สป 60
You also want an ePaper? Increase the reach of your titles
YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.
ผลการดำเนินงานของ<br />
สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
ประจำปี ๒๕๖๐<br />
๑ ตุลาคม ๒๕๕๙ - ๓๐ กันยายน ๒๕๖๐
สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
สำนักปลัด<br />
กระทรวงกลาโหม<br />
สำนักนโยบาย<br />
และแผนกลาโหม<br />
กรมเสมียนตรา<br />
สำนักงบประมาณ<br />
กลาโหม<br />
สำนักงานเลขานุการ<br />
สำนักงานปลัด<br />
กระทรวงกลาโหม<br />
สำนักพัฒนา<br />
ระบบราชการ<br />
กลาโหม<br />
กองพันทหารสารวัตร<br />
สำนักงานปลัด<br />
กระทรวงกลาโหม<br />
กรมพระธรรมนูญ<br />
ศูนย์การอุตสาหกรรม<br />
ป้องกันประเทศ<br />
และพลังงานทหาร<br />
กรมการเงินกลาโหม<br />
กรมการสรรพกำลัง<br />
กลาโหม<br />
กรมการพลังงานทหาร<br />
ศูนย์พัฒนาปิโตรเลียมภาคเหนือ<br />
กรมการอุตสาหกรรมทหาร<br />
โรงงานวัตถุระเบิดทหาร<br />
โรงงานเภสัชกรรมทหาร<br />
ศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ<br />
กรมวิทยาศาสตร์<br />
และเทคโนโลยี<br />
กลาโหม<br />
กรมเทคโนโลยี<br />
สารสนเทศและ<br />
อวกาศกลาโหม<br />
สำนักงานสนับสนุน<br />
สำนักงานปลัด<br />
กระทรวงกลาโหม<br />
สำนักงาน<br />
ตรวจสอบภายใน<br />
กลาโหม<br />
สำนักโยธาธิการ<br />
สำนักงานแพทย์
วิสัยทัศน์<br />
เป็นองค์กรนำในงานด้านนโยบายและยุทธศาสตร์ การพัฒนากองทัพไปสู่การพัฒนาตัวเองและการ<br />
พัฒนาความร่วมมือด้านความมั่นคงกับประเทศ<br />
พันธกิจ<br />
๑. พิทักษ์รักษาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์<br />
๒. เสนอแนะและบูรณาการนโยบายและยุทธศาสตร์ของกระทรวงกลาโหม<br />
๓. ส่งเสริมการวิจัย พัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีป้องกันประเทศของกระทรวงกลาโหม<br />
๔. พัฒนางานเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และกิจการอวกาศเพื่อความมั่นคง<br />
๕. พัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร เพื่อการพึ่งพาตนเอง<br />
๖. เสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงของรัฐ การพัฒนาประเทศและช่วยเหลือประชาชน<br />
รวมทั้งการแก้ไขปัญหาอื่นๆ ที่สำคัญของชาติ<br />
๗. สนับสนุนการรักษาความมั่นคงของรัฐ การพัฒนาประเทศและช่วยเหลือประชาชน รวมถึง<br />
การแก้ไขปัญหาอื่นๆ ที่สำคัญของชาติ<br />
๘. ปรับปรุงและพัฒนาการบริหารจัดการกระทรวงกลาโหม รวมทั้งพัฒนาระบบติดตามประเมินผล<br />
ที่เป็นรูปธรรมไปสู่การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี<br />
๙. ดำเนินการสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเพื่อความมั่นคง<br />
ค่านิยมองค์กร<br />
เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัว เพื่อความผาสุกของประชาชน และความมั่นคงของสถาบันชาติ ศาสนา<br />
พระมหากษัตริย์
แนวทางการปฏิบัติงานของปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล<br />
เจตนารมณ์ของปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทนำในด้านการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์<br />
ด้านการเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านความมั่นคงกับต่างประเทศและองค์การระหว่างประเทศด้าน<br />
การวิจัยพัฒนา ด้านกิจการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและด้านพลังงานทหาร โดยมีการบริหารจัดการงบประมาณ<br />
ที่มีความโปร่งใส ถูกต้อง และตรวจสอบได้ ตลอดจนเป็นหน่วยงานที่มีความพร้อมในการอำนวยการ ประสานงาน<br />
และกำกับดูแล เพื่อให้กระทรวงกลาโหมเป็นหน่วยงานหลักด้านการป้องกันประเทศ การแก้ไขปัญหาที่สำคัญของชาติ<br />
การพิทักษ์ปกป้องผลประโยชน์แห่งชาติ การพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมทั้งการสนับสนุนคณะรักษา<br />
ความสงบแห่งชาติ และรัฐบาลในการขับเคลื่อนและปฏิรูปประเทศเพื่อนำไปสู่เป้าหมาย คือ “ประเทศมั่นคง ประชาชน<br />
มีความมั่งคั่ง อย่างยั่งยืน” อันจะทำให้สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นที่เชื่อมั่น และยอมรับศรัทธาของหน่วยงาน<br />
ราชการทั้งภายในและภายนอกกระทรวงกลาโหม ภาคเอกชน และเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส ทั้งนี้ เพื่อให้<br />
บรรลุเป้าหมายตามเจตนารมณ์ที่กำหนดไว้ จึงได้กำหนดแนวทางการปฏิบัติงานในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐ ประกอบ<br />
ด้วย “แนวทางทั่วไป” และ “แนวทางที่กำหนดผลสัมฤทธิ์ภายใน ๑ ปี” ดังนี้<br />
แนวทางการปฏิบัติงานทั่วไป<br />
๑. ยึดถือและปฏิบัติตามนโยบายของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ นโยบายของรัฐบาลนโยบายของ<br />
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นโยบายและการสั่งการของอดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ตลอดจน<br />
กฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ และประกาศที่มีผลบังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน<br />
๒. ให้ความสำคัญและความเร่งด่วนสูงสุดในการพิทักษ์รักษาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยการเฝ้า<br />
ระวัง และป้องกันมิให้มีการล่วงละเมิดพระบรมเดชานุภาพ ชี้แจงข้อเท็จจริงจากกรณีการบิดเบือนข้อมูลและพาดพิง<br />
สถาบันพระมหากษัตริย์ที่ไม่ถูกต้อง รวมทั้งเผยแพร่พระเกียรติคุณ พระอัจฉริยภาพพระราชกรณียกิจที่สำคัญและจัด<br />
โครงการ/กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรม<br />
วงศานุวงศ์ทุกพระองค์ในทุกโอกาส โดยให้ความสำคัญในการดำเนินโครงการ/กิจกรรมเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์<br />
ในภาพรวมของกระทรวงกลาโหมตลอดจนขยายผลและเผยแพร่หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงและสนับสนุนโครงการ<br />
พัฒนาตามแนวทางพระราชดำริให้กว้างขวางอย่างต่อเนื่อง<br />
๓. พัฒนาการปฏิบัติงานในหน้าที่ฝ่ายอำนวยการให้มีขีดความสามารถแบบมืออาชีพ มีการประสานงานกับ<br />
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกกระทรวงกลาโหม เพื่อให้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจของผู้บังคับบัญชา<br />
อย่างรอบด้าน การจัดทำข้อพิจารณาที่มีความรวดเร็ว ถูกต้องและเป็นมาตรฐาน สามารถใช้เป็นแบบอย่างให้กับ<br />
หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพได้<br />
๔. ยึดถือการปฏิบัติงานตามแผนพัฒนาสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม พ.ศ.๒๕๕๘ - ๒๕๖๗ ซึ่งได้กำหนด<br />
กลุ่มงานที่สอดคล้องตามภารกิจ และหน่วยรับผิดชอบ ควบคุม กำกับดูแลการปฏิบัติงานทางฝ่ายอำนวยการ จำนวน ๖<br />
กลุ่มงาน ไว้อย่างชัดเจน ทั้งนี้เพื่อให้การปฏิบัติงานของทุกหน่วย มุ่งไปสู่การตอบสนองงานของสำนักงานปลัดกระทรวง<br />
กลาโหม และกระทรวงกลาโหม ให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ในภาพรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
๕. ปรับปรุงระบบการปฏิบัติงานในความรับผิดชอบ ให้มีความสอดคล้องกับการบริหารราชการยุคใหม่ที่มุ่งเน้น<br />
ความคล่องตัว มีความทันสมัย และอ่อนตัว สามารถปฏิบัติภารกิจที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น โดยให้นำระบบ<br />
เทคโนโลยีสารสนเทศมาสนับสนุนการปฏิบัติงานอันจะเป็นการสนับสนุนการก้าวสู่การเป็นดิจิทัลไทยแลนด์ (Digital<br />
Thailand) ตามนโยบายรัฐบาลซึ่งจะต้องให้ความสำคัญกับการให้ความรู้และทักษะด้านดิจิทัลกับกำลังพลรวมทั้ง<br />
สามารถนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในแต่ละระบบงานได้อย่างเหมาะสม<br />
๖. บริหารจัดการระบบงานกำลังพลให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยการบูรณาการฐานข้อมูลด้านกำลังพล ระบบ<br />
มาตรฐานการกำหนดตำแหน่ง ระบบการปลดถ่ายกำลังพล ดำเนินการเรื่องสิทธิประโยชน์ สวัสดิการ และค่าตอบแทน<br />
ของกำลังพลทุกประเภทอย่างเหมาะสม รวดเร็ว และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนด รวมถึงการจัดทำ<br />
ระบบสรรหา การคัดเลือกกำลังพล การให้ความสำคัญกับระบบการประเมินผลการปฏิบัติงาน และระบบตอบแทน<br />
ผลงานตามสิทธิและขีดความสามารถในการปฏิบัติงานของกำลังพลบนพื้นฐานความเสมอภาค ความยุติธรรมโปร่งใส<br />
มีธรรมาภิบาล<br />
๗. บริหารจัดการงบประมาณและทรัพยากรของรัฐให้เกิดความโปร่งใสเป็นธรรม มีประสิทธิภาพ มีมาตรการ<br />
ป้องกัน และตรวจสอบการทุจริตประพฤติมิชอบอย่างเป็นระบบ รวมทั้งดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างให้เป็นไปตามระเบียบ<br />
คำสั่ง แบบแผนของทางราชการที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบมีความคุ้มค่า โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการ<br />
ตลอดจนปลูกจิตสำนึก ค่านิยม คุณธรรม จริยธรรมให้กับกำลังพล และเสริมสร้างเครือข่ายในการป้องกันและ<br />
ปราบปรามการทุจริตอย่างต่อเนื่อง<br />
แนวทางการปฏิบัติงานที่กำหนดผลสัมฤทธิ์ภายใน ๑ ปี<br />
๑. พัฒนาระบบบริหารจัดการกำลังพล เพื่อให้มีกำลังพลที่มีคุณภาพและสมรรถนะ มีขนาดเหมาะสมสอดคล้อง<br />
กับภารกิจ มีการบริหารจัดการที่ทันสมัย และมีความภาคภูมิใจในความเป็นทหารอาชีพโดยให้มีการดำเนินการ ดังนี้<br />
๑.๑ พัฒนาความรู้ของกำลังพล โดยส่งเสริมให้เข้ารับการศึกษาหลักสูตรตามแนวทางการรับราชการ<br />
หลักสูตรเฉพาะหน้าที่ หลักสูตรภาษาต่างประเทศเพื่อการปฏิบัติงาน และหลักสูตรการศึกษาทางพลเรือนในระดับที่<br />
สูงขึ้น ทั้งในสถาบันการศึกษาภายในและภายนอกกระทรวงกลาโหม รวมทั้งสถาบันการศึกษาในต่างประเทศ<br />
๑.๒ จัดตั้งโรงเรียนของหน่วย (Unit School) เพื่อให้กำลังพลที่มีความรู้และประสบการณ์ได้ถ่ายทอด<br />
ความรู้ในการปฏิบัติงานในแต่ละด้านให้กับกำลังพลที่บรรจุเข้ารับราชการใหม่ หรือกำลังพลในรุ่นหลังๆ อันจะนำไป<br />
สู่การพัฒนาขีดความสามารถในการปฏิบัติงานทั้งในระดับบุคคล ระบบงาน และองค์กรให้สูงขึ้น<br />
๑.๓ เร่งรัดการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กฎกระทรวง ข้อบังคับ ระเบียบ และคำสั่งที่เกี่ยวข้องให้เสร็จ<br />
สมบูรณ์ เพื่อให้สามารถบรรจุข้าราชการพลเรือนกลาโหมทดแทนกำลังทหารประจำการในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะ<br />
ด้านได้โดยเร็ว โดยจัดทำรายละเอียดด้านสิทธิประโยชน์ สวัสดิการ ค่าตอบแทน และแนวทางการรับราชการของ<br />
ข้าราชการพลเรือนกลาโหมให้มีความชัดเจน<br />
๒. ประสานและเร่งรัดการจัดทำบันทึกความตกลงความร่วมมือกับกระทรวงแรงงาน (Memorandum Of<br />
Understanding : MOU) ให้เป็นไปตามข้อสั่งการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเพื่อให้กระทรวงแรงงานให้การ<br />
สนับสนุนการฝึกอบรมอาชีพให้กับทหารกองประจำการของหน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ รวมทั้งการ<br />
จัดหางานให้กับทหารกองประจำการให้มีผลอย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เพื่อประโยชน์ในการประกอบอาชีพตามความ<br />
ถนัด และสอดคล้องกับตลาดแรงงาน ซึ่งจะทำให้ทหารกองประจำการและครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นภายหลัง<br />
จากปลดประจำการไปแล้ว
๓. ให้ความสำคัญในการดูแลข้าราชการชั้นผู้น้อยและครอบครัวเพื่อให้มีขวัญกำลังใจ และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น<br />
โดยให้ดำเนินการในเรื่องสวัสดิการให้มีความเป็นรูปธรรม ดังนี้<br />
๓.๑ ปรับปรุงการให้บริการขนส่งสำหรับการเดินทางไป-กลับ ระหว่างที่ทำงานและที่พักอาศัยให้<br />
ครอบคลุมในทุกพื้นที่และมีความสะดวกอย่างทั่วถึง<br />
๓.๒ ดูแลสุขอนามัยและการให้บริการทางการแพทย์แก่กำลังพลและครอบครัว ให้มีความสะดวก รวดเร็ว<br />
และเป็นมาตรฐาน<br />
๓.๓ ปรับปรุงสถานที่ทำงาน บ้านพักอาศัย สถานที่พักผ่อน และสิ่งอำนวยความสะดวกให้มีความน่าอยู่<br />
และมีสภาพแวดล้อมที่ดี<br />
๓.๔ จัดกิจกรรมเพื่อการนันทนาการและพักผ่อนหย่อนใจให้กับกำลังพลและครอบครัว รวมทั้งการมอบ<br />
ทุนการศึกษาให้กับบุตรของกำลังพลตามขีดความสามารถของหน่วย<br />
๓.๕ จัดทำโครงการฝึกอบรมการใช้ภาษาอังกฤษ ตลอดจนสอดแทรกการปลูกฝังความมีระเบียบวินัย<br />
อุดมการณ์ความรักชาติ และความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ให้กับบุตรหลานของกำลังพลในห้วงปิดภาค<br />
การศึกษาในทุกพื้นที่อย่างทั่วถึง<br />
๔. ให้มีการจัดทำฐานข้อมูล และบูรณาการเชื่อมโยงฐานข้อมูลด้านการข่าวกับเครือข่ายประชาคมข่าวกรองทั้ง<br />
ภายในและภายนอกกระทรวงกลาโหม เสริมสร้างและขยายความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข่าวกรองกับมิตรประเทศ<br />
อย่างเป็นระบบ และทันสมัยในลักษณะของศูนย์กลางข้อมูลข่าวกรองร่วม (Information and Intelligence Fusion<br />
Center) สามารถนำข้อมูลมาใช้เพื่อการวิเคราะห์และสนับสนุนการตัดสินใจของผู้บังคับบัญชาได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง<br />
และทันเวลา โดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาสนับสนุนการปฏิบัติงานอย่างเหมาะสมพร้อมทั้งพัฒนากำลังพลที่ปฏิบัติ<br />
งานด้านการข่าวให้มีขีดความสามารถในการรวบรวมตรวจสอบ และวิเคราะห์ข่าวกรองระดับยุทธศาสตร์ได้อย่างมี<br />
ประสิทธิภาพ<br />
๕. จัดทำแผนแม่บทการปฏิรูปการบริหารจัดการและการปรับปรุงโครงสร้างกระทรวงกลาโหม พ.ศ.๒๕๖๐ -<br />
๒๕๖๙ แผนพัฒนาขีดความสามารถกระทรวงกลาโหม พ.ศ.๒๕๖๐ - ๒๕๖๙ ให้มีความสอดคล้องกับร่างยุทธศาสตร์<br />
การป้องกันประเทศกระทรวงกลาโหม พ.ศ.๒๕๖๐ - ๒๕๗๙ เพื่อให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลาโหม และเหล่าทัพ<br />
ใช้เป็นกรอบแนวทางดำเนินการพัฒนาเสริมสร้างศักยภาพของกองทัพ โดยห้วงระยะ ๕ ปีแรกมีเป้าหมายที่สำคัญ<br />
ได้แก่ เสริมสร้างความพร้อมรบทั้งในด้านกำลังพล ยุทโธปกรณ์ หลักนิยมการฝึกศึกษาและขีดความสามารถในการปฏิบัติ<br />
ภารกิจป้องกันประเทศ การแก้ไขปัญหาที่สำคัญของชาติก่อนการปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการกระทรวงกลาโหม<br />
ในระยะต่อไป<br />
๖. เสริมสร้างความสัมพันธ์อันดี พร้อมทั้งพัฒนาและขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงทางทหารกับนานา<br />
ประเทศ ตามแนวทางที่รัฐบาลได้กำหนดความสำคัญและความเร่งด่วนไว้ รวมทั้งแนวทางการเสริมสร้างความร่วมมือ<br />
ด้านความมั่นคงกับมิตรประเทศของกระทรวงกลาโหม พ.ศ.๒๕๕๘ - ๒๕๖๐ ดังนี้<br />
๖.๑ ให้ความเร่งด่วนในการจัดทำกรอบความตกลงกับประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศในกลุ่มอนุภูมิภาค<br />
ลุ่มแม่น้ำโขง ประเทศสมาชิกอาเซียน และประเทศมหาอำนาจในภูมิภาคต่างๆ บนพื้นฐานของผลประโยชน์แห่งชาติ<br />
ความเท่าเทียม ความมีเกียรติและศักดิ์ศรีในเวทีระหว่างประเทศ<br />
๖.๒ มุ่งเน้นการดำเนินกิจกรรมความร่วมมือทางทหารกับประเทศที่ได้มีการลงนามความตกลงไว้แล้วให้<br />
มีผลอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น<br />
๖.๓ การจัดทำระบบฐานข้อมูลความร่วมมือทางทหารกับมิตรประเทศ ที่ครอบคลุมทั้งการจัดทำความ<br />
ตกลง และความร่วมมือในทุกๆ ด้าน เพื่อให้การสนับสนุนข้อมูล ตลอดจนการดำเนินการจัดทำประเด็นสารัตถะให้กับ
ผู้บังคับบัญชาในการประชุมทวิภาคี พหุภาคี หรือการหารือกับมิตรประเทศสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง<br />
และทันเวลา<br />
๗. สนับสนุนการขับเคลื่อนประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียนในภาพรวมของกระทรวงกลาโหม<br />
โดยมุ่งเน้นการดำเนินการในเรื่องที่สำคัญ ดังนี้<br />
๗.๑ การพัฒนาความร่วมมือด้านความมั่นคงในกรอบการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน (ASEAN<br />
Defence Ministers’Meeting : ADMM) การประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนกับรัฐมนตรีกลาโหมประเทศคู่เจรจา<br />
(ASEAN Defence Ministers’ Meeting-Plus : ADMM-Plus) การประชุมอาเซียนว่าด้วยความร่วมมือด้านการเมือง<br />
และความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก (ASEAN Regional Forum : ARF)<br />
๗.๒ ให้การสนับสนุนคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ในกรอบการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนกับ<br />
รัฐมนตรีกลาโหมประเทศคู่เจรจา (ADMM-Plus Experts’Working Group : EWG) เพื่อสร้างความร่วมมือในการ<br />
เผชิญกับภัยคุกคามที่ไม่ใช่ทางทหารในภูมิภาคร่วมกันในทุกมิติ<br />
๗.๓ การพัฒนาศักยภาพศูนย์แพทย์ทหารอาเซียน (ASEAN Center of Military Medicine : ACMM)<br />
ให้มีขีดความสามารถในการเป็นศูนย์กลางประสานความร่วมมือทั้งในด้านการอำนวยการ ประสานงาน และการบริหาร<br />
จัดการด้านการแพทย์ทหารในภารกิจการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติแก่ประเทศสมาชิก<br />
อาเซียนและประเทศนอกภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ<br />
๘. จัดทำ/ปรับปรุงแนวทางการรับรองแขกต่างประเทศ พิธีการต่างประเทศ การใช้ล่ามภาษาต่างประเทศ<br />
รวมทั้งฐานข้อมูลด้านวิเทศสัมพันธ์ เพื่อสนับสนุนงานเสริมสร้างความร่วมมือกับต่างประเทศ และการสร้างความไว้เนื้อ<br />
เชื่อใจระหว่างกันตามแนวความคิดการทูตเชิงป้องกัน ตลอดจนให้การรับรองแขกต่างประเทศอย่างสมเกียรติ และถูกต้อง<br />
ตามหลักมาตรฐานสากล<br />
๙. พัฒนางานด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหารให้สามารถสนับสนุนการปฏิบัติการทาง<br />
ทหารได้อย่างเพียงพอ ทันเวลา และมีประสิทธิภาพ ทั้งในภาวะปกติและภาวะวิกฤต โดยมุ่งเน้นการดำเนินการในเรื่อง<br />
ต่อไปนี้ ให้มีความเป็นรูปธรรมภายในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
๙.๑ การผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ กระสุน ดินส่งกระสุน และวัตถุระเบิด ที่ใช้ในกองทัพ โดยยึดมั่นใน<br />
หลักการ “พึ่งพาตนเอง” ตลอดจนการเสริมสร้างและขยายความร่วมมือกับทุกภาคส่วนทั้งภายในและภายนอกกระทรวง<br />
กลาโหม และต่างประเทศเพื่อนำไปสู่เป้าหมาย “การผลิตใช้ในราชการ”ที่สอดคล้องตามความต้องการของเหล่าทัพ<br />
๙.๒ ให้การสนับสนุนสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (สทป.) ทั้งในด้ านการปรับปรุงโครงสร้าง การพัฒนา<br />
ระบบบริหารจัดการ และการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการกำหนดกระบวนการพัฒนาไปสู่การผลิตของภาค<br />
เอกชน โรงงานของรัฐอื่นๆ ให้มีความเหมาะสม และเกื้อกูลต่อการขับเคลื่อนการดำเนินการที่นำไปสู่การมีศักยภาพ<br />
ในการแข่งขันและ “การผลิตเพื่อการพาณิชย์” ได้โดยสมบูรณ์และมีความยั่งยืน<br />
๙.๓ บูรณาการขีดความสามารถร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อปรับปรุงระบบสายการผลิต และยก<br />
ระดับผลผลิตยาและเวชภัณฑ์ แบตเตอรี่ น้ำมันเชื้อเพลิงและส่วนประกอบ ให้มีความเป็นมาตรฐานเทียบเท่าแหล่งผลิต<br />
อื่นๆ อันจะเป็นการเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตได้ให้สูงขึ้น รวมถึงการพัฒนาด้านพลังงานไปสู่การผลิตพลังงานทางเลือก<br />
อื่นๆ การสำรวจแหล่งพลังงานจากธรรมชาติเพิ่มเติมเพื่อเป็นหลักประกันการสะสมพลังงานสำรองที่พอเพียงใน<br />
สถานการณ์วิกฤตของชาติ<br />
๑๐. พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และระบบการรักษาความปลอดภัยที่ครอบคลุมทั้งการ<br />
สื่อสารภาคพื้น การสื่อสารผ่านดาวเทียม และระบบเครือข่ายสารสนเทศที่ให้การสนับสนุนการปฏิบัติงานของทุกส่วน<br />
ราชการซึ่งเชื่อมโยงทั้งภายในและภายนอกสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมให้มีความทันสมัย มีความปลอดภัยสูงสุด
ตลอดจนพัฒนาเทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียมให้สามารถสนับสนุนเหล่าทัพ และหน่วยอื่นๆ ในการปฏิบัติภารกิจเพื่อ<br />
ความมั่นคงได้อย่างเป็นรูปธรรม<br />
๑๑. เสริมสร้างขีดความสามารถการปฏิบัติการด้านไซเบอร์กระทรวงกลาโหม โดยแสวงหาและขยายความร่วมมือ<br />
ด้านไซเบอร์กับทุกภาคส่วนทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศ เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาและรับมือกับภัยคุกคามด้าน<br />
ไซเบอร์ที่มีแนวโน้มความรุนแรง สลับซับซ้อน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงชองชาติ และภูมิภาคในขอบเขตที่<br />
กว้างขวางมากยิ่งขึ้นโดยมีความเร่งด่วนในการดำเนินการ ดังนี้<br />
๑๑.๑ บูรณาการแผนงาน/โครงการในภาพรวมของกระทรวงกลาโหมอย่างเป็นเอกภาพ เพื่อให้มีการ<br />
พัฒนาขีดความสามารถการปฏิบัติการด้านไซเบอร์ของทุกส่วนราชการ ทั้งในระดับยุทธศาสตร์/นโยบาย และระดับ<br />
ปฏิบัติในลักษณะคู่ขนาน<br />
๑๑.๒ พัฒนาขีดความสามารถของศูนย์ไซเบอร์ กรมเทคโนโลยีสารสนเทศและอวกาศกลาโหม ทั้งการ<br />
เสริมสร้างความรู้ด้านไซเบอร์ให้กับกำลังพลที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานด้านไซเบอร์สิ่งอุปกรณ์ และสิ่งอำนวยความ<br />
สะดวก ตลอดจนการพัฒนาหลักนิยม และหลักการสำหรับการปฏิบัติการด้านไซเบอร์ทั้งเชิงรุกและเชิงรับ<br />
๑๑.๓ สร้างภูมิคุ้มกันให้กับกำลังพลทั่วไป โดยการให้ความรู้เพื่อให้มีความตระหนักรู้เกี่ยวกับภัยคุกคาม<br />
ด้านไซเบอร์ และมีความตื่นตัวในการปฏิบัติตามมาตรการการรักษาความปลอดภัยด้านไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง<br />
๑๒. พัฒนาระบบงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีป้องกันประเทศ อันจะนำไปสู่การเป็นผู้ซื้อและผู้ใช้ที่ฉลาด<br />
การผลิตใช้ในราชการที่ตอบสนองตามความต้องการของเหล่าทัพ รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้<br />
งานยุทโธปกรณ์ที่มีอยู่เดิม โดยสร้างความเชื่อมโยงงานวิจัยและพัฒนากับงานอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ การ<br />
พัฒนาบุคลากรด้านการวิจัย การพัฒนาหลักสูตรที่เกี่ยวข้องร่วมกับเครือข่ายด้านการวิจัย การสร้างระบบเชื่อมโยง<br />
งานมาตรฐานทางทหารในระดับกระทรวงกลาโหมรวมถึงการคิดค้นและสร้างสิ่งประดิษฐ์ และนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อ<br />
สนับสนุนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศไปสู่ “Value-Based Economy” หรือ “เศรษฐกิจ<br />
ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม” ตามนโยบายการพัฒนา “Thailand 4.0” ของรัฐบาล<br />
๑๓. พัฒนาระบบการระดมสรรพกำลัง ให้สอดคล้องกับนโยบายการเตรียมพร้อมแห่งชาติ และแผนผนึกกำลัง<br />
และทรัพยากรเพื่อการป้องกันประเทศ รวมทั้งแนวความคิดการใช้กำลังของเหล่าทัพให้มีความพร้อมสนับสนุนภารกิจ<br />
ตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม ทั้งด้านการปฏิบัติภารกิจการป้องกันประเทศ และภารกิจทางทหารอื่นๆ<br />
ที่ไม่ใช่สงคราม ได้อย่างเป็นรูปธรรมตั้งแต่ยามปกติ โดยให้มีการวางแผน อำนวยการ และประสานงานกับทุกภาคส่วน<br />
ที่เกี่ยวข้องรวมถึงการจัดทำฐานข้อมูล และการฝึกร่วมกันอย่างเป็นระบบ<br />
๑๔. พัฒนาระบบกำลังสำรอง เพื่อมุ่งไปสู่การบรรจุทดแทนและเสริมกำลังทหารประจำการเมื่อประเทศต้อง<br />
เผชิญกับสถานการณ์วิกฤตตั้งแต่ยามปกติ และสามารถรองรับการขยายกำลังในยามสงคราม รวมทั้งผลักดันและเร่งรัด<br />
การนำกำลังพลสำรองมาบรรจุรับราชการเป็นการชั่วคราวตั้งแต่ยามปกติ ตามพระราชบัญญัติกำลังพลสำรอง พ.ศ.<br />
๒๕๕๘ มาตรา ๓๐ โดยมีสิทธิประโยชน์และสวัสดิการให้แก่กำลังพลสำรองที่เหมาะสม ให้มีผลในการปฏิบัติโดยเร็ว<br />
๑๕. ยึดถือการดำเนินการตามแผนบรรเทาสาธารณภัยกระทรวงกลาโหม ๒๕๕๘ ในการอำนวยการ และ<br />
ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอกกระทรวงกลาโหม ภาคเอกชน และประชาชน เพื่อให้มี<br />
การบูรณาการขีดความสามารถร่วมกันทั้งในการแจ้งเตือน และการให้ความช่วยเหลือประชาชนเมื่อประสบภัยพิบัติ<br />
ทางธรรมชาติ หรือสาธารณภัยอื่นๆ อย่างเป็นระบบซึ่งจะสามารถลดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน<br />
ได้อย่างทันเวลาในทุกพื้นที่ของประเทศ โดยให้ดำเนินการภายใต้กรอบของศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกระทรวงกลาโหม<br />
๑๖. สนับสนุนการขับเคลื่อน และการปฏิรูปประเทศตามยุทธศาสตร์และนโยบายของคณะรักษาความสงบ<br />
แห่งชาติ และรัฐบาล ตามแนวทาง “ประชารัฐ” รวมทั้งให้การสนับสนุนการแก้ไขปัญหาที่สำคัญของชาติในมิติต่างๆ<br />
เพื่อให้ประเทศมีความสงบเรียบร้อย และสามารถดำเนินการได้ตามแผนที่นำทาง (Roadmap) ซึ่งจะนำไปสู่การ<br />
เลือกตั้งทั่วไป ตามกรอบเวลาที่กำหนดในปลายปี พ.ศ.๒๕๖๐
๑๗. ให้การสนับสนุนรัฐบาลในการดูแลปัญหา การบรรเทาความเดือดร้อนและการบริการประชาชนตามขีด<br />
ความสามารถของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม โดยเฉพาะในพื้นที่ที่หน่วยมีที่ตั้งอยู่และพื้นที่ใกล้เคียง เช่น การ<br />
ให้บริการด้านการขนส่งสำหรับการเดินทางของประชาชนที่ประสบอุทกภัย การจัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ออกให้บริการ<br />
ทางการแพทย์แก่ประชาชน การจัดโครงการตลาดนัดสินค้าราคาถูกเพื่อลดค่าครองชีพของกำลังพล ครอบครัว และ<br />
ประชาชนทั่วไป การจัดกำลังพลสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมเพื่อสาธารณประโยชน์ หรือการแก้ไขปัญหาสังคมของส่วน<br />
ราชการพลเรือน องค์กร ภาคเอกชนต่างๆ รวมทั้งการให้บริการและอำนวยความสะดวกในการเดินทางของประชาชน<br />
ในช่วงเทศกาลสำคัญ เป็นต้น<br />
๑๘. พัฒนาเครือข่ายงานด้านการประชาสัมพันธ์ของกระทรวงกลาโหม รวมทั้งจัดทำข้อมูลบริการประชาชน<br />
แบบอิเล็กทรอนิกส์ ในการเผยแพร่ผลการขับเคลื่อนและการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กระทรวง<br />
กลาโหม และรัฐบาลในภาพรวม เพื่อให้หน่วยงานภายนอกและสาธารณชนทั่วไปได้รับทราบอย่างต่อเนื่องตลอดจน<br />
สร้างการรับรู้ให้ประชาชนมีความเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ของทหาร รวมทั้งการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล<br />
ในห้วงที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลได้มีความพยายามในการขับเคลื่อน และติดตามการแก้ปัญหาของประเทศมาโดยต่อเนื่อง<br />
๑๙. พัฒนาระบบงานกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมทหาร เพื่อให้เป็นองค์กรหลักของกระทรวงกลาโหม<br />
ที่สามารถอำนวยความยุติธรรม แนะนำ ให้คำปรึกษาแก่ผู้บังคับบัญชา ข้าราชการและประชาชนได้อย่างถูกต้อง<br />
เป็นที่ยอมรับ และสามารถสร้างเครือข่ายงานด้านกฎหมายให้เป็นสากล โดยมีเรื่องที่ต้องดำเนินการโดยเร่งด่วน ดังนี้<br />
๑๙.๑ พิจารณาปรับปรุงกฎหมายที่เก่า ล้าสมัย หรือพิจารณาจัดทำกฎหมายใหม่ เพื่อให้การบังคับใช้ทั้ง<br />
ในด้านการจัดเตรียมกำลัง และการใช้กำลังของกระทรวงกลาโหม มีความสอดคล้องกับเทคโนโลยี และบริบทของสังคม<br />
ไทยในปัจจุบัน รวมทั้งตรวจสอบและเร่งรัดดำเนินการออกกฎหมายลำดับรอง กฎกระทรวง ระเบียบ คำสั่งที่เกี่ยวข้อง<br />
เพื่อรองรับกฎหมายที่มีผลบังคับใช้แล้วโดยเร็ว<br />
๑๙.๒ ศึกษากฎหมายที่ออกมาใหม่ของทุกส่วนราชการ ซึ่งอาจมีทั้งกฎหมายที่เกื้อกูลหรือเป็นอุปสรรค<br />
ต่อการปฏิบัติภารกิจของกระทรวงกลาโหม ทั้งนี้ เพื่อกำหนดแนวทางการใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติงานในภาพรวมของ<br />
กระทรวงกลาโหมที่มีความเหมาะสม อ่อนตัว และเป็นไปตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย โดยเฉพาะในด้านการใช้กำลัง<br />
ในภารกิจทางทหารอื่นๆ ที่ไม่ใช่สงคราม<br />
๒๐. พัฒนาระบบราชการของกระทรวงกลาโหม และสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมตามพระราชกฤษฎีกา<br />
ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ.๒๕๔๖ และแนวทางที่รัฐบาลกำหนด โดยมุ่งสู่ผลสัมฤทธิ์<br />
ของการปฏิบัติราชการที่สอดคล้องกับร่างยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศกระทรวงกลาโหม พ.ศ.๒๕๖๐ – ๒๕๗๙<br />
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่สิบสอง พ.ศ.๒๕๖๐ - ๒๕๖๔ และให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของ<br />
ทุกภาคส่วน ความมีประสิทธิภาพและโปร่งใส รวมทั้งการพัฒนาองค์กรให้สามารถรองรับการปฏิบัติงานในอนาคต<br />
๒๑. พัฒนาระบบงานด้านงบประมาณ การเงิน และการตรวจสอบภายในกระทรวงกลาโหมให้มีความทันสมัย<br />
มีความรวดเร็ว ถูกต้องและเชื่อถือได้ โดยให้นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาสนับสนุนการปฏิบัติงาน เพื่อรองรับการ<br />
ปฏิบัติงานด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ภาครัฐ ซึ่งยังคงยึดถือการดำเนินการตามระเบียบ คำสั่งของทางราชการอย่าง<br />
เคร่งครัด รวมทั้งให้มีการปรับปรุงระเบียบ คำสั่งและข้อบังคับ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานและการให้<br />
บริการแก่ข้าราชการทหารรวมถึงการดำเนินการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐ และ<br />
งบประมาณที่กันไว้เหลื่อมปีให้เป็นไปตามแผนและมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณอย่างเคร่งครัด<br />
มีความโปร่งใส และก่อให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด<br />
พลเอก<br />
(ชัยชาญ ช้างมงคล)<br />
ปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
ตุลาคม ๒๕๕๙
พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล<br />
ปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
พลอากาศเอก ศิวเกียรติ์ ชเยมะ<br />
รองปลัดกระทรวงกลาโหม (๑)<br />
พลเอก ชาตอุดม ติตถะสิริ<br />
รองปลัดกระทรวงกลาโหม (๒)<br />
พลเรือเอก พงษ์เทพ หนูเทพ<br />
รองปลัดกระทรวงกลาโหม (๓)<br />
พลเอก อาชาไนย ศรีสุข<br />
รองปลัดกระทรวงกลาโหม (๔)
บทนำ<br />
สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ดำเนินการตามแนวทางการปฏิบัติของ พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล<br />
ปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งมีเจตนารมณ์ที่จะพัฒนาสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมให้เป็นหน่วยงานที่มีบทบาท<br />
นำในด้านการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์ ด้านการเสริมสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านความมั่นคง<br />
กับต่างประเทศและองค์การระหว่างประเทศ ด้านการวิจัยพัฒนา ด้านกิจการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและ<br />
ด้านพลังงานทหาร โดยมีการบริหารจัดการงบประมาณที่มีความโปร่งใส ถูกต้อง และตรวจสอบได้ ตลอดจนเป็น<br />
หน่วยงานที่มีความพร้อมในการอำนวยการ ประสานงาน และกำกับดูแล เพื่อให้กระทรวงกลาโหมเป็นหน่วย<br />
งานหลักด้านการป้องกันประเทศ การแก้ไขปัญหาที่สำคัญของชาติ การพิทักษ์ปกป้องผลประโยชน์แห่งชาติ<br />
การพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ รวมทั้งการสนับสนุนรัฐบาล และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ<br />
ในการขับเคลื่อนและปฏิรูปประเทศเพื่อนำไปสู่เป้ าหมาย คือ “ประเทศมั่นคง ประชาชนมีความมั่งคั่ง อย่างยั่งยืน”<br />
อันจะทำให้สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมเป็นที่เชื่อมั่น และยอมรับศรัทธาของหน่วยงานราชการทั้งภายใน<br />
และภายนอกกระทรวงกลาโหม ภาคเอกชน และเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส โดยหน่วยขึ้นตรงสำนักงาน<br />
ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ปฏิบัติงานในรอบปีงบประมาณ ๒๕๖๐ ดังนี้
สารบัญ<br />
• สำนักปลัดกระทรวงกลาโหม ๑๓<br />
• สำนักพัฒนาระบบราชการกลาโหม ๑๖<br />
• สำนักงานเลขานุการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ๒๐<br />
• สำนักนโยบายและแผนกลาโหม ๒๘<br />
• กรมเสมียนตรา ๔๓<br />
• สำนักงบประมาณกลาโหม ๔๙<br />
• กรมพระธรรมนูญ ๕๕<br />
• ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร ๕๙<br />
• กรมการพลังงานทหาร<br />
ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร ๖๓<br />
• ศูนย์พัฒนาปิโตรเลียมภาคเหนือ<br />
กรมการพลังงานทหาร ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร ๖๕<br />
• กรมการอุตสาหกรรมทหาร<br />
ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร ๖๗<br />
• โรงงานวัตถุระเบิดทหาร<br />
กรมการอุตสาหกรรมทหาร ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร ๗๕<br />
• ศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ<br />
ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร ๗๙<br />
• โรงงานเภสัชกรรมทหาร<br />
ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร ๘๙<br />
• กรมการเงินกลาโหม ๙๕<br />
• กรมการสรรพกำลังกลาโหม ๑๐๑<br />
• กรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม ๑๑๓<br />
• กรมเทคโนโลยีสารสนเทศและอวกาศกลาโหม ๑๒๕<br />
• สำนักงานสนับสนุน สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ๑๓๗<br />
• สำนักโยธาธิการ<br />
สำนักงานสนับสนุน สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ๑๔๒<br />
• สำนักงานแพทย์<br />
สำนักงานสนับสนุน สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ๑๔๖<br />
• สำนักงานตรวจสอบภายในกลาโหม ๑๕๐
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
สำนักปลัดกระทรวงกลาโหม (สน.ปล.กห.)<br />
ภารกิจ : มีหน้าที่เกี่ยวกับการเลขานุการ การรับรอง และการ<br />
ประสานการปฏิบัติงานด้านพิธีการให้กับปลัดกระทรวงกลาโหม รอง<br />
ปลัดกระทรวงกลาโหม และผู้ดำรงตำแหน่งอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย<br />
การประชาสัมพันธ์ให้กับสำนักงานปลัดกระทรวง และกระทรวงกลาโหม<br />
ในภาพรวม และปฏิบัติราชการอื่นๆ ซึ่งมิได้อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ<br />
ส่วนราชการในสำนักงานปลัดกระทรวงโดยเฉพาะมีปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ<br />
พลโท ชวลิต สาลีติ๊ด<br />
หัวหน้าสำนักปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
สรุปผลการปฏิบัติงานที ่สำคัญ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
งานด้านสารบรรณ<br />
๑. รับ-ส่ง เอกสารจาก นขต.<strong>สป</strong>. ลงทะเบียนควบคุม<br />
ตามลำดับชั้นความลับ และแยกเรื่องนำเรียน รอง ปล.กห.(๑),<br />
(๒), (๓), (๔) รวมทั้ง ปล.กห. และ รมว.กห. ตามสายงานของ<br />
ผู้บังคับบัญชา<br />
๒. รับ-ส่ง เอกสาร และบัตรเชิญงานพิธีต่างๆ นำเรียน<br />
นายทหารชั้นนายพล, ปษ.พิเศษ <strong>สป</strong>., ปษ.<strong>สป</strong>., ผทค.พิเศษ<br />
<strong>สป</strong>., ผทค.<strong>สป</strong>. และ ผชก.<strong>สป</strong>. อาทิ งานสโมสรสันนิบาต<br />
การปฏิบัติหน้าที่เวรราชองครักษ์ การเป็นผู้แทน รมว.กห.,<br />
ปล.กห. ไปในงานพิธีต่างๆ การทดสอบฝึกบินตามวงรอบ<br />
ประจำปี ตลอดจนงานการกุศลจัดหารายได้ของ นตท.<br />
รุ่นต่างๆ อาทิ กอล์ฟ, มวย, โบว์ลิ่ง และผ้าป่า รวมทั้งจัดส่ง<br />
ทางไปรษณีย์<br />
๓. สนับสนุนจัดทำข้อมูลสำหรับนายทหารชั้นนายพล<br />
ที่มิได้ดำรงตำแหน่งหลัก ที่ประสงค์จะเข้าศึกษาอบรม<br />
หลักสูตรต่างๆ<br />
๔. สนับสนุนผู้บังคับบัญชาชั้นสูงและอดีตผู้บังคับบัญชา<br />
เกี่ยวกับการขอรับการสนับสนุนพลขับรถ นายทหารประจำ<br />
ตัวผู้บังคับบัญชา สิทธิกำลังพล และสิทธิประโยชน์ต่างๆ<br />
ใบรับรองภาษี และสมาชิกฌาปนกิจวัดโสมนัสราชวรวิหาร<br />
13
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
งานด้านกำลังพลและธุรการ<br />
๑. แจ้งประสานกำลังพลเพื่อเข้ารับการศึกษาหลักสูตร<br />
ต่างๆ, จัดทำรายงานการส่งเข้ารับการศึกษา, จัดทำเรื่อง<br />
สำคัญเวียนทราบ, จัดทำเรื่องการใช้สิทธิลาตามสิทธิกำลังพล<br />
และหนังสือรับรองภาษาไทย-อังกฤษ, จัดทำบัญชีจ่ายตรง<br />
เงินเดือนของกรมบัญชีกลาง, ประเมินผลการปฏิบัติงานของ<br />
<strong>สป</strong>., รวบรวม จัดทำ และรายงานสถิติทางการงบประมาณและ<br />
กำลังพล รวมทั้งการรายงานผลการกวดขันวินัยประจำเดือน,<br />
ประสานและจัดทำคำขอมีบัตรประจำตัวข้าราชการทุกระดับ<br />
ชั้นยศ และบัตรอื่นๆ, จัดทำรายงานการตรวจสุขภาพประจำปี<br />
และการทดสอบสมรรถภาพให้แก่กำลังพลของ <strong>สป</strong>. (ส่วน<br />
บังคับบัญชา) และ สน.ปล.กห.<br />
๒. ให้การสนับสนุนคณะทำงานภายใต้การกำกับดูแลของ<br />
รอง ปล.กห.<br />
๓. จัดเตรียมการสำหรับพระราชพิธีเข้าเฝ้าฯ ถึง ปล.กห.,<br />
รอง ปล.กห. และผู้บังคับบัญชาระดับสูง, ทำคำสั่งเดินทาง<br />
ไปราชการของ ปล.กห., รอง ปล.กห. และสำนักงานผู้บังคับ<br />
บัญชาชั้นสูง<br />
งานด้านการส่งกำลังบำรุง<br />
๑. ดูแลปรนนิบัติบำรุงเบื้องต้นและตรวจสอบสถานภาพ<br />
ของยานพาหนะที่ใช้งานใน <strong>สป</strong>. (ส่วนบังคับบัญชา) และ<br />
สน.ปล.กห. ดังนี้<br />
๑.๑ ใช้งานที่ สำนักงาน ปล.กห. จำนวน ๙ คัน<br />
๑.๒ ใช้งานที่สำนักงาน รอง ปล.กห.(๑) จำนวน ๕ คัน<br />
๑.๓ ใช้งานที่สำนักงาน รอง ปล.กห.(๒) จำนวน ๕ คัน<br />
๑.๔ ใช้งานที่สำนักงาน รอง ปล.กห.(๓) จำนวน ๕ คัน<br />
๑.๕ ใช้งานที่สำนักงาน รอง ปล.กห.(๔) จำนวน ๕ คัน<br />
๑.๖ ใช้งานที่ สน.ปล.กห. จำนวน ๑๔ คัน<br />
๒. จัดยานพาหนะส่วนกลางสนับสนุนนายทหาร<br />
ชั้นผู้ใหญ่ของ<strong>สป</strong>. (ส่วนบังคับบัญชา) และสำนักงานผู้บังคับบัญชา<br />
เพื่อเดินทางไปรับ-ส่งเสด็จ ร่วมงานรัฐพิธีราชพิธีพิธีการต่างๆ<br />
รวมทั้งงานสวัสดิการของกำลังพล สน.ปล.กห. ในการประชุม<br />
และส่งเอกสารสำคัญ<br />
๓. ประสานงานการปฏิบัติกับ สสน.<strong>สป</strong>.เพื่อนำ<br />
ยานพาหนะของ <strong>สป</strong>. (ส่วนบังคับบัญชา) และ สน.ปล.กห. ที่ชำรุด<br />
ตามสภาพการใช้งานเข้าซ่อมและปรนนิบัติบำรุง เพื่อให้<br />
ใช้งานได้ตามปกติ<br />
14
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
๔. ขอรับการสนับสนุนห้องประชุมและอาหารว่างพร้อม<br />
เครื่องดื่มสำหรับการประชุมฯ ของผู้บังคับบัญชา นายทหาร<br />
ชั้นผู้ใหญ่ของ <strong>สป</strong>. (ส่วนบังคับบัญชา) และคณะทำงานภายใต้<br />
การกำกับดูแลของ รอง ปล.กห.<br />
๕. ดำเนินการเบิกจ่ายครุภัณฑ์วัสดุสำนักงาน วัสดุงานบ้าน<br />
งานครัว และวัสดุคอมพิวเตอร์สนับสนุนสำนักงานผู้บังคับ<br />
บัญชา, สน.ปล.กห. และคณะทำงานภายใต้การกำกับดูแล<br />
ของ รอง ปล.กห.<br />
๖. ดำเนินการวัสดุอาภรณ์ภัณฑ์ตามสิทธิกำลังพลให้แก่<br />
ผู้บังคับบัญชา, กำลังพลประจำ <strong>สป</strong>. และกำลังพล สน.ปล.กห.<br />
๗. จัดทำรายงานสถิติการใช้น้ำมันและตรวจสอบการใช้<br />
น้ำมันตามบัตรเครดิตน้ำมันของผู้บังคับบัญชาในสำนักงาน<br />
ของ <strong>สป</strong>.(ส่วนบังคับบัญชา) และ สน.ปล.กห.<br />
๘. ขอรับการสนับสนุนและกำกับดูแลการใช้โทรศัพท์<br />
เคลื่อนที่ของผู้บังคับบัญชา นายทหารชั้นผู้ใหญ่ของ <strong>สป</strong>.<br />
(ส่วนบังคับบัญชา) และ สน.ปล.กห.<br />
งานด้านกิจการพิเศษ<br />
๑. ดำเนินการสนับสนุนกีฬาภายใน <strong>สป</strong>. กีฬากองทัพไทย<br />
ชมรมกอล์ฟหลักเมือง กอล์ฟราชองครักษ์ และตำรวจ<br />
ราชสำนัก<br />
๒. การเบิกค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการของ<br />
สำนักงานผู้บังคับบัญชาและข้าราชการ สน.ปล.กห. โดยการใช้<br />
หนี้เงินยืม/ค่าใช้จ่ายในการจัดสัมมนา/ค่าใช้จ่ายในการศึกษา<br />
ดูงาน<br />
๓. ตรวจสอบรับรองสำเนาใบเสร็จสวัสดิการ และออก<br />
หนังสือรับรองการมีสิทธิรับเงินต่างๆ เช่น ค่ารักษาพยาบาล/<br />
ค่าการศึกษาบุตรข้าราชการ <strong>สป</strong>. (ส่วนบังคับบัญชา) และ<br />
สน.ปล.กห.<br />
๔. รวบรวมข้อมูลความต้องการเข้าพักอาศัยในอาคาร<br />
