19.01.2018 Views

กห. รอบ 9 ปี

You also want an ePaper? Increase the reach of your titles

YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.

ผลการดำเนินงานของ<br />

กระทรวงกลาโหม ใน<strong>รอบ</strong> ๑ <strong>ปี</strong><br />

(๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ ถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕)


“ท่านทั้งหลาย ที่ได้อยู่ ณ ที่นี้ ผู้อยู่ในหน้าที่ทั้งฝ่ายพลเรือน และทหาร ย่อมทราบ<br />

แก่ใจอยู่ทั่วกันว่า ความมั่นคงของประเทศชาติจะเกิดมีขึ้นได้ ก็ด้วยประชาชนในชาติ<br />

อยู่ดีมีสุข ไม่มีทุกข์ยากเข็ญ ดังนั้น การสิ่งใดที่เป็นความทุกข์เดือดร้อนของประชาชน<br />

ทุกคนทุกฝ่ายจึงต้องถือเป็นหน้าที่ ที่จะต้องร่วมมือกันปฏิบัติแก้ไขให้เต็มกำลัง โดยเฉพาะ<br />

ขณะนี้ประชาชนกำลังเดือดร้อนลำบากจากน้ำท่วม จึงชอบที่จะร่วมมือกันปัดเป่าแก้ไข<br />

ให้ผ่านพ้นไปโดยเร็ว และจัดทำโครงการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน อย่างเช่น โครงการ<br />

ต่างๆ ที่เคยพูดไปนั้น ก็เป็นการแนะนำไม่ใช่สั่งการ แต่ถ้าเป็นการปรึกษากันแล้วเห็นว่า<br />

เป็นประโยชน์คุ้มค่าและทำได้ก็ทำ<br />

ข้อสำคัญจะต้องไม่ขัดแย้งแตกแยกกัน อาจจะต้องให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เพื่อให้<br />

งานที่ทำบรรลุผลที่มีประโยชน์ เพื่อความผาสุกของประชาชนและความมั่นคง ปลอดภัย<br />

ของประเทศชาติ<br />

ขออำนาจแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงคุ้มครอง รักษาท่าน ให้ปราศจาก<br />

ทุกข์ ปราศจากภัย และอำนวยความสุขความเจริญแก่ท่านทั่วกัน”<br />

พระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในการเสด็จออกมหาสมาคม<br />

ณ มุขเด็จ พระที ่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง<br />

เนื่องในพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ <strong>รอบ</strong> ๘๔ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔


กลาโหมเทิดราชา รักษ์ราษฎร์ ชาติมั่นคง


รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย<br />

พุทธศักราช ๒๕๕๐<br />

“มาตรา ๗๗ รัฐต้องพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เอกราช อธิปไตย และ<br />

บูรณภาพแห่งเขตอำานาจรัฐ และต้องจัดให้มีกำาลังทหาร อาวุธยุทโธปกรณ์ และเทคโนโลยีที่ทันสมัย<br />

จำาเป็น และเพียงพอ เพื่อพิทักษ์รักษาเอกราช อธิปไตย ความมั่นคงของรัฐ สถาบันพระมหากษัตริย์<br />

ผลประโยชน์แห่งชาติ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น<br />

ประมุข และเพื่อการพัฒนาประเทศ”


วิสัยทัศน์<br />

- เป็นองค์กรที่มีกองทัพชั้นนำา มีบทบาทนำาในด้านความมั่นคงของรัฐและความมั่นคงของภูมิภาค<br />

พันธกิจ<br />

๑. พัฒนาบทบาทนำาในการดำาเนินงานร่วมกันระหว่างส่วนราชการ เพื่อพิทักษ์ รักษาและเทิดทูน<br />

สถาบันพระมหากษัตริย์<br />

๒. รักษาเอกราชและอธิปไตย รวมทั้งพัฒนาศักยภาพกองทัพ เพื่อมุ่งสู่การเป็นกองทัพชั้นนำา<br />

ในภูมิภาค<br />

๓. พัฒนาบทบาทนำาในการดำาเนินงานร่วมกันระหว่างส่วนราชการ เพื่อรักษาความมั่นคงภายใน<br />

ราชอาณาจักร<br />

๔. พัฒนาบทบาทนำาในการสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงในภูมิภาค<br />

๕. พัฒนาประเทศเพื่อความมั่นคง รวมทั้งสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชน การรักษาผลประโยชน์<br />

แห่งชาติ และการแก้ไขปัญหาสำาคัญของชาติ<br />

ค่านิยมองค์กร<br />

- ยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมี<br />

พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข


พลอากาศเอก สุกำพล สุวรรณทัต<br />

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม<br />

พลเอก เสถียร เพิ่มทองอินทร์<br />

ปลัดกระทรวงกลาโหม<br />

พลเอก ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร<br />

ผู้บัญชาการทหารสูงสุด<br />

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา<br />

ผู้บัญชาการทหารบก<br />

พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์<br />

ผู้บัญชาการทหารเรือ<br />

พลอากาศเอก อิทธพร ศุภวงศ์<br />

ผู้บัญชาการทหารอากาศ


นโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม<br />

นโยบายทั่วไป<br />

๑. การปฏิบัติราชการให้ยึดถือกฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ และคำาสั่งที่เกี่ยวข้อง นโยบาย และ<br />

มติคณะรัฐมนตรี การสั่งการของนายกรัฐมนตรี มติสภากลาโหม ยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศ แผนแม่บท การปรับปรุง<br />

โครงสร้างกระทรวงกลาโหม แผนพัฒนาขีดความสามารถของกระทรวงกลาโหม รวมทั้งแผนแม่บทหรือแผนหลักในการ<br />

ดำาเนินการด้านต่างๆ โดยปรับปรุงให้มีความทันสมัย สอดคล้องกับภารกิจและสภาพแวดล้อมอยู่เสมอ<br />

๒. พิทักษ์ รักษาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างสมพระเกียรติ ทั้งในฐานะที่พระมหากษัตริย์ทรงเป็น<br />

ประมุขของประเทศ และทรงดำารงตำาแหน่งจอมทัพไทย เพื่อให้สถาบันพระมหากษัตริย์ คงเป็นศูนย์รวมจิตใจที่มั่นคง<br />

และยั่งยืน ของประชาชนชาวไทย และเป็นสถาบันหลักที่สำาคัญยิ่งของประเทศ โดยจะต้องดำาเนินการและปฏิบัติงานร่วมกับ<br />

ส่วนราชการต่างๆ อย่างเต็มความสามารถ รวมทั้งให้ความสำาคัญกับการสนับสนุนและ<br />

เผยแพร่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำาริ<br />

๓. พัฒนาความร่วมมือทางทหารกับประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศในกลุ่ม<br />

อาเซียน มิตรประเทศและองค์การระหว่างประเทศ ทั้งในระดับทวิภาคีและ<br />

พหุภาคี เพื่อจัดระเบียบสภาวะแวดล้อมด้านความมั่นคง สร้างความไว้เนื้อ<br />

เชื่อใจ สร้างสันติภาพ ความก้าวหน้า และความสงบสุขร่วมกัน และเพื่อ<br />

เป็นส่วนหนึ่งในการนำาไปสู่การรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน ใน<strong>ปี</strong> ๒๕๕๘<br />

รวมทั้งสนับสนุนภารกิจเพื่อสันติภาพ การปฏิบัติการเพื่อมนุษยธรรม และ<br />

ส่งเสริมบทบาทในการรักษาสันติภาพ ภายใต้ก<strong>รอบ</strong>ของสหประชาชาติและ<br />

ผลประโยชน์แห่งชาติเป็นหลัก<br />

๔. เสริมสร้างศักยภาพกองทัพและระบบการป้องกันประเทศ<br />

ให้มีความพร้อมในการพิทักษ์ รักษาเอกราช อธิปไตย ความ<br />

มั่นคง และผลประโยชน์แห่งชาติ โดยใช้การปฏิบัติการ<br />

ในลักษณะการรบร่วมเป็นหลัก และให้ความสำาคัญ<br />

กับการพัฒนาด้านการข่าวกรองและการต่อต้านข่าวกรอง<br />

ให้สามารถตอบสนองภารกิจของกองทัพได้ในทุกระดับ<br />

พัฒนาการส่งกำาลังบำารุงร่วม โดยใช้ประโยชน์จากงาน<br />

มาตรฐานยุทโธปกรณ์ทางทหารและศักยภาพด้านต่างๆ<br />

ที่แต่ละเหล่าทัพมีอยู่ พัฒนาการระดมสรรพกำาลัง<br />

เพื่อการทหาร ให้สามารถขยายกำาลังและปฏิบัติการ<br />

ได้อย่างต่อเนื่อง มีการสำารองอาวุธยุทโธปกรณ์และ<br />

พลังงานเพื่อความมั ่นคง รวมทั้งให้ความสำาคัญกับ<br />

การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกและค<strong>รอบ</strong>ครัว เพื่อ<br />

ตอบแทนคุณความดี และเป็นการสร้างขวัญกำาลังใจ<br />

ให้กับกำาลังพลที่กำาลังปฏิบัติหน้าที่ป้องกันประเทศ


๕. พัฒนากิจการป้องกันอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ โดยบูรณาการขีดความสามารถ ของภาครัฐและเอกชน รวมทั้งใช้<br />

ประโยชน์จากความร่วมมือในกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อนำาไปสู่การพึ่งพาตนเองในการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ พัฒนากิจการ<br />

วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อการป้องกันประเทศ ให้ทัดเทียมกับประเทศในภูมิภาค สามารถสนับสนุนการพึ่งพาตนเอง<br />

ของอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ โดยร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ การ<br />

สื่อสาร และกิจการอวกาศ โดยเน้นให้เกิดการบูรณาการ ความเป็นมาตรฐาน และความมั่นคงปลอดภัยของระบบเทคโนโลยี<br />

สารสนเทศ และการสื่อสารภายในกระทรวงกลาโหม<br />

๖. พัฒนาการผนึกกำาลังกับทุกภาคส่วนของสังคมเพื่อการป้องกันประเทศ ด้วยการนำาพลังอำานาจแห่งชาติทุกด้าน มาใช้<br />

สนับสนุนการปฏิบัติภารกิจเพื่อความมั่นคงร่วมกับกระทรวงกลาโหม โดยในยามปกติ กระทรวงกลาโหมจะต้องใช้ทรัพยากร<br />

ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ ด้วยการช่วยพัฒนาพลังอำานาจแห่งชาติทุกด้าน โดยให้ความสำาคัญกับการสนับสนุน<br />

นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โดยเฉพาะการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ และฟื้นฟูประชาธิปไตย<br />

การสนับสนุนการแก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติด และการเร่งนำาสันติสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน<br />

ของประชาชนกลับมาสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งสนับสนุนการรักษาผลประโยชน์แห่งชาติ การพัฒนาประเทศเพื่อ<br />

ความมั่นคง การช่วยเหลือประชาชน การแก้ไขปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปัญหาภัยพิบัติ โดยเฉพาะอุทกภัย<br />

การร่วมจัดการกับปัญหาการก่อการร้าย และอาชญากรรมข้ามชาติต่างๆ ได้แก่ ยาเสพติด ผู้หลบหนีเข้าเมือง แรงงานต่างด้าว<br />

ผิดกฎหมาย การค้าสิ่งของผิดกฎหมาย การค้ามนุษย์ โจรสลัด และ ภัยจากเครือข่ายอินเตอร์เน็ต<br />

นโยบายเฉพาะ<br />

๑. กองทัพต้องมีโครงสร้างที่เหมาะสม กะทัดรัด ทันสมัย มีความสมดุลระหว่างหน่วยปฏิบัติกับหน่วยควบคุมบังคับ<br />

บัญชา พร้อมรองรับภารกิจและสภาพแวดล้อมทั้งในปัจจุบันและในอนาคต โดยการขยายหน่วยหรือจัดตั้งหน่วยใหม่จะต้อง<br />

มีเหตุผลรองรับชัดเจน<br />

๒. พัฒนางานด้านกำาลังพลให้สอดคล้องกับโครงสร้างกองทัพและสามารถตอบสนองการปฏิบัติภารกิจต่างๆ ได้อย่าง<br />

มีประสิทธิภาพ โดยให้ความสำาคัญกับการพัฒนาระบบข้าราชการพลเรือนกลาโหม ให้สามารถนำามาใช้ในกระทรวงกลาโหม<br />

ได้อย่างเป็นรูปธรรม และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อทางราชการ<br />

๓. พัฒนาการฝึกร่วมระหว่างเหล่าทัพ และการฝึกร่วม/ผสม กับมิตรประเทศ ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน<br />

สามารถนำาไปปฏิบัติได้ และมีความสมจริง รวมทั้งให้เพิ่มเติมการฝึกที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติภารกิจอื่นๆ ของทหาร<br />

เช่น การฝึกบรรเทาสาธารณภัย เป็นต้น<br />

๔. จัดให้มีพื้นที่ฝึกของแต่ละเหล่าทัพและพื้นที่ฝึกร่วมระหว่างเหล่าทัพที่เหมาะสม โดยพื้นที่ฝึกดังกล่าวจะต้องมี<br />

มาตรการในการป้องกันการบุกรุกพื้นที่ ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถใช้พื้นที่ฝึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ<br />

๕. ปรับปรุงการศึกษาของกองทัพในแต่ละระดับให้มีหลักสูตรที่สามารถพัฒนาบุคลากร ที่เข้ารับการศึกษาให้มีคุณภาพ<br />

และประสิทธิภาพสูงสุดอย่างแท้จริง โดยให้ความสำาคัญกับการศึกษาในระดับยุทธศาสตร์ ที่มีบุคลากรระดับสูงเข้ารับ<br />

การศึกษาเป็นลำาดับแรก


บทนำ<br />

ในห้วง<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕ ที่ผ่านมา ประเทศไทยในภาพรวม ได้เผชิญกับปัญหาต่าง ๆ มากมายทั้งปัจจัยจากภายในประเทศ<br />

และภายนอกประเทศ รวมทั้งปัญหาจากภัยพิบัติทางธรรมชาติครั้งสำาคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่<br />

ที่เกิดขึ้นในช่วงปลาย<strong>ปี</strong> ๕๔ อันส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศในวงกว้าง ทำาให้<br />

การดำาเนินกิจกรรมการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าของรัฐบาลตามนโยบายที่ได้วางไว้และตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจ<br />

และสังคมแห่งชาติฉบับปัจจุบัน ต้องประสบกับอุปสรรคและความซับซ้อนเพิ่มขึ้น อันส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต<br />

ของประชาชนโดยตรง<br />

กระทรวงกลาโหม ในฐานะสถาบันทหารอันเป็นหน่วยงานหลักด้านความมั่นคงของประเทศ ก็ได้ตระหนักถึงปัญหา<br />

ที่เกิดขึ้นในมิติต่าง ๆ และบทบาทหน้าที่ของทหารตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐<br />

ที่ระบุถึงภารกิจในการพิทักษ์รักษาเอกราช อธิปไตย ความมั่นคงของรัฐ สถาบันพระมหากษัตริย์ ผลประโยชน์แห่งชาติ<br />

การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการพัฒนาประเทศ จึงได้ดำาเนินการปฏิบัติ<br />

หน้าที่เป็นกลไกที่สำาคัญของภาครัฐ ในการเข้าไปมีส่วนร่วมช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของชาติตามนโยบายของรัฐบาล ภายใต้<br />

ก<strong>รอบ</strong>ที่กฎหมายกำาหนดอย่างเต็มกำาลังความสามารถ ซึ่งภารกิจต่าง ๆ ที่กระทรวงกลาโหมได้ดำาเนินการและสนับสนุน<br />

การดำาเนินการมาอย่างต่อเนื่อง มีเป้าหมายเพื่อประเทศชาติและประชาชนเป็นประโยชน์สูงสุดนั้น สิ่งเหล่านี้ถือเป็น<br />

ความภาคภูมิใจของกระทรวงกลาโหมและกำาลังพลทุกนายที่ได้มีส่วนร่วมในการปฏิบัติหน้าที่<br />

ทั้งนี้ เพราะกระทรวงกลาโหมระลึกเสมอว่า จุดมุ่งหมายของความมั่นคง ยั่งยืน และความผาสุกของประเทศนั้น คือความสุข<br />

และความปรารถนาของพี่น้องประชาชนชาวไทยทั้งประเทศ ซึ่งเหล่าทหารจะยึดมั่นเป็นเป้าประสงค์หลักและพร้อมที่จะ<br />

ปฏิบัติหน้าที่โดยยึดเอาผลประโยชน์อันยิ่งใหญ่ของประเทศชาติเป็นเป้าหมายสูงสุด


สารบัญ<br />

- บทบาทของทหารตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ๕<br />

- วิสัยทัศน์ / พันธกิจ / ค่านิยมองค์กร ๖<br />

- นโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ๘<br />

- บทนำ ๑๑<br />

ผลการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ๑๔<br />

ตามนโยบายรัฐบาล และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี<br />

ใน<strong>รอบ</strong><strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕ (๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ ถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕)<br />

(นโยบายเร่งด่วน)<br />

๑. เสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตย ๑๕<br />

๒. กำหนดให้การแก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติดเป็น “วาระแห่งชาติ” ๑๙<br />

๓. เร่งนำสันติสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ๒๕<br />

กลับมาสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้<br />

๔. เร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและนานาประเทศ ๓๐<br />

๕. ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐอย่างจริงจัง ๓๕<br />

๖. ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยเพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศ ๓๕<br />

สร้างสมดุลและความเข้มแข็งอย่างมีคุณภาพให้แก่ระบบเศรษฐกิจมหภาค


ผลการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม ๓๘<br />

ตามนโยบายรัฐบาล และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี<br />

ใน<strong>รอบ</strong><strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕ (๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ ถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕)<br />

(นโยบายความมั่นคงแห่งรัฐ)<br />

๑. เทิดทูนและพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ ๓๙<br />

๒. พัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพของกองทัพและระบบป้องกันประเทศ ๔๘<br />

๓. พัฒนาและเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ ๗๕<br />

๔. พัฒนาระบบการเตรียมพร้อมแห่งชาติ ๘๖<br />

๕. เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติด องค์กรอาชญากรรมการค้ามนุษย์ ๘๗<br />

ผู้หลบหนีเข้าเมือง แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย และบุคคลที่ไม่มีสถานะชัดเจน<br />

- บทส่งท้าย ๘๘


ผลการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม<br />

ตามนโยบายรัฐบาล และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี<br />

ใน<strong>รอบ</strong><strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

(๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ ถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕)<br />

นโยบายเร่งด่วน<br />

กระทรวงกลาโหมได้ดำาเนินการตามแผนงาน/โครงการ โดยมีผลการดำาเนินงานที่สำาคัญ ดังนี้<br />

๑. เสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตย<br />

๒. กำาหนดให้การแก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติดเป็น“วาระแห่งชาติ”<br />

๓. เร่งนำาสันติสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนกลับมาสู่พื้นที่<br />

จังหวัดชายแดนภาคใต้<br />

๔. เร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์และพัฒนาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและนานาประเทศ<br />

๕. ป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในภาครัฐอย่างจริงจัง<br />

๖. ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยเพิ่มกำาลังซื้อภายในประเทศ สร้างสมดุลและ<br />

ความเข้มแข็งอย่างมีคุณภาพให้แก่ระบบเศรษฐกิจมหภาค<br />

14 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


๑. เสริมสร้างความปรองดองสมานฉันท์<br />

ของคนในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตย<br />

กระทรวงกลาโหมได้มอบหมายให้หน่วยขึ้นตรง<br />

กระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ จัดกิจกรรมและโครงการ<br />

สร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ ให้เหมาะสม<br />

และค<strong>รอบ</strong>คลุมกับกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อเป็น<br />

ส่วนสำาคัญในการขับเคลื่อนการแก้ปัญหาความแตกแยกของ<br />

คนในชาติให้กลับมาเป็นสังคมที่มีความสามัคคี ความเอื้อ<br />

อาทรต่อกัน โดยมีกิจกรรมและโครงการต่าง ๆ ประกอบด้วย<br />

- การบรรยายให้ความรู้และสัมมนาเชิงปฏิบัติการ<br />

โครงการ “สถานีวิทยุสีขาว เทิดไท้องค์ราชา” ณ โรงแรมเอเชีย<br />

เขตราชเทวี กรุงเทพฯ โดยมีวัตถุประสงค์ให้ผู้ประกอบการ<br />

วิทยุกระจายเสียงที่เข้าร่วมสัมมนามีความเข้าใจถึงบทบาท<br />

หน้าที่และจิตสำานึกความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อขยายผล<br />

ในการทำาหน้าที่เป็นสื่อสาธารณะที่ร่วมกันเทิดทูนสถาบัน<br />

พระมหากษัตริย์ พร้อมทั้งเสริมสร้างการมีส่วนร่วมและ<br />

สร้างจิตสำานึกของประชาชนในความรับผิดชอบต่อสาธารณะ<br />

และดำาเนินกิจกรรมเพื่อประโยชน์แก่สังคมต่อไป<br />

- ดำาเนินโครงการ “ค่ายเยาวชนรักชาติ” โดยมี<br />

วัตถุประสงค์เพื่อฝึกอบรมเยาวชนให้เกิดความรู้สึกนึกคิดใน<br />

ความเป็นคนไทย เกิดความรักสามัคคี ปกป้องและเทิดทูน<br />

สถาบันพระมหากษัตริย์ รวมทั้งภูมิใจในความเป็นคนไทย<br />

เพื่อให้เยาวชนไทยเติบโตเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่า<br />

และเป็นกำาลังหลักสำาคัญในการรักษาความมั่นคงของชาติ<br />

พร้อมทั้งจัดตั้งเครือข่ายผู้นำาชุมชนเฝ้าระวังและแจ้งเตือน<br />

การล่วงละเมิดสถาบันหลักของชาติ<br />

- จัดกิจกรรมการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคน<br />

ในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตยให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน<br />

โดยกำาลังพลของกองทัพต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง<br />

และใช้วิจารณญาณในการรับฟังข้อมูลข่าวสาร<br />

- จัดโครงการ “กล้าแผ่นดินด้วยเศรษฐกิจพอเพียง”<br />

โดยมีวัตถุประสงค์<br />

๑) ปลุกจิตสำานึกให้กลุ่มเป้าหมายมีความรับผิดชอบ<br />

ต่อตนเองและสังคม<br />

๒) เสริมสร้างค่านิยมในเรื่องความรักความสามัคคี<br />

ในชุมชน<br />

๓) ลดปัญหาความขัดแย้งทางความคิดระหว่าง<br />

กลุ่มชนในชุมชน<br />

๔) จัดตั้งแกนนำาเยาวชนในการขยายผลไปสู่การ<br />

เป็นผู้นำาท้องถิ่น ซึ่งได้ดำาเนินโครงการฯ ดังกล่าวแล้ว จำานวน<br />

๔ รุ่น คือ รุ่นที่ ๑ โรงเรียนเขาชะเมาวิทยา อำาเภอเขาชะเมา<br />

จังหวัดระยอง รุ่นที่ ๒ เทศบาลตำาบลบางนมโค อำาเภอ<br />

เสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รุ่นที่ ๓ โรงเรียนบ้านบึง<br />

อุตสาหกรรมนุเคราะห์ อำาเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี และ<br />

รุ่นที่ ๔ โรงเรียนพรหมานุสรณ์ อำาเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี<br />

- ดำาเนินการประชาสัมพันธ์ทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มี<br />

ผู้เปิดเข้าเยี่ยมชมเว็บ จำานวน ๑๕,๒๑๖ คน โดยประชาสัมพันธ์<br />

กิจกรรมของหน่วยรวม ๖๖ กิจกรรม เพื่อสร้างการรับรู้ของ<br />

ประชาชนในการดำาเนินกิจกรรมของกองทัพ มีความรัก<br />

ความหวงแหน และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อันจะ<br />

นำามาซึ่งความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

15


- ได้จัดการฝึกอบรมหลักสูตร “การพัฒนาสัมพันธ์<br />

สื่อสารมวลชนเพื่อความมั่นคงของชาติ” รุ่นที่ ๙ ให้กับ<br />

สื่อมวลชนประเภทวิทยุชุมชนจากทั่วประเทศ จำานวน ๑๕๐<br />

คน ระหว่าง ๒๔ - ๒๗ เมษายน ๒๕๕๕ ณ กรมทหารปืนใหญ่<br />

ต่อสู้อากาศยานที่ ๑ ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ<br />

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ความ<br />

เข้าใจในงานความมั่นคงรวมถึงบทบาทหน้าที่ และจิตสำานึก<br />

ความรับผิดชอบต่อสังคม ร่วมกันเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่<br />

ถูกต้องและสร้างสรรค์ มีส่วนร่วมในการสร้างความรัก<br />

ความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ ดำารงรักษาไว้ซึ่ง<br />

สถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นการขยาย<br />

เครือข่ายวิทยุกระจายเสียง เพื่อความมั่นคงของสำานักงาน<br />

ปลัดกระทรวงกลาโหมในภาพรวม<br />

- จัดโครงการ “จิตสำานึกรักเมืองไทย” เพื่อสร้างสำานึก<br />

และการมีส่วนร่วมของประชาชนในการสนับสนุนงานความ<br />

มั่นคงของชาติและความรับผิดชอบต่อสาธารณะ โดยมี<br />

เป้าหมายเป็นเยาวชนที่มีอายุระหว่าง ๑๖ - ๒๕ <strong>ปี</strong> ซึ่งเป็นพลัง<br />

ที่สำาคัญต่ออนาคตของชาติ โดยใน<strong>ปี</strong> ๒๕๕๕ ได้ดำาเนินการ<br />

ต่อเนื่องแล้วเป็น<strong>ปี</strong>ที่ ๔ ระหว่าง มิถุนายน - กันยายน ๒๕๕๕<br />

เน้นการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของเยาวชนด้วยการเปิด<br />

เวทีให้เยาวชนได้ร่วมสะท้อนแนวคิด มุมมองต่อสถานการณ์<br />

บ้านเมืองผ่านหัวข้อที่กำาหนด เพื่อให้ร่วมส่งผลงานเข้ารับ<br />

การประกวด โดยเยาวชนได้พิจารณาศึกษาค้นคว้า แลกเปลี่ยน<br />

ความเห็นถึงสถานการณ์ทางสังคม และสร้างสรรค์ผลงาน<br />

ผ่านกิจกรรมการประกวด ซึ่งในแต่ละ<strong>ปี</strong>จะกำาหนดหัวข้อและ<br />

กิจกรรมการประกวดให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในห้วงเวลา<br />

คือ <strong>ปี</strong>ที่ ๑ จัดการประกวดผลงานจิตรกรรม (ภาพวาด)<br />

หัวข้อ “ทำาให้พ่อได้สุขใจ ทำาให้ไทยได้มั่นคง” <strong>ปี</strong>ที่ ๒ จัดการ<br />

ประกวดผลงานภาพถ่าย และภาพยนตร์สั้น ในหัวข้อ<br />

“จิตสำานึก รักเมืองไทย” และ<strong>ปี</strong>ที่ ๓ จัดการประกวดผลงาน<br />

การสร้างสรรค์บทเพลง ภาพถ่าย และสปอตโทรทัศน์<br />

ในหัวข้อ “ร่วมกัน...เดินหน้าประเทศไทย” ซึ่งมีเยาวชน<br />

จากทั่วประเทศจำานวนมากส่งผลงานเข้าร่วมการประกวด<br />

- จัดทำาโครงการ “เยาวชนไทย รู้รักสามัคคี” เพื่อสร้าง<br />

ความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ โดยจัดในพื้นที่<br />

จังหวัดอุบลราชธานี ณ กรมทหารราบที่ ๖ กองพันทหารราบ<br />

ที่ ๓ พื้นที่จังหวัดเชียงราย ณ กรมทหารราบที่ ๑๗ กองพัน<br />

ทหารราบที่ ๓ และในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ณ สนามกีฬา<br />

๗๐๐ <strong>ปี</strong> โดยเยาวชนได้รับการปลูกฝังให้มีความจงรักภักดี<br />

ต่อสถาบันที่สำาคัญของชาติ มีระเบียบวินัยในการอยู่ร่วมกัน<br />

ด้วยความสมานฉันท์ ได้รับทราบถึงโทษและพิษภัยของ<br />

ยาเสพติด สามารถนำาเอาความรู้ไปเผยแพร่ในชุมชนและ<br />

คนในค<strong>รอบ</strong>ครัวของตนเอง รวมทั้งมีการขยายเครือข่าย<br />

เยาวชนในการติดต่อสื่อสารซึ่งกันและกัน การให้กำาลังใจ<br />

ต่อกัน การนำาสิ่งดี ๆ มาถ่ายทอดผ่านสื่อสังคมออนไลน์<br />

Facebook ซึ่งจัดทำาร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย<br />

และเยาวชนที่ร่วมโครงการ<br />

16 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

17


- นำาเยาวชนไปทัศนศึกษาตามโครงการ “รวมใจไทย<br />

เป็นหนึ่ง” เป็นการจัดกิจกรรมนำาเยาวชนในพื้นที่ปฏิบัติงาน<br />

ของหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ ในพื้นที่อำาเภอ<br />

บาเจาะ และอำาเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส และอำาเภอ<br />

ไม้แก่น อำาเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ทัศนศึกษาอบรม<br />

นอกสถานที่ประจำา<strong>ปี</strong> ๒๕๕๕ จำานวน ๒ รุ่น ๆ ละ ๔๐ คน<br />

รุ่นที่ ๖/๒๕๕๕ และรุ่นที่ ๗/๒๕๕๕ เพื่อเป็นการปลูกฝัง<br />

จิตสำานึก ของเยาวชน ให้มีความรัก ความสามัคคีและความ<br />

เป็นหนึ่งเดียวกัน<br />

เพื่อให้ผู้ประกอบกิจการสื่อมวลชนสามารถขยายผลสู่การ<br />

ปฏิบัติในชุมชนร่วมกันในภาพรวมพร้อมทั้งเป็นการขยาย<br />

ผลสนับสนุนการประชาสัมพันธ์งานความมั่นคงสู่ชุมชน<br />

ทั่วประเทศในวงกว้างต่อไป<br />

- ให้การสนับสนุนกระทรวงศึกษาธิการ ในการแก้ไข<br />

ปัญหานักเรียนอาชีวศึกษาทะเลาะวิวาท โดยให้การฝึกอบรม<br />

นักเรียนอาชีวศึกษา ตามโครงการ “สุภาพบุรุษอาชีวะ”<br />

จำานวน ๑๔๑ คน จากสถาบันการศึกษา ๒๘ แห่ง ระยะ<br />

เวลา ๘ สัปดาห์ เมื่อ ๑๗ กรกฎาคม - ๑๐ กันยายน ๒๕๕๕<br />

เพื่อปรับเปลี่ยนทัศนคติมุมมองการดำาเนินชีวิตให้ถูกต้อง<br />

ตามครรลองธรรม ปลูกฝังระเบียบวินัย คุณธรรมจริยธรรม<br />

ตลอดจนการรับรู้และมองเห็นถึงคุณค่าของตนเองที่สามารถ<br />

ทำาประโยชน์ให้แก่สังคมซึ่งจะเป็นรากฐานสำาคัญในการ<br />

เปลี่ยนแปลงความคิดและพฤติกรรม ไปสู่การเป็นทรัพยากร<br />

มนุษย์ที่มีคุณค่าของประเทศชาติต่อไป<br />

- จัดการฝึกอบรมหลักสูตร “การพัฒนาสัมพันธ์สื่อสาร<br />

มวลชนเพื่อความมั่นคงของชาติรุ่นที่ ๑๐” ให้กับสื่อมวลชน<br />

- จัดกิจกรรมสัมมนาสื่อมวลชนสัญจรในพื้นที่ภาคเหนือ<br />

ณ จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดเชียงราย โดยมีวัตถุประสงค์<br />

เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสื่อมวลชนกับ<br />

สำานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ในระดับผู้บริหารและ<br />

เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน อีกทั้งยังเป็นการสร้างความเข้าใจให้<br />

