Abstract & Full Text Links
Abstract & Full Text Links
Abstract & Full Text Links
You also want an ePaper? Increase the reach of your titles
YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.
สถาบันวิจัยเพือตลาดทุน<br />
Capital Market Research Institute<br />
เอกสารงานวิจัยฉบับที 1/2555<br />
หุ้นปันผล: ขุมทรัพย์ของการลงทุน<br />
พัดชา จุนอนันตธรรม<br />
สุมิตรา ตั งสมวรพงษ์ พฤษภาคม 2555<br />
Disclaimer: รายงานนีเป็ นความเห็นส่วนตัวของผู ้เขียนโดยเฉพาะ จัดทําบนพืนฐานของข้อมูลทีเชือว่ามีความน่าเชือถือ โดยมี<br />
วัตถุประสงค์เพือให้ความรู ้ และแนวคิดแก่ผู ้อ่านเท่านัน มิได้สะท้อนความเห็นของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแต่อย่างใด
สารบัญ<br />
บทสรุปผู ้บริหาร<br />
บทที 1 บทนํา 1<br />
บทที 2 บทความและงานวิจัยทีเกียวข้อง 4<br />
บทที 3 ขอบเขตและนิยามในการศึกษา 7<br />
บทที 4 ศักยภาพของ “หุ้นปันผล” ในตลาดหุ้นไทย 12<br />
บทที 5 ความเข้าใจผิดเกียวกับ “หุ้นปันผล” ในตลาดหุ้นไทย 19<br />
บทที 6 นัยสําคัญสําหรับนักลงทุนและผู้มีเงินออม 33<br />
บรรณานุกรม 39<br />
ภาคผนวก 40<br />
หน้า<br />
i
สารบัญตาราง<br />
หน้า<br />
ตารางที 1 รายได้รวมของบริษัทจดทะเบียนในช่วงปี 2548 - 2554 1<br />
ตารางที 2 จํานวนบริษัทจดทะเบียนและสัดส่วนจํานวนบริษัท<br />
9<br />
จําแนกตามสัดส่วนจํานวนปี งบการเงินทีมีการจ่ายปันผลและปี ทีเข้าจดทะเบียน<br />
ตารางที 3 การเปรียบเทียบกลุ่ม “หุ้นปันผล” แต่ละกลุ่มในการศึกษา 11<br />
ตารางที 4 จํานวนบริษัทจดทะเบียนของกลุ่ม “หุ้นปันผล” จําแนกตามกลุ่มดัชนี 13<br />
ตารางที 5 อัตราเงินปันผลตอบแทนเฉลียของกลุ่ม “หุ้นปันผล” จําแนกตามกลุ่มดัชนี 13<br />
ตารางที 6 ผลตอบแทนรวมรายปี จําแนกตามกลุ่ม “หุ้นปันผล” 14<br />
ตารางที 7 อัตราเงินปันผลตอบแทน (dividend yield) จําแนกตามกลุ่ม “หุ้นปันผล” 15<br />
ตารางที 8 กําไรจากส่วนต่างราคา (capital gain) จําแนกตามกลุ่ม “หุ้นปันผล” 15<br />
ตารางที 9 ราคาปิ ดเฉลียรายวันของหลักทรัพย์ในกลุ่ม “หุ้นปันผล” ในปี 2554 17<br />
ตารางที 10 รายได้รวมของบริษัทจดทะเบียนในช่วงปี 2548 - 2553 19<br />
ตารางที 11 กําไรสุทธิรวมของบริษัทจดทะเบียน ในช่วงปี 2548 - 2553 19<br />
ตารางที 12 อัตราการเติบโตเฉลียของกําไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียน 20<br />
ตารางที 13 อัตราการเติบโตเฉลียของสินทรัพย์รวมของบริษัทจดทะเบียน 22<br />
ตารางที 14 อัตราการเติบโตเฉลียของรายได้รวมของบริษัทจดทะเบียน 22<br />
ตารางที 15 ความสอดคล้องระหว่างผลประกอบการ และการจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียน 24<br />
ในกลุ่ม “หุ้นปันผล”<br />
ตารางที 16 ความสัมพันธ์ระหว่างการเติบโตของกําไรสุทธิและการเติบโตของเงินปันผล<br />
25<br />
ของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม “หุ้นปันผล”<br />
ตารางที 17 จํานวนบริษัทจดทะเบียน จําแนกตามลักษณะของอัตราการจ่ายเงินปันผล 26<br />
ตารางที 18 อัตราการจ่ายปันผลโดยเฉลีย (Average Payout Ratio) 27<br />
ตารางที 19 การเปรียบเทียบระหว่างอัตราการจ่ายเงินปันผลทีจ่ายจริง (real payout ratio)<br />
28<br />
สําหรับผลประกอบการปี 2553 กับอัตราจ่ายจ่ายเงินปันผลทีระบุในนโยบาย<br />
ตารางที 20 สัดส่วนการถือครองหุ้นโดยนักลงทุนรายย่อย (free float) จําแนกตามกลุ่ม<br />
29<br />
“หุ้นปันผล” ในช่วงปี 2549 -2553<br />
ตารางที 21 สัดส่วนการถือครองหุ้นโดยนักลงทุนรายย่อย (free float) ปี 2553<br />
30<br />
จําแนกตามกลุ่ม “หุ้นปันผล” และดัชนีหลักทรัพย์<br />
ตารางที 22 กลุ่มนักลงทุน จําแนกตามผลการศึกษาโครงการวิจัยผู้ลงทุน ประจําปี 2553 35
ตารางที 23 กองทุนรวมตราสารทุนทีมีการจ่ายเงินปันผลและมีนโยบายเน้นการลงทุนในหุ้นทีมี<br />
การจ่ายปันผลหรือคํานึงถึงการจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียนทีจะลงทุน<br />
39<br />
สารบัญภาพ<br />
หน้า<br />
ภาพที 1 สัดส่วนระหว่างรายได้รวมของบริษัทจดทะเบียน<br />
1<br />
และผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ ในช่วงปี 2548 -2553<br />
ภาพที 2 การออมและการลงทุนของไทย และมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของตลาดหุ้น ณ 2<br />
สินปี 2553<br />
ภาพที 3 จํานวนบริษัทจดทะเบียนทีใช้ในการศึกษา จําแนกตามตลาดหลักทรัพย์ กลุ่มดัชนี 7<br />
และอุตสาหกรรม<br />
ภาพที 4 ดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index) ในช่วงปี 2549 - 2553 8<br />
ภาพที 5 อัตราเงินปันผลตอบแทนของตลาดหลักทรัพย์ไทย<br />
12<br />
เปรียบเทียบตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ ณ สินปี 2549 – 2554<br />
ภาพที 6 อัตราผลตอบแทนรวมเฉลียรายปี (total return) ในช่วง ปี 2549 - 2553 14<br />
ภาพที 7 อัตราผลตอบแทนรวมของ “หุ้นปันผล” และเงินฝากประจํา 12 เดือน 16<br />
ภาพที 8 จํานวนหลักทรัพย์ในกลุ่ม “หุ้นปันผล” จําแนกตามราคาปิ ดรายวันเฉลีย 17<br />
ภาพที 9 ค่าความผันผวนของราคาหลักทรัพย์จากข้อมูลในอดีต (30-day Historical Volatility) 18<br />
ภาพที 10 อัตราเงินปันผลตอบแทนและอัตราการเติบโตของกําไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียน 21<br />
ภาพที 11 อัตราเงินปันผลตอบแทนและอัตราการเติบโตของสินทรัพย์รวมของบริษัทจด<br />
23<br />
ทะเบียน<br />
ภาพที 12 อัตราเงินปันผลตอบแทนและอัตราการเติบโตของรายได้รวมของบริษัทจดทะเบียน 23<br />
ภาพที 13 จํานวนบริษัทจดทะเบียน จําแนกตามอัตราการจ่ายเงินปันผลสําหรับผลประกอบการ 27<br />
ปี 2553<br />
ภาพที 14 สัดส่วนการถือครองหุ้นโดยผู้ถือหุ้นรายย่อยเฉลีย 5 ปี (ในช่วงปี 2549 - 2553)<br />
30<br />
จําแนกตามกลุ่มดัชนีและกลุ่ม “หุ้นปันผล”<br />
ภาพที 15 อัตราการหมุนเวียนของหลักทรัพย์เฉลีย (turnover velocity) ในช่วงปี 2549 – 2553<br />
จําแนกตามกลุ่มดัชนี และกลุ่ม “หุ้นปันผล”<br />
31
สารบัญภาพ (ต่อ)<br />
หน้า<br />
ภาพที 16 อัตราการหมุนเวียนของหลักทรัพย์เฉลีย (free float turnover velocity)<br />
31<br />
ในช่วงปี 2549 -2553 จําแนกตามกลุ่มดัชนี และกลุ่ม “หุ้นปันผล”<br />
ภาพที 17 การเปรียบเทียบอัตราเงินเฟ้ อ ดอกเบี ยเงินฝากประจํา 12 เดือน<br />
34<br />
อัตราเงินปันผลตอบแทนของกลุ่ม DVS ณ สินปี 2549 - 2553<br />
ภาพที 18 การเปรียบเทียบอัตราดอกเบี ยทีแท้จริงของเงินฝากประจํา 12 เดือน<br />
34<br />
กับอัตราเงินปันผลตอบแทนทีแท้จริงของกลุ่ม DVS ณ สินปี 2549 – 2553<br />
ภาพที 19 การเปรียบเทียบสัดส่วนจํานวนบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม “หุ้นปันผล”<br />
36<br />
และ ค่าเฉลียอัตราเงินปันผลตอบแทน จําแนกตามหมวดธุรกิจ<br />
ภาพที 20 Investment Pyramid และเหตุผล 3 อันดับแรก ทีคนทีรู้จักแต่ไม่สนใจลงทุนในหุ้น 38<br />
ภาพที 21 จํานวนกองทุนรวมทีมีนโยบายจ่ายปันผลและอัตราผลตอบแทนรวม (% YTD) ณ<br />
วันที 17 กุมพาพันธ์ 2555<br />
38<br />
สารบัญกล่อง<br />
กล่องที 1 อัตราการจ่ายเงินปันผล (dividend payout ratio) ทีกําหนดในนโยบาย<br />
การจ่ายเงินปันผล(dividend policy) และพฤติกรรมการจ่ายปันผลของ<br />
บริษัทจดทะเบียน<br />
หน้า<br />
26
บทสรุปผู ้บริหาร<br />
ตลาดทุนเป็ นกลไกสําคัญในการขับเคลือนและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ทําหน้าทีเสมือน<br />
สะพานเชือมระหว่างผู้มีเงินทุนส่วนเกินกับภาคธุรกิจทีต้องการเงินทุนเพือการดําเนินกิจการ ในขณะที<br />
จํานวนนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (ตลาดหุ้นไทย) ยังมี<br />
ค่อนข้างน้อยมาก เพียงร้อยละ 1.92 ของประชากรในประเทศเท่านั น โดยผู้มีเงินออมส่วนใหญ่นิยมฝากเงิน<br />
ในธนาคารและลงทุนในตลาดตราสารหนี ทีมีผลตอบแทนค่อนข้างตํ าและตํ ากว่าอัตราเงินเฟ้ อ ส่งผลให้<br />
อํานาจซื อในอนาคต (power of purchase) ของผู้มีเงินออมลดลง ขณะเดียวกันเมือพิจารณาการลงทุนใน<br />
ตลาดหุ้นไทย พบว่า บริษัทจดทะเบียนไทยมีศักยภาพสูงในการปรับตัวต่อการเปลียนแปลงของสภาวะ<br />
แวดล้อมทางธุรกิจ สังเกตได้จากกําไรสุทธิรวมของบริษัทจดทะเบียนในปี 2554 ทีมีมูลค่าสูงถึง 597,574.19<br />
ล้านบาท ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในสถาวะซบเซาและเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากอุทกภัย กําไร<br />
สุทธิรวมของบริษัทจดทะเบียนไทยในปี 2554 ยังมีมูลค่าสูงสุดเป็ นประวัติการณ์นับตั งแต่ตลาดหลักทรัพย์<br />
แห่งประเทศไทยเริ มดําเนินการซื อขายในปี 2518<br />
เมือพิจารณาอัตราเงินปันผลตอบแทนของตลาดหุ้นไทยเปรียบเทียบกับตลาดอืนๆ ในภูมิภาค<br />
พบว่า ตลาดหุ้นไทยอยู ่ใน 3 อันดับแรกทีมีอัตราเงินปันผลตอบแทนสูงสุด ในช่วงปี 2549 -2554 ซึ งทําให้<br />
เห็นถึงความน่าสนใจของ “หุ้นปันผล” ของตลาดหุ้นไทย ดังนั นในการศึกษานี จะแสดงถึงศักยภาพของ<br />
“หุ้นปันผล” ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยทั งในด้านผลตอบแทนและด้านเสถียรภาพทางด้าน<br />
ราคา ตลอดจนการเปรียบเทียบผลตอบแทนรวมระหว่างการลงทุนใน “หุ้นปันผล” กับการฝากเงินใน<br />
ธนาคารพาณิชย์ รวมถึงการแสดงข้อมูลในประเด็นเกียวกับความเชือทีผู้มีเงินออมอาจเข้าใจผิดต่อ “หุ้นปัน<br />
ผล” เพือสนับสนุนให้ผู้มีเงินออมเลือกใช้ “หุ้นปันผล” เป็ นทางเลือกในการออมให้ได้ผลตอบแทนสูงสุดใน<br />
ระยะยาวภายใต้ความเสียงทียอมรับได้<br />
ในการศึกษานี ผู้วิจัยศึกษาบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย จํานวน 512 บริษัท ซึ งพบว่า<br />
บริษัททีจ่ายปันผลต่อเนืองในช่วงปี 2549 - 2553 มีมากถึง 288 บริษัท หรือคิดเป็ นร้อยละ 56.3 ของบริษัท<br />
จดทะเบียนทั งหมด ซึ งหุ้นของบริษัทเหล่านี จัดเป็ นกลุ่ม “หุ้นปันผล” โดยสามารถแบ่งหุ้นกลุ่มนี ออกเป็ น 3<br />
กลุ่มย่อยตามอัตราเงินปันผลตอบแทนโดยกําหนดสูงสุด 30 อันดับแรก 50 อันดับแรก และ 100 อันดับแรก<br />
และศึกษาเปรียบเทียบกับกลุ่ม “หุ้นปันผล” ตามดัชนีราคา SET High Dividend 30 Index (SETHD) ทีจัดทํา<br />
โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดังนั น ในการศึกษานี จึงมีการเปรียบเทียบ “หุ้นปันผล” ทั งหมด 5<br />
กลุ่ม ได้แก่ “หุ้นปันผล” ทั งหมด (DVS) “หุ้นปันผล” 3 กลุ่มย่อยจําแนกตามอัตราเงินปันผลตอบแทน<br />
i
(TOP30DIY, TOP50DIY, และ TOP100DIY) และ“หุ้นปันผล” ตามดัชนีราคา SET High Dividend 30<br />
Index (SETHD)<br />
เมือพิจารณาผลตอบแทนและความเสียงจากความผันผวนของราคา พบว่า กลุ่ม “หุ้นปันผล”<br />
ทั ง 5 กลุ่มดังกล่าวมีผลตอบแทนรวม (total return) เฉลีย ในช่วงปี 2549 - 2553 สูงถึงร้อยละ 25.3 - 36.5 ต่อ<br />
ปี ซึ งสูงกว่าผลตอบแทนรวมของตลาดซึ งอยู ่ทีร้อยละ 21.1 ต่อปี อีกทั งเมือพิจารณารายปี พบว่า แม้ในช่วง<br />
เศรษฐกิจตกตํ าในปี 2551 กลุ่ม “หุ้นปันผล” ยังให้ผลตอบแทนรวมสูงกว่าตลาดโดยรวม เนืองจากมี<br />
ผลตอบแทนจากเงินปันผลชดเชยผลขาดทุนจากราคาหุ้นทีปรับลดลง และเมือพิจารณาความเสียงจากความ<br />
ผันผวนราคา พบว่า “หุ้นปันผล” ทุกกลุ่มมีความเสียงจากความผันผวนของราคาหุ้นตํ ากว่าตลาดโดยรวม<br />
นอกจากนี เมือพิจารณาเปรียบเทียบผลตอบแทนรวมจาก 2 ทางเลือก ระหว่างการลงทุนในกลุ่ม “หุ้นปันผล”<br />
และการฝากเงินทีธนาคารพาณิชย์ สําหรับช่วงเวลา 10 ปี (ปี 2543 - 2553) พบว่า การลงทุนในกลุ่ม “หุ้นปัน<br />
ผล” ให้ผลตอบแทนรวมสูงกว่าการฝากเงินไว้ในธนาคารพาณิชย์ถึง 6.65 เท่า และผลต่างของผลตอบแทน<br />
รวมนี มีแนวโน้มเพิ มขึ นเมือช่วงระยะเวลาการลงทุนเพิ มขึ น<br />
ในการศึกษานี ได้แสดงให้เห็นข้อเท็จจริงเกียวกับความเชือทีผู้มีเงินออมอาจเข้าใจผิดต่อ “หุ้น<br />
ปันผล” ใน 3 ประเด็น กล่าวคือ<br />
(1) บริษัททีจ่ายเงินปันผลในอัตราสูง ไม่ได้มีธุรกิจใกล้อิ มตัวหรือมีโอกาสเติบโตน้อยจึงไม่<br />
ต้องเก็บกําไรสะสมไว้สําหรับการลงทุนเพิ มในอนาคต โดยข้อมูลงบการเงินในช่วงปี 2549 - 2553 แสดงให้<br />
เห็นว่าอัตราการเติบโตของรายได้รวมและสินทรัพย์รวมของบริษัททีหุ้นจัดเป็ น “หุ้นปันผล” สูงกว่าตลาด<br />
ตรงกันข้ามกับความเชือของนักลงทุน<br />
(2) บริษัทจดทะเบียนไทยจ่ายปันผลสอดคล้องกับผลการดําเนินงานทีแข็งแกร่ง โดยเฉพาะ<br />
บริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม “หุ้นปันผล” ทีเฉลียร้อยละ 97.5 ของบริษัททั งหมดมีกําไรสุทธิและจ่ายเงินปันผล<br />
ในช่วงปี 2549 - 2553 และมีอัตราการจ่ายปันผลเฉลีย (average payout ratio) สูงถึงร้อยละ 50.6 ของกําไร<br />
สุทธิ สําหรับการจ่ายปันผลสําหรับผลประกอบการปี 2553<br />
(3) เมือพิจารณาเกียวกับการถือครองหุ้นโดยนักลงทุนรายย่อย พบว่า “หุ้นปันผล” มีการถือ<br />
ครองหุ้นโดยนักลงทุนรายย่อยตํ ากว่าตลาด อย่างไรก็ตาม เมือพิจารณาสภาพคล่องเฉพาะหุ้นทีถือครองโดย<br />
นักลงทุนรายย่อย พบว่า แม้ “หุ้นปันผล” มีอัตราการหมุนเวียนในการซื อขายหลักทรัพย์ตํ ากว่าตลาด<br />
โดยรวม แต่อยู่ในระดับทีสูงกว่าหุ้นในกลุ่ม SET50<br />
ii
จากความโดดเด่นของ “หุ้นปันผล” ทั งด้านผลตอบแทนและความเสียงและข้อเท็จจริงเกียวกับ<br />
“หุ้นปันผล” ชี ให้เห็นว่า “หุ้นปันผล” ให้ผลตอบแทนทีสมํ าเสมอต่อเนืองเช่นเดียวกับการฝากเงินทีธนาคาร<br />
พาณิชย์ แต่ผลตอบแทนจาก “หุ้นปันผล” อยู ่ในระดับทีสูงกว่าการฝากเงินกับธนาคารพาณิชย์และสูงกว่า<br />
อัตราเงินเฟ้ อ อีกทั ง ถ้าเป็ นการออมในระยะยาวผู้มีเงินออมไม่ต้องกังวลเกียวกับความผันผวนของราคาหุ้น<br />
กล่าวคือ หากราคาหุ้นมีความผันผวนมากแต่ผู้มีเงินออมไม่ได้ขายหุ้นก็เป็ นเพียงการขาดทุนทางบัญชี<br />
เท่านั น ดังนั น “หุ้นปันผล” จึงเหมาะสําหรับการเป็ นผลิตภัณฑ์เริ มต้นในตลาดหุ้นไทยสําหรับผู้มีเงินออม<br />
ทั งนี ผู้มีเงินออมสามารถเลือกลงทุนได้ด้วยตัวเองหรือผ่านมืออาชีพ สําหรับการลงทุนด้วย<br />
ตัวเองนักลงทุนสามารถเลือกลงทุนใน “หุ้นปันผล” รายตัว ซึ งจากการศึกษานี มี “หุ้นปันผล” มากถึง 288<br />
หลักทรัพย์ ในหลายระดับราคาทีอยู ่ในหลายหมวดธุรกิจ โดยเฉพาะในหมวดปิ โตรเคมีและเคมีภัณฑ์ หมวด<br />
ของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ ชินส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และหมวดธุรกิจการเกษตร ทีมี “หุ้นปันผล” จํานวน<br />
มาก และ “หุ้นปันผล” ในหมวดธุรกิจเหล่านี ยังมีอัตราเงินปันผลตอบแทนสูงกว่า “หุ้นปันผล” ในหมวด<br />
ธุรกิจอืนๆ ด้วย<br />
ในกรณีทีผู้มีเงินออมมีข้อจํากัดด้านข้อมูลหรือข้อจํากัดเรืองเวลาในการติดตามข้อมูลหุ้น ผู้มี<br />
เงินออมสามารถเลือกลงทุนหน่วยลงทุนของกองทุนเปิ ดไทยเด็กซ์ SET High Dividend ETF (1DIV) ทีมี<br />
นโยบายเน้นการลงทุนในหุ้นทีเป็ นส่วนประกอบของดัชนี SET High Dividend 30 Index (SETHD) ซึ งซื อ<br />
ขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หรือเลือกลงทุนผ่านมืออาชีพโดยการซื อขายหน่วยลงทุนของ<br />
กองทุนรวมทีมีนโยบายเน้นการลงทุนใน “หุ้นปันผล” ผ่านทางบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน (บลจ.) ซึ ง ณ<br />
17 กุมภาพันธ์ 2555 กองทุนรวมตราสารทุนทีมีนโยบายการลงทุนทีคํานึงถึงการจ่ายปันผลของบริษัทจด<br />
ทะเบียนในขณะเดียวกันกองทุนรวมดังกล่าวนั นมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลด้วย มีทั งหมด 13 กองทุน จาก<br />
8 บลจ.<br />
iii
บทที 1 บทนํา<br />
“ตลาดทุน” ถือได้ว่าเป็ นกลไกสําคัญในการขับเคลือนและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ทํา<br />
หน้าทีเสมือนสะพานเชือมระหว่างผู้มีเงินทุนส่วนเกินกับภาคธุรกิจทีต้องการเงินทุนเพือการดําเนินกิจการ<br />
โดยในปี 2554 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย มีรายได้รวมสูงถึง 9.18 ล้านล้านบาท (ตารางที 1) ซึ ง<br />
สูงสุดเป็ นประวัติการณ์นับตั งแต่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเริ มดําเนินการซื อขายในปี 2518 หรือมี<br />
มูลค่าสูงถึงร้อยละ 87.11 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ 1 ทีสําคัญในปี 2551 ขณะทีทั วโลกประสบ<br />
ปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยยังคงมีสัดส่วนรายได้รวมต่อผลิตภัณฑ์มวลรวม<br />
ในประเทศเพิ มสูงถึงร้อยละ 82.92 (ภาพที 1) สะท้อนให้เห็นว่าบริษัทจดทะเบียนไทยเป็ นแหล่งสร้างรายได้<br />
ทีสําคัญของประเทศ และเป็ นฟันเฟื องสําคัญของระบบเศรษฐกิจ<br />
ตารางที 1 รายได้รวมของบริษัทจดทะเบียน 2 ในช่วงปี 2548 - 2554<br />
หน่วย: ล้านบาท<br />
2548 2549 2550 2551 2552 2553 2554<br />
รายได้รวม 4,531,750 5,441,100 6,135,949 7,529,497 6,611,428 7,869,415 9,181,042<br />
กําไรสุทธิรวม 496,646 441,355 417,819 293,391 425,542 579,758 601,826<br />
จํานวนบริษัท 446 458 471 483 500 509 534<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
ภาพที 1 สัดส่วนระหว่างรายได้รวมของบริษัทจดทะเบียน<br />
และผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ ในช่วงปี 2548 –2554<br />
หน่วย: ร้อยละ<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ สํานักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ<br />
1<br />
2<br />
ข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ณ ราคาปัจจุบัน จากสํานักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ณ 17 เมษายน 2555<br />
ข้อมูล ณ สินเดือนมิถุนายน 2554 ไม่รวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนทีอยู ่ระหว่างฟื นฟูการดําเนินงาน<br />
1
อย่างไรก็ตาม เมือพิจารณาปริมาณเงินออมและเงินลงทุนในระบบเศรษฐกิจของไทย 3 ทีอยู่ใน<br />
รูปเงินฝากธนาคารพาณิชย์ ตราสารหนี กองทุนรวม เงินสํารองประกันภัย และเงินลงทุนในหุ้น ณ สินปี<br />
2553 (ภาพที 2) พบว่า ปริมาณเงินส่วนใหญ่อยู่ในรูปเงินฝากและการลงทุนในตราสารหนี มูลค่าหลักทรัพย์<br />
