใหคาดวา ADVANC จะ<br />

ทยอยโอนลูกคาที่การใชงานบริการ Non-Voice คอนขางหนัก และจาย<br />

คาบริการรายเดือนในอัตราสูง มายังบริการ 3G 2.1GHz โดยคาดวา<br />

โอนลูกคาในป 2556 ในสัดสวนราว 10% ของฐานลูกคาทั้งหมด ซึ่งจะ<br />

ชวยลดตนทุนดําเนินงาน และชวยให ADVANC เติบโต 12% ขณะที่<br />

THCOM ไมตองบันทึกรับรูขาดทุนจากธุรกิจ Mfone หลังขาย MFone ไป<br />

แลวในป 2555ชวยใหกําไรป 2556 พลิกมาเติบโตสูง 2.7เทาตัว ทั้งหมด<br />

จึงลวนสงผลให กําไรปกติป 2556 ของ INTUCH ในฐานะบริษัทแม<br />

เติบโต 15%yoy และพุงสูระดับ 1.45 หมื่นลานบาท<br />

ฝายวิจัยอิงวิธี NAV ตามมูลคาพื้นฐานของบริษัทลูก กําหนดมูลคา<br />

พื้นฐาน INTUCH ที่ 87.0 บาท มี Upside สูงสุดในกลุมสื่อสารที่ 26.9%<br />

ขณะทีคาดการณ Div Yield ในงวด 2H55 และ 2556 ยังสูงมากถึง 2.3%<br />

และ 7.4% ตามลําดับ จึงยังยืนยันคํานําน “ซื้อ” เลือกเปน Top Pick กลุม<br />

ตัวเลขสําคัญทางการเงิน (ล้านบาท) มูลค่าพื้นฐานหุ้นตามวิธี NAV<br />

2554 2555F 2556F<br />

ยอดขาย (ลานบาท) 8,649 9,634 9,889<br />

กําไรปกติ (ลานบาท) 9,380 14,499 16,739<br />

กําไรสุทธิ (ลานบาท) 16,559 14,250 16,739<br />

EPS (บาท) 5.16 4.44 5.22<br />

PER (เทา) 13.12 15.24 12.98<br />

DPS (บาท) 5.50 4.38 5.00<br />

Dividend Yield 8.1% 6.5% 7.4%<br />

BV (เทา) 9.2 9.3 9.6<br />

EV/EBIDA (เทา) 17.60 13.30 11.53<br />

PBV (เทา) 7.4 7.3 7.1<br />

ROE 56% 48% 55%<br />

ที่มา : ประมาณการโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong> ที่มา : ประมาณการโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong>


งบการเงิน และอัตราส่วนที่สําคัญทางการเงิน – INTUCH<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 89


แนะนํา ซื้อ<br />

KBANK<br />

ธนาคารกสิกรไทย<br />

ราคาปัจจุบัน 193.50 บาท<br />

Fair Value 237.33 บาท<br />

มูลค่าตลาด 463,096 ล้านบาท<br />

การจัดอันดับบรรษัทภิบาลปี 2554<br />

ROE สูงสุดในกลุ่ม ธ.พ.ใหญ่<br />

เน้นคุณภาพการบริการเหนือชั้นเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาด<br />

แม้คาดกําไร 4Q55 อ่อนตัว แต่ทั้งปียังทํา new high<br />

Top pick ในกลุ่ม ธ.พ.ใหญ่<br />

แผนธุรกิจในป 2556 ซึ่งตอยอดมาจากความสําเร็จของ<br />

โครงการลงทุนใหญที่ไดดําเนินการมาอยางตอเนื่อง ทั้งใน<br />

สวนของพนักงาน และดานระบบ IT (K-Transformation)<br />

เพื่อตอบโจทยการใหบริการของธนาคารฯ ที่เนนลูกคาเปน<br />

ศูนยกลาง (Customer-centric strategy) ทําใหปจจุบัน<br />

KBANK มีศูนยรวมขอมูลของลูกคาที่ทําใหพนักงาน<br />

สามารถขายผลิตภัณฑทางการเงิน ที่ตรงกับความตองการ<br />

ของลูกคาภายใตเวลาที่รวดเร็ว ดวยชองทางการขายที่<br />

หลากหลาย สะทอนไดจากผลสําเร็จของการเพิ่มขึ้นของการ<br />

ใชบริการของธนาคารฯ เปน main bank status ในแตละ<br />

กลุมลูกคา การเพิ่มจํานวนการใชผลิตภัณฑตอราย ลวน<br />

นํามาซึ่งการเพิ่มขึ้นของสวนแบงตลาดสําหรับผลิตภัณฑ<br />

ทางการเงินสวนใหญของ KBANK โดยการเติบโตของธุรกิจ<br />

ในป 2556 ยังคงเปนไปในลักษณะของการสรางสมดุล<br />

ระหวางการเติบโตและคงไวซึ่งคุณภาพของสินทรัพย โดย<br />

KBANK ตั้งเปาการเติบโตของสินเชื่อสุทธิในระดับเดียวกับ<br />

ป 2555 คือ 9-11%yoy ซึ่งจะเนนการเติบโตของสินเชื่อใน<br />

กลุม high yields (SME และรายยอย) แทนที่กลุมสินเชื่อ<br />

รายใหญที่จะเห็นการเติบโตที่ลดลงจากป 2555 ซึ่งจะสงผล<br />

ดีตอ NIM ที่คาดวาจะเห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กนอยในชวง<br />

3.4-3.6% นอกจากนี้ คาดการณ Cost to income ratio ที่<br />

90<br />

Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

จะลดลงสูระดับ 45-46% จากภาระการลงทุนในโครงการ K-<br />

Transformation ที่บรรเทาลงในชวงปลายเฟส ลวนเปนปจจับวกที่จะชวย<br />

หักลางผลกระทบจากคาดการณการเติบโตของรายไดคาธรรมเนียมฯ ที่<br />

ชะลอตัวลง (ตามสินเชื่อรายใหญ) และการเพิ่มขึ้นของคาใชจายสํารอง<br />

หนี้ฯ (ตามนโยบายที่เขมงวดทามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังผันผวน<br />

ซึ่งสวนทางกับคุณภาพหนี้ของธนาคารฯ ที่ยังแข็งแกรงมาก ดวย NPL ที่<br />

คาดวาจะลดลงตอเนื่องต่ํากวา 2.4% ของสินเชื่อรวมในป 2556)<br />

ฝายวิจัยคาดแนวโนมผลการดําเนินงาน 4Q55 จะเห็นการออนตัว<br />

ลง QoQ จากการเพิ่มขึ้นของคาใชจายดําเนินงานในโครงการ<br />

K-transformation ตามที่ธนาคารฯ เปดเผยไว (Cost to income ratio<br />

ในชวง 9M55 ยังต่ําเพียง 43.1% โดย KBANK ยังยืนเปาทั้งป 2555 ที่<br />

46.47% นั่นหมายถึง Cost to income จะยิ่งเรงตัวมากขึ้นในชวง 4Q55)<br />

ซึ่งไมไดนากังวล เพราะหากพิจารณาคาดการณกําไรสุทธิทั้งป 2555 จะ<br />

เห็นวายังสามารถขึ้นทํา new high ในรายปและตอเนื่องถึงป 2556<br />

ภายใตการเติบโตของ EPS ป 2555-56 ที่ 49.3%yoy และ 20.4%yoy<br />

ตามลําดับ ดวยปจจัยบวกหนุนที่ไดกลาวไปแลวในขางตน<br />

ฝายวิจัยเลือก KBANK เปนหุน Top pick ของกลุม ธ.พ.ใหญ ดวย<br />

คาดการณ ROE ป 2556 ถึง 22.3% สูงสุดในกลุม ธ.พ.ใหญ ภายใต Fair<br />

value ที่ PBV 2.70 เทา ป 2556 คือ 237.33 บาท ยังมี upside กวา 19%<br />

ตัวเลขสําคัญทางการเงิน (ล้านบาท) โครงสร้างสินเชื่อ ณ สิ้นงวด 9M55 ของ KBANK<br />

สิ ้นสุด 31 ธ.ค. 2554 2555F 2556F<br />

กําไรสุทธิ 24,226 36,159 43,518<br />

EPS (บาท) 10.15 15.14 18.23<br />

Norm profit 30,752 43,341 51,700<br />

BVS (บาท) 64.68 75.26 87.99<br />

PER (เทา) 19.1 12.8 10.6<br />

PBV (เทา) 3.0 2.6 2.2<br />

DPS (บาท) 2.50 3.50 4.00<br />

Dividend yield (%) 1.3 1.8 2.1<br />

ROE (%) 16.7% 21.6% 22.3%<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong> ที่มา : KBANK<br />

Retail<br />

26%<br />

SME<br />

40%<br />

Corporate<br />

34%


งบการเงิน และอัตราส่วนที่สําคัญทางการเงิน - KBANK<br />

งบกําไรขาดทุน (ลานบาท)<br />

งบดุล (ลานบาท)<br />

สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2554 2555F 2556F 2557F สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2554 2555F 2556F 2557F<br />

รายไดดอกเบี้ยรับ 83,693 93,740 104,561 115,733 เงินสดและเงินฝากธนาคาร 53,211 39,562 56,322 48,042<br />

ตนทุนดอกเบี้ยจาย (27,202) (33,168) (37,545) (41,717) เงินลงทุน-สุทธิ 264,295 290,708 319,763 351,723<br />

รายไดดอกเบี้ยสุทธิ 56,491 60,572 67,016 74,016 สินเชื่อ 1,210,834 1,331,918 1,465,110 1,611,621<br />

รายไดคาธรรมเนียมฯ - สุทธิ 20,637 23,732 27,292 31,386 บวก ดอกเบี้ยคางรับ 2,105 1,998 2,198 2,417<br />

รายไดจากการดําเนินงานอื่นๆ 45,088 58,118 65,713 71,363 หัก คาเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (40,343) (47,343) (54,343) (61,344)<br />

คาใชจายดําเนินงาน (74,726) (85,422) (94,309) (103,729) สินเชื่อสุทธิ 1,172,596 1,286,573 1,412,964 1,552,694<br />

คาเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (7,346) (8,000) (9,000) (9,670) สินทรัพยอื่น 232,838 285,821 311,019 336,478<br />

กําไรกอนภาษีเงินได 40,144 49,000 56,712 63,367 สินทรัพยรวม 1,722,940 1,902,663 2,100,068 2,288,936<br />

หัก ภาษีเงินได (13,962) (11,025) (11,342) (12,673) เงินฝาก 1,242,229 1,366,452 1,503,097 1,623,345<br />

สวนของผูถือหุนสวนนอย (1,957) (1,816) (1,852) (1,820) เงินกูยืม 70,303 84,364 101,237 121,484<br />

กําไรสุทธิ 24,226 36,159 43,518 48,874 หนี้สินรวม 1,555,974 1,709,170 1,874,774 2,027,959<br />

EPS (บาท) 10.15 15.14 18.23 20.47 ทุนเรียกชําระแลว 23,933 23,933 23,933 23,933<br />

กําไรจากการดําเนินงาน 30,752 43,341 51,700 57,725 สํารองอื่น 32,087 32,087 32,087 32,087<br />

Norm EPS (บาท) 12.88 18.15 21.65 24.18 กําไรสะสม 98,779 124,090 154,552 188,764<br />

สวนของผูถือหุน 154,799 180,110 210,572 244,784<br />

หนี้สินและสวนของผูถือหุน 1,722,940 1,902,663 2,100,068 2,288,936<br />

งบกําไรขาดทุนรายไตรมาส (ลานบาท)<br />

งบดุลรายไตรมาส (ลานบาท)<br />

สิ้นสุด 31 ธ.ค. 4Q54 1Q55 2Q55 3Q55 สิ้นสุด 31 ธ.ค. 4Q54 1Q55 2Q55 3Q55<br />

รายไดดอกเบี้ยรับ 23,085 22,974 23,589 24,393 เงินสดและเงินฝากธนาคาร 53,211 42,459 41,528 35,166<br />

ตนทุนดอกเบี้ยจาย (8,163) (8,056) (8,124) (8,189) เงินลงทุน-สุทธิ 264,295 372,153 380,306 374,554<br />

รายไดดอกเบี้ยสุทธิ 14,922 14,918 15,465 16,204 สินเชื่อ 1,210,834 1,220,068 1,256,052 1,287,299<br />

รายไดคาธรรมเนียมฯ - สุทธิ 4,893 5,510 5,965 6,233 บวก ดอกเบี้ยคางรับ 2,105 2,265 2,164 2,240<br />

รายไดจากการดําเนินงานอื่นๆ 10,032 13,439 14,758 15,192 หัก คาเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (40,343) (41,583) (42,789) (43,114)<br />

คาใชจายดําเนินงาน (19,586) (19,357) (21,737) (22,658) สินเชื่อสุทธิ 1,172,596 1,180,750 1,215,428 1,246,425<br />

คาเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ (2,160) (1,831) (1,894) (2,018) สินทรัพยอื่น 232,838 261,788 249,773 349,315<br />

กําไรกอนภาษีเงินได 8,102 12,678 12,556 12,953 สินทรัพยรวม 1,722,940 1,857,149 1,887,036 2,005,460<br />

หัก ภาษีเงินได (4,511) (3,043) (2,561) (3,010) เงินฝาก 1,242,229 1,305,687 1,325,630 1,398,295<br />

สวนของผูถือหุนสวนนอย (558) (648) (628) (731) เงินกูยืม 70,303 180,564 173,821 195,325<br />

กําไรสุทธิ 3,032 8,988 9,367 9,212 หนี้สินรวม 1,555,974 1,677,982 1,703,376 1,812,026<br />

EPS (บาท) 1.27 3.76 3.92 3.86 ทุนเรียกชําระแลว 23,933 23,933 23,933 23,933<br />

กําไรจากการดําเนินงาน 6,981 10,651 11,136 11,000 สํารองอื่น 32,087 47,442 47,325 49,025<br />

Norm EPS (บาท) 2.92 4.46 4.66 4.61 กําไรสะสม 98,779 107,792 112,402 120,476<br />

สวนของผูถือหุน 154,799 179,167 183,660 193,434<br />

Tier 1 9.6% 9.6% 9.8% 10.9% หนี้สินและสวนของผูถือหุน 1,722,940 1,857,149 1,887,036 2,005,460<br />

Tier 2 4.2% 4.6% 5.8% 5.6%<br />

CAR 13.8% 15.5% 15.6% 16.5%<br />

อัตราสวนทางการเงิน<br />

สมมติฐานในการประมาณการ<br />

สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2554 2555F 2556F 2557F สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2554 2555F 2556F 2557F<br />

Yield 5.72% 5.72% 5.71% 5.74% อัตราการเติบโตของสินเชื่อ 12.4% 10.0% 10.0% 10.0%<br />

Funding cost 2.10% 2.31% 2.37% 2.40% อัตราการเติบโตของเงินฝาก 12.9% 10.0% 10.0% 8.0%<br />

Spread 3.61% 3.41% 3.34% 3.33% อัตราการเติบโตของคาธรรมเนียมฯ 13.2% 15.0% 15.0% 15.0%<br />

NIM 3.65% 3.50% 3.49% 3.50% อัตราภาษีเงินได 34.8% 22.5% 20.0% 20.0%<br />

สินเชื่อตอเงินฝาก 97.47% 97.47% 97.47% 99.28% NPL/สินเชื่อรวม 2.0% 2.0% 2.0% 2.0%<br />

Cost to income ratio 47.53% 44.35% 42.52% 42.26% LLR/NPL 152.0% 155.0% 160.0% 163.7%<br />

ROAA 1.48% 1.99% 2.17% 2.23% Tier1 11.0% 11.7% 12.5% 13.2%<br />

ROAE 16.72% 21.59% 22.28% 21.47% CAR 16.6% 17.3% 18.0% 18.7%<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 91


แนะนํา ซื้อ<br />

MCS<br />

เอ็ม.ซี.เอส สตีล<br />

ราคาปัจจุบัน 6.40 บาท<br />

Fair Value 7.96 บาท<br />

มูลค่าตลาด 3,200 ล้านบาท<br />

การจัดอันดับบรรษัทภิบาลปี 2554 NR.<br />

เห็นจุดเปลี่ยนทางธุรกิจที่สําคัญ<br />

ได้พันธมิตรใหม่ พร้อมเปิดตลาดนอกประเทศญี่ปุ่น<br />

ผลประกอบการผ่านจุดต่ําสุดไปแล้วตั้งแต่ 1H55<br />

ราคาหุ้นปัจจุบันมี Upside สูงถึง 24% แนะนํา ซื้อ<br />

การจับมือเปนพันธมิตรกับ บริษัท ยูโรเทค เอ็นจิเนียริ่ง ซึ่ง<br />

ประกอบธุรกิจผลิตและติดตั้งโครงสรางเหล็กขนาดใหญ<br />

โดยมีแผนประมูลงานรวมกันในประเทศออสเตรเลีย ถือเปน<br />

ความพยายามลาสุดของ MCS ที่ตองการขยายฐานลูกคา<br />

นอกประเทศญี่ปุน นอกจากนี้ MCS ยังมีแผนรวมกับ<br />

POSCO ซึ่งเปนผูผลิตเหล็กรายใหญของโลก ในการลงทุน<br />

กอสรางโรงงานแปรรูปเหล็ก กําลังการผลิต 50,000 ตัน/ป ที่<br />

เมือง Dalien ในประเทศจีน ซึ่งมีพื้นที่ติดทาเรือน้ําลึก และมี<br />

ศักยภาพในการสงออกโครงสรางเหล็กขนาดใหญ ที่<br />

เกี่ยวของกับแทนขุดเจาะน้ํามัน หรืองานประเภท Module<br />

ได ซึ่งการจับมือกับพันธมิตรทั้ง 2 ราย ถือเปนจุดเปลี่ยน<br />

ทางธุรกิจที่สําคัญ ที่จะทําให MCS กาวเขาสูธุรกิจ Module<br />

ซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงมากในปจจุบัน<br />

สิ้น 3Q55 MCS มีงานโครงสรางเหล็กรอสงมอบ 6 หมื่น<br />

ตัน โดยมีกําหนดสงมอบงานในงวด 4Q55 สูงถึง 1.5<br />

หมื่นตัน ถือเปนปริมาณการสงมอบงานที่สูงที่สุดของปนี้<br />

92<br />

Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

ซึ่งการใชกําลังการผลิตในระดับสูง จะชวยใหเกิดความประหยัดตอ<br />

ขนาดทั้งในดานการผลิตและการขนสง และสงผลบวกตอ gross<br />

margin ในงวด 4Q55 ใหปรับตัวสูงขึ้น สําหรับการรับงานอาคารสูงใน<br />

ญี่ปุน เชื่อวาจะเริ่มมีมากขึ้นตั้งแตชวง 2H56 เปนตนไป จากการที่<br />

รัฐบาลญี่ปุนเรงอัดฉีดงบประมาณภาคกอสราง เพื่อฟนฟูประเทศจาก<br />

เหตุแผนดินไหวในป 2554 ซึ่งในชวงแรกจะเปนงานกอสรางบานเรือน<br />

และอาคารขนาดเล็ก สวนงานกอสรางอาคารสูงซึ่งเปนกลุมลูกคาหลัก<br />

ของ MCS นาจะเกิดขึ้นตามมาในป 2556 หลังมีการปรับแบบกอสราง<br />

ใหม ใหสามารถรองรับการเกิดแผนดินไหวไดมากขึ้น<br />

ผลประกอบการที่ผานจุดต่ําสุดไปแลวตั้งแตชวง 1H55 ขณะที่แนวโนม<br />

ธุรกิจของ MCS เริ่มดีขึ้น จากแผนการตลาดเชิงรุกที่หันไปจับตลาด<br />

นอกประเทศญี่ปุน โดยเฉพาะออสเตรเลีย ที่ยังมีอัตราการเติบโตสูง<br />

นาจะชวยให MCS มีกําไรที่สม่ําเสมอมากขึ้น และคาดวากําไรของ<br />

MCS จะกลับมาเติบโตไดอีกครั้งในป 2556 ฝายวิจัยแนะนํา ซื้อ โดย<br />

กําหนด Fair Value อิง PER 12 เทา จะใหราคาเหมาะสมในป 2556<br />

อยูที่ 7.96 บาท มี Upside จากราคาปจจุบัน 24%<br />

ตัวเลขสําคัญทางการเงิน (ล้านบาท) แผนการผลิตเบื้องต้นประจําเดือนของ MCS<br />

สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2554 2555F 2556F<br />

ยอดขาย 3,290 2,629 3,314<br />

กําไรสุทธิ 476 240 332<br />

Norm Profit 424 193 332<br />

EPS (บาท) 0.95 0.48 0.66<br />

DPS (บาท) 0.50 0.24 0.33<br />

PER (เทา) 6.72 13.36 9.65<br />

Dividend Yield (%) 7.81% 3.74% 5.18%<br />

BVS (บาท) 4.68 4.66 5.08<br />

PBV (เทา) 1.37 1.37 1.26<br />

6,000<br />

5,000<br />

4,000<br />

3,000<br />

2,000<br />

1,000<br />

ที่มา : ประมาณการโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong> ที่มา : MCS<br />

0<br />

ตัน<br />

Apr-12<br />

May-12<br />

Jun-12<br />

Jul-12<br />

Aug-12<br />

Sep-12<br />

Oct-12<br />

Nov-12<br />

Dec-12<br />

Jan-13<br />

Feb-13<br />

Mar-13<br />

Apr-13<br />

May-13<br />

Jun-13<br />

Jul-13<br />

Aug-13<br />

Sep-13<br />

Oct-13<br />

Nov-13<br />

Dec-13<br />

Jan-14<br />

Feb-14<br />

Mar-14<br />

Apr-14


งบการเงิน และอัตราส่วนที่สําคัญทางการเงิน - MCS<br />

งบกําไรขาดทุน (ลานบาท)<br />

งบกระแสเงินสด (ลานบาท)<br />

สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2553 2554 2555F 2556F สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2553 2554 2555F 2556F<br />

ยอดขาย 2,941 3,290 2,629 3,314 กระแสเงินสดจากการดําเนินงาน<br />

ตนทุนขาย 1,566 2,319 2,220 2,717 กําไรสุทธิ 811 476 240 332<br />

กําไรขั้นตน 1,375 971 409 596 รายการเปลี่ยนแปลงที่ไมกระทบเงินสด 140 143 - -<br />

คาใชจายในการขาย 471 483 322 298 คาเสื่มราคาและตัดจําหนาย 66 70 120 126<br />

ดอกเบี้ยจาย 0.0 0.3 7.6 - กําไร/ขาดทุนจาก Fx ที่ไมไดรับรู 7 9 - -<br />

คาใชจายอื่น - - - - อื่นๆ - - - -<br />

รายไดอื่น 70 34 139 106 เพิ่ม/ลด จากกิจกรรมการดําเนินงาน (976) (428) 46 (113)<br />

กําไรสุทธิกอนหักภาษี 973 521 218 405 กระแสเงินสดจากการดําเนินงานสุทธิ 48 270 405 344<br />

ภาษีเงินได 231 97 28 73 กระแสเงินสดจากการลงทุน<br />

สวนของผูถือหุนรายยอย - - - - เพิ่ม/ลด จากการลงทุนระยะสั้น - - - -<br />

รายการพิเศษอื่น ๆ 68 52 47 - เพิ่ม/ลด จากการลงทุนที่เกี่ยวของ (0) (93) - -<br />

กําไรสุทธิ 811 476 240 332 เพิ่ม/ลด จากสินทรัพยถาวร (110) (28) (150) (100)<br />

กําไรจากการดําเนินงาน 742 424 193 332 กระแสเงินสดจากการลงทุนสุทธิ (100) (112) (150) (100)<br />

Norm EPS 1.48 0.85 0.39 0.66 กระแสเงินสดจากการจัดหาเงิน<br />

เพิ่ม/ลด เงินกู - - - -<br />

เพิ่ม/ลด ทุนและสวนเกินมูลคาหุน - - - -<br />

การเติบโตของยอดขาย -25.5% 11.9% -20.1% 26.0% เพิ่ม/ลด วอรแรนท - - - -<br />

การเติบโตของกําไรจากการดําเนินงาน 38.3% -42.8% -54.6% 72.3% ลด จายปนผล (375) (400) (250) (120)<br />

อัตราสวนกําไรขั้นตน 46.8% 29.5% 15.6% 18.0% กระแสเงินสดจากการจัดหาเงินสุทธิ (375) (400) (250) (120)<br />

อัตราสวนกําไรจากการดําเนินงาน 25.2% 12.9% 7.3% 10.0% เพิ่ม/ลด เงินสดสุทธิ (424) (242) 5 125<br />

งบกําไรขาดทุนรายไตรมาส (ลานบาท)<br />

งบดุล (ลานบาท)<br />

4Q54 1Q55 2Q55 3Q55 สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2553 2554 2555F 2556F<br />

ยอดขาย 302 433 519 792 เงินสดและเทียบเทาเงินสด 1,376 1,178 1,221 1,346<br />

ตนทุนขาย 221 382 482 630 ลูกหนี้การคา 137 233 278 338<br />

กําไรขั้นตน 80 51 37 162 สินคาคงเหลือ 1,280 1,264 972 1,183<br />

คาใชจายในการขาย 77 73 58 120 สินทรัพยหมุนเวียนอื่น 51 22 18 23<br />

ดอกเบี้ยจาย 0.1 2.1 2.0 1.6 ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ สุทธิ 562 521 801 775<br />

คาใชจายอื่น สินทรัพยรวม 3,695 3,572 3,356 3,732<br />

รายไดอื่น 10 81 20 29<br />

กําไรสุทธิกอนหักภาษี 14 58 (3) 69 เจาหนี้การคา 1,052 796 639 777<br />

ภาษีเงินได (4) 23 (12) 2 หนี้สินหมุนเวียนอื่น 349 317 282 308<br />

สวนของผูถือหุนรายยอย - (3) (2) 6 หนี้สินรวม 1,448 1,233 1,027 1,192<br />

รายการพิเศษอื่น ๆ (10) 35 7 5<br />

กําไรสุทธิ (3) 70 14 67 ทุนที่ชําระแลว 500 500 500 500<br />

กําไรจากการดําเนินงาน 7 35 7 63 สวนเกินมูลคาหุน 140 140 140 140<br />

Norm EPS 0.01 0.07 0.01 0.13 กําไรสะสม 1,606 1,699 1,689 1,901<br />

สวนของผูถือหุน 2,246 2,339 2,329 2,541<br />

ยอดขาย (QoQ) -72% 44% 20% 53%<br />

กําไรขั้นตน (QoQ) -71% -36% -29% 340% สวนของผูถือหุนรายยอย 0.0 0.0 0.0 0.0<br />

กําไรจากการดําเนินงาน (QoQ) -94% 378% -80% 800% หนี้สินและสวนของผูถือหุน 3,695 3,572 3,356 3,732<br />

อัตราสวนทางการเงิน<br />

สมมติฐานในการทําประมาณการ<br />

สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2553 2554 2555F 2556F สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2553 2554 2555F 2556F<br />

อัตราสวนสภาพคลอง (เทา) 2.03 2.39 2.70 2.66<br />

อัตราสวนหมุนเวียนลูกหนี้การคา (เทา) 21.46 14.12 9.47 9.80 ปริมาณการขายสินคาหลัก ( ตัน ) 43,283 49,609 39,868 50,000<br />

อัตราสวนหมุนเวียนสินคาคงเหลือ (เทา 2.30 2.60 2.71 2.80 ราคาขาย ( YEN/ตัน ) 206,885 178,000 166,602 169,934<br />

อัตราสวนหมุนเวียนเจาหนี้การคา (เทา) 2.79 4.13 4.12 4.26 gross margin 46.8% 29.5% 15.6% 18.0%<br />

หนี้สินตอสวนผูถือหุน 0.64 0.53 0.44 0.47 SG&A/Sale 14.9% 13.9% 11.6% 9.0%<br />

ผลตอบแทนจากสินทรัพยเฉลี่ย 20.1% 11.9% 5.7% 8.9% effective tax rate 22.2% 16.9% 10.5% 18.0%<br />

ผลตอบแทนจากผูถือหุนเฉลี่ย 33.1% 18.1% 8.3% 13.1%<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 93


แนะนํา ซื้อ<br />

PS<br />

พฤกษาเรียลเอสเตท<br />

ราคาปัจจุบัน 21.40 บาท<br />

Fair Value 28.08 บาท<br />

มูลค่าตลาด 47,363 ล้านบาท<br />

การจัดอันดับบรรษัทภิบาลปี 2554<br />

2556 ปีแห่งการสร้าง New High<br />

คอนโดมิเนียมรอโอนปี 2556 มากถึง 7 โครงการ<br />

ตลาดบ้านเดี่ยวทาวเอ้าส์กลับมา เป็นผลดีต่อ PS<br />

Net Gearing ลงมาต่ํากว่า 1 เท่า การงินแข็งแกร่ง<br />

นับจากที่ฝายวิจัยกลับมาใหคําแนะนํา ซื้อ หุน PS ชวงเดือน<br />

เม.ย.2555 ราคาหุนไดปรับตัวเพิ่มขึ้นกวา 50% ซึ่งฝายวิจัย<br />

เห็นวาเปนการสะทอนภาพการฟนตัวหลังผานเหตุการณน้ํา<br />

ทวมใหญปลายป 2554 และจนถึงปจจุบัน ฝายวิจัยก็ยังคง<br />

แนะนําใหซื้อหุน PS ตอ โดยเห็นวาในชวงเวลาจากนี้ไป<br />

ราคาหุนจะถูกขับเคลื่อนขึ้นไปดวยการสรางจุดสูงสุดใหม<br />

ของทั้งการบันทึกรายได และกําไร โดยในสวนของการ<br />

บันทึกรายได คาดวาจะปรับขึ้นไปที่ 3.45 หมื่นลานบาท<br />

เพิ่มขึ้น 28%YoY ซึ่งสนับสนุนดวย Backlog ที่มีอยู 3.5<br />

หมื่นลานบาท ณ สิ้น 3Q55 โดย 1.94 หมื่นลานบาทเปน<br />

คอนโดมิเนียม ซึ่งนาจะมีสวนที่โอนฯ ในป 2556 อยางนอย<br />

9 พันลานบาท (ดูรายละเอียดในตารางดานลาง) และนาจะ<br />

มีการขายสตอกสวนที่เหลือเขามาอีกสวนหนึ่ง ทําใหคาดวา<br />

รายไดจากคอนโดมิเนียมนาจะสูงแตะระดับ 1 หมื่นลาน<br />

บาทสําหรับงวดป 2556<br />

สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2554 2555F 2556F<br />

ยอดขาย 23,263 26,997 34,584<br />

กําไรสุทธิ 2,835 3,898 5,175<br />

Norm Profit 2,835 3,898 5,175<br />

Norm EPS (บาท) 1.28 1.76 2.34<br />

DPS (บาท) 0.40 0.62 0.82<br />

Norm PER (เทา) 16.7 12.1 9.1<br />

Dividend Yield (%) 1.86 2.88 3.83<br />

BVS (บาท) 7.69 9.03 10.75<br />

EV/EBITDA (เทา) 14.7 11.7 9.0<br />

ROE (%) 16.7 19.5 21.8<br />

สวนโครงการแนวราบ ซึ่งถือเปนจุดแข็งของ PS ณ สิ้น 3Q55 มี Backlog<br />

ที่ระดับ 1.56 หมื่นลานบาท ซึ่งเชื่อวา ณ สิ้นป 2555 จะมียอดใกลเคียง<br />

หรือเพิ่มขึ้นจาก 3Q55 ก็นาจะถูกบันทึกรายไดทั้งหมดในป 2556 สวนที่<br />

เหลืออีกประมาณ 1 หมื่นลานบาท นาจะมาจากการขายใหมในชวง 6<br />

เดือนแรกของป ซึ่งไมนายาก เนื่องจากเฉลี่ยป 2555 มียอดขายโครงการ<br />

แนวราบ 5.24 พันลานบาท/ไตรมาส ขณะที่ตลาดแนวราบป 2556 นาจะ<br />

เติบโตในอัตราที่สูงหลังความกังวลเรื่องน้ําทวมหมดไป<br />

การบันทึกรายไดที่สูงขึ้นถึง 28%YoY สงผลดีตอประสิทธิภาพการทํา<br />

กําไร เนื่องจากเปนการเพิ่มขึ้นมากกวาการเพิ่มขึ้นของคาใชจายในการ<br />

ขาย-บริหาร คาดวา Norm Profit Margin จะปรับขึ้นมาใกล 15% และทํา<br />

ใหกําไรป 2556 เติบโต 32.75%YoY ในดานกระแสเงินสดจากการ<br />

ดําเนินงาน มีแนวโนมดีขึ้นตามยอดโอนฯ ซึ่งจะทําใหภาระหนี้ลดลงโดย<br />

ลาสุด Net Gearing ลงมาอยูที่ 0.85 เทา ฝายวิจัยกําหนด Fair Value ที่<br />

PER 12 เทา หรือ 28.08 บาท สําหรับป 2556 ซึ่งถือเปน New High<br />

ตัวเลขสําคัญทางการเงิน (ล้านบาท) กําหนดการโอนฯ คอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จปี 2556<br />

คอนโดฯ ที่สรางเสร็จป 2556 Backlog Start Transfer Unsold Stock<br />

Condolette Light 516 Apr 134<br />

Plum (Nawamin) 562 May 70<br />

The Seed Mingle 1,577 June 200<br />

Urbano Absolute 2,475 July 241<br />

The Tree (Bang Pho) 1,307 July 92<br />

Fuse (Mobius) 2,175 July 556<br />

Plum (Lad Prao 101) 383 Dec 257<br />

มูลคารวม (ลานบาท) 8,995 1,550<br />

ที่มา : ประมาณการโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong> ที่มา : PS<br />

94<br />

Invest+ 1 st Quarter, 2013


งบการเงิน และอัตราส่วนที่สําคัญทางการเงิน - PS<br />

งบกําไรขาดทุน (ลานบาท)<br />

งบกระแสเงินสด (ลานบาท)<br />

สิ ้นสุด 31 ธ.ค. 2552 2553 2554 2555F 2556F สิ ้นสุด 31 ธ.ค. 2552 2553 2554 2555F 2556F<br />

รายไดธุรกิจหลักรวม 18,966 23,307 23,263 26,997 34,584 กระแสเงินสดจากการดําเนินงาน<br />

ตนทุนขาย 11,749 14,561 14,724 17,601 22,356 กําไรสุทธิ 3,622 3,488 2,835 3,898 5,175<br />

กําไรขั้นตน 7,217 8,746 8,538 9,396 12,228 รายการเปลี่ยนแปลงที่ไมกระทบเงินสด 223 (183) 554 - -<br />

คาใชจายในการขาย 2,438 4,243 4,654 4,329 5,693 คาเสื่อมราคาและตัดจําหนาย 216 246 339 339 339<br />

ดอกเบี ้ยจาย 47 67 137 181 184 กําไร/ขาดทุนจาก Fx ที่ไมไดรับรู 0 (34) (57) - -<br />

สวนแบงกําไรจากบริษัทรวม - - - - - สวนแบงผลกําไร/ขาดทุน ใน บ.รวม - - - - -<br />

รายไดอื ่น 67 100 159 112 117 เพิ่ม/ลด จากกิจกรรมการดําเนินงาน 114 (13,432) (7,822) (3,210) (2,537)<br />

กําไรสุทธิกอนหักภาษี 4,799 4,536 3,906 4,997 6,468 กระแสเงินสดจากการดําเนินงานสุทธิ 4,175 (9,915) (4,151) 1,027 2,977<br />

ภาษีเงินได 1,177 1,048 1,071 1,099 1,294 กระแสเงินสดจากการลงทุน<br />

สวนของผูถือหุนรายยอย (0) - - - - เพิ่ม/ลด จากการลงทุนระยะสั ้น (2,301) 2,114 (1,002) - -<br />

รายการพิเศษอื่น ๆ - - - - - เพิ่ม/ลด จากการลงทุนที ่เกี่ยวของ - - 0 - -<br />

กําไรสุทธิ 3,622 3,488 2,835 3,898 5,175 เพิ่ม/ลด จากสินทรัพยถาวร (158) (1,124) (706) (140) (190)<br />

กําไรจากการดําเนินงาน 3,622 3,488 2,835 3,898 5,175 กระแสเงินสดจากการลงทุนสุทธิ (2,458) 990 (1,708) (140) (190)<br />

Norm EPS 1.65 1.58 1.28 1.76 2.34 กระแสเงินสดจากการจัดหาเงิน<br />

เพิ่ม/ลด เงินกู (1,687) 10,732 6,322 2,500 (1,700)<br />

เพิ่ม/ลด ทุนและสวนเกินมูลคาหุน 15 - 38 - -<br />

การเติบโตของยอดขาย 46.2% 22.9% -0.2% 16.1% 28.1% เพิ ่ม/ลด วอรแรนท - - - - -<br />

การเติบโตของกําไรจากการดําเนินงาน 52.6% -3.7% -18.7% 37.5% 32.8% ลด จายปนผล (725) (1,214) (1,104) (879) (1,364)<br />

อัตราสวนกําไรขั้นตน 38.1% 37.5% 36.7% 34.8% 35.4% กระแสเงินสดจากการจัดหาเงินสุทธิ (2,396) 9,519 5,256 1,621 (3,064)<br />

อัตราสวนกําไรจากการดําเนินงาน 19.1% 15.0% 12.2% 14.4% 15.0% เพิ่ม/ลด เงินสดสุทธิ (680) 593 (602) 2,508 (277)<br />

งบกําไรขาดทุนรายไตรมาส (ลานบาท)<br />

งบดุล (ลานบาท)<br />

3Q54 4Q54 1Q55 2Q55 3Q55 สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2552 2553 2554 2555F 2556F<br />

รายไดธุรกิจหลักรวม 6,458 4,659 4,655 6,814 7,199 เงินสดและเทียบเทาเงินสด 3,151 1,630 2,031 4,364 4,087<br />

ตนทุนขาย 4,221 3,025 3,003 4,485 4,744 ลูกหนี้การคา 60 0 0 0 0<br />

กําไรขั้นตน 2,237 1,633 1,652 2,329 2,454 สินคาคงเหลือ 13,202 27,923 36,160 39,865 43,409<br />

คาใชจายในการขาย 1,218 988 837 1,023 1,130 สินทรัพยหมุนเวียนอื่น 691 1,805 726 813 989<br />

ดอกเบี ้ยจาย 35 57 61 65 80 ที ่ดิน อาคาร และอุปกรณ สุทธิ 1,299 2,159 2,469 2,269 2,120<br />

สวนแบงกําไรจากบริษัทรวม - - - - - สินทรัพยรวม 18,871 34,091 41,982 47,984 51,431<br />

รายไดอื ่น 35 42 20 54 36<br />

กําไรสุทธิกอนหักภาษี 1,019 629 775 1,295 1,281 เจาหนี้การคา 799 1,425 1,083 1,257 1,611<br />

ภาษีเงินได 258 275 142 292 281 หนี ้สินหมุนเวียนอื่น 3,508 8,246 12,743 13,227 12,210<br />

สวนของผูถือหุนรายยอย - - - - - หนี ้สินรวม 5,848 18,828 24,986 28,033 27,670<br />

รายการพิเศษอื่น ๆ - - - - -<br />

กําไรสุทธิ 761 355 633 1,002 1,000 ทุนที ่ชําระแลว 2,207 2,207 2,209 2,209 2,209<br />

กําไรจากการดําเนินงาน 761 355 633 1,002 1,000 สวนเกินมูลคาหุน 1,362 1,362 1,396 1,396 1,396<br />

Norm EPS 0.34 0.16 0.29 0.45 0.45 กําไรสะสม 9,228 11,503 13,234 16,253 20,064<br />

สวนของผูถือหุน 13,023 15,263 16,996 19,951 23,761<br />

ยอดขาย (QoQ) -4.0% -27.9% -0.1% 46.4% 5.6%<br />

อัตราสวนกําไรขั้นตน 34.6% 35.1% 35.5% 34.2% 34.1% สวนของผูถือหุนสวนนอย 0 - 1 1 1<br />

อัตราสวนกําไรจากการดําเนินงาน 11.8% 7.6% 13.6% 14.7% 13.9% หนี้สินและสวนของผูถือหุน 18,871 34,091 41,982 47,984 51,431<br />

อัตราสวนทางการเงิน<br />

สมมติฐานในการทําประมาณการ<br />

สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2552 2553 2554 2555F 2556F สิ ้นสุด 31 ธ.ค. 2552 2553 2554 2555F 2556F<br />

อัตราสวนสภาพคลอง (เทา) 2.92 3.97 3.24 2.81 3.11 Backlog ยกมา (ลานบาท) 11,363 15,170 30,617 32,907 33,023<br />

อัตราสวนหมุนเวียนลูกหนี ้การคา (เทา) NM NM NM NM NM Presale ระหวางงวด (ลานบาท) 22,773 38,754 25,553 27,113 31,544<br />