สื่อมวลชนได้รับทราบถึงภารกิจการป้องกันชายแดนและ<br />

ขีดความสามารถของกระทรวงกลาโหมและความจำาเป็น<br />

ของการดำาเนินงานในกิจการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ<br />

และพลังงานทหาร เพื่อนำาไปสู่การพึ่งพาตนเอง พร้อมทั้ง<br />

เยี่ยมชมการดำาเนินงานของทหารในพื้นที่จังหวัดลพบุรี พื้นที่<br />

จังหวัดเชียงใหม่ และโครงการพระราชดำาริในพื้นที่ภาคเหนือ<br />

นอกจากนี้ได้จัดกิจกรรมที่สามารถปลุกจิตสำานึกของ<br />

สื่อมวลชนให้ตระหนักถึงปัญหาและสถานการณ์ความมั่นคง<br />

ที่มีความจำาเป็นต้องสร้างการมีส่วนร่วมของสังคมในความ<br />

รับผิดชอบต่อปัญหาความมั่นคง ตลอดจนความเข้าใจใน<br />

แนวคิด และการปฏิบัติตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง<br />

18 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


ประเภทวิทยุชุมชนจากทั่วประเทศ จำานวน ๑๕๐ คน เมื่อวัน<br />

ที่ ๗ - ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๕ ณ กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้<br />

อากาศยานที่ ๑ ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ โดย<br />

มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ความ<br />

เข้าใจและมีส่วนร่วมสนับสนุนในงานความมั่นคง รวมถึง<br />

รับทราบถึงบทบาทหน้าที่ และจิตสำานึกรับผิดชอบต่อสังคม<br />

ร่วมกันเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและสร้างสรรค์<br />

มีส่วนร่วมในการสร้างความรักความปรองดองสมานฉันท์<br />

ของคนในชาติ ดำารงรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และ<br />

พระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นการขยายเครือข่ายวิทยุกระจายเสียง<br />

เพื่อความมั่นคงในภาพรวม<br />

๒. กำหนดให้การแก้ไขและป้องกัน<br />

ปัญหายาเสพติดเป็น “วาระแห่งชาติ”<br />

กระทรวงกลาโหมได้มอบหมายให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวง<br />

กลาโหม และเหล่าทัพ จัดกิจกรรมและโครงการรณรงค์<br />

ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ให้เหมาะสมและ<br />

ค<strong>รอบ</strong>คลุมกับกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อเป็นส่วน<br />

สำาคัญในการขับเคลื่อนการแก้ปัญหายาเสพติดโดยเน้นการ<br />

สร้างความเข้มแข็งของชุมชนโดยมีกิจกรรมและโครงการ<br />

ต่าง ๆ ประกอบด้วย<br />

- จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการประเมินประสิทธิภาพ<br />

กลไกอำานวยการ และหน่วยสกัดกั ้นยาเสพติดตาม<br />

แนวชายแดนและแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามาทำางาน<br />

ณ โรงแรมสีดา รีสอร์ท อำาเภอเมือง จังหวัดนครนายก<br />

- ตรวจเยี่ยมและรับทราบปัญหาการปฏิบัติงานสกัดกั้น<br />

ยาเสพติดตามแนวชายแดน ในพื้นที่กองกำาลังบูรพา และ<br />

กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด<br />

- จัดนิทรรศการรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด โครงการ<br />

“ชุมชนปลอดยาเสพติดอย่างยั่งยืน” ในชุมชนต่าง ๆ เพื่อให้<br />

เยาวชนได้ห่างไกลยาเสพติดด้วยกีฬา<br />

- โครงการ “ฝึกอบรมกีฬาเยาวชนภาคฤดูร้อน ต้าน<br />

ยาเสพติด” ประจำา<strong>ปี</strong> ๒๕๕๕<br />

- จัดตั้งศูนย์อำานวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด<br />

ระดับกระทรวงกลาโหม และระดับหน่วยขึ้นตรงกระทรวง<br />

กลาโหม เพื่อเป็นการบูรณาการบริหารจัดการแผนงาน<br />

และงบประมาณสนับสนุนหน่วยในพื้นที่ ในการป้องกัน<br />

และสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดนตามยุทธศาสตร์<br />

ของรัฐบาล สร้างภูมิคุ้มกันให้เยาวชนห่างไกลและไม่เข้าไป<br />

ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด<br />

- ดำาเนินโครงการ “หน่วยทหารสีขาวเฉลิมพระเกียรติ<br />

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว” เพื่อร่วมเฉลิมฉลองใน<br />

วโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมายุ<br />

ครบ ๘๔ พรรษา โดยกำาหนดเป้าหมายให้หน่วย/ค่าย/<br />

ชุมชนทหาร เป็นพื้นที่สีขาวปลอดจากยาเสพติดอย่างยั่งยืน<br />

โดยดำาเนินโครงการอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งขยายผลไปยัง<br />

ชุมชนต่าง ๆ <strong>รอบ</strong>หน่วยทหารซึ่งเน้นยำ้ำถึงผลผลิต และ<br />

ผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม ให้มีการบูรณาการกับหน่วยงาน<br />

ภาครัฐ และเอกชนในพื้นที่ ตลอดจนให้หน่วยจัดกิจกรรม<br />

ประชาสัมพันธ์ รณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกัน<br />

ยาเสพติดแก่กำาลังพล ค<strong>รอบ</strong>ครัว ประชาชนทั่วไป เพื่อให้<br />

รับรู้เกี่ยวกับโทษของยาเสพติด<br />

- ดำาเนินการด้านการข่าวเกี่ยวกับยาเสพติดในพื ้นที่<br />

รับผิดชอบ รวมทั้งสนับสนุนการป้องกัน ปราบปรามและ<br />

แก้ไขปัญหายาเสพติดร่วมกับส่วนราชการต่าง ๆ ระดับ<br />

กระทรวง บำาบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด<br />

โดยจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูและบำาบัดผู้ติดยาเสพติดโดยรับผู้เสพ<br />

ผู้ติดจากทั่วประเทศ มาเข้ารับการบำาบัดและอบรมวิชาชีพ<br />

และให้ความรู้ด้านกฎหมายแก่ผู้ติดยาเสพติด และสร้าง<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

19


คุณค่าให้แก่ตนเองด้วยการฝึกวิชาชีพ นอกจากนี้ยังจัด<br />

เจ้าหน้าที่และสุนัขทหารประเภทตรวจค้นยาเสพติด พื้นที่<br />

ใกล้เคียง และพื้นที่ร้องขอ<br />

- จัดอบรมเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโทษ และพิษภัยของ<br />

ยาเสพติดให้แก่กำาลังพล และค<strong>รอบ</strong>ครัว เพื่อสร้างจิตสำานึก<br />

และทัศนคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับปัญหายาเสพติด ส่งเสริมการ<br />

มีส่วนร่วมของกำาลังพลและค<strong>รอบ</strong>ครัวให้เข้ามามีส่วนในการ<br />

ป้องกัน และเฝ้าระวังปัญหายาเสพติด เสริมสร้างความ<br />

เข้มแข็งของสถาบันค<strong>รอบ</strong>ครัวและชุมชน รวมทั้งส่งเสริมการ<br />

ใช้เวลาว่างของเด็ก และเยาวชนให้เกิดประโยชน์<br />

- จัดกำาลังพลที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าหน้าที่ และ<br />

ผู้ช่วยเจ้าพนักงานของสำานักงานคณะกรรมการป้องกัน<br />

และปราบปรามยาเสพติด ทำาการตรวจพื้นที่บ้านพักอาศัย<br />

เพื่อค้นหาผู้กระทำาผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในพื้นที่รับผิดชอบ<br />

เป็นประจำาทุกเดือน รวมทั้งติดตามข่าวสารเกี่ยวกับยาเสพติด<br />

จากพื้นที่ข้างเคียง เพื่อนำามาเป็นข้อมูลในการพัฒนา<br />

ด้านการปราบปรามให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และจัดตั้ง<br />

ศูนย์อำานวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดของกองทัพ<br />

และหน่วยขึ้นตรงทั่วประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์ ให้พื้นที่<br />

หน่วยทหาร และชุมชนทหารเป็นเขตปลอดยาเสพติด<br />

กำาลังพลและค<strong>รอบ</strong>ครัวไม่เข้าไปเกี่ยวกับยาเสพติด<br />

ตลอดจนการให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการ<br />

ดำาเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติด<br />

- จัดอบรมเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโทษ และพิษภัยของ<br />

ยาเสพติด ซึ่งด้านบำาบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ โดยการ<br />

สุ่มตรวจหาสารเสพติดในกำาลังพลกลุ่มเสี่ยงตามวง<strong>รอบ</strong> เพื่อ<br />

นำาส่งตัวเข้าบำาบัดรักษา ตลอดจนติดตามผลการบำาบัดรักษา<br />

เพื่อป้องกันไม่ให้กำาลังพลที่มีประวัติการใช้สารเสพติดหวน<br />

กลับมาใช้ยาเสพติดอีก โดยในห้วง ๒๔ ก.พ. - ๒๓ มี.ค.๕๕<br />

มีการบำาบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ รวมทั้ง ได้ดำาเนิน<br />

การสุ่มตรวจหาสารเสพติดให้กับกำาลังพลในพื้นที่จังหวัด<br />

เชียงใหม่ จำานวน ๒๒๘ คน ซึ่งผลการดำาเนินการตรวจไม่<br />

พบสารเสพติดใด ๆ<br />

- ร่วมกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐในการสกัดกั้น/ปราบปราม<br />

ยาเสพติดในพื้นที่ทั่วประเทศ ส่งผลให้ปริมาณยาเสพติด<br />

ขาดตลาด และเกิดความต้องการในพื้นที่ตอนในของประเทศ<br />

มากขึ้น ดังนั้น กลุ่มขบวนการจึงได้เพิ่มปริมาณการลักลอบ<br />

นำาเข้ายาเสพติด โดยเฉพาะแนวชายแดนด้านกองกำาลัง<br />

ผาเมือง ในพื้นที่ภาคเหนือตรวจพบความถี่ในการลักลอบ<br />

ขนยาบ้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหน่วยยังคงดำารงเพิ่มความเข้มงวด<br />

ในการสกัดกั้น รวมทั้งประสานความร่วมมือกับส่วนราชการ<br />

ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การแก้ไขปัญหาดังกล่าวเป็นไปอย่างมี<br />

ประสิทธิภาพ ทั ้งนี้ ในห้วงเวลาดังกล่าวได้ตรวจพบและ<br />

จับกุมผู้กระทำาผิด จำานวน ๓๒ ครั้ง ผู้ต้องหา จำานวน ๕๓<br />

คน และปะทะกับกลุ่มผู้กระทำาผิด จำานวน ๑ ครั้ง โดยยึด<br />

ยาบ้าได้ จำานวน ๗,๒๑๙,๔๔๕ เม็ด<br />

- จัดทำาแผนงานป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด<strong>ปี</strong> ๒๕๕๕<br />

ประกอบด้วย กิจกรรมป้องกันยาเสพติด จำานวน ๘ โครงการ<br />

คือ โครงการสร้างภูมิต้านทานยาเสพติด, โครงการทหารอากาศ<br />

ปลอดยาเสพติดอย่างยั่งยืน, โครงการกองพันสีขาว, โครงการ<br />

ลด ละ เลิก บุหรี่, โครงการธรรมะเอาชนะยาเสพติด, โครงการ<br />

กีฬาต้านยาเสพติด, โครงการผู้นำาชุมชน, โครงการประชุม/<br />

สัมมนาเชิงปฏิบัติการ และแผนงานป้องกันยาเสพติด<br />

ในสังคม/ชุมชน จำานวน ๗ โครงการ คือ โครงการรวมพลังสังคม<br />

และพลังชุมชนเอาชนะยาเสพติด, โครงการค<strong>รอบ</strong>ครัว<br />

เข้มแข็งต้านภัยยาเสพติด, โครงการส่งเสริมการเรียนรู้<br />

ต้านภัยยาเสพติด, โครงการค่ายธรรมะเอาชนะยาเสพติด,<br />

20 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


โครงการรณรงค์และประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน<br />

ยาเสพติด, โครงการกีฬาเยาวชนภาคฤดูร้อนต้านยาเสพติด,<br />

โครงการค่ายยุวชน - เยาวชนต้านยาเสพติดในด้านกิจกรรม<br />

ปราบปรามยาเสพติดยังมีแผนงานการสกัดกั้นยาเสพติด<br />

โดยดำาเนินมาตรการเพื่อป้องกันมิให้มีการลักลอบนำาเข้า - ส่ง<br />

ออกยาเสพติดบริเวณท่าอากาศยาน ในความรับผิดชอบ<br />

คือ จัดชุดสุนัขทหารตรวจหายาเสพติดบริเวณท่าอากาศยาน<br />

และตรวจสัมภาระ ก่อนโดยสาร ในส่วนของแผนงานการ<br />

ปราบปรามยาเสพติดและบังคับใช้กฎหมายจำานวน ๑๒<br />

โครงการ คือ โครงการระดมกำาลังปฏิบัติการกวาดล้าง<br />

ยาเสพติดเขตกองทัพอากาศ พื้นที่ดอนเมือง, โครงการ<br />

ปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติดเขตกองทัพอากาศ และ<br />

พื้นที่ใกล้เคียง, โครงการปฏิบัติการด้านการข่าวยาเสพติด<br />

เขตกองทัพอากาศ และพื้นที่ใกล้เคียง, โครงการจัดชุด<br />

สุนัขทหารสนับสนุนการปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด,<br />

โครงการปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดร่วมกับศูนย์<br />

อำานวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดกองบิน และศูนย์<br />

อำานวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดโรงเรียนการบิน,<br />

โครงการบริหารแหล่งข่าวยาเสพติด, โครงการสัมมนา<br />

เชิงปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติด, โครงการ<br />

สัมมนาเครือข่ายผู้ให้ข่าวระดับชุมชน, โครงกา<strong>รอบ</strong>รม<br />

เครือข่ายผู้ให้ข่าวระดับเยาวชน, โครงการฝึกทบทวนการ<br />

ยิงปืนทางยุทธวิธีด้วยกระสุนจริง, โครงกา<strong>รอบ</strong>รมผู้ให้ข่าว<br />

เพื่อปราบปรามยาเสพติด, โครงการตรวจเยี่ยมติดตามผล<br />

การปฏิบัติงานปราบปรามยาเสพติด ศูนย์อำานวยการพลัง<br />

แผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติกองบินต่างจังหวัด/<br />

โรงเรียนการบิน และ ในด้านกิจกรรมบำาบัดผู้ติดยาเสพติด<br />

จำานวน ๓ โครงการ คือโครงการบำาบัดรักษาและฟื้นฟู<br />

สมรรถภาพ ผู้ติดยาเสพติด, โครงการผลิตและพัฒนาบุคลากร<br />

ด้านการบำาบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด<br />

และโครงการเสริมสร้างประสิทธิภาพศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพ<br />

ผู้ติดยาเสพติด รวมทั้ง กิจกรรมการบริหารจัดการ คือ<br />

การจัดประชุมคณะกรรมการศูนย์อำานวยการพลังแผ่นดิน<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

21


เอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ, การจัดประชุมคณะอนุกรรมการ<br />

ศูนย์อำานวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ, การ<br />

จัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการ, การตรวจเยี่ยมหน่วย และงาน<br />

บริหารจัดการ ซึ่งผลการดำาเนินการในทุกโครงการเป็นไป<br />

ด้วยความเรียบร้อย<br />

- จัดกิจกรรมค<strong>รอบ</strong>ครัวอบอุ่นต้านภัยยาเสพติด ครั้งที่<br />

๑/๒๕๕๕ ระหว่าง ๓๑ มีนาคม - ๑ เมษายน ๒๕๕๕<br />

ณ โรงแรมเดอะปรินส์เซสส์ บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา<br />

หาดแม่พิมพ์ อำาเภอแกลง จังหวัดระยอง เพื่ออบรม<br />

เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโทษและพิษภัยของยาเสพติด<br />

เสริมสร้างความรักความอบอุ่นภายในค<strong>รอบ</strong>ครัว รวมทั้ง<br />

สร้างจิตสำานึกส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการป้องกัน และ<br />

เฝ้าระวังปัญหายาเสพติดของกำาลังพลและค<strong>รอบ</strong>ครัว<br />

พร้อมทั้งการจัดกิจกรรมกีฬาต้านภัยยาเสพติดส่วนภูมิภาค<br />

ณ พื้นที่อำาเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ โดยบรรยายความรู้<br />

ด้านยาเสพติดให้กับข้าราชการและค<strong>รอบ</strong>ครัวในพื้นที่ ซึ่ง<br />

ได้รับการสนับสนุนวิทยากรจาก สถานีตำารวจภูธรฝาง รวมทั้ง<br />

การทัศนศึกษา เพื่อให้เยาวชนนำาความรู้ด้านต่าง ๆ ที่ได้รับ<br />

ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและค<strong>รอบ</strong>ครัว<br />

- จัดการประชุมประชาคมข่าวกรองยาเสพติด จำานวน<br />

๒ ครั้ง โดยดำาเนินการรวบรวมข้อมูลยาเสพติด, พัฒนา<br />

ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วย และปรับฐานข้อมูลของหน่วย<br />

ให้อยู่ในระดับเดียวกัน เมื่อ ๒๐ มีนาคม ๒๕๕๕ ณ กรม<br />

ข่าวทหาร และจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการด้านการข่าว<br />

ยาเสพติด ณ จังหวัดอุดรธานี จังหวัดหนองคาย และ<br />

จังหวัดนครพนม ระหว่าง ๒๗ - ๓๐ มีนาคม ๒๕๕๕ ซึ่งได้<br />

มีการดำาเนินการพัฒนาสัมพันธ์กับหน่วยข่าวในพื้นที่ภาค<br />

ตะวันออกเฉียงเหนือเพื่อให้ได้ข้อมูลข่าวเชิงลึกในพื้นที่<br />

พร้อมทั้ง ได้ทำาการตรวจภูมิประเทศร่วมกันระหว่างหน่วยงาน<br />

นโยบายและหน่วยปฏิบัติงานในพื้นที่<br />

- ดำาเนินการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดโดย<br />

นายกรัฐมนตรีได้เสนอให้ยกระดับการแก้ไขปัญหายาเสพติด<br />

ให้เป็นวาระของอาเซียน ในระหว่างการประชุมสุดยอด<br />

ผู้นำาอาเซียน ครั้งที่ ๒๐ ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา<br />

22 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


เมื่อวันที่ ๓ - ๔ เมษายน ๒๕๕๕ โดยมีแผนการดำาเนินการ<br />

ที่สำาคัญประกอบด้วย การประชุมกลไกความร่วมมือที่เกี่ยวข้อง<br />

ทุกระดับ, โครงการความร่วมมือไทย - เมียนมาร์ ด้านการพัฒนา<br />

ทางเลือก และการพัฒนากลไกประสานงานระดับชายแดน<br />

ซึ่งกระทรวงกลาโหมโดยกองทัพบก จะได้แปลงนโยบาย<br />

ดังกล่าวให้หน่วยต่าง ๆ นำาไปขับเคลื่อนดำาเนินการในส่วนที่<br />

เกี่ยวข้องต่อไป สำาหรับสถานการณ์บริเวณแนวชายแดนยัง<br />

คงตรวจพบการลักลอบนำาเข้ายาเสพติดบริเวณแนวชายแดน<br />

ด้านเมียนมาร์ และด้านลาวอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง ตรวจพบ<br />

การลักลอบลำาเลียงยาเสพติดจากพื้นที่ตอนในของประเทศ<br />

ไปยังพื้นที่ภาคใต้เพิ่มมากขึ้น โดยในห้วงเวลากำาลังป้องกัน<br />

ชายแดนตรวจพบและจับกุมผู้กระทำาผิด จำานวน ๓๒ ครั้ง<br />

ผู้ต้องหา จำานวน ๕๓ คน และปะทะกับกลุ่มผู้กระทำาผิด<br />

จำานวน ๑ ครั้ง โดยยึดยาบ้าได้ จำานวน ๗,๒๑๙,๔๔๕ เม็ด<br />

- ดำาเนินการบำาบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดสำาหรับ<strong>ปี</strong> ๒๕๕๕<br />

ที่ศาลสั่งให้เป็นผู้ป่วย ตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพ<br />

ผู้ติดยาเสพติด พ.ศ.๒๕๔๕ จำานวน ๙,๐๗๐ คน (เพิ่มขึ้นจาก<br />

ที่ได้รับจำานวน ๗,๒๒๐ คน) ซึ่งปัจจุบันอยู่ในความควบคุม<br />

และดูแลโดยศูนย์วิวัฒน์พลเมืองของกองทัพบก กว่า ๓๕<br />

ศูนย์ทั่วประเทศ<br />

- กระทรวงกลาโหม โดยสำานักงานปลัดกระทรวง<br />

กลาโหมได้ดำาเนินการสนับสนุนการแก้ไขปัญหายาเสพติด<br />

โดยผู้อำานวยการศูนย์อำานวยการพลังแผ่นดินเอาชนะ<br />

ยาเสพติดของสำานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความ<br />

สำาคัญกับข้าราชการทุกระดับโดยเน้นยำ้ำให้ผู้บังคับบัญชา<br />

ทุกระดับชั้น กวดขัน กำากับดูแล กำาลังพลและค<strong>รอบ</strong>ครัว<br />

ไม่ให้เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยให้ความดูแล<br />

ปลูกจิตสำานึกบุตรหลานข้าราชการในสังกัด ให้การแก้<br />

ปัญหายาเสพติด และการป้องกัน โดยจัดกิจกรรมต่าง ๆ<br />

ให้สอดคล้องกับความต้องการของเยาวชนของหน่วย<br />

ต่าง ๆ ในภูมิภาค ประกอบด้วย การจัดกิจกรรมคลินิค<br />

ฟุตบอลต้านภัยยาเสพติด และทัศนศึกษา เพื ่อปลูก<br />

จิตสำานึกให้บุตรหลานข้าราชการรู้ถึงพิษภัยและวิธีป้องกัน<br />

ยาเสพติด สร้างความเป็นผู้นำา มีความรักสามัคคี และ<br />

จัดกิจกรรมอบรมคอมพิวเตอร์ให้กับบุตรหลานข้าราชการ<br />

ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ระหว่าง ๒๓ - ๒๗<br />

เมษายน และ ๓๐ เมษายน - ๔ พฤษภาคม ๒๕๕๕<br />

โดยอบรมโปรแกรมไมโครซอฟต์เอ็กเซล และไมโครซอฟต์<br />

เอ็กเซล ขั้นประยุกต์ เป็นการส่งเสริมให้ผู้เข้ารับกา<strong>รอบ</strong>รม<br />

ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์, จัดกิจกรรมกีฬาต้านภัย<br />

ยาเสพติด (ส่วนกลาง) ให้กับบุตรหลานข้าราชการ โดย<br />

ฝึกสอนกีฬา ฟุตบอล, ฟุตซอล, เทนนิส และว่ายนำ้ำ<br />

ระหว่าง ๑๘ เมษายน - ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๕ และนำา<br />

เยาวชนทัศนศึกษานอกสถานที่ ณ กรมรบพิเศษที่ ๒<br />

หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ ค่ายสมเด็จพระนารายณ์<br />

มหาราช จังหวัดลพบุรี ระหว่าง ๒ - ๔ พฤษภาคม ๒๕๕๕,<br />

จัดกิจกรรมกีฬาต้านภัยยาเสพติดส่วนภูมิภาค ระหว่าง<br />

๑ - ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ให้กับเยาวชนบุตรหลานข้าราชการ<br />

ณ ศูนย์อำานวยการสร้างอาวุธ จังหวัดลพบุรี โดยฝึกสอน<br />

กีฬาประเภทต่างๆ และนำาเยาวชนทัศนศึกษา เพื่อปลูกฝัง<br />

ให้รักธรรมชาติ และรักษาสิ่งแวดล้อม ณ สถานตากอากาศ<br />

บางปู จังหวัดสมุทรปราการ นอกจากนี้ ยังได้ดำาเนินการ<br />

ตรวจเฝ้าระวังการใช้สารเสพติดให้กับกำาลังพลของสำานักงาน<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

23


ปลัดกระทรวงกลาโหม ที ่ตรวจพบสารเสพติดและผ่านการ<br />

บำาบัดรักษา โดยจะทำาการตรวจต่อเนื่องอีก ๖ เดือน เพื่อ<br />

ประเมินผลในการบำาบัดรักษา<br />

- ดำาเนินการโครงการรวมพลังแผ่นดินต้านภัยยาเสพติด<br />

โดยดำาเนินการจัดอบรมเยาวชนที่ผ่านโครงการยาเสพติด<br />

จำานวน ๑,๔๐๐ คน ณ โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย<br />

อำาเภอพนมสารคาม จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อ ๙ - ๑๒<br />

มิถุนายน ๒๕๕๕ และประชุมประสานงานข่าวด้านยาเสพติด<br />

ประจำาเดือนมิถุนายน ๒๕๕๕ ณ ห้องประชุมกรมข่าวทหาร<br />

อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย เมื่อ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๕<br />

เพื่อให้ได้รับข้อมูลด้านยาเสพติด และพัฒนาความสัมพันธ์<br />

ระหว่างหน่วยพร้อมทั้งปรับฐานข้อมูลของหน่วยให้อยู่<br />

ในระดับเดียวกัน<br />

- ดำาเนินการนำาเจ้าหน้าที่ด้านบำาบัดรักษาและฟื้นฟู<br />

สมรรถภาพ ศูนย์อำานวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด<br />

แห่งชาติ ดูงานที่โรงเรียนวิวัฒน์พลเมือง กองทัพเรือ ๒<br />

หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง และโรงพยาบาล<br />

อาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ เมื่อ ๙ - ๑๐ กรกฎาคม<br />

๒๕๕๕ รวมทั้งได้จัดกิจกรรมค<strong>รอบ</strong>ครัวอบอุ่นต้านภัย<br />

ยาเสพติด ครั้งที่ ๒/๒๕๕๕ เมื่อ ๓๐ มิถุนายน ถึง ๑<br />

กรกฎาคม ๒๕๕๕ ณ บ้านริมแคว - แพริมนำ้ำรีสอร์ท ตำาบล<br />

ท่าเรือ อำาเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี โดยอบรมความรู้<br />

เกี่ยวกับยาเสพติด และให้มีกิจกรรมร่วมกัน เพื่อสร้าง<br />

ความอบอุ่นให้กับค<strong>รอบ</strong>ครัว เป็นเกราะป้องกันยาเสพติด<br />

- ร่วมจัดกิจกรรมรณรงค์เนื่องในวันต่อต้านยาเสพติด<br />

ประจำา<strong>ปี</strong> ๒๕๕๕ เมื่อ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๕ เวลา ๐๗.๐๐<br />

- ๑๐.๐๐ น. ณ ลานพระราชวังดุสิต เพื่อถวายความ<br />

จงรักภักดีเนื่องในโอกาส<strong>ปี</strong>มหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา<br />

๘๐ พรรษา มหาราชินี<br />

- ดำาเนินการแก้ไขและสนับสนุนการแก้ไขปัญหา<br />

ยาเสพติด โดยนำาผู้แทนหน่วยต่าง ๆ เดินทางไปรับทราบ<br />

ข้อมูลการดำาเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด<br />

24 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


เพื่อรับทราบสถานการณ์ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ ผลการ<br />

ดำาเนินงานและปัญหาข้อขัดข้อง พร้อมทั้ง ให้ข้อสังเกตและ<br />

ข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหา เมื่อวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๕๕<br />

- จัดทำารายงานผลการดำาเนินงานและผลการเบิกจ่าย<br />

งบประมาณการแก้ไขปัญหายาเสพติด ตามแนวทางเร่งรัด<br />

การบริหาร<strong>ปี</strong>งบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๕ การติดตามประเมินผล<br />

การดำาเนินงาน ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล เป็นรายสัปดาห์<br />

และรายเดือน<br />

- ดำาเนินการป้องกันและจับกุมการกระทำาผิดกฎหมาย<br />

เกี่ยวกับยาเสพติดโดยจัดตั้งศูนย์ต่อต้านยาเสพติด และ<br />

จับกุมผู้กระทำาผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ และ<br />

ยาเสพติดอื่น ซึ่งได้ลาดตระเวนทางทะเล จำานวน ๕๖ ครั้ง<br />

ลาดตระเวนทางบก จำานวน ๒๓๕ ครั้ง ตั้งจุดตรวจ จำานวน<br />

๖๑๓ ครั้ง จับกุมผู้กระทำาผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จำานวน ๕๐<br />

ครั้ง ได้ของกลางที่สำาคัญ คือ ยาบ้า จำานวน ๖๕,๔๓๖ เม็ด<br />

ยาไอซ์ จำานวน ๑,๗๘๔ กรัม กัญชา จำานวน ๓ กิโลกรัม<br />

กัญชาอัดแท่ง จำานวน ๑ กิโลกรัม ใบกระท่อมสด ๗ กิโลกรัม<br />

เฮโลอีน จำานวน ๑๓.๖๒ กรัม นอกจากนี้ ยังได้ดำาเนินการ<br />

บำาบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ ผู้ติดยาเสพติดตามโครงการ<br />

วิวัฒน์พลเมืองกองทัพเรือ <strong>ปี</strong>งบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๕ มีผู้<br />

ติดยาเสพติดที่ศาลตัดสินให้เป็นผู้ป่วยตามพระราชบัญญัติ<br />

ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด เข้ารับการฟื้นฟูในศูนย์วิวัฒน์<br />

พลเมืองของกองทัพเรือ จำานวน ๔ ศูนย์ โดยในห้วงครึ่ง<strong>ปี</strong>แรก<br />

ของ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕ (ตุลาคม ๒๕๕๔ - มีนาคม ๒๕๕๕)<br />

โดยตั้งเป้าบำาบัดผู้ติดยาเสพติดไว้จำานวน ๙๐๐ คน ซึ่งเป็นไป<br />

ตามแผนที่กำาหนด<br />

- จัดประชุมคณะอนุกรรมการบริหารแผนยุทธศาสตร์<br />

ด้านการสกัดกั้นยาเสพติด ครั้งที่ ๒/๒๕๕๕ เมื่อ ๔<br />

กันยายน ๒๕๕๕ ณ ห้องประชุมกองบัญชาการกองทัพไทย<br />

เพื่อชี้แจงผลการดำาเนินงานของหน่วยปฏิบัติการสกัดกั ้น<br />

ยาเสพติดตามแนวชายแดน ในห้วงที่ผ่านมา พร้อมทั้งปัญหา<br />

ข้อขัดข้องและข้อเสนอแนะ แก่คณะอนุกรรมการบริหาร<br />

แผนยุทธศาสตร์ทราบ เพื่อนำาไปเป็นฐานข้อมูลในการจัดทำา<br />

แผนยุทธศาสตร์ และเป็นก<strong>รอบ</strong>แนวทางในการปฏิบัติให้กับ<br />

หน่วยที่เกี่ยวข้องต่อไป<br />

๓. เร่งนำสันติสุขและความปลอดภัยใน<br />

ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนกลับมา<br />

สู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้<br />

กระทรวงกลาโหมได้สนับสนุนกองอำานวยการรักษา<br />

ความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในการเสริมสร้างสันติสุข<br />

รวมทั้งความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน<br />

ใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างต่อเนื่อง โดยได้ดำาเนินการ<br />

ต่าง ๆ ประกอบด้วย<br />

- รวบรวมและรายงานข่าว ดำาเนินกรรมวิธี วิเคราะห์<br />

และกระจายข่าวกรองให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ประโยชน์,<br />

วิเคราะห์แนวโน้มการก่อเหตุ สรุปหาแนวทางการแก้ไข<br />

ทางยุทธศาสตร์ และทางยุทธการ, กระจายและรวบรวม<br />

ข่าวสาร, ประสานกับผู้ช่วยทูตทหารไทย/ต่างประเทศ<br />

และจัดทำาเอกสารข่าวเฉพาะกรณีเกี่ยวกับจังหวัดชายแดน<br />

ภาคใต้<br />

- จัดประชุมพิจารณาความต้องการกำาลังสนับสนุน<br />

กองอำานวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค ๔ ส่วนหน้า<br />

โดยปรับลดกำาลังทหารลง โดยเฉพาะในส่วนของกำาลัง<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

