ฉบับที่ 5 : กรกฎาคม 2551 - Faculty of Medicine - มหาวิทยาลัยนเรศวร
ฉบับที่ 5 : กรกฎาคม 2551 - Faculty of Medicine - มหาวิทยาลัยนเรศวร
ฉบับที่ 5 : กรกฎาคม 2551 - Faculty of Medicine - มหาวิทยาลัยนเรศวร
You also want an ePaper? Increase the reach of your titles
YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.
⌫⌫ ⌫ <br />
www.med.nu.ac.th<br />
ISSN 1906-2346
้<br />
บทบรรณาธิการ<br />
นักเขียนระดับรางวัลพูลิตเซอร์ชาวอเมริกัน นำเสนอ ข้อคิดสิบข้อ<br />
ที่จะช่วยให้พวกเราหลีกเลี่ยงการทำให้โลกแย่ลงกว่าเดิม น่าจะได้นำไป<br />
ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันอย่างยิ่งทีเดียว ผมขอถอดความ และตัดต่อใหม่<br />
ดังนี้ครับ<br />
ข้อที ่1 จงหาโอกาส ก้มลงดมกลิ ่นดอกไม้เสียบ้าง<br />
ข้อที่2 อย่าใส่เสื้อผ้าที่พูดได้เลย(ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ) เพราะโลกนี้เราพูดกัน<br />
มากแล้ว คนฟังแทบจะไม่เหลือแล้ว ยังจะใส่เสื้อผ้าที่พูด(ด้วยตัวอักษร)<br />
อีกหรือ?<br />
ข้อที่3 สืบเนื่องจากข้อ2 ฟังให้มากขึ้น บางทีเราอาจได้ยินเสียงที่เราหลงลืม<br />
ไปนานแล้ว รวมถึงเราอาจได้หยุดฟังเสียงภายในของเราได้บ่อยขึ ้น (และจะรู<br />
ว่า บางครั ้งที ่พูดไปมากๆ นั ้น อาจไม่ฉลาดเลย)<br />
ข้อที่4 นอนไม่ใส่เสื้อผ้าซะบ้าง(คืนตัวตนสู่ธรรมชาติ ตามแต่โอกาสอัน<br />
เหมาะสม ไม่เป็นบาปใดๆ)<br />
ข้อที่5 ปิดทีวีหนึ่งถึงสองครั้งต่อเดือน แล้วเปิดหนังสืออ่านแทน(ถ้าอ่านหนัง<br />
สือ แล้วง่วง แล้วหลับไป ก็ยังชนะอยู่ดี เพราะได้พักผ่อน และลดมลภาวะ<br />
ทางสายตา จากทีวี(น้ำเน่า)ได้อีกด้วย)<br />
ข้อที่6 อย่าพกปืน อย่าเก็บปืนไว้ที่บ้าน ยกเว้นจะได้เก็บกระสุนแยกไว้ใน<br />
ตู้นิรภัยอย่างแน่นหนาแล้ว<br />
ข้อที่7 เรียนรู้ที่จะกลัวรถยนต์(กำลังหมายถึงว่า ผลิตเท่าไรก็ไม่พอ ทั้งรถทั้ง<br />
ทางให้รถวิ่ง)<br />
ข้อที ่8 ข้อนี ้เด็ดมาก กระทบหลายชิ ่งทีเดียว ข้อนี ้บอกไว้ว่า ให้พยามมีลูกกัน<br />
ซะทุกคน เพราะนอกจากลูกจะทำให้ชีวิตมีสีสันขึ ้นแล้ว ที ่สำคัญ ลูกจะทำให้<br />
เรารู้สึกผิดเมื่อต้องทวงบุญคุณกับเขาเมื่อเขาเป็นผู้ไม่รู้จักบุญคุณเรา (สังคม<br />
ปัจจุบัน จะหาคนที ่รู ้สึก(สำนึก)ผิด ยากขึ ้นๆ ทุกทีแล้ว)<br />
ข้อที่9 แต่งงานซะ! แล้วจะดีในระยะยาว นอกจากจะได้มีแหล่งให้ใช้เงิน<br />
(และมีช่องทางมอบมรดก) ที ่สำคัญ ลูกจะได้มีผู ้ปกครองที ่มีมาตรฐาน<br />
ข้อที่10 จงยิ้ม และพึงพอใจกับทุกๆ ขณะที่ใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ เพราะปัจจุบัน<br />
เท่านั ้น ที ่เป็นจริง!<br />
Leader Guide<br />
โครงการคืนแก้วตาให้ผู้ยากไร้<br />
การวิจัยขมิ้นชันเพื่อชtลอภาวะตับถูกทำลาย<br />
โดย นพ.เอกวีร์ ศรีปริวุฒิ<br />
Case Report<br />
สถาบันร่วมผลิตแพทย์<br />
ศูนย์แพทยศาสตรศึกษา ชั้นคลินิก โรงพยาบาลพิจิตร<br />
กระกวดหนูน้อยสุขภาพดีครั้งที่ 3<br />
มหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพ สู่<br />
“โรงเรียนแพทย์สร้างเสริมสุขภาพ”<br />
ศูนย์ปลูกถ่ายกระดูก<br />
โครงการผลิตแพทย์แนวใหม่ NEW TRACK<br />
โรงพยาบาลสร้างเสริมสุขภาพ<br />
โภชนบำบัด อาหารสำหรับหน้าฝน<br />
สวนแห่งความสุข<br />
Activity กิจกรรมคณะแพทยศาสตร์<br />
3<br />
4<br />
6<br />
7<br />
8<br />
10<br />
12<br />
14<br />
16<br />
18<br />
20<br />
21<br />
22<br />
เดินต่อไป และเดินต่อไป เรียนรู้และเรียนรู้ต่อไป ทำหน้าที่อย่างเต็มภาคภูมิ<br />
เพื่อตนและคนรอบข้าง<br />
ทำชีวิตให้สนุก และมีคุณค่าในทุกๆ ขณะที่ก้าวย่างอยู่บนโลกนี้<br />
มอง QA HA TQA ก็คือ ตองA ที ่เราจะชนะในเกมส์นี ้ อย่างแน่นอนครับ!<br />
ผศ.นพ.ศิริเกษม ศิริลักษณ์<br />
รองคณบดีฝ่ายพัฒนาและบริหาร<br />
F aculty <strong>of</strong> M edicine<br />
บรรณาธิการที ่ปรึกษา ศ.นพ.ดร.ศุภสิทธิ ์ พรรณารุโณทัย บรรณาธิการ ผศ.นพ.ศิริเกษม ศิริลักษณ์ กองบรรณาธิการ ธนาสุข พ่วงก้อน ณัฐพร แก้วแดง<br />
นเรศ พันอินทร์ อานัดต์ คันธะด้วง วันชัย ชอบละคร ถ่ายภาพ ณัฐพล นามะวงศ์ ออกแบบ วินัย พ่วงกระทุ่ม วิระธิดา สีดาเดช สัตตกมล นุ่มพรม<br />
คณะแพทยศาสตร์ <strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> 99 หมู ่ 9 ต.ท่าโพธิ ์ อ.เมือง จ.พิษณุโลก 65000 Tel.(055)261890-9 Fax.(055)261900 www.med.nu.ac.th<br />
พิมพ์ที ่ : ดาวเงินการพิมพ์ 225/16 ถ.บรมไตรโลกนารถ อ.เมือง จ.พิษณุโลก 65000 Tel.(055)219786 Fax.(055)219646
LEADER<br />
G U I D E<br />
ในฐานะคณะแพทยศาสตร์ ของมหาวิทยาลัย<br />
แห่งหนึ่งในประเทศไทย และในฐานะคณะวิชาหนึ่ง<br />
ของ<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> คณะแพทยศาสตร์<br />
<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong>ต้องเดินเครื่องเต็มกำลัง<br />
กับกระบวนการคุณภาพต่างๆ เพื่อสะท้อนให้เห็น<br />
ศักยภาพของคณะในการไปสู่วิสัยทัศน์ "เป็นโรงเรียน<br />
แพทย์ที่มีมาตรฐานสากล มีเครือข่ายพันธมิตรที่<br />
เข้มแข็ง สร้างเสริมสุขภาพคนไทยและเอเชีย”<br />
มาตรฐานสากลมีหลากหลายให้เลือก<br />
ภายหลังการเลือกสรรแล้ว คณะแพทยศาสตร์<br />
<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> และเครือข่ายการผลิตแพทย์<br />
ซึ่งต้องพัฒนาคุณภาพทั้งด้านการศึกษา และด้าน<br />
บริการที่ตอบสนองภารกิจหลักคือการศึกษา เลือก<br />
เดินตามทางคุณภาพในปี <strong>2551</strong>-2552 ดังนี้<br />
เดือนพฤศจิกายน <strong>2551</strong> คณะแพทยศาสตร์<br />
<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> จะฝึกซ้อมการประเมินรับรอง<br />
คุณภาพการศึกษากับมหาวิทยาลัยเดรสเดน เยอรมนี<br />
ตามมาตรฐานสมาพันธ์โลกด้านแพทยศาสตรศึกษา<br />
(World Federation for Medical Education<br />
ดูเอกสารฉบับเต็มจาก www.wfme.org)<br />
ภายในปี <strong>2551</strong> โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย<br />
นเรศวร มุ่งมั่นผ่านการรับรองคุณภาพโรงพยาบาล<br />
จากสถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล<br />
ตามมาตรฐานโรงพยาบาลและบริการสุขภาพ<br />
ฉบับเฉลิมพระเกียรติฉลองสิริราช สมบัติครบ 60 ปี<br />
(ดูเอกสารฉบับเต็มจาก www.ha.or.th)<br />
ภายในเดือนมีนาคม 2552 คณะแพทยศาสตร์<br />
<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> จะฝึกซ้อมการประเมินรับรอง<br />
คุณภาพกับกลุ ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย<br />
ตามมาตรฐานเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ (Thailand<br />
Quality Award, ดูเอกสารต้นฉบับภาษา<br />
อังกฤษจาก www.baldrige.nist.gov.)<br />
ภายในเดือนพฤษภาคม 2552 (หรือ<br />
ตลอดปีการศึกษา <strong>2551</strong>) คณะแพทยศาสตร์ จะ<br />
ประเมินคุณภาพการศึกษาโดยใช้มาตรฐานสำนักงาน<br />
คณะกรรมการการอุดมศึกษา (ดูเอกสารฉบับเต็มจาก<br />
www.mua.go.th/users/bhes/catalog.htm)<br />
ณ วันนี ้ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย<br />
นเรศวร (รวมถึงเครือข่ายศูนย์แพทยศาสตรศึกษา<br />
ชั้นคลินิกทุกแห่ง) ประกาศเจตจำนงร่วมกันที่ต้องฝึก<br />
และผ่านมาตรฐานที่กล่าวแล้ว ส่วนจะได้คะแนน<br />
เท่าไร มาตรฐานนั้นอยู่ที่ความจริง ณ เวลาที่ระบุ<br />
ไว้นั้น<br />
คำถามว่า ถ้าไม่ได้คุณภาพหรือมีคุณภาพ<br />
ต่ำตามมาตรฐาน และเวลาที่ประกาศไว้แล้วจะเป็น<br />
อย่างไร องค์กรต้องประเมินผลกระทบกันต่อไป แต่<br />
เชื่อว่านักวิชาชีพมักจะรักษามาตรฐานของตนไว้<br />
เป็นอย่างดี มีแต่เพียงมาตรฐานองค์กร ที่ต้องอาศัย<br />
นักวิชาชีพทำงานประสานกัน หรือทำคร่อมสายงาน<br />
เพื่อให้คุณภาพทั้งองค์กรแน่นทุกอณู เดิมพันครั้งนี้<br />
เกี ่ยวข้องกับสมาชิกทุกคนในองค์กร<br />
ศ.นพ.ดร.ศุภสิทธิ์ พรรณารุโณทัย<br />
คณบดีคณะแพทยศาสตร์<br />
<br />
☺
โรคต้อกระจก (Cataract) คือ การเสื่อมของเลนส์แก้วตา จากที่เคยใสดุจแก้วกลายเป็นขุ่นมัว เมื่ออายุ<br />
มากขึ้น เป็นโรคที่พบมากในผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ส่วนใหญ่เสื่อมสภาพตามวัย ทำให้เลนส์ตาที่เคยมีสีใสกลับกลาย<br />
เป็นขุ่นมัวลง และจะขุ่นมัวมากขึ้นเรื่อยๆ หากไม่ได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์ตาจะเกิดโรคแทรกซ้อนจนถึงกับตาบอดได้<br />
โรคต้อกระจกเป็นโรคที่เป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้คนไทยตาบอดถึงร้อยละ 74 ซึ่งนอกจากจะเป็นปัญหาด้านสุขภาพ<br />
