ASA NEWSLETTER 03-04_62
Create successful ePaper yourself
Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.
์<br />
้<br />
สวัสดีครับ<br />
งานสถาปนิก’<strong>62</strong> ที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างสูง มีผู้เข้าชมงานมากถึง 440,000 คน ซึ่งเพิ่มขึ ้ นมากกว่าปีที่ผ่านมา 10 %<br />
จึงขอขอบคุณ ดร.อัจฉราวรรณ จุฑารัตน์ ประธานจัดงาน ผศ.ดร.ชนิกานต์ ยิ ้ มประยูร รองประธานฯ รวมถึงคณะทำงานและเจ้าหน้าที่<br />
สมาคมฯทุกท่าน และขอถือโอกาสนี ้ ขอบคุณ บริษัท เอ็น ซี ซี เอ๊กซิบิชั่น ออแกไนท์เซอร์ จำกัด ที่เพิ่งเข้ามาทำหน้าที่บริหารงานในเวลา<br />
อันจำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนับเป็นครั ้งแรกที่มีการส่งมอบข้อมูลการลงทะเบียนผู้เข้าชมงานให้สมาคมฯได้นำไปใช้ประโยชน์<br />
ในการสื่อสารกิจกรรมอื่นๆของสมาคมฯให้สังคมได้รับทราบในวงกว้าง<br />
ตั ้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 25<strong>62</strong> เป็นต้นไป สมาคมฯจะเริ่มทำการสื่อสารผ่านระบบออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงวารสาร<br />
<strong>ASA</strong> Crew / <strong>ASA</strong> Journal / จดหมายเหตุอาษา และหนังสือวิชาการต่างๆ ที่จะอยู่ในรูปแบบของ E-Book สำหรับสมาชิกที่ประสงค์<br />
รับการสื่อสารในรูปแบบเก่า หากมีปริมาณที่เพียงพอ สมาคมฯยินดีที่จะจัดพิมพ์แบบ Print on demand ให้ เพียงแต่ผู้สั่งจะต้องรับ<br />
ผิดชอบค่าใช้จ่ายตามจริง ส่วนการสื่อสารผ่านระบบออนไลน์นั ้น สมาชิกสามารถอัพเดทข้อมูลได้ที่ http://asa-member.com/<br />
Profile/EditUserProfile หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อ คุณรติรัตน์ จันทร เจ้าหน้าที่ฝ่ ายทะเบียน โทร. 02-319-6555 ต่อ 113 อีเมล<br />
register@asa-member.com ในเวลาทำการ<br />
ปัจจุบัน สมาคมฯมีความมั่นคงมากขึ ้ น และมีกิจกรรมส่งเสริมวิชาชีพทั ้งในระดับชาติและนานาชาติที่สมควรเผยแพร่ จึงเล็งเห็นว่าถึง<br />
เวลาแล้วที่อยากจะเชิญชวนและเปิดโอกาสให้กับสถาปนิกทั ้งประเทศเข้ามามีส่วนร่วม ใช้ประโยชน์ได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกัน ตาม<br />
เกณฑ์ข้อบังคับการเป็นสมาชิกสมาคมฯ ได้แก่ สมาชิกประเภทสามัญ ราย 5 ปี / ประเภทภาคี ราย 1 ปี / ประเภทสมทบนักศึกษา<br />
และบุคคลทั่วไป ราย 1 ปี โดยสมาคมฯเปิดให้สมัครได้ตั ้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 25<strong>62</strong> – 30 มิถุนายน 2563 โดยทุกประเภทไม่มี<br />
ค่าใช้จ่ายใดๆ ทั ้งนี ้ ที่ผ่านมาสมาคมฯได้มีข้อตกลงแลกเปลี่ยนสมาชิกระหว่างสมาคมวิชาชีพต่างๆ การขอความร่วมมือจากสมาพันธ์<br />
สมาคมศิษย์เก่าคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์แห่งประเทศไทย (<strong>ASA</strong>SA) ที่จะช่วยประชาสัมพันธ์การมอบสิทธิ ์ครั ้งนี ้ ไปยังสมาชิกทั่ว<br />
ประเทศ รวมถึงประชาชนทั่วไปที่สนใจ<br />
สมาคมฯได้เตรียมความพร้อมเรื่องการเลือกตั ้งผ่านระบบออนไลน์ สำหรับสมาชิกสามัญทั่วประเทศสามารถใช้สิทธิ ์ในการโหวต โดย<br />
จะเริ่มมีการทดลองใช้และปรับปรุงระบบจนสมบูรณ์พร้อมสำหรับการเลือกตั ้งประธานกรรมาธิการสถาปนิกทั ้ง 3 ภูมิภาคก่อน หลัง<br />
จากนั ้นก็จะนำไปใช้ในการเลือกตั ้งนายกสมาคมฯในลำดับต่อไป อนึ่งเพื่อให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงระบบการสื่อสารครั ้งใหม่นี<br />
สมาคมฯมีนโยบายที่จะจัดอบรมการใช้แท๊บเล็ตสำหรับผู้สูงวัยที่มีอายุตั ้งแต่ 60 ปีขึ ้ นไป ซึ่งรายละเอียดสมาคมฯจะแจ้งให้ทราบต่อไป<br />
สุดท้าย เพื่อให้นโยบายการกระจายการบริหารออกสู่ภูมิภาคเป็นรูปธรรม สมาคมฯได้อนุมัติการจัดซื ้ อที่ดิน เพิ่มขึ ้ นอีก 3 แปลง ตาม<br />
มติของที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี ได้แก่ จ.ขอนแก่น จ.นครราชสีมา และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อใช้จัดตั ้งเป็นสาขาภูมิภาคและ<br />
ศูนย์ย่อยต่อไป<br />
คณะกรรมการบริหารสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ปี 2561-2563<br />
นายกสมาคม<br />
นายอัชชพล ดุสิตนานนท์<br />
อุปนายก<br />
นายเมธี รัศมีวิจิตรไพศาล<br />
ผศ.ดร.ธนะ จีระพิวัฒน์<br />
ดร.พินัย สิริเกียรติกุล<br />
นายศักดิ ์ชัย ยวงตระกูล<br />
นายทรงพจน์ สายสืบ<br />
เลขาธิการ<br />
นายปรีชา นวประภากุล<br />
เหรัญญิก<br />
นางภิรวดี ชูประวัติ<br />
ปฏิคม<br />
นายสมชาย เปรมประภาพงษ์<br />
นายทะเบียน<br />
พ.ต.อ.สักรินทร์ เขียวเซ็น<br />
นายอัชชพล ดุสิตนานนท์<br />
นายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ 2561-2563<br />
ประชาสัมพันธ์<br />
ผศ.ดร.กมล จิราพงษ์<br />
กรรมการกลาง<br />
นายเทียนทอง กีระนันทน์<br />
ดร.รัฐพงศ์ อังกสิทธิ<br />
นายชายแดน เสถียร<br />
นายรุ่งโรจน์ อ่วมแก้ว<br />
ประธานกรรมาธิการสถาปนิก<br />
ล้านนา<br />
นายอิศรา อารีรอบ<br />
ประธานกรรมาธิการสถาปนิก<br />
อีสาน<br />
นายธนาคม วิมลวัตรเวที<br />
ประธานกรรมาธิการสถาปนิก<br />
ทักษิณ<br />
นายนิพนธ์ หัสดีวิจิตร<br />
คณะกรรมการกองทุนสมาคมสถาปนิกสยาม<br />
ในพระบรมราชูปถัมภ์ ปี 2560-25<strong>62</strong><br />
ประธานกรรมการกองทุน<br />
พลเรือเอกฐนิธ กิตติอำพน<br />
กรรมการกองทุน<br />
นายบุญญวัฒน์ ทิพทัส<br />
ดร.ศุภกิจ มูลประมุข<br />
นายประภากร วทานยกุล<br />
พล.อ.ต.ม.ล.ประกิตติ เกษมสันต์<br />
นายอัชชพล ดุสิตนานนท์<br />
นางภิรวดี ชูประวัติ
ปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติโรงงาน<br />
30 เม.ย. 25<strong>62</strong><br />
พระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 25<strong>62</strong> และ พระราช<br />
บัญญัติโรงงาน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 25<strong>62</strong> ประกาศในราชกิจจา<br />
นุเบกษา เมื่อวันที่ 30 เมษายน 25<strong>62</strong> เป็นการปรับปรุงแก้ไข<br />
พระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 ให้เหมาะสมและสอดคล้อง<br />
กับสภาพการณ์ปัจจุบัน เพื่อลดปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ในการ<br />
ประกอบกิจการโรงงาน และเพื่อถ่ายโอนภารกิจบางส่วนสู่องค์กร<br />
ปกครองส่วนท้องถิ่น<br />
พระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 25<strong>62</strong><br />
เหตุผลในการออกพระราชบัญญัติฉบับนี ้ เนื่องจากพระ<br />
ราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2535 ได้ใช้บังคับมาเป็นเวลานาน<br />
แล้ว ทำให้บทบัญญัติบางประการไม่เหมาะสมและสอดคล้อง<br />
กับสภาพการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะหลักเกณฑ์การควบคุมการ<br />
ประกอบกิจการโรงงานที่มีความเข้มงวดและล่าช้า อันสร้าง<br />
ปัญหาและอุปสรรคต่อการประกอบกิจการโรงงาน สมควร<br />
เปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การควบคุมการประกอบกิจการโรงงาน<br />