25


ที่ไม่ใช่กองทัพภาคที่ ๔ แต่เสริมกำาลังประจำาถิ่น โดยเฉพาะ<br />

กำาลังทหารพรานเพื่อให้ชุมชนได้มีส่วนร่วมในการป้องกัน<br />

ตนเองมากขึ้น<br />

- เตรียมจัดตั้งหน่วยทหารพรานเพื่อสนับสนุนการ<br />

ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำานวน ๕<br />

กองบังคับการกรมทหารพราน ๖๐ กองร้อยทหารพราน<br />

(กรมทหารพราน ละ ๑๒ กองร้อยทหารพราน), ๕ กอง<br />

บังคับการหมวดทหารพรานหญิง และ ๒๕ หมู่ทหารพราน<br />

หญิง (หมวดทหารพรานหญิง ละ ๕ หมู่ทหารพรานหญิง)<br />

โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อทดแทนและปลดเปลื้องภาระ<br />

ของหน่วยกำาลังรบหลักจากกองทัพภาคที่ ๑ - ๓ และกองทัพ<br />

ภาคที่ ๔ บางส่วน โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี<br />

แล้วเมื่อ ๓ พฤษภาคม ๒๕๕๔<br />

- อยู่ระหว่างจัดตั้งกองพลทหารราบที่ ๑๕ (เดิมชื่อ<br />

กองพลพัฒนาและพิทักษ์ทรัพยากร) โดยมีหน้าที่และความ<br />

รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การก่อความ<br />

ไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เป็นไปอย่างมี<br />

ประสิทธิภาพ และนำาความสันติกลับคืนสู่พื้นที่ และเพื่อให้<br />

มีหน่วยทหารที่อยู่เคียงข้างกับประชาชนในพื้นที่อย่างถาวร<br />

สำาหรับสร้างความมั่นคงปลอดภัย รวมทั้งพัฒนาและ<br />

ช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ เพื่อสร้างชุมชนเมือง ซึ่งมีทหาร<br />

เป็นแกนกลางในการเสริมสร้างความมั่นคงและความเจริญ<br />

ในพื้นที่ให้ทัดเทียมกับประเทศเพื่อนบ้าน ตลอดจนเพื่อเป็น<br />

หลักประกันของความต่อเนื่องและยั่งยืนถาวรในการรักษา<br />

ความมั่นคงภายในให้กับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้<br />

- ดำาเนินการปรับปรุงเครือข่ายโทรคมนาคมภาคพื้น<br />

จัดเครื่องบินปฏิบัติภารกิจลำาเลียงทางอากาศ ลาดตระเวน<br />

ทางอากาศ ช่วยเหลือกู้ภัย ปฏิบัติการจิตวิทยา และถ่าย<br />

ภาพทางอากาศ เพื ่อสนับสนุน ศูนย์ติดตาม และสั่งการ<br />

เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้<br />

สนับสนุนภารกิจรักษาความปลอดภัยบุคคลสำาคัญ รวมทั้ง<br />

สนับสนุนภารกิจตรวจค้นวัตถุระเบิด ทั้งในและนอกที่ตั้ง<br />

พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างประชาชนในพื้นที่<br />

จังหวัดชายแดนภาคใต้ ผ่านภารกิจด้านกิจการพลเรือน<br />

เช่น การปฏิบัติการจิตวิทยา การช่วยเหลือประชาชน การ<br />

บรรเทาสาธารณภัย และการประชาสัมพันธ์ นอกจากนี้ยัง<br />

จัดโครงกา<strong>รอบ</strong>รมเยาวชนและผู้นำาชุมชนที่อยู่ในสามจังหวัด<br />

ชายแดนภาคใต้ประจำา<strong>ปี</strong> ๕๕ ภายใต้ชื่อ “โครงการเยาวชน<br />

ไทยใต้ฟ้าเดียวกัน” และ “โครงการผู้นำาชุมชนสัมพันธ์”<br />

26 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

27


- ดำาเนินการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัด<br />

ชายแดนภาคใต้ด้วยการจัดทำาแผนงานแก้ไขปัญหาจังหวัด<br />

ชายแดนภาคใต้/การติดตามและประเมินยุทธศาสตร์ การ<br />

แก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้/สรุปรายงานการประชุม<br />

เชิงปฏิบัติการ เรื่อง แนวทางการดำาเนินงานของกองทัพไทย<br />

ในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในพื้นที่จังหวัด<br />

ชายแดนภาคใต้ เมื่อ ๘ - ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕<br />

- จัดกำาลังทางอากาศสนับสนุนภารกิจการแก้ไขปัญหา<br />

ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำานวน ๔ หน่วยบิน พร้อม<br />

ทั้งพัฒนาสนามบินบ่อทอง จังหวัดปัตตานี เพื่อเพิ่มขีดความ<br />

สามารถของการปฏิบัติการของกำาลังทางอากาศ และพัฒนา<br />

สนามบินบ้านทอน จังหวัดนราธิวาส โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ<br />

ให้การปฏิบัติของกำาลังทางอากาศได้เพิ่มขีดความสามารถใน<br />

การสนับสนุนการปฏิบัติแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้<br />

ยังดำาเนินการรองรับยุทธศาสตร์ กองอำานวยการรักษาความ<br />

มั่นคงภายในราชอาณาจักร จำานวน ๔ โครงการ คือ โครงการ<br />

เยาวชนไทยใต้ฟ้าเดียวกัน, โครงการชุมชนสัมพันธ์, โครงการ<br />

พิทักษ์ประชาชนและทรัพยากร และโครงการสานใจเด็กไทย<br />

ของชาติ ซึ่งผลการดำาเนินการในแต่ละโครงการเป็นไปด้วย<br />

ความเรียบร้อย<br />

- ดำาเนินการบริหารจัดการศูนย์ประสานงานเครือข่าย<br />

การวิจัยเพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัด<br />

ชายแดนภาคใต้ โดยการสนับสนุนยุทโธปกรณ์พิเศษให้กับ<br />

หน่วยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีการดำาเนินการ<br />

อย่างต่อเนื่อง มีการติดตามประเมินผลการใช้งาน พัฒนา<br />

ปรับปรุง เพื่อให้ยุทโธปกรณ์พิเศษมีประสิทธิภาพ และสร้าง<br />

ความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้ มีการปฏิบัติที่สำาคัญ คือ การประชุม<br />

ประจำาเดือน เพื่อติดตามความก้าวหน้าในการบริหารจัดการ<br />

กำาหนดความต้องการผลงานวิจัยเพื่อพัฒนาเป็นโจทย์วิจัย<br />

จำานวน ๑๒ ครั้ง จัดพิธีส่งมอบยุทโธปกรณ์พิเศษฯ ให้<br />

กองอำานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า<br />

จำานวน ๑ ครั้ง และจัดให้มีการติดตามประเมินผลการใช้<br />

งานยุทโธปกรณ์พิเศษอย่างต่อเนื่อง<br />

- ร่วมประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉิน<br />

จำานวน ๒ ครั้ง ณ สำานักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ<br />

ทำาเนียบรัฐบาล<br />

- สนับสนุนกำาลังพลและยุทโธปกรณ์ในการรักษาความ<br />

ปลอดภัย และสนับสนุนงานพัฒนา เพื่อความมั่นคงในพื้นที่<br />

รวมทั้งเข้าร่วมประชุม “ส่งเสริมงานวิจัยวัฒนธรรมท้องถิ่น<br />

เพื่อเสริมสร้างสันติสุขใน ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้” เมื่อ<br />

๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๕ ณ อาคารสำานักงานปลัดกระทรวง<br />

กลาโหม เพื่อวางแผนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้<br />

28 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


- ดำาเนินการจัดทำาแผนงานที่สำาคัญคือ ๑) แผนงาน<br />

ประชาร่วมใจ ทำาความดีเพื่อแผ่นดิน ๒) แผนงานประชา<br />

ร่วมใจ สตรีทำาความดีเพื่อแผ่นดิน ๓) แผนงานเดินเท้าเข้า<br />

ทุกชุมชน และ ๔) โครงการศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิต โดยมี<br />

การดำาเนินการสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างเจ้าหน้าที่ของ<br />

รัฐและประชาชนในพื้นที่<br />

- จัดทำาแผนงานแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้/<br />

เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและ<br />

ยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่<br />

๓/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๕ ณ ห้องประชุม<br />

ตึกบัญชาการ ทำาเนียบรัฐบาล<br />

- ดำาเนินงานเสริมสร้างความเข้าใจกับประชาชน<br />

ตาม “โครงการสานสัมพันธ์” ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายคือ ผู้นำา<br />

ศาสนา ผู้นำาท้องที่ ผู้นำาท้องถิ่น และประชาชนทั่วไป<br />

ในพื้นที่รับผิดชอบ จำานวน ๑,๔๘๗ ครั้ง ได้แก่ อำาเภอสายบุรี<br />

จำานวน ๒๑๗ ครั้ง, อำาเภอไม้แก่น จำานวน ๑๕๕ ครั้ง, อำาเภอ<br />

บาเจาะ จำานวน ๓๒๘ ครั้ง, อำาเภอยี่งอ จำานวน ๓๕๑ ครั้ง<br />

และอำาเภอเมืองนราธิวาส จำานวน ๔๓๖ ครั้ง นอกจากนี้<br />

ยังมี “โครงการเสาธงเพื่อน้องร่วมร้องเพลงชาติไทย” โดย<br />

ก่อสร้างเสาธงชาติจำานวน ๑๐๐ ต้น ให้กับโรงเรียนตาดีกา<br />

หรือโรงเรียนเด็กอ่อนก่อนวัยเรียนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส<br />

และจังหวัดปัตตานี เพื่อปลูกฝังค่านิยม เพื่อก่อให้เกิดความ<br />

รู้สึกเป็นคนไทย ปรับเปลี่ยนทัศนคติในหมู่เยาวชนให้เกิด<br />

ความรักชาติ ปลูกจิตสำานึกความเป็นคนไทย มีทัศนคติและ<br />

จิตสำานึกในการรักและหวงแหนแผ่นดินไทย<br />

- จัดกิจกรรม นาวิก นาวี สัญจร ตาม “โครงการ<br />

เดินเท้าเข้าทุกชุมชน” โดยการออกให้บริการทางการแพทย์<br />

กิจกรรมนันทนาการ บริการซ่อมรถจักรยานยนต์ และการ<br />

แสดงดนตรีให้ความบันเทิงแก่ประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ<br />

ซึ่งชุดแพทย์เคลื่อนที่ได้ออกให้การบริการทางการแพทย์<br />

จ่ายยา เวชภัณฑ์ และการรักษาพยาบาลเบื้องต้นแก่ผู้นำา<br />

ศาสนา ผู้นำาท้องที่ ประชาชน และเยาวชนในพื้นที่รับผิดชอบ<br />

จำานวน ๔๕๖ คน พร้อมกับจัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ของ<br />

หน่วยในพื้นที่ออกให้การบริการทางการแพทย์ ร่วมกับชุด<br />

ศูนย์แพทย์ทหารบกจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำานวน ๒ ครั้ง<br />

คือ จังหวัดปัตตานี และจังหวัดนราธิวาส นอกจากนี้ยังได้<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

29


ดำาเนินการกิจกรรมทัศนศึกษานอกสถานที่ในพื้นที่กรุงเทพฯ<br />

จังหวัดชลบุรี และจังหวัดใกล้เคียงตามโครงการรวมใจไทย<br />

เป็นหนึ่งกองทัพเรือ รุ่นที่ ๖/๕๕ ณ ค่ายจุฬาภรณ์ อำาเภอ<br />

เมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส พร้อมทั้งจัดกำาลังพลของ<br />

หน่วยในพื้นที่เข้าร่วมประชุมสภาสันติสุข ประจำาเดือน<br />

กันยายน ๒๕๕๕ กับหัวหน้าส่วนราชการต่าง ๆ ผู้นำาท้องที่<br />

ผู้นำาท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบ จำานวน ๔<br />

เป้าหมายคือ องค์การบริหารส่วนตำาบลปะลุกาสาเมาะ<br />

บ้านกาบุห์ หมู่ ๙ ตำาบลปะลุกาสาเมาะ อำาเภอบาเจาะ<br />

จังหวัดนราธิวาส, องค์การบริหารส่วนตำาบลละหาร ตำาบล<br />

ละหาร อำาเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส, องค์การบริหาร<br />

ส่วนตำาบลละหารกะลุวอ ตำาบลกะลุวอ อำาเภอเมืองนราธิวาส<br />

จังหวัดนราธิวาส และองค์การบริหารส่วนตำาบลละหาร<br />

โคกเคียน บ้านโคกพะยอม หมู่ ๒ ตำาบลโคกเคียน อำาเภอเมือง<br />

นราธิวาส จังหวัดนราธิวาส<br />

๔. เร่งฟื้นฟูความสัมพันธ์และพัฒนา<br />

ความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านและ<br />

นานาประเทศ<br />

กระทรวงกลาโหมให้ความสำาคัญกับความร่วมมือ<br />

ด้านความมั่นคงกับต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศ<br />

เพื่อนบ้าน ด้วยการดำาเนินการด้านนโยบายการทูตเชิงรุก<br />

30 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


เพื่อเสริมสร้างและพัฒนาความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน<br />

โดยดำาเนินการต่าง ๆ ประกอบด้วย<br />

- ดำาเนินการเร่งสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือ<br />

กับประเทศเพื่อนบ้าน และนานาประเทศ โดยจัดหลักสูตร<br />

การทูตฝ่ายทหารแบบรวมการ รุ่นที่ ๒๐ เมื่อ ๑๒ มีนาคม -<br />

๑๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕ โดยเน้นการบูรณาการนโยบาย<br />

ทางการทูตทหารให้สอดคล้องและเป็นทิศทางเดียวกัน<br />

- ดำาเนินการสร้างความร่วมมือด้านความสัมพันธ์<br />

ระหว่างกองทัพอากาศ กับผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารต่างประเทศ<br />

ณ กรุงเทพฯ และดำาเนินความร่วมมือด้านความสัมพันธ์<br />

ระหว่างกองทัพอากาศ - กองทัพอากาศมิตรประเทศ<br />

นอกจากนี้ ยังจัดกำาลังพลเข้าร่วมปฏิบัติหน้าที่สังเกตการณ์<br />

ทางทหารในซูดาน พร้อมทั้งได้มีการจัดทำา MOU ด้านส่ง<br />

กำาลังบำารุงกับมิตรประเทศ และได้เข้าร่วมการฝึกร่วม/ผสม<br />

กับมิตรประเทศ ได้แก่ การฝึก Cobra Gold, การฝึก Cope<br />

Tiger, การฝึก Balance Teak Torch, การฝึก AIR THAMAL,<br />

การฝึก Red Flag Alaska และการฝึก ELANG THAINESIA<br />

รวมทั้ง เข้าร่วมและจัดการประชุมผู้บัญชาการทหารอากาศ<br />

อาเซียน<br />

- ร่วมการประชุม ARF (ASEAN Regional Forum<br />

Defence Officials’ Dialogue : ARF DoD) และการประชุม<br />

หารือนโยบายด้านความมั่นคงของ ARF (Security Policy<br />

Conference ASPC) ณ ราชอาณาจักรกัมพูชา เมื่อ ๒๓ -<br />

๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๕ โดยหารือในประเด็นดังนี้<br />

๑) การประชุม ARF DoD<br />

- การเสริมสร้างความร่วมมือเชิงปฏิบัติการทาง<br />

ทหารเกี่ยวกับการช่วยเหลือด้าน HADR ซึ่งที่ประชุม<br />

กล่าวถึงการเพิ่มบทบาทของกองทัพซึ่งแบ่งระดับของ<br />

ภัยพิบัติได้เป็น ๒ ระดับ คือ ระดับประเทศ และระดับภูมิภาค<br />

โดยควรเน้นไปที่ระดับของภูมิภาคที่มีความจำาเป็นอย่างมาก<br />

ที่ทุกประเทศสมาชิกต้องมีความร่วมมือในการประสานงาน<br />

ในเรื่องของการบรรเทาภัยพิบัติอย่างใกล้ชิด รวมถึง<br />

อาจต้องมีการแก้ไขกฎหมายต่าง ๆ ในด้านการให้ความ<br />

ช่วยเหลือด้าน HADR<br />

- การขยายความร่วมมือด้านการปฏิบัติการรักษา<br />

สันติภาพที ่ทันสมัย มีความจำาเป็นต้องใช้วิธีบูรณาการ<br />

ให้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงโดยให้ค<strong>รอบ</strong>คลุมตั้งแต่ช่วง<br />

ระยะเวลาของมาตรการการป้องกันความขัดแย้ง การรักษา<br />

สันติภาพ และการบูรณะฟื้นฟูภายหลังจากความขัดแย้ง<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

31


ซึ่งการปฏิบัติการรักษาสันติภาพนั้นจะต้องอยู่บนพื้นฐาน<br />

ของอำานาจอธิปไตย การมีบูรณภาพเหนือดินแดน มีการ<br />

เคารพสิทธิเสรีภาพของประชาชนประเทศนั้น ๆ การเข้ามา<br />

มีส่วนร่วมของนานาประเทศที่ต้องอยู่บนบรรทัดฐานและ<br />

กฎหมายด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศ<br />

- การปรับปรุงโครงสร้างสถาปัตยกรรมด้านความ<br />

มั่นคงในภูมิภาคควรมีการแบ่งปันข้อมูล การขัดเกลาทาง<br />

สังคมเพื่อรองรับกับภัยคุกคามด้านความมั่นคงรูปแบบ<br />

ใหม่ สร้างความเชื่อมั่น และความไว้เนื้อเชื่อใจกัน เพื่อให้<br />

เกิดความเชื่อมโยงระหว่างกันในภูมิภาค รวมทั้ง เพื่อรองรับ<br />

ต่อการขยายบทบาทของประเทศมหาอำานาจที่เข้ามา<br />

ในภูมิภาค<br />

๒) การประชุม ASPC<br />

- การสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในภูมิภาค<br />

ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงอย่างต่อเนื่องต่อไป เช่น<br />

ประเด็นความมั่นคงทางทะเล การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม<br />

และการบรรเทาภัยพิบัติ การไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์<br />

การก่อการร้ายและการรุกลำ้ำน่านนำ้ำ เป็นต้น<br />

- การแพร่ขยายของเทคโนโลยีทางด้านนิวเคลียร์<br />

และการพัฒนาขีปนาวุธ รวมไปถึงอาวุธขนาดเล็กและ<br />

อาวุธเบา และการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ในสาธารณรัฐ<br />

ประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี (เกาหลีเหนือ) ก่อให้เกิด<br />

ประเด็นความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก<br />

- การพัฒนาความร่วมมือด้านความมั่นคงทางทะเล<br />

- การพัฒนาความร่วมมือในการป้องกันการกระทำา<br />

อันเป็นโจรสลัด การก่อการร้าย การลักลอบค้ามนุษย์ และ<br />

การลักลอบค้ายาเสพติดทางทะเล<br />

- แผนงาน ARF เกี่ยวกับความมั่นคงทางทะเล (ARF<br />

Work Plan on Maritime Security) ที่มีการพัฒนามากขึ้น<br />

ไปตามลำาดับซึ่งจะมีการผลักดันให้มีการดำาเนินการอย่างเป็น<br />

รูปธรรม ได้แก่ การแลกเปลี่ยนข้อมูลและวิธีปฏิบัติระหว่าง<br />

กัน มาตรการสร้างความเชื่อมั่นในกฎหมายระดับภูมิภาค<br />

และระหว่างประเทศ และการเพิ่มขีดความสามารถของ<br />

หน่วยงานที่ดำาเนินการเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเล<br />

- การพิจารณาเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้<br />

พลังงานนิวเคลียร์ โดยแต่ละประเทศสมาชิกควรส่งเสริม<br />

ความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อเพิ่มศักยภาพในการรักษา<br />

ความปลอดภัยจากการใช้พลังงานนิวเคลียร์ และควรนำาข้อ<br />

32 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


ตกลงภายใต้การกำากับดูแลของทบวงการพลังงานปรมาณู<br />

ระหว่างประเทศมาบังคับใช้โดยเคร่งครัด<br />

- สงครามกลางเมืองและความขัดแย้งที่เกิดขึ้น<br />

ภายในประเทศต่าง ๆ การแก้ปัญหาด้วยการใช้กำาลังทาง<br />

ทหารไม่สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้ การแก้ปัญหา<br />

อย่างยั่งยืนต้องเกิดจากการบูรณาการของภาครัฐ และการ<br />

รวมตัวของอดีตผู้ก่อความไม่สงบ<br />

- การประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน (ASEAN Defence<br />

Ministers’ Meeting : ADMM) ครั้งที่ ๖ ณ กรุงพนมเปญ<br />

ราชอาณาจักรกัมพูชา เมื่อ ๒๘ - ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๕<br />

โดยได้แสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนทัศนคติ มุมมอง และ<br />

ยุทธศาสตร์ต่าง ๆ ที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในประเด็นเกี่ยวกับ<br />

ด้านการทหารและความมั่นคงซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง<br />

กลาโหมได้เน้นในเรื่องของความมั่นคงภายในภูมิภาค<br />

อาเซียนและระหว่างประเทศ รวมถึง ประเด็นทางทหารอื่น ๆ<br />

ที่สำาคัญ และได้มีการพูดคุยและแลกเปลี่ยนมุมมองต่าง ๆ<br />

เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในหลาย ๆ ด้าน โดยเน้น<br />

ในหัวข้อเรื่อง “อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศของอาเซียน”<br />

- การประชุม ARF เรื่อง Laws and Regulations on<br />

the Participation in International Disaster Relief by<br />

Armed Forces ครั้งที่ ๓ ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชน<br />

จีน เมื่อ ๑๐ - ๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๕ โดยหารือในประเด็น<br />

ดังนี้<br />

๑) การให้ความช่วยเหลือของสำานักงานเลขาธิการ<br />

อาเซียน ด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ (HADR :<br />

Humanitarian Assistance and Disaster Relief) ได้แก่<br />

การดำาเนินการภายใต้ความตกลงอาเซียนว่าด้วยการจัดการ<br />

ภัยพิบัติและการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉิน (AADMER)<br />

และมาตรฐานระเบียบวิธีปฏิบัติเพื่อเตรียมความพร้อมและ<br />

ประสานงานในการปฏิบัติร่วมกันของอาเซียนในการบรรเทา<br />

ภัยพิบัติและการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉิน<br />

๒) การสัมมนาหัวข้อที่ ๑ เรื่อง Latest Development<br />

in the Laws and Regulations Building in International<br />

Disaster Relief Operations by Armed Forces โดย<br />

ประเทศญี่ปุ่น ได้นำาบทเรียนจากการเกิดแผ่นดินไหวและ<br />

สึนามิและการปฏิบัติของกองกำาลังป้องกันตนเองในการ<br />

ค้นหา และการกู้ภัย การสนับสนุนทางการแพทย์ และการ<br />

อพยพผู้ประสบภัย เป็นตัวอย่างในการสัมมนา ซึ่งได้เน้นยำ้ำ<br />

ความสำาคัญของการให้ความช่วยเหลือด้านการบรรเทาทุกข์<br />

ระหว่างประเทศ การประสานงานขณะเกิดภัยพิบัติ เพื่อขจัด<br />

อุปสรรคทางกฎหมายระหว่างประเทศ<br />

๓) การสัมมนาหัวข้อที่ ๒ เรื่อง The Obligations<br />

and Rights of the Armed Forces Participating in<br />

International Disaster Relief Operations (I) ซึ่งได้กล่าว<br />

ถึงการดำาเนินงานด้าน HADR ควรจะมี Status of Forces<br />

Agreement (SOFA) ในการคุ้มครองทางกฎหมายกับ<br />

กองกำาลังต่างชาติ ที่ให้ความช่วยเหลือเมื่อปฏิบัติการให้ความ<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

33


ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติแก่ประเทศ<br />

ผู้ประสบภัย การคุ้มครองทางกฎหมายควรจะค<strong>รอบ</strong>คลุม<br />

กองกำาลังทหารและพลเรือนรวมทั้งหน่วยงาน ที่ดำาเนินการ<br />

ซึ่งประเทศผู้ประสบภัยจะให้การป้องกันกองกำาลังต่างชาติ<br />

การเข้าให้ความช่วยเหลือจะต้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูล<br />

ถึงสถานการณ์ ของประเทศผู้ประสบภัย ความต้องการการ<br />

ช่วยเหลือของประเทศผู้ประสบภัย และเงื่อนไขต่าง ๆ<br />

๔) การสัมมนาหัวข้อที่ ๓ เรื่อง The Obligations<br />

and Rights of the Armed Forces Participating in<br />

International Disaster Relief Operations (II) ซึ่งกล่าว<br />

ถึงสิทธิพิเศษและการคุ้มครองกองกำาลังทหารที่เข้าปฏิบัติ<br />

การ HADR โดยยังมีข้อจำากัดของกฎหมายระหว่างประเทศ<br />

และอนุสัญญาที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของแต่ละประเทศ<br />

ทั้งนี้ ยังเป็นสิ่งที่ต้องมีการพัฒนาและปรับปรุงด้านกฎหมาย<br />

ระหว่างประเทศเกี่ยวกับสิทธิของกองกำาลังติดอาวุธและการ<br />

ป้องกันตนเองให้เป็นที่ยอมรับของนานาประเทศในการให้<br />

ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ<br />

ระหว่างประเทศ<br />

- ดำาเนินการด้านความสัมพันธ์ทางการทูตฝ่ายทหาร<br />

กับกองทัพมิตรประเทศอย่างต่อเนื่อง สอดคล้องกับนโยบาย<br />

ด้านความมั่นคงของชาติ โดยจัดผู้แทนเข้าร่วมการประชุม<br />

Navy to Navy Strategy Talks ระหว่างกองทัพเรือ -<br />

กองทัพเรือออสเตรเลีย ครั้งที่ ๗ ณ เมืองซิดนีย์ เมื่อวันที่<br />

๕ - ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๕ และจัดการประชุมคณะทำางาน<br />

ร่วมกองทัพเรือ - กองทัพเรือสิงคโปร์ เมื่อวันที่ ๒๓ - ๒๗<br />

กรกฎาคม ๒๕๕๕ ณ จังหวัดภูเก็ต<br />

- จัดเรือหลวงจักรีนฤเบศรพร้อมอากาศยานประจำาเรือ<br />

และเรือหลวงเจ้าพระยา เข้าร่วมฝึกกองเรือพร้อมปฏิบัติการ<br />

โดยร่วมฝึก Anti Submarine Warfare Exercise (ASWEX)<br />

ร่วมกับเรือดำานำ้ำสหรัฐฯ USS BUFFALO และเดินทางเยี่ยม<br />

เมืองท่าสิงคโปร์ เมื่อวันที่ ๑ - ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๕ และ<br />

จัดกำาลังพลเข้าร่วมการฝึกร่วม/ผสม ได้แก่ CARAT 12,<br />

COBRA GOLD 12, THALAYLAUT 12, MARSEAEX 12,<br />

MARSURVEX 12 ยกเว้นการฝึก SINGSIAM ที่ทางกองทัพ<br />

เรือสิงคโปร์ขอเลื่อนการฝึก ซึ่งการฝึกต่าง ๆ ได้มีการพัฒนา<br />

ทั้งในด้านเนื้อหาและหัวข้อการฝึก รวมถึงพัฒนาความ<br />

สัมพันธ์ระหว่างกำาลังพลของกองทัพเรือไทยกับกองทัพเรือ<br />

ประเทศต่าง ๆ ที่เข้าร่วมการฝึก พร้อมทั้งจัดกำาลังพล<br />

เข้าร่วมประชุมวางแผนขั้นต้น (Initial Planning Conference<br />

: IPC) การฝึกผสม SINGSIAM 2012 ที่สิงคโปร์ เมื่อวันที่<br />

๒๔ - ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๕<br />

34 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


- เข้าร่วมการฝึกร่วม/ผสมกับมิตรประเทศ ได้แก่<br />

การฝึก Pitch Black เมื่อเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๕ และ<br />

การฝึก Red Flag Alaska เมื่อเดือนกันยายน ๒๕๕๕<br />

๕. ป้องกันและปราบปรามการทุจริต<br />

และประพฤติมิชอบในภาครัฐอย่าง<br />

จริงจัง<br />

กระทรวงกลาโหมให้ความสำาคัญกับการดำาเนินงานความ<br />

มั่นคงด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม โดยเฉพาะการป้องกัน<br />

และปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบในการบริหาร<br />

งาน โดยได้ปลูกฝังจิตสำานึกด้านคุณธรรมและจริยธรรมให้<br />

กำาลังพลทุกระดับ ประกอบด้วยการดำาเนินงานที่สำาคัญ ดังนี้<br />

- ดำาเนินการสร้างเครือข่ายด้านการป้องกันและ<br />

ปราบปรามการทุจริต โดยจัดทำาแผนป้องกันและปราบ<br />

ปรามการทุจริตของสำานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />

ประจำา<strong>ปี</strong>งบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๒ - ๒๕๕๕ ซึ่งมีการจัดการ<br />

สัมมนาเพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือในการป้องกันและ<br />

ปราบปรามการทุจริต เพื่อข้าราชการ ลูกจ้างประจำา และ<br />

พนักงานราชการ ร่วมมือกันป้องกันและปราบปรามการ<br />

ทุจริต ที่อาจเกิดขึ้น ให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม<br />

ด้วยการปลูกจิตสำานึกด้านคุณธรรม จริยธรรม ตลอดจน<br />

องค์ความรู้ในด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริต<br />

ให้แก่กำาลังพลของกระทรวงกลาโหม และได้ดำาเนินการ<br />

อบรมศีลธรรมให้แก่กำาลังพล โดยได้สอดแทร<strong>กห</strong>ลักธรรม<br />

คำาสอนทางพระพุทธศาสนาเกี่ยวกับเรื่องการปฏิบัติตน<br />

ให้เป็นคนดี ความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อเป็นการปลูกจิตสำานึก<br />

ด้านคุณธรรมและจริยธรรมให้แก่กำาลังพล<br />

๖. ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน<br />

โดยเพิ่มกำลังซื้อภายในประเทศ สร้าง<br />

สมดุลและความเข้มแข็งอย่างมีคุณภาพ<br />

ให้แก่ระบบเศรษฐกิจมหภาค<br />

- ดำาเนินการให้แรงงานมีรายได้วันละไม่น้อยกว่า<br />

๓๐๐ บาท และผู้ที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี มีรายได้<br />

ไม่น้อยกว่า ๑๕,๐๐๐ บาท ซึ่งเป็นการปรับอัตราเงินเดือน<br />

แรกบรรจุตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการยกระดับ<br />

คุณภาพชีวิตของประชาชนด้วยการเพิ่มกำาลังซื้อภายใน<br />

ประเทศ สร้างสมดุลและความเข้มแข็งอย่างมีคุณภาพ<br />

ให้แก่ระบบเศรษฐกิจมหภาค และการกำาหนดอัตรา<br />

เงินเดือนแรกบรรจุสำาหรับบุคคลที ่มีคุณสมบัติสอดคล้อง<br />

กับปัจจัยที่กระทรวงกลาโหมกำาหนดให้ได้รับเงินเดือน<br />

สูงกว่าบุคคลทั่วไปที่มีคุณวุฒิเดียวกันได้ เพื่อสร้างแรงจูงใจ<br />

ให้ผู้ที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ระบบราชการมากขึ้น โดยจัดทำา<br />

ร่างกฎกระทรวงกำาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการบรรจุบุคคล<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

35


เข้ารับราชการเป็นข้าราชการทหารและการให้ได้รับเงินเดือน<br />

พ.ศ. .... ร่างคำาสั่งกระทรวงกลาโหม เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธี<br />