อัตราสวนหมุนเวียนสินคาคงเหลือ (เทา) 1.44 0.83 0.64 0.68 0.80 ยอดการบันทึกรายได (ลานบาท) 18,966 23,307 23,263 26,997 34,584<br />

อัตราสวนหมุนเวียนเจาหนี้การคา (เทา) 14.71 10.22 13.59 14.00 13.88 Backlog ยกไป (ลานบาท) 15,170 30,617 32,907 33,023 29,983<br />

หนี ้สินตอสวนผูถือหุน 0.45 1.23 1.47 1.41 1.16 Gross Margin 38.1% 37.5% 36.7% 34.8% 35.4%<br />

ผลตอบแทนจากสินทรัพยเฉลี่ย 20.6% 13.2% 7.5% 8.7% 10.4% SG&A / Sale 12.6% 17.9% 19.7% 15.8% 16.2%<br />

ผลตอบแทนจากผูถือหุนเฉลี่ย 31.3% 24.7% 17.6% 21.1% 23.7% Fair Value (P/E , เทา) 12<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 95


แนะนํา ซื้อ<br />

สวนอุตสาหกรรม<br />

โรจนะ<br />

ROJNA<br />

ราคาปัจจุบัน 10.20 บาท<br />

Fair Value 14.18 บาท<br />

มูลค่าตลาด 13,973 ล้านบาท<br />

การจัดอันดับบรรษัทภิบาลปี 2554<br />

กลับมายิ่งใหญ่กว่าก่อนน้ําท่วม<br />

รายได้จากการขายที่ดินและคอนโดเติบโตก้าวกระโดด<br />

ROJNA Power กลับมาจ่ายไฟ พร้อมเปิดส่วนขยาย<br />

โครงสร้างรายได้กระจายตัวดีสุด...มี Upside 35%<br />

เหตุการณน้ําทวมภาคกลางของประเทศชวงปลายป 2554<br />

สรางความเสียหายแกโรงงานที่อยูสวนอุตสาหกรรมโรจนะ<br />

จ.อยุธยา เปนอยางมาก รวมถึงสินทรัพยหลักๆ ของ<br />

ROJNA ไดแก โรงไฟฟา SPP 265MW ที่ถูกน้ําทวมและ<br />

ตองหยุดผลิตไฟ โดยชวงเวลา 1 ปที่ผานมา ทางบริษัทได<br />

ฟนฟูภายในนิคมฯ และสรางความเชื่อมั่นแกนักลงทุนที่<br />

ไดรับผลกระทบใหคงฐานการผลิตตอ ดวยการสรางเขื่อน<br />

กั้นน้ํารอบนิคมฯพื้นที่กวา 1.2 หมื ่นไร ในงบประมาณ 2<br />

พันลานบาท ซึ่งปจจุบันกิจกรรมภายในนิคมฯกลับสูภาวะ<br />

ปกติแลว และมีลูกคารายใหมเขามาซื้อที่ดินเพื่อสราง<br />

โรงงานอยางตอเนื่อง นอกจากนี้ ROJNA ไดปรับกลยุทธ<br />

กระจายความเสี่ยงและเพิ่มฐานรายได ดวยการขยายนิคมฯ<br />

ไปยังภาคตะวันออก ทั้งสวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัด<br />

ปราจีนบุรี 3 พันไร และสวนอุตสาหกรรมปลวกแดง จังหวัด<br />

ระยอง 1.5 พันไร ซึ่งมีลูกคาสนใจจํานวนมาก จนทาง<br />

ผูบริหารตองปรับเพิ่มเปาหมายยอดขายที่ดินป 2555 ขึ้น<br />

ตอมาที่ระดับ 1.5 พันไร จากฐานปกติประมาณ 500 ไรตอป<br />

96 Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

ทิศทางกําไรป 2556 คาดวาจะสูงสุดเปนประวัติการณที่ 1.45 พันลาน<br />

บาท จาก 1.28 พันลานบาทในป 2555 เพราะมีหลายปจจัยบวก ทั้ง<br />

ยอดขายที่ดินทั้งหมดในป 2555 จะมีกําหนดโอนฯในป 2556 ทําให<br />

รายไดจากการขายที่ดินจะมีแนวโนมเติบโตระดับสูงเปน 3.36 พันลาน<br />

บาท เพิ่ม 53%YoY สวนการขายที่ดินใหมในป 2556 คาดวาจะอยูที่<br />

ระดับไมนอยกวา 1.5 พันไร เชนกัน ดานคอนโดฯ ที่ประเทศจีน โครงการ<br />

Kaina Overseas Chinese City (เฟส2) ที่ปจจุบันขายแลว 85% ของ<br />

มูลคา 3.6 พันลานบาท คาดวาจะบันทึกรายไดเขามาในป 2556<br />

ประมาณ 2 พันลานบาท ขณะที่ธุรกิจโรงไฟฟากําลังการผลิต 265 MW<br />

จะเริ่มกลับมาจายไฟตนป 2556 รวมถึงสวนขยายของโรงไฟฟาเฟส 5<br />

และ SPP2 กําลังผลิตรวม 165 MW จะสรางเสร็จกลางป 2556 สงผลให<br />

กําลังการผลิตรวมจะยกฐานสูงขึ้นเปน 430 MW<br />

โครงสรางรายไดของ ROJNA ที่มีการกระจายตัวไปยังหลายธุรกิจ และ<br />

ทุกธุรกิจมีทิศทางเติบโตขึ้นในป 2556 นาจะชวยผลักดันราคาหุนให<br />

เพิ่มขึ้นสู Fair Value ที่ประเมินดวยวิธี Sum of The Parts จะไดราคาที่<br />

เหมาะสม 14.18 บาท เปนตัวเลือกที่ดีที่สุดของกลุมนิคมอุตสาหกรรม<br />

ตัวเลขสําคัญทางการเงิน (ล้านบาท) ประมาณการรายไดจากการขายที่ดินและคอนโดมิเนียม<br />

ลานบาท<br />

สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2554 2555F 2556F<br />

7,000<br />

ยอดขาย (ลบ) 6,328 6,669 10,273<br />

6,000<br />

กําไรสุทธิ (ลบ) -554 1,330 1,450<br />

5,000<br />

Norm Profit (ลบ) -285 1,278 1,450<br />

4,000<br />

Norm EPS (บาท) -0.25 1.06 0.97<br />

3,000<br />

1,100<br />

PER (เทา) -40.5 9.7 10.7<br />

2,000<br />

DPS (บาท) 0.00 0.42 0.46<br />

774 621 1,124 2,160<br />

1,000<br />

833 2,400<br />

Dividend Yield (%) 0.0 4.1 4.5<br />

1,152 1,227 1,052 686 767<br />

-<br />

BV (บาท) 3.7 5.2 5.1<br />

PBV (เทา) 2.8 2.0 2.0<br />

รายไดจากการขายที่ดิน รายไดจากคอนโด<br />

ที่มา : บริษัท และ ประมาณการโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong> ที่มา : บริษัท<br />

2,500<br />

3,362<br />

2550 2551 2552 2553 2554 2555F 2556F


งบการเงิน และสัดส่วนที่สําคัญทางการเงิน - ROJNA<br />

งบกําไรขาดทุน (ลานบาท)<br />

งบกระแสเงินสด (ลานบาท)<br />

สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2553 2554 2555F 2556F สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2553 2554 2555F 2556F<br />

รายไดธุรกิจหลัก 8,181 6,328 6,669 10,273<br />

ตนทุนขาย 6,337 4,910 3,914 7,047 กําไรสุทธิ 666 (554) 1,330 1,450<br />

กําไรขั้นตน 1,844 1,417 2,756 3,226 รายการเปลี่ยนแปลงที่ไมกระทบเงินสด 5 (109) 1,212 1,439<br />

คาใชจายในการขาย 681 887 1,000 1,130 คาเสื่อมราคาและตัดจําหนาย 558 629 692 762<br />

ดอกเบี้ยจาย 420 524 554 567 กําไร/ขาดทุนจาก Fx ที่ไมไดรับรู (18) 11 - -<br />

สวนแบงกําไรจากบริษัทรวม 191 120 260 236 สวนแบงผลกําไรจาก บ.รวม (191) (120) (260) (236)<br />

รายไดอื่น 24 13 42 32 เพิ่ม/ลด จากกิจกรรมการดําเนินงาน (656) 2,654 (1,116) (847)<br />

กําไรสุทธิกอนหักภาษี 959 (826) 1,503 1,796 กระแสเงินสดจากการดําเนินงานสุทธิ 16 1,991 1,426 2,042<br />

ภาษีเงินได 102 - 75 215<br />

สวนของผูถือหุนรายยอย (212) 541 (150) (130) เพิ่ม/ลด จากการลงทุนระยะสั้น (24) 177 (135) (920)<br />

รายการพิเศษอื่น ๆ 21 (269) 53 - เพิ่ม/ลด จากการลงทุนที่เกี่ยวของ 119 (25) 205 205<br />

กําไรสุทธิ 666 (554) 1,330 1,450 เพิ่ม/ลด จากสินทรัพยถาวร (857) (3,007) (1,480) (1,410)<br />

EPS 0.71 (0.49) 1.10 0.97 กระแสเงินสดจากการลงทุนสุทธิ (762) (2,855) (1,409) (2,125)<br />

กําไรจากการดําเนินงานปกติ 645 (285) 1,278 1,450<br />

Norm EPS 0.68 -0.25 1.06 0.97 เพิ่ม/ลด เงินกู 408 1,086 (397) 584<br />

เพิ่ม/ลด ทุนและสวนเกินมูลคาหุน 278 764 881 569<br />

การเติบโตของยอดขาย 18.8% -22.7% 5.4% 54.0% เพิ่ม/ลด วอรแรนท - - - -<br />

การเติบโตของกําไรจากการดําเนินงานปกติ -14.8% n.a. n.a. 13.5% ลด จายปนผล (567) (688) - (532)<br />

อัตราสวนกําไรขั้นตน 22.5% 22.4% 41.3% 31.4% กระแสเงินสดจากการจัดหาเงินสุทธิ 118 1,162 484 620<br />

อัตราสวนกําไรจากการดําเนินงานปกติ 7.9% -4.5% 19.2% 14.1% เพิ่ม/ลด เงินสดสุทธิ (651) 303 501 537<br />

งบกําไรขาดทุนรายไตรมาส (ลานบาท)<br />

งบดุล (ลานบาท)<br />

4Q54 1Q55 2Q55 3Q55 สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2553 2554 2555F 2556F<br />

รายไดธุรกิจหลัก 308 1,106 2,438 1,954 เงินสดและเทียบเทาเงินสด 253 272 773 1,310<br />

ตนทุนขาย 416 668 1,289 1,288 ลูกหนี้การคา 650 176 183 281<br />

กําไรขั้นตน (107) 438 1,150 666 สินทรัพยหมุนเวียนอื่น 1,298 1,650 1,650 1,650<br />

คาใชจายในการขาย 196 201 337 194 ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ สุทธิ 12,736 14,369 15,848 17,259<br />

ดอกเบี้ยจาย 137 131 146 135 สินทรัพยรวม 23,182 25,952 28,272 30,666<br />

สวนแบงกําไรจากบริษัทรวม (1) 49 9 20<br />

รายไดอื่น (8) 11 9 5 เจาหนี้การคา 479 777 592 935<br />

กําไรสุทธิกอนหักภาษี (1,417) 165 685 363 หนี้สินหมุนเวียนอื่น 3,810 6,535 6,535 6,535<br />

ภาษีเงินได (28) 50 (4) 13 เงินกูยืมระยะยาว/หุนกู 7,271 8,153 8,342 8,483<br />

สวนของผูถือหุนรายยอย 695 (61) (38) (16) หนี้สินรวม 15,827 19,638 19,597 20,374<br />

รายการพิเศษอื่น ๆ (269) - 53 -<br />

กําไรสุทธิ (963) 54 704 334 ทุนที่ชําระแลว 969 1,160 1,257 1,550<br />

กําไรจากการดําเนินงานปกติ (694) 54 651 334 สวนเกินมูลคาหุน 1,419 1,992 2,285 2,561<br />

ยอดขาย (QoQ) -82.5% 258.8% 120.5% -19.8%<br />

กําไรสะสม 2,646 1,108 2,438 3,356<br />

สวนของผูถือหุน 5,005 4,273 6,484 7,971<br />

อัตราสวนกําไรขั้นตน -34.8% 39.6% 47.1% 34.1% สวนของผูถือหุนสวนนอย 2,350 2,041 2,191 2,321<br />

กําไรจากการดําเนินงานปกติ (QoQ) n.a. n.a. 1100% -49% หนี้สินและสวนของผูถือหุน 23,182 25,952 28,272 30,666<br />

อัตราสวนทางการเงิน<br />

สมมติฐานในการทําประมาณการ (ลานบาท)<br />

สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2553 2554 2555F 2556F สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2553 2554 2555F 2556F<br />

อัตราสวนสภาพคลอง (เทา) 0.99 0.83 0.92 0.95 ยอดขายที่ดิน (ไร) 633 500 1,500 1,500<br />

อัตราสวนหมุนเวียนลูกหนี้การคา (เทา) 11.44 15.32 37.21 44.26 รายไดจากการขายที่ดิน (ลบ.) 686 767 2,400 3,362<br />

อัตราสวนหมุนเวียนสินคาคงเหลือ (เทา) 1.18 0.83 0.65 1.11 รายไดอาคารชุด (ลบ.) 2,160 833 1,100 2,500<br />

อัตราสวนหมุนเวียนเจาหนี้การคา (เทา) 13.74 7.82 5.72 9.23 รายไดคาไฟฟาและบริการ (ลบ.) 5,282 4,475 2,905 4,144<br />

หนี้สินตอสวนผูถือหุน 3.16 4.60 3.02 2.56 Gross Margin เฉลี่ย 22.5% 22.4% 41.3% 31.4%<br />

ผลตอบแทนจากสินทรัพยเฉลี่ย 3.0% -2.3% 4.9% 4.9% SG&A / Sales 8.3% 14.0% 15.0% 11.0%<br />

ผลตอบแทนจากผูถือหุนเฉลี่ย 12.8% -11.9% 24.7% 20.1% Effective Tax Rate 10.6% 0.0% 5.0% 12.0%<br />

ที่มา : ROJNA / ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 97


แนะนํา ซื้อ<br />

TOP<br />

ไทยออยล์<br />

ราคาปัจจุบัน 67.50 บาท<br />

Fair Value 80.12 บาท<br />

มูลค่าตลาด 137,702 ล้านบาท<br />

การจัดอันดับบรรษัทภิบาลปี 2554<br />

ธุรกิจหลักหนุนกําไรปี’56 แข็งแกร่ง<br />

เติบโตทั้งจากภายใน และภายนอก<br />

ธุรกิจหลักทั้งโรงกลั่น และอะโรเมติกส์ยังสดใสในปี’56<br />

กําไรสดใสใน 4Q55 และต่อเนื่องถึง 1Q56<br />

TOP เดินหนาตามแผนการเติบโตในอนาคต โดยเนนทั้งการ<br />

เติบโตจากภายใน และภายนอกกิจการในธุรกิจที่ TOP มี<br />

ความเชี่ยวชาญซึ่งไดแก ธุรกิจโรงกลั่น ธุรกิจอะโรเมติกส<br />

และธุรกิจน้ํามันหลอลื่น สําหรับการเติบโตจากภายในนั้น<br />

บริษัทฯจะมุงเนนปรับปรุงประสิทธิภาพโรงกลั่น และขยาย<br />

กําลังการผลิตจากทั้งโรงกลั่น และโรงงานที่มีอยูใหเกิด<br />

ประโยชนสูงสุด (debottleneck) โดยจะทยอยแลวเสร็จ<br />

ตั้งแตป 2555 เปนตนไป เริ่มจากโครงการ PX Max ซึ่งเปน<br />

การเพิ่มมูลคาผลิตภัณฑจากโทลูอีน (TL) เปนพาราไซลีน<br />

(PX) ที่เริ่มผลิตเชิงพาณิชยในงวด 4Q55<br />

สวนการเติบโตจากภายนอกนั้น บริษัทฯมีแผนที่จะขยาย<br />

การลงทุนใน 3 ประเทศหลักไดแก 1) อินโดนีเซีย 2)<br />

เวียดนาม และ 3) พมา ซึ่งถือเปนประเทศที่มีศักยภาพการ<br />

เติบโตโดยเฉพาะในธุรกิจโรงกลั่นเนื่องจากในปจจุบัน<br />

Supply น้ํามันสําเร็จรูปที่ผลิตไดในประเทศดังกลาวไม<br />

เพียงพอกับ Demand โดยคาดการณเบื้องตนของการลงทุน<br />

ในระยะแรกอาจจะเกิดขึ้นในลักษณะการรวมทุน (M&A)<br />

เพื่อเปนการกระจายความเสี่ยง ขณะที่การลงทุนสราง<br />

ตัวเลขสําคัญทางการเงิน (ล้านบาท)<br />

สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2554 2555F 2556F<br />

ยอดขาย 446,241 459,418 463,955<br />

กําไรสุทธิ (ลานบาท) 14,853 12,649 12,817<br />

EPS (บาท) 7.28 6.20 6.28<br />

PER (เทา) 9.2 10.8 10.6<br />

DPS (บาท) 3.30 2.79 2.83<br />

Dividend Yield (%) 4.9 4.2 4.2<br />

BVS (บาท) 38.96 48.17 51.24<br />

PBV (เทา) 1.7 1.4 1.3<br />

ROE (%) 19.9 14.2 12.6<br />

ที่มา : ประมาณการโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong> ที่มา : ขอมูลจาก TOP<br />

98<br />

Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

โรงกลั่นใหมในประเทศคาดจะไมเกิดขึ้นเนื่องจากในปจจุบัน Supply มี<br />

มากกวา Demand ราว 20% อีกทั้งการสรางโรงกลั่นใหมในปจจุบันมี<br />

ตนทุนการกอสรางที่สูง (หากไมมีขนาดใหญจนเกิดการประหยัดตอ<br />

ขนาด) ไมสามารถแขงขันไดกับโรงกลั่นเกาได<br />

ฝายวิจัยคาดกําไรสุทธิในงวด 4Q55 และ 1Q56 ของ TOP จะยังไดปจจัย<br />

หนุนสําคัญจากทิศทางราคาและ Spread ของผลิตภัณฑอะโรเมติกสที่<br />

คาดวาจะยังคงปรับตัวสูงขึ้นอยางตอเนื่อง โดยเฉพาะในสวนของ<br />

ผลิตภัณฑ (BZ) ที่คาดจะไดรับปจจัยบวกอยางตอเนื่องจากปริมาณการ<br />

ผลิต Shale Gas ในสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้น เพราะจะทําใหผูประกอบการปโตร<br />

เคมีหันไปใชกาซฯเปนวัตถุดิบกันมากขึ้น ซึ่งจะทําให Supply ของ BZ<br />

ปรับตัวลดลง และผลักดัน Spread ใหปรับตัวเพิ่มขึ้นอยางโดดเดนเหนือ<br />

กลุม ขณะที่แนวโนมคาการกลั่น (GRM) คาดจะไดรับปจจัยหนุนจากการ<br />

เขาสูชวงฤดูหนาว รวมถึงปริมาณสํารองน้ํามันสําเร็จรูปในประเทศตางๆที่<br />

อยูในระดับต่ําเปนสวนใหญ<br />

ฝายวิจัยยังคงคําแนะนําซื้อสําหรับ TOP โดยประเมินมูลคาพื้นฐานสิ้นป<br />

2556 (DCF) ที่ 80.12 บาทตอหุน ยังมี Upside 20% จากราคาปจจุบัน<br />

แผนการลงทุนของ TOP


งบการเงิน และอัตราส่วนที่สําคัญทางการเงิน - TOP<br />

งบกําไรขาดทุน (ลานบาท)<br />

งบกระแสเงินสด (ลานบาท)<br />

สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2554 2555F 2556F 2557F สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2554 2555F 2556F 2557F<br />

ยอดขาย 446,241 459,418 463,955 467,518 กระแสเงินสดจากการดําเนินงาน<br />

ตนทุนขาย 423,307 441,986 443,113 445,983 กําไรสุทธิ 15,207 12,649 12,817 13,186<br />

กําไรขั้นตน 22,933 17,432 20,843 21,535 คาเสื่มราคาและตัดจําหนาย 6,604 4,656 4,277 3,936<br />

คาใชจายในการขาย 1,416 2,380 2,460 2,240 กําไร/ขาดทุนจาก Fx ที่ไมไดรับรู 1,107 (1,567) - -<br />

ดอกเบี้ยจาย 2,126 2,288 2,044 2,010 เพิ่ม/ลด จากกิจกรรมการดําเนินงาน (12,871) 3,906 (1,853) (2,503)<br />

รายไดอื่น 2,532 1,045 - - กระแสเงินสดจากการดําเนินงานสุทธิ 30,473 21,509 22,776 23,022<br />

กําไรสุทธิกอนหักภาษี 20,481 16,132 16,454 17,075<br />

ภาษีเงินได 5,274 3,236 3,255 3,471 กระแสเงินสดจากการลงทุน<br />

กําไรสุทธิจากการดําเนินงาน 15,288 10,526 12,817 13,186 เพิ่ม/ลด จากการลงทุนระยะสั้น (345) 58 61 64<br />

กําไร/ขาดทุนจาก Fx และอื่นๆ (82) 1,567 - - เพิ่ม/ลด จากสินทรัพยถาวร (3,853) (5,000) (5,000) (5,000)<br />

ผูถือหุนสวนนอย (354) (247) (383) (418) กระแสเงินสดจากการลงทุนสุทธิ (5,580) (2,874) (5,012) (5,005)<br />

กําไรสุทธิ 14,853 12,649 12,817 13,186<br />

EPS 7.28 6.20 6.28 6.46 กระแสเงินสดจากการจัดหาเงิน<br />

เพิ่ม/ลด เงินกู 4,661 3,000 3,000 3,000<br />

ลด จายปนผล (5,720) (6,732) (5,692) (5,768)<br />

การเติบโตของยอดขาย 40.2% 3.0% 1.0% 0.8% กระแสเงินสดจากการจัดหาเงินสุทธิ (7,110) (11,635) (9,736) (9,778)<br />

การเติบโตของกําไรสุทธิ 65.8% -14.8% 1.3% 2.9%<br />

อัตราสวนกําไรขั้นตน 5.1% 3.8% 4.5% 4.6% เพิ่ม/ลด เงินสดสุทธิ 4,912 10,907 6,175 5,736<br />

อัตราสวนกําไรสุทธิ 3.3% 2.8% 2.8% 2.8% กระแสเงินสด ณ สิ้นงวด 18,129 29,036 35,211 40,947<br />

งบกําไรขาดทุนรายไตรมาส (ลานบาท)<br />

งบดุล (ลานบาท)<br />

4Q54 1Q55 2Q55 3Q55 สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2554 2555F 2556F 2557F<br />

ยอดขาย 109,696 117,087 112,387 106,203 เงินสดและเทียบเทาเงินสด 18,129 29,036 35,211 40,947<br />

ตนทุนขาย 106,548 109,776 117,982 95,906 ลูกหนี้การคา 26,102 22,971 23,198 23,376<br />

กําไรขั้นตน 3,148 7,311 (5,596) 10,297 สินคาคงเหลือ 34,039 44,199 44,311 44,598<br />

คาใชจายในการขาย 829 569 790 471 สินทรัพยหมุนเวียนอื่น 2,294 2,408 2,529 2,655<br />

ดอกเบี้ยจาย (519) (534) (618) (600) ที่ดิน อาคาร และอุปกรณ สุทธิ 65,132 64,567 48,090 38,616<br />

รายไดอื่น 717 227 487 331 สินทรัพยรวม 155,087 166,340 170,466 172,762<br />

กําไรสุทธิกอนหักภาษี 2,204 7,846 (6,782) 10,595<br />

ภาษีเงินได (236) (634) (33) (386) เจาหนี้การคา 17,271 17,530 17,575 17,689<br />

กําไรสุทธิจากการดําเนินงาน 2,074 6,191 (6,609) 9,333 หนี้สินหมุนเวียนอื่น 1,912 2,008 2,108 2,213<br />

กําไร/ขาดทุนจาก Fx และอื่นๆ (394) 1,156 (578) 989 หนี้สินรวม 70,053 64,472 62,341 58,177<br />

ผูถือหุนสวนนอย (106) 14 (88) (137)<br />

กําไรสุทธิ 1,862 7,226 (6,903) 10,072 ทุนที่ชําระแลว 20,400 20,400 20,400 20,400<br />

สวนเกินมูลคาหุน 2,456 2,456 2,456 2,456<br />

การเติบโตของยอดขาย -5.1% 6.7% -4.0% -5.5% กําไรสะสม 54,474 59,146 63,911 68,879<br />

การเติบโตของกําไรสุทธิ -26.0% 288.0% n.m. n.m. สวนของผูถือหุน 85,034 101,868 108,125 114,585<br />

อัตราสวนกําไรขั้นตน 2.9% 6.2% -5.0% 9.7%<br />

อัตราสวนกําไรสุทธิ 1.7% 6.2% -6.1% 9.5% หนี้สินและสวนของผูถือหุน 155,087 166,340 170,466 172,762<br />

อัตราสวนทางการเงิน<br />

สมมติฐานในการทําประมาณการ<br />

สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2554 2555F 2556F 2557F สิ้นสุด 31 ธ.ค. 2554 2555F 2556F 2557F<br />

อัตราสวนสภาพคลอง (เทา) 3.13 4.71 5.18 5.45 อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย THB/USD 30.00 30.00 30.00 30.00<br />

อัตราสวนหมุนเวียนลูกหนี้การคา (เทา) 0.04 0.05 0.05 0.05<br />

อัตราสวนหมุนเวียนสินคาคงเหลือ (เทา) 0.07 0.10 0.10 0.10 Nameplate Capacity (KBD) 275 275 275 275<br />

อัตราสวนหมุนเวียนเจาหนี้การคา (เทา) 0.04 0.04 0.04 0.04 Utilization rate (%) 100% 100% 100% 200%<br />

หนี้สินตอสวนผูถือหุน 0.82 0.63 0.58 0.51 Petrochemical Capacity (Tonnes/Year) 900,000 900,000 900,000 900,000<br />

ผลตอบแทนจากสินทรัพยเฉลี่ย 9.8% 7.9% 7.6% 7.7% Accounting GRM (US$/Barrel) 5.00 4.50 4.50 4.50<br />

ผลตอบแทนจากผูถือหุนเฉลี่ย 18.5% 13.5% 12.2% 11.8% Spread PX (US$/Ton) 450 450 450 450<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 99


สภาพคล่องสูง เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว<br />

กองทุนตราสารตลาดเงิน: <strong>ASP</strong>, TMBMPLUS<br />

กองทุนตราสารทุน: ABG, UOBSDF<br />

กองทุนต่างประเทศ: ABAPAC, <strong>ASP</strong> S&P-500<br />

กองทุนสินค้าโภคภัณฑ์: <strong>ASP</strong>-OIL, TGoldBullion-H<br />

Fundamental Outlook<br />

เศรษฐกิจทั่วโลกสวนใหญมีทิศทางฟนตัวในไตรมาสสุดทายของ<br />

ป 2555 ตอบรับปญหาวิกฤตหนี้ยุโรปที่คลี่คลายไปในระดับหนึ่ง<br />

หลังกลุมเจาหนี้นานาชาติ (Troika) และกรีซสามารถตกลงเรื่อง<br />

การรับเงินชวยเหลือทางการเงินได อีกทั้งมาตรการกระตุน<br />

เศรษฐกิจที่หลายประเทศไดประกาศใชในชวง 2H12 ไมวาจะ<br />

เปนโครงการลงทุนในสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของประเทศจีน<br />

และนโยบายผอนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3,4 (QE3,4) ซึ่ง<br />

ผลักดันใหประชาชนในประเทศ มีความตองการในการดาน<br />

อุปโภคบริโภค และกระตุนใหผูประกอบการมีความมั่นใจในการ<br />

จางงานและผลิตสินคาเพิ่มมากขึ้น สงผลใหตัวเลขเศรษฐกิจของ<br />

ประเทศตางๆ ปรับตัวขึ้นอยางชัดเจน โดยตลาดแรงงานและ<br />

ตลาดอสังหาริมทรัพยของสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้นตอเนื่องในชวง<br />

ไตรมาสที่ผานมา แมจะไดรับผลกระทบจากพายุเฮอรเคนแซนดี้<br />

และดัชนีภาคการผลิตภาคอุตสาหกรรมและคาปลีกของจีน ที่มี<br />

แนวโนมฟนตัวอยางตอเนื่องใน 4Q55<br />

ทั้งนี้การแกไขปญหา Fiscal Cliff มีแนวโนมจะคลี่คลายไดกอน<br />

สิ้นป 2555 ดวยการประนีประนอมกันระหวางพรรครีพับลิกัน<br />

และเดโมแครต ใหปรับลดรายจายภาครัฐลงบางสวนและเพิ่ม<br />

ภาษีคนรวยขึ้นตามที่พรรครีพับลิกัน ไดทําการหาเสียงไว หาก<br />

เปนไปตามที่คาด ก็สรางความมั่นใจใหกับผูประกอบการทั้ง<br />

100 Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

ภายในและภายนอกสหรัฐฯ เปนแรงหนุนใหเศรษฐกิจในภูมิภาค<br />

ตางๆ สามารถฟนตัวตอไดในป 2556 ทวาโครงสรางเศรษฐกิจใน<br />

ฝงยุโรปยังคงออนแอ หลังธนาคารกลางยุโรปยังมีมุมมองเชิงลบ<br />

ตอการเติบโตทางเศรษฐกิจในปหนา แตหากเศรษฐกิจโลกฟนตัว<br />

ขึ้นก็จะเปนผลดีตอยุโรป อีกทั้งความพยายามในการจัดตั้ง<br />

Banking Union เริ่มมีความคืบหนา และจะนําไปสูการแกปญหา<br />

และปรับโครงสรางทางการเงินของประเทศตางๆ ของยุโรปใน<br />

ระยะยาวตอไป ทางฝงของประเทศจีนการเปลี่ยนผูนําเปนไป<br />

อยางราบรื่น โดยรัฐบาลจีนยืนยันที่จะปฏิรูประบบเศรษฐกิจของ<br />

ประเทศอยางชาๆ ดวยการเนนภาคการบริโภคในประเทศมากขึ้น<br />

พึ่งพาภาคการสงออกใหนอยลง ทําใหจีนไมตองพึ่งพาความ<br />

ตองการสินคาจากนอกประเทศมากนัก และลดความผันผวนของ<br />

เศรษฐกิจไดดี<br />

Equity<br />

การปรับตัวขึ้นของตลาดหุนทั่วโลกในชวงไตรมาสสุดทายป 2555<br />

นั้นถือไดวา สัญญาณตอบรับการฟนตัวของเศรษฐกิจอยาง<br />

ชัดเจน การกระตุนเศรษฐกิจสหรัฐฯผานหลายๆแนวทางทั้งการ<br />

อัดฉีดเม็ดเงินเขาสูระบบและตรึงอัตราดอกเบี้ย สงผลให<br />

ตลาดแรงงานและอสังหาริมทรัพย ซึ่งเปนสองตลาดหลักที่<br />

ธนาคารกลางสหรัฐฯ ใหความสําคัญสามารถฟนตัวขึ้นไดอยาง<br />

ตอเนื่องและมีแนวโนมที่จะฟนตัวไดอีกในไตรมาสหนา โดยคาด<br />

วาปญหา Fiscal Cliff นั้นจะคลี่คลายไดกอนสิ้นป 2555 จึง


แนะนํา <strong>ASP</strong>-S&P 500 ที่เนนใหผลตอบแทนการลงทุนสอดคลอง<br />

กับการเคลื่อนไหวของดัชนี S&P 500<br />

การกระตุนเศรษฐกิจของประเทศแถบเอเชีย ไมวาจะเปน<br />

โครงการลงทุนสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของจีน มาตรการที่<br />

เกาหลีใตประกาศใชในกันยายนที่ผานมา รวมถึงนโยบายการ<br />

แกปญหาเงินฝดเพิ่มเติมของญี่ปุนในอนาคตที่คาดวาจะเนนผอน<br />

คลายมากขึ้น ไดสรางความเชื่อมั่นของประชาชนและผูผลิตใน<br />

ดานการบริโภคและการลงทุน ซึ่งถือเปนปจจัยสําคัญที่สงผลให<br />

เศรษฐกิจในแถบเอเชียจะเติบโตตอเนื่องในปหนา และจะดึงดูด<br />

เม็ดเงินลงทุนใหไหลเขาสูตลาดเอเชีย ที่ใหผลตอบแทนโดดเดน<br />

จึงแนะนํากองทุน ABG ที่เนนหุนในประเทศทีมีพื้นฐานดีและมี<br />

การเติบโตสูง และ ABAPAC ที่เนนลงทุนในกลุมหลักทรัพย<br />

ภูมิภาคเอเชีย แปซิฟค แตไมครอบคลุมถึงตราสารทุนในญี่ปุน<br />

ในขณะที่สภาวะเศรษฐกิจในฝงทวีปยุโรป ธนาคารกลางยุโรปได<br />

ลดคาดการณการเติบโตของกลุมในปหนาลง เนื่องจากสภาพ<br />

พื้นฐานที่ยังออนแอ แมวากลุมเจาหนี้ตางชาติและกรีซสามารถ<br />

หาขอตกลงในการใหเงินชวยเหลือแกกรีซได แตนักลงทุนมองวา<br />

การชวยเหลือดังกลาวถือเปนการแกไขในระยะสั้น โดยนักลงทุน<br />

ใหน้ําหนักเรื่องการแกไขปญหาทางการเงินของกลุมยูโรโซนอยาง<br />

ยั่งยืนมากกวา เชน การจัดตั้ง Fiscal Union ที่ยังไมคืบหนามาก<br />

นัก ดังนั้นการเขาลงทุนในยูโรปเหมาะสมกับนักลงทุนที่สามารถ<br />

รับความเสี่ยงในระดับสูงเทานั้น<br />

Fixed Income<br />

เม็ดเงินที่ไหลเขาในระบบ เพื่อกระตุนเศรษฐกิจของทั่วโลกเพิ่ม<br />

สภาพคลองของตราสารหนี้ และเริ่มเห็นผลในเชิงบวกตอการฟน<br />

ตัวของเศรษฐกิจในชวง 4Q55 โดยคาดวาธนาคารประเทศตางๆ<br />

ชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยใน 1Q56 เพื่อปลอยใหเศรษฐกิจ<br />

เติบโตไปตามกลไก หลังจากออกมาตรการกระตุนเศรษฐกิจไป<br />

แลว แตอาจปรับอัตราดอกเบี้ยลงเพิ่มเติมหากการเศรษฐกิจไม<br />

ฟนตัวตามเปาหมายที่กําหนด อยางไรก็อัตราเงินเฟอยังคงเปน<br />

ปจจัยกังวลที่ธนาคารกลางหลายแหง ควบคุมใหอยูในระดับที่<br />

กําหนด จึงแนะนํานักลงทุนควรเลือกกองทุนปดที่ลงทุนที่มีอายุ<br />

6-12 เดือน เพื่อรักษาผลตอบแทนที่สูงหากการฟนตัวเศรษฐกิจ<br />

กลับมาทรุดตัว<br />

Currencies<br />

โครงสรางเศรษฐกิจในฝงยุโรป ยังออนแอจากปญหาวิกฤตหนี้ที่<br />

ยืดเยื้อ ทําใหคาเงินยูโรมีความผันผวน ในขณะที่มาตรการ QE3<br />

ไมไดทําใหคาเงินดอลลารออนคาลงอยางที่คาดไว เพราะนัก<br />

ลงทุนใหน้ําหนักกับปญหาในยุโรปมากกวา หากเศรษฐกิจของ<br />

สหรัฐฯ มีการฟนตัวที่ชัดเจนขึ้นก็มีแนวโนมที่คาเงินดอลลารจะ<br />

แข็งคาขึ้นไดตอไป สกุลเงินของประเทศแถบเอเชียมีแนวโนมแข็ง<br />

คามากขึ้นจากสภาพคลองสวนเกิน อันเปนผลมาจากมาตรการ<br />

QE3,4 ของสหรัฐฯ จะถูกนํามาลงทุนในตราสารตางๆ ในทวีป<br />

เอเชียที่ยังมีพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกรง<br />

Commodities<br />

ในระยะสั้น ตลาดทองคํายังขาดปจจัยหนุนเพราะธนาคารกลาง<br />

ประเทศตางๆ มั่นใจวาเงินเฟอจะยังไมสรางแรงกดดันตอการ<br />

เติบโตทางเศรษฐกิจ อีกทั้งนักลงทุนมีการโยกยายเงินทุนจาก<br />

ทองคําไปยังสินทรัพยเสี่ยงอื่นๆ มากขึ้น เพราะเศรษฐกิจมี<br />

แนวโนมเติบโต แตการลงทุนในระยะยาวยังมีความนาสนใจและ<br />

สามารถใชเพื่อการกระจายความเสี่ยงจากการลงทุนได<br />

เชนเดียวกับราคาน้ํามันดิบ ที่ยังขาดปจจัยหนุนที่จะผลักดันให<br />

ราคาปรับตัวขึ้นมากได เนื่องจากเศรษฐกิจโลกอยูในชวงเริ่มตน<br />

ของการฟนตัว และมีความออนไหวตอการปรับตัวขึ้นของราคา<br />

น้ํามัน อีกทั้งอุปทานในตลาดที่มีสูงไมสัมพันธกับอุปสงคที่ยังไม<br />

เพิ่มขึ้นมากนัก จึงคาดวาราคาน้ํามันใน 1Q55 จะแกวงตัวใน<br />

กรอบแคบๆ<br />

Asset Allocation<br />

ปจจัยพื้นฐานที่ฟนตัวในสหรัฐฯ และจีน หนุนใหตลาดหุนโลกมี<br />

แนวโนมปรับตัวขึ้นไดตลอดป 2556 จึงเนนลงทุนในสินทรัพย<br />

เสี่ยงเปนหลักโดยแบงการลงทุนเปนหุนตลาดในประเทศ ตลาด<br />

เอเชียและตลาดสหรัฐฯ ดังนี้<br />

Aggressive Asset Allocation<br />

Low Risk Asset<br />

High Risk Asset<br />

Money Market 3% Local Equity 28%<br />

Local Gov. Bond 0% Asia Equity 22%<br />

Local Corp. Bond 7% US Equity 20%<br />

Property Fund 10% Oil 5%<br />

Gold 5%<br />

Total 20% Total 80%<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 101


ข้อมูลทั่วไป<br />

ประเภทกองทุน : กองทุนรวมที่ลงทุนในกองทุนรวมตางประเทศเพียงกองทุนเดียว<br />

(Feeder Fund)<br />

อายุโครงการ : ไมกําหนด<br />

วันที่จดทะเบียนกองทุน : 25 สิงหาคม 2548<br />

นโยบายการลงทุน : ลงทุน ในหนวยลงทุนของกองทุนหลักซึ่งเปนกองทุนรวมตรา<br />

สารแหงทุนตางประเทศ (สิงคโปร) ชื่อ Aberdeen Pacific Equity Fund เพียง<br />

กองทุนเดียวโดยเฉลี่ย ในรอบปบัญชีตั้งแตรอยละ 80 ของ มูลคาทรัพยสินสุทธิของ<br />

กองทุน แตทั้งนี้จะลงทุนในตางประเทศไมต่ํากวารอยละ 80 ของมูลคาทรัพยสิน<br />

สุทธิของกองทุนโดย Aberdeen Pacific Equity Fund จะลงทุนกระจาย ในกลุม<br />

หลักทรัพยของ Asian-PacificEquities/ เอเชียน-แปซิฟค เอคควิตี้ แตไมครอบคลุม<br />

ถึงตราสารแหงทุนของญี่ปุน<br />

นโยบายเงินปนผล : ไมมีนโยบายการจายเงินปนผล<br />

ความเสี่ยงดานอัตราแลกเปลี่ยน : SGD/THB<br />

ข้อมูลบริษัทหลักทรัพย์จัดการ<br />

ชื่อบริษัท : บริษัทหลักทรัพยจัดการกองทุน อเบอรดีน จํากัด<br />

ผูดูแลผลประโยชน : ธนาคารซิตี้แบงก เอ็น.เอ. สาขา กรุงเทพฯ<br />

ค่าธรรมเนียม<br />

คาธรรมเนียมการจัดการ : 1.70% ตอป<br />

คาธรรมเนียมผูดูแลผลประโยชน: 0.0325% ตอป<br />

คาธรรมเนียมนายทะเบียน : 0.10% ตอป<br />

คาธรรมเนียมการขายหนวยลงทุน : 1.5%<br />

คาธรรมเนียมการรับซื้อคืนหนวยลงทุน: ปจจุบันไมคิดคาธรรมเนียม<br />

คาธรรมเนียมการสับเปลี่ยนหนวยลงทุน: ไมมี<br />

การซื้อ/ขาย หน่วยลงทุน<br />

การสั่งซื้อหนวยลงทุน : ทุกวันทําการ ภายในเวลา15.00 น.<br />

มูลคาการซื้อขั้นต่ํา : 5,000 บาท<br />

การขายคืนหนวยลงทุน : ทุกวันทําการ ภายในเวลา 15.30 น.<br />

มูลคาการขายคืนขั้นต่ํา : 1,000 บาท หรือ 100 หนวย<br />

การรับเงินคาขายหนวยลงทุน : T+5<br />

กองทุนเปิด อเบอร์ดีน เอเชีย แปซิฟิค<br />

เอคควิตี้ ฟันด์ (ABAPAC)<br />

ประเภทโครงการ : กองทุนรวมตราสารทุน<br />

ระดับความเสี่ยง : สูง (ระดับความเสี่ยง 6)<br />

ผลการดําเนินงานของกองทุนหลัก<br />

ผลการดําเนินงาน ณ วันที่ 25 ต.ค. 55 (%)<br />

3 เดือน 6 เดือน 1 ป<br />

ABAPAC 7.15% 5.86% 17.22%<br />

ดัชนี AC Asia Pacific ex JP 7.60% 1.42% 7.16%<br />

คําเตือน การลงทุนมีความเสี่ยงผูลงทุนควรศึกษาขอมูลกอนการตัดสินใจลงทุนผลการ<br />

ดําเนินงาน ในอดีตของกองทุนรวมมิไดเปนสิ่งยืนยันถึงผลการดําเนินงานในอนาคต<br />

102 Invest+ 1 st Quarter, 2013


ข้อมูลทั่วไป<br />

ประเภทกองทุน : กองทุนรวมที่ลงทุนในกองทุนรวมตางประเทศเพียงกองทุนเดียว<br />

(Feeder Fund)<br />

อายุโครงการ : ไมกําหนด<br />

วันที่จดทะเบียนกองทุน : 17 กรกฎาคม 2552<br />

นโยบายการลงทุน : เนนลงทุนในหนวยลงทุนของกองทุน SPDR Trust (SPDR<br />

S&P500 ETF) (กองทุนหลัก) ซึ่งเปนกองทุนรวมอีทีเอฟ (Exchange Traded<br />

Fund) ประเภทกองทุนรวมเพื่อผูลงทุนทั่วไป ซึ่งบริหารและจัดการโดย State Street<br />

