กห. รอบ 9 ปี
You also want an ePaper? Increase the reach of your titles
YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.
ผลการดำเนินงานของ<br />
กระทรวงกลาโหม ใน<strong>รอบ</strong> ๑ <strong>ปี</strong><br />
(๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ ถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕)
“ท่านทั้งหลาย ที่ได้อยู่ ณ ที่นี้ ผู้อยู่ในหน้าที่ทั้งฝ่ายพลเรือน และทหาร ย่อมทราบ<br />
แก่ใจอยู่ทั่วกันว่า ความมั่นคงของประเทศชาติจะเกิดมีขึ้นได้ ก็ด้วยประชาชนในชาติ<br />
อยู่ดีมีสุข ไม่มีทุกข์ยากเข็ญ ดังนั้น การสิ่งใดที่เป็นความทุกข์เดือดร้อนของประชาชน<br />
ทุกคนทุกฝ่ายจึงต้องถือเป็นหน้าที่ ที่จะต้องร่วมมือกันปฏิบัติแก้ไขให้เต็มกำลัง โดยเฉพาะ<br />
ขณะนี้ประชาชนกำลังเดือดร้อนลำบากจากน้ำท่วม จึงชอบที่จะร่วมมือกันปัดเป่าแก้ไข<br />
ให้ผ่านพ้นไปโดยเร็ว และจัดทำโครงการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน อย่างเช่น โครงการ<br />
ต่างๆ ที่เคยพูดไปนั้น ก็เป็นการแนะนำไม่ใช่สั่งการ แต่ถ้าเป็นการปรึกษากันแล้วเห็นว่า<br />
เป็นประโยชน์คุ้มค่าและทำได้ก็ทำ<br />
ข้อสำคัญจะต้องไม่ขัดแย้งแตกแยกกัน อาจจะต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เพื่อให้<br />
งานที่ทำบรรลุผลที่มีประโยชน์ เพื่อความผาสุกของประชาชนและความมั่นคง ปลอดภัย<br />
ของประเทศชาติ<br />
ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงคุ้มครอง รักษาท่าน ให้ปราศจาก<br />
ทุกข์ ปราศจากภัย และอำนวยความสุขความเจริญแก่ท่านทั่วกัน”<br />
พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในการเสด็จออกมหาสมาคม<br />
ณ มุขเด็จ พระที ่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง<br />
เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ <strong>รอบ</strong> ๘๔ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔
กลาโหมเทิดราชา รักษ์ราษฎร์ ชาติมั่นคง
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย<br />
พุทธศักราช ๒๕๕๐<br />
“มาตรา ๗๗ รัฐต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เอกราช อธิปไตย และ<br />
บูรณภาพแห่งเขตอำานาจรัฐ และต้องจัดให้มีกำาลังทหาร อาวุธยุทโธปกรณ์ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย<br />
จำาเป็น และเพียงพอ เพื่อพิทักษ์รักษาเอกราช อธิปไตย ความมั่นคงของรัฐ สถาบันพระมหากษัตริย์<br />
ผลประโยชน์แห่งชาติ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น<br />
ประมุข และเพื่อการพัฒนาประเทศ”
วิสัยทัศน์<br />
- เป็นองค์กรที่มีกองทัพชั้นนำา มีบทบาทนำาในด้านความมั่นคงของรัฐและความมั่นคงของภูมิภาค<br />
พันธกิจ<br />
๑. พัฒนาบทบาทนำาในการดำาเนินงานร่วมกันระหว่างส่วนราชการ เพื่อพิทักษ์ รักษาและเทิดทูน<br />
สถาบันพระมหากษัตริย์<br />
๒. รักษาเอกราชและอธิปไตย รวมทั้งพัฒนาศักยภาพกองทัพ เพื่อมุ่งสู่การเป็นกองทัพชั้นนำา<br />
ในภูมิภาค<br />
๓. พัฒนาบทบาทนำาในการดำาเนินงานร่วมกันระหว่างส่วนราชการ เพื่อรักษาความมั่นคงภายใน<br />
ราชอาณาจักร<br />
๔. พัฒนาบทบาทนำาในการสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงในภูมิภาค<br />
๕. พัฒนาประเทศเพื่อความมั่นคง รวมทั้งสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชน การรักษาผลประโยชน์<br />
แห่งชาติ และการแก้ไขปัญหาสำาคัญของชาติ<br />
ค่านิยมองค์กร<br />
- ยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี<br />
พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
พลอากาศเอก สุกำพล สุวรรณทัต<br />
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม<br />
พลเอก เสถียร เพิ่มทองอินทร์<br />
ปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร<br />
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด<br />
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา<br />
ผู้บัญชาการทหารบก<br />
พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์<br />
ผู้บัญชาการทหารเรือ<br />
พลอากาศเอก อิทธพร ศุภวงศ์<br />
ผู้บัญชาการทหารอากาศ
นโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม<br />
นโยบายทั่วไป<br />
๑. การปฏิบัติราชการให้ยึดถือกฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ และคำาสั่งที่เกี่ยวข้อง นโยบาย และ<br />
มติคณะรัฐมนตรี การสั่งการของนายกรัฐมนตรี มติสภากลาโหม ยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศ แผนแม่บท การปรับปรุง<br />
โครงสร้างกระทรวงกลาโหม แผนพัฒนาขีดความสามารถของกระทรวงกลาโหม รวมทั้งแผนแม่บทหรือแผนหลักในการ<br />
ดำาเนินการด้านต่างๆ โดยปรับปรุงให้มีความทันสมัย สอดคล้องกับภารกิจและสภาพแวดล้อมอยู่เสมอ<br />
๒. พิทักษ์ รักษาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างสมพระเกียรติ ทั้งในฐานะที่พระมหากษัตริย์ทรงเป็น<br />
ประมุขของประเทศ และทรงดำารงตำาแหน่งจอมทัพไทย เพื่อให้สถาบันพระมหากษัตริย์ คงเป็นศูนย์รวมจิตใจที่มั่นคง<br />
และยั่งยืน ของประชาชนชาวไทย และเป็นสถาบันหลักที่สำาคัญยิ่งของประเทศ โดยจะต้องดำาเนินการและปฏิบัติงานร่วมกับ<br />
ส่วนราชการต่างๆ อย่างเต็มความสามารถ รวมทั้งให้ความสำาคัญกับการสนับสนุนและ<br />
เผยแพร่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำาริ<br />
๓. พัฒนาความร่วมมือทางทหารกับประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศในกลุ่ม<br />
อาเซียน มิตรประเทศและองค์การระหว่างประเทศ ทั้งในระดับทวิภาคีและ<br />
พหุภาคี เพื่อจัดระเบียบสภาวะแวดล้อมด้านความมั่นคง สร้างความไว้เนื้อ<br />
เชื่อใจ สร้างสันติภาพ ความก้าวหน้า และความสงบสุขร่วมกัน และเพื่อ<br />
เป็นส่วนหนึ่งในการนำาไปสู่การรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน ใน<strong>ปี</strong> ๒๕๕๘<br />
รวมทั้งสนับสนุนภารกิจเพื่อสันติภาพ การปฏิบัติการเพื่อมนุษยธรรม และ<br />
ส่งเสริมบทบาทในการรักษาสันติภาพ ภายใต้ก<strong>รอบ</strong>ของสหประชาชาติและ<br />
ผลประโยชน์แห่งชาติเป็นหลัก<br />
๔. เสริมสร้างศักยภาพกองทัพและระบบการป้องกันประเทศ<br />
ให้มีความพร้อมในการพิทักษ์ รักษาเอกราช อธิปไตย ความ<br />
มั่นคง และผลประโยชน์แห่งชาติ โดยใช้การปฏิบัติการ<br />
ในลักษณะการรบร่วมเป็นหลัก และให้ความสำาคัญ<br />
กับการพัฒนาด้านการข่าวกรองและการต่อต้านข่าวกรอง<br />
ให้สามารถตอบสนองภารกิจของกองทัพได้ในทุกระดับ<br />
พัฒนาการส่งกำาลังบำารุงร่วม โดยใช้ประโยชน์จากงาน<br />
มาตรฐานยุทโธปกรณ์ทางทหารและศักยภาพด้านต่างๆ<br />
ที่แต่ละเหล่าทัพมีอยู่ พัฒนาการระดมสรรพกำาลัง<br />
เพื่อการทหาร ให้สามารถขยายกำาลังและปฏิบัติการ<br />
ได้อย่างต่อเนื่อง มีการสำารองอาวุธยุทโธปกรณ์และ<br />
พลังงานเพื่อความมั ่นคง รวมทั้งให้ความสำาคัญกับ<br />
การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกและค<strong>รอบ</strong>ครัว เพื่อ<br />
ตอบแทนคุณความดี และเป็นการสร้างขวัญกำาลังใจ<br />
ให้กับกำาลังพลที่กำาลังปฏิบัติหน้าที่ป้องกันประเทศ
๕. พัฒนากิจการป้องกันอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ โดยบูรณาการขีดความสามารถ ของภาครัฐและเอกชน รวมทั้งใช้<br />
ประโยชน์จากความร่วมมือในกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อนำาไปสู่การพึ่งพาตนเองในการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ พัฒนากิจการ<br />
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อการป้องกันประเทศ ให้ทัดเทียมกับประเทศในภูมิภาค สามารถสนับสนุนการพึ่งพาตนเอง<br />
ของอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ โดยร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ การ<br />
สื่อสาร และกิจการอวกาศ โดยเน้นให้เกิดการบูรณาการ ความเป็นมาตรฐาน และความมั่นคงปลอดภัยของระบบเทคโนโลยี<br />
สารสนเทศ และการสื่อสารภายในกระทรวงกลาโหม<br />
๖. พัฒนาการผนึกกำาลังกับทุกภาคส่วนของสังคมเพื่อการป้องกันประเทศ ด้วยการนำาพลังอำานาจแห่งชาติทุกด้าน มาใช้<br />
สนับสนุนการปฏิบัติภารกิจเพื่อความมั่นคงร่วมกับกระทรวงกลาโหม โดยในยามปกติ กระทรวงกลาโหมจะต้องใช้ทรัพยากร<br />
ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ ด้วยการช่วยพัฒนาพลังอำานาจแห่งชาติทุกด้าน โดยให้ความสำาคัญกับการสนับสนุน<br />
นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โดยเฉพาะการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ และฟื้นฟูประชาธิปไตย<br />
การสนับสนุนการแก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติด และการเร่งนำาสันติสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน<br />
ของประชาชนกลับมาสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งสนับสนุนการรักษาผลประโยชน์แห่งชาติ การพัฒนาประเทศเพื่อ<br />
ความมั่นคง การช่วยเหลือประชาชน การแก้ไขปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปัญหาภัยพิบัติ โดยเฉพาะอุทกภัย<br />
การร่วมจัดการกับปัญหาการก่อการร้าย และอาชญากรรมข้ามชาติต่างๆ ได้แก่ ยาเสพติด ผู้หลบหนีเข้าเมือง แรงงานต่างด้าว<br />
ผิดกฎหมาย การค้าสิ่งของผิดกฎหมาย การค้ามนุษย์ โจรสลัด และ ภัยจากเครือข่ายอินเตอร์เน็ต<br />
นโยบายเฉพาะ<br />
๑. กองทัพต้องมีโครงสร้างที่เหมาะสม กะทัดรัด ทันสมัย มีความสมดุลระหว่างหน่วยปฏิบัติกับหน่วยควบคุมบังคับ<br />
บัญชา พร้อมรองรับภารกิจและสภาพแวดล้อมทั้งในปัจจุบันและในอนาคต โดยการขยายหน่วยหรือจัดตั้งหน่วยใหม่จะต้อง<br />
มีเหตุผลรองรับชัดเจน<br />
๒. พัฒนางานด้านกำาลังพลให้สอดคล้องกับโครงสร้างกองทัพและสามารถตอบสนองการปฏิบัติภารกิจต่างๆ ได้อย่าง<br />
มีประสิทธิภาพ โดยให้ความสำาคัญกับการพัฒนาระบบข้าราชการพลเรือนกลาโหม ให้สามารถนำามาใช้ในกระทรวงกลาโหม<br />
ได้อย่างเป็นรูปธรรม และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อทางราชการ<br />
๓. พัฒนาการฝึกร่วมระหว่างเหล่าทัพ และการฝึกร่วม/ผสม กับมิตรประเทศ ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน<br />
สามารถนำาไปปฏิบัติได้ และมีความสมจริง รวมทั้งให้เพิ่มเติมการฝึกที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติภารกิจอื่นๆ ของทหาร<br />
เช่น การฝึกบรรเทาสาธารณภัย เป็นต้น<br />
๔. จัดให้มีพื้นที่ฝึกของแต่ละเหล่าทัพและพื้นที่ฝึกร่วมระหว่างเหล่าทัพที่เหมาะสม โดยพื้นที่ฝึกดังกล่าวจะต้องมี<br />
มาตรการในการป้องกันการบุกรุกพื้นที่ ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถใช้พื้นที่ฝึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ<br />
๕. ปรับปรุงการศึกษาของกองทัพในแต่ละระดับให้มีหลักสูตรที่สามารถพัฒนาบุคลากร ที่เข้ารับการศึกษาให้มีคุณภาพ<br />
และประสิทธิภาพสูงสุดอย่างแท้จริง โดยให้ความสำาคัญกับการศึกษาในระดับยุทธศาสตร์ ที่มีบุคลากรระดับสูงเข้ารับ<br />
การศึกษาเป็นลำาดับแรก
บทนำ<br />
ในห้วง<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕ ที่ผ่านมา ประเทศไทยในภาพรวม ได้เผชิญกับปัญหาต่าง ๆ มากมายทั้งปัจจัยจากภายในประเทศ<br />
และภายนอกประเทศ รวมทั้งปัญหาจากภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งสำาคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่<br />
ที่เกิดขึ้นในช่วงปลาย<strong>ปี</strong> ๕๔ อันส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศในวงกว้าง ทำาให้<br />
การดำาเนินกิจกรรมการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าของรัฐบาลตามนโยบายที่ได้วางไว้และตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจ<br />
และสังคมแห่งชาติฉบับปัจจุบัน ต้องประสบกับอุปสรรคและความซับซ้อนเพิ่มขึ้น อันส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต<br />
ของประชาชนโดยตรง<br />
กระทรวงกลาโหม ในฐานะสถาบันทหารอันเป็นหน่วยงานหลักด้านความมั่นคงของประเทศ ก็ได้ตระหนักถึงปัญหา<br />
ที่เกิดขึ้นในมิติต่าง ๆ และบทบาทหน้าที่ของทหารตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐<br />
ที่ระบุถึงภารกิจในการพิทักษ์รักษาเอกราช อธิปไตย ความมั่นคงของรัฐ สถาบันพระมหากษัตริย์ ผลประโยชน์แห่งชาติ<br />
การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการพัฒนาประเทศ จึงได้ดำาเนินการปฏิบัติ<br />
หน้าที่เป็นกลไกที่สำาคัญของภาครัฐ ในการเข้าไปมีส่วนร่วมช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของชาติตามนโยบายของรัฐบาล ภายใต้<br />
ก<strong>รอบ</strong>ที่กฎหมายกำาหนดอย่างเต็มกำาลังความสามารถ ซึ่งภารกิจต่าง ๆ ที่กระทรวงกลาโหมได้ดำาเนินการและสนับสนุน<br />
การดำาเนินการมาอย่างต่อเนื่อง มีเป้าหมายเพื่อประเทศชาติและประชาชนเป็นประโยชน์สูงสุดนั้น สิ่งเหล่านี้ถือเป็น<br />
ความภาคภูมิใจของกระทรวงกลาโหมและกำาลังพลทุกนายที่ได้มีส่วนร่วมในการปฏิบัติหน้าที่<br />
ทั้งนี้ เพราะกระทรวงกลาโหมระลึกเสมอว่า จุดมุ่งหมายของความมั่นคง ยั่งยืน และความผาสุกของประเทศนั้น คือความสุข<br />
และความปรารถนาของพี่น้องประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ ซึ่งเหล่าทหารจะยึดมั่นเป็นเป้าประสงค์หลักและพร้อมที่จะ<br />
ปฏิบัติหน้าที่โดยยึดเอาผลประโยชน์อันยิ่งใหญ่ของประเทศชาติเป็นเป้าหมายสูงสุด
สารบัญ<br />
- บทบาทของทหารตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ๕<br />
- วิสัยทัศน์ / พันธกิจ / ค่านิยมองค์กร ๖<br />
- นโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ๘<br />
- บทนำ ๑๑<br />
ผลการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ๑๔<br />
ตามนโยบายรัฐบาล และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี<br />
ใน<strong>รอบ</strong><strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕ (๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ ถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕)<br />
(นโยบายเร่งด่วน)<br />
๑. เสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตย ๑๕<br />
๒. กำหนดให้การแก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติดเป็น “วาระแห่งชาติ” ๑๙<br />
๓. เร่งนำสันติสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ๒๕<br />
กลับมาสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้<br />
๔. เร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและนานาประเทศ ๓๐<br />
๕. ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐอย่างจริงจัง ๓๕<br />
๖. ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศ ๓๕<br />
สร้างสมดุลและความเข้มแข็งอย่างมีคุณภาพให้แก่ระบบเศรษฐกิจมหภาค
ผลการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ๓๘<br />
ตามนโยบายรัฐบาล และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี<br />
ใน<strong>รอบ</strong><strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕ (๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ ถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕)<br />
(นโยบายความมั่นคงแห่งรัฐ)<br />
๑. เทิดทูนและพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ ๓๙<br />
๒. พัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพของกองทัพและระบบป้องกันประเทศ ๔๘<br />
๓. พัฒนาและเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ ๗๕<br />
๔. พัฒนาระบบการเตรียมพร้อมแห่งชาติ ๘๖<br />
๕. เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติด องค์กรอาชญากรรมการค้ามนุษย์ ๘๗<br />
ผู้หลบหนีเข้าเมือง แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย และบุคคลที่ไม่มีสถานะชัดเจน<br />
- บทส่งท้าย ๘๘
ผลการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม<br />
ตามนโยบายรัฐบาล และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี<br />
ใน<strong>รอบ</strong><strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
(๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ ถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕)<br />
นโยบายเร่งด่วน<br />
กระทรวงกลาโหมได้ดำาเนินการตามแผนงาน/โครงการ โดยมีผลการดำาเนินงานที่สำาคัญ ดังนี้<br />
๑. เสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตย<br />
๒. กำาหนดให้การแก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติดเป็น“วาระแห่งชาติ”<br />
๓. เร่งนำาสันติสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนกลับมาสู่พื้นที่<br />
จังหวัดชายแดนภาคใต้<br />
๔. เร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและนานาประเทศ<br />
๕. ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐอย่างจริงจัง<br />
๖. ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยเพิ่มกำาลังซื้อภายในประเทศ สร้างสมดุลและ<br />
ความเข้มแข็งอย่างมีคุณภาพให้แก่ระบบเศรษฐกิจมหภาค<br />
14 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
๑. เสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์<br />
ของคนในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตย<br />
กระทรวงกลาโหมได้มอบหมายให้หน่วยขึ้นตรง<br />
กระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ จัดกิจกรรมและโครงการ<br />
สร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ ให้เหมาะสม<br />
และค<strong>รอบ</strong>คลุมกับกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อเป็น<br />
ส่วนสำาคัญในการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาความแตกแยกของ<br />
คนในชาติให้กลับมาเป็นสังคมที่มีความสามัคคี ความเอื้อ<br />
อาทรต่อกัน โดยมีกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ ประกอบด้วย<br />
- การบรรยายให้ความรู้และสัมมนาเชิงปฏิบัติการ<br />
โครงการ “สถานีวิทยุสีขาว เทิดไท้องค์ราชา” ณ โรงแรมเอเชีย<br />
เขตราชเทวี กรุงเทพฯ โดยมีวัตถุประสงค์ให้ผู้ประกอบการ<br />
วิทยุกระจายเสียงที่เข้าร่วมสัมมนามีความเข้าใจถึงบทบาท<br />
หน้าที่และจิตสำานึกความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อขยายผล<br />
ในการทำาหน้าที่เป็นสื่อสาธารณะที่ร่วมกันเทิดทูนสถาบัน<br />
พระมหากษัตริย์ พร้อมทั้งเสริมสร้างการมีส่วนร่วมและ<br />
สร้างจิตสำานึกของประชาชนในความรับผิดชอบต่อสาธารณะ<br />
และดำาเนินกิจกรรมเพื่อประโยชน์แก่สังคมต่อไป<br />
- ดำาเนินโครงการ “ค่ายเยาวชนรักชาติ” โดยมี<br />
วัตถุประสงค์เพื่อฝึกอบรมเยาวชนให้เกิดความรู้สึกนึกคิดใน<br />
ความเป็นคนไทย เกิดความรักสามัคคี ปกป้องและเทิดทูน<br />
สถาบันพระมหากษัตริย์ รวมทั้งภูมิใจในความเป็นคนไทย<br />
เพื่อให้เยาวชนไทยเติบโตเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่า<br />
และเป็นกำาลังหลักสำาคัญในการรักษาความมั่นคงของชาติ<br />
พร้อมทั้งจัดตั้งเครือข่ายผู้นำาชุมชนเฝ้าระวังและแจ้งเตือน<br />
การล่วงละเมิดสถาบันหลักของชาติ<br />
- จัดกิจกรรมการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคน<br />
ในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตยให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน<br />
โดยกำาลังพลของกองทัพต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง<br />
และใช้วิจารณญาณในการรับฟังข้อมูลข่าวสาร<br />
- จัดโครงการ “กล้าแผ่นดินด้วยเศรษฐกิจพอเพียง”<br />
โดยมีวัตถุประสงค์<br />
๑) ปลุกจิตสำานึกให้กลุ่มเป้าหมายมีความรับผิดชอบ<br />
ต่อตนเองและสังคม<br />
๒) เสริมสร้างค่านิยมในเรื่องความรักความสามัคคี<br />
ในชุมชน<br />
๓) ลดปัญหาความขัดแย้งทางความคิดระหว่าง<br />
กลุ่มชนในชุมชน<br />
๔) จัดตั้งแกนนำาเยาวชนในการขยายผลไปสู่การ<br />
เป็นผู้นำาท้องถิ่น ซึ่งได้ดำาเนินโครงการฯ ดังกล่าวแล้ว จำานวน<br />
๔ รุ่น คือ รุ่นที่ ๑ โรงเรียนเขาชะเมาวิทยา อำาเภอเขาชะเมา<br />
จังหวัดระยอง รุ่นที่ ๒ เทศบาลตำาบลบางนมโค อำาเภอ<br />
เสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รุ่นที่ ๓ โรงเรียนบ้านบึง<br />
อุตสาหกรรมนุเคราะห์ อำาเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี และ<br />
รุ่นที่ ๔ โรงเรียนพรหมานุสรณ์ อำาเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี<br />
- ดำาเนินการประชาสัมพันธ์ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มี<br />
ผู้เปิดเข้าเยี่ยมชมเว็บ จำานวน ๑๕,๒๑๖ คน โดยประชาสัมพันธ์<br />
กิจกรรมของหน่วยรวม ๖๖ กิจกรรม เพื่อสร้างการรับรู้ของ<br />
ประชาชนในการดำาเนินกิจกรรมของกองทัพ มีความรัก<br />
ความหวงแหน และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อันจะ<br />
นำามาซึ่งความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
15
- ได้จัดการฝึกอบรมหลักสูตร “การพัฒนาสัมพันธ์<br />
สื่อสารมวลชนเพื่อความมั่นคงของชาติ” รุ่นที่ ๙ ให้กับ<br />
สื่อมวลชนประเภทวิทยุชุมชนจากทั่วประเทศ จำานวน ๑๕๐<br />
คน ระหว่าง ๒๔ - ๒๗ เมษายน ๒๕๕๕ ณ กรมทหารปืนใหญ่<br />
ต่อสู้อากาศยานที่ ๑ ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ<br />
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ความ<br />
เข้าใจในงานความมั่นคงรวมถึงบทบาทหน้าที่ และจิตสำานึก<br />
ความรับผิดชอบต่อสังคม ร่วมกันเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่<br />
ถูกต้องและสร้างสรรค์ มีส่วนร่วมในการสร้างความรัก<br />
ความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ ดำารงรักษาไว้ซึ่ง<br />
สถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นการขยาย<br />
เครือข่ายวิทยุกระจายเสียง เพื่อความมั่นคงของสำานักงาน<br />
ปลัดกระทรวงกลาโหมในภาพรวม<br />
- จัดโครงการ “จิตสำานึกรักเมืองไทย” เพื่อสร้างสำานึก<br />
และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการสนับสนุนงานความ<br />
มั่นคงของชาติและความรับผิดชอบต่อสาธารณะ โดยมี<br />
เป้าหมายเป็นเยาวชนที่มีอายุระหว่าง ๑๖ - ๒๕ <strong>ปี</strong> ซึ่งเป็นพลัง<br />
ที่สำาคัญต่ออนาคตของชาติ โดยใน<strong>ปี</strong> ๒๕๕๕ ได้ดำาเนินการ<br />
ต่อเนื่องแล้วเป็น<strong>ปี</strong>ที่ ๔ ระหว่าง มิถุนายน - กันยายน ๒๕๕๕<br />
เน้นการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของเยาวชนด้วยการเปิด<br />
เวทีให้เยาวชนได้ร่วมสะท้อนแนวคิด มุมมองต่อสถานการณ์<br />
บ้านเมืองผ่านหัวข้อที่กำาหนด เพื่อให้ร่วมส่งผลงานเข้ารับ<br />
การประกวด โดยเยาวชนได้พิจารณาศึกษาค้นคว้า แลกเปลี่ยน<br />
ความเห็นถึงสถานการณ์ทางสังคม และสร้างสรรค์ผลงาน<br />
ผ่านกิจกรรมการประกวด ซึ่งในแต่ละ<strong>ปี</strong>จะกำาหนดหัวข้อและ<br />
กิจกรรมการประกวดให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในห้วงเวลา<br />
คือ <strong>ปี</strong>ที่ ๑ จัดการประกวดผลงานจิตรกรรม (ภาพวาด)<br />
หัวข้อ “ทำาให้พ่อได้สุขใจ ทำาให้ไทยได้มั่นคง” <strong>ปี</strong>ที่ ๒ จัดการ<br />
ประกวดผลงานภาพถ่าย และภาพยนตร์สั้น ในหัวข้อ<br />
“จิตสำานึก รักเมืองไทย” และ<strong>ปี</strong>ที่ ๓ จัดการประกวดผลงาน<br />
การสร้างสรรค์บทเพลง ภาพถ่าย และสปอตโทรทัศน์<br />
ในหัวข้อ “ร่วมกัน...เดินหน้าประเทศไทย” ซึ่งมีเยาวชน<br />
จากทั่วประเทศจำานวนมากส่งผลงานเข้าร่วมการประกวด<br />
- จัดทำาโครงการ “เยาวชนไทย รู้รักสามัคคี” เพื่อสร้าง<br />
ความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ โดยจัดในพื้นที่<br />
จังหวัดอุบลราชธานี ณ กรมทหารราบที่ ๖ กองพันทหารราบ<br />
ที่ ๓ พื้นที่จังหวัดเชียงราย ณ กรมทหารราบที่ ๑๗ กองพัน<br />
ทหารราบที่ ๓ และในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ณ สนามกีฬา<br />
๗๐๐ <strong>ปี</strong> โดยเยาวชนได้รับการปลูกฝังให้มีความจงรักภักดี<br />
ต่อสถาบันที่สำาคัญของชาติ มีระเบียบวินัยในการอยู่ร่วมกัน<br />
ด้วยความสมานฉันท์ ได้รับทราบถึงโทษและพิษภัยของ<br />
ยาเสพติด สามารถนำาเอาความรู้ไปเผยแพร่ในชุมชนและ<br />
คนในค<strong>รอบ</strong>ครัวของตนเอง รวมทั้งมีการขยายเครือข่าย<br />
เยาวชนในการติดต่อสื่อสารซึ่งกันและกัน การให้กำาลังใจ<br />
ต่อกัน การนำาสิ่งดี ๆ มาถ่ายทอดผ่านสื่อสังคมออนไลน์<br />
Facebook ซึ่งจัดทำาร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย<br />
และเยาวชนที่ร่วมโครงการ<br />
16 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
17
- นำาเยาวชนไปทัศนศึกษาตามโครงการ “รวมใจไทย<br />
เป็นหนึ่ง” เป็นการจัดกิจกรรมนำาเยาวชนในพื้นที่ปฏิบัติงาน<br />
ของหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ ในพื้นที่อำาเภอ<br />
บาเจาะ และอำาเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส และอำาเภอ<br />
ไม้แก่น อำาเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ทัศนศึกษาอบรม<br />
นอกสถานที่ประจำา<strong>ปี</strong> ๒๕๕๕ จำานวน ๒ รุ่น ๆ ละ ๔๐ คน<br />
รุ่นที่ ๖/๒๕๕๕ และรุ่นที่ ๗/๒๕๕๕ เพื่อเป็นการปลูกฝัง<br />
จิตสำานึก ของเยาวชน ให้มีความรัก ความสามัคคีและความ<br />
เป็นหนึ่งเดียวกัน<br />
เพื่อให้ผู้ประกอบกิจการสื่อมวลชนสามารถขยายผลสู่การ<br />
ปฏิบัติในชุมชนร่วมกันในภาพรวมพร้อมทั้งเป็นการขยาย<br />
ผลสนับสนุนการประชาสัมพันธ์งานความมั่นคงสู่ชุมชน<br />
ทั่วประเทศในวงกว้างต่อไป<br />
- ให้การสนับสนุนกระทรวงศึกษาธิการ ในการแก้ไข<br />
ปัญหานักเรียนอาชีวศึกษาทะเลาะวิวาท โดยให้การฝึกอบรม<br />
นักเรียนอาชีวศึกษา ตามโครงการ “สุภาพบุรุษอาชีวะ”<br />
จำานวน ๑๔๑ คน จากสถาบันการศึกษา ๒๘ แห่ง ระยะ<br />
เวลา ๘ สัปดาห์ เมื่อ ๑๗ กรกฎาคม - ๑๐ กันยายน ๒๕๕๕<br />
เพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติมุมมองการดำาเนินชีวิตให้ถูกต้อง<br />
ตามครรลองธรรม ปลูกฝังระเบียบวินัย คุณธรรมจริยธรรม<br />
