25.09.2020 Views

EPC_Book_1=250920

Create successful ePaper yourself

Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง

ฉบับประสบการณ์

Engineering, Procurement and Construction Contract (EPC) for Beginner

เจตณรงค์ เชาว์ชูเดช

กันยายน 2563


ค ำสงวนสิทธิ์: Disclaimer

หนังสือเล่มนี้ เขียนขึ้นเพื่อควำมรู้ควำมเข้ำใจใน สัญญำออกแบบ จัดหำ และ

ก่อสร้ำง ผู้เขียนได้ใช้ควำมรู้ควำมสำมำรถเท่ำที่มีในกำรถ่ำยทอดอย่ำงเต็ม

ควำมสำมำรถ และดีที่สุดแล้ว ข้อผิดพลำดทั้งปวงอันอำจมี ขอน้อมรับไว้แก้ไขใน

โอกำสต่อไป ลิขสิทธิ์ อันพึงมีในข้อเขียนทั้งปวง ย่อมเป็นสิทธิ์ของเจ้ำของนั้นทั้งสิ้น

ผู้ใช้เอกสำร พึงใช้วิจำรณญำณในกำรใช้ด้วยตนเอง

ผิด ตก ยกเว้น (E&OE)

ควำมรู้มีไว้แบ่งปัน!


สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง

ฉบับประสบการณ์

เจตณรงค์ เชาว์ชูเดช

กันยายน 2563


สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์

Engineering, Procurement and Construction

Contract (EPC) for Beginner

ISBN: XXX-XXX-XXX-XXX-X

พิมพ์ครั้งแรก กันยายน 2563

จัดท าโดย นายเจตณรงค์ เชาว์ชูเดช

โทรศัพท์ 086 107 2303

อีเมล jadenarong@outlook.com

หนังสือนี้จัดท าขึ้นเพื่อเป็นวิทยาทาน มิได้พิมพ์จ าหน่าย

ท่านสามารถ Download File ได้ที่

http://www.jadenc.com/EPC_Book_1=250920.pdf

ท่านสามารถแจกจ่ายไฟล์เพื่อใช้งานได้ตามความประสงค์

หากท่านเห็นว่าเป็นประโยชน์ จะสนับสนุนค่าใช้จ่ายแก่ผู้เขียนตามอัธยาศัย

ก็จะเป็นพระคุณยิ่ง ได้ที่หมายเลขบัญชีดังนี้

บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเทสโก้ โลตัส เพชรเกษม 81

หมายเลขบัญชี 419-049124-6

ชื่อบัญชี นายเจตณรงค์ เชาว์ชูเดช

สาธารณสมบัติ


สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์

Engineering, Procument and Construction Contract (EPC) for Beginner

แด่พ่อ

ครูช่างคนแรกของผม



สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์

Engineering, Procument and Construction Contract (EPC) for Beginner

กิตติกรรมประกาศ

ผู้เขียนขอขอบคุณบริษัท กรุงเทพเอ็นยิเนียริ่งคอนซัลแตนท์ จ ำกัด 1 บริษัททีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์

แมเนจเมนท์ จ ำกัด (มหำชน) 2 บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จ ำกัด (มหำชน) 3 บริษัทควอนตัม พีพีพี คอน

ซัลติ้ง จ ำกัด 4 มหำวิทยำลัยชีวิต ส ำหรับผม ที่ได้ให้โอกำสผมท ำงำน มีประสบกำรณ์ ควำมรู้ ควำมสำมำรถมำ

โดยตลอดกว่ำ 40 ปี แม้บำงแห่งจะได้มีโอกำสท ำงำนในช่วงเวลำสั้น ๆ ก็ตำม แต่ประสบกำรณ์ซึ่งไม่สำมำรถหำ

เรียนได้จำกมหำวิทยำลัย นั้นมีคุณค่ำมหำศำล ควรคู่กับค ำขอบคุณนี้ยิ่งนัก

ผมขอขอบคุณอำจำรย์ช ำนำญ พิเชษฐพันธ์ ผู้เขียนหนังสือ สัญญำจ้ำงที่ปรึกษำบริหำรกำรก่อสร้ำง ผู้จุด

ประกำย ด้วยกำรเชิญชวนผมให้ร่วมเขียนหนังสือ ท ำให้ได้มีโอกำส อ่ำน และเริ่มเขียนหนังสือ ขอขอบคุณเป็น

อย่ำงสูง

ขอขอบคุณ สมำคมวิศวกรที่ปรึกษำแห่งประเทศไทย 5 (วปท.) โดยควำมร่วมมือกับ กรมกำรค้ำต่ำงประเทศ

กระทรวงพำณิชย์ และศูนย์บริกำรวิชำกำรแห่งจุฬำลงกรณ์มหำวิทยำลัย ที่ได้เปิดอบรมหลักสูตรกำรบริหำร

สัญญำโครงกำรก่อสร้ำงวิศวกรรมระดับสำกลของ FIDIC (Train the Trainer) หลักสูตรที่ 1, 2 และ 3

(Module 0, 1 and 4) รุ่นแรก เมื่อเดือนกุมภำพันธ์ 2558 ขอขอบคุณเป็นอย่ำงสูงมำ ณ ที่นี้

ผมขอขอบคุณชมรมนักกฎหมำยก่อสร้ำง โดยคุณกัมพล กิตติพงษ์พัฒนำ ประธำนชมรมฯ และอำจำรย์ช ำนำญ

พิเชษฐพันธ์ ที่ปรึกษำชมรมฯ ซึ่งได้กรุณำ เชิญชวนให้ผม ได้มีโอกำสน ำเสนอกำรสัมมนำ เกี่ยวกับเรื่องของ

สัญญำ หลำยครั้ง ท ำให้มีโอกำสได้ถ่ำยทอด และแลกเปลี่ยนควำมรู้ ควำมคิดเห็น เกี่ยวกับสัญญำในกำร

ก่อสร้ำง เปิดโลกทรรศน์แก่ผมเป็นอย่ำงมำก ขอขอบคุณเป็นอย่ำงสูง

ผมขอขอบคุณคุณวินิจ กลิ่นทอง เพื่อนสนิท ผู้ช่วยตรวจทำน และให้ควำมเห็นที่เป็นประโยชน์ ท ำให้หนังสือ

เล่มนี้มีควำมสมบูรณ์มำกขึ้น ขอขอบคุณเป็นอย่ำงสูงครับ

ท้ายที่สุด

กรำบขอบพระคุณ พ่อ แม่ และครู อำจำรย์ พี่ ๆ เพื่อนร่วมงำนทุกท่ำน ที่มอบชีวิต ควำมรู้ ประสบกำรณ์ และ

ควำมช่วยเหลือในทุก ๆ ด้ำน กรำบขอบพระคุณมำด้วยควำมเคำรพรักยิ่ง

1

http://www.kecconsultants.com/

2

https://www.teamgroup.co.th/th/

3

https://pps.co.th/

4

https://www.quantumppp.com/

5

http://www.ceat.or.th/2010/index.php



สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์

Engineering, Procurement and Construction Contract (EPC) for Beginner เรื่องจากปก

ภาพ: Chief Joseph Dam on the Columbia River near Bridgeport, Washington, USA.

The dam is operated by the U.S. Army Corps of Engineers.

https://en.wikipedia.org/wiki/Chief_Joseph_Dam

https://www.nws.usace.army.mil/Missions/Civil-Works/Locks-and-Dams/Chief-Joseph-Dam/

Chief Joseph Dam เป็นเขื่อนคอนกรีตแบบแรงโน้มถ่วง (Concrete Gravity Dam) บนแม่น ้า

โคลัมเบีย 2.4 กิโลเมตร (1.5 ไมล์) จาก Bridgeport, Washington ตัวเขื่อนตั้งอยู่ต้นแม่น ้าเป็น

ระยะทาง 877 กิโลเมตร (545 ไมล์) จากปากแม่น ้า Columbia at Astoria, Oregon ด าเนินการโดย

USACE Chief Joseph Dam Project Office และจ าหน่ายกระแสไฟฟ้าโดย Bonneville Power

Administration

การก่อสร้างเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2493 โดยเขื่อนหลักและโครงสร้างทางน ้าเข้าแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2498

การติดตั้งโรงผลิตไฟฟ้าหน่วยแรกเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2501 และแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2504 มีการติดตั้ง

กังหันน ้าเพิ่มอีก 10 เครื่อง ระหว่างปี พ.ศ. 2516 ถึง พ.ศ. 2522 เป็นการเพิ่มก าลังการผลิตเป็น

2,620 เมกะวัตต์ ท าให้ Chief Joseph Dam เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าจากพลังน ้ารายใหญ่อันดับสามใน

สหรัฐอเมริกา



สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์

Engineering, Procurement and Construction Contract (EPC) for Beginner

สารบัญ

เรื่อง หน้า

เรื่องจากปก

กิตติกรรมประกาศ

ค าน า

ภาคที่ 1 ความรู้เรื่องสัญญา ออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง

1. บทน า 1

1.1 รูปแบบของสัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง: อีพีซี 2

1.2 องค์ประกอบของสัญญาอีพีซี 2

1.3 การปฏิบัติงานในสัญญาอีพีซี 2

1.4 ความแตกต่างของการบริหารสัญญา และการจัดการสัญญา (The Difference between

Contract Administration and Contract Management) 4

1.5 ความแตกต่างของสัญญาอีพีซี และสัญญาออกแบบรวมก่อสร้าง 5

2. สัญญา 7

2.1 สัญญาคืออะไร 7

2.2 สาระส าคัญของสัญญา 9

2.3 ลักษณะของสัญญา 10

2.4 รูปแบบของสัญญา 10

2.5 สัญญาก่อสร้าง 11

2.6 ระบบการส่งมอบโครงการ 11

2.7 วงจรชีวิตของสัญญาโครงการ 16

2.8 ประเภทของสัญญาการก่อสร้าง 17

3. การบริหารสัญญา 18

3.1 ความแตกต่างของการบริหารสัญญา และการจัดการสัญญา 18

3.2 การบริหารสัญญา 18

3.3 แนวทางปฏิบัติในการจัดท าแผนการบริหารสัญญา 18

3.4 หลักการพิจารณาแนวทางปฏิบัติในการเตรียมแผนการบริหารสัญญา 19

3.5 บทบาทโดยทั่วไปของผู้บริหารสัญญา 20

3.6 การจัดท าเอกสารประกวดราคา 20

4. การจัดการสัญญา 27

4.1 การจัดการสัญญาคืออะไร? 27

i | iii


สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์

Engineering, Procurement and Construction Contract (EPC) for Beginner

4.2 แนวปฏิบัติที่ดีในการจัดการสัญญา 28

4.3 ขั้นตอนในการปรับปรุงการจัดการสัญญา 30

4.4 กระบวนการจัดการสัญญา 30

4.5 การจัดซื้อจัดหา 40

4.6 การจัดการทรัพยากรมนุษย์ 41

5. การจัดการการออกแบบ 42

5.1 ความรับผิดชอบในการออกแบบ 42

5.2 พันธะทั่วไปในการออกแบบ 42

5.3 เอกสารของผู้รับจ้าง 43

5.4 ภาระหน้าที่ของผู้รับจ้าง 44

5.5 มาตรฐานทางเทคนิคและกฏระเบียบ 44

5.6 การฝึกอบรม 44

5.7 แบบและเอกสารก่อสร้างจริง 45

5.8 คู่มือการด าเนินการโครงการและการบ ารุงรักษา 45

5.9 ข้อผิดพลาดในการออกแบบ 45

5.10 การจัดการการออกแบบ 45

6. การจัดการการจัดซื้อจัดหา 49

6.1 ทั่วไป 49

6.2 ข้อก าหนดของสัญญาเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดหา 50

6.3 การจัดการการจัดซื้อจัดหาของผู้รับจ้าง EPC 51

7. การจัดการการก่อสร้าง 52

7.1 ทั่วไป 52

7.2 ข้อก าหนดสัญญาเกี่ยวกับการก่อสร้าง 52

7.3 การจัดการการก่อสร้างผู้รับจ้างของ EPC 54

8. การจัดการความเสี่ยง 58

8.1 ความเสี่ยงและการจัดการความเสี่ยง 58

8.2 วิธีการบริหารความเสี่ยง 59

8.3 การวิเคราะห์ความเสี่ยงตามสัญญา 61

9. การจัดการการเรียกร้อง 65

10.การจัดการข้อพิพาท 65

บรรณานุกรม

ii | iii


สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์

Engineering, Procurement and Construction Contract (EPC) for Beginner

ภาคที่ 2 ภาคปฏิบัติ

คู่มือการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา

ภาคที่ 3 ภาคผนวก

3-1 EPC Template

3-2 เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

3-3 การปรับปรุง FIDIC 2017

3-4 Engineering, Procurement & Construction (EPC) EPC Construction Management Guide

iii | iii



1 | บทน ำ

1. บทน ำ

กำรด ำเนินงำนส ำหรับโครงกำรก่อสร้ำง (Project Delivery System) หมายถึง วิธีการด าเนินงาน

ส าหรับโครงการก่อสร้าง อีกนัยหนึ่งก็หมายถึงการส่งมอบโครงการ ด้วยวิธีการด าเนินงานแบบใด

กล่าวโดยง่ายคือจะด าเนินการโครงการโดยใช้สัญญาแบบใด สัญญำออกแบบ จัดหำ และก่อสร้ำง

(Engineering, procurement and construction: EPC อีพีซี) เป็นรูปแบบหนึ่งของ Project

Delivery System นอกเหนือจาก สัญญาออกแบบ ประกวดราคา และก่อสร้าง (Design-Bid-Build)

ซึ่งเป็นวิธีดั้งเดิม (Traditional Approach) สัญญาออกแบบรวมก่อสร้าง (Design & Build

Approach) ระบบ "บริหารงานก่อสร้าง" (Construction Management Approach) และระบบ

"ก่อสร้าง-ด าเนินการ-ส่งมอบ" (Build-Operate-Transfer)

สัญญำออกแบบ จัดหำ และก่อสร้ำง (Engineering, procurement and construction: EPC

อีพีซี) เป็นรูปแบบทั่วไปของการจัดท าสัญญาในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง ภายใต้สัญญาอีพีซี ผู้รับจ้าง

ก่อสร้างจะออกแบบ จัดหาอุปกรณ์ที่จ าเป็นและก่อสร้าง หรือ ติดตั้ง ทั้งโดยตนเองหรือผู้รับจ้างช่วง

ผู้รับจ้างก่อสร้างจะด าเนินโครงการด้วยความเสี่ยงเอง เพื่อก าหนดค่างานเป็นงบประมาณในการ

ก่อสร้าง ซึ่งขึ้นอยู่กับขอบเขตงานที่ตกลงกัน

สัญญาอีพีซี มีชื่อเรียกอีกหลายแบบเช่น Full Turnkey หรือ Lump Sum Turn Key (LSTK) ซึ่งมี

ความหมายว่าเมื่อส่งมอบโครงการแล้วพร้อมใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ก็ยังมี

Engineering, Procurement, Construction and Commissioning (EPCC) และ Engineering,

Procurement, Construction and Management (EPCM) ซึ่งรวมถึงการด าเนินการ และการ

จัดการหลังการก่อสร้างด้วย

หนังสือเล่มนี้จะแยกออกเป็น 3 ภาค คือ

ภาคที่ 1 ความรู้ทั่วไป

ภาคที่ 2 ภาคปฏิบัติ

ภาคที่ 3 ภาคผนวก

ภาคที่ 1 ความรู้ทั่วไป กล่าวถึง สัญญา คืออะไร สัญญาแบบต่าง ๆ องค์ประกอบของสัญญา การ

บริหารสัญญา และการจัดการสัญญา

ภาคที่ 2 ภาคปฏิบัติ อธิบายถึงวิธีการจัดท าเอกสาร อีพีซี

และ ภาคที่ 3 ภาคผนวก เป็นตัวอย่างเอกสารอีพีซี

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


2 | บทน ำ

1.1 รูปแบบของสัญญำออกแบบ จัดหำ และก่อสร้ำง: อีพีซี

สัญญำออกแบบ จัดหำ และก่อสร้ำง เป็นรูปแบบทั่วไปของการจัดท าสัญญาในอุตสาหกรรมการ

ก่อสร้าง ภายใต้สัญญาอีพีซี ผู้รับจ้างก่อสร้างจะออกแบบ จัดหาอุปกรณ์ที่จ าเป็นและก่อสร้าง หรือ

ติดตั้ง ทั้งโดยตนเองหรือผู้รับจ้างช่วง ผู้รับจ้างก่อสร้างจะด าเนินโครงการด้วยความเสี่ยงเอง เพื่อ

ก าหนดค่างานเป็นงบประมาณในการก่อสร้าง ซึ่งขึ้นอยู่กับขอบเขตงานที่ตกลงกัน

สัญญำอีพีซี มีชื่อเรียกอีกหลายแบบเช่น Full Turnkey หรือ Lump Sum Turn Key (LSTK) ซึ่งมี

ความหมายว่าเมื่อส่งมอบโครงการแล้วพร้อมใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ก็ยังมี

Engineering, Procurement, Construction and Commissioning (EPCC) และ Engineering,

Procurement, Construction and Management (EPCM) ซึ่งรวมถึงการด าเนินการ และการ

จัดการหลังการก่อสร้างด้วย

1.2 องค์ประกอบของสัญญำอีพีซี

1.2.1 งำนออกแบบ (Engineering) ประกอบด้วย

• การออกแบบรายละเอียด (Detailed Engineering and Design);

• การวางแผนงานก่อสร้าง (Programming and Scheduling Works);

• การประมาณราคา (Cost Estimating for All Areas of the Project)

1.2.2 งำนจัดหำ (Procurement) ประกอบด้วย

• การประกวดราคา (Tenders / Quoting for All Sub-packages of Works Involved);

• การจัดซื้อ จัดหา ท าสัญญาจ้าง (Purchasing, Receipting and Invoicing of Goods);

• การจัดหาผู้รับจ้างช่วงที่มีศักยภาพ และเหมาะสม (Potential Coordination of Any Subcontracts

Involved for Services)

1.2.3 งำนก่อสร้ำง (Construction) ประกอบด้วย

• ด าเนินงานก่อสร้างตามแผนงาน Adherence to Construction Schedule;

• ก่อสร้างอย่างมีประสิทธิภาพ (Performance (Directly or through Sub-contractors) of all

Construction Activities);

• ทดสอบการท างานทั้งระบบ เพื่อตรวจสอบให้มั่นใจว่าการท างานของทั้งระบบพร้อมกันถูกต้องตามที่

ก าหนดไว้ในเอกสารสัญญา (Commissioning and Finalisation of Project);

• ปิดโครงการ (Closure of Project)

1.3 กำรปฏิบัติงำนในสัญญำอีพีซี

• เข้าใจ และมีความรู้ในแต่ละองค์ประกอบ และกระบวนการของงาน (KNOW each Engineering

Discipline and the Overall Process)

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3 | บทน ำ

• เข้าใจและตระหนักในแผนงานวิกฤต แง่มุมที่ส าคัญ (UNDERSTAND the Critical Aspects)

• ด าเนินการโครงการอย่างมีปะสิทธิภาพ (IMPLEMENT Powerful Methods)

1.3.1 สำระส ำคัญในสัญญำอีพีซี

• บุคคลากรหลักของผู้ว่าจ้างคือ ตัวแทนของผู้ว่าจ้าง (Employer’s Representative)

• จะไม่มีข้อเรียกร้องส าหรับปัญหาที่คาดไม่ถึง ยกเว้นเหตุสุดวิสัย (No Unforeseeable Difficulties)

• จะต้องตรวจสอบ / ตีความข้อมูลของผู้ว่าจ้างเอง (Verification/ Interpretation of Employer

Data incl. Sub-surface, Hydrological and Employer Requirements)

• ผู้รับจ้างจะเป็นผู้ด าเนินการออกแบบ (General Design Obligations, Design Error)

• จะไม่มีการขยายเวลาในเรื่องดังต่อไปนี้ (No Extension of Time for Completion for)

* เงื่อนไขต่าง ๆ ของสภาพภูมิอากาศ ยกเว้นเหตุสุดวิสัย (Exceptionally Adverse Climatic

Conditions except FM)

* การขาดแคลนแรงงานและวัสดุต่าง ๆ (Unforeseeable Shortages in Personnel or Goods

by Epidemic or Government Actions)

* ข้อผิดพลาดของข้อก าหนดวัตถุประสงค์ความต้องการของผู้ว่าจ้าง (Errors in Employer’s

Requirements)

* สภาพการณ์ที่ไม่อาจคาดเดาได้จากสภาพทางกายภาพ (Unforeseeable Physical

Conditions)

1.3.2 สำระส ำคัญเกี่ยวกับผู้ว่ำจ้ำง:

ผู้ว่าจ้างไม่ต้องรับความเสี่ยงในเรื่องดังต่อไปนี้

• การใช้งานโดยผู้ว่าจ้าง

• การออกแบบงานโดยบุคลากรของผู้ว่าจ้าง

• เหตุการณ์ที่คาดไม่ถึงเกี่ยวกับธรรมชาติ

• ผู้รับจ้างรับผิดชอบทั้งหมดในการออกแบบ และประสานงานการออกแบบ รวมถึงการออกแบบโดย

ผู้ว่าจ้าง

• ผู้รับจ้างรับความเสี่ยงทั้งหมดในสภาพทางธรณีวิทยา

• ผู้ว่าจ้างมีสิทธิ์เต็มที่ในโครงการ

• ผู้ว่าจ้างมีสิทธิ์เปลี่ยนแปลงขอบเขตงาน แต่ต้องรับภาระในค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากขอบเขตงานที่

เพิ่มขึ้น

• จ ากัดการเรียกร้องของผู้รับจ้างในเรื่องของเวลา และค่าใช้จ่าย

• ผู้รับจ้างจะก าหนดราคาความเสี่ยงเหล่านี้ และด าเนินการตรวจสอบรายละเอียดของโครงการ

(ขั้นตอนในการประกวดราคาจึงใช้เวลานานกว่าสัญญาแบบอื่น)

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


4 | บทน ำ

1.4 ควำมแตกต่ำงของกำรบริหำรสัญญำ และกำรจัดกำรสัญญำ (The Difference between

Contract Administration and Contract Management)

กำรบริหำรสัญญำและกำรจัดกำรสัญญำจะมีควำมแตกต่ำงกันในช่วงของเวลำของสัญญำ ระหว่ำง

กำรจัดเตรียมสัญญำและกำรลงนำมในสัญญำขั้นสุดท้ำย

การบริหารสัญญาจะเป็นกระบวนการจัดเตรียมสัญญา ข้อตกลง ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความเสี่ยง

ผู้จัดการโครงการและผู้จัดท าสัญญาจะต้องมีความเข้าใจกระบวนการเหล่านี้เป็นอย่างดี ส่วนการ

จัดการสัญญาจะเป็นกระบวนการหลังจากมีการลงนามในสัญญาแล้ว และเป็นการจัดการให้ทุกอย่าง

เป็นไปตามสัญญาที่ได้ตกลงกันระหว่างคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย

1.4.1 กำรบริหำรสัญญำ: เป็นงำนจัดเตรียมเอกสำรสัญญำก่อนกำรลงนำม

สัญญาเป็นข้อตกลงที่มีผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างสองฝ่ายขึ้นไป การบริหารสัญญามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่

เกิดขึ้นก่อนลงนามในสัญญา ผู้จัดท าสัญญาจะต้องควบคุมในวิธีการจัดเตรียม วิเคราะห์ และข้อเจรจา

ในสัญญา และจะมุ่งเน้นไปที่การวางแผนและการปฏิบัติตามสัญญา โดยอาจขอข้อเสนอ (Request

for Proposal: RFP) จากผู้ขาย/ผู้ให้บริการ/ผู้รับจ้างที่มีศักยภาพ และเชิญให้เสนอราคา (อาจมีการ

จัดท าการคัดเลือกคุณสมบัติเบื้องต้น Prequalification ก่อน) เมื่อเลือกผู้ขาย/ผู้ให้บริการแล้ว ผู้จัดท า

สัญญาจะเห็นภาพรวม และสามารถสรุปรายละเอียดในสัญญาเป็นข้อตกลงที่มีความเป็นธรรม

1) เอกสารการประกวดราคาสัญญาอีพีซี

• ประกาศเรียกประกวดราคา

• รายละเอียดการยื่นข้อเสนอ (Request for Proposal: RFP) / รายละเอียดขอบเขตงาน (Terms

of Reference)

• ค าแนะน าผู้เข้าประกวดราคา

• เงื่อนไขของสัญญา

• ตัวอย่างข้อตกลง/สัญญา

• แบบฟอร์มประกอบการยื่นเสนอ

• เอกสารวัตถุประสงค์ ความต้องการของผู้ว่าจ้าง (Employer’s Requirements) เป็นเอกสารที่

ระบุ วัตถุประสงค์ ตามความต้องการของผู้ว่าจ้างตามที่ระบุไว้ในสัญญาและรวมถึงการเพิ่มเติม

และการปรับเปลี่ยนเอกสารดังกล่าวตามสัญญา

เอกสารดังกล่าวจะระบุวัตถุประสงค์ขอบเขต และ/หรือการออกแบบ และ/หรือเกณฑ์ทางเทคนิค

อื่น ๆ ส าหรับงาน

2) ข้อดี ของสัญญาอีพีซี

• ระยะเวลาก่อนการก่อสร้างในช่วงประกวดราคาสั้นกว่าวิธีอื่น

• สะดวกในการวางแผน และการด าเนินงานโครงการโดยรวม ปัญหาระหว่างการออกแบบและการ

ก่อสร้าง สามารถแก้ไขได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความขัดแย้งระหว่างกัน

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


5 | บทน ำ

• ขอบเขตการท างานและความรับผิดชอบชัดเจน โดยความรับผิดชอบและความเสี่ยงในช่วง

ระยะเวลาการก่อสร้างเป็นของผู้รับจ้าง

• ราคารวม และระยะเวลาก่อสร้าง แน่นอนและชัดเจน

• ผู้ว่าจ้างเป็นอิสระจากการบริหารโครงการทั่วไป และสามารถบริหารจัดการในเรื่องที่มี

ความส าคัญกว่า

3) ข้อด้อย ของสัญญาอีพีซี

• ผู้ว่าจ้างมีส่วนร่วม และโอกาสการควบคุมงานในโครงการน้อย

• เนื่องจากความเสี่ยงทั้งหมดถูกโอนให้อยู่ในความรับผิดชอบของผู้รับจ้าง ฉะนั้นการคัดเลือกผู้รับ

จ้างจึงต้องให้ความส าคัญเป็นพิเศษ

• โดยที่ความรับผิดชอบและความเสี่ยงในช่วงระยะเวลาการก่อสร้างเป็นของผู้รับจ้าง ฉะนั้นราคา

โครงการจะสูงเนื่องจากครอบคลุมเรื่องความเสี่ยง

• ผู้ว่าจ้างที่คุ้นเคยกับการก่อสร้างด้วยวิธีดั้งเดิมแบบอื่นอาจประสบปัญหาในด้านความเข้าใจใน

วิธีการของสัญญาอีพีซี

1.4.2 กำรจัดกำรสัญญำ (Contract Management): งำนภำยหลังจำกกำรลงนำมในสัญญำแล้ว

การจัดการสัญญาเกิดขึ้นหลังจากสัญญามีผลบังคับใช้ โดยจะต้องมั่นใจว่าข้อก าหนดและเงื่อนไขที่มีอยู่

ในสัญญานั้นสามารถปฏิบัติตามได้ และคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายพอใจในภาระข้อผูกพันตามสัญญาทั้งหมด

เช่นเดียวกับการจัดการที่จ าเป็นส าหรับการด าเนินงานด้านอื่น ๆ ของ คู่สัญญาอย่างเหมาะสม

แต่โดยทั่วไป เรามักได้ยินโดยรวมว่า กำรบริหำรจัดกำรสัญญำ (Contract Administration and

Contract Management)

1.5 ควำมแตกต่ำงของสัญญำอีพีซี และสัญญำออกแบบรวมก่อสร้ำง

• สัญญาทั้ง 2 แบบจะออกแบบโดยผู้รับจ้าง

• การปิดโครงการ สัญญาอีพีซี จะส่งมอบโครงการทั้งหมด พร้อมใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะที่สัญญาออกแบบรวมก่อสร้างจะมีการตรวจรับงานเช่นเดียวกับสัญญาก่อสร้างทั่วไป ด้วย

การตรวจสอบงานในแต่ละจุดหาความบกพร่อง

• สัญญาอีพีซี มักส่งมอบงานให้มีประสิทธิภาพสูงกว่าข้อก าหนด ขณะที่สัญญาออกแบบรวม

ก่อสร้างจะส่งมอบงานที่มีมาตรฐานตามข้อก าหนดขั้นต ่าสุด

• สัญญาอีพีซี เจ้าของงานจะมีส่วนร่วมในโครงการน้อยที่สุด

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


6 | บทน ำ

• สัญญาอีพีซี ผู้รับจ้างจะรับความเสี่ยงทั้งหมด ขณะที่สัญญาออกแบบรวมก่อสร้างยังคงมีการ

กระจายความเสี่ยงระหว่างผู้ว่าจ้าง และผู้รับจ้าง ตัวอย่างเช่นสภาพของภูมิประเทศที่มิอาจ

คาดการณ์ได้ ผู้รับจ้างอาจสามารถเรียกร้องขอขยายระยะเวลา และค่าใช้จ่ายเพิ่มได้ เป็นต้น

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


7 | สัญญา

2. สัญญา (Contract)

2.1 สัญญาคืออะไร

ประเด็น: ไม่ต้องท ำเป็นหนังสือ ไม่ต้องมีหลักฐำนเป็นหนังสือ ??? (Gentlemen/Verbal

Agreement, สัญญำสุภำพบุรุษ/สัญญำปำกเปล่ำ)

รูปแบบของสัญญำที่ท ำเป็นหนังสือ (สัญญำเดี่ยวที่ไม่ได้แยกเป็นส่วน ๆ และ สัญญำที่

แยกเป็นส่วน ๆ)

สัญญา หมำยถึง ข้อตกลงระหว่ำงบุคคลสองฝ่ำย (หรือหลำยฝ่ำย) ว่ำจะกระท ำกำรหรืองดเว้นกระท ำ

กำรอย่ำงใดอย่ำงหนึ่ง สัญญำมักจะเป็นรูปแบบเอกสำรลำยลักษณ์อักษร ซึ่งระบุเงื่อนไขและข้อตกลง

ต่ำง ๆ ลงท้ำยด้วยลำยมือชื่อของทั้งสองฝ่ำย และอำจมีของพยำนด้วยก็ได้

สัญญำก่อสร้ำง ถือว่ำเป็นสัญญำจ้ำงท ำของ ในประมวลกฎหมำยแพ่งและพำณิชย์มิได้บังคับให้ต้องท ำ

เป็นหนังสือ ดังนั้นกำรฟ้องร้องกันจึงไม่จ ำเป็นต้องมีสัญญำเป็นเอกสำรหรือเป็นหนังสือก็ฟ้องร้องกันได้

ดังได้กล่ำวแล้วว่ำ กำรท ำสัญญำจ้ำงท ำของไม่จ ำเป็นที่จะต้องมีรูปแบบหรือแบบฟอร์มใดๆ 1 และ

บำงครั้งก็ไม่จ ำเป็นที่จะต้องท ำเป็นลำยลักษณ์อักษรและลงชื่อรับรอง สัญญำสำมำรถท ำด้วยปำกเปล่ำ

หรือสำมำรถเกิดขึ้นได้ในระหว่ำง กำรสนทนำ และสัญญำเหล่ำนี้ก็เป็นสัญญำที่มีผลบังคับใช้ด้วย

อีกประกำรหนึ่ง สัญญำ (หรือกำรรับข้อตกลงระหว่ำงกัน) ก็เกิดขึ้นได้ แม้ว่ำจะไม่ได้มีกำรยื่นข้อเสนอ

ข้อตกลงอย่ำงชัดเจน แต่อำจเป็นด้วยอำกำรอำกัปกิริยำหรือกำรกระท ำ ที่อำจแสดงให้เห็นเจตจ ำนงค์

สัญญำที่เกิดขึ้นในลักษณะนี้ ตัวอย่ำงเช่น กำรขึ้นรถประจ ำทำง กำรขำยของในร้ำน กำรบริกำรใน

ร้ำนอำหำร เป็นต้น โดยต่ำงฝ่ำยต่ำงมีพันธะผูกพันต่อกัน

แต่บำงครั้งสัญญำก็จ ำเป็นต้องจัดท ำเป็นลำยลักษณ์อักษร และมีรูปแบบฟอร์มตำมกฎหมำยก ำหนดจึง

จะมีผล อันได้แก่ กำรท ำสัญญำซื้อขำยที่ดิน กำรโอนมอบกรรมสิทธิกำรถือหุ้น ซึ่งต้องกระท ำต่อหน้ำ

ทนำย รวมทั้งทนำยต้องลงนำมรับรอง

สัญญำอีกประเภทหนึ่งที่จะต้องท ำเป็นลำยลักษณ์อักษรเสมอ คือ สัญญาการจ้างงาน ที่มีกำรก ำหนด

ระยะเวลาการจ้าง

1

https://www.n-t-overseas.de/newsreader-pataya/46.html

ข้อมูลจำก wikipedia offline http://www.verbraucher.de

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


8 | สัญญา

ส ำหรับงำนก่อสร้ำงนั้นเป็นงำนที่ซับซ้อนและมีผู้เกี่ยวข้องจ ำนวนมำกจึงควรจ ำเป็นที่จะต้องมีกำรตก

ลงไว้ให้ชัดเจนและเป็นลำยลักษณ์อักษรไว้ เพื่อในกรณีที่เกิดปัญหำข้อเรียกร้องหรือข้อขัดแย้งที่มี

ระหว่ำงคู่สัญญำจะได้มำดูกันได้ว่ำ ตกลงกันไว้แล้วว่ำอย่ำงไร

โดยสรุป สัญญำ เป็นข้อตกลงที่ผู้ที่ท ำกำรตกลงจะต้องมีพันธะผูกพัน ต้องกระท ำตำมข้อตกลงที่ได้ตก

ลงไว้ แต่ก็มีข้อยกเว้นไว้ว่ำ พันธะผูกพันโดยสัญญำอำจจะยกเลิกได้ หำกว่ำคู่สัญญำได้ตกลงที่จะให้

ยกเลิกได้ ซึ่งในที่นี้ก็มักจะเป็นในกรณีที่ คู่สัญญำมำท ำสัญญำยกเลิก หรือเปลี่ยนแปลงเนื้อหำสัญญำ

นั่นเอง หรือในอีกกรณีหนึ่งก็คือ เมื่อกฎหมำยก ำหนดว่ำ ฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ำยสำมำรถที่จะ

ยกเลิกได้

สัญญำ มีหลำกหลำยแง่มุม ในเชิงสังคม สัญญำเป็นตัวประสำน ก ำหนดและจัดกำรพฤติกรรมทำง

สังคม โดยผ่ำนกำรที่แต่ละคนหรือแต่ละฝ่ำยมีพันธหน้ำที่ต่อกันและกัน สัญญำในควำมหมำยนี้ก็คือ

กำรที่ฝ่ำยหนึ่งฝ่ำยใดจะสัญญำกับอีกฝ่ำยหนึ่งว่ำ จะท ำหรือไม่ท ำอะไรอย่ำงใดอย่ำงหนึ่ง โดยที่อีกฝ่ำย

หนึ่งก็จะต้องท ำหรือไม่ท ำอย่ำงใดอย่ำงหนึ่งเป็นกำรตอบแทนเช่นกัน ซึ่งในที่นี้จะต้องเป็นไปโดยควำม

สมัครใจ และด้วยเหตุนี้ควำมสัมพันธ์ที่จะเกิดขึ้นระหว่ำงทั้งสองฝ่ำยจึงเป็นสิ่งที่สำมำรถคำดกำรณ์ได้

ในเชิงกฎหมำย สัญญำ ก็จะมีควำมหมำยคล้ำยกัน ซึ่งก็คือข้อตกลง หรือเจตจ ำนงค์ของอย่ำงน้อย

ตั้งแต่สองฝ่ำยขึ้นไป (อำจเป็นหลำยฝ่ำยก็ได้) ที่มีร่วมกัน ที่จะกระท ำหรือไม่กระท ำอะไรอย่ำงใดอย่ำง

หนึ่ง ซึ่งจะมีพันธะผูกพันต่อกันทำงกฎหมำย หรือเป็นข้อตกลงที่อำจให้มีกำรเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข

บังคับทำงกฎหมำยบำงอย่ำง เช่น กำรท ำสัญญำคู่สมรส ที่จะไม่ให้น ำกฎระเบียบข้อหนึ่งข้อใดมำใช้

หรือขอยกเลิก เป็นต้น

สัญญำจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อ คู่สัญญำฝ่ำยหนึ่งเป็นฝ่ำยเริ่มยื่นข้อเสนอ ซึ่งก็หมำยถึงว่ำ มีควำมต้องกำรจะ

ตกลงเรื่องอะไรกัน หรือมีอะไรมำเสนอ และข้อเสนอนี้ก็จะต้องมีรำยละเอียดเพียงพอ รวมทั้งมีข้อ

อธิบำยชัดเจนถึงข้อกฎหมำยที่จะน ำมำมีผลบังคับ เพื่อที่อีกฝ่ำยหนึ่งซึ่งจะเป็นผู้รับข้อเสนอ สำมำรถ

เข้ำใจและตอบรับได้ แต่อย่ำงไรก็ตำม ฝ่ำยผู้รับข้อเสนอก็สำมำรถที่จะต่อรองในส่วนของตนเองได้

ล ำดับขั้นตอนก็อำจเป็นดังนี้

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


9 | สัญญา

ฝ่ายหนึ่งเสนอข้อตกลงที่ต้องการ

อีกฝ่ายหนึ่งพิจารณาไตร่ตรอง

ชั่งน ้าหนักความเหมาะสม

ยื่นเงื่อนไขต่อรอง

มองหาจุดประสานหรือเงื่อนไขที่รับได้ทั้งสองฝ่าย

ตกลงกระท าเป็นข้อสัญญาระหว่างกัน

สัญญำเป็นข้อตกลงที่มีผลผูกพันทำงกฎหมำยระหว่ำงสองฝ่ำยขึ้นไป กำรบริหำรสัญญำมุ่งเน้นไปที่สิ่งที่

เกิดขึ้นก่อนลงนำมในสัญญำ ผู้จัดท ำสัญญำจะต้องควบคุมในวิธีกำรจัดเตรียม วิเครำะห์ และข้อเจรจำ

ในสัญญำ และจะมุ่งเน้นไปที่กำรวำงแผนและกำรปฏิบัติตำมสัญญำ โดยอำจขอข้อเสนอ (Request

for Proposal: RFP) จำกผู้ขำย/ผู้ให้บริกำรที่มีศักยภำพ และเชิญให้เสนอรำคำ (อำจมีกำรจัดท ำกำร

คัดเลือกคุณสมบัติเบื้องต้น Prequalification ก่อน) เมื่อเลือกผู้ขำย/ผู้ให้บริกำรแล้ว ผู้จัดท ำสัญญำ

จะเห็นภำพรวม และสำมำรถสรุปรำยละเอียดในสัญญำเป็นข้อตกลงที่มีควำมเป็นธรรม

2.2 สาระส าคัญของสัญญา

สัญญา คือ นิติกรรมซึ่งมีคู่กรณีตั้งแต่สองฝ่ำยขึ้นไปแสดงเจตนำตรงกันเพื่อก่อให้เกิดสิทธิหน้ำที่

ระหว่ำงกันโดยที่คู่กรณีฝ่ำยหนึ่งเป็นผู้ที่จัดท ำค ำเสนอและคู่กรณีฝ่ำยหนึ่งได้ท ำค ำเสนอของรับตรงกัน

สัญญำมีสำระส ำคัญดังนี้

2.2.1 มีคู่สัญญา

สัญญำต้องมีคู่กรณีทั้งตั้งแต่ 2 ฝ่ำยขึ้นไปซึ่งแต่ละฝ่ำยจะมีจ ำนวนเท่ำใดก็ได้

2.2.2 มีค าเสนอค าสนองสอดคล้องต้องกัน

ฝ่ำยหนึ่งแสดงเจตนำออกมำในรูปของข้อเสมอ และมีอีกฝ่ำยหนึ่งแสดงเจตนำออกมำตกลงตำม

ค ำเสนอค ำสนอง โดยที่ค ำเสนอและค ำสนองนั้นต้องตรงกัน หำกค ำเสนอและค ำสนองนั้นไม่ตรงกัน ก็

ไม่ถือเป็นสัญญำ

2.2.3 มีวัตถุประสงค์

กล่ำวคือมีประโยชน์ที่จะได้รับเกิดขึ้นจำกสัญญำซึ่งอำจเป็นทรัพย์สินอย่ำงใดอย่ำงหนึ่งกำร

กระท ำหรือกำรงดเว้นกระท ำกำรอย่ำงใดอย่ำงหนึ่งก็ได้

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


10 | สัญญา

2.3 ลักษณะของสัญญา

2.3.1 องคประกอบที่เปนสัญญา

สัญญำตองมีองคประกอบที่มีสำระส ำคัญดังตอไปนี้

1. ตองมีบุคคลเปนคูสัญญำตั้งแตสองฝำยขึ้นไป บุคคลคนเดียวหรือหลำยคนที่ แสดงเจตนำฝำย

เดียวไมอำจเปนสัญญำได โดยบุคคลที่เปนคูสัญญำดังกลำวอำจเปนบุคคลธรรมดำ หรือนิติบุคคลก็ได

แตคูสัญญำดังกลำวนั้นจะตองมีควำมสำมำรถในกำรใชสิทธิตำมกฎหมำย ไมเปน ผูเยำว คนที่ถูกศำล

สั่งใหเปนคนไรควำมสำมำรถ ในกรณีคูสัญญำที่เปนนิติบุคคลตองท ำสัญญำโดย ฝำยผูแทนของนิติ

บุคคลที่มีอ ำนำจกระท ำตำมกฎหมำย และอยูภำยในกรอบวัตถุประสงคที่ก ำหนดไว ในตรำสำรจัดตั้ง

นิติบุคคล อำทิเชน หนังสือบริคณหสนธิ

2. ตองมีกำรแสดงเจตนำเปนค ำเสนอค ำสนองถูกตองตรงกัน นิติกรรมฝำยเดียว บุคคลแสดง

เจตนำฝำยเดียวก็ส ำเร็จเปนนิติกรรม แตในกรณีสัญญำนั้นเกิดขึ้นโดยกำรแสดงเจตนำของ บุคคลตั้งแต

สองฝำยขึ้นไป ซึ่งค ำเสนอและค ำสนองถูกตองตรงกันจึงจะเปนสัญญำ สวนปญหำเมื่อไรที่ จะถือวำค ำ

เสนอค ำสนองตรงกันจะกลำวในโอกำสตอไป

3. ตองมีวัตถุประสงค วัตถุประสงคดังกลำวยอมหมำยถึง เปำหมำยหรือประโยชนสุดทำยที่ได

จำกกำรท ำสัญญำ สัญญำทุกประเภทยอมจะตองมีวัตถุประสงค ซึ่งอำจมีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน เชน

สัญญำซื้อขำย หรือสัญญำเชำ หรืออำจจะเปนวัตถุประสงคโดยปริยำยซึ่งอำจแปรเปลี่ยน 2 ไปตำม

สัญญำ แตอยำงไรก็ตำม วัตถุประสงคนั้นตองไมขัดตอกฎหมำย ไมพนวิสัย ไมขัดตอควำมสงบ เรียบร

อย ศีลธรรมอันดีของประชำชน

4. แบบหรือ วิธีกำรในกำรแสดงเจตนำ อำจเปนวิธีใดก็ไดซึ่งอำจกระท ำโดยกิริยำ อำกำร หรือ

ท ำเป็นลำยลักษณอักษร หรือโดยกำรสันนิษฐำนวำเปนกำรแสดงเจตนำแลว ยกเวนแตวำ กรณีดังกล

ำวกฎหมำยบังคับใหท ำตำมแบบสัญญำก็ตองท ำตำมแบบ มิฉะนั้นสัญญำยอมตกเปนโมฆะ เชน สัญญำ

เชำซื้อ หรือกำรซื้อขำยอสังหำริมทรัพย

นอกจำกองคประกอบดังกลำวแลว องคประกอบอื่นที่คูสัญญำจะตองมำพึงพิจำรณำ ประกอบก็

คือ เงื่อนไข เงื่อนเวลำ มัดจ ำ เบี้ยปรับ หรือเหตุสุดวิสัย ซึ่งจะมีผลใหสภำพของสัญญำมี สภำพบังคับที่

แตกต่ำงจำกกัน

2.4 รูปแบบของสัญญา

รูปแบบของสัญญำจ้ำงก่อสร้ำงที่เป็นมำตรฐำนมีอยู่ 2 รูปแบบ คือ

1. สัญญำเดี่ยว

2. สัญญำแบ่งส่วน

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


11 | สัญญา

รูปแบบสัญญาเดี่ยว จะเขียนสัญญำตั้งแต่ต้นจนจบตลอดเรื่อยไป ไม่มีกำรแบ่งออกเป็นส่วน ๆ ขึ้นต้น

ตั้งแต่สัญญำฉบับนี้ท ำขึ้นที่ไหน เมื่อใด ท ำอะไร เป็นเงินเท่ำใด จนจบที่ผู้ลงนำมในสัญญำ ตัวอย่ำงของ

สัญญำแบบนี้ได้แก่สัญญำของทำงรำชกำร สำมำรถดูตัวอย่ำงได้ในภำคที่ 3 ภำคผนวก

สัญญาแบบแบ่งเป็นส่วน จะแบ่งออกเป็นส่วนหลัก ๆ ดังนี้

ส่วนแรก คือ ข้อตกลง (Contract Agreement)

ส่วนที่สอง คือ เงื่อนไขทั่วไป (General Conditions of Contract)

ส่วนที่สำม คือ เงื่อนไขเฉพำะ (Particular Conditions of Contract)

ส่วนที่สี่ ข้อมูลของสัญญำ (Contract Data)

ส่วนที่ห้ำ บัญชีรำยกำรเอกสำรที่ถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญำ

สัญญำแบบนี้ได้แก่สัญญำที่ใช้กันเป็นสำกล เช่นสัญญำของ FIDIC, AIA, JCT etc.

2.5 สัญญาก่อสร้าง

สัญญาการก่อสร้าง 2 หมำยถึง ควำมตกลงร่วมกันระหว่ำงสองฝ่ำยโดยฝ่ำยหนึ่งสัญญำว่ำจะจัดหำ

บริกำรวัสดุ และทรัพยำกรที่จ ำเป็นเพื่อสร้ำงสิ่งก่อสร้ำงอย่ำงใดอย่ำงหนึ่งตำมที่ก ำหนด และอีกฝ่ำย

หนึ่งสัญญำว่ำจะจ่ำยค่ำตอบแทนให้ตำมที่ได้ด ำเนินกำรดังกล่ำวแล้วเสร็จ

สัญญำกำรก่อสร้ำงที่จะมีผลบังคับใช้ตำมกฎหมำยได้จะต้องประกอบด้วยหลักกำรพื้นฐำนเบื้องต้นที่

ส ำคัญของกำรท ำสัญญำ ที่ส ำคัญก็คือคู่สัญญำทั้งสองฝ่ำยจะต้องเป็นผู้ที่กฎหมำยให้กำรรับรองว่ำ

สำมำรถท ำสัญญำ (Legal Capacity to Sign the Contract) แทนบริษัทของแต่ละฝ่ำยได้ สัญญำที่ดี

จะต้องมีเนื้อหำเด่นชัด สำมำรถปฏิบัติได้ และมีควำมเป็นธรรมต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ำย

2.6 ระบบการส่งมอบโครงการ (Project Delivery Systems)

สมำคมวิศกรโยธำของอเมริกำ (American Society of Civil Engineers: ASCE) ได้อธิบำยถึงระบบ

กำรจัดส่งโครงกำร ว่ำด้วยวิธีกำรจัดระเบียบผู้มีส่วนร่วมในโครงกำร เป้ำหมำยและวัตถุประสงค์ เพื่อ

น ำไปสู่ควำมส ำเร็จของโครงกำร โดยมีลักษณะพื้นฐำนในกำรจัดกำรดังนี้

(ก) กำรพิจำรณำข้อขัดแย้งของสัญญำโครงกำรก่อสร้ำงสำกลจะถูกจ ำกัดโดยกฎหมำยและข้อก ำหนด

ต่ำงๆ ในแต่ละประเทศ

(ข) ปัจจัยผลกระทบต่ำง ๆ และควำมเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น

จะได้รับผลกระทบจำกเหตุผลทำงเศรษฐกิจ และกำรเมืองมำกขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นในโครงกำรระหว่ำง

ประเทศ คู่สัญญำไม่เพียงแต่ให้ควำมส ำคัญกับโครงกำรเท่ำนั้น แต่จ ำเป็นต้องให้ควำมสนใจกับประเทศ

เจ้ำบ้ำนและประเทศใกล้เคียงพร้อมกับสถำนกำรณ์ของโลก

2

วิวัฒน์ แสงเทียน, มนูญ นิจโภค, วิฑูรย์ เจียสกุล, การจัดการงานก่อสร้าง , สานักพิมพ์โอเดียนสโตร์,กรุงเทพ, 2527. 150 หน้า

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


12 | สัญญา

(ค) ติดตำมข้อรำยกำรข้อสัญญำระหว่ำงประเทศอย่ำงละเอียด

โครงกำรก่อสร้ำงระหว่ำงประเทศจ ำเป็นต้องปฏิบัติตำมแนวสำกล และเกณฑ์ข้อก ำหนด เพื่อที่จะ

ด ำเนินกำรได้อย่ำงรำบรื่น เจ้ำของโครงกำรจ ำเป็นต้องใส่ใจในคุณภำพและพฤติกรรมของผู้ปฏิบัติงำน

เช่นกัน

ในโครงกำรก่อสร้ำงสำกล สำมำรถแบ่งกำรจัดส่งมอบโครงกำรได้เป็นแบบต่ำง ๆ ดังต่อไปนี้

(1) สัญญำออกแบบ ประกวดรำคำ และก่อสร้ำง (Design-Bid-Build: DBB)

(2) สัญญำจัดกำรงำนก่อสร้ำง (Management-Contracting-Approach: MCA)

(3) สัญญำออกแบบ จัดหำ และก่อสร้ำง (Engineering-Procurement-Construction: EPC)

(4) สัญญำก่อสร้ำง ด ำเนินกำร และส่งมอบ (Build-Operate-Transfer:BOT)

1) สัญญาออกแบบ - ประกวดราคา – ก่อสร้าง

ระบบนี้มีกำรใช้กันมำนำนในประเทศต่ำง ๆ และได้รับกำรพัฒนำเป็นอย่ำงดี ดังนั้นมันจึงถูกเรียกว่ำ

วิธีกำรแบบดั้งเดิม ในขณะเดียวกันโครงกำรก็อำจแบ่งออกเป็นส่วนย่อย ๆ (Fragmented Approach)

ได้เช่นกัน

รูปที่ 2-1 สัญญาออกแบบ - ประกวดราคา – ก่อสร้าง

ลักษณะเด่นของ DBB คือขั้นตอนกำรก่อสร้ำงโครงกำร จะต้องท ำตำมล ำดับของกำรออกแบบ -

ประกวดรำคำ – ก่อสร้ำง กำรด ำเนินงำนจะต้องกระท ำกำรตำมขั้นตอน เมื่อกระบวนกำรหนึ่งเสร็จสิ้น

จึงจะด ำเนินกำรในขั้นตอนต่อไปได้

ข้อดี

มีกำรแบ่งควำมรับผิดชอบอย่ำงชัดเจนของผู้ว่ำจ้ำง ผู้ออกแบบ/สถำปนิก/วิศวกร และผู้รับจ้ำงก่อสร้ำง

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


13 | สัญญา

ข้อด้อย

กระบวนกำรนี้จะเป็นแบบเส้นตรงและใช้เวลำนำน กำรประสำนงำนระหว่ำงฝ่ำยต่ำง ๆ มีควำมยุ่งยำก

และซับซ้อน ค่ำใช้จ่ำยลงทุนในเบื้องต้นจะสูง

2) สัญญาบริหารจัดการ (Management Contracting Approach: MCA)

ผู้รับจัดกำรโครงกำรไม่ได้ท ำหน้ำที่ก่อสร้ำง แต่จะท ำหน้ำที่จัดกำรองค์กร ผู้ว่ำจ้ำงเลือกระบบนี้

เนื่องจำก

(ก) โครงกำรมีขนำดใหญ่

(ข) องค์กรมีควำมซับซ้อน มีกำรประสำนงำนหลำยประเภทระหว่ำงผู้รับจ้ำงที่แตกต่ำงกัน

(ค) เจ้ำของโครงกำรไม่มีประสบกำรณ์ หรือควำมสำมำรถในกำรจัดกำรองค์กร

รูปที่ 2-2 สัญญาบริหารจัดการ

ข้อดี

(ก) ผู้รับจ้ำงท ำหน้ำที่บริหำรทั้งองค์กรในลักษณะเป็นทีมงำนซึ่งเป็นประโยชน์แก่เจ้ำของโครงกำร

(ข) สะดวกในกำรเปลี่ยนแปลงจัดกำรองค์กรให้เข้ำกับโครงกำร

(ค) มีกำรประสำนงำนที่ดีระหว่ำงงำนวิศวกรรมและกำรจัดกำร

ข้อด้อย

(ก) มีค่ำใช้จ่ำยเพิ่มมำกขึ้นในกำรจัดกำร

(ข) อำจมีควำมคิดเห็นที่แตกต่ำงระหว่ำงผู้รับจ้ำงจัดกำรและฝ่ำยวิศวกรรม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกำร

ประสำนงำนของโครงกำร

3) สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง (Engineering – Procurement – Construction:

EPC)

สัญญา EPC เป็นรูปแบบทั่วไปของกำรจัดท ำสัญญำในอุตสำหกรรมกำรก่อสร้ำง ภำยใต้สัญญำอีพีซี

ผู้รับจ้ำงจะออกแบบ จัดหำอุปกรณ์ที่จ ำเป็นและก่อสร้ำง หรือ ติดตั้ง ทั้งโดยตนเองหรือ ผู้รับจ้ำงช่วง

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


14 | สัญญา

ผู้รับจ้ำงจะด ำเนินโครงกำรด้วยควำมเสี่ยงเอง เพื่อก ำหนดค่ำงำนเป็นงบประมำณในกำรก่อสร้ำง ซึ่ง

ขึ้นอยู่กับขอบเขตงำนที่ตกลงกัน

รูปที่ 2-3 สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง

ข้อดี

(ก) ควำมรับผิดชอบประเภทของงำนสำมำรถแบ่งได้อย่ำงชัดเจนจำกผู้มีหน้ำที่ในแต่ละด้ำน

(ข) สำมำรถท ำให้แผนงำนกระชับ สั้นลงได้ จำกกำรรวมขั้นตอนกำรออกแบบ จัดซื้อ จัดหำ และ

ก่อสร้ำง ไว้ในสัญญำเดียว

(ค) ลดควำมยุ่งยำกจำกกำรจัดกำรงำนหลำยอย่ำง

(ง) เจ้ำของโครงกำรทรำบรำคำทั้งหมดของโครงกำร

ข้อด้อย

(ก) เนื่องจำกกำรเสนอรำคำเกิดขึ้นก่อนงำนออกแบบทำงด้ำนวิศวกรรมจะเสร็จสมบูรณ์ จึงไม่อำจระบุ

รำยละเอียดของงำนได้ชัดเจน ยกเว้นเฉพำะควำมส ำเร็จของงำนที่ต้องกำรเท่ำนั้น

(ข) สิทธิในกำรควบคุมโครงกำรของเจ้ำของโครงกำรมีน้อย

(ค) ค่ำใช้จ่ำยในขั้นตอนก่อนกำรประกวดรำคำมีมูลค่ำสูง

(ง) ภำรกิจในกำรออกแบบ จัดหำ และก่อสร้ำง จ ำเป็นต้องมีทักษะ คุณสมบัติและควำมรับผิดชอบที่

เหมำะสมส ำหรับงำนแต่ละประเภท

4) สัญญาก่อสร้าง ด าเนินการ และส่งมอบคืน (Build - Operate - Transfer: BOT)

ในกรณีที่รัฐบำลไม่มีเงินลงทุนเพียงพอในกำรก่อสร้ำงโครงกำรขนำดใหญ่ อำจมีกำรเชิญชวนให้นัก

ลงทุนในประเทศและต่ำงประเทศเพื่อช่วยเหลือโครงกำรในกำรร่วมลงทุน รัฐบำลในฐำนะผู้อนุญำต

สัมปทำนให้สัมปทำนแก่บริษัทเอกชน ในช่วงหมดระยะเวลำสัมปทำน บริษัทที่ด ำเนินกำรโครงกำร

จะต้องส่งมอบโครงกำรกลับคืนแก่รัฐบำล

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


15 | สัญญา

รูปที่ 2-4 สัญญาก่อสร้าง ด าเนินการ และส่งมอบคืน (Build - Operate - Transfer: BOT)

ข้อดี

(ก) รัฐไม่ต้องรับภำระทำงด้ำนกำรเงิน

(ข) รัฐสำมำรถหลีกเลี่ยงควำมเสี่ยงโครงกำรได้จ ำนวนมำก ผู้ลงทุนจะแบกรับควำมเสี่ยง

(ค) โครงกำรที่ด ำเนินกำรโดยบริษัทจำกต่ำงประเทศจะน ำเสนอข้อมูล เทคโนโลยีและทักษะในกำร

จัดกำรที่ทันสมัย

ข้อด้อย

(ก) จะต้องใช้เวลำนำนในกำรปรับสภำพควำมเข้ำใจในสัญญำในด้ำนกำรวิจัย กำรสื่อสำร กำรทดสอบ

ฯลฯ

(ข) ในช่วงระยะเวลำสัมปทำนรัฐจะสูญเสียสิทธิ์ในกำรควบคุมโครงกำร

ระบบกำรส่งมอบโครงกำรนั้น โดยพื้นฐำนมีควำมสัมพันธ์กัน บำงระบบสำมำรถใช้งำนร่วมกัน ข้อ

แตกต่ำงเพียงอย่ำงเดียวคือควำมส ำคัญของโครงกำรและสัญญำ กำรจ ำแนกระบบกำรจัดส่งโครงกำร

เหล่ำนี้ช่วยให้เห็นมุมมองเกี่ยวกับกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องในกำรก่อสร้ำงโครงกำร และช่วยให้สำมำรถ

ค้นหำวิธีที่จะท ำให้โครงกำรแล้วเสร็จสมบูรณ์ได้อย่ำงมีประสิทธิภำพสูง

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


16 | สัญญา

รูปที่ 2-5 ขั้นตอนของระบบโครงการ

2.7 วงจรชีวิตของสัญญาโครงการ (Project contract life cycle)

ส ำหรับสัญญำก่อสร้ำงตั้งแต่เริ่มสัญญำจนสิ้นสุดสัญญำจะใช้เวลำนำน บำงครั้งอำจเป็นปี และมี

กระบวนกำรมำกมำย กำรจัดกำรสัญญำจะต้องด ำเนินกำรตลอดช่วงเวลำของสัญญำ ในขั้นตอนต่ำง ๆ

ของกำรจัดกำรสัญญำมีงำนและล ำดับควำมส ำคัญที่แตกต่ำงกัน ส ำหรับโครงกำรประกวดรำคำทั่วไป

มักจะด ำเนินกำรในสองขั้นตอนหลักคือ: ขั้นตอนจัดท ำสัญญำ และขั้นตอนกำรปฏิบัติตำมสัญญำ ดัง

แสดงในรูปที่ 2-6 ในขั้นตอนกำรจัดท ำสัญญำจะเป็นกำรประกวดรำคำ และกำรต่อรอง ส่วนขั้นตอน

กำรปฏิบัติตำมสัญญำ จะประกอบด้วยกำรก่อสร้ำง และขั้นตอนกำรบ ำรุงรักษำ

รูปที่ 2-6 วงจรชีวิตของสัญญาโครงการ

การจัดท าสัญญา

(1) ระยะเวลำกำรประกวดรำคำ

ระยะเวลำกำรประกวดรำคำ ตั้งแต่กำรเตรียมเอกสำรกำรประกวดรำคำจนถึงกำรเปิดประกวดรำคำ

เป็นกำรยื่นข้อเสนอเบื้องต้น และกำรยอมรับระหว่ำงเจ้ำของงำนและผู้รับจ้ำง ซึ่งหมำยถึงกำรเริ่มต้น

ระยะเวลำของสัญญำก่อสร้ำง

(2) กำรเจรจำต่อรอง

ช่วงเวลำนี้เริ่มต้นเมื่อมีกำรประกวดรำคำและสิ้นสุดลง มีกำรลงนำมในสัญญำ ช่วงเวลำนี้สำมำรถแบ่ง

ออกเป็นสองขั้นตอน:

(ก) กำรประเมินข้อเสนอรำคำเบื้องต้น ท ำกำรวิเครำะห์เปรียบเทียบคุณสมบัติระหว่ำงผู้เข้ำประกวด

รำคำ เพื่อหำผู้ที่มีคุณสมบัติเหมำะสมและมีควำมสำมำรถในกำรก่อสร้ำงโครงกำร

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


17 | สัญญา

(ข) เจ้ำของงำนและผู้รับจ้ำงหำรือรำยละเอียดเกี่ยวกับสัญญำ และวิธีกำรที่จะด ำเนินกำรต่อไปพร้อม

ทั้งลงนำมตกลงในสัญญำ

ขั้นตอนการด าเนินการตามสัญญา

ช่วงนี้เริ่มตั้งแต่ลงนำมในสัญญำจนถึงสิ้นสุดสัญญำ ในช่วงนี้งำนออกแบบ งำนจัดซื้อ และงำนก่อสร้ำง

จะต้องแล้วเสร็จ ผู้รับจ้ำงต้องด ำเนินกำรก่อสร้ำงให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ และรับผิดชอบงำนรับประกัน

ตำมข้อก ำหนดในด้ำนปริมำณ คุณภำพ ก ำหนดกำร และเทคนิคที่ระบุไว้ในสัญญำ ซึ่งแน่นอนว่ำผู้

รับจ้ำงจะได้รับผลประโยชน์ตำมที่ตกลงกันไว้ตำมสัญญำ

2.8 ประเภทของสัญญาการก่อสร้าง (Type of Construction Contract )

1. สัญญำประเภทเหมำรวม (Lump Sum or Fixed – Priced Contract)

2. สัญญำประเภทรำคำต่อหน่วย (Unit Price Contract)

3. สัญญำประเภทออกแบบ ก่อสร้ำง และ/หรือ จัดหาทุนให้ด้วย (Turn Key หรือ Design and

Construct/Build Contract)

4. สัญญำจ้ำงออกแบบวิศวกรรม จัดหำ และก่อสร้ำง (EPC: Engineering, Procurement and

Construction Contract)

นอกจำกนี้ยังมีสัญญำปลีกย่อยแบบต่ำง ๆ ซึ่งจะไม่กล่ำวรำยละเอียดในที่นี้ เช่น

- สัญญำประเภทคิดค่ำใช้จ่ำยจริงบวกค่ำป่วยกำร (Cost – Plus Fixed Fee Contract)

- สัญญำประเภทคิดค่ำใช้จ่ำยทั้งหมดบวกเงินเพิ่มพิเศษ (Cost – Plus with Guaranteed

Maximum and Incentive)

- สัญญำประเภทมีรำงวัลตอบแทนและเสียค่ำปรับ (Bonus/Penalty, Time and

Completion)

- สัญญำประเภทแบ่งออกเป็นส่วนย่อยๆหลำยๆส่วน (Divided Contract )

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


18 | การบริหารสัญญา

3. การบริหารสัญญา (Contract Administration)

3.1 ความแตกต่างของการบริหารสัญญา และการจัดการสัญญา (The Difference between

Contract Administration and Contract Management)

การบริหารสัญญาและการจัดการสัญญาจะมีความแตกต่างกันในช่วงของเวลาของสัญญา

ระหว่างการจัดเตรียมสัญญาและการลงนามในสัญญาขั้นสุดท้าย

การบริหารสัญญาจะเป็นกระบวนการจัดเตรียมสัญญา ข้อตกลง ซึ่งมีความซับซ้อนและมีความ

เสี่ยง ผู้จัดการโครงการและผู้จัดท าสัญญาจะต้องมีความเข้าใจกระบวนการเหล่านี้เป็นอย่างดี

ส่วนการจัดการสัญญาจะเป็นกระบวนการหลังจากมีการลงนามในสัญญาแล้ว และเป็นการจัดการ

ให้ทุกอย่างเป็นไปตามสัญญาที่ได้ตกลงกันระหว่างคู่สัญญาทั้งสองฝ่าย

การบริหารสัญญา: เป็นงานจัดเตรียมเอกสารสัญญาก่อนการลงนาม

สัญญาเป็นข้อตกลงที่มีผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างสองฝ่ายขึ้นไป การบริหารสัญญามุ่งเน้นไปที่สิ่งที่

เกิดขึ้นก่อนลงนามในสัญญา ผู้จัดท าสัญญาจะต้องควบคุมในวิธีการจัดเตรียม วิเคราะห์ และข้อเจรจา

ในสัญญา และจะมุ่งเน้นไปที่การวางแผนและการปฏิบัติตามสัญญา โดยอาจขอข้อเสนอ (Request

for Proposal: RFP) จากผู้ขาย/ผู้ให้บริการ/ผู้รับจ้างที่มีศักยภาพ และเชิญให้เสนอราคา (อาจมีการ

จัดท าการคัดเลือกคุณสมบัติเบื้องต้น Prequalification ก่อน) เมื่อเลือกผู้ขาย/ผู้ให้บริการแล้ว ผู้จัดท า

สัญญาจะเห็นภาพรวม และสามารถสรุปรายละเอียดในสัญญาเป็นข้อตกลงที่มีความเป็นธรรม

3.2 การบริหารสัญญา

ผู้เชี่ยวชาญในการบริหารสัญญาจะมุ่งเน้นในการวางแผน และการจัดเตรียมสัญญา กระบวนการ

วางแผนมักจะรวมถึงการจัดหาคู่สัญญา โดยการส่งค าขอเพื่อขอข้อเสนอ (requests for proposal)

นอกจากนี้ผู้บริหารสัญญาช่วยในการจัดท ารายละเอียดของข้อตกลงสัญญาการท างานกับผู้รับจ้างที่

คาดหวัง เพื่อเจรจาในเรื่องสัญญา เช่นราคา ประเภทของสัญญา และความคาดหวังในด้าน

ประสิทธิภาพ

แม้ว่าการบริหารสัญญานี้ เป็นหลักทั่วไปในการบริหาร แต่ก็จ าเป็นต้องมีกลยุทธ์และเข้าใจในธุรกิจ

การท าสัญญาที่เป็นประโยชน์ร่วมกันเป็นสิ่งส าคัญอย่างยิ่งต่อความส าเร็จทางการเงินของธุรกิจ ดังนั้น

จึงจ าเป็นต้องหาคู่สัญญาที่เหมาะสม และจัดท าข้อตกลงที่เป็นธรรม

3.3 แนวทางปฏิบัติในการจัดท าแผนการบริหารสัญญา

การปฏิบัติตามแผนการบริหารสัญญาที่เหมาะสม จะท าให้ทีมงานอยู่ในสถานะที่ดี ในการจัดการ

สัญญาแต่ละสัญญาได้อย่างสมบูรณ์ตลอดโครงการ เอกสารที่เป็นทางการนี้จะอธิบายถึงรายละเอียดสิ่ง

ที่คาดหวังของทั้งสองฝ่ายในช่วงระยะเวลาของข้อตกลงเพื่อจ ากัด การละเมิดสัญญาที่อาจเกิดขึ้นหรือ

ปัญหาอื่น ๆ ที่น าไปสู่การไม่ปฏิบัติตามข้อผูกพันของสัญญา

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


19 | การบริหารสัญญา

3.4 หลักการพิจารณาแนวทางปฏิบัติในการเตรียมแผนการบริหารสัญญา

1. ก าหนดขอบเขตและส่งมอบ

ขั้นตอนแรกเพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการท าสัญญาที่ประสบความส าเร็จ คือการก าหนดความต้องการ

อย่างชัดเจน รวมถึงขอบเขตและสิ่งที่ส่งมอบ ช่องโหว่ในขอบเขตของสัญญามักท าให้เกิดปัญหาได้

ดังนั้นการเขียนอย่างชัดเจนว่าสัญญาท าอะไร และไม่ครอบคลุมอะไร จะช่วยในการติดตามสัญญา

2. ระยะเวลาโดยละเอียด

แผนการบริหารสัญญาควรมีการบันทึกรายละเอียดระยะเวลาส าหรับทุกเหตุการณ์ส าคัญตลอดช่วง

อายุของสัญญา รวมถึงวันที่เริ่มต้นและสิ้นสุดโครงการ วันครบก าหนดส่งมอบและการปรับปรุงความ

คืบหน้า

3. การจัดระเบียบการเงิน

เพื่อหลีกเลี่ยงข้อพิพาทเกี่ยวกับสัญญาและรักษาความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างทั้งสองฝ่าย ผู้เกี่ยวข้อง

ในกระบวนการบริหารสัญญาควรทราบเงื่อนไขทางการเงินของข้อตกลงรวมถึงมูลค่าของสัญญา

ช่วงเวลาการช าระเงินและกระบวนการเพื่อจัดการกับค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมใด ๆ (ขึ้นอยู่กับประเภทของ

สัญญา)

4. วางแผนการท างาน

เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและตรวจสอบได้ แผนควรมีรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการด าเนินการส่งมอบงาน

รวมถึงบุคคลากรที่จะท างานในแต่ละส่วนของข้อตกลง (รวมถึงบุคลากรทั้งภายในและบุคคลที่สามหาก

มี) การมีแผนส าหรับการวัดความส าเร็จตลอดอายุของสัญญาจะท าให้ทั้งสองฝ่ายมีความเข้าใจในระดับ

เดียวกัน และหากจ าเป็นอนุญาตให้มีการแก้ไขแผนงาน

5. การคาดการณ์ความเสี่ยง

สัญญาทุกฉบับมีความเสี่ยง แต่การจัดท าแผนเพื่ออธิบายความเสี่ยงเหล่านั้นสามารถป้องกันไม่ให้

สัญญาล้มเหลว สรุปความเสี่ยงที่เป็นไปได้มากที่สุดส าหรับแต่ละข้อตกลง และขั้นตอนที่ควร

ด าเนินการในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง การสร้างความยืดหยุ่นบางอย่างส าหรับระยะเวลาและ

งบประมาณจะช่วยให้เกิดความล่าช้าเพียงเล็กน้อย หรือปัญหาที่ไม่คาดคิดสามารถป้องกันจากความ

ผิดพลาดได้อย่างมีนัยส าคัญ

ในงานก่อสร้าง ผู้บริหารสัญญาเป็นบุคคลที่รับผิดชอบในการบริหารสัญญาตามมาตรฐานส าหรับงาน

ก่อสร้าง

ผู้บริหารสัญญาอาจจะเป็นสถาปนิกโครงการ หรืออาจเป็นที่ปรึกษา ที่ปรึกษาด้านราคาและต้นทุน ที่

ปรึกษาพิเศษ ตัวแทนของผู้ว่าจ้าง ผู้จัดการโครงการหรือวิศวกร

ในการบริหารสัญญาก่อสร้าง บทบาทของผู้บริหารสัญญาอาจเป็นผู้จัดการงานก่อสร้าง และเป็นผู้ดูแล

ระบบสัญญา

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


20 | การบริหารสัญญา

ผู้บริหารสัญญาจะได้รับการแต่งตั้งโดยผู้ว่าจ้าง แต่เมื่อได้รับการรับรองหรือให้การประเมินหรือ

ตัดสินใจ โดยจะท าหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา และมีเหตุผล

3.5 บทบาทโดยทั่วไปของผู้บริหารสัญญาจะรวมถึง:

• เชิญประกวดราคา

• เตรียมเอกสารสัญญาเพื่อการด าเนินการ

• บริหารขั้นตอนการควบคุมการเปลี่ยนแปลง

• จัดท าค าแนะน าในการประกวดราคา

• ออกค าแนะน าในการเปลี่ยนแปลงงาน

• พิจารณาข้อเรียกร้อง

• ประชุมความก้าวหน้าการก่อสร้าง

• การจัดเตรียมและออกรายงานความก้าวหน้าการก่อสร้าง

• ประสานงานการตรวจสอบงานก่อสร้าง

• ร่วมตรวจสอบการใช้งานและทดสอบ

• ตรวจรายงานข้อบกพร่อง

• ออกใบรับรองการเสร็จสิ้นการปฏิบัติและใบรับรองระหว่างกาล

• จัดท าตารางเวลาของข้อบกพร่อง

• ออกใบรับรองการปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่อง

• ออกใบรับรองสุดท้าย

3.6 การจัดท าเอกสารประกวดราคา

1. ข้อเสนอ (Request for Proposal: RFP)

โครงการจะเริ่มตั้งแต่ผู้ว่าจ้าง/เจ้าของงาน มีความประสงค์จะเริ่มโครงการ สิ่งแรกที่ต้องด าเนินการคือ

หาที่ปรึกษา ผู้ออกแบบ ศึกษาความเหมาะสมเป็นไปได้ของโครงการ (Feasibility Study) หาก

โครงการมีความเหมาะสมจึงจะด าเนินการส ารวจ ออกแบบ และก่อสร้างต่อไป

ขั้นตอนนี้จ าเป็นต้องประกาศหาที่ปรึกษา โดยมีประกาศเชิญชวนให้ผู้สนใจยื่นข้อเสนอ (Request for

Proposal: RFP) หนังสือเชิญยื่นข้อเสนอ (Request for Proposal) ระบุถึงความต้องการและ

กระบวนการในการยื่นข้อเสนอ ขอบเขตรายละเอียดของงาน และค าแนะน าส าหรับผู้ยื่นข้อเสนอ เป็น

ต้น

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


21 | การบริหารสัญญา

ประกาศเป็นเอกสารซึ่งเจ้าของงานประกาศแจ้งการประกวดราคาโครงการ แสดงรายะเอียด ขอบเขต

ของโครงการโดยสังเขป ระบุคุณสมบัติของผู้ที่สามารถเข้าประกวดราคาได้ ก าหนดการประกวดราคา

ต่าง ๆ สถานที่ติดต่อ

2. ขอบเขตรายละเอียดของงาน (Terms of Reference: TOR)

ขอบเขตรายละเอียดของงาน อาจเรียกสั้น ๆ ว่า TOR เป็นเอกสารที่ระบุถึงรายละเอียดของโครงการ

ข้อก าหนดขอบเขตรายละเอียดของงานจะกล่าวถึงความเป็นมาของโครงการ วัตถุประสงค์ คุณสมบัติ

ของผู้ประสงค์จะเสนอราคา เอกสารหลักฐานต่างๆ ประกอบการคัดเลือกผู้เสนอราคา แบบฟอร์มการ

เสนอราคา ข้อมูลจ าเพาะทางเทคนิค รายละเอียดการยื่นข้อเสนอ รูปแบบรายการหรือคุณ

ลักษณะเฉพาะ หลักเกณฑ์การพิจารณาข้อเสนอ ระยะเวลาการด าเนินงานและส่งมอบงาน สถานที่

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

2.1 ความหมายของ TOR 1

ขอบเขตรายละเอียดของงาน Terms of Reference (TOR) เปนเอกสารที่ก าหนดขอบเขตของงาน

และรายละเอียดของภารกิจที่ผูจัดท า TOR ตองการใหผูขายหรือผูรับจางด าเนินการ รวมทั้งความ

รับผิดชอบอื่น ๆ ของผูขายหรือผูรับจางที่เกี่ยวของกับภารกิจนั้น ซึ่งรายการละเอียดของงานที่ผูซื้อ

หรือผูวาจางประสงคจะใหผูขายหรือผูรับจางท างานให โดยการบอกขอบเขตของงานใหชัดเจน

ระยะเวลาที่ตองการ คุณสมบัติของผูเสนอราคา ซึ่งผูซื้อหรือผูวาจางตองการใหท างานตามขอบเขตดัง

กลาว รวมถึงขอก าหนดที่ผูซื้อหรือผูวาจางตองการใหด าเนินการ จะมีกี่ขั้นตอนแตละขั้นตอน ประกอ

บดวยอะไรบาง ผิดสัญญาจะถูกปรับอยางไร สิ่งตาง ๆ เหล่านี้ ผูซื้อหรือผูวาจางจะจัดใหอยูใน TOR

ทั้งหมด เพื่อประกาศหาผูขายหรือผูรับจางตามกรรมวิธีตอไป ซึ่งผูที่ประสงคจะเปนผูขายหรือผูรับจาง

ไดศึกษาดูกอนวางานตามประกาศสามารถท าไดหรือมีคุณสมบัติครบถวนหรือไม เพื่อเปนขอมูลเบื้องต

นประกอบการพิจารณาในขั้นตอนการด าเนินการจัดหาผูซื้อหรือผูวาจาง ดังนั้น TOR จึงเทียบไดกับข

อก าหนด (Specifications) ของพัสดุที่ผูซื้อหรือผูวาจางท าขึ้นส าหรับการจัดหา แตอยางไรก็ตาม

ส าหรับงานราชการ การก าหนด TOR หรือการก าหนดคุณลักษณะเฉพาะ (Specifications) เพื่อการ

จัดซื้อจัดจางของหน่วยงานที่จะจัดหาพัสดุ ผูที่ไดรับมอบหมายใหด าเนินการจะตองพิจารณาและ

ค านึงถึงกฎหมาย ระเบียบ ขอบังคับ ค าสั่ง มติคณะรัฐมนตรี หรือหนังสือซักซอมความเขาใจที่เกี่ยวข

อง ซึ่งค่อนข้างมีรายละเอียดปลีกย่อยมาก

2.2 ความส าคัญของ TOR

คุณภาพของผลงานที่จะไดจากผูขายหรือผูรับจาง TOR จะตองมีความชัดเจนที่สามารถจัดหาหรือ

ปฏิบัติไดและก าหนดประเด็นตางๆ ที่ผูขายหรือผูรับจางจะตองด าเนินการไวอยางชัดเจน TOR ยิ่งมี

ความชัดเจนเพียงใดยิ่งท าใหการคัดเลือกผูขายหรือผูรับจางไดงายขึ้น โปรงใสมากขึ้น ดังนั้น TOR จึงต

องมีความชัดเจนเพียงพอต่อการประเมินปริมาณและคุณภาพงานของผูขายหรือผูรับจาง

1

https://palad.mof.go.th/th/view/attachment/file/34373830/Manual-TOR-04-2556.pdf

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


22 | การบริหารสัญญา

เปนเอกสารอางอิงที่ใชเปนสวนหนึ่งของสัญญา ดังนั้น TOR ที่ดีจะตองไมเปน TOR ที่กวางเกินไป จน

ท าใหไดสิ่งที่ตองการแตไมมีคุณภาพ ดังนั้นการจัดท า TOR จึงตองมีการวิเคราะหปญหาเบื้องตน หรือ

ในระดับแนวคิด โดยการรวมหารือกับกลุมตางๆ เพื่อใหไดมุมมองที่หลากหลายครบถวนครอบคลุมการ

จัดท าขอบเขตรายละเอียดของงาน (TOR)

3. ค าแนะน าผู้เข้าประกวดราคา (Instruction to Bidders)

ค าแนะน าผู้เข้าประกวดราคาประกอบด้วยรายละเอียดของเอกสารโครงการว่าประกอบด้วยอะไรบ้าง

คุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ เอกสารหลักฐานต่าง ๆ ข้อมูลจ าเพาะทางเทคนิค หลักฐานการยื่น

ข้อเสนอ รายละเอียดการเสนอราคา หลักประกันการเสนอราคา หลักเกณฑ์และสิทธิในการพิจารณา

การท าสัญญาจ้างก่อสร้าง ค่าจ้างและการจ่ายเงิน อัตราค่าปรับ กรณีท างานไม่แล้วเสร็จตามสัญญา

การรับประกันความช ารุดบกพร่อง การจ่ายเงินล่วงหน้า การหักเงินประกันผลงาน ข้อสงวนสิทธิ์ใน

การยื่นข้อเสนอและอื่นๆ การปรับราคาค่างานก่อสร้าง มาตรฐานฝีมือช่าง การปฏิบัติตามกฎหมาย

และระเบียบ การประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการ

4. ตัวอย่างสัญญาข้อตกลง (Contract Agreement)

เจ้าของโครงการหรือเจ้าของงานจะต้องแนบตัวอย่างสัญญา การก่อสร้างที่จะใช้บังคับ ผูกพันผู้ที่

เกี่ยวข้องไปด้วยเพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ที่จะเข้าประกวดราคาได้รู้ว่าเป็นสัญญาประเภทใด มีส่วนใดที่ยัง

สงสัยต้องการค าอธิบายเพิ่มเติมเป็นต้น ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะต้องเข้าใจตรงกัน ประกอบด้วยสาระส าคัญ

ดังนี้

• วันที่ และสถานที่ท าสัญญา

• ชื่อ และ ที่อยู่ของคู่สัญญา

• ข้อตกลงจ้างและรับจ้าง เงื่อนไขที่ส าคัญ

• ส่วนส าหรับลงลายมือชื่อของคู่สัญญา

สรุปสั้น ๆ คือ ท าอะไร ที่ไหน เมื่อไร เสร็จเมื่อไร เป็นเงินเท่าใด ลงนาม

5. แบบฟอร์มการประกวดราคา (Bid Form) ประกอบไปด้วยข้อความและชื่อผู้ยื่นซองประกวด

ราคา โดยจะระบุข้อความ เช่น ผู้ประกวดราคาได้ตรวจสอบแบบรายละเอียด ข้อก าหนดและสถานที่

ก่อสร้างแล้ว จ านวนเงินที่ยื่นประกันซองประกวดราคา จ านวนเงินค่าปรับจากงานล่าช้า ข้อความที่

ระบุว่าผู้ประกวดราคา ตกลงที่จะท าตามสัญญาหากชนะการประกวดราคา เป็นต้น

ข้อความที่ผู้ชนะการประมูลตกลงที่จะยื่นเงินประกันการท าสัญญาและประกันการก่อสร้าง จ านวนเงิน

เพิ่มหรือลดถ้าปริมาณ งานเปลี่ยนแปลงไปจากสัญญาเดิม เวลาที่ต้องท างานให้แล้วเสร็จ เงื่อนไข

เพิ่มเติมพิเศษ (ถ้ามี) รายละเอียดจ านวนงานและเงิน การประกวดราคา (Bid Breakdown)

รายละเอียดของจ านวนงานและเงินจะต้องถูกบันทึกลงไว้ โดยผู้ประกวดราคาอาจแยกเป็นส่วน ๆ ใน

แต่ละรายการของโครงการเพื่อเป็นแนวทางในการคิดความก้าวหน้าของผลงานภายหลัง หากการเสนอ

ราคานั้นได้รับการยอมรับ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


23 | การบริหารสัญญา

6. บัญชีแสดงปริมาณวัสดุและราคา (Bill of Quantities)

บัญชีแสดงปริมาณวัสดุและราคา (Bill of Quantities) เป็นเอกสารซึ่งแสดงรายการงาน และปริมาณ

วัสดุ เพื่อให้ผู้เข้าประกวดราคากรอกราคา เพื่อประกวดราคางานโครงการนี้ อย่างไรก็ตามผู้เข้า

ประกวดราคาจ าเป็นต้องตรวจสอบความถูกต้อง และแก้ไขให้ถูกต้อง และแจ้งให้ผู้ว่าจ้างทราบ โดย

ด าเนินการแก้ไขตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในเอกสารประกวดราคา

องค์ประกอบของบัญชีแสดงปริมาณวัสดุและราคา

บัญชีแสดงปริมาณวัสดุและราคา ประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ คือ

- ล าดับที่ของรายการ

- รายละเอียดของงานแต่ละประเภท

- ปริมาณงาน (จ านวน)

- หน่วยในการวัดเพื่อการจ่ายเงิน

- อัตราราคาต่อหน่วย (อาจแยกเป็นราคาค่าวัสดุ และค่าแรงงาน) ของแต่ละรายการ

- ราคารวม

- หมายเหตุ (หากจ าเป็น หรือต้องการ)

หน้าที่และความส าคัญของบัญชีแสดงปริมาณวัสดุและราคา ที่ใช้ในงานก่อสร้าง

- แสดงองค์ประกอบรายละเอียดของงานต่าง ๆ

- แสดงปริมาณงานและหน่วยที่ใช้ในการวัดและจ่ายเงิน

- แสดงราคาของงานแต่ละประเภท

- ใช้เพื่อเปรียบเทียบราคาของผู้เข้าประกวดราคา (Tenderer /Bidder) เพื่อเป็นผู้รับจ้างก่อสร้าง

(ผู้รับเหมา/Contractor) ในโครงการนั้น ๆ

- ใช้เพื่อเป็นราคาฐาน ส าหรับงานเพิ่มเติมในโครงการนั้น ๆ

- ใช้เพื่อการเบิกจ่ายเงิน (Payment) หรือการเบิกจ่ายเงินบางส่วนในระหว่างการก่อสร้าง (Interim

Payment)

อนึ่งในสัญญา อีพีซี ราคาโครงการจะยึดถือยอดรวมทั้งหมดที่เสนอราคามาเป็นหลัก บัญชีแสดง

ปริมาณวัสดุและราคา อาจใช้ประโยชน์ในการแบ่งจ่ายเงิน แต่โดยทั่วไปจะมีเอกสารการกระจายเงิน

แบ่งจ่ายเป็นงวด ๆ (Disbursement Schedule) อยู่แล้ว และที่ส าคัญคือใช้ในการคิดราคางานเพิ่ม

ลด ในโครงการ

ในสัญญา อีพีซี จะมีแบบฟอร์มส าคัญประกอบโครงการต่าง ๆ ดังนี้

• แบบฟอร์มรายละเอียดของผู้เสนอราคา/ผู้รับจ้าง (Contractor Licenses Permits and Approval)

• แบบฟอร์มรายละเอียดของผู้ว่าจ้าง (Employer Licenses Permits and Approval)

• บัญชีแสดงรายละเอียดของผู้รับจ้างช่วง (List of Sub-Contractors)

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


24 | การบริหารสัญญา

• แบบฟอร์มแสดงรายละเอียดการปรับเรียกค่าเสียหายจากความล่าช้า และค่าเสียหายจากการที่

ผลงานไม่ได้ตามสัญญาที่ระบุไว้ในหนังสือค ้าประกันการด าเนินการโครงการ (Liquidated Damages

for Late Completion of Works and Failure to meet the Guaranteed Performance Levels)

• รายละเอียดของสัญญาสัมปทาน (Concession Agreement Pass through Obligations)

• แผนที่ตั้งโครงการ

• แผนงานก่อสร้าง

นอกจากนี้ก็อาจมีข้อตกลงพิเศษอื่น ๆ เป็นกรณีพิเศษเช่นข้อตกลงการซื้อขายพลังงาน เป็นต้น

7. เงื่อนไขของสัญญา (Conditions of Contract)

เงื่อนไขของสัญญาประกอบด้วย เงื่อนไขทั่วไปของสัญญา และเงื่อนไขเฉพาะ

7.1 เงื่อนไขทั่วไป (General Conditions) เป็นเอกสารที่เป็นส่วนหนึ่งของเอกสารสัญญา เป็นส่วน

ที่ระบุความรับผิดชอบพันธะหน้าที่และสิทธิของคู่สัญญา ตลอดจนระบุรายละเอียดของเงื่อนไขต่าง ๆ

ที่บังคับใช้ในงานตามสัญญา นอกจากนี้ยังต้องระบุหน้าที่ความรับผิดชอบของวิศวกรที่ปรึกษา (หรือผู้

ควบคุมงานหรือผู้บริหารโครงการแล้วแต่กรณี) อาจกล่าวได้ว่าเงื่อนไขแห่งสัญญาเป็นเครื่องมือการ

บริหารความเสี่ยงอย่างหนึ่งของผู้ร่างสัญญา

เงื่อนไขของสัญญาโดยทั่วไปจะประกอบด้วย รายละเอียดต่าง ๆ 10 เงื่อนไขหลัก ดังต่อไปนี้

10 เงื่อนไขหลักประกอบด้วย

(1) เงื่อนไขทั่วไป (General Provisions) เช่น บทนิยาม การตีความ ภาษา กฎหมายที่ใช้ ชิ้นงานที่

มอบหมาย ส่วนที่เป็นความลับ ความรับผิดร่วม ข้อจ ากัดความรับผิด เป็นต้น

(2) เงื่อนไขว่าด้วยผู้ว่าจ้าง วิศวกร ผู้รับจ้าง ผู้รับจ้างช่วง และงานออกแบบ (Employer,

Engineer, Contractor, Sub-contractor and Design) ซึ่งจะระบุถึงสิทธิ หน้าที่ และความ

รับผิดชอบของผู้มีบทบาทหลักในสัญญา ข้อตกลงเกี่ยวกับทีมงาน นิติสัมพันธ์ในสัญญา การจัดการทาง

การเงินระหว่างกัน การเข้าไซต์งาน การก าหนดตัวผู้แทนวิศวกร การเปลี่ยนตัววิศวกรผู้รับผิดชอบ ข้อ

ก าหนดการด าเนินงานของวิศวกร การประชุม การรายงานความคืบหน้า ความปลอดภัยของไซต์งาน

การน าข้อมูลจากไซต์งานไปใช้ การท าสัญญากับผู้รับจ้างช่วง เป็นต้น

(3) เงื่อนไขว่าด้วยคนงาน แรงงาน โรงงาน เครื่องจักร เครื่องมือ และอุปกรณ์ (Staff, Labour,

Plant, Materials, and Workmanship) ซึ่งเกี่ยวกับสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบของผู้มีส่วน

เกี่ยวข้องในลักษณะดังกล่าว ค่าจ้าง การว่าจ้าง ชั่วโมงการท างาน สาธารณูปโภคและสวัสดิการ

สถานที่ สุขภาพและความปลอดภัย การบันทึกการเข้างาน ความเป็นเจ้าของของวัสดุอุปกรณ์ การเข้า

ตรวจสอบงาน เป็นต้น

(4) เงื่อนไขว่าด้วยการเริ่มงาน ความล่าช้าของงาน การระงับชั่วคราวหรือยืดระยะเวลาของงาน

ข้อผิดพลาด/ข้อบกพร่อง การทดสอบเมื่อเสร็จงานและหลังเสร็จงาน (Commencement,

Delays, Suspension, Defects, and Completion) ซึ่งรวมถึงการวางแผนงานโครงการ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


25 | การบริหารสัญญา

ระยะเวลา การเตือน การท างานล่าช้า ค่าเสียหายจากความล่าช้า ค่าใช้จ่ายอื่นเกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ์

และสถานที่เมื่อเกิดท างานล่าช้าหรือการชะลองาน การชะลองานโดยผู้ว่าจ้าง การทดสอบทั้งเมื่อเสร็จ

งานและหลังเสร็จงาน เกณฑ์การผ่านหรือตกในการทดสอบ ฯลฯ

(5) เงื่อนไขว่าด้วยการวัดและประเมินผลงาน การปรับเปลี่ยนงาน ราคา และการช าระราคา

(Measurement and Evaluation, Variations and Adjustments, Contract Price and

Payment) ซึ่งรวมถึงเนื้องานหรือชิ้นงานที่จะต้องงถูกประเมิน วิธีการประเมิน การละเลยหรือทิ้งงาน

การปรับเปลี่ยนงาน การก าหนดราคา การช าระเงินล่วงหน้า ตารางการช าระเงิน การช าระเงินล่าช้า

สกุลเงินที่ใช้ในการช าระเงิน เป็นต้น

(6) เงื่อนไขว่าด้วยการเลิกสัญญาโดยผู้ว่าจ้าง การระงับชั่วคราวหรือการเลิกสัญญาโดยผู้รับจ้าง

ช่วง (Termination by Employer, Suspension and Termination by Contractor) ระบุ

ถึงเหตุและสิทธิของผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้างในการด าเนินการดังกล่าว ตลอดจนภาระผูกพัน ค่าใช้จ่าย

และการช าระเงินภายหลังการเลิกสัญญา

(7) เงื่อนไขว่าด้วยความเสี่ยงและความรับผิดชอบ (Risk and Responsibility) เป็นข้อสัญญาที่

ระบุถึงหน้าที่และความรับผิดชอบในการดูแลงานต่าง ๆ การถือสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา ความเสี่ยง

และการบริหารความเสี่ยง ค่าสินไหมทดแทน หรือการชดเชยในกรณีต่าง ๆ

(8) เงื่อนไขว่าด้วยการประกันสัญญา (Insurance) ซึ่งเป็นหลักการต่าง ๆ ที่สัญญาฉบับนั้น ๆ

ก าหนดเงื่อนไขว่าจะต้องมีการท าประกันอะไรบ้าง อย่างไรบ้าง ในวงเงินเท่าใด โดยบุคคลใด เป็นต้น

(9) เงื่อนไขว่าด้วยเหตุสุดวิสัย (Force Majeure or Exceptional Events) ระบุถึงเหตุสุดวิสัย

ต่าง ๆ การบอกกล่าวเป็นหนังสือเมื่อมีเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้น ไปจนถึงหน้าที่และความรับผิดชอบของ

ผู้เกี่ยวข้องในสัญญาในกรณีเกิดเหตุสุดวิสัย

10 เงื่อนไขว่าด้วยข้อเรียกร้อง ข้อพิพาท และอนุญาโตตุลาการ (Claims, Disputes, and

Arbitration) ซึ่งเป็นข้อสัญญาเกี่ยวกับสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายหรือตามสัญญา การด าเนินการเมื่อ

มีข้อพิพาทระหว่างคู่สัญญา การระงับข้อพิพาท การตั้งอนุญาโตตุลาการ การวินิจฉัยและการตัดสิน

ของอนุญาโตตุลาการ เป็นต้น

7.2 เงื่อนไขเฉพาะ หรือเงื่อนไขพิเศษ (Special Conditions, Conditions of Particular

Application, Contract Particulars or Supplementary Conditions) เป็นการระบุเงื่อนไข

เพิ่มเติมเพื่อใช้เฉพาะกับงานใดงานหนึ่งเป็นการเฉพาะเท่านั้น

เงื่อนไขเฉพาะโครงการควรมีหัวข้อของเงื่อนไขส่วนนี้ตรงกับหรือสอดคล้องกับหัวข้อของเงื่อนไขทั่วไป

8. เอกสารความต้องการของเจ้าของงาน (Employer’s Requirement)

โดยที่สัญญา อีพีซี จะก าหนดให้ผู้รับจ้างเป็นผู้ออกแบบรายละเอียด ฉะนั้น เจ้าของงานของต้องระบุ

ขอบเขตของงาน ข้อก าหนดความต้องการเฉพาะ เอกสารฉบับนี้จะมีความส าคัญและถือเป็นหัวใจของ

งานอีพีซี โดยจะประกอบด้วยข้อมูลดังต่อไปนี้

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


26 | การบริหารสัญญา

• เอกสารแสดงขอบเขตของงาน

• ข้อก าหนดความต้องการของเจ้าของงานโดยเฉพาะ

• ข้อมูลพื้นฐานที่จ าเป็นในการออกแบบรายละเอียด ได้แก่

- รายงานสภาพทางภูมิประเทศ

- รายงานสภาพทางธรณีวิทยา

- รายงานอุทกวิทยา

- รายงานสภาพภูมิอากาศ

• แบบเค้าโครงพื้นฐาน (Basic Design Drawings)

• รายงานการออกแบบเค้าโครงพื้นฐาน (Basic Design Report)

• ข้อมูลวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องจักร หรือกระบวนการผลิต เฉพาะเจาะจงที่ต้องการเป็นพิเศษ

9. ข้อก าหนด (Specifications) คือเอกสารซึ่งกล่าวถึงความประสงค์ ความต้องการของผู้ออกแบบ

เจ้าของงาน หรือเจ้าของโครงการ เพื่อสื่อสารไปยังบุคลากรผู้ที่เกี่ยวข้องในงานต่าง ๆ เช่น งาน

ก่อสร้าง งานผลิต งานพัฒนาซอฟต์แวร์ ฯลฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อก าหนด ขอบเขตงาน อธิบายค า

จ ากัดความ นิยามที่ใช้ในงานนั้น มาตรฐานที่ต้องการให้ใช้ ชนิด ขนาด และรายละเอียดของวัสดุ

เครื่องจักร เครื่องมือ ตลอดจนถึงวิธีการก่อสร้างหรือวิธีการด าเนินงาน รวมถึงคุณภาพของฝีมือ

แรงงาน ความละเอียดและถูกต้องในงานนั้น

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


27 | การจัดการสัญญา

4. การจัดการสัญญา (Contract Management)

การจัดการสัญญา (Contract Management): งานภายหลังจากการลงนามในสัญญาแล้ว

การจัดการสัญญาเกิดขึ้นหลังจากสัญญามีผลบังคับใช้ โดยจะต้องมั่นใจว่าข้อก าหนดและเงื่อนไขที่มีอยู่

ในสัญญานั้นสามารถปฏิบัติตามได้ และคู่สัญญาทั้งสองฝ่ายพอใจในภาระข้อผูกพันตามสัญญาทั้งหมด

เช่นเดียวกับการจัดการที่จ าเป็นส าหรับการด าเนินงานด้านอื่น ๆ ของคู่สัญญาอย่างเหมาะสม

แต่โดยทั่วไป เรามักได้ยินโดยรวมว่า การบริหารจัดการสัญญา (Contract Administration and

Contract Management)

4.1 การจัดการสัญญาคืออะไร?