ใหม่เพื่อให้การควบคุมการประกอบกิจการโรงงานเป็นไปเพียง<br />
เท่าที่จำเป็น เกิดความรวดเร็ว ประหยัด และลดภาระแก่ผู้<br />
ประกอบกิจการโรงงานโดยเฉพาะผู้ประกอบกิจการโรงงาน<br />
ขนาดเล็ก โดยการปรับปรุงขั ้นตอนและระยะเวลาการพิจารณา<br />
ของผู้อนุญาตและพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายให้มีความ<br />
ชัดเจน ลดการใช้ดุลพินิจ ยกเลิกการกำหนดให้มีการต่ออายุใบ<br />
อนุญาตประกอบกิจการโรงงาน และแก้ไขเพิ ่มเติมบทกำหนด<br />
โทษ รวมทั ้งปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียม เพื่อให้เหมาะสมยิ่งขึ ้ น<br />
และสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมปัจจุบัน<br />
รายละเอียดการแก้ไขปรับปรุงบางเรื่องที่น่าสนใจ เช่น<br />
- พระราชบัญญัตินี ้ นอกจากจะไม่ใช้บังคับแก่โรงงาน<br />
ของทางราชการเพื่อประโยชน์แห่งความมั่นคงและความ<br />
ปลอดภัยของประเทศแล้ว ยังเพิ่มเติมให้รัฐมนตรีสามารถออก<br />
ประกาศกำหนดให้โรงงานบางประเภทได้รับยกเว้นจากการ<br />
ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติโรงงานบางส่วนก็ได้ ตามหลักเกณฑ์<br />
วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนด ได้แก่ โรงงานของทางราชการ<br />
โรงงานที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาวิจัย โรงงานของสถาบัน<br />
การศึกษาในส่วนที่มีวัตถุประสงค์เพื่อการฝึกอบรม โรงงานที่<br />
ดำเนินงานอันมีลักษณะเป็นอุตสาหกรรมในครอบครัว และ<br />
โรงงานที่ดำเนินงานอันมีลักษณะที่จำเป็นและเกี่ยวเนื่องกับ<br />
กิจการที่มิใช่โรงงานตามพระราชบัญญัตินี ้ และตั ้งอยู่ในพื ้ นที่<br />
เดียวกัน<br />
- แก้ไขบทนิยาม “โรงงาน” ให้หมายความถึง อาคาร<br />
สถานที่ หรือยานพาหนะที่ใช้เครื่องจักรมีกำลังรวมหรือเทียบ<br />
เท่าตั ้งแต่ 50 แรงม้าขึ ้ นไป (เดิม 5 แรงม้าขึ ้ นไป) หรือใช้คน<br />
งานตั ้งแต่ 50 คนขึ ้ นไปโดยใช้เครื่องจักรหรือไม่ก็ตาม (เดิม 7<br />
คนขึ ้ นไป) และแก้ไขบทนิยาม “ตั ้งโรงงาน” ให้หมายความถึง<br />
การนำเครื่องจักรมาติดตั ้งในอาคาร สถานที่ หรือยานพาหนะ<br />
ที่จะประกอบกิจการโรงงาน หรือนำคนงานมาประกอบกิจการ<br />
โรงงานในกรณีที่ไม่มีการใช้เครื่องจักร (เดิมจะต้องมีการก่อสร้าง<br />
อาคาร และไม่ครอบคลุมถึงการนำคนงานมาประกอบกิจการ<br />
โรงงานในกรณีที่ไม่มีการใช้เครื่องจักร)<br />
– ในการแบ่งโรงงานออกเป็นสามจำพวกในมาตรา 7<br />
สำหรับโรงงานจำพวกที่ 2 ซึ่งเดิมเป็นจำพวกที่จะต้องแจ้งให้ผู้<br />
อนุญาต (ปลัดกระทรวงหรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมาย) ทราบก่อน<br />
แก้ไขเป็น ต้องแจ้งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ (ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั ้งให้<br />
ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี ้ ) ทราบก่อน ซึ่งจะสอดคล้องกับ<br />
ที่บัญญัติในมาตรา 11 มาแต่เดิมว่า เมื่อจะเริ่มประกอบกิจการ<br />
โรงงานให้แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ทราบก่อน<br />
– เพิ่มเรื่อง “ผู้ตรวจสอบเอกชน” ให้ชัดเจนขึ ้ นในมาตรา<br />
9 มาตรา 9/1 ถึง มาตรา 9/6 โดยต้องได้รับใบอนุญาตตรวจ<br />
สอบหรือรับรองจากผู้อนุญาต กำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้อง<br />
ห้ามของผู้ขอรับใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรองซึ่งเป็นบุคคล<br />
ธรรมดาและนิติบุคคล ใบอนุญาตตรวจสอบหรือรับรองนี ้ ให้<br />
มีอายุถึงวันสิ ้ นปีปฏิทินแห่งปีที่ 3 นับแต่วันที่ออกใบอนุญาตฯ<br />
– ยกเลิกอายุใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานจำพวก<br />
ที่ 3 ซึ่งเดิมกำหนดให้ใช้ได้จนถึงวันสิ ้ นปีปฏิทินแห่งปีที่ 5 และ<br />
ยกเลิกเรื่องการขอต่ออายุใบอนุญาต ในกรณีโรงงานที่ภายหลัง<br />
มีกำลังรวมของเครื่องจักรลดลงหรือจำนวนคนงานลดลงจนไม่<br />
เข้าข่ายโรงงานตามบทนิยาม ให้ถือว่ายังเป็นโรงงานตามพระ<br />
ราชบัญญัตินี ้ อยู่จนกว่าจะได้แจ้งเลิกประกอบกิจการโรงงาน<br />
– กำหนดหลักเกณฑ์ที่เข้าข่ายจะต้องขออนุญาตขยาย<br />
โรงงานให้ละเอียดขึ ้ น โดยพิจารณาจากกำลังรวมของเครื่องจักร<br />
ที่เพิ่มขึ ้ น และกำลังรวมของเครื่องจักรเดิม นอกจากนั ้น ยัง<br />
ครอบคลุมถึงการดำเนินการในการเพิ่ม เปลี่ยน เปลี่ยนแปลง<br />
เครื่องจักรซึ่งกระทำบนที่ดินแปลงใหม่ที่ติดกับที่ดินที่ตั ้งโรงงาน<br />
เดิมหรือที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ขยายโรงงานไว้เดิม และกำหนด<br />
หลักเกณฑ์การขยายโรงงานบางกรณีที่ให้ได้รับยกเว้นไม่ต้อง<br />
ขออนุญาต เช่น การจัดให้มีหรือเพิ่มประสิทธิภาพการบำบัด<br />
มลพิษ ให้มีมาตรการป้องกันหรือลดเหตุเดือดร้อนรำคาญ เพิ่ม<br />
ประสิทธิภาพเครื่องจักรต้นกำลัง หรือเพื่อให้มีผลกระทบต่อ<br />
สิ่งแวดล้อมลดลง หรือเพื่อประสิทธิภาพด้านพลังงาน<br />
– ปรับปรุงหลักเกณฑ์ในการเปลี่ยนแปลงเครื่องจักรที่<br />
ไม่ถึงขั ้นขยายโรงงาน หรือการเพิ่มเนื ้ อที่อาคารโรงงาน โดยใน<br />
กรณีการเพิ่มเนื ้ อที่อาคารโรงงาน แก้ไขหลักเกณฑ์เป็นตั ้งแต่<br />
1,000 ตารางเมตรขึ ้ นไปในกรณีเนื ้ อที่โรงงานไม่เกิน 2,000
ตารางเมตร หรือตั ้งแต่ 1,000 ตารางเมตรขึ ้ นไปในกรณีเนื ้ อที่<br />
โรงงานเกิน 2,000 ตารางเมตร (เดิมเพิ่มขึ ้ นตั ้งแต่ร้อยละ 50<br />
ขึ ้ นไปไม่ว่าจะมีเนื ้ อที่โรงงานเท่าใด) และกำหนดหลักเกณฑ์ วิธี<br />
การ และเงื่อนไขเพิ่มเติม กรณีเหล่านี ้ ให้ผู้รับใบอนุญาตแจ้งเป็น<br />
หนังสือต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายใน 30 วันนับแต่วันที่มีการ<br />
ดำเนินการดังกล่าว<br />
– พระราชบัญญัติฉบับนี ้ ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด<br />
180 วันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป คือ<br />
ตั ้งแต่วันที่ 28 ตุลาคม 25<strong>62</strong><br />
พระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 25<strong>62</strong><br />
เหตุผลในการออกพระราชบัญญัติฉบับนี ้ เนื่องจาก<br />
แผนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและ<br />
แผนปฏิบัติการกำหนดขั ้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กร<br />
ปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนดให้มีการถ่ายโอนภารกิจในการเป็น<br />
พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ่งมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับโรงงานจำพวกที่ 1<br />
และจำพวกที่ 2 ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สมควรแก้ไข<br />
เพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยโรงงานเพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้อง<br />
ถิ่นสามารถดำเนินการในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ดังกล่าวภาย<br />