ตามราคาตลาดของตลาดหุ้นไทยคิดเป็ นเพียงร้อยละ 42.34 ของเงินออมและเงินลงทุนในระบบเศรษฐกิจ<br />
อีกทั ง เมือพิจารณาจํานวนนักลงทุนในตลาดหุ้นไทย พบว่า ฐานนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยยังมีจํานวนน้อย<br />
โดยใน ณ สินปี 2553 มีนักลงทุนเพียง 1,264,870 ราย 4<br />
เท่านั น 5<br />
หรือ คิดเป็ นร้อยละ 1.92 ของประชากรของประเทศ<br />
ภาพที 2 การออมและการลงทุนของไทย และมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของตลาดหุ ้น ณ สินปี 2553<br />
หน่วย: พันล้านบาท<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมบริษัทจัดการลงทุน สมาคมประกันชีวิตไทย และสมาคมตราสารหนี <br />
ไทย<br />
3<br />
4<br />
5<br />
เงินรับฝากธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศ (ไม่รวมสาขาทีอยู ่ในต่างประเทศ) สาขาธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศทีอยู ่ในประเทศไทย<br />
กิจการวิเทศธนกิจ (Out-in และ Out-out) และสถาบันการเงินเฉพาะกิจทีรับฝากเงิน, ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย<br />
ยอดคงค้างตราสารหนี นับรวมพันธบัตรรัฐบาล และพันธบัตรเอกชน, ข้อมูลจากสมาคมตลาดตราสารหนี ไทย<br />
มูลค่าสินทรัพย์สุทธิกองทุนรวมภายใต้การจัดการ ณ สินปี , ข้อมูลจากสมาคมบริษัทจัดการลงทุน<br />
เงินสํารองประกันภัยตามรายงานสถิติธุรกิจประกันชีวิตประจําปี , ข้อมูลจากสมาคมประกันชีวิตไทย<br />
เงินลงทุนในหุ้น พิจารณาจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ<br />
ข้อมูลจํานวนบัญชีนักลงทุนจากบริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จํากัด<br />
จํานวนประชากรไทย ณ วันสํามะโน (1 กันยายน 2553) อยู่ที 65.9 ล้านคน, ข้อมูลจาก สํานักงานสถิติแห่งชาติ<br />
2
ในสภาวะเศรษฐกิจทีผลตอบแทนจากการฝากเงินในธนาคารหรือการลงทุนในพันธบัตร<br />
รัฐบาลอยู ่ในระดับตํ า ดอกเบี ยเงินฝากประจํา 12 เดือน 6 ณ สินปี 2553 อยู่เพียงร้อยละ 1.6 ตํ ากว่าอัตราเงิน<br />
เฟ้ อทําให้อัตราดอกเบี ยทีแท้จริงติดลบ (negative real interest rate) 7 หรือผู้ออมเงินมีอํานาจในการใช้จ่าย<br />
(power of purchase) ในอนาคตลดลง ขณะทีอัตราเงินปันผลตอบแทน (dividend yield) ของตลาด<br />
หลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอยู ่ทีร้อยละ 2.92 ดังนั น การลงทุนในตลาดหุ้นไทยจึงเป็ นอีกทางเลือกหนึ งทีผู้<br />
มีเงินออมไม่ควรมองข้ามโดยเฉพาะ “หุ้นปันผล” หรือหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนทีมีการจ่ายปันผล<br />
อย่างต่อเนือง จึงเหมาะสําหรับการเป็ นผลิตภัณฑ์เริ มต้นในการลงทนในตลาดหุ้นไทยของผู้มีเงินออมที<br />
คุ้นเคยกับการได้รับผลตอบแทนอย่างต่อเนืองและสมํ าเสมอจากดอกเบี ยเงินฝาก<br />
งานวิจัยฉบับนี จึงมีวัตถุประสงค์ทีเพือแสดงถึงศักยภาพของ “หุ้นปันผล” ของบริษัทจด<br />
ทะเบียนในตลาดหุ้นไทยทั งในด้านผลตอบแทนและด้านเสถียรภาพด้านราคา และศึกษาเปรียบเทียบ<br />
ระหว่างผลตอบแทนของ “หุ้นปันผล” และการฝากประจําทีธนาคารพาณิชย์ รวมถึงการพิสูจน์เพือทราบ<br />
ข้อเท็จจริงเกียวกับความเชือทีผู้ลงทุนมีต่อ “หุ้นปันผล” พร้อมแนะช่องทางการลงทุนใน“หุ้นปันผล” ทีมีทั ง<br />
การลงทุนด้วยตัวเองและการลงทุนผ่านมืออาชีพ ซึ งคณะผู้วิจัยหวังเป็ นอย่างยิ งว่า “หุ้นปันผล” จะเป็ น<br />
ผลิตภัณฑ์ทางเลือกในการลงทุนในตลาดหุ้นทีผู้มีเงินออมและนักลงทุนใช้เป็ นเครืองมือในการบริหาร<br />
การเงินส่วนบุคคลให้ได้ผลตอบแทนสูงสุดภายใต้ความเสียงทียอมรับได้<br />
6<br />
7<br />
ค่าเฉลียอัตราดอกเบี ยเงินฝากประจํา 12 เดือน ณ สินปี ของธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์<br />
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารทหารไทย และธนาคารนครหลวงไทย, ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย<br />
อัตราดอกเบี ยทีแท้จริง คํานวณจากดอกเบี ยเงินฝากลบอัตราเงินเฟ้ อ<br />
3
บทที 2 บทความและงานวิจัยทีเกียวข้อง<br />
จากการศึกษางานวิจัยและบทความต่างๆ เกียวกับการลงทุนในหุ้นปันผล พบว่า ในช่วง 6 ปี ที<br />
ผ่านมา (ปี 2549 - 2554) มีการเผยแพร่บทความเกียวกับการส่งเสริมการลงทุนในหุ้นปันผลเพิ มมากขึ น<br />
โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศออสเตรเลีย ทีนําเสนอเกียวกับศักยภาพของหุ้นปันผลทีให้<br />
ผลตอบแทนรวมสูงกว่าตลาดและสูงกว่าทางเลือกในการลงทุนรูปแบบอืน และเงินปันผลทีมีบทบาทสําคัญ<br />
ต่อผลตอบแทนรวม ขณะทีบทความเกียวกับหุ้นปันผลในประเทศไทยส่วนใหญ่เป็ นการศึกษาเกียวกับ<br />
ปัจจัยทีมีผลต่อพฤติกรรมการจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียน และการศึกษาผลกระทบของการจ่ายเงินปัน<br />
ผลต่อราคาหลักทรัพย์ ดังนั น ในการศึกษานี จึงพิจารณาเฉพาะบทความในต่างประเทศ ซึ งสรุปได้ดังนี <br />
Krishnamsetty (2010) ได้ศึกษาเปรียบเทียบผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นปันผลกับ<br />
ผลตอบแทนในการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล อายุ 10 ปี ในช่วงเศรษฐกิจถดถอยในประเทศสหรัฐอเมริกา<br />
สําหรับช่วงเดือนพฤษภาคม 2481 - เดือนตุลาคม 2493 ซึ งในช่วงเวลาดังกล่าวพันธบัตรรัฐบาลให้<br />
ผลตอบแทนตํ ากว่าร้อยละ 2.50 ในการศึกษานี ผู้ศึกษาได้คัดเลือกหุ้นทีมีอัตราเงินปันผลตอบแทน สูงสุด 20<br />
อันดับแรกจากกลุ่มหุ้นทีมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงสุด 200 อันดับแรกในตลาดสหรัฐอเมริกา<br />
พบว่า กลุ่มหุ้นปันผลทีคัดเลือกส่วนใหญ่เป็ นหุ้นของบริษัททีเติบโตเต็มที (mature companies) มีธุรกิจ<br />
มั นคง มีกระแสเงินสดเพียงพอทีจะจ่ายเงินปันผลได้ซึ งมีผลตอบแทนรวมเฉลียสูงถึงร้อยละ 18.10 ขณะที<br />
ตลาดมีผลตอบแทนร้อยละ 12.70 เมือเปรียบเทียบรายปี พบว่ากลุ่มหุ้นปันผลทีคัดเลือกให้ผลตอบแทน<br />
เฉลียสูงกว่าตลาดในเกือบทุกปี (11 ใน 13 ปี ) ดังนั น กล่าวได้ว่า กลุ่มหุ้นปันผล (high dividend stocks) เป็ น<br />
ทางเลือกทีดีแม้ในช่วงตลาดขาลง<br />
Morningstar (2011) ได้เผยแพร่บทความเรือง “Income or growth? Why it pays to look for<br />
the best total return” ซึ งแนะให้นักลงทุนพิจารณาวัตถุประสงค์ก่อนซื อหุ้นว่า ต้องการลงทุนหรือต้องการ<br />
เก็งกําไร เพราะลักษณะของหุ้นทีเลือกจะมีความแตกต่างกัน โดยแบ่งหุ้นออกเป็ น 2 กลุ่ม กลุ่มที 1 หุ้นสร้าง<br />
รายได้ (income stocks) ทีมีการจ่ายปันผลในอัตราทีสูงมีกําไรจากส่วนต่างราคาน้อย เพราะบริษัทไม่ได้นํา<br />
เงินปันผลไปสร้างความเติบโตเพิ มขึ นให้กิจการ เช่น กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ เป็ นต้น ซึ งเหมาะกับนัก<br />
ลงทุนทีต้องการลงทุนระยะยาว และกลุ่มที 2 หุ้นเน้นเติบโต (growth stocks) ทีมีแนวโน้มสร้างกําไรจาก<br />
ส่วนต่างราคามากกว่าผลตอบแทนจากเงินปันผล หุ้นกลุ่มนี เน้นนําเงินไปลงทุนสร้างความเติบโตของ<br />
กิจการซึ งจะทําให้ราคาของหุ้นเพิ มขึ น ซึ งเหมาะกับนักลงทุนทีต้องการเก็งกําไร ผู้วิจัยได้เสนอว่า ไม่อาจ<br />
4
สรุปได้ว่าหุ้นกลุ่มใดดีกว่ากัน ทั งนี ขึ นอยู่กับความต้องการส่วนบุคคล (personal needs) ในการคัดเลือก<br />
กลุ่มหุ้นทีเหมาะสมกับตัวเอง<br />
Siegel (2010) ได้ศึกษาพฤติกรรมการจ่ายเงินปันผลของหุ้นในดัชนี Standard & Poor's 500<br />
Index ตั งแต่วันที 1 มกราคม 2518 - 1 ธันวาคม 2552 ในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า หุ้นทีมีอัตราเงินปัน<br />
ผลตอบแทนสูงสุด 100 อันดับแรก มีอัตราเงินปันผลตอบแทนเฉลียต่อปี สูงถึงร้อยละ 12.50 ซึ งสูงกว่า<br />
ผลตอบแทนของตลาด (S&P index) ถึงร้อยละ 2.50 ดังนั น จะเห็นได้ว่าหุ้นปันผลเป็ นทางเลือกทีดีในการ<br />
ลงทุนในระยะยาว เนืองจากบริษัทจดทะเบียนมีแนวโน้มจ่ายปันผลสูงขึ นเรือยๆ ยกเว้น ในช่วงวิกฤติ<br />
เศรษฐกิจในปี 2551 ทีมีการจ่ายปันผลลดลง และในงานศึกษานี ได้เสนอแนะการเลือกลงทุนในช่วงวิกฤติ<br />
เศรษฐกิจ ว่าควรเลือกซื อหน่วยลงทุนอีทีเอฟเพราะมีความเสียงน้อยกว่าการลงทุนในหุ้นปันผลราย<br />
หลักทรัพย์ เนืองจากบริษัทจดทะเบียนบางบริษัทอาจงดจ่ายปันผลในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจได้<br />
Tweedy, Browne Company LLC (n.d.) ได้เผยแพร่บทความเรือง “The high dividend yield<br />
return advantage: an examination of empirical data associating investment in high dividend yield<br />
securities with attractive returns over long measurement periods” ซึ งมีวัตถุประสงค์เพือศึกษาถึง<br />
ความสําคัญของเงินปันผลและความสัมพันธ์ระหว่างอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลและอัตรา<br />
ผลตอบแทนรวมในการลงทุนระยะยาว กรณีศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า ผลตอบแทนจากเงิน<br />
ปันผลคิดเป็ นสัดส่วนสูงในอัตราผลตอบแทนรวม และจากหลักฐานเชิงประจักษ์ซึ งพิสูจน์ พบว่า ในการ<br />
ลงทุนระยะยาวนั นพอร์ตการลงทุนทีประกอบด้วยหุ้นทีมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง (high<br />
dividend yield portfolio) มีผลตอบแทนรวมสูงกว่าตลาด และสูงกว่าพอร์ตการลงทุนทีประกอบด้วยหุ้นทีมี<br />
อัตราเงินปันผลตอบแทนตํ า (low dividend yield portfolio)<br />
Williams, Saryan, and Yan (2011) ได้ศึกษาผลตอบแทนรวมในอดีตและลักษณะสําคัญของ<br />
หุ้นปันผลในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยพิจารณาเฉพาะหุ้นในกลุ่ม Standard & Poor's<br />
500 Index การศึกษาชี ให้เห็นว่า เมือเปรียบเทียบกับทางเลือกการลงทุนอืนๆ พบว่า ในช่วงปี 2569 - 2553<br />
(84 ปี ) หุ้นให้ผลตอบแทนรายปี เฉลียมากทีสุด อยู ่ทีร้อยละ 9.9 ขณะทีตราสารหนี ให้ผลตอบแทนรวมเฉลีย<br />
รายปี ร้อยละ 5.9 และเงินสดให้ผลตอบแทนรวมเฉลียรายปี ร้อยละ 3.6 โดยมากกว่าร้อยละ 40 ของ<br />
ผลตอบแทนรวมของหุ้นเป็ นผลตอบแทนจากเงินปันผล และในช่วงปี 2515 - 2553 (38 ปี ) หุ้นทีจ่ายปันผล<br />
ให้ผลตอบแทนรวม อยู ่ทีร้อยละ 8.8 มากว่าหุ้นทีไม่ได้จ่ายปันผล ซึ งให้ผลตอบแทนรวมรวมอยู ่ทีร้อยละ<br />
1.7 นอกจากหุ้นปันผลให้ผลตอบแทนทีโดดเด่นและสูงกว่าอัตราเงินเฟ้ อแล้ว หุ้นปันผลยังมีความผันผวน<br />
ตํ าด้วย<br />
5
บทความและงานวิจัยต่างๆ ทีเกียวกับหุ้นปันผลในต่างประเทศข้างต้นชี ให้เห็นว่า หุ้นปันผล<br />
เป็ นทางเลือกหนึ งในการลงทุนระยะยาวโดยในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจ หุ้นปันผลให้ผลตอบแทนรวมสูงกว่า<br />
ตลาด และพอร์ตทีมีองค์ประกอบด้วยหุ้นปันผลทีมีอัตราเงินปันผลตอบแทนสูงให้อัตราผลตอบแทนรวม<br />
สูงกว่าพอร์ตทีมีองค์ประกอบด้วยหุ้นปันผลทีมีอัตราเงินปันผลตอบแทนตํ า สูงกว่าการลงทุนในพันธบัตร<br />
ระยะยาว และสูงกว่าเงินฝากธนาคาร นอกจากนี อัตราเงินปันผลตอบแทนมีผลต่ออัตราผลตอบแทนรวมใน<br />
สัดส่วนค่อนข้างสูง ดังนั นหุ้นปันผลจึงเป็ นอีกทางเลือกหนึ งในการลงทุนในระยะยาวและการลงทุน<br />
ในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจทีน่าสนใจ<br />
6
บทที 3 ขอบเขตและนิยามในการศึกษา<br />
3.1 กลุ ่มตัวอย่างทีใช้ในการศึกษา<br />
ประกอบด้วยบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาด<br />
หลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ณ สินปี 2553 จํานวน 512 บริษัท โดยแบ่งเป็ นบริษัทจดทะเบียนในหลักทรัพย์<br />
แห่งประเทศไทย จํานวน 447 บริษัท ซึ งอยู ่ใน 8 กลุ่มอุตสาหกรรมตามการจัดกลุ่มอุตสาหกรรมของตลาด<br />
หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเป็ นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ จํานวน 65 บริษัท<br />
(ภาพที 3)<br />
ทั งนี ในการศึกษานี ไม่นับรวมกลุ่มดังต่อไปนี (1) กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (2) บริษัทจด<br />
ทะเบียนทีอยู ่ระหว่างฟื นฟูการดําเนินงาน (non-performing groups) และ (3) บริษัทจดทะเบียนทีถูกเพิก<br />
ถอนออกจากตลาดหลักทรัพย์ ในช่วงวันที 1 มกราคม - 10 ตุลาคม 2554<br />
ภาพที 3 จํานวนบริษัทจดทะเบียนทีใช้ในการศึกษา จําแนกตามตลาดหลักทรัพย์ กลุ ่มดัชนี และ<br />
อุตสาหกรรม<br />
หน่วย: ร้อยละ; (จํานวนบริษัท)<br />
จําแนกตามตลาดหลักทรัพย์ จําแนกตามกลุ่มดัชนี จําแนกตามกลุ่มอุตสาหกรรม<br />
0&<br />
&<br />
&<br />
&<br />
ตลาดหลักทรัพย์<br />
เอ็ม เอ ไอ (65)<br />
ตลาดหลักทรัพย์<br />
เอ็ม เอ ไอ (65)<br />
SET 50 (50)<br />
SET 51-100 (50)<br />
ตลาดหลักทรัพย์<br />
เอ็ม เอ ไอ (65)<br />
ทรัพยากร (27)<br />
เทคโนโลยี (38)<br />
สินค้าอุปโภคบริโภค (39)<br />
เกษตรและอุตสาหกรรม<br />
อาหาร (40)<br />
ธุรกิจการเงิน (58)<br />
สินค้าอุตสาหกรรม (80)<br />
&<br />
<br />
ตลาดหลักทรัพย์<br />
ประเทศไทย (447)<br />
Non-SET100<br />
(347)<br />
อสังหาริมทรัพย์<br />
และก่อสร้าง (81)<br />
บริการ (84)<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
7
3.2 กรอบเวลาทีใช้ในการศึกษา<br />
ในช่วงปี 2549 - 2553 บริษัทจดทะเบียนไทยได้รับผลกระทบทั งในแง่บวกและลบจากปัจจัย<br />
ภายนอก เห็นได้จากการเปลียนแปลงของดัชนีราคาหลักทรัพย์ (SET Index) ในช่วงเวลาดังกล่าว (ภาพที 4)<br />
จึงทําการศึกษาในช่วงปี 2549 - 2553 เพือพิจารณาถึงความสามารถในการจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียน<br />
ทั งในช่วงตลาดขาขึ นและลง<br />
1,200<br />
ภาพที 4 ดัชนีราคาหุ ้นตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Index) ในช่วงปี 2549 - 2553<br />
หน่วย: จุด<br />
1,000<br />
800<br />
600<br />
400<br />
200<br />
0<br />
ปี 2549 ปี 2550 ปี 2551 ปี 2552 ปี 2553<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
3.3 นิยามของ “หุ ้นปันผล” สําหรับการศึกษานี<br />
เมือกล่าวถึงการจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทยในช่วงปี 2549 - 2553 บริษัท<br />
จดทะเบียนส่วนใหญ่จ่ายปันผลในรูปของเงินสด (cash dividend) โดยมี 34 บริษัททีจ่ายปันผลในรูปของเงิน<br />
สด (cash dividend) และจ่ายเป็ นหุ้น (equity stock dividend) ซึ งนิยามของ “หุ้นปันผล” ในการศึกษานี คือ<br />
หลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนทีจ่ายปันผลอย่างต่อเนืองทุกปี งบการเงิน ในช่วงปี 2549 - 2553 (5 ปี ) หรือ<br />
ทุกปี งบการเงินหลังเข้าจดทะเบียน โดยพิจารณาการจ่ายปันผลทั งในรูปของเงินสดและหุ้น<br />
จากการประกาศจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียนทั งหมด ณ วันที 11 ตุลาคม 2554 พบว่า มี<br />
288 หลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนจัดเป็ น “หุ้นปันผล” (Dividend Stock: DVS) ตามคํานิยามของ<br />
การศึกษานี ซึ งคิดเป็ นร้อยละ 56.25 ของบริษัทจดทะเบียนทั งหมด (ตารางที 2) แบ่งออกเป็ น (1) บริษัทที<br />
8
จดทะเบียนซื อขายในตลาดหุ้นไทยก่อนปี 2550 จํานวน 246 บริษัท และ (2) บริษัททีจดทะเบียนซื อขายใน<br />
ตลาดหุ้นไทยในช่วงปี 2550 - 2553 จํานวน 42 บริษัท<br />
ตารางที 2 จํานวนบริษัทจดทะเบียน และสัดส่วนจํานวนบริษัท<br />
จําแนกตามสัดส่วนจํานวนปี งบการเงินทีมีการจ่ายปันผลและปี ทีเข้าจดทะเบียน<br />
การจ่ายเงินปันผลใน<br />
ปี งบการเงิน 2549 - 2553<br />
จํานวนบริษัท<br />
สัดส่วนจํานวน<br />
บริษัท<br />
จํานวนบริษัท<br />
สัดส่ วนจํานวน<br />
บริษัท<br />
จํานวนบริษัท<br />
สัดส่ วนจํานวน<br />
จ่ายครบทุกปี 246 54% 42 78% 288 56%<br />
จ่ายไม่ครบทุกปี 145 32% 10 19% 155 30%<br />
ไม่จ่ายแลย 67 15% 2 4% 69 13%<br />
บริษัท<br />
ทั งหมด 458 100% 54 100% 512 100%<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
หมายเหตุ: ข้อมูลการประกาศจ่ายปันผล ณ 11 ตุลาคม 2554<br />
ปี (ปฏิทิน) ทีเข้าจดทะเบียน<br />
ก่อนปี 2550 2550 - 2553<br />
3.4 การจัดกลุ ่ม “หุ ้นปันผล” ในการศึกษา<br />
รวม<br />
การศึกษา<br />
คณะผู้วิจัยได้จัดแบ่งกลุ่มหลักทรัพย์ทีทําการศึกษา เป็ น 5 กลุ่ม (ตารางที 3) เพือประโยชน์ใน<br />
กลุ่มที 1 กลุ่ม SET High Dividend (SETHD)<br />
เป็ นการจัดกลุ่มตามดัชนีราคา SET High Dividend 30 Index (SETHD) ของตลาดหลักทรัพย์<br />
แห่งประเทศไทย จํานวน 30 หลักทรัพย์ ตามประกาศรายชือทีใช้ในการคํานวณดัชนีราคา SET High<br />
Dividend 30 Index ในระหว่างวันที 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2554 โดยเกณฑ์ในการคัดเลือกหลักทรัพย์<br />
เพือใช้คํานวณดัชนีนี แสดงในภาคผนวก 1<br />
กลุ่มที 2 กลุ่ม Dividend Stocks (DVS)<br />
เป็ นการคัดเลือก “หุ้นปันผล” จากหลักทรัพย์ทั งหมดในตลาดหุ้นไทย โดยพิจารณาถึงความ<br />
ต่อเนืองในการจ่ายเงินปันผล โดยหลักทรัพย์ทีอยู่ในกลุ่มนี จะเป็ นหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนทีมีการ<br />
จ่ายปันผลต่อเนืองตลอดช่วง 5 ปี สําหรับผลประกอบการปี 2549 - 2553 หรือหลักทรัพย์ของบริษัทจด<br />
ทะเบียนทีจ่ายปันผลต่อเนืองนับตั งแต่เริมเข้าจดทะเบียนซื อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในช่วงเวลาที<br />
9
ทําการศึกษา ซึ งมีจํานวน 288 บริษัท จาก 512 บริษัท 8 หรือ คิดเป็ นร้อยละ 56.30 ของบริษัทจดทะเบียน<br />
ทั งหมด ตามทีกล่าวมาแล้วในนิยาม “หุ้นปันผล” ภายใต้การศึกษานี <br />
กลุ่มที 3 กลุ่ม Top30 Dividend Yield (TOP30DIY)<br />
หลักทรัพย์ในกลุ่ม “หุ้นปันผล” (Dividend Stock: DVS) ทีมีอัตราเงินปันผลตอบแทนซึ งคือ<br />
อัตราเปรียบเทียบเงินปันผลจ่ายต่อหุ้นต่อราคาหุ้น เฉลียรายวัน ในช่วง ปี 2549 - 2553 สูงสุด 30 อันดับแรก<br />
(ภาคผนวก 2)<br />
กลุ่มที 4 กลุ่ม Top50 Dividend Yield (TOP50DIY)<br />
หลักทรัพย์ในกลุ่ม “หุ้นปันผล” (Dividend Stock: DVS) ทีมีอัตราเงินปันผลตอบแทนเฉลีย<br />
รายวัน ในช่วง ปี 2549 - 2553 สูงสุด 50 อันดับแรก (ภาคผนวก 2)<br />
กลุ่มที 5 กลุ่ม Top100 Dividend Yield (TOP100DIY)<br />