Global Advisors ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพยนิวยอรก (New York<br />

Stock Exchange, NYSE Arca) โดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไมต่ํากวารอยละ 80 ของ<br />

มูลคาทรัพยสินสุทธิของกองทุน กองทุนดังกลาวมีนโยบายลงทุนในหุนที่เปน<br />

สวนประกอบของดัชนี S&P 500 เพื่อใหไดรับผลตอบแทนใกลเคียงกับผลตอบแทน<br />

ของดัชนี S&P 500<br />

นโยบายเงินปนผล : ไมมีนโยบายการจายเงินปนผล<br />

ความเสี่ยงดานอัตราแลกเปลี่ยน : USD/THB<br />

ข้อมูลบริษัทหลักทรัพย์จัดการ<br />

ชื่อบริษัท : บริษัทหลักทรัพยจัดการกองทุน แอสเซ็ทพลัส จํากัด<br />

ผูดูแลผลประโยชน : ธนาคารกสิกรไทย จํากัด (มหาชน)<br />

ค่าธรรมเนียม<br />

คาธรรมเนียมการจัดการ : ไมเกิน 1.00% ตอป<br />

คาธรรมเนียมผูดูแลผลประโยชน: ไมเกิน 0.07% ตอป<br />

คาธรรมเนียมนายทะเบียน : ไมเกิน 0.50% ตอป<br />

คาธรรมเนียมการขายหนวยลงทุน : 1.0%<br />

คาธรรมเนียมการรับซื้อคืนหนวยลงทุน: ปจจุบันไมคิดคาธรรมเนียม<br />

คาธรรมเนียมการสับเปลี่ยนหนวยลงทุน: ไมมี<br />

การซื้อ/ขาย หน่วยลงทุน<br />

การสั่งซื้อหนวยลงทุน : ทุกวันทําการ ภายในเวลา15.30 น.<br />

มูลคาการซื้อขั้นต่ํา : 5,000 บาท<br />

การขายคืนหนวยลงทุน : ทุกวันทําการ ภายในเวลา 15.30 น.<br />

มูลคาการขายคืนขั้นต่ํา : 5,000 บาท<br />

การรับเงินคาขายหนวยลงทุน : T+5<br />

กองทุนเปิด แอสเซ็ทพลัส เอสแอนด์พี 500<br />

(<strong>ASP</strong>-S&P500)<br />

ประเภทโครงการ : กองทุนรวมทองคํา<br />

ระดับความเสี่ยง : สูง (ระดับความเสี่ยง 6)<br />

ผลการดําเนินงานของกองทุน<br />

ผลการดําเนินงาน ณ วันที่ 26 ต.ค. 55 (%)<br />

3 เดือน 6 เดือน 12 เดือน<br />

<strong>ASP</strong> S&P 500 2.80% 1.84% 12.59%<br />

ดัชนี S&P 500 1.87% 0.61% 9.87%<br />

คําเตือน การลงทุนมีความเสี่ยงผูลงทุนควรศึกษาขอมูลกอนการตัดสินใจลงทุนผลการ<br />

ดําเนินงาน ในอดีตของกองทุนรวมมิไดเปนสิ่งยืนยันถึงผลการดําเนินงานในอนาคต<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 103


ภาวะตลาดตราสารหนี้<br />

คาดว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังคงทรงตัวจนถึงกลางปี 2556<br />

แนะนําเพิ่ม Duration ของพอร์ตเท่ากับ 5 ปี<br />

การเคลื่อนไหวของเสนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในชวง<br />

เดือน ต.ค. - ธ.ค. ที่ผานมา พบวาอัตราผลตอบแทนพันธบัตร<br />

ปรับตัวลดลงในชวงของตราสารหนี้ระยะสั้นถึงกลางประมาณ 2<br />

ถึง 30bps ตรงกันขามกับตราสารหนี้อายุมากกวา 10 ปขึ้นไป<br />

กลับปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 1 ถึง 135bps ทั้งนี้ตลาดตราสาร<br />

หนี้ไทยในชวงเดือน พ.ย.ที่ผานมา สวนใหญไดรับผลกระทบจาก<br />

ปจจัยภายนอกประเทศเปนหลัก โดยการที่อัตราผลตอบแทนใน<br />

พันธบัตรระยะสั้นปรับตัวลดลงนั้น สวนหนึ่งปรับตัวลดลงตาม<br />

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ (US Treasury) ซึ่งนักลงทุน<br />

ยังคงกังวลถึงแนวทางการแกปญหามาตรการทางการคลังของ<br />

สหรัฐ (Fiscal Cliff) แมประธานาธิบดีโอบามาเชื่อวาจะมีความ<br />

ชัดเจนในชวงกอนวันคริสมาสต สําหรับปจจัยทางฝงยุโรปที่มีผล<br />

ตอตลาดตราสารหนี้ เริ่มจากการที่สถาบันจัดอันดับความ<br />

นาเชื่อถือ S&P ลดอันดับความนาเชื่อถือกรีซลงเปน “Selective<br />

Default” หรือ ผิดนัดชําระหนี้บางสวน นอกจากนี้กรีซไดจัดทํา<br />

โครงการรับซื้อพันธบัตรคืนวงเงิน 1 หมื่นลานยูโรที่ครบกําหนดป<br />

2566 -2575 ในราคาประมาณ 34.1% จากหนาตั๋ว ซึ่งทาง EU<br />

และ ECB มั่นใจวากรีซจะรับซื้อพันธบัตรคืนไดตามวงเงิน 1 หมื่น<br />

ลานยูโร หากเปนไปตามแผนจะทําใหหนี้สาธารณะลดลง และ<br />

เปดทางให EU และ ECB พิจารณาเงินชวยเหลือ 3.44 หมื่นลาน<br />

ยูโร นอกจากนี้การที่คณะกรรมการยุโรปไดปรับลดคาดการณ<br />

การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป มาอยูที่ 0.1% ในป<br />

2556 ซึ่งเปนปจจัยกดดันใหอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัว<br />

ลดลง ในขณะที่ปจจัยภายในประเทศ ซึ่งเปนเรื่องของอุปทาน<br />

ของพันธบัตรรัฐบาลที่ออกประมูลในชวงเดือน พ.ย.ซึ่งมีปริมาณ<br />

คอนขางมากเทากับ 73 หมื่นลานบาท เมื่อเทียบกับเดือน ต.ค.<br />

ซึ่งมีปริมาณ 28.5 หมื่นลานบาท สงผลใหผลตอบแทนพันธบัตร<br />

ระยะยาวปรับตัวเพิ่มขึ้น<br />

ทั้งนี้ จะเห็นไดวาอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไดมีการ<br />

ปรับตัวทั้งเพิ่มขึ้นและลดลง โดยเสนกราฟมีลักษณะลาดชันขึ้น<br />

(Steepening yield curve) จากภาพเสนอัตราผลตอบแทน<br />

พันธบัตรรัฐบาล ระหวางวันที่ 11 ต.ค. - 11 ธ.ค. อัตรา<br />

ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้น ถึงระยะกลางปรับตัว<br />

ลดลงในชวง 2 ถึง 30bps ขณะที่พันธบัตรระยะยาวอายุตั้งแต<br />

10 ปขึ้นไป ปรับตัวเพิ่มขึ้นในชวง 1 ถึง 135bps<br />

ที่มา : ThaiBMA<br />

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล<br />

%Yield 11 ต.ค. 55 12 พ.ย. 55 11 ธ.ค. 55<br />

5.0<br />

4.8<br />

4.6<br />

4.4<br />

4.2<br />

4.0<br />

3.8<br />

3.6<br />

3.4<br />

3.2<br />

3.0<br />

2.8<br />

2.6<br />

2.4<br />

0 2 4 6 8 101214161820222426283032343638404244464850<br />

Year<br />

104 Invest+ 1 st Quarter, 2013


TTM.<br />

Change<br />

(Yrs) 11 ต.ค. 55 11 ธ.ค. 55 (bp.)<br />

TTM.<br />

Change<br />

(Yrs) 11 ต.ค. 55 11 ธ.ค. 55 (bp.)<br />

0.08 2.97 2.76 -21 20 2.76 4.06 130<br />

0.25 3.03 2.76 -27 21 2.76 4.08 132<br />

0.50 3.06 2.78 -28 22 2.78 4.09 131<br />

1 3.06 2.76 -30 23 2.76 4.11 135<br />

2 3.16 2.88 -28 24 2.88 4.12 124<br />

3 3.16 2.91 -25 25 2.91 4.14 123<br />

4 3.23 3.04 -19 26 3.04 4.16 112<br />

5 3.29 3.14 -15 27 3.14 4.18 104<br />

6 3.37 3.24 -13 28 3.24 4.21 97<br />

7 3.41 3.34 -7 29 3.34 4.22 88<br />

8 3.44 3.41 -3 30 3.41 4.22 81<br />

9 3.46 3.44 -2 31 3.44 4.23 79<br />

10 3.50 3.51 1 32 3.51 4.23 72<br />

11 3.55 3.58 3 33 3.58 4.23 65<br />

12 3.61 3.65 4 34 3.65 4.24 59<br />

13 3.67 3.72 5 35 3.72 4.24 52<br />

14 3.72 3.77 5 36 3.77 4.25 48<br />

15 3.74 3.80 6 37 3.80 4.25 45<br />

16 3.83 3.91 8 38 3.91 4.26 35<br />

17 3.88 3.96 8 39 3.96 4.26 30<br />

18 3.93 4.01 8 40 4.01 4.26 25<br />

19 3.97 4.04 7 41 4.04 4.27 23<br />

มูลค่าตราสารหนี้คงค้าง และขึ้นทะเบียนใน ThaiBMA<br />

THB bill<br />

9,000<br />

8,000<br />

7,000<br />

6,000<br />

5,000<br />

4,000<br />

3,000<br />

2,000<br />

1,000<br />

0<br />

THB bill<br />

1,200<br />

1,000<br />

800<br />

600<br />

400<br />

200<br />

0<br />

6,781<br />

มูลค่าคงค้างของตราสารหนี้ขึ้นทะเบียนกับสมาคมฯ<br />

7,377 7,559 7,944<br />

8,220 8,218 8,277 8,246 8,456 8,468<br />

7,987 8,058<br />

31 ม.ค. 29 ก.พ. 31 มี.ค. 30 เม.ย. 31 พ.ค. 30 มิ.ย. 31 ก.ค. 31 ส.ค. 30 ก.ย. 31 ต.ค. 30 พ.ย. 11 ธ.ค.<br />

420<br />

ที่มา : ThaiBMA<br />

Gov. Bond SA SOE Corp. Bond CP FB<br />

381<br />

มูลค่าการออกตราสารหนี้ขึ้นทะเบียนกับสมาคมฯ<br />

584<br />

944<br />

978<br />

679<br />

31 ม.ค. 29 ก.พ. 31 มี.ค. 30 เม.ย. 31 พ.ค. 30 มิ.ย. 31 ก.ค. 31 ส.ค. 30 ก.ย. 31 ต.ค. 30 พ.ย. 11 ธ.ค.<br />

816<br />

858<br />

560<br />

395<br />

Gov. Bond SA SOE Corp. Bond CP FB<br />

657<br />

250<br />

แนวโน้มตราสารหนี้เดือน ม.ค. - มี.ค.2556<br />

สําหรับแนวโนมการลงทุนในชวงเดือน ม.ค. – มี.ค. นั้น ตลาดยัง<br />

มองวา แนวโนมอัตราดอกเบี้ยนโยบายในชวงครึ่งปแรกของป<br />

2556 จะยังคงทรงตัวอยูที่ระดับ 2.75% เนื่องจากปจจุบันอัตรา<br />

เงินเฟอยังคงอยูในระดับต่ํา ซึ่งอัตราเงินเฟอในเดือน พ.ย.อยูที่<br />

2.74% เมื่อเทียบกับชวงเดียวกันของปกอน (yoy) ซึ่งชะลอตัวลง<br />

จากเดือน ต.ค.ที่ระดับ 3.32% (yoy) ขณะที่อัตราเงินเฟอพื้นฐาน<br />

อยูที่ 1.85% ซึ่งยังคงอยูในระดับที่ไมนาเปนหวง นับวาสอดคลอง<br />

กับการที่ ธปท.แถลงถึงภาวะเศรษฐกิจในเดือน ต.ค.วา ยังคง<br />

เติบโตไดตอเนื่องจากการใชจายภาคเอกชน ทั้งการบริโภคและ<br />

การลงทุนขยายตัวในเกณฑดี โดยตลาดคาดการณวา ธปท.<br />

นาจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไวที่ระดับ 2.75% ตอไปจนถึง<br />

กลางป 2556 ดังนั้นแนวโนมอัตราดอกเบี้ยจึงไมนาจะเปนปจจัย<br />

หลักที่จะกดดันอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลใหปรับตัว<br />

ลดลงตอไปอีก ในดานอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในชวง<br />

ระยะกลางถึงยาว ตลาดยังคงคาดวาจะมีปริมาณอุปทานของ<br />

พันธบัตรรัฐบาล (Bond Supply) ออกประมูลมากขึ้นซึ่งจะเปน<br />

ปจจัยกดดันใหอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะกลางถึง<br />

ยาวปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นได<br />

สําหรับบริษัทที่มีแผนจะออกหุนกูภาคเอกชน ในชวงเดือน<br />

ม.ค. – มี.ค. ไดแก บมจ.ปริญสิริ มีแผนจะออกหุนกูวงเงินไมต่ํา<br />

กวา 400 ลบ. เพื่อนํามาคืนหุนกูที่ครบกําหนด และใชเปนเงินทุน<br />

หมุนเวียนในโครงการใหม บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท มีแผน<br />

ออกหุนกู อายุ 3 ป มูลคา 1.5 พันลานบาท บมจ.ไทคอน อินดัส<br />

เทรียล คอนเน็คชัน มีแผนทยอยออกหุนกู อายุ 3-5 ป มูลคาราว<br />

2.5 พันลานบาท ในป 2556 เพื่อทดแทนหุนกูเดิมที่ครบกําหนด<br />

บมจ.เซ็นทรัลพัฒนา มีแผนออกหุนกูมูลคาราว 4-5 พันลานบาท<br />

ในป 2556 เพื่อนําไปใชรีไฟแนนซ และลงทุนในโครงการตางๆ<br />

กลยุทธ์เดือน ม.ค. – มี.ค. 2556<br />

คาดวาเสนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล ระยะกลางถึงยาว<br />

จะปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นจะ<br />

ปรับตัวขึ้นลงในกรอบแคบๆ ในชวงเดือน ม.ค. – มี.ค. 2556<br />

แนะนําใหเพิ่ม Duration ของพอรตเทากับ 5 ป<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 105


Global Investment<br />

Industrial & Commercial Bank of<br />

China Ltd. หรือ (1398 HK Equity)<br />

ดําเนินนโยบายที่ตองการปรับตัวไปสูเปาหมายของการเปน Global<br />

Bank เพื่อเสริมสรางฐานรายไดใหมีเสถียรภาพพรอมทั้งกระจาย<br />

ความเสี่ยงของธุรกิจใหมากขึ้น และเปนแนวนโยบายที่สอดคลองกับ<br />

ทิศทางของรัฐบาลจีนที่ตองการใหผูประกอบการจีนรวมถึง ธ.พ. มี<br />

การกระจายฐานธุรกิจออกไปในตางประเทศใหมากขึ้น<br />

Revenue By Business Type 2011<br />

Others 1 %<br />

Treasury banking<br />

15%<br />

Personal Banking<br />

31%<br />

Corporate<br />

Banking<br />

53%<br />

ที่มา: Bloomberg<br />

ธนาคารที่มีขนาดสินทรัพย์อันดับ 1ของจีน<br />

หุน ICBC หรือ 1398 HK ที่แนะนําไว เปนหุน H-Share หรือหุนที่<br />

จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพยฮองกง ซึ่งถือไดวาเปนหุนธนาคาร<br />

พาณิชยที่มี Market Cap. ใหญที่สุดในโลก ณ ปจจุบัน โดยในเชิง<br />

ของปจจัยพื้นฐาน ICBC เปนธนาคารพาณิชยสัญชาติจีนที่มี<br />

ขนาดสินทรัพยใหญที่สุดของประเทศ รองลงมาอีก 3 อันดับ<br />

ไดแก Bank of China, China Construction Bank และ<br />

Agricultural Bank of China ทั้งนี้ โครงสรางกําไรของ ICBC<br />

อิงจากฐานธุรกิจป 2554 พบวา 53% มาจากธุรกิจ Corporate<br />

Banking, 31% จาก Personal Banking และ 15% มาจาก<br />

Treasury Banking สวนที่เหลือเปนธุรกิจอื่นๆ ทั้งนี้ประเมินวา<br />

โครงสรางกําไรของ ICBC กําลังจะเปลี่ยนไปซึ่งเปนผลมาจากการ<br />

ที่มา: Bloomberg<br />

ขยายธุรกิจต่างประเทศ ผ่านการซื้อกิจการ<br />

ICBC กําหนดเปาหมายการขยายสาขาตางประเทศ โดยในป 2555<br />

ไดเพิ่มจํานวนสาขาในตางประเทศเปน 37 ประเทศ จาก 28<br />

ประเทศในชวง 2 ปที่ผานมา และในชวง 1-2 ปขางหนา<br />

มีแผนที่จะขยายเครือขายใหครอบคลุมถึง 50 ประเทศ เพื่อกาวไปสู<br />

เปาหมายการเปน Global Bank อีกทั้งเพื่อเสริมสรางฐานรายไดให<br />

มีเสถียรภาพพรอมทั้งกระจายความเสี่ยงของธุรกิจใหมากขึ้น ลาสุด<br />

ในชวงเดือน พ.ย. 2555 ICBC ไดเขาไปเริ่มธุรกิจในกรุงวอรซอ<br />

(ประเทศโปแลนด) และไดรับอนุญาตใหเปดสาขาในซาอุดิอาระเบีย<br />

และคูเวต อีกทั้งในสัปดาหนี้ ICBC กําลังเปด 1 สาขาในบารเซโลนา<br />

(สเปน), 1 สาขาในลิมา (เปรู) และอยูระหวางดําเนินการติดตั้งระบบ<br />

106 Invest+ 1 st Quarter, 2013


Global Investment<br />

private banking ในกรุงปารีส (ฝรั่งเศส) แนวโนมจากนี้ไปคาด<br />

วาธนาคารฯ จะมุงเนนการขยายสาขาไปยังกลุมประเทศ<br />

Emerging market ซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตสูงกวาประเทศที่<br />

พัฒนาแลวและการแขงขันยังไมรุนแรง<br />

นอกจากการเขาไปเปดสาขาตางประเทศแลว ICBC ยังเขาไปทํา<br />

M&A เชิงรุก เฉพาะอยางยิ่งธุรกิจที่จะชวยเสริมฐานรายได<br />

คาธรรมเนียม โดยที่ผานมาไดเขาไปลงทุนใน Fortis Securities<br />

(ภายใตการถือหุนของกลุม BNP Paribas ของฝรั่งเศส) ในป<br />

2553 ซึ่งทําให ICBC กลายเปนธนาคารแรกของจีนที่เขาไปทํา<br />

ธุรกิจนายหนา/ตัวแทนซื้อขายหลักทรัพยในสหรัฐอเมริกา โดยเขา<br />

ไปลงทุนใน Standard Bank Group Ltd. (แอฟริกาใต) สัดสวน<br />

20% ในป 2550, ACL Bank Public Co. (ไทย) สัดสวน 100%<br />

ในป 2552 และ Bank of East Asia Ltd. (เครือขายธนาคารราย<br />

ยอยในสหรัฐอเมริกา) สัดสวน 80% ในป 2555 ทําใหในงวด<br />

1H55 ที่ผานมา ICBC มีรายไดกอนภาษีจากการทําธุรกิจใน<br />

ตางประเทศเพิ่มขึ้นถึง 16.8% yoy แซงหนาการเติบโตของกําไร<br />

กอนภาษีในประเทศที่ระดับ 12.4% yoy ปจจุบัน ICBC มี<br />

เครือขายสาขาถึง 10 แหงในอเมริกา และ 14 แหงในยุโรป<br />

กําไร 3Q55 โต 15%YoY และ 1% QoQ<br />

กําไรสุทธิในงวดไตรมาสที่ 3 ของ ICBC อยูที่ 62,400 ลานหยวน<br />

เพิ่มขึ้น 15% YoY สงผลทําใหงวด 9M55 มีกําไรสุทธิ 185,711<br />

ลานหยวน เพิ่ม 13.3% อยูในกรอบความคาดหมายตามคาเฉลี่ย<br />

ประมาณการที่นักวิเคราะหสํานักตางๆ ไดจัดทําไว ทั้งนี้<br />

องคประกอบหลักของผลประกอบการงวด 3Q55 พบวาสินเชื่อ<br />

เติบโต 2.5% QoQ ต่ํากวา เงินฝากที่เติบโต 3.4% สวน NIM (Net<br />

Interest Margin) ปรับลดลง 0.1bp มาอยูที่ 2.70% และทําให<br />

คาเฉลี่ยงวด 9M55 อยูที่ 2.67% ดานรายไดคาธรรมเนียม ซึ่งเปน<br />

เปาหมายหนึ่งที่ ICBC ตองการใหเติบโตในระยะยาว พบวาใน<br />

งวด 3Q55 เติบโต 1.8% YoY ดีขึ้นจากงวด 1H55 ที่ปรับลดลง<br />

จากการเรียกเก็บคาธรรมเนียมในธุรกิจ Personal Wealth,<br />

Private Bank และ Guarantee and Commitment Business<br />

ราคาหุ้นมี Upside กว่า 25%<br />

ราคาปจจุบันซื้อขายอยูที่ HKD 5.48 (17 ธ.ค. 55) เทียบกับราคา<br />

เปาหมายสูงสุดอยูที่ HKD 6.90 มี upside สูงถึง 25.91%<br />

เราแนะนํา ICBC ในกลุมธนาคารจีนเนื่องจากความมั่นคงของงบ<br />

การเงิน โดยมี loan/deposit ratio 63% นอกจากนี้ ICBC ยังเปนที่<br />

นิยมในดานธุรกิจฝากเงิน ซึ่งสงผลใหมี funding cost ต่ําเพียง<br />

2.1% สงผลให Net Interest Margin ยังคงมี Upside สูงกวา<br />

ปจจุบัน สวนสถานะทุนของธนาคารยังคงดีขึ้นตอเนื่องโดย Tier 1<br />

เทากับ 10.51% และ book value เติบโต 12% YTD สวนคุณภาพ<br />

สินทรัพยยังคงมั่นคงโดยมี NPLs เพิ่มขึ้นเพียง 2% YTD ซึ่งต่ําที่สุด<br />

ในกลุม นอกจากนี้ ROE ของ ICBC เทากับ 24.6% ซึ่งดีที่สุดในกลุม<br />

ราคาเป้าหมายของนักวิเคราะห์ในรอบเดือนที่ผ่านมา<br />

Firm Name Tgt Px Date<br />

BOCOM International Holdings 5.5 12/18/12<br />

Barclays 6.36 12/18/12<br />

Macquarie 7 12/17/12<br />

Nomura 6.2 12/14/12<br />

UOB Kay Hian 6.25 12/14/12<br />

Standard Chartered 6.1 12/13/12<br />

Sanford C. Bernstein & Co 5.8 12/13/12<br />

Religare Capital Markets 6.09 12/12/12<br />

Credit Suisse 6.26 12/05/12<br />

Core Pacific 6.15 12/03/12<br />

HSBC 6.6 11/26/12<br />

Mizuho Securities 6.05 11/23/12<br />

Average 6.20<br />

High 7.00<br />

Low 5.5<br />

ที่มา: Bloomberg<br />

ความเสี่ยง<br />

สวนความเสี่ยงสําหรับการลงทุนใน ICBC ตองคํานึงใน 2 ประการ<br />

หลักไดแก ภาพใหญของเศรษฐกิจจีน วาจะสามารถหลีกพนสภาวะ<br />

Hard Landing ไดหรือไม และแนวโนมการสรางรายได<br />

คาธรรมเนียม ซึ่งดูเหมือนชวงที่ผานมายังทําไดนอยกวาที่คาดไว<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 107


Global Investment<br />

Hyundai Motor (005380 KS Equity)<br />

โดยในงวด 9M55 ประเทศที่มียอดขายสูงสุดไดแกจีน 18.17% ตาม<br />

ดวย สหรัฐฯ 16.83% และ เกาหลีใต 14.99% โดยหากพิจารณาถึง<br />

ตลาดที่มีการเติบโตสูงสุด (YoY) ไดแก อินเดีย โต 12.6% อันดับ 2<br />

ไดแก EU โต 11.9% อันดับ 3 ตะวันออกกลาง โต 11.1% และ<br />

สหรัฐฯ โต 9.5% สะทอนถึงการไดรับการยอมรับของสินคาในตลาด<br />

ที่หลากหลายรถยนต Hyundai และทําใหสวนแบงการตลาดทั่วโลก<br />

ของรถยนต Hyundai ปรับเพิ่มขึ้นเปน 5.7% จากฐาน 3.9% ในป<br />

2550 ถือเปนอัตราการเพิ่มขึ้นที่รวดเร็ว<br />

ยอดขายรถยนต์<br />

(Unit : 1,000 vehicles)<br />

5,000<br />

4,000<br />

3,000 2,603 2,654<br />

3,239<br />

3,701<br />

4,099<br />

6.10%<br />

3,209<br />

2,000<br />

1,000<br />

ที่มา: Bloomberg<br />

ค่ายรถยนต์จากเกาหลีใต้ที่เติบโตสูง<br />

Hyundai Motor ผลิตและจําหนายรถยนตยี่หอ Hyundai โดยมี<br />

ทั้งรถยนตสวนบุคคล รถบรรทุกและรถยนตเพื่อการพาณิชย<br />

นอกจากนี้ยังมี Line ผลิตอะไหลรถยนตเพื่อการจําหนาย นับจาก<br />

ป 2550 เปนตนมา ยอดขายรถยนตของ Hyundai ปรับตัวเพิ่มขึ้น<br />

ทุกป แมกระทั้งป 2551 ซึ่งเกิดวิกฤติการเงินในสหรัฐฯ โดย<br />

ยอดขายปรับเพิ่มขึ้นจาก 2.6 ลานคัน มาสูระดับ 2.65 ลานคัน<br />

และเพิ่มตอเนื่องเปน 4.1 ลานคัน ในป 2554 สวนป 2555 งวด<br />

9M55 ยังเติบโตตอเนื่องในอัตรา 6.1% YoY มาอยูที่ 3.2 ลานคัน<br />

(9M54 อยูที่ 3 ลานคัน) การเติบโตของยอดขายดังกลาวสะทอน<br />

ใหเห็นถึงความพรอมของฐานธุรกิจ ซึ่งปจจุบัน Hyundai มีฐาน<br />

การผลิตในตางประเทศกระจายอยูถึง 7 แหง ประกอบดวย<br />

สหรัฐฯ, จีน, อินเดีย, สาธารณรัฐเชค, รัสเซีย, ตุรกี และ บราซิล<br />

โดยที่รถยนตของ Hyundai มีการจําหนายใน 190 ประเทศทั่วโลก<br />

-<br />

ที่มา : Hyundai<br />

6.0%<br />

5.5%<br />

5.0%<br />

4.5%<br />

4.0%<br />

3.5%<br />

3.0%<br />

3.9%<br />

ที่มา : Hyundai<br />

2007 2008 2009 2010 2011 1~3Q'12<br />

4.0%<br />

ส่วนแบ่งการตลาด<br />

5.1%<br />

5.1%<br />

5.4%<br />

5.7%<br />

2007 2008 2009 2010 2011 1~3Q'12<br />

Operating Margin เพิ่มต่อเนื่อง 9M55 มาอยู่ที่ 11%<br />

Hyundai รายงานกําไรงวด 3Q55 ที่ระดับ 2.17 ลานลานวอน<br />

เพิ่มขึ้น 13% YoY ถือวาเปนไปตามความคาดหมาย สงผลใหงวด<br />

9M55 มีกําไรสุทธิ 7.16 ลานลานวอน เพิ่มขึ้น 17.4% YoY ทั้งนี้<br />

108 Invest+ 1 st Quarter, 2013


Global Investment<br />

จุดเดนประการสําคัญอยูที่เรื่องของประสิทธิภาพการทํากําไร เห็น<br />

ไดจากระดับ Operating Margin ที่เพิ่มขึ้นตอเนื่องมาอยูที่ 11%<br />

จากเดิม 10% ในป 2554 และเพิ่มขึ้นกวา 2 เทาตัวเมื่อเทียบกับป<br />

2551 ซึ่งต่ําเพียง 4% สําหรับสาเหตุหลักที่ทําใหOperating<br />

Margin ปรับสูงขึ้นเกิดจากความสามารถในการควบคุมคาใชจาย<br />

ในการขยายและบริหารใหอยูในระดับที่ทรงตัว ภายใต<br />

สถานการณที่ยอดขายปรับสูงขึ้น สวน Gross Margin อยูที่<br />

ประมาณ 23 – 25% ทั้งนี้หากเปรียบเทียบ Operating Margin<br />

ของ Hyundai กับคายรถยนตอื่นๆ ถือวา Hyundai สูงกวาคูแขง<br />

มาก โดยในงวด 9M55 Toyota, Honda, VW, Nissan และ Ford<br />

มีคา Operating Margin อยูที่ 5.5 – 6.4%<br />

Operating Margin<br />

16%<br />

12%<br />

8%<br />

4%<br />

0%<br />

1,102.6<br />

ที่มา : Hyundai<br />

1,276.4<br />

1,156.3<br />

1,108.1<br />

1,138.8<br />

4% 6% 9% 10% 11%<br />

2008 2009 2010 2011 1~3Q'12<br />

HMC OP Margin<br />

KRW/USD Avg.<br />

(Unit :KRW/USD)<br />

1,600<br />

1,200<br />

ในไตรมาสที่ 4 ป 2555 ผูบริหาร และนักวิเคราะหสวนใหญให<br />

ความเห็นวา Hyundai นาจะมียอดขายเติบโตขึ้น 8.2% YoY<br />

เนื่องดวย Demand จากประเทศจีนที่สูงขึ้น และยอดขายในสหรัฐ<br />

ที่ฟนตัว ทั้งนี้สําหรับภาพรวมป 2555 คาเฉลี่ยของนักวิเคราะห<br />

คาดการณวากําไรนาจะอยูที่ 8.92 ลานลานวอน<br />

แนวโน้มปี 2556 ยังเติบโตต่อเนื่อง<br />

คาดวายอดขายรถยนตในงวด 4Q55 จะอยูที่ 1.13 ลานคัน และ<br />

ทําใหยอดรวมป 2555 ปดไดที่ 4.34 ลานคัน สําหรับทิศทางผล<br />

ประกอบการในป 2556 คาดวาจะสามารถเติบโตตอเนื่อง โดยมี<br />

แรงผลักดันจากทั้งปริมาณการขาย และ ราคาขายเฉลี่ยที่ปรับ<br />

สูงขึ้น โดยในสวนของปริมาณการขาย ผูบริหาร Hyundai กําหนด<br />

เปาหมายที่ประมาณ 4.6 ลานคัน ทั้งนี้สนับสนุนดวย กําลังการ<br />

ผลิตที่เพิ่มขึ้นมากกวา 3 แสนคันจากโรงงานในประเทศจีน และ 1<br />

แสนคันจากตุรกี ในดานของราคาขายเฉลี่ย คาดวาจะปรับสูงขึ้น<br />

จากแผนการออกรถยนต Model ใหมๆ เพิ่มขึ้น ตามแผนอยูที่ 6<br />

800<br />

400<br />

-<br />

Models เทียบกับ 4 Models ในป 2555 ซึ่งจะทําใหจํานวน Models<br />

รถยนตของ Hyundai เพิ่มขึ้นเปน 40 Models ณ สิ้นป 2556 ซึ่งการ<br />

เปดตัวรถยนต Models ใหมเพิ่มขึ้น จะสงผลทําใหราคาขายเฉลี่ย<br />

ปรับสูงขึ้นตามไปดวย อีกปจจัยหนึ่งซึ่งมีสวนทําใหยอดขายรถยนต<br />

ของ Hyundai ไดรับผลบวกไดแก เหตุการณความขัดแยงระหวางจีน<br />

กับญี่ปุน เกี่ยวกับเกาะเตียวหยู ซึ่งกอใหเกิดปรากฎการณ Anti<br />

Japanese products สงผลใหรถยนตของ Hyundai ขายดียิ่งขึ้นอีก<br />

และลาสุด Hyundai ไดเปดโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นเปนแหงที่ 3 เพื่อ<br />

รองรับ Demand ดังกลาว และปรากฎการณตอตานสินคาญี่ปุนจะ<br />

ยังคงมีในจีนอยางตอเนื่องโดยไมมีทีทาวาจะเบาบางลงในเร็ววันนี้<br />

ราคาหุ้นมี Upside กว่า 47%<br />

ราคาปจจุบันอยูที่ KRW 224,000 (18 ธ.ค. 55) มีคา PER 6.5 เทา<br />

และ PBV 1.31 เทา และมี Upside 47.32% จากราคาเปาหมาย<br />

สูงสุดที่นักวิเคราะหทําไว KRW 330,000 เราแนะนํา ซื้อ Hyundai<br />

โดยเห็นวายอดขายมีแนวโนมปรับตัวสูงขึ้นตอเนื่องทั้งในสหรัฐฯ, จีน<br />

และประเทศในกลุม BRIC (เนนหลักที่จีน) ซึ่งจะสงผลทําใหกําไร<br />

เติบโตอยางมีเสถียรภาพ<br />

Firm Name<br />

ราคาเป้าหมายของนักวิเคราะห์ในรอบเดือนที่ผ่านมา<br />

Tgt Px Date<br />

Samsung Securities 265000 12/17/12<br />

Daiwa Securities Co. Ltd. 310000 12/17/12<br />

KB Investment & Securities Co., Ltd 330000 12/17/12<br />

E*Trade Securities Korea 330000 12/14/12<br />

Standard Chartered 300000 12/13/12<br />

Nomura 320000 12/12/12<br />

Credit Suisse 287000 12/11/12<br />

LIG Investment Securities 310000 12/06/12<br />

NH Investment & Securities 330000 12/04/12<br />

Eugene Investment & Securities Co., Ltd. 300000 12/04/12<br />

KTB Securities 250000 12/04/12<br />

Hanwha Securities Co., Ltd 313000 12/04/12<br />

ที่มา: Bloomberg<br />

ความเสี่ยง<br />

Average 303750<br />

High 330000<br />

Low 250000<br />

ความเสี่ยงหลักของรายไดสําหรับ Hyundai ไดแก อัตราแลกเปลี่ยน<br />

ที่ผันผวน และระดับการแขงขันในตลาดรถยนตที่รุนแรงขึ้น<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 109


ราคาผลิตภัณฑ์ที่สําคัญ<br />

1 ราคาน้ํามันดิบ 2 ราคาเอทิลีน และโพรพิลีน<br />

แนวโนมราคาน้ํามันดิบในระยะ 1-3 เดือนขางหนา คาดวาจะยังทรงตัวไดใน<br />

ระดับใกลเคียงกับปจจุบัน โดยมีปจจัยหนุนจากความตองการที่คาดวาจะ<br />

ทยอยฟนตัวตามเศรษฐกิจโลก อีกทั้งปญหา Supply ในกลุมตะวันออกกลาง<br />

ยังถือเปนปจจัยหนุนราคาน้ํามันที่สําคัญ<br />

เหรียญฯ/บารเรล Nymex = 89.65 (+1.62)<br />

130<br />

110<br />

90<br />

70<br />

50<br />

30<br />

ม.ค. 54<br />

มี.ค. 54<br />

พ.ค. 54<br />

ก.ค. 54<br />

ก.ย. 54<br />

พ.ย. 54<br />

ม.ค. 55<br />

มี.ค. 55<br />

Dubai = 105.91 (+0.83)<br />

พ.ค. 55<br />

ก.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

พ.ย. 55<br />

ม.ค. 56<br />

ราคาเอทิลีน และโพรพิลีน ลาสุดเทากับ 1,220 และ 1,255 เหรียญฯตอตัน<br />

ตามลําดับ ปรับตัวลดลง 5.1% และ 2.35% จากสิ้นงวด 3Q55 อยางไรก็ตาม<br />

คาดแนวโนมราคาในชวงที่เหลือของปยังอยูในทิศทางเชิงบวกตามความ<br />

ตองการใชที่ฟนตัวตามเศรษฐกิจของผูประกอบการ รวมถึงการกลับมาเก็บ<br />

สต็อกวัตถุดิบอีกครั้งของผูประกอบการ<br />

เหรียญฯ/<br />

2,000<br />

1,600<br />

1,200<br />

ที่มา : Bloomberg ที่มา : Datastream<br />

800<br />

400<br />

-<br />

Ethylene<br />

Propylene<br />

2550 2551 2552 2553 2554 2555 2556<br />

3 ราคา HDPE, LDPE และ LLDPE 4 ราคา PVC, EDC, Caustic Soda และ Ethylene<br />

ราคา HDPE, LDPE และ LLDPE ลาสุดเทากับ 1,390, 1,375 และ 1,400<br />

เหรียญฯตอตัน ตามลําดับ ปรับตัวลดลง 1.8%, 1.4% และ 1.8% ตามลําดับ<br />

จากสิ้นงวด 3Q55 อยางไรก็ตามคาดแนวโนมราคาในชวงที่เหลือของปจะอยู<br />

ในทิศทางเชิงบวกเนื่องจากความตองการใชผลิตภัณฑขั้นปลาย จะพลิก<br />

กลับมาเติบโตตามสถานการณเศรษฐกิจ<br />

ราคา PVC, EDC และ Caustic Soda ลาสุดเทากับ 950, 300 และ 430<br />

เหรียญฯตอตัน ตามลําดับ เปลี่ยนแปลง -7.3%, 9.1% และ 1.2% ตามลําดับ<br />

จากสิ้นงวด 3Q55 คาดราคา PVC ในชวงที่เหลือของปอยูในแนวโนมขาขึ้นตาม<br />

เศรษฐกิจ ขณะที่ตนทุนวัตถุดิบ EDC คอนขางทรงตัว<br />

เหรียญฯ/ตัน<br />

2,000<br />

1,600<br />

1,800<br />

1,500<br />

เหรียญฯ/ตัน<br />

PVC<br />

Ethylene<br />

EDC<br />

VCM<br />

1,200<br />

800<br />

400<br />

HDPE<br />

LDPE<br />

LLDPE<br />

1,200<br />

900<br />

600<br />

300<br />

-<br />

2550 2551 2552 2553 2554 2555 2556<br />

ที่มา : Datastream ที่มา : Datastream<br />

-<br />

2552 2553 2554 2555 2556<br />

5 ราคาพาราไซลีน และเบนซิน 6 ราคา PTA, PET และ MEG<br />

ราคาพาราไซลีน และเบนซิน ลาสุดเทากับ 1,653 และ 1,500 เหรียญฯตอตัน<br />

ตามลําดับ ปรับตัวสูงขึ้น 9.8% และ 20.7% จากสิ้นงวด 3Q55 สะทอนถึง<br />

ความตองการผลิตภัณฑขั้นปลายสายโพลีเอสเตอรที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมถึง<br />