ที่พักอาศัย <strong>สป</strong>., ดำเนินการในเรื่องของการใช้สิทธิและการ<br />
เบิกค่าเช่าบ้าน และการจัดทำหนังสือผ่านสิทธิการขอกู้เงิน<br />
ธนาคารเพื่อที่อยู่อาศัย<br />
๕. ดำเนินการและอำนวยความสะดวกในเรื่องการ<br />
ฌาปนกิจสงเคราะห์ ทบ. การเกษียณอายุ/ลาออกจาก<br />
ราชการ/ย้ายไปรับราชการนอก <strong>สป</strong>. และค่าจัดการศพของ<br />
สมาชิกฌาปนกิจสงเคราะห์ ทบ.<br />
๖. ขอรับการสนับสนุนงบประมาณและดำเนินการเพื่อ<br />
เป็นค่าใช้จ่ายในการศึกษาดูงานและการเดินทางไปราชการ<br />
ให้กับข้าราชการ <strong>สป</strong>. (ส่วนบังคับบัญชา)<br />
๗. ขอรับการสงเคราะห์จากกองทุนบรรเทาทุกข์<br />
ข้าราชการและครอบครัวที่ประสบเคราะห์กรรม และขอรับ<br />
เงินช่วยเหลือจากกองทุน <strong>สป</strong>. พ.ศ.๒๕๕๓<br />
๘. เสนอขอรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้น<br />
สายสะพายและต่ำกว่าสายสะพายให้กับข้าราชการ <strong>สป</strong>.<br />
(ส่วนบังคับบัญชา) และข้าราชการ สน.ปล.กห.<br />
๙. ประชาสัมพันธ์งานที่กำลังพลควรทราบและประสาน<br />
การปฏิบัติ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบภายใน<br />
งานด้านคณะทำงานภายใต้การกำกับดูแลของ<br />
รอง ปล.กห. จำนวน ๙ คณะทำงาน<br />
๑. รับสมัครนายทหารชั้นนายพล เข้าเป็นคณะกรรมการฯ<br />
(เม.ย. และ ต.ค.) รวบรวมรายชื่อ ส่ง สม. เพื่อออกคำสั่ง<br />
๒. รวบรวมความต้องการงบประมาณ (วัสดุครุภัณฑ์-<br />
งบประมาณการเดินทางไปราชการ) เพื่อนำเรียนขออนุมัติ<br />
ปล.กห. (ผ่าน สงป.กห.)<br />
๓. จัดการแถลงแผนงาน ให้ ปล.กห. ทราบ (นำคณะ<br />
ทำงานเข้าพบ รอง ปล.กห.ตามสายงาน เพื่อขอรับนโยบาย)<br />
๔. การยืม-เบิกเงินเดินทางไปราชการ การให้การ<br />
สนับสนุนห้องประชุม<br />
๕. จัดการแถลงผลงาน ประจำปี ๒๕๖๐ (๖ เดือน และ<br />
๑๒ เดือน) ให้กับ ปล.กห. เพื่อกรุณาทราบ<br />
15
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
สำนักพัฒนาระบบราชการกลาโหม (สพร.กห.)<br />
ภารกิจ : มีหน้าที่เสนอนโยบาย วางแผน อำนวยการ ประสานงาน กำกับ<br />
ดูแล พิจารณา เสนอแนะ และดำเนินการเกี่ยวกับการพัฒนาระบบราชการ<br />
ของ กห. และ <strong>สป</strong>. ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการบริหารกิจการ<br />
บ้านเมืองที่ดี และปฏิบัติงานอื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย มีผู้อำนวยการ<br />
สำนักพัฒนาระบบราชการกลาโหม เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ<br />
พลโท รักศักดิ์ โรจน์พิมพ์พันธุ์<br />
ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาระบบราชการกลาโหม<br />
สรุปผลการปฏิบัติงานที ่สำคัญ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
การประเมินผลการปฏิบัติราชการ<br />
๑. การประเมินผลการปฏิบัติราชการของ นขต.กห. และ<br />
เหล่าทัพ<br />
๑.๑ ในปี ๒๕๖๐ สำนักงาน ก.พ.ร. ได้ปรับเปลี่ยน<br />
รูปแบบการประเมินผลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการ<br />
ทั่วประเทศ จากการจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการ<br />
เป็นการประเมินผลตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพ<br />
ในการปฏิบัติราชการ ตามคำสั่ง หน.คสช.ที่ ๕/๒๕๕๙ ลง<br />
๑ ก.พ.๕๙ เรื่อง มาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติ<br />
ราชการ ที่กำหนดให้มีการประเมินส่วนราชการและบุคลากร<br />
ภาครัฐ สรุปได้ดังนี้<br />
- การประเมินข้าราชการทหาร ได้รับการยกเว้น<br />
ตามมาตรการดังกล่าว แต่ยังคงให้ กห.จัดให้มีการประเมิน<br />
ภายใน กห.<br />
- การประเมินส่วนราชการของ กห. ไม่ได้กำหนด<br />
รายละเอียดไว้ในคำสั่งดังกล่าว ว่า กห. จะต้องเข้ารับการ<br />
ประเมินส่วนราชการจากสำนักงาน ก.พ.ร. หรือได้รับการ<br />
ยกเว้น ซึ่งประเด็นนี้สำนักงาน ก.พ.ร. ต้องนำเข้าพิจารณาใน<br />
ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.)<br />
๑.๒ คณะข้าราชการที่กำกับดูแลงานด้านการ<br />
พัฒนาระบบราชการของ <strong>สป</strong>., บก.ทท. และเหล่าทัพ เข้าพบ<br />
นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาระบบ<br />
16
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
ราชการ เพื่อรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการพัฒนา<br />
ระบบราชการ เมื่อ ๒๗ ต.ค.๕๙ โดยมี ดร.วิษณุ เครืองาม<br />
รอง นรม. เป็นประธาน สรุปดังนี้ ส่วนราชการ กห. ไม่ต้อง<br />
เข้ารับการประเมินจากสำนักงาน ก.พ.ร. โดยให้ดำเนินการ<br />
ประเมินผลการปฏิบัติราชการกันเองภายใน กห. และส่งผล<br />
การประเมินฯ ให้สำนักงาน ก.พ.ร. เพื่อรวบรวมและรายงาน<br />
นายกรัฐมนตรี<br />
๑.๓ เพื่อให้การประเมินผลการปฏิบัติราชการภายใน<br />
กห. มีมาตรฐานและน่าเชื่อถือ สพร.กห. จึงได้ประชุมร่วมกับ<br />
ผู้แทน นขต.กห. และเหล่าทัพ พิจารณากำหนดแนวทางการ<br />
ปฏิบัติและมีการดำเนินการ ดังนี้<br />
๑) จัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการระหว่าง<br />
หน. นขต.กห. และ ผบ.เหล่าทัพ กับ รมว.กห. โดยให้นำ<br />
แนวทางการประเมินส่วนราชการตามมาตรการปรับปรุง<br />
ประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการที่สำนักงาน ก.พ.ร.กำหนด<br />
เป็นกรอบดำเนินการ โดยสามารถปรับและประยุกต์ให้มีความ<br />
เหมาะสม<br />
๒) รมว.กห. อนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนา<br />
ระบบราชการกระทรวงกลาโหม ประกอบด้วย ๓ คณะ ดังนี้<br />
๒.๑) คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ<br />
กลาโหม (ก.พ.ร.กห.) มี รอง ปล.กห. (สายงานยุทธการ) เป็น<br />
ประธาน ผอ.สพร.กห. เป็นเลขานุการ<br />
๒.๒) คณะอนุกรรมการพัฒนาระบบ<br />
ราชการกลาโหม (อพร.กห.) มี ผอ.สพร.กห. เป็นประธาน<br />
ผอ.กนผ.สพร.กห. เป็นเลขานุการ<br />
๒.๓) คณะอนุกรรมการติดตามประเมินผล<br />
การปฏิบัติราชการกลาโหม (อตผ.กห.) มี ผอ.สพร.กห. เป็น<br />
ประธาน ผอ.กตพ.สพร.กห. เป็นเลขานุการ<br />
กระบวนการสุดท้ายของการจัดทำคำรับรองการ<br />
ปฏิบัติราชการ คือ การประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบ<br />
ราชการกลาโหม (ก.พ.ร.กห.) ซึ่งมี รอง ปล.กห. เป็นประธาน<br />
เพื่อพิจารณาตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย น้ำหนัก และเกณฑ์การ<br />
ให้คะแนน ประกอบการจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการ<br />
หลังจากนั้น นขต.กห. และเหล่าทัพ จะดำเนินการจัดทำคำรับรอง<br />
การปฏิบัติราชการของหน่วย ซึ่ง รมว.กห. ได้กรุณาลงนาม<br />
รับคำรับรองการปฏิบัติราชการ เมื่อ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๕๙<br />
ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของแผนงาน คือ ภายในไตรมาสแรก<br />
๑.๔ การตรวจติดตามประเมินผลการปฏิบัติราชการ<br />
ตามคำรับรองการปฏิบัติราชการ<br />
หลังจากที่มีคำรับรองการปฏิบัติราชการของ นขต.กห.<br />
และเหล่าทัพแล้ว ให้รายงานผลการประเมิน รอบ ๕ เดือน,<br />
๑๐ เดือน และรอบ ๑๒ เดือน สำหรับ นขต.กห. และเหล่าทัพ<br />
ได้มีการดำเนินการตรวจติดตามประเมินผลการปฏิบัติราชการ<br />
ตามคำรับรองการปฏิบัติราชการ โดยคณะอนุกรรมการ<br />
ติดตามประเมินผลการปฏิบัติราชการกลาโหม (อตผ.กห.) ซึ่ง<br />
นำผลการตรวจติดตามประเมินผลฯ สรุปนำเรียน รมว.กห.<br />
และส่งผลการประเมินให้สำนักงาน ก.พ.ร. เพื่อนำเรียน นรม.<br />
ต่อไป<br />
17
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
๑.๕ การประเมินผลการปฏิบัติราชการของ นขต.<strong>สป</strong>.<br />
การดำเนินการประเมินผลการปฏิบัติราชการระดับ<br />
<strong>สป</strong>. มีลักษณะรูปแบบที่คล้ายคลึงกับการประเมินผลการ<br />
ปฏิบัติราชการของ นขต.กห.และเหล่าทัพ โดยลดระดับเป็น<br />
ระดับ นขต.<strong>สป</strong>. โดย สพร.กห. ได้ดำเนินการประชุม นขต.<strong>สป</strong>.<br />
เพื่อพิจารณากำหนดตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย น้ำหนัก และเกณฑ์<br />
การให้คะแนน สำหรับใช้ประกอบการจัดทำคำรับรองการ<br />
ปฏิบัติราชการระหว่าง นขต.<strong>สป</strong>. กับ ปล.กห.<br />
การตรวจรับรองคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ<br />
ระดับพื้นฐาน ฉบับที่ ๒ (PMQA-FL2)<br />
ปล.กห. ได้กรุณาอนุมัติให้ <strong>สป</strong>. รับการตรวจรับรอง<br />
คุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐระดับพื้นฐาน ฉบับที่ ๒<br />
(PMQA-FL2) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๑ ซึ่งในการ<br />
ดำเนินการเพื่อรับการตรวจรับรองฯ ดำเนินการภายใต้คณะ<br />
อนุกรรมการพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐของ<br />
<strong>สป</strong>. ที่ประกอบด้วยคณะทำงาน จำนวน ๗ คณะทำงาน โดย<br />
มีหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้แก่ สนผ.กห., สม., สงป.กห.,<br />
ทสอ.กห. และ สพร.กห.<br />
การจัดการความรู้ “Knowledge Management<br />
หรือ KM”<br />
ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๒ และพัฒนามาโดยตลอด<br />
ซึ่งแต่ละ นขต.<strong>สป</strong>. จะจัดทำองค์ความรู้อย่างน้อยหน่วยละ ๑<br />
เรื่อง โดยเริ่มจากการประชุมคณะอนุกรรมการการจัดการ<br />
ความรู้ของ <strong>สป</strong>.ประจำปี ซึ่งมี รอง ปล.กห. เป็นประธาน เพื่อ<br />
พิจารณาแผนการจัดการความรู้ของ นขต.<strong>สป</strong>.<br />
หลังจากประชุมพิจารณาให้ความเห็นชอบแล้ว แต่ละ<br />
หน่วยจะไปดำเนินการตามแผนการจัดการความรู้ของตนเอง<br />
และในไตรมาสที่ ๔ จะมีการจัดนิทรรศการเผยแพร่องค์<br />
ความรู้จากผลการปฏิบัติงานที่สำคัญของหน่วย<br />
การจัดทำแผนงาน/โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการ<br />
ทำงาน<br />
๔.๑ ตามสั่งการของ นรม. ในที่ประชุม ครม. เมื่อ ๑<br />
ส.ค.๖๐ ให้ทุกส่วนราชการดำเนินการพัฒนาและปรับปรุงการ<br />
ทำงานภายในหน่วยงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อย่างน้อย<br />
เดือนละ ๑ งาน หรือกิจกรรม และให้สำนักงาน ก.พ.ร.<br />
กำหนดแนวทางรายงานความคืบหน้าและตัวชี้วัดการประเมิน<br />
ผลการดำเนินการ เพื่อให้ส่วนราชการรายงานผลทุกเดือน<br />
สำนักงาน ก.พ.ร. จึงได้กำหนดให้เป็นตัวชี้วัดการประเมิน<br />
ส่วนราชการตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการปฏิบัติ<br />
ราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๑ ในหัวข้อการพัฒนา<br />
ประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ รวมทั้งติดตามตัวชี้วัด<br />
เพื่อการปฏิรูปหัวหน้าหน่วยราชการ และหน่วยราชการเชิง<br />
ผลสัมฤทธิ์ของทุกส่วนราชการ ได้แก่ การลดกระดาษ การใช้<br />
ระบบสารสนเทศ การลดพลังงาน การประหยัดงบประมาณ<br />
การปราบปรามการทุจริต และการบูรณาการผลงาน โดยให้<br />
เป็นคะแนนพิเศษ เพื่อนำมาพิจารณาในการแต่งตั้ง จ่ายค่า<br />
ตอบแทน หรือปรับย้าย<br />
๔.๒ สำนักงาน ก.พ.ร. มีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ นร<br />
๑๒๐๑/๓๐๙๔ ลง ๒๙ ก.ย.๖๐ และหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ นร<br />
๑๒๐๑/๓๐๙๔ ลง ๒๗ ต.ค.๖๐ แจ้งรายละเอียดแนวทางการ<br />
ดำเนินงานและการประเมินตัวชี้วัดการพัฒนาประสิทธิภาพ<br />
ในการปฏิบัติงาน ตามมาตรการปรับปรุงประสิทธิภาพในการ<br />
ปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๑ สรุปได้ดังนี้<br />
18
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
๔.๒.๑ จัดทำแผนการดำเนินงานการพัฒนา<br />
ประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการส่งสำนักงาน ก.พ.ร. ภายใน<br />
๑๕ พ.ย.๖๐ ผ่านระบบ Electronic Self Assessment<br />
Report : e-SAR<br />
๔.๒.๒ ดำเนินการกิจกรรมพัฒนาประสิทธิภาพ<br />
ในการปฏิบัติราชการตามสั่งการ นรม. จำนวน ๖ กิจกรรม<br />
รายละเอียดการดำเนินกิจกรรมพัฒนาประสิทธิภาพ<br />
(บังคับ) โดยมีค่าเป้าหมายและระยะเวลาการดำเนินการตาม<br />
ที่สำนักงาน ก.พ.ร. กำหนด และให้พิจารณาคัดเลือกดำเนิน<br />
การกิจกรรมพัฒนาประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ โดย<br />
สามารถกำหนดค่าเป้าหมายและระยะเวลาการดำเนินการ<br />
ได้ตามความเหมาะสม ซึ่งสำนักงาน ก.พ.ร.ได้กำหนด<br />
รายละเอียดให้ส่วนราชการดำเนินการ ดังนี้ี้<br />
ลำดับ กิจกรรม เริ่มดำเนินการ ค่าเป้าหมาย การรายงานผล<br />
๑ การลดพลังงาน<br />
ลดลงร้อยละ ๑๐ เทียบกับ<br />
ค่ามาตรฐาน (ทุกเดือน)<br />
๒ การลดกระดาษ งบประมาณจัดซื้อกระดาษลดลง<br />
ต.ค.๖๐<br />
รอบที่ ๑ ร้อยละ ๕<br />
รอบที่ ๒ ร้อยละ ๑๐ (นับสะสม)<br />
๓ การประหยัดงบประมาณ งบประมาณที่สามารถประหยัด<br />
ได้<br />
รอบที่ ๑ ร้อยละ ๒<br />
รอบที่ ๒ ร้อยละ ๕ (นับสะสม)<br />
๔ การใช้ระบบสารสนเทศ<br />
- ส่วนราชการกำหนดผลผลิต<br />
๕ การป้องกันและแก้ไข<br />
ตามข้อมูลพื้นฐานของส่วน<br />
ปัญหาการทุจริต ไตรมาสที่ ๒<br />
ราชการ<br />
๖ การบูรณาการความร่วมมือ - สามารถเลือกเรื่องใดดำเนิน<br />
ระหว่างหน่วยงาน<br />
การก่อนหลังได้<br />
รายงานผลการใช้พลังงาน<br />
ทุกเดือน<br />
รายงานงบประมาณ<br />
การซื้อกระดาษที่ลดลง (เฉพาะ<br />
เดือนที่ซื้อ)<br />
รายงานการใช้งบประมาณที่<br />
ลดลง (เฉพาะเดือนที่ประหยัด)<br />
รายงานผลความก้าวหน้า<br />
ในการดำเนินกิจกรรมทุกเดือน<br />
ตั้งแต่เดือนที่เริ่มต้น จนกว่าจะ<br />
สิ้นสุดแผนการดำเนินงาน<br />
๗<br />
๘<br />
ส่วนราชการพิจารณาเรื่อง<br />
ที่จะดำเนินการ เดือนละ<br />
เม.ย.๖๑<br />
พ.ค.๖๑<br />
ส่วนราชการกำหนดผลผลิตตาม<br />
ข้อมูลพื้นฐานของส่วนราชการ<br />
๙ ๑ เรื่อง มิ.ย.๖๑<br />
๑๐ ก.ค.๖๑<br />
๑๑ ส.ค.๖๑<br />
๑๒ ก.ย.๖๑<br />
รายงานผลความก้าวหน้าในการ<br />
ดำเนินกิจกรรมทุกเดือน ตั้งแต่<br />
เดือนที่เริ่มต้น จนกว่าจะสิ้นสุด<br />
แผนการดำเนินงาน<br />
๔.๓ ปล.กห. ได้กรุณาสั่งการในการประชุม หน.นขต.<br />
<strong>สป</strong>. ครั้งที่ ๘/๖๐ ลง ๙ ส.ค.๖๐ ให้ นขต.<strong>สป</strong>. จัดทำแผนงาน/<br />
โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน หน่วยละไม่น้อยกว่า<br />
๓ โครงการ โดยมุ่งเน้นการปรับปรุงการปฏิบัติงานที่เกิด<br />
ผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม เช่น การให้บริการที่ดี ลดความ<br />
ซ้ำซ้อนการปฏิบัติงาน ลดขั้นตอนการปฏิบัติงาน ลดปริมาณ<br />
การใช้กระดาษ เป็นต้น ซึ่ง สพร.กห. ได้ดำเนินการแล้ว ดังนี้<br />
๔.๓.๑ รวบรวมแผนงาน/โครงการเพิ่มประสิทธิภาพ<br />
การปฏิบัติราชการที่นขต.<strong>สป</strong>. เสนอ รวมจำนวน ๖๗ กิจกรรม<br />
และได้รับความเห็นชอบจาก ปล.กห. แล้วในขั้นต้น จำนวน<br />
๑๘ กิจกรรม<br />
19<br />
๔.๓.๒ ห้วงระหว่าง ก.ย. - ต.ค.๖๐ จัดประชุม<br />
ร่วมกับหน่วยงานที่รับผิดชอบแผนงานทั้ง ๑๘ กิจกรรม<br />
เพื่อพิจารณาคัดเลือกกิจกรรมที่เหมาะสมและสามารถเพิ่ม<br />
ประสิทธิภาพการปฏิบัติราชการของ <strong>สป</strong>.ในภาพรวม ตลอดจน<br />
สามารถวัดผลสัมฤทธิ์ได้ ตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.พ.ร.<br />
กำหนด จำนวน ๑๒ กิจกรรม<br />
๔.๓.๓ เมื่อ ๓๑ ต.ค.๖๐ ได้จัดประชุมให้ความรู้<br />
ความเข้าใจแก่หน่วยงานที่รับผิดชอบแผนงาน ทั้ง ๑๒<br />
กิจกรรม เพื่อจัดทำรายละเอียดแผนการดำเนินงานการพัฒนา<br />
ประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการของ <strong>สป</strong>. เพื่อนำเรียนขอ<br />
อนุมัติ ปล.กห. ต่อไป
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
สำนักงานเลขานุการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (สลก.<strong>สป</strong>.)<br />
ภารกิจ : มีหน้าที่ดำเนินการในเรื่องธุรการ การเลขานุการ การรับรอง<br />
และการบริการของปลัดกระทรวงกลาโหม รองปลัดกระทรวงกลาโหม และ<br />
ผู้ดำรงตำแหน่งอื่นตามที่ปลัดกระทรวงกลาโหมมอบหมาย วางแผน อำนวยการ<br />
ประสานงาน กำกับการ และดำเนินการในเรื่องการประชาสัมพันธ์ รวมทั้ง<br />
การปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย มีเลขานุการสำนักงานปลัด<br />
กระทรวงกลาโหม เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ<br />
พลตรี ยุทธนินทร์ บุนนาค<br />
เลขานุการสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
สรุปผลการปฏิบัติงานที ่สำคัญ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
งานด้านเลขานุการ<br />
ดำเนินการวางแผน อำนวยการ ประสานงาน และกำกับ<br />
ดูแลงานด้านการเลขานุการให้กับปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
รองปลัดกระทรวงกลาโหม และผู้ที่ดำรงตำแหน่งอื่นตามที่<br />
ได้รับมอบหมาย โดยแบ่งประเภทงานได้ดังนี้<br />
๑. งานราชพิธี รัฐพิธี และงานพิธีการ ดำเนินการด้าน<br />
เอกสารกำกับดูแล ประสานการปฏิบัติงานด้านพิธีการให้<br />
ผู้บังคับบัญชา และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของสำนักงานปลัด<br />
กระทรวงกลาโหม ประกอบด้วย<br />
20
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
๑.๑ การเข้าเฝ้าฯ พระบรมวงศานุวงศ์ เนื่องในโอกาส<br />
สำคัญต่างๆ อาทิ การเข้าเฝ้าฯ เนื่องในโอกาสวันราชาภิเษก<br />
สมรส การทูลเกล้าฯ ถวายเงินรายได้จากการออกร้านงาน<br />
กาชาด เป็นต้น<br />
๑.๒ การจัดงานพิธีในนามของสำนักงานปลัด<br />
กระทรวงกลาโหมในวันสำคัญต่างๆ ได้แก่ พิธีรดน้ำขอพร<br />
ผู้บังคับบัญชาเนื่องในวันสงกรานต์ พิธีอวยพรเนื่องในวันขึ้น<br />
ปีใหม่ พิธีอวยพรเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด ตลอดจนการ<br />
จัดงานพิธี เพื่อแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสต่างๆ<br />
๑.๓ การจัดพิธีมอบทุนการศึกษาพร้อมอุปกรณ์<br />
การเรียน เพื่อสนับสนุนการศึกษาของนักเรียน ในนามของ <strong>สป</strong>.<br />
๒. งานการรับรองและการบริการ ดำเนินการรับรอง<br />
อำนวยความสะดวกให้ผู้บังคับบัญชา ในด้านต่างๆ ดังนี้<br />
๒.๑ การเข้าร่วมงานราชพิธี รัฐพิธี งานพิธีการ กรณี<br />
ที่หน่วยงานภาครัฐหรือเอกชน เชิญเข้าร่วมงาน<br />
๒.๒ การจัดส่วนล่วงหน้าเพื่อประสานงานการประชุม<br />
หรือการเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของผู้บังคับบัญชา<br />
๒.๓ การอำนวยความสะดวกในภารกิจการเดินทาง<br />
ไปราชการภายในประเทศ<br />
๒.๔ การเตรียมข้อมูลและให้การรับรอง กรณีที่มีคณะ<br />
บุคคลขอเข้าพบปลัดกระทรวงกลาโหมในโอกาสต่างๆ<br />
๒.๕ การจัดเตรียมแจกันดอกไม้กระเช้าของขวัญ รวมถึง<br />
พวงหรีดเคารพศพในนามปลัดกระทรวงกลาโหม และรองปลัด<br />
กระทรวงกลาโหม ตามภารกิจที่ได้รับมอบหมาย<br />
๒.๖ จัดทำหนังสืออวยพรวันคล้ายวันเกิดในบางกรณี<br />
ที่ไม่มีการเข้าอวยพร<br />
๒.๗ ประสานจัดบันทึกเทปโทรทัศน์ถวายพระพร<br />
ชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา<br />
๒.๘ จัดลำดับงานเลี้ยงเกษียณอายุราชการให้กับ<br />
ข้าราชการครบเกษียณอายุราชการ ในสังกัด <strong>สป</strong>.<br />
๒.๙ ประสานการปฏิบัติของปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
และรองปลัดกระทรวงกลาโหม ในการอำลาชีวิตราชการ<br />
๒.๑๐ จัดทำวาระงานของปลัดกระทรวงกลาโหม และ<br />
รองปลัดกระทรวงกลาโหม เพื่อนำเรียนผู้บังคับบัญชาล่วงหน้า<br />
เป็นรายสัปดาห์<br />
๓. งานการประชุม ประสานการปฏิบัติกับ นขต.<strong>สป</strong>. กรณี<br />
ที่ปลัดกระทรวงกลาโหม รองปลัดกระทรวงกลาโหม ได้รับเชิญ<br />
เข้าร่วมประชุม ซึ่งแบ่งเป็น ๓ กรณี คือ<br />
๓.๑ การประชุมในฐานะกรรมการ อนุกรรมการหรือ<br />
ที่ปรึกษาในคณะกรรมการต่างๆ ของหน่วยงานภายนอก กห.<br />
๓.๒ การประชุม การสัมมนา เพื่อให้ข้อคิดเห็นหรือ<br />
ข้อเสนอแนะ หรือร่วมชี้แจงในเรื่องต่างๆ เฉพาะกรณี<br />
๓.๓ การประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัด<br />
กระทรวงกลาโหม ซึ่งกระทรวงต่างๆ และหมุนเวียนกันเป็น<br />
เจ้าภาพในการจัดประชุม โดยประสานการปฏิบัติร่วมกับ<br />
สนผ.กห.<br />
21
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
๔. งานให้การสนับสนุนหรือความอนุเคราะห์ ดำเนิน<br />
การด้านเอกสารหรือประสานขอรับการสนับสนุนงบประมาณ<br />
เพื่อให้ความร่วมมือกรณีที่หน่วยงานภาครัฐขอรับการ<br />
สนับสนุนจากสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมในด้าน<br />
กอล์ฟการกุศล, โบว์ลิ่งการกุศล, มวยการกุศล พร้อมทั้งร่วม<br />
กับเหล่าทัพ ในการถวายผ้าพระกฐินประจำทุกปี และการ<br />
ประชาสัมพันธ์ในเรื่องต่างๆ ให้หน่วยงานในสังกัดสำนักงาน<br />
ปลัดกระทรวงกลาโหมทราบ เป็นต้น<br />
๕. งานด้านการตรวจและวิเคราะห์ข่าว ดำเนินการตรวจ<br />
วิเคราะห์ข่าวสารจากหน้าหนังสือพิมพ์รายวันและรายสัปดาห์<br />
ในด้านการทหาร การเมือง สังคมจิตวิทยา และสถานการณ์<br />
ต่างประเทศ ที่เกี่ยวข้องกับ กห. พร้อมทั้งด้านความมั่นคง<br />
ทางด้านต่างๆ หรือเป็นข่าวที่น่าสนใจเพื่อนำเสนอต่อผู้บังคับ<br />
บัญชาชั้นสูง และ หน.นขต.<strong>สป</strong>. เพื่อเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์<br />
ประเด็นสำคัญในด้านการข่าวเป็นประจำทุกวัน<br />
๖. การรับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ ดำเนินการด้านเอกสาร<br />
และพิจารณาสรุปข้อร้องเรียนต่างๆ ที่บุคคลหรือหน่วยงาน<br />
ร้องเรียนมายัง <strong>สป</strong>. และนำเรียนผู้บังคับบัญชา พร้อมประสาน<br />
ให้หน่วยที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อข้อร้องเรียน หรือแก้ไขหรือ<br />
ชี้แจงข้อเท็จจริงจนได้ข้อยุติ<br />
๗. งานสำรวจและสถิติ ดำเนินการเกี่ยวกับการสำรวจ<br />
ทัศนคติของข้าราชการและประชาชนทั่วไปที่มีผลต่อการ<br />
ปฏิบัติงานของ กห. และงานด้านเลขานุการของ <strong>สป</strong>. เพื่อ<br />
รวบรวมเป็นสถิติและข้อมูลประกอบการพิจารณาและกำหนด<br />
นโยบาย รวมถึงการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ ของผู้บังคับบัญชา<br />
๘. งานด้านธุรการ ดำเนินการด้านเอกสาร การจัดทำคำสั่ง<br />
เดินทางไปราชการภายในประเทศ การจัดทำหนังสือแสดง<br />
ความยินดี หรือแสดงความขอบคุณในวาระสำคัญต่างๆ ให้กับ<br />
ผู้บังคับบัญชา ตลอดจนการจัดทำคำกราบบังคมทูล คำกล่าว<br />
คำขวัญ โอวาท คำปราศรัย คำนิยม และสารอวยพร<br />
๙. การสนับสนุนกิจกรรมของสมาคมภริยาข้าราชการ <strong>สป</strong>.<br />
อำนวยความสะดวกให้สมาคมภริยาฯ ในด้านต่างๆ ในการ<br />
ประสานงานระหว่างสมาคมภริยาฯ กับหน่วยงาน ในสังกัด<br />
<strong>สป</strong>. ดำเนินการจัดทำวารสารสมาคมภริยาฯ พร้อมแจกจ่าย<br />
ให้กับหน่วยใน <strong>สป</strong>.<br />
งานด้านการประชาสัมพันธ์<br />
ดำเนินการเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ของ <strong>สป</strong>. และ กห.<br />
ในภาพรวม รวมทั้งผู้บังคับบัญชาของ <strong>สป</strong>. และผู้ดำรงตำแหน่ง<br />
อื่นตามที่ ปล.กห. มอบหมาย ตลอดจนการประสานงานด้าน<br />
การประชาสัมพันธ์กับส่วนราชการ หน่วยงานและบุคคลที่<br />
เกี่ยวข้อง โดยแยกงานออกเป็น<br />
- การประชาสัมพันธ์ให้กับ <strong>สป</strong>. และ กห. ในภาพรวม<br />
- การดำเนินการตามยุทธศาสตร์ของ กห.<br />
- การดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมาย<br />
๑. การประชาสัมพันธ์ให้กับ <strong>สป</strong>. และ กห. ในภาพรวม<br />
ได้แก่<br />
๑.๑ การจัดทำนโยบายและแผนการประชาสัมพันธ์<br />
ของ กห. เพื่อใช้เป็นกรอบในการจัดทำแผนการประชาสัมพันธ์<br />
ประจำปีของ กห., <strong>สป</strong>., บก.ทท. และเหล่าทัพ โดย สลก.<strong>สป</strong>.<br />
22
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
๑.๒.๓ สื่อสิ่งพิมพ์ได้แก่วารสารหลักเมือง ซึ่งเป็น<br />
วารสารรายเดือนของ <strong>สป</strong>. จัดพิมพ์เผยแพร่ให้ส่วนราชการ<br />
ในสังกัด กห. ส่วนราชการพลเรือน รวมทั้งภาคเอกชน จัดทำ<br />
หนังสือผลการดำเนินงานของ <strong>สป</strong>. หนังสือผลการดำเนินงาน<br />
ประจำปีของ กห.<br />
ทำหน้าที่ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประชาสัมพันธ์<br />
กระทรวงกลาโหม (กปชส.กห.)<br />
๑.๒ การดำเนินการประชาสัมพันธ์ให้กับ กห. ผู้บังคับ<br />
บัญชาชั้นสูง และหน่วยขึ้นตรง <strong>สป</strong>. เกี่ยวกับกิจกรรมของ<br />
กห. และ <strong>สป</strong>. อาทิ การประชุมสภากลาโหม วันที่ระลึกคล้าย<br />
วันสถาปนา กห. การพบปะระหว่างผู้นำทางทหารของมิตร<br />
ประเทศกับ รมว.กห. หรือ ปล.กห. การประชุมที่เกี่ยวข้องกับ<br />
กลาโหมอาเซียน โดยประชาสัมพันธ์ผ่านทางสื่อต่างๆ ได้แก่<br />
๑.๒.๑ สื่อโทรทัศน์ โดยการประสานในการทำ<br />
ข่าวประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการปฏิบัติภารกิจและกิจกรรม<br />
ต่างๆ เผยแพร่สู่ประชาชนทางสถานีวิทยุโทรทัศน์<br />
การผลิตแผ่นพับ โปสเตอร์สารของ รมว.กห. และ ปล.กห.<br />
ในโอกาสต่างๆ การจัดทำสมุดรายนามโทรศัพท์ของ <strong>สป</strong>. และ<br />
เอกสารประชาสัมพันธ์ต่างๆ รวมถึงการผลิตเอกสารข่าว และ<br />
ประสานส่งภาพข่าวประชาสัมพันธ์ภารกิจ กิจกรรมของ กห.<br />
และ <strong>สป</strong>. ให้กับสื่อมวลชนหนังสือพิมพ์<br />
๑.๒.๒ สื่อวิทยุ สถานีวิทยุคลื่นหลัก (ในกำกับ<br />
ดูแลของ <strong>สป</strong>.) ระบบคลื่น FM ๙๐.๕ MHz. และระบบคลื่น<br />
AM ๗๙๒ KHz. ว.พท. โดยทำหน้าที่ผลิตบทความนำเสนอ<br />
เป็นประจำทุกวันราชการและร่วมผลิตรายการ “สาระน่ารู้<br />
กับสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม” และได้ส่งบทความ<br />
ดังกล่าว ให้กับสถานีวิทยุกระจายเสียงเครือข่ายในพื้นที่ทาง<br />
จดหมายอิเล็กทรอนิกส์เป็นประจำทุกสัปดาห์ รวมทั้งข่าวสาร<br />
ต่างๆ ของ กห. เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนใน<br />
พื้นที่ของแต่ละภูมิภาคได้รับข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องอย่าง<br />
ต่อเนื่อง<br />
๑.๒.๔ สื่อสารสนเทศ ดำเนินการประชาสัมพันธ์<br />
ภาพข่าวการปฏิบัติภารกิจและกิจกรรมต่างๆ รวมถึงการ<br />
นำเสนอผลงานทางสื่อสารสนเทศผ่านทางเว็บไซต์ และสื่อ<br />
สารสนเทศในกำกับดูแล ประกอบด้วย เว็บไซต์lakmuangonline.com,<br />
thewhiteradio.mod.go.th, จิตสำนึกรักเมือง<br />
ไทย.com รวมถึง Facebook ของโฆษก กห., หลักเมือง<br />
ออนไลน์, จิตสำนึกรักเมืองไทย, เครือข่ายสีขาว, พิพิธภัณฑ์<br />
ปืนใหญ่โบราณ และ G–news<br />
23
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
๑.๒.๕ สื่อวีดิทัศน์ ดำเนินการจัดทำวีดิทัศน์เพื่อ<br />
นำเสนอในโอกาสสำคัญต่างๆ<br />
๑.๒.๖ การแถลงข่าวและชี้แจงข้อเท็จจริง เตรียม<br />
ข้อมูลและจัดการแถลงข่าวภารกิจและกิจกรรมของ กห. ใน<br />
สถานการณ์ปกติ และการชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีที่ประชาชน<br />
ได้รับข้อมูลข่าวสารที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง อันจะส่งผล<br />
กระทบต่อการปฏิบัติงานด้านความมั่นคงหรือภาพลักษณะ<br />
ของ กห. และ <strong>สป</strong>.<br />
๒.๑.๒ กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติโดยการจัดทำสื่อ<br />
ในรูปแบบต่างๆ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสถาบันพระมหากษัตริย์<br />
อาทิ <strong>สป</strong>อตวิทยุทางสถานีวิทยุกระจายเสียง และสถานีวิทยุ<br />
กระจายเสียงซึ่งเป็นเครือข่ายในพื้นที่ทุกภูมิภาคของประเทศ<br />
หนังสือเฉลิมพระเกียรติฯ โปสเตอร์เฉลิมพระเกียรติฯ และ<br />
กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติฯ ตามความเหมาะสม<br />
๒. การดำเนินการประชาสัมพันธ์ตามยุทธศาสตร์ของ กห.<br />
สลก.<strong>สป</strong>. ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์เชิงรุก โดยการ<br />
ริเริ่มดำเนินการเพื่อสนับสนุนงานประเด็นยุทธศาสตร์ของ <strong>สป</strong>.<br />
ตามแผนปฏิบัติราชการ ดังนี้<br />
๒.๑ ประเด็นยุทธศาสตร์การพิทักษ์รักษาและเทิดทูน<br />
สถาบันพระมหากษัตริย์<br />
๒.๑.๑ กิจกรรมการเทิดทูนสถาบันพระมหา<br />
กษัตริย์ โดยการจัดทำสื่อเพื่อเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์<br />
อาทิ ป้ายประชาสัมพันธ์ (Cut-Out) ป้ายประชาสัมพันธ์<br />
(Banner) เพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีและเทิดทูนสถาบัน<br />
พระมหากษัตริย์ ในโอกาสสำคัญทั้งในอดีตและปัจจุบัน เพื่อ<br />
สร้างจิตสำนึกและเผยแพร่โครงการพระราชดำริและพระราช<br />
กรณียกิจ ผ่านช่องทางและสื่อต่างๆ อย่างต่อเนื่อง<br />
๒.๑.๓ กิจกรรมการป้องกัน การเทิดทูน รวมทั้ง<br />
ตอบโต้สร้างความเข้าใจมิให้มีการล่วงละเมิดสถาบันพระมหา<br />
กษัตริย์ โดยการจัดโครงการ “สถานีวิทยุสีขาว เทิดไท้องค์<br />
ราชา” เพื่อสร้างและขับเคลื่อนเครือข่ายสถานีวิทยุกระจาย<br />
เสียงในพื้นที่ ในการเป็นเครือข่ายร่วมป้องกันและนำความ<br />
เข้าใจมิให้มีการล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์ประกอบด้วย<br />
กิจกรรมดังนี้<br />
24
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
๒.๑.๓.๑ การสัมมนาเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับ<br />
ความร่วมมือในการรักษาความมั่นคงและร่วมมือในการสร้าง<br />
ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ร่วมกับ<br />
สถานีวิทยุกระจายเสียงเครือข่ายในพื้นที่นักวิชาการ วิทยากร<br />
ผู้ทรงคุณวุฒิและผู้บริหารสถานีวิทยุกระจายเสียงในเครือข่าย<br />
ที่มีบทบาทสำคัญในเรื่องดังกล่าว<br />
๒.๑.๓.๒ การผลิตเผยแพร่สารคดีและสื่อ<br />
ประชาสัมพันธ์ทางวิทยุ ที่มีเนื้อหาให้ความรู้ความเข้าใจที่<br />
ถูกต้องเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และความมั่นคง เพื่อ<br />
มอบให้สถานีวิทยุกระจายเสียงเครือข่ายในพื้นที่น ำไปเผยแพร่<br />
ออกอากาศ<br />
๒.๑.๓.๓ การจัดกิจกรรมสาธารณประโยชน์<br />
โดยอาศัยความร่วมมือของสถานีวิทยุกระจายเสียงเครือข่าย<br />
ในพื้นที่เป็นกลไกหลัก ริเริ่มกิจกรรมกับชุมชนในพื้นที่ออก<br />
อากาศ เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ในการดำเนิน<br />
กิจกรรมสาธารณประโยชน์ตามแนวพระราชดำริปรัชญา<br />
เศรษฐกิจพอเพียง<br />
๒.๒ ประเด็นยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศ โดยการ<br />
จัดทำแผนการบริหารงานด้านการประชาสัมพันธ์ เป็นการ<br />
ดำเนินการประชาสัมพันธ์เชิงรุก เพื่อเผยแพร่ทำความเข้าใจ<br />
ในนโยบาย ทั้งในส่วนที่สนองนโยบายของรัฐบาล คสช. และ<br />
ในส่วนความมั่นคง ซึ่งเป็นภารกิจหลักของ <strong>สป</strong>. และ กห.<br />
ในภาพรวม ให้ประชาชนได้รับทราบ โดยดำเนินการจัดทำ<br />
สื่อประชาสัมพันธ์ในรูปแบบและช่องทางการเผยแพร่ โดย<br />
พิจารณาความเหมาะสมของช่องทางและกลุ่มเป้าหมาย<br />
ประกอบด้วย สื่อโทรทัศน์ สื่อวิทยุกระจายเสียง สื่อสิ่งพิมพ์<br />
และสื่อสารสนเทศ นอกจากนี้ ยังมีการประเมินผลการ<br />
ประชาสัมพันธ์ โดยการสำรวจและรวบรวมข้อมูล นำผลมา<br />
ศึกษาวิเคราะห์ เพื่อพัฒนางานด้านการประชาสัมพันธ์อย่าง<br />
ต่อเนื่อง<br />
๒.๓ ประเด็นยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศและ<br />
ช่วยเหลือประชาชน<br />
๒.๓.๑ ผลผลิตการสร้างความปรองดอง<br />
สมานฉันท์ของคนในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตย จากการ<br />
ดำเนินโครงการสร้างจิตสำนึกในการป้องกันประเทศและ<br />
รักษาความมั่นคงของ <strong>สป</strong>. โดยการบูรณาการพลังอำนาจ<br />
แห่งชาติด้านการทหาร (<strong>สป</strong>.) และด้านสังคม (สื่อสารมวลชน,<br />
เยาวชน และภาคประชาสังคม) ร่วมกันแก้ไขปัญหาที่สำคัญ<br />
ของชาติด้วยการถ่ายทอดแนวความคิดในการสร้างความ<br />
ปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติผ่านกิจกรรมและโครงการ<br />
ต่างๆ ของ <strong>สป</strong>.อย่างเหมาะสม ดังนี้<br />
๒.๓.๑.๑ กิจกรรมสื่อมวลชนเพื่อความมั่นคง<br />
(วิทยุกระจายเสียงเครือข่ายในพื้นที่) ซึ่งเป็นสื่อที่มีอิทธิพล<br />
ต่อประชาชนในพื้นที่และมีความใกล้ชิดกับประชาชน โดยได้<br />
ดำเนินการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่าง <strong>สป</strong>. ภายใต้<br />
แนวคิดสื่อสารมวลชนเพื่อความมั่นคงของชาติ ผลการดำเนิน<br />
การที่ผ่านมาได้ทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย<br />
- กิจกรรมสื่อมวลชนสัญจร โดยดำเนินการ<br />
จัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจร วัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้าง<br />
ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างสื่อมวลชนกับ <strong>สป</strong>. ในระดับผู้บริหาร<br />
และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน อีกทั้งเป็นการสร้างความเข้าใจให้<br />
สื่อมวลชนในภารกิจของ <strong>สป</strong>. และ กห. ในงานความมั่นคงใน<br />
มิติต่างๆ อาทิ งานด้านพลังงานทหาร งานด้านอุตสาหกรรม<br />
ป้องกันประเทศ รวมถึงพันธกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นส่วนหนึ่ง<br />
ในการเสริมสร้างให้สื่อมวลชนได้ตระหนักถึงบทบาทและ<br />
25
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
หน้าที่โดยเฉพาะการสร้างความรู้ความเข้าใจ รวมถึงให้การ<br />
สนับสนุนงานด้านความมั่นคงในบริบทต่างๆ<br />
- กิจกรรมการอบรมสัมมนาการสร้างเครือข่าย<br />
ประชาสัมพันธ์งานความมั่นคง ตามแผนงานโครงสร้าง<br />
จิตสำนึกในการป้องกันประเทศและรักษาความมั่นคงของ<br />
<strong>สป</strong>. ประจำปี ๒๕๖๐ โดยดำเนินการจัดกิจกรรมการอบรม<br />
สัมมนาการสร้างเครือข่ายประชาสัมพันธ์งานความมั่นคง<br />
มีวัตถุประสงค์เพื่อขยายผลจากการฝึกอบรมหลักสูตร “การ<br />
พัฒนาสัมพันธ์สื่อสารมวลชนเพื่อความมั่นคงของชาติ” ของ<br />
<strong>สป</strong>. ที่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี เพื่อการ<br />
เสริมสร้างและพัฒนาความสัมพันธ์กับสื่อมวลชนประเภท<br />
วิทยุกระจายเสียงในพื้นที่ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออก<br />
เฉียงเหนือตอนล่าง และภาคใต้ให้มีความแน่นแฟ้น อันจะนำมาสู่<br />
เป้าหมายการมีส่วนร่วมของภาคสังคม ในการถ่ายทอดแนว<br />
ความคิดเกี่ยวกับการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของ<br />
คนในชาติและฟื้นฟูประชาธิปไตยและขยายผลสร้างจิตสำนึก<br />
ที่ดีในการป้องกันประเทศและรักษาความมั่นคงของชาติและ<br />
เป็นเครือข่ายการประชาสัมพันธ์งานด้านความมั่นคงต่อไป<br />
๒.๓.๑.๒ โครงการจิตสำนึกรักเมืองไทย มี<br />
วัตถุประสงค์สำคัญในการให้เยาวชนซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก<br />
ได้เกิดความตระหนักในบทบาทและหน้าที่ความรับผิดชอบต่อ<br />
ตนเองและผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ โดยดำเนิน<br />
การผ่านโครงการจิตสำนึกรักเมืองไทยของ <strong>สป</strong>. ซึ่งดำเนินการ<br />
อย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ ๙ (เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๒)<br />
เปิดโอกาสให้เยาวชนได้มีเวทีแสดงความสามารถและความคิด<br />
สร้างสรรค์ ผ่านกิจกรรมการประกวดตามหัวข้อที่กำหนด ซึ่ง<br />
ในปีที่ ๙ ได้เปิดโอกาสให้เยาวชนได้มีเวทีแสดงความคิดเห็น<br />
ผ่านกิจกรรมการประกวดโครงงานในการพัฒนาภูมิปัญญา<br />
ท้องถิ่น ร่วมสร้างจิตสำนึกในการพัฒนาภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อ<br />
เป็นต้นแบบในการพัฒนาชุมชนอย่างมั่นคงและยั่งยืนสืบต่อไป<br />
รวมทั้งเป็นการสร้างพื้นฐานการทำความดีตามรอยเบื้อง<br />
พระยุคลบาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล<br />
อดุลยเดช บรมนาถบพิตร ภายใต้หัวข้อ “เยาวชนนักพัฒนา<br />
The Young Developers” ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ<br />
นรม./หน.คสช. ในการสร้างความสามัคคีปรองดองเป็น<br />
หัวข้อหลัก เพื่อให้เยาวชนได้นำเสนอแนวความคิด ถ่ายทอด<br />
จินตนาการด้วยศรัทธา และพลังของความรัก ความสมัคร<br />
สมานสามัคคี<br />
26
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
๓. การดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมาย<br />
การบรรยายสรุปข่าวสารประจำวันที่เกี่ยวข้องกับ กห.<br />
และข่าวที่น่าสนใจจากสื่อมวลชนหนังสือพิมพ์ รวมถึงการ<br />
รวบรวมจัดทำวีดิทัศน์สรุปภาพกิจกรรมของ กห. (ในส่วนของ<br />
รมว.กห. และ นขต.<strong>สป</strong>.) เพื่อนำเสนอผู้บังคับบัญชาระดับสูง<br />
เป็นประจำทุกสัปดาห์<br />
๒.๓.๒ การแก้ไขปัญหายาเสพติด กิจกรรมการ<br />
ป้องกันยาเสพติด สลก.<strong>สป</strong>. ในฐานะคณะอนุกรรมการด้าน<br />
รณรงค์ป้องกันและประชาสัมพันธ์ ศูนย์อำนวยการป้องกัน<br />
และปราบปรามยาเสพติดสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
(ศอ.ปส.<strong>สป</strong>.) มีหน้าที่ในการจัดทำและรวบรวมแผนงาน<br />
งบประมาณและดำเนินงานในด้านการรณรงค์ป้องกันและ<br />
ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับยาเสพติดของ <strong>สป</strong>. ซึ่งได้มีการพัฒนา<br />
ดำเนินงานในระดับยุทธวิธีในการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดย<br />
ดำเนินการประชาสัมพันธ์เผยแพร่เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหา<br />
ยาเสพติดในรูปแบบและกิจกรรมต่างๆ รวมทั้งมีการจัดการอบรม<br />
สัมมนากำลังพลในสังกัด <strong>สป</strong>. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้มา<br />
ซึ่งแนวคิดมาตรการและแผนปฏิบัติการในการรณรงค์ป้องกัน<br />
สร้างความรู้ความเข้าใจเพื่อแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างเป็น<br />
รูปธรรม โดยการจัดกิจกรรม “ครอบครัวอบอุ่น ต้านภัย<br />
ยาเสพติด” ให้กับข้าราชการ <strong>สป</strong>. และครอบครัวเป็นประจำ<br />
ทุกปี<br />
27
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
สำนักนโยบายและแผนกลาโหม (สนผ.กห.)<br />
ภารกิจ : มีหน้าที่พิจารณาเสนอนโยบาย อำนวยการ ประสานงาน และดำเนินการเกี่ยวกับนโยบาย<br />
และยุทธศาสตร์ด้านการป้องกันประเทศ นโยบายและยุทธศาสตร์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร<br />
ของกระทรวงกลาโหม ทั้งระบบการควบคุมบังคับบัญชาและระบบการบริหารราชการทั่วไป นโยบายและแผน<br />
ด้านการทหาร การข่าว การส่งกำลังบำรุงการระดมสรรพกำลัง การต่างประเทศ การพัฒนาประเทศและการ<br />
ช่วยเหลือประชาชนและมีหน้าที่ควบคุม กำกับดูแลการปฏิบัติของส่วนราชการในกระทรวงกลาโหมให้เป็นไป<br />
ตามนโยบายและยุทธศาสตร์ที่กระทรวงกลาโหมกำหนด การจัดทำและปรับปรุงแก้ไขอัตราของส่วนราชการ<br />
ในกระทรวงกลาโหม การฝึก การศึกษาอบรมในต่างประเทศ การวิเทศสัมพันธ์ กิจการของสภากลาโหม<br />
การรักษาความปลอดภัย และปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย มีผู้อำนวยการสำนักนโยบายและ<br />
แผนกลาโหม เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ<br />
พลเอก วัลลภ รักเสนาะ<br />
ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผนกลาโหม<br />
สรุปผลการปฏิบัติงานที ่สำคัญ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
งานด้านนโยบายและยุทธศาสตร์<br />
๑. การจัดทำนโยบายและแผนการปฏิบัติงานที่สำคัญ<br />
๑.๑.๑ จัดทำแผนปฏิบัติงานที่สำคัญตามนโยบาย<br />
เร่งด่วนของ รมว.กห. และแนวทางการปฏิบัติงานของ ปล.กห.<br />
โดยกำหนดผลผลิต ผลลัพธ์ ในแต่ละไตรมาสอย่างชัดเจน เพื่อ<br />