การ และเงื ่อนไขในการให้ได้รับเงินเดือนแรกบรรจุสำาหรับ<br />

ข้าราชการที่มีคุณสมบัติตามปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพ<br />

ในการปฏิบัติหน้าที่ราชการของกระทรวงกลาโหม ร่างคำาสั่ง<br />

กระทรวงกลาโหม เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขใน<br />

การเลื่อนชั้นเงินเดือนเพื่อชดเชยแก่ข้าราชการทหารที่ได้รับ<br />

ผลกระทบจากการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุ รวมทั้ง<br />

ค่าใช้จ่ายในการปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุและการชดเชย<br />

ผู้ได้รับผลกระทบของกระทรวงกลาโหม คณะรัฐมนตรีมีมติ<br />

เมื่อ ๑๐ เมษายน ๒๕๕๕ เห็นชอบข้อเสนอการปรับอัตรา<br />

เงินเดือนแรกบรรจุและการชดเชยผู้ได้รับผลกระทบฯ ตาม<br />

ข้อเสนอของสำานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน<br />

เมื่อ ๑ มกราคม ๒๕๕๖ และ ๑ มกราคม ๒๕๕๗ โดย<br />

ในส่วนของกระทรวงกลาโหม อยู่ระหว่างการดำาเนินการ<br />

จัดทำาร่างกฎกระทรวงฯ เพื่อรองรับต่อการดำาเนินการตาม<br />

มติคณะรัฐมนตรี โดยจะนำาเข้าพิจารณาในคณะกรรมการ<br />

ข้าราชการพลเรือนกลาโหม และสภากลาโหม ภายใน<br />

พฤษภาคม ๒๕๕๕ หลังจากนั้นจะเสนอเรื่องเข้าพิจารณา<br />

ในคณะรัฐมนตรี<br />

- ดำาเนินการตามนโยบายรัฐบาลเพิ่มค่าครองชีพ โดย<br />

คณะกรรมการข้าราชการทหารได้ดำาเนินการปรับปรุงกฎกระทรวง<br />

กำาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ<br />

เป็นข้าราชการทหาร และการให้ได้รับเงินเดือน พ.ศ. ....<br />

36 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


เพื่อปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุของข้าราชการทหาร<br />

ทุกคุณวุฒิให้เท่าเทียมกับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุของ<br />

ข้าราชการพลเรือนสามัญ และได้จัดทำาร่างคำาสั่งกระทรวง<br />

กลาโหม ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการเลื่อน<br />

ชั้นเงินเดือนเพื่อชดเชยแก่ข้าราชการทหารที่ได้รับผลกระทบ<br />

จากการกำาหนดอัตราเงินเดือนแรกบรรจุเสนอต่อสภากลาโหม<br />

ให้ความเห็นชอบ เมื่อ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๔ และเสนอต่อ<br />

คณะรัฐมนตรีทราบ เมื่อ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๕ อยู่ระหว่าง<br />

การตรวจพิจารณาของสำานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา<br />

ซึ่งการปรับอัตราเงินเดือนดังกล่าว ยังไม่บรรลุเป้าหมาย<br />

ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการให้เงินเดือนของข้าราชการ<br />

ระดับปริญญาตรี ๑๕,๐๐๐ บาท คณะรัฐมนตรีจึงมอบหมาย<br />

ให้สำานักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน กำาหนดแนวทาง<br />

การปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุให้บรรลุตามนโยบาย ซึ่ง<br />

ผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เมื่อ ๑๐ เมษายน<br />

๒๕๕๕ โดยปรับอัตราเงินเดือนแรกบรรจุทุกคุณวุฒิให้บรรลุ<br />

ตามเป้าหมายภายใน ๒ <strong>ปี</strong> คือ <strong>ปี</strong>ที่ ๑ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม<br />

๒๕๕๖ และ<strong>ปี</strong>ที่ ๒ ตั้งแต่ ๑ มกราคม ๒๕๕๗ รวมทั้งปรับ<br />

เงินเดือนชดเชยสำาหรับผู้ได้รับผลกระทบตามระยะเวลาเดียวกัน<br />

ทั้งนี้ สำานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ดำาเนินการปรับ<br />

อัตราเงินเดือนแรกบรรจุของข้าราชการทหาร ดำาเนินการ<br />

โดยการปรับปรุงแก้ไขร่างกฎกระทรวง กำาหนดหลักเกณฑ์<br />

และวิธีการบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการทหาร<br />

และการให้ได้รับเงินเดือน พ.ศ. .... (ร่างกฎกระทรวงฯ ซึ่ง<br />

ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำานักงานคณะกรรมการ<br />

กฤษฎีกา) คือ ยกเลิกบัญชีคุณวุฒิและอัตราเงินเดือนของ<br />

บุคคลที่ได้รับการบรรจุเข้ารับราชการเป็นข้าราชการทหาร<br />

แนบท้ายกฎกระทรวง กำาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการบรรจุ<br />

บุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการทหาร และการให้ได้รับ<br />

เงินเดือน พ.ศ. .... ซึ่งใช้บังคับ เมื่อ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๓ และ<br />

๑ มกราคม ๒๕๕๕<br />

- กำาหนดบัญชีคุณวุฒิและอัตราเงินเดือนอัตราใหม่<br />

แนบท้ายกฎกระทรวง กำาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการบรรจุ<br />

บุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการทหาร และการให้ได้รับ<br />

เงินเดือน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยเทียบอัตราเงินเดือน<br />

ของข้าราชการพลเรือนสามัญในคุณวุฒิเดียวกัน ซึ ่งบังคับ<br />

ใช้เมื่อ ๑ มกราคม ๒๕๕๖ และ ๑ มกราคม ๒๕๕๗ แทน<br />

รวมทั้ง เลื่อนชั้นเงินเดือนเพื่อชดเชยแก่ข้าราชการทหาร<br />

ผู้ได้รับผลกระทบ โดยยกเลิกคำาสั่งกระทรวงกลาโหม ว่าด้วย<br />

หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการเลื่อนชั้นเงินเดือน<br />

เพื่อชดเชยแก่ข้าราชการทหารที่ได้รับผลกระทบจากการ<br />

กำาหนดอัตราเงินเดือนแรกบรรจุ ซึ่งออกตามมติคณะรัฐมนตรี<br />

เมื่อ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๓ และ ๓๑ มกราคม ๒๕๕๕<br />

แล้วจัดทำาร่างคำาสั่งกระทรวงกลาโหม ว่าด้วยหลักเกณฑ์<br />

วิธีการ และเงื่อนไขในการเลื่อนชั้นเงินเดือนเพื่อชดเชยแก่<br />

ข้าราชการทหารที่ได้รับผลกระทบจากการกำาหนดอัตรา<br />

เงินเดือนแรกบรรจุ ซึ ่งออกตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อ ๑๐<br />

เมษายน ๒๕๕๕ โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่ ๑ มกราคม<br />

๒๕๕๖ และ ๑ มกราคม ๒๕๕๗ ขณะนี้อยู่ระหว่างการ<br />

นำาเสนอเรื่องเข้าพิจารณาในสภากลาโหม<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

37


ผลการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม<br />

ตามนโยบายรัฐบาล และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี<br />

ใน<strong>รอบ</strong><strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

(๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ ถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕)<br />

นโยบายความมั่นคงแห่งรัฐ<br />

กระทรวงกลาโหมได้ดำาเนินการตามแผนงาน/โครงการ โดยมีผลการดำาเนินงานที่สำาคัญ ดังนี้<br />

๑. เทิดทูนและพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์<br />

๒. พัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพของกองทัพและระบบป้องกันประเทศ<br />

๒.๑ การเตรียมกำาลังและใช้กำาลังในการป้องกันประเทศและการรักษาความมั่นคงภายใน<br />

๒.๒ เทคโนโลยีสารสนเทศและอวกาศ<br />

๒.๓ การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก<br />

๒.๔ การบริหารจัดการการป้องกันประเทศ<br />

๒.๕ การระดมสรรพกำาลังเพื่อการทหาร<br />

๒.๖ การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร<br />

๒.๗ การวิจัยและพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ด้านยุทโธปกรณ์ เทคโนโลยีป้องกันประเทศ และ<br />

ถ่ายทอดองค์ความรู้เทคโนโลยีป้องกันประเทศ<br />

๒.๘ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการช่วยเหลือประชาชน<br />

๓. พัฒนาและเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศ<br />

๔. พัฒนาระบบการเตรียมพร้อมแห่งชาติ<br />

๕. เร่งดำาเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติด องค์กรอาชญากรรมการค้ามนุษย์ ผู้หลบหนีเข้าเมือง<br />

แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย และบุคคลที่ไม่มีสถานะชัดเจน<br />

38 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


๑. เทิดทูนและพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบัน<br />

พระมหากษัตริย์<br />

การเทิดทูน ป้องกัน รวมทั้งตอบโต้และทำาความเข้าใจ<br />

มิให้มีการล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์<br />

กระทรวงกลาโหมให้ความสำาคัญในการเทิดทูนและ<br />

พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อเป็นศูนย์รวม<br />

จิตใจของคนไทยทั้งชาติมาตั ้งแต่อดีต โดยได้ดำาเนินงานที่<br />

สำาคัญร่วมกับภาคประชาชน ในกิจกรรมต่าง ๆ ประกอบด้วย<br />

สำานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />

- จัดกิจกรรมปฏิบัติธรรมพัฒนาจิตเฉลิมพระเกียรติ<br />

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธี<br />

มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ <strong>รอบ</strong> ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔<br />

โดยนิมนต์ พระมหาสนธยา เขมาภิรโต จากวัดชลประทาน<br />

รังสฤษฎ์ เป็นองค์บรรยายธรรมให้กับข้าราชการของ<br />

สำานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และปฏิบัติธรรมเจริญจิต<br />

ภาวนา ด้วยการวิปัสสนากัมมัฏฐาน<br />

- จัดกิจกรรมน้อมเกล้าฯ เฉลิมพระเกียรติพระบาท<br />

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิม<br />

พระชนมพรรษา โดยจัดโต๊ะเครื่องราชสักการะ ติดตั้ง<br />

พระบรมฉายาลักษณ์หรือพระบรมสาทิสลักษณ์ และอักษร<br />

พระปรมาภิไธย “ภปร” พร้อมคำาถวายพระพร ประดับ<br />

ธงชาติ ธง ภปร. และโคมไฟ รวมทั้ง จัดนิทรรศการเกี่ยวกับ<br />

พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ<br />

กล่าวคำาถวายสัตย์ปฏิญาณเพื่อเป็นข้าราชการที่ดีและพลัง<br />

ของแผ่นดิน มีข้าราชการร่วมพิธีทำาบุญตักบาตรข้าวสาร<br />

อาหารแห้ง ลงนามถวายพระพรชัยมงคล ถวายเครื่องราช<br />

สักการะ (พานพุ่มเงิน - พุ่มทอง) และพิธีจุดเทียนชัยถวาย<br />

พระพรชัยมงคล อีกทั้งฟังพระธรรมเทศนาและปฏิบัติธรรม<br />

เฉลิมพระเกียรติ และร้องเพลงสรรเสริญพระบารมีและ<br />

เพลงสดุดีมหาราชา ตลอดจนจัดให้มีการเดินเทิดพระเกียรติ<br />

ร่วมปลูกต้นไม้และปล่อยพันธุ์ปลา<br />

- จัดทำา และติดตั้งป้ายข้อความพระราชดำารัส<br />

ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งพระราชทานแก่<br />

ทหารผ่านศึก เมื่อ ๒๓ มกราคม ๒๕๓๗ ข้อความว่า<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

39


“ทหารผ่านศึกเป็นผู้มีเกียรติเพราะได้เสียสละประโยชน์ส่วนตัว<br />

แม้กระทั่งเลือดเนื้อและชีวิต เพื่อบ้านเมืองและส่วนรวม<br />

ขอให้ภูมิใจและตั้งใจรักษาเกียรติอันแท้จริงที่มีอยู่นั้นไว้ทุกเมื่อ”<br />

- จัดกิจกรรมวันพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า<br />

เจ้าอยู ่หัว ณ พระบรมราชานุสรณ์ฯ สวนลุมพินี, กิจกรรม<br />

วันคล้ายวันพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย<br />

ณ บริเวณหน้าอาคารรัฐสภา ถนนอู่ทองใน เขตดุสิต กรุงเทพฯ,<br />

กิจกรรมวันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ณ พระบรม<br />

ราชานุสาวรีย์ วงเวียนใหญ่ กรุงเทพฯ, กิจกรรมงานรัฐพิธี<br />

“วันพ่อขุนรามคำาแหงมหาราช” ได้จัดพิธีถวายพานราช<br />

สักการะในหลายพื้นที่คือ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดสุโขทัย<br />

จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดสุพรรณบุรี, กิจกรรมภาพ<br />

แกะสลักไม้และภาพศิลปะประดิษฐ์ไทย - โอชิเอะ แด่พระบาท<br />

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา<br />

ณ โรงพยาบาลศิริราช, กิจกรรมวันยุทธหัตถีสมเด็จ<br />

พระนเรศวรมหาราช, งานสโมสรสันนิบาตจังหวัดเชียงใหม่<br />

ณ พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี,<br />

จัดบรรยายพิเศษ เรื่อง “เทิดไท้องค์ราชัน” ณ จังหวัดลำาพูน,<br />

พิธีกระทำาสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล ประจำา<strong>ปี</strong><br />

๒๕๕๕ ณ กองบัญชาการกองพลทหารราบที่ ๗ จังหวัด<br />

เชียงใหม่, รับ - ส่งเสด็จฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ<br />

สยามบรมราชกุมารี ณ ท่าอากาศยาน กองบิน ๔๑ จังหวัด<br />

เชียงใหม่, กิจกรรมคอนเสิร์ตเทิดพระเกียรติ ณ หอประชุม<br />

มหาวชิราลงกรณ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร จังหวัด<br />

สกลนคร, งานราตรีสโมสรสันนิบาต ณ มณฑลพิธีทุ่งศรีเมือง<br />

จังหวัดอุบลราชธานี, โครงการ “หน่วยทหารและหมู่บ้าน/<br />

ชุมชนสีขาว” ณ สนามหน้าศูนย์ฝึกนักศึกษาวิชาทหาร<br />

มณฑลทหารบกที่ ๓๑, รับเสด็จฯ สมเด็จพระเทพรัตน<br />

ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จังหวัดอุบลราชธานี,<br />

พิธีสวดมนต์ข้าม<strong>ปี</strong>อุบลราชธานี ณ วัดมหาวนาราม (วัด<br />

ป่าใหญ่) จังหวัดอุบลราชธานี, รับเสด็จฯ พระเจ้าหลานเธอ<br />

พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ณ ท่าอากาศยานทหาร<br />

กองบิน ๒๑ จังหวัดอุบลราชธานี และ ตรวจเยี่ยมสมาชิก<br />

สายใจไทย ณ โรงพยาบาลขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น<br />

40 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


- ดำาเนินการจัดกิจกรรมวันพระบาทสมเด็จพระปกเกล้า<br />

เจ้าอยู่หัว ดังนี้<br />

๑. ถวายราชสักการะ ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ฯ<br />

หน้าตึกรัฐสภา พระราชวังดุสิต และกิจกรรมพิธีมอบ<br />

โค - กระบือ ให้กับทหาร ตามโครงการไถ่ชีวิตโค - กระบือ<br />

เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว<br />

เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๕ พรรษา<br />

๕ ธันวาคม ๒๕๕๕ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม<br />

ราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา<br />

๘๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๕ และสมเด็จพระบรม<br />

โอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาสมหามงคล<br />

เฉลิมพระชนมพรรษา ๕ <strong>รอบ</strong> ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๕ พร้อมทั้ง<br />

จัดพิธีมอบโค - กระบือ ให้กับทหาร จำานวน ๑๐ ตัว<br />

ณ ศาลาอเนกประสงค์ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เมื่อวันที่<br />

๑๗ สิงหาคม ๒๕๕๕<br />

๒. โครงการ “ข้าราชการรวมใจพัฒนาศูนย์บริหาร<br />

ราชการจังหวัดอุบลราชธานี” เนื่องในโอกาส<strong>ปี</strong>มหามงคล<br />

เฉลิมพระชนมพรรษา ๘๕ พรรษา มหาราชา ๘๐ พรรษา<br />

มหาราชินี และ ๖๐ พรรษา สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ<br />

สยามมกุฎราชกุมาร ร่วมกับหน่วยงานราชการจังหวัด<br />

อุบลราชธานี ปลูกต้นโพธิ์ใหญ่ ต้นสาละ และหญ้าแฝก<br />

ณ ศูนย์บริหารราชการจังหวัดอุบลราชธานี (แห่งใหม่)<br />

บ้านหนองแก ตำาบลแจระแม อำาเภอเมืองอุบลราชธานี<br />

จังหวัดอุบลราชธานี<br />

๓. กิจกรรม “บันทึกเทปถวายพระพร” ร่วมบันทึก<br />

เทปถวายพระพร เนื ่องในโอกาสสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์<br />

พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมายุครบ ๘๐ พรรษา<br />

๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๕ ณ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย<br />

อำาเภอเมืองพิษณุโลก จังหวัดพิษณุโลก<br />

๔. กิจกรรมการตรวจเยี่ยมทหารผ่านศึก และเชิญ<br />

ชวนทหารผ่านศึกกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณ เฉลิมพระเกียรติ<br />

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ค่ายพ่อขุนผาเมือง อำาเภอ<br />

เมืองเพชรบูรณ์ จังหวัดเพชรบูรณ์ และค่ายศรีสองรัก อำาเภอ<br />

เมืองเลย จังหวัดเลย โดยมีทหารผ่านศึก จำานวน ๕๑๐ คน<br />

ร่วมกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณฯ<br />

๕. กิจกรรมการบรรยายพิเศษ เรื่อง “เทิดไท้<br />

องค์ราชัน” โดยจัดให้พนักงาน ลูกจ้างทหารผ่านศึก ค<strong>รอบ</strong>ครัว<br />

ทหารผ่านศึก นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป<br />

ร่วมรับฟังการบรรยายพิเศษเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของ<br />

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์<br />

พระบรมราชินีนาถ ณ สโมสรค่ายสุรศักดิ์มนตรี มณฑลทหาร<br />

บกที่ ๓๒ จังหวัดลำาปาง เมื่อวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๕<br />

ณ ศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและภูมิปัญญา<br />

ท้องถิ่นค่ายสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อ<br />

วันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ณ โรงเรียนเชียงคำาวิทยาคม<br />

อำาเภอเชียงคำา จังหวัดพะเยา เมื่อวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๕<br />

ณ โรงเรียนวีรวัฒน์โยธิน อำาเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

41


๖. กิจกรรมสัมมนาวิชาการนานาชาติ เฉลิมพระเกียรติ<br />

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร “๖๐<br />

พรรษา มหาวชิราลงกรณ์” เมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๕<br />

ในหัวข้อ “ชาติพันธุ์ลุ่มนำ้ำโขงตอนล่าง” ซึ่งจัดขึ้นโดยสำานัก<br />

ศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ณ<br />

ห้องประชุมบัวทิพย์ ๔ ศูนย์ศิลปวัฒนธรรมกาญจนาภิเษก<br />

มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี อำาเภอเมือง จังหวัด<br />

อุบลราชธานี<br />

๗. กิจกรรมเครือข่ายการสงเคราะห์ ราชสดุดี<br />

เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่<br />

๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ณ สหกรณ์โคนมหนองโพราชบุรี<br />

(ในพระบรมราชูปถัมภ์) และปล่อยพันธุ์ปลานำ้ำจืด ๘,๔๐๐<br />

ตัว ลงสู่แม่นำ้ำแม่กลอง ณ ท่านำ้ำวัดพญาไม้ เพื่อถวายเป็น<br />

พระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว<br />

๘. กิจกรรม “รวมพลังไทย ธำารงไว้ซึ่งสถาบัน”<br />

เมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ร่วมกับกรมการทหารช่าง<br />

และกองพลพัฒนาที่ ๑ บริเวณลานด้านหน้าโรงยิมเนเซี่ยม<br />

จังหวัดราชบุรี เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ<br />

พระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล<br />

เฉลิมพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้า<br />

สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธี<br />

มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม<br />

๒๕๕๕ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎ<br />

ราชกุมาร เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา<br />

๕ <strong>รอบ</strong> ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๕<br />

๙. กิจกรรม “โครงการคลินิกเกษตรเคลื่อนที่ใน<br />

พระราชานุเคราะห์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎ<br />

ราชกุมาร” เมื่อวันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๕ ร่วมกับจังหวัด<br />

ฉะเชิงเทรา และเข้าร่วมกิจกรรม “โครงการคลินิกเกษตร<br />

เคลื่อนที่ในพระราชานุเคราะห์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ<br />

สยามมกุฎราชกุมาร” เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราช<br />

สมภพ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร<br />

ณ วัดสุวรรณเตมีย์ อำาเภอบางนำ้ำเปรี้ยว จังหวัดฉะเชิงเทรา<br />

๑๐. กิจกรรม “โครงการประชาอาสาปลูกป่า ๘๐๐<br />

ล้านกล้า ๘๐ พรรษามหาราชินี” เมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๕<br />

ร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดนครราชสีมา และเข้าร่วม<br />

กิจกรรม “โครงการประชาอาสาปลูกป่า ๘๐๐ ล้านกล้า ๘๐<br />

พรรษามหาราชินี” เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์<br />

พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล<br />

เฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๕<br />

ณ บ้านดงมะไฟ ตำาบลมะเกลือใหม่ อำาเภอสูงเนิน จังหวัด<br />

นครราชสีมา<br />

- ดำาเนินการตามแผนงานสื่อสร้างสรรค์เฉลิมพระเกียรติ<br />

๘๐ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ<br />

เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในสังคมสารสนเทศ<br />

ในการเฉลิมพระเกียรติฯ<br />

- ดำาเนินการจัดตั้งเครือข่ายผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต เพื่อ<br />

ส่งเสริมและปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยให้มีการ<br />

โพสต์ข้อความเทิดทูน ป้องกัน รวมทั้งตอบโต้และทำาความ<br />

เข้าใจมิให้มีการล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ และ<br />

จัดการฝึกชุดวิทยากรปลูกฝังและสร้างเสริมอุดมการณ์ทหาร<br />

โดยการบรรยายเรื่องอุดมการณ์ทหารและประวัติศาสตร์<br />

42 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


ชาติไทยและแจกจ่ายคู่มืออุดมการณ์ทหาร ซึ่งมีเนื ้อหา<br />

เกี่ยวกับการเทิดทูนและปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์<br />

- จัดกิจกรรมเทศน์มหาชาติเฉลิมพระเกียรติถวายเป็น<br />

พระราชกุศลแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม<br />

ราชกุมารี เนื่องในวโรกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ เมื่อ ๒<br />

เมษายน ๒๕๕๕ ภายในศาลาว่าการกลาโหม โดยได้อาราธนา<br />

พระราชธรรมวาที ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยูรวงศาวาส<br />

กรุงเทพฯ และพระมหาสม สุทธิประภาโส วัดหลักสี่<br />

เขตหลักสี่ กรุงเทพฯ เป็นองค์แสดงพระธรรมเทศนาทั้ง<br />

ภาคบรรยายและการแหล่ตามประเพณีเทศน์มหาชาติ<br />

- ร่วมกิจกรรม ๑๒ สิงหามหาราชินี ณ มณฑลพิธี<br />

ท้องสนามหลวง พร้อมทั้งจัดกิจกรรมเทิดทูนสมเด็จ<br />

พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาส<br />

วันเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา การบริจาคโลหิต<br />

ถวายเป็นพระราชกุศล และจัดกิจกรรมปฏิบัติธรรม<br />

เฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศลแด่ สมเด็จ<br />

พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในวโรกาส<br />

มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๕<br />

เมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๕ ภายในศาลาว่าการกลาโหม<br />

- จัดกิจกรรมปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ สวดบท<br />

พระพุทธคุณ จำานวน ๙ จบ และบำาเพ็ญจิตภาวนาถวายเป็น<br />

พระราชกุศลแด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎ<br />

ราชกุมาร เนื่องในวโรกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ ณ ห้อง<br />

สุรศักดิ์มนตรี ภายในศาลาว่าการกลาโหม<br />

- จัดทำาแผนงานพัฒนาระบบป้องกันการล่วงละเมิด<br />

สถาบันพระมหากษัตริย์ ระยะที่ ๒ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ<br />

จัดหาระบบสืบค้นข้อมูลและบริหารจัดการ ตลอดจนการ<br />

ผลิตข้อมูลสารสนเทศในรูปแบบต่าง ๆ ในภารกิจปกป้องการ<br />

ล่วงละเมิดสถาบันฯ, สร้างเครือข่ายเทิดทูนสถาบันฯ ของ<br />

กระทรวงกลาโหม ซึ่งประกอบด้วย กำาลังพลจา<strong>กห</strong>น่วยงาน<br />

ต่าง ๆ ในสังกัดกระทรวงกลาโหม และพัฒนาบุคลากรของ<br />

เครือข่ายเทิดทูนสถาบันฯ ให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมี<br />

ประสิทธิภาพ, จัดทำาแผนงานสื่อสร้างสรรค์เฉลิมพระเกียรติ<br />

๘๐ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ<br />

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำาเว็บไซต์เทิดพระเกียรติสมเด็จ<br />

พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่มีเนื้อหาสาระและ<br />

รูปแบบการนำาเสนอที่น่าสนใจ ทั้งภาษาไทยและภาษา<br />

อังกฤษ, จัดกิจกรรมการป้องกันการล่วงละเมิดสถาบันพระ<br />

มหากษัตริย์ โดยมีวัตถุประสงค์ คือ จัดหาอุปกรณ์ที่สามารถ<br />

ผลิตเนื้อหาข้อความ ไฟล์เสียง (Voice) ไฟล์วีดีโอ (VDO) ให้<br />

มีความทันสมัย สวยงาม ดูน่าเชื่อถือ เพื่อใช้ในการตอบโต้<br />

การล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์<br />

- จัดกิจกรรมการแข่งขันกีฬา “เดิน - วิ่ง มินิมาราธอน<br />

บ่อนำ้ำมันฝาง ๘๐ พรรษา มหาราชินี” เมื่อวันที่ ๑๐ สิงหาคม<br />

๒๕๕๕ และดำาเนินการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จ<br />

พระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เนื่องในโอกาส<br />

มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖๐ พรรษา ๒๘ กรกฎาคม<br />

๒๕๕๕ โดยทำาการปลูกต้นไม้ ณ พื้นที่ของวัดศรีบุญเรือง<br />

ตำาบลสันทราย อำาเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ในพื้นที่ประมาณ<br />

๑๕ ไร่<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

43


- จัดทำาบทความวิทยุเฉลิมพระเกียรติ จำานวน ๘๔<br />

ตอน เป็นภาษาท้องถิ่น ๔ ภาค เผยแพร่พระราชกรณียกิจ<br />

ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโครงการพระราชดำาริ<br />

ที่สำาคัญ ๆ ให้กับผู้ประกอบการวิทยุชุมชนทั่วประเทศกว่า<br />

๒๕๐ สถานี เพื่อเผยแพร่ออกอากาศให้ประชาชนในชุมชน<br />

ได้รับทราบ เข้าใจ และร่วมสำานึกในพระมหากรุณาธิคุณ<br />

กรมราชองครักษ์<br />

- ถวายความปลอดภัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว,<br />

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ, สมเด็จ<br />

พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, สมเด็จพระเจ้า<br />

ลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี, พระเจ้า<br />

หลานเธอ พระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และพระเจ้าหลานเธอ<br />

พระองค์เจ้าอทิตยาทรกิติคุณ ตามกำาหนดการเสด็จฯ<br />

และถวายความปลอดภัยประจำาเขตพระราชฐาน และ<br />

ที่ประทับตลอดห้วงระยะเวลา โดยแบ่งเป็นในพื้นที่<br />

กรุงเทพมหานคร จำานวน ๓๙๗ ครั้ง, พื้นที่ต่างจังหวัด<br />

จำานวน ๕๗ ครั้ง และพื้นที่ต่างประเทศ จำานวน ๖ ครั้ง<br />

ในส่วนของการประชุมตรวจพื้นที่ เพื่อเตรียมการเสด็จฯ<br />

จำานวน ๘๔ ครั้ง และมีการขอรับการสนับสนุนชุดตรวจ<br />

ทางเทคนิคจา<strong>กห</strong>น่วยต่าง ๆ จำานวน ๙๑ ครั้ง นอกจากนี้<br />

ยังมีการปฏิบัติตามพระราชประสงค์ โดยสรุปข่าวด้าน<br />

ความมั่นคงทูลเกล้าฯ ถวายสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ<br />

สยามบรมราชกุมารี จำานวน ๓ ครั้ง<br />

กองบัญชาการกองทัพไทย<br />

- จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์<br />

พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา<br />

๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๑ - ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๕<br />

ซึ่งได้จัดกิจกรรมเลี้ยงอาหารกลางวันเด็กพิการทางสมอง<br />

และปัญญา ณ สถานสงเคราะห์เด็กพิการทางสมองและ<br />

ปัญญา (บ้านราชาวดี ชาย) อำาเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี,<br />

กิจกรรมลงนามถวายพระพร ณ กองบัญชาการกองทัพไทย<br />

44 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


และพื้นที่รับผิดชอบ และกิจกรรมถวายสังฆทาน และบำาเพ็ญ<br />

สาธารณประโยชน์ เช่น พัฒนาพื้นที่วัดและถวายสังฆทาน<br />

ณ วัดเวฬุวนาราม เขตดอนเมือง เมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม<br />

๒๕๕๕ ดำาเนินการพัฒนาและทาสีรั้ว กำาแพง ศาลา และ<br />

วิหาร ณ วัดสีกัน เขตดอนเมือง เมื่อวันที่ ๓๑ กรกฎาคม<br />

๒๕๕๕ พัฒนาพื้นที่บริเวณวัดเทียนถวาย ตำาบลบ้านใหม่<br />

อำาเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๕<br />

ซึ่งข้าราชการ และประชาชนทั่วไปได้มีส่วนร่วมแสดงออกถึง<br />

ความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นศูนย์รวม<br />

จิตใจของคนไทยทั้งประเทศ<br />

- จัดทำาสารคดีและบทความเทิดทูนสถาบันพระมหา<br />

กษัตริย์ ในห้วงกันยายน ๒๕๕๔ - ตุลาคม ๒๕๕๕ โดยออก<br />

อากาศในรายการที่รับผิดชอบ คือ การเผยแพร่พระบรม<br />

ราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งได้จัดทำาสปอต<br />

วิทยุ, เผยแพร่โครงการพระราชดำาริต่าง ๆ ด้วยการสัมภาษณ์<br />

ผู้เกี่ยวข้อง, เผยแพร่หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และ<br />

โครงการกล้าแผ่นดินด้วยเศรษฐกิจพอเพียงตามหลักปรัชญา<br />

ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งนี้ประชาชนได้รับทราบ<br />

พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว<br />

ทางรายการวิทยุช่วงหลังเคารพธงชาติเวลา ๑๘.๐๐ น. และ<br />

๑๗.๓๐ น. ทางวิทยุสื่อสารช่อง ๑๐๑ และช่อง ๑๐๓ ตาม<br />

ลำาดับ นอกจากนี้ ยังได้มีการตรวจสอบเว็บไซต์ที่ไม่เหมาะสม<br />

โดยรวบรวมรายชื่อเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับการละเมิด และ/<br />

หรือหมิ่นสถาบัน เพื่อแจ้งให้กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศ<br />

และการสื่อสารดำาเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป<br />

- จัดทำาสารคดีเฉลิมพระเกียรติเชิงความรู้และ<br />

ประวัติศาสตร์ “ตามรอยเสด็จ” ระหว่างเดือนกรกฎาคม -<br />

กันยายน ๒๕๕๕ ซึ่งจะทำาการผลิตและเผยแพร่ออกอากาศ<br />

ทางสถานีโทรทัศน์ จำานวน ๔๐ ตอน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ<br />