ใต้การกำกับดูแลของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และกำหนดกลไก<br />
เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีรายได้จากการดำเนินการ<br />
ตามภารกิจที่ถ่ายโอนดังกล่าว<br />
พระราชบัญญัติฉบับนี ้ กำหนดว่า เมื่อรัฐมนตรีแต่งตั ้ง<br />
ผู้บริหารท้องถิ่นหรือข้าราชการส่วนท้องถิ่นขององค์กรปกครอง<br />
ส่วนท้องถิ ่นใดเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติ<br />
โรงงาน ก็ให้มีอำนาจหน้าที่และความรับผิดตามที่กำหนดไว้<br />
สำหรับพนักงานเจ้าหน้าที่เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับโรงงานจ ำพวก<br />
ที่ 1 และโรงงานจำพวกที่ 2 ที่ตั ้งอยู่ในเขตองค์กรปกครองส่วน<br />
ท้องถิ่นนั ้น และค่าธรรมเนียมต่างๆ สำหรับโรงงานจำพวกที่ 2<br />
ให้ตกเป็นรายได้ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั ้น<br />
ดาวน์โหลด : www.asa.or.th/laws/news20190507/<br />
แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรม<br />
แห่งประเทศไทย<br />
16 เม.ย. 25<strong>62</strong><br />
แก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่ง<br />
ประเทศไทย โดย “พระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรมแห่ง<br />
ประเทศไทย (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 25<strong>62</strong>” ประกาศในราชกิจจา<br />
นุเบกษาเมื่อวันที่ 16 เมษายน 25<strong>62</strong> โดยให้ใช้บังคับตั ้งแต่วัน<br />
ถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป<br />
เนื ้ อหาของพระราชบัญญัติการนิคมอุตสาหกรรม<br />
แห่งประเทศไทย (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 25<strong>62</strong> เป็นการแก้ไขเพิ่ม<br />
เติมวัตถุประสงค์และอำนาจหน้าที่ของการนิคมอุตสาหกรรม<br />
แห่งประเทศไทย (กนอ.) ให้ครอบคลุมกิจการที่จำเป็นหรือ<br />
เป็นประโยชน์แก่การดำเนินงานของ กนอ. โดยกำหนดให้มี<br />
บทบัญญัติเกี่ยวกับการโอนกรรมสิทธิ ์ที่ดินที่ได้มาจากการตรา<br />
พระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดิน<br />
ที่ชัดเจน รวมทั ้งกำหนดให้การพิจารณาอนุมัติ อนุญาต ออกใบ<br />
อนุญาต ให้ความเห็นชอบ หรือรับจดทะเบียนหรือรับแจ้งตาม<br />
กฎหมายบางฉบับที่จำเป็นให้เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าการการ<br />
นิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อประโยชน์ในการอำนวย<br />
ความสะดวกแก่ผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรม และกำหนด<br />
ให้การนำของหรือวัตถุดิบเข้าไปในเขตประกอบการเสรีเพื่อ<br />
พาณิชยกรรมได้รับความสะดวกมากขึ ้ น ในส่วนที่เกี่ยวกับอ ำนาจ<br />
กระทำกิจการ ได้บัญญัติเพิ่ม (4/1) ของมาตรา 10 กำหนด<br />
ให้ กนอ. มีอำนาจรวมถึง การกำกับหรือจัดให้มีระบบป้องกัน<br />
อุบัติภัย ระบบรักษาความปลอดภัย และระบบบำรุงรักษาสิ่ง<br />
แวดล้อม รวมตลอดถึงการควบคุมและจัดการน ้ำเสีย การจัดการ<br />
ขยะมูลฝอย และการจัดการมลภาวะอื่นใดในนิคมอุตสาหกรรม<br />
อีกเรื่องหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคาร การ<br />
ประกอบกิจการโรงงาน ภายในนิคมอุตสาหกรรม คือการ<br />
ปรับปรุงแก้ไขมาตรา 42 และบัญญัติเพิ่มมาตรา 42/1 และ<br />
มาตรา 42/2 ซึ่งอยู่ในส่วนที่เกี่ยวกับการประกอบกิจการ<br />
ประโยชน์ และข้อห้าม ของนิคมอุตสาหกรรม โดยมาตรา 42<br />
บัญญัติให้การดำเนินการหรือการกระทำใดของผู้ประกอบ<br />
อุตสาหกรรมหรือผู้ประกอบพาณิชยกรรมที่เกี่ยวข้องกับ (1)<br />
กฎหมายว่าด้วยการขุดดินและถมดิน (2) กฎหมายว่าด้วยการ<br />
ควบคุมอาคาร (3) กฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข และ (4)<br />
กฎหมายว่าด้วยโรงงาน หากกฎหมายเหล่านี ้ กำหนดให้ผู้ดำเนิน<br />
การหรือผู้กระทำต้องได้รับอนุมัติ อนุญาต ออกใบอนุญาต หรือ<br />
ความเห็นชอบจากหน่วยงานของรัฐหรือคณะกรรมการตาม<br />
กฎหมายนั ้น หรือต้องจดทะเบียนหรือแจ้งต่อหน่วยงานของรัฐ<br />
หรือคณะกรรมการตามกฎหมายนั ้นก่อน ให้ถือว่าผู้ว่าการ กนอ.<br />
หรือผู้ซึ่งผู้ว่าการ กนอ. มอบหมาย เป็นผู้มีอ ำนาจอนุมัติ อนุญาต<br />
ออกใบอนุญาต หรือให้ความเห็นชอบ หรือเป็นผู้มีอำนาจใน<br />
การรับจดทะเบียนหรือรับแจ้งตามกฎหมายนั ้นด้วย ทั ้งนี ้ ให้ผู้<br />
ว่าการหรือผู้ซึ่งผู้ว่าการมอบหมายมีฐานะเป็นเจ้าพนักงานหรือ<br />
พนักงานเจ้าหน้าที่ซึ ่งมีอำนาจในการบังคับการให้เป็นไปตาม<br />
กฎหมายดังกล่าวด้วย<br />
ในการอนุมัติ อนุญาต ออกใบอนุญาต ให้ความเห็น<br />
ชอบ หรือรับจดทะเบียนหรือรับแจ้งดังกล่าว จะต้องปฏิบัติตาม<br />
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่กำหนดไว้ตามกฎหมายนั ้น และ<br />
เมื่อดำเนินการแล้วให้แจ้งหน่วยงานของรัฐหรือคณะกรรมการ
้<br />
ตามกฎหมายนั ้นหรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องเพื่อเก็บไว้เป็นหลัก<br />
ฐานด้วย<br />
หลักการของมาตรา 42 นี ้ ยังคงเดิมคือเป็นการให้<br />
อำนาจหน้าที่แก่ผู้ว่าการ กนอ. ในการดำเนินการหรือการกระทำ<br />
ตามกฎหมายอื่น สิ่งที่แตกต่างจากเดิมคือ เดิมกล่าวถึงกฎหมาย<br />
ว่าด้วยโรงงาน กฎหมายว่าด้วยการควบคุมการก่อสร้างอาคาร<br />
และกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง ในพระราชบัญญัติฉบับใหม่นี<br />
เพิ่มกฎหมายว่าด้วยการขุดดินและถมดิน และกฎหมายว่าด้วย<br />
การสาธารณสุข และไม่ได้กล่าวถึงกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง<br />
และอีกประเด็นหนึ่งคือ เดิมไม่ได้กำหนดว่าให้ กนอ. แจ้งหน่วย<br />
งานของรัฐหรือคณะกรรมการตามกฎหมายอื่นหรือกฎหมายอื่น<br />
ที่เกี่ยวข้องเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานด้วย<br />
ในกรณีการดำเนินการหรือการกระทำใดภายในนิคม<br />
อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายอื่นนอกเหนือจากกฎหมาย<br />
ดังกล่าวข้างต้น มาตรา 42/1 ที่บัญญัติเพิ่มขึ ้ น ก ำหนดว่าจะต้อง<br />
ได้รับอนุมัติ อนุญาต ออกใบอนุญาต หรือความเห็นชอบจาก<br />
หน่วยงานของรัฐหรือคณะกรรมการตามกฎหมายนั ้น หรือต้อง<br />
จดทะเบียนหรือแจ้งต่อหน่วยงานของรัฐหรือคณะกรรมการตาม<br />
กฎหมายนั ้นก่อน แต่ก็ได้เปิดช่องให้หน่วยงานของรัฐหรือคณะ<br />
กรรมการตามกฎหมายอื่นนั ้นสามารถมอบอำนาจเป็นหนังสือ<br />
ให้ผู้ว่าการ กนอ. หรือผู้ซึ ่งผู้ว่าการมอบหมายเป็นผู้มีอำนาจ<br />
ปฏิบัติการแทนก็ได้<br />
มาตรา 42/2 ที่เพิ่มขึ ้ นบัญญัติว่า ในการอนุมัติ อนุญาต<br />
ออกใบอนุญาต ให้ความเห็นชอบ หรือรับจดทะเบียนหรือรับแจ้ง<br />
ตามมาตรา 42 และมาตรา 42/1 ให้ กนอ. มีอำนาจเรียกเก็บ<br />
ค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่าย หรือค่าอื่นใด ที่กฎหมายว่าด้วยการนั ้น<br />
กำหนดไว้ และให้นำส่งหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจเรียกเก็บค่า<br />
ธรรมเนียม ค่าใช้จ่าย หรือค่าอื่นใดนั ้น ตามหลักเกณฑ์และวิธี<br />