ตลอดจนการรับรู้และมองเห็นถึงคุณค่าของตนเองที่สามารถ<br />
ทำาประโยชน์ให้แก่สังคมซึ่งจะเป็นรากฐานสำาคัญในการ<br />
เปลี่ยนแปลงความคิดและพฤติกรรม ไปสู่การเป็นทรัพยากร<br />
มนุษย์ที่มีคุณค่าของประเทศชาติต่อไป<br />
- จัดการฝึกอบรมหลักสูตร “การพัฒนาสัมพันธ์สื่อสาร<br />
มวลชนเพื่อความมั่นคงของชาติรุ่นที่ ๑๐” ให้กับสื่อมวลชน<br />
- จัดกิจกรรมสัมมนาสื่อมวลชนสัญจรในพื้นที่ภาคเหนือ<br />
ณ จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย โดยมีวัตถุประสงค์<br />
เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสื่อมวลชนกับ<br />
สำานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ในระดับผู้บริหารและ<br />
เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน อีกทั้งยังเป็นการสร้างความเข้าใจให้<br />
สื่อมวลชนได้รับทราบถึงภารกิจการป้องกันชายแดนและ<br />
ขีดความสามารถของกระทรวงกลาโหมและความจำาเป็น<br />
ของการดำาเนินงานในกิจการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ<br />
และพลังงานทหาร เพื่อนำาไปสู่การพึ่งพาตนเอง พร้อมทั้ง<br />
เยี่ยมชมการดำาเนินงานของทหารในพื้นที่จังหวัดลพบุรี พื้นที่<br />
จังหวัดเชียงใหม่ และโครงการพระราชดำาริในพื้นที่ภาคเหนือ<br />
นอกจากนี้ได้จัดกิจกรรมที่สามารถปลุกจิตสำานึกของ<br />
สื่อมวลชนให้ตระหนักถึงปัญหาและสถานการณ์ความมั่นคง<br />
ที่มีความจำาเป็นต้องสร้างการมีส่วนร่วมของสังคมในความ<br />
รับผิดชอบต่อปัญหาความมั่นคง ตลอดจนความเข้าใจใน<br />
แนวคิด และการปฏิบัติตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง<br />
18 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
ประเภทวิทยุชุมชนจากทั่วประเทศ จำานวน ๑๕๐ คน เมื่อวัน<br />
ที่ ๗ - ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๕ ณ กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้<br />
อากาศยานที่ ๑ ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ โดย<br />
มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ความ<br />
เข้าใจและมีส่วนร่วมสนับสนุนในงานความมั่นคง รวมถึง<br />
รับทราบถึงบทบาทหน้าที่ และจิตสำานึกรับผิดชอบต่อสังคม<br />
ร่วมกันเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและสร้างสรรค์<br />
มีส่วนร่วมในการสร้างความรักความปรองดองสมานฉันท์<br />
ของคนในชาติ ดำารงรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และ<br />
พระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นการขยายเครือข่ายวิทยุกระจายเสียง<br />
เพื่อความมั่นคงในภาพรวม<br />
๒. กำหนดให้การแก้ไขและป้องกัน<br />
ปัญหายาเสพติดเป็น “วาระแห่งชาติ”<br />
กระทรวงกลาโหมได้มอบหมายให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวง<br />
กลาโหม และเหล่าทัพ จัดกิจกรรมและโครงการรณรงค์<br />
ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ให้เหมาะสมและ<br />
ค<strong>รอบ</strong>คลุมกับกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อเป็นส่วน<br />
สำาคัญในการขับเคลื่อนการแก้ปัญหายาเสพติดโดยเน้นการ<br />
สร้างความเข้มแข็งของชุมชนโดยมีกิจกรรมและโครงการ<br />
ต่าง ๆ ประกอบด้วย<br />
- จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการประเมินประสิทธิภาพ<br />
กลไกอำานวยการ และหน่วยสกัดกั ้นยาเสพติดตาม<br />
แนวชายแดนและแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามาทำางาน<br />
ณ โรงแรมสีดา รีสอร์ท อำาเภอเมือง จังหวัดนครนายก<br />
- ตรวจเยี่ยมและรับทราบปัญหาการปฏิบัติงานสกัดกั้น<br />
ยาเสพติดตามแนวชายแดน ในพื้นที่กองกำาลังบูรพา และ<br />
กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด<br />
- จัดนิทรรศการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด โครงการ<br />
“ชุมชนปลอดยาเสพติดอย่างยั่งยืน” ในชุมชนต่าง ๆ เพื่อให้<br />
เยาวชนได้ห่างไกลยาเสพติดด้วยกีฬา<br />
- โครงการ “ฝึกอบรมกีฬาเยาวชนภาคฤดูร้อน ต้าน<br />
ยาเสพติด” ประจำา<strong>ปี</strong> ๒๕๕๕<br />
- จัดตั้งศูนย์อำานวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด<br />
ระดับกระทรวงกลาโหม และระดับหน่วยขึ้นตรงกระทรวง<br />
กลาโหม เพื่อเป็นการบูรณาการบริหารจัดการแผนงาน<br />
และงบประมาณสนับสนุนหน่วยในพื้นที่ ในการป้องกัน<br />
และสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดนตามยุทธศาสตร์<br />
ของรัฐบาล สร้างภูมิคุ้มกันให้เยาวชนห่างไกลและไม่เข้าไป<br />
ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด<br />
- ดำาเนินโครงการ “หน่วยทหารสีขาวเฉลิมพระเกียรติ<br />
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” เพื่อร่วมเฉลิมฉลองใน<br />
วโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมายุ<br />
ครบ ๘๔ พรรษา โดยกำาหนดเป้าหมายให้หน่วย/ค่าย/<br />
ชุมชนทหาร เป็นพื้นที่สีขาวปลอดจากยาเสพติดอย่างยั่งยืน<br />
โดยดำาเนินโครงการอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งขยายผลไปยัง<br />
ชุมชนต่าง ๆ <strong>รอบ</strong>หน่วยทหารซึ่งเน้นยำ้ำถึงผลผลิต และ<br />
ผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม ให้มีการบูรณาการกับหน่วยงาน<br />
ภาครัฐ และเอกชนในพื้นที่ ตลอดจนให้หน่วยจัดกิจกรรม<br />
ประชาสัมพันธ์ รณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกัน<br />
ยาเสพติดแก่กำาลังพล ค<strong>รอบ</strong>ครัว ประชาชนทั่วไป เพื่อให้<br />
รับรู้เกี่ยวกับโทษของยาเสพติด<br />
- ดำาเนินการด้านการข่าวเกี่ยวกับยาเสพติดในพื ้นที่<br />
รับผิดชอบ รวมทั้งสนับสนุนการป้องกัน ปราบปรามและ<br />
แก้ไขปัญหายาเสพติดร่วมกับส่วนราชการต่าง ๆ ระดับ<br />
กระทรวง บำาบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด<br />
โดยจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูและบำาบัดผู้ติดยาเสพติดโดยรับผู้เสพ<br />
ผู้ติดจากทั่วประเทศ มาเข้ารับการบำาบัดและอบรมวิชาชีพ<br />
และให้ความรู้ด้านกฎหมายแก่ผู้ติดยาเสพติด และสร้าง<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
19
คุณค่าให้แก่ตนเองด้วยการฝึกวิชาชีพ นอกจากนี้ยังจัด<br />
เจ้าหน้าที่และสุนัขทหารประเภทตรวจค้นยาเสพติด พื้นที่<br />
ใกล้เคียง และพื้นที่ร้องขอ<br />
- จัดอบรมเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโทษ และพิษภัยของ<br />
ยาเสพติดให้แก่กำาลังพล และค<strong>รอบ</strong>ครัว เพื่อสร้างจิตสำานึก<br />
และทัศนคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับปัญหายาเสพติด ส่งเสริมการ<br />
มีส่วนร่วมของกำาลังพลและค<strong>รอบ</strong>ครัวให้เข้ามามีส่วนในการ<br />
ป้องกัน และเฝ้าระวังปัญหายาเสพติด เสริมสร้างความ<br />
เข้มแข็งของสถาบันค<strong>รอบ</strong>ครัวและชุมชน รวมทั้งส่งเสริมการ<br />
ใช้เวลาว่างของเด็ก และเยาวชนให้เกิดประโยชน์<br />
- จัดกำาลังพลที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่ และ<br />
ผู้ช่วยเจ้าพนักงานของสำานักงานคณะกรรมการป้องกัน<br />
และปราบปรามยาเสพติด ทำาการตรวจพื้นที่บ้านพักอาศัย<br />
เพื่อค้นหาผู้กระทำาผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในพื้นที่รับผิดชอบ<br />
เป็นประจำาทุกเดือน รวมทั้งติดตามข่าวสารเกี่ยวกับยาเสพติด<br />
จากพื้นที่ข้างเคียง เพื่อนำามาเป็นข้อมูลในการพัฒนา<br />
ด้านการปราบปรามให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และจัดตั้ง<br />
ศูนย์อำานวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดของกองทัพ<br />
และหน่วยขึ้นตรงทั่วประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์ ให้พื้นที่<br />
หน่วยทหาร และชุมชนทหารเป็นเขตปลอดยาเสพติด<br />
กำาลังพลและค<strong>รอบ</strong>ครัวไม่เข้าไปเกี่ยวกับยาเสพติด<br />
ตลอดจนการให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการ<br />
ดำาเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติด<br />
- จัดอบรมเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโทษ และพิษภัยของ<br />
ยาเสพติด ซึ่งด้านบำาบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ โดยการ<br />
สุ่มตรวจหาสารเสพติดในกำาลังพลกลุ่มเสี่ยงตามวง<strong>รอบ</strong> เพื่อ<br />
นำาส่งตัวเข้าบำาบัดรักษา ตลอดจนติดตามผลการบำาบัดรักษา<br />
เพื่อป้องกันไม่ให้กำาลังพลที่มีประวัติการใช้สารเสพติดหวน<br />
กลับมาใช้ยาเสพติดอีก โดยในห้วง ๒๔ ก.พ. - ๒๓ มี.ค.๕๕<br />
มีการบำาบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ รวมทั้ง ได้ดำาเนิน<br />
การสุ่มตรวจหาสารเสพติดให้กับกำาลังพลในพื้นที่จังหวัด<br />
เชียงใหม่ จำานวน ๒๒๘ คน ซึ่งผลการดำาเนินการตรวจไม่<br />
พบสารเสพติดใด ๆ<br />
- ร่วมกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐในการสกัดกั้น/ปราบปราม<br />
ยาเสพติดในพื้นที่ทั่วประเทศ ส่งผลให้ปริมาณยาเสพติด<br />
ขาดตลาด และเกิดความต้องการในพื้นที่ตอนในของประเทศ<br />
มากขึ้น ดังนั้น กลุ่มขบวนการจึงได้เพิ่มปริมาณการลักลอบ<br />
นำาเข้ายาเสพติด โดยเฉพาะแนวชายแดนด้านกองกำาลัง<br />
ผาเมือง ในพื้นที่ภาคเหนือตรวจพบความถี่ในการลักลอบ<br />
ขนยาบ้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหน่วยยังคงดำารงเพิ่มความเข้มงวด<br />
ในการสกัดกั้น รวมทั้งประสานความร่วมมือกับส่วนราชการ<br />
ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นไปอย่างมี<br />
ประสิทธิภาพ ทั ้งนี้ ในห้วงเวลาดังกล่าวได้ตรวจพบและ<br />
จับกุมผู้กระทำาผิด จำานวน ๓๒ ครั้ง ผู้ต้องหา จำานวน ๕๓<br />
คน และปะทะกับกลุ่มผู้กระทำาผิด จำานวน ๑ ครั้ง โดยยึด<br />
ยาบ้าได้ จำานวน ๗,๒๑๙,๔๔๕ เม็ด<br />
- จัดทำาแผนงานป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด<strong>ปี</strong> ๒๕๕๕<br />
ประกอบด้วย กิจกรรมป้องกันยาเสพติด จำานวน ๘ โครงการ<br />
คือ โครงการสร้างภูมิต้านทานยาเสพติด, โครงการทหารอากาศ<br />
ปลอดยาเสพติดอย่างยั่งยืน, โครงการกองพันสีขาว, โครงการ<br />
ลด ละ เลิก บุหรี่, โครงการธรรมะเอาชนะยาเสพติด, โครงการ<br />
กีฬาต้านยาเสพติด, โครงการผู้นำาชุมชน, โครงการประชุม/<br />
สัมมนาเชิงปฏิบัติการ และแผนงานป้องกันยาเสพติด<br />
ในสังคม/ชุมชน จำานวน ๗ โครงการ คือ โครงการรวมพลังสังคม<br />
และพลังชุมชนเอาชนะยาเสพติด, โครงการค<strong>รอบ</strong>ครัว<br />
เข้มแข็งต้านภัยยาเสพติด, โครงการส่งเสริมการเรียนรู้<br />
ต้านภัยยาเสพติด, โครงการค่ายธรรมะเอาชนะยาเสพติด,<br />
20 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
โครงการรณรงค์และประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน<br />
ยาเสพติด, โครงการกีฬาเยาวชนภาคฤดูร้อนต้านยาเสพติด,<br />
โครงการค่ายยุวชน - เยาวชนต้านยาเสพติดในด้านกิจกรรม<br />
ปราบปรามยาเสพติดยังมีแผนงานการสกัดกั้นยาเสพติด<br />
โดยดำาเนินมาตรการเพื่อป้องกันมิให้มีการลักลอบนำาเข้า - ส่ง<br />
ออกยาเสพติดบริเวณท่าอากาศยาน ในความรับผิดชอบ<br />
คือ จัดชุดสุนัขทหารตรวจหายาเสพติดบริเวณท่าอากาศยาน<br />
และตรวจสัมภาระ ก่อนโดยสาร ในส่วนของแผนงานการ<br />
ปราบปรามยาเสพติดและบังคับใช้กฎหมายจำานวน ๑๒<br />
โครงการ คือ โครงการระดมกำาลังปฏิบัติการกวาดล้าง<br />
ยาเสพติดเขตกองทัพอากาศ พื้นที่ดอนเมือง, โครงการ<br />
ปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดเขตกองทัพอากาศ และ<br />
พื้นที่ใกล้เคียง, โครงการปฏิบัติการด้านการข่าวยาเสพติด<br />
เขตกองทัพอากาศ และพื้นที่ใกล้เคียง, โครงการจัดชุด<br />
สุนัขทหารสนับสนุนการปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด,<br />
โครงการปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดร่วมกับศูนย์<br />
อำานวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดกองบิน และศูนย์<br />
อำานวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดโรงเรียนการบิน,<br />
โครงการบริหารแหล่งข่าวยาเสพติด, โครงการสัมมนา<br />
เชิงปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติด, โครงการ<br />
สัมมนาเครือข่ายผู้ให้ข่าวระดับชุมชน, โครงกา<strong>รอบ</strong>รม<br />
เครือข่ายผู้ให้ข่าวระดับเยาวชน, โครงการฝึกทบทวนการ<br />
ยิงปืนทางยุทธวิธีด้วยกระสุนจริง, โครงกา<strong>รอบ</strong>รมผู้ให้ข่าว<br />
เพื่อปราบปรามยาเสพติด, โครงการตรวจเยี่ยมติดตามผล<br />
การปฏิบัติงานปราบปรามยาเสพติด ศูนย์อำานวยการพลัง<br />
แผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติกองบินต่างจังหวัด/<br />
โรงเรียนการบิน และ ในด้านกิจกรรมบำาบัดผู้ติดยาเสพติด<br />
จำานวน ๓ โครงการ คือโครงการบำาบัดรักษาและฟื้นฟู<br />
สมรรถภาพ ผู้ติดยาเสพติด, โครงการผลิตและพัฒนาบุคลากร<br />
ด้านการบำาบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด<br />
และโครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพ<br />
ผู้ติดยาเสพติด รวมทั้ง กิจกรรมการบริหารจัดการ คือ<br />
การจัดประชุมคณะกรรมการศูนย์อำานวยการพลังแผ่นดิน<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
21
เอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ, การจัดประชุมคณะอนุกรรมการ<br />
ศูนย์อำานวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ, การ<br />
จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ, การตรวจเยี่ยมหน่วย และงาน<br />
บริหารจัดการ ซึ่งผลการดำาเนินการในทุกโครงการเป็นไป<br />
ด้วยความเรียบร้อย<br />
- จัดกิจกรรมค<strong>รอบ</strong>ครัวอบอุ่นต้านภัยยาเสพติด ครั้งที่<br />
๑/๒๕๕๕ ระหว่าง ๓๑ มีนาคม - ๑ เมษายน ๒๕๕๕<br />
ณ โรงแรมเดอะปรินส์เซสส์ บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา<br />
หาดแม่พิมพ์ อำาเภอแกลง จังหวัดระยอง เพื่ออบรม<br />
เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโทษและพิษภัยของยาเสพติด<br />
เสริมสร้างความรักความอบอุ่นภายในค<strong>รอบ</strong>ครัว รวมทั้ง<br />
สร้างจิตสำานึกส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการป้องกัน และ<br />
เฝ้าระวังปัญหายาเสพติดของกำาลังพลและค<strong>รอบ</strong>ครัว<br />
พร้อมทั้งการจัดกิจกรรมกีฬาต้านภัยยาเสพติดส่วนภูมิภาค<br />
ณ พื้นที่อำาเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ โดยบรรยายความรู้<br />
ด้านยาเสพติดให้กับข้าราชการและค<strong>รอบ</strong>ครัวในพื้นที่ ซึ่ง<br />
ได้รับการสนับสนุนวิทยากรจาก สถานีตำารวจภูธรฝาง รวมทั้ง<br />
การทัศนศึกษา เพื่อให้เยาวชนนำาความรู้ด้านต่าง ๆ ที่ได้รับ<br />
ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและค<strong>รอบ</strong>ครัว<br />
- จัดการประชุมประชาคมข่าวกรองยาเสพติด จำานวน<br />
๒ ครั้ง โดยดำาเนินการรวบรวมข้อมูลยาเสพติด, พัฒนา<br />
ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วย และปรับฐานข้อมูลของหน่วย<br />
ให้อยู่ในระดับเดียวกัน เมื่อ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๕ ณ กรม<br />
ข่าวทหาร และจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการด้านการข่าว<br />
ยาเสพติด ณ จังหวัดอุดรธานี จังหวัดหนองคาย และ<br />
จังหวัดนครพนม ระหว่าง ๒๗ - ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๕ ซึ่งได้<br />
มีการดำาเนินการพัฒนาสัมพันธ์กับหน่วยข่าวในพื้นที่ภาค<br />
ตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อให้ได้ข้อมูลข่าวเชิงลึกในพื้นที่<br />
พร้อมทั้ง ได้ทำาการตรวจภูมิประเทศร่วมกันระหว่างหน่วยงาน<br />
นโยบายและหน่วยปฏิบัติงานในพื้นที่<br />
- ดำาเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดโดย<br />
นายกรัฐมนตรีได้เสนอให้ยกระดับการแก้ไขปัญหายาเสพติด<br />
ให้เป็นวาระของอาเซียน ในระหว่างการประชุมสุดยอด<br />
ผู้นำาอาเซียน ครั้งที่ ๒๐ ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา<br />
22 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
เมื่อวันที่ ๓ - ๔ เมษายน ๒๕๕๕ โดยมีแผนการดำาเนินการ<br />
ที่สำาคัญประกอบด้วย การประชุมกลไกความร่วมมือที่เกี่ยวข้อง<br />
ทุกระดับ, โครงการความร่วมมือไทย - เมียนมาร์ ด้านการพัฒนา<br />
ทางเลือก และการพัฒนากลไกประสานงานระดับชายแดน<br />
ซึ่งกระทรวงกลาโหมโดยกองทัพบก จะได้แปลงนโยบาย<br />
ดังกล่าวให้หน่วยต่าง ๆ นำาไปขับเคลื่อนดำาเนินการในส่วนที่<br />
เกี่ยวข้องต่อไป สำาหรับสถานการณ์บริเวณแนวชายแดนยัง<br />
คงตรวจพบการลักลอบนำาเข้ายาเสพติดบริเวณแนวชายแดน<br />
ด้านเมียนมาร์ และด้านลาวอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง ตรวจพบ<br />
การลักลอบลำาเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ตอนในของประเทศ<br />
ไปยังพื้นที่ภาคใต้เพิ่มมากขึ้น โดยในห้วงเวลากำาลังป้องกัน<br />
ชายแดนตรวจพบและจับกุมผู้กระทำาผิด จำานวน ๓๒ ครั้ง<br />
ผู้ต้องหา จำานวน ๕๓ คน และปะทะกับกลุ่มผู้กระทำาผิด<br />
จำานวน ๑ ครั้ง โดยยึดยาบ้าได้ จำานวน ๗,๒๑๙,๔๔๕ เม็ด<br />
- ดำาเนินการบำาบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดสำาหรับ<strong>ปี</strong> ๒๕๕๕<br />
ที่ศาลสั่งให้เป็นผู้ป่วย ตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพ<br />
ผู้ติดยาเสพติด พ.ศ.๒๕๔๕ จำานวน ๙,๐๗๐ คน (เพิ่มขึ้นจาก<br />
ที่ได้รับจำานวน ๗,๒๒๐ คน) ซึ่งปัจจุบันอยู่ในความควบคุม<br />
และดูแลโดยศูนย์วิวัฒน์พลเมืองของกองทัพบก กว่า ๓๕<br />
ศูนย์ทั่วประเทศ<br />
- กระทรวงกลาโหม โดยสำานักงานปลัดกระทรวง<br />
กลาโหมได้ดำาเนินการสนับสนุนการแก้ไขปัญหายาเสพติด<br />
โดยผู้อำานวยการศูนย์อำานวยการพลังแผ่นดินเอาชนะ<br />
ยาเสพติดของสำานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความ<br />
สำาคัญกับข้าราชการทุกระดับโดยเน้นยำ้ำให้ผู้บังคับบัญชา<br />
ทุกระดับชั้น กวดขัน กำากับดูแล กำาลังพลและค<strong>รอบ</strong>ครัว<br />
ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยให้ความดูแล<br />
ปลูกจิตสำานึกบุตรหลานข้าราชการในสังกัด ให้การแก้<br />
ปัญหายาเสพติด และการป้องกัน โดยจัดกิจกรรมต่าง ๆ<br />
ให้สอดคล้องกับความต้องการของเยาวชนของหน่วย<br />
ต่าง ๆ ในภูมิภาค ประกอบด้วย การจัดกิจกรรมคลินิค<br />
ฟุตบอลต้านภัยยาเสพติด และทัศนศึกษา เพื ่อปลูก<br />
จิตสำานึกให้บุตรหลานข้าราชการรู้ถึงพิษภัยและวิธีป้องกัน<br />
ยาเสพติด สร้างความเป็นผู้นำา มีความรักสามัคคี และ<br />
จัดกิจกรรมอบรมคอมพิวเตอร์ให้กับบุตรหลานข้าราชการ<br />
ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระหว่าง ๒๓ - ๒๗<br />
เมษายน และ ๓๐ เมษายน - ๔ พฤษภาคม ๒๕๕๕<br />
โดยอบรมโปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซล และไมโครซอฟต์<br />
เอ็กเซล ขั้นประยุกต์ เป็นการส่งเสริมให้ผู้เข้ารับกา<strong>รอบ</strong>รม<br />
ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์, จัดกิจกรรมกีฬาต้านภัย<br />
ยาเสพติด (ส่วนกลาง) ให้กับบุตรหลานข้าราชการ โดย<br />
ฝึกสอนกีฬา ฟุตบอล, ฟุตซอล, เทนนิส และว่ายนำ้ำ<br />
ระหว่าง ๑๘ เมษายน - ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๕ และนำา<br />
เยาวชนทัศนศึกษานอกสถานที่ ณ กรมรบพิเศษที่ ๒<br />
หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ค่ายสมเด็จพระนารายณ์<br />
มหาราช จังหวัดลพบุรี ระหว่าง ๒ - ๔ พฤษภาคม ๒๕๕๕,<br />
จัดกิจกรรมกีฬาต้านภัยยาเสพติดส่วนภูมิภาค ระหว่าง<br />
๑ - ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ให้กับเยาวชนบุตรหลานข้าราชการ<br />
ณ ศูนย์อำานวยการสร้างอาวุธ จังหวัดลพบุรี โดยฝึกสอน<br />
กีฬาประเภทต่างๆ และนำาเยาวชนทัศนศึกษา เพื่อปลูกฝัง<br />
ให้รักธรรมชาติ และรักษาสิ่งแวดล้อม ณ สถานตากอากาศ<br />
บางปู จังหวัดสมุทรปราการ นอกจากนี้ ยังได้ดำาเนินการ<br />
ตรวจเฝ้าระวังการใช้สารเสพติดให้กับกำาลังพลของสำานักงาน<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
23
ปลัดกระทรวงกลาโหม ที ่ตรวจพบสารเสพติดและผ่านการ<br />
บำาบัดรักษา โดยจะทำาการตรวจต่อเนื่องอีก ๖ เดือน เพื่อ<br />
ประเมินผลในการบำาบัดรักษา<br />
- ดำาเนินการโครงการรวมพลังแผ่นดินต้านภัยยาเสพติด<br />
โดยดำาเนินการจัดอบรมเยาวชนที่ผ่านโครงการยาเสพติด<br />
จำานวน ๑,๔๐๐ คน ณ โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย<br />
อำาเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อ ๙ - ๑๒<br />
มิถุนายน ๒๕๕๕ และประชุมประสานงานข่าวด้านยาเสพติด<br />
ประจำาเดือนมิถุนายน ๒๕๕๕ ณ ห้องประชุมกรมข่าวทหาร<br />
อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย เมื่อ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๕<br />
เพื่อให้ได้รับข้อมูลด้านยาเสพติด และพัฒนาความสัมพันธ์<br />
ระหว่างหน่วยพร้อมทั้งปรับฐานข้อมูลของหน่วยให้อยู่<br />
ในระดับเดียวกัน<br />
- ดำาเนินการนำาเจ้าหน้าที่ด้านบำาบัดรักษาและฟื้นฟู<br />
สมรรถภาพ ศูนย์อำานวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด<br />
แห่งชาติ ดูงานที่โรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง กองทัพเรือ ๒<br />
หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง และโรงพยาบาล<br />
อาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ เมื่อ ๙ - ๑๐ กรกฎาคม<br />
๒๕๕๕ รวมทั้งได้จัดกิจกรรมค<strong>รอบ</strong>ครัวอบอุ่นต้านภัย<br />
ยาเสพติด ครั้งที่ ๒/๒๕๕๕ เมื่อ ๓๐ มิถุนายน ถึง ๑<br />
กรกฎาคม ๒๕๕๕ ณ บ้านริมแคว - แพริมนำ้ำรีสอร์ท ตำาบล<br />
ท่าเรือ อำาเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี โดยอบรมความรู้<br />
เกี่ยวกับยาเสพติด และให้มีกิจกรรมร่วมกัน เพื่อสร้าง<br />
ความอบอุ่นให้กับค<strong>รอบ</strong>ครัว เป็นเกราะป้องกันยาเสพติด<br />
- ร่วมจัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติด<br />
ประจำา<strong>ปี</strong> ๒๕๕๕ เมื่อ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๕ เวลา ๐๗.๐๐<br />
- ๑๐.๐๐ น. ณ ลานพระราชวังดุสิต เพื่อถวายความ<br />
จงรักภักดีเนื่องในโอกาส<strong>ปี</strong>มหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา<br />
๘๐ พรรษา มหาราชินี<br />
- ดำาเนินการแก้ไขและสนับสนุนการแก้ไขปัญหา<br />
ยาเสพติด โดยนำาผู้แทนหน่วยต่าง ๆ เดินทางไปรับทราบ<br />
ข้อมูลการดำาเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด<br />
24 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
เพื่อรับทราบสถานการณ์ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ ผลการ<br />
ดำาเนินงานและปัญหาข้อขัดข้อง พร้อมทั้ง ให้ข้อสังเกตและ<br />
ข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหา เมื่อวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๕๕<br />
- จัดทำารายงานผลการดำาเนินงานและผลการเบิกจ่าย<br />
งบประมาณการแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามแนวทางเร่งรัด<br />
การบริหาร<strong>ปี</strong>งบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๕ การติดตามประเมินผล<br />
การดำาเนินงาน ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล เป็นรายสัปดาห์<br />
และรายเดือน<br />
- ดำาเนินการป้องกันและจับกุมการกระทำาผิดกฎหมาย<br />
เกี่ยวกับยาเสพติดโดยจัดตั้งศูนย์ต่อต้านยาเสพติด และ<br />
จับกุมผู้กระทำาผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ และ<br />
ยาเสพติดอื่น ซึ่งได้ลาดตระเวนทางทะเล จำานวน ๕๖ ครั้ง<br />
ลาดตระเวนทางบก จำานวน ๒๓๕ ครั้ง ตั้งจุดตรวจ จำานวน<br />
๖๑๓ ครั้ง จับกุมผู้กระทำาผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จำานวน ๕๐<br />
ครั้ง ได้ของกลางที่สำาคัญ คือ ยาบ้า จำานวน ๖๕,๔๓๖ เม็ด<br />
ยาไอซ์ จำานวน ๑,๗๘๔ กรัม กัญชา จำานวน ๓ กิโลกรัม<br />
กัญชาอัดแท่ง จำานวน ๑ กิโลกรัม ใบกระท่อมสด ๗ กิโลกรัม<br />
เฮโลอีน จำานวน ๑๓.๖๒ กรัม นอกจากนี้ ยังได้ดำาเนินการ<br />
บำาบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ ผู้ติดยาเสพติดตามโครงการ<br />
วิวัฒน์พลเมืองกองทัพเรือ <strong>ปี</strong>งบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๕ มีผู้<br />
ติดยาเสพติดที่ศาลตัดสินให้เป็นผู้ป่วยตามพระราชบัญญัติ<br />
ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด เข้ารับการฟื้นฟูในศูนย์วิวัฒน์<br />
พลเมืองของกองทัพเรือ จำานวน ๔ ศูนย์ โดยในห้วงครึ่ง<strong>ปี</strong>แรก<br />
ของ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕ (ตุลาคม ๒๕๕๔ - มีนาคม ๒๕๕๕)<br />
โดยตั้งเป้าบำาบัดผู้ติดยาเสพติดไว้จำานวน ๙๐๐ คน ซึ่งเป็นไป<br />
ตามแผนที่กำาหนด<br />
- จัดประชุมคณะอนุกรรมการบริหารแผนยุทธศาสตร์<br />
ด้านการสกัดกั้นยาเสพติด ครั้งที่ ๒/๒๕๕๕ เมื่อ ๔<br />
กันยายน ๒๕๕๕ ณ ห้องประชุมกองบัญชาการกองทัพไทย<br />
เพื่อชี้แจงผลการดำาเนินงานของหน่วยปฏิบัติการสกัดกั ้น<br />
ยาเสพติดตามแนวชายแดน ในห้วงที่ผ่านมา พร้อมทั้งปัญหา<br />
ข้อขัดข้องและข้อเสนอแนะ แก่คณะอนุกรรมการบริหาร<br />
แผนยุทธศาสตร์ทราบ เพื่อนำาไปเป็นฐานข้อมูลในการจัดทำา<br />
แผนยุทธศาสตร์ และเป็นก<strong>รอบ</strong>แนวทางในการปฏิบัติให้กับ<br />
หน่วยที่เกี่ยวข้องต่อไป<br />
๓. เร่งนำสันติสุขและความปลอดภัยใน<br />
ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนกลับมา<br />
สู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้<br />
กระทรวงกลาโหมได้สนับสนุนกองอำานวยการรักษา<br />
ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในการเสริมสร้างสันติสุข<br />
รวมทั้งความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน<br />
ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่อง โดยได้ดำาเนินการ<br />
