07.09.2022 Views

E-BOOK หลักเมือง สิงหาคม 65

Create successful ePaper yourself

Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.

สำนักงำนปลัดกระทรวงกลำโหม

หน่วยงำนนโยบำยและยุทธศำสตร์ควำมมั่นคง

ว า ร ส า ร ร า ย เ ดื อ น ส า นั ก ง า น ป ลั ด ก ร ะ ท ร ว ง ก ล า โ ห ม

ปีที่ ๓๑ ฉบับที ่ ๓๗๗ หลักเมือง สิงหำคม ๒๕๖๕

www.lakmuangonline.com


๑๒ สิงหาคม วันเฉลิมพระชนมพรรษา

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ทรงพระเจริญ

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

ข้าพระพุทธเจ้า ข้าราชการ พนักงานราชการและลูกจ้าง สังกัดกระทรวงกลาโหม

กลาโหมเทิดราชา รักษ์ราษฎร์ ชาติมั่นคง


ว า ร ส า ร ร า ย เ ดื อ น ส ำ นั ก ง า น ป ลั ด ก ร ะ ท ร ว ง ก ล า โ ห ม

Editor Consultants

ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์

พล.อ.วัันชััย เรืืองตรืะกููล

พล.อ.อ.สุุวิิชั จัันทปรืะดิิษฐ์์

พล.อ.ไพบููลย์ เอมพันธุ์ุ์

พล.อ.ยุทธุ์ศัักดิ์์ ศัศัิปรืะภา

พล.อ.ธุ์ีรืเดิชั มีเพียรื

พล.อ.ธุ์วััชั เกูษร์์อังกููรื

พล.อ.สััมพันธุ์์ บุุญญานันต์

พล.อ.อูดิ เบูืองบูน

พล.อ.สิิริิชััย ธุ์ัญญสิิริิ

พล.อ.วิินัย ภัททิยกุุล

พล.อ.อภิชัาต เพ็ญกิิตติ

พล.อ.กิิตติพงษ์ เกูษโกูวัิท

พล.อ.เสุถีียรื เพิมทองอินทร์์

พล.อ.วิิทวััสุ รืชัตะนันทน์

พล.อ.ทนงศัักดิ์์ อภิรัักษ์์โยธุ์ิน

พล.อ.นิพัทธุ์์ ทองเล็กู

พล.อ.สุุรืศัักดิ์์ กูาญจันรััตน์

พล.อ.ศิิริิชััย ดิิษฐ์กูุล

พล.อ.ปรีีชัา จัันทร์์โอชัา

พล.อ.ชััยชัาญ ช้้างมงคล

พล.อ.เทพพงศ์์ ทิพยจัันทร์์

พล.อ.ณััฐ์ อินทรืเจัรืิญ

ที่ปรึกษา

พล.อ.วัรืเกูียรืติ รืัตนานนท์

พล.อ.อ.สุฤษฎ์พงศั์ วััฒนวัรืางกููรื

พล.รื.อ.มนัสุวัี บููรืณัพงศั์ รื.น.

พล.อ.สุรืาวัุธุ์ รืัชัตะนาวัิน

พล.อ.สุนิธุ์ชันกู สุังขจัันทรื์

พล.อ.นุชัิต ศัรืีบูุญสุ่ง

พล.อ.จัิรืวัิทย์ เดิชัจัรืัสุศัรืี

พล.อ.อดิินันท์ ไชัยฤกูษ์

พล.อ.ไพบููลย์ วัรืวัรืรืณัปรืีชัา

พล.อ.ปรืะชัาพัฒน์ วััจันะรืัตน์

พล.ท.กูัมปนาท บูัวัชัุม

พล.ท.สุุรืศัักูดิิ์ วัรืรืณัสุมบููรืณั์

พล.ท.เจัษฎา เปรืมนิรืันดิรื

พล.ท.เรืิงฤทธุ์ิ์ บูัญญัติ

พล.ท.เดิชันิธุ์ิศั เหลืองงามขำา

พล.ท.สุมเกูียรืติ สุัมพันธุ์์

พล.ท.ภัทรืพล ภัทรืพัลลภ

พล.ท.รื่มเกูล้า ปั้นดิี

พล.ท.คมสุัน ศัรืียานนท์

พล.ท.จัิรืศัักูดิิ์ ไกูรืทุกูข์รืาง

พล.ท.ณััฐ์พล เกูิดิชัูชัื่น

พล.ต.ปพน ไชัยเศัรืษฐ์

พล.ต.พจัน์ เอมพันธุ์ุ์

พล.ต.ปรืะจัวับู จัันต๊ะมี

พล.ต.กูานต์นาท นิกูรืยานนท์

พล.ต.หญิง อิษฎา ศัิรืิมนตรืี

ผู้้อำำานวยการ

พล.ต.พัฒนชััย จิินตกูานนท์

รอำงผู้้อำำานวยการ

พ.อ.ชััยวััฒน์ สุวั่างศัรืี

พ.อ.จิิตนาถี ปุณัโณัทกู

กอำงจััดการ

ผู้้จััดการ

น.อ.กูฤษณ์์ ไชัยสุมบััติ

พ.อ.สุุวัเทพ ศิิริิสุรืณั์

พ.อ.สุาโรืจัน์ ธุ์ีรืเนตรื

ประจำำากอำงจััดการ

พ.อ.หญิง สิิริิณีี จังอาสุาชัาติ

พ.ท.ไพบููลย์ รุ่่งโรืจัน์

เหรัญญิก

พ.อ.หญิง พัชัรื์ศัรืัญย์ สุุนทรืาณัฑ์์

ฝ่่ายกฎหมาย

พล.ต.นิติน ออรุ่่งโรืจัน์

พิิสููจน ์อัักษร

พ.อ.หญิง ใจทิิพย์ อุไพพานิชั

กอำงบรรณาธิิการ

บรรณาธิิการ

น.อ.สููงศัักดิ์์ อัครืปรีีดีี รื.น.

รอำงบรรณาธิิการ

น.อ.วััฒนสิิน ปัตพี รื.น.

น.อ.หญิง ฉัันทนี บุุญปักษ์์

ผู้้ช่่วยบรรณาธิิการ

น.ท.หญิง กััญญารััตน์ ชููชัาติ รื.น.

ประจำำากอำงบรรณาธิิการ

พ.ท.หญิง ลลิดิา กล้้าหาญ

พ.ต.วััชัรืเทพย์ ปีตะนีละผลิน

รื.ต.หญิง ภัทชัญา นิตยสุุทธิ์์

พ.จั.อ.สุุพจน์์ นุตโรื

จั.ท.หญิง ศุุภรืเพ็ญ สุุพรืรืณั

กอำงบรรณาธิิการ

กูองผลิตสุือ

สำำนัักูงานเลขานุกูารื

สำำนัักูงานปลัดิกูรืะทรืวังกูลาโหม

โทรื. ๐ ๒๒๒๕ ๘๒๖๒ โทรื.ทหารื ๕๒ ๕๒๐๑๐

สุามารืถีสุ่งขอมูลและแสุดิงควัามคิดิเห็นต่างๆ

ไดิที Email: Printing.opsd@gmail.com

ISSN 0858 - 3803

9 770858 380005


ว า ร ส า ร ร า ย เ ดื อ น ส ำ นั ก ง า น ป ลั ด ก ร ะ ท ร ว ง ก ล า โ ห ม

Editor’s talk

สุวััสุดิีท่านผูอ่าน พบูกูันอีกูครืังในเดืือนสิิงหาคมหรืือเดืือนทีมี

วััน “แม่” เป็นวัันสำำคััญของชัาติ สำำาหรัับคำำาวั่า “แม่” เป็นคำาโดิดิหรืือคำาไทย

ทีบ่่งบูอกูควัามสััมพันธุ์์อันอบอุ่่นลึกซึ้้งรืะหว่่างผูหญิงกัับลููกู ... แม่ หมายถึึง

ผูมีพรืะคุณั ผูใหกูำาเนิดิ ใหนำานมลูกดื่่มกิิน ใหควัามรัักู ปกป้้องดููแลลูกู

จันเติบูใหญ่ มักูถีูกนำำาไปใช้้ร่่วัมกัับคำำาอืน ๆ โดิยมีควัามหมายแตกต่่างกัันออกูไป

ที พอจัะแบ่่งแยกูออกูได้้เป็นปรืะเภทต่าง ๆ ได้้แก่่ ในฐ์านะเป็นคำาแบ่่งแยกูเพศั

และบ่่งบูอกูบูทบูาท อาทิ ฐ์านะสุถีานภาพและอากััปกิิริิยาของผูหญิง

ฐ์านะของผูปกป้้องคุมครือง เช่่น แม่ย่านาง หรืือแมกูรืะทังยังถููกนำำามาใช้้เรีียกู

ผูเป็นหัวัหนาหรืือเป็นนาย ผูมีอำานาจัในกูารืกูำากูับูดิูแลและควับูคุม เช่่น

แม่กูอง แม่ทัพ เป็นตน หรืือในภาษาอังกูฤษยังนำาไปใช้้เรีียกูแทนโลกู

ทีเรืาอาศััยอยู่ Mother Earth จึึงนับูวั่าแม่เปรีียบูเสมืือนผูสุรืาง ผูควับูคุมหลักู

ในทางนัย อย่างแท้้จริิง หรืือถ้้าพินิจพิิจัารืณัาในรืะดัับูจัุลภาคแบูบูครือบูครััวั

สมััยใหม่ไม่ปฏิิเสุธุ์วั่า แม่บ้้าน มีบูทบูาทนำาในครือบูครััวั ทัดิเทียมพ่อบ้้าน

กัันแล้้ว

มาว่่ากัันถึึงสุถีานกูารืณั์ควัามเป็นอยู่ในปัจัจัุบััน ภายหลังจัากูทีรััฐ์บูาล

ปรืะกูาศผ่่อนคลายมาตรืกูารืโรืคโควิิดิ-19 แต่ในทางปฏิิบััติยังพบูวั่าปรืะชัากูรื

ในปรืะเทศัไทยยังคงติดิเชัือกัันอย่างต่อเนือง จำำานวันแต่ละวััน

มิได้้ลดน้้อยลง แมควัามรุุนแรืงจัะลดิลง แต่ยังส่่งผลกูรืะทบูถีึงกูารืรืวัมกลุ่่ม

ในรููปแบูบูต่าง ๆ จึึงขอส่่งควัามปรืารืถีนาดีีมายังท่านผูอ่านและครือบูครััวั

ได้้ตรืะหนักูถีึงผลกูรืะทบูดิังกล่่าวั ดิวัยกูารืรืณัรืงค์ใหสุวัมหนากูากูอนามัย

ลางมือ ใช้้ช้้อนกูลาง และไม่ควัรืเขาไปอยู่ในชุุมชัมทีแออัดินานจันเกิินไป

(หากูกูรืะทำาได้้) เพือใหเรืาดำำาเนินชีีวิิตอย่างรืาบรื่่น และนอกูจัากูสุถีานกูารืณั์

โควิิดิ-19 แล้้ว สุิงทีน่าจัะมีผลกูรืะทบต่่อกูารืดิำารืงชีีวิิตของเรืา ๆ ท่าน ๆ

อีกูปรืะกูารืหนึง นันคือกูารืเปลียนแปลงสุภาพอากูาศั Climate Change

ซีึงทรืาบูจัากูแหล่งข่าวต่่างปรืะเทศัอย่างในทวีีปยุโรืปซีึงเป็นเขตหนาวักูลับู

มีอุณัหภูมิสููงถึึง ๔๑ องศัาเซีลเซีียสุ ส่่วันในปรืะเทศัไทยเรืายังคงมี

ฟื้้าฝนคะนองรุุนแรืงสลัับูอากูาศัรือนจััดิ ซีึงอาจต้้องรืะวัังอุบััติเหตุในกูารืเดิินทาง

และเชัือโรืคทีมากัับูควัามชัืนอย่างต่อเนือง เช่่นกััน

เนือหาของหลักูเมืองฉับูับูเดืือนสิิงหาคมนี ยังคงไวัซีึงเนือหาสุารืะ

อย่างครืบูครััน เช่่น ผลกูารือนุรัักษ์์ปืนใหญ่โบูรืาณัหนาศัาลาว่่ากูารืกูลาโหม

ทีเป็นมรืดิกูทางวััฒนธุ์รืรืมอันทรืงคุณค่่าของปรืะเทศั ตามดิวัยสุถีานกูารืณั์

ควัามมันคงของโลกู เกูรื็ดิควัามรืูในด้้านกูฎหมาย และเทคโนโลยีทางกูารือาวุุธุ์

ทีน่าสุนใจัเช่่นเคย แลวัฉับูับูหนามาพบูกูันใหม่ในเดืือนส่่งทายปีงบูปรืะมาณั

ขอใหคุณัแม่ทุกท่่านมีควัามสุุขและมีสุุขภาพแข็งแรืงครัับู

๑๔

สุมเด็็จัพรืะนางเจ้้าสิิริิกิิติ พรืะบูรืมรืาชิินีนาถี

พรืะบูรืมรืาชัชันนีพันปีหลวัง

สุมเด็็จัพรืะบูรืมรืาชิินีนาถีแห่งกูรืุงรััตนโกูสุินทร์์

เสุรืิมสิิริิมงคล สุะสุมแตมบุุญ รัับูพรืทัวัไทย (ตอนที ๔)

“เหล่าสุายบุุญ สุายมู”

๑๐

๒๓ สิิงหาคม ๒๕๖๕

๕๙ ปี วัันคลายวัันสุถีาปนา โรืงงานเภสััชักูรืรืมทหารื

ศููนย์กูารอุุตสุาหกูรืรืมป้องกัันปรืะเทศัและพลังงานทหารื

๑๒

องค์กูารืสุงเครืาะห์ทหารผ่่านศึึกู

ในพรืะบูรืมรืาชููปถััมภ์ เป็นเจ้้าภาพจััดิกูารืปรืะชุุม

คณัะทำางานสุมาพันธุ์์ทหารผ่่านศึึกูอาเซีียน ครืังที ๓

๑๔

กลัับูหลังหัน...กัับพิิพิธุ์ภัณัฑ์์กูลาโหม

“กูารืดิำาเนินกูารือนุรัักษ์์ปืนใหญ่โบูรืาณั

ด้้านหนาศัาลาว่่ากูารืกูลาโหม”

๑๖

กูรืะทรืวังยุติธุ์รืรืม ร่่วัมกัับู กูรืะทรืวังกูลาโหม

และกูรืะทรืวังมหาดิไทย ลงนาม MOU

ในกูารืดิูแล แก้้ไข และฟื้ื้นฟืู้พฤติกูรืรืม

ของผูกูรืะทำผิิดิในรููปแบูบูค่ายปรัับูเปลียนพฤติกูรืรืม


๑๘

๒๐

๒๘

๒๒

๓๖

๔๔

๑๘

ควัามรัับผิิดิตามปรืะมวัลกูฎหมายอาญา

ของผูบูรืิหารืกูิจักูารืรืานอาหารื

กูรืณัีเพลิงไหมสุถีานบูรืิกูารื

๒๐

ยุทธุ์กูารืเสืือดำำาสุมรภููมิเขาคอ ตอนที ๖

แผนสัังหารืของผูก่่อกูารืรืายคอมมิวนิิสต์์

เขาคอ

๒๒

สมุุดิปกูขาวัของจีีน เรืือง “ควัามร่่วัมมือ

เพือกูารพััฒนารืะหว่่างปรืะเทศั

ของจีีนในยุคใหม่” (ตอนที ๗)

๒๖

โครืงกูารพััฒนาตนแบูบูกูลอง CCTV

ทีมีควัามปลอดภ ัยรืะดัับูรืะบูบูปฏิิบััติกูารื

แบูบู Fixed Camera

๒๘

ตุรืเคียกัับูบูทบูาทด้้านควัามมันคงโลกู

“มิติสุงครืามต่อตานกูารืกู่อกูารืรืาย”

(Terrorism in Türkiye)

๓๒

ปลายทางทีแตกต่่าง

๓๔

สุถีานะทางกูฎหมายรืะหว่่างปรืะเทศั

ของทหารืรืับูจัาง (Mercenary)

๓๖

“3 NEW : สุิงทีคนไทยควัรืรืู เพือควัามอยู่่รอดิ

และควัามสำำาเร็็จัในชีีวิิตยุคหลังโควิิดิ-19

ท่ามกูลางกูารืกูำาเนิดิขึนของโลกูใหม่

บูนดิินแดินแห่ง METAVERSE” ตอนที ๕

(ตอนจับู)

ขอคิดิเห็นและบูทควัามที นำาลงในวัารืสุารืหลักูเมืองเป็นของผูเขียน มิใช่่ขอคิดิเห็นหรืือนโยบูายของหน่วัยงานของรััฐ์ และมิไดิผูกพััน

ต่อรืาชักูารืแต่อย่างใดิ สำำนัักูงานเลขานุกูารืสุำนัักูงานปลัดิกูรืะทรืวังกูลาโหม ถีนนสุนามไชัย เขตพรืะนครื กูรืุงเทพฯ ๑๐๒๐๐

โทรื./โทรืสุารื ๐-๒๒๒๕-๘๒๖๒ http://61.19.220.3/opsd/sopsdweb/index_1.htm

พิมพ์ที : บูรืิษัท ธุ์นอรุุณักูารพิิมพ์ จำำากูัดิ ๔๕๗/๖-๗ ถีนนพรืะสุุเมรุุ แขวังบูวัรืนิเวัศั เขตพรืะนครื กูรืุงเทพฯ ๑๐๒๐๐

โทรื. ๐-๒๒๘๒-๖๐๓๓-๔ โทรืสุารื ๐-๒๒๘๐-๒๑๘๗-๘

E-mail : thanaaroon19@gmail.com ออกูแบูบู : บูรืิษัท ธุ์นอรุุณักูารพิิมพ์ จำำากูัดิ

๔๘ ๔๐

๔๐

เปิดิปรืะตูสู่่เทคโนโลยีป้องกัันปรืะเทศั

สุทป. ส่่งมอบูยานเกูรืาะลอยาง ๘x๘

แบูบู VN1 (ทีบัังคับูกูารื) ใหกูับู

กูองทัพบูกู โดิยศููนย์กูารืทหารม้้า

๔๔

นิยามแห่งควัามสำำาเร็็จั

๔๘

สุารืะน่ารืูทางกูารืแพทย์ “มารืูจัักูโรืคฝีดิาษลิง

(Monkeypox) แพร่่เชัือติดต่่ออย่างไรื”

แบูบูเจัาะลึกู

๕๐

แนะนำาอาวุุธุ์เพือนบ้้าน จัรืวัดินำาวัิถีีต่อสุูอากูาศัยาน

รืะยะสููงปานกูลางไมกูา (MICA) ทางดิิง

๕๓

ปริิศันาอักูษรืไขว้้

๕๔

โครืงกูารพััฒนาชุุมชันในเขตรัักูษาพันธุ์ุ์สุัตว์์ป่า

และอุทยานแห่งชัาติ จัังหวััดิกูาญจันบุุรีี

๕๖

เลขา...น่ารืู

๕๘

ภาพกิิจักูรืรืม


สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ ์

พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

สมเด็จพระบรมราชินีนาถแห่งกรุงรัตนโกสินทร์

พลโท ชัยวิทย์ ชยาภินันท์

ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม

มเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี

พันปีหลวง ทรงดำรงพระราชสถานะและพระอิสริยยศ

พระบรมราชินีนาถ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร

มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงพระกรุณา

โปรดเกล้าฯ ให้เฉลิมพระนามาภิไธย “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

พระบรมราชินีนาถ” เมื่อวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๔๙๙ และพระบรม

ราชชนนีพันปีหลวง ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว

โปรดเกล้าฯ ให้เฉลิมพระนามาภิไธย “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง” เมื่อวันที่ ๕

พฤษภาคม ๒๕๖๒

โดยพระราชสถานะและพระอิสริยยศ พระบรมราชินีนาถ

มีความหมายว่า พระเจ้าแผ่นดินที่เป็นผู้หญิงหรือราชินีที่ทรงเป็น

ผู้สำเร็จราชการแทนพระมหากษัตริย์โดยที่คำว่า “นาถ” มีความหมาย

4

ตามพจนานุกรมว่า “ที่พึ่ง ผู้เป็นที่พึ่ง”

จึงหมายถึง เป็นที่พึ่งของพระเจ้าแผ่นดินในการ

ช่วยปฏิบัติราชการแผ่นดิน ซึ่งในภาษาอังกฤษ

ใช้คำว่า Queen Regent สำหรับสมเด็จ

พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงได้

รับโปรดเกล้าฯ ในคราวที่พระบาทสมเด็จ

พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช

มหาราช บรมนาถบพิตร ทรงผนวชระหว่าง

วันที่๒๒ ตุลาคมถึงวันที่๕ พฤศจิกายน ๒๔๙๙

และทรงเป็นสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม

ราชินีนาถ พระองค์ที่ ๒ ของกรุงรัตนโกสินทร์

ต่อจาก สมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ

พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

สำหรับพระราชสถานะ และพระ

อิสริยยศ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีความ

หมายว่า พระมเหสีของพระมหากษัตริย์

พระองค์ก่อน และเป็นพระราชชนนีของ

พระมหากษัตริย์พระองค์ปัจจุบัน

ทั้งนี้ ผู้เขียนขออัญเชิญพระราชประวัติ

และพระราชกรณียกิจสำคัญของ สมเด็จ

พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

เพื่อให้ทุกท่านได้กรุณาทราบและปลื้มปีติ กล่าวคือ

พลโท ชัยวิทย์ ชยาภินันท์


๑. พระราชประวัติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระราชสมภพ

เมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๔๗๕ เป็นธิดาในพระวรวงศ์เธอ กรมหมื่น

จันทบุรีสุรนาถ (หม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร) กับหม่อมหลวง

บัว กิติยากร พระนาม “สิริกิติ์” ได้รับพระราชทานจากพระบาท

สมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว มีความหมายว่า “ผู้เป็นศรีแห่ง

กิติยากร”

ทรงเข้ารับการศึกษาครั้งแรกในชั้นอนุบาลที่โรงเรียนราชินี

ชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาที่โรงเรียนเซนต์ฟรังซีสซาเวียร์

คอนแวนต์ โดยเมื่อวันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๔๙๒ พระบาทสมเด็จ

พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

ทรงหมั้นหมายกับ หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ (พระอิสริยยศในขณะนั้น)

ณ โรงแรมวินเซอร์ เมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และเมื่อ

วันที่ ๒๘ เมษายน ๒๔๙๓ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัด

พระราชพิธีราชาภิเษกสมรส ณ วังสระปทุม ต่อมาในการพระราชพิธี

ราชาภิเษกสมรสตามโบราณราชประเพณี เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม

๒๔๙๓ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาเฉลิมพระอิสริยยศ

เป็น “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินี”

๒. พระราชกรณียกิจ

๒.๑ ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรป่าไม้

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ได้ทรงงานเสริมเป็นหนึ่งเดียวกับ

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช

บรมนาถบพิตร มาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะงานด้านการอนุรักษ์

ทรัพยากรป่าไม้และป่าต้นน้ำลำธาร ที่ทรงตระหนักถึงปัญหาที่เกิด

จากการขยายตัวของชุมชนและการอพยพย้ายถิ่นฐานของชุมชน

ชาวไทยภูเขา จึงทรงมีพระราชปณิธานที่มุ่งมั่นในการอนุรักษ์ทรัพยากร

ป่าไม้ เพื่อให้เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร เป็นแหล่งอาหาร ฟื้นคืนวัฏจักร

แห่งธรรมชาติที่วิกฤตให้คืนกลับสู่ความสมดุล นอกจากนี้ยังทรง

ตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำ ซึ่งเป็นทรัพยากรที่ล้ำค่า

ก่อให้เกิดความชุ่มชื้นแก่ผืนดิน ทำให้ทุกชีวิตได้อาศัยอยู่อย่างผาสุก

โดยทรงชักชวนราษฎรปลูกป่าเพื่ออนุรักษ์ต้นน้ำลำธารอย่าง

ถูกวิธีโดยพระราชทานชื่อโครงการว่า “ป่ารักน้ำ” เริ่มปลูกป่าครั้งแรก

เมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๒๕ ณ บ้านถ้ำติ้ว อำเภอส่องดาว

จังหวัดสกลนคร และได้ขยายโครงการไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ

นอกจากนี้ยังพระราชทานโครงการตามแนวพระราชดำริต่าง ๆ

หลักเมือง สิงหาคม ๒๕๖๕

5


อาทิ “โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่” เริ่มดำเนินโครงการครั้งแรกที่

ป่าอมก๋อย อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ “โครงการอนุรักษ์

ธรรมชาติและสัตว์ป่าสวนป่าพระนามาภิไธย” ในพื้นที่จังหวัดสงขลา

และจังหวัดสตูล เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่าควบคู่ไป

กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนที่ยากไร้ ด้วยทรงเล็งเห็น

ถึงความสัมพันธ์ของมนุษย์กับธรรมชาติ

๒.๒ ด้านศิลปาชีพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ทรงตระหนัก

ว่า งานหัตถกรรมพื้นบ้านหลายประเภทที่เป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น

และเป็นศิลปะอันทรงคุณค่าเฉพาะของชาติไทยกำลังสูญหาย

ไม่มีการสืบต่อ จึงทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้ง “มูลนิธิศิลปาชีพพิเศษ

ในพระบรมราชินูปถัมภ์” และต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “มูลนิธิส่งเสริม

ศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ” เพื่อสร้าง

อาชีพผสมผสานทั้งอาชีพทางการเกษตรและการผลิตสินค้าประเภท

ศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน ซึ่งเป็นการสร้างรายได้ให้แก่ราษฎร

ตลอดจนเพื่ออนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยไว้เป็นมรดกของปวงชน

ชาวไทยสืบไป โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ขยายงานศิลปาชีพ

ไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีศูนย์ศิลปาชีพ

จำนวน ๑๔๑ แห่ง

นอกจากทรงงานศิลปาชีพในชนบทแล้ว สมเด็จพระนางเจ้า

สิริกิติ์ฯ ยังพระราชทานโอกาสแก่ประชาชนให้เข้ามาฝึกหัตถศิลป์

ในโรงฝึกศิลปาชีพ ณ สวนจิตรลดา ทำให้เกิดเป็นผลงานในระดับ

วิจิตรศิลป์ขั้นสูงสุดของชาติออกแสดงหลายครั้ง นับตั้งแต่ปี

พุทธศักราช ๒๕๓๒ เป็นต้นมา

๒.๓ ด้านการศึกษา ในระหว่างการเสด็จพระราชดำเนิน

แปรพระราชฐานไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ทรงพบว่ายังมีเด็กจำนวนมาก

ที่ไม่มีโอกาสเรียนหนังสือ จึงมีหลายครั้งที่ทรงสอน อ่าน เขียน ทรง

เล่านิทานหรือเรื่องราวน่ารู้พระราชทานแก่เด็ก ๆ เหล่านี้ด้วย

พระองค์เอง และทรงจัดตั้งแผนกนักเรียนในพระบรมราชานุเคราะห์

เพื่อให้เด็กและเยาวชน ได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียน สอดคล้องกับ

พระราชดำรัสที่แสดงถึงพระราชดำริอันกว้างไกลในด้านการศึกษา

6

ทำให้เกิดเป็นโครงการตามแนวพระราชดำริด้านการศึกษา อาทิ

ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดตั้ง “ศาลารวมใจ” ในลักษณะห้องสมุด