ให้ หน.นขต.<strong>สป</strong>. ยึดถือปฏิบัติและเร่งรัดการดำเนินการให้เป็น<br />
ไปตามเป้าหมายที่กำหนดอย่างเป็นรูปธรรม<br />
๑.๑.๒ จัดทำแผนงานในภารกิจหลักของ กห.<br />
ระยะ ๒๐ ปี (ตุลาคม ๒๕๕๙ ถึง พ.ศ.๒๕๗๙) รองรับ<br />
ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปี ยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศ<br />
กห. พ.ศ.๒๕๖๐ - ๒๕๗๙ แผนแม่บทการปฏิรูปการบริหาร<br />
จัดการและการปรับปรุงโครงสร้าง กห. พ.ศ.๒๕๖๐ - ๒๕๗๙<br />
และแผนพัฒนาขีดความสามารถ กห. พ.ศ.๒๕๖๐ - ๒๕๖๙<br />
ซึ่งมีความสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม<br />
แห่งชาติฉบับที่๑๒ และประเด็นการปฏิรูปของสภาขับเคลื่อน<br />
การปฏิรูปประเทศ<br />
28
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
๑.๒ การดำเนินงานด้านนโยบายและยุทธศาสตร์<br />
๑.๒.๑ ดำเนินงานในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะ<br />
กรรมการยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงของ รมว.กห. คณะ<br />
ทำงานพัฒนานโยบายและยุทธศาสตร์ภายใต้การกำกับดูแล<br />
ของ รอง ปล.กห. การจัดการบรรยายพิเศษและจัดทำบท<br />
วิเคราะห์สถานการณ์สำคัญในภูมิภาคเพื่อเพิ่มพูนความรู้แก่<br />
ข้าราชการ <strong>สป</strong>. และประกอบการพิจารณากำหนดนโยบาย<br />
ของผู้บังคับบัญชาระดับสูงที่สำคัญ ได้แก่ ศาสตร์ของพระราชา<br />
กับการพัฒนาประเทศที่ยั่งยืน ประเทศไทยกับมาตรการ<br />
การป้องกันการก่อการร้าย สถานการณ์ด้านความมั่นคง<br />
ทั้งภายในและภายนอกประเทศ สถานการณ์ในภูมิภาคเอเชีย<br />
ตะวันออกเฉียงใต้และผลกระทบต่อไทย รวมทั้งการตรวจสอบ<br />
สภาวะแวดล้อมทางยุทธศาสตร์ และประสานงานด้านความ<br />
มั่นคงในพื้นที่กองทัพภาคที่ ๑ – ๔<br />
๒. งานด้านการเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคง<br />
กับมิตรประเทศ<br />
๒.๑ การดำเนินงานความร่วมมือในกรอบทวิภาคี<br />
๒.๑.๑ จัดการประชุมโครงการความร่วมมือ<br />
ทวิภาคี (Bilateral Annual Cooperation Programme<br />
Talks) ระหว่าง กห. กับ กห.สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เพื่อ<br />
ติดตามความคืบหน้าผลการดำเนินโครงการฯ ประจำปี ๒๕๕๙<br />
และพิจารณาโครงการฯ ประจำปี ๒๕๖๐ ระหว่าง ๒๘ - ๓๐<br />
พ.ย.๕๙ ณ ศาลาว่าการกลาโหม<br />
๑.๒.๒ จัดการบรรยายและสาธิตผลงานวิจัยและ<br />
พัฒนาตามแนวทาง Thailand 4.0 กับนวัตกรรมที่หลากหลาย<br />
เมื่อ ๒๘ มิ.ย.๖๐ ณ ห้องยุทธนาธิการ ในศาลาว่าการกลาโหม<br />
เพื่อรับทราบผลงานวิจัยและพัฒนาที่เป็นนวัตกรรมที่ทันสมัย<br />
ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์<br />
มหาวิทยาลัยขอนแก่น และมหาวิทยาลัยมหิดล รวมทั้งให้<br />
กองทัพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัย<br />
จัดทำแผนงานโครงการวิจัยร่วมกัน เพื่อนำไปสู่การผลิต<br />
ยุทโธปกรณ์ที่ตรงกับความต้องการของหน่วยที่ใช้งาน<br />
ได้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและ<br />
ทรัพย์สินของประชาชนและการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัด<br />
ชายแดนภาคใต้<br />
๒.๑.๒ เข้าร่วมการประชุมหารือด้านการทหาร<br />
ระหว่าง กห. กับ กห.สาธารณรัฐอินเดีย (Thailand-India<br />
Defence Dialogue) ครั้งที่ ๕ เพื่อหารือนโยบายด้านความ<br />
มั่นคงและทบทวนกิจกรรมความร่วมมือทางทหารที่ดำเนิน<br />
การในปัจจุบัน รวมทั้งแสวงหาความร่วมมือทางทหารใน<br />
อนาคต ระหว่าง ๑๓ - ๑๖ ธ.ค.๕๙ ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐ<br />
อินเดีย<br />
๒.๑.๓ จัดการหารือระดับผู้เชี่ยวชาญระหว่าง<br />
กห. กับ กห.สหพันธรัฐรัสเซีย ระหว่าง ๒๐ – ๒๑ ธ.ค.๕๙<br />
ณ ศาลาว่าการกลาโหม เพื่อร่วมหารือกำหนดแนวทางและ<br />
พัฒนาความร่วมมือทางทหารระหว่างกัน ซึ่งเป็นการดำเนิน<br />
การที่สืบเนื่องจากการลงนามในความตกลงระหว่างรัฐบาล<br />
แห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย<br />
ว่าด้วยความร่วมมือทางทหาร (Agreement between the<br />
Government of the Russian Federation and the<br />
Government of the Kingdom of Thailand on Military<br />
Cooperation) เมื่อ ๑๘ พ.ค.๕๙<br />
29
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
๒.๑.๔ การประชุมคณะกรรมการร่วม<br />
ด้านความมั่นคงไทย–เวียดนาม ครั้งที่ ๑ ระหว่าง<br />
๔ – ๕ ก.ค.๖๐ ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยม<br />
เวียดนาม เพื่อหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น<br />
ในประเด็นด้านความมั่นคงและการทหารใน<br />
ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งกระชับ<br />
ความสัมพันธ์และขยายความร่วมมือทางทหารใน<br />
ระดับทวิภาคีระหว่าง กห. กับ กห.เวียดนาม<br />
๒.๑.๕ การจัดทำความตกลงกับ<br />
กระทรวงกลาโหมมิตรประเทศ โดยดำเนินการ<br />
ดังนี้<br />
๒.๑.๕.๑ ปรับปรุงคำสั่งคณะกรรมการจัด<br />
ทำความตกลงฯ จำนวน ๒ คณะ ประกอบด้วย คณะกรรมการ<br />
กลั่นกรองการจัดทำความตกลงระหว่าง กห. กับมิตรประเทศ<br />
และองค์การระหว่างประเทศ และคณะกรรมการจัดทำความ<br />
ตกลงกับกระทรวงกลาโหมมิตรประเทศ โดย รมว.กห. ได้<br />
กรุณาลงนามคำสั่งฯ เมื่อ ๕ ก.พ.๖๐<br />
๒.๑.๕.๒ การลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่าง<br />
กห. กับ กห.รัฐอิสราเอล ว่าด้วยความร่วมมือทางทหาร<br />
(Memorandum of Understanding between the Ministry<br />
of Defence of the Kingdom of Thailand and the<br />
Ministry of Defence of the State of Israel Regarding<br />
Defence Cooperation) โดย ปล.กห. และ ปล.กห.รัฐ<br />
อิสราเอล ณ ศาลาว่าการกลาโหม เมื่อ ๗ ส.ค.๖๐<br />
๒.๑.๕.๓ การลงนามขอบเขตอำนาจหน้าที่ของ<br />
คณะกรรมาธิการร่วมว่าด้วยความร่วมมือทางทหารระหว่าง<br />
ไทยกับสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ (Terms of Reference of<br />
Thailand-the Philippines Joint Committee on Military<br />
Cooperation : TOR) โดย ปล.กห. และ ปล.กห.สาธารณรัฐ<br />
ฟิลิปปินส์ ณ กรุงมะนิลา เมื่อ ๑๗ ส.ค.๖๐<br />
๒.๒ การดำเนินงานความร่วมมือในกรอบพหุภาคี<br />
๒.๒.๑ เข้าร่วมการประชุม Tokyo Defense<br />
Forum ครั้งที่ ๒๑ ณ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อ ๒๖ - ๓๑ มี.ค.๖๐<br />
เพื่อร่วมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์<br />
เกี่ยวกับความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศ การเสริมสร้าง<br />
มาตรการไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกันในภูมิภาค และกระชับความ<br />
สัมพันธ์ทางทหารกับประเทศในภูมิภาคเอเชีย–แปซิฟิก<br />
๒.๒.๒ เข้าร่วมการประชุมด้านความมั่นคง<br />
ระหว่างประเทศ ครั้งที่ ๖ (6 th Moscow International<br />
Security Conference : MISC) เมื่อ ๒๔ - ๒๘ เม.ย.๖๐ ณ<br />
สหพันธรัฐรัสเซีย เพื่อหารือปัญหาด้านความมั่นคงในระดับ<br />
ภูมิภาคและระดับโลก รวมถึงแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับ<br />
แนวทางการพัฒนาความร่วมมือด้านความมั่นคง และการ<br />
แก้ไขปัญหาการก่อการร้าย เพื่อสนับสนุนสันติภาพและความ<br />
มั่นคง<br />
๒.๒.๓ เข้าร่วมการประชุม IISS Shangri-La Dialogue<br />
ครั้งที่ ๑๖ เมื่อ ๒ – ๔ มิ.ย.๖๐ ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์<br />
เพื่อร่วมรับฟังการแถลงนโยบายและวิสัยทัศน์และการหารือ<br />
เกี่ยวกับประเด็นด้านความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย–แปซิฟิก<br />
โดยเฉพาะประเด็นปัญหาทะเลจีนใต้ โครงการพัฒนาอาวุธ<br />
นิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ การก่อการร้ายและแนวคิด<br />
หัวรุนแรง รวมทั้งการหารือด้านความมั่นคงแบบทวิภาคีกับ<br />
มิตรประเทศ<br />
๒.๒.๔ จัดทำแนวทางการเสริมสร้างความร่วมมือ<br />
ด้านความมั่นคงกับมิตรประเทศของ กห. (๒๕๖๐ - ๒๕๖๔)<br />
ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศของ กห.<br />
พ.ศ.๒๕๖๐ - ๒๕๗๙ และสภาวะแวดล้อมด้านความมั่นคง<br />
ในปัจจุบัน เพื่อกำหนดกรอบแนวทางและความเร่งด่วน<br />
ในการพัฒนาความร่วมมือด้านความมั่นคงของ กห.<br />
กับ กห.มิตรประเทศของส่วนราชการ กห. ให้มีความชัดเจน<br />
ลดความซ้ำซ้อน รวมทั้งช่วยให้การวางแผนด้านงบประมาณ<br />
เป็นไปอย่างมีระบบและมีทิศทางอย่างเป็นรูปธรรม<br />
๒.๓ การดำเนินงานภายใต้กรอบการประชุม ADMM<br />
และ ADMM–Plus<br />
๒.๓.๑ การจัดทำแนวทางปฏิบัติของ กห. ในการ<br />
ขับเคลื่อนประชาคมอาเซียน เพื่อให้ส่วนราชการ กห. และ<br />
หน่วยที่เกี่ยวข้อง ใช้เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนประชาคม<br />
การเมือง และความมั่นคงอาเซียนให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม<br />
๒.๓.๒ การประชุมความร่วมมือในกรอบการ<br />
ประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ (ASEAN<br />
Defence Ministers’ Meeting Retreat : ADMM-Retreat)<br />
30
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
และการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน-ญี่ปุ่น อย่างไม่เป็น<br />
ทางการ เมื่อ ๑๖ - ๑๗ พ.ย.๕๙ ณ กรุงเวียงจันทน์สาธารณรัฐ<br />
ประชาธิปไตยประชาชนลาว<br />
๒.๓.๓ การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสกลาโหม<br />
อาเซียน (ASEAN Defence Senior Officers’ Meeting<br />
: ADSOM) และการประชุมเจ้าหน้าที่กลาโหมอาเซียนกับ<br />
เจ้าหน้าที่อาวุโสกลาโหมประเทศคู่เจรจา (ASEAN Defence<br />
Senior Officers’ Meeting-Plus : ADSOM-Plus) เมื่อ ๔-๘<br />
เม.ย.๖๐ ณ เมืองเซบู สาธารณรัฐฟิลิปปินส์<br />
๒.๓.๔ การประชุมหารือพหุภาคีระหว่างรัฐมนตรี<br />
ว่าการกระทรวงกลาโหม ประเทศสมาชิกอาเซียนกับ<br />
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เมื่อ ๒-๔ มิ.ย.๖๐<br />
ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์<br />
๒.๓.๕ เข้าร่วมการประชุมด้านความมั่นคงใน<br />
ฐานะประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์ASEAN-EU ระหว่าง<br />
๑๓-๑๘ มิ.ย.๖๐ ณ กรุงบรัสเซลส์ ราชอาณาจักรเบลเยียม<br />
เพื่อเป็นการสร้างองค์ความรู้และความเข้าใจ เกี่ยวกับ<br />
กฎระเบียบ หลักเกณฑ์โครงสร้าง และการดำเนินงานของ EU<br />
รวมทั้งแสวงหาแนวทางความร่วมมือต่างๆ ด้านความมั่นคง<br />
ในกรอบ ADMM และ ADMM–Plus ที่ EU สามารถเข้าร่วม<br />
กิจกรรมได้<br />
๒.๔ การต้อนรับแขกต่างประเทศและการเดินทาง<br />
เยือนต่างประเทศของผู้บังคับบัญชาระดับสูง<br />
๒.๔.๑ การต้อนรับแขกต่างประเทศที่เข้าเยี่ยม<br />
คำนับผู้บังคับบัญชาระดับสูงในโอกาสต่างๆ และการรับรอง<br />
แขกต่างประเทศที่เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ<br />
ในฐานะแขกของ กห. ที่สำคัญ ได้แก่ การรับรองรัฐมนตรี<br />
ว่าการกระทรวงป้องกันประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตย<br />
ประชาชนลาว, รมว.กห.สาธารณรัฐอินโดนีเซีย, รมว.กห.<br />
สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม, รัฐมนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรี<br />
ว่าการกระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐประชาชนจีน, รอง นรม.<br />
และ รมว.มท.มาเลเซีย, ปล.กห.รัฐอิสราเอล และ รมว.กห.<br />
เครือรัฐออสเตรเลีย<br />
๒.๔.๒ การเดินทางเยือนต่างประเทศของ<br />
ผู้บังคับบัญชาระดับสูง เพื่อกระชับความสัมพันธ์และเสริมสร้าง<br />
ความร่วมมือด้านความมั่นคงกับต่างประเทศที่สำคัญ ได้แก่<br />
การเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว<br />
ของ รอง นรม. และ รมว.กห. เพื่อเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรี<br />
กลาโหมอาเซียนอย่างไม่เป็นทางการ และการประชุมรัฐมนตรี<br />
กลาโหมอาเซียน-ญี่ปุ่น อย่างไม่เป็นทางการ, การเดินทาง<br />
เยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ของ รอง นรม. และ รมว.กห.,<br />
การเข้าร่วมประชุมและนิทรรศการ International Defence<br />
Exhibition and Conference (IDEX 2017) ของ รอง<br />
ปล.กห. ณ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, การเข้าร่วมงานนิทรรศการ<br />
Langkawi International Maritime and Aerospace Exhibition<br />
2017 (LIMA 2017) ของ รอง ปล.กห. ณ เกาะลังกาวี<br />
ประเทศมาเลเซีย และการเข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการ<br />
ร่วมด้านความมั่นคง ไทย–เวียดนาม ครั้งที่ ๑ ของ ปล.กห.<br />
ณ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม<br />
๒.๕ กิจกรรมการสร้างความร่วมมือกับต่างประเทศ<br />
อื่นๆ<br />
๒.๕.๑ จัดผู้แทนเดินทางเยือนสถาบันความ<br />
สัมพันธ์ระหว่างประเทศด้านการป้องกันประเทศ (Institute<br />
for Defence International Relations : IDIR) ณ สาธารณรัฐ<br />
สังคมนิยมเวียดนาม เมื่อ ๒๐ – ๒๔ มี.ค.๖๐ เพื่อเสริมสร้าง<br />
และพัฒนาความสัมพันธ์ รวมทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านความ<br />
มั่นคงระหว่างกัน ซึ่งเป็นการดำเนินการอย่างต่อเนื่องเป็น<br />
ประจำทุกปี โดยผลัดกันเป็นเจ้าภาพมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๑<br />
31
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
๒.๕.๒ จัดผู้แทนเข้าร่วมประชุมอาเซียนว่าด้วย<br />
ความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย<br />
- แปซิฟิก (ASEAN Regional Forum : ARF) ณ ประเทศ<br />
นิวซีแลนด์สาธารณรัฐอินโดนีเซีย และสาธารณรัฐแห่งสหภาพ<br />
เมียนมา เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นแบ่งปันความรู้และ<br />
ส่งเสริมการทำงานร่วมกัน<br />
๒.๕.๓ การเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการทูต<br />
โดยการจัดพิธีมอบเครื่องราชอิสริยาภรณ์ให้ผู้นำทางทหาร<br />
ระดับสูงต่างประเทศ ได้แก่ พลโท Perry Lim ผู้บัญชาการ<br />
ทหารสูงสุด สาธารณรัฐสิงคโปร์ และการจัดงานเลี้ยงให้แก่<br />
เอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยและผู้ช่วย<br />
ทูตฝ่ายทหาร ประจำสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศ ณ<br />
กรุงเทพฯ ในโอกาสต่างๆ<br />
๒.๕.๔ การดำเนินการตามแนวทางการปฏิบัติ<br />
งานของ ปล.กห. และ หน.นขต.<strong>สป</strong>. ประจำปีงบประมาณ<br />
พ.ศ.๒๕๖๐ ได้แก่ การจัดทำคู่มือการปฏิบัติงานพิธีการและ<br />
การรับรองแขกต่างประเทศ และการจัดทำฐานข้อมูลความ<br />
ร่วมมือด้านความมั่นคงกับมิตรประเทศ<br />
๒.๕.๕ การจัดการบรรยายสรุปให้แก่ผู้ช่วยทูตฝ่าย<br />
ทหาร ประจำสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ ต่างประเทศ ก่อน<br />
เดินทางไปปฏิบัติราชการ ณ ต่างประเทศ<br />
๒.๕.๖ การจัดทำประเด็นสนทนาในการเข้าเยี่ยม<br />
คำนับผู้บังคับบัญชาระดับสูงของแขกต่างประเทศ<br />
๒.๕.๗ การสนับสนุนการเตรียมจัดงาน Defense<br />
& Security 2017 ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่าง ๖ – ๙ พ.ย.๖๐<br />
ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี<br />
๒.๕.๘ การอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บังคับ<br />
บัญชาระดับสูง รวมทั้งจัดผู้แทนเข้าร่วมงานเลี้ยงวันชาติและ<br />
วันกองทัพ ที่จัดโดยสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศ ณ<br />
กรุงเทพฯ และการวางพวงมาลาเนื่องในโอกาสการรำลึกวาระ<br />
สำคัญต่างๆ ของ กห.มิตรประเทศ<br />
๒.๕.๙ ร่วมการฝึกซ้อมแผนเผชิญเหตุภัยพิบัติ<br />
ฉุกเฉินระดับภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Regional Disaster<br />
Response Simulation Exercise : ARDEX 2016) เมื่อ ๒๘<br />
พ.ย. – ๑ ธ.ค.๕๙ ณ เนอการาบรูไนดารุซซาลาม<br />
๒.๕.๑๐ จัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ ASEAN<br />
Humanitarian Civil–Military Coordination Workshop<br />
2017 (ASEAN–CMCoord 2017) ณ จ.ชลบุรี เมื่อ ๓ – ๗<br />
เม.ย.๖๐ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างพลเรือน-ทหาร<br />
ในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติใน<br />
ภูมิภาคอาเซียน<br />
32
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
๒.๕.๑๑ จัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ ASEAN<br />
Military Capacity Building for International Humanitarian<br />
Assistance and Disaster Relief Workshop เมื่อ<br />
๒๑ – ๒๗ พ.ค.๖๐ ณ จ.ชลบุรี เพื่อเป็นการเพิ่มพูนขีดความ<br />
สามารถกำลังพลในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการ<br />
บรรเทาภัยพิบัติในภูมิภาคอาเซียน<br />
๒.๕.๑๒ ร่วมการประชุม ASEAN Militaries<br />
Ready Group on Humanitarian Assistance and Disaster<br />
Relief (AMRG on HADR) ครั้งที่ ๑ ระหว่าง ๗ – ๑๓<br />
พ.ค.๖๐ และครั้งที่ ๒ ระหว่าง ๘ – ๑๒ ส.ค.๖๐ ณ ประเทศ<br />
มาเลเซีย<br />
๓. งานด้านการข่าวและการรักษาความปลอดภัย<br />
๓.๑ ขออนุมัติกำหนดมาตรการควบคุมระบบไร้คนขับ<br />
ของ นขต.กห. และเหล่าทัพ โดยมีความสอดคล้องกับนโยบาย<br />
ระเบียบ คำสั่ง กฎ ข้อบังคับและกฎหมายระหว่างประเทศ<br />
เพื่อใช้เป็นแนวทางและบูรณาการการใช้ การควบคุม การ<br />
รักษาความปลอดภัยและการวิจัยพัฒนา ให้เป็นมาตรฐาน<br />
เดียวกัน<br />
๓.๒ การประสานงานด้านการข่าวกับประชาคม<br />
ข่าวกรองทั้งภายในและภายนอก กห.<br />
๓.๒.๑ การประสานงานด้านการข่าวกับ<br />
ประชาคมข่าวกรองในประเทศ เพื่อรับทราบสถานการณ์ด้าน<br />
ความมั่นคงและนำข้อมูลไปใช้ในการจัดทำแนวทางการบูรณาการ<br />
ด้านการข่าวของ กห.<br />
๓.๒.๒ การประสานงานด้านการข่าวกับ<br />
ประชาคมข่าวกรองในต่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างและขยาย<br />
ความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนข่าวกรองกับมิตรประเทศ และ<br />
นำข้อมูลไปใช้ในการจัดทำแนวทางการบูรณาการด้านการข่าว<br />
ของ กห. โดยเดินทางไปเข้าร่วมประชุมความร่วมมือด้าน<br />
ข่าวกรองกับมิตรประเทศและประสานงานด้านการข่าวกรอง<br />
กับประเทศในภูมิภาคอาเซียน ณ ราชอาณาจักรกัมพูชา<br />
๓.๒.๓ การจัดตั้งเครือข่ายภาคประชาชน<br />
สนับสนุนงานด้านการข่าวในการรักษาความปลอดภัยที่ตั้ง<br />
การเฝ้าระวังการแพร่ระบาดยาเสพติดในชุมชนทหารของ<br />
<strong>สป</strong>. การประสานงานกับสถานีตำรวจในเขตพื้นที่ที่เป็น<br />
ที่ตั้งอาคารที่พักอาศัยของ <strong>สป</strong>.ทุกพื้นที่ และสำนักงานคณะ<br />
กรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เพื่อเฝ้าระวังและ<br />
แจ้งเตือนด้านการข่าวเกี่ยวกับยาเสพติดและประสานกับคณะ<br />
อนุกรรมการด้านปราบปราม ศูนย์อำนวยการป้องกันและ<br />
ปราบปรามยาเสพติด <strong>สป</strong>. ดำเนินการต่อไป<br />
๓.๓ ขออนุมัติกำหนดแนวทางการปฏิรูประบบงาน<br />
ด้านการข่าว กห. และจัดทำแนวทางการบูรณาการด้านการ<br />
ข่าวของ กห. ซึ่งเป็นการดำเนินการตามแผนแม่บทการปฏิรูป<br />
การบริหารจัดการและการปรับปรุงโครงสร้าง กห. พ.ศ.๒๕๖๐<br />
– ๒๕๖๙ (ระบบงานการข่าวกรอง) ให้เกิดความประสาน<br />
สอดคล้อง มีการบูรณาการทั้งในระดับยุทธศาสตร์ ยุทธการ<br />
และยุทธวิธี<br />
๓.๔ การเพิ่มความเข้มงวดในการรักษาความ<br />
ปลอดภัยผู้บังคับบัญชาระดับสูง และบุคคลสำคัญที่เดินทาง<br />
เข้ามาในพื้นที่ สนับสนุนเจ้าหน้าที่สารวัตรทหารแก่ศาลทหาร<br />
กรุงเทพ การจัดชุดสายตรวจอาคารบ้านพักอาศัยข้าราชการ<br />
<strong>สป</strong>. จัดการอบรมให้ความรู้เรื่องกฎหมายที่จำเป็นในการ<br />
ปฏิบัติงาน กฎการใช้กำลังของทหารสารวัตรในการรักษา<br />
33
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
ความปลอดภัยพื้นที่รับผิดชอบ การจัดทำแผนเผชิญเหตุ<br />
ในพื้นที่รับผิดชอบ ได้แก่ แผนเผชิญเหตุการณ์เมื่อพบวัตถุ<br />
ต้องสงสัยพื้นที่ พัน.สห.<strong>สป</strong>. และแผนเผชิญเหตุสถานการณ์<br />
ชิงตัวผู้ต้องหาขณะมาขึ้นศาลทหาร (ธน.) โดยกำหนดขั้นตอน<br />
การดำเนินการอย่างเป็นระบบการรักษาความปลอดภัยที่ตั้ง<br />
และการจัดการฝึกอบรมการใช้อาวุธแก่เจ้าหน้าที่รักษาความ<br />
ปลอดภัยเพื่อสร้างความคุ้นเคยและความชำนาญการใช้อาวุธ<br />
ในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยศาลาว่าการกลาโหม<br />
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ<br />
๓.๕ การปฏิบัติงานในฐานะคณะอนุกรรมการด้าน<br />
ปราบปราม ของศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปราม<br />
ยาเสพติด <strong>สป</strong>. โดยทบทวนมาตรการป้องกันและปราบปราม<br />
ยาเสพติดในพื้นที่หน่วยทหารและพื้นที่พักอาศัยของ <strong>สป</strong>. การ<br />
จัดสายตรวจออกปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่บ้านพักอาศัยของ <strong>สป</strong>.<br />
และสุ่มตรวจหาสารเสพติดทหารกองประจำการที่มาปฏิบัติ<br />
งานในพื้นที่ศาลาว่าการกลาโหมอย่างต่อเนื่อง เพื่อควบคุม<br />
มิให้เกิดการแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่หน่วยทหารและ<br />
ชุมชนทหารและป้องปรามไม่ให้กำลังพลและครอบครัวเข้าไป<br />
ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด<br />
๓.๖ จัดการฝึกยิงปืนให้กับเจ้าหน้าที่รักษาความ<br />
ปลอดภัยในพื้นที่ศาลาว่าการกลาโหม เพื่อให้มีความคุ้นเคย<br />
และความชำนาญในการใช้อาวุธประจำกายและอาวุธที่ใช้<br />
ในการปฏิบัติภารกิจอารักขาบุคคลสำคัญ การฝึกอบรมการ<br />
ป้องกันและระงับอัคคีภัยในพื้นที่ศาลาว่าการกลาโหม ประจำ<br />
ปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐ ให้กับข้าราชการของ สร. และ<br />
หน่วยขึ้นตรง <strong>สป</strong>. ในพื้นที่ศาลาว่าการกลาโหม เพื่อให้เกิด<br />
ความมั่นใจในการใช้อุปกรณ์ดับเพลิงขั้นต้นได้อย่างรวดเร็ว<br />
และมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการอบรมนายทะเบียนข้อมูล<br />
ข่าวสารลับ เพื่อเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับระเบียบ วิธีปฏิบัติ<br />
ต่อข้อมูลข่าวสารลับ สามารถนำไปใช้เป็นแนวทางในการ<br />
ปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง<br />
๔. งานด้านกิจการพลเรือน<br />
๔.๑ กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ<br />
พระเจ้าอยู่หัวและสถาบันพระมหากษัตริย์โดยจัดตั้งจุดรับรอง<br />
ให้บริการและช่วยเหลือประชาชน ที่มาแสดงความอาลัยถวาย<br />
แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรม-<br />
นาถบพิตร ตั้งแต่ ๑๘ ต.ค.๕๙ – ๑๘ ม.ค.๖๐ จัดการสัมมนา<br />
เรื่อง “ตามรอยเท้าพ่อ...อยู่อย่างพอเพียง” เมื่อ ๒๒ – ๒๓<br />
ธ.ค.๕๙ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาท<br />
สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร<br />
รวมทั้งจัดกิจกรรมแสดงความอาลัยเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่<br />
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร<br />
สวรรคต “ใต้ร่มพระบารมี สดุดีจอมทัพไทย” ระหว่าง ๑๕ -<br />
๑๗ ก.พ.๖๐<br />
34<br />
๔.๒ โครงการผลิตละครเพื่อเสริมสร้างอุดมการณ์<br />
ความรักชาติ โดยให้การสนับสนุนกำลังพล อาวุธยุทโธปกรณ์<br />
และสถานที่แก่สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง ๗ ในการ<br />
ถ่ายทำละครโทรทัศน์เรื่อง “ภารกิจรัก” รวม ๔ ตอน ได้แก่<br />
เหนี่ยวหัวใจสุดไกปืน (ทหารบก) ราชนาวีที่รัก (ทหารเรือ)<br />
ยึดฟ้าหาพิกัดรัก (ทหารอากาศ) และมือปราบเจ้าหัวใจ<br />
(ตำรวจ) เพื่อเสริมสร้างอุดมการณ์ความรักชาติ
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
๔.๓ การติดตามและประเมินผลการแก้ไขปัญหา<br />
ยาเสพติดของ กห. ประจำปี พ.ศ.๒๕๖๐ โดยจัดการประชุม<br />
คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการแก้ไขปัญหา<br />
ยาเสพติดของ กห. ประจำปี พ.ศ.๒๕๖๐ และติดตามการแก้ไข<br />
ปัญหายาเสพติดในพื้นที่กองทัพภาคที่ ๓ (จ.แม่ฮ่องสอน<br />
และ จ.เชียงใหม่) ระหว่าง ๒๕ - ๒๘ เม.ย.๖๐ และในพื้นที่<br />
กองทัพภาคที่ ๒ (จ.นครราชสีมา จ.บุรีรัมย์ จ.ศรีสะเกษ และ<br />
จ.สุรินทร์) ในห้วงเดือน ก.ย.๖๐ โดยมีพล.อ.ธีระฉัตร คำรพวงศ์<br />
ที่ปรึกษา รมว.กห. เป็นหัวหน้าคณะ<br />
๔.๔ การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และการ<br />
ช่วยเหลือประชาชน ดังนี้<br />
๔.๔.๑ การเตรียมความพร้อม อาทิ การจัด<br />
ทำสื่อสิ่งพิมพ์เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการลดความเสี่ยงจาก<br />
ภัยพิบัติและการปฏิบัติในภาวะฉุกเฉิน ทั้งในรูปแบบปฏิทิน<br />
และคู่มือปฏิบัติตน การจัดการอบรม เรื่อง การประสานงาน<br />
ระหว่างพลเรือน–ทหาร ในการตอบโต้ภัยพิบัติ ครั้งที่ ๔ การ<br />
จัดการสัมมนา เรื่อง การพัฒนาความร่วมมือและเสริมสร้าง<br />
ศักยภาพของเครือข่ายการบรรเทาสาธารณภัยของ กห. และ<br />
การจัดทำแนวทางปฏิบัติต่อการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม<br />
และการบรรเทาภัยพิบัติของ กห. รวมทั้งการจัดกำลังพล<br />
เข้าร่วมการฝึกด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแบบ<br />
บูรณาการ พ.ศ.๒๕๖๐ (IDMEx 2017) ณ จ.นครราชสีมา<br />
และการฝึกการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการ<br />
บรรเทาภัยพิบัติ ประจำปี ๒๕๖๐ ณ จ.ระยอง และสนับสนุน<br />
วิทยากรเพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับแผนบรรเทาสาธารณภัย<br />
กห. ๒๕๕๘ ตลอดจนแนวทางปฏิบัติต่อการช่วยเหลือด้าน<br />
มนุษยธรรม และการบรรเทาภัยพิบัติแก่หน่วยงานทั้งในและ<br />
นอก กห. มากกว่า ๘ ครั้ง<br />
๔.๔.๒ การช่วยเหลือประชาชน อาทิการเชิญชวน<br />
ให้ข้าราชการและครอบครัว ร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัย<br />
ภาคใต้และมอบเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่ สำนักปลัดสำนัก<br />
นายกรัฐมนตรี เพื่อดำเนินการให้ความช่วยเหลือในภาพรวม<br />
ของรัฐบาลต่อไป การจัดกำลังพลเข้าร่วมประชุมติดตาม<br />
สถานการณ์และแก้ไขปัญหาอุบัติภัยทางถนนและทางน้ำ (๗<br />
วันอันตราย) ในห้วงเทศกาลปีใหม่และเทศกาลสงกรานต์ ณ<br />
ศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน การประสานงานกับ<br />
เครือข่ายสภาวิศวกรเพื่อตรวจสอบระบบไฟฟ้าและเผยแพร่<br />
ความรู้เกี่ยวกับการระวังและป้องกันอัคคีภัยให้แก่ประชาชน<br />
ในพื้นที่ชุมชนสามแพร่ง รวมทั้งการจัดหาถังบรรจุน้ำเพื่อ<br />
แจกจ่ายให้แก่ประชาชนในพื้นที่รับผิดชอบของศูนย์บรรเทา<br />
สาธารณภัย <strong>สป</strong>. เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาท<br />
สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร<br />
๔.๕ การแก้ไขปัญหาการนำเข้าน้ำมันปาล์มและ<br />
ผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์ม เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างมี<br />
ประสิทธิภาพและเหมาะสมสอดคล้องกับคณะทำงานที่ได้ไป<br />
รับตำแหน่งที่สูงขึ้น รอง นรม. (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ)<br />
ประธานกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ได้ลงนามใน<br />
คำสั่งคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติที่๑/๒๕๖๐<br />
ลง ๒ ก.พ.๖๐ แต่งตั้งคณะทำงานการแก้ไขปัญหาการ<br />
นำเข้าน้ำมันปาล์มและผลิตภัณฑ์น้ำมันปาล์ม (แก้ไขเพิ่มเติม<br />
ครั้งที่ ๒)<br />
๔.๖ โครงการบริหารจัดการสิ่งก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำ<br />
สาธารณะ (คลองลาดพร้าว) คณะกรรมการอำนวยการกำหนด<br />
นโยบายการบริหารจัดการสิ่งก่อสร้างรุกล้ำลำน้ำสาธารณะ<br />
ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม./รมว.กห. เป็น<br />
ประธาน โดยให้กรุงเทพมหานครรับผิดชอบการดำเนินการ<br />
ก่อสร้างและกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์<br />
35
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
ดำเนินการจัดทำผังที่อยู่อาศัยตลอดแนวทางคลองลาดพร้าว<br />
ในส่วนของ กห. (ทบ.) ได้จัดกำลังพลชุดปฏิบัติการจิตวิทยา<br />
และมวลชน จำนวน ๑๒๐ นาย จากกองพลที่๑ รักษาพระองค์<br />
ให้การสนับสนุนในพื้นที่ดำเนินโครงการฯ ดังกล่าว<br />
๔.๗ การแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำ กห.<br />
สนับสนุนแนวทางการแก้ไขปัญหายางพารา เพื่อช่วยเหลือ<br />
เกษตรกรยางพาราเป็นกรณีเร่งด่วน โดยมีแนวทางสนับสนุน<br />
การใช้ยาง ปี ๖๐ ประมาณ ๑๑,๐๐๐ ตัน (หากได้รับการ<br />
จัดสรรงบประมาณกลาง จำนวน ๑,๕๐๐ ล้านบาทเศษ) และ<br />
ในปี ๖๑ มีแผนการสนับสนุนการใช้ยาง จำนวนประมาณ<br />
๑,๔๐๐ ตันเศษ (ตามงบประมาณปกติ)<br />
๕. งานด้านส่งกำลังบำรุงและการสรรพกำลัง<br />
๕.๑ การพัฒนา ปรับปรุง อาคาร สถานที่ สิ่งอำนวย<br />
ความสะดวกและการใช้ประโยชน์ที่ดินของ <strong>สป</strong>. ได้เสนอขอ<br />
อนุมัติผังบริเวณรวมของ <strong>สป</strong>. พื้นที่ศรีสมาน เพื่อเป็นผังหลัก<br />
ในการดำเนินการพัฒนา ปรับปรุง อาคาร สถานที่ และสิ่ง<br />
อำนวยความสะดวกในพื้นที่ศรีสมาน และการกำหนดที่ตั้ง<br />
หน่วยรองรับการปรับโครงสร้างของหน่วยใหม่ให้พร้อมปฏิบัติ<br />
งานในพื้นที่ศรีสมาน ได้แก่ สงป.กห., กง.กห., สสน.<strong>สป</strong>.,<br />
สำนักงานมาตรฐาน วท.กห. และชมรมผู้สูงอายุ <strong>สป</strong>. รวมถึง<br />
การเสนอความต้องการงบประมาณในการพัฒนา ปรับปรุง<br />
อาคาร สถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกของหน่วยงาน<br />
ใน <strong>สป</strong>. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐ - ๒๕๖๔ พร้อมทั้ง<br />
จัดลำดับความเร่งด่วนของโครงการ/งานฯ เพื่อเตรียมความ<br />
พร้อมในการเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณเหลือจ่าย<br />
ในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
๕.๓ จัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราช<br />
อาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย ว่าด้วย<br />
ความร่วมมือด้านเทคนิคทางทหาร และจัดทำบันทึกความ<br />
เข้าใจว่าด้วยการสนับสนุนด้านการส่งกำลังบำรุงระหว่าง<br />
รัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งประเทศ<br />
ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นการดำเนินการตามมติ ครม. เมื่อ ๑๘ เม.ย.<br />
๖๐ และ ๔ ก.ค.๖๐ รวมทั้งดำเนินการตามอนุมัติ รมว.กห.<br />
ในการจัดทำเอกสารความร่วมมือด้านการส่งกำลังบำรุง<br />
ระหว่างกองทัพเรือกับกองทัพเรือสาธารณรัฐสิงคโปร์ ภายใต้<br />
กรอบบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการส่งกำลัง<br />
บำรุงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่ง<br />
สาธารณรัฐสิงคโปร์<br />
๕.๔ วางแผนและเข้าร่วมการฝึกการระดม<br />
สรรพกำลังเพื่อการทหาร ประจำปี ๒๕๖๐ ณ มทบ.๑๒<br />
จ.ปราจีนบุรี ระหว่าง ๑๓ – ๑๕ มิ.ย.๖๐ ซึ่งเป็นการดำเนิน<br />
การตามแผนผนึกกำลังและทรัพยากรเพื่อการป้องกันประเทศ<br />
ในการเตรียมความพร้อมด้านทรัพยากรจากส่วนราชการพลเรือน<br />
รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน มาสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจ<br />
๕.๒ การพัฒนาและปฏิรูประบบงานด้านการส่งกำลัง<br />
บำรุงของ <strong>สป</strong>. เพื่อให้มีระบบงานด้านการส่งกำลังบำรุง<br />
ด้วยระบบเทคโนโลยีสารสนเทศแบบบูรณาการที่สามารถ<br />
สนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของหน่วย โดยได้ดำเนินการ<br />
นำเข้าข้อมูลอัตราสิ่งอุปกรณ์ถาวรของหน่วยใน <strong>สป</strong>. เพื่อเป็น<br />
แนวทางในการดำเนินการด้านอื่นๆ ต่อไป<br />
ป้องกันประเทศตั้งแต่ในภาวะปกติได้อย่างเพียงพอและ<br />
ทันเวลา รวมทั้งให้สามารถประสานและดำเนินการด้านกิจการ<br />
พลเรือน สนับสนุนการปฏิบัติตามแผนป้องกันประเทศอย่าง<br />
ต่อเนื่อง โดยดำเนินการซักซ้อมแผนร่วมกันอย่างสม่ำเสมอ<br />
เพื่อให้การประสานงานและบูรณาการแผนต่างๆ ของ<br />
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ<br />
๕.๕ วางแผนและเข้าร่วมการฝึกการบริหาร<br />
วิกฤตการณ์ระดับชาติ ประจำปี ๒๕๖๐ (C-MEX 17) เมื่อ<br />
๑๕ มิ.ย.๖๐ ณ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติซึ่งเป็นการ<br />
ดำเนินการตามยุทธศาสตร์การเตรียมพร้อมแห่งชาติ พ.ศ.<br />
36
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
๒๕๕๗ - ๒๕๖๑ โดยนำนโยบาย/ยุทธศาสตร์/แผน/ขั้นตอน<br />
การปฏิบัติ มาทำการทดสอบการบริหารจัดการภัยที่เกิดขึ้น<br />
ประสานและบูรณาการการทำงานร่วมกันทั้งทหาร ตำรวจ<br />
พลเรือน และภาคเอกชน<br />
๕.๖ พิจารณาและดำเนินการตามขั้นตอนการออก<br />
ประกาศกระทรวงกลาโหม เรื่อง แต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่<br />
เพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.<br />
๒๕๓๐ (ฉบับที่ ๖) พ.ศ.๒๕๖๐ โดยสอดคล้องกับคำสั่งมอบ<br />
อำนาจและการปรับโครงสร้างการจัดหน่วยของ กห. ทั้งนี้<br />
คณะกรรมการควบคุมยุทธภัณฑ์ ได้มีมติเห็นชอบแล้ว และ<br />
รมว.กห. โดยความเห็นชอบของ ครม. ได้ลงนามในประกาศฯ<br />
เมื่อ ๒๖ มี.ค.๖๐ พร้อมทั้งประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว<br />
เมื่อ ๔ พ.ค.๖๐<br />
๕.๗ จัดการประชุมคณะกรรมการควบคุมยุทธภัณฑ์<br />
ตามพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.๒๕๓๐ ประจำ<br />
ปีงบประมาณ ๒๕๖๐ โดยได้ให้ความเห็นชอบร่างบันทึก<br />
ข้อตกลงว่าด้วยการดำเนินการต่อของที่เป็นยุทธภัณฑ์เพื่อ<br />
บรรเทาสาธารณภัย ตาม พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ฯ ระหว่าง<br />
กห. กับ กทม. และการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.ควบคุม<br />
ยุทธภัณฑ์ฯ เพื่อกำหนดอายุของใบอนุญาตสั่งเข้ามา ผลิต<br />
และมีซึ่งยุทธภัณฑ์ รวมทั้งมีข้อสังเกตเรื่องการกำหนดค่า<br />
ธรรมเนียมการออกใบอนุญาตให้สอดคล้องกับการกำหนดอายุ<br />
ใบอนุญาต และการพิจารณาปรับแก้ข้อความ ตาม พ.ร.บ.ให้<br />
สอดคล้องกับปัจจุบัน<br />
๕.๘ ร่วมพิจารณาและจัดทำร่าง พ.ร.บ.เทคโนโลยี<br />
ป้องกันประเทศ พ.ศ. .... เพื่อส่งเสริมงานด้านการวิจัย พัฒนา<br />
และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ให้สามารถขยายผลงาน<br />
วิจัยและพัฒนาไปสู่การผลิตและจำหน่ายเชิงพาณิชย์ เพื่อ<br />
การพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืนและลดการนำเข้าจากต่างประเทศ<br />
รวมทั้งสร้างรายได้ให้กับประเทศในอนาคต<br />
๖. งานด้านแผน ฝึก ศึกษา และการจัดทำอัตรา<br />
๖.๑ จัดทำแผนแม่บทการปฏิรูปการบริหารจัดการ<br />
และการปรับปรุงโครงสร้าง กห. พ.ศ.๒๕๖๐ – ๒๕๖๙ สำหรับ<br />
ใช้เป็นกรอบแนวทางการปฏิรูปการบริหารจัดการและการ<br />
ปรับปรุงโครงสร้าง กห. ในห้วงระยะ ๑๐ ปี ให้เป็นไปใน<br />
ทิศทางเดียวกันอย่างมีเอกภาพ เพื่อเสริมสร้างขีดความ<br />
สามารถของกองทัพให้มีความพร้อมรองรับสถานการณ์และ<br />
ภัยคุกคามด้านความมั่นคง นำไปสู่การปฏิบัติตามบทบาท<br />
หน้าที่และความรับผิดชอบของ กห. รวมถึงการสนับสนุน<br />
การดำเนินการแก่ส่วนราชการอื่นในการแก้ไขปัญหาที่สำคัญ<br />
ของชาติ สามารถตอบสนองนโยบายของรัฐบาลได้อย่างมี<br />
ประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม<br />
๖.๒ จัดทำแผนพัฒนาขีดความสามารถ กห. พ.ศ.<br />
๒๕๖๐ – ๒๕๖๙ สำหรับใช้เป็นกรอบในการกำหนดความ<br />
ต้องการงบประมาณสำหรับการพัฒนาเสริมสร้างขีดความ<br />
สามารถกำลังกองทัพ ให้มีความสมบูรณ์ พร้อมรบ โดย<br />
สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศ กห. พ.ศ.๒๕๖๐<br />
– ๒๕๖๙ และแผนแม่บทการปฏิรูปการบริหารจัดการและการ<br />
ปรับปรุงโครงสร้าง กห. พ.ศ.๒๕๖๐ – ๒๕๖๙<br />
๖.๓ จัดทำและขับเคลื่อนการดำเนินการตามแผน<br />
ปฏิบัติการกลุ่มภารกิจงานรักษาความปลอดภัยในชีวิตและ<br />
ทรัพย์สิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐ สำหรับใช้ในการ<br />
บูรณาการ ติดตาม ขับเคลื่อนและกำกับดูแลการดำเนินงาน<br />
ของกลุ่มภารกิจงานฯ ตามแผนปฏิบัติการการแก้ไขปัญหาและ<br />
พัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.๒๕๕๘ – ๒๕๖๐ ให้เป็น<br />
ไปตามนโยบายของคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา<br />
จังหวัดชายแดนภาคใต้<br />
37
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
๖.๔ แผนปฏิบัติราชการ ตัวชี้วัดและคำรับรอง<br />
การปฏิบัติราชการของ สนผ.กห.(ฉบับปรับปรุง) ประจำปี<br />
งบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
๖.๔.๑ จัดทำแผนปฏิบัติราชการ ประจำปี<br />
งบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐ ของ สนผ.กห.(ฉบับปรับปรุง)<br />
เพื่อใช้เป็นกรอบแนวทางการปฏิบัติงานโดยสอดคล้องกับ<br />
แผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีฯ ของ สนผ.กห.<br />
๖.๔.๒ จัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง การ<br />
กำหนดตัวชี้วัดตามแผนปฏิบัติราชการ สนผ.กห. เพื่อเตรียม<br />
ความพร้อมในการจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการของ <strong>สป</strong>.<br />
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๑ ระหว่าง ๒ – ๔ พ.ย.๕๙ เพื่อ<br />
ให้หน่วยขึ้นตรงฯ มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการกำหนดตัว<br />
ชี้วัดและค่าเป้าหมายความสำเร็จ รวมถึงสามารถประเมินผล<br />
การปฏิบัติราชการได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ<br />
๖.๔.๓ จัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการ สนผ.<br />
กห. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐ เพื่อแสดงความมุ่งมั่น<br />
ในการยึดถือปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
๖.๕ ประสานการปฏิบัติและอำนวยการตรวจเยี่ยม<br />
โรงงานที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมบำรุงยุทโธปกรณ์ในความ<br />
ควบคุมของเหล่าทัพ โดย รมว.กห. และคณะผู้บังคับบัญชา<br />
ระดับสูง เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ของการเสริมสร้างความ<br />
ร่วมมือระหว่าง กห. กับภาคเอกชน และ กห.มิตรประเทศ<br />
ตามนโยบายเร่งด่วนของ รมว.กห. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.<br />
๒๕๖๐ ในการพัฒนากิจการด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ<br />
และการวิจัยพัฒนา เพื่อมุ่งสู่การผลิตใช้ในราชการและเพื่อ<br />
การพาณิชย์ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมภายในปี ๒๕๖๐ รวมทั้ง<br />
จัดทำบทสรุปข้อมูลการวิจัยพัฒนาและอุตสาหกรรมป้องกัน<br />
ประเทศของ กห. ซึ่งเป็นผลจากการตรวจเยี่ยมฯ เสนอ ครม.<br />
ทราบเมื่อ ๑๘ เม.ย.๖๐<br />
๖.๖ ประสานการปฏิบัติและอำนวยการตรวจเยี่ยม<br />
นขต. <strong>สป</strong>. ของ ปล.กห. ทั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานครและ<br />
ต่างจังหวัด<br />
๖.๗ จัดทำคำสั่งการเดินทางไปปฏิบัติราชการ เพื่อ<br />
ผลัดเปลี่ยนการปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจรักษาสันติภาพผสม<br />
ระหว่างสหภาพแอฟริกาและสหประชาชาติ ในดาร์ฟูร์ (UN-<br />
AMID) และในภารกิจของคณะผู้สังเกตการณ์ทางทหารของ<br />
สหประชาชาติในสาธารณรัฐอินเดียและสาธารณรัฐอิสลาม<br />
ปากีสถาน (UNMOGIP) ตลอดจนการขออนุมัติเดินทาง<br />