ต่าง ๆ ประกอบด้วย<br />
- รวบรวมและรายงานข่าว ดำาเนินกรรมวิธี วิเคราะห์<br />
และกระจายข่าวกรองให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ประโยชน์,<br />
วิเคราะห์แนวโน้มการก่อเหตุ สรุปหาแนวทางการแก้ไข<br />
ทางยุทธศาสตร์ และทางยุทธการ, กระจายและรวบรวม<br />
ข่าวสาร, ประสานกับผู้ช่วยทูตทหารไทย/ต่างประเทศ<br />
และจัดทำาเอกสารข่าวเฉพาะกรณีเกี่ยวกับจังหวัดชายแดน<br />
ภาคใต้<br />
- จัดประชุมพิจารณาความต้องการกำาลังสนับสนุน<br />
กองอำานวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค ๔ ส่วนหน้า<br />
โดยปรับลดกำาลังทหารลง โดยเฉพาะในส่วนของกำาลัง<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
25
ที่ไม่ใช่กองทัพภาคที่ ๔ แต่เสริมกำาลังประจำาถิ่น โดยเฉพาะ<br />
กำาลังทหารพรานเพื่อให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมในการป้องกัน<br />
ตนเองมากขึ้น<br />
- เตรียมจัดตั้งหน่วยทหารพรานเพื่อสนับสนุนการ<br />
ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำานวน ๕<br />
กองบังคับการกรมทหารพราน ๖๐ กองร้อยทหารพราน<br />
(กรมทหารพราน ละ ๑๒ กองร้อยทหารพราน), ๕ กอง<br />
บังคับการหมวดทหารพรานหญิง และ ๒๕ หมู่ทหารพราน<br />
หญิง (หมวดทหารพรานหญิง ละ ๕ หมู่ทหารพรานหญิง)<br />
โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อทดแทนและปลดเปลื้องภาระ<br />
ของหน่วยกำาลังรบหลักจากกองทัพภาคที่ ๑ - ๓ และกองทัพ<br />
ภาคที่ ๔ บางส่วน โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี<br />
แล้วเมื่อ ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๔<br />
- อยู่ระหว่างจัดตั้งกองพลทหารราบที่ ๑๕ (เดิมชื่อ<br />
กองพลพัฒนาและพิทักษ์ทรัพยากร) โดยมีหน้าที่และความ<br />
รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การก่อความ<br />
ไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เป็นไปอย่างมี<br />
ประสิทธิภาพ และนำาความสันติกลับคืนสู่พื้นที่ และเพื่อให้<br />
มีหน่วยทหารที่อยู่เคียงข้างกับประชาชนในพื้นที่อย่างถาวร<br />
สำาหรับสร้างความมั่นคงปลอดภัย รวมทั้งพัฒนาและ<br />
ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ เพื่อสร้างชุมชนเมือง ซึ่งมีทหาร<br />
เป็นแกนกลางในการเสริมสร้างความมั่นคงและความเจริญ<br />
ในพื้นที่ให้ทัดเทียมกับประเทศเพื่อนบ้าน ตลอดจนเพื่อเป็น<br />
หลักประกันของความต่อเนื่องและยั่งยืนถาวรในการรักษา<br />
ความมั่นคงภายในให้กับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้<br />
- ดำาเนินการปรับปรุงเครือข่ายโทรคมนาคมภาคพื้น<br />
จัดเครื่องบินปฏิบัติภารกิจลำาเลียงทางอากาศ ลาดตระเวน<br />
ทางอากาศ ช่วยเหลือกู้ภัย ปฏิบัติการจิตวิทยา และถ่าย<br />
ภาพทางอากาศ เพื ่อสนับสนุน ศูนย์ติดตาม และสั่งการ<br />
เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้<br />
สนับสนุนภารกิจรักษาความปลอดภัยบุคคลสำาคัญ รวมทั้ง<br />
สนับสนุนภารกิจตรวจค้นวัตถุระเบิด ทั้งในและนอกที่ตั้ง<br />
พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนในพื้นที่<br />
จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผ่านภารกิจด้านกิจการพลเรือน<br />
เช่น การปฏิบัติการจิตวิทยา การช่วยเหลือประชาชน การ<br />
บรรเทาสาธารณภัย และการประชาสัมพันธ์ นอกจากนี้ยัง<br />
จัดโครงกา<strong>รอบ</strong>รมเยาวชนและผู้นำาชุมชนที่อยู่ในสามจังหวัด<br />
ชายแดนภาคใต้ประจำา<strong>ปี</strong> ๕๕ ภายใต้ชื่อ “โครงการเยาวชน<br />
ไทยใต้ฟ้าเดียวกัน” และ “โครงการผู้นำาชุมชนสัมพันธ์”<br />
26 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
27
- ดำาเนินการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัด<br />
ชายแดนภาคใต้ด้วยการจัดทำาแผนงานแก้ไขปัญหาจังหวัด<br />
ชายแดนภาคใต้/การติดตามและประเมินยุทธศาสตร์ การ<br />
แก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้/สรุปรายงานการประชุม<br />
เชิงปฏิบัติการ เรื่อง แนวทางการดำาเนินงานของกองทัพไทย<br />
ในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในพื้นที่จังหวัด<br />
ชายแดนภาคใต้ เมื่อ ๘ - ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕<br />
- จัดกำาลังทางอากาศสนับสนุนภารกิจการแก้ไขปัญหา<br />
ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำานวน ๔ หน่วยบิน พร้อม<br />
ทั้งพัฒนาสนามบินบ่อทอง จังหวัดปัตตานี เพื่อเพิ่มขีดความ<br />
สามารถของการปฏิบัติการของกำาลังทางอากาศ และพัฒนา<br />
สนามบินบ้านทอน จังหวัดนราธิวาส โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ<br />
ให้การปฏิบัติของกำาลังทางอากาศได้เพิ่มขีดความสามารถใน<br />
การสนับสนุนการปฏิบัติแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้<br />
ยังดำาเนินการรองรับยุทธศาสตร์ กองอำานวยการรักษาความ<br />
มั่นคงภายในราชอาณาจักร จำานวน ๔ โครงการ คือ โครงการ<br />
เยาวชนไทยใต้ฟ้าเดียวกัน, โครงการชุมชนสัมพันธ์, โครงการ<br />
พิทักษ์ประชาชนและทรัพยากร และโครงการสานใจเด็กไทย<br />
ของชาติ ซึ่งผลการดำาเนินการในแต่ละโครงการเป็นไปด้วย<br />
ความเรียบร้อย<br />
- ดำาเนินการบริหารจัดการศูนย์ประสานงานเครือข่าย<br />
การวิจัยเพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัด<br />
ชายแดนภาคใต้ โดยการสนับสนุนยุทโธปกรณ์พิเศษให้กับ<br />
หน่วยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีการดำาเนินการ<br />
อย่างต่อเนื่อง มีการติดตามประเมินผลการใช้งาน พัฒนา<br />
ปรับปรุง เพื่อให้ยุทโธปกรณ์พิเศษมีประสิทธิภาพ และสร้าง<br />
ความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้ มีการปฏิบัติที่สำาคัญ คือ การประชุม<br />
ประจำาเดือน เพื่อติดตามความก้าวหน้าในการบริหารจัดการ<br />
กำาหนดความต้องการผลงานวิจัยเพื่อพัฒนาเป็นโจทย์วิจัย<br />
จำานวน ๑๒ ครั้ง จัดพิธีส่งมอบยุทโธปกรณ์พิเศษฯ ให้<br />
กองอำานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า<br />
จำานวน ๑ ครั้ง และจัดให้มีการติดตามประเมินผลการใช้<br />
งานยุทโธปกรณ์พิเศษอย่างต่อเนื่อง<br />
- ร่วมประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน<br />
จำานวน ๒ ครั้ง ณ สำานักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ<br />
ทำาเนียบรัฐบาล<br />
- สนับสนุนกำาลังพลและยุทโธปกรณ์ในการรักษาความ<br />
ปลอดภัย และสนับสนุนงานพัฒนา เพื่อความมั่นคงในพื้นที่<br />
รวมทั้งเข้าร่วมประชุม “ส่งเสริมงานวิจัยวัฒนธรรมท้องถิ่น<br />
เพื่อเสริมสร้างสันติสุขใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้” เมื่อ<br />
๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๕ ณ อาคารสำานักงานปลัดกระทรวง<br />
กลาโหม เพื่อวางแผนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้<br />
28 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
- ดำาเนินการจัดทำาแผนงานที่สำาคัญคือ ๑) แผนงาน<br />
ประชาร่วมใจ ทำาความดีเพื่อแผ่นดิน ๒) แผนงานประชา<br />
ร่วมใจ สตรีทำาความดีเพื่อแผ่นดิน ๓) แผนงานเดินเท้าเข้า<br />
ทุกชุมชน และ ๔) โครงการศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิต โดยมี<br />
การดำาเนินการสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างเจ้าหน้าที่ของ<br />
รัฐและประชาชนในพื้นที่<br />
- จัดทำาแผนงานแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้/<br />
เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและ<br />
ยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่<br />
๓/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๕ ณ ห้องประชุม<br />
ตึกบัญชาการ ทำาเนียบรัฐบาล<br />
- ดำาเนินงานเสริมสร้างความเข้าใจกับประชาชน<br />
ตาม “โครงการสานสัมพันธ์” ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายคือ ผู้นำา<br />
ศาสนา ผู้นำาท้องที่ ผู้นำาท้องถิ่น และประชาชนทั่วไป<br />
ในพื้นที่รับผิดชอบ จำานวน ๑,๔๘๗ ครั้ง ได้แก่ อำาเภอสายบุรี<br />
จำานวน ๒๑๗ ครั้ง, อำาเภอไม้แก่น จำานวน ๑๕๕ ครั้ง, อำาเภอ<br />
บาเจาะ จำานวน ๓๒๘ ครั้ง, อำาเภอยี่งอ จำานวน ๓๕๑ ครั้ง<br />
และอำาเภอเมืองนราธิวาส จำานวน ๔๓๖ ครั้ง นอกจากนี้<br />
ยังมี “โครงการเสาธงเพื่อน้องร่วมร้องเพลงชาติไทย” โดย<br />
ก่อสร้างเสาธงชาติจำานวน ๑๐๐ ต้น ให้กับโรงเรียนตาดีกา<br />
หรือโรงเรียนเด็กอ่อนก่อนวัยเรียนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส<br />
และจังหวัดปัตตานี เพื่อปลูกฝังค่านิยม เพื่อก่อให้เกิดความ<br />
รู้สึกเป็นคนไทย ปรับเปลี่ยนทัศนคติในหมู่เยาวชนให้เกิด<br />
ความรักชาติ ปลูกจิตสำานึกความเป็นคนไทย มีทัศนคติและ<br />
จิตสำานึกในการรักและหวงแหนแผ่นดินไทย<br />
- จัดกิจกรรม นาวิก นาวี สัญจร ตาม “โครงการ<br />
เดินเท้าเข้าทุกชุมชน” โดยการออกให้บริการทางการแพทย์<br />
กิจกรรมนันทนาการ บริการซ่อมรถจักรยานยนต์ และการ<br />
แสดงดนตรีให้ความบันเทิงแก่ประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ<br />
ซึ่งชุดแพทย์เคลื่อนที่ได้ออกให้การบริการทางการแพทย์<br />
จ่ายยา เวชภัณฑ์ และการรักษาพยาบาลเบื้องต้นแก่ผู้นำา<br />
ศาสนา ผู้นำาท้องที่ ประชาชน และเยาวชนในพื้นที่รับผิดชอบ<br />
จำานวน ๔๕๖ คน พร้อมกับจัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ของ<br />
หน่วยในพื้นที่ออกให้การบริการทางการแพทย์ ร่วมกับชุด<br />
ศูนย์แพทย์ทหารบกจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำานวน ๒ ครั้ง<br />
คือ จังหวัดปัตตานี และจังหวัดนราธิวาส นอกจากนี้ยังได้<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
29
ดำาเนินการกิจกรรมทัศนศึกษานอกสถานที่ในพื้นที่กรุงเทพฯ<br />
จังหวัดชลบุรี และจังหวัดใกล้เคียงตามโครงการรวมใจไทย<br />
เป็นหนึ่งกองทัพเรือ รุ่นที่ ๖/๕๕ ณ ค่ายจุฬาภรณ์ อำาเภอ<br />
เมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส พร้อมทั้งจัดกำาลังพลของ<br />
หน่วยในพื้นที่เข้าร่วมประชุมสภาสันติสุข ประจำาเดือน<br />
กันยายน ๒๕๕๕ กับหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ผู้นำาท้องที่<br />
ผู้นำาท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ จำานวน ๔<br />
เป้าหมายคือ องค์การบริหารส่วนตำาบลปะลุกาสาเมาะ<br />
บ้านกาบุห์ หมู่ ๙ ตำาบลปะลุกาสาเมาะ อำาเภอบาเจาะ<br />
จังหวัดนราธิวาส, องค์การบริหารส่วนตำาบลละหาร ตำาบล<br />
ละหาร อำาเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส, องค์การบริหาร<br />
ส่วนตำาบลละหารกะลุวอ ตำาบลกะลุวอ อำาเภอเมืองนราธิวาส<br />
จังหวัดนราธิวาส และองค์การบริหารส่วนตำาบลละหาร<br />
โคกเคียน บ้านโคกพะยอม หมู่ ๒ ตำาบลโคกเคียน อำาเภอเมือง<br />
นราธิวาส จังหวัดนราธิวาส<br />
๔. เร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์และพัฒนา<br />
ความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและ<br />
นานาประเทศ<br />
กระทรวงกลาโหมให้ความสำาคัญกับความร่วมมือ<br />
ด้านความมั่นคงกับต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศ<br />
เพื่อนบ้าน ด้วยการดำาเนินการด้านนโยบายการทูตเชิงรุก<br />
30 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน<br />
โดยดำาเนินการต่าง ๆ ประกอบด้วย<br />
- ดำาเนินการเร่งสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือ<br />
กับประเทศเพื่อนบ้าน และนานาประเทศ โดยจัดหลักสูตร<br />
การทูตฝ่ายทหารแบบรวมการ รุ่นที่ ๒๐ เมื่อ ๑๒ มีนาคม -<br />
๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕ โดยเน้นการบูรณาการนโยบาย<br />
ทางการทูตทหารให้สอดคล้องและเป็นทิศทางเดียวกัน<br />
- ดำาเนินการสร้างความร่วมมือด้านความสัมพันธ์<br />
ระหว่างกองทัพอากาศ กับผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารต่างประเทศ<br />
ณ กรุงเทพฯ และดำาเนินความร่วมมือด้านความสัมพันธ์<br />
ระหว่างกองทัพอากาศ - กองทัพอากาศมิตรประเทศ<br />
นอกจากนี้ ยังจัดกำาลังพลเข้าร่วมปฏิบัติหน้าที่สังเกตการณ์<br />
ทางทหารในซูดาน พร้อมทั้งได้มีการจัดทำา MOU ด้านส่ง<br />
กำาลังบำารุงกับมิตรประเทศ และได้เข้าร่วมการฝึกร่วม/ผสม<br />
กับมิตรประเทศ ได้แก่ การฝึก Cobra Gold, การฝึก Cope<br />
Tiger, การฝึก Balance Teak Torch, การฝึก AIR THAMAL,<br />
การฝึก Red Flag Alaska และการฝึก ELANG THAINESIA<br />
รวมทั้ง เข้าร่วมและจัดการประชุมผู้บัญชาการทหารอากาศ<br />
อาเซียน<br />
- ร่วมการประชุม ARF (ASEAN Regional Forum<br />
Defence Officials’ Dialogue : ARF DoD) และการประชุม<br />
หารือนโยบายด้านความมั่นคงของ ARF (Security Policy<br />
Conference ASPC) ณ ราชอาณาจักรกัมพูชา เมื่อ ๒๓ -<br />
๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๕ โดยหารือในประเด็นดังนี้<br />
๑) การประชุม ARF DoD<br />
- การเสริมสร้างความร่วมมือเชิงปฏิบัติการทาง<br />
ทหารเกี่ยวกับการช่วยเหลือด้าน HADR ซึ่งที่ประชุม<br />
กล่าวถึงการเพิ่มบทบาทของกองทัพซึ่งแบ่งระดับของ<br />
ภัยพิบัติได้เป็น ๒ ระดับ คือ ระดับประเทศ และระดับภูมิภาค<br />
โดยควรเน้นไปที่ระดับของภูมิภาคที่มีความจำาเป็นอย่างมาก<br />
ที่ทุกประเทศสมาชิกต้องมีความร่วมมือในการประสานงาน<br />
ในเรื่องของการบรรเทาภัยพิบัติอย่างใกล้ชิด รวมถึง<br />
อาจต้องมีการแก้ไขกฎหมายต่าง ๆ ในด้านการให้ความ<br />
ช่วยเหลือด้าน HADR<br />
- การขยายความร่วมมือด้านการปฏิบัติการรักษา<br />
สันติภาพที ่ทันสมัย มีความจำาเป็นต้องใช้วิธีบูรณาการ<br />
ให้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงโดยให้ค<strong>รอบ</strong>คลุมตั้งแต่ช่วง<br />
ระยะเวลาของมาตรการการป้องกันความขัดแย้ง การรักษา<br />
สันติภาพ และการบูรณะฟื้นฟูภายหลังจากความขัดแย้ง<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
31
ซึ่งการปฏิบัติการรักษาสันติภาพนั้นจะต้องอยู่บนพื้นฐาน<br />
ของอำานาจอธิปไตย การมีบูรณภาพเหนือดินแดน มีการ<br />
เคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชนประเทศนั้น ๆ การเข้ามา<br />
มีส่วนร่วมของนานาประเทศที่ต้องอยู่บนบรรทัดฐานและ<br />
กฎหมายด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศ<br />
- การปรับปรุงโครงสร้างสถาปัตยกรรมด้านความ<br />
มั่นคงในภูมิภาคควรมีการแบ่งปันข้อมูล การขัดเกลาทาง<br />
สังคมเพื่อรองรับกับภัยคุกคามด้านความมั่นคงรูปแบบ<br />
ใหม่ สร้างความเชื่อมั่น และความไว้เนื้อเชื่อใจกัน เพื่อให้<br />
เกิดความเชื่อมโยงระหว่างกันในภูมิภาค รวมทั้ง เพื่อรองรับ<br />
ต่อการขยายบทบาทของประเทศมหาอำานาจที่เข้ามา<br />
ในภูมิภาค<br />
๒) การประชุม ASPC<br />
- การสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาค<br />
ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงอย่างต่อเนื่องต่อไป เช่น<br />
ประเด็นความมั่นคงทางทะเล การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม<br />
และการบรรเทาภัยพิบัติ การไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์<br />
การก่อการร้ายและการรุกลำ้ำน่านนำ้ำ เป็นต้น<br />
- การแพร่ขยายของเทคโนโลยีทางด้านนิวเคลียร์<br />
และการพัฒนาขีปนาวุธ รวมไปถึงอาวุธขนาดเล็กและ<br />
อาวุธเบา และการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ในสาธารณรัฐ<br />
ประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) ก่อให้เกิด<br />
ประเด็นความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก<br />
- การพัฒนาความร่วมมือด้านความมั่นคงทางทะเล<br />
- การพัฒนาความร่วมมือในการป้องกันการกระทำา<br />
อันเป็นโจรสลัด การก่อการร้าย การลักลอบค้ามนุษย์ และ<br />
การลักลอบค้ายาเสพติดทางทะเล<br />
- แผนงาน ARF เกี่ยวกับความมั่นคงทางทะเล (ARF<br />
Work Plan on Maritime Security) ที่มีการพัฒนามากขึ้น<br />
ไปตามลำาดับซึ่งจะมีการผลักดันให้มีการดำาเนินการอย่างเป็น<br />
รูปธรรม ได้แก่ การแลกเปลี่ยนข้อมูลและวิธีปฏิบัติระหว่าง<br />
กัน มาตรการสร้างความเชื่อมั่นในกฎหมายระดับภูมิภาค<br />
และระหว่างประเทศ และการเพิ่มขีดความสามารถของ<br />
หน่วยงานที่ดำาเนินการเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเล<br />
- การพิจารณาเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้<br />
พลังงานนิวเคลียร์ โดยแต่ละประเทศสมาชิกควรส่งเสริม<br />
ความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อเพิ่มศักยภาพในการรักษา<br />
ความปลอดภัยจากการใช้พลังงานนิวเคลียร์ และควรนำาข้อ<br />
32 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
ตกลงภายใต้การกำากับดูแลของทบวงการพลังงานปรมาณู<br />
ระหว่างประเทศมาบังคับใช้โดยเคร่งครัด<br />
- สงครามกลางเมืองและความขัดแย้งที่เกิดขึ้น<br />
ภายในประเทศต่าง ๆ การแก้ปัญหาด้วยการใช้กำาลังทาง<br />
ทหารไม่สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้ การแก้ปัญหา<br />
อย่างยั่งยืนต้องเกิดจากการบูรณาการของภาครัฐ และการ<br />
รวมตัวของอดีตผู้ก่อความไม่สงบ<br />
- การประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน (ASEAN Defence<br />
Ministers’ Meeting : ADMM) ครั้งที่ ๖ ณ กรุงพนมเปญ<br />
ราชอาณาจักรกัมพูชา เมื่อ ๒๘ - ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕<br />
โดยได้แสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนทัศนคติ มุมมอง และ<br />
ยุทธศาสตร์ต่าง ๆ ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในประเด็นเกี่ยวกับ<br />
ด้านการทหารและความมั่นคงซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง<br />
กลาโหมได้เน้นในเรื่องของความมั่นคงภายในภูมิภาค<br />
อาเซียนและระหว่างประเทศ รวมถึง ประเด็นทางทหารอื่น ๆ<br />
ที่สำาคัญ และได้มีการพูดคุยและแลกเปลี่ยนมุมมองต่าง ๆ<br />
เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในหลาย ๆ ด้าน โดยเน้น<br />
ในหัวข้อเรื่อง “อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศของอาเซียน”<br />
- การประชุม ARF เรื่อง Laws and Regulations on<br />
the Participation in International Disaster Relief by<br />
Armed Forces ครั้งที่ ๓ ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชน<br />
จีน เมื่อ ๑๐ - ๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๕ โดยหารือในประเด็น<br />
ดังนี้<br />
๑) การให้ความช่วยเหลือของสำานักงานเลขาธิการ<br />
อาเซียน ด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ (HADR :<br />
Humanitarian Assistance and Disaster Relief) ได้แก่<br />
การดำาเนินการภายใต้ความตกลงอาเซียนว่าด้วยการจัดการ<br />
ภัยพิบัติและการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉิน (AADMER)<br />
และมาตรฐานระเบียบวิธีปฏิบัติเพื่อเตรียมความพร้อมและ<br />
ประสานงานในการปฏิบัติร่วมกันของอาเซียนในการบรรเทา<br />
ภัยพิบัติและการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉิน<br />
๒) การสัมมนาหัวข้อที่ ๑ เรื่อง Latest Development<br />
in the Laws and Regulations Building in International<br />
Disaster Relief Operations by Armed Forces โดย<br />
ประเทศญี่ปุ่น ได้นำาบทเรียนจากการเกิดแผ่นดินไหวและ<br />
สึนามิและการปฏิบัติของกองกำาลังป้องกันตนเองในการ<br />
ค้นหา และการกู้ภัย การสนับสนุนทางการแพทย์ และการ<br />
อพยพผู้ประสบภัย เป็นตัวอย่างในการสัมมนา ซึ่งได้เน้นยำ้ำ<br />
ความสำาคัญของการให้ความช่วยเหลือด้านการบรรเทาทุกข์<br />
ระหว่างประเทศ การประสานงานขณะเกิดภัยพิบัติ เพื่อขจัด<br />
อุปสรรคทางกฎหมายระหว่างประเทศ<br />
๓) การสัมมนาหัวข้อที่ ๒ เรื่อง The Obligations<br />
and Rights of the Armed Forces Participating in<br />
International Disaster Relief Operations (I) ซึ่งได้กล่าว<br />
ถึงการดำาเนินงานด้าน HADR ควรจะมี Status of Forces<br />
Agreement (SOFA) ในการคุ้มครองทางกฎหมายกับ<br />
กองกำาลังต่างชาติ ที่ให้ความช่วยเหลือเมื่อปฏิบัติการให้ความ<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
33
ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติแก่ประเทศ<br />
ผู้ประสบภัย การคุ้มครองทางกฎหมายควรจะค<strong>รอบ</strong>คลุม<br />
กองกำาลังทหารและพลเรือนรวมทั้งหน่วยงาน ที่ดำาเนินการ<br />
ซึ่งประเทศผู้ประสบภัยจะให้การป้องกันกองกำาลังต่างชาติ<br />
การเข้าให้ความช่วยเหลือจะต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูล<br />
ถึงสถานการณ์ ของประเทศผู้ประสบภัย ความต้องการการ<br />
ช่วยเหลือของประเทศผู้ประสบภัย และเงื่อนไขต่าง ๆ<br />
๔) การสัมมนาหัวข้อที่ ๓ เรื่อง The Obligations<br />
and Rights of the Armed Forces Participating in<br />
International Disaster Relief Operations (II) ซึ่งกล่าว<br />
ถึงสิทธิพิเศษและการคุ้มครองกองกำาลังทหารที่เข้าปฏิบัติ<br />
การ HADR โดยยังมีข้อจำากัดของกฎหมายระหว่างประเทศ<br />
และอนุสัญญาที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของแต่ละประเทศ<br />
ทั้งนี้ ยังเป็นสิ่งที่ต้องมีการพัฒนาและปรับปรุงด้านกฎหมาย<br />
ระหว่างประเทศเกี่ยวกับสิทธิของกองกำาลังติดอาวุธและการ<br />
ป้องกันตนเองให้เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศในการให้<br />
ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ<br />
ระหว่างประเทศ<br />
- ดำาเนินการด้านความสัมพันธ์ทางการทูตฝ่ายทหาร<br />
กับกองทัพมิตรประเทศอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับนโยบาย<br />
ด้านความมั่นคงของชาติ โดยจัดผู้แทนเข้าร่วมการประชุม<br />
Navy to Navy Strategy Talks ระหว่างกองทัพเรือ -<br />
กองทัพเรือออสเตรเลีย ครั้งที่ ๗ ณ เมืองซิดนีย์ เมื่อวันที่<br />
๕ - ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๕ และจัดการประชุมคณะทำางาน<br />
ร่วมกองทัพเรือ - กองทัพเรือสิงคโปร์ เมื่อวันที่ ๒๓ - ๒๗<br />
กรกฎาคม ๒๕๕๕ ณ จังหวัดภูเก็ต<br />
- จัดเรือหลวงจักรีนฤเบศรพร้อมอากาศยานประจำาเรือ<br />
และเรือหลวงเจ้าพระยา เข้าร่วมฝึกกองเรือพร้อมปฏิบัติการ<br />
โดยร่วมฝึก Anti Submarine Warfare Exercise (ASWEX)<br />
ร่วมกับเรือดำานำ้ำสหรัฐฯ USS BUFFALO และเดินทางเยี่ยม<br />
เมืองท่าสิงคโปร์ เมื่อวันที่ ๑ - ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๕ และ<br />
จัดกำาลังพลเข้าร่วมการฝึกร่วม/ผสม ได้แก่ CARAT 12,<br />
COBRA GOLD 12, THALAYLAUT 12, MARSEAEX 12,<br />
MARSURVEX 12 ยกเว้นการฝึก SINGSIAM ที่ทางกองทัพ<br />
เรือสิงคโปร์ขอเลื่อนการฝึก ซึ่งการฝึกต่าง ๆ ได้มีการพัฒนา<br />
ทั้งในด้านเนื้อหาและหัวข้อการฝึก รวมถึงพัฒนาความ<br />
สัมพันธ์ระหว่างกำาลังพลของกองทัพเรือไทยกับกองทัพเรือ<br />
ประเทศต่าง ๆ ที่เข้าร่วมการฝึก พร้อมทั้งจัดกำาลังพล<br />
เข้าร่วมประชุมวางแผนขั้นต้น (Initial Planning Conference<br />
: IPC) การฝึกผสม SINGSIAM 2012 ที่สิงคโปร์ เมื่อวันที่<br />
๒๔ - ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๕<br />
34 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
- เข้าร่วมการฝึกร่วม/ผสมกับมิตรประเทศ ได้แก่<br />
การฝึก Pitch Black เมื่อเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๕ และ<br />
การฝึก Red Flag Alaska เมื่อเดือนกันยายน ๒๕๕๕<br />
๕. ป้องกันและปราบปรามการทุจริต<br />
และประพฤติมิชอบในภาครัฐอย่าง<br />
จริงจัง<br />
กระทรวงกลาโหมให้ความสำาคัญกับการดำาเนินงานความ<br />
มั่นคงด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม โดยเฉพาะการป้องกัน<br />
และปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบในการบริหาร<br />
งาน โดยได้ปลูกฝังจิตสำานึกด้านคุณธรรมและจริยธรรมให้<br />
กำาลังพลทุกระดับ ประกอบด้วยการดำาเนินงานที่สำาคัญ ดังนี้<br />
- ดำาเนินการสร้างเครือข่ายด้านการป้องกันและ<br />
ปราบปรามการทุจริต โดยจัดทำาแผนป้องกันและปราบ<br />
ปรามการทุจริตของสำานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
ประจำา<strong>ปี</strong>งบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๒ - ๒๕๕๕ ซึ่งมีการจัดการ<br />
สัมมนาเพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการป้องกันและ<br />
ปราบปรามการทุจริต เพื่อข้าราชการ ลูกจ้างประจำา และ<br />
พนักงานราชการ ร่วมมือกันป้องกันและปราบปรามการ<br />
ทุจริต ที่อาจเกิดขึ้น ให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม<br />
ด้วยการปลูกจิตสำานึกด้านคุณธรรม จริยธรรม ตลอดจน<br />
องค์ความรู้ในด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต<br />
ให้แก่กำาลังพลของกระทรวงกลาโหม และได้ดำาเนินการ<br />
อบรมศีลธรรมให้แก่กำาลังพล โดยได้สอดแทร<strong>กห</strong>ลักธรรม<br />
คำาสอนทางพระพุทธศาสนาเกี่ยวกับเรื่องการปฏิบัติตน<br />
ให้เป็นคนดี ความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อเป็นการปลูกจิตสำานึก<br />
ด้านคุณธรรมและจริยธรรมให้แก่กำาลังพล<br />
๖. ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน<br />
โดยเพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศ สร้าง<br />
สมดุลและความเข้มแข็งอย่างมีคุณภาพ<br />
ให้แก่ระบบเศรษฐกิจมหภาค<br />
- ดำาเนินการให้แรงงานมีรายได้วันละไม่น้อยกว่า<br />
๓๐๐ บาท และผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี มีรายได้<br />
ไม่น้อยกว่า ๑๕,๐๐๐ บาท ซึ่งเป็นการปรับอัตราเงินเดือน<br />
แรกบรรจุตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการยกระดับ<br />
คุณภาพชีวิตของประชาชนด้วยการเพิ่มกำาลังซื้อภายใน<br />
ประเทศ สร้างสมดุลและความเข้มแข็งอย่างมีคุณภาพ<br />