อนามัยของผู้ป่วยแล้ว ยังเป็นภาระต่อครอบครัวอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันจังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดน่านมีผู้สูงอายุที่มี<br />
ปัญหาเกี่ยวกับตาต้อกระจกเป็นจำนวนมาก ประกอบกับผู้สูงอายุส่วนใหญ่ที่มีปัญหาต้อกระจกเป็นผู้มีฐานะยากจน<br />
และอยู่ในพื้นที่ห่างไกล หากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้ตาบอดได้ ประกอบกับจะต้องรอคิวผ่าตัดเป็นระยะเวลาค่อนข้าง<br />
นาน ซึ่งเป็นผลกระทบต่อผู้ป่วยและญาติเป็นอย่างมาก และสมควรได้รับการพิจารณาให้ความช่วยเหลือเป็นการเร่งด่วน<br />
สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดพิษณุโลก และภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ <strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> และ<br />
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการให้ความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ให้กับผู้สูงอายุ<br />
ที่มีปัญหาต้อกระจกให้รับการรักษา ผ่าตัด ได้ในระยะเวลาอันเหมาะสม ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต<br />
ผู้สูงอายุให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ด้วยการมีสุขภาพกายและสุขภาพใจที่ดี ไม่เป็นภาระแก่ญาติพี่น้องหรือผู้ใกล้ชิดอีกต่อไป<br />
จึงได้จัดทำโครงการคืนแก้วตาให้ผู้ยากไร้ ด้วยการผ่าตัดต้อกระจก 84 ดวงตา อุทิศถวาย 84 พรรษา<br />
เสด็จสู่สวรรคาลัยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ที่เป็นผู้ริเริ่มและให้<br />
ความช่วยเหลือผู้ป่วยตาต้อกระจกมาโดยตลอด โดยจะให้การช่วยเหลือโดยเร่งด่วนกับผู้ป่วย ผู้สูงอายุที่มีปัญหา<br />
ต้อกระจกและเป็นผู้ที่มีฐานะยากจน ขาดแคลนทุนทรัพย์ที่จะเข้ารับการรักษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านจักษุแพทย์ โดยจะ<br />
ดำเนินการผ่าตัดต้อกระจกให้กับผู้ที่เข้าร่วมโครงการในจังหวัดพิษณุโลก จำนวน 84 ราย ภายในปี <strong>2551</strong> ทั้งนี้ได้รับการ<br />
สนับสนุนงบประมาณจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดสลายต้อกระจก แบบแผลเล็ก<br />
โดยใช้เลนส์พับ(phaco) รวมเป็นเงินทั ้งสิ ้น 840,000 บาท<br />
โครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาสังคม ปัญหาสุขภาพของผู้สูงอายุ ระหว่างหน่วย<br />
งานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั ่วไป ให้ความร่วมมือและให้ความช่วยเหลือผู ้ได้รับความเดือดร้อนให้สามารถกลับมา<br />
ดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุขอีกครั้ง...<br />
<br />
<br />
☺
แพทย์หญิงรสสุคนธ์ ศรีพัฒนาวัฒน์<br />
หัวหน้าภาควิชาจักษุ โสต ศอ นาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์<br />
“ต้องขอขอบคุณทุกหน่วยงาน รวมถึงบุคลากรทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้มีโครงการนี้ขึ้น ไม่ว่าจะเป็น<br />
สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดพิษณุโลกที่ดำเนินงานจัดโครงการนี้ขึ้นมา การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศ<br />
ไทยที่สนับสนุนด้านงบประมาณ คณะแพทยศาสตร์ <strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong>ในการดำเนินการผ่าตัด<br />
โรงพยาบาลพุทธชินราชในการตรวจคัดกรองผู้ป่วยเข้าโครงการและให้การสนับสนุนเครื่องมืออุปกรณ์<br />
รวมทั้งบุคลากร โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ในการให้ความอนุเคราะห์เครื่องมืออุปกรณ์ รวมถึงทีมแพทย์<br />
และบุคลากรที่ร่วมในการดำเนินงานทุกคน”<br />
คุณยายบุญธรรม หวังแซงกลาง อายุ 69 ปี<br />
จากอำเภอบางกระทุ ่ม จังหวัดพิษณุโลก<br />
“ยายเป็นต้อกระจก 1 ข้าง มีอาการตามัวและเป็นฝ้า มองไม่ค่อยเห็น ดำเนินชีวิตก็ไม่สะดวก รู้สึกดีที่มี<br />
โครงการนี ้ และขอขอบคุณทุกๆ คน”<br />
คุณยายมุก สร้อยสุวรณ อายุ 70 ปี<br />
จากอำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก<br />
“ยายเป็นต้อกระจกที่ข้างซ้าย ส่วนข้างขวาเป็นต้อเนื้อ ตาเป็นฝ้ามาก มองอะไรก็ไม่เห็น มัวไปหมด<br />
ลำบากมากในการใช้ชีวิต จะไปไหนก็ไม่สะดวก เข้ารักษาตัวครั้งแรกที่โรงพยาบาลวังทอง และถูกส่งตัว<br />
มาที่โรงพยาบาลพุทธชินราช พิษณุโลก เลยได้ส่งมาเข้าโครงการนี้ รู้สึกดีใจมากที่ตาจะหายดี ขอขอบคุณ<br />
ทุกคนที่ทำงานนี้”<br />
คุณยายกวัก คำโบสถ์ อายุ 73 ปี<br />
จากอำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก<br />
“ยายเป็นต้อมา 4-5 ปีแล้ว ตามัวมากมองไม่ค่อยเห็น เดินทางก็ลำบาก สถานีอนามัยตำบลท้อแท้<br />
ช่วยประสานงานกับโรงพยาบาลวัดโบสถ์ส่งยายเข้ารักษากับโครงการนี้ ต้องขอขอบคุณทีมงาน<br />
และสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ ที่ทำโครงการนี้ขึ้นมา ทำให้มองเห็นอีกครั้งเหมือนได้เกิดใหม่”<br />
คุณยายปั้น อ้วนอินทร์ อายุ 63 ปี<br />
จากอำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก<br />
“ยายเป็นต้อทั ้ง 2 ข้างมา 3-4 ปีแล้ว อยู ่ 2 คนตายาย ทำสวนพุทรา ใช้ชีวิตลำบากมาก มักจะได้รับอุบัติเหตุ<br />
จากการเดินชนสิ่งของอยู่บ่อยๆ ได้รับการติดต่อจากอนามัยเข้ารักษาที่โรงพยาบาลพรหมพิราม และส่งมา<br />
รักษาที่โรงพยาบาล<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> ต้องขอขอบคุณสมเด็จพระพี่นางเธอฯ ที่ทำให้มีโครงการนี้”<br />
<br />
☺
ขอแสดงความยินดีกับ นายแพทย์เอกวีร์ ศรีปริวุฒิ หัวหน้าภาควิชา<br />
อายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ <strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> ที ่ได้รับงบประมาณ<br />
การอุดหนุนวิจัยเรื ่อง “ประสิทธิภาพและความปลอดภัยของขมิ ้นชันในการ<br />
เป็นสารปกป้องตับเพื ่อชะลอการทำลายเซลล์ตับในผู ้ป่วยโรคตับแข็ง” จากสำนักงาน<br />
กองทุนสนับสนุน การวิจัย (สกว.)<br />
นายแพทย์เอกวีร์ ศรีปริวุฒิ ได้กล่าวถึงโครงการวิจัยประสิทธิภาพและความปลอดภัย<br />
ของขมิ้นชันในการเป็นสารปกป้องตับเพื่อชะลอการทำลายเซลล์ตับในผู้ป่วยโรคตับแข็งว่าเป็น<br />
โครงการเพื่อทดสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยของขมิ้นชันในการปกป้องตับ โดยจะทำ<br />
การศึกษาในหนูทดลองก่อน แล้วจึงศึกษาในผู้ป่วยโรคตับแข็ง ทั้งนี้ ประโยชน์ของโครงการนี้จะ<br />
ทำให้ทราบประสิทธิภาพและความปลอดภัยของ ขมิ้นชันว่าสามารถจะชะลอการทำลาย<br />
เซลล์ตับในผู้ป่วยโรคตับแข็งได้หรือไม่ เนื่องจากวิธีการรักษาเฉพาะของโรคตับแข็งในปัจจุบัน<br />
คือการผ่าตัดเปลี่ยนตับ ซึ่งเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาสูง ที่สำคัญในปัจจุบันยังขาดแคลน<br />
ผู้บริจาคอวัยวะอยู่มาก ถ้ามียาที่สามารถชะลอความเสื่อมของตับแข็ง ทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพ<br />
ชีวิตที่ดีขึ้น อาจหลีกเลี่ยงการผ่าตัดหรือสามารถรอจนกว่าจะมีผู้บริจาคอวัยวะมาให้ทำการ<br />
ผ่าตัดเปลี่ยนตับได้<br />
โครงการวิจัยในครั้งนี้เป็นโครงการวิจัย 2 ปี คาดว่าน่าจะแล้วเสร็จประมาณเดือน<br />
พฤษภาคม พ.ศ.2553<br />
“ตับ”<br />
เป็นอวัยวะที ่ใหญ่ที ่สุดในร่างกาย มีหน้าที ่สำคัญในการควบคุมสภาพร่างกายให้<br />
อยู่ดีมีสุข โดยทำหน้าที่หลายอย่าง ตัวอย่าง เช่น ขจัดสารพิษออกจากเลือด สร้างภูมิคุ้มกันบางอย่างขึ้นมา<br />
ต่อสู้โรคติดเชื้อ ตลอดจนกำจัดเชื้อโรคต่างๆ ออกจากเลือด นอกจากนั้นตับยังทำหน้าที่สร้างโปรตีนที่เป็น<br />
ส่วนประกอบในการทำให้เลือดแข็งตัว ตลอดจนสร้างน้ำดี ซึ ่งมีหน้าที ่ช่วยการดูดซึมไขมันและไวตามินชนิด<br />
ละลายในน้ำมัน<br />
<br />
<br />
☺
นพ.อาทิตย์ เหล่าเรืองธนา<br />
Artit Laoruengthana, MD.*, Sompope Phuphitaya, MD.**<br />
*Department <strong>of</strong> Orthopaedics, <strong>Faculty</strong> <strong>of</strong> <strong>Medicine</strong>, Naresuan University, Phitsanulok, Thailand<br />
**Department <strong>of</strong> Orthopaedics, Phramongkutklao Hospital and College <strong>of</strong> <strong>Medicine</strong>, Bangkok, Thailand<br />
Introduction<br />
Osteoid osteoma is rare, benign tumors in spine1,2. Osteoid osteoma and osteoblastoma should be included in the<br />
differential diagnosis <strong>of</strong> any young patient with pain in the back, painful scoliosis, or radicular or referred-type pain into the lower limb<br />
or the shoulder. These tumors <strong>of</strong>ten produce pain before they are detectable on roentgenograms, therefore, dependence on routine<br />
roentgenograms can <strong>of</strong>ten delay the diagnosis3. Early diagnosis and excision <strong>of</strong> these tumors are important to reduce the duration<br />