อเนกประสงค์ในหมู่บ้านต่าง ๆ ทรงรับมูลนิธิช่วยเหลือนักเรียนที่

ขาดแคลนไว้ในพระราชินูปถัมภ์พระราชทานพระราชานุเคราะห์ให้

ครอบครัวในชนบทมีอาชีพเสริมเพิ่มเติมนอกเหนือจากอาชีพหลัก

เพื่อเพิ่มพูนรายได้สำหรับเป็นทุนให้บุตรหลานได้มีโอกาสศึกษา

เล่าเรียน

๒.๔ ด้านการทหาร ทรงดำรงตำแหน่ง พันเอกผู้บังคับการ

พิเศษ กรมทหารราบที่ ๒๑ รักษาพระองค์ ทรงให้ความสนพระทัย

ต่อการดำเนินงานของกรมทหารราบที่ ๒๑ รักษาพระองค์ตลอดมา

โดยผู้บังคับการกรมทหารราบที่ ๒๑ จะเข้ามาถวายรายงานถึงผล

การปฏิบัติงานพร้อมกับรับพระราชเสาวนีย์ตลอดจนคำแนะนำไป

ดำเนินการปฏิบัติอยู่เป็นประจำ และในปี พ.ศ.๒๕๓๕ พระบาท

สมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช

บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระยศ

จอมพลหญิง จอมพลเรือหญิง และ จอมพลอากาศหญิง ตามที่

กระทรวงกลาโหมทูลเกล้าฯ ถวาย

๒.๕ ความช่วยเหลือในสถานการณ์โควิด-19 เนื่องจาก

สถานการณ์ที่มีผู้ป่วยโควิด-19 บางส่วนที่มีความจำเป็นต้องเข้ารับ

การผ่าตัด เข้ารับการตรวจพิเศษด้วยโรคอื่น ๆ หรือการคลอดบุตร

ดังนั้น บุคลากรทางการแพทย์จึงมีความจำเป็นต้องมีชุดป้องกัน

พลโท ชัยวิทย์ ชยาภินันท์


การติดเชื้อที่มีมาตรฐาน คือชุดอุปกรณ์ปกป้องทางเดินหายใจ

แบบอากาศบริสุทธิ์ (Powered Air Purifying Respirator : PAPR)

เพื่อใช้สำหรับปฏิบัติงานประจำห้องผ่าตัด

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี

พันปีหลวง ทรงเห็นถึงความสำคัญจึงทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ

พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์จัดหาชุด PAPR รวมทั้งสิ้น

จำนวน ๖๒๐ ชุด มูลค่า ๒๗,๔๕๓,๒๕๗ บาท เพื่อปกป้องคุ้มครอง

บุคลากรทางการแพทย์ให้ปลอดภัยจากโควิด-19 สร้างความปลื้มปีติ

แก่ผู้ป่วย แพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ ต่างล้วนสำนึกใน

พระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น ดังนี้

๑) โรงพยาบาลประจำจังหวัดในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข

จำนวน ๗๖ จังหวัด

๒) โรงพยาบาลในสังกัดกรุงเทพมหานคร จำนวน ๔๘ ชุด

๓) โรงพยาบาลในสังกัดกองทัพบก จำนวน ๙ แห่ง

๔) โรงพยาบาลในสังกัดกองทัพเรือ จำนวน ๒ แห่ง

๕) โรงพยาบาลในสังกัดกองทัพอากาศ จำนวน ๓ แห่ง

๖) โรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน

๑ แห่ง

๓. ทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญสดุดี

จากการทรงงานมาอย่างต่อเนื่องของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตลอดมานั้น ทำให้

ทรงได้รับการถวายรางวัลในระดับนานาชาติมากมาย อาทิ

๓.๑ องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ

(Food and Agriculture Organization of the United Nation

: FAO) ทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญเซเรส (Ceres) เมื่อวันที่ ๑๑

พฤษภาคม ๒๕๒๒ เฉลิมพระเกียรติในฐานะที่ทรงเป็นสตรีดีเด่น

ทรงอุทิศพระองค์เพื่อพัฒนาสตรีและประชาชนในชนบท

๓.๒ สหพันธ์พิทักษ์เด็ก (Save the Children Federation)

ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลเกียรติคุณของสหพันธ์พิทักษ์เด็ก First

Distinguished Service Award เมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๒๔

เนื่องมาจากพระราชกรณียกิจที่ทรงช่วยเหลือผู้ยากไร้ในชนบท

ผู้ลี้ภัยและเด็ก ถือเป็นรางวัลสูงสุดของสหพันธ์ฯ และเพื่อ

เฉลิมพระเกียรติเป็นพระองค์แรก

หลักเมือง สิงหาคม ๒๕๖๕

๓.๓ กองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ(United Nations

Children’s Fund : UNICEF) ทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญพิเศษ UNICEF

Special Recognition Award เมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๓๕

เนื่องจากได้ทรงสนพระทัยอย่างลึกซึ้ง และทรงอุทิศพระองค์ในการ

เพิ่มพูนคุณภาพชีวิตของแม่และเด็กในประเทศไทย ซึ่งเป็นเหรียญ

ซึ่งเคยมอบให้องค์การแต่ไม่เคยมอบให้บุคคลมาก่อน

๓.๔ กองทุนสหประชาชาติเพื่อการพัฒนาสตรี (The

United Nations Development Fund for Women : UNIFEM)

ทูลเกล้าฯ ถวายรางวัลที่มีชื่อว่า UNIFEM Award of Excellence

รางวัลแห่งความเป็นเลิศจากยูนิเฟม เมื่อวันที่ ๒ สิงหาคม ๒๕๓๕

ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงมุ่งมั่นสนับสนุนบทบาทสตรี

ในการพัฒนาประเทศ

เนื่องในวันที่๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๕ ซึ่งเป็นโอกาสมหามงคล

เฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผู้เขียนจึงขอเรียน

เชิญพสกนิกรไทยทุกท่านและทุกหมู่เหล่า ร่วมบำเพ็ญคุณงาม

ความดีและร่วมจิตใจ น้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลและถวาย

พระพรชัยมงคล ขอสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ ์ พระบรมราชินีนาถ

พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงพระเจริญยิ่งยืนนานด้วยเทอญ

7


เสริมสิริมงคล

สะสมแต้มบุญ รับพรทั

“เหล่าสายบุญ สายมู”

่วไทย (ตอนที ่ ๔)

สำนักงานเลขานุการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม

ารสารหลักเมืองฉบับเดือนนี้

พาท่านผู้อ่านมาขอพร

พระพิฆเนศ วัดป่าแดด ตำบลป่าแดด

อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เสริม

ความปัง หลายคนอาจเพิ่งเคยได้ยิน

ชื่อวัดแห่งนี้ แต่สำหรับคนที่เป็นสายมู

ตัวจริงนั้นรู้จักดีและไม่พลาดที่จะมา

ที่นี่อย่างแน่นอน เพราะหลายคนนิยม

มาขอพรจากองค์พระพิฆเนศ ต่างก็

สมหวังกันไปหลายราย

เดิม วัดป่าแดด มีชื่อว่า วัดดอนแก้ว

เนื่องจากมีสภาพพื้นที่เป็นเนินสูง

และมีต้นพิกุล (ต้นดอกแก้ว) ขึ้นอยู่

เต็มไปหมด และจากคำบอกเล่าต่อ ๆ

กันมาว่า ในสมัยที่พญามังราย

สถาปนาเวียงกุมกามเป็นเมืองหลวงแห่งแรกของล้านนาในบริเวณ

ที่ราบลุ่มริมแม่น้ำปิง (สายเดิม) ทำให้สถานที่ตั้งของวัดดอนแก้ว

ในอดีตใช้เป็นอุโบสถสำหรับให้นักโทษประหารหรือเชลยศึกได้ฟังเทศน์

ฟังธรรมเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะถูกประหาร โดยจะอาราธนา

พระมหาเถระจากวัดในเวียงกุมกามราชธานีพายเรือข้ามฝั่งแม่น้ำปิง

มาเทศน์โปรด

เมื่อเวลาผ่านไปหลายร้อยปี อุโบสถหลังเดิมผุพังลงจนไม่เหลือ

วัดดอนแก้วจึงถูกสร้างขึ้นใหม่อีกครั้งใน พ.ศ.๒๓๔๕ จวบจนมาถึง

ปัจจุบันชื่อวัดดอนแก้วได้เปลี่ยนมาเป็นวัดป่าแดดเนื่องจากบริเวณ

วัดเป็นป่าทึบ ในยามเย็นจะมีฝูงนกแสดหรือนกแสก ร้องเสียงดัง

ไปทั่ว จนชาวบ้านเรียกขานว่าเป็นป่านกแสด และเรียกเพี้ยนกันต่อ

มากลายเป็นชื่อวัดป่าแดดจนบัดนี้

หอมหาเทพบูรพาจารย์ หรือวิหารพระพิฆเนศ สร้างด้วย

สถาปัตยกรรมล้านนา ซึ ่งเป็นอาคารปูนยกพื้นสูง สถาปัตยกรรม

ล้านนา ภายในทาสีแดงชาดทั้งหมด เป็นที่ประดิษฐานพระพิฆเนศ

นามว่า “อุตรศรีคณปติ” แปลว่า ผู้ประทานความสำเร็จในทางทิศ

เหนือ ซึ่งสร้างจากโลหะสัมฤทธิ์รมดำ มีสี่พระกร ทรงวัชระ บ่วง งา

และถ้วยขนม ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของพระวิหารหลวง ก่อนจะนำเครื่อง

พลีกรรมนั้นขึ้นไปด้านบนหอ เพื่อกล่าวคำบูชาและอธิษฐานขอพร

หน้าศิวลึงค์ เสร็จแล้วนำเครื่องพลีกรรมนั้นไปวางหน้าแท่นพิธี

หน้าองค์พระพิฆเนศ แล้วสั่นกระดิ่งดัง ๆ ๙ ครั้ง จากนั้นลงมาลอด

ท้องพระพิฆเนศหรือเดินวนลอดใต้หอมหาเทพฯ โดยอ้อมมาทาง

8

สำนักงานเลขานุการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม


ด้านหลังนั่นเอง บริเวณใต้หอมหาเทพฯ จะเป็นบ่อน้ำทิพย์ ซึ่งเป็นบ่อน้ำ

เก่าแก่ของวัด เราจะเดินวนตามลูกศร ๓ รอบด้วยกันเข้าไปลอดท้อง

องค์พระพิฆเนศทางด้านหลัง แล้วเข้าไปขอพรโดยกระซิบที่หูหนู

บริวารและพาหนะที่คอยรับใช้องค์พระพิฆเนศ หากกระซิบหูซ้าย

ให้ปิดหูขวา กระซิบหูขวาให้ปิดหูซ้าย เมื่ออธิษฐานเสร็จแล้ว

ตักน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์เทลงบนศิวลึงค์ แล้วเอาฝ่ามือรองรับน้ำมนต์มา

ลูบศีรษะ

ผู้ที่มาเยือนวัดป่าแดด แม้ไม่ได้ตั้งใจมาบนบานขอพรใด ๆ แต่

หากได้มาชมวัดงาม ๆ และได้มากราบองค์พระพิฆเนศ ก็คุ้มค่า

ไม่น้อยเลยทีเดียว โดยนอกจากวิหารหลวงลายคำและหอมหาเทพ

บูรพาจารย์แล้ว ก็ยังมีพระเจดีย์ที่ตั้งอยู่ด้านหลังพระวิหาร มีฐาน

สี่เหลี่ยมยกสูงและซุ้มประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิทั้งสี่ด้าน

นอกจากนี้ยังมีเจดีย์ขนาดเล็ก ๘ องค์ ประดับอยู่บนฐานเจดีย์

องค์เจดีย์นั้นเป็นทรงระฆังสีทอง ส่วนยอดประดับด้วยฉัตรเจ็ดชั้น

ปัจจุบัน ท่านพระครูปลัดนันทวัฒน์ (พระอาจารย์พยุงศักดิ์

ธีรธมฺโม) หรือครูบาคัมภีรธรรม เป็นเจ้าอาวาสวัดป่าแดด ท่านเป็น

พระเกจิอาจารย์ พระวิปัสสนาจารย์ของเมืองเชียงใหม่ที่มีชื่อเสียง

รูปหนึ่ง นอกจากท่านจะปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานจนมีสานุศิษย์

มากมายแล้ว ท่านยังเป็นที่เจริญศรัทธาเลื่องลือในเลขยันต์วัตถุ

มงคลสายล้านนา เทียน ตะกรุดที่สืบมาจากครูบาอาจารย์ แผ่นยันต์

ล้านนาที่ท่านจารด้วยมือทุกแผ่น ตะกรุดมหาหวาน ที่เหล่าศิลปิน

ดาราในวงการบันเทิงต่างเเสวงหาไว้ครอบครอง นอกจากนี้

เหรียญพระพิฆเนศ เหรียญครูบาศรีวิชัย พระพุทธสิหิงค์ลอยองค์

ท้าวเวสสุวรรณ รุ่น ๑ ตะกรุดสาริกาคู่ และเเมลงภู่คำ ต่อเงิน

ต่อทอง ก็เป็นเครื่องรางของมงคลเป็นที่ต้องการของลูกศิษย์ลูกหา

ที่นิยมชมชอบ

สายมูเตลูไม่ควรพลาดต้องมาขอพร “องค์พระพิฆเนศ”

เทพแห่งความสำเร็จ ผู้ขจัดอุปสรรคปัญหา หากท่านผู้อ่านมีโอกาส

ได้เดินทางไปเที่ยวที่จังหวัดเชียงใหม่ ไม่ควรพลาดที่จะมารับพลังบุญ

ความเป็นสิริมงคลที่วัดแห่งนี้กันนะคะ

อ้างอิง

https://thai.tourismthailand.org/Attraction/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%

E0%B8%94%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0

%B8%94%E0%B8%94

https://mgronline.com/travel/detail/9640000103807

ที่มาของภาพ : httpspantip.comtopic41178309, httpstoday.line.methv2articlegzG2qmZ,

httpstoday.line.methv2articleQw2J3Wr, httpswww.reviewchiangmai.com

หลักเมือง สิงหาคม ๒๕๖๕

9


๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๕

๕๙ ปี วันคล้ายวันสถาปนา โรงงานเภสัชกรรมทหาร

ศูนย์การอุตสาหกรรมป ้องกันประเทศและพลังงานทหาร

โรงงานเภสัชกรรมทหารฯ

พลตรีหญิง อิษฎา ศิริมนตรี

ผู้อำนวยการโรงงานเภสัชกรรมทหาร

ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร

รงงานเภสัชกรรมทหารฯ เป็นโรงงานผลิตยาและเวชภัณฑ์ของ

กระทรวงกลาโหม เป็นหน่วยขึ้นตรงของศูนย์การอุตสาหกรรม

ป้องกันประเทศและพลังงานทหาร สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม

มีหน้าที่ดำเนินการศึกษาค้นคว้า วิจัยและพัฒนายา การผลิตยาและ

เวชภัณฑ์ที่จำเป็นในภาวะปกติและภาวะฉุกเฉิน สนับสนุนกระทรวง

กลาโหม ส่วนราชการอื่นและประชาชน มีหลักนิยมในการทำงานคือ

“คุณภาพ ทันเวลา คุ้มทุน” กำลังพลยึดมั่นใน “ความโปร่งใส ซื่อสัตย์

สามัคคี มีคุณธรรม” ภายใต้ปณิธานร่วมกันว่า “ผลิตยาคุณภาพ

เพื่อกองทัพและประชาชน”

ตลอดระยะเวลา ๕๙ ปี โรงงานเภสัชกรรมทหารฯ มีความมุ่งมั่น

ในการดำรงไว้ซึ่งความมั่นคงแห่งชาติด้านยา ภายใต้วิสัยทัศน์ “เป็น

หลักประกันหนึ่งของความมั่นคงแห่งชาติด้านยา” (To be the

Defence Pharmaceutical Center to guarantee the National

Medicine Security) ดำรงขีดความสามารถในการสนับสนุนกองทัพ

และประเทศชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในยามปกติและยาม

ไม่ปกติ ได้แก่ การผลิตยาแผนปัจจุบันและยากำพร้า อาทิ ยาฉีด

ฟีนอล (Phenol) ยาวิจัยเพื่อความมั่นคง ได้แก่ ยาฉีดอะโทรปีน

(Atropine) สำหรับต้านพิษแก็สซาริน (Sarin) และยาซูโดอีเฟดรีน

สนับสนุนให้กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เพื่อป้องกัน

การนำไปใช้ในทางที่ผิด ยาเวชกรรมป้องกันและผลิตภัณฑ์ทางการ

ทหาร เช่น ผงโรยเท้า (Foot Powder) โลชั่นทากันยุง (Insect

Repellant Milky Lotion) ผงโรยในร่มผ้าสำหรับป้องกันและรักษา

เชื้อราในร่มผ้า (DPF Powder) และผลิตภัณฑ์สีพรางหน้า ยาสมุนไพร

10

โรงงานเภสัชกรรมทหารฯ


เพื่อสนับสนุนการพึ่งพาตนเองที่สำคัญ เช่น ยาแคปซูลขมิ้นชัน

ฟ้าทะลายโจร และยาครีมน้ำมันไพล

ปัจจุบัน โรงงานเภสัชกรรมทหาร ได้รับการรับรองมาตรฐาน

วิธีการผลิตยาที่ดีในระดับสากล PIC/S GMP สำหรับยาแผนปัจจุบัน

มาตรฐาน GMP สำหรับยาสมุนไพรและมาตรฐาน GMP สำหรับวัตถุ

อันตราย ในด้านการควบคุมคุณภาพยาที่ผลิต หน่วยได้รับการรับรอง

ความสามารถห้องปฏิบัติการ ISO/IEC 17025:2017 อีกทั้งยังได้มี

การเตรียมความพร้อมสำหรับการตรวจรองรับมาตรฐาน GDP หรือ

หลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการจัดส่งผลิตภัณฑ์จากสำนักงาน

คณะกรรมการอาหารและยา เพื่อให้ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์มั่นใจว่าจะได้รับ

ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพจากโรงงานเภสัชกรรมทหารฯ ตั้งแต่ขั้นตอน

การผลิตไปจนถึงขั้นตอนสุดท้ายในการขนส่งผลิตภัณฑ์

การประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ และการสร้างความสัมพันธ์ที่

ยั่งยืนกับหน่วยลูกค้า ได้แก่ การเยี่ยมหน่วยลูกค้าเหล่าทัพ การจัดงาน

มอบรางวัลหน่วยงานสนับสนุนผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ

(ยาและเวชภัณฑ์) การประชาสัมพันธ์หน่วยและผลิตภัณฑ์อย่าง

ต่อเนื่อง ตลอดจนการสนับสนุนแอลกอฮอล์สำหรับการป้องกันการ

แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ให้กับกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ

การสร้างพันธมิตรด้านวิชาการกับคณะเภสัชศาสตร์ของ

มหาวิทยาลัยต่าง ๆ การทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในด้านการวิจัย

และพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาและเวชภัณฑ์ที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วน

ประกอบกับองค์การสุรา กรมสรรพสามิต และมีความคืบหน้าของ

บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) “การวิจัยและพัฒนากัญชาเพื่อ

การแพทย์” ระหว่าง สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กับ

มหาวิทยาลัยรังสิต และกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์

ทางเลือก โดยปัจจุบันมีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตำรับแรกคือตำรับยา

ทำลายพระสุเมรุและอยู่ระหว่างการผลิตยาตำรับน้ำมันกัญชาสูตร

อาจารย์เดชาเพื่อจัดจำหน่ายให้แก่สถานพยาบาลที่ได้รับใบอนุญาต

จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภทที่ ๕ เฉพาะกัญชาต่อไป

การดำเนินงานของโรงงานเภสัชกรรมทหารฯ มีการเจริญเติบโต

อย่างต่อเนื่อง ผลของการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการ

ดำเนินการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของโรงงานเภสัชกรรมทหารฯ ส่งผลให้

ผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ.

๒๕๖๔ เงินทุนหมุนเวียนโรงงานเภสัชกรรม

ทหารฯ สามารถสร้างยอดขายและผลกำไร

กลับคืนสู่ประเทศชาติได้อย่างต่อเนื่อง

โรงงานเภสัชกรรมทหารฯ ขอให้ความ

มั่นใจว่า หน่วยจะดำรงการพัฒนาขีดความ

สามารถทุกด้านอย่างต่อเนื่อง กำลังพล

ทุกนายพร้อมที่จะปฏิบัติงานอย่างทุ่มเท

เสียสละ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ประเทศชาติ

กองทัพและประชาชนตลอดไป

หลักเมือง สิงหาคม ๒๕๖๕

11


องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก

ในพระบรมราชูปถัมภ์ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม

คณะทำงานสมาพันธ์ทหารผ่านศึกอาเซียน ครั้งที ่ ๓

กองประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก

ระชาคมอาเซียน หรือ ASEAN Community เป็นองค์การ

ระหว่างประเทศที่เกิดจากการรวมตัวกันของประเทศในทวีป

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงยุคสงครามเย็น ปัจจุบันมีประเทศ

สมาชิกทั้งหมด ๑๐ ประเทศ ได้แก่บรูไนดารุสซาลาม ราชอาณาจักร

กัมพูชา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชน

ลาว สหพันธรัฐมาเลเซีย สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา สาธารณรัฐ

ฟิลิปปินส์ สาธารณรัฐสิงคโปร์ ประเทศไทย และสาธารณรัฐ

สังคมนิยมเวียดนาม ได้ร่วมกันเสริมสร้างรากฐานความมั่นคงให้กับ

ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยปรากฏชัดในเรื่องของการ

ประสานความร่วมมือด้านต่าง ๆ อย่างเข้มแข็ง

สมาพันธ์ทหารผ่านศึกอาเซียน หรือ Veterans Confederation

of ASEAN Countries ได้ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.๒๕๒๓ โดย

องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ร่วมก่อตั้ง

สมาพันธ์ฯ มีผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ดำรง

ตำแหน่งเป็นรองประธานสมาพันธ์ฯ ประจำประเทศไทย สมาพันธ์

ทหารผ่านศึกอาเซียน มีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดี

ระหว่างประเทศในกลุ่มอาเซียน และเพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสารและ

ความคิดเห็นร่วมกัน อีกทั้งให้การช่วยเหลือซึ่งกันและกันในด้านการ

ให้การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกและเหยื่อสงคราม ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี

ด้านสุขภาพและสังคม ตลอดจนเพื่อส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจอันดี

เกิดความสงบสุขและความเจริญรุ่งเรืองแก่ภูมิภาคนี้ โดยในแต่ละปี

12

จะมีการจัด “การประชุมคณะกรรมการบริหารสมาพันธ์

ทหารผ่านศึกอาเซียน” เพื่อหารือญัตติและขับเคลื่อนกิจกรรมต่าง ๆ

ของสมาพันธ์ฯ ที่ได้มีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และจะนำญัตติ

ของการประชุมไปรับรองใน “การประชุมสมัชชาสมาพันธ์ทหารผ่านศึก

อาเซียน”

โดยในปี ๒๕๖๔ การประชุมสมัชชาสมาพันธ์ทหารผ่านศึก

อาเซียน ครั้งที่ ๒๐ ที่มีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามเป็นเจ้าภาพ

ในการจัดการประชุมในรูปแบบการประชุมทางไกล มีมติอย่างเป็น

เอกฉันท์ให้ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์

เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะทำงานสมาพันธ์ทหารผ่านศึก

อาเซียน การประชุมคณะกรรมการบริหารสมาพันธ์ทหารผ่านศึก

อาเซียน ครั้งที่ ๓๔ และการประชุมสมัชชาสมาพันธ์ทหารผ่านศึก

อาเซียน ครั้งที่๒๑ ประจำปี ๒๕๖๕ ขึ้นที่ประเทศไทย โดยองค์การ

กองประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการ องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก


สงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้กำหนดจัดการ

ประชุมคณะทำงานสมาพันธ์ทหารผ่านศึกอาเซียน ครั้งที่ ๓ ขึ้น

ระหว่างวันที่๑๐ - ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๖๕ ณ โรงแรมดุสิตธานีพัทยา

อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรีบทบาทของ “สมาพันธ์ทหารผ่านศึก

อาเซียน” ที่เข้มแข็ง ทำให้ประเทศสมาชิกได้รับทราบข้อมูลด้านการ

สงเคราะห์และเชิดชูเกียรติทหารผ่านศึกที่สำคัญและเป็นประโยชน์

พร้อมทั้งเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงาน

ทหารผ่านศึกในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก

ในพระบรมราชูปถัมภ์ สามารถนำแนวทางต่าง ๆ มาพัฒนาการ

สงเคราะห์ทหารผ่านศึกของประเทศไทยให้ทัดเทียมกับนานา

ประเทศในภูมิภาคอาเซียน ถึงแม้จะอยู่ท่ามกลางสถานการณ์การ

แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) แต่

ภาคีสมาชิกทั้ง ๑๐ ประเทศ จะยังคงมุ่งมั่นและตั้งใจ เพื่อให้ประเทศ

สมาชิกได้รับประโยชน์ร่วมกัน รวมถึงผลักดันให้สมาพันธ์

ทหารผ่านศึกอาเซียนเป็นองค์กรระหว่างประเทศที่มีบทบาทและ

ส่วนร่วมในประชาคมอาเซียนต่อไป

โดยเมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๕ องค์การสงเคราะห์

ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์ในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุม

สมาพันธ์ทหารผ่านศึกอาเซียน ประจำปี ๒๕๖๕ กำหนดจัดการ

ประชุมคณะทำงานสมาพันธ์ทหารผ่านศึกอาเซียน ครั้งที่ ๓ โดยมี

พลเอก สัณทัศน์ นันทิภาคย์หิรัญ ผู้อำนวยการองค์การสงเคราะห์

ทหารผ่านศึก/ประธานสมาพันธ์ทหารผ่านศึกอาเซียน เป็นประธาน

การประชุม ณ โรงแรมดุสิตธานี พัทยา อำเภอบางละมุง จังหวัด

ชลบุรี

สำหรับการประชุมคณะทำงานสมาพันธ์ฯ (Working Committee

Meeting : WCM) ได้จัดขึ้นก่อนการประชุมคณะกรรมการ

บริหารสมาพันธ์ฯ ครั้งที่ ๓๔ และการประชุมสมัชชาสมาพันธ์ฯ

ครั้งที่๒๑ อย่างน้อย ๓ เดือน โดยมีภาคีสมาชิกสมาพันธ์ฯ ในภูมิภาค

เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้ง ๑๐ ประเทศ ส่งผู้แทนเข้าร่วมการ

ประชุม มีร่างญัตติเพื่อหารือที่สำคัญซึ่งจะนำเสนอที่ประชุมคณะ

กรรมการบริหารสมาพันธ์ฯ ครั้งที่ ๓๔ พิจารณาและลงมติเห็นชอบ

ในการประชุมสมัชชาสมาพันธ์ฯ ครั้งที่ ๒๑ รวมถึงรูปแบบการจัด

กิจกรรมในห้วงของการประชุม ที่มีกำหนดจัดขึ้นในห้วงเดือน

ธันวาคม ๒๕๖๕ ต่อไป

หลักเมือง สิงหาคม ๒๕๖๕

13


กลับหลังหัน...กับพิพิธภัณฑ์กลาโหม

“การดำเนินการอนุรักษ์

ปืนใหญ่โบราณด้านหน้าศาลาว่าการกลาโหม”

พิพิธภัณฑ์ศาลาว่าการกลาโหม

ลาย ๆ ท่านอาจทราบเรื่องของการดำเนินการอนุรักษ์ปืนใหญ่

จำนวน ๔๐ กระบอกที่ตั้งอยู่ด้านหน้าศาลาว่าการกลาโหมกัน

มาบ้างแล้ว จากทั้งทางเพจของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมเอง

และทางเพจพิพิธภัณฑ์แต่บางท่านอาจมีข้อสงสัยว่าขั้นตอนและวิธีการ

ในการอนุรักษ์ มีการดำเนินการอย่างไรบ้าง ในวันนี้ผู้เขียนจะมา

เล่าให้ฟัง รับรองว่าทุกท่านได้รับความรู้ที่น่าสนใจและมีประโยชน์

อย่างแน่นอน...