ให้แก่ระบบเศรษฐกิจมหภาค และการกำาหนดอัตรา<br />
เงินเดือนแรกบรรจุสำาหรับบุคคลที ่มีคุณสมบัติสอดคล้อง<br />
กับปัจจัยที่กระทรวงกลาโหมกำาหนดให้ได้รับเงินเดือน<br />
สูงกว่าบุคคลทั่วไปที่มีคุณวุฒิเดียวกันได้ เพื่อสร้างแรงจูงใจ<br />
ให้ผู้ที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ระบบราชการมากขึ้น โดยจัดทำา<br />
ร่างกฎกระทรวงกำาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการบรรจุบุคคล<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
35
เข้ารับราชการเป็นข้าราชการทหารและการให้ได้รับเงินเดือน<br />
พ.ศ. .... ร่างคำาสั่งกระทรวงกลาโหม เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธี<br />
การ และเงื ่อนไขในการให้ได้รับเงินเดือนแรกบรรจุสำาหรับ<br />
ข้าราชการที่มีคุณสมบัติตามปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพ<br />
ในการปฏิบัติหน้าที่ราชการของกระทรวงกลาโหม ร่างคำาสั่ง<br />
กระทรวงกลาโหม เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขใน<br />
การเลื่อนชั้นเงินเดือนเพื่อชดเชยแก่ข้าราชการทหารที่ได้รับ<br />
ผลกระทบจากการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุ รวมทั้ง<br />
ค่าใช้จ่ายในการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุและการชดเชย<br />
ผู้ได้รับผลกระทบของกระทรวงกลาโหม คณะรัฐมนตรีมีมติ<br />
เมื่อ ๑๐ เมษายน ๒๕๕๕ เห็นชอบข้อเสนอการปรับอัตรา<br />
เงินเดือนแรกบรรจุและการชดเชยผู้ได้รับผลกระทบฯ ตาม<br />
ข้อเสนอของสำานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน<br />
เมื่อ ๑ มกราคม ๒๕๕๖ และ ๑ มกราคม ๒๕๕๗ โดย<br />
ในส่วนของกระทรวงกลาโหม อยู่ระหว่างการดำาเนินการ<br />
จัดทำาร่างกฎกระทรวงฯ เพื่อรองรับต่อการดำาเนินการตาม<br />
มติคณะรัฐมนตรี โดยจะนำาเข้าพิจารณาในคณะกรรมการ<br />
ข้าราชการพลเรือนกลาโหม และสภากลาโหม ภายใน<br />
พฤษภาคม ๒๕๕๕ หลังจากนั้นจะเสนอเรื่องเข้าพิจารณา<br />
ในคณะรัฐมนตรี<br />
- ดำาเนินการตามนโยบายรัฐบาลเพิ่มค่าครองชีพ โดย<br />
คณะกรรมการข้าราชการทหารได้ดำาเนินการปรับปรุงกฎกระทรวง<br />
กำาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ<br />
เป็นข้าราชการทหาร และการให้ได้รับเงินเดือน พ.ศ. ....<br />
36 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
เพื่อปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุของข้าราชการทหาร<br />
ทุกคุณวุฒิให้เท่าเทียมกับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุของ<br />
ข้าราชการพลเรือนสามัญ และได้จัดทำาร่างคำาสั่งกระทรวง<br />
กลาโหม ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการเลื่อน<br />
ชั้นเงินเดือนเพื่อชดเชยแก่ข้าราชการทหารที่ได้รับผลกระทบ<br />
จากการกำาหนดอัตราเงินเดือนแรกบรรจุเสนอต่อสภากลาโหม<br />
ให้ความเห็นชอบ เมื่อ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๔ และเสนอต่อ<br />
คณะรัฐมนตรีทราบ เมื่อ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๕ อยู่ระหว่าง<br />
การตรวจพิจารณาของสำานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา<br />
ซึ่งการปรับอัตราเงินเดือนดังกล่าว ยังไม่บรรลุเป้าหมาย<br />
ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้เงินเดือนของข้าราชการ<br />
ระดับปริญญาตรี ๑๕,๐๐๐ บาท คณะรัฐมนตรีจึงมอบหมาย<br />
ให้สำานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน กำาหนดแนวทาง<br />
การปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุให้บรรลุตามนโยบาย ซึ่ง<br />
ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เมื่อ ๑๐ เมษายน<br />
๒๕๕๕ โดยปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุทุกคุณวุฒิให้บรรลุ<br />
ตามเป้าหมายภายใน ๒ <strong>ปี</strong> คือ <strong>ปี</strong>ที่ ๑ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม<br />
๒๕๕๖ และ<strong>ปี</strong>ที่ ๒ ตั้งแต่ ๑ มกราคม ๒๕๕๗ รวมทั้งปรับ<br />
เงินเดือนชดเชยสำาหรับผู้ได้รับผลกระทบตามระยะเวลาเดียวกัน<br />
ทั้งนี้ สำานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ดำาเนินการปรับ<br />
อัตราเงินเดือนแรกบรรจุของข้าราชการทหาร ดำาเนินการ<br />
โดยการปรับปรุงแก้ไขร่างกฎกระทรวง กำาหนดหลักเกณฑ์<br />
และวิธีการบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการทหาร<br />
และการให้ได้รับเงินเดือน พ.ศ. .... (ร่างกฎกระทรวงฯ ซึ่ง<br />
ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำานักงานคณะกรรมการ<br />
กฤษฎีกา) คือ ยกเลิกบัญชีคุณวุฒิและอัตราเงินเดือนของ<br />
บุคคลที่ได้รับการบรรจุเข้ารับราชการเป็นข้าราชการทหาร<br />
แนบท้ายกฎกระทรวง กำาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการบรรจุ<br />
บุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการทหาร และการให้ได้รับ<br />
เงินเดือน พ.ศ. .... ซึ่งใช้บังคับ เมื่อ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๓ และ<br />
๑ มกราคม ๒๕๕๕<br />
- กำาหนดบัญชีคุณวุฒิและอัตราเงินเดือนอัตราใหม่<br />
แนบท้ายกฎกระทรวง กำาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการบรรจุ<br />
บุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการทหาร และการให้ได้รับ<br />
เงินเดือน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยเทียบอัตราเงินเดือน<br />
ของข้าราชการพลเรือนสามัญในคุณวุฒิเดียวกัน ซึ ่งบังคับ<br />
ใช้เมื่อ ๑ มกราคม ๒๕๕๖ และ ๑ มกราคม ๒๕๕๗ แทน<br />
รวมทั้ง เลื่อนชั้นเงินเดือนเพื่อชดเชยแก่ข้าราชการทหาร<br />
ผู้ได้รับผลกระทบ โดยยกเลิกคำาสั่งกระทรวงกลาโหม ว่าด้วย<br />
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการเลื่อนชั้นเงินเดือน<br />
เพื่อชดเชยแก่ข้าราชการทหารที่ได้รับผลกระทบจากการ<br />
กำาหนดอัตราเงินเดือนแรกบรรจุ ซึ่งออกตามมติคณะรัฐมนตรี<br />
เมื่อ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๓ และ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๕<br />
แล้วจัดทำาร่างคำาสั่งกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยหลักเกณฑ์<br />
วิธีการ และเงื่อนไขในการเลื่อนชั้นเงินเดือนเพื่อชดเชยแก่<br />
ข้าราชการทหารที่ได้รับผลกระทบจากการกำาหนดอัตรา<br />
เงินเดือนแรกบรรจุ ซึ ่งออกตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อ ๑๐<br />
เมษายน ๒๕๕๕ โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่ ๑ มกราคม<br />
๒๕๕๖ และ ๑ มกราคม ๒๕๕๗ ขณะนี้อยู่ระหว่างการ<br />
นำาเสนอเรื่องเข้าพิจารณาในสภากลาโหม<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
37
ผลการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม<br />
ตามนโยบายรัฐบาล และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี<br />
ใน<strong>รอบ</strong><strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
(๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ ถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕)<br />
นโยบายความมั่นคงแห่งรัฐ<br />
กระทรวงกลาโหมได้ดำาเนินการตามแผนงาน/โครงการ โดยมีผลการดำาเนินงานที่สำาคัญ ดังนี้<br />
๑. เทิดทูนและพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์<br />
๒. พัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพของกองทัพและระบบป้องกันประเทศ<br />
๒.๑ การเตรียมกำาลังและใช้กำาลังในการป้องกันประเทศและการรักษาความมั่นคงภายใน<br />
๒.๒ เทคโนโลยีสารสนเทศและอวกาศ<br />
๒.๓ การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก<br />
๒.๔ การบริหารจัดการการป้องกันประเทศ<br />
๒.๕ การระดมสรรพกำาลังเพื่อการทหาร<br />
๒.๖ การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร<br />
๒.๗ การวิจัยและพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ด้านยุทโธปกรณ์ เทคโนโลยีป้องกันประเทศ และ<br />
ถ่ายทอดองค์ความรู้เทคโนโลยีป้องกันประเทศ<br />
๒.๘ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการช่วยเหลือประชาชน<br />
๓. พัฒนาและเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ<br />
๔. พัฒนาระบบการเตรียมพร้อมแห่งชาติ<br />
๕. เร่งดำาเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติด องค์กรอาชญากรรมการค้ามนุษย์ ผู้หลบหนีเข้าเมือง<br />
แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย และบุคคลที่ไม่มีสถานะชัดเจน<br />
38 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
๑. เทิดทูนและพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบัน<br />
พระมหากษัตริย์<br />
การเทิดทูน ป้องกัน รวมทั้งตอบโต้และทำาความเข้าใจ<br />
มิให้มีการล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์<br />
กระทรวงกลาโหมให้ความสำาคัญในการเทิดทูนและ<br />
พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อเป็นศูนย์รวม<br />
จิตใจของคนไทยทั้งชาติมาตั ้งแต่อดีต โดยได้ดำาเนินงานที่<br />
สำาคัญร่วมกับภาคประชาชน ในกิจกรรมต่าง ๆ ประกอบด้วย<br />
สำานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
- จัดกิจกรรมปฏิบัติธรรมพัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติ<br />
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธี<br />
มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ <strong>รอบ</strong> ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔<br />
โดยนิมนต์ พระมหาสนธยา เขมาภิรโต จากวัดชลประทาน<br />
รังสฤษฎ์ เป็นองค์บรรยายธรรมให้กับข้าราชการของ<br />
สำานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และปฏิบัติธรรมเจริญจิต<br />
ภาวนา ด้วยการวิปัสสนากัมมัฏฐาน<br />
- จัดกิจกรรมน้อมเกล้าฯ เฉลิมพระเกียรติพระบาท<br />
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิม<br />
พระชนมพรรษา โดยจัดโต๊ะเครื่องราชสักการะ ติดตั้ง<br />
พระบรมฉายาลักษณ์หรือพระบรมสาทิสลักษณ์ และอักษร<br />
พระปรมาภิไธย “ภปร” พร้อมคำาถวายพระพร ประดับ<br />
ธงชาติ ธง ภปร. และโคมไฟ รวมทั้ง จัดนิทรรศการเกี่ยวกับ<br />
พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ<br />
กล่าวคำาถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลัง<br />
ของแผ่นดิน มีข้าราชการร่วมพิธีทำาบุญตักบาตรข้าวสาร<br />
อาหารแห้ง ลงนามถวายพระพรชัยมงคล ถวายเครื่องราช<br />
สักการะ (พานพุ่มเงิน - พุ่มทอง) และพิธีจุดเทียนชัยถวาย<br />
พระพรชัยมงคล อีกทั้งฟังพระธรรมเทศนาและปฏิบัติธรรม<br />
เฉลิมพระเกียรติ และร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและ<br />
เพลงสดุดีมหาราชา ตลอดจนจัดให้มีการเดินเทิดพระเกียรติ<br />
ร่วมปลูกต้นไม้และปล่อยพันธุ์ปลา<br />
- จัดทำา และติดตั้งป้ายข้อความพระราชดำารัส<br />
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระราชทานแก่<br />
ทหารผ่านศึก เมื่อ ๒๓ มกราคม ๒๕๓๗ ข้อความว่า<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
39
“ทหารผ่านศึกเป็นผู้มีเกียรติเพราะได้เสียสละประโยชน์ส่วนตัว<br />
แม้กระทั่งเลือดเนื้อและชีวิต เพื่อบ้านเมืองและส่วนรวม<br />
ขอให้ภูมิใจและตั้งใจรักษาเกียรติอันแท้จริงที่มีอยู่นั้นไว้ทุกเมื่อ”<br />
- จัดกิจกรรมวันพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า<br />
เจ้าอยู ่หัว ณ พระบรมราชานุสรณ์ฯ สวนลุมพินี, กิจกรรม<br />
วันคล้ายวันพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย<br />
ณ บริเวณหน้าอาคารรัฐสภา ถนนอู่ทองใน เขตดุสิต กรุงเทพฯ,<br />
กิจกรรมวันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ณ พระบรม<br />
ราชานุสาวรีย์ วงเวียนใหญ่ กรุงเทพฯ, กิจกรรมงานรัฐพิธี<br />
“วันพ่อขุนรามคำาแหงมหาราช” ได้จัดพิธีถวายพานราช<br />
สักการะในหลายพื้นที่คือ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดสุโขทัย<br />
จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดสุพรรณบุรี, กิจกรรมภาพ<br />
แกะสลักไม้และภาพศิลปะประดิษฐ์ไทย - โอชิเอะ แด่พระบาท<br />
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา<br />
ณ โรงพยาบาลศิริราช, กิจกรรมวันยุทธหัตถีสมเด็จ<br />
พระนเรศวรมหาราช, งานสโมสรสันนิบาตจังหวัดเชียงใหม่<br />
ณ พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี,<br />
จัดบรรยายพิเศษ เรื่อง “เทิดไท้องค์ราชัน” ณ จังหวัดลำาพูน,<br />
พิธีกระทำาสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล ประจำา<strong>ปี</strong><br />
๒๕๕๕ ณ กองบัญชาการกองพลทหารราบที่ ๗ จังหวัด<br />
เชียงใหม่, รับ - ส่งเสด็จฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ<br />
สยามบรมราชกุมารี ณ ท่าอากาศยาน กองบิน ๔๑ จังหวัด<br />
เชียงใหม่, กิจกรรมคอนเสิร์ตเทิดพระเกียรติ ณ หอประชุม<br />
มหาวชิราลงกรณ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร จังหวัด<br />
สกลนคร, งานราตรีสโมสรสันนิบาต ณ มณฑลพิธีทุ่งศรีเมือง<br />
จังหวัดอุบลราชธานี, โครงการ “หน่วยทหารและหมู่บ้าน/<br />
ชุมชนสีขาว” ณ สนามหน้าศูนย์ฝึกนักศึกษาวิชาทหาร<br />
มณฑลทหารบกที่ ๓๑, รับเสด็จฯ สมเด็จพระเทพรัตน<br />
ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จังหวัดอุบลราชธานี,<br />
พิธีสวดมนต์ข้าม<strong>ปี</strong>อุบลราชธานี ณ วัดมหาวนาราม (วัด<br />
ป่าใหญ่) จังหวัดอุบลราชธานี, รับเสด็จฯ พระเจ้าหลานเธอ<br />
พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ณ ท่าอากาศยานทหาร<br />
กองบิน ๒๑ จังหวัดอุบลราชธานี และ ตรวจเยี่ยมสมาชิก<br />
สายใจไทย ณ โรงพยาบาลขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น<br />
40 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
- ดำาเนินการจัดกิจกรรมวันพระบาทสมเด็จพระปกเกล้า<br />
เจ้าอยู่หัว ดังนี้<br />
๑. ถวายราชสักการะ ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ฯ<br />
หน้าตึกรัฐสภา พระราชวังดุสิต และกิจกรรมพิธีมอบ<br />
โค - กระบือ ให้กับทหาร ตามโครงการไถ่ชีวิตโค - กระบือ<br />
เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว<br />
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๕ พรรษา<br />
๕ ธันวาคม ๒๕๕๕ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม<br />
ราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา<br />
๘๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๕ และสมเด็จพระบรม<br />
โอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสมหามงคล<br />
เฉลิมพระชนมพรรษา ๕ <strong>รอบ</strong> ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๕ พร้อมทั้ง<br />
จัดพิธีมอบโค - กระบือ ให้กับทหาร จำานวน ๑๐ ตัว<br />
ณ ศาลาอเนกประสงค์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เมื่อวันที่<br />
๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๕<br />
๒. โครงการ “ข้าราชการรวมใจพัฒนาศูนย์บริหาร<br />
ราชการจังหวัดอุบลราชธานี” เนื่องในโอกาส<strong>ปี</strong>มหามงคล<br />
เฉลิมพระชนมพรรษา ๘๕ พรรษา มหาราชา ๘๐ พรรษา<br />
มหาราชินี และ ๖๐ พรรษา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ<br />
สยามมกุฎราชกุมาร ร่วมกับหน่วยงานราชการจังหวัด<br />
อุบลราชธานี ปลูกต้นโพธิ์ใหญ่ ต้นสาละ และหญ้าแฝก<br />
ณ ศูนย์บริหารราชการจังหวัดอุบลราชธานี (แห่งใหม่)<br />
บ้านหนองแก ตำาบลแจระแม อำาเภอเมืองอุบลราชธานี<br />
จังหวัดอุบลราชธานี<br />
๓. กิจกรรม “บันทึกเทปถวายพระพร” ร่วมบันทึก<br />
เทปถวายพระพร เนื ่องในโอกาสสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์<br />
พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมายุครบ ๘๐ พรรษา<br />
๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๕ ณ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย<br />
อำาเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก<br />
๔. กิจกรรมการตรวจเยี่ยมทหารผ่านศึก และเชิญ<br />
ชวนทหารผ่านศึกกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณ เฉลิมพระเกียรติ<br />
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ค่ายพ่อขุนผาเมือง อำาเภอ<br />
เมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ และค่ายศรีสองรัก อำาเภอ<br />
เมืองเลย จังหวัดเลย โดยมีทหารผ่านศึก จำานวน ๕๑๐ คน<br />
ร่วมกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณฯ<br />
๕. กิจกรรมการบรรยายพิเศษ เรื่อง “เทิดไท้<br />
องค์ราชัน” โดยจัดให้พนักงาน ลูกจ้างทหารผ่านศึก ค<strong>รอบ</strong>ครัว<br />
ทหารผ่านศึก นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป<br />
ร่วมรับฟังการบรรยายพิเศษเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของ<br />
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์<br />
พระบรมราชินีนาถ ณ สโมสรค่ายสุรศักดิ์มนตรี มณฑลทหาร<br />
บกที่ ๓๒ จังหวัดลำาปาง เมื่อวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๕<br />
ณ ศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและภูมิปัญญา<br />
ท้องถิ่นค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อ<br />
วันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ณ โรงเรียนเชียงคำาวิทยาคม<br />
อำาเภอเชียงคำา จังหวัดพะเยา เมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๕<br />
ณ โรงเรียนวีรวัฒน์โยธิน อำาเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
41
๖. กิจกรรมสัมมนาวิชาการนานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ<br />
สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร “๖๐<br />
พรรษา มหาวชิราลงกรณ์” เมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๕<br />
ในหัวข้อ “ชาติพันธุ์ลุ่มนำ้ำโขงตอนล่าง” ซึ่งจัดขึ้นโดยสำานัก<br />
ศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ณ<br />
ห้องประชุมบัวทิพย์ ๔ ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมกาญจนาภิเษก<br />
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี อำาเภอเมือง จังหวัด<br />
อุบลราชธานี<br />
๗. กิจกรรมเครือข่ายการสงเคราะห์ ราชสดุดี<br />
เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่<br />
๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ณ สหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี<br />
(ในพระบรมราชูปถัมภ์) และปล่อยพันธุ์ปลานำ้ำจืด ๘,๔๐๐<br />
ตัว ลงสู่แม่นำ้ำแม่กลอง ณ ท่านำ้ำวัดพญาไม้ เพื่อถวายเป็น<br />
พระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว<br />
๘. กิจกรรม “รวมพลังไทย ธำารงไว้ซึ่งสถาบัน”<br />
เมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ร่วมกับกรมการทหารช่าง<br />
และกองพลพัฒนาที่ ๑ บริเวณลานด้านหน้าโรงยิมเนเซี่ยม<br />
จังหวัดราชบุรี เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ<br />
พระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล<br />
เฉลิมพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้า<br />
สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธี<br />
มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม<br />
๒๕๕๕ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎ<br />
ราชกุมาร เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา<br />
๕ <strong>รอบ</strong> ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๕<br />
๙. กิจกรรม “โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ใน<br />
พระราชานุเคราะห์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎ<br />
ราชกุมาร” เมื่อวันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๕ ร่วมกับจังหวัด<br />
ฉะเชิงเทรา และเข้าร่วมกิจกรรม “โครงการคลินิกเกษตร<br />
เคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ<br />
สยามมกุฎราชกุมาร” เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราช<br />
สมภพ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร<br />
ณ วัดสุวรรณเตมีย์ อำาเภอบางนำ้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา<br />
๑๐. กิจกรรม “โครงการประชาอาสาปลูกป่า ๘๐๐<br />
ล้านกล้า ๘๐ พรรษามหาราชินี” เมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๕<br />
ร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดนครราชสีมา และเข้าร่วม<br />
กิจกรรม “โครงการประชาอาสาปลูกป่า ๘๐๐ ล้านกล้า ๘๐<br />
พรรษามหาราชินี” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์<br />
พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล<br />
เฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๕<br />
ณ บ้านดงมะไฟ ตำาบลมะเกลือใหม่ อำาเภอสูงเนิน จังหวัด<br />
นครราชสีมา<br />
- ดำาเนินการตามแผนงานสื่อสร้างสรรค์เฉลิมพระเกียรติ<br />
๘๐ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ<br />
เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในสังคมสารสนเทศ<br />
ในการเฉลิมพระเกียรติฯ<br />
- ดำาเนินการจัดตั้งเครือข่ายผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต เพื่อ<br />
ส่งเสริมและปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยให้มีการ<br />
โพสต์ข้อความเทิดทูน ป้องกัน รวมทั้งตอบโต้และทำาความ<br />
เข้าใจมิให้มีการล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ และ<br />
จัดการฝึกชุดวิทยากรปลูกฝังและสร้างเสริมอุดมการณ์ทหาร<br />
โดยการบรรยายเรื่องอุดมการณ์ทหารและประวัติศาสตร์<br />
42 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
ชาติไทยและแจกจ่ายคู่มืออุดมการณ์ทหาร ซึ่งมีเนื ้อหา<br />
เกี่ยวกับการเทิดทูนและปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์<br />
- จัดกิจกรรมเทศน์มหาชาติเฉลิมพระเกียรติถวายเป็น<br />
พระราชกุศลแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม<br />
ราชกุมารี เนื่องในวโรกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ เมื่อ ๒<br />
เมษายน ๒๕๕๕ ภายในศาลาว่าการกลาโหม โดยได้อาราธนา<br />
พระราชธรรมวาที ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยูรวงศาวาส<br />
กรุงเทพฯ และพระมหาสม สุทธิประภาโส วัดหลักสี่<br />
เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ เป็นองค์แสดงพระธรรมเทศนาทั้ง<br />
ภาคบรรยายและการแหล่ตามประเพณีเทศน์มหาชาติ<br />
- ร่วมกิจกรรม ๑๒ สิงหามหาราชินี ณ มณฑลพิธี<br />
ท้องสนามหลวง พร้อมทั้งจัดกิจกรรมเทิดทูนสมเด็จ<br />
พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาส<br />
วันเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา การบริจาคโลหิต<br />
ถวายเป็นพระราชกุศล และจัดกิจกรรมปฏิบัติธรรม<br />
เฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จ<br />
พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาส<br />
มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๕<br />
เมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๕ ภายในศาลาว่าการกลาโหม<br />
- จัดกิจกรรมปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ สวดบท<br />
พระพุทธคุณ จำานวน ๙ จบ และบำาเพ็ญจิตภาวนาถวายเป็น<br />
พระราชกุศลแด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎ<br />
ราชกุมาร เนื่องในวโรกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ ณ ห้อง<br />
สุรศักดิ์มนตรี ภายในศาลาว่าการกลาโหม<br />
- จัดทำาแผนงานพัฒนาระบบป้องกันการล่วงละเมิด<br />
สถาบันพระมหากษัตริย์ ระยะที่ ๒ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ<br />
จัดหาระบบสืบค้นข้อมูลและบริหารจัดการ ตลอดจนการ<br />
ผลิตข้อมูลสารสนเทศในรูปแบบต่าง ๆ ในภารกิจปกป้องการ<br />
ล่วงละเมิดสถาบันฯ, สร้างเครือข่ายเทิดทูนสถาบันฯ ของ<br />
กระทรวงกลาโหม ซึ่งประกอบด้วย กำาลังพลจา<strong>กห</strong>น่วยงาน<br />
ต่าง ๆ ในสังกัดกระทรวงกลาโหม และพัฒนาบุคลากรของ<br />
เครือข่ายเทิดทูนสถาบันฯ ให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมี<br />
ประสิทธิภาพ, จัดทำาแผนงานสื่อสร้างสรรค์เฉลิมพระเกียรติ<br />
๘๐ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ<br />
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำาเว็บไซต์เทิดพระเกียรติสมเด็จ<br />
พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่มีเนื้อหาสาระและ<br />
รูปแบบการนำาเสนอที่น่าสนใจ ทั้งภาษาไทยและภาษา<br />
อังกฤษ, จัดกิจกรรมการป้องกันการล่วงละเมิดสถาบันพระ<br />
มหากษัตริย์ โดยมีวัตถุประสงค์ คือ จัดหาอุปกรณ์ที่สามารถ<br />
ผลิตเนื้อหาข้อความ ไฟล์เสียง (Voice) ไฟล์วีดีโอ (VDO) ให้<br />
มีความทันสมัย สวยงาม ดูน่าเชื่อถือ เพื่อใช้ในการตอบโต้<br />
การล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์<br />
- จัดกิจกรรมการแข่งขันกีฬา “เดิน - วิ่ง มินิมาราธอน<br />
บ่อนำ้ำมันฝาง ๘๐ พรรษา มหาราชินี” เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม<br />
๒๕๕๕ และดำาเนินการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จ<br />
พระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาส<br />
มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖๐ พรรษา ๒๘ กรกฎาคม<br />
๒๕๕๕ โดยทำาการปลูกต้นไม้ ณ พื้นที่ของวัดศรีบุญเรือง<br />
ตำาบลสันทราย อำาเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ในพื้นที่ประมาณ<br />
๑๕ ไร่<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
43
- จัดทำาบทความวิทยุเฉลิมพระเกียรติ จำานวน ๘๔<br />