การจัดการสัญญาเกิดขึ้นหลังการที่สัญญามีผลบังคับใช้ ดังนั้นจะต้องแน่ใจว่าได้ปฏิบัติตามข้อก าหนด

และเงื่อนไขที่มีอยู่ในสัญญา และคู่สัญญามีภาระผูกพันตามสัญญาอย่างเป็นที่น่าพอใจ

ในระหว่างขั้นตอนการจัดการสัญญา เป็นไปได้เสมอที่สถานการณ์จะเปลี่ยนแปลงโดยจ าเป็นต้องแก้ไข

ข้อตกลงสัญญา แน่นอนว่าทีมจัดการสัญญาจะต้องท างานอย่างใกล้ชิดกับคู่สัญญา ดังนั้นจึงเป็นการดี

ที่จะทราบถึงรายละเอียดความสัมพันธ์ในการท างาน ดังนั้นผู้จัดการโครงการและผู้จัดการสัญญาจึง

ควรมีการติดต่อสื่อสารอย่างใกล้ชิด

ขั้นตอนของการจัดการสัญญา

ขั้นตอนส าคัญเจ็ดขั้นตอนของกระบวนการจัดการสัญญาจะเพิ่มความสามารถในการปฏิบัติตาม

ข้อก าหนดของสัญญาซึ่งจะท าให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด

(1) ขั้นตอนการวางแผนบริหารจัดการสัญญา

ในระหว่างขั้นตอนการวางแผน จะต้องร่างรายละเอียดเฉพาะในเรื่องเร่งด่วนที่สุด เพื่อทราบถึงความ

ต้องการและเป้าหมาย จากนั้นก าหนดประเภทของวิธีการหรือระบบที่จะช่วยให้สามารถจัดการกับ

ประเด็นเหล่านั้นได้ดีที่สุด โดยจะต้องพิจารณาทรัพยากรที่มีอยู่เพื่อจัดสรรให้เข้ากับกระบวนการ

จัดการสัญญา

(2) ขั้นตอนการด าเนินการ

หลังจากทราบถึงกระบวนการจัดการสัญญาว่าควรมีลักษณะอย่างไร จะสามารถเริ่มใช้เครื่องมือและ

ระบบที่จ าเป็นเพื่อสนับสนุนการจัดการเหล่านั้น โดยจะสามารถจัดการติดตามวันครบก าหนดส่งมอบ

และภาระผูกพันอื่น ๆ อาจด้วยวิธีการใช้โปรแกรมตารางค านวณทั่วไป หรือหากเป็นโครงการที่มีความ

ซับซ้อนมากขึ้น ก็อาจพิจารณาใช้โปรแกรมการจัดการสัญญาโดยเฉพาะเพื่อช่วยให้สามารถติดตาม

ข้อตกลงและวันครบก าหนดที่ส าคัญ

ดังนั้นในกระบวนการจัดการสัญญาของทีมงาน จึงควรมีการฝึกอบรมและฝึกฝนการใช้โปรแกรม

เกี่ยวกับการจัดการสัญญา

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


28 | การจัดการสัญญา

(3) ขั้นตอนก่อนการท าสัญญา

ในระหว่างขั้นตอนก่อนสัญญา จะต้องมีการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับการบริหารสัญญา เพื่อท า

ความเข้าใจรายละเอียดที่ส าคัญของสัญญาข้อตกลง สิ่งนี้จะช่วยเตรียมความพร้อมในกระบวนการ

จัดการสัญญา รวมถึงแนวทางเฉพาะต่าง ๆ ที่จะช่วยให้สามารถจัดการสัญญาและส่งมอบงานได้อย่าง

มีประสิทธิภาพ

(4) ขั้นตอนการส่งมอบ

หากบุคคลที่เจรจาข้อตกลงมิใช่บุคคลเดียวกับผู้ด าเนินการส่งมอบงานตามข้อก าหนดของสัญญา

จ าเป็นต้องมีกระบวนการส่งมอบที่ละเอียด โดยมีการประชุมเฉพาะเพื่อให้มั่นใจว่ามีการจัดต าแหน่ง

และความเข้าใจร่วมกันในบทบาทความรับผิดชอบและการส่งมอบ

(5) ขั้นตอนท าสัญญา

ขั้นตอนท าสัญญาคือเมื่อด าเนินการงานที่ก าหนดไว้ในข้อตกลงและการส่งมอบงานเสร็จสมบูรณ์ โดย

เป็นไปตามระยะเวลาและงบประมาณที่ตกลงกันไว้ โปรแกรมการจัดการสัญญาจะสามารถช่วยให้

สามารถติดตามและให้ข้อมูลพื้นฐานที่จ าเป็นส าหรับการวัดประสิทธิภาพ เช่นการแจ้งเตือนอัตโนมัติ

และมีการแจ้งเตือนก าหนดการส่งรายงานที่เกี่ยวข้องกับการส่งมอบงาน รวมถึงก าหนดระยะเวลาวันที่

ส าคัญอื่น ๆ

(6) ขั้นตอนการต่ออายุสัญญาล่วงหน้า

โดยทั่วไปเมื่อระยะสัญญาสิ้นสุดลง จะต้องพิจารณาว่าต้องการเจรจาต่ออายุสัญญาใหม่ หรือยุติสัญญา

บ่อยครั้งที่มีข้อก าหนดให้ต่อสัญญาโดยไม่มีบทลงโทษ ดังนั้นเพื่อประโยชน์สูงสุด จะต้องวางแผนใน

สถานการณ์เหล่านี้ก่อนวันสิ้นสุดของสัญญา

(7) ขั้นตอนหลังสัญญาสิ้นสุดลง

เมื่อสัญญาสิ้นสุดลงและได้มีการตกลงกัน ก่อนที่งานตามสัญญาจะเสร็จสมบูรณ์ จ าเป็นต้องตรวจทาน

ข้อก าหนดของสัญญาอย่างละเอียด เพื่อยืนยันว่าได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขทั้งหมดแล้วและได้ช าระเงินตาม

ใบแจ้งหนี้แล้ว

สุดท้ายการตรวจสอบขั้นสุดท้ายจะทราบถึงข้อมูลที่ส าคัญเกี่ยวกับสัญญา และกระบวนการจัดการ

สัญญารวมถึงความส าเร็จและข้อบกพร่องที่จะช่วยให้สามารถปรับปรุงสัญญาข้อตกลงในอนาคต

4.2 แนวปฏิบัติที่ดีในการจัดการสัญญา

การจัดการสัญญาและวิธีแก้ไขปัญหามีหลายวิธีในการบรรลุเป้าหมายของการท าสัญญา แนวทาง

ปฏิบัติที่ดีในการจัดการสัญญา มีข้อส าคัญที่ใช้ได้กับทุกสถานการณ์โดยไม่ค านึงถึงขนาดและความ

ซับซ้อนของสัญญา ดังนี้

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


29 | การจัดการสัญญา

(1) เก็บรักษาสัญญาทั้งหมดไว้ในที่เดียว

ในการจัดการสัญญาของคุณอย่างมีประสิทธิภาพต้องทราบว่าสัญญาอยู่ที่ไหน ด้วยการรักษาสัญญา

ทั้งหมดไว้ในที่เดียว และต้องทราบอย่างแม่นย าว่าจะไปหาข้อตกลงหรือติดตามวันที่ตามข้อก าหนด

และรายละเอียดสัญญาได้ที่ใด บทใด ข้อใด

(2) ก าหนดและวัด KPI การจัดการสัญญา

การตั้งค่าและวัด KPI การจัดการสัญญาเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการพิจารณาว่าการจัดกานสัญญามี

ประสิทธิภาพเช่นไร และช่วยให้สามารถแบ่งปันข้อมูลนั้นกับผู้เกี่ยวข้อง ภายใน KPI เหล่านี้ยังช่วยให้

สามารถระบุส่วนที่ไม่มีประสิทธิภาพของกระบวนการจัดการสัญญา และพัฒนากลยุทธ์เพื่อปรับปรุง

โดยลดความเสี่ยง ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จ าเป็น หรือหาโอกาสข้อผิดพลาดในสัญญาข้อตกลงนี้

(3) ความปลอดภัยในการจัดเก็บข้อมูลและการเข้าถึง

ฝ่ายกฎหมายและผู้จัดการสัญญาจะต้องหาความสมดุลที่เหมาะสมระหว่างความปลอดภัยของสัญญา

และการเข้าถึง ผู้ใช้โปรแกรมการจัดการสัญญาจะต้องมีที่เก็บที่ปลอดภัยส าหรับสัญญาทั้งหมดและ

สามารถก าหนดระดับการเข้าถึงที่แตกต่างกันได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นผู้ใช้และกลุ่มที่เฉพาะเจาะจง

เท่านั้นจึงสามารถดูข้อมูลบางประเภทได้ สิ่งนี้จะช่วยให้ทีมกฎหมายแบ่งปันความรับผิดชอบในการ

จัดการสัญญาโดยไม่สูญเสียการควบคุมในการเก็บข้อมูล

(4) การติดตามก าหนดเวลาอนุมัติตามสัญญา

สัญญาที่มีประสิทธิภาพจะต้องมีการอนุมัติได้เร็วที่สุด เพื่อให้กระบวนการนั้นมีประสิทธิภาพสูงสุด

จ าเป็นต้องมีระบบในการตรวจสอบ การติดตามเวลาอนุมัติสัญญาจะช่วยให้เข้าใจวงจรของสัญญา

และสามารถพิจารณาได้ว่าจ าเป็นต้องมีการปรับปรุงหรือไม่

(5) การสื่อสารสัญญาอัตโนมัติ

เทคโนโลยีการจัดการสัญญาในทุกวันนี้ จะช่วยให้ทีมกฎหมายสามารถจัดการกระบวนการท าสัญญา

อัตโนมัติได้หลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสื่อสาร ตัวอย่างเช่นที่เก็บบนคลาวด์ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ

ก าหนดเวลาและส่งการแจ้งเตือนสัญญาอัตโนมัติเฉพาะบุคคลได้โดยไม่ต้องใช้การแจ้งเตือนด้วยตนเอง

และอีเมลที่ไม่จ าเป็น และด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยจ านวนมาก ท าให้ไม่จ าเป็นต้องส่งเอกสารแบบเดิม

ไปมาเพื่อการลงนาม โดยหันไปใช้ตัวเลือกลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์เพื่อสามารถด าเนินการทันที

(6) ด าเนินการทบทวนการปฏิบัติตามปกติ

ข้อดีอย่างหนึ่งของการมีกระบวนการจัดการสัญญาที่มีโครงสร้างที่ดี คือความสามารถในการปรับปรุง

องค์กรให้สอดคล้องกับกฎระเบียบทางอุตสาหกรรม โดยการตรวจสอบกฎระเบียบราชการและ

กฎหมายอื่น ๆ อย่างสม ่าเสมอ และท าให้มั่นใจว่าสัญญานั้นเป็นไปตามกฎหมาย สามารถป้องกันธุรกิจ

จากการผิดกฎหมายและถูกปรับได้ จึงจ าเป็นต้องตรวจสอบการปรับปรุงของกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง

เป็นประจ า และตรวจสอบสัญญาที่ใช้งานอยู่เพื่อพิจารณาว่าจ าเป็นต้องด าเนินการใดเพื่อให้สอดคล้อง

ตามกฎหมาย

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


30 | การจัดการสัญญา

(7) การคาดการณ์ความต้องการทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป

ธุรกิจและวัตถุประสงค์ส่วนใหญ่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นจึงเป็นสิ่งส าคัญที่จะต้อง

คาดการณ์การเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นและปรับสัญญาให้สอดคล้องอยู่เสมอ หากธุรกิจเติบโตอย่าง

รวดเร็ว และทราบถึงความต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงไปในระยะเวลาอันสั้น มากกว่าเพียงแค่ต่ออายุ

สัญญาส าหรับบริการที่มีอยู่ จ าเป็นต้องพิจารณาทบทวนอย่างใกล้ชิดเพื่อพิจารณาว่าเหมาะสมหรือไม่

ที่จะปรับเปลี่ยนหรือเจรจาตกลงใหม่ตามวัตถุประสงค์ที่เปลี่ยนแปลงไป

4.3 ขั้นตอนในการปรับปรุงการจัดการสัญญา

หากกระบวนการจัดการสัญญาจ าเป็นต้องมีการปรับปรุง ขั้นตอนต่อไปนี้จะสามารถน าไปสู่

ความส าเร็จในการจัดการสัญญาได้อย่างรวดเร็ว

(1) ด าเนินการตรวจสอบสัญญาทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง

ก่อนที่จะเริ่มด าเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาการจัดการสัญญา สิ่งส าคัญที่สุดคือต้องเข้าใจว่าปัญหา

เหล่านั้นคืออะไร การด าเนินการตรวจสอบการจัดการสัญญาซึ่งรวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในทรัพยากร

และกระบวนการทั้งหมดในองค์กร ซึ่งจะส่งผลต่อวิธีการจัดการสัญญาตั้งแต่การเจรจาจนถึงการ

ด าเนินการและการจัดการ

(2) พัฒนากรอบการจัดการสัญญา

จากการตรวจสอบสามารถน าวิธีการมาจัดการรายละเอียดของสัญญา กรอบนี้ควรจัดการในทุกส่วน

ของกระบวนการจัดการสัญญาและก าหนดสิ่งที่ควรเกิดขึ้นในแต่ละขั้นตอนอย่างชัดเจน แผนควร

รวมถึงสิ่งต่าง ๆ เช่นบทบาท และแผนกที่รับผิดชอบงาน รวมถึงกระบวนการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ

สัญญา วิธีการวัดประสิทธิภาพการจัดการสัญญา เครื่องมือ และระบบต่าง ๆ ที่ควรใช้ในระหว่าง

กระบวนการจัดการสัญญา

(3) ใช้เทคโนโลยีช่วยเพื่อท าให้ง่ายขึ้น

การใช้โปรแกรมการจัดการสัญญาโดยเฉพาะสามารถปรับปรุงความสามารถในการจัดการรายละเอียด

ของสัญญาที่มีระดับความซับซ้อนมาก ให้สามารถก าหนดการส่งมอบได้ตามก าหนดเวลาที่เกี่ยวข้องใน

สัญญา

4.4 กระบวนการจัดการสัญญา

ไม่ว่าจะเป็นสัญญาธุรกิจขนาดเล็ก หรือใหญ่ จ าเป็นที่จะต้องทุ่มเทในการเตรียมการเจรจาต่อรอง

ด าเนินงานและตรวจสอบสัญญา วงจรการจัดการสัญญา จะมีความท้าทายหลายประการ ที่จะท าให้

งานล่าช้า หรือสามารถลดค่าใช้จ่ายของบริษัท ในแง่ของความล่าช้าและเสียค่าปรับ จึงจ าเป็นต้อง

เรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการจัดการสัญญาเหล่านี้ และผลที่ตามมาในการจัดการสัญญา ซึ่งจะสามารถ

ช่วยเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานที่ดี

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


31 | การจัดการสัญญา

(1) ขอบเขตของสัญญาที่ไม่ชัดเจน

ปัญหาในการจัดการสัญญาเกิดขึ้นเมื่อสัญญามีข้อก าหนดและเงื่อนไขที่ไม่ชัดเจน และไม่ได้ระบุความ

รับผิดชอบระหว่างคู่สัญญาอย่างชัดเจน ซึ่งสามารถสร้างปัญหาแก่ทั้งสองฝ่ายในอันที่จะไม่สามารถ

ปฏิบัติตามข้อตกลงได้

ในขณะเดียวกัน ระหว่างขั้นตอนการปฏิบัติตามสัญญา ก็สามารถสร้างความขัดแย้งได้ ท าให้ต้องเสีย

ค่าใช้จ่ายมากขึ้น และเกิดความล่าช้าในโครงการ.

(2) การจัดการสัญญาในข้อที่ไม่ได้เขียนไว้

การจัดการวงจรสัญญายังสามารถเกิดปัญหาจากข้อสัญญาทางวาจา ซึ่งมิได้ท าเป็นลายลักษณ์อักษร

เมื่อไม่มีเอกสารที่สามารถอ้างถึงข้อก าหนดและเงื่อนไขทั้งหมดของสัญญา คู่สัญญาอาจมีการตีความที่

แตกต่างกัน

แม้ว่าโดยทั่วไป สัญญาจะยังคงมีสิทธิ์ในการใช้ แต่ความสับสนและความขัดแย้งต่าง ๆ ความสัมพันธ์

ระหว่างคู่สัญญาอาจท าให้เกิดความเสี่ยงมากขึ้น

(3) การติดตามและการจัดการต้นทุน

จะต้องแน่ใจว่าโครงการอยู่ในงบประมาณ ซึ่งเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่ต้องเผชิญในการจัดการสัญญา ใน

กรณีที่มีสัญญาหลายฉบับ การจัดการอาจเป็นเรื่องยากที่จะบันทึกค่าใช้จ่าย และด าเนินการเพื่อ

ควบคุมงบประมาณ ที่ก าหนดไว้กับผู้รับจ้างแต่ละราย ซึ่งท าให้เกิดปัญหาทางการเงิน และท าให้ไม่

สามารถด าเนินการโครงการให้แล้วเสร็จได้

(4) กระบวนการเจรจาที่ไม่มีประสิทธิภาพ

กระบวนการเจรจาต่อรองที่ยาวนานสามารถสร้างความล่าช้า และสร้างความเสียหายให้กับบริษัทใน

ด้านการเงินและชะลอผลประโยชน์ของบริษัท จากจุดเริ่มต้นของกระบวนการเจรจาอาจใช้เวลานาน

เกินไปในการร่างสัญญาและไม่สามารถสื่อสารกับผู้รับจ้างได้อย่างมีประสิทธิภาพในการแก้ไขหรือขจัด

ปัญหาที่จ าเป็น

กระบวนการเจรจาอาจใช้เวลานานเกินไปเมื่อบริษัทต้องรอค าตอบจากผู้รับจ้าง ผลกระทบนี้อาจ

เลวร้ายยิ่งขึ้นหากบริษัท ไม่ได้ใช้ระบบการจัดการสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ เนื่องจากการจัดการเอกสาร

แบบปรกติจะใช้เวลาในการติดต่อสื่อสารมากกว่า

(5) กระบวนการตรวจสอบสัญญาที่ไม่ดี

กระบวนการจัดการสัญญา จ าเป็นต้องตรวจสอบสัญญาเป็นประจ า เพื่อความชัดเจนและความเสี่ยง

ทางกฎหมาย การตรวจสอบสัญญาอย่างไม่เหมาะสมและไม่ชัดเจนอาจน าไปสู่ข้อพิพาท เกิดความ

ล่าช้า และอาจก่อให้เกิดปัญหาทางกฎหมาย

นอกจากนี้กระบวนการตรวจสอบทางกฎหมายอาจท าให้กระบวนการลงนามในสัญญาล่าช้า

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อขาดความระมัดระวัง จึงจ าเป็นต้องตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


32 | การจัดการสัญญา

(6) การต่ออายุสัญญา

ก่อนจะหมดอายุสัญญา จ าเป็นต้องตัดสินใจเรื่องการต่ออายุสัญญา กรณีที่มีหลายสัญญาอาจมีปัญหา

ท าให้งานหยุดชะงักเมื่อลืมที่จะต่ออายุสัญญา

การจัดการสัญญาที่หมดอายุและการต่ออายุที่ไม่ถูกต้อง จะท าให้การเรียกเก็บเงินค่าบริการมีปัญหา

(7) ความล้มเหลวเนื่องจากการสื่อสารไม่ดี

ตั้งแต่เริ่มสัญญาไปจนถึงขั้นตอนการแล้วเสร็จจะต้องมีการสื่อสารกับผู้รับจ้างตลอดเวลา สิ่งนี้จะช่วย

ให้เข้าใจในเงื่อนไขของสัญญา จัดการปัญหาด้านประสิทธิภาพได้ทันที และรับทราบข้อมูลเกี่ยวกับ

โครงการ

เมื่อการสื่อสารไม่ดีพอ จะเกิดความเสี่ยง ซึ่งไม่เพียงแต่กระบวนการแล้วเสร็จของโครงการจะใช้

เวลานานขึ้นเท่านั้น อาจส่งผลให้สูญเสียเวลาและเงินจ านวนมากและอาจเป็นผลเสียต่อธุรกิจ

(8) การตรวจสอบการปฏิบัติตามสัญญา

ผู้จัดการสามารถพบปัญหาจากการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงของสัญญา เพราะยากที่จะทราบ

ถึงประสิทธิภาพการท างานของผู้รับจ้างได้ตลอดเวลา ในขณะที่โครงการอาจเลือกผู้รับจ้างที่มีชื่อเสียง

แต่ในบางครั้งอาจท างานมีประสิทธิภาพต ่าหรือไม่ปฏิบัติตามข้อใดข้อหนึ่งในข้อในสัญญาอย่างถูกต้อง

สิ่งนี้อาจท าให้เกิดปัญหาได้หากคุณไม่ติดต่อกับผู้รับจ้างอย่างใกล้ชิด และหากไม่มีเวลาในการ

ตรวจสอบผู้รับจ้าง หรือไม่ทราบเงื่อนไขทั้งหมดของสัญญาด้วยตนเอง อาจท าให้พลาดประเด็นส าคัญที่

ต้องจัดการให้ทันการณ์

(9) การใช้เทคโนโลยีไม่เหมาะสม

การใช้ทรัพยากรทางเทคโนโลยีที่ไม่เหมาะสม อาจสร้างปัญหาในการจัดการสัญญาได้หลายประการ

เมื่อต้องมีการติดตามการปฏิบัติงาน การติดตามต้นทุนและก าหนดเวลาการมีเอกสารที่ต้องลงนามและ

จัดการบันทึก ต่าง ๆ

กระบวนการจัดการสัญญาทั้งหมดอาจล่าช้า เนื่องจากเนื่องจากความไร้ประสิทธิภาพในการท าทุก

อย่างด้วยวิธีปรกติแบบดั้งเดิม ท้ายที่สุดอาจจะต้องส่งเอกสารกลับไปกลับมากับผู้รับจ้าง และใช้เวลา

อย่างมีนัยส าคัญในการตรวจสอบด้วยตนเอง การใช้โปรแกรมการจัดการสัญญาสามารถท าให้

กระบวนการเหล่านี้เป็นไปโดยอัตโนมัติและป้องกันข้อผิดพลาด

(10) ผลที่ตามมาของการจัดการสัญญาที่ไม่ดี

ปัญหาการจัดการสัญญาเหล่านี้มีผลท าให้โครงการล่าช้าหรือล้มเหลว ผลที่ตามมาของการจัดการ

สัญญาที่ไม่ดีอาจรวมถึงบทลงโทษและการฟ้องร้องส าหรับการไม่ปฏิบัติตามข้อก าหนดของสัญญา อาจ

มีการยกเลิกสัญญา

การจัดการสัญญาที่ไม่ดีอาจท าให้เอกสารส าคัญผิดพลาดได้ เกิดความสับสนท าให้ต้องมีการท างานซ ้า

จนกระทบต่อสัญญาโดยรวม

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


33 | การจัดการสัญญา

(11) แนวปฏิบัติที่ดีในการจัดการสัญญา

การพิจารณาขั้นตอนเพื่อจัดการสัญญาอย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกันปัญหาที่เกิดจากการไม่ปฏิบัติ

ตามสัญญาด้วยการน าโปรแกรมการจัดการสัญญาไปใช้จะช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการเจรจาและลด

ขั้นตอนการลงนาม รวมถึงการตรวจสอบและควบคุมสัญญาตั้งแต่ต้นจนจบ การใช้เครื่องมือนี้จะช่วย

ให้ทุกฝ่ายสามารถติดตามการเปลี่ยนแปลง ที่ร้องขอได้ง่ายขึ้น และมีการจัดท าบันทึกอย่างละเอียดที่

จะช่วยลดข้อพิพาทที่อาจเกิดขึ้น ทั้งยังสามารถช่วยปรับปรุงความปลอดภัยของเอกสาร โดยไม่ต้อง

กังวลเกี่ยวกับความสับสนในการรับส่งเอกสาร

นอกจากนี้ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีข้อมูลเพียงพอที่จะท าให้สัญญาเป็นปัจจุบัน และต้องแน่ใจว่า

แผนงานมี

เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการกับข้อพิพาทในอนาคต การพิจารณาเอกสารจากการเรียนรู้ในสัญญาที่ผ่านมา

จะท าให้มีข้อเสนอแนะที่สามารถน ากลับมาอ้างอิงได้ ควรจัดให้มีการฝึกอบรมวิธีปฏิบัติที่ดีในการ

จัดการสัญญา

(12) การวิเคราะห์กระบวนการจัดการสัญญา

วัตถุประสงค์ในส่วนนี้คือการทบทวนกระบวนการโครงการ EPC เพื่อระบุความเสี่ยงระหว่างขั้นตอน

การด าเนินการตามสัญญา และเพื่อหาวิธีการที่ใช้ในการจัดการสัญญาการจัดการ

การจัดการสัญญาเป็นระบบที่ซับซ้อนและเป็นพลวัต เราสามารถสร้างโครงสร้างสามมิติ เพื่อวิเคราะห์

(ดูรูปที่ 4-1)

(12.1) กระบวนการโครงการ EPC

ลักษณะของระบบการส่งมอบโครงการ EPC ประกอบด้วยสามส่วน:

การจัดการการออกแบบ การจัดการการจัดซื้อ และการจัดการการก่อสร้าง

ทั้งสามส่วนจะอธิบายกระบวนการในรูปแบบต่างๆ หนึ่งคือเกี่ยวกับบทบัญญัติของการออกแบบ การ

จัดซื้อและการก่อสร้าง ส่วนอื่น ๆ จะเป็นเรื่องเฉพาะกลยุทธ์ที่ผู้รับจ้างใช้ในงานบริหาร

(12.2) การจัดการสัญญา

การจัดการสัญญาโครงการ EPC จะประกอบด้วยรายละเอียด ดังนี้: การจัดการการเงิน การจัดเรื่อง

สุขภาพ ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม การจัดการด้านคุณภาพ การจัดการตารางเวลา การจัดการ

ด้านทรัพยากรมนุษย์ และการจัดการด้านการจัดซื้อ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


34 | การจัดการสัญญา

รูปที่ 4-1 โครงสร้างการจัดการสัญญาก่อสร้าง EPC

ระบบการจัดการสัญญาจะต้องมีการก าหนดเป้าหมายด้านความปลอดภัย คุณภาพ ก าหนดการ และ

ต้นทุนซึ่งเป็นพื้นฐานหลักของผู้รับจ้างในการควบคุมโครงการ

การจัดการสัญญามีบทบาทส าคัญในการจัดการโครงการ สัญญาจะก าหนดเป้าหมายในด้านความ

ปลอดภัย การก าหนดคุณภาพ และต้นทุนซึ่งเป็นพื้นฐานหลักของผู้รับจ้างในการควบคุมโครงการ

(12.3) คุณลักษณะในการจัดการสัญญา:

(1) กระบวนการทั้งหมด ตลอดอายุของสัญญาจะยาวนานมาก เนื่องจากโครงการ EPC ต้องใช้

เวลานานกว่าโครงการจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ ดังนั้นการจัดการสัญญาจะต้องด าเนินการอย่างต่อเนื่อง

ตลอดวงจรชีวิตของโครงการ

(2) ความสอดคล้องของวัตถุประสงค์ เป้าหมายของการจัดการสุขภาพ ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม

การจัดการคุณภาพ การจัดการต้นทุน การจัดการตารางเวลา และการจัดการทรัพยากรมนุษย์จะต้อง

เป็นไปตามเป้าหมายของวัตถุประสงค์โดยรวม

(3) มีความเป็นระบบ โดยที่เงื่อนไขและสถานการณ์ของสัญญา EPC มีความซับซ้อน ความสัมพันธ์

ระหว่างส่วนต่าง ๆ จ าเป็นพิจารณาทุกแง่ทุกมุม และจ าเป็นต้องมีการเพิ่มประสิทธิภาพของทรัพยากร

(4) มีการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด มูลค่าโดยทั่วไปของโครงการมักจะสูงมาก จึงจ าเป็นต้องมีการจัดการ

ปฏิบัติอย่างรัดกุม เคร่งครัด ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจท าให้โครงการล้มเหลวโดยสิ้นเชิง ซึ่ง

น าไปสู่การสูญเสียเงินจ านวนมาก

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


35 | การจัดการสัญญา

รูปที่ 4-2 โครงสร้างการจัดการความเสี่ยงในสัญญา

การจัดการสัญญาโครงการ EPC สามารถพิจารณาได้จากหกข้อหลัก ดังต่อไปนี้คือ: การจัดการการเงิน,

การจัดการด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม การจัดการด้านคุณภาพ การจัดการ

ตารางเวลา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ และการจัดการการจัดซื้อ ความรู้ทางวิชาชีพก็มีความส าคัญ

มาก

(13) การจัดการด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม (Health, Safety and

Environmental: HSE)

(13.1) ทั่วไป

เป้าหมายของการจัดการ สุขภาพ ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม คือการรับประกันสุขภาพและความ

ปลอดภัยของผู้คน ปกป้องธรรมชาติ ลดมลพิษ และกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน

(13.2) วิธีการ

เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย จ าเป็นต้องปฏิบ้ติดังนี้:

(ก) การก าหนดเกณฑ์ในการจัดการ

ข้อก าหนดด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมมีความแตกต่างกันในแต่ละ

ประเทศ จ าเป็นต้องปฏิบัติตามข้อก าหนดภายในประเทศนั้น ๆ รวมถึงข้อก าหนดในแต่ละท้องถิ่น

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


36 | การจัดการสัญญา

รูปที่ 4-3 การจัดการด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม

ระบบการจัดการ สุขภาพ ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม มีองค์ประกอบหลัก 8 ประการ เป็น

แนวทาง และข้อสัญญา แนวทางและเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ การจัดองค์กร ทรัพยากรและเอกสาร การ

ประมาณการ และการจัดการความเสี่ยง การจัดโปรแกรม การน าไปใช้ปฏิบัติ การตรวจสอบและการ

ประเมิน ทุกองค์ประกอบเป็นเกณฑ์ที่ฝ่ายบริหารจัดการ สุขภาพ ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม ต้อง

ด าเนินการให้บรรลุตามเกณฑ์ที่ก าหนดไว้ ค าแนะน าและข้อสัญญา คือส่วนหลักของระบบการจัดการ

องค์ประกอบอื่น ๆ จะหมุนเวียนวนรอบแกนกลาง และเป็นด าเนินการอย่างเป็นระบบเพื่อให้ระบบ

ด าเนินการอย่างสัมฤทธิผลและหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ

(ข) ก าหนดมาตรฐานการประเมินระบบการจัดการ และตรวจสอบอย่างสม ่าเสมอ การประเมินควร

รวมถึงระบบการจัดการ ที่ตรงกับเป้าหมาย และระบบการจัดการ ท างานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

(ค) จัดตั้งแผนกบริหารจัดการด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม และแต่งตั้งบุคคลที่มี

คุณสมบัติเหมาะสมในการดูแลจัดการ หน้าที่ของผู้จัดการทุกคนจะต้องได้รับการอธิบายและน าไป

ปฏิบัติอย่างชัดเจนตามที่ระบุในเอกสาร และสามารถชี้แจงได้

(ง) มีการฝึกอบรมพนักงาน เพื่อให้แน่ใจว่าพวกคนมีความรู้ความเข้าใจในระบบการจัดการเป็นอย่างดี

(จ) รับผิดชอบการจัดการของผู้รับจ้างช่วงด้วย

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


37 | การจัดการสัญญา

(14) การจัดการตารางแผนงาน

(14.1) ทั่วไป

การจัดการตารางแผนงาน จะท าให้แน่ใจว่างานที่ก าหนดบางงานจะแล้วเสร็จในเวลาที่

แน่นอน ตามล าดับการแล้วเสร็จของงานในเวลาที่ก าหนดไว้ การจัดการตารางแผนงานจะมี

ความส าคัญมาก งานตามแผนการจัดการตารางแผนงาน รวมถึงการก าหนดตารางเวลา การติดตาม

โครงการ ก าหนดการปรับปรุง และรายงาน เป็นงานของแผนกควบคุม และรวมอยู่ในงานของแผนก

วิศวกรรม แผนกจัดซื้อ แผนกก่อสร้าง และแผนกควบคุมคุณภาพ ตารางแผนงานในโครงการจะแบ่ง

ออกเป็นสามระดับ ระดับแรกเป็นการจัดการการวางแผน ผู้จัดการจะก าหนดเวลาเริ่มงานและแล้ว

เสร็จส าหรับงานหลัก มีการตรวจติดตาม ในกรณีที่ขอบเขตของสัญญาเปลี่ยนแปลง ระดับความส าคัญ

ของงานก็จะยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ระดับที่สองคือการวางแผนงานที่ส าคัญ ระดับนี้มี

รายละเอียดมากกว่าระดับที่หนึ่ง แผนกควบคุมดูแลการตรวจสอบและควบคุม จะใช้วิธีเส้นทางวิกฤต

ของโครงการ (Critical Path Method: CPM) ในการจัดการวางแผนงาน ระดับที่สามคือการวาง

แผนการควบคุมรายละเอียด ระดับนี้สามารถเรียกว่าการวางแผนการก่อสร้าง ซึ่งเป็นวิธีที่ละเอียดมาก

ที่สุด แผนกก่อสร้างจะใช้เวลาในการควบคุม และมีการวางแผนปรับปรุงบ่อยที่สุด

(14.2) สาเหตุของความเสี่ยงในแผนงานที่ก าหนด

(ก) ตารางได้รับการออกแบบเกินขีดความสามารถในการท างาน

(ข) เหตุผลธรรมชาติ

(ค) ข้อผิดพลาดในการจัดการ เช่นการขาดการสื่อสารระหว่างหน่วยงาน

(ง) การเปลี่ยนแปลงทางวิศวกรรม

(จ) เหตุผลทางการเงิน

(ฉ) ความล่าช้าในการจัดหาวัสดุและอุปกรณ์

(14.3) วิธีแก้ไขปัญหาเรื่องแผนก าหนดการเวลา

(ก) เปลี่ยนล าดับความต่อเนื่องการท างานงานต่าง ๆ

(ข) เพิ่มทรัพยากรที่ใช้ในการท างาน เช่นแรงงานและเครื่องจักร

(ค) มีการกระจายทรัพยากร

(ง) จ้างแรงงานภายนอก (Outsource)

(จ) เพิ่มประสิทธิภาพการท างานเช่นการฝึกอบรมและแรงจูงใจ

(ฉ) ลดจ านวนการท างาน หรือยกเลิกการท างานในบางส่วน

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


38 | การจัดการสัญญา

(15) การจัดการด้านคุณภาพ

(15.1) ทั่วไป

ไม่ว่าคุณภาพของโครงการจะดีหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้ว่าจ้าง นอกจากนี้ยังสามารถวัด

ได้ตามข้อก าหนดในสัญญา ข้อก าหนดของคุณภาพโครงการควรเป็นไปตามเอกสารสัญญาเอกสาร

วิศวกรรมและเกณฑ์ข้อก าหนดทางเทคนิค

(15.2) แบบจ าลองกระบวนการจัดการด้านคุณภาพ

รูปแบบกระบวนการบริหารคุณภาพโครงการแสดงได้ดังนี้:

- ผู้จัดการโครงการควรท าความเข้าใจเกี่ยวกับข้อก าหนดผ่านความรับผิดชอบด้านการจัดการ

- ระบุและใช้ทรัพยากรที่จ าเป็นผ่านการจัดการทรัพยากร

- สร้างและด าเนินการตามขั้นตอนผ่านกระบวนการสร้างผลิตภัณฑ์และการให้บริการ

- ตรวจวัด วิเคราะห์ และปรับปรุงผลลัพธ์

- มีการจัดการ และมีข้อเสนอแนะในข้อบกพร่องของเอกสาร

รูปที่ 4-5 ระบบการจัดการด้านคุณภาพ

ตามที่แสดงในภาพด้านบน โครงการควรทราบถึงความต้องการของเจ้าของงาน หลังจากมีการจัดหา

ผลิตภัณฑ์และบริการ จะต้องดูความพึงพอใจของเจ้าของงาน ซึ่งจะท าให้ทราบได้ว่าโครงการบรรลุ

เป้าหมายหรือไม่ เพื่อตั้งค่าระบบการจัดการคุณภาพที่เพียงพอและปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง คู่มือคุณภาพ

แผนคุณภาพ เอกสารขั้นตอนบันทึกคุณภาพจะต้องรวมอยู่ในงานเหล่านี้ ต้องมีการตรวจสอบระบบ

การจัดการคุณภาพอย่างสม ่าเสมอ ระบบการประเมินควรตั้งค่าเพื่อตรวจสอบระบบการจัดการ

คุณภาพ หากมีข้อผิดพลาด ทุกอย่างจะต้องมีการวางแผน และเริ่มใหม่จากจุดเริ่มต้น เพราะค่าใช้จ่าย

และความสูญเสียจะมีขนาดใหญ่ เนื่องจากขาดการการควบคุม เจ้าของงานจะปฏิเสธที่จะยอมรับงาน

ในโครงการ เนื่องจากคุณภาพของการก่อสร้างไม่เป็นไปตามมาตรฐานหลังจากผ่านการตรวจสอบ

ความรับผิดชอบควรมอบหมายให้กับบุคคลใดบุคคลหนึ่งและต้องรับผิดชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมี

สิ่งผิดปกติเกิดขึ้น มีการประเมินผลอย่างสม ่าเสมอ และต้องได้รับความใส่ใจจากพนักงานทุกระดับ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


39 | การจัดการสัญญา

(16) การจัดการทางด้านการเงิน

(16.1) ทั่วไป

ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจเป็นจุดส าคัญในการประเมินว่าโครงการคุ้มค่าหรือไม่ในระยะยาว ในการ

วางแผนต้นทุนจะมีมาตรการเพื่อแก้ไขการเบี่ยงเบนที่เกิดขึ้น การจัดการทางการเงินด้วยการจัดการที่

หลากหลายด้วยการจัดการทรัพยากรมนุษย์ และการจัดการวัสดุสามารถน ามาใช้เพื่อช่วยเพิ่ม

ประสิทธิภาพทางการเงินเพื่อผลประโยชน์ของบริษัท

(16.2) วิธีการจัดการด้านการเงิน

งานหลักของการจัดการทางด้านการเงิน ได้แก่ การวางแผนทรัพยากร การประมาณต้นทุน

การวางแผนต้นทุนและการควบคุมต้นทุน ขั้นตอนการจัดการทางการเงินแสดงไว้ตามรูปที่ 4-6

ด้านล่างนี้:

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


40 | การจัดการสัญญา

รูปที่ 4-6 วิธีการจัดการด้านการเงิน

สถานการณ์พิเศษที่จะต้องพิจารณาคือ:

- วางแผนด้านการเงิน

- วางแผนการจัดการด้านการเงิน

- วางแผนการช าระเงิน

- ก าหนดการช าระเงิน

- วางแผนตารางเวลา

ก่อนการลงนามในสัญญา จะต้องน าสิ่งที่เป็นไปได้มาพิจารณาเพื่อให้มั่นใจว่า ทุกฝ่ายมีความ

รับผิดชอบในส่วนของตนเองโดยเฉพาะด้านการเงิน ภาระผูกพัน กับเจ้าของงาน บริษัทที่รับผิดชอบ

โครงการ การจัดการเพื่อให้มั่นใจว่ามีการจ่ายเงินล่วงหน้าหรือจะจ่ายเมื่อได้ได้ส่งใบแจ้งหนี้

4.5 การจัดซื้อจัดหา

(1) ทั่วไป

ในโครงการ EPC บริษัทจากประเทศต่าง ๆ มารวมตัวกัน เพื่อท างานเฉพาะด้าน เมื่อพิจารณาถึง

มาตรฐานของวัสดุต่าง ๆ แหล่งก าเนิดของทรัพยากร ความผันผวนของราคาวัสดุ และความเสี่ยงต่าง

ๆ สภาพแวดล้อมของการออกแบบ จัดซื้อจัดหา และการก่อสร้าง จะมีความสอดคล้องต้องกัน ซึ่งล้วน

แต่จะมีบทบาทส าคัญในการด าเนินโครงการ

(2) ความสอดคล้องระหว่างการจัดหาและวิศวกรรม

(ก) ท าการจัดหาและด้านวิศวกรรมในเวลาเดียวกัน การจัดซื้อวัสดุล่วงหน้าจะท าให้ระยะเวลาของ

โครงการสั้นลง

(ข) การปรับปรุงระบบการสื่อสาร ด้วยซอฟต์แวร์ที่จัดการโครงการอิเล็กทรอนิกส์ จะมีผลต่อ

ประสิทธิผลโดยรวมของกระบวนการจัดการ

(ค) ลดความสูญเสีย ลดก าหนดระยะเวลาในความล่าช้าที่เกิดจากการจัดหา

ข้อควรระวัง:

(ก) ไม่จ าเป็นต้องซื้อวัสดุส าคัญทั้งหมดจากผู้จัดจ าหน่ายที่ดีที่สุด ควรมีการจัดซื้อจากท้องถิ่นให้มาก

ที่สุด ซึ่งจะท าให้ต้นทุนการจัดซื้อลดลงอย่างมาก ฝ่ายจัดซื้อควรแจ้งแผนกวิศวกรรมเกี่ยวกับตลาดของ

อุปกรณ์และวัสดุ

(ข) วิเคราะห์ประเภทและปริมาณของวัสดุซึ่งจะช่วยในการวางแผนมากขึ้น มีความสมเหตุสมผล และ

สามารถลดต้นทุน

(ค) เจ้าหน้าที่เทคนิคและผู้ผลิตควรสื่อสารอย่างสม ่าเสมอเพื่อให้มั่นใจว่าได้วัสดุที่ถูกต้อง

(3) ความสอดคล้องระหว่างการจัดหาและการก่อสร้าง

(ก) แผนกจัดซื้อควรให้ข้อมูลแก่แผนกก่อสร้างโดยเร็วที่สุดเพื่อให้แผนกก่อสร้าง เพิ่อสามารถท าการ

เปลี่ยนแปลงที่จ าเป็นได้ทันเวลา

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


(ข) ส าหรับอุปกรณ์ขนาดใหญ่และส าคัญควรแจ้งแผนกจัดซื้อล่วงหน้า

(ค) แผนกก่อสร้างควรติดต่อกับแผนกจัดซื้อ โดยแจ้งให้ทันเวลากับการใช้งาน

41 | การจัดการสัญญา

4.6 การจัดการทรัพยากรมนุษย์

(1) ทั่วไป

การจัดการทรัพยากรมนุษย์โครงการในระดับสากล จะมีลักษณะเฉพาะของแต่ละประเทศ ตัวอย่างคือ

วัฒนธรรมและภูมิหลังที่แตกต่างกัน บุคลากรจ าเป็นต้องใช้เวลาในการปรับตัวเข้ากับการเมือง

วัฒนธรรมและกฎหมายของประเทศนั้น ๆ ภาษาเป็นสิ่งที่มีความท้าทายมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมี

ความเข้าใจไม่ตรงกัน

(2) ปัญหา

ความสามารถในการจัดการของผู้รับเหมาช่วงและความสามารถทางวิชาชีพไม่สามารถก าหนดได้ เพื่อ

ตอบสนองความต้องการของการจัดการสถานที่ก่อสร้าง ในระหว่างการด าเนินโครงการ การไม่มีทักษะ

ที่จ าเป็นจะส่งผลให้เกิดความสับสน ทักษะและคุณภาพของวัสดุก่อสร้างไม่สามารถตอบสนองความ

ต้องการ บุคคลากรไม่สามารถปรับตัวเข้ากับประเทศที่ท าการก่อสร้างได้ กฎหมาย ศาสนา ประเพณี

และสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติที่รุนแรง ผู้รับเหมาช่วงบางรายไม่ช าระเงินตรงตามเวลาหรือตาม

แผนที่วางไว้ โดยเฉพาะในวันพิเศษเช่นวันปีใหม่และงานเทศกาลต่าง ๆ

(3) วิธีการปรับปรุงสถานการณ์:

จ าเป็นต้องฝึกอบรมการจัดการสัญญาเป็นประจ า ซึ่งเป็นพื้นฐานในการพัฒนาทักษะการจัดการของ

ฝ่ายจัดการ และปรับปรุงการรับรู้ของพนักงานเกี่ยวกับการจัดการสัญญา มีการปรับปรุงการฝึกอบรม

พนักงานและการศึกษาก่อนที่จะไปท างานต่างประเทศโดยเฉพาะภาษา กฎหมาย วัฒนธรรม และ

ศาสนา รวมถึงต้องเข้าใจในความแตกต่างของสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ รับรู้ความเสี่ยงที่เกิดจาก

ความแตกต่างของศาสนาขนบธรรมเนียมประเพณี และอื่น ๆ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


42 | การจัดการ EPC

5. การจัดการการออกแบบ (Engineering/Design Management)

ในโครงการ อีพีซี ผู้รับจ้างจะด าเนินการออกแบบตามความต้องการของผู้ว่าจ้าง ตามข้อก าหนดและมี

ประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ โครงสร้างต่าง ๆ จะต้องด าเนินการออกแบบตามเกณฑ์การออกแบบที่

ก าหนด ด าเนินการจัดซื้อจัดหา และท าการก่อสร้างทั้งหมดในลักษณะแบบ 'ครบวงจร' โดยผู้ว่าจ้าง

จะได้รับงานที่แล้วเสร็จสมบูรณ์ตามวัตถุประสงค์ความต้องการตามแผนงานในเวลาที่ก าหนด มีการ

ทดสอบเมื่องานแล้วเสร็จภายในงบประมาณที่ก าหนดไว้

บุคคลากรหลักฝ่ายผู้ว่าจ้างจะมีการแต่งตั้ง ผู้แทนของผู้ว่าจ้าง (Employer's Representative)

ท าหน้าที่ในการก ากับดูแลการก่อสร้าง และด าเนินการตามสัญญาแทนผู้ว่าจ้าง

ความรับผิดชอบในการออกแบบ จัดซื้อจัดหา และก่อสร้าง จะมีความเชื่อมโยงเกี่ยวกับเวลาและต้นทุน

ภายใต้รูปแบบสัญญา อีพีซี ผู้รับจ้างตกลงราคาเหมาจ่ายคงที่ (lump sum fixed price) และมี

ขอบเขตที่จ ากัดในเรื่องชองการเรียกร้องขยายเวลา และเงินเพิ่มเติม

แต่โครงการอีพีซี จะมีราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากผู้รับจ้างจะก าหนดราคาความเสี่ยงเป็นจ านวนเงิน

รวมไว้ด้วย

เหนืออื่นใด ในสัญญา อีพีซี คือการจัดสรรความเสี่ยงโดยรวมให้กับผู้รับจ้าง รวมถึงความยากของงานที่

คาดเดาไม่ได้ เว้นแต่จะมีการระบุไว้เป็นอย่างอื่นในสัญญา

ผู้รับจ้างจะถือว่าได้รับข้อมูลที่จ าเป็นทั้งหมดเกี่ยวกับความเสี่ยง ภาระผูกพัน และสถานการณ์อื่น ๆ ที่

อาจมีอิทธิพลหรือส่งผลกระทบต่องาน โดยการลงนามในสัญญา ผู้รับจ้างยอมรับความรับผิดชอบ

ทั้งหมดในการคาดการณ์ปัญหาทั้งหมด และเผื่อรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการท างานให้แล้วเสร็จ และ

ราคาตามสัญญาจะไม่มีการปรับค่างานที่คาดเดาไม่ได้

5.1 ความรับผิดชอบในการออกแบบ (Design Responsibilty)

ผู้รับจ้างมีภาระผูกพันในการออกแบบด าเนินการและท างานให้เสร็จตามสัญญาเพื่อให้งานสมบูรณ์และ

เหมาะส าหรับวัตถุประสงค์ตามที่ก าหนดไว้ในสัญญา รวมถึงจะแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ ในงาน เมื่อ

แล้วเสร็จ ผลงานจะต้องเหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของงานก่อสร้างตามที่ก าหนดไว้ในสัญญา

5.2 พันธะทั่วไปในการออกแบบ (General Design Obligations)

ผู้รับจ้างจะต้องพิจารณาถึงวัตถุประสงค์ ความต้องการของผู้ว่าจ้าง (รวมถึงเกณฑ์การออกแบบ และ

การค านวณ)

ผู้ว่าจ้างจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาดความไม่ถูกต้องหรือการละเว้นใด ๆ ตามวัตถุประสงค์ ความ

ต้องการของผู้ว่าจ้าง ตามที่ระบุไว้ในสัญญา และจะไม่ถือว่าการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือครบถ้วน หรือ

ข้อมูลใด ๆ ยกเว้นที่ระบุไว้ ที่ผู้รับจ้างได้รับจากผู้ว่าจ้าง หรืออื่น ๆ จะไม่ช่วยลดภาระหน้าที่ของผู้

รับจ้างจากความรับผิดชอบในการออกแบบและการด าเนินงาน

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


43 | การจัดการ EPC

อย่างไรก็ตามผู้ว่าจ้างจะต้องรับผิดชอบต่อความถูกต้องของส่วนต่างๆตามวัตถุประสงต์ ความต้องการ

ของ ผู้ว่าจ้าง และข้อมูลที่ผู้ว่าจ้าง (หรือในนามของผู้ว่าจ้าง) จัดหาให้ต่อไปนี้

(ก) ส่วนข้อมูลและข้อมูลที่ระบุไว้ในสัญญา ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้

ว่าจ้าง

(ข) ค าจ ากัดความของวัตถุประสงค์ของงานหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของงาน

(ค) เกณฑ์ส าหรับการทดสอบและการปฏิบัติงานที่เสร็จสมบูรณ์ และ

(ง) บางส่วนของข้อมูลและข้อมูลที่ไม่สามารถตรวจสอบได้โดยผู้รับจ้าง เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น

ในสัญญา

5.3 เอกสารของผู้รับจ้าง (Contractor’s Document)

เอกสารของผู้รับจ้างประกอบด้วยเอกสารทางเทคนิคตามที่ระบุในเอกสารวัตถุประสงค์ ความต้องการ

ของผู้ว่าจ้าง เอกสารต้องถูกต้องและได้รับการอนุมัติเอกสารตามกฏ และระเบียบ เว้นแต่จะระบุเป็น

อย่างอื่นในเอกสารวัตถุประสงค์ของผู้ว่าจ้าง เอกสารของผู้รับจ้างต้องเขียนด้วยภาษาเพื่อการสื่อสาร

ตามที่ได้ตกลงกันไว้

ผู้รับจ้างต้องจัดท าเอกสาร และเอกสารอื่น ๆ ที่จ าเป็นให้ผู้แทนของผู้ว่าจ้าง ผู้แทนของผู้ว่าจ้างมีสิทธิ์ที่

จะตรวจเอกสารที่จัดท าขึ้นนั้นด้วยทุกครั้งที่มีการจัดท าขึ้น

หากเอกสารวัตถุประสงค์ ความต้องการของผู้ว่าจ้างระบุให้จัดท าเอกสาร ผู้รับจ้างต้องจัดท า และ

เสนอมอบให้แก่ผู้ว่าจ้างเพื่อการศึกษาทบทวนและพิจารณาเห็นชอบอนุมัติ ผู้รับจ้างจะต้องเสนอให้แก่

ผู้ว่าจ้าง พร้อมด้วยบันทึก

(ก) ช่วงระยะเวลาตรวจทาน (Review Period) ซึ่งหมายถึงช่วงระยะเวลาให้ผู้ว่าจ้างท าการตรวจทาน

(หากมีการก าหนดไว้) และพิจารณาอนุมัติ

(ข) เอกสารของผู้รับจ้างซึ่งไม่รวมเอกสารอื่นใดตามที่ระบุไว้ ไม่ต้องเสนอให้ทบทวน ตรวจสอบ และ

พิจารณาขออนุมัติ

ในระยะเวลาการตรวจทาน ผู้ว่าจ้างอาจมีหนังสือแจ้งให้ผู้รับจ้างว่า เอกสารนั้นบกพร่อง (ตามที่ระบุ

ไว้) ไม่ครบถูกต้องกับสัญญา หากเอกสารของผู้รับจ้างบกพร่องผิดกับสัญญา ผู้รับจ้างต้องปรับปรุง

แก้ไขและส่งมอบให้ใหม่เพื่อการตรวจทาน ด้วยค่าใช้จ่ายของผู้รับจ้างเอง

ส าหรับส่วนงานแต่ละส่วน และยกเว้นในกรณีที่คู่สัญญาตกลงเป็นอย่างอื่น:

(ก) การด าเนินการของส่วนงานดังกล่าวจะต้องเริ่มต้นก่อนระยะเวลาการทบทวนเอกสาร

เอกสารโดย ผู้ว่าจ้าง

(ข) การด าเนินการงานดังกล่าวจะต้องเป็นไปตามเอกสารของผู้รับจ้าง ตามที่ยื่นเพื่อพิจารณา

และ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


44 | การจัดการ EPC

(ค) หากผู้รับจ้างประสงค์ที่จะแก้ไขการออกแบบหรือเอกสารใด ๆ ที่เคยยื่นเพื่อทบทวน

ตรวจสอบแล้ว ผู้รับจ้างต้องแจ้งให้ผู้ว่าจ้างทราบทันที หลังจากนั้นผู้รับจ้างจะต้องส่งเอกสารที่แก้ไข

แล้วให้กับผู้ว่าจ้างตามขั้นตอนข้างต้น

ข้อตกลงดังกล่าว หรือการทบทวนใด ๆ จะไม่ท าให้ลดภาระหน้าที่หรือความรับผิดชอบของผู้รับจ้าง

5.4 ภาระหน้าที่ของผู้รับจ้าง (Contractor’s Undertaking)

ผู้รับจ้างมีหน้าที่ ออกแบบ จัดท าเอกสาร และด าเนินการก่อสร้างให้งานแล้วเสร็จ ตามข้อก าหนดดังนี้

(ก) ตามกฎหมายของประเทศนั้น ๆ และ

(ข) เอกสารประกอบแนบในสัญญา ตามที่ปรับเปลี่ยนหรือขยายความโดยการเปลี่ยนแปลง

5.5 มาตรฐานทางเทคนิคและกฏระเบียบ (Technical Standards และ Regulations)

งานออกแบบและเอกสารของผู้รับจ้างเพื่อการก่อสร้าง และการแล้วเสร็จของงานก่อสร้าง ต้องปฏิบัติ

ตามกฏหมายของประเทศที่โครงการตั้งอยู่ ซึ่งจะต้องถูกต้องกับมาตรฐานทางเทคนิค การก่อสร้าง

และกฎหมายสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์ในโครงการจะต้องถูกต้องตามกฎหมาย และมาตรฐานอื่น ๆ ตาม

วัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในเอกสารวัตถุประสงค์ ความต้องการของผู้ว่าจ้าง ซึ่งถูกต้องตามกฎหมาย

กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับงานทั้งหมดหรือส่วนของงานเหล่านี้ ซึ่งเป็นงานที่ต้องส่งมอบให้แก่ผู้ว่าจ้าง จะ

อ้างอิงตามสัญญา มาตรฐานฉบับที่ใช้ ณ วันที่ผู้รับจ้างเสนอราคาเว้นแต่จะได้ระบุเป็นอื่น

หากมีการเปลี่ยนหรือมีมาตรฐานฉบับใหม่ออกมาบังคับใช้ในประเทศนั้นภายหลังวันที่ผู้รับจ้างยื่น

ข้อเสนอเพื่อให้สอดคล้องกับเงื่อนไขดังนี้

(ก) ผู้ว่าจ้างได้พิจารณาแล้วว่าต้องปฏิบัติตามระเบียบ และ

(ข) ข้อเสนอเพื่อการเปลี่ยนแปลง

ผู้ว่าจ้างจะพิจารณาให้มีการเปลี่ยนแปลงงาน

5.6 การฝึกอบรม (Training)

ผู้รับจ้างต้องด าเนินการฝึกอบรมให้แก่พนักงานของผู้ว่าจ้างในการด าเนินงานและการบ ารุงรักษา

โครงการตามที่ระบุในเอกสารวัตถุประสงค์ของผู้ว่าจ้าง หากในสัญญาได้ระบุว่าการฝึกอบรมดังกล่าว

ต้องด าเนินการฝึกอบรมก่อนการส่งมอบงานให้แก่ผู้ว่าจ้าง ฉะนั้นงานโครงการจะไม่ถือว่าแล้วเสร็จ

และไม่ถือเป็นการส่งมอบงาน จนกว่าการฝึกอบรมได้เสร็จสิ้น

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


45 | การจัดการ EPC

5.7 แบบและเอกสารก่อสร้างจริง (As-Built Documents)

ผู้รับจ้างต้องจัดเตรียมและเก็บรักษาข้อมูลการด าเนินงานไว้อย่างครบถ้วน พร้อมทั้งแสดงต าแหน่งที่ตั้ง

ขนาดและรายละเอียดของงานที่ท าอย่างถูกต้องตามที่ก าหนดไว้ บันทึกเหล่านี้จะถูกเก็บไว้ ณ สถานที่

ก่อสร้าง และจะใช้เฉพาะเพื่อวัตถุประสงค์ และจะต้องจัดส่งส าเนาให้กับผู้ว่าจ้างก่อนที่จะมีการ

ทดสอบเมื่องานแล้วเสร็จ

นอกจากนี้ผู้รับจ้างต้องจัดเตรียมแบบก่อสร้างจริงให้กับผู้ว่าจ้าง โดยแสดงงานทั้งหมดที่ก่อสร้าง และ

ส่งให้ผู้ว่าจ้างพิจารณา ผู้รับจ้างต้องได้รับความยินยอมจากผู้ว่าจ้างเกี่ยวกับขนาด ระบบการอ้างอิง

และรายละเอียดที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ

ก่อนที่จะมีการออกใบรับรองผลงาน ผู้รับจ้างจะต้องจัดหาแบบก่อสร้างจริง โดยมีจ านวนตามที่ก าหนด

ในวัตถุประสงค์ ความต้องการของผู้ว่าจ้าง ให้กับผู้ว่าจ้าง งานนี้จะไม่ถือว่าแล้วเสร็จตามวัตถุประสงค์

ของงาน จนกว่าผู้ว่าจ้างจะได้รับเอกสารเหล่านี้

5.8 คู่มือการด าเนินการโครงการและการบ ารุงรักษา (Operation and Maintenance

Manuals)

ก่อนเริ่มงานการทดสอบเพื่อการส่งมอบงานแล้วเสร็จ ผู้รับจ้างต้องส่งมอบรายละเอียดคู่มือการ

ด าเนินการโครงการและการบ ารุงรักษาแก่ผู้ว่าจ้างเพื่อใช้ในการด าเนินโครงการ การบ ารุงรักษา การ

ถอดเครื่อง การประกอบเครื่องคืน การปรับแก้ และการซ่อมแซม

เมื่อผู้ว่าจ้างได้รับรายละเอียดคู่มือฉบับสุดท้ายตามรายละเอียดข้างต้น จึงจะถือว่าเป็นการส่งมอบงาน

ครบถ้วน รวมถึงรายการอื่นตามที่ระบุไว้ในวัตถุประสงค์ ความต้องการของผู้ว่าจ้างด้วย

5.9 ข้อผิดพลาดในการออกแบบ (Design Error)

หากมีข้อผิดพลาด ตกหล่น คลุมเครือ ไม่สม ่าเสมอ ไม่เพียงพอ หรือบกพร่องอื่น ๆ ซึ่งตรวจพบอยู่ใน

สารบบเอกสารของผู้รับจ้าง ผู้รับจ้างต้องท าการปรับปรุงแก้ไขด้วยค่าใช้จ่ายของผู้รับจ้าง เว้นแต่จะ

ระบุเป็นอย่างอื่น

การแก้ไขงาน และการส่งมอบงานจะอยู่ภายใต้ความเสี่ยงและเป็นค่าใช้จ่ายของผู้รับจ้าง

5.10 การจัดการการออกแบบ (Engineering/ Design management)

1) ทั่วไป

การออกแบบทางด้านวิศวกรรมของโครงการก่อสร้างมีองค์ประกอบหลายประการ ก่อนอื่นจะต้อง

จัดการรายละเอียดด้านเทคนิค เศรษฐศาสตร์ ทรัพยากร สิ่งแวดล้อม ฯลฯ ซึ่งจ าเป็นส าหรับโครงการ

นอกจากนี้จ าเป็นต้องบูรณาการ ซึ่งรวมถึงการวิเคราะห์ การสาธิต และการรวบรวมรายการการ

ออกแบบตามขนาดและความซับซ้อนของโครงการก่อสร้าง ส าหรับโครงการก่อสร้างงานโยธาจะแบ่ง

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


46 | การจัดการ EPC

ออกเป็นการออกแบบเบื้องต้นและการออกแบบรายละเอียดเพื่อการก่อสร้าง ส าหรับโครงการด้าน

อุตสาหกรรมและโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่ซับซ้อนบางครั้งก็จะมีขั้นตอน การออกแบบทางเทคนิค

เพิ่มจากการออกแบบเบื้องต้น

2) ข้อก าหนดเกี่ยวกับการออกแบบ (Contract provisions about engineering)

ก) ขอบเขตการออกแบบ (Design scope)

ขอบเขตของการออกแบบของผู้รับจ้างจะขึ้นอยู่กับงานออกแบบเบื้องต้น (Preliminary Design/Basic

Design) ที่ผู้ว่าจ้างจัดเตรียมไว้ให้ หากข้อมูลการออกแบบเบื้องต้นมีข้อมูลที่เพียงพอ ผู้รับจ้างก็จะ

ออกแบบเพียงแบบรายละเอียดเพื่อการก่อสร้าง (construction design)

ในสัญญา EPC สามารถจ าแนกการออกแบบระหว่างผู้ว่าจ้าง และผู้รับจ้างได้ดังนี้:

(1) เจ้าของงานด าเนินการออกแบบตามแนวคิดเบื้องต้น (conceptual design) และวางแนวคิดการ

ออกแบบใน "ข้อก าหนดความต้องการของเจ้าของงาน (Employer’s Requirement)” ซึ่ง

เป็นส่วนหนึ่งของเอกสารสัญญา เอกสารนี้จะแสดงถึงเป้าหมาย วัตถุประสงค์ของโครงการ

ข้อก าหนดและมาตรฐานทางเทคนิค งานออกแบบของเจ้าของงานในส่วนนี้อาจประมาณได้ว่า เป็น

เนื้องานประมาณ 10% ของปริมาณงานออกแบบทั้งหมด

(2) ในช่วงการประกวดราคาผู้รับจ้างจะด าเนินการออกแบบเบื้องต้นให้เสร็จสมบูรณ์ตามข้อก าหนด

ของเอกสารประกวดราคา และส่งให้เจ้าของงานเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารการประกวดราคา

(3) ในกระบวนการด าเนินโครงการ ผู้รับจ้าง EPC มีหน้าที่รับผิดชอบออกแบบขั้นสุดท้ายให้แล้ว

เสร็จ โดยแบ่งออกเป็นการออกแบบการจัดวางผังทั่วไป (General Arrangement Drawings) และ

การออกแบบรายละเอียด (Detailed Design Drawings)

2) การออกแบบพิ้นฐานและมาตรฐานทางเทคนิค (Design Basis and Technical Standards)

การออกแบบจะเป็นไปตามข้อก าหนดการออกแบบของสัญญา EPC รวมถึง:

(1) เอกสารงานเตรียมการของเจ้าของงาน

(2) มาตรฐานทางเทคนิคของประเทศที่ตั้งโครงการ

(3) มาตรฐานทางเทคนิคที่ตกลงกันไว้ในสัญญา

(4) กฎหมายเกี่ยวกับการก่อสร้างและวิศวกรรม เช่นกฎหมายเกี่ยวกับการก่อสร้าง สิ่งแวดล้อม

มาตรฐานผลิตภัณฑ์ ฯลฯ

(5) มาตรฐานการปฏิบัติด้านวิศวกรรมที่ดี

3) การตรวจสอบเอกสารการออกแบบและอนุมัติ (Design document inspection and

approval)

ในกระบวนการด าเนินการตามสัญญา EPC การตรวจสอบเอกสารการออกแบบและการอนุมัติ เป็น

วิธีการที่เจ้าของงานควบคุมคุณภาพการออกแบบ โดยมีบทบัญญัติดังต่อไปนี้:

(1) เจ้าของงานมีสิทธิ์ตรวจสอบเอกสารใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโครงการ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


47 | การจัดการ EPC

(2) หากสัญญาก าหนดให้เอกสารบางอย่างต้องได้รับการอนุมัติจากเจ้าของงาน ผู้รับจ้างต้องส่งเอกสาร

ไปยังเจ้าของงาน หรือผู้รับจ้างจัดการโครงการ (Project Management Contractor: PMC /

Independent Engineer) ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าของงานเพื่อด าเนินการตรวจสอบและอนุมัติ

(3) ภายในระยะเวลาที่ก าหนด เจ้าของงานจะตรวจสอบเอกสารการออกแบบ หากมีปัญหาเจ้าของ

งานสามารถแก้ไขได้

(4) จะไม่ใช้แบบและเอกสารส าหรับโครงการ ก่อนการตรวจสอบและอนุมัติ

(5) หากผู้รับจ้างต้องการแก้ไขเอกสารซึ่งได้รับอนุมัติแล้วจากเจ้าของงาน ผู้รับจ้างจะต้องรายงานแจ้ง

ต่อเจ้าของงานเพื่อขออนุมัติใหม่

(6) เอกสารการออกแบบของผู้รับจ้าง จะต้องใช้ภาษาตามที่ก าหนดในสัญญา

4) ความรับผิดชอบในการออกแบบ

ในสัญญา EPC ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดชอบในการออกแบบ อย่างไรก็ตามเนื่องจากเจ้าของงานได้

ออกแบบเบื้องต้นบางส่วนก่อนลงนามในสัญญา ดังนั้นเจ้าของงานจะมีส่วนร่วมในความ

รับผิดชอบ ความรับผิดชอบและข้อจ ากัด ระหว่างคู่สัญญาทั้งสองมีดังนี้:

ความรับผิดชอบและข้อจ ากัดของเจ้าของงาน:

(1) ไม่สามารถเปลี่ยนข้อก าหนดของสัญญา

(2) ก าหนดวัตถุประสงค์ของโครงการก่อสร้าง

(3) การทดสอบเป็นไปตามมาตรฐานที่มีประสิทธิภาพ

(4) ตรวจสอบให้แน่ใจว่ารายละเอียดที่ผู้รับจ้างจัดท าสามารถตรวจสอบได้

(5) ในระหว่างการด าเนินการตามสัญญา หากมาตรฐาน หรือกฎหมายในสัญญามีการเปลี่ยนแปลง

หรือมีบทบัญญัติ มาตรฐานใหม่ เจ้าของงานจะต้องแจ้งการเปลี่ยนแปลง และรับภาระในผลที่

ตามมา

ความรับผิดชอบและข้อจ ากัดของผู้รับจ้าง EPC:

(1) ผู้รับจ้างมีหน้าที่ตรวจสอบ การด าเนินงานออกแบบเบื้องต้นของเจ้าของงาน

(2) ผู้รับจ้างมีหน้าที่รับผิดชอบต่อความถูกต้องของผลลัพธ์ของการออกแบบเบื้องต้นจากเจ้าของงาน

(3) การอนุมัติของเจ้าของงานในเอกสารการออกแบบของผู้รับจ้าง จะไม่ท าให้ผู้รับจ้างพ้นจากความ

รับผิดชอบ

(4) หากเอกสารการออกแบบของผู้รับจ้างมีข้อผิดพลาด ผู้รับจ้างต้องแก้ไขด้วยค่าใช้จ่ายของผู้รับจ้าง

เอง

5) การรวบรวมและจัดส่งเอกสารที่สมบูรณ์ และการด าเนินการและคู่มือการบ ารุงรักษา

(1) ผู้รับจ้างรวบรวมเอกสารที่มีรายละเอียดครบถ้วนและจัดส่งไปยังเจ้าของงานตามข้อก าหนดของ

สัญญา

(2) ผู้รับจ้างจะต้องส่งมอบแบบที่เสร็จสมบูรณ์ซึ่งผ่านการตรวจสอบโดยเจ้าของงาน

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


48 | การจัดการ EPC

(3) ข้อก าหนดของแบบที่เสร็จสมบูรณ์จะต้องได้รับอนุมัติจากเจ้าของงาน

(4) ก่อนการแล้วเสร็จโครงการ ผู้รับจ้างจะต้องส่งคู่มือการใช้งานและบ ารุงรักษา

3. การจัดการการออกแบบของผู้รับจ้าง EPC

1) ฝ่ายออกแบบและฝ่ายวางแผนการออกแบบ

หากผู้รับจ้างมีความเชี่ยวชาญในงานวิศวกรรมการออกแบบ อาจท าการออกแบบเอง หรืออาจเลือก

จากบริษัทผู้ออกแบบมืออาชีพ หากผู้รับจ้างเองไม่มีความสามารถในการออกแบบ จ าเป็นต้องจ้างช่วง

บริษัทผู้ออกแบบมืออาชีพ และต้องลงนามในสัญญาย่อย โดยกิจกรรมทั้งหมดจะต้องเป็นไปตามความ

ต้องการในสัญญา EPC ผู้รับจ้างช่วงจะต้องรับผิดชอบในการออกแบบ อย่างไรก็ตามผู้รับจ้างช่วงจะอยู่

ภายใต้การก ากับดูแลชองผู้จัดการโครงการ EPC

4) ความรับผิดชอบการออกแบบ

ส าหรับสัญญา EPC ผู้รับจ้างจะรับผิดชอบการออกแบบ ดังนั้นผู้รับจ้างจึงต้องรับผิดชอบในการ

ออกแบบ อย่างไรก็ตามเนื่องจากเจ้าของงานได้ออกแบบเบื้องต้นบางส่วนไว้ก่อนลงนามในสัญญา และ

มักจะใส่ผลการออกแบบลงในสัญญาเจ้าของงานยังต้องมีส่วนร่วมในความรับผิดชอบ หมวดความ

รับผิดชอบและข้อ จ ากัด ระหว่างทั้งสองฝ่ายมีดังนี้:

ความรับผิดชอบและข้อจ ากัดของเจ้าของงาน:

(1) ไม่สามารถเปลี่ยนข้อก าหนดของสัญญา

(2) ก าหนดวัตถุประสงค์ที่คาดหวังของโครงการก่อสร้าง

(3) เสร็จสิ้นการทดสอบและมาตรฐานประสิทธิภาพ

(4) ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเนื้อหาที่ผู้รับจ้างน าออกสามารถตรวจสอบได้

(5) ในระหว่างการด าเนินการตามสัญญาหากบรรทัดฐานหรือมาตรฐานในสัญญามีการเปลี่ยนแปลง

หากกฎหมายมีการเปลี่ยนแปลงหรือหากบทบัญญัติของเจ้าของมีมาตรฐานใหม่แล้วการ

เปลี่ยนแปลงควรได้รับการจัดการโดยเจ้าของ เจ้าของยังต้องแบกรับผลที่ตามมาเช่นกัน

ความรับผิดชอบและข้อจ ากัดของผู้รับจ้าง EPC:

(1) ผู้รับจ้างมีหน้าที่ตรวจสอบผลการด าเนินงานเบื้องต้นของผู้เป็นเจ้าของงานออกแบบ.

(2) ผู้รับจ้างมีหน้าที่รับผิดชอบต่อความถูกต้องของผลลัพธ์ของเจ้าของงานการออกแบบเบื้องต้น

(3) การอนุมัติของเจ้าของงานเอกสารการออกแบบของผู้รับจ้างไม่ได้ยกความรับผิดชอบของผู้รับจ้าง

(4) หากเอกสารการออกแบบของผู้รับจ้างมีข้อผิดพลาดผู้รับจ้างต้องแก้ไขได้ที่ค่าใช้จ่ายของตัวเอง

5) การรวบรวมและส่งเอกสารที่สมบูรณ์และการด าเนินการและคู่มือการบ ารุงรักษา

(1) ผู้รับจ้างรวบรวมเอกสารที่มีรายละเอียดครบถ้วนแล้วส่งไปยังเจ้าของงานในตามข้อก าหนดของ

สัญญา

(2) ผู้รับจ้างจะต้องส่งภาพวาดที่เสร็จสมบูรณ์ซึ่งผ่านการตรวจสอบโดยเจ้าของงาน

(3) ข้อก าหนดของแบบที่เสร็จสมบูรณ์จะต้องได้รับอนุมัติจากเจ้าของงาน

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


49 | การจัดการ EPC

(4) ก่อนที่จะเสร็จสิ้นโครงการผู้รับจ้างจ าเป็นต้องส่งมอบคู่มือการใช้งานและบ ารุงรักษา

(5) ก่อนที่จะได้รับใบรับรองการยอมรับ ผู้รับจ้างจะต้องส่งแบบฟอร์มคู่มือการใช้งานและการ

บ ารุงรักษาให้กับเจ้าของงาน

แผนการออกแบบ

แผนการออกแบบด าเนินการโดยแผนกวิศวกรรมของโครงการ ตามแผนการด าเนินงานรวมของ

โครงการ และ แผนการออกแบบประกอบด้วย:

(1) การวิจัยและท าความเข้าใจข้อก าหนดการออกแบบในสัญญา EPC เพื่อพิจารณาขอบเขตของงาน

ออกแบบ

(2) ก าหนดหลักการออกแบบ ส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับหลักความปลอดภัย ความประหยัด หลักการ

ประกันคุณภาพเป็นต้น

(3) ก าหนดแผนการออกแบบโดยรวมตามระยะเวลาของโครงการ

(4) ก าหนดอัตราก าลังคน สิ่งอ านวยความสะดวก และอุปกรณ์ต่าง ๆ ในขั้นตอนการออกแบบ

(5) ส านักงานส าหรับงานออกแบบ

(6) มาตรฐาน และเกณฑ์ที่ใช้ในการออกแบบทางวิศวกรรม

(7) กฎหมายและข้อบังคับในเรื่องสิ่งแวดล้อม

(8) พิจารณาส่วนที่ต้องออกแบบโดยผู้รับจ้างช่วง

2) เอกสารควบคุมการออกแบบและผลการออกแบบ

งานออกแบบ และการแก้ไขงานออกแบบ จ าเป็นต้องมีการควบคุมเพื่อมิให้มีการเบี่ยงเบนไปจาก

แผนการออกแบบตามขั้นตอนในเอกสารและคู่มืองานออกแบบ กระบวนการควบคุมการออกแบบจะ

ครอบคลุมถึงแผนงาน คุณภาพ รวมถึงการควบคุมต้นทุนด้วย

ผลการออกแบบ เอกสารต่าง ๆ รวมถึงแบบ รายการค านวณ ตารางข้อมูลต่าง ๆ คู่มือทางเทคนิค

โปรแกรมซอฟต์แวร์ ค าแนะน าในการใช้งานและอื่น ๆ จะใช้เพื่อเป็นแนวทางในการจัดซื้อจัดจ้าง ใช้

ก่อสร้าง และทดสอบเพื่อให้งานโครงการแล้วเสร็จตามสัญญา

6. การจัดการการจัดซื้อจัดหา (Procurement Management)

6.1 ทั่วไป

ในโครงการ EPC การจัดซื้อจัดหามีความส าคัญมากในระหว่างการด าเนินการโครงการ และเป็นส่วน

หนึ่งในความส าเร็จที่ส าคัญของโครงการ โครงการส่วนใหญ่โดยเฉพาะในโครงการอุตสาหกรรม ต้นทุน

การจัดซื้อรวมของสัญญาจะสูงถึง 40% - 60% ในสัญญา EPC มีข้อก าหนดต่าง ๆ ส าหรับการจัดซื้อ

จัดหา การเข้ามาแทรกแซงของเจ้าของงานในกระบวนการจัดซื้อได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อ

พิจารณาถึงบทบาทที่ส าคัญของการจัดซื้อจัดหาในช่วงด าเนินการตามสัญญา มีความจ าเป็นส าหรับ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


50 | การจัดการ EPC

ฝ่ายจัดซื้อที่จะต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นในหน่วยงาน ดังนั้นสิ่งส าคัญคือความรับผิดชอบของ

แผนกจัดซื้อและขั้นตอนการท างานที่ชัดเจน

6.2 ข้อก าหนดของสัญญาเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดหา

1) ความรับผิดชอบทั่วไปในการจัดซื้อจัดหา

บทบัญญัติสัญญาทั่วไปเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดหา มีประเด็นที่ส าคัญต่อไปนี้:

(1) ผู้รับจ้างควรรับผิดชอบวัสดุทั้งหมดที่จ าเป็น เช่นวัตถุดิบ อุปกรณ์ และวัสดุสิ้นเปลืองอื่น ๆ

(2) ผู้รับจ้างควรมีแผนกจัดซื้อที่รับผิดชอบการจัดซื้อจัดหา และการประสานงานเพื่อให้แน่ใจว่าการ

จัดซื้อจัดหามีประสิทธิภาพ

(3) ผู้รับจ้างควรเลือกเส้นทางการขนส่ง และจัดท าแผนการจัดส่งตามสภาพเส้นทางการขนส่ง

(4) หากมีการเรียกร้อง สาเหตุจากการขนส่งที่ไม่ดี ผู้รับจ้างจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าเจ้าของงานจะ

ไม่เสียเปรียบในการเจรจา และช าระค่าเสียหายกับผู้เรียกร้อง

(5) ผู้รับจ้างควรจัดท าเอกสารกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างตามข้อก าหนดของสัญญาและส่งให้เจ้าของ

งาน เพื่อตรวจสอบการท างาน

2) การตรวจสอบกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง

(1) ผู้รับจ้างจะต้องจัดท าแผนการจัดซื้อจัดหาโดยรวมและส่งให้เจ้าของงาน แผนการจัดซื้อจัดจ้างควร

สอดคล้องกับข้อก าหนดของโครงการ และผู้รับจ้างควรให้ความสนใจเป็นพิเศษกับอุปกรณ์ที่ส าคัญ

(2) ผู้รับจ้างควรแจ้งให้เจ้าของงานทราบถึงก าหนดการใช้งาน ท่าเรือรับ-ส่งสินค้า การขนถ่ายสินค้า

การขนส่งทางบก และเส้นทางไปยังสถานที่ก่อสร้าง

(3) แหล่งที่มาของวัสดุหลักและอุปกรณ์ จะต้องระบุไว้ในบัญชีรายการในสัญญา และได้รับอนุมัติจาก

เจ้าของงาน

(4) ตลอดกระบวนการจัดซื้อจัดหาทั้งหมด ผู้รับจ้างควรด าเนินการก ากับดูแลและจัดการกับผู้ขาย และ

ผู้ผลิต

(5) ส าหรับอุปกรณ์ที่ส าคัญ ผู้รับจ้างควรควบคุมคุณภาพในการผลิต และติดตามความก้าวหน้า

(6) เจ้าของงานมีสิทธิ์ตรวจสอบอุปกรณ์และวัสดุในเวลาที่เหมาะสม รวมถึงการตรวจสอบ

ความก้าวหน้าในการผลิต รวมถึงกระบวนการระหว่างการทดสอบคุณภาพ

(7) อุปกรณ์ใด ๆ ในกระบวนการผลิตสามารถตรวจสอบได้ตามที่ระบุไว้ในสัญญา.

(8) เจ้าของงานมีสิทธิ์ที่จะขอให้ผู้รับจ้างจัดหาอุปกรณ์ต่าง ๆ ส าหรับการตรวจสอบ

3) ความช่วยเหลือจากเจ้าของงาน

ตามกระบวนการทางกฎหมาย บ่อยครั้งที่เจ้าของงานจ าเป็นต้องให้ความช่วยเหลือผู้รับจ้างในการขอ

อนุญาตจากทางราชการส าหรับวัสดุพิเศษบางอย่างเช่นวัตถุระเบิดและอื่น ๆ เจ้าของงานมักจะต้อง

ได้รับใบอนุญาตในการน าเข้าเพื่อใช้งานในโครงการ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


51 | การจัดการ EPC

4) รายการที่ผู้ว่าจ้างจัดให้

รายการที่ผู้ว่าจ้างจัดหาให้จะเรียกว่า วัสดุจัดให้เปล่า (Free Issues) ในข้อก าหนดสัญญา EPC ที่

เกี่ยวข้องมีการระบุไว้ดังนี้:

(1) หากเจ้าของงานจะต้องจัดหาวัสดุจัดให้เปล่า ให้กับผู้รับจ้างในสัญญา เจ้าของงานควรช าระ

ค่าใช้จ่ายตามความเสี่ยงด้วยตนเอง และจัดส่งวัสดุไปยังสถานที่ที่ก าหนด

(2) ผู้รับจ้างควรตรวจสอบวัสดุก่อนการตรวจรับ หากมีปัญหาด้านคุณภาพหรือปริมาณ ผู้รับจ้าง

จะต้องแจ้งให้ผู้ว่าจ้างทราบ หลังจากได้รับแจ้งเจ้าของงานจะต้องปรับปรุงจ านวนปริมาณ และจัดหา

วัสดุทดแทนในส่วนของวัสดุที่บกพร่อง

(3) หลังจากการตรวจสอบของผู้รับจ้าง วัสดุจะถูกโอนความรับผิดชอบไปยังผู้รับจ้างผู้ซึ่งมีหน้าที่ใน

การดูแลวัสดุ

6.3 การจัดการการจัดซื้อจัดหาของผู้รับจ้าง EPC

องค์กรและแผนการจัดซื้อจัดหาของผู้รับจ้าง

แผนกจัดซื้อจะถูกจัดตั้งขึ้นเพื่องานจัดซื้อจัดหาในโครงการ EPC ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อจะได้รับการแต่งตั้ง

โดย บริษัท จ านวนบุคคลากรในแผนกจะมากน้อยขึ้นอยู่กับขนาด และความซับซ้อนของโครงการ

แผนการจัดซื้อจัดหา

แผนการจัดหาโครงการ EPC สามารถแบ่งออกเป็นสองส่วน: แผนทั่วไปและแผนก าหนดการ

แผนทั่วไปของโครงการเป็นเอกสารแนะน าตามโครงการ

แผนการด าเนินงาน

แผนการจัดซื้อทั่วไปประกอบด้วยประเด็นต่อไปนี้:

(1) การก าหนดขอบเขตของการจัดซื้อจัดหาในโครงการ

(2) การก าหนดกฎ การตรวจสอบส าหรับเอกสารการจัดซื้อจัดหา

(3) การก าหนดขั้นตอนการประสานงานระหว่างผู้ผลิต / ผู้จัดซื้อจัดหา

(4) ความแน่นอนของตารางการจัดซื้อจัดหาและวัตถุประสงค์ด้านต้นทุนท าให้มั่นใจได้ว่าวัตถุประสงค์

นี้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการ

(5) การก าหนดหลักการจัดซื้อจัดหาทั่วไปรวมถึงหลักการก าหนดเวลาการรับประกัน หลักการ

รับประกันคุณภาพ และหลักการรับประกันความปลอดภัย

(6) การก าหนดขั้นตอนการท างานที่ต้องปฏิบัติตาม

(7) เอกสารของไฟล์จัดซื้อจัดหาต่าง ๆ และไฟล์ใบสั่งซื้อ

(8) การก าหนดขั้นตอนการจัดซื้อจัดหาส าหรับวัสดุที่ส าคัญ และอุปกรณ์ที่ส าคัญ

ความก้าวหน้าของการด าเนินการตามแผนการจัดซื้อจัดหาคือเพื่อให้แน่ใจว่าวัสดุหลักทั้งหมด อุปกรณ์

หลักอุปกรณ์เสริม และวัสดุสิ้นเปลืองต่าง ๆ จะถูกจัดซื้อตรงเวลา ภายใต้กรอบของแผนทั่วไป ผู้จัดการ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


52 | การจัดการ EPC

ฝ่ายจัดซื้อจะเป็นผู้รับผิดชอบ โดยจัดเจ้าหน้าที่ให้ด าเนินการแล้วเสร็จตามโครงการก่อสร้างตาม

แผนการใช้วัสดุ และงบประมาณการจัดซื้อจัดหาจากแผนกควบคุม

7. การจัดการก่อสร้าง (Construction Management)

7.1 ทั่วไป

การก่อสร้างเป็นส่วนส าคัญของโครงการ EPC ช่วงการก่อสร้างนั้นเท่ากับระยะเวลาตั้งแต่เริ่มงานไป

จนถึงการแล้วเสร็จของงาน แนวคิดการก่อสร้างในสัญญา EPC นั้นกว้างมาก ในสัญญา EPC

ก าหนดการงานก่อสร้าง วิธีการก่อสร้าง คุณภาพการก่อสร้าง และความปลอดภัยการก่อสร้างล้วนมี

ส่วนส าคัญกับการก่อสร้างงานในโครงการ อาจกล่าวได้ว่าทุกนาทีในการด าเนินการโครงการ

จ าเป็นต้องมีการจัดการ

7.2 ข้อก าหนดสัญญาเกี่ยวกับการก่อสร้าง

1) กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างในสัญญา EPC

(1) ผู้รับจ้างจะต้องปฏิบัติตามผู้ว่าจ้างหรือรายละเอียดที่ระบุในสัญญา

(2) ผู้รับจ้างจะต้องจัดหาบุคลากร ผู้จัดการโครงการเพื่อรับผิดชอบเต็มเวลาในการจัดการโครงการ

(3) บุคลากรในการก่อสร้างต้องมีทักษะที่เหมาะสม มีความเป็นมืออาชีพ และมีจรรยาบรรณในวิชาชีพ

(4) อุปกรณ์การก่อสร้างที่ผู้รับจ้างจัดส่ง และเมื่อมีการขนย้ายไปยังสถานที่ก่อสร้างแล้ว ถือว่าเป็น

อุปกรณ์การก่อสร้างในโครงการ ผู้รับจ้างจะไม่สามารถเคลื่อนย้ายออกโดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ว่าจ้าง

(5) ในช่วงระยะเวลาการก่อสร้าง ผู้รับจ้างจะต้องรักษาสถานที่ก่อสร้างให้อยู่ในสภาพที่ดี เมื่อโครงการ

ใกล้จะแล้วเสร็จสมบูรณ์ ผู้รับจ้างจะต้องท าความสะอาดสถานที่ก่อสร้างให้สะอาดเรียบร้อย

2) กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคุณภาพการก่อสร้างในสัญญา EPC

คุณภาพการก่อสร้างในสัญญา EPC จะครอบคลุมถึงเทคโนโลยีวิศวกรรมการก่อสร้าง วิธีการ และ

ข้อก าหนดความต้องการ ฯลฯ

(1) การก่อสร้างจะต้องเป็นไปตามสัญญา ข้อก าหนดและเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

(2) ในระหว่างการก่อสร้าง หากมาตรฐานหลายประเภทไม่สอดคล้องกัน ให้ถือฉบับที่มีมาตรฐานที่

ทันสมัย และเหมาะสม ดีที่สุดได้

(3) ในระหว่างการด าเนินงาน หากมีมาตรฐานฉบับใหม่ ผู้ว่าจ้างมีสิทธิ์ที่จะร้องขอให้ผู้รับจ้างปฏิบัติ

ตามมาตรฐานฉบับใหม่ และผู้รับจ้างจะได้รับการชดเชยตามความเหมาะสม

(4) ผู้ว่าจ้างมีสิทธิ์ที่จะตรวจสอบ ทดลอง และทดสอบผลงานที่ได้รับเมื่องานแล้วเสร็จ หากงาน

บกพร่อง ผู้ว่าจ้างมีสิทธิ์ปฏิเสธการยอมรับและสั่งให้ท าใหม่

หากผู้รับจ้างยืนยันที่จะไม่แก้ไขข้อผิดพลาด ผู้ว่าจ้างมีสิทธิในการยกเลิกสัญญา

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


53 | การจัดการ EPC

(5) ภายหลังการแล้วเสร็จโครงการ จะต้องมีการรับประกันประสิทธิภาพของงานตามที่ก าหนด

(Functional / Performance Guarantees)

3) กฎระเบียบเกี่ยวกับแผนงานตามตารางการก่อสร้าง (Construction Schedule) ในสัญญา

EPC

(1) ผู้รับจ้างจะต้องก่อสร้างงานให้แล้วเสร็จตามเวลาที่ก าหนดพร้อมกับจัดเตรียมเอกสารต่าง ๆ

รวมถึงการทดสอบตามสัญญา มิฉะนั้นจะต้องเสียค่าชดเชย (ค่าปรับ) ในความล่าช้า

(2) เมื่อผู้รับจ้างได้รับการแจ้งให้เริ่มงาน จะต้องเริ่มงานทันที โดยจะต้องท าการออกแบบ จัดซื้อ จัดหา

และเริ่มงานก่อสร้างในเวลาที่เหมาะสม

(3) เมื่อเริ่มโครงการ ผู้รับจ้างจะต้องจัดเตรียมและส่งรายละเอียดแผนการด าเนินการโครงการแก่ผู้

ว่าจ้าง

(4) ถ้าผู้ว่าจ้างเห็นว่าความก้าวหน้าในโครงการของผู้รับจ้างล่าช้าจากความเป็นจริง ผู้รับจ้างมีหน้าที่

ต้องปรับปรุงแผนงาน และวางแผนที่จะเพิ่มความเร็วในการท างาน

(5) ผู้รับจ้างจะต้องส่งรายงานความก้าวหน้าของงานรายเดือนแก่ผู้ว่าจ้าง รวมถึงรายงาน

ความก้าวหน้าประจ าสัปดาห์ และรายงานการก่อสร้างประจ าวันตามที่ก าหนดไว้ในเงื่อนไขของสัญญา

4) ข้อก าหนดสัญญา EPC ที่เกี่ยวข้องกับ สุขภาพ ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม (HSE: Health,

Safety & Environment)

ด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจโลก แนวคิดของสุขภาพ ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมได้รับความสนใจเพิ่ม

มากขึ้น

(1) ผู้รับจ้างจะต้องมีมาตรการป้องกันที่เหมาะสมด้วยค่าใช้จ่ายของผู้รับจ้างเองเพื่อความมั่นใจใน

ความปลอดภัยของคนงาน

(2) ผู้รับจ้างจะแต่งตั้งพนักงานเต็มเวลาเพื่อจัดการปัญหาด้านความปลอดภัยและอุบัติเหตุส่วนบุคคล

เพื่อสร้างมาตรการป้องกันเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ

(3) เมื่อเกิดการติดเชื้อ โรคระบาด ผู้รับจ้างจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายและค าแนะน าในการจัดการกับ

โรคเหล่านั้น

(4) ผู้รับจ้างจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

(5) ผู้รับจ้างจะต้องดูแล และควบคุมสิทธิ์ในการเข้าสถานที่ก่อสร้างและความปลอดภัยของบุคคลากร

ทุกคน

(6) ผู้รับจ้างจะต้องพยายามรักษาความสงบเรียบร้อยในที่เกิดเหตุ และก าจัดอุปสรรค เพื่อหลีกเลี่ยง

ภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของทุกคน

(7) ก่อนการทดสอบขั้นสุดท้ายผู้รับจ้างจะต้องก่อสร้างรั้วรอบบริเวณ แสงสว่างและความปลอดภัยใน

สถานที่ก่อสร้าง

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


54 | การจัดการ EPC

(8) หากการก่อสร้างมีผลกระทบต่อสาธารณะ ผู้รับจ้างจะต้องจัดหาสิ่งอ านวยความสะดวกที่จ าเป็นต่อ

ความปลอดภัยของสาธารณะ

(9) ผู้รับจ้างจะต้องใช้มาตรการทั้งหมดเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกเพื่อควบคุม

มลพิษ และมลภาวะทางเสียง ฯลฯ จากการท างาน เพื่อลดความเสียหายต่อทรัพย์สินส่วนบุคคล

(10) ผู้รับจ้างจะต้องมั่นใจว่ามลพิษจากกิจกรรมการก่อสร้าง เช่นน ้าเสีย และมลพิษอื่น ๆ ไม่เกินค่า

มาตรฐานตามที่กฎหมายก าหนดไว้

(11) ผู้รับจ้างจะต้องจัดเตรียมคู่มือสุขอาชีวอนามัย ความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม ส าหรับการ

ด าเนินการโครงการ

7.3 การจัดการการก่อสร้างผู้รับจ้างของ EPC

1) การจัดการตารางเวลาของผู้รับจ้าง

(1) ความก้าวหน้าในการท าจัดท าแผน

ก าหนดการของโครงการ EPC สามารถแสดงได้ดังนี้:

ก าหนดขอบเขตการท างานตามสัญญา EPC

จัดท า WBS ตามขอบเขตที่ได้รับจากขั้นตอนเดิม

จัดวางเป้าหมายส าหรับแต่ละกิจกรรมหลัก

ค้นหาค าสั่งของกิจกรรมต่าง ๆ

ตรวจสอบให้แน่ใจในแต่ละกิจกรรมของแต่ละงานย่อย

แก้ไขและท าการค านวณ

รูปที่ 7-1 ความก้าวหน้าของการจัดท าแผน

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


55 | การจัดการ EPC

(2) การติดตามความก้าวหน้าของโครงการ การติดตาม และการพยากรณ์

หลังจากท าการวางแผนก าหนดเวลา จ าเป็นต้องสร้างเกณฑ์ส าหรับการวัดความก้าวหน้าและระบบ

ของโครงการ ระบบการวัดความก้าวหน้าควรเป็นตามข้อก าหนดของสัญญาตามน ้าหนักชองงานหรือ

เป้าหมายของความก้าวหน้าของโครงการ ในปัจจุบันโครงการมักใช้เทคนิคการควบคุมต้นทุนเพื่อ

ติดตามความก้าวหน้าของโครงการ การวางแผนต้นทุน การควบคุมต้นทุน และการวิเคราะห์ต้นทุนจริง

เพื่อเปรียบเทียบความก้าวหน้าและต้นทุน

(3) รายงานสถานะความก้าวหน้า

ผู้รับจ้างจะต้องสร้างระบบรายงานสถานะความก้าวหน้าของโครงการรวมถึงรายงานความก้าวหน้า

ย่อยทั่วไปรายสัปดาห์ความก้าวหน้า แสดงรายละเอียดการท างานตามขอบเขตงานตามสัญญา จัดท า

รายการโครงสร้างงาน (Work Breakdown Structure: WBS) ตามขอบเขตที่ได้รับตามขั้นตอน

ก าหนดเป้าหมายส าหรับแต่ละกิจกรรมหลัก จัดล าดับของกิจกรรมต่างๆ ตรวจสอบการท างานในแต่ละ

กลุ่มงานย่อย แต่ละงาน แก้ไขและท าการค านวณ เนื้อหาของรายงานครอบคลุมความก้าวหน้าโดยรวม

ของโครงการ ความก้าวหน้าการออกแบบ ความก้าวหน้าในการจัดซื้อจัดจ้าง และความก้าวหน้าในการ

ก่อสร้าง รายงานความก้าวหน้ารายเดือนประกอบด้วยผลความส าเร็จของงานในแต่ละเดือน แผนงาน

ของเดือนถัดไป ปัญหา อุปสรรคต่าง ๆ มาตรการแก้ไข ตลอดจนความก้าวหน้าของกราฟเส้นโค้ง S

Curve พร้อมแผนทรัพยากรบุคคล

2) การจัดการคุณภาพของผู้รับจ้าง

(1) ขั้นตอนการจัดการการก่อสร้าง

งานหลักของขั้นตอนนี้รวมถึง:

1. การก าหนดเกณฑ์คุณภาพการก่อสร้างตามสัญญา EPC ส าหรับมาตรฐานการทดสอบ คุณภาพ

บรรทัดฐานจะต้องขียนในเอกสารเป็นพื้นฐานส าหรับการควบคุมคุณภาพก่อสร้าง

2. การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ตามลักษณะโครงการและความซับซ้อนของความต้องการประเภทต่าง

ๆ ในการก่อสร้าง การฝึกอบรมส าหรับงานพิเศษตามประเภทของงาน เพื่อให้แน่ใจว่าคุณภาพของการ

ก่อสร้างเป็นไปตามข้อก าหนดในงานก่อสร้าง

3. การจัดการอุปกรณ์ จะต้องเตรียมอุปกรณ์เครื่องจักรก่อสร้างตามปริมาณงานและเทคโนโลยีของ

การท างาน

4. การจัดสถานที่ก่อสร้าง ท าจุดตรวจสอบที่จ าเป็นให้พร้อมให้สมบูรณ์ น ้า ไฟฟ้า ถนนทางเข้า รวมถึง

การสื่อสารโทรคมนาคม และการปรับระดับพื้นที่การก่อสร้าง

5. โปรแกรมแผนงานก่อสร้าง รวมถึงการจัดตั้งองค์กร วิธีการจัดการการวางแผนการก่อสร้าง และการ

จัดการด้านเทคนิค ซึ่งต้องได้รับการอนุมัติจากผู้ว่าจ้าง

6. เอกสารการโต้ตอบที่สอดคล้องกันของแต่ละส่วน มีการติดต่อประสานงานทางเทคนิค เพื่อ

หลีกเลี่ยงและขจัดปัญหาในด้านคุณภาพ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


56 | การจัดการ EPC

(2) การจัดการคุณภาพในขั้นตอนการก่อสร้าง

การควบคุมคุณภาพของขั้นตอนการก่อสร้างแบ่งออกเป็นสองระดับ: ระดับแรก ผู้ว่าจ้างจะเป็น

ผู้ด าเนินการควบคุมคุณภาพการก่อสร้าง ณ สถานที่ก่อสร้างตามสัญญา; ระดับที่สองคือการจัดการ

ควบคุมคุณภาพการก่อสร้างภายในโดยผู้รับจ้าง ซึ่งจะรวมถึง:

1. ก าหนดเกณฑ์พื้นฐานของการควบคุมคุณภาพ รวมถึงข้อก าหนดทางเทคนิคในสัญญา EPC

ข้อก าหนด เอกสารการออกแบบ ข้อก าหนดการก่อสร้าง และมาตรฐานคุณภาพ

2. การควบคุมคุณภาพประกอบด้วยการตรวจสอบภายในด้วยการจัดการของผู้รับจ้าง ในการรับฟัง

ความคิดเห็นร่วม และมาตรการการตรวจวัดในสถานที่ หากจ าเป็นผู้ว่าจ้างควรมีส่วนร่วมในการ

ประเมินและทดสอบ

3. กระบวนการตรวจสอบการก่อสร้างและวัสดุ เพื่อระบุปัญหาและข้อเสนอแนะโดยเฉพาะ เพื่อ

เสริมสร้างกระบวนการพิเศษในการควบคุมวัสดุ

4. ส่งมอบกระบวนการการควบคุมคุณภาพ

5. สถิติการประเมินคุณภาพการก่อสร้าง เป็นสิ่งส าคัญมากในด้านการควบคุมคุณภาพ

(3) การจัดการคุณภาพขั้นตอนสุดท้าย

ความส าเร็จของโครงการจะรวมถึงการยอมรับขั้นสุดท้ายของการเดินระบบของเครื่องจักร การยอมรับ

การปฏิบัติงาน และการทดสอบ รวมถึงการรับประกันประสิทธิภาพเพื่อให้แน่ใจว่าได้ผลงานตรงตาม

ข้อก าหนด

3) การจัดการเรื่องสุขภาพ ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อมของผู้รับจ้าง

ในการก่อสร้างผู้รับจ้างควรสร้างการจัดการในเรื่องระบบสุขภาพ ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม

ทั่วไป ตามข้อก าหนดในสัญญา และกฎหมาย รวมถึงลักษณะเฉพาะของโครงการ รวมถึงการพัฒนา

บทบัญญัติในเรื่องสุขภาพ ความปลอดภัยและการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม และจัดท าคู่มือการจัดการเพื่อ

ตรวจสอบการบันทึกและประเมินผล ตามขนาดของโครงการ โครงการสามารถก าหนดแผนกสุขภาพ

ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม แยกต่างหาก หรือจะรวมอยู่ในแผนกก่อสร้างก็ได้

การจัดการด้านสุขภาพ

การจัดการด้านสุขภาพรวมถึงการป้องกัน การตรวจสุขภาพ อุปกรณ์ป้องกันต่าง ๆ มาตรการการดูแล

และโปรแกรมการปฐมพยาบาล

การจัดการด้านความปลอดภัย

การจัดการด้านความปลอดภัยรวมถึงความปลอดภัยในการก่อสร้างและความปลอดภัยของสังคม การ

ก่อสร้าง

โครงการมีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยส่วนบุคคลมากกว่าโครงการประเภทอื่น

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


57 | การจัดการ EPC

การจัดการสิ่งแวดล้อม

การก่อสร้างจะท าให้เกิดมลพิษในระดับหนึ่ง การใช้ประโยชน์จากธรรมชาติอย่างเหมาะสมจะลดหรือ

หลีกเลี่ยงมลภาวะ และการกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน จึงมีความจ าเป็นในการสร้างความสมดุล

ระหว่างสภาพแวดล้อมและธรรมชาติ ผู้รับจ้างควรให้ความส าคัญกับการปกป้องสิ่งแวดล้อมในช่วงการ

ก่อสร้างตามสัญญาและข้อก าหนดของกฎหมาย ความรับผิดชอบของผู้รับจ้างจะรวมถึงการอนุรักษ์น ้า

และดิน การควบคุมเสียง การควบคุมมลพิษฝุ่นในบรรยากาศ และการปกป้องโรงงาน โรงผลิตรอบ

บริเวณก่อสร้าง

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


58 | การจัดการความเสี่ยง

8. การจัดการความเสี่ยง

8.1 ความเสี่ยงและการจัดการความเสี่ยง

การบริหารความเสี่ยงถูกน าไปใช้อย่างกว้างขวางในด้านต่าง ๆ เช่นเศรษฐศาสตร์ การประกันภัย

อุตสาหกรรมและอื่น ๆ ในขณะที่ค าว่า "ความเสี่ยง" หมายถึงความไม่แน่นอนที่สามารถแสดงผ่าน

ความน่าจะเป็น การจัดการความเสี่ยงเป็นกระบวนการที่มีโครงสร้างส าหรับการจัดการของความไม่

แน่นอนผ่านการประเมินความเสี่ยง ความเสี่ยงของโครงการขึ้นอยู่กับสมการอย่างง่าย ดังนี้:

Risk = ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ (เหตุการณ์ที่ตามมา)

กล่าวอีกนัยหนึ่งความเสี่ยงทั้งหมดจะต้องได้รับการประเมินในแง่ขององค์ประกอบที่แตกต่างกันสอง

ประการ:

โอกาสที่เหตุการณ์จะเกิดขึ้นเช่นเดียวกับผลที่ตามมาหรือผลกระทบของการเกิดขึ้น

ความเสี่ยงและโอกาสเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามซึ่งกันและกัน โอกาสเกิดขึ้นจากสถานการณ์ของโครงการที่

เอื้ออ านวย และความเสี่ยงเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่ไม่เอื้ออ านวย

การจัดการความเสี่ยงอย่างเป็นระบบประกอบด้วยสี่ขั้นตอนที่แตกต่างกัน:

1) การระบุความเสี่ยง – กระบวนการในการพิจารณาปัจจัยเสี่ยงเฉพาะที่สามารถท าได้ ซึ่งคาดว่าจะ

ส่งผลกระทบต่อโครงการอย่างสมเหตุสมผล

2) การวิเคราะห์ความน่าจะเป็นและผลที่ตามมา – ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้

พิจารณาจากความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับโครงการ

3) กลยุทธ์การลดความเสี่ยง – ขั้นตอนด าเนินการเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากปัจจัยความเสี่ยง

ที่คุกคามต่อโครงการ

4) การควบคุมและจัดท าเอกสาร - สร้างฐานความรู้ส าหรับโครงการในอนาคตจากบทเรียนที่ได้เรียนรู้

การบริหารความเสี่ยงของโครงการประกอบด้วยสี่ขั้นตอนและผลตอบรับของระบบ ซึ่งใช้เพื่อควบคุม

ประสิทธิภาพการบริหารความเสี่ยง ดังรูป

การระบุ

การวิเคราะห์

กลยุทธ์การลด

การควบคุม

ผลการตอบสนอง

กระบวนการจัดการความเสี่ยง

รูปที่ 8-1 กระบวนการจัดการความเสี่ยง

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


59 | การจัดการความเสี่ยง

8.2 วิธีการบริหารความเสี่ยง

การศึกษาเชิงทฤษฎีเกี่ยวกับความเสี่ยงของโครงการก่อสร้างทั่วโลกนั้น มีการน าเทคนิคการวิเคราะห์

ความเสี่ยงมาใช้ในสาขาวิศวกรรมระบบและการวิจัยการด าเนินงาน

การลงทุนในโครงการสาธารณูปโภค พลังงานและการขนส่งที่มีขนาดใหญ่ ท าให้ผู้จัดการโครงการให้

ความส าคัญกับการจัดการต้นทุนมากขึ้น สภาพแวดล้อมของโครงการที่ซับซ้อนท าให้โครงการต้อง

เผชิญกับความไม่แน่นอนมากมาย วิธีการระบุและประเมินความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบของ

ต้นทุนโครงการกลายเป็นปัญหาใหญ่ของผู้จัดการโครงการ

นักวิชาการได้พัฒนาเทคนิคการประเมินความเสี่ยงของโครงการ เช่น เทคนิคการประเมินและทบทวน

โครงการ(PERT: Program Evaluation and Review Technique) วิธีวิเคราะห์ความอ่อนไหว การ

จ าลองสถานการณ์และเทคโนโลยี อื่น ๆ นอกเหนือจากสถิติทางคณิตศาสตร์และความน่าจะเป็นใน

การการอธิบายและประเมินองค์ประกอบหนึ่งมิติของวัตถุประสงค์ของโครงการ เช่นเวลาและ

ผลกระทบค่าใช้จ่ายแบบเดิม ด้วยการพัฒนาวิธีการประเมินแบบใหม่ การจัดการความเสี่ยงของ

โครงการจะกลายเป็นการบูรณาการบนเครือข่ายและหลายมิติ

วิธีการบริหารความเสี่ยงของโครงการส่วนใหญ่จะเป็นเชิงคุณภาพหรือเชิงปริมาณ ตัวอย่างของวิธีการ

วิเคราะห์ความเสี่ยงเชิงคุณภาพ ได้แก่ รายการตรวจสอบความเสี่ยง วงจรชีวิตของโครงการ การ

ตัดสินใจแบบกิ่งก้านสาขา 1 (Decision Tree) ตารางลิงค์ภายใน (Intrinsic Link Table: WBS-RBS 2 )

ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีวิธีการวิเคราะห์ความเสี่ยงเชิงปริมาณพื้นฐานสามประการ: ทฤษฎีความน่า ทฤษฎี

การตั้งค่าแบบหลายคุณลักษณะ และตรรกศาสตร์คลุมเครือ หรือ ฟัซซี่ลอจิก (Fuzzy Logic 3 ) การ

บริหารความเสี่ยงของโครงการประกอบด้วยสี่ขั้นตอน ได้แก่ การระบุ การวิเคราะห์ การตอบสนอง

และการควบคุม และข้อเสนอแนะของระบบที่ใช้ในการควบคุมความเสี่ยง ประสิทธิภาพการจัดการ

ดังนั้นการจัดการความเสี่ยงของโครงการจึงเป็นวิธีจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ

จากการวิเคราะห์ยืนยันว่าความเสี่ยงของโครงการมีผลกระทบเชิงลบอย่างมีนัยส าคัญต่อประสิทธิภาพ

ของโครงการ

1

การตัดสินใจแบบกิ่งก้านสาขา (decision tree) เป็นการเสนอข้อมูลทั้งทางเลือก สภาวการณ์ ผลตอบแทนในลักษณะของแผนภาพ

แขนงโดยมีสัญลักษณ์ต่างๆ ใน บางครั้งนั้นเรื่องที่ก าลังพิจารณาจะต้องมีการตัดสินใจหลายครั้ง ซึ่งการใช้วิธีแมทริกซ์นั้นไม่สามารถท าได้

ดังนั้นจึงจ าเป็นต้องใช้การตัดสินใจแบบกิ่งก้านสาขา

2

Risk Breakdown Structure – RBS เป็นล าดับชั้นของความเสี่ยง ความเสี่ยงจะถูกแมปจากระดับสูงสุดของการลบออกไปสู่ระดับที่ต ่า

กว่าและมีการกลั่นมากขึ้น โครงสร้างนี้คล้ายคลึงกับโครงสร้างของ Work Breakdown Structure (WBS) ในระดับสูงสุด โดยสามารถ

แบ่งความเสี่ยงออกเป็นความเสี่ยงด้านเทคนิค การบริหารความเสี่ยง การวางแผนความเสี่ยงและความเสี่ยงจากภายนอก (ระดับ 1)

จากนั้นจะท างานในระดับที่ดีขึ้นเช่นความเสี่ยงในการออกแบบ ความเสี่ยงด้านการเงิน ฯลฯ (ระดับ 2) แม้แต่ระดับล่างก็มักจะถูกแบ่ง

ออก โดยสามารถลดความเสี่ยงในระดับลึกลงไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะมีความหมายอีกต่อไป

3

Fuzzy logic (FL) คือ วิธีการออกแบบให้คอมพิวเตอร์ สามารถใช้เหตุผลที่คล้ายคลึงกับวิธีการให้เหตุผลของมนุษย์ ส าหรับ

ประกอบการตัดสินใจ ปกติคอมพิวเตอร์จะส่งกลับค าตอบที่เป็น TRUE กับ FALSE และมนุษย์มักจะมีค าตอบที่ชัดเจน คือ YES กับ NO:

จาก https://th.wikipedia.org/wiki/ตรรกศาสตร์คลุมเครือ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


60 | การจัดการความเสี่ยง

ความเสี่ยงสามารถแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ได้แก่

(1) อุปสงค์และอุปทาน ที่เกี่ยวข้องกับตลาด

(2) การแล้วเสร็จ: ด้านเทคนิคการก่อสร้างและการด าเนินงาน

(3) สถาบัน: ระเบียบข้อบังคับการยอมรับทางสังคมและอ านาจ และสามารถแบ่งออกได้เป็นโดย

ธรรมชาติและมนุษย์

รายละเอียดโครงสร้างความเสี่ยง สามารถแบ่งกลุ่มความเสี่ยง การจัดหมวดหมู่ความเสี่ยง และ

เหตุการณ์ความเสี่ยงในระดับต ่าสุด

ความเสี่ยงของโครงการแบ่งออกเป็นห้ากลุ่ม คือการจัดการ วิศวกรรม การจัดซื้อจัดจ้าง การก่อสร้าง

และการด าเนินการ

ตารางที่ 8-1 รายละเอียดโครงสร้างความเสี่ยง (Risk Breakdown Structure)

WBS - ระดับ 0 WBS - ระดับ 1 ความเสี่ยงเริ่มต้น (The Initial Risks)

1- การจัดการโครงการ 2- การขาดความสนใจใน

กฎหมายและข้อบังคับ

3- เงินเฟ้อ

การจัดการ

-

4- ความผันผวนของอัตรา

แลกเปลี่ยนสกุลเงิน

7- ปัญหาการสื่อสารใน

องค์กร

5- การเพิ่มขึ้นของราคา

น ้ามันดิบระหว่างประเทศ

8- การขาดทักษะของ

ลูกค้า

6- ขาดความสนใจใน

ข้อก าหนดของสัญญา

9- ความล่าช้าในการ

จ่ายเงินและใบแจ้งหนี้

การออกแบบเบื้องต้น 1- การเข้าถึงระบบการ

ออกแบบของที่ปรึกษา

ต่างชาติ

2- การออกแบบผิดพลาด 3- การเปลี่ยนแปลง

ข้อก าหนดในโครงการ

การออกแบบ

การออกแบบ

รายละเอียด

4- ผิดพลาดในการ

ออกแบบรายละเอียดจาก

ข้อมูลแบบเบื้องต้น

5- ขาดผู้เชี่ยวชาญ 6- ขาดคุณภาพในการ

ออกแบบ

การจัดหา/จัดซื้อ

วัสดุ และอุปกรณ์

อะไหล่ในระยะยาว

1- ความสัมพันธ์ระหว่าง

ประเทศ

4- แผนงานระยะยาวไม่

ถูกต้อง

2- ความก ากวมใน

โครงการ

5- การสื่อสารข้อมูลแก่

ผู้ขายไม่ถูกต้อง

3- ผู้ขายที่ไม่เหมาะสม

6- ขาดประสบการณ์ใน

การตรวจรับ

การเตรียมสถานที่

ก่อสร้าง

1- ปัญหาทางสภาพธรณี

และสถานที่ก่อสร้าง

2- สภาพภูมิอากาศที่ไม่

เหมาะสม

3- การเคลื่อนย้ายของหนัก

การก่อสร้าง

การเตรียมแคมป์

ก่อสร้าง

4- เรื่องสุขอาชีวอนามัย 5- การจราจลของคนงาน 6- ปัญกาการสื่อสาร

ระหว่างส านักงานและ

สถานที่ก่อสร้าง

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


61 | การจัดการความเสี่ยง

WBS - ระดับ 0 WBS - ระดับ 1 ความเสี่ยงเริ่มต้น (The Initial Risks)

การก่อสร้างสถานที่

ท างาน

7- การเปลี่ยนแปลง

ขอบเขตงานก่อสร้าง

8- การขาดแคลนแรงงาน

ช่างฝีมือที่มีประสบการณ์

9- โรคติดต่อ

การก่อสร้างโรงงาน 10- อุปสรรคจากผู้รับจ้าง

ช่วง

13- ความล่าช้าในการส่ง

อุปกรณ์

11- ความล่าช้าในการ

จ่ายเงินผู้รับจ้างช่วง

12- ความบกพร่องในการ

ตรวจคุณภาพ QA/QC

และการตรวจสอบ

การด าเนินการเดิน

ระบบ

การเตรียมการด าเนิน

เดินระบบ

การด าเนินการเดิน

ระบบ

1- การเดินระบบไม่ได้ตาม

ข้อก าหนด

2- คุณภาพของวัสดุในการ

เดินระบบไม่ได้คุณภาพ

3- การเดินระบบไม่ถูกต้อง

ตามวิธีการ

8.3 การวิเคราะห์ความเสี่ยงตามสัญญา

รูปที่ 8-2 ตัวอย่างความเสี่ยงของโครงการ

ตัวอย่างความเสี่ยงของโครงการหนึ่ง โครงการมีความเสี่ยงที่หลากหลาย ตามวงจรชีวิตของสัญญาโดย

มีความเสี่ยงในขั้นตอนการจัดท าสัญญาและขั้นตอนการปฏิบัติตามสัญญา ในขั้นตอนของการจัดตั้ง

สัญญาความเสี่ยงสามารถแบ่งออกเป็นความเสี่ยงก่อนการประกวดราคา และความเสี่ยงในการจัดท า

ข้อเสนอ ในขั้นตอนของการด าเนินการตามสัญญาความเสี่ยงด้านการออกแบบ/วิศวกรรม ความเสี่ยง

ด้านการจัดซื้อ และความเสี่ยงด้านการก่อสร้าง ส าหรับความเสี่ยงในการก่อสร้างสามารถแบ่งออกได้

เป็นความเสี่ยงด้านคุณภาพ ความเสี่ยงด้านต้นทุน และความเสี่ยงด้านความปลอดภัย

8.3.1 ความเสี่ยงในช่วงการจัดท าสัญญา

(ก) ความเสี่ยงก่อนการประกวดราคา

ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องมีดังนี้

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


62 | การจัดการความเสี่ยง

- ความเสี่ยงทางการเมืองเช่นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อาทิเช่นสถานการณ์ทางการเมืองใน

ตะวันออกกลาง จะต้องระมัดระวังความเป็นไปได้ของการโจมตีของผู้ก่อการร้ายและนโยบายความ

ต่อเนื่องและความมั่นคงในประเทศ

- ความเสี่ยงด้านกฎหมายเช่นพนักงานไม่คุ้นเคยกับกฎหมายท้องถิ่นและระบบกฎหมายที่แตกต่าง

- ข้อมูลไม่ถูกต้อง

- ตัวแทนไม่น่าเชื่อถือ

- สถานการณ์ในประเทศเจ้าบ้านไม่ชัดเจน

- ไม่คุ้นเคยกับตลาด

- ไม่คุ้นเคยกับสถานการณ์ของคู่แข่ง

- การวิเคราะห์ความเสี่ยงไม่เพียงพอ

- ข้อผิดพลาดในการตัดสินใจ

(ข) ความเสี่ยงในการจัดท าข้อเสนอ

ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องมีดังนี้

- งานเบื้องต้นไม่เพียงพอ

- ข้อก าหนดการประกวดราคาไม่ชัดเจน

- การขาดแคลนข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับการออกแบบ

- การวิเคราะห์เกี่ยวกับเอกสารประกวดราคาไม่เพียงพอ

- ความล้มเหลวในการตรวจสอบจุดที่ส าคัญ

- ความล้มเหลวเกี่ยวกับการคาดการณ์ระยะเวลาการด าเนินการ

- ความล้มเหลวในการเลือกบริษัทร่วมทุน หรือผู้รับจ้างช่วง

- ไม่คุ้นเคยกับภาษีท้องถิ่นและค่าธรรมเนียมและราคาตลาดของทรัพยากรประเภทต่าง ๆ ในประเทศ

นั้น ๆ เช่นแรงงาน วัสดุ อุปกรณ์เครื่องจักร ฯลฯ

- ความเสี่ยงที่เกิดจากการจัดระเบียบทรัพยากร ไม่คุ้นเคยกับการขนส่งทรัพยากรจากแหล่งวัสดุ

เกี่ยวกับวิธีการ ขั้นตอน วงจรระดับความยาก และค่าใช้จ่าย

- ความเสี่ยงของการใช้ทรัพยากรและการเพิ่มขึ้นของราคาที่เกิดจากการลงทุนมากเกินไป

- ความเสี่ยงตามธรรมชาติ ความเสี่ยงจากสภาพภูมิอากาศที่ยากล าบาก (อุณหภูมิสูง) การเพิ่มต้นทุน

แรงงาน

- ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

- ประเมินการเสนอราคาต ่าเกินไป

8.2.2 ความเสี่ยงในช่วงการปฏิบัติตามสัญญา

(1) ความเสี่ยงด้านออกแบบ/วิศวกรรม

(ก) ความเสี่ยงที่เกิดจากเจ้าของงานและบริษัทที่จัดการโครงการ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


63 | การจัดการความเสี่ยง

(ข) ความเสี่ยงที่เกิดจากผู้รับจ้างช่วง

(ค) ความเสี่ยงที่เกิดจากผู้รับจ้าง

(2) ความเสี่ยงด้านการจัดซื้อ

การวิเคราะห์ความเสี่ยงด้านการจัดซื้อจากแหล่งที่มาของความเสี่ยง ความเสี่ยงแบ่งออกเป็นสี่ด้าน

ดังนี้

(ก) ความเสี่ยงที่เกิดจากเจ้าของงาน และบริษัทที่จัดการโครงการ

(ข) ความเสี่ยงที่เกิดจากผู้ผลิตวัสดุ

(ค) ความเสี่ยงที่เกิดจากกองทุน

(ง) ความเสี่ยงที่เกิดจากผู้รับจ้างช่วง

(3) ความเสี่ยงในการก่อสร้างโครงการ

(ก) ความเสี่ยงที่เกิดจากการออกแบบ/วิศวกรรมและการจัดซื้อ

(ข) ความเสี่ยงที่เกิดจากสถานการณ์การประสานงานของพันธมิตร

(ค) ความเสี่ยงที่เกิดจากสถานการณ์ทางธรรมชาติและสังคม

(1) ความเสี่ยงด้านการออกแบบ/วิศวกรรม

(ก) ความเสี่ยงที่เกิดจากเจ้าของงานและบริษัทที่จัดการโครงการ

- เจ้าของงาน และ บริษัทที่จัดการโครงการพึงพอใจกับโครงการหรือไม่ มีความต้องการพิเศษหรือไม่?

