13.07.2015 Views

Tool - Factory Max CO., LTD

Tool - Factory Max CO., LTD

Tool - Factory Max CO., LTD

SHOW MORE
SHOW LESS

Create successful ePaper yourself

Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.

⌫ชิ้นงานที่มีความซับซ้อนที่เป็นลักษณะเส้นตรง หรือลักษณะที่เป็นวงกลมเราสามารถวัดได้อย่างง่ายดายโดยการหมุนรอบตัวตามด้วยการเคลื่อนที่ของแนวแกนในส่วนของผิวชิ ้นงานที ่ยอมรับได้ในการสแกนเคลื ่อนที ่เราพิจารณาถึงแกนของชิ้นงานสำหรับการวางแนวแกน 3มิติ และการตั ้งจุดอ้างอิง⌫การหมุนรอบแกนซึ่งเป็นฟังก์ชั่นมาตรฐานของกระบวนการตรวจสอบอย่างละเอียด เราพิจารณาจากการสแกนการหมุนของชิ้นงานสำหรับการวัดที่ต้องการความแม่นยำในการวัดอย่างสูง รวมถึงสามารถวัดลักษณะทางเรขาคณิตและรูปร่างด้วยความเร็วสูง ส่วนการวัดรูปที่มีแต่รูปร่างภายนอกจะสามารถสแกนตามส่วนของแกนเพลา ในรูปของ 2 มิติ คือการเกิดเส้นผ่านศูนย์กลาง และความยาวของชิ้นงานขึ้นในเวลาเดียวกัน คุณลักษณะพิเศษของระบบ TESA นี้คือการหันเหของวิถีของเซนเซอร์ ได้ถึง 75 องศา ด้วยส่วนแกนของชิ้นงาน นี่คือการวัดที่เที่ยงตรงและแม่นยำของคุณลักษณะทางเรขาคณิตเฉพาะทั้งหมด ได้แก่การวัดมุม, เรเดียน, เส้นผ่านศูนย์กลาง, การวัดความขนานหรือการวัดความเอียงของผิวชิ้นงาน⌫เกลียวด้านนอกนั้นเป็นลักษณะสำคัญของส่วนรอบนอกและนั่นหมายถึงการวัดที่ต้องใช้การทำงานอย่างมาก รูปร่างที่แท้จริงของเกลียวต่างๆ นั้นเราสามารถหาได้โดยใช้ TESAscan ในการวัดรูปร่างและขนาด หรือ ตรวจวัดสอบเกลียว Tesascan นำเสนอกลไกสำหรับชิ้นงานที่เอียง ตลอดจนมุมของเกลียวที่เราวัดได้จากโครงร่างของขนาดจริงการแก้ไขรูปแบบของเพลากลมนั้นเกี่ยวข้องกับการวัดรูปร่างและขนาดที่สามารถนำไปใช้ได้อย่างง่ายดายด้วยโปรแกรมเฉพาะของ TESA นั ่นคือ PRO-Measure ซึ ่งเป็นซอฟต์แวร์ที ่มีระบบดีเยี่ยม นั่นคือมันสามารถเปรียบเทียบภาพที่ได้รับกับขนาดที่แท้จริง เป็นเครื่องมือที่สามารถนำมาวิเคราะห์ปัญหาง่ายๆ ในการผลิต นั ่นรวมถึงในส่วนของผู ้ปฏิบัติงานได้ประโยชน์จากคำแนะนำในส่วนการสร้างโปรแกรม นอกจากนี้ PRO-Measure สามารถนำเสนอข้อมูลในการวัด จากความหลากหลายของรูปแบบนิวเมอริคและกราฟฟิคเข้าด้วยกัน ผ่านความรู้กระบวนการความสัมพันธ์จนเกิดฟังก์ชั่นเพิ่มเติมที่สามารถใช้งานได้ ไม่ว่าจะเป็น ตัวหนังสือ, โลโก้, รูปภาพที่จะแสดงในรายงานได้ และสามารถเชื่อมต่อได้ในระบบเน็ตเวิ ์รค หรือ อินเทอเฟส ข้อมูลไปยังฐานข้อมูลได้PRO-<strong>CO</strong>MPOSER เป็นการง่ายที ่เราจะใช้ซอท์ฟแวร์ในการสร้างโปรแกรมลงบนคอมพิวเตอร์โดยตรงและเชื่อมต่อไปยังเครื่องจักร มันใช้การนำเสนอในรูปแบบของกราฟฟิคของการสร้างส่วนของโครงร่างภายนอกโดยการสแกนหรือโดยการนำเอาลักษณะรูปทรงจากCAD file สำหรับลำดับขั้นตอนของโปรแกรมนั้นเพื่อการง่ายต่อผู้ใช้เราสามารถเลือกฟังก์ชั่นการวัดได้จาก icon menu สำหรับการใช้งานนั้นเราต้องทำการเลือกช่วง และพารามิเตอร์ซึ่งสามาถเลือกได้จากฐานข้อมูลที ่ปรากฎอยู ่ของ International Standardการวิเคราะห์กราฟฟิค PRO-<strong>CO</strong>MPOSER สามารถแสดงตรวจสอบการมองเห็นอย่างละเอียดของเส้นและเรเดียนเพื่อเปรียบเทียบข้อมูล รวมไปถึงการออกแบบโดยทั่วไป ผลที่ได้จะแสดงออกมาในรูปแบบของกราฟฟิค ปัญหาที่เกิดขึ้นจากการผลิตนั้น PRO-<strong>CO</strong>MPOSER สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการลดข้อผิดพลาดในระหว่างการสร้างโปรแกรม ⌦ ⌫ ⌫ ⌫ ⌫ ⌦ ⌫ ⌫⌫ที ่ได้กล่าวถึงไปทั ้งหมดนี ้เป็นตัวอย่างของเทคโนโลยีไม่ว่าจะเป็นส่วนของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในปัจจุบันที่มีการพัฒนา ไปอย่างไม่มีการหยุดยั้ง ทำให้โลกของเรามีนวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ที่เป็นประโยชน์และสร้างความสะดวกอย่างมาก ในการปฏิบัติงานMETALWORKING UPDATE 3