ตอน เป็นภาษาท้องถิ่น ๔ ภาค เผยแพร่พระราชกรณียกิจ<br />
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโครงการพระราชดำาริ<br />
ที่สำาคัญ ๆ ให้กับผู้ประกอบการวิทยุชุมชนทั่วประเทศกว่า<br />
๒๕๐ สถานี เพื่อเผยแพร่ออกอากาศให้ประชาชนในชุมชน<br />
ได้รับทราบ เข้าใจ และร่วมสำานึกในพระมหากรุณาธิคุณ<br />
กรมราชองครักษ์<br />
- ถวายความปลอดภัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว,<br />
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ, สมเด็จ<br />
พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, สมเด็จพระเจ้า<br />
ลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี, พระเจ้า<br />
หลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และพระเจ้าหลานเธอ<br />
พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ตามกำาหนดการเสด็จฯ<br />
และถวายความปลอดภัยประจำาเขตพระราชฐาน และ<br />
ที่ประทับตลอดห้วงระยะเวลา โดยแบ่งเป็นในพื้นที่<br />
กรุงเทพมหานคร จำานวน ๓๙๗ ครั้ง, พื้นที่ต่างจังหวัด<br />
จำานวน ๕๗ ครั้ง และพื้นที่ต่างประเทศ จำานวน ๖ ครั้ง<br />
ในส่วนของการประชุมตรวจพื้นที่ เพื่อเตรียมการเสด็จฯ<br />
จำานวน ๘๔ ครั้ง และมีการขอรับการสนับสนุนชุดตรวจ<br />
ทางเทคนิคจา<strong>กห</strong>น่วยต่าง ๆ จำานวน ๙๑ ครั้ง นอกจากนี้<br />
ยังมีการปฏิบัติตามพระราชประสงค์ โดยสรุปข่าวด้าน<br />
ความมั่นคงทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ<br />
สยามบรมราชกุมารี จำานวน ๓ ครั้ง<br />
กองบัญชาการกองทัพไทย<br />
- จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์<br />
พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา<br />
๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๑ - ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๕<br />
ซึ่งได้จัดกิจกรรมเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กพิการทางสมอง<br />
และปัญญา ณ สถานสงเคราะห์เด็กพิการทางสมองและ<br />
ปัญญา (บ้านราชาวดี ชาย) อำาเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี,<br />
กิจกรรมลงนามถวายพระพร ณ กองบัญชาการกองทัพไทย<br />
44 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
และพื้นที่รับผิดชอบ และกิจกรรมถวายสังฆทาน และบำาเพ็ญ<br />
สาธารณประโยชน์ เช่น พัฒนาพื้นที่วัดและถวายสังฆทาน<br />
ณ วัดเวฬุวนาราม เขตดอนเมือง เมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม<br />
๒๕๕๕ ดำาเนินการพัฒนาและทาสีรั้ว กำาแพง ศาลา และ<br />
วิหาร ณ วัดสีกัน เขตดอนเมือง เมื่อวันที่ ๓๑ กรกฎาคม<br />
๒๕๕๕ พัฒนาพื้นที่บริเวณวัดเทียนถวาย ตำาบลบ้านใหม่<br />
อำาเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๕<br />
ซึ่งข้าราชการ และประชาชนทั่วไปได้มีส่วนร่วมแสดงออกถึง<br />
ความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นศูนย์รวม<br />
จิตใจของคนไทยทั้งประเทศ<br />
- จัดทำาสารคดีและบทความเทิดทูนสถาบันพระมหา<br />
กษัตริย์ ในห้วงกันยายน ๒๕๕๔ - ตุลาคม ๒๕๕๕ โดยออก<br />
อากาศในรายการที่รับผิดชอบ คือ การเผยแพร่พระบรม<br />
ราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้จัดทำาสปอต<br />
วิทยุ, เผยแพร่โครงการพระราชดำาริต่าง ๆ ด้วยการสัมภาษณ์<br />
ผู้เกี่ยวข้อง, เผยแพร่หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และ<br />
โครงการกล้าแผ่นดินด้วยเศรษฐกิจพอเพียงตามหลักปรัชญา<br />
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งนี้ประชาชนได้รับทราบ<br />
พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว<br />
ทางรายการวิทยุช่วงหลังเคารพธงชาติเวลา ๑๘.๐๐ น. และ<br />
๑๗.๓๐ น. ทางวิทยุสื่อสารช่อง ๑๐๑ และช่อง ๑๐๓ ตาม<br />
ลำาดับ นอกจากนี้ ยังได้มีการตรวจสอบเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม<br />
โดยรวบรวมรายชื่อเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการละเมิด และ/<br />
หรือหมิ่นสถาบัน เพื่อแจ้งให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ<br />
และการสื่อสารดำาเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป<br />
- จัดทำาสารคดีเฉลิมพระเกียรติเชิงความรู้และ<br />
ประวัติศาสตร์ “ตามรอยเสด็จ” ระหว่างเดือนกรกฎาคม -<br />
กันยายน ๒๕๕๕ ซึ่งจะทำาการผลิตและเผยแพร่ออกอากาศ<br />
ทางสถานีโทรทัศน์ จำานวน ๔๐ ตอน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ<br />
มุ่งให้ประชาชนได้รับความรู้ที่ถูกต้องถึงพระราชกรณียกิจ<br />
ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์<br />
พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยาม<br />
มกุฎราชกุมาร<br />
กองทัพบก<br />
- ปฏิบัติภารกิจการถวายความปลอดภัย การถวาย<br />
พระเกียรติ และปฏิบัติตามพระราชประสงค์ จำานวน<br />
๒๗ ครั้ง รวม ๘๖๒ ภารกิจ<br />
กองทัพเรือ<br />
- ถวายความปลอดภัย ถวายพระเกียรติ และปฏิบัติ<br />
ตามพระราชประสงค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จ<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
45
พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพ<br />
รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำาเนิน<br />
ทางชลมารคโดยเรืออังสนาซึ่งกองทัพเรือจัดถวายเป็นเรือ<br />
พระที่นั่ง ไปทรงเปิดโครงการชลประทานอันเนื่องมาจาก<br />
พระราชดำาริ ๕ โครงการ ที่กรมชลประทานสามเสน โดยมี<br />
พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ<br />
และคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือ เฝ้าฯ รับเสด็จ<br />
เมื่อวันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๕<br />
- จัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในงานพระราชพิธี<br />
เสด็จพระราชดำาเนินถวายผ้ากฐิน เนื่องในโอกาสพระราชพิธี<br />
มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ <strong>รอบ</strong> ๕ ธันวาคม ๒๕๕๕<br />
เมื่อ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๕<br />
- เผยแพร่บทความและข่าวสารเทิดทูนสถาบัน<br />
พระมหากษัตริย์ทางเว็บไซต์ (Website) พร้อมทั้งจัดการ<br />
อบรมให้กำาลังพลได้รับทราบถึงพระเกียรติคุณและพระ<br />
มหากรุณาธิคุณขององค์พระมหากษัตริย์อย่างต่อเนื่อง<br />
นอกจากนี้ยังได้มีการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสาร<br />
ที่มีผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และเฝ้าตรวจ<br />
และรายงานหากพบเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาสาระที่เป็นการหมิ่น<br />
สถาบันพระมหากษัตริย์<br />
กองทัพอากาศ<br />
- ถวายการบินรับ - ส่งเสด็จฯ พระบาทสมเด็จ<br />
พระเจ้าอยู่หัว, สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ<br />
พระบรมวงศานุวงศ์ และผู้แทนพระองค์ โดยอากาศยาน<br />
พระราชพาหนะที่กองทัพอากาศจัดถวาย รวมทั้งเตรียมพร้อม<br />
ในการแปรพระราชฐาน จัดเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมการปฏิบัติ<br />
หน้าที่ชุดเฝ้าตรวจทางอากาศที่วังไกลกังวล อำาเภอหัวหิน<br />
46 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
รักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างสมพระเกียรติ รวมถึง<br />
สนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำาริอย่าง<br />
เต็มความสามารถ ได้แก่<br />
๑) จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาส<br />
เฉลิมพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษา พระบาทสมเด็จ<br />
พระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐<br />
พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ<br />
และ กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ<br />
สยามมกุฎราชกุมาร<br />
๒) ร่วมกับมูลนิธิ ๕ ธันวามหาราช จัดกิจกรรม<br />
เทิดพระเกียรติ ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง<br />
๓) จัดกิจกรรมในงานกาชาด<strong>ปี</strong> พ.ศ.๒๕๕๕ ณ ลาน<br />
พระที่นั่งอัมพรสถาน<br />
๔) จัดคอนเสิร์ตทัพฟ้าคู่ไทยเพื่อชัยพัฒนา<br />
๕) สนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำาริ<br />
ได้แก่ โครงการฝนหลวง โครงการข้าวกล้องแรกผลิ โครงการ<br />
อนุรักษ์หอยตลับ<br />
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นอกจากนี้ ยังได้ถวายความปลอดภัย<br />
ให้แก่พระบรมวงศานุวงศ์ที่เสด็จพระราชดำาเนินในพื้นที่<br />
ท่าอากาศยาน กองบัญชาการกองทัพอากาศ และกองบินต่าง ๆ<br />
รวมทั้งถวายความปลอดภัย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ<br />
สยามมกุฎราชกุมารเสด็จทรงฝึกบิน ณ ท่าอากาศยาน<br />
กองบัญชาการกองทัพอากาศ และกองบินต่าง ๆ<br />
- กำาหนดแนวทางการปฏิบัติเมื่อพบการโพสต์ข้อความ<br />
ที่เกี่ยวข้องกับการหมิ่นสถาบันฯ และสนับสนุนและ<br />
ดำาเนินการอันแสดงออกถึงความจงรักภักดี เทิดทูน พิทักษ์<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
47
๒. พัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพ<br />
ของกองทัพและระบบป้องกันประเทศ<br />
๒.๑ การเตรียมกำลังและใช้กำลัง<br />
ในการป้องกันประเทศและการรักษาความ<br />
มั่นคงภายใน<br />
กองบัญชาการกองทัพไทย<br />
- การจัดทำาข้อมูลเพื่อการแก้ไขปัญหาพื้นที่วิกฤติ<br />
บริเวณชายแดน ไทย - ลาว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำาเนินการ<br />
ปรับแผนงานเป็นการประชุมสัมมนาเพื่อปรับปรุงข้อมูลเพื่อ<br />
การแก้ไขปัญหาพื้นที่วิกฤติบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา<br />
- แก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้/การติดตาม<br />
และประเมินยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดน<br />
ภาคใต้/จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง แนวทาง<br />
การดำาเนินงานของกองทัพไทยในการสนับสนุนการแก้ไข<br />
ปัญหาความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อ ๘ -<br />
๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕<br />
- ฝึกร่วมระหว่างเหล่าทัพ คือ การฝึกร่วมทางบก<br />
กองการฝึก กองเรือยุทธการ ๕๕ โดยดำาเนินการฝึกกองหนุน<br />
กองทัพไทย ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ การฝึกเฮลิคอปเตอร์<br />
กองทัพบก ขึ้น - ลง บนเรือหลวงจักรีนฤเบศร และการฝึก<br />
ป้องกันภัยทางอากาศ และการฝึกร่วม/ผสม กับมิตรประเทศ<br />
คือ การฝึกปฏิบัติการรักษาสันติภาพ พิราบ - จาบิรู ๒๐๑๒<br />
โดยกองทัพไทยและกองทัพออสเตรเลีย ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ<br />
เมื่อวันที่ ๑๑ - ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๕<br />
48 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
49
50 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
กองทัพบก<br />
- ดำาเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรอง<br />
สิ่งประดิษฐ์ทางทหาร มีอำานาจหน้าที่ที่สำาคัญในการ<br />
พิจารณากลั่นกรองสิ่งประดิษฐ์ทางทหารที่มีความเหมาะสม<br />
ในการผลิตทดลองใช้งาน และประเมินผลงานสิ่งประดิษฐ์<br />
ทางทหาร ก่อนที่จะนำาเข้าสู่กระบวนการนำาผลงานสิ่งประดิษฐ์<br />
ทางทหารผลิตใช้งาน ในกองทัพบกต่อไป<br />
กองทัพเรือ<br />
- ดำาเนินการเตรียมกำาลังและใช้กำาลังในการป้องกัน<br />
ประเทศและการรักษาความมั่นคงภายใน โดยพัฒนา<br />
ยุทโธปกรณ์ที่มุ่งเน้นสนับสนุนอุตสาหกรรมในประเทศ<br />
ด้านการปรับปรุงโครงสร้างกองทัพมีการเสนอปรับโครงสร้าง<br />
กำาลังพลของฝ่ายส่งกำาลังบำารุงให้คณะพิจารณาปรับปรุง<br />
โครงสร้างศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือทราบ เพื่อให้มี<br />
ความเหมาะสมและสอดคล้องกับภารกิจและระบบงานของ<br />
ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือในปัจจุบัน<br />
- ดำาเนินการฝึกอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ขัดแย้ง<br />
เมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ณ กองการบินทหารเรือ กอง<br />
เรือยุทธการ และฝึกร่วมกับเครื่องบินรบ Gripen ในการฝึก<br />
ปฏิบัติการร่วม กองการฝึกกองเรือยุทธการ ๕๕ ณ หาดยาว<br />
เมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๕, จัดการฝึกระดมสรรพกำาลัง<br />
เพื่อการทหารในการฝึกภาคสนาม/ทะเล ในการฝึกกองทัพ<br />
เรือ ๕๕, จัดกำาลังพลร่วมการฝึกปัญหาที่บังคับการ CPX 1<br />
ในการฝึก ด้านส่งกำาลังบำารุงการฝึกร่วม <strong>ปี</strong> ๕๕ สำาหรับการ<br />
ฝึกด้านการส่งกำาลังบำารุงร่วมกับกองทัพไทย, กองทัพบก<br />
และกองทัพอากาศ ประจำา<strong>ปี</strong>งบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๕<br />
- ดำาเนินการจัดกำาลังพลประชุมวางแผนขั้นต้นสำาหรับ<br />
การฝึกร่วม/ผสมคอบร้าโกลด์ ๑๓ เมื่อวันที่ ๑๓ - ๑๗<br />
สิงหาคม ๒๕๕๕ ณ โรงแรมอิมพีเรียล ควีนสปาร์ค กรุงเทพฯ,<br />
การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย -<br />
กัมพูชา ครั้งที่ ๑๓ (RBC - 13), ประชุมกองเลขานุการคณะ<br />
กรรมการชายแดนทั ่วไป เมื่อวันที่ ๑๕ - ๑๗ พฤษภาคม<br />
๒๕๕๕ ณ โรงแรมนิวแทรเวิลลอด์จ อำาเภอเมือง จังหวัด<br />
จันทบุรี, ประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค เมื่อ ๓๐<br />
พฤษภาคม - ๑ มิถุนายน ๒๕๕๕ ณ โรงแรมแอมบาสเดอร์ซิตี้<br />
จอมเทียน อำาเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี, ประชุม Navy<br />
to Navy Strategy Talks ครั้งที่ ๗ ร่วมกับกองทัพเรือ<br />
ออสเตรเลีย ณ เมืองซิดนีย์ เมื่อวันที่ ๕ - ๑๐ สิงหาคม<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
51
๒๕๕๕, เข้าร่วมสังเกตการณ์ฝึกยกพลขึ้นบกของนาวิกโยธิน<br />
อินโดนีเซีย ณ ชายหาด Caligi เมืองลัมปุง เกาะสุมาตรา<br />
เมื่อวันที่ ๑๕ - ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๕๕, จัดการประชุมคณะ<br />
ทำางานร่วมกองทัพเรือ - กองทัพเรือสิงคโปร์ เมื่อวันที่ ๒๓<br />
- ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ณ จังหวัดภูเก็ต<br />
- ดำาเนินการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ให้เป็นไปตาม<br />
ความจำาเป็นและความต้องการตามยุทธศาสตร์กองทัพเรือ<br />
พ.ศ.๒๕๕๑ - ๒๕๖๐ โดยมุ่งเน้นการถ่ายทอดเทคโนโลยี<br />
และการพึ่งพาตนเองเป็นหลัก<br />
- ปรับปรุงโครงสร้างกองทัพโดยการจัดกำาลังทางเรือ<br />
ของทัพเรือภาค ด้วยการพิจารณา ทบทวน และปรับปรุง<br />
แนวทางการดำาเนินการให้เหมาะสม สอดคล้องกับโครงการ<br />
ปรับปรุง และซ่อมทำาเรือของกองทัพเรือ และจัดหน่วย<br />
เฉพาะกิจของกองทัพเรือให้เหมาะสม สอดคล้องกับ<br />
สถานการณ์ในปัจจุบัน รวมทั้งปรับปรุงและแก้ไขคำาสั่ง<br />
การจัดและวางกำาลังเพื่อป้องกันและรักษาผลประโยชน์<br />
ของชาติให้ทันสมัยและใช้งานได้จริง<br />
- ดำาเนินการพัฒนาการต่อต้านการข่าวกรอง ด้วย<br />
การจัดหาเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเหมาะสมตามแผนที่ได้<br />
กำาหนดไว้ ได้แก่ การพัฒนาระบบสารสนเทศการแลกเปลี่ยน<br />
ข่าวสาร โดยการเช่าวงจรสัญญาณและบริการอินเทอร์เน็ต<br />
แบบสายเช่า (Leased Line) รวมทั้งพัฒนาระบบติดตาม<br />
และแสดงพิกัดตำาบลที่ของสถานการณ์และเหตุการณ์ข่าว<br />
สามมิติ เพื่อสนับสนุนหน่วยปฏิบัติการและหน่วยวางแผน<br />
ด้านการข่าวทางทะเลทั้งทางด้านอ่าวไทยและฝั่งทะเล<br />
อันดามัน ได้แก่ การรายงานข่าวและการแจ้งเตือน, พัฒนา<br />
ระบบงานสืบสวน และรักษาความปลอดภัยทางลับ โดย<br />
อยู่ในระหว่างการจัดหากล้อง DSLR, กล้องมองในที่มืด<br />
(Nightvisions), เครื่องตรวจ จับกล้องแอบถ่ายและดักฟัง,<br />
พัฒนาระบบการจัดเก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ในการปฏิบัติงาน<br />
ของหน่วยเพื่อสำารองการใช้งาน, อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล<br />
คอมพิวเตอร์ต่อเชื่อมแบบภายนอก (External Hard disk),<br />
จัดหาอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบไร้สาย (Air Card)<br />
- ดำาเนินการฝึกร่วมระหว่างเหล่าทัพ โดยทบทวนปรับปรุง<br />
การฝึกของกองทัพเรือ และการฝึกร่วมกับเหล่าทัพอื่นให้<br />
สอดคล้องกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นหรือเปลี่ยนแปลงไป<br />
โดยเฉพาะในสภาวะแวดล้อมด้านความมั่นคงทางทะเลใน<br />
ปัจจุบัน ที่มีความขัดแย้งและมีแนวโน้มการใช้กำาลังที่จะทวี<br />
ความรุนแรงมากขึ ้น เพื่อให้การแก้ปัญหาเป็นไปด้วยความ<br />
รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ<br />
52 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
กองทัพอากาศ<br />
- ดำาเนินโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์<br />
ทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบที่ ๑๘ ก/ข (ระยะที่ ๒) เพื่อ<br />
การจัดหาเครื่องบิน Gripen 39 C/D จำานวน ๖ เครื่อง เข้า<br />
ประจำาการที่ ฝูงบิน ๗๐๑ ให้ครบ ๑๒ เครื่อง<br />
- ดำาเนินโครงการปรับปรุงขีดความสามารถเครื่องบิน<br />
ขับไล่แบบที่ ๑๙/ก ระยะที่ ๓ ช่วงที่ ๑ (Mid-Life Update :<br />
MLU) เพื่อปรับปรุงขีดความสามารถระบบ Avionics ระบบ<br />
อาวุธ และระบบป้องกันตนเองของเครื่องบินขับไล่แบบที่<br />
๑๙/ก (F-16 A/B) ฝูงบิน ๔๐๓ จำานวน ๖ เครื่อง รวมทั้ง<br />
จัดหาอะไหล่ อุปกรณ์สนับสนุน และการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่<br />
เพื่อให้เครื่องบินขับไล่แบบที่ ๑๙/ก มีประสิทธิภาพในการ<br />
ปฏิบัติการทางอากาศได้สูงขึ้น สามารถใช้อาวุธที่ทันสมัย มี<br />
ความแม่นยำาสูงและระยะยิงไกล มีระบบป้องกันตนเองที่มี<br />
ประสิทธิภาพ สามารถปฏิบัติการได้ทุกสภาพอากาศทั้งใน<br />
เวลากลางวันและกลางคืน<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
53
- ดำาเนินโครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ขนาดกลาง<br />
สำาหรับค้นหาและช่วยชีวิตในพื้นที่การรบ ช่วงที่ ๑ จำานวน<br />
๔ เครื่อง ทดแทนเฮลิคอปเตอร์ปฏิบัติภารกิจค้นหาและช่วย<br />
ชีวิตเดิมที่ประจำาการอยู่ พร้อมเครื่องช่วยฝึก อะไหล่ อุปกรณ์<br />
ค้นหาและช่วยชีวิต อาคารสถานที่ และการฝึกเจ้าหน้าที่ เพื่อ<br />
ให้กองทัพอากาศดำารงศักยภาพและขีดความสามารถในการ<br />
ค้นหาและช่วยชีวิตในภาพรวมทั้งทางทหารและพลเรือน ใน<br />
ฐานะเป็นหน่วยหลักด้านกำาลังทางอากาศของประเทศไว้<br />
พร้อมกับมุ่งพัฒนาเสริมสร้างสู่ความเป็นสากลก้าวสู่ระดับ<br />
ภูมิภาค<br />
- ดำาเนินโครงการพัฒนาระบบควบคุมและแจ้งเตือน<br />
การป้องกันทางอากาศ (Air Command and Control<br />
System : ACCS PHASE II) (ระยะที่ ๒) ช่วงที่ ๒ เพื่อพัฒนา<br />
ระบบบัญชาการและควบคุม (Command and Control)<br />
ให้ได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นระบบหลักในการใช้กำาลัง<br />
ทางอากาศ และการป้องกันทางอากาศ ตลอดจนการรับ - ส่ง<br />
ข้อมูลแลกเปลี่ยนข่าวสารที่เกี่ยวข้องให้กับเหล่าทัพอื่น เพื่อ<br />
ใช้ในการป้องกันภัยทางอากาศโดยรวมของประเทศ<br />
- ดำาเนินโครงการพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลทาง<br />
ยุทธวิธี (Tactical Data Link : TDL) (ระยะที่ ๒) ช่วงที่ ๒<br />
เพื่อจัดหาระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธีสำาหรับกองทัพ<br />
อากาศ พร้อมติดตั้งอุปกรณ์เชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธี<br />
สำาหรับหน่วยภาคพื้นในพื้นที่ตอนกลางของประเทศให้<br />
ครบถ้วนสมบูรณ์ตามความต้องการของหน่วย<br />
- ดำาเนินการปรับปรุงโครงสร้างการจัดและอัตรา<br />
กองทัพอากาศ (เพื่อพราง) เพื่อรองรับระบบการใช้กำาลัง<br />
กองทัพอากาศและจัดให้มีการพัฒนาปรับปรุงหลักสูตร<br />
สายวิทยาการด้านการข่าว เพื่อรองรับการปฏิบัติการที่ใช้<br />
เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง (Network Centric Operation : NCO)<br />
พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ เข้ารับกา<strong>รอบ</strong>รมในโอกาสต่าง ๆ ทั้งใน<br />
ประชาคมข่าวกรองของประเทศ และต่างประเทศ นอกจากนี้<br />
54 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
ยังมีการฝึกร่วมเหล่าทัพ พ.ศ.๒๕๕๕ และการฝึกร่วม/ผสม<br />
กับมิตรประเทศ ได้แก่ การฝึกร่วม/ผสม Cobra Gold การ<br />
ฝึกผสม Cope Tiger, การฝึกผสม Balance Torch การฝึก<br />
ผสม AIR THAMAL, การฝึกผสม Pitch Black และการฝึก<br />
ผสม Red Flag Alaska และการฝึก LION EFFORT 2012<br />
รวมทั้งจัดโครงการต่าง ๆ เพื่อรองรับยุทธศาสตร์กองอำานวย<br />
การรักษาความมั่นคงภายใน ได้แก่ ๑) โครงการเยาวชนไทย<br />
ใต้ฟ้าเดียวกัน, ๒) โครงการชุมชนสัมพันธ์, ๓) โครงการ<br />
พิทักษ์ประชาชนและทรัพยากร และ ๔) โครงการสานใจ<br />
เด็กไทยของชาติ<br />
๒.๒ เทคโนโลยีสารสนเทศและอวกาศ<br />
สำานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
- ดำาเนินการพัฒนาระบบเครือข่ายสื่อสาร และเทคโนโลยี<br />
สารสนเทศ โดยการพัฒนาระบบงานสารสนเทศ และบำารุง<br />
รักษาระบบงาน รวมถึงเครือข่ายให้สามารถใช้งานได้อย่าง<br />
มีประสิทธิภาพ รวมทั้งการพัฒนาระบบโทรคมนาคมทหาร<br />
โครงข่ายหลักด้วยการพัฒนาระบบสื่อสารให้มีขีดความ<br />
สามารถในการ รับ - ส่งข้อมูลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น<br />
- ดำาเนินโครงการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ<br />
เพื่อการบริหารราชการทั่วไป (ระยะที่ ๒) วัตถุประสงค์เพื่อ<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
55
จัดหาครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ประกอบทดแทน<br />
ให้กับหน่วยขึ้นตรงที่มีการจัดหาตั้งแต่<strong>ปี</strong> ๒๕๔๕ เพื่อพัฒนา<br />
ระบบอินเทอร์เน็ตและอินทราเน็ตของกระทรวงกลาโหม ให้<br />
เป็นลักษณะเว็บท่า (Web Portal) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ<br />
ในการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็น<br />
มาตรฐานเดียวกัน และเพื่อปรับปรุงพัฒนาห้องฝึกอบรม<br />
คอมพิวเตอร์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น<br />
- ดำาเนินโครงการวางระบบเครือข่ายการสื่อสารหลัก<br />
(Backbone) ส่วนเพิ่มเติมของกระทรวงกลาโหม ระยะที่ ๑<br />
วัตถุประสงค์เพื่อติดตั้งอุปกรณ์เชื่อมต่อความเร็วสูงเข้ากับ<br />
แกนสายใยแก้ว นำาแสงที่ได้รับสิทธิการใช้งานจา<strong>กห</strong>น่วยงาน<br />
รัฐวิสาหกิจ จำานวน ๒ แกน ในบริเวณภาคกลางบางส่วน<br />
และภาคตะวันออก และทำาเครือข่ายย่อยไปยังหน่วยทหาร<br />
ในพื้นที่สัตหีบ และจัดทำาเครือข่ายย่อยไปยังหน่วยทหารทุก<br />
เหล่าทัพ ระดับกองพล กองเรือภาคและกองบิน ในบริเวณ<br />
ภาคตะวันออกที่เหลือ รวมทั้งดำาเนินการติดตั้งอุปกรณ์เชื่อม<br />
โยงความเร็วสูงเข้ากับแกนสายใยแก้วนำาแสงที่ได้รับสิทธิการ<br />
ใช้งานจา<strong>กห</strong>น่วยงานรัฐวิสาหกิจ จำานวน ๒ แกน ในบริเวณ<br />
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จัดทำาเครือข่ายย่อยไป<br />
ยังหน่วยทหารในพื้นที่ภาคกลางบางส่วน รวมทั้งเพื่อติดตั้ง<br />
อุปกรณ์เชื่อมโยงความเร็วสูงเข้ากับแกนสายใยแก้วนำาแสง<br />
ที่ได้รับสิทธิการใช้งานจา<strong>กห</strong>น่วยงานรัฐวิสาหกิจจำานวน<br />
๒ แกน ในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน<br />
และจัดทำาเครือข่ายย่อยไปยังหน่วยทหารในพื้นที่ภาค<br />
ตะวันออกเฉียงเหนือส่วนที่เหลือ<br />
- โครงการพัฒนาห้องปฏิบัติการกรรมวิธีข้อมูลภาพถ่าย<br />
ดาวเทียมเพื่อความมั่นคงของกระทรวงกลาโหม โครงการ<br />
ผูกพันงบประมาณ ระยะเวลาดำาเนินงาน ๓ <strong>ปี</strong> (<strong>ปี</strong> ๕๖ - ๕๘)<br />
โดยมีวัตถุประสงค์ ได้แก่<br />
๑) เพื่อเป็นการวางรากฐานในการปฏิบัติการกรรมวิธี<br />
ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมจากการรับสัญญาณจากดาวเทียม<br />
ทั้งจากระบบ Optical และ Radar, การผลิตข้อมูลจาก<br />
ห้องปฏิบัติการ และมีคลังข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม สำาหรับ<br />
ใช้ในการปฏิบัติการทางทหาร และการปฏิบัติการทางทหาร<br />
ที่มิใช่สงคราม (MOOTW) ตลอดจนสามารถนำาไปประยุกต์ใช้<br />
ในงานด้านการพัฒนาประเทศด้านอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ<br />
โดยมีการผลิตภาพถ่ายดาวเทียมที่สามารถแสดงพื้นที่<br />
ได้อย่างค<strong>รอบ</strong>คลุม ถูกต้อง และทันสมัย ในลักษณะพร้อม<br />
ใช้งานผ่านระบบเครือข่ายการสื่อสารหลักของกระทรวงกลาโหม<br />
๒) เพื่อพัฒนาฐานข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมที ่มี ให้<br />
เป็นคลังจัดเก็บข้อมูล (Data Archive) ที่สามารถจัดเก็บ<br />
ข้อมูลจำานวนมาก โดยมีการจัดเก็บข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม<br />
รายละเอียดสูงรูปแบบต่าง ๆ ทั้งในระบบ Optical และ<br />
Radar และ<br />
๓) เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรของ<br />
กระทรวงกลาโหม ให้มีศักยภาพที่สูงขึ้นในการปฏิบัติการ<br />
กรรมวิธีข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมสามารถพึ่งพาตนเองได้<br />
ลดการพึ่งพาจากต่างประเทศ เพื่อให้เกิดความทัดเทียมกับ<br />
นานาอารยประเทศ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการจัดทำาร่าง<br />
ขอบเขตของงาน (Terms Of Reference : TOR)<br />
กองทัพอากาศ<br />
- ได้พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร<br />
ให้เป็นส่วนหนึ่งของการใช้กำาลัง และการเตรียมกำาลังทาง<br />
อากาศตามก<strong>รอบ</strong>เป้าหมาย ระยะที่ ๒ พ.ศ.๒๕๕๕ - ๒๕๕๘<br />
โดยให้กองทัพอากาศ เป็นเครือข่ายศูนย์กลาง (Network<br />
Centric Air Force : NCAF) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่าย<br />