<strong>of</strong> pain and hopefully to reverse the associated scoliosis4,5. With recently imaging techniques, we could identify it earlier, however this<br />
report describe the difficulty <strong>of</strong> localization and surgical removal <strong>of</strong> the lesion by MRI. The patient and family were informed that data<br />
concerning this case would be submitted for publication.<br />
<br />
☺
โรงพยาบาลพิจิตร เริ ่มก่อสร้างเมื ่อ พ.ศ. 2496<br />
ด้วยเงินงบประมาณแผ่นดิน และเปิดให้บริการผู้ป่วย<br />
นอกในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2496 สำหรับผู ้ป่วยในนั ้นเปิด<br />
ให้บริการในปี พ.ศ. 2497 โดยมีนายแพทย์ดำรงค์<br />
เจ่าสกุล รักษาการผู้อำนวยการโรงพยาบาล และเปิด<br />
รับผู้ป่วยในด้วยจำนวนเตียง 10 เตียง ในสมัยนั้นการ<br />
คมนาคมไปมาลำบาก โรงพยาบาลพิจิตรจึงต้องเป็น<br />
ที่พึ่งพาของประชาชนในการรักษาสุขภาพ ทำให้มี<br />
ผู้ป่วยมาขอใช้บริการมากขึ้น จึงต้องขยายเตียงรองรับ<br />
เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพื่อสนองความต้องการของประชาชนใน<br />
เขตพื้นที่รับผิดชอบและพื้นที่ใกล้เคียงโดยใช้เงินบริจาค<br />
เป็นส่วนใหญ่<br />
โรงพยาบาลพิจิตร จัดบริการอยู่ในระดับ<br />
ทุติยภูมิระดับสูง มีเตียงไว้บริการ 405 เตียง นำทีมบริหาร<br />
โดย พญ.สุนีย์ ธีรการุณวงศ์ ในรูปแบบคณะกรรมการ<br />
บริหารโรงพยาบาลที่ร่วมวางยุทธศาสตร์การพัฒนา<br />
ภายใต้วิสัยทัศน์ที่ว่า “พัฒนาให้เป็นโรงพยาบาล<br />
คุณภาพชั้นนำในเขตภาคเหนือตอนล่าง” พร้อม<br />
พันธกิจที่จะมุ่งสู่เป้าหมายในทิศทางเดียวกัน ด้วยข้อ<br />
ตกลงร่วมกันว่า “มุ่งมั่นบริการ มาตรฐานสากล<br />
ทุกคนมีค่า พัฒนาต่อเนื่อง” การพัฒนาในแต่ละปีนั้น<br />
จะมี การกำหนดเป็นนโยบาย เข็มมุ่งการพัฒนาและ<br />
สื่อสารสู่ผู้ปฏิบัติได้อย่างทั่วถึง<br />
ด้านการรักษาพยาบาล<br />
พบว่าจำนวนผู้รับบริการเพิ่มขึ้นจากจำนวน<br />
ผู้ป่วยเรื้อรังที่เพิ่มขึ้นและการนัดตรวจผู้ป่วยต่อเนื่อง<br />
จำนวนผู้รับบริการผู้ป่วยนอก เฉลี่ยวันละ 873 ราย<br />
ผู้ป่วยในที่นอนโรงพยาบาล เฉลี่ยวันละ 332 ราย<br />
จำนวนวันนอนเฉลี่ยมีแนวโน้มลดลง เฉลี่ย 4.41 วัน<br />
อัตราผู้ป่วยเสียชีวิตมีแนวโน้มลดลง ด้านโครงสร้าง<br />
กายภาพและสิ่งแวดล้อม มีการพัฒนาด้านอาคาร<br />
สถานที่และสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง มีทั้งการขอ<br />
งบประมาณจากกระทรวงมาก่อสร้างใหม่ และการใช้เงิน<br />
บำรุงปรับปรุงซ่อมแซมอาคารสถานที่ที่มีสภาพชำรุด<br />
ด้านวิชาการและการเรียนรู ้<br />
ยุทธศาสตร์ของโรงพยาบาลที่มุ่งเน้นพัฒนา<br />
โรงพยาบาลพิจิตรให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ เช่น เป็น<br />
ศูนย์แพทยศาสตร์ชั้นคลินิกของ<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong><br />
ที่มีการจัดการเรียนการสอนในชั้นปีที่ 4 – 6 เป็นสถานที่<br />
ฝึกงานของสหสาขาวิชาชีพและพยาบาลระดับต่างๆ<br />
นำการจัดการความรู้มาเป็นเครื่องมือในการแลกเปลี่ยน<br />
เรียนรู้ในโรงพยาบาลและเครือข่ายโรงพยาบาลในเขต<br />
ภาคเหนือตอนล่างร่วมกับ<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong><br />
จนเกิดองค์ความรู้ที่เผยแพร่มากมาย นอกจากนี้<br />
ยังมีการพัฒนาระบบสารสนเทศโดยการนำระบบ<br />
คอมพิวเตอร์เครือข่ายเชื่อมโยงกันทั้งผู้ป่วยนอกและ<br />
ผู้ป่วยใน<br />
<br />
<br />
☺
ด้านบุคลากรของโรงพยาบาลพิจิตร<br />
พบว่า มีจำนวนทั ้งสิ ้น 937 คน พบว่าบุคลากร<br />
สายวิชาชีพยังขาดแคลนอยู่ บุคลากรทุกคนจะได้รับ<br />
การพัฒนาอย่างต่อเนื่องตามการประเมินศักยภาพ<br />
ที่มีอยู่ โดยจะมีงบรายหัวสำหรับการพัฒนาในแต่ละคน<br />
ซึ่งมีเป้าหมายที่จะพัฒนาให้ได้ 3 วันต่อคนต่อปี นอก<br />
จากเป้าหมายให้ทุกคนได้รับการพัฒนาแล้ว<br />
คณะกรรมการบริหารทรัพยากรบุคคลได้วิเคราะห์<br />
บรรยากาศขององค์กรและได้มีการจัดอบรมในภาพกลาง<br />
ของโรงพยาบาลอย่างต่อเนื่องเสมอมา<br />
ด้านการพัฒนาบุคลากร<br />
โรงพยาบาลได้นำการพัฒนาคุณภาพมาใช้<br />
กับโรงพยาบาลตั้งแต่ปีงบประมาณ 2542 จนถึงปัจจุบัน<br />
โดยเริ่มต้นจากการนำแนวคิดการพัฒนาคุณภาพแบบ<br />
TQM มาเป็นพื้นฐานการพัฒนาแล้วนำมาตรฐาน<br />
โรงพยาบาล มาบูรณาการกับงานประจำ จึงเกิดเป็น<br />
วัฒนธรรมทำงานอย่างมีคุณภาพ ผลของการพัฒนา<br />
อย่างเป็นรูปธรรมและการมีส่วนร่วมของภาคีทั้งภาครัฐ<br />
และประชาชน ส่งผลให้โรงพยาบาลได้รับการรับรอง ดังนี ้<br />
ผ่านการประเมินเป็นสถานที่ทำงานน่าอยู่<br />
น่าทำงาน ระดับทอง จากกรมอนามัย<br />
ผ่านการรับรองเป็นโรงพยาบาลสร้างเสริม<br />
สุขภาพ จากกรมอนามัย<br />
ผ่านการรับรองเป็นโรงพยาบาลคุณภาพ( HA )<br />
จากสถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพ<br />
โรงพยาบาล<br />
ผ่านการประเมินเป็นโรงพยาบาลคุณภาพตาม<br />
มาตรฐานบริการสาธารณสุข ของกระทรวง<br />
สาธารณสุข<br />
รางวัล Quality Prize <strong>of</strong> the year 2007เครือ<br />
ข่ายบริการ HNQA จากกระทรวงสาธารณสุข<br />
ผู ้อำนวยการและรองผู ้อำนวยการฝ่ายการพยาบาล<br />
ได้รับเชิดชูเกียรติเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลดีเด่น<br />
ประเภทผู้บริหารโรงพยาบาล ศูนย์/โรงพยาบาล<br />
ทั่วไป จากสมาคมนักบริการโรงพยาบาล<br />
ประเทศไทย<br />
อาจารย์นายแพทย์สมบัติ ภูนวกุล<br />
ผู ้อำนวยการศูนย์แพทยศาสตรศึกษา ชั ้นคลินิก โรงพยาบาลพิจิตร<br />
<br />
<br />
<br />
⌫ <br />
⌫<br />
<br />
⌦ <br />
⌫ ⌫ <br />
⌫⌫⌫<br />
⌦⌫<br />
⌫⌫<br />
⌫<br />
นอกจากนี้ยังมีรางวัลที่เกิดจากความร่วมมือร่วมใจอีก<br />
มากมาย ได้แก่รางวัลการดำเนินงานด้านคุณธรรม<br />
จริยธรรม อันดับ 2 นำเสนอเรื่องจิตอาสาจากสำนัก<br />
งานสาธารณสุข เขต 3 รวมถึงผลงานวิชาการต่างๆ อีก<br />
มากมาย ความสำเร็จที่เกิดขึ้นเกิดจากการมุ่งมั่นและ<br />
ทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจของบุคลากร ทั้งแพทย์<br />
พยาบาล ทันตแพทย์ เภสัชกร วิชาชีพอื่นๆ และเครือ<br />
ข่ายบริการ ที่ช่วยกันเสริมช่วยกันสร้างให้เกิดสุขภาวะ<br />
ที่ดีแก่ประชาชน<br />
<br />
☺
⌫⌫⌫ ⌫⌫<br />
⌦ ⌫⌫⌫⌫<br />
<br />
⌫⌫⌫ ⌫<br />
เมื่อ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ <strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> จึงได้จัดการประกวดหนูน้อยสุขภาพดี<br />
ครั้งที่ 3 ขึ้น เพื่อเป็นการสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว รวมทั้งให้ผู้ปกครองดูแลให้เด็กมีพัฒนาการที่สมวัยและ<br />
การเลี้ยงดูบุตรให้ถูกวิธี<br />
ในการประกวดครั้งนี้มีเกณฑ์ในการให้คะแนนโดยดูจาก น้ำหนักตัว ส่วนสูง เส้นรอบศีรษะของเด็ก<br />
ต้องอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน มีประวัติการฝากครรภ์ของมารดาครบมากกว่า 5 ครั้ง ได้รับการฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์<br />
มีสุขภาพในช่องปากดี น้ำหนักแรกคลอดต้องอยู่ในเกณฑ์ปกติ ได้ดื่มนมแม่ตั้งแต่เกิดจนถึง 6 เดือน รวมถึงสุขภาพ<br />
โดยทั่วไปและการมีพัฒนาการที่สมวัย<br />
นอกจากกิจกรรมการประกวดหนูน้อยสุขภาพดีแล้ว ในงานยังมีการตรวจสุขภาพโดยแพทย์ผู ้เชี ่ยวชาญ ซุ ้มถ่ายรูป<br />
ซุ้มของเล่น ซุ้มระบายสี การสนทนาปัญหาการเลี้ยงดูบุตร โดยมีผู้เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง<br />
นอกจากการดูแลสุขภาพของลูกน้อยแล้ว พ่อแม่ควรส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อยในด้านของการเรียนรู้อื่นๆ<br />
เพิ่มเติมด้วย เช่น การใช้ของเล่นเพื่อพัฒนาและส่งเสริมพัฒนาการของลูก เพราะของเล่นหรือการเล่น มีความสำคัญ<br />
ต่อการเรียนรู้ของเด็กอย่างมาก ถือว่าเป็นกุญแจดอกสำคัญที่จะนำไปสู่กระบวนการเรียนรู้ของเด็กในอนาคต<br />
ดังนั้นถ้าพ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูได้เข้าใจและสามารถนำของเล่นหรือกิจกรรมการเล่นไปใช้กับเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว<br />
ทักษะพัฒนาการ และการเรียนรู้เด็กจะก้าวไปอย่างมีคุณภาพยิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อเด็กมีพื้นฐานทางพัฒนาการ<br />
ที่ดีและเหมาะสมกับวัย เด็กจะสามารถนำประสบการณ์ต่างๆ ที่ผ่านมาไปประยุกต์ใช้ในการเรียนรู้ในอนาคตได้<br />
อย่างมีคุณภาพ<br />
<br />
<br />
☺
่<br />
ประโยชน์ของการเล่น :<br />
1. ช่วยเสริมสร้างให้เด็กมีพัฒนาการในทุกด้าน<br />