ไปราชการ เพื่อเข้าร่วมการประชุม ฝึก ศึกษา สัมมนา ณ<br />
ต่างประเทศ ของข้าราชการ <strong>สป</strong>. และผู้บังคับบัญชาระดับสูง<br />
ของ บก.ทท. และเหล่าทัพ<br />
๖.๘ ประสาน นขต. <strong>สป</strong>. เสนอความต้องการและ<br />
พิจารณาหลักสูตรเฉพาะทางตามภารกิจและความต้องการ<br />
ของหน่วย หรือในสาขาที่หน่วยขาดแคลน รวมทั้งหลักสูตร<br />
ในระดับปริญญาโท/ปริญญาเอก ในสาขาที่เป็นประโยชน์กับ<br />
การปฏิบัติงานของหน่วย และการพัฒนาทักษะการใช้ภาษา<br />
อังกฤษ ภาษาเวียดนามและภาษาจีน ณ ต่างประเทศ รวมทั้ง<br />
กำหนดแนวทางการปฏิบัติราชการของผู้เข้ารับศึกษาให้เกิด<br />
ประโยชน์สูงสุดต่อการปฏิบัติงานของหน่วย<br />
๖.๙ ประสานงานและสนับสนุนการจัดตั้งคณะ<br />
กรรมการตรวจสอบและประเมินผลประจา กห. เพื่อกำกับดูแล<br />
ระบบการตรวจสอบและประเมินผลของ กห. และหน่วยงาน<br />
ในสังกัดให้เป็นไปตามแนวทางที่คณะกรรมการตรวจสอบและ<br />
ประเมินผลภาคราชการกำหนด รวมทั้งติดตาม ตรวจสอบ<br />
และประเมินผลแผนงาน/โครงการ ผลการดำเนินงานและ<br />
สถานะทางการเงินของ กห. และหน่วยงานในสังกัดให้เป็น<br />
ไปอย่างมีประสิทธิภาพ<br />
๖.๑๐ กำหนดแนวทางและกรอบระยะเวลาดำเนินการ<br />
จัดทำอัตราข้าราชการพลเรือนกลาโหม ตามนโยบายเร่งด่วน<br />
ของ รมว.กห. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐ และแนวทาง<br />
การปฏิบัติงานของ ปล.กห. โดยกำหนดหน่วยงานนำร่องในการ<br />
จัดทำอัตราข้าราชการพลเรือนกลาโหม ตามความรับผิดชอบ<br />
เพื่อสามารถบรรจุข้าราชการพลเรือนกลาโหม ตั้งแต่๑ ต.ค.๖๐<br />
เป็นต้นไป<br />
๖.๑๑ การปรับปรุงแก้ไขโครงสร้างการจัดและอัตรา<br />
ของส่วนราชการ กห. ตามนโยบายรัฐบาล กห. และแผนหลัก<br />
ที่เกี่ยวข้องที่สำคัญ ได้แก่ ยกเลิกอัตราตำแหน่งประธานคณะ<br />
ที่ปรึกษาตามคำสั่ง คสช. การจัดตั้งสำนักงานประสานภารกิจ<br />
ด้านความมั่นคงกับ กอ.รมน.ของส่วนราชการ เพื่อสนับสนุน<br />
38
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
การปฏิบัติงานของ กอ.รมน.ตามนโยบาย นรม. การจัดตั้งศูนย์<br />
ไซเบอร์ทหารเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติงานด้าน<br />
ไซเบอร์ทหารของ บก.ทท. การจัดตั้งสำนักการฝึกและสำนัก<br />
การศึกษา ยศ.ทบ. รับผิดชอบงานด้านการฝึกและศึกษาใน<br />
ภาพรวมของ ทบ. ตลอดจนปรับปรุงโครงสร้างการจัดหน่วย<br />
สนับสนุนการปฏิบัติภารกิจพิเศษ เป็นต้น<br />
๖.๑๒ การจัดวิทยากรสนับสนุนหน่วยงานต่างๆ และ<br />
การเยี่ยมชมกิจการของ กห. และ <strong>สป</strong>. ได้แก่ ผู้เข้ารับการ<br />
อบรมหลักสูตรผู้ช่วยทูตทหารบกไทย/ต่างประเทศ หลักสูตร<br />
นายทหารสัญญาบัตรชั้นสูง กรมพระธรรมนูญ หลักสูตรหลัก<br />
ประจำวิทยาลัยการทัพบก หลักสูตรการจัดงานส่งกำลังบำรุง<br />
ชั้นสูง หลักสูตรชั้นนายพันเหล่าแผนที่ คณะวิทยาลัยป้องกัน<br />
ราชอาณาจักรมาเลเซีย และคณะนักการทูตบรรจุใหม่ของ<br />
กระทรวงการต่างประเทศ<br />
๖.๑๓ จัดการฝึกทหารใหม่(ทหารกองประจำการ ผลัด<br />
ที่ ๒/๕๙ และผลัดที่ ๑/๖๐) ระยะเวลา ๑๐ สัปดาห์ ตามคู่มือ<br />
การฝึกของ ยศ.ทบ. อาทิ การต้อนรับ การดำเนินด้านธุรการ<br />
การปรับสภาพร่างกายให้พร้อมรับการฝึก ๖ สถานีหลัก โดย<br />
หน่วยฝึกฯ ได้ดำเนินการฝึกอย่างค่อยเป็นค่อยไปและมีการ<br />
เฝ้าระวังอาการบาดเจ็บจากการฝึก มีการจัดทำแผนเผชิญ<br />
เหตุโรคลมร้อน โดยมีเสนารักษ์ประจำหน่วยฝึกคอยดูแลอย่าง<br />
ใกล้ชิด เพื่อให้ทหารมีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ พร้อม<br />
เป็นกำลังพลที่มีศักยภาพของหน่วยต่อไป<br />
อนุกรรมการ โดยจัดการประชุมคณะกรรมการเตรียมการฯ<br />
และเชิญพรรคการเมือง กลุ่มการเมือง และภาคส่วนต่างๆ มา<br />
ร่วมให้ข้อคิดเห็น และข้อเสนอแนะแก่คณะอนุกรรมการรับฟัง<br />
ความคิดเห็นฯ ในส่วนกลาง และการจัดการประชุมกลุ่มย่อย<br />
โดยเชิญพรรคการเมือง กลุ่มการเมือง และภาคส่วนต่างๆ ร่วม<br />
ทบทวนข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะที่ได้ให้ไว้แล้ว การสรุปผล<br />
การประชุมคณะกรรมการฯ และผลการดำเนินการของคณะ<br />
อนุกรรมการภายใต้คณะกรรมการเตรียมการฯ ได้แก่ การจัด<br />
ทำเอกสารความเห็นร่วมฯ และการจัดทำร่างสัญญาประชาคม<br />
๗. การสนับสนุนการดำเนินงานของรัฐบาลและ<br />
คณะรักษาความสงบแห่งชาติ<br />
๗.๑ ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะ<br />
กรรมการเตรียมการเพื่อสร้างความสามัคคีปรองดอง ซึ่ง<br />
มี นรม. เป็นประธาน โดยมี ปล.กห. เป็นเลขานุการ และ<br />
เป็นฝ่ายเลขานุการคณะอนุกรรมการรับฟังความคิดเห็นเพื่อ<br />
สร้างความสามัคคีปรองดอง โดยมี ปล.กห. เป็นประธาน<br />
ความเห็นร่วมฯ เพื่อนำกราบเรียน นรม. ในฐานะประธานคณะ<br />
กรรมการบริหารราชการแผ่นดินตามกรอบการปฏิรูปประเทศ<br />
ยุทธศาสตร์ชาติและการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.)<br />
เพื่อกรุณาทราบ และพิจารณาร่างสัญญาประชาคมความเห็น<br />
ร่วมฯ รวมทั้งการแถลงสัญญาประชาคมความเห็นร่วมเพื่อ<br />
สร้างความสามัคคีปรองดองต่อไป<br />
๗.๒ คณะอนุกรรมการโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำ<br />
เจ้าพระยา ด้านการออกแบบและภูมิสถาปัตย์ที่มี ปล.กห.<br />
เป็นประธานอนุกรรมการ ภายใต้คณะกรรมการอำนวยการ<br />
โครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำ<br />
เจ้าพระยา (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. และ รมว.กห.<br />
เป็นประธานกรรมการ) ได้ดำเนินการด้านการออกแบบ<br />
และภูมิสถาปัตย์ พร้อมทั้งส่งมอบรายละเอียดและรูปแบบ<br />
โครงการฯ ตามสัญญาให้กรุงเทพมหานครเรียบร้อยแล้ว<br />
39
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
๗.๓ ร่วมกับส่วนราชการต่างๆ สร้างการรับรู้ ความ<br />
เข้าใจให้กับประชาชนเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินของ<br />
รัฐบาลและ คสช. รวมทั้งผลการปฏิบัติงานของส่วนราชการให้<br />
เป็นไปอย่างถูกต้อง ต่อเนื่องและทั่วถึงทุกพื้นที่โดยจัดทา “ชุด<br />
คำพูด” (Theme Message) เสนอ ทบ. (กองกำลังรักษาความ<br />
สงบเรียบร้อย) เพื่อใช้ประโยชน์ในการสร้างความเข้าใจให้กับ<br />
ประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ตั้งแต่ ๑๑ ก.พ.๕๙<br />
๗.๔ การสนับสนุนรัฐบาลในการพัฒนาแหล่งน้ำและ<br />
ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ<br />
๗.๔.๑ จัดกำลังพลเข้าร่วมติดตามสถานการณ์<br />
และแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ ๑๒ จังหวัดภาคใต้ และ<br />
จ.ประจวบคีรีขันธ์ ณ กองบัญชาการป้องกันและบรรเทา<br />
สาธารณภัยแห่งชาติ การจัดคณะผู้แทนศูนย์บรรเทา<br />
สาธารณภัย กห. ลงพื้นที่ประเมินผลกระทบจากอุทกภัยและ<br />
เตรียมการสนับสนุนรัฐบาลในการฟื้นฟู ประสานงานและ<br />
กำกับดูแลการจัดหน่วยทหาร ดำเนินการซ่อมแซมบ้านและ<br />
สร้างบ้านใหม่ให้แก่ผู้ประสบอุทกภัย รวมทั้งการประสานงาน<br />
กับเครือข่ายภาคเอกชน เพื่อสนับสนุนอุปกรณ์และเครื่องมือช่าง<br />
ให้แก่หน่วยทหารในการสร้างที่พักอาศัย (บ้าน) ให้แก่<br />
ผู้ประสบภัย<br />
๗.๔.๒ สนับสนุนการดำเนินการพัฒนาแหล่งน้ำ<br />
ทั่วประเทศ ตามแนวทางคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ<br />
แห่งชาติและข้อสั่งการของ นรม. กำหนดดำเนินการใน ๔<br />
ระยะ โดยในระยะที่ ๑ การกำจัดขยะวัชพืชและผักตบชวา<br />
ในลำน้ำ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ระหว่าง ๒๕ - ๒๗ ก.ค.๖๐<br />
และในพื้นที่ต่างจังหวัด ระหว่าง ๒๙ - ๓๑ ก.ค.๖๐ ระยะที่ ๒<br />
การพัฒนาแหล่งน้ำตามแผนงาน/โครงการบริหารจัดการน้ำ<br />
ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามยุทธศาสตร์การบริหาร<br />
จัดการทรัพยากรน้ำและการแก้ปัญหาภัยแล้งของรัฐบาล<br />
ระยะที่ ๓ การพัฒนาแหล่งน้ำสาธารณะ ๑ อำเภอ ๑ แห่ง<br />
ในห้วง ส.ค. – ก.ย.๖๐ และระยะที่ ๔ การดำเนินการเพิ่มเติม<br />
จาก ระยะที่ ๒ และ ๓<br />
๗.๕ ดำเนินการตามข้อสั่งการของ นรม. และผลการ<br />
เดินทางเยือนราชอาณาจักรบาห์เรนอย่างเป็นทางการของ<br />
นรม. ในการประสานการจัดทำร่างแผนปฏิบัติการด้านการ<br />
แพทย์ระหว่างไทยกับบาห์เรน เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์<br />
และความร่วมมือระหว่างราชอาณาจักรไทยกับราชอาณาจักร<br />
บาห์เรน<br />
๗.๖ สนับสนุนการดำเนินงานของศูนย์แก้ไขปัญหา<br />
ความมั่นคงแบบบูรณาการ ณ ศาลาว่าการกลาโหม ตั้งแต่<br />
๑ ต.ค.๖๐ ทำหน้าที่ติดตาม อำนวยการ ประสานงานการ<br />
แก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติให้เป็นไป<br />
ด้วยความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพแบบบูรณาการ มีเอกภาพ<br />
ทั้งในด้านแนวความคิดและการปฏิบัติที่ทันต่อสถานการณ์<br />
มากยิ่งขึ้น<br />
๗.๗ จัดทำระเบียบปฏิบัติประจำว่าด้วยการจัดส่ง<br />
และรายงานประเด็นข่าวสำคัญที่ทันต่อสถานการณ์ของ <strong>สป</strong>.<br />
เพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดส่งและรายงานประเด็นข่าว<br />
สำคัญแก่รัฐบาล และ คสช. สนับสนุนการจัดเตรียมข้อมูลการ<br />
ประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวงหรือเทียบเท่า การ<br />
ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการ<br />
แผ่นดิน คณะที่ ๕ การติดตาม ขับเคลื่อนงานเร่งด่วนและการ<br />
เสนอประเด็นที่ต้องการความร่วมมือจากส่วนราชการ รวมถึง<br />
จัดทำรายงานความก้าวหน้าการดำเนินการของส่วนราชการ<br />
ตามข้อสั่งการของ นรม.<br />
๗.๘ รวบรวมและจัดทำข้อมูลสำหรับการแถลงผลงาน<br />
๒ ปี และ ๓ ปี ของรัฐบาล รวมทั้งจัดแสดงนิทรรศการผลงาน<br />
ที่สำคัญของรัฐบาล โดยดำเนินการในรูปแบบของกลุ่มงาน<br />
ด้านความมั่นคง ประกอบด้วย กระทรวงกลาโหม กระทรวง<br />
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย<br />
กระทรวงแรงงาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักข่าวกรอง<br />
แห่งชาติ สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ศูนย์อำนวย<br />
40
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
การบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้และสถาบันบริหารจัดการ<br />
ธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน)<br />
๘. งานด้านการสนับสนุนและงานอื่นๆ<br />
๘.๑ การจัดการประชุมในฐานะฝ่ายเลขาธิการใน<br />
การประชุมสภากลาโหม/และฝ่ายเลขานุการในการประชุม<br />
หน.นขต.<strong>สป</strong>. ตลอดจนการสนับสนุนการใช้ห้องประชุม<br />
อุปกรณ์ และเจ้าหน้าที่ สำหรับการประชุมภายในพื้นที่ศาลา<br />
ว่าการกลาโหม การประชุมทางไกลระหว่าง นขต.<strong>สป</strong>. และ<br />
ส่วนราชการภายนอก กห. รวมทั้งสนับสนุนเจ้าหน้าที่พร้อม<br />
อุปกรณ์เคลื่อนที่ เมื่อมีการประชุมนอกพื้นที่<br />
๘.๒ กิจกรรมสาธารณประโยชน์<br />
๘.๒.๑ สนับสนุนกำลังพลเข้าร่วมกิจกรรม<br />
ทำความสะอาดในพื้นที่โดยรอบศาลาว่าการกลาโหม เมื่อ ๑<br />
ธ.ค.๕๙ ณ ลานอเนกประสงค์ ในศาลาว่าการกลาโหม การ<br />
จัดกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ร่วมกับชุมชนสามแพร่ง<br />
เมื่อ ๒๑ ธ.ค.๕๙ ณ ชุมชนสามแพร่ง เขตพระนคร กรุงเทพฯ<br />
๘.๒.๒ จัดเลี้ยงอาหารกลางวันและมอบสิ่งของ<br />
แก่เด็กพิการและทุพพลภาพ บ้านนนทภูมิ เมื่อ ๒๗ ธ.ค.๕๙<br />
ณ สถานสงเคราะห์เด็กพิการและทุพพลภาพปากเกร็ด<br />
“บ้านนนทภูมิ”<br />
๘.๒.๓ ตรวจเยี่ยมครอบครัวของกำลังพลที่มีความ<br />
ต้องการพิเศษของ สนผ.กห. รวม ๔ ครอบครัว (๖ คน) โดย<br />
มี คุณพรรณิภา ศรีสุข อุปนายกสมาคมภริยาข้าราชการ <strong>สป</strong>./<br />
ประธานโครงการ “สายใยรักษ์เพื่อคนพิเศษ” เป็นหัวหน้าคณะ<br />
และคุณดวงพร รักเสนาะ ภริยา ผอ.สนผ.กห. ร่วมตรวจเยี่ยมฯ<br />
๘.๓ การจัดกิจกรรมเพื่อถวายความอาลัย และ<br />
บำเพ็ญพระราชกุศลถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทร<br />
มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่ง พัน.สห.<strong>สป</strong>. ร่วมกับ<br />
ชุมชนเทิดราชัน และสำนักงานเขตดอนเมือง จัดกิจกรรม<br />
ถวายความอาลัยและบำเพ็ญประโยชน์เพื่อเป็นพระราชกุศล<br />
ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช<br />
บรมนาถบพิตร ประกอบด้วย การร่วมร้องเพลงสรรเสริญ<br />
พระบารมี การจัดนิทรรศกาลรวบรวมผลงานโครงการตาม<br />
พระราชดำริ การทำความสะอาดวัดและคูคลองในบริเวณ<br />
ชุมชน รวมถึงการให้ความช่วยเหลือซ่อมแซมบ้านพักอาศัย<br />
ผู้ยากไร้ในบริเวณรอบหน่วย<br />
๘.๔ โครงการยุทธศาสตร์พระราชทานกับการแก้ไข<br />
ปัญหาที่สำคัญของชาติซึ่งได้น้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทานฯ<br />
มาปรับใช้ในการแก้ไขปัญหาที่สำคัญของชาติ ทั้งในด้าน<br />
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การพัฒนาคุณภาพชีวิต<br />
และความเป็นอยู่ของประชาชน ด้วยการดำเนินการอย่างมี<br />
ส่วนร่วมของทุกภาคส่วน สอดคล้องกับแนวทางประชารัฐ<br />
41
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
ตามนโยบายของรัฐบาล โดยร่วมกับมณฑลทหารบกที่ ๓๘<br />
ชมรมศิษย์เก่าศรีสวัสดิ์ รุ่นที่ ๒๘/๓๑ การศึกษานอกโรงเรียน<br />
ภูเพียง หน่วยจัดการต้นน้า น้ำแก่น–น้ำสา หน่วยป้องกันรักษา<br />
ป่าน่าน กลุ่มต้นน้ำมีชีวิตกลุ่มรวมพลคนทำฝาย Kozemboys<br />
และประชาชนหมู่บ้านดงป่าสัก (ห้วยก๋วง) ต.ฝายแก้ว อ.ภูเพียง<br />
จ.น่าน ดำเนินโครงการยุทธศาสตร์พระราชทานกับการแก้ไข<br />
ปัญหาที่สำคัญของชาติเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาท<br />
สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร<br />
ในพื้นที่ จ.น่าน ระหว่าง ๘ – ๑๒ ธ.ค.๕๙ ในการสร้างฝาย<br />
กึ่งถาวร ๑ ฝาย สร้างฝายธรรมชาติ ๕ ฝาย ปลูกไม้ยืนต้นและ<br />
พืชสวนครัว ขุดบ่อน้ำอุปโภค ๑๐ บ่อ สร้างโรงเลี้ยงเป็ดและ<br />
ไก่ ๑๐ โรง ซ่อมแซมบ้าน ๕ หลัง รวมทั้งสร้างโรงเพาะเห็ด<br />
และทำหัวเชื้อเห็ด ๒,๐๐๐ ก้อน<br />
42
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
กรมเสมียนตรา (สม.)<br />
ภารกิจ : มีหน้าที่พิจารณาเสนอนโยบาย อำนวยการ ประสานงาน และดำเนินการ<br />
เกี่ยวกับนโยบายและแผนงานการกำลังพล ตลอดจนการดำเนินการกำลังพลที่อยู่ใน<br />
อำนาจของปลัดกระทรวงกลาโหมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม การควบคุม<br />
กำกับดูแลการปฏิบัติของส่วนราชการในกระทรวงกลาโหมให้เป็นไปตามนโยบายด้านการ<br />
กำลังพลที่กระทรวงกลาโหมกำหนด การศึกษาอบรมในประเทศ การสวัสดิการของ<br />
ข้าราชการสำนักงานปลัดกระทรวง การสารบรรณ ราชการประจำทั่วไปของกระทรวงกลาโหม<br />
และปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย มีเจ้ากรมเสมียนตรา เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ<br />
พลเอก วิสุทธิ์ นาเงิน<br />
เจ้ากรมเสมียนตรา<br />
สรุปผลการปฏิบัติงานที ่สำคัญ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
- จัดกิจกรรมและเข้าร่วมพิธีเพื่อแสดงความจงรัก<br />
ภักดีต่อสถาบันและพระบรมวงศานุวงศ์ เพื่อเป็นการ<br />
แสดงออกถึงความจงรักภักดีในสถาบันพระมหากษัตริย์<br />
อันเป็นที่เคารพเทิดทูนของปวงชนชาวไทยทุกคน เช่น การวาง<br />
พานพุ่มดอกไม้ของ กห. ถวายเป็นราชสักการะพระบรม<br />
ราชานุสาวรีย์, จัดข้าราชการเฝ้ารับเสด็จและการเป็นเจ้าภาพ<br />
พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จ<br />
พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และพิธี<br />
บำเพ็ญกุศลสัตตมวาร (๗ วัน) พิธีบำเพ็ญกุศลปัณรสมวาร<br />
(๑๕ วัน) และพิธีบำเพ็ญกุศลปัญญาสมวาร (๕๐ วัน) และ<br />
พิธีบำเพ็ญพระราชกุศลสัตมวาร ครบรอบ ๑๐๐ วัน และการ<br />
จัดกิจกรรมทำบุญตักบาตร เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่<br />
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถ<br />
บพิตร และถวายพระพรแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิรา<br />
ลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร<br />
- การจัดกิจกรรมทำบุญตักบาตร เนื่องในเทศกาล<br />
วันขึ้นปีใหม่ ๒๕๖๐ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาท<br />
สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และ<br />
ถวายพระพรแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทร<br />
เทพยวรางกูร<br />
43
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
- กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว<br />
มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เนื่องในโอกาสมหามงคล<br />
เฉลิมพระชนมพรรษา ๖๕ พรรษา ได้จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์<br />
ถวายพระพรชัยมงคล และพิธีทำบุญตักบาตรถวายเป็น<br />
พระราชกุศล และจัดพิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคล ณ<br />
ห้องสุรศักดิ์มนตรี และพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพร<br />
ชัยมงคล และพิธีทำบุญตักบาตร เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล<br />
แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่๙<br />
เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๕ พรรษา และ<br />
พิธีลงนามถวายพระพร ในวันศุกร์ที่ ๑๑ ส.ค.๖๐<br />
- การปฏิบัติธรรมเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์<br />
กิจกรรมพัฒนาวัด พัฒนาจิตใจ กิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม<br />
จริยธรรม และกิจกรรมปฏิบัติธรรมและบำเพ็ญสาธารณประโยชน์<br />
เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทร<br />
มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และการดำเนินการ<br />
อบรมศีลธรรมแก่ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ และพนักงาน<br />
ราชการในสังกัด <strong>สป</strong>. ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๐<br />
- จัดทำบันทึกข้อตกลงกับกระทรวงแรงงาน<br />
ว่าด้วยการส่งเสริมการมีงานทำให้กับทหารกองประจำการ<br />
เพื่อฝึกอาชีพให้แก่ทหารกองประจำการตามความถนัด และ<br />
สอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน พร้อมทั้ง<br />
ประสานกับสถานประกอบการเพื่อจัดหางานให้หลังจาก<br />
ปลดประจำการไปแล้ว ทั้งนี้ ได้กำหนดหน่วยนำร่องในการ<br />
ดำเนินการและสำรวจความต้องการของทหารกองประจำ<br />
การที่ประสงค์จะฝึกอาชีพหรือจัดหางาน ประกอบด้วย<br />
กองพลทหารราบที่ ๙ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และ<br />
หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน โดยหลังจากนี้กระทรวงแรงงาน<br />
จะดำเนินการจัดฝึกอาชีพและนัดพบนายจ้างต่อไป<br />
- ดำเนินการจัดทำแผนพัฒนารายบุคคลสำหรับ<br />
ใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาตัวเองของกำลังพลให้ โดยมี<br />
วัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาจุดอ่อน และเสริมจุดแข็งของกำลังพล<br />
เพื่อเตรียมพร้อมให้มีคุณสมบัติความสามารถและศักยภาพใน<br />
การทำงาน<br />
- ดำเนินการจัดทำแผนบทเรียนการเรียนการสอน<br />
ภายในหน่วย เพื่อพัฒนาสมรรถนะกำลังพลของหน่วยโดยการ<br />
ให้ความรู้ การฝึกอบรม ปัจจุบันหน่วยได้จัดการเรียนการสอน<br />
ตามแผนบทเรียนภายในหน่วยให้กำลังพลเรียบร้อยแล้ว<br />
- เข้าร่วมประชุมและสัมมนาเพื่อจัดทำร่างแผน<br />
พัฒนาบุคลากรของ กห. ร่วมกับ บก.ทท. และเหล่าทัพ<br />
ปัจจุบันได้ดำเนินการวิเคราะห์บริบท ทิศทางเชิงยุทธศาสตร์<br />
จัดทำร่างวิสัยทัศน์ กำหนดประเด็นยุทธศาสตร์ในการพัฒนา<br />
บุคลากรของ กห. เรียบร้อยแล้ว โดยจะดำเนินการจัดทำแผน<br />
ให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณ ๒๕๖๑<br />
44
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
- ดำเนินการโครงการเกษียณอายุราชการก่อน<br />
กำหนดของ กห. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับลดจ ำนวนกำลังพล<br />
สูงอายุ รวมถึงการลดความคับคั่งของกำลังพลชั้นยศสูง โดย<br />
ในปีงบประมาณ ๒๕๖๑ มีผู้เข้าร่วมโครงการเกษียณอายุ<br />
ราชการก่อนกำหนดของ กห. จำนวนทั้งสิ้น ๘,๘๕๔ นาย ดังนี้<br />
๑. โครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดตาม<br />
มติสภากลาโหม จำนวน ๑๗ นาย<br />
๒. โครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด<br />
ตามมติคณะกรรมการข้าราชการทหาร (สิ้นสุดโครงการ<br />
ในปีงบประมาณ ๒๕๖๒ (ต.ค.๖๑) จำนวน ๑๖๒ นาย<br />
๓. โครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด<br />
ตามมติ ครม. (สิ้นสุดโครงการในปีงบประมาณ ๒๕๖๑/ต.ค.<br />
๖๐) จำนวน ๘,๖๗๕ นาย<br />
ทั้งนี้ ผลการดำเนินโครงการเกษียณอายุราชการ<br />
ก่อนกำหนดของ กห. ทั้ง ๓ รูปแบบ ในห้วง ๕ ปีที่ผ่านมา<br />
มีผู้เข้าร่วมโครงการ จำนวนทั้งสิ้น ๒๓,๙๗๗ นาย<br />
- ดำเนินการแก้ไขปรับปรุง และยกเลิก กฎ ข้อบังคับ<br />
ระเบียบ ให้มีความทันสมัย และสอดคล้องกับสภาวการณ์<br />
ปัจจุบัน ดังนี้<br />
๑. ข้อบังคับ กห.ว่าด้วยโรงเรียนช่างฝีมือทหาร<br />
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๖๐<br />
๒. ข้อบังคับ กห.ว่าด้วยกำหนดเวลาทำงานและ<br />
วันหยุดราชการ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.๒๕๖๐<br />
๓. ข้อบังคับ กห.ว่าด้วยกำหนดเวลาทำงานและ<br />
วันหยุดราชการ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ.๒๕๖๐<br />
๔. ระเบียบ กห.ว่าด้วยการคุ้มครองพยานในคดี<br />
อาญา (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.๒๕๖๐<br />
๕. ระเบียบ กห.ว่าด้วยเงินเพิ่มพิเศษสำหรับ<br />
ตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษของผู้บังคับอากาศยานไร้คนขับ<br />
พ.ศ.๒๕๖๐<br />
๖. ระเบียบ กห.ว่าด้วยเงินเพิ่มพิเศษสำหรับ<br />
ตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษของผู้ปฏิบัติงานด้านควบคุมอากาศยาน<br />
และแจ้งเตือน พ.ศ.๒๕๖๐<br />
๗. ระเบียบ กห.ว่าด้วยเงินเพิ่มประจำตำแหน่ง<br />
ที่มีเหตุพิเศษสำหรับหน่วยเรือ (ฉบับที่ ๕) ระเบียบ กห.<br />
ว่าด้วยเงินเพิ่มพิเศษสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษของผู้บังคับ<br />
อากาศยานไร้คนขับ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
๘. คำสั่ง กห.ที่ ๓๙๕/๒๕๖๐ เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์<br />
การเบิกจ่ายเงินเพิ่มค่าฝ่าอันตรายสำหรับผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับ<br />
การผลิต การทดลอง การซ่อม และการทำลายวัตถุระเบิดเป็น<br />
ครั้งคราว<br />
๙. ระเบียบ กห.ว่าด้วยการพิจารณาบำเหน็จ<br />
พิเศษในเวลาปกติ (ฉบับที่ ๔) ระเบียบ กห.ว่าด้วยเงินเพิ่ม<br />
พิเศษสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษของผู้บังคับอากาศยาน<br />
ไร้คนขับ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
- จัดทำระบบบริหารจัดการข้าราชการพลเรือน<br />
กลาโหม โดยในการประชุม กขท. ครั้งที่๑/๖๐ เมื่อ ๑๑ ม.ค.๖๐<br />
ที่ประชุมมีมติเห็นชอบ ร่าง พ.ร.ฎ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน<br />
กลาโหม พ.ศ. .... และในการประชุมสภากลาโหม ครั้งที่<br />
๑/๒๕๖๐ เมื่อ ๓๐ ม.ค.๖๐ สภากลาโหมได้กรุณาให้ความ<br />
เห็นชอบร่าง พ.ร.ฎ.ระเบียบข้าราชการพลเรือนกลาโหม พ.ศ.<br />
.... เรียบร้อยแล้วโดยร่าง พ.ร.ฎ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน<br />
กลาโหม พ.ศ. .... ได้นำเรียนเลขาธิการ ครม. ตามขั้นตอน<br />
และอยู่ระหว่างการหารือร่วมกับส่วนราชการต่างๆ ที่ได้ให้<br />
ข้อสังเกตเพิ่มเติม<br />
- ดำเนินการกฎหมายลำดับรอง แล้วเสร็จและ<br />
ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการข้าราชการทหาร และ<br />
สภากลาโหม เรียบร้อยแล้วมีจำนวน ๓ ฉบับ ประกอบด้วย<br />
๑. ร่างกฎกระทรวง ว่าด้วยโรค พ.ศ. .... ซึ่งออกตาม<br />
ความในมาตรา ๑๐ แห่ง พ.ร.ฎ.ระเบียบข้าราชการพลเรือน<br />
กลาโหม พ.ศ. .... ที่บัญญัติว่า ผู้ที่จะเข้ารับราชการเป็น<br />
ข้าราชการพลเรือนกลาโหม จะต้องไม่เป็นโรคที่ขัดต่อการ<br />
รับราชการ ซึ่งใช้มาตรฐานเดียวกันกับข้าราชการพลเรือนสามัญ<br />
แต่ในอนาคตหากเห็นว่าควรกำหนดโรคต้องห้ามเพิ่มเติม<br />
ก็สามารถดำเนินการออกเป็นข้อบังคับ กห. เพิ่มเติมได้เอง<br />
๒. ร่างกฎกระทรวง ว่าด้วยการทดลองปฏิบัติ<br />
หน้าที่ราชการและการพัฒนาข้าราชการพลเรือนกลาโหม<br />
ที่อยู่ระหว่างทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ พ.ศ. .... ร่างกฎ<br />
กระทรวงฉบับนี้ ได้วางหลักเกณฑ์ให้ข้าราชการพลเรือน<br />
กลาโหม ที่บรรจุใหม่ต้องทำการทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ<br />
โดยมีระยะเวลาไม่น้อยกว่า ๖ เดือน แต่ไม่เกิน ๑ ปี<br />
โดยผู้บังคับบัญชาจะทำการมอบหมายงานให้เป็น<br />
ลายลักษณ์อักษร ให้คำปรึกษาแนะนำ ติดตามเมื่อครบระยะ<br />
เวลาการทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ แล้วจัดทำบันทึกผล<br />
45
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
การทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ เพื่อส่งให้คณะกรรมการ<br />
ประเมินผลเป็นผู้พิจารณา หากผ่านเกณฑ์ที่กำหนดก็<br />
ให้มีคำสั่งให้รับราชการต่อไป หากไม่ผ่านเกณฑ์อาจให้<br />
ขยายเวลาทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ หรือมีคำสั่งให้ผู้นั้น<br />
ออกจากราชการก็ได้<br />
๓. ร่างกฎกระทรวง ว่าด้วยการกำหนดหลักเกณฑ์<br />
และวิธีการบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการพลเรือน<br />
กลาโหมและการให้ได้รับเงินเดือน พ.ศ. ....<br />
- จัดทำร่างระเบียบ กห.ว่าด้วยกำลังพลสำรอง<br />
เข้าทำหน้าที่ทหารเป็นการชั่วคราว พ.ศ. .... เพื่อใช้เป็นกรอบใน<br />
การบริหารจัดการบุคคลกำลังพลสำรอง และร่างระเบียบ กห.<br />
ว่าด้วยหลักเกณฑ์การได้รับเงินเดือน ค่าตอบแทนอย่างอื่นและ<br />
สิทธิประโยชน์ของกำลังพลสำรองเข้าทำหน้าที่ทหารเป็นการ<br />
ชั่วคราว พ.ศ. .... เพื่อใช้เป็นกรอบในการให้สิทธิประโยชน์และ<br />
ค่าตอบแทนให้กับกำลังพลสำรอง ซึ่งคณะกรรมการข้าราชการ<br />
ทหาร ได้ให้ความเห็นชอบแล้ว เมื่อ ๙ ส.ค.๖๐ ปัจจุบันอยู่<br />
ในระหว่างการนำรายละเอียดในเรื่องสิทธิประโยชน์และ<br />
ค่าตอบแทนขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลังเพื่อให้มี<br />
ผลบังคับใช้ต่อไป<br />
- ดำเนินการจัดทำและกำหนดคุณวุฒิท้ายอัตรา<br />
ของตำแหน่งแรกบรรจุ กำหนดประเภทสายงาน และ<br />
กลุ่มสายงาน พร้อมทั้งพิจารณาหลักเกณฑ์ วิธีการกำหนด<br />
ความก้าวหน้าตามสายงาน และการข้ามสายงานและ<br />
กลุ่มสายงาน โดยสามารถกำหนดประเภทสายงานของ<br />
นายทหารสัญญาบัตรได้ จำนวน ๔๔ สายงาน นายทหาร<br />
ประทวน จำนวน ๒๘ สายงาน เพื่อใช้เป็นแนวทางในการ<br />
ปรับปรุงมาตรฐานเฉพาะตำแหน่งที่เหมาะสมในภาพรวมต่อไป<br />
- จัดทำฐานข้อมูลกำลังพลของ <strong>สป</strong>. พัฒนาและ<br />
ปรับปรุงระบบการบริหารงานกำลังพลทางอิเล็กทรอนิกส์<br />
จำนวน ๑๒ ระบบงาน ผ่านทางระบบเครือข่ายอินทราเน็ต<br />
ของ <strong>สป</strong>. ดังนี้<br />
๑. ระบบงานเพื่อช่วยในการบริหารจัดการด้าน<br />
กำลังพล ๙ ระบบงาน ได้แก่ ระบบงานทะเบียนประวัติ<br />
ระบบงานบรรจุ ระบบงานยศ ระบบงานปรับย้าย ระบบงาน<br />
พิจารณาบำเหน็จความชอบ ระบบงานเครื่องราชอิสริยาภรณ์<br />
ระบบงานช่วยปฏิบัติราชการ ระบบงานการออกจากราชการ<br />
ระบบสารสนเทศสำหรับผู้บังคับบัญชา<br />
- จัดทำแนวทางการเทียบตำแหน่งสำหรับการรับ<br />
โอนข้าราชการพลเรือนสามัญเป็นข้าราชการทหารในชั้นยศ<br />
พล.ต. ขึ้นไป เพื่อใช้เป็นมาตรฐานของ กห. สำหรับการรับโอน<br />
ข้าราชการพลเรือนสามัญเป็นข้าราชการทหาร และสามารถ<br />
นำไปใช้ประโยชน์ในการดำเนินการด้านอื่นๆ อีกทั้ง เพื่อให้<br />
ข้าราชการทหารที่มีความรู้ ความสามารถ มีโอกาสเข้ารับ<br />
การสรรหาเพื่อดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ตามรัฐธรรมนูญ<br />
แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.๒๕๖๐ ได้กำหนดคุณสมบัติของ<br />
ผู้สมควรได้รับการสรรหาให้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ใน<br />
การเป็นผู้รับราชการหรือเคยรับราชการในตำแหน่งไม่ต่ำกว่า<br />
อธิบดีหรือหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่า ทั้งนี้ รมว.กห. ได้<br />
กรุณาอนุมัติใช้แนวทางการเทียบตำแหน่งดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว<br />
๒. ระบบงานเพื่อช่วยในการบริหารการพัฒนา<br />
กำลังพล ๓ ระบบงาน ได้แก่ ระบบมาตรฐานเฉพาะตำแหน่ง<br />
ระบบบริหารผลการปฏิบัติงานทางอิเล็กทรอนิกส์ และ<br />
ระบบงานการพัฒนาบุคลากร ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่าง<br />
การปรับปรุงระบบให้ครอบคลุม ตรงตามเงื่อนไขและสะดวก<br />
ต่อการใช้งาน<br />
- ดำเนินการจัดทำแผนงานการกำลังพลของ<br />
สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ระยะ ๕ ปี เพื่อใช้เป็น<br />
แนวทางในการจัดหากำลังพลได้อย่างเหมาะสมตามความ<br />
ต้องการและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งทบทวน และ<br />
ปรับปรุงนโยบายการกำลังพลของ <strong>สป</strong>. ให้มีความทันสมัย<br />
สอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน<br />
46
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
- ดำเนินการปรับปรุงสิทธิประโยชน์ให้กับกำลังพล<br />
ใน กห. เพื่อสร้างขวัญ กำลังใจ และครอบคลุมในด้านต่างๆ<br />
อย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาวการณ์ตามนโยบายของ<br />
รมว.กห. สรุปผลการปฏิบัติที่สำคัญได้ ดังนี้<br />
๑. ในรอบปีงบประมาณ ๒๕๖๐ ที่ผ่านมา คณะ<br />
กรรมการข้าราชการทหาร ได้ให้ความเห็นชอบกำหนด<br />
ตำแหน่งข้าราชการทหารให้เป็นตำแหน่งที่มีสิทธิได้รับเงิน<br />
ประจำตำแหน่งประเภทบริหาร ประเภทวิชาชีพเฉพาะ<br />
และประเภทเชี่ยวชาญเฉพาะ เพื่อให้ได้รับค่าตอบแทนที่<br />
เหมาะสมกับหน้าที่ความรับผิดชอบ ความรู้เฉพาะทาง และ<br />
ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รวมทั้งสิ้น ๒๕๘ ตำแหน่ง ๗๖๙<br />
อัตรา คิดเป็นเงินงบประมาณ จำนวน ๖.๗ ล้านบาทเศษ<br />
- คณะกรรมการข้าราชการทหาร พิจารณาปรับปรุง<br />
วิธีการรับเงินเดือนโดยกำหนดร่างหลักเกณฑ์และวิธีการ<br />
เยียวยาให้แก่ข้าราชการทหารผู้ได้รับผลกระทบจากความ<br />
เหลื่อมล้ำของอัตราเงินเดือน ระหว่างอัตราเงินเดือนของ<br />
ข้าราชการทหารกับข้าราชการพลเรือนสามัญ เสนอต่อ ครม.<br />
โดยได้ให้ความเห็นชอบแล้ว เมื่อ ๔ ม.ค.๖๐<br />
- กำหนดเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษของ<br />
เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการนิวเคลียร์ ชีวะ เคมี สำหรับนายทหาร<br />
สัญญาบัตรในอัตรา ๕,๐๐๐ บาทต่อเดือน และนายทหาร<br />
ประทวนในอัตรา ๓,๘๐๐ บาทต่อเดือน ปัจจุบันอยู่ระหว่าง<br />
การนำเข้าพิจารณาในคณะกรรมการข้าราชการทหาร<br />
- ดำเนินการแก้ไขพระราชกฤษฎีกาการได้รับเงิน<br />
ประจำตำแหน่งของข้าราชการทหาร พ.ศ.๒๕๕๓ (เพิ่มเติม<br />
สาขาวิชาชีพเฉพาะ) โดยคณะกรรมการข้าราชการทหาร ได้มี<br />
มติเห็นชอบกับ ร่าง พ.ร.ฎ.การได้รับเงินประจำตำแหน่งของ<br />
ข้าราชการทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งเป็นการแก้ไขเพิ่มเติม<br />
พ.ร.ฎ.การได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการทหาร พ.ศ.<br />
๒๕๕๓ เพื่อเพิ่มเติมสาขาวิชาชีพเฉพาะ จำนวน ๖ สาขา ให้<br />
ครอบคลุมการปฏิบัติหน้าที่ที่มีลักษณะงานซึ่งต้องใช้วิชาชีพ<br />
ในปัจจุบันอันจะเป็นการก่อให้เกิดสิทธิในการรับเงินประจำ<br />
ตำแหน่ง และเป็นการสร้างขวัญ กำลังใจให้กับข้าราชการ<br />
ทหารซึ่งปฏิบัติงานที่ต้องใช้วิชาชีพที่กำหนดเพิ่มเติม ขณะนี้<br />
ร่าง พ.ร.ฎ. อยู่ระหว่างนำเสนอเข้าพิจารณาในที่ประชุม ครม.<br />
- การเตรียมการรองรับการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการ<br />
รับเงินประจำตำแหน่งข้าราชการทหารประเภทวิชาการและ<br />
การกำหนดเงินประจำตำแหน่งประเภทวิทยฐานะ โดยคณะ<br />
กรรมการข้าราชการทหาร ได้มีมติเห็นชอบให้แก้ไขหลักเกณฑ์<br />
การเข้าสู่ตำแหน่งทางวิชาการเพื่อเปิดโอกาสให้กับผู้มีขีดความ<br />
สามารถทางด้านวิชาการ สามารถดำรงตำแหน่งทางวิชาการ<br />
ได้โดยไม่ผูกติดกับชั้นยศ และกำหนดหลักเกณฑ์การได้รับ<br />
เงินประจำตำแหน่งให้กับข้าราชการทหารที่ได้รับการแต่งตั้ง<br />
ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิทยฐานะโดยการปรับปรุงบัญชี<br />
อัตราเงินประจำตำแหน่งข้าราชการทหารประเภทวิชาการ<br />
(ตำแหน่ง ศ., รศ., ผศ.) จากเดิมที่กำหนดชั้นยศควบคู่กับ<br />
ตำแหน่งทางวิชาการ ให้เหลือเพียงตำแหน่งทางวิชาการ<br />
รวมทั้งเพิ่มเติมบัญชีเงินประจำตำแหน่งประเภทวิทยฐานะ<br />
แนบท้าย พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการทหาร พ.ศ.๒๕๒๑ และมี<br />
มติให้แก้ไข พ.ร.ฎ.การได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการ<br />
ทหาร พ.ศ.๒๕๕๓ เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ให้ผู้บริหาร ซึ่งมี<br />
ตำแหน่งทางวิชาการ ให้ได้รับเงินประจำตำแหน่งทั้งประเภท<br />
บริหารและประเภทวิชาการ พร้อมทั้งมีสิทธิได้รับเงิน<br />
ค่าตอบแทนจำนวนเท่ากับเงินประจำตำแหน่งที่มีอัตราสูงกว่า<br />
เช่นเดียวกับข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ตลอดจน<br />
กำหนดหลักเกณฑ์การได้รับเงินประจำตำแหน่งให้กับ<br />
ข้าราชการทหารที่ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภท<br />
วิทยฐานะนั้น กองงานคณะกรรมการข้าราชการทหาร<br />
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกลาโหม สม.ได้จัดการ<br />
สัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อเตรียมการรองรับการแก้ไขกฎหมาย<br />
ดังกล่าวแล้ว ซึ่งขณะนี้ ร่าง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการทหาร<br />
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และ ร่าง พ.ร.ฎ.การได้รับเงินประจำ<br />
ตำแหน่งของข้าราชการทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... อยู่ระหว่าง<br />
การพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกา<br />
- ดำเนินการจัดส่งข้าราชการเข้ารับการศึกษาเพิ่มเติม<br />
ให้สอดคล้องกับหน้าที่ จำนวน ๖๐ หลักสูตร ๖๖๓ นาย<br />
แบ่งเป็นหลักสูตรตามแนวทางการรับราชการ จำนวน ๓๖<br />
หลักสูตร และหลักสูตรเพิ่มพูนความรู้ จำนวน ๒๔ หลักสูตร<br />
- มอบทุนการศึกษาให้กับข้าราชการเพื่อพัฒนา<br />
ตนเองให้สอดคล้องกับการปฏิบัติงานในหน้าที่ได้อย่างมี<br />
ประสิทธิภาพ ได้แก่ ระดับปริญญาโท จำนวน ๑๓ ทุน, ระดับ<br />
ปริญญาตรี จำนวน ๑๒ ทุน, ระดับต่ำกว่าปริญญาตรี จำนวน<br />
๓ ทุน และหลักสูตรระยะสั้น จำนวน ๓๐ ทุน รวมทั้งจัดให้มี<br />
47
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
การอบรมหลักสูตรที่เกิดประโยชน์ต่อการปฏิบัติงานในอนาคต<br />
ได้แก่ หลักสูตรนายทหารชั้นต้นของ สม., หลักสูตรนายทหาร<br />
กำลังพลของ <strong>สป</strong>. และหลักสูตรการฝึกข้าราชการบรรจุใหม่<br />
- ดำเนินการตามนโยบายของ ปล.กห. โดยให้ความ<br />
สำคัญในการดูแลข้าราชการชั้นผู้น้อยและครอบครัว เพื่อให้<br />
มีขวัญกำลังใจและคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถดำรงชีวิตได้อย่าง<br />
เหมาะสม มีเกียรติและศักดิ์ศรีตามแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจ<br />
พอเพียง ได้แก่การปรับปรุงบริการขนส่งระหว่างที่ทำงานและ<br />
อาคารที่พักอาศัย การบริการทางการแพทย์ให้กำลังพลและ<br />
ครอบครัวในพื้นที่อาคารที่พักอาศัย และกำหนดแผนงานการ<br />
ปรับปรุงอาคารที่พักอาศัย รวมทั้งกิจกรรมสันทนาการและ<br />
กีฬาให้กับครอบครัว และบุตรหลานกำลังพลอย่างต่อเนื่อง<br />
- รอง ปล.กห./ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกัน<br />
และปราบปรามยาเสพติด <strong>สป</strong>. และคณะได้เดินทางไปตรวจ<br />
เยี่ยมการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่<br />
ศูนย์พัฒนาปิโตรเลียมภาคเหนือฯ รวมทั้งจัดกิจกรรมกีฬา<br />
ต้านภัยยาเสพติดและทัศนศึกษานอกสถานที่ ให้กับเยาวชน<br />
บุตรหลาน ของข้าราชการ ลูกจ้าง และพนักงานราชการใน<br />
สังกัด <strong>สป</strong>. เพื่ออบรมให้เยาวชนมีระเบียบวินัย รู้จักการเสียสละ<br />
ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและครอบครัว เสริมสร้าง<br />
พฤติกรรมที่ดีในการดำเนินชีวิตเพื่อป้องกันให้ห่างไกล<br />
ยาเสพติด<br />
48
สำนักงบประมาณกลาโหม (สงป.กห.)<br />
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
ภารกิจ : มีหน้าที่พิจารณา เสนอนโยบาย อำนวยการ ประสานงาน และดำเนินการ<br />
เกี่ยวกับการงบประมาณ การบริหารทรัพยากรและงานในสายงานงบประมาณอื่นๆ<br />
ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งควบคุม กำกับ ดูแลการปฏิบัติของส่วนราชการในกระทรวง<br />
กลาโหม ให้เป็นไปตามนโยบายด้านงบประมาณที่กระทรวงกลาโหมกำหนด<br />
มีผู้อำนวยการสำนักงบประมาณกลาโหม เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ<br />
พลเอก สุวโรจน์ ทิพย์มงคล<br />
ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณกลาโหม<br />
สรุปผลการปฏิบัติงานที ่สำคัญ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
งานตามประเด็นยุทธศาสตร์ของ <strong>สป</strong>. ที่หน่วยรับผิดชอบ<br />
หรือสนับสนุน<br />
กห. ได้รับการจัดสรรงบประมาณตาม พ.ร.บ.<br />
งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐ จำนวน<br />
ทั้งสิ้น ๒๑๓,๕๔๔ ล้านบาทเศษ สูงกว่างบประมาณรายจ่าย<br />
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๙ จำนวน ๗,๐๘๒ ล้านบาทเศษ<br />
หรือสูงกว่าร้อยละ ๓.๔๓ โดยคิดเป็นร้อยละ ๑.๔๔ ของ<br />
GDP หรือคิดเป็นร้อยละ ๗.๘๑ ของงบประมาณประเทศ<br />
ประกอบด้วยงบประมาณจำแนกตามส่วนราชการได้ ดังนี้<br />
49
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
ส่วนราชการ<br />
<strong>สป</strong>.<br />
<strong>สป</strong>.<br />
อผศ.<br />
นถปภ.รอ.<br />
รอ.<br />
บก.ทท.<br />
ทบ.<br />
ทร.<br />
ทอ.<br />
สทป.<br />
ปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๙<br />
พ.ร.บ.ฯ สัดส่วน<br />
๘,๖๗๔.๙๘๙๐<br />
๕,๗๗๓.๓๒๓๔<br />
๑,๘๘๙.๐๖๕๗<br />
๑,๐๑๒,๕๙๙๙<br />
๗๔๒.๒๘๓๒<br />
๑๕,๘๒๒.๙๒๙๙<br />
๑๐๑,๔๒๖,๘๔๕๑<br />
๔๐,๓๙๕,๔๑๗๓<br />
๓๘,๒๐๘,๕๗๒๓<br />
๑,๑๙๐.๒๗๔๑<br />
๔.๒๐%<br />
๒.๘๐%<br />
๐.๙๑%<br />
๐.๔๙%<br />
๐.๓๖%<br />
๗.๖๖%<br />
๔๙.๑๓%<br />
๑๙.๕๗%<br />
๑๘.๕๑%<br />
๐.๕๘%<br />
เสนอขอ<br />
๑๐,๑๓๙.๐๐๕๖<br />
๖,๘๘๘,๕๗๓๒<br />
๒,๐๐๘,๗๒๓๓<br />
๑,๒๔๑.๗๐๙๑<br />
๘๗๓,.๒๑๙๗<br />
๑๘,๐๖๐.๒๖๒๖<br />
๑๑๔,๕๘๒.๑๔๐๙<br />
๔๕,๕๔๕.๐๒๘๐<br />
๔๒,๔๑๗.๓๑๐๘<br />
๑,๕๑๕.๓๓๙๐<br />
๙,๑๓๒.๘๓๔๘<br />
๕,๙๕๖.๔๑๔๖<br />
๑,๙๔๗.๔๓๑๑<br />
๑,๒๒๘,๙๘๙๑<br />
๘๕๙.๘๑๒๖<br />
๑๖,๓๗๗.๔๑๘๔<br />
๑๐๔,๙๔๕.๑๔๖๖<br />
๔๑,๙๓๓.๐๖๑๖<br />
๓๙,๐๘๘.๘๙๖๑<br />
๑,๒๐๖.๘๔๙๓<br />
๔.๒๘%<br />
๒.๗๙%<br />
๐.๙๑%<br />
๐.๕๘%<br />
๐.๔๐%<br />
๗.๖๗%<br />
๔๙.๑๔%<br />
๑๙.๖๔%<br />
๑๘.๓๐%<br />
๐.๕๗%<br />
๔๕๗,๘๔๕๘<br />
๑๘๓.๐๙๑๒<br />
๕๘.๓๖๕๔<br />
๒๑๖.๓๘๙๒<br />
๑๑๗.๕๒๙๔<br />
๕๕๔.๔๘๘๕<br />