่่Chokchai Saenchaichana (chokchai@hsm.co.th) ⌦ “ถ้าคุณกำลังทำการแมชชีนชิ ้นส่วนที ่เหมือนๆ กันหรือคล้ายๆ กัน คุณต้องคิดเสมอว่าเราจะทำอย่างไรที่จะลดขั ้นตอนการทำงานที ่เหมือนๆ กันไม่ว่าจะเป็นเรื ่องการทำโปรแกรมการทำงานให้สั้นลง การทำเวลาการติดตั้งหรือเวลาในการแมชชีนชิ้นงานๆ นั้นๆ ให้น้อยที่สุด”คำพูดดังกล่าวเป็นแนวความคิดของ Trutron Corp ซึ ่งเป็นบริษัทรับจ้างผลิตชิ ้นส่วนโดยใช้ CNC ตั ้งอยู ่ที ่ มลรัฐทรอยที ่มิชิแกน ซึ ่งเป็นที ่ที ่ผลิต Punch และ die ที ่มีคุณภาพทีใช้ในการผลิต Constant Velocity Joints ที่ล้อหน้าของรถยนต์ (หรือที ่เราเรียกว่า CV joint)Trutron ได้ทำการผลิต CV joint ตั ้งแต่ปี 1970 ซึ ่งการผลิตหลักๆ ของที ่นี ่คือ ตัว punch และ die ซึ ่งทั ้งสองชิ ้นส่วนนั้นผลิตจากแท่งเหล็ก High Speed ขนาดของPunch นั้นโดยปกติที่ทำงานนั้นจะมีความยาวประมาณ10-20 นิ ้วและเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4 นิ ้ว ส่วนตัวdie นั ้นมีความยาว 8 นิ ้ว เส้นผ่านศูนย์กลาง 6 นิ ้ว และลึก4 นิ ้ว โดยดั ้งเดิมนั ้นหลังจากที ่ทำขนาดเริ ่มต้นโดยวัตถุดิบและผ่านกระบวนการทำผิวเรียบร้อยแล้ว จะทำการกัดด้วย EDM ซึ่งเป็นที่มาว่าบริษัทนั้นเริ่มต้นจากการเป็นบริษัทที ่รับจ้างการทำงานด้วย EDM ไม่ใช่ CNCภายหลังบริษัทได้เติบโตขึ้นได้มีการขยายการทำงานโดยการรับจ้างแมชชีนชิ ้นส่วนอากาศยานซึ ่งมีการทำงานกับวัสดุที่หลากหลาย การทำงานกับวัสดุอากาศยานนั้นจำเป็นต้องมีการแมชชีนงานที่ยากมาก จำเป็นต้องมีการใช้เครื ่องจักรที ่มีคุณภาพที ่ดีด้วย บริษัทจึงได้มีการเริ ่มต้นนำเทคโนโลยี High Speed Machining เข้ามา และก็นำมาใช้แมชชีน EDM Electrod จำพวกกราไฟต์ ควบคู ่กันไปตอนแรก (1998) เจ้าหน้าที ่ของบริษัท Trutron ได้เข้าไปหาเครื่องจักรและเทคโนยี High Speed Machiningที่งานแสดงเทคโนโลยีด้านโลหะการที่สหรัฐอเมริกา(International Manufacturing Technology) ที ่รัฐชิคาโกหลังจากที ่เข้าไปไปที ่บูธของ Mikron ก็เกิดความประทับใจกับเครื ่องจักรตัวหนึ ่งซึ ่งมีความเร็วถึง 42000 รอบต่อนาทีหลังจากนั้นไม่นานก็ได้ทำการซื้อเครื่อง MachiningCenter รุ ่น HSM 700 ซึ ่งเป็นเครื ่อง 3 แกน ซึ ่งต่อมามีการเพิ ่มเป็น 4 แกนซึ ่งนำไปใช้สำหรับการแมชชีนงานกราไฟต์ซึ่งได้กล่าวไปแล้วในตอนต้น และต่อมาก็ได้นำไปใช้กับงานเหล็กที ่แข็งกว่า 60 HRC ด้วย การเห็นประโยชน์จากชิ้นงานที่คล้ายๆ กัน ของตัวpunch และ die ที ่ใช้ในการทำ CV- joint มาร์ค คอห์ร เริ ่มทีจะสร้างระบบการทำงานที่ซ้ำกันด้วยการใช้โปรแกรมที่มีอยู ่แล้ว กับตัว punch และ die ที ่มีขนาดเหมือนๆ กัน เขาได้อธิบายว่า “เรามีโปรแกรม 20-30 แบบที ่เก็บไว้เพื ่อรองรับกับ punch กับ die ที ่เรามี”“ยกตัวอย่างเช่นถ้าเราต้องการแมชชีนส่วนที่นูนของตัวpunch เราไม่ต้องทำการกำหนดใหม่ทุกครั้ง