Ship Propulsion and Engines - สภาวิศวà¸à¸£
Ship Propulsion and Engines - สภาวิศวà¸à¸£
Ship Propulsion and Engines - สภาวิศวà¸à¸£
You also want an ePaper? Increase the reach of your titles
YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.
สาขา: เครื่องกล วิชา: ME82 <strong>Ship</strong> <strong>Propulsion</strong> <strong>and</strong> <strong>Engines</strong><br />
1 of 125<br />
ขอที่ : 1<br />
ขอที่ : 2<br />
ขอที่ : 3<br />
ขอที่ : 4<br />
หากตองการทราบขนาดแรงมาของเพลาใบจักรที่กําลังหมุน ขอมูลที่ตองการทราบคือขอใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Thrust กับ RPM<br />
Torque กับ RPM<br />
Thrust กับ <strong>Ship</strong> Speed<br />
<strong>Ship</strong> Speed กับ Torque<br />
คาประสิทธิภาพตัวใดที่ทําใหคา Shaft Horsepower และ Brake Horsepower แตกตางกัน<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
คาประสิทธิภาพของเกียร<br />
คาประสิทธิภาพของกระบอกดีฟุต<br />
คาประสิทธิภาพของใบจักร<br />
คาประสิทธิภาพของตัวเรือ<br />
ลักษณะสภาพแวดลอมที่ทําใหระบบขับเคลื่อนบนเรือแตกตางไปจากเครื่องจักรกลบนบกอยางเดนชัดที่สุดคือขอใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
อุณหภูมิอากาศโดยรอบ<br />
คําตอบ 2 : อุณหภูมิของน้ํา<br />
คําตอบ 3 : ความชื้น<br />
คําตอบ 4 : ความดัน<br />
ขอใดไมจัดวาเปนภาระหรือ Load ของระบบขับเคลื่อนของเรือ<br />
คําตอบ 1 :<br />
ใบจักร<br />
คําตอบ 2 : ปมพ<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 3 : เครื่องกําเนิดไฟฟา<br />
คําตอบ 4 : เครื่องอัดลม<br />
ขอที่ : 5<br />
ขอเสียของเครื่องยนตดีเซลเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องยนตเบนซินในการนํามาใชเปนเครื่องจักรใหญในเรือคือขอใด
คําตอบ 1 : อัตราการกินน้ํามันสูง<br />
คําตอบ 2 : น้ําหนักมาก<br />
คําตอบ 3 : กําลังมานอย<br />
คําตอบ 4 : ตองใชอุปกรณชวยจุดระเบิด<br />
2 of 125<br />
ขอที่ : 6<br />
อุปกรณขับเคลื่อนของเรือในขอใดที่มีประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนต่ําที่สุด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Contrarotating Propeller<br />
Propeller in Nozzle<br />
Vertical Axis Propeller<br />
Fully Cavitating Propeller<br />
ขอที่ : 7<br />
Sterntube Stuffing Box มีหนาที่อะไร<br />
ขอที่ : 8<br />
คําตอบ 1 : ปองกันน้ําไหลเขาตัวเรือ<br />
คําตอบ 2 : ปองกันการสั่นสะเทือน<br />
คําตอบ 3 : รับน้ําหนักเพลา<br />
คําตอบ 4 : ตอเพลาเขาดวยกัน<br />
คา Thrust Deduction, t ที่ใชในการคํานวณหาคา Thrust Horsepower มีสาเหตุมาจากขอใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
ความฝดของเพลา<br />
คําตอบ 2 : ความตานทานของน้ําที่มีตอเพลา<br />
คําตอบ 3 : การเปลี่ยนแปลงของน้ําที่ไหลเขาสูใบจักร<br />
คําตอบ 4 : ใบจักรอยูใกลผิวน้ํา<br />
ขอที่ : 9<br />
สูตรการหากําลังในการใชลากเรือตัวเปลาโดยปราศจากใบจักร(Effective Horsepower) ไปดวยความเร็วใดๆคืออะไร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ความตานทานเรือคูณดวยความเร็ว<br />
ความตานทานเรือคูณดวนแรงผลักของใบจักร<br />
แรงผลักของใบจักรคูณดวยความเร็วเรือ<br />
ความตานทานของเรือคูณดวยความเร็วรอบของเพลา
ขอที่ : 10<br />
ขอที่ : 11<br />
ขอที่ : 12<br />
ขอที่ : 13<br />
เครื่องยนตที่ติดตั้งบนเรือ ซึ่งใชกําลังเต็มพิกัด (FULL-POWER OPERATION) อยูเกือบตลอดเวลา สิ่งที่คาดหวังไดวานาจะเกิดขึ้นคือขอใด<br />
คําตอบ 1 : เครื่องยนตมีความเร็วรอบสูง<br />
คําตอบ 2 : เครื่องยนตมี TURBOCHARGER อยูดวย<br />
คําตอบ 3 : เครื่องยนตมีอัตรากินน้ํามันสูง<br />
คําตอบ 4 : เครื่องยนตมีคา MTBO สูง<br />
ขอใดเปนหลักการของ WASTE HEAT RECOVERY ที่มักปฏิบัติกันอยูบนเรือทั่วไป<br />
คําตอบ 1 : เอาน้ําทะเลจาก LUBE OIL COOLER มาหุงตมอาหาร<br />
คําตอบ 2 : เอาอากาศรอนจากทอแกสเสียมาใหความรอนกับหมอน้ํา<br />
คําตอบ 3 : เอาน้ําหลอเสื้อสูบมาทําน้ําอุนสําหรับใหผูโดยสารอาบ<br />
คําตอบ 4 : เอาอากาศรอนจากทอแกสเสียไปอุนน้ํามันเชื้อเพลิง<br />
โดยทั่วไปตัวขับเคลื่อน ( PROPULSOR) ชนิดใดใหประสิทธิภาพต่ําที่สุดเมื่อติดตั้งบนเรือแบบ DISPLACEMENT TYPE<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
FULLY CAVITATING PROPELLER<br />
PROPELLER IN NOZZLES<br />
CONTRAROTATING PROPELLER<br />
VERTICAL-AXIS PROPELLER<br />
ใบจักรแบบ PROPELLER IN NOZZLE มักนํามาติดตั้งในเรือชนิดใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
เรือลากจูง (TUG)<br />
คําตอบ 2 : เรือบรรทุกน้ํามัน<br />
คําตอบ 3 : เรือรบความเร็วสูง<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 4 : เรือประเภทใบจักรคู<br />
3 of 125<br />
ขอที่ : 14<br />
คากําลังของเรือที่ SUSTAINED SEA SPEED มีคาประมาณกี่เปอรเซ็นตของคากําลังที่ TRIAL SPEED<br />
คําตอบ 1 : 50 %
คําตอบ 2 : 60 %<br />
คําตอบ 3 : 70 %<br />
คําตอบ 4 : 80 %<br />
4 of 125<br />
ขอที่ : 15<br />
ปจจัยที่สําคัญที่สุดในการเลือกชนิดของเครื่องจักรกลที่ติดตั้งบนเรือคือขอใด<br />
คําตอบ 1 : ความเชื่อถือได [ RELIABILITY]<br />
คําตอบ 2 : อัตราการกินน้ํามัน<br />
คําตอบ 3 : น้ําหนัก<br />
คําตอบ 4 : พื้นที่ติดตั้ง<br />
ขอที่ : 16<br />
เพื่อใหไดมาซึ่งคาประสิทธิภาพสูงสุดของใบจักร สิ่งที่ควรทําคือขอใด<br />
คําตอบ 1 : ใชเพลาที่มีขนาดใหญ<br />
คําตอบ 2 : ใชใบจักรขนาดเล็ก<br />
คําตอบ 3 : ใชใบจักรหลายใบ<br />
คําตอบ 4 : ใชความเร็วรอบเพลาต่ํา<br />
ขอที่ : 17<br />
ขอที่ : 18<br />
ขอใดไมใชขอไดเปรียบของเครื่องยนตดีเซลรอบต่ําที่เหนือกวาเครื่องยนตรอบสูง<br />
คําตอบ 1 : ใชกับน้ํามันที่มีคุณภาพต่ํากวาได<br />
คําตอบ 2 : งายแกการทําใหเปนระบบอัตโนมัติ<br />
คําตอบ 3 : ไมจําเปนตองใชเกียรทดรอบ<br />
คําตอบ 4 : ใชการดับความรอนในเครื่องดวยน้ําทะเลได<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
เรือชนิดใดที่เหมาะกับการใชระบบขับเคลื่อนแบบ ELECTRIC DRIVE PROPULSION มากที่สุด<br />
คําตอบ 1 : เรือบรรทุกเครื่องบิน<br />
คําตอบ 2 : เรือ HYDROFOIL<br />
คําตอบ 3 : เรือ SWATH<br />
คําตอบ 4 : เรือลากจูง ( TUG )
ขอที่ : 19<br />
ขอที่ : 20<br />
ขอที่ : 21<br />
ขอที่ : 22<br />
ขอไดเปรียบของการใชระบบ DC ELECTRIC-DRIVE PROPULSION ที่มีตอ AC ELECTRIC-DRIVE PROPULSION คือขอใด<br />
คําตอบ 1 : มีน้ําหนักเบากวา<br />
คําตอบ 2 : มีประสิทธิภาพสูงกวา<br />
คําตอบ 3 : แผกระจายรังสีความรอนนอยกวา<br />
คําตอบ 4 : ใหคาแรงบิดไดสูงกวา<br />
การใช GAS TURBINE เปนเครื่องจักรใหญของเรือดีกวาการใช STEAM TURBINE หลายอยาง ยกเวนขอใด<br />
คําตอบ 1 : มีน้ําหนักเบา<br />
คําตอบ 2 : ใชน้ํามันเกรดต่ํากวา<br />
คําตอบ 3 : ใชพื้นที่ติดตั้งนอยกวา<br />
คําตอบ 4 : สรางมลภาวะนอยกวา<br />
ขอใดเปนอุปกรณที่สําคัญที่สุดในการปองกันความเสียหายที่อาจเกิดกับเครื่องยนตดีเซลที่ติดตั้งบนเรือ<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
LUBE OIL COOLER<br />
FUEL OIL SERVICE TANK<br />
FUEL OIL PURIFIER<br />
DISTILLING PLANT<br />
หนาที่ของ THRUST BEARING คืออะไร<br />
คําตอบ 1 :<br />
ปองกันแรงรุนของเพลาใบจักร<br />
คําตอบ 2 : รองรับน้ําหนักหนาเกียร<br />
คําตอบ 3 : ปองกันการควงของเพลา<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 4 : ชวยไมใหเกิดการเยื้องศูนยเพลา<br />
5 of 125<br />
ขอที่ : 23<br />
AUXILIARY BOILER ที่ติดตั้งอยูในหองเครื่องของเรือที่มีเครื่องยนตดีเซลเปนเครื่องจักรใหญโดยทั่วไปมีหนาที่อะไร<br />
คําตอบ 1 : ขับเครื่องกําเนิดไฟฟา<br />
คําตอบ 2 : อุนน้ํากอนเขา MAIN BOILER
คําตอบ 3 : ทําน้ําอุนเพื่อใหความรอนแกน้ํามันเชื้อเพลิง<br />
คําตอบ 4 : ผลิตน้ําสําหรับการหุงตม หรือการซักรีด<br />
6 of 125<br />
ขอที่ : 24<br />
ขอใดไมใชอุปกรณที่ติดตั้งสําหรับระบบขับเคลื่อนที่มีเครื่องยนตดีเซลเปนเครื่องจักรใหญ<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
DEAERATING FEED HEATER<br />
FUEL OIL BOOSTER PUMP<br />
JECKET WATER COOLER<br />
LUBE OIL FILTER<br />
ขอที่ : 25<br />
MAIN AIR COMPRESSOR ในหองเครื่องมีไวสําหรับทําอะไร<br />
ขอที่ : 26<br />
ขอที่ : 27<br />
คําตอบ 1 : ผลิตลมเพื่อควบคุมระบบนิวเมติกสในเรือ<br />
คําตอบ 2 : ผลิตลมเพื่อใชสตารทเครื่องยนตดีเซล<br />
คําตอบ 3 : ใชกับเครื่องทําความเย็นในเรือ<br />
คําตอบ 4 : ระบายอากาศตามหองตางๆ ในเรือ<br />
ระบบขับเคลื่อนชนิดใดมีอัตราการกินน้ํามันสูงสุด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
STEAM ENGINE<br />
DIESEL ENGINE<br />
GAS TURBINE<br />
ELECTRIC DRIVE<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอใดกลาวไดถูกตองเกี่ยวกับ GAS TURBINE ที่นํามาติดตั้งบนเรือ<br />
คําตอบ 1 : ใชน้ํามันเกรดเดียวกับเครื่องยนตดีเซลทั่วไป<br />
คําตอบ 2 : ใชเกียรที่มีอัตราทดไมเกิน 10 ตอ 1<br />
คําตอบ 3 : สวนใหญเปนเครื่องที่เรียกวา AIRCRAFT-DERIVATIVE TYPE<br />
คําตอบ 4 : มีอัตราการกินน้ํามันสูงกวา STEAM TURBINE ในขนาดกําลังเทากัน<br />
ขอที่ : 28
สําหรับเรือที่มีปฏิบัติการในหลายยานความเร็วที่แตกตางกันมาก ระบบขับเคลื่อนที่สมควรนํามาพิจารณาติดตั้งคืออะไร<br />
คําตอบ 1 : DIESEL ENGINE<br />
คําตอบ 2 : GAS TURBINE<br />
คําตอบ 3 : CODOG<br />
คําตอบ 4 : NUCLEAR PROPULSION<br />
7 of 125<br />
ขอที่ : 29<br />
ขอที่ : 30<br />
ขอที่ : 31<br />
ขอที่ : 32<br />
ในการใชระบบขับเคลื่อนแบบ CODOG นั้น เมื่อตองการใชเรือที่ความเร็วสูงสุด เครื่องตนกําลังขับที่ใชคือเครื่องใด<br />
คําตอบ 1 : DIESEL ENGINE<br />
คําตอบ 2 : GAS TURBINE<br />
คําตอบ 3 : ทั้ง DIESEL และ GAS TUBINE ที่ FULL POWER<br />
คําตอบ 4 : ทั้ง DIESEL และ GAS TUBINE ที่ HALF POWER<br />
ระบบขับเคลื่อนแบบ CODOG กับ CODAG แตกตางกันอยางไร<br />
คําตอบ 1 : มีจํานวนเครื่องยนตดีเซลไมเทากัน<br />
คําตอบ 2 : CODOG ใชน้ํามันตางชนิดกับ CODAG<br />
คําตอบ 3 : ชนิดของ COUPLING ที่ใชในเกียร<br />
คําตอบ 4 : CODAG ใชเครื่องตนกําลังขับทั้ง 2 ชนิดพรอมกัน<br />
ระบบใดที่เหมาะสมกับการนํามาใชรวมกับการขับเคลื่อนดวย CODAG มากที่สุด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ระบบปรับพิทชใบจักร<br />
ระบบ VERTICAL-AXIS PROPELLER<br />
ระบบเกียรแบบ PLENETARY<br />
ระบบ HYDRAULIC COUPLING<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ในระบบขับเคลื่อนแบบ COGOG นั้นสาเหตุที่ควรใชเครื่อง GAS TURBBINE ขนาดเล็กหนึ่งตัวและขนาดใหญหนึ่งตัวเพราะเหตุใด<br />
คําตอบ 1 : ลดขนาดของพื้นที่ติดตั้ง<br />
คําตอบ 2 : ลดอุณหภูมิในหองเครื่อง<br />
คําตอบ 3 : ประหยัดน้ํามันเชื้อเพลิง
คําตอบ 4 : สามารถแลนที่ความเร็วรอบเครื่องต่ํา ๆ ได<br />
ขอที่ : 33<br />
ระบบขับเคลื่อนที่มีการรวมการทํางานทั้งทางกลและทางดาน THERMODYNAMICS คือขอใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
COGAS<br />
COGOG<br />
STAG<br />
CONAG<br />
ขอที่ : 34<br />
WASTE HEAT BOILER มีความจําเปนอยางยิ่งในระบบขับเคลื่อนชนิดใด<br />
ขอที่ : 35<br />
ขอที่ : 36<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
CODOG<br />
COGAG<br />
STEAM ENGINE<br />
STAG<br />
อุปกรณในขอใดสามารถนํามาใชชวยในการเดินถอยหลัง (REVERSING) ของเครื่องจักรใหญได<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
FLEXIBLE COUPLING<br />
RIGID COUPLING<br />
HYDRAULIC COUPLING<br />
CHAIN COUPLING<br />
อุปกรณในขอใดที่จําเปนตองมีจํานวนมากกวาที่ตองการใชงานจริงหรือที่เรียกวา REDUNDANCY<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
EXHUAST SILENCER<br />
LUBE-OIL PUMP<br />
REDUCTION GEAR<br />
VENTILATION FAN<br />
8 of 125<br />
ขอที่ : 37<br />
การทํา POWER TAKE-OFF จากเครื่องยนตดีเซลซึ่งเปนเครื่องจักรใหญของเรือลําหนึ่งคือขอใด
คําตอบ 1 : เครื่องยนตไปขับเครื่องกําเนิดไฟฟาผานทางสายพานดานหัวเครื่อง<br />
คําตอบ 2 : การเอาแกสเสียไปใชกับ WASTE HEAT BOILER<br />
คําตอบ 3 : ปมสูบน้ําดับเพลิงถูกขับดวยเพลาใบจักรผานทางเกียร<br />
คําตอบ 4 : เครื่องยนตเครื่องนี้ขับเพลา 2 เพลา<br />
9 of 125<br />
ขอที่ : 38<br />
ขอที่ : 39<br />
ขอที่ : 40<br />
ขอที่ : 41<br />
หากเรือของทานมีปญหาในเรื่องของน้ําหนักเรือ เพื่อลดน้ําหนัก ทานควรเลือกติดตั้งเครื่องยนตในขอใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
GAS TURBINE<br />
DIESEL ENGINE<br />
STEAM ENGINE<br />
CODAD<br />
การทํา ELECTRIC LOAD ANALYSIS มีวัตถุประสงคอะไร<br />
คําตอบ 1 :<br />
ใชกระแสไฟอยางมีประสิทธิภาพสูงสุด<br />
คําตอบ 2 : หาจํานวนอุปกรณไฟฟาที่ตองติดตั้งบนเรือ<br />
คําตอบ 3 : ปองกันการรั่วไหลของกระแสไฟฟาในเรือ<br />
คําตอบ 4 : หาขนาดของเครื่องกําเนิดไฟฟาที่จะติดตั้ง<br />
ขอใดกลาวถึงระบบกําเนิดไฟฟาในเรือไดถูกตองที่สุด<br />
คําตอบ 1 : SHIP-SERVICE UNIT ควรประกอบดวยเครื่องกําเนิดไฟฟาขนาดเทากัน 2 เครื่อง<br />
คําตอบ 2 : EMERGENCY UNIT ควรมีขนาดใหญพอเพียงที่จะจายไฟใหกับเครื่องกวานและไฟแสงสวางในเรือได<br />
คําตอบ 3 : ทั้ง SHIP-SERVICE และ EMERGENCY UNIT ควรอยูในหองเดียวกัน<br />
คําตอบ 4 : EMERGENCY UNIT ควรผลิตไฟไดทั้ง AC และ DC<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
การใช POWER TAKE-OFF UNIT สามารถกระทําไดหลายจุดในระบบขับเคลื่อนยกเวนขอใด<br />
คําตอบ 1 : บริเวณหัวเครื่องยนต<br />
คําตอบ 2 : บริเวณเกียรทดรอบ<br />
คําตอบ 3 : บริเวณเพลาใบจักร<br />
คําตอบ 4 : บริเวณกระบอกดีฟุต
ขอที่ : 42<br />
ขอที่ : 43<br />
ขอที่ : 44<br />
ขอที่ : 45<br />
ในการออกแบบระบบหางเสือของเรือคาสําคัญที่สุดที่ผูออกแบบควรทราบคืออะไร<br />
คําตอบ 1 : ความเร็วของน้ําเขาสูหางเสือ<br />
คําตอบ 2 : ความเร็วเรือ<br />
คําตอบ 3 : ระวางขับน้ําของเรือ<br />
คําตอบ 4 : คาแรงบิดของใบหางเสือ<br />
สถานีควบคุมของระบบขับเคลื่อนบนเรือสามารถพบไดหลายแหงยกเวนขอใด<br />
คําตอบ 1 : หองเครื่องจักรใหญ<br />
คําตอบ 2 : หองหางเสืออะไหลทายเรือ<br />
คําตอบ 3 : สะพานเดินเรือ<br />
คําตอบ 4 : หองทํางานของตนกล [ CHIEF ENGINEER ’S OFFICE]<br />
ขอใดเปนคําจํากัดความของคําวา AVAILABILITY ของระบบ<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
เทากับ MTBF<br />
เทากับ MTBR<br />
เทากับ MTBF/[MTBF+MTTR]<br />
เทากับ MTBF/[MTBF-MTTR]<br />
การทดสอบในขอใดมิไดกระทําในระหวางทดลองเรือในทะเล [ SEA TRIAL ]<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
FULL-POWER ENDURANCE TEST<br />
ASTERN ENDURANCE TEST<br />
ASTERN STEERING TEST<br />
MACHINERY ALIGNMENT TEST<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
10 of 125<br />
ขอที่ : 46<br />
อัตราสวนระหวาง Cpo/Cvo ของอากาศมีคาเทาใด<br />
คําตอบ 1 : 0.8
คําตอบ 2 : 1.0<br />
คําตอบ 3 : 1.2<br />
คําตอบ 4 : 1.4<br />
11 of 125<br />
ขอที่ : 47<br />
ขอที่ : 48<br />
ขอที่ : 49<br />
ขอที่ : 50<br />
เครื่อง Low-Speed Marine Diesel Engine จะมีลักษณะการทํางานแบบใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
2 จังหวะ<br />
4 จังหวะ<br />
คําตอบ 3 : ทั้ง 2 และ 4 จังหวะ<br />
คําตอบ 4 : 4 จังหวะพรอมติดตั้ง Turbocharger<br />
ลูกสูบแบบใดที่มีการนํามาใชกับเครื่องยนต Low-Speed Marine Diesel Engine เทานั้น<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Trunk Piston<br />
Opposed Piston<br />
Crosshead Piston<br />
Rotary Piston<br />
สาเหตุที่เครื่องยนต Marine Diesel Engine สวนใหญมีการนําเอา Turbocharger มาใชก็เพราะเหตุใด<br />
คําตอบ 1 : ลดอัตราการกินน้ํามัน<br />
คําตอบ 2 : ใหอากาศผสมกับน้ํามันไดดียิ่งขึ้น<br />
คําตอบ 3 : ลดความรอนที่เกิดขึ้นในกระบอกสูบ<br />
คําตอบ 4 : เพิ่มคาความดันอากาศในกระบอกสูบ<br />
หากตองการทราบวาเครื่องยนตดีเซลจะสามารถผลิตกําลังไดมากนอยเพียงใด คาตัวเลขที่สามารถบงชี้ไดดีที่สุดคือขอใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
อุณหภูมิของการจุดระเบิด<br />
IMEP<br />
Compression Ratio<br />
ความดันสูงสุดในระบบ
ขอที่ : 51<br />
ขอที่ : 52<br />
ขอที่ : 53<br />
ขอที่ : 54<br />
ขอใดมีการแปรผันโดยตรงกับคา Brake Horsepower ของเครื่องยนตดีเซล<br />
คําตอบ 1 : อัตราการกินน้ํามันของเครื่อง<br />
คําตอบ 2 : จํานวนลูกสูบ<br />
คําตอบ 3 : อัตราสวนผสมของอากาศและน้ํามัน<br />
คําตอบ 4 : ปริมาณน้ํามันที่ฉีดเขาในกระบอกสูบ<br />
การเพิ่มคา BMEP ของเครื่องยนตดีเซลสามารถทําไดดวยวิธีใด<br />
คําตอบ 1 : เพิ่มคาความเร็วรอบเครื่อง<br />
คําตอบ 2 : ติดตั้ง Turbocharger<br />
คําตอบ 3 : ลดอุณหภูมิภายในเครื่อง<br />
คําตอบ 4 : ใชเกียรที่มีขนาดเหมาะสม<br />
ขอใดเปนสูตรความเร็วของลูกสูบ (Piston Speed) เมื่อ L=Stroke และ N= RPM<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
LN<br />
2LN<br />
L/N<br />
N/L<br />
ทางทฤษฎีมักพบคําพูดที่วา เครื่องยนตดีเซลเปนเครื่องจักรที่มีคาแรงบิด (Torque) คงที่ นั่นหมายความวาอยางไร<br />
คําตอบ 1 : คาความเร็วรอบเครื่องและแรงบิดไมขึ้นอยูกับกันและกัน<br />
คําตอบ 2 : คาแรงบิดไมขึ้นอยูกับอัตราการไหลของน้ํามัน<br />
