2552 - à¸à¸£à¸°à¸à¸£à¸§à¸à¸à¸²à¸£à¸à¹à¸²à¸à¸à¸£à¸°à¹à¸à¸¨
2552 - à¸à¸£à¸°à¸à¸£à¸§à¸à¸à¸²à¸£à¸à¹à¸²à¸à¸à¸£à¸°à¹à¸à¸¨
2552 - à¸à¸£à¸°à¸à¸£à¸§à¸à¸à¸²à¸£à¸à¹à¸²à¸à¸à¸£à¸°à¹à¸à¸¨
You also want an ePaper? Increase the reach of your titles
YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.
นักเรียนไทยมุสลิมเพื่อเป็นทางเลือกทางด้านการศึกษาสำหรับ<br />
เยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย<br />
ทางด้านศาสนา รัฐบาลได้สนับสนุนกิจกรรมฮัจย์อย่างจริงจัง<br />
มาโดยตลอด โดยเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม <strong>2552</strong> คณะรัฐมนตรีได้มีมติ<br />
เห็นชอบให้กระทรวงการต่างประเทศจัดตั้งฝ่ายกงสุลฮัจย์ประจำ<br />
ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เพื่ออำนวยความสะดวกและแก้ไขปัญหา<br />
ให้แก่ชาวไทยที่เดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ ให้สามารถประกอบพิธีฮัจย์<br />
ได้อย่างถูกต้องตามหลักศาสนาและไม่เสียสิทธิประโยชน์ที่ประเทศ<br />
ซาอุดีอาระเบียกำหนด เช่นเดียวกับประเทศที่มีประชากรเดินทาง<br />
ไปประกอบพิธีฮัจย์ได้จัดตั้งขึ้น ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ <br />
อนึ่ง ในเทศกาลฮัจย์ปี <strong>2552</strong> กระทรวงการต่างประเทศได้<br />
เพิ่มบุคคลากรข้าราชการมุสลิมของสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์<br />
ปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลด้านกิจการฮัจย์ รวมทั้งได้ส่งข้าราชการ<br />
ไปช่วย ปฏิบัติหน้าที่ดูแลและอำนวยความสะดวกแก่ผู้แสวงบุญชาวไทยที่<br />
เดินทางไปประกอบพิธี ดังเช่นทุกๆ ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ กระทรวง<br />
การต่างประเทศยังมีดำริที่จะจัดตั้งสำนักงาน เพื่อให้ความช่วยเหลือ<br />
ดูแลผู้ไปประกอบพิธีฮัจย์ที่เมืองเมกกะและมาดีนะห์ โดยขณะนี้อยู่ใน<br />
ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ <br />
ภาพรวมความสัมพันธ์ระหว่างไทย<br />
กับประเทศในภูมิภาคอเมริกาและแปซิฟิกใต้<br />
1. ความสัมพันธ์ในภาพรวม<br />
กระทรวงการต่างประเทศยังคงให้ความสำคัญกับนโยบาย<br />
“การกระชับความร่วมมือและความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์กับ<br />
ประเทศที่มีบทบาทสำคัญของโลก และประเทศคู่ค้าของไทยในภูมิภาค<br />
ต่างๆ” ซึ่งภูมิภาคอเมริกาและแปซิฟิกใต้เป็นอีกภูมิภาคหนึ่งที่เป็น<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
<br />
การประชุมหารือด้านการเมืองครั้งที่ 2 ระหว่างไทย - ชิลี เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม <strong>2552</strong><br />
เป้าหมายสำคัญในการผลักดันนโยบายดังกล่าว ซึ่งประเทศที่เป็นเป้าหมาย<br />
เชิงยุทธศาสตร์ที่สำคัญ ๆ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา บราซิล<br />
อาร์เจนตินา เม็กซิโก เปรู ชิลี ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เป็นต้น<br />
2. ความสัมพันธ์ด้านการเมืองและความมั่นคง <br />
โดยที่กระทรวงการต่างประเทศให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการ<br />
สร้างความเข้าใจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประเทศต่างๆ ต่อเสถียรภาพ<br />
ทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจของไทย จึงได้ผลักดันให้มีการแลกเปลี่ยน<br />
การเยือนระดับสูงและใช้กรอบการประชุมและกลไกทวิภาคีต่างๆ ที่มีอยู่<br />
เป็นเครื่องมือหลักในการสร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นดังกล่าว<br />
จากบรรยากาศความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศ<br />
และการชุมนุมประท้วงอย่างต่อเนื่องในช่วงต้นปี <strong>2552</strong> ส่งผลกระทบต่อ<br />
ความเชื่อมั่นของประเทศต่างๆ โดยเฉพาะสหรัฐฯ แคนาดา ออสเตรเลีย<br />
และนิวซีแลนด์ ที่ยังคงมีความกังวลและเกรงไปว่า กระบวนการ<br />
และทิศทางการพัฒนาการทางการเมืองของไทย จะส่งผลกระทบต่อ<br />
ผลประโยชน์ในด้านต่างๆ ของตนหรือไม่และอย่างไร เนื่องจากประเทศ<br />
เหล่านั้นเริ่มมีผลประโยชน์แห่งชาติที่ผูกพันกับภูมิภาคเอเชีย และ<br />
เอเชียแปซิฟิกมากขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางกระแสการเปิดเสรีทางการค้า<br />
ที่จะทำให้อาเซียนและกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจต่างๆ<br />
กลายเป็นภูมิภาคที่มีพลวัตทางการค้าที่สูงและเป็น open regionalism <br />
ซึ่งในการแก้ไขภาพลักษณ์ความขัดแย้งทางการเมืองภายใน<br />
ประเทศ และสร้างความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจให้เกิดขึ้นได้โดยเร็ว<br />
กระทรวงการต่างประเทศยังคงให้ความสำคัญสูงสุดกับการหารือกับ<br />
ฝ่ายต่างๆ ของทั้งสหรัฐฯ แคนาดา ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์<br />
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของสหรัฐฯ ตลอดปี <strong>2552</strong> ที่ผ่านมาได้มี<br />
การแลกเปลี่ยนการเยือนและการพบหารือระหว่างผู้แทนของไทย<br />
กับสหรัฐฯ อยู่เป็นประจำ ซึ่งทั้งนี้รวมถึงการเยือนสหรัฐฯ ของรัฐมนตรี<br />
ว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อวันที่ 19-26 เมษายน <strong>2552</strong><br />
ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการสร้างความเข้าใจต่อสถานการณ์<br />
ทางการเมืองของไทย และการแสดงความพร้อมของรัฐบาลในการ<br />
บริหารประเทศ รวมทั้งเป็นการผลักดันให้เกิดการเยือนและเข้าร่วมใน<br />
การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา PMC/ ARF<br />
ที่ประเทศไทยของนางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวง<br />
การต่างประเทศสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 21-23 กรกฎาคม <strong>2552</strong> <br />
ความสัมพันธ์ทวิภาคีกับประเทศต่างๆ<br />
รายงานประจำปี กระทรวงการต่างประเทศ พ.ศ. <strong>2552</strong><br />
63