เราสามารถที ่จะเรียกโปรแกรมที ่เราได้ออกแบบไว้สำหรับแบบต่างๆของตัว punch ขึ ้นมาใช้งานได้เลย”ตั ้งแต่ Trutron ได้กลายมาเป็นผู ้ผลิต punch และdie สำหรับ CV-joint ที่ผลประกอบการที่มีกำไรสูงมาก จึงทำให้บริษัทลงทุนซื ้อเครื ่องจักร High Speedตัวใหม่เข้ามาโดยเป็น โมเดล HSM400 ซึ ่งเป็นเครื ่อง5 แกนซึ่งได้นำเข้ามาทดแทน งานที่ยังคงใช้ EDMที ่เหลือซึ ่งเครื ่องตัวนี ้เป็นที ่มีตัวเปลี ่ยน แพลเลตถึง 20ตำแหน่งทิม กิสเวิล์ด กล่าวอีกว่า 90-95 เปอร์เซนต์ของเหล็กที่เป็นชิ้นส่วนที่ทำจากเหล็กไฮสปีดนั้น ทำมาจากเครื่องจักรสองตัวนี้ เขายังเน้นด้วยอีกว่าเครื่องจักรที่นำเข้ามาสองตัวนี้ ไม่เพียงแต่สามารถที่จะทำให้เกิดความเร็วในการทำงานที่มากกว่าได้เท่านั้น แต่ยังเกิดความแม่นยำกับชิ้นงานเป็นอย่างมากด้วยเช่นกัน เครื ่อง high speed นั ้นยังใช้คนดูแลน้อยมากเครื่องสองเครื่องนี้ใช้คนดูแลแค่หนึ่งคนเท่านั้นเองและยังสามารถ ที่ยังใช้งานได้โดยไม่ต้องใช้คนดูแลเมื่อมีการทำงานที่ต้องใช้ระยะเวลาในการแมชชีนมากเป็นพิเศษ ยกตัวอย่างเป็นเครื ่อง HSM700 4 แกนนั ้นถูกใช้งานในงานที่ต้องใช้งานที่ต้องแมชชีนหลายชิ้นส่วนที่อยู่ในตัวจับยึดตัวเดียวกัน ซึ่งต้องใช้เวลานานมากกว่าที ่จะทำเสร็จ โดยงานจะถูกโหลดเข้าไปในเครื ่องจักรในตอนเย็นวันศุกร์ โดยคนงานกะสุดท้ายและปล่อยให้ทำงานไปตลอดช่วงวันหยุด ในตอนเช้าวันจันทร์ คุณจะพบว่า ชิ ้นส่วน15 ชิ ้นได้ถูกแมชชีนเรียบร้อยแล้วส่วนในตัวเครื ่องจักรตัวที ่สองนั ้นเป็นครื ่อง 5 แกน รุ ่น HSM400U ที่มีตัวเปลี่ยนแพลเลต 20 ตำแหน่งอย่างที่ได้กล่าวไปแล้วก็สามารถทำงานในลักษณะที ่ต้องปล่อยงานทิ ้งไว้ได้ซึ่งสามารถที่จะทำงานได้ในขนาดที่ใหญ่กว่าเดนนิส คาร์สัน จูเนียร์ ประธานบริษัท Trutron ผู้ที่ได้วางแนวทางการแมชชีนงานแบบใหม่ ได้มีมุมมองว่า “เราเห็นว่าเครื่องจักร high speed machining นั้นมีความเหมาะสมกับเหล็กประเภท M2, M4, M50 เครื ่องเล็กจำพวกhigh speed ตัวอื่นๆ ได้เป็นอย่างดีดังนั้น เราได้ย้ายงานทั้งหมดที่เป็นเหล็ก high speed มาที่เครื่องจักรสองตัวนี้แต่จริงๆ แล้ว เราก็มีงานที่เป็นตัว คาร์ไบด์อยู่เหมือนกันซึ่งเราทำงานส่วนนั้น ด้วยเครื่อง EDM ที่เรามีอยู่เช่นเดิมซึ ่งเรามีเครื ่องจักร EDM ที ่เป็น CNC ตัวใหม่ซึ ่งมีตัวเป็นทูลถึง25 ตำแหน่ง”“เราอยู ่ในธุรกิจที ่มีความสามารถในการแข่งขันที ่สูงมากเราสามารถที่จะทำชิ้นงานที่มีคุณภาพอย่างมากส่งให้ลูกค้า” เขายังกล่าวต่อไปอีกว่า “ด้วยเครื่อง EDM และเครื่องจักร High speed ที่มีอยู่เราสามารถที่จะทำให้กระบวนการผลิตที่ดีที่สุด ที่ทำให้ลูกค้าเกิดความพอใจสูงสุด ในส่วนของโปรแกรมนั้น องค์ความรู้ที่ได้ขึ้นที่นี่รับประกันได้ว่าเราสามารถที่จะทำงานได้อย่างมีประสิทธิ-ภาพและถูกต้องตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ”METALWORKING UPDATE 4