คําตอบ 3 : คากําลังเครื่องไมขึ้นอยูกับแรงบิด<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 4 : คากําลังเครื่องไมขึ้นอยูกับความเร็วรอบ<br />
12 of 125<br />
ขอที่ : 55<br />
คาความเร็วรอบต่ําสุด (Minimum RPM) ของเครื่องยนตดีเซลแบบความเร็วรอบสูงมักถูกกําหนดขึ้นโดยคํานึงถึงขอใด<br />
คําตอบ 1 : การควบคุมอัตราการไหลของน้ํามันที่ความเร็วรอบต่ํา<br />
คําตอบ 2 : ความสึกหรอ
คําตอบ 3 : อุณหภูมิของอากาศเสียที่ถูกขับออกไป<br />
คําตอบ 4 : การดับความรอนในเครื่องไมดีพอ<br />
13 of 125<br />
ขอที่ : 56<br />
ขอใดมีผลในการกําหนดคาความเร็วรอบสูงสุดของเครื่องยนต<br />
คําตอบ 1 : Heat Exchanger<br />
คําตอบ 2 : Reduction Gear<br />
คําตอบ 3 : Turbocharger<br />
คําตอบ 4 : Type of Fuel Pump<br />
ขอที่ : 57<br />
ขอใดกลาวไดถูกตองเกี่ยวกับการ Rating ของเครื่องยนตดีเซล<br />
คําตอบ 1 : Max power < MCR<br />
คําตอบ 2 : MCR < Intermittent Power<br />
คําตอบ 3 : Max Power < Intermittent Power<br />
คําตอบ 4 : Intermittent Power=60% Power<br />
ขอที่ : 58<br />
การปรับลดคากําลังของเครื่อง (Derating) มีสาเหตุหลายประการยกเวนขอใด<br />
ขอที่ : 59<br />
คําตอบ 1 : ความดันบรรยากาศโดยรอบ<br />
คําตอบ 2 : ความชื้นสัมพัทธ<br />
คําตอบ 3 : อุณหภูมิของน้ําทะเล<br />
คําตอบ 4 : อุณหภูมิของน้ํามัน<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
อัตราการกินน้ํามันของเครื่องยนตจะไดรับผลกระทบมากที่สุดเมื่อมีการกระทําในขอใด<br />
คําตอบ 1 : ปรับลดกําลังเครื่องลง (Derating)<br />
คําตอบ 2 : ติดตั้ง Intercooler<br />
คําตอบ 3 : เปลี่ยนที่ตั้งของถังน้ํามันใชการในเรือ<br />
คําตอบ 4 : อุณหภูมิของน้ํามันหลอสูงขึ้น<br />
ขอที่ : 60
ระบบขับเคลื่อนบนเรือที่มีเครื่องยนตดีเซลเปนเครื่องจักรใหญนั้น กําลังที่เครื่องจะสามารถสรางขึ้นมาไดขึ้นอยูกับขอใด<br />
คําตอบ 1 : ระยะหางของแบริ่งรับเพลา<br />
คําตอบ 2 : ขนาดของเพลา<br />
คําตอบ 3 : ลักษณะการทํางานของใบจักร<br />
คําตอบ 4 : ระบบของเกียรที่ใช<br />
14 of 125<br />
ขอที่ : 61<br />
ขอที่ : 62<br />
คา Mean Time Between Overhaul (MTBO) เปนตัวที่ใชกําหนดการกระทําในขอใด<br />
คําตอบ 1 : การเปลี่ยนเครื่องใหมแทนของเกา<br />
คําตอบ 2 : การซอมบํารุงเครื่อง<br />
คําตอบ 3 : ขนาดของเครื่องที่ติดตั้งบนเรือ<br />
คําตอบ 4 : โครงสรางของฐานแทนเครื่อง<br />
เครื่องยนตที่ใชติดตั้งบนเรือสําราญสวนใหญจะใช การ Rating แบบใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Maximum Power<br />
Intermittent Power<br />
MCR<br />
Temporary Maximum Power<br />
ขอที่ : 63<br />
High-Speed Marine Diesel Engine ที่มีการดูดอากาศเขาลูกสูบเอง โดยไมมี Turbocharger มีคา Compression Ratio ประมาณเทาใด<br />
ขอที่ : 64<br />
คําตอบ 1 : 9 ตอ 1<br />
คําตอบ 2 : 12 ตอ 1<br />
คําตอบ 3 : 14 ตอ 1<br />
คําตอบ 4 : 19 ตอ 1<br />
คาประสิทธิภาพสูงสุดที่คาดหวังไดจากเครื่องยนตดีเซลในทางปฏิบัติ คือคาใด<br />
คําตอบ 1 : 30%<br />
คําตอบ 2 : 50%<br />
คําตอบ 3 : 70%<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 4 : 80%<br />
ขอที่ : 65<br />
15 of 125<br />
ขอที่ : 66<br />
ขอที่ : 67<br />
ขอที่ : 68<br />
คําตอบ 1 : 1.2<br />
คําตอบ 2 : 1.3<br />
คําตอบ 3 : 1.4<br />
คําตอบ 4 : 1.5<br />
คา CETANE NUMBER บงบอกถึงคุณภาพของน้ํามันในขอใด<br />
คําตอบ 1 : ปริมาณคารบอนในน้ํามัน<br />
คําตอบ 2 : การระเหย<br />
คําตอบ 3 : การจุดระเบิด<br />
คําตอบ 4 : ปริมาณของออกซิเจนในน้ํามัน<br />
การเพิ่มคา COMPRESSION RATIO ของเครื่องยนตดีเซลจะสงผลกระทบอยางไร<br />
คําตอบ 1 : เพิ่มจํานวนลูกสูบของเครื่อง<br />
คําตอบ 2 : เพิ่มน้ําหนักของเครื่อง<br />
คําตอบ 3 : เพิ่มจํานวนของเขมา<br />
คําตอบ 4 : เพิ่มอัตราการไหลของน้ําดับความรอน<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอใดบรรยายเกี่ยวกับคา IMEP ไดถูกตองที่สุด<br />
คําตอบ 1 : เปนคาความดันเฉลี่ยในแตละกระบอกสูบ<br />
คําตอบ 2 : เปนคาความดันสูงสุดในกระบอกสูบของเครื่องยนต<br />
คําตอบ 3 : เปนคาความดันแกสกอนเขาสูกระบอกสูบ<br />
คําตอบ 4 : เปนคาความดันคงที่ ที่จะกอใหเกิดงานเทากับที่เกิดขึ้นจริงทางปฏิบัติหากใสเขาไปในกระบอกสูบเดียวกัน<br />
ขอที่ : 69
ถาเอาคา BMEP หารดวย IMEP ผลที่ไดคืออะไร<br />
คําตอบ 1 : ประสิทธิภาพทางกลของเครื่องยนตดีเซล<br />
คําตอบ 2 : คาประสิทธิภาพของลูกสูบ<br />
คําตอบ 3 : ปริมาตรในกระบอกสูบ<br />
คําตอบ 4 : งานที่เกิดจากการหมุนของเพลา<br />
16 of 125<br />
ขอที่ : 70<br />
ขอที่ : 71<br />
ขอที่ : 72<br />
ขอที่ : 73<br />
คา IMEP บงบอกสิ่งใด<br />
คําตอบ 1 : ประสิทธิภาพของเครื่องยนต<br />
คําตอบ 2 : ประสิทธิภาพของน้ํามัน<br />
คําตอบ 3 : พลังงานที่ WORKING FLUID ใหกับเครื่องยนต<br />
คําตอบ 4 : พลังงานที่อากาศใหกับเครื่องยนต<br />
พื้นที่ที่ลอมรอบดวยเสนเชื่อมตอระหวาง STATE ตาง ๆ ของวัฏจักรดีเซลบนไดอะแกรม P-V มีคาเทากับเทาใด<br />
คําตอบ 1 : ความรอนที่ตองใสใหกับระบบ<br />
คําตอบ 2 : ความรอนที่ไดออกมาจากระบบ<br />
คําตอบ 3 : งานที่เกิดจากการเคลื่อนที่ของลูกสูบครบ 1 วงรอบ<br />
คําตอบ 4 : ปริมาตรของอากาศในลูกสูบ<br />
เครื่องยนตดีเซลมี 6 ลูกสูบ ขนาด BORE = 25 in (635 mm), stroke = 95 in (2,413 mm) คา IMEP= 200psi (1,379 kPa) ที่ 120 rpm การทํางานแบบ 4 จังหวะ จงหาคา<br />
INDICATIVE POWER<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
6,373 HP (4,752 kW)<br />
8,478 HP (6,322 kW)<br />
12,384 HP (9,235 kW)<br />
16,957 HP (12,645 kW)<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
เครื่องยนตดีเซล 2 เครื่อง มีลักษณะเหมือนกันทุกประการ ทั้งดานทางกลและทาง THEMODYNAMICS เวนเพียงแตเครื่องหนึ่งทํางานแบบ 2 จังหวะ อีกเครื่องทํางานแบบ 4<br />
จังหวะ เครื่องใดจะผลิตกําลังไดมากกวากัน<br />
คําตอบ 1 : เครื่องแบบ 2 จังหวะ<br />
คําตอบ 2 : เครื่องแบบ 4 จังหวะ
คําตอบ 3 : เทากันทั้ง 2 เครื่อง<br />
คําตอบ 4 : ขอมูลไมเพียงพอ<br />
17 of 125<br />
ขอที่ : 74<br />
ขอที่ : 75<br />
ขอที่ : 76<br />
ขอที่ : 77<br />
เราไมสามารถเพิ่มกําลังของเครื่องยนตดีเซลเครื่องหนึ่งซึ่งมีการทํางานแบบ 2 จังหวะไดดวยการกระทําในขอใด<br />
คําตอบ 1 : เพิ่ม IMEP<br />
คําตอบ 2 : เพิ่มคา BORE<br />
คําตอบ 3 : เพิ่มคาความยาวของ STROKE<br />
คําตอบ 4 : เปลี่ยนการทํางานของเครื่องใหเปนแบบ 4 จังหวะ<br />
เครื่องยนตดีเซลแบบ 2 จังหวะ มีคา IHP = 10,000 HP (7,457 kW), IMEP = 150 PSI (1,034 kPa), BORE = 32 in (813 mm), STROKE = 105 in (2,667 mm) จะมี<br />
ความเร็วรอบเทากับกี่ RPM<br />
คําตอบ 1 : 122<br />
คําตอบ 2 : 216<br />
คําตอบ 3 : 313<br />
คําตอบ 4 : 487<br />
เครื่องดีเซล ผลิตกําลังได 567 kW ที่ 1,800 RPM หากเครื่องถูกตั้งคา THROTTLE ไวที่ 80% ของคาสูงสุด เครื่องจะสามารถผลิตกําลังไดกี่ kW<br />
คําตอบ 1 : 397<br />
คําตอบ 2 : 453<br />
คําตอบ 3 : 113<br />
คําตอบ 4 : 283<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ในทางทฤษฎี หากนําคาแรงบิด (TORQUE) ที่เครื่องยนตดีเซลผลิตไดมาพลอต (แกน y) กับ RPM (แกน x) ลักษณะของเสนที่ไดจะเปนอยางไร<br />
คําตอบ 1 : เสนดิ่ง<br />
คําตอบ 2 : เสนระนาบ<br />
คําตอบ 3 : เสนทแยงผานจุดกําเนิด (ORIGIN)<br />
คําตอบ 4 : เสนโคงพาราโบลิก
ขอที่ : 78<br />
ขอที่ : 79<br />
ขอที่ : 80<br />
ขอที่ : 81<br />
เมื่อนําคากําลังที่เครื่องยนตดีเซลสรางขึ้นมาไดมาพลอต (แกนy) กับ RPM (แกน x) ลักษณะของเสนที่ไดในทางทฤษฎีจะมีลักษณะอยางไร<br />
คําตอบ 1 : เสนดิ่ง<br />
คําตอบ 2 : เสนระนาบ<br />
คําตอบ 3 : เสนเฉียงขึ้น<br />
คําตอบ 4 : เสนคลายพาราโบลิก<br />
คา MEP ในสูตรการคํานวณหาคากําลังของเครื่องยนตดีเซลจะเปลี่ยนแปลงตามขอใดในทางทฤษฎี<br />
คําตอบ 1 :<br />
เปอรเซนตการ THROTTLE<br />
คําตอบ 2 : ความเร็วรอบเครื่อง<br />
คําตอบ 3 : อุณหภูมิของอากาศเขาสูเครื่อง<br />
คําตอบ 4 : อุณหภูมิของเครื่องกอนทํางาน<br />
เครื่องยนตดีเซลมีคา COMPRESSION RATIO =20 อากาศเขาสูลูกสูบที่อุณหภูมิ 300 K จงหาคาอุณหภูมิของอากาศที่ทางออกหลังจากถูกขับออกจากกระบอกสูบ ถาเรา<br />
สามารถใชสมมติฐานของแกสในอุดมคติได<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
417 K<br />
576 K<br />
838 K<br />
994 K<br />
ที่คา COMPRESSION RATIO เทากัน เครื่องยนตเบนซินกับเครื่องยนตดีเซล เครื่องใดจะมีประสิทธิภาพสูงกวากัน<br />
คําตอบ 1 : เครื่องยนตเบนซิน<br />
คําตอบ 2 : เครื่องยนตดีเซล<br />
คําตอบ 3 : มีคาเทากัน<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 4 : ขึ้นอยูกับอุณหภูมิของอากาศที่เขาลูกสูบ<br />
18 of 125<br />
ขอที่ : 82<br />
สําหรับเครื่องยนตดีเซลแบบ 4 จังหวะ CRANKSHAFT จําเปนตองหมุนครบกี่รอบ เครื่องจึงทํางานครบหนึ่งวงรอบของการสรางกําลัง ( ONE POWER STROKE )<br />
คําตอบ 1 : 1<br />
คําตอบ 2 : 2
คําตอบ 3 : 3<br />
คําตอบ 4 : 4<br />
19 of 125<br />
ขอที่ : 83<br />
ขอที่ : 84<br />
ขอที่ : 85<br />
เครื่องยนตดีเซลมีการทํางานจริงคลายกับวัฏจักรใดมากที่สุด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
OTTO CYCLE<br />
DIESEL CYCLE<br />
DUAL CYCLE<br />
STERLING CYCLE<br />
เครื่องยนตดีเซลแบบ 4 จังหวะเครื่องหนึ่งมี 8 ลูกสูบ ความเร็วรอบ = 160 RPM จงหาคาจํานวน POWER STROKE ตอนาที<br />
คําตอบ 1 : 160<br />
คําตอบ 2 : 320<br />
คําตอบ 3 : 480<br />
คําตอบ 4 : 640<br />
จงหาคาความเร็วรอบของเครื่องยนตดีเซลที่มี 10 ลูกสูบ มีการทํางานแบบ 2 จังหวะ และมีจํานวน POWER STROKE ตอนาทีเทากับ 1680<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
168 RPM<br />
240 RPM<br />
336 RPM<br />
420 RPM<br />
ขอที่ : 86<br />
เครื่องยนตดีเซลแบบ2 จังหวะ มีจํานวนลูกสูบ 12 สูบ จะมีจํานวน POWER STROKE เทากับเทาใดใน 1 รอบการหมุนของ CRANKSHAFT<br />
คําตอบ 1 : 6<br />
คําตอบ 2 : 12<br />
คําตอบ 3 : 18<br />
คําตอบ 4 : 24<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอที่ : 87
การจัดวางลูกสูบของเครื่องยนตดีเซลแบบใดทําใหเกิดการสั่นสะเทือนต่ําที่สุด<br />
คําตอบ 1 : IN - LINE<br />
คําตอบ 2 : V - TYPE<br />
คําตอบ 3 : OPPOSED PISTON<br />
คําตอบ 4 : DELTA CONFIGURATION<br />
20 of 125<br />
ขอที่ : 88<br />
เครื่องดีเซลมีขนาด BORE = 50 cm และ STROKE = 150cm จงหาปริมาตรในกระบอกสูบ<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ขอที่ : 89<br />
ขอที่ : 90<br />
เครื่องยนตดีเซลมีกําลัง 550 HP (410 kW) ที่ความเร็วรอบ 1,200 RPM จงหาคาแรงบิดที่เครื่องนี้สามารถทําได<br />
คําตอบ 1 : 1200 ft-lb (1,627 N-m)<br />
คําตอบ 2 : 2407 ft-lb (3,264 N-m)<br />
คําตอบ 3 : 3111 ft-lb (4,218 N-m)<br />
คําตอบ 4 : 3648 ft-lb (4,947 N-m)<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ถาความเร็วรอบของเครื่องยนตดีเซล = 800 RPM และขนาด STROKE = 260 cm จงหาความเร็วของลูกสูบ (Piston Speed)<br />
คําตอบ 1 : 29.3 m/s<br />
คําตอบ 2 : 46.7 m/s<br />
คําตอบ 3 : 69.3 m/s<br />
คําตอบ 4 : 88.2 m/s
ขอที่ : 91<br />
ขอที่ : 92<br />
ขอที่ : 93<br />
เครื่องยนตดีเซลแบบ 4 จังหวะ มี 8 ลูกสูบจัดเรียงในลักษณะตัววี คา IMEP= 180 psi (1,241 kPa) และคา BMEP = 162 psi (1,117 kPa) จงหาคาประสิทธิภาพทางกลของ<br />
เครื่องนี้<br />
คําตอบ 1 : 0.1<br />
คําตอบ 2 : 0.2<br />
คําตอบ 3 : 0.5<br />
คําตอบ 4 : 0.9<br />
เครื่องยนตดีเซลที่มีคาแรงบิดเทากับ 1800 ft-lb (2,441 kPa) จะตองมีความเร็วรอบเทาใดจึงจะผลิตกําลังได 600 HP (447 kW)<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
918 RPM<br />
1,094 RPM<br />
1,750 RPM<br />
1,892 RPM<br />
กรณีที่เครื่องดีเซล 2 เครื่อง มีความเหมือนกันและจํานวนลูกสูบเทากัน คาสัดสวนของ BORE และ STROKE ก็เทากัน คา WEIGHT-DISPLACEMENT RATIO จะมีคาเทาใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
21 of 125<br />
ขอที่ : 94
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
อัตราสวนของ BORE<br />
อัตราสวนของ Stroke<br />
% Throttle<br />
% Piston Speed<br />
22 of 125<br />
ขอที่ : 95<br />
คา % THROTTLE แปรผันอยางไรกับคาแรงบิด, Q ของเครื่องยนตดีเซล<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ขอที่ : 96<br />
เครื่องยนตดีเซลที่มี RATING แบบ INTERMITTENT- DUTY หมายความวาสามารถนําไปใชงานที่ 90 % ของความเร็วรอบสูงสุดไดเปนเวลาเทาใด<br />
คําตอบ 1 : 1 ชม. ของทุก 12 ชม. ใชงาน<br />
คําตอบ 2 : 2 ชม. ของทุก 12 ชม. ใชงาน<br />
คําตอบ 3 : 1 ชม. ของทุก 6 ชม. ใชงาน<br />
คําตอบ 4 : 2 ชม. ของทุก 6 ชม. ใชงาน<br />
ขอที่ : 97<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
เรือชนิดใดที่นาจะมีการใช RATING ของเครื่องยนตดีเซลที่ MAXIMUM POWER มากที่สุด<br />
คําตอบ 1 : PASSENGER LINER<br />
คําตอบ 2 : AIRCRAFT CARRIER<br />
คําตอบ 3 : TUG<br />
คําตอบ 4 : YACHT
ขอที่ : 98<br />
ขอที่ : 99<br />
ขอที่ : 100<br />
ขอที่ : 101<br />
ตามหลักการแลว ในการเลือกใบจักรที่ดี จะตองเลือกใหมันสามารถใชกําลังของเครื่องไดอยางมีประสิทธิภาพที่สุด ที่ความเร็วรอบเครื่องยนตประมาณเทาใด<br />
คําตอบ 1 : 50 %<br />
คําตอบ 2 : 60 %<br />
คําตอบ 3 : 85 %<br />
คําตอบ 4 : 100 %<br />
การ RATING แบบใดที่จะทําใหเครื่องยนตดีเซลสามารถทํางานไดตลอดเวลาที่คา RPM สูงสุด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
MCR<br />
INTERMITTENT<br />
MAXIMUM<br />
MEDIUM<br />
เพื่อเปนการปองกันอาการ STALL ของเครื่องยนตดีเซลจึงจําเปนตองมีการตั้งคาต่ําสุดของตัวแปรตัวใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
FUEL RATE<br />
BMEP<br />
RPM<br />
EXHAUST TEMPERATURE<br />
การใชเครื่องยนตดีเซลที่คา BMEP ต่ําเกินไปสิ่งที่จะเกิดขึ้นคือขอใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
เกิดควันดํา<br />
เทอรโบชารจเจอรไมสามารถทํางานได<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
เกิดปญหาในการจุดระเบิด<br />
การจับตัวของคารบอนทําใหลูกสูบสึกหรอเร็ว<br />
23 of 125<br />
ขอที่ : 102<br />
หากคา MAXIMUM POWER ของเครื่องยนตดีเซลเครื่องหนึ่งเทากับ 200 HP (149 kW) แลว คา INTERMITTENT POWER ของเครื่องนี้นาจะมีคาใด<br />
คําตอบ 1 : 90 HP (67kW)
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
165 HP (123 kW)<br />
210 HP (156 kW)<br />
275 HP (205 kW)<br />
24 of 125<br />
ขอที่ : 103<br />
การทํางานของเครื่องยนตดีเซลที่ติดตั้งบนเรือขึ้นอยูกับปจจัยในขอใดมากที่สุด<br />
คําตอบ 1 : การทํางานของใบจักร<br />
คําตอบ 2 : ชนิดของเพลาที่ใช<br />
คําตอบ 3 : การทํางานของเกียร<br />
คําตอบ 4 : ชนิดของ LINE SHAFT BEARING<br />
ขอที่ : 104<br />
ขอใดเปนเหตุที่ทําใหการ RATING กําลังของเครื่องยนตดีเซลตกเปนความรับผิดชอบของวิศวกรเครื่องกลเรือ<br />
คําตอบ 1 : เครื่องยนตที่มีจําหนายไมไดมาตรฐาน<br />
คําตอบ 2 : การทํางานของเครื่องขึ้นอยูกับความยาวของเพลา<br />
คําตอบ 3 : กําลังของเครื่องยนตขึ้นอยูกับตําแหนงติดตั้งเครื่องบนเรือ<br />
คําตอบ 4 : การสึกหรอของเครื่องและชวงเวลาในการซอมบํารุง<br />
ขอที่ : 105<br />
เครื่องยนตดีเซลแบบใดที่มีลักษณะเปน CROSSHEAD ENGINE<br />
คําตอบ 1 : LOW SPEED<br />
คําตอบ 2 : MEDIUM SPEED<br />
คําตอบ 3 : HIGH SPEED<br />
คําตอบ 4 : TURBOCHARGED ENGINE<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอที่ : 106<br />
TURBOCHARGER แบบใดจําเปนตองมี COMMON MANIFOLD สําหรับเก็บแกสเสียที่ออกมาจากลูกสูบของเครื่องยนตดีเซล<br />
คําตอบ 1 : CONSTANT-PRESSURE TYPE<br />
คําตอบ 2 : PULSE TYPE<br />
คําตอบ 3 : SINGLE-STAGE TURBOCHARGER<br />
คําตอบ 4 : ถูกทั้งขอ 1 และ 2
ขอที่ : 107<br />
การนําเอาน้ําจืดที่ออกจากเครื่องจักรใหญไปผานในหมอดับความรอน (Heat Exchanger) ถือวาเปนขั้นตอนใด เมื่อเปรียบเทียบกับ Air St<strong>and</strong>ard Cycle<br />
คําตอบ 1 : เพิ่มความดัน<br />
คําตอบ 2 : ลดความชื้น<br />
คําตอบ 3 : ถายเทความรอนใหกับสิ่งแวดลอม<br />
คําตอบ 4 : เพิ่มความหนาแนนของน้ํา<br />
ขอที่ : 108<br />
อุณหภูมิของอากาศที่ถูกดูดเขาเครื่องยนตดีเซลตามมาตรฐาน ISO St<strong>and</strong>ard มีคาเทากับเทาใด<br />
คําตอบ 1 : 25 C<br />
คําตอบ 2 : 27 C<br />
คําตอบ 3 : 30 C<br />
คําตอบ 4 : 37 C<br />
ขอที่ : 109<br />
น้ํามันที่ใชกับเครื่องยนตดีเซลชนิดความเร็วรอบสูงมีชื่อเรียกวาอะไร<br />
คําตอบ 1 : Residual<br />
คําตอบ 2 : Marine Gas Oil<br />
คําตอบ 3 : Marine Diesel Oil<br />
คําตอบ 4 : Intermidiate<br />
ขอที่ : 110<br />
การแบงประเภทของน้ํามันออกเปน Heavy Fuel และ Light Fuel จัดวาเปนการแบงตามปจจัยขอใด<br />
คําตอบ 1 : ความหนาแนน<br />
คําตอบ 2 : ความบริสุทธิ์<br />
คําตอบ 3 : จุดเดือด<br />
คําตอบ 4 : ความหนืด<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
25 of 125<br />
ขอที่ : 111<br />
น้ํามันที่ใชกับเรือที่มีเครื่องจักรไอน้ําเปนเครื่องจักรใหญคือขอใด<br />
คําตอบ 1 : Distillate<br />
คําตอบ 2 : Intermediate
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Bunker C<br />