๓,๕๑๘.๓๐๑๕<br />
๑,๕๓๗.๖๔๔๓<br />
๘๘๐.๓๒๓๘<br />
๑๖.๕๗๕๒<br />
หน่วย : ล้านบาท<br />
ปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
ได้รับ สัดส่วน เพิ่ม/ลดจากปี ๕๙<br />
๕.๒๘%<br />
๓.๑๗%<br />
๓.๐๙%<br />
๒๑.๓๗%<br />
๑๕.๘๓%<br />
๓.๕๐%<br />
๓.๔๗%<br />
๓.๘๑%<br />
๒.๓๐%<br />
๑.๓๙%<br />
รวมทั้งสิ้น<br />
๑๐๐.๐๐% ๒๓๓,๑๓๒,๓๐๖๖ ๒๑๓,๕๔๔.๐๑๙๔ ๑๐๐.๐๐% ๗,๐๘๒.๗๐๘๕ ๓.๔๓%<br />
โดยวงเงินงบประมาณดังกล่าว เป็นงบประมาณสำหรับ<br />
ดำเนินภารกิจตามแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ<br />
พ.ศ.๒๕๖๐ ของ กห. ใน ๖ ยุทธศาสตร์ ๑ รายการ ดังนี้<br />
๑. ยุทธศาสตร์ที่ ๑ การพิทักษ์รักษาและเทิดทูนสถาบัน<br />
พระมหากษัตริย์ ได้รับการจัดสรร จำนวน ๑,๒๕๗.๙๓๔๒<br />
ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๐.๕๙ ของวงเงินทั้งสิ้น ประกอบ<br />
ด้วย<br />
๑.๑ การปฏิบัติภารกิจประจำพื้นฐานของหน่วย<br />
ในการถวายความปลอดภัย การถวายพระเกียรติ และปฏิบัติ<br />
ตามพระราชประสงค์ เพื่อให้สถาบันพระมหากษัตริย์มีความ<br />
ปลอดภัยสูงสุด จำนวน ๑,๐๙๖.๘๕๓๔ ล้านบาท คิดเป็น<br />
ร้อยละ ๐.๕๑<br />
๑.๒ โครงการเทิดทูน ป้องกัน รวมทั้งตอบโต้และ<br />
ทำความเข้าใจให้มีการล่วงละเมิดสถาบันพระมหากษัตริย์<br />
จำนวน ๑๖๑.๐๘๐๘ ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๐.๐๘ ของ<br />
วงเงิน<br />
๒. ยุทธศาสตร์ที่ ๒ การป้องกันประเทศ ได้รับการจัดสรร<br />
จำนวน ๑๐๐,๒๑๙.๔๔๘๙ ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ<br />
๔๖.๙๓ ของวงเงินทั้งสิ้น ประกอบด้วย<br />
๒.๑ การปฏิบัติภารกิจพื้นฐานในการเสริมสร้าง<br />
ศักยภาพการป้องกันประเทศ และการรักษาความมั่นคง<br />
ภายใน จำนวน ๙๒,๖๓๑.๓๙๙๐ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ<br />
๔๓.๓๘<br />
๒.๒ โครงการพัฒนาขีดความสามารถของกองทัพเพื่อ<br />
ให้กองทัพมียุทโธปกรณ์ที่จำเป็นและเพียงพอต่อการป้องกัน<br />
ประเทศ จำนวน ๖,๗๙๙.๒๕๓๘ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ<br />
๓.๑๘<br />
๒.๓ การดำเนินงานภายใต้แผนงานบูรณาการส่งเสริม<br />
การวิจัยและพัฒนา เพื่อสนับสนุนการวิจัยและผลงานวิจัยให้<br />
สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนากองทัพ จำนวน<br />
๗๘๘.๗๙๗๑ ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๐.๓๗<br />
๓. ยุทธศาสตร์ที่ ๓ การรักษาความมั่นคงของรัฐ ได้รับ<br />
การจัดสรร จำนวน ๑,๔๙๐.๘๐๕๓ ล้านบาท หรือคิดเป็น<br />
ร้อยละ ๐.๗๐ ของวงเงินทั้งสิ้น โดยเป็นการดำเนินงาน<br />
ภายใต้แผนงานบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัด<br />
ชายแดนภาคใต้ เพื่อให้สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่<br />
จังหวัดชายแดนภาคใต้มีแนวโน้มที่ดีขึ้น ด้วยการปฏิบัติการ<br />
ด้านยุทธการ การปฏิบัติการด้านการข่าว การส่งเสริมอาชีพ<br />
และพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ รวมทั้ง<br />
เสริมสร้างความสัมพันธ์กับประชาชน<br />
๔. ยุทธศาสตร์ที่ ๔ การสร้างความร่วมมือด้าน<br />
ความมั่นคงกับต่างประเทศ ได้รับการจัดสรร จำนวน<br />
๑,๓๐๐.๒๘๑๑ ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๐.๖๑ ของวงเงิน<br />
ทั้งสิ้น ประกอบด้วย<br />
๔.๑ โครงการดำเนินงานความร่วมมือด้านความ<br />
มั่นคงในกรอบอาเซียนเพื่อเสริมสร้าง พัฒนากลไกความ<br />
ร่วมมือทางทหารกับประเทศสมาชิกอาเซียน ยกระดับความ<br />
50
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
สามารถในการปฏิบัติการร่วมกัน แลกเปลี่ยนความรู้และ<br />
ประสบการณ์ต่างๆ รวมทั้งส่งเสริมบทบาทของประชาคม<br />
อาเซียนในเวทีนานาชาติ จำนวน ๑๐๖.๕๘๑๕ ล้านบาท<br />
หรือคิดเป็นร้อยละ ๐.๐๕<br />
๔.๒ การปฏิบัติภารกิจพื้นฐานในการเสริมสร้างความ<br />
สัมพันธ์ด้านความมั่นคงกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อความสัมพันธ์<br />
ทางทหารที่ดีและบทบาทในการปฏิบัติการเพื่อสันติภาพ<br />
ในกรอบสหประชาชาติ และเวทีระหว่างประเทศนานาชาติ<br />
จำนวน ๑,๑๙๓.๖๙๙๖ ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๐.๕๖<br />
๕. ยุทธศาสตร์ที่ ๕ การพัฒนาประเทศและช่วยเหลือ<br />
ประชาชน ได้รับการจัดสรร จำนวน ๓,๗๙๒.๙๙๓๖ ล้านบาท<br />
หรือคิดเป็นร้อยละ ๑.๗๘ ของวงเงินทั้งสิ้น ประกอบด้วย<br />
๕.๑ การดำเนินการตามแผนงานบูรณาการสร้าง<br />
ความปรองดองและสมานฉันท์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ<br />
ในการรักษาความสงบเรียบร้อยภายในบนพื้นฐานของความ<br />
สมานฉันท์จำนวน ๕๙.๗๘๙๔ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๐.๐๓<br />
๕.๒ การดำเนินการตามแผนงานบูรณาการป้องกัน<br />
ปราบปราม และบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด เพื่อให้ประชาชน<br />
กลุ่มเป้าหมายได้รับการสร้างภูมิคุ้มกัน และการบำบัดฟื้นฟู<br />
ให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้ตามปกติ รวมถึงการลด<br />
การนำเข้าและตัดวงจรการค้ายาเสพติด จำนวน ๓๓๒.๒๕๘๒<br />
ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๐.๑๖<br />
๕.๓ การปฏิบัติภารกิจพื้นฐานในการพัฒนาโครงสร้าง<br />
พื้นฐานและการช่วยเหลือประชาชน เพื่อยกระดับประชาชน<br />
ในพื้นที่ดำเนินการที่ กห. ได้รับมอบหมาย มีความเป็นอยู่<br />
ที่ดีขึ้น และรักษาผลประโยชน์ของชาติ ได้รับจำนวน<br />
๓,๓๗๕.๑๔๐๖ ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๑.๕๘<br />
๕.๔ การดำเนินการตามแผนงานบูรณาการพัฒนา<br />
พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษพุน้ำร้อน จ.กาญจนบุรี เพื่อให้พื้นที่<br />
ดังกล่าวได้รับความคุ้มครอง การจัดระบบโครงสร้างพื้นฐาน<br />
ด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และความมั่นคงที่ได้<br />
มาตรฐานและมีความปลอดภัย จำนวน ๒๕.๘๐๕๔ ล้านบาท<br />
คิดเป็นร้อยละ ๐.๐๑<br />
๖. ยุทธศาสตร์ที่ ๖ การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกเพื่อ<br />
ความมั่นคง ได้รับการจัดสรร จำนวน ๑,๑๗๗.๕๒๖๗<br />
ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๐.๕๕ ของวงเงินทั้งสิ้น เพื่อ<br />
ดำเนินการในภารกิจพื้นฐานในการสงเคราะห์ทหารผ่านศึก<br />
และครอบครัว ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีมีเกียรติและศักดิ์ศรี<br />
ตลอดจนสร้างขวัญและกำลังใจ และสนับสนุนการมีส่วนร่วม<br />
ในภารกิจการป้องกันภัยคุกคามต่อความมั่นคงของรัฐ<br />
๗. รายการค่าดำเนินการภาครัฐ สำหรับเป็นค่าใช้จ่าย<br />
ในแผนงานบุคลากรภาครัฐ เสริมสร้างความมั่นคงของสถาบัน<br />
หลักของชาติและแผนงานบุคลากรภาครัฐ เสริมสร้างศักยภาพ<br />
การป้องกันประเทศ จำนวน ๑๐๔,๓๐๕.๐๒๙๖ ล้านบาท<br />
คิดเป็นร้อยละ ๔๘.๘๔ ของวงเงินทั้งสิ้น<br />
วงเงินงบประมาณของกระทรวงกลาโหม สามารถ<br />
จำแนกตามโครงสร้างงบประมาณรายจ่ายประจำ<br />
ปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐ ของรัฐบาลได้ ดังนี้<br />
๑. กลุ่มงบประมาณรายจ่าย กระทรวง/หน่วยงาน<br />
(Function) จำนวนทั้งสิ้น ๒๑๐,๘๔๖.๕๖๕๐ ล้านบาท<br />
คิดเป็นร้อยละ ๙๘.๗๔ ของวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น ประกอบ<br />
ด้วย<br />
๑.๑ แผนงานบุคลากรภาครัฐ จำนวน<br />
๑๐๔,๓๐๕.๐๒๙๖ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๔๘.๘๔<br />
๑.๒ แผนงานพื้นฐาน จำนวน ๙๖,๐๙๙.๔๗๘๗<br />
ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๔๕.๐๐<br />
๑.๓ แผนงานยุทธศาสตร์จำนวน ๑๐,๔๔๒.๐๕๖๗<br />
ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๔.๘๙<br />
๒. กลุ่มงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ (Agenda)<br />
จำนวนทั้งสิ้น ๒,๖๗๑.๖๔๙๐ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๑.๒๕<br />
ของวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น ประกอบด้วย<br />
๒.๑ แผนงานบูรณาการสร้างความปรองดองและ<br />
สมานฉันท์จำนวน ๕๙.๗๘๙๔ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๐.๐๓<br />
๒.๒ แผนงานบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา<br />
จังหวัดชายแดนใต้ จำนวน ๑,๔๙๐.๘๐๕๓ ล้านบาท คิดเป็น<br />
ร้อยละ ๐.๗๐<br />
๒.๓ แผนงานบูรณาการป้องกัน ปราบปราม และ<br />
บำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด จำนวน ๓๓๒.๒๕๘๒ ล้านบาท<br />
คิดเป็นร้อยละ ๐.๑๖<br />
๒.๔ แผนงานบูรณาการส่งเสริมการวิจัยและ<br />
พัฒนา จำนวน ๗๘๘.๗๙๖๑ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๐.๓๗<br />
๓. กลุ่มงบประมาณรายจ่ายพื้นที่ (Area) จำนวน<br />
๒๕.๘๐๕๔ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๐.๐๑ เป็นงบประมาณ<br />
ในแผนงานบูรณาการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ<br />
พุน้ำร้อน โดยคำของบประมาณดังกล่าว มีสาระสำคัญของ<br />
วงเงินงบประมาณสามารถจำแนกตามประเภทค่าใช้จ่าย ดังนี้<br />
๓.๑ รายจ่ายประจำขั้นต่ำที่จำเป็น ได้รับจำนวน<br />
๑๐๗,๐๓๘.๕๑๙๘ ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๕๐.๑๒<br />
ของวงเงินทั้งสิ้น<br />
51
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
๓.๒ ค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติภารกิจประจำพื้นฐาน<br />
ได้รับจำนวน ๔๗,๗๙๑.๙๓๕๓ ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ<br />
๒๒.๓๘ ของวงเงินทั้งสิ้น<br />
๓.๓ โครงการเสริมสร้างกำลังกองทัพที่เป็นภาระ<br />
ผูกพันเดิม ได้รับจำนวน ๒๗,๘๒๒.๗๘๔๑ ล้านบาท หรือคิดเป็น<br />
ร้อยละ ๑๓.๐๓ ของวงเงินทั้งสิ้น ซึ่งส่วนราชการจำเป็นต้อง<br />
เสนอขอตั้งตามข้อผูกพันสัญญาในปีงบประมาณ ๒๕๖๐<br />
จำนวน ๖๕ โครงการ<br />
๓.๔ โครงการเสริมสร้างกำลังกองทัพ ได้รับจำนวน<br />
๒๙๗ โครงการ วงเงิน ๓๐,๘๙๐.๗๘๐๒ ล้านบาท หรือคิด<br />
เป็นร้อยละ ๑๔.๔๗ ของวงเงินทั้งสิ้น ประกอบด้วย โครงการ<br />
ปีเดียว จำนวน ๒๖๗ โครงการ เป็นเงิน ๒๒,๔๐๘.๙๗๖๖<br />
ล้านบาท และโครงการผูกพันใหม่ จำนวน ๓๐ โครงการ<br />
เป็นเงิน ๘,๔๘๑.๘๐๓๖ ล้านบาทเศษ<br />
งานตามภารกิจหน่วย<br />
๑. การดำเนินงานด้านงบประมาณในปีงบประมาณ<br />
พ.ศ.๒๕๖๐<br />
จากการที่กห. ได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่าย<br />
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐ จำนวน ๒๑๓,๔๔๙.๙๑๗<br />
ล้านบาท งบประมาณหลังโอนเปลี่ยนแปลง รวมทั้งสิ้น จำนวน<br />
๒๑๓,๓๙๔.๐๖๙ ล้านบาท มีผลการเบิกจ่ายงบประมาณ<br />
รายจ่ายภาพรวมตามระบบ GFMIS ณ วันที่ ๓๐ ก.ย.๖๐<br />
จำนวน ๑๘๔,๕๐๙.๑๓๕ ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๘๖.๔๖<br />
ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ภาครัฐกำหนดให้เบิกจ่ายไม่น้อยกว่า<br />
ร้อยละ ๙๖.๐๐ อยู่ร้อยละ ๙.๕๔ และมีผลการเบิกจ่าย<br />
งบประมาณรายจ่ายลงทุน จำนวน ๓๕,๔๒๘.๓๘๕ ล้านบาท<br />
หรือคิดเป็นร้อยละ ๗๑.๘๗ ของงบประมาณรายจ่ายลงทุน<br />
จำนวน ๔๙,๒๙๓.๔๘๖ ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายที่ภาครัฐ<br />
กำหนดให้เบิกจ่ายไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๗.๐๐ อยู่ร้อยละ<br />
๑๕.๑๓<br />
ในส่วนของ <strong>สป</strong>. ได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่าย<br />
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐ จำนวน ๙,๑๓๒.๘๓๕<br />
ล้านบาท งบประมาณหลังโอนเปลี่ยนแปลง รวมทั้งสิ้น จำนวน<br />
๙,๗๑๕.๓๘๓ ล้านบาท มีผลการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่าย<br />
ภาพรวมตามระบบ GFMIS ณ วันที่ ๓๐ ก.ย.๖๐ จำนวน<br />
๙,๓๗๙.๒๗๘ ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๙๖.๕๔ ซึ่งสูงกว่า<br />
เป้าหมายที่ภาครัฐ อยู่ร้อยละ ๐.๕๔ และมีผลการเบิกจ่าย<br />
งบประมาณรายจ่ายลงทุน จำนวน ๑,๙๒๑.๑๑๔ ล้านบาท<br />
หรือคิดเป็นร้อยละ ๙๑.๘๔ ของงบประมาณรายจ่ายลงทุน<br />
จำนวน ๒,๐๙๑.๗๔๙ ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ภาครัฐ<br />
กำหนดร้อยละ ๔.๘๔<br />
ผลการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายภาพรวมของกระทรวงกลาโหม<br />
หน่วย : ล้านบาท<br />
หน่วย<br />
งบประมาณหลังโอน<br />
ร้อยละ สูงหรือต่ำกว่า<br />
เบิกจ่ายแล้ว ร้อยละ<br />
เปลี่ยนแปลง<br />
เป้าหมาย เป้าหมาย<br />
<strong>สป</strong>. ๙,๗๑๕.๓๘๓ ๙,๓๗๙.๒๗๘ ๙๖.๕๔ ๙๖.๐๐๐ ๐.๕๔<br />
รอ. ๒๗๗.๒๖๔ ๒๗๗.๑๗๙ ๙๙.๙๗ ๙๖.๐๐๐ ๓.๙๗<br />
บก.ทท. ๑๖,๓๖๑.๑๘๘ ๑๔,๙๑๑.๓๓๓ ๙๑.๑๔ ๙๖.๐๐๐ -๔.๘๖<br />
ทบ. ๑๐๔,๘๖๓.๑๙๗ ๙๑,๐๗๔.๖๗๙ ๘๖.๘๕ ๙๖.๐๐๐ -๙.๑๕<br />
ทร. ๔๑,๙๓๒.๕๖๒ ๓๖,๙๗๙.๕๓๑ ๘๘.๑๙ ๙๖.๐๐๐ -๗.๘๑<br />
ทอ. ๓๙,๐๓๗.๖๒๖ ๓๐,๖๘๐.๒๘๖ ๗๘.๕๙ ๙๖.๐๐๐ -๑๗.๔๑<br />
สทป. ๑,๒๐๖.๘๔๙ ๑,๒๐๖.๘๔๙ ๑๐๐.๐๐ ๙๖.๐๐๐ ๔.๐๐<br />
รวมทั้งสิ้น ๒๑๓,๓๙๔.๐๖๙ ๑๘๔,๕๐๙.๑๓๕ ๘๖.๔๖ ๙๖.๐๐๐ -๙.๕๔<br />
52
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
ผลการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายลงทุนของกระทรวงกลาโหม<br />
หน่วย : ล้านบาท<br />
หน่วย<br />
งบประมาณหลังโอน<br />
ร้อยละ สูงหรือต่ำ<br />
เบิกจ่ายแล้ว ร้อยละ<br />
เปลี่ยนแปลง<br />
เป้าหมาย กว่าเป้าหมาย<br />
<strong>สป</strong>. ๒,๐๙๑.๗๔๙ ๑,๙๒๑.๑๑๔ ๙๑.๘๔ ๘๗.๐๐ ๔.๘๔<br />
รอ. ๑๑๕.๑๔๔ ๑๑๕.๑๔๔ ๑๐๐.๐๐ ๘๗.๐๐ ๑๓.๐๐<br />
บก.ทท. ๓,๙๓๖.๕๖๒ ๓,๖๒๕.๓๖๕ ๙๒.๐๙ ๘๗.๐๐ ๕.๐๙<br />
ทบ. ๒๑,๓๘๒.๔๑๔ ๑๒,๗๐๒.๖๓๓ ๕๙.๔๑ ๘๗.๐๐ -๒๗.๕๙<br />
ทร. ๘,๙๘๘.๐๖๘ ๗,๒๔๒.๔๖๔ ๘๐.๕๘ ๘๗.๐๐ -๖.๔๒<br />
ทอ. ๑๒,๑๗๗.๙๑๒ ๙,๒๒๐.๐๒๘ ๗๕.๕๔ ๘๗.๐๐ -๑๑.๒๙<br />
สทป. ๖๐๑.๖๓๗ ๖๐๑.๖๓๗ ๑๐๐.๐๐ ๘๗.๐๐ ๑๓.๐๐<br />
รวมทั้งสิ้น ๔๙,๒๙๓.๔๘๖ ๓๕,๔๒๘.๓๘๕ ๗๑.๘๗ ๘๗.๐๐ -๑๕.๑๗<br />
๒. การติดตามเร่งรัดโครงการ/งานที่สำคัญ<br />
๒.๑ การตรวจและติดตามผลความก้าวหน้าโครงการ/<br />
งาน ของ <strong>สป</strong>. ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย ระหว่าง<br />
๖ – ๘ ก.พ.๖๐ จำนวน ๒ โครงการ ประกอบด้วย โครงการ<br />
จัดหาอุปกรณ์หยั่งธรณี (Wireline Logging Truck) และ<br />
โครงการจัดหารถผสมและสูบส่งซีเมนต์เหลว รวมทั้ง<br />
ผลการดำเนินงานเงินอุดหนุนการสำรวจปิโตรเลียมบนบก<br />
ในภาคเหนือของ พท.ศอ.พท.<br />
๒.๓ การตรวจและติดตามผลความก้าวหน้าโครงการ<br />
ของ กห. ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ระหว่าง ๒๗ - ๒๘ มิ.ย.๖๐<br />
จำนวน ๑ โครงการ คือ โครงการจัดตั้งกองพลทหารราบที่ ๗<br />
๒.๒ การตรวจและติดตามผลความก้าวหน้าโครงการ<br />
ของ กห. และ <strong>สป</strong>. ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น ระหว่าง ๒๑ - ๒๒<br />
มี.ค.๖๐ จำนวน ๒ โครงการ ประกอบด้วย โครงการจัดตั้ง<br />
กองพลทหารม้าที่ ๓ และโครงการดำรงสถานภาพระบบ<br />
เครือข่ายการสื่อสารหลัก (Backbone) ของ กห.<br />
53
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
๒.๔ การตรวจและติดตามผลความก้าวหน้าโครงการ<br />
ของ กห. ในพื้นที่ จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง ระหว่าง ๒๙ - ๓๐<br />
ส.ค.๖๐ จำนวน ๒ โครงการ ประกอบด้วย โครงการจัดหา<br />
เฮลิคอปเตอร์ลำเลียง และโครงการจัดหาเรือลากจูงขนาด<br />
กลาง<br />
งานสำคัญอื่นๆ<br />
งานด้านการพัสดุ<br />
ขออนุมัติจัดซื้อ/จัดจ้าง ของ นขต.<strong>สป</strong>., นขต.กห. และ<br />
เหล่าทัพ งานที่วงเงินอยู่ในอำนาจอนุมัติของ ปล.กห. และ<br />
รมว.กห. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
อานาจ ปล.กห.<br />
อานาจ รมว.กห.<br />
หน่วย รวม<br />
กาลังดาเนิน<br />
อยู่ระหว่าง<br />
จานวน อนุมัติแล้ว การ จานวน อนุมัติแล้ว<br />
ดาเนินการ<br />
<strong>สป</strong>. ๑๓ ๙ ๙ - ๔ ๔ -<br />
รอ. ๑ - - - ๑ - ๑<br />
บก.ทท. ๙ - - - ๙ ๙ -<br />
ทบ. ๔๐ - - - ๔๐ ๓๕ ๕<br />
ทร. ๒๒ - - - ๒๒ ๑๙ ๓<br />
ทอ. ๙ - - - ๙ ๙ -<br />
รวม ๙๔ ๙ ๙ - ๘๕ ๗๖ ๙<br />
54
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
กรมพระธรรมนูญ (ธน.)<br />
ภารกิจ : มีขอบข่ายการดำเนินงานที่สำคัญเกี่ยวข้องกับงานด้านกฎหมาย และ<br />
กระบวนการยุติธรรมของทหาร ซึ่งประกอบด้วย ศาลทหาร อัยการทหาร ทนาย<br />
ทหาร และนายทหารพระธรรมนูญ รวมตลอดถึงงานให้การศึกษาอบรมงานตรวจ<br />
ร่างและแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย การดำเนินการและประสานงานการทำข้อตกลง<br />
ระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับทหาร งานการคดี งานตรวจร่างสัญญา งานตอบ<br />
ข้อหารือ วินิจฉัยให้ข้อเสนอแนะทางกฎหมายงานสงเคราะห์ทางกฎหมาย งาน<br />
สังคมศาสตร์ และงานราชทัณฑ์ในส่วนของราชการทหาร มีเจ้ากรมพระธรรมนูญ<br />
เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ<br />
พลเรือเอก กฤษฎา เจริญพานิช<br />
เจ้ากรมพระธรรมนูญ<br />
สรุปผลการปฏิบัติงานที ่สำคัญ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
งานด้านศาลทหาร<br />
๑. ศาลทหารสูงสุด มีผลการดำเนินการ ดังนี้<br />
๑.๑ พิจารณาพิพากษาคดีแล้วเสร็จ ระหว่าง ต.ค.๕๙ – ก.ย.๖๐ จำนวน ๔๓ คดี<br />
๑.๒ ออกคำสั่ง, หมายปล่อยตัวชั่วคราว จำนวน ๓๐ คดี<br />
๑.๓ พิจารณาพิพากษา, มีการออกคำสั่งและหมายปล่อยชั่วคราว จำนวน ๕๐ คดี<br />
๒. ศาลทหารกลาง มีผลการดำเนินการ ดังนี้<br />
๒.๑ คดีที่อยู่ระหว่างพิจารณายกมาจากเดือน ก.ย.๕๙ จำนวน ๑๙๑ คดี<br />
๒.๒ คดีที่รับเข้าใหม่ตั้งแต่ ๑ ต.ค.๕๙ – ๓๐ ก.ย.๖๐ จำนวน ๑๕๖ คดี<br />
๒.๓ พิจารณาพิพากษาและมีคำสั่งแล้วเสร็จ จำนวน ๒๕๐ คดี<br />
๒.๔ คงเหลือคดียกไป ต.ค.๖๐ จำนวน ๘๘ คดี<br />
55
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
๓. ศาลทหารกรุงเทพ มีผลการดำเนินการ ดังนี้<br />
๓.๑ คดีที่อยู่ระหว่างพิจารณายกมาจากเดือน ก.ย.๕๙ จำนวน ๒๑๙ คดี<br />
๓.๒ คดีที่รับเข้าใหม่ตั้งแต่ ๑ ต.ค.๕๙ – ๓๐ ก.ย.๖๐ จำนวน ๓๔๖ คดี<br />
๓.๓ พิจารณาพิพากษาและมีคำสั่งแล้วเสร็จ จำนวน ๔๒๒ คดี<br />
๓.๔ คงเหลือคดียกไป ต.ค.๖๐ จำนวน ๑๔๓ คดี<br />
งานด้านอัยการทหาร<br />
มีผลการดำเนินคดีงานด้านอัยการทหารในรอบปี ดังนี้<br />
อัยการศาลทหารกรุงเทพ<br />
- รับสำนวน จำนวน ๓๙๐ คดี<br />
- สั่งฟ้อง จำนวน ๑,๒๐๔ คดี<br />
- สั่งไม่ฟ้อง จำนวน ๕๒ คดี<br />
- สั่งชะลอฟ้อง จำนวน ๕,๑๖๘ คดี<br />
- ส่งสำนวนคืน, ส่งไปที่อื่น จำนวน ๑๕ คดี<br />
- จำหน่ายคดี จำนวน ๕๓ คดี<br />
- อยู่ระหว่างพิจารณา จำนวน ๖๖๒ คดี<br />
อัยการฝ่ายอุทธรณ์และฎีกา<br />
- สำนวนคดีเข้าทั้งหมด จำนวน ๓๔๙ คดี<br />
- คดีที่โจทก์ไม่อุทธรณ์ จำนวน ๒๖๙ คดี<br />
- คดีที่โจทก์อุทธรณ์ จำนวน ๕ คดี<br />
- คดีที่โจทก์แก้อุทธรณ์ จำนวน ๔ คดี<br />
- คดีที่โจทก์ไม่แก้อุทธรณ์ จำนวน ๓ คดี<br />
- คดีที่โจทก์ไม่ฎีกา จำนวน ๓๓ คดี<br />
- คดีที่โจทก์ฎีกา จำนวน ๖ คดี<br />
- คดีที่โจทก์แก้ฎีกา จำนวน ๗ คดี<br />
- คดีที่ ศท.ก.ท. มีคำสั่งให้จำหน่วยคดี<br />
(เนื่องจากจำเลยกับผู้เสียหายตกลงยอมความกัน) จำนวน ๑ คดี<br />
- คดีที่ ศท.ก.ท. มีคำสั่งให้จำหน่ายคดี<br />
(เนื่องจากจำเลยเสียชีวิต) จำนวน ๑ คดี<br />
- คดีที่อยู่ระหว่างพิจารณาของ ศท.ก.ท.<br />
ศาลไต่สวนกรณีจำเลยเสียชีวิต จำนวน ๑ คดี<br />
- คดีที่จำเลยขอถอนอุทธรณ์ ศท.กลาง มีคำสั่งให้ถอนอุทธรณ์<br />
โจทก์ไม่ฎีกาคำสั่ง จำนวน ๑ คดี<br />
- คดีที่ ศท.สูงสุด มีคำสั่งให้ ศท.ก.ท. ดำเนินกระบวนพิจารณา<br />
มีคำสั่งใหม่ตามรูปคดี จำนวน ๑ คดี<br />
- คดีที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องโดยมอบหมายให้<br />
อก.ศท.ก.ท. ฟ้องคดีแทน จำนวน ๑ คดี<br />
- คดีที่ ศท.ก.ท. ไม่ประทับฟ้องโจทก์<br />
โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง ศท.ก.ท. จำนวน ๓ คดี<br />
- คดีที่ ศท.สูงสุด มีคำพิพากษาถึงที่สุด จำนวน ๓ คดี<br />
56
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
อัยการฝ่ายวิชาการ<br />
ตรวจสำนวนเอกสารรายงานการคดี จำนวน ๔,๓๑๖ คดี<br />
รายงานการปฏิบัติหน้าที่ จำนวน ๒,๑๔๓ คดี<br />
งานด้านทนายทหาร<br />
มีผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา ดังนี้<br />
๑. งานด้านทนายจำเลยในศาลทหาร<br />
๑.๑ ตั้งทนายให้จำเลย (คดีที่ ศท.ก.ท. ขอตั้งทนาย) จำนวน ๖๒ คดี<br />
๑.๒ ตั้งทนายให้จำเลย (คดีที่ ศาล มทบ., จทบ.ขอตั้งทนาย จำนวน ๔๗ คดี<br />
๑.๓ จัดหาทนายให้จำเลย (คดีที่จำเลยร้องขอให้แต่งทนาย) จำนวน ๒ คดี<br />
๒. งานให้คำปรึกษา แนะนำ และช่วยเหลือทางกฎหมาย จำนวน ๑๓ คดี<br />
๓. งานร่วมฟังการสอบสวน จำนวน ๘ คดี<br />
งานด้านกฎหมาย<br />
มีผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมา ดังนี้<br />
๑. ร่างพระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....<br />
๒. ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....<br />
๓. ร่างพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....<br />
๔. ร่างพระราชบัญญัติราชองครักษ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....<br />
๕. ร่างพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....<br />
๖. ร่างพระราชกฤษฎีกายกเลิกพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการและกำหนดหน้าที่ของส่วนราชการ กรมราช<br />
องครักษ์ กระทรวงกลาโหม และที่แก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. ....<br />
๗. ร่างพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการและกำหนดหน้าที่ส่วนราชการหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัย<br />
รักษาพระองค์ กระทรวงกลาโหม พ.ศ. ....<br />
๘. ร่างพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....<br />
๙. ร่างพระราชกฤษฎีกาการได้รับเงินประจำตำแหน่งของข้าราชการทหาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....<br />
๑๐ ร่างพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการและกำหนดหน้าที่ของส่วนราชการสำนักงานรัฐมนตรีและสำนักงาน<br />
ปลัดกระทรวง กระทรวงกลาโหม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....<br />
๑๑. ร่างกฎกระทรวง (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องแบบนักเรียนในสังกัดกระทรวงกลาโหม<br />
พ.ศ.๒๕๒๑ ว่าด้วยเครื่องแบบนักเรียนช่างกรมอู่ทหารเรือ พ.ศ. ....<br />
กองนิติธรรมทหาร<br />
มีเรื่องที่ดำเนินการทั้งหมด จำนวน ๔๑๙ เรื่อง<br />
- การพิจารณาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมาย จำนวน ๑๒๔ เรื่อง<br />
- การดำเนินคดีแพ่ง จำนวน ๙๙ เรื่อง<br />
- การตรวจร่างสัญญา จำนวน ๗๐ เรื่อง<br />
- การเรือนจำ (ย้ายนักโทษ) จำนวน ๒๓ เรื่อง<br />
- การอภัยโทษ จำนวน ๑๐๓ เรื่อง<br />
กองคุ้มครองพยาน<br />
มีผลการดำเนินงานที่สำคัญ ดังนี้<br />
๑. ดำเนินการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับงานคุ้มครองพยานในคดีอาญาของ กห. ให้แก่กำลังพลของ มทบ.๒๔<br />
และ มทบ.๑๗ เพื่อให้กำลังพลได้รับทราบถึงสิทธิในการเป็นพยานในคดีอาญาตามพระราชบัญญัติคุ้มครองพยานในคดี<br />
อาญา พ.ศ.๒๕๔๖ และระเบียบ กห. ว่าด้วยการคุ้มครองพยานในคดีอาญา พ.ศ.๒๕๕๘<br />
57
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
๒. เข้าร่วมการฝึกอบรมหลักสูตร “การคุ้มครอง<br />
พยานในคดีค้ามนุษย์อาเซียน” เมื่อ ๑๕ – ๑๘ ส.ค.๖๐ ณ<br />
โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อ.สามพราน จ.นครปฐม ซึ่งจัด<br />
โครงการกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม<br />
๓. ดำเนินการจัดพิมพ์หนังสือการคุ้มครองพยาน<br />
ในคดีอาญาของ กห. เพื่อดำเนินการแจกจ่ายให้ นขต.<strong>สป</strong>.<br />
และเหล่าทัพ ใช้เป็นแนวทางการปฏิบัติงาน<br />
๔. ดำเนินการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับงาน<br />
คุ้มครองพยานในคดีอาญาของ กห. ให้แก่กำลังพลของ<br />
มทบ.๑๗, พล.ร.๙ และ มทบ.๒๔ เมื่อ ๒๖ พ.ค.๖๐ และ<br />
เมื่อ ๒๒ ส.ค.๖๐<br />
- จัดโครงการแข่งขันตอบปัญหากฎหมายเนื่อง<br />
ในโอกาส ธน. ครบ ๑๑๑ ปี จัดขึ้นเมื่อวันที่ ๑๙ ก.ค.๖๐<br />
ณ สโมสรทหารมหาดเล็กฯ ร.๑ พัน.๑ รอ. มีวัตถุประสงค์เพื่อ<br />
เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ให้สาธารณชน วงการวิชาการ<br />
ด้านกฎหมาย และสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษารู้จัก<br />
ธน. กระบวนการยุติธรรมทหาร และกฎหมายทหารให้เป็น<br />
ไปอย่างกว้างขวางและแพร่หลายยิ่งขึ้นอีกทั้ง เปิดโอกาส<br />
ให้นิสิตและนักศึกษาได้แสดงความรู้ความสามารถทางด้าน<br />
กฎหมาย<br />
- โครงการเผยแพร่ศาสตร์พระราชาด้าน<br />
นิติศาสตร์ โดยจัดให้มีการบรรยายพิเศษ เรื่อง “ศาสตร์<br />
พระราชาด้านนิติศาสตร์” เมื่อวันที่ ๒๗ เม.ย.๖๐<br />
ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ กรุงเทพฯ โดยมี วิทยากร<br />
บรรยายประกอบด้วย ศาสตราจารย์กิตติคุณวิษณุ เครืองาม<br />
รอง นรม. และศาสตราจารย์พิเศษธงทอง จันทรางศุ อดีตปลัด<br />
สำนักนายกรัฐมนตรี มีผู้เข้าร่วมรับฟังการบรรยายประกอบ<br />
ด้วย ข้าราชการสังกัด <strong>สป</strong>. นายทหารเหล่า ธน.รวมถึง<br />
ข้าราชการในสายงานด้านกำลังพลและการสารวัตรทหาร<br />
ของเหล่าทัพต่างๆ จำนวน ๓๕๐ นาย และมีผู้สื่อข่าวจาก<br />
สำนักข่าวต่างๆ ได้ให้ความสนใจเผยแพร่ข่าวเป็นจำนวนมาก<br />
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติและ<br />
เผยแพร่พระเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร<br />
มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีคุณูปการ<br />
ต่อปวงชนชาวไทยและประเทศชาติ เพื่อเผยแพร่ศาสตร์<br />
พระราชาด้านนิติศาสตร์ ให้ข้าราชการในสังกัด <strong>สป</strong>. นายทหาร<br />
เหล่าทหารพระธรรมนูญ และข้าราชการในสายงานด้าน<br />
กฎหมายของเหล่าทัพต่างๆ ได้มีความรู้และความเข้าใจที่<br />
ถูกต้องเพื่อน้อมนำไปปฏิบัติอันจะเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ<br />
งานด้านศึกษาอบรม<br />
- ได้ส่งนายทหารพระธรรมนูญเข้ารับหลักสูตร<br />
การพัฒนานักกฎหมายภาครัฐระดับชำนาญการขึ้นไป รุ่นที่<br />
๑๙, ๒๐, ๒๑ ประจำปีงบประมาณ จำนวน ๓๒ นาย (รวม<br />
เหล่าทัพ) และหลักสูตรการพัฒนานักกฎหมายภาครัฐระดับ<br />
ปฏิบัติการ รุ่นที่ ๑๓, ๑๔ จำนวน ๖๕ นาย (รวมเหล่าทัพ)<br />
โดยใช้งบประมาณของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา<br />
มีระยะเวลาการศึกษาตลอดหลักสูตรประมาณ ๓ เดือน<br />
ทั้งนี้ เป็นไปตามยุทธศาสตร์ที่ ๖ (การพัฒนากฎหมายและ<br />
ส่งเสริมการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี) ของแผนบริหาร<br />
ราชการแผ่นดิน พ.ศ.๒๕๔๘ – ๒๕๕๑ โดยมีสำนักงาน<br />
คณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักงานข้าราชการพลเรือน<br />
เป็นเจ้าภาพ<br />
58
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร (ศอพท.)<br />
ภารกิจ : มีหน้าที่ส่งเสริม และดำเนินการเกี่ยวกับงานด้านอุตสาหกรรมป้องกัน<br />
ประเทศและพลังงานทหาร วางแผน อำนวยการ ประสานงาน พิจารณาเสนอ<br />
ความเห็น ให้เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงกลาโหม และปฏิบัติงานอื่นตามที่<br />
ได้รับมอบหมาย มีผู้อำนวยการศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร<br />
เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ<br />
พลเอก ฐิตินันท์ ธัญญสิริ<br />
ผู้อำนวยการศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร<br />
สรุปผลการปฏิบัติงานที ่สำคัญ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
๑. การจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาวิทยาศาสตร์<br />
เทคโนโลยี อุตสาหกรรมป้องกันประเทศกระทรวงกลาโหม<br />
พ.ศ.๒๕๖๐ – ๒๕๗๙<br />
ตามมติสภากลาโหม ครั้งที่ ๒/๒๕๕๙ เมื่อ ๒๙ ก.พ.<br />
๕๙ เรื่อง แผนการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ<br />
เพื่อการพึ่งพาตนเอง โดยให้ <strong>สป</strong>. ดำเนินการหารือร่วมกับ<br />
บก.ทท., เหล่าทัพ และ สทป. ในการกำหนดแนวทางการ<br />
พัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศเพื่อการพึ่งพาตนเอง<br />
โดยมีเป้าหมายเพื่อให้มีการวิจัยพัฒนาสำหรับการผลิตใช้<br />
ในราชการและการส่งออกในเชิงพาณิชย์ อันจะนำไปสู่การ<br />
ลดการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศและสร้างรายได้ให้<br />
กับประเทศต่อไป<br />
ในปีงบประมาณ ๒๕๖๐ ได้จัดการสัมมนาเชิงปฏิบัติ<br />
การเพื่อการพัฒนากิจการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ<br />
ของ กห. และสรุปรายงานผลการดำเนินการต่อ รมว.กห.<br />
เรียบร้อยแล้ว ซึ่ง รมว.กห. ได้กรุณาอนุมัติ ให้ปรับปรุงแผน<br />
แม่บทอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ พ.ศ.๒๕๕๘ – ๒๕๖๓<br />
ให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศ กห. พ.ศ.<br />
๒๕๖๐ – ๒๕๗๙ และยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี ของรัฐบาล ให้<br />
แล้วเสร็จภายใน มิ.ย.๖๐ เพื่อรวมระบบการบริหารจัดการ<br />
59
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ<br />
ของ กห. เข้าไว้ด้วยกัน และกำหนดเป้าหมายให้สอดรับกับ<br />
แนวทางการวิจัยพัฒนาและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ<br />
ระยะ ๒๐ ปี (ปี ๖๐ – ๗๙) ของ กห. ตามที่ได้รายงานให้<br />
ที่ประชุม ครม. ทราบเรียบร้อยแล้ว เมื่อเดือน เม.ย.๖๐<br />
ที่ผ่านมา ซึ่งมีกรอบยุทธศาสตร์การพัฒนาที่สำคัญ ๔ ระยะ<br />
ได้แก่ ระยะที่ ๑ (๒๕๖๐ - ๒๕๖๔) การปฏิรูป, ระยะที่ ๒<br />
(๒๕๖๕ - ๒๕๖๙) การส่งเสริมความเข้มแข็ง, ระยะที่ ๓<br />
(๒๕๗๐ - ๒๕๗๔) การส่งผ่านการผลิตและการซ่อมบำรุง<br />
สู่ภาคเอกชน และระยะที่ ๔ (๒๕๗๕ - ๒๕๗๙) การสร้าง<br />
ความยั่งยืน เพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการปฏิรูป<br />
โครงสร้างเศรษฐกิจไปสู่ “Thailand 4.0” ซึ่งต้องขับเคลื่อน<br />
ด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์<br />
โดยมีกลยุทธ์ที่สำคัญ คือ นโยบายการตัดสินใจ “สร้าง<br />
หรือซื้อ” (Make or Buy) เทคโนโลยีหรือผลิตภัณฑ์<br />
สำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมายเพื่อต่อยอดความเข้มแข็ง<br />
ของอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในปัจจุบันและยกระดับไปสู่<br />
อุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในอนาคต และปฏิบัติ<br />
ตามมติสภากลาโหม ครั้งที่ ๒/๒๕๕๙ ศอพท. จึงได้จัด<br />
ทำร่างยุทธศาสตร์การพัฒนา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี<br />
อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ กระทรวงกลาโหม พ.ศ.<br />
๒๕๖๐ – ๒๕๗๙ และการนำยุทธศาสตร์ไปสู่การปฏิบัติให้<br />
เกิดผลสัมฤทธิ์ด้วยคณะกรรมการระดับนโยบายที่มี รมว.กห.<br />
เป็นประธาน และมี ปล.กห.,. ผบ.ทสส. และ ผบ.เหล่าทัพ<br />
เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการและมีอำนาจหน้าที่ในการ<br />
กำหนดนโยบายด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรม<br />
ป้องกันประเทศ ของ กห.<br />
และเมื่อวันที่ ๒๘ ส.ค.๖๐ สภากลาโหมได้มีมติ<br />
เห็นชอบร่างยุทธศาสตร์การพัฒนา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี<br />
อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ กห. พ.ศ.๒๕๖๐ – ๒๕๗๙<br />
และให้ <strong>สป</strong>. (ศอพท.) รับไปดำเนินการต่อไป และเมื่อ ๒๔<br />
ก.ย.๖๐ รมว.กห. ได้กรุณาอนุมัติยุทธศาสตร์การพัฒนา<br />
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ กห.<br />
เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยึดถือปฏิบัติต่อไป เรียบร้อยแล้ว<br />
๒. การจัดทำร่างแผนการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี<br />
อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ กระทรวงกลาโหม<br />
พ.ศ.๒๕๖๐ - ๒๕๖๔<br />
แผนการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรม<br />
ป้องกันประเทศ กห. พ.ศ.๒๕๖๐ – ๒๕๖๔ เพื่อใช้เป็น<br />
หลักในการบริหารจัดการงานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และ<br />
อุตสาหกรรมป้องกันประเทศร่วมกันในลักษณะบูรณาการ<br />
<strong>60</strong>
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
และมุ่งสู่การปฏิรูปกรอบงานการกำหนดความต้องการ<br />
ยุทโธปกรณ์ของ กห. เพื่อดำรงขีดความสามารถการ<br />
ผลิตที่มีความคุ้มทุนไว้ในประเทศ และสร้างกลไกการ<br />
ถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีจากผู้ขายให้กลับ<br />
เข้ามาสู่อุตสาหกรรมภายในประเทศ ด้วยการส่งเสริม<br />
การวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีและยกระดับภาคการผลิตของ<br />
อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ซึ่งเป็นเป้าหมายในระยะที่ ๑<br />
(ปี ๖๐ - ๖๔) ตามร่างยุทธศาสตร์การพัฒนาวิทยาศาสตร์<br />
เทคโนโลยี อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ กห. อยู่ระหว่าง<br />
นำเรียน รมว.กห. เพื่อกรุณาอนุมัติร่างแผนการพัฒนา<br />
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ กห.<br />
พ.ศ.๒๕๖๐ – ๒๕๖๔ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยึดถือ<br />
ปฏิบัติต่อไป<br />
๓. การปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของ<br />
คณะกรรมการด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและการ<br />
พลังงานทหาร ตามคำสั่ง กห. (เฉพาะ) ที่ ๑๙๕/๕๒ ลง<br />
๑๘ มิ.ย.๕๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม<br />
ตามนโยบายรัฐบาลที่นำประเทศไทยไปสู่การปฏิรูป<br />
โครงสร้างเศรษฐกิจเพื่อก้าวข้าม “Thailand 3.0” ไปสู่<br />
“Thailand 4.0” ซึ่งต้องเกิดอุตสาหกรรม ๔.๐ ที่ขับเคลื่อน<br />
ด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรม และความคิดสร้างสรรค์ โดยการ<br />
พัฒนากลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจ<br />
และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ พ.ศ.๒๕๖๐ – ๒๕๖๔ และ<br />
มีกลยุทธ์ที่สำคัญ คือ นโยบายการตัดสินใจ “สร้างหรือซื้อ”<br />
(Make or Buy) เทคโนโลยีหรือผลิตภัณฑ์สำหรับ<br />
อุตสาหกรรมเป้าหมาย เพื่อต่อยอดความเข้มแข็ง<br />
ของอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพปัจจุบันและยกระดับไปสู่<br />
อุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในอนาคต และตามมติสภา<br />
กลาโหม ครั้งที่ ๒/๒๕๕๙ เมื่อ ๒๙ ก.พ.๕๙ เรื่อง แผนการ<br />
พัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศเพื่อการพึ่งพาตนเอง<br />
กห. จึงควรรวมระบบงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี<br />
ป้องกันประเทศและระบบงานอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ<br />
เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อเชื่อมต่อการวิจัยพัฒนาและอุตสาหกรรม<br />
ป้องกันประเทศของ กห. เข้ากับระบบการพัฒนางานวิจัยสู่<br />
สายการผลิตใช้ในราชการ/เชิงพาณิชย์ของ สทป. โดยการ<br />
บริหารราชการภายใน กห. จะมีองค์ประกอบที่สำคัญ ๒<br />
ประการ คือ ยุทธศาสตร์การพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี<br />
อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ กห. พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๗๙<br />
และการนำยุทธศาสตร์ไปสู่การปฏิบัติด้วยคณะกรรมการ<br />
ระดับนโยบาย ที่มี ปล.กห., ผบ.ทสส. และ ผบ.เหล่าทัพ<br />
เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการและมีอำนาจหน้าที่ในการกำหนด<br />
นโยบายด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรมป้องกัน<br />
ประเทศ ของ กห. อยู่ระหว่างนำเรียน รมว.กห. เพื่อกรุณา<br />
อนุมัติปรับปรุงแก้ไของค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของ<br />
คณะกรรมการต่อไป<br />
ตามแผนแม่บทอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ พ.ศ.<br />
๒๕๕๘ - ๒๕๖๓ สสอป.ศอพท.ได้ปฏิบัติงานในส่วนที่<br />
เกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์ต่างๆ ดังนี้<br />
๑. ยุทธศาสตร์ที่ ๑ การผลิตสนับสนุนภารกิจกองทัพ<br />
กลยุทธ์ที่ ๑.๑ การพัฒนาขีดความสามารถในการผลิต<br />
ของโรงงานในสังกัด กห.<br />
การดำเนินโครงการโดยใช้เงินทุนหมุนเวียนอุตสาหกรรม<br />
ป้องกันประเทศ<br />
๑.๑ โครงการผลิตลูกปืน สอ.๓๗ มม. ชนิดฝึกต่อเนื่อง<br />
รมว.กห. ได้อนุมัติ เมื่อ ๒๙ ส.ค.๕๖ ให้<br />
โครงการผลิตลูกปืน สอ.๓๗ มม. ชนิดฝึกต่อเนื่อง เป็น<br />
โครงการเริ่มใหม่ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๗ ระยะเวลา<br />
ดำเนินโครงการฯ ๔ ปี เริ่มตั้งแต่ปีงบประมาณ ๒๕๕๗ - ๒๕๖๐<br />
ผลิตเฉพาะลูกปืนฯ TYPE 74 (บก) จำนวน ๑๕,๐๐๐ นัด<br />
เพื่อขายให้กับ ทร. ในปีงบประมาณ ๒๕๕๘ - ๒๕๖๐<br />
ปีละ ๕,๐๐๐ นัด ราคานัดละ ๒,๖๘๑.๓๓.- บาท ใช้เงิน<br />
ทุนหมุนเวียนอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ลงทุนวงเงิน<br />
๓๗,๖๔๗,๐๑๒.- บาท เมื่อสิ้นสุดโครงการฯ จะมีประมาณ<br />
การรายรับ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๔๐,๒๑๙,๙๕๐.- บาท<br />
สพ.ทร. ได้ซื้อลูกปืนฯ แล้ว รวมจำนวน<br />
๑๐,๐๐๐ นัด ในปีงบประมาณ ๒๕๕๘ และ ๒๕๕๙ สำหรับ<br />
ปีงบประมาณ ๒๕๖๐ ได้ซื้อลูกปืนฯ จำนวน ๕,๐๐๐ นัด<br />
ครบตามจำนวนผลิตของโครงการฯ และชำระเงินล่วงหน้า<br />
ร้อยละ ๗๕ แล้ว เป็นเงินทั้งสิ้น ๑๐,๐๕๔,๙๘๗.๕๐.- บาท<br />
ขณะนี้โครงการฯ ได้ดำเนินการผลิตลูกปืนฯ<br />
จำนวน ๕,๑๐๐ นัด ครบตามแผนการผลิต งวดการผลิตที่ ๓<br />
ซึ่งเป็นงวดการผลิตสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว แบ่งเป็นการผลิต<br />
เพื่อทดสอบการทำงานของไพรเมอร์และเทรเซอร์ จำนวน<br />
๗๐ นัด คงเหลือที่ต้องส่งมอบให้กับกรมสรรพาวุธทหารเรือ<br />
จำนวน ๕,๐๓๐ นัด (๓๐ นัด สำหรับยิงทดสอบตรวจรับ)<br />
ซึ่ง ศอพท. โดย สสอป.ศอพท. ได้นำไปส่งมอบให้กับ ทร.<br />
เมื่อ ๒๙ ส.ค.๖๐ และได้ทำการยิงทดสอบตรวจรับลูกปืนฯ<br />
เมื่อ ๒๑ ก.ย.๖๐ โดยสรุปผลการยิงในเบื้องต้น ลูกปืนฯ<br />
ผ่านเกณฑ์การยิงทดสอบ<br />
๑.๒ โครงการผลิตกระสุนขนาดกลาง<br />
รมว.กห. ได้อนุมัติให้ดำเนินโครงการผลิต<br />
กระสุนขนาดกลาง โดยใช้เงินทุนหมุนเวียนอุตสาหกรรม<br />
61
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
ป้องกันประเทศ ลงทุนวงเงิน ๒๖๒,๘๙๑,๑๗๔.- บาท ระยะ<br />
เวลาดำเนินโครงการ ๖ ปี ตั้งแต่ปีงบประมาณ ๒๕๕๙ -<br />
๒๕๖๔ ผลิตกระสุน ขนาด ๒๓ มม. จำนวน ๑๐๐,๐๐๐<br />
นัด และกระสุนขนาด ๓๐ x ๑๗๓ มม. จำนวน ๒๕,๐๐๐<br />
นัด เพื่อขายให้กับ ทอ. เมื่อสิ้นสุดโครงการฯ จะมีประมาณ<br />
การรายรับ ๒๘๖,๘๗๕,๐๐๐.- บาท ตามแผนการดำเนิน<br />
โครงการในปีงบประมาณ ๒๕๕๙ ได้แก่ การจัดหา<br />
เครื่องจักร และวัสดุสำหรับการผลิต แต่เนื่องจากมีปัญหา<br />
ขัดข้องในการดำเนินการด้านการพัสดุ ทำให้โครงการฯ<br />
ไม่สามารถดำเนินการผลิตกระสุน ขนาด ๒๓ มม. จำนวน<br />
๒๕,๐๐๐ นัด ได้ตามแผนในปีงบประมาณ ๒๕๕๙ ดังนั้น<br />
จึงได้พิจารณาเปลี่ยนแปลงโครงการฯ โดยปรับแผนการ<br />
ผลิตและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อให้สอดคล้องกับ<br />
การปฏิบัติงานจริง สรุปการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ คือ ปรับ<br />
แผนการใช้จ่ายงบประมาณใน ๓ ปีแรก (ปีงบประมาณ<br />
๒๕๕๙ - ๒๕๖๑) และปรับแผนการผลิตฯ ในปีงบประมาณ<br />