○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○UCP 800 DuroMIKRONHi-Power, Hi-SpeedSpindle design• 20,000 rpm, 15 kw, HSK E63for heavy metal removal• 42,000 rpm, 14 kw, HSK E40for high speed machinery(option)Swivel range from–100 to +200• enable optimum accessibilitywith the tool, especially foroperation such as undercuttingFor more information,For more information,please contact toplease contact toHSM Machinery Co., Ltd.HSM Machinery Co., Ltd.5-Axes simultaneousmachining• Machining operation on 5axes simultaneously ⌫⌫ ⌧ EDM/WEDMMillingPreSettingEROWA : Basic toolingThe economical <strong>Tool</strong>ing system with a high degree ofprecision and repeatability for a flexible productionRobotJMS @ SoftwareMORE PROFITDistributed and serviced byC OWe <strong>Max</strong>imize Your ProfitMETALWORKING UPDATE 5


้Chonlatee Saiyawong (chonlatee@factorymax.co.th)⌫⌫ แล้วเกิดขึ้นมาได้อย่างไร หลายคนอาจสงสัยกัน วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยกันครับจาระบี (Grease) เป็นสารหล่อลื ่นชนิดหนึ ่งที ่มีคุณสมบัติเฉพาะตัว คือ นอกจากเป็นตัวหล่อลื่นแล้วยังสามารถเป็นซีลในตัวด้วย โดยความเป็นมาของจาระบีนั้นเริ่มขึ้นตั้งแต่ 1650ปีก่อนคริสตกาลอีก (นานมากๆ) โดยในสมัยนั้นมนุษย์ได้นำไขมันของแกะและวัวมาช่วยลดแรงเสียดทานที่เพลาของรถม้า นับตั้งแต่นั้นมาก็มีการพัฒนาจาระบีให้มีประสิทธิภาพเรื่อยมา จนในปี 1859 ได้มีการนำน้ำมันปิโตรเลียมหรือน้ำมันแร่ (Mineral Oil) เป็นน้ำมันพื ้นฐาน (Base Oil)ดังนั้นคำว่า Grease จึงถูกให้คำจำกัดความทางเคมีว่า“เป็นสารของแข็งกึ่งของเหลวที่เกิดจากการกระจายตัวของThickening Agent ในสารหล่อลื่นเหลว โดยมีส่วนผสมอื่นที่จำเป็นหรือมีคุณสมบัติพิเศษใส่ลงไป” จากคำจำกัดความนี ้เองทำให้เราได้รู ้ว่าส่วนประกอบหลักๆ ของจาระบีมี ดังนี1.) สารอุ ้มน้ำมัน (Thickener)2.) น้ำมันหล่อลื ่น (Lubricant Oil)3.) สารเพิ ่มคุณภาพ (Additive)1. สารอุ ้มน้ำมัน (Thickener) ถูกแบ่งเป็น 3 ลักษณะด้วยกันคือ1.1 ลักษณะที ่เป็น Soap Base1.2 ลักษณะที ่เป็น Non Soap Base1.3 ลักษณะที ่เป็น Compound Baseโดยในที่นี้เราจะกล่าวถึงเฉพาะชนิด Soap Base และ NonSoap Base เท่านั ้น2. น้ำมันหล่อลื ่น (Lubricant Oil) น้ำมันที ่ใช้ในจาระบีมีอยู ่ 2ประเภทคือ2.1 น้ำมันปิโตรเลียม (Petroleum Oil)2.2 น้ำมันสังเคราะห์ (Synthetic Oil)ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีคุณสมบัติที่ต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความต้องการหรือความเหมาะสมในการใช้งาน3. สารเพิ่มคุณภาพ (Additive) เป็นองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้เนื่องจากจาระบีที่ผลิตขึ้นมานั้นต้องมีการปรับปรุงคุณสมบัติและเสริมคุณภาพที่เป็นประโยชน์ ซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ผลิตว่า จะมีความสามารถในการพัฒนาคิดค้นและผลิตขึ้นมาใช้งานในฉบับนี้เราจะมาเรียนรู้กันว่า สารอุ้มน้ำมัน (Thickener)มีอะไรบ้างแล้วเหมาะสมกับงานประเภทใด Thickenerประเภทแรกที่เราจะพูดถึงคือ จาระบีสบู่แคลเซียมชนิดนี้จะมีน้ำเป็นองค์ประกอบด้วยลักษณะจะเรียบและคล้ายเนย เมื่อได้รับความร้อนแล้วจะทำให้เสียโครงสร้าง และจะเริ่มแข็งขึ้น ทำให้สูญเสียคุณสมบัติการหล่อลื่นไป ดังนั้นขีดจำกัดของการทำงานจึงอยู่ที่ 79 o Cโดยจาระบีที่เกรดอ่อนจะสูญเสียน้ำได้ง่ายทำให้ สูญเสียคุณ-สมบัติการหล่อลื่นง่ายตามไปด้วย