12.07.2015 Views

Sauvignon Blanc Effect of Different Rootstocks on Growth ... - CRDC

Sauvignon Blanc Effect of Different Rootstocks on Growth ... - CRDC

Sauvignon Blanc Effect of Different Rootstocks on Growth ... - CRDC

SHOW MORE
SHOW LESS

You also want an ePaper? Increase the reach of your titles

YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.

์์234 6 ปี ที 42 ฉบับที 2 (พิเศษ) พฤษภาคม - สิงหาคม 2554 ว. วิทยาศาสตร์เกษตรลูกผสมระหว่าง Sol<strong>on</strong>is × Othello 1613 มีการเจริญเติบโตปานกลาง ทนต่อสภาพดินชื นแฉะ ต้านทานไส้เดือนฝอยได้ดีแต่ไม่ทนต่อดินด่าง ทําให้ยอดพันธุ ์ดีแสดงอาการใบเหลือง (Chlorosis) ดินด่าง คือ ดินทีมีระดับ pH สูงเกินกว่า 7 เกิดจากวัตถุต้นกําเนิดดินทีเป็ นด่าง เช่น หินปูน หินปูนในประเทศไทยมีอยู ่มากพอประมาณในแถบจังหวัดสระบุรี ลพบุรีนครราชสีมา และกาญจนบุรี (คณาจารย์ภาควิชาปฐพีวิทยา, 2548) ซึงค่า pH ทีเป็ นด่างของดินมีผลต่อการเจริญเติบโตผลผลิต คุณภาพขององุ ่นและไวน์ด้วย จะสามารถแก้ไขได้โดยการใช้ต้นตอองุ ่นทีเหมาะสมเช่น Richter, Ruggeri,Paulsen, 5BB, 5C, 8B, SO4 และ Ramsey (Galet, 1980) ดังนั นจึงจําเป็ นอย่างยิงทีจะต้องศึกษาหาต้นตอองุ ่นทีส่งผลให้องุ ่นพันธุ ์ <str<strong>on</strong>g>Sauvign<strong>on</strong></str<strong>on</strong>g> <str<strong>on</strong>g>Blanc</str<strong>on</strong>g> ปลูกในดินด่างทีเกิดจากหินปูน เจริญเติบโตดี ให้ผลผลิตดี มีคุณภาพ และให้ไวน์ทีมีคุณภาพดีด้วย เพือเป็ นแนวทางให้เกษตรกรและอุตสาหกรรมการปลูกองุ ่นลดความเสียงและประสบผลสําเร็จในการผลิตองุ ่นทีปลูกในดินด่างทีเกิดจากหินปูนได้ต่อไปอุปกรณ์และวิธีการทําการทดลองโดยปลูกองุ ่นทีสถานีวิจัยกาญจนบุรี สถาบันค้นคว้าและพัฒนาระบบนิเวศเกษตรมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จังหวัดกาญจนบุรี เมือวันที 18 ธันวาคม 2551 ซึงมีค่าความเป็ นกรด-ด่าง (pH) ของดินเท่ากับ7.79 โดยใช้ระยะปลูก 1.5 x 4 เมตร ทําค้างแบบตัว T และมุงหลังคาพลาสติก วางแผนการทดลองแบบ RandomizedComplete Block Design แบ่งการทดลองเป็ น 10 treatment มี 3 ซํ า แต่ละซํ าใช้ 4 ต้น รวมเป็ น 120 ต้น การทดลองประกอบด้วย treatment จํานวน 10 treatment ดังนี Treatment 1 C<strong>on</strong>trol (กิงปักชําขององุ ่นพันธุ ์ <str<strong>on</strong>g>Sauvign<strong>on</strong></str<strong>on</strong>g> <str<strong>on</strong>g>Blanc</str<strong>on</strong>g>)Treatment 2 องุ ่นพันธุ ์ <str<strong>on</strong>g>Sauvign<strong>on</strong></str<strong>on</strong>g> <str<strong>on</strong>g>Blanc</str<strong>on</strong>g> ติดตาบนต้นตอพันธุ ์ 110R