หลักทรัพย์ในกลุ่ม “หุ้นปันผล” (Dividend Stock: DVS) ทีมีอัตราเงินปันผลตอบแทนเฉลีย<br />
รายวัน ในช่วง ปี 2549 - 2553 สูงสุด 100 อันดับแรก (ภาคผนวก 2)<br />
8<br />
ข้อมูลบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ณ สินปี 2553 โดยไม่นับรวมกลุ ่มดังต่อไปนี <br />
(1) กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (2) บริษัทจดทะเบียนทีอยู่ระหว่างฟื นฟูการดําเนินงาน (3) บริษัทจดทะเบียนถูกเพิกถอนออกจากตลาด ในช่วง<br />
วันที 1 มกราคม 2554 - 10 ตุลาคม 2554<br />
10
เกณฑ์<br />
กลุ ่มหลักทรัพย์<br />
ความต่อเนือง<br />
ในการจ่ายปันผล<br />
ตารางที 3 การเปรียบเทียบกลุ ่ม “หุ ้นปันผล” แต่ละกลุ ่มในการศึกษา<br />
Dividend<br />
Stocks<br />
(DVS)<br />
การจัดอันดับ -<br />
อัตราการจ่ายเงินปันผล<br />
ต่อกําไรสุทธิ<br />
TOP30<br />
Dividend Yield<br />
(TOP30DIY)<br />
TOP50<br />
Dividend Yield<br />
(TOP50DIY)<br />
บริษัทจดทะเบียน ณ สินปี 2553 จํานวน 512 บริษัท<br />
สูงสุด 30 อันดับ<br />
แรก<br />
5 ปี ล่าสุด<br />
(ปี 2549 - 2553)<br />
ค่าเฉลียอัตราเงินปันผลตอบแทนรายวัน<br />
ในช่วงปี 2549 – 2553 (5 ปี )<br />
สูงสุด 50 อันดับ<br />
แรก<br />
ไม่ได้กําหนดเป็ นเกณฑ์ในการคัดเลือก<br />
TOP100<br />
Dividend Yield<br />
(TOP100DIY)<br />
สูงสุด 100 อันดับ<br />
แรก<br />
SETHD<br />
SET100<br />
ณ สินปี 2553<br />
3 ปี ล่าสุด<br />
(ปี 2551 - 2553)<br />
ค่าเฉลียอัตราเงินปัน<br />
ผลตอบแทนรายวัน<br />
ในช่วง 3 เดือนล่าสุด<br />
ก่อนประกาศปรับอันดับ<br />
30 อันดับ<br />
ไม่เกินร้อยละ 85 ของ<br />
กําไรสุทธิ<br />
ติดต่อกัน 3 ปี ในช่วงปี<br />
2551 - 2553<br />
จํานวนบริษัท 288 30 50 100 30<br />
ค่าเฉลียอัตราเงินปัน<br />
ผลตอบแทนเฉลีย<br />
รายวันในช่วงปี<br />
2549 - 2553<br />
อัตราเฉลีย<br />
อัตราสูงสุด<br />
อัตราตํ าสุด<br />
5.92%<br />
16.19%<br />
0.94 %<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
10.67%<br />
16.19%<br />
8.81%<br />
3.5 แหล่งข้อมูลทีใช้ในการศึกษา<br />
9.73%<br />
16.19%<br />
7.94%<br />
8.46%<br />
16.19%<br />
6.59%<br />
5.92%<br />
11.52%<br />
2.60 %<br />
ประกอบด้วยข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ข้อมูลจากสํานักงานคณะกรรมการ<br />
กํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย ข้อมูลจากสมาคมตลาดตราสาร<br />
หนี ไทย ข้อมูลจากสํานักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ข้อมูลจากสํานักงานสถิติ<br />
แห่งชาติ ข้อมูลจากสํานักดัชนีเศรษฐกิจการค้า สํานักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ ข้อมูลจากบริษัท ศูนย์รับ<br />
ฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จํากัด ข้อมูลจาก Bloomberg และงานศึกษาวิจัยทั งหน่วยงานทั งภายในและ<br />
ภายนอกประเทศ<br />
11
บทที 4 ศักยภาพของ “หุ ้นปันผล” ในตลาดหุ ้นไทย<br />
4.1 ความโดดเด่นของหุ ้นปันผลในด้านผลตอบแทน<br />
4.1.1 ในภาพรวม ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีอัตราเงินปันผลตอบแทนค่อนข้างสูง<br />
เมือเทียบกับประเทศอืนในภูมิภาค<br />
เมือพิจารณาเปรียบเทียบอัตราเงินปันผลตอบแทน (market dividend yield) ของตลาด<br />
หลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกับตลาดหลักทรัพย์อืนในภูมิภาคในช่วงปี 2549 - 2553 พบว่า อัตราเงินปัน<br />
ผลตอบแทนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจัดอยู ่ใน 3 ตลาดหลักทรัพย์แรกทีให้อัตราเงินปัน<br />
ผลตอบแทน (top 3 market dividend yield) ทุกปี ซึ ง ณ สินปี 2554 อัตราเงินปันผลตอบแทนของตลาด<br />
หลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอยู ่ทีร้อยละ 4.03 สูงเป็ นอันดับที 3 รองจากตลาดไต้หวัน และตลาดสิงคโปร์<br />
(ภาพที 5)<br />
ภาพที 5 อัตราเงินปันผลตอบแทนของตลาดหลักทรัพย์ไทย<br />
เปรียบเทียบตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ ณ สินปี 2549 – 2554<br />
หน่วย: ร้อยละ<br />
ไต้หวัน (TA) สิงคโปร์* (S) ฮ่องกง (H) มาเลเซีย (M) ฟลิปปนส์ (P) อินโดนีเซีย (I) เกาหลีใต้ (KS) ไทย (TH)<br />
9.00<br />
8.00<br />
7.00<br />
6.00<br />
5.00<br />
4.00<br />
3.00<br />
2.00<br />
1.00<br />
0.00<br />
TA<br />
H<br />
M<br />
P<br />
TH<br />
I KS<br />
TA<br />
H<br />
M<br />
P<br />
I<br />
TH<br />
KS<br />
TA<br />
S<br />
H<br />
M P<br />
I<br />
TH<br />
KS<br />
S P<br />
TA H<br />
M<br />
I<br />
TH TA<br />
S H<br />
KS<br />
M P<br />
I<br />
TH<br />
KS<br />
TA<br />
S H<br />
M P<br />
I<br />
KS<br />
TH<br />
2549 2550 2551 2552 2553 2554<br />
...<br />
อันดับของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมือเทียบกับตลาดหลักทรัพย์ของ<br />
ไต้หวัน สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย ฟิ ลิปปิ นส์ อินโดนีเซีย และเกาหลีใต้<br />
ทีมา : Bloomberg<br />
อัตราเงินปันผลตอบแทน คือ มูลค่าเงินปันผลต่อหุ้น ย้อนหลัง 12 เดือน หารด้วยดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ณ สินเดือน<br />
* ไม่มีข้อมูลอัตราเงินปันผลตอบแทนของตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ในปี 2549 - 2550<br />
12
4.1.2 บริษัทจดทะเบียนไทยทีหุ้นจัดอยู ่ในกลุ่ม “หุ้นปันผล” มีหลายขนาด โดยเฉพาะบริษัท<br />
ในกลุ่ม Non-SET100 และบริษัทในกลุ่ม mai ซึ งมีอัตราเงินปันผลตอบแทนสูง<br />
เมือพิจารณาจํานวนบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม “หุ้นปันผล” แบ่งตามกลุ่มดัชนี (ตารางที 4)<br />
พบว่า กลุ่ม “หุ้นปันผล” ตามความนิยามของศึกษานี (ยกเว้น SETHD) ประกอบด้วยบริษัทจดทะเบียนทั ง<br />
ขนาดเล็ก กลาง และใหญ่ โดยส่วนใหญ่เป็ นบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม NON-SET100 และ mai ทั งนี เมือ<br />
พิจารณาอัตราเงินปันผลตอบแทนของบริษัททีอยู ่ในกลุ่มหุ้นปันผลแต่ละกลุ่ม (ตารางที 5) พบว่า กลุ่ม<br />
TOP30DIY เป็ นกลุ่มทีมีอัตราเงินปันผลตอบแทนสูงสุดทีร้อยละ 10.07 ทั งนี เนืองจากกลุ่มนี ประกอบด้วย<br />
บริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม NON-SET100 และ mai ทีมีอัตราเงินปันผลตอบแทนทีค่อนข้างสูง<br />
ตารางที 4 จํานวนบริษัทจดทะเบียนของกลุ ่ม “หุ ้นปันผล” จําแนกตามกลุ ่มดัชนี<br />
หน่วย: จํานวนบริษัท<br />
กลุ ่มดัชนี 9 DVS TOP30DIY TOP50DIY TOP100DIY SETHD<br />
SET50 43 2 3 8 14<br />
SET51-100 35 4 5 14 16<br />
NON-SET100 170 20 35 67 N/A<br />
mai 40 4 7 11 N/A<br />
รวม 288 30 50 100 30<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
ตารางที 5 อัตราเงินปันผลตอบแทนเฉลียของกลุ ่ม “หุ ้นปันผล” จําแนกตามกลุ ่มดัชนี<br />
หน่วย: ร้อยละ<br />
2<br />
กลุ ่มดัชนี DVS TOP30DIY TOP50DIY TOP100DIY SETHD<br />
SET50 4.73 9.96 9.37 8.07 5.26<br />
SET51-100 6.07 10.14 9.84 8.13 6.50<br />
NON-SET100 6.22 10.80 9.75 8.50 N/A<br />
mai 5.77 10.91 9.75 8.93 N/A<br />
รวม 5.92 10.07 9.73 8.46 5.92<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
9 แบ่งตามรายชือหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนทีใช้ในการคํานวณดัชนีในระหว่างวันที 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2553<br />
13
4.1.3 ผลตอบแทนรวม 10 ของ “หุ้นปันผล” ทุกกลุ่มโดดเด่นสูงกว่าตลาดโดยรวม<br />
จากการเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนรวม (total return) ของกลุ่ม “หุ้นปันผล” และตลาด<br />
โดยรวม (ตารางที 6) ซึ งประกอบด้วยผลตอบแทนจากส่วนต่างราคา (capital gain / loss) และผลตอบแทน<br />
จากเงินปันผล (dividend yield) ในช่วงปี 2549 - 2553 พบว่า กลุ่ม “หุ้นปันผล” มีผลตอบแทนรวมเฉลียอยู ่<br />
ในช่วงร้อยละ 25.3 - 36.5 ต่อปี (ภาพที 6) โดยกลุ่ม SETHD มีอัตราผลตอบแทนรวมสูงสุดทีร้อยละ 36.5<br />
มากกว่าอัตราผลตอบแทนรวมเฉลียของตลาดซึ งอยู ่ทีร้อยละ 21.1 ต่อปี ทั งนี หากพิจารณาอัตรา<br />
ผลตอบแทนรวมรายปี พบว่า กลุ่ม “หุ้นปันผล” มีผลตอบแทนรวมเฉลียต่อปี สูงกว่าตลาดในเกือบทุกปี แม้<br />
ในช่วงเศรษฐกิจตกตํ าในปี 2551 กลุ่ม “หุ้นปันผล” มีผลตอบแทนรวมเฉลียอยู ่ในช่วงร้อยละ -28.08 ถึง -<br />
17.07 ในขณะทีตลาดโดยรวมให้ผลตอบแทนรวมเฉลียอยู ่ทีร้อยละ -30.07<br />
ภาพที 6 อัตราผลตอบแทนรวมเฉลียรายปี (total return) ในช่วง ปี 2549 - 2553<br />
หน่วย: ร้อยละต่อปี<br />
50%<br />
40%<br />
30%<br />
20%<br />
21.1%<br />
36.5%<br />
25.3%<br />
33.1%<br />
28.8% 29.1%<br />
10%<br />
0%<br />
Market SETHD DVS TOP30DIY TOP50DIY TOP100DIY<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
ตารางที 6 อัตราผลตอบแทนรวมรายปี จําแนกตามกลุ ่ม “หุ ้นปันผล”<br />
หน่วย: ร้อยละต่อปี<br />
2549 2550 2551 2552 2553<br />
MARKET 9.24 16.93 -30.07 61.95 47.51<br />
SETHD 27.48 17.38 -28.08 99.73 65.73<br />
DVS 14.97 14.79 -24.24 63.62 57.13<br />
TOP30DIY 21.24 9.42 -17.07 81.82 70.12<br />
TOP50DIY 22.11 13.35 -17.84 69.36 56.89<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
10<br />
อัตราผลตอบแทนรวมคํานวณจาก (1) ผลตอบแทนจากส่วนต่างราคา ณ สินปี และ (2) อัตราเงินปันผลตอบแทน ณ วันสินปี โดยอัตรา<br />
ผลตอบแทนรวมของหุ้นแต่ละกลุ ่มคํานวณจากค่าเฉลียของอัตราผลตอบแทนรวมของทุกหลักทรัพย์ภายในกลุ ่ม<br />
14
เมือแยกพิจารณาองค์ประกอบของผลตอบแทนรวม ออกเป็ น 2 ส่วน คือ อัตราเงินปัน<br />
ผลตอบแทน และกําไรจากส่วนต่างราคา พบว่า<br />
1) “หุ้นปันผล” ทุกกลุ่มมีผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงกว่าตลาดในทุกปี แม้แต่ในปี 2551 ที<br />
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับตัวลดลง (ตารางที 7) โดยกลุ่ม “หุ้นปันผล” มีอัตราเงินปันผลตอบแทนเฉลีย<br />
ในช่วงปี 2549 - 2553 อยู่ในช่วงร้อยละ 5.76 - 10.31 ขณะทีตลาดมีอัตราเงินปันผลตอบแทนเฉลียอยู ่ทีร้อย<br />
ละ 4.18<br />
ตารางที 7 อัตราเงินปันผลตอบแทน (dividend yield) จําแนกตามกลุ ่ม “หุ ้นปันผล”<br />
หน่วย: ร้อยละต่อปี<br />
2549 2550 2551 2552 2553 เฉลีย 5 ปี<br />
MARKET 3.91 3.78 6.27 3.85 3.09 4.18<br />
SETHD 4.80 5.27 9.38 5.13 4.23 5.76<br />
DVS 5.20 5.34 8.87 5.51 4.37 5.86<br />
TOP30DIY 8.21 10.96 14.45 10.44 7.47 10.31<br />
TOP50DIY 7.31 9.58 14.27 9.51 7.08 9.55<br />
TOP100DIY 6.81 7.99 12.84 7.77 6.15 8.31<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
2) “หุ้นปันผล” แต่ละกลุ่มมีกําไรจากส่วนต่างราคาใกล้เคียงกับตลาด ยกเว้น SETHD โดย<br />
กําไรจากส่วนต่างราคาของกลุ่ม “หุ้นปันผล” เฉลีย 5 ปี อยู่ในช่วงร้อยละ 19.65 - 31.08 สูงกว่าตลาดซึ งอยู ่ที<br />
ร้อยละ 17.06 ส่วน SETHD มีกําไรจากส่วนต่างราคาเฉลียในช่วง 5 ปี สูงกว่าตลาดอย่างชัดเจน (ตารางที 8)<br />
ทั งนี ในช่วงทีเศษฐกิจตกตํ า ปี 2551 ตลาดโดยรวมและกลุ่ม “หุ้นปันผล” ขาดทุนจากส่วนต่างราคา (capital<br />
loss) แต่เนืองจาก “หุ้นปันผล” มีผลตอบแทนจากเงินปันผลชดเชยผลขาดทุนจากส่วนต่างราคาส่งผลให้<br />
ผลตอบแทนรวมของกลุ่ม “หุ้นปันผล” ยังคงสูงกว่าตลาด<br />
ตารางที 8 กําไรจากส่วนต่างราคา (capital gain) จําแนกตามกลุ ่ม “หุ ้นปันผล”<br />
หน่วย: ร้อยละต่อปี<br />
2549 2550 2551 2552 2553 เฉลีย 5 ปี<br />
MARKET 5.35 13.21 -36.82 58.96 44.60 17.06<br />
SETHD 22.69 12.11 -38.79 97.87 61.51 31.08<br />
DVS 9.81 9.49 -33.67 59.49 53.13 19.65<br />
TOP30DIY 13.02 -1.54 -32.73 71.38 62.65 22.56<br />
TOP50DIY 14.80 3.77 -32.84 59.85 49.80 19.08<br />
TOP100DIY 8.09 9.72 -33.31 63.51 55.53 20.71<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
15
180<br />
160<br />
140<br />
120<br />
100<br />
80<br />
60<br />
40<br />
20<br />
0<br />
4.1.4 เมือเปรียบเทียบการลงทุนใน “หุ้นปันผล” กับการฝากเงินธนาคารในช่วงเวลาการลงทุน<br />
10 ปี (ปี 2543 - 2553) พบว่า “หุ้นปันผล” ให้ผลตอบแทนรวมสูงกว่าการฝากเงินธนาคารถึง 6.65 เท่า<br />
ในการศึกษานี เปรียบเทียบการลงทุนใน “หุ้นปันผล” กับการฝากเงินธนาคาร ในช่วงเวลาการ<br />
ลงทุน 10 ปี โดยจําลองการลงทุนของนักลงทุน 2 ท่าน<br />
นักลงทุน A ซื อ “หุ้นปันผล” ณ สินปี 2543 บริษัทละ 1 หุ้น เป็ นเงินทั งหมด 6,068 บาท และ<br />
ถือหุ้นดังกล่าวจนถึงสินปี 2553 แล้วจึงขายหุ้นทั งหมด นอกจากนักลงทุน A จะได้รับผลตอบแทนจากการ<br />
ลงทุนในรูปส่วนต่างราคาแล้ว ยังได้รับเงินปันผลอย่างต่อเนืองในช่วง 10 ปี ทีลงทุนในหุ้นดังกล่าวด้วย มี<br />
ผลตอบแทนรวมในช่วงปี 2543 - 2553 สูงถึงร้อยละ 153 ของเงินทุนเริมต้น<br />
นักลงทุน B ฝากธนาคารพาณิชย์ประเภทบัญชีประจํา 12 เดือน ด้วยเงินจํานวนเดียวกันกับ<br />
จํานวนเงินทีลงทุนใน “หุ้นปันผล” โดยเริ มฝาก ณ สินปี 2543 ในช่วงระยะเวลาการลงทุนเดียวกัน นัก<br />
ลงทุน B จะได้รับผลตอบแทนในรูปดอกเบี ย 11 ในแต่ละปี ซึ งมีผลตอบแทนรวมคิดเป็ นร้อยละ 23 ของ<br />
เงินทุนเริ มต้น<br />
ดังนั น หากเปรียบเทียบผลตอบแทนจากการลงทุนของนักลงทุนทั ง 2 ท่านในช่วงเวลาการ<br />
ลงทุน 10 ปี (ปี 2543 - 2553) การลงทุนใน “หุ้นปันผล” ให้ผลตอบแทนรวมสูงกว่าการฝากเงินธนาคารถึง<br />
6.65 เท่า และหากเปรียบเทียบผลตอบแทนรวมจากการลงทุนใน “หุ้นปันผล” และ การฝากประจํา 12 เดือน<br />
ทีธนาคารพาณิชย์ ตามช่วงระยะเวลาลงทุนทีแตกต่างกันจากระยะสั น 1 ปี จนถึงระยะยาว 10 ปี (ภาพที 7)<br />
แสดงให้เห็นว่า ผล++รวมจากการลงทุนใน “หุ้นปันผล” ทีสูงกว่าการฝากเงินในธนาคารจะมีแนวโน้มเพิ ม<br />
มากขึ นเมือระยะเวลาการลงทุนนานขึ น ทั งนี ขึ นกับภาวะตลาดและวัฏจักรเศรษฐกิจด้วย<br />
ภาพที 7 อัตราผลตอบแทนรวมของ “หุ ้นปันผล” และเงินฝากประจํา 12 เดือน 11<br />
หุ้นปนผล (DVS) เงินฝากประจํา 12 เดือน<br />
2543-2544 2543-2545 2543-2546 2543-2547 2543-2548 2543-2549 2543-2550 2543-2551 2543-2552 2543-2553<br />
ปทีลงทุน<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
หน่วย: ร้อยละ<br />
153<br />
23<br />
11<br />
ค่าเฉลียอัตราดอกเบี ยเงินฝากประจํา 12 เดือน ณ ทุกสินปี ของธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์<br />
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารทหารไทย และธนาคารนครหลวงไทย<br />
16
4.2 ความโดดเด่นของ “หุ ้นปันผล” ทางเสถียรภาพด้านราคา<br />
จํานวนหลักทรัพย์<br />
140<br />
120<br />
100<br />
80<br />
60<br />
40<br />
20<br />
0<br />
เมือพิจารณาราคาของหุ้นในกลุ่ม “หุ้นปันผล” ในปี 2554 พบว่า ส่วนใหญ่ (ร้อยละ 46.18)<br />
เป็ นหุ้นขนาดเล็ก มีราคาเฉลียตํ ากว่า 10 บาทต่อหุ้น (ภาพที 8) และมีราคาปิ ดเฉลีย 12 อยู่ที 34.41 ต่อหุ้น<br />
(ตารางที 9) ทําให้นักลงทุนใช้เงินลงทุนจํานวนไม่มากในการลงทุน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนบางส่วนทีมี<br />
ความกังวลเกียวกับความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ การศึกษานี ชี ให้เห็นว่า “หุ้นปันผล” ทุกกลุ่มมีความ<br />
ผันผวนของราคาตํ ากว่าตลาดโดยรวม (ภาพที 9) โดยตํ ากว่าตลาดถึงร้อยละ 17.50 เมือพิจารณาจากค่าความ<br />
ผันผวนของราคาหลักทรัพย์จากข้อมูลในอดีต (30-day Historical Volatility) 13 เฉลียในช่วงปี 2549 - 2553<br />
ภาพที 8 จํานวนหลักทรัพย์ในกลุ ่ม “หุ ้นปันผล” จําแนกตามราคาปิ ดรายวันเฉลีย 12<br />
หน่วย: จํานวนหลักทรัพย์ (แกนตั ง), บาท (แกนนอน)<br />
น้อยกว่า 10-20 20-30 30-40 40-50 50-60 60-70 70-80 80-90 90-100 มากกว่า<br />
10<br />
ราคาปดรายวันเฉลีย<br />
100<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
ตารางที 9 ราคาปิ ดเฉลียรายวันของหลักทรัพย์ในกลุ ่ม “หุ ้นปันผล” ในปี 2554<br />
หน่วย: บาทต่อหุ้น<br />
กลุ ่ม “หุ ้นปันผล” ราคาปิ ดรายวันเฉลีย<br />
SETHD 50.62<br />
DVS 34.41<br />
TOP30DIY 11.53<br />
TOP50DIY 15.70<br />
TOP100DIY 21.75<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
12<br />
13<br />
ค่าเฉลียราคาปิ ดทุกวันในปี 2554 ของแต่ละหลักทรัพย์ และคํานวณเป็ นราคาเฉลียของหลักทรัพย์แต่ละกลุ ่ม<br />
ค่าความผันผวนของราคาหลักทรัพย์ในช่วง 30 วัน คือ ส่วนเบียงเบนมาตรฐานของลอการิทึมการเปลียนแปลงราคาปิ ดรายวัน ในช่วง 30<br />
วันล่าสุด ซึ งค่าดังกล่าวถูกปรับฐานให้เป็ นข้อมูลรายปี ทั งนี ร้อยละ 6 บริษัทจดทะเบียนในการศึกษา ไม่มีข้อมูลค่าความผันผวนของราคา<br />
17
ภาพที 9 ค่าความผันผวนของราคาหลักทรัพย์จากข้อมูลในอดีต (30-day Historical Volatility)<br />
55<br />
หน่วย : ร้อยละ<br />
ค่าความผันผวนของราคาหลักทรัพย์<br />
50<br />
45<br />
40<br />
35<br />
30<br />
25<br />
20<br />
(-16.7%) (-15.0%)<br />
2549 2550 2551 2552 2553<br />
(...) ความแตกต่างระหว่างค่าความผันผวนของราคาหลักทรัพย์จากข้อมูลในอดีตของตลาดและของกลุ ่ม DVS<br />
ทีมา: Bloomberg<br />
ปี<br />
(-18.2%) (-20.8%)<br />
(-16.8%)<br />
Market<br />
DVS<br />
TOP30DIY<br />
TOP50DIY<br />
TOP100DIY<br />
SETHD<br />
18
บทที 5 ความเข้าใจผิดเกียวกับ “หุ ้นปันผล” ในตลาดหุ ้นไทย<br />
ในตลาดหุ้นทั วไปรวมทั งตลาดหุ้นไทยต่างมีความเข้าใจผิดเกียวกับ “หุ้นปันผล” ที<br />
หลากหลาย ซึ งความเข้าใจผิดบางส่วนนี ส่งผลให้นักลงทุนไม่ลงทุนใน “หุ้นปันผล” ดังนั น ในการศึกษานี <br />
จึงมีวัตถุประสงค์ในการแสดงข้อมูลทีอาจจะมีความเข้าใจผิดเกียวกับ “หุ้นปันผล” ใน 3 ประเด็น ได้แก่<br />
5.1 บริษัททีจ่ายปันผลในอัตราทีสูง มีธุรกิจใกล้อิ มตัว หรือมีโอกาสเติบโตได้น้อย<br />