Supply Bz ที่หดหายจากการใชกาซฯ เปนวัตถุดิบมากขึ้น ทั้งนี้ราคาพรอม<br />

ปรับตัวสูงขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่จะกลับมาฟนตัว<br />

2,000<br />

1,600<br />

เหรียญฯ/ตัน<br />

Paraxylene<br />

Benzene<br />

ราคา PTA, PET และ MEG ลาสุดเทากับ 1,090, 1,275 และ 1,086 เหรียญฯ<br />

ตอตัน เปลี่ยนแปลง 7.9%, -0.8% และ 0.4% ตามลําดับจากสิ้นงวด 3Q55<br />

ทั้งนี้ คาดความตองการผลิตภัณฑขั้นปลายจะพลิกกลับมาเติบโตอีกครั้ง<br />

หลังจากการใชมาตรการกระตุนเศรษฐกิจซึ่งจะเปนบวกตอกลุมฯ<br />

2,000<br />

1,600<br />

เหรียญฯ/ตัน<br />

PTA<br />

PET<br />

MEG<br />

1,200<br />

800<br />

400<br />

1,200<br />

800<br />

400<br />

-<br />

-<br />

2552 2553 2554 2555 2556<br />

2550 2551 2552 2553 2554 2555 2556<br />

ที่มา : Datastream ที่มา : Datastream<br />

110 Invest+ 1 st Quarter, 2013


7 ราคาสังกะสี 8 ราคาถ่านหิน<br />

ทิศทางราคาสังกะสีคาดวาจะทรงตัวระดับต่ําตอเนื่อง โดยมีปจจัยกดดันจาก<br />

ปริมาณสต็อกสังกะสีที่ปรับตัวสูงขึ้นทําระดับสูงสุดในรอบ 10 ปที่ผานมา<br />

ขณะที่ความตองการใชสังกะสีทั่วโลกยังคงออนแอตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่<br />

ชะลอตัว<br />

ตัน<br />

1,500,000<br />

1,000,000<br />

500,000<br />

0<br />

Stock 1,228,700 ตัน<br />

Price 2,056 เหรียญฯ/ตัน<br />

2546<br />

2547<br />

2548<br />

2549<br />

2550<br />

2551<br />

2552<br />

2553<br />

2554<br />

2555<br />

2556<br />

เหรียญฯ/ตัน<br />

5,000<br />

4,000<br />

3,000<br />

2,000<br />

1,000<br />

ที่มา : lme.co.uk ที่มา : BANPU<br />

0<br />

ราคาผลิตภัณฑ์ที่สําคัญ<br />

ราคาถานหินในชวงที่ผานมายังทรงตัวที่ระดับ 90 เหรียญฯ เนื่องจากยังถูก<br />

กดดันจากราคากาซฯในทวีปอเมริกาเหนือที่ตกต่ําจากการคนพบ shale gas<br />

แตทั้งนี้ในระยะยาวยังคงมีมุมมองเชิงบวกจากความตองการใชถานหินที่จะ<br />

กลับมาเติบโตอีกครั้งตามสถานการณเศรษฐกิจ<br />

150<br />

120<br />

90<br />

60<br />

30<br />

ม.ค. 54<br />

เหรียญฯ/ตัน<br />

มี.ค. 54<br />

พ.ค. 54<br />

ก.ค. 54<br />

ก.ย. 54<br />

พ.ย. 54<br />

BJI ณ 13 ธ.ค.55 = 92.85 เหรียญฯตอตัน<br />

9 Regional HRC price 10 ส่วนต่างราคาระหว่างเหล็กเส้นและเหล็กแท่ง<br />

ราคา HRC ในเดือน ธ.ค. เริ่มขยับขึ้นจากเดือน พ.ย. โดยราคา HRC เฉลี่ย<br />

เดือน ธ.ค. อยูที่ 557 เหรียญฯ/ตัน จากราคา 550 เหรียญฯ/ตันในเดือน พ.ย.<br />

1200<br />

900<br />

600<br />

300<br />

0<br />

เหรียญฯฯ/ตัน ธ.ค.2555<br />

Far East = 553<br />

USA = 583<br />

Latin A = 550<br />

2546<br />

2548<br />

2549<br />

2551<br />

2552<br />

2553<br />

2555<br />

ม.ค. 55<br />

Spread ระหวางเหล็กเสนและ Billet เดือน ธ.ค. อยูที่ 89 เหรียญฯ/ตัน เพิ่มขึ้น<br />

จากเดือน พ.ย. ซึ่งมี Spread อยูที่ 78 เหรียญฯ/ตัน<br />

1,400<br />

1,200<br />

1,000<br />

800<br />

600<br />

400<br />

200<br />

0<br />

ที่มา : Bloomberg ที่มา : Bloomberg<br />

2546<br />

เหรียญฯ/ตัน<br />

11 ความสัมพันธ์ระหว่างราคาเหล็กเส้นและราคาหุ้น TSTH 12 ราคาเหล็กเส้นและราคาหุ้น TSTH<br />

จากขอมูลราคา Rebar และราคาหุน TSTH ในรอบ 1 ปที่ผานมา พบ<br />

ความสัมพันธเชิงบวกระหวางราคาหุน TSTH และราคาเหล็กเสน<br />

800<br />

700<br />

600<br />

500<br />

400<br />

300<br />

Rebar Price (เหรียญฯ/ตัน)<br />

R 2 = 0.3916<br />

0.50 0.75 1.00 1.25 1.50 1.75<br />

800<br />

750<br />

700<br />

650<br />

600<br />

550<br />

500<br />

450<br />

400<br />

ราคาหุน TSTH (บาท/หุน) 350<br />

ที่มา : Bloomberg ที่มา : Bloomberg<br />

2548<br />

2549<br />

2551<br />

มี.ค. 55<br />

2552<br />

พ.ค. 55<br />

2553<br />

ก.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

2555<br />

พ.ย. 55<br />

ม.ค. 56<br />

ธ.ค.2555<br />

Rebar-Far East = 585<br />

Billet-Far East = 508<br />

ราคาหุน TSTH เคยมีความสัมพันธตรงกันขามกับราคาเหล็กเสนในชวงที่เปด<br />

การผลิตเตาถลุง Mini blast furnace อยางไรก็ตามหลัง TSTH ปดการผลิตเตา<br />

ถลุงฯ ในเดือน ส.ค. 2554 ทําใหความสัมพันธระหวางราคาหุน TSTH และ<br />

ราคาเหล็กเสน กลับมาเปนไปในทางเดียวกันอีกครั้ง<br />

เหรียญฯ/ตัน บาท/หุน<br />

พ.ค. 53<br />

ก.ค. 53<br />

ก.ย. 53<br />

พ.ย. 53<br />

ม.ค. 54<br />

มี.ค. 54<br />

พ.ค. 54<br />

ก.ค. 54<br />

ก.ย. 54<br />

พ.ย. 54<br />

ม.ค. 55<br />

มี.ค. 55<br />

พ.ค. 55<br />

ก.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

พ.ย. 55<br />

ม.ค. 56<br />

Rebar-Far East (เหรียญฯ/ตัน) ราคาหุน TSTH (บาท/หุน)<br />

3.5<br />

3.0<br />

2.5<br />

2.0<br />

1.5<br />

1.0<br />

0.5<br />

0.0<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 111


ราคาผลิตภัณฑ์ที่สําคัญ<br />

13 ความสัมพันธ์ระหว่างราคา HRC และราคาหุ้น SSI 14 ราคาเหล็กแผ่นรีดร้อนและราคาหุ้น SSI<br />

จากขอมูลราคา HRC และราคาหุน SSI ในรอบ 1 ปที่ผานมา พบ<br />

ความสัมพันธเชิงบวกระหวางราคาหุน SSI และราคาเหล็กแผนรีดรอน<br />

1000<br />

800<br />

600<br />

400<br />

200<br />

0<br />

Far East HRC Price (เหรียญฯ/ตัน)<br />

R 2 = 0.5099<br />

ราคาหุน SSI (บาท/หุน) 300<br />

0.00 0.20 0.40 0.60 0.80 1.00 1.20 1.40 1.60<br />

ที่มา : Bloomberg ที่มา : Bloomberg<br />

ราคาหุน SSI มีความสัมพันธในแนวทางเดียวกับราคาเหล็กแผนรีดรอน โดย<br />

ความสัมพันธเห็นชัดมากขึ้นตั้งแตเดือน ส.ค. 2554 เปนตนมา<br />

เหรียญฯ/ตัน บาท/หุน<br />

900<br />

800<br />

700<br />

600<br />

500<br />

400<br />

พ.ค.53<br />

ก.ค.53<br />

ก.ย.53<br />

พ.ย.53<br />

ม.ค.54<br />

มี.ค.54<br />

พ.ค.54<br />

ก.ค.54<br />

ก.ย.54<br />

พ.ย.54<br />

ม.ค.55<br />

มี.ค.55<br />

พ.ค.55<br />

ก.ค.55<br />

ก.ย.55<br />

พ.ย.55<br />

HRC-Far East (เหรียญฯ/ตัน) ราคาหุน SSI (บาท/หุน)<br />

15 ราคาไก่เป็น 16 ราคากุ้งขาว 61-70 ตัว/ก.ก.<br />

ราคาไกเปนเริ่มทยอยฟนตัวในลักษณะคอยเปนคอยไป เพื่อสะทอนตนทุน<br />

การผลิตที่แทจริง แตคาดวาราคาจะไมนาปรับตัวเพิ่มขึ้นรวดเร็วมากเกินไป<br />

เพราะยังมีกําลังการผลิตใหมๆ ที่พรอมเขามาในตลาดอีกครั้ง<br />

ราคากุงขาวจะทรงตัวระดับสูงตอเนื่องในงวด 1Q56 โดยมีปจจัยสนับสนุนจาก<br />

ชวง Low season ของอุตสาหกรรมกุงขาว ประกอบกับเกิดโรคระบาดของกุงใน<br />

ประเทศไทย จึงทําใหผลผลิตกุงขาวในประเทศออกสูตลาดคอนขางนอย<br />

ม.ค.56<br />

3.0<br />

2.5<br />

2.0<br />

1.5<br />

1.0<br />

0.5<br />

0.0<br />

บาท / กิโลกรัม<br />

60<br />

40<br />

20<br />

0<br />

ม.ค.<br />

ก.พ.<br />

มี.ค.<br />

เม.ย.<br />

พ.ค.<br />

มิ.ย.<br />

ก.ค.<br />

ส.ค.<br />

Avg 2553 = 40.13<br />

Avg 2554 = 45.03<br />

Avg 2555 = 36.47<br />

ก.ย.<br />

ต.ค.<br />

พ.ย.<br />

ธ.ค.<br />

บาท / กิโลกรัม<br />

160<br />

140<br />

120<br />

100<br />

80<br />

มี.ค. 54<br />

พ.ค. 54<br />

ก.ค. 54<br />

ก.ย. 54<br />

พ.ย. 54<br />

ม.ค. 55<br />

มี.ค. 55<br />

พ.ค. 55<br />

ก.ค. 55<br />

Avg 2553 = 121.79<br />

Avg 2554 = 135.24<br />

Avg 2555 = 128.95<br />

ก.ย. 55<br />

พ.ย. 55<br />

ม.ค. 56<br />

ที่มา : CPF และสํานักงานเศรษฐกิจการเกษตร ที่มา : องคการสะพานปลา<br />

17 ราคาปาล์ม 18 ราคายางแผ่นรมควัน<br />

ราคาน้ํามันปาลมในตลาดโลกยังคงไดรับปจจัยกดดันจากปริมาณผลผลิตใน<br />

ประเทศอินโดนีเซีย (ผูผลิตรายใหญที่สุดของโลก) ออกสูตลาดเปนจํานวน<br />

มากในป 2555-56 หลังจากที่มีการขยายพื้นที่เพาะปลูก บวกกับภูมิอากาศที่<br />

เอื้ออํานวย จึงทําใหสต็อกสินคาคงเหลือทําระดับสูงสุดเปนประวัติการณ<br />

ริงกิต/ตัน<br />

5,000<br />

4,000<br />

3,000<br />

2,000<br />

1,000<br />

ม.ค.53<br />

เม.ย.53<br />

ก.ค.53<br />

ต.ค.53<br />

ม.ค.54<br />

เม.ย.54<br />

ก.ค.54<br />

ต.ค.54<br />

ม.ค.55<br />

เม.ย.55<br />

ก.ค.55<br />

ต.ค.55<br />

ราคายางแผนรมควันจะเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น เปนผลจากมาตรการแทรกแซง<br />

ราคายางของไทย บวกกับมาตรการจํากัดโควตาสงออกของกลุมประเทศผลิต<br />

ยางรายใหญของโลก จึงทําใหปริมาณ Supply ของยางโลกเขาสูระดับใกลเคียง<br />

กับความตองการใชยาง<br />

200<br />

150<br />

100<br />

50<br />

0<br />

บาท / กิโลกรัม<br />

ม.ค. 53<br />

มี.ค. 53<br />

พ.ค. 53<br />

ก.ค. 53<br />

ที่มา : Bloomberg ที่มา : สถาบันวิจัยยาง<br />

RSS3 ธ.ค.55 = 93.29<br />

STR20 ธ.ค.55 = 87.34<br />

ก.ย. 53<br />

พ.ย. 53<br />

ม.ค. 54<br />

มี.ค. 54<br />

พ.ค. 54<br />

ก.ค. 54<br />

ก.ย. 54<br />

พ.ย. 54<br />

ม.ค. 55<br />

มี.ค. 55<br />

พ.ค. 55<br />

ก.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

พ.ย. 55<br />

ม.ค. 56<br />

112 Invest+ 1 st Quarter, 2013


19 ความสัมพันธ์ระหว่างอัตราค่าระวาง กับ BDI 20 ดัชนีค่าระวางเรือ BDI<br />

BDI มีความสัมพันธกับอัตราคาระวางของ TTA สูงถึง 77% แตมี<br />

ความสัมพันธกับอัตราคาระวางของ PSL นอยมาก<br />

30,000<br />

25,000<br />

20,000<br />

15,000<br />

10,000<br />

5,000<br />

0<br />

y = 1.6268x + 7953.3<br />

R 2 = 0.7748<br />

TTA<br />

y = 0.4756x + 11037<br />

R 2 = 0.2963<br />

PSL<br />

0 2,000 4,000 6,000 8,000 10,000 12,000<br />

ราคาผลิตภัณฑ์ที่สําคัญ<br />

เศรษฐกิจโลกที่ยังชะลอตัว คาดวาจะกดดันใหดัชนี BDI ยังมีแนวโนมแกวงตัว<br />

ในชวงแคบ<br />

2,500<br />

2,000<br />

1,500<br />

1,000<br />

ที่มา : Bloomberg ที่มา : Bloomberg<br />

500<br />

0<br />

จุด<br />

19/12/55 = 720 (-23)<br />

ก.ย. 54<br />

ต.ค. 54<br />

พ.ย. 54<br />

ธ.ค. 54<br />

ม.ค. 55<br />

ก.พ. 55<br />

มี.ค. 55<br />

เม.ย. 55<br />

พ.ค. 55<br />

มิ.ย. 55<br />

ก.ค. 55<br />

ส.ค. 55<br />

ต.ค. 55<br />

พ.ย. 55<br />

ธ.ค. 55<br />

ม.ค. 56<br />

21 Baltic Dry และรายได้ค่าระวางของ TTA 22 Baltic Dry และรายได้ค่าระวางของ PSL<br />

แมดัชนี BDI ปรับขึ้นจากไตรมาสกอน แตผลกระทบจากชวงนอกฤดูกาลของ<br />

บริษัทยอยเมอรเมด คาดจะฉุดให TTA ยังประสบภาวะขาดทุน<br />

2,500 จุด เหรียญฯ/ลํา/วัน 11,500<br />

11,272<br />

11,105<br />

2,000<br />

11,000<br />

10,500<br />

1,500<br />

10,284<br />

9,912<br />

10,000<br />

1,000<br />

9,515<br />

9,500<br />

500<br />

9,000<br />

0<br />

ก.ย. 54<br />

ต.ค. 54<br />

พ.ย. 54<br />

ธ.ค. 54<br />

ม.ค. 55<br />

ก.พ. 55<br />

มี.ค. 55<br />

เม.ย. 55<br />

พ.ค. 55<br />

มิ.ย. 55<br />

ก.ค. 55<br />

ส.ค. 55<br />

ต.ค. 55<br />

พ.ย. 55<br />

ธ.ค. 55<br />

ม.ค. 56<br />

Baltic Dry Index<br />

รายไดคาระวาง TTA<br />

ที่มา : Bloomberg ที่มา : Bloomberg<br />

8,500<br />

ดัชนี BDI ที่ทรงตัวในระดับต่ํา ทําใหคาดยังเห็นขาดทุนปกติของ PSL ในงวด<br />

4Q55 แตกําไรพิเศษจากการขายสัญญาตอเรือ ชวยใหมีกําไรสุทธิในงวด 4Q55<br />

2,500<br />

2,000<br />

1,500<br />

1,000<br />

500<br />

0<br />

10,455<br />

9,922<br />

8,314<br />

9,130<br />

7,957<br />

ก.ย. 54<br />

ต.ค. 54<br />

พ.ย. 54<br />

ธ.ค. 54<br />

ม.ค. 55<br />

ก.พ. 55<br />

มี.ค. 55<br />

เม.ย. 55<br />

พ.ค. 55<br />

มิ.ย. 55<br />

ก.ค. 55<br />

ส.ค. 55<br />

ต.ค. 55<br />

พ.ย. 55<br />

ธ.ค. 55<br />

ม.ค. 56<br />

Baltic Dry Index<br />

เหรียญฯ/ลํา/วัน<br />

รายไดคาระวาง PSL<br />

23 ค่าการกลั่นของสิงคโปร์ 24 ราคาขายปลีกน้ํามันสําเร็จรูปตลาดสิงคโปร์<br />

คาการกลั่นของสิงคโปรออนตัวลงจากสิ้นงวด 3Q55 เฉลี่ยอยูที่ระดับ 6-7<br />

เหรียญฯ/บารเรล เนื่องจากโรงกลั่นหลายแหงในทวีปเริ่มกลับมาเดินเครื่อง<br />

ปกติ หลังจากหยุด Shutdown ไปในชวง 3Q55 จึงทําให Supply โดยรวม<br />

เพิ่มขึ้น อยางไรก็ตามคาดในงวด 1Q56 ความตองการใชที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น<br />

ตามฤดูกาล นาจะยังเปนปจจัยหนุน GRM ไดอีกครั้ง<br />

20<br />

15<br />

10<br />

5<br />

0<br />

ม.ค.<br />

เหรียญฯ/บารเรล<br />

ก.พ.<br />

มี.ค.<br />

เม.ย.<br />

พ.ค.<br />

มิ.ย.<br />

ก.ค.<br />

ส.ค.<br />

ก.ย.<br />

Avg 2553 = 4.59<br />

Avg 2554 = 8.3<br />

Avg 2555 = 7.56<br />

ต.ค.<br />

พ.ย.<br />

ธ.ค.<br />

จุด<br />

12,000<br />

10,000<br />

8,000<br />

6,000<br />

4,000<br />

2,000<br />

ราคาขายปลีกน้ํามันสําเร็จรูปปรับตัวลดลงตามทิศทางราคาน้ํามันดิบรวม ถึง<br />

ความตองการใชน้ํามันสําเร็จรูปที่ออนตัวลง ทั้งนี้คาดแนวโนมราคาน้ํามัน<br />

สําเร็จรูปโดยเฉพาะราคาน้ํามันดีเซลจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในชวง 1Q56 เพราะจะ<br />

เปนชวงฤดูหนาวในหลายทวีปทั่วโลก<br />

เหรียญฯ/บารเรล<br />

180<br />

150<br />

120<br />

90<br />

60<br />

30<br />

0<br />

ที่มา : APEX ที่มา : TOP<br />

ม.ค. 54<br />

มี.ค. 54<br />

พ.ค. 54<br />

ก.ค. 54<br />

ก.ย. 54<br />

เบนซินพิเศษไรสารตะกั่ว = 117.68<br />

ดีเซลหมุนเร็ว = 122.52<br />

น้ํามันเตา = 96.01<br />

พ.ย. 54<br />

ม.ค. 55<br />

มี.ค. 55<br />

พ.ค. 55<br />

ก.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

พ.ย. 55<br />

0<br />

ม.ค. 56<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 113


เศรษฐกิจมหภาค<br />

1 ดุลการค้าและดุลบริการ 2 ดุลบัญชีเดินสะพัด<br />

ดุลการคาในเดือน ต.ค. 2555 กลับมามียอดขาดดุลเพียงเล็กนอย จากที่กอน<br />

หนานี้มียอดเกินดุลตอเนื่อง 5 เดือน (เม.ย.-ส.ค.) ขณะที่ดุลบริการมีแนวโนม<br />

ฟนตัวในระยะตอไป จากที่เขาสูฤดูกาลทองเที่ยว<br />

6,000<br />

4,000<br />

2,000<br />

0<br />

-2,000<br />

-4,000<br />

ม.ค. 52<br />

ลานเหรียญฯ<br />

เม.ย. 52<br />

ก.ค. 52<br />

ต.ค. 52<br />

ม.ค. 53<br />

เม.ย. 53<br />

ก.ค. 53<br />

ต.ค. 53<br />

ม.ค. 54<br />

ดุลการคา ต.ค.55 = -145.6<br />

ดุลบริการ ต.ค.55 = -53.81<br />

เม.ย. 54<br />

ก.ค. 54<br />

ต.ค. 54<br />

ม.ค. 55<br />

เม.ย. 55<br />

ก.ค. 55<br />

ต.ค. 55<br />

ดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน ต.ค. กลับมาเกินดุลที่ 199.42 ลานเหรียญฯ จากการ<br />

ขาดดุลทั้งภาคการคาและบริการ<br />

5,000<br />

4,000<br />

3,000<br />

2,000<br />

1,000<br />

0<br />

-1,000<br />

-2,000<br />

ที่มา : ธปท. ที่มา : ธปท.<br />

ลานเหรียญฯ ดุลบัญชีเดินสะพัด ต.ค.55 = -199.42<br />

ม.ค. 52<br />

เม.ย. 52<br />

ก.ค. 52<br />

ต.ค. 52<br />

ม.ค. 53<br />

เม.ย. 53<br />

ก.ค. 53<br />

ต.ค. 53<br />

ม.ค. 54<br />

เม.ย. 54<br />

ก.ค. 54<br />

ต.ค. 54<br />

ม.ค. 55<br />

เม.ย. 55<br />

ก.ค. 55<br />

ต.ค. 55<br />

3 ราคาขายปลีกน้ํามันเทียบอัตราเงินเฟ้อ 4 ดัชนีราคาผู้ผลิต และดัชนีราคาผู้บริโภค<br />

เดือน ธ.ค. ราคาเฉลี่ยของน้ํามันเบนซินออกเทน 91 และดีเซลหมุนเร็ว ยังคง<br />

ทรงตัวที่ระดับเดิมเทียบกับเดือนกอนหนา อยางไรก็ตามความตองการใช<br />

น้ํามันอาจเพิ่มขึ้น เนื่องจากปจจุบันเปนชวงฤดูหนาว<br />

บาท/ลิตร<br />

50<br />

40<br />

30<br />

20<br />

10<br />

0<br />

เบนซินออกเทน91 avg ธ.ค.55 = 37.33<br />

ดีเซลหมุนเร็ว avg ธ.ค.55 = 31.88<br />

CPI (แกนขวา) พ.ย.55 = 2.74<br />

ก.พ.52<br />

เม.ย.52<br />

มิ.ย.52<br />

ส.ค.52<br />

ต.ค.52<br />

ธ.ค.52<br />

ก.พ.53<br />

เม.ย.53<br />

มิ.ย.53<br />

ส.ค.53<br />

ต.ค.53<br />

ธ.ค.53<br />

ก.พ.54<br />

เม.ย.54<br />

มิ.ย.54<br />

ส.ค.54<br />

ต.ค.54<br />

ธ.ค.54<br />

ก.พ.55<br />

เม.ย.55<br />

มิ.ย.55<br />

ส.ค.55<br />

ต.ค.55<br />

ธ.ค.55<br />

ที่มา : สํานักงานนโยบายและแผนพลังงาน ที่มา : สํานักดัชนีเศรษฐกิจการคา<br />

6<br />

4<br />

2<br />

0<br />

-2<br />

-4<br />

-6<br />

ดัชนีราคาผูผลิตและดัชนีราคาผูบริโภคเดือน พ.ย. อยูในระดับใกลเคียงกับ<br />

เดือนกอนหนา โดยอยูที่ 139.2 และ 116.41 ตามลําดับ<br />

5 ดัชนีความเชื่อมั่น 6 การใช้บริการบัตรเครดิต<br />

ดัชนีความเชื่อของผูบริโภคเดือน ส.ค. อยูที่ 77.9 เพิ่มขึ้นจากชวงเดียวกันป<br />

กอนหนาถึง 11.4% จากความกังวลวาเศรษฐกิจโลกชะลอตัวเริ่มผอนคลาย<br />

รวมถึงเหตุการณอุทกภัยของไทยในป 2554 ซึ่งกดดัชนีความเชื่อมั่นฯใหต่ํา<br />

กวาปกติ<br />

จุด<br />

90<br />

85<br />

80<br />

75<br />

70<br />

65<br />

60<br />

ดัชนีความเชื่อมั่นของผูบริโภค พ.ย. = 79.1<br />

%YoY = 11.4<br />

มี.ค. 52<br />

พ.ค. 52<br />

ก.ค. 52<br />

ก.ย. 52<br />

พ.ย. 52<br />

ม.ค. 53<br />

มี.ค. 53<br />

พ.ค. 53<br />

ก.ค. 53<br />

ก.ย. 53<br />

พ.ย. 53<br />

ม.ค. 54<br />

มี.ค. 54<br />

พ.ค. 54<br />

ก.ค. 54<br />

ก.ย. 54<br />

พ.ย. 54<br />

ม.ค. 55<br />

มี.ค. 55<br />

พ.ค. 55<br />

ก.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

พ.ย. 55<br />

ที่มา : หอการคาไทย ที่มา : ธปท.<br />

%<br />

15<br />

10<br />

5<br />

0<br />

-5<br />

-10<br />

-15<br />

200<br />

150<br />

100<br />

-<br />

50<br />

ดัชนีราคาผูผลิต (PPI) พ.ย.55 = 139.2<br />

ดัชนีราคาผูบริโภค (CPI) พ.ย.55 = 116.41<br />

ม.ค. 52<br />

มี.ค. 52<br />

พ.ค. 52<br />

ก.ค. 52<br />

ก.ย. 52<br />

พ.ย. 52<br />

ม.ค. 53<br />

มี.ค. 53<br />

พ.ค. 53<br />

ก.ค. 53<br />

ก.ย. 53<br />

พ.ย. 53<br />

ม.ค. 54<br />

มี.ค. 54<br />

พ.ค. 54<br />

ก.ค. 54<br />

ก.ย. 54<br />

พ.ย. 54<br />

ม.ค. 55<br />

มี.ค. 55<br />

พ.ค. 55<br />

ก.ค. 55<br />

ก.ย. 55<br />

พ.ย. 55<br />

ปริมาณการใชจายผานบัตรเครดิตเดือน ก.ค. อยูที่ระดับ 133.8 เพิ่มขึ้น 18.9%<br />

mom สวนหนึ่งมาจากนโยบายการออกบัตรเครดิตที่ เริ่มตน 3 เม.ย. 2555 โดยได<br />

มอบใหเกษตรกรไปแลว 7 แสนใบ มียอดใชซื้อปจจัยการผลิตรวม 2 พันลานบาท<br />

พันลานบาท %<br />

160<br />

การใชจายผานบัตรรวม ต.ค.55 = 133.8 60<br />

140<br />

% MoM = 18.9<br />

50<br />

120<br />

40<br />

30<br />

100<br />

20<br />

80<br />

10<br />

60<br />

0<br />

40<br />

-10<br />

20<br />

-20<br />

0<br />

-30<br />

ม.ค. 52<br />

เม.ย. 52<br />

ก.ค. 52<br />

ต.ค. 52<br />

ม.ค. 53<br />

เม.ย. 53<br />

ก.ค. 53<br />

ต.ค. 53<br />

ม.ค. 54<br />

เม.ย. 54<br />

ก.ค. 54<br />

ต.ค. 54<br />

ม.ค. 55<br />

เม.ย. 55<br />

ก.ค. 55<br />

ต.ค. 55<br />

114 Invest+ 1 st Quarter, 2013


7 GDP ภาคเกษตรและนอกภาคเกษตร 8 การใช้จ่ายของภาคครัวเรือน<br />

งวด 3Q55 GDP เติบโต 3%yoy โดยมาการเติบโตมาจากภาคนอกเกษตร<br />

2.7%yoy ในขณะที่ภาคเกษตรเติบโตเพียง 8.6%yoy ฝายวิจัยประเมินวา<br />

เศรษฐกิจไทยทั้งปจะขยายตัวอยูที่ 4.4%<br />

%<br />

ภาคนอกเกษตร 3Q55 = 2.7<br />

%<br />

ภาคเกษตร 3Q55 = 8.6<br />

30<br />

GDP (แกนขวา) 3Q55 = 3.0 15<br />

20<br />

10<br />

0<br />

-10<br />

3Q43<br />

1Q44<br />

3Q44<br />

1Q45<br />

3Q45<br />

1Q46<br />

3Q46<br />

1Q47<br />

3Q47<br />

1Q48<br />

3Q48<br />

1Q49<br />

3Q49<br />

1Q50<br />

3Q50<br />

1Q51<br />

3Q51<br />

1Q52<br />

3Q52<br />

1Q53<br />

3Q53<br />

1Q54<br />

3Q54<br />

1Q55<br />

3Q55<br />

ที่มา : สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ ที่มา : ธปท.<br />

10<br />

5<br />

0<br />

-5<br />

-10<br />

เศรษฐกิจมหภาค<br />

ดัชนีการใชจายของภาคครัวเรือน เดือน ต.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้นราว 7.8%yoy<br />

เนื่องจากกําลังซื้อที่มากขึ้นของประชาชนซึ่งเปนผลตอเนื่องจากมาตรการเพิ่ม<br />

คาแรงขั้นต่ํา 300 บาทตอวัน ที่มีผลใน กทม.และปริมณฑล รวมถึงจากฐานป<br />

กอนหนาอยูในระดับต่ํา<br />

15%<br />

10%<br />

5%<br />

0%<br />

-5%<br />

-10%<br />

การใชจายภาคครัวเรือน ต.ค.55 = 7.8%<br />

ต.ค. 49<br />

ก.พ. 50<br />

มิ.ย. 50<br />

ต.ค. 50<br />

ก.พ. 51<br />

มิ.ย. 51<br />

ต.ค. 51<br />

ก.พ. 52<br />

มิ.ย. 52<br />

ต.ค. 52<br />

ก.พ. 53<br />

มิ.ย. 53<br />

ต.ค. 53<br />

ก.พ. 54<br />

มิ.ย. 54<br />

ต.ค. 54<br />

ก.พ. 55<br />

มิ.ย. 55<br />

ต.ค. 55<br />

9 การลงทุนรวม 10 รายจ่ายเพื่ออุปโภคของภาครัฐบาล<br />

มูลคาการลงทุนรวมเพิ่มขึ้น 15.5%yoy งวด 3Q55 สูระดับ 297,435 ลาน<br />

บาท จากแรงหนุนของมาตรการกระตุนเศรษฐกิจของรัฐและแผนการลงทุน<br />

ของภาคเอกชน<br />

ลานบาท %<br />

350,000<br />

มูลคาการลงทุนรวม 3Q55 = 297,435 30<br />

% YoY = 15.5<br />

300,000<br />

20<br />

250,000<br />

200,000<br />

10<br />

150,000<br />

100,000<br />

50,000<br />

0<br />

3Q45<br />

1Q46<br />

3Q46<br />

1Q47<br />

3Q47<br />

1Q48<br />

3Q48<br />

1Q49<br />

3Q49<br />

1Q50<br />

3Q50<br />

1Q51<br />

3Q51<br />

1Q52<br />

3Q52<br />

1Q53<br />

3Q53<br />

1Q54<br />

3Q54<br />

1Q55<br />

3Q55<br />

0<br />

-10<br />

-20<br />

รายจายเงินเดือนคาจางงวด 3Q55 ปรับขึ้น 7.2%yoy เนื่องจากนโยบายปรับ<br />

ขึ้นเงินเดือนขาราชการ ขณะที่คาซื้อสินคาและบริการปรับขึ้น 15.8%yoy<br />

300,000<br />

250,000<br />

200,000<br />

150,000<br />

100,000<br />

50,000<br />

0<br />

ลานบาท<br />

เงินเดือนคาจาง 3Q55 = 264,565<br />

คาซื้อสินคาและบริการ 3Q55 = 174,073<br />

3Q43<br />

1Q44<br />

3Q44<br />

1Q45<br />

3Q45<br />

1Q46<br />

3Q46<br />

1Q47<br />

3Q47<br />

1Q48<br />

3Q48<br />

1Q49<br />

3Q49<br />

1Q50<br />

3Q50<br />

1Q51<br />

3Q51<br />

1Q52<br />

3Q52<br />

1Q53<br />

3Q53<br />

1Q54<br />

3Q54<br />

1Q55<br />

3Q55<br />

ที่มา : สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ ที่มา : สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ<br />

11 การลงทุนของภาคเอกชน 12 การลงทุนของภาครัฐบาล<br />

การลงทุนของภาคเอกชนงวด 3Q55 เพิ่มขึ้น 13.2%yoy โดยมาจากขยายตัว<br />

ดานการลงทุนในเครื่องจักร 18.1%yoy เพื่อทดแทนเครื่องจักรที่ไดรับความ<br />

เสียหายจากอุทกภัยป 2554<br />

การลงทุนภาครัฐงวด 3Q55 อยูที่ระดับ 73,155 ลานบาท เพิ่มขึ้น 13.2%yoy<br />

ตามการเบิกจายงบประมาณเพื่อการบริหารจัดการน้ําระยะยาวของรัฐ<br />

40<br />

20<br />

0<br />

%<br />

เครื่องจักร 3Q55 = 18.1<br />

กอสราง 3Q55 = 10.6<br />

รวม (rhs) = 13.2<br />

% 30<br />

20<br />

10<br />

0<br />

ลานบาท %<br />

100,000<br />

ภาครัฐ 3Q55 = 73,155<br />

30<br />

% YoY = 13.2<br />

80,000<br />

20<br />

60,000<br />

40,000<br />

10<br />

0<br />

-20<br />

-10<br />

20,000<br />

-10<br />

-40<br />

3Q45<br />

1Q46<br />

3Q46<br />

1Q47<br />

3Q47<br />

1Q48<br />

3Q48<br />

1Q49<br />

3Q49<br />

1Q50<br />

3Q50<br />

1Q51<br />

3Q51<br />

1Q52<br />

3Q52<br />

1Q53<br />

3Q53<br />

1Q54<br />

3Q54<br />

1Q55<br />

3Q55<br />

-20<br />

0<br />

3Q45<br />

1Q46<br />

3Q46<br />

1Q47<br />

3Q47<br />

1Q48<br />

3Q48<br />

1Q49<br />

3Q49<br />

1Q50<br />

3Q50<br />

1Q51<br />

3Q51<br />

1Q52<br />

3Q52<br />

1Q53<br />

3Q53<br />

1Q54<br />

3Q54<br />

1Q55<br />

3Q55<br />

ที่มา : สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ ที่มา : สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ<br />

-20<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 115


เศรษฐกิจมหภาค<br />

13 งบโฆษณา 14 สถิตินักท่องเที่ยว<br />

เม็ดเงินโฆษณางวด 11 เดือนแรกของปนี้ เติบโต 11.4%YoY คาดทั้งป 2555<br />

เติบโตเกิน 12% เพราะฐานที่ต่ําใน ธ.ค. 2554 จากเหตุการณน้ําทวม ขณะที่<br />

เศรษฐกิจในป 2556 มีแนวโนมเติบโตนอยกวาปนี้ กดดันใหเม็ดเงินโฆษณาป<br />

2556 เติบโตต่ํากวา 10%<br />

100<br />

80<br />

60<br />

40<br />

20<br />

0<br />

MEDIA Index<br />

MEDIA Index 3Q55 = 85.92<br />

ADEX growth (%YoY) = 10.3<br />

3Q47<br />

4Q47<br />

1Q48<br />

2Q48<br />

3Q48<br />

4Q48<br />

1Q49<br />

2Q49<br />

3Q49<br />

4Q49<br />

1Q50<br />

2Q50<br />

3Q50<br />

4Q50<br />

1Q51<br />

2Q51<br />

3Q51<br />

4Q51<br />

1Q52<br />

2Q52<br />

3Q52<br />

4Q52<br />

1Q53<br />

2Q53<br />

3Q53<br />

4Q53<br />

1Q54<br />

2Q54<br />

3Q54<br />

4Q54<br />

1Q55<br />

2Q55<br />

3Q55<br />

ที่มา : ตลท., AC Nielsen ที่มา : ททท.<br />

15 ตารางเหตุการณ์ในเดือน ม.ค. – มี.ค. 2556<br />

วัน/เดือน/ป<br />

เหตุการณ<br />

9 มกราคม 2556 ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของ ธปท.<br />

10 มกราคม 2556 ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB)<br />

24 มกราคม 2556 ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB)<br />

29-30 มกราคม 2556 ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC)<br />

7 กุมภาพันธ 2556 ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB)<br />

18 กุมภาพันธ 2556 แถลงขาวตัวเลขเศรษฐกิจ ประจําไตรมาส 4/2555<br />

20 กุมภาพันธ 2556 ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของ ธปท.<br />

21 กุมภาพันธ 2556 ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB)<br />

7 มีนาคม 2556 ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB)<br />

19-20 มีนาคม 2556 ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC)<br />

20%<br />

10%<br />

0%<br />

-10%<br />

-20%<br />

จํานวนนักทองเที่ยวตางชาติที่เดินทางเขามาในไทย งวด 11M55 ยังเติบโต<br />

13.6%YoY อยูที่ 19.76 ลานคน คาดทั้งป 2555 มีนักทองเที่ยวตางชาติ 21.9<br />

ลานคน เพิ่มขึ้น 14%YoY<br />

2,500<br />

2,000<br />

1,500<br />

1,000<br />

500<br />

0<br />

พันคน<br />

ก.พ. 52<br />

พ.ค. 52<br />

ส.ค. 52<br />

พ.ย. 52<br />

ก.พ. 53<br />

จํานวนนักทองเที่ยวชาวตางชาติ<br />

พ.ย.55 = 2,074 พันคน<br />

%yoy = 60.6%<br />

พ.ค. 53<br />

ส.ค. 53<br />

พ.ย. 53<br />

ก.พ. 54<br />

พ.ค. 54<br />

ส.ค. 54<br />

พ.ย. 54<br />

ก.พ. 55<br />

พ.ค. 55<br />

ส.ค. 55<br />

พ.ย. 55<br />

80%<br />

60%<br />

40%<br />

20%<br />

0%<br />

-20%<br />

-40%<br />

116 Invest+ 1 st Quarter, 2013


สถิติหลักทรัพย์<br />

1 SET Index PER Band 2 ความสัมพันธ์ระหว่าง Yield Gap กับ SET Index<br />

งวด 4Q55 สวนใหญ SET Index เคลื่อนไหวบริเวณ PER 15 เทา ซึ่งถือเปน<br />

ระดับสูงกวาปกติ แนะนําใหเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น<br />

10,000<br />

1,000<br />

100<br />

2544<br />

SET Index<br />

2545<br />

* ยกเวนกลุมฟนฟูฯ<br />

2546<br />

2547<br />

2548<br />

2549<br />

2550<br />

2551<br />

2552<br />

2553<br />

2554<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong> ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