ก่อนอื่นต้องอธิบายให้ผู้อ่านได้ทราบก่อนว่า ปืนใหญ่ทั ้ง ๔๐

กระบอกที่ตั้งด้านหน้าอาคารนั้น แต่เดิมตั้งอยู่ภายในพระบรมมหาราชวัง

มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๑ ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๔ มีการปรับปรุง

ภายในพระบรมมหาราชวังครั้งใหญ่ จึงได้มีการเคลื่อนย้ายปืนใหญ่

บางส่วนออกมาเก็บรักษาไว้ที่กรมช่างแสงวังหน้า (พิพิธภัณฑสถานแห่ง

ชาติปัจจุบัน) ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ ๖ ในปี พ.ศ.๒๔๖๐ พระองค์ได้

โปรดเกล้าฯ ให้นำปืนใหญ่เหล่านั้นมาจัดตั้งด้านหน้าศาลายุทธนาธิการ

(ศาลาว่าการกลาโหมในปัจจุบัน) ตามแบบอย่างโรงเรียนนายร้อยทหารบก

แซนด์เฮิร์สต์ ประเทศอังกฤษ และถือเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งแห่งแรก

ของประเทศไทย ในครั้งแรกที่ถูกนำมาจัดตั้งด้านหน้าศาลายุทธนา-

14

พิธีบวงสรวงป้ายกระทรวงกลาโหมและส่วนจัดแสดงปืนใหญ่บริเวณด้านหน้ากระทรวงกลาโหม

เมื่อวันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๖๕ ที่ผ่านมา

ธิการนั้น ปืนใหญ่มีจำนวนถึง ๙๐ กระบอก และต่อมาปืนใหญ่ถูก

เคลื่อนย้ายและเปลี ่ยนแปลงทั้งหมดถึง ๖ ครั้ง โดยครั้งล่าสุดคือ

ครั้งที่ ๖ ในปี พ.ศ.๒๕๔๗ และในปัจจุบันมีปืนใหญ่ด้านหน้า

ศาลาว่าการกลาโหมทั้งสิ้นจำนวน ๔๐ กระบอก

ทำความสะอาดปืนใหญ่ด้วยการใช้แปรงปากกาทองเหลือง

พิพิธภัณฑ์ศาลาว่าการกลาโหม


เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร เข้ามาให้คำปรึกษาในการ

ดำเนินการอนุรักษ์อย่างใกล้ชิด

เป็นระยะเวลากว่า ๑๐๐ ปี ที่ปืนใหญ่ทั้ง ๔๐ กระบอก ได้ตั้งจัด

แสดงอยู่ด้านหน้าศาลาว่าการกลาโหม เมื่อเวลาผ่านไปปืนใหญ่เหล่านี้

เกิดการเสื่อมสภาพ เนื่องด้วยทำขึ้นจากโลหะผสม คือ สำริด เมื่อสัมผัส

กับสภาพแวดล้อม สีของสำริดจะเปลี่ยนแปลงไปทำให้เกิดสนิมตาม

ธรรมชาติขึ้น จึงทำให้เห็นว่าปืนใหญ่หน้าศาลาว่าการกลาโหมมีสีเขียว

ทั่วทั้งกระบอก อีกทั้งจากปัจจัยโดยรอบ เช่น น้ำฝน มลพิษ การสัมผัส

และจากการสั่นสะเทือนของยานพาหนะ ทำให้เกิดการเสื่อมสภาพลงไป

ตามลำดับ

พลเอก วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหม มีความ

กังวลในเรื่องของการเสื่อมสภาพดังกล่าว จึงมีดำริให้มีการดำเนินการ

อนุรักษ์ปืนใหญ่ขึ้น โดยมีการประชุมหารือร่วมกับทางกลุ่มวิทยาศาสตร์

เพื่อการอนุรักษ์ สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร ในการ

เข้ามาให้คำปรึกษาและหาแนวทางในการดำเนินการอนุรักษ์รวมถึงวิธี

การสงวนรักษาที่ถูกต้องตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งจะส่งผลดี

ต่อโบราณวัตถุต่อไปในอนาคต การดำเนินการอนุรักษ์ปืนใหญ่จึงได้

ใช้เครื่องเป่าลมร้อนเป่าทำความสะอาด

โดยเปิดฝากระบอกปืนออกเพื่อไล่ความชื้นภายใน

เริ่มต้นขึ้น ตั้งแต่วันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๕ มีกำหนดแล้วเสร็จในวันที่

๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๕ โดยก่อนหน้านี้ได้มีพิธีบวงสรวงป้ายกระทรวง

กลาโหมและส่วนจัดแสดงปืนใหญ่บริเวณด้านหน้ากระทรวงกลาโหม

เมื่อวันที่ ๘ มิถุนายน ๒๕๖๕ ที่ผ่านมา

โดยขั้นตอนการดำเนินการอนุรักษ์ปืนใหญ่ มีดังนี้

๑. สำรวจความเสียหายของปืนใหญ่ เช่น รูพรุน รอยแตก

๒. ใช้แปรงขัดทำความสะอาดฝุ่น มูลสัตว์ และสนิมออกจากผิว

ปืนใหญ่ โดยใช้แปรงลักษณะที่แตกต่างกัน คือ แปรงขนอ่อน แปรง

ทองเหลือง และแปรงปากกาทองเหลือง

๓. ใช้เครื่องเป่าลมร้อนเป่าทำความสะอาด โดยเปิดฝากระบอกปืน

ออกเพื่อไล่ความชื้นภายใน

๔. เคลือบไมโครแว็กซ์ เพื่อป้องกันและชะลอการเสื่อมสภาพที่

จะเกิดขึ้นบนผิวของปืนใหญ่

๕. นำพาราฟินมาอุดที่รูชนวน เพื่อป้องกันน้ำขัง

๖. ปรับปรุงแท่นฐาน โดยการเจาะรูให้มีช่องสำหรับระบายน้ำ

ในกรณีฝนตก และปรับปรุงฝาปิดปากกระบอกปืนใหญ่ ไม่ให้น้ำเข้าไป

ขังภายในกระบอกปืนได้

๗. อุดรูพรุนและรอยแตกบนกระบอกปืนด้วยอีพ็อกซี่ใส และ

๘. ปรับปรุงและฟื้นฟูสนามหญ้าให้กลับคืนดังเดิม ซึ่งทุกขั้นตอน

ในการดำเนินการอนุรักษ์ ทางกรมศิลปากรได้เข้ามาให้คำปรึกษาและ

ดูแลอย่างใกล้ชิด

ปลัดกระทรวงกลาโหม เข้าตรวจการอนุรักษ์ปืนใหญ่

หลักเมือง สิงหาคม ๒๕๖๕

พิพิธภัณฑ์ศาลาว่าการกลาโหม

เอกสารอ้างอิง :

กระทรวงกลาโหม. ศาลาว่าการกลาโหม. กองกลาง สำนักงานสนับสนุน กรมเสมียนตรา.

๒๕๔๘.

สำนักโยธาธิการ สำนักงานสนับสนุน สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม

สำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ กรมศิลปากร

15


16

กระทรวงยุติธรรม

ร่วมกับ

กระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไทย

กระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุมประพฤติ

ได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความ

ร่วมมือ (MOU) ในการดูแล แก้ไข และฟื้นฟู

พฤติกรรมของผู้กระทำผิดในรูปแบบค่ายปรับ

เปลี่ยนพฤติกรรม ระหว่างกระทรวงกลาโหม

กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย และ

กรมคุมประพฤติ กระทรวงยุติธรรม โดยมี

พลเอก วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวง

กลาโหม เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึก

ข้อตกลงฯ พร้อมด้วย นายชยาวุธ จันทร รองปลัด

กระทรวงมหาดไทย นายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต

อธิบดีกรมคุมประพฤติ และคณะผู้บริหาร

กรมคุมประพฤติ ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ

ห้องประชุมวายุภักษ์๒ ชั้น ๔ โรงแรมเซ็นทรา

บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชัน

เซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพมหานคร

ลงนาม MOU ในการดูแล แก้ไข และฟื้นฟู พฤติกรรม

ของผู้กระทำผิดในรูปแบบค่ายปรับเปลี ่ยนพฤติกรรม

พันเอกหญิง สมจิตร พวงโต

รองผู้อำนวยการกองประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม

พันเอกหญิง สมจิตร พวงโต


ทั้งนี้ พลเอก วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า

ตามหลักการประมวลกฎหมายยาเสพติด ถือว่าผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด

มีสภาพเป็น “ผู้ป่วย” ควรได้รับโอกาสในการแก้ไขพฤติกรรม

มากกว่า การลงโทษจำคุก ซึ่งกรมคุมประพฤติมีภารกิจในการดำเนิน

การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดที่ไม่สมัครใจหรือ

ไม่ให้ความร่วมมือในการบำบัดรักษา และศาลมีคำสั่งกำหนดเงื่อนไข

เพื่อการคุมความประพฤติมาใช้ เพื่อให้ผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติดที่เข้าสู่

กระบวนการยุติธรรม ให้ได้รับการแก้ไขปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่าง

ทั่วถึงเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคมในรูปแบบค่ายปรับเปลี่ยน

พฤติกรรม โดยดำเนินการปรับเปลี่ยนความคิด อารมณ์ ความรู้สึก

และพฤติกรรมของผู้กระทำผิด ด้วยการใช้แนวคิดเชิงจิตวิทยา

และพฤติกรรมศาสตร์เป็นหลัก เพื่อไม่ทำให้ผู้กระทำผิดรู้สึกว่า

เป็นการถูกลงโทษหรือรับโทษ ทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

ให้สามารถดำรงชีวิตร่วมกับบุคคลอื่นในสังคมได้อย่างปกติสุขโดยไม่

หวนกลับไปกระทำผิดซ้ำ

อย่างไรก็ตาม สำหรับกรมคุมประพฤติ มีสถานที่ที่ดำเนินการ

รองรับการดำเนินงาน ค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจำนวนเพียง ๒ แห่ง

ได้แก่ ศูนย์พัฒนาพฤตินิสัยลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี และศูนย์

พัฒนาพฤตินิสัยปัตตานีจึงจำเป็นต้องอาศัยการผนึกสรรพกำลัง และ

ทรัพยากรด้านต่าง ๆ แบบบูรณาการร่วมกับหน่วยงานพหุภาคีทุก

ภาคส่วนในการแก้ปัญหายาเสพติดจากกระทรวงกลาโหม ประกอบด้วย

กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ

และกระทรวงมหาดไทย โดยกรมการปกครอง สนับสนุนบุคลากรและ

สถานที่ จำนวน ๕๓ แห่ง เพื่อร่วมดำเนินการในการดูแล แก้ไข และ

ฟื้นฟูพฤติกรรม ของผู้กระทำผิดในรูปแบบค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

พร้อมทั้งได้รับการฝึกทักษะทางด้านอาชีพเพื่อคืนคนดีสู่สังคม ซึ่ง

เป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติตามที่รัฐบาลกำหนดไว้ ในแผนการปฏิรูป

ประเทศด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์

ด้านกระทรวงยุติธรรม โดยกรมคุมประพฤติ มีเจตนารมณ์ใน

การแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิด และนำมาตรการต่าง ๆ มาใช้ในการปรับ

เปลี่ยนแก้ไข และเสริมสร้างทัศนคติ ความคิดและพฤติกรรม

ของผู้กระทำผิด รวมทั้งสงเคราะห์ เพื่อให้ผู้กระทำผิดมีการ

เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปในทางที่ดีขึ้น รวมถึงสนับสนุนให้ชุมชนและ

ภาคประชาสังคมเข้ามามีส่วนร่วม ในการป้องกันอาชญากรรมและ

การปฏิบัติต่อผู้กระทำผิด เพื่อเสริมสร้างความสงบสุขในสังคม

ภายใต้ภารกิจของกระทรวงยุติธรรมด้านการพัฒนาระบบ

การให้บริการประชาชนเพื่อให้เข้าถึงความยุติธรรมอย่าง

เท่าเทียม พัฒนาระบบงานยุติธรรม การบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตาม

หลักสากล พัฒนาประสิทธิภาพ การบริหารความยุติธรรม การบังคับ

กฎหมายให้มีธรรมาภิบาล และพัฒนาระบบป้องกันอาชญากรรม

เพื่อสร้างความปลอดภัยในสังคม

หลักเมือง สิงหาคม ๒๕๖๕

17


ความรับผิดตามประมวลกฎหมายอาญา

ของผู้บริหารกิจการร้านอาหาร

กรณีเพลิงไหม้สถานบริการ

พลตรี นิติน ออรุ่งโรจน์

หัวหน้าอัยการทหาร กรมพระธรรมนูญ

ป็นที่ทราบกันว่าเมื่อกลางดึกของวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๖๕ เกิดเหตุ

เพลิงไหม้ร้านอาหารกึ่งบาร์ชื่อ เมาน์เทน บี ริมถนนสุขุมวิท จังหวัด

ชลบุรี ซึ่งก่อนเกิดเหตุมีเสียงดังข้างบูธดีเจ ๒ ครั้ง ก่อนไฟลุก

และกระจายไปอย่างรวดเร็ว และทุกคนต่างพากันออกมาทางประตู

ด้านหน้าร้าน โดยไม่ทราบว่ามีประตูหนีไฟหรือไม่ซึ่งภายในสถานบันเทิง

แห่งนี้มีจุดเสี่ยงหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นปัญหาประตูทางออก - ทางหนี

ไฟ การจัดวางโต๊ะกีดขวางทางเดิน รวมทั้งบุคลากรขาดการฝึกอบรม

ขณะเกิดเหตุฉุกเฉิน ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ

เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง ผู้บริหารกิจการร้านอาหาร

ประเภทนี้ ส่วนใหญ่แล้วยังคงไม่จัดให้มีการรักษาความปลอดภัย

เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินตามมาตรฐาน บทความนี้จึงมุ่งหมายที่จะนำเสนอ

ว่า หากผู้บริหารกิจการร้านอาหารไม่จัดให้ร้านมีมาตรฐานด้านความ

ปลอดภัยแก่ลูกค้าแล้วจะต้องมีความรับผิดตามประมวลกฎหมาย

อาญาอย่างไรบ้าง

ความผิดฐานกระทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาท ตามประมวล

กฎหมายอาญา มาตรา ๒๒๕ กำหนดให้ผู้ใดกระทำให้เกิดเพลิงไหม้

โดยประมาท และเป็นเหตุให้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหาย หรือการกระทำ

18

โดยประมาทนั้นน่าจะเป็นอันตรายแก่ชีวิตของบุคคลอื่น ต้องระวาง

โทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนสี่หมื่นบาท หรือ

ทั้งจำทั้งปรับ

ยกตัวอย่าง เช่น ในคดีที่จำเลยที่ ๑ และ ๒ ร่วมกันลักน้ำมันที่

ปั๊มผู้เสียหายโดยใช้สายไฟต่อขั้วแบตเตอรี่กับเครื่องปั๊มดูดน้ำมันจาก

ถังใต้ดินมาใส่ถังในรถยนต์ เมื่อดูดน้ำมันได้ ๔ ถังแล้วจำเลยที่ ๒

ดึงสายไฟจากขั้วแบตเตอรี่ให้ปั๊มติ๊กหยุดท ำงานเพื่อจะเปลี่ยนสายยาง

ไปใส่ถังที่๕ ทำให้เกิดประกายไฟเป็นเหตุให้เพลิงไหม้ดังนี้พฤติการณ์

ที่บุคคลทั้งสองร่วมกันมาลักทรัพย์โดยวิธีการเช่นนี้ท ำให้เกิดไอระเหย

ของน้ำมันกระจายอยู่ในบริเวณนั้นง่ายต่อการเกิดเพลิงไหม้ ถือได้ว่า

เป็นการกระทำโดยประมาท เพราะแบตเตอรี่เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้า

และน้ำมันเป็นวัตถุที่ติดไฟได้ง่าย เมื่อเกิดเพลิงไหม้ขึ้นเนื่องจากวิธี

การในการลักทรัพย์ของบุคคลทั้งสองซึ่งกระทำด้วยความประมาท

จึงต้องรับผิดฐานทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาท (คำพิพากษา

ศาลฎีกาที่ ๑๒๑๑/๒๕๓๐)

ความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๑ ที่กำหนดให้ผู้กระทำ

พลตรี นิติน ออรุ่งโรจน์


โดยประมาทและการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้อง

ระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท และความ

ผิดฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส

ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๐๐ ที่กำหนดให้ผู้กระทำโดย

ประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส

ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท

หรือทั้งจำทั้งปรับ

ในคดีซานติก้าผับ ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยที่ ๑ เป็นผู้เริ่ม

ก่อการผู้ขอจดทะเบียนตั้งบริษัท และเป็นกรรมการผู้มีอำนาจกระทำ

การแทนบริษัท แม้ต่อมาจะมีการเปลี่ยนตัวกรรมการผู้มีอำนาจ

กระทำการแทนจากจำเลยที่ ๑ ไปเป็นนายดำ แต่ตามคำเบิกความ

ของพยานโจทก์และโจทก์ร่วมซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทคนหนึ ่ง ว่าใน

การประชุมผู้ถือหุ้นจะมีจำเลยที่ ๑ นั่งเป็นประธานในที่ประชุม โดย

จำเลยที่ ๑ เป็นผู้ถือหุ้นมากที่สุดประมาณร้อยละ ๓๐ ว่าจำเลยที่ ๑

เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ จำนวน ๑๒๙ หุ้น จากทั้งหมด ๔๐๐ หุ้น โดยนายดำ

ซึ่งมีชื่อเป็นกรรมการนั้นไม่ได้ถือหุ้นในบริษัท จำเลยที่ ๑ เคย

แถลงข่าว กล่าวขอบคุณสื่อมวลชนที่ให้การสนับสนุนร้านมาตลอด

นายดำไม่ได้เข้าร่วมแถลงข่าว ตามคำเบิกความของพยานโจทก์และ

หลักเมือง สิงหาคม ๒๕๖๕

โจทก์ร่วมซึ่งเป็นพนักงานขายป๊อบคอร์นอยู่ที่ชั้นใต้ดินของร้านเกิด

เหตุก็ยืนยันว่าจำเลยที่ ๑ เป็นเจ้าของร้านเกิดเหตุ

แต่สำหรับนายดำนั้น ตามคำเบิกความของพยานโจทก์และ

โจทก์ร่วมซึ่งเป็นพนักงานเก็บเงินอยู่ที่ร้านเกิดเหตุกลับไม่เคยเห็นหน้า

คงรู้จักว่าจำเลยที่ ๑ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่เวลามาที่ร้านเกิดเหตุจะพูดคุย

กับพนักงานในร้านที่รู้จัก ทั้งพยานโจทก์และโจทก์ร่วมซึ่งเป็นกุ๊กใน

ร้านเกิดเหตุก็เคยให้การในชั้นสอบสวนตามบันทึกว่า นายประดู่เป็น

เพียงเด็กรับรถของแขกที่มาเที่ยวที่ร้านเกิดเหตุ ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า

จำเลยที่ ๑ เป็นผู้บริหารร้านเกิดเหตุตามความเป็นจริง

เมื่อจำเลยที่ ๑ เป็นผู้บริหารร้านเกิดเหตุนอกจากมีหน้าที่ตาม

กฎหมายที่จักต้องจัดให้มีไฟฉุกเฉินบอกทางหนีไฟแล้ว ตามวิสัยและ

พฤติการณ์ของวิญญูชนที่ทำธุรกิจสถานบันเทิงเยี่ยงจำเลยที่ ๑ ย่อม

ตระหนักได้ดีว่าการจัดให้คนมาชุมนุมเพื่อการรื่นเริงในสถานที่อัน

จำกัด หากมีอัคคีภัยเกิดขึ้น การระบายคนออกไปได้รวดเร็วและมาก

เท่าใด โดยมีไฟฉุกเฉินบอกทางหนีไฟ ย่อมทำให้คนที่มาชุมนุมหนีไฟ

ออกมาได้อย่างปลอดภัยมากเท่านั้น จำเลยที่ ๑ จึงมีหน้าที่จักต้องจัด

ให้มีไฟฉุกเฉินบอกทางหนีไฟในร้านเกิดเหตุและต้องไม่ยอมให้แขก

ที่มาเที่ยวเข้าไปในร้านเกิดเหตุในลักษณะที่ยืนเบียดเสียดอัดแน่นกัน

อยู่ภายในร้าน ทั้งที่ประตูเข้าออกทางด้านหน้าร้านซึ่งเป็นประตูหลัก

เพียงประตูเดียวมีความกว้างเพียง ๒.๓๐ เมตร เกินกว่าที่ประตูนั้น

จะรองรับในการระบายคนให้ทันแก่เหตุการณ์ได้ การที่จำเลยที่ ๑

งดเว้นการที่จักต้องกระทำเพื่อป้องกันอันเป็นผลทำให้แขกที่มาเที่ยว

ในร้านเกิดเหตุหนีไฟออกมาไม่ได้เพราะติดค้างอยู่ด้านในถึงแก่

ความตายเพราะเหตุถูกไฟคลอกและขาดอากาศหายใจ รวมทั้งแขก

ที่มาเที่ยวบางส่วนนับร้อยคนแม้จะหนีไฟออกมาได้ก็ยังได้รับบาดเจ็บ

ถึงอันตรายสาหัส จำเลยที่ ๑ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา

มาตรา ๒๙๑, ๓๐๐

คดีที่มีลักษณะว่าผู้บริหารกิจการร้านอาหารไม่จัดให้ร้านมี

มาตรฐานด้านความปลอดภัยแก่ลูกค้า โดยไม่ได้เจตนา เช่น คิดว่า

ลูกค้าน่าจะหนีออกมาได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว หนีออกมาไม่ทัน

ซึ่งตามวิสัยและพฤติการณ์ของวิญญูชนที่ท ำธุรกิจสถานบันเทิงจะต้อง

จัดให้มีมาตรการป้องกันและแก้ไขความไม่ปลอดภัยเหล่านี้ แต่ไม่

ดำเนินการ ย่อมเป็นการกระทำโดยประมาท เมื่อการกระทำโดย

ประมาททำให้ลูกค้าเสียชีวิตหรืออันตรายสาหัส ผู้บริหารจะต้อง

รับผิดฐานกระทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาท ตามประมวลกฎหมาย

อาญา มาตรา ๒๒๕ ความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความ

ตาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๑ และความผิดฐาน

กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ตามประมวล

กฎหมายอาญา มาตรา ๓๐๐ ทั้งนี้ จะได้รับโทษตามกฎหมายที่มี

บทลงโทษที่หนักที่สุด ดังนั้น ผู้บริหารกิจการร้านค้าควรจะต้องจัดให้มี

มาตรการรักษาความปลอดภัยให้เป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อคุ้มครอง

สิทธิและเสรีภาพของลูกค้า และเพื่อไม่ให้ตนเองต้องรับผิดตาม

กฎหมายอาญาด้วย

ที่มาของภาพ : 9i5unBLEMKsfczjUriwi.webp, ความเสียหายภายใน.webp,

httpswww.bangkokbiznews.com

19


ยุทธการเสือดำสมรภูมิเขาค้อ

ตอนที ่ ๖

แผนสังหารของผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์เขาค้อ

กรกต เกตุแก้ว

อดีตทหารพรานจู่โจมกองร้อย ๙๑๑ ชค.๕๑๓ ค่ายปักธงชัย

พั

นตรี โพยม เกตุแก้ว ได้วิทยุแจ้งให้ทหารพรานที่เข้ายึด

เนิน ๙๐๙ ซึ่งขณะนั้นได้วางกำลังอยู่รอบฐานของผู้ก่อการร้าย

คอมมิวนิสต์ (ผกค.)

“๙๒๑ - ๙๔๑ - ๙๔๗ จาก เสือดำเอี่ยว”

“๙๒๑ - ๙๔๑ - ๙๔๗ ตอบ เสือดำเอี่ยว”

“โอเล่ ๙๒๑ - ๙๔๑ - ๙๔๗ อย่าเพิ่งเข้าไปเคลียร์ในบ้านของ

ผีกินคน อันตรายเราอาจถูกซ้อนแผนให้เดินเข้าไปในพื้นที่สังหาร

ขอย้ำเราอาจเข้าไปในพื้นที่สังหารของมัน ให้รอดูก่อนสัก ๓๐ นาที

ทุกกองร้อยรับทราบ”

“๙๒๑ - ๙๔๑ - ๙๔๗ รับทราบรับปฏิบัติ รอดูก่อน ๓๐ นาที

ครับผม”

เสียงวิทยุสนาม PRC 25 ที่ พันตรี โพยม พูดกับทหารพราน

กองร้อย ๙๒๑ - ๙๔๑ - ๙๔๗ สั่งการว่าอย่าเพิ่งเข้าไปเคลียร์ในฐานของ

ผกค.เพราะเราอาจถูก ผกค.หลอกให้เข้าไปอยู่ในพื้นที่สังหารที่ ผกค.

วางกับระเบิดไว้ในฐาน เมื่อทหารพรานทั้งสามกองร้อยเข้าไปก็จะถูก

ผกค.กดระเบิดและยิงถล่มซ้ำทำให้ฝ่ายเราสูญเสียชีวิตได้

ทหารพรานจู่โจมทั้งสามกองร้อยจึงวางกำลังอยู่ข้างคูเลตรอบ

ฐานของ ผกค.เวลาผ่านไปราว ๔๐ นาทีทุกอย่างดูเงียบสงบทหารพราน

ทุกนายรวมทั้งหัวหน้าชุดโจมตีรู้สึกโล่งใจที่ไม่มีอะไรเกิดขึ ้นทุกคน

ต่างก็ดีใจที่สามารถขึ้นยึดเนิน ๙๐๙ ได้ แต่ขณะที่กำลังดีอกดีใจกัน

อยู่นั้นความดีใจก็หายไปด้วยเสียงปืนเสียงระเบิดของ ผกค.

20

วี้ด...ตูม...วี้ด...ตูม...วี้ด...ตูม...

เสียงลูกปืน ค.๖๐ มิลลิเมตร ของ ผกค.ที่ยิง

ถล่มทหารพรานที่อยู่บนเนิน ๙๐๙ ระเบิดตกลงไม่

ไกลจากทหารพรานเท่าใดนัก ระเบิด ตูม! ตูม! ควันตลบ

สะเก็ดระเบิดพุ่งไปทุกทิศทุกทางไม่ได้ยิงถล่ม

เฉพาะปืน ค.๖๐ เท่านั้น ผกค.ยังยิงถล่มด้วยปืน

M 79 ปืน AK 47 และปืนกลเสียงดังสะท้านเนิน ๙๐๙

ทำให้ทหารพรานจากค่ายปักธงชัยได้รับบาดเจ็บ

สาหัส ๓ นาย ฉากการปะทะกันจึงเกิดขึ้นอีก

ระลอก ผกค.ยิงมาจากเนินที่อยู่ไม่ไกลนัก การ

ปะทะกันครั้งนี้รุนแรงมากเพราะทั้งสามกองร้อย

หลบอยู่ในคูเลตแล้วยิงอาวุธทุกชนิดที่มีเข้าใส่ ผกค.

