TNSC Newsletter : November 2012 Vol.3
TNSC Newsletter : November 2012 Vol.3
TNSC Newsletter : November 2012 Vol.3
You also want an ePaper? Increase the reach of your titles
YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.
EXPORT CORNER<br />
นวัตกรรมทางการค้า และบทบาทของกระทรวงด้านเศรษฐกิจ<br />
“นโยบายค่าแรง 300 บาททั่วประเทศใน ปี 2556 ส่งผลให้ประเทศไทย<br />
สูญเสียขีดความสามารถในการแข่งขันด้านแรงงานอย่างสมบูรณ์<br />
และตอกย้ำอย่างชัดเจนว่าประเทศไทยได้ติดกับดักเช่นเดียวกับ<br />
ประเทศกำลังพัฒนาจำนวนมากที่ล้วนพึ่งพาแรงงานราคาถูกสำหรับ<br />
เป็นขีดความสามารถในการแข่งขัน จนละเลยการพัฒนาด้านเทคโนโลยี”<br />
เป็นคำกล่าวของ ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ เลขาธิการที่ประชุมสหประชาชาติ<br />
ว่าด้วยการค้าและการพัฒนา หรือ UNCTAD ในงานเปิดตัว “รายงาน<br />
เทคโนโลยีและนวัตกรรม <strong>2012</strong>” ซึ่งจัดโดยสถาบันระหว่างประเทศ<br />
เพื่อการค้าและการพัฒนา (ITD) โดยเนื้อหาในรายงานได้ชี้ให้เห็นถึง<br />
การเติบโตของการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีระหว่างประเทศกำลังพัฒนา<br />
ที่มีสัดส่วนสูงถึง 55% เมื่อเทียบกับการค้าโลกในปี 2010 เทียบกับ<br />
สัดส่วนเพียง 41% ในปี 1995 แสดงให้เห็นถึงทิศทางการรวมกลุ่ม<br />
และการค้าระหว่างประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งในปัจจุบันมีบทบาท<br />
ในการลงทุนมากกว่าประเทศพัฒนาแล้ว<br />
อย่างไรก็ตาม เลขาธิการ UNCTAD ได้เน้นย้ำว่าการลงทุนและ<br />
พัฒนาในเทคโนโลยีก็ต้องมีการคัดเลือกและให้ความสำคัญ<br />
กับเทคโนโลยีที่มีความเหมาะสมและจำเป็นกับแต่ละประเทศ สำหรับ<br />
ประเทศไทยก็คือ เทคโนโลยีที่สามารถตอบสนองความต้องการ<br />
ทางการค้าและเศรษฐกิจ ซึ่งในปัจจุบันยังมีอยู่น้อย การดำเนินการ<br />
หลายด้านที่เป็นองค์ประกอบก็ยังไม่เอื้อต่อการพัฒนาเทคโนโลยี<br />
อาทิ การพัฒนาด้านทรัพย์สินทางปัญญาของไทยในปัจจุบันได้ให้<br />
ความสำคัญกับการ “ปกป้อง” สิ่งที่มีอยู่เพียงน้อยนิด แต่ยังไม่ได้<br />
ทุ่มเทให้มีการ “สร้าง” ทรัพย์สินทางปัญญาที่สามารถใช้ประโยชน์<br />
ทางการค้าให้มากขึ้น เป็นต้น<br />
ทั้งนี้ การถ่ายทอดเทคโนโลยีจากประเทศพัฒนาแล้วในปัจจุบัน<br />
มักจะเป็นการถ่ายทอดให้กับสมาชิกในซัพพลายเชนของตนเอง<br />
เป็นหลัก แต่ขีดจำกัดสำคัญคือประเทศผู้รับมีความพร้อมหรือไม่<br />
เพราะการถ่ายทอดเทคโนโลยีระหว่างประเทศที่มีพื้นฐานแตกต่างกัน<br />
มาก นอกจากจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับผู้รับ หลายครั้งยังทำให้เกิด<br />
การสูญเสียทรัพยากรโดยใช่เหตุ ประเทศผู้รับจึงจำเป็นต้องมีการพัฒนา<br />
พื้นฐานของตนเองให้มีความพร้อมเสียก่อน<br />
ความเห็นของเลขาธิการ UNCTAD ข้างต้น สอดคล้องกับแนวทางของ<br />
สภาผู้ส่งออกฯ ที่ต้องการให้มีการเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการดำเนิน<br />
งานของภาครัฐว่า “กระทรวงเศรษฐกิจ” ไม่ได้มีแค่เพียงกระทรวง<br />
การคลัง กระทรวงพาณิชย์ หรือกระทรวงอุตสาหกรรม เท่านั้น แต่<br />
