à¸à¸à¸à¸µà¹ 1 à¸à¸à¸à¸³ - CRDC
à¸à¸à¸à¸µà¹ 1 à¸à¸à¸à¸³ - CRDC
à¸à¸à¸à¸µà¹ 1 à¸à¸à¸à¸³ - CRDC
You also want an ePaper? Increase the reach of your titles
YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.
Agricultural Sci. J. 42(2)(Suppl.): 513-516 (2011) ว. วิทย์. กษ. 42(2)(พิเศษ): 513-516 (2554)<br />
ผลของการเตรียมวัตถุดิบก่อนการทอดต่อการดูดซับน ้ามันของเห็ดนางฟ้ าชุบทอด<br />
Effect of Pre-fried Treatments on Oil Absorption of Deep-fat Fried Mushroom<br />
พรรณจิรา วงศ์สวัสดิ ์1 มณฑิรา นพรัตน์2 นิพร เดชสุข 1 พรทิพย์ ยศยิ ่ง 1 ภณิดา เอี ่ยมรัชนี1 1<br />
และ ภัทร ไตรปัญญาศาสตร์<br />
Vongsawasdi, P. 1 , Nopharatana, M. 2 , Dejsuk, N. 1 , Yodying, P. 1 , Aimratchanee, P. 1 and Tripanyasatara, P. 1<br />
Abstract<br />
This research aimed to investigate the effect of pre-treatments prior to frying on oil absorption of fried<br />
Sarjor-caju mushroom. Three different approaches, namely blanching with 1% w/v calcium chloride at 55±5 o C<br />
for 15-60 min, drying at 60±2 o C for 30-120 min, and coating with methylcellulose at concentration of 0.5-1.5%<br />
w/v were conducted. The results showed that mushroom blanched with CaCl 2 or coated with methylcellulose<br />
before frying had significantly higher total oil content (P
514 ปี ที่ 42 ฉบับที่ 2 (พิเศษ) พฤษภาคม - สิงหาคม 2554 ว. วิทยาศาสตร์เกษตร<br />
คาร์บอกซีเมทิลเซลลูโลส (Rimac-Brncic และคณะ, 2004) เมทิลเซลลูโลสและไฮดรอกซิลโพรพิลเมทิลเซลลูโลส (Garcia<br />
และคณะ, 2002) ดังนั ้นงานวิจัยนี ้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบการใช้เทคนิคการเตรียมวัตถุดิบก่อนทอดที่แตกต่างกัน<br />
คือการลวกในสารละลายแคลเซียมคลอไรด์ การอบแห้งและการใช้สารไฮโดรคอลลอยด์ ซึ่งคาดหวังว่าผลที่ได้จะท าให้ได้<br />
สภาวะการเตรียมวัตถุดิบที่ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์สุดท้ายมีการดูดซับน ้ามันน้อยที่สุด อันจะเป็ นประโยชน์ต่อทั ้งผู ้บริโภคและ<br />
ผู ้ผลิตในแง่สุขภาพและการเก็บรักษา<br />
อุปกรณ์และวิธีการ<br />
น าดอกเห็ดนางฟ้ าที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4-6 เซนติเมตรมาตัดก้านออก จากนั ้นน ามาล้างน ้าและสะเด็ดน ้า<br />
บนตะแกรงนาน 10 นาที แบ่งเห็ดนางฟ้ าเป็ น 3 ส่วนดังนี ้ส่วนที่ 1 น ามาลวกในสารละลายแคลเซียมคลอไรด์ 1% w/v ที่อุณหภูมิ<br />
55±5 o C เป็ นเวลา 15, 30, 45 และ 60 นาที จากนั ้นท าให้เย็นลงทันทีในน ้าที่อุณหภูมิประมาณ 30±2 o C ก่อนน ามาสะเด็ดน ้านาน<br />