การตามที่ได้ตกลงกัน และให้อำนาจ กนอ. ในการเรียกเก็บค่า<br />
บริการในการดำเนินการเพิ่มเติมได้ตามอัตราที่คณะกรรมการ<br />
กนอ. กำหนด ซึ่งต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของค่าธรรมเนียมที่<br />
เรียกเก็บ ค่าบริการในส่วนนี ้ ถือเป็นรายได้ของ กนอ.<br />
มหาดไทย เรื่อง กำหนดบริเวณห้ามก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคาร<br />
บางชนิดหรือบางประเภท ในพื ้ นที่บางส่วนในท้องที่แขวงหิรัญ<br />
รูจี แขวงบางยี่เรือ เขตธนบุรี และแขวงสมเด็จเจ้าพระยา แขวง<br />
คลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร” และ “ประกาศ<br />
กระทรวงมหาดไทย เรื่อง กำหนดบริเวณห้ามก่อสร้างหรือ<br />
ดัดแปลงอาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื ้ นที่บางส่วนใน<br />
ท้องที่แขวงพญาไท แขวงสามเสนใน เขตพญาไท และแขวงทุ่ง<br />
พญาไท แขวงถนนพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร” ออก<br />
ตามกฎหมายควบคุมอาคาร มีผลใช้บังคับตั ้งแต่วันที่ 4 เม.ย.<br />
25<strong>62</strong><br />
ประกาศกระทรวงมหาดไทยฉบับแรก ใช้บังคับในพื ้ นที่<br />
โดยรอบพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช<br />
ภายในรัศมี 300 เมตรจากจุดศูนย์กลางอนุสาวรีย์ ครอบคลุม<br />
พื ้ นที่บางส่วนริมถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน ถนนประชาธิปก<br />
ถนนอินทรพิทักษ์ และถนนลาดหญ้า ที่อยู่โดยรอบวงเวียนใหญ่<br />
โดยแบ่งออกเป็น 2 บริเวณ ได้แก่ บริเวณที่ 1 คือพื ้ นที่โดยรอบ<br />
ภายในรัศมี 200 เมตรจากจุดกึ่งกลางของอนุสาวรีย์ และบริเวณ<br />
ที่ 2 คือพื ้ นที่ถัดจากบริเวณที่ 1 ภายในรัศมี 300 เมตรจากจุด<br />
กึ่งกลางของอนุสาวรีย์ โดยในบริเวณที่ 1 กำหนดห้ามก่อสร้าง<br />
ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้เป็นอาคารที่มีความสูงเกิน 17 เมตร<br />
และในบริเวณที่ 2 ห้ามสำหรับอาคารที่มีความสูงเกิน 27 เมตร<br />
ดาวน์โหลด : www.asa.or.th/laws/news2019<strong>04</strong>18/<br />
บริเวณห้ามก่อสร้างโดยรอบอนุสาวรีย์พระเจ้า<br />
ตากสินฯ และอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ<br />
3 เม.ย. 25<strong>62</strong><br />
กระทรวงมหาดไทยออกประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่อง<br />
กำหนดบริเวณห้ามก่อสร้างฯ 2 ฉบับ ได้แก่ “ประกาศกระทรวง<br />
นอกจากนั ้นยังมีข้อกำหนดให้การก่อสร้างอาคารมี<br />
ลักษณะดังต่อไปนี ้ คือ สีของผนังภายนอกต้องเป็นโทนสีครีม ห้าม<br />
ใช้วัสดุสะท้อนแสงหรือวัสดุมันวาว สีของหลังคาต้องเป็นโทนสี<br />
เทาเข้ม และห้ามติดตั ้งหรือวางอุปกรณ์ประเภทกันสาด เครื่อง<br />
ปรับอากาศ เสาอากาศโทรทัศน์หรือวิทยุ หรือส่วนยื่นอื่นๆ ที่<br />
ด้านหน้าอาคาร
ส่วนประกาศกระทรวงมหาดไทยฉบับที่สอง ใช้บังคับ<br />
ในพื ้ นที่โดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิภายในรัศมี 300 เมตร<br />
จากจุดศูนย์กลางอนุสาวรีย์ ครอบคลุมพื ้ นที่บางส่วนริมถนน<br />
พญาไท ถนนพหลโยธิน และถนนราชวิถี ที่อยู่โดยรอบอนุสาวรีย์<br />
ชัยสมรภูมิ ประกาศกระทรวงมหาดไทยฉบับนี ้ มีข้อกำหนด<br />
ลักษณะอาคารเช่นเดียวกัน คือ สีของผนังภายนอกต้องเป็น<br />
โทนสีครีม ห้ามใช้วัสดุสะท้อนแสงหรือวัสดุมันวาว สีของหลังคา<br />
ต้องเป็นโทนสีเทาเข้ม และห้ามติดตั ้งหรือวางอุปกรณ์ประเภท<br />
กันสาด เครื่องปรับอากาศ เสาอากาศโทรทัศน์หรือวิทยุ หรือ<br />
ส่วนยื่นอื่นๆ ที่ด้านหน้าอาคาร<br />
ทั ้งสองฉบับ มีข้อยกเว้นไม่ใช้บังคับสำหรับ อาคาร<br />
โบราณสถาน พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ศาสนสถาน หรืออาคาร<br />
ต่างๆ ที่ใช้เพื่อการศาสนาหรือศิลปวัฒนธรรม<br />
ประกาศกระทรวงมหาดไทยสองฉบับนี ้ มีอายุใช้บังคับ<br />
หนึ่งปีคือจนถึงวันที่ 3 เม.ย. 2563 ซึ่งก่อนจะครบอายุหนึ่งปีจะ<br />
ต้องมีการออกข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครหรือกฎกระทรวงเพื่อ<br />
ใช้บังคับเป็นการถาวรแทน หากไม่ออก ข้อกำหนดต่างๆตาม<br />
ประกาศกระทรวงมหาดไทยฉบับนี ้ ก็จะถูกยกเลิกไปโดยปริยาย<br />
ดาวน์โหลด : www.asa.or.th/laws/news2019<strong>04</strong><strong>04</strong>/<br />
พ ร ะ ร า ช บ ั ญ ญ ั ต ิ ภ า ษี ที ่ ดิ น แ ล ะ สิ ่ ง ป ล ู<br />
พ.ศ. 25<strong>62</strong><br />
12 ม.ค. 25<strong>62</strong><br />
พระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 25<strong>62</strong> ประกาศ<br />
ในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ 12 มกราคม 25<strong>62</strong> โดยมี<br />
ผลใช้บังคับตั ้งแต่วันถัดจากวันประกาศ คือวันที่ 13 มกราคม<br />
25<strong>62</strong> เป็นต้นไป ส่วนการจัดเก็บภาษีสำหรับที่ดินและสิ่งปลูก<br />
สร้างตามพระราชบัญญัตินี ้ จะเริ่มใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม<br />
2563 เป็นต้นไป<br />
พระราชบัญญัติฉบับนี ้ ออกมาเพื่อใช้แทนพระราช<br />
บัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พุทธศักราช 2475 และพระ<br />
ราชบัญญัติภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ. 2508 โดยให้ยกเลิกพระราช<br />
บัญญัติทั ้งสอง รวมถึงพระราชบัญญัติ พระราชกำหนด ประกาศ<br />
ของคณะปฏิวัติ ที่เป็นฉบับปรับปรุงแก้ไขของพระราชบัญญัติทั ้ง<br />
สองทั ้งหมด และหากมีกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับใดที่ใช้<br />
บังคับอยู่ก่อนที่อ้างไปถึงภาษีโรงเรือนและที่ดิน หรือภาษีบำรุง<br />
ท้องที่ ก็”ไม่ให้”มีความหมายเป็นการกล่าวถึงหรืออ้างถึงภาษี<br />
ตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างนี ้ (มาตรา 4)<br />
พระราชบัญญัติฉบับนี ้ บัญญัติให้องค์กรปกครองส่วน<br />
ท้องถิ่นมีอำนาจจัดเก็บภาษีจากที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ใน<br />
เขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั ้น และให้เป็นรายได้ขององค์กร<br />
ปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น (มาตรา 7) มีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างบาง<br />
ประเภทที่ได้รับยกเว้นจากการจัดเก็บภาษีตามพระราชบัญญัติ<br />
นี ้ ซึ่งรวมถึง ทรัพย์สินส่วนกลางที่มีไว้เพื่อใช้หรือเพื่อประโยชน์<br />
ร่วมกันสำหรับเจ้าของร่วมตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด ที่ดิน<br />
อันเป็นสาธารณูปโภคตามกฎหมายว่าด้วยการจัดสรรที่ดิน<br />
ที่ดินอันเป็นพื ้ นที่สาธารณูปโภคตามกฎหมายว่าด้วยการนิคม<br />
อุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นต้น และกำหนดเพิ่มได้โดย<br />
ออกเป็นกฎกระทรวง (ดู มาตรา 8)<br />
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องจัดทำบัญชีรายการ<br />
ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง แสดงประเภท จำนวน ขนาดของที่ดินและ<br />