5.2 บริษัทอาจจ่ายปันผลสูงเพียงเพือดึงดูดให้คนลงทุนใน “หุ้นปันผล” การจ่ายปันผลไม่<br />
สะท้อนผลประกอบการทีดีจริงของบริษัทจดทะเบียน และ<br />
5.3 หุ้นปันผล” เป็ นหุ้นทีมีสภาพคล่องตํ า เนืองจากเป็ นหุ้นดี นักลงทุนเน้นลงทุนระยะยาว<br />
หรือ “หุ้นปันผล” มักเป็ นหุ้นของ strategic shareholders<br />
5.1 บริษัททีจ่ายปันผลในอัตราทีสูง มีธุรกิจใกล้อิมตัวหรือมีโอกาสเติบโตได้น้อย<br />
หากพิจารณาการเติบโตของรายได้รวมและกําไรสุทธิรวมของตลาดโดยรวม 14 พบว่า ในช่วงปี<br />
2549 - 2553 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยมีอัตราการเติบโตของรายได้รวมสูงถึงร้อยละ 12.48 ต่อปี<br />
(ตารางที 10) และมีอัตราการเติบโตด้านกําไรสุทธิรวม ร้อยละ 7.01 ต่อปี (ตารางที 11) สะท้อนความ<br />
แข็งแกร่งและการเติบโตอย่างต่อเนืองของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย<br />
ตารางที 10 รายได้รวมของบริษัทจดทะเบียนในช่วงปี 2548 - 2553<br />
หน่วย: ล้านบาท<br />
2548 2549 2550 2551 2552 2553<br />
รายได้รวม 4,531,750 5,441,100 6,135,949 7,529,497 6,611,428 7,869,415<br />
จํานวนบริษัท 446 458 471 483 500 509<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
ตารางที 11 กําไรสุทธิรวมของบริษัทจดทะเบียน ในช่วงปี 2548 - 2553<br />
หน่วย: ล้านบาท<br />
2548 2549 2550 2551 2552 2553<br />
กําไรสุทธิรวม 496,646 441,355 417,819 293,391 425,542 579,758<br />
จํานวนบริษัท 446 458 471 483 500 509<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
14<br />
ข้อมูล ณ สินเดือนมิถุนายน 2554 ไม่รวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และบริษัททีอยู ่ระหว่างฟื นฟูการดําเนินงาน<br />
19
จากความเข้าใจผิดในประเด็นที 1 สะท้อนว่า นักลงทุนกังวลเกียวกับการเติบโตในอนาคตของ<br />
กิจการเนืองจากตามแนวคิดด้านการเงินเมือบริษัทมีกําไรสุทธิจะจัดสรรกําไรสุทธิออกเป็ น 2 ส่วน ส่วน<br />
แรก คือการจ่ายผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้นในรูปของปันผล (cash and equity stock dividend) และส่วนทีเหลือ<br />
เก็บไว้ในรูปของกําไรสะสม (retained earning) เพือเตรียมการลงทุนหรือขยายกิจการในอนาคต ดังนั น เมือ<br />
บริษัทมีการจ่ายปันผลในอัตราทีสูงอาจทําให้เข้าใจว่า บริษัทจะไม่ลงทุนเพิ มเติมส่งผลต่อการเติบโตของ<br />
กิจการในอนาคต<br />
ในการศึกษานี บริษัทจดทะเบียนทีจ่ายปันผลในอัตราทีสูง คือ บริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม<br />
“หุ้นปันผล” สําหรับการเติบโตของกิจการพิจารณาจากการเติบโต 3 ด้าน คือ กําไรสุทธิ สินทรัพย์ และ<br />
รายได้รวม<br />
บริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม TOP30DIY TOP100DIY มีอัตราการเติบโตเฉลียของกําไรสุทธิสูง<br />
กว่าตลาดโดยรวม ทั งนี เนืองจากบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม “หุ้นปันผล” มีอัตราการเติบโตของสินทรัพย์<br />
รวมและรายได้รวมสูงกว่าตลาด<br />
จากการศึกษาการเติบโตของกําไรสุทธิรวมของบริษัทจดทะเบียน พบว่า ในช่วง 5 ปี (ปี 2549<br />
- 2553) กลุ่ม TOP30DIY และ TOP100DIY (ตารางที 12) มีอัตราการเติบโตของกําไรสุทธิเฉลียร้อยละ<br />
15.17 ต่อปี และร้อยละ 10.80 ต่อปี ตามลําดับ ซึ งสูงกว่าตลาดโดยรวมทีมีอัตราการเติบโตอยู ่ทีร้อยละ 7.01<br />
ขณะทีกลุ่ม “หุ้นปันผล” กลุ่มอืนๆ มีอัตราการเติบโตตํ ากว่าตลาดโดยรวม<br />
ตารางที 12 อัตราการเติบโตเฉลียของกําไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียน 15 หน่วย: ร้อยละ<br />
2549 2550 2551 2552 2553 เฉลีย 5 ปี<br />
MARKET -11.13 -5.33 -29.78 45.04 36.24 7.01<br />
SETHD 2.10 4.87 -25.89 21.55 30.24 6.57<br />
DVS -10.64 9.65 -23.52 24.59 29.02 5.82<br />
TOP30DIY -10.46 0.61 -48.95 147.63 -12.99 15.17<br />
TOP50DIY -4.26 -0.40 -18.57 29.72 6.16 2.53<br />
TOP100DIY -11.67 30.54 -47.30 72.84 9.57 10.80<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
15<br />
คํานวณจากมูลค่ารวมของกําไรสุทธิรวมของบริษัทจดทะเบียนในกลุ ่มหุ้นปันผลแต่ละกลุ ่ม โดยไม่รวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 29<br />
กองทุน และบริษัทจดทะเบียนทีอยู ่ระหว่างฟื นฟูการดําเนินงาน<br />
20
หากพิจารณาเปรียบเทียบอัตราเงินปันผลตอบแทนและอัตราการเติบโตของกําไรสุทธิของ<br />
กิจการระหว่างบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม “หุ้นปันผล” แต่ละกลุ่มกับตลาดโดยรวม (ภาพที 10) พบว่า กลุ่ม<br />
TOP30DIY และกลุ่ม TOP100DIY นอกจากจะมีอัตราเงินปันผลตอบแทนสูงกว่าตลาดแล้ว กลุ่ม “หุ้นปัน<br />
ผล” 2 กลุ่มนี ยังมีอัตราการเติบโตของกําไรสุทธิสุทธิสูงกว่าตลาดโดยรวมด้วย<br />
ภาพที 10 อัตราเงินปันผลตอบแทนและอัตราการเติบโตของกําไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียน<br />
กลุ่มทีพิจารณา<br />
อัตราเงินปัน อัตราการเติบโตของ<br />
ผลตอบแทนเฉลีย (%), กําไรสุทธิ (%)<br />
อัตราการเติบโตของกําไรสุทธิ<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
อัตราเงินปันผลตอบแทน<br />
ทั งนี เนืองจากบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม “หุ้นปันผล” มีการเติบโตดีกว่าตลาด สังเกตได้จาก<br />
อัตราการเติบโตของรายได้รวมและอัตราการเติบโตของสินทรัพย์รวมของบริษัทในกลุ่ม “หุ้นปันผล” ทุก<br />
กลุ่มทีสูงกว่าตลาด โดยในช่วงปี 2549 - 2553 บริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม “หุ้นปันผล” มีอัตราการเติบโตของ<br />
สินทรัพย์รวมเฉลียอยู่ในช่วงร้อยละ 10.17 - 17.23 ต่อปี ซึ งสูงกว่าตลาดโดยรวมทีมีอัตราการเติบโตอยู ่ที<br />
ร้อยละ 9.61 (ตารางที 13) และเมือพิจารณาอัตราการเติบโตของรายได้รวมของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม<br />
“หุ้นปันผล” พบว่า มีอัตราการเติบโตของรายได้รวมเฉลียในช่วงร้อยละ 13.98 - 47.00 ต่อปี สูงกว่าตลาด<br />
โดยรวมทีมีการอัตราการเติบโตของรายได้รวมอยู ่ทีร้อยละ 12.48 (ตารางที 14)<br />
21
ตารางที 13 อัตราการเติบโตเฉลียของสินทรัพย์รวมของบริษัทจดทะเบียน 16<br />
หน่วย: ร้อยละ<br />
2549 2550 2551 2552 2553 เฉลีย 5 ปี<br />
MARKET 9.03 6.06 10.01 8.25 14.71 9.61<br />
SETHD 10.36 12.61 7.70 14.93 20.06 13.13<br />
DVS 10.61 9.33 12.12 11.65 16.47 12.04<br />
TOP30DIY 10.43 11.12 44.38 13.49 6.72 17.23<br />
TOP50DIY 13.56 6.13 25.42 4.51 1.23 10.17<br />
TOP100DIY 7.74 6.77 28.32 6.41 4.87 10.82<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
ตารางที 14 อัตราการเติบโตเฉลียของรายได้รวมของบริษัทจดทะเบียน 16<br />
หน่วย: ร้อยละ<br />
2549 2550 2551 2552 2553 เฉลีย 5 ปี<br />
MARKET 20.07 12.77 22.71 -12.19 19.03 12.48<br />
SETHD 26.10 18.26 21.75 -14.49 19.86 14.30<br />
DVS 21.16 17.60 23.12 -12.13 20.14 13.98<br />
TOP30DIY 5.38 3.15 234.96 -19.72 11.23 47.00<br />
TOP50DIY 11.01 13.04 76.63 -15.90 11.56 19.27<br />
TOP100DIY 11.71 32.78 37.59 -15.45 16.27 16.58<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
เมือพิจารณาเปรียบเทียบอัตราเงินปันผลตอบแทนและอัตราการเติบโตของรายได้รวมและ<br />
อัตราการเติบโตของสินทรัพย์รวม (ภาพที 11-12) พบว่า บริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม “หุ้นปันผล” ทุกกลุ่ม<br />
นอกจากจะมีผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงกว่าตลาดโดยรวมแล้ว ทุกกลุ่มยังมีอัตราการเติบโตของ<br />
สินทรัพย์รวมและรายได้รวมสูงกว่าตลาดโดยรวมด้วย<br />
16<br />
คํานวณจากมูลค่ารวมของสินทรัพย์รวมของบริษัทจดทะเบียนทีอยู ่ในกลุ ่มหุ้นปันผลแต่ละกลุ ่ม โดยไม่รวมกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ 29<br />
กองทุน และบริษัทจดทะเบียนทีอยู ่ระหว่างฟื นฟูการดําเนินงาน<br />
22
ภาพที 11 อัตราเงินปันผลตอบแทนและอัตราการเติบโตของสินทรัพย์รวมของบริษัทจดทะเบียน<br />
อัตราการเติบโตของสินทรัพย์รวม<br />
กลุ่มทีพิจารณา<br />
อัตราเงินปัน<br />
ผลตอบแทนเฉลีย (%),<br />
อัตราการเติบโตของ<br />
สินทรัพย์รวม (%)<br />
อัตราเงินปันผลตอบแทน<br />
ภาพที 12 อัตราเงินปันผลตอบแทนและอัตราการเติบโตของรายได้รวมของบริษัทจดทะเบียน<br />
อัตราการเติบโตของรายได้รวม<br />
กลุ่มทีพิจารณา<br />
อัตราเงินปัน<br />
ผลตอบแทนเฉลีย (%),<br />
อัตราการเติบโตของ<br />
รายได้รวม (%)<br />
อัตราเงินปันผลตอบแทน<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
23
จากข้อมูลข้างต้นสรุปได้ว่า บริษัทจดทะเบียนทีจ่ายปันผลในอัตราสูง มีการเติบโตทั งในด้าน<br />
สินทรัพย์รวม รายได้รวม และกําไรสุทธิรวม นอกจากนี บริษัทจดทะเบียนทีจัดอยู ่ในกลุ่ม “หุ้นปันผล”<br />
TOP30DIY และ TOP100DIY มีอัตราการเติบโตของกําไรสุทธิ สินทรัพย์รวม และรายได้รวมสูงกว่าตลาด<br />
โดยรวม ซึ งแสดงว่า ความเชือของนักลงทุนทีว่าบริษัททีจ่ายปันผลในอัตราทีสูง มีธุรกิจใกล้อิ มตัวหรือมี<br />
โอกาสเติบโตได้น้อยอาจมีความคลาดเคลือนจากข้อเท็จจริง<br />
5.2 บริษัทอาจจ่ายปันผลสูงเพียงเพือดึงดูดให้คนลงทุนใน “หุ ้นปันผล” การจ่ายปันผลไม่<br />
สะท้อนผลประกอบการทีดีจริงของบริษัทจดทะเบียน<br />
นอกจากความกังวลเรืองการเติบโตของกิจการในอนาคตแล้ว นักลงทุนบางส่วนยังมีความ<br />
เข้าใจผิดว่า การจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียนอาจไม่สะท้อนถึงผลประกอบการทีดีจริงของกิจการ แต่<br />
เป็ นการจ่ายปันผลเพียงเพือดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในหุ้นของบริษัทเท่านั น จากความเชือนี ชี ให้เห็น<br />
ว่า นักลงทุนมีความกังวลเกียวกับแหล่งทีมาและการใช้ไปของเงินทุน (source and use of fund)<br />
เพือพิสูจน์ความเชือในประเด็นนี กําหนดให้บริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม “หุ้นปันผล” เป็ น<br />
ตัวแทนของบริษัทจดทะเบียนทีจ่ายปันผลในอัตราสูง และจากศึกษาพฤติกรรมการจ่ายปันผลในช่วงปี 2549<br />
- 2553 ของบริษัทในกลุ่มนี สรุปว่าบริษัททีจ่ายเงินปันผลส่วนใหญ่ร้อยละ 97.54 เป็ นบริษัททีมีกําไรสุทธิ<br />
จากผลประกอบการ (ตารางที 15) และอีกร้อยละ 2.46 เป็ นบริษัททีขาดทุนสุทธิแต่จ่ายเงินปันผล โดยบริษัท<br />
เหล่านี เป็ นบริษัทจดทะเบียนทีมีกําไรสุทธิในการดําเนินงานแต่มีผลขาดทุนจากการลงทุนในบริษัทย่อย จึง<br />
ทําให้บริษัทมีผลการดําเนินงานโดยรวมขาดทุนสุทธิ และมีการจ่ายเงินปันผลจากกําไรสะสมของบริษัท<br />
ตารางที 15 ความสอดคล้องระหว่างผลประกอบการและการจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียน<br />
ในกลุ ่ม “หุ ้นปันผล”<br />
หน่วย: จํานวนบริษัท<br />
2549 2550 2551 2552 2553<br />
สัดส่วนต่อจํานวน<br />
บริษัททั งหมด<br />
(1) ทีมีกําไรสุทธิ และจ่ายเงินปันผล 244 247 253 269 280 97.54%<br />
(2) ทีขาดทุนสุทธิและงดจ่ายปันผล - - - - - 0.00%<br />
(3) ทีมีกําไรสุทธิแต่งดจ่ายปันผล - - - - - 0.00%<br />
(4) ทีขาดทุนสุทธิ และจ่ายเงินปันผล 2 7 8 9 8 2.46%<br />
รวม 246 253 261 278 288 100.00%<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
24
เมือพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างการเติบโตของกําไรสุทธิ (profit growth) และการเติบโต<br />
ของเงินปันผล (dividend growth) ในช่วงปี 2549 - 2553 (ตารางที 16) พบว่าร้อยละ 68.95 ของบริษัท<br />
จดทะเบียนในกลุ่ม “หุ้นปันผล” มีอัตราการเติบโตสอดคล้องในทิศทางเดียวกัน กล่าวคือ เมือกําไรสุทธิมี<br />
อัตราการเติบโตเพิ มขึ น อัตราการเติบโตของเงินปันผลปรับเพิ มขึ น หรือในทางตรงกันข้าม เมือกําไรสุทธิมี<br />
อัตราการเติบโตลดลง อัตราการเติบโตของเงินปันผลปรับลดลงเช่นกัน และบริษัทจดทะเบียนอีกร้อยละ<br />
16.64 มีการจ่ายเงินปันผลในอัตราคงที (เช่น 2 บาทต่อหุ้น เป็ นต้น) ตามทีระบุในนโยบายการจ่ายเงินปันผล<br />
ส่งผลให้การเติบโตของกําไรสุทธิและการเติบโตของเงินปันผลของบริษัทกลุ่มนี ไม่มีความสัมพันธ์กัน<br />
ขณะทีส่วนทีเหลืออีกร้อยละ 14.41 มีการเติบโตของกําไรสุทธิและเงินปันผลในทิศทางตรงข้าม<br />
กัน แบ่งออกเป็ น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกทีมีอัตราการเติบโตของกําไรสุทธิลดลงแต่จ่ายปันผลในอัตราทีสูงขึ น<br />
อาจเป็ นเพราะบริษัทกลุ่มนี ยังไม่มีนโยบายขยายกิจการในระยะเวลาอันใกล้จึงมีการจ่ายผลตอบแทนให้นัก<br />
ลงทุนในอัตราทีสูง ขณะทีกลุ่มที 2 เป็ นกลุ่มทีมีอัตราการเติบโตของกําไรสุทธิเพิ มขึ นแต่มีการจ่ายปันผลใน<br />
อัตราทีลดลง ทั งนี อาจเป็ นเพราะบริษัทกลุ่มนี มีแผนการลงทุนในอนาคตจึงเก็บเงินสดไว้<br />
ตารางที 16 ความสัมพันธ์ระหว่างการเติบโตของกําไรสุทธิและการเติบโตของเงินปันผล<br />
ของบริษัทจดทะเบียนในกลุ ่ม “หุ ้นปันผล”<br />
หน่วย: ร้อยละ<br />
2549 2550 2551 2552 2553 เฉลีย<br />
(1) บริษัททีมีการเติบโตของกําไรสุทธิและเงินปันผลเพิ มขึ น 40.09 41.08 39.02 48.0 54.74 44.59<br />
(2) บริษัททีมีการเติบโตของกําไรสุทธิและเงินปันผลลดลง 27.31 24.48 30.89 23.41 15.69 24.36<br />
รวม 6.40 65.56 69.92 71.43 70.44 68.95<br />
(3) บริษัทจดทะเบียนทีจ่ายปันผลในมูลค่ารวมคงที 18.50 20.33 16.26 13.89 14.23 16.64<br />
(4) บริษัทจดทะเบียนทีมีการเติบโตของกําไรสุทธิและเงินปันผล 14.10 14.11 13.82 14.68 15.33 14.41<br />
ในทิศทางตรงกันข้าม<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
จากข้อมูลทีกล่าวมาทั งหมดเบื องต้น สรุปได้ว่า บริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ในตลาดหุ้นไทยมี<br />
การจ่ายปันผลสอดคล้องตามผลประกอบการ และบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ในกลุ่ม “หุ้นปันผล”มีการ<br />
เติบโตของกําไรสุทธิและเงินปันผลเป็ นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ งพิสูจน์ว่าความเชือของนักลงทุนมีความ<br />
คลาดเคลือนจากข้อเท็จจริง<br />
25
กล่องที 1 อัตราการจ่ายเงินปันผล (dividend payout ratio) ทีกําหนดในนโยบายการจ่ายเงินปันผล<br />
(dividend policy) และพฤติกรรมการจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียน<br />
จากอัตราการจ่ายเงินปันผล (dividend payout ratio) ทีกําหนดในนโยบายการจ่ายเงินปันผล<br />
(dividend policy) ณ สินปี 2553 พบว่า บริษัทจดทะเบียนกําหนดอัตราการจ่ายเงินปันผลใน 5 ลักษณะ ได้แก่<br />
1) ไม่กําหนดอัตราทีแน่นอน แต่ระบุว่า ขึ นอยู่กับผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน<br />
2) กําหนดอัตรา / มูลค่าคงที เช่น 2 บาทต่อหุ้น หรือ ร้อยละ 40 ของกําไรสุทธิ<br />
3) กําหนดอัตราเป็ นช่วง เช่น ร้อยละ 40 - 70 ของกําไรสุทธิ<br />
4) กําหนดจ่ายปันผลไม่เกินกว่าอัตราทีกําหนด เช่น ไม่เกินร้อยละ 40 ของกําไรสุทธิ<br />
5) กําหนดจ่ายปันผลไม่ตํ ากว่าอัตราทีกําหนด เช่น ไม่ตํ ากว่าร้อยละ 40 ของกําไรสุทธิ<br />
บริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ 309 บริษัท จาก 512 บริษัท หรือ คิดเป็ นร้อยละ 60.35 กําหนดอัตรา<br />
การจ่ายเงินปันผลในลักษณะ“กําหนดจ่ายปันผลไม่ตํ ากว่าอัตราทีกําหนด” (ตารางที 17) และจากการศึกษา<br />
อัตรา (rate) ทีกําหนดในนโยบายการจ่ายเงินปันผล (dividend policy) พบว่า ร้อยละ 68 ของบริษัทจดทะเบียน<br />
ทั งหมด กําหนดนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้จ่ายเงินปันผลมากกว่าร้อยละ 50 ของกําไรสุทธิ<br />
ตารางที 17 จํานวนบริษัทจดทะเบียน จําแนกตามลักษณะของอัตราการจ่ายเงินปันผล<br />
ลักษณะของอัตราการจ่ายเงินปันผล<br />
หน่วย: จํานวนบริษัท<br />
จํานวนบริษัทจดทะเบียน<br />
ขึ นอยู่กับผลประกอบการ 49<br />
กําหนดอัตรา / มูลค่าคงที 100<br />
กําหนดเป็ นช่วงของอัตรา 14<br />
กําหนดจ่ายปันผลไม่เกินกว่าอัตราทีกําหนด 40<br />
กําหนดจ่ายปันผลไม่ตํากว่าอัตราทีกําหนด 309<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
รวม 512<br />
เมือพิจารณาอัตราการจ่ายเงินปันผลสําหรับผลประกอบการปี 2553 ของบริษัทจดทะเบียน<br />
(ภาพที 13) จํานวน 360 บริษัท พบว่า 184 บริษัทจ่ายเงินปันผลในอัตราทีสูงกว่าร้อยละ 50 ของกําไรสุทธิ<br />
ส่งผลให้อัตราการจ่ายเงินปันผลเฉลียสําหรับผลประกอบการปี 2553 สูงถึงร้อยละ 50.63 ของกําไรสุทธิ<br />
(ตารางที 18)<br />
26
ภาพที 13 จํานวนบริษัทจดทะเบียน จําแนกตามอัตราการจ่ายเงินปันผลสําหรับผลประกอบการ ปี 2553<br />
หน่วย: จํานวนบริษัท<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
ตารางที 18 อัตราการจ่ายปันผลโดยเฉลีย (Average Payout Ratio)<br />
หน่วย: ร้อยละ<br />
2549 2550 2551 2552 2553 เฉลีย<br />
MARKET 52.03% 52.60% 49.12% 52.12% 50.63% 51.30%<br />
SETHD 45.97% 47.43% 48.48% 49.62% 48.43% 47.99%<br />
DVS 52.95% 54.83% 51.46% 54.51% 52.05% 53.16%<br />
TOP30DIY 66.24% 67.04% 67.56% 69.26% 65.99% 67.22%<br />
TOP50DIY 65.71% 68.03% 67.37% 69.59% 66.37% 67.42%<br />
TOP100DIY 63.31% 65.83% 61.09% 65.27% 62.90% 63.68%<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
เมือเปรียบเทียบอัตราการจ่ายเงินปันผลทีจ่ายจริง (real payout ratio) สําหรับผลประกอบการปี<br />
2553 กับอัตราจ่ายจ่ายเงินปันผลทีระบุในนโยบายฯ (ตารางที 19) พบว่า บริษัทจดทะเบียนจํานวน 272 บริษัท<br />
จาก 360 บริษัท จ่ายปันผลตามนโยบายหรือจ่ายปันผลสูงกว่าทีระบุในนโยบาย<br />
27
ตารางที 19 การเปรียบเทียบระหว่างอัตราการจ่ายเงินปันผลทีจ่ายจริง (real payout ratio)<br />
สําหรับผลประกอบการปี 2553 กับอัตราจ่ายจ่ายเงินปันผลทีระบุในนโยบาย<br />
ลักษณะของอัตราการจ่ายเงินปันผล<br />
ตามนโยบาย<br />
หน่วย: จํานวนบริษัท<br />
ตามนโยบาย สูงกว่านโยบาย ตํากว่านโยบาย รวม<br />
ขึ นอยู่กับผลประกอบการ 33 0 0 33<br />