มุ่งให้ประชาชนได้รับความรู้ที่ถูกต้องถึงพระราชกรณียกิจ<br />

ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์<br />

พระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยาม<br />

มกุฎราชกุมาร<br />

กองทัพบก<br />

- ปฏิบัติภารกิจการถวายความปลอดภัย การถวาย<br />

พระเกียรติ และปฏิบัติตามพระราชประสงค์ จำานวน<br />

๒๗ ครั้ง รวม ๘๖๒ ภารกิจ<br />

กองทัพเรือ<br />

- ถวายความปลอดภัย ถวายพระเกียรติ และปฏิบัติ<br />

ตามพระราชประสงค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จ<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

45


พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ สมเด็จพระเทพ<br />

รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำาเนิน<br />

ทางชลมารคโดยเรืออังสนาซึ่งกองทัพเรือจัดถวายเป็นเรือ<br />

พระที่นั่ง ไปทรงเปิดโครงการชลประทานอันเนื่องมาจาก<br />

พระราชดำาริ ๕ โครงการ ที่กรมชลประทานสามเสน โดยมี<br />

พลเรือเอก สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ<br />

และคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือ เฝ้าฯ รับเสด็จ<br />

เมื่อวันที่ ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๕<br />

- จัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารคในงานพระราชพิธี<br />

เสด็จพระราชดำาเนินถวายผ้ากฐิน เนื่องในโอกาสพระราชพิธี<br />

มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ <strong>รอบ</strong> ๕ ธันวาคม ๒๕๕๕<br />

เมื่อ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๕<br />

- เผยแพร่บทความและข่าวสารเทิดทูนสถาบัน<br />

พระมหากษัตริย์ทางเว็บไซต์ (Website) พร้อมทั้งจัดการ<br />

อบรมให้กำาลังพลได้รับทราบถึงพระเกียรติคุณและพระ<br />

มหากรุณาธิคุณขององค์พระมหากษัตริย์อย่างต่อเนื่อง<br />

นอกจากนี้ยังได้มีการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสาร<br />

ที่มีผลกระทบต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และเฝ้าตรวจ<br />

และรายงานหากพบเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาสาระที่เป็นการหมิ่น<br />

สถาบันพระมหากษัตริย์<br />

กองทัพอากาศ<br />

- ถวายการบินรับ - ส่งเสด็จฯ พระบาทสมเด็จ<br />

พระเจ้าอยู่หัว, สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ<br />

พระบรมวงศานุวงศ์ และผู้แทนพระองค์ โดยอากาศยาน<br />

พระราชพาหนะที่กองทัพอากาศจัดถวาย รวมทั้งเตรียมพร้อม<br />

ในการแปรพระราชฐาน จัดเจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมการปฏิบัติ<br />

หน้าที่ชุดเฝ้าตรวจทางอากาศที่วังไกลกังวล อำาเภอหัวหิน<br />

46 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


รักษาสถาบันพระมหากษัตริย์ อย่างสมพระเกียรติ รวมถึง<br />

สนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำาริอย่าง<br />

เต็มความสามารถ ได้แก่<br />

๑) จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาส<br />

เฉลิมพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษา พระบาทสมเด็จ<br />

พระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐<br />

พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ<br />

และ กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ<br />

สยามมกุฎราชกุมาร<br />

๒) ร่วมกับมูลนิธิ ๕ ธันวามหาราช จัดกิจกรรม<br />

เทิดพระเกียรติ ที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง<br />

๓) จัดกิจกรรมในงานกาชาด<strong>ปี</strong> พ.ศ.๒๕๕๕ ณ ลาน<br />

พระที่นั่งอัมพรสถาน<br />

๔) จัดคอนเสิร์ตทัพฟ้าคู่ไทยเพื่อชัยพัฒนา<br />

๕) สนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำาริ<br />

ได้แก่ โครงการฝนหลวง โครงการข้าวกล้องแรกผลิ โครงการ<br />

อนุรักษ์หอยตลับ<br />

จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นอกจากนี้ ยังได้ถวายความปลอดภัย<br />

ให้แก่พระบรมวงศานุวงศ์ที่เสด็จพระราชดำาเนินในพื้นที่<br />

ท่าอากาศยาน กองบัญชาการกองทัพอากาศ และกองบินต่าง ๆ<br />

รวมทั้งถวายความปลอดภัย สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ<br />

สยามมกุฎราชกุมารเสด็จทรงฝึกบิน ณ ท่าอากาศยาน<br />

กองบัญชาการกองทัพอากาศ และกองบินต่าง ๆ<br />

- กำาหนดแนวทางการปฏิบัติเมื่อพบการโพสต์ข้อความ<br />

ที่เกี่ยวข้องกับการหมิ่นสถาบันฯ และสนับสนุนและ<br />

ดำาเนินการอันแสดงออกถึงความจงรักภักดี เทิดทูน พิทักษ์<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

47


๒. พัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพ<br />

ของกองทัพและระบบป้องกันประเทศ<br />

๒.๑ การเตรียมกำลังและใช้กำลัง<br />

ในการป้องกันประเทศและการรักษาความ<br />

มั่นคงภายใน<br />

กองบัญชาการกองทัพไทย<br />

- การจัดทำาข้อมูลเพื่อการแก้ไขปัญหาพื้นที่วิกฤติ<br />

บริเวณชายแดน ไทย - ลาว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำาเนินการ<br />

ปรับแผนงานเป็นการประชุมสัมมนาเพื่อปรับปรุงข้อมูลเพื่อ<br />

การแก้ไขปัญหาพื้นที่วิกฤติบริเวณชายแดนไทย - กัมพูชา<br />

- แก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้/การติดตาม<br />

และประเมินยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดน<br />

ภาคใต้/จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ เรื่อง แนวทาง<br />

การดำาเนินงานของกองทัพไทยในการสนับสนุนการแก้ไข<br />

ปัญหาความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อ ๘ -<br />

๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕<br />

- ฝึกร่วมระหว่างเหล่าทัพ คือ การฝึกร่วมทางบก<br />

กองการฝึก กองเรือยุทธการ ๕๕ โดยดำาเนินการฝึกกองหนุน<br />

กองทัพไทย ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ การฝึกเฮลิคอปเตอร์<br />

กองทัพบก ขึ้น - ลง บนเรือหลวงจักรีนฤเบศร และการฝึก<br />

ป้องกันภัยทางอากาศ และการฝึกร่วม/ผสม กับมิตรประเทศ<br />

คือ การฝึกปฏิบัติการรักษาสันติภาพ พิราบ - จาบิรู ๒๐๑๒<br />

โดยกองทัพไทยและกองทัพออสเตรเลีย ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ<br />

เมื่อวันที่ ๑๑ - ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๕<br />

48 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

49


50 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


กองทัพบก<br />

- ดำาเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรอง<br />

สิ่งประดิษฐ์ทางทหาร มีอำานาจหน้าที่ที่สำาคัญในการ<br />

พิจารณากลั่นกรองสิ่งประดิษฐ์ทางทหารที่มีความเหมาะสม<br />

ในการผลิตทดลองใช้งาน และประเมินผลงานสิ่งประดิษฐ์<br />

ทางทหาร ก่อนที่จะนำาเข้าสู่กระบวนการนำาผลงานสิ่งประดิษฐ์<br />

ทางทหารผลิตใช้งาน ในกองทัพบกต่อไป<br />

กองทัพเรือ<br />

- ดำาเนินการเตรียมกำาลังและใช้กำาลังในการป้องกัน<br />

ประเทศและการรักษาความมั่นคงภายใน โดยพัฒนา<br />

ยุทโธปกรณ์ที่มุ่งเน้นสนับสนุนอุตสาหกรรมในประเทศ<br />

ด้านการปรับปรุงโครงสร้างกองทัพมีการเสนอปรับโครงสร้าง<br />

กำาลังพลของฝ่ายส่งกำาลังบำารุงให้คณะพิจารณาปรับปรุง<br />

โครงสร้างศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือทราบ เพื่อให้มี<br />

ความเหมาะสมและสอดคล้องกับภารกิจและระบบงานของ<br />

ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือในปัจจุบัน<br />

- ดำาเนินการฝึกอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ขัดแย้ง<br />

เมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ณ กองการบินทหารเรือ กอง<br />

เรือยุทธการ และฝึกร่วมกับเครื่องบินรบ Gripen ในการฝึก<br />

ปฏิบัติการร่วม กองการฝึกกองเรือยุทธการ ๕๕ ณ หาดยาว<br />

เมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๕, จัดการฝึกระดมสรรพกำาลัง<br />

เพื่อการทหารในการฝึกภาคสนาม/ทะเล ในการฝึกกองทัพ<br />

เรือ ๕๕, จัดกำาลังพลร่วมการฝึกปัญหาที่บังคับการ CPX 1<br />

ในการฝึก ด้านส่งกำาลังบำารุงการฝึกร่วม <strong>ปี</strong> ๕๕ สำาหรับการ<br />

ฝึกด้านการส่งกำาลังบำารุงร่วมกับกองทัพไทย, กองทัพบก<br />

และกองทัพอากาศ ประจำา<strong>ปี</strong>งบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๕<br />

- ดำาเนินการจัดกำาลังพลประชุมวางแผนขั้นต้นสำาหรับ<br />

การฝึกร่วม/ผสมคอบร้าโกลด์ ๑๓ เมื่อวันที่ ๑๓ - ๑๗<br />

สิงหาคม ๒๕๕๕ ณ โรงแรมอิมพีเรียล ควีนสปาร์ค กรุงเทพฯ,<br />

การประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย -<br />

กัมพูชา ครั้งที่ ๑๓ (RBC - 13), ประชุมกองเลขานุการคณะ<br />

กรรมการชายแดนทั ่วไป เมื่อวันที่ ๑๕ - ๑๗ พฤษภาคม<br />

๒๕๕๕ ณ โรงแรมนิวแทรเวิลลอด์จ อำาเภอเมือง จังหวัด<br />

จันทบุรี, ประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค เมื่อ ๓๐<br />

พฤษภาคม - ๑ มิถุนายน ๒๕๕๕ ณ โรงแรมแอมบาสเดอร์ซิตี้<br />

จอมเทียน อำาเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี, ประชุม Navy<br />

to Navy Strategy Talks ครั้งที่ ๗ ร่วมกับกองทัพเรือ<br />

ออสเตรเลีย ณ เมืองซิดนีย์ เมื่อวันที่ ๕ - ๑๐ สิงหาคม<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

51


๒๕๕๕, เข้าร่วมสังเกตการณ์ฝึกยกพลขึ้นบกของนาวิกโยธิน<br />

อินโดนีเซีย ณ ชายหาด Caligi เมืองลัมปุง เกาะสุมาตรา<br />

เมื่อวันที่ ๑๕ - ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๕๕, จัดการประชุมคณะ<br />

ทำางานร่วมกองทัพเรือ - กองทัพเรือสิงคโปร์ เมื่อวันที่ ๒๓<br />

- ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ณ จังหวัดภูเก็ต<br />

- ดำาเนินการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ให้เป็นไปตาม<br />

ความจำาเป็นและความต้องการตามยุทธศาสตร์กองทัพเรือ<br />

พ.ศ.๒๕๕๑ - ๒๕๖๐ โดยมุ่งเน้นการถ่ายทอดเทคโนโลยี<br />

และการพึ่งพาตนเองเป็นหลัก<br />

- ปรับปรุงโครงสร้างกองทัพโดยการจัดกำาลังทางเรือ<br />

ของทัพเรือภาค ด้วยการพิจารณา ทบทวน และปรับปรุง<br />

แนวทางการดำาเนินการให้เหมาะสม สอดคล้องกับโครงการ<br />

ปรับปรุง และซ่อมทำาเรือของกองทัพเรือ และจัดหน่วย<br />

เฉพาะกิจของกองทัพเรือให้เหมาะสม สอดคล้องกับ<br />

สถานการณ์ในปัจจุบัน รวมทั้งปรับปรุงและแก้ไขคำาสั่ง<br />

การจัดและวางกำาลังเพื่อป้องกันและรักษาผลประโยชน์<br />

ของชาติให้ทันสมัยและใช้งานได้จริง<br />

- ดำาเนินการพัฒนาการต่อต้านการข่าวกรอง ด้วย<br />

การจัดหาเทคโนโลยีที่ทันสมัยและเหมาะสมตามแผนที่ได้<br />

กำาหนดไว้ ได้แก่ การพัฒนาระบบสารสนเทศการแลกเปลี่ยน<br />

ข่าวสาร โดยการเช่าวงจรสัญญาณและบริการอินเทอร์เน็ต<br />

แบบสายเช่า (Leased Line) รวมทั้งพัฒนาระบบติดตาม<br />

และแสดงพิกัดตำาบลที่ของสถานการณ์และเหตุการณ์ข่าว<br />

สามมิติ เพื่อสนับสนุนหน่วยปฏิบัติการและหน่วยวางแผน<br />

ด้านการข่าวทางทะเลทั้งทางด้านอ่าวไทยและฝั่งทะเล<br />

อันดามัน ได้แก่ การรายงานข่าวและการแจ้งเตือน, พัฒนา<br />

ระบบงานสืบสวน และรักษาความปลอดภัยทางลับ โดย<br />

อยู่ในระหว่างการจัดหากล้อง DSLR, กล้องมองในที่มืด<br />

(Nightvisions), เครื่องตรวจ จับกล้องแอบถ่ายและดักฟัง,<br />

พัฒนาระบบการจัดเก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ในการปฏิบัติงาน<br />

ของหน่วยเพื่อสำารองการใช้งาน, อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล<br />

คอมพิวเตอร์ต่อเชื่อมแบบภายนอก (External Hard disk),<br />

จัดหาอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตแบบไร้สาย (Air Card)<br />

- ดำาเนินการฝึกร่วมระหว่างเหล่าทัพ โดยทบทวนปรับปรุง<br />

การฝึกของกองทัพเรือ และการฝึกร่วมกับเหล่าทัพอื่นให้<br />

สอดคล้องกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นหรือเปลี่ยนแปลงไป<br />

โดยเฉพาะในสภาวะแวดล้อมด้านความมั่นคงทางทะเลใน<br />

ปัจจุบัน ที่มีความขัดแย้งและมีแนวโน้มการใช้กำาลังที่จะทวี<br />

ความรุนแรงมากขึ ้น เพื่อให้การแก้ปัญหาเป็นไปด้วยความ<br />

รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ<br />

52 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


กองทัพอากาศ<br />

- ดำาเนินโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์<br />

ทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบที่ ๑๘ ก/ข (ระยะที่ ๒) เพื่อ<br />

การจัดหาเครื่องบิน Gripen 39 C/D จำานวน ๖ เครื่อง เข้า<br />

ประจำาการที่ ฝูงบิน ๗๐๑ ให้ครบ ๑๒ เครื่อง<br />

- ดำาเนินโครงการปรับปรุงขีดความสามารถเครื่องบิน<br />

ขับไล่แบบที่ ๑๙/ก ระยะที่ ๓ ช่วงที่ ๑ (Mid-Life Update :<br />

MLU) เพื่อปรับปรุงขีดความสามารถระบบ Avionics ระบบ<br />

อาวุธ และระบบป้องกันตนเองของเครื่องบินขับไล่แบบที่<br />

๑๙/ก (F-16 A/B) ฝูงบิน ๔๐๓ จำานวน ๖ เครื่อง รวมทั้ง<br />

จัดหาอะไหล่ อุปกรณ์สนับสนุน และการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่<br />

เพื่อให้เครื่องบินขับไล่แบบที่ ๑๙/ก มีประสิทธิภาพในการ<br />

ปฏิบัติการทางอากาศได้สูงขึ้น สามารถใช้อาวุธที่ทันสมัย มี<br />

ความแม่นยำาสูงและระยะยิงไกล มีระบบป้องกันตนเองที่มี<br />

ประสิทธิภาพ สามารถปฏิบัติการได้ทุกสภาพอากาศทั้งใน<br />

เวลากลางวันและกลางคืน<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

53


- ดำาเนินโครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ขนาดกลาง<br />

สำาหรับค้นหาและช่วยชีวิตในพื้นที่การรบ ช่วงที่ ๑ จำานวน<br />

๔ เครื่อง ทดแทนเฮลิคอปเตอร์ปฏิบัติภารกิจค้นหาและช่วย<br />

ชีวิตเดิมที่ประจำาการอยู่ พร้อมเครื่องช่วยฝึก อะไหล่ อุปกรณ์<br />

ค้นหาและช่วยชีวิต อาคารสถานที่ และการฝึกเจ้าหน้าที่ เพื่อ<br />

ให้กองทัพอากาศดำารงศักยภาพและขีดความสามารถในการ<br />

ค้นหาและช่วยชีวิตในภาพรวมทั้งทางทหารและพลเรือน ใน<br />

ฐานะเป็นหน่วยหลักด้านกำาลังทางอากาศของประเทศไว้<br />

พร้อมกับมุ่งพัฒนาเสริมสร้างสู่ความเป็นสากลก้าวสู่ระดับ<br />

ภูมิภาค<br />

- ดำาเนินโครงการพัฒนาระบบควบคุมและแจ้งเตือน<br />

การป้องกันทางอากาศ (Air Command and Control<br />

System : ACCS PHASE II) (ระยะที่ ๒) ช่วงที่ ๒ เพื่อพัฒนา<br />

ระบบบัญชาการและควบคุม (Command and Control)<br />

ให้ได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นระบบหลักในการใช้กำาลัง<br />

ทางอากาศ และการป้องกันทางอากาศ ตลอดจนการรับ - ส่ง<br />

ข้อมูลแลกเปลี่ยนข่าวสารที่เกี่ยวข้องให้กับเหล่าทัพอื่น เพื่อ<br />

ใช้ในการป้องกันภัยทางอากาศโดยรวมของประเทศ<br />

- ดำาเนินโครงการพัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลทาง<br />

ยุทธวิธี (Tactical Data Link : TDL) (ระยะที่ ๒) ช่วงที่ ๒<br />

เพื่อจัดหาระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธีสำาหรับกองทัพ<br />

อากาศ พร้อมติดตั้งอุปกรณ์เชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธี<br />

สำาหรับหน่วยภาคพื้นในพื้นที่ตอนกลางของประเทศให้<br />

ครบถ้วนสมบูรณ์ตามความต้องการของหน่วย<br />

- ดำาเนินการปรับปรุงโครงสร้างการจัดและอัตรา<br />

กองทัพอากาศ (เพื่อพราง) เพื่อรองรับระบบการใช้กำาลัง<br />

กองทัพอากาศและจัดให้มีการพัฒนาปรับปรุงหลักสูตร<br />

สายวิทยาการด้านการข่าว เพื่อรองรับการปฏิบัติการที่ใช้<br />

เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง (Network Centric Operation : NCO)<br />

พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ เข้ารับกา<strong>รอบ</strong>รมในโอกาสต่าง ๆ ทั้งใน<br />

ประชาคมข่าวกรองของประเทศ และต่างประเทศ นอกจากนี้<br />

54 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


ยังมีการฝึกร่วมเหล่าทัพ พ.ศ.๒๕๕๕ และการฝึกร่วม/ผสม<br />

กับมิตรประเทศ ได้แก่ การฝึกร่วม/ผสม Cobra Gold การ<br />

ฝึกผสม Cope Tiger, การฝึกผสม Balance Torch การฝึก<br />

ผสม AIR THAMAL, การฝึกผสม Pitch Black และการฝึก<br />

ผสม Red Flag Alaska และการฝึก LION EFFORT 2012<br />

รวมทั้งจัดโครงการต่าง ๆ เพื่อรองรับยุทธศาสตร์กองอำานวย<br />

การรักษาความมั่นคงภายใน ได้แก่ ๑) โครงการเยาวชนไทย<br />

ใต้ฟ้าเดียวกัน, ๒) โครงการชุมชนสัมพันธ์, ๓) โครงการ<br />

พิทักษ์ประชาชนและทรัพยากร และ ๔) โครงการสานใจ<br />

เด็กไทยของชาติ<br />

๒.๒ เทคโนโลยีสารสนเทศและอวกาศ<br />

สำานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />

- ดำาเนินการพัฒนาระบบเครือข่ายสื่อสาร และเทคโนโลยี<br />

สารสนเทศ โดยการพัฒนาระบบงานสารสนเทศ และบำารุง<br />

รักษาระบบงาน รวมถึงเครือข่ายให้สามารถใช้งานได้อย่าง<br />

มีประสิทธิภาพ รวมทั้งการพัฒนาระบบโทรคมนาคมทหาร<br />

โครงข่ายหลักด้วยการพัฒนาระบบสื่อสารให้มีขีดความ<br />

สามารถในการ รับ - ส่งข้อมูลให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น<br />

- ดำาเนินโครงการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ<br />

เพื่อการบริหารราชการทั่วไป (ระยะที่ ๒) วัตถุประสงค์เพื่อ<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

55


จัดหาครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ประกอบทดแทน<br />

ให้กับหน่วยขึ้นตรงที่มีการจัดหาตั้งแต่<strong>ปี</strong> ๒๕๔๕ เพื่อพัฒนา<br />

ระบบอินเทอร์เน็ตและอินทราเน็ตของกระทรวงกลาโหม ให้<br />

เป็นลักษณะเว็บท่า (Web Portal) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถ<br />

ในการปรับปรุง เปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็น<br />

มาตรฐานเดียวกัน และเพื่อปรับปรุงพัฒนาห้องฝึกอบรม<br />

คอมพิวเตอร์ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น<br />

- ดำาเนินโครงการวางระบบเครือข่ายการสื่อสารหลัก<br />

(Backbone) ส่วนเพิ่มเติมของกระทรวงกลาโหม ระยะที่ ๑<br />

วัตถุประสงค์เพื่อติดตั้งอุปกรณ์เชื่อมต่อความเร็วสูงเข้ากับ<br />

แกนสายใยแก้ว นำาแสงที่ได้รับสิทธิการใช้งานจา<strong>กห</strong>น่วยงาน<br />

รัฐวิสาหกิจ จำานวน ๒ แกน ในบริเวณภาคกลางบางส่วน<br />

และภาคตะวันออก และทำาเครือข่ายย่อยไปยังหน่วยทหาร<br />

ในพื้นที่สัตหีบ และจัดทำาเครือข่ายย่อยไปยังหน่วยทหารทุก<br />

เหล่าทัพ ระดับกองพล กองเรือภาคและกองบิน ในบริเวณ<br />

ภาคตะวันออกที่เหลือ รวมทั้งดำาเนินการติดตั้งอุปกรณ์เชื่อม<br />

โยงความเร็วสูงเข้ากับแกนสายใยแก้วนำาแสงที่ได้รับสิทธิการ<br />

ใช้งานจา<strong>กห</strong>น่วยงานรัฐวิสาหกิจ จำานวน ๒ แกน ในบริเวณ<br />

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง จัดทำาเครือข่ายย่อยไป<br />

ยังหน่วยทหารในพื้นที่ภาคกลางบางส่วน รวมทั้งเพื่อติดตั้ง<br />

อุปกรณ์เชื่อมโยงความเร็วสูงเข้ากับแกนสายใยแก้วนำาแสง<br />

ที่ได้รับสิทธิการใช้งานจา<strong>กห</strong>น่วยงานรัฐวิสาหกิจจำานวน<br />

๒ แกน ในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน<br />

และจัดทำาเครือข่ายย่อยไปยังหน่วยทหารในพื้นที่ภาค<br />

ตะวันออกเฉียงเหนือส่วนที่เหลือ<br />

- โครงการพัฒนาห้องปฏิบัติการกรรมวิธีข้อมูลภาพถ่าย<br />

ดาวเทียมเพื่อความมั่นคงของกระทรวงกลาโหม โครงการ<br />

ผูกพันงบประมาณ ระยะเวลาดำาเนินงาน ๓ <strong>ปี</strong> (<strong>ปี</strong> ๕๖ - ๕๘)<br />

โดยมีวัตถุประสงค์ ได้แก่<br />

๑) เพื่อเป็นการวางรากฐานในการปฏิบัติการกรรมวิธี<br />

ข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมจากการรับสัญญาณจากดาวเทียม<br />

ทั้งจากระบบ Optical และ Radar, การผลิตข้อมูลจาก<br />

ห้องปฏิบัติการ และมีคลังข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม สำาหรับ<br />

ใช้ในการปฏิบัติการทางทหาร และการปฏิบัติการทางทหาร<br />

ที่มิใช่สงคราม (MOOTW) ตลอดจนสามารถนำาไปประยุกต์ใช้<br />

ในงานด้านการพัฒนาประเทศด้านอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ<br />

โดยมีการผลิตภาพถ่ายดาวเทียมที่สามารถแสดงพื้นที่<br />

ได้อย่างค<strong>รอบ</strong>คลุม ถูกต้อง และทันสมัย ในลักษณะพร้อม<br />

ใช้งานผ่านระบบเครือข่ายการสื่อสารหลักของกระทรวงกลาโหม<br />

๒) เพื่อพัฒนาฐานข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมที ่มี ให้<br />

เป็นคลังจัดเก็บข้อมูล (Data Archive) ที่สามารถจัดเก็บ<br />

ข้อมูลจำานวนมาก โดยมีการจัดเก็บข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียม<br />

รายละเอียดสูงรูปแบบต่าง ๆ ทั้งในระบบ Optical และ<br />

Radar และ<br />

๓) เพื่อพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรของ<br />

กระทรวงกลาโหม ให้มีศักยภาพที่สูงขึ้นในการปฏิบัติการ<br />

กรรมวิธีข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมสามารถพึ่งพาตนเองได้<br />

ลดการพึ่งพาจากต่างประเทศ เพื่อให้เกิดความทัดเทียมกับ<br />

นานาอารยประเทศ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระหว่างการจัดทำาร่าง<br />

ขอบเขตของงาน (Terms Of Reference : TOR)<br />

กองทัพอากาศ<br />

- ได้พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร<br />

ให้เป็นส่วนหนึ่งของการใช้กำาลัง และการเตรียมกำาลังทาง<br />

อากาศตามก<strong>รอบ</strong>เป้าหมาย ระยะที่ ๒ พ.ศ.๒๕๕๕ - ๒๕๕๘<br />

โดยให้กองทัพอากาศ เป็นเครือข่ายศูนย์กลาง (Network<br />

Centric Air Force : NCAF) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเครือข่าย<br />

ข้อมูลและการใช้เทคโนโลยี ในการสนับสนุนการปฏิบัติทาง<br />

อากาศ ให้สามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว ทันเวลา<br />

และปลอดภัยตามสถานการณ์ ดังนี้<br />

๑. ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร<br />

ในการพัฒนากองทัพอากาศให้เป็นองค์การแห่งการเรียนรู้<br />

อย่างต่อเนื่องยั่งยืนมุ่งสู่สังคมฐานความรู้ (Knowledge<br />

Based Society) โดยจัดสร้างระบบบริหารจัดการความรู้<br />

กองทัพอากาศ (Knowledge Management) เพื่อเป็น<br />

ศูนย์กลางความรู้กองทัพอากาศ (RTAF Knowledge<br />

Center) และศูนย์การเรียนรู้ (Learning Center)<br />

56 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


๒. พัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธี (Tactical<br />

Data Link : TDL) ระยะที่ ๒ โดยกำาหนดแนวคิดการปฏิบัติ<br />

ภารกิจของระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธี เพื่อรองรับการ<br />

ปฏิบัติการที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง (Network Centric<br />

Operation : NCO) บนพื้นฐานของการพึ่งพาตนเอง<br />

๓. บูรณาการเครือข่าย ทั้งเครือข่ายหลักและ<br />

เครือข่ายรอง ให้สามารถใช้งานได้ในทุกมิติ เพื่อให้ระบบ<br />

สารสนเทศและการสื่อสารกองทัพอากาศใช้งานได้อย่าง<br />

มีประสิทธิภาพและปลอดภัย รวมถึง ให้สามารถเชื่อมโยง<br />

ร่วมกับกองบัญชาการกองทัพไทยและเหล่าทัพอื่น ตลอด<br />

จนบูรณาการเครือข่ายและระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์<br />

(Geographic Information System : GIS) ของกองทัพ<br />

อากาศให้เชื่อมโยง ทั้งระบบ (Total Integration) เพื่อให้<br />

หน่วยเกี่ยวข้องสามารถใช้ประโยชน์ได้ในทุกมิติ<br />

๔. พัฒนาขีดความสามารถด้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์<br />

(Electronic Warfare : EW) ทั้งด้านบุคลากร เทคโนโลยี<br />

และฐานข้อมูล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานด้าน<br />

สงครามอิเล็กทรอนิกส์ และสนับสนุนการปฏิบัติการที่ใช้<br />

เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง (NCO)<br />

๒.๓ การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก<br />

สำานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />

- โครงการทหารผ่านศึกน้อมเกล้าฯ ปฏิบัติธรรม<br />

เฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา องค์จอมทัพไทย โดย<br />

จัดข้าราชการและประชาชนร่วมฟังธรรมเทศนาและปฏิบัติ<br />

ธรรม ณ วัดชัยมงคล กรุงเทพฯ, วัดดอยกองข้าว จังหวัด<br />

เชียงราย, วัดปราสาทแก้ว จังหวัดสุรินทร์, วัดป่าสันติธรรม<br />

จังหวัดสกลนคร, วัดเจริญธรรม จังหวัดลพบุรี, วัดพิชัย<br />

จังหวัดลำาปาง, วัดโยธานิมิต จังหวัดอุดรธานี, พุทธสถาน<br />

ค่ายสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี มัสยิดการาหมาด<br />

บ้านหัวทะเล จังหวัดนครศรีธรรมราช, วัดโบสถ์เมือง<br />

จังหวัดจันทบุรี และวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม<br />

จังหวัดราชบุรี ในการนี้มีผู้เข้าร่วมโครงการฯ ทั้งสิ้นประมาณ<br />

๒,๐๐๐ คน<br />

- ดำาเนินการช่วยเหลือทหารผ่านศึก ค<strong>รอบ</strong>ครัว<br />

ทหารผ่านศึก และทหารนอกประจำาการในด้านต่าง ๆ อาทิ<br />

ด้านสวัสดิการ, ด้านรักษาพยาบาล, ด้านการฝึกอบรม<br />

วิชาชีพและจัดหางาน, ด้านการให้สินเชื่อ และด้านนิคม<br />

เกษตรกรรม นอกจากนี้ยังให้การช่วยเหลือในด้านการให้<br />

คำาปรึกษาและแนะนำา,งานเยี่ยมเยียนทหารผ่านศึก, ตรวจ<br />

เยี่ยมทหารผ่านศึก, งานบัตรประจำาตัวทหารผ่านศึก และ<br />

งานอำานวยความสะดวกให้แก่ทหารผ่านศึก<br />

๒.๔ การบริหารจัดการการป้องกัน<br />

ประเทศ<br />

กองทัพบก<br />

- ดำาเนินการรวบรวมข้อมูลข่าวสารเพื่อวิเคราะห์จัดทำา<br />

เป็นสรุปข่าวต่างประเทศ, ประจำาวัน, ประจำาเดือน, สรุป<br />

ความเคลื่อนไหวสถานการณ์ต่างประเทศ, ประมาณการแจ้ง<br />

เตือนทางยุทธศาสตร์ เพื่อแจกจ่ายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง<br />

- ดำาเนินการขยายและส่งเสริมบทบาทความร่วมมือ<br />

ด้านการข่าว ด้วยการจัดบรรยายพิเศษ ในประเด็นที่<br />

เกี่ยวข้องกับความมั่นคงโดยวิทยากรชาวต่างประเทศ และ<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

57


การเข้าร่วมการประชุมสัมมนากับหน่วยงาน/องค์กรภายใน<br />

ประเทศเพื่อเพิ่มพูนความรู้และแลกเปลี่ยนประสบการณ์<br />

กองทัพเรือ<br />

- จัดการสัมมนาทบทวนการประเมินขีดความสามารถ/<br />

ขีดสมรรถนะ ประจำา<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๒๕ -<br />

๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๕, จัดการสัมมนาการปรับปรุงสัดส่วน<br />

