รายงานประจำปี 2555 - National Center for Genetic Engineering and ...

่
การศกาวิจัยเชิงนยบายเทคนลยีชีวาพ
ไบอเทค ดาเนินการศกานยบายเพื่อเปนข้อมูลประกอบการตัดสินใจ
การวางแผนขององค์กรและประเทศทังในเชิงรุกเพื่อก้าวให้ทันกับการ
เปลี่ยนแปลงทางเทคนลยี มาตรการด้านเศรกิจและสังคม และเชิงรับเพื่อเตรียม
ความพร้อมรับมือต่อประเด็นที่มีความสาคัสูง ทังในการลงทุนการวิจัยและพันา
ครงสร้างพืนานขององค์กรและประเทศ และมาตรการสนับสนุนของรั
้อเสนอเชิงุทธาสตร์การวิจัและพันาเทคโนโลีเอนไม์
องประเทไท
ในการดาเนินงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีด้านเอนไซม์ให้ครบทั้งห่วงโซ่คุณค่าต้อง
มีกลไกดึงดูดให้นักวิจัยได้ทางานร่วมกันเป็นเครือข่าย เพื ่อพัฒนาตั ้งแต่งานวิจัยต้นน้ า กลางน้ า
และส่งมอบองค์ความรู้และเทคโนโลยีไปสู่ภาคอุตสาหกรรม ดังนั้นการรวมกลุ่มเครือข่าย
ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยี นักวิจัยด้านเอนไซม์ และภาคเอกชน เป็นสิ่งสาคัญเพื่อให้สามารถ
ใช้เทคโนโลยีร่วมกับวิธีการดั้งเดิม และตรงกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรม นอกจากนี้
ภาคอุตสาหกรรมมีความต้องการโครงสร้างพื้นฐานระดับขยายขนาดและเครื่องมืออุปกรณ์
จึงควรสนับสนุนให้เกิดธุรกิจรับจ้างผลิตเอนไซม์ โปรตีน และหัวเชื ้อ หรือสนับสนุนให้นักวิจัย
spin-o เพื่อรองรับความต้องการของทั้งภาควิจัยและภาคเอกชน ส่วนโครงสร้างพื้นฐานที่มี
อยู่แล้วต้องมีกลไกบริหารจัดการให้เกิดความเชื่อมโยงระหว่างหน่วยงานเพื่อใช้เครื่องมือ
อุปกรณ์ได้เต็มประสิทธิภาพ โดยดาเนินการควบคู ่ไปกับการจัดทามาตรฐานของผลิตภัณฑ์ที
เกี ่ยวข้องกับอาหารและยา ข้อเสนอแนะทิศทางการวิจัยและพัฒนาของประเทศไทย ได้แก่
การเตรียมพร้อมเทคโนโลยีฐานเพื่ออนาคตและการจัดการเชื่อมโยงเครือข่าย การเพิ่มจานวน
โครงสร้างพื้นฐานในระดับขยายขนาด โดยควรให้ความสาคัญในอุตสาหกรรมพลังงานชีวภาพ
อุตสาหกรรมอาหารสัตว์ และตัวเร่งชีวภาพเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมที่ใช้สารเคมี
้อเสนอทิทางการพันาอุตสาหกรรมกุ้งองประเทไท
สวทช. โดย ไบโอเทคได้ศึกษาวิเคราะห์ทิศทางการพัฒนาอุตสาหกรรมกุ้งของ
ประเทศไทย พบว่าอุตสาหกรรมกุ้งไทยเปลี่ยนไปเลี้ยงกุ้งขาวตั้งแต่ปี 2546 ปจจุบันผลผลิต
กุ้งขาวต่อกุ้งกุลาดาอยู่ที่ระดับร้อยละ 99 : 1 จากการวิเคราะห์โอกาสและศักยภาพในการ
แข่งขันอุตสาหกรรมกุ้งกุลาดาของประเทศไทย อย่างไรก็ตามประเทศไทยควรจะต้องเพิ่ม
ผลผลิตกุ้งกุลาดาเป็นร้อยละ 10 ของปริมาณผลผลิตกุ้งจากการเพาะเลี้ยง เนื่องจากการเลี้ยง
กุ้งกุลาดายังเป็นจุดแข็งสาหรับประเทศไทย ดังนั้น จึงจาเป็นต้องเร่งรัดพัฒนาเพื่อเพิ่มความ
แข็งแกร่งด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีซึ่งเป็นเงื่อนไขสาคัญของความยั่งยืนของ
อุตสาหกรรมกุ้งไทย โดยเฉพาะในด้านพัฒนาพ่อแม่พันธุ์ที่มีคุณภาพ (โตเร็ว ทนโรค) ทั้งกุ้ง
กุลาดา กุ้งขาว และ/หรือกุ้งก้ามกราม การพัฒนาระบบวินิจฉัยโรค การบริหารจัดการฟาร์มที่ดี
เพื ่อเ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมการระบาดของโรคที ่รวดเร็ว การพัฒนาอาหารที ่มีประสิทธิภาพสูง
และพัฒนาระบบการเลี้ยงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและการรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม
รายงานประจำาปี 2555 5