ข้อมูลและการใช้เทคโนโลยี ในการสนับสนุนการปฏิบัติทาง<br />
อากาศ ให้สามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว ทันเวลา<br />
และปลอดภัยตามสถานการณ์ ดังนี้<br />
๑. ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร<br />
ในการพัฒนากองทัพอากาศให้เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้<br />
อย่างต่อเนื่องยั่งยืนมุ่งสู่สังคมฐานความรู้ (Knowledge<br />
Based Society) โดยจัดสร้างระบบบริหารจัดการความรู้<br />
กองทัพอากาศ (Knowledge Management) เพื่อเป็น<br />
ศูนย์กลางความรู้กองทัพอากาศ (RTAF Knowledge<br />
Center) และศูนย์การเรียนรู้ (Learning Center)<br />
56 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
๒. พัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธี (Tactical<br />
Data Link : TDL) ระยะที่ ๒ โดยกำาหนดแนวคิดการปฏิบัติ<br />
ภารกิจของระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธี เพื่อรองรับการ<br />
ปฏิบัติการที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง (Network Centric<br />
Operation : NCO) บนพื้นฐานของการพึ่งพาตนเอง<br />
๓. บูรณาการเครือข่าย ทั้งเครือข่ายหลักและ<br />
เครือข่ายรอง ให้สามารถใช้งานได้ในทุกมิติ เพื่อให้ระบบ<br />
สารสนเทศและการสื่อสารกองทัพอากาศใช้งานได้อย่าง<br />
มีประสิทธิภาพและปลอดภัย รวมถึง ให้สามารถเชื่อมโยง<br />
ร่วมกับกองบัญชาการกองทัพไทยและเหล่าทัพอื่น ตลอด<br />
จนบูรณาการเครือข่ายและระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์<br />
(Geographic Information System : GIS) ของกองทัพ<br />
อากาศให้เชื่อมโยง ทั้งระบบ (Total Integration) เพื่อให้<br />
หน่วยเกี่ยวข้องสามารถใช้ประโยชน์ได้ในทุกมิติ<br />
๔. พัฒนาขีดความสามารถด้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์<br />
(Electronic Warfare : EW) ทั้งด้านบุคลากร เทคโนโลยี<br />
และฐานข้อมูล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานด้าน<br />
สงครามอิเล็กทรอนิกส์ และสนับสนุนการปฏิบัติการที่ใช้<br />
เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง (NCO)<br />
๒.๓ การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก<br />
สำานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
- โครงการทหารผ่านศึกน้อมเกล้าฯ ปฏิบัติธรรม<br />
เฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา องค์จอมทัพไทย โดย<br />
จัดข้าราชการและประชาชนร่วมฟังธรรมเทศนาและปฏิบัติ<br />
ธรรม ณ วัดชัยมงคล กรุงเทพฯ, วัดดอยกองข้าว จังหวัด<br />
เชียงราย, วัดปราสาทแก้ว จังหวัดสุรินทร์, วัดป่าสันติธรรม<br />
จังหวัดสกลนคร, วัดเจริญธรรม จังหวัดลพบุรี, วัดพิชัย<br />
จังหวัดลำาปาง, วัดโยธานิมิต จังหวัดอุดรธานี, พุทธสถาน<br />
ค่ายสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี มัสยิดการาหมาด<br />
บ้านหัวทะเล จังหวัดนครศรีธรรมราช, วัดโบสถ์เมือง<br />
จังหวัดจันทบุรี และวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม<br />
จังหวัดราชบุรี ในการนี้มีผู้เข้าร่วมโครงการฯ ทั้งสิ้นประมาณ<br />
๒,๐๐๐ คน<br />
- ดำาเนินการช่วยเหลือทหารผ่านศึก ค<strong>รอบ</strong>ครัว<br />
ทหารผ่านศึก และทหารนอกประจำาการในด้านต่าง ๆ อาทิ<br />
ด้านสวัสดิการ, ด้านรักษาพยาบาล, ด้านการฝึกอบรม<br />
วิชาชีพและจัดหางาน, ด้านการให้สินเชื่อ และด้านนิคม<br />
เกษตรกรรม นอกจากนี้ยังให้การช่วยเหลือในด้านการให้<br />
คำาปรึกษาและแนะนำา,งานเยี่ยมเยียนทหารผ่านศึก, ตรวจ<br />
เยี่ยมทหารผ่านศึก, งานบัตรประจำาตัวทหารผ่านศึก และ<br />
งานอำานวยความสะดวกให้แก่ทหารผ่านศึก<br />
๒.๔ การบริหารจัดการการป้องกัน<br />
ประเทศ<br />
กองทัพบก<br />
- ดำาเนินการรวบรวมข้อมูลข่าวสารเพื่อวิเคราะห์จัดทำา<br />
เป็นสรุปข่าวต่างประเทศ, ประจำาวัน, ประจำาเดือน, สรุป<br />
ความเคลื่อนไหวสถานการณ์ต่างประเทศ, ประมาณการแจ้ง<br />
เตือนทางยุทธศาสตร์ เพื่อแจกจ่ายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง<br />
- ดำาเนินการขยายและส่งเสริมบทบาทความร่วมมือ<br />
ด้านการข่าว ด้วยการจัดบรรยายพิเศษ ในประเด็นที่<br />
เกี่ยวข้องกับความมั่นคงโดยวิทยากรชาวต่างประเทศ และ<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
57
การเข้าร่วมการประชุมสัมมนากับหน่วยงาน/องค์กรภายใน<br />
ประเทศเพื่อเพิ่มพูนความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์<br />
กองทัพเรือ<br />
- จัดการสัมมนาทบทวนการประเมินขีดความสามารถ/<br />
ขีดสมรรถนะ ประจำา<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๒๕ -<br />
๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๕, จัดการสัมมนาการปรับปรุงสัดส่วน<br />
การบรรจุกำาลังพลให้เหมาะสมกับโครงสร้างกองทัพเรือ เมื่อ<br />
วันที่ ๓๐ พฤษภาคม - ๑ มิถุนายน ๒๕๕๕ และจัดส่งผู้แทน<br />
หน่วยเข้าร่วมสัมมนาแนวทางการพัฒนากำาลังพล ตามหลัก<br />
ขีดสมรรถนะ และการจัดทำาโครงการศึกษาของกองทัพเรือ<br />
ประจำา<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๒๒ - ๒๔ กุมภาพันธ์<br />
๒๕๕๕<br />
กองทัพอากาศ<br />
- ดำาเนินการพัฒนางานด้านการกำาลังพล โดยการ<br />
ปรับขนาด (Rightsizing) และพิจารณาทบทวนก<strong>รอบ</strong>อัตรา<br />
กำาลังพลที่เหมาะสม ตามภารกิจ และโครงสร้างของหน่วย,<br />
ส่งเสริมการจ้างเหมาจากภายนอก (Outsource) ในบางภารกิจ<br />
เพื่อความเหมาะสมและการใช้ประโยชน์กำาลังพลให้คุ้มค่า,<br />
การหาหนทางปฏิบัติในการแปรสภาพข้าราชการบางจำาพวก<br />
ให้เป็นข้าราชการพลเรือนกลาโหม โดยคำานึงถึงคุณสมบัติ<br />
ที่เหมาะสม ทักษะ การถ่ายทอดความรู้ และความก้าวหน้า<br />
ในสายงาน<br />
- ดำาเนินการพัฒนาการศึกษาเรียนรู้ของกำาลังพล<br />
ผ่านโครงการศึกษาและการฝึกอบรม ประชุม สัมมนา<br />
ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยมุ่งเน้น<br />
เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ และความรู้พื้นฐานที่จำาเป็น<br />
ต่อการพัฒนาตามแนวทางการปฏิบัติการที่ใช้เครือข่ายเป็น<br />
ศูนย์กลาง (NCO)<br />
- ดำาเนินการพัฒนาคุณภาพกำาลังพลให้มีวัฒนธรรม<br />
การปฏิบัติงานมุ่งสู่การปฏิบัติการที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง<br />
และปรับพฤติกรรมให้สอดคล้องตามค่านิยมหลักของกองทัพ<br />
อากาศ โดยให้ตระหนักถึงการปลูกฝังความเป็นทหารอาชีพ<br />
ที่เป็นสุภาพบุรุษ รักษาเกียรติ มีวินัย จงรักภักดี มีคุณธรรม<br />
จริยธรรม ซื่อสัตย์ กล้าหาญ เสียสละ มีความสามัคคี<br />
รับผิดชอบต่อหน้าที่และสังคม<br />
- ดำาเนินการพัฒนาและส่งเสริมให้กำาลังพลทุกระดับ<br />
มีทักษะและความรู้ด้านภาษาอังกฤษตามเกณฑ์มาตรฐาน<br />
ที่กองทัพอากาศกำาหนดเพื่อให้สามารถสื่อสารได้อย่างมี<br />
ประสิทธิภาพ โดยจัดกิจกรรมเสริมทักษะความรู้ภาษา<br />
อังกฤษผ่านทางช่องทางต่าง ๆ เช่น หลักสูตรเสริมในหน่วย<br />
ขึ้นตรงกองทัพอากาศและการพัฒนาระบบการเรียนรู้ภาษา<br />
อังกฤษด้วยตนเองผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e - Learning)<br />
- จัดทำาแผนแม่บทการพัฒนาระบบกำาลังสำารอง<br />
ของกองทัพอากาศ พ.ศ.๒๕๕๕ - ๒๕๕๙ โดยพิจารณา<br />
แก้ไข ปรับปรุงสิทธิประโยชน์ของกำาลังพลสำารองที่ได้รับใน<br />
การเข้ารับการเรียกพลเพื่อตรวจสอบ ฝึกวิชาทหาร ทดลอง<br />
ความพรั่งพร้อม และระดมพล เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการ<br />
พิจารณาสิทธิประโยชน์ของกำาลังพลสำารองของกระทรวง<br />
กลาโหมด้านกำาลังพลสำารอง และดำาเนินการเรียกนาย<br />
ทหารสัญญาบัตร/นายทหารประทวน/พลทหารกองหนุน<br />
มารายงานตัว รวมทั้งฝึกอบรมนักศึกษาวิชาทหารกองทัพ<br />
อากาศ ชั้น<strong>ปี</strong>ที่ ๑ - ๕ ประจำา<strong>ปี</strong>การศึกษา ๒๕๕๕<br />
58 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
๒.๕ การระดมสรรพกำลังเพื่อการ<br />
ทหาร<br />
สำานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
- ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานสายงานสัสดีในพื้นที่<br />
กองทัพภาคที่ ๑ และกองทัพภาคที่ ๒ ณ สำานักงานสัสดี<br />
จังหวัด เพื่อรับทราบปัญหาในการปฏิบัติงาน รวมทั้งข้อมูล<br />
และข้อเสนอแนะ โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดจากข้อกฎหมาย<br />
กฎกระทรวง ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ เพื่อนำามาเป็นข้อ<br />
พิจารณาดำาเนินการแก้ไขร่วมกัน ในการประชุมเชิงปฏิบัติ<br />
การสายงานสัสดี<br />
- จัดการประชุมสัมมนาเพื่อพัฒนาระบบกำาลังสำารอง<br />
ของกระทรวงกลาโหม ณ โรงแรมโกลเด้น บีช ชะอำา จังหวัด<br />
เพชรบุรี โดยเชิญผู้แทนจากส่วนราชการทหาร และพลเรือน<br />
เข้าร่วมสัมมนาฯ<br />
- ดำาเนินการสำารวจตรวจสอบข้อมูลทรัพยากรเพื่อ<br />
การระดมสรรพกำาลังในพื้นที่กองทัพภาคที่ ๑ กองทัพ<br />
ภาคที่ ๒ และกองทัพภาคที่ ๓ และนำาข้อมูลทรัพยากรที่ได้<br />
มาสำารวจตรวจสอบและรวบรวม ประกอบด้วยข้อมูลด้าน<br />
กำาลังสำารอง/กำาลังคนที่มีความชำานาญพิเศษ พร้องลงพิกัด<br />
ภูมิศาสตร์ให้มีความถูกต้องทันสมัย โดยมุ่งเน้นรายการ<br />
ทรัพยากรที่สามารถสนับสนุนงานด้านการระดมสรรพกำาลัง<br />
เพื่อเผชิญกับภัยคุกคามด้านต่าง ๆ และได้รับข้อมูล<br />
ทรัพยากรเพื่อการระดมสรรพกำาลังจากส่วนราชการพลเรือน<br />
รัฐวิสาหกิจ รวมทั้งเอกชนที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ๗ ด้าน ประกอบ<br />
ด้วย ด้านอาหาร, ด้านนำ้ำ, ด้านการคมนาคม, ด้านการ<br />
สื่อสาร, ด้านการแพทย์และสาธารณสุข, ด้านอุตสาหกรรม<br />
และปัจจัยการผลิต และด้านเชื้อเพลิงและพลังงาน ตลอดจน<br />
ด้านสิ่งอำานวยความสะดวกและบริการอื่น ๆ มาปรับปรุง<br />
ข้อมูลที่มีอยู่ให้ทันสมัย<br />
- จัดกา<strong>รอบ</strong>รมปรับมาตรฐานเพื่อการฝึกการระดม<br />
สรรพกำาลังเพื่อการทหาร <strong>ปี</strong> ๒๕๕๕ โดยปรับมาตรฐาน<br />
เพื่อการฝึกระดมสรรพกำาลัง เมื่อวันที่ ๑๓ - ๑๖ มีนาคม<br />
๒๕๕๕ ณ โรงแรมโฆษะ จังหวัดขอนแก่น โดยเชิญผู้แทน<br />
หน่วยจากส่วนราชการทหาร และพลเรือนเข้าร่วมประชุม<br />
ซึ่งจากการประชุม ผู้เข้ารับกา<strong>รอบ</strong>รม มีองค์ความรู้ด้านการ<br />
ระดมสรรพกำาลังในเรื่องต่าง ๆ คือ ๑) สถานการณ์ และ<br />
นโยบายด้านความมั่นคงในรูปแบบต่าง ๆ ๒) นโยบายการ<br />
เตรียมพร้อมแห่งชาติ ๓) แผนผนึกกำาลังและทรัพยากร<br />
เพื่อการป้องกันประเทศ ๔) แผนเตรียมพร้อม/บูรณาการ<br />
ด้านทรัพยากร ที่ใช้ในการฝึกฯ ๕) แผนการป้องกัน<br />
และบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ๖) กฎหมายที่เกี่ยวกับด้าน<br />
ความมั่นคงและด้านสาธารณภัย และ ๗) ขบวนการขั้นตอน<br />
และรายละเอียดการปฏิบัติในการฝึกฯ<br />
- ฝึกปัญหาที่บังคับการ (CPX) ด้านการระดมสรรพ<br />
กำาลัง เมื่อวันที่ ๒๔ - ๒๗ เมษายน ๒๕๕๕ ณ โรงเเรมเจริญ<br />
ธานี จังหวัดขอนแก่น โดยเชิญผู้แทนหน่วยจากส่วนราชการ<br />
ทหาร และพลเรือน เข้าร่วม ทำาการฝึกเพื่อนำาแนวทาง<br />
การปฏิบัติงานของหน่วยงานด้านการระดมสรรพกำาลังที่<br />
จัดตั้งขึ้นมาทดลองฝึกซ้อม ร่วมกับศูนย์เตรียมพร้อมด้าน<br />
ทรัพยากรในพื้นที่<br />
- สัมมนาสรุปบทเรียนจากการฝึกการระดมสรรพกำาลัง<br />
เพื่อการทหาร <strong>ปี</strong> ๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๒๓ - ๒๕ พฤษภาคม<br />
๒๕๕๕ ณ โรงแรมนครพนม ริเวอร์วิว จังหวัดนครพนม<br />
โดยเชิญผู้แทนหน่วยจากส่วนราชการทหาร และพลเรือน<br />
เข้าร่วมสัมมนา เพื่อรวบรวมบทเรียนจากการฝึกมา<br />
พิจารณาจัดทำาแนวทางการปฏิบัติงานของหน่วยงานด้าน<br />
การระดมสรรพกำาลังที่จัดตั้งขึ้นร่วมกับศูนย์เตรียมพร้อม<br />
ด้านทรัพยากรในพื้นที่ ในการตอบสนองความต้องการของ<br />
กองทัพไทย และรับทราบปัญหาข้อขัดข้อง และข้อเสนอแนะ<br />
ในแต่ละขั้นตอนของการฝึก แล้วนำามาปรับปรุงและพัฒนา<br />
งานด้านการระดมสรรพกำาลังและการฝึกใน<strong>ปี</strong>ต่อไป<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
59
- ดำาเนินการประชาสัมพันธ์เพื่อการสรรพกำาลังกลาโหม<br />
ครั้งที่ ๓ ในพื้นที่กองทัพภาคที่ ๒ รวม ๔ จังหวัด ได้แก่<br />
จังหวัดกาฬสินธุ์, จังหวัดสกลนคร, จังหวัดนครพนม และ<br />
จังหวัดมุกดาหาร<br />
กองทัพเรือ<br />
- จัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การระดมสรรพ<br />
กำาลังเพื่อการทหาร เมื่อวันที่ ๑๘ - ๒๐ มิถุนายน ๒๕๕๕<br />
ณ จังหวัดภูเก็ต และได้เชิญคณะทำางานจัดทำาแผนระดม<br />
สรรพกำาลังประชุมหารือ เมื่อวันที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๕<br />
เพื่อพิจารณาแนวทางในการจัดทำาแผนระดมสรรพกำาลัง<br />
เพื่อให้สอดคล้องกับแผนผนึกกำาลังและทรัพยากรเพื่อการ<br />
ป้องกันประเทศ พ.ศ.๒๕๕๐ แผนการระดมสรรพกำาลังของ<br />
กระทรวงกลาโหม ๒๕๕๔ และระเบียบปฏิบัติประจำากองทัพ<br />
ไทยว่าด้วยการระดมสรรพกำาลังด้านการส่งกำาลังบำารุง ซึ่ง<br />
ที่ประชุมมีมติว่า การจัดทำาแผนระดมสรรพกำาลังด้านการ<br />
กำาลังพล จะค<strong>รอบ</strong>คลุมเฉพาะกำาลังพลฝีมือหรือผู้เชี่ยวชาญ<br />
ที่ได้เรียกเกณฑ์มาโดยพระราชบัญญัติการเกณฑ์ช่วยราชการ<br />
ทหารเท่านั้น ไม่รวมกำาลังพลสำารองตามบัญชีกำาลังพลสำารอง<br />
ของกำาลังพลกองทัพเรือ<br />
- เชิญหน่วยที่เกี่ยวข้องประชุมเรื ่องแนวทางการ<br />
ทบทวนบัญชีระดมสรรพกำาลัง และจัดทำาแผนระดมสรรพ<br />
กำาลัง ซึ่งให้หน่วยต่าง ๆ ดำาเนินการทบทวนและปรับปรุง<br />
บัญชีระดมสรรพกำาลังของกองทัพเรือในส่วนที่เกี่ยวข้อง<br />
ได้แก่ รายการ จำานวน สถานที่ ส่งมอบ ห้วงเวลาการส่งมอบ<br />
และแหล่งที่มา ให้ถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ และทันสมัย<br />
รวมทั้งสอดคล้องกับการปฏิบัติตามแผนป้องกันประเทศ<br />
และผลการฝึกกองทัพเรือ<br />
๒.๖ การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ<br />
และพลังงานทหาร<br />
สำานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
- ดำาเนินโครงการขยายขีดความสามารถในการผลิต<br />
ดินส่งลูกระเบิดยิงจากเครื ่องยิงลูกระเบิด โดยก่อสร้างและ<br />
ขยายอาคารและสิ่งก่อสร้างโรงงานผลิตดินส่งลูกระเบิด<br />
ยิงจากเครื่องยิงลูกระเบิดแบบแผ่นบาง, จัดหาเครื่องจักร<br />
และเครื่องมือในการผลิตดินส่งลูกระเบิดยิงจากเครื่องยิง<br />
ลูกระเบิดแบบแผ่นบาง, พัฒนา ระบบโครงสร้างพื้นฐาน<br />
โรงงานผลิตดินส่งลูกระเบิดยิงจากเครื่องยิงลูกระเบิดแบบ<br />
แผ่นบาง, ระบบบำาบัดนำ้ำเสีย, การถ่ายทอดเทคโนโลยี<br />
ในการผลิตดินส่งแบบแผ่นบาง, ดินส่งกระสุนสำาหรับเครื่องยิง<br />
ลูกระเบิด ขนาด ๘๑ มิลลิเมตร จำานวน ๒๕,๐๐๐ ชุด และ<br />
ดินส่งกระสุนสำาหรับเครื่องยิงลูกระเบิด ขนาด ๑๒๐ มิลลิเมตร<br />
จำานวน ๒๕,๐๐๐ ชุด (เครื่องจักรไม่มีขีดความสามารถในการ<br />
ผลิต Screw cab และ lgnition cartridge สำาหรับเครื่องยิง<br />
ลูกระเบิด ขนาด ๘๑ มิลลิเมตร และ ๑๒๐ มิลลิเมตร ปัจจุบัน<br />
อยู่ระหว่างการดำาเนินกรรมวิธีจัดหาเพิ่มเติม)<br />
- ดำาเนินการแก้ไข ปรับปรุง กฎ ระเบียบ ประกาศ<br />
และคำาสั่งที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติโรงงานผลิตอาวุธ<br />
ของเอกชน พ.ศ.๒๕๕๐ เพื่อบังคับใช้แทนฉบับเดิมที่ออก<br />
ตามความในคำาสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน<br />
ฉบับที่ ๓๗ ลง ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ จำานวน ๑ ฉบับ คือ<br />
ร่างกฎกระทรวง กำาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข<br />
การรายงานและบัญชีแสดง ชนิดปริมาณ และการรับจ่าย<br />
ประจำาวันของวัตถุหรืออาวุธที่ใช้ในการผลิตอาวุธ หรืออาวุธ<br />
ที่ผลิตขึ้น พ.ศ. .... พร้อมกับบันทึ<strong>กห</strong>ลักการและเหตุผล<br />
60 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
แนบท้ายกฎกระทรวง แบบ อ.๑๒, อ.๑๒ - ๑, อ.๑๓ และ<br />
อ.๑๓ - ๑ และตารางเปรียบเทียบกฎกระทรวง<br />
- ดำาเนินโครงการขยายการผลิตนำ้ำกลั่น นำ้ำกรด และ<br />
แบตเตอรี่ทหาร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และการ<br />
สร้างสภาพแวดล้อมภายในโรงงานผลิตนำ้ำกลั่น นำ้ำกรด ห้อง<br />
ละเลงแผ่นธาตุ ให้มีสภาพสมบูรณ์ เพื่อให้การผลิตแบตเตอรี่<br />
และวัตถุพลอยได้เป็นไปอย่างต่อเนื ่อง โดยใช้เทคโนโลยี<br />
ทันสมัยที่สามารถลดการสัมผัสกับสารเคมีที่มีผลและ<br />
อันตรายต่อสุขภาพของพนักงาน รวมถึงเป็นการเพิ่มคุณภาพ<br />
ผลิตภัณฑ์ ลดการสูญเสียในสายการผลิต ลดมลพิษทางนำ้ำ<br />
ทางอากาศ ทำาให้ไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชนและสุขภาพ<br />
- ปรับปรุงและแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติ<br />
โรงงานผลิตอาวุธของเอกชน พ.ศ.๒๕๕๐ โดยผ่านการ<br />
พิจารณาตามขั้นตอนของการออกกฎหมายแล้ว ซึ่งสำานักงาน<br />
เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้นำากฎกระทรวง จำานวน ๒ ฉบับ<br />
คือ กฎกระทรวง กำาหนด หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข<br />
การสั่งหรือนำาเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งวัตถุหรืออาวุธ เพื่อ<br />
ใช้ในการผลิตอาวุธ หรือเป็นตัวอย่าง หรือเพื่อวิจัยเกี่ยวกับ<br />
การผลิตอาวุธ และการขนย้ายวัตถุหรืออาวุธที่ใช้ในการ<br />
ผลิตอาวุธหรืออาวุธที่ผลิตขึ้น พ.ศ.๒๕๕๔ และกฎกระทรวง<br />
กำาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตขาย<br />
หรือจำาหน่าย อาวุธให้แก่บุคคลอื่นนอกจา<strong>กห</strong>น่วยงานตาม<br />
มาตรา ๗ พ.ศ.๒๕๕๔ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาฉบับ<br />
กฤษฎีกา เล่ม ๑๒๘ ตอนที่ ๘๘ ก. ลง ๘ ธันวาคม ๒๕๕๔<br />
แล้ว ทั้งนี้ ได้แจ้งให้บริษัทตามพระราชบัญญัติโรงงานผลิต<br />
อาวุธของเอกชน พ.ศ.๒๕๕๐ ปฏิบัติตามกฎกระทรวงที่ออก<br />
มาใช้บังคับ ทั้ง ๒ ฉบับ<br />
- โครงการผลิตเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด ๘๑ มิลลิเมตร<br />
ระเบิดเอ็ม ๒๖๒ ครบนัด จำานวน ๑๐,๐๐๐ นัด ปัจจุบันอยู่<br />
ระหว่างการดำาเนินการผลิต<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
61
62 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม<br />
- โครงการดัดแปลงปืนใหญ่เบากระสุนวิถีโค้ง ๑๐๕<br />
มิลลิเมตร ลากจูง (เอ็ม ๔๒๕) ให้เป็นแบบอัตตาจรล้อยาง<br />
จำานวน ๓ กระบอก พร้อมจะส่งมอบให้ศูนย์การทหารปืนใหญ่<br />
ภายในสิงหาคม ๒๕๕๕ และโครงการดัดแปลงปืนใหญ่เบา<br />
กระสุนวิถีโค้ง ๑๐๕ มิลลิเมตร ลากจูง (เอ็ม ๔๒๕) ให้เป็น<br />
แบบอัตตาจรล้อยาง จำานวน ๖ กระบอก ปัจจุบันอยู่ระหว่าง<br />
ดำาเนินการผลิต คาดว่าจะแล้วเสร็จในสิงหาคม ๒๕๕๖
- ดำาเนินการจัดทำาบันทึกความเข้าใจ (Memorandum<br />
Of Understanding : MOU) ว่าด้วยการสั่งซื้อกับเหล่าทัพ<br />
เมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๕ และจัดให้มีการประชุม<br />
เจรจาความเหมาะสมของตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย นำ้ำหนัก<br />
และเกณฑ์การให้คะแนนตามคำารับรองการปฏิบัติราชการ<br />
ของกระทรวงกลาโหม และส่วนราชการในสังกัด ประจำา<br />
<strong>ปี</strong>งบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๕ ของกระทรวงกลาโหมและ<br />
สำานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ณ ห้องสุรศักดิ์มนตรี ใน<br />
การเจรจามีตัวชี้วัดที่สำาคัญที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม<br />
ป้องกันประเทศ ได้แก่ ตัวชี้วัดที่ ๔.๔ อัตราส่วนยอดการสั่งซื้อ<br />
ที่ทำา MOU กับเหล่าทัพต่อความต้องการที่ใช้ในแต่ละ<strong>ปี</strong><br />
ซึ่งเป็นตัวชี้วัดใหม่ที่คณะกรรมการเจรจาเสนอให้สำานักงาน<br />
ปลัดกระทรวงกลาโหมทำาบันทึกความเข้าใจ (MOU) ยอด<br />
การสั่งซื้อดินส่งกระสุนและกระสุนปืนกับเหล่าทัพ เพื่อ<br />
เป็นการสนับสนุนการพึ่งพาตนเองและให้เกิดความคุ้มค่า<br />
ในการดำาเนินงาน ใน<strong>ปี</strong>งบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๕ โดยที่ประชุม<br />
มีมติให้กระทรวงกลาโหมดำาเนินการสำารวจความต้องการ<br />
ของหน่วยใช้แล้วนำามาจัดทำาเป็นบันทึกความเข้าใจ (MOU)<br />
- จัดการประชุมหารือแนวทางการจัดทำาบันทึกความ<br />
เข้าใจ (MOU) การสั่งซื้อกับเหล่าทัพ จำานวน ๓ ครั้ง เมื่อวันที่<br />
๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๕ และวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๕<br />
ณ ห้องสยามปฐพีพิทักษ์ อาคารสำานักงานปลัดกระทรวง<br />
กลาโหม (แจ้งวัฒนะ) และวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๕ ณ ห้อง<br />
ประชุมกรมส่งกำาลังบำารุงทหารบก กองบัญชาการกองทัพบก<br />
ซึ่งสรุปผลการประชุมได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่จะจัดทำาเป็นบันทึก<br />
ข้อตกลงการสั่งซื้อนั้น แบ่งออกเป็น ๔ กลุ่มผลิตภัณฑ์ คือ<br />
๑) กระสุนและดินส่งกระสุน ๒) อาวุธยุทโธปกรณ์และ<br />
กระสุน ๓) ยาและเวชภัณฑ์ และ ๔) แบตเตอรี่<br />
- ดำาเนินการศึกษาความเป็นไปได้การวิจัยและพัฒนา<br />
ระบบควบคุมแท่นยิงสำาหรับอาวุธนำาวิถีระดับตำ่ำ ปัจจุบัน<br />
ได้ดำาเนินการปรับปรุงการหมุนทางทิศของแท่นยิงแบบ<br />
ควบคุมโดยเจ้าหน้าที่/พลยิง และอยู่ระหว่างสร้างกลไก<br />
ของแท่นยิงควบคุมด้วย REMOTE CONTROL ให้แล้วเสร็จ<br />
และดำาเนินการเขียนโปรแกรมเพื่อควบคุมการลั่นไกผ่าน<br />
คอมพิวเตอร์, การเขียนโปรแกรมการควบคุมระบบแท่งยิง<br />
ควบคุม ด้วย REMOTE CONTROL, การทดสอบการทำางาน<br />
ของระบบ และการจัดทำาเอกสารการวิจัย<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
63
- ดำาเนินโครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการวิจัย<br />
และพัฒนาปืนเล็กยาวขนาด ๕.๕๖ มิลลิเมตร แบบ<br />
ทาวอร์ - ทาร์ - ๒๑ จำาลอง ซึ่งได้ดำาเนินการผลิตชิ้นส่วน/องค์<br />
ประกอบและทำาการประกอบรวมได้เป็นต้นแบบงานวิจัย<br />
ปืนเล็กยาว ขนาด ๕.๕๖ มิลลิเมตร แบบทาวอร์ - ทาร์ - ๒๑<br />
จำาลอง จำานวน ๓ กระบอก บรรลุตามวัตถุประสงค์ของการ<br />
ดำาเนินงานตามโครงการ ปัจจุบันได้อนุมัติให้ปิดโครงการ<br />
และรายงานผลการดำาเนินงานให้ศูนย์การอุตสาหกรรม<br />
ป้องกันประเทศและพลังงานทหาร ทราบแล้ว เมื่อวันที่ ๑๑<br />
มิถุนายน ๒๕๕๕<br />
- ดำาเนินโครงการผลิตปืนเล็กยาวเอ็ม ๑๖ จำาลอง<br />
จำานวน ๓๐๐ กระบอก ซึ่งอยู่ในระหว่างการจัดหาวัสดุ<br />
สำาหรับการผลิต และเตรียมเครื่องจักรกลสำาหรับการผลิต<br />
โดยจะเริ่มดำาเนินการผลิตตั้งแต่ธันวาคม ๒๕๕๕ - มีนาคม<br />
๒๕๕๖ กำาหนดส่งมอบภายในเมษายน ๒๕๕๖<br />
- ดำาเนินงานติดตั้งหน่วยช่วยขับเคลื่อน (Auxiliary<br />
Propulsion Unit : APU) ให้กับปืนใหญ่ ขนาด ๑๕๕<br />
มิลลิเมตร จำานวน ๑ ชุด ใน<strong>ปี</strong>งบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๕<br />
จำานวน ๑ กระบอก ซึ่งได้เริ่มทำาการผลิต เมื่อวันที่ ๒๗<br />
สิงหาคม ๒๕๕๕ คาดว่าจะแล้วเสร็จในกรกฎาคม ๒๕๕๖<br />
และกำาหนดส่งมอบให้กับกองพันทหารปืนใหญ่ที่ ๗๒๒<br />
ภายในสิงหาคม ๒๕๕๖ เพื่อทดลองใช้งาน<br />
- ดำาเนินงานผลิตราวเก็บปืนบรรจุ ๔๐ กระบอก/ราว<br />
จำานวน ๘ ราว เริ่มการผลิตตั้งแต่วันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๕<br />
กำาหนดส่งมอบภายใน ๒๖ กันยายน ๒๕๕๕<br />
- ดำาเนินโครงการวิจัยและพัฒนาปืนใหญ่ ขนาด ๑๕๕<br />
มิลลิเมตร แบบอัตตาจรล้อยาง และโครงการวิจัยและพัฒนา<br />
โปรแกรมระบบอำานวยการยิงทางเทคนิคอัตโนมัติสำาหรับ<br />
ปืนใหญ่สนาม โดยได้ดำาเนินการยิงทดสอบครั้งที่ ๔ เมื่อวันที่<br />
๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ณ สนามยิงปืนใหญ่ ศูนย์การทหาร<br />
ปืนใหญ่ ผลการทดสอบเป็นไปตามมาตรฐาน<br />
64 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
- ดำาเนินโครงการวิจัยและพัฒนาโปรแกรมระบบ<br />
อำานวยการยิงทางเทคนิคอัตโนมัติสำาหรับปืนใหญ่สนาม<br />
ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเขียนโปรแกรมฟังก์ชั่นการแสดง<br />
หลักฐานยิงในรูปแบบของคำาสั่งยิงทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับ<br />
จากโปรแกรมศูนย์อำานวยการยิงผ่านระบบการเชื่อมต่อ<br />
สื่อสารที่กำาหนดของโปรแกรมส่วนยิง และเขียนโปรแกรม<br />
จำาลองการตั้งหลักฐานยิงอัตโนมัติสำาหรับปืนใหญ่สนาม<br />
- ดำาเนินกิจกรรมสร้างโปรแกรมจำาลองการยิง (Firing<br />
Simulation Program) เพื่อหาค่าย่านคาดคะเน (Probable<br />
Error) สำาหรับสมุดตารางยิง ปัจจุบันอยู่ระหว่างการวิจัยและ<br />
พัฒนาเพื่อศึกษาแนวทางในการหาค่าย่านคาดคะเนและ<br />
ออกแบบโปรแกรมจำาลองการยิง<br />
- ดำาเนินโครงการดัดแปลงแก้ไขปืนใหญ่เบากระสุน<br />
วิถีโค้ง ๑๐๕ มิลลิเมตร ลากจูง (เอ็ม ๔๒๕) ให้เป็นแบบ<br />
อัตตาจรล้อยาง จำานวน ๓ กระบอก ปัจจุบันอยู่ในระหว่าง<br />
การจัดทำาคู่มือทางเทคนิค ว่าด้วยการปรนนิบัติบำารุงของ<br />
พลประจำาอาวุธและช่างซ่อมบำารุงประจำาหน่วย โดยจะ<br />
ส่งมอบให้กับศูนย์การทหารปืนใหญ่ ซึ่งเป็นหน่วยรับผิดชอบ<br />
ในการทดลองใช้งานทางยุทธวิธีต่อไป<br />
- ดำาเนินโครงการดัดแปลงแก้ไขปืนใหญ่เบากระสุน<br />
วิถีโค้ง ๑๐๕ มิลลิเมตร ลากจูง (เอ็ม ๔๒๕) ให้เป็นแบบ<br />
อัตตาจรล้อยาง จำานวน ๖ กระบอก ปัจจุบันอยู่ในระหว่าง<br />
การผลิต โดยเริ่มตั้งแต่กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ คาดว่าจะแล้วเสร็จ<br />
ในสิงหาคม ๒๕๕๖ กำาหนดส่งมอบภายใน กันยายน ๒๕๕๖<br />
- ดำาเนินโครงการดัดแปลงเครื่องช่วยให้ทางสูงปืนใหญ่<br />
เบากระสุนวิถีโค้ง ๑๐๕ มิลลิเมตร เอ็ม ๑๐๑ เอ ๑ (ปรับปรุง)<br />
จากระบบแก๊สให้เป็นระบบคอยล์สปริง จำานวน ๖ ชุด<br />
ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการผลิต โดยจะนำาไปติดตั้งให้กับหน่วย<br />
เพื่อทดลองใช้งานภายใน มีนาคม ๒๕๕๖<br />
- ดำาเนินโครงการดัดแปลงแก้ไขปืนใหญ่เบากระสุน<br />