2. ช่วยเสริมสร้างการใช้ประสาทสัมผัสทั ้ง 5<br />
3. ช่วยพัฒนาด้านสติปัญญา เสริมสร้างจินตนาการ<br />
และความคิดสร้างสรรค์<br />
4. ช่วยพัฒนาความสามารถในด้านการสื ่อสาร โดยเฉพาะคำศัพท์<br />
5. ช่วยเสริมสร้างความมั ่นใจในตัวเอง<br />
6. ช่วยเสริมสร้างลักษณะนิสัยที ่ดีทางสังคม<br />
7. ช่วยเสริมสร้างให้เด็กรู ้จักตนเองได้ดีขึ ้นซึ ่งจะนำไปสู ่ความสำเร็จที<br />
ได้กระทำ<br />
8. ช่วยเสริมสร้างสุขภาพจิตและอารมณ์ที ่ดี<br />
9. ช่วยพัฒนาและส่งเสริมบทบาททางเพศ และบทบาทสมมติ<br />
10. ช่วยพัฒนาและเสริมสร้างความสนใจและสมาธิ<br />
ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาล<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong><br />
หวังว่าพ่อแม่ทุกคนจะเลี้ยงดูลูกด้วยความรัก ความเมตตา ใช้เหตุผล<br />
อย่างเสมอต้นเสมอปลาย เป็นตัวอย่างที ่ดี ฝึกให้ลูกรู ้จักคิด มีน้ำใจ และ<br />
คุณธรรม สิ่งเหล่านี้จะทำให้เขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพใน<br />
อนาคตได้<br />
รางวัลชนะเลิศในช่วงอายุ 8 – 11 เดือน ได้แก่ ด.ช.ชุติเทพ นางาม<br />
รางวัลชมเชย ได้แก่ ด.ช.อภินันธ์ พงศ์หิรัญ<br />
รางวัลชนะเลิศในช่วงอายุ 11 - 18 เดือน ได้แก่ ด.ช.จิรัฎ พิพัฒน์ศาสตร์<br />
รางวัลชมเชย ได้แก่ ด.ช.ภรภัทร กาญจนนาด<br />
รางวัลชนะเลิศในช่วงอายุ 18 เดือน - 3 ปี ได้แก่ ด.ช.ณิธศ วาดสันทัด<br />
รางวัลชมเชย ได้แก่ ด.ช.ภัทรพล บัวทองท้าว<br />
รางวัลหนูน้อยอินเทรนด์ ได้แก่ ด.ญ.มาลิสา ริซ่า ศรีพรม<br />
รางวัลหนูน้อยแก้มป่อง ได้แก่ ด.ช.อินทัช วงษ์ไทย<br />
รางวัลหนูน้อยขวัญใจช่างภาพ ได้แก่ ด.ญ.ฉันชนก คงกระจ่าง<br />
12345678901234567890123456789012123456789012345678901<br />
12345678901234567890123456789012123456789012345678901<br />
12345678901234567890123456789012123456789012345678901<br />
12345678901234567890123456789012123456789012345678901<br />
12345678901234567890123456789012123456789012345678901<br />
12345678901234567890123456789012123456789012345678901<br />
12345678901234567890123456789012123456789012345678901<br />
12345678901234567890123456789012123456789012345678901<br />
12345678901234567890123456789012123456789012345678901<br />
12345678901234567890123456789012123456789012345678901<br />
12345678901234567890123456789012123456789012345678901<br />
12345678901234567890123456789012123456789012345678901<br />
12345678901234567890123456789012123456789012345678901<br />
12345678901234567890123456789012123456789012345678901<br />
12345678901234567890123456789012123456789012345678901<br />
12345678901234567890123456789012123456789012345678901<br />
12345678901234567890123456789012123456789012345678901<br />
12345678901234567890123456789012123456789012345678901<br />
12345678901234567890123456789012123456789012345678901<br />
12345678901234567890123456789012123456789012345678901<br />
12345678901234567890123456789012123456789012345678901<br />
12345678901234567890123456789012123456789012345678901<br />
12345678901234567890123456789012123456789012345678901<br />
12345678901234567890123456789012123456789012345678901<br />
12345678901234567890123456789012123456789012345678901<br />
12345678901234567890123456789012123456789012345678901<br />
12345678901234567890123456789012123456789012345678901<br />
12345678901234567890123456789012123456789012345678901<br />
12345678901234567890123456789012123456789012345678901<br />
ย้ำคิด ย้ำทำ เป็นโรคทางจิตเวชอย่างหนึ ่งรักษาหายได้<br />
ยั ้งคิด ย้ำธรรม เป็นยาใจชนิดหนึ ่งที ่สนับสนุนให้หายได้เร็วขึ ้น<br />
มีการศึกษาวัยชิ ้นหนึ ่งเกี ่ยวกับการวิตกกังวล พบว่า คนเรากังวลถึงสิ ่งที ่ยังไม่เกิดขึ ้นถึง<br />
40% อีก 30% กังวลเรื ่องอดีตที ่ไม่อาจเปลี ่ยนแปลงได้ นอกนั ้นก็เป็นสุขภาพ และอื ่นๆ จิปาถะ<br />
หนังสือ ยั ้งคิด ย้ำธรรม โดยพระไพศาล วิสาโล พูดในทำนองคล้ายกันว่า คนเรา "ทุกข์เพราะ<br />
ความคิด" ยิ ่งกว่าอะไรอื ่น จึงไม่แปลกที ่พบว่า แม้ผู ้คนในปัจจุบันจะมีชีวิตที ่มั ่งคั ่ง สะดวก สบาย<br />
แต่กลับเต็มไปด้วยความทุกข์ ฉะนั้นหาก "ความคิดนั้นถ้าใช้ถูก ใช้เป็น ก็เห็นสุข ได้ไม่ยาก"<br />
ภายในเล่มแบ่งเนื ้อหาคราวละ 2 เรื ่อง ก่อนพักเพื ่อเรียนรู ้วิธีอยู ่กับปัจจุบันขณะ อาทิ<br />
เดินจงกรม อาบน้ำ กินอาหาร เดินทาง ทำงาน ก่อนนอน แม้แต่เวลาหายใจที ่บอกว่า เราไม่เพียง<br />
ดูดออกซิเจนไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ในร่างกายเท่านั้น หากยังเป็นโอกาสที่เราจะนำเอาความสงบ<br />
เย็นไปหล่อเลี ้ยงจิตใจด้วย สิ ่งต่างๆ เหล่านี ้ คิดไป พูดไปก็เท่านั ้น ต้องลงมือปฏิบัติจึงจะรู ้จริง<br />
เพราะ...ความคิดที ่มีสติกำกับ ทุกขณะจิตที ่มีสติประคองใจ เป็นเหมือนการ " ย้ำรอย<br />
ธรรม " จนเป็นทางดำเนินของจิต ชักนำชีวิตให้ถูกต้อง ดีงาม เป็นสุข จนพบกับอิสรภาพในที ่สุด<br />
ยั ้งคิด ย้ำธรรม ...เริ ่มทำ<br />
บทความ : จามรี อ่างหิรัญ<br />
ส่งจดหมายหรือไปรษณียบัตร ขอรับหนังสือ<br />
“ย้ำคิด ย้ำธรรม” จำนวน 1 เล่ม ส่งถึงกองบรรณาธิการ<br />
วารสารใต้ร่มเสลา New Version ชั้น 3 อาคารสิรินธร<br />
โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย อ.เมือง จ.พิษณุโลก 65000<br />
<br />
☺
จาก<br />
นโยบายหลักในการให้<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong>เป็นมหาวิทยาลัยแห่งการสร้างเสริมสุขภาพ โดยอธิการบดีและสถาบัน<br />
อุดมศึกษาอีก 7 แห่ง ได้ร่วมลงนามในข้อตกลงกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) โดย<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong><br />
สนับสนุนให้ทุกหน่วยงานหรือหน่วยกิจกรรม มีการจัดทำแผนงานด้านการสร้างเสริมสุขภาวะ พัฒนาองค์กรและรูปแบบการจัดกิจกรรม<br />
ด้านการสร้างเสริมสุขภาวะ และจัดกระบวนการเสริมสร้างให้นิสิต บุคลากร เกิดความตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างเสริมสุขภาพ<br />
การสร้างเสริมสุขภาพ จึงเป็นยุทธวิธีใหม่ที่จะต่อสู้กับปัญหาที่มาในรูปแบบใหม่นี้ และเป็นยุทธวิธีในเชิงรุกที่จะให้ผลในการแก้ปัญหา<br />
สุขภาพได้ดีที่สุด อีกทั้งยังเป็นการลงทุนที่ต่ำมากเมื่อเปรียบกับการลงทุนทางการแพทย์และที่สำคัญก็คือ การสร้างเสริมสุขภาพเป็นส่วน<br />
สำคัญในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การสร้างเสริมสุขภาพ ไม่ใช่เป็นเพียงกระบวนการป้องกัน ดังที่เข้าใจกันเท่านั้น ยังเป็นขบวนการที่<br />
นำมาใช้เพื่อการขจัดและหลีกเลี่ยงปัญหาสุขภาพที่มนุษย์กำลังเผชิญอยู่<br />
คณะแพทยศาสตร์<br />
<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> ในฐานะโรงเรียนแพทย์<br />
จึงมุ ่งพัฒนาสู ่การเป็น “โรงเรียนแพทย์สร้างเสริมสุขภาพ” โดยให้ความสำคัญกับการดูแล<br />
และสร้างเสริมสุขภาพของบุคลากร เพื ่อให้บุคลากรมีสุขภาพร่างกายที ่แข็งแรง และปฏิบัติงาน<br />
อย่างมีความสุข มีความปลอดภัยและเป็นแบบอย่างที่ดีในการดูแลสร้างเสริมสุขภาพให้กับ<br />
ผู้รับบริการและบุคลากรคณะอื่น ๆ ภายใน<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> มีการส่งบุคลากรเข้าร่วม<br />
โครงการการประกวด “ทูตสุขภาพ” ซึ่งบุคลากรของคณะแพทยศาสตร์ ได้รับรางวัล<br />
ชนะเลิศ ทั้งประเภทฝ่ายชายและประเภทฝ่ายหญิง<br />
<br />
<br />
☺
เรามาค้นหาเคล็ดลับการดูแลสุขภาพจากทูตสุขภาพ<br />
ของเรากันดีกว่าค่ะ<br />
ดูแลสุขภาพกันอย่างไรให้มีสุขภาพที่ดีขนาดนี้คะ<br />
น้องกุ้ง : เริ่มจากการทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นของสด ผักสด ผลไม้สด<br />
ทานน้ำเยอะๆ นอนพักผ่อนให้เต็มที ่ และออกกำลังกายเป็นประจำค่ะ<br />
น้องแมว : ผมเริ ่มจากร่างกายก่อนครับ คือ ออกกำลังกายอย่างน้อย 3-4 ครั ้ง/สัปดาห์<br />
พอร่างกาย แข็งแรงแล้ว ก็ต้องมีจิตใจที่แข็งแรงด้วยครับ รู้จักจัดการความเครียดของตัวเอง<br />
และทำให้ตัวเอง อารมณ์ดีอยู่เสมอ สุดท้ายก็เรื่องของอาหาร ผมจะทานอาหารประเภท<br />
ผักและผลไม้ มากกว่าพวกแป้งหรือขนมขบเคี้ยว เพราะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สุขภาพเสื่อม<br />
ลงครับ<br />
ช่วยฝากอะไรถึงคนที่กำลังจะหันมาดูแลสุขภาพค่ะ<br />
น้องกุ้ง : สำหรับใครที่ยังไม่ได้หันมาดูแลสุขภาพ ไม่มีคำว่าสาย เรามา<br />