ที่อยู่บนเนินถัดไปทหารพรานยิงตอบโต้หนาแน่น

รุนแรงกว่า ผกค.เป็นหลายเท่า

ถล่มกันอยู่ประมาณ ๒๐ นาที ผกค.ก็ล่าถอย

ไป เป็นความรอบคอบของ พันตรี โพยม หัวหน้า

ชุดควบคุมและประสานงานโครงการ ๕๑๓ ท่านเป็นทหารพลร่มป่าหวาย

ค่ายเอราวัณ ถ้าทหารพรานตัดสินใจเข้าไปในฐานของ ผกค.ตอนนั้น

คงจะเละเป็นโจ๊กแน่เพราะ ผกค.หลอกให้เราเข้าไปในพื้นที่สังหารที่

พวกมันเตรียมไว้และมาร์คพิกัดไว้แล้วนั้นเอง

การปะทะกันในวันนั้น ผกค.คงสูญเสียไปไม่น้อยเมื่อทุกอย่างสงบ

ลงทั้งสามกองร้อยจึงเข้าเคลียร์ในฐานเนิน ๙๐๙ ขณะเข้าเคลียร์เรา

ก็วางกำลังส่วนหนึ ่งไว้คุ้มกันรอบฐานเพื่อป้องกัน ผกค.เข้าโจมตี

อีกส่วนหนึ่งก็เข้าเคลียร์ในฐานทุกคนถูกกำชับให้ใช้ความระมัดระวัง

อย่าประมาทโดยเด็ดขาด

ภายในฐาน ผกค.บนเนิน ๙๐๙ เรายึดได้อาวุธสงครามหลาย

ชนิดรวมทั้งยึดได้เอกสารเผยแผ่ลัทธิคอมมิวนิสต์จำนวนมาก

กรกต เกตุแก้ว


ยึดใบปลิวโจมตีรัฐบาล ในฐานมีบังเกอร์และป้อมรบมากมายมี

โรงเรือนหลายหลัง ภายในฐานยังพบรอยเลือดจำนวนมากแสดงว่า

ผกค.ก็ได้รับบาดเจ็บและสูญเสีย

ขณะนั้นเวลา ๑๕.๐๐ น. กองร้อยทหารพรานจู่โจม ๙๔๗ เดิน

เข้าเคลียร์ในฐานด้านทิศใต้เขายึดได้สิ่งของมากมาย ขณะที่กำลังดีใจ

กับสิ่งที่ยึดได้อยู่นั้น ได้มีเสียงระเบิดดังขึ้นกึกก้องมาจากทางที่ทหารพราน

กองร้อย ๙๔๗ เข้าเคลียร์ ตูม! ทหารพรานกองร้อย ๙๔๗ นายนั้น

กระเด็นไปตามแรงระเบิด เขาโชคร้ายเหยียบกับระเบิดของ ผกค.

ที่ดักไว้ทำให้ขาซ้ายของเขาขาดทันที เลือดสด ๆ กระเด็นกระจาย

กลายเป็นผู้พิการทันที นี่แหละคือการพลาดของนักรบไม่ตายก็พิการ

ไม่มีโอกาสได้แก้ตัวเหมือนตอนฝึกเพราะนี่คือสนามรบจริง เจ็บจริง

ตายจริง !

เมื่อมีคนเจ็บก็ต้องรีบทำสนามเฮลิคอปเตอร์เพื่อส่งคนเจ็บกลับ

แนวหลังส่งโรงพยาบาลรักษาต่อไป ซึ่งถ้าช้าไปจะทำให้เขาเสียเลือด

มาก อาจเสียชีวิตได้ โชคดีที่เกิดเหตุตอนตะวันยังไม่ตกดิน ความมืดมิด

ยังไม่เข้ามา ไม่อย่างนั้นคงจะยุ่งยากมากกว่านี้หลายเท่า

“อินทรีเหล็ก จาก เสือดำเอี่ยว”

“ตอบ เสือดำเอี่ยว จาก อินทรีเหล็ก”

“โอเล่ อินทรีเหล็ก ขณะนี้เสือดำเอี่ยว มีลูกบ้านต้องการกลับ

บ้านหนึ่งนาย ขอขี่หลังอินทรีเหล็กกลับไปด้วย”

วันสถาปนาทหารพราน ผู้เขียนจัดบอร์ดวีรกรรมทหารพรานให้

พลโท ธนากร ธรรมวินทร แม่ทัพภาคที่ ๒ (ในขณะนั้น) ชม

หลักเมือง สิงหาคม ๒๕๖๕

นางเนาวรัตน์ เปลี่ยนศรี

ผู้สนับสนุนกิจกรรมกลุ่มเผยแพร่วีรกรรมทหารพราน ชค.๕๑๓

“อินทรีเหล็ก รับทราบ เราจะเหินเวหาไปหาเสือดำเอี่ยวเดี๋ยวนี้”

เสือดำเอี่ยว (พันตรี โพยม เกตุแก้ว) พูดวิทยุกับเฮลิคอปเตอร์

เพื่อขอให้บินเข้ามารับคนเจ็บที่ฐานบนเขาค้อ เป็นธรรมเนียมปฏิบัติใน

สนามรบ และเป็นยุทธวิธีเมื่อเฮลิคอปเตอร์จะลงไปรับคนเจ็บคนตาย

ในพื้นที่สีแดงก็ต้องมีเฮลิคอปเตอร์กันชิฟ ติดปืนกลอากาศพร้อมจรวด

บินเข้าไปยิงเคลียร์ก่อนเพื่อความปลอดภัย วันนี้ก็เช่นเคยสนาม

เฮลิคอปเตอร์ถูกโชว์สโมค (ควันสี)

เมื่อเฮลิคอปเตอร์บินเข้ามาในพื้นที่สโมคสีเหลืองถูกถอดสลัก

ออกแล้วโยนออกไปใกล้กับสนามที่จะให้เฮลิคอปเตอร์ลงพื้นที่

โดยรอบห่างออกไป ๕๐๐ เมตร มีการวางกำลังทหารคุ้มกันไว้อีกชั้นหนึ่ง

เพื่อป้องกันการถูกโจมตี เฮลิคอปเตอร์กันชิป ๓ ลำบินวนไปรอบพื้นที่

เมื่อรู้พิกัดว่าฝ่ายเราอยู่จุดไหนแล้วปืนกลอากาศและจรวดจาก

เฮลิคอปเตอร์กันชิพก็เปิดฉากยิงเคลียร์

ปังๆๆๆๆๆๆๆๆๆ..แฟ้ด...กรึ้มม...แฟ้ด...กรึ้ม...

เฮลิคอปเตอร์ทั้ง ๓ ลำ ผลัดเปลี่ยนกันบินวนลงต่ำแล้วยิงกราด

ไป กิ่งไม้ขาดลงเป็นสายเมื่อถูกลูกปืนกลอากาศ ดิน หิน ต้นหญ้า

กระจุยกระจายว่อนเมื่อถูกแรงระเบิดจากจรวดฝักที่เฮลิคอปเตอร์ยิง

ลงไป เสียงระเบิดตูม ๆ ควันสีขาวลอยกระจาย วันนี้ไม่มีการยิง

ต่อต้านจาก ผกค. เฮลิคอปเตอร์ลำที่บินเข้ามาทีหลังได้โฉบลงไป

รับคนเจ็บทันทีโดยใช้เวลาเพียง ๒ นาทีก็บินขึ้นไป

ฮิวอี้ เฮลิคอปเตอร์รุ่นสงครามเวียดนามทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยม

เฮลิคอปเตอร์ได้บินหายออกไปจากพื้นที่เขาค้ออย่างรวดเร็ว

ทำให้ทหารพรานจู่โจมค่ายปักธงชัยดีใจที่เพื่อนที่ได้รับบาดเจ็บ

ได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว พวกเขาพากันตะโกน

ออกมาว่า “มึงรอดตายแล้วไอ้เพื่อนรักแต่พวกกูนี่สิไม่รู้จะรอด

หรือเปล่า”

21


สำ

นักงานสารนิเทศคณะรัฐมนตรีจีน ได้เผยแพร่สมุดปกขาว

ของจีน เรื่อง “ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ

ของจีนในยุคใหม่” เมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม พ.ศ.๒๕๖๔ โดยสำหรับ

ตอนที่ ๗ นี้ จะกล่าวถึงการสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาเสริมสร้าง

ศักยภาพการพัฒนาด้วยตนเอง ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

สมุดปกขาวของจีน

เรื ่อง “ความร่วมมือเพื ่อการพัฒนาระหว่างประเทศ

ของจีนในยุคใหม่” (ตอนที ่ ๗)

พลโท ดร.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล

ข้าราชการบำนาญ

๑. การปรับปรุงขีดความสามารถในการกำกับดูแล โดยจีน

ช่วยประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ กำหนดแผนแบ่งปันประสบการณ์

ด้านการกำกับดูแลและดำเนินการเสริมสร้างขีดความสามารถ

ผ่านกลไกความร่วมมือทวิภาคีและพหุภาคี กล่าวคือ

22

พลโท ดร.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล


๑.๑ ความช่วยเหลือในการวางแผนการดำเนินการ ซึ่งจีน

ได้ช่วยประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ อย่างแข็งขันในการวางแผน

พิมพ์เขียวการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์และส่งที ่ปรึกษาด้านการ

วางแผนอาวุโส ๓๙ คน เพื่อช่วยประเทศที่เกี่ยวข้องกำหนดแผน

พัฒนานโยบายและกฎระเบียบในด้านต่าง ๆ เช่น การพัฒนา

เศรษฐกิจโครงสร้างพื้นฐานและการเสริมสร้างความสามารถในการ

วางแผนและการพัฒนาโดยรวม ดังกรณีการช่วยประเทศเกรนาดา

กำหนดแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาแห่งชาติ และในปี ๒๐๑๗

(พ.ศ.๒๕๖๐) ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาอาวุโสในด้านศุลกากร

ภาษีอากรและการเกษตรไปยังเอธิโอเปียและกัมพูชาเพื่อให้การ

สนับสนุนทางวิชาการสำหรับการอำนวยความสะดวกทางการค้า

และการลงทุน นอกจากนี้ ได้ร่วมกับประเทศคิวบาในการจัดทำ

ข้อเสนอในการวางแผนพัฒนาอุตสาหกรรมระยะกลางและระยะยาว

รวมทั้งเสนอแนวคิดและแนวทางการพัฒนาในด้านอุตสาหกรรม

หลักเมือง สิงหาคม ๒๕๖๕

23


เครื่องจักร โลหะวิทยา และการรีไซเคิล รวมถึงอุตสาหกรรมเคมี

ตลอดจนการช่วยประเทศกัมพูชาในการกำหนดแผนเครือข่ายถนนแห่งชาติ

และแผนพัฒนาการเกษตรที่ทันสมัย รวมทั้งช่วยปรับปรุงระบบการ

ขนส่งที่ครอบคลุมและการเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร การเตรียมการ

วางแผนทรัพยากรที่ดินและการวางแผนการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม

ในขณะที่ได้ช่วยประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

ในการเตรียมแผนควบคุมแม่น้ำและน้ำท่วมที่ครอบคลุม ฯลฯ

๑.๒ แบ่งปันประสบการณ์การกำกับดูแล ผ่านการจัด

สัมมนาและหลักสูตรปริญญาทางวิชาการหลายชุด การแบ่งปันแนว

ปฏิบัติและประสบการณ์ของการกำกับดูแลระดับชาติ อาทิ การ

สร้างหลักนิติธรรมการปฏิรูปรัฐบาล การสร้างนวัตกรรมและการ

ยกระดับอุตสาหกรรมเศรษฐกิจดิจิทัล เป็นต้น เพื่อช่วยปรับปรุงความ

สามารถในการกำหนดนโยบายของเจ้าหน้าที่ภาครัฐในประเทศ

กำลังพัฒนาอื่น ๆ ในขณะเดียวกันก็เสริมสร้าง

กลไกความร่วมมือด้านการพัฒนาทรัพยากร

มนุษย์ทวิภาคีและลงนามในบันทึกความเข้าใจ

เกี่ยวกับความร่วมมือด้านการพัฒนาทรัพยากร

มนุษย์กับ ๓๑ ประเทศ ได้แก่ รวันดา คีร์กีซสถาน

เอลซัลวาดอร์ ปาปัวนิวกินี ตรินิแดดและโตเบโก ฯลฯ

ตามความต้องการที่แท้จริงของประเทศต่าง ๆ

ในการให้การสนับสนุนการสร้างขีดความสามารถ

ตามเป้าหมาย

24

๑.๓ ดำเนินการสร้างศักยภาพในระดับพหุภาคี โดยจีน

ร่วมมืออย่างแข็งขันกับสถาบันระหว่างประเทศเพื่อสนับสนุนการ

เสริมสร้างขีดความสามารถของประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ ในการ

จัดตั้งกองทุนทรัสต์เพื่อการพัฒนาขีดความสามารถทางสถิติกับ

องค์การสหประชาชาติเพื่อให้การฝึกอบรมแก่นักสถิติของรัฐบาล

เกือบ ๙๐๐ คนใน ๕๙ ประเทศกำลังพัฒนา นอกจากนี้ จีนยังได้

จัดตั้งกองทุนเสริมสร้างขีดความสามารถและทุนการศึกษากับธนาคาร

เพื่อการพัฒนาแห่งแอฟริกา ธนาคารเพื่อการพัฒนาแอฟริกาตะวันตก

ธนาคารเพื่อการพัฒนาระหว่างสหรัฐอเมริกาและองค์การแห่ง

สหรัฐอเมริกาเพื่อสนับสนุนการสร้างขีดความสามารถของประเทศ

ที่เกี่ยวข้องผ่านรายงานการวิจัยร่วมและการสัมมนาระหว่างประเทศ

การใช้กองทุนช่วยเหลือความร่วมมือใต้ – ใต้ เพื่อร่วมมือกับองค์การ

การบินพลเรือนระหว่างประเทศเพื่อจัดฝึกอบรมให้กับผู้จัดการ

พลโท ดร.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล


การบินพลเรือนระดับกลางและระดับสูงเกือบ ๖๐๐ คนใน ๑๐๕

ประเทศกำลังพัฒนา รวมทั้งความร่วมมือกับทบวงการพลังงาน

ปรมาณูระหว่างประเทศโดยมีผู้ปฏิบัติงานมากกว่า ๒,๐๐๐ คน

ในการใช้พลังงานนิวเคลียร์และเทคโนโลยีนิวเคลียร์อย่างสันติ

ที่ได้รับการฝึกอบรมในกว่า ๗๐ ประเทศกำลังพัฒนา

๒. การส่งเสริมความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทั้งนี้ เนื่องจาก

วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นพลังการผลิตขั้นต้น โดยจีนเสริมสร้าง

การถ่ายทอดเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงในการช่วยให้ประเทศ

กำลังพัฒนาปรับปรุงขีดความสามารถด้านนวัตกรรมเทคโนโลยีและ

ทักษะวิชาชีพอุตสาหกรรม กล่าวคือ

๒.๑ การแบ่งปันความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์และ

เทคโนโลยี โดยจีนแบ่งปันความสำเร็จในสาขาวิทยาศาสตร์และ

เทคโนโลยีกับประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ อย่างจริงจังและเปิดตัว

โครงการฝึกอบรมในหัวข้อต่าง ๆ เช่น การใช้งานอวกาศและ

ดาวเทียมเทคโนโลยีการพิมพ์ ๓ มิติ และเทคโนโลยีชีวภาพทาง

ทะเล รวมทั้งดำเนินโครงการแลกเปลี่ยนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ระหว่างรัฐบาลมากกว่า ๑,๐๐๐

โครงการ ผ่านโครงการเยาวชนดีเด่น

นานาชาติ ฯลฯ

๒.๒ การส่งเสริมการถ่ายทอด

เทคโนโลยี ซึ่งกุญแจสำคัญของ

เทคโนโลยีคือ ความเชี่ยวชาญและใช้งาน

เพื่อให้เทคโนโลยีสามารถให้ผลลัพธ์ใน

ทางปฏิบัติได้อย่างแท้จริง โดยจีนได้จัด

ตั้งศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีข้ามชาติ

สำหรับอาเซียน เอเชียใต้และประเทศ

อาหรับ เพื่อส่งเสริมการถ่ายโอนและ

การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีขั้นสูง

และใช้งานได้ผ่านการเชื่อมต่อเทคโนโลยีรวมทั้งการฝึกอบรมการ

สาธิต เป็นต้น

๒.๓ การพัฒนาทักษะวิชาชีพ เพื่อให้แน่ใจว่าได้รับการ

สนับสนุนจากผู้มีความสามารถในการพัฒนาที่ยั่งยืนในประเทศกำลัง

พัฒนา เช่น การจัดการฝึกอบรมในสาขาเกษตรกรรมป่าไม้ การเลี้ยง

สัตว์และการประมง การแปรรูปและการผลิต การก่อสร้าง

วิทยาศาสตร์ การศึกษาวัฒนธรรมและสุขภาพ งานหัตถกรรม ฯลฯ

๒.๔ การปรับปรุงและยกระดับรูปแบบการดำเนินความร่วมมือ

ด้านเทคโนโลยีการกีฬา โดยการส่งโค้ชชาวจีนที่โดดเด่นในกีฬา

เทเบิลเทนนิส แบดมินตันและกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อให้คำแนะนำทาง

ทฤษฎีและการปฏิบัติอย่างมืออาชีพแก่นักกีฬาและโค้ชในพื้นที่เพื่อ

เสริมสร้างระดับการแข่งขันกีฬา เป็นต้น

บทสรุป จีนยึดถือปรัชญาตามแนวคิดของการสอนวิธีหาปลา

ให้กับผู้คน โดยจีนยังคงเพิ่มความช่วยเหลือในด้านเทคโนโลยีและ

ความร่วมมือด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การเสริมสร้างเนื้อหา

ของความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง การคิดค้นวิธีการช่วยเหลือและ

สนับสนุนด้วยประสบการณ์ของจีน รวมทั้งแนวทางแก้ปัญหาของ

จีนในการเสริมสร้างขีดความสามารถของประเทศกำลังพัฒนา และ

ช่วยปรับปรุงขีดความสามารถในการกำกับดูแล รวมถึงระดับการ

วางแผนและขีดความสามารถในการพัฒนาอุตสาหกรรม เพื่อฝึก

อบรมการเพิ่มขีดความสามารถด้านการกำกับดูแล และหน่วยงาน

ปฏิบัติทางเทคนิคสำหรับการพัฒนาในประเทศกำลังพัฒนา

ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://www.gov.cn/xinwen/2021-01/10/content_5578617.htm

ที่มาของภาพ : 27-april_station-2-768x512-1, httpsnews.thaipbs.or.

thcontent313736, httpswww.naewna.cominter641202, maxresdefault,

ภป-จีน-แอฟริกาhttpswww.matichon.co.thnews-monitornews_1120740

หลักเมือง สิงหาคม ๒๕๖๕

25


โครงการพัฒนาต้นแบบกล้อง CCTV

ที ่มีความปลอดภัยระดับระบบปฏิบัติการ แบบ Fixed Camera

ศูนย์วิจัยและพัฒนาการทหาร กรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม

ความเป็นมา

กรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม (วท.กห.) ได้ดำเนิน

โครงการพัฒนาต้นแบบกล้อง CCTV ที่มีความปลอดภัยระดับ

ระบบปฏิบัติการ แบบ Fixed Camera โดยมี ศูนย์วิจัยและ

พัฒนาการทหาร กรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม (ศวพท.

วท.กห.) เป็นหน่วยเจ้าของโครงการ และมี พันเอก ดร.กิตติ รัตนดิษฐ์

เป็นนายทหารโครงการ โดยดำเนินโครงการร่วมกับ มหาวิทยาลัย

เกษตรศาสตร์ ตามนโยบายของปลัดกระทรวงกลาโหม ด้านการวิจัย

และพัฒนาระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ด้วยเทคโนโลยี

ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) หรือ “กล้อง AI

CCTV” สำหรับงานด้านความมั่นคง ที่ผลิตได้เองภายในประเทศ

ทดแทนการใช้อุปกรณ์จากต่างประเทศที่อาจมี

ปัญหาด้านความปลอดภัยและการรั่วไหลของข้อมูล

(Backdoor)

วัตถุประสงค์ของโครงการ

๑) เพื่อศึกษาและออกแบบระบบกล้อง AI CCTV

ที่มีความปลอดภัยระดับระบบปฏิบัติการ แบบ Fixed

Camera

๒) เพื่อพัฒนาและสร้างต้นแบบระบบกล้อง AI

CCTV ที่มีความปลอดภัยระดับระบบปฏิบัติการ

แบบ Fixed Camera จำนวน ๒ ชุด

ข้อมูลทางเทคนิค

เป็นการวิจัยประยุกต์ (Applied Research) ด้วย

การออกแบบและจัดการอุปกรณ์ภายในระบบกล้อง AI CCTV แบบ

Fixed Camera ที่มีความปลอดภัยของข้อมูล รวมถึงการสร้างระบบ

ปฏิบัติการภายในกล้องได้อย่างเบ็ดเสร็จ เพื่อให้สามารถควบคุม

ความปลอดภัย เพิ่มประสิทธิภาพ และการจัดการข้อมูลของกล้อง

โดยดำเนินการใน ๓ ส่วน ดังนี้

๑) หน่วยประมวลเชิงประสาทเทียม (Neural Processing

Unit: NPU) สำหรับการประมวลผลปัญญาประดิษฐ์

๒) ข้อกำหนด (Protocol) เพื่อเพิ่มการจัดการข้อมูลภาพ

(Image) และข้อความ (Text)

๓) ระบบปฏิบัติการ (Operating System: OS) เพื่อเพิ่ม

ความปลอดภัยโดยจัดการระบบปฏิบัติการของตนเอง

ภาพการออกแบบคุณลักษณะระบบกล้อง AI CCTV ที่มีความปลอดภัย ต้นแบบผลงานวิจัย รวมถึงการทดสอบและถ่ายทอดองค์ความรู้

26

ศูนย์วิจัยและพัฒนาการทหาร กรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม


อุปกรณ์ต้นแบบผลงานวิจัย

(ภายในปัจจุบัน)

การติดตั้งอุปกรณ์ระบบกล้อง AI CCTV เพื่อการทดสอบการใช้งาน

กรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม ชั้น ๓ อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (ศรีสมาน)

ภาพอุปกรณ์ต้นแบบผลงานวิจัยภายในบรรจุภัณฑ์ และการติดตั้งการทดสอบการใช้งานระบบกล้อง AI CCTV แบบ Fixed Camera

ขั้นตอนการดำเนินโครงการ

๑) ศึกษารูปแบบความไม่ปลอดภัยของข้อมูลในระบบกล้อง

CCTV ที่มีใช้งานอยู่ในปัจจุบัน

๒) จัดหมวดหมู่ของปัญหาความไม่ปลอดภัย โดยแยกเป็น

ปัญหาจากอุปกรณ์และจากผู้ใช้งาน

๓) ออกแบบอุปกรณ์ของระบบกล้อง AI CCTV และระบบ

ปฏิบัติการ (OS) รวมถึงรูปแบบการใช้งานเพื่อแก้ปัญหาด้าน

ความปลอดภัยที่รวบรวมได้

๔) พัฒนาโปรแกรม (Software) สำหรับระบบปฏิบัติการและ

ปัญญาประดิษฐ์ รวมทั้งจัดสร้างอุปกรณ์ของระบบกล้อง AI CCTV

แบบ Fixed Camera

๕) ทดสอบทางเทคนิคในระดับห้องปฏิบัติการ ณ ห้องปฏิบัติการ

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

๖) ทดสอบการใช้งานทางทหาร ณ กรมวิทยาศาสตร์และ

เทคโนโลยีกลาโหม ชั้น ๓ อาคารสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม

พื้นที่ศรีสมาน

๗) อบรมการใช้งานและถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่ กำลังพลของ

ศูนย์วิจัยและพัฒนาการทหาร กรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม

และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ส่วนหน้า

ผลการดำเนินโครงการ

๑) ได้ต้นแบบผลงานวิจัย ที่มีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย และ

สามารถติดตั้งเพื่อใช้งานได้อย่างรวดเร็ว

๒) การทดสอบทางเทคนิคในระดับห้องปฏิบัติการ พบว่า

ต้นแบบผลงานวิจัยสามารถเพิ่มความปลอดภัยของข้อมูลได้มากกว่า

กล้อง CCTV ที่มีใช้งานทั่วไป ร้อยละ ๗๕

๓) การทดสอบการใช้งานทางทหาร พบว่าต้นแบบผลงานวิจัย

ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถตรวจจับใบหน้าบุคคล

และยานพาหนะได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ

ประโยชน์ที่ได้รับและแนวทางการขยายผล

๑) ได้ต้นแบบระบบกล้อง AI CCTV แบบ Fixed Camera

ที่มีความปลอดภัยของข้อมูล

๒) พัฒนาต่อยอดในการผลิตระบบกล้อง AI CCTV แบบ

Portable ที่มีความปลอดภัยของข้อมูล สำหรับติดตัวบุคคล หรือ

ติดตั้งบนยานพาหนะ หรืออากาศยานไร้คนขับ (โดรน) เพื่อสนับสนุน

การปฏิบัติงานด้านความมั่นคง ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

๓) ขยายผลไปสู่การผลิตใช้งาน ให้แก่ หน่วยงานด้านความ

มั่นคง ที่ต้องการความปลอดภัยของข้อมูลและการจัดการข้อมูล

กล้องวงจรปิดจำนวนมาก เช่น กระทรวงกลาโหม กระทรวง

มหาดไทย และกระทรวงคมนาคม เป็นต้น

๔) ขยายผลไปสู่การผลิตใช้งาน ให้แก่ หน่วยงาน ที่ต้องการ

การประมวลผลภาพด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI) เช่น กระทรวงเกษตร

และสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ

และสิ่งแวดล้อม และกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นต้น

๕) ขยายผลไปสู่การผลิตใช้งาน ให้แก่ หน่วยงานราชการและ

ภาคประชาชนในลักษณะเป็นสินค้าที่ใช้ได้สองทาง (Dual-use

Items) เพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมภายใน

ประเทศ

หลักเมือง สิงหาคม ๒๕๖๕

27


ตุรเคีย

กับบทบาทด้านความมั ่นคงโลก

“มิติสงครามต่อต้านการก่อการร้าย”

(Terrorism in Türkiye)

พันเอก พิศาล อมรรัตนานุภาพ

รองผู้อำนวยการกองข่าวความมั่นคง สำนักข่าวกรอง กรมข่าวทหาร

คำถาม : อะไรคือคำนิยาม/ความหมายของคำว่า “การก่อการร้าย/

Terrorism”

สื

บเนื่องจากการ Rebrand ชื่อประเทศของตุรกี ตามคำร้องขอ

ของรัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดี เรเจป ไตยยิป

เอร์โดอาน (Recep Tayyip Erdogan) และได้รับการอนุมัติจาก

องค์การสหประชาชาติ เมื่อ ๒ มิถุนายน ๒๕๖๕ ให้เปลี่ยนชื่อประเทศ

ตุรกี (Turkey) เป็นตุรเคีย (Rebublic of Turkiye : Türkiye) นั้น

เมื่อมองผ่านเลนส์ที่เจาะลึกลงบนแผนที่โลกจะพบว่าประเทศ

ตุรเคียนั้น ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่เรียกว่ ายูเรเชีย ที่เป็นรอยต่อระหว่างยุโรป

และเอเชีย (เอเชียกลาง) แต่ด้วยระยะทางที่อยู่ไกลจากไทยมาก

ความร่วมมือด้านข่าวสาร/ข่าวกรองด้านความมั่นคงนั้นจึงมีจำนวน

28

ที่ไม่มากนักและหากผู้อ่านที่มิได้ติดตามด้านความมั่นคงในเอเชียกลาง

คงอาจไม่สามารถทราบได้เลยว่าแท้จริงแล้วตุรเคียนั้นมีความสำคัญ

อย่างยิ่งบนเวทีการเมืองระหว่างประเทศและทางด้านการทหาร ซึ่ง

สามารถนับถอยหลังไปสู่อดีตราว ๖๐๐ ปี โดยการเป็นมหาอำนาจ

ต้องเริ่มนับย้อนไปในสมัยจักรวรรดิออตโตมันที่ปกครองด้วยระบอบ

สุลต่านที่ในช่วงศตวรรษที่ ๑๓ จนถึง ศตวรรษที่ ๑๙ โดยกองทัพ

เติร์กนั้นสามารถขยายอาณาเขตครอบคลุมตั้งแต่ประเทศอียิปต์

กรีซ ซีเรีย คาซัคสถาน อุซเบกิสถาน ส่งผลให้มีความหลากหลาย

เชื้อชาติเผ่าพันธุ์ อาทิ ชาวเติร์ก (ประชาชนส่วนใหญ่) ชาวอาหรับ

ชาวเคิร์ด ชาวกรีซ ในยุคปลายของจักรวรรดิ มีสุลต่านอับดุลฮามิด

ที่สอง (Sultan Abdul Hamid II) (ปี ค.ศ.๑๘๗๖ - ๑๙๐๙) เป็นสุลต่าน

พันเอก พิศาล อมรรัตนานุภาพ


สุลต่าน Abdul Hamid II : สุลต่านแห่งจักรวรรดิออตโตมัน

ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงการปกครองครั้งใหญ่และได้มีการรวบอำนาจ

ต่าง ๆ ไว้เพื่อรักษาอำนาจและในยุคนี้ (ปี ค.ศ.๑๙๐๘ - ๑๙๑๘)

กลุ่มยังเติร์กภายใต้การนำของ ร้อยโท มุสตาฟา เคมาล อตาเติร์ก

คือจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติล้มล้างระบอบสุลต่านและมีการใช้

สงครามนอกแบบในลักษณะของการก่อการร้ายในตุรเคีย ซึ่งนำไป

สู่การปรับเปลี่ยนการปกครองเป็นระบอบสาธารณรัฐในปี ค.ศ.

