12 Ag-Bio Vol.4 No.1-4 January - December 2012 - ศูนย์เทคโนโลยี ...
12 Ag-Bio Vol.4 No.1-4 January - December 2012 - ศูนย์เทคโนโลยี ...
12 Ag-Bio Vol.4 No.1-4 January - December 2012 - ศูนย์เทคโนโลยี ...
Create successful ePaper yourself
Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.
2. แกสชีวภาพ<br />
กากสบูดําที่เหลือจากการหีบนํ้ามันเมื่อนํามาหมักรวมกับ<br />
เปลือกและใบในสภาพไรอากาศจะไดแกสมีเทนประมาณ 70%<br />
สามารถนํามาใชในการหุงตม หรือเปนเชื้อเพลิงป นไฟฟาในครัวเรือนได<br />
3. การใชประโยชนจากสบูดําดานอื่นๆ<br />
3.1 สิ่งแวดลอม<br />
การปลูกสบูดําแบบสวนปา สามารถเปนแหลงผลิตแกส<br />
ออกซิเจนและดูดซับคารบอนไดออกไซดใหกับโลก หรือปลูกเปนแนว<br />
รอบสระหรือบอนํ้าเพื่อกันลมรอนและลดการระเหยของนํ้า ทั้งยัง<br />
ชวยลดการพังทะลายของหนาดิน การปลูกสบูดํากอใหเกิดระบบ<br />
นิเวศนที่ดี โดยพบวา มีแมลงหลายชนิดและนกเขามาอาศัยในสวน<br />
สบูดํา<br />
3.2 การเกษตร<br />
เปลือกและกากของสบูดํามีไนโตรเจนและโปตัสเซียมสูง<br />
สามารถนํามาผลิตเปนปุยอินทรียที่มีคุณภาพ และมีรายงานวา<br />
นํ้าสกัดจากเปลือกผลสบูดําเปนสารชีวภาพกําจัดโรคพืช สามารถ<br />
ยับยั้งการเจริญเสนใยของเชื้อรา Phytopththora palmivora<br />
สาเหตุโรครากเนาโคนเนาของทุเรียน และเชื้อรา Colletotrichum<br />
gloeosporioides สาเหตุโรคแอนแทรกโนสในมะมวงได 100%<br />
ในสวนสบูดํายังสามารถเลี้ยงผึ้งเพื่อผลิตนํ้าผึ้งและผสมเกสรสบูดํา<br />
อันเปนการเพิ่มรายไดใหกับเกษตรกรอีกดวย<br />
3.3 ยารักษาโรค<br />
แตเดิมสบู ดําเปนพืชสมุนไพรรักษาโรคในหลายประเทศ สารสกัด<br />
จากใบใชเปนยาฆาเชื้อ สามารถยับยั้งการเจริญของแบคทีเรียกลุม<br />
Staphylococcus, Bacillus และ Micrococcus ไดดี ยางสบูดําที่มี<br />
ความเขมขน 100% และ 50% สามารถฆาไขพยาธิไสเดือนและ<br />
พยาธิปากขอได สารสกัดจากกิ่งสบู ดํามีฤทธิ์ยับยั้งการเปลี่ยนแปลง<br />
ของเซลลเชื้อ HIV และยังพบวาสาร curcusone C บริสุทธิ์ที่สกัด<br />
จากรากสบู ดํา สามารถยับยั้งการเจริญของมะเร็งเตานมไดเปนอยางดี<br />
ในอนาคตอาจพัฒนาเปนยาตานมะเร็งได<br />
3.4 ไมประดับ<br />
ประโยชนของสบูดํานอกจากที่กลาวมาขางตนแลว สบูดํายังเปน<br />
ไมประดับที่สวยงาม มีความแปลกใหม เชน สบู ดําดาง (variegated<br />
jatropha) เกิดไคเมียรา (chimera) จากการกลายพันธุ ตามธรรมชาติ<br />
หรือชักนําใหกลายพันธุ โดยการฉายรังสี ลูกผสมขามชนิด (interspecific<br />
hybrid) ระหวางสบูดํากับเข็มปตตาเวียแคระ มีสีดอกหลากหลาย<br />
เหมาะแกการปลูกประดับแปลงหรือทําเปนไมกระถาง มีลักษณะ<br />
สวยงามแปลกตา เชน สบู ดําประดับพันธุ กําแพงแสน 1 กําแพงแสน 2<br />
และกําแพงแสน 3 (ภาพที่ 4)<br />
ภาพที่ 4<br />
1. สบูดําประดับพันธุ กําแพงแสน 1<br />
2. สบูดําประดับพันธุ กําแพงแสน 2<br />
3. สบูดําประดับพันธุ กําแพงแสน 3<br />
1<br />
3<br />
สายพันธุสบูดําในปจจุบัน<br />
สามารถจําแนกกลุมของสายพันธุสบูดําตามลักษณะทาง<br />
สัณฐานวิทยา ถิ่นกําเนิด และลูกผสมระหวางสายพันธุ ไดดังนี้<br />
1. สายพันธุ กลุ มเอเชีย ประกอบดวยสายพันธุ จากไทย สหภาพ<br />
พมา อินเดีย เวียดนาม และมาเลเซีย ในประเทศไทยมีสายพันธุ ที่เก็บ<br />
รวบรวมจากจังหวัดตางๆ เชน ชัยนาท แพร นครราชสีมา สตูล พันธุ<br />
เหลานี้ใหผลผลิตประมาณ 200-300 กก./ไร/ป มีปริมาณนํ้ามันใน<br />
เมล็ดตํ่าถึงปานกลาง (18%-25%) ทั้งหมดเปนพันธุ ที่มีปริมาณสาร<br />
phorbol esters สูง (1-5 มล./ก.)<br />
2. สายพันธุกลุมเม็กซิโก เปนพันธุที่นําเขามาจากเขตพื ้นที่<br />
ตางๆ ของประเทศเม็กซิโก เมื่อนํามาปลูกทดสอบในประเทศไทย<br />
พบวา มีทรงพุมสูงใหญ ใบมีขนาดใหญกวาพันธุเอเชีย ใหผลผลิต<br />
ประมาณ 300-400 กก./ไร/ป มีปริมาณนํ้ามันในเมล็ดปานกลางถึงสูง<br />
ประมาณ 25-35% ทั้งหมดเปนพันธุที่มีสาร phorbol esters<br />
ตํ่ามาก (ตํ่ากวา 0.1 มล./ก.)<br />
3. สายพันธุลูกผสม ที่เกิดจากการผสมพันธุระหวางกลุมพันธุ<br />
เอเชียกับกลุมพันธุเม็กซิโก มีลักษณะตนสูงแข็งแรง จํานวนผลตอ<br />
ชอเพิ่มขึ้น และผลผลิตสูงกวาสองกลุมพันธุที่กลาวมา เนื่องจาก<br />
เกิดความดีเดนของลูกผสมที่เหนือกวาแมพอ (heterosis) โดยให<br />
ผลผลิตประมาณ 500-600 กก./ไร/ป<br />
2<br />
36 <strong>Ag</strong>-<strong>Bio</strong> <strong>Vol.4</strong> <strong>No.1</strong>-4 <strong>January</strong> - <strong>December</strong> 20<strong>12</strong>