เริ่มต้นกันตั้งแต่วันนี้ หันมาออกกำลังกาย และดูแลสุขภาพกันเถอะค่ะ<br />
น้องแมว : อยากให้บุคลากร และนิสิตหันมาออกกำลังกาย เพื ่อ<br />
ประโยชน์ต่อตนเอง คือ เรามาร่วมกันสร้างสุขภาพกันก่อน ก่อนที่เรา<br />
จะต้องมาซ่อมสุขภาพครับ<br />
<br />
☺
รายงานพิเศษ<br />
นายแพทย์มณฑล กาฬสีห์<br />
กระดูกเป็นส่วนประกอบของร่างกายที่มีผู้ได้รับการบริจาคมากเป็นอันดับ 2 รองจากเลือด บุคคลที่<br />
สามารถบริจาคกระดูกให้ผู้อื่นได้ควรมีอายุระหว่าง 18-65 ปี สามารถแบ่งผู้บริจาคได้เป็น 2 กลุ่ม คือ ผู้บริจาคที่ยังมี<br />
ชีวิตอยู่กับผู้บริจาคที่เสียชีวิตแล้ว ในกรณีที่ผู้บริจาคยังมีชีวิตอยู่ คือ ผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อสะโพกเนื่อง<br />
จากมีภาวะข้อสะโพกเสื่อม เนื่องจากการผ่าตัดจะมีการตัดหัวกระดูกต้นขาออก (Femoral head) เพื่อใส่ข้อสะโพก<br />
เทียม ซึ่งกระดูกส่วนนี้สามารถนำมาบริจาคให้ผู้อื่นได้ ในกรณีผู้บริจาคที่เสียชีวิตแล้ว ส่วนของกระดูกที่สามารถ<br />
บริจาคจะได้เกือบทุกส่วนของร่างกาย แต่ส่วนใหญ่จะได้แก่ กระดูกหน้าแข้ง (Tibia และ Fibula) กระดูกต้นแขน (Humerus)<br />
กระดูกแขน (Radius และ Ulna) กระดูกเชิงกราน (Pelvis) เป็นต้น โดยปกติถ้าผู้บริจาคอวัยวะเสียชีวิต<br />
และร่างกายได้รับการแช่เย็นจะสามารถทำการผ่าตัดเก็บกระดูกได้ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง ถ้าไม่ได้ทำการ<br />
แช่เย็นหรือร่างกายอยู่ที่อุณหภูมิห้องจะทำการผ่าตัดเก็บกระดูกในเวลา 12 ชั่วโมง วิธีการผ่าตัดเก็บกระดูกก็เช่น<br />
เดียวกับการผ่าตัดทั่วไป โดยจะทำในห้องผ่าตัดในสภาวะปลอดเชื้อ (sterile technique)<br />
ก่อนทำการผ่าตัดเก็บกระดูกสำหรับผู้บริจาคที่มีชีวิต แพทย์จะทำการตรวจเลือดดังต่อไปนี้<br />
1. ตรวจไวรัสตับอักเสบชนิดบีและซี (hepatitis B and C)<br />
2. ตรวจเชื ้อซิฟิลิส (VDRL)<br />
3. ตรวจหาเชื้อไวรัสเอดส์และตรวจซ้ำอีกครั้งเมื่อครบ 3 เดือน<br />
ในกรณีที่ผู้บริจาคเสียชีวิต แพทย์จะทำการตรวจเลือดดังต่อไปนี้<br />
1. ตรวจไวรัสตับอักเสบบีและซี (hepatitis B and C)<br />
2. ตรวจเชื ้อซิฟิลิส (VDRL)<br />
3. ตรวจเชื้อไวรัสเอดส์<br />
4. ตรวจเพาะเชื้อจากกระแสเลือด (hemoculture)<br />
5. ตรวจหาเชื ้อ Cytomegalovirus<br />
<br />
<br />
☺
ผู ้ป่วยมะเร็งกระดูกชนิด Osteosarcoma<br />
ได้รับการผ่าตัดกระดูกที ่เป็นมะเร็งออกและปลูกถ่ายกระดูกจากผู ้อื ่น<br />
1.<br />
2.<br />
3.<br />
4.<br />
5.<br />
6.<br />
7.<br />
8.<br />
9.<br />
10.<br />
11.<br />
12.<br />
13.<br />
ข้อห้ามสำหรับการบริจาคกระดูก ได้แก่<br />
ผู ้ที ่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี<br />
ผู้ที่มีประวัติใช้สารเสพติด<br />
ผู้ที่ได้รับยาสเตียรอยด์เป็นประจำหรือในขนาดสูง<br />
ผู้ที่ได้รับยาเคมีบำบัด<br />
ผู้ป่วยเบาหวานที่ใช้อินซูลินเป็นเวลานาน<br />
ผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง<br />
ผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยโกรทฮอร์โมน<br />
ผู้ที่มีภาวะดีซ่านหรือตับอักเสบ<br />
ผู้ที่มีภาวะความจำเสื่อมหรือวิกลจริต<br />
ผู้ที่มีภาวะติดเชื้อในร่างกาย<br />
ผู้ที่มีโรคทางระบบประสาทเรื้อรัง<br />
ผู้ที่ได้รับวัคซีนชนิดมีชีวิตไม่นานก่อนการบริจาค<br />
ผู้ติดเชื้อไวรัสเอดส์หรือมีปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสเอดส์<br />
กระดูกที่ได้รับการบริจาคจะได้รับการเก็บรักษาในสภาวะปลอดเชื้อ ในตู้แช่เย็นที่อุณหภูมิ -80 องศาเซลเซียส สามารถเก็บไว้<br />
รอรับการปลูกถ่ายได้นาน 5 ปี กระดูกที ่ได้รับการบริจาคจะนำไปใช้ในผู ้ป่วยที ่เป็นมะเร็งของกระดูกที ่ได้รับการผ่าตัดแบบเก็บรักษาระยางค์ (Limb<br />
salvage surgery) โดยจะไปใช้ทดแทนกระดูกส่วนที่ผ่าตัดออกไป แทนที่ผู้ป่วยจะต้องถูกตัดแขนหรือขา นอกจากนี้ยังนำมาใช้ในการรักษา<br />
ผู้ป่วยที่มีปัญหากระดูกหักแล้วเกิดภาวะกระดูกไม่ติด ผู้ป่วยที่จะได้รับการผ่าตัดเปลี่ยนข้อเทียมและมีภาวะกระดูกถูกทำลายไปมาก<br />
เพื่อช่วยเสริมความแข็งแรง<br />
ศูนย์ปลูกถ่ายอวัยวะภาคเหนือตอนล่าง โรงพยาบาล<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> จะช่วยลดความซ้ำซ้อน ลดระยะเวลาการรอคอย ลดค่า<br />
ใช้จ่ายด้านการดูแลสุขภาพของผู้ป่วยหลังการเปลี่ยนอวัยวะ และเป็นคลังความรู้เพื่อผลิตบัณฑิตแพทย์ที่มีความเป็นเลิศ สำคัญที่สุด คือ<br />
เป็นความหวังของผู้ป่วยที่รอรับการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะในเขตภาคเหนือตอนล่าง<br />
คณะแพทยศาสตร์ <strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> ขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเงินเข้ามูลนิธิโรงพยาบาล<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong><br />
เพื่อสร้างศูนย์ปลูกถ่ายอวัยวะภาคเหนือตอนล่าง โรงพยาบาล<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> โดยผู้บริจาคจะได้รับสิทธิ์เป็นผู้อุปการะคุณประเภทต่างๆ<br />
ของโรงพยาบาล<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> สิทธิประโยชน์ที่ผู้บริจาคจะได้รับจากการใช้บริการของโรงพยาบาล คือ การได้รับส่วนลดจากการใช้<br />
บริการตั้งแต่ 10% ถึง 100% ขึ้นอยู่กับประเภทของสมาชิกและชนิดของการให้บริการ ทั้งนี้ผู้บริจาคเงินตั้งแต่ 200,000 บาทขึ้นไป จะได้รับ<br />
เหรียญพระพุทธชินราชทองคำ พระราชทาน ประดิษฐานอักษรพระนามาภิไธยย่อ “ส.ธ.”<br />
ผู้สนใจร่วมบริจาคเงินสมทบมูลนิธิโรงพยาบาล<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> สามารถติดต่อได้ที่<br />
มูลนิธิโรงพยาบาล<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong><br />
โทรศัพท์ 0 5526 1919<br />
หรือบริจาคผ่านทางธนาคารกรุงศรีอยุธยา (สาขาย่อย<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong>)<br />
ชื ่อบัญชี มูลนิธิโรงพยาบาล<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> เลขบัญชี 346-1-45112-0<br />
<br />
☺
⌫<br />
<br />
⌫ ⌫ ⌫<br />
<br />
⌫ <br />
<br />
แนวคิดที่ทำให้เลือกเรียนต่อวิชาชีพแพทย์คืออะไรคะ<br />
โดยส่วนตัวคิดว่าอาชีพแพทย์จะช่วยคนไข้<br />
ได้มากขึ้น คือสามารถให้การรักษา ให้การวินิจฉัย<br />
ได้ครับ ด้านอาชีพเภสัชกรก็เป็นอาชีพที ่ดีที ่ตัวผมก็รัก<br />
คิดว่าหากเราพัฒนาต่อยอดความรู้ความสามารถ<br />
วินิจฉัยคนไข้ รักษาคนไข้ได้ด้วยตัวของเราเองก็จะมี<br />
ประโยชน์มากขึ้น เพราะพื้นฐานวิชาชีพเภสัชกรก็จะ<br />
มีความรู้ทฤษฎีเรื่องยา ในส่วนการทำหัตถการ<br />
การวินิจฉัยโรค การรักษา เภสัชกรจะทำไม่ได้ จึงเป็น<br />
แนวคิดให้มาต่อยอดความรู้ครับ<br />
การเรียนการสอนแพทย์แนวใหม่ (New Track) เป็น<br />
แบบไหนค่ะ<br />
คือ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย<br />
นเรศวร จะมีศูนย์แพทย์ทั้งหมด 7 ศูนย์ ช่วงแรก<br />
พรีคลินิกก็เรียนด้วยกันกับน้องทั้งหมด แต่พอขึ้นชั้น<br />
คลินิกก็เรียนแยกตามศูนย์ ถ้าเป็น New Track<br />
จะเรียนที ่ โรงพยาบาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช<br />
โรงพยาบาลพิจิตร โรงพยาบาลแพร่ ถ้าเป็นน้อง<br />
โควตาปกติก็จะเรียนที่โรงพยาบาลพุทธชินราช กับ<br />
โรงพยาบาลอุตรดิตถ์แต่ถ้าเป็นน้องที ่ Entrance กลาง<br />
จะเรียนที่ โรงพยาบาล<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> กับ<br />
โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ครับ<br />
แล้วทำไมถึงเลือกที่จะเรียนแพทย์ มหาวิทยาลัย<br />
นเรศวรคะ<br />
ที ่เลือกเรียนแพทย์ที ่ <strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong><br />
ก็เพราะว่าตัวเองก็เคยจบเภสัชศาสตร์จากมหาวิทยาลัย<br />
นเรศวร ก็มั่นใจในศักยภาพของมหาวิทยาลัยครับ<br />
รวมถึงมหาวิทยาลัยก็ใกล้บ้านด้วยครับ<br />
เป็นยังไงบ้างกับการเรียนที่ศูนย์แพทยศาสตรศึกษา<br />
ชั ้นคลินิก โรงพยาบาลพิจิตร<br />
โดยรวมก็ดีมากครับ แม้อาจารย์แพทย์<br />
(Staff) ยังมีไม่มาก เนื่องจากเราเป็นศูนย์แพทย์ใหม่<br />
แต่ในความมีน้อยก็จะมีข้อดีก็คือเราได้ใกล้ชิดกับ<br />
อาจารย์ Staff ครับ อาจารย์ Staff ก็จะให้ความ<br />
ใกล้ชิดสนิทสนมกับเรา อาจารย์แพทย์จะดูแลดีทุก<br />
Ward ส่วนใหญ่จะได้ใกล้ชิดกับอาจารย์ตลอด<br />
สำหรับโรงพยาบาลพิจิตรก็ไม่ใหญ่มาก มีเจ้าหน้าที่<br />
ประมาณ 1,000 เศษๆ ทำให้ใกล้ชิดสนิทสนมกัน<br />
อย่างที่เราต้องการจะติดต่อประสานงาน ถ้าเรา<br />
ต้องการความช่วยเหลือเราก็สามารถเดินตรงเข้าไป<br />
ประสานงานได้เลยครับก็จะได้รับความร่วมมือ<br />
ความช่วยเหลืออย่างดีครับ สำรับคนไข้ก็เยอะถ้าเป็น<br />