๑๙๒๓ และได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีคนแรกแห่งตุรเคีย จาก

การศึกษาพบว่าการปฏิวัติและการเปลี่ยนการปกครองในตุรเคียจะ

เกิดขึ้นบ่อยครั้งแต่กองทัพเติร์กนั้นมิได้ถูกลดบทบาทบนเวทีโลกแต่

อย่างใด นับตั้งแต่การส่งกองทัพเข้าร่วมกับเยอรมันในสงครามโลก

ครั้งที่ ๑ (World War I) และได้เป็นฝ่ายพ่ายแพ้กับฝ่ายสัมพันธมิตร

ภายใต้การนำของอังกฤษและฝรั่งเศส แต่ด้วยความเป็นมหาอำนาจ

ในภูมิภาคในปี ๑๙๕๒ กองทัพตุรเคียจึงได้รับคำเชิญให้เข้าร่วมกับ

กองกำลังพันธมิตรภายใต้ขององค์การสนธิสัญญาป้องกัน

แอตแลนติกเหนือ (NATO) เพื่อเป็นกำลังหลักในการรักษา

เสถียรภาพให้พื้นที่เอเชียกลางและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

บทบาทกองทัพเติร์กในสงครามต่อต้านการก่อการร้าย

ในสงครามนั้นกองทัพมิใช่มีบทบาทเพียงการทำสงครามตาม

แบบที่เปิดสนามรบด้วยการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ เครื่องบิน รถถัง

และตามด้วยการส่งกองกำลังทหารราบ ทหารม้า เข้าร่วมในการ

ต่อสู้เพียงมิติเดียวหากแต่ยังมีหน้าที่และบทบาทในการต่อสู้สงคราม

หลักเมือง สิงหาคม ๒๕๖๕

ประธานาธิบดี เรเจป ทายยิป แอร์โดอัน

29


นอกแบบที่ใช้การทำสงครามกองโจรและสงครามการก่อการร้ายอีกด้วย

ซึ่งการทำสงครามต่อต้านการก่อการร้ายนั้นมีความสลับซับซ้อน

มากกว่าสงครามตามแบบอย่างมาก เนื่องจากในการเข้าปราบปราม

ในแต่ละครั้งจะมีประเด็นเรื่องอำนาจหน้าที่และการกำหนดเป้าหมาย

ว่าใครคือผู้ก่อการร้าย จากการศึกษาทั้งด้านกฎหมายและรัฐศาสตร์

การเมืองระหว่างประเทศและหลักสูตรทางทหารพบว่า ปัญหา

ที่สำคัญและยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้คือ ความหมาย/นิยาม

ของ “การก่อการร้าย/Terrorism” อาทิ รัฐบาลจีนมองกลุ่ม

หัวรุนแรงชาวอุยกูร์ (ประชาชนจีนเชื้อสายตุรกี (Turkic Ethnic))

ในมณฑลซินเจียงเป็นกลุ่มก่อการร้ายที่มีวัตถุประสงค์ในการแบ่งแยก

ดินแดนเพื่อกลับไปเป็นสาธารณรัฐเตอร์กิสถานตะวันออก (Eastern

Turkestan Republic) ซึ่งการเรียกร้องได้อ้างถึงว่าดินแดนนี้เคย

เป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรออตโตมันและควร

ต้องกลับไปสู่การปกครองตนเองอีกครั้ง ในขณะที่

สหรัฐฯ มีมุมมองที่แตกต่างออกไปจากรัฐบาลจีน

โดยมองการเคลื่อนไหวที่รุนแรงชองชาวอุยกูร์

กระทำเพื่อเรียกร้องสิทธิ์ขั้นพื้นฐานที่สมควรได้รับ

ตามร้องขอ ผู้เขียนมองในประเด็นนี้ว่าการก่อการร้าย

มักจะเริ่มจากการยืนบนจุดที่แตกต่างกันใน

ลักษณะ การมองจากภายนอกเข้าหาภายใน

(Outside In) กับการมองจากภายในไปสู่ภายนอก

(Inside Out) ดังนั้น เป็นการยากที่จะกำหนดว่า

แท้จริงแล้ว การก่อการร้ายนั้นเป็นการเคลื่อนไหว

เพื่อแบ่งแยกดิน หรือการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้อง

สิทธิขั้นพื้นฐาน

ในห้วง ๑๐ ปีที่ผ่านมากองทัพเติร์กกลับมามีบทบาททางทหาร

ที่สำคัญอีกครั้ง โดยในปี ๒๐๑๔ กลุ่มก่อการร้ายไอซิสได้ประกาศ

สถาปนารัฐอิสลาม (Caliphate) ซึ่งได้ทำการยึดพื้นที่ อิรัก/ซีเรีย

เป็นฐานที่มั่นในช่วงแรกของการปรากฏตัวรัฐบาลตุรเคียเคยถูกมอง

ว่าเป็นผู้สนับสนุนกลุ่มไอซิส อาจเนื่องด้วยความขัดแย้งระหว่าง

ตุรเคีย-ซีเรีย แต่ทั้งนี้กองทัพเติร์กได้พิสูจน์ตนเองร่วมกับกองทัพ

สหรัฐฯ ในการเข้าปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายไอซิสและได้จบลง

แต่ปัญหาการก่อการร้ายของประเทศยังคงดำรงอยู่ สืบเนื่องมาจาก

สงครามครั้งนี้กลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ติดอาวุธชาวเคิร์ด พรรค

แรงงานเคอร์ดิสถาน (Kurdistan Workers’ Party (PKK)) และหน่วย

พิทักษ์ประชาชน People’s Defense Units (YPG) ที่เคลื่อนไหว

ต่อต้านรัฐบาลตุรเคียมากว่า ๔๐ ปี และได้ถูกขึ้นบัญชีให้เป็นกลุ่ม

30

ชาวอุยกูร์ในมณฑลซินเจียงเดินขบวนประท้วงเพื่อขอการเป็นประเทศเอกราชจากจีน

พันเอก พิศาล อมรรัตนานุภาพ


ก่อการร้ายต่างได้รับการฝึกให้เป็นกองกำลังตัวแทนภาคพื้นดินของ

สหรัฐฯ (US’s Proxy) ซึ่งปัญหานี้ได้ถูกนำกลับขึ้นมาบนเวที

การเมืองโลกอีกครั้งเมื่อสงครามรัสเซีย-ยูเครน ๒๐๒๒ ปะทุขึ้น

และประเทศที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการถูกกองทัพรัสเซียโจมตีจำเป็น

จะต้องหาเครื่องมือป้องกันจากภัยคุกคาม โดยเมื่อ ๗ มิถุนายน

๒๕๖๕ ฟินแลนด์และสวีเดนได้ยื่นคำขอเพื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิก

NATO ซึ่งก่อนหน้าการประชุมลงคะแนนเสียงของสมาชิก NATO

รัฐบาลตรุเคียภายใต้การบัญชาการของประธานาธิบดี แอร์โดอัน

ได้แสดงท่าทีว่าจะใช้สิทธิ์คัดค้านเนื่องจากเหตุผลที่ว่าทั้ง ๒ ประเทศ

ให้การสนับสนุนทั้งด้านการเงิน การเคลื่อนไหวทางการเมืองและให้

ที่พักพิงกับกลุ่มพรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน (PKK) และ กลุ่ม YPG

แต่สุดท้ายหลังจากทำการบวกลบคูณหารแล้วทั้ง ๒ ประเทศพบว่า

นักรบกองกำลังชาวเคิร์ด (YPG) และนายทหารสหรัฐฯ

ในสงครามต่อสู้กลุ่มก่อการร้ายไอซิส

หลักเมือง สิงหาคม ๒๕๖๕

ความเสี่ยงและผลกระทบจากการโจมตีของรัสเซียมีอันตราย

มากกว่า ดังนั้นหนทางปฏิบัติที ่ดีที่สุดคือ การตกลงที ่จะทำตาม

ข้อเรียกร้องของตุรเคียในการหยุดการให้การสนับสนุนต่าง ๆ กับกลุ่ม

PKK และ กลุ่ม YPG ส่งผลให้การลงคะแนนเสียงเมื่อ ๒๘ มิถุนายน

๒๕๖๕ เป็นไปอย่างราบรื่น

คำถามที่น่าสนใจนำไปวิเคราะห์ต่อไป :

ในห้วง ๕ ปีที่ผ่านมา ผู้เขียนได้ศึกษาปัญหาด้านการก่อการร้าย

ในหลายประเทศซึ่งพบว่าหน่วยงานด้านการก่อร้ายต่างมีมุมมอง

ที่แตกต่างกันออกไปจึงยังไม่สามารถหาคำนิยาม/ความหมาย “การ

ก่อการร้าย/Terrorism” ในลักษณะให้เป็นที่ยอมรับเป็นหนึ่งเดียว

ทั้งโลกได้ ส่วนประเด็นที่น่าสนใจต่อจากนี้คือ บทบาทของตุรเคียใน

กรณีปัญหาการก่อการร้ายในจีนและเอเชียกลางเนื่องจากชาวอุยกูร์

หัวรุนแรงได้อ้างอิงประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์เชื่อมโยงทางเชื้อชาติ/

วัฒนธรรมระหว่างตุรเคียกับสาธารณรัฐเตอร์กิสถานตะวันออกและ

ได้เรียกร้องให้รัฐบาลจีนยอมให้ปกครองตนเอง ซึ่งครั้งนี้จะต้องมา

ติดตามดูว่าตุรเคียจะใช้ไพ่ใบไหนมาเล่นกับพญามังกรต่อไป

References:

Harvard University 2022, The Young Turks, Religion and Public Life,

viewed 1 st July 2022, <https://rpl.hds.harvard.edu/faq/young-turks>.

Rashid, A 2003, Jihad: The Rise of Militant Islam in Central Asia,

Penguin Books, New York

ที่มาของภาพ : https://www.dailysabah.com/arts/portrait/sultan-abdulhamid-ii-a-life-that-influenced-a-century,

https://www.timesofisrael.com/

turkeys-erdogan-begins-new-term-with-enhanced-powers/, https://thelondonpost.net/us-sees-turkeys-concerns-yet-maintains-ties-ypg/

31


ปลายทางที ่แตกต่าง

พลตรี ดร.ดิเรก ดีประเสริฐ

รองเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก

ระบวนการแก้ปัญหาในพื้นที่ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น

มีกระบวนการสำคัญประการหนึ่งคือ การพูดคุยสันติสุขเพื่อมุ่ง

ไปสู่การแก้ปัญหาความขัดแย้งคับข้องใจของคนในพื้นที่โดยเฉพาะ

บรรดาแกนนำขบวนการแบ่งแยกผู้คนในพื้นที่ด้วยการปรึกษาหารือ

พูดคุยกันด้วยสันติวิธีระหว่างคณะผู้แทนของรัฐกับผู้แทนกลุ่ม

แบ่งแยกการปกครองในนามกลุ่ม BRN โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือเพื่อยุติ

หรืออย่างน้อยก็บรรเทาความรุนแรงจากการใช้อาวุธเข้าห้ำหั่นกัน

โดยเฉพาะการกระทำจากฝ่าย BRN โดยความเห็นชอบร่วมกันของ

กลุ่มเห็นต่างในพื้นที่ผ่านการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือ

ผสมผสานความต้องการของทุกฝ่ายบนโต๊ะเจรจา อันจะนำไปสู่การ

ตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่โดยไม่ต้องใช้

ความรุนแรงเฉกเช่นที่ผ่านมาตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา และนี่คือ

เป้าหมายปลายทางของกระบวนการพูดคุยสันติสุขของรัฐที่คาดหวัง

ว่าจะเป็นหนทางไปสู่การนำสันติสุขกลับคืนมาสู่พื้นที่แห่งนี้อันเป็น

เป้าหมายปลายทางสุดท้ายได้อย่างแท้จริง

หากแต่ว่าการดำเนินการตามแนวทางของกระบวนการพูดคุย

สันติสุขของรัฐกับกลุ่มเห็นต่างกับรัฐนั้น หาได้ง่ายดายตามมโนภาพ

ที่สร้างขึ้นไม่ เพราะแท้ที่จริงแล้วกระบวนการพูดคุยเพื่อนำ

สันติสุขมาสู่พื้นที่นั้น ต้องได้รับการยอมรับจากทุกกลุ่มทุกฝ่ายที่แตกตัว

ออกไปเป็นกลุ่มต่าง ๆ ในการต่อสู้กับรัฐ และกลุ่มต่าง ๆ เหล่านั้น

ต้องมีพื้นที่ในเวทีของกระบวนการพูดคุยกับรัฐตั้งแต่ต้น ซึ่งกลุ ่มตน

32

จะต้องเป็นกลุ่มหนึ่งในการพูดคุย

กับรัฐอย่างเป็นทางการเฉกเช่น

เดียวกับกลุ่ม BRN ที่ได้รับการ

ยอมรับจากรัฐทั้งที ่ผ่านมาและใน

ห้วงหลัง ๆ มานี้ ปฏิกิริยาของการ

ก่อเหตุร้ายในห้วงนี้ จึงเป็นการส่ง

สัญญาณให้รัฐเห็นว่า กลุ่ม BRN

ไม่ใช่ตัวแทนของขบวนการต่อสู้กับ

รัฐอย่างเบ็ดเสร็จแต่เพียงผู้เดียว

และรัฐต้องรับรู้ว่า ขบวนการต่อสู้

กับรัฐไทยตลอดระยะเวลาหลาย

สิบปีที่ผ่านมานั้น กลุ่มคนที่มีความ

เห็นต่างจากรัฐ มีอุดมการณ์หรือ

แนวคิดที่ไม่ได้เป็นเอกภาพหนึ่ง

เดียว การต่อสู้กับรัฐอันยาวนาน

ได้ทำให้คนในขบวนการแตกตัวออกไปตั้งกลุ่มใหม่หลากหลายกลุ่ม

และต่างฝ่ายต่างมีศักยภาพในการต่อสู้กับรัฐในหลายมิติอย่างเป็น

ระบบ เหล่านี้คือความสลับซับซ้อนของกระบวนการพูดคุยสันติสุข

ของรัฐกับกลุ่มเห็นต่างจากรัฐที่ไม่ง่ายอย่างที่คิด

กลุ่มเห็นต่างที่มีอยู่อย่างหลากหลาย ที่มีทั้งการแสดงตัวตน

และที่ยังไม่แสดงตัวตน ต่างมีศักยภาพในการต่อสู้ตามที่ตนถนัดและ

นิยมชมชอบ และเมื่อใดที่การพูดคุยดำเนินไปจนมีแนวโน้มว่าผล

การพูดคุยอาจจะไม่เป็นไปตามที่กลุ่มตนคิดหรือคาดหวัง คนเหล่านี้

ก็พร้อมที่จะปลีกตัวออกมาจัดตั้งกลุ่มใหม่ และมีอิสระในการ

แสดงออกซึ่งความมีตัวตนของกลุ่มตนได้ทุกรูปแบบตามแต่โอกาส

และจังหวะจะอำนวย การก่อเหตุรุนแรงให้เห็นเป็นระยะ ๆ หนักบ้าง

พลตรี ดร.ดิเรก ดีประเสริฐ


เบาบ้างตามแต่โอกาสและจังหวะจะอำนวย เพื่อต้องการแสดงตัวตน

ของกลุ่มตนที่กำลังถูกละเลยหรือมองข้ามจากรัฐ คนกลุ่มนี้พร้อม

ก่อเหตุใด ๆ ได้ตลอดเวลา แม้ว่าท่าทีของรัฐและกลุ่ม BRN จะมีแนวโน้ม

ของการยุติความรุนแรงชั่วคราวระหว่างความพยายามในการพูดคุย

ที่กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้น เพื่อให้เกิดบรรยากาศการพูดคุยของ

ทั้งสองฝ่ายให้เป็นไปตามแนวทางรอมฎอนสันติสุขที ่ทั้งสองฝ่าย

เห็นชอบร่วมกัน หากแต่ว่ากลุ่มเห็นต่างจากรัฐนั้นหาใช่มีเพียงกลุ่ม

BRN ไม่ และกลุ่ม BRN ก็ไม่ได้เป็นผู้นำกลุ่มเห็นต่างในพื้นที่ รวมทั้ง

กลุ่มเห็นต่างอื่น ๆ ต่างก็มีศักยภาพในการต่อสู้กับรัฐอย่างเป็นอิสระ

อย่างเต็มที่

ปรากฏการณ์ที่นายกัสตูรี มาห์โกตา ผู้นำกลุ่มเห็นต่างที่

ชื่อ องค์การปลดปล่อยสหปาตานี (PULO-MKP) กล่าวกับเบนาร์นิวส์

อ้างว่าเหตุวางระเบิดที ่สายบุรีและในอีกหลายจุดที่ผ่านมานั้น

เป็นฝีมือจากการกระทำของกลุ่มพูโลที่ทำไปเพื่อเรียกร้องให้คณะ

พูดคุยของรัฐไทยนั้น ต้องเจรจากับฝ่ายผู้เห็นต่างทุกกลุ่ม ไม่ใช่

พูดคุยเจรจากับกลุ่ม BRN เพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น และนายกัสตูรี

ยังกล่าวอีกว่า การก่อเหตุรุนแรงในแต่ละครั้งที่ผ่านมาเป็นฝีมือ

ของปีกหนึ่งของพูโลที่วางระเบิด โดยกลุ่มพูโลมีเครือข่ายกองกำลัง

๕ ปีก ในสามจังหวัดชายแดนใต้ โดยแต่ละปีกจะมีอิสระในการต่อสู้

ในเขตรับผิดชอบของตน และกลุ่มพูโลนี ้มีศักยภาพอย่างเต็มเปี่ยม

ที่พร้อมจะต่อสู้กับรัฐในทุกรูปแบบหากกลุ่มตนถูกละเลยหรือถูกมอง

ข้ามจากรัฐ จากปฏิกิริยาที่ผ่านมานี้จึงเป็นส่วนสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่า

ไม่อาจคาดหวังในผลสัมฤทธิ์อันสวยงามของรัฐได้ว่า เมื่อ

กระบวนการพูดคุยสันติสุขกับกลุ่ม BRN สำเร็จลง สิ่งที่รัฐกำลังคาด

หวังปลายทางสุดท้ายของยุทธศาสตร์นี้ไว้อย่างสวยหรูว่าจะสามารถ

ยุติความขัดแย้งด้วยอาวุธหรือนำความสงบสุขมาสู่พื้นที่แห่งนี้ได้หรือ

อย่างน้อยก็น่าจะลดศักยภาพการต่อสู้ด้วยวิธีรุนแรงจากผู้เห็นต่าง

ของกลุ่มอื่น ๆ ได้ หากแต่แท้ที่จริงแล้วปฏิกิริยาการแสดงศักยภาพ

ของกลุ่มต่าง ๆ เช่นที่เกิดขึ้นโดยกลุ่มพูโลนี้ กำลังแสดงให้เห็นว่า

กลุ่มพูโลเป็นอีกกลุ่มหนึ่งในหลาย ๆ กลุ่มที่ต่อสู้กับรัฐตามอุดมการณ์

และความต้องการจุดหมายปลายทางของการต่อสู้ ที่ส่งสัญญาณแรง ๆ

ให้รัฐเห็นชัดเจนว่า พวกเขามีตัวตนอยู่จริงในพื้นที่แห่งนี้ ทั้งยังสื่อ

นายกัสตูรี มาห์โกตา

ให้รัฐได้รับรู้ว่าอย่าได้ละเลยพวกเขาในเวทีการพูดคุยไม่ว่าจะเป็น

หนไหนเป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นปลายทางสุดท้ายที่รัฐคาดหวังก็จะ

ไม่มีวันเกิดขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้น ล่าสุดกลุ่ม BRN ได้ออกมาประกาศท่าทีที่

แสดงเจตนารมณ์ชัดเจนในกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขของกลุ่ม

ขบวนการนี้กับรัฐที่ดูจะมีเป้าหมายเดียวกันกล่าวคือ คืนสันติสุขสู่

พี่น้องในพื้นที่แห่งนี้ หากแต่ว่าแท้ที่จริงแล้วเป้าหมายปลายทาง

สุดท้ายของรัฐนั้นมุ่งหวังความสันติสุขท่ามกลางความแตกต่างบน

ความเป็นรัฐเดียวกัน ในขณะที่กลุ่มขบวนการทั้งหลายมุ่งหมายที่

จะมีสันติสุขบนความเป็นรัฐปกครองตนเองในแบบของตนเอง โดย

เจ๊ะมูดอ บินเจ๊ะเตะ ผู้อาวุโสสูงสุดในคณะเจรจาของขบวนการฯ

พูดในงานเสวนาออนไลน์ “ภาพอนาคตปาตานี/ชายแดนใต้” (SCE-

NARIO PATANI) เมื่อ ๒๕ มิถุนายน ที่ผ่านมา มีสาระสำคัญว่า การ

ปกครองตนเองอย่างอิสระของคนปาตานีในอนาคต ต้องมีกฎหมาย

ของตนเองทุกด้าน มีศาลของตัวเองและผู้แทนรัฐสภาจากการเลือกตั้ง

ของตัวเอง รวมทั้งภาษีของตนเอง และย้ำว่า จะต้องได้เขตดินแดน

ภายใต้สนธิสัญญาแองโกล-สยาม ที่ระบุไว้ในปี ๑๙๐๙ นับตั้งแต่

สยามทำสัญญากับอังกฤษ นั่นคือบางพื้นที่ของสตูลและบางส่วน

ของสงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เป็นดินแดนที่เรียกร้อง

ในอนาคต นั่นคือการยอมรับประชาชนเชื้อสายมลายู ตามแนว

การเมือง ณ ปัจจุบัน ที่เริ่มจากการเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของประเทศ

ที่เป็นเอกราชในที่สุด เหล่านี้คือความยากของความสำเร็จใน

กระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขที่คาดหวัง ด้วยแต่ละฝ่ายล้วนมี

เป้าหมายปลายทางของกระบวนการพูดคุยที่แตกต่างระหว่างกัน

อย่างชัดเจน

ที่มาของภาพ : การเสวนาออนไลน์ www.nationtv.tv, เสวนา อนาคตปัตตานี,

รูปสำรอง นายกัสตูรี มะโกตา เเกนนำพูโล httpswww.google.com, เหตุรุนเเรง

ในจังหวัดชายเเดนใต้ httpswww.prachachat.net

หลักเมือง สิงหาคม ๒๕๖๕

33


สถานะทางกฎหมาย

ระหว่างประเทศของทหารรับจ้าง (Mercenary)

พลเอก กฤษณะ บวรรัตนารักษ์

ข้าราชการบำนาญ

ามที่ปรากฏเป็นข่าวว่าสถานการณ์ที่มีการสู้รบในยูเครนนั้น

มีการกล่าวอ้างหรือกล่าวหาว่าประเทศคู่ขัดแย้งทั้งสองฝ่าย

มีการใช้ทหารรับจ้างเข้ามาเกี่ยวข้องนอกเหนือจากกำลังทหารหลัก

จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับสถานะทางกฎหมายระหว่างประเทศ

ของทหารรับจ้าง ซึ่งพอสรุปได้ว่า ทหารรับจ้าง (Mercenary) คือ

บุคคลที่เข้าร่วมสงครามโดยมีส่วน

ร่วมโดยตรงในการสู้รบ มิได้มีเชื้อชาติ

หรือสังกัดในกองทัพคู่สงคราม

แต่เข้าร่วมรบโดยวัตถุประสงค์

หรือแรงจูงใจส่วนตัวหลักคือ ค่า

จ้างที่สูงมากหรือสูงกว่าทหารใน

กองทัพในระดับเดียวกัน หากถูก

อีกฝ่ายจับได้ก็ไม่มีสถานะเป็น

เชลยศึกที่จะถูกควบคุมตัวจนกว่า

สงครามจะยุติแล้วได้รับการปล่อย

34

ตัวกลับประเทศตัวเอง แต่อาจจะถูกดำเนินคดีความผิดตามกฎหมาย

ภายในประเทศของประเทศที ่ควบคุมตัว เช่น ประเทศนั้น

มีฐานความผิดเป็นทหารรับจ้าง ความผิดฐานฆ่าคนตาย ความผิด

ต่อความมั่นคงของรัฐ เป็นต้น และอาจถูกประหารชีวิตได้หากเป็น

บทบัญญัติลงโทษความผิดทางอาญาของประเทศที่ควบคุมตัว แต่

พลเอก กฤษณะ บวรรัตนารักษ์


กองทหารต่างด้าว (French Foreign Legion) ของกองทัพฝรั่งเศส

ซึ่งเคยมีคนไทยไปสังกัด และกองทหารกุรข่า (Gurkhas) ที่ไปประจำ

กองทัพอังกฤษไม่มีสถานะเป็นทหารรับจ้างเพราะไปเป็นกำลังพล

กองทัพฝรั่งเศสและกองทัพอังกฤษที่ชัดเจนและไม่ได้รับค่าจ้าง

ตอบแทนที่สูงกว่าทหารฝรั่งเศสหรือทหารอังกฤษตำแหน่งระดับ

เดียวกัน ปัจจุบันมีรูปแบบธุรกิจใหม่พัฒนาจากทหารรับจ้างที่เรียก

ว่า Private Military Company หรือ Private Military Contractor

(PMC) ที่จัดตั้งเป็นองค์กรธุรกิจแสวงหากำไรโดยให้บริการด้าน

ความปลอดภัยต่าง ๆ เช่น บุคคลสำคัญ สถานที่สำคัญ การส่งกำลัง

บำรุง เป็นต้น ซึ่งมีกองกำลัง อาวุธยุทโธปกรณ์ ที่มีศักยภาพมากว่า

บริษัทให้บริการความปลอดภัยทั่วไป เช่น การขนเงิน การขน

ทรัพย์สินมีค่า เป็นต้น ตัวอย่าง PMC เช่น Blackwater Company

(Academi) ของสหรัฐอเมริกาก่อตั้งโดยอดีตนายทหารหน่วย Seal

กองทัพเรือ ที่รับงานจากรัฐบาลสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถานและอิรัก

หรือ Wagner Group ของรัสเซียก่อตั้งโดยอดีตนายทหารรัสเซียที่

ผ่านการสู้รบในเชเชนรับงานในซีเรีย ลิเบีย มาลี แคว้น Donbas,

Donetsk, Luhansk ในยูเครน ปัจจุบันถือว่า PMC ไม่ได้เป็นทหาร

รับจ้างหากไม่ไปปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับการรบ

อาสาสมัครต่างด้าวที่เข้าร่วมสู้รบให้กับยูเครนหากเข้าสังกัด

กองทัพยูเครนเข้ารับการฝึกโดยกองทัพยูเครนแต่งเครื่องแบบทหาร

ยูเครน และได้รับค่าจ้างระดับเดียวกับทหารยูเครน ถือว่าไม่เข้าข่าย

ทหารรับจ้างเช่นเดียวกับกองทหารต่างด้าวของกองทัพฝรั่งเศส

กองทหารกุรข่ากองทัพอังกฤษ เป็นพลรบ (combatant) มีสถานะ

เป็นเชลยศึกหากถูกอีกฝ่ายจับตัวได้

สรุป ทหารรับจ้างเป็นอาชีพของต่างด้าวที่มุ่งหวังเงินค่าจ้างสูง

เป็นหลัก ไม่ได้รับสถานะเชลยศึกหากถูกควบคุมตัว ส่วน Private

Military Company/Contractor เป็นรูปแบบใหม่ของธุรกิจการ

รักษาความปลอดภัย หากไปเกี่ยวข้องกับการสู้รบโดยตรงจะมี

สถานะเช่นเดียวกับทหารรับจ้าง

ที่มาของภาพ : 1 นักรบรับจ้าง blackwater ของสหรัฐฯ, 2 ทหารรับจ้าง

httpswww.tnnthailand.com, 3 ทหารกุรข่า httpswww.blockdit.com,

blackwaterhttpssilentprofessionals.org

หลักเมือง สิงหาคม ๒๕๖๕

35


“3 NEW : สิ ่งที ่คนไทยควรรู้

เพื ่อความอยู่รอดและความสำเร็จในชีวิตยุคหลังโควิด-19

ท่ามกลางการกำเนิดขึ้นของโลกใหม่ บนดินแดนแห่ง METAVERSE” ตอนที ่ ๕ (ตอนจบ)