๒๕๕๙ ไปดำเนินการผลิตในปีงบประมาณ ๒๕๖๐ และเพิ่ม<br />
กำลังการผลิตในปีงบประมาณ ๒๕๖๑ จาก ๒๕,๐๐๐ นัด<br />
เป็น ๕๐,๐๐๐ นัด ทั้งนี้ การปรับแผนดังกล่าวสอดคล้อง<br />
กับความต้องการใช้งานกระสุนขนาด ๒๓ มม. ของ ทอ.<br />
โดยที่ไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดซื้อกระสุนของ สพ.ทอ. และ<br />
ขณะนี้ ปล.กห. ได้กรุณาอนุมัติให้เปลี่ยนแปลงโครงการฯ<br />
เรียบร้อยแล้ว<br />
ปีงบประมาณ ๒๕๕๙ ทอ. ได้ตกลงซื้อกระสุน ขนาด<br />
๒๓ มม. งวดที่ ๑ จำนวน ๒๕,๐๐๐ นัด ราคานัดละ ๑,๑๑๐.-<br />
บาท รวมเป็นเงิน ๒๗,๗๕๐,๐๐๐.- บาท และจ่ายเงินล่วงหน้า<br />
ร้อยละ ๗๕ เป็นเงิน ๒๐,๘๑๒,๕๐๐.- บาท แล้ว<br />
ปีงบประมาณ ๒๕๖๐ ทอ. ตกลงซื้อกระสุน ขนาด<br />
๒๓ มม. งวดที่ ๒ จำนวน ๒๕,๐๐๐ นัด ราคานัดละ ๑,๑๑๐.-<br />
บาท รวมเป็นเงิน ๒๗,๗๕๐,๐๐๐.- บาท และจ่ายเงิน<br />
ล่วงหน้า ร้อยละ ๗๕ เป็นเงิน ๒๐,๘๑๒,๕๐๐.- บาท แล้ว<br />
โครงการฯ ได้ผลิตกระสุนขนาด ๒๓ มม. งวดที่ ๑<br />
ครบตามแผน จำนวน ๒๕,๐๐๐ นัด ซึ่ง ศอพท. โดย สสอป.<br />
ศอพท. ได้นำไปส่งมอบ ให้กับ ทอ. เมื่อ ๒๙ ก.ย.๖๐ และได้<br />
ทำการยิงทดสอบตรวจรับกระสุนฯ เมื่อ ๑๐ ต.ค.๖๐ โดย<br />
สรุปผลการยิงทดสอบในชั้นต้น กระสุนฯ ผ่านเกณฑ์การยิง<br />
ทดสอบ<br />
๑.๓ โครงการผลิตลูกปืน สอ.๓๗ มม. ชนิดฝึกต่อเนื่อง<br />
(ปีงบประมาณ ๒๕๖๐ - ๒๕๖๕)<br />
รมว.กห. ได้อนุมัติ เมื่อ ๒๐ ต.ค.๕๙ ให้โครงการ<br />
ผลิตลูกปืน สอ.๓๗ มม. ชนิดฝึกต่อเนื่อง (ปีงบประมาณ<br />
๒๕๖๐ - ๒๕๖๕) เป็นโครงการเริ่มใหม่ ประจำปีงบประมาณ<br />
๒๕๖๐ โดยใช้เงินทุนหมุนเวียนอุตสาหกรรมป้องกัน<br />
ประเทศ ลงทุนวงเงิน ๖๘,๘๒๐,๔๒๔.- บาท ระยะเวลา<br />
ดำเนินการ ๖ ปี ผลิตลูกปืน สอ.๓๗ มม. Type 74 ชนิด<br />
ฝึก จำนวน ๒๕,๐๐๐ นัด โดยเริ่มผลิตตั้งแต่ปีงบประมาณ<br />
๒๕๖๑ - ๒๕๖๕ เพื่อขายให้กับ ทร. ปีละ ๕,๐๐๐ นัด ราคา<br />
นัดละ ๒,๘๖๒.๒๖.- บาท เมื่อสิ้นสุดโครงการจะมีประมาณ<br />
การรายรับ ๗๑,๕๕๖,๕๐๐.- บาท<br />
แผนการดำเนินโครงการในปีงบประมาณ ๒๕๖๐<br />
ได้แก่ การจัดซื้อวัสดุสนับสนุนการผลิต โดยมีความต้องการ<br />
งบประมาณ จำนวน ๓๙,๒๘๗,๙๖๙.- บาท ซึ่งขณะนี้อยู่<br />
ระหว่างการดำเนินกรรมวิธีจัดหาวัสดุเพื่อให้โครงการฯ<br />
เปิดสายการผลิตในต้นปีงบประมาณ ๒๕๖๑ ต่อไป<br />
๒. ยุทธศาสตร์ที่ ๔ การส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรม<br />
ป้องกันประเทศ<br />
โครงการนำร่องการนำผลงานวิจัยสู่สายการผลิตใช้<br />
ในราชการและจำหน่ายในเชิงพาณิชย์<br />
ทร. ร่วมกับ สทป. ดำเนินโครงการความร่วมมือ<br />
การผลิตลูกปืน สอ. ๓๐ x ๑๗๓ มม. ชนิดฝึก เพื่อรับรอง<br />
มาตรฐาน ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการนำร่องการนำผลงาน<br />
วิจัยสู่สายการผลิตใช้ในราชการและจำหน่ายในเชิงพาณิชย์<br />
โดยการดำเนินโครงการมีผลสำเร็จเป็นอย่างดี และ ทร.ได้<br />
เสนอความต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียนอุตสาหกรรมป้องกัน<br />
ประเทศสำหรับดำเนินโครงการผลิตลูกปืน สอ. ๓๐ x ๑๗๓<br />
มม. ชนิดฝึก<br />
ผลการดำเนินการ<br />
ปล.กห. ได้อนุมัติ เมื่อ ๒ พ.ย.๕๙ ให้โครงการผลิต<br />
ลูกปืน สอ. ๓๐ x ๑๗๓ มม. ชนิดฝึก (ปีงบประมาณ ๒๕๖๑ -<br />
๒๕๖๕) เป็นโครงการเริ่มใหม่ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๑<br />
ใช้เงินทุนหมุนเวียนอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ลงทุน<br />
วงเงิน ๖๙,๖๓๘,๑๖๒.- บาท ระยะเวลาดำเนินโครงการฯ<br />
๕ ปี ผลิตลูกปืน สอ. ๓๐ x ๑๗๓ มม. ชนิดฝึก จำนวน<br />
๑๕,๐๐๐ นัด เพื่อขายให้กับ ทร. ปีละ ๓,๐๐๐ นัด ราคา<br />
นัดละ ๔,๗๔๖.๑๙.- บาท เมื่อสิ้นสุดโครงการจะมีประมาณ<br />
การรายรับ ๗๑,๑๙๒,๘๕๐.- บาท ทั้งนี้ กระทรวงการคลัง<br />
ได้อนุมัติประมาณการรายจ่ายเงินทุนหมุนเวียนฯ ประจำ<br />
ปีงบประมาณ ๒๕๖๑ แล้ว และ สสอป.ศอพท. ได้เตรียม<br />
ดำเนินกรรมวิธีจัดหาวัสดุเพื่อให้โครงการฯ เปิดสายการผลิต<br />
ในต้นปีงบประมาณ ๒๕๖๑ ต่อไป<br />
62
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
กรมการพลังงานทหาร<br />
ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร (พท.ศอพท.)<br />
ภารกิจ : มีหน้าที่วางแผน ดำเนินการ ควบคุม วิจัย พัฒนา ผลิต จัดหา สะสม และให้<br />
บริการเชื้อเพลิง ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและการพลังงานทดแทน เพื่อสนับสนุนภารกิจ<br />
ของกระทรวงกลาโหม ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน เพื่อความมั่นคง<br />
ของประเทศตามนโยบายของกระทรวงกลาโหม ตลอดจนให้การสนับสนุนเสริม<br />
ด้านวิชาการ และประสานความร่วมมือด้านพลังงานกับองค์กรภาครัฐและเอกชน<br />
ตามที่ได้รับมอบหมาย มีเจ้ากรมการพลังงานทหาร ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกัน<br />
ประเทศและพลังงานทหาร เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ<br />
พลโท ศิริพงษ์ วงศ์ขันตี<br />
เจ้ากรมการพลังงานทหาร<br />
ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร<br />
สรุปผลการปฏิบัติงานที ่สำคัญ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
๑. ด้านพลังงานทดแทน<br />
ได้ดำเนินการขอรับการสนับสนุนงบประมาณจาก<br />
กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน จากสำนักงาน<br />
นโยบายและแผนพลังงาน และกรมพัฒนาพลังงานทดแทน<br />
และอนุรักษ์พลังงาน กระทรวงพลังงาน เพื่อดำเนินงานด้าน<br />
พลังงานทดแทน ภายใต้การดำเนินงานตามบันทึกข้อตกลง<br />
ความร่วมมือระหว่าง พน. และ กห. เมื่อ ๒๓ เม.ย.๕๖ โดยมี<br />
ผลการดำเนินการ ดังนี้<br />
๑.๑ โครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสง<br />
อาทิตย์แบบอิสระผสมผสานแบบเชื่อมต่อระบบจำหน่าย<br />
(Grid Back up System) ขนาดไม่น้อยกว่า ๓๐ กิโลวัตต์ เพื่อ<br />
ความมั่นคงในหน่วยทหาร (จำนวน ๑๐ ระบบ)<br />
๑.๒ โครงการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสง<br />
อาทิตย์สำหรับฐานปฏิบัติการทางทหาร ปี ๒๕๕๘ (จำนวน<br />
๔๒ ชุด)<br />
๑.๓ โครงการจัดสร้างระบบผลิตไฟฟ้าและสูบน้ำด้วย<br />
เซลล์แสงอาทิตย์แบบเคลื่อนที่ขนาดไม่น้อยกว่า ๑,๒๐๐ วัตต์<br />
เพื่อสนับสนุนภารกิจทางทหาร (จำนวน ๒๐๐ ระบบ)<br />
๑.๔ โครงการติดตั้งระบบไฟฟ้าส่องสว่างพลังงานแสง<br />
อาทิตย์ เพื่อความมั่นคงในหน่วยทหาร (จำนวน ๑,๐๐๐ ชุด)<br />
๑.๕ โครงการผลิตก๊าซชีวภาพจากขยะอินทรีย์ใน<br />
หน่วยทหาร และหน่วยงานในสังกัด กห. (จำนวน ๕๐ ระบบ)<br />
63
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
สาธารณภัยและภัยพิบัติปัญหาภัยแล้ง อีกทั้งยังเป็นประโยชน์<br />
ในการบูรณาการทรัพยากรของภาครัฐกับหน่วยงานราชการอื่น<br />
ในการดำเนินการให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างมี<br />
ประสิทธิภาพ<br />
๑.๖ โครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสง<br />
อาทิตย์แบบผสมผสานอัจฉริยะด้วยเซลล์แสงอาทิตย์ ระบบ<br />
สายส่งและแบตเตอรี่สำรอง Smart Hybrid PV-Grid and<br />
Battery System) ขนาดไม่น้อยกว่า ๓๐ กิโลวัตต์ เพื่อความ<br />
มั่นคงในหน่วยทหาร<br />
๑.๗ โครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์แสง<br />
อาทิตย์แบบ Mini Grid-Hybrid (Grid Backup) ขนาด<br />
ไม่น้อยกว่า ๕๐๐ กิโลวัตต์และติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยเซลล์<br />
แสงอาทิตย์แบบ Mini Grid-Hybrid (Grid Backup) ขนาด<br />
ไม่น้อยกว่า ๓๐ กิโลวัตต์ บริเวณพื้นที่โรงเรียนนายสิบ<br />
ทหารบก จำนวน ๒ ระบบ<br />
๑.๘ โครงการจัดสร้างระบบผลิตไฟฟ้าและสูบน้ำด้วย<br />
เซลล์แสงอาทิตย์ขนาดไม่น้อยกว่า ๑,๐๐๐ วัตต์ บนรถลากจูง<br />
ขนาดเล็ก เพื่อสนับสนุนภารกิจทางทหาร จำนวน ๑๒๕ ระบบ<br />
๒. งานสำคัญอื่นๆ<br />
- โครงการแก้มลิงช่วยเหลือประชาชน โดยได้<br />
ประสาน นพค. ๓๒ สนภ. ๓ นทพ. เพื่อขอรับการสนับสนุน<br />
เจ้าหน้าที่สำรวจพื้นที่ และออกแบบประมาณการเป็นหน่วย<br />
รับผิดชอบ รวมทั้งโครงการแก้มลิงช่วยเหลือประชาชน โดย<br />
การขยายพื้นที่รับน้ำอ่างเก็บน้ำหนองผักหนาม โดยมีระยะ<br />
เวลาดำเนินงานตั้งแต่ ๑๕ พ.ค.๖๐ – ๒๐ มิ.ย.๖๐ ซึ่งเป็น<br />
ไปตามดำริของ ปล.กห. เมื่อคราวเดินทางไปตรวจเยี่ยม<br />
ศพปน.พท.ศอพท. เมื่อวันที่ ๖ – ๗ ม.ค.๖๐ และเมื่อ<br />
๒๓ มิ.ย.๖๐ ได้รับการส่งมอบโครงการขุดลอกหนองผักหนาม<br />
ซึ่งสามารถขยายพื้นที่แหล่งกักเก็บน้ำ โดยการขุดลอกอ่างเก็บ<br />
น้ำหนองผักหนาม เดิมขนาดพื้นที่๒๑,๘๒๐ ตร.ม. ให้ได้ขนาด<br />
๒๘,๔๕๕ ตร.ม. ปริมาณดินขุด ๘๘,๖๕๐ ลบ.ม. ที่บ้านสันป่าก่อ<br />
หมู่ ๒ ต.แม่คะ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เกิดประโยชน์ในการ<br />
เพิ่มปริมาณน้ำจืดสำรองสำหรับใช้ในกิจการปิโตรเลียมของ<br />
ศพปน.พท.ศอพท. และเพิ่มเติมขีดความสามารถจัดหาแหล่งน้ ำ<br />
จืดสำรองสำหรับช่วยเหลือประชาชนในด้านการบรรเทา<br />
ทั้งนี้ ได้ขยายผลการดำเนินโครงการพัฒนาแหล่ง<br />
กักเก็บน้ำหนองผักหนามเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดประโยชน์รองรับ<br />
ภารกิจด้านปิโตรเลียม การพัฒนาหน่วย รวมถึงงานกิจการ<br />
พลเรือน การบรรเทาสาธารณภัยและภัยพิบัติได้อย่างมี<br />
ประสิทธิภาพสูงสุด<br />
๓. กิจกรรมการปฏิบัติงานที่สำคัญในรอบปี ๒๕๖๐<br />
ร่วมน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายระบบผลิตไฟฟ้า<br />
และสูบน้ำด้วยเซลล์แสงอาทิตย์แบบเคลื่อนที่ขนาดไม่น้อยกว่า<br />
๑,๒๐๐ วัตต์ แด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรม<br />
ราชกุมารี เมื่อวันที่ ๑๕ ก.พ.๖๐<br />
64
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
ศูนย์พัฒนาปิโตรเลียมภาคเหนือ กรมการพลังงานทหาร<br />
ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร (ศพปน.พท.ศอพท.)<br />
ภารกิจ : มีหน้าที่ วางแผน ประสานงาน ดำเนินการเกี่ยวกับ การสำรวจการ<br />
กลั่นปิโตรเลียมในพื้นที่ที่ได้รับมอบ รวมถึงการวิจัย การพัฒนา การจัดหา การสะสม<br />
การผลิตสำรองเพื่อความมั่นคงที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและกระแสไฟฟ้า<br />
หรือพลังงานรูปแบบอื่นให้เป็นไปตามนโยบายของกระทรวงกลาโหม มีผู้อำนวยการ<br />
ศูนย์พัฒนาปิโตรเลียมภาคเหนือ เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ<br />
พลตรี กานต์ กลัมพสุต<br />
ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาปิโตรเลียมภาคเหนือ<br />
กรมการพลังงานทหาร<br />
ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร<br />
สรุปผลการปฏิบัติงานที ่สำคัญ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
๑. การสำรวจ ขุดเจาะการผลิต การกลั่น และโรงไฟฟ้าฯ<br />
๑.๑ การเจาะ : ดำเนินการเจาะหลุมผลิตปิโตรเลียม<br />
จำนวน ๒ หลุม ดังนี้<br />
- หลุมเจาะ FA-PK-<strong>60</strong>-09 เมื่อวันที่ ๖ ม.ค.๖๐ โดย<br />
พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปล.กห. เป็นประธาน Spud หลุม<br />
65
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
- หลุมเจาะ FA-MP-<strong>60</strong>-07 เมื่อวันที่ ๑๒ มิ.ย.๖๐<br />
โดย พล.อ.อ.ศิวเกียรติ์ ชเยมะ รอง ปล.กห. (๑) เป็นประธาน<br />
Spud หลุม<br />
๑.๒ การผลิตน้ำมันดิบ : เป้าหมายการผลิต ๒๙๒,๐๐๐<br />
บาร์เรล ผลการผลิตน้ำมันดิบ ผลิตได้ ๒๓๘,๘๔๔.๖๐ บาร์เรล<br />
คิดเป็นร้อยละ ๘๑.๘๐ ของเป้าหมาย<br />
๑.๓ การกลั่น : เป้าหมายการกลั่น ๒๙๒,๐๐๐ บาร์เรล<br />
ผลการกลั่นน้ำมันดิบ กลั่นได้ ๒๑๗,๓๙๒.๓๕<br />
บาร์เรล คิดเป็นร้อยละ ๗๔.๔๕ ของเป้าหมาย<br />
๑.๔ การจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมัน : เป้าหมาย การ<br />
จำหน่าย ๓๐๗,๗๐๗,๓๐๐.- บาท<br />
การจำหน่ายผลิตภัณฑ์น้ำมัน จำหน่ายได้<br />
๓๒๑,๐๘๖,๐๓๓.๓๘.- บาท คิดเป็นร้อยละ ๑๐๔.๓๕ ของ<br />
เป้าหมาย<br />
๑.๕ การผลิตกระแสไฟฟ้า : เป้าหมาย ๓๐,๓๐๕,๐๐๐<br />
กิโลวัตต์/ชั่วโมง<br />
ผลิตกระแสไฟฟ้าได้๒๕,๔๗๑,๖๘๐ กิโลวัตต์/ชั่วโมง<br />
คิดเป็นร้อยละ ๘๔.๐๕ ของเป้าหมาย<br />
66
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
กรมการอุตสาหกรรมทหาร<br />
ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร (อท.ศอพท.)<br />
ภารกิจ : มีหน้าที่วางแผนและดำเนินการอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับราชการทหาร<br />
ตามนโยบายของกระทรวงกลาโหม โดยประสานงานกับกระทรวงอื่นเฉพาะที่<br />
เกี่ยวกับการอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นปัจจัยใช้ในการทหาร และควบคุมและส่งเสริม<br />
กิจการขององค์การอุตสาหกรรมต่างๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย มีเจ้ากรมการ<br />
อุตสาหกรรมทหาร ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร<br />
เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ<br />
พลโท ภาณุพล บรรณกิจโศภน<br />
เจ้ากรมการอุตสาหกรรมทหาร<br />
ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร<br />
(๑ เม.ย.๕๘ – ๓๑ มี.ค.๖๐)<br />
พลโท ชมพล อามระดิษ<br />
เจ้ากรมการอุตสาหกรรมทหาร<br />
ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร<br />
(๑ เม.ย.๖๐ – ปัจจุบัน)<br />
สรุปผลการปฏิบัติงานที ่สำคัญ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
ด้านโรงงานอุตสาหกรรม และการผลิตแบตเตอรี่ทหาร<br />
๑. ด้านการผลิต<br />
งานประกอบแบตเตอรี่ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๐ ได้จำนวน ๑๒,๖๑๙ หม้อ และอยู่ระหว่างผลิตในเดือน ก.ย.๖๐<br />
จำนวน ๑,๐๐๔ หม้อ รวมยอดผลิต ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๐ จำนวน ๑๓,๖๒๓ หม้อ ดังนี้<br />
ประกอบแบตเตอรี่ยานยนต์รบ<br />
- แบตเตอรี่แบบ 2HN จำนวน ๒๐ หม้อ<br />
- แบตเตอรี่แบบ LV 13-6 จำนวน ๘ หม้อ<br />
- แบตเตอรี่แบบ 6N (ฝาเดี่ยว) จำนวน ๒๓๔ หม้อ<br />
67
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
- แบตเตอรี่แบบ 65-1 จำนวน ๒ หม้อ<br />
รวม จำนวน ๒๖๔ หม้อ<br />
ประกอบแบตเตอรี่ยานยนต์ธุรการ<br />
- แบตเตอรี่แบบ N 40 จำนวน ๒ หม้อ<br />
- แบตเตอรี่แบบ N 50 จำนวน ๖๕ หม้อ<br />
- แบตเตอรี่แบบ NS <strong>60</strong> จำนวน ๒๗ หม้อ<br />
- แบตเตอรี่แบบ NS <strong>60</strong>L จำนวน ๑๕ หม้อ<br />
- แบตเตอรี่แบบ N <strong>60</strong> จำนวน ๑๑๗ หม้อ<br />
- แบตเตอรี่แบบ N <strong>60</strong>L จำนวน ๔ หม้อ<br />
- แบตเตอรี่แบบ NS 70 จำนวน ๒๔ หม้อ<br />
- แบตเตอรี่แบบ N 70 จำนวน ๑,๖๔๙ หม้อ<br />
- แบตเตอรี่แบบ N 70L จำนวน ๑๘๒ หม้อ<br />
- แบตเตอรี่แบบ N 70Z จำนวน ๘๓ หม้อ<br />
- แบตเตอรี่แบบ N 100 จำนวน ๖๑๑ หม้อ<br />
- แบตเตอรี่แบบ N 120 จำนวน ๑,๖๐๕ หม้อ<br />
- แบตเตอรี่แบบ N 150 จำนวน ๑,๑๑๕ หม้อ<br />
- แบตเตอรี่แบบ N 200 จำนวน ๔๙๒ หม้อ<br />
- แบตเตอรี่แบบ UNX จำนวน ๒๐ หม้อ<br />
- แบตเตอรี่แบบ DIN 75 จำนวน ๓๙ หม้อ<br />
- แบตเตอรี่แบบ DIN 88 จำนวน ๙ หม้อ<br />
รวม จำนวน ๖,๐๕๙ หม้อ<br />
ประกอบแบตเตอรี่รถพิเศษ (รถไฟ)<br />
- แบตเตอรี่แบบ TRE 8-6 จำนวน ๑,๔๙๖ หม้อ<br />
- แบตเตอรี่แบบ TRA-12 จำนวน ๔,๕๐๐ หม้อ<br />
- แบตเตอรี่แบบ 8D จำนวน ๓๐๐ หม้อ<br />
รวม จำนวน ๖,๒๙๖ หม้อ<br />
อยู่ระหว่างผลิตเดือน ก.ย. ๖๐<br />
- แบตเตอรี่แบบ TRE 8-6 จำนวน ๓๐๔ หม้อ<br />
- แบตเตอรี่แบบ 8D จำนวน ๗๐๐ หม้อ<br />
รวม จำนวน ๑,๐๐๔ หม้อ<br />
๒. ด้านการขาย<br />
รับใบสั่งซื้อ/ใบสั่งงาน และส่งมอบผลิตภัณฑ์แล้วประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๐<br />
๒.๑ รับใบสั่งซื้อและใบสั่งงาน ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๐ จำนวน ๑๑,๘๐๙ หม้อ เป็นเงิน ๗๐,๕๖๔,๑๑๓.๖๙.-<br />
บาท และรอรับใบสั่งซื้อ เดือน ก.ย. ๖๐ จำนวน ๑,๘๐๐ หม้อ เป็นเงิน ๑๖,๑๑๐,๐๐๐.- บาท<br />
68
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
รับใบสั่งซื้อ/ใบสั่งงาน ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๐<br />
ลำดับ หน่วยงาน จำนวน (หม้อ) จำนวนเงิน หมายเหตุ<br />
๑ ทบ. ๓,๗๘๙ ๑๕,๕๑๒,๓๗๗.๒๓<br />
๒ ทร. ๑,๗๐๐ ๙,๖๕๙,๗๑๕.๒๕<br />
๓ ทอ. ๓๒๐ ๑,๓๓๙,๖๕๘.๘๗<br />
๔ บก.ทท. ๔๒๓ ๑,๗๔๗,๐๘๐.๕๐<br />
๕ <strong>สป</strong>. ๗๓ ๒๒๘,๑๑๑.๖๒<br />
๖ รฟท. ๕,๕๐๐ ๔๒,๐๕๐,๐๐๐.๐๐<br />
๗ รฟท. ๑,๘๐๐ ๑๖,๑๑๐,๐๐๐.๐๐ รอรับใบสั่งซื้อเดือน ก.ย.๖๐<br />
๘ ตามร้องขอ ๔ ๒๗,๑๗๐.๒๒<br />
รวม ๑๓,๖๐๙ ๘๖,๖๗๔,๑๑๓.๖๙<br />
๒.๒ ส่งมอบผลิตภัณฑ์แล้ว ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๐ จำนวน ๑๑,๐๔๑ หม้อ เป็นเงิน ๖๓,๘๔๕,๑๐๖.๙๖.- บาท<br />
รอการส่งมอบ<br />
ส่งมอบผลิตภัณฑ์แล้ว ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๐<br />
ลำดับ หน่วยงาน<br />
ส่งมอบผลิตภัณฑ์ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๐<br />
จำนวน (หม้อ) จำนวนเงิน (บาท)<br />
๑ ทบ. ๓,๗๘๙ ๑๕,๕๑๒,๓๗๗.๒๓<br />
๒ ทร. ๑,๖๓๒ ๙,๓๕๕,๗๕๕.๒๕<br />
๓ ทอ. ๓๒๐ ๑,๓๓๙,๖๕๘.๘๗<br />
๔ บก.ทท. ๔๒๓ ๑,๗๔๗,๐๘๐.๕๐<br />
๕ <strong>สป</strong>. ๗๓ ๒๒๘,๑๑๑.๖๒<br />
๖ รฟท. ๔,๘๐๐ ๓๕,๖๑๐,๐๐๐.๐๐<br />
๗ ตามร้องขอ ๔ ๒๗,๑๗๐.๒๒<br />
๘ จำหน่ายเศษวัสดุสูญเสีย ๒๔,๙๕๓.๒๗<br />
รวม ๑๑,๐๔๑ ๖๓,๘๔๕,๑๐๖.๙๖<br />
รอการส่งมอบผลิตภัณฑ์<br />
หมายเหตุ<br />
ลำดับ หน่วยงาน<br />
ผลิตภัณฑ์รอส่งมอบ<br />
จำนวน (หม้อ) จำนวนเงิน (บาท)<br />
หมายเหตุ<br />
๑ รฟท. ๗๐๐ ๖,๔๔๐,๐๐๐ กำหนดส่งมอบ ๒๐ ต.ค.๖๐<br />
๒ รฟท. ๑,๘๐๐ ๑๖,๑๑๐,๐๐๐ กำหนดส่งมอบ ปี ๖๑<br />
รวม ๒,๕๐๐ ๒๒,๕๕๐,๐๐๐<br />
69
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
แผนการดำเนินงานประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๑<br />
ด้านการขาย ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๑ ตาม MOU ของเหล่าทัพ การรถไฟฯ ประมาณการขายจำนวน ๑๖,๕๐๐<br />
หม้อ เป็นเงิน ๑๐๔,๔๙๖,๘๐๐ บาท<br />
ตาม MOU ของเหล่าทัพ<br />
- บก.ทท. จำนวน ๑,๔๐๑ หม้อ เป็นเงิน ๖,๒๕๒,๖๔๘.๓๙ บาท<br />
- ทบ. จำนวน ๕,๖๘๑ หม้อ เป็นเงิน ๒๓,๓๓๐,๒๑๙.๗๔ บาท<br />
- ทร. จำนวน ๑,๘๔๘ หม้อ เป็นเงิน ๑๑,๕๙๕,๕๑๗.๘๗ บาท<br />
- ทอ. จำนวน ๒๗๐ หม้อ เป็นเงิน ๑,๐๘๗,๒๑๔.๐๐ บาท<br />
รวม จำนวน ๙,๒๐๐ หม้อ เป็นเงิน ๔๒,๒๖๕,๖๐๐.๐๐ บาท<br />
การรถไฟ<br />
- แบตเตอรี่ TRA-12 จำนวน ๔,๕๐๐ หม้อ เป็นเงิน ๓๕,๑๔๙,๐๐๐ บาท<br />
- แบตเตอรี่ TRE 8-6 จำนวน ๑,๘๐๐ หม้อ เป็นเงิน ๑๗,๒๓๗,๗๐๐ บาท<br />
- แบตเตอรี่ 8D จำนวน ๑,๐๐๐ หม้อ เป็นเงิน ๙,๘๔๔,๐๐๐ บาท<br />
รวม จำนวน ๗,๓๐๐ หม้อ เป็นเงิน ๖๒,๒๓๑,๒๐๐ บาท<br />
๓. ด้านการผลิต ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๑ วางแผนการผลิต จำนวน ๑๖,๕๐๐ หม้อ/หน่วย<br />
หน่วยงานตาม MOU ของเหล่าทัพและการรถไฟฯ<br />
ไตรมาสที่ ๑ ผลิต ๖,๒๗๑ หม้อ<br />
- บก.ทท. จำนวน ๑๕๔ หม้อ<br />
- ทบ. จำนวน ๖,๐๖๑ หม้อ<br />
- ทร. จำนวน ๕๖ หม้อ<br />
ไตรมาสที่ ๒ ผลิต ๖,๙๖๖ หม้อ<br />
- บก.ทท. จำนวน ๑,๐๘๙ หม้อ<br />
- ทร. จำนวน ๑,๑๐๗ หม้อ<br />
- ทอ. จำนวน ๒๗๐ หม้อ<br />
- รฟท. จำนวน ๔,๕๐๐ หม้อ<br />
ไตรมาสที่ ๓ ผลิต ๓,๒๖๓ หม้อ<br />
- บก.ทท. จำนวน ๑๕๘ หม้อ<br />
- ทร. จำนวน ๓๐๕ หม้อ<br />
- รฟท. จำนวน ๒,๘๐๐ หม้อ<br />
ด้านการควบคุมโรงงานอุตสาหกรรม<br />
รัฐบาลได้ส่งเสริมและสนับสนุนให้เอกชนจัดตั้งโรงงานท ำ ประกอบ<br />
ซ่อมแซม และเปลี่ยนลักษณะอาวุธ สนับสนุนราชการทหาร ตำรวจ<br />
และหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระทางการ<br />
ผลิตของทางราชการ โดยกรมการอุตสาหกรรมทหารฯ เป็นหน่วย<br />
รับผิดชอบการออกใบอนุญาตให้เอกชนจัดตั้งโรงงานตามพระราชบัญญัติ<br />
โรงงานผลิตอาวุธของเอกชน พ.ศ.๒๕๕๐<br />
70
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
ปัจจุบันบริษัทที่ได้รับใบอนุญาต แบบ อ.๒ และเปิดดำเนินการผลิตอาวุธแล้ว จำนวน ๘ โรงงาน แบ่งเป็น ๒ กลุ่ม ดังนี้<br />
กลุ่มโรงงานผลิตกระสุนปืน อาวุธปืน และส่วนประกอบ<br />
๑. บริษัท ไทยอามส์ จำกัด โรงงานตั้งอยู่ที่ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ผลิตกระสุนปืน ขนาดต่างๆ ได้แก่ ขนาด ๙ มม.,<br />
๕.๕๖ มม., ๗.๖๕ มม., ๗.๖๒ มม., ๐.๓๒ นิ้ว, .๓๘ นิ้ว, .๔๐ นิ้ว, .๔๕ นิ้ว, .๓๕๗ นิ้ว, .๓๘๐ นิ้ว, .๔๔ นิ้ว, .๒๕ นิ้ว และ<br />
กระสุนปืนลูกซอง<br />
๒. บริษัท บุลเล็ท มาสเตอร์ จำกัด โรงงานตั้งอยู่ที่ อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ผลิตกระสุนปืนขนาดต่างๆ<br />
ได้แก่ ขนาด ๙ มม., ๖.๓๕ มม., ๗.๖๕ มม., .๓๒ นิ้ว, .๓๘ นิ้ว, .๔๐ นิ้ว, .๔๔ นิ้ว, .๔๕ นิ้ว, .๓๕๗ นิ้ว,<br />
.๓๘๐ นิ้ว, ๕.๕๖ มม., ๗.๖๒ มม. และกระสุนปืนลูกซอง<br />
๓. บริษัท รอยัล แอมมูนิชั่น จำกัด โรงงานตั้งอยู่ที่<br />
อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ ผลิตกระสุนปืนขนาดต่างๆ<br />
ได้แก่ ขนาด ๙ มม., .๓๘ นิ้ว และ .๔๕ นิ้ว<br />
๔. บริษัท ณธรรศชาตรี จำกัด โรงงานตั้งอยู่ที่ อ.เมืองนครสวรรค์ จ.นครสวรรค์ ผลิตกระสุนปืน ขนาด ๙ มม. และ<br />
อาวุธปืนพก กล็อก (GLOCK), บาร์เร็ตต้า (BERETTA), อาร์มสกอร์ (ARMSCOR), สไตเออร์ (STEYR) และอาวุธปืนของ บริษัท<br />
Shooters Guns & Ammo Corporation สาธารณรัฐฟิลิปปินส์<br />
71
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
๕. บริษัท เนแรค อาร์มส อินดัสตรี จำกัด โรงงานตั้งอยู่ที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ผลิตหัวกระสุนปืน,<br />
ปลอกกระสุนปืน และกระสุนปืนขนาดต่างๆ ได้แก่ ขนาด ๙ มม., .๓๘ นิ้ว, .๓๘๐ นิ้ว, .๓๕๗ นิ้ว, .๔๐ นิ้ว,<br />
.๔๔ นิ้ว, .๔๕ นิ้ว, กระสุนปืนลูกซอง ขนาด ๑๒ เกจ และกระสุนปืนใหญ่ขนาด ๓๐ มม., ๓๗ มม. และ ๗๕ มม.<br />
กลุ่มโรงงานผลิตวัตถุระเบิด<br />
๑. บริษัท ใช้ เอ็กซ์โพลซีฟส์ จำกัด โรงงานตั้งอยู่ที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ผลิตวัตถุระเบิดเพื่อการอุตสาหกรรม<br />
ได้แก่ EMULSION SLURRY TYPE, เชื้อปะทุชนิดไม่ใช้ไฟฟ้า (NON-ELECTRIC DETONATORS) (สีส้ม), เชื้อปะทุไฟฟ้า<br />
(ELECTRIC DETONATORS) จำนวน ๒ ชนิด คือ ชนิดธรรมดา IED และชนิดถ่วงเวลา MSD<br />
๒. บริษัท อัสพรรณ เอ็กซ์โพลซีฟ จำกัด โรงงานตั้งอยู่ที่ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ผลิตวัตถุระเบิดเชื้อปะทุชนิดไฟฟ้า<br />
(สีขาว-สีเหลือง), เชื้อปะทุชนิดถ่วงเวลา (สีขาว-สีส้ม), เชื้อปะทุชนิดไม่ใช้ไฟฟ้าถ่วงเวลา (Non Electric Detonator (สีฟ้า))<br />
และวัตถุระเบิด EMULSION<br />
๓. บริษัท พี.วี.เอ็กซโพลซิฟ (ไทยแลนด์) จำกัด โรงงานตั้งอยู่ที่ อ.พระพุทธบาท จ.สระบุรี ผลิตเชื้อปะทุชนิดไฟฟ้า<br />
(สีขาว-สีน้ำเงิน) และเชื้อปะทุชนิดไฟฟ้าหน่วงเวลา (สีขาว-สีแดง)<br />
72
การควบคุมโรงงานผลิตอาวุธของเอกชน<br />
- ดำเนินการตาม พ.ร.บ.โรงงานผลิตอาวุธของเอกชน<br />
พ.ศ.๒๕๕๐ รวมทั้งสิ้น ๘๒๑ ฉบับ ดังนี้<br />
๑. การออกหนังสืออนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต<br />
การเปลี่ยนแปลงโรงงาน การขยายสายการผลิต และการเปิด<br />
สายการผลิต รวม ๖๒๓ ฉบับ<br />
๒. รายงานขออนุมัติแผนการขนย้ายกระสุนและวัตถุ<br />
ระเบิดจาก คสช. ให้กับโรงงานผลิตอาวุธของเอกชนฯ จำนวน<br />
๑๐๙ ฉบับ ๓๖๗ เส้นทาง<br />
๓. รายงานการนำเข้ามาซึ่งวัตถุที่ใช้ในการผลิตอาวุธ<br />
หรืออาวุธที่ใช้ในการผลิตอาวุธเข้ามาในราชอาณาจักร จำนวน<br />
๓๕ ฉบับ<br />
๔. รายงานการปฏิบัติงานของโรงงานผลิตอาวุธฯ<br />
เกี่ยวกับข้อมูลวัตถุดิบ, การผลิต, ทดสอบ, สูญเสีย, ขาย,<br />
จำหน่าย และคงคลัง เป็นประจำทุกเดือน จำนวน ๑๒ ฉบับ<br />
๕. การแจ้งผู้ว่าราชการจังหวัดและนายทะเบียนท้องที่<br />
ที่มีการซื้อขายกระสุนปืน และวัตถุระเบิด จำนวน ๔๒ ฉบับ<br />
๖. จัดเก็บค่าธรรมเนียมคำขออนุญาต, ใบอนุญาต<br />
และหนังสืออนุญาตฯ เพื่อนำส่งเงินเป็นรายได้แผ่นดิน<br />
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๑,๑๐๘,๒๐๐.- บาท (หนึ่งล้านหนึ่งแสน<br />
แปดพันสองร้อยบาทถ้วน)<br />
๗. งานการพัฒนาระบบควบคุมอาวุธยุทธภัณฑ์<br />
และการออกใบอนุญาตด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์สำหรับ<br />
การเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบ National Single Window<br />
(NSW) ส่วนเพิ่มเติม โดยระบบดังกล่าวเป็นการพัฒนา<br />
แอปพลิเคชัน ซอฟต์แวร์ ที่มีหน้าจอในการกรอกข้อมูล<br />
หนังสืออนุญาตให้สั่งหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่ง<br />
วัตถุหรืออาวุธเพื่อใช้ในการผลิตอาวุธ หรือเป็นตัวอย่าง<br />
หรือเพื่อวิจัยเกี่ยวกับการผลิตอาวุธ สำหรับหน่วยงานตาม<br />
มาตรา ๗ (แบบ อ.๘) โดยสามารถเชื่อมโยงข้อมูลการสั่ง<br />
หรือนำเข้าฯ กับกรมศุลกากร ผ่านระบบ NSW ตั้งแต่<br />
๑๕ ส.ค.๖๐<br />
ด้านการควบคุมยุทธภัณฑ์และพัฒนาอุตสาหกรรม<br />
๑. งานที่เกี่ยวกับสถานที่เก็บยุทธภัณฑ์<br />
๑.๑ การตรวจสอบสถานที่เก็บยุทธภัณฑ์การประชุม<br />
แนะนำกับประชาชน และผู้ประกอบการจำนวน ๗๑๔ ราย<br />
๑.๒ การตรวจสอบติดตามสถานที่เก็บยุทธภัณฑ์เพื่อ<br />
กำกับดูแลผู้ประกอบการ ปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย<br />
จำนวน ๙ ครั้ง<br />
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
๒. การออกใบอนุญาต/หนังสืออนุญาต<br />
๒.๑ ออกใบอนุญาตสั่งเข้ามา นำเข้ามา ผลิต และมีซึ่ง<br />
ยุทธภัณฑ์ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.๒๕๓๐ จำนวน<br />
ทั้งสิ้น ๑๒,๓๘๖ ฉบับ<br />
๑) ใบอนุญาตมีฯ ๔,๘๙๙ ฉบับ<br />
๒) ต่ออายุใบอนุญาตมีฯ ๖,๔๓๗ ฉบับ<br />
๓) ใบอนุญาตผลิตฯ ๕๓ ฉบับ<br />
๔) ต่ออายุใบอนุญาตผลิต ๘๖ ฉบับ<br />
๕) ใบอนุญาตสั่งเข้ามาฯ ๘๘๘ ฉบับ<br />
๖) ต่ออายุใบอนุญาตสั่งเข้ามาฯ ๔ ฉบับ<br />
๗) ใบอนุญาตนำเข้ามาฯ ๑๙ ฉบับ<br />
นำส่งเงินค่าธรรมเนียมคำขอฯ และใบอนุญาตฯ รวม<br />
เป็นเงินทั้งสิ้น ๑,๒๘๖,๓๐๐.- บาท<br />
๒.๒ ออกหนังสือกำกับการส่งออก ตาม พ.ร.บ.ควบคุม<br />
การส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งอาวุธยุทธภัณฑ์และสิ่งที่<br />
ใช้ในการสงคราม พ.ศ.๒๔๙๕ จำนวนทั้งสิ้น ๕๓๘ ฉบับ<br />
๑) หนังสืออนุญาตส่งออกราย ๖ เดือน จำนวน<br />
๖๑ ฉบับ<br />
๒) หนังสืออนุญาตส่งออกราย Shipment จำนวน<br />
๔๔๕ ฉบับ<br />
๓) หนังสือแจ้งการส่งออก ๑ ปี จำนวน ๓๒ ฉบับ<br />
๒.๓ การจัดงานนิทรรศการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ<br />
๒๐๑๗ (Defense & Security 2017)<br />
- สนับสนุนงานของคณะอนุกรรมการประสานงานในการ<br />
จัดงานนิทรรศการอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ (Defense &<br />
Security 2017) ในห้วง ๖ – ๙ พ.ย.๖๐ ณ ศูนย์การแสดง<br />
สินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยดำเนินการ<br />
ในเรื่องต่างๆ เช่น การดำเนินพิธีการทางศุลกากร เกี่ยวกับ<br />
การนำสิ่งของและอาวุธยุทธภัณฑ์ที่บริษัทต่างประเทศ<br />
ผู้ร่วมงานนำเข้ามาแสดงในงาน การออกหนังสือรับรองการ<br />
ร่วมงานแสดงฯ ให้กับบริษัทต่างประเทศ การแต่งตั้งผู้แทน<br />
ผู้ประกอบการขนส่ง (Freigt Forwarder Agent) การตรวจ<br />
นับสินค้าที่นำเข้ามาแสดงที่ด่านศุลกากร การดำเนินการ<br />
ส่งกลับสินค้า และล้างทัณฑ์บนเพื่อขอรับหนังสือค้ำประกัน<br />
ของ อท.ศอพท. คืนจากกรมศุลกากร เป็นต้น<br />
๓. การดำเนินการเกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง<br />
การประชุมคณะกรรมการ และคณะอนุกรรมการ ตามกฎ<br />
กระทรวงการมีและใช้อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด<br />
ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน ของหน่วยราชการและ<br />
รัฐวิสาหกิจและการมอบให้ประชาชนมีและใช้เพื่อช่วยเหลือ<br />
73
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
ราชการ พ.ศ.๒๕๕๓ ออกตามความใน พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่อง<br />
กระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน<br />
พ.ศ.๒๔๙๐<br />
- พิจารณาอนุญาตให้หน่วยราชการมีและใช้อาวุธปืน<br />
เครื่องกระสุนปืน จำนวน ๓ หน่วย ดังนี้<br />
๑) กรมการปกครอง (สำนักกิจการความมั่นคงภายใน) มี<br />
และใช้อาวุธปืนลูกซอง จำนวน ๑,๙๐๐ กระบอก และเครื่อง<br />
กระสุนปืนลูกซอง จำนวน ๔๖๒,๓๐๒ นัด<br />
๒) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีและใช้<br />
อาวุธปืนลูกซอง จำนวน ๕๔๗ กระบอก และเครื่องกระสุนปืน<br />
ลูกซอง จำนวน ๑๓,๖๗๕ นัด<br />
๓) กรมการปกครอง (สำนักอำนวยการกองอาสารักษา<br />
ดินแดน) มีและใช้เครื่องกระสุนปืน ขนาด ๙ มิลลิเมตร จำนวน<br />
๒๕๐,๕๐๐ นัด เครื่องกระสุนปืน ขนาด ๕.๕๖ มิลลิเมตร<br />
จำนวน ๓๐๐,๖๐๐ นัด เครื่องกระสุนปืนลูกซอง จำนวน<br />
๑๕๐,๑๕๐ นัด และพิจารณาปรับแก้คำสั่งคณะกรรมการตาม<br />
กฎกระทรวงฯ พ.ศ.๒๕๕๓ เรื่อง แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ<br />
ตรวจสอบการปฏิบัติของหน่วยราชการและรัฐวิสาหกิจตาม<br />
กฎกระทรวงฯ พ.ศ.๒๕๕๓ เนื่องจาก อท.ศอพท. มีการปรับ<br />
แก้โครงสร้างการจัดภายในเกี่ยวกับภารกิจด้านการควบคุม<br />
อาวุธปืน ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาวุธปืนฯ พ.ศ.๒๔๙๐<br />
๔. การประชุมคณะอนุกรรมการร่างกฎกระทรวงและ<br />
ประกาศกำหนดยุทธภัณฑ์ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๐ เมื่อ ๒๔ ส.ค.<br />
๖๐ พิจารณา จำนวน ๒ เรื่อง คือ<br />
๔.๑ ร่างกฎกระทรวงการอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต<br />
และการออกใบแทน ใบอนุญาตสั่งเข้ามา นำเข้ามา ผลิต<br />
หรือมีซึ่งยุทธภัณฑ์ (ฉบับที่..) พ.ศ. .... อท.ศอพท. ได้พัฒนา<br />
งาน การยื่นขออนุญาตสั่งเข้ามา นำเข้ามา ผลิต มี ส่งออก<br />
และส่งผ่านแดน และการต่ออายุใบอนุญาตแต่ละประเภท<br />
ผ่านอินเทอร์เน็ตสำหรับผู้ประกอบการ จึงมีความจำเป็นต้อง<br />
แก้ไขกฎกระทรวงการอนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และ<br />
การออกใบแทนใบอนุญาตสั่งเข้ามา นำเข้ามา ผลิต หรือมีซึ่ง<br />
ยุทธภัณฑ์ พ.ศ.๒๕๕๕ เพื่อกำหนดการปฏิบัติในการยื่นขอ<br />
อนุญาตทางอินเทอร์เน็ต สำหรับเป็นทางเลือกให้ผู้ประกอบ<br />
การสามารถติดต่อสื่อสารโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศทาง<br />
ธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และมีผลในทางกฎหมายเช่นเดียวกับ<br />
การยื่น ณ อท.ศอพท. ซึ่งฝ่ายเลขานุการฯ ได้ยกร่างกฎ<br />
กระทรวงฯ และผ่านการตรวจแก้สาระสำคัญจาก ธน. แล้ว<br />
มติที่ประชุม พิจารณาเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการ<br />
อนุญาต การต่ออายุใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาต<br />
สั่งเข้ามา นำเข้ามา ผลิต หรือมีซึ่งยุทธภัณฑ์ ซึ่งอยู่ระหว่าง<br />
ดำเนินการนำเข้าพิจารณาในคณะกรรมการควบคุมยุทธภัณฑ์<br />
๔.๒ ร่างประกาศ กห. เรื่องกำหนดชนิดยุทธภัณฑ์ที่<br />
ต้องขออนุญาตตาม พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.๒๕๓๐<br />
(ฉบับที่ ..) พ.ศ.... ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการควบคุม<br />
ยุทธภัณฑ์ เมื่อวันที่ ๗ ก.ค.๕๘ ให้ อท.ศอพท./ฝ่ายเลขานุการ<br />
คณะอนุกรรมการฯ ดำเนินการปรับแก้ประกาศ กห. ลงวันที่<br />
๓๐ พ.ย.๕๐ เรื่อง กำหนดชนิดยุทธภัณฑ์ที่ต้องขออนุญาตตาม<br />
พ.ร.บ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.๒๕๓๐ จัดทำคำอ่านภาษาไทย<br />
ควบคู่กับชื่อยุทธภัณฑ์ภาษาอังกฤษเพื่อให้เกิดความชัดเจน<br />
เพียงพอที่บุคคลทั่วไปจะสามารถเข้าใจได้นั้น ฝ่ายเลขานุการฯ<br />
จึงได้ดำเนินการปรับปรุงชนิดยุทธภัณฑ์ ตามประกาศ กห.ฯ<br />
จำนวน ๓ ฉบับ ซึ่งมียุทธภัณฑ์จำนวนทั้งสิ้น ๓๐๒ รายการ<br />
โดยมีกรอบแนวคิดในการปรับปรุงคือ จัดทำคำอ่านภาษาไทย<br />
ปรับปรุงรายการอาวุธ ตัดรายการยุทธภัณฑ์ที่ซับซ้อนกับ<br />
กฎหมายอื่น รวมทั้งเพิ่มและแก้ไขรายการยุทธภัณฑ์ เพื่อให้<br />
มีความทันสมัยครบถ้วน และลดความซ้ำซ้อนในการควบคุม<br />
กับหน่วยงานอื่น โดยควบคุมเท่าที่จำเป็น<br />
มติที่ประชุม เนื่องจากชนิดยุทธภัณฑ์ที่แก้ไขปรับปรุงมี<br />
จำนวนมาก ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบและถี่ถ้วนในการ<br />
พิจารณา ประธานฯ จึงขอให้อนุกรรมการฯ นำร่างประกาศ<br />
กห. พร้อมข้อมูลดังกล่าว กลับไปพิจารณาและส่งข้อคิดเห็น<br />
หรือข้อเสนอแนะมาที่ฝ่ายเลขานุการฯ เพื่อรวบรวมข้อมูล<br />
นำเข้าพิจารณาในการประชุมคณะอนุกรรมการฯ ครั้งต่อไป<br />
ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะอนุกรรมการฯ<br />
๕. การจัดทำบันทึกข้อตกลงว่าด้วยการดำเนินการต่อของที่<br />
เป็นยุทธภัณฑ์เพื่อบรรเทาสาธารณภัย ตาม พ.ร.บ.ควบคุม<br />
ยุทธภัณฑ์ พ.ศ.๒๕๓๐ ระหว่าง กห. กับ กทม. ตามคำสั่ง<br />
หน.คสช. ที่ ๕๑/๒๕๕๙ ลง ๒๕ ส.ค.๕๙<br />
รมว.กห. กรุณาอนุมัติ เมื่อ ๒๙ ก.ย.๖๐ เห็นชอบร่าง<br />
บันทึกข้อตกลงฯ และมอบอำนาจ ให้ จก.อท.ศอพท. ลงนาม<br />
เป็นผู้แทน กห. และ ผอ.กคยพ.อท.ศอพท. ลงนามเป็นพยาน<br />
ในร่างบันทึกข้อตกลงฯ<br />
74
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
โรงงานวัตถุระเบิดทหาร กรมการอุตสาหกรรมทหาร<br />
ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร (รวท.อท.ศอพท.)<br />
ภารกิจ : มีหน้าที่ดำเนินการผลิตวัตถุระเบิดและกระสุน วิจัยและพัฒนา<br />
เพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ผลิตได้ให้แก่ส่วนราชการกระทรวงกลาโหม ส่วนราชการ<br />
อื่นและเอกชน ทั้งภายในและภายนอกประเทศ ตามที่กระทรวงกลาโหมกำหนด<br />
มีผู้อำนวยการโรงงานวัตถุระเบิดทหาร กรมการอุตสาหกรรมทหาร ศูนย์การ<br />
อุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ<br />
พลตรี สราวุธ รัชตะนาวิน<br />
ผู้อำนวยการโรงงานวัตถุระเบิดทหาร<br />
กรมการอุตสาหกรรมทหาร ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร<br />
สรุปผลการปฏิบัติงานที ่สำคัญ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
๑. งานตามประเด็นยุทธศาสตร์ของ <strong>สป</strong>. ที่หน่วยรับผิดชอบ<br />
หรือสนับสนุน<br />
๑.๑ จัดกิจกรรมค่ายอบรมเยาวชนป้องกันยาเสพติด<br />
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๐ ให้กับบุตรหลานของกำลังพล<br />
และเยาวชนในพื้นที่ใกล้เคียง อายุระหว่าง ๘ – ๑๘ ปี จำนวน<br />
๗๐ คน โดยมีการดำเนินการ ดังนี้<br />
๑.๑.๑ เมื่อ ๑๖ มี.ค.๖๐ จัดอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับ<br />
ยาเสพติด คุณธรรม จริยธรรม และกิจกรรมสันทนาการ เพื่อ<br />
75
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ณ ห้องประชุม ๒ รวท.<br />
อท.ศอพท. โดยวิทยากรจากชมรม To Be Number One<br />
มหาวิทยาลัยเจ้าพระยา<br />
๑.๑.๒ เมื่อ ๑๗ มี.ค.๖๐ นำบุตรหลานไปทัศนศึกษา<br />
ณ สถานที่ตากอากาศบางปูและเมืองโบราณ อ.เมือง<br />
จ.สมุทรปราการ<br />
๑.๓ ดำเนินกิจกรรมในการช่วยเหลือป้องกันบรรเทา<br />
สาธารณภัยและภัยพิบัติโดยหน่วยได้นำถังเก็บน้ำ จำนวน ๒๕ ถัง<br />
ไปแจกจ่ายให้กับประชาชน ต.ยางขาว ต.นิคมเขาบ่อแก้ว<br />
และ ต.เนินมะกอก อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ รวมทั้งได้นำ<br />
น้ำประปาที่หน่วยผลิตได้เอง ไปแจกจ่ายให้กับประชาชน<br />
ที่ประสบภัยแล้ง เพื่อใช้อุปโภคและบริโภคอย่างต่อเนื่อง<br />
โดยได้นำน้ำประปาไปแจกจ่ายให้กับประชาชนในเขตพื้นที่<br />
คิดเป็นปริมาณน้ำทั้งสิ้น ๑,๘๑๙,๐๐๐ ลิตร<br />
๑.๒ ข้าราชการปฏิบัติงานนอกเวลาราชการในวันหยุด<br />
ราชการ เพื่อสืบหาข้อมูลด้านการข่าวและปราบปรามยาเสพติด<br />
ในพื้นที่บ้านพักอาศัย และพื้นที่ใกล้เคียงโดยรอบที่ตั้งหน่วย<br />
เพื่อเป็นการป้องกันและป้องปรามมิให้กำลังพลและประชาชน<br />
ในพื้นที่โดยรอบหน่วยเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด<br />
76
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
๒. งานตามภารกิจหน่วย<br />
๒.๑ การผลิตผลิตภัณฑ์<br />
๒.๑.๑ ดินส่งกระสุน จำนวน ๘,๔๓๕ กก. ประกอบด้วย<br />
- ดินส่งกระสุน ขนาด ๒๓ มม. จำนวน ๒,๑๐๘ กก.<br />
- ดินส่งกระสุน ขนาด ๓๐ มม. จำนวน ๒,๕๒๓ กก.<br />
- ดินส่งกระสุน SB103 จำนวน ๑,๒๓๔ กก.<br />
- ดินส่งกระสุน ขนาด ๕.๕๖ มม. จำนวน ๒,๕๗๐ กก.<br />
๒.๑.๒ กระสุนปืน จำนวน ๓,๘๐๙,๒๖๗ นัด ประกอบด้วย<br />
- ๙ มม. 124 Gr.FMJ. จำนวน ๙๑๔,๙๖๗ นัด<br />
- ๙ มม. 115 Gr.FMJ. จำนวน ๗๘,๔๓๗ นัด<br />
- .๓๘ นิ้ว 158 Gr.LRN. จำนวน ๒๑๘,๑๑๕ นัด<br />
- .๓๘๐ นิ้ว 95 Gr.FMJ. จำนวน ๑๐,๒๓๕ นัด<br />
- .๔๕ นิ้ว 230 Gr.FMJ. จำนวน ๖๑๑,๙๘๕ นัด<br />
- .๓๘ นิ้ว (พาราฟิน) จำนวน ๖๑,๗๐๐ นัด<br />
- ๕.๕๖ มม. M193 จำนวน ๑,๕๙๔,๘๘๓ นัด<br />
- ๕.๕๖ มม. M855 จำนวน ๑๔๒,๖๖๗ นัด<br />
- กระสุนปืนลูกซอง จำนวน ๑๗๖,๒๗๘ นัด<br />
๒.๒ ยอดการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์<br />
ได้ขายผลิตภัณฑ์ในปีงบประมาณ ๒๕๖๐ ให้กับเหล่าทัพ และลูกค้า คิดเป็นเงินทั้งสิ้น ๕๘,๐๔๘,๔๖๕.๖๔<br />
บาท ประกอบด้วย<br />
๒.๒.๑ ดินส่งกระสุน จำนวน ๑๒,๘๗๘ กก. เป็นเงิน ๒๑,๓๖๐,๔๗๓.๔๔ บาท<br />
๒.๒.๒ กระสุนปืน จำนวน ๒,๔๗๕,๐๙๕ นัด เป็นเงิน ๓๖,๔๑๒,๗๒๓.๔๐ บาท<br />
๒.๒.๓ ไนโตรกลีเซอรีน จำนวน ๑๖๐ กก. เป็นเงิน ๒๗๕,๒๖๘.๘๐ บาท<br />
๓. งานสำคัญอื่นๆ<br />
๓.๑ โครงการวิจัยและพัฒนาผลิตดินส่งกระสุน สำหรับกระสุน ขนาด ๓๐ × ๑๖๕ มม. เพื่อวิจัยและพัฒนาการ<br />
ผลิตดินส่งกระสุน ขนาด ๓๐ × ๑๖๕ มม. สำหรับนำไปผลิตเป็นกระสุนปืนใหญ่อัตโนมัติที่ติดตั้งบนรถยานเกราะล้อยาง BTR<br />
ของ ทบ. และ ทร. ได้ดำเนินการผลิตดินส่งกระสุนต้นแบบ โดยผลการทดสอบมีคุณสมบัติเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด และ<br />
นำไปประกอบรวมเป็นกระสุนครบนัด เพื่อให้ผู้ใช้ทดลองใช้งาน โดยแจกจ่ายให้กับกองพลนาวิกโยธิน และกรมทหารราบที่<br />
๒๑ รักษาพระองค์ ซึ่งจะทำการยิงทดสอบในห้วง ก.ย.๖๐ เมื่อโครงการนี้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ โรงงานวัตถุ<br />
ระเบิดทหารฯ สามารถผลิตดินส่งกระสุน สำหรับกระสุนซ้อมรบ ขนาด ๓๐ × ๑๖๕ มม. สนับสนุนเหล่าทัพได้ตามนโยบาย<br />
การพึ่งพาตนเองของ ปล.กห.<br />
77
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
๓.๒ การเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือป้องกันบรรเทาสาธารณภัยและภัยพิบัติโดยได้จัดเตรียมความพร้อมของ<br />
บุคลากรและอุปกรณ์ สำหรับการปฏิบัติงานในการช่วยเหลือประชาชน ทั้งในเรื่องการช่วยเหลือน้ำท่วมและช่วยเหลือภัยแล้ง<br />
ตามขีดความสามารถของหน่วย ให้สามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง สนองตอบต่อความต้องการขอรับการสนับสนุนจาก<br />
องค์กรปกครองท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงที่ตั้งหน่วย<br />
78
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
ศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ<br />
ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร (ศอว.ศอพท.)<br />
ภารกิจ : มีหน้าที่ วางแผน อำนวยการ ประสานงาน จัดตั้ง ควบคุม ดำเนินการและ<br />
ร่วมมือกับส่วนราชการ องค์กร และภาคเอกชนอื่น ในการให้การศึกษา วิจัย พัฒนาและ<br />
ผลิตยุทโธปกรณ์และส่วนประกอบยุทโธปกรณ์ สนับสนุนและจำหน่ายให้แก่เหล่าทัพ<br />
ส่วนราชการ องค์กร หรือภาคเอกชนอื่นทั้งภายในและต่างประเทศ เพื่อการพึ่งพาตนเอง<br />
ด้านความมั่นคงของชาติและจำหน่ายให้ต่างประเทศ เพื่อสนับสนุนด้านการพัฒนาประเทศ<br />
รวมทั้งปฏิบัติงานอื่นที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและการพัฒนาประเทศ ตามนโยบายของ<br />