10 นาที ส่วนที่ 2 น าเห็ดนางฟ้ ามาอบแห้งที่อุณหภูมิ 60±2 o C เป็ นเวลา 30, 60, 90 และ 120 นาที ส าหรับส่วนที่ 3 น าเห็ดนางฟ้ า<br />
มาจุ ่มในสารละลายเมทิลเซลลูโลสความเข้มข้น 0.5, 1.0 และ 1.5 % w/v เป็ นเวลา 1 นาที น าตัวอย่างมาชุบแป้ งชุบทอดส าเร็จรูป<br />
และทอดในน ้ามันปาล์มที่อุณหภูมิ 180±5 o C สุ ่มตัวอย่างที่ได้มาวิเคราะห์ค่าปริมาณความชื ้นที่สูญเสียในระหว่างการทอด<br />
(AOAC,1995) ปริมาณน ้ามันทั ้งหมด (AACC, 2000) ปริมาณน ้ามันที่ผิวและปริมาณน ้ามันภายในโครงสร้ าง (Bouchon, 2003)<br />
การตัดสินเลือกสภาวะการผลิตที่เหมาะสมจะใช้การทดสอบคุณสมบัติทางประสาทสัมผัสร่วมในการตัดสินใจ โดยใช้ผู ้ทดสอบที่<br />
ผ่านการฝึ กฝนจ านวน 20 คน ตรวจสอบคุณลักษณะด้านสี (5=เหลืองทอง, 1=น ้าตาลไหม้) กลิ่นรส (5= กลิ่นเห็ดทอดตาม<br />
ธรรมชาติ, 1=มีกลิ่นผิดปกติ เช่นกลิ่นไหม้)แข็ง เนื ้อสัมผัส (5=ผิวนอกกรอบ เนื ้อเห็ดไม่แข็ง, 1= เหนียวและแข็ง และการยอมรับ<br />
รวม (9=ชอบมากที่สุด, 1=ไม่ชอบมากที่สุด) การวิเคราะห์ข้อมูลจะท าโดยวิเคราะห์ค่าความแปรปรวน และถ้าพบนัยส าคัญทาง<br />
สถิติที่ระดับความเชื่อมั่น 95% จะทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยด้วย Duncan’s new multiple range test (DMRT)<br />
ผลและวิจารณ์ผลการทดลอง<br />
จาก Figure 1a พบว่าเห็ดนางฟ้ าทอดมีการสูญเสียความชื ้นลดลงจาก 1706.74±0.31% น ้าหนักแห้ง เป็ น<br />
1523.69±4.00% น ้าหนักแห้ง เมื่อระยะเวลาการลวกเพิ่มจาก 15 นาทีเป็ น 30 นาที ที่เป็ นเช่นนี เนื่องจากแคลเซียมท ้<br />
าปฏิกิริยา<br />
กับหมู ่ไฮดรอกซิลของเซลลูโลสและเพคติน ท าให้ผนังเซลล์มีโครงสร้างที่แข็งแรง (Grant และคณะ, 1973) อย่างไรก็ตามเมื่อใช้<br />
ระยะเวลาการลวกนานขึ ้นกลับพบว่าเห็ดภายหลังการทอดมีการสูญเสียความชื ้นมากขึ ้น ที่เป็ นเช่นนี ้อาจเนื่องมากจากการ<br />
ได้รับความร้อนขณะลวกนานเกินไปจะท าให้เพคตินหลุดออกมาจากโครงสร้างและละลายไปกับน ้าดังนั ้นจึงสูญเสียความชื ้น<br />
ได้ง่ายเมื่อเข้าสู ่การแปรรูปขั ้นถัดไป จากผลการทดลองยังพบว่าระยะเวลาการลวกไม่มีผลต่อปริมาณน ้ามันที่ผิวแต่มีผลต่อ<br />
ปริมาณน ้ามันในโครงสร้ างของเห็ดทอดอย่างมีนัยส าคัญ (P
Moisture loss (% dry basis)<br />
Oil content (%)<br />
Moisture loss (%dry basis)<br />
Oil content (%)<br />
Moisture content (% dry basis)<br />
Moisture loss (%dry basis)<br />
Oil content (%)<br />
ว. วิทยาศาสตร์เกษตร ปี ที่ 42 ฉบับที่ 2 (พิเศษ) พฤษภาคม - สิงหาคม 2554 515<br />