Navy Diesel<br />
26 of 125<br />
ขอที่ : 112<br />
ขอที่ : 113<br />
ขอที่ : 114<br />
ขอที่ : 115<br />
อัตราการกินน้ํามันหลอลื่นของเครื่องยนตดีเซลมีคาประมาณเทาใดของอัตราการกินน้ํามันเชื้อเพลิง<br />
คําตอบ 1 : 50 %<br />
คําตอบ 2 : 25 %<br />
คําตอบ 3 : 10 %<br />
คําตอบ 4 : 1 %<br />
คา HHV เปนตัวที่ใชวัดคาใด<br />
คําตอบ 1 : อุณหภูมิของน้ํามันเชื้อเพลิง<br />
คําตอบ 2 : พลังงานที่ไดออกมาจากน้ํามัน<br />
คําตอบ 3 : ความหนืดของน้ํามัน<br />
คําตอบ 4 : คามาตรฐานความรอนของตัวเครื่อง<br />
เหตุใดเครื่องยนตที่มี TURBOCHARGER จึงมีเสียงเงียบกวาเครื่องที่ไมมี TURBOCHARGER<br />
คําตอบ 1 : เครื่องทํางานที่รอบเร็วกวา<br />
คําตอบ 2 : ความเร็วของอากาศมีมากกวา<br />
คําตอบ 3 : เสียงสวนใหญถูกกําจัดไปแลวใน EXHAUST MANIFOLD<br />
คําตอบ 4 : มี TURBINE เปนตัวชวย<br />
เสียงที่เกิดจากทอแกสเสียมีตนเหตุมาจากขอใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
อุณหภูมิของแกสเสีย<br />
อุณหภูมิบรรยากาศโดยรอบ<br />
คําตอบ 3 : ความไมสม่ําเสมอของความดันแกสเสีย<br />
คําตอบ 4 : ความขรุขระของผิวทอแกสเสีย<br />
ขอที่ : 116
WET MUFFLER ที่ใชกับเรือขนาดเล็กโดยทั่วไปใชสิ่งใดมาดับความรอนของแกสเสีย<br />
คําตอบ 1 : น้ําทะเล<br />
คําตอบ 2 : น้ําจืด<br />
คําตอบ 3 : ปลอยแกสออกนอกเรือใตแนวน้ํา<br />
คําตอบ 4 : น้ําจืดที่ใชชําระลางในเรือ<br />
27 of 125<br />
ขอที่ : 117<br />
ความหนืดของน้ํามันเชื้อเพลิงที่ใชกับเครื่องดีเซลมีผลกระทบกับอุปกรณใดมากที่สุด<br />
คําตอบ 1 : BOOSTER PUMP<br />
คําตอบ 2 : FUEL FILTER<br />
คําตอบ 3 : OIL PURIFIER<br />
คําตอบ 4 : INJECTION PUMP<br />
ขอที่ : 118<br />
ขอที่ : 119<br />
น้ํามันในขอใดใหความรอนไดต่ําที่สุด<br />
คําตอบ 1 : RESIDUAL<br />
คําตอบ 2 : INTERMIDIATE<br />
คําตอบ 3 : DISTILLATE<br />
คําตอบ 4 : JP 5<br />
ขอใดไมใชผลผลิตของการจุดระเบิดในลูกสูบของเครื่องยนตดีเซล<br />
คําตอบ 1 : ผงคารบอน ( CARBON RESIDUE )<br />
คําตอบ 2 : SULFUR<br />
คําตอบ 3 : VANADIUM<br />
คําตอบ 4 : SODIUM<br />
ขอที่ : 120<br />
อุปกรณที่ควบคุมความเร็วรอบเครื่องของเครื่องดีเซล เรียกวาอะไร<br />
คําตอบ 1 : FUEL INJECTION PUMP<br />
คําตอบ 2 : GOVERNOR<br />
คําตอบ 3 : PLUNGER<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 4 :<br />
CAMSHAFT<br />
ขอที่ : 121<br />
ขอที่ : 122<br />
ขอที่ : 123<br />
ขอที่ : 124<br />
สําหรับเครื่องยนตดีเซลที่สามารถกลับทิศทางการหมุนไดโดยตรง ปกติจะตองสามารถเก็บลมไวสําหรับสตารทเครื่องไดอยางนอยกี่ครั้ง โดยไมตองมีการอัดลมเพิ่มในถังเก็บเลย<br />
คําตอบ 1 : 5<br />
คําตอบ 2 : 7<br />
คําตอบ 3 : 9<br />
คําตอบ 4 : 12<br />
อุปกรณใดที่ใชในการควบคุมการฉีดน้ํามันเขากระบอกสูบของเครื่องดีเซล<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
FUEL RACK<br />
STARTING AIR VALVE<br />
INJECTION PUMP<br />
DISTRIBUTOR<br />
สําหรับเครื่องยนตดีเซลที่มีรอบคงที่อยางเชน เครื่องขับเครื่องกําเนิดไฟฟา ฯลฯ ตําแหนงของ FUEL RACK ถูกควบคุมโดยอุปกรณใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
CAM SHAFT<br />
GOVERNOR<br />
FUEL INJECTION PUMP<br />
BOOSTER PUMP<br />
ความดันอากาศที่เก็บไวในถังบนเรือเพื่อใชสตารท เครื่องยนตดีเซลมีคาประมาณเทาใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
5 BAR<br />
10 BAR<br />
15 BAR<br />
30 BAR<br />
28 of 125<br />
ขอที่ : 125<br />
อุปกรณของเครื่องดีเซลในขอใดไมจําเปนตองมีการหลอลื่นดวยน้ํามันหลอ
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
CYLINDER<br />
BEARING<br />
INJECTION PUMP<br />
TURBOCHARGER BEARING<br />
29 of 125<br />
ขอที่ : 126<br />
ขอที่ : 127<br />
ขอที่ : 128<br />
ขอที่ : 129<br />
หนาที่ของ EXPANSION TANK ในระบบดับความรอนดวยน้ําจืดของเครื่องดีเซลมีหลายอยางยกเวนขอใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
รักษาอุณหภูมิในระบบ<br />
รักษาคา HEAD ในดานทางดูดของระบบ<br />
ระบายอากาศออกจากระบบ<br />
คําตอบ 4 : เปนจุดเติมน้ําเขาสูระบบ<br />
ขอใดเปนจุดเดนของ KEEL COOLER เทียบกับ HEAT EXCHANGER ประเภทอื่น ๆ<br />
คําตอบ 1 : มีขนาดใหญที่สุด<br />
คําตอบ 2 : ติดตั้งอยูใตทองเรือ<br />
คําตอบ 3 : ดับความรอนดวยน้ํามัน<br />
คําตอบ 4 : ลักษณะคลายกระดูกงูของเรือ<br />
ขอใดไมใชน้ําทะเลในการทํางาน<br />
คําตอบ 1 : ระบบน้ําชักโครกในหองสวม<br />
คําตอบ 2 : ระบบน้ําถวงเรือ (BALLAST)<br />
คําตอบ 3 : ระบบดับความรอนกระบอกสูบเครื่องดีเซล<br />
คําตอบ 4 : ระบบ FIREMAIN<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําวา SPEED DROOP มีความสําคัญอยางมากกับอุปกรณในขอใดบนเรือ<br />
คําตอบ 1 : เครื่องกําเนิดไฟฟา<br />
คําตอบ 2 : ระบบน้ํามันเชื้อเพลิง<br />
คําตอบ 3 : ระบบน้ําดับความรอน<br />
คําตอบ 4 : เกียร
ขอที่ : 130<br />
เครื่องกรองน้ํามันเชื้อเพลิงบนเรือ (Fuel Oil Purifier) สวนใหญจะมี 2 ตัว แตละตัวจะมีความสามารถในการกรองน้ํามันไดเทาใด<br />
คําตอบ 1 : 0.25 เทาของอัตราการกินน้ํามันของเครื่องยนต<br />
คําตอบ 2 : 0.5 เทาของอัตราการกินน้ํามันของเครื่องยนต<br />
คําตอบ 3 : 1 เทาของอัตราการกินน้ํามันของเครื่องยนต<br />
คําตอบ 4 : 2เทาของอัตราการกินน้ํามันของเครื่องยนต<br />
ขอที่ : 131<br />
วัฏจักรของ Gas Turbine คือขอใด<br />
คําตอบ 1 : วัฏจักร OTTO<br />
คําตอบ 2 : วัฏจักร RANKINE<br />
คําตอบ 3 : วัฏจักร BRAYTON<br />
คําตอบ 4 : วัฏจักร CARNOT<br />
ขอที่ : 132<br />
อุปกรณสวนใดที่ถือวาเปนหองเผาไหมของเครื่องยนต GAS TURBINE<br />
คําตอบ 1 : Inlet Duct<br />
คําตอบ 2 : Combustor<br />
คําตอบ 3 : Compressor<br />
คําตอบ 4 : Exhaust Duct<br />
ขอที่ : 133<br />
เครื่องยนต GAS TURBINE ที่ใชงานในเรือ มีขอแตกตางอยางไรที่เดนชัดเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องที่ใชสําหรับเครื่องบิน<br />
คําตอบ 1 : หองเผาไหม<br />
คําตอบ 2 : ปกกังหัน<br />
คําตอบ 3 : หัวฉีด<br />
คําตอบ 4 : ชุดเฟองทด<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
30 of 125<br />
ขอที่ : 134<br />
Intercooling ในเครื่องยนต GAS TURBINE ทําหนาที่อะไร<br />
คําตอบ 1 : เพิ่มกําลังอัด
คําตอบ 2 : เพิ่มปริมาณอากาศดีเขาเครื่อง<br />
คําตอบ 3 : เพิ่มกําลังอัดในหองเผาไหม<br />
คําตอบ 4 : เพิ่มความเร็วในการจุดระเบิด<br />
31 of 125<br />
ขอที่ : 135<br />
การ REHEAT ในเครื่องยนต GAS TURBINE กระทําโดยใชแหลงกําเนิดพลังงานจากอุปกรณตัวใด<br />
คําตอบ 1 : Exhaust Duct<br />
คําตอบ 2 : Inlet Duct<br />
คําตอบ 3 : Nozzle<br />
คําตอบ 4 : Combustion Chamber<br />
ขอที่ : 136<br />
ขอใดคือชื่อของอุปกรณยอยที่ใชในการเพิ่มประสิทธิภาพเครื่องยนต GAS TURBINE<br />
คําตอบ 1 : Regenerator<br />
คําตอบ 2 : Turbocharger<br />
คําตอบ 3 : Header<br />
คําตอบ 4 : Blower<br />
ขอที่ : 137<br />
ขอที่ : 138<br />
หัวเทียนเครื่องยนต GAS TURBINE ทําหนาที่ใด<br />
คําตอบ 1 : จุดระเบิดเฉพาะในชวงสตารทเครื่องยนต<br />
คําตอบ 2 : จุดระเบิดในทุกชวงการทํางานของเครื่องยนต<br />
คําตอบ 3 : จุดระเบิดเมื่อแรงอัดต่ําลงกวาปกติ<br />
คําตอบ 4 : จุดระเบิดเมื่อความรอนต่ํากวาปกติ<br />
สวนใดของเครื่อง GAS TURBINE ที่ไดรับพลังงานที่เกิดจากหองเผาไหมของเครื่องยนตโดยตรง<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
Low Pressure Turbine<br />
High Pressure Turbine<br />
Turbine Rear Frame<br />
Turbine Mid Frame
ขอที่ : 139<br />
เครื่องยนต GAS TURBINE เนนการหลอลื่นที่ใด<br />
คําตอบ 1 : ปกกังหัน<br />
คําตอบ 2 : Combustor<br />
คําตอบ 3 : Bearing<br />
คําตอบ 4 : ฐานแทนเครื่อง<br />
ขอที่ : 140<br />
เครื่องยนต GAS TURBINE มีจุดเดนในขอใดเมื่อเทียบกับเครื่องยนตดีเซลที่แรงมาเทากัน<br />
คําตอบ 1 : สิ้นเปลืองน้ํามนเชื้อเพลิงนอยกวา<br />
คําตอบ 2 : สิ้นเปลืองน้ํามันหลอลื่นนอยกวา<br />
คําตอบ 3 : มีรอบต่ํากวา<br />
คําตอบ 4 : กําลังมาตอน้ําหนักสูงกวา<br />
ขอที่ : 141<br />
เครื่องยนต GAS TURBINE แบบ CODOG คือเครื่องยนตที่มีการจัดวางอยางไร<br />
คําตอบ 1 : การใชเครื่องยนต GAS TURBINE รวมกับเครื่องยนตดีเซล โดยสามารถแยกกันทํางานไดอยางอิสระ<br />
คําตอบ 2 : การใชเครื่องยนต GAS TURBINE รวมกับเครื่องยนตดีเซล โดยไมสามารถแยกกันทํางานไดอยางอิสระ<br />
คําตอบ 3 : การใชเครื่องยนต GAS TURBINE รวมกับเครื่องไอน้ํา โดยสามารถแยกกันทํางานไดอยางอิสระ<br />
คําตอบ 4 : การใชเครื่องยนต GAS TURBINE รวมกับเครื่องไอน้ํา โดยไมสามารถแยกกันทํางานไดอยางอิสระ<br />
ขอที่ : 142<br />
ปกกังหันของเครื่องยนต GAS TURBINE ใชหลักการใด<br />
คําตอบ 1 : Wing Theory<br />
คําตอบ 2 : Beam Theory<br />
คําตอบ 3 : Strip Theory<br />
คําตอบ 4 : Section Theory<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
32 of 125<br />
ขอที่ : 143<br />
เครื่องยนต GAS TURBINE ที่ใชในเรือ มีจุดเปราะบางในขอใดที่ตองระมัดระวังเปนพิเศษ<br />
คําตอบ 1 : ปญหาของระบบหลอลื่น<br />
คําตอบ 2 : ปญหาของระบบอากาศดีเขาเครื่อง
คําตอบ 3 :<br />
ปญหาของระบบทอแกสเสีย<br />
คําตอบ 4 : ปญหาของระบบน้ําจืด<br />
33 of 125<br />
ขอที่ : 144<br />
ขอที่ : 145<br />
ขอที่ : 146<br />
ขอที่ : 147<br />
ในวัฎจักรของเครื่องยนต GAS TURBINE ชวงใดที่ถือวามีกําลังดันคงที่<br />
คําตอบ 1 :<br />
ระหวางหองเผาไหมและคอมเพรสเซอร<br />
คําตอบ 2 : ระหวางหองเผาไหมไปสูปกกังหัน<br />
คําตอบ 3 : ระหวางปกกังหันไปยังทอแกสเสีย<br />
คําตอบ 4 : ระหวางหองอัดอากาศไปสูหองเผาไหม<br />
ในวัฎจักรของเครื่องยนต GAS TURBINE สามารถหาคาประสิทธิภาพไดโดยหลักการใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
อัตราสวนผลตางของอุณหภูมิเขาและออกระหวางคอมเพรสเซอรและชุดปกกังหัน<br />
คําตอบ 2 : อัตราสวนผลตางของอุณหภูมิเขาและระหวางออกคอมเพรสเซอรและเครื่องทําความเย็น<br />
คําตอบ 3 : อัตราสวนผลตางของอุณหภูมิทางเขาและทางออกระหวางทอแกสเสีย<br />
คําตอบ 4 : อัตราสวนผลตางของอุณหภูมิเขาและออกเทอรไบนกําลังดันสูงและต่ํา<br />
อาการ STALL ของเครื่องยนต GAS TURBINE เกิดจากขอใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
ปริมาณอากาศเขาหองเผาไหมมากเกินไป<br />
ปริมาณอากาศเขาหองเผาไหมนอยเกินไป<br />
คําตอบ 3 : ปริมาณแกสเสียที่เกิดจากการเผาไหมมากเกินไป<br />
คําตอบ 4 : ปริมาณแกสเสียที่เกิดจากการเผาไหมนอยเกินไป<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
การแกไขอาการ STALL ของเครื่องยนต GAS TURBINE ทําไดอยางไร<br />
คําตอบ 1 : ลดรอบเครื่องยนต<br />
คําตอบ 2 : เพิ่มรอบเครื่องยนต<br />
คําตอบ 3 : เพิ่มปริมาณเชื้อเพลิง<br />
คําตอบ 4 : ลดปริมาณสารหลอลื่น<br />
ขอที่ : 148
ขอใดเปนการตรวจสอบกอนการซอมทําเครื่องยนต GAS TURBINE<br />
คําตอบ 1 : Stroborscope<br />
คําตอบ 2 : Spectrometer<br />
คําตอบ 3 : Spectrum Analyser<br />
คําตอบ 4 : Bore Scope<br />
34 of 125<br />
ขอที่ : 149<br />
ขอที่ : 150<br />
ขอที่ : 151<br />
เครื่องยนต GAS TURBINE แบบ CODAG คือเครื่องยนตที่มีการจัดวางอยางไร<br />
คําตอบ 1 : การใชเครื่องยนต GAS TURBINE รวมกับเครื่องยนตดีเซล โดยสามารถแยกกันทํางานไดอยางอิสระ<br />
คําตอบ 2 : การใชเครื่องยนต GAS TURBINE รวมกับเครื่องยนตดีเซล โดยไมสามารถแยกกันทํางานไดอยางอิสระ<br />
คําตอบ 3 : การใชเครื่องยนต GAS TURBINE รวมกับเครื่องไอน้ํา โดยสามารถแยกกันทํางานไดอยางอิสระ<br />
คําตอบ 4 : การใชเครื่องยนต Gas Turbine รวมกับเครื่องไอน้ําโดยไมสามารถแยกกันทํางานไดอยางอิสระ<br />
ขอใดไมใชประเภท Combustion Chamber ของเครื่องยนต GAS TURBINE<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
แบบ ANNULAR<br />
แบบ CAN<br />
แบบ LAMINAR<br />
แบบ CANNULAR<br />
ขอใดไมใชประเภทของ COMPRESSOR ที่ใชกับเครื่องยนต GAS TURBINE<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
AXIAL FLOW<br />
CENTRIFUGAL FLOW<br />
MIXED FLOW<br />
HIGH FLOW<br />
ขอที่ : 152<br />
Combustion Chamber ของเครื่องยนต GAS TURBINE นิยมใชการหลอเย็นโดยใชตัวกลางประเภทใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
อากาศ<br />
คําตอบ 2 : น้ํามันหลอ<br />
คําตอบ 3 : น้ําจืด<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 4 : น้ําทะเล<br />
ขอที่ : 153<br />
ขอที่ : 154<br />
ขอที่ : 155<br />
การติดตั้งเครื่องยนต GAS TURBINE ในเรือ ในปจจุบันนิยมทําแบบใด<br />
คําตอบ 1 : ติดตั้งรวมกับเครื่องยนตอื่นในหองเครื่องจักร<br />
คําตอบ 2 : ติดตั้งแยกชุดอิสระ เปนกลองแยกไมเกี่ยวของกับเครื่องยนตอื่น<br />
คําตอบ 3 : ติดตั้งในหองเครื่องไฟฟา<br />
คําตอบ 4 : ติดตั้งบนดาดฟาเปด<br />
ขอควรระวังอยางสูงสุดเมื่อใชงานเครื่องยนต GAS TURBINE ในเรือคือขอใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
ระมัดระวังความเร็วรอบของเพลาไมใหสูงเกิน<br />
ระมัดระวังความเร็วรอบของกังหันไมใหสูงเกิน<br />
คําตอบ 3 : ระมัดระวังการเกิดอัคคีภัยอันเนื่องจากความรอนสูงของเครื่อง<br />
คําตอบ 4 : ระมัดระวังการเกิดเสียงดังที่รอบสูง<br />
ชิ้นสวนในขอใดของเครื่องยนต GAS TURBINE ที่มีขนาดใหญมากที่สุดเมื่อเทียบกับอุปกรณอื่น<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
AIR INTAKE<br />
AIR EXHAUST<br />
TURBINE STATOR<br />
TURBINE ROTOR<br />
ขอที่ : 156<br />
Static Pressure Loss หรือคาแรงดันของอากาศดีเมื่อเขาเครื่องยนต GAS TURBINE ควรมีคาเทาใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ประมาณ 0.4 -0.5 inches of water (100-125 Pa) below atmosphere<br />
ประมาณ 4 - 5 inches of water (1,000-1,250 Pa) below atmosphere<br />
ประมาณ 0.4 - 0.5 inches of water (100-125 Pa) above atmosphere<br />
ประมาณ 4 - 5 inches of water (1,000-1,250 Pa) above atmosphere<br />
35 of 125<br />
ขอที่ : 157<br />
เชื้อเพลิงที่ใชกับเครื่องยนต GAS TURBINE ที่ใชงานในเรือคือขอใด
คําตอบ 1 : น้ํามัน JP 5<br />
คําตอบ 2 : น้ํามันไฮดรอลิกส<br />
คําตอบ 3 : น้ํามันเตา<br />
คําตอบ 4 : น้ํามันเบนซิน<br />
36 of 125<br />
ขอที่ : 158<br />
การติดตั้งเครื่องยนต แบบ CODOG มีขอดีคือขอใด<br />
คําตอบ 1 : ใชGAS TURBINE เมื่อตองการความเร็วต่ํา ใช เครื่องยนตดีเซลเมื่อตองการความเร็วสูง<br />
คําตอบ 2 : ใชGAS TURBINE เมื่อตองการความเร็วสูง ใช เครื่องยนตดีเซลเมื่อตองการความเร็วต่ํา<br />
คําตอบ 3 : ใชGAS TURBINE เมื่อตองการเปลี่ยนความเร็วบอยๆ และใช เครื่องยนตดีเซลเมื่อความเร็วคงที่<br />
คําตอบ 4 : ใชเครื่องยนตดีเซล เมื่อตองการเปลี่ยนความเร็วบอยๆ และใช เครื่องยนต GAS TURBINE เมื่อความเร็วคงที่<br />
ขอที่ : 159<br />
เครื่องยนต GAS TURBINE ที่ใชงานในเรือนิยมใชเครื่องยนตขนาดเทาใด<br />
คําตอบ 1 : ต่ํากวา 200 HP (149 kW)<br />
คําตอบ 2 : ไมเกิน 500 HP (373 kW)<br />
คําตอบ 3 : ไมเกิน 1,000 HP (746 kW)<br />
คําตอบ 4 : มากกวา 20,000 HP (14,914 kW)<br />
ขอที่ : 160<br />
สารในขอใดที่สงผลกระทบอยางรุนแรงตอประสิทธิภาพของเครื่องยนต GAS TURBINE ที่ใชงานในทะเล<br />
คําตอบ 1 : น้ําเค็ม<br />
คําตอบ 2 : CO2<br />
คําตอบ 3 : กาซไฮโดรเจน<br />
คําตอบ 4 : กาซมีเทน<br />
ขอที่ : 161<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
อุปกรณใดมีความจําเปนอยางยิ่งสําหรับเครื่องยนต GAS TURBINE ที่ใชงานในเรือ<br />
คําตอบ 1 : เครื่องแยกน้ํามันเชื้อเพลิง<br />
คําตอบ 2 : เครื่องกลั่นน้ํา<br />
คําตอบ 3 : เครื่องกรองแกสเสีย<br />
คําตอบ 4 : เครื่องบําบัดน้ําเสีย
ขอที่ : 162<br />
การซอมทําเครื่องยนต GAS TURBINE นิยมใชหลักการใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
การซอมบํารุงแบบแกไข (Corrective Maintenance)<br />
การซอมบํารุงแบบปองกัน (Preventive Maintenance)<br />
การซอมบํารุงตามระยะเวลา (Periodic Maintenance)<br />
การซอมบํารุงแบบจํากัด<br />
ขอที่ : 163<br />
Static Pressure Loss หรือคาแรงดันของแกสเสียเมื่อออกจากเครื่องยนต GAS TURBINE ควรมีคาเทาใด<br />
ขอที่ : 164<br />
ขอที่ : 165<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ประมาณ 0.4 – 0.6 inches of water (100-125 Pa) above atmosphere<br />
ประมาณ 4 – 6 inches of water (1,000-1,250 Pa) above atmosphere<br />
ประมาณ 0.4 – 0.6 inches of water (100-125 Pa) below atmosphere<br />
ประมาณ 4 – 6 inches of water (1,000-1,250 Pa) below atmosphere<br />
ทิศทางการหมุนของเครื่องยนต GAS TURBINE ที่ใชงานในเรือ ใชหลักการอยางไร<br />
คําตอบ 1 : ใหหันหนาไปทางทายเครื่อง และกําหนดการหมุน<br />
คําตอบ 2 : ใหหันหนาไปทางหัวเครื่องและกําหนดการหมุน<br />
คําตอบ 3 : ใหใชกราบขวาเปนหลัก และกําหนดการหมุนไดเอง<br />
คําตอบ 4 : ใหใชกราบซายเปนหลัก และกําหนดการหมุนไดเอง<br />
การสตารทเครื่องยนต GAS TURBINE ขนาดใหญ นิยมใชระบบใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ระบบไฮโดรลิกส<br />
ระบบความรอน<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ใชระบบอากาศอัด<br />
ใชการเผาหัว<br />
37 of 125<br />
ขอที่ : 166<br />
ตราอักษรในขอใดไมใชเครื่องยนต GAS TURBINE<br />