วิถีโค้ง ๑๐๕ มิลลิเมตร เอ็ม ๑๐๑ เอ ๑ (ปรับปรุง) จำานวน<br />
๖ กระบอก ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการจัดหาวัสดุสำาหรับการ<br />
ผลิต และเตรียมเครื่องจักรกลสำาหรับการผลิต โดยจะเริ่ม<br />
ดำาเนินการผลิตตั้งแต่ตุลาคม ๒๕๕๕ - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖<br />
กำาหนดส่งมอบภายใน มีนาคม ๒๕๕๖<br />
- ดำาเนินโครงการปรับปรุงพัฒนาปืนใหญ่ขนาด ๑๕๕<br />
มิลลิเมตร แบบลากจูง ให้เป็นแบบอัตตาจรล้อยาง จำานวน ๖<br />
กระบอก ซึ่งได้รับการอนุมัติให้เปลี่ยนแปลงโครงการแล้วเมื่อ<br />
วันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๕๕ โดยให้ปรับลดวงเงินทั้งโครงการ<br />
เหลือ ๙๐๐ ล้านบาท และขยายระยะเวลาดำาเนินโครงการ<br />
เป็น ๔ <strong>ปี</strong> ตั้งแต่<strong>ปี</strong> ๒๕๕๕ - ๒๕๕๘ และใน<strong>ปี</strong> ๒๕๕๕ ได้รับ<br />
การจัดสรรงบประมาณจำานวน ๑๓๕ ล้านบาท (วงเงินเดิม<br />
ทั้งโครงการ ๙๓๕,๘๗๑,๗๕๐.- บาท) ระยะเวลาดำาเนิน<br />
โครงการ ๓ <strong>ปี</strong> (<strong>ปี</strong> ๒๕๕๕ - ๒๕๕๗)<br />
- ดำาเนินโครงการศึกษาความเป็นไปได้ของเหล็กที่มี<br />
จำาหน่ายทั่วไปมาเป็นวัตถุดิบในการผลิต โดยปัจจุบัน ได้<br />
ดำาเนินการตรวจสอบ/ศึกษาคุณสมบัติและลักษณะของ<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
65
เหล็กที่ส่งผลกระทบต่อการดำาเนินงานของเครื่องจักรร่วมกับ<br />
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง<br />
และเสนอรายงานขออนุมัติขยายระยะเวลาดำาเนินงานออก<br />
ไปอีก ๘ เดือน เป็นสิ้นสุดระยะเวลาดำาเนินงานในเมษายน<br />
๒๕๕๖ เนื่องจากในขั้นตอนการศึกษาคุณสมบัติเฉพาะของ<br />
เหล็กที่มีผลกระทบกับเครื่องจักร คณะผู้วิจัยร่วมกับสถาบัน<br />
เทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ทำาการ<br />
วิเคราะห์ผลกระทบ โดยจะดำาเนินการสร้างเครื่องมือวัด<br />
ค่าแรงในการอัดขึ้นรูปชิ้นงานที่เกิดขึ้น เพื่อนำามาวิเคราะห์<br />
ผลกระทบต่อเครื่องจักร ซึ่งขั้นตอนในการสร้างเครื่องมือ<br />
จำาเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการดำาเนินการ จึงทำาให้การ<br />
ดำาเนินงานโครงการวิจัยฯ ล่าช้า ไม่เป็นไปตามแผนงานที่<br />
กำาหนด<br />
- ดำาเนินโครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการวิจัยและ<br />
พัฒนาชนวนหัวกระทบแตกไว/ถ่วงเวลา ปัจจุบันได้จัดทำา<br />
ต้นแบบชนวนหัว ทั้งชนวนหัวกระสุนปืนใหญ่และลูกระเบิดยิง<br />
- ดำาเนินโครงการผลิตเครื่องยิงลูกระเบิด ๘๑ มิลลิเมตร<br />
ระเบิดเอ็ม ๒๖๒ ครบนัด จำานวน ๓๕,๐๐๐ นัด ตามโครงการ<br />
ผลิตสนับสนุนเหล่าทัพ ใน<strong>ปี</strong>งบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๕ ได้<br />
ดำาเนินการผลิตอีก จำานวน ๑๕,๐๐๐ นัด ซึ่งไม่ประกอบ<br />
ชนวนหัว ขณะนี้ อยู่ระหว่างการจัดหาวัสดุสำาหรับการผลิต<br />
โดยจะเริ่มเปิดสายการผลิตตั้งแต่ มกราคม ๒๕๕๖ คาดว่า<br />
จะแล้วเสร็จในพฤษภาคม ๒๕๕๖<br />
66 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
- ดำาเนินโครงการเพิ่มขีดความสามารถในการผลิต<br />
กระสุนปืนใหญ่ เพื่อสนับสนุนเหล่าทัพและเพื่อการส่งออก<br />
ต่างประเทศ อยู่ระหว่างดำาเนินการผลิตกระสุนปืนใหญ่<br />
ขนาด ๑๐๕ มิลลิเมตร แบบ Boat Tail จำานวน ๑,๕๐๐ นัด<br />
๒.๗ การวิจัยและพัฒนาโครงการ<br />
ขนาดใหญ่ด้านยุทโธปกรณ์ เทคโนโลยี<br />
ป้องกันประเทศ และถ่ายทอดองค์ความรู้<br />
เทคโนโลยีป้องกันประเทศ<br />
สำานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
- ดำาเนินโครงการวิจัยและพัฒนาจรวดหลายลำากล้อง<br />
DTI-1 หลังจากที่ได้ส่งมอบต้นแบบจรวด DTI-1 เพื่อนำาไป<br />
ทำาการฝึกและทดสอบใช้งานตั้งแต่ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๔ ซึ่ง<br />
ได้จัดทำาข้อมูลโครงการสำาหรับนำาเข้ารับรองคณะกรรมการ<br />
กำาหนดมาตรฐานยุทโธปกรณ์กองทัพบก ทั้งนี้ สถาบัน<br />
เทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน) ได้จัดทำาร่าง<br />
การแก้ไขเพิ่มเติม MOU DTI-1 แล้วเสร็จตามมติที่ประชุม<br />
ร่วมกับผู้แทนกองทัพบก มีรายละเอียดการดำาเนินการ อาทิ<br />
การปรนนิบัติบำารุง รถจรวด และลูกจรวด ตามวง<strong>รอบ</strong> ๖<br />
เดือน รวมถึงการฝึกอบรมในการปรนนิบัติบำารุงลูกจรวด<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
67
ให้แก่กองทัพบก และศูนย์อำานวยการสร้างอาวุธ ศูนย์การ<br />
อุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร พร้อมส่ง<br />
มอบคู่มือเรียบร้อยแล้วใน Phase II A โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ<br />
วิจัยพัฒนาและสะสมองค์ความรู้ในการสร้างต้นแบบจรวด<br />
หลายลำากล้อง แบบ DTI - 1 ที่ได้มาตรฐาน ซึ่งดำาเนินการ<br />
ต่อเนื่องจากระยะที่ ๑, ๒ และระยะที่ ๓ ซึ่งการก่อสร้างและ<br />
การติดตั้งเครื่องจักรของโรงปฏิบัติการวิจัยและพัฒนาจรวด<br />
อาวุธนำาวิถี ๑, ๒ (จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดลพบุรี)<br />
เป็นไปตามแผนงาน และได้แต่งตั้งผู้ปฏิบัติงานประจำาห้อง<br />
ปฏิบัติการวิจัยและพัฒนา ๒ ให้มีอำานาจหน้าที่ และรับผิด<br />
ชอบในการควบคุมดูแล และบริหารสัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง<br />
ปรับปรุงโรงปฏิบัติการวิจัยและพัฒนา ๒ จังหวัดลพบุรี<br />
และใน Phase II B โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการทำาวิศวกรรม<br />
ย้อนกลับของต้นแบบ รถยิง รถบรรทุก และลูกจรวด ให้ได้วิธี<br />
ผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ประกอบ รวมถึงกระบวนการผลิต<br />
พร้อมทำาการทดสอบทดลองจนได้มาตรฐาน ในโครงการนี้<br />
จะได้ต้นแบบรถยิงและรถบรรทุกอย่างละ ๑ คัน ซึ่งมีความ<br />
ก้าวหน้าของงานการสร้างชิ้นส่วนรถจรวดและรถบรรทุก<br />
จรวดต้นแบบ (Launcher & Loader) ติดตั้งท่อยิงจรวด<br />
แล้วเสร็จ วางแผนเตรียมการทดสอบระบบต่าง ๆ, ในส่วนของ<br />
ลูกจรวด ได้ดำาเนินการวิศวกรรมย้อนกลับ สำาหรับส่วนหัวรบ<br />
(Warhead) ท่อจรวดและส่วนหาง แล้วเสร็จ (Uncharged<br />
Moter, Tail Section and Direct Parts) รวมทั้งได้ติดตั้ง<br />
เครื่องจักร ระบบหล่อเย็นดินระเบิด ณ โรงงานผลิตกระสุน<br />
ปืนใหญ่ ศูนย์อำานวยการสร้างอาวุธ ศูนย์การอุตสาหกรรม<br />
ป้องกันประเทศและพลังงานทหาร แล้วเสร็จ รวมทั้งจุด<br />
ทดสอบภาคสถิตย์ ของจรวด BFS เพื่อปรับหาค่าสูตรดินขับ<br />
- โครงการพัฒนาสนามยิงทดสอบจรวดและอาวุธนำาวิถี<br />
ณ พื้นที ่ฐานทัพเรือพังงา ได้ดำาเนินการจัดการสัมมนาเพื่อ<br />
พัฒนาความรู้ของบุคลากรในด้านการวางแผนและดำาเนิน<br />
68 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
การทดสอบ การใช้เครื่องมือและการประมวลผลการทดสอบ<br />
รวมถึงการประสานความร่วมมือกับคณะทำางานของกอง<br />
ทัพเรือ และได้ประสานความร่วมมือกับมิตรประเทศในการ<br />
ใช้และการพัฒนาสนามทดสอบอาวุธจรวดระยะไกล ซึ่งได้<br />
ประชุมร่วมกับมิตรประเทศในยุโรปและแจ้งความจำานงแล้ว<br />
- โครงการพัฒนาแผนแม่บทระบบจำาลองยุทธ์และฝึก<br />
เสมือนจริง ได้จัดทำาร่างแผนแม่บทฉบับสมบูรณ์ ซึ่งมีราย<br />
ละเอียดโครงการต่าง ๆ โดยขณะนี้แผนแม่บทการวิจัยและ<br />
พัฒนาเทคโนโลยีการจำาลองยุทธ์และการฝึกเสมือนจริง พ.ศ.<br />
๒๕๕๕ - ๒๕๖๔ ได้ผ่านความเห็นชอบจากสภากลาโหม เมื่อ<br />
วันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ และได้เริ่มดำาเนินการวิจัยและ<br />
พัฒนาองค์ประกอบพื้นฐานของระบบต่อเนื่องแล้ว<br />
- ดำาเนินการบริหารจัดการศูนย์ประสานงานเครือข่าย<br />
การวิจัยเพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัด<br />
ชายแดนภาคใต้ โดยการสนับสนุนยุทโธปกรณ์พิเศษให้กับ<br />
หน่วยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำาเป็นจะต้องมีการ<br />
ดำาเนินการอย่างต่อเนื่อง มีการติดตาม, ประเมินผลการใช้<br />
งานพัฒนา ปรับปรุง เพื่อให้ยุทโธปกรณ์พิเศษมีประสิทธิภาพ<br />
และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้ ซึ่งได้มีการปฏิบัติที่สำาคัญ<br />
คือ การจัดการประชุมประจำาเดือน เพื่อติดตามความ<br />
ก้าวหน้าในการบริหารจัดการ กำาหนดความต้องการผลงาน<br />
วิจัยเพื่อพัฒนาเป็นโจทย์วิจัย จำานวน ๑๒ ครั้ง และการจัด<br />
พิธีส่งมอบยุทโธปกรณ์พิเศษให้กองอำานวยการรักษาความ<br />
มั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า ไว้ทดลองใช้งาน เมื่อวันที่ ๒<br />
- ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ณ มณฑลทหารบกที่ ๔๒ ค่ายเสนา<br />
ณรงค์ อำาเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จำานวน ๔ รายการ คือ<br />
กล้องมองกลางคืน จำานวน ๖ ชุด, ระบบสื่อสารสำาหรับเฝ้า<br />
ตรวจทางอากาศ จำานวน ๑ ชุด (ประกอบด้วยชุดวิทยุติดตั้ง<br />
บนอากาศยาน ๓ ชุด, ชุด Repeater ๑ ชุด และชุดสำาหรับ<br />
หน่วยภาคพื้น ๓ ชุด), ชุดกล้องวงจรปิดเคลื่อนที่สำาหรับการ<br />
แก้ปัญหาการก่อความรุนแรง จำานวน ๔ รายการ (ประกอบ<br />
ด้วยชุดกล้องวงจรปิดสำาหรับด่านตรวจ จำานวน ๘ กล้อง<br />
สำาหรับด่านตรวจไม่ถาวร จำานวน ๔ กล้อง สำาหรับเส้นทาง<br />
จำานวน ๘ กล้อง และสำาหรับพื้นที่ขนาด ๓ x ๓ กิโลเมตร<br />
จำานวน ๒๔ กล้อง) และสายรัดห้ามเลือดกึ่งอัตโนมัติ จำานวน<br />
๕ ชุด ทั้งนี้ ในการส่งมอบผลงานวิจัยดังกล่าว ได้จัดให้มีการ<br />
สาธิตแนะนำาการใช้ยุทโธปกรณ์พิเศษแก่ผู้ใช้งาน พร้อมทั้งใช้<br />
โอกาสนี้ประชุมหารือสอบถามข้อมูลกับผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่<br />
เพื่อรับทราบปัญหาข้อขัดข้องในการใช้ยุทโธปกรณ์พิเศษที่<br />
ผ่านมา และความต้องการเพิ่มเติม ซึ่งจะนำามาเป็นข้อมูล<br />
สำาหรับการดำาเนินการต่อไปใน<strong>ปี</strong>งบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๖<br />
หลังจากการส่งมอบดังกล่าวแล้ว เมื่อวันที่ ๒๕ กรกฎาคม<br />
๒๕๕๕ ทั้งนี้ยังได้ทราบถึงความต้องการยุทโธปกรณ์เพิ่มเติม<br />
อีก จำานวน ๔ รายการ คือ ๑) อุปกรณ์ตัดสัญญาณ ระบบ<br />
วิทยุรับ - ส่ง ๒) กล้องมองกลางคืน ระบบ Thermal ๓)<br />
ชุดป้องกันอันตรายจากสะเก็ดระเบิด และ ๔) เสื้อเกราะ<br />
กันกระสุน<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
69
- โครงการพัฒนาสนามยิงทดสอบจรวดและอาวุธนำา<br />
วิถีระยะใกล้และระยะปานกลางภายในประเทศ ซึ่งมีความ<br />
ก้าวหน้าของโครงการ ดังนี้<br />
๑) ได้รับเครื่องมือทดสอบที่ได้ดำาเนินการจัดหา<br />
ได้แก่ กล้อง High - Speed Camera<br />
๒) ร่วมการฝึกยิงจรวดต่อสู้อากาศยาน แบบ RBS - 70<br />
และ QW - 2 ด้วยกล้อง Hi - Speed Camera เมื่อวันที่<br />
๒๐ - ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ณ กองบิน ๕<br />
๓) ลงนามในสัญญา EIA ร่วมกับ บริษัท ไอเอสอีที<br />
(ประเทศไทย) จำากัด เมื่อวันที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๕<br />
๔) วางแผนการพัฒนาแผนการฝึกอบรม On the<br />
Job Training ที่สนามทดสอบอาวุธ Vidsel ประเทศสวีเดน<br />
ประกอบด้วย Instrumentation Program และ Test &<br />
Evaluation Program เมื่อวันที่ ๑๕ - ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕<br />
และ<br />
๕) รับรายงานการจ้างวิจัยระบบ Offshore Target<br />
System ฉบับที่ ๑<br />
- โครงการพัฒนาแผนแม่บทระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ<br />
และการสื่อสารทางทหารที่เชื่อมโยงและสอดคล้องกับ<br />
ความต้องการของหน่วยงานในกระทรวงกลาโหม ซึ่งได้เสนอ<br />
เอกสารแผนแม่บทฉบับสมบูรณ์ ให้สภากลาโหมได้พิจารณา<br />
- โครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีป้องกันประเทศ<br />
เฉพาะกิจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี<br />
ป้องกันประเทศตามความต้องการระยะสั้นของเหล่าทัพ<br />
ซึ่งมีผลการดำาเนินการ ดังนี้<br />
๑) การวิจัยและพัฒนาอากาศยานไร้คนขับแบบ<br />
<strong>ปี</strong><strong>กห</strong>มุน (VTOL UAV) ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการจัดทำา<br />
ชิ้นส่วนทางกลและทางไฟฟ้าระบบรับส่ง จัดหาอุปกรณ์<br />
เครื่องยนต์ จัดสร้างและทดสอบชิ้นส่วนที่ออกแบบ<br />
๒) การวิจัยและพัฒนาอากาศยานไร้คนขับแบบ<br />
<strong>ปี</strong>กนิ่ง (Fixed Wing UAV) ซึ่งอยู่ในระหว่างการวิจัยและ<br />
พัฒนาสร้างต้นแบบ<br />
- โครงการวิจัยและพัฒนาระบบจรวดแบบนำาวิถี DTI-<br />
1G โดยมีผลการดำาเนินการ คือ<br />
๑) ลงนามในสัญญาจ้างวิจัยปรับปรุงต้นแบบ<br />
ห้องโดยสารรถบรรทุกชุดท่อปฏิบัติการ เมื่อ ๒๘ กันยายน<br />
๒๕๕๕ และลงนามในสัญญาซื้อขายรถยนต์บรรทุกทางทหาร<br />
ระบบขับเคลื่อน ๘ x ๘ ล้อ สำาหรับติดตั้งชุดท่อปฏิบัติการ<br />
และสำาหรับขนชุดท่อปฏิบัติการ เมื่อ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๕<br />
๒) ดำาเนินการเปิด Letter of Credit (L/C) ของ<br />
สัญญา DTI-1G<br />
๓) ดำาเนินการคัดเลือกนักวิจัยเพื่อเตรียมตัวไป<br />
ฝึกอบรมหลักสูตร Design of Control & Guidance<br />
ณ มิตรประเทศ ตามกำาหนดในสัญญาฯ<br />
๔) ประชุมร่วมกับคณะทำางานร่วมกองทัพบก เมื่อ<br />
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ เพื่อทบทวนร่างบันทึกความเข้าใจ<br />
(Memorandum Of Understanding : MOU) ของ DTI<br />
- 1G และแนวทางการดำาเนินงานร่วมกันใน<strong>ปี</strong>งบประมาณ<br />
๒๕๕๖<br />
๕) จัดทำาร่างแผนงานและแผนงบประมาณ ประจำา<strong>ปี</strong><br />
พ.ศ.๒๕๕๗ และ<br />
๖) ส่ง CAD Drawing ของ Chassis รถที่ใช้สร้าง<br />
ต้นแบบจรวด DTI-1G ให้แก่มิตรประเทศความก้าวหน้าของ<br />
โครงการ (Plan per Actual)<br />
กองทัพบก<br />
- ดำาเนินการสาธิตเกี่ยวกับระบบอาวุธยุทโธปกรณ์ให้<br />
ผู้แทนหน่วยที่เกี่ยวข้อง ได้รับทราบข้อมูล จำานวน ๑๒ ครั้ง<br />
ได้แก่<br />
๑) ระบบค้นหาและกำาหนดที ่ตั้งอาวุธยิงสนับสนุน<br />
ของฝ่ายตรงข้าม<br />
๒) ระบบหุ่นยนต์สอดแนม<br />
70 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
๓) ระบบควบคุมการปฏิบัติการของเรดาร์ แบบ<br />
AN/TPQ - 36 (V3) ร่วมกับอากาศยานไร้นักบิน<br />
๔) ระบบติดตามตัวด้วยเครื่องมือหาพิกัดด้วย<br />
ดาวเทียม<br />
๕) ระบบกล้องเล็งติดตั้งกับอาวุธยิง<br />
๖) หน้ากากป้องกันสารชีวะเคมี<br />
๗) ระบบตรวจจับ/แจ้งเตือนผู้บุกรุก<br />
๘) ขีดความสามารถในการซ่อมบำารุงเฮลิคอปเตอร์<br />
ใช้งานทั่วไปแบบ ๑๗<br />
๙) ระบบเครื่องกำาหนดตำาบลที่อยู่เมื่ออากาศยาน<br />
ประสบอุบัติเหตุ<br />
๑๐) ระบบอุโมงค์ลมทางดิ่ง<br />
๑๑) ระบบเครื่องตรวจจับไอระเหยของสารประกอบ<br />
วัตถุระเบิดและสารเสพติด<br />
๑๒) ระบบเครื่องตรวจวัดแรงสั่นสะเทือนของใบพัด<br />
อากาศยานและการซ่อมปรับปรุงโครงสร้างอากาศยาน<br />
๑๓) ระบบรวบรวมข้อมูลจากบริการด้านสื่อสังคม<br />
ออนไลน์ เพื่อความมั่นคง และ<br />
๑๔) ชุดวิทยุสื่อสาร ย่านความถี่ 30 MHz - 88 MHz<br />
- ดำาเนินการปรับปรุงแก้ไขอำานาจหน้าที่ของคณะ<br />
กรรมการกำาหนดมาตรฐานยุทโธปกรณ์กองทัพบก ซี่งเดิม<br />
มีอำานาจหน้าที่ในการพิจารณารับรองมาตรฐานยุทโธปกรณ์<br />
ที่เป็นผลงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร โดยเพิ่มเติม<br />
อำานาจหน้าที่ในการรับรองมาตรฐานสิ่งประดิษฐ์ทางทหาร<br />
ของกองทัพบกได้ด้วย และเพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปด้วย<br />
ความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการ<br />
พิจารณากลั่นกรองสิ่งประดิษฐ์ทางทหาร เพื่อพิจารณา<br />
กลั่นกรองสิ่งประดิษฐ์ทางทหารที่มีความเหมาะสมในการ<br />
ผลิตทดลองใช้งาน และประเมินผลงานสิ่งประดิษฐ์ทางทหาร<br />
เพื ่อเสนอให้คณะกรรมการกำาหนดมาตรฐานยุทโธปกรณ์<br />
กองทัพบก พิจารณารับรองมาตรฐานยุทโธปกรณ์ก่อนที่จะ<br />
นำาเข้าสู่กระบวนการนำาผลงานสิ่งประดิษฐ์ทางทหารผลิต<br />
ใช้งานในกองทัพบกต่อไป<br />
กองทัพอากาศ<br />
- จัดทำาโครงการสร้างเครื่องบินกองทัพอากาศแบบที่<br />
๖ ต้นแบบ (เครื่องที่ ๒), โครงการทดสอบต้นแบบเครื่องบิน<br />
กองทัพอากาศแบบที่ ๖, โครงการวิจัยการสร้างเครื่อง<br />
ฝึกบินจำาลอง เครื่องบินกองทัพอากาศแบบที่ ๖, โครงการ<br />
วิจัยและพัฒนาจรวดอากาศสู่พื้นขนาด ๒.๗๕ นิ้ว ชนิด<br />
ดินขับฐานคู่, โครงการวิจัยและพัฒนาสร้างรถเฉพาะกิจ<br />
สำาหรับขนส่งเครื่องยนต์อากาศยาน, โครงการวิจัยและ<br />
พัฒนาเป้าอากาศ, โครงการวิจัยและพัฒนาอาวุธไร้นักบิน<br />
ขนาดเล็กสำาหรับปฏิบัติการทางยุทธวิธี และโครงการวิจัย<br />
และพัฒนากล้องถ่ายภาพและระบบเชื่อมโยงสัญญาณภาพ<br />
(Video Down Link) สำาหรับอาวุธไร้นักบิน<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
71
- จัดทำาบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการวิจัย<br />
และพัฒนาเทคโนโลยีเพื ่อความมั่นคงของประเทศ กับ<br />
สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน) และ<br />
จัดทำาบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา<br />
เทคโนโลยีเพื่อความมั่นคงของประเทศ กับสถาบันเทคโนโลยี<br />
พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง<br />
๒.๘ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน<br />
และการช่วยเหลือประชาชน<br />
สำานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
- ดำาเนินการมอบผ้าห่มกันหนาวให้แก่ผู้ประสบภัย<br />
หนาว และกำาลังพลข้าราชการทหาร ทหารกองประจำาการ<br />
และยานพาหนะ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งจัดทำา<br />
โครงการผลิตจุลินทรีย์ก้อนร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏ<br />
เทพสตรี จังหวัดลพบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตเป็น<br />
จุลินทรีย์ก้อน (EM - BALL) จำานวน ๑๐๐,๐๐๐ ก้อน เพื่อ<br />
มอบให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดลพบุรี และ<br />
จังหวัดปทุมธานี<br />
กองทัพบก<br />
- ดำาเนินการซ่อมฟื้นฟูอาคารและสาธารณูปโภคที่ได้<br />
รับความเสียหายจากอุทกภัย จำานวน ๑๓ หน่วย ปัจจุบันได้<br />
ลงนามในสัญญาจ้างและเริ่มทำาการซ่อมฟื้นฟูแล้ว ประกอบ<br />
ด้วยงานทั้งสิ้น ๗๐ แผนงาน และได้มีการควบคุม กำากับดูแล<br />
และเร่งรัดผู้ประกอบการให้ทำาการซ่อมฟื้นฟูให้แล้วเสร็จ<br />
โดยเร็ว ตลอดจนทำาการเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปตาม<br />
แผนการใช้จ่ายงบประมาณ<br />
72 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
- ปฏิบัติภารกิจในการบรรเทาสาธารณภัย โดยในช่วง<br />
<strong>ปี</strong> พ.ศ.๒๕๕๔ ที่ได้เกิดอุทกภัย นำ้ำป่าไหลหลาก ดินโคลน<br />
ถล่มหลายพื้นที่ของประเทศ ได้ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือ<br />
ผู้ประสบภัยในพื้นที่รับผิดชอบอย่างเต็มขีดความสามารถ<br />
และจากการที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ว่าสภาพ<br />
อากาศโดยรวมในห้วงเดือนตุลาคม ๒๕๕๕ ยังคงมีฝน<br />
ต่อเนื่องต่อไปในทั่วทุกภาคของประเทศ จึงอาจทำาให้เกิด<br />
ภาวะนำ้ำท่วมฉับพลัน นำ้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม<br />
ได้ในพื้นที่เสี่ยงต่าง ๆ จึงได้เตรียมการในส่วนที่เกี่ยวข้อง<br />
ในการเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชน หากมี<br />
ภัยพิบัติขนาดใหญ่เช่นเดียวกับเหตุการณ์มหาอุทกภัย<br />
เมื่อปลาย<strong>ปี</strong> ๒๕๕๔<br />
กองทัพอากาศ<br />
- ดำาเนินการจัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ประกอบ<br />
ด้วย กำาลังพล ยานพาหนะ ตลอดจนอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการ<br />
ช่วยเหลือผู้ประสบภัยนำ้ำท่วม ภัยหนาว ภัยแล้ง และภัยพิบัติ<br />
อื่น ๆ เพื่อสนับสนุนการดำาเนินการในกรณีที่เกิดภัยพิบัติ<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
73
ต่าง ๆ และสนับสนุนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ<br />
ไฟป่า โดยใช้เครื่องบินแบบ C-130 และ BT-67 ปฏิบัติ<br />
ภารกิจการบินควบคุมไฟป่าร่วมกับหน่วยงานอื่น<br />
- ดำาเนินประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน<br />
ภัยแล้ง รวมทั้งสิ้น ๒๑ จังหวัด ๑๔๒ อำาเภอ ๙๓๑ ตำาบล<br />
๘,๙๒๒ หมู่บ้าน จากการที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน<br />
เป็นจำานวนมาก เพิ่มจากขาดแคลนนำ้ำในการอุปโภคบริโภค<br />
และมีแนวโน้มว่าสถานการณ์จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น<br />
พร้อมทั้งได้เชิญหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชนอีก ๔<br />
หน่วยงาน จัดทำาโครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง”<br />
ประจำา<strong>ปี</strong> ๒๕๕๕ ซึ่งจะดำาเนินการในโครงการดังกล่าวต่อไป<br />
จนถึงวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๕ หรือจนกว่าสถานการณ์<br />
ภัยแล้งจะคลี่คลายลง<br />
- ดำาเนินการจัดเครื่องบินสนับสนุนโครงการฝนหลวง<br />
โดยเตรียมและดำารงความพร้อมในการปฏิบัติงานช่วยเหลือ<br />
ประชาชนเมื่อเกิดสาธารณภัยหรือภาวะคับขันให้เป็นผล<br />
อย่างรวดเร็วทันเหตุการณ์ รวมถึงสนับสนุนการแก้ปัญหา<br />
ของชาติตามนโยบายรัฐบาล<br />
74 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
๓. พัฒนาและเสริมสร้างความร่วมมือ<br />
ระหว่างประเทศ<br />
สำานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
- ร่วมการประชุม ARF ว่าด้วยการต่อต้านการ<br />
ก่อการร้าย และอาชญากรรมข้ามชาติ ครั้งที่ ๑๐ (10 th ARF<br />
Inter-Sessional Meeting on Counter Terrorism and<br />
Transnational Crime : 10 th ARF ISM CTTC) ระหว่าง<br />
๑๕ - ๑๘ มีนาคม ๒๕๕๕ ณ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม<br />
ซึ่งได้หารือในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์การก่อการร้าย<br />
ทางทะเลในปัจจุบัน และการปฏิบัติตามแผนงาน ARF<br />
ด้านการต่อต้านการก่อการร้ายและแนวทางการพัฒนา<br />
ในอนาคต<br />
- ร่วมการประชุม Health Protection of the<br />
Military Staff in Regional Military, Climatic and<br />
Epidemiological Conditions เมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม - ๒<br />
เมษายน ๒๕๕๕ ณ กรุงมอสโก สหพันธรัฐรัสเซีย ซึ่ง<br />
มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นที่สำาคัญ ๆ ด้าน<br />
การแพทย์ทหาร โดยเฉพาะประเด็นการป้องกันสุขภาพของ<br />
กำาลังพลจากภารกิจเสี่ยงภัยทางทหาร<br />
- ร่วมการประชุมระหว่าง<strong>ปี</strong>ว่าด้วยการบรรเทาภัยพิบัติ<br />
(ARF Inter - Sessional Meeting on Disaster Relief<br />
: ARF ISM on DR) ครั้งที่ ๑๑ เมื่อวันที่ ๑๖ - ๑๗ เมษายน<br />
๒๕๕๕ ณ เมือง Brisbane เครือรัฐออสเตรเลีย ซึ่งหารือใน<br />
ประเด็นพัฒนาด้านการบรรเทาภัยพิบัติของอาเซียน, การนำา<br />
ผลการฝึก ARF DiREx 2011 มาพัฒนาต่อในอนาคตและ<br />
การวิเคราะห์ถึงบทเรียนด้านการจัดการภัยพิบัติในภูมิภาค<br />
- ร่วมการประชุมหารืองานด้านอุตสาหกรรมป้องกัน<br />
ประเทศในก<strong>รอบ</strong>อาเซียน (Workshop on ASEAN Defence<br />
Industry Collaboration) เมื่อ ๑๗ - ๑๙ เมษายน ๒๕๕๕<br />
ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สหพันธรัฐมาเลเซีย โดยหารือ<br />
ในประเด็นเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือด้านอุตสาหกรรม<br />
ป้องกันประเทศในก<strong>รอบ</strong>อาเซียนในอนาคต รวมทั้งหารือ<br />
ถึงแนวทางความร่วมมือ, การจัดทำาเอกสารที่กำาหนด<br />
ขอบเขตและรายละเอียดของภารกิจ (TOR) และเงินทุน<br />
ด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศในก<strong>รอบ</strong>อาเซียนในอนาคต<br />
- ร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสกลาโหมอาเซียน<br />
(ASEAN Defence Senior Officials’ Meeting : ADSOM)<br />
และการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสกลาโหมอาเซียนกับ<br />
เจ้าหน้าที่อาวุโสกลาโหมประเทศคู่เจรจา (ASEAN Defence<br />
Senior Officials’ Meeting-Plus : ADSOM-Plus) เมื่อ<br />
๒๓ - ๒๗ เมษายน ๒๕๕๕ ณ เมืองเสียมราฐ ราชอาณาจักร<br />
กัมพูชา ซึ่งได้หารือถึงร่างระเบียบวาระและด้านสารัตถะ<br />
เพื่อเตรียมการสำาหรับการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน<br />
ครั้งที่ ๖<br />
- ร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารของ ARF (ASEAN<br />
Regional Forum Defence Officials’ Dialogue : ARF DoD)<br />
และการประชุม (ARF ISG on CBMs and PD) เมื่อ ๕ - ๑๑<br />
พฤษภาคม ๒๕๕๕ ณ เมืองเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์<br />
ได้หารือในประเด็นการขยายความร่วมมือที่ใกล้ชิดมากขึ้น<br />
ระหว่างการประชุม ARF และการประชุม ADMM - Plus<br />
รวมทั้งในเรื่องความถี่ในการประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารของ<br />
ARF และการนำาแผนปฏิบัติการว่าด้วยการทูตเชิงป้องกัน<br />
ของ ARF ไปดำาเนินการโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารของ ARF<br />
- ประชุมเพื่อหาข้อยุติในการจัดทำาบันทึกความเข้าใจ<br />
ว่าด้วยความร่วมมือทางทหารระหว่างกระทรวงกลาโหมไทย<br />
กับกระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐเกาหลี (Memorandum<br />
of Understanding between the Ministry of Defence<br />
of the Kingdom of Thailand and the Ministry<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
75
of National Defense of the Republic of Korea<br />
Concerning Cooperation in the Field of Defence)<br />
เมื่อ ๒๕ - ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ณ กรุงโซล สาธารณรัฐ<br />
เกาหลี เพื่อหาข้อยุติในร่างบันทึกความเข้าใจและเป็นการ<br />
เตรียมการสำาหรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในการ<br />
