cache

More documents

Recommendations

Info

ภาพที่ 8 โครงสรางของเซลลูโลสแบบ Haworth formular ภาพที่ 9 โครงสรางของเซลลูโลสแบบ Chair formular เนื่องจากการเชื่อมกันระหวางโมโนเมอรเปนแบบ β-configuration ซึ่งสงผลใหหนวย กลูโคสสลับขึ้นลงภายในสายโซ ดังนั้นนักวิทยาศาสตรจะพิจารณา cellobios ในหนวยของ เซลลูโลส ซึ่งโมเลกุลขนาดใหญจะจัดรูปโครงสรางเปนแบบ syndiotactic ขนาดโมเลกุลของ เซลลูโลสที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจะแสดงโดย degree of polymerisation (DP) หรือความยาวของ สายโซซึ่งจะเกี่ยวของกับแหลงที่มาเปนอยางมาก ในบางกรณี DP อาจจะมากกวา 25,000 แต เซลลูโลสที่บริสุทธิ์ DPและน้ําหนักโมเลกุลจะลดลงอยางหลีกเลี่ยงไมได ดังนั้นจึงตองให ความสําคัญตอขั้นตอนการแยกหรือในขั้นตอนการทําใหบริสุทธิ์เปนอยางมาก ในสําหรับสมบัติ ของเซลลูโลสและอนุพันธของเซลลูโลสซึ่งจะใหความสําคัญเฉพาะเซลลูโลสที่มี DP และน้ําหนัก โมเลกุลสูงๆเทานั้น การกระจาย DP หรือน้ําหนักโมเลกุลจะสงผลตอสมบัติตางๆ ไดแก สมบัติทาง กล สมบัติเกี่ยวกับการละลาย สมบัติทางชีววิทยาและสมบัติทางกายภาพของเซลลูโลส และมีแนว ทางการใชประโยชนอีกมากมายเมื่อมีการออกแบบอนุพันธที่มีประสิทธิภาพ 11
ความสามารถในการเกิดปฏิกิริยาและการเขาทําปฏิกิริยา ปฏิกิริยาเคมีของเซลลูโลสมีการพิจารณาเกี่ยวกับสภาวะที่เปนของแข็งของโครงสราง โมเลกุลที่ขนาดใหญมากของเซลลูโลส เซลลูโลสประกอบดวยหมู Hydroxyl 31-48% โดยน้ําหนัก ซึ่งจะสงผลตอวิธีการเตรียมเปนอนุพันธเซลลูโลส การดัดแปรเซลลูโลส ปฏิกิริยาจะเกิดที่ตําแหนง ของ Primaryhydroxy Group และที่ตําแหนงของ Secondary Hydroxy Group ตอหนึ่งหนวยของ กลูโคสเปรียบเสมือนสารที่มีหมู Hydroxyl เปนองคประกอบ ซึ่งหมู Hydroxyl เหลานี้สามารถ เกิดปฏิกิริยาการควบแนนและปฏิกิริยาออกซิเดชันได เนื่องจากประสิทธิภาพของหมูแทนที่ขึ้นกับ ความเปนกรดและแนวโนมที่จะเกิดปฏิกิริยาของหมู Hydroxyl เรียงตามลําดับคือ OH6 < OH3 < OH2 ดังนั้นความสามารถในการเกิดปฏิกิริยาของหมู hydroxyl จะสัมพันธกับความเปนกรด หรือไม ก็ Alkaline ตัวอยางที่เกี่ยวกับการเกิดปฏิกิริยา Etherification ของหมู Hydroxyl ที่เกิดในสภาวะ Alkaline โดย Secondary Hydroxy group (OH2) เปนตําแหนงที่เกิดไดงายที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับ ทั้ง 3 ตําแหนง ในทางตรงขาม สําหรับปฏิกิริยา Esterification ตําแหนง Primary Hydroxyl Group (OH6) จะเปนตําแหนงที่วองไวที่สุด ตําแหนงที่เกิดปฏิกิริยาชัดเจน คือ Secondary Hydroxyl Group ที่ตําแหนง C2 ซึ่งจะมีความสามารถในการเกิดปฏิกิริยา Heterogeneous Esterification หรือ Etherification ได อธิบายไดวา เมื่อ OH2 เกิดเปนไอออนหรือเกิดการแทนที่ คาความเปนกรดที่ OH3 จะลดลง และ OH6 จะมีคาความเปนกรดเพิ่มขึ้น ถึงแมวาหมู Hydroxyl เหลานี้จะวองไวตอ ปฏิกิริยาก็ตาม แตอาจไมเกิดปฏิกิริยาไดโดยงายในทุกๆตําแหนงของหมู Hydroxyl เนื่องจากหมู Hydroxyl เหลานี้จะมีผลตอชองวางของโมเลกุลขนาดใหญ และมีผลอยางมากในการควบคุม คุณสมบัติเฉพาะตัวเกี่ยวกับโครงสรางของเซลลูโลส หมู Hydroxyl