พลเอก เฉลิม คูหาวิชานันท์

ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม

ถีการดำเนินชีวิตของมนุษย์ไม่ว่ายุคใดสมัยใด ย่อมเกิดการ

เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลาไม่สิ้นสุด หนทางในการหลีกเลี่ยง

สิ่งที่ไม่ดี และหนทางในการใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ดี ซึ่งเกิดขึ้นทั้งใน

ปัจจุบันและอนาคต เป็นสิ่งที่คนทุกคนทุกรุ่นทุกวัยควรเรียนรู้เพื่อ

ความอยู่รอดและเพื่อความสำเร็จในชีวิตของตน

โลกยุคปัจจุบันแม้จะมีเหตุการณ์วิกฤตเกิดขึ้นมากมาย แต่ใน

เวลาเดียวกันก็ได้มีสิ่งใหม่ (NEW) เกิดขึ้นไม่น้อยเช่นกัน ทำให้สังคมโลก

รวมทั้งสังคมไทยในปัจจุบันกลายเป็นสังคมที่เต็มไปด้วยโอกาส

สุดแล้วแต่ว่าใครจะมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองให้มี

ทักษะที่จะใช้โอกาสนั้น ๆ ให้เป็นประโยชน์และสร้างความสำเร็จ

ในชีวิต

“ความคิดสร้างสรรค์” เป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่งที่จะช่วย

ให้เราก้าวไปสู่ความสำเร็จในชีวิต การที่เราจะมี “ความคิด

36

วิ

สร้างสรรค์” ที่ดีและเหมาะสมสอดคล้องกับโอกาสที่เกิดขึ้นได้นั้น

ต้องอาศัยการเรียนรู้สิ่งทั้งหลายที่เกิดขึ้นและเป็นไปรอบตัวเรา ด้วย

ความเข้าใจถึงธรรมชาติของสิ่งต่าง ๆ เข้าใจถึงเหตุและผลของการ

เกิดขึ้นของแต่ละสิ่งจนมองเห็นความสัมพันธ์เชื่อมโยงของทุกสิ่งที่

เกิดขึ้น ทั้งนี้สิ่งที่ต้องเรียนรู้มีอยู่มากมาย แต่ที่มีนัยสำคัญและเป็น

สิ่งที่คนไทยควรรู้ เพื่อความอยู่รอดและความสำเร็จในชีวิตยุคหลัง

โควิด-19 ท่ามกลางการกำเนิดขึ้นของโลกใหม่บนดินแดนแห่ง

METAVERSE มี ๓ สิ่งใหม่ หรือ 3 NEW ได้แก่ NEW NORMAL

NEW MEDIA และ NEW GEN

ในบทความตอนที่ ๑ และตอนที่ ๒ ได้กล่าวถึง NEW NORMAL

ทั้งที่เกิดขึ้นจากการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้คนไทย

ต้องเรียนรู้เพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบวิถีการด ำเนินชีวิตใหม่ ซึ่งปัจจุบัน

ได้ปรับตัวกลายเป็นความปกติใหม่ไปแล้ว และ NEW NORMAL ที่

พลเอก เฉลิม คูหาวิชานันท์


เกิดจากผลกระทบของความก้าวหน้าด้าน

เทคโนโลยีโดยเฉพาะเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งคนไทย

ต้องเรียนรู้เพื่อปรับตัวให้รู้เท่าทันเทคโนโลยี

ดิจิทัลและฝึกฝนให้มีทักษะดิจิทัลพื้นฐาน

สำคัญ ๓ ทักษะ ส่วนบทความตอนที่ ๓ และ

ตอนที่ ๔ ได้กล่าวถึง NEW MEDIA หรือ

สื่อใหม่ที่เกิดขึ้น ซึ่งคนไทยควรเรียนรู้เพื่อ

ปรับตัวและปรับพฤติกรรมการใช้สื่อใหม่

ในชีวิตประจำวันอย่างรู้เท่ากัน

สำหรับบทความตอนที่ ๕ ซึ่งเป็นตอนจบ

ของบทความชุดนี้ จะกล่าวถึงสิ่งใหม่สิ่งที่สาม

ที่คนไทยควรรู้ เพื่อความอยู่รอดและความ

สำเร็จในชีวิตยุคหลังโควิด-19 ท่ามกลาง

การกำเนิดขึ้นของโลกใหม่บนดินแดนแห่ง

METAVERSE ซึ่งถือได้ว่ามีความสำคัญที่สุดใน 3 NEW อันได้แก่

“NEW GEN”

“NEW GEN” เป็นสิ่งใหม่ที่คนไทยทุกช่วงวัย ทุกเพศ ทุกเชื้อชาติ

ทุกศาสนาควรรู้เพื่อช่วยให้เกิดความเข้าใจ “คน” รอบข้างที่เกิดมา

และใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคมไทยทั้งปัจจุบันและในอนาคตที่

จะมาถึง โดยเริ่มตั้งแต่ความเข้าใจตนเอง เข้าใจคนที่บ้าน คนที่

ทำงานร่วมกัน รวมทั้งคนพบเจอในสถานที่ต่าง ๆ ในสังคมบนโลก

จริง และในสังคมออนไลน์บนโลกเสมือนจริง เพื่อความอยู่รอด

หลักเมือง สิงหาคม ๒๕๖๕

37


สามารถดำเนินชีวิตอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขและประสบ

ความสำเร็จในชีวิตตามที่ปรารถนาทุกคน

“NEW GEN” หมายถึงคนไทยรุ่นใหม่ที่ถือได้ว่าเป็นคนไทย

ในยุคดิจิทัลอย่างเต็มตัวรุ่นแรกเพราะเป็นคนรุ่นที่ได้เริ่มสัมผัสกับ

เทคโนโลยีใหม่และโลกออนไลน์นับตั้งแต่เกิด โดยคนรุ่นใหม่นี้คือ

คนไทยเกิดระหว่าง พ.ศ.๒๕๔๗ จนถึงปัจจุบัน ซึ่งในปีหน้าคือ ปี

พ.ศ.๒๕๖๖ จะมีอายุครบ ๒๐ ปี เป็นอนาคตที่สำคัญของประเทศไทย

ในการพัฒนาประเทศไทยให้ไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองต่อไป

“NEW GEN” เป็นคนที่เกิดมาแล้วเติบโตขึ้นพร้อม ๆ กับการ

พัฒนาก้าวหน้าของเทคโนโลยีสมัยใหม่ส่าสุด จึงทำให้คนรุ่นนี้

ไม่เหมือนกับคนรุ่นก่อนหน้า คนรุ่นนี้มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่

เปลี่ยนแปลงไป เพราะใช้ชีวิตอยู่กับสมาร์ทโฟน อินเทอร์เน็ต และ

มีกิจกรรมต่าง ๆ บนโลกออนไลน์ในแต่ละวันมากที่สุด ทั้งเพื่อการ

หาความบันเทิง การค้นหาข้อมูลความรู้ ดูยูทูบ คุยกับเพื่อน

อัปโหลดรูป โหลดรูปภาพและเพื่อการศึกษา ส่งผลให้พฤติกรรมใช้

ชีวิตมีความคุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลงมากกว่าคนรุ่นก่อนหน้าท ำให้

มีความคิดเห็นและมุมมองด้านการเรียนรู้ และการประกอบอาชีพ

การทำงานแตกต่างจากคนรุ่นอื่น ๆ คนรุ่นนี ้มักมีความใฝ่ฝันที่จะ

ทำงานในอาชีพที่สามารถสร้างรายได้จากความชอบของตัวเอง และ

38

ที่สำคัญมักแสดงออกถึงความเป็นตัวเองในด้านที่ไม่เหมือนใคร

มักชอบความรวดเร็วทันใจ นิยมมองหาความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย

จุดเด่นของคนรุ่นนี้ คือ มีความคิดสร้างสรรค์ และความสามารถ

ปรับตัวทั้งร่างกายและจิตใจต่อกิจกรรมต่าง ๆ ที่เข้าร่วมได้ดี มีความ

สามารถในการทำงานได้หลายอาชีพ เพราะหาความรู้ได้หลากหลาย

ในทุกที่ด้วยการเรียนรู้และการศึกษาออนไลน์ ซึ่งช่วยทำให้มีทักษะ

ต่าง ๆ มากมายที่ต้องการ พร้อมที่จะทำงานทั้งที่บ้านและที่ทำงาน

เพื่อหารายได้ตั้งแต่อายุยังน้อยควบคู่ไปกับการเรียนรู้โดยไม่ต้องเป็น

พนักงานประจำบริษัทหรือหน่วยงาน

“NEW GEN” เป็นคนไทยยุคดิจิทัลโดยกำเนิด มีเทคโนโลยี

เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตที่มีจุดแข็งคือเรียนรู้และเข้าใจเทคโนโลยีใหม่ ๆ

พลเอก เฉลิม คูหาวิชานันท์


ได้รวดเร็ว จึงมีศักยภาพและขีดความสามารถพร้อมที่จะพัฒนาให้

มีทักษะด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่ และเป็นกำลังสำคัญที่จะช่วย

คนไทยรุ่นอื่น ๆ ให้มีความทันสมัยก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของ

เทคโนโลยีที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาคนไทยและ

ประเทศไทยให้ก้าวทันกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ใช้เชื่อมโยงการ

ดำเนินชีวิตในโลกจริงที่เราอยู่กับโลกจริงเสมือนบนดินแดนแห่ง

METAVERSE ซึ่งเป็นโลกใหม่ที่เกิดขึ้นและก ำลังพัฒนาก้าวหน้าอย่าง

รวดเร็วอยู่ในปัจจุบันได้สำเร็จ

ในอีกด้านหนึ่งการที่ “NEW GEN” มีรูปแบบชีวิตและ

พฤติกรรมที่แตกต่างจากคนรุ่นก่อน เนื่องจากสภาพแวดล้อม

โดยเฉพาะทางด้านเทคโนโลยี ทำให้มีการรับรู้ที่แตกต่างกัน

อาจทำให้เกิดความไม่เข้าใจกันของคนต่างรุ่นต่างวัยทั้งที่บ้าน

ที่โรงเรียน ที่ทำงาน และสถานที่ต่าง ๆ ในสังคม จนอาจนำไปสู่

ความขัดแย้งโดยไม่ได้ตั้งใจได้ หากคนในสังคมไม่มีทักษะการ

เรียนรู้และเข้าใจคนอื่นที่ดีพอ

การดำเนินชีวิตในสังคมไทยปัจจุบัน คนไทยทุกรุ่นทุกวัยจึง

ควรเรียนรู้การเกิดขึ้นของ “NEW GEN” และฝึกฝนให้มีทักษะการ

รู้และเข้าใจคนอื่น เพื่อปรับตัวให้สามารถอยู่ร่วมกันโดยผสมผสาน

และสร้างจุดสมดุลระหว่างการใช้ประสบการณ์และการใช้ความรู้

ทักษะสมัยใหม่ของคนต่างรุ่นต่างวัย เพื่อความอยู่รอดและความ

สำเร็จในชีวิตร่วมกัน ที่สำคัญจะได้ร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้

เกิดขึ้นในสังคมไทยต่อไป

สิ่งที่บทความชุดนี้ได้กล่าวมาทั้งหมดตั้งแต่ตอนที่ ๑ จนถึง

ตอนที่ ๕ ซึ่งเป็นตอนจบนี้คือสิ่งที่คนไทยควรรู้เพื่อความอยู่รอดและ

ความสำเร็จในชีวิตยุคโควิด-19 ท่ามกลางการกำเนิดขึ้นของโลกใหม่

บนดินแดนแห่ง METAVERSE ซึ่งได้แก่ ๓ สิ่งใหม่หรือ “3 NEW”

ประกอบด้วย ๑. “NEW NORMAL” ๒. “NEW MEDIA” และ

๓. “NEW GEN” อันเป็นสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้น และส่งผลกระทบต่อ

สังคมไทยอย่างมีนัยสำคัญ

ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า บทความชุดนี้จะเป็นประโยชน์ต่อ

ท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อยและต้องขอขอบพระคุณผู้ที่เป็นข้อมูล ข้อคิดเห็น

รวมทั้งสนับสนุนกำลังกายและให้กำลังใจจนทำให้บทความชุดนี้

บรรลุความสำเร็จและนำเสนอให้ท่านได้อ่าน เพื่อใช้ให้เกิดประโยชน์

แก่ตนเอง และสังคมไทยอันเป็นที่รักของเราทุกคน

ที่มาของภาพ : download, thaihealth_c_abdeijlnqr34 (1), ดินเเดน

Metaverse, วัยรุ่นกับความสำเร็จในอาชีพ httpswww.posttoday.com,

วัยรุ่นกับเทคโนโลยี httpswww.unicef.org, วัยรุ่นพร้อมรับสิ่งที่เปลี่ยนแปลง

httpswww.yuvabadhanafoundation.orgth

หลักเมือง สิงหาคม ๒๕๖๕

39


40

เปิดประตูสู่เทคโนโลยี

ป้องกันประเทศ

สทป. ส่งมอบยานเกราะล้อยาง ๘x๘

แบบ VN1 (ที ่บังคับการ)

ให้กับ กองทัพบก โดยศูนย์การทหารม้า

สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ

สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ


สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ หรือ สทป. เป็นหน่วยงาน

ของรัฐภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวง

กลาโหม ดำเนินการตามพระราชบัญญัติเทคโนโลยีป้องกันประเทศ

พ.ศ.๒๕๖๒ โดยเป็นหน่วยงานที่สามารถดำเนินการด้านเทคโนโลยี

ป้องกันประเทศได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่ขั้นการวิจัยพัฒนาจนถึงขั้น

การผลิตและจำหน่าย เพื่อตอบสนองนโยบาย Thailand 4.0 และ

การส่งเสริมอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมเป้าหมาย

พิเศษอันดับที่ ๑๑ (S-Curve 11) ของรัฐบาล เป็นการปรับเปลี่ยน

โครงสร้างเศรษฐกิจไปสู่ “เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม”

ด้วยการผลิตยุทโธปกรณ์ภายในประเทศ ทำให้สามารถประหยัด

งบประมาณและลดการพึ่งพาจากต่างประเทศ สถาบันเทคโนโลยี

ป้องกันประเทศ ได้ร่วมดำเนินการวิจัยและพัฒนายานเกราะล้อยาง

๘x๘ แบบ VN1 (ที่บังคับการ) กับ กองทัพบก เพื่อเสริมสร้าง

หลักเมือง สิงหาคม ๒๕๖๕

ขีดความสามารถด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทางทหาร ด้วยการ

วิจัยพัฒนาและออกแบบยุทโธปกรณ์ให้เป็นไปตามความต้องการ

ที่แท้จริงของหน่วยผู้ใช้ และส่งมอบยุทโธปกรณ์ให้หน่วยงาน

ความมั่นคงนำไปทดสอบทดลองใช้งาน

41


สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ จัดพิธีส่งมอบยานเกราะ

ล้อยาง ๘x๘ แบบ VN1 (ที่บังคับการ) ให้กับกองทัพบก โดยศูนย์

การทหารม้า นำไปทดสอบทดลองใช้งาน โดยได้รับเกียรติจาก

พลเอก พอพล มณีรินทร์ ประธานกรรมการสถาบันเทคโนโลยี

ป้องกันประเทศ เป็นประธานในพิธีและร่วมเป็นสักขีพยาน โดยมี

พลเอก ชูชาติบัวขาว ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ

เป็นผู้ส่งมอบให้กับ พลตรี จิรวัฒน์ นาคะรัตน์ ผู้บัญชาการศูนย์การ

ทหารม้า พร้อมด้วยคณะผู้บริหารสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ

และกองทัพบก เข้าร่วมแสดงความยินดี ณ ศูนย์การทหารม้า

ค่ายอดิศร จังหวัดสระบุรี เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๕

42

สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ


ยานเกราะล้อยาง ๘x๘ แบบ VN1 (ที่บังคับการ) เป็นผลผลิต

ที่เกิดจากการร่วมวิจัยและพัฒนา ระหว่างสถาบันเทคโนโลยีป้องกัน

ประเทศ และกองทัพบก ซึ่งได้ดำเนินการภายใต้บันทึกความเข้าใจ

ว่าด้วยความร่วมมือในการวิจัยและพัฒนาร่วมยานเกราะล้อยาง ๘x๘

แบบ VN1 (ที่บังคับการ) โดยสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศได้

นำองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญในการวิจัยและพัฒนาต้นแบบ

เทคโนโลยีป้องกันประเทศขั้นสูงมาร่วมวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

จนได้มาซึ่งยานเกราะล้อยางที่มีคุณลักษณะตรงตามความต้องการ

ของหน่วยใช้งานจริงในพื้นที่ โดยยานเกราะล้อยาง ๘x๘ แบบ VN1

(ที่บังคับการ) นี้ มีความคล่องตัวในการเคลื่อนที่มีอำนาจการยิงโดย

ติดตั้งระบบอาวุธขนาด ๑๒.๗ มิลลิเมตร มีเกราะป้องกันกระสุนและ

แรงระเบิด ช่วยปกป้องทหารราบที่อยู่ภายในยานเกราะล้อยางให้

ปลอดภัย และมีระบบสื่อสารทางทหารที่ทันสมัยติดตั้งภายใน

ยานเกราะล้อยาง เพื่อใช้ในการควบคุมบังคับบัญชาสนามรบ

Battlefield Management System (BMS) ทำให้ทหารราบภายใน

ยานเกราะล้อยางรับทราบสถานการณ์ในการรบที่เหมาะสม ซึ่งเป็น

คุณสมบัติที่ช่วยสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของกองทัพบกได้อย่าง

ดียิ่ง

ความสำเร็จในการส่งมอบยานเกราะล้อยาง ๘x๘ แบบ VN1

(ที่บังคับการ) ให้กับกองทัพบก โดยศูนย์การทหารม้าเป็นหน่วย

ผู้ใช้งาน ในวันนี้ถือเป็นความสามารถของคนไทยที่แสดงถึงศักยภาพ

ในการวิจัยและพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ได้อย่างชัดเจน เป็นการ

ส่งเสริมและสนับสนุนเชิงอุตสาหกรรมภายในประเทศ และเป็นอีกหนึ่ง

ความภาคภูมิใจของสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศที่ได้มีส่วนร่วม

ในการสนับสนุนภารกิจต่าง ๆ ของกองทัพ อีกทั้งยังเป็นการยืนยัน

ความพร้อมของสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศในการเดินหน้า

ผลิตยานเกราะล้อยางให้ตรงตามความต้องการของกองทัพและ

สามารถนำเข้าประจำการในกองทัพไทย ลดการนำเข้าหรือการใช้

เทคโนโลยีจากต่างประเทศที่มีต้นทุนสูง มุ่งเป้าการส่งออก อันจะ

นำเศรษฐกิจไทยให้ก้าวไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนได้ต่อไป

ในอนาคต

“รู้ใจ ทำเองได้ ใช้ดี มีมาตรฐาน”

DTI คิดเพื่อชาติ ทำเพื่อคุณ

หลักเมือง สิงหาคม ๒๕๖๕

43


นิยามแห่งความสำเร็จ

จุฬาพิช มณีวงศ์

รองบรรณาธิการ วารสารวิทยาศาสตร์ สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทย

นโลกที่เต็มไปด้วยการมองหาแบบอย่างผ่านการสื่อสารดิจิทัล

ย่อมทำให้เกิดภาพลวงตาได้โดยง่าย เพราะตัวตนของคนที่

ถ่ายทอดออกมาสู่สาธารณะอาจไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง ทุกวันนี้การ

เลือกที่จะติดตามไอดอลเสมือนจริงเหล่านั ้นจึงต้องใช้วิจารณญาณ

อย่างถ้วนถี่

ธรรมชาติของมนุษย์มักจะเลือกเลียนแบบจากคนที่ชื่นชอบ

ด้วยรสนิยมส่วนตัวและความสำเร็จของพวกเขา พระเอกหรือ

นางเอกผู้มีอิทธิพลมักเป็นผู้ประสบความสำเร็จไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

เสมอ เพราะคงจะไม่มีใครเลือกติดตามและชื่นชมคนที่ประสบความ

ล้มเหลว มนุษย์ทุกคนมีคอนเซ็ปต์ของคำว่าความสำเร็จแตกต่างกัน

44

บางทีก็ลืมนึกไปว่า ความสำเร็จที่มองเห็นจากคนอื่นอาจไม่ใช่

ความสำเร็จสำหรับเราก็เป็นได้

จุฬาพิช มณีวงศ์


ก่อนที่เราจะหาคำตอบของคำถามที่ว่า ถ้าเรามีอายุเท่านี้ควร

มีเงินเก็บเท่าไหร่ เหมือนที่ใครหลายคนชอบนิยามความสำเร็จใน

ชีวิตจากเงิน ลองหาคำตอบให้ตัวเองก่อนว่าคุณอยากประสบความ

สำเร็จเรื่องใดในชีวิตเพราะหลายคนมีความฝันแบบหนึ่ง แต่สังคม

แวดล้อมบีบบังคับให้นิยามความสำเร็จของคุณให้เป็นไปตามกระแส

ความคิดของผู้อื่น จนในที่สุดคุณอาจลืมไปสนิทว่า นี่คือความสำเร็จ

ที่ต้องการหรือเปล่า ถ้าชีวิตนี้คุณไม่อยากมีบ้าน อยากเช่าคอนโด

เช่าห้องเล็ก ๆ อยู่คนเดียวกับสัตว์เลี้ยง โดยไม่ต้องพึ ่งพาความ

ช่วยเหลือจากใคร เพียงเท่านี้คุณก็ถือว่าประสบความสำเร็จในชีวิตแล้ว

ถ้าเป็นเช่นนั้นคุณก็ยึดเอาความคิดนี้ไว้อย่าให้ใครมากำหนดรูปแบบ

ความสำเร็จให้คุณ ไม่ว่าเขาจะพูดอย่างไรก็ช่างเขาเพราะท้ายที ่สุด

แล้วคนที่สามารถใช้ชีวิตในแบบของคุณได้ก็มีเพียงคุณเพียงคนเดียว

เท่านั้น

ในสังคมวัตถุนิยมที่เป็นอยู่อาจทำให้ผู้คนให้ความสำคัญกับ

สินค้าที่เป็นวัตถุนิยม เพราะสะท้อนถึงระบบคุณค่าทางสถานภาพ

ในสังคมและความสุขความสำเร็จ เหมือนที่เรามักจะพบเห็นคน

สะสมสินค้ากระเป๋าแบรนด์เนมราคาแพงจนหลงลืมไปว่า ความ

สำเร็จมิได้หมายถึงทรัพย์สินเงินทอง รถ บ้าน หรือสินค้าแบรนด์เนม

ทั้งนั้น แต่ยังรวมถึงความสำเร็จทางอารมณ์ ทางปัญญา ทางจิต

วิญญาณ ทางกายภาพ และทางวาจา ดังนั้นเมื่อลองกำหนดได้ว่า

แท้ที่จริงนิยามความสำเร็จคืออะไรแล้วขอให้ลองตรวจสอบอีกครั้ง

ว่าการได้มาซึ่งความสำเร็จจะทำให้มีความสุขจริงหรือไม่การกำหนด

เส้นชัยให้ตรงจุดจะช่วยให้ไม่เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์และจบลง

ด้วยการวิ่งตามความสำเร็จเลียนแบบผู้อื่นเพราะการปักหมุดผิดที่

อาจทำให้ต้องเสียเงิน เสียเวลาและก่อให้เกิดหายนะทางความคิด

อย่างที่คาดไม่ถึงได้

ขอให้ตระหนักว่าเราทุกคนมีนิยามความสำเร็จที่แตกต่างกัน

ไม่สามารถเอามาเปรียบเทียบกันได้ และการที่คนเราจะประสบ

ความสำเร็จเรื่องใดเรื่องหนึ่งได้นั้น ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้อง

พยายามทำตัวให้เหนือกว่าคนอื่นหรือยกตนข่มท่าน เพื่อให้ตนเอง

รู้สึกว่าเราคือนัมเบอร์วันในเรื่องนั้น ฉะนั้นแล้วควรยึดความต้องการ

ของตนเป็นที่ตั้ง โดยไม่นำไปเปรียบเทียบกับคนอื่นแม้ว่าการ

เปรียบเทียบในบางครั้งช่วยให้เรารู้จักตนเองมากขึ้นและนำ

ข้อผิดพลาดมาพัฒนาตนเองได้ แต่การเปรียบเทียบผิดวิธีอาจทำให้

ต้องสูญเสียความภาคภูมิใจในตนเองได้เช่นกัน จงอย่าด้อยค่าตนเอง

ว่าไม่เก่งและอย่าคิดว่าตัวเองเหนือกว่าคนอื่น

ความสำเร็จไม่มีทางลัด การที่คุณเห็นคนอื่นประสบความ

สำเร็จในเวลาอันรวดเร็วหรืออายุยังน้อย เกิดจากการลงมือทำให้

เกิดผลลัพธ์ทั้งสิ้น หลายคนชอบอ่านหนังสือชีวประวัติคนดังที่

ประสบความสำเร็จ และศึกษาวิธีการที่ช่วยให้พวกเขาเหล่านั้น

ประสบความสำเร็จ จากนั้นก็มาใช้พุ่งชนความสำเร็จของตนเองบ้าง

ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี แต่บางทีการทำตามยุทธวิธีของผู้อื่นก็ไม่ได้การันตี

ว่าผลลัพธ์จะเหมือนกันเช่นนั้น ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ เพราะคนทุกคน

ล้วนมีความแตกต่าง แม้จะใช้สูตรเดียวกันหรือทำแบบเดียวกันก็ตาม

การก้าวตามรอยบทเรียนของผู้อื่นต้องประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับ

สถานการณ์ของคุณในขณะนั้น เพราะความสำเร็จไม่มีทางลัด ไม่มี

สูตรสำเร็จ การที่ใครสักคนจะประสบความสำเร็จนั้นขึ้นอยู่กับการ

ลงมือทำให้เกิดผลและฝ่าฟันทุกปัญหาไปให้ได้

หลักเมือง สิงหาคม ๒๕๖๕

45


เมื่อมองความสำเร็จในระดับมหภาคที่ใหญ่ขึ้นมาระดับ

ประเทศ ทำให้คนไทยได้เห็นความจริงที่กำลังเกิดกับหลายประเทศ

อาทิ สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น รายงานบทสัมภาษณ์ที่นายรานิล วิกรมสิงเห

นายกรัฐมนตรีศรีลังกา ยอมรับการล้มละลายของประเทศและ

การเผชิญวิกฤตทางการเงิน การคลังที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลาย

ทศวรรษ ส่งผลให้ประชาชนหลายล้านคนต้องดิ้นรนเพื่อซื้ออาหาร

เวชภัณฑ์และเชื้อเพลิง เขาได้แจ้งต่อสมาชิกสภานิติบัญญัติในการ

เจรจากับกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ เพื่อให้พ้น

กับเศรษฐกิจที่พังทลายเหมือนกับที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทำให้

ประเทศมีความยากลำบากเนื่องจากศรีลังกามีประชากร ๒๒ ล้านคน

จำเป็นต้องเผชิญกับความยากลำบากและซับซ้อนมากกว่า

ประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ แต่เมื่อข้อตกลงนี้

ได้รับอนุมัติจะมีการจัดเตรียมโครงการรับความ

ช่วยเหลือเงินกู้ในระยะ ๔ ปี และภายในสิ้นปีนี้

อัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มเป็นร้อยละ ๖๐ จึงเป็นการ

เดินทางที่ยากและขมขื่น แต่ก็ยังเชื่อมั่นว่า

จะสามารถบรรเทาลงเมื่อมีความคืบหน้าเกิดขึ ้น

สถานการณ์ของประเทศศรีลังกาอยู่ท่ามกลาง

วิกฤตการเงินคลังเลวร้ายที่สุดในรอบ ๗ ทศวรรษ

ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศร่วงลงสูงกับต่ำสุด

เป็นประวัติการณ์โรงเรียนหลายแห่งปิดการเรียน

การสอน การจำกัดเชื้อเพลิงสำหรับยานพาหนะ

เพราะเชื้อเพลิงหายากราคาอาหารแพง สงคราม

รัสเซีย-ยูเครนทำให้ศรีลังกาที่อยู่ในกระทะต้องตกลงไปในเตา

เวลาไล่เลี่ยกันนายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรีของประเทศ

สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) เพื่อนบ้านของไทย

ที่มีผู้ใช้ถ้อยวลีแดกดันกับการมีรถไฟความเร็วสูงเชื่อมการเดินทาง

ลาว-จีน ว่าเป็นการล้ำหน้าประเทศไทย กลับปรากฏว่าผู้นำทาง

สปป.ลาว ได้แถลงข่าวยอมรับกับชาวโลกว่าที่ผ่านมารัฐบาล

บริหารราชการผิดพลาดอย่างรุนแรง ถึงขั้นทำให้ประเทศมี

ปัญหาหนักทำให้คนลาวต้องได้รับผลกระทบจากการขาดแคลน

น้ำมันเชื้อเพลิงจนไม่สามารถประกอบกิจการใด ๆ หรือใช้ชีวิตตาม

ปกติได้ ซึ่งนายกรัฐมนตรี สปป.ลาว เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งผู้นำ

ประเทศได้ไม่นาน และตรวจสอบพบว่ามีการทุจริตประพฤติมิชอบ

46

จุฬาพิช มณีวงศ์


กันขนานใหญ่ในลาว ถึงขั้นใช้คำพูดว่า

จะทำให้การทุจริตในลาวหมดไป บ่ ได้

นายพันคำ อาจเป็นผู้นำคนแรก

ของโลกที่ออกมายอมรับกับประชาชน

ตรง ๆ ว่า นักการเมืองคือ ต้นเหตุที่

ทำให้เศรษฐกิจประเทศล้มละลาย เพราะ

เขาตรวจพบว่าการบริหารราชการแผ่นดิน

ในช่วง ๕ ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี พ.ศ.