กําหนดอัตรา / มูลค่าคงที 9 31 20 60<br />
ช่วงของอัตราทีกําหนด 8 3 1 12<br />
ไม่เกินกว่าอัตราทีกําหนด 21 1 0 22<br />
ไม่ตํ ากว่าอัตราทีกําหนด 21 145 67 233<br />
รวม 92 180 88 360<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
5.3 “หุ ้นปันผล” เป็ นหุ ้นทีมีสภาพคล่องตํา เนืองจากเป็ นหุ ้นดี นักลงทุนเน้นลงทุนระยะยาว<br />
หรือ “หุ ้นปันผล” มักเป็ นหุ ้นของ strategic shareholders<br />
ตามความเชือของนักลงทุนในประเด็นนี แบ่งการพิจารณาเป็ น 2 ส่วน ส่วนแรก คือ การถือ<br />
ครองหุ้นโดย strategic shareholders และประเด็นที 2 คือ ความซื อง่ายขายคล่อง<br />
ตามนิยามของ strategic shareholders คือ ผู้ถือหุ้นทีถือครองหุ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพือการ<br />
บริหารหรือควบคุมกิจการเพือการเติบโตของกิจการ ดังนั นการถือครองหุ้นโดย strategic shareholders จึง<br />
เป็ นการถือครองหุ้นในระยะยาว ส่งผลให้หุ้นของบริษัทนั นๆ เหลืออยู่ในการถือครองของนักลงทุนรายย่อย<br />
(free float) 17 ในสัดส่วนทีน้อยลงซึ งอาจส่งผลกระทบต่อการซื อขายหุ้นในตลาด<br />
17<br />
จากความหลักเกณฑ์ในการประมาณค่าสัดส่วนการถือครองหุ้นโดยนักลงทุนรายย่อย (Free Float) ของสํานักงาน ก.ล.ต.<br />
Free Float หมายถึง หุ้นของบริษัทจดทะเบียนในส่วนทีไม่ได้ถือโดย strategic shareholder และไม่ได้เป็ นหุ้นทีซื อคืน ซึ ง Free Float ของแต่ละ<br />
หลักทรัพย์แสดงใน Website ของ กลต. ซึ ง Strategic shareholder หมายถึง ผู้ลงทุนทีถือหุ้นเพือการมีส่วนร่วมในการบริหารหรือเพือเชิงกลยุทธ์<br />
ทางธุรกิจ ในทีนี รวมผู้ถือหุ้นกลุ่มต่อไปนี (1) รัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ (2) กรรมการ ผู้จัดการ และผู้บริหาร 4 ระดับแรกนับ<br />
ต่อจากผู้จัดการลงมา รวมถึงผู้ทีเกียวข้อง (3) ผู้ถือหุ้นทีถือหุ้นมากกว่าร้อยละ 5 โดยนับรวมผู้ทีเกียวข้อง ยกเว้นบริษัทหลักทรัพย์ บริษัท<br />
ประกันชีวิต บริษัทประกันภัย กองทุนรวม และกองทุนทีออมแบบมีภาระผูกพัน (4) ผู้ถือหุ้นทีมีอํานาจควบคุม และ (5) ผู้ถือหุ้นทีมีข้อตกลงใน<br />
การห้ามขายหุ้นภายในเวลาทีกําหนด<br />
ดังนั น สรุปได้ว่า หุ้นในการถือครองของนักลงทุนรายย่อย คือ หุ้นจดทะเบียนในส่วนทีไม่ได้อยู ่ในการถือครองของ strategic shareholders<br />
Free float shares (%) = 1 - strategic shareholders’ shares (%)<br />
28
บริษัทจดทะเบียนทีจัดอยู ่ในกลุ่ม “หุ้นปันผล” มีการถือครองหุ้นโดย strategic shareholders<br />
ในสัดส่วนทีสูงกว่าค่าเฉลียของตลาดโดยรวม หรือมี float shares น้อยกว่าค่าเฉลียของตลาด<br />
เมือพิจารณาข้อมูลการถือครองหุ้นโดยนักลงทุนรายย่อย หรือ free float ของแต่ละบริษัท<br />
ในช่วงปี 2549 - 2553 18 (ตารางที 20 และภาพที 14) พบว่า บริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม “หุ้นปันผล” ทุกกลุ่ม<br />
(ยกเว้นกลุ่ม SETHD) มี free float ตํ ากว่าตลาดในทุกปี กลุ่ม “หุ้นปันผล” ส่วนใหญ่เป็ นบริษัทจดทะเบียน<br />
นอกกลุ่ม SET100 หรือเป็ นบริษัทจดทะเบียนในตลาดเอ็ม เอ ไอ ทีมี free float เฉลียตํ ากว่าตลาด (ตารางที<br />
21) หรือ บริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม “หุ้นปันผล” มีการถือครองโดย strategic shareholders สูงกว่าตลาด<br />
สอดคล้องกับความเชือของนักลงทุน<br />
ตารางที 20 สัดส่วนการถือครองหุ ้นโดยนักลงทุนรายย่อย (free float) จําแนกตามกลุ ่ม “หุ ้นปันผล”<br />
ในช่วงปี 2549 -2553<br />
หน่วย: ร้อยละ<br />
2549 2550 2551 2552 2553 เฉลีย 5 ปี<br />
MARKET 19 39.16 36.88 37.93 37.63 38.46 38.01<br />
SETHD 50.79 46.45 49.47 50.86 50.92 49.70<br />
DVS 37.38 33.36 35.15 34.88 35.90 35.33<br />
TOP30DIY 35.68 32.53 36.57 32.27 35.55 34.52<br />
TOP50DIY 34.51 31.99 34.14 31.98 34.41 33.41<br />
TOP100DIY 37.04 34.86 37.06 34.81 36.18 35.99<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
18<br />
สัดส่วนการถือครองหุ้นโดยนักลงทุนรายย่อย (free float) ของแต่ละบริษัท ใช้ข้อมูลจากการปิ ดสมุดทะเบียนครั งล่าสุดในปี นั นๆ ของ<br />
บริษัทจดทะเบียน<br />
19<br />
คํานวณจากค่าเฉลียของสัดส่วนการถือครองหุ้นโดยนักลงทุนรายย่อยของแต่ละบริษัท จํานวน 512 บริษัท ไม่รวมกองทุนรวม<br />
อสังหาริมทรัพย์และบริษัทจดทะเบียนทีอยู ่ระหว่างฟื นฟูการดําเนินงาน<br />
29
ภาพที 14 สัดส่วนการถือครองหุ ้นโดยผู ้ถือหุ ้นรายย่อยเฉลีย 5 ปี (ในช่วงปี 2549 – 2553)<br />
จําแนกตามกลุ ่มดัชนีและกลุ ่ม “หุ ้นปันผล”<br />
หน่วย: ร้อยละ<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
ตารางที 21 สัดส่วนการถือครองหุ ้นโดยนักลงทุนรายย่อย (free float) ปี 2553<br />
จําแนกตามกลุ ่ม “หุ ้นปันผล” และดัชนีหลักทรัพย์<br />
หน่วย: ร้อยละ (จํานวนบริษัท)<br />
SETHD DVS TOP3ODIY TOP50DIY TOP100DIY<br />
SET50 53.99 (14) 46.19 (43) 47.79 (2) 43.88 (3) 42.75 (9)<br />
SET51-100 48.23 (16) 46.11 (35) 43.44 (4) 42.36 (5) 52.55 (16)<br />
NON-SET100 32.16 (170) 33.33 (20) 32.12 (35) 32.15 (66)<br />
mai 31,81 (40) 32.60 (4) 36.13 (7) 35.10 (9)<br />
free float เฉลีย 50.92 (30) 35.90 (288) 35.55 (30) 34.41 (50) 36.18 (100)<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
บริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม “หุ้นปันผล” แม้มีอัตราการหมุนเวียนในการซื อขายหลักทรัพย์<br />
(turnover velocity) ตํ ากว่าตลาด แต่สูงกว่า SET50<br />
จากสัดส่วนการถือครองหุ้นโดยนักลงทุนรายย่อยตามทีกล่าวมาข้างต้น ทําให้ทราบว่าบริษัท<br />
จดทะเบียนในกลุ่ม “หุ้นปันผล” มีการถือครองหุ้นโดย strategic shareholders สูงกว่าตลาด แต่จะมีผลต่อ<br />
ความซื อง่ายขายคล่องของหุ้นในตลาดหรือไม่นั น จะพิจารณาจากอัตราการหมุนเวียนในการซื อขาย<br />
หลักทรัพย์ หรือ turnover velocity ซึ งเป็ นสัดส่วนระหว่างมูลค่าการซื อขายหลักทรัพย์ (trading value) และ<br />
มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (market capitalization) พบว่า กลุ่ม “หุ้นปันผล” ทุกกลุ่มมี turnover<br />
velocity ตํ ากว่าตลาด (ภาพที 15) โดย อยู ่ระหว่างร้อยละ 70.96 - 103.62 ขณะทีตลาดโดยรวมมี turnover<br />
velocity เฉลียอยู่ทีร้อยละ 164.83<br />
30
หากพิจารณาตามคํานิยามของ strategic shareholders ทีลงทุนระยะยาว มูลค่าซื อขายควรจะ<br />
เกิดจากหุ้นในการถือครองของนักลงทุนรายย่อย ดังนั นจึงปรับการคํานวณค่า turnover velocity ให้เป็ น<br />
free float turnover velocity โดยพิจารณามูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดเฉพาะในส่วนของหุ้นทีเหลืออยู ่ใน<br />
ตลาด (float shares) เท่านั น ซึ งกลุ่ม “หุ้นปันผล” มี free float turnover velocity อยู่ในช่วง 191.13 - 226.71<br />
(ภาพที 16) ตํ ากว่าตลาดทีมี free float turnover velocity อยู่ทีร้อยละ 375.74 อย่างไรก็ตาม กลุ่ม “หุ้นปันผล”<br />
ยังมี free float turnover velocity สูงกว่า SET50 ซึ งอยู่ทีร้อยละ 164.77<br />
ภาพที 15 อัตราการหมุนเวียนของหลักทรัพย์เฉลีย (turnover velocity) ในช่วงปี 2549 - 2553<br />
จําแนกตามกลุ ่มดัชนี และกลุ ่ม “หุ ้นปันผล”<br />
หน่วย: ร้อยละ<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
ภาพที 16 อัตราการหมุนเวียนของหลักทรัพย์เฉลีย (free float turnover velocity) ในช่วงปี 2549 -2553<br />
จําแนกตามกลุ ่มดัชนี และกลุ ่ม “หุ ้นปันผล”<br />
หน่วย: ร้อยละ<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
โดยสรุป บริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม “หุ้นปันผล” มีการถือครองโดย strategic shareholders สูง<br />
กว่าตลาดแต่หุ้นของบริษัทเหล่านี ยังมีสภาพคล่องในการซื อขาย โดยมีอัตราการหมุนเวียนในการซื อขายสูง<br />
กว่า SET50 หากพิจารณาจาก free float turnover velocity<br />
31
จากการพิสูจน์ความเชือเกียวกับ “หุ้นปันผล” ในตลาดหุ้นไทย 3 ประเด็น สรุปได้ว่า บริษัท<br />
จดทะเบียนในกลุ่ม “หุ้นปันผล” มีการเติบโตอย่างต่อเนืองทั งรายได้รวม สินทรัพย์ และกําไรสุทธิ<br />
นอกจากนี บริษัทจดทะบียนไทยส่วนใหญ่มีการจ่ายเงินปันผลสอดคล้องกับผลการประกอบการ และด้วย<br />
ความโดดเด่นเรืองผลตอบแทนจากเงินปันผลส่งผลให้ “หุ้นปันผล” เป็ นหุ้นทีให้ผลตอบแทนรวมสูงเมือ<br />
ลงทุนในระยะยาว ทําให้มีการถือครองหุ้นโดย strategic shareholders อยู ่ในสัดส่วนทีสูงกว่าตลาด อย่างไร<br />
ก็ตาม “หุ้นปันผล” ยังมีสภาพคล่องในการซื อขายโดยมี free float turnover velocity สูงกว่า SET50<br />
32
บทที 6 นัยสําคัญสําหรับนักลงทุนและผู ้มีเงินออม<br />
6.1 “หุ ้นปันผล” เหมาะสําหรับเป็ นผลิตภัณฑ์เริมต้นในตลาดหุ ้นไทย เนืองจากพบว่ามี<br />
ผลตอบแทนรวมสูงกว่าอัตราเงินเฟ้ อและยังมีผลตอบแทนสูงกว่าตลาด ขณะทีมีความเสียงตํากว่า<br />
ในช่วงทีผลตอบแทนจากการฝากเงินในธนาคารอยู ่ในระดับตํ า โดยตั งแต่ปี 2552 เป็ นต้นมา<br />
อัตราดอกเบี ยทีแท้จริง (real interest rate) มีค่าเป็ นลบ เนืองจากอัตราดอกเบี ยเงินฝากประจํา 12 เดือน 20 อยู่<br />
ในระดับตํ ากว่าอัตราเงินเฟ้ อ 21 (ภาพที 17) หรืออีกนัยหนึ งคือ ผู้ออมเงินมีอํานาจซื อในอนาคต (power of<br />
purchase) ลดลง เนืองจากระดับราคาสินค้าปรับเพิ มขึ นมากกว่าอัตราดอกเบี ยทีได้รับ ซึ ง ณ สินปี 2553<br />
อัตราดอกเบี ยฝากประจํา 12 เดือน อยู่ทีร้อยละ 1.60 ในขณะทีระดับราคาสินค้า ณ สินปี 2554 เทียบกับ ณ<br />
สินปี 2553 เพิมขึ นร้อยละ 3.50 (อัตราเงินเฟ้ อ) ส่งผลให้อัตราดอกเบี ยทีแท้จริงอยู ่ทีร้อยละ -1.90<br />
เมือเปรียบเทียบกับ “หุ้นปันผล” และเงินฝาก (ภาพที 18) พบว่า “หุ้นปันผล” มีอัตราเงินปัน<br />
ผลตอบแทนทีแท้จริง 22 ณ สินปี 2553 อยู่ทีร้อยละ 5.86 สูงกว่าอัตราดอกเบี ยทีแท้จริงทีอยู ่ทีร้อยละ -1.90<br />
อีกทั งผลการศึกษาในบทที 4 - 5 แสดงให้เห็นถึงความโดนเด่นด้านผลตอบแทนของ “หุ้นปันผล” ทีสูงกว่า<br />
ตลาดโดยรวมขณะทีมีความเสียงตํ ากว่าตลาด ดังนั นหากผู้มีเงินออมต้องการเพิ มช่องทางในการเพิ มอํานาจ<br />
ซื อ จะต้องพิจารณาช่องทางการลงทุนทีให้ได้ผลตอบแทนทีสูงกว่าอัตราเงินเฟ้ อ ซึ ง “หุ้นปันผล” เป็ นอีก<br />
ทางเลือกทีน่าสนใจเหมาะสําหรับการเป็ นผลิตภัณฑ์เริ มต้นของการลงทุนในตลาดหุ้นไทย<br />
20<br />
21<br />
22<br />
ค่าเฉลียอัตราดอกเบี ยเงินฝากประจํา 12 เดือน ณ สินปี ของธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์<br />
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ธนาคารทหารไทย และธนาคารนครหลวงไทย, ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย<br />
อัตราการเปลียนแปลงดัชนีราคาผู้บริโภคทั วไปรวมทุกรายการเทียบกับเดือนเดียวกันของปี ก่อนหน้า<br />
อัตราเงินปันผลตอบแทนทีแท้จริง คํานวณจากอัตราเงินปันผลตอบแทนหักลบด้วยอัตราเงินเฟ้ อ<br />
33
10.00<br />
8.00<br />
6.00<br />
4.00<br />
2.00<br />
0.00<br />
ภาพที 17 การเปรียบเทียบอัตราเงินเฟ้ อ ดอกเบียเงินฝากประจํา 12 เดือน<br />
4.39<br />
อัตราเงินปันผลตอบแทนของกลุ ่ม DVS ณ สินปี 2549 - 2553<br />
5.20 5.34<br />
3.2<br />
อัตราเงินเฟอ<br />
2.44<br />
0.4<br />
8.87<br />
3.5<br />
1.86<br />
5.51<br />
3.0<br />
0.88<br />
หน่วย: ร้อยละ<br />
อัตราเงินปน<br />
ผลตอบแทนของ DVS<br />
4.37<br />
1.60<br />
2549 2550 2551 2552 2553<br />
3.5<br />
อัตราดอกเบีย<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย และสํานักดัชนีเศรษฐกิจการค้า สํานักงาน<br />
ปลัดกระทรวงพาณิชย์<br />
6.00<br />
5.00<br />
4.00<br />
3.00<br />
2.00<br />
1.00<br />
0.00<br />
-1.00<br />
-2.00<br />
-3.00<br />
ภาพที 18 การเปรียบเทียบอัตราดอกเบียทีแท้จริงของเงินฝากประจํา 12 เดือน<br />
กับอัตราเงินปันผลตอบแทนทีแท้จริงของกลุ ่ม DVS ณ สินปี 2549 – 2553<br />
2.00<br />
1.19<br />
อัตราดอกเบีย<br />
ทีแท้จริง<br />
4.94<br />
2.04<br />
5.37<br />
-1.64<br />
2.51<br />
-2.12 -1.90<br />
หน่วย: ร้อยละ<br />
อัตราเงินปนผลตอบแทน<br />
ทีแท้จริงของ DVS<br />
0.87<br />
2549 2550 2551 2552 2553<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย และสํานักดัชนีเศรษฐกิจการค้า<br />
สํานักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์<br />
34
เมือพิจารณาทัศนคติของนักลงทุนในตลาดหุ้นไทยจากผลการศึกษาโครงการวิจัยผู้ลงทุน<br />
ประจําปี 2553 ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ทีสํารวจความคิดเห็นนักลงทุนไทยจํานวน 2,276 คน<br />
จําแนกนักลงทุนออกเป็ น 4 กลุ่ม ตามทัศนคติในการลงทุน และการถือครองผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ประเภท<br />
หุ้นและกองทุนรวมหุ้น (ตารางที 22) พบว่า นักลงทุนในตลาดหุ้นไทยส่วนใหญ่ (ร้อยละ 53) เป็ นนักลงทุน<br />
ในกลุ่ม conservative investor และ long-term investor มีความคาดหวังการมีรายได้สมํ าเสมอจากเงินปันผล<br />
ซึ งเห็นได้ว่าจาก “หุ้นปันผล” ในการศึกษานี มีคุณสมบัติทีสามารถตอบสนองความต้องการของนักลงทุน<br />
ได้เป็ นอย่างดี<br />
ตารางที 22 กลุ ่มนักลงทุน จําแนกตามผลการศึกษาโครงการวิจัยผู ้ลงทุน ประจําปี 2553<br />
หน่วย: ร้อยละ<br />
กลุ ่มนักลงทุน ลักษณะของนักลงทุน สัดส่วนนักลงทุนใน<br />
ตลาด<br />
Followers • ให้ความสําคัญกับผลตอบแทนสูง<br />
29<br />
• ลงทุนตามกระแส<br />
• พิจารณาลงทุนจากปัจจัยด้านเทคนิคและปัจจัยพื นฐาน<br />
• รับความเสียงได้ค่อนข้างมาก แม้ว่าการขาดทุนในอดีตหรือความ<br />
ล้มเหลวของผู้อืนมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนอยู ่บ้าง<br />
Long-term Investors • เน้นการลงทุนทีให้ผลตอบแทนสูง<br />
29<br />
• ลงทุนด้วยความรู้ของตนเองโดยใช้ข้อมูลสนับสนุน<br />
• พิจารณาลงทุนจากปัจจัยพื นฐานเป็ นหลัก<br />
• คาดหวังรายได้สมํ าเสมอจากเงินปันผล<br />
• รับความเสียงได้มาก<br />
Conservative • ระมัดระวัง รอบคอบในการลงทุน เน้นการลงทุนทีมั นใจว่าไม่<br />
24<br />
Investors<br />
ขาดทุนแม้ได้ผลตอบแทนตํ า<br />
• คาดหวังรายได้สมํ าเสมอจากเงินปันผลมากกว่านักลงทุนกลุ ่มอืน<br />
• รับความเสียงได้น้อย<br />
• ประสบการณ์ขาดทุนในอดีตหรือความล้มเหลวของผู้อืนมีผลอย่าง<br />
มากต่อการตัดสินใจลงทุน<br />
Risk Takers • ให้ความสําคัญมากทีสุดกับผลตอบแทนสูง<br />
18<br />
• หวังกําไรจากส่วนต่างราคา ชอบความผันผวนของราคาหลักทรัพย์<br />
• พิจารณาลงทุนจากปัจจัยเทคนิคมากกว่านักลงทุนกลุ ่มอืน<br />
• รับความเสียงได้สูงสุด<br />
• ประสบการณ์ขาดทุนในอดีตหรือความล้มเหลวของผู้อืน ไม่มีผล<br />
ต่อการตัดสินใจลงทุน<br />
ทีมา: โครงการวิจัยผู้ลงทุน ประจําปี 2553 (Investor Research survey 2010), ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
35
6.2 ผู ้มีเงินออมสามารถเลือกลงทุนได้ด้วยตนเอง โดยมี “หุ ้นปันผล” ให้เลือกหลายขนาดและ<br />
ในหลายอุตสาหกรรม หรือลงทุนผ่านมืออาชีพในกองทุนทีมีนโยบายลงทุนในหุ ้นปันผล<br />
เมือนักลงทุนพร้อมทีจะลงทุนใน “หุ้นปันผล” นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนได้ด้วยตัวเอง<br />
หรือผ่านมืออาชีพ สําหรับการลงทุนด้วยตัวเอง นักลงทุนสามารถเลือกลงทุนใน “หุ้นปันผล” รายตัว ซึ งจาก<br />
การศึกษานี มี “หุ้นปันผล” (DVS) 288 หลักทรัพย์ มีหลายระดับราคา โดยมีราคาปิ ดเฉลียในปี 2554 อยู ่ที<br />
34.41 บาทต่อหุ้น หรือเลือกลงทุนในกลุ่ม TOP30DIY ทีมีราคาเฉลียเพียง 10.41 บาทต่อหุ้นเท่านั น<br />
นอกจากนี “หุ้นปันผล” มีการกระจายตัวอยู ่ในหลายหมวดธุรกิจ (ภาพที 19)โดยเฉพาะใน<br />
หมวดปิ โตรเคมีและเคมีภัณฑ์ หมวดการแพทย์ หมวดของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ หมวดพาณิชย์ หมวด<br />
ชินส่วนอิเล็กทรอนิกส์ หมวดอาหารและเครืองดืม หมวดพลังงานและสาธารณูปโภค หมวดธนาคาร และ<br />
ธุรกิจการเกษตร ทีมีบริษัทจดทะเบียนอยู ่ในกลุ่ม “หุ้นปันผล” เป็ นสัดส่วนทีสูงเมือเทียบกับจํานวนบริษัท<br />
จดทะเบียนในหมวดธุรกิจนั นๆ นอกจากนี บริษัทจดทะเบียนในหมวดปิ โตรเคมีและเคมีภัณฑ์ หมวดของใช้<br />
ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ ชินส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และธุรกิจการเกษตรยังมีอัตราเงินปันผลตอบแทนสูงกว่า<br />
“หุ้นปันผล” ในหมวดธุรกิจอืนๆ<br />
101.3<br />
ภาพที 19 การเปรียบเทียบสัดส่วนจํานวนบริษัทจดทะเบียนในกลุ ่ม “หุ ้นปันผล”<br />
และ ค่าเฉลียอัตราเงินปันผลตอบแทน 23 จําแนกตามหมวดธุรกิจ<br />
สัดส่วนจํานวนบริษัททีหุ้นจัดว่าเปนหุ้นปนผลต่อบริษัททังหมด 1 (ร้อยละ)<br />
90.0<br />
78.8<br />
67.5<br />
56.3<br />
45.0<br />
33.8<br />
22.5<br />
11.3<br />
การแพทย์<br />
พาณิชย์<br />
อาหารและเครืองดืม<br />
พลังงานฯ<br />
ธนาคาร<br />
แฟชัน<br />
ประกันภัยและประกันชีวิต<br />
การท่องเทียวและสันทนาการ<br />
พัฒนาอสังหาริมทรัพย์<br />
ยานยนต์<br />
ธุรกิจขนาดกลาง<br />
บรรจุภัณฑ์<br />
ของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์<br />
ชินส่วนอิเล็กทรอนิกส์<br />
วัสดุก่อสร้าง<br />
ปโตรเคมีและเคมีภัณฑ์<br />
ธุรกิจการเกษตร<br />
เทคโนโลยีฯ<br />
สือและสิงพิมพ์<br />
เงินทุนและหลักทรัพย์<br />
ของใช้ในครัวเรือนฯ<br />
ขนส่งและโลจิสติกส์<br />
วัสดุอุตสาหกรรมและเครืองจักร<br />
เหมืองแร่<br />
เหล็ก<br />
0.0<br />
2.7 3.8 4.9 5.9 7.0 8.1<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
ค่าเฉลียอัตราเงินปนผลตอบแทน 23 (ร้อยละ)<br />
23 ค่าเฉลียอัตราเงินปันผลตอบแทนรายวันในช่วงปี 2549 - 2553<br />
36
หากผู้มีเงินออมต้องการลงทุนในบริษัทขนาดใหญ่ทีมีอัตราเงินปันผลตอบแทนในระดับสูง<br />