ทำให้จาระบีชนิดนี้ ไม่เหมาะกับงานที่ใช้อุณหภูมิสูง โดยเฉพาะอุณหภูมิที่ใกล้จุดเดือดน้ำ เป็นสบู่แคลเซียมที่ไม่มีน้ำเป็นองค์ประกอบ ลักษณะเนื้อเรียบ อุณหภูมิใช้งานสูงสุดอยู่ที่ 110 o C ซึ่งจะทนความร้อนได้ดีกว่าแบบที ่มีน้ำเป็นองค์ประกอบ คุณสมบัติความคงตัวต่อแรงเฉือนอยู่ในเกณฑ์ดี การต้านปฏิกิริยาการออกซิเดชันอยู่ในระดับที่สามารถยอมรับได้ แต่ไม่สามารถป้องกันการเกิดสนิมได้ นอกจากจะมีการเติมสารเพิ่มคุณภาพเข้าไป เป็นจาระบีที่ถูกพัฒนาควบคู่กับจาระบีสบู่แคลเซียมลักษณะคือ เนื้อเรียบเนียน เป็นเจลเหนียว โดยเฉพาะที ่ทำจากน้ำมันที ่มีความหนืด สูง ส่วนคุณสมบัติการต้านทานน้ำจะไม่ค่อยแตกต่างจากจาระบีสบู่แคลเซียมเท่าไหร่นัก แต่เมื่อได้รับความร้อนประมาณ 79 o Cมีแนวโน้มจะเป็นยางเหนียว ทำให้เสียประสิทธิภาพในการหล่อลื่น มีคุณสมบัติทนต่อแรงตัดเฉือนต่ำ แต่ต้านทานการเกิดออกซิเดชั่นได้ดี เหมาะสำหรับใช้ในเครื่องจักรผลิตอาหาร เนื่องจากเครื่องจักรที่ผลิตอาหารจะนิยมทำมาจากอลูมิเนียมไฮดรอกไซด์เป็นส่วนใหญ่ เริ่มแรกเลยนั้นจะใช้ในงานที่ทนต่อความร้อนสูง แต่ข้อเสียคือ ไวต่อน้ำมากทำให้ถูกชะออกได้ง่าย นอกจากนี้ยังไม่เหมาะกับงานที่มีความเร็วรอบเข้ามาเกี่ยวข้องส่วนคุณสมบัติความคงตัวต่อแรงเฉือนนั้นอยู่ในระดับพอใช้ แต่การต้านการเกิดออกซิเดชันต่ำ จึงต้องมีการเติมสารเติมแต่ง ⌧จาระบีชนิดนี้มีลักษณะเนื้อเรียบ และมีความคงทนต่อความร้อน โดยอุณหภูมิสูงสุดในการใช้งานคือ 135 o Cคุณสมบัติความคงตัวต่อแรงเฉือนดี ส่วนการต้านทานการออกซิเดชันพอยอมรับได้ การต้านทานน้ำดี แม้จะไม่ดีกว่าพวกแคลเซียมหรืออลูมิเนียมก็ตาม แต่สามารถปรับปรุงให้ได้โดยการเติมสารเติมแต่ง ไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนักเนื่องจากที่ช่วงอุณหภูมิต่ำจะมีปัญหามากเรื่องการหล่อลื่น โดยมากพบในรูปBarium Complex มากกว่าจากที ่ได้กล่าวมาแล้วนั ้นจะเป็นจาระบีที ่มี Thickenerธรรมดา ในส่วนต่อมานั ้นจะกล่าวถึง จาระบีที ่มีสารอุ ้มน้ำมันที่มีประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ที่เรียกว่า ComplexSoap โดยจาระบีประเภทนี้ จะมีความคงทนต่อความร้อนเป็นอย่างดี โดยอุณหภูมิใช้งานจะไม่เกิน 177 o Cข้อเสียของสารอุ ้มน้ำมันประเภทนี ้คือ จะรับแรงกดสูงๆไม่ดีนักเมื่อ เทียบกับชนิดธรรมดา โดยประเภทแรกที่กล่าวถึงก็คือ สารอุ้มน้ำมันดังที่กล่าวมาแล้ว ยังมีจาระบีที่ใช้สารอุ้มน้ำมันที่ไม่ได้เป็นสบู่พื้นฐานแบบธรรมดาและแบบ Complex ด้วย โดยเราจะเรียกว่าเป็นประเภท Non Soap Grease นั ่นเองซึ ่งในปัจจุบันจะมี 2 แบบ คือ แบบที ่ เป็น Insolube powder และอีกแบบเป็นปฎิกิริยาเคมีของ Urea Series โดยส่วนใหญ่ที่มีการพัฒนาต่อเนื่องและมีความนิยมใช้ก็คือจาระบีออร์แกโน-เคลย์ (Bentonite) และ จาระบีโพลียูเรีย เป็นจาระบีที่มีเนื้อเนียน มีการต้านทานความร้อนได้ดีอุณหภูมิที ่เหมาะสมประมาณ 177 o C แต่ที ่อุณหภูมิต่ำการใช้งานจะไม่ดี ความคงตัวต่อการทำงานอยู่ในระดับพอใช้ การทำต่อการออกซิเดชันและการเกิดสนิมพอใช้ แต่สามารถเติมสารเติมแต่งเพื่อเพิ่มประสิทธิ-ภาพได้ ส่วนความต้านทานน้ำดีมาก แต่ราคาของจาระบีประเภทนี้ค่อนข้างแพง เป็นจาระบีเนื ้อเนียนใช้ในอุณหภูมิสูง ใช้ในการหล่อลื ่นตลับลูกปืนได้หลายแบบแต่ที ่ดีที ่สุดคือ แบบบอล (BallBearing) คุณสมบัติที่เด่นคือ การต้านทานปฏิกิริยาออกซิเดชัน, การต้านทานน้ำใช้ได้ แต่คุณสมบัติการคงตัวต่อแรงเฉือนไม่ดี การต้านทานการเกิดสนิมต้องใช้สารเติมแต่งช่วย และราคาแพงในฉบับหน้าเราจะมาพูดถึงสารเพิ ่มคุณภาพในจาระบีกันครับ สวัสดีครับMETALWORKING UPDATE 6