กระทรวงกลาโหม มีผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกัน<br />
ประเทศและพลังงานทหาร เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ<br />
พลโท นภนต์ สร้างสมวงษ์<br />
ผู้บัญชาการศูนย์อำนวยการสร้างอาวุธ ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร<br />
สรุปผลการปฏิบัติงานที ่สำคัญ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
๑. การดำเนินการตามภารกิจหน่วย<br />
๑.๑ งานโครงการที่ได้ดำเนินการในงบประมาณปี<br />
๒๕๖๐ จำนวน ๕ งาน/โครงการ<br />
๑.๑.๑ โครงการปรับปรุงพัฒนาปืนใหญ่ ขนาด<br />
๑๕๕ มม. แบบลากจูงให้เป็นแบบอัตตาจร ล้อยาง (ให้ครบ<br />
จำนวน ๑ กองพัน) (ระยะที่ ๑) ระยะเวลา ๔ ปี (ปี ๕๘ – ๖๑)<br />
เป็นโครงการปรับปรุงพัฒนาปืนใหญ่ ขนาด ๑๕๕ มม. แบบ<br />
ลากจูง ให้เป็นแบบอัตตาจรล้อยาง (ให้ครบจำนวน ๑ กองพัน)<br />
(ระยะที่ ๑) เพื่อปรับปรุงพัฒนาปืนใหญ่ขนาด ๑๕๕ มม. ของ<br />
ทบ. ให้เป็นแบบอัตตาจรล้อยาง จำนวน ๖ กระบอก พร้อม<br />
ระบบเข้าที่ตั้งยิงอัตโนมัติ (ชี้ทิศและกำหนดพิกัดอัตโนมัติ)<br />
และระบบควบคุมและอำนวยการยิงอัตโนมัติประจำทุกหมู่ปืน<br />
รวมทั้งระบบควบคุมการยิงอัตโนมัติระดับกองร้อย จำนวน ๑<br />
ระบบ และระบบเรดาร์ตรวจสภาพอากาศ และการเชื่อมต่อ<br />
ระบบควบคุมและอำนวยการยิงเข้ากับเรดาร์ กำหนดที่ตั้ง<br />
ป. และ ค. ของ ทบ. ด้วยการรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่<br />
เกี่ยวข้องในการผลิตชิ้นส่วนที่เป็นระบบทางกลและระบบ<br />
ไฮโดรลิกของปืนใหญ่, การประกอบรวม, การปรับปรุงพัฒนา,<br />
79
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
การใช้งานและซ่อมบำรุงด้วยตนเองในอนาคตต่อไป รมว.กห.<br />
ได้อนุมัติโครงการ เมื่อ ๑๘ มี.ค.๕๖ โดยได้ลงชื่อในสัญญาแล้ว<br />
ตามสัญญาเลขที่ (ศอว.ศอพท.) ๓๐๒/๒๕๕๘ ลง ๒๑ ก.ค.<br />
๕๘ กับบริษัท เอลบิท ซิสเต็มส์ แลนด์ แอนด์ ซีโฟร์ไอ จำกัด<br />
- เมื่อ ๙ - ๑๑ ม.ค.๖๐ บริษัทเข้าสำรวจความ<br />
พร้อมของอุปกรณ์ เครื่องจักรกลในโรงงานของ ศอว.ศอพท.<br />
ที่จะใช้ในการถ่ายทอดเทคโนโลยีในการผลิตชิ้นส่วนต่างๆ ให้<br />
กับเจ้าหน้าที่ของ ศอว.ศอพท. (ตามสัญญาข้อ ๕.๑.๑)<br />
- เมื่อ ๔ - ๑๒ ก.พ.๖๐ บริษัทได้เชิญคณะ<br />
กรรมการตรวจรับพัสดุ จำนวน ๔ นาย และสังเกตการณ์<br />
จาก ศอว.ศอพท. จำนวน ๒ นาย เพื่อทำการตรวจรับสิ่งของ<br />
ของระบบ ATMG ก่อนทำการส่งของลงเรือ ณ โรงงานของ<br />
ประเทศผู้ผลิต รัฐอิสราเอล (ตามสัญญาข้อ ๕.๑.๒)<br />
- เมื่อ ๒๐ มี.ค.๖๐ บริษัทได้จัดการประชุม<br />
เพื่อชี้แจงความก้าวหน้าของโครงการและขั้นตอนการผลิต<br />
ชิ้นส่วนที่สามารถดำเนินการของโครงการต่อคณะกรรมการ<br />
บริหารสัญญาและคณะกรรมการทางเทคนิค ณ ห้องประชุม<br />
บก.ศอว.ศอพท.(๒)<br />
- เมื่อ ๒๑ - ๒๓ มี.ค.๖๐ บริษัทส่งเจ้าหน้าที่<br />
เข้าทำการสำรวจยานพาหนะของ ทบ. ที่จะทำการติดตั้งระบบ<br />
อำนวยการยิงอัตโนมัติ ณ ศป. และ พล.ป. (ร้อย.ป.คปม.)<br />
- เมื่อ ๒๔ - ๒๘ เม.ย.๖๐ บริษัทได้ส่ง<br />
เจ้าหน้าที่ของบริษัทเพื่อทำการเตรียมการและฝึกสอนอบรม<br />
การปรนนิบัติบำรุง และการปฏิบัติการทางเทคนิคเพื่อการ<br />
ทบทวนของระบบปืนใหญ่ ขนาด ๑๕๕ มม. แบบอัตตาจร<br />
ล้อยาง (ATMG) ให้กับเจ้าหน้าที่ของ ป.พัน.๗๒๑ ณ ป.พัน.๗๒๑<br />
- เมื่อ ๓ พ.ค.๖๐ บริษัทได้ส่งวัสดุอุปกรณ์รวม<br />
จำนวน ๑๒ ตู้บรรจุสินค้า (Containers) น้ำหนักรวมทั้งสิ้น<br />
จำนวน ๑๒๐,๘๔๐ กก.<br />
- เมื่อ ๑๓ มิ.ย.๖๐ บริษัทได้ส่งแบบรูปการ<br />
ปรับปรุงรถ ศอย. เพื่อขอความเห็นชอบในแบบรูปโดยมีผู้แทน<br />
ของ รง.ปค.ศอว.ศอพท., ผู้แทนจาก พล.ป. (ป.พัน.๗๒๑) และ<br />
ผู้แทน ศป. ร่วมกันพิจารณาให้ความเห็นชอบ ณ ห้องประชุม<br />
บก.รง.ปค.ศอว.ศอพท.<br />
- เมื่อ ๒๑ มิ.ย.๖๐ บริษัทได้ส่งมอบสิ่งของ<br />
ตามสัญญา พร้อมส่งมอบแบบรูป (Drawing) ทั้งหมดของ<br />
การดำเนินการ รวมจำนวน ๕ ตู้บรรจุสินค้า พร้อมรถจำนวน<br />
๒ คัน<br />
- จ่ายเงินงวดที่ ๓ ของการชำระเงินงวด<br />
ร้อยละ ๔๐ เป็นเงิน ๑๔๒,๒๓๐,๖๑๑.๕๖ บาท เมื่อ ๓๐ มิ.ย.๖๐<br />
ปัจจุบัน การดำเนินการเป็นไปตามสัญญาการดำเนินการ<br />
จะเสร็จตามสัญญาภายใน พ.ค.๖๑<br />
๑.๑.๒ โครงการปรับปรุงพัฒนาปืนใหญ่ ขนาด<br />
๑๕๕ มม. แบบอัตตาจรล้อยาง (ให้ครบจำนวน ๑ กองพัน)<br />
(ระยะที่ ๒) ระยะเวลา ๓ ปี (ปี ๖๐ - ๖๒) เป็นโครงการ<br />
ปรับปรุงพัฒนาปืนใหญ่ ขนาด ๑๕๕ มม. แบบอัตตาจร<br />
ล้อยาง (ให้ครบจำนวน ๑ กองพัน) (ระยะที่ ๒) เพื่อปรับปรุง<br />
พัฒนาปืนใหญ่ ขนาด ๑๕๕ มม.ของ ทบ. ให้เป็นแบบอัตตาจร<br />
ล้อยาง จำนวน ๖ กระบอก พร้อมระบบเข้าที่ตั้งยิงอัตโนมัติ<br />
(ชี้ทิศและกำหนดพิกัดอัตโนมัติ) และระบบควบคุมและอำนวย<br />
การยิงอัตโนมัติประจำหมู่ปืน รวมทั้งติดตั้งระบบควบคุมการ<br />
ยิงอัตโนมัติระดับกองร้อย จำนวน ๑ ระบบ ด้วยการรับการ<br />
ถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องในการผลิตอุปกรณ์และชิ้นส่วน<br />
ทุกระบบ, การประกอบรวม, การปรับปรุงพัฒนา, การใช้งาน<br />
และซ่อมบำรุงและทำการผลิตอุปกรณ์และชิ้นส่วนทุกชนิด<br />
ที่สามารถดำเนินการได้ ภายใต้การกำกับดูแลตรวจสอบจาก<br />
บริษัทผู้ผลิตที่มีประสบการณ์และความชำนาญ รวมทั้งเป็น<br />
ที่ยอมรับในระดับสากล และเมื่อได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยี<br />
พร้อมได้รับสิทธิในการปรับปรุงพัฒนาแล้วสามารถที่จะ<br />
ดำเนินการผลิตชิ้นส่วน ปรับปรุงพัฒนาและซ่อมบำรุงด้วย<br />
ตนเองในอนาคตได้ต่อไป<br />
80
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
- ปล.กห. ได้กรุณาอนุมัติแต่งตั้งคณะ<br />
กรรมการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษ และคณะกรรมการตรวจรับ<br />
พัสดุ เพื่อดำเนินการจัดซื้อตามโครงการ เมื่อ ๑๐ ม.ค.๖๐<br />
และได้ลงชื่อในสัญญาแล้ว ตามสัญญาเลขที่ (ศอว.ศอพท.)<br />
๓๐๐/๒๕๖๐ ลง ๒๙ มี.ค.๖๐ กับบริษัท เอลบิท ซิสเต็มส์<br />
แลนด์ แอนด์ ซีโฟร์ไอ จำกัด<br />
- เมื่อ ๑๘ - ๒๒ เม.ย.๖๐ คณะกรรมการ<br />
ตรวจรับพัสดุ จำนวน ๖ นาย เดินทางไปทำการตรวจรับ<br />
สิ่งของด้วยสายตาสำหรับการซ่อมบำรุงปรับปรุงหรือติดตั้ง<br />
เครื่องจักรกล เพื่อใช้ในการจัดตั้งสายการผลิตกระสุนปืน<br />
รถถัง ณ ประเทศผู้ผลิต รัฐอิสราเอล ตามสัญญาข้อ ๔.๒ และ<br />
ชำระเงินร้อยละ ๓๐ (สามสิบ)<br />
- เมื่อ ๔ - ๒๒ มิ.ย.๖๐ ได้ส่งเจ้าหน้าที่<br />
จำนวน ๘ นาย เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรพื้นฐานการผลิต<br />
อุปกรณ์และชิ้นส่วนอุปกรณ์ทุกระบบการประกอบรวมและ<br />
การปรับปรุงพัฒนา ณ รัฐอิสราเอล<br />
- เมื่อ ๒๕ มิ.ย. - ๑๓ ก.ค.๖๐ ได้ส่งเจ้าหน้าที่<br />
จำนวน ๖ นาย และ ทบ. จำนวน ๔ นาย รวมจำนวน ๑๐<br />
นาย เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรการใช้งานและซ่อมบำรุง<br />
ขั้นสูงของระบบปืนใหญ่และระบบอัตโนมัติที่เกี่ยวข้อง<br />
ณ รัฐอิสราเอล (ตามสัญญาข้อ ๕.๑.๑)<br />
ปัจจุบัน อยู่ระหว่างดำเนินการตามสัญญา การ<br />
ดำเนินการจะเสร็จตามสัญญา ภายใน ก.ค.๖๒<br />
๑.๑.๓ โครงการปรับปรุงพัฒนาเครื่องยิง<br />
ลูกระเบิด ขนาด ๑๒๐ มม. แบบอัตตาจรล้อยาง ระยะเวลา<br />
๓ ปี (ปี ๕๙ - ๖๑) เป็นการรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีในการ<br />
ประกอบรวม เพื่อปรับปรุงพัฒนาเครื่องยิงลูกระเบิด ขนาด<br />
๑๒๐ มม. ให้เป็นแบบอัตตาจรล้อยาง จำนวน ๑๐ กระบอก<br />
(สำหรับกองร้อยเครื่องยิงลูกระเบิด จำนวน ๙ กระบอก<br />
และ ศร. จำนวน ๑ กระบอก) โดยการนำเครื่องยิงลูกระเบิด<br />
ขนาด ๑๒๐ มม. ติดตั้งบนรถยนต์บรรทุก พร้อมระบบเข้าที่<br />
ตั้งยิงอัตโนมัติ (กำหนดพิกัดและทิศทางอัตโนมัติ) และระบบ<br />
ควบคุม และอำนวยการยิงอัตโนมัติประจำหมู่ค. รวมทั้งระบบ<br />
ควบคุมและอำนวยการยิงอัตโนมัติระดับกองร้อย จำนวน<br />
๕ ระบบ (สำหรับ ร้อย ค. จำนวน ๔ ระบบ และ ศร. จำนวน<br />
๑ ระบบ) ด้วยการรับการถ่ายทอดเทคโนโลยี จากบริษัท<br />
ผู้ผลิตที่มีประสบการณ์และความชำนาญ รวมทั้งเป็นที่ยอมรับ<br />
ในระดับสากลและเมื่อได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีพร้อม<br />
สิทธิ์ในการปรับปรุงพัฒนาแล้ว สามารถที่จะดำเนินการ<br />
ปรับปรุงพัฒนาและซ่อมบำรุงด้วยตนเองในอนาคตได้ต่อไป<br />
ซึ่ง รมว.กห. ได้อนุมัติโครงการเริ่มใหม่ ๕๙ เมื่อ ๑๕ ส.ค.๕๘<br />
และได้ลงชื่อในสัญญาแล้ว ตามสัญญาเลขที่ (ศอว.ศอพท.)<br />
๓๐๑/๒๕๕๙ ลง ๓๑ มี.ค.๕๙ กับบริษัท เอลบิท ซิสเต็มส์<br />
แลนด์ แอนด์ ซีโฟร์ไอ จำกัด<br />
- เมื่อ ๒๐ มี.ค.๖๐ บริษัทได้จัดการประชุม<br />
เพื่อนำเสนอการออกแบบขั้นสุดท้ายของโครงการ ต่อคณะ<br />
กรรมการบริหารสัญญา คณะกรรมการบริหารทางเทคนิคและ<br />
หน่วยที่เกี่ยวข้องของ ทบ. ณ ห้องประชุม บก.ศอว.ศอพท.(๑)<br />
- เมื่อ ๑๘ - ๒๖ พ.ค.๖๐ เจ้าหน้าที่ จำนวน<br />
๕ นาย และ ทบ. จำนวน ๓ นาย รวม ๘ นาย เดินทางเข้าร่วม<br />
ดำเนินการประกอบรวมและติดตั้งต้นแบบเครื่องยิงลูกระเบิด<br />
ขนาด ๑๒๐ มม. ณ รัฐอิสราเอล<br />
- เมื่อ ๑๔ - ๒๐ มิ.ย.๖๐ ได้ส่งเจ้าหน้าที่<br />
จำนวน ๕ นาย เข้าร่วมดำเนินการทดสอบเพื่อการยอมรับ<br />
(ATP) ต้นแบบเครื่องยิงลูกระเบิด ณ รัฐอิสราเอล ตามสัญญา<br />
ข้อ ๕.๑.๕<br />
- เมื่อ ๑๙ - ๒๕ มิ.ย.๖๐ ได้ส่งเจ้าหน้าที่<br />
จำนวน ๕ นาย และ ทบ. จำนวน ๕ นาย รวมจำนวน ๑๐<br />
นาย เข้าร่วมดำเนินการยิงทดสอบต้นแบบเครื่องยิงลูกระเบิด<br />
ณ รัฐอิสราเอล ตามสัญญาข้อ ๕.๑.๕<br />
- เมื่อ ๒๗ มิ.ย.๖๐ บริษัทได้ส่งแบบ<br />
รูปการติดตั้งอุปกรณ์ของระบบควบคุมและอำนวยการ<br />
ยิงอัตโนมัติระดับกองร้อยบนยานพาหนะของ ทบ.และ<br />
ขอความเห็นชอบต่อแบบรูปกับ รง.ปค.ศอว.ศอพท.<br />
และที่ปรึกษาโครงการจาก ศร. และ พล.ร.๒ รอ. ร่วมพิจารณา<br />
เห็นชอบแบบรูป ณ ห้องประชุม บก.รง.ปค.ศอว.ศอพท.<br />
- เมื่อ ๑๘ - ๒๔ ก.ค.๖๐ ได้ส่งคณะกรรมการ<br />
ไปดำเนินการตรวจรับพัสดุก่อนส่งสินค้าลงเรือ ณ รัฐอิสราเอล<br />
ตามสัญญาข้อ ๕.๑.๖ และผู้ขายทำการขนส่งต้นแบบ รวมทั้ง<br />
ต้นแบบระบบควบคุมและอำนวยการยิงอัตโนมัติระดับ<br />
กองร้อยและพัสดุหรือสิ่งของที่ใช้ในการดำเนินการปรับปรุง<br />
แก้ไข ภายใน ๒๒ ก.ย.๖๐ ตามสัญญาข้อ ๕.๑.๗<br />
81
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
ปัจจุบัน การดำเนินการเป็นไปตามสัญญา<br />
การดำเนินการจะแล้วเสร็จ ตามสัญญา ภายใน ก.ค.๖๑<br />
๑.๑.๔ โครงการเพิ่มขีดความสามารถในการผลิต<br />
กระสุนปืนรถถังเพื่อสนับสนุนเหล่าทัพ และเพื่อการส่งออก<br />
ต่างประเทศ (ระยะที่ ๑) (ช่วงที่ ๒) ระยะเวลา ๔ ปี (ปี ๕๘<br />
- ๖๑) เป็นโครงการเฟสที่ ๒ โครงการเพิ่มขีดความสามารถ<br />
ในการผลิตกระสุนปืนรถถัง เพื่อสนับสนุนเหล่าทัพและเพื่อ<br />
การส่งออกต่างประเทศ ซึ่งเป็นการรับการถ่ายทอดเทคโนโลยี<br />
ในการผลิตกระสุนปืนรถถัง ตั้งแต่ขั้นตอนการผลิตตัวกระสุน<br />
การบรรจุดินระเบิด (COMP A3) จนถึงขั้นการประกอบ<br />
รวมกระสุน โดยได้ลงชื่อในข้อตกลงแล้ว ตามข้อตกลงเลขที่<br />
ศอว.ศอพท.๑/๒๕๕๘ ลง ๒๐ ก.ย.๕๘ กับบริษัท Israel<br />
Military Industries Ltd. (IMI)<br />
- เมื่อ ๑๒ - ๑๗ ก.ค.๖๐ เจ้าหน้าที่<br />
จำนวน ๖ นาย เดินทางไปทำการตรวจรับสิ่งของ<br />
สำหรับใช้ในการผลิตกระสุนปืนรถถัง ณ ประเทศผู้ผลิต<br />
รัฐอิสราเอล และชำระเงินร้อยละ ๑๐<br />
- เมื่อ ๘ ส.ค.๖๐ ได้ประชุมคณะกรรมการ<br />
บริหารข้อตกลงและคณะกรรมการทางเทคนิคร่วมกับ<br />
เจ้าหน้าที่บริษัท ณ ห้องประชุม บก.ศอว.ศอพท.(๒) และ<br />
บริษัทได้ดำเนินการเข้าสำรวจเครื่องจักรเพื่อเตรียมความ<br />
พร้อมสำหรับการผลิต ณ กองการผลิต รง.กสย.ศอว.ศอพท.<br />
- เมื่อ ๑๕ ส.ค.๖๐ บริษัทได้เข้าดำเนินการ<br />
ปรับปรุงเครื่องจักร เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการผลิต<br />
ณ กองการผลิต รง.กสย.ศอว.ศอพท.<br />
ปัจจุบัน บริษัทดำเนินการตรวจเช็กและซ่อมบำรุง<br />
เครื่องจักรกล การดำเนินการเป็นไปตามข้อตกลง การดำเนิน<br />
การจะเสร็จตามข้อตกลงภายใน มี.ค.๖๑<br />
๑.๑.๕ โครงการดำรงขีดความสามารถและเพิ่ม<br />
ประสิทธิภาพโรงงานของ ศอว.ศอพท. ระยะเวลา ๖ ปี<br />
(ปี ๕๗ - ๖๒) เพื่อดำเนินการซ่อมฟื้นฟูและปรับปรุงเพิ่ม<br />
ประสิทธิภาพและจัดหาเพิ่มเติม เครื่องจักรกล เครื่องมือ<br />
อุปกรณ์ อาคารโรงงาน และระบบสาธารณูปโภคของโรงงาน<br />
ทั้งสามของหน่วย งบประมาณปี ๕๗ - ๖๑<br />
- ในปี ๒๕๖๐ ทำการตรวจรับสิ่งของที่ใช้<br />
ในการจัดตั้งสายการผลิต และสิ่งของที่ใช้ในการผลิตภายใน<br />
พ.ค.๖๐ และทำการจัดตั้งสายการผลิต รวมทั้งทำการผลิต<br />
กระสุนชนิดระเบิดกะเทาะเกราะส่องวิถี (HESH-T) จำนวน<br />
๑,๒๐๐ นัด กระสุนชนิดฝึก จำนวน ๑๐๐ นัด และประกอบ<br />
รวมกระสุนชนิดเจาะเกราะทิ้งเปลือกทรงตัวด้วยหางส่องวิถี<br />
(พลังงานจลน์) เอ็ม ๔๒๖ (APFSDS (KE)) จำนวน ๑๐๐ นัด<br />
- เมื่อ ๑๘ - ๒๒ เม.ย.๖๐ คณะกรรมการ<br />
ตรวจรับพัสดุ จำนวน ๖ นาย เดินทางไปทำการตรวจรับ<br />
สิ่งของด้วยสายตาสำหรับการซ่อมบำรุงปรับปรุงหรือติดตั้ง<br />
เครื่องจักรกล เพื่อใช้ในการจัดตั้งสายการผลิตกระสุนปืน<br />
รถถัง ณ ประเทศผู้ผลิต รัฐอิสราเอล และชำระเงินร้อยละ ๓๐<br />
- เมื่อ ๕ พ.ค.๖๐ บริษัทได้ส่งเครื่องจักร<br />
อุปกรณ์เครื่องมือใหม่ รวมจำนวน ๑ ตู้บรรจุสินค้า (๓ ไม้รอง<br />
สินค้า) น้ำหนักรวมทั้งสิ้น ๘,๖๖๒ กก.<br />
82
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
ทั้งนี้ได้ลงชื่อในสัญญาแล้ว เมื่อ ๒๙ ธ.ค.๕๙<br />
การดำเนินงานเป็นไปตามสัญญา ส่งมอบงานและเบิกจ่าย<br />
เรียบร้อยแล้ว<br />
๑.๒ งานด้านการผลิต ที่ดำเนินการด้วยเงินทุนหมุนเวียน<br />
ศอว. จำนวน ๑๑ งาน/โครงการ<br />
๑.๒.๑ โครงการผลิตเครื่องช่วยให้ทางสูงระบบ<br />
คอยล์<strong>สป</strong>ริง ปบค.๑๐๕ มม. เอ็ม ๑๐๑ เอ ๑ (ปรับปรุง)<br />
จำนวน ๒๘ กระบอก : ระยะเวลาตั้งแต่ ส.ค.๕๙ - พ.ย.๕๙<br />
กำหนดส่งมอบ ธ.ค.๕๙ - ม.ค.๖๐ ปัจจุบัน ได้ดำเนินการผลิต<br />
เสร็จเรียบร้อยแล้ว และได้ดำเนินการติดตั้งชุดคอยล์<strong>สป</strong>ริง<br />
ให้กับหน่วยใช้เรียบร้อยแล้ว ผลการดำเนินงานคิดเป็น<br />
ร้อยละ ๑๐๐<br />
๑.๒.๒ งานผลิตเปลือก ลย./ค.๖๐ มม.รบ.เอ็ม ๒๖๑<br />
(บรรจุดินระเบิด) จำนวน ๕,๐๐๐ ชิ้นงาน (งานผลิตปี ๕๗<br />
สำรองไว้เพื่อขาย) ปี ๕๗ (เพิ่มเติม<br />
๒) : ระยะเวลาตั้งแต่ ธ.ค.๕๗ - ก.พ.<br />
๖๐ กำหนดส่งมอบ มี.ค.๖๐ เป็นงาน<br />
ผลิตเพื่อสำรองไว้ขายให้กับเหล่าทัพ<br />
ตามบันทึกข้อตกลงการสั่งซื้อ/สั่ง<br />
จ้างผลิตภัณฑ์ อุตสาหกรรมป้องกัน<br />
ประเทศ โดยความร่วมมือระหว่าง<br />
<strong>สป</strong>. กับเหล่าทัพ ปี ๕๘ ปัจจุบัน ได้<br />
ดำเนินการผลิต ตั้งแต่ขั้นตอนการตัดแท่งบิลเลทจนถึงขั้นตอน<br />
การบรรจุดินระเบิดได้จำนวน ๕,๐๖๐ ชิ้นงาน ผลการดำเนิน<br />
งานคิดเป็นร้อยละ ๑๐๐<br />
๑.๒.๓ โครงการประกอบรวม ลย./ค.๖๐ มม.รบ.<br />
เอ็ม ๒๖๑ (ไม่ประกอบชนวนหัว) จำนวน ๕,๐๐๐ นัด<br />
(โครงการปี ๕๙ สำรองไว้เพื่อขาย)<br />
: โดยนำงานผลิตตามข้อ ๑.๒.๒ มา<br />
ดำเนินการ ระยะเวลาตั้งแต่ เม.ย.<br />
๕๙ - พ.ค.๖๐ กำหนดการส่งมอบ<br />
มิ.ย.๖๐ ปัจจุบัน ได้ดำเนินการ<br />
ประกอบรวมเสร็จเรียบร้อยแล้ว<br />
และได้ดำเนินการยิงทดสอบ เมื่อ ๓๐ พ.ค.๖๐ ณ สนาม<br />
ยิงปืนใหญ่ ศป. ผลการยิงทดสอบผ่านตามมาตรฐานการ<br />
ทดสอบ การดำเนินงานเป็นไปตามแผน<br />
๑.๒.๔ งานผลิตเปลือก ลย./ค.๖๐ มม.รบ.เอ็ม<br />
๒๖๑ (บรรจุดินระเบิด) จำนวน ๕,๐๐๐ ชิ้นงาน (งานผลิต<br />
ปี ๕๙ สำรองไว้เพื่อขาย) : ระยะเวลา<br />
ตั้งแต่ เม.ย.๕๙ - ส.ค.๖๐ กำหนดการ<br />
ส่งมอบ ก.ย.๖๐ ปัจจุบัน ได้ดำเนิน<br />
การผลิตเสร็จเรียบร้อยแล้ว จำนวน<br />
๕,๐๕๒ ชิ้นงาน (จบงาน) ผลการดำเนิน<br />
งานคิดเป็นร้อยละ ๑๐๐ การดำเนิน<br />
งานเป็นไปตามแผน<br />
๑.๒.๕ โครงการประกอบรวม ลย./ค.๖๐<br />
มม.รบ.เอ็ม ๒๖๑ (ไม่ประกอบชนวนหัว) จำนวน<br />
๕,๐๐๐ นัด (โครงการปี ๖๐ ตามบันทึกข้อตกลง<br />
ปี ๖๐) โดยนำงานผลิตตามข้อ ๑.๒.๔ มาดำเนินการ ระยะ<br />
เวลา ๒ ปี (๒๕๖๐ - ๒๕๖๑)<br />
: ระยะเวลาตั้งแต่ มิ.ย.๖๑ -<br />
ส.ค.๖๑ กำหนดส่งมอบ ก.ย.<br />
๖๑ ปัจจุบัน อยู่ระหว่างดำเนิน<br />
กรรมวิธีจัดหา และอนุมัติซื้อวัสดุ<br />
สำหรับการประกอบรวม คิดเป็น<br />
ร้อยละ ๒๐ การดำเนินงานเป็นไปตามแผน<br />
๑.๒.๖ งานผลิตเปลือก ลย./ค. ๖๐ มม.รบ.เอ็ม<br />
๒๖๑ (บรรจุดินระเบิด) จำนวน ๕,๐๐๐<br />
ชิ้นงาน กำหนดส่งมอบงาน ก.ย.๖๑<br />
ปัจจุบัน อยู่ระหว่างดำเนินการจัดหาวัสดุ<br />
สำหรับงานผลิต คิดเป็นร้อยละ ๒๐ งาน<br />
ผลิตเป็นไปตามแผน<br />
83
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
๑.๒.๗ งานผลิต ลย.ค.๘๑ มม.รบ.เอ็ม ๒๖๒<br />
(ไม่ประกอบชนวนหัว) จำนวน<br />
๕,๐๐๐ นัด ปี ๕๙ (สำรองไว้เพื่อ<br />
ขาย) : ระยะเวลาตั้งแต่ เม.ย.๕๙<br />
- ส.ค.๖๐ กำหนดการส่งมอบ ก.ย.<br />
๖๐ ปัจจุบัน ได้ดำเนินการผลิต<br />
เสร็จเรียบร้อยแล้ว ได้ดำเนินการ<br />
ยิงทดสอบ เมื่อ ๓๐ พ.ค.๖๐ ณ สนามยิงปืนใหญ่ ศป. ผลการ<br />
ยิงทดสอบผ่านตามมาตรฐานการทดสอบ การดำเนินงานเป็นไป<br />
ตามแผน<br />
๑.๒.๘ งานผลิต ลย./ค.๘๑ มม.รบ.เอ็ม ๒๖๒<br />
(ไม่ประกอบชนวนหัว) จำนวน<br />
๕,๐๐๐ นัด (งานผลิตปี๖๐ สำรอง<br />
ไว้เพื่อขาย) ระยะเวลา ๒ ปี(๒๕๖๐<br />
- ๒๕๖๑) : ระยะเวลาตั้งแต่ มิ.ย.<br />
๖๐ - มี.ค.๖๑ กำหนดการส่งมอบ<br />
เม.ย.๖๑ ปัจจุบัน อยู่ระหว่างการ<br />
ดำเนินกรรมวิธีจัดหาวัสดุสำหรับการผลิต ผลการดำเนินงาน<br />
คิดเป็นร้อยละ ๒๐ การดำเนินงานเป็นไปตามแผน<br />
๑.๒.๙ งานผลิตเปลือก ลย./ค.๘๑ มม.รบ.เอ็ม<br />
๒๖๒ (บรรจุดินระเบิด) จำนวน ๕,๐๐๐ นัด (งานผลิต ปี ๖๐<br />
สำรองไว้เพื่อขาย) ระยะเวลา ๒ ปี<br />
(๒๕๖๐ - ๒๕๖๑) : ระยะเวลาตั้งแต่<br />
ต.ค.๖๐ - ก.ค.๖๑ กำหนดการส่งมอบ<br />
ส.ค.๖๑ ปัจจุบัน อยู่ระหว่างการดำเนิน<br />
กรรมวิธีจัดหาวัสดุสำหรับการผลิต<br />
ผลการดำเนินงานคิดเป็นร้อยละ ๒๐<br />
การดำเนินงานเป็นไปตามแผน<br />
๑.๒.๑๐ งานผลิต ลย./ค.๑๒๐ มม.รบ.เอ็ม ๒๙๓<br />
(ไม่ประกอบชนวนหัว) จำนวน ๕,๐๐๐ นัด (งานผลิต ปี ๕๖<br />
ตามบันทึกข้อตกลงปี๕๖) ระยะเวลา ๔ ปี (ปี ๕๗ - ๖๐) ปี ๕๖<br />
(เพิ่มเติม ๕) : ระยะเวลาตั้งแต่ มี.ค.๕๘ - มิ.ย.๖๐ กำหนดการ<br />
ส่งมอบ ก.ค.๖๐ เป็นงานผลิตไว้<br />
ขายให้กับเหล่าทัพ ตามบันทึกข้อ-<br />
ตกลงการสั่งซื้อ/สั่งจ้างผลิตภัณฑ์<br />
อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ โดย<br />
ความร่วมมือระหว่าง <strong>สป</strong>. กับ<br />
เหล่าทัพ ปี ๕๖ ปัจจุบัน ได้ดำเนินการ<br />
ผลิตเสร็จเรียบร้อยแล้วและได้ดำเนินการยิงทดสอบ เมื่อ ๓๐<br />
พ.ค.๖๐ ณ สนามยิงปืนใหญ่ ศป. ผลการยิงทดสอบผ่านตาม<br />
มาตรฐานการทดสอบ การดำเนินงานเป็นไปตามแผน<br />
๑.๒.๑๑ งานผลิตเปลือก ลย./ค.๑๒๐ มม.รบ.เอ็ม<br />
๒๙๓ (บรรจุดินระเบิด) จำนวน ๕,๐๐๐ ชิ้นงาน (งานผลิตปี<br />
๕๗ สำรองไว้เพื่อขาย) ระยะเวลา ๕ ปี (ปี ๕๗ - ๖๑) ปี ๕๗<br />
(เพิ่มเติม ๒) : ระยะเวลาตั้งแต่ ม.ค.<br />
๕๘ - ก.พ.๖๑ กำหนดการส่งมอบ<br />
มี.ค.๖๑ เป็นงานผลิตเพื่อสำรองไว้<br />
ขายให้กับเหล่าทัพ ตามบันทึกข้อ-<br />
ตกลงการสั่งซื้อ/สั่งจ้างผลิตภัณฑ์<br />
อุตสาหกรรมป้องกันประเทศโดย<br />
ความร่วมมือระหว่าง <strong>สป</strong>. กับเหล่าทัพ<br />
ปี ๕๗ ปัจจุบัน อยู่ระหว่างดำเนินการผลิตหาง ตั้งแต่ขั้นตอน<br />
การตัดแท่งอะลูมิเนียมจนถึงขั้นตอนการชุบอะโนไดซ์<br />
ADAPTER ได้จำนวน ๕,๑๕๘ ชิ้นงาน ผลการดำเนินงาน<br />
คิดเป็นร้อยละ ๔๘ เนื่องจากได้ส่งมอบเครื่องอัดขึ้นรูปตัว<br />
กระสุนให้กับบริษัท อินดี้ซัพพลาย แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด<br />
เพื่อดำเนินการตามโครงการดำรงขีดความสามารถและเพิ่ม<br />
ประสิทธิภาพโรงงาน ของ ศอว.ศอพท. จึงทำให้การดำเนิน<br />
งานไม่เป็นไปตามแผน<br />
๑.๓ งานด้านการวิจัยและพัฒนา<br />
๑.๓.๑ โครงการวิจัยและพัฒนาชนวนหัวกระทบ<br />
แตกไว/ถ่วงเวลา สำหรับ ลย./ค. : ระยะเวลาดำเนินการ<br />
๒ ปี (๑ พ.ค.๕๘ - มิ.ย.๖๐) เป็นโครงการวิจัยที่ดำเนินการ<br />
ร่วมกับ สทป. โดยได้ศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนา<br />
ชนวนหัวกระทบแตกไว/ถ่วงเวลา<br />
จนถึงขั้นตอนการจัดสร้างชนวนหัว<br />
รวมถึงปัญหาข้อขัดข้องทางเทคนิค<br />
ต่างๆ นำมาต่อยอดพัฒนาเป็น<br />
โครงการพัฒนาชนวนหัวกระทบ<br />
แตกไว/ถ่วงเวลาสำหรับ ลย./ค.<br />
เพื่อให้ได้ต้นแบบชนวนหัวสำหรับ<br />
ลย./ค. ที่มีคุณลักษณะและขีดความสามารถเทียบเท่ากับ<br />
ต่างประเทศโดยใช้วัสดุภายในประเทศให้มากที่สุดเพื่อนำเข้า<br />
รับรอง กมย.ทบ. แล้วจึงเข้าสู่สายการผลิตต่อไป ปัจจุบัน<br />
ได้ดำเนินการวิจัยและพัฒนาชนวนหัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว<br />
การดำเนินการเป็นไปตามแผนการวิจัยพัฒนา<br />
๑.๓.๒ โครงการวิจัยและพัฒนาหัวรบจรวด<br />
ขนาด ๑๒๒ มม. : ระยะเวลาดำเนินการ ๒ ปี (มิ.ย.๕๘ - มิ.ย.<br />
๖๐) เป็นโครงการวิจัยเริ่มใหม่ที่ดำเนินการร่วมกับ สทป. ซึ่ง<br />
เป็นการดำเนินการวิจัยเพื่อให้ได้องค์ความรู้เพื่อนำไปสู่การ<br />
ผลิตต่อไป โดยเมื่อ พ.ย.๕๙ ได้ดำเนินการวิจัยและพัฒนา<br />
84
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
- ดำเนินการเชื่อมต่ออุปกรณ์ (Propak 6),<br />
อุปกรณ์รับสัญญาณดาวเทียม (Antena) และ IMU<br />
การติดตั้งชุดขับมอเตอร์และเซนเซอร์<br />
ปัจจุบัน มีความก้าวหน้าในการดำเนินงาน คิดเป็น<br />
ร้อยละ ๕๒<br />
๑.๓.๔ กิจกรรมศึกษาความเป็นไปได้ในการ<br />
พัฒนาโครงสร้างยานพาหนะบรรทุกบุคคล ขนาด ๒ ๑/๒<br />
ตัน ขึ้นไป ให้สามารถป้องกันระเบิดแสวงเครื่อง น้ำหนัก<br />
๕๐ กก. : ระยะเวลาดำเนินการ ๒ ปี (ต.ค.๕๘ - ก.ย.๖๐)<br />
เป็นกิจกรรมวิจัยที่ดำเนินการโดยใช้งบประมาณ วท.กห. เพื่อ<br />
ให้ได้องค์ความรู้และรูปแบบพร้อมทั้งชนิดของวัสดุที่ใช้ในการ<br />
พัฒนาโครงสร้างยานพาหนะบรรทุกบุคคล ขนาด ๒ ๑/๒ ตัน<br />
ขึ้นไป ให้สามารถป้องกันระเบิดแสวงเครื่อง น้ำหนัก ๕๐ กก.<br />
หัวรบแล้วเสร็จ จำนวน ๕๐ หัว และส่งมอบให้ สทป. เพื่อ<br />
ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปแล้ว<br />
๑.๓.๓ โครงการวิจัยและพัฒนาระบบกำหนด<br />
พิกัดและชี้ทิศทางอัตโนมัติ : ระยะเวลาดำเนินการ ๒ ปี (ปี<br />
๕๙ - ๖๐) เป็นโครงการวิจัยที่ดำเนินการโดยใช้งบประมาณ<br />
ของ วท.กห. เพื่อวิจัยและพัฒนาต้นแบบของระบบกำหนด<br />
พิกัดและชี้ทิศทางอัตโนมัติให้มีขีดความสามารถที่สูงขึ้น<br />
ก่อให้เกิดองค์ความรู้เพื่อเป็นพื้นฐานในการนำเข้าสู่สายการ<br />
ผลิตต่อไป<br />
- เมื่อ ม.ค.๖๐ ปรับปรุงกระบวนการออกแบบ<br />
โปรแกรมระบบ INS : การทำ Calibration ข้อมูลจาก GPS<br />
และ Gyro Sensor<br />
- ดำเนินการจัดหาวัสดุและอุปกรณ์เพิ่มเติม<br />
คือ อุปกรณ์รับสัญญาณ Ring Laser Gyro<br />
- ปรับปรุงกระบวนการออกแบบโปรแกรม<br />
ระบบ INS การสร้างเครื่องมือทดสอบ การวัดค่ามุมทิศและ<br />
มุมยิง และการสร้างเครื่องมือทดสอบแรงสะท้อนถอยหลัง<br />
- ได้รับเงินงบประมาณเงินอุดหนุนการวิจัย<br />
และพัฒนาทางทหาร จาก วท.กห. แล้ว จำนวน ๑๓๙,๒๔๐<br />
บาท อยู่ระหว่างดำเนินการจำลองการระเบิด และผลจากการ<br />
ระเบิดต่อโครงสร้างที่ได้ออกแบบไว้ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์<br />
- ได้จัดทำและส่งเอกสารวิจัยบทที่๑ บทที่๒<br />
และ บทที่ ๓ เพื่อใช้ประกอบการขอเบิกจ่ายงบประมาณงวด<br />
ที่ ๒ และงวดที่ ๓ ไปยัง วท.กห. แล้วเมื่อ ๒๔ ก.ค.๖๐ และ<br />
เมื่อ ๘ ส.ค.๖๐<br />
ปัจจุบัน มีความก้าวหน้าในการดำเนินงานคิดเป็น<br />
ร้อยละ ๔๘<br />
๒. กิจกรรมที่สำคัญ<br />
- ร่วมพิธีลงนามถวายความอาลัย พระบาทสมเด็จ<br />
พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ ศาลา<br />
ประชาคมเทศบาลเมืองลพบุรี อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี และ<br />
ร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมถวายฯ ณ วัดเสาธงทอง<br />
(พระอารามหลวง) อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี<br />
85
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
ที่ ๒ ณ ศาลาอเนกประสงค์ ศอว.ศอพท. ค่ายจิรวิชิตสงคราม<br />
และร่วมพิธีกระทำสัตย์ปฏิญาณตนต่อธงชัยเฉลิมพล เนื่องใน<br />
วันกองทัพไทย ประจำปี ๒๕๖๐ ณ สนามสีหราชเดโช นสศ.<br />
อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี<br />
- ผอ.ศอพท. และคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยม<br />
และฟังการบรรยายสรุป เพื่อรับทราบภารกิจ การจัดการ<br />
ดำเนินงานที่สำคัญและปัญหาข้อขัดข้องในการปฏิบัติ<br />
งานของหน่วย ณ ห้องประชุม บก.ศอว.ศอพท.(๑) ค่าย<br />
จิรวิชิตสงคราม อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี พร้อมเดินทางไป<br />
ชมผลงานการสร้าง การผลิต และการวิจัยพัฒนาอาวุธ<br />
ยุทโธปกรณ์ของ ศอว.ศอพท. ณ กองการผลิต รง.กสย.ศอว.<br />
ศอพท.<br />
- พิธีเปิดกิจกรรมรวมพลังแห่งความภักดีของ<br />
เทศบาลเมืองเขาสามยอด ร่วมกับ ศอว.ศอพท. และ รพ.<br />
อานันทมหิดล เพื่อให้ประชาชนทุกหมู่เหล่าได้มีส่วนร่วมใน<br />
การแสดงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จ<br />
พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในโอกาส<br />
วันคล้ายวันพระราชสมภพ ปีที่ ๘๙ ณ บริเวณหน้าค่ายจิรวิชิต<br />
สงคราม ศอว.ศอพท. อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี<br />
- จัดพิธีส่งทหารซึ่งรับราชการครบกำหนดปลด<br />
จากกองประจำการ, จัดพิธีต้อนรับทหารใหม่ รุ่นปี ๒๕๕๙<br />
ผลัดที่ ๒, จัดงานวันพร้อมญาติทหารใหม่ รุ่นปี ๒๕๕๙ ผลัด<br />
86
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
- ปล.กห. และคณะ เดินทางมาตรวจเยี่ยม และ<br />
ฟังการบรรยายสรุปเพื่อรับทราบภารกิจ การจัดการดำเนิน<br />
งานที่สำคัญและปัญหาข้อขัดข้องในการปฏิบัติงานของหน่วย<br />
ณ ห้องประชุม บก.ศอว.ศอพท.(๑) ค่ายจิรวิชิตสงคราม<br />
อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี พร้อมเดินทางไปชมผลงานการสร้าง<br />
การผลิต และการวิจัยพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ ณ กองการ<br />
ผลิต รง.กสย.ศอว.ศอพท. และให้โอวาทกำลังพล<br />
มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖๕ พรรษา ๒๘ กรกฎาคม<br />
๒๕๖๐ ณ ศาลาประชาคมเทศบาลเมืองลพบุรี อ.เมืองลพบุรี<br />
จ.ลพบุรี<br />
- ร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้า<br />
สิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ เนื่องในโอกาสวัน<br />
เฉลิมพระชนมพรรษา ๘๕ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๐ ดังนี้<br />
พิธีลงนามถวายพระพรชัยมงคล ณ ศาลาประชาคมเทศบาล<br />
เมืองลพบุรี, พิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล พระบาท<br />
สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร<br />
และถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรม<br />
ราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ ณ ลานอเนกประสงค์ โรงเรียนพิบูล<br />
วิทยาลัย อ.เมืองลพบุรี และพิธีถวายเครื่องราชสักการะ และ<br />
พิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์<br />
พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ เนื่องในโอกาสวันเฉลิม<br />
พระชนมพรรษา ๘๕ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๖๐ ณ ลาน<br />
อเนกประสงค์ โรงเรียนพิบูลวิทยาลัย อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี<br />
- จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว<br />
มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เนื่องในโอกาส<br />
มหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖๕ พรรษา ๒๘ กรกฎาคม<br />
๒๕๖๐ ร่วมกับเทศบาลเมืองเขาสามยอด โดยมีกิจกรรมปลูก<br />
ต้นไม้และปล่อยปลา ณ บริเวณอ่างเก็บน้ำ ศอว.ศอพท. และพิธี<br />
เจริญพระพุทธมนต์ ถวายพระพรชัยมงคล พิธีทำบุญตักบาตร<br />
ถวายเป็นพระราชกุศล และพิธีลงนามถวายพระพร ณ อาคาร<br />
พาสนยงภิญโญ ค่ายจิรวิชิตสงคราม อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี<br />
และร่วมพิธีลงนามถวายพระพรแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว<br />
มหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เนื่องในโอกาส<br />
- จัดงานวันสถาปนา ครบรอบปีที่ ๓๘ ซึ่งมีพิธี<br />
เปิดศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง บริเวณด้านข้าง<br />
อ่างเก็บน้ำเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ<br />
สยามบรมราชกุมารี ศอว.ศอพท. และมีการกระทำพิธี<br />
เทิดเกียรติ ปล.กห. และผู้บังคับบัญชาชั้นสูงของ <strong>สป</strong>. เนื่องใน<br />
โอกาสเกษียณอายุราชการ ณ ศอว.ศอพท. ค่ายจิรวิชิตสงคราม<br />
87
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
อ.เมืองลพบุรีจ.ลพบุรี โดยมี พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปล.กห.<br />
เป็นประธาน<br />
- จัดพิธีเชิดชูเกียรติให้กับผู้ที่เกษียณอายุราชการ<br />
และผู้ลาออกตามโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด<br />
และพิธีแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับพระราชโองการโปรดเกล้า<br />
โปรดกระหม่อม พระราชทานยศทหารชั้นนายพล ณ ศอว.ศอพท.<br />
ค่ายจิรวิชิตสงคราม อ.เมืองลพบุรี จ.ลพบุรี<br />
88
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
โรงงานเภสัชกรรมทหาร<br />
ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร (รภท.ศอพท.)<br />
ภารกิจ : มีหน้าที่ ดำเนินการ ศึกษาค้นคว้าวิจัยพัฒนา เตรียมการผลิตยาและ<br />
เวชภัณฑ์ทางการทหาร ที่จำเป็นในภาวะฉุกเฉินและผลิต รับจ้างผลิต จำหน่าย จัดหา<br />
วิจัย วิเคราะห์ยาและเวชภัณฑ์สนับสนุนกองทัพและส่วนราชการสังกัดกระทรวง<br />
กลาโหม หน่วยงานอื่น ทั้งหน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น<br />
ภาคเอกชน ประชาชนทั่วไป ทั้งในและต่างประเทศ มีผู้อำนวยการโรงงาน<br />
เภสัชกรรมทหาร ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร<br />
เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ<br />
พลตรี ไชย หว่างสิงห์<br />
ผู้อำนวยการโรงงานเภสัชกรรมทหาร<br />
ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร<br />
สรุปผลการปฏิบัติงานที ่สำคัญ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
๑. ผลการดำเนินงาน<br />
รายละเอียดเปรียบเทียบการขาย และรายได้สุทธิ ปริมาณการผลิต มูลค่าการผลิต (ปีงบประมาณ ๒๕๕๗ – ๒๕๖๐)<br />
89<br />
หน่วย : ล้านบาท<br />
รายการ ปีงบประมาณ ปีงบประมาณ ปีงบประมาณ ปีงบประมาณ<br />
๒๕๕๗ ๒๕๕๘ ๒๕๕๙ ๒๕๖๐<br />
ใบสั่งซื้อ<br />
การส่งยา<br />
มูลค่าการผลิต<br />
๑๔๓.๕๔<br />
๑๔๒.๘๓<br />
๑๕๔.๙๑<br />
๑๒๓.๐๘<br />
๑๓๓.๙๑<br />
๑๘๔.๑๗<br />
๑๒๘.๑๗<br />
๑๒๘.๒๗<br />
๑๔๗.๙๘<br />
๑๓๙.๔๗<br />
๑๓๓.๕๕<br />
๑๕๒.๕๕
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
แผนภูมิเปรียบเทียบการดำเนินงาน ปีงบประมาณ ๒๕๕๖ – ๒๕๕๙<br />
๒. ยอดการจำหน่ายยา<br />
- สรุปยอดจำหน่ายยาและเวชภัณฑ์ในปีงบประมาณ ๒๕๖๐ ดังนี้<br />
หน่วยงานในสังกัดกระทรวงกลาโหมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ๙๔,๙๒๒,๘๖๑.๕๓ บาท<br />
องค์การเภสัชกรรม<br />
๑๔,๐๔๐,๒๒๐.๐๐ บาท<br />
หน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข<br />
๑๔,๐๐๓,๓๑๕.๙๙ บาท<br />
หน่วยราชการอื่นๆ ๓๕๕,๐๗๗.๔๙ บาท<br />
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา<br />
๖,๓๙๘,๖๗๙.๐๐ บาท<br />
ภาคเอกชน<br />
๓,๙๖๑,๘๗๒.๔๒ บาท<br />
ร้านขายยา รภท.ศอพท.<br />
๕,๗๙๐,๒๐๓.๑๑ บาท<br />
รวม<br />
๑๓๙,๔๗๒,๒๒๙.๕๔ บาท<br />
๓. การวิจัยและพัฒนา<br />
๓.๑ การขึ้นทะเบียนตำรับยา<br />
๓.๑.๑ งานขึ้นทะเบียนตำรับยาแผนปัจจุบัน จำนวน ๑ รายการ คือ ตำรับ Chlorpheniramine Maleate Syrup<br />
2 mg/5 ml ซึ่งได้รับมติให้แก้ทะเบียนตำรับยาจาก อย. ปัจจุบันอยู่ระหว่างการแก้ไขเอกสารทะเบียนตำรับยาตามที่ อย. แจ้ง<br />
๓.๑.๒ งานขึ้นทะเบียนยาแผนโบราณ จำนวน ๑๑ รายการ ได้แก่<br />
3.1.2.1 ตำรับยาแคปซูลเบญจกูล ขนาด 450 mg.<br />
3.1.2.2 ตำรับยาแคปซูลธรณีสันฑะฆาต ขนาด 500 mg.<br />
3.1.2.3 ตำรับยาแคปซูลธาตุบรรจบ ขนาด 500 mg.<br />
3.1.2.4 ตำรับยาแคปซูลประสะไพล ขนาด 500 mg.<br />
3.1.2.5 ตำรับยาแคปซูลจันทน์ลีลา ขนาด 450 mg.<br />
3.1.2.6 ตำรับยาแคปซูลบำรุงโลหิต ขนาด 450 mg.<br />
3.1.2.7 ตำรับยาแคปซูลสหัสธารา ขนาด 500 mg.<br />
90
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
3.1.2.8 ตำรับยาทิงเจอร์ทองพันชั่ง ขนาด 30 ml.<br />
3.1.2.9 ตำรับยาชงหญ้าหนวดแมว ขนาด 2 g.<br />
3.1.2.10 ตำรับยาชงรางจืด ขนาด 2 g.<br />
3.1.2.11 ตำรับยาน้ำมันสมุนไพรโชน่า ขนาด <strong>60</strong> ml.<br />
3.2 งานวิจัยยาใหม่มียาอยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 9 รายการ ดังนี้<br />
3.2.1 ยาเม็ดทำน้ำบริสุทธิ์ (Pure Water Tab)<br />
3.2.2 Potassium chloride syrup 20 mEq/15 ml.<br />
3.2.3 10% Ethanol in 5% dextrose Injection : 20 ml.<br />
3.2.4 Morphine Sulfate IR 10 mg tablet<br />
3.2.5 Metoclopramide 5 mg/ml Injection<br />
3.2.6 Alprazolam tablet<br />
3.2.7 Ephedrine HCl injection 30 mg./ml.<br />
3.2.8 DPF Powder<br />
3.2.9 ครีมน้ำมันไพล 14% w/w<br />
๔. การประชาสัมพันธ์<br />
- จัดพิธีมอบรางวัลหน่วยงานสนับสนุนงานด้าน<br />
อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ (ยาและเวชภัณฑ์) ประจำปี<br />
๒๕๕๙ เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติ และแสดงความ<br />
ขอบคุณต่อหน่วยงานสังกัด กห. และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ<br />
ที่ให้การสนับสนุนงานด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ<br />
ประเภทยาและเวชภัณฑ์ ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้<br />
- ร่วมออกบูธแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ในงาน<br />
ประชุมวิชาการ “งานคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ<br />
ประจำปี ๒๕๖๐” ระหว่าง ๒๒ – ๒๔ ก.พ.๖๐ ณ โรงแรม<br />
มิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ<br />
- ได้นำโครงการวิจัยและพัฒนาสูตรตำรับยาเม็ดทำ<br />
น้ำบริสุทธิ์เข้าร่วมจัดแสดงนิทรรศการในงาน “วันนิทรรศการ<br />
วิชาการ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ๒๕๕๙” เมื่อวันที่<br />
๑๐ พ.ย.๕๙ ณ รร.จปร. จ.นครนายก<br />
- จัดงานสัมมนาเภสัชกรทหาร–ตำรวจ ประจำปี<br />
๒๕๖๐ ณ สวนนงนุช การ์เด้น รีสอร์ท จ.ชลบุรี เพื่อให้<br />
เภสัชกรสังกัด ทบ., ทร., ทอ., สตช. และ รพ.ผศ. ซึ่งเป็นลูกค้า<br />
เป้าหมายของ รภท.ศอพท. ได้มาพบปะแลกเปลี่ยนความ<br />
คิดเห็นและความรู้ด้านเภสัชกรรม และสร้างความสัมพันธ์<br />
ที่ดีในกลุ่มเภสัชกร ซึ่งจะนำไปสู่การประสานงานและเพิ่ม<br />
ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน<br />
91
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
- จัดบูธแสดงผลงานวิจัยเข้าร่วมในงานนิทรรศการ<br />
“KM DAY สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ๒๐๑๗” ณ ห้อง<br />
พินิตประชานาถ ชั้น ๒ ภายในศาลาว่าการกลาโหม โดยมี<br />
วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการถ่ายทอดองค์ความรู้ แลกเปลี่ยน<br />
เรียนรู้ การเรียนรู้ร่วมกันของข้าราชการและหน่วยใน <strong>สป</strong>.<br />
๕. การพัฒนาบุคลากร<br />
- จัดสัมมนาเพื่อเพิ่มพูนความรู้ ประสบการณ์<br />
และเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ ทั้งทางทฤษฎีและภาคปฏิบัติให้<br />
แก่กำลังพล ณ โสมาภา ป่าสัก รีสอร์ท จ.ลพบุรี<br />
- จัดการอบรมเรื่อง “ทิศทางผลิตภัณฑ์สมุนไพร<br />
รภท.ศอพท. กับแผนแม่บทแห่งชาติด้านสมุนไพรไทย พ.ศ.<br />
๒๕๖๐ – ๒๕๖๔” ณ ห้องประชุมราชพฤกษ์อาคารอำนวยการ<br />
รภท.ศอพท. โดยมีข้าราชการเข้าร่วมรับฟังการบรรยาย<br />
จำนวน ๔๕ นาย<br />
- ร่วมจัดแสดงผลงานและผลิตภัณฑ์สมุนไพรไทย<br />
ภายในงานมหกรรมสมุนไพรแห่งชาติและการประชุมวิชาการ<br />
ประจำปี การแพทย์แผนไทย, การแพทย์พื้นบ้านและการ<br />
แพทย์ทางเลือก ครั้งที่ ๑๔ ภายใต้หัวข้อ “เสน่ห์ไทย สมุนไพร<br />
ไทย ๔.๐ : THAI HERBAL PRODUCTS 4.0–A CHARM<br />
OF THAINESS” ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค<br />
เมืองทองธานี<br />
- จัดการบรรยายการจัดทำแผนพัฒนารายบุคคล<br />
(IDP) ให้แก่ข้าราชการในสังกัด ชั้นยศตั้งแต่ ร.ต. – พ.ต.<br />
จำนวน ๓๙ นาย ณ ห้องกอเตย อาคารอำนวยการ<br />
รภท.ศอพท.<br />
๖. การตรวจเยี่ยม และการศึกษาดูงาน<br />
- พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล ปล.กห., และคณะ<br />
ตรวจเยี่ยมพร้อมทั้งให้โอวาทแก่ข้าราชการและกำลังพล ณ<br />
ห้องกระถินณรงค์ อาคารอำนวยการ รภท.ศอพท.<br />
- ให้การต้อนรับ พล.อ.ฐิตินันท์ ธัญญสิริ<br />
ผอ.ศอพท. และคณะ ในโอกาสตรวจเยี่ยมหน่วยและเยี่ยมชม<br />
การผลิตยา การวิจัยและควบคุมคุณภาพยา และการเก็บรักษา<br />
ยาและเวชภัณฑ์ ณ รภท.ศอพท.<br />
92
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
๗. กิจการพลเรือนและการช่วยเหลือประชาชน<br />
- ให้บริการทางการแพทย์แก่ประชาชนที่มาร่วม<br />
ถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล<br />
อดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ ท้องสนามหลวง โดยแจกยาและ<br />
เวชภัณฑ์ให้แก่ประชาชน<br />
- คณาจารย์ นักเรียนแพทย์ทหาร/นักศึกษาแพทย์<br />
ชั้นปีที่ ๓ รุ่นที่ ๔๐ จาก วพม. เข้าศึกษาดูงานด้านการผลิต<br />
และการวิจัยและการประกันคุณภาพ<br />
- รร.สร.พบ. ได้นำอาจารย์ พร้อมคณะนายสิบ<br />
นักเรียน หลักสูตรนายสิบเภสัชกรรม รุ่นที่๘ จำนวน ๑๘ นาย<br />
เข้าฝึกปฏิบัติงานในด้านต่างๆ เกี่ยวกับการผลิต, การควบคุม<br />
คุณภาพ, การเก็บรักษา และงานเภสัชกรรมด้านอื่นๆ<br />
- พล.อ.ภัสสร อิศรางกูร ณ อยุธยา หัวหน้า<br />
คณะทำงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีป้องกันประเทศ<br />
พร้อมคณะ เดินทางเข้าเยี่ยมชมการดำเนินงาน<br />
- คณะอาจารย์และนายสิบนักเรียน หลักสูตร<br />
นายสิบส่งกำลังสายแพทย์ รุ่นที่ ๑๙ จำนวน ๓๐ นาย เข้า<br />
ศึกษาดูงานด้านการผลิต ด้านการวิจัย และการประกัน<br />
คุณภาพ ณ รภท.ศอพท.<br />
- พล.อ.พฤษภะ สุวรรณทัต ปษ.<strong>สป</strong>./หัวหน้าคณะ<br />
ทำงานด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร<br />
ภายใต้กำกับดูแลของ รอง ปล.กห.(๑) และคณะ เข้าเยี่ยมชม<br />
การดำเนินงาน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรับทราบความคืบหน้า<br />
ในการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับร่างแผนการพัฒนาสมุนไพร<br />
เพื่อการเภสัชกรรม (ฉบับที่ ๑) พ.ศ.๒๕๖๐ – ๒๕๖๔ และ<br />
โครงการเพิ่มขีดความสามารถในการผลิต ณ รภท.ศอพท.<br />
อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี<br />
93
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
- จัดกิจกรรมเภสัชกรร่วมใจให้บริการทาง<br />
การแพทย์แก่ประชาชน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาท<br />
สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร<br />
ณ รภท.ศอพท. ภายในงานมีกิจกรรมตรวจรักษาโรค<br />