๒๕๕๙ - ๒๕๖๓ มีคนเอาทรัพย์สินของ

รัฐไปเป็นของส่วนตัวเป็นจำนวนมาก

จู่ ๆ ก็ไม่รู้ว่าเงินรายได้ของรัฐจำนวน

มหาศาลล่องหนหายไปไหน น้ำมันหาย

ไปจากคลังรัฐมากกว่า ๗๐๐ ล้านลิตร ทำให้รัฐบาลไม่สามารถจ่าย

น้ำมันไปยังสถานีจำหน่ายน้ำมันต่าง ๆ ได้ แม้ลาวจะมีรายได้จาก

การขายไฟฟ้าให้กับประเทศเพื่อนบ้าน ปีละ ๒,๘๕๐ ล้านเหรียญ

แต่กลับมีเงินเข้ามาในระบบรัฐ ไม่ถึง ๑,๐๐๐ ล้านเหรียญและกำลัง

ตกอยู่ในสถานการณ์หนักหนาสาหัส จนไม่มีเงินพอจะซื้อน้ำมัน

เข้าไปจุนเจือประชาชนในประเทศอย่างที่เป็นอยู่

สำหรับประเทศไทย ซึ่งกำลังขับเคลื่อนไปสู่การคลี่คลายปัญหา

หลังสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่กำลังจะผ่านพ้นไป

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ

กระทรวงกลาโหม ได้ให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนว่าในฐานะ

รัฐบาลจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อดูแลช่วยเหลือประชาชน โดย

เฉพาะด้านเศรษฐกิจความเป็นอยู่จากวิกฤตพลังงานโลกที่เกิดขึ้น

รัฐบาลเข้าใจดีถึงความลำบากของประชาชนในยามนี้ และขอให้ทุกคน

มั่นใจว่าประเทศไทยมีแผนยุทธศาสตร์ เพื่อรองรับสถานการณ์

ทั้งระยะสั้น ๓ เดือน ระยะกว้าง ๖ เดือน และระยะยาว ๑ ปี เพื่อ

ให้เกิดความเชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะเกิดการขาดแคลนทั้งด้าน

พลังงานและอาหาร และวันนี้ก็บริหารได้ดีพอสมควร พลังงานยังไม่

ขาดแคลนยังมีใช้อยู่แต่ราคาสูงขึ้นด้วยเหตุผลหลายประการ และ

จะต้องเตรียมความพร้อมต่อไป โดยรัฐบาลยังสามารถบริหาร

งบประมาณประเทศให้อยู่ในสถานการณ์ที่มั่นคง มีเสถียรภาพ จะ

พยายามทุกวิถีทางเพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้า โดยมุ่งหวังอย่างเดียว

คือ ทำอย่างไรจะคลี่คลายความโศกเศร้าความทุกข์ตรมต่าง ๆ

ของประชาชนให้ได้มากที่สุด

ที่มาของภาพ : httpswww.gqthailand.com, httpswww.pptvhd36.com

หลักเมือง สิงหาคม ๒๕๖๕

47


สาระน่ารู้ทางการแพทย์

“มารู้จักโรคฝีดาษลิง

(Monkeypox)

แพร่เชื้อติดต่ออย่างไร” แบบเจาะลึก

สำนักงานแพทย์ สำนักงานสนับสนุนสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม

ฝี

ดาษลิง (Monkeypox) คืออะไร โรคไข้ฝีดาษลิงหรือไข้ทรพิษลิง

(Monkeypox) เกิดจากไวรัส Othopoxvirus ซึ่งอยู่ในกลุ่ม

เดียวกันกับไวรัสโรคไข้ทรพิษ (Smallpox) โดยพบเชื้อในสัตว์ตระกูล

ลิง และสัตว์ฟันแทะ เช่น หนู กระรอก กระแต เป็นหลัก โดยค้นพบ

โรคนี้ครั้งแรกในลิง ซึ่งไปรับเชื้อมาโดยบังเอิญจึงเป็นที่มาของชื่อโรค

“ฝีดาษลิง” โรคฝีดาษลิงแพร่ระบาดอยู่ทั่วไปในทวีปแอฟริกา จนกลาย

เป็นโรคประจำถิ่น (Endemic disease) ซึ่งพบอัตราการเสียชีวิต

ร้อยละ ๑ - ๑๐ ทั้งนี้การเสียชีวิตขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ โดยสายพันธุ์หลัก

ของโรคฝีดาษลิง แบ่งออกเป็น ๒ สายพันธุ์คือ สายพันธุ์ Congo

Basin พบอัตราการเสียชีวิตร้อยละ ๑๐ และสายพันธุ์ West African

พบอัตราการเสียชีวิตร้อยละ ๑

“ฝีดาษลิง” แตกต่างจาก “ไข้ฝีดาษ-ไข้ทรพิษ” อย่างไร

โรคฝีดาษหรือไข้ทรพิษ (Smallpox) จัดเป็นกลุ่มโรคไข้ออกผื่น กินระยะ

เวลานาน ๒ - ๔ สัปดาห์ เช่นเดียวกับไข้ฝีดาษลิง แม้ว่าจะเป็นไวรัส

Othopoxvirus กลุ่มเดียวกันแต่จัดเป็นคนละชนิดกัน โดยลักษณะ

การติดต่อและความรุนแรงของโรคพบว่า มีความแตกต่างกันอย่าง

ชัดเจน เชื้อไวรัสของโรคไข้ทรพิษจะอยู่ในคนเป็นหลักโดยจะมีการ

ติดต่อจากคนสู่คนเท่านั้น โดยติดต่อผ่านการหายใจสามารถติดต่อกัน

ง่ายมากโดยผ่านละอองฝอยเล็ก ๆ ซึ่งสามารถแพร่กระจายได้

เป็นวงกว้าง โดยพบว่าผู้ป่วยโรคไข้ทรพิษมีอัตราการเสียชีวิต

สูงถึงร้อยละ ๓๐ แตกต่างจากไข้ฝีดาษลิง ที่ติดต่อกันผ่านการสัมผัส

(Contact)

48

มีหลักฐานยืนยันว่า โรคไข้ทรพิษเป็นโรคที่

มีการแพร่ระบาดมาอย่างยาวนานมากกว่าพันปี

แต่ปัจจุบันนี้ไม่พบผู้ป่วยโรคไข้ทรพิษ โดย

ประเทศไทยได้ยุติการฉีดวัคซีนไข้ทรพิษ ตั้งแต่ปี

พ.ศ.๒๕๖๒ ซึ่งปัจจุบันได้มีการเก็บตัวอย่างเชื้อ

ไข้ทรพิษไว้สำหรับเพื่อการศึกษาวิจัยเท่านั้น

โรคฝีดาษลิง โรคระบาดใหม่ที่ไม่ควรมอง

ข้าม ซึ่งพบผู้ติดเชื้อเพิ ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ภายใน

ระยะเวลา ๓๐ วัน โดยผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ ร้อยละ

๙๙ เป็นผู้ชาย ซึ่งมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย

ที่ได้รับเชื้อมา โดยติดต่อผ่านการมีเพศสัมพันธ์

อย่างที่กล่าวไปในข้างต้นแล้วว่า พบการแพร่

ระบาดของโลกฝีดาษลิงในทวีปแอฟริกาเท่านั้น

นับตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๕๒ เป็นต้นมา จากสถานการณ์

การแพร่ระบาดในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีแพรี่

ด็อก (Prairie Dog) สัตว์นำเข้าจากประเทศคองโกเป็นพาหะในการ

แพร่เชื้อเป็นวงกว้าง และโรคได้สงบไปจากการแพร่ระบาดในครั้งนั้น

และไม่พบผู้ป่วยโรคไข้ฝีดาษลิงนอกทวีปแอฟริกาอีก โรคไข้ฝีดาษลิง

ถูกพบเมื่อวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๕ เป็นรายแรก และพบผู้ติดเชื้อ

แพร่กระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลก สำหรับประเทศไทย โดยนายแพทย์

โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรค

ในฐานะที่เป็นหน่วยงานซึ่งมีหน้าที่ป้องกันควบคุมโรค โดยเฉพาะโรค

อุบัติใหม่และโรคอุบัติซ้ำ จึงได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินทาง

สาธารณสุข กรมควบคุมโรค กรณีโรคฝีดาษลิง (Monkeypox) เพื่อ

เฝ้าติดตามสถานการณ์ แนวโน้ม พร้อมทั้งคาดการณ์สถานการณ์ที่

อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อจัดทำแผนทั้งในระยะยาว ระยะกลาง

ในการปรับปรุงกลยุทธ์และมาตรการให้เหมาะสม

อาการโรคฝีดาษลิง ระยะเวลาฟักตัวของโรคฝีดาษลิง

(Monkeypox) จะใช้ระยะเวลาในการฟักตัวประมาณ ๗ - ๑๔ วัน

ผู้ติดเชื้อจะมีอาการแสดงต่าง ๆ ดังนี้ มีไข้ ไข้สูง ปวดตัว ปวดกล้ามเนื้อ

ปวดหลัง ปวดกระบอกตา ต่อมน้ำเหลืองโตทั่วร่างกาย

อาการต่อมน้ำเหลืองโต ถือเป็นจุดเด่นที่สังเกตได้ของโรค

ไข้ฝีดาษลิง สามารถเกิดขึ้นได้ตามจุดต่าง ๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะจุด

ที่ไปสัมผัสโรคตามผิวหนัง เช่น คอ ไหปลาร้า ข้อศอก รักแร้ เป็นต้น

หรือผ่านทางเยื่อบุทางเดินหายใจ จากการพูดคุย สัมผัสใกล้ชิด

การจูบได้เช่นกัน ซึ่งอาการต่อมน้ำเหลืองโตนี้จะเป็นอาการที่แตกต่าง

สำนักงานแพทย์ สำนักงานสนับสนุนสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม


จากโรคไข้สุกใส (Chickenpox) ที่เป็นไข้ออกผื่นลักษณะเดียวกัน

หลังจากที่มีไข้มาประมาณ ๓ วัน จะเข้าสู่ช่วงระยะออกผื่น โดย

ลักษณะผื่นของโรคฝีดาษลิงจะกินเวลานานประมาณ ๒ – ๔ สัปดาห์

โดยผื่นมักจะขึ้นที่บริเวณใบหน้า แขน และขา มากกว่าที่ลำตัว โดย

ลักษณะของผื่นจะเริ่มจาก จุดแดง ๆ กลม ๆ หลังจากนั้นผื่นจะกลาย

เป็นตุ่มน้ำใสและกลายเป็นตุ่มหนอง และกลายเป็นสะเก็ดในเวลาต่อมา

ซึ่งในช่วงที่ผื่นเป็นตุ่มน ้ำใสและตุ่มหนอง จะเป็นช่วงระยะเวลาที่

สามารถแพร่เชื้อได้สูงสุด หากผื่นเริ่มตกสะเก็ดแล้วจะถือว่าพ้นจาก

ระยะการแพร่เชื้อ ผื่นของโรคฝีดาษลิงจะกินลึกถึงชั้นผิวหนังด้านใน

ทำให้หลังจากผื่นตกสะเก็ดจะทำเกิดรอยโรคหรือรอยแผลเป็นได้

หลักเมือง สิงหาคม ๒๕๖๕

การแพร่ระบาดเหมือน COVID-19 หรือไม่ สำหรับ

ใครที่กังวลและสงสัยว่า โรคไข้ฝีดาษลิง จะกลายเป็นโรค

ระบาดที่เกิดการระบาดทั่วโลก (Pandemic) เหมือนกับ

COVID-19 นั้น โอกาสในการกลายเป็นการระบาดใหญ่ทั่วโลกนั้น

มีได้น้อยกว่าเพราะลักษณะในการแพร่เชื้อจะผ่านการสัมผัส

อย่างใกล้ชิดกับผู้ป่วยเป็นหลัก มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่

สามารถติดเชื้อผ่านละอองฝอยขนาดใหญ่ แต่อย่างไรก็ตาม

ยังคงต้องติดตามข้อมูลข่าวสารกันอย่างใกล้ชิดต่อไป ในแง่

ของการควบคุมโรคนั้นหากเชื้อมีการแพร่ระบาดจากคนไปสู่

สัตว์ จะทำให้การควบคุมโรคทำได้ยากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่ม

สัตว์ฟันแทะที่จะกลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อตามธรรมชาติของ

เชื้อไวรัสนี้อยู่แล้ว โดย ณ ข้อมูลปัจจุบัน ยังไม่พบรายงานว่า

มีเชื้อไวรัสในกลุ่มสัตว์ฟันแทะ (เช่น กระรอก หนู กระแต) ที่

อาศัยอยู่ในประเทศไทย

โรคไข้ฝีดาษลิง รักษาได้ไหม อาการแบบไหนต้องพบ

แพทย์ หากพบผู้ติดเชื้อหรือผู้ที่สงสัยติดเชื้อ จะต้องแยก

ผู้เสี่ยงติดเชื้อออกจากผู้อื่น เป็นเวลา ๒๑ - ๒๘ วัน จนกว่าผื่น

จะตกสะเก็ด ในกรณีที่เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกันกับผู้เสี่ยงติดเชื้อ

(อาศัยอยู่ในบ้านเดียวกัน เป็นสามีภรรยากัน มีความสัมพันธ์

กัน) ให้สังเกตอาการของตนเองและแยกตัวเองออกจากผู้อื่น

เช่นเดียวกัน โดยพบว่า ผู้ที่เคยได้รับวัคซีนไข้ทรพิษมาหรือ

มีอายุมากกว่า ๔๒ ปีขึ้นไป จะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อน้อย

กว่าผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อน ๕ เท่า หรือลดโอกาสการ

เป็นโรคได้ร้อยละ ๘๐ - ๙๐ ปัจจุบันจากสถานการณ์การแพร่ระบาด

ทั่วโลก ยังไม่พบผู้ป่วยโรคไข้ฝีดาษลิงที่มีอาการรุนแรง โดยทั่วไปแล้ว

ผู้ป่วยจะสามารถหายจากโรคได้เอง ในระยะเวลาประมาณ ๒ - ๔

สัปดาห์ ในกรณีที่เป็นกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง มีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือ

มีโรคประจำตัวจะมีการรักษาโดยใช้ยา Tecovirimat, Cidofovir,

Brincidofovir ซึ่งเป็นยากลุ่มเดียวกันกับที่ใช้รักษาโรคไข้ทรพิษ

วิธีป้องกัน “โรคฝีดาษลิง” ควรออกห่างจากผู้ติดเชื้อ ผู้ที่สงสัย

เสี่ยงติดเชื้อ หรือมีประวัติสัมผัสผู้ป่วย ไม่นำมือไปสัมผัสผื่น ตุ่ม หนอง

ของผู้ที่เสี่ยงติดเชื้อ เชื้อไวรัสฝีดาษลิงเป็นเชื้อที่มีโปรตีนหุ้ม ซึ่งสามารถ

ถูกทำลายได้ด้วยแอลกอฮอล์ ดังนั้น จึงควรหมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วย

แอลกอฮอล์ สวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อผ่านละออง

ฝอยขนาดใหญ่ การล้างมือด้วยแอลกอฮอล์และสวมหน้ากากอนามัย

สามารถช่วยป้องกันได้ทั้ง ๓ โรค ได้แก่ โรคฝีดาษลิง โรคโควิด-19 และ

โรคไข้หวัดใหญ่

“โรคฝีดาษลิง อาจจะดูไกลตัวมาก ๆ แต่ควรทำความรู้จัก

เพื่อสังเกตอาการและสามารถแนะนำคนอื่นให้ดูแลป้องกันตัวเอง

จากโรคติดเชื้อต่าง ๆ ที่ทยอยเปิดตัวออกมาเรื่อย ๆ … ขอให้ทุกคน

มีสุขภาพแข็งแรง ไม่ป่วย ปลอดภัยจากโรคติดเชื้อและอยู่ร่วมกัน

อย่างมีความสุข”

ที่มาข้อมูลเพิ่มเติม https://www.health-th.com

ที่มาของภาพ : S__42860689, shutterstock_2160268991-scaled,

1400694-img.vgpgf8.vyxj

49


จรวดนำวิถีต่อสู้อากาศสู่อากาศไมกา (MICA) น้ำหนัก ๑๑๒ กิโลกรัม หัวรบหนัก ๑๒.๐ กิโลกรัม เส้นผ่าศูนย์กลาง ๑๖๐ มิลลิเมตร ความเร็วลูกจรวด ๔.๐ มัค (ยิงจากเครื่องขับไล่)

ระยะยิง ๕๐๐ - ๖๐,๐๐๐ เมตร (อากาศ-สู่-อากาศ) และนำวิถีด้วยระบบเรดาร์ ประจำการกองทัพอากาศฝรั่งเศส และกองบินนาวี กองทัพเรือฝรั่งเศส

แนะนำอาวุธเพื ่อนบ้าน

จรวดนำวิถีต่อสู้อากาศยาน

ระยะสูงปานกลางไมกา (MICA) ทางดิ ่ง

กองทัพเรือมาเลเซีย (RMN) ประจำการด้วยจรวดนำวิถีต่อสู้

อากาศยานทางดิ่งแบบไมกา (VLS, MICA) จากประเทศ

ฝรั่งเศส โดยติดตั้งกับเรือฟรีเกตจรวดนำวิถีต่อสู้อากาศยานชั้น

มหาราชาลีลา (Maharaja Lela) ข้อมูลที่สำคัญคือ ขนาด ๓,๑๐๐ ตัน

เรือยาว ๑๑๑ เมตร เครื่องยนต์ดีเซล (MTU 20V) ขนาด ๙,๙๒๕

แรงม้า (รวม ๔ เครื่อง) ความเร็ว ๒๘ นอต จรวดนำวิถีต่อสู้อากาศ

ทางดิ่งแบบไมกา ชนิด ๑๖ ท่อยิง เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ทางนาวี

๑ เครื่อง และลูกเรือ ๑๓๘ นาย ต่อขึ้นรวม ๖ ลำ เป็นเงิน ๒.๘ พันล้าน

เหรียญสหรัฐ ปี พ.ศ.๒๕๕๘ ต่อขึ้นจากอู่ต่อเรือภายในประเทศแต่

โครงการล่าช้าเพราะมีปัญหาหลายด้าน เรือรบลำแรก (Maharaja

Lela: 2501) วางกระดูกงู วันที่ ๘ มีนาคม ๒๕๕๙ ปล่อยเรือลงน้ำ

วันที่๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๐ จะนำเข้าประจำการปี พ.ศ.๒๕๖๘ เรือรบ

ลำที่สอง (Syarif Masahor : 2502) วางกระดูกงู วันที่ ๒๘

พลเอก ทรงพล ไพนุพงศ์

ข้าราชการบำนาญ

จรวดนำวิถีต่อสู้อากาศยานไมกา (MICA) ป้องกันภัยทางอากาศให้กับเรือรบชนิดแท่นยิง

ทางดิ่ง (VLS, MICA) ความเร็วลูกจรวด ๓.๐ มัค ระยะยิงทาง ๑,๐๐๐ - ๒๐,๐๐๐ เมตร

และระยะยิงทางดิ่งสูง ๙,๒๐๐ เมตร

50

พลเอก ทรงพล ไพนุพงศ์


จรวดนำวิถีต่อสู้อากาศยานไมกา (MICA) ชนิดแท่นยิงทางดิ่ง (VLS, MICA) ฐานยิงบนยานยนต์ (ป้องกันภัยทางอากาศทางบก) ประกอบด้วย ระบบเรดาร์ ระบบควบคุมการยิง

และระบบแท่นยิงจรวด

กุมภาพันธ์ ๒๕๖๐ จะนำเข้าประจำการปี พ.ศ.๒๕๖๙ เรือลำที่สาม

(Raja Mahadi : 2503) วางกระดูกงู วันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๐

เรือลำที่สี่ (Mat Salleh : 2504) วางกระดูกงู วันที่ ๑๓ ตุลาคม

๒๕๖๑ เรือลำที่ห้า (Tok Janggut : 2505) และเรือลำที่หก (Mat

Kilau : 2506)

จรวดนำวิถีต่อสู้อากาศยานพิสัยกลางแบบไมกา (MICA)

พัฒนาโดยประเทศฝรั่งเศสสำหรับติดตั้งกับเครื่องบินขับไล่แบบ

ราฟาล (Rafale) และแบบมิราจ-๒๐๐๐ (Mirage 2000) ประจำการ

ปี พ.ศ.๒๕๓๙ ข้อมูลที่สำคัญคือ น้ำหนัก ๑๑๒.๐ กิโลกรัม น้ำหนัก

หัวรบ ๑๒.๐ กิโลกรัม ยาว ๓.๑ เมตร เส้นผ่าศูนย์กลาง ๑๖

มิลลิเมตร ความเร็วลูกจรวด ๓.๐ มัค (ยิงทางดิ่ง) ระยะยิง ๕๐๐ -

๖๐,๐๐๐ เมตร (อากาศ-สู่-อากาศ) ระยะยิงทาง ๑,๐๐๐ - ๒,๐๐๐

เมตร ระยะยิงทางดิ่งสูง ๙,๒๐๐ เมตร และนำวิถีด้วยระบบเรดาร์

(และรุ่นนำวิถีด้วยระบบอินฟราเรด) กองทัพอากาศฝรั่งเศสติดตั้ง

จรวดนำวิถีพิสัยกลางไมกา (MICA) กับเครื่องบินขับไล่ตระกูลมิราจ

(Mirage 2000) รวม ๓๑๕ เครื่อง (ได้ปรับลดลงเหลือ ๑๐๘ เครื่อง)

และเครื่องบินขับไล่ราฟาล (Rafale) กองทัพอากาศฝรั่งเศสประจำการ

รวม ๑๘๐ เครื่อง (ได้ปรับลดลงเหลือ ๑๕๒ เครื่อง) และกองบิน

นาวี รวม ๔๖ เครื่อง จรวดนำวิถีต่อสู้อากาศยานพิสัยกลางไมกา

มิตรประเทศฝรั่งเศสประจำการ ๙ ประเทศ ติดตั้งกับเครื่องบินขับไล่

ผลิตจากประเทศฝรั่งเศส นำเข้าประจำการจำนวนมากคือ อินเดีย

(รุ่นนำวิถีด้วยระบบอินฟราเรด ๒๐๐ ลูก และนำวิถีด้วยระบบเรดาร์

๑,๐๐๐ ลูก ติดตั้งกับเครื่องบินขับไล่มิราจ 2000-H รวม ๕๑ เครื่อง)

และไต้หวัน (๙๖๐ ลูก ติดตั้งกับเครื่องบินขับไล่มิราจ ๒๐๐๐-๕

รวม ๕๔ เครื่อง ลูกจรวดนำวิถีได้รับการปรับปรุงใหม่ในปีพ.ศ.๒๕๕๙)

ลูกจรวดนำวิถีต่อสู้อากาศยานไมกา (MICA) ขณะพุ่งขึ้นสู่อากาศจากแท่นยิงทางดิ่ง

(VLS, MICA) สู่เป้าหมายต่อไป

หลักเมือง สิงหาคม ๒๕๖๕

51


แท่นยิงจรวดนำวิถีต่อสู้อากาศยานไมกา (MICA) ระบบต่อสู้อากาศสำหรับป้องกันภัยทางอากาศให้กับเรือรบชนิดแท่นยิงทางดิ่ง (VLS, MICA) ระยะสูงปานกลาง

จรวดนำวิถีต่อสู้อากาศยานไมกา ได้ปรับปรุงเป็นระบบต่อสู้

อากาศสำหรับป้องกันภัยทางอากาศให้กับเรือรบชนิดแท่นยิงทางดิ่ง

(VLS, MICA) ทำการยิงทดสอบเมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคม ๒๕๕๑

ประสบความสำเร็จในการยิงทดสอบ ประจำการปี พ.ศ.๒๕๕๕

มิตรประเทศฝรั่งเศสประจำการจรวดนำวิถีต่อสู้อากาศทางดิ่งแบบ

ไมกา รวม ๑๐ ประเทศ

กองทัพอากาศอินโดนีเซีย (TNI-AU) จัดหาเครื่องบินขับไล่

รุ่นใหม่แบบราฟาล (Rafale F3R) รวม ๔๒ เครื่อง เป็นเงิน ๖.๕๖

พันล้านเหรียญสหรัฐ จากประเทศฝรั่งเศส เมื่อเดือนกุมภาพันธ์

พ.ศ.๒๕๖๕ จะได้รับมอบเครื่องบินชุดแรก รวม ๖ เครื่อง ในปี

พ.ศ.๒๕๖๗ จรวดนำวิถีอากาศสู่อากาศหลักคือจรวดนำวิถีต่อสู้

อากาศยานพิสัยกลางไมกา (MICA) ก่อนนั้นกองทัพเรืออินโดนีเซีย

(TNI-AL) ประจำการด้วยจรวดวิถีต่อสู้อากาศยานชนิดแท่นยิง

ทางดิ่งกับเรือฟรีเกตจรวดนำวิถีมาร์ทาดินาทา (Martadinata)

ขนาด ๒,๓๖๕ ตัน ยาว ๑๐๕.๑๑ เมตร ความเร็ว ๒๘ นอต

จรวดวิถีต่อสู้อากาศยานแบบไมกาชนิดแท่นยิงทางดิ่ง ชนิด ๑๒ ท่อยิง

เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ทางนาวี ๑ เครื่อง และลูกเรือ ๑๒๒ นาย

ประจำการ ๒ ลำ เรือลำแรก (KRI Raden Eddy Martadinata : 331)

ปล่อยเรือลงน้ำเมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๕๙ ประจำการวันที่ ๗

เมษายน ๒๕๖๐ และเรือลำที่สอง (KRI I Gusti Ngurah Rai: 332)

ปล่อยเรือลงน้ำ วันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๕๙ ประจำการวันที่

๑๐ มกราคม ๒๕๖๑

กองทัพเรือสิงคโปร์ (RSN) ประจำการด้วยเรือรบรุ่นใหม่ชั้น

อินดิเพนเดนซ์ (Independence) เพื่อประจำการทดแทนเรือ

52

คอร์เวตจรวดนำวิถีชั้นเฟียร์เลส (Fearless) ขนาด ๕๐๐ ตัน ประจำการ

๑๒ ลำ เรือลำแรกประจำการปี พ.ศ.๒๕๓๙ ประจำการ

นานกว่า ๒๐ ปี เรือชั้นอินดิเพนเดนซ์ (Independence) ต่อขึ้นเอง

จากอู่ต่อเรือภายในประเทศ ข้อมูลสำคัญคือขนาด ๑,๒๐๐ ตัน ยาว

๘๐.๐ เมตร ความเร็ว ๒๗ นอต จรวดนำวิถีต่อสู้อากาศทางดิ่งแบบ

ไมกา ชนิด ๑๖ ท่อยิง เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ทางนาวี ๑ เครื่อง

และลูกเรือ ๓๐ นาย ต่อขึ้นรวม ๘ ลำ เรือรบลำแรก (RSS Independence:

15) ประจำการวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๐ และเรือรบ

ลำที่แปด (RSS Fearless : 22) ประจำการวันที่๓๑ มกราคม ๒๕๖๓

กองทัพบกไทย (RTA) ประจำการด้วยจรวดนำวิถีต่อสู้

อากาศยานระดับสูงปานกลางแบบไมกาทางดิ่งประจำการทดแทน

จรวดนำวิถีต่อสู้อากาศยานแบบสปาดา (Spada) ประจำการ

นานกว่า ๒๐ ปีติดตั้งกับยานยนต์ชนิดล้อ ผลิตจากประเทศฝรั่งเศสปี

พ.ศ.๒๕๕๗ นำเข้าประจำการปลายปี พ.ศ.๒๕๖๒ หน่วยบัญชาการ

ป้องกันภัยทางอากาศกองทัพบก

บรรณานุกรม

๑. https://en.wikipedia.org/wiki/MICA_(missile)

๒. https://en.wikipedia.org/wiki/Maharaja_Lela-class_frigate

๓. https://en.wikipedia.org/wiki/Martadinata-class_frigate

๔. https://en.wikipedia.org/wiki/Royal_Thai_Army

๕. https://en.wikipedia.org/wiki/French_Air_and_Space_Force

๖. https://en.wikipedia.org/wiki/Republic_of_Singapore_Navy

๗. https://en.wikipedia.org/wiki/Dassault_Mirage_2000

๘. https://en.wikipedia.org/wiki/Dassault_Rafale

พลเอก ทรงพล ไพนุพงศ์


ปริศนาอักษรไขว้

ปริศนาอักษรไขว้ในวารสารหลักเมืองฉบับนี้

จะพาไปรู้จักกับคำศัพท์ที่เกี่ยวกับอาหาร

ซึ่งมีคำศัพท์ที่น่าสนใจทั้งหมด ๒๒ คำ ลองหาคำศัพท์

พร้อมกับจับเวลากับตัวเอง แล้วดูซิว่าใช้เวลา

เท่าไหร่

..... มาลองเล่นกันเลย Let’s go.....