คําตอบ 1 : General Electric
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
MTU<br />
ROLLS ROYCE<br />
PRATT & WHITHNEY<br />
38 of 125<br />
ขอที่ : 167<br />
ขอที่ : 168<br />
ขอที่ : 169<br />
ขอที่ : 170<br />
อาการ STALL ของเครื่องยนต GAS TURBINE ตามหลักการของ AERODYNAMICS คือขอใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
ความผิดปกติของ Angle of Attack ของปกกังหัน<br />
ความผิดปกติของ Angle of Attack ของทอแกสเสีย<br />
คําตอบ 3 : ความผิดปกติของ Angle of Attack ของระบบน้ํามันเชื้อเพลิง<br />
คําตอบ 4 : ความผิดปกติของ Angle of Attack ของเพลาขับ<br />
ขอใดคือรูปทรงมาตรฐาน (Section Blade) ของปกกังหันเครื่องยนต GAS TURBINE<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
NASA-11<br />
BERNOULI-10<br />
NEWTON-60<br />
NACA-65<br />
ขอใดไมใชประเภทของเครื่องยนต GAS TURBINE ที่ติดตั้งบนอากาศยาน<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
TURBOPROP<br />
TURBOFAN<br />
TURBOJET<br />
TURBOCHARGER<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ระบบขับเคลื่อนแบบ COGAG คือขอใด<br />
คําตอบ 1 : การใชเครื่องยนตGAS TURBINE รวมกับเครื่องยนต ดีเซล<br />
คําตอบ 2 : การใชเครื่องยนตGAS TURBINE รวมกับเครื่องยนต เบนซิน<br />
คําตอบ 3 : การใชเครื่องยนตGAS TURBINE รวมกับเครื่องยนต GAS TURBINE<br />
คําตอบ 4 : การใชเครื่องยนตGAS TURBINE รวมกับเครื่องกังหันไอน้ํา
ขอที่ : 171<br />
ขอที่ : 172<br />
ขอที่ : 173<br />
ขอที่ : 174<br />
ระบบขับเคลื่อนแบบ COSAG คือขอใด<br />
คําตอบ 1 : การใชเครื่องยนตGAS TURBINE รวมกับพลังงานแสงอาทิตย<br />
คําตอบ 2 : การใชเครื่องยนตGAS TURBINE รวมกับระบบพลังงานนิวเคลียร<br />
คําตอบ 3 : การใชเครื่องยนตGAS TURBINE ในเรือดําน้ํา<br />
คําตอบ 4 : การใชเครื่องยนต GAS TURBINE รวมกับเครื่องกังหันไอน้ํา<br />
จุดดอยที่กอใหเกิดขอเสียเปรียบเปนอยางยิ่ง ของเครื่องยนต GAS TURBINE เมื่อติดตั้งในเรือรบคือขอใด<br />
คําตอบ 1 : ปลอยแกสเสียที่อุณหภูมิสูงทําใหตรวจจับไดงาย<br />
คําตอบ 2 : เสียงดัง<br />
คําตอบ 3 : มีทอสูงเหนือดาดฟามาก<br />
คําตอบ 4 : ใบจักรสรางพริ้วน้ําและคลื่นมาก<br />
ระบบ Water Wash ของเครื่องยนต GAS TURBINE คือระบบใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
การลางทําความสะอาดสวนของทอแกสเสีย<br />
การลางทําความสะอาดสวนของทออากาศดี<br />
การลางทําความสะอาดสวนของหองเผาไหม<br />
การลางทําความสะอาดสวนของเกียร<br />
อัตราสวนระหวางอากาศดี กับน้ํามันเชื้อเพลิงที่ใชสําหรับเครื่องยนต GAS TURBINE ควรมีคาเทาใด<br />
คําตอบ 1 : อัตราสวน 5 : 1<br />
คําตอบ 2 : อัตราสวน 10 : 1<br />
คําตอบ 3 : อัตราสวน 15 : 1<br />
คําตอบ 4 : อัตราสวน 50 : 1<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
39 of 125<br />
ขอที่ : 175<br />
GAS TURBINE ขนาด 20,000 kW มีอัตราการกินน้ํามัน 250 g/kW- Hr จงหาอัตราความสิ้นเปลืองน้ํามันเชื้อเพลิง ถาคาความถวงจําเพาะของน้ํามันเชื้อเพลิงที่ใชมีคาเทากับ 0.8<br />
คําตอบ 1 : มีความสิ้นเปลือง 3,000 ลิตรตอชั่วโมง<br />
คําตอบ 2 : มีความสิ้นเปลือง 4,000 ลิตรตอชั่วโมง
คําตอบ 3 : มีความสิ้นเปลือง 5,000 ลิตรตอชั่วโมง<br />
คําตอบ 4 : มีความสิ้นเปลือง 6,000 ลิตรตอชั่วโมง<br />
40 of 125<br />
ขอที่ : 176<br />
ขอที่ : 177<br />
ขอที่ : 178<br />
ขอที่ : 179<br />
ขอใดไมใชการควบคุมรอบเครื่องยนต GAS TURBINE<br />
คําตอบ 1 : ปรับแตงการปอนน้ํามันเชื้อเพลิง<br />
คําตอบ 2 : ปรับแตงปกกังหันของ Compressor Stator<br />
คําตอบ 3 : ปรับแตงปกกังหันของ ชุด Inlet Guide Vane<br />
คําตอบ 4 : ใชใบจักรแบบปรับพิทชได<br />
ขอเสียของการใชเครื่องยนต GAS TURBINE รวมกับเครื่องยนตดีเซลคือขอใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
ไมสามารถใชทอแกสเสียรวมกันได<br />
คําตอบ 2 : เครื่องยนตทั้งสองประเภทไมสามารถทํางานในขณะเดียวกันได<br />
คําตอบ 3 : เครื่องยนตดีเซลไมสามารถใชรอบต่ําได<br />
คําตอบ 4 : เครื่องยนต GAS TURBINE ไมสามารถเดินตัวเปลาได<br />
อุปกรณใดมีหนาที่หลักในการลดรอบเครื่องยนต GAS TURBINE ใหสามารถใชงานกับเพลาเรือได<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Rubber Coupling<br />
Fluid Coupling<br />
Reduction Gear<br />
Magnetic Clutch<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ประสิทธิภาพของเครื่องยนต GAS TURBINE โดยทั่วไปมีคาประมาณเทาใด<br />
คําตอบ 1 : ไมเกิน 40 %<br />
คําตอบ 2 : ระหวาง 50 %- 60 %<br />
คําตอบ 3 : ระหวาง 60 % - 80 %<br />
คําตอบ 4 : เกิน 80 %<br />
ขอที่ : 180
ขอใดเปนอาการ STALL ในเครื่องยนตแกสเทอรไบน<br />
คําตอบ 1 : รอบสูงเกินเกณฑ<br />
คําตอบ 2 : น้ํามันหลอแหง<br />
คําตอบ 3 : น้ําจืดขาดระบบ<br />
คําตอบ 4 : เครื่องสั่นมากและมีเสียงดัง<br />
41 of 125<br />
ขอที่ : 181<br />
ขอที่ : 182<br />
ขอที่ : 183<br />
ขอที่ : 184<br />
เรือประเภทใดควรติดตั้งเครื่องยนต GAS TURBINE<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
เรือลากจูง<br />
เรือยนตเร็ว<br />
คําตอบ 3 : เรือบรรทุกน้ํามัน<br />
คําตอบ 4 : เรือสินคาเทกอง<br />
การซอมทําเครื่องยนต GAS TURBINE ในประเทศไทยทําไดโดยหนวยงานใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
ศูนยซอมอากาศยาน<br />
คําตอบ 2 : อูเรือที่ไดมาตรฐาน<br />
คําตอบ 3 : การไฟฟาฝายผลิต<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
สารประเภทใดกอใหเกิดอันตรายตอเครื่องยนต GAS TURBINE เมื่อผสมอยูในน้ํามันเชื้อเพลิง<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
เวนาเดียม<br />
ทองแดง<br />
คําตอบ 3 : ตะกั่ว<br />
คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />
การติดตั้งเครื่องยนต GAS TURBINE มีขอดีอยางไร<br />
คําตอบ 1 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
เปนชุดสําเร็จรูป<br />
คําตอบ 2 : มีความเกี่ยวของกับระบบอื่นนอย<br />
คําตอบ 3 : มีน้ําหนักเบา
คําตอบ 4 :<br />
ถูกทุกขอ<br />
ขอที่ : 185<br />
ขอที่ : 186<br />
ขอที่ : 187<br />
ขอที่ : 188<br />
การติดตั้งเครื่องยนต GAS TURBINE สําหรับเรือใบจักรเดี่ยว ควรมีแนวทางอยางไร<br />
คําตอบ 1 : ใชเครื่องยนต 1 เครื่อง ตอเขาเพลา<br />
คําตอบ 2 : ใชเครื่องยนต 2 เครื่อง ตอรวมเขาขับเพลาเดียวกัน<br />
คําตอบ 3 : ไมมีการใชงานในลักษณะดังกลาว<br />
คําตอบ 4 : ถูกทั้งขอ 1 และ 2<br />
การทํางานของเครื่องยนต GAS TURBINE ในชวงใดถือวาความดันคงที่<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Inlet Duct<br />
Compressor<br />
Combustion Chamber<br />
Turbine<br />
เครื่องยนต GAS TURBINE มีการทํางานคลายกับเครื่องยนตชนิดเผาไหมภายในแบบใด<br />
คําตอบ 1 : เครื่องแบบ ROTARY<br />
คําตอบ 2 : เครื่องแบบ Twin Cam<br />
คําตอบ 3 : เครื่องแบบ Super Charge<br />
คําตอบ 4 : เครื่องแบบ Common Rail<br />
การสตารทเครื่องยนต GAS TURBINE คลายกับการทํางานของเครื่องยนตในขอใด<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 1 : เครื่องยนตดีเซล<br />
คําตอบ 2 : เครื่องยนตเบนซิน<br />
คําตอบ 3 : เครื่องยนตไอน้ํา<br />
คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />
42 of 125<br />
ขอที่ : 189<br />
เครื่องยนต GAS TURBINE ที่ติดตั้งในเรือรบ ตองออกแบบทอแกสเสียอยางไร เพื่อใหเกิดความปลอดภัย
คําตอบ 1 : ออกแบบใหมีขนาดเล็ก<br />
คําตอบ 2 : ออกแบบใหเกิดอากาศพลศาสตรที่ดี<br />
คําตอบ 3 : ออกแบบปองกันการแผรังสี INFRARED<br />
คําตอบ 4 : ออกแบบปองกันการผุกรอน<br />
43 of 125<br />
ขอที่ : 190<br />
ขอที่ : 191<br />
ขอที่ : 192<br />
ขอที่ : 193<br />
ขอใดที่จัดเปนสาเหตุที่ทําใหเครื่องยนต GAS TURBINE มีอัตราการกินน้ํามันสูงกวาเครื่องยนตประเภทอื่น<br />
คําตอบ 1 : น้ํามันเชื้อเพลิงเมื่อเขาหัวฉีดไมมีทอกลับถัง<br />
คําตอบ 2 : เครื่องรอบสูงกวา<br />
คําตอบ 3 : อัตราสวนของ แรงอัดต่ํากวา<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
เมื่อเริ่มสตารทเครื่องยนต GAS TURBINE อุปกรณที่เริ่มทํางานคือขอใด<br />
คําตอบ 1 : สูบน้ํามันเชื้อเพลิง<br />
คําตอบ 2 : สูบน้ํามันหลอ<br />
คําตอบ 3 : สูบน้ําจืด<br />
คําตอบ 4 : ขอ 1 และ 2<br />
ระบบในขอใดที่จําเปนตองติดตั้งเสมอในจุดที่ติดตั้งเครื่องยนต GAS TURBINE<br />
คําตอบ 1 : ระบบบําบัดน้ําเสีย<br />
คําตอบ 2 : ระบบดับเพลิงอัตโนมัติ<br />
คําตอบ 3 : ระบบปรับอากาศ<br />
คําตอบ 4 : ระบบกลั่นน้ําทะเล<br />
ระบบ Water Wash ของเครื่องยนต GAS TURBINE จะอยูที่สวนประกอบใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
Compressor<br />
Combustion Chamber<br />
Inlet Duct<br />
Exhaust Pipe
ขอที่ : 194<br />
ขอที่ : 195<br />
ขอที่ : 196<br />
ขอที่ : 197<br />
วงรอบการซอมทําเครื่องยนต GAS TURBINE ในเรือ ใชอะไรเปนเกณฑ<br />
คําตอบ 1 : ชั่วโมงการใชงาน<br />
คําตอบ 2 : สภาพน้ํามันหลอ<br />
คําตอบ 3 : ตรวจสอบปกกังหัน<br />
คําตอบ 4 : ทุกขอที่กลาวมาแลวประกอบกัน<br />
ประสิทธิภาพของเครื่องยนต Gas Turbine คือขอใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
อัตราสวนของพลังงานระหวางชุดเทอรไบนตอชุดคอมเพรสเซอร<br />
อัตราสวนของพลังงานระหวางชุดเทอรไบนตอชุดทอทางดูด<br />
อัตราสวนของพลังงานระหวางทอทางดูดตอชุดคอมเพรสเซอร<br />
คาพลังงานความรอนของชุดเทอรไบน<br />
ขอใดเปนอุณหภูมิแกสเสียของเครื่องยนต GAS TURBINE<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ประมาณ 100 องศาเซลเซียส<br />
ประมาณ 200 องศาเซลเซียส<br />
ประมาณ 400 องศาเซลเซียส<br />
ประมาณ 600 องศาเซลเซียส<br />
ใน COMBUSTION CHAMBER ของเครื่องยนต GAS TURBINE จะตองทําใหอากาศไหลเขาหองเผาไหมอยางไร<br />
คําตอบ 1 : อากาศไหลเขาแบบปนปวน<br />
คําตอบ 2 : อากาศไหลเขาแบบราบเรียบ<br />
คําตอบ 3 : อากาศไหลเขาเปนจังหวะ<br />
คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
44 of 125<br />
ขอที่ : 198<br />
ขอใดจัดเปนมาตรฐานเปรียบเทียบที่ใชในการออกแบบใบจักร<br />
คําตอบ 1 : K- Series
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
J- Series<br />
Wageningen B - Series<br />
P- Series<br />
45 of 125<br />
ขอที่ : 199<br />
คา Rake ของใบจักรคือขอใด<br />
คําตอบ 1 : ความโคงของขอบนํา (Leading Edge)<br />
คําตอบ 2 : ความโคงของขอบตาม (Trailing Edge)<br />
คําตอบ 3 : ความโคงของขอบบนของใบจักร<br />
คําตอบ 4 : ความเอียงของใบจักรไปทางดานหลัง เมื่อมองจากดานขาง (Side View)<br />
ขอที่ : 200<br />
ขอที่ : 201<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
46 of 125<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ขอที่ : 202<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอที่ : 203<br />
ขอใดเปนการทดสอบใบจักรโดยไมพิจารณาปจจัยที่มีผลกระทบจากตัวเรือ
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Open Water Test<br />
Closed Water Test<br />
Self <strong>Propulsion</strong> Test<br />
Wind Tunnel Test<br />
47 of 125<br />
ขอที่ : 204<br />
ขอที่ : 205<br />
ขอที่ : 206<br />
ขอที่ : 207<br />
ฟองอากาศที่เกิดบริเวณใบจักรเรือ สวนใหญเกิดจากอิทธิพลของขอใด<br />
คําตอบ 1 : ความสกปรกของน้ํา<br />
คําตอบ 2 : ความเร็วของเรือ<br />
คําตอบ 3 : ความหนาแนนของน้ํา<br />
คําตอบ 4 : ความแตกตางของความดันบริเวณหนาและหลังใบจักร<br />
ขอใดมิใชผลจากการเกิด Cavitation ที่ใบจักร<br />
คําตอบ 1 : รอยขรุขระที่ผิวใบจักร<br />
คําตอบ 2 : รอยบิ่นตามขอบใบจักร<br />
คําตอบ 3 : การสึกกรอนที่ดุมใบจักร<br />
คําตอบ 4 : สนิมที่เพลาใบจักร<br />
ประสิทธิภาพของใบจักรขึ้นอยูกับคาใด<br />
คําตอบ 1 : กําลังขับของเครื่องยนตที่ใชขับเพลา<br />
คําตอบ 2 : อัตราสวนของเกียรทดไปยังเพลาใบจักร<br />
คําตอบ 3 : สัดสวนระหวางแรงผลักตอแรงบิดของใบจักร<br />
คําตอบ 4 : ขนาดเสนผาศูนยกลางของใบจักร<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 1 :
48 of 125<br />
คําตอบ 2 :<br />
ขอที่ : 208<br />
ขอที่ : 209<br />
ขอที่ : 210<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ในการออกแบบใบจักร นิยมแบงใบจักรออกเปนกี่สวน<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สามสวน<br />
หาสวน<br />
สิบสวน<br />
สิบหาสวน<br />
หากเปรียบเทียบการทํางานของใบจักรใหเหมือนเกลียวโดยทั่วไป คา Pitch (ระยะทางเมื่อใบจักรหมุนครบรอบ) ของใบจักรขณะทํางาน แตกตางอยางไรกับคา Pitch ของเกลียว<br />
คําตอบ 1 : ใบจักรมีคา Pitch มากกวาเนื่องจากคา Slip ของใบจักร<br />
คําตอบ 2 : ใบจักรมีคา Pitch นอยกวาเนื่องจากคา Slip ของใบจักร<br />
คําตอบ 3 : ใบจักรมีคา Pitch มากกวาเนื่องจากคาความเร็วของเรือ<br />
คําตอบ 4 : มีคา Pitch เทากัน<br />
ขอใดเปนชื่อที่ใชเรียกใบจักรที่สามารถปรับ PITCH ได<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
CDD<br />
CFF<br />
COP<br />
CPP<br />
ขอที่ : 211
ขอไดเปรียบประการสําคัญของใบจักรแบบปรับ PITCH ได คือขอใด<br />
คําตอบ 1 : ทําใหความเร็วเรือเพิ่มขึ้น<br />
คําตอบ 2 : ชวยปองกันมิใหเครื่องยนตขับทํางานเกินกําลัง (Overload)<br />
คําตอบ 3 : ชวยปองกันมิใหเกิดกําลังดันแกสเสียยอนกลับ (Back Pressure)<br />
คําตอบ 4 : ชวยใหมีอากาศดีเขาเครื่องยนตขับมากขึ้น<br />
49 of 125<br />
ขอที่ : 212<br />
เครื่องพนน้ําแบบ Water Jet ใชหลักการของใบจักรในขอใด<br />
คําตอบ 1 : Conventional Propeller<br />
คําตอบ 2 : Ducted Propeller<br />
คําตอบ 3 : Vertical Propeller<br />
คําตอบ 4 : Controllable Pitch propeller<br />
ขอที่ : 213<br />
ขอใดเปนการเลือกใบจักรที่ถูกตอง<br />
คําตอบ 1 : เลือกใบจักรที่ใหคา Pitch สูงสุด<br />
คําตอบ 2 : เลือกใบจักรที่ใหคา Pitch ต่ําสุด<br />
ขอที่ : 214<br />
คําตอบ 3 : เลือกใบจักรที่ใหคา Pitch ต่ํากวาที่คํานวณไดเล็กนอย<br />
คําตอบ 4 : เลือกใบจักรที่ใหคา Pitch สูงกวาที่คํานวณไดเล็กนอย<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 3 :
คําตอบ 4 :<br />
50 of 125<br />
ขอที่ : 215<br />
ขอที่ : 216<br />
ขอที่ : 217<br />
ขอที่ : 218<br />
วัสดุประเภทใดที่นิยมใชทําเปนใบจักร สําหรับเรือเดินทะเล<br />
คําตอบ 1 : Titanium<br />
คําตอบ 2 : Stainless Steel Grade 304<br />
คําตอบ 3 : Brass<br />
คําตอบ 4 : Manganese - Bronze<br />
ขอใดเปนวิธีการเลือกใบจักรที่ถูกตอง<br />
คําตอบ 1 : ใชกราฟความสัมพันธระหวางกําลังเครื่องยนตและความเร็วรอบของเพลา<br />
คําตอบ 2 : ใชกราฟความสัมพันธระหวางกําลังเครื่องยนตและอัตราทดของเกียร<br />
คําตอบ 3 : ใชกราฟความสัมพันธระหวางกําลังเครื่องยนตและคาความตานทานของเรือ<br />
คําตอบ 4 : ใชคา PITCH สูงสุด<br />
ขอใดเปนวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพใบจักรอยางงายที่สุด<br />
คําตอบ 1 : ชักเพลา ตั้งศูนยใหม<br />
คําตอบ 2 : เชื่อมพอกเพลาใหม<br />
คําตอบ 3 : ทําความสะอาดใบจักร<br />
คําตอบ 4 : ทํา Dynamic Balance ใบจักร<br />
อุปกรณใดทําหนาที่รองรับเพลาใบจักรที่อยูนอกตัวเรือ<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 1 : แบริ่งกันรุน<br />
คําตอบ 2 : หางเสือ<br />
คําตอบ 3 : โยงโย<br />
คําตอบ 4 : ลิ่มของเพลา<br />
ขอที่ : 219
เมื่อนําเรือเขาอูแหง จะตองปรนนิบัติบํารุงใบจักรอยางไร<br />
คําตอบ 1 : ทําความสะอาดทันที<br />
คําตอบ 2 : ปลอยใหแหงเองตามธรรมชาติ<br />
คําตอบ 3 : ใชเชือกผูกมัดใหแนนหนา<br />
คําตอบ 4 : ชโลมดวยจาระบี<br />
51 of 125<br />
ขอที่ : 220<br />
ขอที่ : 221<br />
ขอที่ : 222<br />
ขอที่ : 223<br />
ใบจักรประเภทปรับ PITCH ได นิยมใชระบบกําลังขับแบบใด<br />
คําตอบ 1 : ระบบแรงเหวี่ยง<br />
คําตอบ 2 : ระบบไฮดรอลิกส<br />
คําตอบ 3 : ระบบลมอัด<br />
คําตอบ 4 : ระบบน้ํากําลังดันสูง<br />
คามุม Skew ของใบจักรคือคาใด<br />
คําตอบ 1 : การเอียงไปทางทายเรือของใบจักรเมื่อเทียบกับเสนตั้งฉาก<br />
คําตอบ 2 : การรับน้ําหนักของใบจักร<br />
คําตอบ 3 : ความคมของใบจักร<br />
คําตอบ 4 : มุมปลายใบจักรที่เยื้องไปจากแนวเสนตั้งฉากศูนยกลางเพลา เมื่อมองเขาจากทายเรือ<br />
ขอใดเปนรูปแบบหนาตัดมาตรฐานที่ใชในการออกแบบใบจักร<br />
คําตอบ 1 : NAVA-65<br />
คําตอบ 2 : NACA-65<br />
คําตอบ 3 : ASA -60<br />
คําตอบ 4 : BSA- 60<br />
ขอใดไมใชสวนประกอบของระบบเพลาใบจักร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
โยงโย<br />
เพลา<br />
คําตอบ 3 : แบริ่งรองรับเพลา
คําตอบ 4 :<br />
หางเสือ<br />
ขอที่ : 224<br />
ใบจักรที่ปรับ PITCH ไดนิยมใชในเรือประเภทใด<br />
คําตอบ 1 : เรือใหญที่ตองการความคลองตัวสูง<br />
คําตอบ 2 : เรือเล็กความเร็วสูง<br />
คําตอบ 3 : เรือสินคา<br />
คําตอบ 4 : เรือดําน้ํา<br />
ขอที่ : 225<br />
ขอใดเปนงานที่ตองดําเนินการโดยชางที่มีความชํานาญอยางสูง<br />
คําตอบ 1 : การหาคาความสั่นสะเทือนของเพลาใบจักร<br />
คําตอบ 2 : การหาแรงผลักของใบจักร<br />
คําตอบ 3 : การหาศูนยของเพลาใบจักร<br />
คําตอบ 4 : การกวดนัตปกใบจักร<br />
ขอที่ : 226<br />
ขอใดเปนการเกิดฟองอากาศบริเวณปลายปกใบจักร<br />
คําตอบ 1 : Cloud Cavitation<br />
คําตอบ 2 : Hub Cavitation<br />
คําตอบ 3 : Sheet Cavitation<br />
คําตอบ 4 : Tip Cavitation<br />
ขอที่ : 227<br />
วัสดุในขอใดไมนิยมใชทําแบริ่งรองรับเพลาใบจักร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
พลวง<br />
ไม<br />
ยาง<br />
เหล็กหลอ<br />
52 of 125<br />
ขอที่ : 228<br />
เรือสินคาโดยทั่วไปนิยมใชใบจักรจํานวนเทาใด
คําตอบ 1 : ใบจักรเดียว<br />
คําตอบ 2 : สองใบจักร<br />
คําตอบ 3 : สามใบจักร<br />
คําตอบ 4 : สี่ใบจักร<br />
53 of 125<br />
ขอที่ : 229<br />
ในเรือประเภทระวางขับทั่วไป (Displacement Type) ควรมีจํานวนรอบการหมุนของเพลาใบจักรเทาใด<br />
คําตอบ 1 : มากกวา 5,000 รอบตอนาที<br />
คําตอบ 2 : มากกวา 3,000 รอบตอนาที<br />
คําตอบ 3 : มากกวา 2,000 รอบตอนาที<br />
คําตอบ 4 : นอยกวา 1,000 รอบตอนาที<br />
ขอที่ : 230<br />
ขอใดคืออุปกรณในการใชศึกษาการทํางานของใบจักร<br />
คําตอบ 1 : Wind Tunnel<br />
คําตอบ 2 : Air Tunnel<br />
คําตอบ 3 : Water Tunnel<br />
คําตอบ 4 : Oil Tunnel<br />
ขอที่ : 231<br />
การหาน้ําหนักของใบจักร สามารถทําไดโดยใชหลักการใด<br />
ขอที่ : 232<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ใชกฏของ Simpson<br />
ใชกฏของ Bernoulli<br />
ใชกฏของ Newton<br />
ใชกฏของ Edison<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ใบจักรประเภทใดที่มีการติดตั้งในแนวดิ่ง<br />
คําตอบ 1 : ใบจักรประเภท CPP<br />
คําตอบ 2 : ใบจักรประเภท Voith Schneider<br />
คําตอบ 3 : ใบจักรประเภท FPP<br />
คําตอบ 4 : ใบจักรประเภท Contrarotating Propeller
ขอที่ : 233<br />
ขอที่ : 234<br />
ขอที่ : 235<br />
ขอที่ : 236<br />
ใบจักรที่มีระบบการใชอากาศอัดไปปลอยบริเวณปลายใบจักร เพื่อจุดประสงคใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
ลดเสียงของใบจักร<br />
คําตอบ 2 : ลดน้ําหนักของใบจักร<br />
คําตอบ 3 : ลดการเกิด Cavitation ของใบจักร<br />
คําตอบ 4 : เพิ่มการลอยตัวของใบจักร<br />
การขับเคลื่อนเรือดวยระบบ Water Jet มักประสบอุปสรรคในขอใด<br />
คําตอบ 1 : ความเร็วของน้ําที่สูงเกินไป<br />
คําตอบ 2 : ความเร็วของเรือที่สูงเกินไป<br />
คําตอบ 3 : ความลึกของน้ํา<br />
คําตอบ 4 : ความสกปรกและขยะในน้ํา<br />
ใบจักรประเภทใดที่มักจะอยูติดเปนชิ้นเดียวกันกับเครื่องยนต<br />
คําตอบ 1 : ใบจักรของเครื่องยนตประเภท Outboard<br />
คําตอบ 2 : ใบจักรของเครื่องยนตประเภท Inboard<br />
คําตอบ 3 : ใบจักรของเครื่องยนตประเภท Long Shaft Tail<br />
คําตอบ 4 : ใบจักรของเครื่องยนตประเภท Light Shaft Tail<br />
เครื่องยนตเรือเล็กขนาด 150 HP (112kW) ที่ 2,500 RPM ใชเกียรที่มีอัตราทด 2.5 ตอ 1 ใชเพลาใบจักรขนาด 75 มม. และเสนผาศูนยกลางของใบจักร 250 มม. จงคํานวณความ<br />
เร็วรอบสูงสุดของเพลาใบจักร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ไมเกิน 500 รอบตอนาที<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ไมเกิน 400 รอบตอนาที<br />
ไมเกิน 300 รอบตอนาที<br />
ไมเกิน 200 รอบตอนาที<br />
54 of 125<br />
ขอที่ : 237<br />
เครื่องยนตเรือเล็กขนาด 150 HP (112kW) ที่ 2,500 RPM ใชเกียรที่มีอัตราทด 2.5 ตอ 1 เสนผาศูนยกลางของใบจักร 250 มม. หากตองการเพิ่มความเร็วเรือจะตองทําอยางไร<br />
คําตอบ 1 : เพิ่มขนาดเสนผาศูนยกลางใบจักร
คําตอบ 2 : เพิ่ม Pitch ใบจักร<br />
คําตอบ 3 : ลดน้ําหนักบรรทุกของเรือ<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
55 of 125<br />
ขอที่ : 238<br />
ขอที่ : 239<br />
ขอที่ : 240<br />
ขอที่ : 241<br />
ในเรือประมงหรือเรือที่มีขนาดใกลเคียงกัน การเพิ่มความเร็วเรือสามารถกระทําไดอยางงายๆ อยางไร<br />
คําตอบ 1 : เปลี่ยนเครื่องยนต<br />
คําตอบ 2 : เปลี่ยนเกียรทด<br />
คําตอบ 3 : เพิ่ม Pitch ใบจักร<br />
คําตอบ 4 : ลด Pitch ใบจักร<br />
สําหรับวัตถุที่เคลื่อนที่ใตน้ําดวยความเร็วสูง และตองการควบคุมทิศทางการเคลื่อนที่ใหมีความเที่ยงตรงและแมนยํา เชน อาวุธตอรปโด นิยมใชใบจักรแบบใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Contrarotating Propeller<br />
CPP Propeller<br />
FPP Propeller<br />
Ducted Propeller<br />
ขอใดเปนขอไดเปรียบของระบบใบจักรแบบปรับ PITCH ได<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
ไมตองใชเกียรทด<br />
ไมตองกลับทางหมุนของเพลา<br />
คําตอบ 3 : ไมตองมีแบริ่งรองรับเพลา<br />
คําตอบ 4 : ไมตองมีแบริ่งกันรุน<br />
กรณีที่มีการใชงานรวมกันระหวางเครื่องยนตดีเซลและแกสเทอรไบน (CODAG) ทําใหประสบปญหาที่ไมสามารถหาจุดลงตัวในการเลือกใบจักรที่เหมาะสมได จึงควรใชใบจักร<br />
ประเภทใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
CPP<br />
FPP<br />
Contra Propeller<br />
Voith Schneider
ขอที่ : 242<br />
ขอที่ : 243<br />
ขอที่ : 244<br />
ขอที่ : 245<br />
ขอใดเปนความสัมพันธที่ถูกตองเมื่อตองการออกแบบใบจักรใหมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น<br />
คําตอบ 1 :<br />
ลดขนาดใบจักร ลดจํานวนรอบของเพลา<br />
คําตอบ 2 : ลดขนาดใบจักร เพิ่มจํานวนรอบของเพลา<br />
คําตอบ 3 : เพิ่มขนาดใบจักร เพิ่มจํานวนรอบของเพลา<br />
คําตอบ 4 : เพิ่มขนาดใบจักร ลดจํานวนรอบของเพลา<br />
กําหนดให w คือคา Wake Fraction บริเวณใบจักรทายเรือมีคา 0.3 จงหาคาสัมประสิทธิ์กระแสน้ํา wake<br />
คําตอบ 1 : มีคา 1.3<br />
คําตอบ 2 : มีคา 0.3<br />
คําตอบ 3 : มีคา 1.7<br />
คําตอบ 4 : มีคา 0.7<br />
กําหนดให t คือคา Thrust Deduction บริเวณใบจักรทายเรือมีคา 0.2 จงหาคาสัมประสิทธิ์การผลักน้ํา<br />
คําตอบ 1 : มีคา 1.2<br />
คําตอบ 2 : มีคา 1.8<br />
คําตอบ 3 : มีคา 0.8<br />
คําตอบ 4 : มีคา 0.2<br />
คาสัมประสิทธิ์การผลักน้ํามีคาเทากับ 1-t และคาสัมประสิทธิ์กระแสน้ํา Wake เทากับ 1-w ถากําหนดให t=0.2 และ w=0.3 จงหาคาประสิทธิภาพของตัวเรือ<br />
คําตอบ 1 : ประมาณ 1.1<br />
คําตอบ 2 : ประมาณ 10.1<br />
คําตอบ 3 : ประมาณ 1.5<br />
คําตอบ 4 : ประมาณ 15<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
56 of 125<br />
ขอที่ : 246<br />
การสรางใบจักร นิยมทําโดยวิธีใด<br />
คําตอบ 1 : ตีขึ้นรูป
คําตอบ 2 : การหลอ<br />
คําตอบ 3 : กลึง<br />
คําตอบ 4 : เชื่อมพอก<br />
57 of 125<br />
ขอที่ : 247<br />
ใบจักรที่ใชงานทั่วไปมีจํานวนปกใบจักรเทาใด<br />
คําตอบ 1 : ประมาณ 1-2 ปก<br />
คําตอบ 2 : ประมาณ 2-3 ปก<br />
คําตอบ 3 : ประมาณ 3-4 ปก<br />
คําตอบ 4 : ประมาณ 6-8 ปก<br />
ขอที่ : 248<br />
สําหรับเรือที่มีใบจักรคู ขอใดเปนการการหมุนของใบจักรที่ถูกตอง เมื่อมองจากทายเรือ<br />
คําตอบ 1 : หมุนตามเข็มนาฬิกา<br />
คําตอบ 2 : หมุนทวนเข็มนาฬิกา<br />
คําตอบ 3 : หมุนสลับกัน<br />
คําตอบ 4 : หมุนเขาหากัน<br />
ขอที่ : 249<br />
ขอที่ : 250<br />
โดยทั่วไปเรือที่มีใบจักรโผลพนน้ําขึ้นมาในขณะที่เรือแลนมีขอเสียอยางไร<br />
คําตอบ 1 : เสียงดัง<br />
คําตอบ 2 : สั่นสะเทือนมาก<br />
คําตอบ 3 : ใบจักรสึกกรอนเร็ว<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
อิทธิพลของใบจักรที่สงผลตอตัวเรือ ขณะที่เรือแลนในน้ําตื้นคือขอใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
Doppler Effect<br />
Shallow Water Effect<br />
Water Hammer Effect<br />
Error Effect
ขอที่ : 251<br />
หาก Blade Area Ratio ของจักร มีคาเทากับ 1.2 ทานคิดวาใบจักรจะมีลักษณะอยางไร<br />
คําตอบ 1 : ปกใบจักรแตละใบหางกันมาก<br />
คําตอบ 2 : ปกใบจักรแตละใบหางกันนอย<br />
คําตอบ 3 : ปกใบจักรแตละใบชิดหรือเกยกัน<br />
คําตอบ 4 : ไมมีขอใดถูก<br />
ขอที่ : 252<br />
ขอเสียของใบจักรแบบปรับ PITCH ไดคือขอใด<br />
คําตอบ 1 : ดุมใบจักรมีขนาดใหญ<br />
คําตอบ 2 : ดุมใบจักรมีขนาดเล็ก<br />
คําตอบ 3 : ปกใบจักรเล็กซอนเกยกัน<br />
คําตอบ 4 : ปกใบจักรบิดไมเทากัน<br />
ขอที่ : 253<br />
ใบจักรประเภท High performance เหมาะสําหรับเรือประเภทใด<br />
คําตอบ 1 : เรือหางยาว<br />
คําตอบ 2 : เรือยนตความเร็วสูง<br />
คําตอบ 3 : เรือลากจูง<br />
คําตอบ 4 : เรือทองแบน<br />
ขอที่ : 254<br />
เรือ CATAMARAN โดยทั่วไปจะมีใบจักรจํานวนเทาใด<br />
คําตอบ 1 : ใบจักรเดียว<br />
คําตอบ 2 : สองใบจักร<br />
คําตอบ 3 : สามใบจักร<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 4 : ใชระบบพนน้ํา<br />
58 of 125<br />
ขอที่ : 255<br />
การทดลองเรือจําลองแบบใดที่ใบจักรมีอิทธิพลตอตัวเรือโดยตรง<br />
คําตอบ 1 : Self <strong>Propulsion</strong> Test<br />
คําตอบ 2 : Service Water Test
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Open Water test<br />
Loop Water Test<br />
59 of 125<br />
ขอที่ : 256<br />
Cavitation Number ของใบจักรขอใดที่มีคาเหมาะสมที่สุด<br />
ขอที่ : 257<br />
ขอที่ : 258<br />
ขอที่ : 259<br />
คําตอบ 1 : มีคา 1000<br />
คําตอบ 2 : มีคา 100<br />
คําตอบ 3 : มีคา 10<br />
คําตอบ 4 : มีคา 1<br />
ขอใดควรเปนคาความเร็วรอบเพลาใบจักรของเรือยนตขามฟากแมน้ําเจาพระยา โดยมีเครื่องยนต ขนาด 100 HP (75 kW) ที่ 2000 รอบตอนาที<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ประมาณ 0- 1000 รอบตอนาที<br />
ประมาณ 0- 10,000 รอบตอนาที<br />
ประมาณ 5,000- 10,0000 รอบตอนาที<br />
ไมมีขอใดถูก<br />
ขอใดเปนอุปกรณในการหาศูนยเพลาใบจักร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
กลองดิจิตอล<br />
กลอง Telescope<br />
กลอง Theodolite<br />
กลอง Perisciope<br />
พื้นที่ของใบจักรใบหนึ่งเมื่อหมุน 1 รอบ มีพื้นที่ A ตารางเมตร สมมติวาพื้นที่คลี่แบนรวมของใบจักรทุกใบมีคา B ตารางเมตร จงหาคา Blade Area Ratio ของใบจักรใบนี้<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
A x B<br />
A + B<br />
A/B<br />
B/A<br />
ขอที่ : 260
ใบจักรแบบปรับ PITCH ได มีขอไดเปรียบประการสําคัญเรื่องใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
หยุดไดงายกวา<br />
คําตอบ 2 : เรงเครื่องไดเร็วกวา<br />
คําตอบ 3 : เลี้ยวไดแคบกวา<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
60 of 125<br />
ขอที่ : 261<br />
ขอที่ : 262<br />
ขอที่ : 263<br />
ขอที่ : 264<br />
ใบจักรของเครื่องยนตติดทาย (Outboard) แตกตางอยางไรกับใบจักรเรือยนตทั่วไป<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ไมมีมุมพิชท<br />
ไมตองมีใบหางเสือหลังใบจักร<br />
ไมตองมีดุมใบจักร<br />
ไมมีขอใดถูก<br />
ใบจักรประเภท Super Cavitation มีหลักการทํางานอยางไร<br />
คําตอบ 1 :<br />
สรางความเร็วเหนือเสียง<br />
คําตอบ 2 : ผลักน้ําดวยแรงบิดสูง<br />
คําตอบ 3 : สรางโพรงอากาศบนใบจักร<br />
คําตอบ 4 : สรางเสียงความถี่สูง<br />
ใบจักรสําหรับเรือหางยาว มีขอไดเปรียบอยางไร<br />
คําตอบ 1 :<br />
ปรับความยาวได<br />
คําตอบ 2 : ปรับอัตราการกินน้ําลึกได<br />
คําตอบ 3 : ปรับแตงวงหันได<br />
คําตอบ 4 : ไมมีขอถูก<br />
โลหะใดสามารถใชทําเพลาใบจักรได<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
Stainless Steel<br />
เหล็กหลอ<br />
ทองเหลือง
ขอที่ : 265<br />
ขอที่ : 266<br />
ขอที่ : 267<br />
คําตอบ 4 : อลูมินั่ม<br />
วัสดุในขอใดชวยลดการกัดกรอนของตัวเรือและใบจักร<br />
คําตอบ 1 :<br />
สังกะสีกันกรอน<br />
คําตอบ 2 : อลูมินั่มอัลลอย<br />
คําตอบ 3 : โครเมียม<br />
คําตอบ 4 : ทองแดง<br />
การหลอลื่นที่เกิดขึ้นที่ Journal bearing รองรับเพลาในขณะ Steady state โดยที่การหมุนของเพลาทําใหเกิดความดันในชั้นฟลมน้ํามันหลอดันใหเพลาลอยขึ้น การหลอลื่นชนิดนี้<br />
เรียกวาอะไร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Hydrodynamic lubrication<br />
Hydrostatic lubrication<br />
Mixed-film lubrication<br />
Boundary lubrication<br />
อาการหมุนควง (Whirling or whipping) ของเพลา หรือที่เรียกวาเกิด Dynamic instability ซึ่งอาจมีผลทําใหเกิดความสั่นสะเทือนมากจนเกิดความเสียหาย เกิดขึ้นไดในสภาวะ<br />
อยางไร<br />
คําตอบ 1 :<br />
ความเร็วรอบสูง, ภาระสูง<br />
คําตอบ 2 : ความเร็วรอบสูง, ภาระต่ํา<br />
คําตอบ 3 : ความเร็วรอบต่ํา, ภาระสูง<br />
คําตอบ 4 : ความเร็วรอบต่ํา, ภาระต่ํา<br />
ขอที่ : 268<br />
ภาระที่เกิดขึ้นเนื่องจากการเหนี่ยวนําของใบจักร( Propeller-induced load) ที่มีจํานวนปกเปนเลขคี่ กับที่มีจํานวนปกเปนเลขคูซึ่งกระทําตอเพลาใบจักรมีลักษณะอยางไร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
อยางแรกทําใหเกิดการแปรปรวนของแรงรุน (Thrust variation) มากกวา<br />
อยางแรกทําใหเกิดความแปรปรวนของแรงบิด( Torque variation) มากกวา<br />
อยางแรกทําใหเกิด Bending moment มากกวา<br />
ถูกทุกขอ<br />
61 of 125<br />
ขอที่ : 269
อุปกรณในเรือประเภทใดนิยมใช Rolling-Contact Bearing<br />
คําตอบ 1 :<br />
เพลาใบจักร<br />
คําตอบ 2 : เครื่องกําเนิดไฟฟาขนาดเล็ก<br />
คําตอบ 3 : ชุดเฟองทดของเครื่องจักรใหญ<br />
คําตอบ 4 : ระบบถือทาย<br />
62 of 125<br />
ขอที่ : 270<br />
เพลาทอนใดรับ Bending Load มากที่สุด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Line Shaft<br />
Stern-Tube Shaft<br />
Propeller Shaft<br />
Thrust Shaft<br />
ขอที่ : 271<br />
Load ประเภทใดที่มีอิทธิพลมากที่สุดในการพิจารณาเรื่อง Strength ของวัสดุที่ใชทําเพลาใบจักร<br />
ขอที่ : 272<br />
ขอที่ : 273<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Torsional Load<br />
Thrust Load<br />
Bending Load<br />
Radial Load<br />
ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับระบบเพลาใบจักร<br />
คําตอบ 1 : โดยปรกติหนาแปลนตอเพลาจะหลอเปนชิ้นเดียวกันกับเพลา<br />
คําตอบ 2 : ทอนเพลาที่ผาน Stern Tube หนาแปลนดานหนา ( Forward Flange) มักจะถอดได<br />
คําตอบ 3 : สลักที่ใชยึดหนาแปลนเปนสลักเรียว<br />
คําตอบ 4 : สลักที่ใชยึดหนาแปลนไมจําเปนตองตอกอัดใหแนนเพราะมี Split Pin ล็อกตรงปลายสลักไมใหนัตเลื่อนหลุด<br />
คุณสมบัติสําคัญของ Coupling ที่ใชตอระหวางเพลาของReciprocating Engine กับ Reduction Gear คืออะไร<br />
คําตอบ 1 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ตองรองรับการหักมุมของแนวเพลา ( Angular Misalignment) ไดมาก<br />
คําตอบ 2 : ตองรองรับการเยื้องศูนยของแนวเพลา ( Lateral Misalignment ) ไดมาก<br />
คําตอบ 3 : ลด Torque variation
คําตอบ 4 :<br />
ลด Thrust variation<br />
ขอที่ : 274<br />
Clutch ประเภทใด นิยมใชใน Reverse Gear ของเรือ <br />
ขอที่ : 275<br />
ขอที่ : 276<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Frictional<br />
Mechanical (gear teeth)<br />
Hydraulic<br />
Electric<br />
Single reduction, Single input<br />
Single reduction, Double input<br />
Double reduction, Single input<br />
Double reduction, Double input<br />
สิ่งใดที่ไมเกี่ยวกับคุณสมบัติ “ Self-locking” ของเฟองตัวหนอน<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
Pressure angle<br />
Lead angle<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 3 : สัมประสิทธิ์ความเสียดทานระหวางตัวหนอนกับลอ<br />
คําตอบ 4 : Axial pitch ของตัวหนอน<br />
63 of 125<br />
ขอที่ : 277<br />
การชํารุดของผิวฟนเฟองของเฟองตรงซึ่งเปนผลของ Hertz Contact Stress จะเกิดมากที่สุดบริเวณใด<br />
คําตอบ 1 : Addendum<br />
คําตอบ 2 : Dedendum
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Pitch circle<br />
Top l<strong>and</strong><br />
64 of 125<br />
ขอที่ : 278<br />
เมื่อยกแบริ่งรับเพลา# 1 ขึ้น 0.002 in. (0.0508 mm.) Load เปลี่ยนจาก 88,960 N เปน 93,408 N สวนที่แบริ่ง# 2 เปลี่ยนจาก 84,512 N เปน 82,288 N จงหาคา RIN ของแบริ่ง<br />
2 เนื่องจากการยกแบริ่ง 1<br />
ขอที่ : 279<br />
ขอที่ : 280<br />
ขอที่ : 281<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
2,224 N<br />
- 2,224 N<br />
1,112 N<br />
- 1,112 N<br />
ในการวางแนวตอเพลากับ Reduction Gear อยูในระดับต่ําควรคํานึงถึงขอใด<br />
คําตอบ 1 : เมื่อใชงานแบริ่งรองรับ Reduction Gear จะขยายตัวสูงขึ้นกวาแบริ่งรองรับเพลา<br />
คําตอบ 2 : เมื่อใชงานแบริ่งรองรับเพลาจะขยายตัวขึ้นสูงกวาแบริ่งรองรับ Reduction Gear<br />
คําตอบ 3 : เวลาใชงานแบริ่งของ Reduction Gear คูหนาจะขยายตัวยกตัวมากกวาคูหลัง<br />
คําตอบ 4 : เวลาใชงานเพลาจะขยายตัวตามความยาวยันกับ Reduction Gear<br />
ตาราง Bearing reaction influence number (RIN) ไมสามารถใชประโยชนไดในขอใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
วิเคราะหหาคา Flexibility ของ เพลา<br />
หาคา Load รวมของเพลา<br />
คําตอบ 3 : ปรับใหแบริ่งแตละตัวรับ Load เทา ๆ กัน<br />
คําตอบ 4 : หา Misalignment<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
a<br />
b<br />
c<br />
d<br />
65 of 125<br />
ขอที่ : 282<br />
ขอที่ : 283<br />
ในการหาศูนยเพลาของชุดมอเตอรและปม ควรถอดสลักฐานแทนชิ้นสวนใดออกเพื่อสะดวกในการปรับแตงศูนยเพลา<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 : ปม<br />
มอเตอร<br />
คําตอบ 3 : อุปกรณที่หนาแปลนอยูสูงกวา<br />
คําตอบ 4 : อุปกรณที่หนาแปลนอยูต่ํากวา<br />
การใช Dial gauge เพื่อวัดระยะ Gap หรือระยะ Sag ระหวางหนาแปลน 2 อัน จะใหหนาแปลนอันหนึ่งอยูนิ่ง(ไมหมุน)ในขณะที่จะทําการวัดระยะเมื่อหมุนหนาแปลนอีกอันหนึ่งไปทุก<br />
ๆกี่องศา<br />
คําตอบ 1 : 30<br />
คําตอบ 2 : 45<br />
คําตอบ 3 : 60<br />