OPD วันหนึ่งก็เกือบพันคนครับ ถ้าเป็น IPD เช่น<br />
ภาคอายุรศาสตร์ อัตราของครองเตียงก็เกิน 100 %<br />
ครับ Case แต่ละ Case ก็ค่อนข้างหลากหลาย<br />
แต่พอมี Case ที่ยากๆ ที่ Advance เราต้องส่งต่อ<br />
ไปยังโรงพยาบาลศูนย์ครับ ตรงนี้ก็ทำให้ยากที่เราจะ<br />
ติดตามอาการต่อไป คิดว่านี่ก็คือจุดที่ต้องพัฒนาต่อ<br />
ครับ<br />
ประทับใจอะไรที ่โรงพยาบาลพิจิตร<br />
ประทับใจทุกอย่างครับ ทั้งอาจารย์<br />
ทั้งคนไข้ เนื่องจากที่นี่เป็นโรงพยาบาลต่างจังหวัด<br />
<br />
<br />
☺
คนไข้ก็น่ารักให้ความเป็นกันเอง อย่างตอนขึ้นชั้น<br />
คลินิกใหม่ๆ ตอนปี 4 ต้องมีการเจาะเลือดก็จะมีคนไข้<br />
คุณตาคุณยาย ที ่อายุมากแล้วรู ้ว่าเราเป็น นสพ. มือใหม่<br />
จะมือสั่นเจาะโดนบ้างไม่โดนบ้าง คุณตาคุณยายจะ<br />
บอกว่าไม่เป็นอะไรหมอเจาะได้เลยทำไปเลย ผมถือว่า<br />
คนไข้ทุกคนเป็นครูครับ ผมให้เกียรติคนไข้ทุกคนผมจะ<br />
ขออนุญาตคนไข้ และแนะนำตัวทุกครั้ง ถือว่าคนไข้<br />
ทุกคนมีบุญคุณกับผม และก็นิสิตแพทย์ทุกคนครับ<br />
มาถึงจุดเริ ่มต้นของการเป็นแพทย์แล้วรู ้สึกอย่างไร<br />
ตอนเรียนชั ้นพรีคลินิกส่วนใหญ่เรานั ่งเรียน<br />
ในห้องเรียน เตรียมทำรายงาน การเรียนการสอนเน้น<br />
ทฤษฎีเป็นส่วนใหญ่ แต่พอขึ้นเรียนชั้นคลินิกเราต้อง<br />
เจอคนไข้จริง ต้องอยู่เวร ต้องใช้ชีวิตจริงใน Ward<br />
ต้องเขียน Case Report ต้องราวน์ (Round) เช้า<br />
ราวน์บ่าย ต้องมี Activity ตอนเย็นทุกวัน ถ้ามี Case<br />
พิเศษเข้ามาจะมีเพื่อนที่อยู่เวรโทรตามครับ ไม่ว่าจะ<br />
เป็นเวลาไหน อาจารย์ไม่ได้บังคับนะครับว่าจะต้องไป<br />
แต่ทุกคนไปด้วยใจครับ<br />
คิดว่าการเรียนแพทย์ให้อะไรกับตัวเองและสังคม<br />
สำหรับตัวเองสิ่งที่ได้ก็คือ ศักยภาพของ<br />
ตัวเอง อย่างเมื่อก่อนนี้ตัวเองก็จะมีแค่ความรู้เรื่องยา<br />
ซึ่งความรู้ถ้าเราไม่ได้ใช้เราก็ลืม เป็นเหมือนกันทุก<br />
วิชาชีพ พอเรากลับมาเรียนใหม่เราก็ได้ความรู้เรื่อง<br />
ยากลับมา ความรู้เรื่องคลินิกเรื่องการบริหารจัดการ<br />
คนไข้ ส่วนสิ่งที่สังคมจะได้เมื่อเราเรียนจบแล้ว คือ<br />
ต้องกลับไปใช้ทุนที ่โรงพยาบาลที ่จังหวัดสุโขทัย ก็จะ<br />
ตั ้งใจกลับไปทำงานที ่โรงพยาบาลชุมชนให้เต็มที ่ การ<br />
ที ่เราเป็นหมอ เราสามารถช่วยคนได้เยอะขึ ้น การเป็น<br />
หมอที่ดีไม่ต้องใช้ความพยายามอย่างอื่นมากเลย<br />
ยกเว้นเรื ่องเรียน คือ เราต้องเอาใจไส่คนไข้ สื ่อสารกับ<br />
คนไข้ดีๆ ให้เข้าใจ<br />
คำว่าหมอที่ดีในอุดมคติคืออะไร<br />
หมอที่ดีสำหรับผมประการแรก ต้องมี<br />
ความรู้ตามมาตรฐาน ประการที่สองต้องมีจิตใจที่ดี<br />
ต้องเสียสละ มองเห็นประโยชน์ของคนไข้มาก่อน<br />
ทุกอย่าง เห็นว่าอะไรที่จะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด<br />
แก่คนไข้ ผมว่าแค่ 2 ข้อนี ้ก็เป็นหมอที ่ดีได้แล้วครับ<br />
นโยบายของ<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong>จะก้าวสู่การเป็น<br />
มหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพ ในฐานะที ่เราเป็นนิสิต<br />
แพทย์ มีวิธีการดูแลสุขภาพอย่างไร<br />
สำหรับกิจวัตรประจำวันของผม คือต้อง<br />
ตื่นเช้าทุกวัน บางวันอยู่เวรถึง ตี 1 ตี 2 ต้องตื่นมา<br />
รับคนไข้ตั้งแต่ 6-7 โมงเช้าทุกวัน ถ้าเราไม่แข็งแรง<br />
จริงๆ ก็คงไม่ไหวครับ ถ้าร่างกายเราอ่อนแอ เราอาจ<br />
จะได้รับเชื้อจากคนไข้มาก็ได้ และเราก็จะนำเชื้อไป<br />
แพร่ให้คนอื่นต่อ ผมเลยมองว่าสุขภาพของเรา<br />
ต้องทำให้ดีก่อน ก่อนที่จะไปรักษาคนอื่น ผมเลือก<br />
ออกกำลังกายด้วยการปั่นจักรยานทุกวัน เป็นวิธีหนึ่ง<br />
ที ่จะช่วยลดภาวะโลกร้อน ประหยัดพลังงาน รวมทั ้ง<br />
ได้สุขภาพร่างกายที ่แข็งแรงกลับคืนมาเป็นกำไรให้กับ<br />
ชีวิตอีกด้วยครับ ฝากถึงทุกคนที่รักสุขภาพครับ ให้<br />
ทุกคนดื ่มน้ำเยอะๆ ดูแลรักษาสุขภาพ ออกกำลังกาย<br />
3-5 ครั ้ง/สัปดาห์ ถ้าได้ทุกวันก็ยิ ่งดีครับ ทำได้เท่าไร<br />
ก็กลับคืนเรามามากเท่านั้นครับ<br />
<br />
⌫<br />
<br />
⌫<br />
<br />
☺
่<br />
นายแพทย์นนท์ โสวัณณะ<br />
หัวหน้าภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน ครอบครัว และอาชีวเวชศาสตร์<br />
คณะแพทยศาสตร์ <strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong><br />
" ศูนย์สุขภาพชุมชน " เป็นหน่วยบริการปฐมภูมิที่เป็น<br />
จุดบริการระดับแรกที ่มีความสำคัญยิ ่งและอยู ่ใกล้ชิดชุมชนมากที ่สุด ทำหน้าที<br />
ให้บริการแบบผสมผสานทั ้งการรักษาพยาบาล การส่งเสริมสุขภาพ การควบคุม<br />
ป้องกันโรคและการฟื ้นฟูสภาพ โดยใช้หลักเวชศาสตร์ครอบครัวดูแลสุขภาพ<br />
ประชาชนทั ้งในระดับบุคคล ครอบครัวและชุมชนทั ้งด้านร่างกาย จิตใจสังคม<br />
และจิตวิญญาณเพื ่อก้าวสู ่สภาวะของประชาชนในทุกกลุ ่มอายุได้อย่างบรรลุ<br />
ผลและเกิดเป็น "ชุมชนเข้มแข็ง" ท้ายที ่สุดต่อไป<br />
รูปแบบบริการของศูนย์สุขภาพชุมชน<br />
1. การจัดบริการในศูนย์สุขภาพชุมชนฯ<br />
- การรักษาพยาบาลผู ้ป่วยโรคเฉียบพลันและโรคเรื ้อรัง<br />
- การส่งเสริมสุขภาพ การตรวจคัดกรอง<br />
- การป้องกันควบคุมโรค<br />
- การให้คำปรึกษา<br />
- การทำแผล ฉีดยา<br />
- อุบัติเหตุ ฉุกเฉิน<br />
- การชันสูตรขั ้นพื ้นฐาน<br />
- ทันตกรรม<br />
2. การจัดบริการเชิงรุกในชุมชน<br />
- บริการดูแลสุขภาพที ่บ้าน<br />
- บริการเชิงรุกเพื ่อส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรคในกลุ ่มเสี ่ยง<br />
- สนับสนุนการดำเนินงานสาธารณสุขมูลฐาน<br />
วันนี ้คุณหมอนนท์ (นพ.นนท์โสวัณณะ) มีโอกาสลงพื ้นที ่ในความ<br />
รับผิดชอบของศูนย์สุขภาพชุมชน เพื ่อตรวจเยี ่ยมอาการของลุงเลียบ คนไข้<br />
รายนี ้อาศัยอยู ่ในชุมชนท่าทอง เป็นคนไข้สูงอายุช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ลุงเลียบ<br />
เป็นคนไข้ที่ทางศูนย์ได้รับทราบข้อมูลจากทางเจ้าหน้าที่ อสม.ในหมู่บ้าน<br />
ดังนั้นทางเราจึงต้องเดินทางเข้าไปตรวจเยี่ยมอาการของคนไข้รายนี้<br />
เพราะคนไข้ไม่สามารถเดินทางมาหาหมอเองได้<br />
บ้านลุงเลียบ เป็นบ้านตึกชั้นเดียวหลังเล็กๆมีสุนัขพันธุ์บางแก้ว<br />
1 ตัว ลุงเลียบป่วยเป็นความดันโลหิตสูง มีภาวะเส้นเลือดในสมองแตก ทำให้<br />
แขนขาข้างซ้ายอ่อนแรง ไม่สามารถลุกนั ่งได้และไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้<br />
คุณหมอนนท์เล่าถึงอาการป่วยของลุงเลียบว่า “วันนี ้อาการลุงเลียบ<br />
ดีขึ้น แขนข้างซ้ายที่อ่อนแรงเริ่มขยับได้จากที่คนไข้ไม่สามารถพลิกตัวได้ ก็<br />
พลิกตัวได้ แผลกดทับที ่เป็นอยู ่ก็แห้งแล้ว ต้องขอขอบคุณ อสม.ที ่เข้าไปดูแล<br />
จนอาการของลุงเลียบดีขึ ้น”<br />
การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมคนไข้ในแต่ละครั้ง จะมีเจ้าหน้าที่จากทาง<br />
โรงพยาบาล<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong>ร่วมกับ อสม.ในพื ้นที ่นั ่นๆ ร่วมมือกันเข้าไป<br />
ดูแลคนไข้ เหมือนให้ชาวบ้านดูแลชาวบ้านกันเอง โดยเราจะจัดการอบรมใน<br />
เรื่องของการดูแลคนไข้ให้ปีละ 2 ครั้ง พื้นที่รับผิดชอบของทางโรงพยาบาล<br />
<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> มีต.ท่าโพธิ ์ต.ท่าทอง ต.วัดพริก ต.วังน้ำคู ้และ ต.งิ ้วงาม<br />
มีประชากรเขตละประมาณ 10,000 คน และตอนนี้เทศบาลนครพิษณุโลก<br />
ให้เราช่วยดูแลคนไข้ในเขต ต.พันปีและในเขตศูนย์ส่งเสริมสุขภาพชุมชน<br />
เทศบาลนครพิษณุโลก ส่วนสนามบินด้วย<br />
การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมคนไข้ของคุณหมอนนท์ ได้รับความ<br />
ร่วมมือจากคนในชุมชนเป็นอย่างดีต่างช่วยเหลือซึ ่งกันและกัน ซึ ่งทำให้มองเห็น<br />
ความสัมพันธ์อันดีต่อกันในชุมชน อันจะส่งผลอันดีต่อการดูแลสุขภาพ<br />
ประชาชนต่อไป<br />
<br />
<br />
☺
่<br />
คุณพิศมัย ศักดิ ์มณี<br />
เจ้าหน้าที ่บริหารงานสาธารณสุข ระดับ 6<br />
คุณพิศมัย เป็นคนพิจิตรปฏิบัติงานอยู ่ที ่สถานีอนามัยตำบลวัดพริก<br />
มานานกว่า 30 ปี คนที ่นี ่น่ารัก ทุกอย่างที ่เป็นที ่นี ่ ทำให้คุณพิศมัยหลงใหลใน<br />
ความเป็นกันเอง เอื ้อเฟื ้อเผื ่อแผ่ช่วยเหลือซึ ่งกันและกัน คุณพิศมัยจึงตั ้งใจที<br />
จะทุ ่มเทเวลาทั ้งหมดให้กับที ่นี ่ด้วยระบบการบริหารงานหลักๆ 4 ด้านของทาง<br />
สถานีอนามัย คือ การส่งเสริมสุขภาพ งานด้านป้องกันโรค งานด้านการรักษา<br />
และการฟื ้นฟูสภาพ<br />
สถานีอนามัยตำบลวัดพริกตั ้งอยู ่ในเขตเทศบาลหมู ่ที ่ 1 รับผิดชอบ<br />
พื ้นที ่ในเขต อบต. ทั ้ง 10 หมู ่ และ หมู ่ 1 ต.วัดพริก เป็นสถานีอนามัยแห่งเดียว<br />