2555<br />

2556<br />

2557<br />

16x<br />

14x<br />

12x<br />

10x<br />

8x<br />

Earning Yield Gap ยังคงอยูที่บริเวณ 4% ซึ่งต่ํากวาคาเฉลี่ยชวงป 2547 –<br />

ปจจุบัน อาจใหเม็ดเงินลงทุนไหลเขาตราสารหนี้มากกวาตลาดทุน<br />

10%<br />

9%<br />

8%<br />

7%<br />

6%<br />

5%<br />

4%<br />

3%<br />

2%<br />

1%<br />

0%<br />

Yield Gap (Earning Yield - Thai Bond 1 Yr.)<br />

Yield Gap เฉลี่ยตั้งแตป 2547 - ปจจุบัน เทากับ 5.2%<br />

SET(RHS)<br />

5/1/2004<br />

3/6/2004<br />

27/10/2004<br />

23/3/2005<br />

24/8/2005<br />

17/1/2006<br />

20/6/2006<br />

13/11/2006<br />

10/4/2007<br />

6/9/2007<br />

1/2/2008<br />

2/7/2008<br />

24/11/2008<br />

27/4/2009<br />

23/9/2009<br />

17/2/2010<br />

22/7/2010<br />

20/12/2010<br />

24/5/2011<br />

14/10/2011<br />

3/12/2012<br />

9/8/2012<br />

3 PER เฉลี่ยของหุ้นที่อยู่ใน Coverage ของฝ่ายวิจัย 4 PBV Band ของตลาด<br />

สภาพคลองที่ไหลเขามาทําใหคา PER หุนใน Coverage ปรับสูงขึ้น โดยสิ้นป<br />

2555 อยูที่14.57 เทา เทียบกับ 13.98 เทาเมื่อไตรมาสที่ผานมา<br />

Index<br />

Current Yield Gap : 3.7%<br />

SET Index ปรับตัวขึ้นมาเหนือระดับ PBV 2 เทา ซึ่งเคยเกิดขึ้นลาสุดเมื่อป<br />

2547 หลังจากนั้นก็เปนการปรับตัวลดลงมาอยูในชวง 1.5 – 2 เทา<br />

1,600<br />

1,400<br />

1,200<br />

1,000<br />

800<br />

600<br />

400<br />

200<br />

0<br />

20<br />

15<br />

10<br />

เทา<br />

11.52<br />

15.60<br />

14.47<br />

13.18<br />

15.73<br />

14.60 14.57<br />

12.69<br />

10,000<br />

1,000<br />

SET Index<br />

3.0x<br />

2.5x<br />

2.0x<br />

1.5x<br />

1.0x<br />

5<br />

-<br />

2549 2550 2551 2552 2553 2554 2555F 2556F<br />

* ยกเวนกลุมฟนฟูฯ<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong> ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

5 GDP เทียบ SET Index 6 EPS Growth & GDP Growth<br />

SET Index ปรับขึ้นเร็วกวา GDP Growth สะทอนใหเห็นวาแรงขับเคลื่อน<br />

หลักของ SET Index ชวงหลังมาจากสภาพคลองมากกวาปจจัยพื้นฐาน<br />

% yoy<br />

15<br />

10<br />

5<br />

0<br />

-5<br />

-10<br />

Real GDP growth 3Q55 = 3<br />

SET Index<br />

SET(แกนขวา) 19 ธ.ค.55 = 1,378.4<br />

2543<br />

2544<br />

2545<br />

2546<br />

2547<br />

2548<br />

2549<br />

2550<br />

2551<br />

2552<br />

2553<br />

2554<br />

2555<br />

2556<br />

1400<br />

1200<br />

1000<br />

800<br />

600<br />

400<br />

200<br />

0<br />

ที่มา : ตลท., สํานักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมแหงชาติ ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

100<br />

2544<br />

2545<br />

2546<br />

2547<br />

2548<br />

2549<br />

2550<br />

คาดการณวา GDP Growth ป 2556 นาจะอยูที่ 4% ลดลงจาก 4.4% ในป<br />

2555 สวน EPS Growth นาจะอยูที่ 15% ลดลงจาก 16% ในป 2555<br />

% EPS growth<br />

%<br />

60<br />

4.9<br />

GDP growth 5.3 6<br />

4.6 5.1<br />

41.7<br />

5<br />

40<br />

31.9<br />

3.0<br />

4<br />

16.1 3<br />

2.5<br />

1.5<br />

20<br />

14.9 2<br />

1.9<br />

1<br />

0<br />

4.7<br />

0<br />

-1<br />

-20<br />

-10.7<br />

-10.2 -3.2<br />

-2<br />

-3<br />

-40<br />

-29.0<br />

-4<br />

2548 2549 2550 2551 2552 2553 2554 2555F 2556F<br />

2551<br />

2552<br />

2553<br />

2554<br />

2555<br />

2556<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 117


สถิติหลักทรัพย์<br />

7 SET Index Dividend Yield 8 จํานวนบริษัทจดทะเบียนเทียบกับบริษัทที่จ่ายเงินปันผล<br />

Dividend Yield ปรับลดลงมาต่ํากวา 3% อีกครั้ง แตอยาไรก็ตามหุนที่ให<br />

Dividend Yield เกิน 6% ขึ้นไปก็ยังหาได เฉพาะอยางยิ่ง Property Fund<br />

10,000<br />

SET Index<br />

ดวยจํานวนบริษัทจดทะเบียนที่เพิ่มขึ้น และ การเติบโตของกําไร 16%YoY คาด<br />

วาจะทําใหป 2555 มีจํานวนบริษัทที่จายเงินปนผลมากกวา 412 บริษัท<br />

800<br />

บริษัท<br />

1,000<br />

2%<br />

3%<br />

4%<br />

5%<br />

6%<br />

600<br />

400<br />

200<br />

0<br />

177 158 137 164 176 173 180 185 162<br />

221 268 329 348 354 366 364 377<br />

411<br />

165<br />

412 - 200<br />

100<br />

2544<br />

2545<br />

2546<br />

2547<br />

2548<br />

2549<br />

2550<br />

2551<br />

2552<br />

2553<br />

2554<br />

2555<br />

2556<br />

2545<br />

2546<br />

2547<br />

2548<br />

2549<br />

2550<br />

2551<br />

2552<br />

2553<br />

2554<br />

จํานวนบริษัทที่จายเงินปนผล จํานวนบริษัทที่ไมจายเงินปนผล<br />

2555<br />

ที่มา : ฝายวิจัย <strong>ASP</strong> ที่มา : รวบรวมโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

9 มูลค่าหลักทรัพย์ทั้งตลาด 10 จํานวนหลักทรัพย์กับปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน<br />

Market Cap ของตลาดหุนไทยปรับขึ้นมาเหนือมูลคา GDP ของประเทศ ซึ่ง<br />

ยอดรวม 4 ไตรมาสยอนหลังอยูที่ 10.8 ลานลานบาท<br />

13,000<br />

12,000<br />

11,000<br />

10,000<br />

9,000<br />

8,000<br />

7,000<br />

6,000<br />

5,000<br />

4,000<br />

3,000<br />

2,000<br />

1,000<br />

-<br />

พันลานบาท<br />

4,533 5,119 5,100 6,673<br />

2547<br />

2548<br />

2549<br />

2550<br />

3,590<br />

2551<br />

5,912<br />

2552<br />

8,238 8,485 11,810<br />

ที่มา : ตลท. ที่มา : ตลท.<br />

2553<br />

2554<br />

2555<br />

มูลคาการซื้อขาย และจํานวนบริษัทจดทะเบียนเพิ่มขึ้น สะทอนความแข็งแกรง<br />

ของตลาดหุนไทย ทั้งนี้ Prop Trade ก็เปนสวนหนึ่งที่ชวยเพิ่มมูลคาการซื้อขาย<br />

ลานบาท<br />

40,000<br />

30,000<br />

20,000<br />

10,000<br />

0<br />

20,508 16,281<br />

16,454<br />

2547<br />

2548<br />

2549<br />

17,097<br />

2550<br />

บริษัท<br />

28,669<br />

17,854<br />

28,854<br />

31,063 550<br />

500<br />

15,870<br />

2551<br />

2552<br />

2553<br />

2554<br />

ปริมาณซื้อขายเฉลี่ยตอวัน<br />

จํานวนหลักทรัพยใน SET (แกนขวา)<br />

11 สัดส่วนกําไรรายกลุ่ม งวด 9M55 12 Market Cap รายกลุ่ม ณ 19 ธ.ค. 2555<br />

9M55 บริษัทจดทะเบียนมีกําไรสุทธิ 5.61 แสนลานบาท เพิ่ม 7%YoY หาก<br />

จะเติบโตทั้งป 16% งวด 4Q55 ตองทํากําไรอยางนอย 1.65 แสนลานบาท<br />

2555<br />

กลุมสื่อสาร, วัสดุกอสราง, คาปลีก และอสังหาฯ มีสัดสวน Market Cap. ปรับ<br />

สูงขึ้น สะทอนภาวะการสรางผลตอบแทนที่ Outperform ตลาดชวง 4Q55<br />

450<br />

400<br />

PROP, 6%<br />

FOOD, 6%<br />

PETRO, 6%<br />

ETRON, 1%<br />

ENERG, 31%<br />

COMM<br />

9%<br />

TRANS<br />

3%<br />

FOOD<br />

6%<br />

INSURE<br />

2%<br />

Others<br />

12%<br />

ENERG<br />

21%<br />

ICT, 7%<br />

CONMAT<br />

6%<br />

CONMAT, 4%<br />

BANK, 24%<br />

PROP<br />

7%<br />

PETRO<br />

4%<br />

ICT<br />

11%<br />

BANK<br />

19%<br />

ที่มา : รวบรวมโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong> ที่มา : รวบรวมโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

118 Invest+ 1 st Quarter, 2013


สถิติหลักทรัพย์<br />

13 Top 10 gainers (บาท : หุ้น) 14 Top 10 losers (บาท : หุ้น)<br />

30 ธ.ค. 54 19 ธ.ค.55 % เปลี่ยนแปลง 30 ธ.ค. 54 19 ธ.ค.55 % เปลี่ยนแปลง<br />

TH 0.31 5.15 1561% IT 10.50 4.94 -53%<br />

UV 1.78 9.75 448% SIS 11.45 6.90 -40%<br />

TSF 0.59 3.08 422% PAF 1.66 1.08 -35%<br />

MALEE 21.60 110.00 409% GJS 0.12 0.08 -33%<br />

LIVE 0.10 0.40 300% KASET 4.96 3.32 -33%<br />

TVI 3.54 13.90 293% CHOW 2.74 1.87 -32%<br />

NEW 12.40 48.50 291% TR 71.00 50.75 -29%<br />

SFP 60.00 228.00 280% RPC 1.96 1.42 -28%<br />

BROOK 0.77 2.92 279% RICH 0.51 0.38 -25%<br />

SIMAT 1.79 6.55 266% MCS 8.80 6.40 -27%<br />

ที่มา : รวบรวมโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong> ที่มา : รวบรวมโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

15 Top 10 gainers (Sector) 16 Top 10 losers (Sector)<br />

30 ธ.ค. 54 19 ธ.ค.55 % เปลี่ยนแปลง 30 ธ.ค. 54 19 ธ.ค.55 % เปลี่ยนแปลง<br />

PROP 144.51 254.53 76% MINE 11.59 10.76 -7%<br />

COMM 16,503.43 28,946.40 75% STEEL 71.15 71.47 0%<br />

HOME 20.52 32.70 59% FASHION 705.27 708.64 0%<br />

FIN 832.63 1,321.00 59% AGRI 197.45 205.79 4%<br />

TOURISM 266.68 418.76 57% PETRO 909.99 953.18 5%<br />

MEDIA 55.50 86.82 56% ENERG 19,954.78 21,131.76 6%<br />

TRANS 85.38 128.13 50% PROF 82.11 93.74 14%<br />

ICT 121.82 182.62 50% PKG 3,347.91 3,965.02 18%<br />

HELTH 1,724.63 2,545.37 48% IMM 75.80 92.67 22%<br />

AUTO 342.57 500.29 46% PERSON 477.27 610.21 28%<br />

ที่มา : รวบรวมโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong> ที่มา : รวบรวมโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

17 การระดมทุนโดยให้สิทธิผู้ถือหุ้นเดิม (XR) 18 การระดมทุนผ่านหุ้น IPO ในแต่ละปี<br />

ราคาหุนที่เพิ่มขึ้น ทําใหมูลคาการระดมทุนผานการจัดสรรใหผูถือหุนเดิมปรับ<br />

ขึ้นมาใกล 1 แสนลานบาท แยกเปนสวนของ 4Q55 ที่ 3.45 หมื่นลานบาท<br />

110,000<br />

100,000<br />

90,000<br />

80,000<br />

70,000<br />

60,000<br />

50,000<br />

40,000<br />

30,000<br />

20,000<br />

10,000<br />

-<br />

ลานบาท<br />

61,867 54,495<br />

38,731<br />

28,278 29,511 33,161<br />

9,174<br />

2548<br />

2549<br />

2550<br />

2551<br />

2552<br />

2553<br />

2554<br />

99,619<br />

ที่มา : ตลท., ฝายวิจัย <strong>ASP</strong> ที่มา : ตลท., ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

2555<br />

การระดมทุนผาน IPO ป 2555 เพิ่มขึ้น 103.6%YoY ซึ่งในชวง 2H55 เห็นไดชัด<br />

วาหุน IPO ที่เขามาซื้อขายในตลาด สรางผลตอบแทนที่สูงกวาปกติ<br />

ลานบาท 1,355<br />

80,000<br />

70,000<br />

809<br />

60,000<br />

50,000 1,381<br />

40,000 73,115<br />

30,000<br />

57,963 370<br />

1,889<br />

20,000 44,401 764<br />

1,020<br />

16,471 26,162 1,316 689<br />

10,000<br />

10,262 11,901 8,598 17,695<br />

0<br />

2547<br />

2548<br />

2549<br />

2550<br />

SET<br />

2551<br />

2552<br />

MAI<br />

2553<br />

2554<br />

2555<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 119


สถิติหลักทรัพย์<br />

19 บริษัทที่เข้าจดทะเบียนใหม่ ปี 2555<br />

วันเริ่ม<br />

ซื้อขาย<br />

หุน หมวดธุรกิจ<br />

จํานวน<br />

IPO<br />

(ลานหุน)<br />

ราคา<br />

IPO<br />

(บาท)<br />

มูลคา IPO<br />

(ลานบาท)<br />

มูลคาตลาด ณ<br />

ราคา IPO<br />

(ลานบาท)<br />

ราคาปด<br />

19 ธ.ค. 55<br />

(บาท)<br />

เปลี่ยนแปลง<br />

จากราคา IPO<br />

(%)<br />

มูลคาตลาด<br />

19 ธ.ค. 55<br />

(ลานบาท)<br />

2555 3,760 19,584 291,994<br />

SET 3,036 17,695 281,107<br />

9 พ.ค. 55 VIH Health 135.0 1.25 169 669 3.16 152.8 533<br />

31 พ.ค. 55 AAV Transport 750.0 3.70 2,775 17,945 4.70 27.0 13,043<br />

2 ก.ค. 55 SRICHA Property 78.3 15.00 1,174 4,549 40.25 168.3 47,243<br />

21 ก.ย. 55 CPNCG Property Fund 426.6 10.30 4,394 4,394 12.80 24.3 56,248<br />

11 ต.ค. 55 VGI Medias 26.0 35.00 910 10,500 92.50 164.3 84,175<br />

8 พ.ย. 55 WHA Property 129.4 13.25 1,715 6,758 25.75 94.3 44,150<br />

27 พ.ย. 55 JMT Financial 75.0 4.00 300 1,200 11.50 187.5 3,450<br />

7 ธ.ค. 55 ANAN Property 1,333.0 4.20 5,599 13,999 3.70 -11.9 20,715<br />

12 ธ.ค. 55 BEAUTY Commerce 82.5 8.00 660 2,400 17.50 118.8 11,550<br />

MAI 724 1,889 10,888<br />

28 ก.พ. 55 PJW MAI 112.0 3.60 403 1,987 5.00 38.9 2,016<br />

12 ก.ค. 55 UWC MAI 99.5 1.80 179 630 4.16 131.1 745<br />

23 ส.ค. 55 TVD MAI 57.9 2.10 122 790 5.95 183.3 724<br />

18 ก.ย. 55 HOTPOT MAI 102.0 2.80 286 284 4.06 45.0 1,159<br />

20 ก.ย. 55 FPI MAI 63.0 3.50 221 1,033 10.90 211.4 2,403<br />

26 ก.ย. 55 PPS MAI 120.0 0.70 84 280 2.10 200.0 176<br />

26 ต.ค. 55 TMC MAI 85.0 3.90 332 1,131 7.65 96.2 2,536<br />

23 พ.ย. 55 TMILL MAI 85.0 3.10 264 884 4.28 38.1 1,128<br />

ที่มา : ตลท., ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

120 Invest+ 1 st Quarter, 2013


สถิติหลักทรัพย์<br />

20 ผลประกอบการรายอุตสาหกรรม (กําไรสุทธิ : ล้านบาท)<br />

(ลานบาท) 3Q54 4Q54 1Q55 2Q55 3Q55 2553 2554<br />

Agribusiness 1,102.07 330.80 1,085.36 216.42 1,184.63 6,900.84 5,694.13<br />

Automotive 1,069.22 -1,774.43 935.20 1,239.36 2,333.90 3,790.32 1,803.17<br />

Banking 36,450.81 20,772.33 41,360.48 44,267.57 45,443.34 108,358.88 131,077.18<br />

Commerce 5,881.57 6,796.09 8,314.76 7,448.21 7,354.76 18,972.34 24,782.92<br />

Construction Materials 16,410.14 3,844.00 8,662.27 5,922.10 9,006.25 45,834.76 43,271.17<br />

Energy & Utilities 40,088.64 37,041.50 80,367.66 14,449.89 79,628.28 196,685.36 215,585.35<br />

Electronic Components 1,700.13 -4,143.20 1,988.60 1,976.60 4,263.80 11,380.64 2,142.86<br />

Fashion 362.02 -230.34 574.98 1,275.53 1,758.13 6,716.43 5,437.19<br />

Finance & Securities 2,175.87 -1,923.43 1,374.90 1,587.30 2,178.69 6,549.02 3,675.90<br />

Food & Beverage 10,358.61 6,434.58 18,566.92 9,599.09 7,126.42 25,424.50 33,684.29<br />

Health Care Services 2,688.41 2,004.74 4,711.19 2,750.11 4,820.49 6,303.47 9,115.28<br />

Home & Office Products 595.01 343.68 557.44 499.27 358.02 2,022.34 1,829.69<br />

Industrial Materials &<br />

Machinery<br />

13,909.46 464.18 14,335.09 14,414.33 7,866.20 30,933.42 48,904.01<br />

Information & Communication<br />

Technology<br />

79.94 691.62 193.68 452.93 328.88 1,996.16 1,827.64<br />

Insurance 2,905.60 -5,377.85 -241.98 -534.74 1,800.26 9,103.32 3,802.46<br />

Media & Publishing 2,376.64 1,288.49 2,381.95 2,809.49 2,873.30 8,133.14 8,289.18<br />

Mining -6.90 -201.59 -47.07 -126.47 -157.30 -439.40 25.81<br />

Packaging 69.73 87.62 93.85 172.84 192.17 365.72 324.01<br />

Paper & Printing Materials 218.66 -166.99 328.30 337.44 219.69 873.74 583.40<br />

Personal Products &<br />

Pharmaceuticals<br />

6,156.45 -1,568.11 13,528.72 4,205.19 16,984.50 17,432.51 23,912.20<br />

Petrochemicals & Chemicals 1,741.07 1,120.42 1,446.72 2,046.73 2,203.88 5,749.25 7,887.01<br />

Professional Services 612.89 428.94 770.16 622.36 917.52 5,073.27 4,513.80<br />

Property Development 1.22 -160.27 35.12 22.02 10.93 -236.58 -164.23<br />

Property Fund 8,795.26 4,290.48 8,752.86 9,351.21 13,186.60 34,710.34 26,820.02<br />

Steel -4,634.97 -5,640.26 -3,621.25 -7,288.00 -4,647.98 -9,058.19 -4,364.75<br />

Tourism & Leisure 420.25 -740.38 979.98 -32.40 -171.13 1,108.43 749.62<br />

Transportation & Logistics 4,152.69 -4,892.77 6,903.72 12,797.64 2,834.37 20,727.84 -5,972.09<br />

SET 155,680.47 59,119.83 214,339.59 130,482.00 209,898.60 565,411.86 595,237.21<br />

MAI 1,152.39 1,070.13 1,234.01 1,535.68 1,372.27 3,514.31 4,395.76<br />

หมายเหตุ : ปรับงวดบัญชีทุกบริษัทใหเปนงวดเดียวกันคือ 1 ม.ค. – 31 ธ.ค.<br />

ที่มา : ตลท., รวบรวมโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 121


สถิติหลักทรัพย์<br />

21 ผลประกอบการ และการจ่ายเงินปันผลของหุ้นรายตัว<br />

STOCK EPS (บาท) DPS (บาท) ราคาพาร<br />

122 Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

4Q54 1Q55 2Q55 3Q55 2553 2554 2555 (บาท)<br />

1) AGRO & FODD INDUSTRY<br />

Agribusiness<br />

ASIAN 0.005 0.05 0.03 0.36 - 0.150 - 1.000<br />

CHOTI 11.97 10.55 4.82 10.61 23.700 33.900 - 10.000<br />

CM 0.04 0.07 0.20 0.15 0.350 0.140 - 1.000<br />

CPI 0.05 0.31 0.20 -0.10 0.125 0.240 - 1.000<br />

EE 0.0003 -0.0004 0.0002 0.001 - - - 1.000<br />

GFPT 0.17 -0.01 -0.01 -0.02 0.300 0.330 - 1.000<br />

LEE 0.12 0.11 0.12 0.09 0.210 0.210 - 1.000<br />

PPC 2.61 1.69 -1.22 -1.98 - - - 10.000<br />

PRG 1.17 0.13 1.93 -0.32 3.750 4.500 2.000 10.000<br />

STA -0.51 0.31 -0.34 0.62 1.250 0.500 - 1.000<br />

TLUXE 0.09 0.08 0.11 0.13 0.380 0.280 0.110 1.000<br />

TRUBB -0.10 -0.05 -0.04 -0.18 0.26667 & Stock 5:3 0.02778 & Stock 4:1 - 1.000<br />

TRS -0.03 0.13 -0.08 0.12 - - - 0.500<br />

UPOIC 0.22 0.31 0.31 0.19 0.350 1.100 0.600 1.000<br />

UVAN 3.79 2.42 2.42 3.12 4.500 9.500 2.000 5.000<br />

Food & Beverage<br />

APURE 0.02 0.05 0.04 0.03 - - - 0.700<br />

CFRESH 0.27 0.13 0.29 0.50 0.460 0.460 - 1.000<br />

CPF 0.29 1.76 0.55 0.33 1.050 1.200 0.600 1.000<br />

F&D 0.70 0.75 0.95 1.23 1.110 0.530 - 10.000<br />

HTC 0.12 0.28 0.18 0.09 0.250 0.120 - 1.000<br />

KBS 0.06 0.62 0.48 0.30 0.200 0.450 0.200 1.000<br />

KSL 0.27 0.43 0.54 0.00 0.070 0.500 - 1.000<br />

LST 0.12 0.14 0.05 0.05 0.150 0.080 - 1.000<br />

MALEE 0.30 2.53 2.43 2.48 - - 1.000 2.000<br />

MINT 0.14 0.35 0.10 0.16 0.150 0.15 & Stock 10:1 - 1.000<br />

OISHI 0.23 1.32 1.87 -0.05 3.200 2.200 1.600 2.000<br />

PB 0.60 0.39 0.46 0.51 0.685 0.910 0.430 1.000<br />

PM 0.14 0.18 0.13 0.17 0.160 0.240 0.120 1.000<br />

PR 1.18 0.87 0.89 0.90 1.305 1.680 0.880 1.000<br />

S&P 1.53 1.72 1.21 2.33 3.250 4.000 1.500 5.000<br />

SAUCE 0.42 0.49 0.40 0.38 1.050 1.220 - 1.000<br />

SFP 3.46 5.26 3.91 -6.26 - 4.000 - 10.000<br />

SORKON 1.11 3.44 0.83 1.08 1.500 3.000 - 10.000<br />

SSC -1.01 1.36 1.87 -0.45 1.250 0.750 - 1.000<br />

SSF 0.34 0.32 0.27 0.30 0.200 0.570 - 1.000<br />

TC 0.08 0.08 0.10 0.11 0.060 0.070 - 1.000<br />

TF 2.16 1.76 1.92 2.24 2.832 2.560 1.690 1.000<br />

TIPCO 0.40 0.07 0.10 0.09 - 0.120 - 1.000<br />

TUF 1.56 1.53 1.01 1.41 1.600 1.560 1.100 1.000<br />

TVO 0.07 0.38 0.69 0.85 1.500 0.900 0.800 1.000<br />

TWFP 6.22 6.18 5.79 6.05 8.000 7.000 - 10.000<br />

2) CONSUMER PRODUCTS<br />

Fashion<br />

AFC -0.42 -0.39 0.12 0.14 - - - 10.000<br />

BNC -0.06 0.03 -0.48 -0.44 - - - 10.000<br />

BTNC 0.34 -0.64 0.04 0.63 0.750 0.500 - 10.000<br />

CPH -0.17 -0.47 -0.06 0.08 - - - 10.000<br />

CPL -0.10 0.34 0.08 0.89 1.750 2.000 - 10.000<br />

ICC 0.56 0.52 1.46 0.63 1.100 1.100 - 1.000<br />

LTX -3.82 -1.56 -0.29 0.75 1.875 3.500 1.250 10.000<br />

NC 0.51 0.95 0.80 0.58 0.700 0.750 - 10.000<br />

PAF -0.34 0.00 -0.13 -0.14 - - - 5.000<br />

PG 0.31 0.41 0.36 0.20 0.600 0.600 - 1.000<br />

PRANDA 0.41 0.34 0.09 0.31 1.100 0.600 0.100 1.000<br />

SABINA -0.05 0.56 0.37 0.07 0.260 0.030 0.065 1.000<br />

SAWANG 0.25 0.01 0.09 0.24 - 0.500 - 10.000<br />

SUC 0.72 1.35 0.96 1.02 1.750 1.500 - 10.000<br />

TNL 0.50 0.77 0.61 0.51 0.850 1.100 - 1.000<br />

TPCORP -0.06 0.25 0.11 0.36 0.350 0.400 - 1.000


สถิติหลักทรัพย์<br />

21 ผลประกอบการ และการจ่ายเงินปันผลของหุ้นรายตัว<br />

STOCK EPS (บาท) DPS (บาท) ราคาพาร<br />

4Q54 1Q55 2Q55 3Q55 2553 2554 2555 (บาท)<br />

TR -0.07 1.35 0.65 1.54 1.750 2.500 0.370 1.000<br />

TTI -1.87 -0.38 -0.54 -0.41 1.000 0.500 - 10.000<br />

TTL -17.99 -3.47 15.43 37.26 1.500 2.750 2.750 10.000<br />

TTTM 0.11 4.88 5.17 14.87 3.000 3.000 1.500 10.000<br />

UPF 1.18 1.27 0.83 1.37 5.700 4.000 - 10.000<br />

UT -2.98 0.94 -1.36 -1.03 2.700 0.200 - 10.000<br />

WACOAL 0.50 0.92 1.20 0.71 2.000 2.100 - 1.000<br />

Home & Office<br />

CEI -0.01 0.002 -0.07 0.02 0.380 - - 1.000<br />

DTCI 0.40 0.38 0.70 0.06 0.500 0.500 - 10.000<br />

FANCY -0.02 -0.02 0.01 -0.09 0.230 - - 1.000<br />

IFEC 0.02 0.24 0.05 0.07 0.140 0.250 0.180 1.000<br />

KYE 7.48 5.42 13.94 3.67 14.250 15.820 - 10.000<br />

MODERN 0.11 0.10 0.13 0.15 0.500 0.450 0.200 1.000<br />

OGC 0.86 0.03 -2.94 0.62 2.210 1.350 - 10.000<br />

ROCK -6.05 7.44 0.05 -0.22 1.000 - - 10.000<br />

SIAM 0.08 0.14 0.04 0.04 0.020 0.160 0.190 1.000<br />

SITHAI 0.33 0.43 0.45 0.54 0.600 0.750 - 10.000<br />

Personal<br />

DSGT -0.19 0.28 0.37 0.10 0.43 & Stock 1:1 0.240 0.15 & Stock 2:1 1.000<br />

JCT 2.02 1.23 2.15 2.23 3.500 3.600 - 10.000<br />

OCC 0.44 0.49 0.39 0.40 0.600 0.700 - 1.000<br />

S & J 0.09 0.29 0.34 0.57 1.100 1.000 - 1.000<br />

STHAI -0.04 -0.01 -0.04 0.00 - - - 1.000<br />

TOG -0.22 0.16 0.07 -0.02 0.250 0.050 0.100 1.000<br />

3) FINANCIALS<br />

Banking<br />

BAY 0.08 0.56 0.61 0.62 0.570 0.700 0.400 10.000<br />

BBL 3.10 4.24 4.65 4.09 5.000 6.000 2.000 10.000<br />

CIMBT 0.03 0.02 0.00 0.06 - - - 0.500<br />

KBANK 1.27 3.76 3.91 3.85 2.500 2.500 0.500 10.000<br />

KK 0.97 0.91 1.29 1.38 2.400 2.400 1.000 10.000<br />

KTB 0.07 0.57 0.66 0.80 0.510 0.620 0.360 5.150<br />

LHBANK 0.01 0.01 0.02 0.01 - 0.0037 & Stock 30:1 - 1.000<br />

SCB 1.99 3.04 2.96 2.95 3.000 3.500 1.000 10.000<br />

TCAP 0.70 0.93 1.34 0.97 1.200 1.200 0.500 10.000<br />

TISCO 0.93 1.15 1.26 1.31 2.250 2.350 - 10.000<br />

TMB 0.02 0.02 0.03 0.03 0.015 0.030 - 0.950<br />

Finance & Securities<br />

AEONTS -2.08 0.81 1.15 1.47 2.100 2.100 1.150 1.000<br />

AMANAH -0.01 -0.02 0.01 0.02 - - - 1.000<br />

ASK 0.35 0.41 0.40 0.40 0.880 1.000 - 5.000<br />

<strong>ASP</strong> 0.05 0.09 0.03 0.09 0.280 0.200 0.080 1.000<br />

BFIT -0.76 0.12 0.12 0.11 0.200 0.400 - 5.000<br />

CGS 0.001 0.04 0.00 0.03 0.100 0.088 - 1.000<br />

CNS -1.58 0.56 0.50 0.83 1.700 3.100 0.500 10.000<br />

ECL 0.01 0.03 0.02 0.02 0.060 0.050 0.040 1.000<br />

FNS -0.44 -0.31 -0.29 0.08 - - - 5.000<br />

FSS -0.08 0.08 0.12 0.10 0.120 0.060 - 1.600<br />

GBX 0.01 0.003 -0.004 0.01 - 0.040 - 1.000<br />

GL 0.05 0.81 1.29 1.46 3.250 2.310 1.450 5.000<br />

IFS 0.02 0.06 0.06 0.06 0.085 0.100 - 1.000<br />

JMT 0.00 0.00 0.00 0.00 - - - 1.000<br />

KCAR 0.27 0.43 0.41 0.40 0.740 0.760 0.430 1.000<br />

KGI 0.02 0.05 0.05 0.06 0.330 0.250 - 1.000<br />

KTC -6.87 -0.60 0.33 0.51 0.450 - - 10.000<br />

MBKET 0.19 0.32 0.30 0.33 1.430 1.170 0.350 5.000<br />

MFC 0.65 0.27 0.25 0.26 2.900 2.000 - 1.000<br />

ML 0.02 0.03 0.05 0.03 - - - 0.500<br />

OSK -0.01 -0.01 -0.04 -0.03 0.020 - - 1.000<br />

PE 0.01 0.02 0.02 0.01 - - - 1.000<br />

PL 0.03 0.15 0.14 0.13 0.400 0.350 - 1.000<br />

THANI 0.01 0.06 0.07 0.11 0.03 & Stock 10:1 0.080 - 1.000<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 123


สถิติหลักทรัพย์<br />

21 ผลประกอบการ และการจ่ายเงินปันผลของหุ้นรายตัว<br />

STOCK EPS (บาท) DPS (บาท) ราคาพาร<br />

124 Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

4Q54 1Q55 2Q55 3Q55 2553 2554 2555 (บาท)<br />

TK 0.25 0.27 0.35 0.40 0.520 0.580 0.370 1.000<br />

TNITY 0.21 0.13 0.12 0.19 0.220 0.350 0.120 5.000<br />

UOBKH 0.04 0.08 0.07 0.07 0.080 0.06 & Stock 1:0.42 - 1.000<br />

US -0.03 0.01 0.02 0.02 - - - 5.000<br />

ZMICO 0.01 0.01 -0.001 0.04 -<br />

0.05546 & Stock<br />

10.17:1<br />

- 0.500<br />

Insurance<br />

AYUD -3.00 -0.36 0.37 0.69 1.200 1.000 - 1.000<br />

BKI -19.09 1.14 2.44 0.77 12.000 12.000 8.250 10.000<br />

BLA 0.06 0.76 0.67 0.70 0.600 0.720 0.360 1.000<br />

BUI -0.96 1.10 -0.59 0.17 0.800 - - 10.000<br />

CHARAN -9.50 1.97 1.86 -1.20 2.000 - - 10.000<br />

INSURE -6.60 -2.95 -0.34 -2.02 - - - 10.000<br />

MTI -3.25 -11.64 0.95 -5.29 4.000 0.750 - 10.000<br />

NKI -11.87 -2.59 2.07 -2.33 3.500 - - 10.000<br />

NSI 1.80 -3.29 3.84 1.16 - 1.000 - 10.000<br />

SCBLIF 10.60 13.77 11.26 12.27 7.000 30.000 - 10.000<br />

SCSMG -5.72 1.18 0.43 0.07 3.000 - - 5.000<br />

SMK -3.43 8.18 9.90 7.54 8.000 9.000 - 10.000<br />

THRE -1.73 -1.10 -0.77 -0.03 0.410 0.200 - 1.000<br />

TIC -4.31 -1.63 0.65 -0.47 0.500 0.250 - 10.000<br />

TIP -1.34 0.46 -0.23 0.12 1.750 1.000 - 1.000<br />

TSI -5.80 -1.06 -1.99 -3.53 - - - 10.000<br />

TVI 0.11 0.43 0.16 0.19 0.330 0.150 - 1.000<br />

4) INDUSTRIALS<br />

Automotiv<br />

AH -2.93 0.42 1.24 0.74 0.470 0.160 0.488 1.000<br />

APCS -0.03 0.09 0.08 0.08 - 0.4 & Stock 10:1 - 1.000<br />

BAT-3K 1.53 -5.24 -2.86 -6.30 4.000 4.000 - 10.000<br />

CWT -0.05 0.23 0.06 0.16 - 0.050 - 1.000<br />

EASON 0.004 0.08 0.10 0.09 0.150 0.150 - 1.000<br />

GYT -52.47 -40.84 -5.34 134.74 25.000 - 43.000 10.000<br />

HFT 0.06 0.09 0.06 0.07 0.120 0.060 - 1.000<br />

IHL -0.01 0.15 0.18 0.18 0.650 0.1685 & Stock 6:1 0.150 1.000<br />

IRC -0.42 0.29 0.21 0.43 0.500 0.244 0.205 1.000<br />

SAT -0.28 0.61 0.47 0.76 0.900 0.450 0.300 1.000<br />

SECC 0.00 0.00 0.00 0.00 - - - 1.000<br />

SMC 0.00 0.00 0.00 0.00 - - - 10.000<br />

SPG -0.87 5.04 4.65 4.48 5.000 5.000 - 10.000<br />

STANLY -4.79 5.45 4.28 4.79 6.500 3.000 - 5.000<br />

TKT 0.02 0.13 0.11 0.11 0.120 0.050 - 1.000<br />

TNPC -2.90 0.55 0.33 0.76 0.200 0.100 - 5.000<br />

TRU -0.11 0.25 0.22 0.31 0.250 0.250 - 1.000<br />

TSC 0.00 0.15 0.19 na. 0.800 0.800 0.500 1.000<br />

YNP 0.00 0.00 0.00 0.00 - - - 1.000<br />

Industrial Materials & Machinery<br />

CTW -0.14 0.06 0.59 0.45 0.500 0.500 - 5.000<br />

FMT -1.01 -0.74 0.35 0.12 1.000 0.250 - 10.000<br />

KKC -0.08 0.08 0.04 0.07 0.400 - - 1.000<br />

PATKL 1.99 0.00 0.00 0.00 - - - 1.000<br />

SNC 0.08 0.47 0.58 0.28 1.000 1.600 1.000 1.000<br />

TCJ -0.08 0.40 0.27 0.41 0.250 - - 10.000<br />

VARO 0.17 -0.23 -0.15 -0.21 0.1 & Stock 40:1 0.2 & Stock 40:1 - 5.000<br />

Paper & Printing Materials<br />

TCP 0.28 0.24 0.37 0.43 0.600 0.600 - 10.000<br />

UTP -0.11 0.07 0.31 0.29 0.400 0.150 0.200 5.000<br />

Petrochemicals & Chemicals<br />

GC 0.06 0.13 0.08 0.09 0.500 0.400 0.170 1.000<br />

IVL -0.44 0.35 0.26 0.32 0.660 1.000 0.180 1.000<br />

PATO na. 0.34 0.02 0.10 1.120 1.080 - 1.000<br />

PTTGC na. 2.19 0.19 2.86 - 1.300 0.950 10.000<br />

TCB 0.36 1.19 0.62 0.99 1.000 0.800 - 1.000<br />

TCCC 0.22 0.33 1.04 0.73 1.800 1.000 - 3.000


สถิติหลักทรัพย์<br />

21 ผลประกอบการ และการจ่ายเงินปันผลของหุ้นรายตัว<br />

STOCK EPS (บาท) DPS (บาท) ราคาพาร<br />

4Q54 1Q55 2Q55 3Q55 2553 2554 2555 (บาท)<br />

TPA 1.19 2.91 2.74 1.93 4.000 4.500 2.000 10.000<br />

TPC 0.07 0.86 0.78 1.22 1.400 1.400 0.750 1.000<br />

UP -0.29 0.51 1.68 0.80 2.000 2.200 - 10.000<br />

VNT 0.16 0.43 0.44 0.50 0.700 1.000 - 6.000<br />

WG 1.77 2.60 2.36 2.84 4.500 4.500 - 10.000<br />

YCI -1.64 -0.14 -1.53 -1.73 - - - 10.000<br />

Packaging<br />

AJ 0.08 0.10 -0.06 0.29 0.850 0.700 - 1.000<br />

ALUCON 1.64 2.30 4.07 3.58 6.500 6.000 - 10.000<br />

CSC 0.51 1.23 1.37 1.65 1.200 1.000 - 10.000<br />

NEP -0.01 -0.01 0.08 0.18 - - - 1.000<br />

NIPPON 0.11 15.72 -0.14 0.09 - - 0.006 & Stock 2:1 1.000<br />

PTL 0.33 0.18 0.21 0.16 0.765 1.700 0.170 1.000<br />

SPACK 0.04 0.12 0.07 0.03 0.750 0.235 0.170 1.000<br />

TCOAT 0.38 0.61 0.27 0.41 1.000 0.500 - 10.000<br />

TFI -0.03 0.04 -0.01 -0.01 - - - 1.000<br />

THIP 1.40 2.78 1.70 3.72 2.000 2.500 - 10.000<br />

TMD 2.14 6.30 5.05 6.08 4.750 6.000 - 10.000<br />

TOPP 2.19 3.37 4.73 3.19 3.800 3.800 - 10.000<br />

TPP 0.22 0.34 -0.02 0.59 - - - 10.000<br />

Steel<br />

AMC -0.04 0.10 0.05 0.06 0.070 0.080 - 1.000<br />

BSBM -0.001 0.003 -0.01 -0.004 0.120 0.080 - 1.000<br />

CEN 0.03 -0.03 0.04 0.02 - - - 1.000<br />

CITY 0.13 0.11 0.11 0.11 0.080 0.100 0.160 1.000<br />

CSP -0.07 0.06 0.01 0.06 0.160 0.120 - 1.000<br />

GJS -0.01 -0.01 -0.02 -0.005 - - - 0.690<br />

GSTEEL -0.06 -0.04 -0.10 0.01 - - - 1.000<br />

INOX -0.02 -0.03 0.03 0.00 0.020 - - 1.000<br />

LHK 0.03 0.08 0.10 0.11 0.220 0.140 0.100 1.000<br />

MAX 0.02 0.002 -0.001 -0.03 - - - 1.000<br />

MCS -0.01 0.14 0.03 0.13 0.800 0.500 - 1.000<br />

MILL -0.03 0.06 0.02 -0.02 0.040 - - 0.400<br />

PAP 0.01 0.07 0.08 0.10 0.180 0.270 - 1.000<br />

PERM -0.01 0.01 0.00 0.02 0.050 0.040 - 1.000<br />

RICH -0.27 -0.11 -0.07 -0.10 - - - 1.000<br />

SAM -0.03 0.04 0.02 0.06 - - 0.080 1.000<br />

SMIT 0.09 0.17 0.12 0.18 0.190 0.220 0.140 1.000<br />

SSI -0.14 -0.16 -0.28 -0.26 - - - 1.000<br />

SSSC 0.15 2.34 1.99 1.67 2.600 2.600 - 10.000<br />

TGPRO 0.00 0.01 0.01 0.00 - - - 0.200<br />

TIW 0.20 3.73 15.09 2.18 6.600 4.630 - 10.000<br />

TMT -0.30 0.23 0.22 0.28 0.450 0.150 - 1.000<br />

TSTH -0.12 -0.03 -0.02 -0.04 - - - 1.000<br />

TUCC -0.60 -0.29 -0.16 -0.53 - - - 1.000<br />

TWP -0.01 -0.22 0.83 0.97 - - - 10.000<br />

TYCN -0.12 -0.05 -0.45 -0.06 - - - 10.000<br />

TYM -0.002 0.01 0.002 0.10 0.100 0.100 - 1.000<br />

5) PROPERTY & CONSTRUCTION<br />

Construction<br />

CCP 0.07 0.11 0.10 0.33 - - - 1.000<br />

DCC 0.62 0.91 0.79 0.65 2.880 3.050 2.350 1.000<br />

DCON 0.05 0.16 0.17 0.19 0.180 0.250 - 1.000<br />

DRT 0.08 0.19 0.14 0.11 0.360 0.380 0.200 1.000<br />

GEN -0.04 0.01 0.00 0.02 - - - 10.000<br />

KWH -0.04 -0.03 0.02 -0.01 - - - 1.000<br />

Q-CON -0.10 0.33 0.21 0.34 0.050 0.080 - 1.000<br />

RCI -0.15 -0.03 -0.09 -0.02 - - - 1.000<br />

SCC 2.67 4.98 3.57 5.35 12.500 12.500 4.500 1.000<br />

SCCC 1.10 5.56 3.52 3.44 11.000 13.000 7.000 10.000<br />

SCP 0.41 1.55 1.65 2.22 0.220 0.400 - 10.000<br />

SINGHA 0.00 0.00 0.00 0.00 - - - 1.000<br />

SUPER -0.01 0.08 -0.001 0.02 - - - 1.000<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 125


