2552 - à¸à¸£à¸°à¸à¸£à¸§à¸à¸à¸²à¸£à¸à¹à¸²à¸à¸à¸£à¸°à¹à¸à¸¨
2552 - à¸à¸£à¸°à¸à¸£à¸§à¸à¸à¸²à¸£à¸à¹à¸²à¸à¸à¸£à¸°à¹à¸à¸¨
2552 - à¸à¸£à¸°à¸à¸£à¸§à¸à¸à¸²à¸£à¸à¹à¸²à¸à¸à¸£à¸°à¹à¸à¸¨
Create successful ePaper yourself
Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.
ความร่วมมือในกรอบอนุภูมิภาคและกรอบภูมิภาค<br />
ประจำปี ค.ศ. 2009 และการประชุมร่วมระหว่างเจ้าหน้าที่อาวุโส<br />
เอเปค และเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการเงินเอเปค ระหว่างวันที่<br />
13-26 กุมภาพันธ์ <strong>2552</strong> และครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 15 กรกฎาคม -<br />
1 สิงหาคม <strong>2552</strong> รวมทั้งการประชุมคณะกรรมการการค้าและการ<br />
ลงทุน ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 18-23 พฤษภาคม <strong>2552</strong> เพื่อหารือ<br />
ถึงนโยบาย และโครงการต่างๆ ที่เอเปคจะดำเนินการตาม<br />
วัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ โดยการหารือทั้งสองครั้งให้ความสำคัญกับการ<br />
แก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโลกโดยเฉพาะปัญหาสินเชื่อเพื่อการค้า<br />
(Trade Finance) การดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายการเปิดเสรีการค้า<br />
และการลงทุนของเอเปค และการยืนยันเจตนารมณ์ทางการเมืองของ<br />
เอเปคที่จะหลีกเลี่ยงการใช้มาตรการกีดกันทางการค้าจนถึงสิ้นปี<br />
ค.ศ.2010 นอกจากนี้ ยังหารือถึงปัญหาความเชื่อมโยงในภูมิภาค<br />
และความเชื่อมโยงของห่วงโซ่อุปทาน (supply chain connectivity)<br />
ในภูมิภาค และยุทธศาสตร์ใหม่ของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ<br />
(New Growth Strategy) ซึ่งเอเปคมองว่า การเจริญเติบโตใน<br />
อนาคตจะต้องเป็นไปอย่างเท่าเทียม (inclusive growth) สมดุล<br />
(balanced growth) และยั่งยืน (sustainable growth) ซึ่งไทยได้<br />
แสดงบทบาทเชิงสร้างสรรค์ในการประชุมดังกล่าว และให้ข้อคิดเห็น<br />
รวมทั้งนำเสนอประเด็นที่สะท้อนผลประโยชน์ของไทย โดยเฉพาะเรื่อง<br />
ยุทธศาสตร์ใหม่ของการเจริญเติบโต และการเจริญเติบโตอย่างเท่าเทียม<br />
- เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีการค้าเอเปค ระหว่างวันที่<br />
21-22 กรกฎาคม <strong>2552</strong> ที่สิงคโปร์ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวง<br />
พาณิชย์ของไทยเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย มีการผลักดันท่าทีไทย <br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
การประชุมสุดยอดผู้นำเอเปค ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 14-15 พฤศจิกายน <strong>2552</strong><br />
โดยเฉพาะเรื่องการต่อต้านการกีดกันทางการค้า การลดอุปสรรค<br />
ทางการค้าต่างๆ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาอุปสรรคของห่วงโซ่อุปทาน<br />
ในภูมิภาค<br />
- ติดตามผลการเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีขนส่งเอเปค<br />
ระหว่างวันที่ 21-22 กรกฎาคม <strong>2552</strong> ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์<br />
โดยที่ประชุมได้แสดงเจตนารมณ์จะสนับสนุนการพัฒนาและแก้ไข<br />
ปัญหาห่วงโซ่อุปทานในภูมิภาคเอเปค ปัญหาความเชื่อมโยงในภูมิภาค<br />
เป็นปัญหาสำคัญ และสอดคล้องกับเป้าหมายของอาเซียนในปีที่ไทย<br />
เป็นเจ้าภาพ เพราะความเชื่อมโยงเป็นหัวใจสำคัญในการส่งเสริม<br />
การค้า การลงทุน และการรวมตัวในภูมิภาค<br />
- การเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเอเปค ครั้งที่ 21 ระหว่าง<br />
วันที่ 11-13 พฤศจิกายน <strong>2552</strong> และเข้าร่วมการประชุมสุดยอด<br />
ผู้นำเอเปค ครั้งที่ 17 ระหว่างวันที่ 14-15 พฤศจิกายน <strong>2552</strong><br />
โดยไทยได้ผลักดันผลประโยชน์และท่าทีไทยให้ได้รับการยอมรับ<br />
และได้ร่วมรับรองเอกสารแถลงการณ์ร่วมรัฐมนตรีเอเปค (APEC<br />
Ministerial Joint Statement) และปฏิญญาผู้นำเขตเศรษฐกิจเอ<br />
เปค (APEC Economic Leaders’ Meeting Declaration)<br />
เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการเจริญเติบโตอย่างสมดุล (Balanced<br />
Growth) สร้างการเจริญเติบโตอย่างเท่าเทียม (Inclusive Growth)<br />
การส่งเสริมการสร้างเครือข่ายรองรับผู้ที่เปราะบางในสังคม<br />
การส่งเสริมการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainable Growth)<br />
ตลอดจนส่งเสริมการค้าพหุภาคี และเร่งรัดการรวมตัวทาง<br />
เศรษฐกิจในภูมิภาค<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
42 รายงานประจำปี กระทรวงการต่างประเทศ พ.ศ. <strong>2552</strong>