คําตอบ 4 : 90<br />
ขอที่ : 284<br />
Unit Load ของแบริ่งสามารถคํานวณไดจากสิ่งใด<br />
ขอที่ : 285<br />
คําตอบ 1 : น้ําหนักทั้งหมดของเพลาหารดวยจํานวนแบริ่งที่รองรับเพลา<br />
คําตอบ 2 : น้ําหนักที่รองรับโดยแบริ่งหารดวยพื้นผิวภายในทรงกระบอกสวนลางของแบริ่ง<br />
คําตอบ 3 : น้ําหนักที่รองรับดวยแบริ่งหารดวยผลคูณของเสนผาศูนยกลางภายในและความยาวของแบริ่ง<br />
คําตอบ 4 : เปนคาที่โรงงานผูผลิตคํานวณมาใหแลวสําหรับแบริ่งแตละตัว<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ในการหลอลื่นแบบ Fully Hydrodynamic ใน Journal Bearing ขอใดไมมีอิทธิพลตอคาสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานในการหมุนของเพลา<br />
คําตอบ 1 : ความหนืดของน้ํามันหลอลื่น<br />
คําตอบ 2 : ความเร็วรอบของเพลา<br />
คําตอบ 3 : Bearing Unit Load<br />
คําตอบ 4 : ชนิดของโลหะที่ใชทําแบริ่ง
ขอที่ : 286<br />
ขอที่ : 287<br />
ขอที่ : 288<br />
คา Clearance ratio คืออัตราสวนระหวางรัศมีของเพลากับระยะ Clearance สําหรับ Journal Bearing โดยปรกติมีคาอยูระหวางใด<br />
คําตอบ 1 : 10 - 50<br />
คําตอบ 2 : 50 - 100<br />
คําตอบ 3 : 100 – 500<br />
คําตอบ 4 : 500 – 1,000<br />
โดยปรกติการระบุความหนืดของน้ํามันเครื่อง ของ Society of Automotive Engineering ของสหรัฐอเมริกาจะอางอิงที่อุณหภูมิกี่องศา<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
เพลาที่อยูภายในตัวเรือตองผาน Stuffing Box เมื่อเพลายาวผานสวนใดของเรือ<br />
คําตอบ 1 : ผนังกั้นหองใด ๆ<br />
คําตอบ 2 : ผนังผนึกน้ํา<br />
คําตอบ 3 : ทะลุกงเรือ<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 4 : ผนังหองที่ใชเก็บสารระเหย<br />
66 of 125<br />
ขอที่ : 289<br />
บริษัทผูผลิตแบริ่งมักจะระบุอายุการทํางานของแบริ่งเปน “B-10 Life” ซึ่งหมายถึงขอใด<br />
คําตอบ 1 : แบริ่งแบบนั้นทุกตัวที่ออกมาจากโรงงานจะมีอายุการใชงานเทากับหรือเกินกวา ถาถูกใชงานในสภาพทั่ว ๆไป<br />
คําตอบ 2 : แบริ่งแบบนั้นทุกตัวที่ออกมาจากโรงงานจะมีอายุการใชงานเทากับหรือเกินกวา ถาถูกใชงานในสภาพที่อุณหภูมิและการหลอลื่นเหมาะสม
คําตอบ 3 : 90% ของแบริ่งแบบนั้นที่ออกมาจากโรงงานจะมีอายุการใชงานเทากับหรือเกินกวา ถาถูกใชงานในสภาพ ทั่ว ๆ ไป<br />
คําตอบ 4 : 90% ของแบริ่งแบบนั้นที่ออกมาจากโรงงานจะมีอายุการใชงานเทากับหรือเกินกวา ถาถูกใชงานในสภาพที่อุณหภูมิและการหลอลื่นเหมาะสม<br />
67 of 125<br />
ขอที่ : 290<br />
Sleeve Bearing ที่ทําจากสารสังเคราะห “TEFLON” มีขอดีคืออะไร<br />
ขอที่ : 291<br />
ขอที่ : 292<br />
ขอที่ : 293<br />
คําตอบ 1 :<br />
มีความทนทาน<br />
คําตอบ 2 : ไมตองใชสารหลอลื่น<br />
คําตอบ 3 : สัมประสิทธิ์ความเสียดทานลดลงเมื่อแรงกดมากขึ้น<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ขอใดไมใชขอไดเปรียบของการใช Roller Bearing เทียบกับการใช Sleeve Bearing กับเครื่องกังหันขนาดใหญ<br />
คําตอบ 1 : ขีดความสามารถในการรับภาระ (Capacity)<br />
คําตอบ 2 : การกินเนื้อที่ (Space Requirement)<br />
คําตอบ 3 : น้ําหนัก<br />
คําตอบ 4 : ความคงทนตอการใชงาน<br />
การใสน้ํามันหลอลื่นให Anti-Friction Bearing มากเกินไป สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือขอใด<br />
คําตอบ 1 : โดยปรกติไมมีผลเสียหายใด ๆ เกิดขึ้น<br />
คําตอบ 2 : สามารถทําใหเกิดการขัดตัว (Hydraulic lock) และเสียงดัง<br />
คําตอบ 3 : สิ้นเปลืองน้ํามันหลอ<br />
คําตอบ 4 : เกิดการรั่วไหลของน้ํามันหลอ<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
แรง Thrust บนใบจักรไมไดมีแนวแรงเปนแนวเดียวกับเพลาเสียทีเดียวเนื่องจากอิทธิพลของกระแสการไหลของน้ําที่เขาปะทะใบจักร ทําใหแรง Thrust ในเรือใบจักรเดียวโดยปรกติ<br />
จะอยูในลักษณะใด<br />
คําตอบ 1 : สูงกวาแนวแกนใบจักรและเบี่ยงไปทางกราบขวา<br />
คําตอบ 2 : สูงกวาแนวแกนใบจักรและเบี่ยงไปทางกราบซาย<br />
คําตอบ 3 : ต่ํากวาแนวแกนใบจักรและเบี่ยงไปทางกราบขวา<br />
คําตอบ 4 : ต่ํากวาแนวแกนใบจักรและเบี่ยงไปทางกราบซาย
ขอที่ : 294<br />
ขอที่ : 295<br />
ขอที่ : 296<br />
ขอที่ : 297<br />
สิ่งที่มีผลตอตําแหนงของแรง Thrust ลัพธที่กระทําตอใบจักรบนเรือคือขอใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
รูปรางของทายเรือ<br />
รูปรางใบจักร<br />
คําตอบ 3 : ความลึกที่ใบจักรจมน้ํา<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ขอใดมีผลทําใหความแปรปรวนของแรงรุน (Thrust variation) และแรงบิด (Torque variation) ของเพลาใบจักรเพิ่มขึ้น<br />
คําตอบ 1 : เปลี่ยนจํานวนใบ(Blade)ของใบจักรจากจํานวนคี่เปนจํานวนคู<br />
คําตอบ 2 : เพิ่มมุมบิด(Skew)ของใบจักร<br />
คําตอบ 3 : เลื่อนใบจักรใหอยูใกลทายเรือมากยิ่งขึ้น<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ขอมูลใดไมจําเปนตองใชในการคํานวณหาแรงบิดของเพลาใบจักร<br />
คําตอบ 1 : กําลังที่เครื่องยนตทําได<br />
คําตอบ 2 : ความเร็วรอบของเครื่องยนต<br />
คําตอบ 3 : อัตราทดของ Reduction Gear<br />
คําตอบ 4 : รัศมีของเพลาใบจักร<br />
การคํานวณหาแรงบิดสําหรับหาขนาดเครื่องยนตที่จะใชขับเพลาใบจักร ตองเผื่อไวสําหรับการขับเคลื่อนในสภาวะฉุกเฉินและเมื่อตัวเรือมีเพรียง โดยปรกติจะเพิ่มแรงบิดจากที่คํานวณ<br />
แลวไปอีกเทาใด<br />
คําตอบ 1 : 5%<br />
คําตอบ 2 : 10%<br />
คําตอบ 3 : 20%<br />
คําตอบ 4 : 50%<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
68 of 125<br />
ขอที่ : 298<br />
จากการลากแบบจําลองของเรือในถังน้ําทดสอบ(Towing Tank) พบวาแรงตานทานของเรือเปน R และประเมินคา Thrust Reduction Fraction เทากับ t แรง Thrust ที่ใบจักรตอง<br />
สรางขึ้นมาเทากับเทาใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
(1+t)R
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
(1-t)R<br />
R/(1+t)<br />
R/(1-t)<br />
69 of 125<br />
ขอที่ : 299<br />
ขอที่ : 300<br />
ขอที่ : 301<br />
ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับ Thrust Load ในเพลาใบจักร<br />
คําตอบ 1 : คาเฉลี่ย(Mean)ทําใหเกิดความเคนในเพลาใบจักรมีคานอยจนไมตองนํามาคิดเรื่องความแข็งแรงของเพลา<br />
คําตอบ 2 : คาแปรปรวน(Variation)มีคานอยจนไมตองนํามาคิดเรื่องความแข็งแรงของเพลา<br />
คําตอบ 3 : คาแปรปรวนโดยปรกติมีคาประมาณ 20%ถึง 5 เทาของคาเฉลี่ย(Mean)<br />
คําตอบ 4 : จํานวนปก(Blade) ของใบจักรมีผลตอขนาดของคาแปรปรวน<br />
ขอใดไมทําใหเกิดการโกงตัว (Bending) ของเพลาใบจักร<br />
คําตอบ 1 : น้ําหนักเพลา<br />
คําตอบ 2 : การวางแนวเพลาไมดี ( Misalignment )<br />
คําตอบ 3 : แรงปฏิกิริยา (Reaction Force) ของน้ําที่กระทําตอใบจักร<br />
คําตอบ 4 : แรงในแนวรัศมีของเพลาใบจักร<br />
คําตอบ 1 : d/2<br />
คําตอบ 2 : d<br />
คําตอบ 3 : 2d<br />
คําตอบ 4 : L/2<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอที่ : 302<br />
ความเรียวของสลักเรียวไรหัว(Headless Taper Bolt) ที่ใชยึดหนาแปลนเพลาใบจักรเมื่อเปรียบเทียบกับสลักยึดที่มีหัว (Headed bolt) จะเปนอยางไร
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
มากกวา<br />
เทากัน<br />
นอยกวา<br />
ไมแนนอน<br />
70 of 125<br />
ขอที่ : 303<br />
ขอที่ : 304<br />
ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับการอัดสลักยึดหนาแปลนเพลาโดยใชไฮดรอลิกส<br />
คําตอบ 1 : ตั้งคาอัดที่แนนอนได<br />
คําตอบ 2 : อัดแลวไมจําเปนตองตรวจสอบโดยวิธีการใดๆ อีก<br />
คําตอบ 3 : ไมทําใหผิวสัมผัสระหวางสลักกับหนาแปลนเสียหาย<br />
คําตอบ 4 : หัวอัดไฮดรอลิกสตองถูกถอดออกจากหัวสลักเมื่ออัดเสร็จแลว<br />
ขอใดไมใชความจําเปนที่ตองมี Clutch ภายในเรือ<br />
คําตอบ 1 : มีเครื่องจักรใหญชนิดเดียวกันมากกวา 1 เครื่องขับเคลื่อนเพลาใบจักรเดียวกัน<br />
คําตอบ 2 : มีเครื่องจักรใหญตางชนิดกันขับเคลื่อนเพลาใบจักร<br />
คําตอบ 3 : ใชระบบเฟองถอยหลัง<br />
คําตอบ 4 : เปนเรือใบจักรเดี่ยวและใบจักรปรับพิทชได<br />
ขอที่ : 305<br />
Clutch ที่ถายแรงบิดไปในทิศทางเดียว และจะหมุนฟรีไปในทิศทางตรงกันขามคือชนิดใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Drum<br />
Multiple-Disk<br />
Overrunning<br />
Hydraulic<br />
ขอที่ : 306<br />
ในเรือที่มีการใชเครื่องยนตดีเซลตอรวมกับเครื่องกาซเทอรไบนในการขับเพลาใบจักร(CODAG) เพื่อปองกันการเกิด Overspeed ของเครื่องยนตดีเซลควรใช Clutch ประเภทใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
Drum<br />
Multiple-Disk<br />
Overrunning<br />
Hydraulic
ขอที่ : 307<br />
ขอที่ : 308<br />
ขอที่ : 309<br />
ขอที่ : 310<br />
อุปกรณประเภทใดสามารถทําหนาที่คลายเกียรและใชเพิ่มอัตรา Reduction Ratio ระหวางเครื่องยนตดีเซลกับเพลาใบจักรได<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Drum type Clutch<br />
Overrunning Clutch<br />
Hydraulic Torque Converter<br />
Electric Clutch<br />
ขอดอยของ Hydraulic Clutch คือขอใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
ไมสามารถสงผานแรงบิดขนาดสูง ๆ ได<br />
คําตอบ 2 : ประสิทธิภาพต่ําถาไมทํางานตามความเร็วที่ออกแบบไว<br />
คําตอบ 3 : สามารถสงผานการหมุนไดทิศทางเดียว<br />
คําตอบ 4 : ดูดซับแรงสั่นสะเทือนไดไมดี<br />
ในการทํางานของ Hydraulic Coupling คา “SLIP” ควรมีคาใด<br />
คําตอบ 1 : นอยกวา 1<br />
คําตอบ 2 : เทากับ 1<br />
คําตอบ 3 : มากกวา 1<br />
คําตอบ 4 : ไมแนนอน<br />
ขอตอเพลาชนิดใดนิยมใช เฉพาะกับเรือเล็ก ๆ (เรือใหญไมนิยมใช)<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
แบบฟนเฟอง (Gear Coupling)<br />
แบบใชแผนยางสังเคราะห (Elastomeric Coupling)<br />
แบบ Universal joint<br />
แบบใชแผนไดอะแฟรมโลหะ (Diaphragm Coupling)<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
71 of 125<br />
ขอที่ : 311<br />
Reduction Gear ในเรือนิยมใชเฟองกางปลา (Double Helical) แทนที่จะใชเฟองตรงเนื่องจากอะไร<br />
คําตอบ 1 :<br />
สงผานกําลังไดมากกวา
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
มีเสียงเงียบกวา<br />
ไมมีแรงลัพธในแนวแกนเฟอง<br />
ถูกทุกขอ<br />
72 of 125<br />
ขอที่ : 312<br />
คําตอบ 1 : Single input, Articulated<br />
คําตอบ 2 : Double input, Articulated<br />
คําตอบ 3 : Single input, Locked train<br />
คําตอบ 4 : Double input, Locked train<br />
ขอที่ : 313<br />
เฟองตรงคูหนึ่งประกอบดวยตัวขับและตัวตามซึ่งมีความหนาเทากันเปนวัสดุชนิดเดียวกันแตจํานวนฟนไมเทากัน คาตอไปนี้คาใดที่เทากัน<br />
คําตอบ 1 : ความเร็วเชิงมุม<br />
คําตอบ 2 : มุมความดัน ( Pressure angle)<br />
คําตอบ 3 : Bending stress ( Lewis stress)<br />
คําตอบ 4 : Contact stress (Hertz stress)<br />
ขอที่ : 314<br />
คาเฉลี่ยของจํานวนฟนเฟองที่สัมผัสกัน ในขณะที่เฟองตรง 2 อันหมุนขบกันเรียกวาอะไร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
Gear ratio<br />
Tooth ratio<br />
Contact ratio<br />
Velocity ratio<br />
ขอที่ : 315
การชํารุดของผิวหนาฟนเฟองที่เรียกวา “รอยครูด” (Scoring หรือ Galling) เกิดจากอะไร<br />
คําตอบ 1 : ความเคนที่เกิดจากผิวโคงของฟนเฟองกลิ้งสัมผัสกัน ( Contact stress) เมื่อเฟองขบกัน<br />
คําตอบ 2 : การลื่นไถลระหวางฟนเฟอง(Sliding) เมื่อเฟองขบกัน<br />
คําตอบ 3 : ความเคนที่พยายามทําใหฟนเฟองโกงตัว (Bending stress)<br />
คําตอบ 4 : ความเคนตกคาง(Residual stress) จาการขึ้นรูปฟนเฟอง<br />
73 of 125<br />
ขอที่ : 316<br />
ขอที่ : 317<br />
ขอที่ : 318<br />
ขอที่ : 319<br />
เพื่อหลีกเลี่ยงการเกยกัน(Interference)ของฟนเฟองตรงที่ขบกันวิธีตอไปนี้อาจถูกนํามาใช ยกเวนขอใด<br />
คําตอบ 1 : ตัดปลายฟนเฟองออกใหสั้นกวาความยาวมาตรฐาน<br />
คําตอบ 2 : กัดฟนเฟองใหมีรองระหวางฟนกวางขึ้นทําใหฟนเฟองบางลง<br />
คําตอบ 3 : ใชคูเฟองขับและเฟองตามที่มีความตางของจํานวนฟนลดลง<br />
คําตอบ 4 : ใชเฟองที่มีมุมกดดันของฟนเฟอง(Pressure angle) ลดลง<br />
ทําไมเฟองขับและเฟองตามที่มีขนาดตางกันมากจึงมักทําดวยโลหะตางชนิดกัน<br />
คําตอบ 1 : เพื่อปองกันการหลอมติดกันกันของผิวฟนเฟอง<br />
คําตอบ 2 : เพื่อใหพื้นผิวฟนเฟองมีการปรับสภาพใหขบกันไดสนิทเมื่อใชงานไประยะหนึ่ง<br />
คําตอบ 3 : เพื่อใหเกิดการหลอลื่น<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับน้ํามันเกียร<br />
คําตอบ 1 : น้ํามันเกียรที่หลอเพลาของเฟองเปนคนละชนิดกับที่หลอฟนเฟอง<br />
คําตอบ 2 : ชวยกระจายความกดดันที่เกิดจากการขบกันของฟนเฟองไปตามผิวหนาฟนเฟอง<br />
คําตอบ 3 : ลดแรงเสียดทานระหวางพื้นผิวฟนเฟองที่สัมผัสกัน<br />
คําตอบ 4 : ระบายความรอนออกจากฟนเฟอง<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :<br />
74 of 125<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ขอที่ : 320<br />
คา Bearing Reaction Influence Numbers (RIN) คืออะไร<br />
คําตอบ 1 : แรงกดดันที่กระทําลงที่แบริ่งละตัว<br />
คําตอบ 2 : แรงกดดันที่กระทําลงที่แบริ่งแตละตัวเมื่อยกแบริ่งแตละตัวขึ้น 1 หนวยจากตําแหนงปรกติ<br />
คําตอบ 3 : แรงกดดันที่เปลี่ยนไปบนแบริ่งแตละตัวเมื่อยกแบริ่งตัวใดตัวหนึ่งขึ้น 1 หนวยจากตําแหนงปรกติ<br />
คําตอบ 4 : แรงกดดันที่เปลี่ยนไปบนแบริ่งแตละตัวเมื่อยกแบริ่งทุกตัวขึ้น 1 หนวยจากตําแหนงปรกติ<br />
ขอที่ : 321<br />
ในตาราง Bearing Reactions <strong>and</strong> Influence Numbers (RIN) ระยะยกตัวของแบริ่งแตละตัวมีคาเทากับเทาใด<br />
ขอที่ : 322<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
1 มิลลิเมตร<br />
1 เซนติเมตร<br />
คําตอบ 3 : 1/10 นิ้ว<br />
คําตอบ 4 : 1/1000 นิ้ว<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ในทางทฤษฎีแนวเพลาควรเปนเชนใดและเพราะเหตุผลใด<br />
คําตอบ 1 : เปนเสนตรงอุดมคติเพื่อหลีกเลี่ยง Reversed bending stress ซึ่งจะทําใหเกิดความเสียหายแกเพลา<br />
คําตอบ 2 : เปนเสนตรงอุดมคติเพื่อหลีกเลี่ยงการขัดตัวกับแบริ่งซึ่งจะทําใหเกิดความเสียหายแกเพลาและแบริ่ง<br />
คําตอบ 3 : เปนเสนโคงเพื่อใหเขากับการแอนตัวของเพลาเนื่องจากน้ําหนักของตัวมันเอง<br />
คําตอบ 4 : เปนเสนโคงเพราะตองคํานึงถึงการเปลี่ยนแปลงของแรงปฏิกิริยาของ แบริ่งเมื่ออุณหภูมิสูงขึ้นในขณะเพลาถูกใชงาน
ขอที่ : 323<br />
ขอที่ : 324<br />
ขอที่ : 325<br />
ในกรณีของเรือที่ใชเครื่องยนตขับเพลาใบจักรผาน Reduction Gear การวางแนวเพลาที่ไมดีพออาจเกิดการชํารุดที่จุดใด<br />
คําตอบ 1 : เครื่องยนต<br />
คําตอบ 2 : Reduction Gear<br />
คําตอบ 3 : ใบจักร<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ผูผลิตมักจะแสดงขอมูลหนึ่งบน Reduction Gear ซึ่งมีประโยชนในการพิจารณาเรื่องการวางแนวเพลา ขอมูลนั้นคือขอใด<br />
คําตอบ 1 : Reduction Ratio<br />
คําตอบ 2 : น้ําหนักของ Reduction Gear<br />
คําตอบ 3 : ความตางสูงสุดระหวางแรงปฏิกิริยาของแบริ่งคูหนาและคูหลังที่อนุญาตใหเกิดได<br />
คําตอบ 4 : มิติของตัวเรือนของ Reduction Gear<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
75 of 125<br />
คําตอบ 4 :
ขอที่ : 326<br />
ขอที่ : 327<br />
ขอที่ : 328<br />
ขอที่ : 329<br />
ในการวางเพลาภายในเรือจะมีการวัดแรงปฏิกิริยาของแบริ่งรองรับเพลาเพื่อใชปรับความสูงของแบริ่ง การวัดแรงปฏิกิริยาครั้งแรกจะกระทําเมื่อใด<br />
คําตอบ 1 : เพลาแตละทอนวางอยูบนแบริ่ง แตยังไมไดตอหนาแปลนระหวางทอนเพลา<br />
คําตอบ 2 : เพลาแตละทอนวางอยูบนแบริ่ง และไดตอหนาแปลนระหวางทอนเพลาแลว<br />
คําตอบ 3 : ไดตอหนาแปลนระหวางทอนเพลาและเขากับหนาแปลนของ Reduction Gear แลว<br />
คําตอบ 4 : ไดตอหนาแปลนระหวางทอนเพลา, หนาแปลนของ Reduction Gear และหนาแปลนเพลาเขาทอ Stern tube แลว<br />
ในการตอเพลาเขากับ Reduction Gear คา “Drop” เปน + ในกรณีใด<br />
คําตอบ 1 : แนวแกนเพลาสูงกวาแนว แกน(Output) ของ Reduction Gear<br />
คําตอบ 2 : แนวแกนเพลาต่ํากวาแนว แกน(Output) ของ Reduction Gear<br />
คําตอบ 3 : หนาแปลนทั้งสองเกยกัน<br />
คําตอบ 4 : หนาแปลนทั้งสองไมเกยกัน<br />
ในการตอเพลาเขากับเครื่องยนตดีเซลรอบต่ําที่ใชขับเคลื่อนเพลาใบจักรโดยตรง ควรมีการตรวจสอบขอมูลใดเพิ่มเติมเพื่อใหแนใจวาแนวเพลาอยูในเกณฑยอมรับได<br />
คําตอบ 1 : ความเคนที่ขอเหวี่ยงของเครื่องยนต<br />
คําตอบ 2 : แรงอัดที่กระบอกสูบ<br />
คําตอบ 3 : แรงปฏิกิริยาที่แบริ่งของขอเหวี่ยงดานหัวเรือ<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับการใช Strain gauge หาศูนยเพลาใบจักร<br />
คําตอบ 1 : สามารถวัดคาพรอมกันทั้งในแนวดิ่งและแนวระดับ<br />
คําตอบ 2 : เมื่อติดตั้งอุปกรณเสร็จหมดแลว การอานคาทําไดรวดเร็ว<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 3 : สามารถใชวิธีนี้หาศูนยเพลาไดแมขณะเรือออกทะเล<br />
คําตอบ 4 : การวิเคราะหขอมูลที่อานไดไมยุงยาก<br />
76 of 125<br />
ขอที่ : 330<br />
Feeler หรือ Taper gage ใชวัดคาใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
ระยะหางระหวางหนาแปลน
คําตอบ 2 : ระยะเยื้องกันระหวางหนาแปลน<br />
คําตอบ 3 : มุมระหวางหนาแปลน<br />
คําตอบ 4 : ระยะหางและระยะเยื้องกันระหวางหนาแปลน<br />
77 of 125<br />
ขอที่ : 331<br />
ขอที่ : 332<br />
ขอที่ : 333<br />
การหาศูนยเพลาโดยไมใสหนาแปลนเพลาไวนิยมทําเมื่อหนาแปลนมีขนาดอยางไร<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
เทากัน<br />
ไมเทากัน<br />
ใหญ<br />