สถิติหลักทรัพย์<br />

21 ผลประกอบการ และการจ่ายเงินปันผลของหุ้นรายตัว<br />

STOCK EPS (บาท) DPS (บาท) ราคาพาร<br />

126 Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

4Q54 1Q55 2Q55 3Q55 2553 2554 2555 (บาท)<br />

TASCO 3.35 0.04 0.79 0.62 - 1.250 - 10.000<br />

TCMC -2.80 0.57 0.22 0.43 - - - 5.500<br />

TGCI 0.01 0.05 0.10 0.11 - 0.100 - 1.000<br />

TPIPL -0.16 0.17 -0.15 0.09 0.150 0.150 - 10.000<br />

UMI 0.05 0.09 0.07 1.12 0.230 0.130 - 1.000<br />

VNG 0.11 0.06 0.17 0.07 0.270 0.150 - 1.000<br />

Property<br />

A -0.0004 0.03 0.05 0.03 - 0.030 - 1.000<br />

AMATA 0.48 0.19 0.18 0.36 0.300 0.400 0.250 1.000<br />

ANAN 0.00 0.00 0.00 0.00 - - - 0.100<br />

AP 0.12 0.15 0.20 0.15 0.18 & Stock 5:1 0.180 - 1.000<br />

ASCON 0.00 0.00 0.00 0.00 - - - 1.000<br />

BLAND -0.02 0.004 0.02 0.03 - 0.020 - 1.000<br />

BROCK 0.00 0.004 0.01 0.01 0.010 0.010 - 1.000<br />

CI 0.40 0.19 0.35 0.27 0.040 0.060 - 5.000<br />

CK -0.17 0.07 0.08 0.05 0.100 0.350 - 1.000<br />

CNT 0.08 0.19 0.14 0.21 0.600 0.300 0.300 1.000<br />

CPN 0.32 0.49 0.54 1.31 0.250 0.370 - 1.000<br />

EMC -0.04 0.03 0.02 0.02 - - - 1.000<br />

ESTAR -0.01 -0.01 -0.01 -0.01 - - - 1.000<br />

EVER -0.04 -0.03 -0.01 -0.03 - - - 1.000<br />

GLAND -0.002 -0.01 -0.01 0.001 0.001 & Stock 37:1 0.030 - 1.000<br />

GOLD -0.11 -0.13 -0.03 -0.109 - - - 10.000<br />

HEMRAJ 0.04 0.09 0.01 0.06 0.055 0.055 0.040 0.400<br />

ITD -0.07 -0.04 -0.02 -0.003 0.050 - - 1.000<br />

KC -0.03 -0.01 0.00 0.05 - - - 1.000<br />

KMC 1.61 -0.07 -0.02 0.01 - - - 10.000<br />

KTP -0.09 -0.11 -0.11 -0.13 - - - 10.000<br />

LALIN 0.04 0.05 0.05 0.08 1.040 0.180 0.060 1.000<br />

LH 0.16 0.15 0.11 0.15 0.160 0.400 0.300 1.000<br />

LL 0.01 -0.03 -0.01 -0.01 - - - 1.000<br />

LPN 0.04 0.20 0.10 0.37 0.560 0.650 0.230 1.000<br />

MBK -2.03 3.94 3.27 2.17 5.000 5.000 2.750 10.000<br />

METRO -0.05 -0.03 -0.03 -0.03 - - - 1.000<br />

MJD 0.03 -0.07 -0.07 0.03 - - - 1.000<br />

MK 0.03 0.05 0.10 0.05 0.250 0.180 0.100 1.000<br />

N-PARK 0.002 -0.003 0.01 0.003 - - - 1.000<br />

NCH 0.11 -0.02 0.04 0.03 0.030 0.070 - 1.000<br />

NNCL 0.05 -0.03 0.05 0.05 0.070 - - 1.000<br />

NOBLE 0.06 0.09 0.03 0.08 0.450 0.300 - 3.000<br />

NUSA 0.005 0.002 0.003 0.03 - - - 1.000<br />

NWR 0.01 0.04 0.02 0.09 - - - 1.000<br />

PAE 0.01 0.00 -0.02 -0.37 - - - 1.000<br />

PF 0.003 0.02 0.02 0.01 0.055 0.040 - 1.000<br />

PLE -0.34 -0.29 -0.08 0.27 - 0.040 - 1.000<br />

PREB 0.09 0.21 0.24 0.24 0.1 & Stock 20:1 0.15 & Stock 20:1 - 1.000<br />

PRECHA 0.18 0.01 -0.01 -0.01 0.050 0.050 - 1.000<br />

PRIN 0.10 0.11 0.06 0.06 0.12 & Stock 10:1 0.050 - 1.000<br />

PS 0.16 0.29 0.45 0.45 0.500 0.400 - 1.000<br />

QH 0.01 0.04 0.04 0.11 0.120 0.00926 &Stock 12:1 - 1.000<br />

RASA 0.08 0.06 0.02 0.04 0.060 0.02777 &Stock 4:1 - 1.000<br />

RML -0.11 -0.02 0.03 0.07 - - - 1.000<br />

ROJNA -0.83 0.30 0.61 0.28 0.700 0.200 - 1.000<br />

SAMCO -0.06 -0.01 0.01 0.08 0.100 0.020 - 1.000<br />

SC 0.20 0.27 0.27 0.24 0.700 0.650 - 5.000<br />

SCAN 4.80 0.00 0.00 0.00 - - - 10.000<br />

SEAFCO -0.33 0.19 0.10 0.16 - - - 1.000<br />

SENA 0.09 0.07 0.13 0.08 0.188 0.189 & Stock 17:1 0.082 1.000<br />

SF 0.25 1.05 0.12 0.12 0.150 0.01389 & Stock 8:1 - 1.000<br />

SIRI 0.15 0.05 0.06 0.06 0.11026 & Stock 6:1 0.140 - 1.070<br />

SPALI 0.20 0.15 0.18 0.33 0.600 0.650 0.300 1.000<br />

SRICHA 0.00 1.55 1.20 0.63 - - 1.000 1.000<br />

STEC 0.20 0.25 0.22 0.26 0.220 0.550 - 1.000


สถิติหลักทรัพย์<br />

21 ผลประกอบการ และการจ่ายเงินปันผลของหุ้นรายตัว<br />

STOCK EPS (บาท) DPS (บาท) ราคาพาร<br />

4Q54 1Q55 2Q55 3Q55 2553 2554 2555 (บาท)<br />

STPI -0.04 0.37 0.47 1.09 3.67 & Stock 14:1 0.320 - 1.000<br />

SYNTEC 0.001 -0.03 -0.04 -0.02 0.030 0.020 - 1.000<br />

TFD 0.04 0.04 0.03 0.03 - 0.01 & Stock 12.5:1 - 1.000<br />

TICON -0.13 0.31 0.10 0.10 1.000 0.400 - 1.000<br />

TPOLY 0.001 0.04 -0.01 -0.23 0.0185 & Stock 6:1 0.080 - 1.000<br />

TTCL 0.29 0.23 0.16 0.32 0.370 0.430 0.200 1.000<br />

UNIQ -0.17 0.04 0.06 0.22 0.060 - - 1.000<br />

UV -0.05 0.04 0.22 0.02 0.050 0.060 - 1.00<br />

WHA 0.00 0.00 0.00 0.04 - - - 1.000<br />

Property Fund<br />

BKKCP 0.18 0.18 0.17 0.18 0.655 0.642 0.505 10.000<br />

CPNCG 0.00 0.00 0.00 0.00 - - - 10.000<br />

CPNRF 0.28 0.32 0.30 0.43 0.991 1.023 0.841 10.000<br />

CTARAF 0.00 0.00 0.00 0.00 0.909 0.903 0.471 10.000<br />

DTCPF 0.00 0.00 0.00 0.00 - 0.812 0.370 10.000<br />

FUTUREPF 0.14 0.44 0.53 0.35 1.115 1.036 1.213 10.000<br />

GOLDPF 0.00 0.00 0.00 0.00 0.743 0.745 0.153 10.000<br />

JCP 0.00 0.00 0.00 0.00 0.393 0.400 - 9.822<br />

LHPF 0.00 0.02 0.13 0.17 - - 0.193 10.000<br />

LUXF 0.18 0.18 0.00 0.07 0.675 0.700 0.349 10.000<br />

M-AAA 0.00 0.00 0.00 na. - 0.191 0.590 10.000<br />

MIPF 0.00 0.23 0.27 0.45 0.920 0.920 0.450 10.000<br />

MJLF 0.25 0.34 0.23 0.28 0.956 0.970 0.735 10.000<br />

MNIT 0.00 0.00 0.00 0.00 0.724 0.713 0.215 10.000<br />

MNIT2 0.00 0.00 0.00 0.00 0.735 0.740 0.564 10.000<br />

MNRF 0.00 0.00 0.00 0.00 0.780 0.780 0.594 10.000<br />

MONTRI 0.00 0.00 0.00 0.00 0.700 0.700 0.350 10.000<br />

MSPF 0.00 0.00 0.00 0.00 0.290 0.660 0.338 10.000<br />

M-STOR 0.00 0.00 0.00 0.00 0.850 0.852 0.639 10.000<br />

PFFUND 0.00 0.19 0.24 0.22 0.820 0.752 0.395 10.000<br />

POPF 0.29 0.00 0.25 0.29 - 0.724 0.740 10.000<br />

QHHR 0.00 0.00 0.00 0.08 - - - 10.000<br />

QHOP 0.18 0.28 0.36 0.36 0.913 0.800 0.600 10.000<br />

QHPF 0.12 0.20 0.19 0.19 0.595 0.758 0.560 9.866<br />

SPF 0.20 0.29 0.24 0.27 0.612 1.070 0.575 9.693<br />

SSPF 0.00 0.00 0.00 0.00 - - - 10.000<br />

SSTPF 0.41 0.18 0.18 0.18 - 0.440 0.336 10.000<br />

TCIF 0.00 0.00 0.00 0.00 0.310 0.450 0.250 10.000<br />

TFUND -0.12 0.11 0.22 0.19 0.800 0.770 0.480 10.000<br />

TIF1 -0.01 0.00 0.08 0.13 0.458 0.501 0.355 9.690<br />

TLGF 0.00 0.00 0.00 0.16 - - 0.459 10.364<br />

TLOGIS 0.10 0.24 0.21 0.17 0.888 0.750 0.659 10.000<br />

TNPF 0.00 0.19 0.19 -1.13 - 0.643 0.466 10.000<br />

TRIF 0.00 0.00 0.00 0.00 - 0.330 0.330 10.000<br />

TTLPF 0.00 0.00 0.00 0.00 0.140 1.400 1.140 9.900<br />

TU-PF 0.00 0.00 0.00 0.00 0.100 1.130 0.072 9.923<br />

UOB8TF 0.00 0.00 0.00 0.00 - - 0.424 10.000<br />

UOBAPF 0.01 -1.19 0.00 0.02 - - - 10.000<br />

URBNPF -0.04 -1.10 0.13 0.00 0.206 0.235 - 8.681<br />

WHAPF 0.00 0.00 0.00 0.00 0.267 0.537 0.546 10.000<br />

6) RESOURCES<br />

Energy & Utilities<br />

AI 0.02 0.18 0.06 0.16 0.250 0.250 0.100 1.000<br />

AKR 0.01 -0.01 -0.001 0.04 - - - 0.800<br />

BAFS -0.01 0.48 0.29 0.40 0.540 0.650 0.270 1.000<br />

BANPU 12.98 10.25 10.06 8.32 21.000 21.000 9.000 10.000<br />

BCP 0.41 1.77 -0.28 0.78 1.050 1.650 0.350 1.000<br />

DEMCO 0.07 0.17 0.29 0.20 0.150 0.115 0.170 1.000<br />

EASTW 0.16 0.19 0.23 0.18 0.380 0.420 0.200 1.000<br />

EGCO 0.90 3.21 11.92 3.94 5.250 5.250 2.750 10.000<br />

ESSO -0.62 0.72 -1.44 0.71 0.200 0.250 - 4.934<br />

GLOW 0.45 1.06 0.37 1.29 1.914 2.010 0.810 10.000<br />

GUNKUL 0.01 0.99 0.26 0.39 0.075 0.1 & Stock 10:1 - 1.000<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 127


สถิติหลักทรัพย์<br />

21 ผลประกอบการ และการจ่ายเงินปันผลของหุ้นรายตัว<br />

STOCK EPS (บาท) DPS (บาท) ราคาพาร<br />

128 Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

4Q54 1Q55 2Q55 3Q55 2553 2554 2555 (บาท)<br />

IRPC -0.07 0.05 -0.20 0.10 0.180 0.120 - 1.000<br />

LANNA 0.53 0.78 0.98 0.45 1.050 1.800 0.500 1.000<br />

MDX 0.19 0.04 0.89 0.19 - - - 10.000<br />

PTT 5.82 13.09 2.98 12.62 10.250 13.000 5.000 10.000<br />

PTTEP 4.56 5.51 2.33 5.26 5.030 5.400 2.800 1.000<br />

RATCH 0.36 1.08 2.27 1.38 2.250 2.250 1.100 10.000<br />

RPC 0.07 -0.02 -0.07 -0.11 0.120 0.050 0.940 1.000<br />

SCG 0.03 0.06 0.06 0.10 0.180 0.150 - 1.000<br />

SGP -0.07 0.81 -0.49 0.21 0.500 0.450 1.500 1.000<br />

SOLAR -0.08 0.03 0.04 0.06 - - - 1.000<br />

SPCG 0.01 0.02 0.02 0.03 0.050 - - 1.000<br />

SUSCO 0.04 0.07 0.04 0.04 0.050 0.080 0.050 1.000<br />

TCC 0.06 0.02 -0.04 0.01 - - - 0.500<br />

TOP 0.91 3.54 -3.38 4.94 2.000 3.300 0.500 10.000<br />

TTW 0.13 0.17 0.14 0.16 0.350 0.400 0.220 1.000<br />

Mining<br />

PDI -0.70 -0.21 -0.56 -0.70 1.290 0.500 - 10.000<br />

THL -0.06 0.00 0.00 0.00 - - - 1.000<br />

7) SERVICES<br />

Commerce<br />

BEAUTY na. na. na. 0.23 - - - 1.000<br />

BIGC 2.99 2.22 1.70 1.25 1.900 1.960 - 10.000<br />

BJC 0.34 0.41 0.35 0.39 0.600 0.730 0.320 1.000<br />

CPALL 0.35 0.61 0.29 0.32 1.400 1.25 & Stock 1:1 - 1.000<br />

GLOBAL 0.10 0.10 0.08 0.09 0.0556 & Stock 2:1 0.0222 & Stock 5:1 - 1.000<br />

HMPRO 0.11 0.10 0.10 0.09<br />

0.0386 & Stock<br />

6:1+Stock 6:1<br />

0.1659 & Stock 7:1 0.02222 & Stock 5:1 1.000<br />

IT 0.00 0.10 0.09 0.06 0.600 0.550 0.210 1.000<br />

KAMART 0.03 0.09 0.07 0.08 - - 0.150 0.600<br />

LOXLEY -0.02 0.08 0.03 0.07 0.050 0.075 - 1.000<br />

MAKRO 2.82 3.60 3.20 3.17 7.000 10.500 5.250 10.000<br />

MIDA 0.01 0.04 0.03 0.04 - - - 1.000<br />

ROBINS 0.28 0.51 0.43 0.34 0.620 0.650 - 3.550<br />

SINGER 0.16 0.21 0.25 0.21 0.100 0.200 - 1.000<br />

SPC 1.01 0.68 0.92 0.89 0.750 0.900 - 1.000<br />

SPI 0.35 0.79 0.80 0.56 0.220 0.230 - 1.000<br />

Health Care Services<br />

AHC 0.23 2.33 0.39 0.43 0.250 0.350 - 1.000<br />

BCH 0.08 0.11 0.11 0.12 0.125 & Stock 5:1 0.200 0.150 1.000<br />

BGH 0.58 2.09 0.84 1.30 0.800 1.100 - 1.000<br />

BH 0.51 0.80 0.69 1.62 0.900 1.100 0.600 1.000<br />

CMR 0.78 1.21 0.71 1.41 2.750 1.900 - 10.000<br />

KDH 2.50 0.00 -0.08 0.29 0.500 2.000 - 10.000<br />

M-CHAI 2.94 1.21 4.17 0.89 2.100 2.670 - 10.000<br />

NEW 0.12 -0.33 0.75 0.48 0.150 - - 10.000<br />

NTV 0.21 3.76 0.28 0.56 0.730 0.611 - 1.000<br />

RAM 19.19 15.24 17.97 58.79 12.000 12.000 6.000 10.000<br />

SKR 0.26 0.32 0.26 0.43 0.500 0.600 - 6.500<br />

SVH 1.48 2.55 2.25 2.79 2.520 4.000 2.000 10.000<br />

VIBHA -0.01 0.05 0.07 0.14 0.200 0.190 - 1.000<br />

VIH 0.00 0.01 0.03 0.02 - - - 1.000<br />

Media & Publishing<br />

APRINT 0.49 0.21 0.35 0.41 0.800 0.900 - 1.000<br />

AQUA 0.01 0.01 -0.02 -0.01 - - - 0.500<br />

AS 0.23 0.24 0.29 0.22 0.842 0.756 0.690 1.000<br />

BEC 0.34 0.55 0.62 0.64 1.650 1.800 1.000 1.000<br />

EPCO 0.03 0.05 0.02 0.01 0.235 0.155 0.045 1.000<br />

FE 5.77 2.15 2.85 4.73 8.000 9.000 - 10.000<br />

GRAMMY 0.04 0.27 0.09 0.02 0.810 0.540 - 1.000<br />

LIVE -0.01 -0.01 -0.01 0.01 - - - 0.100<br />

MAJOR 0.09 0.27 0.25 0.22 0.800 0.820 0.390 1.000<br />

MATCH -0.02 0.08 0.05 0.05 0.020 0.090 - 1.000<br />

MATI 0.10 0.18 0.20 0.04 0.300 0.250 - 1.000


สถิติหลักทรัพย์<br />

21 ผลประกอบการ และการจ่ายเงินปันผลของหุ้นรายตัว<br />

STOCK EPS (บาท) DPS (บาท) ราคาพาร<br />

4Q54 1Q55 2Q55 3Q55 2553 2554 2555 (บาท)<br />

MCOT 0.19 0.52 0.65 0.70 1.900 2.000 1.000 5.000<br />

MPIC 0.02 0.02 -0.04 -0.05 - 0.070 - 1.000<br />

NMG 0.01 0.02 0.03 0.03 - - - 0.530<br />

P-FCB 0.21 0.26 0.35 0.46 0.650 0.750 - 1.000<br />

POST -0.08 0.01 0.03 0.07 0.140 0.100 0.060 1.000<br />

PSAAP 0.01 0.01 0.004 0.002 - - - 1.000<br />

RS 0.04 0.07 0.11 0.09 0.150 0.150 0.100 1.000<br />

SE-ED 0.13 0.16 0.21 0.11 0.730 0.31112 & Stock 0.300 1.000<br />

SMM 0.001 0.07 0.07 -0.02 0.020 0.020 - 1.000<br />

SPORT 0.05 -0.03 0.10 0.03 0.160 0.120 0.070 1.000<br />

TBSP -4.40 1.75 2.17 2.37 4.100 6.000 - 10.000<br />

TH 0.01 0.01 0.07 0.01 - 0.005 - 1.000<br />

TKS 0.13 0.23 0.20 0.25 0.250 0.420 0.100 1.000<br />

VGI 0.00 0.00 0.00 0.92 - - 1.200 1.000<br />

WAVE -0.09 -0.03 0.62 -0.43 - - - 10.000<br />

WORK 0.12 0.31 0.54 0.53 0.25 & Stock 4:1 1.000 0.800 1.000<br />

Professional Services<br />

BWG 0.02 0.03 0.03 0.01 0.020 0.050 - 1.000<br />

GENCO 0.01 0.02 0.003 0.002 - 0.010 - 1.000<br />

PRO -0.10 0.00 0.00 0.00 - - - 0.700<br />

Tourism & Leisure<br />

ASIA -0.97 0.84 1.60 1.31 0.500 - 0.850 10.000<br />

CAWOW -0.19 0.00 0.00 0.00 - - - 1.000<br />

CENTEL 0.06 0.42 0.12 0.08 0.050 0.150 - 1.000<br />

CSR 0.25 1.06 0.56 0.81 1.800 1.400 - 10.000<br />

DTC -0.75 1.05 -0.78 -0.39 0.500 0.500 - 10.000<br />

ERW -0.04 0.04 0.00 -0.02 - 0.080 - 1.000<br />

GRAND -0.05 -0.03 -0.02 -0.03 - - - 1.000<br />

LRH -0.81 0.35 -0.34 -0.76 10.000 - - 10.000<br />

MANRIN -0.05 -0.43 -0.17 -0.03 0.500 - - 10.000<br />

MME -0.07 -0.06 -0.03 -0.05 - - - 1.000<br />

OHTL -0.16 9.92 -0.55 1.55 6.500 9.000 6.000 10.000<br />

ROH -0.81 -0.02 -0.43 -0.25 - - - 10.000<br />

SHANG -1.20 0.45 -0.09 -0.21 0.750 0.750 - 10.000<br />

Transportation & Logistics<br />

AAV 0.00 0.00 3.39 0.02 - - - 0.100<br />

AOT 0.88 2.10 0.49 1.08 0.550 0.800 1.800 10.000<br />

ASIMAR 0.03 0.08 0.05 0.10 - 0.150 - 1.000<br />

BECL 0.22 0.53 1.37 0.61 1.300 1.300 0.620 10.000<br />

BMCL -0.03 -0.02 -0.02 -0.03 - - - 1.000<br />

BTC -0.16 0.22 -0.01 -0.01 - - - 1.000<br />

BTS 0.04 0.04 0.01 0.07 0.222 0.150 0.151 4.000<br />

JUTHA -0.34 0.15 -0.48 0.28 - - - 3.000<br />

KWC 1.75 2.05 1.96 2.71 3.500 4.200 - 10.000<br />

PSL 0.01 -0.04 0.01 0.21 0.870 0.550 0.300 1.000<br />

RCL -0.47 -0.60 0.01 -0.26 - - - 1.000<br />

SST 0.86 -0.32 -0.06 0.07 0.400 0.02222 & Stock 5:1 - 1.000<br />

THAI -2.47 1.67 -0.70 0.80 1.250 - - 10.000<br />

TSTE 0.06 0.60 0.69 0.10 0.240 0.240 - 1.000<br />

TTA -0.79 -0.29 -3.32 -2.12 0.260 1.000 0.00445 & Stock 1.000<br />

WIN 0.01 0.01 0.002 0.0001 - - - 1.000<br />

8) TECHNOLOGY<br />

Electronic Components<br />

CCET -0.14 0.06 0.10 0.10 0.150 0.160 0.080 1.000<br />

DELTA 0.52 0.57 0.72 1.54 1.700 1.200 - 1.000<br />

DRACO -0.06 -0.21 -0.35 -0.19 0.170 0.100 - 1.000<br />

EIC -0.00002 -0.03 0.01 -0.002 0.020 0.015 - 1.000<br />

HANA 0.07 0.34 0.64 0.80 1.550 1.000 0.500 1.000<br />

KCE -0.21 0.39 0.17 0.53 0.450 0.200 0.200 1.000<br />

METCO -11.22 -1.61 -1.61 -8.18 17.000 8.000 3.000 10.000<br />

SMT -4.14 0.66 -0.25 1.33 0.700 0.200 - 2.000<br />

SPPT -0.85 0.33 0.49 0.53 0.270 0.150 0.120 1.000<br />

SVI -1.01 0.16 0.08 0.29 0.200 - - 1.000<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 129


สถิติหลักทรัพย์<br />

21 ผลประกอบการ และการจ่ายเงินปันผลของหุ้นรายตัว<br />

STOCK EPS (บาท) DPS (บาท) ราคาพาร<br />

130 Invest+ 1 st Quarter, 2013<br />

4Q54 1Q55 2Q55 3Q55 2553 2554 2555 (บาท)<br />

TEAM 0.02 0.01 0.02 0.02 0.150 0.08 & Stock 8:1 - 1.000<br />

Information & Communication<br />

ADVANC 1.23 3.00 2.93 2.96 12.920 4.170 5.900 1.000<br />

AIT 1.93 1.36 1.15 1.31 4.500 5.000 1.250 5.000<br />

BLISS -0.004 -0.01 -0.01 -0.001 - - - 0.100<br />

CSL 0.09 0.18 0.15 0.17 0.500 0.540 0.300 0.250<br />

DTAC 1.005 1.270 1.19 1.22 3.770 17.840 3.400 2.000<br />

FORTH -0.03 -0.01 0.03 0.07 0.270 0.290 - 0.500<br />

IEC -0.002 -0.001 0.00 -0.001 - - - 0.100<br />

INET -0.18 -0.04 -0.03 -0.01 0.030 - - 1.000<br />

INTUCH 2.74 1.10 1.08 1.08 6.770 5.500 3.780 1.000<br />

JAS 0.05 0.06 0.07 0.09 0.040 0.048 - 0.500<br />

JMART 0.19 0.17 0.20 0.20 0.240 0.400 0.220 1.000<br />

JTS 0.03 -0.02 0.02 0.02 0.080 - 0.050 1.000<br />

MFEC 0.13 0.03 0.08 0.12 0.450 0.330 - 1.000<br />

MLINK -0.43 -3.53 1.28 0.00 - - - 1.000<br />

MSC -0.18 0.10 0.08 0.32 0.200 0.250 - 1.000<br />

PT 0.02 0.05 0.08 0.15 0.150 0.200 - 1.000<br />

SAMART 0.15 0.28 0.24 0.29 0.400 0.520 0.200 1.000<br />

SAMTEL 0.25 0.25 0.38 0.39 0.400 0.660 0.250 1.000<br />

SIM -0.01 0.01 0.01 0.01 0.020 0.010 - 0.100<br />

SIS -0.62 0.13 -0.39 -0.84 0.500 0.15 & Stock 10:1 - 1.000<br />

SVOA 0.04 0.02 0.02 0.02 0.062 0.053 - 1.000<br />

SYMC 0.16 0.21 0.21 0.21 0.530 0.530 0.150 1.000<br />

SYNEX 0.11 0.12 0.12 0.19 0.250 0.270 - 1.000<br />

THCOM -0.29 0.04 0.10 -0.10 - - - 5.000<br />

TRUE -0.72 -0.03 -0.15 -0.13 - - - 10.000<br />

TT&T -0.61 -0.02 -0.08 -1.04 - - - 1.000<br />

TWZ 0.002 0.002 0.001 0.01 0.018 0.005 - 0.100<br />

MAI<br />

2S 0.02 0.06 0.04 0.04 0.15 & Stock 4:1 0.120 - 1.000<br />

ACAP 2.17 -0.13 -0.18 -0.18 3.500 - - 1.000<br />

ADAM -0.03 -0.04 -0.05 0.01 - - - 1.000<br />

AF 0.29 0.17 0.23 0.28 - 3.000 - 5.000<br />

AGE 0.07 -0.07 -0.05 0.04 0.0035 & Stock 8:1 0.00695 & Stock 4:1 - 0.250<br />

AIM -0.01 0.01 -0.01 0.00 - - - 0.100<br />

APCO 0.07 0.06 0.05 0.07 - 0.250 - 1.000<br />

ARIP -0.02 0.03 0.01 0.01 0.030 0.042 0.040 0.250<br />

BGT 0.08 0.04 0.02 0.01 0.030 0.027 & Stock 8:1 - 0.500<br />

BOL 0.05 0.02 0.03 0.02 0.090 0.090 0.040 0.100<br />

BROOK 0.01 0.09 0.10 0.17 0.100 - 0.060 0.500<br />

BSM -0.04 0.02 0.00 0.04 - - - 0.500<br />

CGD -0.01 -0.01 -0.01 -0.01 - - - 1.000<br />

CHOW 0.00 0.01 0.07 -0.03 - 0.100 - 1.000<br />

CHUO -0.94 -1.24 -0.66 -1.59 0.800 0.300 - 5.000<br />

CIG -0.15 -0.01 -0.02 -0.04 - - - 0.500<br />

CMO -0.10 0.45 0.01 -0.02 0.200 - 0.0278 & Stock 4:1 1.000<br />

COLOR -0.00 0.03 0.01 0.01 - 0.100 - 1.000<br />

CPR 0.06 0.09 0.07 0.08 0.090 0.076 - 1.000<br />

CRANE 0.04 0.13 0.04 0.13 0.060 0.01389 & Stock 8:1 - 1.000<br />

CYBER -0.13 -0.05 -0.04 -0.04 - - - 0.500<br />

DIMET 0.00 -0.01 -0.04 -0.01 0.013 - - 0.500<br />

E -0.00 -0.04 -0.03 0.03 - - - 1.000<br />

EARTH 0.64 0.10 0.14 0.13 - - - 1.000<br />

FOCUS 0.03 0.13 0.20 0.15 - - - 1.000<br />

FPI 0.00 0.00 0.00 0.24 - - 0.120 1.000<br />

GFM 0.43 0.33 0.29 0.11 1.000 1.000 - 1.000<br />

HOTPOT 0.00 0.00 0.06 0.01 - - 0.040 0.250<br />

HTECH 0.08 0.15 0.15 0.08 0.140 0.160 0.120 1.000<br />

HYDRO 0.10 0.10 0.08 0.17 - 0.260 - 1.000<br />

ILINK 0.14 0.22 0.25 0.31 0.280 0.340 - 1.000<br />

IRCP 0.08 0.11 0.06 -0.04 - 0.100 - 2.000<br />

JUBILE 0.18 0.24 0.24 0.20 0.350 0.520 0.300 1.000


สถิติหลักทรัพย์<br />

21 ผลประกอบการ และการจ่ายเงินปันผลของหุ้นรายตัว<br />

STOCK EPS (บาท) DPS (บาท) ราคาพาร<br />

4Q54 1Q55 2Q55 3Q55 2553 2554 2555 (บาท)<br />

KASET -0.01 -0.08 -0.17 -0.19 0.040 - - 1.000<br />

KIAT 0.28 0.24 0.15 0.16 0.600 0.5 & Stock 10:1 0.250 1.000<br />

L&E 0.24 0.41 0.06 0.60 0.450 0.570 - 5.000<br />

LVT -0.11 0.03 -0.21 -0.13 - - - 1.000<br />

MACO 0.18 0.24 0.19 0.21 0.500 0.52 & Stock 2.5:1 0.200 1.000<br />

MBAX -0.11 0.12 0.13 0.17 - - 0.100 1.000<br />

MOONG 0.13 0.12 0.06 0.13 0.190 0.200 - 1.000<br />

NBC 0.04 0.07 0.11 0.06 0.440 0.300 0.120 1.000<br />

NINE 0.03 0.10 0.11 0.05 0.150 0.150 - 1.000<br />

NPK 1.16 1.85 0.70 1.55 - - - 10.000<br />

OFM 0.04 0.37 0.10 0.20 0.170 0.260 0.200 1.000<br />

PHOL -0.01 0.10 0.07 0.06 0.250 0.200 0.110 1.000<br />

PICO 0.27 0.27 0.04 -0.01 0.100 0.05556 & Stock 2:1 0.100 1.000<br />

PJW 0.00 0.11 0.08 0.10 - 0.100 - 0.500<br />

PPM 0.00 0.10 0.10 0.10 0.110 0.100 - 1.000<br />

PPS 0.00 0.00 0.00 0.02 - - - 0.250<br />

PYLON 0.06 0.21 0.00 -0.06 0.080 0.200 - 1.000<br />

QLT 0.39 0.25 0.15 0.31 0.350 0.50 &Stock 20:1 0.200 1.000<br />

QTC 0.29 0.01 0.03 0.11 - 0.190 - 1.000<br />

SALEE -0.0004 0.17 0.20 0.18 0.300 0.200 0.110 1.000<br />

SIMAT 0.23 0.09 0.07 0.07 0.150 0.0112 & Stock 10:1 - 1.000<br />

SLC -0.14 -0.02 -0.02 -0.02 - - - 1.000<br />

STAR -0.08 -0.04 -0.07 -0.05 0.030 - - 0.700<br />

SWC 0.12 0.29 0.23 0.08 0.300 0.310 0.200 1.000<br />

TAPAC 0.07 0.14 0.19 0.03 0.230 0.250 0.090 1.000<br />

THANA -0.07 -0.07 0.01 -0.03 0.180 0.080 - 1.000<br />

TIES 0.02 0.03 0.03 0.03 - - - 1.000<br />

TMC 0.00 0.00 0.27 0.25 - - 0.090 1.000<br />

TMI 0.02 0.05 0.02 0.02 0.050 Stock 5:1 - 0.250<br />

TMILL 0.00 0.00 0.00 0.00 - - - 1.000<br />

TMW -0.48 -0.30 9.27 1.54 1.000 - - 5.000<br />

TPAC 0.18 0.29 0.22 0.23 0.600 0.400 - 1.000<br />

TNDT 0.26 0.10 0.20 0.24 0.200 0.310 0.100 1.000<br />

TNH 0.14 0.19 0.21 0.32 0.400 0.480 0.500 1.000<br />

TRC 0.23 0.23 0.18 0.25 0.150 0.120 - 1.000<br />

TRT 0.15 0.14 0.20 0.07 0.300 0.400 - 1.000<br />

TSF -0.01 -0.02 -0.01 -0.01 - - - 0.100<br />

TVD 0.00 0.00 0.09 0.06 - - 0.050 0.500<br />

UAC 0.00 0.11 0.09 0.15 0.075<br />

0.0584 & Stock<br />

20:3, Stock 20:3<br />

- 0.500<br />

UBIS 0.09 0.10 0.10 0.09 0.310 0.230 0.090 1.000<br />

UEC 0.10 0.09 0.07 0.11 0.140 0.200 0.100 0.250<br />

UIC 0.01 0.16 0.06 0.10 - 0.210 - 1.000<br />

UKEM 0.03 0.09 0.02 0.05 0.040 0.090 - 0.250<br />

UMS -0.04 -0.34 -0.55 -0.96 - 0.200 - 0.500<br />

UWC 0.00 0.00 0.03 0.03 - - - 1.000<br />

VTE -0.01 0.04 -0.03 0.04 0.100 0.060 0.020 1.000<br />

YUASA 0.55 0.25 0.23 0.16 - - - 1.000<br />

หมายเหตุ : ปรับราคาพารใหอยูบนฐานราคาพารปจจุบัน & ปรับงวดบัญชีทุกบริษัทใหเปนงวดเดียวกัน (1 ม.ค.– 31 ธ.ค.)<br />

สัดสวน Stock dividend = จํานวนหุนที่มีอยู : หุน dividend ที่ได<br />

EPS ใชวิธี Weighted Average Method<br />

ที่มา : ตลท., รวบรวมโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 131


สถิติหลักทรัพย์<br />

1 หุ้นที่นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิมากที่สุด 50 อันดับแรก<br />

(ลานบาท) ธ.ค. 54 ม.ค. 55 ก.พ. 55 มี.ค. 55 เม.ย. 55 พ.ค. 55 มิ.ย. 55 ก.ค. 55 ส.ค. 55 ก.ย. 55 ต.ค. 55 พ.ย. 55 รวม<br />

CPF -1,487.85 -1,259.64 -1,111.26 26,496.23 2,580.81 173.09 122.76 -6,957.50 1,127.29 3,263.01 5,179.78 -3,197.41 24,929.32<br />

KTB -544.48 13.71 2,857.15 2,553.62 843.60 -1,204.20 549.26 257.38 5,520.94 -226.71 14,630.66 -599.04 24,651.89<br />

ADVANC 10,178.94 1,018.53 1,255.10 2,029.85 248.10 2,464.41 -1,896.25 4,739.62 474.91 514.32 1,031.60 -127.02 21,932.12<br />

SCB 2,858.50 2,700.84 1,526.23 5,234.70 817.15 1,151.96 -1,599.33 3,553.96 -1,617.96 3,627.89 372.23 1,414.49 20,040.66<br />

KBANK 2,160.24 2,295.59 5,421.81 1,279.32 6,958.59 -1,331.39 460.33 483.57 -363.16 2,570.04 -1,469.04 1,081.31 19,547.22<br />

PTT 4,303.24 3,294.24 5,827.96 5,459.03 5,439.10 -4,187.81 1,172.97 4,376.93 2,013.36 -2,190.08 -6,390.80 -3,578.27 15,539.87<br />

CPALL 1,107.46 885.10 -853.52 894.85 -1,681.26 -6,888.48 3,423.67 1,076.79 209.55 -269.08 1,472.66 16,138.31 15,516.05<br />

PTTEP 1,676.44 182.01 1,686.83 468.27 2,045.23 408.14 2,221.21 -1,028.77 -4,306.59 408.13 1,137.97 7,702.21 12,601.08<br />

BBL 1,720.75 -574.77 8,106.12 2,217.22 931.28 773.25 64.43 90.41 -584.70 86.32 -2,132.55 -78.09 10,619.65<br />

SCC 62.42 2,925.48 2,018.00 454.74 536.19 1,890.26 -3,618.15 -3,573.31 2,074.97 3,248.00 3,339.70 989.16 10,347.46<br />

INTUCH -18.97 3,922.47 512.82 1,507.59 438.72 479.56 647.63 1,698.40 -365.55 300.63 712.65 52.21 9,888.17<br />

TUF -461.63 -24.82 -204.20 1,478.21 1,240.50 5,056.41 142.79 1,630.63 256.04 607.35 47.85 -266.69 9,502.43<br />

BAY 1,604.78 462.10 2,144.78 2,020.55 721.87 2,117.08 -444.70 -498.31 -494.89 -749.74 1,209.32 1,107.55 9,200.38<br />

BIGC 66.02 105.88 364.43 111.95 121.32 3,302.96 220.51 206.25 439.34 701.62 183.85 2,766.26 8,590.40<br />

CIMBT -9.07 5.03 -4.40 -9.30 1.10 0.58 0.75 0.75 8,239.33 -16.45 -9.40 -3.51 8,195.40<br />

TOP -1,113.49 891.20 6,693.52 483.22 207.38 -2,132.74 1,755.32 337.76 2,079.41 -2,036.53 222.34 460.46 7,847.83<br />

PTTGC -1,224.39 1,693.04 8,874.38 1,696.17 -257.23 -2,710.10 -3,761.42 802.09 3,055.42 -1,002.29 -2,487.36 2,960.22 7,638.53<br />

THRE -7.80 45.93 214.38 5,413.04 242.90 182.74 24.09 34.02 356.13 -135.56 -76.54 255.10 6,548.43<br />

JAS 18.77 17.25 289.62 305.26 1,304.48 1,054.69 -130.34 563.95 -44.49 183.26 1,355.11 1,223.53 6,141.09<br />

KK -694.33 -419.22 310.25 930.04 177.87 93.55 35.08 -342.67 -26.92 4,282.06 951.93 -345.58 4,952.07<br />

DTAC -458.74 -344.09 858.72 -128.55 488.13 365.19 -278.95 -294.50 1,511.85 1,454.02 1,596.30 -25.10 4,744.28<br />