- มาตรฐานโครงการที่เจ้าของงานและบริษัทที่จัดการโครงการก าหนด

- การขาดการประสานงานของเจ้าของงานและเจ้าหน้าที่ด้านการจัดการโครงการจะมีผลต่อความ

คืบหน้าของโครงการ

(ข) ความเสี่ยงที่เกิดจากผู้รับจ้างช่วง

- ผู้รับจ้างช่วงไม่คุ้นเคยกับเงื่อนไข และมาตรฐานของโครงการ

- พนักงานของผู้รับจ้างช่วงขาดความรู้ ความเข้าใจในด้านเทคนิค

- มีการใช้มาตรฐานการออกแบบในทางที่ผิด

- ไม่คุ้นเคยกับสภาพและการปฏิบัติในท้องถิ่น

(ค) ความเสี่ยงที่เกิดจากผู้รับจ้าง

- ความสามารถของผู้รับจ้างในการจัดการด้านวิศวกรรม

- การใช้มาตรฐานการออกแบบในทางที่ผิด

- ไม่คุ้นเคยกับสภาพและการปฏิบัติในท้องถิ่น

(2) ความเสี่ยงด้านการจัดซื้อ

(ก) ความเสี่ยงที่เกิดจากเจ้าของงานและบริษัทที่จัดการโครงการ

- ผลิตภัณฑ์ที่ก าหนดโดยเจ้าของงานและบริษัทที่จัดการโครงการไม่พร้อมใช้งานในประเทศนั้น ๆ

- เจ้าของงานและบริษัทที่จัดการโครงการไม่เห็นด้วยกับคุณภาพของวัตถุดิบ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


64 | การจัดการความเสี่ยง

- ความพึงพอใจของเจ้าของงานและบริษัทที่บริหารโครงการต่อผู้ผลิตสินค้าจะน าไปสู่การขาดแคลน

วัตถุดิบและความล่าช้าในเวลา

(ข) ความเสี่ยงที่เกิดจากผู้ผลิตสินค้า

- ราคาวัสดุแพง

- การขาดแคลนวัสดุและแรงงานเนื่องจากสภาวะทางด้านการตลาดเกินคาดจะส่งผลกระทบต่อ

ระยะเวลาการผลิต

(ค) ความเสี่ยงที่เกิดจากการระดมทุน

- ปัญหาจากการจ่ายเงินล่วงหน้าในการซื้อวัสดุ บางครั้งอาจต้องช าระเงินเต็มจ านวน

- รอบการจัดส่งมักจะอยู่ในช่วงสองเดือนถึงสี่เดือนซึ่งหมายถึงผู้ซื้อจะต้องช าระเงินล่วงหน้า

(ง) ความเสี่ยงที่เกิดจากผู้รับเหมาช่วง

- ทัศนคติของผู้รับจ้างช่วง

หน่วยงานก่อสร้าง (บริษัทรับเหมาก่อสร้าง) มีทัศนคติเชิงลบต่อผู้ผลิตสินค้า ผู้ผลิตสินค้าท้องถิ่นจะขอ

แผนความต้องการล่วงหน้าหนึ่งสัปดาห์และมีการยืนยันล่วงหน้าก่อนสองวัน แต่บริษัทก่อสร้างไม่ได้ให้

แผนความต้องการที่แม่นย า และบางครั้งยกเลิกแผนความต้องการโดยไม่แจ้งผู้ผลิตสินค้า ท าให้ผู้ผลิต

สินค้าแสดงความไม่เต็มใจที่จะให้ความร่วมมือ

(3) ความเสี่ยงในการก่อสร้างโครงการ

(ก) ความเสี่ยงที่เกิดจากการออกแบบ/วิศวกรรมและการจัดซื้อ

- การเปลี่ยนแปลงการออกแบบ

- การเลือกวัสดุ

(ข) ความเสี่ยงที่เกิดจากสถานการณ์การประสานงานของหุ้นส่วน

- การปฏิบัติงานของงานออกแบบ/วิศวกรรม การจัดซื้อ และการก่อสร้างไม่สัมพันธ์กัน

การขาดการเตรียมการในการออกแบบก่อสร้าง จะเป็นไปได้ที่จะท าให้งบโครงการเกินจากงบประมาณ

ที่ประมาณการไว้ อย่างไรก็ตามเนื่องจากความล่าช้าของการออกแบบ/วิศวกรรม อาจท าให้เวลาใน

การจัดหาถูกเลื่อนออกไป วิศวกรอาจไม่คุ้นเคยกับบรรทัดฐานและมาตรฐานในประเทศนั้น ๆ แม้ว่าจะ

คุ้นเคยกับมาตรฐานสากล เช่น API, AMST, ASME, etc ก็ตาม

(ค) ความเสี่ยงที่เกิดจากสถานการณ์ทางธรรมชาติและสังคมในประเทศนั้น ๆ

- สภาพธรรมชาติ

- ประเด็นทางศาสนา

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


65 | การจัดการข้อเรียกร้องและข้อพิพาท

9. การจัดการข้อเรียกร้อง

ข้อเรียกร้องที่มักเกิดขึ้นในสัญญาก่อสร้าง โดยทั่วไปจะเป็นข้อเรียกร้องด้านการเงิน และข้อเรียกร้อง

ด้านเวลา แม้ว่าผู้รับจ้างอีพีซี จะต้องรับภาระความเสี่ยงในสัญญาเอง แต่การเปลี่ยนแปลง และการ

เพิ่มเนื้องานโดยผู้ว่าจ้างนั้น ผู้รับจ้างย่อมมีสิทธิได้รับการชดเชยในค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการขยาย

ระยะเวลาตามเหตุผลและความเหมาะสมด้วยความเป็นธรรม

10. การจัดการข้อพิพาท

เมื่อการเรียกร้องขั้นต้นไม่ได้รับการยอมรับจากคู่สัญญา ก็มักจะน าไปสู่ความขัดแย้ง และเกิดเป็นข้อ

พิพาท แนวทางในการระงับข้อพิพาท มีวิธีการระงับได้หลายวิธีดังนี้คือ

1. การเจรจา

2. การไกล่เกลี่ย

3. การชี้ขาดโดยผู้บริหารงานก่อสร้าง

4. การชี้ขาดโดยองค์กรผู้ชี้ขาด

5. การอนุญาโตตุลาการ

6. ศาล

ในสัญญาสากล FIDIC ฉบับล่าสุด แนะน าให้ระงับข้อพิพาทด้วยการป้องกัน หลีกเลี่ยง ตั้งแต่เริ่ม

โครงการ จะเรียกว่า DAAB

DAAB ย่อมาจากค าว่า Dispute Avoidance/Adjudication Board ใช้ในสัญญา FIDIC ฉบับปัจจุบัน

(2017) ไม่ว่าจะเป็นสัญญาจ้างก่อสร้างอาคารและงานโยธา ออกแบบโดยผู้ว่าจ้าง (เล่มแดง) สัญญา

จ้างออกแบบและก่อสร้าง (Design and Build) (เล่มเหลือง) หรือสัญญาจ้างเหมาเบ็ดเสร็จ (EPC)

(เล่มสีเงิน) เป็นแนวคิดให้คนอื่นที่เชี่ยวชาญในการก่อสร้างมาช่วย "หลีกเลี่ยง" (Avoid) และ "ตัดสิน"

(Adjudicate) ปัญหาของการก่อสร้าง ระหว่างผู้ว่าจ้าง กับ ผู้รับจ้าง

DAAB คณะผู้ชี้ขาดมีหน้าที่หลักคือ (1) ต้องมี "ข้อพิพาท" (Dispute) ให้หลีกเลี่ยงหรือให้ตัดสิน (2)

ต้องเป็นข้อพิพาทงานก่อสร้าง พิพาทกันเรื่องอื่นไม่เกี่ยว (3) ต้องพิพาทกันระหว่างคู่สัญญานั้น

ในประเทศไทยยังไม่เป็นที่นิยม เนื่องจากคู่สัญญามักจะไม่ยอมเสียค่าใช้จ่ายตั้งแต่ยังไม่มีกรณีพิพาท

อย่างไรก็ตาม สมาคมวิศวกรที่ปรึกษาแห่งประเทศไทยได้พยายามผลักดันให้มีการใช้วิธีการหลีกเลี่ยง

ข้อพิพาทด้วยวิธีการนี้

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


66 | การจัดการข้อเรียกร้องและข้อพิพาท

ขณะเดียวกันวิธีที่นิยมใช้กันเป็นสากลคือการไกล่เกลี่ย ซึ่งมีข้อแนะน าดังต่อไปนี้

"Tips to the Mediation & Negotiation" 1

การไกล่เกลี่ย คือการยุติ หรือ ระงับข้อพิพาทด้วยความตกลง ยินยอม ของคู่พิพาทเอง โดยมี ผู้ไกล่

เกลี่ย เป็นคนกลาง ช่วยเหลือ แนะน า เสนอแนะ หาทางออกในการยุติ หรือระงับข้อพิพาท ให้แก่

คู่พิพาท

กรอบการปฏิบัติหน้าที่ และความมุ่งหวังในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ประนีประนอม

1. ปฏิบัติหน้าที่โดยได้รับมอบหมายภารกิจอย่างเป็นทางการจากอธิบดีผู้พิพากษาฯ ให้เป็นผู้

ประนีประนอม

2. วางกรอบและกระบวนการในการไกล่เกลี่ยตามระเบียบของส านักงานศาลยุติธรรม และข้อก าหนด

ของศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ

3. การวางตนให้คู่พิพาทเกิดความศรัทธา เชื่อถือ วางใจในความเที่ยงธรรมและเป็นกลาง

4. ให้ความเคารพในฐานะของคู่พิพาทอย่างเท่าเทียมกัน

5. ให้โอกาสแก่คู่พิพาทในการเจรจาไกล่เกลี่ยอย่างเท่าเทียมกัน

6. ศึกษา ค้นคว้า หาข้อมูลอันเกี่ยวข้องกับคดีที่ได้รับมอบหมาย เพื่อใช้ประกอบในการเจรจา

7. ใช้ความรู้ ประสบการณ์ มนุษยสัมพันธ์ ไหวพริบ ปฏิภาณ และความอดทนในการปฏิบัติหน้าที่

ผู้ประนีประนอม ทั้งการรับฟัง ศิลปะในการพูด จิตวิทยา ฯลฯ ให้เกิดประสิทธิภาพและเป็น

ประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่

8. ช่วยเหลือ แนะน า เสนอแนะหาทางออก ในการยุติหรือระงับข้อพิพาทให้แก่คู่พิพาท

9. มุ่งมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ผู้ประนีประนอม เพื่อให้เกิดผลส าเร็จในการเจรจาประนีประนอม

10. ช่วยในการจัดท าข้อสรุปผลการเจรจาและท าข้อตกลง เมื่อคู่พิพาทสามารถเจรจาตกลงกันได้ เพื่อ

น าเรียนเสนอต่อท่านผู้พิพากษาเจ้าของส านวนพิจารณาสั่งการ

ท าความเข้าใจกับคู่พิพาท ก่อนด าเนินกระบวนการไกล่เกลี่ย เพื่อให้การเจรจาประนีประนอมเกิด

ประสิทธิภาพ

(1) การเจรจาประนีประนอมที่เกิดขึ้นนั้น เป็นไปตามความประสงค์ของคู่พิพาทเอง มิได้มีผู้ใดบังคับ

(2) หากคู่พิพาทฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งพิจารณาเห็นว่าการเจรจาประนีประนอมต่อไปไม่ก่อให้เกิดประโยชน์

ก็สามารถขอยุติการเจรจาได้ทุกเวลา

1

"Tips to the Mediation & Negotiation" โดย : ปรีชา เศขรฤทธิ์ ด ารงต าแหน่ง ผู้พิพากษาสมทบ ศาลทรัพย์สินทางปัญญา รุ่นที่

1,4,7,10

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


67 | การจัดการข้อเรียกร้องและข้อพิพาท

(3) ข้อมูลในระหว่างการเจรจาประนีประนอม จะไม่มีการบันทึกไว้ในรายงาน เว้นแต่เป็นความ

ประสงค์ของคู่พิพาท ทั้งนี้คู่พิพาทไม่สามารถน าไปใช้อ้างอิงในขั้นตอนของกระบวนพิจารณาคดี

ปกติได้แต่อย่างใดทั้งสิ้น

(4) การยินยอมตกลงอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างข้อพิพาท เป็นการตัดสินใจโดยความสมัครใจของ

คู่พิพาทเองทั้งสิ้น

(5) ให้ค าแนะน าแก่คู่พิพาท ให้ด าเนินการเจรจาประนีประนอมด้วยความตั้งใจจริง มุ่งหวังให้เกิดผล

ส าเร็จในการเจรจา ด้วยความสุภาพ มีไมตรีจิต ใช้วาจาสุภาพไม่ก้าวราวต่อกัน ละวางทิฐิศักดิ์ศรี

ยอมผ่อนปรนแก่กันตามควรแก่กรณี

(6) การไกล่เกลี่ย จะไม่ก้าวลึกลงไปในข้อกฏหมายหรือข้อเท็จจริง แต่จะด าเนินไปบนพื้นฐานของการ

หาทางออกร่วมกัน เพื่อให้บรรลุสู่ความตกลงอันเป็นประโยชน์ด้วยกันทุกฝ่าย

(7) ในบางกรณี ผู้ประนีประนอม หรือคู่พิพาท อาจขอให้มีการเจรจาแยกฝ่าย (Caucus) เพื่อ

ประโยชน์ในการเจรจาก็ได้

(8) ชี้แจงให้คู่พิพาทได้เข้าใจถึงประโยชน์ของการเจรจาประนีประนอม กล่าวคือ สะดวก รวดเร็ว

ประหยัด รักษาสัมพันธภาพอันดีของคู่พิพาทให้มีร่วมกันได้ต่อไป คู่พิพาทเกิดความพึงพอใจในผล

การเจรจา เนื่องจากเป็นไปตามการตัดสินใจและความต้องการของผู้ประนีประนอมเอง โดยไม่มี

ฝ่ายใดแพ้ หรือฝ่ายใดชนะ

ปัจจัยส าคัญที่มีผลต่อการเจรจาไกล่เกลี่ย

(1) ความตั้งใจจริงของคู่เจรจา

(2) ความรับผิดชอบในการเข้าร่วมเจรจา ตามก าหนดนัดหมาย ของคู่เจรจา

(3) การให้ความร่วมมือ เพื่อน าไปสู่จุดหมายอันเป็นที่ยอมรับร่วมกันได้ ของคู่เจรจา

(4) การรักษากติกา มารยาท ในการเจรจาของคู่เจรจา เช่น การแสดงกิริยา วาจา ความสุภาพ

(5) การเตรียมตัว เตรียมข้อมูลให้พร้อมเพื่อการเจรจาของคู่เจรจา

(6) ความมีไมตรีจิต ถ้อยทีถ้อยเจรจา ผ่อนปรนต่อกัน โดยค านึงถึงผลประโยชน์ร่วมกัน

(7) ความค านึงถึงสัมพันธภาพ และโอกาสที่จะยังคงท าธุรกิจร่วมกันต่อไปของคู่เจรจา

(8) การค านึงถึงผลทางกฎหมาย อันอาจเกิดมีตามมาจากการเจรจา

(9) การค านึงถึงผลต่อเนื่อง ในกรณีที่มีคดีความอื่นอยู่ระหว่างการด าเนินคดีของคู่เจรจา

(10) ความต้องการให้ได้ผลการเจรจาที่จะสามารถน าไปเป็นบรรทัดฐานของคู่เจรจา ในการด าเนินคดี

อื่นที่มีลักษณะเดียวกัน

(11) ความสมประสงค์ในมูลค่าการชดใช้ ผลตอบแทน ประโยชน์ ทั้งในรูปตัวเงิน และมิใช่ตัวเงิน ของ

คู่เจรจา

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


68 | การจัดการข้อเรียกร้องและข้อพิพาท

(12) ความพร้อมด้านการเงินของคู่เจรจาฝ่ายที่ต้องชดใช้

(13) การติดขัดในปัญหาด้านกฎหมาย หรือข้อก าหนดของคู่เจรจา

(14) ตัวแทนคู่เจรจาไม่มีอ านาจตัดสินใจ

(15) การมีความขัดแย้ง หรือปัญหากันมาก่อนของคู่เจรจา ท าให้เกิดปัญหาต่อเนื่อง เช่น เรื่อง

ความสัมพันธ์ ความระแวง ทิฐิ ศักดิ์ศรีที่มีต่อกัน

(16) ความต้องการได้ข้อมูล เพื่อเป็นประโยชน์ของคู่เจรจา ในการใช้ด าเนินคดี

(17) ความได้เปรียบด้านฐานะทางสังคม การเงิน อ านาจต่อรอง ของคู่เจรจา

(18) ปัญหาด้านการสื่อสารระหว่างคู่เจรจา เช่น ภาษา วัฒนธรรม ประเพณี

(19) ความร่วมมือช่วยเหลือของทนาย ในการชี้แจงท าความเข้าใจกับคู่ความ

(20) ความขัดแย้งกัน ระหว่างทนายของคู่เจรจา

(21) ฝ่ายบริหารของคู่เจรจาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือหลายฝ่าย ถูกปกปิดข้อมูลบางประการ หรือ ไม่ได้รับ

ข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วน ชัดเจน จากบุคลากรฝ่ายตนเอง อาจมีผลท าให้การตัดสินใจของฝ่าย

บริหารผิดพลาด

ใช้การพูดโน้มน้าว จูงใจ ในการเจรจาไกล่เกลี่ย

(1) พยายามเปลี่ยนความเชื่อ ทัศนคติ ค่านิยม ของคู่เจรจา เข้าหากัน ในทางที่จะเป็นประโยชน์ต่อ

การเจรจา

(2) ท าให้คู่เจรจาประจักษ์ว่า จะได้ผลตอบสนองความต้องการที่เกิดประโยชน์ต่อคู่เจรจาทุกฝ่าย

(3) ท าให้คู่เจรจาเกิดการยอมรับ และยอมเปลี่ยนแปลง

(4) แสดงให้เห็นด้วยเหตุผล ถึงความน่าเชื่อถือในตัวบุคคลผู้โน้มน้าวใจ

(5) แสดงให้เห็นถึงเหตุผล และคุณค่า ในสิ่งที่โน้มน้าวใจ

(6) แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกและอารมณ์ร่วม ในทางที่จะช่วยส่งเสริมการเจรจา

(7) แสดงให้เห็น ทั้งด้านดี และด้านเสีย ของทางเลือกแต่ละทาง เพื่อคู่เจรจาใช้ในการพิจารณา

ตัดสินใจ

(8) พยายามเปลี่ยนบรรยากาศในการเจรจา เพื่อความผ่อนคลาย ให้พร้อมที่จะคล้อยตาม เร้าให้เกิด

อารมณ์คล้อยตาม

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง

ฉบับประสบการณ์

ภาคที่ 2

ภาคปฏิบัติ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง



2-1 | คู่มือการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา

คู ่มือการจัดเตรียม

เอกสารประกวด

ราคา

TENDER DOCUMENTS

PREPARATION MANUAL

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


2-2 | คู่มือการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา

1. บทน า

เมื่อเริ่มโครงการ ในสัญญาก่อสร้างทั่วไป เจ้าของโครงการจะท าการออกแบบรายละเอียดโครงการ

โดยมีแบบ ข้อก าหนด และรายละเอียด แต่ในกรณีสัญญา อีพีซี เจ้าของโครงการจะก าหนด

รายละเอียด ข้อก าหนดความต้องการ และการออกแบบพื้นฐาน ฯลฯ (Employer’s

Requirement and Basic Design etc.) เพื่อให้ผู้รับจ้างออกแบบ จากนั้นจะท าการประกวด

ราคาเพื่อหาผู้รับจ้างท าการก่อสร้าง ในการประกวดราคาจ าเป็นต้องมีเอกสารเพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้

รับจ้างทราบว่ารายละเอียดโครงการเป็นอย่างไร คุณสมบัติของ ผู้เข้าประกวดราคาเป็นอย่างไร มี

เงื่อนไขในการจ้าง การจ่ายเงินเป็นอย่างไร ก าหนดการต่าง ๆ ในการประกวดราคา ระยะเวลาการ

ก่อสร้าง ฉะนั้นเอกสารประกวดราคาจึงมีความส าคัญ โดยต้องระบุรายละเอียดต่าง ๆ ให้ชัดเจน

เพื่อให้ผู้ประกวดราคาเสนอราคาได้ถูกต้อง เหมาะสม สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการตาม

เวลาที่ก าหนด

เอกสารประกวดราคาเป็นเอกสารแสดงข้อมูลให้ผู้รับจ้างทราบว่ารายละเอียดโครงการเป็นอย่างไร

คุณสมบัติของผู้เข้าประกวดราคาเป็นอย่างไร มีเงื่อนไขในการจ้าง การจ่ายเงินเป็นอย่างไร ก าหนดการ

ต่าง ๆ ในการประกวดราคา ระยะเวลาการก่อสร้าง ฉะนั้นเอกสารประกวดราคาจึงมีความส าคัญ โดย

ต้องระบุรายละเอียดต่าง ๆ ให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้ประกวดราคาเสนอราคาได้ถูกต้อง เหมาะสม สอดคล้อง

กับวัตถุประสงค์ของโครงการตามเวลาที่ก าหนด

ขั้นตอนในการจัดท าเอกสารการประกวดราคา

• การวางแผน

ขั้นตอนนี้คือการก าหนดคุณสมบัติของผู้เข้าประกวดราคา เพื่อตอบสนองความต้องการของ

โครงการ โดยค านึงถึงประสบการณ์ และทรัพยากร รวมถึงภารกิจและวิสัยทัศน์ของผู้เข้าประกวด

ราคา

• เตรียมการประกวดราคา

จัดท าเอกสารประกวดราคา เพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ของโครงการ

• การเสนอราคา

การประกวดราคาจะค านึงข้อเสนอทางเทคนิคเป็นหลัก และผู้เสนอราคาต ่าสุดมักได้รับการ

พิจารณาเป็นรายแรกก่อนเสมอ อย่างไรก็ตามผู้เสนอราคาต ่าสุด อาจมิใช่ผู้ประกวดราคาที่มีความ

เหมาะสม โดยจะต้องสามารถตอบสนองความต้องการของโครงการ ผ่านต้นทุนที่สามารถ

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าถูกต้อง ชัดเจน มีเหตุผลที่ยอมรับได้ และเป็นประโยชน์ส าหรับโครงการ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


• การยื่นข้อเสนอ

การยื่นข้อเสนอประกวดราคา มีหลายวิธี ได้แก่

❖ การยื่นซองข้อเสนอ

❖ การยื่นข้อเสนอแบบอิเล็คทรอนิกส์ ส าหรับงานราชการ

E-Auction (ปัจจุบันเลิกใช้แล้ว)

E-Bidding

2-3 | คู่มือการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา

• การประกาศผลผู้ชนะการประกวดราคา

การประกาศผลผู้ชนะการประกวดราคา มีข้อพิจารณาดังต่อไปนี้

❖ ทบทวนเอกสาร สัญญา เงื่อนไขต่าง ๆ

❖ ทบทวนระยะเวลาส่งมอบ

❖ การออกหนังสือ Letter of Intent, Letter of Acceptance ฯลฯ

2. องค์ประกอบของเอกสารประกวดราคา

เอกสารประกวดราคา ประกอบด้วยเอกสารต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

• จดหมายเชิญ

• ประกาศ

• ข้อก าหนดรายละเอียดของงาน (Terms of Reference: TOR)

• ค าแนะน าผู้เข้าประกวดราคา (Instructions to Bidders)

• ตัวอย่างสัญญา/ข้อตกลง (Contract/Agrrement)

• เงื่อนไขของสัญญา (Conditions of Contract: General and Particular)

• ข้อก าหนด (Specifications)

• แบบ (Drawings)

• ข้อก าหนดความต้องการของเจ้าของงาน /รายละเอียดเฉพาะ ( Employer’s

Requirement/Particular Requirement) ส าหรับสัญญา EPC

• ใบเสนอราคา/บัญชีแสดงปริมาณวัสดุและราคา (Price Schedule/ Bill of Quantities)

• แบบฟอร์มประกอบการเสนอราคาอื่น ๆ

• Letter of Intent, Letter of Acceptance/Letter of Award

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


2-4 | คู่มือการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา

2.1 ประกาศ

ประกาศเป็นเอกสารซึ่งเจ้าของงานประกาศแจ้งการประกวดราคาโครงการ แสดงรายะเอียด ขอบเขต

ของโครงการโดยสังเขป ระบุคุณสมบัติของผู้ที่สามารถเข้าประกวดราคาได้ ก าหนดการประกวดราคา

ต่าง ๆ สถานที่ติดต่อ

2.2 ข้อก าหนดขอบเขตของงาน (Terms of Reference: TOR)

ข้อก าหนดขอบเขตของงานจะกล่าวถึงความเป็นมาของโครงการ วัตถุประสงค์ คุณสมบัติของผู้

ประสงค์จะเสนอราคา เอกสารหลักฐานต่างๆ ประกอบการคัดเลือกผู้เสนอราคา แบบฟอร์มการเสนอ

ราคา ข้อมูลจ าเพาะทางเทคนิค รายละเอียดการยื่นข้อเสนอ รูปแบบรายการหรือคุณลักษณะเฉพาะ

หลักเกณฑ์การพิจารณาข้อเสนอ ระยะเวลาการด าเนินงานและส่งมอบงาน สถานที่ติดต่อสอบถาม

ข้อมูลเพิ่มเติม

การก าหนด TOR

1) ความหมายของ TOR

• TOR ย่อมาจาก Terms of Reference หมายถึง ขอบเขตรายละเอียดของงาน โดยมี

วัตถุประสงค์เพื่อ ประกาศหาผู้ขายหรือผู้รับจ้างตามกรรมวิธีต่าง ๆ ต่อไป

• เป็นเอกสารที่ก าหนดขอบเขตของงานและรายละเอียดของภารกิจที่ผู้จัดท า TOR

ต้องการให้ผู้ขายหรือผู้รับจ้างด าเนินการ รวมทั้งความรับผิดชอบอื่น ๆ ของผู้ขายหรือผู้

รับจ้างที่เกี่ยวข้องกับภารกิจนั้น รวมถึงข้อก าหนดที่ผู้ซื้อหรือผู้ว่าจ้างต้องการให้

ด าเนินการ ขั้นตอน วิธีการต่าง ๆ ระเบียบวิธีปฏิบัติ

2) ความส าคัญของ TOR

• ส าคัญต่อคุณภาพของผลงาน

• เป็นเอกสารอ้างอิงที่ใช้เป็นส่วนหนึ่งของสัญญา

3) ลักษณะของ TOR ที่ดี

• ระบุความจ าเป็นและลักษณะที่ต้องการน าไปใช้ประโยชน์ได้อย่างชัดเจน

• ระบุข้อความที่ไม่ก ากวม ตรวจสอบได้

• ไม่ระบุรายการที่เกินความจ าเป็น

• เป็นข้อก าหนด (Specifications) กลางของหน่วยงาน จะช่วยให้การจัดซื้อ จัดจ้างตรง

ตามวัตถุประสงค์การใช้งาน ประหยัด รวดเร็ว

4) หลักการก าหนดขอบเขตของงาน TOR

• มีความเปิดเผย โปร่งใส และเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันกันอย่างเป็นธรรม

• การก าหนดรายละเอียดหรือคุณลักษณะเฉพาะจะต้องไม่มีลักษณะกีดกันผู้ผลิตหรือ

ผู้ขายวัสดุรายอื่น ๆ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


• สินค้าและบริการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

2-5 | คู่มือการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา

• ก าหนดคุณสมบัติของผู้เข้าประกวดราคาอย่างชัดเจน

5) องค์ประกอบของขอบเขตของงาน TOR

• ความเป็นมา

• วัตถุประสงค์

• คุณสมบัติผู้เสนอราคา

• คุณลักษณะเฉพาะของพัสดุ (งานซื้อ) / รายการละเอียดของงาน (งานจ้าง)

• ระยะเวลาด าเนินการ และระยะเวลาส่งมอบของงานหรือโครงการ

• เงื่อนไขการช าระเงิน และวงเงินในการจัดหา

• ผู้รับผิดชอบโครงการ

2.3 ค าแนะน าผู้เข้าประกวดราคา (Instructions to Bidders)

ค าแนะน าผู้เข้าประกวดราคาประกอบด้วยรายละเอียดของเอกสารโครงการว่าประกอบด้วยอะไรบ้าง

คุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอ เอกสารหลักฐานต่าง ๆ ข้อมูลจ าเพาะทางเทคนิค หลักฐานการยื่น

ข้อเสนอ รายละเอียดการเสนอราคา หลักประกันการเสนอราคา หลักเกณฑ์และสิทธิในการพิจารณา

การท าสัญญาจ้างก่อสร้าง ค่าจ้างและการจ่ายเงิน อัตราค่าปรับ กรณีท างานไม่แล้วเสร็จตามสัญญา

การรับประกันความช ารุดบกพร่อง การจ่ายเงินล่วงหน้า การหักเงินประกันผลงาน ข้อสงวนสิทธิ์ใน

การยื่นข้อเสนอและอื่นๆ การปรับราคาค่างานก่อสร้าง มาตรฐานฝีมือช่าง การปฏิบัติตามกฎหมาย

และระเบียบ การประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้ประกอบการ

2.4 ตัวอย่างสัญญาข้อตกลง (Contract Agreement)

เจ้าของโครงการหรือเจ้าของงานจะต้องแนบตัวอย่างสัญญาก่อสร้างที่จะใช้บังคับ ผูกพันผู้ที่เกี่ยวข้อง

ไปด้วยเพื่อเป็นแนวทางให้ผู้ที่จะเข้าประกวดราคาได้ทราบว่าเป็นสัญญาประเภทใด มีส่วนใดที่ยังสงสัย

ต้องการค าอธิบายเพิ่มเติมเป็นต้น ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะต้องเข้าใจตรงกัน ประกอบด้วยสาระส าคัญ ดังนี้

วันที่ และสถานที่ท าสัญญา

ชื่อ และ ที่อยู่ของคู่สัญญา

ข้อตกลงจ้างและรับจ้าง เงื่อนไขที่ส าคัญ

ส่วนส าหรับลงลายมือชื่อของคู่สัญญา

สรุปสั้น ๆ คือ ท าอะไร ที่ไหน เมื่อไร เสร็จเมื่อไร เป็นเงินเท่าใด และลงนาม

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


2-6 | คู่มือการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา

ตัวอย่างสัญญาจ้าง

ท ำที่ .......................................

วันที่ .......................................

สัญญำฉบับนี้ท ำขึ้นระหว่ำง .......................................... ตั้งส ำนักงำนอยู่ที่

......................................................................................................ซึ่งต่อไปในสัญญำนี้เริยกว่ำ "ผู้ว่าจ้าง

" ฝ่ำยหนึ่ง กับ .......................................................................... ตั้งส ำนักงำนอยู่เลขที่ ……….. ซอย

………………………………………….. ถนน ........................................ แขวง...................................................

เขต........................................... จังหวัด................... ซึ่งต่อไปในสัญญำนี้เริยกว่ำ "ผู้รับจ้ำง" อีกฝ่ำยหนึ่ง

โดยมีข้อตกลงกันดังต่อไปนี้:-

ข้อ 1. ผู้ว่าจ้าง ตกลงจ้ำงผู้รับจ้ำงและผู้รับจ้ำงตกลงรับจ้ำงเพื่อมุ่งควำมส ำเร็จในงำน

ซึ่งต่อไปในสัญญำนี้เริยกว่ำ "งำน" ให้ถูกต้องตำมแบบรูป และรำยกำรละเอียดที่แนบท้ำยสัญญำ

ทุกประกำร รวมเป็นเงินค่ำจ้ำงทั้งสิ้น .................บำท (...................................................................)

รำคำนี้ไม่รวมภำษีมูลค่ำเพิ่ม (ถ้ำมี)

ข้อ 2. ผู้รับจ้ำงสัญญำว่ำจะจัดหำสิ่งของชนิดดี ใช้เครื่องมือดี และช่างฝีมือดี

เพื่อประกอบกำรท ำงำนตำมสัญญำนี้จนแล้วเสร็จ

ผู้รับจ้ำง และบุคลำกรของผู้รับจ้ำง ไม่อยู่ภำยใต้กำรบังคับบัญชำของผู้ว่าจ้าง และ

ผู้ว่าจ้าง ไม่มีอ ำนำจในกำรลงโทษทำงวินัยผู้รับจ้ำง และบุคลำกรของผู้รับจ้ำงไม่ต้อง

อยู่ภำยใต้ระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับกำรท ำงำนของผู้ว่าจ้าง ผู้รับจ้ำงกับผู้ว่าจ้าง ไม่มีสถำนภำพ

ในกำรเป็นลูกจ้ำงกับนำยจ้ำง แต่มีสถำนภำพเป็นผู้รับจ้ำงกับผู้ว่ำจ้ำง มีควำมผูกพันในกำรจ้ำง

เพื่อมุ่งควำมส ำเร็จ ซึ่งเป็นกำรจ้ำงท ำของไม่อยู่ภำยใต้กำรบังคับตำมกฎหมำยแรงงำนทุกฉบับ

เนื่องจำกมิใช่เป็นกำรจ้ำงแรงงำน

ข้อ 3. ในวันท ำสัญญำนี้ผู้รับจ้ำงได้น ำหลักประกันเป็น..............................

เป็นจ ำนวนร้อยละ .............ของรำคำค่ำจ้ำงตำมสัญญำนี้ มำมอบไว้แก่ผู้ว่าจ้าง

เพื่อเป็นประกันกำรปฏิบัติตำมสัญญำ หลักประกันดังกล่ำว มีอำยุประกัน ...................

นับตั้งแต่วันที่สัญญำฉบับนี้มีผลบังคับใช้ หรือตั้งแต่วันที่ผู้รับจ้ำงเริ่มท ำงำนไปจนกว่ำผู้รับจ้ำงจะพ้น

ควำมรับผิดชอบตำมสัญญำนี้ (กรณีหลักประกันเป็นเงินสด หรือ หลักประกันประเภทอื่นที่ผู้ว่าจ้าง

ก ำหนด) และหรือตำมระยะเวลำที่ระบุในหนังสือสัญญำค ้ำประกัน (กรณีหลักประกันเป็น

หนังสือสัญญำค ้ำประกัน) และถ้ำก ำหนดเวลำควำมรับผิดชอบของผู้รับจ้ำงตำมสัญญำต้องยืด

ออกไปด้วยเหตุใด ๆ ก็ตำม ผู้รับจ้ำงต้องน ำหลักประกันมำมอบไว้แก่ผู้ว่าจ้าง ให้มีอำยุ

กำรประกันให้ครบควำมรับผิดตำมสัญญำต่อไป

หลักประกันที่ผู้รับจ้ำงน ำมำมอบไว้ตำมวรรคหนึ่ง ผู้ว่าจ้างจะคืนให้เมื่อผู้รับจ้ำง

พ้นจำกข้อผูกพันตำมสัญญำนี้แล้ว โดยไม่มีดอกเบี้ยหรือผลประโยชน์ตอบแทนใด ๆ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


2-7 | คู่มือการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา

ในกรณีที่ผู้รับจ้ำงได้ผิดนัด ผิดสัญญำ และหรือปฏิบัติผิดเงื่อนไขในสัญญำที่ท ำไว้กับ

ผู้ว่าจ้าง ท ำให้ผู้ว่าจ้างมีสิทธิริบหลักประกัน และหรือเรียกค่ำปรับ ดอกเบี้ย ค่ำเสียหำย และหรือ

ค่ำทดแทนใด ๆ จำกผู้รับจ้ำง และผู้ค ้ำประกันตำมเงื่อนไขที่ก ำหนดในสัญญำนี้ และสัญญำค ้ำประกัน

ซึ่งได้วำงเป็นประกันกำรปฏิบัติตำมสัญญำนี้ ผู้ว่าจ้างจะมีหนังสือแจ้งหรือบอกกล่ำว

ให้ผู้ค ้ำประกันทรำบถึงเหตุอันเป็นกำรผิดนัด ผิดสัญญำ และหรือกำรปฏิบัติผิดเงื่อนไข ในสัญญำ

กรณีดังกล่ำวของผู้รับจ้ำง ภำยในก ำหนด 60 วันนับแต่วันที่ผู้รับจ้ำงได้ผิดนัด ผิดสัญญำ

และหรือปฏิบัติผิดเงื่อนไขในสัญญำที่ท ำไว้กับผู้ว่าจ้าง และนับตั้งแต่วันที่ผู้ว่าจ้างมีหนังสือแจ้ง

หรือบอกกล่ำวไปยังผู้ค ้ำประกันดังกล่ำวแล้ว ผู้ว่าจ้างสงวนสิทธิในกำรใช้สิทธิเรียกร้องและหรือ

สิทธิริบหลักประกันจำกผู้ค ้ำประกันโดยผู้ค ้ำประกันต้องรับผิดชอบในหนี้ที่เกิดขึ้นทั้งหมด

รวมถึงค่ำปรับ ดอกเบี้ย ค่ำเสียหำยและหรือค่ำสินไหมทดแทน ตลอดจนค่ำภำระติดพัน อันเป็น

อุปกรณ์แห่งหนี้ที่ค ้ำประกัน ตำมเงื่อนไขในสัญญำค ้ำประกันทั้งสิ้น

ข้อ 4. ผู้ว่าจ้าง ตกลงจ่ำยค่ำจ้ำงและผู้รับจ้ำงตกลงรับค่ำจ้ำงเป็นเงิน ....................

บำท (...........................................................................) เมื่อผู้ว่าจ้างตรวจรับและรับมอบงำนที่ส่งมอบ

ไม่ว่ำจะเป็นงวดเดียว หรือหลำยงวด ถูกต้อง ครบถ้วนตำมสัญญำแล้ว ผู้ว่าจ้างจะออกใบตรวจ

รับงำนให้ผู้รับจ้ำงไว้เป็นหลักฐำน เพื่อผู้รับจ้ำงน ำมำเป็นหลักฐำนในกำรขอรับช ำระหนี้

กำรรับมอบงำนจะมีผลสมบูรณ์ตำมสัญญำนี้ต่อเมื่อผู้ว่าจ้างได้ตรวจรับ

และรับมอบงำนแล้ว

กำรจ่ำยเงินค่ำจ้ำงดังที่ระบุไว้ข้ำงด้น ผู้ว่าจ้างจะจ่ำยเงินค่ำจ้ำงให้แก่ผู้รับจ้ำง เมื่อ

ผู้ว่าจ้าง ได้รับมอบงำนในแต่ละงวดหรือรับมอบงำนทั้งหมดตำมสัญญำ (ในกรณีจ่ำย

ค่ำจ้ำงเป็นงวดเดียว) โดยจ่ำยให้เมื่อครบ 30 วัน นับถัดจำกวันที่ผู้ว่าจ้างรับมอบงำน (งวดเดียว

หรือแต่ละงวด) ทั้งนี้ผู้รับจ้ำงจะต้องยื่นหลักฐำนกำรขอรับช ำระหนี้ต่อผู้ว่าจ้าง ภำยใน 15 วัน

นับถัดจำกวันที่ผู้ว่าจ้างรับมอบงำน (งวดเดียวหรือแต่ละงวด) ถ้าผู้รับจ้ำงยื่นหลักฐำน

กำรขอรับช ำระหนี้เกินกว่ำที่ก ำหนดไว้เป็นระยะเวลำเท่ำใด ก ำหนดวันจ่ำยค่ำจ้ำงยืดออกไปเท่ำกับ

วันที่ผู้รับจ้ำงยื่นหลักฐำนกำรขอรับช ำระหนี้เกินก ำหนดเช่นกัน

ในกรณีที่ผู้รับจ้ำงท ำงำนแล้วเสร็จก่อนหรือส่งมอบงำนตำมงวดก่อนที่

คู่สัญญำทั้งสองฝ่ำยได้ลงนำมในสัญญำนี้ครบถ้วน หรือในกรณีที่สัญญำนี้มีผลบังคับย้อนหลัง ให้บรรดำ

ใบแจ้งหนี้ที่ผู้รับจ้ำงยื่นต่อผู้ว่าจ้าง เพื่อขอรับช ำระหนี้ มีผลบังคับใช้นับถัดจำกวันที่คู่สัญญำ

ทั้งสองฝ่ำยได้ลงลำยมือชื่อครบถ้วนในสัญญำนี้ เป็นเวลำ 15 วัน โดย ผู้ว่าจ้างจะจ่ำยค่ำจ้ำง

ให้แก่ผู้รับจ้ำงภำยใน 30 วัน นับถัดจำกวันที่ใบแจ้งหนี้มีผลบังคับใช้ และผู้ว่าจ้างได้รับมอบงำน

ถูกต้องสมบูรณ์แล้วไม่ว่ำจะเป็นกำรส่งมอบครั้งเดียวหรือหลำยครั้งก็ตำม

ข้อ 5. ผู้รับจ้ำงสัญญำว่ำจะท ำงำนให้แล้วเสร็จและส่งมอบงำนให้แก่ผู้ว่าจ้าง

ณ ............................. ภายใน .......................................... ถ้ามีเหตุให้ผู้ว่าจ้าง

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


2-8 | คู่มือการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา

เชื่อได้ว่ำผู้รับจ้ำงไม่สำมำรถท ำงำนให้แล้วเสร็จบริบูรณ์ภำยในก ำหนดเวลำก็ดี หรือล่วงก ำหนดเวลำ

แล้วเสร็จบริบูรณ์ไปแล้วก็ดี หรือผู้รับจ้ำงท ำผิดสัญญำข้อหนึ่งข้อใดก็ดี ผู้ว่าจ้างมีสิทธิจะบอกเลิก

สัญญำได้และมีสิทธิจ้ำงผู้อื่นท ำงำนนี้ต่อจำกผู้รับจ้ำงได้ด้วย

กำรที่ผู้ว่าจ้างไม่บอกเลิกสัญญำตำมควำมในวรรคหนึ่งนั้น ไม่เป็นเหตุให้ผู้รับจ้ำง

พ้นจำกควำมรับผิดตำมสัญญำนี้

กำรส่งมอบงำนตำมสัญญำนี้ไม่ว่ำจะเป็นกำรส่งมอบเพียงครั้งเดียวหรือส่งมอบหลำย

ครั้ง ผู้รับจ้ำงจะต้องแจ้งก ำหนดเวลำส่งมอบแต่ละครั้งโดยท ำเป็นหนังสือน ำไปอื่นต่อผู้ว่าจ้าง ณ

.......................... ในเวลำรำชกำรก่อนวันส่งมอบไม่น้อยกว่ำ 3 วันท ำกำร

ข้อ 6. เมื่องำนแล้วเสร็จเรียบร้อย และ ผู้ว่าจ้างได้รับมอบงำนจำกผู้รับจ้ำง

หรือจำกผู้รับจ้ำงรายใหม่ (กรณีผู้รับจ้ำงผิดสัญญำและ ผู้ว่าจ้างใช้สิทธิเลิกสัญญำตำมข้อ 5) ถ้า

มีเหตุช ำรุดเสียหำยเกิดขึ้นแก่งำนนี้ ภำยในก ำหนด ........................นับตั้งแต่วันที่ได้รับมอบงำน

โดยให้นับวันที่ได้รับมอบงำนเป็นวันเริ่มต้น ซึ่งเหตุช ำรุดเสียหำยนั้นเกิดจำกควำมบกพร่อง

ของผู้รับจ้ำงจะเป็นโดยท ำไว้ไม่เรียบร้อยหรือใช้สิ่งของที่ไม่ดีหรือท ำไม่ถูกต้องตำมหลักวิชำก็ตำม

ผู้รับจ้ำงต้องรีบท ำกำรแก้ไขให้เรียบร้อยภำยในระยะเวลำที่ผู้ว่าจ้างจะก ำหนดโดยไม่คิดเอำค่ำสิ่งของ

ค่ำแรงงำน หรือค่ำใช้จ่ำยอื่นใดจำกผู้ว่าจ้างอีก ถ้าผู้รับจ้ำงบิดพลิ้วไม่แก้ไขซ่อมแซม ภำยในก ำหนด

............. วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งเป็นหนังสือจำกผู้ว่าจ้าง โดยให้นับวันที่ได้รับแจ้งเป็นวันเริ่มต้น

หรือแก้ไขซ่อมแซมไม่แล้วเสร็จภำยในเวลำที่ผู้ว่าจ้างก ำหนด ผู้ว่าจ้างมีสิทธิจ้ำงผู้อื่น ให้ท ำงำนนั้น

แทนผู้รับจ้ำงได้

ในกรณีที่ผู้ว่าจ้างใช้สิทธิจ้ำงผู้อื่นท ำงำนแทนผู้รับจ้ำงตำมสัญญำข้อ 5 และข้อ 6

วรรคหนึ่ง ผู้รับจ้ำงยอมจ่ำยเงินค่ำจ้ำง ค่ำสิ่งของและค่ำใช้จ่ำยอื่นใด (ถ้ามี) ตำมจ ำนวนที่ผู้ว่าจ้าง

ต้องเสียไปโดยสิ้นเชิง ให้แก่ผู้ว่าจ้าง ภำยใน 7 วัน นับตั้งแต่ผู้รับจ้ำงได้รับแจ้งจำกผู้ว่าจ้าง

และผู้รับจ้ำงยังคงต้องรับผิดชอบตำมสัญญำ ข้อ 10 เสมือนหนึ่งงำนที่ผู้รับจ้ำงรายใหม่ท ำนั้น

เป็นงำนของตน

ข้อ 7. สัญญำนี้มีแบบรูปและรำยกำรละเอียดดังต่อไปนี้.-

7.1 แบบรูป จ ำนวน ....... แผ่น

7.2 รำยกำรละเอียด จ ำนวน ...... แผ่น

และให้ถือว่ำแบบรูปและรำยกำรละเอียดดังกล่ำวเป็นส่วนหนึ่งของสัญญำนี้

ข้อ 8. ผู้รับจ้ำงสัญญำว่ำจะไม่ท ำงำนนี้โดยไม่มีแบบรูป และรำยกำรละเอียดที่

ถูกต้องเป็นอันขำด ทั้งจะรักษำแบบรูปและรำยกำรละเอียดนี้ไว้ ณ สถำนที่ท ำงำนให้เรียบร้อย

และโดยเปิดเผยเพื่อให้ผู้ว่าจ้าง หรือกรรมกำรตรวจกำรจ้ำงตรวจดูได้ทุกเวลำ

ข้อ 9. ผู้รับจ้ำงให้สัญญำว่ำจะไม่ท ำกำรจ ำหน่ำยจ่ำยโอนสิทธิซึ่งสัญญำนี้

และหรือสิทธิ และหรือหน้ำที่ใดที่เกี่ยวข้องและหรือเกิดขึ้นจำกสัญญำนี้ให้กับบุคคลอื่นใดไม่ว่ำ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


2-9 | คู่มือการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา

โดยวิธีใด ๆ เว้นแต่จะได้รับควำมยินยอมเป็นลำยลักษณ์อักษรจำกผู้ว่าจ้างก่อน

ผู้รับจ้ำงสัญญำว่ำจะไม่เอำงำนทั้งหมดหรือส่วนใดส่วนหนึ่งแห่งสัญญำนี้

ไปให้ผู้อื่นรับจ้ำงช่วงอีกทอดหนึ่งโดยมิได้รับอนุญำตเป็นหนังสือจำกผู้ว่าจ้าง แต่ทั้งนี้ผู้รับจ้ำง

ยังต้องรับผิดชอบงำนที่ให้ช่วงไปนั้นทุกประกำร

ข้อ 10. ผู้รับจ้ำงจะต้องรับผิดชอบต่ออุปัทวเหตุหรือภยันตรำยควำมเสียหำยใด ๆ

ที่เกิดขึ้นจำกกำรท ำงำน และต้องรับผิดชอบในเหตุเสียหำยอันเกิดแก่ทรัพย์สินของผู้ว่าจ้าง

หรือของบุคคลภำยนอกที่ เกิดขึ้นจำกกำรท ำงำนของผู้รับจ้ำงเองหรือจำกกำรกระท ำของคนงำน ช่ำง

หรือบริวำรของผู้รับจ้ำง

ข้อ 11. ก่อนหรือระหว่ำงท ำงำนอยู่ ถ้าปรากฏว่าแบบรูป หรือรำยกำรละเอียด

แนบท้ำยสัญญำ นี้คลำดเคลื่อนผิดไปอย่ำงหนึ่งอย่ำงใด ผู้รับจ้ำงสัญญำว่ำจะปฏิบัติตำมค ำวินิจฉัยของ

คณะกรรมการตรวจการจ้างและถ้าค าวินิจฉัยนี้ถูกต้องกับรายการอันใดอันหนึ่งที่ปรากฏใน

แบบรูปแล้ว ผู้รับจ้ำงต้องถือว่ำเป็นอันเด็ดขำด ถ้ำรำยกำรอันหนึ่งอันใดมิได้ระบุไว้ในรำยกำรละเอียด

แต่เป็นกำรจ ำเป็นต้องท ำเพื่อให้งำนแล้วเสร็จบริบูรณ์ถูกต้องตำมแบบรูป ผู้รับจ้ำงสัญญำว่ำจะจัด

ท ำกำรนั้น ๆ ให้โดยไม่คิดค่ำใช้จ่ำยใด ๆ เพิ่มเติม ทั้งนี้รำยกำรที่คลำดเคลื่อน หรือมิได้ระบุไว้ดังกล่ำว

จะต้องมิใช่ส่วนที่เป็นสำระส ำคัญ

ข้อ 12. ผู้ว่าจ้างมีสิทธิที่จะท ำกำรแก้ไข หรือเพิ่มเติม หรือลดงำนจำกแบบรูป และ

รำยกำรละเอียดตำมสัญญำได้ทุกอย่ำงโดยไม่ต้องเลิกสัญญำนี้ กำรเพิ่มเติมหรือลดงำน จะต้องตกลง

กันใหม่ และถ้ำต้องเพิ่มหรือลดเงินหรือยืดเวลำออกไปอีกก็จะได้ตกลงเป็นแต่ละครั้งไป

ข้อ 13. ถ้ำผู้รับจ้ำงส่งมอบงำนล่ำช้ำกว่ำวันแล้วเสร็จตำมสัญญำ แต่ผู้ว่าจ้าง

ยังมิได้บอกเลิกสัญญำ ผู้รับจ้ำงยอมให้ผู้ว่าจ้างด ำเนินกำรดังต่อไปนี้คือ

13.1 ปรับผู้รับจ้ำงเป็นรำยวัน ในอัตรำร้อยละ 0.1 ของรำคำค่ำจ้ำงงำนที่

ผู้ว่าจ้างยังไม่ไต้รับมอบ นับตั้งแต่วันที่ล่วงเลยก ำหนดวันแล้วเสร็จตำมสัญญำ จนถึงวันที่ผู้รับจ้ำงส่ง

มอบงำนและผู้ว่าจ้างรับมอบงำน แต่หำกงำนรำยกำรที่ส่งล่ำช้ำนั้นต้องใช้ควบคู่หรือเป็นส่วนประกอบ

อันจ ำเป็นซึ่งกันและกันกับงำนในรำยกำรอื่นที่ผู้ว่าจ้างได้รับมอบไว้แล้ว กำรปรับจะคิดจำกรำคำรวม

ของงำนที่ต้องใช้ร่วมกันนั้น

13.2 เรียกค่าเสียหำยอันเกิดขึ้นจำกกำรที่ผู้รับจ้ำงท ำงำนล่ำช้ำ (ถ้ำมี)

13.3 เรียกค่ำใช้จ่ำยในกำรควบคุมงำนในเมื่อผู้ว่าจ้างต้องจ้ำงผู้ควบคุม

งำนนั้นอีกต่อหนึ่ง นับตั้งแต่วันที่ล่วงเลยก ำหนดวันแล้วเสร็จตำมสัญญำ จนถึงวันที่ผู้รับจ้ำงส่งมอบงำน

และผู้ว่าจ้างรับมอบงำน โดยคิดเป็นรำยวันตำมที่ผู้ว่าจ้างจ่ำยจริง

นอกเหนือจำกกำรปรับแล้ว ในกรณีที่ผู้ว่าจ้าง มีเหตุเชื่อได้ว่ำผู้รับจ้ำงจะไม่สำมำรถ

ปฏิบัติให้ถูกต้องครบถ้วนตำมสัญญำได้ ผู้ว่าจ้างสงวนสิทธิที่จะเลิกสัญญำและใช้สิทธิตำมสัญญำข้อ

13.2 นอกเหนือจำกกำรปรับจนถึงวันบอกเลิกสัญญำด้วย

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


2-10 | คู่มือการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา

ข้อ 14. ถ้าผู้ว่าจ้างบอกเลิกสัญญำแล้ว ผู้รับจ้ำงยอมให้ผู้ว่าจ้างด ำเนินกำร

ดังต่อไปนี้.-

14.1 ริบหลักประกันสัญญำดังกล่ำวในสัญญำข้อ 3

14.2 ยินยอมให้ ผู้ว่าจ้างเรียกเอำค่ำจ้ำงที่เพิ่มขึ้น เพรำะจ้ำงบุคคลอื่น

ท ำงำนนี้ต่อไปจนงำนแล้วเสร็จ

14.3 เรียกค่าเสียหำยอันพึงมีจำกผู้รับจ้ำง

ข้อ 15. เมื่อผู้ว่าจ้างบอกเลิกสัญญำแล้ว บรรดำงำนที่ผู้รับจ้ำงได้ท ำขึ้นโดยเฉพำะ

เพื่องำนดังกล่ำว ผู้รับจ้ำงยอมให้ตกเป็นกรรมสิทธิของผู้ว่าจ้าง โดยผู้รับจ้ำงจะเรียกร้องค่ำตอบแทน

และค่ำเสียหำยใด ๆ ไม่ได้เลย และผู้รับจ้ำงยอมให้ผู้ว่าจ้างมีสิทธิระงับกำรจ่ำยค่ำจ้ำงที่ค้าง

ช ำระส ำหรับงำนที่ท ำไปแล้วเพื่อเป็นประกันกำรช ำระหนี้

ในกรณีที่ต้องจ้ำงบุคคลอื่นท ำงำนที่ค้างอยู่ให้แล้วเสร็จบริบูรณ์ หากปรากฏว่า

เงินค่ำงำนที่เหลือจ่ำยไม่พอส ำหรับกำรท ำงำนรำยนี้เป็นจ ำนวนเท่ำใด ผู้รับจ้ำงยอมให้ผู้ว่าจ้างหักเงิน

จ ำนวนนั้นจำกค่ำจ้ำงค้างช ำระตำมวรรคหนึ่งและยอมรับผิดชดใช้เงินจ ำนวนที่ยังขำดอยู่นั้นจน

ครบถ้วน

หำกเงินค่ำจ้ำงตำมสัญญำที่หักไว้จ่ำยเป็นค่ำปรับและค่ำเสียหำยแล้วยังเหลืออยู่

เท่ำใด ผู้ว่าจ้างจะคืนให้แก่ผู้รับจ้ำงทั้งหมด

ข้อ 16. ในกรณีที่คู่สัญญำฝ่ำยหนึ่งฝ่ำยใดไม่สำมำรถปฏิบัติตำมสัญญำ อันเนื่องมำ

จำกเหตุสุดวิสัย จะถือว่ำคู่สัญญำฝ่ำยนั้นผิดสัญญำไม่ได้

ข้อ 17. สัญญำฉบับนี้ให้มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ ............ เดือน .................... พ.ศ ..........

ข้อ 18. ถ้าวัสดุอุปกรณ์หรือสิ่งของใด ๆ ที่ผู้รับจ้ำงน ำมำเพื่อประกอบหรือผลิต

หรือเป็นของส ำหรับใช้สอย หรืออ ำนวยควำมสะดวกแก่กำรท ำงำนจะต้องสั่ง หรือน ำเข้ำมำจำก

ต่ำงประเทศ และสิ่งของต่ำง ๆ ดังกล่ำวข้ำงต้นนั้น ต้องน ำเข้ำมำโดยทำงเรือในเส้นทำงที่มีเรือไทย

หรือเรือที่มีสิทธิเช่นเดียวกับเรือไทยเดินอยู่และสำมำรถให้บริกำรรับขนได้ตำมที่รัฐมนตรีว่ำกำร

กระทรวงคมนำคมประกำศก ำหนด ผู้รับจ้ำงต้องจัดกำรให้สิ่งของต่ำง ๆ ดังกล่ำวข้ำงต้นบรรทุก

โดยเรือไทย หรือเรือที่มีสิทธิเช่นเดียวกับเรือไทยจำกต่ำงประเทศมำยังประเทศไทย เว้นแต่จะ

ได้รับอนุญำตจำกกรมเจ้ำท่ำก่อนบรรทุกสิ่งของต่ำง ๆ ดังกล่ำวข้ำงต้น ลงเรืออื่นที่มิใช่เรือไทย

หรือเรือที่มีสิทธิเช่นเดียวกับเรือไทย หรือสิ่งของดังกล่ำวข้ำงต้น ได้รับกำรยกเว้นโดยประกำศ

ของรัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงคมนำคม ให้บรรทุกโดยเรืออื่นได้ ทั้งนี้ไม่ว่ำกำรสั่งสิ่งของดังกล่ำวข้ำงต้น

จำกต่ำงประเทศจะเป็นแบบเอฟ.โอ.บี., ซี แอนด์ เอฟ หรือซี.ไอ.เอฟ.

ข้อ 19. ในกำรส่งมอบงำนให้แก่ผู้ว่าจ้าง ผู้รับจ้ำงจะต้องส่งมอบใบตรำส่ง (Bill of

Lading) หรือส ำเนำใบตรำส่งส ำหรับสิ่งของต่ำง ๆ ดังที่ระบุไว้ในสัญญำข้อ 18 ซึ่งแสดงว่ำได้บรรทุก

มำโดยเรือไทย หรือเรือที่มีสิทธิเช่นเดียวกับเรือไทยให้แก่ผู้ว่าจ้างพร้อมกับกำรส่งมอบงำนด้วย

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


2-11 | คู่มือการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา

ในกรณีที่สิ่งของดังกล่ำวในสัญญำข้อ 18 ไม่ได้บรรทุกจำกต่ำงประเทศ มำยัง

ประเทศไทยโดยเรือไทย หรือเรือที่มีสิทธิเช่นเดียวกับเรือไทย ผู้รับจ้ำงต้องส่งมอบหลักฐำนแสดงว่ำ

ได้รับอนุญำตจำกกรมเจ้ำท่ำให้บรรทุกโดยเรืออื่นได้หรือหลักฐำนซึ่งแสดงว่ำได้ช ำระค่ำธรรมเนียม

พิเศษเนื่องจำกกำรไม่บรรทุกสิ่งของดังกล่ำวโดยเรือไทย หรือเรือที่มีลิทธิเช่นเดียวกับเรือไทยตำม

กฎหมำยว่ำด้วยกำรส่งเสริมกำรพำณิชยนำวีแล้วอย่ำงใดอย่ำงหนึ่งให้แก่ผู้ว่าจ้างด้วย

ในกรณีที่ผู้รับจ้ำงไม่ส่งมอบหลักฐำนอย่ำงใดอย่ำงหนึ่งดังกล่ำว ในสองวรรคข้ำงต้นให้แก่ผู้ว่าจ้าง

แต่อำจส่งมอบงำนให้ผู้ว่าจ้างก่อนโดยยังไม่รับช ำระค่ำจ้ำง ผู้ว่าจ้างมีสิทธิรับมอบงำนดังกล่ำวไว้ก่อน

และจะช ำระเงินค่ำงำนให้แก่ผู้รับจ้ำงเมื่อผู้รับจ้ำงได้ปฏิบัติถูกต้องครบถ้วนดังกล่ำวแล้ว

สัญญำนี้ท ำขึ้นสองฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกัน คู่สัญญำได้อ่ำนเข้ำใจข้อควำม

โดยละเอียดตลอดแล้ว จึงได้ลงลำยมือชื่อพร้อมทั้งประทับตรำ (ถ้ามี) ไว้เป็นส ำคัญต่อหน้ำพยำนและ

เก็บไว้ฝ่ำยละฉบับ

…………………………………………. (ผู้ว่าจ้าง) ………………………………………. (ผู้รับจ้าง)

โดย ...................................................... โดย ......................................................

พยาน ................................................. พยาน .................................................

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


2-12 | คู่มือการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา

2.5 เงื่อนไขของสัญญา (Conditions of Contract)

เงื่อนไขของสัญญาประกอบด้วย เงื่อนไขทั่วไปของสัญญา และเงื่อนไขเฉพาะ

1) เงื่อนไขทั่วไป (General Conditions) เป็นเอกสารที่เป็นส่วนหนึ่งของเอกสารสัญญา เป็นส่วนที่

ระบุความรับผิดชอบพันธะหน้าที่และสิทธิของคู่สัญญา ตลอดจนระบุรายละเอียดของเงื่อนไขต่าง ๆ ที่

บังคับใช้ในงานตามสัญญา นอกจากนี้ยังต้องระบุหน้าที่ความรับผิดชอบของวิศวกรที่ปรึกษา (หรือผู้

ควบคุมงานหรือผู้บริหารโครงการแล้วแต่กรณี) อาจกล่าวได้ว่าเงื่อนไขแห่งสัญญาเป็นเครื่องมือการ

บริหารความเสี่ยงอย่างหนึ่งของผู้ร่างสัญญา

เงื่อนไขของสัญญาโดยทั่วไปจะประกอบด้วย รายละเอียดต่าง ๆ 10 เงื่อนไขหลัก ดังต่อไปนี้

1. เงื่อนไขว่าด้วยเรื่องทั่วไป (General Provisions) เช่น บทนิยาม การตีความ ภาษา กฎหมายที่ใช้

ชิ้นงานที่มอบหมาย ส่วนที่เป็นความลับ ความรับผิดร่วม ข้อจ ากัดความรับผิด เป็นต้น

2. เงื่อนไขว่าด้วยผู้ว่าจ้าง วิศวกร ผู้รับจ้างช่วง และงานออกแบบ ( Employer, Engineer,

Contractor, and Design) ซึ่งจะระบุถึงสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบของผู้มีบทบาทหลักใน

สัญญา ข้อตกลงเกี่ยวกับทีมงาน นิติสัมพันธ์ในสัญญา การจัดการทางการเงินระหว่างกัน การเข้า

ไซต์งาน การก าหนดตัวผู้แทนวิศวกร การเปลี่ยนตัววิศวกรผู้รับผิดชอบ ข้อก าหนดการด าเนินงาน

ของวิศวกร การประชุม การรายงานความคืบหน้า ความปลอดภัยของไซต์งาน การน าข้อมูลจาก

ไซต์งานไปใช้ การท าสัญญากับผู้รับจ้างช่วง เป็นต้น

3. เงื่อนไขว่าด้วยคนงาน แรงงาน โรงงาน เครื่องจักร เครื่องมือ และอุปกรณ์ (Staff, Labour, Plant,

Materials, and Workmanship) ซึ่งเกี่ยวกับสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบของผู้มีส่วน

เกี่ยวข้องในลักษณะดังกล่าว ค่าจ้าง การว่าจ้าง ชั่วโมงการท างาน สาธารณูปโภคและสวัสดิการ

สถานที่ สุขภาพและความปลอดภัย การบันทึกการเข้างาน ความเป็นเจ้าของของวัสดุอุปกรณ์ การ

เข้าตรวจสอบงาน เป็นต้น

4. เงื่อนไขว่าด้วยการเริ่มงาน ความล่าช้าของงาน การระงับชั่วคราวหรือยืดระยะเวลาของงาน

ข้อผิดพลาด/ข้อบกพร่อง การทดสอบเมื่อเสร็จงานและหลังเสร็จงาน (Commencement,

Delays, Suspension, Defects, and Completion) ซึ่งรวมถึงการวางแผนงานโครงการ

ระยะเวลา การเตือน การท างานล่าช้า ค่าเสียหายจากความล่าช้า ค่าใช้จ่ายอื่นเกี่ยวกับวัสดุ

อุปกรณ์และสถานที่เมื่อเกิดท างานล่าช้าหรือการชะลองาน การชะลองานโดยผู้ว่าจ้าง การทดสอบ

ทั้งเมื่อเสร็จงานและหลังเสร็จงาน เกณฑ์การผ่านหรือตกในการทดสอบ

5. เงื่อนไขว่าด้วยการวัดและประเมินผลงาน การปรับเปลี่ยนงาน ราคา และการช าระราคา

( Measurement and Evaluation, Variations and Adjustments, Contract Price and

Payment) ซึ่งรวมถึงเนื้องานหรือชิ้นงานที่จะต้องงถูกประเมิน วิธีการประเมิน การละเลยหรือทิ้ง

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


2-13 | คู่มือการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา

งาน การปรับเปลี่ยนงาน การก าหนดราคา การช าระเงินล่วงหน้า ตารางการช าระเงิน การช าระเงิน

ล่าช้า สกุลเงินที่ใช้ในการช าระเงิน เป็นต้น

6. เงื่อนไขว่าด้วยการเลิกสัญญาโดยผู้ว่าจ้าง การระงับชั่วคราวหรือการเลิกสัญญาโดยผู้รับจ้างช่วง

(Termination by Employer, Suspension and Termination by Contractor) ระบุถึงเหตุ

และสิทธิของผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้างช่วงในการด าเนินการดังกล่าว ตลอดจนภาระผูกพัน ค่าใช้จ่าย

และการช าระเงินภายหลังการเลิกสัญญาล่วงหน้า ตารางการช าระเงิน การช าระเงินล่าช้า สกุลเงิน

ที่ใช้ในการช าระเงิน เป็นต้น

7. เงื่อนไขว่าด้วยความเสี่ยงและความรับผิดชอบ (Risk and Responsibility) เป็นข้อสัญญาที่ระบุถึง

หน้าที่และความรับผิดชอบในการดูแลงานต่าง ๆ การถือสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา ความเสี่ยง

และการบริหารความเสี่ยง ค่าสินไหมทดแทน หรือการชดเชยในกรณีต่าง ๆ

8. เงื่อนไขว่าด้วยการประกันสัญญา (Insurance) ซึ่งเป็นหลักการต่าง ๆ ที่สัญญาฉบับนั้น ๆ ก าหนด

เงื่อนไขว่าจะต้องมีการท าประกันอะไรบ้าง อย่างไรบ้าง ในวงเงินเท่าใด โดยบุคคลใด เป็นต้น

9. เงื่อนไขว่าด้วยเหตุสุดวิสัย (Force Majeure or Exceptional Events) ระบุถึงเหตุสุดวิสัยต่าง ๆ

การบอกกล่าวเป็นหนังสือเมื่อมีเหตุสุดวิสัยเกิดขึ้น ไปจนถึงหน้าที่และความรับผิดชอบของ

ผู้เกี่ยวข้องในสัญญาในกรณีเกิดเหตุสุดวิสัย

10. เงื่อนไขว่าด้วยข้อเรียกร้อง ข้อพิพาท และอนุญาโตตุลาการ ( Claims, Disputes, and

Arbitration) ซึ่งเป็นข้อสัญญาเกี่ยวกับสิทธิเรียกร้องตามกฎหมายหรือตามสัญญา การด าเนินการ

เมื่อมีข้อพิพาทระหว่างคู่สัญญา การระงับข้อพิพาท การตั้งอนุญาโตตุลาการ การวินิจฉัยและการ

ตัดสินของอนุญาโตตุลาการ เป็นต้น

ตัวอย่างเงื่อนไขของสัญญาทั่วไปประกอบด้วย รายละเอียดต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

1. ค าจ ากัดความและการตีความ (Definitions and Interpretations)

2. หลักประกันสัญญา (Performance Guarantee)

3. การโอนสิทธิหน้าที่และการท าสัญญาจ้างช่วง (Assignment and Subcontracting)

4. แบบรูป (Drawings)

5. ภาระหน้าที่โดยทั่วไป (General Obligations)

6. การดูแลบ ารุงรักษางาน (Care of Works)

7. การประกันภัยในงาน (Insurance of Works)

8. ความเสียหายต่อบุคคลและทรัพย์สิน (Damage to Persons and Property)

9. การแก้ไขกรณีผู้รับจ้างไม่ท าประกันภัย (Remedy on Contractor’s Failure to Insure)

10. การปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบต่าง ๆ ( Compliance with Laws and

Regulations, etc.)

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


2-14 | คู่มือการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา

11. การเข้าพื้นที่ของผู้รับจ้างรายอื่น (Access to other Contractors)

12. การดูแลรักษาหน้างานให้สะอาดและปลอดภัย (Maintaining the Site Clean and Safe)

13. แรงงาน (Labour)

14. วัสดุและฝีมือการท างาน (Materials and Workmanship)

15. การตรวจสอบการปฏิบัติงาน และงานที่มองไม่เห็นจากภายนอก (Inspection of Operations

and Examination of Hidden Work)

16. งานและวัสดุที่ไม่ถูกต้อง (Improper Work and Materials)

17. การหยุดงาน (Suspension of Works)

18. หนังสือแจ้งให้เริ่มงานและการครอบครองพื้นที่หน้างาน (Notice to Proceed, and

Possession of Site)

19. ก าหนดเวลาแล้วเสร็จของงาน (Time for Completion)

20. การขยายก าหนดเวลาแล้วเสร็จของงาน (Extension of Time of Completion)

21. อัตราความก้าวหน้า การท างานกลางคืนหรือวันอาทิตย์ (Rate of Progress, Night or Sunday

Work)

22. ความล่าช้าของงาน (Works Delay)

23. หนังสือรับรองการแล้วเสร็จของงาน (Certificate of Completion)

24. งานช ารุดบกพร่อง (Defective Works)

25. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงงาน งานเพิ่ม และการยกเลิกงาน/งานลด (Alterations, Additions and

Omissions)

26. เครื่องจักรก่อสร้าง อุปกรณ์ของผู้รับจ้าง งานชั่วคราวและวัสดุ (Constructional Plant,

Contractor’s Equipment, Temporary Works and Materials)

27. การวัดปริมาณงาน (Measurement of Quantities)

28. การปรับมูลค่าสัญญาเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงปริมาณงาน (Adjustment of Contract Sum

Due to Variations in Quantities)

29. เงินส ารองเผื่อการใช้จ่าย (Provisional Sums)

30. การจ่ายเงิน และการหักเงินประกันผลงาน (Payment and Retention)

31. การเลิกสัญญาโดยผู้ว่าจ้าง (Termination of Contract by the Employer)

32. เหตุสุดวิสัย (Force Majeure)

33. การระงับข้อพิพาท (Settlement of Disputes)

34. การเลิกสัญญาโดยผู้รับจ้าง (Termination of Contract by the Contractor)

35. ความรับผิดของคู่สัญญา (Liabilities of the Parties)

36. ความช่วยเหลือจากผู้ว่าจ้าง (Assistance by the Employer)

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


2-15 | คู่มือการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา

37. การบอกกล่าว (Notices)

38. ภาษา (Language)

39. กฎหมายที่ใช้บังคับ (Law of Contract)

40. กฎหมายที่ต้องปฏิบัติตาม (Law to be Observed)

41. กฎหมายที่ออกมาภายหลัง

42. การเปลี่ยนแปลงราคา (Changes in Costs)

43. อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา (Rate of Exchange)

44. ภาษีและพิกัดศุลกากร (Taxation and Customs Duties)

45. อากรแสตมป์ (Stamp Duties)

46. การอนุมัติไม่มีผลต่อความรับผิดของผู้รับจ้าง (Liabilities not Affected by Approval)

47. การใช้วัตถุระเบิด (Use of Explosives)

48. การซ่อมแซมเร่งด่วน (Urgent Repairs)

49. เอกสารที่อธิบายความหมายร่วมกัน (Documents Mutually Explanatory)

50. พื้นที่ท างานอยู่นอกบริเวณหน้างาน (Work Areas outside the Site)

51 เงื่อนไขในการปฏิบัติงาน

52. ข้อบังคับพิเศษของเจ้าของงาน

53. การจอดเรือชั่วคราว การท าเครื่องหมาย ทุ่นและแสงสว่าง

54. การสงวนสิทธิ

55. ค่าใช้จ่ายพิเศษ

56. ค่าสิทธิบัตร

57. ผู้รับจ้างช่วง

58. การดูแลรักษาการจราจร คนดูแลและเฝ้าระวังความปลอดภัย (Maintenance of Traffic,

Safety and Lookout Men)

59. การให้สินบน (Bribery)

60. การกระท าการอันรบกวนต่อสาธารณะ (Interference with the Public)

61. สาธารณูปการ (Utilities)

62. ที่พักบริเวณหน้างาน (Site Accommodation)

63. ที่พักอาศัย (Living Accommodations)

64. การบันทึกวีดีทัศน์ (Contract Record)

65. ความสัมพันธ์กันระหว่างเอกสารสัญญา

66. การประสานงานกับส่วนราชการและ/หรือผู้รับจ้างรายอื่น

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


2-16 | คู่มือการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา

2) เงื่อนไขเฉพาะ หรือเงื่อนไขพิเศษ (Special Conditions, Conditions of Particular

Application, Contract Particulars or Supplementary Conditions) เป็นการระบุเงื่อนไข

เพิ่มเติมเพื่อใช้เฉพาะกับงานใดงานหนึ่งเป็นการเฉพาะเท่านั้น อาทิเช่น แผนด าเนินงานก่อสร้างและผัง

ของการเชื่อมประสานงานก่อสร้าง (Key Date : KD) และอาจมีการแก้ไขปรับปรุงข้อความในเงื่อนไข

ทั่วไป เงื่อนไขเฉพาะโครงการควรมีหัวข้อของเงื่อนไขส่วนนี้ตรงกับหรือสอดคล้องกับหัวข้อของ

เงื่อนไขทั่วไป

2.5 ข้อก าหนด (Specifications)

ข้อก าหนด (Specifications) เป็นเอกสารซึ่งกล่าวถึงความประสงค์ ความต้องการของผู้ออกแบบ

เจ้าของงาน หรือเจ้าของโครงการ เพื่อสื่อสารไปยังบุคลากรผู้ที่เกี่ยวข้องในงานต่าง ๆ เช่น งาน

ก่อสร้าง งานผลิต งานพัฒนาซอฟต์แวร์ ฯลฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อก าหนดขอบเขตงาน อธิบายค า

จ ากัดความ นิยามที่ใช้ในงานนั้น มาตรฐานที่ต้องการให้ใช้ ชนิด ขนาด และรายละเอียดของวัสดุ

เครื่องจักร เครื่องมือ ตลอดจนถึงวิธีการก่อสร้างหรือวิธีการด าเนินงาน รวมถึงคุณภาพของช่างฝีมือ

แรงงาน ความละเอียดและถูกต้องในงานนั้น

2.6 บัญชีแสดงปริมาณวัสดุและราคา (Bill of Quantities)

บัญชีแสดงปริมาณวัสดุและราคา (Bill of Quantities) เป็นเอกสารซึ่งแสดงรายการงาน และปริมาณ

วัสดุ เพื่อให้ผู้เข้าประกวดราคากรอกราคา เพื่อประกวดราคางานโครงการนี้

องค์ประกอบของบัญชีแสดงปริมาณวัสดุและราคา

บัญชีแสดงปริมาณวัสดุและราคา ประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ คือ

- ล าดับที่ของรายการ

- รายละเอียดของงานแต่ละประเภท

- ปริมาณงาน (จ านวน)

- หน่วยในการวัดเพื่อการจ่ายเงิน

- อัตราราคาต่อหน่วย (อาจแยกเป็นราคาค่าวัสดุ และค่าแรงงาน) ของแต่ละรายการ

- ราคารวม

- หมายเหตุ (หากจ าเป็น หรือต้องการ)

หน้าที่และความส าคัญของบัญชีแสดงปริมาณวัสดุและราคา ที่ใช้ในงานก่อสร้าง

- แสดงองค์ประกอบรายละเอียดของงานต่าง ๆ

- แสดงปริมาณงานและหน่วยที่ใช้ในการวัดและจ่ายเงิน

- แสดงราคาของงานแต่ละประเภท

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


2-17 | คู่มือการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา

- ใช้เพื่อเปรียบเทียบราคาของผู้เข้าประกวดราคา (Tenderer /Bidder) เพื่อเป็นผู้รับจ้าง

ก่อสร้าง (ผู้รับเหมา/ Contractor) ในโครงการนั้น ๆ

- ใช้เพื่อเป็นราคาฐาน ส าหรับงานเพิ่มเติมในโครงการนั้น ๆ

- ใช้เพื่อการเบิกจ่ายเงิน (Payment) หรือการเบิกจ่ายเงินบางส่วนในระหว่างการก่อสร้าง

(Interim Payment)

อนึ่งในสัญญา อีพีซี ราคาโครงการจะยึดถือยอดรวมทั้งหมดที่เสนอราคามาเป็นหลัก

โดยทั่วไปจะมีเอกสารการกระจายเงินแบ่งจ่ายเป็นงวด ๆ (Disbursement Schedule) แต่

บัญชีแสดงปริมาณวัสดุและราคา จะใช้ประโยชน์ในการแบ่งจ่ายเงิน ในกรณีการคิดราคางาน

เพิ่ม ลด ในโครงการ

2.7 แบบ (Drawings)

แบบหมายถึง แบบก่อสร้างของงานโครงการแนบอยู่ในสัญญาและให้รวมถึงแบบก่อสร้างเพิ่มเติม

และแก้ไข ซึ่งออกตามเงื่อนไขของสัญญา

2.8ข้อก าหนดความต้องการของเจ้าของงาน/รายละเอียดเฉพาะ ( Employer’s

Requirement/Particular Requirement) ส าหรับสัญญา EPC

ในสัญญา อีพีซี จะก าหนดให้ผู้รับจ้างเป็นผู้ออกแบบรายละเอียด ฉะนั้นเจ้าของงานต้องระบุ

ขอบเขตของงาน ข้อก าหนดความต้องการเฉพาะ เอกสารฉบับนี้จะมีความส าคัญและถือเป็นหัวใจ

ของงานอีพีซี โดยจะประกอบด้วยข้อมูลดังต่อไปนี้

เอกสารแสดงขอบเขตของงาน

ข้อก าหนดความต้องการของเจ้าของงานโดยเฉพาะ

ข้อมูลพื้นฐานที่จ าเป็นในการออกแบบรายละเอียด ได้แก่

- รายงานสภาพทางภูมิประเทศ

- รายงานสภาพทางธรณีวิทยา

- รายงานอุทกวิทยา

- รายงานสภาพภูมิอากาศ

- แบบเค้าโครงพื้นฐาน (Basic Design Drawings)

- รายงานการออกแบบเค้าโครงพื้นฐาน (Basic Design Report)

- ข้อมูลวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องจักร หรือกระบวนการผลิต เฉพาะเจาะจงที่ต้องการเป็นพิเศษ

2.9 แบบฟอร์มประกอบการเสนอราคาอื่น ๆ

แบบฟอร์มประกอบการเสนอราคา ประกอบด้วย

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


2-18 | คู่มือการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา

แบบหนังสือค ้าประกัน

(1) หลักประกันการเสนอราคา

(2) หลักประกันสัญญา

(3) หลักประกันการรับเงินค่าจ้างล่วงหน้า

(4) หลักประกันผลงาน

เอกสารหลักฐานประกอบการคัดเลือกผู้เสนอราคา ประกอบด้วย

(1) ข้อมูลทั่วไป

(2) ข้อมูลเกี่ยวกับกิจการร่วมค้าที่จด/มิได้จดทะเบียน

(3) ก าหนดการ อัตรา และเงื่อนไข

(4) แบบฟอร์มหนังสือการให้ความสนับสนุนด้านการเงินให้แก่ผู้รับจ้าง

(5) ประสบการณ์ของผู้ยื่นข้อเสนอ

(6) แผนการก่อสร้างหลัก

(7) แผนงานด้านคุณภาพ

(8) แผนงานด้านความปลอดภัย

(9) แผนงานด้านสิ่งแวดล้อม

(10) แผนการบูรณการและประสานงานโครงการ

(11) ผังแสดงการจัดองค์กรที่เสนอ

(12) ตารางแสดงระยะเวลาการปฏิบัติงานของบุคลากรหลัก

(13) รายการเครื่องจักร เครื่องมือ ที่ส าคัญ

(14) ประวัติและประสบการณ์ของบุคลากรหลัก

(15) หนังสือรับรองของวิศวกรผู้ควบคุมการก่อสร้าง

(16) หนังสือรับรองของวิศวกรผู้วางแผนงานก่อสร้าง

(17) รายละเอียดของแผนการก่อสร้างและวิธีการก่อสร้าง

(18) การเตรียมการต่าง ๆ และรายละเอียดการก่อสร้าง

(19) รายละเอียดวิธีการบ ารุงรักษางานถนน

(20) รายการเอกสารเพิ่มเติมที่ต้องยื่นพร้อมใบแจ้งปริมาณงานและราคา

(21) ตารางประมาณการการเบิกเงินค่าจ้าง

(22) รายละเอียดของการเสนอราคา

อื่น ฯลฯ (ตามความต้องการของหน่วยงาน และโครงการ)

2.10 Letter of Intent, Letter of Acceptance/Letter of Award

Letter of Intent หรือ หนังสือแสดงเจตนา เป็นข้อความสั้น ๆ ที่เขียนขึ้นเพื่อแสดงเจตนาจ้าง

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


2-19 | คู่มือการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา

Letter of Acceptance หรือหนังสือตอบยอมรับการเสนอราคา บางทีก็เรียกว่า

Letter of Award หรือหนังสือตอบตกลงจ้าง บางครั้งก็เขียนเป็นรูปของสัญญาสั้น ๆ เรียกว่า

Memorandum of Understanding หรือบันทึกความเข้าใจ

ขั้นตอนในการท าสัญญาของทางราชการจะใช้เวลานาน เนื่องจากมีขั้นตอนมากเพื่อให้ผู้ชนะ

การประกวดราคา มีความมั่นใจว่าสามารถเริ่มเตรียมการก่อสร้างได้ จึงจ าเป็นต้องมีหนังสือ

แสดงเจตนาว่าจะได้รับการว่าจ้าง เช่นเดียวกับ Letter of Acceptance ซึ่งเป็นหนังสือตอบ

ยอมรับการเสนอราคา หรือ Letter of Award เป็นหนังสือตอบตกลงจ้าง

วัตถุประสงค์ของหนังสือดังกล่าว จะให้ผู้รับจ้างมั่นใจว่าสามารถด าเนินการตามที่จ าเป็นได้ เช่น

การเตรียมงาน วัสดุ บุคคลากร ส านักงานชั่วคราว ถนนทางเข้าออก ฯลฯ

รายละเอียดของหนังสือดังกล่าวจะระบุว่า ผู้ว่าจ้างมีความยินดีที่จะแจ้งให้ทราบว่า ผู้ว่าจ้างตก

ลงว่าจ้างให้ผู้ชนะการประกวดราคาท าการก่อสร้าง งาน ............... โครงการ .........................

โดยมีรายละเอียดและเงื่อนไขการจ้างในสัญญาที่จะได้จัดท าและลงนามกันต่อไป ขอให้ผู้ชนะ

การประกวดราคาเริ่มด าเนินการก่อสร้างได้

ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นให้รวมอยู่ในค่าจ้าง ในกรณีที่ไม่สามารถท าสัญญาต่อกันได้ ผู้ว่าจ้างยินดีจะ

ชดใช้ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นให้ทั้งหมด

หนังสือฉบับนี้ให้มีผลใช้บังคับได้ไปจนกว่าจะได้ท าสัญญากันต่อไป

3. ข้อก าหนดคืออะไร

ข้อก าหนด ในประเทศไทยมีค าเรียกหลายค า เช่น รายการประกอบแบบ รายการก่อสร้าง

รายการรายละเอียดด้านสถาป้ตยกรรม หรือรายการรายละเอียดด้านวิศวกรรม รายละเอียดและ

ข้อก าหนดการก่อสร้าง ข้อก าหนด ข้อก าหนดทางเทคนิค ข้อก าหนดทางเทคนิคในการก่อสร้าง เป็น

ต้น

ส าหรับค าที่ใช้ในภาษาอังกฤษ จะใช้ค าว่า “Specifications” ซึ่งราชบัณฑิตยสถาน และ

วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ บัญญัติศัพท์เป็น “ข้อก าหนด”

ค าว่า Specifications ใน ภาษาอังกฤษ The American Heritage Dictionary of the

English Language, Third Edition ให้ความหมายไว้ดังนี้

1. The act of specifying.

2. a. Specifications A detailed, exact statement of particulars, especially a

statement prescribing materials, dimensions, and quality of work for

something to be built, installed, or manufactured,

b. A single item or article that has been specified.