สามารถเลือกลงทุนในหุ้นของบริษัทจดทะเบียน 30 บริษัททีอยู่ในกลุ่ม SET High Dividend 30 Index<br />
(SETHD) ซึ งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้คัดเลือกหุ้นจากบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม SET100โดย<br />
พิจารณาจากมูลค่าตามราคาตลาดทีสูง มีสภาพคล่องสูงอย่างสมํ าเสมอ มีอัตราเงินปันผลตอบแทนสูงและมี<br />
การจ่ายเงินปันผลต่อเนือง<br />
ผลการศึกษาโครงการสํารวจกลุ่มผู้มีศักยภาพเป็ นผู้ลงทุนใหม่ ประจําปี 2552 ของตลาด<br />
หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ภาพที 20) พบว่า เหตุผลอันดับแรกทีทําให้ผู้มีศักยภาพในการลงทุนหรือผู้มี<br />
เงินออม (potential investors) ยังไม่ลงทุนในตลาดหุ้นไทย คือ การไม่มีเวลาในการติดตามความเคลือนไหว<br />
ของตลาด ดังนั นหากผู้มีเงินออมต้องการลงทุนเพือเงินปันผล สามารถเลือกลงทุนในหน่วยลงทุนของ<br />
กองทุนเปิ ดไทยเด็กซ์ SET High Dividend ETF (1DIV) ซึ งมีนโยบายการลงทุนเน้นการลงทุนใน<br />
หลักทรัพย์ทีเป็ นส่วนประกอบของดัชนี SET High Dividend 30 Index (SETHD) ซึ งกองทุนรวมนี บริหาร<br />
จัดการโดย บริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน วรรณ จํากัด และมีบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จํากัด<br />
(มหาชน) เป็ นผู้ร่วมจัดตั งกองทุนและผู้ดูแลสภาพคล่อง โดย 1DIV เริ มซื อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่ง<br />
ประเทศไทยตั งแต่วันที 16 สิงหาคม 2554 ทั งนี นักลงทุนทีมีความสนใจสามารถซื อขาย 1DIV ในตลาด<br />
หลักทรัพย์แห่งประเทศไทยผ่านบริษัทหลักทรัพย์เหมือนการซื อขายหลักทรัพย์ทัวไป ซึ งราคาปิ ดของ<br />
1DIV ณ 30 ธันวาคม 2554 อยู ่ที 11.79 บาทต่อหุ้น<br />
นอกจากนั นแล้ว ผู้มีเงินออมสามารถเลือกลงทุนผ่านมืออาชีพโดยการซื อขายหน่วยลงทุนของ<br />
กองทุนรวมตราสารทุนทีมีนโยบายเน้นการลงทุนใน “หุ้นปันผล” ผ่านทางบริษัทหลักทรัพย์จัดการลงทุน<br />
(บลจ.) ซึ ง ณ วันที 17 กุมภาพันธ์ 2555 กองทุนรวมตราสารทุนทีมีการจ่ายเงินปันผล มีจํานวนมากถึง 93<br />
กองทุน จาก 18 บลจ. (ภาพที 21) ซึ งมีอยู ่ 13 กองทุน จาก 8 บลจ. (ตารางที 23) ทีมีการจ่ายเงินปันผลและมี<br />
นโยบายเน้นการลงทุนในหุ้นทีมีการจ่ายปันผลหรือคํานึงถึงการจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียนทีจะลงทุน<br />
โดยมีผลตอบแทนเฉลียตั งแต่ต้นปี ถึง 17 กุมภาพันธ์ 2555 สูงถึงร้อยละ 8.05<br />
37
ภาพที 20 Investment Pyramid และเหตุผล 3 อันดับแรก ทีคนทีรู ้จักแต่ไม่สนใจลงทุนในหุ ้น<br />
หน่วย: ร้อยละ<br />
เหตุผล 3 อันดับแรกทีคนทีรู ้จักแต่ไม่สนในลงทุนในหุ ้น<br />
• ไม่มีเวลาเพียงพอทีจะติดตามความเคลือนไหว<br />
ของตลาด<br />
• คิดว่าการลงทุนมีความเสียงเกินกว่าขอบเขตที<br />
ยอมรับได้<br />
• แนวโน้มเศรษฐกิจไม่เหมาะกับการลงทุน<br />
ฐานข้อมูล: ผู้ให้สัมภาษณ์ทุกคน (N=817) ฐานข้อมูล: ถามเฉพาะการลงทุนทีตอบว่ารู้จัก แต่ไม่<br />
สนใจทีจะลงทุนหุ้น (N=341)<br />
ทีมา: โครงการสํารวจกลุ่มผู้มีศักยภาพเป็ นผู้ลงทุนใหม่ ประจําปี 2552 (Potential Investor Survey 2009)<br />
ภาพที 21 จํานวนกองทุนรวมตราสารทุนทีมีนโยบายจ่ายปันผลและอัตราผลตอบแทนรวม (% YTD)<br />
ณ วันที 17 กุมภาพันธ์ 2555<br />
หน่วย: กองทุน (ซ้าย); ร้อยละ (ขวา)<br />
ทีมา: Morningstar, ข้อมูล ณ 17 กุมภาพันธ์ 2555<br />
38
ตารางที 23 กองทุนรวมตราสารทุน 24 ทีมีการจ่ายเงินปันผลและมีนโยบายเน้นการลงทุนในหุ ้นทีมีการจ่าย<br />
ปันผลหรือคํานึงถึงการจ่ายปันผลของบริษัทจดทะเบียนทีจะลงทุน<br />
หน่วย: ร้อยละ<br />
ชือผู ้บริหาร<br />
กองทุน<br />
ชือกองทุน ชือย่อกองทุน<br />
อัตราผลตอบแทน<br />
(% YTD)<br />
AYSAM กองทุนเปิ ดกรุงศรีหุ้นระยะยาวปันผล KFLTFDIV 6.34<br />
AYSAM<br />
กองทุนเปิ ดกรุงศรีหุ้นระยะยาวอิควิตี 70 ปันผล KFLTFEQ70D 6.25<br />
AYSAM กองทุนเปิ ดกรุงศรีหุ้นปันผล KFSDIV 6.15<br />
AYSAM กองทุนเปิ ดกรุงศรีหุ้นระยะยาวปันผล 70/30 KFLTFD70 4.37<br />
FINANSA กองทุนเปิ ดฟิ นันซ่า SET เพิมพูนปันผล FAM EEF 10.21<br />
KASSET กองทุนเปิ ดเค 70:30 หุ้นระยะยาวปันผล K70LTF 8.52<br />
MANULIFE<br />
กองทุนเปิ ด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ อิควิตี ปันผล MS-EQ DIV 11.54<br />
MFC กองทุนเปิ ดเอ็มเอฟซี ไฮ-ดิวิเดนด์ ฟันด์ HI-DIV 10.17<br />
ONEAM กองทุนเปิ ดวรรณเอเอ็มหุ้นคุณค่าปันผล 1VAL-D 5.97<br />
SCBAM กองทุนเปิ ดไทยพาณิชย์หุ้นทุนปันผล SCBDV 9.24<br />
SCBAM กองทุนเปิ ดไทยพาณิชย์หุ้นระยะยาวปันผล 70/30 SCBLT1 7.42<br />
TMBAM กองทุนเปิ ด JUMBO 25 ปันผล หุ้นระยะยาว JB25 LTF 10.82<br />
TMBAM กองทุนเปิ ด JUMBO PLUS ปันผล หุ้นระยะยาว JBP LTF 7.63<br />
ทีมา: Morningstar, ข้อมูล ณ 17 กุมภาพันธ์ 2555 และข้อมูลจาก บลจ. ผู้บริหารกองทุน<br />
24<br />
กองทุนรวม equity large cap หรือ equity general ตามการจัดกลุ ่มของ Morningstar<br />
39
บรรณานุกรม<br />
บริษัท เดอะ นีลเส็น คอมปะนี (ประเทศไทย) จํากัด. (2553). โครงการวิจัยผู ้ลงทุนประจําปี 2553 (Investor<br />
Research survey 2010). กรุงเทพฯ<br />
บริษัท เดอะ นีลเส็น คอมปะนี (ประเทศไทย) จํากัด. (2552). โครงการสํารวจกลุ ่มผู ้มีศักยภาพเป็ นผู ้ลงทุน<br />
ใหม่ ประจําปี 2552 (Potential Investor Research survey 2009) . กรุงเทพฯ<br />
Krishnamsetty, M. (2010). High dividend stocks - Can they beat 10 -year bonds or the stock market?.<br />
Retrieved October 30, 2011. from http://www.insidermonkey.com/blog/can-high-dividendstocks-beat-10-year-bonds-or-the-stock-market-369/<br />
Morningstar. (2011). Income or growth? Why it pays to look for the best total return. Retrieved October<br />
30, 2011. from http://www.asx.com.au/resources/investor-update-newsletter/income-orgrowth.htm<br />
Siegel, J. J. (2010). Scoop Up Dividends. Retrieved May 30, 2011. from http://www.kiplinger.com<br />
/columns/goinglong/archives/scoop-up-dividends.html<br />
Tweedy, Browne Company LLC. (n.d.). The high dividend yield return advantage: an examination of<br />
empirical data associating investment in high dividend yield securities with attractive<br />
returns over long measurement periods. Retrieved October 30, 2011. from http://www.<br />
tweedy.com/research/papers_speeches.php<br />
Williams, A. D., Saryan, J. A., and Yan, L. Y. (2011). Dividend investing: Favorable long-term<br />
opportunities for total return and income. Retrieved October 30, 2011. from<br />
http://funds.eatonvance.com/Dividends.php<br />
40
ภาคผนวก<br />
41
ภาคผนวก 1 ดัชนีราคา SET High Dividend 30 Index 25<br />
วัตถุประสงค์ของการจัดทําดัชนีราคา SET High Dividend 30 Index<br />
เพือให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีสินค้าและผลิตภัณฑ์ด้านดัชนีราคาหลักทรัพย์ที<br />
หลากหลาย สอดคล้องกับพัฒนาการของตลาดทุน และสามารถตอบสนองความต้องการของนักลงทุนได้<br />
ในทุกด้าน ทั งเป็ นดัชนีอ้างอิงผลการลงทุนและเป็ นดัชนีอ้างอิงสําหรับผลิตภัณฑ์อืนๆ ตลาดหลักทรัพย์แห่ง<br />
ประเทศไทยจึงพัฒนาดัชนี SET High Dividend 30 Index ขึ นเพือสะท้อนความเคลือนไหวราคาของกลุ่ม<br />
หลักทรัพย์หุ้นทีมีมูลค่าตามราคาตลาดสูง (Market Capitalization) มีสภาพคล่องสูงอย่างสมํ าเสมอ และมี<br />
อัตราเงินปันผลตอบแทนสูงและต่อเนือง โดยเริ มเผยแพร่อย่างเป็ นทางการในวันจันทร์ที 4 กรกฎาคม 2554<br />
เป็ นต้นไป<br />
วิธีการคํานวณดัชนี<br />
ดัชนี SET High Dividend 30 Index ใช้วิธีการคํานวณดัชนีและการปรับฐานการคํานวณดัชนีใน<br />
ลักษณะใกล้เคียงกับการคํานวณ SET Index กล่าวคือ ใช้การคํานวณแบบถ่วงนํ าหนักด้วยมูลค่าหลักทรัพย์<br />
ตามราคาตลาด (Market Capitalization Weight) และปรับฐานการคํานวณดัชนีทุกครั งทีมีการเปลียนแปลง<br />
มูลค่าของหลักทรัพย์ทีใช้ในการคํานวณ เนืองจากการเปลียนแปลงจํานวนหุ้นของหลักทรัพย์ทีเป็ นผลมา<br />
จากเหตุการณ์ต่างๆ อย่างไรก็ตาม เพือให้ความสําคัญกับการจ่ายเงินปันผล ดัชนี SET High Dividend 30<br />
Index จะนําอัตราเงินปันผลตอบแทน (Dividend Yield) ของแต่ละหลักทรัพย์มาร่วมถ่วงนํ าหนักในการ<br />
คํานวณด้วย โดยจะกําหนดอัตราเงินปันผลตอบแทนสูงสุดที ใช้ในการคํานวณทีร้อยละ 15 ของแต่ละ<br />
หลักทรัพย์<br />
SET High Dividend 30 Index = มูลค่าตลาดรวม ณ วันปัจจุบัน X 1,000<br />
ถ่วงนํ าหนักด้วยอัตราเงินปันผลตอบแทน<br />
มูลค่าตลาดรวม ณ วันฐาน<br />
25<br />
ทีมา: ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย<br />
42
SET High Dividend 30 Index<br />
วันฐาน 30 มิถุนายน 2554<br />
ค่าดัชนี ณ วันฐาน<br />
1,000 จุด<br />
หลักเกณฑ์การคัดเลือกหลักทรัพย์<br />
หลักเกณฑ์การคัดเลือกหลักทรัพย์ในดัชนี SET High Dividend 30 Index ประกอบด้วย 2 ส่วน<br />
คือ (1) หลักเกณฑ์การคัดเลือกหลักทรัพย์ตามรอบการทบทวนรายชือ ซึ งใช้คัดเลือกหลักทรัพย์ตามรอบ<br />
การทบทวนเช่นเดียวกับ SET50 และ SET100 Index (periodic review of constituent companies) ซึ ง<br />
ดําเนินการทุกครึ งปี ในช่วงเดือนมิถุนายนและธันวาคม และ (2) หลักเกณฑ์พิจารณาการเปลียนแปลงรายชือ<br />
หลักทรัพย์ระหว่างรอบ (ongoing maintenance)<br />
(1) หลักเกณฑ์การคัดเลือกหลักทรัพย์ตามรอบการทบทวนรายชือ (periodic Review of<br />
constituent companies)<br />
ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะทําการคัดเลือกหลักทรัพย์ ทั งสิน 35 หลักทรัพย์ โดยใช้หลักทรัพย์<br />
30 ลําดับแรกเป็ นองค์ประกอบของดัชนี SET High Dividend 30 Index และส่วนทีเหลืออีก 5 ลําดับ ใช้เป็ น<br />
รายชือหลักทรัพย์สํารอง ตามหลักการดังนี <br />
1. เป็ นหลักทรัพย์ทีได้รับการคัดเลือกเป็ นองค์ประกอบของดัชนี SET100 Index<br />
2. เป็ นหลักทรัพย์ทีมีการจ่ายปันผลต่อเนือง โดยพิจารณาจาก<br />
2.1 มีการจ่ายปันผล (cash dividend) ต่อเนืองกันอย่างน้อย 3 ปี ในฐานะบริษัทจด<br />
ทะเบียน<br />
2.2 มีอัตราส่วนการจ่ายปันผลต่อกําไรสุทธิ (dividend payout ratio) ไม่เกินร้อยละ 85<br />
ในแต่ละปี ย้อนหลัง 3 ปี<br />
3. นําหลักทรัพย์ทีผ่านการคัดเลือกตามข้อ 2 มาจัดลําดับตามค่าเฉลียอัตราเงินปัน<br />
ผลตอบแทน (average dividend yield) ดังนี <br />
3.1 ให้หลักทรัพย์ทีได้รับการจัดอันดับใน 20 อันดับแรก เป็ นองค์ประกอบของดัชนี<br />
SET High Dividend 30 Index<br />
43
3.2 ส่วนทีเหลืออีก 10 ลําดับ ให้พิจารณาจากหลักทรัพย์ทีได้รับการจัดอันดับใน<br />
ลําดับที 21 - 40 โดยจะพิจารณาคัดเลือกหลักทรัพย์ทีเคยเป็ นองค์ประกอบของ<br />
ดัชนี SET High Dividend 30 Index ในรอบก่อนหน้าก่อน จากนั นจึงจะพิจารณา<br />
หลักทรัพย์ทีเหลือในกลุ่มลําดับที 21 - 40 ดังกล่าวถัดมา<br />
4. หากมีหลักทรัพย์ผ่านเกณฑ์การพิจารณาตามข้อ 3 น้อยกว่า 35 หลักทรัพย์ ให้<br />
ดําเนินการต่อดังนี <br />
4.1 เพิมอัตราส่วนการจ่ายปันผลต่อกําไรสุทธิจากเดิมไม่เกินร้อยละ 85 ของกําไรสุทธิ<br />
ขึ นครั งละร้อยละ 5 แต่ไม่เกินร้อยละ 100<br />
4.2 ลดจํานวนปี พิจารณาการจ่ายปันผลต่อเนือง จากเดิม 3 ปี ย้อนหลัง ลดลงครั งละ 1<br />
ปี ทั งนี ต้องไม่น้อยกว่า 1 ปี<br />
อนึ ง เพือให้ได้หลักทรัพย์ครบตามจํานวนทีกําหนด ตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจพิจารณาตาม<br />
หลักเกณฑ์อืนใด คณะทํางานด้านดัชนีราคาหลักทรัพย์ฯ ตลาดหลักทรัพย์ฯ เห็นว่า<br />
เหมาะสม<br />
5. หลักทรัพย์นั นๆ จะต้องไม่มีเหตุใดเหตุหนึ ง ดังต่อไปนี <br />
5.1 เป็ นหลักทรัพย์ทีเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอนตามข้อกําหนดของตลาดหลักทรัพย์ฯ<br />
5.2 เป็ นหลักทรัพย์ทีจะเพิกถอนตัวเองออกในระยะเวลาอันใกล้<br />
5.3 อยู่ในระหว่างถูกสั งพักการซื อขาย (SP) เป็ นระยะเวลานาน<br />
5.4 มีแนวโน้มทีจะถูกพักการซื อขายเป็ นระยะเวลานาน (เช่น 3 เดือน เนืองจากไม่<br />
สามารถนําส่งงบการเงินได้ เป็ นต้น)<br />
6. การทบทวนหลักทรัพย์จะกระทําทุก 6 เดือน ในช่วงเดือนมิถุนายน (สําหรับรายชือใน<br />
ครึ งหลังของปี ) และในช่วงเดือนธันวาคม (สําหรับรายชือในครั งแรกของปี ถัดไป)<br />
โดยใช้ข้อมูลการจ่ายเงินปันผลตามรอบบัญชีย้อนหลัง 3 ปี<br />
(2) หลักเกณฑ์การพิจารณาการเปลียนแปลงรายชือหลักทรัพย์ระหว่างรอบ (ongoing<br />
maintenance)<br />
1. หลักทรัพย์เข้าจดทะเบียนใหม่ (new issue) ไม่ถูกนํามาพิจารณาระหว่างรอบ<br />
44
2. การควบรวมกิจการหรือการซื อขายกิจการ (merger and acquisition) การครอบงํา<br />
กิจการ (takeover) หรือการปรับโครงสร้างการถือหลักทรัพย์ทีมีผลให้มีการเปลียน<br />
โครงสร้างกิจการอย่างมีนัยสําคัญ ให้ใช้หลักเกณฑ์เดียวกันกับการพิจารณา<br />
เปลียนแปลงรายชือหลักทรัพย์ของดัชนี SET100<br />
3. การนําหลักทรัพย์จากกลุ่มหลักทรัพย์สํารองมารวมคํานวณ SET High Dividend 30<br />
Index เมือมีการนําหลักทรัพย์ออกจากการคํานวณดัชนีให้นําหลักทรัพย์ทีอยู่ใน<br />
รายชือหลักทรัพย์สํารองเข้าไปรวมในการคํานวณแทน โดยให้นําหลักทรัพย์สํารอง<br />
อันดับสูงสุดทีประกาศในรอบนั นๆ มาแทนทีและใช้ค่า dividend yield ทีกําหนดแล้ว<br />
มาใช้คํานวณดัชนี ในกรณีทีมีจํานวนหลักทรัพย์สํารองไม่เพียงพอในการนําเข้าไป<br />
รวมคํานวณแทน ให้เป็ นดุลยพินิจของคณะทํางานด้านดัชนีราคาหลักทรัพย์ในการ<br />
พิจารณาเพิ มจํานวนหลักทรัพย์ให้ครบในกลุ่ม SET High Dividend 30 Index<br />
4. หลักทรัพย์ทีถูกห้ามการซื อขายเป็ นระยะเวลานาน กรณีหลักทรัพย์ถูกสั งห้ามซื อขาย<br />
(SP) ติดต่อกันเป็ นระยะเวลาตั งแต่ 20 วันทําการขึ นไป ตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจ<br />
พิจารณานําหลักทรัพย์ดังกล่าวออกจากการคํานวณ<br />
45
ตารางแนบ 1 รายชือทีใช้ในการคํานวณดัชนีราคา SET High Dividend 30 Index<br />
ในระหว่างวันที 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2554<br />
หมวดธุรกิจ ชือหลักทรัพย์ ชือย่อหลักทรัพย์<br />
1 ธุรกิจการเกษตร บริษัท จีเอฟพีที จํากัด (มหาชน) GFPT<br />
2 ธุรกิจการเกษตร บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จํากัด (มหาชน) STA<br />
3 ธนาคาร ธนาคารกรุงเทพ จํากัด (มหาชน) BBL<br />
4 ธนาคาร ธนาคารเกียรตินาคิน จํากัด (มหาชน) KK<br />
5 ธนาคาร บริษัท ทุนธนชาต จํากัด (มหาชน) TCAP<br />
6 ธนาคาร บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จํากัด (มหาชน) TISCO<br />
7 วัสดุก่อสร้าง บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จํากัด(มหาชน) SCC<br />
8 วัสดุก่อสร้าง บริษัท วนชัย กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) VNG<br />
9 ชินส่วนอิเล็กทรอนิกส์ บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จํากัด (มหาชน) HANA<br />
10 พลังงานและสาธารณูปโภค บริษัท ผลิตไฟฟ้ า จํากัด (มหาชน) EGCO<br />
11 พลังงานและสาธารณูปโภค บริษัท โกลว์ พลังงาน จํากัด (มหาชน) GLOW<br />
12 พลังงานและสาธารณูปโภค บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) PTT<br />
13 พลังงานและสาธารณูปโภค บริษัท ผลิตไฟฟ้ าราชบุรีโฮลดิง จํากัด (มหาชน) RATCH<br />
14 พลังงานและสาธารณูปโภค บริษัท นํ าประปาไทย จํากัด (มหาชน)<br />
15 พลังงานและสาธารณูปโภค บริษัท ลานนารีซอร์สเซส จํากัด (มหาชน) LANNA<br />
16 อาหารและเครืองดืม บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จํากัด (มหาชน) CPF<br />
17 อาหารและเครืองดืม บริษัท ไทยยูเนียน โฟรเซ่น โปรดักส์ จํากัด (มหาชน) TUF<br />
18 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือสาร บริษัท สามารถคอร์ปอเรชัน จํากัด (มหาชน) SAMART<br />
19 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือสาร บริษัท สามารถเทลคอม จํากัด (มหาชน) SAMTEL<br />
20 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือสาร บริษัท โทเทิ ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั น จํากัด (มหาชน)<br />
21 เหมืองแร่ บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จํากัด (มหาชน) PDI<br />
22 บรรจุภัณฑ์ บริษัท เอ.เจ.พลาสท์ จํากัด (มหาชน) AJ<br />
23 พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริษัท เอเชียนพร็อพเพอร์ตี ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด (มหาชน)<br />
24 พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) LPN<br />
25 พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริษัท ควอลิตี เฮ้าส์ จํากัด (มหาชน)<br />
26 พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จํากัด (มหาชน) STPI<br />
TTW<br />
DTAC<br />
27 พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริษัท ศุภาลัย จํากัด (มหาชน) SPALI<br />
28 เหล็ก บริษัท เอ็ม.ซี.เอส.สตีล จํากัด (มหาชน) MCS<br />
29 ขนส่งและโลจิสติกส์ บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จํากัด (มหาชน) BECL<br />
30 ขนส่งและโลจิสติกส์ บริษัท พรีเชียส ชิพปิ ง จํากัด (มหาชน) PSL<br />
AP<br />
QH<br />
46
หมวดธุรกิจ ชือหลักทรัพย์ ชือย่อหลักทรัพย์<br />
รายชือหลักทรัพย์สํารอง<br />
1 ธนาคาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จํากัด (มหาชน) SCB<br />
2 พลังงานและสาธารณูปโภค บริษัท บ้านปู จํากัด (มหาชน) BANPU<br />
3 พลังงานและสาธารณูปโภค บริษัท ปตท. สํารวจและผลิตปิ โตรเลียม จํากัด (มหาชน) PTTEP<br />
4 พลังงานและสาธารณูปโภค บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิ โตรเคมีคัลส์ จํากัด (มหาชน) SGP<br />
5 พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ บริษัท เหมราชพัฒนาทีดิน จํากัด (มหาชน) HEMRAJ<br />