การบรรจุกำาลังพลให้เหมาะสมกับโครงสร้างกองทัพเรือ เมื่อ<br />

วันที่ ๓๐ พฤษภาคม - ๑ มิถุนายน ๒๕๕๕ และจัดส่งผู้แทน<br />

หน่วยเข้าร่วมสัมมนาแนวทางการพัฒนากำาลังพล ตามหลัก<br />

ขีดสมรรถนะ และการจัดทำาโครงการศึกษาของกองทัพเรือ<br />

ประจำา<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๒๒ - ๒๔ กุมภาพันธ์<br />

๒๕๕๕<br />

กองทัพอากาศ<br />

- ดำาเนินการพัฒนางานด้านการกำาลังพล โดยการ<br />

ปรับขนาด (Rightsizing) และพิจารณาทบทวนก<strong>รอบ</strong>อัตรา<br />

กำาลังพลที่เหมาะสม ตามภารกิจ และโครงสร้างของหน่วย,<br />

ส่งเสริมการจ้างเหมาจากภายนอก (Outsource) ในบางภารกิจ<br />

เพื่อความเหมาะสมและการใช้ประโยชน์กำาลังพลให้คุ้มค่า,<br />

การหาหนทางปฏิบัติในการแปรสภาพข้าราชการบางจำาพวก<br />

ให้เป็นข้าราชการพลเรือนกลาโหม โดยคำานึงถึงคุณสมบัติ<br />

ที่เหมาะสม ทักษะ การถ่ายทอดความรู้ และความก้าวหน้า<br />

ในสายงาน<br />

- ดำาเนินการพัฒนาการศึกษาเรียนรู้ของกำาลังพล<br />

ผ่านโครงการศึกษาและการฝึกอบรม ประชุม สัมมนา<br />

ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยมุ่งเน้น<br />

เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ และความรู้พื้นฐานที่จำาเป็น<br />

ต่อการพัฒนาตามแนวทางการปฏิบัติการที่ใช้เครือข่ายเป็น<br />

ศูนย์กลาง (NCO)<br />

- ดำาเนินการพัฒนาคุณภาพกำาลังพลให้มีวัฒนธรรม<br />

การปฏิบัติงานมุ่งสู่การปฏิบัติการที่ใช้เครือข่ายเป็นศูนย์กลาง<br />

และปรับพฤติกรรมให้สอดคล้องตามค่านิยมหลักของกองทัพ<br />

อากาศ โดยให้ตระหนักถึงการปลูกฝังความเป็นทหารอาชีพ<br />

ที่เป็นสุภาพบุรุษ รักษาเกียรติ มีวินัย จงรักภักดี มีคุณธรรม<br />

จริยธรรม ซื่อสัตย์ กล้าหาญ เสียสละ มีความสามัคคี<br />

รับผิดชอบต่อหน้าที่และสังคม<br />

- ดำาเนินการพัฒนาและส่งเสริมให้กำาลังพลทุกระดับ<br />

มีทักษะและความรู้ด้านภาษาอังกฤษตามเกณฑ์มาตรฐาน<br />

ที่กองทัพอากาศกำาหนดเพื่อให้สามารถสื่อสารได้อย่างมี<br />

ประสิทธิภาพ โดยจัดกิจกรรมเสริมทักษะความรู้ภาษา<br />

อังกฤษผ่านทางช่องทางต่าง ๆ เช่น หลักสูตรเสริมในหน่วย<br />

ขึ้นตรงกองทัพอากาศและการพัฒนาระบบการเรียนรู้ภาษา<br />

อังกฤษด้วยตนเองผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (e - Learning)<br />

- จัดทำาแผนแม่บทการพัฒนาระบบกำาลังสำารอง<br />

ของกองทัพอากาศ พ.ศ.๒๕๕๕ - ๒๕๕๙ โดยพิจารณา<br />

แก้ไข ปรับปรุงสิทธิประโยชน์ของกำาลังพลสำารองที่ได้รับใน<br />

การเข้ารับการเรียกพลเพื่อตรวจสอบ ฝึกวิชาทหาร ทดลอง<br />

ความพรั่งพร้อม และระดมพล เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการ<br />

พิจารณาสิทธิประโยชน์ของกำาลังพลสำารองของกระทรวง<br />

กลาโหมด้านกำาลังพลสำารอง และดำาเนินการเรียกนาย<br />

ทหารสัญญาบัตร/นายทหารประทวน/พลทหารกองหนุน<br />

มารายงานตัว รวมทั้งฝึกอบรมนักศึกษาวิชาทหารกองทัพ<br />

อากาศ ชั้น<strong>ปี</strong>ที่ ๑ - ๕ ประจำา<strong>ปี</strong>การศึกษา ๒๕๕๕<br />

58 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


๒.๕ การระดมสรรพกำลังเพื่อการ<br />

ทหาร<br />

สำานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />

- ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานสายงานสัสดีในพื้นที่<br />

กองทัพภาคที่ ๑ และกองทัพภาคที่ ๒ ณ สำานักงานสัสดี<br />

จังหวัด เพื่อรับทราบปัญหาในการปฏิบัติงาน รวมทั้งข้อมูล<br />

และข้อเสนอแนะ โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดจากข้อกฎหมาย<br />

กฎกระทรวง ระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ เพื่อนำามาเป็นข้อ<br />

พิจารณาดำาเนินการแก้ไขร่วมกัน ในการประชุมเชิงปฏิบัติ<br />

การสายงานสัสดี<br />

- จัดการประชุมสัมมนาเพื่อพัฒนาระบบกำาลังสำารอง<br />

ของกระทรวงกลาโหม ณ โรงแรมโกลเด้น บีช ชะอำา จังหวัด<br />

เพชรบุรี โดยเชิญผู้แทนจากส่วนราชการทหาร และพลเรือน<br />

เข้าร่วมสัมมนาฯ<br />

- ดำาเนินการสำารวจตรวจสอบข้อมูลทรัพยากรเพื่อ<br />

การระดมสรรพกำาลังในพื้นที่กองทัพภาคที่ ๑ กองทัพ<br />

ภาคที่ ๒ และกองทัพภาคที่ ๓ และนำาข้อมูลทรัพยากรที่ได้<br />

มาสำารวจตรวจสอบและรวบรวม ประกอบด้วยข้อมูลด้าน<br />

กำาลังสำารอง/กำาลังคนที่มีความชำานาญพิเศษ พร้องลงพิกัด<br />

ภูมิศาสตร์ให้มีความถูกต้องทันสมัย โดยมุ่งเน้นรายการ<br />

ทรัพยากรที่สามารถสนับสนุนงานด้านการระดมสรรพกำาลัง<br />

เพื่อเผชิญกับภัยคุกคามด้านต่าง ๆ และได้รับข้อมูล<br />

ทรัพยากรเพื่อการระดมสรรพกำาลังจากส่วนราชการพลเรือน<br />

รัฐวิสาหกิจ รวมทั้งเอกชนที่เกี่ยวข้อง ทั้ง ๗ ด้าน ประกอบ<br />

ด้วย ด้านอาหาร, ด้านนำ้ำ, ด้านการคมนาคม, ด้านการ<br />

สื่อสาร, ด้านการแพทย์และสาธารณสุข, ด้านอุตสาหกรรม<br />

และปัจจัยการผลิต และด้านเชื้อเพลิงและพลังงาน ตลอดจน<br />

ด้านสิ่งอำานวยความสะดวกและบริการอื่น ๆ มาปรับปรุง<br />

ข้อมูลที่มีอยู่ให้ทันสมัย<br />

- จัดกา<strong>รอบ</strong>รมปรับมาตรฐานเพื่อการฝึกการระดม<br />

สรรพกำาลังเพื่อการทหาร <strong>ปี</strong> ๒๕๕๕ โดยปรับมาตรฐาน<br />

เพื่อการฝึกระดมสรรพกำาลัง เมื่อวันที่ ๑๓ - ๑๖ มีนาคม<br />

๒๕๕๕ ณ โรงแรมโฆษะ จังหวัดขอนแก่น โดยเชิญผู้แทน<br />

หน่วยจากส่วนราชการทหาร และพลเรือนเข้าร่วมประชุม<br />

ซึ่งจากการประชุม ผู้เข้ารับกา<strong>รอบ</strong>รม มีองค์ความรู้ด้านการ<br />

ระดมสรรพกำาลังในเรื่องต่าง ๆ คือ ๑) สถานการณ์ และ<br />

นโยบายด้านความมั่นคงในรูปแบบต่าง ๆ ๒) นโยบายการ<br />

เตรียมพร้อมแห่งชาติ ๓) แผนผนึกกำาลังและทรัพยากร<br />

เพื่อการป้องกันประเทศ ๔) แผนเตรียมพร้อม/บูรณาการ<br />

ด้านทรัพยากร ที่ใช้ในการฝึกฯ ๕) แผนการป้องกัน<br />

และบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ๖) กฎหมายที่เกี่ยวกับด้าน<br />

ความมั่นคงและด้านสาธารณภัย และ ๗) ขบวนการขั้นตอน<br />

และรายละเอียดการปฏิบัติในการฝึกฯ<br />

- ฝึกปัญหาที่บังคับการ (CPX) ด้านการระดมสรรพ<br />

กำาลัง เมื่อวันที่ ๒๔ - ๒๗ เมษายน ๒๕๕๕ ณ โรงเเรมเจริญ<br />

ธานี จังหวัดขอนแก่น โดยเชิญผู้แทนหน่วยจากส่วนราชการ<br />

ทหาร และพลเรือน เข้าร่วม ทำาการฝึกเพื่อนำาแนวทาง<br />

การปฏิบัติงานของหน่วยงานด้านการระดมสรรพกำาลังที่<br />

จัดตั้งขึ้นมาทดลองฝึกซ้อม ร่วมกับศูนย์เตรียมพร้อมด้าน<br />

ทรัพยากรในพื้นที่<br />

- สัมมนาสรุปบทเรียนจากการฝึกการระดมสรรพกำาลัง<br />

เพื่อการทหาร <strong>ปี</strong> ๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๒๓ - ๒๕ พฤษภาคม<br />

๒๕๕๕ ณ โรงแรมนครพนม ริเวอร์วิว จังหวัดนครพนม<br />

โดยเชิญผู้แทนหน่วยจากส่วนราชการทหาร และพลเรือน<br />

เข้าร่วมสัมมนา เพื่อรวบรวมบทเรียนจากการฝึกมา<br />

พิจารณาจัดทำาแนวทางการปฏิบัติงานของหน่วยงานด้าน<br />

การระดมสรรพกำาลังที่จัดตั้งขึ้นร่วมกับศูนย์เตรียมพร้อม<br />

ด้านทรัพยากรในพื้นที่ ในการตอบสนองความต้องการของ<br />

กองทัพไทย และรับทราบปัญหาข้อขัดข้อง และข้อเสนอแนะ<br />

ในแต่ละขั้นตอนของการฝึก แล้วนำามาปรับปรุงและพัฒนา<br />

งานด้านการระดมสรรพกำาลังและการฝึกใน<strong>ปี</strong>ต่อไป<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

59


- ดำาเนินการประชาสัมพันธ์เพื่อการสรรพกำาลังกลาโหม<br />

ครั้งที่ ๓ ในพื้นที่กองทัพภาคที่ ๒ รวม ๔ จังหวัด ได้แก่<br />

จังหวัดกาฬสินธุ์, จังหวัดสกลนคร, จังหวัดนครพนม และ<br />

จังหวัดมุกดาหาร<br />

กองทัพเรือ<br />

- จัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การระดมสรรพ<br />

กำาลังเพื่อการทหาร เมื่อวันที่ ๑๘ - ๒๐ มิถุนายน ๒๕๕๕<br />

ณ จังหวัดภูเก็ต และได้เชิญคณะทำางานจัดทำาแผนระดม<br />

สรรพกำาลังประชุมหารือ เมื่อวันที่ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๕<br />

เพื่อพิจารณาแนวทางในการจัดทำาแผนระดมสรรพกำาลัง<br />

เพื่อให้สอดคล้องกับแผนผนึกกำาลังและทรัพยากรเพื่อการ<br />

ป้องกันประเทศ พ.ศ.๒๕๕๐ แผนการระดมสรรพกำาลังของ<br />

กระทรวงกลาโหม ๒๕๕๔ และระเบียบปฏิบัติประจำากองทัพ<br />

ไทยว่าด้วยการระดมสรรพกำาลังด้านการส่งกำาลังบำารุง ซึ่ง<br />

ที่ประชุมมีมติว่า การจัดทำาแผนระดมสรรพกำาลังด้านการ<br />

กำาลังพล จะค<strong>รอบ</strong>คลุมเฉพาะกำาลังพลฝีมือหรือผู้เชี่ยวชาญ<br />

ที่ได้เรียกเกณฑ์มาโดยพระราชบัญญัติการเกณฑ์ช่วยราชการ<br />

ทหารเท่านั้น ไม่รวมกำาลังพลสำารองตามบัญชีกำาลังพลสำารอง<br />

ของกำาลังพลกองทัพเรือ<br />

- เชิญหน่วยที่เกี่ยวข้องประชุมเรื ่องแนวทางการ<br />

ทบทวนบัญชีระดมสรรพกำาลัง และจัดทำาแผนระดมสรรพ<br />

กำาลัง ซึ่งให้หน่วยต่าง ๆ ดำาเนินการทบทวนและปรับปรุง<br />

บัญชีระดมสรรพกำาลังของกองทัพเรือในส่วนที่เกี่ยวข้อง<br />

ได้แก่ รายการ จำานวน สถานที่ ส่งมอบ ห้วงเวลาการส่งมอบ<br />

และแหล่งที่มา ให้ถูกต้อง ครบถ้วน สมบูรณ์ และทันสมัย<br />

รวมทั้งสอดคล้องกับการปฏิบัติตามแผนป้องกันประเทศ<br />

และผลการฝึกกองทัพเรือ<br />

๒.๖ การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ<br />

และพลังงานทหาร<br />

สำานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />

- ดำาเนินโครงการขยายขีดความสามารถในการผลิต<br />

ดินส่งลูกระเบิดยิงจากเครื ่องยิงลูกระเบิด โดยก่อสร้างและ<br />

ขยายอาคารและสิ่งก่อสร้างโรงงานผลิตดินส่งลูกระเบิด<br />

ยิงจากเครื่องยิงลูกระเบิดแบบแผ่นบาง, จัดหาเครื่องจักร<br />

และเครื่องมือในการผลิตดินส่งลูกระเบิดยิงจากเครื่องยิง<br />

ลูกระเบิดแบบแผ่นบาง, พัฒนา ระบบโครงสร้างพื้นฐาน<br />

โรงงานผลิตดินส่งลูกระเบิดยิงจากเครื่องยิงลูกระเบิดแบบ<br />

แผ่นบาง, ระบบบำาบัดนำ้ำเสีย, การถ่ายทอดเทคโนโลยี<br />

ในการผลิตดินส่งแบบแผ่นบาง, ดินส่งกระสุนสำาหรับเครื่องยิง<br />

ลูกระเบิด ขนาด ๘๑ มิลลิเมตร จำานวน ๒๕,๐๐๐ ชุด และ<br />

ดินส่งกระสุนสำาหรับเครื่องยิงลูกระเบิด ขนาด ๑๒๐ มิลลิเมตร<br />

จำานวน ๒๕,๐๐๐ ชุด (เครื่องจักรไม่มีขีดความสามารถในการ<br />

ผลิต Screw cab และ lgnition cartridge สำาหรับเครื่องยิง<br />

ลูกระเบิด ขนาด ๘๑ มิลลิเมตร และ ๑๒๐ มิลลิเมตร ปัจจุบัน<br />

อยู่ระหว่างการดำาเนินกรรมวิธีจัดหาเพิ่มเติม)<br />

- ดำาเนินการแก้ไข ปรับปรุง กฎ ระเบียบ ประกาศ<br />

และคำาสั่งที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติโรงงานผลิตอาวุธ<br />

ของเอกชน พ.ศ.๒๕๕๐ เพื่อบังคับใช้แทนฉบับเดิมที่ออก<br />

ตามความในคำาสั่งของคณะปฏิรูปการปกครองแผ่นดิน<br />

ฉบับที่ ๓๗ ลง ๒๑ ตุลาคม ๒๕๑๙ จำานวน ๑ ฉบับ คือ<br />

ร่างกฎกระทรวง กำาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข<br />

การรายงานและบัญชีแสดง ชนิดปริมาณ และการรับจ่าย<br />

ประจำาวันของวัตถุหรืออาวุธที่ใช้ในการผลิตอาวุธ หรืออาวุธ<br />

ที่ผลิตขึ้น พ.ศ. .... พร้อมกับบันทึ<strong>กห</strong>ลักการและเหตุผล<br />

60 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


แนบท้ายกฎกระทรวง แบบ อ.๑๒, อ.๑๒ - ๑, อ.๑๓ และ<br />

อ.๑๓ - ๑ และตารางเปรียบเทียบกฎกระทรวง<br />

- ดำาเนินโครงการขยายการผลิตนำ้ำกลั่น นำ้ำกรด และ<br />

แบตเตอรี่ทหาร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และการ<br />

สร้างสภาพแวดล้อมภายในโรงงานผลิตนำ้ำกลั่น นำ้ำกรด ห้อง<br />

ละเลงแผ่นธาตุ ให้มีสภาพสมบูรณ์ เพื่อให้การผลิตแบตเตอรี่<br />

และวัตถุพลอยได้เป็นไปอย่างต่อเนื ่อง โดยใช้เทคโนโลยี<br />

ทันสมัยที่สามารถลดการสัมผัสกับสารเคมีที่มีผลและ<br />

อันตรายต่อสุขภาพของพนักงาน รวมถึงเป็นการเพิ่มคุณภาพ<br />

ผลิตภัณฑ์ ลดการสูญเสียในสายการผลิต ลดมลพิษทางนำ้ำ<br />

ทางอากาศ ทำาให้ไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชนและสุขภาพ<br />

- ปรับปรุงและแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติ<br />

โรงงานผลิตอาวุธของเอกชน พ.ศ.๒๕๕๐ โดยผ่านการ<br />

พิจารณาตามขั้นตอนของการออกกฎหมายแล้ว ซึ่งสำานักงาน<br />

เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้นำากฎกระทรวง จำานวน ๒ ฉบับ<br />

คือ กฎกระทรวง กำาหนด หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข<br />

การสั่งหรือนำาเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งวัตถุหรืออาวุธ เพื่อ<br />

ใช้ในการผลิตอาวุธ หรือเป็นตัวอย่าง หรือเพื่อวิจัยเกี่ยวกับ<br />

การผลิตอาวุธ และการขนย้ายวัตถุหรืออาวุธที่ใช้ในการ<br />

ผลิตอาวุธหรืออาวุธที่ผลิตขึ้น พ.ศ.๒๕๕๔ และกฎกระทรวง<br />

กำาหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตขาย<br />

หรือจำาหน่าย อาวุธให้แก่บุคคลอื่นนอกจา<strong>กห</strong>น่วยงานตาม<br />

มาตรา ๗ พ.ศ.๒๕๕๔ ประกาศในราชกิจจานุเบกษาฉบับ<br />

กฤษฎีกา เล่ม ๑๒๘ ตอนที่ ๘๘ ก. ลง ๘ ธันวาคม ๒๕๕๔<br />

แล้ว ทั้งนี้ ได้แจ้งให้บริษัทตามพระราชบัญญัติโรงงานผลิต<br />

อาวุธของเอกชน พ.ศ.๒๕๕๐ ปฏิบัติตามกฎกระทรวงที่ออก<br />

มาใช้บังคับ ทั้ง ๒ ฉบับ<br />

- โครงการผลิตเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด ๘๑ มิลลิเมตร<br />

ระเบิดเอ็ม ๒๖๒ ครบนัด จำานวน ๑๐,๐๐๐ นัด ปัจจุบันอยู่<br />

ระหว่างการดำาเนินการผลิต<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

61


62 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม<br />

- โครงการดัดแปลงปืนใหญ่เบากระสุนวิถีโค้ง ๑๐๕<br />

มิลลิเมตร ลากจูง (เอ็ม ๔๒๕) ให้เป็นแบบอัตตาจรล้อยาง<br />

จำานวน ๓ กระบอก พร้อมจะส่งมอบให้ศูนย์การทหารปืนใหญ่<br />

ภายในสิงหาคม ๒๕๕๕ และโครงการดัดแปลงปืนใหญ่เบา<br />

กระสุนวิถีโค้ง ๑๐๕ มิลลิเมตร ลากจูง (เอ็ม ๔๒๕) ให้เป็น<br />

แบบอัตตาจรล้อยาง จำานวน ๖ กระบอก ปัจจุบันอยู่ระหว่าง<br />

ดำาเนินการผลิต คาดว่าจะแล้วเสร็จในสิงหาคม ๒๕๕๖


- ดำาเนินการจัดทำาบันทึกความเข้าใจ (Memorandum<br />

Of Understanding : MOU) ว่าด้วยการสั่งซื้อกับเหล่าทัพ<br />

เมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๕ และจัดให้มีการประชุม<br />

เจรจาความเหมาะสมของตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย นำ้ำหนัก<br />

และเกณฑ์การให้คะแนนตามคำารับรองการปฏิบัติราชการ<br />

ของกระทรวงกลาโหม และส่วนราชการในสังกัด ประจำา<br />

<strong>ปี</strong>งบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๕ ของกระทรวงกลาโหมและ<br />

สำานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ณ ห้องสุรศักดิ์มนตรี ใน<br />

การเจรจามีตัวชี้วัดที่สำาคัญที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม<br />

ป้องกันประเทศ ได้แก่ ตัวชี้วัดที่ ๔.๔ อัตราส่วนยอดการสั่งซื้อ<br />

ที่ทำา MOU กับเหล่าทัพต่อความต้องการที่ใช้ในแต่ละ<strong>ปี</strong><br />

ซึ่งเป็นตัวชี้วัดใหม่ที่คณะกรรมการเจรจาเสนอให้สำานักงาน<br />

ปลัดกระทรวงกลาโหมทำาบันทึกความเข้าใจ (MOU) ยอด<br />

การสั่งซื้อดินส่งกระสุนและกระสุนปืนกับเหล่าทัพ เพื่อ<br />

เป็นการสนับสนุนการพึ่งพาตนเองและให้เกิดความคุ้มค่า<br />

ในการดำาเนินงาน ใน<strong>ปี</strong>งบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๕ โดยที่ประชุม<br />

มีมติให้กระทรวงกลาโหมดำาเนินการสำารวจความต้องการ<br />

ของหน่วยใช้แล้วนำามาจัดทำาเป็นบันทึกความเข้าใจ (MOU)<br />

- จัดการประชุมหารือแนวทางการจัดทำาบันทึกความ<br />

เข้าใจ (MOU) การสั่งซื้อกับเหล่าทัพ จำานวน ๓ ครั้ง เมื่อวันที่<br />

๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๕ และวันที่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๕๕<br />

ณ ห้องสยามปฐพีพิทักษ์ อาคารสำานักงานปลัดกระทรวง<br />

กลาโหม (แจ้งวัฒนะ) และวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๕ ณ ห้อง<br />

ประชุมกรมส่งกำาลังบำารุงทหารบก กองบัญชาการกองทัพบก<br />

ซึ่งสรุปผลการประชุมได้ว่าผลิตภัณฑ์ที่จะจัดทำาเป็นบันทึก<br />

ข้อตกลงการสั่งซื้อนั้น แบ่งออกเป็น ๔ กลุ่มผลิตภัณฑ์ คือ<br />

๑) กระสุนและดินส่งกระสุน ๒) อาวุธยุทโธปกรณ์และ<br />

กระสุน ๓) ยาและเวชภัณฑ์ และ ๔) แบตเตอรี่<br />

- ดำาเนินการศึกษาความเป็นไปได้การวิจัยและพัฒนา<br />

ระบบควบคุมแท่นยิงสำาหรับอาวุธนำาวิถีระดับตำ่ำ ปัจจุบัน<br />

ได้ดำาเนินการปรับปรุงการหมุนทางทิศของแท่นยิงแบบ<br />

ควบคุมโดยเจ้าหน้าที่/พลยิง และอยู่ระหว่างสร้างกลไก<br />

ของแท่นยิงควบคุมด้วย REMOTE CONTROL ให้แล้วเสร็จ<br />

และดำาเนินการเขียนโปรแกรมเพื่อควบคุมการลั่นไกผ่าน<br />

คอมพิวเตอร์, การเขียนโปรแกรมการควบคุมระบบแท่งยิง<br />

ควบคุม ด้วย REMOTE CONTROL, การทดสอบการทำางาน<br />

ของระบบ และการจัดทำาเอกสารการวิจัย<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

63


- ดำาเนินโครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการวิจัย<br />

และพัฒนาปืนเล็กยาวขนาด ๕.๕๖ มิลลิเมตร แบบ<br />

ทาวอร์ - ทาร์ - ๒๑ จำาลอง ซึ่งได้ดำาเนินการผลิตชิ้นส่วน/องค์<br />

ประกอบและทำาการประกอบรวมได้เป็นต้นแบบงานวิจัย<br />

ปืนเล็กยาว ขนาด ๕.๕๖ มิลลิเมตร แบบทาวอร์ - ทาร์ - ๒๑<br />

จำาลอง จำานวน ๓ กระบอก บรรลุตามวัตถุประสงค์ของการ<br />

ดำาเนินงานตามโครงการ ปัจจุบันได้อนุมัติให้ปิดโครงการ<br />

และรายงานผลการดำาเนินงานให้ศูนย์การอุตสาหกรรม<br />

ป้องกันประเทศและพลังงานทหาร ทราบแล้ว เมื่อวันที่ ๑๑<br />

มิถุนายน ๒๕๕๕<br />

- ดำาเนินโครงการผลิตปืนเล็กยาวเอ็ม ๑๖ จำาลอง<br />

จำานวน ๓๐๐ กระบอก ซึ่งอยู่ในระหว่างการจัดหาวัสดุ<br />

สำาหรับการผลิต และเตรียมเครื่องจักรกลสำาหรับการผลิต<br />

โดยจะเริ่มดำาเนินการผลิตตั้งแต่ธันวาคม ๒๕๕๕ - มีนาคม<br />

๒๕๕๖ กำาหนดส่งมอบภายในเมษายน ๒๕๕๖<br />

- ดำาเนินงานติดตั้งหน่วยช่วยขับเคลื่อน (Auxiliary<br />

Propulsion Unit : APU) ให้กับปืนใหญ่ ขนาด ๑๕๕<br />

มิลลิเมตร จำานวน ๑ ชุด ใน<strong>ปี</strong>งบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๕<br />

จำานวน ๑ กระบอก ซึ่งได้เริ่มทำาการผลิต เมื่อวันที่ ๒๗<br />

สิงหาคม ๒๕๕๕ คาดว่าจะแล้วเสร็จในกรกฎาคม ๒๕๕๖<br />

และกำาหนดส่งมอบให้กับกองพันทหารปืนใหญ่ที่ ๗๒๒<br />

ภายในสิงหาคม ๒๕๕๖ เพื่อทดลองใช้งาน<br />

- ดำาเนินงานผลิตราวเก็บปืนบรรจุ ๔๐ กระบอก/ราว<br />

จำานวน ๘ ราว เริ่มการผลิตตั้งแต่วันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๕<br />

กำาหนดส่งมอบภายใน ๒๖ กันยายน ๒๕๕๕<br />

- ดำาเนินโครงการวิจัยและพัฒนาปืนใหญ่ ขนาด ๑๕๕<br />

มิลลิเมตร แบบอัตตาจรล้อยาง และโครงการวิจัยและพัฒนา<br />

โปรแกรมระบบอำานวยการยิงทางเทคนิคอัตโนมัติสำาหรับ<br />

ปืนใหญ่สนาม โดยได้ดำาเนินการยิงทดสอบครั้งที่ ๔ เมื่อวันที่<br />

๑๓ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ณ สนามยิงปืนใหญ่ ศูนย์การทหาร<br />

ปืนใหญ่ ผลการทดสอบเป็นไปตามมาตรฐาน<br />

64 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


- ดำาเนินโครงการวิจัยและพัฒนาโปรแกรมระบบ<br />

อำานวยการยิงทางเทคนิคอัตโนมัติสำาหรับปืนใหญ่สนาม<br />

ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเขียนโปรแกรมฟังก์ชั่นการแสดง<br />

หลักฐานยิงในรูปแบบของคำาสั่งยิงทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับ<br />

จากโปรแกรมศูนย์อำานวยการยิงผ่านระบบการเชื่อมต่อ<br />

สื่อสารที่กำาหนดของโปรแกรมส่วนยิง และเขียนโปรแกรม<br />

จำาลองการตั้งหลักฐานยิงอัตโนมัติสำาหรับปืนใหญ่สนาม<br />

- ดำาเนินกิจกรรมสร้างโปรแกรมจำาลองการยิง (Firing<br />

Simulation Program) เพื่อหาค่าย่านคาดคะเน (Probable<br />

Error) สำาหรับสมุดตารางยิง ปัจจุบันอยู่ระหว่างการวิจัยและ<br />

พัฒนาเพื่อศึกษาแนวทางในการหาค่าย่านคาดคะเนและ<br />

ออกแบบโปรแกรมจำาลองการยิง<br />

- ดำาเนินโครงการดัดแปลงแก้ไขปืนใหญ่เบากระสุน<br />

วิถีโค้ง ๑๐๕ มิลลิเมตร ลากจูง (เอ็ม ๔๒๕) ให้เป็นแบบ<br />

อัตตาจรล้อยาง จำานวน ๓ กระบอก ปัจจุบันอยู่ในระหว่าง<br />

การจัดทำาคู่มือทางเทคนิค ว่าด้วยการปรนนิบัติบำารุงของ<br />

พลประจำาอาวุธและช่างซ่อมบำารุงประจำาหน่วย โดยจะ<br />

ส่งมอบให้กับศูนย์การทหารปืนใหญ่ ซึ่งเป็นหน่วยรับผิดชอบ<br />

ในการทดลองใช้งานทางยุทธวิธีต่อไป<br />

- ดำาเนินโครงการดัดแปลงแก้ไขปืนใหญ่เบากระสุน<br />

วิถีโค้ง ๑๐๕ มิลลิเมตร ลากจูง (เอ็ม ๔๒๕) ให้เป็นแบบ<br />

อัตตาจรล้อยาง จำานวน ๖ กระบอก ปัจจุบันอยู่ในระหว่าง<br />

การผลิต โดยเริ่มตั้งแต่กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ คาดว่าจะแล้วเสร็จ<br />

ในสิงหาคม ๒๕๕๖ กำาหนดส่งมอบภายใน กันยายน ๒๕๕๖<br />

- ดำาเนินโครงการดัดแปลงเครื่องช่วยให้ทางสูงปืนใหญ่<br />

เบากระสุนวิถีโค้ง ๑๐๕ มิลลิเมตร เอ็ม ๑๐๑ เอ ๑ (ปรับปรุง)<br />

จากระบบแก๊สให้เป็นระบบคอยล์สปริง จำานวน ๖ ชุด<br />

ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการผลิต โดยจะนำาไปติดตั้งให้กับหน่วย<br />

เพื่อทดลองใช้งานภายใน มีนาคม ๒๕๕๖<br />

- ดำาเนินโครงการดัดแปลงแก้ไขปืนใหญ่เบากระสุน<br />

วิถีโค้ง ๑๐๕ มิลลิเมตร เอ็ม ๑๐๑ เอ ๑ (ปรับปรุง) จำานวน<br />

๖ กระบอก ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการจัดหาวัสดุสำาหรับการ<br />

ผลิต และเตรียมเครื่องจักรกลสำาหรับการผลิต โดยจะเริ่ม<br />

ดำาเนินการผลิตตั้งแต่ตุลาคม ๒๕๕๕ - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๖<br />