3. An exact written description of an invention by an applicant for a patent.

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


2-20 | คู่มือการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา

พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ให้ความหมายของข้อก าหนดไว้ว่า “ข้อความ

ที่ระบุเป็นหลักเกณฑ์ หรือวิธีการให้บุคคลที่เกี่ยวข้องต้องปฏิบัติ หรือด าเนินการในเรื่องใด เรื่องหนึ่ง”

รายการก่อสร้างคือ “เอกสารที่อธิบายความคิดของผู้ออกแบบต่อบุคคลต่าง ๆ ซึ่งเกี่ยวข้อง

กับงานก่อสร้างเพื่อก าหนด ชนิด ขนาด มาตรฐานการท างาน และรายละเอียดของงานก่อสร้าง” จึง

ถือว่าเป็นข้อตกลงส่วนหนึ่งของสัญญาจ้างและเป็นเอกสารส าคัญช่วยให้แบบรูปกระจ่างยิ่งขึ้น ท าให้

ผู้รับจ้างทราบได้ว่ามีอะไรบ้างอยู่ในความคาดหมายของเขา ข้อมูลส่วนมากที่ใช้ในการท างาน จะ

ก าหนดไว้ในแบบรูป ซึ่งเขียนขึ้นในลักษณะต่าง ๆ กัน แต่รายละเอียดเกี่ยวกับฝีมือ และวัสดุ อุปกรณ์

นั้น ไม่สามารถระบุลงไปในงานเขียนแบบได้ (พนม, 2539)

ข้อก าหนด (Specifications) บางครั้งอาจเรียกว่า รายการประกอบแบบ หรือ รายการ

ก่อสร้าง โดยทั่วไปมักคิดถึงรายละเอียดประกอบแบบด้านเทคนิค เช่นกล่าวถึงรายละเอียด วัสดุ

อุปกรณ์ ขั้นตอนและวิธีการก่อสร้าง เป็นต้น (วิสูตร, 2543)

รายการประกอบแบบ คือแบบก่อสร้างที่มิใช่เส้น แต่เป็นข้อความ (วิญญู และวิชัย, 2550)

ข้อก าหนดทางเทคนิค (Technical Specifications) คือเอกสารซึ่งกล่าวถึงความประสงค์

ความต้องการของผู้ออกแบบ เจ้าของงาน หรือเจ้าของโครงการ เพื่อสื่อสารไปยังบุคลากร ผู้ที่เกี่ยวข้อง

ในงานต่าง ๆ เช่น งานก่อสร้าง งานผลิต งานพัฒนาซอฟต์แวร์ ฯลฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อก าหนด

ขอบเขตงาน อธิบายค าจ ากัดความ นิยามที่ใช้ในงานนั้น มาตรฐานที่ต้องการให้ใช้ ชนิด ขนาด และ

รายละเอียดของวัสดุ เครื่องจักร เครื่องมือ ตลอดจนถึงวิธีการก่อสร้างหรือวิธีการด าเนินงาน รวมถึง

คุณภาพของช่างฝีมือ แรงงาน ความละเอียดและถูกต้องในงานนั้น (เจตณรงค์, 2550)

สรุปได้ว่าการจัดท าข้อก าหนด คือ กระบวนการระบุพรรณนาเพื่อแสดงรายละเอียด

เฉพาะเจาะจง โดยเฉพาะรายละเอียดที่แสดงถึงคุณลักษณะของวัสดุ ขนาด ขั้นตอน วิธีการ และ

คุณภาพ เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องใช้ปฏิบัติหรือด าเนินการเพื่อให้ได้งาน สิ่งก่อสร้าง ผลิตกัณฑ์ หรือการ

ติดตั้ง และการบริการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการดังที่ก าหนดไว้

วัตถุประสงค์และความส าคัญของข้อก าหนดทางเทคนิค

วัตถุประสงค์ของข้อก าหนดทางเทคนิคเพื่อ ระบุรายละเอียดต่าง ๆ ที่ไม่สามารถแสดงไว้ใน

แบบก่อ สร้าง อาทิเช่น มาตรฐานต่าง ๆ คุณสมบัติของวัสดุ วิธีการก่อสร้างหรือปฏิบัติ วิธีการทดสอบ

ความคลาดเคลื่อนที่ยอมรับได้ ตลอดจนถึงวิธีการวัดปริมาณงานและการจ่ายเงิน ความส าคัญของ

ข้อก าหนด คือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาในโครงการต่าง ๆ เพื่อให้ผู้รับจ้างปฏิบัติงานได้ถูกต้องตาม

วัตถุประสงค์และความต้องการของโครงการ การไม่ปฏิบัติตามข้อก าหนดอาจน ามาซึ่งอันตราย และ

ความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


2-21 | คู่มือการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา

1. ประเภท/ชนิดของข้อก าหนด

(1) ประเภทของข้อก าหนดแบ่งตามลักษณะของข้อก าหนด ได้แก่

- ข้อก าหนดมาตรฐาน (Standard specification)

ข้อก าหนดประเภทนี้ เป็นข้อก าหนดซึ่งหน่วยงานนั้น ๆ จัดท าขึ้นเพื่อใช้ได้ทั่วไป ส าหรับ

โครงการต่าง ๆ ซึ่งมีลักษณะงานคล้าย ๆ กัน เป็นงานสามัญทั่ว ๆ ไป (Common) ไม่มี

อะไรเป็นพิเศษ เช่นงานปรับพื้นที่ งานขุดดินทั่วไป งานคอนกรีต งาน ไม้ งานประตูหน้าต่าง

เป็นต้น

- ข้ อ ก า ห น ด เ ฉ พ า ะ ง า น ( Special provision, Particular specification or

Supplementary specification)

ข้อก าหนดนี้จะเป็นส่วนที่เสริมเพิ่มเติมจากข้อก าหนดมาตรฐาน โดยที่โครงการแต่ละ

โครงการจะมีความแตกต่างกันบ้างในสภาพของพื้นที่ ลักษณะของโครงสร้าง ความพิเศษ

ของโครงการ คุณสมบัติเฉพาะของวัสดุที่ใช้

(2) ประเภทของข้อก าหนดแบ่งตามลักษณะรายละเอียดของเนื้อหา ได้แก่

- ข้อก าหนดแบบละเอียดเชิงพรรณนา (Descriptive specifications)

Descriptive Specifications: Materials, Methods & Workmanship เ ป็ น

ข้อก าหนดที่ระบุ วิธีการน าวัสดุไปใช้งานจริง วิธีการก่อสร้าง และระดับฝีมือช่างที่ต้องการ

ข้อดีของการเขียนข้อก าหนดแบบ Descriptive Specifications คือ มีการระบุความ

ต้องการได้ชัดเจน ใช้ได้กับทุกงานเปิดโอกาสให้มีการแข่งขันกันโดยเสรี

ข้อด้อยของ Descriptive Specifications คือ อาจไม่ได้ผลเพราะฝีมือช่างไม่ถึงระดับที่

ต้องการหรือ ตรวจสอบระดับฝีมือช่างได้ยาก หรือ ถ้าท าได้ก็จะต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่าย

มาก จะท าให้การเขียนข้อก าหนดยาว เสียเวลาเขียนนานมาก เพื่อให้สอดคล้องกับระดับ

ฝีมือช่างที่มีอยู่ เสียเวลาอ่านท าความเข้าใจมาก อาจจะต้องเพิ่มข้อความบางอย่าง เพื่อให้

ได้ผลตามต้องการ อาจท าให้ราคางานสูงขึ้น

- ข้อก าหนดแบบมุ่งผลส าเร็จของงาน (Performance specifications)

Performance Specifications รายการก่อสร้างที่ระบุผลสุดท้ายที่ต้องการเท่านั้น ส่วน

วัสดุ และแรงงาน วิธีการจัดซื้อ - จัดหา ตลอดจนวิธีการก่อสร้าง ผู้รับจ้างจะต้องเป็น

ผู้ด าเนินการจัดหา จัดซื้อ ด้วยตัวเองทั้งหมด

ข้อดีของ Performance Specifications คือ ได้ผลตรงตามความต้องการของผู้ออกแบบ

ผู้รับจ้างมีอิสระเต็มที่ในการท างาน จะมีการแข่งขันสูง ข้อก าหนดจะสั้น และกะทัดรัด

ใช้ได้กับงานทุกประเภท

ข้อด้อยของ Performance Specifications คือ การก าหนดราคาที่แน่นอนท าได้ยาก

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


2-22 | คู่มือการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา

ผู้รับจ้างจะใช้วิธีท างานแตกต่างกันออกไป ควบคุมงานล าบากต้องท าตามผู้รับจ้างบอก

ตลอด ยิ่งถ้าไม่จ ากัดค่าใช้จ่ายเอาไว้เจ้าของโครงการจะเสียค่าใช้จ่ายมาก

- ข้อก าหนดแบบอ้างอิง (Reference specifications)

Reference Specifications ข้อก าหนดที่อ้างอิงมาตรฐานที่มีอยู่ ที่ใช้อยู่ ที่ทุกคน

ยอมรับ เช่น ให้ใช้ปูนซีเมนต์ ประเภท 1 ตาม มอก.ที่ 15 เป็นต้น

ข้อดีของ Reference Specifications คือ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยอมรับเพราะเป็นที่คุ้นเคย

และใช้ทั่วไปไม่จ ากัดการแข่งขัน รายละเอียดข้อก าหนดสั้น กระชับ กะทัดรัด มีน ้าหนัก

มากถ้าต้องมีการขึ้นศาลกรณีมีป้ญหาในการท างาน

ข้อด้อยของ Reference Specifications คือ วัสดุหรือวิธีการหลายอย่างไม่มีมาตรฐานให้

อ้างอิง มาตรฐานบางอย่างอาจล้าสมัย มาตรฐานบางอย่างเป็นเกณฑ์ขั้นต ่า อาจปกป้อง

ผลประโยชน์ของคนบางกลุ่มเท่านั้น ผู้รับจ้างต้องขวนขวายหามาตรฐานอ้างอิงเอาเอง ซึ่ง

กว่าจะได้รับการยอมรับจากเจ้าของงานจะเสียเวลาและค่าใช้จ่ายมาก

- ข้อก าหนดแบบระบุบริษัทผู้ผลิต (Proprietary specifications)

อธิบายค าเรียก Proprietary : ศัพท์ค าว่า Proprietary software ทางด้านวิศวกรรม

ซอฟแวร์ ในประเทศไทย บางทีจะใช้ค าทับศัพท์ว่า "โพรไพรเอทารีซอฟต์แวร์" หรือใช้ค า

ว่า "ซอฟต์แวร์เอกสิทธิ์เฉพาะ"

Proprietary Specifications ข้อก าหนดที่มีการระบุยี่ห้อ รุ่น หมายเลขแคตตาล็อก สี

หรือ รายละเอียดต่าง ๆ ให้ชัดเจน ผู้ที่เกี่ยวข้องรู้ได้ทันทีว่าเป็นสิ่งใด เช่น กระเบื้องมุง

หลังคาใช้ CPAC MONIER สีแดง เป็นต้น

ข้อดีของ Proprietary Specifications คือ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าใจตรงกันว่าต้องการ

อะไร คิดราคาง่าย ท าให้รายละเอียดข้อก าหนดสั้น กะทัดรัดได้คุณภาพงานตรงตามความ

ต้องการของผู้ออกแบบ

ข้อด้อยของ Proprietary Specifications คือ ใช้ก าหนดรายละเอียดได้เฉพาะวัสดุเท่านั้น

จะท าให้ไม่มีการแข่งขันในการเสนอราคาท าให้งานมีราคาแพง และถ้าตอนลงมือก่อสร้าง

จะมีป้ญหาถ้าหายี่ห้อนั้นไม่ได้ หรือ หาได้แต่เจ้าของผู้ผลิตโก่งราคาขึ้นไปอย่างไม่เป็นธรรม

นอกจากนั้นวัสดุบางชนิดที่ใช้กันบ่อย ๆ แต่ไม่มียี่ห้อ เช่น อิฐบล็อก อิฐ ทราย หิน จะไม่

สามารถน ามาใช้ในรายการก่อสร้างประเภทนั้นได้

- ข้อก าหนดแบบผสม (Combination Specifications)

Combination Specifications ข้อก าหนดแบบผสมตามความต้องการเฉพาะงาน มี

ข้อดี และข้อเสียตามแต่ละแบบที่น ามาใช้

- มาตรฐานอ้างอิง (Reference standard)

มาตรฐานอ้างอิง เป็นเอกสารที่จัดท าโดยหน่วยงานก าหนดมาตรฐาน ใช้ประโยชน์ในการ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


2-23 | คู่มือการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา

ก าหนดคุณสมบัติของวัสดุก่อสร้าง วิธีการทดสอบ วิธีการด าเนินงาน รวมถึงวิธีการควบคุม

คุณภาพต่าง ๆ เช่น มาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) มาตรฐาน ISO (International

Standard Organization) มาตรฐาน ASTM (American Society for Testing and

Materials) มาตรฐาน ACI (American Concrete Institute) เป็นต้น

(3) แนวทางและการจัดท าข้อก าหนด/รายการประกอบแบบ การเขียนข้อก าหนด

การเขียนข้อก าหนดจัดเป็นงานที่ส าคัญ ผู้เขียนข้อก าหนด จะต้องเป็นผู้รอบรู้ในงานนั้น

อย่างยิ่งอีกทั้งต้องรอบคอบละเอียดถี่ถ้วน เขียนรายการชัดเจนและปฏิบัติได้ ฉะนั้น การเขียน

ข้อก าหนดใด ๆ ย่อมขึ้นอยู่กับ 6 C ดังนี้

- Correct ถูกต้อง เนื้อหาต้องตรงกับวัตถุประสงค์ ถูกต้องตามข้อเท็จจริง ใช้ภาษาได้

ถูกต้อง ทั้งโครงสร้างประโยค ส านวน ลีลา เครื่องหมายวรรคตอน ตัวสะกด

- Complete สมบูรณ์ มีเนื้อหาครบถ้วน

- Clear ชัดเจน ไม่ก ากวม อ่านเข้าใจง่าย ตรงตามที่ต้องการสื่อ บรรลุวัตถุประสงค์ ไม่

ต้องตีความ

- Concise กระชับ กะทัดรัด รัดกุม ไม่ใช้ค าฟุ่มเฟือย

- Coherence สัมพันธภาพ มีการเชื่อมโยงในข้อความ แต่ละประโยคต้องมีเนื้อความ

เกี่ยวเนื่องกัน

- Convincing สมเหตุผล มีความเป็นไปได้

การจัดท ามาตรฐานข้อก าหนด

เมื่อเริ่มงานออกแบบโครงการ ควรจะต้องมีการประชุมปรึกษาหารือระหว่าง วิศวกรสาขาต่าง ๆ

สถาปนิก ผู้ประมาณราคาและค านวณปริมาณงาน ผู้จัดเตรียมข้อก าหนด นักวิชาการสิ่งแวดล้อม และ

ผู้เกี่ยวข้องอื่น ๆ เพื่อร่วมกันจัดท า เกณฑ์การออกแบบ (Design Criteria) เพื่อให้โครงการ มีประโยชน์

ใช้งานสูงสุดและมีระยะเวลาก่อสร้างตรงตามความต้องการของผู้ว่าจ้าง สะดวกต่อการดูแลและ

บ ารุงรักษา เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศ ทั้งในระยะเวลาก่อสร้าง และระยะเวลาใช้งาน ใช้วัสดุใน

ท้องถิ่นให้มากที่สุด เพื่อลดราคาค่าก่อสร้าง มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด และสอดคล้องกับ

มาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Mitigation Plan) ของโครงการ

รูปแบบของข้อก าหนดที่เสนอ หนึ่งบทจะครอบคลุมงานหนึ่งงาน และจะประกอบด้วยหัวข้อหลัก 4

หัวข้อ เหมือนกันทุกบทเป็นส่วนใหญ่ คือ

- หัวข้อ X.1 ทั่วไป จะประกอบด้วยหัวข้อย่อยตามความจ าเป็น คือ

๐ X.1.1 ขอบเขตของงาน

๐ X.1.2 มาตรฐานที่ใช้กับงานในบทนี้

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


2-24 | คู่มือการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา

๐ X.1.3 นิยาม งานบางงานจ าเป็นที่จะต้องให้ค านิยามงานย่อยเพื่อบ่งชี้ความแตกต่าง

ให้ชัดเจน

๐ X.1.4 การเสนอเอกสารและตัวอย่างวัสดุ

- หัวข้อ X.2 วัสดุ/เครื่องจักร/เครื่องมือ

- หัวข้อ X.3 วิธีการก่อสร้าง/วิธีการด าเนินงาน

- หัวข้อ X.4 การวัดปริมาณงานและการจ่ายเงิน (ไม่ใช้กับงาน อีพีซี)

หลักการเขียนข้อก าหนด/รายการก่อสร้าง (Principle of Specifications Writing) 1

1. ต้องถามเจ้าของโครงการให้แน่ใจต้องการอะไรแน่ ระดับคุณภาพอยู่ระดับใด สอดคล้องกับ

งบประมาณที่มีอยู่หรือไม่

2. เขียนความต้องการให้สั้น กะทัดรัด ชัดเจน เกี่ยวกับเงื่อนไขทั่วไป ชนิดของงานและคุณภาพของ

ช่างฝีมือ

3. แยกแยะหัวข้อทั้งเงื่อนไขเพิ่มเติมทั่วไป (General Provisions) และข้อก าหนดทางด้านเทคนิค

(Technical Requirements) ให้ชัดเจนเพื่อสะดวกต่อการเชื่อมโยงหรืออ้างถึงให้ต่อเนื่องกับ

เอกสารประกอบสัญญาอื่น ๆ วิเคราะห์งานแต่ละชนิดและเลือกข้อก าหนดทางด้านเทคนิคให้ตรง

กับงานนั้น ๆ โดยอาศัยข้อก าหนดทางด้านเทคนิคของงานประเภทเดียวกันที่ได้เคยใช้หรือ

ก่อสร้างมาก่อนเป็นตัวเปรียบเทียบ

4. จัดล าดับความต้องการที่จะน าไปเขียนลงในแต่ละส่วนของข้อก าหนดให้สอดคล้องกับแบบ

ก่อสร้างและสัญญา ทั้งนี้เพื่อให้ง่ายในการตรวจสอบและปฏิบัติตาม

5. เขียนข้อก าหนดให้กระชับ ครบถ้วนสมบูรณ์ ใช้ประโยคและถ้อยค าที่เป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไป

6. ใช้ศัพท์ที่มีความหมายแน่นอน ไม่ก ากวม ไม่ต้องตีความ เป็นที่เข้าใจตรงกัน ไม่เข้าใจเป็นอย่าง

อื่น

7. ต้องการอะไรให้สั่งลงไปตรง ๆ อย่าใช้ค าพูดเชิงแนะน า

8. ไม่จ าเป็นต้องระบุเหตุผลหรือให้ค าอธิบายเพิ่มเติมในสิ่งที่ต้องการ

9. อย่าระบุให้ท าในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ หรือ ไม่มีเหตุผล หรือ เสียค่าใช้จ่ายสูงกว่างบประมาณที่มีอยู่

10. อย่าก าหนดความต้องการให้ขัดแย้งกัน

11. ให้ระบุขนาดมาตรฐาน (Size) หรือ รูปแบบมาตรฐาน (Pattern) ทุกครั้งถ้าท าได้ เพราะจะได้ไม่

มีปัญหาในการสั่งของหรือสั่งวัสดุ

12. อย่าเขียนความต้องการซ ้า ๆ กัน ให้ใช้การอ้างอิงแทน

13. พยายามลดการอ้างอิงไขว้กันไปไขว้กันมา เช่น กรณีมีข้อสงสัยให้ไปดูข้อ 5.2 และที่ข้อ 5.2 เขียน

ว่า ให้ไปดูข้อ 6.8 เป็นต้น

1 http://www.rangson.com/html%20document/ce/ce005001.htm

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


2-25 | คู่มือการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา

14. อย่าปัดความรับผิดชอบไปให้ผู้รับจ้างถ้าเขาได้ท าตามข้อก าหนดครบถ้วน อะไรก็ตามที่ผู้รับจ้าง

ได้ท าตามข้อก าหนดแล้วเกิดความเสียหายขึ้น ผู้ออกข้อก าหนดจะต้องรับผิดชอบ

15. มีความยุติธรรม คิดถึงอกเขาอกเรา

16. อย่าปิดบัง ซ่อนเร้น ความยากล าบากของงานหรือที่อาจจะเป็นอันตรายได้ จะต้องบอกผู้รับจ้าง

ให้ทราบว่างานตอนใดมีอันตราย เช่นการสร้างห้อง X - RAY ในโรงพยาบาล การวาง

สายโทรศัพท์ในท่อที่อยู่ใต้ดินลึก ๆ จะมีปัญหาการขาดอากาศหายใจต้องเตรียมอุปกรณ์ท างาน

เป็นพิเศษ

17. ความต้องการที่เจ้าของโครงการต้องการจะต้องสามารถวัดได้ และต้องก าหนดวิธีการวัด ให้

ชัดเจนด้วย อย่าก าหนดวิธีวัดโดยใช้ความรู้สึกเป็นเกณฑ์เพราะจะเป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง

การทะเลาะวิวาท การโต้เถียงที่หาข้อยุติไม่ได้ และจะท าให้เกิดความไม่เป็นธรรมในสัญญาการ

ก่อสร้างได้

ตัวอย่างขั้นตอนในการจัดเตรียมข้อก าหนด

การจัดเตรียมข้อก าหนดมีขั้นตอนและวิธีการจัดท า ดังต่อไปนี้ คือ

(1) รับทราบรูปแบบของสัญญาการออกแบบโครงการ

(2) ศึกษาและรับทราบขอบเขตของงานในโครงการ รวมทั้งศึกษาแบบของโครงการ

(3) จัดแบ่งหมวดหมู่ของข้อก าหนด

(4) รับทราบความต้องการในหมวดงานทั่วไปของโครงการจากผู้แทนของเจ้าของงาน

(5) จัดเตรียมร่างข้อก าหนดของโครงการโดยใช้ข้อมูลของข้อก าหนดจากโครงการต่าง ๆ

(6) รวบรวมข้อก าหนดงานพิเศษอื่น ๆ จากผู้เชี่ยวชาญ

(7) จัดเตรียมข้อก าหนดฉบับร่างพร้อมตรวจสอบเบื้องต้น

(8) ตรวจทานโดยผู้จัดการโครงการ

(9) ทบทวนโดยคณะกรรมการตรวจการจ้าง

(10) จัดเตรียมข้อก าหนดฉบับสมบูรณ์ และตรวจทานขั้นสุดท้ายโดยผู้จัดการโครงการ

สรุปประเด็นปัญหาที่พบ

(1) ความขัดแย้งระหว่างข้อก าหนดและเอกสารประกวดราคาอื่น

(2) การระบุการจ่ายเงินไม่ชัดเจน ไม่รัดกุม หรือไม่ครอบคลุม

(3) การก าหนดรายละเอียดในข้อก าหนดชัดเจนและผูกมัดเกินไป

(4) การก าหนดรายละเอียดในข้อก าหนดไม่ชัดเจน

(5) ข้อก าหนดไม่ทันสมัย

(6) ข้อก าหนดไม่ถูกต้อง

(7) ข้อก าหนดไม่ครบถ้วน

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


2-26 | คู่มือการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา

(8) ขาดผู้เชี่ยวชาญในงานเฉพาะด้าน

การจัดเรียงหมวดหมู่ข้อก าหนด (Specifications) โดยใช้ CSI MASTER FORMAT

CSI MASTER FORMAT เปนมาตรฐานการจัดเรียงหมวดหมู่ข้อก าหนด (Specifications) ซึ่งเกิดจาก

การพัฒนาร วมกันระหว าง Construction Specifications Institute (CSI) และ Construction

Specifications Canada (CSC) โดยแบงงานกอสรางเปน Division ในครั้งแรกก าหนด 16 Divisions

ตอมา ในป ค.ศ. 2004 ไดเพิ่มจ านวนเปน 49 Divisions

CSI-MASTER LIST OF NUMBERS and TITLES: 2016

PROCUREMENT AND CONTRACTING REQUIREMENTS GROUP

Division 00 - Procurement and Contracting Requirements

SPECIFICATIONS GROUP

GENERAL REQUIREMENTS SUBGROUP

Division 01 - General Requirements

FACILITY CONSTRUCTION SUBGROUP

Division 02 - Existing Conditions

Division 03 - Concrete

Division 04 - Masonry

Division 05 - Metals

Division 06 - Woods, Plastics, and Composites

Division 07 - Thermal and Moisture Protection

Division 08 - Openings

Division 09 - Finishes

Division 10 - Specialties

Division 11 - Equipment

Division 12 - Furnishings

Division 13 - Special Construction

Division 14 - Conveying Equipment

FACILITY SERVICES SUBGROUP

Division 21 - Fire Suppression

Division 22 - Plumbing

Division 23 - Heating, Ventilating, and Air-Conditioning (HVAC)

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


2-27 | คู่มือการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา

Division 25 - Integrated Automation

Division 26 - Electrical

Division 27 - Communications

Division 28 - Electronic Safety and Security

SITE AND INFRASTRUCTURE SUBGROUP

Division 31 - Earthwork

Division 32 - Exterior Improvements

Division 33 - Utilities

Division 34 - Transportation

Division 35 - Waterway and Marine Construction

PROCESS EQUIPMENT SUBGROUP

Division 40 - Process Interconnections

Division 41 - Material Processing and Handling Equipment

Division 42 - Process Heating, Cooling, and Drying Equipment

Division 43 - Process Gas and Liquid Handling, Purification, and Storage Equipment

Division 44 - Pollution and Waste Control Equipment

Division 45 - Industry-Specific Manufacturing Equipment

Division 46 - Water and Wastewater Equipment

Division 48 - Electrical Power Generation

MasterFormat รุ่นปี ค.ศ. 1995 ก่อนการปรับปรุงในรุ่นปี ค.ศ. 2004 มีทั้งหมด 16 หมวด ดังนี้

1) หมวด 01 - General Requirements – ข้อก าหนด ความต้องการทั่วไปที่ไม่เกี่ยวกับสิ่งก่อสร้าง

โดยตรง เช่น การสร้างส านักงาน หรือบ้านพักคนงานชั่วคราว การสร้างรั้วรอบบริเวณสถานที่ก่อสร้าง

2) หมวด 02 - Site Construction - สภาพสถานที่ก่อสร้าง เช่น งานถม งานขุดดิน รื้อถอน

สิ่งก่อสร้างเดิม

3) หมวด 03 - Concrete - งานคอนกรีต รวมถึง เสา คาน พื้น ฐานราก และ สิ่งก่อสร้างคอนกรีต

4) หมวด 04 - Masonry - งานวัสดุก่อ รวมถึง งานก่ออิฐ อิฐบล็อก อิฐแก้ว

5) หมวด 05 - Metals – งานโลหะ

6) หมวด 06 - Wood and Plastics – งานไม้และพลาสติก

7) หมวด 07 - Thermal and Moisture Protection – งานฉนวนป้องกันความร้อน และความชื้น

8) หมวด 08 - Doors and Windows – งานประตูและหน้าต่าง

9) หมวด 09 - Finishes – งานผิวส าเร็จ รวมถึง งานผนังยิปซั่มภายใน งานฝ้าเพดาน งานกระเบื้อง

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


2-28 | คู่มือการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา

วัสดุปูทับ ติดตั้งระบบอะคูสติกกันเสียง และงานทาสี

10) หมวด 10 – Specialties - งานเฉพาะทาง เช่น การติดตั้งพาร์ทิชัน ติดตั้งกระดานด า

11) หมวด 11 - Equipment – อุปกรณ์ เช่น อุปกรณ์ก าจัดขยะ

12) หมวด 12 - Furnishings - อุปกรณ์ตกแต่ง เช่น มู่ลี่ ผ้าม่าน เฟอร์นิเจอร์

13) หมวด 13 - Special Construction - งานก่อสร้างพิเศษ เช่น ห้องซาวน่า สระว่ายน ้า

14) หมวด 14 - Conveying Systems - ระบบขนส่งภายในอาคาร เช่น ลิฟท์ บันไดเลื่อน คอนเว

เยอร์

15) หมวด 15 - Mechanical – งานเครื่องกล

16) หมวด 16 - Electrical – งานไฟฟ้า

MasterFormat รุ่นปี ค.ศ. 2004 จากความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี ทั้งทางด้านการก่อสร้าง

ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เครือข่ายอินเทอร์เน็ต การใช้ฐานข้อมูล ระบบการประกวดราคาออนไลน์

รวมทั้งการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ CSI จึงได้ท าการปรับปรุงแก้ไข ขยาย เพิ่มเติม

รายละเอียดการจัดหมวดหมู่มาตรฐาน ตั้งแต่ เดือน เมษายน ปี ค.ศ. 2001 จนแล้วเสร็จในปี ค.ศ.

2003 และประกาศใช้อย่างเป็นทางการในปี ค.ศ. 2004 โดยได้จัดแบ่งหมวดหมู่ใหม่ ดังนี้

กลุ่มที่ 1: การจัดซื้อจัดหาและสัญญา

หมวด 00 ข้อก าหนด ความต้องการของการจัดจ้างและการท าสัญญาจ้าง (Procurement and

Contracting Requirements)

กลุ่มที่ 2: ข้อก าหนด ประกอบด้วย กลุ่มย่อย 5 กลุ่ม คือ

1. ข้อก าหนดทั่วไป

หมวด 01 ข้อก าหนด ความต้องการทั่วไป (General Requirements) ขอบเขตการแสดงความ

ต้องการที่ถูกเพิ่มขึ้นมาเพื่อช่วยให้สามารถเขียนแสดงความต้องการในแต่ละรายการ ที่มีส่วนคาบ

เกี่ยวกับหมวดงานอื่น ๆ (เช่น การก่อสร้างพื้นผิว งานด้านโครงสร้าง เป็นต้น) ซึ่งท าให้สามารถ

ผสมผสาน คุณลักษณะจ าเพาะได้กว้าง และช่วยให้สามารถก าหนดข้อก าหนดในคู่มือโครงการได้

2. การก่อสร้างสิ่งอ านวยความสะดวก

หมวด 02 สภาพสถานที่ก่อสร้างที่เป็นอยู่ (Existing Conditions) โดยหมวดนี้จะจ ากัดไว้ เฉพาะ

‘สภาพที่มีอยู่’ การก่อสร้างที่มีความสัมพันธ์กับรายการต่าง ๆ ของบริเวณก่อสร้าง ตั้งแต่เริ่มต้นการ

ท างาน ซึ่งได้แก่ สิ่งที่ต้องเลือกเพื่อท าการรื้อออก และท าลาย การดูแลพื้นผิว งานด้านการสืบเสาะอื่น

ๆ การส ารวจ การตรวจสอบการปนเปื้อนในบริเวณก่อสร้าง สิ่งที่ต้องท าเพื่อปรับสภาพพื้นที่ รวมทั้งสิ่ง

อื่น ๆ นอกเหนือจากที่กล่าวมานี้ หัวข้อเรื่องการด าเนินการก่อสร้างในบริเวณก่อสร้างทั้งหมด เช่น

เรื่องของประชาชน และเรื่องของพื้นที่ใต้อาคาร รวมทั้งสาธารณูปโภคและงานด้านทางเดินเท้า ได้ถูก

ย้ายไปไว้ที่กลุ่มของบริเวณก่อสร้างและพื้นที่ใต้อาคาร

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


2-29 | คู่มือการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา

หมวด 03 งานคอนกรีต (Concrete)

หมวด 04 งานก่ออิฐ (Masonry)

หมวด 05 งานโลหะ (Metals)

หมวด 06 งานไม้ พลาสติก และ ส่วนประกอบอื่น ๆ (Wood, Plastics, and Composites)

หมวด 07 งานฉนวน การป้องกันความร้อน และความชื้น (Thermal and Moisture Protection)

หมวด 08 งานช่องเปิด (Openings) บานประตูและหน้าต่าง บานเกล็ด

หมวด 09 งานผิวส าเร็จ (Finishes)

หมวด 10 งานลักษณะพิเศษ (Specialties)

หมวด 11 อุปกรณ์ (Equipment)

หมวด 12 เครื่องตกแต่ง (Furnishings)

หมวด 13 การก่อสร้างพิเศษ (Special Construction)

หมวด 14 เครื่องมือ/ยานพาหนะในการขนส่ง (Conveying Equipment)

หมวด 15 ส ารองไว้ส าหรับอนาคต

หมวด 16 ส ารองไว้ส าหรับอนาคต

หมวด 17 ส ารองไว้ส าหรับอนาคต

หมวด 18 ส ารองไว้ส าหรับอนาคต

หมวด 19 ส ารองไว้ส าหรับอนาคต

3. งานสิ่งอ านวยความสะดวกในด้านบริการ

หมวด 20 ส ารองไว้ส าหรับอนาคต

หมวด 21 การควบคุมเพลิง

หมวด 22 การเดินท่อ

หมวด 23 การให้ความร้อน การไหลเวียนของอากาศ และการติดเครื่องปรับอากาศ

หมวด 25 การควบคุมระบบอัตโนมัติ

หมวด 26 ไฟฟ้า

หมวด 27 การสื่อสาร

หมวด 28 ความปลอดภัยและการป้องกันในการใช้เครื่องอิเล็กทรอนิกส์

หมวด 29 ส ารองไว้ส าหรับอนาคต

4. งานสนามและโครงสร้างพื้นฐาน

หมวด 30 ส ารองไว้ส าหรับอนาคต

หมวด 31 งานดิน

หมวด 32 การปรับปรุงภายนอก

หมวด 33 สาธารณูปโภค

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


2-30 | คู่มือการจัดเตรียมเอกสารประกวดราคา

หมวด 34 การขนส่ง

หมวด 35 การก่อสร้างทางน ้าและทะเล

หมวด 36 ส ารองไว้ส าหรับอนาคต

หมวด 37 ส ารองไว้ส าหรับอนาคต

หมวด 38 ส ารองไว้ส าหรับอนาคต

หมวด 39 ส ารองไว้ส าหรับอนาคต

5. งานอุปกรณ์ที่ใช้ในกระบวนการ

หมวด 40 การรวบรวมปฏิบัติการต่าง ๆ

หมวด 41 การปฏิบัติการทางวัสดุและการใช้งานเครื่องมือ

หมวด 42 การปฏิบัติการของเครื่องมือที่ให้ความร้อน การท าความเย็น

หมวด 43 การปฏิบัติการของเครื่องมือที่ใช้แก๊ส และของเหลว การท าให้บริสุทธิ์ และเครื่องมือที่ใช้

จัดเก็บ

หมวด 44 เครื่องมือที่ใช้ควบคุมมลพิษ

หมวด 45 เครื่องมือทางการผลิตด้านงานอุตสาหกรรมเฉพาะทาง

หมวด 46 อุปกรณ์ปรับปรุงคุณภาพน ้า และบ าบัดน ้าเสีย

หมวด 47 ส ารองไว้ส าหรับอนาคต

หมวด 48 การจ่ายไฟฟ้า

หมวด 49 ส ารองไว้ส าหรับอนาคต

หมวดต่าง ๆ ที่ไม่ได้แสดงรายละเอียดไว้ข้างต้นคือกลุ่มที่ส ารองไว้เป็นพื้นที่ว่าง ส าหรับการพัฒนาและ

การขยายขอบข่ายในอนาคต

รายละเอียด CSI MasterFormat ฉบับปี ค.ศ. 2016 สามารถ Download ได้ที่

https://www.edmca.com/media/35207/masterformat-2016.pdf

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง

ฉบับประสบการณ์

ภาคที่ 3

ภาคผนวก

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง



ภาคผนวก 3-1: EPC TEMPLATE



3-1 | EPC Template

EPC Template

This EPC contract contemplates that a single contractor will be responsible for the entire project -- from

design through construction and testing. If the project developer desires to have the same firm also operate

the facility in commercial operation, the contractor could be designated the operator and a separate

contract executed, although that arrangement is not required by the language of the EPC contract.

Engineering, Procurement and Construction Agreement

This Engineering, Procurement and Construction Agreement (the “Agreement”) is made

and dated as of [Date] between [Legal name and description of organization of EPC

firm] (“Contractor”), and [Legal name and description of organization of Project

developer] (“Owner”). Each of Owner and Contractor may be referred to individually

as a “Party”, and together they may be referred to as the “Parties”.

Recitals

A. Owner is [Brief description of Owner and RET project plans] .

B. Contractor is [Brief description of Contractor and professional capabilities] .

C. Owner desires to construct and operate [Description of RET facility, with particulars

as to renewable energy technology, size and intended business use] (“Facility”) and

Contractor is willing to perform design, engineering, construction work to bring the

Facility to commercial operation, all pursuant to contract with Owner. Contractor is also

willing to operate the Facility commercially under separate agreement with Owner.

D. Owner intend to finance the development of the Facility through [Brief description

of structure of financing arrangement] .

E. Contractor is further willing to act on behalf of Owner by coordinating and enforcing

the Subcontractor Protections as set forth in this Agreement.

F. The Project requires [Brief description of types of regulatory or other governmental

approvals required] (“Authorizations”).


3-2 | EPC Template

G. Owner desire that Contractor perform on behalf of Owner the duties to act as general

contractor for the design, construction, performance of start up and testing of the Facility,

and development of the operation manual(s) for the Facility upon the terms and

conditions set forth in this Agreement.

H. Following completion of the Project, Owner will own the Facility, and Contractor will

operate and maintain the Facility pursuant to the O & M Agreement.

NOW, THEREFORE, in consideration of the promises and the mutual covenants and

agreements hereinafter set forth, the Parties agree as follows.

ARTICLE 1 - DEFINITIONS

1.1 - Definitions.

Capitalized terms used herein shall have the meanings set forth in Schedule I.

ARTICLE 2 - REPRESENTATIONS

2.1 - Representations by Contractor

Contractor represents that:

2.1.1 Organization and Qualification. Contractor is a [Description of legal

organization] duly organized and validly existing under the laws of _[Jurisdiction]_.

Contractor has all necessary power and authority to carry on its business as presently

conducted and to enter into and perform its obligations under this Agreement.

2.1.2 Authorization, approvals, no defaults. The execution, delivery and

performance of this Agreement by Contractor (1) has been duly authorized by all

requisite company action, (2) to the best of Contractor’s knowledge will not conflict with

any provisions of applicable Law, and (3) will not conflict with any legal or contractual

obligation to which it is a party or by which it or its property is affected.

2.1.3 Enforceability. This Agreement constitutes the legal, valid and binding

obligation of Contractor in accordance with its terms, except as enforceability may be

limited by bankruptcy, insolvency, or similar laws affecting creditors’ rights generally.

2.1.4 Legal proceedings. There is no action, suit or proceeding, at law or in

equity, or official investigation by or before any governmental authority, arbitral tribunal

or any other body pending or, to the knowledge of Contractor threatened, against or

affecting Contractor or any of its properties, rights or assets, which could reasonably be

expected to result in a material adverse effect on Contractor’s ability to perform its

obligations under this Agreement or on the validity or enforceability of this Agreement.

2.1.5 Site Inspection. Contractor and Contractor’s agents and representatives have

visited, inspected and are familiar with the Site, its physical condition, roads, access

rights, utilities, topographical conditions and air quality conditions, except for unusual or

unknown surface or subsurface conditions, or unusual or unknown soil conditions, and

have performed all reasonable investigations necessary to determine that the Site is

suitable for the construction and installation of the Facility, and are familiar with the local

and other conditions which may be material to Contractor’s performance of its

obligations under this Agreement (including, but not limited to transportation, seasons

and climates, access, the handling and storage of materials and fuel and availability and

quality of labor and materials).


3-3 | EPC Template

2.1.6 Necessary Rights. Contractor owns or will obtain the legal right to use all

patents, rights to patents, trademarks, copyrights and licenses necessary for the

performance by Contractor of this Agreement and the transactions contemplated hereby,

without any material conflict with the rights of others.

2.1.7 Approvals. Contractor has obtained and is in compliance with all

Governmental Authorizations (other than Governmental Authorizations listed in

Schedule XI, which Contractor will obtain as indicated in that schedule) that Contractor

is required to obtain hereunder and for the valid execution, delivery and performance by

Contractor of this Agreement, and all such legal entitlements are in full force and effect.

2.1.8 Qualification. Contractor (including where applicable, through its

relationships with Subcontractors and its Affiliates) possesses the know-how and

wherewithal to oversee the design, engineering, procurement and construction work

needed to complete construction of the Facility.

2.2 - Representations by Owner. Owner represents that:

2.2.1 Organization and qualification. Owner is a [Description of legal

organization] duly organized and validly existing under the laws of __[Jurisdiction]__.

It has all necessary power and authority to carry on its business as presently conducted, to

own or hold its properties, and to enter into and perform its obligations under this

Agreement.

2.2.2 Authorization, approvals, no defaults. The execution, delivery and

performance of this Agreement by Owner (1) has been duly authorized by all requisite

company action; (2) to the best of Owner’s knowledge will not conflict with any

provisions of applicable Law, and (3) will not conflict with any legal or contractual

obligation to which it is a party or by which it or its property is affected.

2.2.3 Enforceability. This Agreement constitutes the legal, valid and binding

obligation of Owner in accordance with its terms, except as enforceability may be limited

by bankruptcy, insolvency, or similar laws affecting creditors’ rights generally.

2.2.4 Legal proceedings. There is no action, suit or proceeding, at law or in

equity, or official investigation by or before any governmental authority, arbitral tribunal

or any other body pending or, to the knowledge of Owner threatened, against or affecting

MGE Power or any of its properties, rights or assets, which could reasonably be expected

to result in a material adverse effect on Owner’s ability to perform its obligations under

this Agreement or on the validity or enforceability of this Agreement.

ARTICLE 3 - THE WORK

3.1 - Scope of Work. Contractor shall provide or perform the Work or cause the Work to

be provided or performed, in accordance with the terms of this Agreement. Without

limiting the foregoing, the Work shall include conducting, performing, providing or

procuring when and as necessary to permit progress of the Work to proceed in

accordance with the Project Schedule:

3.1.1 all design and engineering activities and services necessary to conduct the

Work and complete the Facility in accordance with this Agreement and Contractor’s

obligations under the Facility Lease;


3-4 | EPC Template

3.1.2 all design and engineering activities and services necessary to obtain all

required permits for the construction and operation of the Facility;

3.1.3 all construction activities and services necessary to conduct the Work and

complete the Facility in accordance with this Agreement (including Site preparation,

excavation and grading and proper disposal of all excavated materials if and as required

in connection with performance of the Work);

3.1.4 all materials necessary to conduct the Work and complete the Facility in

accordance with this Agreement (including all necessary transport thereof);

3.1.5 all work forces necessary to conduct the Work and complete the Facility in

accordance with this Agreement (including all skilled and unskilled labor, supervisory,

quality assurance and support service personnel);

3.1.6 all documents required to direct Owner’ personnel in the proper start-up,

operation and maintenance of the Facility, including, without limitation, the Equipment

Instruction Manual and all as-built drawings and as-built wiring diagrams (in CD-ROM

format capable of generating reproducible hard copies, stamped by an Architect/Engineer

registered in [Jurisdiction of Facility and/or other]

3.1.7 all training of Operator adequate to allow Operator to assume responsibility

for dispatch and control of the Facility;

3.1.8 all other activities, services and items, whether or not specifically described

above, in Schedule VII or elsewhere in this Agreement, if such performance, provision or

procurement is necessary for a complete and operable Facility; provided, that Contractor

shall not be responsible for performing, providing or procuring those activities, services

and items for which Owner bear express responsibility pursuant to Article 5;

3.1.9 all design, engineering, materials, work forces needed to perform the

Acceptance Tests; and

3.1.10 all activity necessary to enable Contractor to achieve the agreed

Commercial Operation Date of [Deadline for commercial operation] .

ARTICLE 4 - CONTRACTOR’S RIGHTS AND RESPONSIBILITIES

4.1 - Engineering, Procurement and Construction of the Facility; Performance of the

Work. Contractor, on behalf of the Owner, shall act as the general contractor for the

Project and shall be solely responsible for the engineering, procurement and construction

of the Work, including, without limitation, the overall oversight and coordination of

construction of the Facility in accordance with: (a) the Specifications; (b) the

Authorizations for the Facility; (c) the terms of this Agreement; (d) the Traffic Control

Plan, the Safety Plan and the Security Plan; and (e) all applicable Laws. Contractor shall

coordinate the activities of Engineer, PM/CM, the Prime Subcontractors, the Safety

Director, the QA/QC Director and other persons providing labor and materials to the

Project to design, engineer and procure the equipment and materials for and complete the

construction of the Facility and act as the interface between the Owner and such persons

all in accordance with applicable Law and Good Utility Practice.

4.2 - Retention of Qualified Subcontractors and Suppliers Contractor may subcontract

any portion of the Work to one or more Subcontractors and Suppliers. Approved

Subcontractors and Suppliers as of the date hereof are set forth in Schedule VIII.


3-5 | EPC Template

Contractor shall provide notice to Owner of all proposed Subcontractors and Suppliers

for the Project who are not identified on Schedule VIII. Owner shall have the right to

present to Contractor, within the time period specified in Section 16.20 of this

Agreement, any objections or concerns they have regarding such proposed

Subcontractors and Suppliers, which objections and concerns shall be duly considered by

Contractor; provided, however, that the final decision and responsibility as to whether to

contract with any particular Subcontractor or Supply shall reside with Contractor.

4.2.1 Project Engineer. Contractor shall retain an engineer for the Project

(“Engineer”) or perform the duties of the Engineer. Engineer or Contractor shall be

retained under a separate Engineer’s Contract. The Engineer’s Contract shall include,

among other terms and conditions: (a) the requirement that Engineer dedicate a

competent team of professionals to perform the services required under Engineer’s

Contract and keep that team available to the Project for the duration of Engineer’s

Contract (which shall not end prior to the Commercial Operation Date); and (b)

commercially reasonable levels of professional liability insurance protecting against

errors and omissions of Engineer and Engineer’s employees and agents. Engineer shall

have the primary design responsibilities with respect to the Project. Engineer’s role and

responsibilities shall be more particularly set forth in Engineer’s Contract. If Contractor

undertakes to perform the duties of the Engineer, Contractor shall have the same

obligations defined for inclusion in the Engineer’s Contract.

4.2.2 Project Manager/Construction Manager. Contractor shall retain the project

manager/construction manager for the Project (“PM/CM”) or perform the duties of the

PM/CM. PM/CM or Contractor shall be retained under a separate PM/CM’s Contract.

At a minimum, the PM/CM’s Contract shall obligate the PM/CM to (a) create and update

the Project Schedule, subject to Owner’s approval; (b) monitor and oversee the

performance of all Subcontractors and suppliers to keep the Project moving towards

completion in accordance with the Project Schedule; (c) review and recommend whether

to pay of all invoices submitted by Project suppliers and Subcontractors and review the

work related thereto, to confirm that the work for which payment is requested has been

performed; (d) inspect the Work as completed to confirm that it was constructed in

accordance with the Specifications and performed to the required standard of care; (e)

comply with the Safety Plan; and (f) inform Contractor and the Owner regarding the

progress and quality of the Work, as necessary to enable them to perform their respective

functions under this Agreement. PM/CM shall further have the role and responsibilities

with respect to the Project, as are more particularly set forth in the PM/CM’s Contract.

The PM/CM’s Contract shall make a portion of PM/CM’s compensation subject to

achieving certain Project goals, including timely completion of the Work and completion

of the Work within the Project budget. The PM/CM’s Contract shall further obligate the

PM/CM to carry commercially reasonable amounts of professional liability insurance.

4.2.3 Major Equipment Suppliers. Contractor, with the assistance of PM/CM,

will select the persons to supply the major equipment systems for the Project.

(collectively, the “Major Equipment Suppliers”). Contractor and PM/CM, after

consultation with Owner, will select the Major Equipment Suppliers through a process

that evaluates, among other things, the cost, performance specifications, environmental

impact, performance history, and demonstrated performance of their installed equipment.

Contractor will negotiate commercially reasonable forms of contracts with the Major


3-6 | EPC Template

Equipment Suppliers, which forms shall include commercially reasonable terms and

conditions, including warranties, performance guarantees and liquidated damages.

4.2.4 Prime Subcontractors. Contractor shall retain the major construction

subcontractors (“Prime Subcontractors”) for the Project. Contractor, with the assistance

of PM/CM, will select the Prime Subcontractors by an evaluation process that evaluates

potential candidates based upon relevant criteria, including experience, reputation, and

demonstrated success in relevant construction projects. The contracts between Contractor

and the Prime Subcontractors (the “Prime Subcontractor Contracts”) shall provide for

payment to the Prime Subcontractors on a cost-plus incentive basis, with the Prime

Subcontractors given incentives for completing the Project on time, within budget, and

with good safety records. Each Prime Subcontractor Contract shall also give Contractor

the right to inspect and review that Prime Subcontractor’s audited financial statements,

payroll records and other relevant information related to its invoices to Contractor.

4.2.5 Quality Control/Quality Assurance. Contractor shall retain a qualified

person or firm to be responsible for quality control and quality assurance of the

completed Work (the “QA/QC Director”), subject to the approval of Owner, not to be

unreasonably withheld. The QA/QC Director shall be responsible, among other things,

for developing procedures for testing materials, the oversight of materials testing,

inspecting field assembled equipment (such as quality control of welding procedures and

welding testing), verifying QA/QC of materials used in the manufacture of major

equipment and verifying that all equipment and materials delivered to the Site meet the

specifications of Engineer. The QA/QC Director shall report to PM/CM, Contractor and

the Owner on a biweekly basis, or more frequently as needed. The role and specific

responsibilities of QA/QC Director with respect to the Project shall be more particularly

set forth in the agreement between Contractor and QA/QC Director (the “QA/QC

Contract”).

4.2.6 Safety Director. Contractor shall retain a qualified person or firm to serve as

the safety director for the Project (the “Safety Director”), subject to the approval of

Owner, not to be unreasonably withheld. If required by either Owner’s or Contractor’s

insurance provider, such Safety Director shall have the qualifications and authority

necessary to support the issuance of the required insurance for the Project. The Safety

Director shall be responsible to observe and enforce safe practices at the Site and related

support facilities and shall report to PM/CM, Contractor and the Owner on a biweekly

basis. The role and responsibilities of the Safety Director shall be more particularly set

forth in the agreement between Contractor and the Safety Director (the “Safety

Contract”).

4.3 Sales & Use Tax. Contractor shall pay, and invoice to Owner, as part of the Cost of

the Work, all sales, consumer, use, gross receipts, and other similar taxes, special

assessments and other fees in accordance with applicable Law.

4.4 Investigation of the Site.

4.4.1 Contractor acknowledges that it has reviewed the Ground Lease and has

made reasonable efforts to investigate the physical conditions affecting the Site,

consistent with the access that has been to Contractor and its agents. [Limitations, e.g.,

“Contractor has not been granted access to and has made no investigation or inspection


3-7 | EPC Template

of any of the off-Site staging areas, including the Lay Down Areas, the Soil Disposal

Area, or the Easement Areas, beyond drawings and other information previously

provided by Owner on which Contractor has relied.”]

4.4.2 Contractor shall ascertain the nature of the Site consistent with the access

that Owner has granted to Contractor and its agents and the general and local conditions

that may affect the Site and the cost of making the Site fit for the construction of the

Facility, provided however, that Contractor makes no representation or warranty as to

(a) any environmental matters that may exist, including without limitation, any surface or

subsurface contamination at the Site, except such surface or subsurface contamination

found in soil boring testing and subsurface water testing previously conducted by or on

behalf of Contractor; (b) the use or contents of any of the buildings that Contractor has

been asked to demolish or remove from the Site, except such use or contents revealed by

soil boring testing and subsurface water testing previously conducted by or on behalf of

Contractor; (c) any subsurface conditions of the Site; (d) any matters not disclosed in

Owner-provided drawings or other information provided to Contractor by Owner on

which Contractor has reasonably relied; or (e) any conditions at any off-Site areas or

facilities previously provided by Owner with respect to the Facility.

4.4.3 Except for environmental conditions and subsurface or other conditions that

could not have reasonably been discovered by a reasonable inspection of the Site within

the scope of access afforded Contractor by Owner, Contractor is responsible for

accommodating all Site conditions in the Specifications for and construction of the

Facility, regardless of when the Site condition is discovered, but shall not be responsible

for (a) subsurface or other conditions that could not be discovered by a reasonable

inspection of the Site, consistent with the limitations on access provided by Owner; (b)

any conditions of the off-Site Lay Down Areas, the Soil Disposal Area, the Easement

Areas or other staging areas for the Work provided by Owner, except to the extent that

such conditions were disclosed by the drawings and other information provided by

Owner to Contractor. Notwithstanding a failure by Contractor to perform its Site

investigation due diligence consistent with the access Owner has granted under this

Section 4.4, Contractor (except as expressly provided otherwise in Section 7.2.4 of this

Agreement) shall be responsible for successfully constructing the Facility without

adjustment of the Guaranteed Maximum Price.

4.5 - Hazardous Substances; Erosion.

4.5.1 Contractor shall be responsible for assuring that all Hazardous Substances

transported to or from, moved, or used or stored upon, the Site in connection with

Contractor’s performance of its obligations under this Agreement are transported, moved,

used or stored in accordance with applicable Law. Contractor shall further assure that all

Hazardous Substances are disposed of in accordance with applicable Law. Any costs of

clean up, transportation, treatment, storage or disposal of Hazardous Substances, other

than those Hazardous Substances identified in the soil boring testing and subsurface

water testing previously conducted by or on behalf of Contractor, that were on or under

the Site prior to the commencement of the Work shall be the sole responsibility and

expense of Owner.

4.5.2 Contractor shall be responsible for assuring that all waste generated in the

performance of its obligations under this Agreement and all waste transported to or from,


3-8 | EPC Template

moved or used or stored upon the Site by Contractor or any other person for whom

Contractor is responsible, within the scope of Contractor’s performance of this

Agreement, is handled in accordance with applicable Law. Contractor shall cause the

affected Subcontractors to manage and dispose of the waste in compliance with

applicable Law and Good Utility Practice.

4.5.3 Contractor shall be responsible to see that all sedimentation, erosion

control, and siltation within or adjacent to the Site caused by Subcontractors is conducted

in accordance with applicable Law. In the event Contractor fails to prevent such

sedimentation, erosion or siltation from occurring in violation of applicable Law, Owner

shall have the right, after notifying Contractor and providing it an opportunity to cure of

not less than three (3) Business Days, to correct such pollution or siltation. All expenses

incurred by the Owner in the course of such correction shall be credited against payments

owed to Contractor.

4.6 Compliance with Laws In carrying out its duties hereunder, Contractor shall comply

with all applicable Laws, including without limitation, all Laws relating to health, safety

or the protection of the environment. Owner shall have no responsibility for any costs of

environmental compliance or remediation to the extent caused by the negligent acts and

omissions or intentional or willful misconduct of Contractor or any of Contractor’s

employees or agents, including, without limitation, all Subcontractors and Suppliers.

4.7 Traffic Control Plan. Contractor shall work together with Owner to develop a

comprehensive traffic control plan for the Project (“Traffic Control Plan”), to assure all

persons supplying the Work prompt and safe access for deliveries to the Site, while

minimizing disruption to the surrounding area its regular activities or scheduled events.

Without limitation, the Traffic Control Plan shall provide, as required by the surrounding

areas and its activities: (a) for off-site parking for construction personnel and transport of

such personnel to the Site; (b) a general prohibition on deliveries of Major Equipment to

the Site during the hours of [Hours,] ; (c) that Contractor shall use its reasonable efforts

to arrange for deliveries of Major Equipment [Days and hours] ; and (d) that it shall be

consistent with any traffic control requirements set forth in any Governmental

Authorization. Owner shall use good faith efforts to assist Contractor in the development

of this plan and to assist in gaining for Contractor access to roads and other transportation

facilities necessary for timely and cost-effective completion of the Project. When

available, the draft traffic control plan shall be presented to Owner for review and

approval. Contractor acknowledges that it has studied the Site, railroads, surrounding

streets and highways and Contractor can transport all equipment to the Site and all costs

associated with the transportation and unloading of the equipment are included in the

Guaranteed Maximum Price, provided that access to the Site is available to Contractor

and the Subcontractors at all reasonable times and in accordance with the Traffic Control

Plan. Contractor shall provide to Owner its proposed Traffic Control Plan no later than

30 days following the date of this Agreement. The Parties shall use their good faith

efforts to finalize the Traffic Control Plan no later than 60 days following the date of this

Agreement.


3-9 | EPC Template

4.8 Safety Plan. Contractor, in conjunction with PM/CM, Safety Director and the Prime

Subcontractors for the Project shall develop a comprehensive safety plan to establish and

maintain appropriate safety rules and procedures in connection with the performance of

this Agreement (the “Safety Plan”). Such Safety Plan shall require, among other things

that Contractor and Owner satisfy any safety requirements of the insurers for the Project.

Contractor shall provide to Owner its proposed Safety Plan no later than 45 days prior to

the start of construction, but in any case no later than [Date] . The Parties shall use

their good faith efforts to finalize the Safety Plan no later than 15 days prior to the start of

construction.

4.9 Security Plan. Contractor shall establish appropriate security measures to maintain

the security of the Site and protect the Work in progress (the “Security Plan”). The

Security Plan shall comply with all requirements of the insurers for the Project, shall

address the reasonable concerns of the University and shall, at a minimum require that

Contractor shall cause to be erected (as required by the nature and activities of the

surrounding areas) temporary chain link fencing, and temporary security lighting to

secure the Site and Lay Down Areas. Contractor shall provide to Owner its proposed

Security Plan no later than 30 days following the date of this Agreement. The Parties

shall use their good faith efforts to finalize the Security Plan no later than 60 days

following the date of this Agreement.

4.10 Construction and Storage Confined to Permitted Areas. Contractor and the

Subcontractors and suppliers shall confine construction activities and storage to the Site,

to the Lay Down Areas provided by Owner as more particularly depicted on the diagram

attached hereto as Schedule V (the “Lay Down Areas”), to the area designated by Owner

for soil disposal in the Ground Lease (the “Soil Disposal Area”), to temporary and

permanent easements that are reasonably necessary for the construction, operation,

maintenance and repair of the Project and support facilities for the Project, that have been

provided or are in the future provided by Owner (the “Easement Areas”) and to other

areas that may hereafter be provided by Owner or other persons for such purposes.

4.11 Construction Office; Records. Contractor shall maintain a temporary construction

office at the Site during the course of construction of the Facility. Contractor shall

maintain at such office a copy of the Specifications, together with construction-related

drawings that are developed during the course of the Project. Contractor agrees to

provide space for the Safety Director in the temporary construction office. Contractor

agrees to remove the temporary construction office from the Site within six months after

the Commercial Operation Date. Contractor shall further maintain an office off the Site,

which during the Term of this Agreement and the 24 months following the Commercial

Operation Date shall serve as a repository for all documents relating to the Project.

Contractor shall provide Owner full access to such records during regular business hours

in accordance with the procedures set forth in Section 5.4.4.

4.12 No Liens. Contractor shall be responsible to see that all equipment and materials

incorporated into the Work that are purchased by Contractor or by any Subcontractor to

the Project shall not be subject to any chattel mortgage, conditional sales contract, or


3-10 | EPC Template

security agreement under which an interest or lien is retained; provided, however, that

such equipment and materials may be subject to the security interest of the vendor, to

secure the payment of the purchase price of the affected equipment and materials, so long

as such security interest is terminable upon payment in full and Contractor causes good

title to such equipment and materials, free and clear of such security interest to be

conveyed to Owner on or before the date of Final Payment. Contractor shall, as a

condition precedent to payment, provide lien waivers to Owner before final payment is

required to be made by Owner.

4.13 Compliance with Authorization Requirements. Contractor will familiarize itself with

and comply with any applicable requirements of all Government Authorizations for the

Facility, including without limitation, requirements pertaining to environmental

protection, noise abatement, erosion, traffic control, and parking.

4.14 Patents .Contractor shall, at its sole expense, pay or use reasonable efforts to ensure

that its Subcontractors and Suppliers pay all royalties, license fees or other costs incident

to their use in the performance of the Work of any invention, design, process, product, or

device that is the subject of patent rights or copyrights held by others.

4.15 Inspections; Defective Work. Contractor shall communicate regularly with PM/CM

regarding PM/CM’s inspection of completed portions of the Work for conformity with

the Specifications and for freedom from defects. Contractor shall accompany PM/CM on

such inspections as necessary under the circumstances. In the event that PM/CM notifies

Contractor of defective work that: (a) has the potential to have a material impact on the

Cost of the Work or the Project Schedule; or(b) indicates a systemic problem (i.e., a

persistent, widespread and/or material problem for the Project) with any piece of

equipment, any portion of the Work, or the performance of any Major Equipment

Supplier or Subcontractor, Contractor shall within 3 Business Days notify and provide

relevant information to the Owner. Such information shall include the nature and extent

of the problem, the cost and delay associated with the defective Work (if known), and the

steps that Contractor and PM/CM are taking to remedy the defective performance,

including any remedies that they are pursuing under the applicable contract.

4.16 Contractor Responsibility to Owner. Contractor covenants that in carrying out its

duties on behalf of Owner under this Agreement, Contractor will at all times proceed in

accordance with Good Utility Practice, will protect the interests of Owner in any dealings

with Contractor’s affiliates .

4.17 Facility Start Up and Acceptance Testing. Contractor shall be responsible for

coordinating all tasks and responsibilities associated with Acceptance Testing and

Facility Start Up.

4.17.1 Testing Methodology. The testing methodology for Acceptance Testing is

set forth in Article 11 and in Schedule III.

4.17.2 Acceptance Standards; Consequences of Under-Performance. The

Acceptance Tests for the Work and the consequences for the Work falling short of the


3-11 | EPC Template

Acceptance Test Capacity Guarantee standards are set forth in Article 11 and Schedule

III.

4.18 Other Authorizations. Except for the Governmental Authorizations, Contractor shall

be required to obtain all other Authorizations (e.g., street opening permits, plumbing

permits, etc.) required for the performance of the Work.

4.19 Confidentiality. Contractor shall make available to Owner any record produced or

collected under this Agreement. Owner agrees to treat as confidential materials that

Contractor reasonably identified, and clearly designated, as confidential. Owner agrees

that if it shall receives an order (in whatever form) compelling it by Law to disclose any

such confidential record produced or collected under this Agreement, it shall (to the

extent permitted by Law) afford Contractor, and any Subcontractors who were the source

of the requested record, notice of such request to afford Contractor or such others an

opportunity to contest the order.

4.20 Insurance. Contractor shall obtain and maintain insurance as set forth in

Schedule II.

4.21 Contractor Guarantee. On the Effective Date, Contractor shall obtain and deliver a

guarantee from [Name of parent firm or other Guarantor] . (“Parent Guarantee”) of

performance for the obligations of Contractor, in the form of Schedule X. The

obligations of Owner pursuant to Article 5 hereunder are expressly conditioned upon the

receipt of such Parent Guarantee.

ARTICLE 5 - OWNER’ RIGHTS AND RESPONSIBILITIES

5.1 Transfer of Control Responsibility to Owner. On the Commercial Operation Date,

Owner, through Operator and in accordance with the terms of a separate O & M

Agreement, shall assume sole responsibility for the dispatch and control of the Facility.

except that Contractor shall have the right and obligation to (a) provide technical,

operational and general supervisory guidance, (b) complete any remaining Punch List

items on a schedule that is mutually agreeable to the Parties; and (c) otherwise perform its

remaining obligations under this Agreement.

5.2 Owner’s Responsibilities During the Project. Owner shall:

5.2.1 Make payment of the Cost of the Work in accordance with Article 9.

5.2.2 Require employees and agents to abide by all rules applicable to the Site and

the Facility, including but not limited to rules pertaining to safety, security procedures or

requirements, and designated entrances.

5.2.3 Reasonably cooperate with Contractor and provide any other assistance

reasonably necessary to enable Contractor to perform the Work as required hereunder.

5.2.4 Provide adequate temporary construction easements and permanent

easements for the Facility and any necessary support facilities for the Facility.

5.2.5 At all times promptly respond, including making appropriate representatives

available with decision-making authority, to any reasonable requests by any of the Parties


3-12 | EPC Template

to this Agreement for meetings, for review and comments regarding relevant documents

provided to them for review and comment.

5.2.6 At all times, use commercially reasonable efforts to proceed in a manner

that supports the Project Schedule.

5.2.7 Promptly take all actions reasonably requested by Contractor to assist

Contractor in obtaining any Authorizations for the Facility.

5.2.8 Not unreasonably withhold their support from other actions reasonably

requested by Contractor to promote the timely completion of the Facility or to promote

the completion of the Facility within the Project budget.

5.3 Denial of Authorizations. Subject to the specific rights and obligations of the Parties

set forth in Section 7.2.4 and Article 14, if Contractor or Owner is denied a required

Authorization, or any such Authorization is obtained but contains restrictions,

qualifications or conditions that would have a material adverse impact on the benefits or

obligations of the Parties under this Agreement, the Parties agree to use commercially

reasonable efforts, within 30 days of the denial of the required Authorization or issuance

of the unduly restrictive Authorization, to reform this Agreement, or to take other

mutually agreeable actions (including, for example and without limitation, one Party

indemnifying or making whole the other Party), that provide each Party with economic or

other benefits that are substantially equivalent to those set forth in this Agreement. If the

Parties are unable to so reform this Agreement or agree upon other mutually acceptable

arrangements, Section 13.5 (Force Majeure; Failure of Authorizations) shall apply.

5.4 Owner’s Additional Rights and Responsibilities. In addition to its responsibilities as

Owner under Section 5.2 of this Agreement, Owner shall have the following

responsibilities with respect to the Project:

5.4.1 Financing. Owner will take all actions necessary to obtain the financing it

needs to enable it to satisfy its payment obligations under this Agreement.

5.4.2 Inspection of Contractor’s Records. At any time from the execution of this

Agreement to 7 years after the Final Completion Date, Contractor (or an Affiliate of

Contractor duly designated as the custodian of Contractor’s books and records) shall,

upon reasonable prior notice from Owner with respect to the subject matter and schedule,

provide a designated representative of Owner during normal business hours with such

reasonable access to Contractor’s books and records as is reasonably necessary to enable

the person providing notice to review Contractor’s costs incorporated into the Cost of the

Work and Contractor’s calculation thereof. Such review shall be at the cost and expense

of the person(s) conducting the review. In conducting such review, the person(s)

reviewing such books and records shall follow reasonable security procedures designed to

protect against the release of trade secrets and other confidential information.

5.4.4 Owner’s Right to Inspect Work. Owner and its agents and employees shall,

upon reasonable prior notice to Contractor and subject to adherence to the safety

procedures and other procedures and requirements applicable to the Site (including

without limitation, and such procedures and requirements established in connection with

any insurance coverage obtained in connection with the Project), have access to inspect

all Work; provided, however, that any inspection of the Work shall be conducted at a

reasonable time and in a manner that does not delay or increase the Cost of the Work by


3-13 | EPC Template

disrupting the Work. Contractor shall have the right to condition such inspection upon the

persons conducting the inspection observing procedures to preserve the safety and

security of the Site and to comply with any applicable requirements of Project insurers.

Notwithstanding any review or inspection by the State of the Work, Contractor shall not

be relieved of its responsibility for the design, construction and performance of the

Project as expressly set forth in this Agreement solely by virtue of the State’s inspection

or review.

5.5 Contractor’s Rights and Responsibilities.

5.5.1 Financing. Contractor will take all actions necessary to obtain the financing

it Power needs to enable it to satisfy its payment obligations under this Agreement.

5.5.2 Government Authorizations. Contractor, on behalf of Owner shall apply for

and obtain all necessary Authorizations for the construction and operation of the Facility

that are identified by Government Authorities as being required for the Facility, based

upon the submitted Engineering Plan for the Facility.

ARTICLE 6 - OWNERSHIP OF ASSETS

6.1 Ownership of the Facility; Risk of Loss. Ownership of the Facility, and of each item

of material, equipment, machinery, supplies and other items incorporated therein, shall

pass from Contractor to Owner in accordance with the percentage Ownership interest

obtained with each payment pursuant to Article 9, except as provided below.

ARTICLE 7 - COST OF THE WORK; PROJECT FINANCING

7.1 Guaranteed Maximum Price. The maximum amount the Owner shall be obligated to

pay Contractor for completion of the Work shall be the sum of [Fixed Price of

Contract] (“Guaranteed Maximum Price”), subject only to the adjustments defined in

this Article 7 of this Agreement. Owner’s responsibility for the Guaranteed Maximum

Price shall be adjusted only pursuant to (a) Section 7.2 of this Agreement relating to the

Guaranteed Maximum Price; (b) the right of the Utility Regulator to affect the Costs of

the Work, as set forth in Article 14; and (c) the impact of Change Orders made by the

Parties as set forth in Article 8, but excluding increases to the Cost of the Work resulting

from Change Orders necessary to remedy errors and omissions by Contractor or its

Subcontractors.

7.2 Exclusions from the Guaranteed Maximum Price. The following items (the “Excluded

GMP Costs”) are not covered by the Guaranteed Maximum Price and such costs shall be

payable by Owner in excess of the Guaranteed Maximum Price, except as expressly

provided otherwise below: (a) any incremental Cost of the Work resulting from uninsured

Force Majeure, which, at Owner’s election, may be shared equally with Contractor, in

which case, termination for a Force Majeure Event because of the shared costs shall not

be permitted; (b) any increase or decrease in the Cost of the Work resulting from the

imposition of additional requirements or reallocation of the Cost of the Work by the


3-14 | EPC Template

Utility Regulator, which shall be handled in accordance with Section 14.l; (c) any

increase or decrease in the Cost of the Work resulting from any Change Order made

pursuant to Section 8.4, 8.5, or 8.8, which shall be allocated as set forth in such Sections;

and (d) any increase in the Cost of the Work resulting from the Owner’s failure to

cooperate reasonably with Contractor the other Parties to this Agreement, including

without limitation owner’s failure to carry out its duties under Sections 5.2 or 5.4.

ARTICLE 8 - ADDENDA AND CHANGE ORDERS

8.1 General. “Addenda” are changes to the Work before construction begins. “Change

Orders” are changes to the Work after construction begins. Addenda and Change Orders

shall be handled as follows:

8.1.1 Any Party may request an Addendum or Change Order in writing.

8.1.2 Approval or rejection of Addenda and Change Orders that increase or

decrease the Cost of the Work or change in schedule that could have the effect of

delaying Mechanical Completion must be approved by Owner and Contractor prior to

execution of such Addenda or Change Order.

8.1.3 Addenda and Change Orders that increase or decrease the Cost of the Work

shall be approved or rejected in accordance with the procedures set forth in Sections 8.2

and 8.3 and in accordance with the time periods provided for the State in Section 16.20.

8.2 Process. Any of the Parties may request in writing an Addendum or a Change Order

consisting of additions to, deletions from, or other revisions to the Work, provided that

such changes are within the general scope of the Work. All requests for Addenda or

Change Orders by an Owner shall be submitted to Contractor, with copies to PM/CM and

Engineer (as appropriate). All requests for Addenda or Change Orders by Contractor shall

be submitted to Owner, with copies to PM/CM and Engineer.

8.3 Initial Evaluation of Addendum and Change Order Requests; Applicable Standards.

Any Addendum or Change Order request from an Owner shall be evaluated by

Contractor, with the input and assistance of PM/CM and Engineer. Each Addendum or

Change Order request shall initially be evaluated to determine whether it: (a) adds value

to the Facility without increasing the Cost of the Work or delaying Mechanical

Completion of the Facility; (b) adds value to the Facility without delaying Mechanical

Completion of the Facility, but increases the Cost of the Work; or (c) does not add value

to the Facility or adds value to the Facility, but will delay Mechanical Completion of the

Facility or compromise performance of the Facility; or (d) (in the case of an Addendum

only) decreases Cost of Work without delaying Mechanical Completion. All Addenda

and Change Orders in category (a) or Addenda in category (d) shall be approved; all

Addenda and Change Orders in category (c) shall be rejected (unless mutually agreed

otherwise, including the allocation of the cost, by all Parties); and all Addenda and

Change Orders in category (b) shall be approved, if and only if the increased Cost of the

Work is allocated as set forth below in this Article 8.

8.4 Addenda or Change Orders Requested by Owner. If Owner requests an Addendum

or a Change Order to address solely Owner’s needs, including without limitation changes


3-15 | EPC Template

to address aesthetic or design requirements, and such Addendum or Change Order is

approvable under Section 8.3 above and approved by Contractor, but increases the Cost

of the Work, then Owner shall bear the entire incremental Cost of the Work (including

costs of delays and rework) resulting from such Addendum or Change Order.

8.5 Addenda and Change Orders Required by Acts of Governmental Authorities. If any

action of any Governmental Authority requires an Addendum or a Change Order that

increases or decreases the Cost of the Work the Owner shall be responsible for any

incremental Cost of the Work.

8.6 Addenda and Change Orders Requested by Contractor. If Contractor requests an

Addendum or a Change Order that is approved by the Owner, then Owner and Contractor

shall share equally any increase or decrease in the Cost of the Work resulting from such

Addendum or Change Order.

8.7 Addenda and Change Orders Resulting from Errors or Omissions of Contractor.

Owner shall not be responsible for any increased Cost of the Work resulting from

Addenda and Change Orders that are necessary because of errors of Contractor and/or its

Subcontractors in coordinating the design, scheduling or construction of the Facility.

8.8 Markup on Addenda and Change Orders. On any Addenda and Change Orders under

Sections 8.4, and 8.5, Contractor and its Subcontractors shall be entitled to a markup not

to exceed ten percent (10%) in the aggregate of the Cost of the Work covered by the

Addendum or Change Order.

8.9 Tracking of Cost Impact of Addenda and Change Orders. Contractor shall institute

and maintain a ledger type system to track the impact of all increases and decreases to the

Owner’ Allocated Shares of the Cost of the Work resulting from any Addenda or Change

Orders approved by Contractor and Owner. Contractor shall monthly, and more

frequently upon request, report to the Owner the cumulative impact of such Addenda and

Change Orders upon their respective Allocated Shares of the Cost of the Work. If

applicable, the Parties shall modify the Project Schedule and Payment Milestones to

reflect the impact of Addenda and Change Orders.

ARTICLE 9 - PAYMENT FOR WORK

9.1 Payment Milestones; Payment Schedule.

9.1.1 Progress Report and Invoice.

9.1.1.1 On or about the fifth Business Day of each calendar month, Contractor

shall submit to Owner (i) its invoice, and (ii) a progress report covering the previous

calendar month (the “Payment Period”) containing at a minimum the following

information (“Progress Report”): (1) A description of the Work performed during the

Payment Period and all Payment Milestones achieved; (2) A description of the Work not

yet performed, if any, necessary to meet the Project Schedule for such Payment Period;

(3) A description of the Work and the related Payment Milestones anticipated to be


3-16 | EPC Template

performed or achieved during the next month; (4) A statement of the amount due

Contractor for Work for which payment was withheld from an earlier payment; (5) A

statement of all sums previously paid to Contractor; (6) Partial lien waivers from

Contractor covering all the Work through the immediately preceding Payment Period; (7)

An updated Project Schedule showing progress to date, any failures to meet the Project

Schedule, the current schedule of activities and a forecast of activities remaining to be

performed; (8) Information regarding unusual weather conditions or Force Majeure

events encountered during the Payment Period that have affected the Work; (9) A

discussion of any problems encountered during the period and the remedies effected or

planned; (10) Bulk quantities installation curves showing planned versus completed

quantities (e.g., concrete, , piping, conduit and wire); (11) Any interim payment by

Contractor to the Subcontractors that obligates Owner to pay interest to Contractor as part

of the invoiced Milestone Payment, together with the amount of interest that is payable;

(12) Any other information reasonably requested in writing by either Owner; (13) Value

of Change Orders and Addendums added to the Payment Milestone Schedule; (14)

Itemization and allocation of any Excluded GMP Costs; and (15) If requested by Owner:

a) the dates of any Payment Milestones for Major Equipment Supplier contract payments

coming due before the next monthly Payment Due Date; and b) Contractor’s good faith

estimate of all payroll and other Subcontractor and Supplier payments (together with the

estimated payment dates) that Owner will need to make, prior to the next monthly

Payment Due Date to avoid or minimize interest charges.

9.1.1.2 In the event either Owner reasonably determines that Contractor has not

met a Payment Milestone in accordance with the Payment Milestone Schedule during the

applicable period, Owner may withhold an amount equal to the value of the Payment

Milestone not completed until such Payment Milestone is completed. In the event of any

such withholding, the dissatisfied Owner shall deliver to Contractor, not later than the

Payment Due Date for the payment from which such withholding is being made, a written

Notice specifying the basis for the withholding. Contractor shall be paid such withheld

amount, without interest, on succeeding Payment Date(s) when and to the extent

Contractor demonstrates and Owner reasonably agrees that the previously unjustified

payment has become justified. If the disputing Owner and Contractor agree before the

next Payment Due Date that any Payment Milestone payment was wrongly withheld, then

the disputing Owner shall pay to Contractor on the next Payment Due Date interest at the

Late Payment Rate on any monies that were wrongly withheld. In the event of any

withholding dispute that is not resolved by the next Payment Due Date, Contractor shall

have the right to have the PM/CM review the dispute and the disputing Owner’s reasons

for withholding payment. If the PM/CM concludes the withholding is justified, then

Contractor shall not be entitled to be paid the withheld amount unless and until it

addresses any reasons for withholding that are confirmed by the PM/CM. If the PM/CM

concludes that the withheld payment was wrongly withheld, then the withholding Owner

shall immediately pay to Contractor, the wrongly withheld amount, together with interest

at the Late Payment Rate on the withheld Payment Milestone payment(s), from the

Payment Due Date until the wrongly withheld amount is paid in full.

9.1.1.3 In the event Contractor owes Owner any amounts under this Agreement

and such amounts remain unpaid 30 Days after Notice thereof, Owner may offset such

amounts from any payment hereunder.


3-17 | EPC Template

9.1.1.4 Contractor shall not cease or reduce the rate of its performance under this

Agreement on account of any withholding under this Section 9.1.

9.1.2 Payment. Other than amounts properly withheld pursuant to Sections 9.1

and 9.2, and retainage as described in Section 9.3, Owner shall pay the applicable

payment for each Payment Milestone within 30 days after Contractor invoices the

applicable Payment Milestone (the “Payment Due Date”).

9.1.3 Interest. Owner will pay actual reasonable interest cost incurred by

Contractor to advance funds for payments to Subcontractors.

9.2 Retainage. All amounts paid by Owner to Contractor pursuant to the Payment

Milestone schedule for Non-Major Equipment and Services prior to Commercial

Operation shall be subject to retainage of ten percent (10%) until the aggregate retainage

reaches [Cap amount] , whereupon the State shall not withhold any further retainage.

Upon Mechanical Completion, one-half of the retainage withheld, less the Punch List

Holdback Amount, shall be released to Contractor.

9.3 Final Payment. Upon (a) Final Completion, (b) the provision by Contractor of lien

waivers for all remaining liens on the Project to Owner and (c) acceptance of the Work

by Owner in accordance with Section 10.6, Owner shall pay the “Final Payment”.

ARTICLE 10 - COMMENCEMENT AND PERFORMANCE OF WORK

10.1 Commencement; Schedule. Contractor shall commence performance of the Work at

the earliest reasonable time (the “Construction Commencement Date”) but no later than

30 days following the last to occur of the following: (a) issuance of any Authorizations

required for the Facility; (b) completion of the final foundation drawings for the Project;

(c) availability of suitable weather conditions for the commencement of construction; and

(d) Owner having in place all insurance policies required of them under this Agreement.

10.2 Mechanical Completion. “Mechanical Completion” shall occur when, except for

minor items of the Work that would not affect the performance or operation of the

Facility such as painting, landscaping and so forth (a) all materials and equipment for the

Facility have been installed substantially in accordance with the Specifications; (b) all

systems required to be

installed by Contractor have been installed and tested (excluding Acceptance Testing); (c)

all the equipment and systems can be operated in a safe and prudent manner and have

been installed in a manner that does not void any Subcontractor equipment or system

warranties; (d) the Facility is ready to commence start-up, Acceptance Testing, and

operations; (e) a Punch List of the uncompleted items is established by Contractor and

mutually agreed upon by the Parties, provided that if Contractor and Owner disagree as to

whether a particular item shall appear on the Punch List, the Independent Engineer shall

promptly decide the dispute; (g) all Work, other than Punch List items and Acceptance

Testing and any other Work sequenced after Mechanical Completion, has been

completed; and (h) the Independent Engineer certifies each of the foregoing in writing to

the Owner.


3-18 | EPC Template

10.3 Commercial Operation. “Commercial Operation” shall be deemed to have occurred

as of the first point in time after (i) Mechanical Completion of the Facility has occurred,

as determined by the Independent Engineer; (ii) completion of Acceptance Testing

pursuant to Section 11.2, or alternatively satisfaction of Contractor’s Acceptance Test

related obligations in Section 11.3 (including, if applicable, payment of liquidated

damages pursuant to Section 11.3); and (iii) when the Facility is used and useful for the

purpose of delivering electric energy to Owner (other than electric energy delivered

during Facility Start Up and Acceptance Testing). If the Owner disputes that

Commercial Operation has occurred, it shall provide written notice to that effect to

Contractor, specifying the basis for disputing Commercial Operation and the Parties in

dispute shall thereafter utilize the dispute resolution procedures in Article 12 to resolve

the dispute. Failure of the Owner to provide such written notice within ten (10) Business

Days after receipt of notice of Commercial Operation shall constitute waiver of the

Owner’s right to dispute that Commercial Operation has occurred.

10.4 Punch List. A list of the uncompleted items for the Project shall be established by

Contractor prior to Mechanical Completion (the “Punch List”). The Punch List may be

amended from time to time, upon written Agreement of the Parties, prior to Final

Completion. The Punch List shall include all deliverables through Final Completion.

The “Punch List Holdback Amount” shall be two times the aggregate of the value of the

Punch List items agreed to by the Parties, or determined by the Independent Engineer, if

the Parties cannot agree. The Punch List Holdback Amount shall be withheld from

payments due upon Mechanical Completion, and the agreed value of each Punch List

item shall be paid to Contractor upon completion of the Punch List item and any

remaining Punch List Holdback Amount shall be paid to Contractor upon completion of

all Punch List items.

10.5 Final Completion. “Final Completion” occurs after Commercial Operation has

occurred and any remaining Punch List items have been finished. Contractor will notify

Owner when it considers that Final Completion has occurred. If the Owner disputes that

Final Completion has occurred, it shall provide written notice to that effect to Contractor

specifying the basis for disputing Final Completion and the Parties in dispute shall

thereafter use the dispute resolution procedures in Article 12 to resolve the dispute.

Failure of the Owner to provide such written notice within 10 Business Days after the

initial notice from Contractor shall constitute waiver of the Owner’s rights to dispute that

Final Completion has occurred.

ARTICLE 11 - ACCEPTANCE TESTING; CAPACITY GUARANTEE;

COMPLETION GUARANTEE; WARRANTIES; LIMITATION OF LIABILITY

11.1 Acceptance Tests. Contractor will be responsible for coordinating the Acceptance

Tests of the Facility as more particularly set forth in Section 11.2 and Schedule III of this

Agreement (the “Acceptance Tests”). Such Acceptance Tests shall be conducted by one


3-19 | EPC Template

or more qualified independent testing companies approved by the Parties (the “Testing

Engineer”).

11.2 Acceptance Testing.

11.2.1 General. Within 60 days following Mechanical Completion, Contractor

shall cause the Testing Engineer to conduct the initial Acceptance Test, subject to Section

11.2.3 below. The Acceptance Tests shall be conducted in accordance with Schedule III.

11.2.2 Procedure.

11.2.2.1 The procedures for conduct of the Acceptance Test are set forth in

Schedule III. Either Party may propose changes to a test procedure at any time up to 60

days prior to commencement of the initial Acceptance Test, and each Party agrees to

cooperate in good faith in evaluating such change. No change shall be effective,

however, without written acceptance of Owner and Contractor.

11.2.2.2 Contractor shall give Owner and Engineer 30 days’ advance written

notice of the time it expects the qualified independent testing company to conduct the

initial Acceptance Test. Owner, Engineer and their representatives may observe any

Acceptance Test conducted by the Testing Engineer in order to confirm the Testing

Engineer’s compliance with the procedures set forth in Schedule III.

11.2.3 Acceptance Testing Period; Repeat Tests. Contractor, subject to the

provisions of this Section 11.2.3 and Schedule III, may repeat an Acceptance Test as

Contractor deems appropriate; provided, that all Acceptance Tests must be completed by

60 days after the Facility achieves Mechanical Completion (the “Acceptance Testing

Period”), unless: (a) the Parties agree otherwise in writing; or (b) the Acceptance Testing

Period is extended by Force Majeure, but not beyond the Delay Default Date. Contractor

shall bear the costs of performing the repeat Acceptance Tests. Contractor shall give

Owner and Engineer not less than the following advance notice of each Acceptance Test

following the initial Acceptance Test: (i) if the Acceptance Test is a prompt retest which

merely continues a previously commenced Acceptance Test or promptly follows a failed

Acceptance Test, not less than 24 hours advance notice; and (ii) if the Acceptance Test is

a new Acceptance Test that follows an interim period of more than 10 Business Days

during which no Acceptance Testing has occurred, then not less than 3 Business Days

advance notice, unless a shorter period is agreed to by the Parties.

11.2.4 Acceptance Test Results.

11.2.4.1 After the Testing Engineer completes an Acceptance Test, Contractor

shall give written notice thereof to Owner and Engineer and shall provide Owner and

Engineer with all gross and reduced data for such test in accordance with Schedule III.

11.2.4.2 If the Testing Engineer determines that the Acceptance Test was

successfully completed, Contractor shall ensure that the Testing Engineer notifies Owner

and Engineer thereof promptly following determination to that effect, including providing

them a copy of the written test report.

11.2.5 Contractor to Promptly Commence and Complete Acceptance Testing.

Contractor shall promptly commence and complete Acceptance Testing following

Mechanical Completion.

11.3 Acceptance Test Capacity Guarantee. At the end of Acceptance Testing Period

under Section 11.2.3, the Facility shall have demonstrated the capability to produce


3-20 | EPC Template

[Specification of performance standard for production of electricity], based upon the

Acceptance Testing results. Contractor hereby guarantees that the Facility shall perform

at not less than 97% of the Promised Capacity by the end of the Acceptance Testing

Period (the “Acceptance Test Capacity Guarantee”). Contractor and the Testing Engineer

shall be entitled to conduct and verify satisfaction of the Acceptance Tests in stages and

in such order as may be appropriate given the available testing conditions. In the event

that the Facility fails to meet the Acceptance Test Capacity Guarantee, the following shall

apply:

11.3.1 If either the actual tested performance is less than 97% but greater than

90% of the Promised Capacity (the “Minimum Required Capacity”), Contractor may, at

its sole option, elect to either (i) make (or cause to be made) the modifications,

improvements, redesign, repairs or reconstruction (“Remedial Measures”) necessary to

cause the Facility to meet the Acceptance Test Capacity Guarantee as evidenced by

repeat Acceptance Tests; or (ii) pay liquidated damages to Owner as follows: For each

0.1% below 97% of the Promised Capacity, the liquidated damages shall be [Liquidated

damages amount] . Contractor’s obligations under this Section to undertake Remedial

Measures and/or pay liquidated damages shall be counted toward and subject to the

Damages Cap set forth in Section 11.10.

11.3.2 If the actual tested capacity of the Facility is less than the Minimum

Required Capacity, Contractor shall conduct Remedial Measures until the earlier in time

to occur of the following: (a) the actual tested capacity of the Facility is at least equal to

the Minimum Required Capacity; or (b) Contractor reaches the Damages Cap set forth in

Section 11.10.

11.4 Guaranteed Mechanical Completion Date; Delay Default Date. Contractor hereby

guarantees (the “Mechanical Completion Date Guarantee”) that the Facility shall have

achieved Mechanical Completion on or before the Guaranteed Mechanical Completion

Date. In the event that the Facility has not achieved Mechanical Completion on or before

the Guaranteed Mechanical Completion Date, then Contractor shall pay to Owner

liquidated damages as follows: (a) $5,000/day for each day or a portion thereof for the

first 30 days beyond the Guaranteed Mechanical Completion Date that the Project has not

achieved Mechanical Completion; (b) $10,000/day for each day in excess of 30 days

beyond the Guaranteed Mechanical Completion Date that the Project has not achieved

Mechanical Completion. If the Facility fails to achieve Mechanical Completion by the

Delay Default Date, then this shall be an Contractor Event of Default as provided in

Section 13.1.5.

11.5 Compliance with Standards. In the event the Facility contains any design or

construction defects (“Defects”) that cause it to fail to meet any design, construction or

Mechanical Completion standard in the Specifications or the Agreement, then Contractor

shall, at no expense to Owner (except in the case of omitted equipment and materials, as

provided in this Article 11), make (or cause to be made) the Remedial Measures

necessary to remedy the Defects. In the event the Remedial Measures include supplying

equipment and materials that were necessary to the Facility, but omitted from its

construction, Owner shall pay for the costs of such omitted equipment and materials as

part of the Cost of the Work if such Remedial Measure is implemented to address Defects


3-21 | EPC Template

discovered before the Facility achieves Mechanical Completion. If the Remedial

Measure is implemented to address Defects discovered after the Facility achieves

Mechanical Completion, Owner shall not be obligated to pay any portion of the cost of

the omitted equipment and materials.

11.6 Contractor’s Warranties. Contractor warrants to Owner as follows:

11.6.1 Contractor shall perform the Work, including its design and engineering

services hereunder, and will procure all materials hereunder using its best skill and

attention, in accordance with Good Utility Practice associated with engineering and

procurement of facilities such as the Facility.

11.6.2 Contractor shall perform its construction services hereunder in a good and

workmanlike manner and otherwise in accordance with Good Utility Practice associated

with constructing facilities such as the Facility. The Facility will, at all times through the

Commercial Operation Date, comply with all Laws. Contractor shall have no obligation

for breach of warranty under this Section 11.6 to the extent any deficiencies are the result

of Force Majeure, normal wear and tear, misuse or negligence by Owner or someone

other than Contractor acting on Owner’s behalf.

11.6.3 All materials procured or furnished by Contractor hereunder shall be new

(unless otherwise agreed by Owner in writing), of good quality and in accordance with

the specifications set forth in this Agreement and the Schedules.

11.7 Repair and Replacement of Defective Work. If any breach arises under Contractor’s

warranties in Section 11.6, Contractor shall, at its sole cost and expense and subject to the

Damages Cap, promptly correct, replace or repair, at Owner’s selection, any defect in

design, engineering, materials, workmanship or operability in the Facility discovered

during the Warranty Period. Any such correction, replacement or repair prior to

Mechanical Completion shall not be considered a Remedial Measure. Contractor’s

correction, replacement, or repair shall be made with due regard to Owner’s operational

requirements.

11.8 Subcontractor Warranties; Subcontractor Protections for Owner. Contractor shall

use its good faith efforts, in its negotiations with all Subcontractors for the Facility, to see

that such Subcontractors provide commercially reasonable remedies, including

warranties, performance guarantees, and, where appropriate, liquidated damages.

Contractor shall enforce all contractual remedies and enforce any other remedies against

the Subcontractors, including, without limitation, those arising from Subcontractors’

negligent acts or omissions (collectively, the “Subcontractor Protections”). Contractor

shall enforce, at its sole expense, all warranties contained within the Subcontractor

Protections for the Subcontractor warranty periods provided for the specific equipment to

which such warranties pertain. The applicable warranty periods that are known as of the

date of this Agreement are set forth in Schedule IX. Upon request from any Party,

Contractor shall, following the negotiation of all Subcontractor contracts, update

Schedule IX to reflect the final negotiated warranty periods. Contractor agrees to assign

to Owner on and as of the Commercial Operation Date any warranties, performance

guarantees and related liquidated damages provisions contained in any contracts between


3-22 | EPC Template

Contractor and Subcontractors to the extent such assignments are permitted under the

terms thereof.

11.9 Contractor Enforcement of Subcontractor Protections. Contractor agrees to act on

Owner’ behalf, at no additional cost to Owner, to enforce any Subcontractor Protections

with respect to Work; provided, however, that Contractor may use its reasonable

discretion on how best to approach the resolution of any particular problem, and provided

further that such enforcement obligation shall only last for the duration of the

Subcontractor Protection in question. In the event that litigation is necessary to enforce

any Subcontractor Protection, Contractor shall pursue such litigation at its own expense.

11.10 Limitation of Liability

11.10.1 .Notwithstanding any provision in this Agreement to the contrary, in no

event shall the total liability of Contractor or Guarantor to Owner for liquidated damages

and Remedial Measures under Section 11.3 and 11.4 exceed in the aggregate [Cap

amount] , provided that this limitation shall not apply to direct damages following an

Contractor Event of Default pursuant to Article 13, or indemnification obligations

pursuant to Section 11.11, and this limitation in no way affects Contractor’s absolute

obligation to bring the Facility to Mechanical Completion. In addition to the foregoing

liability, Contractor shall deliver to the State [Percent] of any amounts recovered from

or received from vendors, design professionals and contractors or from the insurance

companies or other indemnitors for errors and omissions, late completion penalties,

liquidated damages and performance guarantees (collectively, “Subcontractor

Recoveries”). If Owner’s claim relates to the Guaranteed Maximum Price, then the

remedy of Contractor paying the excess over $90,000,000 of the State’s Allocated Share

of the Cost of the Work as set forth in Section 7.1 shall apply. If the State’s claim arises

under any other provision of this Agreement and the [Percent] share of Subcontractor

Recoveries fully compensates Owner for its actual direct damages (which actual direct

damages, in the case of Sections 11.3 and 11.4 of this Agreement, shall be the amount of

liquidated damages calculated using the formulas in those sections), then Owner shall not

be entitled to receive any further amounts from Contractor. However, if the amounts

received from all Subcontractor Recoveries are not adequate to compensate Owner for its

actual direct damages, Owner shall be entitled to demonstrate and recover its actual direct

damages from Contractor, subject to (as to claims under Section 11.3 and Section 11.4)

the [Amount] liquidated damages liability cap contained in this Section 11.10. The

limitation of liability to Owner for liquidated damages and Remedial Measures as

described in this Section 11.10 is sometimes referred to herein as the “Damages Cap”.

11.10.2 APART FROM THE GUARANTEES AND OTHER REMEDIES

PROVIDED IN THIS AGREEMENT, CONTRACTOR HEREBY DISCLAIMS

ANY OTHER WARRANTIES, OR PERFORMANCE GUARANTEES,

INCLUDING WITHOUT LIMITATION, WARRANTIES OF

MERCHANTABILITY OR FITNESS FOR A PARTICULAR PURPOSE.

11.10.3 Owner shall not be liable for any lost profits or indirect, special, multiple,

or punitive damages.


3-23 | EPC Template

11.11 Indemnification. Owner shall assume and retain all liability, including claims,

demands, losses, costs, damages and expenses of every kind and description, or damages

to persons or property arising out of or in connection with or occurring during the course

of this Agreement, where such liability is proximately caused by the acts or omissions of

any of the officers, employees or agents of Owner while acting within the scope of their

employment. Contractor shall indemnify Owner against any and all loss or damages that

Owner may incur as a result of any claim of Persons other than Owner, Contractor, or

their respective employees and agents, to the extent same (a) arise out a breach by

Contractor of its obligations under this Agreement, or (b) are caused by the negligence or

intentional or willful misconduct of Contractor, the Subcontractors or their agents or

employees. Contractor shall indemnify and hold harmless Owner from all liabilities,

damages, costs or expenses incurred by Owner by reason of any lien filed against the

Facility by any Subcontractor of Contractor in connection with the performance of the

Work. Any Party entitled to indemnification or other protection under this Section 11.11

shall keep the benefited party apprised of the status of all claims with respect to which it

is entitled to such indemnification or protection, and shall not settle any such claim

without the consent of the benefited party, such consent not to be unreasonably withheld

or unduly delayed.

ARTICLE 12 - DISPUTE RESOLUTION

12.1 In General. The Parties shall attempt to settle every dispute arising out of or in

connection with this Agreement (“Dispute”), by following the dispute resolution process

set forth below in this Article 12, to the extent permitted by Law.

12.1.1 Mutual Discussions. If any dispute or difference of any kind whatsoever

(a "Dispute") arises between the Parties in connection with, or arising out of, this

Agreement, the Parties within 30 days shall attempt to settle such Dispute in the first

instance by mutual discussions between Owner and Contractor.

12.1.2 Further Procedures. If the Dispute cannot be settled within 30 days by

mutual discussions, then the Dispute shall be finally settled under the provisions of this

Section 12.1.2 or Section 12.1.3. If the Parties fail to resolve any dispute through

discussions within [Number] Business Days, either Party shall have the right to provide

written notice of the Dispute to the president or chief executive officer (“Senior

Management”) of the other Party. Upon a timely referral, the Senior Management of the

Parties shall consider the Dispute, review such relevant information as they may

determine and issue their decision (which decision shall be confirmed in writing) within 5

Business Days after receiving the referral. If the Senior Management of the Parties

cannot resolve the issue within the five Business Day period, then the Parties shall have

the rights set forth below in Section 12.1.3.

12.1.3 Arbitration. Subject as hereinafter provided, any Dispute arising out of. or

in connection with, this Agreement and not settled by Section 12.1.1 or Section 12.1.2 of

this Agreement may (regardless of the nature of the Dispute) be submitted by either Party

to arbitration and finally settled in accordance with UNCITRAL Rules of International

Arbitration.


3-24 | EPC Template

12.2 Continued Performance. During the conduct of dispute resolution procedures

pursuant to this Article 12, (a) the Parties shall continue to perform their respective

obligations under this Agreement, and (b) no Party shall exercise any other remedies

hereunder arising by virtue of the matters in dispute.

ARTICLE 13 - DEFAULTS; REMEDIES; TERM; TERMINATION

13.1 Contractor Default. The occurrence of any of the events set forth below shall

constitute a “Contractor Event of Default” under this Agreement:

13.1.1 Bankruptcy. Contractor becomes insolvent, or become the subject of any

bankruptcy, insolvency or similar proceeding, which, in the case of any such proceeding

that a third party brings against either of them, has not been terminated, stayed, or

dismissed within 60 Business Days after it was commenced, unless the affected Party

provides evidence to Owner of that Party’s ability to perform all of its obligations under

this Agreement; or

13.1.2 Failure to Maintain Insurance. Contractor fails to maintain the insurance

coverages required under Section 4.20 as set forth in Schedule II hereto; or

13.1.3 Failure to Perform. Contractor shall have defaulted in its performance

under any other material provision of this Agreement and shall have failed to cure such

default within 30 days following delivery to Contractor of a Notice from Owner to cure

such default, or if a cure cannot be effected within such 30 day period, such period shall

extend for a reasonable period of time, but not to exceed a total of 60 days, so long as

Contractor is proceeding diligently to cure such default throughout such period; or

13.1.4 Representation False. Any material representation made by Contractor

herein shall have been false or misleading in any material respect when made; or

13.1.5 Failure to Achieve Mechanical Completion. If Mechanical Completion is

not achieved by the Delay Default Date; or

13.1.6 Failure to Obtain Authorization. The Project cannot proceed to completion

as the ultimate result of a refusal of Governmental Authority to approve the Project or

any other Authorization, which refusal is due solely to the negligence or willful

misconduct of Contractor.

13.2 Owner’s Default Remedies Against Contractor. If a Contractor Event of Default

shall have occurred and be continuing, either Owner shall have the right to terminate this

Agreement by notice to Contractor. In the event of such termination:

13.2.1 If requested by an Owner, Contractor shall withdraw from the Site, shall

assign to the Owner (without future recourse to Contractor) such of Contractor’s

subcontracts as Owner may request, and shall remove such materials, equipment, tools

and instruments used and any debris or waste materials generated by Contractor in the

performance of the Work as Owner may direct, and Contractor shall promptly deliver to

Owner all designs, drawings, and other documents related to the Project. In the event of

such termination, Contractor shall deliver to Owner all materials and data for which title

has passed to Owner. To the extent any specific item of the Work is partially complete at

the time of termination, at the option of either Owner, Contractor shall complete such

partially completed Work. In such event, Owner shall pay Contractor the amount that


3-25 | EPC Template

Owner would have otherwise paid to Contractor for such item of Work had such

termination not occurred, less any damages payable hereunder.

13.2.2 Owner, without incurring any liability to Contractor, shall have the right to

have the Facility brought to Final Completion. In such event, Contractor shall be liable to

Owner for the reasonably incurred costs to Owner of achieving Mechanical Completion,

including costs of accelerated or expedited construction activities actually performed in

an attempt to achieve Mechanical Completion (by the Guaranteed Mechanical

Completion Date if not yet past, or otherwise as expeditiously as practicable), and/or to

mitigate any delay by Contractor, and actual costs for administering any subcontract and

for legal fees associated with the termination. With respect to the costs of performing any

of the Work that follows after Mechanical Completion, Contractor’s liability shall be

limited to the amounts set forth in Section 11.10. Such costs and fees for which

Contractor is liable as set forth above (and for failure to perform as may be requested

pursuant to Section 13.2.1 above) may be deducted by Owner out of monies due, or that

may at any time thereafter become due, to Contractor. If such costs exceed the sum that

would have otherwise been payable to Contractor under this Agreement, then Contractor

shall be liable for, and shall promptly, but in any event not more than 10 days after Notice

from Owner, pay to Owner the amount of such excess excluding Changes in the Work

approved by Owner following such Contractor Event of Default.

13.2.3 Upon termination of the Work pursuant to this Article 13, Contractor shall

promptly submit to Owner an accounting of Contractor’s actual costs for the Work

performed prior to the date of termination. If Owner exercises its right to have the Work

finished, such amounts may be withheld until the Work is completed and shall be used to

offset any amounts due Owner pursuant to Section 13.2.2. Notwithstanding the foregoing

such amounts may be withheld and applied to any liability hereunder.

13.2.4 Notwithstanding the availability and/or exercise of the foregoing remedies,

Owner shall have all such other remedies available under applicable Law.

13.2.5 In exercising any of the foregoing remedies, the Owner shall use

reasonable efforts to mitigate its damages.

13.3 Owner’s Event of Default. Each of the following shall constitute an “Owner’s Event

of Default” with respect to such Owner:

13.3.1 Failure to Make a Payment to Contractor When Due. The failure of an

Owner to make the full amount of the payment to Contractor required under this

Agreement within 3 Business Days following notice of failure to pay; or

13.3.2 Bankruptcy. An Owner becomes insolvent, or become the subject of any

bankruptcy, insolvency or similar proceeding, which, in the case of any such proceeding

that a third party brings against either of them, has not been terminated, stayed, or

dismissed within 60 Business Days after it was commenced, unless the affected Party

provides evidence to Contractor of that Party’s ability to perform all of its obligations

under this Agreement; or

13.3.3 Representation False. Any material representation made by an Owner

herein shall have been false or misleading in any material respect when made; or

13.3.4 Failure to Perform. Either Owner’s failure to perform any of its respective

non-payment obligations under this Agreement, and such failure is not cured within 30

days after receipt of written notice thereof, or if a cure cannot be effected within such 30


3-26 | EPC Template

day period, such period shall extend for a reasonable period of time, but not to exceed a

total of 60 days, so long as Owner is proceeding diligently to cure such default

throughout such period; or

13.3.5 Failure to Maintain Insurance. If an Owner fails to obtain and maintain in

effect through the Commercial Operation Date such insurance as it is required by this

Agreement to obtain and maintain; or

13.3.6 Failure to Cooperate or Allow Access. If an Owner fails to cooperate with

Contractor in any situation where such cooperation is necessary to enable Contractor to

carry out obligations under this Agreement. Such failure to cooperate shall include,

without limitation, the failure to assist in obtaining required Authorizations, the failure to

afford Contractor the access to the Site, to the Lay Down Areas, to the Soil Disposal Area

or to the Easement Areas necessary for Contractor and all persons retained by Contractor

in connection with the Project to perform their Project-related duties. An Owner Event of

Default shall not include any other default by Owner of any of their obligations under this

Agreement.

13.4 Contractor Remedies for Owner Event of Default. Subject to the rights granted in

Section 13.5 below, upon the occurrence of an Owner Event of Default, Contractor shall

have the right to terminate this Agreement, to order all Subcontractors to stop Work and

remove all their tools and equipment from the Site, and/or pursue all such remedies as

may be allowed under this Agreement, at law or in equity. In addition, and without

limiting the foregoing remedies, Owner shall pay to Contractor the amounts payable upon

termination under Section 13.7 of this Agreement.

13.5 Force Majeure; Failure of Authorizations.

13.5.1 Effect. Any delays in or failure of performance by a Party, other than the

obligations to pay monies hereunder, shall not constitute a default hereunder if and to the

extent such delays or failures of performance are caused by Force Majeure events.

13.5.2 Notice of Occurrence and Effect.

13.5.2.1 Notice of Occurrence. Any Party claiming that a Force Majeure condition

has arisen shall immediately notify the other Party of the same, shall act diligently to

overcome, remove and/or mitigate the effects of the event of Force Majeure, shall notify

the other Party on a continuing basis of its efforts to overcome, remove and/or mitigate

the event of Force Majeure and shall notify the other Party immediately when said

condition has ceased.

13.5.2.2 Notice of Impact. In addition to its obligations under Section 13.5.2.1, if

Contractor claims there is a Force Majeure condition, Contractor shall (i) promptly notify

Owner, in writing of the nature, cause and cost of such Force Majeure condition, (ii) state

whether and to what extent the condition will delay the Guaranteed Mechanical

Completion Date, the Delay Default Date, the Commercial Operation Date or Final

Completion Date, (iii) state the date and time the Force Majeure condition commenced;

and (iii) state whether Contractor recommends that Owner initiate a Change Order

pursuant to Article 8.

13.5.3 Effect of Force Majeure. No failure or delay in performance under this

Agreement shall be deemed to be a breach hereof to the extent such failure or delay is

occasioned by or due to Force Majeure. With respect to delay in performance, a Force


3-27 | EPC Template

Majeure condition shall excuse such delay in performance on a day for day basis for a

period of time equal to the duration of the Force Majeure condition or the period needed

to remedy its effects, to the extent that such Force Majeure condition causes a delay in the

Work.

13.5.4 Termination. In the event that (a) Contractor or Owner are denied any

required Authorizations, or such Authorizations are obtained, but are withdrawn, or

contain restrictions, qualifications, or conditions that would have a material adverse effect

on the benefits or obligations of the Parties, and the Parties are unable to reform this

Agreement or agree upon other mutually acceptable arrangements, or (b) if a Force

Majeure event continues for more than 180 days after notice of the event of Force

Majeure is given under Section 13.5.2, or (c) the Project cannot proceed to completion as

the ultimate result of a refusal of a Governmental Authority to approve the Project or to

provide any other Authorization, which refusal or failure is not due solely to the

negligence or willful misconduct of the terminating Party, then such Party may terminate

this Agreement, in its sole discretion, within 60 days after the conditions in (a), (b) or (c),

by giving at least 10 Business Days prior written notice to the other Parties.

13.6 Right to Termination . No Party shall have the right to terminate this Agreement for

cause or otherwise except as described in Section 13.2, Section 13.4, Section 13.5,

Section 14.2 and Section 16.21.

13.7 Effect of Termination Under Sections 13.4, 13.5, 14.2 & 16.21. In the event that this

Agreement is terminated by either party pursuant to Sections 13.4 13.5, 14.2 or 16.21,

Owner shall pay to Contractor an amount equal to the sum of (1) the Cost of the Work

incurred by Contractor in connection with the Work and the Project as of the date of

termination, plus (2) to the extent not already reflected in (1), any termination charges

incurred by Contractor that are imposed by Subcontractors as a result of the Termination

and any other costs reasonably incurred by Contractor solely as a result of the termination

to the extent that this sum is not reimbursed pursuant to insurance policies maintained by

Contractor pursuant to Schedule II (it being specifically understood that Owner shall be

responsible for the payment of all deductible amounts under any said insurance policies

to the extent provided in Schedule II). Upon such payment by Owner, Owner shall have

exclusive Ownership of the Facility and the Work and Contractor shall have no further

obligations with respect thereto.

13.8 Completion; Survival. Unless earlier terminated pursuant to the terms of this Article

13, this Agreement shall be deemed to be completed when both of the following have

taken place: (a) the Final Completion Date has occurred, and (b) Owner have paid the

Cost of the Work in full pursuant to Article 9. Notwithstanding the foregoing,

Contractor’s obligations under Section 5.4.3 shall continue until the date that is 7 years

after the Final Completion Date and Contractor’s obligations under Section 11.8 shall

continue until the expiration of the applicable Subcontractor warranty periods pursuant to

Section 11.8. Notwithstanding anything in this Agreement to the contrary, the provisions

of Section 11.11 and Article 12 shall survive the completion or termination of this

Agreement and nothing in this Agreement shall be deemed to limit the applicable statute


3-28 | EPC Template

of limitations period within which any Party may bring a claim for breach of this

Agreement.

