02.08.2017 Views

2

Create successful ePaper yourself

Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.

วิธีการทางประวัติศาสตร์<br />

1.ก าหนดหัวข้อที่จะศึกษา<br />

ชื่อต้นมณโฑมีที่มาจากอะไร และมีความหมายว่าอย่างไร<br />

2.สืบค้นและรวบรวมข้อมูล<br />

1) ดอกไม้ทิพย์แห่งเมืองสวรรค์ที่ชื่อ “มณฑารพ” หรือ “มณฑา” นั้น ในพระไตรปิฎกกล่าวไว้ว่า ก่อนที่<br />

พระพุทธองค์จะเสด็จดับขันธปรินิพพาน ได้ตรัสกับพระอานนท์ว่า<br />

“ดูกรอานนท์ ไม้สาละทั้งคู่ เผล็ดดอกบานสะพรั่งนอกฤดูกาล ร่วงหล่นโปรยปราย ลงยังสรีระของตถาคต<br />

เพื่อบูชา แม้ดอกมณฑารพอันเป็นของทิพย์ ก็ตกลงมาจากอากาศ ดอกมณฑารพเหล่านั้น ร่วงหล่นโปรยปราย<br />

ลงยังสรีระของตถาคตเพื่อบูชา แม้จุณแห่งจันทน์อันเป็นของทิพย์ ก็ตกลงมาจากอากาศ จุณแห่งจันทน์<br />

เหล่านั้น ร่วงหล่นโปรยปรายลงยังสรีระของตถาคตเพื่อบูชา ดนตรีอันเป็นทิพย์เล่า ก็ประโคมอยู่ในอากาศ เพื่อ<br />

บูชาตถาคต แม้สังคีตอันเป็นทิพย์ก็เป็นไปในอากาศเพื่อบูชาตถาคต ดูกรอานนท์ ตถาคตจะชื่อว่าอันบริษัท<br />

สักการะ เคารพ นับถือ บูชา นอบน้อม ด้วยเครื่องสักการะประมาณเท่านี้หามิได้ ผู้ใดแลจะเป็นภิกษุ ภิกษุณี<br />

อุบาสก หรืออุบาสิกาก็ตาม เป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ปฏิบัติชอบ ปฏิบัติตามธรรมอยู่ ผู้นั้นย่อมชื่อว่า<br />

สักการะ เคารพ นับถือ บูชาตถาคต ด้วยการบูชาอย่างยอด เพราะเหตุนั้นแหละอานนท์ พวกเธอพึงส าเหนียก<br />

อย่างนี้ว่า เราจักเป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ปฏิบัติชอบ ประพฤติตามธรรมอยู่ ดังนี้ ฯ”<br />

ในเวลาที่พระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว ทุกหนแห่งในเมืองกุสินาราเต็มไปด้วยดอกมณฑารพ “...<br />

สมัยนั้น เมืองกุสินาราเดียรดาษไปด้วยดอกมณฑารพโดยถ่องแถวประมาณแค่เข่า จนตลอดที่ต่อแห่งเรือน บ่อ<br />

ของโสโครกและกองหยากเยื่อ ครั้งนั้นพวกเทวดาและพวกเจ้ามัลละเมืองกุสินารา สักการะ เคารพ นับถือ บูชา<br />

พระสรีระพระผู้มีพระภาค ด้วยการฟ้อนร า ขับร้อง ประโคมมาลัยและของหอม ทั้งที่เป็นของทิพย์ ทั้งที่เป็น<br />

ของมนุษย์...”<br />

หลังจากพระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว พระมหากัสสปะเถระซึ่งอยู่ที่เมืองปาวา แคว้นมัลละ ได้<br />

ทราบข่าวว่าองค์พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมาประทับที่เมืองกุสินาราเป็นเวลาหลายวันแล้ว จึง<br />

ตั้งใจจะไปเข้าเฝ้าพร้อมด้วยพระภิกษุสงฆ์บริวาร 500 รูป ขณะที่ก าลังเดินทางไปเมืองกุสินาราอยู่นั้น ได้หยุด<br />

พักหลบแสงแดดอยู่ใต้ร่มไม้ข้างทาง ได้เห็นนักบวชนอกศาสนาคนหนึ่ง (อาชีวกะ) ซึ่งมาจากเมืองกุสินารา ถือ<br />

“ดอกมณฑารพ” ที่ผูกติดกับกิ่งไม้ต่างร่ม เดินสวนทางมา<br />

พระมหากัสสปะซึ่งเวลานั้นยังไม่ทราบว่าพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว ก็นึกสังหรณ์ใจ เพราะ<br />

ดอกมณฑารพเป็นดอกไม้ทิพย์ที่จะมีก็แต่ในแดนสวรรค์ ไม่มีในโลกมนุษย์ และจะปรากฏมีในโลกมนุษย์ก็<br />

เฉพาะตอนที่มีสิ่งใดสิ่งหนึ่งเกิดขึ้นกับพระพุทธเจ้า เช่น ในวันที่พระโพธิสัตว์เสด็จลงสู่พระครรภ์ของพระมารดา<br />

, วันประสูติ, วันตรัสรู้, วันปลงอายุสังขาร, วันเสด็จดับขันธปรินิพพาน, วันจาตุรงคสันนิบาต, วันที่ทรงแสดง<br />

พระธัมมจักกัปปวัตนสูตร (ประกาศพระธรรมจักร), วันที่เสด็จลงจากเทวโลก และวันที่ทรงแสดงอิทธิฤทธิ์ยมก<br />

ปาฏิหาริย์ เป็นต้น หรือผู้มีฤทธิ์บางท่านแผลงฤทธิ์ ซึ่งเทพเทวดาจะบันดาลให้ดอกมณฑารพตกลงมาจากเท

Hooray! Your file is uploaded and ready to be published.

Saved successfully!

Ooh no, something went wrong!