○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○ ○E-MAXIMPULSESHEENUSROTUSDistributed and serviced byC OWe <strong>Max</strong>imize Your ProfitTomoromorrow’w’sTecechnology ofLubricants CoolantsforTodaodayMetalworkingFluidsLubricatingGreasesDie CastingLubricantsDistributed and serviced byC OWe <strong>Max</strong>imize Your ProfitCleaners and RustPreventativesMETALWORKING UPDATE 7


Woraphan Chandrakulsiri (woraphan@factorymax.co.th) ⌫⌫ ⌫ สวัสดีค่ะ ท่านผู ้อ่านที ่เคารพ เราได้คุยกันเรื ่อง เจาะๆกัดๆ กันมาตลอดหลายฉบับแล้ว ฉบับนี้เรามาคุยเรื่องเกลียวกันดีกว่านะคะ เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง โดยดิฉันขออนุญาต หยิบยกเอาเทคโนโลยีที่ถูกคิดค้นขึ้นในประเทศญี่ปุ่น โดยผู้ผลิตต๊าปรายแรกของญี่ปุ่น ชื่อว่าTANOI ซึ่งมี R&D ที่ยอดเยี่ยม คิดค้นผลิตภัณฑ์ที่สามารถแก้ปัญหาการทำเกลียวได้มากมาย แต่ดิฉันขอยกตัวอย่างแค่เพียงเทคนิคเดียวก่อนนะคะ⌫⌫⌫ ⌫⌦⌫ต๊าป มี 2 ประเภทใหญ่ๆอย่างที ่ทุกท่านทราบดี คือ CuttingTap กับ Forming Tap (หรือ Rolling Tap หรือต๊าปรีดเกลียว) ใช่ไหมคะ และในส่วนของ Cutting Tapก็ยังแบ่งเป็น Hand Tap กับ Machine TapCutting TapForming Tapดอกต๊าปที ่ดิฉันจะกล่าวถึงนี ้เป็น Cutting Tap ประเภทMachine Tap นะคะ ที่เหมาะกับการทำงานกับโลหะประเภทเหล็กและทำงานบนเครื ่องจักรค่ะ ซึ ่งเหตุที ่ทำให้เกิดการคิดค้นเทคนิคนี้ขึ้นมา เพราะมีปัญหาในการทำเกลียวใน คือว่าในอดีต เวลาทำเกลียวใน เรามักจะเจอปัญหา รูใหญ่เกินไป หรือ การระบายเศษไม่ดี ทำให้เกิดเศษติดพันและต๊าปหักทาง Tanoi จึงคิดค้นเทคนิคที ่เรียกว่า T-series ขึ ้นมาThrough hole (รูทะลุ)T-series คือ เทคนิคการเจียคมของดอกต๊าปให้มีเหลี่ยมขึ้นมาที่สันเกลียวของต๊าป ในชั้นเกลียวแรกที่ถัดจากชั ้นที ่เป็น Chamfer ของต๊าป ดังภาพ ซึ ่งทางผู ้ผลิต เรียกว่าการทำ “TAFLET relief“การเจียสันเกลียวแบบ “TAFLET relief” นี ้ คือการนำหลักการเจียของ ต๊าปรีดเกลียว (Rolling Tap or Forming Tap)มาใช้ ก่อให้เกิดการทำงาน 2 ลักษณะคือ1. การขึ้นเกลียว ขั้นต้นโดยการตัดเฉือนในส่วนที่เป็นChamfer2. การขึ ้นเกลียวขั ้นสุดท้าย ด้วยการรีดขึ ้นรูปคล้าย FormingTap โดย TAFLET relief ซึ ่งจะทำการกวาดเก็บผิวเกลียวให้เรียบดอกต๊าปรุ ่นที ่อยู ่ในตระกูล T-series นี ้ ยังมีความพิเศษที ่วัสดุอีกด้วย คือทำมาจาก High Speed Steel ที่มีส่วนผสมของVanadium จึงทำให้สามารถใช้งานหนักๆ ได้ ทำความเร็วสูงๆได้ค่ะเรามาดูข้อดีที่เกิดขึ้นกันดีกว่าค่ะ ว่ามีอะไรบ้าง1. ป้องกันการเกิดปัญหารูเกลียวใหญ่เกินไปTEFLET relief มีลักษณะพิเศษที่สันคมตัดและคมข้างช่วยประคองต๊าปช่วงแรกให้ทำเกลียวได้ตรง จึงทำให้ขนาดเกลียวในไม่ใหญ่ และช่วยให้การขึ้นรูปเกลียวสมบูรณ์ยิ่งขึ้นควบคุมขนาดของรูได้แม่นยำกว่า ยิ่งถ้าเกิดนำไปต๊าปเหล็กพวก Mild steel ล่ะก็ No-go gageจะไม่สามารถเข้าไปได้ ภายในเกลียวแรกเลยล่ะค่ะ หรือถ้าเครื่องจักรรองรับการทำงานด้วยความเร็วสูงได้ ก็สามารถเพิ ่มความเร็วได้ถึง 60 m/min. เชียวค่ะ2. ช่วยให้การระบายเศษเป็นไปอย่างง่ายดายความยาวคมกัดถูกออกแบบให้สั้นลงกว่าต๊าปทั่วๆไป(แต่ทำเกลียวได้ลึกเท่ากัน) จึงลดปัญหาเศษติดพัน และมีที่ให้เศษระบายออกได้ง่ายขึ้นและประการสำคัญ จากประสบการณ์ของวิศวกรที ่ทำการทดสอบต๊าปรุ ่น T-series นี ้ต่างประหลาดใจไปตามๆ กัน คืออายุการใช้งานที ่ยาวนานมาก ตั ้งแต่3 เท่าไปจนถึงมากที่สุดที่พบคือ 60 เท่าค่ะ อะไรจะปานนั ้นใช่ไหมคะ อย่าเพิ ่งเชื ่อดิฉันค่ะ ชัวร์ที ่สุด และแน่นอนที่สุด ต้องลองใช้เองถึงจะรู้และเข้าใจค่ะเรื่องสินค้าคงคลังหรือสต็อก ท่านผู้อ่านไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ มีมากมาย และเพียงพอต่อความต้องการแน่นอนค่ะ และมีทั้งรุ่นที่นำไปใช้กับทั้งรูตัน(Spiral Tap) และรูทะลุ (Spiral Point Tap)ค่ะเรามาดูผลทดสอบกันดีกว่าค่ะ (ดังตาราง)ฉบับนี ้ดิฉันต้องขอลาไปก่อน แล้วติดตาม ฉบับหน้ากันนะคะ สวัสดีค่ะBlind Hole (รูตัน)T-series spiralpoint tap (Tanoi)Spiral point tap(Tanoi)T-series spiraltap (Tanoi)Spiral Tap(Competitor)T-series spiralpoint tap (Tanoi)Spiral point tap(Competitor)T-series spiraltap for SUS(Tanoi)Spiral tap(Competitor)METALWORKING UPDATE 8


