ChoenTawan_Vajiramedhi.pdf
You also want an ePaper? Increase the reach of your titles
YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.
ของใครต่อใครก็ตายกันทั้งนั้น<br />
ทุกหลังคาเรือนเคยมีคนตายมาแล้ว<br />
ทั้งนั้น”<br />
สติมาปัญญาก็พลันบังเกิด นางตัดสินใจทิ้งซากศพบุตรน้อย<br />
ไว้ในป่า มุ่งหน้าไปเฝ้าพระพุทธองค์<br />
พระพุทธองค์ตรัสสอน<br />
สัจธรรมแห่งชีวิตแก่เธอว่า<br />
“โคตมีเอย! ความตายเป็นสิ่งยั่งยืน<br />
นี่เป็นสัจธรรมที่มีมา<br />
ช้านานแล้ว ทุกคนที่เกิดมาล้วนต้องตาย<br />
ความตายนั้นย่อมคร่า<br />
เอาบุคคลผู้มัวเมาอยู่ในบุตร<br />
ในสัตว์เลี้ยง<br />
และผู้มีใจติดข้องอยู่ใน<br />
อารมณ์ต่างๆ ไป ประดุจห้วงน้ำใหญ่ไหลหลากพัดพาเอาชาวบ้าน<br />
ไปฉะนั้น”<br />
พระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมอีกเป็นอเนกปริยาย หลังจบ<br />
พระธรรมเทศนา กิสาโคตรมีบรรลุธรรมเป็นพระอริยบุคคลระดับ<br />
พระโสดาบัน แต่นั้นนางตัดสินใจขอบวชในพระธรรมวินัย<br />
พระพุทธองค์ทรงบวชให้แล้วมอบให้เธออยู่ในสำนักของนางภิกษุณี<br />
คืนวันหนึ่งขณะที่เธอกำลังปฏิบัติสมณธรรมอยู่นั้น<br />
เธอสังเกตเห็น<br />
เปลวประทีปที่ลุกโพลงขึ้นแล้วหรี่ลงๆ<br />
อยู่อย่างนั้น<br />
เธอน้อมเอา<br />
ปรากฏการณ์ธรรมชาตินั้นเข้ามาพิจารณาโดยแยบคายว่า<br />
“สัตว์ทั้งหลายก็ไม่ต่างอะไรกับเปลวประทีปนี้<br />
มีเกิดขึ้นมา<br />
แล้วก็ดับไป ส่วนผู้ใดถึงพระนิพพานแล้ว<br />
อาการเกิดดับเช่นนี้<br />
ย่อมไม่มีปรากฏ”<br />
พระพุทธองค์ทรงทราบความคิดของเธอ จึงตรัสสอนเธอว่า<br />
“ถูกแล้วโคตรมี สัตว์ทั้งหลายย่อมเกิดดับเหมือนเปลว<br />
ประทีป ส่วนผู้ถึงพระนิพพานแล้วหาเป็นอย่างนั้นไม่<br />
ความดำรง<br />
อยู่เพียงชั่วครู่เดียวของผู้เห็นพระนิพพานประเสริฐกว่าความดำรง<br />
อยู่ถึง<br />
๑๐๐ ปีของผู้ไม่เห็นพระนิพพาน”<br />
ด้วยโยนิโสมนสิการและกัลยาณมิตรคือพระพุทธองค์ที่คอย<br />
ทรงชี้ทางสว่างอยู่ใกล้ๆ<br />
ทำให้นางกิสาโคตมีภิกษุณี ได้บรรลุ<br />
อริยผลสำเร็จเป็นพระอริยบุคคลระดับพระอรหันต์ ในกาลต่อมา<br />
พระพุทธองค์ทรงยกย่องเธอว่าเป็นเลิศกว่าภิกษุณีสาวิกาทั้งหลาย<br />
สาขา “ผู้ทรงจีวรเศร้าหมอง”<br />
อีกตำแหน่งหนึ่งด้วย