ARTICLE 14 - UTILITY REGULATOR MODIFICATIONS

14.1 Utility Regulator Modifications. The Parties have been informed and acknowledge

that: (a) this Agreement will require the Parties to make substantial contractual

commitments and incur significant costs based upon the terms of this Agreement,

including the terms that recognize the possibility that the Utility Regulator may take

action that results in the reallocation of costs within the Facility or the reallocation of

risks between the Parties; and (b) this Agreement will be executed in advance of the

Utility Regulator’s approval of the Project and the contemplated sale of its electricity

output. The Parties agree that in the event that the Utility Regulator takes action that

results in the reallocation of any costs or any risks relating to the Facility in a manner that

materially affects any of the costs or obligations under this Agreement, the costs and/or

obligations shall be adjusted accordingly among the Parties to this Agreement to reflect

the effect of the Utility Regulator’s action. To the extent that the Utility Regulator or any

other Governmental Authority imposes any additional requirements or modifications that

increase the overall cost of the Work, the Owner shall bear such cost increase.

14.2 Conditional Right to Terminate Upon Material Reallocation of Costs. In the event

that the Utility Regulator reallocates costs within the Facility between the Parties in an

amount that is greater than or equal to [maximum risk amount Owner will assume] ,

then Owner shall thereupon have the right, exercisable upon not less than 3 Business

Days advance written notice to Contractor to terminate this Agreement. Notwithstanding

the foregoing, in the event that Contractor agrees to assume the excess of the amount of

costs reallocated by the Utility Regulator over ]maximum risk amount Owner will

assume] , there shall be no right to terminate this Agreement.

14.3 Parties to Defend Cost Allocation. In the event that the Utility Regulator challenges

this Agreement or any related agreement, the Parties agree to use their good faith efforts

to defend it in proceedings before the Utility Regulator.

ARTICLE 15 - GOVERNING LAW; INTERPRETATION

15.1 Governing Law. This Agreement shall be construed in accordance with the laws of

[Agreed jurisdiction] .

15.2 Interpretation.

15.2.1 Schedules are Part of Agreement. This Agreement includes the attached

Schedules I through XI.

15.2.2 Entire Agreement. This Agreement, together with the Schedules attached

hereto and the Collateral Agreements, constitutes the entire agreement and complete

understanding between Contractor and Owner with respect to the subject matter described


3-29 | EPC Template

herein and therein and supersedes all other understandings and agreements between the

Parties with respect to such subject matter.

15.2.3 Order of Interpretation. In the event of any inconsistencies between the

terms and conditions of the body of this Agreement and the Schedules, the provision of

the body of this Agreement shall prevail over the terms of any Schedule.

15.2.4 Captions. Captions or headings to Articles, Sections or paragraphs of this

Agreement are inserted for convenience of reference only, and shall not affect the

interpretation or construction hereof.

15.2.5 Additional Principles of Construction. The Agreement shall be interpreted

in a manner as to be consistent with the following principles:

15.2.5.1 Use of Good Utility Practice. It is the intent of the Agreement to require

the application of Good Utility Practice to the Work where details of such Work are not

included, are incomplete, are not specified, or are not clearly defined in the

Specifications.

15.2.5.2 Integration of Project Documents. It is the intent of the Parties that the

Specifications for the Facility, this Agreement, and the Schedules hereto (the “Project

Documents”) are to be interpreted as an integrated whole. Where work or obligations are

referenced in one of the Project Documents but not in another, Contractor shall

coordinate the design and installation of the Work as if it were shown on both to the

extent required to comply with the Acceptance Tests and Good Utility Practice.

15.3 Drafting Ambiguities. Each Party to the Agreement and its counsel have reviewed

and revised the Agreement. The rule of construction that any ambiguities are to be

resolved against the drafting parties shall not be employed in the interpretation of the

Agreement, or any amendment thereto.

ARTICLE 16 - MISCELLANEOUS

16.1 Third Party Beneficiaries. Except with respect to the provisions of the Agreement

pertaining to assignment, the Agreement is not intended to and shall not create rights of

any character whatsoever in favor of any person other than the Parties to the Agreement.

16.2 Good Faith and Fair Dealing. Whenever the Agreement grants to any Party the

right to take action, exercise discretion, or determine whether to approve a proposal of

any other Party, the Party possessing the right shall act in good faith and shall deal fairly

with each other. In the event of a Dispute, the Parties shall be obligated to make a

reasonable and diligent effort to resolve the Dispute at the appropriate level before

invoking the dispute resolution procedures in Article 12. Each of the Parties further

expressly agrees that at all times it will exercise its good faith in the administration of this

Agreement, and all actions of the Parties shall be designed to facilitate the successful

completion of the Work by Contractor and to promote the effective and efficient

administration of this Agreement, and to achieve the objective of providing efficient,

reliable and economical long term energy production. The Parties further commit to act

in a timely fashion, consistent with maintaining the Project Schedule to: (a) review all

documents, (b) respond to all requests for information, (c) support all applications for


3-30 | EPC Template

Authorizations; (d) respond to requests for access to off site support facilities and other

assistance; and (e) resolve all differences and Disputes in a timely fashion.

16.3 Severability. Every part, term or provision of the Agreement is severable from

others. Notwithstanding any possible future finding by duly constituted authority that a

particular part, term or provision is invalid, void or unenforceable (but subject to the

effect of the Parties’ agreements in Section 5.3 and Article 14), the Agreement has been

made with the clear intention that the validity and enforceability of the remaining parts,

terms and provisions shall not be affected thereby.

16.4 Survival. All representations and warranties, and all agreements by the parties in

this Agreement to indemnify each other shall survive the termination of this Agreement.

The termination of this Agreement shall not limit or otherwise affect the respective rights

and obligations of the Parties which accrued prior to the date of termination, and which

continue to exist following the termination of this Agreement.

16.5 Technical or Trade Usage. When words that have a well-known technical or trade

meaning are used to describe materials, equipment or services, such words will be

interpreted in accordance with such meaning. Reference to such standard specifications,

manuals, or codes of any technical society, organization or association, or to the code of

any governmental authority, whether such references be specific or by implication, shall

mean the latest standard specification, manual or code (whether or not specifically

incorporated by reference in the contract documents). Performance shall conform to the

standards in effect at the time of performance and may change the duties and

responsibilities of Contractor or Owner, or any of their agents, consultants, or employees

from those set forth in the Agreement.

16.6 Amendments and Waivers. This Agreement may be amended only by a written

instrument signed by a duly authorized representative of each Party. The failure of any

Party to insist on one or more occasions upon strict performance of the obligations owed

it by the other parties shall not waive or release such party’s right to insist on strict

performance of such obligation or any other obligation in the future.

16.7 Notices. Except as expressly provided otherwise in this Agreement, all notices

given to any of the Parties pursuant to or in connection with this Agreement shall be in

writing, shall be delivered by hand, by certified or registered mail, return receipt

requested, by facsimile transmission with confirmation, or by Federal Express, Express

Mail, or other nationally recognized overnight carrier. Notices are effective when

received. Notice addresses are as follows:

If to Contractor:

Contractor

Address And Street

City, State, Country (Postal Code)

Attention: Name


3-31 | EPC Template

If to Owner:

Owner

Address And Street

City2, State2, Country2 (Postal Code)

Attention: Name2

16.8 Change of Address. Any Party may, by written notice to the other Parties given in

accordance with the foregoing, change its address for notices.

16.9 Successors; Assignment. This Agreement shall be binding upon the parties and their

respective successors and permitted assigns. No party shall make any sale, assignment,

mortgage, pledge or other transfer of all or any portion of its rights or obligations under

this Agreement, whether voluntarily or involuntarily, by operation of law or otherwise,

without the prior written consent of the other Party; provided, however, that: (a) any

Party may make a collateral assignment of its interest in this Agreement to a Financing

Party; and (b) this Section 16.12 shall not require prior written consent for any voluntary

transfer in connection with a change in Ownership, or the merger, restructuring or

consolidation of Contractor, so long as the Agreement is transferred to an affiliate and the

Parent Guarantee continues to guarantee performance of the Agreement, as so voluntarily

transferred. Any successor to Contractor or Owner’ respective interests under this

Agreement shall assume in writing all responsibilities of Contractor or Owner, as the case

may be under this Agreement.

16.10 Counterparts. This Agreement may be signed in counterparts, each of which when

so executed and delivered shall be an original, but all such counterparts shall together

constitute the same instrument.

16.11 Further Assurances. Each Party agrees to execute and deliver any such

instruments and to perform any such acts as may be necessary or reasonably requested by

any other Party in order to give full effect to the terms of this Agreement.

16.12 Interest. Past due payments hereunder not contested in good faith shall bear

interest from the due date until paid at the Late Payment Rate.

16.13 Relationship to Other Agreements..

16.13.1 The Parties recognize that this Agreement and other related agreements

relating to the Facility entered into between Owner and Contractor and others (the

“Collateral Agreements”) constitute an integrated and comprehensive set of agreements

that are intended to facilitate the construction and operation of the Facility to provide

efficient, reliable and economic long-term electricity production. To the extent permitted

by Law, all of the Collateral Agreements shall be read together to achieve these

objectives and the Parties agree to support all such documents, regardless of whether they

are a party to a particular Collateral Agreement.

16.13.2 Notwithstanding Section 16.16.1, the Agreement and the Collateral

Agreements are separate and independent undertakings by the Parties. Termination of

one of these agreements shall not affect or impair the rights or obligation of the Parties


3-32 | EPC Template

under the Collateral Agreements, except as otherwise specifically provided herein and in

the Collateral Agreements.

16.14 No Partnership; Third Party Beneficiaries. The Parties hereby expressly disclaim

any intention to create a joint venture or partnership relation between the Parties. Except

as expressly stated in this Agreement, there are no third party beneficiaries to this

Agreement.

16.15 Further Documents and Actions. Each Party shall promptly execute and deliver

such further documents and assurances for and take such further actions reasonable

requested by the other Parties as may be reasonably necessary to carry out the intent and

purpose of this Agreement.

16.16 Time of the Essence; Cooperation to Control Costs. The Parties recognize that time

is of the essence in designing and completing construction of the Facility. The Parties

agree to use their good faith efforts to cooperate with each other and, where applicable,

with Subcontractors to keep the Project on schedule, to control Project costs and to

refrain from actions that drive up the Project costs or inject delay into the Project

Schedule.

16.17 State Right to Approve; Failure to Promptly Respond Deemed Approval. In all

instances in this Agreement where Owner has the right to provide feedback or approve of

the actions of Contractor with respect to the construction process, including without

limitation, the Owner’s feedback and approval rights under Article 4.2 (Subcontractors),

Article 4.2.5 (QA/QC Director), and Article 4.2.6 (Safety Director), Owner shall use its

best efforts to promptly respond, with due regard to the time sensitivity of the particular

situation. Unless expressly provided otherwise in this Agreement, in the event the Owner

fails to respond in any such situation within 10 Business Days of the delivery of the

information or notice that triggers the Owner’s right to approve or provide feedback, the

Parties agree that Owner shall be deemed to have approved the item in question or to

have waived its right to provide feedback, as the case may be.

16.18 Contingent On Issuance of CPCN and Other Authorizations. The Parties

obligations to continue to proceed in accordance with this Agreement are contingent upon

the issuance of the certificate of public convenience and necessity (“CPCN”) and any

other required Authorizations for the Facility. If the Utility Regulator has not issued the

CPCN for the Project by __[Insert Date]___, then Owner shall have the right to terminate

this Agreement by written notice to Contractor.

IN WITNESS WHEREOF, the Parties have caused this Agreement to be executed and

delivered by their duly authorized officers as of the date first set forth above.

CONTRACTOR


3-33 | EPC Template

By: _______________________________

Its: _______________________________

OWNER

By: ________________________________

Its: ________________________________


3-34 | EPC Template

Attached Schedules:

Schedule I -- Definitions

Schedule II -- Insurance

Schedule III -- Acceptance Testing

Schedule IV -- Payment Schedule

Schedule V -- Lay Down Areas

Schedule VI -- GMP Template

Schedule VII -- The Work

Schedule VIII -- Approved Construction Subcontractors and Major Equipment Suppliers

Schedule IX -- Subcontractor Warranties

Schedule X -- Form of Parent Guarantee

Schedule XI -- Governmental Authorizations to be Obtained for Project


3-35 | EPC Template

Schedule I

Definitions

“Acceptance Tests/Acceptance Testing” shall mean the performance tests, to be

performed on the Facility as more particularly set forth on Schedule III, including any

adjustments thereto as provided in this Agreement or as otherwise agreed to by the

Parties to address the conditions present at the time the Facility is available for testing.

“Acceptance Test Capacity Guarantee” shall have the meaning assigned to it in

Section 11.3. “Acceptance Testing Period” shall have the meaning set forth in Section

11.2.3.

“Addendum” or “Addenda” shall have the meaning assigned to it in Section 8.1.

“Affiliate” shall mean (i) any Person that directly or indirectly, through one or more

intermediaries, controls, is controlled by, or is under common control with a Party, and

(ii) any Person that, directly or indirectly, is the beneficial owner of five percent (5%) or

more of any class of equity securities of, or other Ownership interests in, a Party or of

which the Party is directly or indirectly the owner of five percent (5%) or more of any

class of equity securities or other Ownership interests.

“Agreement” shall have the meaning assigned to it in the first paragraph of this

Agreement.

“Authorization” shall mean any license, permit, approval, filing, waiver, exemption,

variance, clearance, entitlement, allowance, franchise, or other authorization, whether

from any Governmental Authority, corporate or otherwise.

“Business Day” shall mean any day other than a Saturday, Sunday or a day on which

either the state or national banks in the State of Wisconsin are not open for the conduct of

normal banking business.

“Change Order” shall mean a document issued pursuant to Article 8, which describes

changes in or to the Work.

“Commercial Operation” shall have the meaning given it in Section 10.3

“Commercial Operation Date” shall mean the date on which the Facility achieves

Commercial Operation.

“Construction Commencement Date” shall have the meaning assigned to it in Section

10.1.

“Contractor” shall have the meaning assigned to it in the first paragraph of this

Agreement.


3-36 | EPC Template

“Contractor Event of Default” shall have the meaning assigned to it in Section 13.1.

“Cost of the Work” shall mean the anticipated actual costs of construction, subject to the

Guaranteed Maximum Price, as defined in Section 7.1, including the exceptions and

additions permitted therein.

“CPCN” shall have the meaning assigned to it in the Recitals to this Agreement.

“Damages Cap” shall have the meaning set forth in Section 11.10.

“Defects”, individually a “Defect”, shall have the meaning assigned to it in Section 11.5.

“Delay Default Date” shall mean __[Insert Date]______, as such date may be extended

by any Force Majeure condition, but not later than __[Insert Date]_______.

“Dispute” shall have the meaning assigned to it in Section 12.1.

“Easement Areas” shall have the meaning assigned to it in Section 4.10.

“Effective Date” shall mean the date that this Agreement has been signed by Contractor

and Owner.

“Engineer” shall have the meaning assigned to it in Section 4.2.2.

“Equipment Instruction Manual” shall mean the manual or manuals provided by

Contractor to Owner pursuant to Section 3.1.6, including operation requirements,

guidelines and manuals established by the manufacturers of the major equipment for the

Facility.

“Excluded GMP Costs” shall have the meaning given the term in Section 7.2.

“Facility” shall mean the [Renewable energy technology] facility, as more particularly

described in the Recitals to this Agreement.

“Facility Start Up” shall mean the activities following completion of construction of the

Facility, but prior to Acceptance Testing, that are necessary to accomplish the initial start

up of the equipment within the Facility that generates electricity, steam and chilled water,

including, without limitation, the flushing of lines, pressure testing of pipes, filling

equipment with oils and other fluids, and the provision of any equipment vendor services

relating thereto.

“Final Completion” shall have the meaning assigned to it in Section 10.5.

“Final Completion Date” shall mean the date Final Completion occurs.


“Final Payment” shall have the meaning assigned to it in Section 9.3.

3-37 | EPC Template

“Financing Party” shall mean any Person, other than Parties, providing debt or equity

financing (including equity contributions or commitments) refinancing of any guarantees,

insurance or credit support for or in connection with such a financing or refinancing, in

connection with the development, construction, Ownership or leasing operation or

maintenance of the Facility, or any part thereof including any trustee or agent acting on

any such Person’s behalf.

“Force Majeure” shall mean in respect of any Party an event beyond the reasonable

control of such Party which prevents or delays such Party from performing its obligations

under this Agreement (except for the obligation to pay money) or which materially

increases its costs of performing those obligations. Examples include, to the extent they

otherwise meet the foregoing definition, the following: war, hostilities, civil disturbances,

any kind of local or national emergency, riot, fire, flood, hurricane, storm, earthquake,

concealed or subterranean conditions at the Site that could not be discovered by a

reasonable inspection of the Site, power failure or power surge, epidemic, explosion,

sabotage, act of God, acts or failures to act by Governmental Authorities (including

failure to issue, delays in issuing beyond the period provided by law (or if no such period

is provided, beyond the customary period), or revocation of Governmental

Authorizations, except to the extent any such failure, delay or revocation is due to the

negligence or willful misconduct of Contractor or its Affiliates), failure of the

Subcontractors or Suppliers to perform or deliver on a timely basis, to the extent such

failure is due to a force majeure condition affecting the Subcontractor or Supplier, strike,

slowdown or other labor unrest (other than a localized strike against an individual

employer), delay of carriers, failure of the usual modes of transportation, embargo,

change in any applicable Law from that in effect on the date hereof, any condition at the

Site that requires remediation under any applicable Law related to the environment, or

expropriation or confiscation of facilities. The effect of Force Majeure upon the

Guaranteed Maximum Price and upon the Guaranteed Mechanical Completion Date and

the Delay Default Date shall be limited as more particularly set forth in Sections 7.2 and

13.5.3. Force Majeure shall not include breach of contract by Subcontractors or

Suppliers.

“Good Utility Practice” shall mean, at any particular time, (a) any of the practices,

methods and acts engaged in or approved by a significant portion of the United States

electric power generating industry (including without limitation cogeneration facilities)

prior to such time and by constructors, Owner, operators or maintainers of facilities

similar in size and operational characteristics to the Facility, or (b) any of the practices,

methods and acts which, in the exercise of reasonable judgment in light of the facts

known at the time the decision was made, could have been expected to accomplish the

desired result at the lowest reasonable costs consistent with applicable Law and the

Authorizations, environmental considerations, good business practices, reliability, safety,

expedition and the manufacturer’s maintenance requirements, provided that “Good

Utility Practice” is not intended to be limited to the optimum practices, methods or acts to

the exclusion of all others, but rather to be a spectrum of the acceptable practices methods


3-38 | EPC Template

or acts generally accepted in such industry having due regard for, among other things, the

manufacturer’s maintenance requirements, the requirements of Governmental Authorities

and any applicable agreements.

“Governmental Authority” shall mean the national government, and any regulatory

department, body, political subdivision, commission, agency, instrumentality, ministry,

court, judicial or administrative body, taxing authority, or other authority thereof

(including any corporation or other entity owned or controlled by any of the foregoing)

having jurisdiction over either Party, the Facility or the Site, whether acting under actual

or assumed authority. Permits, orders or other approvals given by such bodies are

“Governmental Authorizations”.

“Guaranteed Mechanical Completion Date” described in Section 11.4 shall mean -

__[Insert Date]_____, as such date may be extended by any Force Majeure condition, but

not later than ___[Insert Date]________.

“Guaranteed Maximum Price” shall have the meaning assigned to it in Section 7.2.

“Hazardous Substances” shall mean, collectively, any petroleum or petroleum product,

asbestos in any form that is or could become friable, transformers or other equipment that

contain dielectric fluid containing levels of polychlorinated biphenyls (PCBs), hazardous

waste, hazardous material, hazardous substance, toxic substance, contaminant or

pollutant, as defined or regulated under any federal, state or local law relating to the

protection of the environment, including the Resource Conservation and Recovery Act, as

amended, 42 U.S.C. § 6901 et seq., the Comprehensive Environmental Response

Compensation and Liability Act, as amended, 42 U.S.C. § 9601 et seq., or any similar

state statute.

“Independent Engineer” shall mean a qualified independent engineering firm mutually

agreeable to Contractor and the State, to be selected by them not later than thirty (30)

days prior to the commencement of construction. The Parties shall employ the

Independent Engineer, whose compensation shall be a part of the Cost of the Work, to

verify that Mechanical Completion has occurred and to resolve any disputes among the

Parties as to the items that should appear on the Punch List.

“Law” shall mean (i) any law, legislation, statute, act, rule, ordinance, decree, treaty,

regulation, order, judgment, or other similar legal requirement, or (ii) any legally binding

announcement, directive or published practice or interpretation thereof, enacted, issued or

promulgated by any Governmental Authority.

“Lay Down Areas” shall have the meaning assigned to it in Section 4.10.

“Major Equipment Suppliers” shall have the meaning assigned to it in Section 4.2.3.

“Mechanical Completion” shall have the meaning set forth in Section 10.2.


3-39 | EPC Template

“Mechanical Completion Date Guarantee” shall have the meaning set forth in Section

11.4.

“Minimum Required Capacity” shall have the meaning assigned to it in Section 11.3.1.

“O & M Agreement” shall mean that certain Operation and Maintenance Agreement of

dated [date of separate O&M agreement, if Contractor is to perform as operator]

between contractor and Owner.

“Operator” shall mean Contractor and its successor(s) as operator of the Facility under

the separate O & M Agreement.

“Owner” shall mean [Legal name of project developer/owner] .

“Owner’s Event of Default” shall have the meaning assigned to it in Section 13.3.

“Parent Guarantee” shall have the meaning assigned to it in Section 4.21.

“Parties” shall mean Contractor and Owner when referred to collectively and “Party”

shall mean any one of the Parties referred to singly.

“Payment Due Date” shall have the meaning assigned to it in Section 9.1.2.

“Payment Milestones” shall mean those milestones set in Schedule IV.

“Payment Milestone Schedule” shall mean Schedule IV.

“Payment Period” shall have the meaning assigned to it in Section 9.1.1.1.

“Person” shall mean any individual, firm, company, association, general partnership,

limited partnership, limited liability company, trust, business trust, corporation, public

body, or other legal entity.

“PM/CM” shall have the meaning assigned to it in Section 4.2.2.

“PM/CM’s Contract” shall have the meaning assigned to it in Section 4.2.2.

“Prime Subcontractor” shall have the meaning assigned to it in Section 4.2.4.

“Prime Subcontractor Contracts” shall have the meaning assigned to it in Section

4.2.4.

“Progress Report” shall have the meaning assigned to it in Section 9.1.1.1.

“Project” shall mean the development of the Facility at the Site by the Contractor, and

shall include the Work.


3-40 | EPC Template

“Project Documents” shall have the meaning assigned to it in Section 15.2.5.2.

“Project Schedule” shall mean the schedule of activities (including all amendments or

supplements thereto following the Effective Date of this Agreement) during the Project

that coordinates all aspects of the Project, including without limitation, permitting,

engineering, procurement of equipment and materials, construction, Facility Start Up,

Mechanical Completion, Acceptance Testing, completion of the Punch List and Project

close out. The Project Schedule will include, without limitation, the Payment Milestone

Schedule and sub-Project schedules for each of the major participants in the Project.

“Punch List” shall have the meaning assigned to it in Section 10.4.

“Punch List Holdback Amount” shall have the meaning assigned to it in Section 10.4.

“QA/QC Director” shall have the meaning assigned to it in Section 4.2.5.

“QA/QC Contract” shall have the meaning assigned to it in Section 4.2.5.

“Remedial Measures” shall have the meaning assigned to it in Section 11.3.1.

“Safety Director” shall have the meaning assigned to it in Section 4.2.6.

“Safety Contract” shall have the meaning assigned to it in Section 4.2.6.

“Safety Plan” shall have the meaning assigned to it in Section 4.8.

“Security Plan” shall have the meaning assigned to it in Section 4.9.

“Site” shall mean the parcel of land located [location of Facility site] , the legal

description of which is [location of legal description of real property]

“Soil Disposal Area” shall have the meaning assigned to it in Section 4.10.

“Specifications” shall mean the Design Review Manual prepared by Engineer, which is

incorporated into this Agreement by this reference, and any supplements or amendments

thereto that may be agreed to by the Parties after execution of this Agreement. The

Specifications shall further include any Change Orders and other changes to the Work

authorized in accordance with Article 8 of this Agreement.

“Subcontractor” shall mean every Person (other than employees of Contractor)

employed or engaged by Contractor or any Person (other than Owner) directly or

indirectly in privity with Contractor (including every sub-subcontractor of whatever tier)

to perform any portion of the Work, whether the furnishing of labor, materials,

equipment, services or otherwise.


3-41 | EPC Template

“Subcontractor Protections” shall have the meaning assigned to it in Section 11.8

“Subcontractor Recoveries” shall have the meaning assigned to it in Section 11.10.

“Suppliers” shall mean a manufacturer, fabricator, supplier, distributor, materialman or

vendor having a direct contract with Contractor or with any Subcontractor to furnish

materials or equipment to be incorporated in the Work by Contractor or any

Subcontractor.

“Term” shall mean the duration of this Agreement, from the Effective Date until Final

Completion.

“Testing Engineer” shall have the meaning set forth in Section 11.1.

“Traffic Control Plan” shall have the meaning set forth in Section 4.7.

“Uninsured Force Majeure” shall mean any event of Force Majeure, or portion thereof,

not covered by the insurance required to be carried in connection with the Project.

“Utility Regulator” shall mean any Governmental Authority that has specific

jurisdiction over the production, sale, or pricing of the provision of electric energy or

related services.

“Warranty Period” shall mean, with respect to any component, the applicable length of

any warranties provided by the related Subcontractor.

“Work” shall mean all design, engineering, procurement, construction, erection,

installation, training, start-up and testing activities and services necessary to achieve a

complete and operable Facility in accordance with the terms of this Agreement, to

achieve Mechanical Completion, Commercial Operation, and Final Acceptance, and shall

include all activities and services described in Schedule VII and in Section 3.1.


3-42 | EPC Template

Schedule II

Insurance

Insurance During Construction

The Parties shall maintain insurance during construction as follows:

Owner shall use their best efforts to procure and establish an Owner Controlled Insurance

Program (“OCIP) to insure against the Project construction risks normally covered by the

following types of insurance policies: (a) Subcontractor’s workers compensation

insurance; (b) Subcontractor’s comprehensive third party legal liability insurance; and (c)

Contractor’s comprehensive third party legal liability. The OCIP shall include completed

operations coverage. If such insurance can be obtained at reasonable cost, Owner shall

procure such insurance at its expense; provided, however, that such OCIP expenses shall

be deemed to be included in the Guaranteed Maximum Price unless the expense of such

OCIP, including without limitation premium cost and administration expense, exceeds

the amounts budgeted for the corresponding insurance coverages in the estimated Project

budget.

In the event an OCIP is not available to Owner or in the event Owner determines that an

OCIP is prohibitively expensive for the Project, then Contractor shall purchase and

maintain and/or cause its Subcontractors (except for subcontracts involving less than

$100,000) to purchase the following types and amounts of insurance:

Comprehensive third-party legal liability insurance and other such insurance as is

appropriate for performance of this Agreement. Such insurance shall include, but not be

limited to, protection from the following occurrences:

Claims arising from Worker’s Compensation statutes or similar employee benefit acts,

or third-party legal liability claims arising from bodily injury, sickness and disease, or

death of employees. The minimum limits of such coverage shall be as required by Law.

Third-party legal liability claims against Contractor arising from its operations and the

operations of Subcontractors with such protection extended to provide comprehensive

coverage, including personal injury, completed operations, explosion and collapse hazard,

and underground hazard. The minimum combined limit for personal injury and property

damage liability shall be [Coverage amount] per occurrence and [Coverage amount]

in the aggregate.

Third-party legal liability claims arising from bodily injury and/or damage to property

of others from the ownership, maintenance or use of any motor vehicle, both on-site and

off site. The minimum combined limit for personal injury and property damage liability

shall be [Coverage amount] per occurrence.

Owner shall purchase and maintain property insurance (Builder’s Risk) covering the

Project, including improvements to real property, as well as goods and materials on the

Premises which are to be incorporated into the Project. Such property insurance shall be

for the full insurable


3-43 | EPC Template

value of the property covered and shall be written on an “All Risk” basis covering

physical loss and damage including theft, vandalism and malicious mischief, collapse,

water damage, and such other perils as may be applicable to a Project. Such insurance

shall include the interest of Owner, Contractor, and all Subcontractors as their interests

may appear.

Contractor shall purchase and maintain excess liability /umbrella liability insurance on an

occurrence basis covering claims in excess of, and following the terms of, the insurance

set forth in this Schedule with a [Coverage amount] minimum limit per occurrence and

[Coverage amount] annual aggregate limit. All insurance required by this Agreement

shall be purchased and maintained with a company or companies lawfully authorized to

do business in [Jurisdiction] . Such insurance shall be for limits of liability as specified

for the Project or legally required, whichever is greater.

All required insurance policies shall be endorsed to provide 30 days prior written notice

by certified mail, of any material change, cancellation, or non-renewal to Owner. Proof

of the required insurance and endorsements shall be made by submission to Owner, prior

to commencement of a Project, of certificates of insurance and endorsements satisfactory

to Owner. All required insurance shall be maintained until Owner has accepted the

Project and Final Payment has been made.


3-44 | EPC Template

Schedule III

Acceptance Testing

This schedule necessarily varies from project to project. It must be specific to the

particular equipment selected for the RET project, the characteristics of the renewable

energy technology being utilised, the capabilities and limitations of the project’s design

and equipment, the scope of the work to be done as part of this contract, and the nature of

the intended use.

The illustrative description of work shown below relates to the design and construction of

a cogeneration facility are offered to provide an example of the scope and detail of a

workable scope of work description.

=====

Contractor shall provide Owner at least fourteen (14) days advance notice of the date

upon which Contractor intends to start up and have the qualified independent testing

company perform the Acceptance Tests upon the Facility. In connection with such

Testing, Contractor shall further notify any Governmental Authority to whom such notice

is required. Acceptance Tests shall be conducted in accordance with the applicable

Acceptance Test protocols, as set forth below:

1. Acceptance Tests for Chilled Water Production Equipment:

Factory Tests and Associated Performance Curves (ARI Standard 550/590-98)

Certified Field tests of one chiller. If the chiller satisfies such tests, such testing

will be deemed complete. If such chiller fails to satisfy these tests, then the Parties will

proceed to test all chillers.

Cooling tower capacity testing in accordance with Cooling Tower Institute (CTI) test

protocols.

System Acceptance Testing: (a) Capacity – Demonstrate 20, 000 tons, @ 40 degrees

Fahrenheit having a temperature differential of 10 degrees from chilled water return at

50º F, with a 85º F condensing water temperature and maintaining a 32 PSIG pressure

increase between campus chilled water return pipe and campus chilled water supply; (b)

System Efficiency Test .85kW/ton; and (c) Duration of system tests in accordance with

ARI standards.

Secondary Chilled Water Pumps – As per factory tests.

2. Acceptance Tests for Steam Generation Equipment

Factory Tests, associated performance curves and associated data

Field Test of equipment coordinated with acceptance testing of electric system.

System Acceptance Testing: (a) Capacity – demonstrate 400,000 lbs/hour @ 175 PSIG

with 1 degree Fahrenheit superheat; (b) Steam Quality – USDA Food Grade Water

Treatment Chemicals; (d) Duration of system tests – over a period of one hour.


3-45 | EPC Template

3. Acceptance Tests for Electric Generation Equipment

Acceptance tests for Electric Generation Equipment shall be as provided in

Schedule 3.2 of the Facility Lease..12

Contractor will develop, using a qualified outside testing firm, appropriate additions

to the above-referenced testing protocols to allow for testing during conditions that may

exist at different times of the year, including less than ideal test conditions. MGE Power

and the State shall take all necessary actions, including without limitation, taking

delivery of all steam and chilled water output, and the State shall coordinate with the

University to ensure that necessary actions are taken, so that the Acceptance Tests can be

completed on the dates so scheduled.


3-46 | EPC Template

Schedule IV

Payment Milestone Schedule


3-47 | EPC Template

Schedule V

Lay Down Areas

See Attached Map


3-48 | EPC Template

Schedule VI

GMP Template


3-49 | EPC Template

Schedule VII

The Work

This schedule necessarily varies from project to project. It must be specific to the

particular equipment selected for the RET project, the characteristics of the renewable

energy technology being utilised, the capabilities and limitations of the project’s design

and equipment, the scope of the work to be done as part of this contract, the nature of the

intended use, and relevant regulatory authorizations or constraints.

The illustrative description of work shown below relates to the design and construction of

a cogeneration facility are offered to provide an example of the scope and detail of a

workable scope of work description.

=====

The Work shall include all design, engineering, procurement, permitting (to the extent

provided in the EPC Contract), construction, erection, installation, training, start-up and

testing activities and services necessary to achieve a complete and operable Facility with

the following equipment and systems:

Two (2) GE Packaged Power, Inc. LM6000 Gas Turbine Generator Sets with:

o GE generator

o Dual fuel system

o Water injection system for NOx control

o Inlet air anti-ice system (heater coil)

o Inlet chiller coil

_ One (1) General Electric Company Steam Turbine Generator Set with:

o GE Design Generator

o Mark VI Turbine Control System

o Lube and Control Oil System

o Gland Sealing System

Two (2) Deltak HRSGs, including HRSG modules, inlet and firing duct work, complete

ammonia unloading, storage and injection system, SCR and CO catalyst, exhaust stacks

with silencers, steam drums, pressure parts, walkways, ladders and stairs and boiler

trim.

Steam turbine condensing system consisting of a condenser, circulating water system,

and cooling towers

Two (2) York 1700 ton YK Inlet Air chiller unit (CTG IAC) and CTG IAC Chiller Tower

Chilled water system consisting of

o Four (4) York 5000 ton Titan OM chiller units (Campus chillers)

o Marley Cooling Technologies, Inc. Cooling Towers (Campus Chilled Water Tower)

o Primary and secondary chilled water pipes and pumping


3-50 | EPC Template

Campus steam and steam condensate equipment, piping and metering for 400,000

pounds per hour of continuous steam, connections to campus steam and condensate

piping systems, poured in-place concrete box conduit systems.

Lake water piping, lake water pumping equipment, sanitary sewers and pumping, storm

sewers.

Continuous Emission Monitoring system

Process water systems consisting of an Environmental Dynamics Corp water treatment

and condensate polisher system, water storage tank, demineralization units, and a

demineralized water storage tanks _ Chemical treatment systems consisting of HRSG

feedwater and circulating water treatment systems

Wastewater collection and treatment system

Fuel supply systems including natural gas conditioning system and a 500,000 gallon

ultra low sulphur storage system _ Fire protection systems

Plant buildings including lighting and HVAC

Site Improvements, roads, sidewalks, site lighting, building relocations, fencing

Plant electrical systems including step-up transformers and high voltage interties,

emergency backup diesel generators, and blackstart capabilities.

One (1) Konecranes, Inc. top running double girder bridge crane _ Signal, data,

metering and communications wiring and equipment _ Plant control system _ Removal

and relocation of campus buildings to the extent provided in Section 7.2.4.2

City Water Supply.20


3-51 | EPC Template

Schedule VIII

Approved Subcontractors and Suppliers

Subcontractors

Sample

CATEGORY NAME POSITION/FUNCTION

Subcontractors

ABC Group, Inc.

Project Engineer

CDE International Energy Construction Manager

Major Equipment Suppliers

East Wind Manufacturing

Carib Electric

Wind Turbine Generators

Transformers


3-52 | EPC Template

Schedule IX

Subcontractor Warranties

This schedule is a technical document that necessarily varies from project to project. It

is based on the particular renewable energy technology being utilised and the specific

manufactured equipment being installed. Expected equipment and workmanship

warranties and applicable performance standards should be discussed by Contractor

and Owner.

The following example of a warranties table relates to a cogeneration project. The

format is equally useful for RET projects.

=====


3-53 | EPC Template


3-54 | EPC Template

Schedule X

Form of Parent Guarantee

In the form of guaranty below, the Contractor’s parent firm provides assurance of Contractor’s performance

and payment under the EPC contract.

This form is easily modified for use as a payment guaranty if such a guaranty is required as a condition

of financing by the project finance lender.

=====

CORPORATE GUARANTEE AGREEMENT

THIS AGREEMENT is made as of ________________, ______, by Owner’s Parent, a

[Description of legal entity] (“Guarantor”).

R E C I T A L S :

A. [Legal name and description of Contractor] (“Obligor”) and [Legal name and

description of Owner] are entering into an Engineering, Procurement and Construction

Agreement dated [the date hereof] (the “Design and Construction Agreement”) for the

development and construction of a [RET description] facility that will produce electric

capacity and energy, to be located [Location of facility] in [City, Country]

{“Project”).

B. Owner has required that the Guarantor guarantee the Obligations (defined below) as a

condition to the Owner’s willingness to enter into the Design and Construction

Agreement. The Obligor is a wholly-owned subsidiary of the Guarantor. The

development and construction of the Project and the transactions contemplated by the

Design and Construction Agreement will provide direct benefits to the Obligor and will

therefore indirectly benefit the Guarantor.

C. The term “Obligations” means all of the obligations of the Obligor to Owner under

the Design and Construction Agreement of whatever nature, however arising, whether

due or not due, absolute or contingent, liquidated or unliquidated, determined or

undetermined, secured or unsecured, and whether the Obligor is liable individually or

jointly with others, but subject to the limitations set forth in the Design and Construction

Agreement.

C O V E N A N T S :

IN CONSIDERATION OF these premises and for other good and valuable

consideration, the receipt and sufficiency of which are hereby acknowledged, it is agreed

that:

1. The Guarantor hereby (a) unconditionally guarantees the full and prompt payment and

performance of the Obligations when due, whether by acceleration or otherwise, or (if


3-55 | EPC Template

earlier) at the time any Obligor becomes the subject of bankruptcy or other insolvency

proceedings; (b) agrees to pay all costs, expenses and reasonable attorneys’ fees incurred

by Owner in enforcing

this Agreement and the Obligations and realizing on any collateral for either; provided

however, that Guarantor shall not be required to pay such amounts incurred by Owner in

any attempted enforcement by Owner of this Agreement in which Guarantor ultimately

prevails; and (c) agrees to pay to Owner the amount of any payments made to Owner or.

another in connection with any of the Obligations which are recovered from Owner by a

trustee, receiver, creditor or other party pursuant to applicable law.

2. This is a guarantee of payment and performance of the Obligations, and not of

collection. Owner shall not be obligated to: (a) take any steps whatsoever to collect from,

or to file any claim of any kind against, any Obligor, any other guarantor, or any other

person or entity liable for payment or performance of any of the Obligations; or (b) take

any steps whatsoever to protect, accept, obtain, enforce, take possession of, perfect its

interest in, foreclose or realize on collateral or security, if any, for the payment or

performance of any of the Obligations or any guarantee of any of the Obligations; or (c)

in any other respect exercise any diligence whatever in collecting or attempting to collect

any of the Obligations by any means.

3. The Guarantor’s liability for payment and performance of the Obligations shall be

absolute and unconditional; the Guarantor unconditionally and irrevocably waives each

and every defense which, under principles of guarantee or suretyship law, would

otherwise operate to impair or diminish such liability; and nothing whatever except actual

full payment and performance of the Obligations (and all other debts, obligations and

liabilities of the Guarantor under this Agreement) shall operate to discharge the

Guarantor’s liability hereunder. Without limiting the generality of the foregoing, Owner

shall have the exclusive right, which may be exercised from time to time without

diminishing or impairing the liability of the Guarantor in any respect, and without notice

of any kind to the Guarantor, to: (a) accept any collateral, security or guarantee for any

Obligations or any other credit; (b) determine how, when and what application of

payments, credits and collections, if any, shall be made on the Obligations and any other

credit and accept partial payments; (c) determine what, if anything, shall at any time be

done with respect to any collateral or security; subordinate, sell, transfer, surrender,

release or otherwise dispose of all or any of such collateral or security; and purchase or

otherwise acquire any such collateral or security at foreclosure or otherwise; and (d) with

or without consideration grant, permit or enter into any waiver, amendment, extension,

modification, refinancing, indulgence, compromise, settlement, subordination, discharge

or release of: (i) any of the Obligations, the Design and Construction Agreement, or any

other agreement relating to any of the Obligations, (ii) any obligations of any guarantor or

other person or entity liable for payment or performance of any of the Obligations, and

any agreement relating to such obligations and (iii) any collateral or security or

agreement relating to collateral or security for any of the foregoing. Notwithstanding

anything in this Agreement to the contrary, Guarantor shall have the right to assert as

defenses and shall have the benefit of all rights of set-off, claims, counter-claims,

reduction or diminution as to any obligation of Owner to Obligors and any defenses to


3-56 | EPC Template

enforcement of this Agreement (except Bankruptcy and other insolvency-related

defenses) that Obligors would be entitled to assert in defense to payment or performance

of any of the Obligations.

4. The Guarantor hereby unconditionally waives (a) presentment, notice of dishonor,

protest, demand for payment and all notices of any kind, including without limitation:

notice of acceptance hereof; notice of the creation of any of the Obligations; notice of

nonpayment, nonperformance or other default on any of the Obligations; and notice of

any action taken to collect upon or enforce any of the Obligations; (b) any subrogation to

the rights of Owner against any Obligor and any other claim against any Obligor which

arises as a result of payments made by the Guarantor pursuant to this Agreement, until

the Obligations have been paid or. performed in full and such payments are not subject to

any right of recovery; and (c) any claim for contribution against any co-guarantor, until

the Obligations have been paid or performed in full and such payments are not subject to

any right of recovery.

5. The Guarantor represents and warrants that:

a. The execution, delivery and performance of this Agreement by the Guarantor

are within the corporate powers of the Guarantor, have been duly authorized by all

necessary corporate action and do not and will not (i) require any consent or approval of

the stockholders (or other governing body) of the Guarantor which has not been obtained,

(ii) violate any provision of the articles of incorporation or by-laws (or other governing

rules of the enterprise) of the Guarantor or of any law, rule, regulation, order, writ,

judgment, injunction, decree, determination or award presently in effect having

applicability to the Guarantor or any subsidiary of the Guarantor; (iii) require the consent

or approval of, or filing or registration with, any governmental body, agency or authority,

or (iv) result in a breach of or constitute a default under, or result in the imposition of any

lien, charge or encumbrance upon any property of the Guarantor or any subsidiary of the

Guarantor pursuant to, any indenture or other agreement or instrument under which the

Guarantor or any subsidiary of the Guarantor is a party or by which it or any of its

properties may be bound or affected.

b. This Agreement constitutes the legal, valid and binding obligation of the

Guarantor enforceable in accordance with its terms, except as such enforceability may be

limited by bankruptcy or similar laws affecting the enforceability of creditors’ rights

generally.

6. This Agreement shall inure to the benefit of Owner and its successors and assigns,

including every holder or owner of any of the Obligations, and shall be binding upon the

Guarantor and the Guarantor’s successors and assigns. This is a continuing guarantee

and shall continue in effect until all Obligations and all obligations of the Guarantor

hereunder shall be paid or performed in full and such payments are not subject to any

right of recovery.

7. This Agreement constitutes the entire agreement between Owner and the Guarantor

with respect to the subject matter hereof, superseding all previous communications and

negotiations, and no representation, understanding, promise or condition concerning the


3-57 | EPC Template

subject matter hereof shall be binding upon Owner unless expressed herein. This

Agreement shall be governed by the laws of the [Country] without regard to conflicts

of law principles.

8. The Guarantor hereby consents to the exclusive jurisdiction of a competent court in

[Country] , and waives any objection based on lack of personal jurisdiction, improper

venue or forum non conveniens, with regard to any actions, claims, disputes or

proceedings relating to this Agreement, or any document delivered hereunder or in

connection herewith, or any transaction arising from or connected to any of the foregoing.

Nothing herein shall affect the State’s right to serve process in any manner permitted by

law, or limit Owner’s right to bring proceedings against the Guarantor or its property or

assets in the competent courts of any other jurisdiction or jurisdictions..

9. The Guarantor hereby waives any and all right to trial by jury in any action or

proceeding relating to this Agreement, or any document delivered hereunder or in

connection herewith, or any transaction arising from or connected to any of the foregoing.

The Guarantor represents that this waiver is knowingly, willingly and voluntarily given.

[Name of Guarantor]

BY: _________________________________

TITLE:

ATTEST: _____________________________

TITLE:.-


3-58 | EPC Template

Schedule XI

Governmental Authorizations to be Obtained

This schedule necessarily varies from project to project. It must take account not only of

the characteristics of the renewable energy technology being utilised, and also the

capabilities and limitations of the project’s design and equipment, but also the nature of

the intended use and relevant regulatory authorizations or constraints. The items shown

below are illustrative to provide an example of the scope and detail of part of such a

listing

=====

Facility

Required Permits and Approvals

Abbreviations and Acronyms

[LIST]


ภาคผนวก 3-2: เงื่อนไขของสัญญา FIDIC

EPC/Turnkey Contract

Version 1999



3-59 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

Federation Internationale des Ingenieurs-Conseils (FIDIC)

เงื่อนไขสัญญาส าหรับงานก่อสร้างแบบเบ็ดเสร็จ (EPC/TURNKEY) 1

1. บททั่วไป (General Provisions)

1.1 ศัพท์นิยาม (Definitions)

ถ้อยค ำและถ้อยควำมในเงื่อนไขทั่วไป รวมถึงเงื่อนไขเฉพำะต่อไปนี้ ให้มีควำมหมำยตำมที่

ก ำหนดไว้ ถ้อยค ำของบุคคลหรือคณะบุคคล (Parties) ให้หมำยควำมรวมถึง นิติบุคคล หรือ

กลุ่มนิติบุคคลอื่นเว้นจะก ำหนดเป็นอื่น

1.1.1 สัญญา (The Contract)

1.1.1.1 สัญญา (Contract) หมำยถึงสัญญำข้อตกลง (Contract Agreement) วัตถุประสงค์ ควำม

ต้องกำรของผู้ว่ำจ้ำง (Employer’s Requirements) เอกสำรข้อเสนอกำรประกวดรำคำ

(Tender) และเอกสำรที่จะเกิดขึ้นภำยหลัง (ถ้ำมี) ซึ่งจะระบุไว้ในสัญญำข้อตกลงในหนังสือ

ตอบข้อตกลง

1.1.1.2 สัญญาข้อตกลง (Contract Agreement) หมำยถึงสัญญำข้อตกลงตำมอ้ำงถึงตำมข้อย่อย

1.6 รวมถึงเอกสำรบันทึกภำคผนวก

1.1.1.3 วัตถุประสงค์ ความต้องการของผู้ว่าจ้าง (Employer’s Requirements) หมำยถึง

เอกสำรที่ระบุ วัตถุประสงค์ ตำมควำมต้องกำรของผู้ว่ำจ้ำงตำมที่ระบุไว้ในสัญญำและรวมถึง

กำรเพิ่มเติมและกำรปรับเปลี่ยนเอกสำรดังกล่ำวตำมสัญญำ โดยเอกสำรดังกล่ำวจะระบุ

วัตถุประสงค์ขอบเขต และ/หรือกำรออกแบบ และ/หรือเกณฑ์ทำงเทคนิคอื่น ๆ ส ำหรับงำน

1.1.1.4 เอกสารข้อเสนอการประกวดราคา (Tender) หมำยถึงเอกสำรข้อเสนอที่ลงนำมของผู้

รับจ้ำงงำนก่อสร้ำงและเอกสำรอื่น ๆ ทั้งหมดที่ผู้รับจ้ำงงำนก่อสร้ำงยื่นพร้อมกัน

(นอกเหนือจำกเงื่อนไขและข้อก ำหนดวัตถุประสงค์ ควำมต้องกำรของผู้ว่ำจ้ำง) ตำมที่ระบุไว้

ในสัญญำหนังสือเสนอรำคำที่ผู้รับจ้ำงจัดท ำขึ้นได้ลงนำมแล้วเสนอไว้ให้ผู้ว่ำจ้ำง

1.1.1.5 หนังสือประกันสัญญา และแผนการจ่ายเงิน (Performance Guarantees and

Schedule of Payments) หมำยถึงเอกสำรตำมที่มีชื่อเรียกนั้น ซึ่งรวมเป็นส่วนหนึ่งของ

สัญญำ

1.1.2 คู่สัญญา หรือบุคคล (Parties and Persons)

1.1.2.1 คู่สัญญา (Party) หมำยถึงผู้ว่ำจ้ำงหรือผู้รับจ้ำงก่อสร้ำง (Contractor/ผู้รับเหมำ) ตำม

บริบทของตัวสัญญำ

1

แปลโดย เจตณรงค์ เชาว์ชูเดช อนุกรรมการฝ่ ายวิชาการ วปท. 2560

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-60 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

1.1.2.2 ผู้ว่าจ้าง (Employer) หมำยถึงบุคคลหรือนิติบุคคล ที่เป็นผู้ว่ำจ้ำง ตำมระบุไว้ในเอกสำร

แนบผนวกในเอกสำรประกวดรำคำ (Appendix to Tender) และให้รวมถึง ผู้มีอ ำนำจตำม

กฎหมำย

1.1.2.3 ผู้รับจ้าง (Contractor/ผู้รับเหมำ) หมำยถึงบุคคลหรือนิติบุคคล ที่เป็นผู้ว่ำจ้ำง ตำมที่ระบุ

ในเอกสำรแนบผนวกในเอกสำรประกวดรำคำ (Appendix to Tender) และให้รวมถึงผู้มี

อ ำนำจตำมกฏหมำย

1.1.2.4 ผู้แทนของผู้ว่าจ้าง (Employer’s Representative) หมำยถึงบุคคลซึ่งได้ได้รับแต่งตั้งจำก

ผู้ว่ำจ้ำงตำมสัญญำที่ระบุ หรือได้รับกำรแต่งตั้งเป็นครั้งครำวจำกผู้ว่ำจ้ำง ตำมข้อย่อย 3.1

(The Employer’s Representative) เพื่อปฏิบัติหน้ำที่แทนผู้ว่ำจ้ำง

1.1.2.5 ผู้แทนของผู้รับจ้าง (Contractors Representatives) หมำยถึงบุคคลที่ผู้รับจ้ำงระบุใน

สัญญำ หรือบุคคลที่ผู้รับจ้ำงแต่งตั้งเป็นครั้งครำว ตำมหัวข้อย่อย 4.3 (Contractors

Representatives) เพื่อปฏิบัติหน้ำที่แทนผู้รับจ้ำง

1.1.2.6 บุคลากรของผู้ว่าจ้าง (Employer Personnel) หมำยถึงผู้ว่ำจ้ำง หรือผู้ช่วยตำมหัวข้อย่อย

3.2 (Delegation by the Engineer) และบุคลำกรอื่น ๆ คนงำนหรือลูกจ้ำงชองผู้ว่ำจ้ำง

และ ผู้ว่ำจ้ำงและบุคลำกรอื่น ที่แจ้งให้แก่ผู้รับจ้ำง โดยผู้ว่ำจ้ำงหรือผู้ว่ำจ้ำงว่ำเป็นบุคลำกร

ของ ผู้ว่ำจ้ำง

1.1.2.7 บุคลากรของผู้รับจ้าง (Contractors Personnel) หมำยถึงผู้แทนของผู้รับจ้ำงและบุคลำกร

ทั้งหมดของผู้รับจ้ำงซึ่งปฏิบัติงำนอยู่ในพื้นที่งำน ซึ่งรวมถึงบุคลำกรคนงำนและลูกจ้ำงอื่น

ของผู้รับจ้ำง และบุคลำกรของผู้รับจ้ำงช่วงทุกรำยและผู้อื่นของผู้รับจ้ำงที่ท ำงำนก่อสร้ำง

ให้แก่ผู้รับจ้ำง

1.1.2.8 ผู้รับจ้างช่วง (Subcontractors) หมำยถึงบุคคลที่ถูกระบุชื่อเป็นผู้รับจ้ำงช่วงสัญญำหรือ

เป็นบุคคลอื่นที่ผู้รับจ้ำง แต่งตั้งให้เป็นรับจ้ำงช่วงงำนก่อสร้ำงบำงส่วน ให้รวมถึงผู้มีอ ำนำจ

เป็น ผู้รับจ้ำงช่วงตำมกฎหมำย

1.1.2.9 คณะกรรมการพิจาณาข้อพิพาท: คณะผู้ชี้ขาด: ผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท (Dispute

Adjudication Board, DAB) หมำยถึงบุคคลหนึ่งหรือบุคคล 3 คนซึ่งระบุอยู่ในสัญญำตำม

ข้อย่อย 20.2 (กำรแต่งตั้งคณะผู้ชี้ขำด:DAB) หรือข้อย่อย 20.3 (Failure to Agree DAB)

1.1.2.10 FIDIC หมำยถึง สมำพันธ์ผู้ว่ำจ้ำงที่ปรึกษำสำกล (Federation International des

Ingenieur Conseil หรือ The International Federation of Counselling)

1.1.3 วันที่ ทดสอบ ระยะเวลา และแล้วเสร็จ (Date, Test, Periods and Completion)

1.1.3.1 วันฐาน (Base Date) หมำยถึง 28 วันก่อนวันสุดท้ำยในกำรยื่นซองประกวดรำคำ

1.1.3.2 วันที่เริ่มงาน (Commencement Date) หมำยถึง วันที่ระบุตำมข้อย่อย 8.1

(Commencement of Works)

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-61 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

1.1.3.3 เวลาของการแล้วเสร็จ (Time of Completion) หมำยถึงเวลำของกำรแล้วเสร็จของงำน

หรือส่วนของงำนภำยใต้ข้อย่อย 8.2 (Time of Completion) ซึ่งได้ระบุเอกสำรแนบผนวก

ในเอกสำรประกวดรำคำ โดยให้นับจำกวันที่เริ่มงำน

1.1.3.4 ทดสอบเมื่องานแล้วเสร็จ (Test on Completion) หมำยถึงกำรทดสอบตำมที่ระบุไว้ใน

สัญญำหรือตำมที่ตกลงกันของคู่สัญญำ หรือตำมค ำสั่งกำรเปลี่ยนแปลง

1.1.3.5 การออกรับใบรับรอง (Taking Over Certificate) หมำยถึงกำรออกใบรับรองให้ตำมข้อ 10

(Employer’s Taking Over)

1.1.3.6 ทดสอบภายหลังงานแล้วเสร็จ (Tests after Completion) หมำยถึงกำรทดสอบตำมที่

ก ำหนดไว้ในสัญญำและได้ด ำเนินกำรตำมเงื่อนไขเฉพำะเมื่องำนแล้วเสร็จทั้งหมด หรืองำน

แล้วเสร็จเฉพำะบำงส่วน ซึ่งผู้ว่ำจ้ำงได้รับงำนไว้แล้ว

1.1.3.7 ช่วงเวลาการแจ้งข้อบกพร่อง (Defects Notification Period) หมำยถึงช่วงเวลำกำรแจ้ง

ข้อบกพร่องของงำนหรือส่วนของงำน ภำยใต้หัวข้อย่อย 11.1 (Completion of

Outstanding Work and Remedying Defect) ตำมที่ระบุในเอกสำรแนบผนวกในเอกสำร

ประกวดรำคำ ตำมหัวข้อย่อย 11.3 (Extension of Defect Notification Period) โดยให้

นับตั้งแต่วันที่งำนส่วนนั้นแล้วเสร็จตำมที่ระบุไว้ในหัวข้อย่อย 10.1 (Taking Over of the

Works and Sections)

1.1.3.8 ใบรับรองการปฏิบัติงาน (Performance Certificate) ใบรับรองออกให้ตำมหัวข้อย่อย

11.9 (Performance Certificate)

1.1.3.9 วัน (Day) หมำยถึงวันตำมปฏิทิน และปีหมำยถึง 365 วัน

1.1.4 เงินและการจ่ายค่าจ้าง (Money and Payment)

1.1.4.1 ราคางานตามสัญญา (Contract Price) หมำยถึง จ ำนวนเงินที่ตกลงกันไว้ในข้อตกลง

สัญญำส ำหรับกำรออกแบบ กำรด ำเนินกำร และเพื่อให้งำนแล้วเสร็จ และกำรแก้ไข

ข้อบกพร่องใด ๆ และรวมถึงกำรปรับปรุง (ถ้ำมี) ตำมสัญญำ

1.1.4.2 ค่าใช้จ่าย (Cost) ค่ำใช้จ่ำยทั้งปวงที่เกิดขึ้นอย่ำงมีเหตุผลหรืออำจจะเกิดขึ้นโดยกำรท ำงำน

ของผู้รับจ้ำงในหน้ำงำนหรือนอกพื้นที่งำน ให้รวมถึงค่ำด ำเนินกำร (Overhead) หรือ

ค่ำใช้จ่ำยอื่นที่คล้ำยกัน แต่ไม่รวมค่ำก ำไร

1.1.4.3 งบแจ้งยอดสุดท้าย (Final Statement) หมำยถึงงบแจ้งยอดตำมที่ก ำหนดไว้ ในหัวข้อย่อย

14.11 (Application for Final Payment Certificate)

1.1.4.4 สกุลเงินต่างประเทศ (Foreign Currency) หมำยถึงสกุลเงินตรำต่ำงประเทศที่จ่ำยเป็นเงิน

รำคำค่ำงำนตำมสัญญำ (Contract Price) ของงำนทั้งหมดหรืองำนบำงส่วน

1.1.4.5 สกุลเงินในประเทศ (Local Currency) หมำยถึงสกุลเงินตรำของประเทศผู้เป็นเจ้ำของ

โครงกำร

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-62 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

1.1.4.6 รายการเงินจร จ านวนเงินเผื่อจ่าย (Provisional Sum) หมำยถึงจ ำนวนเงิน (ถ้ำมี) ซึ่งระบุ

ในสัญญำว่ำเป็นจ ำนวนเงินเผื่อจ่ำย ส ำหรับด ำเนินกำรส่วนใด ส่วนหนึ่งในกำรจัดหำวัสดุ

หรือบริกำรในงำนก่อสร้ำง ตำมข้อย่อย Sub-Clause 13.5 (Provisional Sums)

1.1.4.7 เงินประกันผลงาน (Retention Money) หมำยถึงจ ำนวนเงินหักสะสม ซึ่งผู้ว่ำจ้ำงหักไว้

ตำมข้อย่อย 14.3 (Application for Interim Payments) และจ่ำยคืนให้ตำมข้อย่อย 14.9

(Payment of Retention Money)

1.1.4.8 งบแจ้งยอด (Statement) เป็นงบแจ้งยอดที่ผู้รับจ้ำงยื่นเสนอตำมหัวข้อ 14 (Contract

Price and Payment) เพื่อขอใบรับรองกำรจ่ำยค่ำจ้ำง

1.1.5 งานและพัสดุ (Work and Goods)

1.1.5.1 เครื่องมือของผู้รับจ้าง (Contractor’s Equipment) หมำยถึง เครื่องมือทั้งปวง

เครื่องจักรกล พำหนะ และอื่น ๆ เพื่อใช้ในกำรก่อสร้ำง เพื่อผลส ำเร็จของงำนและซ่อมแซม

บ ำรุงส่วนบกพร่องของงำน อย่ำไรก็ดี เครื่องมือของผู้รับจ้ำง ยกเว้นงำนก่อสร้ำงประกอบ

ชั่วครำวเครื่องมือของงำนจ้ำง (ถ้ำมี) โรงงำน/โรงผลิตประกอบเพื่อกำรก่อสร้ำงวัตถุก่อสร้ำง

และอื่น ๆ ที่มำประกอบเป็นงำนถำวรของผู้ว่ำจ้ำง

1.1.5.2 พัสดุ (Goods) หมำยถึงเครื่องมือ วัตถุ โรงงำน/โรงผลิตประกอบเพื่อกำรก่อสร้ำง หรืออื่น ๆ

ที่เป็นสมบัติของผู้รับจ้ำง

1.1.5.3 วัสดุ (Material) หมำยถึงสิ่งของต่ำง ๆ (นอกเหนือจำกโรงงำน/โรงผลิตประกอบเพื่อกำร

ก่อสร้ำง) ที่น ำมำประกอบกำรก่อสร้ำงเป็นงำนก่อสร้ำงถำวร รวมถึงกำรจัดหำวัสดุ (เฉพำะ

วัสดุ/ถ้ำมี) ที่ผู้รับจ้ำงต้องจัดหำตำมสัญญำ

1.1.5.4 งานก่อสร้างถาวร (Permanent Work) หมำยถึง งำนถำวรที่ผู้รับจ้ำงต้องท ำกำรก่อสร้ำง

ตำมสัญญำ

1.1.5.5 โรงงาน: โรงผลิต (Plant) หมำยถึง เครื่องมือ เครื่องจักรกล และพำหนะที่จะมำประกอบ

เป็นส่วนหนึ่งของงำนถำวร

1.1.5.6 ส่วนของงาน (Section) หมำยถึงส่วนหนึ่งส่วนใดของงำนตำมที่ก ำหนดไว่ในเงื่อนไขเฉพำะ

(Particular Conditions)

1.1.5.7 งานชั่วคราว (Temporary Works) หมำยถึงงำนชั่วครำวของทุกสิ่งทุกอย่ำง (ยกเว้น

เครื่องจักรของผู้รับจ้ำง) ที่มีอยู่ในพื้นที่โครงกำรส ำหรับกำรก่อสร้ำงงำนถำวร และเพื่อใช้ใน

กำรซ่อมบ ำรุงสิ่งก่อสร้ำงที่ช ำรุดบกพร่อง

1.1.5.8 งาน (Work) หมำยถึง งำนถำวรและงำนชั่วครำว และงำนอื่นที่มีลักษณะเดียวกัน

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-63 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

1.1.6 ศัพท์นิยามอื่น ๆ (Other Definition)

1.1.6.1 เอกสารของผู้รับจ้าง (Contractor’s Documents) หมำยถึงรำยกำรค ำนวนโปรแกรม

คอมพิวเตอร์ และ โปรแกรมอื่น ๆ แบบ คู่มือ และเอกสำรทำงเทคนิคอื่นซึ่งผู้รับจ้ำงจัดหำ

ตำมสัญญำ ตำมที่ระบุในข้อย่อย 5.2 (Contractor’s Documents)

1.1.6.2 ประเทศ (Country) หมำยถึง ประเทศที่พื้นที่โครงกำรตั้งอยู่

1.1.6.3 เครื่องมือของผู้ว่าจ้าง (Employer's Equipment) หมำยถึง เครื่องมือ เครื่องจักรกลและ

ยำนพำหนะที่ผู้ว่ำจ้ำงจัดหำให้ผู้รับจ้ำง ในกำรด ำเนินกำรก่อสร้ำงตำมที่ก ำหนดไว้ใน

ข้อก ำหนด (Specification) ยกเว้นโรงงำน/โรงผลิต (Plant) ที่ยังไม่ได้ส่งมอบให้แก่ผู้ว่ำจ้ำง

1.1.6.4 เหตุสุดวิสัย (Force Majeure) หมำยถึงตำมที่ระบุในข้อ 19 (Force Majeure)

1.1.6.5 กฎหมาย (Laws) หมำยถึง กฎหมำยของประเทศ กฤษฎีกำ กฎระเบียบ และกฎหมำยอื่น

กฎกระทรวง

1.1.6.6 หลักประกันการปฏิบัติงาน: หลักประกันสัญญา (Performance Security) หมำยถึง

หลักประกันตำมข้อย่อย 4.2 (Performance Security)

1.1.6.7 พื้นที่ก่อสร้าง (Site) หมำยถึงพื้นที่ที่จะท ำกำรก่อสร้ำงสิ่งก่อสร้ำงถำวร ซึ่งจะเป็นพื้นที่ที่

เครื่องมือ และวัสดุต่ำง ๆ ถูกน ำเข้ำมำเพื่อกำรก่อสร้ำง และพื้นที่อื่นที่ก ำหนดไว้ในสัญญำให้

เป็นพื้นที่ก่อสร้ำง

1.1.6.8 การเปลี่ยนแปลง (Variation) หมำยถึงกำรเปลี่ยนแปลงงำนโดยค ำสั่งและเห็นชอบกำร

เปลี่ยนแปลงนั้นตำมข้อ 13 (Variations and Adjustments)

1.2 การตีความ (Interpretation)

ในสัญญำนี้ เว้นแต่จะหมำยถึงเป็นอย่ำงอื่น

(ก) ค ำ เพศ (Gender) ที่เป็นเพศชำยในไวยำกรณ์ ให้รวมหมำยถึง เพศที่เป็นหญิงใน

ไวยำกรณ์ (Genders) ด้วย

(ข) ค ำ เอกพจน์ (Singular) ให้หมำยถึง ค ำพหูพจน์ด้วย (Plural) ด้วยหรือจะสลับกันก็ได้

(ค) ค ำ Agee, Agreed หรือ Agreement ให้หมำยถึงกำรตกลงซึ่งต้องจัดท ำบันทึกเป็น

หนังสือ

(ง) ค ำ written หรือ in Writing ให้หมำยถึงกำรเขียนด้วยลำยมือ พิมพ์ หรือ พิมพ์จำก

คอมพิวเตอร์และมีผลเป็นกำรบันทึกถำวร

ห้ำมใช้หัวข้อเรื่องในสัญญำนี้ ในกำรพิจำรณำแปลควำมในเงื่อนไขของสัญญำ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-64 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

1.3 การสื่อสาร (Communications)

ในเงื่อนไขสัญญำนี้ ทุก ๆ แห่งที่ระบุว่ำให้หรือออกหนังสือให้อนุมัติในเรื่องใบรับรองกำร

อนุญำต กำรพิจำรณำ กำรวินิจฉัย กำรแจ้งและกำรขอให้ กำรสื่อสำรในเรื่องดังกล่ำว ให้

สื่อสำรเป็นดังนี้

(ก) เขียนแล้วส่งด้วยบุคคล พร้อมใบลงนำมรับเอกสำร ส่งด้วยทำงไปรษณีย์ หรือส่งด้วยทำง

ระบบอิเล็กทรอนิกส์ ตำมที่ทั้ง 2 ฝ่ำย ตกลงไว้ในเอกสำรประกวดรำคำ

(ข) น ำส่ง ส่งหรือส ำเนำส่งทำงอิเล็กทรอนิกส์ตำมที่อยู่ของผู้รับตำมที่ก ำหนดในเอกสำร

ประกวดรำคำ แต่อย่ำงใดก็ดี

(1) หำกผู้รับขอเปลี่ยนที่อยู่ใหม่ ผู้ส่งจะต้องส่งตำมที่อยู่ใหม่

(2) หำกผู้รับไม่ได้แจ้งเป็นอื่น เมื่อมีกำรขอพิจำรณำอนุมัติหรือขออนุญำตให้ผู้ส่ง

ค ำตอบตำมที่อยู่ที่ปรำกฎอยู่บนหนังสือที่ส่งมำ

กำรอนุมัติกำรขอใบรับรองกำรขออนุญำต และกำรขอพิจำรณำวินิจฉัยจะต้องไม่เก็บหนังสือ

เฉยไว้หรือทิ้งไว้นำนโดยไม่มีเหตุผล เมื่อมีกำรส่งใบรับรองให้แก่คู่กรณีหนึ่ง ผู้ให้กำรรับรอง

ส ำหรับใบรับรองและส ำเนำใบรับรองให้แก่ผู้เกี่ยวข้องด้วย เมื่อกำรส่งใบสั่งกำรแก่ผู้หนึ่ง

ผู้ส่งดังกล่ำวจะต้องส่งใบส ำเนำให้แก่ผู้ว่ำจ้ำงหรือผู้เกี่ยวข้องนั้นด้วย

1.4 กฎหมายและภาษา (Law and Language)

สัญญำต้องปฏิบัติตำมกฎหมำยของประเทศที่โครงกำรตั้งอยู่ตำมที่ระบุไว้ในเอกสำรประกวด

รำคำ หำกบทหนึ่งบทใดของสัญญำเขียนสัญญำมำกกว่ำหนึ่งภำษำ ให้ใช้ภำษำที่ก ำหนดไว้

ในเอกสำรแนบผนวกในเอกสำรประกวดรำคำเป็นภำษำหลัก ภำษำที่ใช้ในกำรสื่อสำรให้ใช้

ภำษำที่ระบุไว้ในเอกสำรแนบผนวกในเอกสำรประกวดรำคำ หำกไม่มีกำรก ำหนด ใน

เอกสำรประกวดรำคำ ก็ให้ใช้ภำษำที่เขียนเป็นตัวสัญญำ

1.5 ล าดับความส าคัญของเอกสาร (Priority of Documents)

เอกสำรที่ประกอบเป็นตัวสัญญำ ให้ถือตำมล ำดับศักดิ์ในตัวมันเอง เพื่อวัตถุประสงค์ในกำร

ตีควำมให้ถือตำมล ำดับศักดิ์ ของเอกสำร ดังนี้

(ก) สัญญำข้อตกลง (Contract Agreement)

(ข) เงื่อนไขเฉพำะของสัญญำ (Particular Conditions)

(ค) เงื่อนไขทั่วไปของสัญญำฉบับนี้ (These General Conditions)

(ง) วัตถุประสงค์ ควำมต้องกำรของผู้ว่ำจ้ำง (Employer’s Requirements)

(จ) เอกสำรข้อเสนอกำรประกวดรำคำ และเอกสำรอื่น ๆ ที่รวมเป็นส่วนหนึ่งของสัญญำ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-65 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

1.6 สัญญาข้อตกลง (Contract Agreement)

คู่สัญญำต้องลงนำมในสัญญำข้อตกลงภำยใน 28 วันหลังจำกผู้รับจ้ำงได้รับหนังสือตอบ

ข้อตกลง (Letter of Acceptance) เว้นแต่คู่สัญญำได้ตกลงเป็นอื่น สัญญำข้อตกลงจะเป็น

แบบฟอร์มซึ่งแนบอยู่ในเงื่อนไขเฉพำะ (Particular Conditions) ผู้ว่ำจ้ำงต้องเป็นผู้จ่ำยค่ำ

อำกรแสตมป์และค่ำธรรมเนียมตำมกฎหมำยในกำรลงนำมสัญญำข้อตกลง

1.7 การโอนสิทธิ์ (Assignment)

ไม่ว่ำคู่สัญญำฝ่ำยใดจะโอนสิทธิ์งำนทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของงำน หรือผลประโยชน์

ใดหรือดอกเบี้ยภำยใต้สัญญำ อย่ำงไรดีคู่สัญญำฝ่ำยหนึ่งฝ่ำยใด

(ก) กำรโอนสิทธิ์สัญญำทั้งหมดหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของสัญญำก่อนลงนำมสัญญำกับ

คู่สัญญำอื่น ทั้งนี้เป็นควำมสมัครใจของคู่สัญญำอื่นนั้น

(ข) อำจเป็นหลักประกันให้แก่ธนำคำรผู้สนับสนุนกำรเงินจึงมอบกำรโอนสิทธิกำรรับเงิน

ค่ำจ้ำง หรือได้รับเงินค่ำจ้ำงภำยใต้สัญญำนี้

1.8 การรักษาและการแจกจ่ายเอกสาร (Care and Supply of Documents)

เอกสำรของผู้รับจ้ำงก่อสร้ำงแต่ละฉบับต้องอยู่ในควำมดูแลและควบคุมรักษำ โดยผู้รับจ้ำง

ก่อสร้ำง เว้นไว้และจนกว่ำผู้ว่ำจ้ำงจะได้รับมอบ เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่ำงอื่นในสัญญำ

ผู้รับจ้ำงก่อสร้ำงจะต้องจัดหำให้แก่ผู้ว่ำจ้ำงจ ำนวน 6 (หก) ชุด

ผู้รับจ้ำงจะต้องเก็บรักษำเอกสำร ส ำเนำสัญญำ เอกสำรข้อก ำหนดวัตถุประสงค์ ควำม

ต้องกำรของผู้ว่ำจ้ำง เอกสำรของผู้รับจ้ำง รำยกำรเปลี่ยนแปลงงำน และเอกสำรกำร

ติดต่อสื่อสำรอื่น ๆ ภำยใต้สัญญำดังกล่ำว บุคคลำกรของผู้ว่ำจ้ำงจะมีสิทธิเข้ำถึงเอกสำร

ดังกล่ำวทั้งหมดได้ตลอดเวลำตำมควำมเหมำะสม

หำกคู่สัญญำฝ่ำยใดตระหนักรู้ถึงข้อผิดพลำด หรือข้อบกพร่องทำงเทคนิค ในเอกสำรที่ใช้ใน

กำรก่อสร้ำง ฝ่ำยที่พบข้อบกพร่องดังกล่ำว ต้องแจ้งข้อบกพร่องทันทีให้แก่คู่สัญญำ เพื่อกำร

แก้ไขต่อไป

1.9 ความลับ (Confidentiality)

คู่สัญญำทั้งสองฝ่ำยจะถือว่ำรำยละเอียดของสัญญำเป็นข้อมูลเฉพำะและเป็นควำมลับ

ยกเว้นในขอบเขตที่จ ำเป็นเพื่อกำรปฏิบัติตำมข้อผูกพันตำมกฎหมำย หรือเพื่อให้เป็นไปตำม

กฎหมำยที่บังคับใช้ ผู้รับจ้ำงก่อสร้ำงต้องไม่เผยแพร่ อนุญำตให้ตีพิมพ์ หรือเปิดเผย

รำยละเอียดของงำนในเอกสำรเพื่อกำรค้ำหรือทำงเทคนิคใด ๆ หรือที่อื่น หำกมิได้รับกำร

ยินยอมตำมข้อตกลงก่อนหน้ำนี้ของผู้ว่ำจ้ำง

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-66 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

1.10 ผู้ว่าจ้างใช้สารบบเอกสารของผู้รับจ้าง (Employer’s Use of Contractor’s

Documents)

ในระหว่ำงคู่สัญญำ ผู้รับจ้ำงต้องสงวนไว้ซึ่งสิทธิบัตรและลิขสิทธ์ของสำรบบเอกสำรของ

ผู้รับจ้ำงและในสำรบบของเอกสำรกำรออกแบบ

ผู้รับจ้ำงต้องรับทรำบว่ำ ภำยหลังกำรลงนำมสัญญำกันแล้วต้องส่งมอบสิทธิบัตรและลิขสิทธ์

ที่ช ำระค่ำธรรมเนียมถูกต้องแล้วให้แก่ผู้ว่ำจ้ำงด้วย เพิ่อใช้และเชื่อมต่อกับสำรบบของ

เอกสำรของผู้รับจ้ำงได้ ทั้งนี้ให้รวมถึงกำรจัดท ำและควรปรับปรุงขยำยสิทธินั้น ใน

ใบอนุญำตต้องมีรำยละเอียดดังนี้

(ก) สำมำรถใช้งำนได้ไม่น้อยกว่ำอำยุของงำนโครงกำรหรือมำกกว่ำ

(ข) แต่งตั้งบุคคลใด ที่เหมำะสมในกำรควบคุมกำรใช้และสื่อสำรในเอกสำรของผู้รับจ้ำง เพื่อ

วัตถุประสงค์ในกำรด ำเนินกำรบ ำรุงรักษำ แก้ไข ปรับปรุง ซ่อมแซม และกำรรื้อถอนงำน

และ

(ค) ในกรณีสำรบบเอกสำรของผู้รับจ้ำงอยู่ในรูปแบบคอมพิวเตอร์โปรแกรม หรือซอฟแวร์

อื่น ๆ ให้สำมำรถใช้งำนได้กับคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในพื้นที่โครงกำรและที่อื่นที่ระบุในสัญญำ

ทั้งนี้ให้ผู้รับจ้ำงต้องรับผิดชอบในกำรเปลี่ยนคอมพิวเตอร์ที่ล้ำสมัยหรือช ำรุดอีกด้วย

เอกสำรของผู้รับจ้ำงและเอกสำรกำรออกแบบอื่น ๆ ที่จัดท ำโดย (หรือในนำมของ) ผู้รับจ้ำง

ต้องไม่ถูกน ำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญำตจำกผู้รับจ้ำง ในกำรคัดลอกหรือสื่อสำรกับบุคคลที่

สำมโดย (หรือในนำมของ) ผู้ว่ำจ้ำงเพื่อวัตถุประสงค์อื่น นอกจำกจะได้รับอนุญำต ภำยใต้

หัวข้อย่อยนี้

1.11 ผู้รับจ้างใช้สารบบเอกสารของผู้ว่าจ้าง (Contractor’s Use of Employer’s

Documents)

ระหว่ำงคู่สัญญำต้องสงวนไว้ซึ่งสิทธิบัตรและลิขสิทธิ์เอกสำรในเรื่องข้อก ำหนด วัตถุประสงค์

ควำมต้องกำรของผู้ว่ำจ้ำง รวมถึงเอกสำรอื่นซึ่งจัดท ำโดย (หรือในนำมของ) ผู้ว่ำจ้ำง ผู้รับ

จ้ำงอำจสำมำรถคัดลอก ใช้ และเพื่อกำรติดต่อสื่อสำรในเอกสำรเหล่ำนี้ ด้วยค่ำใช้จ่ำยของ

ตนเองเพื่อวัตถุประสงค์ตำมสัญญำ

1.12 รายละเอียดความลับ (Confidential Details)

ผู้รับจ้ำงจะเปิดเผยควำมลับและข้อมูลตำมค ำขอของผู้ว่ำจ้ำงอย่ำงมีเหตุผลเพื่อควำมเข้ำใจ

ต่อผู้รับจ้ำงตำมสัญญำ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-67 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

1.13 การปฏิบัติตามข้อกฎหมาย (Compliance with Laws)

ในกำรด ำเนินงำนตำมสัญญำ ผู้รับจ้ำงต้องปฏิบัติตำมกฎหมำยที่ใช้บังคับเว้นแต่จะก ำหนด

เป็นอื่น ในเงื่อนไขเฉพำะ

(ก) ผู้ว่ำจ้ำงต้องได้รับอนุญำตในเรื่องแผนโครงกำรของพื้นที่และอื่น ๆ เพื่องำนก่อสร้ำง

โครงกำร และกำรอนุญำตอื่น ๆ ตำมที่ก ำหนดไว้ในข้อก ำหนดของผู้ว่ำจ้ำง ผู้ว่ำจ้ำงต้อง

รับผิดชอบควำมเสียหำยและปกป้องอันตรำยอันจะเกิดขึ้นต่อผู้รับจ้ำง

(ข) ผู้รับจ้ำงจะส่งหนังสือแจ้งให้ทรำบเรื่องกำรจ่ำยภำษีทั้งปวง ค่ำธรรมเนียม และกำรขอ

ใบอนุญำตและกำรรับอนุมัติตำมที่กฎหมำยบังคับไว้ให้ด ำเนินกำรงำนให้แล้วเสร็จ และใน

กำรซ่อมบ ำรุงสิ่งช ำรุดบกพร่อง ผู้รับจ้ำงต้องรับผิดชอบควำมเสียหำยและปกป้องอัตรำยอัน

เกิดขึ้นต่อผู้ว่ำจ้ำงในเรื่องดังกล่ำว

1.14 การร่วมมือกันและการรับผิดชอบ (Joint and Several Liability)

ในกรณีผู้รับจ้ำงเป็นนิติบุคคลร่วมค้ำ (Joint Venture) หรือนิติบุคคลค้ำร่วม (Consortium)

ตำมกฎหมำย

(ก) สมำชิกกลุ่มนิติบุคคลต้องรับทรำบว่ำ สมำชิกทุกคนต้องร่วมรับผิดชอบต่อผู้ว่ำจ้ำงในกำร

ด ำเนินงำนตำมสัญญำ

(ข) กลุ่มนิติบุคคลต้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ว่ำจ้ำงทรำบถึงผู้ที่เป็นหัวหน้ำกลุ่มนิติบุคคล ซึ่งมี

อ ำนำจท ำกำรแทนกลุ่มนิติบุคคล

(ค) ผู้รับจ้ำงกลุ่มนิติบุคคล ห้ำมปรับเปลี่ยนสมำชิกกลุ่มและสถำนะกำรจัดตั้งเป็นกลุ่มนิติ

บุคคลตำมกฎหมำยโดยไม่ได้รับเห็นชอบจำกผู้ว่ำจ้ำง

2. ผู้ว่าจ้าง (The Employer)

2.1 สิทธิการเข้าออกสถานที่ก่อสร้าง (Right of Access to the Site)

ผู้ว่ำจ้ำงจะให้สิทธิแก่ผู้รับจ้ำงในกำรเข้ำออกและครอบครองทุกส่วนของพื้นที่ก่อสร้ำงตำม

ก ำหนด เวลำในเอกสำรแนบผนวกในเอกสำรประกวดรำคำ สิทธิและกำรครอบครองสิทธินั้น

ไม่ได้ให้เฉพำะแต่ผู้รับจ้ำง ถ้ำภำยใต้สัญญำ ผู้ว่ำจ้ำงมีวัตถุประสงค์ให้ผู้รับจ้ำงครอบครอง

สิทธิโครงสร้ำงฐำนรำก เครื่องมือ เครื่องจักรกลและวิธีกำรเข้ำออกพื้นที่ ผู้ว่ำจ้ำงจะปฏิบัติ

ตำมก ำหนดเวลำตำมที่ระบุไว้ในข้อก ำหนด แต่อย่ำงไรก็ดีผู้ว่ำจ้ำงอำจจะไม่ให้สิทธิและกำร

ครอบครองพื้นที่ก่อสร้ำง จนกว่ำผู้รับจ้ำงได้มอบหลักประกันสัญญำให้แก่ผู้ว่ำจ้ำง

หำกไม่ก ำหนดเวลำในเอกสำรแนบผนวกในเอกสำรประกวดรำคำ ผู้ว่ำจ้ำงจะให้สิทธิและ

กำรครอบครองพื้นที่ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ได้รับค ำสั่งให้เริ่มงำน

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-68 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

หำกผู้รับจ้ำงได้รับควำมยุ่งยำกและล่ำช้ำจนเกิดมีค่ำใช้จ่ำยจำกกำรที่ผู้ว่ำจ้ำงละเลยไม่ให้

สิทธิกำรครอบครองพื้นที่ตำมเวลำที่ก ำหนดไว้ ผู้รับจ้ำงจะมีหนังสือแจ้งให้ผู้ว่ำจ้ำงตำมหัวข้อ

ย่อย 20.1 (Contractor Claims)

(ก) ขยำยเวลำตำมควำมล่ำช้ำ ซึ่งหำกควำมล่ำช้ำนั้นอันเนื่องจำกเหตุผลดังกล่ำวตำมหัวข้อ

ย่อย 8.4 (Extention of Time for Completion) และ

(ข) ค่ำใช้จ่ำยที่เกิดขึ้นบวกก ำไรซึ่งจะเป็นค่ำจ้ำงตำมสัญญำ (Contract Price)

ภำยหลังจำกได้รับหนังสือแจ้ง ผู้ว่ำจ้ำงต้องด ำเนินกำรตำมหัวข้อย่อย 3.5

(Determinations) พิจำรณำอนุมัติหรืออื่น ๆ

อย่ำงไรก็ดี หำกพบควำมผิดพลำดของผู้ว่ำจ้ำงอันเนื่องจำกควำมผิดหรือควำมล่ำช้ำของ

ผู้รับจ้ำง ให้รวมควำมผิดในเรื่องหรือควำมล่ำช้ำในกำรยื่นเอกสำรหนังสือของผู้รับจ้ำง

ผู้รับจ้ำงไม่อำจจะขอขยำยเวลำ ค่ำใช้จ่ำยหรือค่ำก ำไร

2.2 การอนุญาต ใบอนุญาต หรือการอนุมัติ (Permit, License, or Approvals)

ผู้ว่ำจ้ำง (เมื่ออยู่ในต ำแหน่งที่จะกระท ำได้) จะจัดหำให้อย่ำงมีเหตุผลต่อผู้รับจ้ำงในเรื่อง

(ก) ขอส ำเนำบทกฎหมำยที่เกี่ยวข้องกับงำนโครงกำรซึ่งยังไม่มี

(ข) เพื่อให้ผู้รับจ้ำงยื่นขออนุญำต ในอนุญำตหรือกำรอนุมัติ ตำมที่กฎหมำยบังคับใช้ของ

ประเทศนั้น

(1) ซึ่งผู้รับจ้ำงต้องจัดท ำตำมข้อย่อย 1.13 (Compliant with Laws)

(2) เพื่อกำรขนส่งพัสดุ รวมถึงพิธีกำรศุลกำกร

(3) เพื่อกำรส่งกลับเครื่องมือเมื่อกำรก่อสร้ำงแล้วเสร็จ จำกพื้นที่โครงกำร

2.3 บุคลากรของผู้ว่าจ้าง (Employer’s Personnel)

ผู้ว่ำจ้ำงต้องรับผิดชอบต่อบุคลำกรของผู้ว่ำจ้ำง และบุคลำกรของผู้รับจ้ำงอื่นซึ่งว่ำจ้ำงโดย

ผู้ว่ำจ้ำงที่ปฏิบัติงำนอยู่ในพื้นที่โครงกำรเดียวกัน

(ก) ให้ควำมร่วมมือผู้รับจ้ำงตำมหัวข้อย่อย 4.6 (Co–operation) และ

(ข) ด ำเนินกำรคล้ำยกับบุคลำกรผู้รับจ้ำงตำมหัวย่อย 4.8 ในหัวข้อ (ก), (ข) (ค) และ (ง)

(Safety Procedure) และในหัวข้อย่อย 4.18 (Protection of the Environment)

2.4 ระเบียบการเงินของผู้ว่าจ้าง (Employer’s Financial Arrangements)

ผู้ว่ำจ้ำงจะยื่นข้อเสนอภำยใน 28 วันหลังจำกได้รับหนังสือแจ้งใด ๆ พร้อมหลักฐำนจำก

ผู้รับจ้ำงในเรื่องกำรเงิน ผู้ว่ำจ้ำงจะรับไว้ท ำกำรตรวจสอบกำรจ่ำยค่ำงำนตำมสัญญำ

(Contract Price) ณ เวลำนั้นตำมข้อย่อย 14 (Contract Price and Payment) หำก

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-69 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

ผู้ว่ำจ้ำงมีควำมประสงค์เปลี่ยนรำยละเอียดเอกสำรตำมระเบียบกำรเงินของผู้ว่ำจ้ำง ผู้ว่ำจ้ำง

จะต้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้รับจ้ำงทรำบพร้อมรำยละเอียดเฉพำะ

2.5 การเรียกร้องค่าชดเชยของผู้ว่าจ้าง (Employer’s Claims)

ในกณีที่ผู้ว่ำจ้ำงพิจำรณำแล้วเห็นว่ำกำรจ่ำยค่ำจ้ำงตำมเงื่อนไขสัญญำนี้หรืออื่น ๆ ที่เกี่ยวกับ

สัญญำนี้ หรือกรณีใดที่มีหนังสือแจ้งกำรขยำยเวลำกำรรับประกันซ่อมแซมสิ่งช ำรุดบกพร่อง

ผู้ว่ำจ้ำงจะมีหนังสือแจ้งเฉพำะให้แก่ผู้รับจ้ำง อย่ำงไรก็ดี หนังสือแจ้งไม่ต้องจ่ำยตำมหัวข้อ

ย่อย 4.19 (Electricity, Water and Gas) ตำมข้อย่อย 4.20 (Employer’s Equipment

and Free-Issue Material) หรือกำรบริกำรอื่นตำมที่ผู้รับจ้ำงร้องขอ

หนังสือแจ้งต้องส่งให้เร็วที่สุด และสำมำรถจะด ำเนินกำรให้ได้ภำยหลังจำกผู้ว่ำจ้ำงเริ่มรับว่ำ

เหตุหรือสถำนกำรณ์ที่จะมีกำรเรียกร้องค่ำชดเชย หนังสือแจ้งเตือนเกี่ยวกับกำรขยำยเวลำ

กำรรับประกันซ่อมแซมสิ่งช ำรุดบกพร่อง จะส่งให้ก่อนที่กำรประกันซ่อมแซมสิ่งช ำรุดจะ

หมดอำยุ เงื่อนไขเฉพำะจะระบุเหตุหรือสำเหตุอื่นของกำรเรียกร้องค่ำชดเชย ซึ่งจะรวม

จ ำนวนตำมจริงและกำรขยำยเวลำตำมที่ผู้ว่ำจ้ำงพิจำรณำด้วยตนเอง ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ

สัญญำ ดังนั้นผู้ว่ำจ้ำงจะด ำเนินกำรตำมหัวข้อย่อย 3.5 (Determinations) เพื่ออนุมัติหรือ

เพื่อพิจำรณำ

(ก) จ ำนวนค่ำชดเชยที่ผู้ว่ำจ้ำงจะได้รับจำกผู้รับจ้ำง

(ข) กำรขยำยเวลำกำรประกันกำรซ่อมแซมสิ่งช ำรุดบกพร่อง ตำมหัวข้อย่อย 11.3

(Extension of Defects Notification Period)

จ ำนวนค่ำเรียกร้องชดเชยนี้ อำจจะถูกหักรำคำงำนตำมสัญญำ (Contract Price) และ

ใบรับรองกำรจ่ำยค่ำจ้ำง ผู้ว่ำจ้ำงมีสิทธิ์จะระบุเก็บค่ำเรียกร้องค่ำชดเชยออกหรือหักจ ำนวน

เงินนี้ออกจำกใบรับรองกำรจ่ำยค่ำจ้ำง หรือมิฉะนั้นจะคิดโดยตรงกับผู้รับจ้ำง ตำมหัวข้อ

ย่อยในเงื่อนไขนี้

3. การบริหารของผู้ว่าจ้าง (The Employer’s Administration)

3.1 ผู้แทนของผู้ว่าจ้าง (The Employer's Representative)

ผู้ว่ำจ้ำงจะแต่งตั้งผู้แทนของผู้ว่ำจ้ำง ผู้ซึ่งจะปฏิบัติหน้ำที่ตำมที่ผู้ว่ำจ้ำงมอบหมำยตำม

สัญญำ ผู้แทนของผู้ว่ำจ้ำงจะเป็นผู้ที่ถูกระบุ และได้รับกำรมอบหมำยให้มีอ ำนำจกระท ำกำร

ในนำมของผู้ว่ำจ้ำง

ผู้แทนผู้ว่ำจ้ำงจะท ำหน้ำที่ตำมที่ได้รับมอบหมำย และใช้อ ำนำจตำมที่ผู้ว่ำจ้ำงมอบหมำย

เว้นแต่และจนกว่ำผู้ว่ำจ้ำงจะแจ้งให้ผู้รับจ้ำงเป็นอย่ำงอื่น ให้ถือว่ำผู้แทนของผู้ว่ำจ้ำงจ้ำงมี

อ ำนำจเต็มตำมข้อผูกพันของผู้ว่ำจ้ำงจ้ำงตำมสัญญำ ยกเว้นตำมที่ระบุในข้อ 15

(Termination by Employer)

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-70 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

หำกผู้ว่ำจ้ำงประสงค์จะเปลี่ยนบุคลำกรที่ได้รับกำรแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนของผู้ว่ำจ้ำง ผู้ว่ำจ้ำง

จะต้องแจ้งให้ผู้รับจ้ำงทรำบล่วงหน้ำไม่น้อยกว่ำ 14 วันโดยระบุ ชื่อ ที่อยู่ หน้ำที่และอ ำนำจ

หน้ำที่ของบุคลำกรนั้น และวันที่ได้รับกำรแต่งตั้ง

3.2 บุคลากรอื่นของผู้ว่าจ้าง (Other Employer’s Personnel)

ผู้ว่ำจ้ำง หรือ ผู้แทนของผู้ว่ำจ้ำงอำจมอบหน้ำที่และมอบอ ำนำจหรือถอดถอนให้ผู้แทนหรือ

ผู้ช่วยผู้ว่ำจ้ำง อ ำนำจหน้ำที่นี้ให้รวมถึงผู้ว่ำจ้ำงสนำมประจ ำหน้ำงำน (Resident Engineer)

และหรือผู้ตรวจงำนอิสระ (Independent Inspector) ซึ่งแต่งตั้งให้ตรวจสอบ กำรทดสอบ

อุปกรณ์ เครื่องจักรกลและวัสดุก่อสร้ำง กำรมอบหมำยตัวแทนและกำรถอดถอน จะต้อง

กระท ำเป็นหนังสือและจะมีผลบังคับเมื่อคู่สัญญำได้รับหนังสือไว้แล้ว

ผู้ช่วยต้องเป็นบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมำะสมและมีควำมสำมำรถ ควำมช ำนำญในกำรปฏิบัติ

หน้ำที่และกำรใช้อ ำนำจ มีควำมสำมำรถในกำรใช้ภำษำในกำรสื่อสำรตำมข้อย่อย 1.4 (Law

and Language)

3.3 บุคลากรที่ได้รับมอบอ านาจ (Delegated Persons)

บุคลำกรเหล่ำนี้ รวมถึงผู้แทนของผู้ว่ำจ้ำงและผู้ช่วย ซึ่งได้รับมอบอ ำนำจหน้ำที่ หรือมี

อ ำนำจตำมที่ได้รับมอบอ ำนำจเท่ำนั้นที่จะได้รับอนุญำตให้ออกค ำสั่งให้ผู้รับจ้ำงตำมขอบเขต

ที่ก ำหนด กำรอนุมัติ กำรตรวจสอบ รับรอง ยินยอม กำรตรวจสอบกำรออกค ำสั่ง ค ำชี้แจง

ข้อเสนอ กำรร้องขอ กำรทดสอบ หรือกำรกระท ำที่คล้ำยคลึงกันโดยบุคคลำกรที่ได้รับมอบ

อ ำนำจตำมที่ได้รับมอบอ ำนำจจะมีผลเช่นเดียวกับกำรกระท ำนั้นเป็นกำรกระท ำของผู้ว่ำจ้ำง

อย่ำงไรก็ตำม:

(ก) เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่ำงอื่นในกำรสื่อสำรของผู้ได้รับมอบอ ำนำจเกี่ยวกับกำรกระท ำ

ดังกล่ำวจะไม่เป็นกำรลดภำระหน้ำที่ของผู้รับจ้ำงตำมสัญญำ รวมทั้งควำมรับผิดชอบใน

ข้อผิดพลำดกำรละเว้นกำรคลำดเคลื่อนและกำรไม่ปฏิบัติตำมข้อก ำหนด

(ข) กำรไม่ยอมรับงำนใด ๆ โรงผลิตหรือวัสดุ ต้องไม่ถือเป็นกำรอนุมัติและจะไม่กระทบต่อ

สิทธิของผู้ว่ำจ้ำงในกำรปฏิเสธในงำน โรงผลิตหรือวัสดุ และ

(ค) หำกผู้รับจ้ำงมีข้อซักถำมในค ำสั่งของบุคลำกรที่ได้รับมอบอ ำนำจ ผู้รับจ้ำงอำจส่งเรื่อง

ไปยังผู้ว่ำจ้ำง ซึ่งจะต้องยืนยัน หรือขัดแย้ง หรือเปลี่ยนแปลงในค ำวินิจฉัยตัดสินหรือค ำสั่ง

นั้น

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-71 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

3.4 ค าแนะน า: ค าสั่งการ (Instruction)

ผู้ว่ำจ้ำงอำจออกค ำสั่งให้ผู้รับจ้ำงเพื่อปฏิบัติหน้ำที่ตำมสัญญำ ค ำสั่งแต่ละค ำสั่งต้องได้รับ

กำรบอกกล่ำวเป็นลำยลักษณ์อักษรและระบุถึงภำระหน้ำที่ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงข้อย่อย (หรือ

เงื่อนไขอื่น ๆ ของสัญญำ) ซึ่งระบุภำระหน้ำที่ หำกค ำสั่งดังกล่ำวเป็นกำรเปลี่ยนแปลงให้

เป็นไปตำมข้อย่อย 13 (Variations and Adjustments)

ผู้รับจ้ำงจะต้องรับค ำแนะน ำจำกผู้ว่ำจ้ำงหรือตัวแทนผู้ว่ำจ้ำงหรือผู้ช่วยซึ่งได้มอบอ ำนำจที่

เหมำะสมตำมข้อนี้

3.5 การพิจารณาวินิจฉัย (Determinations)

เมื่อใดก็ตำมที่เงื่อนไขเหล่ำนี้ระบุว่ำผู้ว่ำจ้ำงจะด ำเนินกำรตำมข้อย่อย 3.5 นี้ เพื่อตกลงหรือ

ก ำหนดเรื่องใด ๆ ผู้ว่ำจ้ำงจะปรึกษำกับผู้รับจ้ำงในควำมพยำยำมที่จะบรรลุข้อตกลง หำก

ข้อตกลงไม่บรรลุผล ผู้ว่ำจ้ำงจะต้องมีกำรตัดสินอย่ำงเป็นธรรมตำมสัญญำโดยค ำนึงถึง

สถำนกำรณ์ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด

ผู้ว่ำจ้ำงจะแจ้งให้ผู้รับจ้ำงทรำบถึงข้อตกลง หรือข้อตกลงแต่ละฉบับโดยมีรำยละเอียดกำร

สนับสนุน คู่สัญญำแต่ละฝ่ำยจะให้ผลตำมข้อตกลง หรือข้อตกลงแต่ละฉบับเว้นแต่ผู้รับจ้ำง

จะแจ้งให้ผู้ว่ำจ้ำงทรำบถึงข้อไม่เห็นด้วยของตนภำยใน 14 วันนับจำกวันที่ได้รับเอกสำร

คู่สัญญำฝ่ำยหนึ่งฝ่ำยใดอำจส่งข้อพิพำทไปยัง DAB ตำมข้อย่อย 20.4 (Obtaining Dispute

Adjudication Board’s Decision)

4. ผู้รับจ้าง (The Contractor)

4.1 พันธะทั่วไปของผู้รับจ้าง (Contractor’s General Obligations)

ผู้รับจ้ำงต้องออกแบบ และด ำเนินกำรงำนให้เสร็จสมบูรณ์ตำมสัญญำ และรวมถึงจะแก้ไข

ข้อบกพร่องต่ำง ๆ ในงำน เมื่อแล้วเสร็จ ผลงำนจะต้องเหมำะสมกับวัตถุประสงค์ของงำน

ก่อสร้ำงตำมที่ก ำหนดไว้ในสัญญำ

ผู้รับจ้ำงต้องจัดเตรียมเอกสำรของโรงผลิต และเอกสำรของผู้รับจ้ำงที่ระบุไว้ในสัญญำ

รวมถึงบุคลำกร สิ่งของ เครื่องอุปโภคบริโภค และสิ่งของและบริกำรอื่น ๆ ทั้งหมดที่มี

ลักษณะชั่วครำวหรือถำวรที่จ ำเป็นส ำหรับกำรออกแบบนี้ รวมถึงกำรด ำเนินกำรให้แล้วเสร็จ

และกำรแก้ไขข้อบกพร่อง

งำนนี้จะรวมถึงงำนต่ำง ๆ ที่จ ำเป็นเพื่อตอบสนองควำมต้องกำรของผู้ว่ำจ้ำง หรือโดยนัย

ตำมสัญญำ และงำนทั้งหมด (แม้ว่ำจะไม่ได้กล่ำวถึงในสัญญำ) แต่เป็นสิ่งจ ำเป็นส ำหรับควำม

มั่นคงหรือเพื่อควำมสมบูรณ์หรือกำรด ำเนินงำนที่ปลอดภัยและเหมำะสม

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-72 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

ผู้รับจ้ำงจะต้องรับผิดชอบต่อควำมเหมำะสม เพียงพอ เสถียรภำพและควำมปลอดภัยในกำร

ปฏิบัติงำนในสถำนที่ก่อสร้ำง กำรด ำเนินงำน และวิธีกำรก่อสร้ำงในงำนทั้งหมด

ผู้รับจ้ำงจะต้องส่งรำยละเอียดและวิธีกำรตำมที่ผู้รับจ้ำงเสนอในกำรด ำเนินงำนตำมโครงกำร

แก่ผู้ว่ำจ้ำง กำรเปลี่ยนแปลงในวิธีกำรเหล่ำนี้จะต้องไม่มีกำรเปลี่ยนแปลงอย่ำงมีนัยส ำคัญ

โดยมิได้แจ้งให้ผู้ว่ำจ้ำงทรำบล่วงหน้ำ

4.2 หลักประกันการปฎิบัติงาน: หลักประกันสัญญา (Performance Security)

ผู้รับจ้ำงต้องส่งหลักประกันสัญญำ เพื่อเป็นหลักประกันกำรปฏิบัติงำน ตำมจ ำนวนมูลค่ำ

หลักประกันที่ก ำหนดไว้ในเอกสำรแนบผนวกในเอกสำรประกวดรำคำ หำกจ ำนวน

หลักประกันนี้ไม่ได้ก ำหนดในเอกสำรแนบผนวกในเอกสำรประกวดรำคำก็ไม่ต้องบังคับใช้

ผู้รับจ้ำงต้องส่งมอบหลักประกันสัญญำภำยใน 28 วันภำยหลังวันที่ผู้รับจ้ำงได้รับหนังสือ

ตอบตกลง และส่งส ำเนำให้ผู้ว่ำจ้ำง 1 ชุด หลักประกันสัญญำต้องออกให้จำกนิติบุคคลของ

ประเทศที่โครงกำรตั้งอยู่ ซึ่งผู้ว่ำจ้ำงจะเป็นผู้พิจำรณำเห็นชอบให้ใช้แบบฟอร์มหลักประกัน

ตำมที่ก ำหนดไว้ในภำคผนวก หรือใช้แบบฟอร์มเป็นอื่นก็ได้ แต่ต้องได้รับควำมเห็นชอบจำก

ผู้ว่ำจ้ำง

ผู้รับจ้ำงต้องแน่ใจว่ำหลักประกันสัญญำ จะต้องมีอำยุผลบังคบใช้จนกว่ำผู้รับจ้ำงท ำงำนแล้ว

เสร็จและรวมถึงระยะเวลำในกำรซ่อมบ ำรุงสิ่งช ำรุดบกพร่อง เมื่อหลักประกันหมดอำยุก่อน

และผู้ว่ำจ้ำงยังไม่ได้ให้ใบรับรองกำรแล้วเสร็จของงำน ผู้รับจ้ำงต้องต่ออำยุหลักประกันตำม

วันที่งำนจะแล้วเสร็จและต้องครอบคลุมกำรประกันซ่อมบ ำรุงสิ่งบกพร่องช ำรุดอีกด้วย

ผู้รับจ้ำงจะไม่เรียกร้องค่ำชดเชยให้หลักประกันสัญญำ เว้นแต่กรณีดังต่อไปนี้

(ก) ผู้รับจ้ำงละเลยไม่ต่ออำยุหลักประกันดังกล่ำวข้ำงต้น ผู้ว่ำจ้ำงอำจจะเรียกร้องค่ำชดเชย

เต็มจ ำนวนเงินของหลักประกัน

(ข) ผู้รับจ้ำงละเลยไม่ช ำระหนี้ให้แก่ผู้ว่ำจ้ำงตำมที่ผู้รับจ้ำงได้ตกลงไว้หรือตำมผลจำกข้อย่อย