47
ค่าเฉลี่ยอัตราเงินปันผลตอบแทน<br />
ชื่อย่อหลักทรัพย์ ชื่อหลักทรัพย์ หมวดธุรกิจ<br />
ในช่วง 2549 - 2553 TOP100DIY TOP50DIY TOP30DIY<br />
PATO บริษัท พาโตเคมีอุตสาหกรรม จ ากัด (มหาชน) ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ 11.04 YES YES YES<br />
ESSO บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จ ากัด (มหาชน) พลังงานและสาธารณูปโภค 10.97 YES YES YES<br />
SPACK บริษัท เอส. แพ็ค แอนด์ พริ้นท์ จ ากัด (มหาชน) บรรจุภัณฑ์ 10.90 YES YES YES<br />
ASK บริษัท เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง จ ากัด (มหาชน) เงินทุนและหลักทรัพย์ 10.80 YES YES YES<br />
PAP บริษัท แปซิฟิกไพพ์ จ ากัด (มหาชน) เหล็ก 10.68 YES YES YES<br />
CFRESH บริษัท ซีเฟรชอินดัสตรี จ ากัด (มหาชน) อาหารและเครื่องดื่ม 10.59 YES YES YES<br />
SVI บริษัท เอสวีไอ จ ากัด (มหาชน) ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 10.15 YES YES YES<br />
TPC บริษัท ไทยพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จ ากัด (มหาชน) ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ 10.13 YES YES YES<br />
PL บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จ ากัด (มหาชน) เงินทุนและหลักทรัพย์ 10.00 YES YES YES<br />
AIT บริษัท แอ็ดวานซ์ อินฟอร์เมชั่น เทคโนโลยี จ ากัด (มหาชน) เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 9.67 YES YES YES<br />
PRANDA บริษัท แพรนด้า จิวเวลรี่ จ ากัด (มหาชน) แฟชั่น 9.57 YES YES YES<br />
MCS บริษัท เอ็ม.ซี.เอส.สตีล จ ากัด (มหาชน) เหล็ก 9.57 YES YES YES YES<br />
UPF บริษัท ยูเนี่ยนไพโอเนียร์ จ ากัด (มหาชน) แฟชั่น 9.54 YES YES YES<br />
JMART บริษัท เจ มาร์ท จ ากัด (มหาชน) เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 9.48 YES YES YES<br />
PTSEC บริษัท ทุนภัทร จ ากัด (มหาชน) เงินทุนและหลักทรัพย์ 9.33 YES YES YES<br />
DRT บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จ ากัด (มหาชน) วัสดุก่อสร้าง 9.32 YES YES YES<br />
TLUXE บริษัท ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจการเกษตร 9.15 YES YES YES<br />
GFM บริษัท โกลด์ไฟน์ แมนูแฟคเจอเรอส์ จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 8.98 YES YES YES<br />
KK ธนาคารเกียรตินาคิน จ ากัด (มหาชน) ธนาคาร 8.95 YES YES YES YES<br />
MFEC บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จ ากัด (มหาชน) เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 8.81 YES YES YES<br />
MODERN บริษัท โมเดอร์นฟอร์มกรุ๊ป จ ากัด (มหาชน) ของใช้ในครัวเรือนและส านักงาน 8.76 YES YES<br />
UPOIC บริษัท สหอุตสาหกรรมน้ ามันปาล์ม จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจการเกษตร 8.71 YES YES<br />
JCT บริษัท แจ๊กเจียอุตสาหกรรม (ไทย) จ ากัด (มหาชน) ของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ 8.69 YES YES<br />
GC บริษัท โกลบอล คอนเน็คชั่นส์ จ ากัด (มหาชน) ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ 8.67 YES YES<br />
PDI บริษัท ผาแดงอินดัสทรี จ ากัด (มหาชน) เหมืองแร่ 8.62 YES YES YES<br />
TPA บริษัท ไทยโพลีอะคริลิค จ ากัด (มหาชน) ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ 8.60 YES YES<br />
* รายชื่อที่ใช้ในการค านวณดัชนีราคา SET High Dividend 30 Index ในระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2554<br />
ภาคผนวก 2 รายชื่อหลักทรัพย์ในกลุ่ม “หุ้นปันผล”<br />
SETHD<br />
Group*
ภาคผนวก 2 รายชื่อหลักทรัพย์ในกลุ่ม “หุ้นปันผล”<br />
ค่าเฉลี่ยอัตราเงินปันผลตอบแทน<br />
ชื่อย่อหลักทรัพย์ ชื่อหลักทรัพย์ หมวดธุรกิจ<br />
ในช่วง 2549 - 2553 TOP100DIY TOP50DIY TOP30DIY<br />
AS บริษัท เอเชียซอฟท์ คอร์ปอเรชั่น จ ากัด (มหาชน) สื่อและสิ่งพิมพ์ 8.56 YES YES<br />
UBIS บริษัท ยูบิส (เอเชีย) จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 8.56 YES YES<br />
TK บริษัท ฐิติกร จ ากัด (มหาชน) เงินทุนและหลักทรัพย์ 8.55 YES YES<br />
ADVANC บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จ ากัด (มหาชน) เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 8.20 YES YES<br />
TICON บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จ ากัด (มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 8.18 YES YES<br />
TAPAC บริษัท ทาพาโก้ จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 8.16 YES YES<br />
WORK บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จ ากัด (มหาชน) สื่อและสิ่งพิมพ์ 8.13 YES YES<br />
CPL บริษัท ซี.พี.แอล.กรุ๊พ จ ากัด (มหาชน) แฟชั่น 8.12 YES YES<br />
SENA บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จ ากัด (มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 8.10 YES YES<br />
CCET บริษัท แคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จ ากัด (มหาชน) ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 8.10 YES YES<br />
LEE บริษัท ลีพัฒนาผลิตภัณฑ์ จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจการเกษตร 8.00 YES YES<br />
UVAN บริษัท ยูนิวานิชน้ ามันปาล์ม จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจการเกษตร 7.97 YES YES<br />
LTX บริษัท ลัคกี้เท็คซ์ (ไทย) จ ากัด (มหาชน) แฟชั่น 7.94 YES YES<br />
UEC บริษัท ยูนิมิต เอนจิเนียริ่ง จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 7.94 YES YES<br />
2S บริษัท 2 เอส เมทัล จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 7.90 YES<br />
TCCC บริษัท ไทยเซ็นทรัลเคมี จ ากัด (มหาชน) ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ 7.83 YES<br />
PTTAR บริษัท ปตท. อะโรเมติกส์และการกลั่น จ ากัด (มหาชน) พลังงานและสาธารณูปโภค 7.75 YES<br />
SIRI บริษัท แสนสิริ จ ากัด (มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 7.75 YES<br />
TVO บริษัท น้ ามันพืชไทย จ ากัด (มหาชน) อาหารและเครื่องดื่ม 7.64 YES<br />
MK บริษัท มั่นคงเคหะการ จ ากัด (มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 7.62 YES<br />
CM บริษัท เชียงใหม่โฟรเซ่นฟู้ดส์ จ ากัด(มหาชน) ธุรกิจการเกษตร 7.61 YES<br />
MAKRO บริษัท สยามแม็คโคร จ ากัด (มหาชน) พาณิชย์ 7.58 YES<br />
TIP บริษัท ทิพยประกันภัย จ ากัด (มหาชน) ประกันภัยและประกันชีวิต 7.58 YES<br />
SPALI บริษัท ศุภาลัย จ ากัด (มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 7.56 YES YES<br />
P-FCB บริษัท ประกิต โฮลดิ้งส์ จ ากัด (มหาชน) สื่อและสิ่งพิมพ์ 7.55 YES<br />
KCAR บริษัท กรุงไทยคาร์เร้นท์ แอนด์ ลีส จ ากัด (มหาชน) เงินทุนและหลักทรัพย์ 7.53 YES<br />
* รายชื่อที่ใช้ในการค านวณดัชนีราคา SET High Dividend 30 Index ในระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2554<br />
SETHD<br />
Group*
ภาคผนวก 2 รายชื่อหลักทรัพย์ในกลุ่ม “หุ้นปันผล”<br />
ค่าเฉลี่ยอัตราเงินปันผลตอบแทน<br />
ชื่อย่อหลักทรัพย์ ชื่อหลักทรัพย์ หมวดธุรกิจ<br />
ในช่วง 2549 - 2553 TOP100DIY TOP50DIY TOP30DIY<br />
MACO บริษัท มาสเตอร์ แอด จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 7.50 YES<br />
SE-ED บริษัท ซีเอ็ดยูเคชั่น จ ากัด (มหาชน) สื่อและสิ่งพิมพ์ 7.49 YES<br />
EASON บริษัท อีซึ่น เพ้นท์ จ ากัด (มหาชน) ยานยนต์ 7.47 YES<br />
TPAC บริษัท พลาสติค และหีบห่อไทย จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 7.45 YES<br />
TTA บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จ ากัด (มหาชน) ขนส่งและโลจิสติกส์ 7.44 YES<br />
DELTA บริษัทเดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จ ากัด (มหาชน) ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 7.43 YES<br />
SSSC บริษัท ศูนย์บริการเหล็กสยาม จ ากัด (มหาชน) เหล็ก 7.40 YES<br />
TMD บริษัท อุตสาหกรรมถังโลหะไทย จ ากัด (มหาชน) บรรจุภัณฑ์ 7.39 YES<br />
CHARAN บริษัท จรัญประกันภัย จ ากัด (มหาชน) ประกันภัยและประกันชีวิต 7.34 YES<br />
AYUD บริษัท ศรีอยุธยาประกันภัย จ ากัด (มหาชน) ประกันภัยและประกันชีวิต 7.33 YES<br />
ASP บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จ ากัด (มหาชน) เงินทุนและหลักทรัพย์ 7.32 YES<br />
SPPT บริษัท ซิงเกิ้ล พอยท์ พาร์ท (ประเทศไทย) จ ากัด (มหาชน) ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 7.21 YES<br />
SYNEX บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จ ากัด (มหาชน) เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 7.20 YES<br />
TKT บริษัท ที.กรุงไทยอุตสาหกรรม จ ากัด (มหาชน) ยานยนต์ 7.19 YES<br />
SSF บริษัท สุรพลฟู้ดส์ จ ากัด (มหาชน) อาหารและเครื่องดื่ม 7.18 YES<br />
TSC บริษัท ไทยสตีลเคเบิล จ ากัด (มหาชน) ยานยนต์ 7.09 YES<br />
SAUCE บริษัท ไทยเทพรส จ ากัด (มหาชน) อาหารและเครื่องดื่ม 7.07 YES<br />
CITY บริษัท ซิตี้ สตีล จ ากัด (มหาชน) เหล็ก 7.06 YES<br />
QLT บริษัท ควอลลีเทค จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 7.05 YES<br />
SITHAI บริษัท ศรีไทยซุปเปอร์แวร์ จ ากัด (มหาชน) ของใช้ในครัวเรือนและส านักงาน 6.96 YES<br />
MSC บริษัท เมโทรซิสเต็มส์คอร์ปอเรชั่น จ ากัด (มหาชน) เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6.92 YES<br />
CHOTI บริษัท ห้องเย็นโชติวัฒน์หาดใหญ่ จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจการเกษตร 6.92 YES<br />
TOP บริษัท ไทยออยล์ จ ากัด (มหาชน) พลังงานและสาธารณูปโภค 6.92 YES<br />
SNC บริษัท เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ จ ากัด (มหาชน) วัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร 6.87 YES<br />
THRE บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จ ากัด (มหาชน) ประกันภัยและประกันชีวิต 6.83 YES<br />
PRG บริษัท ปทุมไรซมิล แอนด์ แกรนารี จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจการเกษตร 6.82 YES<br />
SETHD<br />
Group*<br />
* รายชื่อที่ใช้ในการค านวณดัชนีราคา SET High Dividend 30 Index ในระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2554
ภาคผนวก 2 รายชื่อหลักทรัพย์ในกลุ่ม “หุ้นปันผล”<br />
ค่าเฉลี่ยอัตราเงินปันผลตอบแทน<br />
ชื่อย่อหลักทรัพย์ ชื่อหลักทรัพย์ หมวดธุรกิจ<br />
ในช่วง 2549 - 2553 TOP100DIY TOP50DIY TOP30DIY<br />
ROJNA บริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จ ากัด (มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 6.78 YES<br />
DCC บริษัท ไดนาสตี้เซรามิค จ ากัด (มหาชน) วัสดุก่อสร้าง 6.77 YES<br />
HANA บริษัท ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส จ ากัด (มหาชน) ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 6.73 YES YES<br />
LHK บริษัท โลหะกิจ เม็ททอล จ ากัด (มหาชน) เหล็ก 6.72 YES<br />
STA บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจการเกษตร 6.71 YES YES<br />
WG บริษัท ไว้ท์กรุ๊ป จ ากัด (มหาชน) ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ 6.70 YES<br />
KGI บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จ ากัด (มหาชน) เงินทุนและหลักทรัพย์ 6.70 YES<br />
INTUCH บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จ ากัด (มหาชน) เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 6.67 YES<br />
PTL บริษัท โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) จ ากัด (มหาชน) บรรจุภัณฑ์ 6.65 YES<br />
THANI บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จ ากัด (มหาชน) เงินทุนและหลักทรัพย์ 6.62 YES<br />
S&P บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท จ ากัด (มหาชน) อาหารและเครื่องดื่ม 6.62 YES<br />
TIW บริษัท ไทยแลนด์ไอออนเวิคส์ จ ากัด (มหาชน) เหล็ก 6.59 YES<br />
TKS บริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จ ากัด (มหาชน) สื่อและสิ่งพิมพ์ 6.59<br />
SST บริษัท ทรัพย์ศรีไทย จ ากัด (มหาชน) ขนส่งและโลจิสติกส์ 6.57<br />
SPG บริษัท สยามภัณฑ์กรุ๊ป จ ากัด (มหาชน) ยานยนต์ 6.53<br />
KDH บริษัท โรงพยาบาลกรุงธน จ ากัด (มหาชน) การแพทย์ 6.52<br />
KEST บริษัทหลักทรัพย์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จ ากัด (มหาชน) เงินทุนและหลักทรัพย์ 6.51<br />
NNCL บริษัท นวนคร จ ากัด (มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 6.50<br />
HEMRAJ บริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จ ากัด (มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 6.41<br />
APRINT บริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จ ากัด (มหาชน) สื่อและสิ่งพิมพ์ 6.37<br />
BAT-3K บริษัท ไทยสโตเรจ แบตเตอรี่ จ ากัด (มหาชน) ยานยนต์ 6.35<br />
PTTCH บริษัท ปตท.เคมิคอล จ ากัด (มหาชน) ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ 6.34<br />
MCOT บริษัท อสมท จ ากัด (มหาชน) สื่อและสิ่งพิมพ์ 6.34<br />
NOBLE บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จ ากัด (มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 6.31<br />
LPN บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จ ากัด (มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 6.30 YES<br />
IT บริษัท ไอที ซิตี้ จ ากัด (มหาชน) พาณิชย์ 6.30<br />
* รายชื่อที่ใช้ในการค านวณดัชนีราคา SET High Dividend 30 Index ในระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2554<br />
SETHD<br />
Group*
ภาคผนวก 2 รายชื่อหลักทรัพย์ในกลุ่ม “หุ้นปันผล”<br />
ชื่อย่อหลักทรัพย์ ชื่อหลักทรัพย์ หมวดธุรกิจ<br />
ค่าเฉลี่ยอัตราเงินปันผลตอบแทน<br />
ในช่วง 2549 - 2553 TOP100DIY TOP50DIY TOP30DIY<br />
MBK บริษัท เอ็ม บี เค จ ากัด (มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 6.27<br />
SMIT บริษัท สหมิตรเครื่องกล จ ากัด (มหาชน) เหล็ก 6.24<br />
BJC บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จ ากัด (มหาชน) พาณิชย์ 6.23<br />
SC บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จ ากัด (มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 6.19<br />
SUC บริษัท สหยูเนี่ยน จ ากัด (มหาชน) แฟชั่น 6.19<br />
SCC บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จ ากัด(มหาชน) วัสดุก่อสร้าง 6.19 YES<br />
FE บริษัท ฟาร์อีสท์ ดีดีบี จ ากัด (มหาชน) สื่อและสิ่งพิมพ์ 6.13<br />
GRAMMY บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จ ากัด (มหาชน) สื่อและสิ่งพิมพ์ 6.09<br />
SCCC บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จ ากัด (มหาชน) วัสดุก่อสร้าง 6.08<br />
BLS บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จ ากัด (มหาชน) เงินทุนและหลักทรัพย์ 6.07<br />
EASTW บริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ าภาคตะวันออก จ ากัด (มหาชน) พลังงานและสาธารณูปโภค 6.06<br />
MAJOR บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จ ากัด (มหาชน) สื่อและสิ่งพิมพ์ 6.06<br />
THANA บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 6.01<br />
GFPT บริษัท จีเอฟพีที จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจการเกษตร 5.98 YES<br />
TCAP บริษัท ทุนธนชาต จ ากัด (มหาชน) ธนาคาร 5.96 YES<br />
SWC บริษัท เชอร์วู้ด เคมิคอล จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 5.93<br />
SCG บริษัท สหโคเจน (ชลบุรี) จ ากัด (มหาชน) พลังงานและสาธารณูปโภค 5.92<br />
TOG บริษัท ไทยออพติคอล กรุ๊ป จ ากัด (มหาชน) ของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ 5.92<br />
PR บริษัท เพรซิเดนท์ไรซ์โปรดักส์ จ ากัด (มหาชน) อาหารและเครื่องดื่ม 5.91<br />
TWFP บริษัท ไทยวาฟูดโปรดักส์ จ ากัด (มหาชน) อาหารและเครื่องดื่ม 5.91<br />
SSC บริษัท เสริมสุข จ ากัด (มหาชน) อาหารและเครื่องดื่ม 5.90<br />
KYE บริษัท กันยงอีเลคทริก จ ากัด (มหาชน) ของใช้ในครัวเรือนและส านักงาน 5.84<br />
GLOW บริษัท โกลว์ พลังงาน จ ากัด (มหาชน) พลังงานและสาธารณูปโภค 5.82 YES<br />
VNG บริษัท วนชัย กรุ๊ป จ ากัด (มหาชน) วัสดุก่อสร้าง 5.82 YES<br />
OGC บริษัท โอเชียนกลาส จ ากัด (มหาชน) ของใช้ในครัวเรือนและส านักงาน 5.81<br />
LH บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จ ากัด (มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 5.80<br />
* รายชื่อที่ใช้ในการค านวณดัชนีราคา SET High Dividend 30 Index ในระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2554<br />
SETHD<br />
Group*
ภาคผนวก 2 รายชื่อหลักทรัพย์ในกลุ่ม “หุ้นปันผล”<br />
ค่าเฉลี่ยอัตราเงินปันผลตอบแทน<br />
ชื่อย่อหลักทรัพย์ ชื่อหลักทรัพย์ หมวดธุรกิจ<br />
ในช่วง 2549 - 2553 TOP100DIY TOP50DIY TOP30DIY<br />
METCO บริษัทมูราโมโต้ อีเล็คตรอน (ประเทศไทย) จ ากัด (มหาชน) ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 5.75<br />
BECL บริษัท ทางด่วนกรุงเทพ จ ากัด (มหาชน) ขนส่งและโลจิสติกส์ 5.74 YES<br />
TBSP บริษัท ไทยบริติช ซีเคียวริตี้ พริ้นติ้ง จ ากัด (มหาชน) สื่อและสิ่งพิมพ์ 5.72<br />
OISHI บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จ ากัด (มหาชน) อาหารและเครื่องดื่ม 5.71<br />
ILINK บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 5.70<br />