น ้ามันที่ผิวจึงต ่าลงไปด้วย (Figure 1b) ผลที่ได้สอดคล้องกับงานวิจัยของปนัดดา (2548) ซึ่งทดลองท าสับปะรดทอดกรอบ<br />
โดยพบว่าการลดปริมาณความชื ้นเริ่มต้นของสับปะรดจาก 720.91% เป็ น 248.48% น ้าหนักแห้ง สามารถลดปริมาณการ<br />
ดูดซับน ้ามันได้จาก 41.93% ลดลงเหลือ 23.28%<br />
จาก Figure 1c พบว่าเห็ดที่เคลือบเมทิลเซลลูโลสก่อนน ามาชุบแป้ งทอดมีปริมาณความชื ้นที่สูญเสียในระหว่าง<br />
การทอดมากกว่าเห็ดที่ไม่เคลือบโดยมีค่าอยู ่ในช่วง 1977.23-2166.53% เนื่องจากการเคลือบเมทิลเซลลูโลสจะท าให้<br />
ความชื ้นที่ผิวเห็ดเพิ่มขึ ้น อย่างไรก็ตามเมื่อใช้ความเข้มข้นของเมทิลเซลลูโลสสูงขึ ้น เห็ดทอดกลับมีปริมาณความชื ้นที่<br />
สูญเสียลดลงอย่างมีนัยส าคัญ ที่เป็ นเช่นนีเนื่องจากเมทิลเซลลูโลสมีคุณสมบัติสามารถเกิดเป็ ้<br />
นฟิ ล์มเคลือบอาหารได้เมื่อ<br />
ได้รับความร้ อนที่อุณหภูมิสูงกว่า 50-55 o C ดังนั ้นเมื่อใช้ที่ความเข้มข้นสูงขึ ้นก็จะท าให้เกิดชั ้นฟิ ล์มที่หนาขึ ้น ส่งผลให้<br />
ป้ องกันการสูญเสียน ้าได้ดีขึ ้น (Salvador และคณะ, 2007; Loewe, 1993) ส าหรับผลการวิเคราะห์ปริมาณน ้ามันพบว่าผล<br />
ที่ได้สอดคล้องกับปริมาณความชื ้นที่สูญเสียกล่าวคือตัวอย่างที่มีปริมาณการสูญเสียความชื ้นมากก็จะมีปริมาณน ้ามัน<br />
ทั ้งหมดและปริมาณน ้ามันภายในโครงสร้างสูงกว่าตัวอย่างที่มีปริมาณการสูญเสียความชื ้นน้อย<br />
3000<br />
2500<br />
2000<br />
1500<br />
1000<br />
500<br />
0<br />
a<br />
A<br />
ก<br />
e C<br />
b c d<br />
B<br />
B<br />
C<br />
กค ข กค<br />
0 15 30 45 60<br />
Branching time (min)<br />
3000<br />
100<br />
Moisture loss Total oil Surface oil Structural oil<br />
2500<br />
2000<br />
1500<br />
1000<br />
500<br />
0<br />
500<br />
0<br />
(1a)<br />
(1b)<br />
e<br />
E<br />
d D<br />
2 C 2 B<br />
1<br />
12 A 1<br />
c<br />
b<br />
ค<br />
ข กข กข a ก<br />
0 15 30 45 60<br />
Drying time (min)<br />
(1c)<br />
3000<br />
100<br />
Moisture loss Total oil Surface oil Structural oil<br />
2500<br />
d<br />
c<br />
b<br />
80<br />
2000<br />
C<br />
C<br />
a<br />
B<br />
A<br />
60<br />
ก<br />
ข<br />
1500<br />
ก<br />
ข<br />
40<br />
1000<br />
0 0.5 1 1.5<br />
Methylcellulose concentration (%)<br />
ค<br />
100<br />
80<br />
60<br />
40<br />
20<br />
0<br />
80<br />
60<br />
40<br />
20<br />
0<br />
20<br />
0<br />
Figure 1 Moisture loss during frying, total oil<br />