SPALI 121.45 -427.19 -318.51 914.59 746.83 806.55 607.43 798.04 571.50 152.56 631.17 124.86 4,729.29<br />

MINT -164.19 -73.83 -66.48 658.20 1,959.77 278.66 253.64 641.06 41.82 575.00 39.24 -18.80 4,124.07<br />

BECL 188.49 99.55 302.08 715.80 412.19 270.15 55.90 443.95 -109.43 204.58 203.59 155.31 2,942.17<br />

AOT 199.66 1,014.95 -955.84 -165.13 -360.85 -173.32 593.28 540.79 140.95 837.06 -226.42 1,474.09 2,919.21<br />

HEMRAJ 304.39 480.14 411.66 219.75 269.20 149.62 126.43 128.63 329.97 142.00 87.28 198.49 2,847.57<br />

STEC 482.69 318.34 390.90 415.55 343.50 97.93 347.17 907.59 107.41 -377.06 -122.64 -159.60 2,751.78<br />

LH 414.59 -26.11 -172.82 183.10 1,266.96 292.29 117.59 122.10 308.01 446.96 -246.46 -91.18 2,615.02<br />

LPN 407.37 402.44 330.06 790.14 391.24 299.05 249.81 262.12 -161.70 -96.60 -130.85 -145.57 2,597.51<br />

BEC 871.81 -309.06 262.24 411.51 45.53 329.05 -493.88 83.88 -518.76 782.76 401.59 523.23 2,389.89<br />

BCP -126.31 118.77 576.64 214.13 428.31 317.90 284.72 -94.25 235.26 407.40 427.13 -420.46 2,369.23<br />

RATCH -8.09 72.59 -78.86 27.48 49.91 -124.70 293.58 695.68 369.96 223.53 636.31 102.43 2,259.82<br />

TCAP 66.86 -820.44 -203.88 1,165.87 -402.82 31.60 -1.37 55.39 2,458.86 1,133.08 165.47 -1,456.44 2,192.17<br />

TMB 21.11 47.31 -218.95 437.71 255.79 61.79 -200.11 -19.12 580.07 651.81 385.50 16.19 2,019.12<br />

DSGT -17.21 -29.32 9.19 -21.59 27.86 35.84 -68.22 22.00 -44.29 -143.93 2,225.14 3.38 1,998.85<br />

SSI -44.32 -96.44 -269.66 -72.89 19.07 11.09 -7.40 -13.35 -40.34 -37.68 10.23 2,486.95 1,945.26<br />

ROBINS 32.30 -75.73 -142.60 480.60 -21.48 435.27 3.08 -338.26 152.28 -13.27 1,513.36 -230.45 1,795.10<br />

THCOM 12.98 172.95 120.38 936.77 999.24 207.14 -517.91 -114.25 -88.02 47.33 45.88 -114.49 1,707.99<br />

IRPC 430.71 246.94 500.51 499.44 -206.59 -262.01 -139.05 -36.63 -44.69 328.24 203.39 115.16 1,635.42<br />

TPIPL 166.56 117.94 -127.08 -241.63 -101.39 -130.36 -30.36 -17.59 -206.45 223.59 47.11 1,869.07 1,569.40<br />

SIRI -91.24 -272.17 -251.61 -79.22 196.43 64.57 683.69 430.66 -356.65 199.69 540.08 407.63 1,471.86<br />

MAJOR 180.75 86.54 3.56 579.29 922.29 26.43 -12.55 -143.98 -564.52 89.82 381.85 -126.22 1,423.26<br />

AP -154.19 -325.17 76.44 1,306.81 553.70 15.25 409.74 144.51 19.54 402.24 -334.83 -723.80 1,390.24<br />

GLOW -88.87 -107.05 -143.13 631.71 325.75 257.64 -281.09 -123.42 216.33 190.54 279.14 171.16 1,328.72<br />

TISCO -230.88 -1,071.32 701.30 437.41 330.57 -6.71 264.37 78.26 171.98 676.59 -51.69 27.39 1,327.26<br />

HMPRO 266.93 -657.68 295.07 666.33 119.65 -758.95 -456.82 35.50 156.09 231.90 2,046.82 -696.39 1,248.46<br />

STPI -5.07 25.06 21.83 16.79 14.43 12.73 -285.99 -59.46 -30.94 805.29 702.41 13.55 1,230.63<br />

MAKRO 58.35 148.27 360.52 600.17 -395.84 -659.95 -875.39 -9.94 -103.13 231.91 457.45 1,393.54 1,205.96<br />

GOLD -1.25 24.74 0.00 1,244.91 0.00 0.00 -77.39 -85.90 -50.38 -18.66 97.55 11.09 1,144.71<br />

TTW -81.48 4.86 0.76 74.13 196.60 25.40 40.21 130.84 101.40 301.12 222.94 33.20 1,050.00<br />

หมายเหตุ : ฐานขอมูลมีการเปลี่ยนแปลงจากเดือนกอนหนา เนื่องจากฝายวิจัยมีการนําขอมูล NVDR เขามาเพิ่มเติมจากฐานขอมูลเดิม<br />

ที่มา : ตลท., ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

132 Invest+ 1 st Quarter, 2013


สถิติหลักทรัพย์<br />

2 หุ้นที่นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิมากที่สุด 50 อันดับแรก<br />

(ลานบาท) ธ.ค. 54 ม.ค. 55 ก.พ. 55 มี.ค. 55 เม.ย. 55 พ.ค. 55 มิ.ย. 55 ก.ค. 55 ส.ค. 55 ก.ย. 55 ต.ค. 55 พ.ย. 55 รวม<br />

BTS -1,900.12 80.79 -14,608.56 -2,750.97 1,571.17 1,191.15 2,765.20 428.46 -15,177.99 1,796.22 1,106.43 1,173.25 -24,324.98<br />

BANPU -881.61 918.38 5,095.63 -3,295.22 -5,765.97 -4,603.91 -1,346.22 -590.92 3,276.48 -2,195.81 1,623.35 733.71 -7,032.11<br />

BH -216.58 -152.85 -172.31 -1,257.46 558.49 -1,351.28 -42.99 -240.48 -442.70 -220.30 -131.43 -121.68 -3,791.57<br />

BLAND 141.83 75.91 24.81 47.69 21.18 72.81 12.47 209.53 104.58 -363.64 -1,170.79 -1,003.53 -1,827.15<br />

BJC 95.20 -283.59 648.55 -265.25 -603.16 -167.68 -63.12 -19.78 -38.48 -250.90 -154.27 -395.61 -1,498.11<br />

ESSO 99.71 -484.70 -838.16 569.84 -677.94 -52.99 -64.08 66.78 3.89 50.93 79.74 -110.41 -1,357.39<br />

MALEE -0.79 -3.58 9.11 -4.36 -4.87 -204.87 4.66 -267.86 -893.67 24.59 -18.14 2.53 -1,357.25<br />

MBK -43.39 -3.52 29.62 7.87 -23.16 -19.91 -27.36 -48.56 -247.37 -142.42 -282.00 -188.05 -988.25<br />

TRUE -84.75 138.21 -76.94 385.66 294.96 452.40 537.70 855.97 154.19 -2,045.22 -545.72 -799.78 -733.32<br />

DCC -5.44 -31.61 -0.72 489.22 289.64 -166.75 -244.98 -140.51 -72.28 -113.38 -33.58 -592.60 -623.01<br />

TPC -39.25 4.67 27.13 -475.33 -0.70 -14.72 -146.05 33.53 -4.87 -1.30 7.01 1.39 -608.48<br />

RML -158.56 -256.19 -34.81 -12.89 85.73 -2.66 -90.18 -173.61 -28.35 7.01 105.82 8.01 -550.69<br />

ITD -77.83 -595.00 415.47 -247.41 -43.26 -12.76 -102.38 -32.31 7.68 40.28 94.20 12.72 -540.60<br />

GFPT -5.18 -25.33 -17.37 -266.52 -66.40 -13.73 21.23 -4.37 1.61 -53.73 49.61 -30.94 -411.11<br />

GLOBAL -21.65 -15.79 413.65 -53.36 -146.60 152.32 -19.10 -446.43 -35.87 -96.74 -60.90 -30.05 -360.53<br />

GRAMMY -27.40 3.36 171.71 122.72 -10.41 -24.10 -13.70 -89.14 -146.12 -78.25 -143.68 -108.56 -343.55<br />

KSL 68.57 48.28 -85.40 -444.48 -9.01 39.88 32.62 24.44 -32.45 1.47 36.76 -18.28 -337.60<br />

GRAND -50.07 -141.55 -62.48 -3.71 -0.25 -36.85 -0.21 -15.40 -9.21 0.32 4.18 -4.22 -319.47<br />

MCS 8.71 -2.96 109.14 -169.08 -152.91 -44.68 -0.09 0.42 -13.13 -3.36 -25.27 -6.11 -299.31<br />

TTA -76.05 42.78 10.02 1.38 -28.11 20.78 -38.06 -179.73 -3.42 -5.37 19.29 -54.24 -290.73<br />

EGCO 256.63 -257.23 -215.18 255.52 -182.33 403.96 474.80 -75.89 -210.50 -79.05 -73.53 -576.71 -279.52<br />

OISHI 6.24 -6.04 -0.47 -0.55 -16.94 -70.39 -57.57 -2.76 29.15 16.39 -79.31 -83.13 -265.37<br />

KTC -7.93 -12.39 -149.79 -74.69 -61.65 3.20 -1.33 1.19 -12.13 -27.77 37.62 51.63 -254.04<br />

HFT -0.00 -15.82 -90.61 -40.81 -15.15 0.70 -4.66 -44.07 3.94 -12.61 -24.52 -10.23 -253.83<br />

AEONTS -1.28 5.14 1.09 -0.01 2.54 0.52 -20.94 -22.86 5.35 -81.16 -125.69 -4.35 -241.65<br />

PRANDA -12.79 -9.25 -6.08 -8.82 2.98 -6.32 -4.09 0.53 -12.96 -91.93 -7.13 -44.08 -199.94<br />

TCC -0.00 -152.58 -23.88 2.05 0.00 -0.52 0.02 0.02 0.08 0.19 0.49 -0.50 -174.63<br />

SYNTEC -0.14 0.03 -3.74 -16.74 -123.07 1.54 -0.03 -0.10 0.23 -10.01 4.12 -12.47 -160.37<br />

BKI 3.37 -74.56 -11.61 -60.49 0.10 11.00 0.95 10.86 6.25 0.49 6.01 -48.01 -155.63<br />

AIT -19.89 -1.67 7.24 -4.19 -2.88 -6.90 -4.13 -0.86 -66.50 -19.68 -23.13 -9.92 -152.51<br />

IVL 6.46 153.35 7,507.50 -959.50 -3,503.84 -785.63 -670.80 -153.09 88.99 -116.66 -891.14 -822.57 -146.91<br />

EASTW 6.66 16.07 10.70 0.91 -14.44 41.03 22.44 -20.54 -33.49 -54.56 -94.32 -15.74 -135.28<br />

UV -0.36 -7.63 -0.31 0.00 0.11 -0.27 -1.26 -4.81 -22.28 45.63 -120.83 -17.19 -129.19<br />

TSTH -29.49 1.86 -0.32 0.84 -13.21 -36.55 -24.15 0.07 0.02 -2.63 -12.34 0.34 -115.56<br />

NOBLE 1.87 -0.96 -24.08 -25.61 1.59 -19.89 -28.42 -5.69 -21.93 1.06 -6.46 14.51 -114.01<br />

MBKET 3.79 1.33 16.07 13.72 7.29 3.29 -157.60 0.00 0.00 -0.28 0.95 0.67 -110.76<br />

PR -1.61 -1.24 -10.28 -3.33 -1.08 -7.44 -1.46 -6.30 -28.48 -17.21 -11.52 -8.61 -98.56<br />

SMT 4.66 -60.77 15.10 -16.37 4.84 -0.40 -5.36 -5.93 -3.25 14.44 -30.20 3.15 -80.08<br />

FSS -14.33 -0.92 10.07 -0.04 0.06 -0.05 0.00 0.00 -7.12 -8.88 -42.29 -8.28 -71.77<br />

TYM -8.19 -2.06 -1.99 4.73 -8.05 -55.72 1.00 0.36 0.02 0.85 -0.07 0.11 -69.00<br />

CSL 7.63 7.47 -13.87 -0.22 -16.77 4.40 -3.68 -8.29 -11.46 -5.23 7.19 -31.57 -64.41<br />

PSL 30.87 -9.96 -30.77 43.72 54.00 3.85 -28.49 -0.99 -9.21 -46.82 -39.76 -28.14 -61.70<br />

PDI -8.29 -19.10 -13.08 -10.10 0.52 0.13 -0.70 -2.06 -1.35 -5.97 -0.50 -0.52 -61.01<br />

CK -109.21 10.21 -22.41 -69.33 100.43 50.96 -17.38 115.62 10.27 4.18 81.96 -214.51 -59.22<br />

MODERN -16.14 -52.08 1.33 14.68 0.01 1.44 -1.27 -1.35 -10.40 -2.51 8.95 7.52 -49.82<br />

TK -9.63 0.18 -24.23 -12.98 -4.95 0.85 -8.86 -4.84 -15.76 0.07 17.80 13.77 -48.59<br />

SUSCO -0.74 -1.52 -6.05 0.31 0.24 20.28 -4.53 -4.64 -0.55 -16.08 -29.87 -5.32 -48.49<br />

MATI 0.10 1.08 0.42 -1.63 -0.74 -0.70 -1.40 -7.13 -9.46 -11.41 -6.79 -8.40 -46.07<br />

LOXLEY 16.47 -23.82 -11.73 29.31 8.76 -20.55 -0.15 -4.66 8.38 -12.09 3.62 -38.25 -44.71<br />

FNS 0.00 0.00 -0.43 -17.48 -0.79 -0.54 0.00 0.00 -10.52 -0.12 -6.05 -5.64 -41.57<br />

หมายเหตุ : ฐานขอมูลมีการเปลี่ยนแปลงจากเดือนกอนหนา เนื่องจากฝายวิจัยมีการนําขอมูล NVDR เขามาเพิ่มเติมจากฐานขอมูลเดิม<br />

ที่มา : ตลท., ฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 133


Earnings Guide<br />

คํา ราคาปด Fair Mkt Cap กําไรสุทธิ EPS PER BVS Yield<br />

แนะนํา 19/12/55 Value (พัน (ลานบาท) (บาท) (เทา) (บาท) (%)<br />

(บาท) (บาท) ลานบาท) 53A 54A 55F 56F 53A 54A 55F 56F 54A 55F 54A 55F 54A 55F<br />

Agribusiness 45.16 4,077 4,344 2,263 3,000 10.4 20.0<br />

CPI HOLD 5.45 5.34 1.53 70 165 125 139 0.25 0.59 0.44 0.50 9.3 12.3 5.7 5.9 4.40 4.08<br />

GFPT HOLD 8.15 8.50 10.22 1,166 1,203 16 488 0.93 0.96 0.01 0.39 8.5 630.3 4.8 4.5 4.05 0.05<br />

STA HOLD 16.30 17.41 20.86 3,820 1,306 961 1,166 3.82 1.02 0.75 0.91 16.0 21.7 14.0 14.5 1.88 1.38<br />

UPOIC HOLD 11.10 7.92 3.60 123 388 257 280 0.38 1.20 0.79 0.86 9.3 14.0 3.3 3.4 9.91 6.42<br />

UVAN HOLD 95.25 96.19 8.95 537 1,282 904 928 5.71 13.64 9.62 9.87 7.0 9.9 28.8 29.0 9.97 7.57<br />

Food & Beverages 515.86 20,993 28,601 35,048 33,782 15.9 14.4<br />

CPF BUY 35.00 38.38 271.00 13,563 15,837 19,690 16,623 2.04 2.38 2.67 2.26 14.7 13.1 8.5 12.9 3.40 2.69<br />

KBS HOLD 10.70 11.30 5.35 168 801 782 696 0.48 1.60 1.56 1.16 6.7 6.8 4.4 5.3 5.79 5.85<br />

KSL BUY 13.30 15.50 21.59 159 1,890 2,031 2,026 0.10 1.22 1.25 1.19 10.9 10.7 6.3 7.4 3.66 3.75<br />

LST HOLD 4.04 3.92 3.31 199 168 268 301 0.24 0.21 0.33 0.37 19.7 12.4 3.1 3.4 1.98 4.04<br />

MINT HOLD 20.00 19.00 73.74 1,241 2,880 2,958 3,284 0.38 0.88 0.77 0.86 22.7 25.9 4.4 5.3 0.75 1.00<br />

OISHI BUY 153.00 216.33 28.69 975 808 700 1,109 5.20 4.31 3.74 5.92 35.5 41.0 15.5 17.0 1.44 1.22<br />

TVO BUY 24.80 32.32 20.05 1,525 725 2,033 1,869 2.03 0.93 2.51 2.31 26.6 9.9 7.3 8.4 3.63 7.26<br />

TUF BUY 74.00 94.00 84.92 2,874 5,075 6,065 7,352 3.17 5.31 5.25 6.36 13.9 14.1 25.5 32.4 2.11 3.54<br />

Home & Office 10.23 345 590 755 781 17.3 13.6<br />

SIAM HOLD 3.08 3.76 1.83 77 308 346 262 0.13 0.52 0.58 0.44 5.9 5.3 4.1 4.4 5.19 6.07<br />

Banking 2,125.08 106,210 129,745 167,463 203,729 15.9 12.7<br />

BAY BUY 30.75 38.00 186.78 8,793 9,264 14,503 16,224 1.45 1.53 2.39 2.67 20.2 12.9 16.9 18.3 2.28 3.49<br />

BBL BUY 197.00 245.00 376.04 24,593 27,338 33,695 39,659 12.88 14.32 17.65 20.78 13.8 11.2 127.7 140.1 3.05 3.30<br />

KBANK BUY 193.50 237.33 463.10 20,046 24,226 36,159 43,518 8.40 10.15 15.14 18.23 19.1 12.8 64.7 75.3 1.29 1.81<br />

KK BUY 47.75 51.10 39.77 2,840 2,859 3,262 4,441 4.48 4.51 3.94 5.36 10.6 12.1 38.3 42.2 5.03 5.24<br />

KTB BUY 19.30 23.69 269.84 14,913 17,012 25,555 29,798 1.33 1.52 1.83 2.13 12.7 10.6 11.6 12.8 3.21 3.79<br />

LHBANK BUY 1.36 1.75 16.29 408 496 574 795 0.07 0.04 0.05 0.06 31.5 28.7 1.2 1.2 1.44 1.60<br />

SCB BUY 178.50 213.42 606.76 23,231 36,273 39,479 46,387 6.83 10.67 11.61 13.65 16.7 15.4 54.7 63.3 1.96 2.24<br />

TCAP BUY 36.75 49.14 46.96 5,414 5,003 5,677 13,718 4.24 3.92 4.44 10.74 9.4 8.3 28.7 31.7 3.27 3.63<br />

TISCO HOLD 51.75 52.00 37.67 2,801 3,266 3,693 4,293 3.85 4.49 5.07 5.90 11.5 10.2 22.4 24.2 4.83 4.90<br />

TMB HOLD 1.88 1.78 81.87 3,171 4,010 4,867 4,896 0.07 0.09 0.11 0.11 20.4 16.8 1.2 1.3 1.47 1.78<br />

Finance & Securities 74.77 4,807 3,858 5,476 6,065 18.1 13.8<br />

AEONTS BUY 79.00 82.97 19.75 992 161 1,339 1,565 3.97 0.65 5.35 6.26 122.5 14.8 24.5 28.0 2.66 3.04<br />

ASK BUY 20.00 23.00 6.90 290 332 493 661 1.26 1.44 1.43 1.92 13.9 14.0 8.9 9.7 5.00 5.00<br />

CGS HOLD 0.99 0.98 2.31 194 254 260 193 0.08 0.11 0.11 0.08 9.1 8.9 1.2 1.2 8.89 9.01<br />

CNS SELL 30.75 23.36 2.20 117 217 157 152 1.63 3.03 2.19 2.12 10.1 14.0 50.6 46.3 11.71 7.12<br />

FSS HOLD 2.62 2.64 1.20 129 79 156 123 0.40 0.19 0.35 0.26 13.7 7.6 3.4 3.5 2.29 5.28<br />

GBX SELL 0.74 0.70 0.81 61 42 6 5 0.06 0.04 0.01 0.00 19.1 145.9 1.2 1.2 5.41 0.69<br />

GL HOLD 73.00 83.30 5.04 263 215 375 500 4.67 3.45 4.88 5.92 21.2 15.0 21.7 23.1 3.16 4.01<br />

IFS BUY 2.64 3.53 1.24 85 68 115 138 0.21 0.14 0.25 0.29 18.3 10.8 1.8 1.9 3.79 5.58<br />

JMT BUY 11.50 6.88 3.45 41 67 104 147 0.52 0.56 0.35 0.49 20.6 33.1 1.5 2.1 3.91 2.27<br />

KCAR BUY 16.10 22.62 4.03 344 323 414 471 1.38 1.29 1.65 1.88 12.4 9.7 5.6 6.3 4.72 6.04<br />

KGI SELL 2.40 2.12 4.78 752 535 408 385 0.38 0.27 0.20 0.19 8.9 11.7 2.4 2.4 10.42 7.25<br />

MBKET HOLD 14.40 14.86 8.22 806 654 703 707 1.41 1.15 1.23 1.24 12.6 11.7 7.7 7.8 8.13 8.55<br />

OSK SELL 4.50 1.46 3.69 21 27 (73) (47) 0.03 0.03 -0.09 -0.06 134.4 NM 2.6 2.5 - -<br />

TK BUY 16.90 20.23 8.45 532 625 771 843 1.06 1.25 1.54 1.69 13.5 11.0 7.1 7.7 3.70 6.54<br />

TNITY HOLD 5.15 5.65 0.90 39 117 87 73 0.22 0.67 0.49 0.42 7.7 10.4 7.7 7.8 4.85 3.83<br />

UOBKH SELL 3.60 3.22 1.81 140 140 163 147 0.40 0.28 0.32 0.29 12.9 11.1 4.3 4.5 1.67 1.94<br />

Insurance 113.33 4,577 1,809 (369) 6,769 56.4 NM<br />

BKI HOLD 294.00 261.33 22.36 1,232 52 436 1,904 16.20 0.68 5.73 25.04 430.0 51.3 240.3 261.3 4.08 4.08<br />

BLA HOLD 61.75 49.80 74.39 2,765 3,417 3,469 3,753 2.30 2.85 2.89 3.13 21.7 21.4 11.2 13.3 1.38 1.40<br />

THRE BUY 4.72 5.20 16.58 580 (1,660) (4,274) 1,112 0.49 -1.40 -1.22 0.32 NM NM 0.6 1.0 - -<br />

134 Invest+ 1 st Quarter, 2013


Earnings Guide<br />

คํา ราคาปด Fair Mkt Cap กําไรสุทธิ EPS PER BVS Yield<br />

แนะนํา 19/12/55 Value (พัน (ลานบาท) (บาท) (เทา) (บาท) (%)<br />

(บาท) (บาท) ลานบาท) 53A 54A 55F 56F 53A 54A 55F 56F 54A 55F 54A 55F 54A 55F<br />

Automotive 44.36 3,454 1,320 4,019 4,598 33.2 11.0<br />

AH BUY 19.60 29.00 5.27 357 (390) 772 650 1.33 -1.45 2.87 2.42 NM 6.8 14.8 17.5 0.82 5.12<br />

APCS SELL 4.70 4.72 1.55 142 89 108 130 0.63 0.30 0.33 0.39 15.9 14.4 3.0 2.8 8.51 2.79<br />

IHL HOLD 9.00 9.42 3.15 273 148 276 275 0.91 0.49 0.79 0.79 18.2 11.4 2.4 2.8 1.87 3.33<br />

IRC BUY 14.90 17.00 2.98 309 152 103 283 1.54 0.76 0.51 1.42 19.6 29.1 10.3 10.1 1.63 1.38<br />

SAT BUY 27.50 40.64 9.35 759 408 875 1,063 2.23 1.20 2.58 3.13 22.9 10.7 12.3 14.4 1.64 3.28<br />

STANLY BUY 212.00 268.34 16.24 1,428 727 1,582 1,861 18.63 9.48 20.64 24.29 22.4 10.3 110.9 128.0 1.42 3.11<br />

Industrial Materials & Machinery 10.93 1,201 604 766 996 18.7 14.3<br />

KKC HOLD 4.50 4.69 3.83 820 84 243 398 0.96 0.10 0.29 0.47 45.6 15.7 2.5 2.8 - 1.56<br />

SNC BUY 24.70 29.08 7.11 381 520 523 598 1.27 1.72 1.82 2.08 14.3 13.6 6.4 6.8 6.48 6.48<br />

Petrochemicals & Chemicals 478.51 30,108 49,892 42,434 45,995 9.6 11.3<br />

IVL HOLD 25.50 26.50 122.76 10,413 15,568 5,990 8,754 2.40 3.23 1.24 1.82 7.9 20.5 12.2 12.4 3.92 1.46<br />

PTTGC BUY 68.25 73.39 307.73 16,320 30,033 31,501 31,718 3.65 6.66 6.99 7.04 10.2 9.8 46.3 46.3 1.90 3.07<br />

TPC BUY 30.50 32.30 26.69 1,866 2,302 2,827 2,892 2.13 2.63 3.23 3.31 11.6 9.4 16.7 18.5 5.18 6.35<br />

VNT BUY 18.00 24.64 21.33 1,509 1,989 2,117 2,631 1.27 1.68 1.79 2.22 10.7 10.1 15.3 17.0 5.56 5.95<br />

Packaging 67.21 985 879 241 566 6.9 25.2<br />

AJ BUY 15.20 17.83 6.07 985 879 241 566 2.74 2.20 0.60 1.42 6.9 25.2 8.5 9.1 4.61 1.19<br />

Steel 61.14 (6,096) (2,840) (12,444) 1,397 NM NM<br />

BSBM HOLD 1.12 1.23 1.27 153 101 10 45 0.14 0.09 0.01 0.04 12.6 126.7 1.7 1.6 7.14 0.63<br />

CSP HOLD 2.00 2.00 1.00 107 91 125 148 0.21 0.18 0.25 0.30 11.0 8.0 1.5 1.6 6.00 7.50<br />

MCS BUY 6.40 7.96 3.20 811 476 240 332 1.62 0.95 0.48 0.66 6.7 13.4 4.7 4.7 7.81 3.74<br />

SMIT BUY 4.84 5.42 2.57 200 222 312 319 0.38 0.42 0.59 0.60 11.6 8.2 3.0 3.4 4.55 6.09<br />

SSI SELL 0.57 0.51 14.02 2,446 (981) (15,930) (234) 0.19 -0.05 -0.88 -0.01 NM NM 1.3 0.5 - -<br />

TMT BUY 8.65 9.23 3.71 242 81 388 392 0.57 0.19 0.91 0.92 45.5 9.5 3.9 4.7 1.73 7.51<br />

TSTH SELL 1.10 0.84 9.26 (976) (1,581) (684) 395 -0.12 -0.19 -0.08 0.05 NM NM 1.6 1.5 - -<br />

Construction Materials 683.25 45,890 43,319 32,200 45,213 15.8 21.2<br />

DCC BUY 45.75 52.18 18.67 1,175 1,243 1,221 1,397 2.88 3.05 2.99 3.42 15.0 15.3 6.5 6.5 6.66 6.54<br />

DRT HOLD 7.40 8.10 7.68 453 460 581 641 0.45 0.45 0.56 0.61 16.5 13.2 2.0 2.2 4.86 6.05<br />

SCC BUY 424.00 445.00 508.80 37,382 27,281 24,880 35,523 31.15 22.73 20.73 29.60 18.7 20.5 116.8 127.1 2.95 2.48<br />

SCCC SELL 432.00 308.12 99.36 2,701 3,293 3,962 4,429 11.74 14.32 17.22 19.26 30.2 25.1 73.9 78.2 3.01 3.24<br />

TASCO HOLD 44.50 45.08 6.79 1,008 736 406 612 6.61 4.82 2.66 4.01 9.2 16.7 25.2 26.6 2.81 2.25<br />

TPIPL SELL 15.00 12.73 30.29 2,273 9,751 503 2,008 1.13 4.83 0.25 0.99 3.1 60.2 30.4 29.7 1.00 0.25<br />

VNG BUY 4.46 5.52 5.82 827 467 526 601 0.63 0.36 0.40 0.46 12.5 11.1 4.7 5.0 3.36 4.51<br />

Property Development 720.48 32,200 26,735 45,003 52,657 26.1 15.9<br />

AMATA BUY 16.10 21.64 17.18 696 932 1,221 1,924 0.65 0.87 1.14 1.80 18.4 14.1 5.6 6.3 2.48 2.84<br />

AP HOLD 8.50 8.78 24.20 2,228 1,551 2,375 2,492 0.79 0.55 0.84 0.88 15.4 10.2 3.8 4.3 2.12 3.94<br />

CK HOLD 12.80 13.08 21.15 (335) 927 462 820 -0.20 0.56 0.28 0.50 22.8 45.7 4.0 4.7 1.95 1.56<br />

CPN BUY 81.50 90.00 177.57 1,125 2,058 6,193 5,299 0.52 0.94 2.84 2.43 86.3 28.7 9.2 11.6 0.45 1.39<br />

HEMRAJ BUY 3.14 3.74 30.47 1,411 537 2,190 3,182 0.15 0.06 0.23 0.33 56.8 13.9 0.9 1.1 1.75 2.87<br />

ITD BUY 4.20 5.24 17.61 298 (1,698) 207 593 0.07 -0.41 0.05 0.14 NM 84.9 1.9 2.0 - -<br />

LH HOLD 9.65 9.40 96.75 3,971 5,609 5,247 5,255 0.40 0.56 0.52 0.52 17.3 18.4 2.9 3.0 4.15 4.13<br />

LPN SELL 18.00 17.16 26.56 1,637 1,917 2,289 2,554 1.11 1.30 1.54 1.72 13.9 11.7 4.8 5.6 3.61 4.31<br />

MJD BUY 2.96 3.65 2.08 530 184 9 608 0.76 0.26 0.01 0.61 11.3 232.3 3.1 3.1 - -<br />

MK HOLD 3.48 2.99 2.99 537 234 414 431 0.62 0.27 0.48 0.50 12.8 7.3 5.7 6.0 4.66 6.17<br />

NOBLE BUY 6.00 7.61 2.74 998 346 311 434 2.19 0.76 0.68 0.95 7.9 8.8 8.5 8.9 5.00 3.97<br />

NUSA BUY 1.05 1.36 2.39 88 56 112 561 0.03 0.01 0.06 0.23 70.8 17.2 1.0 1.0 - -<br />

NWR HOLD 1.80 2.00 2.80 13 96 657 222 0.01 0.06 0.42 0.14 29.2 4.3 0.9 1.3 - 4.44<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 135


Earnings Guide<br />

คํา ราคาปด Fair Mkt Cap กําไรสุทธิ EPS PER BVS Yield<br />

แนะนํา 19/12/55 Value (พัน (ลานบาท) (บาท) (เทา) (บาท) (%)<br />

(บาท) (บาท) ลานบาท) 53A 54A 55F 56F 53A 54A 55F 56F 54A 55F 54A 55F 54A 55F<br />

PF HOLD 1.06 1.07 5.98 550 488 459 862 0.12 0.10 0.09 0.15 10.3 11.9 1.6 1.5 3.77 3.65<br />

PREB BUY 9.25 10.18 2.14 62 107 182 236 0.31 0.51 0.78 1.02 18.2 11.8 3.1 3.4 1.62 3.64<br />

PRIN HOLD 2.00 1.95 2.43 573 203 361 408 0.53 0.17 0.29 0.32 12.0 6.8 2.8 2.9 2.50 4.46<br />

PS BUY 21.40 28.08 47.36 3,488 2,835 3,898 5,175 1.58 1.28 1.76 2.34 16.7 12.1 7.6 9.0 1.86 2.88<br />

QH BUY 2.14 3.25 19.65 2,003 853 2,185 1,795 0.24 0.10 0.24 0.20 21.3 9.0 1.6 1.7 - 4.45<br />

RML BUY 1.92 2.45 6.86 64 (474) 1,172 1,460 0.02 -0.15 0.33 0.41 NM 5.9 0.2 0.6 - -<br />

ROJNA BUY 10.20 14.18 13.97 666 (554) 1,330 1,450 0.71 -0.49 1.10 0.97 NM 9.3 3.7 5.2 - 4.15<br />

SC BUY 27.00 25.62 17.78 1,166 1,079 1,220 1,683 1.82 1.66 1.86 2.56 16.2 14.5 13.4 14.5 2.44 2.75<br />

SEAFCO BUY 5.75 6.91 1.24 (59) (59) 132 144 -0.27 -0.27 0.61 0.67 NM 9.4 2.4 3.0 - 3.48<br />

SENA BUY 3.28 3.28 2.34 317 418 306 335 0.47 0.62 0.43 0.47 5.3 7.7 2.9 3.1 5.76 5.53<br />

SF HOLD 7.25 8.50 8.48 518 709 1,503 578 0.50 0.68 1.28 0.49 10.6 5.6 4.0 4.9 0.19 1.88<br />

SIRI BUY 3.52 3.72 27.75 1,898 2,015 2,741 3,851 0.08 0.29 0.35 0.46 12.3 10.0 1.6 1.5 3.98 5.00<br />

SPALI HOLD 17.90 20.49 30.73 2,581 2,568 2,972 3,517 0.38 1.50 1.73 2.05 12.0 10.3 6.3 7.3 4.19 3.87<br />

SRICHA SELL 40.25 27.38 12.21 1,190 1,108 991 1,048 5.29 4.92 3.27 3.42 8.2 12.3 4.9 7.4 13.81 6.21<br />

STEC BUY 25.25 25.54 29.95 444 904 1,133 1,212 0.37 0.76 0.96 1.02 33.2 26.4 4.9 5.3 2.18 2.57<br />

STPI BUY 62.25 72.55 22.94 2,021 400 1,009 1,678 5.50 1.09 2.74 4.53 57.3 22.7 8.4 10.8 0.51 2.01<br />

SYNTEC HOLD 1.06 0.99 1.70 203 97 (108) 114 0.13 0.06 -0.07 0.07 17.4 NM 1.4 1.3 1.89 -<br />

TICON BUY 14.20 15.79 12.46 821 436 1,173 1,262 1.22 0.57 1.44 1.32 24.7 9.8 7.3 8.4 2.82 7.11<br />

TPOLY SELL 1.89 1.71 0.79 84 49 (88) 86 0.23 0.12 -0.18 0.17 16.1 NM 1.9 1.6 4.23 -<br />

TTCL SELL 33.50 27.75 16.08 337 399 531 673 0.70 0.83 1.11 1.40 40.3 30.3 3.5 4.2 1.28 1.65<br />

WHA BUY 25.75 16.81 13.13 78 405 213 715 0.46 2.19 0.50 1.40 11.7 51.3 2.7 5.3 - 0.78<br />

Energy & Utilities 2,383.04 195,433 214,512 223,901 230,706 10.5 10.6<br />

BANPU HOLD 424.00 515.27 115.22 24,728 20,060 9,559 10,436 91.00 73.82 35.17 38.40 5.7 12.1 318.6 390.8 4.95 4.25<br />

BCP BUY 29.50 34.02 58.85 2,796 5,610 3,801 3,906 2.38 4.07 2.76 2.84 7.2 10.7 21.6 23.2 5.59 4.07<br />

EASTW HOLD 12.80 14.20 21.30 912 1,008 1,303 1,462 0.55 0.61 0.78 0.88 21.1 16.3 4.2 4.5 3.28 4.24<br />

EGCO BUY 140.00 147.57 73.71 6,803 4,990 11,439 7,463 12.84 9.41 21.58 14.08 14.9 6.5 110.1 111.8 3.75 3.75<br />

GLOW HOLD 72.50 75.25 106.06 5,716 3,494 5,800 7,828 3.91 2.39 3.96 5.35 30.4 18.3 23.8 25.3 2.53 3.37<br />

GUNKUL BUY 23.90 23.14 10.52 123 90 823 646 0.42 0.22 1.87 1.47 106.8 12.8 3.0 4.3 0.42 1.36<br />

IRPC BUY 4.26 5.46 87.05 6,183 4,107 1,311 7,758 0.31 0.21 0.07 0.39 20.6 64.7 3.7 3.7 2.82 1.88<br />

LANNA HOLD 23.40 25.36 8.19 675 1,043 951 682 1.93 2.98 2.72 1.95 7.8 8.6 11.7 12.9 7.69 6.41<br />

PTT BUY 333.00 420.12 951.15 83,992 105,296 102,047 104,583 29.48 36.86 35.73 36.61 9.0 9.3 194.6 207.6 3.68 3.83<br />

PTTEP BUY 161.00 195.69 639.17 43,774 44,748 58,401 62,565 13.20 13.48 14.71 15.76 11.9 10.9 60.2 59.9 3.35 3.65<br />

RATCH BUY 56.25 61.90 81.56 5,220 4,841 7,855 6,527 3.60 3.34 5.42 4.50 16.8 10.4 33.5 36.7 4.00 4.00<br />

TOP BUY 67.50 80.12 137.70 8,956 14,853 12,649 12,817 4.39 7.28 6.20 6.28 9.3 10.9 39.0 48.2 4.89 4.13<br />

TTW HOLD 8.80 7.90 35.11 2,063 2,113 2,469 2,739 0.52 0.53 0.62 0.69 16.6 14.2 2.6 2.8 4.55 5.11<br />

Commerce 972.61 16,459 21,787 28,184 34,984 34.0 34.5<br />

BIGC HOLD 200.00 215.00 165.00 2,816 5,242 5,913 6,834 3.51 6.54 7.17 8.29 30.6 27.9 29.3 38.8 0.98 1.07<br />

BJC SELL 62.75 47.00 99.65 1,901 2,178 2,476 2,813 1.20 1.37 1.56 1.77 45.8 40.2 9.1 9.9 1.16 1.32<br />

CPALL BUY 47.00 52.00 422.21 6,663 8,008 11,153 14,041 1.48 1.78 1.24 1.56 26.4 37.9 4.8 3.6 2.66 1.98<br />

HMPRO BUY 12.70 15.60 89.43 1,638 2,005 2,700 3,665 0.38 0.34 0.38 0.52 37.0 33.1 1.4 1.4 1.31 1.34<br />

LOXLEY BUY 5.30 6.13 10.60 (139) 298 485 702 -0.07 0.15 0.24 0.35 35.6 21.9 2.2 2.3 1.42 1.89<br />

MAKRO HOLD 458.00 483.00 109.92 1,881 2,604 3,386 4,137 7.84 10.85 14.11 17.24 42.2 32.5 40.3 42.3 2.29 2.97<br />

ROBINS HOLD 68.25 68.00 75.80 1,697 1,453 2,072 2,793 1.53 1.31 1.87 2.51 52.2 36.6 8.2 9.4 0.95 1.36<br />

Health Care Services 264.37 4,663 7,122 12,057 10,757 36.2 21.6<br />

BCH SELL 9.20 9.70 18.35 639 673 879 969 0.38 0.34 0.44 0.49 27.3 20.9 1.8 2.0 2.17 2.72<br />

BGH BUY 114.00 129.00 176.18 2,295 4,386 7,814 6,720 1.84 2.84 5.06 4.35 40.2 22.5 21.6 25.8 1.27 1.33<br />

BH HOLD 74.50 87.00 54.39 1,258 1,588 2,697 2,344 1.73 2.18 3.70 3.22 34.2 20.1 9.2 11.6 1.48 1.88<br />

136 Invest+ 1 st Quarter, 2013


Earnings Guide<br />

คํา ราคาปด Fair Mkt Cap กําไรสุทธิ EPS PER BVS Yield<br />

แนะนํา 19/12/55 Value (พัน (ลานบาท) (บาท) (เทา) (บาท) (%)<br />

(บาท) (บาท) ลานบาท) 53A 54A 55F 56F 53A 54A 55F 56F 54A 55F 54A 55F 54A 55F<br />

Media & Publishing 224.36 6,165 6,484 9,019 10,373 31.7 24.9<br />

BEC HOLD 67.50 61.50 135.00 3,303 3,530 4,795 5,350 1.65 1.77 2.40 2.68 38.2 28.2 3.6 4.1 2.59 3.47<br />

MAJOR SELL 19.20 19.00 17.04 762 782 856 947 0.86 0.89 0.96 1.06 21.7 19.9 6.9 7.3 4.27 4.00<br />

MCOT HOLD 41.75 36.80 28.69 1,423 1,356 1,671 1,830 2.07 1.97 2.43 2.66 21.1 17.2 11.1 11.8 4.31 5.20<br />

RS HOLD 6.20 6.10 5.47 317 209 299 344 0.45 0.24 0.33 0.34 26.1 18.8 1.3 1.6 2.42 3.46<br />

VGI BUY 92.50 78.00 27.75 172 278 941 1,260 1.72 2.78 3.14 4.20 33.2 29.5 2.9 6.4 1.62 2.37<br />