2.5 (Employer’s Claims) หรือข้อ 20 (Claims, Disputes, Arbitration) ภำยใน 42 วัน

หลังจำกมีข้อตกลงหรือจำกผลดังกล่ำวข้ำงต้น

(ค) ผู้รับจ้ำงละเลยไม่ท ำกำรแก้ไขสิ่งบกพร่องภำยหลัง 42 วันจำกวันที่ผู้รับจ้ำงได้รับหนังสือ

แจ้งให้ทรำบจำกผู้ว่ำจ้ำงให้ท ำกำรแก้ไขสิ่งบกพร่อง

(ง) ในสถำนกำรณ์ที่ผู้ว่ำจ้ำงที่จะยกเลิกสัญญำภำยใต้ข้อย่อย 15.2 (Termination by

Employer) โดยไม่ค ำนึงถึงว่ำผู้ว่ำจ้ำงต้องออกหนังสือแจ้งให้ทรำบ

ผู้ว่ำจ้ำงจะคุ้มครองและปกป้องผู้รับจ้ำงจำกควำมเสียหำย กำรสูญเสียและค่ำใช้จ่ำย (รวมถึง

ค่ำธรรมเนียมและค่ำใช้จ่ำยทำงกฎหมำย) อันเป็นผลจำกกำรเรียกค่ำเสียหำยจำก

หลักประกันสัญญำในกรณีที่ผู้ว่ำจ้ำง ไม่เรียกร้องค่ำชดเชย ค่ำเสียหำย

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-73 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

ผู้ว่ำจ้ำงจะคืนหลักประกันสัญญำแก่ผู้รับจ้ำงภำยใน 21 วัน ภำยหลังจำกผู้รับจ้ำงได้รับ

หนังสือกำรรับรองผลงำน

4.3 ผู้แทนผู้รับจ้าง (Contractor’s Representative)

ผู้รับจ้ำงจะต้องแต่งตั้งตัวแทนผู้รับจ้ำง และมอบอ ำนำจเท่ำที่จ ำเป็นให้ผู้แทนกระท ำแทน

ผู้รับจ้ำงตำมสัญญำนี้

ยกเว้นผู้แทนผู้รับจ้ำงได้ระบุชื่อในสัญญำ ก่อนวันที่ผู้รับจ้ำงเริ่มปฏิบัติงำนตำมสัญญำ ผู้รับ

จ้ำงจะต้องเสนอชื่อผู้แทนผู้รับจ้ำงต่อผู้ว่ำจ้ำงเพื่อขออนุญำตแต่งตั้งตัวแทนผู้รับจ้ำง หำก

กำรอนุญำตถูกระงับหรือถูกยกเลิกหรือผู้แทนผู้รับจ้ำงไม่ปฏิบัติหน้ำที่ในฐำนะของผู้แทนผู้

รับจ้ำง ผู้รับจ้ำงจะต้องแต่งตั้งชื่อผู้แทนผู้รับจ้ำงคนใหม่ที่มีควำมเหมำะสม

ผู้รับจ้ำงจะไม่แต่งตั้งผู้แทนของผู้รับจ้ำงโดยไม่ได้รับควำมยินยอมจำกผู้ว่ำจ้ำงก่อนได้รับ

ควำมเห็นชอบ

ผู้แทนของผู้รับจ้ำงในนำมของผู้รับจ้ำงจะเป็นไปตำมข้อย่อย 3.4 (Instruction)

ผู้แทนของผู้รับจ้ำงอำจมอบอ ำนำจ ให้แก่บุคคลที่มีอ ำนำจและอำจยกเลิกกำรมอบอ ำนำจ

เมื่อใดก็ได้ กำรมอบอ ำนำจหรือกำรเพิกถอนจะไม่มีผลจนกว่ำผู้ว่ำจ้ำงจะได้รับหนังสือแจ้ง

ล่วงหน้ำจำกผู้แทนของผู้รับมอบอ ำนำจ โดยตั้งชื่อบุคคลนั้นและก ำหนดอ ำนำจหน้ำที่และ

อ ำนำจที่ได้รับมอบอ ำนำจหรือเพิกถอน

ตัวแทนของผู้รับจ้ำงและบุคคลเหล่ำนี้จะต้องมีควำมช ำนำญในภำษำเพื่อกำรสื่อสำรที่

ก ำหนดไว้ในข้อย่อย 1.4 (Law and Language)

4.4 ผู้รับจ้างช่วง (Subcontractors)

ผู้รับจ้ำงต้องไม่จ้ำงช่วงงำนทั้งหมด

ผู้รับจ้ำงต้องรับผิดชอบต่อกำรท ำงำนและควำมบกพร่องของผู้รับจ้ำงช่วง หรือลูกจ้ำงหรือ

ตัวแทน เสมือนหนึ่งเป็นกำรท ำงำนหรือควำมบกพร่องของผู้รับจ้ำงเอง เว้นแต่ระบุเป็นอย่ำง

อื่นในเงื่อนไขเฉพำะ ผู้รับจ้ำงจะต้องแจ้งแก่ผู้ว่ำจ้ำงไม่น้อยกว่ำ 28 วันในเรื่องต่อไปนี้

(ก) กำรแต่งตั้งผู้รับจ้ำงช่วงโดยมีรำยละเอียดซึ่งรวมถึงประสบกำรณ์ที่เกี่ยวข้อง

(ข) กำรเริ่มงำนของผู้รับจ้ำงช่วงและ

(ค) กำรเริ่มงำนของผู้รับจ้ำงช่วงในสถำนที่ก่อสร้ำง

4.5 ผู้รับจ้างช่วงที่ได้รับการแต่งตั้ง (Nominated Subcontractors)

ในข้อย่อยนี้ "ผู้รับจ้ำงช่วงที่ได้รับกำรแต่งตั้ง" หมำยถึงผู้รับจ้ำงช่วงที่ผู้ว่ำจ้ำงตำมข้อย่อย 13

(Variations and Adjustments) มอบหมำยให้ผู้รับจ้ำงเป็นผู้รับจ้ำงช่วง ผู้รับจ้ำงต้องไม่มี

ภำระผูกพันใด ๆ ในกำรจ้ำงผู้รับจ้ำงช่วงที่ได้รับกำรเสนอชื่อ ซึ่งหำกผู้รับจ้ำงมีกำรคัดค้ำน

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-74 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

ด้วยเหตุและผล จะต้องแจ้งแก่ผู้ว่ำจ้ำงให้ทรำบโดยเร็วที่สุดเท่ำที่จะเป็นไปได้ พร้อม

รำยละเอียดสนับสนุน

4.6 การร่วมมือ (Co-operation)

ตำมที่ก ำหนดไว้ในสัญญำหรือตำมค ำสั่งของผู้ว่ำจ้ำง ในโอกำสที่สมควรอนุญำตให้ผู้รับจ้ำง

ปฏิบัติงำน ดังนี้

(ก) บุคลำกรของผู้ว่ำจ้ำง

(ข) ผู้รับจ้ำงรำยอื่นของผู้ว่ำจ้ำง

(ค) บุคลำกรอื่นของหน่วยงำนของรัฐ

ซึ่งผู้ว่ำจ้ำงได้จ้ำงให้ท ำงำนอื่นอยู่ใกล้กับพื้นที่โครงกำรและไม่ได้รวมอยู่ในโครงกำร

ค ำสั่งใด ๆ อันจะเป็นเหตุเป็นกำรเปลี่ยนแปลงงำนและก่อให้เกิดค่ำใช้จ่ำยที่คำดไม่ถึง กำร

ช่วยเหลือต่อบุคลำกรเหล่ำนี้และหรือผู้รับจ้ำงรำยอื่น ซึ่งอำจต้องกำรใช้เครื่องมือของผู้

รับจ้ำง งำนชั่วครำว หรือมีกำรต้องจัดท ำกำรเข้ำถึงพื้นที่ ซึ่งอยู่ในควำมรับผิดชอบของผู้

รับจ้ำง

ผู้รับจ้ำงต้องรับผิดชอบต่อกิจกรรมกำรก่อสร้ำงของตนในสถำนที่ก่อสร้ำงและประสำนงำน

กิจกรรมของตนเองกับผู้รับจ้ำงรำยอื่นตำมขอบเขตที่ก ำหนด (ถ้ำมี) ตำมวัตถุประสงค์ ควำม

ต้องกำรของผู้ว่ำจ้ำง (Employer Requirements)

หำกภำยใต้สัญญำ ผู้ว่ำจ้ำงต้องกำรให้ผู้ว่ำจ้ำงก่อสร้ำงฐำนรำก โครงสร้ำง โรงงำน/โรงผลิต

หรือทำงเข้ำออกตำมเอกสำรของผู้รับจ้ำง โดยผู้รับจ้ำงจะต้องยื่นเสนอเอกสำรนั้นต่อผู้

ว่ำจ้ำงตำมระยะเวลำที่ก ำหนดไว้วัตถุประสงค์ ข้อก ำหนดของผู้ว่ำจ้ำง

4.7 การเริ่มงาน (Setting Out)

ในกำรออกเริ่มงำนก่อสร้ำงผู้รับจ้ำงต้องออกเริ่มงำนก่อสร้ำง จำกหมุดหลักฐำนเริ่มงำน

(Original Point) แนวและระดับหรือสิ่งอ้ำงอิงตำมที่ก ำหนดไว้ในสัญญำ ผู้ว่ำจ้ำงต้อง

รับผิดชอบควำมถูกต้องของต ำแหน่งที่ตั้งของสิ่งปลูกสร้ำง และผู้รับจ้ำงอำจต้องปรับแก้

ควำมคลำดเคลื่อนต ำแหน่งที่ตั้ง ระดับ ขนำดกว้ำงยำวสูง หรือแนวทิศทำงของสิ่งปลูกสร้ำง

4.8 ข้อปฏิบัติความปลอดภัย (Safety Procedures)

ผู้รับจ้ำงต้อง

(ก) ปฏิบัติตำมข้อระเบียบควำมปลอดภัยทั้งปวง

(ข) ป้องกันควำมปลอดภัยให้บุคลำกรทุกคนที่ท ำงำนอยู่ในพื้นที่โครงกำร

(ค) รักษำพื้นที่โครงกำรและงำนโครงกำรโดยปรำศจำกสิ่งกีดขวำงเป็นอัตรำยต่อผู้ท ำงำน

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-75 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

(ง) จัดท ำรั้ว แสงสว่ำง เวรยำมงำนโครงกำรจนกว่ำแล้วเสร็จตำมข้อ 10 (Employer’s

Taking Over) และ

(จ) จัดท ำสิ่งก่อสร้ำงสิ่งชั่วครำว (รวมทั้ง ถนน ทำงเท้ำ รั้ว และยำม) ที่จ ำเป็นในกำรก่อสร้ำง

เพื่อกำรใช้งำน และป้องกันสิ่งสำธำรณะและผู้อยู่ใกล้เคียงโครงกำร

4.9 การประกันคุณภาพ (Quality Assurance)

ผู้รับจ้ำงต้องจัดให้มีระบบกำรประกันคุณภำพที่น่ำเชื่อถือตำมวัตถุประสงค์ในสัญญำ ระบบ

จะต้องมีรำยละเอียดตำมที่ระบุไว้ในสัญญำ ผู้ว่ำจ้ำงต้องเป็นผู้มีหน้ำที่ตรวจสอบระบบกำร

ประกันคุณภำพนั้น รำยละเอียดคู่มือระเบียบนั้น ต้องเสนอให้ผู้ว่ำจ้ำงก่อนกำรออกแบบและ

ก่อสร้ำง คู่มือระเบียบใดที่เป็นข้อเทคนิคจะต้องเสนอให้ผู้ว่ำจ้ำง โดยมีหลักฐำนกำรเห็นชอบ

ของผู้รับจ้ำงเสียก่อนจัดท ำเป็นคู่มือ

กำรปฏิบัติตำมระบบกำรประกันคุณภำพนั้นไม่ท ำให้ผู้รับจ้ำงพันจำกหน้ำที่ควำมรับผิดชอบ

และพันธะผูกพันตำมสัญญำ

4.10 ข้อมูลของพื้นที่โครงการ (Site Data)

ผู้ว่ำจ้ำงต้องจัดข้อมูลต่ำง ๆ แก่ผู้รับจ้ำงให้ทรำบถึงข้อมูลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องในกำร

ครอบครองของผู้ว่ำจ้ำงเกี่ยวกับสภำพใต้ดิน และทำงอุทกวิทยำในสถำนที่ก่อสร้ำงก่อนวัน

ท ำงำน รวมถึงประเด็นด้ำนสิ่งแวดล้อม ผู้ว่ำจ้ำงจะต้องจัดหำข้อมูลทั้งหมดที่เป็นผู้

ครอบครองให้แก่ผู้รับจ้ำงเช่นเดียวกันในวันที่เริ่มก่อสร้ำง

ผู้รับจ้ำงต้องรับผิดชอบในกำรตรวจสอบและตีควำมข้อมูลดังกล่ำวทั้งหมด ผู้ว่ำจ้ำงไม่มีส่วน

รับผิดชอบต่อควำมถูกต้อง ควำมเพียงพอ หรือควำมสมบูรณ์ของข้อมูลดังกล่ำวเว้นแต่ที่ระบุ

ไว้ในข้อย่อย 5.1 (General Design Responsibilities)

4.11 ความเพียงพอและยอมรับได้ของค่าจ้างตามสัญญา (Sufficiency of Accepted

Contract Amount)

ผู้รับจ้ำงจะถือว่ำพอใจกับควำมถูกต้องและควำมเพียงพอของรำคำตำมสัญญำ

เว้นแต่จะระบุไว้ในสัญญำ ค่ำจ้ำงที่ยอมรับได้รวมพันธะของสัญญำที่ผู้รับจ้ำงต้องปฏิบัติตำม

สัญญำ (ซึ่งได้รวมเงินส ำรองเผื่อจ่ำยไว้แล้ว) และสิ่งต่ำง ๆ ที่จ ำเป็นในกำรก่อสร้ำงโครงกำร

ให้แล้วเสร็จ รวมถึงกำรซ่อมบ ำรุงรักษำส่วนบกพร่องที่เกิดขึ้น

4.12 สภาพความยากล าบากที่คาดไม่ถึง (Unforeseenable Difficulties)

เว้นแต่ระบุเป็นอย่ำงอื่นในสัญญำ:

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-76 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

(ก) ผู้รับจ้ำงจะถือว่ำได้รับข้อมูลที่จ ำเป็นทั้งหมดเกี่ยวกับควำมเสี่ยง ควำมไม่แน่นอน และ

สถำนกำรณ์อื่น ๆ ที่อำจมีผลต่อหรือส่งผลกระทบต่องำน

(ข) โดยกำรลงนำมในสัญญำ ผู้รับจ้ำงยอมรับควำมรับผิดชอบโดยรวมส ำหรับกำรคำดกำรณ์

ถึงควำมยำกล ำบำกและค่ำใช้จ่ำยในกำรสร้ำงผลงำนเสร็จสมบูรณ์ และ

(ค) รำคำของสัญญำจะไม่ได้รับกำรปรับเพื่อพิจำรณำถึงควำมยำกล ำบำกหรือค่ำใช้จ่ำยที่

คำดไม่ถึง

4.13 เขตทางและสิ่งอ านวยความสะดวก (Right of Way and Facilities)

ผู้รับจ้ำงต้องรับภำระค่ำใช้จ่ำยทุกอย่ำงส ำหรับกำรใช้เขตทำง ซึ่งผู้รับจ้ำงต้องใช้ และ

ค่ำใช้จ่ำยอื่น ในกำรเข้ำถึงพื้นที่โครงกำร ผู้รับจ้ำงต้องรับภำระต่อควำมเสี่ยงและสิ่งอ ำนวย

ควำมสะดวกอื่นที่อยู่ภำยนอกพื้นที่โครงกำรซึ่งผู้รับจ้ำงมีควำมจ ำเป็นต้องใช้ในกำรท ำงำน

ก่อสร้ำง

4.14 การหลีกเลี่ยงอุปสรรคกีดขวาง (Avoidance of Interference)

ผู้รับจ้ำงต้องไม่ก่อให้เกิดอุปสรรคอันไม่จ ำเป็น หรือควำมไม่เหมำะสมดังนี้

(ก) กีดขวำงต่อสำธำรณะ หรือ

(ข) กีดขวำงทำงเข้ำออกของถนนหรือทำงเท้ำสำธำรณะ

ผู้รับจ้ำงต้องคุ้มครองประกันภัยให้ผู้ว่ำจ้ำงพ้นควำมรับผิดชอบจำกควำมเสียหำย กำร

สูญเสียและค่ำใช้จ่ำย (รวมถึงค่ำธรรมเนียมและค่ำใช้จ่ำย) อันเป็นผลเนื่องจำกอุปสรรคกีด

ขวำงอันไม่สมควรดังกล่ำว

4.15 เส้นทางเข้าออก (Access Route)

เป็นที่เข้ำใจว่ำผู้รับจ้ำงมีควำมพอใจในควำมเหมำะสมของเส้นทำงเข้ำออกของพื้นที่โครงกำร

ผู้รับจ้ำงต้องใช้งำนโดยมีกำรป้องกันถนนหรือสะพำนไม่ให้เกิดควำมเสียหำยอันเกิดจำกกำร

ขนส่งวัสดุของผู้รับจ้ำงหรือกำรกระท ำอื่น ๆ จำกบุคลำกรของผู้รับจ้ำง โดยมีมำตรกำร

ป้องกันควำมเสียหำยในกำรใช้รถใช้ถนน

เว้นแต่ได้ระบุไว้ในสัญญำ ดังนี้

(ก) ผู้รับจ้ำง (ในฐำนะคู่สัญญำ) ต้องรับผิดชอบกำรบ ำรุงรักษำใด ๆ ที่จ ำเป็นอันเนื่องจำกใช้

งำนเส้นทำงเข้ำออก

(ข) ผู้รับจ้ำงต้องจัดหำจัดท ำป้ำยบอกเส้นทำงกำรเดินรถ และต้องได้รับอนุญำตในกำรใช้ทำง

จำกหน่วยงำนที่รับผิดชอบ

(ค) ผู้ว่ำจ้ำงไม่ต้องรับผิดชอบต่อกำรเรียกร้องค่ำชดเชยอันเกิดจำกกำรใช้เส้นทำงเข้ำออก

(ง) ผู้ว่ำจ้ำงไม่ต้องรับประกันควำมสะดวก เหมำะสม และกำรจัดให้มีเส้นทำงเข้ำออก

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-77 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

(จ) ค่ำใช้จ่ำยในกำรจัดให้มีเส้นทำงเข้ำออกนั้น ผู้รับจ้ำงต้องเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด

4.16 การขนส่งวัสดุ (สินค้า) (Transport of Goods)

เว้นแต่จะระบุในเงื่อนไขเฉพำะ

(ก) ผู้รับจ้ำง ต้องแจ้งให้ผู้ว่ำจ้ำงทรำบไม่น้อย 21 วัน จำกวันที่จะท ำกำรขนย้ำย

เครื่องจักรกลเครื่องมือขนำดใหญ่ หรือวัสดุเข้ำสู่พื้นที่โครงกำร

(ข) ผู้รับจ้ำงต้องรับผิดชอบในกำรบรรจุ ยกขึ้นวำง ขนส่ง กำรรับของ ยกลงวำง กำรจัดเก็บ

และกำรป้องกันวัสดุและสิ่งที่มีควำมจ ำเป็นใช้ในกำรก่อสร้ำง

(ค) ผู้รับจ้ำงต้องประกันคุ้มกันผู้ว่ำจ้ำงพ้นควำมรับผิดชอบจำกกำรเสียหำย กำรสูญเสีย และ

ค่ำใช้จ่ำย (รวมทั้งค่ำธรรมเนียมและค่ำใช้จ่ำย) อันเป็นผลจำกกำรขนส่งและต้องเจรจำ

ต่อรองและจ่ำยค่ำชดเชยทั้งหมดอันเกิดจำกกำรขนส่งของผู้ว่ำจ้ำง

4.17 เครื่องมือของผู้รับจ้าง (Contractor’s Equipment)

ผู้รับจ้ำงต้องรับผิดชอบอุปกรณ์เครื่องมือ เมื่อน ำเข้ำมำอยู่ภำยในพื้นที่โครงกำรให้เข้ำใจว่ำ

เครื่องมืออุปกรณ์ที่น ำเข้ำมำนั้น ผู้รับจ้ำงมีวัตถุประสงค์น ำมำใช้งำนก่อสร้ำง

4.18 การปกป้องสิ่งแวดล้อม (Protection of the Environment)

ผู้รับจ้ำงต้องมีมำตรกำรที่เหมำะสมในกำรปกป้องสิ่งแวดล้อม (ทั้งภำยนอก ภำยในพื้นที่

โครงกำร) และลดควำมเสียหำยและลดกำรก่อควำมร ำคำญเดือดร้อนต่อสำธำรณชนและ

ทรัพย์สินอันเกิดมลภำวะเสียงและผลจำกกำรด ำเนินงำนอื่น ๆ

ผู้รับจ้ำงต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ำกำรปล่อยมลสำรลงบนพื้นผิว และสิ่งปฏิกูลจำกกิจกรรม

ของผู้รับจ้ำงต้องไม่เกินค่ำที่ระบุไว้ในเอกสำรวัตถุประสงค์ ควำมต้องกำรของผู้ว่ำจ้ำง และ

ต้องไม่เกินค่ำที่ก ำหนดโดยกฎหมำยที่ใช้บังคับ

4.19 ไฟฟ้า ประปา และแก๊ส (Electricity, Water and Gas)

เว้นแต่ระบุไว้ต่อไปนี้ ผู้รับจ้ำงต้องรับผิดชอบจัดให้มีไฟฟ้ำ น ้ำประปำ และบริกำรอื่นที่

จ ำเป็นต้องมี สำธำรณูปโภคเหล่ำนี้

ผู้รับจ้ำง ต้องมีหน้ำที่ใช้หรือเพื่อประโยชน์ในกำรก่อสร้ำงงำนตำมรำยละเอียดของรำคำที่

ก ำหนดในข้อก ำหนด ผู้รับจ้ำงต้องรับควำมเสี่ยงในค่ำใช้จ่ำย และต้องจัดหำภำชนะและ

อุปกรณ์ เพื่อกำรตรวจวัดกำรใช้สำธำรณูปโภคเหล่ำนี้

ปริมำณที่ใช้และค่ำใช้จ่ำยในกำรใช้ต้องได้รับพิจำรณำเห็นชอบจำกผู้ว่ำจ้ำงตำมข้อย่อย 2.5

(Employer’s Clams) และข้อย่อย 3.5 (Determinations) ผู้รับจ้ำงต้องช ำระค่ำใช้จ่ำยนี้

ให้แก่ผู้ว่ำจ้ำง

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-78 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

4.20 เครื่องมือของผู้ว่าจ้างและการใช้วัสดุ (Employer’s Equipment and Free-Issue

Material)

ผู้ว่ำจ้ำงจะจัดให้มีเครื่องมือ (หำกมี) ให้ผู้รับจ้ำงใช้ก่อสร้ำง ตำมรำยละเอียดระบุไว้ในกำร

จัดหำและรำคำในเอกสำรวัตถุประสงค์ ควำมต้องกำรของผู้ว่ำจ้ำง เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอื่น

ในเอกสำรวัตถุประสงค์ ควำมต้องกำรของผู้ว่ำจ้ำง ดังนี้

(ก) ผู้ว่ำจ้ำงจะรับผิดชอบแต่เครื่องมือของผู้ว่ำจ้ำงเอง เว้นแต่ว่ำ

(ข) ผู้รับจ้ำงจะรับผิดชอบเครื่องมือแต่ละรำยกำรของผู้ว่ำจ้ำงในทุกขณะที่บุคลำกรของ

ผู้รับจ้ำงใช้งำน ขับขี่ บังคับ ด ำเนินกำร หรือควบคุม

ปริมำณและหรือจ ำนวน (ตำมรำคำที่ก ำหนดไว้) ในกำรใช้เครื่องมือของผู้ว่ำจ้ำง ตำมที่ตกลง

ไว้โดยผู้ว่ำจ้ำงจะเป็นผู้พิจำรณำตำมข้อย่อย 2.5 (Employer’s Claims) และข้อย่อย 3.5

(Determination) แล้วผู้รับจ้ำงต้องจ่ำยค่ำใช้จ่ำยนี้ให้แก่ผู้ว่ำจ้ำง ผู้ว่ำจ้ำงจะจัดหำวัสดุให้

เปล่ำ ตำมที่ก ำหนดไว้ในข้อก ำหนดให้แก่ผู้รับจ้ำง ผู้ว่ำจ้ำงจะรับผิดชอบเรื่องควำมเสี่ยงและ

ค่ำวัสดุให้แก่ผู้รับจ้ำงตำมที่ก ำหนดไว้ในสัญญำ ผู้รับจ้ำงต้องตรวจสอบด้วยตำเปล่ำ และต้อง

แจ้งทันทีต่อผู้ว่ำจ้ำง เมื่อวัสดุที่จัดหำให้ไม่ครบจ ำนวนหรือช ำรุดหรือเสียหำย เว้นแต่ทั้ง 2

ฝ่ำยจะตกลงกัน ผู้ว่ำจ้ำงจะด ำเนินกำรชดเชยวัสดุที่ช ำรุดหรือเสียหำย

หลังจำกกำรตรวจวัดด้วยตำเปล่ำ ผู้รับจ้ำงต้องเก็บรักษำ ครอบครองและควบคุมวัสดุนั้น

ผู้รับจ้ำงต้องมีพันธะในกำรตรวจสอบ เก็บรักษำครอบครองแล้ว จะไม่เป็นเหตุให้ผู้รับจ้ำง

พ้นควำมรับผิดชอบใด ๆ จำกกำรตรวจวัดด้วยตำเปล่ำ

4.21 รายงานความก้าวหน้า (Progress Reports)

เว้นแต่จะระบุไว้ในเงื่อนไขเฉพำะ ผู้รับจ้ำงต้องรำยงำนจัดท ำควำมก้ำวหน้ำรำยเดือนเสนอ

ให้ผู้ว่ำจ้ำงจ ำนวน 6 ชุด รำยงำนของเดือนแรกจะครอบคลุมช่วงเวลำ 30 วันปฏิทินโดยนับ

เริ่มวันที่เริ่มงำนก่อสร้ำงโครงกำร และต่อไป ผู้รับจ้ำงต้องน ำเสนอรำยงำนทุก ๆ เดือน

ภำยใน 7 วัน ภำยหลัง 30 วัน กำรรำยงำนต้องต่อเนื่องกันจนกระทั่งงำนแล้วเสร็จสมบูรณ์

ของโครงกำร และต้องลงวันที่ส่งมอบของงำนแล้วเสร็จด้วย (Taking Over Certificate for

the Work)

รำยงำนควำมก้ำวหน้ำต้องประกอบด้วย

(ก) ภำพแสดงควำมก้ำวหน้ำพร้อมรำยละเอียดอธิบำยกำรด ำเนินงำนของแต่ละขั้นตอน

ผู้รับจ้ำงต้องแนบหลักฐำน กำรจัดซื้อจัดหำวัสดุ กำรผลิตชิ้นส่วน ที่ขนส่งเข้ำพื้นที่โครงกำร

กำรก่อสร้ำง กำรติดตั้งและกำรทดสอบ ให้รวมกำรท ำงำนของผู้รับจ้ำงช่วงของงำนดังกล่ำว

ด้วยตำมข้อ 5 (Nominated Subcontractors)

(ข) ภำพถ่ำยแสดงสถำนะกำรผลิตชิ้นส่วนและควำมก้ำวหน้ำของงำนก่อสร้ำง

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-79 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

(ค) ส ำหรับกำรผลิตชิ้นส่วนรำยกำรส ำคัญต้องระบุนำมผู้ผลิตสถำนที่ผลิต ร้อยละของงำนที่

ผลิต แผนเวลำของกำรผลิต คือ

(1) วันที่เริ่มผลิต

(2) กำรตรวจสอบของผู้รับจ้ำง

(3) กำรทดสอบ

(4) วันที่ขนส่งและวันที่ส่งถึงพื้นที่โครงกำร

(ง) รำยกำรละเอียดข้อย่อย 6. 10 (Records of Contractor’s Personnel and

Equipment)

(จ) ส ำเนำหนังสือกำรรับรองกำรประกันคุณภำพ ผลกำรทดสอบ และหนังสือรับรองของ

วัสดุ

(ฉ) หนังสือโต้ตอบตำมข้อย่อย 2.5 (Employer’s Claims) และข้อย่อย 20.1

(Contractor’s Claim)

(ช) สถิติกำรเกิดเหตุควำมไม่ปลอดภัย ให้รวมถึงอุบัติเหตุอันตรำยและกิจกำรเกี่ยวกับกำร

ป้องกันสิ่งแวดล้อมและกำรประชำสัมพันธ์ต่อสำธำรณชน

(ญ) เปรียบเทียบควำมก้ำวหน้ำของงำนจริงกับแผนงำนที่ก ำหนดไว้ พร้อมด้วยเหตุกำรณ์

รำยละเอียดอุปสรรคที่เป็นเหตุท ำให้กำรท ำงำนล่ำช้ำ และมำตรกำรในกำรเร่งรัดท ำงำนให้

ทันกับแผนงำนที่ก ำหนดไว้

4.22 การรักษาความปลอดภัยพื้นที่โครงการ (Security of the Site)

เว้นแต่ระบุไว้ในเงื่อนไขเฉพำะ

(ก) ผู้รับจ้ำงต้องรับผิดชอบไม่อนุญำตบุคคลภำยนอกพักอยู่ในพื้นที่โครงกำร และ

(ข) ให้จ ำกัดจ ำนวนบุคลำกรของผู้รับจ้ำงและบุคลำกรของผู้ว่ำจ้ำงและบุคคลอื่นของผู้

รับจ้ำง ผู้รับจ้ำงต้องแจ้งผู้แทนผู้ว่ำจ้ำงหรือผู้ว่ำจ้ำงให้ทรำบถึงจ ำนวนดังกล่ำว

4.23 การปฏิบัติงานของผู้รับจ้าง (Contractor’s Operatios on Site)

ผู้รับจ้ำงต้องท ำงำนอยู่ในเขตพื้นที่โครงกำรและพื้นที่เพิ่มเติมที่ผู้รับจ้ำงจัดหำเองซึ่งได้รับ

ควำมเห็นชอบจำกผู้ว่ำจ้ำงแล้วเพื่อท ำงำนก่อสร้ำง ผู้รับจ้ำงต้องมีมำตรกำรที่จ ำเป็นในกำร

ระมัดระวังกำรป้องกันเครื่องมือและบุคลำกรของผู้รับจ้ำง พื้นที่ซึ่งผู้รับจ้ำงเช่ำไว้ท ำงำนนั้น

ต้องไม่ติดกับพื้นที่โครงกำร

ในระหว่ำงงำนก่อสร้ำง ผู้รับจ้ำงต้องรักษำพื้นที่โครงกำรให้ปรำศจำกสิ่งกีดขวำงที่ไม่จ ำเป็น

ผู้รับจ้ำงต้องรักษำเครื่องมือและวัสดุส่วนเกิน ผู้รับจ้ำงต้องก ำจัดขนไปทิ้ง เศษวัตถุก่อสร้ำง

หรือ เศษวัตถุจำกงำนก่อสร้ำงชั่วครำวซึ่งไม่จ ำเป็นใช้งำนอีกแล้วออกจำกพื้นที่โครงกำร

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-80 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

ในกำรออกหนังสือรับรองผลงำน ผู้รับจ้ำงต้องขนย้ำยท ำควำมสะอำดพื้นที่ เช่น เครื่องมือ

เศษวัสดุ เศษโครงสร้ำงงำนชั่วครำว ต้องขนย้ำยออกทิ้งเพื่อให้พื้นที่สะอำดและมีควำม

ปลอดภัย แต่อย่ำงไรก็ดี ผู้รับจ้ำงอำจจะเก็บพัสดุบำงอย่ำงไว้เพื่อกำรซ่อมบ ำรุงสิ่งปลูกสร้ำง

ในช่วงเวลำกำรประกันกำรช ำรุดบกพร่องของงำนก่อสร้ำงนั้นตำมพันธะสัญญำของผู้รับจ้ำง

4.24 วัตถุโบราณใต้ดิน (Fossils)

วัตถุโบรำณที่เป็นเหรียญ สิ่งของโบรำณมีค่ำ สิ่งปลูกสร้ำงโบรำณในเชิงธรณีวิทยำ หรือใน

เชิงโบรำณวัตถุทำงประวัติศำสตร์ ที่ขุดพบเจอในพื้นที่โครงกำร จะต้องแจ้งให้เจ้ำหน้ำที่

ผู้เกี่ยวข้องและผู้ว่ำจ้ำงรับทรำบ โดยผู้รับจ้ำงต้องไม่เคลื่อนย้ำยวัตถุนั้นและต้องใช้ควำม

ระมัดระวังมิให้บุคลำกรของผู้รับจ้ำง หรือผู้อื่นโยกย้ำยหรือท ำให้เกิดควำมเสียหำยต่อวัตถุ

โบรำณเหล่ำนั้น

ทันทีที่ผู้รับจ้ำงขุดพบวัตถุโบรำณ ต้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ว่ำจ้ำง ผู้ว่ำจ้ำงก็จะมีค ำสั่งในกำร

จัดกำรกับวัตถุโบรำณเหล่ำนั้น หำกผู้รับจ้ำงต้องได้รับงำนเพิ่มดังกล่ำว ท ำให้งำนก่อสร้ำง

ต้องล่ำช้ำและมีค่ำใช้จ่ำยเพิ่มจำกค ำสั่งผู้ว่ำจ้ำง ผู้รับจ้ำงต้องมีหนังสือแจ้งต่อผู้ว่ำจ้ำงในเรื่อง

ดังกล่ำวตำมข้อย่อย 20.1 (Contractor’s Claims) ดังนี้

(ก) ขยำยเวลำทดแทนเวลำที่ต้องล่ำช้ำตำมข้อย่อย 8.4 (Extension of Time for

Completion) และ

(ข) ค่ำใช้จ่ำยของงำนเพิ่มดังกล่ำวเพิ่มในรำคำจ้ำงตำมสัญญำ เมื่อผู้ว่ำจ้ำงได้รับหนังสือแจ้ง

ของผู้รับจ้ำงข้ำงต้น ผู้ว่ำจ้ำงต้องด ำเนินกำรข้อย่อย 3.5 (Determinations) พิจำรณำต่อไป

5. การออกแบบ (Design)

5.1 พันธะทั่วไปในการออกแบบ (General Design Obligations)

ผู้รับจ้ำงจะต้องพิจำรณำก่อนวันฐำน (Base Date) ถึงวัตถุประสงค์ ควำมต้องกำรของผู้

ว่ำจ้ำง (รวมถึงเกณฑ์กำรออกแบบ และกำรค ำนวณ หำกมี) ผู้รับจ้ำงต้องรับผิดชอบในกำร

ออกแบบสิ่งก่อสร้ำง และควำมถูกต้องของวัตถุประสงค์ ควำมต้องกำรของผู้ว่ำจ้ำง (รวมถึง

เกณฑ์กำรออกแบบและกำรค ำนวณ) ยกเว้นตำมที่ระบุไว้ด้ำนล่ำง

ผู้ว่ำจ้ำงจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลำดควำมไม่ถูกต้องหรือกำรละเว้นใด ๆ ตำม

วัตถุประสงค์ ควำมต้องกำรของผู้ว่ำจ้ำง ตำมที่ระบุไว้ในสัญญำ และจะไม่ถือว่ำเป็นกำรให้

ควำมถูกต้องหรือครบถ้วนของข้อมูล หรือข้อมูลใด ๆ ยกเว้นตำมที่ระบุไว้ด้ำนล่ำงนี้ ข้อมูล

ใด ๆ ที่ผู้รับจ้ำงได้รับจำกผู้ว่ำจ้ำง หรืออื่น ๆ จะไม่ช่วยลดภำระหน้ำที่ของผู้รับจ้ำงจำกควำม

รับผิดชอบในกำรออกแบบและกำรด ำเนินงำนในโครงกำร

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-81 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

อย่ำงไรก็ตำมผู้ว่ำจ้ำงจะต้องรับผิดชอบต่อควำมถูกต้องของส่วนต่ำง ๆ ตำมวัตถุประสงค์

ควำมต้องกำรของผู้ว่ำจ้ำง และข้อมูลต่อไปนี้ และข้อมูลที่ผู้ว่ำจ้ำง (หรือในนำมของผู้ว่ำจ้ำง)

จัดหำให้

(ก) ส่วนข้อมูลและข้อมูลที่ระบุไว้ในสัญญำว่ำไม่สำมำรถเปลี่ยนแปลงได้หรือในควำม

รับผิดชอบของผู้ว่ำจ้ำง

(ข) ค ำจ ำกัดควำมของวัตถุประสงค์ของงำนหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของงำน

(ค) เกณฑ์ส ำหรับกำรทดสอบและกำรปฏิบัติงำนที่เสร็จสมบูรณ์ และ

(ง) บำงส่วนข้อมูลและข้อมูลที่ไม่สำมำรถตรวจสอบได้โดยผู้รับจ้ำง เว้นแต่จะระบุไว้เป็น

อย่ำงอื่นในสัญญำ

5.2 สารบบเอกสารของผู้รับจ้าง (Contractor’s Document)

สำรบบเอกสำรของผู้รับจ้ำงประกอบด้วยเอกสำรทำงเทคนิคตำมที่ระบุอยู่ในเอกสำร

วัตถุประสงค์ ควำมต้องกำรของผู้ว่ำจ้ำง เอกสำรต้องถูกต้อง ได้รับกำรอนุมัติตำมกฏ

ระเบียบและเอกสำรตำมข้อย่อย 5.6 (As Built Document) และข้อย่อย 5.7 (Operation

and Maintenance) เว้นแต่จะระบุเป็นอื่นในเอกสำรวัตถุประสงค์ของผู้ว่ำจ้ำง สำรบบ

เอกสำรของผู้รับจ้ำงต้องเขียนด้วยภำษำเพื่อกำรสื่อสำรตำมข้อย่อย 1.4 (Law and

Language)

ผู้รับจ้ำงต้องจัดท ำสำรบบเอกสำรของผู้รับจ้ำง และผู้รับจ้ำงยังต้องท ำเอกสำรอื่นเท่ำที่

จ ำเป็นให้พนักงำนของผู้รับจ้ำง พนักงำนของผู้ว่ำจ้ำงมีสิทธิ์ที่จะตรวจเอกสำรที่จัดท ำขึ้นนั้น

ทุกครั้งที่มีกำรจัดท ำขึ้น

หำกเอกสำรวัตถุประสงค์ ควำมต้องกำรของผู้ว่ำจ้ำงระบุให้ท ำสำรบบเอกสำรของผู้รับจ้ำง

ผู้รับจ้ำงต้องเสนอมอบให้แก่ผู้ว่ำจ้ำงเพื่อกำรศึกษำทบทวนและพิจำรณำเห็นชอบอนุมัติ

ผู้รับจ้ำงจะต้องเสนอให้แก่ผู้ว่ำจ้ำงตำมนั้น พร้อมด้วยหนังสือดังกล่ำวตำมข้ำงล่ำงนี้ พร้อม

ด้วยบันทึกตำมหัวข้อ (1) “ช่วงระยะเวลำตรวจทำน (Review Period) ซึ่งหมำยถึงช่วง

ระยะเวลำให้ผู้ว่ำจ้ำงท ำกำรตรวจทำน (หำกมีกำรก ำหนดไว้) และพิจำรณำอนุมัติ และ (2)

สำรบบเอกสำรของผู้รับจ้ำงซึ่งไม่รวมเอกสำรอื่นใดที่ระบุไว้ไม่ต้องเสนอให้ตรวจทำนและ

พิจำรณำขออนุมัติ

เว้นแต่ได้มีระบุไว้ในเอกสำรวัตถุประสงค์ ควำมต้องกำรของผู้ว่ำจ้ำง กำรตรวจทำนแต่ละ

เรื่องต้องใช้เวลำไม่เกิน 21 วัน นับแต่วันที่ซึ่งผู้ว่ำจ้ำงได้รับเอกสำรจำกผู้รับจ้ำงพร้อมทั้ง

หนังสือกำรส่งมอบของ ผู้รับจ้ำง ในหนังสือส่งมอบของผู้รับจ้ำงต้องระบุว่ำได้มีกำรพิจำรณำ

แล้วพร้อมส่งมอบให้ผู้ว่ำจ้ำงตรวจทำน และพิจำรณำอนุมัติเห็นชอบตำมข้อย่อย 5.2 นี้เพื่อ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-82 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

กำรใช้กำรงำนต่อไป หนังสือของผู้รับจ้ำงยังระบุว่ำเอกสำรเหล่ำนี้ปฏิบัติตำมข้อสัญญำหรือ

เป็นเอกสำรซึ่งไม่ได้ระบุไว้ในสัญญำ

ในระยะเวลำกำรตรวจทำน ผู้ว่ำจ้ำงมีหนังสือแจ้งให้ผู้รับจ้ำงว่ำ เอกสำรนั้นบกพร่อง (ตำมที่

ระบุไว้) ไม่ครบถูกต้องกับสัญญำ หำกเอกสำรของผู้รับจ้ำงบกพร่องผิดกับสัญญำ ผู้รับจ้ำง

ต้องปรับปรุงแก้ไขและส่งมอบให้ใหม่เพื่อกำรตรวจทำน (หำกมีกำรระบุให้พิจำรณำอนุมัติ)

ตำมข้อย่อย 5.2 นี้ ด้วยค่ำใช้จ่ำยของผู้รับจ้ำงเอง

ส ำหรับส่วนงำนแต่ละส่วน และยกเว้นในกรณีที่คู่สัญญำตกลงเป็นอย่ำงอื่น:

(ก) กำรด ำเนินกำรของส่วนงำนดังกล่ำวจะต้องเริ่มต้นก่อนระยะเวลำกำรทบทวนเอกสำร

ของผู้รับจ้ำงทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับกำรออกแบบและกำรด ำเนินกำรดังกล่ำว

(ข) กำรด ำเนินกำรของส่วนงำนดังกล่ำวจะต้องเป็นไปตำมเอกสำรของผู้รับจ้ำงเหล่ำนี้ตำมที่

ยื่นเพื่อพิจำรณำ และ

(ค) หำกผู้รับจ้ำงประสงค์ที่จะแก้ไขกำรออกแบบหรือเอกสำรใด ๆ ที่เคยยื่นเพื่อตรวจสอบ

แล้ว ผู้รับจ้ำงต้องแจ้งให้ผู้ว่ำจ้ำงทรำบทันที หลังจำกนั้นผู้รับจ้ำงจะต้องส่งเอกสำรที่แก้ไข

แล้วให้กับผู้ว่ำจ้ำงตำมขั้นตอนข้ำงต้น

ข้อตกลงดังกล่ำว (ตำมวรรคก่อน) หรือกำรทบทวนใด ๆ (ภำยใต้ข้อย่อยหรืออื่น ๆ ) จะไม่ท ำ

ให้ลดภำระหน้ำที่หรือควำมรับผิดชอบของผู้รับจ้ำง

5.3 ภาระหน้าที่ของผู้รับจ้าง (Contractor’s Undertaking)

ผู้รับจ้ำงต้องมีหน้ำที่ ออกแบบ สำรบบเอกสำรของผู้รับจ้ำง กำรด ำเนินกำรก่อสร้ำงให้งำน

แล้วเสร็จ ซึ่งต้องเป็นไปตำมข้อก ำหนดดังนี้

(ก) ตำมกฎหมำยของประเทศนั้น และ

(ข) เอกสำรประกอบแนบในสัญญำ ตำมที่ปรับเปลี่ยนหรือขยำยควำมโดยกำรเปลี่ยนแปลง

5.4 มาตรฐานทางเทคนิคและกฏระเบียบ (Technical Standard และ Regulations)

งำนออกแบบ สำรบบเอกสำรของผู้รับจ้ำง กำรก่อสร้ำง และกำรแล้วเสร็จของงำนก่อสร้ำง

ต้องปฏิบัติตำมกฏหมำยของประเทศที่โครงกำรตั้งอยู่ ซึ่งต้องถูกต้องกับมำตรฐำนทำง

เทคนิค กำรก่อสร้ำงอำคำร และกฎหมำยสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์จำกโครงกำรที่ถูกต้องตำม

กฎหมำย และมำตรฐำนอื่น ๆ ตำมวัตถุประสงค์ระบุไว้ในเอกสำรวัตถุประสงค์ ควำม

ต้องกำรของผู้ว่ำจ้ำง ซึ่งถูกต้องตำมกฎหมำย

กฎหมำย และมำตรฐำนที่เกี่ยวข้องกับงำนทั้งหมดหรือส่วนของงำนเหล่ำนี้ ซึ่งใช้ในงำนที่

ต้องส่งมอบให้แก่ผู้ว่ำจ้ำงภำยใต้หัวข้อ 10 (Employer’s Taking Over) อ้ำงอิงตำมสัญญำ

จะต้องเป็นฉบับที่ใช้ ณ วันที่ ผู้รับจ้ำงเสนอรำคำเว้นแต่จะได้ระบุเป็นอื่น

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-83 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

หำกมีกำรเปลี่ยนหรือมีมำตรฐำนฉบับใหม่ออกมำบังคับใช้ในประเทศนั้นภำยหลังวันที่ผู้

รับจ้ำงยื่นข้อเสนอเพื่อให้สอดคล้องกับเงื่อนไขดังนี้

(ก) ผู้ว่ำจ้ำงได้พิจำรณำแล้วว่ำต้องปฏิบัติตำมระเบียบ และ

(ข) ข้อเสนอเพื่อกำรเปลี่ยนแปลง

ผู้ว่ำจ้ำงจะพิจำรณำกำรเปลี่ยนแปลงตำมข้อ 13 (Variation and Adjustment)

5.5 การฝึกอบรม (Training)

ผู้รับจ้ำงต้องด ำเนินกำรฝึกอบรมให้แก่พนักงำนของผู้ว่ำจ้ำงในกำรด ำเนินกำรและกำร

บ ำรุงรักษำโครงกำรตำมที่ระบุในเอกสำรวัตถุประสงค์ของผู้ว่ำจ้ำง หำกในสัญญำได้ระบุว่ำ

กำรฝึกอบรมดังกล่ำว ต้องด ำเนินกำรฝึกอบรมก่อนกำรส่งมอบงำนให้แก่ผู้ว่ำจ้ำง ฉะนั้น

งำนโครงกำรจะไม่ถือว่ำแล้วเสร็จ และไม่เป็นกำรส่งมอบงำนตำมข้อย่อย 10.1 (Taking

Over the Work and Sections) จนกว่ำกำรฝึกอบรมได้เสร็จสิ้น

5.6 แบบและเอกสารก่อสร้างจริง (As-Built Documents)

ผู้รับจ้ำงต้องจัดเตรียมและเก็บรักษำข้อมูลกำรด ำเนินกำรของงำนไว้อย่ำงครบถ้วน พร้อมทั้ง

แสดงต ำแหน่งที่ตั้งขนำดและรำยละเอียดของงำนที่ท ำอย่ำงถูกต้องตำมที่ก ำหนดไว้ บันทึก

เหล่ำนี้จะถูกเก็บไว้ ณ สถำนที่ก่อสร้ำง และจะใช้เฉพำะเพื่อวัตถุประสงค์ตำมข้อย่อยนี้ และ

จะต้องจัดส่งส ำเนำสองชุดให้กับผู้ว่ำจ้ำงก่อนที่จะมีกำรทดสอบเมื่องำนแล้วเสร็จ

นอกจำกนี้ผู้รับจ้ำงต้องจัดเตรียมแบบก่อสร้ำงจริงให้กับผู้ว่ำจ้ำง โดยแสดงงำนทั้งหมดที่

ก่อสร้ำง และส่งให้ผู้ว่ำจ้ำงพิจำรณำตำมข้อย่อย 5.2 (Contractor’s Document) ผู้รับจ้ำง

ต้องได้รับควำมยินยอมจำกผู้ว่ำจ้ำงเกี่ยวกับขนำด ระบบกำรอ้ำงอิง และรำยละเอียดที่

เกี่ยวข้องอื่น ๆ

ก่อนที่จะมีกำรออกใบรับรองผลงำน ผู้รับจ้ำงจะต้องจัดหำแบบก่อสร้ำงจริง โดยมีจ ำนวน

ตำมที่ก ำหนดในวัตถุประสงค์ ควำมต้องกำรของผู้ว่ำจ้ำง ให้กับผู้ว่ำจ้ำง งำนนี้จะไม่ถือว่ำ

แล้วเสร็จตำมวัตถุประสงค์ของงำนภำยใต้ข้อย่อยที่ 10.1 (Taking Over of the Works

and Sections) จนกว่ำผู้ว่ำจ้ำงจะได้รับเอกสำรเหล่ำนี้

5.7 คู่มือการด าเนินการโครงการและการบ ารุงรักษา (Operation and Maintenance

Manuals)

ก่อนเริ่มงำนกำรทดลองเพื่อกำรส่งมอบงำนแล้วเสร็จ ผู้รับจ้ำงต้องส่งมอบรำยละเอียดคู่มือ

กำรด ำเนินกำรโครงกำรและกำรบ ำรุงรักษำเพื่อที่จะส่งมอบงำนให้แก่ผู้ว่ำจ้ำงในกำรด ำเนิน

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-84 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

โครงกำร กำรบ ำรุงรักษำ กำรถอดเครื่อง กำรประกอบเครื่องคืน กำรปรับแก้ และกำรซ่อม

โรงงำน

ผู้ว่ำจ้ำงจะต้องได้รับรำยละเอียดคู่มือฉบับสุดท้ำยตำมรำยละเอียดข้ำงต้นเสียก่อน จึงจะถือ

ว่ำเป็นกำรส่งมอบงำนตำมข้อย่อย 10.1 (Taking Over of Works and Sections)

นอกจำกนี้ยังต้องรวมรำยกำรอื่นตำมที่ระบุไว้ในวัตถุประสงค์ ควำมต้องกำรของผู้ว่ำจ้ำง

5.8 ข้อผิดพลาดในการออกแบบ (Design Error)

หำกมีข้อผิด ข้อตกหล่น ควำมคลุมเครือ ควำมไม่สม ่ำเสมอ ควำมไม่เพียงพอ หรือบกพร่อง

อื่น ซึ่งตรวจพบอยู่ในสำรบบเอกสำรของผู้รับจ้ำง ผู้รับจ้ำงต้องท ำกำรปรับปรุงแก้ไขด้วย

ค่ำใช้จ่ำยของผู้รับจ้ำง เว้นแต่จะได้รับอนุญำตหรืออนุมัติภำยใต้ข้อย่อย 5.8 นี้

6. บุคลากรและคนงาน (Staff and Labour)

6.1 การจ้างบุคลากรและคนงาน (Engagement of Staff and Labour)

เว้นแต่ระบุไว้ในข้อก ำหนด (Specification) ผู้รับจ้ำงต้องจัดให้มีและจ้ำงบุคลำกรและ

คนงำนในท้องถิ่นหรือจำกนอกท้องถิ่น โดยจ่ำยค่ำจ้ำง ค่ำที่พัก ค่ำเบี้ยเลี้ยงและค่ำพำหนะ

เดินทำง

6.2 อัตราค่าจ้างและเงื่อนไขการจ้างของคนงาน (Rate of Wages and Conditions of

Labour)

ผู้รับจ้ำงต้องจ่ำยอัตรำค่ำจ้ำงด้วยเงื่อนไขค่ำจ้ำงไม่น้อยกว่ำอัตรำค่ำจ้ำงขั้นต ่ำของงำน

พำณิชย์และอุตสำหกรรม หำกไม่มีข้อก ำหนดอัตรำค่ำจ้ำงขั้นต ่ำและเงื่อนไขกำรจ้ำง ผู้รับ

จ้ำงต้องจ่ำยค่ำจ้ำงและเงื่อนไขกำรจ้ำงไม่น้อยกว่ำอัตรำค่ำจ้ำงทั่วไปในท้องตลำด ใน

ลักษณะงำนที่ใกล้เคียงกับงำนโครงกำร

6.3 บุคลากรของผู้ว่าจ้างที่ปฏิบัติงานในโครงการ (Persons in Service of Employer)

ผู้รับจ้ำงต้องไม่หรือพยำยำมคัดเลือกจ้ำงบุคลำกรหรือคนงำนจำกบุคลำกรหรือคนงำนของ

ผู้ว่ำจ้ำง

6.4 กฎหมายแรงงาน (Labour Laws)

ผู้รับจ้ำงต้องปฏิบัติตำมกฎหมำยแรงงำนต่อบุคลำกรและคนงำนของผู้รับจ้ำงในเรื่องกำรจ้ำง

สวัสดิกำร ควำมปลอดภัย สุขอนำมัย กำรเข้ำเมือง กำรออกเมืองและกำรให้สิทธิตำม

กฎหมำย

ผู้รับจ้ำงต้องก ำชับบุคลำกรของตน ให้เคำรพกฎหมำย รวมถึงค ำนึงถึงควำมปลอดภัยในงำน

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-85 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

6.5 ชั่วโมงการท างาน (Working Hours)

ต้องไม่มีกำรท ำงำนในวันหยุดของท้องถิ่น หรือนอกเวลำท ำงำนปกติ ตำมที่ก ำหนดไว้ใน

เอกสำรแนบผนวกในเอกสำรประกวดรำคำ (Appendix to Tender) เว้นแต่

(ก) ระบุไว้ในสัญญำ

(ข) รับอนุญำตจำกผู้ว่ำจ้ำง

(ค) งำนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หรือมีควำมจ ำเป็นเพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน หรือเพื่อควำม

ปลอดภัยของงำน ซึ่งผู้รับจ้ำงต้องรีบแจ้งต่อผู้ว่ำจ้ำง

6.6 สิ่งอ านวยความสะดวกให้แก่บุคลากรและคนงาน (Facilities for Staff and Labour)

เว้นแต่ได้ระบุไว้ในวัตถุประสงค์ ควำมต้องกำรของผู้ว่ำจ้ำง ผู้รับจ้ำงต้องจัดให้มีและกำร

บ ำรุงรักษำ ที่พัก สวัสดิกำร สิ่งอ ำนวยควำมสะดวกให้แก่บุคลำกรผู้รับจ้ำงและบุคลำกรของ

ผู้ว่ำจ้ำง ตำมที่ระบุไว้ในวัตถุประสงค์ ควำมต้องกำรของผู้ว่ำจ้ำง

ผู้รับจ้ำงต้องไม่ให้บุคลำกรของผู้รับจ้ำงปลูกสร้ำงที่พักอำศัยถำวรในพื้นที่โครงกำร

6.7 สุขอนามัยและความปลอดภัย (Health and Safety)

ตลอดเวลำ ผู้รับจ้ำงต้องมีมำตรำกำรป้องกันและบ ำรุงรักษำเรื่องสุขอนำมัยและควำม

ปลอดภัยให้แก่พนักงำนโดยกำรร่วมมือกับหน่วยงำนสำธำรณสุขขององค์กรปกครองส่วน

ท้องถิ่น

ผู้รับจ้ำงต้องจัดให้มีพยำบำล ชุดปฐมพยำบำล เตียงผู้ป่วย และรถยำบำลพร้อมที่จะ

ให้บริกำรตลอดเวลำภำยในพื้นที่โครงกำรให้แก่พนักงำนทุกคน ทุกฝ่ำยและเป็นกำร

เหมำะสมที่ต้องจัดเพื่อเป็นสวัสดิกำรและสุขอนำมัย รวมถึงกำรป้องกันโรคระบำด

ผู้รับจ้ำงต้องแต่งตั้งพนักงำนควบคุมอุบัติภัยในพื้นที่โครงกำร เพื่อท ำหน้ำที่บ ำรุงรักษำควำม

ปลอดภัยและป้องกันอุบัติเหตุ พนักงำนนี้ต้องมีคุณสมบัติและมีอ ำนำจที่จะออกค ำสั่งและมี

มำตรกำรกำรป้องกันอุบัติเหตุ ตลอดระยะกำรก่อสร้ำงโครงกำร ผู้รับจ้ำงต้องมีสิ่งป้องกัน

ควำมปลอดภัย ตำมที่พนักงำนควำมปลอดภัยต้องกำรในกำรปฏิบติหน้ำที่ด้ำนควำม

ปลอดภัย

ผู้รับจ้ำงต้องท ำรำยงำนภำพละเอียดเริ่มกำรเกิดอุบัติเหตุทุกครั้งให้แก่ผู้ว่ำจ้ำงโดยเร็วสุด

ผู้รับจ้ำงต้องจัดเก็บรำยงำนนี้และจัดเก็บรำยงำนเกี่ยวกับ สุขอนำมัย ควำมปลอดภัย กำรให้

สวัสดิกำรแก่พนักงำน ควำมเสียหำยต่อทรัพย์สิน รำยงำนต้องมีพร้อมและทันเหตุปัจจุบันที่

ผู้ว่ำจ้ำงจะขอตรวจดูได้ตลอดเวลำ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-86 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

6.8 ผู้ก ากับควบคุมงานของผู้รับจ้าง (Contractors Superintendence)

ตลอดระยะเวลำกำรก่อสร้ำงโครงกำรซึ่งผู้รับจ้ำงต้องท ำงำนให้ครบถ้วนตำมพันธะสัญญำ

ผู้รับจ้ำงต้องให้มีผู้ก ำกับควบคุมเท่ำที่จ ำเป็นเพื่อกำรวำงแผนงำนจัดเตรียม ก ำกับ บริหำร

จัดกำร ตรวจสอบและทดสอบงำนก่อสร้ำง

ผู้ก ำกับควบคุมต้องมีจ ำนวนอย่ำงเพียงพอ ซึ่งเป็นผู้มีควำมรู้ มีควำมสำมำรถพูดภำษำ

(อังกฤษ – ไทย) ในกำรสื่อสำรตำมข้อย่อย 1.4 (Law and Language) ในกำรจัดกำร

ท ำงำนเพื่อให้ได้ผลงำนตำมที่ต้องกำรและมีควำมปลอดภัยจำกกำรก่อสร้ำง (ผู้ก ำกับควบคุม

ต้องมีควำมสำมำรถในกำรคิดหำวิธีและเทคนิคและมีควำมปลอดภัยในกำรก่อสร้ำง)

6.9 บุคลากรของผู้รับจ้าง (Contractor’s Personnel)

บุคลำกรของผู้รับจ้ำงต้องเป็นผู้มีควำมช ำนำญ มีประสบกำรณ์ในสำขำวิชำชีพแห่งตน ผู้ว่ำ

จ้ำงอำจขอให้ผู้รับจ้ำงย้ำย (หรือสำเหตุของกำรย้ำย) บุคลำกรที่จ้ำงท ำงำนในพื้นที่โครงกำร

ทั้งนี้ให้รวมผู้แทนของผู้รับจ้ำง เมื่อผู้นั้น

(ก) ท ำผิดเป็นเนื่องนิตย์หรือขำดควำมระมัดระวัง

(ข) ปฏิบัติหน้ำที่อย่ำงไร้ควำมสำมำรถหรือประมำทเลินเล่อ

(ค) บกพร่องไม่ปฏิบัติตำมข้อบังคับของสัญญำ

(ง) มีพฤติกรรมเกี่ยวกับกระท ำผิดต่อ ควำมปลอดภัย สุขอนำมัย และกำรป้องกัน

สิ่งแวดล้อม หำกเป็นกำรเหมำะสม ผู้รับจ้ำงต้องแต่งตั้ง (หรือเป็นเหตุต้องแต่งตั้ง) บุคคล

ใหม่แทน

6.10 ทะเบียนบุคลากรและเครื่องมือของผู้รับจ้าง (Records of Contractor’s Personnel

and Equipment)

ผู้รับจ้ำงต้องท ำบัญชีทะเบียนรำยละเอียดต่อผู้ว่ำจ้ำงแสดงจ ำนวนบุคลำกรแต่ละระดับ และ

ประเภทของเครื่องมือที่มีอยู่ในพื้นที่โครงกำรในแต่ละเดือน เสนอให้ผู้ว่ำจ้ำงพิจำรณำ

เห็นชอบอนุมัติ ก่อนที่ผู้รับจ้ำงก่อสร้ำงโครงกำรจนแล้วเสร็จตำมวันที่ระบุไว้ในหนังสือ

รับรองผลงำน

6.11 การประพฤติมิชอบ (Disorderly Conduct)

ตลอดเวลำผู้รับจ้ำงต้องใช้ควำมระมัดระวังที่จะป้องกันกำรก่อควำมไม่สงบ ผิดกฎหมำย กำร

ประพฤติมิชอบระหว่ำงพนักงำน และต้องรักษำควำมสงบสุขของสำธำรณชนและทรัพย์สินที่

อยู่ใกล้เคียงกับโครงกำร

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-87 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

7. โรงงาน/โรงผลิต วัสดุและฝีมือแรงงาน (Plant, Materials and Workmanship)

(ข้อย่อย1.1.5.5 Plant หมำยถึง เครื่องมือ เครื่องจักรกล พำหนะที่จะน ำมำประกอบเป็น

ส่วนหนึ่งของงำนถำวร)

7.1 ลักษณะวิธีการด าเนินการ (Manner of Execution)

ผู้รับจ้ำงจะด ำเนินกำรกำรผลิตโรงงำน/โรงผลิต ผลิตภัณฑ์ กำรผลิตวัสดุและอื่น ๆ ของงำน

(ก) ตำมรูปลักษณ์ที่ก ำหนดไว้ในสัญญำ

(ข) ตำมฝีมือที่ควรจะเป็นและตำมคุณลักษณะอย่ำงระมัดระวังตำมหลักปฏิบัติที่ดีทั่วไปที่

ยอมรับกัน

(ค) ติดตั้งส่วนประกอบสะดวกต่อกำรใช้กำรและไม่มีวัตถุที่เป็นอันตรำยเว้นแต่จะระบุไว้ใน

สัญญำ

7.2 ตัวอย่าง (Samples)

ผู้รับจ้ำงจะต้องส่งตัวอย่ำงไปยังผู้ว่ำจ้ำงเพื่อตรวจสอบตำมขั้นตอนส ำหรับเอกสำรของผู้

รับจ้ำงตำมที่ระบุไว้ในข้อย่อย 5.2 (Contractor’s Documents) ตำมที่ระบุไว้ในสัญญำ

และโดยค่ำใช้จ่ำยของผู้รับจ้ำง ตัวอย่ำงแต่ละชิ้นจะต้องมีข้อควำมก ำกับแหล่งที่มำและใช้ใน

งำน

7.3 การตรวจสอบ (Inspection)

บุคลำกรของผู้ว่ำจ้ำงมีสิทธิในทุกขณะเวลำที่มีเหตุผล

(ก) มีสิทธิเต็มที่จะเข้ำออกทุกส่วนของพื้นที่โครงกำรและแหล่งที่มำของวัสดุธรรมชำติ

(ข) ระหว่ำงกำรผลิตและกำรก่อสร้ำง (ในพื้นที่โครงกำรที่อื่น ๆ ) ที่จะต้องตรวจทำน

ตรวจสอบ ตรวจวัด และทดสอบวัสดุ และฝีมือแรงงำน เพื่อตรวจสอบวิธีกำรขบวนกำรผลิต

ของโรงงำน/โรงผลิต และวัตถุที่ผลิตได้

ผู้รับจ้ำงต้องให้บุคลำกรของผู้ว่ำจ้ำงมีโอกำสเต็มที่ที่จะด ำเนินกำรตำมข้อดังกล่ำวข้ำงต้น

รวมทั้งอ ำนวยกำร เข้ำ – ออก สิ่งอ ำนวยควำมสะดวก กำรอนุญำตและอุปกรณ์ป้องกันภัย

ผู้รับจ้ำงต้องมีหน้ำที่อ ำนวยควำมสะดวกและรับผิดชอบควำมปลอดภัยในกำรปฏิบัติงำนของ

บุคลำกรผู้ว่ำจ้ำง

ผู้รับจ้ำงต้องแจ้งเป็นหนังสือให้แก่ผู้ว่ำจ้ำงทุกครั้งเมื่องำนมีควำมพร้อมและก่อนที่จะถูกปิด

ทับให้มิดชิดไม่เห็น หุ้มห่อเพื่อกำรเก็บหรือเพื่อกำรขนส่ง ผู้ว่ำจ้ำงจะท ำกำรตรวจทำน

ตรวจสอบ ตรวจวัด หรือทดสอบโดยไม่ชักช้ำหรือทันทีในกำรออกหนังสือแก่ผู้ว่ำจ้ำงว่ำ ผู้ว่ำ

จ้ำงจะไม่ท ำกำรตรวจทำน หำกผู้รับจ้ำงไม่แจ้งเป็นหนังสือ หำกผู้ว่ำจ้ำงมีควำมประสงค์ที่จะ

ตรวจสอบ ผู้รับจ้ำงต้องรื้อเปิดของที่ถูกปิดไว้ให้ผู้ว่ำจ้ำงตรวจสอบด้วยค่ำใช้จ่ำยของผู้รับจ้ำง

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-88 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

7.4 การทดสอบ (Testing)

ข้อย่อยนี้ใช้บังคับกับกำรทดสอบทุกประเภทตำมที่ก ำหนดไว้ในสัญญำ และกำรทดสอบอื่นที่

ทดสอบภำยหลังส่งมอบงำนแล้วเสร็จ (หำกมี)

ผู้รับจ้ำงต้องจัดให้มีเครื่องมือ ผู้ช่วย เอกสำร และข้อมูลอื่น ไฟฟ้ำ อุปกรณ์ เชื้อเพลิง ของใช้

สิ้นเปลือง เครื่องมือตรวจวัด คนงำน วัตถุ และพนักงำนที่มีควำมรู้ควำมช ำนำญด ำเนินกำร

ทดสอบอย่ำงมีประสิทธิภำพ ผู้รับจ้ำงต้องตกลงกับผู้ว่ำจ้ำงเรื่องเวลำและสถำนที่ที่ใช้ในกำร

ทดสอบ เครื่องมือที่ประกอบเป็นงำนถำวร

ผู้ว่ำจ้ำงจะใช้ข้อ 13 (Variations and Adjusments) ในกำรเปลี่ยนสถำนที่ หรือ

รำยละเอียดกำรทดสอบ หรือสั่งให้ผู้รับจ้ำงท ำกำรทดสอบเพิ่ม กำรเปลี่ยนแปลงกำรทดสอบ

โรงงำน/โรงผลิต วัสดุ และงำนฝีมือไม่ถูกต้องตำมที่ก ำหนดไว้ในสัญญำ ค่ำใช้จ่ำยอื่น ๆ ที่

เกิดจำกกำรทดสอบเหล่ำนี้ ผู้รับจ้ำงต้องเป็นผู้รับผิดชอบแม้ว่ำไม่ได้ก ำหนดไว้ในสัญญำ

ผู้ว่ำจ้ำงจะแจ้งให้รับทรำบก่อนไม่น้อยกว่ำ 24 ชั่วโมงเมื่อมีควำมประสงค์เข้ำร่วมดูกำร

ทดสอบ หำกผู้ว่ำจ้ำงไม่มำร่วมตำมเวลำและสถำนที่นัดหมำย ผู้รับจ้ำงก็จะด ำเนินกำร

ทดสอบโดยไม่รอ และกำรทดสอบนั้นถือว่ำเป็นกำรทดสอบเสมือนหนึ่งผู้ว่ำจ้ำงอยู่ร่วมดูกำร

ทดสอบนั้น เว้นแต่ผู้ว่ำจ้ำงจะมีค ำสั่งเป็นอื่น

หำกผู้รับจ้ำงต้องประสบควำมล่ำช้ำและเกิดมีค่ำใช้จ่ำยขึ้นตำมค ำสั่งของผู้ว่ำจ้ำง ซึ่งผู้ว่ำจ้ำง

ต้องเป็นผู้มีส่วนต้องรับผิดชอบด้วย ดังนั้นผู้รับจ้ำงจะมีหนังสือแจ้งให้ผู้ว่ำจ้ำงตำมข้อย่อย

20.1 (Contractor’s Claims) คือ

(ก) ขยำยเวลำกำรก่อสร้ำงด้วยเหตุล่ำช้ำนั้น หำกท ำให้กำรก่อสร้ำงต้องล่ำช้ำออกไปตำมข้อ

ย่อย 8.4 (Extension of time for Completion) และ

(ข) ค่ำใช้จ่ำยพร้อมก ำไร ซึ่งจะรวมเพิ่มเป็นค่ำจ้ำงเพิ่มในสัญญำ

ภำยหลังผู้ว่ำจ้ำงได้รับหนังสือดังกล่ำว ผู้ว่ำจ้ำงต้องด ำเนินกำรตำมข้อย่อย 3.5

(Determinations) ตำมที่ตกลงไว้ว่ำต้องพิจำรณำเพื่ออนุมัติ

ผู้รับจ้ำงต้องรีบด ำเนิกำรทดสอบให้ผู้ว่ำจ้ำงพิจำรณำเห็นชอบรำยงำนกำรทดสอบ เมื่อกำร

ทดสอบผ่ำนกำรทดสอบถูกต้อง ผู้ว่ำจ้ำงต้องลงนำมเห็นชอบผลกำรทดสอบหรือออกหนังสือ

รับรองผลกำรทดสอบ หำกผู้ว่ำจ้ำงไม่ได้ร่วมดูกำรทดสอบ ผู้ว่ำจ้ำงต้องยอมรับข้อมูลนั้น

ถูกต้องตำมกำรทดสอบนั้นด้วย

7.5 การปฏิเสธ (Rejection)

หำกเป็นผลจำกตรวจทำน ตรวจสอบ ตรวจวัด เครื่องมือประกอบสิ่งก่อสร้ำง วัสดุและฝีมือ

แรงงำน มีควำมบกพร่องหรือช ำรุดหรือไม่ถูกต้องตำมสัญญำ ผู้ว่ำจ้ำงอำจปฏิเสธไม่รับกำร

ทดสอบข้ำงต้นด้วยกำรออกหนังสือแจ้งให้ผู้รับจ้ำงรับทรำบพร้อมเหตุผลกำรปฏิเสธ ผู้รับ

จ้ำงต้องรีบซ่อมข้อบกพร่องนั้น ๆ ตำมที่ก ำหนดไว้ในสัญญำ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-89 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

หำกผู้ว่ำจ้ำงต้องกำรให้เครื่องมือประกอบสิ่งก่อสร้ำงถำวร วัสดุหรือฝีมือแรงงำนต้องท ำกำร

ทดสอบซ ้ำใหม่ กำรทดสอบนั้นต้องอยู่ในขอบเขตงำนและมีสภำพภำวะเดิม หำกกำร

ทดสอบซ ้ำนั้นท ำให้เกิดมีค่ำใช่จ่ำยเพิ่ม ผู้รับจ้ำงต้องท ำตำมข้อย่อย 2.5 (Employer’s

Claims)

7.6 การแก้ไขงานช ารุดบกพร่อง (Remedial Work)

ไม่ว่ำงำนที่ผ่ำนกำรทดสอบแล้วหรือได้รับหนังสือรับรองผลงำนแล้ว ผู้ว่ำจ้ำงอำจจะมีค ำสั่ง

ให้ผู้รับจ้ำง ด ำเนินกำรดังนี้

(ก) ย้ำยออกจำกพื้นที่โครงกำรและทดแทนเปลี่ยนเครื่องมือประกอบสิ่งก่อสร้ำงถำวรหรือ

วัสดุซึ่งไม่ถูกต้องตำมสัญญำ

(ข) ย้ำยออกและท ำกำรก่อสร้ำงใหม่ตำมสัญญำ

(ค) ท ำกำรก่อสร้ำงเร่งด่วนเพื่อเป็นกำรป้องกันควำมปลอดภัยอันเป็นผลจำกกำรเกิด

อุบัติเหตุ หรือสิ่งที่ไม่คำดหมำยหรือเหตุอื่น

หำกผู้รับจ้ำงไม่ปฏิบัติตำมค ำแนะน ำดังกล่ำวซึ่งเป็นไปตำมข้อย่อย 3.4 (Instruction) ผู้ว่ำ

จ้ำงจะมีสิทธิจ้ำงและจ่ำยเงินให้บุคคลอื่นเพื่อด ำเนินกำร ยกเว้นในกรณีที่ผู้รับจ้ำงมีสิทธิ์

ได้รับค่ำจ้ำงในกำรท ำงำน ผู้รับจ้ำงจะต้องปฏิบัติตำมข้อย่อย 2.5 (Employer’s Claim)

โดยจ่ำย ค่ำใช้จ่ำยทั้งหมดที่เกิดจำกควำมล้มเหลวนี้ให้ผู้ว่ำจ้ำง

7.7 ความเป็นเจ้าของ เครื่องมือประกอบสิ่งก่อสร้างงานถาวรและวัตถุ (Ownership of

Plant and Materials)

แต่ละรำยกำรของเครื่องมือประกอบของงำนถำวรและวัตถุต้องถูกต้องตำมกฎหมำยซึ่ง

ต่อไปจะเป็นทรัพย์สินของผู้ว่ำจ้ำง ทรัพย์สินเหล่ำนี้ต้องปรำศจำกกำรถูกกล่ำวหำในเรื่อง

ลิขสิทธิ์หรือข้อกล่ำวหำใด ๆ

(ก) เมื่อรำยกำรนั้นได้ส่งเข้ำมำอยู่ในพื้นที่ก่อสร้ำง

(ข) เมื่อผู้รับจ้ำงถูกทวงค่ำใช้จ่ำยทรัพย์สินเหล่ำนั้นตำมข้อย่อย 9.10 (Payment for Plant

and Material in Event of Suspension)

7.8 ค่าธรรมเนียม/ค่าภาคหลวง (Royalties)

เว้นแต่ได้ระบุไว้ในข้อก ำหนดควำมต้องกำรของเจ้ำของงำน (Employer’s Requirements)

ผู้รับจ้ำงต้องมีหน้ำที่จ่ำยค่ำธรรมเนียม/ค่ำภำคหลวง ค่ำเช่ำ และค่ำใช้จ่ำย เพื่อ

(ก) วัตถุดิบตำมธรรมำชำติที่น ำมำใช้งำนในพื้นที่ก่อสร้ำง

(ข) กำรน ำไปทิ้งก ำจัดเศษวัสดุจำกกำรขุดทิ้งหรือกำรรื้อทิ้ง เว้นแต่กำร กำรก ำจัดทิ้งของเศษ

วัสดุที่มีอยู่ภำยในพื้นที่ก่อสร้ำง

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-90 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

8. การเริ่มงาน การล่าช้า และการระงับงาน (Commencement, Delays and

Suspension)

8.1 การเริ่มงาน (Commencement of Works)

เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่ำงอื่นในสัญญำ:

(ก) ผู้ว่ำจ้ำงจะต้องแจ้งให้ผู้รับจ้ำงทรำบล่วงหน้ำไม่น้อยกว่ำ 7 วัน นับแต่วันที่เริ่มต้น และ

(ข) วันเริ่มด ำเนินกำร จะต้องไม่เกิน 42 วันนับจำกวันที่สัญญำมีผลบังคับใช้อย่ำงสมบูรณ์

และมีผลภำยใต้ข้อย่อย 1.6 (Contract Agreement)

ผู้รับจ้ำงจะเริ่มออกแบบและด ำเนินกำรงำนโดยเร็วที่สุดเท่ำที่จะเป็นไปได้ หลังจำกวันที ่เริ่ม

ด ำเนินกำร และจะด ำเนินกำรอย่ำงต่อเนื่องโดยไม่ชักช้ำ

8.2 ระยะเวลางานแล้วเสร็จ (Time for Completion)

ผู้รับจ้ำงต้องท ำงำนก่อสร้ำงทุกส่วนของงำนให้แล้วเสร็จทั้งหมด ซึ่งให้รวมถึง

(ก) ส ำเร็จลุล่วงพร้อมท ำกำรทดสอบเมื่องำนแล้วเสร็จ และ

(ข) ท ำงำนให้แล้วเสร็จตำมที่ระบุไว้ในสัญญำและส่วนของงำนต่ำง ๆ ที่ต้องแล้วเสร็จเพื่อ

กำรส่งมอบงำนตำมข้อย่อย 10.1 (Taking Over of Works and Sections)

8.3 แผนงาน (Programme)

ผู้รับจ้ำงต้องน ำเสนอรำยละเอียดแผนเวลำก่อสร้ำงให้ผู้ว่ำจ้ำงภำยใน 28 วัน ภำยหลังได้รับ

หนังสือตำมข้อย่อย 8.1 (Commencement of Works) ผู้รับจ้ำงยังต้องเสนอแผนงำนฉบับ

ปรับปรุงแล้วเปรียบเทียบกับแผนงำนฉบับที่ผ่ำนมำเพื่อให้แผนงำนทันตำมผลงำนจริง

ปัจจุบันที่ผู้รับจ้ำงมีพันธะตำมสัญญำ ซึ่งต้องครอบคลุมถึง

(ก) ค ำสั่งงำนก่อสร้ำงซึ่งผู้รับจ้ำงมีแผนจะด ำเนินงำน ทั้งนี้ให้รวมแผนเวลำกำรออกแบบ (ถ้ำ

มี) เอกสำรประกอบกำรก่อสร้ำง กำรจัดซื้อ กำรก่อสร้ำงโรงงำน/โรงผลิต กำรขนส่งชิ้นส่วน

เข้ำสู่พื้นที่ กำรก่อสร้ำง กำรติดตั้ง และกำรทดสอบ

(ข) แต่ละขั้นตอนของงำนของแต่ละผู้รับจ้ำงช่วง ตำมที่ก ำหนดข้อ 5 (Nominated

Subcontractors)

(ค) ล ำดับและเวลำในกำรตรวจสอบและทดสอบตำมสัญญำ และ

(ง) รำยงำนกำรสนับสนุนกำรท ำงำน

(1) บทบรรยำยทั่วไป วิธีกำรที่ผู้รับจ้ำงจะน ำมำใช้ และขั้นตอนส ำคัญในกำรก่อสร้ำง

(2) รำยละเอียดกำรประมำณจ ำนวนและประเภทพนักงำน และจ ำนวนและประเภทของ

เครื่องจักรกลที่จะน ำมำใช้งำนก่อสร้ำง

ภำยในเวลำ 21 วัน เมื่อผู้ว่ำจ้ำงได้รับแผนงำนจำกผู้รับจ้ำง ผู้ว่ำจ้ำงจะมีหนังสือแจ้งให้ผู้รับ

จ้ำงในกรณีที่แผนงำนไม่สอดคล้องกับสัญญำ เมื่อด ำเนินงำนตำมแผนงำนที่เสนอตำมพันธะ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-91 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

ของสัญญำ บุคลำกรของผู้ว่ำจ้ำงจะเป็นผู้มีหน้ำที่ในกำรรับทรำบแผนงำน/แผนเวลำกำร

ก่อสร้ำงของผู้รับจ้ำง

ผู้รับจ้ำงจะมีหนังสือแจ้งให้ผู้ว่ำจ้ำงทรำบทันที่ ในกรณีที่อำจจะมีเหตุร้ำยเกิดต่องำนก่อสร้ำง

อันเป็นเหตุต้องเพิ่มค่ำจ้ำงก่อสร้ำงหรือท ำให้งำนล่ำช้ำออกไป ผู้ว่ำจ้ำงอำจจะให้ผู้รับจ้ำง

คำดกำรณ์เหตุร้ำยที่จะเกิดขึ้นและจัดท ำข้อเสนอ ตำมข้อย่อย 13.3 (Variation

Procedure)

หำก ณ เวลำใดผู้ว่ำจ้ำงมีหนังสือแจ้งให้ผู้รับจ้ำงว่ำแผนงำนไม่สอดคล้องตำมสัญญำและไม่

สอดคล้องกับควำมก้ำวหน้ำของงำนจริง ผู้รับจ้ำงต้องท ำกำรปรับปรุงแผนงำนใหม่เสนอ

ให้แก่ผู้ว่ำจ้ำงตำมหัวข้อย่อย 8.3 นี้

8.4 การขยายเวลาการแล้วเสร็จงาน (Extension of Time for Completion)

ผู้รับจ้ำงต้องมีหน้ำที่ปฏิบัติตำมข้อย่อย 20.1 (Contractor’s Claims) เพื่อขอขยำยเวลำ

กำรแล้วเสร็จของงำนก่อสร้ำง หำกกำรขยำยเวลำตำมข้อย่อย 10.1 (Taking Over the

Works and Sections) หรืองำนล่ำช้ำอันเนื่องด้วยเหตุดังนี้

(ก) มีกำรเปลี่ยนแปลง (เว้นแต่มีกำรปรับระยะเวลำตำมที่ได้ตกลงกันตำมข้อย่อย 13.3)

(Variation Procedure) หรือมีกำรเปลี่ยนแปลงอย่ำงมีนัยยะของปริมำณงำนในสัญญำ

(ข) เหตุแห่งควำมล่ำช้ำที่ยอมให้ขยำยเวลำตำมข้อย่อยของเงื่อนไขสัญญำนี้

(ค) เว้นแต่เกิดสภำพอำกำศที่เลวร้ำย

(ง) กำรคำดไม่ถึงกำรขำดแคลนแรงงำน หรือพัสดุขำดแคลน เหตุจำกโรคระบำดหรือมีกำร

ปฎิบัติกำรจำกรัฐ หรือ

(จ) กำรล่ำช้ำจำกโรคระบำด หรือกำรป้องกันกำรก่อเหตุ หรือจำกข้ออ้ำงของผู้ว่ำจ้ำง หรือ

จำกบุคลำกรผู้ว่ำจ้ำง หรือผู้รับจ้ำงรำยอื่นของผู้ว่ำจ้ำงที่อยู่ในพื้นที่โครงกำร

หำกผู้รับจ้ำงเห็นว่ำมีสิทธิ์ขอขยำยเวลำงำนก่อสร้ำงได้ ให้ผู้รับจ้ำงท ำหนังสือแจ้งให้ผู้ว่ำจ้ำง

ตำมข้อย่อย 20.1 (Contractor Claims) เมื่อผู้ว่ำจ้ำงพิจำรณำว่ำขยำยเวลำก่อสร้ำง

8.5 ความล่าช้าเกิดจากเจ้าหน้าที่ผู้มีอ านาจ (Delays Caused by Authorities)

โดยหำกใช้เงื่อนไขดังต่อไปนี้ เช่น

(ก) ผู้รับจ้ำงมีควำมพยำยำมเอำใจใส่ปฏิบัติตำมระเบียบของหน่วยงำนรัฐของประเทศนั้น

(ข) หน่วยงำนรัฐนี้ท ำให้ล่ำช้ำ และเป็นอุปสรรคต่อกำรท ำงำนของผู้รับจ้ำง และ

(ค) กำรล่ำช้ำและอุปสรรคของเรื่องที่ไม่คำดหมำยไว้ก่อน

ฉะนั้น กำรล่ำช้ำและอุปสรรคสำมำรถพิจำรณำ เป็นเหตุให้งำนล่ำช้ำได้ตำมข้อย่อย (ข) และ

ข้อย่อย 8.4 (Extension of Time for Completion)

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-92 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

8.6 อัตราความก้าวหน้า (Rate of Progress)

หำก ณ เวลำใด

(ก) ควำมก้ำวหน้ำจริงของงำน ณ ปัจจุบันล่ำช้ำมำก ซึ่งอำจจะท ำให้งำนก่อสร้ำงไม่แล้วเสร็จ

(ข) ควำมก้ำวหน้ำของงำนได้ตก (หรือก ำลังจะตก) ล้ำหลังแผนงำนปัจจุบันตำมข้อย่อย 8.3

(Programme)

ซึ่งจะเป็นผลให้เกิดเหตุ ตำมข้อย่อย 8.4 (Extension of time for completion) ดังนั้นผู้

ว่ำจ้ำงอำจจะสั่งให้ผู้รับจ้ำงที่เสนอตำมข้อย่อย 8.3 (Programme) ปรับปรุงแผนงำนพร้อม

ด้วยรำยงำนชี้แจงกำรปรับเปลี่ยนวิธีตำมที่ผู้รับจ้ำงเสนอเพื่อเร่งกำรท ำงำนให้ก้ำวหน้ำและ

ท ำงำนให้แล้วเสร็จตำมแผน เว้นแต่ผู้ว่ำจ้ำงจะให้ข้อสังเกตในกำรปรับปรุงวิธีกำรก่อสร้ำง

ของผู้รับจ้ำง ซึ่งผู้รับจ้ำงต้องเพิ่มเวลำกำรท ำงำน เพิ่มจ ำนวนพนักงำนและคนงำน เพิ่มพัสดุ

ซึ่งเป็นควำมเสี่ยงในค่ำใช้จ่ำยของผู้รับจ้ำงเอง หำกกำรปรับปรุงวิธีกำรก่อสร้ำงแล้วท ำให้

ผู้ว่ำจ้ำงมีค่ำใช้จ่ำยเพิ่ม ผู้รับจ้ำงต้องยอมรับข้อย่อย 2.5 (Employer’s Claims) ต้องจ่ำย

ค่ำใช้จ่ำยเพิ่มให้แก่ผู้ว่ำจ้ำง ในกำรที่ผู้รับจ้ำงท ำให้ผู้ว่ำจ้ำงได้รับควำมเสียหำยจำกท ำงำน

ล่ำช้ำตำมข้อย่อย 8.7 (Delay Damages)

8.7 ความเสียหายจากท างานล่าช้า: ค่าปรับ (Delay Damages)

หำกผู้รับจ้ำงท ำงำนบกพร่องตำมข้อย่อย 8.2 (Time for Completion) ผู้รับจ้ำงต้องท ำ

ตำมข้อย่อย 2.5 (Employer’s Claims) จ่ำยค่ำเสียหำยจำกกำรท ำงำนล่ำช้ำให้แก่ผู้ว่ำจ้ำง

ค่ำควำมเสียหำยนี้ได้ระบุไว้ในเอกสำรแนบผนวกในเอกสำรประกวดรำคำ (Appendix to

Tender) ซึ่งจะต้องจ่ำยค่ำเสียหำยทุกวันและจะเหลื่อมล ้ำกับเวลำที่ก ำหนดไว้ในเอกสำรที่

เกี่ยวข้อง อย่ำงไรก็ตำม ค่ำควำมเสียหำยนี้รวมกันแล้วตำมข้อย่อย 8.7 นี้จะไม่เกิน

ค่ำเสียหำย ตำมที่ระบุไว้ในเอกสำรแนบผนวกในเอกสำรประกวดรำคำ

ค่ำควำมเสียหำยเหล่ำนี้เป็นเพียงควำมเสียหำยอันเนื่องจำกเป็นควำมบกพร่องของผู้รับจ้ำง

ไม่ใช่เป็นเหตุในกำรยกเลิกตำมข้อย่อย 15.2 (Termination by Employer) ก่อนกำร

ก่อสร้ำงงำนแล้วเสร็จ ค่ำเสียหำยเหล่ำนี้ไม่เป็นเหตุให้ผู้รับจ้ำงพ้นจำกพันธะหน้ำที่ในกำร

ก่อสร้ำงให้แล้วเสร็จหรือพ้นหน้ำที่อื่น หรือพันธะหน้ำที่เกินควำมรับผิดชอบ ซึ่งผู้รับจ้ำงต้อง

ปฏิบัติตำมสัญญำ

8.8 การระงับการท างาน (Suspension of Work)

ในทุกเวลำ ผู้ว่ำจ้ำงอำจมีค ำสั่งให้ผู้รับจ้ำงระงับกำรท ำงำนทั้งหมดหรือบำงส่วน ระหว่ำงกำร

ระงับท ำงำน ผู้รับจ้ำงต้องป้องกัน เก็บรักษำและคุ้มครองภัยงำนก่อสร้ำงให้พ้นภัยจำกกำร

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-93 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

ท ำลำย สูญหำยหรือเสียหำย ผู้ว่ำจ้ำงอำจชี้แจงเหตุกำรระงับกำรท ำงำน และเป็นควำม

รับผิดชอบของผู้รับจ้ำงที่ไม่ต้องท ำตำมข้อย่อย 8.9, 8.10, 8.11

8.9 ผลจากการระงับการท างาน (Consequences of Suspension)

หำกผู้รับจ้ำงได้รับเหตุจำกควำมล่ำช้ำและ/หรือท ำให้เกิดค่ำใช้จ่ำยเพิ่มในกำรปฏิบัติตำม

ค ำสั่งของผู้ว่ำจ้ำงตำมหัวข้อย่อย 8.8 (Suspension of Work) และหรือจำกท ำงำนต่อ ผู้รับ

จ้ำงต้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ว่ำจ้ำงและใช้สิทธิข้อย่อย 20.1 (Contractor’s Clams) ต่อกรณี

ดังนี้

(ก) กำรขยำยเวลำอันเนื่องจำกควำมล่ำช้ำ หำกกำรแล้วเสร็จนั้นต้องล่ำช้ำออกไปตำมข้อ

ย่อย 8.4 (Extension of Time for Completion) และ

(ข) ค่ำจ้ำงของค่ำใช้จ่ำย ซึ่งจะผนวกอยู่ในค่ำจ้ำงในสัญญำ ภำยหลังผู้ว่ำจ้ำงได้รับหนังสือ

ดังกล่ำว ผู้ว่ำจ้ำงจะท ำตำมข้อย่อย 3.5 (Determination) พิจำรณำวินิจฉัยเรื่องดังกล่ำว

ผู้รับจ้ำงจะไม่มีสิทธิขอขยำยเวลำก่อสร้ำงหรือเรียกร้องค่ำใช้จ่ำยเพิ่มจำกผลกำรผิดพลำด

จำกกำรออกแบบ ฝีมือแรงงำนไม่เรียบร้อย พัสดุไม่ถูกต้อง หรือในกำรที่ผู้รับจ้ำงบกพร่อง

ในกำรจัดกำร เก็บรักษำ คุ้มครองภัย ตำมข้อย่อย 8.8 ((Suspension of Work)

8.10 การจ่ายเงินส าหรับโรงงาน/โรงผลิต และวัสดุในกรณีการระงับการท างาน (Payment

for Plant and Materials in Even of Suspension)

ผู้รับจ้ำงมีสิทธิ์ที่จะได้รับค่ำจ้ำงจำกมูลค่ำ (ณ วันที่ถูกระงับกำรท ำงำน) ของโรงงำน/โรงผลิต

และ/หรือวัสดุซึ่งได้ขนย้ำยมำอยู่ในพื้นที่โครงกำร หำกว่ำ

(ก) งำนที่เกี่ยวกับโรงงำน/โรงผลิต และวัสดุได้ถูกระงับไว้เกิน 28 วัน และ

(ข) ผู้รับจ้ำงได้ระบุให้โรงงำน/โรงผลิต และวัสดุเป็นทรัพย์สินของผู้ว่ำจ้ำงแล้วโดยค ำสั่งของ

ผู้ว่ำจ้ำง

8.11 การระงับการท างานที่ยืดเยื้อ (Prolonged Suspension)

หำกกำรระงับกำรท ำงำนตำมข้อย่อย 8.8 (Suspension of Work) ได้ยืดเยื้อนำนกว่ำ 84

วัน ผู้รับจ้ำงอำจร้องขอผู้ว่ำจ้ำงอนุญำตท ำงำนต่อ หำกผู้ว่ำจ้ำงไม่อนุญำตภำยใน 28 วัน

หลังจำกกำรร้องขอ ผู้รับจ้ำงอำจจะมีหนังสือถึงผู้ว่ำจ้ำงยกเรื่องกำรระงับงำนเป็นเรื่องกำร

ละเว้นงำนตำมข้อ 13 (Variations and Adjustments) ซึ่งมีผลกระทบต่อส่วนงำนก่อสร้ำง

หำกกำรระงับงำนมีผลกระทบต่องำนก่อสร้ำงทั้งหมด ผู้รับจ้ำงอำจมีหนังสือแจ้งขอเลิก

สัญญำตำมข้อย่อย 16.2 (Termination by Contractor)

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-94 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

8.12 การท างานต่อไป (Resumption of Work)

ภำยหลังผู้ว่ำจ้ำงอนุญำตให้ท ำงำนต่อไปได้ ผู้รับจ้ำงและผู้ว่ำจ้ำงจะร่วมตรวจสอบงำน

ทั้งหมดและโรงงำน/โรงผลิต และวัสดุที่มีผลกระทบจำกกำรระงับท ำงำน ผู้รับจ้ำงจะท ำกำร

ซ่อมแซมส่วนที่ช ำรุดสิ่งบกพร่องหรือสิ่งสูญหำยคืนสภำพเดิมของงำนระหว่ำงกำรระงับงำน

9. ทดสอบงานเมื่อแล้วเสร็จ (Test on Completion)

9.1 พันธะหน้าที่ของผู้รับจ้าง (Contractor’s Obligations)

ผู้รับจ้ำงต้องด ำเนินกำรทดสอบงำนเมื่อแล้วเสร็จตำมข้อย่อย 7.4 (Testing) ภำยหลังได้ส่ง

มอบเอกสำรรำยงำนตำมข้อย่อย 5.6 (As-Built Documents) และข้อย่อย 5.7 (Operation

and Maintenance Manuals)

ผู้รับจ้ำงต้องมีหนังสือแจ้งให้ผู้ว่ำจ้ำงไม่น้อยกว่ำ 21 วัน ก่อนวันที่ที่จะท ำกำรทดสอบงำน

เมื่อแล้วเสร็จ เว้นแต่จะตกลงกันเป็นอื่น กำรทดสอบงำนเมื่อแล้วเสร็จจะด ำเนินกำรทดสอบ

ภำยใน 14 วัน หลังจำกวันที่ที่ตกลงกันไว้หรือวันอื่นตำมที่ได้ออกค ำสั่งไว้

นอกเหนือจำกที่ระบุในเงื่อนไขเฉพำะ กำรทดสอบเมื่องำนแล้วเสร็จจะต้องด ำเนินกำรตำม

ขั้นตอนต่อไปนี้

(ก) กำรทดสอบก่อนด ำเนินกำรซึ่งจะรวมถึงกำรตรวจสอบที่เหมำะสมและ (ทดสอบ "Dry"

หรือ "Cold") เพื่อแสดงให้เห็นว่ำแต่ละรำยกำรของโรงงำนสำมำรถท ำขั้นตอนต่อไปได้

อย่ำงปลอดภัย ตำม (ข)

(ข) ซึ่งรวมถึงกำรทดสอบกำรปฏิบัติงำนที่ระบุไว้เพื่อแสดงให้เห็นว่ำงำนหรือส่วนของงำน

สำมำรถท ำงำนได้อย่ำงปลอดภัยและตำมที่ระบุไว้ภำยใต้เงื่อนไขกำรใช้งำนทั้งหมดที่มี

อยู่ และ

(ค) กำรด ำเนินกำรทดสอบ ซึ่งจะต้องแสดงให้เห็นว่ำงำนหรือส่วนของงำนด ำเนินกำรได้

อย่ำงน่ำเชื่อถือและสอดคล้องกับสัญญำ

ในระหว่ำงกำรด ำเนินกำรทดสอบ เมื่อท ำงำนภำยใต้เงื่อนไขที่เสถียร ผู้รับจ้ำงต้องแจ้งให้

ผู้ว่ำจ้ำงทรำบว่ำงำนมีควำมพร้อมส ำหรับกำรทดสอบอื่น ๆ เมื่อแล้วเสร็จ รวมทั้งกำร

ทดสอบประสิทธิภำพเพื่อแสดงให้เห็นว่ำงำนนั้นเป็นไปตำมเกณฑ์ที่ระบุไว้ในข้อก ำหนดของ

ผู้ว่ำจ้ำงและมีกำรรับประกันผลกำรปฏิบัติงำน

กำรด ำเนินกำรทดสอบจะต้องไม่เป็นกำรเกี่ยวพันตำมข้อ 10 (Employer’s Taking Over)

เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่ำงอื่นในเงื่อนไขเฉพำะ ผลิตภัณฑ์ใด ๆ ที่ผลิตโดยโรงงำนระหว่ำง

กำรทดสอบต้องเป็นทรัพย์สินของผู้ว่ำจ้ำง

ในกำรพิจำรณำผลกำรทดสอบเมื่อแล้วเสร็จ จะต้องมีกำรจัดเตรียมค่ำใช้จ่ำยที่เหมำะสม

ส ำหรับผลกำรใช้โดยผู้ว่ำจ้ำงในผลงำนหรือลักษณะอื่น ๆ ของผลงำน ทันทีที่งำนหรือส่วน

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-95 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

ของงำนได้ผ่ำนกำรทดสอบแต่ละรำยกำรตำมที่อธิบำยไว้ในวรรค (ก) (ข) หรือ (ค) ผู้รับจ้ำง

ต้องส่งรำยงำนผลกำรทดสอบเหล่ำนี้ไปยังผู้ว่ำจ้ำง

9.2 การทดสอบที่ล่าช้า (Delayed Tests)

หำกผู้ว่ำจ้ำงประจ ำกำรทดสอบงำนเมื่อแล้วเสร็จ สำมำรถน ำข้อย่อย 7.4 (Testing) (5th

paragraph) และข้อย่อย 10.3 (Interference with Tests on Compilation) มำบังคับใช้

หำกกำรทดสอบงำนเมื่อแล้วเสร็จถูกประวิงให้ล่ำช้ำโดยผู้รับจ้ำง ผู้ว่ำจ้ำงอำจจะออกหนังสือ

สั่งให้ผู้รับจ้ำงด ำเนินกำรทดสอบภำยใน 21 วัน เมื่อผู้รับจ้ำงได้รับหนังสือแล้วต้อง

ด ำเนินกำรทดสอบตำมวันที่ผู้ว่ำจ้ำงก ำหนดหรือภำยในวันที่ซึ่งผู้รับจ้ำงเป็นผู้ก ำหนดโดยแจ้ง

เป็นหนังสือ หำกผู้รับจ้ำงไม่อำจทดสอบงำนเมื่อแล้วเสร็จภำยใน 21 วัน บุคลำกรของผู้

ว่ำจ้ำงอำจจะท ำกำรทดสอบเองบนควำมเสี่ยงและค่ำใช้จ่ำยของผู้รับจ้ำง และให้ถือว่ำกำร

ทดสอบดังกล่ำวเสมือนว่ำผู้รับจ้ำงอยู่ร่วมในกำรทดสอบนั้นและต้องรับควำมละเอียดในผล

กำรทดสอบนั้นมีควำมละเอียดด้วย

9.3 การทดสอบซ ้า (Retesting)

หำกว่ำงำนหรือส่วนของงำนไม่ผ่ำนกำรทดสอบงำนเมื่อแล้วเสร็จ ข้อย่อย 7.5 (Rejection)

จะน ำมำบังคับใช้ ผู้ว่ำจ้ำงจะถือว่ำผู้รับจ้ำงทดสอบไม่ผ่ำน และกำรทดสอบงำนเมื่อแล้วเสร็จ

ในงำนอื่นที่ควำมสัมพันธ์กัน จะต้องท ำกำรทดสอบซ ้ำในสภำพภำวะและเงื่อนไขเดียวกัน

9.4 การทดสอบเมื่องานแล้วเสร็จไม่ผ่าน (Failure to Pass Tests on Completion)

หำกงำนหรือส่วนของงำนไม่ผ่ำนกำรทดสอบเมื่อแล้วเสร็จ ต้องทดสอบซ ้ำตำมข้อย่อย 9.3

(Retesting) ผู้ว่ำจ้ำงมีหน้ำที่ ดังนี้

(ก) ออกค ำสั่งให้ท ำกำรทดสอบซ ้ำต่อไปตำมข้อย่อย 9.3

(ข) หำกกำรทดสอบไม่ผ่ำน ผู้ว่ำจ้ำงอำจปฏิเสธไม่รับมอบงำน ผู้รับจ้ำงต้องท ำกำรแก้ไข

ดังกล่ำวตำมที่ก ำหนดใน วรรคข้อ (ค) ข้ำงล่ำงและข้อย่อย 11.4 (Failure to Remedies

Defects) หรือ

(ค) ออกหนังสือตรวจรับมอบงำน หำกผู้ว่ำจ้ำงต้องกำรดังกล่ำว

ในเหตุวรรคข้อ (ค) ผู้รับจ้ำงต้องด ำเนินกำรตำมพันธะหน้ำที่ภำยใต้สัญญำนี้ และค่ำจ้ำงตำม

สัญญำจะถูกตัดลดตำมควำมเหมำะสม เว้นแต่กำรตัดลดได้ระบุในสัญญำ (ตำมหลักเกณฑ์

กำรค ำนวนกำรตัดลดค่ำจ้ำงงำน) ผู้ว่ำจ้ำงอำจตัดลดค่ำจ้ำง (1) คู่สัญญำมีควำมพอใจใน

ค่ำจ้ำงตัดลดและจ่ำยให้ก่อนที่ออกหนังสือรับมอบผลงำน (2) พิจำรณำและจ่ำยค่ำเสียหำย

ตำมข้อย่อย 2.5 (Employer’s Claims) และข้อย่อย 3.5 (Determinations)

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-96 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

10. ผู้ว่าจ้างรับมอบงาน (Employers Taking Over)

10.1 การรับมอบงานและส่วนของงาน (Taking Over of the Works and Sections)

เว้นแต่จะระบุไว้ในข้อย่อย 9.4 (Failure to Pass Tests on Completion) ผู้ว่ำจ้ำงจะรับ

มอบงำนเมื่อ

(1) งำนนั้น ได้ก่อสร้ำงแล้วเสร็จตำมสัญญำและรำยละเอียดตำมข้อย่อย 8.2 (Time for

Completion) และยกเว้นตำมระบุในข้อ (ก) ข้ำงล่ำงนี้ และ

(2) เมื่อหรือก ำลังจะออกหนังสือรับมอบงำนตำมข้อ (2) นี้ ผู้รับจ้ำงอำจออกหนังสือแจ้งผู้ว่ำ

จ้ำงให้ตรวจรับมอบงำนไม่เร็วกกว่ำ 14 วัน ก่อนงำนจะแล้วเสร็จตำมควำมเห็นของผู้รับจ้ำง

ว่ำงำนส่งมอบจะแล้วเสร็จ หำกงำนถูกแบ่งออกเป็นส่วน ๆ ผู้รับจ้ำงอำจจะด ำเนินกำรได้

เช่นเดียวกันโดยหนังสือส่งมอบงำนเป็นส่วน ๆ

ภำยใน 28 วันเมื่อผู้ว่ำจ้ำงได้รับหนังสือดังกล่ำวข้ำงต้นจำกผู้รับจ้ำงแล้ว ผู้ว่ำจ้ำงจะ

ด ำเนินกำรดังนี้

(ก) ออกหนังสือรับมอบงำนให้แก้ผู้รับจ้ำงโดยระบุวันที่ของงำนหรือส่วนของงำนที่จะ

ก่อสร้ำงแล้วเสร็จตำมสัญญำ เว้นแต่เหลืองำนเพียงเล็กน้อย หรืองำนบกพร่องต้องซ่อมซึ่งไม่

มีผลกระทบต่อกำรใช้งำนหลักหรือส่วนของงำน (หรือแล้วแต่จะรอกำรแก้ไขให้เสร็จก็ได้)