TMW บริษัท ไทยมิตซูวา จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 5.69<br />
SIMAT บริษัท ไซแมท เทคโนโลยี จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 5.64<br />
LALIN บริษัท ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ จ ากัด (มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 5.63<br />
DRACO บริษัท ดราโก้ พีซีบี จ ากัด (มหาชน) ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 5.60<br />
SMK บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จ ากัด (มหาชน) ประกันภัยและประกันชีวิต 5.59<br />
NBC บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 5.55<br />
NTV บริษัท โรงพยาบาลนนทเวช จ ากัด (มหาชน) การแพทย์ 5.54<br />
L&E บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 5.53<br />
LST บริษัท ล่ าสูง (ประเทศไทย) จ ากัด (มหาชน) อาหารและเครื่องดื่ม 5.49<br />
S & J บ.เอส แอนด์ เจ อินเตอร์เนชั่นแนล เอนเตอร์ไพรส์ จ ากัด (มหาชน) ของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ 5.48<br />
LRH บริษัท ลากูน่า รีสอร์ท แอนด์ โฮเท็ล จ ากัด (มหาชน) การท่องเที่ยวและสันทนาการ 5.44<br />
SIAM บริษัท สยามสตีลอินเตอร์เนชั่นแนล จ ากัด (มหาชน) ของใช้ในครัวเรือนและส านักงาน 5.43<br />
RATCH บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จ ากัด (มหาชน) พลังงานและสาธารณูปโภค 5.42 YES<br />
DSGT บริษัท ดีเอสจี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จ ากัด (มหาชน) ของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ 5.40<br />
MFC บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จ ากัด(มหาชน) เงินทุนและหลักทรัพย์ 5.38<br />
BAFS บริษัท บริการเชื้อเพลิงการบินกรุงเทพ จ ากัด (มหาชน) พลังงานและสาธารณูปโภค 5.35<br />
NKI บริษัท นวกิจประกันภัย จ ากัด (มหาชน) ประกันภัยและประกันชีวิต 5.34<br />
TOPP บริษัท ไทย โอ.พี.พี. จ ากัด (มหาชน) บรรจุภัณฑ์ 5.31<br />
LANNA บริษัท ลานนารีซอร์สเซส จ ากัด (มหาชน) พลังงานและสาธารณูปโภค 5.28 YES<br />
SPORT บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จ ากัด (มหาชน) สื่อและสิ่งพิมพ์ 5.28<br />
EGCO บริษัท ผลิตไฟฟ้า จ ากัด (มหาชน) พลังงานและสาธารณูปโภค 5.27 YES<br />
* รายชื่อที่ใช้ในการค านวณดัชนีราคา SET High Dividend 30 Index ในระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2554<br />
SETHD<br />
Group*
ภาคผนวก 2 รายชื่อหลักทรัพย์ในกลุ่ม “หุ้นปันผล”<br />
ค่าเฉลี่ยอัตราเงินปันผลตอบแทน<br />
ชื่อย่อหลักทรัพย์ ชื่อหลักทรัพย์ หมวดธุรกิจ<br />
ในช่วง 2549 - 2553 TOP100DIY TOP50DIY TOP30DIY<br />
AEONTS บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จ ากัด (มหาชน) เงินทุนและหลักทรัพย์ 5.25<br />
CNS บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จ ากัด (มหาชน) เงินทุนและหลักทรัพย์ 5.22<br />
PG บริษัท ประชาอาภรณ์ จ ากัด (มหาชน) แฟชั่น 5.22<br />
BOL บริษัท บิซิเนส ออนไลน์ จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 5.17<br />
SGP บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จ ากัด (มหาชน) พลังงานและสาธารณูปโภค 5.16<br />
IRPC บริษัท ไออาร์พีซี จ ากัด (มหาชน) พลังงานและสาธารณูปโภค 5.16<br />
TTI บริษัท โรงงานผ้าไทย จ ากัด (มหาชน) แฟชั่น 5.06<br />
QH บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จ ากัด (มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 5.05 YES<br />
INET บริษัท อินเทอร์เน็ตประเทศไทย จ ากัด (มหาชน) เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 5.03<br />
TUF บริษัท ไทยยูเนียน โฟรเซ่น โปรดักส์ จ ากัด (มหาชน) อาหารและเครื่องดื่ม 5.01 YES<br />
TISCO บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จ ากัด (มหาชน) ธนาคาร 5.01 YES<br />
SIS บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จ ากัด (มหาชน) เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 4.98<br />
DCON บริษัท ดีคอนโปรดักส์ จ ากัด (มหาชน) วัสดุก่อสร้าง 4.97<br />
UKEM บริษัท ยูเนี่ยน ปิโตรเคมีคอล จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 4.95<br />
TTW บริษัท น้ าประปาไทย จ ากัด (มหาชน) พลังงานและสาธารณูปโภค 4.92 YES<br />
UST บริษัท ยูไนเต็ด แสตนดาร์ด เทอร์มินัล จ ากัด (มหาชน) ขนส่งและโลจิสติกส์ 4.91<br />
OCC บริษัท โอ ซี ซี จ ากัด (มหาชน) ของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ 4.86<br />
TNH บริษัท โรงพยาบาลไทยนครินทร์ จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 4.82<br />
BFIT บริษัทเงินทุน กรุงเทพธนาทร จ ากัด (มหาชน) เงินทุนและหลักทรัพย์ 4.81<br />
ALUCON บริษัท อลูคอน จ ากัด (มหาชน) บรรจุภัณฑ์ 4.80<br />
M-CHAI บริษัท โรงพยาบาลมหาชัย จ ากัด (มหาชน) การแพทย์ 4.74<br />
THIP บริษัท ทานตะวันอุตสาหกรรม จ ากัด (มหาชน) บรรจุภัณฑ์ 4.74<br />
AGE บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 4.73<br />
TNL บริษัท ธนูลักษณ์ จ ากัด (มหาชน) แฟชั่น 4.72<br />
PPM บริษัท พรพรหมเม็ททอล จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 4.69<br />
TTCL บริษัท โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น จ ากัด (มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 4.62<br />
* รายชื่อที่ใช้ในการค านวณดัชนีราคา SET High Dividend 30 Index ในระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2554<br />
SETHD<br />
Group*
ภาคผนวก 2 รายชื่อหลักทรัพย์ในกลุ่ม “หุ้นปันผล”<br />
ค่าเฉลี่ยอัตราเงินปันผลตอบแทน<br />
ชื่อย่อหลักทรัพย์ ชื่อหลักทรัพย์ หมวดธุรกิจ<br />
ในช่วง 2549 - 2553 TOP100DIY TOP50DIY TOP30DIY<br />
AMATA บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จ ากัด (มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 4.62<br />
KTB ธนาคารกรุงไทย จ ากัด (มหาชน) ธนาคาร 4.61<br />
BUI บริษัท บางกอกสหประกันภัย จ ากัด (มหาชน) ประกันภัยและประกันชีวิต 4.61<br />
AP บริษัทเอเชี่ยนพร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จ ากัด (มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 4.59 YES<br />
BKI บริษัท กรุงเทพประกันภัย จ ากัด (มหาชน) ประกันภัยและประกันชีวิต 4.59<br />
CMR บริษัท เชียงใหม่รามธุรกิจการแพทย์ จ ากัด (มหาชน) การแพทย์ 4.56<br />
MATI บริษัท มติชน จ ากัด (มหาชน) สื่อและสิ่งพิมพ์ 4.55<br />
BROCK บริษัท บ้านร็อคการ์เด้น จ ากัด (มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 4.54<br />
KWC บริษัท กรุงเทพโสภณ จ ากัด (มหาชน) ขนส่งและโลจิสติกส์ 4.48<br />
TTTM บริษัท ไทยโทเรเท็กซ์ไทล์มิลลส์ จ ากัด (มหาชน) แฟชั่น 4.47<br />
CPF บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จ ากัด (มหาชน) อาหารและเครื่องดื่ม 4.47 YES<br />
GLAND บริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จ ากัด (มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 4.42<br />
CPI บริษัท ชุมพรอุตสาหกรรมน้ ามันปาล์ม จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจการเกษตร 4.41<br />
OHTL บริษัท โอเอชทีแอล จ ากัด (มหาชน) การท่องเที่ยวและสันทนาการ 4.40<br />
TNDT บริษัท ไทย เอ็น ดี ที จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 4.39<br />
CSR บริษัท เทพธานีกรีฑา จ ากัด (มหาชน) การท่องเที่ยวและสันทนาการ 4.38<br />
SAMART บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จ ากัด (มหาชน) เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 4.38 YES<br />
BEC บริษัท บีอีซี เวิลด์ จ ากัด (มหาชน) สื่อและสิ่งพิมพ์ 4.37<br />
HTECH บริษัท แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 4.35<br />
BCP บริษัท บางจากปิโตรเลียม จ ากัด (มหาชน) พลังงานและสาธารณูปโภค 4.32<br />
AJ บริษัท เอ.เจ.พลาสท์ จ ากัด (มหาชน) บรรจุภัณฑ์ 4.28 YES<br />
IRC บริษัท อิโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) จ ากัด (มหาชน) ยานยนต์ 4.22<br />
VNT บริษัท วีนิไทย จ ากัด (มหาชน) ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ 4.19<br />
STANLY บริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จ ากัด (มหาชน) ยานยนต์ 4.17<br />
TPCORP บริษัท เท็กซ์ไทล์เพรสทีจ จ ากัด (มหาชน) แฟชั่น 4.13<br />
VIBHA บริษัท โรงพยาบาลวิภาวดี จ ากัด (มหาชน) การแพทย์ 4.12<br />
* รายชื่อที่ใช้ในการค านวณดัชนีราคา SET High Dividend 30 Index ในระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2554<br />
SETHD<br />
Group*
ภาคผนวก 2 รายชื่อหลักทรัพย์ในกลุ่ม “หุ้นปันผล”<br />
ค่าเฉลี่ยอัตราเงินปันผลตอบแทน<br />
ชื่อย่อหลักทรัพย์ ชื่อหลักทรัพย์ หมวดธุรกิจ<br />
ในช่วง 2549 - 2553 TOP100DIY TOP50DIY TOP30DIY<br />
BGT บริษัท บีจีที คอร์ปอเรชั่น จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 4.06<br />
AOT บริษัท ท่าอากาศยานไทย จ ากัด (มหาชน) ขนส่งและโลจิสติกส์ 4.04<br />
SHANG บริษัท แชงกรี-ลา โฮเต็ล จ ากัด (มหาชน) การท่องเที่ยวและสันทนาการ 4.00<br />
BANPU บริษัท บ้านปู จ ากัด (มหาชน) พลังงานและสาธารณูปโภค 3.92<br />
PTT บริษัท ปตท. จ ากัด (มหาชน) พลังงานและสาธารณูปโภค 3.91 YES<br />
TC บริษัท ทรอปิคอลแคนนิ่ง (ประเทศไทย) จ ากัด (มหาชน) อาหารและเครื่องดื่ม 3.84<br />
KH บริษัท บางกอก เชน ฮอสปิทอล จ ากัด (มหาชน) การแพทย์ 3.84<br />
GYT บริษัท กู๊ดเยียร์(ประเทศไทย) จ ากัด (มหาชน) ยานยนต์ 3.82<br />
KIAT บริษัท เกียรติธนา ขนส่ง จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 3.80<br />
ROBINS บริษัท ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จ ากัด (มหาชน) พาณิชย์ 3.77<br />
CNT บริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) จ ากัด (มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 3.74<br />
WACOAL บริษัท ไทยวาโก้ จ ากัด (มหาชน) แฟชั่น 3.69<br />
TPOLY บริษัท ไทยโพลีคอนส์ จ ากัด (มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 3.64<br />
TMI บริษัท ธีระมงคล อุตสาหกรรม จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 3.64<br />
DTC บริษัท ดุสิตธานี จ ากัด (มหาชน) การท่องเที่ยวและสันทนาการ 3.62<br />
BIGC บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จ ากัด (มหาชน) พาณิชย์ 3.61<br />
SAMCO บริษัท สัมมากร จ ากัด (มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 3.54<br />
PB บริษัท เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ จ ากัด (มหาชน) อาหารและเครื่องดื่ม 3.54<br />
HMPRO บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จ ากัด (มหาชน) พาณิชย์ 3.49<br />
TRC บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 3.48<br />
SORKON บริษัท ส. ขอนแก่นฟู้ดส์ จ ากัด (มหาชน) อาหารและเครื่องดื่ม 3.46<br />
UV บริษัท ยูนิ เวนเจอร์ จ ากัด (มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 3.46<br />
TF บริษัท ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ จ ากัด (มหาชน) อาหารและเครื่องดื่ม 3.35<br />
CPALL บริษัท ซีพี ออลล์ จ ากัด (มหาชน) พาณิชย์ 3.34<br />
DTAC บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จ ากัด (มหาชน) เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 3.34 YES<br />
CI บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จ ากัด (มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 3.33<br />
* รายชื่อที่ใช้ในการค านวณดัชนีราคา SET High Dividend 30 Index ในระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2554<br />
SETHD<br />
Group*
ภาคผนวก 2 รายชื่อหลักทรัพย์ในกลุ่ม “หุ้นปันผล”<br />
ค่าเฉลี่ยอัตราเงินปันผลตอบแทน<br />
ชื่อย่อหลักทรัพย์ ชื่อหลักทรัพย์ หมวดธุรกิจ<br />
ในช่วง 2549 - 2553 TOP100DIY TOP50DIY TOP30DIY<br />
TCB บริษัท ไทยคาร์บอนแบล็ค จ ากัด (มหาชน) ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ 3.31<br />
PS บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จ ากัด (มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 3.17<br />
CPR บริษัท ซีพีอาร์ โกมุ อินดัสเตรียล จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 3.07<br />
SCB ธนาคารไทยพาณิชย์ จ ากัด (มหาชน) ธนาคาร 3.04<br />
TR บริษัท ไทยเรยอน จ ากัด (มหาชน) แฟชั่น 3.00<br />
SMT บริษัท สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จ ากัด (มหาชน) ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ 2.92<br />
MOONG บริษัท มุ่งพัฒนา อินเตอร์แนชชั่นแนล จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 2.90<br />
DEMCO บริษัท เด็มโก้ จ ากัด (มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 2.90<br />
PTTEP บริษัท ปตท. ส ารวจและผลิตปิโตรเลียม จ ากัด (มหาชน) พลังงานและสาธารณูปโภค 2.77<br />
SPC บริษัท สหพัฒนพิบูล จ ากัด (มหาชน) พาณิชย์ 2.75<br />
SIM บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จ ากัด (มหาชน) เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 2.74<br />
PYLON บริษัท ไพลอน จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 2.63<br />
SAMTEL บริษัท สามารถเทลคอม จ ากัด (มหาชน) เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 2.61 YES<br />
BBL ธนาคารกรุงเทพ จ ากัด (มหาชน) ธนาคาร 2.60 YES<br />
ETG บริษัท อีเทอร์นิตี้ แกรนด์ โลจิสติคส์ จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 2.59<br />
KBANK ธนาคารกสิกรไทย จ ากัด (มหาชน) ธนาคาร 2.56<br />
CENTEL บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จ ากัด (มหาชน) การท่องเที่ยวและสันทนาการ 2.49<br />
BH บริษัท โรงพยาบาลบ ารุงราษฎร์ จ ากัด (มหาชน) การแพทย์ 2.49<br />
GLOBAL บริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ จ ากัด (มหาชน) พาณิชย์ 2.43<br />
ICC บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จ ากัด (มหาชน) แฟชั่น 2.41<br />
RAM บริษัท โรงพยาบาลรามค าแหง จ ากัด (มหาชน) การแพทย์ 2.36<br />
UOBKH บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จ ากัด (มหาชน) เงินทุนและหลักทรัพย์ 2.31<br />
DIMET บริษัท ไดเมท (สยาม) จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 2.27<br />
AHC บริษัท โรงพยาบาลเอกชล จ ากัด (มหาชน) การแพทย์ 2.21<br />
KASET บริษัท ไทยฮา จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง 2.08<br />
BGH บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จ ากัด(มหาชน) การแพทย์ 1.98<br />
* รายชื่อที่ใช้ในการค านวณดัชนีราคา SET High Dividend 30 Index ในระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2554<br />
SETHD<br />
Group*
ค่าเฉลี่ยอัตราเงินปันผลตอบแทน<br />
ชื่อย่อหลักทรัพย์ ชื่อหลักทรัพย์ หมวดธุรกิจ<br />
ในช่วง 2549 - 2553 TOP100DIY TOP50DIY TOP30DIY<br />
KSL บริษัท น้ าตาลขอนแก่น จ ากัด (มหาชน) อาหารและเครื่องดื่ม 1.94<br />
TWZ บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จ ากัด (มหาชน) เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 1.89<br />
CPN บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จ ากัด (มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 1.85<br />
UNIQ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จ ากัด (มหาชน) พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ 1.84<br />
MINT บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จ ากัด (มหาชน) อาหารและเครื่องดื่ม 1.56<br />
IVL บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จ ากัด (มหาชน) ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ 1.42<br />
BLA บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จ ากัด (มหาชน) ประกันภัยและประกันชีวิต 1.10<br />
SABINA บริษัท ซาบีน่า จ ากัด (มหาชน) แฟชั่น 1.08<br />
SPI บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จ ากัด (มหาชน) พาณิชย์ 1.06<br />
NEW บริษัท วัฒนาการแพทย์ จ ากัด (มหาชน) การแพทย์ 0.94<br />
GUNKUL** บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จ ากัด (มหาชน) พลังงานและสาธารณูปโภค<br />
IFS** บริษัท ไอเอฟเอส แคปปิตอล (ประเทศไทย) จ ากัด (มหาชน) เงินทุนและหลักทรัพย์<br />
SYMC** บริษัท ซิมโฟนี่ คอมมูนิเคชั่น จ ากัด (มหาชน) เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร<br />
UAC** บมจ. ยูนิเวอร์แซล แอดซอร์บเบ้นท์ แอนด์ เคมิคัลส์ ธุรกิจขนาดกลาง<br />
OFM** บริษัท ออฟฟิศเมท จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง<br />
PHOL** บริษัท ผลธัญญะ จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง<br />
ARIP** บริษัท เออาร์ไอพี จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง<br />
NINE** บริษัท เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ จ ากัด (มหาชน) ธุรกิจขนาดกลาง<br />
* รายชื่อที่ใช้ในการค านวณดัชนีราคา SET High Dividend 30 Index ในระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม - 31 ธันวาคม 2554<br />
ภาคผนวก 2 รายชื่อหลักทรัพย์ในกลุ่ม “หุ้นปันผล”<br />
** บริษัทที่เข้าจดทะเบียนในปี 2553 และประกาศจ่ายปันผลปีงบการเงิน 2553 ในช่วงปี 2554 ท าให้ไม่มีข้อมูลอัตราเงินปันผลตอบแทน<br />
SETHD<br />
Group*