Treatment 3 องุ ่นพันธุ ์ <str<strong>on</strong>g>Sauvign<strong>on</strong></str<strong>on</strong>g> <str<strong>on</strong>g>Blanc</str<strong>on</strong>g> ติดตาบนต้นตอพันธุ ์ 140Ru Treatment 4 องุ ่นพันธุ ์ <str<strong>on</strong>g>Sauvign<strong>on</strong></str<strong>on</strong>g> <str<strong>on</strong>g>Blanc</str<strong>on</strong>g> ติดตาบนต้นตอพันธุ ์ 1103P Treatment 5 องุ ่นพันธุ<str<strong>on</strong>g>Sauvign<strong>on</strong></str<strong>on</strong>g> <str<strong>on</strong>g>Blanc</str<strong>on</strong>g> ติดตาบนต้นตอพันธุ ์ 5BB Treatment 6 องุ ่นพันธุ ์ <str<strong>on</strong>g>Sauvign<strong>on</strong></str<strong>on</strong>g> <str<strong>on</strong>g>Blanc</str<strong>on</strong>g> ติดตาบนต้นตอพันธุ ์ 5CTreatment 7 องุ ่นพันธุ ์ <str<strong>on</strong>g>Sauvign<strong>on</strong></str<strong>on</strong>g> <str<strong>on</strong>g>Blanc</str<strong>on</strong>g> ติดตาบนต้นตอพันธุ ์ 8B Treatment 8 องุ ่นพันธุ ์ <str<strong>on</strong>g>Sauvign<strong>on</strong></str<strong>on</strong>g> <str<strong>on</strong>g>Blanc</str<strong>on</strong>g> ติดตาบนต้นตอพันธุ ์ SO4 Treatment 9 องุ ่นพันธุ ์ <str<strong>on</strong>g>Sauvign<strong>on</strong></str<strong>on</strong>g> <str<strong>on</strong>g>Blanc</str<strong>on</strong>g> ติดตาบนต้นตอพันธุ ์ Ramsey และ Treatment 10 องุ ่นพันธุ<str<strong>on</strong>g>Sauvign<strong>on</strong></str<strong>on</strong>g> <str<strong>on</strong>g>Blanc</str<strong>on</strong>g> ติดตาบนต้นตอพันธุ ์ 1613Cเก็บและบันทึกข้อมูลเส้นผ่าศูนย์กลางของต้นทีตําแหน่งบนและล่างจากจุดติดตา 5 เซนติเมตร ทีระยะตัดแต่งกิงหลังปลูก 11 เดือน (วันที 2 พฤศจิกายน 2552) เก็บผลผลิตเมือวันที 2 มีนาคม 2553 โดยศึกษา ปริมาณคลอโรฟิ ลล์ในใบจํานวนช่อดอกต่อต้น นํ าหนักช่อผล ผลผลิตต่อต้น และคุณภาพของนํ าองุ ่น จากนั นนําผลผลิตทีได้มาผลิตไวน์แล้วทดสอบคุณภาพของไวน์โดยผู ้เชียวชาญในการชิมไวน์จํานวน 3 คน มีเกณฑ์การให้คะแนนดังนี มากทีสุด 5 คะแนน มาก 4 คะแนนพอใช้ 3 คะแนน น้อย 2 คะแนน และน้อยทีสุด 1 คะแนน ใช้ระยะเวลาในทดลองตั งแต่เดือน ตุลาคม 2551 ถึงเดือนสิงหาคม 2553ผลและวิจารณ์ผลการทดลองการเจริญเติบโตของต้นตอทุกพันธุ ์ทีระยะตัดแต่งกิง (11 เดือนหลังจากปลูก) มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางของต้น2.7-3.5 เซนติเมตร ส่วนองุ ่นพันธุ ์ <str<strong>on</strong>g>Sauvign<strong>on</strong></str<strong>on</strong>g> <str<strong>on</strong>g>Blanc</str<strong>on</strong>g> ทีติดตาบนต้นตอทุกพันธุ ์มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.8-4.1 เซนติเมตรการเจริญเติบโตขององุ ่นพันธุ ์ <str<strong>on</strong>g>Sauvign<strong>on</strong></str<strong>on</strong>g> <str<strong>on</strong>g>Blanc</str<strong>on</strong>g> เป็ นแบบ over growth ยกเว้นองุ ่นพันธุ ์ <str<strong>on</strong>g>Sauvign<strong>on</strong></str<strong>on</strong>g> <str<strong>on</strong>g>Blanc</str<strong>on</strong>g> ทีติดตาบนต้นตอพันธุ ์ 1613C มีการเจริญเติบโตปกติ สําหรับกิงปักชําพันธุ ์ <str<strong>on</strong>g>Sauvign<strong>on</strong></str<strong>on</strong>g> <str<strong>on</strong>g>Blanc</str<strong>on</strong>g> ให้ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2.6 เซนติเมตร(Table 1) ซึงแสดงให้เห็นว่าต้นตอพันธุ ์ต่างๆ มีอิทธิพลส่งผลให้องุ ่นพันธุ ์ <str<strong>on</strong>g>Sauvign<strong>on</strong></str<strong>on</strong>g> <str<strong>on</strong>g>Blanc</str<strong>on</strong>g> มีการเจริญเติบโตสูงกว่าต้นตอ ซึงสอดคล้องกับ วิจิตร (2529) ทีกล่าวว่าต้นตอบางชนิดทําให้ต้นพันธุ ์ดีเจริญเติบโตได้เร็วองุ ่นพันธุ ์ <str<strong>on</strong>g>Sauvign<strong>on</strong></str<strong>on</strong>g> <str<strong>on</strong>g>Blanc</str<strong>on</strong>g> ทีติดตาบนต้นตอทุกพันธุ ์รวมทั งกิงปักชํามีปริมาณคลอโรฟิ ลล์ในใบไม่แตกต่างกันทางสถิติแต่ต้นตอทุกพันธุ ์มีแนวโน้มให้ปริมาณคลอโรฟิ ลล์ในใบสูงกว่ากิงปักชํา (Table 1)องุ ่นพันธุ ์ <str<strong>on</strong>g>Sauvign<strong>on</strong></str<strong>on</strong>g> <str<strong>on</strong>g>Blanc</str<strong>on</strong>g> ทีติดตาบนต้นตอองุ ่นทุกพันธุ ์ให้จํานวนช่อดอกต่อต้น (7-13 ช่อ) แตกต่างจากกิงปักชํา ซึงให้จํานวนช่อดอกต่อต้นน้อยทีสุด 5.25 ช่อ ยกเว้นองุ ่นพันธุ ์ <str<strong>on</strong>g>Sauvign<strong>on</strong></str<strong>on</strong>g> <str<strong>on</strong>g>Blanc</str<strong>on</strong>g> ทีติดตาบนต้นตอพันธุ ์ 1103P, 5C,SO4 และ 110R ซึงไม่แตกต่างจากกิงปักชํา (Table 1) เนืองจากต้นตอมีอิทธิพลต่อจํานวนช่อดอก และผลผลิตขององุ ่นพันธุ ์ดี (Climaco และคณะ, 1999)องุ ่นพันธุ ์ <str<strong>on</strong>g>Sauvign<strong>on</strong></str<strong>on</strong>g> <str<strong>on</strong>g>Blanc</str<strong>on</strong>g> ทีติดตาบนต้นตอองุ ่นทุกพันธุ ์ให้นํ าหนักเฉลียของช่อผล (62-99 กรัมต่อช่อ) ไม่แตกต่างจากกิงปักชํา (72.20 กรัมต่อช่อ) (Table 1 และ Figure 1)

Hooray! Your file is uploaded and ready to be published.

Saved successfully!

Ooh no, something went wrong!