หรือ

(ข) ไม่รับหนังสือดังกล่ำวของผู้รับจ้ำงโดยระบุเหตุผลและก ำหนดงำนที่ต้องท ำให้แล้วเสร็จ

เสียก่อนจึงจะออกหนังสือรับมอบงำน ฉะนั้น ผู้รับจ้ำงต้องด ำเนินกำรท ำงำนให้เสร็จ

เรียบร้อยจึงจะออกหนังสือรับมอบงำนให้

หำกผู้ว่ำจ้ำงไม่ปฏิบัติตำมข้อ (ก) หรือข้อ (ข) ภำยใน 28 วัน และหำกงำนหลักหรือส่วนงำน

ได้ก่อสร้ำงแล้วเสร็จเป็นส่วนใหญ่แล้วตำมสัญญำ กำรออกหนังสือรับมอบงำนก็สมควรออก

ให้ในวันสุดท้ำยของวันที่ก ำหนดไว้

10.2 การรับมอบงานบางส่วน (Taking Over of Parts of the Works)

บำงส่วนของงำน (นอกเหนือจำกส่วนงำน) จะไม่ถูกน ำมำใช้หรือใช้โดยผู้ว่ำจ้ำงเว้นแต่จะ

ระบุไว้ในสัญญำหรือตำมที่คู่สัญญำทั้งสองฝ่ำยตกลงกัน

10.3 การประวิงการทดสอบเมื่องานแล้วเสร็จ ( Interference with Tests on

Completion)

หำกผู้รับจ้ำงถูกสั่งห้ำมมำกกว่ำ 14 วัน จำกกำรไม่ให้ด ำเนินกำรทดสอบเมื่องำนแล้วเสร็จ

ตำมเหตุซึ่งผู้ว่ำจ้ำงรับผิดชอบ ให้ถือว่ำผู้ว่ำจ้ำงเสมือนหนึ่งยอมรับกำรส่งมอบงำนนั้นแล้ว

(ตำมเหตุที่อำจเกิดขึ้น) ในวันที่ที่ก ำหนดให้มีกำรทดสอบเมื่องำนแล้วเสร็จ ผู้ว่ำจ้ำงจะออก

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-97 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

หนังสือรับมอบงำน ผู้รับจ้ำงจะด ำเนินกำรทดสอบเมื่องำนแล้วเสร็จโดยเร็วก่อนวันที่กำร

ซ่อมบ ำรุงสิ่งบกพร่องจะหมดอำยุ ผู้ว่ำจ้ำงต้องให้ท ำกำรทดสอบเมื่องำนแล้วเสร็จภำยใน

เวลำ 14 วันตำมรำยกำรที่ก ำหนดไว้ในสัญญำ หำกผู้รับจ้ำงต้องได้รับควำมล่ำช้ำและท ำให้

เกิดค่ำใช้จ่ำยจำกกำรด ำเนินกำรทดสอบงำนเมื่อแล้วเสร็จ ผู้รับจ้ำงจะมีหนังสือแจ้งผู้ว่ำจ้ำง

ตำมข้อย่อย 20.1 (Contractor’s Claims)

(ก) ขยำยเวลำชดเชยจำกกำรล่ำช้ำหำกงำนแล้วเสร็จได้เกิดหรือจะเกิดควำมล่ำช้ำตำมข้อ

ย่อย 8.4 (Extension of Time for Completion) และ

(ข) ค่ำจ้ำงบวกก ำไรซึ่งจะเป็นค่ำจ้ำง ในสัญญำจ้ำง เมื่อผู้ว่ำจ้ำงได้รับหนังสือแจ้ง ผู้ว่ำจ้ำง

ต้องด ำเนินกำรตำมข้อย่อย 3.5 (Determinations) เพื่อเห็นชอบหรือพิจำรณำวินิจฉัย

11. การรับผิดชอบสิ่งบกพร่อง/ช ารุด (Defects Liability)

11.1 การแล้วเสร็จของงานตกค้างและการซ่อมแซมสิ่งบกพร่อง (Completion of

Outstanding and Remedying Defects)

เพื่อให้งำนนั้นพร้อมเอกสำรรำยงำนของผู้รับจ้ำง และส่วนงำนแต่ละส่วนซึ่งจะต้องมีสภำพดี

ตำมสัญญำ (ยกเว้นงำนที่สึกหรอหรือเสียหำยเล็กน้อย) ณ วันหมดอำยุของใบแจ้งรำยกำรสิ่ง

บกพร่อง ซึ่งผู้รับจ้ำงต้องด ำเนินกำรโดยเร็วดังนี้

(ก) ท ำงำนตกค้ำงแล้วเสร็จตำมที่ระบุไว้ในหนังสือรับมอบ ตำมที่ผู้ว่ำจ้ำงสั่งกำรไว้

(ข) และท ำกำรซ่อมสิ่งบกพร่องหรือเสียหำย ตำมที่ผู้ว่ำจ้ำงพบก่อนวันหมดอำยุของกำรแจ้ง

สิ่งบกพร่อง/บกพร่องของงำนหรือส่วนของงำน (แล้วแต่กรณี)

หำกมีกำรพบสิ่งบกพร่องช ำรุด ผู้ว่ำจ้ำงจะแจ้งให้ผู้รับจ้ำงซ่อมแซม

11.2 ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมส่วนช ารุดบกพร่อง (Cost of Remedying Defects)

อ้ำงถึงข้อย่อย 11.1 (ข) (Completion of Outstanding Work and Remedying Defects

) ผู้รับจ้ำงต้องรับควำมเสี่ยงและค่ำใช้จ่ำย หำกจะต้องด ำเนินกำรแก้ไข

(ก) ต้องมีกำรออกแบบเพื่อกำรแก้ไขซ่อมแซมโดยผู้รับจ้ำง

(ข) โรงงำน/โรงผลิต วัสดุ หรืองำนฝีมือไม่ถูกต้องตำมสัญญำ หรือ

(ค) ควำมบกพร่องของผู้รับจ้ำง ไม่ปฏิบัติตำมสัญญำ (คำมข้อย่อย 5.5 ถึง 5.7 หรือ อื่น ๆ )

หรือ

หำกกำรด ำเนินกำรดังกล่ำวท ำให้เกิดผลและเกิดเหตุอื่น ผู้รับจ้ำงต้องแจ้งทันที (เพื่อเป็น

ประโยชน์) ต่อผู้ว่ำจ้ำงตำมข้อย่อย 13.3 (Variation Procedure)

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-98 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

11.3 การต่ออายุระยะเวลาการแจ้งข้อบกพร่องช ารุด (Extension of Defects Notification

Period)

ผู้ว่ำจ้ำงมีสิทธิ์ตำมข้อย่อย 2.5 (Employer’s Claims) ในกำรต่ออำยุระยะเวลำกำรแจ้งกำร

ซ่อมสิ่งบกพร่องช ำรุดของงำนหรือส่วนของงำน หำกกำรด ำเนินกำรงำนนั้น ส่วนของงำน

หรือรำยกำรส ำคัญของโรงงำน/โรงผลิต (ในกรณีที่เป็นและภำยหลังกำรรับมอบงำน) ไม่

สำมำรถใช้งำนตำมวัตถุประสงค์อันเนื่องจำกจำกกำรบกพร่องช ำรุด อย่ำงไรก็ดี ระยะเวลำ

กำรแจ้งสิ่งบกพร่องช ำรุดจะต้องไม่เกินกว่ำ 2 ปี

หำกกำรส่งหรือกำรติดตั้งโรงงำน/โรงผลิต หรือวัสดุ ถูกระงับตำมข้อย่อย 8.8 (Suspension

of Work) หรือข้อย่อย 16.1 (Contractor’s Entitlement to Suspend Work) ผู้รับจ้ำงมี

พันธะหน้ำที่ตำมข้อย่อยนี้จะไม่น ำมำบังคับใช้กับสิ่งบกพร่องช ำรุดหรือกำรเสียหำยที่เกิดขึ้น

มำกกว่ำ 2 ปี เมื่อระยะเวลำกำรแจ้งสิ่งบกพร่องช ำรุดส ำหรับโรงงำน/โรงผลิต หรือวัสดุ อัน

เกิดจำกกำรหมดอำยุระยะเวลำ

11.4 ข้อบกพร่องจากการซ่อมแซมสิ่งบกพร่องช ารุด (Failure to Remedy Defects)

หำกผู้รับจ้ำงบกพร่องในกำรเยียวยำซ่อมแซมสิ่งบกพร่องช ำรุดภำยในเวลำที่เหมำะสม ผู้ว่ำ

จ้ำงอำจจะเป็นผู้ก ำหนดวันที่ต้องซ่อมให้แล้วเสร็จ ผู้รับจ้ำงต้องแจ้งเป็นหนังสือ วันที่กำร

ซ่อมแซมแล้วเสร็จ หำกผู้รับจ้ำงบกพร่องในกำรซ่อมแซมตำมวันที่ผู้ว่ำจ้ำงก ำหนดให้โดยผู้

รับจ้ำงต้องรับผิดชอบค่ำใช้จ่ำยในกำรซ่อมตำมข้อย่อย 11.2 (Cost of Remedying

Defects) ผู้ว่ำจ้ำงอำจจะ

(ก) ผู้ว่ำจ้ำงซ่อมแซมเองหรือให้ผู้อื่นซ่อม โดยอยู่ในค่ำใช้จ่ำยของผู้รับจ้ำง แต่ผู้รับจ้ำงจะไม่

รับควำมเสี่ยงของงำนซ่อมตำมสิทธิ์ข้อย่อย 2.5 (Employer’s Claims) ซึ่งผู้รับจ้ำงต้องจ่ำย

ค่ำซ่อมแซมแก่ผู้ว่ำจ้ำง

(ข) ผู้ว่ำจ้ำงต้องให้ควำมเห็นชอบหรือพิจำรณำกำรหักค่ำจ้ำงจำกค่ำจ้ำงตำมสัญญำตำมข้อ

ย่อย 3.5 (Determinations) หรือ

(ค) หำกสิ่งบกพร่องช ำรุดหรือควำมเสียหำยท ำให้ผู้ว่ำจ้ำงไม่สำมำรถใช้ประโยชน์จำกผลงำน

ก่อสร้ำงงำนทั้งหมดหรืองำนบำงส่วน กำรบอกเลิกสัญญำงำนทั้งหมดหรือบอกเลิกเพียง

บำงส่วนโดยไม่ส่งผลกระทบต่อสิทธิอื่นภำยใต้สัญญำนี้ หรือผู้ว่ำจ้ำงมีสิทธิ์เรียกคืนค่ำจ้ำง

ทั้งหมดที่ได้จ่ำยเป็นค่ำจ้ำงของงำนส่วนนั้นบวกค่ำใช้จ่ำยทำงกำรเงิน และค่ำใช้จ่ำยในกำร

รื้อถอน กำรท ำควำมสะอำดพื้นที่ กำรส่งคืนโรงงำน/โรงผลิต หรือวัสดุให้แก่ผู้รับจ้ำง

11.5 การรื้อถอนสิ่งช ารุดบกพร่อง (Renewal of Defective Work)

หำกสิ่งช ำรุดบกพร่องหรือควำมเสียหำยไม่สำมำรถซ่อมแซมให้ใช้งำนได้ในพื้นที่โครงกำร

และผู้ว่ำจ้ำงอนุญำตให้ผู้รับจ้ำงรื้อย้ำยออกจำกพื้นที่โครงกำรเพื่อท ำกำรซ่อมแซมส่วนที่

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-99 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

บกพร่องช ำรุด กำรยินยอมนี้อำจท ำให้ผู้รับจ้ำง ต้องเพิ่มหลักประกันผลงำนตำมสัญญำให้

เต็มมูลค่ำของรำยกำรนี้หรืออำจใช้หลักประกันอื่นที่เหมำะสม

11.6 การทดสอบเพิ่มเติม (Further Tests)

หำกกำรซ่อมสิ่งบกพร่องช ำรุดหรือควำมเสียหำย มีผลกระทบต่อกำรด ำเนินงำน ผู้ว่ำจ้ำง

อำจให้ผู้รับจ้ำง ท ำกำรทดสอบซ ้ำตำมที่ระบุไว้ในสัญญำนี้ โดยจะออกหนังสือแจ้งให้ผู้รับจ้ำง

ภำยใน 28 วัน หลังจำกสิ่งบกพร่องช ำรุดหรือเสียหำยได้กำรซ่อมแล้ว กำรทดสอบเพิ่ม

เหล่ำนี้จะด ำเนินกำรตำมขอบเขตงำนกำรทดสอบของครั้งที่แล้ว เว้นแต่กำรทดสอบนั้นอยู่

บนควำมเสี่ยงและค่ำใช้จ่ำยของผู้เกี่ยวข้องตำมหัวข้อย่อย 11.2 (Cost of Remedying

Defects)

11.7 สิทธิ์การเข้าออก (Right of Access)

จนกว่ำได้ออกหนังสือรับรอง กำรด ำเนินงำนได้ (Performance) ผู้รับจ้ำงจึงจะมีสิทธิ์เข้ำ

ออกเพื่อปฏิบัติงำนได้ตำมหัวข้อนี้เว้นแต่ต้องปฏิบัติตำมระเบียบกำรรักษำควำมปลอดภัย

ของผู้ว่ำจ้ำง

11.8 การตรวจหาของผู้รับจ้าง (Contractor to Search)

หำกเป็นควำมประสงค์ของผู้ว่ำจ้ำง ให้ผู้รับจ้ำงตรวจหำสำเหตุสิ่งบกพร่องช ำรุดตำมค ำสั่งวิธี

ของผู้ว่ำจ้ำง นอกจำกสิ่งบกพร่องช ำรุดนั้นต้องซ่อมด้วยค่ำใช้จ่ำยของผู้ว่ำจ้ำงตำมข้อย่อย

11.2 (Cost of Remedying Defects) ค่ำใช้จ่ำยในกำรตรวจหำบวกค่ำก ำไรนั้น ผู้ว่ำจ้ำง

ต้องเห็นชอบหรือผู้ว่ำจ้ำงพิจำรณำตำมหัวข้อย่อย 3.5 (Determination) ค่ำใช้จ่ำยจะรวม

เป็นค่ำจ้ำงตำมสัญญำ

11.9 หนังสือรับรองการด าเนินการ (Performance Certificate)

กำรปฏิบัติงำนตำมพันธะหน้ำที่ของผู้รับจ้ำงจะพิจำรณำเป็นงำนแล้วเสร็จได้จนกว่ำผู้ว่ำจ้ำง

ได้ออกหนังสือรับรองกำรด ำเนินงำนได้ให้แก่ผู้รับจ้ำง ระบุวันที่ซึ่งผู้รับจ้ำงได้ปฏิบัติพันธะ

หน้ำที่จนแล้วเสร็จตำมสัญญำ

ผู้ว่ำจ้ำงจะออกหนังสือรับรองกำรด ำเนินงำนให้ภำยใน 28 วัน ภำยหลังวันที่ครั้งสุดท้ำยของ

อำยุกำรแจ้งสิ่งบกพร่องช ำรุด หลังจำกนั้นผู้รับจ้ำงต้องส่งมอบเอกสำรรำยงำน และผลกำร

ทดสอบเมื่องำนแล้วเสร็จ รวมทั้งกำรซ่อมสิ่งบกพร่องช ำรุด กรณีผู้ว่ำจ้ำงไม่ออกใบรับรอง

กำรปฏิบัติงำน:

(ก) ใบรับรองกำรด ำเนินงำนให้ถือว่ำเป็นกำรออกในวันที่ 28 วันหลังจำกวันที่ควรได้รับกำร

ออกตำมควำมในข้อย่อยนี้ และ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-100 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

(ข) ข้อย่อย 11.11 (Clearance of Site) และวรรค (ก) ของข้อย่อย 14.14 (Cessation of

Employer’s Liability) จะไม่มีผลใช้บังคับ

เฉพำะใบรับรองกำรด ำเนินงำนถือว่ำเป็นกำรยอมรับผลงำน

11.10 พันธะหน้าที่ซึ่งยังไม่ได้ด าเนินการ (Unfulfilled Obligations)

ภำยหลังได้ออกหนังสือรับรองกำรด ำเนินงำนได้ คู่สัญญำยังคงต้องมีควำมพร้อมในกำร

ด ำเนินกำรใด ๆ ให้หน้ำที่พันธะที่ยังไม่ได้ด ำเนินกำร ณ เวลำนั้นตำมวัตถุประสงค์ของพันธะ

หน้ำที่ ให้สัญญำนั้นยังคงใช้บังคับต่อไป

11.11 การท าความสะอาดพื้นที่โครงการ (Clearance of Site)

ทันทีที่ได้รับหนังสือรับรองให้ด ำเนินงำนได้ ผู้รับจ้ำงต้องท ำกำรรื้อถอน เครื่องมือ สิ่งช ำรุดผุ

พัง มูลฝอย และโครงสร้ำงงำนชั่วครำวออกจำกพื้นที่โครงกำร

หำกสิ่งของดังกล่ำวข้ำงต้นยังไม่ได้ขนย้ำยภำยใน 28 วัน นับแต่ผู้รับจ้ำงได้รับหนังสือรับรอง

ให้ด ำเนินงำนได้ ผู้ว่ำจ้ำงอำจจะจ ำหน่ำยสิ่งของเหล่ำนั้น ผู้ว่ำจ้ำงมีสิทธิ์เรียกค่ำใช้จ่ำยอัน

เนื่องจำกกำรก ำจัดสิ่งเหลือใช้ดังกล่ำวข้ำงต้นและค่ำใช้จ่ำยในกำรท ำควำมสะอำดพื้นที่

โครงกำร

รำยได้จำกกำรขำยสิ่งเหลือใช้ดังกล่ำว ผู้ว่ำจ้ำงจะคืนให้แก่ผู้รับจ้ำง หำกรำยได้ไม่พอกับกำร

ขำยสิ่งเหลือใช้ดังกล่ำว ผู้รับจ้ำงต้องจ่ำยชดเชยให้แก่ผู้ว่ำจ้ำง

12. การทดสอบเมื่องานแล้วเสร็จ (Tests after Completion)

12.1 ขั้นตอนวิธีการทดสอบเมื่องานแล้วเสร็จ (Procedure for Tests after Completion)

หำกกำรทดสอบหลังจำกงำนเสร็จสิ้น ได้ระบุไว้ในสัญญำให้ใช้รำยละเอียดตำมข้อนี้ เว้นแต่

จะระบุไว้เป็นอย่ำงอื่นในเงื่อนไขเฉพำะ:

(ก) ผู้ว่ำจ้ำงจะต้องจัดหำไฟฟ้ำ เชื้อเพลิง และวัสดุทั้งหมดพร้อมทั้งจัดหำบุคลำกรและ

โรงงำน/โรงผลิต ของผู้ว่ำจ้ำงให้พร้อม

(ข) ผู้รับจ้ำงต้องจัดหำอุปกรณ์เครื่องมือและบุคลำกรที่มีประสบกำรณ์และเหมำะสมตำมที่

จ ำเป็นเพื่อให้กำรทดสอบเสร็จสิ้นอย่ำงมีประสิทธิภำพ และ

(ค) ผู้รับจ้ำงจะต้องท ำกำรทดสอบหลังจำกเสร็จสิ้นในสถำนที่ท ำงำนของผู้ว่ำจ้ำงและ/หรือ

บุคลำกรของผู้รับจ้ำงดังกล่ำวตำมที่คู่สัญญำฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งอำจร้องขอ

กำรทดสอบภำยหลังเสร็จสิ้น จะต้องด ำเนินกำรโดยเร็วที่สุดเท่ำที่จะเป็นไปได้ ในทำงปฏิบัติ

หลังจำกที่โรงงำน/โรงผลิต หรือส่วนงำนถูกครอบครองโดยผู้ว่ำจ้ำง ผู้ว่ำจ้ำงจะต้องแจ้งให้

ผู้รับจ้ำงทรำบล่วงหน้ำ 21 วัน นับจำกวันที่จะด ำเนินกำรทดสอบหลังจำกงำนเสร็จสิ้น เว้น

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-101 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

แต่จะได้ตกลงกันเป็นอย่ำงอื่น กำรทดสอบเหล่ำนี้จะต้องด ำเนินกำรภำยใน 14 วันหลังจำก

วันดังกล่ำว หรือวันที่ก ำหนดโดยผู้ว่ำจ้ำง

ผลกำรทดสอบหลังจำกงำนเสร็จสิ้นจะต้องรวบรวมและประเมินผลโดยผู้รับจ้ำงซึ่งจะต้อง

จัดท ำรำยงำนโดยละเอียด บัญชีที่เหมำะสมจะต้องค ำนึงถึงผลกระทบจำกกำรใช้งำนของผู้

ว่ำจ้ำงก่อนหน้ำนี้

12.2 การทดสอบที่ล่าช้า (Delayed Test)

หำกผู้รับจ้ำงต้องเสียค่ำใช้จ่ำยอันเนื่องมำจำกกำรที่ผู้ว่ำจ้ำงไม่สำมำรถด ำเนินกำรทดสอบได้

ภำยในเวลำที่ก ำหนด ผู้รับจ้ำงต้อง (1) แจ้งให้ผู้ว่ำจ้ำงทรำบและ (2) มีสิทธิตำมข้อ 20.1

(Contractor’s Claim) เพื่อกำรช ำระเงินดังกล่ำวบวกก ำไรที่สมเหตุสมผลซึ่งจะถูกเพิ่มเข้ำ

ไปในรำคำตำมสัญญำ

หลังจำกได้รับหนังสือแจ้งนี้ ผู้ว่ำจ้ำงจะต้องด ำเนินกำรตำมข้อ 3.5 (Determinations) เพื่อ

ตกลงหรือก ำหนดค่ำใช้จ่ำยและผลก ำไรนี้

หำกไม่ได้รับกำรทดสอบหลังจำกเสร็จสิ้นกำรท ำงำนหรือส่วนใด ๆ ในช่วงระยะเวลำกำรแจ้ง

ควำมบกพร่อง (หรือระยะเวลำอื่นใดที่คู่สัญญำทั้งสองฝ่ำยตกลงกัน) งำนหรือส่วนงำนจะถือ

ว่ำผ่ำนกำรทดสอบนี้

12.3 การทดสอบซ ้า (Retesting)

หำกงำนหรือส่วนงำนไม่ผ่ำนกำรทดสอบหลังจำกเสร็จสิ้น:

(ก) ย่อหน้ำย่อย (ข) ของข้อย่อย 11.1 (Completion of Outstanding Work and

Remedying of Defects) จะใช้บังคับ และ

(ข) คู่สัญญำฝ่ำยหนึ่งฝ่ำยใด อำจเรียกร้องให้มีกำรทดสอบซ ้ำ ส ำหรับกำรทดสอบที่ล้มเหลว

และกำรทดสอบหลังจำกงำนแล้วเสร็จ ภำยใต้เงื่อนไขนี้

หำกและในส่วนที่ควำมล้มเหลวและกำรทดสอบใหม่นี้ มีสำเหตุมำจำกประเด็นใด ๆ ที่ระบุ

ไว้ในอนุวรรค (ก) ถึง (ง) ของข้อย่อย 11.2 (Cost of Remedying Defects) และท ำให้ผู้ว่ำ

จ้ำงต้องเสียค่ำใช้จ่ำยเพิ่มเติม ผู้รับจ้ำง ภำยใต้ข้อย่อย 2.5 (Employer’s Claim) จะจ่ำย

ค่ำใช้จ่ำยเหล่ำนี้ให้กับผู้ว่ำจ้ำง

12.4 ไม่ผ่านการทดสอบหลังจากงานเสร็จสิ้น (Failure to Pass Tests after Completion)

หำกมีเงื่อนไขดังต่อไปนี้คือ

(ก) งำนหรือส่วนใด ๆ ไม่ผ่ำนกำรทดสอบ หรือกำรทดสอบภำยหลังงำนแล้วเสร็จทั้งหมด

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-102 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

(ข) จะมีกำรระบุจ ำนวนเงินที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นค่ำเสียหำยที่ไม่เป็นไปตำมข้อก ำหนดส ำหรับ

ข้อผิดพลำดนี้ (หรือวิธีกำรค ำนวณที่ระบุไว้) ในสัญญำ และ

(ค) ผู้รับจ้ำงจ่ำยเงินค่ำเสียหำยที่เกี่ยวข้องให้กับผู้ว่ำจ้ำงในช่วงระยะเวลำแจ้งควำมบกพร่อง

(Defects Notification Period)

จำกนั้นงำนหรือส่วนงำนจะถือว่ำผ่ำนกำรทดสอบหลังจำกงำนแล้วเสร็จ

หำกงำนหรือส่วนงำนใดไม่ผ่ำนกำรทดสอบหลังจำกงำนแล้วเสร็จ และผู้รับจ้ำงเสนอที่จะท ำ

กำรปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขงำนหรือส่วนงำนดังกล่ำว ผู้รับจ้ำงอำจได้รับค ำสั่งจำก (หรือใน

นำมของ) ผู้ว่ำจ้ำงถึงสิทธิ์ในกำรเข้ำถึง ไม่สำมำรถก ำหนดได้ จนกว่ำจะถึงเวลำที่สะดวกของ

ผู้ว่ำจ้ำง จำกนั้นผู้รับจ้ำงจะต้องรับผิดต่อกำรปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขและปฏิบัติตำมกำร

ทดสอบนี้ ภำยในระยะเวลำอันสมควรที่จะได้รับกำรแจ้งโดยผู้ว่ำจ้ำงหรือในนำมของผู้ว่ำจ้ำง

ในเวลำที่เหมำะสม

อย่ำงไรก็ตำมหำกผู้รับจ้ำงไม่ได้รับหนังสือบอกกล่ำวในช่วงระยะเวลำแจ้งควำมบกพร่องที่

เกี่ยวข้อง ผู้รับจ้ำงจะได้รับกำรปลดเปลื้องภำระผูกพันจำกงำนหรือส่วนงำน (แล้วแต่กรณี)

และจะถือว่ำผ่ำนกำรทดสอบนี้

หำกผู้รับจ้ำงเสียค่ำใช้จ่ำยเพิ่มเติมอันเป็นผลมำจำกกำรที่ผู้ว่ำจ้ำงไม่อนุญำตให้เข้ำท ำงำน

โดยไม่แจ้งให้ทรำบล่วงหน้ำ เพื่อตรวจหำสำเหตุของควำมล้มเหลวในกำรทดสอบหลังจำก

งำนแล้วเสร็จ หรือเพื่อด ำเนินกำรปรับเปลี่ยนหรือแก้ไขใด ๆ ผู้รับจ้ำงต้อง (1) แจ้งให้ผู้ว่ำ

จ้ำงทรำบและ (2) มีสิทธิภำยใต้ข้อย่อย 20.1 (Contractor’s Claims) เพื่อจ่ำยค่ำใช้จ่ำย

ดังกล่ำวรวมทั้งผลก ำไรที่สมเหตุสมผลซึ่งจะเพิ่มในรำคำตำมสัญญำ

หลังจำกได้รับหนังสือแจ้งนี้ผู้ว่ำจ้ำงจะต้องด ำเนินกำรตำมข้อ 3.5 (Determinations) เพื่อ

ตกลงหรือก ำหนดค่ำใช้จ่ำยและผลก ำไรนี้

13. การเปลี่ยนแปลงและการปรับแก้ไข (Variations and Adjustments)

13.1 สิทธิในการเปลี่ยนแปลง (Right to Vary)

กำรเปลี่ยนแปลงอำจเริ่มจำกผู้ว่ำจ้ำงได้ตลอดเวลำก่อนจะออกหนังสือกำรรับมอบงำนโดย

ค ำสั่งของผู้ว่ำจ้ำงหรือกำรร้องขอให้ผู้รับจ้ำงจัดท ำข้อเสนอ ผู้รับจ้ำงต้องด ำเนินกำรและมี

หน้ำที่ในทุกรำยกำรของกำรเปลี่ยนแปลง เว้นแต่ผู้รับจ้ำงจะมีหนังสือแจ้งพร้อมรำยงำนให้

ผู้ว่ำจ้ำงว่ำไม่พร้อมจะจัดหำพัสดุเพื่อกำรเปลี่ยนแปลงนั้น ทันทีที่ผู้ว่ำจ้ำงได้รับหนังสือจำก

ผู้รับจ้ำง ผู้ว่ำจ้ำงต้องยกเลิกค ำสั่งหรือเปลี่ยนแปลงค ำสั่งใหม่

(ก) เปลี่ยนปริมำณรำยกำรหนึ่งรำยกำรใดของงำนซึ่งรวมอยู่ในสัญญำ (อย่ำงไรก็ดีกำร

เปลี่ยนแปลงนั้นไม่จ ำเป็นต้องเป็นรำยกำรเปลี่ยนแปลง (Vary))

(ข) เปลี่ยนคุณภำพและคุณลักษณะอื่นของรำยกำรใด ๆ ของงำน

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-103 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

(ค) เปลี่ยนระดับ ต ำแหน่ง และมิติของส่วนใดของรำยกำรงำน

(ง) ส่วนยกเว้นของงำนใด ๆ เว้นแต่เป็นงำนของรำยอื่น

(จ) งำนเพิ่มใด ๆ โรงงำน/โรงผลิต หรือวัสดุ และบริกำรที่จ ำเป็นส ำหรับงำนถำวรรวมทั้ง

กำรทดสอบที่เกี่ยวข้องเมื่องำนแล้วเสร็จ หลุมเจำะและกำรทดสอบอื่น รวมถึงกำรเจำะ

ส ำรวจ หรือ

(ฉ) เปลี่ยนล ำดับขั้นตอนหรือช่วงระยะเวลำกำรท ำงำนก่อสร้ำง

ผู้รับจ้ำงต้องไม่เปลี่ยนแปลงใด ๆ และหรือดัดแปลงส่วนใดของงำนถำวร เว้นแต่ และ

จนกว่ำผู้ว่ำจ้ำงจะมีค ำสั่งอนุมัติกำรเปลี่ยนแปลงก่อน

ผู้ว่ำจ้ำงสำมำรถเปลี่ยนแปลงงำนได้ตลอดเวลำก่อนที่จะมีกำรออกใบรับรองกำรรับงำน โดย

ค ำสั่งหรือโดยกำรขอให้ผู้รับจ้ำงยื่นข้อเสนอ กำรเปลี่ยนแปลงจะต้องไม่รวมถึงกำรละเว้น

กำรท ำงำนใด ๆ ที่จะต้องด ำเนินกำรโดยผู้อื่น

ผู้รับจ้ำงจะต้องด ำเนินกำร และผูกพันตำมรูปแบบกำรเปลี่ยนแปลง เว้นแต่ผู้รับจ้ำงจะแจ้ง

ให้ผู้ว่ำจ้ำงโดยทันที (พร้อมรำยละเอียดที่สนับสนุน) ว่ำ (1) ผู้รับจ้ำงไม่สำมำรถรับสินค้ำที่

จ ำเป็นส ำหรับกำรเปลี่ยนแปลงได้ (2) จะมีผลในกำรลดควำมปลอดภัย หรือควำมเหมำะสม

ของผลงำนหรือ (3) มีผลกระทบต่อควำมส ำเร็จของกำรรับประกันผลกำรปฏิบัติงำน เมื่อ

ได้รับหนังสือแจ้งนี้ผู้ว่ำจ้ำงจะต้องยกเลิกกำรยืนยัน หรือเปลี่ยนแปลงค ำสั่ง

13.2 วิศวกรรมคุณค่า (Value Engineering)

ตลอดเวลำผู้รับจ้ำงอำจจะจัดท ำรำยงำนข้อเสนอเสนอต่อผู้ว่ำจ้ำง (ตำมควำมเห็นของ

ผู้รับจ้ำง) หำกจะยอมรับ

(1) เร่งให้งำนแล้วเสร็จเร็วขึ้น

(2) ประหยัดค่ำก่อสร้ำง ให้แก่ผู้ว่ำจ้ำงในกำรด ำเนินกำร กำรบ ำรุงรักษำเมื่อเปิดด ำเนินกำร

กิจกำร

(3) เพิ่มประสิทธิภำพหรือคุณค่ำต่อโครงกำรของผู้ว่ำจ้ำง หรือ

(iv) เป็นผลประโยชน์ต่อผู้ว่ำจ้ำง

ผู้รับจ้ำงต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่ำใช้จ่ำยในกำรจัดท ำรำยงำนข้อเสนอพร้อมด้วยรำยกำรตำม

ข้อย่อย 13.3 (Variation Procedure)

13.3 วิธีการเปลี่ยนแปลง (Variation Procedure)

หำกผู้ว่ำจ้ำงต้องกำรให้ผู้รับจ้ำงจัดท ำข้อเสนอก่อนที่ผู้ว่ำจ้ำงจะออกค ำสั่งเรื่องกำร

เปลี่ยนแปลง ผู้รับจ้ำงต้องตอบสนองด้วยลำยลักษณ์อักษรโดยเร็วด้วยกำรให้เหตุผลว่ำไม่

สำมำรถด ำเนินกำรตำมได้หรือโดยกำรยื่นข้อเสนอ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-104 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

(ก) ค ำอธิบำยของงำนที่เสนอที่จะด ำเนินกำรพร้อมกับแผนงำนที่จะด ำเนินกำร

(ข) ข้อเสนอของผู้รับจ้ำงที่จ ำเป็นต้องปรับปรุงกับแผนงำนตำมข้อย่อย 8.3 (Programme)

และระยะเวลำที่แล้วเสร็จ และ

(ค) หำกข้อเสนอของผู้รับจ้ำงต้องท ำตรวจวิเครำะห์กำรเปลี่ยนแปลงรำคำสัญญำนั้น

ผู้ว่ำจ้ำงจะต้องกระท ำโดยเร็วที่สุด ภำยหลังได้รับข้อเสนอของผู้รับจ้ำงตำมข้อย่อย 13.2

(Value Engineering) หรืออย่ำงอื่นเพื่อกำรพิจำรณำอนุมัติหรือไม่อนุมัติหรือให้ข้อคิดเห็น

ผู้รับจ้ำงต้องไม่ชักช้ำในกำรท ำงำนใด ๆ ในระหว่ำงรอกำรพิจำรณำ

ทุกค ำสั่งในกำรเปลี่ยนแปลงที่มีค่ำใช้จ่ำย จะต้องเป็นค ำสั่งจำกผู้ว่ำจ้ำงที่ออกให้แก่ผู้รับจ้ำง

และผู้รับจ้ำงต้องออกใบเสร็จให้

เมื่อได้รับค ำแนะน ำหรืออนุมัติกำรเปลี่ยนแปลง ผู้ว่ำจ้ำงจะด ำเนินกำรตำมข้อย่อย 3.5

(Determinations) เพื่อตกลงหรือก ำหนดกำรปรับรำคำสัญญำและก ำหนดกำรช ำระเงิน

กำรปรับค่ำใช้จ่ำยเหล่ำนี้จะรวมถึงผลก ำไรที่สมเหตุสมผล และจะต้องค ำนึงถึงกำรส่งของผู้

รับจ้ำงตำมข้อย่อย 13.2 (Value Engineering)

13.4 ค่าจ้างตามสกุลเงินที่ก าหนด (Payment in Applicable Currencies)

ถ้ำผู้รับจ้ำงขอเบิกค่ำจ้ำงมำกกว่ำหนึ่งสกุลเงิน เมื่อทั้งสองฝ่ำยได้ปรับจ ำนวนเงินตำมที่ตกลง

ตำมที่ได้พิจำรณำและอนุมัติเห็นชอบแล้วตำมจ ำนวนเงินและตำมแต่ละรำยกำรจ่ำยของ

สกุลเงินแล้ว ตำมวัตถุประสงค์ กำรอ้ำงอิงต้องเป็นไปตำมจริงและตำมที่คำดหมำยไว้ตำม

สัดส่วนของงำนและมูลค่ำงำน

13.5 เงินส ารองเผื่อจ่าย (Provisional Sum)

เงินส ำรองเผื่อจ่ำยแต่ละรำยกำร จะใช้ได้ทั้งหมดหรือบำงส่วนนั้นต้องเป็นไปตำมค ำสั่งของ

ผู้ว่ำจ้ำง และรำคำงำนตำมสัญญำจะต้องถูกปรับตำมนั้น จ ำนวนทั้งหมดที่จ่ำยให้ผู้รับจ้ำงจะ

รวมจ ำนวนเงินนั้นเท่ำนั้นเพื่องำน วัสดุ หรือค่ำบริกำรที่เกี่ยวข้อง เงินส ำรองเผื่อจ่ำย ตำมที่

ผู้ว่ำจ้ำงสั่งกำร เงินส ำรองเผื่อจ่ำยแต่ละรำยกำร ผู้ว่ำจ้ำงอำจมีค ำสั่งดังนี้

(ก) งำนที่จะด ำเนินกำร (รวมอุปกรณ์ประกอบโรงงำน/โรงผลิต วัสดุและบริกำร) โดยผู้รับ

จ้ำงและคิดรำคำตำมข้อย่อย 13.3 (Variation Procedure) และหรือ

(ข) อุปกรณ์ประกอบโรงงำน/โรงผลิต วัสดุ หรือบริกำรที่ผู้รับจ้ำงจัดซื้อจำกผู้รับจ้ำงช่วงที่

ก ำหนด ตำมข้อ 5 (Nominated Subcontractors) หรือมิฉะนั้นจะรวมอยู่ในรำคำงำน

(ค่ำจ้ำง) ในสัญญำ

(1) ตำมจ ำนวนที่จ่ำยจริง (หรือที่ค้ำงจ่ำย) โดยผู้รับจ้ำง และ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-105 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

(2) ค่ำด ำเนินกำรและก ำไรโดยค ำนวนตำมร้อยละของจ ำนวนจ่ำยจริงตำมจ ำนวนที่ก ำหนด

ไว้ (ถ้ำมี) ในรำยกำรหนึ่งรำยกำรใด หำกไม่มีก ำหนดไว้ให้ใช้อัตรำร้อยละตำมที่ก ำหนดไว้ใน

สัญญำ

13.6 ค่างานรายวัน (Day Work)

ส ำหรับงำนเล็กหรืองำนปกติวิสัย ผู้ว่ำจ้ำงอำจจะสั่งให้ท ำงำนที่มีกำรเปลี่ยนแปลงใน

ช่วงเวลำท ำงำนของวันท ำงำนปกติ ฉะนั้นผู้รับจ้ำงจะคิดค่ำจ้ำงงำนในอัตรำท ำงำนปกติ

วิธีกำรต่อไปนี้จะน ำมำใช้ในรำยกำรแผนงำนรำยวันตำมสัญญำ หัวข้อย่อย 13.6 นี้จะไม่

น ำมำใช้

ก่อนที่จะมีกำรสั่งซื้อสินค้ำเพื่องำนนั้น ๆ ผู้รับจ้ำงต้องแสดงใบเสนอรำคำให้แก่ผู้ว่ำจ้ำง เมื่อ

ผู้รับจ้ำงเสนอเบิกค่ำจ้ำง ผู้รับจ้ำงต้องแนบใบแจ้งหนี้ กำรซื้อ รำยกำรซื้อ บัญชีรำยกำรและ

ใบเสร็จสินค้ำ

เว้นแต่ส ำหรับหัวข้องำนในแผนงำนรำยวันนั้นไม่มีจ่ำย ผู้รับจ้ำงต้องจัดส่งรำยกำรพร้อมใบ

ส ำเนำให้แก่ผู้ว่ำจ้ำงทุกวันซึ่งต้องรวมทั้งรำยละเอียดในกำรใช้ทรัพยำกรทั้งปวง ซึ่งไม่รวมกับ

กำรใช้ทรัพยำกรของวันอื่น ๆ โดยระบุ

(ก) ชื่อ ต ำแหน่ง และจ ำนวนชั่วโมงท ำงำนของบุคลำกรของผู้รับจ้ำง

(ข) ชื่อเครื่องมือ ประเภทเครื่องมือ และจ ำนวนชั่วโมงท ำงำนของเครื่องมือของผู้รับจ้ำง

(ค) ปริมำณ/จ ำนวน และประเภทอุปกรณ์ประกอบโรงงำน/โรงผลิตและวัสดุที่ผู้รับจ้ำงใช้

ส ำเนำของแต่ละรำยกำรที่มีควำมถูกต้องและได้รับควำมเห็นชอบกันแล้ว ผู้ว่ำจ้ำงต้องลง

นำมและส่งคืนให้ผู้รับจ้ำง ผู้รับจ้ำงจึงยื่นใบรำยกำรรำคำให้แก่ผู้ว่ำจ้ำง ก่อนที่ผู้รับจ้ำงยื่น

เสนอรำยกำรใหม่ ภำยใต้หัวข้อย่อย 14.3 (Application for Interim Payment

Certificate)

13.7 การปรับปรุงแก้ไขเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงตามกฎหมาย (Adjustments for Changes

in Legislation)

รำคำงำน (ค่ำจ้ำง) ตำมสัญญำจะถูกพิจำรณำปรับขึ้นหรือปรับลดตำมผลแห่งกำร

เปลี่ยนแปลงกฎหมำยใหม่ของประเทศนั้น ๆ (รวมถึงกำรเปลี่ยนกฎหมำยใหม่ และกำร

ยกเลิก หรือกำรแก้ไขกฎหมำยที่มีอยู่) หรือกำรตีควำมของรัฐบำล กำรปรับปรุงแก้ไขสัญญำ

ให้เป็นไปตำมวันที่มีผลตำมกฎหมำยบังคับ ซึ่งสงผลกระทบตอผูรับจ้ำงในกำรปฏิบัติตำม

ขอผูกพันภำยใตสัญญำ

หำกผู้รับจ้ำงต้องรับภำระ (หรือจะต้องรับภำระ) และ/หรือต้องเสียค่ำใช้จ่ำยเพิ่มเติม (หรือ

จะเพิ่มขึ้น) เนื่องจำกกำรเปลี่ยนแปลงในเรื่องกฎหมำยหรือในกำรตีควำมดังกล่ำว ซึ่งท ำขึ้น

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-106 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

หลังจำกวันฐำน ผู้รับจ้ำงจะแจ้งให้ผู้ว่ำจ้ำงทรำบ และจะได้รับสิทธิภำยใต้ข้อย่อย 20.1

(Contractor’s Claim) เพื่อ:

(ก) กำรขยำยระยะเวลำกำรล่ำช้ำดังกล่ำว หำกเสร็จสิ้นหรือจะล่ำช้ำภำยใต้หัวข้อย่อยที่ 8.4

(Extension of Time for Completion) และ

(ข) กำรช ำระเงินค่ำใช้จ่ำยดังกล่ำว ซึ่งจะรวมอยู่ในรำคำตำมสัญญำ

หลังจำกได้รับหนังสือแจ้งนี้ ผู้ว่ำจ้ำงจะต้องด ำเนินกำรตำมข้อย่อย 3.5 (Determinations)

เพื่อตกลงหรือก ำหนดเรื่องเหล่ำนี้

13.8 การปรับราคา (Adjustments for Changes in Cost)

หำกรำคำสัญญำมีกำรปรับเพิ่มขึ้นหรือลดลงในต้นทุนแรงงำนสินค้ำและปัจจัยกำรผลิตอื่น ๆ

กำรปรับค่ำทดแทนให้ค ำนวณตำมข้อก ำหนดในเงื่อนไขเฉพำะ

14. ค่าจ้างตามสัญญาและการจ่ายเงิน (Contract Price and Payment)

14.1 ค่าจ้างตามสัญญา (The Contract Price)

เว้นแต่ได้ระบุในเงื่อนไขพิเศษ

(ก) กำรจ่ำยเงินส ำหรับงำนก่อสร้ำงจะจ่ำยบนพื้นฐำนรำคำเหมำรวม โดยอำจมีกำรปรับ

รำคำตำมที่ระบุในสัญญำ และ

(ข) ผู้รับจ้ำงต้องจ่ำยภำษีทั้งปวง ค่ำธรรมเนียม ภำษีสรรพสำมิต ตำมที่สัญญำระบุไว้ และ

ค่ำจ้ำงตำมสัญญำจะถูกปรับเพิ่มลดตำมค่ำภำษีไม่ได้ เว้นแต่ที่ระบุไว้ในข้อย่อย 13.7

(Adjustments for Change in Ligislation)

14.2 เงินล่วงหน้า (Advance Payment)

ผู้ว่ำจ้ำงจะมีกำรจ่ำยเงินล่วงหน้ำเสมือนหนึ่งเป็นเงินกู้ ไม่มีดอกเบี้ย ส ำหรับกำรเตรียมงำน

และออกแบบให้แก่ผู้รับจ้ำง โดยผู้รับจ้ำงต้องวำงหลักค ้ำประกันกำรจ่ำยเงินล่วงหน้ำ ตำมที่

ระบุในเงื่อนไขเฉพำะ หำกมิได้ระบุให้ด ำเนินกำรตำมนี้:

(ก) จ ำนวนเงินที่ช ำระล่วงหน้ำ ตำมข้อย่อยนี้ ไม่มีผลใช้บังคับ

(ข) จ ำนวนและระยะเวลำผ่อนช ำระ ให้มีเพียงอย่ำงใดอย่ำงหนึ่งเท่ำนั้น

(ค) สกุลเงินและสัดส่วนที่ใช้บังคับให้เป็นรำคำที่ต้องช ำระ และ/หรือ

(ง) อัตรำกำรหักส ำหรับกำรช ำระคืนให้ค ำนวณโดยกำรหำรยอดรวมของกำรช ำระเงิน

ล่วงหน้ำตำมรำคำตำมสัญญำที่ระบุไว้ในสัญญำลงหักด้วยยอดเงินส ำรองเผื่อจ่ำย

ผู้ว่ำจ้ำงจะต้องจ่ำยเงินงวดแรกหลังจำกได้รับ (1) Statement (ภำยใต้ ข้อย่อย 14.3

(Application for Interim Payments)) (2) Performance Security ตำมข้อย่อย 4.2

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-107 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

(Performance Security) และ (3) กำรรับประกันในจ ำนวนและสกุลเงินเท่ำกับกำรช ำระ

เงินล่วงหน้ำ กำรรับประกันนี้จะออกโดยนิติบุคคลและจำกภำยในประเทศ (หรือเขตอ ำนำจ

ศำลอื่น ๆ ) ที่ได้รับอนุมัติโดยผู้ว่ำจ้ำง และจะต้องอยู่ในรูปแบบที่แนบมำกับเงื่อนไขเฉพำะ

หรือในรูปแบบอื่นที่ได้รับกำรอนุมัติจำกผู้ว่ำจ้ำง เว้นแต่และจนกว่ำผู้ว่ำจ้ำงจะได้รับกำร

รับประกัน โดยข้อย่อยนี้ไม่มีผลใช้บังคับ

ผู้รับจ้ำงต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ำกำรรับประกันเป็นไปอย่ำงถูกต้องและสำมำรถบังคับใช้ได้

จนกว่ำจะได้รับกำรช ำระเงินล่วงหน้ำ แต่จ ำนวนเงินที่ได้รับอำจจะลดลงตำมปริมำณที่ผู้

รับจ้ำงต้องชดใช้ หำกเงื่อนไขของกำรรับประกันระบุวันหมดอำยุและกำรช ำระเงินล่วงหน้ำ

ยังไม่ได้รับกำรช ำระคืนภำยใน 28 วันก่อนวันหมดอำยุ ผู้รับจ้ำงต้องต่ออำยุของกำรค ้ำ

ประกันให้ถูกต้องจนกว่ำจะช ำระเงินล่วงหน้ำ

กำรช ำระเงินล่วงหน้ำจะช ำระคืนผ่ำนกำรหักเงินตำมสัดส่วนในกำรช ำระเงินงวด (หรือหำก

ไม่ได้ระบุไว้ตำมที่ระบุไว้ในข้อย่อย (ง) ข้ำงต้น) ซึ่งจะใช้กับยอดเงินที่ครบก ำหนด (ไม่รวม

กำรช ำระเงินล่วงหน้ำ กำรหักเงินและกำรช ำระคืนเงินคงค้ำง) จนกว่ำจะถึงเวลำช ำระเงิน

ล่วงหน้ำ

หำกกำรช ำระเงินล่วงหน้ำยังไม่ได้รับช ำระก่อนที่จะมีกำรออกใบรับรองกำรครอบครองงำน

หรือก่อนที่จะเลิกจ้ำงตำมข้อ 15 (Terminate by Employer) ข้อ 16 (Suspension and

Termination by Contractor) หรือข้อ 19 (Force Majeure) (แล้วแต่กรณี) ทั้งยอดคง

ค้ำงที่ค้ำงช ำระจะต้องครบก ำหนดและเจ้ำหนี้จะต้องจ่ำยให้กับผู้ว่ำจ้ำง

14.3 การออกหนังสือรับรองการจ่ายงวดค่าจ้าง (Application for Interim Payment

Certificates)

ผู้รับจ้ำงต้องจัดส่งรำยงำนทุกเดือนให้แก่ผู้ว่ำจ้ำงตำมแบบฟอร์มที่ก ำหนดให้ในรำยงำน โดย

แสดงรำยละเอียดจ ำนวนเงินค่ำจ้ำงที่ผู้รับจ้ำงคำดว่ำจะได้รับจ่ำยพร้อมกับเอกสำร

ประกอบกำรขอเบิกจ่ำย เช่น รำยงำนควำมก้ำวหน้ำรำยเดือนตำมข้อย่อย 4.21 (Progress

Reports)

รำยงำนขอเบิกจ่ำยต้องประกอบด้วยรำยกำรดังนี้ พร้อมด้วยรำยละเอียดแสดงรำยกำรกำร

จ่ำยเงินเป็น สกุลเงินต่ำง ๆ ในสัญญำ ตำมล ำดับดังนี้

(ก) กำรประมำณกำร ค่ำจ้ำงตำมสัญญำ ซึ่งได้ด ำเนินกำรแล้วตำมเอกสำร ณ สิ้นเดือนของ

ผู้รับจ้ำง (รวมทั้งงำนที่มีกำรเปลี่ยนแปลง) ตำมข้อ (ข) (ค)…. (ช) ข้ำงล่ำงนี้

(ข) จ ำนวนเงินเพิ่มหรือเงินลดตำมเงื่อนไขกำรเปลี่ยนแปลงตำมกฎหมำยและกำรปรับรำคำ

ค่ำใช้จ่ำยตำมข้อย่อย 13.7 (Adjustments for Changes in Legislation) และข้อย่อย

13.8 (Adjustments for Changes in Cost)

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-108 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

(ค) จ ำนวนเงินหัก ณ ที่จ่ำยตำมที่ก ำหนดในเอกสำรแนบผนวกในเอกสำรประกวดรำคำ

จนกว่ำจะครบจ ำนวนหัก ณ ที่จ่ำย

(ง) จ ำนวนเงินเพิ่มและหรือเงินลดของเงินล่วงหน้ำหรือเงินจ่ำยคืนตำมข้อย่อย 14.2

(Advanced Payment)

(จ) จ ำนวนเงินเพิ่มและหรือลดส ำหรับอุปกรณ์ประกอบโรงงำน/โรงผลิตและวัสดุตำมข้อ

ย่อย14.5 (Plant and Materials Intended for Works)

(ฉ) จ ำนวนเงินเพิ่มและเงินลดอื่น ๆ ซึ่งอำจครบงวดกำรจ่ำยตำมสัญญำหรืออื่น ๆ ในข้อ 20

(Claims, Disputes and Arbitration) และ

(ช) จ ำนวนเงินลดที่ก ำหนดไว้ในหนังสือรับรองผลงำนที่ผ่ำนมำ

14.4 ตารางแผนการจ่ายเงิน (Schedule of Payments)

หำกในสัญญำมีตำรำงแผนกำรจ่ำยเงินระบุงวดที่จะมีกำรจ่ำยเงินไว้ เว้นแต่จะระบุไว้เป็น

อย่ำงอื่นในตำรำงนี้:

(ก) งวดในตำรำงกำรช ำระเงินจะ เป็นค่ำประมำณกำรของสัญญำ ตำมวัตถุประสงค์ของวรรค

(ก) ของข้อย่อย 14.3 (Application for Interim Payments) ภำยใต้ข้อย่อย 14.5 (Plant

and Materials intend for the Works) และ

(ข) หำกงำนนั้นยังล่ำช้ำกว่ำแผนงำนจริงของกำรจ่ำยเงินงวด ฉะนั้น ผู้ว่ำจ้ำงต้องพิจำรณำ

ตำมข้อย่อย 3.5 (Determinations) ในกำรปรับแก้กำรจ่ำยงวดค่ำจ้ำงให้สอดคล้องกับ

ควำมก้ำวหน้ำจริงของงำนนั้น

หำกสัญญำไม่ได้รวมตำรำงแผนกำรจ่ำยเงินไว้ ให้ผู้รับจ้ำงแนบรำยกำรกำรประมำณกำร

ค่ำจ้ำงที่ต้องจ่ำยทุก ๆ 4 เดือน โดยต้องยื่นเสนอภำยในเวลำ 42 วันนับแต่วันที่เริ่มงำน

ประมำณกำรค่ำจ้ำงที่ได้ปรับแก้แล้วจะต้องส่งทุก 4 เดือน จนกว่ำผู้ว่ำจ้ำงออกใบรับรอง

ผลงำนให้

14.5 อุปกรณ์โรงงาน/โรงผลิตและวัสดุเพื่อการท างาน (Plant and Material Intended

for the Works)

หำกผู้รับจ้ำงได้รับสิทธิตำมสัญญำในกำรช ำระเงินระหว่ำงกำลส ำหรับโรงงำน/โรงผลิต และ

วัสดุซึ่งยังไม่ได้น ำเข้ำในสถำนที่ก่อสร้ำง ผู้รับจ้ำงจะยังคงไม่มีสิทธิ์ได้รับเงินดังกล่ำวเว้นแต่

ว่ำ:

(ก) โรงงำน/โรงผลิต และวัสดุที่เกี่ยวข้องอยู่ในประเทศและได้รับกำรท ำเครื่องหมำยว่ำเป็น

ทรัพย์สินของผู้ว่ำจ้ำงตำมค ำสั่งของนำยจ้ำง หรือ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-109 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

(ข) ผู้รับจ้ำงได้จัดส่งหลักฐำนกำรประกันและกำรรับประกันธนำคำรในรูปแบบและออกโดย

ธนำคำรที่ได้รับอนุมัติโดยผู้ว่ำจ้ำง ในจ ำนวนและสกุลเงินเท่ำกับกำรช ำระเงินดังกล่ำว กำร

รับประกันนี้อำจอยู่ในรูปแบบเดียวกันกับแบบฟอร์มที่อ้ำงถึงในข้อย่อย 14.2 (Advance

Payment) และจะมีผลจนกว่ำโรงงำน/โรงผลิต และวัสดุจะได้รับกำรจัดเก็บอย่ำงถูกต้องใน

สถำนที่ก่อสร้ำง และป้องกันกำรสูญเสียควำมเสียหำยหรือกำรเสื่อมสภำพ

14.6 หนังสือรับรองการจ่ายงวดค่าจ้าง (Issue of Interim Payment Certificates)

ผู้ว่ำจ้ำงจะไม่จ่ำยเงินค่ำจ้ำงใด ๆ หำกยังไม่ได้รับหลักประกันสัญญำจำกผู้รับจ้ำง ดังนั้น

ภำยใน 28 วันเมื่อผู้ว่ำจ้ำงได้รับใบแจ้งหนี้พร้อมเอกสำรประกอบเพื่อขอเบิกจ่ำยงวด

ก่อสร้ำงจำกผู้ว่ำจ้ำง ผู้ว่ำจ้ำงจะพิจำรณำวินิจฉัยอย่ำงเป็นธรรมจำกเอกสำรต่ำง ๆ ที่รับจำก

ผู้รับจ้ำง

อย่ำงไรก็ดี ก่อนหนังสือรับรองกำรจ่ำยงวดค่ำจ้ำง ผู้ว่ำจ้ำงจะหักเงิน ณ ที่จ่ำย ตำมที่ก ำหนด

ไว้ ในเอกสำรแนบผนวกในเอกสำรประกวดรำคำ ผู้ว่ำจ้ำงจะบอกกล่ำวให้ผู้รับจ้ำงทรำบ

กำรออกหนังสือรับรองกำรจ่ำยงวดค่ำจ้ำง จะไม่มีกำรหน่วงเหนี่ยวไว้ด้วยเหตุผล หรือแม้แต่

ในเรื่องดังนี้

(ก) หำกพัสดุใด ๆ หรืองำนใด ๆ ที่ผู้รับจ้ำงท ำไม่เป็นไปตำมสัญญำ ค่ำใช้จ่ำยใดซึ่งเกิด

จำกกำรปรับแก้หรือมีกำรเปลี่ยนใหม่ อำจจะเก็บรั้งไว้จนกว่ำงำนที่มีกำรปรับแก้หรือมีกำร

เปลี่ยนใหม่ได้ด ำเนินกำรเป็นที่เสร็จสมบูรณ์แล้ว

(ข) หำกผู้รับจ้ำงบกพร่องในกำรก่อสร้ำงหรือท ำงำนผิดจำกสัญญำจ้ำงและได้รับกำรแจ้งจำก

ผู้ว่ำจ้ำงแล้ว เงินส่วนนี้ก็จะถูกยับยั้งไว้ จนกว่ำผู้รับจ้ำงได้ปรับแก้ไขเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ผู้ว่ำจ้ำงอำจสั่งให้ท ำกำรแก้ไขหรือปรับปรุงงำนใด ๆ ที่ได้ออกหนังสือรับรองผลงำนแล้วใน

งวดก่อน ๆ มิได้หมำยควำมว่ำผู้ว่ำจ้ำงยอมรับ อนุมัติ และพอใจกับผลงำน

14.7 การจ่ายค่าจ้าง (Payment)

เว้นแต่จะระบุเป็นอย่ำงอื่น ในข้อย่อย 2.5 (Employer’s Claims) ผู้ว่ำจ้ำงจะจ่ำยค่ำจ้ำง

ให้แก่ผู้รับจ้ำงดังนี้

(ก) เงินงวดแรกเป็นเงินล่วงหน้ำต้องจ่ำยภำยใน 42 วัน หลังจำกได้ออกหนังสือตอบรับกำร

ว่ำจ้ำง หรือภำยใน 21 วัน ภำยหลังได้รับหนังสือตำมข้อย่อย 4.2 (Performance

Security) และข้อย่อย 14.2 (Advance Payment) ทั้งนี้แล้วแต่ฉบับใดออกให้ล่ำสุด

(ข) หนังสือรับรองกำรจ่ำยงวดค่ำจ้ำงภำยใน 56 วัน หลังจำกผู้ว่ำจ้ำงได้รับรำยงำนและ

หลักฐำนรำยกำรเบิกจ่ำย

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-110 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

(ค) หนังสือรับรองกำรจ่ำยงวดก่อสร้ำงสุดท้ำยภำยใน 42 วัน ภำยหลังผู้ว่ำจ้ำงได้รับหนังสือ

รับรองกำรจ่ำยเงิน ตำมข้อย่อย 14.11 (Application for Final Payment) และ 14.12

(Discharge)

กำรจ่ำยเงินแต่ละสกุลเงิน เมื่อครบก ำหนดให้จ่ำยผ่ำนบัญชีธนำคำรที่ก ำหนดโดยผู้รับจ้ำง

ตำมที่ระบุไว้ในสัญญำ

14.8 การจ่ายเงินล่าช้า (Delayed Payment)

หำกผู้รับจ้ำงไม่ได้รับค่ำจ้ำงตำมข้อย่อย 14.7 (Timing of Payments) ผู้รับจ้ำงมีสิทธิ์ได้รับ

ดอกเบี้ยของจ ำนวนเงินค้ำงจ่ำยเป็นรำยเดือน ตำมจ ำนวนที่ยังไม่ได้ช ำระในช่วงเวลำที่ล่ำช้ำ

เว้นแต่จะได้ก ำหนดไว้ในเงื่อนไขเฉพำะ ให้ก ำหนดอัตรำดอกเบี้ยต่อปีบวก 3% ของอัตรำ

ดอกเบี้ยธนำคำรกลำงของประเทศนั้น

ผู้รับจ้ำงมีสิทธิ์ได้รับค่ำจ้ำงจ ำนวนนี้โดยไม่ต้องแจ้งหนังสือเป็นทำงกำรหรือไม่มีผลกระทบ

ต่อสิทธิ์ใด ๆ

14.9 การหักเงินประกันผลงาน (Payment of Retention Money)

เมื่อมีกำรออกใบรับรองกำรรับมอบงำนและงำนได้ผ่ำนกำรทดสอบตำมที่ระบุไว้ทั้งหมด

(รวมถึงกำรทดสอบหลังจำกงำนแล้วเสร็จแล้ว ถ้ำมี) ครึ่งแรกของเงินที่หักจะต้องจ่ำยให้ผู้รับ

จ้ำง หำกมีกำรออกใบรับรองกำรรับมอบส ำหรับครึ่งแรกของเงินที่เรียกเก็บจะจ่ำยเมื่อส่วน

ของงำนผ่ำนกำรทดสอบทั้งหมด

ทันทีที่หมดอำยุกำรค ้ำประกันข้อบกพร่องผลงำน กำรหักเงินส่วนที่เหลือต้องได้รับกำร

รับรองจำกผู้ว่ำจ้ำงเพื่อจ่ำยให้แก่ผู้รับจ้ำง หำกมีกำรออกหนังสือรับรอง กำรส่งมอบงำน

ส ำหรับงำนส่วนนั้น กำรหักเงินส่วนครึ่งหลังจะต้องมีกำรออกหนังสือรับรองและจ่ำยคืนให้

ผู้รับจ้ำงทันทีเมื่อวันที่สิ้นสุดอำยุกำรค ้ำประกันข้อบกพร่องผลงำนส่วนนั้น

อย่ำงไรก็ดี งำนที่ต้องท ำต่อตำมข้อ 11 (Deflect Liability) หรือ ข้อ 12 (Tests after

Completion) ผู้ว่ำจ้ำงต้องเก็บหนังสือกำรรับมอบจนกว่ำงำนนั้นได้รับกำรแก้ไขเป็นที่

เรียบร้อย

ร้อยละที่เกี่ยวข้องส ำหรับแต่ละส่วนเป็นร้อยละของส่วนที่ระบุไว้ในสัญญำ หำกไม่ได้ระบุ

มูลค่ำร้อยละไว้ในสัญญำ ส ำหรับงำนในส่วนดังกล่ำวจะไม่มีกำรจ่ำยเงินที่หักไว้ภำยใต้หัวข้อ

ย่อยนี้

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-111 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

14.10 รายงานเมื่องานแล้วเสร็จ (Statement at Completion)

ภำยใน 84 วัน ภำยหลังได้รับรองหนังสือกำรส่งมอบงำน ผู้รับจ้ำงต้องส่งรำยงำนกำรแล้ว

เสร็จของงำนจ ำนวน 6 ชุด ให้แก่ผู้ว่ำจ้ำง ตำมข้อย่อย 14.3 (Application for Interim

Payment Certificates) เพื่อแสดงว่ำ

(ก) มูลค่ำงำนทั้งหมดตำมสัญญำจนถึงวันที่รับรองส่งมอบงำน

(ข) จ ำนวนเงินที่ค้ำงจ่ำยที่ผู้รับจ้ำงสมควรจะได้รับ

(ค) ประมำณกำรจ ำนวนเงินค้ำงจ่ำยที่ผู้รับจ้ำงจะได้รับต่อไปตำมสัญญำจ้ำง

ผู้ว่ำจ้ำงจะแจ้งแก่ผู้รับจ้ำงตำมข้อย่อย 14.6 (Issue of Interim Payment Certificates)

และจ่ำยเงินตำมข้อย่อย 14.7 (Timing of Payments)

14.11 การออกหนังสือการจ่ายเงินงวดสุดท้าย ( Application for Final Payment

Certificate)

ภำยใน 56 วัน ภำยหลังได้รับหนังสือรับรองกำรปฏิบัติงำน ผู้รับจ้ำงต้องส่งรำยงำนฉบับ

สุดท้ำยพร้อมด้วยเอกสำร จ ำนวน 6 ชุดแสดงรำยละเอียดให้ผู้ว่ำจ้ำงพิจำรณำอนุมัติ

(ก) จ ำนวนเงินค่ำจ้ำงของงำนทั้งหมดตำมสัญญำ และ

(ข) จ ำนวนเงินรวมซึ่งผู้รับจ้ำงสมควรได้รับอีกภำยใต้สัญญำ

หำกผู้ว่ำจ้ำงไม่เห็นชอบหรือไม่สำมำรถปรับแก้ส่วนหนึ่งส่วนใดของรำยงำน ผู้รับจ้ำงจะต้อง

ส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้ผู้ว่ำจ้ำงพิจำรณำเปลี่ยนแก้ในร่ำงรำยงำน ซึ่งจะต้องเห็นชอบทั้ง 2 ฝ่ำย

ดังนั้น ผู้รับจ้ำงจะปรับแก้รำยงำนที่ได้ตกลงเห็นชอบตำมเงื่อนไขสัญญำ เรื่อง รำยงำน

สุดท้ำย (Final Statement)

อย่ำงไรก็ดี ในกำรหำรือระหว่ำงผู้ว่ำจ้ำงและผู้รับจ้ำง กำรปรับแก้ร่ำงรำยงำนตำมที่ตกลงกัน

แล้ว หำกเกิดข้อโต้แย้ง ผู้ว่ำจ้ำงจะส่งส ำเนำรำยงำนให้แก่ผู้ว่ำจ้ำง (อีกส ำเนำให้ผู้รับจ้ำง)

ค่ำจ้ำงงวดที่มีกำรรับรองแล้วในรำยงำน หำกภำยหลังข้อโต้แย้งนั้นมีข้อยุติตำมข้อย่อย 20.4

(Obtaining Dispute Adjudication Board’s Decision) หรือข้อย่อย 20.5 (Amicable

Settlement) ดังนั้นผู้รับจ้ำงจะจัดท ำใหม่แล้วส่งมอบให้แก่ผู้ว่ำจ้ำง (และส ำเนำส่งผู้ว่ำจ้ำง)

เป็นรำยงำนฉบับสุดท้ำย

14.12 การปฏิบัติตามสัญญา (Discharge)

เมื่อส่งรำยงำนฉบับสุดท้ำย ผู้รับจ้ำงจะส่งหนังสือแจ้งกำรปฏิบัติงำนเพื่อยืนยันว่ำในรำยงำน

ฉบับสุดท้ำย มีควำมถูกต้องครบสมบูรณ์ของจ ำนวนเงิน ทั้งยังค้ำงจ่ำยต่อผู้รับจ้ำง ภำยใต้

หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับสัญญำจ้ำง หนังสือแจ้งกำรปฏิบัติงำนอำจระบุว่ำมีผลบังคับใช้เมื่อ

ผู้รับจ้ำงได้หลักประกันผลกำรปฏิบัติงำนและเงินค่ำจ้ำงค้ำงจ่ำย

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-112 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

14.13 การช าระเงินงวดสุดท้าย (Final Payment)

ตำมข้อย่อย (ค) ของข้อย่อย 14.7 (Timing of Payments) ผู้ว่ำจ้ำงจะจ่ำยเงินให้ผู้รับจ้ำง

ตำมจ ำนวนที่ครบก ำหนดช ำระหักล้ำงจ ำนวนเงินที่ผู้ว่ำจ้ำงจ่ำยให้ก่อนหน้ำนี้ และกำรหัก

เงินใด ๆ ตำมข้อย่อย 2.5 (Employer’s Claims)

14.14 การสิ้นสุดภาระความรับผิดของผู้ว่าจ้าง (Cessation of Employer’s Liability)

ผู้ว่ำจ้ำงไม่ต้องรับผิดต่อผู้รับจ้ำงเรื่องใด ๆ หรือสิ่งใด ๆ หรือเกี่ยวข้องกับสัญญำหรือท ำงำน

เว้นแต่ผู้รับจ้ำงได้ระบุไว้

(ก) ในรำยงำนฉบับสุดท้ำย

(ข) เว้นแต่เรื่องหรือสิ่งที่เกิดขึ้นภำยหลังได้ออกหนังสือรับมอบผลงำนตำมที่ระบุในรำยงำน

ตำมข้อย่อย 14.10 (Statement at Completion)

อย่ำงไรก็ดีหัวข้อย่อย 14.14 นี้ไม่จ ำกัดควำมรับผิดของผู้ว่ำจ้ำง ทำงกฎหมำย กำรฉ้อโกง

ขำดควำมรอบคอบ ประมำท ท ำผิดจริยธรรมของผู้ว่ำจ้ำง

14.15 สกุลเงินค่าจ้าง (Currencies of Payment)

ค่ำจ้ำงตำมสัญญำจ้ำงจะจ่ำยด้วยสกุลเงินค่ำจ้ำงตำมที่ระบุไว้ในเอกสำรแนบผนวกใน

เอกสำรประกวดรำคำ เว้นแต่ระบุในเงื่อนไขเฉพำะ หำกมีกำรจ่ำยค่ำจ้ำงมำกกว่ำหนึ่งสกุล

เงินให้ด ำเนินกำรดังต่อไปนี้

(ก) หำกสัญญำระบุให้จ่ำยค่ำจ้ำงสกุลเงินของท้องถิ่นเท่ำนั้น

(i) สัดส่วนของสกุลท้องถิ่นกับสกุลเงินต่ำงประเทศ และกำรใช้อัตรำแลกเปลี่ยนคงที่ ซึ่ง

จะต้องระบุ ไว้ในเอกสำรแนบผนวกในเอกสำรประกวดรำคำ หรืออย่ำงอื่นตำมที่เห็นชอบทั้ง

2 ฝ่ำย

(2) ค่ำจ้ำงและกำรหักลดตำมข้อย่อย 13.5 (Provisional Sums) และข้อย่อย 13.7

(Adjustments for Changes in Legislation) ควรกระท ำบนสกุลเงินที่เหมำะสมและ

สัดส่วนที่เหมำะสม

(3) ค่ำจ้ำงอื่นและกำรหักลดอื่นตำมวรรคย่อย (ก) (ข) (ค) (ง) ของข้อย่อย 14.3

(Application for Interim Payment Certificates) จะต้องปฏิบัติตำมสกุลเงินและ

สัดส่วนตำมวรรคย่อย (ก) (1) ข้ำงต้น

(ข) ค่ำควำมเสียหำยที่ระบุไว้ในเอกสำรแนบผนวกในเอกสำรประกวดรำคำ จะต้องกระท ำ

ตำมสกุลเงินและสัดส่วนของสกุลเงิน ตำมที่ระบุไว้ในเอกสำรแนบผนวกในเอกสำรประกวด

รำคำ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-113 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

(ค) ค่ำอื่น ๆ ที่ผู้รับจ้ำงต้องจ่ำยให้ผู้ว่ำจ้ำง จะต้องจ่ำยตำมสกุลเงินที่ผู้ว่ำจ้ำงได้จ่ำย ทั้ง 2

ฝ่ำยสำมำรถจ่ำยค่ำหนี้ตำมสกุลเงินที่ได้ตกลงกันไว้

(ง) เมื่อผู้รับจ้ำงจ่ำยหนี้ให้แก่ผู้ว่ำจ้ำงตำมสกุลเงินเฉพำะเกินกว่ำจ ำนวนที่ผู้ว่ำจ้ำงจ่ำยให้ผู้รับ

จ้ำง ผู้ว่ำจ้ำงอำจจะจ่ำยส่วนต่ำงหนี้ให้แก่ผู้รับจ้ำงในสกุลเงินอื่นได้

(จ) หำกไม่มีกำรก ำหนดอัตรำแลกเปลี่ยนในเอกสำรแนบผนวกในเอกสำรประกวดรำคำให้

คู่สัญญำใช้อัตรำแลกเปลี่ยนของธนำคำรกลำงที่ได้ก ำหนดไว้

15. ผู้ว่าจ้างบอกเลิกสัญญา (Termination by Employer)

15.1 การแจ้งให้แก้ไข (Notice to Correct)

หำกผู้รับจ้ำงบกพร่องไม่ปฏิบัติตำมพันธะสัญญำ ผู้ว่ำจ้ำงอำจมีบันทึกบอกกล่ำวให้ผู้รับจ้ำง

ท ำกำรแก้ไขให้ถูกต้องตำมสัญญำภำยในก ำหนดเวลำที่เหมำะสม

15.2 ผู้ว่าจ้างบอกเลิกสัญญา (Termination by Employer)

ผู้ว่ำจ้ำงสำมำรถบอกเลิกสัญญำเมื่อผู้รับจ้ำง

(ก) ผู้รับจ้ำงไม่ปฏิบัติตำม ข้อย่อย 4.2 (Performance Security) หรือภำยใต้ข้อย่อย 15.1

(Notice to Correct)

(ข) ละทิ้งงำนก่อสร้ำงหรือแสดงออกว่ำไม่ตั้งใจจะท ำงำนต่อตำมพันธะหน้ำที่ตำมสัญญำ

(ค) ปรำศจำกเหตุผลในกำรไม่ปฏิบัติตำม

(1) ไม่ด ำเนินงำนตำมข้อ 8 (Commencement, Delays and Suspension)

(2) ไม่ท ำตำมค ำสั่งตำมข้อย่อย 7.5 (Rejection) หรือข้อย่อย 7.6 (Remedial Work)

ภำยใน 28 วัน เมื่อได้รับค ำสั่งนั้น

(ง) ให้งำนต่อผู้รับจ้ำงช่วงทั้งหมด หรือมอบหมำยงำนในสัญญำโดยไม่มีข้อตกลงจ้ำงตำม

ข้อก ำหนด

(จ) เริ่มจะเป็นผู้ล้มละลำยหรือเป็นผู้ล้มละลำยหรือเลิกกิจกำร ได้รับเอกสำรหรือรับค ำสั่ง

ทำงรำชกำรร่วมกับผู้ให้สนับสนุนทำงกำรเงินหรือถูกผู้รับช่วงกิจกำรต่อคณะกรรมกำรบริษัท

หรือผู้จัดกำรบริษัทเอื้อประโยชน์ให้แก่ผู้สนับสนุนกำรเงิน หรือกำรกระท ำใด ๆ หรือมีเหตุ

เกิด (ตำมกฎหมำยที่ใช้บังคับ) ซึ่งมีผลกระทบคล้ำยคลึงกันต่อเหตุข้ำงต้น หรือ

(ฉ) ให้หรือเสนอจะให้ (ทำงตรงหรือทำงอ้อม) สินบน ของขวัญ เงินรำงวัล ค่ำป่วยกำร ส่วน

ต่ำงหรือสิ่งของมีค่ำแก่บุคคลเพื่อเป็นแรงจูงใจเอื้อประโยชน์ให้บุคลำกรของผู้รับจ้ำง ตัวแทน

ผู้รับจ้ำง ผู้รับจ้ำงช่วง ผู้รับจ้ำงให้หรือเสนอจะให้ (ทำงตรงหรือทำงอ้อม) แก่บุคคลใด ๆ

ตำมเรื่องดังกล่ำวข้ำงต้นของข้อ (ฉ) แต่อย่ำงไรก็ดี กำรจูงใจในกำรกระท ำที่ถูกต้องตำม

กฎหมำยของบุคลำกรของผู้รับจ้ำง ไม่สำมำรถจะเลิกสัญญำจ้ำงได้

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-114 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

เรื่องใด ๆ เหล่ำนี้หรือแรงจูงใจใด ๆ เหล่ำนี้ ภำยใน 14 วัน ผู้ว่ำจ้ำงอำจมีหนังสือบอกเลิก

สัญญำกับผู้รับจ้ำงและให้ผู้รับจ้ำงพ้นจำกสถำนที่ก่อสร้ำง แต่อย่ำงไรก็ดีตำมข้อควำมย่อย

(จ) หรือ (ฉ) ผู้ว่ำจ้ำงอำจมีหนังสือบอกเลิกจ้ำงได้ทันที

กำรเลิกสัญญำของผู้ว่ำจ้ำงย่อมไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อสิทธิ์อันชอบของผู้ว่ำจ้ำงภำยใต้

สัญญำนี้เว้นแต่ได้ก ำหนดเป็นอื่น

ดังนั้น ผู้รับจ้ำงต้องพ้นจำกสถำนที่ก่อสร้ำง และต้องส่งมอบพัสดุ เอกสำรต่ำง ๆ และ

เอกสำรออกแบบต่ำง ๆ ให้แก่ผู้ว่ำจ้ำง อย่ำงไรก็ดีผู้รับจ้ำงจะใช้ควำมสำมำรถของตนปฏิบัติ

ตำมค ำสั่งที่มีเหตุผล ในหนังสือค ำสั่งข้อควำม

(1) ในเรื่องหน้ำที่ขอบเขตงำนของผู้รับจ้ำงช่วงและ

(2) เพื่อกำรป้องกันชีวิตและทรัพย์สินหรือเพื่อควำมปลอดภัยของงำน

ภำยหลังกำรยกเลิกสัญญำ ผู้ว่ำจ้ำงอำจจะด ำเนินงำนให้แล้วเสร็จ และ/หรือมอบหมำยให้

ผู้อื่นด ำเนินกำรแทนดังกล่ำว ผู้ว่ำจ้ำงและตัวแทนผู้ว่ำจ้ำงเหล่ำนี้อำจจะใช้วัสดุใด ๆ เอกสำร

ใด ๆและเอกสำรงำนออกแบบของผู้รับจ้ำง

ดังนั้น ผู้ว่ำจ้ำงจะมีหนังสือบอกกล่ำวให้ผู้รับจ้ำงขนย้ำยเครื่องมือและสิ่งปลูกสร้ำงชั่วครำว

ออกจำกพื้นที่โครงกำร โดยผู้รับจ้ำงต้องรับผิดชอบเรื่องควำมเสี่ยงและค่ำใช้จ่ำย อย่ำงไรก็ดี

ณ เวลำนี้หำกผู้รับจ้ำงมีหนี้ค้ำงจ่ำยกับผู้ว่ำจ้ำง ผู้ว่ำจ้ำงอำจจะขำยทรัพย์สินเหล่ำนี้เพื่อ

ชดเชยจ่ำยหนี้แก่ผู้ว่ำจ้ำง ส่วนผู้รับจ้ำงยังต้องจ่ำยในส่วนที่ขำด

15.3 การประเมินค่า ณ วันที่บอกเลิกสัญญา (Valuation at Date of Termination)

โดยเร็วที่สุดเท่ำที่จะกระท ำได้ ภำยหลังมีหนังสือบอกเลิกสัญญำตำมข้อย่อย 15.2

(Termination by Employer) มีผลบังคับใช้ ผู้ว่ำจ้ำงจะด ำเนินกำรตำมข้อย่อย 3.5

(Determinations) เพื่อควำมเห็นชอบหรือพิจำรณำกำรประเมินค่ำงำนก่อสร้ำง พัสดุ และ

เอกสำรทั้งปวงของผู้รับจ้ำง และหนี้ค้ำงจ่ำยผู้รับจ้ำงซึ่งเกิดจำกกำรท ำงำนของผู้รับจ้ำง

15.4 การจ่ายค่าจ้างหลังเลิกสัญญา (Payment After Termination)

ภำยหลังออกหนังสือบอกเลิกสัญญำจ้ำงตำมข้อย่อย 15.2 (Termination by Employer)

มีผลบังคับใช้ ผู้ว่ำจ้ำงอำจจะ

(ก) ด ำเนินกำรตำมข้อย่อย 2.5 (Employer’s Claims)

(ข) ชะลอกำรจ่ำยค่ำจ้ำงครั้งต่อไปจนกว่ำค่ำก่อสร้ำงงำนที่แล้วเสร็จและงำนซ่อมบ ำรุงสิ่ง

ช ำรุดบกพร่อง ค่ำเสียหำย (ค่ำปรับ) ท ำงำนล่ำช้ำ (ถ้ำมี) และค่ำใช้จ่ำยอื่น ๆ ที่ค้ำงจ่ำยกับ

ผู้ว่ำจ้ำง ซึ่งเกิดจำกกำรท ำงำนและหรือ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-115 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

(ค) คิดค่ำสูญหำย หรือค่ำเสียหำยอันเกิดจำกผู้ว่ำจ้ำงพร้อมทั้งค่ำใช้จ่ำยงำนเพิ่มเติมรวมกัน

เป็นหนี้แก่ผู้รับจ้ำง ตำมข้อย่อย 15.3 (Valuation at Date of Termination) ผู้ว่ำจ้ำงต้อง

จ่ำยค่ำจ้ำงเหล่ำนี้ให้แก่ผู้รับจ้ำง

15.5 สิทธิ์ของผู้ว่าจ้างในการบอกเลิกสัญญา (Employer’s Entitlement to

Termination)

ผู้ว่ำจ้ำงมีสิทธิ์ที่จะบอกเลิกสัญญำได้ทุกเวลำตำมที่มีควำมเห็นชอบ โดยกำรออกหนังสือ

บอกเลิกสัญญำกับผู้รับจ้ำง กำรเลิกสัญญำจะมีผลบังคับใช้ภำยหลัง 28 วัน ซึ่งก ำหนดไว้ใน

หนังสือบอกเลิกสัญญำหรือเมื่อผู้ว่ำจ้ำงได้คืนหลักประกันสัญญำ ผู้ว่ำจ้ำงจะไม่บอกเลิก

สัญญำตำมข้อย่อย 15.5 นี้เพื่อด ำเนินกำรเอง หรือว่ำจ้ำงผู้รับจ้ำงรำยอื่นเข้ำด ำเนินกำร

ภำยหลังกำรบอกเลิกสัญญำ ผู้รับจ้ำงต้องปฏิบัติตำมหัวข้อย่อย 16.3 (Cessation of Work

and Removal of Contractor’s Equipment) และผู้รับจ้ำงจะได้ค่ำจ้ำงตำมข้อย่อย

19.6 (Optional Termination Payment and Release)

16. การหยุดงานและการบอกเลิกสัญญาโดยผู้รับจ้าง (Suspension and Termination

by Contractor)

16.1 สิทธิ์การหยุดงานของผู้รับจ้าง (Contractor’s Entitlement to Suspend Work)

ถ้ำผู้ว่ำจ้ำงไม่ปฏิบัติตำม ตำมข้อย่อย 2.4 (Employer’s Financial Arrangement) หรือ

ข้อย่อย 14.7 (Timing for Payment) ผู้รับจ้ำงอำจจะออกหนังสือสั่งหยุดงำนหรือชะลอ

กำรท ำงำนให้แก่ผู้ว่ำจ้ำง ไม่น้อยกว่ำ 21 วัน จนกว่ำผู้รับจ้ำงจะได้รับหนังสือรับรองกำรจ่ำย

ค่ำจ้ำงหรือมีเหตุผลอันเชื่อได้ตำมหนังสือของผู้รับจ้ำง

กำรกระท ำของผู้รับจ้ำงจะไม่มีผลกระทบต่อสิทธิ์กำรเปลี่ยนแปลงกำรจ่ำย ภำยใต้ย่อย 14.8

(Delayed Payment) และบอกเลิกสัญญำตำมข้อย่อย 16.2 (Termination by

Contractor)

หำกผู้รับจ้ำงภำยหลังได้รับหนังสือกำรรับรองกำรจ่ำยค่ำจ้ำง หลักฐำนหรือกำรจ่ำยเงิน

ดังกล่ำว (ตำมที่ระบุไว้ในหัวข้อย่อยที่เกี่ยวข้องและในค ำบอกกล่ำวข้ำงต้น) ก่อนที่จะได้รับ

กำรบอกกล่ำวให้เลิกจ้ำง ผู้รับจ้ำงต้องกลับเข้ำท ำงำนตำมปกติโดยเร็วที่สุดเท่ำที่จะเป็นไปได้

ถ้ำผู้รับจ้ำงได้รับควำมล่ำช้ำและ/หรือต้องเสียค่ำใช้จ่ำยจำกกำรถูกระงับงำนชั่วครำว (หรือ

ลดอัตรำกำรท ำงำน) ตำมข้อย่อยนี้ ผู้รับจ้ำงจะออกหนังสือบอกเลิกสัญญำให้แก่ผู้ว่ำจ้ำง ซึ่ง

ผู้รับจ้ำงต้องปฏิบัติตำมข้อย่อย 20.1 (Contractor’s Claims) และ

(ก) กำรขยำยเวลำกำรก่อสร้ำงตำมที่ได้หยุดงำน หำกงำนจะแล้วเสร็จ หรือจะต้องล่ำช้ำ

ออกไปตำมข้อย่อย 8.4 (Extension of Time for Completion) และ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-116 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

(ข) ค่ำจ้ำงบวกค่ำใช้จ่ำยอื่นซึ่งบวกก ำไร และต้องรวมเป็นรำคำงำนตำมสัญญำ

เมื่อผู้ว่ำจ้ำงได้รับหนังสือแจ้งดังกล่ำว ผู้ว่ำจ้ำงต้องด ำเนินกำร ตำมข้อย่อย 3.5

(Determination) เพื่อให้ข้อยุติหรือพิจำรณำวินิจฉัยในเรื่องเหล่ำนี้

16.2 การยกเลิกสัญญาโดยผู้รับจ้าง (Termination by Contractor)

ผู้รับจ้ำงมีสิทธิ์บอกเลิกสัญญำ ดังนี้

(ก) ภำยใน 42 วัน ผู้รับจ้ำงไม่ได้รับหนังสือตอบอย่ำงมีเหตุผลล่ำช้ำตำมข้อย่อย 16.1

(Contractor’s Entitlement to Suspend Work) และผู้ว่ำจ้ำงไม่ปฏิบัติตำมข้อย่อย 2.4

(Employer’s Financial Arrangement)

(ข) ผู้ว่ำจ้ำงไม่ปฏิบัติตำมภำยในเวลำ 56 วัน หลังจำกได้รับงบแจ้งยอดและเอกสำรประกอบ

ในกำรออกหนังสือรับรองกำรจ่ำยงวดค่ำจ้ำง

(ค) ผู้รับจ้ำงไม่ได้เงินค่ำจ้ำงตำมหนังสือรับรองกำรจ่ำยงวดค่ำจ้ำง ภำยใน 42 วัน ภำยหลัง

วันที่หมดอำยุตำมที่ระบุตำมข้อย่อย 14.7 (Payment) ซึ่งจะต้องจ่ำยให้แก่ผู้รับจ้ำง (เว้นแต่

จะต้องมีกำรหักลดตำมข้อย่อย 2.5 (Employer’s Claims)

(ง) ผู้ว่ำจ้ำงกระท ำผิดอย่ำงมีนัยยะ ไม่ปฏิบัติตำมนิติพันธะของสัญญำ

(จ) ผู้ว่ำจ้ำงไม่ปฏิบัติตำมข้อย่อย 1.6 (Contract Agreement) หรือข้อย่อย 1.7

(Assignment)

(ฉ) กำรหยุดงำนยืดเยื้อมีผลกระทบต่องำนทั้งหมดตำมข้อย่อย 8.11 (Prolonged

Suspension) หรือ

(ช) ผู้ว่ำจ้ำงเกิดล้มละลำย หรือมีหนี้สินล้นพ้นตัว เข้ำสู่กำรบังคับหนี้ ได้รับค ำสั่งข้อกล่ำว

หำทำงรำชกำรร่วมกับเจ้ำหนี้ หรือถูกยึดกิจกำร คณะกรรมกำรบริษัทหรือผู้จัดกำรบริษัท

ของเจ้ำหนี้ หรือกำรกระท ำใด ๆ หรือเหตุอันเกิดขึ้น (ภำยใต้กฏหมำยบังคับ) ซึ่งมีผลกระทบ

ต่อกำรกระท ำดังกล่ำว

จำกเหตุกำรณ์หรือสถำนกำรณ์ใด ๆ เหล่ำนี้ ภำยใน 14 วัน ผู้รับจ้ำงอำจแจ้งด้วยหนังสือต่อ

ผู้ว่ำจ้ำงบอกเลิกสัญญำ แต่อย่ำงไรก็ดี ตำมข้อ (ฉ) หรือข้อ (ช) ข้ำงต้น ผู้รับจ้ำงอำจบอก

เลิกสัญญำได้ทันที

กำรที่ผู้รับจ้ำงเลือกบอกเลิกสัญญำย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อสิทธิ์ของผู้รับจ้ำงตำมสัญญำหรือ

เป็นอื่น

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-117 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

16.3 การเลิกท างานหรือการขนย้ายเครื่องมือผู้รับจ้าง (Cessation of Work and Remaval

of Contractor’s Equipment)

หลังจำกออกหนังสือบอกเลิกสัญญำตำมข้อย่อย 15.5 (Employer’s Entitlement to

Termination) และข้อย่อย 16.2 (Termination by Contractor) หรือข้อย่อย 19.6

(Option Termination, Payment and Release) มีผลบังคับใช้แล้ว ผู้รับจ้ำงจะ

ด ำเนินกำรทันทีดังนี้

(ก) หยุดท ำงำนในขั้นตอนต่อไป เว้นแต่งำนที่ได้รับค ำสั่งจำกผู้ว่ำจ้ำงให้จัดท ำกำรป้องกัน

อันตรำยต่อชีวิตและทรัพย์สิน หรือเพื่อป้องกันควำมปลอดภัยต่องำน

(ข) ผู้รับจ้ำงส่งมอบเอกสำร เครื่องมือประกอบโรงงำน/โรงผลิต (Plant) วัตถุและงำนอื่น ๆ

ที่ผู้รับจ้ำงได้รับงวดงำนค่ำจ้ำงแล้ว และ

(ค) ขนย้ำยพัสดุต่ำง ๆ ของผู้รับจ้ำงออกจำกพื้นที่ก่อสร้ำง เว้นแต่สิ่งที่ป้องกันภัยหรือ

อันตรำย

16.4 ค่าจ้างเมื่อเลิกสัญญา (Payment of Termination)

หลังกำรออกหนังสือบอกเลิกสัญญำตำมข้อย่อย 16.2 (Termination by Contractor) มี

ผลบังคับใช้ ผู้ว่ำจ้ำงจะด ำเนินกำรทันทีดังนี้

(ก) คืนหลักประกันสัญญำให้แก่ผู้รับจ้ำง

(ข) จ่ำยค่ำจ้ำงตำมข้อย่อย 19.6 (Optional Termination Payment and Release) และ

(ค) จ่ำยเงิน (ชดเชย) แก่ผู้รับจ้ำงในเรื่องขำดทุนก ำไร หรือกำรสูญหำยอื่น ๆ ค่ำเสียหำยอื่น

ๆ อันเกิดจำกผลกำรเลิกสัญญำ

17. ความเสี่ยงและความรับผิดชอบ (Risk and Responsibility)

17.1 การคุ้มครองภัย (Indemnities)

ผู้รับจ้ำงต้องคุ้มครองควำมปลอดภัยให้แก่ผู้ว่ำจ้ำง บุคลำกรของผู้ว่ำจ้ำง ตัวแทนผู้ว่ำจ้ำง

จำกกำรถูกเรียกร้องค่ำเสียหำย อันตรำย กำรสูญเสียและค่ำใช้จ่ำย (รวมทั้งค่ำธรรมเนียม

และค่ำใช้จ่ำย) อันเกี่ยวกับเรื่องดังนี้

(ก) กำรบำดเจ็บทำงร่ำงกำย กำรเจ็บป่วย เชื้อโรค หรือกำรเสียชีวิต ต่อบุคคลอันเกิดจำก

กำรเข้ำ-ออกพื้นที่โครงกำร หรือจำกผลงำนกำรออกแบบของผู้รับจ้ำง กำรก่อสร้ำง และ

ผลส ำเร็จของงำนก่อสร้ำงและกำรซ่อมแซมส่วนบกพร่อง เว้นแต่เกิดกำรละเลย กำรกระท ำ

รุนแรง หรือฝ่ำฝืนสัญญำของผู้ว่ำจ้ำง บุคลำกรของผู้ว่ำจ้ำง ตัวแทนผู้ว่ำจ้ำง และ

(ข) เกิดควำมเสียหำยหรือกำรสูญหำยต่อทรัพย์สินอสังหำริมทรัพย์ หรือบุคคล

(นอกเหนือจำกงำน) ซึ่งได้เกิดควำมเสียหำยหรือกำรสูญเสีย ดังนี้

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-118 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

(1) เกิดขึ้นจำกกำรเข้ำ ออก หรือจำกเหตุผลกำรออกแบบของผู้รับจ้ำง (ถ้ำมี) หรือจำกกำร

ก่อสร้ำงหรือจำกงำนก่อสร้ำงที่แล้วเสร็จ และจำกงำนซ่อมแซมสิ่งบกพร่องช ำรุด

(2) เกิดจำกกำรละเลย กำรกระท ำรุนแรง กำรฝ่ำฝืนสัญญำของผู้รับจ้ำง บุคลำกรผู้รับจ้ำง

ตัวแทนผู้รับจ้ำง หรือบุคลำกรจ้ำงอื่น ๆ ของผู้รับจ้ำง

ผู้ว่ำจ้ำงจะให้ควำมคุ้มครองและควำมปลอดภัยแก่ผู้รับจ้ำง บุคลำกรของผู้รับจ้ำง ตัวแทน

ของผู้รับจ้ำง จำกกำรถูกเรียกร้องค่ำเสียหำย ควำมเสียหำย ค่ำสูญหำยและค่ำใช้จ่ำย (รวม

ค่ำธรรมเนียมและค่ำใช้จ่ำย) เกี่ยวกับ

(1) บำดเจ็บทำงร่ำงกำย กำรเจ็บป่วย กำรแพร่เชื่อ หรือกำรเสียชีวิตอันเนื่องจำกกำร

ละเลย กำรกระท ำรุนแรง หรือกำรฝ่ำฝืนสัญญำของผู้ว่ำจ้ำง บุคลำกรผู้ว่ำจ้ำง ตัวแทนของผู้

ว่ำจ้ำง และ

(2) เรื่องที่ไม่ต้องรับผิดจำกกรมธรรม์ประกันภัยหรือไม่ได้ระบุไว้ในข้อควำมย่อย ค (1) ค

(2) และ ค (3) ของข้อย่อย 18.3 (Insurance against Injury to Person and Damage

to Property)

17.2 การบ ารุงรักษางานของผู้รับจ้าง (Contractor’s Care of the Works)

ผู้รับจ้ำงต้องรับผิดชอบเต็มที่ในกำรบ ำรุงรักษำงำน พัสดุ นับแต่วันที่เริ่มงำนก่อสร้ำงจนถึง

กำรมีหนังสือรับรองส่งมอบงำนก่อสร้ำง หรือเสมือนหนึ่งออกให้ตำมข้อย่อย 10.1 (Taking

Over of the Works and Sections) เมื่อกำรบ ำรุงรักษำงำนส่งมอบผ่ำนแก่ผู้ว่ำจ้ำง หำก

มีกำรออกหนังสือรับรองกำรส่งมอบงำน หรือเสมือนหนึ่งจะออกหนังสือรับรอง ส่งผลงำน

บำงส่วน กำรบ ำรุงรักษำงำนบำงส่วนนั้น ได้ส่งมอบผ่ำนให้แก่ผู้ว่ำจ้ำง

เมื่อควำมรับผิดชอบกำรบ ำรุงรักษำงำนได้ส่งผ่ำนผู้ว่ำจ้ำงแล้ว ผู้รับจ้ำงก็จะรับผิดชอบกำร

บ ำรุงรักษำส่วนงำนที่ยังไม่ได้ส่งมอบ ณ วันที่ระบุไว้ในหนังสือรับรองส่งมอบงำน จนกว่ำจะ

มีกำรส่งมอบงำนที่เหลือทั้งหมด

หำกมีกำรสูญหำยหรือเกิดควำมเสียหำย ต่องำน พัสดุ หรือเอกสำรของผู้รับจ้ำงใน

ระยะเวลำที่ผู้รับจ้ำงต้องมีหน้ำที่รับผิดชอบ จำกเหตุใด ๆ ที่มิได้ระบุไว้หัวข้อย่อย 17.3

(Employer’s Risk) ผู้รับจ้ำงต้องท ำกำรแก้ไขกำรสูญหำยหรือควำมเสียหำยบนควำมเสี่ยง

และค่ำใช้จ่ำยของผู้รับจ้ำง เพื่องำน พัสดุและเอกสำรของผู้รับจ้ำงให้ถูกต้องตำมสัญญำ

ผู้รับจ้ำงต้องรับผิด กำรสูญหำยใด ๆ หรือควำมเสียหำยใด ๆ อันเกิดจำกกำรกระท ำของ

ผู้รับจ้ำงภำยหลังได้ออกหนังสือรับรองส่งมอบงำน ผู้รับจ้ำงต้องรับผิดต่อกำรสูญหำยหรือ

ควำมเสียหำย ซึ่งเกิดขึ้นภำยหลัง แม้ว่ำได้มีกำรออกหนังสือรับมอบงำนแล้ว ซึ่งผู้รับจ้ำงยัง

ต้องรับผิดชอบ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-119 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

17.3 ความเสี่ยงของผู้ว่าจ้าง (Employer’s Risk)

ควำมเสี่ยงของผู้ว่ำจ้ำงตำมข้อย่อย 17.4 ต่อจำกนี้ มีดังนี้

(ก) สงครำม กำรเป็นศัตรู (เป็นกำรประกำศหรือมิได้ประกำศสงครำมก็ตำม) กำรรุกรำน

กำรปฏิบัติของศัตรูต่ำงชำติ

(ข) กำรจรำจล กำรก่อกำรร้ำย กำรปฏิวัติ กำรยึดอ ำนำจของทหำร สงครำมกลำงเมือง

ภำยในประเทศ

(ค) กำรก่อควำมวุ่นวำยหรือกำรประท้วงภำยในประเทศ โดยประชำชน (ไม่ใช่คนงำนหรือ

บุคลำกรของผู้รับจ้ำงหรือผู้รับจ้ำงช่วง)

(ง) กำรต่อสู้ด้วยกระสุนปืน หรือวัตถุระเบิด กำรแผ่รังสีหรือกำรเป็นพิษจำกวัตถุรังสี

ภำยในประเทศ เว้นแต่อำจเกิดจำกกำรใช้วัตถุดังกล่ำวของผู้รับจ้ำง

(จ) คลื่นควำมดันจำกเครื่องบินหรือจำกอำกำศยำนใกล้เคียงกับเครื่องบินที่มีควำมเร็ว

ซุปเปอร์โซนิค

17.4 ผลลัพธ์ความเสี่ยงของผู้ว่าจ้าง (Consequence of Employer’s Risk)

สืบเนื่องจำกควำมเสี่ยงตำมข้อย่อย 17.3 (Employer’s Risks) ข้ำงต้น อันมีผลท ำให้เกิด

กำรสูญเสีย หรือควำมเสียหำยต่องำน พัสดุ หรือเอกสำรของผู้รับจ้ำง ผู้รับจ้ำงต้อง

ด ำเนินกำรออกหนังสือทันที ให้ผู้ว่ำจ้ำง และต้องท ำกำรแก้ไข กำรสูญหำยหรือควำม

เสียหำยอันสืบเนื่องตำมควำมต้องกำรของผู้ว่ำจ้ำง

หำกผู้รับจ้ำงได้รับผลกระทบจำกกำรแก้ไขกำรสูญหำย หรือควำมเสียหำย ผู้รับจ้ำงจะแจ้ง

ด้วยหนังสืออีกฉบับต่อผู้ว่ำจ้ำงและจะปฏิบัติตำมข้อย่อย 20.1 (Contractor’s Claims)

ดังนี้

(ก) ขยำยเวลำชดเชยกับเวลำในกำรแก้ไข หำกเวลำกำรแล้วเสร็จของงำนต้องถูกขยำย

ออกไป ตำมข้อย่อย 8.4 (Extension of Time for Completion) และ

(ข) ค่ำจ้ำงในกำรซ่อมแก้ไขซึ่งจะเป็นค่ำใช้จ่ำยบวกเพิ่มในสัญญำจ้ำง ตำมวรรค (ฉ) และ

(ช) ของข้อย่อย 17.3 (Employer’s Risks) อำจจะบวกเพิ่มค่ำก ำไรด้วย เมื่อผู้ว่ำจ้ำงได้รับ

หนังสือแจ้งเพิ่ม ผู้ว่ำจ้ำงจะด ำเนินกำรตำมข้อย่อย 3.5 (Determinations) ให้มีข้อยุติ

17.5 ทรัพย์สินทางปัญญา และลิขสิทธิ์ (Intellectual and Industrial Property Rights)

หัวข้อย่อย 17.5 นี้ กำรละเมิดลิขสิทธิ์ (Infringement) หมำยถึงกำรละเมิดลิขสิทธิ์ของ

โปรแกรมกำรออกแบบ กำรลอกเลียนแบบ เครื่องหมำยกำรค้ำ ชื่อกำรค้ำ ควำมลับทำงกำร

ค้ำ หรือทรัพย์สินทำงปัญญำ ผลิตภัณฑ์ทำงอุตสำหกรรม ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับงำน และกำร

เรียกร้อง (Claims) หมำยถึงกำรเรียกร้องค่ำเสียหำย กำรละเมิดลิขสิทธิ์

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-120 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

เมื่อใดก็ตำม หำกคู่สัญญำฝ่ำยหนึ่งไม่ได้แจ้งด้วยหนังสือต่อคู่สัญญำอีกฝ่ำยหนึ่งภำยใน 28

วันเมื่อได้รับแจ้งค่ำเรียกร้องกำรละเมิดลิขสิทธิ์ คู่สัญญำฝ่ำยแรกเสมือนว่ำสละสิทธิ์กำร

คุ้มครองภำยใต้ข้อย่อย 17.5 นี้

ผู้ว่ำจ้ำงจะให้ควำมคุมครองแก่ผู้รับจ้ำงจำกกำรละเมิดสิทธิ์ในกรณีดังนี้

(ก) เป็นเหตุสุดวิสัยของผู้รับจ้ำงต้องปฏิบัติตำมสัญญำ หรือ

(ข) เป็นผลของงำนใด ๆ ซึ่งผู้ว่ำจ้ำงจ ำเป็นต้องใช้

(1) เป็นวัตถุประสงค์เกินกว่ำที่ได้ระบุไว้ หรือมีเหตุผลอนุมำนจำกสัญญำ

(2) เกี่ยวเนื่องจำกสิ่งที่ผู้รับจ้ำงต้องจัดหำ เว้นแต่ถูกเปิดเผยต่อผู้รับจ้ำงก่อนวันที่ระบุใน

สัญญำ

ผู้รับจ้ำงจะให้ควำมคุ้มครองต่อผู้ว่ำจ้ำงจำกกำรเรียกค่ำลิขสิทธิ์ ซึ่งเกิดจำกส่วนเกี่ยวข้องจำก

(1) กำรผลิต กำรใช้ กำรขำย กำรน ำเข้ำพัสดุหรือ

(2) กำรออกแบบใด ๆ ซึ่งเป็นงำนรับผิดชอบของผู้รับจ้ำง

หำกคู่สัญญำฝ่ำยหนึ่งต้องได้รับกำรคุ้มครองตำมข้อย่อย 17.5 นี้ คู่สัญญำฝ่ำยที่ให้ควำม