สิ่งปลูกสร้าง การใช้ประโยชน์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และราย<br />
ละเอียดอื่นที่จำเป็นแก่การประเมินภาษี ประกาศไว้ณ สำนักงาน<br />
หรือที่ทำการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหรือสถานที่อื่นด้วย<br />
ตามที่เห็นสมควร รวมทั ้งจัดส่งข้อมูลให้แก่ผู้เสียภาษีแต่ละราย<br />
ทราบ (มาตรา 30) หากผู้เสียภาษีเห็นว่าไม่ถูกต้องตามความ<br />
เป็นจริง สามารถยื่นคำร้องต่อผู้บริหารท้องถิ่นเพื่อขอแก้ไขข้อมูล<br />
ให้ถูกต้องได้(มาตรา 32) ในกรณีที่การใช้ประโยชน์ในที่ดินหรือ<br />
สิ่งปลูกสร้างเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าด้วยเหตุผลใด อันมีผลทำให้<br />
ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างต้องเสียภาษีในอัตราที่สูงขึ ้ นหรือลดลง ผู้<br />
เสียภาษีต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ในที่ดินหรือ
สิ่งปลูกสร้างนั ้นต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภายใน 60 วัน<br />
นับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลงหรือรู้ถึงเหตุดังกล่าว (มาตรา 33)<br />
หากไม่แจ้งต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท (มาตรา<br />
85)การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง มี 4 ประเภท โดย<br />
กำหนดเพดานอัตราภาษีไว้ ดังนี ้ (มาตรา 37)<br />
(1) ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์ในการ<br />
ประกอบเกษตรกรรม ไม่เกิน 0.15% ของฐานภาษี<br />
(2) ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์เป็นที่อยู่อาศัย<br />
ไม่เกิน 0.3% ของฐานภาษี<br />
(3) ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์อื่นนอกจาก<br />
(1) หรือ (2) ไม่เกิน 1.2% ของฐานภาษี<br />
(4) ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ ้ งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ท ำ<br />
ประโยชน์ตามควรแก่สภาพ ไม่เกิน 1.2%<br />
ส่วนอัตราภาษีที่ใช้จัดเก็บจริงจะเป็นเท่าใด ให้ตราเป็น<br />
พระราชกฤษฎีกา ในกรณีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดมีความ<br />
ประสงค์ที่จะจัดเก็บภาษีในอัตราที่สูงกว่าที่กำหนดในพระราช<br />
กฤษฎีกาก็มีอำนาจตราข้อบัญญัติท้องถิ่นกำหนดอัตราภาษีที่<br />
ใช้จัดเก็บภายในเขตองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั ้นได้ แต่ต้อง<br />
ไม่เกินอัตราที่กำหนดในพระราชบัญญัติ โดยจะต้องได้รับความ<br />
เห็นชอบจากคณะกรรมการภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างประจำ<br />
จังหวัดก่อน (ยกเว้นกรุงเทพมหานคร) กรณีคณะกรรมการฯ<br />
ประจำจังหวัดไม่เห็นชอบ ให้ส่งความเห็นคืนผู้บริหารท้องถิ่น<br />
เพื่อเสนอสภาท้องถิ่นแก้ไข ซึ่งสภาท้องถิ่นอาจพิจารณาแก้ไข<br />
หรือไม่ก็พิจารณายืนยันด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสาม<br />
ในกรณีที่ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างใดมีการใช้ประโยชน์<br />
หลายประเภท ให้จัดเก็บภาษีตามสัดส่วนของการใช้ประโยชน์<br />
ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่รัฐมนตรี<br />
ว่าการกระทรวงการคลังและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย<br />
ร่วมกันประกาศกำหนด (มาตรา 38)<br />
ในการคำนวณภาษีที่ต้องเสียในแต่ละปี จะคำนวณจาก<br />
มูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง โดยมูลค่าที่ดินจะใช้ราคาประเมิน<br />
ทุนทรัพย์ที่ดินเป็นเกณฑ์ในการคำนวณ และมูลค่าสิ่งปลูก<br />
สร้างจะใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์สิ่งปลูกสร้างเป็นเกณฑ์ในการ<br />
คำนวณ ในกรณีของห้องชุดจะใช้ราคาประเมินทุนทรัพย์ห้องชุด<br />
เป็นเกณฑ์ในการคำนวณ (มาตรา 35) โดยกรมธนารักษ์จะเป็น<br />
ผู้จัดทำบัญชีกำหนดราคาประเมินต่างๆ ให้แก่องค์กรปกครอง<br />
ส่วนท้องถิ ่น (มาตรา 36) และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะ<br />
ประกาศราคาประเมิน อัตราภาษีที่จัดเก็บ และรายละเอียดอื่น<br />
ที่จำเป็น ณ สำนักงานหรือที่ทำการขององค์กรปกครองส่วนท้อง<br />
ถิ่นก่อนวันที่ 1 กุมภาพันธ์ของแต่ละปี (มาตรา 39)<br />
พระราชบัญญัติฯได้บัญญัติเกี่ยวกับการได้รับยกเว้น<br />
มูลค่าของฐานภาษีไว้ ดังนี ้<br />
– ในกรณีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของซึ่งเป็นบุคคล<br />
ธรรมดาใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม ให้ได้รับยกเว้น<br />
มูลค่าของฐานภาษีรวมกันในการคำนวณภาษีไม่เกิน 50 ล้าน<br />
บาท (มาตรา 40)<br />
– ในกรณีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่บุคคลธรรมดาใช้เป็น<br />
ที่อยู่อาศัยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านในวันที่ 1 มกราคมของปี<br />
ภาษี หากเป็นเจ้าของและที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้ได้รับยกเว้น<br />
มูลค่าของฐานภาษีในการคำนวณภาษีไม่เกิน 50 ล้านบาท แต่<br />
หากเป็นเจ้าของสิ่งปลูกสร้างแต่ไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดิน ให้ได้รับ<br />
ยกเว้นไม่เกิน 10 ล้านบาท (มาตรา 41)<br />
ในกรณียกเว้นเหล่านี ้ การคำนวณภาษีจะใช้ฐานภาษี<br />
ซึ่งคำนวณได้ตามปกติ หักด้วยมูลค่าของฐานภาษีที่ได้รับยกเว้น<br />
(มาตรา 42)<br />
สำหรับที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ ้ งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้<br />
ทำประโยชน์ตามควรแก่สภาพ หากยังคงสภาพดังกล่าวเป็นเวลา<br />
สามปีติดต่อกัน ในปีที่สี่อัตราภาษีที่จัดเก็บจะเพิ่มขึ ้ น 0.3% และ<br />
จะเพิ่มอัตราเช่นนี ้ ทุกๆ สามปี แต่อัตราภาษีรวมทั ้งหมดแล้วต้อง<br />
ไม่เกิน 3% (มาตรา 43)<br />
ในแต่ละปี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะส่งแบบ<br />
ประเมินภาษีให้แก่ผู้เสียภาษีภายในเดือนกุมภาพันธ์ (มาตรา<br />
44) ซึ่งผู้เสียภาษีจะต้องชำระภาษีภายในเดือนเมษายนของทุก<br />
ปี (มาตรา 46) โดยอาจขอผ่อนชำระเป็นงวด งวดละเท่าๆ กัน<br />
ก็ได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ก ำหนดในกฎกระทรวง (มาตรา<br />
52)<br />
ในช่วงสองปีแรกของการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูก<br />
สร้าง พระราชบัญญัตินี ้ ได้กำหนดอัตราภาษีตามมูลค่าของฐาน<br />
ภาษีไว้ในบทเฉพาะกาล ดังนี ้ (มาตรา 94)<br />
(1) ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์ในการ<br />
ประกอบเกษตรกรรม – ไม่เกิน 75 ล้านบาท 0.01%, เกิน 75<br />
ไม่เกิน 100 ล้านบาท 0.<strong>03</strong>%, เกิน 100 ไม่เกิน 500 ล้าน<br />
บาท 0.05%, เกิน 500 ไม่เกิน 1,000 ล้านบาท 0.07%, เกิน<br />
1,000 ล้านบาทขึ ้ นไป 0.1%<br />
(2) ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของ(บุคคลธรรมดา)<br />
ใช้เป็นที่อยู่อาศัยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน – ไม่เกิน 25 ล้าน<br />