เฉลย

1. ONION 2. PORK 3. BURGERS 4. FAST FOOD 5. RADISH 6. MACARONI 7. LETTUCE 8. VEGETABLES

9. NOODLES 10. BREAD 11. CEREAL 12. HAM 13. FRUIT 14. TUNA 15. SALAD 16. SPAGHETTI

17. BUTTER 18. ROLLS 19. TV DINNER 20. HOTDOGS 21. STEAK 22. GRAVY

หลักเมือง สิงหาคม ๒๕๖๕

53


โครงการพัฒนาชุมชน

ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่ าและอุทยานแห่งชาติ จังหวัดกาญจนบุรี

กองประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม

ระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ

พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชปณิธานในการสืบสาน

รักษา ต่อยอด พระราชปณิธานในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกา

ธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร จึงพระราชทาน

โครงการพัฒนาชุมชนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติ

จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๖๒ ขึ้น เพื่อส่งเสริม

ให้ประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดน หรือในถิ่นทุรกันดารเข้าถึงสิทธิ

พื้นฐานต่าง ๆ ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต

ในการพระราชทานโครงการดังกล่าว

เนื่องจากพื้นที่บริเวณเขตรักษาพันธุ์

สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตก จังหวัด

กาญจนบุรี ซึ่งเป็นแหล่งมรดกโลกของ

ประเทศไทย โดยขึ้นทะเบียนขององค์การ

ยูเนสโกร่วมกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า

ห้วยขาแข้ง เมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๔ มีประชากร

อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก และมีปัญหา

นานัปการทั้งด้านคมนาคม สาธารณสุข

สาธารณูปโภค การศึกษา เศรษฐกิจ ตลอด

จนความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยงานภาครัฐ

54

และประชาชน โดยเฉพาะบ้านสาละวะและบ้านไร่โว่ ซึ่งตั้งอยู่ในเขต

รักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร จังหวัดกาญจนบุรี

นอกจากนี้ชุมชนชายแดนบริเวณดังกล่าว ถือว่ามีความสำคัญ

ต่อความมั่นคงของประเทศ จึงสมควรให้มีการบูรณาการการพัฒนา

ชุมชนระหว่างหน่วยงานภาครัฐและชุมชน เพื่อให้ได้รับการพัฒนา

และอนุรักษ์อย่างยั่งยืน ซึ่งจะเป็นการสืบสานพระราชปณิธานและ

พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร

กองประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม


มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้า

สิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการพัฒนา

ประเทศและสังคม โดยพระราชทานความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบ

ปัญหาความทุกข์ยากโดยตรง อันจะนำไปสู่การพัฒนาตนเอง

อนึ่ง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า

โปรดกระหม่อมรับโครงการพัฒนาชุมชนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า

ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันตกและอุทยาน

แห่งชาติ จังหวัดกาญจนบุรี ไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ และทรงพระ

กรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งคณะกรรมการโครงการ

พัฒนาชุมชนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า โดยมี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ

เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร

มหาวัชรราชธิดา เป็นองค์ประธานกรรมการ ซึ่งพระองค์ทรงน้อมนำ

แนวพระราชดำริมาพัฒนาชุมชนบ้านไร่โว่และบ้านสาละวะ ร่วมกับ

คณะกรรมการ ส่วนราชการ และประชาชนในพื้นที่ โดยเข้าดำเนิน

งานในด้านต่าง ๆ ดังนี้ ด้านสาธารณสุข ได้จัดให้มีการ

อบรมประชาชนร่วมกับอาสาสมัครสาธารณสุข และ

สร้างโรงเรือนอนามัยทั้งสองชุมชน รวมทั้งอบรม

ประชาชนให้เป็นอาสาสมัครชุมชนอีกด้วย ด้านการ

คมนาคม ได้เข้าไปแก้ปัญหาน้ำหลากบนเส้นทางสัญจร

เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับความสะดวกในการ

เดินทาง ด้านสาธารณูปโภคได้ปรับปรุงระบบโซล่าเซลล์

และจัดทำระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำ ซึ่งปัจจุบันทั้งสอง

ชุมชนมีไฟฟ้าใช้ครบทุกครัวเรือน ด้านเกษตรกรรม ได้

เข้าไปบูรณาการโดยเน้นเรื่องป่า ๓ อย่าง ประโยชน์ ๔

อย่าง และเกษตรทฤษฎีใหม่ รวมทั้งการสร้างระบบจัด

เก็บน้ำสำรอง และจัดทำฝายในลำน้ำ จำนวน ๓๓ แห่ง ด้านเศรษฐกิจ

และสังคมได้เข้าไปส่งเสริมให้ชุมชนปลูกผักทั้งในและนอกโรงเรือน

การทำนารวม และพัฒนาไม้ผลเดิมที่เคยมีในชุมชน อาทิ กาแฟ

เม็ดมะม่วงหิมพานต์และหมาก โดยให้ความรู้แก่ชุมชนในการเก็บ

ผลผลิตที่ถูกต้อง

การเข้ามาของโครงการพัฒนาชุมชนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า

และอุทยานแห่งชาติ จังหวัดกาญจนบุรี ก่อให้เกิดการรวมกลุ่มของ

ชุมชน และพัฒนาเป็นวิสาหกิจชุมชน ด้านการศึกษาได้จัดการเรียน

การสอนในหลักสูตรที่ดีขึ้น มีการน ำระบบทีวีแอลอีดีเข้าไปสอนเสริม

มีการจัดทำหลักสูตรผืนป่าต้นน้ำ ทุ่งใหญ่นเรศวร เพื่อให้เห็นความ

สำคัญของการดูแลรักษาป่า เป็นต้น นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ

อย่างหาที่สุดมิได้

ข้อมูลจาก โครงการพัฒนาชุมชนในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติ

หลักเมือง สิงหาคม ๒๕๖๕

55


เลขา...น่ารู้

กองเลขานุการ

สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงกลาโหม

ลขา ในความเข้าใจของคนทั่วไป ไม่ว่าจะสาขาอาชีพใดก็ตามจะ

หมายถึงบุคคลผู้ซึ่งเป็นคนสนิทหรือคนใกล้ชิด ที่คอยทำหน้าที่

อำนวยความสะดวก ดำเนินการสารพัดประโยชน์ให้กับผู้บังคับ

บัญชาหรือผู้บริหารของหน่วยงาน ซึ่งในส่วนของกองทัพระดับ

กระทรวงกลาโหม สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กองบัญชาการ

กองทัพไทยและเหล่าทัพ จะมีกำลังพลที่ดำรงตำแหน่งเลขานุการ

บรรจุอยู่ในหน่วย และเป็นผู้ที่ปฏิบัติงานใกล้ชิดกับผู้บังคับบัญชา

คำว่า “เลขานุการ” ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน

พ.ศ.๒๕๒๕ เป็นคำสนธิ มาจากคำว่า เลขา สนธิกับ อนุการ หมายถึง

ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับหนังสือตามที่ผู้ใหญ่ (ผู้บังคับบัญชา) สั่ง

ซึ่งในทางปฏิบัติแล้ว เลขานุการไม่ได้หมายความเฉพาะในเรื่องของ

หนังสือเท่านั้น แต่ยังมีหน้าที่อื่น ๆ อีกมากมายทั้งที่เป็นภาระหน้าที่

ของตัวเลขานุการเองและภารกิจที่จะต้องปฏิบัติแทนผู้บังคับบัญชา

หรือผู้บริหารงานของหน่วย

56

กระทรวงกลาโหม มีสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงกลาโหม

เป็นหน่วยที่มีหน้าที่รับผิดชอบการปฏิบัติงานเกี่ยวกับราชการ

ทางการเมืองและการประสานนโยบายระหว่างกระทรวง เพื่อ

สนับสนุนภารกิจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและรัฐมนตรี

ช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม โดยปัจจุบันสำนักงานรัฐมนตรี

กองเลขานุการ สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงกลาโหม


กระทรวงกลาโหม จัดแบ่งส่วนราชการออกเป็น ๔ ส่วน ตามพระราช

กฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการและกำหนดหน้าที่ของสำนักงาน

รัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ๒)

พ.ศ.๒๕๖๐ ได้แก่ กองการเมือง กองกลาง กองเลขานุการ ศูนย์รับ

เรื่องราวร้องทุกข์ กระทรวงกลาโหม และสำนักงานจเรทหารทั่วไป

โดยมีเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้บังคับ

บัญชา และมีหัวหน้าสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงกลาโหม เป็น

ผู้บังคับบัญชารองจากเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

การดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับงานด้านเลขานุการและการ

ประสานงานด้านพิธีการ ในเรื่องของการประชุม การจัดทำคำขวัญ

สาร คำปราศรัย เอกสาร การรับรองคณะบุคคลทั่วไป รวมทั้งการ

เผยแพร่ภารกิจและกิจกรรมของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นหน้าที่ของกอง

เลขานุการ สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงกลาโหม โดยมีผู้อำนวยการ

กองเลขานุการ เป็นผู้รับผิดชอบ ทำหน้าที่ประสานงานด้าน

เอกสารและการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักนายก

รัฐมนตรี สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี สำนักปลัดสำนักนายก

รัฐมนตรี สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สำนักงานปลัดกระทรวง

กลาโหม กองบัญชาการกองทัพไทย

เหล่าทัพ รวมทั้งหน่วยงานอื่น ๆ ทั้งภาค

รัฐและภาคเอกชน

งานด้านเลขานุการ ดำเนินการ

เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้บังคับ

บัญชา ในเรื่องของเอกสาร จัดแยกแฟ้ม

เสนองานตามความสำคัญ ลำดับ

ความเร่งด่วนของงานตามวันเวลาก่อน

และหลังของภารกิจหรือเหตุการณ์

ตรวจสอบรายละเอียด ความถูกต้อง

เรียบร้อยของเอกสารและติดตามความ

ก้าวหน้า ความสำเร็จของเรื่องที่นำเรียน เพื่อแจ้งผลให้กับหน่วยต้นเรื่อง

ได้รับทราบ การบันทึกเข้าร่วมประชุม จัดทำวาระงานเพื่อให้

ผู้บังคับบัญชาทราบการปฏิบัติล่วงหน้าตามวันและเวลาที่กำหนด

การนัดหมายวันเวลาการขออนุญาตเข้าพบของบุคคลทั่วไป เพื่อไม่

ให้ซ้ำซ้อนกับภารกิจหรืองานอื่น ๆ ของผู้บังคับบัญชา ตลอดจนการ

เข้าร่วมงานพิธี ราชพิธี และงานหรือกิจกรรมอื่น ๆ ตามที่ได้รับการ

เรียนเชิญจากหน่วยงานต่าง ๆ โดยเฉพาะการปฏิบัติภารกิจของ

ผู้บังคับบัญชาภายนอกหน่วยงานนั้น เลขานุการจะต้องปฏิบัติงาน

อย่างใกล้ชิดกับผู้บังคับบัญชาหรืออยู่ในพื้นที่บริเวณใกล้เคียงกับ

ผู้บังคับบัญชา สามารถที่จะติดต่อ ติดตามหรือเรียกตัวให้เข้าพบได้

ตลอดเวลา ทั้งนี้เพื่อความมั่นใจของผู้บังคับบัญชาและป้องกัน

ความผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นในระหว่างการปฏิบัติงาน

งานประสานงานด้านพิธีการ ดำเนินการประสานงานกับ

หน่วยงานที่เสนอเรื่องถึงผู้บังคับบัญชา โดยทำการวิเคราะห์ ตรวจสอบ

รายละเอียดข้อมูลของเรื่องที่จะนำเสนอเกี่ยวกับการปฏิบัติของ

ผู้บังคับบัญชา ในเรื่องของกำหนดการ ลำดับพิธี การปฏิบัติของ

ผู้บังคับบัญชาในแต่ละขั้นตอน การแต่งกาย สถานที่ ห้องรับรอง

ห้องประชุม รวมทั้งผังที่นั่งหรือที่ยืนของผู้บังคับบัญชาในระหว่าง

พิธี มีการจัดที่เหมาะสม ถูกต้องตามลำดับตำแหน่งของผู้บังคับ

บัญชาหรือไม่ หากตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ถูกต้อง ก็จะเสนอแนะ

หรือแนะนำให้หน่วยเจ้าของเรื่องแก้ไขต่อไป

เลขานุการที่มีความสามารถและมีประสิทธิภาพ จะช่วย

ผู้บังคับบัญชาในการบริหารงานและการดำเนินการต่าง ๆ ในหน่วยงาน

ให้เกิดความเรียบร้อย ราบรื่น รวดเร็ว ถูกต้อง ทันเวลา สำเร็จ

ตามเป้าหมายของหน่วยงานและเป็นไปตามนโยบายของผู้บังคับ

บัญชา จึงนับได้ว่า เลขานุการเป็นบุคคลที่มีความสำคัญและจำเป็น

ต่องานทุกสาขาอาชีพ ซึ่งเลขานุการที่มีความสามารถในปัจจุบัน

ก็คือ “ผู้บริหารที่มีความสามารถในอนาคต”

หลักเมือง สิงหาคม ๒๕๖๕

57


พลเอก วรเกียรติิ รัตินานนท์์ ปลัดกระท์รวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการสััมมนา เฉลิมพระเกียรติิ

พระบาท์สัมเด็จพระเจ้าอย่หัว เน่องในโอกาสวัันเฉลิมพระชนมพรรษา ๗๐ พรรษา (๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๕) โดยมีการจัดนิท์รรศการ

เฉลิมพระเกียรติิ การบรรยายพิเศษเกียวกับพระราชประวัติิ และพระราชกรณีียกิจของพระบาท์สัมเด็จพระเจ้าอย่หัว โครงการ

พระราชดำร ิ งานศิลปาชีพ และการจำาหนายผลิติภััณีฑ์์ต่่าง ๆ โดยมี รองปลัดกระท์รวงกลาโหม และนายท์หารชันผ่้ใหญ่่ของ

สำำนัักงานปลัดกระท์รวงกลาโหม รวมพิธี ณี ห้องพินิติประชานาถ ภัายในศาลาวาการกลาโหม เม่อ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๕

58


พลเอก วรเกียรติิ รัตินานนท์์ ปลัดกระท์รวงกลาโหม รวมพิธีรับมอบติราสััญลัักษณ์์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา

๙๐ พรรษา ๑๒ สิิงหาคม ๒๕๖๕ จาก พลเอก ประยุทธ ์ จันทร ์โอชา นายกรัฐมนตร ีและรัฐมนตร ีวาการกระท์รวงกลาโหม

ณี ตึึกภัักดีบดินทร์์ ทำำาเนียบรัฐบาล เม่อ ๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๕

พลเอก วรเกียรติิ รัตินานนท์์ ปลัดกระท์รวงกลาโหม เป็นประธานในการจัดกิจกรรมจิติอาสัาบำาเพ็ญ่สัาธารณีประโยชน์ และ

บำาเพ็ญ่สัาธารณก ุศลเฉลิมพระเกียรติิพระบาท์สัมเด็จพระเจ้าอย่หัว เน่องในโอกาสว ันเฉลิมพระชนมพรรษา (๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๕)

โดยการฉีดล้างทำำาความสัะอาด ตััดแต่่งกิงไม้ จัดเลียงอาหารกลางวัน รวมท์ังมอบเคร่องอุปโภัคบริโภัคและสัิงของจำาเป็นสำำาหรับผ่้สั่งอายุ

โดยมีรองปลัดกระท์รวงกลาโหม หัวหน้าหนวยข้นติรงสำำน ักงานปลัดกระท์รวงกลาโหม รวมกิจกรรม ณี ม่ลนิธิมิติรภัาพสังเคราะห์

บ้านพักคนชราหญิิง จังหวัดปทุุมธานี เม่อ ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๕

หลัักเมืือง สิิงหาคมื ๒๕๖๕

59


พลเอก วรเกียรติิ รัตินานนท์์ ปลัดกระท์รวงกลาโหม อัญ่เชิญ่เคร่องราชสัักการะและพานพุ ม ทููลเกล้าฯ ถวายเน่องในโอกาสั

วันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาท์สัมเด็จพระเจ้าอย่หัว (๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๕) ณี บริเวณีหน้าประตููภููธรลีลาศ พระลาน

พระราชวังดุสิิติ เม่อ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๕

60


พลเอก ประยุทธ์์ จันทร์์โอชา นายกรัฐมนตรีีและรัฐมนตรีีวาการ

กระท์รวงกลาโหม และ พลเอก ชัยชาญ่ ช้างมงคล รัฐมนตรีีชวยวาการ

กระท์รวงกลาโหม พร้อมค่สัมรสั รวมงานสัโมสัรสัันนิบาติเฉลิมพระเกียรติิ

พระบาท์สัมเด็จพระเจ้าอย่ หัว เน่ องในโอกาสัเฉลิมพระชนมพรรษา

ณี ตึึกสัันติิไมตรีี ทำำาเนียบรัฐบาล เม่อ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๕

พลเอก ประยุทธ์์ จันทร์์โอชา นายกรัฐมนตรีีและรัฐมนตรีีวาการ

กระท์รวงกลาโหม เป็นประธานพิธีทำำบุุญ่ติักบาติรถวายพระราชกุศล

เน่องในโอกาสัเฉลิมพระชนมพรรษา ณี มณีฑ์ลพิธีท้้องสันามหลวง

เม่อ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๕

สำำน ักงานรัฐมนตร ี กระท์รวงกลาโหม จัดกิจกรรม

“พบพระพบธรรม นำช ีวีมีสุุข” โดยมี พลเอก สุุชาติิ หนองบัว

เลขานุการรัฐมนตร ีวาการกระท์รวงกลาโหม เป็นประธานในพิธี

ณี ห้องพินิติประชานาถ ภัายในศาลาวาการกลาโหม เม่อ

๑ กรกฎาคม ๒๕๖๕

สำำน ักงานรัฐมนตร ี กระท์รวงกลาโหม จัดกิจกรรมถวาย

เทีียนพรรษาเน่องในเท์ศกาลอาสัาฬหบ่ชาและเข้าพรรษา โดยมี

พลเอก สุุชาติิ หนองบัว เลขานุการรัฐมนตรีีวาการกระท์รวงกลาโหม

เป็นประธานในพิธี ณี พระอุโบสัถวัดพระเชตุุพนวิมลมังคลาราม

ราชวรมหาวิหาร เม่อ ๘ กรกฎาคม ๒๕๖๕

พลตรีี คม วิริยเวชกุล หัวหน้าสำำนัักงานรัฐมนตรีี กระท์รวง

กลาโหม ได้นำข ้าราชการสำำน ักงานรัฐมนตร ี กระท์รวงกลาโหม

เข้าชมพิพิธภััณีฑ์์กองทััพบกเฉลิมพระเกียรติิ ณี กองบัญ่ชาการ

กองทััพบก เม่อ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๖๕

กิิจกิรรมสำำนัักิงานรััฐมนัตรี

กระทรวงกลาโหม

หลัักเมืือง สิิงหาคมื ๒๕๖๕

สำำนัักงานรัฐมนตรีี กระท์รวงกลาโหม จัดกิจกรรม

ให้ข้าราชการเข้าเยียมชมนิท์รรศน์รัตินโกสิินทร์์ เม่อ

๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๕

61


พลเอก วรเกียรติิ รัตินานนท์์ ปลัดกระท์รวงกลาโหม และ พันตำำารวจเอกหญิิง อังศุวรรณี รัตินานนท์์ นายกสัมาคมภริิยา

ข้าราชการสำำนัักงานปลัดกระท์รวงกลาโหม พร้อมด้วยหัวหน้าหนวยข้นติรงและภริิยา รวมพิธีเจริญ่พระพุท์ธมนต์์ ทำำบุุญ่ติักบาติร

ถวายพระราชกุศล และลงนามถวายพระพรชัยมงคล เน่องในโอกาสวัันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาท์สัมเด็จพระเจ้าอย่หัว

๗๐ พรรษา ณี ห้องยุท์ธนาธิการ ภัายในศาลาวาการกลาโหม เม่อ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๖๕

กิิจกิรรมสำมาคมภริยาข้้าราชกิร

สำำานัักงานัปลัดกระทรวงกลาโหม

62


พลเอก วรเกียรติิ รัตินานนท์์ ปลัดกระท์รวงกลาโหม และ พันตำำารวจเอกหญิิง อังศุวรรณี รัตินานนท์์ นายกสัมาคมภริิยา

ข้าราชการสำำนัักงานปลัดกระท์รวงกลาโหม รวมพิธีทำำบุุญ่ติักบาติรถวายเป็นพระราชกุศล เน่องในโอกาสวัันเฉลิมพระชนมพรรษา

พระบาท์สัมเด็จพระเจ้าอย่หัว ๗๐ พรรษา ณี ท้้องสันามหลวง เม่อ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๕

กิิจกิรรมสำมาคมภริยาข้้าราชกิร

สำำานัักงานัปลัดกระทรวงกลาโหม

หลัักเมืือง สิิงหาคมื ๒๕๖๕

63


พลเอก วรเกียรติิ รัตินานนท์์ ปลัดกระท์รวงกลาโหม และ พันตำำารวจเอกหญิิง อังศุวรรณี รัตินานนท์์ นายกสัมาคมภริิยา

ข้าราชการสำำนัักงานปลัดกระท์รวงกลาโหม พร้อมด้วยรองปลัดกระท์รวงกลาโหม และภริิยา รวมงานสัโมสัรสัันนิบาติ

เฉลิมพระเกียรติิ เน่องในโอกาสัมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาท์สัมเด็จพระเจ้าอย่หัว ๗๐ พรรษา ณี ตึึกสัันติิไมตรีี

ทำำาเนียบรัฐบาล เม่อ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๕

กิิจกิรรมสำมาคมภริยาข้้าราชกิร

สำำานัักงานัปลัดกระทรวงกลาโหม

64



การสมัครเป็นสมาชิก

๑. ยื่นประสงค์และเขียนใบสมัครเข้ำเป็นสมำชิกพร้อมนำส่งหลักฐำนและค่ำธรรมเนียม ดังนี้

- รูปถ่ำยภำพสี ขนำด ๑ นิ้ว จำนวน ๒ รูป

- สำเนำทะเบียนบ้ำน หรือสำเนำบัตรประชำชน จำนวน ๑ ฉบับ

- ชำระเงินค่ำสมำชิก ๓๐๐ บำท ตลอดชีพ

๒. รอผลกำรพิจำรณำจำกคณะกรรมกำรฯ เมื่อได้รับอนุมัติให้เป็นสมำชิก สำมำรถเข้ำร่วมกิจกรรม

และกลุ่มไลน์สมำชิก เพื่อรับทรำบข่ำวสำรของชมรมได้ทันที

คุณสมบัติผู้สมัคร

สมำชิกชมรมตำม “ระเบียบ สำนักงำนปลัดกระทรวงกลำโหม ว่ำด้วยชมรมผู้สูงอำยุสำนักงำน

ปลัดกระทรวงกลำโหม พ.ศ.๒๕๕๙” ประกอบด้วย

๑. สมำชิกสำมัญ

๒. สมำชิกวิสำมัญ

๓. สมำชิกกิตติมศักดิ์

ผู้ที่สนใจสำมำรถสมัครเข้ำร่วมกิจกรรม ได้แก่

๑. กำลังพลและคู่สมรสที่อำยุมำกกว่ำ ๕๕ ปีขึ้นไป

๒. ผู้เกษียณอำยุรำชกำรสำนักงำนปลัดกระทรวงกลำโหมและคู่สมรส

“สูงวัยอย่างมีคุณค่า ชราอย่างสง่างาม”

สนใจสมัครสมาชิกชมรมฯ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ...

สำนักงำนชมรมฯ : ๑๒๗ อำคำรบริกำร ชั้น ๒ สำนักงำนปลัดกระทรวงกลำโหม (ศรีสมำน)

ต.บ้ำนใหม่ อ.ปำกเกร็ด จ.นนทบุรี ๑๑๑๒๐

โทรศัพท์ ๐ ๒๕๖๐ ๕๗๓๑ หรือติดตำมรำยละเอียดและข้อมูลได้ที่

www.facebook.com/AgingMOD@AgingMOD

Hooray! Your file is uploaded and ready to be published.

Saved successfully!

Ooh no, something went wrong!