กห. รอบ 9 ปี
Create successful ePaper yourself
Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.
๕. พัฒนากิจการป้องกันอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ โดยบูรณาการขีดความสามารถ ของภาครัฐและเอกชน รวมทั้งใช้<br />
ประโยชน์จากความร่วมมือในกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อนำาไปสู่การพึ่งพาตนเองในการผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ พัฒนากิจการ<br />
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพื่อการป้องกันประเทศ ให้ทัดเทียมกับประเทศในภูมิภาค สามารถสนับสนุนการพึ่งพาตนเอง<br />
ของอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ โดยร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ การ<br />
สื่อสาร และกิจการอวกาศ โดยเน้นให้เกิดการบูรณาการ ความเป็นมาตรฐาน และความมั่นคงปลอดภัยของระบบเทคโนโลยี<br />
สารสนเทศ และการสื่อสารภายในกระทรวงกลาโหม<br />
๖. พัฒนาการผนึกกำาลังกับทุกภาคส่วนของสังคมเพื่อการป้องกันประเทศ ด้วยการนำาพลังอำานาจแห่งชาติทุกด้าน มาใช้<br />
สนับสนุนการปฏิบัติภารกิจเพื่อความมั่นคงร่วมกับกระทรวงกลาโหม โดยในยามปกติ กระทรวงกลาโหมจะต้องใช้ทรัพยากร<br />
ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศ ด้วยการช่วยพัฒนาพลังอำานาจแห่งชาติทุกด้าน โดยให้ความสำาคัญกับการสนับสนุน<br />
นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล โดยเฉพาะการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ และฟื้นฟูประชาธิปไตย<br />
การสนับสนุนการแก้ไขและป้องกันปัญหายาเสพติด และการเร่งนำาสันติสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน<br />
ของประชาชนกลับมาสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งสนับสนุนการรักษาผลประโยชน์แห่งชาติ การพัฒนาประเทศเพื่อ<br />
ความมั่นคง การช่วยเหลือประชาชน การแก้ไขปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ปัญหาภัยพิบัติ โดยเฉพาะอุทกภัย<br />
การร่วมจัดการกับปัญหาการก่อการร้าย และอาชญากรรมข้ามชาติต่างๆ ได้แก่ ยาเสพติด ผู้หลบหนีเข้าเมือง แรงงานต่างด้าว<br />
ผิดกฎหมาย การค้าสิ่งของผิดกฎหมาย การค้ามนุษย์ โจรสลัด และ ภัยจากเครือข่ายอินเตอร์เน็ต<br />
นโยบายเฉพาะ<br />
๑. กองทัพต้องมีโครงสร้างที่เหมาะสม กะทัดรัด ทันสมัย มีความสมดุลระหว่างหน่วยปฏิบัติกับหน่วยควบคุมบังคับ<br />
บัญชา พร้อมรองรับภารกิจและสภาพแวดล้อมทั้งในปัจจุบันและในอนาคต โดยการขยายหน่วยหรือจัดตั้งหน่วยใหม่จะต้อง<br />
มีเหตุผลรองรับชัดเจน<br />
๒. พัฒนางานด้านกำาลังพลให้สอดคล้องกับโครงสร้างกองทัพและสามารถตอบสนองการปฏิบัติภารกิจต่างๆ ได้อย่าง<br />
มีประสิทธิภาพ โดยให้ความสำาคัญกับการพัฒนาระบบข้าราชการพลเรือนกลาโหม ให้สามารถนำามาใช้ในกระทรวงกลาโหม<br />
ได้อย่างเป็นรูปธรรม และเกิดประโยชน์สูงสุดต่อทางราชการ<br />
๓. พัฒนาการฝึกร่วมระหว่างเหล่าทัพ และการฝึกร่วม/ผสม กับมิตรประเทศ ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน<br />
สามารถนำาไปปฏิบัติได้ และมีความสมจริง รวมทั้งให้เพิ่มเติมการฝึกที่เป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติภารกิจอื่นๆ ของทหาร<br />
เช่น การฝึกบรรเทาสาธารณภัย เป็นต้น<br />
๔. จัดให้มีพื้นที่ฝึกของแต่ละเหล่าทัพและพื้นที่ฝึกร่วมระหว่างเหล่าทัพที่เหมาะสม โดยพื้นที่ฝึกดังกล่าวจะต้องมี<br />
มาตรการในการป้องกันการบุกรุกพื้นที่ ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถใช้พื้นที่ฝึกได้อย่างมีประสิทธิภาพ<br />
๕. ปรับปรุงการศึกษาของกองทัพในแต่ละระดับให้มีหลักสูตรที่สามารถพัฒนาบุคลากร ที่เข้ารับการศึกษาให้มีคุณภาพ<br />
และประสิทธิภาพสูงสุดอย่างแท้จริง โดยให้ความสำาคัญกับการศึกษาในระดับยุทธศาสตร์ ที่มีบุคลากรระดับสูงเข้ารับ<br />
การศึกษาเป็นลำาดับแรก