้Jednirin Pa-obthong (jednirin@factorymax.co.th) สำหรับ หินขัดที่ไม่มีช่องว่าง (No Bubble) ให้ผลเหมือนกันสำหรับการขัดทั ้ง 2 แบบสวัสดีครับท่านผู ้อ่านทุกท่าน พบกันอีกครั ้งในคอลัมน์Abrasive today ในวันนี้ผมจะกล่าวถึงในหัวข้อของStone Abrasive ซึ่งภาษาในวงการของผู้ใช้อาจจะเรียกว่า หินน้ำมัน, oil stone, หินขัดแม่พิมพ์,หินขัดน้ำมันหรือหินขัด ไม่ว่าแต่ละท่านใช้ศัพท์ไหน เป็นอันว่าเหมือนกัน ผมขอใช้คำว่าหินขัดแทนทุกคำที่กล่าวมา เราเข้าเรื่องกันดีกว่านะครับในการทำ Mold & Die กระบวนการเริ ่มต้นจะเริ ่มจากการ Machining ซึ ่งจะใช้ (Insert หรือ Endmill) แล้วอาจไปต่อด้วยกระบวนการ EDM หลังจากนั้นก็ไปจบด้วยกระบวนการ Polishing ซึ ่งเรามักจะใช้หินขัดในขั ้นตอนนี้ แต่แนวโน้มในอนาคตซึ่งก็มีบ้างแล้ว tool รุ่นใหม่ๆก็สามารถทำผิวได้ดีระดับ Finishing โดยไม่ต้องมีขั้นตอนขัดโดยใช้หินขัด เป็นขั้นตอนต่อมา แต่ก็ถือว่ายังมีน้อย ดังนั้นกระบวนการขัดโดยใช้หินก็ยังมีความสำคัญอยู่มากต้นทุนในการทำ Mold & Die เท่ากับค่า Raw Material + ค่า <strong>Tool</strong> (Cutting tool +Abrasive tool) + ค่าเครื ่องจักร + ค่าแรง +อื ่นๆเรามาพิจารณาในส่วนค่า tool ซึ ่ง Abrasive tool ถือว่าเป็นต้นทุนที่ต่ำมาก เมื่อเปรียบเทียบกับ Cutting toolเราจะทำอย่างไรถึงจะเลือกใช้ถูกต้องและเหมาะสมเพื ่อให้งานเสร็จอย่างรวดเร็วและได้คุณภาพ วันนี ้ผมขอกล่าวถึง Abrasive tools ในส่วนของ Stone Abrasive(หินขัด) ผมขอเริ ่มเลยนะครับมีอยู ่ด้วยกัน 3 องค์ประกอบ1. Grains (วัสดุขัดถู)2. Bandage (วัสดุประสาน)3. Holes or Bubble (ช่องว่าง,ฟองอากาศ)Bandage Holes orBubbleวัสดุขัดถู มี 2 กลุ ่มใหญ่ ที ่พบบ่อยได้แก่1.1 Fusion Alumina (A/O) ได้แก่ A (อลูมิน่าสีน้ำตาลแก่), WA (อลูมิน่าสีขาว)คุณสมบัติ แข็ง, เหนียว, คมน้อยกว่า Carbonize siliconใช้ในงาน ขัดงานหยาบจนถึงละเอียด และใช้กับวัสดุทั ่วไปได้METALWORKING UPDATE 10Grainsลักษณะการแตกตัวเวลาขัดมีลักษณะเป็นก้อนกลม จึงให้ความแข็งแรงที ่เวลาขัด1.2 Carbonize Silicon (S/C) ได้แก่ C (ซิลิคอนสีดำ), GC(ซิลิคอนสีเขียว)คุณสมบัติ แข็งมาก, เปราะ, คมมากกว่า Fusion Aluminaใช้ในงาน ขัดงานกึ่งหยาบ จนถึงละเอียดมากและใช้กับวัสดุที่มีความแข็งมากได้ดีลักษณะการแตกตัวเวลาขัดเป็นเหลี ่ยมคม จึงให้ผิวงานที ่ดีมากเวลาเก็บงานละเอียด วัสดุที ่ทำหน้าที ่เชื ่อมประสานวัสดุขัดถู (Grain) เข้าด้วยกันมีดังนี้• V (Bitofied) นิยมใช้มากในการผสมหินขัดทั ่วๆ ไป• Mg (Magnesium) นิยมใช้ผสมในหินขัดสำหรับขัดงานแม่พิมพ์แก้ว• B (Retinoid), R (Gum)• S (Siligate), E (Sharuc) ซึ ่งมีทั ้ง 2 ชนิด เป็น Badage .ชนิดพิเศษการเชื่อมประสานวัสดุขัดถู (Grain) เข้าด้วยกันโดยใช้Bandage แต่ละชนิดนั้น ก็มีระดับการรวมตัว Grain โดยแบ่งเป็น 5 ระดับSoft —> Medium Soft —> Medium —>Medium Hard —> Hardซึ่งระดับการรวมตัวจะทำให้หินขัดมีความแข็ง, นิ่มแตกต่างกันเวลาที่เราขัดชิ้นงาน ช่องว่างภายในหินขัด ซึ ่งจะทำให้หินขัดมี ความยืดหยุ ่นตัวได้ดีเวลาที ่เราขัด ถ้าให้ดีไม่ควรมีช่องว่าง (no bubble) เพราะว่าช่องว่างนี้จะทำให้เศษอุดตัน (Clogging) เวลาขัด การทำให้ไม่มีช่องว่าง (No bubble) จะมีค่าใช้จ่ายสูงขึ ้น ผู ้ผลิตบางรายเท่านั ้นจะผลิตรุ่นนี้ออกมา แต่ไม่ใช่มีช่องว่าง (Bubble) จะขัดไม่ได้ก็ยังขัดได้ดีอยู ่ แต่ถ้าเปรียบเทียบกับ no bubble แล้ว no bubbleให้ผิวที่ดีกว่า⌫⌫⌫ผมเชื่อว่า ช่างแต่ละคนมีเทคนิคเฉพาะตัวซึ่งอาจจะไม่เหมือนกัน แต่ผมขอแนะนำเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เพื ่อเสริมเทคนิคที่ท่านมีอยู่แล้วให้ดีขึ้นนะครับ1. ทิศทางการขัดสำหรับ หินขัดที่มีช่องว่าง (Bubble) ซึ่งเป็นหินส่วนใหญ่ในตลาด (Conventional Stone)หมายเหตุ : AAA ได้ผลิตหินขัดชนิด No Bubbleในรุ ่น Soft StoneNO เพราะว่าจะทำให้เกิดรอย (scatch) ได้ง่ายเวลาขัด เนื่องจากเศษวัสดุและหินขัดYES ให้ผิวที ่ดีกว่าและขัดงานได้เร็วกว่า2. การใช้น้ำยาขัดหิน (Oil stone)ช่วยในการขัดงานให้ได้เร็วขึ ้นกว่าการขัดแห้ง และไม่ให้เศษเกิดการอุดตัน (ถ้าเศษอุดตัน จะทำให้เกิดการตัดซ้ำ (Recutting) ผิวงานที่ได้จะทำให้เกิดรอย(Scatch) ได้ง่ายในงานขัดมีใช้กันอยู ่ 2 ชนิด2.1 Oil Base ซึ ่งช่างในบ้านเรานิยมแบบนี้ เพราะว่าหาง่าย ราคาถูก ซึ่งอาจจะเป็นน้ำมัน EDM, น้ำมันก๊าดแต่ให้ผลไม่ดีสู้ Water Base ไม่ได้เพราะว่าหินขัด โดยส่วนใหญ่ตัวประสาน (Bandage) จะละลายได้ดีในน้ำ แต่ไม่ละลายในน้ำมัน ดังนั ้นเมื ่อเราใช้น้ำยา ที ่เป็น Oil base เศษจึงไม่เกิดการกระจายตัว ทำให้เกิด Recutting เกิดขึ ้น2.2 Water Base เหมาะมากสำหรับหินขัดที่มีตัวประสาน (Bandage) มีน้ำตัวทำละลาย หิน 80-90%ในตลาดซึ ่ง ตัวประสานมีน้ำเป็นตัวทำละลาย เพราะจะช่วยให้เศษไม่อุดตันลดแรงเสียดทานในการขัด ทำให้เบาแรงในการขัด แต่ราคาสูงกว่า Oilbase แต่ไม่มาก การใช้น้ำยาขัดชนิดนีต้องระวังเมื ่อใช้แล้วควรเช็ดแม่พิมพ์ให้แห้ง และชะโลมน้ำมันเพื ่อป้องกันสนิม3. อุปกรณ์ในการขัด3.1 เครื่องขัด Hand Grinding ในกรณีที่ขัดเป็นพื ้นที ่แคบๆ3.2 Holder เพื่อช่วยปกป้องหินขัดหักง่าย และช่วยถ่ายแรงจากมือไปสู่หินขัดStip Type HolderRound Type Holderในฉบับหน้าผมจะกล่าวถึง “หลักในการเลือกStone Abrasive ให้เหมาะสมกับชิ้นงาน” จะมีการเลือกอย่างไรติดตามอ่านฉบับหน้านะครับ สวัสดีครับ...มนุษย์หิน Finstone