บาท 0.<strong>03</strong>%, เกิน 25 ไม่เกิน 50 ล้านบาท 0.05%, เกิน 50<br />
ล้านบาทขึ ้ นไป 0.1%<br />
(3) สิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของ(บุคคลธรรมดา)ใช้เป็นที่<br />
อยู่อาศัยและมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน – ไม่เกิน 40 ล้านบาท<br />
0.02%, เกิน 40 ไม่เกิน 65 ล้านบาท 0.<strong>03</strong>%, เกิน 65 ไม่เกิน<br />
90 ล้านบาท 0.05%, เกิน 90 ล้านบาทขึ ้ นไป 0.1%<br />
(4) ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย นอก<br />
เหนือจาก (2) และ (3) – ไม่เกิน 50 ล้านบาท 0.02%, เกิน
้<br />
50 ไม่เกิน 75 ล้านบาท 0.<strong>03</strong>%, เกิน 75 ไม่เกิน 100 ล้าน<br />
บาท 0.05%, เกิน 100 ล้านบาทขึ ้ นไป 0.1%<br />
(5) ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์อื่นนอกจาก<br />
(1) ถึง (4) – ไม่เกิน 50 ล้านบาท 0.3%, เกิน 50 ไม่เกิน<br />
200 ล้านบาท 0.4%, เกิน 200 ไม่เกิน 1,000 ล้านบาท 0.5%,<br />
เกิน 1,000 ไม่เกิน 5,000 ล้านบาท 0.6%, เกิน 5,000 ล้าน<br />
บาทขึ ้ นไป 0.7%<br />
(6) ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ ้ งไว้ว่างเปล่าหรือไม่ได้ท ำ<br />
ประโยชน์ตามควรแก่สภาพ – อัตราเท่ากับ (5)<br />
ในการคำนวณภาษี สามารถหักมูลค่าของฐานภาษีด้วยมูลค่าที่<br />
ได้รับยกเว้นตามมาตรา 40 หรือมาตรา 41 ได้ (มาตรา 95)<br />
นอกจากนี ้ ในช่วงสามปีแรก พระราชบัญญัตินี ้ ยังได้<br />
บรรเทาการชำระภาษีให้ ดังนี<br />
– ที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่เจ้าของที่ดินซึ่งเป็นบุคคล<br />
ธรรมดาใช้ประโยชน์ในการประกอบเกษตรกรรม ให้ยกเว้นการ<br />
จัดเก็บ (มาตรา 96)<br />
– กรณีการประเมินภาษีสูงกว่าภาษีโรงเรือนและที่ดิน<br />
หรือภาษีบำรุงท้องที่ที่ต้องเสียอยู่เดิม ให้ชำระตามจำนวนที่ต้อง<br />
เสียหรือพึงชำระในปีก่อน เหลือจำนวนภาษีเท่าใดให้ชำระเพียง<br />
ร้อยละ 25 ของจำนวนภาษีที่เหลือ ในปีที่หนึ่ง, ร้อยละ 50 ของ<br />
จำนวนภาษีที่เหลือ ในปีที่สอง, และร้อยละ 75 ของจำนวนภาษี<br />
ที่เหลือ ในปีที่สาม (มาตรา 97)<br />
ดาวน์โหลด : www.asa.or.th/laws/news2019<strong>03</strong>15/<br />
พื ้ นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมบางกะเจ้า<br />
28 ก.พ. 25<strong>62</strong><br />
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ออกกฎกระทรวง<br />
กำหนดเขตพื ้ นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อมในพื ้ นที่บางกะเจ้า<br />
ซึ่งประกอบด้วย 6 ตำบลของอำเภอพระประแดง จังหวัด<br />
สมุทรปราการ พื ้ นที่นี ้ เป็นพื ้ นที่ที่มีคุณค่าทางธรรมชาติอัน<br />
ควรแก่การอนุรักษ์ และปัจจุบันเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงการใช้<br />
ประโยชน์ที่ดินจากพื ้ นที่เกษตรกรรมเป็นพื ้ นที่ชุมชนมากขึ ้ น ส่ง<br />
ผลให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม<br />
กฎกระทรวงฉบับนี ้ กำหนดหลักเกณฑ์มาตรการ<br />
คุ้มครองเพื่อรักษาระบบนิเวศตามธรรมชาติไว้โดยมีข้อกำหนด<br />
ที่น่าสนใจ ได้แก่<br />
– ห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้ อาคาร<br />
ประเภทต่างๆ ได้แก่ โรงงาน (เว้นแต่การก่อสร้างทดแทน โดย<br />
จะต้องมีการควบคุมมลพิษหรือแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมให้เป็น<br />
ไปตามมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด) โรงแรม อาคารชุด ท่า<br />
เทียบเรือสำราญและกีฬา และห้ามก่อสร้างอาคารทุกประเภท<br />
ในที่ดินของรัฐที่ได้จัดซื ้ อตามโครงการสวนกลางมหานคร (เว้น<br />
แต่อาคารที่ใช้เพื่อสาธารณประโยชน์ หรือทดแทนอาคารเดิมซึ่ง<br />
ไม่ขัดกับมาตรการต่างๆที่กำหนด)<br />
– ห้ามกระทำการหรือประกอบกิจกรรม ได้แก่ การ<br />
จัดสรรที่ดิน การทำสนามกอล์ฟ ฯลฯ<br />
– การก่อสร้าง ดัดแปลงอาคาร จะต้องมีความสูงถึง<br />
ยอดผนังไม่เกิน 9 เมตร เว้นแต่อาคารทรงจั่ว ปั ้นหยา หรือทรง<br />
ไทย สูงรวมได้ไม่เกิน 12 เมตร และในพื ้ นที่ว่างตามกฎหมาย<br />
ควบคุมอาคาร ให้มีไม้ยืนต้นซึ่งเป็นพันธุ์ไม้พื ้ นเมืองไม่น้อยกว่า<br />
ร้อยละ 50 ของพื ้ นที่ว่างดังกล่าว<br />
– การใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยประเภทบ้าน<br />
เดี่ยวให้มีพื ้ นที่อาคารรวมกันไม่เกิน 200 ตารางเมตร การ<br />
ประกอบพาณิชยกรรมที่ไม่ใช่ห้องแถว ตึกแถว ให้มีพื ้ นที่ประกอบ<br />
การไม่เกิน 50 ตารางเมตร และการใช้ประโยชน์ที่ดินดังกล่าว<br />
ต้องไม่เกินร้อยละ 50 ของที่ดินในแต่ละตำบล โดยยกเว้น 6<br />
บริเวณ (บริเวณ ก. ถึง ฉ.) ที่กำหนดในกฎกระทรวง<br />
ดาวน์โหลด : www.asa.or.th/laws/news2019<strong>03</strong>05/
้<br />
กรรมาธิการสถาปนิกทักษิณ<br />
เมื่อวันเสาร์ที่ 2 มีนาคม 25<strong>62</strong> กรรมาธิการสถาปนิกทักษิณ<br />
ศูนย์ภูเก็ต สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วม<br />
กับ บริษัท โมเก้น (ประเทศไทย) จำกัด เชิญสถาปนิก วิศวกร<br />
และผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรม DINNER TALK เวลา 18.00–23.00<br />
น. ณ ร้านเธอ จังหวัดภูเก็ต<br />
ภาพบรรยากาศการจัดงาน<br />
เมื่อวันเสาร์ที่ 20 เมษายน 25<strong>62</strong> กรรมาธิการสถาปนิก<br />
ทักษิณ ศูนย์สุราษฎร์ธานีและเกาะสมุย สมาคมสถาปนิก<br />
สยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้จัด อบรมคอมพิวเตอร์เพื่อ<br />
งานสถาปัตยกรรม “ENSCAPE FOR SKETCHUP” วิทยากร<br />
โดย นายสมยศ ชัยเจริญ (อาจารย์เบิ ้ ม) ในวันเสาร์ที่ 20<br />
เมษายน 25<strong>62</strong> เวลา 09.00 – 17.00 น. ณ ห้องประชุม<br />
VDO Conference อาคารทีปังกรรัศมีโชติ สำนักวิทยบริการและ<br />
เทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี อ.เมือง<br />
จ.สุราษฎร์ธานี<br />
ภาพบรรยากาศการจัดงาน<br />
กรรมาธิการสถาปนิกทักษิณ สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรม<br />
ราชูปถัมภ์ ร่วมกับ บริษัท ทรีเค โฮมเบส จำกัด เชิญสถาปนิก<br />
วิศวกร และผู้สนใจเข้าร่วมกิจกรรม DESIGNER TALK หัวข้อ<br />
เสวนา ” UrbanLiving ไลฟ์ สไตล์การใช้ชีวิตที่ไม่จำกัด “ใน<br />
ว ัน เ ส า ร ์ที่ 1 6 มี น า ค ม 2 5 6 2 เ ว ล า 1 5 . 0 0 น . เ ป็ น ต ้น ไ ป<br />
ณ บุญถาวร 3K HomeBase อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา<br />
ภาพบรรยากาศการจัดงาน<br />
กรรมาธิการสถาปนิกทักษิณ ศูนย์ตรัง สมาคมสถาปนิกสยาม<br />
ในพระบรมราชูปถัมภ์ ดำเนินการโครงการอบรมคอมพิวเตอร์<br />
โปรแกรม SKETCHUP และ PROFILE BUILDER วันที่ 9 – 11<br />
เมษายน 25<strong>62</strong> เวลา 08.00 - 17.00 น. ณ อาคาร 4<br />
ชั ้น 3 แผนกวิชาสถาปัตยกรรม วิทยาลัยเทคนิคตรังมีอาจารย์<br />
นักศึกษา สถาปนิก และผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการนี<br />