เล็ก<br />
คําตอบ 1 : ขนานกัน<br />
คําตอบ 2 : ไมเยื้องในแนวระดับ(ขวา-ซาย)<br />
คําตอบ 3 : ไมเยื้องกันในแนวดิ่ง<br />
คําตอบ 4 : ไมขนานกัน<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
ขนานกัน<br />
ไมขนานกัน
คําตอบ 3 : เยื้องกันในแนวดิ่ง<br />
คําตอบ 4 : เยื้องกันในแนวระดับ<br />
78 of 125<br />
ขอที่ : 334<br />
ขอใดกลาวไมถูกตองเกี่ยวกับการวัดแบบ Face- Peripheral Dial Indicator Method ที่วัดระยะทางดานหลังของหนาแปลน<br />
คําตอบ 1 : จะใชเมื่อหนาแปลนอยูชิดกันมาก<br />
คําตอบ 2 : เปลี่ยนเครื่องหมายของคาที่วัดไดจาก Face Indicator จากบวกเปนลบ และจากลบเปนบวก<br />
คําตอบ 3 : การวัดระยะของ Peripheral Indicator เหมือนกับในกรณีที่วัดทางดานหนาของหนาแปลน<br />
คําตอบ 4 : เหมาะกับหนาแปลนที่มีเสนผาศูนยกลางขนาดเล็ก<br />
ขอที่ : 335<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 3 :<br />
79 of 125<br />
คําตอบ 4 :<br />
ขอที่ : 336<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 3 :<br />
80 of 125<br />
คําตอบ 4 :<br />
ขอที่ : 337<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 3 :<br />
81 of 125<br />
ขอที่ : 338<br />
คําตอบ 4 :<br />
แบริ่งรับเพลาใบจักรบริเวณโยงโยที่ใชน้ําเปนตัวหลอลื่น โดยปรกติมีอัตราสวนระหวางความยาว (L) กับเสนผาศูนยกลาง(D) ประมาณเทาใด<br />
คําตอบ 1 : 1<br />
คําตอบ 2 : 2<br />
คําตอบ 3 : 3<br />
คําตอบ 4 : 4<br />
ขอที่ : 339<br />
Thrust Eccentricity Factor คืออัตราสวนระหวาง Thrust Eccentricity (ระยะเยื้องของ Thrust จากจุดศูนยกลางของเพลาใบจักร) กับขอใด<br />
ขอที่ : 340<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
เสนผาศูนยกลางของเพลาใบจักร<br />
รัศมีเพลาใบจักร<br />
เสนผาศูนยกลางของใบจักร<br />
รัศมีใบจักร<br />
ขอใดเปนหนวยวัดความหนืดสัมบูรณของน้ํามันหลอ<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
Poise<br />
Centistokes<br />
Saybolt Universal Seconds (SUS)<br />
ถูกทุกขอ
ขอที่ : 341<br />
ขอที่ : 342<br />
ขอที่ : 343<br />
ขอที่ : 344<br />
ขอใดเปนหลักในการเลือกใชน้ํามันหลอลื่นในเรือ<br />
คําตอบ 1 : ความหนืดของน้ํามันหลอลื่นที่ใชตองเพียงพอกับสภาพการทํางานของเครื่องจักรกลในภาวะวิกฤต<br />
คําตอบ 2 : ถาไมแนใจใหเลือกที่มีความหนืดมากๆ เผื่อไวเพราะความรอนเวลาใชงานจะทําใหความหนืดลดลง<br />
คําตอบ 3 : เลือกใชหลากหลายชนิดและความหนืดตามตองการเพื่อใหเหมาะกับสภาพเครื่องจักรแตละเครื่องใหดีที่สุด<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
การหาแนวเพลาโดยวิธีใดเปนที่นิยมใชนอยที่สุดเนื่องจากมักมีความผิดพลาดมากในการอานคาตางๆ<br />
คําตอบ 1 :<br />
การวัดระยะ Gap และระยะ Gap<br />
คําตอบ 2 : การหาแรงปฏิกิริยาที่แบริ่งโดยใชแมแรงไฮดรอลิกส<br />
คําตอบ 3 : การใช Strain Gage<br />
คําตอบ 4 : การใช Optical Method<br />
สิ่งใดไมมีผลตออายุการใชงานของเฟอง<br />
คําตอบ 1 : ความหยาบหรือประณีตในการติดตั้ง<br />
คําตอบ 2 : อุณหภูมิใชงาน<br />
คําตอบ 3 : ความเรียบของผิวฟนเฟองที่สัมผัสกัน<br />
คําตอบ 4 : ขนาดของเฟอง<br />
คูของจํานวนฟนเฟองที่ขบกันขอใดมี “ Hunting tooth”<br />
คําตอบ 1 : 10 30<br />
คําตอบ 2 : 13 37<br />
คําตอบ 3 : 17 68<br />
คําตอบ 4 : ไมมีขอถูก<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
82 of 125<br />
ขอที่ : 345<br />
เฟองตรงตัวแรกมีเสนผาศูนยกลาง = a มีจํานวนฟน = A เฟองตรงตัวที่2 ซึ่งขบกันอยูกับตัวแรกมีเสนผาศูนยกลาง = b มีจํานวนฟน = B อัตราทดระหวางเฟองทั้งสองหาไดเทากับ<br />
เทาใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
a/b<br />
A/B
คําตอบ 3 : ถูกทั้งสองขอขางตน<br />
คําตอบ 4 : ไมมีขอถูก<br />
83 of 125<br />
ขอที่ : 346<br />
ขอที่ : 347<br />
การใชเพลากลวงเปนสิ่งจําเปนโดยเฉพาะในกรณีใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
เรือใชใบจักรแบบ Controllable Pitch Propeller<br />
คําตอบ 2 : เรือที่มีความเร็วสูง<br />
คําตอบ 3 : เรือที่มีเพลาใบจักรยาวมาก<br />
คําตอบ 4 : เรือที่ตองเผินขึ้นเหนือน้ํา (Planing boat)<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
น้ําไหลในทอเสนผาศูนยกลาง 50 เซนติเมตร คาความหยาบสัมพัทธ ( Relative roughness ) 0.05, Reynolds number = 1600 จงหาคา Friction factor ของทอ ( ดู Moody<br />
diagram )
84 of 125<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
85 of 125<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 0.1<br />
คําตอบ 2 : 0.2<br />
คําตอบ 3 : 0.3<br />
คําตอบ 4 : 0.4<br />
86 of 125<br />
ขอที่ : 348<br />
ขอที่ : 349<br />
ขอที่ : 350<br />
ถาเพิ่ม Globe valve ขึ้นในระบบ Single pipe line จะมีผลอะไรกับเสนกราฟ System total head curve <br />
คําตอบ 1 : เสนโคงเลื่อนขึ้น<br />
คําตอบ 2 : เสนโคงเลื่อนลง<br />
คําตอบ 3 : เสนโคงมีความชันเพิ่มขึ้น<br />
คําตอบ 4 : เสนโคงมีความชันลดลง<br />
จงเรียงลําดับ Valve ที่ทําใหเกิด Head loss จากนอยไปหามาก ในขณะที่อยูในตําแหนงเปดสุด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Globe, Butterfly, Gate<br />
Gate, Butterfly, Globe<br />
Butterfly, Gate, Globe<br />
Butterfly, Globe, Gate<br />
การปด Valve โดยกะทันหันในระบบที่ของเหลวเชน น้ํา กําลังไหลอยูควรระวังวาอาจทําใหเกิดเหตุการณใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
เกิด Cavitations<br />
เกิด Hammering<br />
คําตอบ 3 : ความดันในระบบเพิ่มขึ้นกะทันหัน<br />
คําตอบ 4 : ความดันในระบบลดลงกะทันหัน<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอที่ : 351<br />
Pump ถูกเรียกวามี “ Negative suction head ” เมื่อตัว Pump ตั้งอยูที่ใด<br />
คําตอบ 1 : สูงกวาระดับของเหลวที่สูบ<br />
คําตอบ 2 : ต่ํากวาระดับของเหลวที่สูบ<br />
คําตอบ 3 : สูงกวาระดับของเหลวที่ปลายทางทอสง<br />
คําตอบ 4 : ระหวางทอทางสงและทอทางดูด
ขอที่ : 352<br />
Pump แบบใดไมนิยมใชในระบบไฮโดรลิกส<br />
ขอที่ : 353<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สูบชัก<br />
Vane<br />
ฟนเฟอง<br />
หอยโขง<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
87 of 125<br />
ขอที่ : 354
88 of 125<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
a<br />
b<br />
a + b<br />
a - b<br />
ขอที่ : 355<br />
Head loss เนื่องจากการไหลในทอมีคาเทากับขอใด (D = เสนผาศูนยกลางทอ, f = สัมประสิทธิ์แรงเสียดทาน, g = ความเรงจากแรงโนมถวงที่ผิวโลก, L = ความยาวทอ, V = ความ<br />
เร็วของการไหล)<br />
ขอที่ : 356<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
คา Friction Factor ของทอ เมื่อของเหลวไหลแบบเปนระเบียบ(Laminar Flow) ขึ้นอยูกับปจจัยใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
89 of 125<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ขอที่ : 357<br />
เมื่อการไหลในทอเปนไปแบบ Complete Turbulent Flow คาFriction Factor จะขึ้นอยูกับคาใด<br />
ขอที่ : 358<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
จากแผนภูมิ Relative roughness <strong>and</strong> Friction factors for new clean pipes คา Reynolds number = 1200, เสนผาศูนยกลางทอ = 1,270 mm, ความขรุขระ = 0.0457 mm,<br />
จงหาคา Friction Factor
90 of 125<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
91 of 125<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 0.01<br />
คําตอบ 2 : 0.0018<br />
คําตอบ 3 : 0.0072<br />
คําตอบ 4 : 0.0085<br />
92 of 125<br />
ขอที่ : 359<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
จากแผนภูมิ Relative roughness <strong>and</strong> Friction factors for new clean pipes คา Reynolds number = 20,000 เสนผาศูนยกลางทอ=1,270 mm ความขรุขระ= 0.0457 mm จง<br />
หาคา Friction Factor
93 of 125<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
94 of 125<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 : 0.01<br />
คําตอบ 2 : 0.0018<br />
คําตอบ 3 : 0.0072<br />
คําตอบ 4 : 0.0085<br />
95 of 125<br />
ขอที่ : 360<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ขอที่ : 361<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :<br />
96 of 125<br />
ขอที่ : 362<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :<br />
97 of 125<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ขอที่ : 363<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 1 :<br />
98 of 125<br />
ขอที่ : 364<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 1 :<br />
A
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
B<br />
C<br />
D<br />
99 of 125<br />
ขอที่ : 365<br />
ขอที่ : 366<br />
คําตอบ 1 : ความเร็วของน้ําในทอทั้ง 2 เทากัน<br />
คําตอบ 2 : Head loss เนื่องจากแรงเสียดทานในแขนงทอทั้ง 2 เทากัน<br />
คําตอบ 3 : ปริมาณการไหลในแขนงทอทั้ง 2 เทากัน<br />
คําตอบ 4 : ไมสามารถสรุปแนนอนได<br />
คําตอบ 1 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 2 :
100 of 125<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
ขอที่ : 367<br />
คําตอบ 1 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 2 :<br />
101 of 125<br />
ขอที่ : 368<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
คําตอบ 1 : 1<br />
คําตอบ 2 : 2<br />
คําตอบ 3 : 3<br />
คําตอบ 4 : 4<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอที่ : 369
102 of 125<br />
ขอที่ : 370<br />
ขอที่ : 371<br />
ขอที่ : 372<br />
คําตอบ 1 :<br />
Head vs. flow ของ A, B, C, D และ E<br />
คําตอบ 2 : Head vs. flow ของปม<br />
คําตอบ 3 : อัตราการไหลของทั้งระบบ<br />
คําตอบ 4 : ขนาดทอของแขนง A, B และ C<br />
สิ่งใดไมมีผลตอคาสัมประสิทธิ์ของความตานทานการไหล(คา K) ของวาลว<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
รูปราง<br />
ขนาด<br />
เปอรเซ็นตการเปด<br />
ความเร็วของไหล<br />
ลิ้นที่นิยมใชทําหนาที่ควบคุมปริมาณการไหลคือขอใด<br />
คําตอบ 1 : ลิ้นประตู(Gate Valve)<br />
คําตอบ 2 : ลิ้นกันกลับ(Check Valve)<br />
คําตอบ 3 : ลิ้นปลั๊ก (Plug Valve)<br />
คําตอบ 4 : ลิ้นลูกโลก (Globe Valve)<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอใดไมใชขอไดเปรียบที่ลิ้นผีเสื้อ (Butterfly Valve) มีตอลิ้นลูกโลก (Globe Valve)<br />
คําตอบ 1 : น้ําหนักเบากวา<br />
คําตอบ 2 : ใชกับของเหลวที่มีสารแขวนลอย(ขุน-สกปรก) ไดดี<br />
คําตอบ 3 : ปดไดสนิทแมในของไหลอุณหภูมิสูง ๆ<br />
คําตอบ 4 : ความดันลด (Pressure Drop) ต่ํากวา
ขอที่ : 373<br />
103 of 125<br />
ขอที่ : 374<br />
ขอที่ : 375<br />
ขอที่ : 376<br />
คําตอบ 1 : ลิ้นปดบาไดสนิท<br />
คําตอบ 2 : ลดการกระพือของลิ้น<br />
คําตอบ 3 : ลดการสึกกรอนของลิ้น<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ขอใดไมใชขอไดเปรียบของลิ้นกันกลับแบบยกตัว (Lift Check Valve) ที่มีตอลิ้นกันกลับแบบแกวง (Swing check Valve)<br />
คําตอบ 1 :<br />
ความดันลด (Pressure drop) นอยกวา<br />
คําตอบ 2 : ใชกับระบบที่มีอัตราการไหลสูงไดดี<br />
คําตอบ 3 : ใชไดดีกับไอน้ํา แกส หรือ อากาศ<br />
คําตอบ 4 : เหมาะสมกับระบบที่เดินๆ หยุดๆ<br />
คาความดันสวนเกิน (Overpressure) ของลิ้นแบบ Pressure-Relief Valve หมายถึงอะไร<br />
คําตอบ 1 : คาตางความดันที่เกินไปกวาคาที่ตั้งไวที่ลิ้นยังเปดอยู<br />
คําตอบ 2 : คาตางของความดันระหวางคาที่ตั้งไวกับคาที่อยูในทอหรือในภาชนะในสภาวะใชงานตามปรกติ<br />
คําตอบ 3 : คาตางของความดันระหวางความดันสูงสุดที่ลิ้นทํางานไดกับคาที่ตั้งไว<br />
คําตอบ 4 : คาตางของความดันระหวางคาสูงสุดที่ลิ้นทําวานไดกับคาที่อยูในทอหรือในภาชนะในสภาวะใชงานตามปรกติ<br />
จงเรียงลําดับวาลวที่เกิดความดันลดจากมากไปนอย<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
Globe, Angle, Swing Check<br />
Angle, Swing Check, Globe<br />
Swing Check, Globe, Angle<br />
Globe, Swing Check, Angle
ขอที่ : 377<br />
ขอที่ : 378<br />
ขอที่ : 379<br />
ขอที่ : 380<br />
อุปกรณประเภทใดไมนิยมติดที่ทางดูดของปมในเรือที่อยูใตระดับน้ํา<br />
คําตอบ 1 : ลิ้นประตู (Gate Valve)<br />
คําตอบ 2 : หมอกรองหยาบ (Strainer)<br />
คําตอบ 3 : ลิ้นกันกลับ<br />
คําตอบ 4 : ถูกทุกขอ<br />
ลิ้นที่นิยมใชควบคุมการไหลโดยใชกับระบบควบคุมระยะไกลที่ใชลมกําลังดัน ไฮดรอลิกส หรือไฟฟาควบคุม คือขอใด<br />
คําตอบ 1 : ลิ้นประตู (Gate Valve)<br />
คําตอบ 2 : ลิ้นลูกบอลล(Ball Valve)<br />
คําตอบ 3 : ลิ้นลูกโลก(Globe Valve)<br />
คําตอบ 4 : ลิ้นผีเสื้อ(Butterfly Valve)<br />
คําตอบ 1 : ประเภทของปม<br />
คําตอบ 2 : อุณหภูมิของของเหลว<br />
คําตอบ 3 : ความกดดันที่ผิวหนาของเหลวที่สูบ<br />
คําตอบ 4 : ความเสียดทานของทอทางดูด<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
104 of 125<br />
คําตอบ 1 :<br />
10 m
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
9 m<br />
8 m<br />
7 m<br />
105 of 125<br />
ขอที่ : 381<br />
คําตอบ 1 : A<br />
คําตอบ 2 : B<br />
คําตอบ 3 : C<br />
คําตอบ 4 : D<br />
ขอที่ : 382<br />
ปมสูบชักแบบ Duplex single acting มีกราฟปริมาณการไหล vs เวลา เปน<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
คําตอบ 3 :<br />
106 of 125<br />
คําตอบ 4 :<br />
ขอที่ : 383<br />
จงเรียงลําดับปมที่มีคาความเร็วจําเพาะ (Specific speed) จากต่ําไปสูง<br />
คําตอบ 1 : Radial flow, Mixed flow, Axial flow<br />
คําตอบ 2 : Radial flow, Axial flow, Mixed flow<br />
คําตอบ 3 : Axial flow, Mixed flow, Radial flow<br />
คําตอบ 4 : Axial flow, Radial flow, Mixed flow<br />
ขอที่ : 384<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
a - b<br />
a- c<br />
b - c<br />
b - d<br />
ขอที่ : 385
107 of 125<br />
คําตอบ 1 : 1 - C<br />
คําตอบ 2 : 3 - A<br />
คําตอบ 3 : 1 - A<br />
คําตอบ 4 : 3 - C<br />
ขอที่ : 386<br />
ปมชนิดใดมักจะกอใหเกิดปญหาเกี่ยวกับ Water Hammer<br />
คําตอบ 1 : แบบหอยโขง<br />
คําตอบ 2 : แบบฟนเฟอง<br />
คําตอบ 3 : แบบสูบชัก<br />
คําตอบ 4 : แบบใบพัด<br />
ขอที่ : 387<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
a<br />
b<br />
c<br />
d<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอที่ : 388
108 of 125<br />
ขอที่ : 389<br />
ขอที่ : 390<br />
ขอที่ : 391<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Total head<br />
Pressure head<br />
Elevation head<br />
ถูกทุกขอ<br />
คาสัมประสิทธิ์การสูญเสียเฮด (Loss coefficient หรือ K factor) ของลิ้นประตูอันหนึ่งเมื่อเปดเต็มที่มีคาประมาณ 0.2 ถาของไหลเปนน้ําที่ความเร็ว 4.88 m/s Head loss คิดเปน<br />
ความกดของลําน้ําสูงเทาใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
182.8 mm<br />
213.4 mm<br />
243.8 mm<br />
274.3 mm<br />
ปมที่มีหลักการทํางานเดียวกับพัดลมคือขอใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Axial Flow Pump<br />
Mixed Flow Pump<br />
Radial Flow pump<br />
Positive Displacement Pump<br />
การติดตั้งปมควรตรวจสอบคา NPSH (Net Positive Suction Head) ทุกครั้งวาคาที่ตองการตองนอยกวาคาที่ปมตัวนั้นที่ตําแหนงติดตั้งนั้นๆ มีอยูเพื่อใหแนใจวา<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
กําลังดูดพอเพียง<br />
กําลังสงจายพอเพียง<br />
ไมเกิด Cavitation<br />
ถูกทุกขอ
ขอที่ : 392<br />
ขอที่ : 393<br />
ขอที่ : 394<br />
ขอที่ : 395<br />
เมื่อนําปมน้ําแบบหอยโขงตัวหนึ่งไปทดสอบปรากฏวากราฟของเฮด(Head)กับอัตราการไหลเปนไปตามที่โรงงานผูผลิตระบุไวทุกอยาง แตปมมีประสิทธิภาพลดลงเนื่องจากใชกําลัง<br />
109 of 125<br />
ไฟเกินกวาที่กําหนดไว ขอใดนาจะเปนขอสันนิษฐานที่ถูกตอง<br />
คําตอบ 1 :<br />
ใบพัดชํารุด<br />
คําตอบ 2 : ซีล(Mechanical Seal)รั่ว<br />
คําตอบ 3 : ใบพัดหมุนกลับทิศทาง<br />
คําตอบ 4 : ซีล (Mechanical Seal) คับเกินไป<br />
ในการคํานวณหาคา Head Loss ในระบบทอทางจะตองนําคา Head ตางๆ มาพิจารณา ยกเวนในขอใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
Pressure Head<br />
Elevation Head<br />
Dynamic Head<br />
Thermal Head<br />
สาเหตุที่จัดใหการไหลในทอทางมีเพียง 1 มิติ (One Dimension Analysis) เพราะไมตองคํานึงถึงสิ่งใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
ความแตกตางของความเร็วตามแนวรัศมีของทอ<br />
คําตอบ 2 : แรงเสียดทานที่ผิวทอ<br />
คําตอบ 3 : ความขรุขระที่ผิวทอ<br />
คําตอบ 4 : ความหนืดของของไหล<br />
ขอใดกลาวไดถูกตองเกี่ยวกับคาอัตราการไหล (Flow Rate) และ Head ของน้ําในทอ 2 ทอที่นํามาตอกันในลักษณะขนาน<br />
คําตอบ 1 : ใหคิดวาคาอัตราการไหลและ Head ในทอทั้งสองเทากัน<br />
คําตอบ 2 : ใหรวมคาอัตราการไหลของทอทั้งสองที่คา Head เดียวกัน<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 3 : ใหรวมคา Head ของทอทั้งสองที่คาอัตราการไหลเดียวกัน<br />
คําตอบ 4 : ใหคิดเชนเดียวกันกับการตอทอในลักษณะอนุกรม<br />
ขอที่ : 396<br />
ขอใดไมใชชนิดของทอที่มีจําหนายอยูในทองตลาดทั่วไป<br />