ที่มีองค์กรท้องถิ่น 2 แห่ง คือ เทศบาลกับองค์การบริหารส่วนตำบลที่ต้อง<br />
ทำงานร่วมกัน<br />
ตั้งแต่ปี 2549 สถานีอนามัยมีศักยภาพมากขึ้น เพราะทาง<br />
โรงพยาบาล<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong>ได้เข้ามารับผิดชอบดูแล และให้ความรู ้กับ<br />
เจ้าหน้าที่ในเรื่องของการดูแลรักษาผู้ป่วย และในทุกวันอังคารจะมีคุณหมอ<br />
จากทางโรงพยาบาลเข้ามาปฏิบัติงาน ตรวจรักษาสำหรับผู ้ป่วยที ่มีอาการเรื ้อรัง<br />
ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการไม่มากนักทางเจ้าหน้าที่ของทางศูนย์ก็จะทำการรักษา<br />
ตามอาการ<br />
ทางโรงพยาบาล<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> จึงได้มุ่งพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพของสถานีอนามัยให้เป็นศูนย์สุขภาพชุมชน (PCU) เพื่อการ<br />
ดูแลสุขภาพของคนในชุมชน โดยทางโรงพยาบาลจะดำเนินการประสานกับแนวคิดของศูนย์สุขภาพชุมชน จัดทีมเยี่ยมบ้านของโรงพยาบาล<br />
ซึ่งประกอบด้วย เภสัชกร พยาบาลวิชาชีพ และเจ้าหน้าที่ศูนย์สุขภาพชุมชน โดยวางแผนการเยี่ยมบ้าน เน้นที่ผู้ป่วยที่ต้องการดูแลรักษาต่อเนื่อง<br />
เป็นโรคเรื้อรัง เป็นผู้ป่วยที่มีปัญหาในการรักษา หรือขาดการรักษา พร้อมกับจัดทำแฟ้มประวัติครอบครัว และขยายงานด้านการป้องกันโรค<br />
และการส่งเสริมสุขภาพ ซึ่งทางโรงพยาบาลหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะให้คนในทุกๆ ชุมชนมีสุขภาพที่แข็งแรงกันถ้วนหน้า<br />
<br />
☺
⌫ ⌫ ⌫ ⌫ ⌫<br />
⌫ ⌫⌫<br />
⌫ ⌫ ⌫ <br />
⌫ ⌫ <br />
สมุนไพรเหล่านี้จะไล่ความเย็นชื้นจาก<br />
ร่างกาย เวลาฝนตกติดๆ กัน ให้กินอาหารที่มีส่วน<br />
ประกอบของสมุนไพรต่างๆ จะป้องกันไม่ให้ป่วยได้เช่น<br />
ต้มยำ แกงเลียง แกงส้ม เป็นต้น<br />
แกงไทยๆ ที่ว่ามา หากซดน้ำร้อนๆ เหงื่อ<br />
จะออกทำให้สบายตัว นอกจากนี้อาหารที่กินควรเป็น<br />
กลุ ่มที ่เพิ ่มภูมิต้านทาน ได้แก่กลุ ่มที ่มีวิตามินซีสูงๆ เช่น<br />
มะขามป้อม ยอดมะกอก ผักเม็ก ผักติ้ว ยอดกระโดน<br />
ส้มทุกประเภท (ส้มเขียวหวาน ส้มโอ ส้มเช้ง)<br />
และควรกินผักสด หรือน้ำคั้นจากผักสด ผลไม้สด<br />
เป็นประจำในระยะนี้ เช่น น้ำส้มคั้น น้ำแครอท อย่าง<br />
น้อยวันละ 1-2 แก้ว<br />
แถมท้ายด้วยวิธีเก็บอาหารแห้ง ไม่ให้ขึ ้นรา<br />
เน่าเสีย ในช่วงอากาศชื ้น แบบง่ายๆ ค่ะ<br />
หอมและกระเทียม ไวต่อความชื้นและเชื้อรา หาก<br />
เก็บไว้ในตะกร้าโปร่งที่อากาศถ่ายเทสะดวก แล้วยัง<br />
ไม่ได้ผล ลองเก็บใส่ถุงพลาสติก (ถุงเย็น) มัดปากถุง<br />
ให้แน่นหรือใช้ถุงซิปล็อคก่อนนำเข้าตู้เย็น หยิบใช้<br />
ตามสะดวก รับรองเชื ้อราไม่มากล้ำกราย<br />
เกลือและน้ำตาล ใส่ในขวดโหลปิดฝาให้สนิทกัน<br />
มดแมลง ขณะใช้งานไม่ควรใช้ช้อนเปียกหรือชื้นตัก<br />
เพราะจะทำให้น้ำตาลหรือเกลือจับเป็นก้อน<br />
น้ำตาลไอซิ่ง ให้โรยแป้งข้าวโพดลงไปเล็กน้อย เพื่อ<br />
ช่วยดูดความชื ้น ก่อนเก็บในขวดแห้งและสะอาด<br />
กุ้งแห้ง ส่วนใหญ่มักใส่สีให้น่ากิน ก่อนเก็บควรล้าง<br />
ให้สะอาดแล้วนำไปต้มพอเดือดใส่เกลือเล็กน้อย ตัก<br />
ขึ ้นให้สะเด็ดน้ำแล้วนำมาคั ่วให้แห้ง เก็บใส่ถุงซิปล็อค<br />
ในช่องแช่แข็ง กุ้งจะสะอาดปราศจากสารปนเปื้อน<br />
และเก็บได้นานเป็นปี<br />
ข้าวสาร ยุคข้าวสารแพงอย่างนี้ เเนะนำให้ซื้อแบบ<br />
แพ็คสุญญากาศ นำมาเก็บในถังพลาสติกปิดสนิท<br />
จะสะอาดปลอดภัยกว่า หากข้าวสารมีมอด แมลง<br />
ให้นำข้าวใส่ถุง แช่ช่องแช่แข็งสัก 2-3 วัน เพื่อกำจัด<br />
แมลง ก่อนนำมาล้างและหุงตามปกติ<br />
ที ่มา : http://www.asoke.info/ ,http://learners.in.th/<br />
พุทธชาด แก้วอนงคณ์<br />
นักวิชาการโภชนาการ<br />
พริกไทย มีปริมาณน้ำในแต่ละเม็ดน้อยมาก จึงไม่<br />
ค่อยเป็นรา การเก็บในโหลแก้วมิดชิดก็เพียงพอ<br />
พริกไทยป่น ควรบดเก็บแต่น้อยในขวดที่แห้งสนิท<br />
และปิดมิดชิดเช่นกัน<br />
<br />
<br />
☺
สวนแห่งความสุข Garden <strong>of</strong> Happiness<br />
ความเจ็บป่วยของมนุษย์ประกอบขึ้นด้วยสองส่วน คือ โรคและความทุกข์ทรมาน การแพทย์แผนปัจจุบัน<br />
นอกจากมุ่งค้นหาโรค ยังส่งเสริมให้ค้นหาทุกข์ของผู้ป่วยด้วย ซึ่งทุกข์นั้นอาจเป็นสาเหตุที่แท้จริงของโรคมากกว่าที่เห็น<br />
ทางกาย<br />
สวนแห่งความสุข เกิดขึ้นจากบุคลากรโรงพยาบาล<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> ที่เข้าใจทุกข์ของผู้ป่วยและมีเจตนา<br />
ช่วยเหลือให้ความทุกข์เหล่านั ้นบรรเทาลง เป็นความสุขของผู ้ให้ที ่ยินดีทำสิ ่งเล็กๆ น้อย ๆ ให้ผู ้อื ่นมีความสุข และเป็นความสุข<br />
ของผู้พบเห็นที่จะนำเอาความสุขนั้นเติมเต็มแก่ชีวิต<br />
สวนแห่งความสุขเปิดประตูครั้งแรกด้วยการแสดงดนตรีไทย วงเครื่องสายผสมเปียโน และรำพลายชุมพล<br />
โดยอาจารย์แพทย์ นิสิตแพทย์ คณะแพทยศาสตร์<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> และเพื่อนอาจารย์จิตอาสาจากคณะเภสัชศาสตร์<br />
คณะมนุษยศาสตร์ สร้างบรรยากาศที ่งดงาม อบอุ ่นด้วยเสียงเพลง<br />
ครั ้งที ่สองเปิดรับอาสาสมัครเล่านิทานให้เด็กฟัง หนังสือนิทานก็ได้รับจากการบริจาค การหยิบยืมด้วยความมีน้ำใจ<br />
เปิดหนังสือเล่านิทานแฝงธรรมะ พร้อมเกมส์และภาพระบายสี สร้างความสนุกสนานกับเด็กโรคหัวใจที ่คลินิกเด็กโรคหัวใจ<br />
ระหว่างรอตรวจ รอยยิ ้มและเสียงหัวเราะของเด็กวันนั ้น ยังสวยงาม สดใส ในใจเราอยู ่ตลอดมา<br />
"ศิลป์อีสาน" หมอแคน หมอโหวด และนางรำ จากภาคอีสาน โดยนิสิตชมรมอีสานและภูมิภาคอินโดจีน นิสิตหัวใจอาสา นำบทเพลงแห่งท้องทุ่งเสียงแคน<br />
มาบรรเลงขับกล่อมผู้ป่วย ญาติ และบุคลากรคณะแพทยศาสตร์ ซึ่งบางคนบอกว่าเหมือนได้กลับบ้าน แววตาแห่งความสุข เสียงเพลงไพเราะ แถมด้วยเกร็ดความรู้เรื่อง<br />
วิถีอิสาน ติดกระเป๋ายา ติดใจไปบ้านด้วย<br />
ในฐานะหน่วยงานรักษา ป้องกันและส่งเสริมสุขภาพ หวังเป็นอย่างยิ ่งว่า สวนแห่งความสุขจะทำให้ผู ้ป่วย<br />
ผู ้มารับบริการและบุคลากร มีความสุขยิ ่งขึ ้น ดังคำที ่ ศ.นพ.ฝน แสงสิงแก้ว บิดาแห่งจิตเวชศาสตร์ไทยเคยกล่าวไว้ว่า<br />
<br />
☺
CTIVITY<br />
A<strong>Faculty</strong> <strong>of</strong> <strong>Medicine</strong><br />
ข่าว : ณัฐพร แก้วแดง<br />
สัตตกมล นุ่มพรม<br />
ภาพ : ณัฐพล นามะวงศ์<br />
วันที่ 29-31 พฤษภาคม <strong>2551</strong> บุคลากรคณะแพทยศาสตร์ <strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> เข้าร่วมโครงการผู้นำ<br />
การเปลี่ยนแปลง (Change Agent) เพื่อสร้างแกนนำในการเปลี่ยนแปลงของคณะแพทยศาสตร์โดยใช้<br />
แนวคิดจากกระบวนการจิตวิวัฒน์และองค์กรอัจฉริยะ รวมทั ้งเป็นการสร้างเครือข่ายผู ้นำการเปลี ่ยนแปลง<br />
ขององค์กร นำไปสู่องค์กรที่มีชีวิตชีวาและสังคมแห่งความสุข ณ ทรัพย์ไพรวัลย์แกรนด์ โฮเต็ล แอนด์<br />
รีสอร์ท จ.พิษณุโลก<br />
วันที่ 2 มิ.ย. 51 ฯพณฯบุญลือ ประเสริฐโสภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมคณะ เข้า<br />
เยี ่ยมชมการดำเนินงานของคณะแพทยศาสตร์ <strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> โดยมี รศ. ดร.มณฑล สงวนเสริมศรี<br />
อธิการบดี<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> และศ.นพ.ดร.ศุภสิทธิ์ พรรณารุโณทัย คณบดีคณะแพทยศาสตร์<br />
พร้อมทั้งคณะผู้บริหารให้การต้อนรับและพาเยี่ยมชมโรงพยาบาล<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> ณ อาคารสิรินธร<br />
โรงพยาบาล<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong><br />
วันที่ 4 มิ.ย. 51 สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เข้าเยี่ยมชมการดำเนิน<br />
งานของศูนย์โรคหัวใจ <strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong>และศูนย์วิจัยเครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ เพื่อ<br />
บูรณาการวิจัยด้านการแพทย์และสาธารณสุข ให้สอดคล้องกับนโยบายและทิศทางการพัฒนาของ<br />
ประเทศ ในการดำเนินโครงการโปรแกรมวิจัยและพัฒนาระบบการแพทย์อัจฉริยะ (Intelligent Medical<br />
System ; IMS) ณ อาคารสิรินธร โรงพยาบาล<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong><br />
วันที ่ 5 มิถุนายน <strong>2551</strong> นายสมบูรณ์ ศรีพัฒนาวัฒน์ ผู ้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก พร้อมด้วย นายกเหล่า<br />
กาชาด จ.พิษณุโลก มอบกล้องจุลทรรศน์ สำหรับผ่าตัดตาพร้อมจอมอนิเตอร์และเครื่องบันทึกภาพมูลค่า<br />
2,000,000 บาท (สองล้านบาท) ให้แก่โรงพยาบาล<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> โดยมี ศ.นพ.ดร.ศุภสิทธิ์<br />
พรรณารุโณทัยคณบดีคณะแพทยศาสตร์ พร้อมผู้บริหารรับมอบ เครื่องมือดังกล่าวจะสามารถ<br />