กำาหนดส่งมอบภายใน มีนาคม ๒๕๕๖<br />

- ดำาเนินโครงการปรับปรุงพัฒนาปืนใหญ่ขนาด ๑๕๕<br />

มิลลิเมตร แบบลากจูง ให้เป็นแบบอัตตาจรล้อยาง จำานวน ๖<br />

กระบอก ซึ่งได้รับการอนุมัติให้เปลี่ยนแปลงโครงการแล้วเมื่อ<br />

วันที่ ๖ กรกฎาคม ๒๕๕๕ โดยให้ปรับลดวงเงินทั้งโครงการ<br />

เหลือ ๙๐๐ ล้านบาท และขยายระยะเวลาดำาเนินโครงการ<br />

เป็น ๔ <strong>ปี</strong> ตั้งแต่<strong>ปี</strong> ๒๕๕๕ - ๒๕๕๘ และใน<strong>ปี</strong> ๒๕๕๕ ได้รับ<br />

การจัดสรรงบประมาณจำานวน ๑๓๕ ล้านบาท (วงเงินเดิม<br />

ทั้งโครงการ ๙๓๕,๘๗๑,๗๕๐.- บาท) ระยะเวลาดำาเนิน<br />

โครงการ ๓ <strong>ปี</strong> (<strong>ปี</strong> ๒๕๕๕ - ๒๕๕๗)<br />

- ดำาเนินโครงการศึกษาความเป็นไปได้ของเหล็กที่มี<br />

จำาหน่ายทั่วไปมาเป็นวัตถุดิบในการผลิต โดยปัจจุบัน ได้<br />

ดำาเนินการตรวจสอบ/ศึกษาคุณสมบัติและลักษณะของ<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

65


เหล็กที่ส่งผลกระทบต่อการดำาเนินงานของเครื่องจักรร่วมกับ<br />

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง<br />

และเสนอรายงานขออนุมัติขยายระยะเวลาดำาเนินงานออก<br />

ไปอีก ๘ เดือน เป็นสิ้นสุดระยะเวลาดำาเนินงานในเมษายน<br />

๒๕๕๖ เนื่องจากในขั้นตอนการศึกษาคุณสมบัติเฉพาะของ<br />

เหล็กที่มีผลกระทบกับเครื่องจักร คณะผู้วิจัยร่วมกับสถาบัน<br />

เทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ทำาการ<br />

วิเคราะห์ผลกระทบ โดยจะดำาเนินการสร้างเครื่องมือวัด<br />

ค่าแรงในการอัดขึ้นรูปชิ้นงานที่เกิดขึ้น เพื่อนำามาวิเคราะห์<br />

ผลกระทบต่อเครื่องจักร ซึ่งขั้นตอนในการสร้างเครื่องมือ<br />

จำาเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการดำาเนินการ จึงทำาให้การ<br />

ดำาเนินงานโครงการวิจัยฯ ล่าช้า ไม่เป็นไปตามแผนงานที่<br />

กำาหนด<br />

- ดำาเนินโครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการวิจัยและ<br />

พัฒนาชนวนหัวกระทบแตกไว/ถ่วงเวลา ปัจจุบันได้จัดทำา<br />

ต้นแบบชนวนหัว ทั้งชนวนหัวกระสุนปืนใหญ่และลูกระเบิดยิง<br />

- ดำาเนินโครงการผลิตเครื่องยิงลูกระเบิด ๘๑ มิลลิเมตร<br />

ระเบิดเอ็ม ๒๖๒ ครบนัด จำานวน ๓๕,๐๐๐ นัด ตามโครงการ<br />

ผลิตสนับสนุนเหล่าทัพ ใน<strong>ปี</strong>งบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๕ ได้<br />

ดำาเนินการผลิตอีก จำานวน ๑๕,๐๐๐ นัด ซึ่งไม่ประกอบ<br />

ชนวนหัว ขณะนี้ อยู่ระหว่างการจัดหาวัสดุสำาหรับการผลิต<br />

โดยจะเริ่มเปิดสายการผลิตตั้งแต่ มกราคม ๒๕๕๖ คาดว่า<br />

จะแล้วเสร็จในพฤษภาคม ๒๕๕๖<br />

66 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


- ดำาเนินโครงการเพิ่มขีดความสามารถในการผลิต<br />

กระสุนปืนใหญ่ เพื่อสนับสนุนเหล่าทัพและเพื่อการส่งออก<br />

ต่างประเทศ อยู่ระหว่างดำาเนินการผลิตกระสุนปืนใหญ่<br />

ขนาด ๑๐๕ มิลลิเมตร แบบ Boat Tail จำานวน ๑,๕๐๐ นัด<br />

๒.๗ การวิจัยและพัฒนาโครงการ<br />

ขนาดใหญ่ด้านยุทโธปกรณ์ เทคโนโลยี<br />

ป้องกันประเทศ และถ่ายทอดองค์ความรู้<br />

เทคโนโลยีป้องกันประเทศ<br />

สำานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />

- ดำาเนินโครงการวิจัยและพัฒนาจรวดหลายลำากล้อง<br />

DTI-1 หลังจากที่ได้ส่งมอบต้นแบบจรวด DTI-1 เพื่อนำาไป<br />

ทำาการฝึกและทดสอบใช้งานตั้งแต่ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๔ ซึ่ง<br />

ได้จัดทำาข้อมูลโครงการสำาหรับนำาเข้ารับรองคณะกรรมการ<br />

กำาหนดมาตรฐานยุทโธปกรณ์กองทัพบก ทั้งนี้ สถาบัน<br />

เทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน) ได้จัดทำาร่าง<br />

การแก้ไขเพิ่มเติม MOU DTI-1 แล้วเสร็จตามมติที่ประชุม<br />

ร่วมกับผู้แทนกองทัพบก มีรายละเอียดการดำาเนินการ อาทิ<br />

การปรนนิบัติบำารุง รถจรวด และลูกจรวด ตามวง<strong>รอบ</strong> ๖<br />

เดือน รวมถึงการฝึกอบรมในการปรนนิบัติบำารุงลูกจรวด<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

67


ให้แก่กองทัพบก และศูนย์อำานวยการสร้างอาวุธ ศูนย์การ<br />

อุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร พร้อมส่ง<br />

มอบคู่มือเรียบร้อยแล้วใน Phase II A โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ<br />

วิจัยพัฒนาและสะสมองค์ความรู้ในการสร้างต้นแบบจรวด<br />

หลายลำากล้อง แบบ DTI - 1 ที่ได้มาตรฐาน ซึ่งดำาเนินการ<br />

ต่อเนื่องจากระยะที่ ๑, ๒ และระยะที่ ๓ ซึ่งการก่อสร้างและ<br />

การติดตั้งเครื่องจักรของโรงปฏิบัติการวิจัยและพัฒนาจรวด<br />

อาวุธนำาวิถี ๑, ๒ (จังหวัดนครสวรรค์ และจังหวัดลพบุรี)<br />

เป็นไปตามแผนงาน และได้แต่งตั้งผู้ปฏิบัติงานประจำาห้อง<br />

ปฏิบัติการวิจัยและพัฒนา ๒ ให้มีอำานาจหน้าที่ และรับผิด<br />

ชอบในการควบคุมดูแล และบริหารสัญญาจ้างเหมาก่อสร้าง<br />

ปรับปรุงโรงปฏิบัติการวิจัยและพัฒนา ๒ จังหวัดลพบุรี<br />

และใน Phase II B โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการทำาวิศวกรรม<br />

ย้อนกลับของต้นแบบ รถยิง รถบรรทุก และลูกจรวด ให้ได้วิธี<br />

ผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ประกอบ รวมถึงกระบวนการผลิต<br />

พร้อมทำาการทดสอบทดลองจนได้มาตรฐาน ในโครงการนี้<br />

จะได้ต้นแบบรถยิงและรถบรรทุกอย่างละ ๑ คัน ซึ่งมีความ<br />

ก้าวหน้าของงานการสร้างชิ้นส่วนรถจรวดและรถบรรทุก<br />

จรวดต้นแบบ (Launcher & Loader) ติดตั้งท่อยิงจรวด<br />

แล้วเสร็จ วางแผนเตรียมการทดสอบระบบต่าง ๆ, ในส่วนของ<br />

ลูกจรวด ได้ดำาเนินการวิศวกรรมย้อนกลับ สำาหรับส่วนหัวรบ<br />

(Warhead) ท่อจรวดและส่วนหาง แล้วเสร็จ (Uncharged<br />

Moter, Tail Section and Direct Parts) รวมทั้งได้ติดตั้ง<br />

เครื่องจักร ระบบหล่อเย็นดินระเบิด ณ โรงงานผลิตกระสุน<br />

ปืนใหญ่ ศูนย์อำานวยการสร้างอาวุธ ศูนย์การอุตสาหกรรม<br />

ป้องกันประเทศและพลังงานทหาร แล้วเสร็จ รวมทั้งจุด<br />

ทดสอบภาคสถิตย์ ของจรวด BFS เพื่อปรับหาค่าสูตรดินขับ<br />

- โครงการพัฒนาสนามยิงทดสอบจรวดและอาวุธนำาวิถี<br />

ณ พื้นที ่ฐานทัพเรือพังงา ได้ดำาเนินการจัดการสัมมนาเพื่อ<br />

พัฒนาความรู้ของบุคลากรในด้านการวางแผนและดำาเนิน<br />

68 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


การทดสอบ การใช้เครื่องมือและการประมวลผลการทดสอบ<br />

รวมถึงการประสานความร่วมมือกับคณะทำางานของกอง<br />

ทัพเรือ และได้ประสานความร่วมมือกับมิตรประเทศในการ<br />

ใช้และการพัฒนาสนามทดสอบอาวุธจรวดระยะไกล ซึ่งได้<br />

ประชุมร่วมกับมิตรประเทศในยุโรปและแจ้งความจำานงแล้ว<br />

- โครงการพัฒนาแผนแม่บทระบบจำาลองยุทธ์และฝึก<br />

เสมือนจริง ได้จัดทำาร่างแผนแม่บทฉบับสมบูรณ์ ซึ่งมีราย<br />

ละเอียดโครงการต่าง ๆ โดยขณะนี้แผนแม่บทการวิจัยและ<br />

พัฒนาเทคโนโลยีการจำาลองยุทธ์และการฝึกเสมือนจริง พ.ศ.<br />

๒๕๕๕ - ๒๕๖๔ ได้ผ่านความเห็นชอบจากสภากลาโหม เมื่อ<br />

วันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ และได้เริ่มดำาเนินการวิจัยและ<br />

พัฒนาองค์ประกอบพื้นฐานของระบบต่อเนื่องแล้ว<br />

- ดำาเนินการบริหารจัดการศูนย์ประสานงานเครือข่าย<br />

การวิจัยเพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัด<br />

ชายแดนภาคใต้ โดยการสนับสนุนยุทโธปกรณ์พิเศษให้กับ<br />

หน่วยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำาเป็นจะต้องมีการ<br />

ดำาเนินการอย่างต่อเนื่อง มีการติดตาม, ประเมินผลการใช้<br />

งานพัฒนา ปรับปรุง เพื่อให้ยุทโธปกรณ์พิเศษมีประสิทธิภาพ<br />

และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้ ซึ่งได้มีการปฏิบัติที่สำาคัญ<br />

คือ การจัดการประชุมประจำาเดือน เพื่อติดตามความ<br />

ก้าวหน้าในการบริหารจัดการ กำาหนดความต้องการผลงาน<br />

วิจัยเพื่อพัฒนาเป็นโจทย์วิจัย จำานวน ๑๒ ครั้ง และการจัด<br />

พิธีส่งมอบยุทโธปกรณ์พิเศษให้กองอำานวยการรักษาความ<br />

มั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า ไว้ทดลองใช้งาน เมื่อวันที่ ๒<br />

- ๗ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ณ มณฑลทหารบกที่ ๔๒ ค่ายเสนา<br />

ณรงค์ อำาเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จำานวน ๔ รายการ คือ<br />

กล้องมองกลางคืน จำานวน ๖ ชุด, ระบบสื่อสารสำาหรับเฝ้า<br />

ตรวจทางอากาศ จำานวน ๑ ชุด (ประกอบด้วยชุดวิทยุติดตั้ง<br />

บนอากาศยาน ๓ ชุด, ชุด Repeater ๑ ชุด และชุดสำาหรับ<br />

หน่วยภาคพื้น ๓ ชุด), ชุดกล้องวงจรปิดเคลื่อนที่สำาหรับการ<br />

แก้ปัญหาการก่อความรุนแรง จำานวน ๔ รายการ (ประกอบ<br />

ด้วยชุดกล้องวงจรปิดสำาหรับด่านตรวจ จำานวน ๘ กล้อง<br />

สำาหรับด่านตรวจไม่ถาวร จำานวน ๔ กล้อง สำาหรับเส้นทาง<br />

จำานวน ๘ กล้อง และสำาหรับพื้นที่ขนาด ๓ x ๓ กิโลเมตร<br />

จำานวน ๒๔ กล้อง) และสายรัดห้ามเลือดกึ่งอัตโนมัติ จำานวน<br />

๕ ชุด ทั้งนี้ ในการส่งมอบผลงานวิจัยดังกล่าว ได้จัดให้มีการ<br />

สาธิตแนะนำาการใช้ยุทโธปกรณ์พิเศษแก่ผู้ใช้งาน พร้อมทั้งใช้<br />

โอกาสนี้ประชุมหารือสอบถามข้อมูลกับผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่<br />

เพื่อรับทราบปัญหาข้อขัดข้องในการใช้ยุทโธปกรณ์พิเศษที่<br />

ผ่านมา และความต้องการเพิ่มเติม ซึ่งจะนำามาเป็นข้อมูล<br />

สำาหรับการดำาเนินการต่อไปใน<strong>ปี</strong>งบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๖<br />

หลังจากการส่งมอบดังกล่าวแล้ว เมื่อวันที่ ๒๕ กรกฎาคม<br />

๒๕๕๕ ทั้งนี้ยังได้ทราบถึงความต้องการยุทโธปกรณ์เพิ่มเติม<br />

อีก จำานวน ๔ รายการ คือ ๑) อุปกรณ์ตัดสัญญาณ ระบบ<br />

วิทยุรับ - ส่ง ๒) กล้องมองกลางคืน ระบบ Thermal ๓)<br />

ชุดป้องกันอันตรายจากสะเก็ดระเบิด และ ๔) เสื้อเกราะ<br />

กันกระสุน<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

69


- โครงการพัฒนาสนามยิงทดสอบจรวดและอาวุธนำา<br />

วิถีระยะใกล้และระยะปานกลางภายในประเทศ ซึ่งมีความ<br />

ก้าวหน้าของโครงการ ดังนี้<br />

๑) ได้รับเครื่องมือทดสอบที่ได้ดำาเนินการจัดหา<br />

ได้แก่ กล้อง High - Speed Camera<br />

๒) ร่วมการฝึกยิงจรวดต่อสู้อากาศยาน แบบ RBS - 70<br />

และ QW - 2 ด้วยกล้อง Hi - Speed Camera เมื่อวันที่<br />

๒๐ - ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ณ กองบิน ๕<br />

๓) ลงนามในสัญญา EIA ร่วมกับ บริษัท ไอเอสอีที<br />

(ประเทศไทย) จำากัด เมื่อวันที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๕<br />

๔) วางแผนการพัฒนาแผนการฝึกอบรม On the<br />

Job Training ที่สนามทดสอบอาวุธ Vidsel ประเทศสวีเดน<br />

ประกอบด้วย Instrumentation Program และ Test &<br />

Evaluation Program เมื่อวันที่ ๑๕ - ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕<br />

และ<br />

๕) รับรายงานการจ้างวิจัยระบบ Offshore Target<br />

System ฉบับที่ ๑<br />

- โครงการพัฒนาแผนแม่บทระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ<br />

และการสื่อสารทางทหารที่เชื่อมโยงและสอดคล้องกับ<br />

ความต้องการของหน่วยงานในกระทรวงกลาโหม ซึ่งได้เสนอ<br />

เอกสารแผนแม่บทฉบับสมบูรณ์ ให้สภากลาโหมได้พิจารณา<br />

- โครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีป้องกันประเทศ<br />

เฉพาะกิจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี<br />

ป้องกันประเทศตามความต้องการระยะสั้นของเหล่าทัพ<br />

ซึ่งมีผลการดำาเนินการ ดังนี้<br />

๑) การวิจัยและพัฒนาอากาศยานไร้คนขับแบบ<br />

<strong>ปี</strong><strong>กห</strong>มุน (VTOL UAV) ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการจัดทำา<br />

ชิ้นส่วนทางกลและทางไฟฟ้าระบบรับส่ง จัดหาอุปกรณ์<br />

เครื่องยนต์ จัดสร้างและทดสอบชิ้นส่วนที่ออกแบบ<br />

๒) การวิจัยและพัฒนาอากาศยานไร้คนขับแบบ<br />

<strong>ปี</strong>กนิ่ง (Fixed Wing UAV) ซึ่งอยู่ในระหว่างการวิจัยและ<br />

พัฒนาสร้างต้นแบบ<br />

- โครงการวิจัยและพัฒนาระบบจรวดแบบนำาวิถี DTI-<br />

1G โดยมีผลการดำาเนินการ คือ<br />

๑) ลงนามในสัญญาจ้างวิจัยปรับปรุงต้นแบบ<br />

ห้องโดยสารรถบรรทุกชุดท่อปฏิบัติการ เมื่อ ๒๘ กันยายน<br />

๒๕๕๕ และลงนามในสัญญาซื้อขายรถยนต์บรรทุกทางทหาร<br />

ระบบขับเคลื่อน ๘ x ๘ ล้อ สำาหรับติดตั้งชุดท่อปฏิบัติการ<br />

และสำาหรับขนชุดท่อปฏิบัติการ เมื่อ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๕<br />

๒) ดำาเนินการเปิด Letter of Credit (L/C) ของ<br />

สัญญา DTI-1G<br />

๓) ดำาเนินการคัดเลือกนักวิจัยเพื่อเตรียมตัวไป<br />

ฝึกอบรมหลักสูตร Design of Control & Guidance<br />

ณ มิตรประเทศ ตามกำาหนดในสัญญาฯ<br />

๔) ประชุมร่วมกับคณะทำางานร่วมกองทัพบก เมื่อ<br />

๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ เพื่อทบทวนร่างบันทึกความเข้าใจ<br />

(Memorandum Of Understanding : MOU) ของ DTI<br />

- 1G และแนวทางการดำาเนินงานร่วมกันใน<strong>ปี</strong>งบประมาณ<br />

๒๕๕๖<br />

๕) จัดทำาร่างแผนงานและแผนงบประมาณ ประจำา<strong>ปี</strong><br />

พ.ศ.๒๕๕๗ และ<br />

๖) ส่ง CAD Drawing ของ Chassis รถที่ใช้สร้าง<br />

ต้นแบบจรวด DTI-1G ให้แก่มิตรประเทศความก้าวหน้าของ<br />

โครงการ (Plan per Actual)<br />

กองทัพบก<br />

- ดำาเนินการสาธิตเกี่ยวกับระบบอาวุธยุทโธปกรณ์ให้<br />

ผู้แทนหน่วยที่เกี่ยวข้อง ได้รับทราบข้อมูล จำานวน ๑๒ ครั้ง<br />

ได้แก่<br />

๑) ระบบค้นหาและกำาหนดที ่ตั้งอาวุธยิงสนับสนุน<br />

ของฝ่ายตรงข้าม<br />

๒) ระบบหุ่นยนต์สอดแนม<br />

70 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


๓) ระบบควบคุมการปฏิบัติการของเรดาร์ แบบ<br />

AN/TPQ - 36 (V3) ร่วมกับอากาศยานไร้นักบิน<br />

๔) ระบบติดตามตัวด้วยเครื่องมือหาพิกัดด้วย<br />

ดาวเทียม<br />

๕) ระบบกล้องเล็งติดตั้งกับอาวุธยิง<br />

๖) หน้ากากป้องกันสารชีวะเคมี<br />

๗) ระบบตรวจจับ/แจ้งเตือนผู้บุกรุก<br />

๘) ขีดความสามารถในการซ่อมบำารุงเฮลิคอปเตอร์<br />

ใช้งานทั่วไปแบบ ๑๗<br />

๙) ระบบเครื่องกำาหนดตำาบลที่อยู่เมื่ออากาศยาน<br />

ประสบอุบัติเหตุ<br />

๑๐) ระบบอุโมงค์ลมทางดิ่ง<br />

๑๑) ระบบเครื่องตรวจจับไอระเหยของสารประกอบ<br />

วัตถุระเบิดและสารเสพติด<br />

๑๒) ระบบเครื่องตรวจวัดแรงสั่นสะเทือนของใบพัด<br />

อากาศยานและการซ่อมปรับปรุงโครงสร้างอากาศยาน<br />

๑๓) ระบบรวบรวมข้อมูลจากบริการด้านสื่อสังคม<br />

ออนไลน์ เพื่อความมั่นคง และ<br />

๑๔) ชุดวิทยุสื่อสาร ย่านความถี่ 30 MHz - 88 MHz<br />

- ดำาเนินการปรับปรุงแก้ไขอำานาจหน้าที่ของคณะ<br />

กรรมการกำาหนดมาตรฐานยุทโธปกรณ์กองทัพบก ซี่งเดิม<br />

มีอำานาจหน้าที่ในการพิจารณารับรองมาตรฐานยุทโธปกรณ์<br />

ที่เป็นผลงานวิจัยและพัฒนาการทางทหาร โดยเพิ่มเติม<br />

อำานาจหน้าที่ในการรับรองมาตรฐานสิ่งประดิษฐ์ทางทหาร<br />

ของกองทัพบกได้ด้วย และเพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปด้วย<br />

ความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการ<br />

พิจารณากลั่นกรองสิ่งประดิษฐ์ทางทหาร เพื่อพิจารณา<br />

กลั่นกรองสิ่งประดิษฐ์ทางทหารที่มีความเหมาะสมในการ<br />

ผลิตทดลองใช้งาน และประเมินผลงานสิ่งประดิษฐ์ทางทหาร<br />

เพื ่อเสนอให้คณะกรรมการกำาหนดมาตรฐานยุทโธปกรณ์<br />

กองทัพบก พิจารณารับรองมาตรฐานยุทโธปกรณ์ก่อนที่จะ<br />

นำาเข้าสู่กระบวนการนำาผลงานสิ่งประดิษฐ์ทางทหารผลิต<br />

ใช้งานในกองทัพบกต่อไป<br />

กองทัพอากาศ<br />

- จัดทำาโครงการสร้างเครื่องบินกองทัพอากาศแบบที่<br />

๖ ต้นแบบ (เครื่องที่ ๒), โครงการทดสอบต้นแบบเครื่องบิน<br />

กองทัพอากาศแบบที่ ๖, โครงการวิจัยการสร้างเครื่อง<br />

ฝึกบินจำาลอง เครื่องบินกองทัพอากาศแบบที่ ๖, โครงการ<br />

วิจัยและพัฒนาจรวดอากาศสู่พื้นขนาด ๒.๗๕ นิ้ว ชนิด<br />

ดินขับฐานคู่, โครงการวิจัยและพัฒนาสร้างรถเฉพาะกิจ<br />

สำาหรับขนส่งเครื่องยนต์อากาศยาน, โครงการวิจัยและ<br />

พัฒนาเป้าอากาศ, โครงการวิจัยและพัฒนาอาวุธไร้นักบิน<br />

ขนาดเล็กสำาหรับปฏิบัติการทางยุทธวิธี และโครงการวิจัย<br />

และพัฒนากล้องถ่ายภาพและระบบเชื่อมโยงสัญญาณภาพ<br />

(Video Down Link) สำาหรับอาวุธไร้นักบิน<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

71


- จัดทำาบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการวิจัย<br />

และพัฒนาเทคโนโลยีเพื ่อความมั่นคงของประเทศ กับ<br />

สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน) และ<br />

จัดทำาบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา<br />

เทคโนโลยีเพื่อความมั่นคงของประเทศ กับสถาบันเทคโนโลยี<br />

พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง<br />

๒.๘ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน<br />

และการช่วยเหลือประชาชน<br />

สำานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />

- ดำาเนินการมอบผ้าห่มกันหนาวให้แก่ผู้ประสบภัย<br />

หนาว และกำาลังพลข้าราชการทหาร ทหารกองประจำาการ<br />

และยานพาหนะ ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งจัดทำา<br />

โครงการผลิตจุลินทรีย์ก้อนร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏ<br />

เทพสตรี จังหวัดลพบุรี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลิตเป็น<br />

จุลินทรีย์ก้อน (EM - BALL) จำานวน ๑๐๐,๐๐๐ ก้อน เพื่อ<br />

มอบให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดสิงห์บุรี จังหวัดลพบุรี และ<br />

จังหวัดปทุมธานี<br />

กองทัพบก<br />

- ดำาเนินการซ่อมฟื้นฟูอาคารและสาธารณูปโภคที่ได้<br />

รับความเสียหายจากอุทกภัย จำานวน ๑๓ หน่วย ปัจจุบันได้<br />

ลงนามในสัญญาจ้างและเริ่มทำาการซ่อมฟื้นฟูแล้ว ประกอบ<br />

ด้วยงานทั้งสิ้น ๗๐ แผนงาน และได้มีการควบคุม กำากับดูแล<br />

และเร่งรัดผู้ประกอบการให้ทำาการซ่อมฟื้นฟูให้แล้วเสร็จ<br />

โดยเร็ว ตลอดจนทำาการเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปตาม<br />

แผนการใช้จ่ายงบประมาณ<br />

72 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


- ปฏิบัติภารกิจในการบรรเทาสาธารณภัย โดยในช่วง<br />

<strong>ปี</strong> พ.ศ.๒๕๕๔ ที่ได้เกิดอุทกภัย นำ้ำป่าไหลหลาก ดินโคลน<br />

ถล่มหลายพื้นที่ของประเทศ ได้ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือ<br />

ผู้ประสบภัยในพื้นที่รับผิดชอบอย่างเต็มขีดความสามารถ<br />

และจากการที่กรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดการณ์ว่าสภาพ<br />

อากาศโดยรวมในห้วงเดือนตุลาคม ๒๕๕๕ ยังคงมีฝน<br />

ต่อเนื่องต่อไปในทั่วทุกภาคของประเทศ จึงอาจทำาให้เกิด<br />

ภาวะนำ้ำท่วมฉับพลัน นำ้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม<br />

ได้ในพื้นที่เสี่ยงต่าง ๆ จึงได้เตรียมการในส่วนที่เกี่ยวข้อง<br />

ในการเตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชน หากมี<br />

ภัยพิบัติขนาดใหญ่เช่นเดียวกับเหตุการณ์มหาอุทกภัย<br />

เมื่อปลาย<strong>ปี</strong> ๒๕๕๔<br />

กองทัพอากาศ<br />

- ดำาเนินการจัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ประกอบ<br />

ด้วย กำาลังพล ยานพาหนะ ตลอดจนอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการ<br />

ช่วยเหลือผู้ประสบภัยนำ้ำท่วม ภัยหนาว ภัยแล้ง และภัยพิบัติ<br />

อื่น ๆ เพื่อสนับสนุนการดำาเนินการในกรณีที่เกิดภัยพิบัติ<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

73


ต่าง ๆ และสนับสนุนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ<br />

ไฟป่า โดยใช้เครื่องบินแบบ C-130 และ BT-67 ปฏิบัติ<br />

ภารกิจการบินควบคุมไฟป่าร่วมกับหน่วยงานอื่น<br />

- ดำาเนินประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน<br />

ภัยแล้ง รวมทั้งสิ้น ๒๑ จังหวัด ๑๔๒ อำาเภอ ๙๓๑ ตำาบล<br />

๘,๙๒๒ หมู่บ้าน จากการที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อน<br />

เป็นจำานวนมาก เพิ่มจากขาดแคลนนำ้ำในการอุปโภคบริโภค<br />

และมีแนวโน้มว่าสถานการณ์จะทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น<br />

พร้อมทั้งได้เชิญหน่วยงานทั้งภาครัฐ และเอกชนอีก ๔<br />

หน่วยงาน จัดทำาโครงการ “ราษฎร์ รัฐ ร่วมใจ ช่วยภัยแล้ง”<br />

ประจำา<strong>ปี</strong> ๒๕๕๕ ซึ่งจะดำาเนินการในโครงการดังกล่าวต่อไป<br />

จนถึงวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๕ หรือจนกว่าสถานการณ์<br />

ภัยแล้งจะคลี่คลายลง<br />

- ดำาเนินการจัดเครื่องบินสนับสนุนโครงการฝนหลวง<br />

โดยเตรียมและดำารงความพร้อมในการปฏิบัติงานช่วยเหลือ<br />

ประชาชนเมื่อเกิดสาธารณภัยหรือภาวะคับขันให้เป็นผล<br />

อย่างรวดเร็วทันเหตุการณ์ รวมถึงสนับสนุนการแก้ปัญหา<br />

ของชาติตามนโยบายรัฐบาล<br />

74 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


๓. พัฒนาและเสริมสร้างความร่วมมือ<br />

ระหว่างประเทศ<br />

สำานักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />

- ร่วมการประชุม ARF ว่าด้วยการต่อต้านการ<br />

ก่อการร้าย และอาชญากรรมข้ามชาติ ครั้งที่ ๑๐ (10 th ARF<br />

Inter-Sessional Meeting on Counter Terrorism and<br />

Transnational Crime : 10 th ARF ISM CTTC) ระหว่าง<br />

๑๕ - ๑๘ มีนาคม ๒๕๕๕ ณ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม<br />

ซึ่งได้หารือในประเด็นเกี่ยวกับสถานการณ์การก่อการร้าย<br />

ทางทะเลในปัจจุบัน และการปฏิบัติตามแผนงาน ARF<br />

ด้านการต่อต้านการก่อการร้ายและแนวทางการพัฒนา<br />

ในอนาคต<br />

- ร่วมการประชุม Health Protection of the<br />

Military Staff in Regional Military, Climatic and<br />

Epidemiological Conditions เมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม - ๒<br />

เมษายน ๒๕๕๕ ณ กรุงมอสโก สหพันธรัฐรัสเซีย ซึ่ง<br />

มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นที่สำาคัญ ๆ ด้าน<br />

การแพทย์ทหาร โดยเฉพาะประเด็นการป้องกันสุขภาพของ<br />

กำาลังพลจากภารกิจเสี่ยงภัยทางทหาร<br />

- ร่วมการประชุมระหว่าง<strong>ปี</strong>ว่าด้วยการบรรเทาภัยพิบัติ<br />

(ARF Inter - Sessional Meeting on Disaster Relief<br />

: ARF ISM on DR) ครั้งที่ ๑๑ เมื่อวันที่ ๑๖ - ๑๗ เมษายน<br />

๒๕๕๕ ณ เมือง Brisbane เครือรัฐออสเตรเลีย ซึ่งหารือใน<br />

ประเด็นพัฒนาด้านการบรรเทาภัยพิบัติของอาเซียน, การนำา<br />

ผลการฝึก ARF DiREx 2011 มาพัฒนาต่อในอนาคตและ<br />

การวิเคราะห์ถึงบทเรียนด้านการจัดการภัยพิบัติในภูมิภาค<br />

- ร่วมการประชุมหารืองานด้านอุตสาหกรรมป้องกัน<br />

ประเทศในก<strong>รอบ</strong>อาเซียน (Workshop on ASEAN Defence<br />

Industry Collaboration) เมื่อ ๑๗ - ๑๙ เมษายน ๒๕๕๕<br />

ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ สหพันธรัฐมาเลเซีย โดยหารือ<br />

ในประเด็นเกี่ยวกับแนวทางความร่วมมือด้านอุตสาหกรรม<br />

ป้องกันประเทศในก<strong>รอบ</strong>อาเซียนในอนาคต รวมทั้งหารือ<br />

ถึงแนวทางความร่วมมือ, การจัดทำาเอกสารที่กำาหนด<br />

ขอบเขตและรายละเอียดของภารกิจ (TOR) และเงินทุน<br />

ด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศในก<strong>รอบ</strong>อาเซียนในอนาคต<br />

- ร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสกลาโหมอาเซียน<br />

(ASEAN Defence Senior Officials’ Meeting : ADSOM)<br />

และการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสกลาโหมอาเซียนกับ<br />

เจ้าหน้าที่อาวุโสกลาโหมประเทศคู่เจรจา (ASEAN Defence<br />

Senior Officials’ Meeting-Plus : ADSOM-Plus) เมื่อ<br />

๒๓ - ๒๗ เมษายน ๒๕๕๕ ณ เมืองเสียมราฐ ราชอาณาจักร<br />

กัมพูชา ซึ่งได้หารือถึงร่างระเบียบวาระและด้านสารัตถะ<br />

เพื่อเตรียมการสำาหรับการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน<br />

ครั้งที่ ๖<br />

- ร่วมการประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารของ ARF (ASEAN<br />

Regional Forum Defence Officials’ Dialogue : ARF DoD)<br />

และการประชุม (ARF ISG on CBMs and PD) เมื่อ ๕ - ๑๑<br />

พฤษภาคม ๒๕๕๕ ณ เมืองเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์<br />

ได้หารือในประเด็นการขยายความร่วมมือที่ใกล้ชิดมากขึ้น<br />

ระหว่างการประชุม ARF และการประชุม ADMM - Plus<br />

รวมทั้งในเรื่องความถี่ในการประชุมเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารของ<br />

ARF และการนำาแผนปฏิบัติการว่าด้วยการทูตเชิงป้องกัน<br />

ของ ARF ไปดำาเนินการโดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารของ ARF<br />

- ประชุมเพื่อหาข้อยุติในการจัดทำาบันทึกความเข้าใจ<br />

ว่าด้วยความร่วมมือทางทหารระหว่างกระทรวงกลาโหมไทย<br />

กับกระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐเกาหลี (Memorandum<br />

of Understanding between the Ministry of Defence<br />

of the Kingdom of Thailand and the Ministry<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

75


of National Defense of the Republic of Korea<br />

Concerning Cooperation in the Field of Defence)<br />

เมื่อ ๒๕ - ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕ ณ กรุงโซล สาธารณรัฐ<br />

เกาหลี เพื่อหาข้อยุติในร่างบันทึกความเข้าใจและเป็นการ<br />

เตรียมการสำาหรับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในการ<br />

เดินทางเพื่อลงนามในบันทึกความเข้าใจ<br />

- ประชุม Tokyo Defense Forum (TDF) ครั้งที่ ๑๖<br />

เมื่อ ๑๓ - ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๕ ณ กรุงโตเกียว ประเทศ<br />

ญี่ปุ่น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้แทนหน่วยงานด้านการ<br />

ป้องกันประเทศในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก ได้มีโอกาสหารือ<br />

แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ<br />

ความร่วมมือทางทหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการรับมือกับ<br />

ภัยคุกคามในภูมิภาค<br />

- ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ<br />

ทางทหาร ระหว่างกระทรวงกลาโหมไทย กับกระทรวงกลาโหม<br />

สาธารณรัฐเกาหลี (Memorandum of Understanding<br />

between the Ministry of Defence of the Kingdom<br />

of Thailand and the Ministry of National Defense of<br />

the Republic of Korea Concerning Cooperation in<br />

the Field of Defence) เมื่อ ๒๔ - ๒๕ มีนาคม ๒๕๕๕ ณ<br />

กรุงโซล สาธารณรัฐเกาหลี และการเข้าร่วมลงนามในความ<br />

ตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศระหว่าง<br />

76 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


รัฐบาลกาตาร์และรัฐบาลไทย (Agreement Between<br />

the Government of the State of Qatar and the<br />

Government of the Kingdom of Thailand on<br />

Defence Cooperation) เมื่อ ๒๖ - ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๕<br />

ณ กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ และลงนามในความตกลงว่าด้วยความ<br />

ร่วมมือด้านการป้องกันประเทศ ระหว่างกระทรวงกลาโหม<br />

ของทั้งสองประเทศ<br />

- ร่วมประชุมหารือด้านความมั่นคงทางทหารและ<br />

อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ กับกระทรวงกลาโหมกาตาร์<br />

เมื่อ ๒๔ - ๒๘ มีนาคม ๒๕๕๕ ณ รัฐกาตาร์ เพื่อหารือ<br />

ด้านความมั่นคงทางทหารและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ<br />

ร่วมกัน<br />

- ประชุมคณะกรรมการส่งกำาลังบำารุงร่วมระหว่าง<br />

กระทรวงกลาโหมไทย กับกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ครั้งที่ ๔<br />

เมื่อ ๒๒ - ๒๔ เมษายน ๒๕๕๕ ณ กรุงมอสโก สหพันธรัฐ<br />

รัสเซีย เพื่อร่วมกันพิจารณาหาแนวทางและแลกเปลี่ยน<br />

ความคิดเห็นในด้านการส่งกำาลังบำารุงร่วมกับกระทรวง<br />

กลาโหมมิตรประเทศ<br />

- ดำาเนินกิจกรรมตามโครงการความร่วมมือทวิภาคี<br />

ระหว่างกระทรวงกลาโหม กับกระทรวงกลาโหมสหพันธ์<br />

สาธารณรัฐเยอรมนี ณ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ดังนี้<br />

๑) โครงการ Personnel Management เรื่อง การ<br />

บริหารจัดการบุคลากรในกองทัพ การคัดเลือกบุคลากร และ<br />

ระบบกองหนุน เมื่อ ๗ - ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๕ เพื่อเป็นการ<br />

ขยายความร่วมมือด้านการทหารและพัฒนาความสัมพันธ์<br />

ระหว่างสองประเทศ<br />

๒) โครงการ Leadership and Civic Education<br />

เรื่อง กองทัพในระบอบประชาธิปไตย เมื่อ ๑๔ - ๑๖<br />

พฤษภาคม ๒๕๕๕ โครงการ Air Space Management<br />

เรื่อง เทคโนโลยีในการป้องกันประเทศด้านอวกาศ เมื่อ<br />

๒๑ - ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๕๕ เพื่อศึกษาการบริหารจัดการ<br />

ด้านกำาลังพล เทคโนโลยี และการดำาเนินการมาพิจารณา<br />

ใช้ประโยชน์ในการปรับปรุงและพัฒนาการดำาเนินการที่<br />

เกี่ยวข้อง<br />

- ร่วมการประชุมหารือยุทธศาสตร์ ไทย - สหรัฐอเมริกา<br />

(Thai - US Strategic Dialogue) ครั้งที่ ๔ ณ สำานักงาน<br />

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) เมื่อวันที่ ๑๑ - ๑๖<br />

มิถุนายน ๒๕๕๕ เพื่อให้ผู้แทนได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นด้าน<br />

ยุทธศาสตร์ความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก และ<br />

ติดตามผลการดำาเนินการภายใต้ก<strong>รอบ</strong>ความร่วมมือระหว่าง<br />

ไทย - สำานักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)<br />

- ร่วมการประชุมหารือการแก้ปัญหาความขัดแย้งใน<br />

ภูมิภาคของสมาชิกอาเซียนและเข้าร่วมพิธี รับตำาแหน่ง<br />

ใหม่ ผู้ว่าราชการจังหวัดอาเจห์ ณ ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อ<br />

วันที่ ๒๓ - ๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๕ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยน<br />

ข้อมูลด้านความมั่นคงและการกำาหนดยุทธศาสตร์ การแก้ไข<br />

สถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้<br />

- ร่วมการประชุม US - Asean Business Forum<br />

ณ เมืองเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา เมื่อวันที่ ๑๓<br />

กรกฎาคม ๒๕๕๕ และได้เข้าร่วมหารือทวิภาคีกับสมเด็จ<br />

ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และพลเอก เตีย บันห์<br />

รองนายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา<br />

- ร่วมประชุมคณะทำางานร่วม ไทย - กัมพูชา (Joint -<br />

Working Group : JWG) ครั้งที่ ๑ เมื่อวันที่ ๓ - ๕ เมษายน<br />

๒๕๕๕ ณ โรงแรมดุสิตธานี เพื่อพิจารณากำาหนดแนวทาง<br />

ในการปฏิบัติตามคำาสั่งมาตรการชั่วคราวของศาลยุติธรรม<br />

ระหว่างประเทศ และได้จัดการประชุมคณะทำางานร่วม<br />

ไทย - กัมพูชา ครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๒๖ - ๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๕<br />

ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้ทราบถึงแนวทางที่ชัดเจนในการปฏิบัติตาม<br />

มาตรการชั่วคราวของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ<br />

- ร่วมประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค<br />

(Regional Border Committee : RBC) ไทย - เมียนมาร์<br />

ครั้งที่ ๒๖ เมื่อวันที่ ๖ - ๘ มิถุนายน ๒๕๕๕ ณ จังหวัดตองยี<br />

รัฐฉาน เมียนมาร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความ<br />

สัมพันธ์และความร่วมมือไทย - เมียนมาร์ ให้แน่นแฟ้น<br />

มากยิ่งขึ้น<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

77


- ประชุมคณะกรรมการร่วมมือรักษาความสงบเรียบร้อย<br />

ตามชายแดน ไทย - ลาว จังหวัดมุกดาหาร - แขวงสะหวัน<br />

นะเขต ครั้งที่ ๗ เมื่อวันที่ ๒๖ - ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๕<br />

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและความสัมพันธ์<br />

อันดีระหว่างจังหวัดมุกดาหารและแขวงสะหวันนะเขต<br />

- ร่วมประชุมประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ ASEAN Regional<br />

Forum (ARF) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพิจารณาความเหมาะสม<br />

และความพร้อมในการดำาเนินการในภาพรวมต่อการฝึกซ้อม<br />

บรรเทาภัยพิบัติ (Disaster Relief Exercise : DiREx)<br />

- ร่วมการประชุมหารือนโยบายด้านความมั่นคงใน<br />

ภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก (ASEAN Political Security<br />

Community : APSC) เมื่อวันที่ ๒๓ - ๒๖ พฤษภาคม ๒๕๕๕<br />

ณ กรุงพนมเปญ กัมพูชา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยน<br />

ความรู้ ประสบการณ์และข้อคิดเห็นในการขยายความร่วมมือ<br />

ทางทหารเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม<br />

และการบรรเทาสาธารณภัย (Humanitarian Assistance<br />

and Disaster Relief : HADR) การปฏิบัติการรักษาสันติภาพ<br />

(Peacekeeping Operations : PKO) และการปรับปรุง<br />

โครงสร้างสถาปัตยกรรมด้านความมั่นคงในภูมิภาค<br />

- เข้าร่วมประชุมยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันประเทศ<br />

ระหว่างกระทรวงกลาโหมไทยกับกระทรวงกลาโหม<br />

สหรัฐอเมริกา ครั้งที่ ๒ เมื่อ ๑๖ - ๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๕ โดย<br />

มีวัตถุประสงค์เพื่อเข้าร่วมหารือกับผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวง<br />

กลาโหมสหรัฐอเมริกา และผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ<br />

สหรัฐอเมริกา โดยหารือเกี่ยวกับแนวทางการดำาเนินความ<br />

ร่วมมือทางทหารที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของทั้งสอง<br />

ประเทศ<br />

- ร่วมการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ ณ Asia - Pacific<br />

Center for Security Studies (APCSS) เรื่อง “US<br />

Strategic Rebalance to the Asia - Pacific” ณ เมือง<br />

โฮโนลูลู มลรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา เมื่อ ๒๓ - ๒๗ ตุลาคม<br />

๒๕๕๕ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อมุ่งเน้นเกี่ยวกับการเสริมสร้าง<br />

ความรู้ความเข้าใจในสภาพแวดล้อมและนโยบายความ<br />

ร่วมมือ รวมทั้งนโยบายและยุทธศาสตร์ใหม่ของสำานักงาน<br />

รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน)<br />

78 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


- ร่วมการประชุม Tokyo Defense Forum (TDF)<br />

ครั้งที่ ๑๗ ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อ ๓๐ ตุลาคม<br />

๒๕๕๕ - ๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ<br />

ให้ผู้แทนจา<strong>กห</strong>น่วยงานด้านการป้องกันประเทศในภูมิภาค<br />

เอเชีย - แปซิฟิก ได้มีโอกาสหารือ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น<br />

และประสบการณ์เกี่ยวกับความร่วมมือทางทหารระหว่าง<br />

ประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการรับมือกับภัยคุกคามใน<br />

ภูมิภาค<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

79


- ร่วมการประชุม Seoul Defence Dialogue ครั้งที่ ๑<br />

ณ กรุงโซล เกาหลีใต้ เมื่อ ๑๔ - ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๕<br />

โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่าง<br />

ประเทศในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก ซึ่งจะเป็นประโยชน์<br />

ต่อการพัฒนาความร่วมมือด้านความมั่นคงในภูมิภาค<br />

80 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


- ร่วมการประชุมหารือทวิภาคีกับรองนายกรัฐมนตรี/<br />

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา รัฐมนตรีว่าการ<br />

กระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา รัฐมนตรีว่าการกระทรวง<br />

พลังงานบรูไน (ผู้แทนกระทรวงกลาโหมบรูไน) โดยปลัด<br />

กระทรวงกลาโหม ได้พบหารือทวิภาคีกับปลัดกระทรวง<br />

กลาโหมสิงคโปร์ เมื่อ ๑๕ - ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๕<br />

ซึ่งมีผลการประชุมที่สำาคัญ คือ<br />

๑) เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองในประเด็นด้านการทหาร<br />

และความมั่นคง โดยมีอาเซียนเป็นศูนย์กลางในการดำาเนินการ<br />

เพื่อป้องกันการแทรกแซงของประเทศมหาอำานาจ<br />

๒) บทบาทของสหรัฐอเมริกาในภูมิภาคเอเชีย<br />

ตะวันออกเฉียงใต้ในการสนับสนุนให้เกิดสันติภาพความ<br />

มั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองของอาเซียน<br />

๓) กระทรวงกลาโหมบรูไน พร้อมที่จะเข้าร่วม<br />

ในการที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพร่วมกับสาธารณรัฐเกาหลี ในการ<br />

ฝึกซ้อมบรรเทาภัยพิบัติ (Disaster Relief Exercise : DiREx)<br />

ในก<strong>รอบ</strong> ASEAN Regional Forum (ARF) และ<br />

๔) ความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมของคณะทำางาน<br />

ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านในก<strong>รอบ</strong> ASEAN Defence Ministers’<br />

Meeting Plus (ADMM - Plus) ใน<strong>ปี</strong> พ.ศ.๒๕๕๖<br />

กองบัญชาการกองทัพไทย<br />

- ดำาเนินการทบทวนนโยบายและยุทธศาสตร์ด้านการ<br />

ปฏิบัติการเพื่อสันติภาพด้วยการวางแผน การดำาเนินงาน<br />

เตรียมข้อมูล และพิจารณาขั้นตอนการปฏิบัติ เพื่อเตรียม<br />

การวางแผนในขั้นต้น<br />

- ดำาเนินการจัดระบบเตรียมกำาลังเป็นบุคคลในระบบ<br />

บัญชีรายชื่อพร้อมเรียกปฏิบัติงาน (On Call List) ด้วยการ<br />

คัดเลือกกำาลังพลประเภทบุคคลเพื่อบรรจุในบัญชีรายชื่อ<br />

สำาหรับสนับสนุนภารกิจรักษาสันติภาพ โดยทำาการทดสอบ<br />

ภาษาอังกฤษแบบอเมริกัน (ECL) และความรู้ทางวิชาการ<br />

รวมทั้งสอบสัมภาษณ์และประเมินผลบุคลิกภาพ จากนั้น<br />

จัดทำาบัญชีรายชื่อ และคัดเลือกกำาลังพลจากบัญชีรายชื่อ<br />

ไปปฏิบัติหน้าที่รักษาสันติภาพตามที่สหประชาชาติ หรือ<br />

มิตรประเทศร้องขอ<br />

- เตรียมความพร้อมในระบบกำาลังเตรียมพร้อม<br />

สหประชาชาติ (UNSAS) ด้วยการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ<br />

เพื่อกำาหนดความพร้อมของกองทัพไทยในบทบาทการปฏิบัติ<br />

งานเพื่อสันติภาพในประเด็น ประเภท ขนาดของหน่วยบัญชี<br />

บรรจุกำาลัง และบัญชียุทโธปกรณ์ ณ อาคารศูนย์สันติภาพ<br />

จอมทัพไทย ๖๐ <strong>ปี</strong> เมื่อ ๒๒ ธันวาคม ๒๕๕๔ และ ๑๗<br />

กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕<br />

- เฝ้าตรวจติดตามและแจ้งเตือนความขัดแย้งใน<br />

ภูมิภาคต่าง ๆ ด้วยการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ในการ<br />

วางแผนถอนกำาลัง เคลื ่อนย้ายกองกำาลังเฉพาะกิจ ๙๘๐<br />

ไทย/ดาร์ฟูร์ ณ อาคารศูนย์สันติภาพ จอมทัพไทย ๖๐ <strong>ปี</strong><br />

เมื่อ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

81


- เสริมสร้างและพัฒนาสัมพันธ์ระหว่างประเทศด้วย<br />

การเยี่ยมคำานับ พบปะบุคคลสำาคัญ ร่วมงานเลี้ยงรับรอง<br />

ของกองทัพ การร่วมประชุมหารือ ประสานงาน แลกเปลี่ยน<br />

ความคิดเห็นกับหน่วยงานราชการและเอกชน การเข้าร่วม<br />

ในพิธีและกิจกรรมสำาคัญของประเทศเจ้าบ้าน ที่มีสำานักงาน<br />

ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารไทย/ต่างประเทศ ประจำาอยู่<br />

- จัดส่งกำาลังพลเข้าร่วมการปฏิบัติภารกิจเพื่อสันติภาพ<br />

และมนุษยธรรมในกองกำาลังเฉพาะกิจ ๙๘๐ ไทย/ดาร์ฟูร์<br />

กองทัพบก<br />

- ร่วมประชุม Executive Steering Group (ESG)<br />

โดยเป็นการร่วมประชุมนายทหารระดับกลางระหว่าง<br />

กองทัพบกกับกองทัพบกสหรัฐฯ ณ กองกำาลังกองทัพบก<br />

สหรัฐฯ ภาคพื้นแปซิฟิก (USARPAC) มลรัฐฮาวาย ประเทศ<br />

สหรัฐอเมริกา เมื่อ ๖ - ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๕๕ ทั้งนี้ ได้มอบ<br />

หมายให้ USARPAC เป็นหน่วยรับผิดชอบในการดำาเนินงาน<br />

ความร่วมมือ ในระหว่างการประชุม ESG ครั้งที่ ๑ โดย<br />

คณะผู้แทนกองทัพบกทั้งสองฝ่าย ได้แลกเปลี่ยนความรู้<br />

และประสบการณ์ในการดำาเนินงานในแต่ละสายงาน และ<br />

ได้ร่วมกันหารือแนวทางการดำาเนินงานความร่วมมือจนได้<br />

ข้อสรุปเป็นแผนงานการปฏิบัติร่วมกันระหว่างกองทัพบก<br />

กับกองทัพบกสหรัฐฯ (Agree-to-Action Plan) ในห้วง<br />

<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๖ จำานวน ๔๑ แผนงาน/กิจกรรม และ<br />

ตารางแผนงานการปฏิบัติร่วมกันระหว่างกองทัพบกกับ<br />

82 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


กองทัพบกสหรัฐฯ (Agree - to - Action Plan) ในห้วง<strong>ปี</strong><br />

๒๕๕๕ - ๒๕๖๐<br />

- เยือนประเทศสาธารณรัฐฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร<br />

เมื่อวันที่ ๙ - ๑๖ มิถุนายน ๒๕๕๕ เพื่อเข้าร่วมงาน<br />

EUROSATORY 2012 ซึ่งเป็นงานแสดงเทคโนโลยีทางทหาร<br />

ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค โดยมีผู้นำาเหล่าทัพจากทั่วโลกเข้าร่วม<br />

งานดังกล่าว และได้เข้าร่วมการประชุมร่วมไทย - สหรัฐฯ<br />

(Security Assistance Review : SAR) ซึ่งเป็นการประชุมที่<br />

จัดขึ้นทุก<strong>ปี</strong> โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหารือและแก้ไขข้อขัดข้อง<br />

เกี่ยวกับการจัดหายุทโธปกรณ์ โดยวิธี FMS สรุปสาระสำาคัญ<br />

ได้ว่า สหรัฐฯ มีแผนจะปลดประจำาการ เฮลิคอปเตอร์ 47 D<br />

จำานวน ๘๖ เครื่อง และจะขายให้กับประเทศพันธมิตรที่<br />

สนใจ, การติดตามความคืบหน้าการดำาเนินการในการจัดหา<br />

เฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป 60 แบบ L จำานวน ๓ เครื่อง และ<br />

เฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป 60 แบบ M จำานวน ๗ เครื่อง,<br />

การจัดหาปืนใหญ่กลางกระสุนวิถีโค้ง ขนาด ๑๕๕ มิลลิเมตร<br />

M198 (EDA) จำานวน ๕๔ กระบอก ซึ่งคาดว่าสหรัฐฯ จะ<br />

ซ่อมปรับปรุงแล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม ๒๕๕๕ และ<br />

จะทำาการส่งมอบได้ภายในเดือนสิงหาคม ๒๕๕๕ และการ<br />

จัดหาเฮลิคอปเตอร์โจมตี (EDA) จำานวน ๔ เครื่อง (จก.<br />

กบ.ทบ./หน.คณะ)<br />

- เชิญคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ ประจำา<br />

ประเทศไทย และสำานักงานจัสแม็คมาเยี่ยมชมโรงเรียน<br />

นายร้อยพระจุลจอมเกล้า จำานวน ๑๑ ประเทศ เพื่อสาน<br />

และสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน พร้อมทั ้งเป็นการ<br />

ขอบคุณกองทัพของแต่ละประเทศที่ได้ให้การสนับสนุน<br />

นักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้าเข้าศึกษาในโรงเรียน<br />

นายร้อยต่างประเทศ และให้การต้อนรับคณะนักเรียน<br />

นายร้อยต่างประเทศเข้าศึกษา ดูงานตามโครงการแลกเปลี่ยน<br />

ซึ่งกันและกัน<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

83


- ผู้บัญชาการทหารบก เดินทางเยือนมลรัฐฮาวาย<br />

สหรัฐอเมริกา อย่างเป็นทางการ ตามคำาเชิญของ พลโท<br />

ฟรานซิส เวียร์ซินสกี้ ผู้บัญชาการกองกำาลังทางบก สหรัฐฯ<br />

ประจำาภาคพื้นแปซิฟิก และเดินทางเยือนญี่ปุ่น เมื่อ ๕ - ๘<br />

พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ที่ผ่านมา ตามคำาเชิญของ พลเอก<br />

เออิจิ คิมิซูกะ ผู้บัญชาการกองกำาลังป้องกันตนเองทางบก<br />

ของญี่ปุ่น โดยได้มีการหารือถึงแนวทางในการขยายขอบเขต<br />

ความร่วมมือระหว่างกันให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้าน<br />

การฝึก การศึกษา และการแลกเปลี่ยน การเยือนระหว่าง<br />

กำาลังพลของทั้งสองประเทศในทุกระดับ และในโอกาส<br />

เดียวกันนี้ ผู้บัญชาการทหารบกยังได้พบปะและให้โอวาท<br />

กับนายทหารนักเรียน และนักเรียนนายร้อยไทย ที่กำาลัง<br />

ศึกษาในญี่ปุ่นอีกด้วย<br />

กองทัพเรือ<br />

- จัดผู้แทนเข้าร่วมการประชุม Navy to Navy<br />

Strategy Talk กับกองทัพเรือออสเตรเลีย ครั้งที่ ๗ ณ เมือง<br />

ซิดนีย์ เมื่อวันที่ ๕ - ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๕, ผู้บัญชาการทหาร<br />

เรือ และคณะ เดินทางเยือนสาธารณรัฐสหภาพเมียนมาร์<br />

อย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของกองทัพเรือสาธารณรัฐ<br />

สหภาพเมียนมาร์ เมื่อวันที่ ๑๔ - ๑๖ สิงหาคม ๒๕๕๕, เข้า<br />

ร่วมสังเกตการณ์ฝึกยกพลขึ้นบกของนาวิกโยธินอินโดนีเซีย<br />

ณ ชายหาด Caligi เมืองลัมปุง เกาะสุมาตรา เมื่อวันที่ ๑๕<br />

- ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๕๕, จัดการประชุมคณะทำางานร่วมกับ<br />

กองทัพเรือสิงคโปร์ เมื่อวันที่ ๒๓ - ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๕๕<br />

ณ จังหวัดภูเก็ต, จัดผู้แทนเข้าร่วมการประชุม Navy to Navy<br />

84 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


Talks กับกองทัพเรือเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ ๑๘ - ๒๑ กรกฎาคม<br />

๒๕๕๕, จัดผู้แทนเข้าร่วมการประชุม Navy to Navy Talks<br />

กับกองทัพเรือฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ ๕ - ๘ มิถุนายน ๒๕๕๕<br />

- ขยายความร่วมมือกับกองทัพเรือในภูมิภาค และ<br />

กองทัพเรือมิตรประเทศ รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศใน<br />

ทุก ๆ ด้าน เช่น การประชุม/สัมมนา/การศึกษา ที่กองทัพ<br />

เรือมีส่วนร่วม โดยเร่งรัดปรับปรุงขยายความร่วมมือเดิมที่<br />

มีอยู่ให้มีการพัฒนาก<strong>รอบ</strong>การดำาเนินการให้มากยิ่งขึ้น รวม<br />

ถึงให้หน่วยริเริ่มความร่วมมือใหม่ในการสร้างความไว้เนื้อ<br />

เชื่อใจ สร้างสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง และเสริม<br />

บทบาทของกองทัพเรือ ในการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม<br />

เวทีระหว่างประเทศทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี รวมทั้ง<br />

เสริมสร้างความสัมพันธ์และความมั่นคงทางทะเลระหว่าง<br />

กองทัพเรือในภูมิภาค และกองทัพเรือมิตรประเทศ โดยการ<br />

จัดเรือเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ<br />

กองทัพอากาศ<br />

- ดำาเนินความร่วมมือด้านความสัมพันธ์ระหว่าง<br />

กองทัพอากาศมิตรประเทศ ซึ่งได้จัดกำาลังพลเข้าร่วม<br />

ปฏิบัติหน้าที่สังเกตการณ์ทางทหารในซูดาน และเข้าร่วม<br />

และจัดการประชุมผู้บัญชาการทหารอากาศอาเซียน เมื่อ<br />

กันยายน ๒๕๕๕<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

85


๔. พัฒนาระบบการเตรียมพร้อม<br />

แห่งชาติ<br />

- ดำาเนินการช่วยเหลือประชาชนในกรณีประสบภัย<br />

พิบัติต่าง ๆ โดยจัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ประกอบด้วย<br />

กำาลังพล ยานพาหนะ ตลอดจนอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการ<br />

ช่วยเหลือผู้ประสบภัยนำ้ำท่วม ภัยหนาว ภัยแล้ง และ<br />

ภัยพิบัติอื่น ๆ<br />

- ดำาเนินการสนับสนุนการป้องกันและแก้ไขปัญหา<br />

ภัยพิบัติไฟป่า โดยใช้เครื่องบินแบบ C-130 และ BT-67<br />

ปฏิบัติภารกิจการบินควบคุมไฟป่าร่วมกับหน่วยงานอื่น<br />

- ทำาการบินค้นหาและช่วยชีวิต และบินเสริมเครือข่าย<br />

การติดต่อสื่อสาร เพื่อสนับสนุนภารกิจทางทหารและ<br />

พลเรือน โดยใช้เครื่องบินแบบ BT-67 เป็นศูนย์ติดต่อสื่อสาร<br />

ทางอากาศและการส่งภาพสถานการณ์ ณ เวลาจริง ด้วย<br />

ระบบ Video Down Link จากเครื่องบินแบบ AU-23 และ<br />

แบบ DA-42 MPP เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจค้นหา<br />

และกู้ภัยในภาพรวมของประเทศ<br />

86 ผลการดำาเนินงานของกระทรวงกลาโหม


๕. เร่งดำเนินการแก้ไขปัญหายาเสพติด<br />

องค์กรอาชญากรรมการค้ามนุษย์<br />

ผู้หลบหนีเข้าเมือง แรงงานต่างด้าว<br />

ผิดกฎหมาย และบุคคลที่ไม่มีสถานะ<br />

ชัดเจน<br />

- ดำาเนินการป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหา<br />

ยาเสพติด โดยจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะ<br />

ยาเสพติด ดำาเนินการป้องกันปราบปราม และแก้ไขปัญหา<br />

ยาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ และบริเวณโดย<strong>รอบ</strong>ที่ตั้ง<br />

รวมทั้งการตั้งศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด จำานวน<br />

๑๓ ศูนย์<br />

ประจำ<strong>ปี</strong>งบประมาณ ๒๕๕๕<br />

87


บทส่งท้าย<br />

ในบริบทของการปฏิบัติหน้าที่ของทหาร นอกเหนือจากภารกิจหลักในการป้องกันประเทศ การธำารง<br />

รักษาเอกราช อธิปไตย และเขตอำานาจรัฐ การพิทักษ์รักษาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็น<br />

ที่รักยิ่งของประชาชนชาวไทยแล้ว กระทรวงกลาโหมยังได้ทุ่มเทและมุ่งมั่นต่อการสนับสนุนรัฐบาล<br />

ในการช่วยแก้ไขปัญหาของชาติในด้านต่าง ๆ รวมทั้งประสานความร่วมมือเพื่อการพัฒนาประเทศ<br />

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เป็นที่ประจักษ์แจ้งแก่ประชาชนชาวไทยแล้วว่า ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์<br />

ต่าง ๆ ขึ้น หรือปัญหาใด ๆ ทั้งจากปัจจัยสภาวะแวดล้อมและสถานการณ์โดย<strong>รอบ</strong>ที่แปรเปลี่ยนไปเช่นไร<br />

กระทรวงกลาโหมก็ยังคงยืนหยัดปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติและทำาหน้าที่เคียงข้างประชาชน<br />

มาโดยตลอด ทั้งนี้เพราะตระหนักดีถึงหน้าที่รวมทั้งความรัก ความศรัทธา และความเชื่อมั่นของประชาชน<br />

ที่มีให้ต่อกองทัพ<br />

กระทรวงกลาโหมขอปฏิญาณและให้คำามั่นต่อพี่น้องประชาชนชาวไทยผู้เป็นเจ้าของประเทศว่า<br />

หน่วยงานทุ<strong>กห</strong>น่วยงานในสังกัดกระทรวงกลาโหมและทหารทุกนายจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั ้งใจ<br />

ทุ่มเท และเสียสละ เพื่อสถาปนาความมั่นคงของราชอาณาจักรไทย โดยมุ่งหวังให้เกิดความเจริญวัฒนา<br />

ผาสุก และยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นเป้าหมายสูงสุด ดังคำามั่นที่ว่า<br />

“กลาโหมเทิดราชา รักษ์ราษฎร์ ชาติมั่นคง”


ขอขอบคุณ<br />

- สำนักงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม<br />

- กรมราชองครักษ์<br />

- กองบัญชาการกองทัพไทย<br />

- กองทัพบก<br />

- กองทัพเรือ<br />

- กองทัพอากาศ<br />

- สำนักนโยบายและแผนกลาโหม<br />

- สำนักงบประมาณกลาโหม<br />

- องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก<br />

- สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน)<br />

จัดทำโดย<br />

สำนักงานเลขานุการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />

ในศาลาว่าการกลาโหม ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพ ๑๐๒๐๐<br />

โทรศัพท์ ๐ ๒๒๒๕ ๘๒๖๒ โทรสาร ๐ ๒๒๒๕ ๘๒๖๒<br />

พิมพ์ที่ : บริษัท รุ่งศิลป์การพิมพ์ (๑๙๗๗) จำกัด<br />

๕๕๕ หมู่ ๑๒ ถนนพุทธมณฑล สาย ๕ ตำาบลไร่ขิง อำาเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ๗๓๒๑๐<br />

โทรศัพท์ ๐ ๒๘๑๑ ๗๗๗๘, ๐ ๑๘๑๑ ๗๗๗๐ โทรสาร ๐ ๒๘๑๑ ๗๗๑๕


http://opsd.mod.go.th

Hooray! Your file is uploaded and ready to be published.

Saved successfully!

Ooh no, something went wrong!