เดินทางเพื่อลงนามในบันทึกความเข้าใจ<br />
- ประชุม Tokyo Defense Forum (TDF) ครั้งที่ ๑๖<br />
เมื่อ ๑๓ - ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๕ ณ กรุงโตเกียว ประเทศ<br />
ญี่ปุ่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้แทนหน่วยงานด้านการ<br />
ป้องกันประเทศในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก ได้มีโอกาสหารือ<br />
แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ<br />
ความร่วมมือทางทหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการรับมือกับ<br />
ภัยคุกคามในภูมิภาค<br />
- ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ<br />
ทางทหาร ระหว่างกระทรวงกลาโหมไทย กับกระทรวงกลาโหม<br />
สาธารณรัฐเกาหลี (Memorandum of Understanding<br />
between the Ministry of Defence of the Kingdom<br />
of Thailand and the Ministry of National Defense of<br />
the Republic of Korea Concerning Cooperation in<br />
the Field of Defence) เมื่อ ๒๔ - ๒๕ มีนาคม ๒๕๕๕ ณ<br />
กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี และการเข้าร่วมลงนามในความ<br />
ตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศระหว่าง<br />
76 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
รัฐบาลกาตาร์และรัฐบาลไทย (Agreement Between<br />
the Government of the State of Qatar and the<br />
Government of the Kingdom of Thailand on<br />
Defence Cooperation) เมื่อ ๒๖ - ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๕<br />
ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ และลงนามในความตกลงว่าด้วยความ<br />
ร่วมมือด้านการป้องกันประเทศ ระหว่างกระทรวงกลาโหม<br />
ของทั้งสองประเทศ<br />
- ร่วมประชุมหารือด้านความมั่นคงทางทหารและ<br />
อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ กับกระทรวงกลาโหมกาตาร์<br />
เมื่อ ๒๔ - ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๕ ณ รัฐกาตาร์ เพื่อหารือ<br />
ด้านความมั่นคงทางทหารและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ<br />
ร่วมกัน<br />
- ประชุมคณะกรรมการส่งกำาลังบำารุงร่วมระหว่าง<br />
กระทรวงกลาโหมไทย กับกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ครั้งที่ ๔<br />
เมื่อ ๒๒ - ๒๔ เมษายน ๒๕๕๕ ณ กรุงมอสโก สหพันธรัฐ<br />
รัสเซีย เพื่อร่วมกันพิจารณาหาแนวทางและแลกเปลี่ยน<br />
ความคิดเห็นในด้านการส่งกำาลังบำารุงร่วมกับกระทรวง<br />
กลาโหมมิตรประเทศ<br />
- ดำาเนินกิจกรรมตามโครงการความร่วมมือทวิภาคี<br />
ระหว่างกระทรวงกลาโหม กับกระทรวงกลาโหมสหพันธ์<br />
สาธารณรัฐเยอรมนี ณ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ดังนี้<br />
๑) โครงการ Personnel Management เรื่อง การ<br />
บริหารจัดการบุคลากรในกองทัพ การคัดเลือกบุคลากร และ<br />
ระบบกองหนุน เมื่อ ๗ - ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๕ เพื่อเป็นการ<br />
ขยายความร่วมมือด้านการทหารและพัฒนาความสัมพันธ์<br />
ระหว่างสองประเทศ<br />
๒) โครงการ Leadership and Civic Education<br />
เรื่อง กองทัพในระบอบประชาธิปไตย เมื่อ ๑๔ - ๑๖<br />
พฤษภาคม ๒๕๕๕ โครงการ Air Space Management<br />
เรื่อง เทคโนโลยีในการป้องกันประเทศด้านอวกาศ เมื่อ<br />
๒๑ - ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๕ เพื่อศึกษาการบริหารจัดการ<br />
ด้านกำาลังพล เทคโนโลยี และการดำาเนินการมาพิจารณา<br />
ใช้ประโยชน์ในการปรับปรุงและพัฒนาการดำาเนินการที่<br />
เกี่ยวข้อง<br />
- ร่วมการประชุมหารือยุทธศาสตร์ ไทย - สหรัฐอเมริกา<br />
(Thai - US Strategic Dialogue) ครั้งที่ ๔ ณ สำานักงาน<br />
รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) เมื่อวันที่ ๑๑ - ๑๖<br />
มิถุนายน ๒๕๕๕ เพื่อให้ผู้แทนได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นด้าน<br />
ยุทธศาสตร์ความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก และ<br />
ติดตามผลการดำาเนินการภายใต้ก<strong>รอบ</strong>ความร่วมมือระหว่าง<br />
ไทย - สำานักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)<br />
- ร่วมการประชุมหารือการแก้ปัญหาความขัดแย้งใน<br />
ภูมิภาคของสมาชิกอาเซียนและเข้าร่วมพิธี รับตำาแหน่ง<br />
ใหม่ ผู้ว่าราชการจังหวัดอาเจห์ ณ ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อ<br />
วันที่ ๒๓ - ๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๕ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน<br />
ข้อมูลด้านความมั่นคงและการกำาหนดยุทธศาสตร์ การแก้ไข<br />
สถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้<br />
- ร่วมการประชุม US - Asean Business Forum<br />
ณ เมืองเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา เมื่อวันที่ ๑๓<br />
กรกฎาคม ๒๕๕๕ และได้เข้าร่วมหารือทวิภาคีกับสมเด็จ<br />
ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และพลเอก เตีย บันห์<br />
รองนายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา<br />
- ร่วมประชุมคณะทำางานร่วม ไทย - กัมพูชา (Joint -<br />
Working Group : JWG) ครั้งที่ ๑ เมื่อวันที่ ๓ - ๕ เมษายน<br />
๒๕๕๕ ณ โรงแรมดุสิตธานี เพื่อพิจารณากำาหนดแนวทาง<br />
ในการปฏิบัติตามคำาสั่งมาตรการชั่วคราวของศาลยุติธรรม<br />
ระหว่างประเทศ และได้จัดการประชุมคณะทำางานร่วม<br />
ไทย - กัมพูชา ครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๒๖ - ๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๕<br />
ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ทราบถึงแนวทางที่ชัดเจนในการปฏิบัติตาม<br />
มาตรการชั่วคราวของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ<br />
- ร่วมประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค<br />
(Regional Border Committee : RBC) ไทย - เมียนมาร์<br />
ครั้งที่ ๒๖ เมื่อวันที่ ๖ - ๘ มิถุนายน ๒๕๕๕ ณ จังหวัดตองยี<br />
รัฐฉาน เมียนมาร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความ<br />
สัมพันธ์และความร่วมมือไทย - เมียนมาร์ ให้แน่นแฟ้น<br />
มากยิ่งขึ้น<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
77
- ประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อย<br />
ตามชายแดน ไทย - ลาว จังหวัดมุกดาหาร - แขวงสะหวัน<br />
นะเขต ครั้งที่ ๗ เมื่อวันที่ ๒๖ - ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๕<br />
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและความสัมพันธ์<br />
อันดีระหว่างจังหวัดมุกดาหารและแขวงสะหวันนะเขต<br />
- ร่วมประชุมประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ ASEAN Regional<br />
Forum (ARF) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพิจารณาความเหมาะสม<br />
และความพร้อมในการดำาเนินการในภาพรวมต่อการฝึกซ้อม<br />
บรรเทาภัยพิบัติ (Disaster Relief Exercise : DiREx)<br />
- ร่วมการประชุมหารือนโยบายด้านความมั่นคงใน<br />
ภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก (ASEAN Political Security<br />
Community : APSC) เมื่อวันที่ ๒๓ - ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๕<br />
ณ กรุงพนมเปญ กัมพูชา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยน<br />
ความรู้ ประสบการณ์และข้อคิดเห็นในการขยายความร่วมมือ<br />
ทางทหารเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม<br />
และการบรรเทาสาธารณภัย (Humanitarian Assistance<br />
and Disaster Relief : HADR) การปฏิบัติการรักษาสันติภาพ<br />
(Peacekeeping Operations : PKO) และการปรับปรุง<br />
โครงสร้างสถาปัตยกรรมด้านความมั่นคงในภูมิภาค<br />
- เข้าร่วมประชุมยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันประเทศ<br />
ระหว่างกระทรวงกลาโหมไทยกับกระทรวงกลาโหม<br />
สหรัฐอเมริกา ครั้งที่ ๒ เมื่อ ๑๖ - ๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๕ โดย<br />
มีวัตถุประสงค์เพื่อเข้าร่วมหารือกับผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวง<br />
กลาโหมสหรัฐอเมริกา และผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ<br />
สหรัฐอเมริกา โดยหารือเกี่ยวกับแนวทางการดำาเนินความ<br />
ร่วมมือทางทหารที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของทั้งสอง<br />
ประเทศ<br />
- ร่วมการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ ณ Asia - Pacific<br />
Center for Security Studies (APCSS) เรื่อง “US<br />
Strategic Rebalance to the Asia - Pacific” ณ เมือง<br />
โฮโนลูลู มลรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา เมื่อ ๒๓ - ๒๗ ตุลาคม<br />
๒๕๕๕ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งเน้นเกี่ยวกับการเสริมสร้าง<br />
ความรู้ความเข้าใจในสภาพแวดล้อมและนโยบายความ<br />
ร่วมมือ รวมทั้งนโยบายและยุทธศาสตร์ใหม่ของสำานักงาน<br />
รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)<br />
78 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
- ร่วมการประชุม Tokyo Defense Forum (TDF)<br />
ครั้งที่ ๑๗ ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อ ๓๐ ตุลาคม<br />
๒๕๕๕ - ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ<br />
ให้ผู้แทนจา<strong>กห</strong>น่วยงานด้านการป้องกันประเทศในภูมิภาค<br />
เอเชีย - แปซิฟิก ได้มีโอกาสหารือ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น<br />
และประสบการณ์เกี่ยวกับความร่วมมือทางทหารระหว่าง<br />
ประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการรับมือกับภัยคุกคามใน<br />
ภูมิภาค<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
79
- ร่วมการประชุม Seoul Defence Dialogue ครั้งที่ ๑<br />
ณ กรุงโซล เกาหลีใต้ เมื่อ ๑๔ - ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๕<br />
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่าง<br />
ประเทศในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก ซึ่งจะเป็นประโยชน์<br />
ต่อการพัฒนาความร่วมมือด้านความมั่นคงในภูมิภาค<br />
80 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
- ร่วมการประชุมหารือทวิภาคีกับรองนายกรัฐมนตรี/<br />
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา รัฐมนตรีว่าการ<br />
กระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง<br />
พลังงานบรูไน (ผู้แทนกระทรวงกลาโหมบรูไน) โดยปลัด<br />
กระทรวงกลาโหม ได้พบหารือทวิภาคีกับปลัดกระทรวง<br />
กลาโหมสิงคโปร์ เมื่อ ๑๕ - ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๕<br />
ซึ่งมีผลการประชุมที่สำาคัญ คือ<br />
๑) เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองในประเด็นด้านการทหาร<br />
และความมั่นคง โดยมีอาเซียนเป็นศูนย์กลางในการดำาเนินการ<br />
เพื่อป้องกันการแทรกแซงของประเทศมหาอำานาจ<br />
๒) บทบาทของสหรัฐอเมริกาในภูมิภาคเอเชีย<br />
ตะวันออกเฉียงใต้ในการสนับสนุนให้เกิดสันติภาพความ<br />
มั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองของอาเซียน<br />
๓) กระทรวงกลาโหมบรูไน พร้อมที่จะเข้าร่วม<br />
ในการที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพร่วมกับสาธารณรัฐเกาหลี ในการ<br />
ฝึกซ้อมบรรเทาภัยพิบัติ (Disaster Relief Exercise : DiREx)<br />
ในก<strong>รอบ</strong> ASEAN Regional Forum (ARF) และ<br />
๔) ความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมของคณะทำางาน<br />
ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในก<strong>รอบ</strong> ASEAN Defence Ministers’<br />
Meeting Plus (ADMM - Plus) ใน<strong>ปี</strong> พ.ศ.๒๕๕๖<br />
กองบัญชาการกองทัพไทย<br />
- ดำาเนินการทบทวนนโยบายและยุทธศาสตร์ด้านการ<br />
ปฏิบัติการเพื่อสันติภาพด้วยการวางแผน การดำาเนินงาน<br />
เตรียมข้อมูล และพิจารณาขั้นตอนการปฏิบัติ เพื่อเตรียม<br />
การวางแผนในขั้นต้น<br />
- ดำาเนินการจัดระบบเตรียมกำาลังเป็นบุคคลในระบบ<br />
บัญชีรายชื่อพร้อมเรียกปฏิบัติงาน (On Call List) ด้วยการ<br />
คัดเลือกกำาลังพลประเภทบุคคลเพื่อบรรจุในบัญชีรายชื่อ<br />
สำาหรับสนับสนุนภารกิจรักษาสันติภาพ โดยทำาการทดสอบ<br />
ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน (ECL) และความรู้ทางวิชาการ<br />
รวมทั้งสอบสัมภาษณ์และประเมินผลบุคลิกภาพ จากนั้น<br />
จัดทำาบัญชีรายชื่อ และคัดเลือกกำาลังพลจากบัญชีรายชื่อ<br />
ไปปฏิบัติหน้าที่รักษาสันติภาพตามที่สหประชาชาติ หรือ<br />
มิตรประเทศร้องขอ<br />
- เตรียมความพร้อมในระบบกำาลังเตรียมพร้อม<br />
สหประชาชาติ (UNSAS) ด้วยการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ<br />
เพื่อกำาหนดความพร้อมของกองทัพไทยในบทบาทการปฏิบัติ<br />
งานเพื่อสันติภาพในประเด็น ประเภท ขนาดของหน่วยบัญชี<br />
บรรจุกำาลัง และบัญชียุทโธปกรณ์ ณ อาคารศูนย์สันติภาพ<br />
จอมทัพไทย ๖๐ <strong>ปี</strong> เมื่อ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๔ และ ๑๗<br />
กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕<br />
- เฝ้าตรวจติดตามและแจ้งเตือนความขัดแย้งใน<br />
ภูมิภาคต่าง ๆ ด้วยการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ในการ<br />
วางแผนถอนกำาลัง เคลื ่อนย้ายกองกำาลังเฉพาะกิจ ๙๘๐<br />
ไทย/ดาร์ฟูร์ ณ อาคารศูนย์สันติภาพ จอมทัพไทย ๖๐ <strong>ปี</strong><br />
เมื่อ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
81
- เสริมสร้างและพัฒนาสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย<br />
การเยี่ยมคำานับ พบปะบุคคลสำาคัญ ร่วมงานเลี้ยงรับรอง<br />
ของกองทัพ การร่วมประชุมหารือ ประสานงาน แลกเปลี่ยน<br />
ความคิดเห็นกับหน่วยงานราชการและเอกชน การเข้าร่วม<br />
ในพิธีและกิจกรรมสำาคัญของประเทศเจ้าบ้าน ที่มีสำานักงาน<br />
ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารไทย/ต่างประเทศ ประจำาอยู่<br />
- จัดส่งกำาลังพลเข้าร่วมการปฏิบัติภารกิจเพื่อสันติภาพ<br />
และมนุษยธรรมในกองกำาลังเฉพาะกิจ ๙๘๐ ไทย/ดาร์ฟูร์<br />
กองทัพบก<br />
- ร่วมประชุม Executive Steering Group (ESG)<br />
โดยเป็นการร่วมประชุมนายทหารระดับกลางระหว่าง<br />
กองทัพบกกับกองทัพบกสหรัฐฯ ณ กองกำาลังกองทัพบก<br />
สหรัฐฯ ภาคพื้นแปซิฟิก (USARPAC) มลรัฐฮาวาย ประเทศ<br />
สหรัฐอเมริกา เมื่อ ๖ - ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ทั้งนี้ ได้มอบ<br />
หมายให้ USARPAC เป็นหน่วยรับผิดชอบในการดำาเนินงาน<br />
ความร่วมมือ ในระหว่างการประชุม ESG ครั้งที่ ๑ โดย<br />
คณะผู้แทนกองทัพบกทั้งสองฝ่าย ได้แลกเปลี่ยนความรู้<br />
และประสบการณ์ในการดำาเนินงานในแต่ละสายงาน และ<br />
ได้ร่วมกันหารือแนวทางการดำาเนินงานความร่วมมือจนได้<br />
ข้อสรุปเป็นแผนงานการปฏิบัติร่วมกันระหว่างกองทัพบก<br />
กับกองทัพบกสหรัฐฯ (Agree-to-Action Plan) ในห้วง<br />
<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๖ จำานวน ๔๑ แผนงาน/กิจกรรม และ<br />
ตารางแผนงานการปฏิบัติร่วมกันระหว่างกองทัพบกกับ<br />
82 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
กองทัพบกสหรัฐฯ (Agree - to - Action Plan) ในห้วง<strong>ปี</strong><br />
๒๕๕๕ - ๒๕๖๐<br />
- เยือนประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร<br />
เมื่อวันที่ ๙ - ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๕ เพื่อเข้าร่วมงาน<br />
EUROSATORY 2012 ซึ่งเป็นงานแสดงเทคโนโลยีทางทหาร<br />
ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค โดยมีผู้นำาเหล่าทัพจากทั่วโลกเข้าร่วม<br />
งานดังกล่าว และได้เข้าร่วมการประชุมร่วมไทย - สหรัฐฯ<br />
(Security Assistance Review : SAR) ซึ่งเป็นการประชุมที่<br />
จัดขึ้นทุก<strong>ปี</strong> โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารือและแก้ไขข้อขัดข้อง<br />
เกี่ยวกับการจัดหายุทโธปกรณ์ โดยวิธี FMS สรุปสาระสำาคัญ<br />
ได้ว่า สหรัฐฯ มีแผนจะปลดประจำาการ เฮลิคอปเตอร์ 47 D<br />
จำานวน ๘๖ เครื่อง และจะขายให้กับประเทศพันธมิตรที่<br />
สนใจ, การติดตามความคืบหน้าการดำาเนินการในการจัดหา<br />
เฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป 60 แบบ L จำานวน ๓ เครื่อง และ<br />
เฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป 60 แบบ M จำานวน ๗ เครื่อง,<br />
การจัดหาปืนใหญ่กลางกระสุนวิถีโค้ง ขนาด ๑๕๕ มิลลิเมตร<br />
M198 (EDA) จำานวน ๕๔ กระบอก ซึ่งคาดว่าสหรัฐฯ จะ<br />
ซ่อมปรับปรุงแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๕ และ<br />
จะทำาการส่งมอบได้ภายในเดือนสิงหาคม ๒๕๕๕ และการ<br />
จัดหาเฮลิคอปเตอร์โจมตี (EDA) จำานวน ๔ เครื่อง (จก.<br />
กบ.ทบ./หน.คณะ)<br />
- เชิญคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ ประจำา<br />
ประเทศไทย และสำานักงานจัสแม็คมาเยี่ยมชมโรงเรียน<br />
นายร้อยพระจุลจอมเกล้า จำานวน ๑๑ ประเทศ เพื่อสาน<br />
และสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน พร้อมทั ้งเป็นการ<br />
ขอบคุณกองทัพของแต่ละประเทศที่ได้ให้การสนับสนุน<br />
นักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าเข้าศึกษาในโรงเรียน<br />
นายร้อยต่างประเทศ และให้การต้อนรับคณะนักเรียน<br />
นายร้อยต่างประเทศเข้าศึกษา ดูงานตามโครงการแลกเปลี่ยน<br />
ซึ่งกันและกัน<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
83
- ผู้บัญชาการทหารบก เดินทางเยือนมลรัฐฮาวาย<br />
สหรัฐอเมริกา อย่างเป็นทางการ ตามคำาเชิญของ พลโท<br />
ฟรานซิส เวียร์ซินสกี้ ผู้บัญชาการกองกำาลังทางบก สหรัฐฯ<br />
ประจำาภาคพื้นแปซิฟิก และเดินทางเยือนญี่ปุ่น เมื่อ ๕ - ๘<br />
พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ที่ผ่านมา ตามคำาเชิญของ พลเอก<br />
เออิจิ คิมิซูกะ ผู้บัญชาการกองกำาลังป้องกันตนเองทางบก<br />
ของญี่ปุ่น โดยได้มีการหารือถึงแนวทางในการขยายขอบเขต<br />
ความร่วมมือระหว่างกันให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้าน<br />
การฝึก การศึกษา และการแลกเปลี่ยน การเยือนระหว่าง<br />
กำาลังพลของทั้งสองประเทศในทุกระดับ และในโอกาส<br />
เดียวกันนี้ ผู้บัญชาการทหารบกยังได้พบปะและให้โอวาท<br />
กับนายทหารนักเรียน และนักเรียนนายร้อยไทย ที่กำาลัง<br />
ศึกษาในญี่ปุ่นอีกด้วย<br />
กองทัพเรือ<br />
- จัดผู้แทนเข้าร่วมการประชุม Navy to Navy<br />
Strategy Talk กับกองทัพเรือออสเตรเลีย ครั้งที่ ๗ ณ เมือง<br />
ซิดนีย์ เมื่อวันที่ ๕ - ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๕, ผู้บัญชาการทหาร<br />
เรือ และคณะ เดินทางเยือนสาธารณรัฐสหภาพเมียนมาร์<br />
อย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของกองทัพเรือสาธารณรัฐ<br />
สหภาพเมียนมาร์ เมื่อวันที่ ๑๔ - ๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๕, เข้า<br />
ร่วมสังเกตการณ์ฝึกยกพลขึ้นบกของนาวิกโยธินอินโดนีเซีย<br />
ณ ชายหาด Caligi เมืองลัมปุง เกาะสุมาตรา เมื่อวันที่ ๑๕<br />
- ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๕๕, จัดการประชุมคณะทำางานร่วมกับ<br />
กองทัพเรือสิงคโปร์ เมื่อวันที่ ๒๓ - ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๕<br />
ณ จังหวัดภูเก็ต, จัดผู้แทนเข้าร่วมการประชุม Navy to Navy<br />
84 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
Talks กับกองทัพเรือเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ ๑๘ - ๒๑ กรกฎาคม<br />
๒๕๕๕, จัดผู้แทนเข้าร่วมการประชุม Navy to Navy Talks<br />
กับกองทัพเรือฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ ๕ - ๘ มิถุนายน ๒๕๕๕<br />
- ขยายความร่วมมือกับกองทัพเรือในภูมิภาค และ<br />
กองทัพเรือมิตรประเทศ รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศใน<br />
ทุก ๆ ด้าน เช่น การประชุม/สัมมนา/การศึกษา ที่กองทัพ<br />
เรือมีส่วนร่วม โดยเร่งรัดปรับปรุงขยายความร่วมมือเดิมที่<br />
มีอยู่ให้มีการพัฒนาก<strong>รอบ</strong>การดำาเนินการให้มากยิ่งขึ้น รวม<br />
ถึงให้หน่วยริเริ่มความร่วมมือใหม่ในการสร้างความไว้เนื้อ<br />
เชื่อใจ สร้างสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง และเสริม<br />
บทบาทของกองทัพเรือ ในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม<br />
เวทีระหว่างประเทศทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี รวมทั้ง<br />
เสริมสร้างความสัมพันธ์และความมั่นคงทางทะเลระหว่าง<br />
กองทัพเรือในภูมิภาค และกองทัพเรือมิตรประเทศ โดยการ<br />
จัดเรือเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ<br />
กองทัพอากาศ<br />
- ดำาเนินความร่วมมือด้านความสัมพันธ์ระหว่าง<br />
กองทัพอากาศมิตรประเทศ ซึ่งได้จัดกำาลังพลเข้าร่วม<br />
ปฏิบัติหน้าที่สังเกตการณ์ทางทหารในซูดาน และเข้าร่วม<br />
และจัดการประชุมผู้บัญชาการทหารอากาศอาเซียน เมื่อ<br />
กันยายน ๒๕๕๕<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
85
๔. พัฒนาระบบการเตรียมพร้อม<br />
แห่งชาติ<br />
- ดำาเนินการช่วยเหลือประชาชนในกรณีประสบภัย<br />
พิบัติต่าง ๆ โดยจัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ประกอบด้วย<br />
กำาลังพล ยานพาหนะ ตลอดจนอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการ<br />
ช่วยเหลือผู้ประสบภัยนำ้ำท่วม ภัยหนาว ภัยแล้ง และ<br />
ภัยพิบัติอื่น ๆ<br />
- ดำาเนินการสนับสนุนการป้องกันและแก้ไขปัญหา<br />
ภัยพิบัติไฟป่า โดยใช้เครื่องบินแบบ C-130 และ BT-67<br />
ปฏิบัติภารกิจการบินควบคุมไฟป่าร่วมกับหน่วยงานอื่น<br />
- ทำาการบินค้นหาและช่วยชีวิต และบินเสริมเครือข่าย<br />
การติดต่อสื่อสาร เพื่อสนับสนุนภารกิจทางทหารและ<br />
พลเรือน โดยใช้เครื่องบินแบบ BT-67 เป็นศูนย์ติดต่อสื่อสาร<br />
ทางอากาศและการส่งภาพสถานการณ์ ณ เวลาจริง ด้วย<br />
ระบบ Video Down Link จากเครื่องบินแบบ AU-23 และ<br />
แบบ DA-42 MPP เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจค้นหา<br />
และกู้ภัยในภาพรวมของประเทศ<br />
86 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม
๕. เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติด<br />
องค์กรอาชญากรรมการค้ามนุษย์<br />
ผู้หลบหนีเข้าเมือง แรงงานต่างด้าว<br />
ผิดกฎหมาย และบุคคลที่ไม่มีสถานะ<br />
ชัดเจน<br />
- ดำาเนินการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหา<br />
ยาเสพติด โดยจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะ<br />
ยาเสพติด ดำาเนินการป้องกันปราบปราม และแก้ไขปัญหา<br />
ยาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ และบริเวณโดย<strong>รอบ</strong>ที่ตั้ง<br />
รวมทั้งการตั้งศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด จำานวน<br />
๑๓ ศูนย์<br />
ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />
87
บทส่งท้าย<br />
ในบริบทของการปฏิบัติหน้าที่ของทหาร นอกเหนือจากภารกิจหลักในการป้องกันประเทศ การธำารง<br />
รักษาเอกราช อธิปไตย และเขตอำานาจรัฐ การพิทักษ์รักษาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็น<br />
ที่รักยิ่งของประชาชนชาวไทยแล้ว กระทรวงกลาโหมยังได้ทุ่มเทและมุ่งมั่นต่อการสนับสนุนรัฐบาล<br />
ในการช่วยแก้ไขปัญหาของชาติในด้านต่าง ๆ รวมทั้งประสานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาประเทศ<br />
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เป็นที่ประจักษ์แจ้งแก่ประชาชนชาวไทยแล้วว่า ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์<br />
ต่าง ๆ ขึ้น หรือปัญหาใด ๆ ทั้งจากปัจจัยสภาวะแวดล้อมและสถานการณ์โดย<strong>รอบ</strong>ที่แปรเปลี่ยนไปเช่นไร<br />
กระทรวงกลาโหมก็ยังคงยืนหยัดปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติและทำาหน้าที่เคียงข้างประชาชน<br />
มาโดยตลอด ทั้งนี้เพราะตระหนักดีถึงหน้าที่รวมทั้งความรัก ความศรัทธา และความเชื่อมั่นของประชาชน<br />
ที่มีให้ต่อกองทัพ<br />
กระทรวงกลาโหมขอปฏิญาณและให้คำามั่นต่อพี่น้องประชาชนชาวไทยผู้เป็นเจ้าของประเทศว่า<br />
หน่วยงานทุ<strong>กห</strong>น่วยงานในสังกัดกระทรวงกลาโหมและทหารทุกนายจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั ้งใจ<br />
ทุ่มเท และเสียสละ เพื่อสถาปนาความมั่นคงของราชอาณาจักรไทย โดยมุ่งหวังให้เกิดความเจริญวัฒนา<br />
ผาสุก และยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นเป้าหมายสูงสุด ดังคำามั่นที่ว่า<br />
“กลาโหมเทิดราชา รักษ์ราษฎร์ ชาติมั่นคง”
ขอขอบคุณ<br />
- สำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม<br />
- กรมราชองครักษ์<br />
- กองบัญชาการกองทัพไทย<br />
- กองทัพบก<br />
- กองทัพเรือ<br />
- กองทัพอากาศ<br />
- สำนักนโยบายและแผนกลาโหม<br />
- สำนักงบประมาณกลาโหม<br />
- องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก<br />
- สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน)<br />
จัดทำโดย<br />
สำนักงานเลขานุการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
ในศาลาว่าการกลาโหม ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพ ๑๐๒๐๐<br />
โทรศัพท์ ๐ ๒๒๒๕ ๘๒๖๒ โทรสาร ๐ ๒๒๒๕ ๘๒๖๒<br />
พิมพ์ที่ : บริษัท รุ่งศิลป์การพิมพ์ (๑๙๗๗) จำกัด<br />
๕๕๕ หมู่ ๑๒ ถนนพุทธมณฑล สาย ๕ ตำาบลไร่ขิง อำาเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ๗๓๒๑๐<br />
โทรศัพท์ ๐ ๒๘๑๑ ๗๗๗๘, ๐ ๑๘๑๑ ๗๗๗๐ โทรสาร ๐ ๒๘๑๑ ๗๗๑๕
http://opsd.mod.go.th