Kantapat Chatvichaikul (kantapat@factorymax.co.th) โดยปัจจุบันโรงงานในประเทศไทยส่วนใหญ่โครงการสนับสนุนให้นิคมอุตสาหกรรม / โรงงาน เข้าสู ่ระบบการจัดการด้านสิ ่งแวดล้อม ตามระบบ ISO 14001 หลายท่านที่ทางโรงงานได้มีการจัดการระบบ ISO 14001แล้วอาจจะทราบเป็นอย่างดีเกี่ยวกับระบบการจัดการนี้แต่ท่านที่โรงงานกำลังจะมีการริเริ่มใช้หรือกำลังเข้าสู่ระบบ เรามาลองดูกันว่า ISO 14001 มีความสำคัญอย่างไรปัจจุบันเรื ่องราวของสิ ่งแวดล้อมไม่ได้ถูกจำกัดไว้ในประเทศใด ประเทศหนึ ่ง และมิได้จำกัดพื ้นที ่ส่วนใดส่วนหนึ่งของโลก ผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมได้ขยายไปทั่วโลก จนกลายเป็นปัญหาระดับโลกที่เราควรช่วยกันแก้ไขในทุกวันนี้การรักษาสิ่งแวดล้อมนับวันจะซับซ้อนมากขึ้นจนกลายเป็นแรงกดดันทางธุรกิจต่อองค์กรต่างๆ เป็นอย่างมาก ดังนั้นองค์การระหว่างประเทศว่าด้วยมาตรฐานISO (International Organization for Standardization)จึงได้กำหนดกฎเกณฑ์สำหรับ อนุกรมมาตรฐานสิ่งแวดล้อมขึ้น ได้แก่ ระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมการตรวจประเมินการจัดหาสิ่งแวดล้อม การประเมินความสามารถในการจัดการสิ่งแวดล้อม และการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ในวงจรของผลิต-ภัณฑ์ ซึ ่งทั ้งหมดนี ้ก็คือ อนุกรมมาตรฐาน ISO 14001นั ่นเอง ทุกองค์กรไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการผลิต หรือส่วนของการบริการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงงานที่ให้ความสำคัญกับ สิ่งแวดล้อมภายในโรงงาน สิ่งแวดล้อมในการทำงานของ Operator เพราะโดยทั่วไปแล้วโรงงานโดยทั ่วไปจะมีกิจกรรมที ่มีผลกรทบต่อสิ ่งแวดล้อมทั ้งสิ ้นสำหรับโรงงานที่เป็นผู้ผลิต อกจากจะได้สินค้าและผลิตภัณฑ์แล้ว ในระหว่างกระบวนการการผลิตอาจจะมีผลที ่เราไม่พึงประสงค์อื ่นๆ ตามมา ยกตัวอย่างเช่น ไอน้ำมันที ่ลอยอยู ่ในอากาศ จากเครื ่อง CNC หรือเครื่องกลึงที่มาจากกระบวนการผลิต, ฝุ่นหรือสารปนเปื้อนที่มาจากงานขัด งานเจียร์ ซึ่งล้วนมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั้งสิ้น หากเรามีการจัดการที่เหมาะสม ก็จะสามารถควบคุมและลดผลกระทบเหล่านั้นได้อย่างดีถึงแม้ว่าแต่ละประเทศทั ่วโลก จะมีข้อบังคับและกฎระเบียบเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมแล้วก็ตาม องค์กรต่าง ๆ สามารถนำอนุกรมมาตรฐาน ISO 14001 ไปประยุกต์ใช้กับระบบของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วย ความสมัครใจ ซึ่งประโยชน์ที่ได้จากการนำไปปฎิบัติ ก็เป็นขององค์กรและสังคมโดยส่วนรวมช่วยลดต้นทุนในระยะยาว เนื่องจากมีการพิจารณาถึงการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ทำให้มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที ่สุด เป็นผลให้ต้นทุน ต่ำลงเพิ่มโอกาสในด้านการค้า ทำให้การเจรจาทางด้านการค้าสะดวกยิ่งขึ้น เป็นผลให้สามารถรักษาส่วนแบ่งทางการตลาด และเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดในอนาคตอีกด้วยสร้างภาพพจน์ที่ดีให้กับองค์กร เนื่องจากได้มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์จรรโลงสภาพแวดล้อม ให้แก่สังคมส่วนรวมเป็นผลให้ภาพพจน์ขององค์กรเป็นที ่ยอมรับของสังคมได้รับเครื่องหมายรับรองระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมองค์กรที่นำมาตรฐาน ISO 14001 ไปปฏิบัติ สามารถขอให้หน่วยงานรับรองให้การรับรองระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมซึ ่งจะทำให้ องค์กรสามารถนำไปใช้ ในการโฆษณาและ ประชา-สัมพันธ์ เพื ่อส่งเสริมและสนับสนุน ภาพลักษณ์ขององค์กรให้ดีขึ้น ในการที ่แต่ละองค์กรจะมีการเข้าสู ่ระบบ ISO 14001 นั ้นเรามาลองดูกันว่า ต้องมีการทำอย่างไรกันบ้าง เพื่อระบบการจัดการด้านสิ ่งแวดล้อม ตามระบบ ISO 140011. กำหนดนโยบายสิ ่งแวดล้อมเริ่มแรกผู้บริหารระดับสูงขององค์กรต้องกำหนดนโยบายสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมกับสภาพ ขนาด และผลกระทบต่อสิ ่งแวดล้อม ที ่เกิดจากกิจกรรมต่าง ๆ2. วางแผน2.1 ระบุลักษณะปัญหาสิ่งแวดล้อม2.2 พิจารณาข้อกำหนดในกฎหมายและระเบียบอื่น ๆที่เกี่ยวข้อง2.3 กำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมให้สอดคล้องกับนโยบาย2.4 จัดทำโครงการจัดการสิ่งแวดล้อม เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์และเป้าหมาย3. นำนโยบายไปปฏิบัติและดำเนินการ3.1 จัดโครงสร้างขององค์กรและกำหนดหน้าที่ความรับผิดชอบ เพื่อให้การจัดการสิ่งแวดล้อม สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิผล3.2 จัดฝึกอบรม สร้างจิตสำนึก และให้ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมแก่บุคลากรที่ปฏิบัติงาน ในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดผลกระทบสำคัญต่อสิ่งแวดล้อม3.3 กำหนดลักษณะและขั้นตอนการติดต่อสื่อสารทั้งภายในและภายนอกองค์กร3.4 จัดทำและควบคุมระบบเอกสารด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม3.5 ควบคุมการดำเนินงานในกิจกรรม ซึ่งเกี่ยวข้องกับลักษณะปัญหาสิ่งแวดล้อม เพื่อให้บรรลุนโยบายวัตถุประสงค์ และเป้าหมายที่กำหนด3.6 เตรียมพร้อมเพื่อรับสถานการณ์ หากเกิดเหตุฉุกเฉิน รวมถึงการป้องกันและบรรเทา ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ที่เกี่ยวเนื่องกับสถานการณ์ดังกล่าว4. ตรวจสอบและแก้ไข4.1 เฝ้าติดตามและวัดผลในกิจกรรมซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม4.2 ดำเนินการแก้ไขและป้องกันในสิ่งที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนด4.3 ตรวจติดตามประสิทธิผลของการแก้ไขและการป้องกัน5. ทบทวนระบบการจัดการสิ ่งแวดล้อมโดยผู้บริหารระดับสูงขององค์กร เป็นระยะ ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าระบบที ่ได้จัดทำขึ ้น มีความเหมาะสม ประเมินใหม่ทุก 3 ปีขั้นตอนการรับรองระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมมอก. ISO 14001ติดต่อสอบถามติดตามผลยื่นคำขอให้การรองรับตรวจประเมินยื่นคำขอDistributed and Serviced byC OMade in JapanWe maximize your profitMETALWORKING UPDATE 11

Hooray! Your file is uploaded and ready to be published.

Saved successfully!

Ooh no, something went wrong!