ภาพบรรยากาศการจัดงาน<br />
กรรมาธิการสถาปนิกทักษิณ ศูนย์ 3 จังหวัดชายแดนใต้ สมาคม<br />
สถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ โครงการสัมมนาทาง<br />
วิชาชีพโดยวิทยากรสถาปนิกที่มีผลงานดีเด่น ครั ้งที่ 3 โดย<br />
หม่อมหลวง วรุตม์ วรวรรณ จาก Vin Varavarn Architects ใน<br />
วันเสาร์ที่ 30 มีนาคม 25<strong>62</strong> เวลา 13.00 – 15.30 น. ณ<br />
MELAYU LIVING อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี<br />
ภาพบรรยากาศการจัดงาน<br />
เมื่อวันที่ 30 เมษายน 25<strong>62</strong> กรรมาธิการสถาปนิกทักษิณ<br />
สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้เดินร่วมงาน<br />
สถาปนิก’<strong>62</strong> “กรีน อยู่ ดี : Living Green” เข้าร่วมรับเสด็จ<br />
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และเข้าร่วม<br />
ประชุมใหญ่สามัญ ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค<br />
เมืองทองธานี<br />
ภาพบรรยากาศการจัดงาน
พิธีทำบุญและรดน ้ำดำหัวสมาคมสถาปนิกสยามฯ<br />
เมื่อวันที่ 20 เมษายน 25<strong>62</strong> เวลา 09.00 น. สมาคมสถาปนิก<br />
สยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ร่วมกับสมาพันธ์สมาคมศิษย์เก่า<br />
คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ แห่งประเทศไทย (<strong>ASA</strong>SA) ได้จัด<br />
งานพิธีทำบุญและรดน ้ำขอพรสถาปนิกอาวุโส เนื่องในเทศกาล<br />
สงกรานต์และวันคล้ายสถาปนาสมาคมสถาปนิกสยามฯ<br />
ภายในงานเดียวกันได้มีพิธีเจิมป้ายห้องประชุม<br />
“พระสาโรชรัตนนิมมานก์” และห้องประชุม “มติ ตั ้งพานิช”<br />
โดยมีสถาปนิกอาวุโส คณะกรรมการบริหารฯ ศิษย์เก่าคณะ<br />
สถาปัตย์ฯและสมาชิกสมาคมฯ เข้าร่วมงานอย่างอบอุ่น<br />
เมื่อวันที่ 4 - 5 พฤษภาคม 25<strong>62</strong> กรรมาธิการสถาปนิก<br />
ทักษิณ สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้จัด<br />
โครงการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ เพื่อเตรียมตัวในการทดสอบ<br />
ความรู้ผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรม<br />
ควบคุม มีสถาปนิก นักศึกษา และผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ โดย<br />
มีวิทยากรจิตอาสาดังนี ้ อาจารย์ วิวัฒน์ จิตนวล, อาจารย์เศก-<br />
สรร กิตยวัฒน์, อาจารย์กาญจน์ เพียรเจริญ, อาจารย์ปรัชญา<br />
ชลเจริญ, อาจารย์ทวีศักดิ ์ ชาญวิรวงศ์, อาจารย์ดุสิต ปานงาม,<br />
อาจารย์อธิปัตย์ ยินดี และอาจารย์มณูศักดิ ์ หลีเจริญเป็นอย่างยิ่ง<br />
ภาพบรรยากาศการจัดงาน<br />
<strong>ASA</strong> Meet Suppliers<br />
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม 25<strong>62</strong> สมาคมสถาปนิก<br />
สยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้จัดงาน <strong>ASA</strong> Meet Suppliers<br />
2019 ณ โรงแรมสวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด เป็นงานที่จัดขึ ้ น<br />
เพื่อเป็นการขอบคุณบริษัทที่ได้ให้การสนับสนุนกิจกรรมของ<br />
สมาคมฯ มาโดยตลอดในรอบปีที่ผ่านมา และเป็นการรับฟัง<br />
ความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมงานในการร่วมสนับสนุนกิจกรรม<br />
ต่างๆ ของสมาคมฯ เพื่อนำไปพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรม<br />
ของสมาคมฯ ทั ้งนี ้ สมาคมสถาปนิกสยามฯ ขอขอบคุณผู้ให้การ<br />
สนับสนุนกิจกรรมของสมาคมฯทุกท่าน
์<br />
ทางเลียบเจ้าพระยา สร้างสรรค์หรือทำลาย<br />
วันที่ 2 พฤษภาคม 25<strong>62</strong> สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรม<br />
ราชูปถัมภ์ ได้จัดกิจกรรมเวทีสาธารณะ หัวข้อ “ทางเลียบ<br />
เจ้าพระยา สร้างสรรค์หรือทำลาย” เพื่อรับฟังข้อคิดเห็น<br />
อย่างรอบด้านจากทั ้งองค์กรภาครัฐ-เอกชนรวมทั ้งภาค<br />
ประชาสังคม และหาแนวทางที่เหมาะสมในการพัฒนาพื ้ นที่<br />
ริมฝั่งแม่น ้ำเจ้าพระยาอย่างยั่งยืนต่อไป โดยได้รับเกียรติจาก<br />
ผู้ทรงคุณวุฒินำเสนอข้อเท็จจริง อาทิ ผศ.ดร.อันธิกา สวัสดิ<br />
ศ รี ( โ ฆ ษ ก โ ค ร ง ก า ร พ ั ฒ น า ริ ม แำ มเ จ่ ้า น้ พ ร ะ ย า ) ป ริ ญ ญ า<br />
เทวานฤมิตรกุล (กรรมการสภามหาวิทยาลัยจากผู้ดำรง<br />
ตำแหน่งรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์) ผศ.ดร.<br />
สิตางศุ์ พิลัยหล้า (อาจารย์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชา<br />
วิศวกรรมทรัพยากรน ้ำ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) อ. ขวัญ<br />
สรวง อติโพธิ (อาจารย์พิเศษประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์<br />
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) อ. พิชญ์ พงษ์สวัสดิ ์ (อาจารย์คณะ<br />
รัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย) และ นายยศพล บุญสม<br />
(กลุ่มเพื่อนแม่น ้ำ) โดยกิจกรรมในครั ้งนี ้ ได้รับความสนใจจาก<br />
ทั ้งภาครัฐและเอกชนตอบรับเข้าร่วมรับฟังและแสดงความคิด<br />
เห็นทั ้งสิ ้ น 35 องค์กร ได้แก่<br />
1. กระทรวงกลาโหม<br />
2. กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา<br />
3. กรมชลประทาน<br />
4. กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม<br />
5. กรมทรัพยากรน ้ำ<br />
6. กรมส่งเสริมสุขภาพ<br />
7. กรมธนารักษ์<br />
8. กรมเจ้าท่า<br />
9. กองจัดการคุณภาพเสียงและสิ่งแวดล้อม<br />
กรุงเทพมหานคร<br />
10. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจแห่งชาติ<br />
11. สำนักวิจัยสังคมและสุขภาพ กระทรวงสาธารณะ<br />
สุข<br />
12. สำนักงานเขตบางพลัด<br />
13. สำนักผังเมือง กรุงเทพมหานคร<br />
14. สำนักงานระบบขนส่ง สำนักการจราจรและขนส่ง<br />
กรุงเทพมหานคร<br />
15. สำนักสิ่งแวดล้อมชุมชนและพื ้ นที่เฉพาะ สำนักงาน<br />
นโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม<br />
16. สำนักการระบายน ้ำ กรุงเทพมหานคร<br />
17. สำนักอนามัย กรุงเทพมหานคร<br />
18. สำนักการวางผังและพัฒนาเมือง กรุงเทพมหานคร<br />
ฝ่ ายวิชาชีพ<br />
19. สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร<br />
20. สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ<br />
21. สภาทนายความ<br />
22. สมาคมสถาปนิกผังเมืองไทย<br />
23. สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย<br />
24. สมาคมอสังหาริมทรัพย์ไทย<br />
25. สมาคมอนุรักษ์ศิลปกรรมและสิ่งแวดล้อม<br />
26. มูลนิธิสืบนาคะเสถียร<br />
27. มูลนิธิสถาบันการเดินและจักรยานไทย<br />
28. คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย ศิลปากร<br />
29. คณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบ มหาวิทยาลัย<br />
เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี<br />
30. คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการออกแบบ<br />