WORK BUY 40.50 55.00 10.41 187 327 457 642 0.93 1.31 1.78 2.50 31.0 22.8 4.7 5.7 2.47 3.29<br />

Tourism 44.30 (331) 1,042 1,193 1,534 42.5 37.2<br />

CENTEL SELL 25.50 22.00 34.43 (56) 550 1,098 1,375 -0.04 0.41 0.81 1.02 62.5 31.3 4.3 5.0 0.59 1.28<br />

ERW BUY 4.40 4.10 9.88 (275) 491 94 159 -0.12 0.22 0.04 0.06 20.1 104.8 1.6 1.6 1.82 0.24<br />

Transportation 342.14 21,078 (4,499) 32,712 18,756 NM 10.7<br />

AAV HOLD 4.70 4.73 22.80 1,005 1,014 15,741 1,530 0.25 0.25 3.25 0.32 19.0 1.4 0.0 5.4 - -<br />

AOT HOLD 92.00 92.00 131.43 2,039 2,215 6,500 8,512 1.43 1.55 4.55 5.96 59.3 20.2 50.6 54.5 0.87 2.11<br />

BECL BUY 33.00 40.50 25.41 1,803 1,408 2,295 2,293 2.34 1.83 2.98 2.98 18.1 11.1 24.3 26.5 3.94 4.18<br />

BMCL HOLD 0.70 0.70 8.37 (1,114) (1,154) (1,182) (1,009) -0.09 -0.10 -0.10 -0.06 NM NM 0.2 0.1 - -<br />

BTS BUY 6.85 7.50 73.63 205 2,104 11,487 2,539 0.02 0.23 0.96 0.21 29.8 7.1 4.0 5.0 4.38 4.96<br />

PSL HOLD 13.90 16.00 14.45 1,134 719 122 539 1.09 0.69 0.12 0.52 20.1 118.2 14.8 14.5 3.96 2.88<br />

RCL HOLD 7.05 7.70 5.84 465 (781) (1,462) (771) 0.56 -0.94 -1.76 -0.93 NM NM 15.5 13.7 - -<br />

THAI HOLD 22.40 25.62 48.89 14,744 (10,197) 3,830 4,951 6.75 -4.67 1.75 2.27 NM 12.8 28.9 30.7 - 3.09<br />

TTA HOLD 16.00 20.00 11.33 796 173 (4,619) 173 1.12 0.24 -6.52 0.24 65.4 NM 36.0 28.7 6.25 -<br />

Electronic Components 88.50 10,449 2,153 10,628 8,446 41.1 8.3<br />

CCET SELL 3.10 1.85 12.64 1,664 513 964 1,078 0.41 0.13 0.23 0.26 24.6 13.3 4.2 4.3 5.16 3.23<br />

DELTA BUY 31.75 36.00 39.60 4,153 2,864 4,137 4,114 3.33 2.30 3.32 3.30 13.8 9.6 15.9 17.5 3.78 5.35<br />

HANA HOLD 22.40 22.00 18.03 2,749 1,618 1,748 1,625 3.42 2.01 2.17 2.02 11.1 10.3 17.5 18.6 4.46 4.91<br />

KCE BUY 10.20 12.00 4.82 535 132 698 544 1.13 0.28 1.54 1.20 36.5 6.6 5.3 6.7 1.96 3.33<br />

SMT HOLD 11.10 10.70 4.63 527 (1,502) 1,656 341 1.43 -3.61 3.96 0.81 NM 2.8 2.4 6.4 1.80 -<br />

SPPT SELL 3.92 2.50 1.01 86 (197) 49 52 0.33 -0.76 0.19 0.20 NM 20.5 1.5 1.5 3.83 3.83<br />

SVI HOLD 3.96 4.20 7.77 735 (1,275) 1,376 693 0.38 -0.65 0.70 0.35 NM 5.6 0.6 1.2 - 4.67<br />

Information & Communication 1,230.23 39,356 47,834 57,366 68,818 552.1 21.4<br />

ADVANC BUY 211.00 250.00 627.32 20,513 22,217 35,082 39,429 6.91 7.47 11.80 13.26 28.2 17.9 13.3 15.5 4.00 5.59<br />

DTAC BUY 88.75 110.00 210.14 10,885 11,812 12,012 14,209 4.60 4.99 5.07 6.00 17.8 17.5 14.7 14.8 20.10 5.14<br />

INTUCH BUY 67.75 87.00 217.23 8,016 16,559 14,250 16,739 2.50 5.16 4.44 5.22 13.1 15.2 9.1 9.3 8.12 6.46<br />

JAS HOLD 5.25 5.60 38.03 663 1,072 1,966 2,509 0.09 0.15 0.27 0.35 35.5 19.3 1.1 1.3 0.91 1.55<br />

JMART HOLD 14.00 7.70 5.76 95 171 268 321 0.32 0.57 0.64 0.77 24.6 21.8 2.2 4.1 2.86 3.21<br />

THCOM HOLD 23.00 25.00 25.21 (806) (490) 349 1,301 -0.74 -0.00 0.32 1.19 NM 72.3 12.9 13.2 - 0.55<br />

TRUE SELL 5.00 3.60 72.52 1,209 (2,692) (6,392) (4,270) 0.16 -0.19 -0.44 -0.29 NM NM 1.5 1.0 - -<br />

MAI 9.35 976 1,174 1,586 854 12.6 10.6<br />

FPI HOLD 10.90 11.00 3.22 27 63 182 250 0.13 0.27 0.62 0.85 39.9 17.7 0.7 1.0 4.13 1.70<br />

KIAT BUY 10.30 12.00 2.27 195 201 155 203 1.00 1.03 0.71 0.92 10.0 14.6 2.8 3.0 4.85 4.45<br />

TMILL BUY 4.28 4.14 1.24 69 35 99 83 0.35 0.17 0.35 0.29 24.8 12.3 1.0 1.0 - 4.08<br />

Property Fund 59.98 3,281 4,039 4,581 5,104 17.3 15.4<br />

CPNRF BUY 18.00 10.49 19.65 1,709 1,892 1,917 2,094 1.04 1.16 1.17 1.28 15.6 15.4 10.4 10.5 5.68 6.28<br />

POPF BUY 14.40 10.25 4.92 0 273 341 365 0.00 0.80 1.00 1.07 18.0 14.5 10.3 10.2 5.03 6.87<br />

SPF BUY 16.70 10.83 15.87 403 817 1,103 1,202 0.42 0.86 1.16 1.27 19.4 14.4 10.9 10.8 5.93 6.86<br />

TFUND BUY 11.40 10.98 10.54 699 515 639 848 0.76 0.56 0.64 0.85 20.5 17.8 10.6 11.0 6.75 4.21<br />

หมายเหตุ : AOT, IRC, TTA งวดบัญชีสิ้นสุดเดือน ก.ย. CNS งวดบัญชีสิ้นสุดเดือน ส.ค. STANLY งวดบัญชีสิ้นสุดเดือน ม.ค.<br />

EPS ใชวิธี Fully Dilution Method และจํานวนหุนรวมหุนบุริมสิทธิ์เขาไวดวย<br />

* CPNRF, POPF, SPF, TFUND : Fair value, BVS = NAV<br />

ที่มา : ประมาณการโดยฝายวิจัย <strong>ASP</strong><br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 137


สถิติกองทุน<br />

ผลการดําเนินงานกองทุน ณ วันที ่ 14 กันยายน 2555<br />

บลจ. ชื่อยอ ชื่อกองทุน<br />

3M 6M YTD 1Y 3Y<br />

กองทุนตราสารตลาดเงิน<br />

<strong>ASP</strong> <strong>ASP</strong> แอสเซทพลัสตราสารหนี้ 2.64% 2.66% 2.85% 2.85% 2.90%<br />

SCB SCBTMF ไทยพาณิชยตราสารรัฐตลาดเงิน 2.23% 2.25% 2.35% 2.52% 2.67%<br />

Thanachart T-CASH ธนชาตบริหารเงิน 2.83% 2.52% 2.73% 2.74% 2.78%<br />

กองทุนหุน ไมจายปนผล<br />

ABERDEEN ABSM อเบอรดีน สมอลแค็พ 0.26% 3.35% 7.51% 16.91% 47.96%<br />

INGAM INGTEF ไอเอ็นจีไทย อีควิตี้ ฟนด 2.44% 6.52% 14.11% 25.09% 45.93%<br />

Krungsri KFDYNAMIC กรุงศรีหุนไดนามิค 1.35% 2.40% 7.56% 9.06% 20.56%<br />

กองทุนหุน จายปนผล<br />

<strong>ASP</strong> <strong>ASP</strong>-GDF แอสเซทพลัสกําไรปนผล 1.20% 4.17% 5.63% 15.98% 33.44%<br />

KASSET K-VALUE เค หุนปนผล 1.84% 4.61% 7.07% 19.23% 39.72%<br />

Krungsri KFSDIV กรุงศรีหุนปนผล 1.32% 4.06% 9.05% 17.22% 32.63%<br />

กองทุน LTF ไมจายปนผล<br />

ABERDEEN ABLTF อเบอรดีนหุ นระยะยาว 1.59% 4.24% 11.16% 21.04% 46.61%<br />

INGAM ING CG-LTF ไอเอ็นจีไทย บรรษัทภิบาลหุนระยะยาว 1.88% 6.53% 15.56% 27.06% 46.56%<br />

Krungsri KFLTF50 กรุงศรีหุนระยะยาว SET50 2.17% 5.17% 6.76% 14.67% 31.04%<br />

กองทุน LTF จายปนผล<br />

<strong>ASP</strong> <strong>ASP</strong>-LTF แอสเซทพลัสหุนระยะยาว 1.44% 4.61% 6.77% 17.24% 23.81%<br />

AYF KFLTFDIV กรุงศรีหุนระยะยาวปนผล 1.32% 4.07% 4.60% 11.94% 31.36%<br />

KASSET KDLTF เค หุนระยะยาวปนผล 2.19% 5.83% 6.68% 13.58% 25.58%<br />

กองทุน RMF ประเภท "กองทุนรวมตราสารตลาดเงิน"<br />

KASSET KSFRMF เค ตราสารหนี้ระยะสั้น เพื่อการเลี้ยงชีพ 0.05% 0.18% 0.85% 1.63% 3.00%<br />

Krungsri KFCASHRMFกรุงศรีตราสารเงินเพื่อการเลี้ยงชีพ 0.05% 0.20% 0.63% 1.26% 2.42%<br />

Thanachart NMRMF ธนชาต ตลาดเงินเพื่อการเลี้ยงชีพ 0.06% 0.20% 0.65% 1.31% 2.62%<br />

กองทุน RMF ประเภท "กองทุนตราสารหนี้"<br />

INGAM INGSVRMF ไอเอ็นจีไทย ออมทรัพยเพื่อการเลี้ยงชีพ 0.05% 0.20% 0.63% 1.30% 2.52%<br />

SCBAM SCBRM1 ไทยพาณิชยตราสารหนี้ระยะสั้นเพื่อการเลี้ยงชีพ 0.05% 0.20% 0.66% 1.34% 2.53%<br />

TMBAM TMBGRMF ทหารไทย Global Bond Fund เพื่อการเลี้ยงชีพ 0.51% 1.85% 3.81% 11.38% 14.33%<br />

กองทุน RMF ประเภท "กองทุนผสม"<br />

<strong>ASP</strong> <strong>ASP</strong>-MRF แอสเซทพลัสหุนผสมตราสารหนี้เพือการเลี้ยงชีพ 1.49% 4.67% 5.93% 15.70% 34.74%<br />

AYF KFFLEX2RMFกรุงศรีเฟล็กซิเบิ้ล 2 เพื่อการเลี้ยงชีพ 0.36% 7.46% 13.03% 23.35% 35.66%<br />

KTAM RMF1 กรุงไทยวางแผนภาษีเพื่อการเลี้ยงชีพ 2.23% 4.79% 7.01% 15.62% 30.01%<br />

กองทุน RMF ประเภท "กองทุนตราสารทุน"<br />

AYF KFDIVRMF กรุงศรีหุนปนผลเพื่อการเลี้ยงชีพ 1.28% 4.05% 9.01% 16.97% 37.14%<br />

Aberdeen ABSC-RMF อเบอรดีน สมารท แคปปทอล เพือการเลี้ยงชีพ 0.28% 3.18% 10.56% 18.92% 45.24%<br />

KASSET KGDRMF เค โกลดเพื่อการเลี้ยงชีพ 0.56% -1.10% -1.06% 8.06% 1.26%<br />

138 Invest+ 1 st Quarter, 2013


สถิติกองทุน<br />

ผลการดําเนินงานกองทุน ณ วันที ่ 14 กันยายน 2555<br />

บลจ. ชื่อยอ ชื่อกองทุน<br />

ปองกันความ<br />

เสี่ยงอัตรา<br />

แลกเปลี่ยน<br />

3M 6M YTD 1Y<br />

กองทุนทองคํา<br />

<strong>ASP</strong> <strong>ASP</strong>-GOLD แอสเซทพลัสโกลด มี 6.87% 6.75% 8.71% -3.44%<br />

KASSET K-GOLD เค โกลด ไมมี 6.70% 6.64% 8.02% -4.61%<br />

Thanachart TGoldBullion-H ธนชาตทองคําแทง 90% 6.92% 6.70% 9.73% -1.78%<br />

กองทุนน้ํามัน<br />

<strong>ASP</strong> <strong>ASP</strong>-OIL แอสเซทพลัสออยล มี 1.98% 15.42% -3.39% 7.25%<br />

KASSET K-OIL เค ออยล มี 1.84% 15.51% -3.02% 7.96%<br />

TISCO TISCOOIL ทิสโก ออยล ฟนด ไมมี 1.41% 15.25% -3.34% 8.96%<br />

กองทุนตราสารทุน<br />

Aberdeen ABAG อเบอรดีน อเมริกัน โกรท ไมมี -0.58% 16.71% 19.28% 26.04%<br />

Aberdeen ABAPAC อเบอรดีน เอเซีย แปซิฟค ไมมี 0.63% 6.60% 15.99% 13.83%<br />

Aberdeen ABCG อเบอรดีน ไชนา เกทเวยฟ ไมมี -1.12% -0.62% 5.67% 5.85%<br />

Aberdeen ABEG อเบอรดีน ยูโรเปยน โกรธ ไมมี 0.93% 9.77% 10.53% 16.20%<br />

Aberdeen ABGEM อเบอรดีน โกลบอล อีเมอรจิ้งมารเกต ไมมี -0.09% 6.59% 11.79% 11.81%<br />

<strong>ASP</strong> <strong>ASP</strong>-ASIAN แอสเซทพลัส เอเชี่ยนสเปเชียลซิทูเอชั่น บางสวน 2.51% 5.26% 12.20% 4.02%<br />

<strong>ASP</strong> <strong>ASP</strong>-BRIC แอสเซทพลัส บริค บางสวน 2.30% 6.69% 3.73% -6.65%<br />

<strong>ASP</strong> <strong>ASP</strong>-HSI แอสเซทพลัส เอชเอสไอ มี 0.37% 3.86% 11.43% 7.15%<br />

<strong>ASP</strong> <strong>ASP</strong>-NGF แอสเซท พลัส นิปปอน โกรท ไมมี -2.84% -1.91% -3.07% -6.04%<br />

<strong>ASP</strong> <strong>ASP</strong>-S&P500 แอสเซทพลัส S&P 500 มี 3.28% 8.96% 18.00% 22.52%<br />

INGAM ING ASIA-E ไอเอ็นจี ไทย ออล เอเชีย ไมมี 0.17% 2.74% 5.60% 1.45%<br />

INGAM ING BRIC ไอเอ็นจี ไทย บริค 40 บางสวน 0.75% 5.81% 5.29% 1.28%<br />

INGAM ING EHD ไอเอ็นจี ไทย ยูโร ไฮดิวิเดน ไมมี 5.44% 16.97% 9.18% 8.83%<br />

INGAM ING GC ไอเอ็นจี ไทย เกรทเทอร ไชนา ไมมี 1.28% 3.55% 7.23% 2.50%<br />

KASSET K-China เค ไชนาหุนทุน ไมมี -1.48% -1.59% 3.98% -3.77%<br />

Thanachart T-PremiumBrand ธนชาต พรีเมียมแบรนด 80% 1.63% 6.45% 15.87% 5.56%<br />

TISCO TISCOAP ทิสโก เอเซีย แปซิฟก ไมมี -1.39% 5.00% 7.49% 6.43%<br />

TISCO TISCOCID ทิสโก ไชนา อินเดีย ดิวิเดน ไมมี -1.98% 0.56% 3.15% -5.25%<br />

TISCO TISCOUS ทิสโก ยูเอส อิควิตี้ ไมมี 0.70% 6.38% 13.55% 21.43%<br />

TMBAM TMBCHEQ ทหารไทย ไชนา อิควิตี้ ไมมี -3.30% -11.85% -9.53% -14.30%<br />

TMBAM TMBEMEQ ทหารไทย อีเมอรจิ้งมารเกต ไมมี 1.77% 6.45% 9.88% 6.49%<br />

UOBAM UOBSA ยูโอบี สมารท เอเชีย ไมมี -0.88% 4.55% 8.16% 1.47%<br />

UOBAM UOBSAC-N ยูโอบี สมารท เอเชีย คอนซูเมอร ไมมี 0.69% 3.30% 14.34% 5.24%<br />

UOBAM UOBSGC ยูโอบี สมารท เกรธเธอร ไชนา ไมมี -0.44% 3.06% 8.26% 0.53%<br />

กองทุนตราสารหนี้<br />

KASSET K-GEMBOND เค โกลบอล อีเมอรจิ้ง มารเกต บางสวน 1.97% 6.30% 9.52% 5.74%<br />

Krungsri KF-TRB กรุงศรีโทเทิลรีเทิรนบอนด มี 1.33% 2.64% 9.12% 9.01%<br />

Thanachart T-GLOBALBOND ธนชาต โกลบอล บอนด บางสวน 0.59% 6.56% 11.04% 8.24%<br />

TMBAM TMBGF ทหารไทย โกลบอล บอนด มี 0.82% 6.64% 11.21% 8.14%<br />

1 st Quarter, 2013 Invest+ 139


ดัชนีเศรษฐกิจ<br />

ดัชนีสําคัญทางเศรษฐกิจ (รายเดือน)<br />

2012<br />

ดัชนีเศรษฐกิจ 2555<br />

% การเปลี่ยนแปลง มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค.<br />

อัตราการใชกําลังการผลิต (รอยละ) 68.3 62.2 68.7 66.3 66.8 65.4 64.2 57.9<br />

เครื่องชี้การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน<br />

- ยอดคาปลีก (ณ ราคาป 2545) 7.8 11.9 24.1 15.0 18.8 12.4 14.4 n.a.<br />

- ปริมาณจําหนายรถยนตนั่ง -3.3 23.4 137.5 84.2 99.6 71.7 67.8 277.1<br />

- ปริมาณจําหนายรถจักรยานยนต -0.6 4.9 14.5 -3.5 5.5 -5.8 -0.8 23.9<br />

- สินคาอุปโภคบริโภคนําเขา (ณ ราคาป 2538) 4.3 2.9 17.9 7.9 21.4 9.2 3.9 35.3<br />

เครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชน<br />

- ปริมาณจําหนายรถยนตเชิงพาณิชย 20.3 35.2 85.8 68.3 65.5 57.4 39.0 195.3<br />

- การนําเขาเครื่องจักร1/ (ณ ราคาป 2538) 4.0 25.2 38.4 27.7 30.8 9.1 20.8 42.7<br />

- ปริมาณจําหนายซีเมนตในประเทศ 1.7 6.2 7.5 9.4 14.7 11.0 14.6 31.3<br />

ดุลเงินสดรัฐบาล (พันลานบาท) -180.7 -43.9 29.8 167.4 -48.9 1.7 68.2 -161.6<br />

ดัชนีราคาผูบริโภคทั่วไป 3.5 2.5 2.5 2.6 2.7 2.7 3.4 3.3<br />

- อาหารและเครื่องดื่ม 7.1 4.5 5.2 4.7 5.4 4.0 3.7 3.4<br />

- มิใชอาหารและเครื่องดื่ม 1.2 1.2 0.8 1.2 1.0 1.8 3.2 3.3<br />

ดัชนีราคาผูบริโภคพื้นฐาน (ไมรวมราคาอาหารสดและ<br />

2.8 2.1 2.0 1.9 1.9 1.8 1.9 1.8<br />

พลังงาน)<br />

ภาคตางประเทศ (ลานดอลลาร สรอ. นอกจากจะระบุเปนอยางอื่น)<br />

สินคาออก2/ 19,661 16,630 20,549 19,507 19,246 19,556 20,477 19,128<br />

(% การเปลี่ยนแปลง) -6.8 -3.5 9.2 -2.3 -3.9 -5.1 -0.1 14.4<br />

สินคาเขา2/ 21,062 17,364 19,975 17,864 18,763 18,016 17,495 19,274<br />

(% การเปลี่ยนแปลง) 21.5 9.0 16.8 5.0 13.3 -77.0 -7.2 21.2<br />

ดุลการคา -1,401 -734 574 1,644 483 1,541 2,982 -146<br />

ดุลบัญชีเดินสะพัด -1,522 -1,516 -1,540 604 107 858 1,769 -199<br />

ดุลเงินทุนเคลื่อนยายสุทธิ 492 142 -2,152 259 1,881 3,777 146 -467<br />

- ภาคเอกชน -219 -434 -954 -40 -37 440 732 -379<br />

- ภาครัฐบาล 325 881 -246 1,158 716 628 716 312<br />

ดุลการชําระเงิน 766 -1,008 -2,774 519 515 2,447 2,171 -1,295<br />

เงินสํารองทางการ (พันลาน US$) 179.2 179.0 171.7 174.7 175.4 179.2 183.6 181.4<br />

ภาคการเงิน (ณ สิ้นระยะเวลา) (พันลานบาท)<br />

ฐานเงิน 1,313 1,342 1,340 1,330 1,336 1,330 1,355 1,354<br />

(% การเปลี่ยนแปลง) 3.5 11.6 12.4 8.7 10.8 9.1 10.2 3.3<br />

ปริมาณเงินตามความหมายแคบ 1,437 1,440 1,455 1,453 1,431 1,463 1,484 1,473<br />

(% การเปลี่ยนแปลง) 6.8 6.9 4.3 8.7 7.1 8.8 11.7 8.1<br />

ปริมาณเงินตามความหมายกวาง 13,898 13,800 13,844 14,009 14,145 14,251 14,544 14,699<br />

(% การเปลี่ยนแปลง) 13.1 10.4 10.1 11.1 10.5 10.7 12.7 11.8<br />

เงินฝากของสถาบันรับฝากเงินอื่น 4/ 12,341 12,398 12,604 12,926 13,319 13,669 14,285 14,438<br />

(% การเปลี่ยนแปลง) 13.3 12.9 13.6 17.6 20.2 22.6 13.3 12.1<br />

สินเชื่อภาคเอกชนของสถาบันรับฝากเงินอื่น 4/ 11,909 12,077 12,281 12,396 12,487 12,637 12,817 12,917<br />

(% การเปลี่ยนแปลง) 15.5 16.4 16.8 16.1 16.5 15.9 15.7 15.2<br />

อัตราดอกเบี้ย (รอยละตอป)<br />

- ตลาดซื้อคืนพันธบัตร 1 วัน (เฉลี่ยจากอัตราปดรายวัน) 3.00 3.00 3.00 3.00 3.00 3.00 3.00 2.89<br />

- ระหวางธนาคาร (เฉลี่ยจากฐานนิยมรายวัน) 2.90 2.90 2.90 2.90 2.90 2.90 2.90 2.78<br />

- เงินฝากประจํา 1 ป 5/ (ณ สิ้นเดือน) 2.86 2.86 2.86 2.86 2.86 2.86 2.86 2.66<br />

- ลูกหนี้ชั้นดี 5/ (ณ สิ้นเดือน) 7.13 7.13 7.13 7.13 7.13 7.13 7.13 7.03<br />

อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ย (บาท:ดอลลาร สรอ.) 30.71 30.68 31.36 31.65 31.64 31.42 30.99 30.68<br />

1/ ไมรวมการนําเขาวัตดุดิบและเครื่องบิน 2/ BOP Basis 3/ สินเชื่อ BIBF ใชอัตราแลกเปลี่ยน ณ สิ้นเดือนในการแปลงคาเปนเงินบาท รวมการลงทุนในตราสารหนี้<br />

และเงินฝากสถาบันการเงินอื่นที่มิใช ธ.พ. 4/ สถาบันการเงินอื่นคือ ธ.พ.ในประเทศ,สาขา ธ.พ. ตางประเทศ กิจการวิเทศธนกิจ บง. ธนาคารเฉพาะกิจ สหกรณออม<br />

ทรัพย และกองทุนรวมตลาดเงิน 5/ ขอมูล ธ.พ.3 (โดยรวมขอมูลของธนาคารธนชาตตั้งแตเดือน เม.ย. 45) p = เบื้องตน E = ประมาณการ<br />

ที่มา : ธนาคารแหงประเทศไทย<br />

140 Invest+ 1 st Quarter, 2013


-<br />

-<br />

สายงานวิจัย <strong>ASP</strong><br />

Head of Research porranee@asiaplus.co.th<br />

ภรณี ทองเย็น, CISA<br />

เลขทะเบียนนักวิเคราะห: 004146<br />

1. Economist<br />

2. Strategist<br />

วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ทีมที่ 1 วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ทีมที่ 2<br />

วิเคราะห์ตราสารอนุพันธ์, หุ้นกลุ่มอสังหาฯ, นิคมอุตสาหกรรม, รับเหมาฯ,<br />

วัสดุก่อสร้าง, ยานยนต์, โรงแรม, อาหาร และกองทุนอสังหาริมทรัพย์<br />

วิเคราะห์หุ้นกลุ่ม ธ.พ, ประกันภัย, หลักทรัพย์, เกษตร, พลังงาน,<br />

ปิโตรเคมี และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์<br />

เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม therdsak@asiaplus.co.th อุษณีย์ ลิ่วรัตน์ usanee@asiaplus.co.th<br />

1. Strategist วิเคราะห์หุ้น<br />

2. วิเคราะห์การเมือง - กลุ่มธนาคารพาณิชย์<br />

3. วิเคราะห์ตราสารอนุพันธ์ - กลุ่มประกันภัย<br />

เลขทะเบียนนักวิเคราะห :<br />

004132<br />

เลขทะเบียนนักวิเคราะห :<br />

017928<br />

4. วิเคราะห์หุ้น - กลุ่มปิโตรเคมี<br />

- กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์<br />

ประสิทธิ์ รัตนกิจกมล, CISA, CFA prasit@asiaplus.co.th นลินรัตน์ กิตติกําพลรัตน์ nalinrat@asiaplus.co.th<br />

1. วิเคราะห์ตราสารอนุพันธ์ –(Option, ทองคํา) วิเคราะห์หุ้น<br />

2. วิเคราะห์หุ้น - กลุ่มพลังงาน<br />

- กลุ่มวัสดุก่อสร้าง - กลุ่มปิโตรเคมี<br />

เลขทะเบียนนักวิเคราะห:<br />

025917<br />

- กลุ่มวัสดุอุตสาหกรรมฯ<br />

- กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง<br />

นวลพรรณ น้อยรัชชุกร nuanpun@asiaplus.co.th<br />

เลขทะเบียนนักวิเคราะห:<br />

019994<br />

เลขทะเบียนนักวิเคราะห:<br />

018350<br />

ธิปธวัช สุวรรณธํามรงค์ thiptawat@asiaplus.co.th<br />

1. วิเคราะห์ตราสารอนุพันธ์ -(Option, ทองคํา) วิเคราะห์หุ้น<br />

2. วิเคราะห์หุ้น - กลุ่มยานยนต์ - กลุ่มชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์<br />

- กลุ่มโรงแรม, กลุ่มอาหาร - กลุ่มเกษตร - อาหาร<br />

- กลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัย(ให้เช่า) - ผู้ช่วยวิเคราะห์หุ้นกลุ่มพลังงาน<br />

3. วิเคราะห์กองทุนอสังหาริมทรัพย์<br />

วีรพล เหลืองอมรชัย weerapon@asiaplus.co.th<br />

เลขทะเบียนนักวิเคราะห:<br />

033624<br />

เลขทะเบียนนักวิเคราะห:<br />

034124<br />

ณพัฒน์ ศรีวรพงษ์พันธ์ napat@asiaplus.co.th<br />

วิเคราะห์หุ้น ผู้ช่วยนักวิเคราะห์<br />

- กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม<br />

- กลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัย<br />

ต่อศักดิ์ วยากรณ์วิจิตร torsak@asiaplus.co.th เสาวณิต วรดิษฐ์ saowanit@asiaplus.co.th<br />

ผู้ช่วยนักวิเคราะห์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์<br />

เลขทะเบียนนักวิเคราะห:<br />

-<br />

ปุญชรัสมิ์ ฉัตรพิพัฒนผล pam.c@asp-intl.com<br />

ผู้ช่วยนักวิเคราะห์<br />

เลขทะเบียนนักวิเคราะห:<br />

-<br />

เลขทะเบียนนักวิเคราะห:<br />

เลขทะเบียนนักวิเคราะห:


วิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน ทีมที่ 3 วิเคราะห์เชิงปริมาณ<br />

วิเคราะห์หุ้นกลุ่มบันเทิง,ขนส่ง,สื่อสาร,โรงพยาบาล,ค้าปลีก,สาธารณูปโภค-น้ํา<br />

กวี มานิตสุภวงษ์ kawee@asiaplus.co.th<br />

เลขทะเบียนนักวิเคราะห:<br />

003974<br />

ปิยะภัทร์ ภัทรภูวดล piyapat.p@asiaplus.co.th<br />

วิเคราะห์หุ้น ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เชิงปริมาณ<br />

- กลุ่มสื่อสาร 1. สนับสนุนข้อมูลกลยุทธ์การลงทุน และเชิง<br />

- กลุ่มบันเทิง ปริมาณ<br />

- กลุ่มขนส่ง-เดินเรือ 2. หุ้น Turnover list<br />

- กลุ่มการแพทย์<br />

3. <strong>ASP</strong> Quant packs, DW<br />

สุวัฒน์ วัฒนพรพรหม suwat@asiaplus.co.th<br />

เลขทะเบียนนักวิเคราะห:<br />

044015<br />

เลขทะเบียนนักวิเคราะห<br />

พบชัย ภัทราวิชญ์ pobchai@asiaplus.co.th<br />

วิเคราะห์หุ้น ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เชิงปริมาณ<br />

- กลุ่มขนส่ง-ทางบก, ทางอากาศ 1. Oil Future<br />

- กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศ 2. DW<br />

เลขทะเบียนนักวิเคราะห:<br />

อนุวัฒน์ ศรีขจรรัตน์กุล anuwat@asiaplus.co.th<br />

เลขทะเบียนนักวิเคราะห:<br />

045698<br />

นพพร ฉายแก้ว nopporn@asiaplus.co.th<br />

วิเคราะห์หุ้น<br />

- กลุ่มหลักทรัพย์<br />

- หุ้นขนาดกลาง-เล็ก<br />

เลขทะเบียนนักวิเคราะห: -<br />

กฤตภาส จิรภานุเมศ krittapas@asiaplus.co.th<br />

วิเคราะห์หุ้น ผู้ช่วยนักเศรษฐศาสตร์<br />

- กลุ่มค้าปลีก-ค้าส่ง<br />

- สาธารณูปโภคพื้นฐาน<br />

ประกิต สิริวัฒนเกตุ prakit@asiaplus.co.th<br />

เลขทะเบียนนักวิเคราะห:<br />

031178<br />

เลขทะเบียนนักวิเคราะห: -<br />

วิเคราะห์เทคนิค<br />

แพรธิดา กาญจนาเวส pearthida@asiaplus.co.th<br />

1. กลยุทธ์การลงทุนตราสารทุน ผู้ช่วยนักวิเคราะห์เทคนิค<br />

2. วิเคราะห์เทคนิค - หุ้น Turnover List<br />

3. กลยุทธ์การลงทุนตราสารอนุพันธ์ในส่วน - รายงานการเคลื่อนไหวของตลาดรายวัน<br />

SET50 Index Future<br />

4. สนับสนุนข้อมูลตาม Request จากลูกค้า<br />

สถาบันในประเทศและฝ่ายการลงทุนต่างประเทศ<br />

เลขทะเบียนนักวิเคราะห: -<br />

research@asiaplus.co.th<br />

ทีมงานสนับสนุน งานธุรการ ทีมงานแปล งานไอที<br />

ศศิชา โล่ห์ชัยพาณิช เอมิกา จารุอําพรพรรณ รัตนา เตชะอุดมเดช แสงเดือน ดิดทิโส บุษยมาส สองเมือง อนุชา ทรงญาติ ธีรชัย ศิริเมธากุล<br />

sasicha@asiaplus.co.th amika@asiaplus.co.th ratana@asiaplus.co.th sangdean@asiaplus.co.th busayamas@asiaplus.co.th anucha@asiaplus.co.th teerachai.s@asp-intl.com


บทพิสูจน์ความสําเร็จของ เอเซียพลัส<br />

2548 Best Brokerage Services Awards - Retails โดย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />

2549 Best Brokerage Services Awards - Retails และ Best Research House Awards โดย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />

2551 One of Top 3 Best Retail Research House Candidates และ โดย สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์<br />

นักวิเคราะห์ยอดเยี่ยม กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์<br />

2552 นักวิเคราะห์ยอดเยี่ยม กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดย สมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์<br />

2553 Best Securities Company Award - Retail Investors โดย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />

บันทึก


สํานักงานใหญ่<br />

ชั้น 3/1 อาคารสาธรซิตี้ทาวเวอร เลขที่ 175 ถนนสาทรใต กทม. 10120<br />

โทรศัพท: 0-2285-1666, 0-2679-6888 โทรสาร: 0-2285-1900-1<br />

สํานักงานสาขา พลับพลาไชย<br />

ชั้น 1 อาคารบริษัทสินบัวหลวงจํากัด อาคาร 2<br />

9/1 ถ.เสือปา เขตปอมปราบฯ กทม. 10100<br />

โทรศัพท: 0-2623-1520-6 โทรสาร: 0-2623-1551<br />

สํานักงานสาขา รอยัลซิตี้อเวนิว<br />

23/129 ซอยศูนยวิจัย ถ.พระรามเกา กทม. 10320<br />

โทรศัพท: 0-2203-0011-22 โทรสาร: 0-2203-0010<br />

สํานักงานสาขา ลาดพร้าว<br />

เลขที่ 1693 เซ็นทรัลพลาซา ลาดพราว ชั้น 12 หอง<br />

1213,1214 ถ.พหลโยธิน แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กทม. 10900<br />

โทรศัพท: 0-2937-0455 โทรสาร: 0-2937-0465<br />

สํานักงานสาขา จันทบุรี<br />

ชั้น 4 อาคารธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนทาแฉลบ<br />

197 ถ.ทาแฉลบ อ.เมือง จ.จันทบุรี 22000<br />

โทรศัพท: 0-3932-2135-38 โทรสาร: 0-3935-1636<br />

สํานักงานสาขา ศรีราชา<br />

ชั้น 7 อาคารธนาคารกรุงเทพ<br />

98 ถ.สุขุมวิท อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี 20110<br />

โทรศัพท: 0-3832-2755 โทรสาร: 0-3877-1426<br />

สํานักงานสาขา หาดใหญ่<br />

ชั้น 7 อาคารธนาคารกรุงเทพ สาขาหาดใหญ<br />

39 ถ.นิพัทธอุทิศ 2 อ.หาดใหญ จ.สงขลา 90110<br />

โทรศัพท: 0-7426-2000-3 โทรสาร: 0-7426-2009<br />

สํานักงานสาขา อุดรธานี<br />

ชั้น 3 อาคารธนาคารกรุงเทพ สาขาโพธิ์ศรี<br />

227 ถ.โพธิ์ศรี อ.เมือง จ.อุดรธานี 41000<br />

โทรศัพท: 0-4232-6999 โทรสาร: 0-4232-6995<br />

สํานักงานสาขา ลําปาง<br />

ชั้น 3 อาคารธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนฉัตรไชย<br />

341/3 ถ.บุญญวาส (ฉัตรไชย) อ.เมือง จ.ลําปาง 52100<br />

โทรศัพท: 0-5432-3935-39 โทรสาร: 0-5432-3934<br />

สํานักงานสาขา นครสวรรค์<br />

ชั้น 3 อาคารธนาคารกรุงเทพ สาขานครสวรรค<br />

154/1 ถ.สวรรควิถี ต.ปากน้ําโพ อ.เมือง จ.นครสวรรค 60000<br />

โทรศัพท: 0-5631-2412 โทรสาร: 0-5631-2420<br />

สํานักงานสาขา เอ็มโพเรี่ยม<br />

ชั้น 10/4 อาคารเอ็มโพเรี่ยมทาวเวอร<br />

622 สุขุมวิท 24 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม. 10110<br />

โทรศัพท: 0-2664-8999 โทรสาร: 0-2664-9799<br />

สํานักงานสาขา งามวงศ์วาน<br />

หองเลขที่ 12/1 ชั้น 12 ศูนยการคาเดอะมอลล งามวงศวาน<br />

30/39-50 ถ.งามวงศวาน ต.บางเขน อ.เมือง นนทบุรี 11000<br />

โทรศัพท: 0-2550-0955 โทรสาร: 0-2550-0966<br />

สํานักงานสาขา สยาม<br />

ชั้น 10 ยูนิค บี2 อาคารสยามทาวเวอร<br />

989 ถ.พระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กทม. 10330<br />

โทรศัพท: 0-2670-9999 โทรสาร: 0-2670-9996-8<br />

สํานักงานสาขา ขอนแก่น<br />

ชั้น 4 อาคารธนาคารกรุงเทพ สาขาหนาเมือง<br />

680/12 ถ.หนาเมือง อ.เมือง จ.ขอนแกน 40000<br />

โทรศัพท: 0-4332-2101-04 โทรสาร: 0-4332-2120<br />

สํานักงานสาขา สุราษฎร์ธานี<br />

ชั้น 4 อาคารธนาคารกรุงเทพ สาขาถนนชนเกษม<br />

337/20 ถ.ชนเกษม อ.เมือง จ.สุราษฎรธานี 84000<br />

โทรศัพท: 0-7728-3631-3 โทรสาร: 0-7721-6522<br />

สํานักงานสาขา เชียงใหม่<br />

เลขที่ 164/44-45 ถ.ชางคลาน ต.ชางคลาน<br />

อ.เมือง จ.เชียงใหม 50100<br />

โทรศัพท: 0-5327-3716-20 โทรสาร: 0-5327-3714<br />

สํานักงานสาขา พิษณุโลก<br />

ชั้น 3 อาคารธนาคารกรุงเทพ สาขาพิษณุโลก<br />

262/24 ถ.บรมไตรโลกนารถ อ.เมือง จ.พิษณุโลก 65000<br />

โทรศัพท: 0-5521-7833-37 โทรสาร: 0-5521-7851<br />

สํานักงานสาขา เชียงราย<br />

ชั้น 3 อาคารธนาคารกรุงเทพ สาขาหาแยกพอขุนเม็งราย<br />

866/18 ถ.ทางหลวงหมายเลข 1 อ.เมือง จ.เชียงราย 57000<br />

โทรศัพท: 0-5360-0788 โทรสาร: 0-5374-2858<br />

สํานักงานสาขา พัทยา<br />

อาคาร มุกส เรสสิเดนซ เลขที่ 222/99 ม.9 ถ.เฉลิมพระเกียรติ<br />

(สาย3) ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี 20260<br />

โทรศัพท : 0-3841-2400-05 โทรสาร : 0-3841-9014<br />

ขอมูลในเอกสารฉบับนี้ รวบรวมมาจากแหลงขอมูลที่นาเชื่อถือ อยางไรก็ดี บมจ. หลักทรัพย เอเซีย พลัส ไมสามารถที่จะยืนยันหรือรับรอง<br />

ความถูกตองของขอมูลเหลานี้ได ไมวาประการใด ๆ บทวิเคราะหในเอกสารนี้ จัดทําขึ้นโดยอางอิงหลักเกณฑทางวิชาการเกี่ยวกับหลักการ<br />

วิเคราะหและมิไดเปนการชี้นําหรือเสนอแนะใหซื้อหรือขายหลักทรัพยใด ๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพยใด ๆ ของผูอาน ไมวาจะ<br />

เกิดจากการอานบทความในเอกสารนี้หรือไมก็ตาม ลวนเปนผลจากการใชวิจารณญาณของผูอาน โดยไมมีสวนเกี่ยวของหรือพันธะผูกพัน<br />

ใด ๆ กับ บมจ. หลักทรัพย เอเซีย พลัส ไมวากรณีใด

Hooray! Your file is uploaded and ready to be published.

Saved successfully!

Ooh no, something went wrong!