content, surface oil and structural oil in fried<br />
mushroom.<br />
(1a) Blanching in 1% w/v calcium<br />
chloride 3000 solution at 55±5 o C*<br />
(1b) Drying at 60±5 o C*<br />
2500<br />
(1c) Soaking in methylcellulose solution*<br />
2000<br />
a<br />
A<br />
* For each parameter 1500 interval, bars with<br />
ก<br />
different letters are significantly different at the<br />
1000<br />
0.05 level of confidence by Duncan’s multiple<br />
range test 500<br />
0<br />
Moisture loss<br />
Total oil<br />
Surface oil<br />
Structural oil<br />
d<br />
C<br />
0 0.5<br />
เมื่อเปรียบเทียบผลที่ได้จากการเตรียมเห็ดนางฟ้ าก่อนทอดทั ้ง 3 วิธีพบว่าการอบแห้งที่อุณหภูมิ 60±2 o C ก่อนทอดจะ<br />
Moisture loss Total oil Surface oil Structural oil<br />
ให้เห็ดทอดที่มีปริมาณน ้ามันทั ้งหมด ปริมาณน ้ามันที่ผิวและปริมาณน ้ามันในโครงสร้ างต ่ากว่าวิธีการลวกในสารละลาย<br />
แคลเซียมคลอไรด์และวิธีการจุ ่มในสารละลายเมทิลเซลลูโลส ซึ่งอธิบายได้ว่าการอบแห้งเป็ นการลดปริมาณความชื ้นเริ่มต้นใน<br />
วัตถุดิบและท าให้มีผิวหน้าแห้งและแข็งเมื่อน ามาทอดจึงมีการสูญเสียน ้าจากโครงสร้ างน้อยส่งผลให้มีการดูดซับน ้ามันต ่า<br />
ในขณะที่การลวกในแคลเซียมคลอไรด์ แม้ว่าแคลเซียมคลอไรด์จะช่วยรักษาความแข็งแรงของผนังเซลล์ได้ แต่การลวกจะท าให้<br />
วัตถุดิบมีการสูญเสียน ้าและเนื่องจากผิวหน้าของวัตถุดิบยังคงอ่อนนุ ่ม ดังนั ้นเมื่อน ามาทอด น ้าภายในเซลล์จะยิ่งระเหยออกมา<br />
ได้มาก ส่งผลให้มีช่องว่างมาก น ้ามันจึงเข้าไปแทนที่ในช่องว่างเหล่านั ้นได้มากด้วย นอกจากนี ้การลวกเป็ นระยะเวลานานก็อาจ<br />
ท าให้มีการละลายของสารประกอบเพคตินออกมา ซึ่งจะยิ่งท าให้ผนังเซลล์มีความแข็งแรงลดลง ส่งผลให้อุ ้มน ้าได้น้อยลงด้วย<br />
ส่วนวิธีการจุ ่มในสารละลายเมทิลเซลลูโลสจะท าให้เห็ดมีความชื ้นสูงขึ ้น ท าให้ต้องใช้เวลาในการทอดนานกว่า 2 วิธีแรกเพื่อที่จะ<br />
ท าให้มีค่าความชื ้นสุดท้ายเท่ากัน ดังนั ้นตัวอย่างจึงมีเวลาสัมผัสกับน ้ามันนาน ส่งผลให้มีการดูดซับน ้ามันสูงขึ ้นด้วย จากผลการ<br />
ทดลองที่ได้จึงน าตัวอย่างที่เตรียมโดยการอบแห้งก่อนน ามาทอดมาศึกษาคุณสมบัติทางประสาทสัมผัส ซึ่งได้ผลดัง Table 1<br />
Methylcellulose concentra<br />
ก<br />
c
่<br />
514 516<br />
ปี ที่ 42 ฉบับที่ 2 (พิเศษ) พฤษภาคม - สิงหาคม 2554 ว. วิทยาศาสตร์เกษตร<br />
จาก Table 1 พบว่าตัวอย่างมีลักษณะทางด้านสี กลิ่นรส และเนื ้อสัมผัสแตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติ<br />
(P