มหาวิทยาลัย อัสสัมชัญ<br />
31. สถาบันอาศรมศิลป์<br />
32. สถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย<br />
33. สถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์<br />
มหาวิทยาลัย<br />
34. พรรคเสรีรวมไทย<br />
35. พรรคประชาธิปัตย์<br />
วันที่ 1 พฤษภาคม 25<strong>62</strong> ในเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้<br />
มีประกาศ พระราชบัญญัติการอุดมศึกษา พ.ศ. 25<strong>62</strong> เรื่อง<br />
สถาบันอุดมศึกษามีหน้าที่ในการบริการทางวิชาการเท่านั ้น<br />
(อ้างอิงตามความในมาตรา 40 หน้าที่ 65 พระราชบัญญัติ<br />
การอุดมศึกษา พ.ศ. 25<strong>62</strong>)<br />
ดาวน์โหลด http://asa.or.th/news/professional-practice-news/
โครงการพัฒนาวิชาชีพ ครั้งที่ 11/<strong>62</strong><br />
Building Material Visit Series รอบรู้เรื่องวัสดุก่อสร้าง ครั้งที่ 3-<strong>62</strong><br />
ขอเชิญสมาชิกสมาคม สถาปนิก เข้าร่วมกิจกรรมทัศนศึกษา หา<br />
ประสบการณ์ความรู้เกี่ยวกับสุขภัณฑ์และอุปกรณ์ประกอบเพื่องาน<br />
สถาปัตยกรรม โดย สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์<br />
เยี่ยมชม Technical Center ที่ออกแบบเพื่อให้เข้าใจกลไกการท างาน<br />
ภายในของผลิตภัณฑ์ รวมถึงนวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น การประหยัดน้ า เทคโนโลยี<br />
ความสะอาด เทคโนโลยีการยับยั้งและฆ่าเชื้อแบคทีเรียชมการผลิต และรับฟัง<br />
การบรรยายเปิดประสบการณ์ ณ โรงงานที่มีเทคโนโลยีแม่นย า ประสิทธิภาพสูง<br />
แห่งใหม่<br />
“เยือนโรงงานสุขภัณฑ์ TOTO”<br />
ให้ความรู ้ และสนับสนุนรายการโดย Toto<br />
ด าเนิ นรายการโดย : คุณปฏิกร ณ สงขลา<br />
วันเสาร์ที่ 20 - วันอาทิตย์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 25<strong>62</strong><br />
ณ เขตประกอบการอุตสาหกรรมเหมราชสระบุรี อ.หนองแค จ.สระบุรี<br />
อัตราค่าลงทะเบียนพร้อม อาหาร / ห้องพัก (พักคู่) และรถรับส่งไปกลับ จาก สมาคมฯ ไปยังสถานที่<br />
● สมาชิกสมาคมสถาปนิกสยามฯ 700 บาท ● สถาปนิกและผู้สนใจทั่วไป 1,500 บาท<br />
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียนล่วงหน้า ได้ที่ สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ฝ่ายจัดอบรม<br />
โทรศัพท์ 0-2319-6555 ต่อ 202, 206 / โทรสาร ต่อ 2<strong>04</strong>, 0-2319-6419 หรือดาวน์โหลด ใบตอบรับลงทะเบียนได้ที่ www.asa.or.th<br />
***กิจกรรมครั้งนี้ขอสงวนสิทธิ์ส าหรับสถาปนิก มัณฑนากร หรือผู้ประกอบวิชาชีพเท่านั้น***<br />
(รับเพียง 30 ท่านเท่านั้น กรณีมีผู้สมัครเกินจ านวนที่ก าหนด สมาคมฯ สงวนสิทธิ์ส าหรับผู้ที่ช าระเงินลงทะเบียนก่อน)<br />
หมายเหตุ : ผู้เข้าร่วมกิจกรรมกรุณาแต่งกายสุภาพ และสวมรองเท้าหุ้มส้น
ประมวลภาพงานสถาปนิก’<strong>62</strong> ครั ้งที่ 33 วันที่ 30 เมษายน - 5 พฤษภาคม 25<strong>62</strong><br />
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นพิธีเปิดงานสถาปนิก’<strong>62</strong> เมื่อวันที่ 30 เมษายน<br />
25<strong>62</strong> ณ อิมแพค เมืองทองธานี<br />
นิทรรศการ GREEN BUILDING SHOWCASE<br />
นิทรรศการ ZERO WASTE<br />
นิทรรศการ INNOVATIVE GREEN MATEREALS<br />
นิทรรศการ INTERNATIONAL DESIGN COMPETTION 2019<br />
นิทรรศการ SMART CITIES<br />
นิทรรศการ EMERGING ARCHITECTURE AWARDS 2019
นิทรรศการ <strong>ASA</strong> WORKSHOP & STUDENTS<br />
นิทรรศการผลงานนักศึกษาคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์<br />
<strong>ASA</strong> FRIENDS<br />
นิทรรศการ WATER COLOUR<br />
หมอบ้าน<br />
<strong>ASA</strong> CREW<br />
<strong>ASA</strong> FORUM & SEMINAR<br />
นิทรรศการ ภูมิปัญญา3 ภูมิภาคสู่ปัจจุบัน<br />
<strong>ASA</strong> SHOP<br />
นิทรรศการ <strong>ASA</strong> RUN<br />
<strong>ASA</strong> CLUB<br />
<strong>ASA</strong> NIGHT
โครงการพัฒนาวิชาชีพ ครั้งที่ 14/<strong>62</strong><br />
Building Material Visit Series รอบรู้เรื่องวัสดุก่อสร้าง ครั้งที่ 4-<strong>62</strong><br />
ขอเชิญสมาชิกสมาคม สถาปนิก นิสิต - นักศึกษาสถาปัตยกรรม เข้าร่วมกิจกรรมทัศนศึกษา<br />
หาประสบการณ์ความรู้เกี่ยวกับงานสถาปัตยกรรม และผลิตภัณฑ์เขียวส าหรับงานก่อสร้าง<br />
โดย สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์<br />
เยี่ยมเยือนอาคารส านักงาน เงินมาธุรกิจ แบบสบาย ๆ กับอีกอาคารรักษ์โลก รับฟังการบรรยายให้ความรู้<br />
โดยสถาปนิกออกแบบอาคาร และผู้เชี่ยวชาญงานอาคารเขียว<br />
ให้ความรู้ และสนับสนุนรายการโดย เงินมาธุรกิจ คุณศัลยเวทย์ ประเสริฐวิทยาการ ดร. จตุวัฒน์ วโรดมพันธ์<br />
ด าเนินรายการโดย : คุณปฏิกร ณ สงขลา<br />
วันเสาร์ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 25<strong>62</strong> เวลา 08.15 - 12.00 น. ณ รามอินทรา ซอย 12 กรุงเทพฯ<br />
อัตราค่าลงทะเบียน (เดินทางไปยังสถานที่กันเอง)<br />
สมาชิกสมาคมฯ/ นิสิต นักศึกษา (ระดับ ป.ตรี) ทั่วไป 300 บาท<br />
นิสิต นักศึกษา (ระดับ ป.ตรี) ที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ 100 บาท<br />
สถาปนิกและผู้สนใจทั่วไป 500 บาท<br />
ผู้เข้าร่วมสัมมนาจะได้รับวุฒิบัตรจาก สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์<br />
สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและลงทะเบียนล่วงหน้า ได้ที่ สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ฝ่ายจัดอบรม<br />
โทรศัพท์ 0-2319-6555 ต่อ 202, 206 / โทรสาร ต่อ 2<strong>04</strong>, 0-2319-6419 หรือดาวน์โหลด ใบตอบรับลงทะเบียนได้ที่ www.asa.or.th<br />
(รับเพียง 30 ท่านเท่านั้น กรณีมีผู้สมัครเกินจ านวนที่ก าหนด สมาคมฯ สงวนสิทธิ์ส าหรับผู้ที่ช าระเงินลงทะเบียนก่อน)<br />
หมายเหตุ : ผู้เข้าร่วมกิจกรรมกรุณาแต่งกายสุภาพ และสวมรองเท้าหุ้มส้น
MEMBER CORNER<br />
สมาชิกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ผ่านการอนุมัติจากที่ประชุมกรรมการบริหาร<br />
ประจาเดือนมีนาคม 25<strong>62</strong><br />
สมาชิกประเภท สามัญ ราย 5 ปี<br />
สมาชิกประเภท ภาคี รายปี<br />
สมาชิกประเภท สมทบ รายปี<br />
• บุคคลทั่วไป<br />
• นักศึกษา<br />
จานวน 18 คน<br />
จานวน 4 คน<br />
จำนวน 24 คน<br />
จานวน - คน<br />
ประจำเดือนเมษายน 25<strong>62</strong><br />
สมาชิกประเภท สามัญ ราย 5 ปี<br />
สมาชิกประเภท ภาคี รายปี<br />
สมาชิกประเภท สมทบ รายปี<br />
• บุคคลทั่วไป<br />
• นักศึกษา<br />
จานวน 54 คน<br />
จานวน 9 คน<br />
จำนวน 18 คน<br />
จานวน 6 คน<br />
สมาชิกประเภท นิติบุคคล<br />
• ต่ออายุสมาชิก<br />
• ขึ ้ นทะเบียนใหม่<br />
จานวน 5 บริษัท<br />
จำนวน 2 บริษัท<br />
สมาชิกประเภท นิติบุคคล<br />
• ต่ออายุสมาชิก<br />
• ขึ ้ นทะเบียนใหม่<br />
จานวน 3 บริษัท<br />
จำนวน - บริษัท