คุ้มครองอำจ (ในค่ำใช้จ่ำยของตน) จะขอเจรจำเพื่อหำข้อยุติเรียกค่ำเรียกร้องในลิขสิทธิ์และ

ข้อพิพำททำงศำลใด ๆ หรือข้อพิพำททำงอนุญำโตตุลำกำรใด ๆ ซึ่งอำจเกิดขึ้น คู่สัญญำอีก

ฝ่ำยหนึ่งในกำรร้องขอและค่ำลิขสิทธิ์ เพื่อช่วยเจรจำข้อขัดแย้งของค่ำลิขสิทธิ์ คู่สัญญำอีก

ฝ่ำยหนึ่งนี้ (และบุคลำกรของฝ่ำยนี้) จะต้องไม่เข้ำมำร่วม ซึ่งอำจจะท ำควำมเสียหำยในเรื่อง

ฝ่ำยคู่สัญญำให้ควำมคุ้มครอง เว้นแต่ คู่สัญญำฝ่ำยให้ควำมคุ้มครองไม่ปฏิบัติตำมในกำร

เจรจำต่อรอง

17.6 การจ ากัดความรับผิด (Limitation of Liability)

ไม่ว่ำคู่สัญญำฝ่ำยใดต้องงรับผิดต่อคู่สัญญำอีกฝ่ำยหนึ่งในเรื่องกำรสูญเสียกำรใช้งำน สูญเสีย

ค่ำก ำไร สูญเสียสัญญำใด ๆ ทำงอ้อมหรือกำรสูญเสียต่อเนื่องกันหรือค่ำเสียหำย ซึ่งท ำให้คู๋

สัญญำอีกฝ่ำยหนึ่งต้องได้รับควำมยุ่งยำกตำมสัญญำมำกกว่ำตำมข้อย่อย 16.4 (Payment

on Termination) และข้อย่อย 17.1 (Indemnities)

ควำมรับผิดชอบของผู้รับจ้ำงต่อผู้ว่ำจ้ำง ภำยใต้หรือเกี่ยวกับสัญญำนอกเหนือจำกข้อย่อย

4.19 (Electricity, Water and Gas) ข้อย่อย 4.20 (Employer’s Equipment and Free

Issue Material) หัวข้อย่อย 17.1 (Indemnities) และหัวข้อย่อย 17.5 (Intellectual and

Industrial Property Rights) จะต้องไม่เกินจ ำนวนทั้งหมดตำมที่ระบุไว้ในเงื่อนไขเฉพำะ

หรือระบุ (จ ำนวนรวมไว้) จ ำนวนรำคำงำนในสัญญำ

ข้อย่อย 17.6 นี้ ต้องไม่จ ำกัดควำมรับผิดชอบในเรื่องกำรทุจริต หรือเจตนำท ำผิด หรือ

ประมำท หรือประพฤติมิชอบของฝ่ำยผู้กระท ำผิด

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-121 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

18. การประกันภัย (Insurance)

18.1 วัตถุประสงค์ทั่วไปของการประกันภัย (General Requirements for Insurance)

ในข้อ 18 นี้ ผู้เอำประกัน (Insuring Party) หมำยถึงกำรประกันแต่ละประเภท ผู้เอำประกัน

มีผลบังคับใช้และคงไว้ซึ่งกำรประกันภัยตำมที่ระบุไว้ในหัวข้อย่อยที่เกี่ยวข้อง

กรณีใด ๆ ที่ผู้รับจ้ำงเป็นผู้เอำประกัน แต่ละกรมธรรม์ประกันภัยมีผลกำรคุ้มครองตำม

เงื่อนไขประกันซึ่งได้รับกำรเห็นชอบของผู้ว่ำจ้ำง เงื่อนไขกำรประกันภัยนี้ต้องประกอบด้วย

เงื่อนไขที่เห็นชอบด้วยทั้งสองฝ่ำย ก่อนออกหนังสือตกลงจ้ำง เงื่อนไขประกันภัยนี้จะมีผล

คุ้มครองตำมเงื่อนไขของข้อ 18 นี้

กรณีใดที่ผู้ว่ำจ้ำงเป็นผู้เอำประกัน แต่ละกรมธรรม์มีผลคุ้มครองและที่เงื่อนไขคุ้มครอง

สอดคล้องกับ รำยละเอียด ระบุไว้ในเงื่อนไขเฉพำะ

ถ้ำกรณีกำรประกันภัยเป็นผู้เอำประกันร่วมกัน กำรคุ้มครองต้องแยกกันของแต่ละ

กรมธรรม์ แม้ว่ำจะเป็นแยกกำรคุ้มครองและแยกกรมธรรม์ให้แต่ละฝ่ำยของกำรประกันร่วม

หำกกำรเพิ่มค่ำคุ้มครองควำมเสียหำยของผู้เอำประกันร่วม เช่นกำรเพิ่มควำมคุ้มครองตำม

ข้อก ำหนดของข้อ 18.1 นี้

(1) ภำยใต้กำรคุ้มครองผู้รับจ้ำงจะเป็นท ำหน้ำที่ในฐำนะกำรเพิ่มผู้เอำประกันร่วม เว้นแต่

ผู้ว่ำจ้ำงจะท ำหน้ำที่แทนบุคลำกรของผู้ว่ำจ้ำง

(2) กำรเพิ่มผู้เอำประกัน จะไม่มีสิทธิ์รับค่ำสินไหมโดยตรงกันกับผู้ให้กำรประกัน หรือมี

หน้ำที่ติดต่อโดยตรงกับผู้ให้ประกัน และ

(3) ผู้เอำประกันร่วมต้องให้ผู้เอำประกันร่วมปฏิบัติตำมเงื่อนไขของกรมธรรม์ ทุกกรมธรรม์ที่

เอำประกันกำรสูญหำยและกำรเสียหำย

ผู้ให้ประกันต้องจ่ำยค่ำประกันตำมสกุลเงินในกำรจ่ำยค่ำเสียหำยของกำรสูญหำยหรือ

เสียหำย กำรช ำระเงินที่ได้รับจำก บริษัทประกันจะถูกน ำไปใช้ในกำรแก้ไขควำมสูญเสียหรือ

ควำมเสียหำย

ในระยะเวลำที่ระบุไว้ในเงื่อนไขเฉพำะ (ค ำนวณจำกวันที่เริ่มต้น) ให้ภำคีผู้ประกันตนที่

เกี่ยวข้องยื่นต่อภำคีอีกฝ่ำยหนึ่ง:

(ก) มีหลักฐำนแสดงว่ำ กำรประกันภัยที่ระบุไว้ในหัวข้อ 18 นี้มีผลบังคับใช้

(ข) ส ำเนำกรมธรรม์กำรคุ้มครองตำมระบุไว้ในข้อย่อย 18.2 (Insurance of Works and

Contractor’s Equipment) และข้อย่อย 18.3 (Insurance Against Injury to Persons

and Damage to Property)

เมื่อมีกำรจ่ำยค่ำกรมธรรม์แต่ละกรมธรรม์ ผู้เอำประกันต้องแสดงหลักฐำนกำรจ่ำย

ประกันภัย แก่ผู้เอำประกันอีกฝ่ำยหนึ่ง และผู้เอำประกันแจ้งเป็นหนังสือต่อผู้ว่ำจ้ำงอีกด้วย

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-122 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

คู่สัญญำแต่ละฝ่ำยต้องปฏิบัติตำมเงื่อนไขที่ระบุไว้ในแต่ละกรมธรรม์ ผู้เอำประกันต้องแจ้ง

ผู้ให้ประกันทรำบทุกเรื่องที่มีกำรเปลี่ยนแปลงในกำรด ำเนินงำนก่อสร้ำง เพื่อให้แน่ใจว่ำ กำร

คุ้มครองภัยยังคงเป็นไปตำมเงื่อนไขของหัวข้อ 18 นี้

ไม่ว่ำคู่สัญญำใดต้องกำรเปลี่ยนสำระคุ้มครองในกรมธรรม์ใด ๆ ต้องแจ้งคู่สัญญำอีกฝ่ำยหนึ่ง

เห็นชอบด้วย ถ้ำผู้ให้ประกันท ำ (หรือจะท ำ) กำรเปลี่ยนแปลงคู่สัญญำ ฝ่ำยต้องกำร

เปลี่ยนแปลงต้องแจ้งผู้ให้ประกันบอกผู้เอำประกันอีกฝ่ำยให้เห็นชอบด้วย

หำกคู่สัญญำผู้เอำประกันภัยไม่ปฏิบัติตำมและมีผลบังคับใช้กับกำรประกันภัยใด ๆ ที่

จ ำเป็นต้องมีผลและรักษำไว้ภำยใต้สัญญำ หรือไม่ให้หลักฐำนที่น่ำพอใจและส ำเนำของ

กรมธรรม์ตำมข้อย่อยนี้ คู่สัญญำฝ่ำยหนึ่งอำจ (ในตัวเลือกและปรำศจำกอคติใด ๆ ต่อสิทธิ

หรือกำรเยียวยำอื่น ๆ ) ประกันผลกระทบส ำหรับควำมคุ้มครองที่เกี่ยวข้องและจ่ำยเบี้ย

ประกันเนื่องจำก คู่สัญญำฝ่ำยหนึ่งผู้เอำประกันภัยจะต้องจ่ำยเงินค่ำเบี้ยประกันภัยเหล่ำนี้

ให้แก่อีกฝ่ำยหนึ่งและจะต้องปรับรำคำตำมสัญญำ

ไม่มีข้อจ ำกัดควำมรับผิดชอบหนี้สินหรือควำมรับผิดชอบของผู้รับจ้ำงหรือผู้ว่ำจ้ำงภำยใต้

เงื่อนไขอื่น ๆ ของสัญญำ จ ำนวนเงินที่ไม่ได้รับกำรประกันหรือไม่ได้รับกำรกู้คืนจำก บริษัท

ประกันจะต้องเป็นไปตำมภำระหน้ำที่ควำมรับผิดหรือควำมรับผิดชอบของผู้รับจ้ำง และ/

หรือผู้ว่ำจ้ำง อย่ำงไรก็ตำมหำกคู่สัญญำผู้เอำประกันภัยไม่สำมำรถมีผลบังคับใช้ และมีผล

บังคับใช้กำรประกันภัยที่มีอยู่ ซึ่งจ ำเป็นต้องมีผลและรักษำไว้ภำยใต้สัญญำและอีกฝ่ำยหนึ่ง

ไม่อนุมัติ กำรละเลยหรือกำรประกันผลกระทบส ำหรับควำมคุ้มครองที่เกี่ยวข้องกับกำรผิด

นัดนี้ เงินที่สำมำรถกู้คืนได้ภำยใต้กรมธรรม์นี้จะต้องช ำระโดยคู่สัญญำที่ท ำประกันภัย

กำรจ่ำยค่ำประกันของฝ่ำยหนึ่งให้แก่อีกฝ่ำยหนึ่งให้ปฏิบัติตำมข้อย่อย 2.5 (Employer’s

Claims) หรือหัวข้อย่อย 20.1 (Contractor’s Claims)

18.2 การประกันงานก่อสร้างและเครื่องมือของผู้รับจ้าง(Insurance for Works and

Contractor’s Equipment)

ผู้เอำประกัน ต้องท ำประกันงำนก่อสร้ำง อุปกรณ์ประกอบโรงงำน/โรงผลิต วัสดุ และ

เอกสำรของผู้รับจ้ำงต้องไม่น้อยกว่ำค่ำก่อสร้ำงงำนใหม่ ซึ่งต้องรวมค่ำกำรรื้อถอน กำรรื้อ

ย้ำย เศษวัสดุ ค่ำวิชำชีพและค่ำก ำไร กำรประกันนี้จะมีผลคุ้มครองจำกวันที่ซึ่งหลักฐำนต้อง

ส่งมอบให้ภำยใต้ข้อย่อย 18.1 (General Requirement for Insurance) จนถึงวันที่ออก

หนังสือรับรองกำรส่งมอบงำน

ผู้เอำประกันต้องประกันภัยให้กำรคุ้มครองจนกว่ำวันที่ได้ออกหนังสือรับรองกำรปฏิบัติงำน

เสร็จสมบูรณ์ ส ำหรับกำรสูญหำยหรือควำมเสียหำย ซึ่งผู้รับจ้ำงต้องรับผิดอันเกิดจำก

เหตุร้ำยก่อนที่จะได้รับหนังสือกำรรับมอบงำนเพื่อกำรสูญหำยหรือควำมเสียหำย อันเป็น

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-123 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

เหตุเกิดจำกกำรปฏิบัติงำนอื่น ๆ (ให้รวมถึงข้อ 11 (Deflect Liability) และ ข้อ 12 (Tests

after Completion))

ผู้เอำประกันภัยต้องประกันภัยให้คุ้มครองเครื่องมือไม่ให้สูญหำยในมูลค่ำไม่น้อยกว่ำกำรที่

ผู้รับจ้ำงต้องจัดหำมำแทนรวมค่ำขนส่งมำยังพื้นที่โครงกำร เครื่องมือแต่ละชิ้นของผู้รับจ้ำง

ต้องมีผลกำรคุ้มครองในขณะขนส่งเข้ำสู่พื้นที่โครงกำรและหมดอำยุกำรคุ้มครองเมื่อไม่

จ ำเป็นต้องใช้เครื่องมือในกำรก่อสร้ำง

เว้นแต่ได้ก ำหนดไว้ในเงื่อนไขสัญญำ กำรประกันภัยในหัวข้อนี้ (18.2) ต้องมีองค์ประกอบ

ดังนี้

(ก) ต้องมีผลกำรคุ้มครองและมีอำยุกำรคุ้มครอง โดยผู้รับจ้ำงเป็นผู้เอำประกัน

(ข) ผู้ว่ำจ้ำงต้องเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์จำกผลกำรคุ้มครองของกำรประกันภัย กำรจ่ำย

ค่ำจ้ำงก่อสร้ำง จะถูกยึดหน่วงไว้ระหว่ำงผู้ว่ำจ้ำงกับผู้รับจ้ำงเพื่อวัตถุประสงค์ในกำรเจรจำ

ตกลงค่ำสูญหำยหรือค่ำเสียหำยซึ่งกันและกัน

(ค) มีกำรคุ้มครองกำรสูญหำยหรือควำมเสียหำยจำกเหตุซึ่งได้ระบุไว้ในรำยกำรบัญชีของข้อ

ย่อย17.3 (Employer’s Risks)

(ง) ต้องคุ้มครองกำรสูญหำยหรือควำมเสียหำยบำงส่วนของงำนซึ่งผู้ว่ำจ้ำงเข้ำใช้งำนหรือเข้ำ

ครอบครองบำงส่วนของงำน แล้วเกิดกำรสูญหำยหรือควำมเสียหำยจำกควำมเสี่ยงตำมที่

ระบุไว้ในข้อ (ค) (ช) และ (ซ) ของข้อย่อย 17.3 (Employer’s Risk) ไม่รวมควำมเสี่ยงแต่

ละกรณีซึ่งไม่สำมำรถเอำประกันในกำรใช้งำนเชิงพำณิชย์ พร้อมด้วยกำรหักเงินต่อครั้งแต่ไม่

เกินจ ำนวนเงินตำมที่ระบุไว้ ในเอกสำรแนบผนวกในเอกสำรประกวดรำคำ (หำกมิได้ระบุไว้

จะไม่น ำวรรค (ง) มำบังคับใช้) และ

(จ) อย่ำงไรก็ดี ไม่รวมกำรสูญหำยหรือควำมเสียหำยต่อกำรเข้ำครอบครองของ

(1) งำนบำงส่วนที่อยู่ในสภำพช ำรุดอันเนื่องจำกเกิดจำกกำรออกแบบหรือฝีมือกำร

ก่อสร้ำง (แต่รวมงำนบำงส่วนซึ่งได้เกิดควำมสูญหำยหรือควำมเสียหำยอันเนื่องจำกผล

โดยตรงกับสภำพช ำรุดและไม่ระบุไว้ในถ้อยควำม (2) ข้ำงล่ำงนี้

(2) งำนบำงส่วนที่อยู่ในสภำพช ำรุดอันเนื่องจำกกำรเข้ำครอบครองงำนบำงส่วนอื่น หำก

งำนบำงส่วนนี้อยู่ในสภำพช ำรุดอันเนื่องจำกกำรช ำรุดจำกกำรออกแบบ วัสดุก่อสร้ำงหรือ

ฝีมือกำรก่อสร้ำง

(3) งำนบำงส่วนซึ่งได้ส่งมอบแก่ผู้ว่ำจ้ำง เว้นแต่ว่ำ ผู้รับจ้ำงยังต้องรับผิดต่อกำรสูญหำย

หรือควำมเสียหำย และ

(4) พัสดุนั้นไม่อยู่ในประเทศตำมข้อย่อย 14.5 (Plant and Materials intended for the

Works)

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-124 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

หำกมำกกว่ำ 1 ปีหลังจำกวันฐำน กำรคุ้มครองตำมที่ระบุไว้ในวรรค (ง) ข้ำงต้นจนไม่

สำมำรถจัดหำได้ง่ำยตำมเชิงพำณิชย์ ผู้รับจ้ำงซึ่งเป็นผู้เอำประกันจะมีหนังสือแจ้งให้ผู้ว่ำจ้ำง

พร้อมด้วยหลักฐำนเฉพำะ ดังนั้น ผู้ว่ำจ้ำงต้องด ำเนินกำร

(ก) ใช้ข้อย่อย 2.5 (Employer’s Claims) ให้ผู้รับจ้ำงจ่ำยค่ำเสียหำยตำมจ ำนวนอย่ำง

เหมำะสมเทียบเท่ำมูลค่ำที่สมควรตำมที่ผู้รับจ้ำงต้องจ่ำย

(ข) ถือเสมือนว่ำ เว้นแต่ผู้รับจ้ำงได้รับค่ำคุ้มครองตำมรำคำท้องตลำดตำมที่เห็นชอบ ตำม

ข้อยกเว้นของข้อย่อย 18.1 (General Requirements for Insurance)

18.3 การประกันคุ้มครองการบาดเจ็บต่อบุคคลและค่าเสียหายต่อทรัพย์สิน (Insurance

against Injury to Person and Damage to Property)

ผู้เอำประกัน ต้องประกันคุ้มครองทุกฝ่ำยในกำรรับผิด ควำมเสียหำย กำรเสียชีวิต หรือกำร

บำดเจ็บต่อร่ำงกำยและทรัพย์สิน เว้นแต่กำรประกันทรัพย์สินตำมข้อย่อย 18.2 (Insurance

for Works and Contractor’s Equipment) หรือคุ้มครองบุคคลใด ๆ ซึ่งอำจจะเกิดขึ้น

จำกงำนก่อสร้ำงของผู้รับจ้ำงตำมสัญญำ และซึ่งเกิดเหตุก่อนออกหนังสือ กำรรับรอง กำร

ปฏิบัติงำนของผู้รับจ้ำง

กำรประกันจะคุ้มครองจ่ำยค่ำคุ้มครองแบบจ ำกัดต่อครั้งแต่ไม่น้อยกว่ำตำมที่ระบุไว้ใน

เอกสำรแนบผนวกในเอกสำรประกวดรำคำ ซึ่งหัวข้อย่อย 18.3 จะไม่น ำมำบังคับใช้

เว้นแต่ได้ระบุในเงื่อนไขเฉพำะ กำรประกันภัยต่ำง ๆ กำรคุ้มครองตำมที่ระบุภำยใต้ข้อยย่อย

18.3 นี้ เป็นดังนี้

(ก) ผู้รับจ้ำงต้องเป็นผู้เอำประกัน (ผู้ซื้อประกัน) เป็นผู้รักษำประกันภัย

(ข) ต้องมีชื่อทั้ง 2 ฝ่ำยเป็นผู้รับผลประโยชน์จำกกำรประกันภัยร่วมกัน

(ค) ต้องมีผลคุ้มครองรับผิดกำรสูญหำยและควำมเสียหำยจนถึงทรัพย์สินของผู้ว่ำจ้ำง (เว้น

แต่กำรประกันทรัพย์สินภำยใต้ข้อย่อย 18.2) อันเกิดจำกกำรปฏิบัติงำนของผู้รับจ้ำงตำม

สัญญำและ

(ง) อย่ำงไรก็ดีอำจจะไม่รวมควำมรับผิดต่อผลอันเกิดจำก

(1) สิทธิกำรเป็นเจ้ำของของผู้ว่ำจ้ำงในงำนก่อสร้ำงงำนถำวรทั้งปวง ที่อยู่ เหนือ ข้ำงล่ำง

ใน หรือบนพื้นดินและซึ่งเป็นที่ตั้งของสิ่งก่อสร้ำงถำวร

(2) ควำมเสียหำยซึ่งไม่สำมำถหลีกเลี่ยงได้ จำกผลที่ผู้รับจ้ำงต้องก่อสร้ำงตำมพันธะกำร

ก่อสร้ำง และกำรซ่อมบ ำรุงที่ช ำรุดเสียหำยและ

(3) รำยกำรที่ระบุไว้ข้อย่อย 17.3 (Employer’s Risks) เว้นแต่ได้รวมถึงกำรคุ้มครองที่

จัดหำได้ตำมรำคำท้องตลำด

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-125 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

18.4 การประกันบุคลากรของผู้รับจ้าง (Insurance for Contractor’s Personnel)

ผู้รับจ้ำงมีหน้ำที่จัดซื้อประกันภัยและเป็นผู้รักษำกำรประกันภัย คุ้มครองกำรเรียกร้องควำม

เสียหำย กำรสูญเสียและค่ำใช้จ่ำย (รวมค่ำธรรมเนียมและค่ำใช้จ่ำย) ที่เกิดขึ้นต่อกำร

บำดเจ็บ กำรเจ็บป่วยกำรเป็นโรค หรือกำรเสียชีวิตของบุคคลใด ๆ ซึ่งจ้ำงโดยผู้รับจ้ำงหรือ

บุคคลอื่นของผู้รับจ้ำง

ผู้รับจ้ำงและผู้ว่ำจ้ำงต้องได้รับกำรประกันภัยภำยใต้กรมธรรม์ของสัญญำนี้ด้วย เว้นแต่กำร

ประกันนี้ ไม่รวมกำรสูญหำยหรือเรียกร้องค่ำเสียหำยจำกกำรกระท ำอันเกิดจำกกำรยกเว้น

ของผู้ว่ำจ้ำงหรือบุคลำกรของผู้ว่ำจ้ำง

ผู้รับจ้ำงต้องรักษำสัญญำกำรประกันภัยโดยมีผลบังคับใช้ตลอดเวลำที่บุคลำกรท ำงำน

ก่อสร้ำง ส ำหรับบุคลำกรของผู้รับจ้ำงช่วง ผู้รับจ้ำงช่วงต้องเป็นผู้จัดซื้อเอง แต่ผู้รับจ้ำงต้อง

เป็นผู้รับผิดชอบกำรคุ้มครองภัยโดยต้องเป็นไปตำมข้อย่อย 18.4 นี้

19. เหตุสุดวิสัย (Force Majeure)

19.1 ค านิยามของเหตุสุดวิสัย (Definition of Force Majeure)

ในข้อ 19 นี้ เหตุสุดวิสัย หมำยถึง กำรคำดไม่ถึงของเหตุกำรณ์หรือสถำนกำรณ์

(ก) เป็นเหตุกำรณ์ที่คู่สัญญำไม่สำมำรถควบคุมได้

(ข) เป็นสถำนกำรณ์ที่คู่สัญญำไม่สำมำรถปัองกันก่อนลงนำมสัญญำ

(ค) เป็นสถำนกำรณ์ที่คู่สัญญำไม่สำมำรถหลีกเลี่ยงได้หรือเอำชนะได้

(ง) เป็นสถำนกำรณ์อย่ำงมีนัยยะ เกิดผลกระทบต่อบุคคลอื่น

เหตุสุดวิสัยอำจรวมแต่ไม่จ ำกัดต่อประเภทเหตุกำรณ์หรือประเภทสถำนกำรณ์ซึ่งคำดไม่ถึง

ดังนั้น ไม่ว่ำประเภทเหตกำรณ์นั้นจะสอดคล้องกับข้อ (ก) ถึงข้อ (ง) ข้ำงต้น

(1) สงครำม กำรปองร้ำย (ไม่ว่ำจะได้ประกำศเป็นสงครำมหรือไม่) กำรรุกรำน กำรกระท ำ

จำกศัตรูจำกนอกประเทศ

(2) กำรต่อต้ำน กำรก่อกำรร้ำย กำรปฏิวัติ กำรกบฏ กำรยึดอ ำนำจทำงทหำรหรือสงครำม

กลำงเมือง

(3) กำรจรำจล กำรชุมนุมวุ่นวำย กำรขัดขืน กำรหยุดงำน หรือกำรจับตัวคุมขังอันไม่ใช่

บุคลำกรของผู้รับจ้ำง หรือบุคคลอื่นของผู้รับจ้ำง

(4) สงครำมด้วยอำวุธปืน วัตถุระเบิด กำรแผ่รังสีหรือกำรปนเปื้อนด้วยสำรพิษ กำร

ก่อให้เกิดคลื่นวิทยุ ยกเว้นควำมจ ำเป็น กำรใช้กระสุน วัตถุระเบิด กำรแผ่รังสี กำรก่อเกิด

คลื่นวิทยุ และ

(5) มหันตภัยธรรมชำติ เช่น แผ่นดินไหว พำยุเฮอริเคน พำยุใต้ฝุ่น ภูเขำไฟระเบิด

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-126 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

19.2 การแจ้งบอกเหตุสุดวิสัย (Notice of Force Majeure)

หำกคู่สัญญำฝ่ำยหนึ่งต้องกำรรับกำรปกป้องจำกกำรปฏิบัติงำนตำมพันธะสัญญำในเรื่องเหตุ

สุดวิสัย คู่สัญญำฝ่ำยหนึ่งต้องมีหนังสือแจ้งให้อีกฝ่ำยหนึ่ง ให้ทรำบถึงสถำนกำรณ์เหตุ

สุดวิสัยและอธิบำยมำตรกำรปกป้องเหตุสุดวิสัยนั้นภำยใน 14 วัน เมื่อคู่สัญญำได้ตระหนัก

ถึงเหตุสุดวิสัยนั้นแล้ว คู่สัญญำได้รับกำรบอกกล่ำวแล้ว ก็จะได้รับกำรยกเว้นกำรปฏิบัติกำร

ตรำบเท่ำที่กำรปกป้องเหตุสุดวิสัยจำกกำรปฏิบัติกำรนั้น ๆ

ไม่ว่ำกรณีใด ๆ คู่สัญญำจะน ำข้อบังคับนี้มำร้องเรียนค่ำจ้ำงใด ๆ จำกสัญญำย่อมกระท ำ

ไม่ได้

19.3 หน้าที่การลดผ่อนผันการล่าช้า (Duty of Mininise Delay)

ตลอดเวลำ แต่ละฝ่ำยต้องใช้ควำมพยำยำมอย่ำงมีเหตุผล ในกำรลดควำมล่ำช้ำใด ๆ ในกำร

ปฏิบัติตำมสัญญำในเรื่องเหตุสุดวิสัย

คู่สัญญำต้องแจ้งให้ทรำบซึ่งกันและกัน เมื่อเหตุสุดวิสัยนั้นได้สงบ เข้ำสู่เหตุกำรณ์ปกติ

19.4 ผลตามมาของเหตุสุดวิสัย (Consequence of Force Majeure)

หำกผู้รับจ้ำงได้ปฏิบัติตำมพันธะสัญญำในกำรป้องกันอันเกิดจำกเหตุสุดวิสัยและท ำหนังสือ

แจ้งตำมข้อย่อย 19.2 (Notice to Force Majeure) และผู้รับจ้ำงได้รับผลกระทบ กำร

ล่ำช้ำของงำนมีค่ำใช้จ่ำยจำกกำรเกิดเหตุสุดวิสัย ผู้รับจ้ำงมีสิทธิ์ตำมข้อย่อย 20.1

(Contractor’s Claims) กำรเรียกร้องค่ำชดเชย คือ

(ก) ขยำยเวลำกำรก่อสร้ำงตำมเวลำที่ล่ำช้ำไป หำกควำมล่ำช้ำตำมข้อย่อย 8.4 (Extension

of Time for Completion) และ

(ข) หำกเหตุกำรณ์หรือสถำนกำรณ์ ตำมที่ระบุไว้ ตำมข้อ (1) ถึง (4) ของข้อย่อย 19.1

(Definition of Force Majeure) และตำมข้อ (2) ถึง (4) เกิดขึ้นในประเทศที่โครงกำรตั้งอยู่

ก็ต้องจ่ำยค่ำชดเชยของเหตุนั้น ๆ

หลังจำกได้หนังสือแจ้ง ผู้ว่ำจ้ำงจะต้องด ำเนินกำรตำมข้อย่อย 3.5 (Determinations) ให้

ควำมเห็นชอบหรือพิจำรณำวินิจฉัยในเรื่องเหล่ำนี้

19.5 เหตุสุดวิสัยมีผลกระทบต่อผู้รับจ้างช่วง (Force Majeure Affecting Subcontractor)

หำกผู้รับจ้ำงช่วงอยู่ภำยใต้สัญญำใด ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโครงกำรและมีกำรยกเว้นจำก

เหตุสุดวิสัยบนเงื่อนไขเพิ่มเติมหรือขยำยควำมรับผิดชอบกันตำมที่ก ำหนดของข้อย่อย 19.5

นี้

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-127 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

ข้อเพิ่มเติมหรือข้อขยำยควำมเกี่ยวกับเหตุสุดวิสัย ผู้รับจ้ำงหลักจะไม่ได้รับยกเว้นควำม

รับผิดชอบจำกหัวข้อ 19.5 นี้

19.6 ทางเลือกการยกเลิก การจ่ายค่าจ้างและการยกเว้น (Optional Termination,

Payment and Release)

หำกกำรก่อสร้ำงมีควำมก้ำวหน้ำไปได้ดี แต่ถูกชะลอมำมำกกว่ำ 84 วัน อันเนื่องจำกเหตุ

สุดวิสัย และมีหนังสือแจ้งให้ทรำบตำมข้อย่อย 19.2 (Notice of force Majeure) หรือมี

กำรเพิ่มเวลำหยุดชะงักชั่วครำวมำกกว่ำ 140 วัน และมีกำรแจ้งให้ทรำบด้วยหนังสือ

คู่สัญญำฝ่ำยหนึ่งฝ่ำยใดอำจบอกเลิกสัญญำได้

ในเหตุกำรณ์เช่นนี้ กำรบอกเลิกสัญญำจะมีผลบังคับภำยหลัง 7 วัน แห่งกำรบอกกล่ำวด้วย

หนังสือ และผู้รับจ้ำงจะด ำเนินตำมข้อย่อย 16.3 (Cessation of Works and Removal of

Contractor’s Equipment)

จำกกำรบอกเลิกสัญญำดังกล่ำว ผู้ว่ำจ้ำงจะท ำกำรประเมินค่ำของงำนก่อสร้ำงที่ได้กระท ำ

แล้ว และออกหนังสือรับรอง กำรจ่ำยค่ำจ้ำงซึ่งจะรวมในเรื่องดังนี้

(ก) จ ำนวนค่ำจ้ำงที่ต้องจ่ำยของงำนก่อสร้ำงใด ๆ ที่ผู้รับจ้ำงได้กระท ำตำมสัญญำ

(ข) ค่ำของอุปกรณ์ประกอบโรงงำน/โรงผลิต (Plant) วัสดุที่ได้สั่งซื้อเพื่องำนก่อสร้ำง

ดังกล่ำวซึ่งได้ส่งถึงผู้รับจ้ำงแล้ว หรือวัสดุใดที่ผู้รับจ้ำงต้องรับผิดชอบต่อกำรส่งมอบ อุปกรณ์

ประกอบโรงงำน/โรงผลิต และวัสดุเหล่ำนี้จะกลำยเป็นทรัพย์สินของผู้ว่ำจ้ำง เมื่อผู้ว่ำจ้ำง

ต้องจ่ำยและผู้รับจ้ำงจะต้องเปลี่ยนให้ใหม่แก่ผู้ว่ำจ้ำง

(ค) ค่ำใช้จ่ำยอื่น ๆ หรือควำมรับผิดซึ่งอยู่ในสถำนกำรณ์ที่เกิดขึ้นอย่ำงมีเหตุผลจำกผู้รับจ้ำง

ที่คำดว่ำจะด ำเนินงำนก่อสร้ำงให้แล้วเสร็จ

(ง) ค่ำใช้จ่ำยกำรรื้อถอนขนย้ำยสิ่งปลูกสร้ำงชั่วครำวของผู้รับจ้ำงและเครื่องมือของผู้รับจ้ำง

ออกจำกพื้นที่โครงกำร และกำรคืนพัสดุเหล่ำนี้ให้แก่ผู้รับจ้ำงภำยในประเทศ (หรือที่ใด ๆ ที่

มีค่ำใช้จ่ำยมำกกว่ำนี้) และ

(จ) ค่ำใช้จ่ำย กำรส่งคืนบุคลำกรและคนงำนของผู้รับจ้ำงซึ่งท ำงำนก่อสร้ำงโครงกำรนี้

19.7 พ้นภาวะการปฏิบัติงานภายใต้กฏหมาย (Release from Performance under the

Law)

ไม่ว่ำเงื่อนไขอื่นใดของหัวข้อนี้ หำกเหตุกำรณ์ใด ๆ หรือสถำนกำรณ์ใด ๆ นอกเหนือกำร

ควบคุมของคู่สัญญำ (รวมถึงแต่ไม่จ ำกัดเหตุสุดวิสัย) ได้เกิดขึ้นซึ่งเป็นไปไม่ได้หรือไม่ถูก

กฏหมำย ท ำให้คู่สัญญำที่จะท ำตำมให้หรือตำมพันธะสัญญำ หรืออยู่ภำยใต้กฏหมำยที่

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-128 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

บังคับใช้ต่อสัญญำ ท ำให้คู่สัญญำพ้นภำระในกำรปฏิบัติงำนต่อไปตำมสัญญำ ดังนั้น ฝ่ำย

หนึ่งฝ่ำยใดก็ต้องมีหนังสือแจ้งให้อีกฝ่ำยหนึ่งทรำบถึงเหตุอันเกิดขึ้นหรือตำมสถำนกำรณ์นั้น

(ก) คู่สัญญำต้องหยุดปฏิบัติงำนต่อไป โดยไม่กระทบต่อสิทธิของฝ่ำยหนึ่งฝ่ำยใดในกำร

กระท ำผิดสัญญำใด ๆ ที่ผ่ำนมำและ

(ข) ค่ำจ้ำงทั้งปวงที่ผู้ว่ำจ้ำงต้องจ่ำยให้แก่ผู้รับจ้ำงยังคงเหมือนเดิมซึ่งจะต้องจ่ำยตำมข้อย่อย

19.6 (Optional Termination, Payment and Release) หำกมีกำรยกเลิกสัญญำภำยใต้

หัวข้อย่อย 19.6

20. การเรียกร้อง ข้อพิพาท และอนุญาโตตุลาการ (Claims, Disputes and Abitration)

20.1 การเรียกร้องของผู้รับจ้าง (Contractor’s Claims)

หำกผู้รับจ้ำงมีควำมเห็นว่ำ อำจจะขอขยำยต่อเวลำกำรก่อสร้ำงและหรือเพิ่มค่ำจ้ำงก่อสร้ำง

ภำยใต้สัญญำนี้

ผู้รับจ้ำงต้องมีหนังสือด่วนที่สุดแจ้งผู้ว่ำจ้ำงในเหตุกำรณ์หรือสถำนกำรณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อกำร

เรียกร้องค่ำชดเชยภำยในเวลำไม่มำกกว่ำ 28 วัน นับแต่วันที่ผู้รับจ้ำงรู้เหตุหรือควรจะรู้เหตุ

ของสถำนกำรณ์นั้น

หำกผู้รับจ้ำงบกพร่องไม่แจ้งกำรเรียกร้องค่ำชดเชยในช่วงเวลำดังกล่ำว ก็จะไม่มีสิทธิ์ขยำย

ระยะเวลำก่อสร้ำงออกไปและไม่อำจขอค่ำชดเชยเพิ่มได้ และผู้ว่ำจ้ำงจะตัดขำดไม่รับผิดกำร

ชดเชยค่ำใช้จ่ำย เว้นแต่เรื่องต่อนี้ของข้อย่อย 20.1 จะน ำมำบังคับใช้

ผู้รับจ้ำงจะต้องแจ้งเป็นหนังสืออื่นตำมที่ระบุไว้ในสัญญำและหลักฐำนในกำรเรียกร้อง

ค่ำชดเชย ทั้งหมดนี้จะต้องมีส่วนเกี่ยวกับสถำนกำรณ์

ผู้รับจ้ำงจะต้องเก็บรักษำบันทึกประวัติเหตุกำรณ์ซึ่งมีส่วนส ำคัญและจ ำเป็นเพื่อกำร

เรียกร้องค่ำชดเชยจำกเหตุกำรณ์ที่เกิดอยู่ในพื้นที่โครงกำรหรือที่อื่น ซึ่งผู้ว่ำจ้ำงยอมรับว่ำ

เป็นจริง ปรำศจำกกำรรับผิดของผู้ว่ำจ้ำง ภำยหลังที่ผู้ว่ำจ้ำงได้รับหนังสือแจ้งภำยใต้หัวข้อ

20.1 นี้ เฝ้ำติดตำมกำรเก็บรักษำบันทึกประวัติและสั่งให้ผู้รับจ้ำง เก็บบันทึกประวัติเพิ่มเติม

แต่ผู้รับจ้ำงต้องยินยอมให้ผู้ว่ำจ้ำงเข้ำตรวจสอบบันทึกประวัติได้และอำจส่งส ำเนำบันทึก

ประวัตินี้ให้แก่ผู้ว่ำจ้ำง

ภำยในเวลำ 42 วัน ผู้รับจ้ำงเริ่มตระหนัก (หรือได้ตระหนักแล้ว) กับกำรเกิดเหตุกำรณ์หรือ

สถำนกำรณ์นี้ในกำรเรียกร้องค่ำชดเชย หรือภำยในระยะเวลำอื่น ผู้รับจ้ำงอำจจะน ำเสนอ

และได้รับกำรเห็นชอบจำกผู้ว่ำจ้ำง

ผู้รับจ้ำงจะส่งรำยละเอียดพร้อมหลักฐำนกำรเรียกร้องกำรชดเชยให้ผู้ว่ำจ้ำงในกำรขยำย

เวลำก่อสร้ำงและค่ำชดเชยเพิ่มเติม หำกเหตุกำรณ์หรือสถำนกำรณ์กำรเรียกร้องนี้เกิดขึ้น

อย่ำงต่อเนื่องต่อไป

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-129 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

(ก) รำยละเอียดกำรเรียกค่ำชดเชยค่ำจ้ำงนี้ จะถูกพิจำรณำกำรจ่ำยค่ำจ้ำงงวด

(ข) ผู้รับจ้ำงยังคงส่งค่ำชดเชยค่ำจ้ำงเพิ่มทบต้นทุกเดือนและระยะขยำยเวลำเพิ่มทบต้นทุก

เดือน ตำมที่ผู้ว่ำจ้ำงเรียกขอ

(ค) ผู้รับจ้ำงต้องส่งหนังสือฉบับสุดท้ำยในกำรเรียกร้องกำรชดเชย ภำยใน 28 วัน หลังจำก

เหตุกำรณ์หรือสถำนกำรณ์สิ้นสุดลง หรือภำยในระยะเวลำช่วงอื่นที่ผู้รับจ้ำงเสนอและผู้ว่ำ

จ้ำงเห็นชอบในกำรด ำเนินกำรดังกล่ำวข้ำงต้น

ภำยใน 42 วัน ภำยหลังได้รับกำรเรียกร้องค่ำชดเชยหรือได้รับหลักฐำนเพิ่มเติมสนับสนุน

กำรเรียกร้องค่ำชดเชยที่ผ่ำนมำ หรือภำยในระยะเวลำอื่นซึ่งผู้ว่ำจ้ำงน ำเสนอและได้รับควำม

เห็นชอบจำกผู้รับจ้ำง ผู้ว่ำจ้ำงจะอนุมัติหรือไม่อนุมัติพร้อมด้วยข้อคิดเห็น ผู้ว่ำจ้ำงอำจจะ

เรียกร้องหลักฐำนเพิ่ม

หนังสือรับรองกำรจ่ำยงวดค่ำจ้ำงแต่ละฉบับจะต้องรวมรำยกำรกำรเรียกร้องค่ำชดเชยที่ค้ำง

จ่ำย ซึ่งเกิดขึ้นอย่ำงมีนัยแห่งเหตุผลตำมสัญญำ เว้นแต่จนกว่ำหลักฐำนที่ประกอบกำรเบิกมี

ควำมเพียงพอต่อกำรชดเชย ผู้รับจ้ำงมีสิทธิ์ขอเรียกร้องค่ำชดเชยงำนส่วนนั้น

ผู้ว่ำจ้ำงจะด ำเนินกำรตำมข้อย่อย 3.5 (Determinations) เพื่อตกลงหรือก ำหนด (1) กำร

ต่ออำยุ (ถ้ำมี) ของระยะเวลำที่เสร็จสิ้น (ก่อนหรือหลังหมดอำยุ) ตำมข้อย่อยข้อ 8.4

(Extension of Time for Completion) และ/หรือ (2) กำรช ำระเงินเพิ่มเติม (ถ้ำมี) ซึ่ง

ผู้รับจ้ำงมีสิทธิตำมสัญญำ

ข้อก ำหนดของข้อย่อยนอกเหนือจำกข้อย่อยอื่น ๆ ที่อำจใช้กับกำรเรียกร้อง หำกผู้รับจ้ำงไม่

ปฏิบัติตำมข้อก ำหนดนี้หรือข้อย่อยอื่นที่เกี่ยวกับกำรเรียกร้องใด ๆ กำรต่อเวลำและ/หรือ

กำรช ำระเงินเพิ่มเติมใด ๆ จะค ำนึงถึงขอบเขต (ถ้ำมี) ซึ่งควำมล้มเหลวได้รับกำรป้องกัน

หรือมีอคติในกำรตรวจสอบ ยกเว้นกรณีที่ข้อเรียกร้องดังกล่ำวได้รับกำรยกเว้นตำมวรรค

สองของข้อย่อยนี้

20.2 การแต่งตั้งคณะกรรมการตัดสินข้อพิพาท:คณะผู้ชี้ขาด (DAB) (Appointment of the

Dispute Adjudication Board, DAB)

ข้อพิพำททั้งปวงต้องตัดสินโดย คณะผู้ชี้ขำด ตำมข้อย่อย 20.4 (Obtaining Dispute

Adjudication Board Decision) คู่กรณีต้องแต่งตั้งคณะผู้ชี้ขำดภำยใน 28 วันภำยหลังฝ่ำย

หนึ่งฝ่ำยใดได้แจ้งเป็นหนังสือให้อีกฝ่ำยหนึ่งตำมข้อย่อย 20.4

คณะผู้ชี้ขำด จะประกอบด้วยบุคคลตำมเอกสำรแนบผนวกในเอกสำรประกวดรำคำ จ ำนวน

1 คน หรือ 3 คน จำกบุคคลที่มีคุณสมบัติเหมำะสม (กรรมกำร) หำกจ ำนวนกรรมกำรไม่ได้

ระบุไว้หรือคู่กรณีไม่เห็นด้วย ก็ให้คณะผู้ชี้ขำด มีกรรมกำร 3 คน

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-130 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

ถ้ำคณะผู้ชี้ขำด มีกรรมกำร 3 คน ให้คู่กรณีแต่ละฝ่ำยเสนอกรรมกำรฝ่ำยละคน โดยควำม

เห็นชอบของคู่กรณี คู่กรณีจะปรึกษำกับกรรมกำรทั้ง 2 นี้ และแต่งตั้งกรรมกำรคนที่ 3 ให้

เป็นประธำนคณะกรรมกำรคณะผู้ชี้ขำด

อย่ำงไรก็ดี ถ้ำรำยชื่อกรรมกำรมีกำรระบุไว้ในสัญญำ กรรมกำร 3 คน ของคณะผู้ชี้ขำดต้อง

คัดเลือก และแต่งตั้งจำกบัญชีรำยชื่อนี้ เว้นแต่กรรมกำรนั้นไม่สำมำรถหรือไม่เต็มใจที่จะรับ

กำรแต่งตั้งเป็นกรรมกำรคณะผู้ชี้ขำด

ข้อตกลงของคู่กรณีหรืออย่ำงหนึ่งอย่ำงใดของกรรมกำรทั้งหมดหรืออย่ำงหนึ่งอย่ำงใดของ

กรรมกำรแต่ละคน ต้องกระท ำตำมข้อก ำหนดของเงื่อนไขข้อตกลงทั่วไปของข้อพิพำท

ตำมที่ระบุไว้ในเอกสำรภำคผนวกและได้มีกำรแก้ไขตำมควำมเห็นชอบของทั้ง 2 ฝ่ำยแล้ว

ข้อตกลงเรื่องค่ำตอบแทนของคณะกรรมกำรและตัวกรรมกำรแต่ละคนและให้รวม

ค่ำตอบแทนของผู้เชี่ยวชำญผู้ให้ค ำปรึกษำต่อคณะผู้ชี้ขำด กรณีต้องมีควำมเห็นชอบพร้อม

กัน ณ เวลำที่มีกำรแต่งตั้งคณะผู้ชี้ขำด คู่กรณีต้องจ่ำยค่ำตอบแทนคนละครึ่ง

ทุกเวลำตำมที่คู่กรณีได้ตกลงกันไว้ คู่กรณีอำจจะขอควำมเห็นรวมในเรื่องพิพำท คู่กรณี ไม่

อำจขอค ำปรึกษำจำกคณะผู้ชี้ขำดในเรื่องใด ๆ โดยไม่ได้รับควำมเห็นชอบจำกคู่กรณีอีกฝ่ำย

หนึ่ง

ทุกเวลำตำมที่คู่กรณีได้ตกลงกันไว้ คู่กรณีอำจแต่งตั้งบุคคลที่มีควำมเหมำะสมหรือเปลี่ยน

บุคคล (หรือต ำแหน่งที่ว่ำงลง) แทนกรรมกำรคณะผู้ชี้ขำด เว้นแต่ได้ตกลงเป็นอื่น กำร

แต่งตั้งจะมีผลกำรปฏิบัติหน้ำที่ หำกว่ำกรรมกำรท ำงำนหย่อนสมรรถภำพ (แก่) หรือเกิด

ตำย พิกำร ลำออกหรือเมื่อหมดหน้ำที่ กำรแต่งตั้งคณะผู้ชี้ขำด คนใหม่ให้เป็นไปตำม

ระเบียบเดิมโดยแต่งตั้งจำกบุคคลที่ได้คัดสรรตำมที่ทั้ง 2 ฝ่ำยตกลงยินยอมตำมหัวข้อย่อย

20.2 นี้

กำรแต่งตั้งคณะผู้ชี้ขำดใหม่แทนคณะผู้ชี้ขำดที่ถูกถอดถอนโดยกำรเห็นชอบทั้ง 2 ฝ่ำย

เท่ำนั้น ไม่ใช่เป็นฝ่ำยกระท ำของฝ่ำยผู้ว่ำจ้ำงหรือผู้รับจ้ำง กำรแต่งตั้งคณะผู้ชี้ขำดใหม่แทน

คณะผู้ชี้ขำดที่ก ำลังจะหมดวำระ จะให้คณะผู้ชี้ขำดผู้ครบวำระได้ให้ค ำวินิฉัยเสียก่อนตำมข้อ

ย่อย 20.4 (Obtaining Dispute Adjudication Board’s Decision) เว้นแต่ข้อพิพำทอื่น

ได้อ้ำงถึง กรรมกำรคณะผู้ชี้ขำด ในขณะนั้นตำมข้อย่อย 20.4 ซึ่งข้อพิพำทนั้นได้ก ำหนด

วันที่ให้กรรมกำรคณะผู้ชี้ขำดผู้นั้นต้องให้ค ำวินิจฉัยนั้นด้วยต่อข้อพิพำทเหล่ำนี้

20.3 การไม่เห็นด้วยกับคณะกรรมการตัดสินข้อพิพาท (Failure to Agree DAB)

เงื่อนไขดังต่อไปนี้จะมีผลกำรบังคับใช้

(ก) คู่กรณีไม่ตกลงในกำรแต่งตั้งคณะกรรมกำรคณะผู้ชี้ขำด ตำมวันที่ระบุไว้ในวรรคแรกของ

ข้อย่อย 20.2

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-131 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

(ข) คู่กรณีใดไม่เสนอชื่อกรรมกำรคณะผู้ชี้ขำด (เพื่อกำรแต่งตั้ง) ตำมวันที่ก ำหนดไว้

(ค) คู่กรณีไม่ตกลงเห็นชอบกำรแต่งตั้งกรรมกำรคนที่ 3 (ประธำนกรรมกำร) ตำมวันที่ระบุ

ไว้

(ง) คู่กรณีไม่ตกลงเห็นชอบในกำรแต่งตั้งกรรมกำรคณะผู้ชี้ขำด หรือแทนกรรมกำรที่ว่ำงลง

ภำยใน 42 วัน นับแต่วันที่คณะกรรมกำร 3 คน หรือกรรมกำรที่หย่อนสมรรถภำพกำร

ท ำงำน ตำย พิกำร ลำออกหรือยกเลิกกำรแต่งตั้ง

ดังนั้นกำรแต่งบุคคลหรือที่มีนำมระบุไว้ในเอกสำรแนบผนวกในเอกสำรประกวดรำคำ ตำม

กำรร้องขอคู่กรณีฝ่ำยหนึ่งฝ่ำยใด หรือทั้ง 2 ฝ่ำย ในกำรแต่งตั้งเป็นกรรมกำรคณะผู้ชี้ขำด

กำรแต่งตั้งครั้งนี้จะเป็นผลสรุปครั้งสุดท้ำย คู่กรณีทั้งคู่ต้องจ่ำยค่ำตอบแทนกันคนละครึ่งใน

กำรแต่งตั้งกรรมกำรบุคคลหรือกรรมกำรจำกบัญชีรำยชื่อ

20.4 การรับค าวินิจฉัยของคณะผู้ชี้ขาด (Obtaining DAB’s Decision)

หำกข้อพิพำทใด ๆ เกิดขึ้นระหว่ำงคู่กรณีจำกข้อสัญญำ หรือจำกปฏิบัติงำนรวมถึงข้อพิพำท

จำกกำรรับรองใด ๆ กำรวินิจฉัย ค ำสั่ง ควำมเห็น หรือกำรประเมินของผู้ว่ำจ้ำง คู่กรณีฝ่ำย

หนึ่งฝ่ำยใด อำจอ้ำงถึงข้อพิพำทเป็นหนังสือส่งถึงคณะผู้ชี้ขำดเพื่อกำรวินิฉัย พร้อมส ำเนำถึง

ผู้ว่ำจ้ำงและคู่กรณีอีกฝ่ำยหนึ่ง กำรด ำเนินกำรดังกล่ำวให้ระบุอ้ำงถึงตำมข้อย่อย 20.4 นี้

ส ำหรับคณะผู้ชี้ขำด มีคณะกรรมกำร 3 คน คณะผู้ชี้ขำดเสมือนหนึ่งได้รับกำรฟ้องร้อง ณ

วันที่ประธำนคณะผู้ชี้ขำดได้รับเรื่องกำรฟ้องร้องนั้น

คู่กรณีต้องจัดหำข้อมูลเอกสำรส่งให้คณะผู้ชี้ขำดทันที และเข้ำตรวจสอบในสถำนที่โครงกำร

และต้องอ ำนวยควำมสะดวกตำมควำมเหมำะสมตำมที่คณะผู้ชี้ขำดร้องขอ เพื่อวัตถุประสงค์

ในกำรตัดสินค ำวินิจฉัยข้อพิพำท คณะผู้ชี้ขำดจะไม่กระท ำตนเสมือนหนึ่งว่ำเป็น

อนุญำโตตุลำกำร (Arbitrator)

ภำยในเวลำ 84 วัน นับแต่วันได้รับค ำฟ้องหรือภำยในระยะเวลำอื่นตำมที่คณะผู้ชี้ขำดจะ

เห็นชอบตำมคู่กรณี คณะผู้ชี้ขำดจะตัดสินค ำวินิจฉัยอย่ำงมีเหตุผลและต้องระบุได้ให้ค ำ

วินิจฉัย ตำมข้อย่อย 20.4 นี้ ค ำวินิจฉัยจะมีผลผูกพันธ์คู่กรณีทันที เว้นแต่จะมีกำร

ประนีประนอมจนได้ข้อยุติหรือมีค ำตัดสินเป็นหนังสือตำมข้ำงล่ำงนี้ หรือมีกำรยกเลิกสัญญำ

หรือกำรไม่ยอมรับค ำวินิจฉัย ผู้รับจ้ำงยังรับผิดชอบก่อสร้ำงต่อไปตำมสัญญำ

หำกคู่กรณีฝ่ำยหนึ่งฝ่ำยใดไม่ยอมรับค ำวินิจฉัยของคณะผู้ชี้ขำด ภำยใน 28 วันภำยหลังได้

รับค ำวินิจฉัย คู่กรณีจะมีหนังสือแจ้งให้คู่สัญญำอีกฝ่ำยว่ำไม่ยอมรับค ำวินิจฉัย

หำกคณะผู้ชี้ขำด ไม่มีค ำวินิจฉัยภำยใน 84 วัน (หรือตำมจะตกลงกันเป็นอื่น) ภำยหลังได้

รับค ำฟ้อง กรณีนี้ภำยใน 28 วันของกำรให้ค ำวินิจฉัย ฝ่ำยหนึ่งฝ่ำยใดของคู่กรณีจะมี

หนังสือแจ้งให้อีกฝ่ำยหนึ่งว่ำไม่ยอมรับค ำวินิจฉัย

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-132 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

ในเหตุกำรณ์หนึ่งเหตุกำรณ์ใด หนังสือกำรไม่ยอมรับค ำวินิจฉัยต้องอ้ำงถึงข้อย่อย 20.4 นี้

และจะตั้งเรื่องพิพำท เรื่องกำรไม่ยอมรับค ำวินิจฉัยเว้นแต่จะได้ระบุไว้ข้อย่อย 20.7

(Failure to Comply with Dispute Adjudication Board’s Decision) และข้อย่อย 20.8

(Expire of Dispute Adjudication Board’s Appointment) ไม่ว่ำฝ่ำยหนึ่งฝ่ำยใดมีจะ

สิทธิ์ในด ำเนินกำรทำงอนุญำโตตุลำกำร เว้นแต่ต้องมีหนังสือกำรไม่ยอมรับค ำวินิจฉัยตำมข้อ

ย่อย 20.4 นี้

หำกคณะผู้ชี้ขำดได้มีค ำวินิจฉัยข้อพิพำทให้แก่คู่กรณี แต่ไม่มีหนังสือแจ้งกำรไม่ยอมรับค ำ

วินิจฉัยจำกคู่กรณีภำยใน 28 วัน หลังจำกได้รับค ำวินิจฉัย ดังนั้นค ำวินิจฉัยจะเป็นข้อยุติ

และข้อผูกพันต่อคู่กรณี

20.5 ข้อยุติการประนีประนอม (Amicable Settlement)

เมื่อใดที่มีหนังสือไม่ยอมรับค ำวินิจฉัยตำมข้อย่อย 20.4 คู่กรณีต้องพยำยำมให้มีข้อยุติข้อ

พิพำทด้วยกำรเจรจำประนีประนอมก่อนจะมีกำรฟ้องร้องทำงอนุญำโตตุลำกำร แต่อย่ำงไร

ก็ดี เว้นแต่คู่กรณียินยอม มิฉะนั้น กำรฟ้องร้องทำงอนุญำโตตุลำกำร จะด ำเนินกำรได้

ภำยหลัง 56 วัน หลังจำกมีหนังสือไม่ยอมรับค ำวินิจฉัย ถึงแม้ว่ำจะไม่มีกำรพยำยำมที่จะหำ

ข้อยุติด้วยกำรเจรจำประนีประนอม

20.6 อนุญาโตตุลาการ (Arbitration)

ข้อพิพำทใด ๆ ที่มีค ำวินิจฉัยของคณะผู้ชี้ขำด ยังไม่มีข้อยุติและข้อผูกพันโดยจะมีกำรหำข้อ

ยุติด้วยวิธีอนุญำโตตุลำกำรสำกล

(ก) ข้อพิพำทจะสรุปข้อยุติด้วยวิธีกำรอนุญำโตตุลำกำรตำมระบบหอกำรค้ำสำกล

(ข) ข้อพิพำทจะยุติด้วยวิธีอนุญำโตตุลำกำรแบบ 3 คน ซึ่งกำรแต่งตั้งตำมข้อบังคับเหล่ำนี้

และ

(ค) กำรอนุญำโตตุลำกำร จะด ำเนินกำรโดยใช้ภำษำตำมที่ระบุไว้ข้อย่อย 1.4 (Law and

Language)

ตุลำกำรต้องมีอ ำนำจในกำรเริ่มต้น ตรวจทำนและแก้ไข หนังสือรับรองใด ๆ กำรพิจำรณำ

วินิจฉัย ค ำสั่ง ควำมเห็น หรือกำรประเมินของผู้ว่ำจ้ำง ถ้ำกำรวินิจฉัยของคณะผู้ชี้ขำด ซึ่งมี

ส่วนเกี่ยวข้องกับข้อพิพำท จะไม่มีกำรกีดกันผู้ว่ำจ้ำงเมื่อถูกเรียกให้เป็นพยำน และให้

หลักฐำนก่อนมีกำรพิจำรณำอนุญำโตตุลำกำรในเรื่องใด ๆ อันเกี่ยวเรื่องข้อพิพำท

ไม่ว่ำคู่กรณีฝ่ำยหนึ่งฝ่ำยใดมีข้อจ ำกัดในกำรด ำเนินกำรอนุญำโตตุลำกำร เพื่อเป็นหลักฐำน

ข้อโต้แย้ง ก่อนมีคณะผู้ชี้ขำด เพื่อประกอบพิจำรณำค ำวินิจฉัย หรือกำรไม่ยอมรับในหนังสือ

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-133 | เงื่อนไขของสัญญา FIDIC EPC/Turnkey Contract Ver. 1999

ไม่ยอมรับค ำวินิจฉัย ค ำวินิจฉัยใด ๆ ของคณะผู้ชี้ขำด จะกลำยเป็นหลักฐำนในขบวนกำร

อนุญำโตตุลำกำร

ขบวนกำรอนุญำโตตุลำกำรอำจจะด ำเนินกำรก่อนหรือหลังงำนก่อสร้ำงแล้วเสร็จ พันธะของ

คู่กรณี ผู้ว่ำจ้ำง และคณะผู้ชี้ขำด จะต้องไม่เปลี่ยนแปรด้วยเหตุผลในระหว่ำงขบวนกำร

อนุญำโตตุลำกำร

20.7 การไม่ปฏิบัติตามค าตัดสินของคณะกรรมการตัดสินข้อพิพาท (Failure to Comply

with DAB’s Decision)

ในเหตุผลดังต่อไปนี้

(ก) ไม่ว่ำคู่กรณีใดได้มีหนังสือ ไม่ยอมรับค ำวินิจฉัย ภำยในระยะเวลำที่ระบุไว้ในข้อย่อย

20.4 (Obtaining Dispute DAB’s Decision)

(ข) เรื่องสืบเนื่องซึ่งยุติแล้วกับผลของคณะผู้ชี้ขำดแล้ว และ

(ค) คู่สัญญำไม่ปฏิบัติตำมค ำวินิจฉัย

ดังนั้น คู่กรณีอีกฝ่ำยหนึ่ง โดยไม่กระทบกับสิทธิ์กับคู่กรณีอีกฝ่ำยหนึ่ง หำกไม่ปฏิบัติต่อกำร

อนุญำโตตุลำภำยใต้ข้อย่อย 20.6 (Arbitration) ข้อย่อย 20.4 (Obtaining Dispute

Adjudication Board’s Decision) และข้อย่อย 20.5 (Amicable Settlement) จะไม่ใช้

บังคับกับกำรอ้ำงอิงนี้

20.8 การหมดอายุการแต่งตั้งกรรมการคณะผู้ชี้ขาด (Expiry of DAB’s Appointment)

หำกกำรพิพำทเกิดขึ้นระหว่ำงคู่กรณีซึ่งเกี่ยวข้องกับสัญญำจ้ำงหรือเกิดจำกงำนก่อสร้ำงและ

ไม่มีคณะผู้ชี้ขำด ไม่ว่ำจะเป็นเหตุผลจำกกำรหมดอำยุของกำรแต่งตั้งคณะกรรมกำรคณะผู้ชี้

ขำด หรือยกเว้น

(ก) ข้อย่อย 20.4 (Obtaining DAB’s Decision) และข้อย่อย 20.5 (Amicable

Settlement) จะไม่น ำมำบังคับใช้และ

(ข) กำรพิพำทอำจจะเป็นผลทำงตรงในกำรฟ้องร้องอนุญำโตตุลำกำร ตำมข้อย่อย 20.6

(Arbitration)

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์



ภาคผนวก 3-3: การปรับปรุง FIDIC 2017



3-134 | การปรับปรุง FIDIC 2017

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-135 | การปรับปรุง FIDIC 2017

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-136 | การปรับปรุง FIDIC 2017

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-137 | การปรับปรุง FIDIC 2017

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-138 | การปรับปรุง FIDIC 2017

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-139 | การปรับปรุง FIDIC 2017

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-140 | การปรับปรุง FIDIC 2017

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-141 | การปรับปรุง FIDIC 2017

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-142 | การปรับปรุง FIDIC 2017

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-143 | การปรับปรุง FIDIC 2017

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-144 | การปรับปรุง FIDIC 2017

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-145 | การปรับปรุง FIDIC 2017

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-146 | การปรับปรุง FIDIC 2017

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-147 | การปรับปรุง FIDIC 2017

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-148 | การปรับปรุง FIDIC 2017

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-149 | การปรับปรุง FIDIC 2017

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-150 | การปรับปรุง FIDIC 2017

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-151 | การปรับปรุง FIDIC 2017

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-152 | การปรับปรุง FIDIC 2017

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-153 | การปรับปรุง FIDIC 2017

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-154 | การปรับปรุง FIDIC 2017

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


3-155 | การปรับปรุง FIDIC 2017

สัญญาออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง ฉบับประสบการณ์


ภาคผนวก 3-4: Engineering,

Procurement & Construction (EPC) EPC

Construction Management Guide



ENGINEERING, PROCUREMENT &

CONSTRUCTION (EPC)

EPC CONSTRUCTION

MANAGEMENT GUIDE

Manual

Document

Page

Issue Date

3-156

EPC

TFC-EPC-CM-D-13, REV A

1 of 25

DRAFT January 31, 2017

This guide describes suggested non-mandatory approaches for meeting requirements. Guides are

not requirements documents and are not construed as requirements in any audit or appraisal for

compliance with the parent policy.

TABLE OF CONTENTS

1.0 PURPOSE AND SCOPE ................................................................................................................ 2

2.0 IMPLEMENTATION ..................................................................................................................... 2

3.0 RESPONSIBILITIES ...................................................................................................................... 2

4.0 PROCEDURE ................................................................................................................................. 2

4.1 Process Work Flow Chart ................................................................................................... 2

4.2 Process Work Flow – WRPS acting as PM/Constructor .................................................... 2

4.3 Process Work Flow – WRPS as PM/CMT ......................................................................... 9

5.0 DEFINITIONS .............................................................................................................................. 15

5.1 Administrative change ...................................................................................................... 15

5.2 Construction Representative ............................................................................................. 15

5.3 Non-administrative change. .............................................................................................. 15

5.4 Issue Authorization and Maintenance for Use .................................................................. 16

5.5 Project Management/Constructor Team (PM/Constructor).............................................. 16

5.6 Project Management & Construction Management Team (PM/CMT)............................. 16

6.0 RECORDS .................................................................................................................................... 16

7.0 SOURCES ..................................................................................................................................... 17

7.1 Requirements .................................................................................................................... 17

7.2 References ......................................................................................................................... 17

TABLE OF FIGURES

Figure 1. Process Work Flow Chart. ......................................................................................................... 19

Figure 2. Construction Execution Process Work Flow Chart. ................................................................... 24

Figure 3. Construction Action Log Process Work Flow Chart. ................................................................. 25


ENGINEERING, PROCUREMENT &

CONSTRUCTION (EPC)

EPC CONSTRUCTION

MANAGEMENT GUIDE

Manual

Document

Page

Issue Date

3-157

EPC

TFC-EPC-CM-D-13, REV A

2 of 25

DRAFT January 31, 2017

1.0 PURPOSE AND SCOPE

The purpose of this procedure is to establish the WRPS construction management requirements

for EPC projects. This procedure applies to all EPC construction projects executed by WRPS.

Section 4.3 describes the application of this procedure where WRPS EPC has elected to contract

out the construction.

This procedure shall be implemented on any EPC project where, WRPS, acting as the Project

Manager, elects to self-perform as the Constructor to construct the facility. If the Project elects to

contract with an outside entity to act as the Constructor, that entity shall be certified to ASME

NQA-1 2008, with the 2009 Addenda and perform as Constructor to its own processes and

procedures. In that case, this procedure shall be used (in conjunction with other WRPS EPC

procedures) to benchmark the Constructor’s procedures. The results of that benchmarking shall

be the basis for requiring the Constructor to modify its procedures, as necessary, to provide

reasonable assurance that its work products will be of equivalent quality, with sufficient planning

to carry out the work safely, efficiently, on schedule, and meeting any other characteristic

deemed by the Project to be essential. Furthermore, where WRPS has contracted with an outside

entity to act as Constructor, WRPS will provide Construction Management oversight services.

Section 4.3 of this procedure, coupled with the Construction Management Plan (TFC-EPC-PLN-

03) define this service as it applies to this guide.

2.0 IMPLEMENTATION

This procedure is released as a Draft for Low Activity Waste Pretreatment System (LAWPS)

Project (T5L01) use only.

Formal issued date to be determined

3.0 RESPONSIBILITIES

Responsibilities are contained within Section 4.0. Individual tasks may be delegated to qualified

personnel.

4.0 PROCEDURE

4.1 Process Work Flow Chart

See Table of Figure Section, Figure 1 – Process Work Flow Chart.

4.2 Process Work Flow – WRPS acting as PM/Constructor

Figure 1 illustrates the process flow related to pre-construction activities.

A. Acquisition Planning

The first step in the construction work process is acquisition planning. Types of decisions made

are whether the subcontract will be fixed-price versus cost reimbursable, or competitively bid

versus sole source. Issues such as subcontractor experience, personnel qualifications, and

program requirements (e.g., Evaluated Supplier) will be discussed to fully understand the


ENGINEERING, PROCUREMENT &

CONSTRUCTION (EPC)

EPC CONSTRUCTION

MANAGEMENT GUIDE

Manual

Document

Page

Issue Date

3-158

EPC

TFC-EPC-CM-D-13, REV A

3 of 25

DRAFT January 31, 2017

expectations required of the subcontractor. Acquisition planning requirements and process are

defined in TFC-BSM-CP_CPR-C-05.

Action by

Project Manager

Project Manager/BTR

Construction Manager

Project Manager

Action

1. Involve the CM or designee in the Acquisition Planning Process.

2. Authorize pre-construction and subcontract execution activities.

3. Initiate pre-construction activities.

4. Conduct a meeting with appropriate Team members and

Procurement personnel to identify how the work will be

subcontracted.

B. Constructability

Constructability reviews should be performed for all projects. The goal of the constructability

reviews is to optimize benefits to the entire project, not just to a single department or discipline.

Action by

Action

CM 1. Ensure Construction participates and performs constructability

reviews on projects and the design documents per TFC-EPC-

CM-D-01.

C. Construction Statement of Work

The Construction SOW document is a critical procurement document that defines the work scope,

processes and requirements of the subcontractor so completed construction work achieves TOC

expectations.

TFC-PRJ-CM-C-18 defines the process for developing a SOW and the contents necessary for

inclusion in the SOW.

Action by

Action

Project Manager/BTR 1. Provide the definition of the work to be performed by a

subcontractor to the CM.

CM 2. With concurrence of the Project Manager, determine who is

best suited to be assigned the responsibility of the SOW

Coordinator.

SOW Coordinator 3. Develop the SOW and related appendices in accordance with

TFC-PRJ-CM-C-18.

D. Request for Proposal Issuance and Subcontract Award

The process for procurement of a subcontractor, from SOW entry into Asset Suite, approval

process, issuing an RFP, through subcontract award is addressed in TFC-BSM-CP_CPR-C-05.

The Team will assist procurement during this process by reviewing technical requirements and

providing answers to subcontractor questions during the proposal phase. The Team will also


ENGINEERING, PROCUREMENT &

CONSTRUCTION (EPC)

EPC CONSTRUCTION

MANAGEMENT GUIDE

Manual

Document

Page

Issue Date

3-159

EPC

TFC-EPC-CM-D-13, REV A

4 of 25

DRAFT January 31, 2017

provide support for the procurement Construction Pre-Proposal Conference as delineated in

TFC-PRJ-CM-C-05.

Action by

Procurement Specialist/

BTR/CMT

Action

1. Schedule and conduct Construction Pre-Proposal Conference in

accordance with TFC-PRJ-CM-C-05.

Procurement Specialist 2. Receive proposal(s) and distribute.

Procurement Specialist/

BTR/SEB

3. Review and approve the subcontractor technical proposal in

accordance with TFC-BSM-CP_CPR-C-05.

4. Ensure appropriate Team members review the subcontractor

proposal(s).

BTR 5. Fill out and submit the applicable Technical Evaluation form to

the Procurement Specialist.

Procurement Specialist 6. Process the subcontract release and notify the subcontractor.

E. Pre-Construction/Mobilization

7. Perform distribution of the notice of award.

Documentation for various construction documents shall be in accordance with

TFC-BSM-IRM_DC-C-07 and TFC-PRJ-CM-D-02.

Action by

Action

BTR 1. Inform the Procurement Specialist of readiness to proceed.

Procurement Specialist 2. Prepare, issue and distribute Notice to Proceed.

CM/BTR 3. Prepare a letter to the subcontractor for Pre-Construction

(Kick-Off) Meeting with agenda found in TFC-PRJ-CM-C-

05.

4. Submit the Pre-Construction (Kick-Off) Meeting letter to C&C

Document Control.

C&C Document Control 5. Perform distribution of the Pre-Construction (Kick-Off)

Meeting letter.

CM/BTR 6. Conduct a Pre-Construction (Kick-Off) Meeting outlining

subcontractor requirements for performing work using the

“Pre-Construction (Kick-Off) Meeting Minutes,” Form (A-

6006-174) to record minutes of meeting in accordance with

TFC-PRJ-CM-C-05.


ENGINEERING, PROCUREMENT &

CONSTRUCTION (EPC)

EPC CONSTRUCTION

MANAGEMENT GUIDE

Manual

Document

Page

Issue Date

3-160

EPC

TFC-EPC-CM-D-13, REV A

5 of 25

DRAFT January 31, 2017

Action by

Action

Procurement Specialist/BTR 7. Obtain necessary clearances and keys for the subcontractor so

mobilization can proceed (the subcontractor obtains any

badges, clearances, dosimeters, etc.).

F. Contract Execution

Figure 2 illustrates the process flow related to construction execution.

G. Construction Execution

Documentation for various construction documents shall be in accordance with TFC-BSM-

IRM_DC-C-07. All construction communication documents will be submitted to ^LAWPS

VENDOR at LAWPSVENDOR@rl.gov.

H. Execution of the SOW

Action by

Project Manager

CM and BTR

Action

1. Review subcontractor planned work and ensure necessary field

support through the CM.

2. Ensure that all subcontract submittals required prior to start of

construction work and baseline construction schedule have been

received.

3. Ensure that the Design Document List (DDL) is complete and

the Work Breakdown Structure (WBS) authorizations and

assignments have been made.

4. The team will have oversight and monitoring responsibility for

safety, quality, progress, cost, change control, and compliance

with EPC guides.

CM or Designee

5. Assist the subcontractor performing the work in all matters

pertaining to the work and ensure the work performed follows

the SOW while being in compliance with applicable TOC and

EPC procedures.

6. Ensure subcontractor understands what work, if any, will be

performed under the work package planning guide TFC-EPC-

CM-C-03.

7. Assist the Procurement Specialist, BTR and/or Project Engineer

in performance of the following:

• Track submittals.

• Initiate, track, and status subcontractor back-charges per

TFC-PRJ-CM-C-12.


ENGINEERING, PROCUREMENT &

CONSTRUCTION (EPC)

EPC CONSTRUCTION

MANAGEMENT GUIDE

Manual

Document

Page

Issue Date

3-161

EPC

TFC-EPC-CM-D-13, REV A

6 of 25

DRAFT January 31, 2017

Action by

Action

• Manage subcontractor initiated “Request for Information”

(RFI) as per guide TFC-EPC-CM-C-09.

• Conduct subcontractor progress meetings using the “Project

Status Meeting Minutes” Form (A-6004-778) in accordance

with TFC-PRJ-CM-C-05.

• Review of Daily Activity and Manpower Report (DAMR)

• Assist in preparation of work control documents in

accordance with TFC-OPS-MAINT-C-01.

• Responding to subcontractor correspondence.

I. Subcontractor Submittals

Action by

Action

C&C Document Control 1. Ensure documentation, including logs, for submittals are

handled in accordance with TFC-BSM-IRM_DC-C-07.

2. Distribute submittals to appropriate reviewers for review

and comment.

Reviewers 3. Review submittals for subcontract compliance and comment

as necessary. Return the completed submittal to C&C

Document Control.

4. Consolidate submittal comments, generate a master

document set, and review disposition with the Project

Manager, CM, or Procurement Specialist per TFC-BSM-

IRM_DC-C-07.

5. Transmit dispositioned submittals to the subcontractor.

J. Subcontractor Request for Information

Subcontractor is required to submit a Request for Information (RFI) using “Request for

Information” as per guide TFC-EPC-CM-D-09.


ENGINEERING, PROCUREMENT &

CONSTRUCTION (EPC)

EPC CONSTRUCTION

MANAGEMENT GUIDE

Manual

Document

Page

Issue Date

3-162

EPC

TFC-EPC-CM-D-13, REV A

7 of 25

DRAFT January 31, 2017

K. Subcontractor Payments

Action by

Action

BTR/CMT 1. Receive and process subcontractor payment invoice.

2. Review the subcontractor schedule status information,

including the pay item schedule, and concur with estimates,

quantities, and percentage complete of subcontractor

invoice.

BTR/Procurement Specialist 3. Approve and process subcontractor payment request per

TFC-BSM-CP_CPR-C-05.

L. Revising Contract/Amending the Statement of Work

A Contract Action Log (CAL) is established to assure reconciliation of funds and definitions for

any type of action required to support added/changed contract scope. See Figure 3 for

construction action log process.

Any questions concerning if the work can be covered by the CAL process will be reviewed and

approved by the Project Manager and Manager of Construction.

Any new scope not associated with the original scope of work will be addressed in accordance

with the requirements of TFC-EPC-CM-D-12.

The construction manager, in concert with other project personnel, will review the

subcontractor’s estimate. Once approved, the Construction Manager/BTR will be responsible to

increase the base contract in accordance with the direction in the Terms and Conditions of the

Contract. When the Project Team directs the subcontractor to perform work for the identified

CAL, the Subcontractor will be authorized to invoice all work associated with the issuance of the

CAL.

Action by

Action

Construction Manager/BTR 1. Enter the description of work assigned in the CAL and notify

the following:

• Project Manager

• Cost Accounts Manager (CAM)

• Budget Analyst (BA).

2. Request an estimate from the subcontractor.


ENGINEERING, PROCUREMENT &

CONSTRUCTION (EPC)

EPC CONSTRUCTION

MANAGEMENT GUIDE

Manual

Document

Page

Issue Date

3-163

EPC

TFC-EPC-CM-D-13, REV A

8 of 25

DRAFT January 31, 2017

M. Construction Acceptance Testing and Turnover

Construction Acceptance Test(s) CAT(s) if required by the Company shall be specified in the

subcontractor’s SOW.

Action by

Commissioning Manager

CM

Action

1. Ensure CAT(s) are developed in accordance with TFC-EPC-CM-

D-17.

2. Ensure CAT(s) are performed in accordance with

TFC-EPC-CM-D-17.

3. After notification from the subcontractor that the work is

mechanically complete, notify the following;

• Project Manager

• Commissioning Manager

• Testing Lead

• Work Area Construction Manager

• BTR

• Other entities as deemed appropriate.

N. Construction Completion and Turnover

Action by

CM

Action

1. Ensure completion and transfer is performed in accordance with

TFC-EPC-CM-D-11, and TFC-PRJ-CM-C-08.

O. Subcontract Closeout

Action by

CM

Action

1. Ensure subcontractor closeout is performed in accordance with

TFC-PRJ-CM-C-15 and ensure the “Construction Subcontract

Closeout Checklist” (CSCC) Form (A-6003-226) is complete.


ENGINEERING, PROCUREMENT &

CONSTRUCTION (EPC)

EPC CONSTRUCTION

MANAGEMENT GUIDE

Manual

Document

Page

Issue Date

3-164

EPC

TFC-EPC-CM-D-13, REV A

9 of 25

DRAFT January 31, 2017

P. Construction & Commissioning Document Control

Action by

Action

C&C Document Control 1. When identified as records custodian, maintain project field

files using the “Project Records Index” Form (A-6002-510)

as a guide.

NOTE: Certain construction documents will require a

document number for tracking purposes. Those requiring a

document number will be specified in various Construction

procedures and shall be numbered in accordance with TFC-

BSM-IRM_DC-C-07.

2. Control construction documents in accordance with TFC-

BSM-IRM_DC-C-07.

3. Perform record management in accordance with TFC-BSM-

IRM_DC-C-02.

4. The records custodian identified in the Company Level

Records Inventory and Disposition Schedule (RIDS) is

responsible for record retention in accordance with TFC-

BSM-IRM_DC-C-02.

5. After the system is commissioned convert drawings from

Design Agency title block to Hanford (DOE) title block and

transfer drawings to Hanford Engineering and Operations.

4.3 Process Work Flow – WRPS as PM/CMT

The following instructions relate to the process work flow defined in Section 4.1.

A. Acquisition Planning

CMT Action by Action

Approve Process

Task Project

Manager

1. Involve the TCM or designee in the Acquisition

Planning Process.

2. Authorize pre-construction and subcontract

execution activities.

Oversight

Construction

Manager

Task Project

Manager

3. Initiate pre-construction activities.

4. Conduct a meeting with appropriate Team

members and Procurement personnel to identify

how the work will be subcontracted.


ENGINEERING, PROCUREMENT &

CONSTRUCTION (EPC)

EPC CONSTRUCTION

MANAGEMENT GUIDE

Manual

Document

Page

Issue Date

3-165

EPC

TFC-EPC-CM-D-13, REV A

10 of 25

DRAFT January 31, 2017

B. Constructability

CMT Action by Action

Review TCM 1. Ensure Construction participates and performs

constructability reviews on projects and the design

documents per TFC-EPC-CM-D-01.

C. Construction Statement of Work

CMT Action by Action

Review Task Project Manager 1. Provide the definition of the work to be performed

by a subcontractor to the TCM.

TCM 2. With concurrence of the Task Project Manager

and/or the Work Area Project Manager and/or

Manager of Construction, determine who is best

suited to be assigned the responsibility of the SOW

Coordinator.

Review/Approve SOW Coordinator 3. Develop the SOW and related appendices in

accordance with TFC-PRJ-CM-C-18.

D. Request for Proposal Issuance and Subcontract Award

CMT Action by Action

Oversight

Procurement

Specialist

1. Schedule and conduct Construction Pre-Proposal

Conference in accordance with TFC-PRJ-CM-C-

05.

2. Receive proposal(s) and distribute.

3. Review and approve the subcontractor technical

proposal in accordance with TFC-BSM-CP_CPR-

C-05.

4. Ensure appropriate Team members review the

subcontractor proposal(s).

Review Project Manager 5. Fill out and submit the applicable Technical

Evaluation form to the Procurement Specialist.

Procurement

Specialist

6. Process the subcontract release and notify the

subcontractor.


ENGINEERING, PROCUREMENT &

CONSTRUCTION (EPC)

EPC CONSTRUCTION

MANAGEMENT GUIDE

Manual

Document

Page

Issue Date

3-166

EPC

TFC-EPC-CM-D-13, REV A

11 of 25

DRAFT January 31, 2017

CMT Action by Action

7. Perform distribution of the notice of award.

E. Pre-Construction/Mobilization

CMT Action by Action

Project Manager 1. Inform the Procurement Specialist of readiness to

proceed.

Procurement 2. Prepare, issue and distribute Notice to Proceed.

Specialist

CM 3. Prepare a letter to the subcontractor for Pre-

Construction (Kick-Off) Meeting with agenda found

in TFC-PRJ-CM-C-05.

4. Submit the Pre-Construction (Kick-Off) Meeting

letter to C&C Document Control.

C&C Document

Control

5. Perform distribution of the Pre-Construction (Kick-

Off) Meeting letter.

Oversight Project Manager 6. Conduct a Pre-Construction (Kick-Off) Meeting

outlining subcontractor requirements for performing

work using the “Pre-Construction (Kick-Off)

Meeting Minutes,” Form (A-6006-174) to record

minutes of meeting in accordance with TFC-PRJ-

CM-C-05.

Assist

Procurement

Specialist

7. Obtain necessary clearances and keys for the

subcontractor so mobilization can proceed (the

subcontractor obtains any badges, clearances,

dosimeters, etc.).

F. Execution of the SOW

CMT Action by Action

Review Project Manager 1. Review subcontractor planned work and ensure

necessary field support through the TCM.

CM 2. Ensure that all subcontract submittals required

prior to start of construction work and baseline

construction schedule have been received.


ENGINEERING, PROCUREMENT &

CONSTRUCTION (EPC)

EPC CONSTRUCTION

MANAGEMENT GUIDE

Manual

Document

Page

Issue Date

3-167

EPC

TFC-EPC-CM-D-13, REV A

12 of 25

DRAFT January 31, 2017

CMT Action by Action

Review/Approve 3. Ensure that the Design Document List (DDL) is

complete and the Work Breakdown Structure

(WBS) authorizations and assignments have been

made.

4. The team will have oversight and monitoring

responsibility for safety, quality, progress, cost,

change control, and compliance with EPC

procedures.

Oversight CM or Designee 5. Assist the subcontractor performing the work in

all matters pertaining to the work and ensure the

work performed follows the SOW while being in

compliance with EPC procedures.

6. Ensure subcontractor understands that all work is

performed under the EPC work control process.

7. Assist the Procurement Specialist, BTR and/or

Project Engineer in performance of the following:

• Track submittals

• Initiate, track, and status subcontractor backcharges

per TFC-PRJ-CM-C-12.

• Manage subcontractor initiated “Request for

Information” (RFI)

• Conduct subcontractor progress meetings using

the “Project Status Meeting Minutes” Form (A-

6004-778) in accordance with TFC-PRJ-CM-C-

05.

• Review of Daily Activity and Manpower Report

(DAMR)

• Assist in preparation of work control documents

in accordance with TFC-OPS-MAINT-C-01.

• Responding to subcontractor correspondence.

G. Subcontractor Submittals

CMT Action by Action

Oversight

C&C Document

Control

1. Ensure documentation, including logs, for

submittals are handled in accordance with TFC-

BSM-IRM_DC-C-07.


ENGINEERING, PROCUREMENT &

CONSTRUCTION (EPC)

EPC CONSTRUCTION

MANAGEMENT GUIDE

Manual

Document

Page

Issue Date

3-168

EPC

TFC-EPC-CM-D-13, REV A

13 of 25

DRAFT January 31, 2017

CMT Action by Action

2. Distribute submittals to appropriate reviewers for

review and comment.

Review Reviewers 3. Review submittals for subcontract compliance

and comment as necessary. Return the completed

submittal to C&C Document Control.

Review

C&C Document

Control

4. Consolidate submittal comments, generate a

master document set, and review disposition with

the Task Project Manager, TCM, or Procurement

Specialist per TFC-BSM-IRM_DC-C-07.

5. Transmit dispositioned submittals to the

subcontractor.

H. Subcontractor Payments

CMT Action by Action

Project Controls 1. Receive and process subcontractor payment

invoice.

2. Review the subcontractor schedule status

information, including the pay item schedule, and

concur with estimates, quantities, and percentage

complete of subcontractor invoice.

Approve

BTR/ Procurement

Specialist

3. Approve and process subcontractor payment

request per TFC-BSM-CP_CPR-C-05.

I. Required CAL information

CMT Action by Action

Construction

Manager

1. Enter the description of work assigned in the

CAL and notify the following:

• Task Project Manager

• Cost Accounts Manager (CAM)

• Budget Analyst (BA).

Review 2. Request an estimate from the subcontractor.


ENGINEERING, PROCUREMENT &

CONSTRUCTION (EPC)

EPC CONSTRUCTION

MANAGEMENT GUIDE

Manual

Document

Page

Issue Date

3-169

EPC

TFC-EPC-CM-D-13, REV A

14 of 25

DRAFT January 31, 2017

J. Construction Acceptance Testing and Turnover

CMT Action by Action

Approve

Commissioning

Manager

1. Ensure CAT(s) are developed in accordance with

TFC-EPC-CM-C-17.

Oversight CM 2. Ensure CAT(s) are performed in accordance with

TFC-EPC-CM-C-17.

3. After notification from the subcontractor that the

work is substantially complete, notify the

following;

• Task Project Manager

• Manager of Construction

• Commissioning Manager

• Testing Lead

• Work Area Construction Manager

• BTR

• Other entities as deemed appropriate.

K. Construction Completion and Turnover

CMT Action by Action

Oversight/Approve CM 1. Ensure completion and transfer is performed in

accordance with TFC-EPC-CM-D-11, and TFC-

PRJ-CM-C-08.

L. Subcontract Closeout

CMT Action by Action

Approve CM 1. Ensure subcontractor closeout is performed in

accordance with TFC-PRJ-CM-C-15 and ensure

the “Construction Subcontract Closeout

Checklist” (CSCC) Form (A-6003-226) is

complete.


ENGINEERING, PROCUREMENT &

CONSTRUCTION (EPC)

EPC CONSTRUCTION

MANAGEMENT GUIDE

Manual

Document

Page

Issue Date

3-170

EPC

TFC-EPC-CM-D-13, REV A

15 of 25

DRAFT January 31, 2017

M. Construction & Commissioning Document Control

CMT Action by Action

C&C Document

Control

1. When identified as records custodian, maintain

project field files using the “Project Records

Index” Form (A-6002-510) as a guide.

NOTE: Certain construction documents will

require a document number for tracking purposes.

Those requiring a document number will be

specified in various Construction procedures and

shall be numbered in accordance with TFC-BSM-

IRM_DC-C-07.

2. Control construction documents in accordance

with TFC-BSM-IRM_DC-C-07.

Oversight 3. Perform record management in accordance with

TFC-BSM-IRM_DC-C-02.

4. The records custodian identified in the Company

Level Records Inventory and Disposition

Schedule (RIDS) is responsible for record

retention in accordance with TFC-BSM-

IRM_DC-C-02.

5.0 DEFINITIONS

5.1 Administrative change

A change to the contract that may involve schedule or cost, but does not involve scope.

• An example of a schedule change would be a schedule extension due to weather delays.

• An example of a cost change would be overtime to perform previously authorized

activities.

5.2 Construction Representative

A Construction Representative can be the Work Area Construction Manager, Task Construction

Manager, Construction Field Lead or Field Work Supervisor.

5.3 Non-administrative change.

A change to the contract that adds or removes fabrications, scope, or evolutions of existing scope.

• An example of a fabrication addition would be to build three top hats instead of two top

hats.


ENGINEERING, PROCUREMENT &

CONSTRUCTION (EPC)

EPC CONSTRUCTION

MANAGEMENT GUIDE

Manual

Document

Page

Issue Date

3-171

EPC

TFC-EPC-CM-D-13, REV A

16 of 25

DRAFT January 31, 2017

• An example of a scope addition would be to install perimeter lighting not included in the

original contract.

• An example of an addition to evolutions of existing scope would be to install additional

square footage of a parking lot.

5.4 Issue Authorization and Maintenance for Use

The EPC Execution Construction Manager is responsible for the maintenance of this procedure

and will review the procedure annually to determine any necessary updates. Should an individual

employee have a suggestion for improvement or modification to this procedure, he or she may

mark-up a copy of the procedure and send it to the EPC Execution Construction Manager for

review. The EPC Execution Construction Manager will review the recommended changes and

respond back to the employee on plans to address the suggestions. Changes to the procedure will

be distributed to other WRPS Functional Leads and other affected EPC Managers for their

concurrence. When the reviews are complete, the EPC Execution Construction Manager will

consolidate and recommend changes to this procedure to the EPC Project Execution Manager

who has the authority to issue revisions to this procedure.

5.5 Project Management/Constructor Team (PM/Constructor)

The Owner (WRPS) Project Management Team in place during the Project Execution –

Procurement, Construction and Cold Commissioning Phase – (CD-4) that Constructs, provides

verification the work effort meets project requirements, and ensures the Client is receiving value

for money from both cost and schedule perspectives.

5.6 Project Management & Construction Management Team (PM/CMT)

The Owner (WRPS) Project Management team in place during the Project Execution –

Procurement, Construction and Cold Commissioning Phase – (CD-4) that provides construction

management oversight services for the EPC Project construction works when the Constructor is

not WRPS. The PM/CMT provides oversight of the Constructor’s work effort, verification the

work effort meets project requirements, and ensures the Client is receiving value for money from

both cost and schedule perspectives. Where CMT is referred to in this procedure, it refers to the

full Project Management/Construction Management Team (PM/CMT).

6.0 RECORDS

The following records may be generated during the performance of this procedure:

• Daily Activity and Manpower Report Form (A-6003-220)

• Lost Time/Work Delay Form (A-6003-675)

• Pre-Construction (Kick-Off) Meeting Minutes Form (A-6006-174)

• Request for Information Form (A-6003-417)

• Project Status Meeting Minutes Form (A-6006-173)

• Construction Completion Document Form (A-6003-182)

• Exception List Form (A-6003-586)

• Construction Subcontract Closeout Checklist Form (A-6003-226)

• Project correspondence

• Project Records Index Form (A-6002-510).


ENGINEERING, PROCUREMENT &

CONSTRUCTION (EPC)

EPC CONSTRUCTION

MANAGEMENT GUIDE

Manual

Document

Page

Issue Date

3-172

EPC

TFC-EPC-CM-D-13, REV A

17 of 25

DRAFT January 31, 2017

The records custodian identified in the Company Level Records Inventory and Disposition

Schedule (RIDS) is responsible for record retention in accordance with TFC-BSM-IRM_DC-C-

02.

7.0 SOURCES

7.1 Requirements

7.2 References

1. Tank Operations Contract, Contract Number DE-AC27-08RV14800

2. TFC-EPC-PLN-01, Complex Engineering, Procurement and Construction Project

Execution

3. RPP-MP-003, “Integrated Environment, Safety, and Health Management System

Description for the Tank Operations Contractor.”

4. TFC-PLN-02, “Quality Assurance Program Description.”

5. TFC-PLN-84, “Tank Operations Contractor Project Execution Plan.”

6. TFC-PLN-113, “Construction Management.”

7. TFC-PRJ-PM-C-02, “Project Management.”

8. TFC-EPC-PLN-03 “EPC Construction Management Plan”

1. TFC-BSM-CP_CPR-C-05, “Procurement of Services.”

2. TFC-BSM-IRM_DC-C-02, “Records Management.”

3. TFC-BSM-IRM_DC-C-07, “Vendor Processes.”

4. TFC-PRJ-CM-C-03, “Construction Daily Activity & Manpower Reports.”

5. TFC-PRJ-CM-C-05, “Construction Meetings.”

6. TFC-PRJ-CM-C-08, “Construction Completion and Turnover.”

7. TFC-PRJ-CM-C-12, “Construction Supplier Backcharges.”

8. TFC-PRJ-CM-C-15, “Construction Subcontract Closeout.”

9. TFC-PRJ-CM-C-16, “Construction Acceptance Testing.”

10. TFC-PRJ-CM-C-17, “Constructability Review Process.”

11. TFC-PRJ-CM-C-18, “Development of Technical Requirements for Construction

Statements of Work.”


ENGINEERING, PROCUREMENT &

CONSTRUCTION (EPC)

EPC CONSTRUCTION

MANAGEMENT GUIDE

Manual

Document

Page

Issue Date

3-173

EPC

TFC-EPC-CM-D-13, REV A

18 of 25

DRAFT January 31, 2017

12. TFC-PRJ-CM-D-02, “Construction & Commissioning Document Control Processes.”

13. TFC-EPC-CM-D-01, “EPC Constructability Guide”

14. TFC-EPC-CM-D-11, “EPC Mechanical Completion and Transfer to Operations Guide”

15. TFC-EPC-CM-D-12, “EPC Field Change Request Guide”

16. TFC-EPC-CM-D-17, “EPC Construction Acceptance Testing Guide”


ENGINEERING, PROCUREMENT &

CONSTRUCTION (EPC)

EPC CONSTRUCTION

MANAGEMENT

Manual

Document

Page

Issue Date

3-174

EPC

TFC-EPC-CM-C-13, REV A

19 of 25

DRAFT 6/09/2015

Figure 1. Process Work Flow Chart.

PM/CMT will provide

oversight and/or review

activities throughout

process

A. Acquisition Planning

TPM involves the TCM or designee in the

Acquisition Planning Process.

TPM authorizes pre-construction and subcontract execution activities.

CM initiates pre-construction activities.

TPM will conduct a meeting with appropriate team members and Procurement

personnel to identify how the work will be subcontracted.

B. Constructability

TCM ensures Construction participates and performs constructability reviews on

project and design documents per TFC-EPC-CM-C-01.

C. Construction Statement of Work

TPM provides the definition of the work to be performed by a

subcontractor to the TCM.

TCM with concurrence of the TPM and/or the Work Area Project Manager

and/or Manager of Construction, determine who is best suited to be assigned

the responsibility of the SOW Coordinator.

SOW Coordinator will develop the SOW and related

appendices in accordance with TFC-PRJ-CM-C-18.

D. Request For Proposal Issuance

and Subcontract Award

PS will schedule and conduct Construction Pre-Proposal

Conference in accordance with TFC-PRJ-CM-C-05.


ENGINEERING, PROCUREMENT &

CONSTRUCTION (EPC)

EPC CONSTRUCTION

MANAGEMENT

Manual

Document

Page

Issue Date

3-175

EPC

TFC-EPC-CM-C-13, REV A

20 of 25

DRAFT 6/09/2015

PS will receive proposal(s) and distribute.

PS will review and approve the subcontractor technical proposal in accordance

with TFC-BSM-CP_CPR-C-05.

Ensure appropriate team members review the subcontractor

proposal(s).

PM will fill out and submit the applicable Technical

Evaluation form to the PS.

PS will process the subcontract release and notify the

subcontractor.

Perform distribution of the notice of award.

E. Pre-Construction/Mobilization

PM will inform the PS of readiness to proceed.

PS will prepare, issue, and distribute Notice to Proceed.

TCM will prepare a letter to the subcontractor for Pre-Construction (Kick-Off)

Meeting with agenda found in TFC-PRJ-CM-C-05.

Submit the Pre-Construction (Kick-Off) Meeting letter to C&C

Document Control.

C&C Document Control distributes Pre-Construction

(Kick-Off) Meeting letter.


ENGINEERING, PROCUREMENT &

CONSTRUCTION (EPC)

EPC CONSTRUCTION

MANAGEMENT

Manual

Document

Page

Issue Date

3-176

EPC

TFC-EPC-CM-C-13, REV A

21 of 25

DRAFT 6/09/2015

G. Subcontractor Submittals

Ensure documentation, including logs, for submittals are

handled in accordance with TFC-BSM-IRM_DC-C-07.

Distribute submittals to appropriate reviewers for review and

comment.

Reviewers will review submittals for subcontract compliance and comment as

necessary. Return the completed submittal to C&C Document Control.

C&C Document Control will consolidate submittal comments, generate a master document

set, and review disposition with the TPM, TCM, or PS per TFC-BSM-IRM_DC-C-07.

Transmit dispositioned submittals to the subcontractor.

H. Subcontractor Payments

Project Controls will receive and process subcontractor

payment invoice.

Review the subcontractor schedule status information, including the

pay item schedule, and concur with estimates, quantities, and percentage

complete of subcontractor invoice.

Accounts payable will approve and process subcontractor

payment request per TFC-BSM-CP_CPR-C-05.

Task CM will enter the description of work assigned in the

CAL and notify the following:

• Task Project Manager

• Cost Accounts Manager (CAM)

• Budget Analyst (BA)

I. Required CAL Information

TCM requests an estimate from the subcontractor.


ENGINEERING, PROCUREMENT &

CONSTRUCTION (EPC)

EPC CONSTRUCTION

MANAGEMENT

Manual

Document

Page

Issue Date

3-177

EPC

TFC-EPC-CM-C-13, REV A

22 of 25

DRAFT 6/09/2015

J. Construction Acceptance Testing and Turnover

Commissioning Manager ensures CAT(s) are developed in

accordance with TFC-EPC-CM-C-17.

TCM ensures CAT(s) are performed in accordance with

TFC-EPC-CM-C-17.

After notification from the subcontractor that the work is

substantially complete, the TCM will notify the following:

• Task Project Manager

• Manager of Construction

• Commissioning Manager

• Testing Lead

• Work Area Construction Manager

• Other entities as deemed appropriate.

K. Construction Completion and Turnover

TCM ensures completion and turnover is performed in accordance

with TFC-EPC-CM-C-11.

L. Subcontract Closeout

TCM ensures subcontractor closeout is performed in accordance with

TFC-PRJ-CM-C-15 and ensures the “Construction Subcontract Closeout Checklist” (CSCC)

Form (A-6003-226) is complete.

M. Construction & Commissioning Document Control

C&C Document Control when identified as records custodian, maintain project

field files using the “Project Records Index” Form (A-6002-510) as a guide.

Control construction documents in accordance with

TFC-BSM-IRM_DC-C-07.

Perform record management in accordance with

TFC-BSM-IRM_DC-C-02.

The records custodian identified in the Company Level Records Inventory

and Disposition Schedule (RIDS) is responsible for record retention in

accordance with TFC-BSM-IRM_DC-C-02.


ENGINEERING, PROCUREMENT &

CONSTRUCTION (EPC)

EPC CONSTRUCTION

MANAGEMENT

Manual

Document

Page

Issue Date

3-178

EPC

TFC-EPC-CM-C-13, REV A

23 of 25

DRAFT 6/09/2015

WRPS CMT OVERSEEING EPC

CONSTRUCTOR: PM/CMT

LEGENDS:

WRPS SELF PERFORMING WORK:

PM/CONSTRUCTOR

-EPC CONSTRUCTOR ACTIVITIES

-WRPS PM/CMT ENGAGEMENT

WITH EPC CONSTRUCTOR

DA- Design Authority

PS-Procurement Specialist

TPM-Task Project Manager

TCM-Task Construction Manager

CAT-Construction Acceptance Testing

C&C-Construction and Commissioning

CM-Construction Manager

SOW-Statement of Work

PM-Project Manager

WBS-Work Breakdown Structure

DDL-Design Document List

-WRPS CONSTRUCTOR TEAM

ACTIVITIES

-NOT APPLICABLE

NOTE: All deliverables are

considered to be a record

and are processed in

accordance with

TFC-BSM-IRM_DC-C-01,

Document Control,

TFC-BSM-IRM_DC-C-02,

Records Management,

and TFC-ENG-DESIGN-C-25,

Technical Document Control.


ENGINEERING, PROCUREMENT &

CONSTRUCTION (EPC)

EPC CONSTRUCTION

MANAGEMENT

Manual

Document

Page

Issue Date

3-179

EPC

TFC-EPC-CM-C-13, REV A

24 of 25

DRAFT 6/09/2015

Figure 2. Construction Execution Process Work Flow Chart.

WRPS

Construction

Setup

Execute Work

Construction

Walk Down

& Punch List

Construction

Completion

Document

Operation

Testing (If

Required)

Construction

Completion

Document

Closeout &

Final

Payment

Construction

Performance

Review

Master Submittal Lists

Establish Final Construction Schedule

Project Document Control Stations

Control Design Document List

Control WBS Staff Authorization /

Assignments

Pre-Construction (Kick-Off) Meeting

Mobilization

Facility & Material Turnover

Submittal Tracking / Reporting

Notice to Proceed

Oversee/Manage Subcontractor

Fabrication Oversight / Coordination

Status/Progress Reporting

Safety Assurance

Manage WRPS Support Interface

Manage Third Party Interface

Quality Control Coordination / Oversight

Work Package Prep & Execution

Manage RFI

Construction Design Configuration

Control

Contract Change Control

Maintain Construction Document Control

Manage & Support Accruals, ETC &

EAC

Manage & Support Construction Baseline

Change Request, as needed

Construction Completion Documentation

Construction Subcontract Closeout

Checklist

Construction Performance Review


ENGINEERING, PROCUREMENT &

CONSTRUCTION (EPC)

EPC CONSTRUCTION

MANAGEMENT

Manual

Document

Page

Issue Date

3-180

EPC

TFC-EPC-CM-C-13, REV A

25 of 25

DRAFT 6/09/2015

Figure 3. Construction Action Log Process Work Flow Chart.


เจตณรงค์ เชาว์ชูเดช

สัญญา ออกแบบ จัดหา และก่อสร้าง

(อีพีซี) ฉบับประสบการณ์

Engineering, Procurement and Construction

(EPC) Contract For Beginners

หนังสือเล่มนี้ เขียนขึ้นจากประสบการณ์เป็นศูนย์ ในเรื่องของสัญญา และ

EPC ฉะนั้น ผู้อ่านจะได้รับความรู้ และประสบการณ์เริ่มจากศูนย์ โดยอาจไม่

ทราบอะไรเลยเกี่ยวกับสัญญา หรือ EPC เหมาะส าหรับผู้เริ่มต้นที่จะมา

ท างานหรือมีส่วนร่วมในเอกสารสัญญา การจัดท าเอกสารประกวดราคา

ตลอดจนการจัดท าข้อก าหนดในงานก่อสร้าง

เริ่มตั้งแต่ สัญญาคืออะไร มีความส าคัญอย่างไร สัญญาประเภทต่าง ๆ ท าไม

ต้องเป็น EPC การจัดท าเอกสาร EPC เริ่มจากเจ้าของงาน ผู้ว่าจ้างเขียน

TOR เพื่อหาที่ปรึกษาจัดท าเอกสาร EPC การจัดท า TOR และเอกสาร EPC

เพื่อคัดเลือก และจัดหาผู้รับจ้างก่อสร้าง รวมถึงการจัดท าข้อก าหนดใน

โครงการ EPC

Hooray! Your file is uploaded and ready to be published.

Saved successfully!

Ooh no, something went wrong!