คําตอบ 1 : Schedule 10<br />
คําตอบ 2 : Schedule 20
คําตอบ 3 : Schedule 40<br />
คําตอบ 4 : Schedule 50<br />
110 of 125<br />
ขอที่ : 397<br />
อุปกรณในระบบทอทางในขอใดที่นิยมใชในการควบคุมอัตราการไหล<br />
คําตอบ 1 : Gate Valve<br />
คําตอบ 2 : Ball Valve<br />
คําตอบ 3 : Globe Valve<br />
คําตอบ 4 : Strainer<br />
ขอที่ : 398<br />
การกําหนดความเร็วต่ําสุดของอัตราการไหลในทอทางบนเรือ มีสาเหตุมาจากขอใด<br />
คําตอบ 1 : ปองกันการเกิดเสียง<br />
คําตอบ 2 : ปองกันการสั่นสะเทือน<br />
คําตอบ 3 : หลีกเลี่ยงความสกปรกที่ติดผนังทอ<br />
คําตอบ 4 : ลดแรงเสียดทานที่ผิวของทอ<br />
ขอที่ : 399<br />
ขอที่ : 400<br />
วัสดุที่นิยมนํามาใชทําหลอดของคอนเดนเซอร (Condenser) ในงานเรือคือขอใด<br />
คําตอบ 1 : 90/10 Copper-Nickel 1.5 Fe Alloy<br />
คําตอบ 2 : 70/30 Copper-Nickel 0.5 Fe Alloy<br />
คําตอบ 3 : เหล็กสเตนเลส (Stainless Steel)<br />
คําตอบ 4 : ทอเหล็กหลอ (Grey Cast Iron)<br />
ปม (Pump) ที่นิยมใชในการสูบน้ํามันเชื้อเพลิงในเรือคือขอใด<br />
คําตอบ 1 :<br />
คําตอบ 2 :<br />
คําตอบ 3 :<br />
คําตอบ 4 :<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
Centrifugal Pump<br />
Axial Pump<br />
Priming Pump<br />
Rotary Pump<br />
ขอที่ : 401
การติดตั้งเครื่องจักรใหญบนเรือ ผูที่ดําเนินการจะตองมีความรูหลายเรื่องดวยกัน ยกเวนในเรื่องขอใด<br />
คําตอบ 1 : ระบบทอทาง<br />
คําตอบ 2 : ระบบน้ําถวงเรือ<br />
คําตอบ 3 : โครงสรางตัวเรือ<br />
คําตอบ 4 : ระบบน้ําดับความรอน<br />
ขอที่ : 402<br />
คากําลังของเครื่องยนต ( Brake Horsepower) เปนคากําลังที่วัดไดตรงจุดใด<br />
คําตอบ 1 : Flywheel<br />
คําตอบ 2 : Crankshaft<br />
คําตอบ 3 : Governor<br />
คําตอบ 4 : Cylinder Head<br />
ขอที่ : 403<br />
เรือที่มีการควบคุมทิศทางการขับเคลื่อนไดดีควรมีลักษณะเชนใด<br />
ขอที่ : 404<br />
คําตอบ 1 : มี 2 ใบจักรขึ้นไป<br />
คําตอบ 2 : ใชกระดูกงูเสริม<br />
คําตอบ 3 : ใชทายเรือแบบตัด (Transom Stern)<br />
คําตอบ 4 : มีเครื่องจักรใหญ 2 เครื่องขึ้นไป<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอใดสงผลกับขนาดของคาแรงผลัก (Thrust) ที่ใบจักรตองผลิตไดเพื่อใชในการขับเคลื่อนเรือ<br />
คําตอบ 1 : ระบบสมอ<br />
คําตอบ 2 : ระบบควบคุมหางเสือ<br />
111 of 125
คําตอบ 3 : ความยาวกระบอกดีฟุตกับเพลา<br />
คําตอบ 4 : อวนลากปลา<br />
112 of 125<br />
ขอที่ : 405<br />
ขอใดกลาวไดถูกตองเกี่ยวกับการทํางานของระบบขับเคลื่อนเรือรบ<br />
คําตอบ 1 : ใชความเร็วสูงสุด (Maximum Speed) เปนสวนใหญ<br />
คําตอบ 2 : ใชความเร็วเดินทาง (Cruising Speed) เปนสวนใหญ<br />
คําตอบ 3 : ออกแบบมาใหใชความเร็วเดียว<br />
คําตอบ 4 : ใชความเร็วสูงสุดและความเร็วเดินทางเปนเวลาเทาๆกัน<br />
ขอที่ : 406<br />
ใบจักรแบบ Contrarotating Propeller มีลักษณะเฉพาะหลายอยางดวยกัน ยกเวนขอใด<br />
คําตอบ 1 : เหมาะกับเรือความเร็วสูง<br />
คําตอบ 2 : มีระบบการทํางานที่ซับซอน<br />
คําตอบ 3 : กินน้ําตื้น<br />
คําตอบ 4 : ราคาแพงกวาใบจักรทั่วไป<br />
ขอที่ : 407<br />
โดยทั่วไปจํานวนใบจักรที่ใชกับเรือ SWATH นั้นมีจํานวนเทาใด<br />
คําตอบ 1 : 2 ใบ<br />
คําตอบ 2 : 1 ใบ<br />
คําตอบ 3 : 4 ใบ<br />
คําตอบ 4 : 3 ใบ<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย
ขอที่ : 408<br />
หากทานตองการใชเครื่องจักรใหญที่จําเปนตองมีการบํารุงรักษานอยที่สุด ทานควรเลือกเครื่องในขอใด<br />
คําตอบ 1 : เครื่องยนตดีเซล<br />
คําตอบ 2 : เครื่องแก็สเทอรไบน<br />
คําตอบ 3 : เครื่องจักรไอน้ํา<br />
คําตอบ 4 : CODAG<br />
ขอที่ : 409<br />
คากําลังที่ใชกับเรือมีอยูดวยกันหลายตัว แตละตัวมีความสัมพันธซึ่งกันและกัน จากขอตอไปนี้ขอใดมีคาสูงที่สุด<br />
คําตอบ 1 : Thrust Horsepower<br />
คําตอบ 2 : Delivered Horsepower<br />
คําตอบ 3 : Shaft Horsepower<br />
คําตอบ 4 : Effective Horsepower<br />
ขอที่ : 410<br />
อุปกรณในขอใดที่ทําใหคา Shaft Horsepower และ Delivered Horsepower แตกตางกัน<br />
คําตอบ 1 : เกียรทดรอบ<br />
คําตอบ 2 : ใบจักร<br />
คําตอบ 3 : แบริ่งรับเพลาใบจักร<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 4 : หางเสือ<br />
ขอที่ : 411<br />
เปนที่ทราบกันดีวาความเร็วของน้ําเขาสูใบจักรเทากับ V A<br />
สวนความเร็วของเรือเทากับ V และความสัมพันธระหวางคาทั้งสองคือ V A<br />
= (1-w)*V คํากลาวในขอใดถูกที่สุด<br />
คําตอบ 1 : (1-w) อาจมีคามากกวา 2<br />
113 of 125
คําตอบ 2 : w มีคานอยกวา 1 เสมอ<br />
คําตอบ 3 : w เปนคาคงที่ตลอดทุกยานความเร็วเรือ<br />
คําตอบ 4 : w ไมแปรผันตามคา Block Coefficient<br />
114 of 125<br />
ขอที่ : 412<br />
สําหรับเครื่องจักรไอน้ําแลว ประสิทธิภาพของหมอน้ํา (Boiler Efficiency) สงผลกับคาใดมากที่สุด<br />
คําตอบ 1 : จํานวนเขมาที่ปลองแก็สเสีย<br />
คําตอบ 2 : อัตราการไหลของไอน้ํา<br />
คําตอบ 3 : คาความรอนที่น้ํามันเชื้อเพลิงใหออกมา<br />
คําตอบ 4 : อัตราการกินน้ํามันเชื้อเพลิง<br />
ขอที่ : 413<br />
ประสิทธิภาพของหมอน้ําของเครื่องจักรไอน้ําขึ้นอยูกับขอใด<br />
คําตอบ 1 : อุณหภูมิของแก็สเสียที่ออกจากปลอง<br />
คําตอบ 2 : ขนาดรอบของเครื่องกังหันไอน้ํา<br />
คําตอบ 3 : จํานวนน้ําที่อยูในหมอ<br />
คําตอบ 4 : สถานที่ติดตั้งหมอน้ํา<br />
ขอที่ : 414<br />
ขอใดเปนคําศัพทที่ใชกับเครื่องยนตดีเซล<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 1 : Trial Speed<br />
คําตอบ 2 : Sustained Speed<br />
คําตอบ 3 : Overall Speed<br />
คําตอบ 4 : Maximum Continuous Speed
ขอที่ : 415<br />
ถาตองการเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของระบบขับเคลื่อนที่ใชแก็สเทอรไบนแลว ควรกระทําตามในขอใด<br />
คําตอบ 1 : เอาความรอนจากแก็สเสียไปใชงาน<br />
คําตอบ 2 : ลดรอบเพลาใบจักรลง<br />
คําตอบ 3 : เพิ่มขนาดของเพลาใบจักร<br />
คําตอบ 4 : เพิ่มอุณหภูมิของแก็สเสีย<br />
ขอที่ : 416<br />
สารเวนาเดียม (Vanadium) ในน้ํามันเชื้อเพลิงสรางผลเสียอยางไรกับระบบขับเคลื่อน<br />
คําตอบ 1 : ทําใหเครื่องจักรใหญสั่น<br />
คําตอบ 2 : ทําใหเครื่องจักรใหญดับ<br />
คําตอบ 3 : ทําใหการเผาไหมไมสมบูรณ<br />
คําตอบ 4 : ทําใหอุปกรณเกิดการผุกรอน<br />
ขอที่ : 417<br />
ถาใหเครื่องจักรใหญผลิตกําลังไดเทากัน คาน้ําหนักของเครื่องจักรใหญทั้งระบบตอหนวยกําลังที่เครื่องผลิตออกมาในขอใดมีคาสูงที่สุด<br />
คําตอบ 1 : เครื่องแก็สเทอรไบน<br />
คําตอบ 2 : เครื่องจักรไอน้ํา<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 3 : เครื่องยนตดีเซลที่ติดตั้งพรอมเกียร<br />
คําตอบ 4 : เครื่องยนตดีเซลที่ตอกับเพลาโดยตรง<br />
115 of 125<br />
ขอที่ : 418<br />
เรือที่แลนในแมน้ําที่คดเคี้ยวเปนสวนใหญควรมีลักษณะเชนใดจึงจะเหมาะสมที่สุด
คําตอบ 1 : ใบจักรมีขนาดเล็ก<br />
คําตอบ 2 : ใชเครื่องยนตดีเซลความเร็วรอบสูง<br />
คําตอบ 3 : มี 2 ใบจักร<br />
คําตอบ 4 : ใชกระดูกงูเสริม<br />
ขอที่ : 419<br />
ครีบกันโคลงของเรือ (Stabilizer fin) ควรติดตั้งอยูที่ตําแหนงใด<br />
คําตอบ 1 : ใกลกับกระดูกงู<br />
คําตอบ 2 : คอนไปทางหัวเรือ<br />
คําตอบ 3 : หางจากใบจักรประมาณ 2 เมตร<br />
คําตอบ 4 : มุมโคงใตทองเรือทั้ง 2 กราบ (Bilge)<br />
ขอที่ : 420<br />
เพื่อการควบคุมทิศทางเรือที่ดีที่สุด ตําแหนงของใบหางเสือควรอยูที่ใด<br />
ขอที่ : 421<br />
คําตอบ 1 : แนวเดียวกับดุมใบจักร ถามองไปทางหัวเรือ<br />
คําตอบ 2 : เยื้องไปทางดานขางใบจักรเล็กนอย ถามองไปทางหัวเรือ<br />
คําตอบ 3 : หางจากใบจักรประมาณ 3 เมตร ถามองจากดานขางเรือ<br />
คําตอบ 4 : ยื่นต่ําลงมาใตกระดูกงู<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ตามวัฏจักรดีเซล คาปริมาตรที่ State 3 หารดวยคาปริมาตรที่ State 2 จะไดอัตราสวนที่เรียกวา Fuel Cutoff Ratio หากคาดังกลาวมีคาสูงเกินไปจะเกิดอะไรขึ้น<br />
คําตอบ 1 : ควันเสียจะออกมามาก<br />
คําตอบ 2 : เครื่องยนตจะรอนเกินไป<br />
คําตอบ 3 : เครื่องยนตจะสั่นมาก<br />
116 of 125
คําตอบ 4 : เกิดไฟไหมเครื่อง<br />
117 of 125<br />
ขอที่ : 422<br />
เครื่องยนตที่ใชลูกสูบแบบ Crosshead Piston เปนเครื่องยนตชนิดใด<br />
คําตอบ 1 : Rotary Marine Diesel Engine<br />
คําตอบ 2 : Opposed-Piston Marine Diesel Engine<br />
คําตอบ 3 : Low Speed Marine Diesel Engine<br />
คําตอบ 4 : Long Stroke Marine Diesel Engine<br />
ขอที่ : 423<br />
เครื่องยนตเครื่องหนึ่งมีคา Compression Ratio = 19 เครื่องยนตเครื่องนี้นาจะเปนเครื่องในขอใด<br />
คําตอบ 1 : เครื่องยนตเบนซินที่มีความเร็วรอบสูง<br />
คําตอบ 2 : เครื่องยนตเบนซินที่มีความเร็วรอบต่ํา<br />
คําตอบ 3 : เครื่งยนตดีเซลที่มี Turbocharger<br />
คําตอบ 4 : เครื่งยนตดีเซลที่ไมมี Turbocharger<br />
ขอที่ : 424<br />
อุปกรณที่ใชวัดคากําลังของเครื่องยนตไดมีชื่อวาอะไร<br />
คําตอบ 1 : Thermometer<br />
คําตอบ 2 : Dynamometer<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 3 : Nanometer<br />
คําตอบ 4 : Turbometer<br />
ขอที่ : 425
ถาตองการเพิ่มคาแรงบิด (Torque) ของเครื่องยนตดีเซล ควรทําอยางไร<br />
คําตอบ 1 : เพิ่มคาอัตราการกินน้ํามัน<br />
คําตอบ 2 : ลดคาอัตราการกินน้ํามัน<br />
คําตอบ 3 : เพิ่มอากาศเขาเครื่อง<br />
คําตอบ 4 : เพิ่มปริมาณน้ํามันฉีดเขากระบอกสูบ<br />
ขอที่ : 426<br />
เครื่องยนตดีเซลของเรือสินคาลําหนึ่งมีคาความเร็วรอบสูงสุดเทากับ 55 RPM เครื่องยนตเครื่องนี้ควรมีลักษณะเชนใด<br />
คําตอบ 1 : ติดตั้ง Turbocharger<br />
คําตอบ 2 : เปนเครื่องขนาดใหญมีน้ําหนักมาก<br />
คําตอบ 3 : ระบายความรอนดวยอากาศ<br />
คําตอบ 4 : ใชเกียรที่มีอัตราทดรอบมากกวา 10:1<br />
ขอที่ : 427<br />
เครื่องยนตดีเซลในขอใดที่นาจะมีการสึกหรอเกิดขึ้นกับลูกสูบและแหวนลูกสูบสูง<br />
คําตอบ 1 : เสื้อสูบมีอุณหภูมิต่ําขณะใชงาน<br />
คําตอบ 2 : มีอุณหภูมิแก็สเสียสูง<br />
คําตอบ 3 : ติดตั้ง Turbocharger<br />
คําตอบ 4 : มีอัตราการกินน้ํามันต่ํา<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอที่ : 428<br />
จุดประสงคของการฉีดน้ําเขาไปใน Turbocharger ของเครื่องยนตเพื่อประโยชนในขอใด<br />
คําตอบ 1 : ทําความสะอาดสิ่งสกปรกภายใน Turbocharger<br />
คําตอบ 2 : ดับความรอนภายใน Turbocharger<br />
118 of 125
คําตอบ 3 : สรางไอระเหยภายใน Turbocharger<br />
คําตอบ 4 : ลดอัตราการกินน้ํามัน<br />
119 of 125<br />
ขอที่ : 429<br />
ในกรณีที่อุณหภูมิของอากาศภายนอกเขาสูเครื่องยนตดีเซลมีคาสูงขึ้น สิ่งที่นาจะเกิดขึ้นมากที่สุดคืออะไร<br />
คําตอบ 1 : อัตราการกินน้ํามันสูงขึ้น<br />
คําตอบ 2 : อัตราการไหลของมวลอากาศเขาเครื่องสูงขึ้น<br />
คําตอบ 3 : อุณหภูมิของแก็สเสียลดลง<br />
คําตอบ 4 : อัตราการไหลของแก็สเสียสูงขึ้น<br />
ขอที่ : 430<br />
จงหาคาความเร็วรอบของเครื่องยนตดีเซลที่มี 12 ลูกสูบ มีการทํางานแบบ 2 จังหวะ และมีจํานวน POWER STROKE ตอนาทีเทากับ 1440<br />
คําตอบ 1 : 240 RPM<br />
คําตอบ 2 : 140 RPM<br />
คําตอบ 3 : 120 RPM<br />
คําตอบ 4 : 100 RPM<br />
ขอที่ : 431<br />
จุดที่สามารถนําเอาความรอนที่ไดออกมาจากเครื่องยนตดีเซลไปใชงานอยางอื่นหรือที่เรียกวา Waste-Heat Recovery นั้น สามารถทําไดหลายจุดยกเวนที่ใด<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 1 : แก็สเสียที่ออกจากเครื่อง<br />
คําตอบ 2 : น้ําจากหมอดับความรอนของอากาศอัดเขาเครื่อง (Charge-Air Cooler)<br />
คําตอบ 3 : น้ําไฟรเมนเขาเครื่องยนต<br />
คําตอบ 4 : น้ําดับความรอนเสื้อสูบ (Jacket Coolant)
ขอที่ : 432<br />
สาเหตุของการปนเปอนของน้ํามันเกียร (Gear Oil) สวนใหญมาจากขอใด<br />
คําตอบ 1 : น้ําหลอเพลาใบจักร<br />
คําตอบ 2 : น้ําจากการควบแนนภายในเกียร<br />
คําตอบ 3 : ฝุนจากภายนอกเขาไปในเกียร<br />
คําตอบ 4 : น้ําหลอเกียร<br />
ขอที่ : 433<br />
น้ํามัน Marine Gas Oil จะใชเปนเชื้อเพลิงของเครื่องยนตแบบใด<br />
คําตอบ 1 : เครื่องจักรไอน้ํา<br />
คําตอบ 2 : เครื่องยนตดีเซลความเร็วรอบสูง<br />
คําตอบ 3 : เครื่องยนตดีเซลความเร็วรอบต่ํา<br />
คําตอบ 4 : เครื่องแก็สเทอรไบน<br />
ขอที่ : 434<br />
ขอไดเปรียบของการใช Gas Turbine เปนเครื่องจักรใหญของเรือมีดวยกันหลายประการ ยกเวนขอใด<br />
คําตอบ 1 : สัดสวนระหวางกําลังตอหนวยน้ําหนักสูง<br />
คําตอบ 2 : สตารทเครื่องไดรวดเร็ว<br />
คําตอบ 3 : ประหยัดน้ํามันถาเทียบกับเครื่องยนตดีเซล<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 4 : เรงความเร็วเครื่องไดอยางรวดเร็ว<br />
ขอที่ : 435<br />
ปจจัยที่มีผลตอขีดความสามารถในการผลิตกําลังมาของเครื่อง Gas Turbine อยางมากคือขอใด<br />
คําตอบ 1 : ตําแหนงของหองเครื่อง<br />
120 of 125
คําตอบ 2 : อุณหภูมิของบรรยากาศภายนอก<br />
คําตอบ 3 : ชนิดของเกียรทดรอบ<br />
คําตอบ 4 : อุณหภูมิของน้ําดับความรอนของเกียร<br />
121 of 125<br />
ขอที่ : 436<br />
ระบบขับเคลื่อนที่มีการติดตั้งหมอน้ําที่ใชความรอนจากทอแก็สเสีย (Waste Heat Boiler) ของเครื่อง Gas Turbine อยูดวยมากที่สุดนาจะเปนในขอใด<br />
คําตอบ 1 : CODAD<br />
คําตอบ 2 : CODAG<br />
คําตอบ 3 : CODAG<br />
คําตอบ 4 : COGAS<br />
ขอที่ : 437<br />
ชวงเวลาที่ใชจากการสตารทเครื่องไปจนถึงจุดเรงใหเครื่อง Gas Turbine มีกําลังสูงสุดจะใชเวลาประมาณเทาใด<br />
คําตอบ 1 : 30 วินาที<br />
คําตอบ 2 : 2 นาที<br />
คําตอบ 3 : 30 นาที<br />
คําตอบ 4 : 1 ชั่วโมง<br />
ขอที่ : 438<br />
ขอใดไมใชเหตุผลของการนําเอาเครื่อง Gas Turbine ที่ติดตั้งเปนเครื่องจักรใหญของเรือใสไวในกลองปด (Enclosure)<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 1 : ปองกันเสียงดังของเครื่อง<br />
คําตอบ 2 : ควบคุมไฟงายหากเกิดไฟไหม<br />
คําตอบ 3 : ปองกันในกรณีที่เกิดการชํารุดของชิ้นสวนที่หมุน<br />
คําตอบ 4 : ปองกันกลิ่นของน้ํามันเชื้อเพลิง
ขอที่ : 439<br />
ถาให w เปนคา Wake Fraction บริเวณทายเรือและมีคาเทากับ 0.24 จงหาคาสัมประสิทธิ์กระแสน้ํา wake หรือที่เรียกกันวา Wake Factor<br />
คําตอบ 1 : 1.24<br />
คําตอบ 2 : 0.8<br />
คําตอบ 3 : 0.76<br />
คําตอบ 4 : 0.04<br />
ขอที่ : 440<br />
ในทางทฤษฎีใบจักรที่ติดตั้งกับเรือควรมีลักษณะเชนใด<br />
คําตอบ 1 : ใหญที่สุดที่ทายเรือรับได<br />
คําตอบ 2 : เทากับความสูงของใบหางเสือ<br />
คําตอบ 3 : มีจํานวนปกเทากับ 3 ปก<br />
คําตอบ 4 : มีคาประสิทธิภาพสูงที่สุด<br />
ขอที่ : 441<br />
สาเหตุที่ตองกําหนดระยะหางขั้นต่ําระหวางตัวเรือกับปลายปกของใบจักรเอาไว มีเหตุผลใด<br />
คําตอบ 1 : ปองกันการสั่นของตัวเรือ<br />
คําตอบ 2 : ปองกันสิ่งของลอยน้ํามาขวาง<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 3 : ลดเสียงของใบจักร<br />
คําตอบ 4 : ลดโอกาสการเกิดโพรงอากาศ (Cavitation)<br />
122 of 125<br />
ขอที่ : 442<br />
คาตอไปนี้เกี่ยวของกับการทํางานของใบจักร ยกเวนขอใด
คําตอบ 1 : K Q<br />
(Torque Coefficient)<br />
คําตอบ 2 : R T<br />
(Total ship Resistance)<br />
คําตอบ 3 : K T<br />
(Thrust Coefficient)<br />
คําตอบ 4 : J (Advance Coefficient)<br />
ขอที่ : 443<br />
คากําลังตัวใดที่เกี่ยวของกับใบจักรโดยตรง<br />
คําตอบ 1 : Effective Horsepower<br />
คําตอบ 2 : Thrust Horsepower<br />
คําตอบ 3 : Shaft Horsepower<br />
คําตอบ 4 : Brake Horsepower<br />
ขอที่ : 444<br />
ใบจักรในขอใดมีการผันแปรของแรงผลัก (Thrust Variation) นอยที่สุดในขณะใชงาน<br />
คําตอบ 1 : 3<br />
คําตอบ 2 : 4<br />
คําตอบ 3 : 6<br />
คําตอบ 4 : 2<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
ขอที่ : 445<br />
โพรงอากาศ (Cavitation) สามารถเกิดขึ้นไดหลายที่ในระบบขับเคลื่อน ยกเวนขอใด<br />
คําตอบ 1 : ดุมใบจักร<br />
คําตอบ 2 : ดานหนาของปกใบจักร<br />
123 of 125
คําตอบ 3 :<br />
ดานหลังของปกใบจักร<br />
คําตอบ 4 : เพลาใบจักร<br />
124 of 125<br />
ขอที่ : 446<br />
การตั้งศูนยเพลาใบจักรผิดพลาดสามารถสงผลกระทบกับระบบขับเคลื่อนในขอใด<br />
คําตอบ 1 : เกียรชํารุด<br />
คําตอบ 2 : ปกใบจักรชํารุด<br />
คําตอบ 3 : โยงโยคด<br />
คําตอบ 4 : ดุมใบจักรราว<br />
ขอที่ : 447<br />
เพลาทอนที่อยูดานในตัวเรือมีชื่อวาอะไร<br />
คําตอบ 1 : Gear shaft<br />
คําตอบ 2 : Line Shaft<br />
คําตอบ 3 : Tail Shaft<br />
คําตอบ 4 : Strut Shaft<br />
ขอที่ : 448<br />
Overrunning Clutch มักจะนํามาใชกับระบบขับเคลื่อนแบบใดมากที่สุด<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
คําตอบ 1 : เครื่องยนตดีเซลเปนเครื่องจักรใหญ<br />
คําตอบ 2 : เครื่องจักรไอน้ําเปนเครื่องจักรใหญ<br />
คําตอบ 3 : แบบ CODAG<br />
คําตอบ 4 : เครื่องยนตดีเซลตอตรงกับเพลาใบจักรเลย
ขอที่ : 449<br />
คา Friction Factor, f ในเรื่องเกี่ยวกับระบบทอทางมีความสัมพันธกับขอใด<br />
คําตอบ 1 : ความดันไอของน้ํา<br />
คําตอบ 2 : ความแตกตางของความดันระหวางจุด 2 จุดในทอ<br />
คําตอบ 3 : ความตึงผิว<br />
คําตอบ 4 : แรงดึงดูดระหวางโมเลกุลของน้ํา<br />
ขอที่ : 450<br />
คาความเร็วต่ําสุดของน้ําในทอทางบนเรือเพื่อปองกันความสกปรกหรือ Fouling ควรมีคาประมาณเทาใด<br />
คําตอบ 1 : 50 m/s<br />
คําตอบ 2 : 10 m/s<br />
คําตอบ 3 :<br />
5 m/s<br />
คําตอบ 4 : 1 m/s<br />
สภาวิศวกรขอสงวนสิทธิ์ ห้ามจำหน่าย<br />
125 of 125