การค้าและการลงทุนของไทยในปัจจุบันมีความเกี่ยวข้องกับหลาย<br />
กระทรวง อาทิ กระทรวงพลังงานกับบทบาทในการพัฒนาพลังงาน<br />
ทดแทนสำหรับภาคอุตสาหกรรม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี<br />
กับบทบาทในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อทดแทนต้นทุนแรงงานที่<br />
สูงขึ้น กระทรวงคมนาคมกับบทบาทในการเพิ่มประสิทธิภาพด้าน<br />
โลจิสติกส์ กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงแรงงานกับบทบาท<br />
ในการยกระดับศักยภาพแรงงานให้มี “Economies of Skills” และ<br />
สามารถปฏิบัติงานกับเทคโนโลยีจากประเทศที่พัฒนาแล้วได้เป็น<br />
อย่างดี สิ่งเหล่านี้คือตัวอย่างของนโยบายด้านเศรษฐกิจของ<br />
กระทรวงต่างๆ ซึ่งสภาผู้ส่งออกฯ จะมีการผลักดันให้เกิดการ<br />
เปลี่ยนแปลงแนวคิดการทำงานและให้มีการบูรณาการหน่วยงาน<br />
ภาครัฐเพื่อเสริมสร้างศักยภาพการส่งออกให้เกิดขึ้นในระยะยาว<br />
สภาผู้ส่งออกฯ : สภาผู้ส่งสินค้า<br />
ทางเรือแห่งประเทศไทย แถลงข่าว<br />
ดัชนีการส่งออก<br />
(Export Performance Index)<br />
ประจำาเดือน กันยายน 2555<br />
มูลค่าการส่งออกของไทยในเดือนกันยายน 2555 เท่ากับ 20,788.4<br />
ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 0.2% ในรูปเงินบาทมีมูลค่า 648,610.8<br />
ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.55% ในขณะที่มูลค่าการส่งออกในระยะ 9 เดือน<br />
แรกของปี มีมูลค่า 172,347.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลง 1.13%<br />
ในรูปเงินบาทมีมูลค่า 5,346,811 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.17% โดย<br />
มูลค่าการส่งออกที่ยังลดลงดังกล่าวเกิดจากผลของการชะลอตัว<br />
ของเศรษฐกิจ ในประเทศคู่ค้าหลักของไทย<br />
อย่างไรก็ตาม การเติบโตของการส่งออกมีความแตกต่างกันในแต่ละ<br />
อุตสาหกรรม โดยอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตประกอบไปด้วยกระดาษ<br />
และสิ่งพิมพ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อัญมณีและเครื่องประดับเคมีภัณฑ์<br />
ปิโตรเลียม รถยนต์ เหล็ก ของใช้สัตว์เลี้ยง มันสำปะหลัง เครื่องครัว<br />
น้ำตาล อุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ ไก่ อาหารทะเล พลาสติก ซึ่ง<br />
ต้องส่งเสริมโดยการพัฒนาตลาดใหม่เพิ่มเติม ในขณะที่อุตสาหกรรม<br />
ที่มีการเติบโตติดลบ อาทิ รองเท้า ผักและผลไม้ เครื่องจักร กุ้ง<br />
แช่เย็นแช่แข็ง สิ่งทอ อาหารสำเร็จรูป วัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์<br />
ยางและผลิตภัณฑ์ยาง และข้าว จำเป็นต้องหาทางแก้ไขปัญหาและ<br />
อุปสรรค เพื่อให้สามารถแข่งขันและรักษาตลาดที่มีอยู่ในปัจจุบัน<br />
ได้ต่อไป<br />
ทั้งนี้ จากการประเมินสถานการณ์ล่าสุดของโครงการดัชนีการ<br />
ส่งออก พบว่าภาพรวมการส่งออกทั้งปี 2555 อาจเติบโตอยู่<br />
ระหว่าง 4.6 - 5.9% ในขณะที่ทิศทางการส่งออกในไตรมาสแรก<br />
ของปี 2556 น่าจะเติบโตอยู่ที่ 5.5% และทั้งปี 2556 น่าจะเติบโต<br />
เป็นบวกเมื่อเทียบกับปี 2555<br />
4