ทำการผ่าตัดตา บันทึกภาพขณะผ่าตัดสามารถนำภาพการทำผ่าตัดตากลับมาฉายซ้ำเพื่อการดูแล<br />
ผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง และสามารถบันทึกไว้สำหรับการเรียนการสอนนิสิตแพทย์ คณะแพทยศาสตร์<br />
<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong>อีกด้วย<br />
วันที่ 12 มิ.ย. 51 คณะแพทยศาสตร์ <strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> จัดพิธีไหว้ครู ประจำปีการศึกษา <strong>2551</strong><br />
โดยมีการทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งบริเวณหน้าโรงพยาบาล<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> และจัด<br />
พิธีไหว้ครู ณ ห้องประชุมเอกาทศรถ 9 โดยในงานนี้ได้มีพิธีการมอบประกาศนียบัตรแก่นิสิตที่ได้<br />
คะแนนสูงสุดในแต่ละสาขาวิชา และมอบประกาศนียบัตรแก่สโมสรนิสิตแพทย์ที ่ดำรงตำแหน่งในปีที ่ผ่านมา<br />
รวมถึงการมอบประกาศนียบัตรแก่อาจารย์ในดวงใจที ่นิสิตโหวตให้คะแนนสูงสุดและมอบโล่เกียรติคุณจาก<br />
แพทยสภาให้แก่อาจารย์ที ่มีคุณธรรม จริยธรรม<br />
วันที่ 13 มิ.ย. 51 ภาควิชาศัลยศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ <strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> จัดการบรรยายเรื่อง<br />
“Leading the way in HER2 positive breast cancer” โดยมีวิทยากร ผศ.พญ.เอื้อมแข สุขประเสริฐ<br />
อาจารย์แพทย์ภาควิชาอายุรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และพลตรี นพ.สุรพงษ์ สุภาภรณ์ อาจารย์<br />
แพทย์ทางด้านศัลยกรรมโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ร่วมบรรยาย ณ ห้องประชุมเอกาทศรถ 1 อาคารสิรินธร<br />
โรงพยาบาล<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong><br />
วันที ่ 16-17 มิถุนายน <strong>2551</strong> งานประกันคุณภาพการศึกษา จัดโครงการประเมินคุณภาพการศึกษาภายใน<br />
คณะแพทยศาสตร์ <strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> ประจำปีการศึกษา 2550 โดยได้รับเกียรติจากรศ.นพ.จิตเจริญ<br />
ไชยาคำ เป็นประธานคณะกรรมการผู้ประเมิน รศ.นพ.อานุภาพ เลขะกุล รศ.ดร.จันทรรัตน์ สิทธวรนันท์<br />
อ.จินตนา พนมชัยชยวัฒน์ ร่วมเป็นคณะกรรมการ โดยคณะแพทยศาสตร์ได้รับคะแนนการประเมินเท่ากับ<br />
1.54 คะแนน จากคะแนนเต็มทั ้งหมด 3 คะแนน<br />
<br />
<br />
☺
CTIVITY<br />
A<strong>Faculty</strong> <strong>of</strong> <strong>Medicine</strong><br />
ข่าว : ณัฐพร แก้วแดง<br />
สัตตกมล นุ่มพรม<br />
ภาพ : ณัฐพล นามะวงศ์<br />
วันที ่ 23-24 มิ.ย. 51 โรงพยาบาล<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> รับการเยี ่ยมให้คำปรึกษาเข้มก่อนการเยี ่ยมสำรวจ<br />
(Intensive Consultation Visit) จากสถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล โดยมี ภก.ปรมินทร์<br />
วีระอนันตวัฒน์ หัวหน้าคณะผู้เยี่ยมให้คำปรึกษา รศ.นพ.รณชัย อธิสุข และอาจารย์สงกรานต์ พุทธิขจร<br />
ผู ้เยี ่ยมให้คำปรึกษา ณ ห้องประชุมทองจันทร์ อาคารสิรินธร โรงพยาบาล<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong><br />
วันที ่ 3-4 ก.ค. 51 คณะแพทยศาสตร์ <strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ “การจัดทำแผน<br />
ยุทธศาสตร์คณะแพทยศาสตร์และการจัดทำแผนปฏิบัติการประจำปี 2552” ตามกรอบของแผนพัฒนาการ<br />
ศึกษาระดับอุดมศึกษาระยะยาว 15 ปี (พ.ศ.<strong>2551</strong>-2565) โดยมีอาจารย์ศุภชัย เมืองรักษ์ ผู้จัดการส่วน<br />
Center <strong>of</strong> Excellence ฝ่ายวิจัยและระบบสารสนเทศ สถาบันเพิ ่มผลผลิตแห่งชาติเป็นวิทยากร รวมถึงจัดทำ<br />
WORKSHOP และสรุปร่างแผนกลยุทธ์องค์กร ณ ห้องประชุมขวัญเมือง 1 และ 2 อาคารขวัญเมือง<br />
<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong><br />
วันที่ 7-9 ก.ค. 51 ศูนย์ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong><br />
คณะแพทยศาสตร์ ร่วมกับสถาบันพัฒนาและรับรองคุณภาพโรงพยาบาล (พรพ.) จัด “โครงการประชุม<br />
วิชาการการพัฒนาคุณภาพระดับภาค ภาคเหนือตอนล่าง Regional Forum” ในหัวข้อ “องค์กรที่มีชีวิต<br />
Living Organization” ขึ ้น โดยมี รศ.ดร.มณฑล สงวนเสริมศรี อธิการบดี<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong>เป็นประธาน<br />
ในพิธีเปิด สำหรับโครงการประชุมครั ้งนี ้ มีการประกวดผลงาน จำนวนกว่า 40 ผลงาน จากโรงพยาบาล<br />
ในเขต 9 จังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ภายใต้หัวข้อ องค์กรที่มีชีวิต Living Organization ซึ่งเป็นประเด็นหลัก<br />
ของการพัฒนาคุณภาพสำหรับปี <strong>2551</strong> ในระดับประเทศ ที่เน้นให้บุคลากรขององค์กรที่ให้บริการทาง<br />
สาธารณสุขมีสุขภาพดี มีความสุข ที ่ทำงานน่าอยู ่ ส่งผลให้ผู ้รับบริการได้รับบริการที ่ดี การรักษาที ่มีคุณภาพ<br />
มีความสุข รวมทั ้งยังเพิ ่มเติมในเรื ่อง Healing Environment ซึ ่งจะเป็นประเด็นนำเสนอในระดับประเทศของปี<br />
2552 อีกด้วยสำหรับผลงานคุณภาพที ่ได้รับรางวัลจากเวทีนี ้ก็จะนำส่งเข้าประกวดในเวทีระดับประเทศต่อไป<br />
นอกจากการประกวดผลงานคุณภาพ การแสดงนิทรรศการแล้ว ยังมีการบรรยายทางวิชาการในหลายๆเรื ่อง<br />
อาทิ จิตอาสาที ่มีจิตวิญญาณ, องค์กร ผัสสะ และสุนทรียภาพ, วิจัยร่วมกันระหว่างโรงพยาบาลให้มีชีวิตชีวา<br />
เป็นต้น การจัดประชุมครั้งนี้นับเป็นประโยชน์ต่อคนทำงานด้านบริการสุขภาพที่จะต้องพัฒนาคุณภาพ<br />
ตลอดเวลา และยังเป็นเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ แลกเปลี่ยนนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สามารถคิด ทำ<br />
เพื่อให้ผู้ป่วยสุขสบายขึ้น คณะแพทยศาสตร์ <strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> ต้องขอขอบคุณความร่วมมือ<br />
จากโรงพยาบาลในเขต 9 จังหวัดภาคเหนือตอนล่างและผู้สนใจที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้<br />
วันที ่ 15 ก.ค. 51 คณะแพทยศาสตร์ <strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> นำโดย ศ.นพ.ดร.ศุภสิทธิ ์ พรรณารุโณทัย คณบดี<br />
คณะแพทยศาสตร์ ผศ.(พิเศษ)พญ.พิริยา นฤขัตรพิชัย ผู ้อำนวยการโรงพยาบาล<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> และ<br />
บุคลากรคณะแพทยศาสตร์ ร่วมทำบุญถวายเทียนพรรษาและทอดผ้าป่า ประจำปี <strong>2551</strong> ณ วัดนครป่า<br />
หมาก ตำบลดอนทอง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก<br />
วันที ่ 15-16 ก.ค. 51ศูนย์ความร่วมมือเพื ่อการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล (HACC: NU) คณะแพทยศาสตร์<br />
<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> จัดโครงการต่อยอดเครือข่ายการเรียนรู้ระดับจังหวัดและในเขตพื้นที่รับผิดชอบ<br />
ในงานนี ้ผู ้เข้าร่วมประชุมได้แก่ทันตแพทย์ทันตาภิบาล เภสัชกร เจ้าพนักงานเภสัชกรรม นักเทคนิคการแพทย์<br />
นักรังสีการแพทย์ รังสีแพทย์ จาก 9 จังหวัดในเขตพื ้นที ่ภาคเหนือตอนล่าง โดยมีการบรรยายในหัวข้อเรื ่อง<br />
ทักษะการเล่าเรื ่อง การถอดบทเรียนเพื ่อการแลกเปลี ่ยนเรียนรู ้ การแลกเปลี ่ยนเรียนรู ้ (Share and Learn)<br />
การทำกิจกรรมกลุ ่มนำเสนอข้อมูลการฝึกปฏิบัติและบันทึกการเรียนรู ้ วิทยากรโดยคุณไพฑูรย์ ช่วงฉ่ำ และ<br />
คุณสุกานดา เมฆทรงกลด ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการความรู้(KM) ณ อาคารสิรินธร โรงพยาบาล<br />
<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong><br />
วันที ่ 16 ก.ค. 51 รองผู ้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก นายนริศ ปิยพฤทธิ ์ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ<br />
รณรงค์ป้องกันไข้เลือดออก และมอบชุดสำรวจและควบคุมป้องกันไข้เลือดออกแด่ ผศ.(พิเศษ)พญ.พิริยา<br />
นฤขัตรพิชัย ผู ้อำนวยการโรงพยาบาล<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong> และเครือข่าย อสม. 5 ตำบล 6 สถานีอนามัย<br />
รอบมหาวิทยาลัย ภายในงานมีการจัดนิทรรศการให้ความรู ้เรื ่องโรคไข้เลือดออก มีการเดินขบวนรณรงค์<br />
ป้องกันไข้เลือดออกจาก อสม. เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong><br />
คณะแพทยศาสตร์ กองกิจการนิสิต<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong>กว่า 200 คน<br />
<br />
☺
คณะแพทยศาสตร์<br />
<strong>มหาวิทยาลัยนเรศวร</strong><br />
ต.ท่าโพธิ ์ อ.เมือง<br />
จ.พิษณุโลก 65000<br />
ชำระค่าฝากส่งเป็นรายเดือน<br />
ใบอนุญาตเลขที ่ 85/2521<br />
พิษณุโลก<br />
⌫ <br />
<br />
⌦