เหลานี้จะเกิดพันธะไฮโดรเจน ขึ้นภายในโมเลกุลและระหวางโมเลกุล ภายในโมเลกุลนั้น พันธะไฮโดรเจนจะเกิดระหวาง Anhydroglucose Ring ที่อยูติดกัน เสริมใหเกิดเปนสายโซโมเลกุลที่เปนเสนตรงที่สมบูรณขึ้นสวน ผลกระทบของพันธะไฮโดรเจนภายในโมเลกุล ไมเฉพาะที่จะทําใหสายโซโมเลกุลมีลักษณะไม ยืดหยุนแลว ยังสงผลตอความสามารถในการเกิดปฏิกิริยาของหมู Hydroxyl (Hydroxyl function) อีกดวย (โดยเฉพาะหมู hydroxyl ที่ตําแหนง C3) ซึ่งเกิดพันธะไฮโดรเจนกับ Ring Oxygen ที่อยูบน หนวย Anhydroglucose ที่อยูติดกัน พันธะภายในโมเลกุลและภายนอกโมเลกุล รวมถึง Secondary Force อื่นๆเชน แรงดึงดูด Van der Waal สองสวนนี้ของสายโซโมเลกุลจะทําใหเกิดการเรียงตัวเปน ชั้นตางๆ ซึ่งเกี่ยวของกับการจัดเรียงตัวที่เปนระเบียบกับโมเลกุลขางเคียง ในลักษณะของ Crystal Lattice (เรียกโดยทั่วไปวา Crystalline region) จนถึง Random Condition (Amorphous Region) เมื่อพิจารณาถึงแหลงที่มาของเซลลูโลสพบวาภายในเสนใยเซลลูโลสมีบริเวณ Crystalline และ Amorphous เกิดขึ้น 55-75% และ 25-45% ตามลําดับ คุณสมบัติทาง Topochemical จะควบคุม 12
Page 1: วิทยานิพนธ น
Page 6 and 7: กิตติกรรมปร
Page 8 and 9: สารบัญตาราง
Page 10 and 11: สารบัญภาพ (ตอ
Page 12 and 13: การผลิตเซลล
Page 14 and 15: พอลิเมอร (Polymer)
Page 16 and 17: 5 เมอร ซึ่งจะ
Page 18 and 19: แหลงของเซลล
Page 20 and 21: จากภาพที่ 5 a แ
Page 24 and 25: 13 ความสามารถ
Page 26 and 27: 15 สวนที่ไมมี
Page 28 and 29: C a t a l y s t Cellulose + Acid Ce
Page 30 and 31: 19 เซลลูโลสอะ
Page 32 and 33: 21 ภาพที่14 เปน
Page 34 and 35: 23 กับสารผสมข
Page 36 and 37: ควบคุมคุณสม
Page 38 and 39: 27 ประมาณ 20-30% โด
Page 40 and 41: ลิกนิน เปนโพ
Page 42 and 43: ตารางที่ 4 สว
Page 44 and 45: 33 ในตางประเท
Page 46 and 47: ตารางที่ 5 ลั
Page 48 and 49: 37 2. วัฎภาค (Oil phase
Page 50 and 51: 39 หยดวัฎภาคภ
Page 52 and 53: 41 2. คอลลอยดที
Page 54 and 55: 43 ภายนอกที่อ
Page 56 and 57: 3.2 ทําใหตัวทํ
Page 58 and 59: ตารางที่ 6 ปร
Page 60 and 61: 49 กรดเจือจาง
Page 62 and 63: 51 ความหนืดขอ
Page 64 and 65: 53 แบบ Inverse Emulsion ส
Page 66 and 67: คุณสมบัติทา
Page 68 and 69: ภาพที่ 34 เครื
Page 70 and 71: วิธีการวิจั
Page 72 and 73:
61 ขั้นตอนที่
Page 74 and 75:
63 4. หาการกระจ
Page 76 and 77:
ลิกนิน อาจสง
Page 78 and 79:
2. ศึกษาผลของ
Page 80 and 81:
69 เนื่องจากว
Page 82 and 83:
4. หาความหนาแ
Page 84 and 85:
73 5. ศึกษาหาสั
Page 86 and 87:
S, m 2 /g 35 30 25 20 15 10 5 0 0 5
Page 88 and 89:
สัดสวนมวล 0.7 0.6
Page 90 and 91:
0.4 0.35 0.3 0.25 0.2 0.15 0.1 0.05
Page 92 and 93:
สรุปและขอเส
Page 94 and 95:
เอกสารและสิ
Page 96 and 97:
ภาคผนวก 85
Page 98 and 99:
การวิเคราะห
Page 100 and 101:
การหาปริมาณ
Page 102 and 103:
หลักการวิคร
Page 104 and 105:
ขั้นตอนการท
show all

cache

You also want an ePaper? Increase the reach of your titles

Delete template?

Save as template?