โดยแพทย์ การให้บริการทางทันตกรรมโดยทันตแพทย์<br />
การให้คำปรึกษาด้านสุขภาพและจ่ายยาโดยเภสัชกร<br />
94
กรมการเงินกลาโหม (กง.กห.)<br />
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
ภารกิจ : มีหน้าที่เกี่ยวกับการเงิน การบัญชี เบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ<br />
และควบคุม การใช้จ่ายเงินให้เป็นไปตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ<br />
ตลอดจนให้ข้อเสนอแนะการดำเนินงานด้านการเงินและการบัญชี<br />
และปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย มีเจ้ากรมการเงินกลาโหม<br />
เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ<br />
๑. งานการเบิกจ่ายเงินและการบัญชี<br />
๑.๑ ผลการปฏิบัติงานด้านการเงินและการบัญชี<br />
ได้ทำการเบิกจ่ายเงินในงบประมาณและเงิน<br />
นอกงบประมาณให้กับ สร., นขต.<strong>สป</strong>., นถปภ.รอ., เหล่าทัพ และ<br />
พลโท อนุชิต อินทรทัต<br />
เจ้ากรมการเงินกลาโหม<br />
สรุปผลการปฏิบัติงานที ่สำคัญ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
ผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รวมทั้งได้รองจ่ายเงินทดรองราชการ<br />
ตามที่ สร. และ นขต.<strong>สป</strong>. ร้องขอ และจัดทำรายงานการเงิน<br />
ส่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ภายในระยะเวลา<br />
ที่กำหนด ตามรายละเอียดดังนี้<br />
๑.๑.๑ ผลการจ่ายเงิน ตั้งแต่ ๑ ต.ค.๕๙ - ๓๐ ก.ย.๖๐<br />
ประเภท จำนวน (ฎีกา) จำนวนเงิน (บาท)<br />
จ่ายเงินให้กับ สร., นขต.<strong>สป</strong>., เหล่าทัพ และผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ<br />
๑. เงินงบประมาณ ๘,๑๕๘ ๒,๔๐๓,๗๐๐,๙๓๒.๒๕<br />
๒. เงินทดรองราชการ ๑,๔๙๒ ๒๔๓,๑๘๗,๑๕๐.๖๐<br />
95
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
๑.๑.๑ ผลการจ่ายเงิน ตั้งแต่ ๑ ต.ค.๕๙ - ๓๐ ก.ย.๖๐ (ต่อ)<br />
ประเภท จำนวน (ฎีกา) จำนวนเงิน (บาท)<br />
๓. เงินทดรองราชการ-เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน ๑๓๘ ๑๔๑,๑๐๘,๘๘๐.๖๖<br />
๔. จ่ายเงินให้กับ นถปภ.รอ. ๘๔๘ ๑,๔๖๗,๘๑๖,๒๒๐.๑๑<br />
รวมจ่ายทั้งสิ้น ๑๐,๖๓๖ ๔,๒๕๕,๘๑๓,๑๘๓.๖๒<br />
๑.๑.๒ การปฏิบัติงานด้านการบัญชีที่สำคัญ<br />
- จัดทำรายงานการเงินจากระบบ GFMIS<br />
ของ กง.กห. และงบเดือนรายได้แผ่นดินของ <strong>สป</strong>. ประจำเดือน<br />
ส่ง สตง.<br />
- จัดทำรายงานเงินรายได้แผ่นดินของ <strong>สป</strong>.<br />
ประจำเดือน ส่ง สงป.กห.<br />
- จัดทำงบการเงินประจำปีงบประมาณ<br />
พ.ศ.๒๕๕๙ ของ <strong>สป</strong>. ส่ง สตง. และกรมบัญชีกลาง<br />
- จัดทำงบการเงินรวมระดับกระทรวง<br />
ส่ง สตง. และกรมบัญชีกลาง<br />
- จัดทำเอกสารที่เกี่ยวกับการสอบทาน<br />
รายงานการเงินส่งคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผล<br />
ประจำ กห. (ค.ต.ป. ประจำ กห.) โดยผ่าน สตน.กห. ในฐานะ<br />
ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการฯ<br />
- จัดทำรายงานสรุปการประเมินผล<br />
การปฏิบัติงานด้านบัญชีการเงินของส่วนราชการระดับกรม<br />
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๙ รอบที่ ๒ และประจำปี<br />
งบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐ รอบที่ ๑ ส่งกรมบัญชีกลาง<br />
- ดำเนินการแก้ไขปัญหาสินทรัพย์<br />
ในระบบ GFMIS โดยได้จัดส่งรายละเอียดบัญชีพักสินทรัพย์<br />
ประจำเดือนให้หน่วยในส่วนกลางตรวจสอบ และยืนยัน<br />
รายละเอียด<br />
๑.๑.๓ การปฏิบัติงานด้านการเบิกจ่ายการจัดทำ<br />
รายงานการเงินและการดำเนินการเกี่ยวกับการเงินอื่นๆ<br />
- จัดทำรายงานการรับจ่ายเงินอุดหนุน<br />
การพัฒนาทางวิชาการ การระดมสรรพกำลังและการสวัสดิการ<br />
ณ ๓๐ ก.ย.๕๙ ส่ง สตง. และกระทรวงการคลัง<br />
- จัดทำงบรับจ่ายกองทุนสวัสดิการ <strong>สป</strong>.<br />
ประจำเดือน และประจำปี ๒๕๕๙ ส่ง สม.<br />
- ดำเนินการเบิก - จ่ายเงินอุดหนุน<br />
การสำรวจปิโตรเลียมบนบกในภาคเหนือของ พท.ศอพท.<br />
เพื่อการสวัสดิการ ให้เป็นไปตามแผนการใช้จ่ายเงินฯ และจัด<br />
ทำทะเบียนคุมการรับ - จ่ายเงินอุดหนุนการสำรวจปิโตรเลียม<br />
บนบกในภาคเหนือของ พท.ศอพท. เพื่อการสวัสดิการ<br />
- จัดการประชุมคณะกรรมการพิจารณา<br />
การใช้จ่ายเงินอุดหนุนการสำรวจปิโตรเลียมบนบกในภาคเหนือ<br />
ของ พท.ศอพท. เพื่อการสวัสดิการ รายไตรมาส รวม ๔ ครั้ง/ต่อปี<br />
โดยมี รอง ปล.กห. สายงานด้านการเงิน เป็นประธาน<br />
- จัดทำรายงานสถานภาพเงินนอก<br />
งบประมาณประเภทที่ ๒ ประจำเดือน<br />
- จัดทำรายงานสถานภาพกองทุน ฯพณฯ<br />
นายชวน หลีกภัย และ พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประจำเดือน เม.ย.<br />
และ ต.ค. ของทุกปี<br />
- ดำเนินการจัดสรรดอกเบี้ยเงินฝากของ<br />
บัญชีเงินทุนสวัสดิการพิเศษสงเคราะห์ข้าราชการ เมื่อครบ<br />
กำหนด ๓ ปี ให้กับ นขต.กห.<br />
- ดำเนินการเบิก - จ่ายเงินมูลนิธิพระ<br />
บรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก และจัดทำงบการเงินมูลนิธิพระ<br />
บรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก ประจำปีส่งให้ผู้ตรวจสอบบัญชี<br />
- สนับสนุนเงินยืมให้กับ สร. และ นขต.<strong>สป</strong>.<br />
โดยจ่ายจากเงินนอกงบประมาณ กรณีที่ไม่สามารถใช้จ่าย<br />
จากเงินทดรองราชการ<br />
- ดำเนินการจ่ายเงินกองทุนเพื่อการ<br />
ช่วยเหลือบุตรที่มีความต้องการพิเศษของกำลังพลในสังกัด<br />
<strong>สป</strong>. จำนวน ๕๕ ราย/เดือน เป็นเงิน ๑,๑๔๐,๕๐๐ บาท<br />
- นำส่งเงิน กบข., กสจ. และประกันสังคม<br />
ประจำเดือน<br />
- นำส่งหนี้สินต่างๆ ดังนี้<br />
๑) สำนักงานราชเลขานุการในพระองค์ฯ<br />
“สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร” จำนวน<br />
๒ ราย/เดือน<br />
๒) กรมบังคับคดีจำนวน ๕ ราย/เดือน<br />
๓) สหกรณ์ออมทรัพย์ <strong>สป</strong>. จำกัด<br />
จำนวน ๔ ราย/เดือน<br />
๔) ช.ค.บ. เกินสิทธิจำนวน ๓ ราย/เดือน<br />
๕) ธนาคารออมสิน สำนักราชดำเนิน<br />
จำนวน ๑ ราย/เดือน<br />
96
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
๖) สหกรณ์ออมทรัพย์ จทบ.ล.ป.<br />
ลำปาง จำนวน ๑ ราย/เดือน<br />
๗) สำนักงานบังคับคดี จ.ลพบุรี<br />
จำนวน ๑ ราย/เดือน<br />
๘) ศาลจังหวัดธัญบุรี จำนวน ๑ ราย/<br />
เดือน<br />
๙) สหกรณ์ออมทรัพย์กรมแผนที่ทหาร<br />
จำกัด จำนวน ๑ ราย/เดือน<br />
- จัดส่งแบบ ภ.ง.ด. ๑ ก (พิเศษ) และ<br />
รายละเอียดฎีกาเบิกเงินประกอบ ภ.ง.ด. ๑ ก (พิเศษ) ประจำปี<br />
๒๕๕๙ ของ สร., นขต.<strong>สป</strong>. และ นถปภ.รอ. ให้กรมสรรพากร<br />
- รายจ่ายอื่น จำนวน ๘๔ ฎีกา เป็น<br />
จำนวนเงิน ๓๐,๙๙๖,๐๓๖.๔๑ บาท<br />
๒. งานเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ<br />
๒.๑ จัดทำเรื่องขอรับเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ ให้กับ<br />
ข้าราชการสังกัด สร., <strong>สป</strong>. และ นถปภ.รอ. ที่เกษียณอายุ<br />
ราชการและลาออกจากราชการตามโครงการเกษียณอายุ<br />
ราชการก่อนกำหนด โดยมี<br />
๒.๑.๑ ผู้เกษียณอายุราชการ จำนวน ๑๖๑ ราย<br />
๒.๑.๒ ผู้ที่ลาออกจากราชการตามโครงการเกษียณ<br />
อายุราชการก่อนกำหนด จำนวน ๙๑ ราย<br />
- ร่วมกับสำนักงานสรรพากรพื้นที่สาขา<br />
พระนคร ๒ และสาขาปากเกร็ด ๒ มาให้บริการรับยื่นแบบ<br />
ภาษีเงินได้ประจำปีภาษี ๒๕๕๙ แก่ข้าราชการ ลูกจ้าง<br />
และพนักงานราชการ สังกัด <strong>สป</strong>. เมื่อ ๘ มี.ค.๖๐ ณ ห้อง<br />
หลักเมือง ๑ ในศาลาว่าการกลาโหม มีผู้มารับบริการ จำนวน<br />
๒๐๔ ราย และ ๑๗ มี.ค.๖๐ ณ ห้องรับรองแขกต่างประเทศ<br />
ชั้นลอย อาคาร <strong>สป</strong>. (ศรีสมาน) มีผู้มารับบริการ จำนวน<br />
๑๓๒ ราย รวมผู้มารับบริการทั้งสิ้น จำนวน ๓๓๖ ราย<br />
๑.๒ ผลการปฏิบัติการเบิกจ่ายเงิน<br />
๑.๒.๑ ผลการปฏิบัติการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ<br />
รายจ่ายประจำปี พ.ศ.๒๕๖๐ จนถึง ก.ย.๖๐ เป็นจำนวนเงิน<br />
๑๐,๕๒๒,๘๑๑,๖๓๔.๕๘ บาท<br />
๑.๒.๒ ดำเนินการตรวจสอบฎีกาเบิกเงินเดือน<br />
เงินประจำตำแหน่ง เงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราว เงินค่า<br />
ตอบแทนพิเศษ เงินช่วยเหลือ และเงินอื่นที่มีกำหนดจ่ายเป็น<br />
รายเดือนของ นถปภ.รอ. รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๑,๐๓๘<br />
ล้านบาทเศษ<br />
๑.๒.๓ ดำเนินการตรวจสอบและเบิกเงินให้กับ<br />
นถปภ.รอ.<br />
- เงินอุดหนุนทั่วไป จำนวน ๒๔ ฎีกา<br />
เป็นจำนวนเงิน ๑๖,๔๘๕,๘๓๕.๘๙ บาท<br />
๒.๒ การเบิกเบี้ยหวัด บำเหน็จ บำนาญ, บำเหน็จ<br />
ดำรงชีพ, เงินสวัสดิการค่ารักษาพยาบาล และค่าการศึกษา<br />
ของบุตร ซึ่งมีผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญที่ขอรับเงินทาง <strong>สป</strong>.<br />
จำนวน ๑๔,๙๑๗ ราย โดยได้จัดสถานที่ให้บริการกับผู้รับ<br />
เบี ้ยหวัดบำนาญ ๒ แห่ง ได้แก่ กบน.กง.กห. บริเวณชั้น ๑<br />
ภายในศาลาว่าการกลาโหม และ กบน.กง.กห. บริเวณ<br />
ชั้น ๑ อาคาร เอ อาคาร <strong>สป</strong>. (ศรีสมาน)<br />
๒.๓ จัดส่งหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายประจำปี<br />
ภาษี ๕๙ ให้กับผู้รับเบี้ยหวัดบำเหน็จบำนาญที่รับเงินทาง<br />
<strong>สป</strong>. จำนวน ๑๔,๙๑๗ ราย<br />
๒.๔ การรับรองเวลาราชการตอนเป็นทหารให้กับ<br />
ข้าราชการต่างกระทรวงที่เคยรับราชการทหารเพื่อนำไป<br />
รวมเวลารับราชการในการคำนวณบำเหน็จบำนาญ จำนวน<br />
๕๘๐ ราย<br />
๒.๕ การรับรองเวลาราชการเป็นทวีคูณให้กับบุคคล<br />
ที่ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ กห. กำหนดของหน่วยงานศูนย์<br />
บัญชาการทางทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย จำนวน<br />
๑๒,๑๖๒ ราย<br />
๒.๖ การกำหนดส่วนบำนาญพิเศษเหตุทุพพลภาพให้กับ<br />
ข้าราชการสังกัด กห. และบุคคลที่ทำหน้าที่ตามที่กห. กำหนด<br />
จำนวน ๕๑ ราย<br />
97
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
๒.๗ ทำหนังสือแสดงเจตนาระบุผู้รับบำเหน็จตกทอด<br />
ของผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ จำนวน ๒๙๖ ราย<br />
๒.๘ ทำหนังสือรับรองสิทธิในบำเหน็จตกทอด เพื่อใช้เป็น<br />
หลักประกันการกู้เงินจากสถาบันการเงิน จำนวน ๔๓๗ ราย<br />
๒.๙ การให้ความช่วยเหลือผู้รับบำนาญพิเศษในฐานะ<br />
ทายาท รับ ช.ค.บ.ไปเกินสิทธิ จำนวน ๕ ราย โดยดำเนินการ<br />
ตามหนังสือกระทรวงการคลัง ด่วนที่สุด ที่กค ๐๔๐๖.๕/ว ๖๒<br />
ลง ๓๐ มิ.ย.๕๘ เรื่อง แนวทางการเรียกเงินช่วยค่าครองชีพ<br />
ผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ (ช.ค.บ.) ซึ่งผู้รับบำนาญพิเศษในฐานะ<br />
ทายาทได้รับไปเกินสิทธิส่งคืนคลัง สรุปได้ดังนี้<br />
๒.๙.๑ ปล.กห.อนุมัติให้หลุดพ้นจากการผ่อน<br />
ชำระหนี้ จำนวน ๒ ราย<br />
๒.๙.๒ อยู่ระหว่างดำเนินการมีหนังสือนำเรียน<br />
ปล.กห. ขออนุมัติเพื่อให้ยุติการดำเนินการทางคดี จำนวน<br />
๓ ราย ซึ่งทั้ง ๓ ราย ได้ชำระค่าฤชาธรรมเนียม และค่า<br />
ทนายความเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว<br />
๒.๑๐ จัดปัจฉิมนิเทศข้าราชการสำหรับผู้ที่<br />
เกษียณอายุราชการและผู้เข้าร่วมโครงการเกษียณอายุราชการ<br />
ก่อนกำหนด ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๐ เมื่อ ๒๕ ส.ค.๖๐,<br />
๐๗๓๐ - ๑๖๐๐ ณ ห้องพินิตประชานาถ ภายในศาลาว่าการ<br />
กลาโหม มีข้าราชการผู้เกษียณอายุราชการ จำนวน<br />
๑๖๑ นาย และผู้เข้าร่วมโครงการเกษียณอายุราชการ<br />
ก่อนกำหนดประจำปีงบประมาณ ๖๐ จำนวน ๙๑ นาย<br />
รวมทั้งสิ้น ๒๕๒ นาย<br />
๓. งานพัฒนาข้อบังคับ ระเบียบเกี่ยวกับการเงิน<br />
การบัญชีของ กห. และงานด้านสิทธิกำลังพล<br />
๓.๑ การขอทำความตกลงกับกระทรวงการคลัง จำนวน<br />
๑๒ เรื่อง ดังนี้<br />
๓.๑.๑ เรื่อง ร่างระเบียบ กห.ว่าด้วยการจ่ายค่า<br />
ป่วยการ ค่าพาหนะเดินทาง และค่าเช่าที่พักแก่ล่ามหรือ<br />
ล่ามภาษามือที่เข้าร่วมในการสอบสวน ไต่สวนมูลฟ้อง หรือ<br />
พิจารณาคดีอาญา พ.ศ.....<br />
๓.๑.๒ เรื่อง ร่างระเบียบ กห. ว่าด้วยการจ่าย<br />
ค่าตอบแทน ค่าพาหนะเดินทาง ค่าป่วยการ และค่าเช่าที่พักแก่<br />
พยานในคดีอาญา พ.ศ.....<br />
๓.๑.๓ เรื่อง ร่างระเบียบ กห.ว่าด้วยการจ่าย<br />
ค่าป่วยการ ค่าพาหนะเดินทาง ค่าเช่าที่พัก และค่าใช้จ่ายอื่น<br />
แก่บุคคลในคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ พ.ศ.....<br />
๓.๑.๔ เรื่อง ร่างระเบียบ กห.ว่าด้วยการจ่าย<br />
ค่าป่วยการ ค่าพาหนะเดินทาง ค่าเช่าที่พัก และค่าใช้จ่ายอื่น<br />
แก่บุคคลในคดีค้ามนุษย์ พ.ศ.....<br />
98
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
๓.๑.๕ เรื่อง ร่างระเบียบ กห. ว่าด้วยการจ่าย<br />
ค่าตอบแทนและค่าพาหนะเดินทางแก่นักจิตวิทยาหรือ<br />
นักสังคมสงเคราะห์ที่เข้าร่วมในการร้องทุกข์ การสอบสวน<br />
การไต่สวนมูลฟ้องและการพิจารณาตามกฎหมายว่าด้วย<br />
ธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ.....<br />
๓.๑.๖ เรื่อง ขอทำความตกลงเบิกค่ารักษาพยาบาล<br />
จำนวน ๑๕ ราย<br />
๓.๑.๗ เรื่อง ขอทำความตกลงเกี ่ยวกับตำแหน่ง<br />
และจำนวนตำแหน่งของทหารหน่วยเรือ<br />
๓.๑.๘ เรื่อง การขอกำหนดเงินเพิ่มสำหรับ<br />
ตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษของผู้บังคับอากาศยานไร้คนขับ (UAV)<br />
๓.๑.๙ เรื่อง การขอกำหนดเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่ง<br />
ที่มีเหตุพิเศษของผู้ปฏิบัติงานด้านการควบคุมอากาศยาน<br />
และแจ้งเตือน<br />
๓.๑.๑๐ เรื่อง ขอปรับอัตราเงินเพิ่มประจำตำแหน่ง<br />
ที่มีเหตุพิเศษสำหรับทหารหน่วยเรือ (พ.น.ร.)<br />
๓.๑.๑๑ เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบ กห.<br />
ว่าด้วยการพิจารณาบำเหน็จพิเศษในเวลาปกติ พ.ศ.๒๕๒๙<br />
๓.๑.๑๒ เรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์การเบิกจ่าย<br />
เงินเพิ่มค่าฝ่าอันตรายสำหรับผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับการผลิต<br />
การทดลอง การซ่อม และการทำลายกระสุนวัตถุระเบิด<br />
เป็นครั้งคราว<br />
๓.๒. เรื่องขอหารือ จำนวน ๖ เรื่อง ดังนี้<br />
๓.๒.๑ การปฏิบัติในการเรียกเก็บค่าลงทะเบียน<br />
การศึกษา<br />
๓.๒.๒ กรณีบำนาญพิเศษเหตุทุพพลภาพของ<br />
อส.ทพ.กล้วย เมฆทา<br />
๓.๒.๓ การเรียกคืนเงินที่ได้รับเกินสิทธิของ<br />
พ.อ.อ.สถิตย์ รักถิ่น<br />
๓.๒.๔ การเรียกคืนเงินที่ได้รับเกินสิทธิของ<br />
นายประพนธ์ แฟงคล้าย<br />
๓.๒.๕ กรณี นางกรรณิกา พึ่งเย็น (ผู้อนุบาล)<br />
ขอเป็นผู้ยื่นหนังสือแสดงเจตนาระบุตัวผู้รับบำเหน็จตกทอด<br />
๓.๒.๖ ตอบข้อหารือกรณีบำนาญพิเศษของผู้อยู่<br />
ในอุปการะของชาวเขาอาสาสมัคร จันทร์ อินสุด<br />
๓.๓ เรื่องนำเรียน รมว.กห. เพื่อกรุณาอนุมัติและ<br />
เพื่อทราบ จำนวน ๔ เรื่อง<br />
๓.๓.๑ ข้อสั่งการของ นรม. ในการแก้ไขปัญหา<br />
การบังคับใช้ พ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น<br />
(ฉบับที่ ๖) พ.ศ.๒๕๔๓ ของอดีตข้าราชการทหาร<br />
99<br />
๓.๓.๒ ขอรับความเห็นชอบคู่มือการจัดทำบัญชี<br />
เงินรายรับของสถานศึกษาของ กห.<br />
๓.๓.๓ ขอให้ทบทวนระเบียบและข้อบังคับ กห.<br />
๓.๓.๔ ขออนุมัติปรับปรุงอัตราเงินค่าใช้สอย<br />
และเงินค่าใช้จ่ายในการจัดงานเลี้ยงรับรองในวันกองทัพไทย<br />
ประจำสำนักงานผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารและผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร<br />
เหล่าทัพ<br />
๔. งานด้านนโยบาย และการบริหารจัดการ<br />
๔.๑ ปรับปรุงโครงสร้างการจัดและอัตรากำลังพลของ<br />
กง.กห. และ สกง.สสน.<strong>สป</strong>. เพื่อสนับสนุนการดำเนินการ<br />
ด้านการเงินในการสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจพิเศษ<br />
๔.๒ จัดการตรวจเยี ่ยมหน่วย สกง.นขต.<strong>สป</strong>., สกง.<br />
นขต.สน.ปล.กห., สกง.นขต.ศอพท. และ สกง.นขต.วท.กห.<br />
ที่มีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ กท., จว.ล.บ., จว.น.ว. และ จว.ช.ม.<br />
๔.๓ ดำเนินการจัดทำระบบมาตรฐานเฉพาะตำแหน่ง<br />
ของ <strong>สป</strong>. ในส่วนของ กง.กห.<br />
๔.๔ จัดทำคู่มือการปฏิบัติงานของ กง.กห. ตามแผน<br />
การปฏิบัติงานตามคู่มือเกณฑ์คุณภาพการบริหารจัดการ<br />
ภาครัฐระดับพื้นฐาน ฉบับที่ ๒ (หมวด ๖)<br />
๕. งานพัฒนาบุคลากร<br />
๕.๑ จัดการศึกษาหลักสูตรนายทหารการเงินชั้นนายร้อย<br />
รุ่นที่ ๑๓ ของ <strong>สป</strong>. ระหว่าง ๑ พ.ย.๕๙ - ๖ ก.พ.๖๐<br />
๕.๒ จัดการอบรมหลักสูตรการเพิ่มขีดความสามารถ<br />
และสมรรถนะการบริหารงานด้านการเงินการคลัง และ<br />
การบัญชี ระหว่าง ๖ - ๑๓ มี.ค.๖๐
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
๕.๓ จัดการเรียนการสอนภายในหน่วย (Unit School)<br />
ให้กับข้าราชการ กง.กห. เพื่อรับทราบระเบียบงานใหม่ๆ<br />
ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน ตามห้วงเวลาที่เหมาะสม<br />
๕.๔ จัดการฝึกอาวุธปืนให้กับข้าราชการ กง.กห. ประจำปี<br />
งบประมาณ ๒๕๖๐ เมื่อ ๓๐ มี.ค.๖๐<br />
โดยดำเนินการจ้างบริษัท คอม เทรดดิ้ง จำกัด พัฒนา<br />
ระบบงานฯ ตามสัญญาเลขที่ ๗/๒๕๕๙ ลง ๑๕ มิ.ย.๕๙<br />
เสร็จเรียบร้อยแล้ว และคณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้ทำ<br />
การตรวจรับงานเมื่อวันที่ ๘ พ.ค.๖๐ ปัจจุบันอยู่ระหว่าง<br />
การปฏิบัติงานคู่ขนาน<br />
๕.๕ จัดการอบรมหลักสูตรการอบรมเพื่อเพิ่มพูน<br />
องค์ความรู้ข้าราชการเหล่า กง. (ระดับปฏิบัติการ) ระยะเวลา<br />
การศึกษา ระหว่างวันที่ ๑๕ - ๒๕ พ.ค.๖๐<br />
๕.๖ จัดการสัมมนาเรื่อง “กองทัพกับนโยบาย National<br />
e-Payment และ KTB Corporate Online for GFMIS”<br />
เมื่อ ๑๓ มิ.ย.๖๐<br />
๕.๗ ดำเนินการคัดเลือกนายทหารประทวนเหล่า กง.<br />
เพื่อเลื่อนฐานะเป็นนายทหารสัญญาบัตรของ <strong>สป</strong>. ประจำปี<br />
งบประมาณ ๒๕๖๐<br />
๕.๘ จัดทำแผนพัฒนารายบุคคลของ กง.กห. (Individual<br />
Development Plan: IDP) ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๐<br />
๗. งานด้านอื่นๆ<br />
๗.๑ จัดงานวันคล้ายวันสถาปนา กง.กห. ครบรอบ<br />
๑๓๐ ปี (๘ เม.ย.๖๐) โดยจัดพิธีสงฆ์ เจริญพระพุทธมนต์<br />
ณ วัดคลองบ้านใหม่ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ<br />
และจัดเลี้ยงอาหาร บริจาคเงินและสิ่งของให้กับเด็กพิการ<br />
ณ สถานคุ้มครองและพัฒนาคนพิการบ้านนนทภูมิ จว.น.บ.<br />
เมื่อวันที่ ๓ และ ๑๐ เม.ย.๖๐<br />
๗.๒ จัดทำและส่งหนังสือรับรองภาษีเงินได้ของผู้รับ<br />
บำนาญให้ถึงบ้านทางไปรษณีย์ ทั้งนี้สามารถสั่งพิมพ์หนังสือ<br />
รับรองภาษีเงินได้ของตนเองได้ทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบ<br />
อินเทอร์เน็ต<br />
๗.๓ การจัดทำข้อมูลข่าวสาร ความรู้ต่างๆ ให้ทันสมัย<br />
รวมทั้งประชาสัมพันธ์การให้บริการแก่ผู้รับเบี้ยหวัด บำเหน็จ<br />
บำนาญ การใช้แบบพิมพ์ในการเบิกเงินสวัสดิการต่างๆ ลง<br />
เผยแพร่ทางระบบอินเทอร์เน็ตผ่านทางเว็บไซต์ของ กง.กห.<br />
๗.๔ การขอรับเงินบำเหน็จดำรงชีพ กรณีผู้รับบำนาญ<br />
อายุตั้งแต่ ๖๕ ปีบริบูรณ์ขึ้นไป โดยจะส่งหนังสือแจ้งให้ผู้รับ<br />
บำนาญทราบล่วงหน้า ๒ เดือน ก่อนอายุครบ ๖๕ ปีบริบูรณ์<br />
๖. งานเทคโนโลยีสารสนเทศ<br />
งานพัฒนาระบบงานการเบิกจ่ายเงินเดือน ค่าจ้าง<br />
ค่าตอบแทนของข้าราชการ ลูกจ้าง และพนักงานราชการ<br />
ของ นถปภ.รอ. เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานภารกิจพิเศษ<br />
100
กรมการสรรพกำลังกลาโหม (กกส.กห.)<br />
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
ภารกิจ : มีหน้าที่พิจารณาเสนอความเห็น วางแผน อำนวยการ ประสานงาน<br />
กำกับดูแล และดำเนินการเกี่ยวกับการระดมสรรพกำลังเพื่อการทหาร<br />
การกำลังสำรอง การสัสดีของกระทรวงกลาโหม ตลอดจนประสานความร่วมมือ<br />
กับต่างประเทศ และปฏิบัติงานอื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย มีเจ้ากรม<br />
การสรรพกำลังกลาโหม เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ<br />
พลโท ปรีชา สายเพ็ชร<br />
เจ้ากรมการสรรพกำลังกลาโหม<br />
สรุปผลการปฏิบัติงานที ่สำคัญ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
ดำเนินงานตามประเด็นยุทธศาสตร์ : การป้องกัน<br />
ประเทศ<br />
การฝึกการระดมสรรพกำลังเพื่อการทหาร ประจำปี<br />
๒๕๖๐ (กรส.๖๐) ร่วมกับส่วนราชการทหาร ส่วนราชการ<br />
พลเรือน รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ที่เกี่ยวข้องตาม<br />
แผนผนึกกำลังและทรัพยากรเพื่อการป้องกันประเทศ โดย<br />
บูรณาการการฝึกร่วมกับการฝึกร่วมกองทัพไทย ประจำปี ๒๕๖๐<br />
(กฝร.๖๐) ภายใต้กรอบการฝึกการบริหารวิกฤตการณ์<br />
ระดับชาติ ประจำปี ๒๕๖๐ (C-MEX17) โดยมีขั้นตอน<br />
การฝึกฯ ดังนี้<br />
๑. การสัมมนาและประชุมวางแผนการฝึกขั้นต้น<br />
๒. การสัมมนาและประชุมวางแผนการฝึกขั้นกลาง<br />
๓. การสัมมนาและประชุมวางแผนการฝึกขั้นสุดท้าย<br />
๔. การอบรมการบริหารวิกฤตการณ์เพื่อการฝึกฯ<br />
๕. การอบรมปรับมาตรฐานเพื่อการฝึกฯ<br />
๖. การตรวจภูมิประเทศ<br />
๗. การอบรมการฝึกปัญหาที่บังคับการ (CPX)<br />
๘. การอบรมการฝึกภาคสนาม (FTX)<br />
๙. การสัมมนาและประชุมสรุปบทเรียนจากการฝึกฯ<br />
101
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
การฝึกปัญหาที่บังคับการ (CPX) กรส.๖๐ ระหว่าง<br />
๒๔ - ๒๖ พ.ค.๖๐ โดยมุ่งเน้นการสนับสนุนทรัพยากร<br />
ตามความต้องการทางทหาร จำนวน ๑๐ ด้าน ตามแผนผนึก<br />
กำลังฯ ใช้กรอบสถานการณ์จาก กฝร.๖๐ ในขั้นการป้องกัน<br />
ประเทศ โดยใช้ระบบติดต่อสื่อสาร ได้แก่ การรับ-ส่งข่าว<br />
ผ่าน EOC Web, การประชุมทางไกล โดย VTC, การติดต่อ<br />
สื่อสารทางระบบโทรศัพท์และการติดต่อสื่อสารทางระบบวิทยุ<br />
โดยมีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการ ดังนี้<br />
๑. ศูนย์บัญชาการทางทหาร (ศบท.) - บก.ทท.<br />
๒. ศูนย์ระดมสรรพกำลัง (ศรส.) - ห้องประชุม<br />
ยุทธศาสตร์ กกส.กห.<br />
๓. ศูนย์ปฏิบัติการด้านแรงงาน - กระทรวงแรงงาน<br />
๔. ศูนย์ปฏิบัติการด้านอาหาร - กระทรวงเกษตร<br />
และสหกรณ์<br />
๕. ศูนย์ปฏิบัติการด้านน้ำ - กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ<br />
และสิ่งแวดล้อม<br />
๖. ศูนย์ปฏิบัติการด้านการคมนาคม - กระทรวงคมนาคม<br />
๗. ศูนย์ปฏิบัติการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและ<br />
การสื่อสาร - กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม<br />
๘. ศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข -<br />
กระทรวงสาธารณสุข<br />
๙. ศูนย์ปฏิบัติการด้านอุตสาหกรรมและปัจจัยการผลิต -<br />
กระทรวงอุตสาหกรรม<br />
๑๐. ศูนย์ปฏิบัติการด้านเชื้อเพลิงและพลังงาน - กระทรวง<br />
พลังงาน<br />
๑๑. ศูนย์ปฏิบัติการด้านการประชาสัมพันธ์ - กรม<br />
ประชาสัมพันธ์<br />
๑๒. ศูนย์ปฏิบัติการด้านสิ่งอำนวยความสะดวกและ<br />
อื่นๆ - กระทรวงมหาดไทย<br />
๑๓. ส่วนควบคุมการฝึกฯ - ห้องอเนกประสงค์ กกส.กห.<br />
ผลการฝึกฯ ศรส. ดำเนินการปล่อยโจทย์สถานการณ์<br />
การฝึกให้แก่ศูนย์ปฏิบัติการด้านต่างๆ ที่เป็นหน่วยรับผิดชอบ<br />
ทรัพยากรทั้ง ๑๐ ด้าน ซึ่งได้มีการจัดเจ้าหน้าที่เข้าประจำ<br />
ศูนย์ปฏิบัติการ ณ ที่ตั้งหน่วย และหน่วยงานส่วนกลางทั้ง<br />
๙ หน่วยงาน ณ กกส.กห. ทุกส่วนได้ร่วมกันระดมทรัพยากร<br />
ที่หน่วยรับผิดชอบ เข้าแก้ปัญหาตามโจทย์สถานการณ์ที่ได้รับ<br />
ผ่านช่องทางระบบติดต่อสื่อสารที่กำหนด โดยมีปัญหา<br />
ข้อขัดข้องในการติดต่อสื่อสารเป็นบางห้วงเวลา ซึ่งจะนำปัญหา<br />
ข้อขัดข้องดังกล่าวไปพัฒนาปรับปรุงให้เกิดประสิทธิภาพ<br />
ต่อไป<br />
การฝึกภาคสนาม (FTX) กรส.๖๐ ระหว่าง ๑๓ - ๑๕<br />
มิ.ย.๖๐ ในพื้นที่การฝึก มทบ.๑๒ จ.ปราจีนบุรี โดยมุ่งเน้น<br />
การระดมทรัพยากรจากฝ่ายพลเรือนสนับสนุนตามความ<br />
ต้องการที ่ทางฝ่ายทหารร้องขอ โดยมีรายละเอียดการฝึก<br />
ภาคสนาม ๑๕ เรื่อง ดังนี้<br />
102
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
๑๔. การระดมเฮลิคอปเตอร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ<br />
และภาคเอกชน เพื่อเคลื่อนย้ายกำลังพลที่บาดเจ็บ<br />
๑๕. การระดมน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน<br />
ผลการฝึกฯ ส่วนราชการทหาร ส่วนราชการพลเรือน<br />
รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือ<br />
เป็นอย่างดี ซึ่งจะนำไปพัฒนาปรับปรุงให้เกิดประสิทธิภาพ<br />
ต่อไป<br />
การประชุมคณะอนุกรรมการเตรียมพร้อมด้านการระดม<br />
สรรพกำลังเพื่อความมั่นคง<br />
จัดการประชุมคณะอนุกรรมการเตรียมพร้อมด้านการ<br />
ระดมสรรพกำลังเพื่อความมั่นคง จำนวน ๒ ครั้ง เมื่อ ๒๖<br />
ม.ค.๖๐ ณ ห้องประชุมจิร วิชิตสงคราม ชั้น ๗ อาคาร บี<br />
ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ และ ๔ ก.ย.๖๐ ณ ห้องประชุม<br />
กกส.กห. ชั้น ๔ อาคาร <strong>สป</strong>. (ศรีสมาน) โดยมีวัตถุประสงค์<br />
๑. การระดมอุปกรณ์สื่อสาร, รถสื่อสาร และรถสื่อสาร<br />
ดาวเทียม<br />
๒. การระดมสถานีวิทยุกระจายเสียง และสื่อมวลชน<br />
ท้องถิ่น<br />
๓. การระดมด้านอุตสาหกรรมและปัจจัยการผลิต<br />
๔. การระดมด้านอาหาร<br />
๕. การระดมรถผลิตน้ำดื่ม<br />
๖. การระดมน้ำมันเชื้อเพลิง<br />
๗. การระดมรถกึ่งพ่วงชานต่ำในการขนย้ายรถถัง<br />
๘. การระดมรถโดยสาร<br />
๙. การระดมเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และสาธารณสุข<br />
๑๐. การระดมรถไฟฟ้าส่องสว่าง<br />
๑๑. การระดมรถผลิตกระแสไฟฟ้า<br />
๑๒. การระดมผู้เชี่ยวชาญพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล<br />
๑๓. การระดมผู้เชี่ยวชาญด้านมลพิษ สารเคมี<br />
103
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
เพื่อให้คณะอนุกรรมการฯ ได้ร่วมพิจารณาแนวทางในการ<br />
พัฒนา ปรับปรุงงานด้านการระดมสรรพกำลัง ตามแผน<br />
ผนึกกำลังและทรัพยากรเพื่อการป้องกันประเทศ เพื่อ<br />
ให้การป้องกันประเทศสามารถสนับสนุนการเตรียมการและ<br />
การจัดการที่เกี่ยวข้องกับภัยคุกคามความมั่นคงรูปแบบใหม่<br />
เพื่อให้ส่วนราชการพลเรือน รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน<br />
สามารถสนับสนุนทรัพยากรด้านต่างๆ ในการปฏิบัติการ<br />
ทางทหารในภาวะปกติได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ<br />
ผลการประชุมฯ สรุปได้ ดังนี้<br />
๑. หน่วยประสานงานหลักในการเตรียมความพร้อมของ<br />
ทรัพยากรทั้ง ๑๐ ด้าน ตามแผนผนึกกำลังฯ กำลังดำเนินการ<br />
จัดทำแผนเตรียมพร้อมด้านทรัพยากรในระดับกระทรวง<br />
รวมทั้งให้หน่วยเตรียมพร้อมในระดับจังหวัด ได้จัดทำแผน<br />
เตรียมพร้อมด้านทรัพยากรควบคู่กันไป และสนับสนุน<br />
เจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำในการจัดทำแผนฯ ดังกล่าว<br />
๒. ที่ประชุมมีมติเห็นชอบการจัดทำหลักสูตรอบรมการ<br />
ระดมสรรพกำลังเพื่อความมั่นคง และยินดีส่งผู้แทนเข้าร่วม<br />
อบรมฯ<br />
การอบรมและสัมมนาเสริมสร้างความรู้เพื่อพัฒนาการ<br />
สรรพกำลังกลาโหม<br />
ดำเนินการจัดการอบรมและสัมมนาเสริมสร้างความรู้<br />
เพื่อพัฒนาการสรรพกำลังกลาโหม ณ จ.สมุทรสงคราม<br />
เมื่อ ๒๒ - ๒๓ พ.ย.๕๙ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการ<br />
เสริมสร้างความรู้ให้กับทุกภาคส่วน รวมถึงมีการระดม<br />
ความคิด ข้อเสนอแนะแนวทางปรับปรุงและพัฒนางานด้าน<br />
การระดมสรรพกำลัง ตลอดจนสร้างความร่วมมือและ<br />
ประสานงานระหว่างกัน ซึ่งจะทำให้งานการระดมสรรพกำลัง<br />
เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ<br />
จ.อำนาจเจริญ, จ.ยโสธร, จ.ศรีสะเกษ, จ.สุรินทร์และ จ.บุรีรัมย์<br />
เมื่อ ๒๐ - ๒๔ มี.ค.๖๐ โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้าง<br />
ความเข้าใจในงานการระดมสรรพกำลัง การดำเนินการ<br />
ในการติดต่อประสานงานและร่วมมือกันระหว่างส่วนราชการ<br />
ทหารกับส่วนราชการพลเรือน ทั้งจากส่วนกลางและ<br />
ส่วนภูมิภาค เพื่อสนับสนุนภารกิจทางทหารในภาวะไม่ปกติ<br />
หรือในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อให้มีความพร้อมที่จะเผชิญ<br />
กับภัยต่างๆ ได้อย่างทันท่วงที และมีประสิทธิภาพ ตามแผน<br />
ผนึกกำลังและทรัพยากรเพื่อการป้องกันประเทศ ภายใต้<br />
กรอบยุทธศาสตร์การเตรียมพร้อมแห่งชาติ และเพื่อรับทราบ<br />
ข้อคิดเห็น ปัญหาและอุปสรรคจากทุกภาคส่วน เกี่ยวกับ<br />
ขั้นตอนการปฏิบัติงานการระดมสรรพกำลัง<br />
การเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการสำรวจ<br />
ตรวจสอบข้อมูลทรัพยากรเพื่อการระดมสรรพกำลัง<br />
ได้ดำเนินโครงการการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ<br />
เกี่ยวกับการสำรวจตรวจสอบข้อมูลทรัพยากรเพื ่อการ<br />
ระดมสรรพกำลัง จำนวน ๓ ครั้ง ในพื้นที่ ทภ.๒ - ทภ.๔<br />
โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้<br />
๑. เพื่อสำรวจตรวจสอบข้อมูลทรัพยากรจากส่วนราชการ<br />
พลเรือน รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ตามบัญชีความต้องการ<br />
ทางทหารของ บก.ทท. และเหล่าทัพ ในการปฏิบัติภารกิจ<br />
ป้องกันประเทศ<br />
การพัฒนาสัมพันธ์กับทุกภาคส่วนเพื่อการระดม<br />
สรรพกำลัง<br />
ได้เดินทางไปพัฒนาสัมพันธ์กับทุกภาคส่วนเพื่อการ<br />
ระดมสรรพกำลังในพื้นที่ ทภ. ๒ รวม ๕ จังหวัด ได้แก่<br />
104
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
๒. เตรียมความพร้อมข้อมูลทรัพยากรด้านการส่ง<br />
กำลังบำรุง ๑๐ ด้าน ประกอบด้วย คน, อาหาร, น้ำ, การคมนาคม-<br />
ขนส่ง, การสื่อสาร, การแพทย์และสาธารณสุข, อุตสาหกรรม<br />
และปัจจัยการผลิต, เชื้อเพลิงและพลังงาน, การประชาสัมพันธ์<br />
ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกและอื่นๆ ตามความต้องการ<br />
ของเหล่าทัพ จากส่วนราชการพลเรือน รัฐวิสาหกิจ และ<br />
ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง โดยสามารถสนับสนุนกองทัพในการ<br />
ปฏิบัติภารกิจป้องกันประเทศในภาวะไม่ปกติ ตลอดจน<br />
สามารถให้การสนับสนุนส่วนราชการพลเรือนเพื่อเผชิญกับ<br />
สาธารณภัยและในสถานการณ์ฉุกเฉิน<br />
๓. มีการวางแผน ประสานงาน รวมทั้งการบริหารจัดการ<br />
ทรัพยากร ระหว่างส่วนราชการทหาร กับส่วนราชการพลเรือน<br />
รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ให้สามารถสนับสนุน<br />
ภารกิจทางทหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ<br />
เยี่ยมชมแหล่งทรัพยากรเป้าหมายเพื่อการระดมสรรพกำลัง<br />
เพื่อสอบถามรายละเอียดต่างๆ เช่น กำลังการผลิตสูงสุด ฯลฯ<br />
และนำมาปรับปรุงในระบบข้อมูลการระดมสรรพกำลัง<br />
การประชุมเชิงปฏิบัติการระบบข้อมูลการระดม<br />
สรรพกำลัง ศูนย์รวมข้อมูลเสริมสร้างพลังเพื่อการป้องกัน<br />
ประเทศ ครั้งที่ ๑ ครั้งที่ ๒ และครั้งที่ ๓<br />
จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการระบบข้อมูลการระดม<br />
สรรพกำลัง ศูนย์รวมข้อมูลเสริมสร้างพลังเพื่อการป้องกัน<br />
ประเทศ จำนวน ๓ ครั้ง ครั้งที่ ๑ เมื่อ ๑๕ ธ.ค.๕๙<br />
ณ ห้องประชุม ชั้น ๖ อาคาร <strong>สป</strong>. (ศรีสมาน) และครั้งที่ ๒<br />
เมื่อ ๑๖ ก.พ.๖๐ ณ ห้องสันติธำรง ศูนย์ปฏิบัติการ<br />
เพื่อสันติภาพ ชั้น ๒ บก.ทท. ประเทศ และครั้งที่ ๓<br />
เมื่อ ๘ มิ.ย.๖๐ ณ ห้องฝึกอบรม (๑) กง.กห. อาคาร <strong>สป</strong>.<br />
(ศรีสมาน) ชั้น ๒ มีดังนี้<br />
การดำเนินการบรรยายเกี่ยวกับภารกิจ, นโยบาย<br />
การเตรียมพร้อมแห่งชาติ และแผนผนึกกำลังและทรัพยากร<br />
เพื่อการป้องกันประเทศให้กับภาคเอกชน ประกอบด้วย บริษัท<br />
โรงพยาบาล สถานศึกษา ฯลฯ ที่เป็นแหล่งทรัพยากรเป้าหมาย<br />
เพื่อการระดมสรรพกำลัง พร้อมทั้งให้ผู้แทนจากแหล่ง<br />
ทรัพยากรเป้าหมายนั้น ได้มีการตรวจสอบข้อมูลทรัพยากร<br />
เพื่อการระดมสรรพกำลัง โดยมีผู้แทนจากส่วนราชการ<br />
พลเรือน รัฐวิสาหกิจ ร่วมให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะ<br />
เกี่ยวกับเรื่องการจัดเก็บข้อมูลทรัพยากรด้านต่างๆ พร้อมทั้ง<br />
๑. การบรรยายให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภารกิจของ<br />
หน่วยที่เกี่ยวข้องกับงานการระดมสรรพกำลัง และระบบข้อมูล<br />
การระดมสรรพกำลัง ซึ่งเป็นระบบสารสนเทศในการจัดเก็บ<br />
ข้อมูลทรัพยากรเพื่อการระดมสรรพกำลัง รวมทั้งการนำระบบ<br />
ข้อมูลฯ ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อส่วนราชการทหาร และการ<br />
ช่วยเหลือในการบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งให้ความรู้เกี่ยวกับ<br />
การเชื่อมต่อระบบข้อมูลการระดมสรรพกำลัง<br />
๒. ให้หน่วยงานทางฝ่ายทหารที่เชื่อมต่อระบบข้อมูล<br />
การระดมสรรพกำลังไปใช้ประโยชน์ตามภารกิจของหน่วย<br />
ได้แก่ มทบ.๑๙ (จทบ.ส.ก.), มทบ.๑๔, กบ.ทหาร, วสท.<strong>สป</strong>ท.<br />
รวมถึงข้าราชการสังกัด <strong>สป</strong>. ได้ทดลองใช้งานระบบข้อมูล<br />
การระดมสรรพกำลัง<br />
จากการประชุมฯ ดังกล่าว เป็นการเสริมสร้างให้<br />
ข้าราชการมีความรู้ความเข้าใจในงานการระดมสรรพกำลัง<br />
และเป็นการเผยแพร่ระบบข้อมูลการระดมสรรพกำลัง โดย<br />
ผู้เข้าร่วมประชุมฯ สามารถนำข้อมูลทรัพยากรที ่จัดเก็บลง<br />
ในระบบฐานข้อมูลต่างๆ ไปใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติภารกิจ<br />
ของหน่วย หรือใช้วางแผนปฏิบัติการทางทหารตามภารกิจ<br />
105
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
การป้องกันประเทศ รวมทั้งใช้เป็นข้อมูลช่วยเหลือในการ<br />
บรรเทาสาธารณภัยได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ บก.ทท. และเหล่าทัพ<br />
หลายหน่วยงานได้ให้ความสนใจในการเชื่อมต่อระบบข้อมูลฯ<br />
เช่น ศตก. เห็นว่าระบบข้อมูลฯ มีประโยชน์กับภารกิจ<br />
ของหน่วยในการวางแผนการฝึกการต่อต้านการก่อการร้าย<br />
และบางหน่วยที่ได้เชื่อมต่อระบบข้อมูลฯ แล้ว เช่น วสท.<strong>สป</strong>ท.<br />
ได้ชื่นชม กกส.กห. ว่ามีข้อมูลที่ดีและเป็นประโยชน์จึงมีความ<br />
ต้องการเชื่อมต่อระบบข้อมูลฯ ตลอดไป ทั้งนี้ จะดำเนินการ<br />
ปรับปรุงข้อมูลให้มีความถูกต้อง ครบถ้วน ทันสมัย โดยการ<br />
ประสานขอรับการสนับสนุนข้อมูลจากส่วนราชการพลเรือน<br />
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่เป็นหน่วยเจ้าของข้อมูลทรัพยากร<br />
ตามที่แผนผนึกกำลังฯ ได้กำหนดไว้<br />
การสัมมนาการดำเนินการด้านข้อมูลทรัพยากรเพื่อการ<br />
ระดมสรรพกำลัง ข้อมูลพร้อมสรรพ ทรัพยากรเพื่อกองทัพ<br />
จัดการสัมมนาการดำเนินการด้านข้อมูลทรัพยากร<br />
เพื่อการระดมสรรพกำลัง ข้อมูลพร้อมสรรพ ทรัพยากร<br />
เพื่อกองทัพ เมื่อ ๑๐ ม.ค.๖๐ ณ ห้องอเนกประสงค์ กกส.กห.<br />
ชั้น ๔ อาคาร <strong>สป</strong>. (ศรีสมาน) ดังนี้<br />
๑. การบรรยายเรื่อง “การดำเนินการด้านข้อมูลทรัพยากร<br />
เพื่อการระดมสรรพกำลัง ข้อมูลพร้อมสรรพ ทรัพยากร<br />
เพื่อกองทัพ” มีเนื้อหาประกอบด้วย<br />
๑.๑ ภารกิจของหน่วยที่เกี่ยวข้องกับงานการระดม<br />
สรรพกำลัง โดยการจัดเก็บข้อมูลทรัพยากรตามแผนผนึกกำลัง<br />
และทรัพยากรเพื่อการป้องกันประเทศ ทั้ง ๑๐ ด้าน<br />
๑.๒ ระบบข้อมูลการระดมสรรพกำลัง ซึ่งเป็น<br />
ระบบสารสนเทศในการจัดเก็บข้อมูลทรัพยากรเพื่อการระดม<br />
สรรพกำลัง ประกอบด้วยข้อมูลที่ได้รับการสนับสนุนจาก<br />
ทุกภาคส่วน ซึ่งเป็นการรวบรวมข้อมูลให้มีความครอบคลุม<br />
กับบัญชีความต้องการทางทหารที่จำเป็นต้องระดมจาก<br />
ฝ่ายพลเรือน หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน โดยได้<br />
เพิ่มระบบฐานข้อมูลด้านการระดมสรรพกำลัง จำนวน ๒ ด้าน<br />
คือ ข้อมูลด้านการฝึกและศึกษา และข้อมูลสนับสนุนการระดม<br />
สรรพกำลัง รวมทั้งหมด ๑๒ ด้าน ๗๑ ระบบงานย่อย<br />
๑.๓ การนำระบบข้อมูลฯ ไปใช้ประโยชน์ต่อส่วน<br />
ราชการทหารและการช่วยเหลือในการบรรเทาสาธารณภัย<br />
106
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
ได้แก่ ระบบงานข้อมูลถนน สามารถใช้เป็นข้อมูลกำหนด<br />
เส้นทางหลัก/เส้นทางรองในการส่งกำลังบำรุง, ระบบงาน<br />
ข้อมูลโรงพยาบาล สามารถใช้เป็นข้อมูลในการวางแผน<br />
การส่งกลับสายแพทย์ และระบบงานข้อมูลสถานศึกษา<br />
สามารถใช้เป็นข้อมูลเพื่อกำหนดเป็นสถานที่พักอาศัย<br />
ให้กับประชาชน หากเกิดภาวะไม่ปกติหรือสาธารณภัยได้<br />
จากผลการสัมมนาฯ ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้รับความรู้<br />
ความเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินการด้านข้อมูลทรัพยากร<br />
เพื่อการระดมสรรพกำลัง ประเภทข้อมูลทรัพยากรที่จัดเก็บ<br />
ในระบบฐานข้อมูลทรัพยากรการระดมสรรพกำลัง มาตรฐาน<br />
การจัดเก็บ และการให้การสนับสนุนข้อมูลกับหน่วยงาน<br />
ทางทหาร สามารถอธิบายเรื่องข้อมูลทรัพยากรเพื่อการ<br />
ระดมสรรพกำลัง และประชาสัมพันธ์หน่วยงานได้ ตลอดจน<br />
นำความรู้มาปรับใช้หากได้รับการปรับย้ายมาปฏิบัติงาน<br />
ในตำแหน่งที่เกี่ยวข้องได้ในอนาคต<br />
การอบรมสัมมนาปลูกปัญญาธรรม น้อมนำแนวทาง<br />
พระราชดำริ สร้างหลักคิดสู่แนวทางปฏิบัติ<br />
ได้ดำเนินการจัดโครงการอบรมสัมมนาปลูกปัญญาธรรม<br />
น้อมนำแนวทางพระราชดำริ สร้างหลักคิดสู่แนวทางปฏิบัติ<br />
เมื่อ ๖ - ๗ ธ.ค.๕๙ ณ ห้องประชุม ชั้น ๖ อาคาร <strong>สป</strong>.<br />
(ศรีสมาน) ตามกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จ<br />
พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร<br />
และสถาบันพระมหากษัตริย์ กลุ่มงานถวายเป็นพระราชกุศล<br />
การดำเนินงาน มีดังนี้<br />
๑. เมื่อ ๖ ธ.ค.๕๙ ได้นมัสการพระครูปลัดสุวัฒนวชิรคุณ<br />
ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดยานนาวา มาบรรยายธรรมในหัวข้อ<br />
“ปลูกปัญญาธรรม น้อมนำแนวทางพระราชดำริ สร้างหลักคิด<br />
สู่แนวทางปฏิบัติ” กล่าวถึงหลักทศพิธราชธรรม ๑๐ ประการ<br />
ประกอบด้วย ทาน ศีล บริจาค อาชวะ มัททวะ ตบะ อักโกธะ<br />
อวิหิงสา ขันติ และอวิโรธนะ และเรื่องความพอเพียงในชีวิต<br />
ที่แต่ละคนมีความพอเพียงแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความต้องการ<br />
ของแต่ละคน ซึ่งความต้องการนั ้นต้องไม่เดือดร้อนตนเอง<br />
และผู้อื่น<br />
๒. เมื่อ ๗ ธ.ค.๕๙ นำข้าราชการในสังกัด <strong>สป</strong>. เดินทางไป<br />
ปฏิบัติธรรม ณ วัดมเหยงคณ์ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อ<br />
ร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดี ถวายเป็นพระราชกุศล<br />
และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระบารมีของพระบาท<br />
สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร<br />
107
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
การดำเนินการบรรลุผลสำเร็จตามความมุ่งหมายของ<br />
ทางราชการ ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ได้แสดงออกถึงความ<br />
จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และมีจิตสำนึกใน<br />
พระมหากรุณาธิคุณ พร้อมร่วมใจกันเทิดทูน ปกป้องสถาบัน<br />
พระมหากษัตริย์ และได้นำแนวทางพระราชดำริของ<br />
พระองค์ท่านมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติราชการ รวมทั้ง<br />
ข้าราชการได้รับฟังการบรรยายธรรม และปฏิบัติธรรมด้วยการ<br />
เดินจงกรม นั่งสมาธิ พร้อมซักถามปัญหาธรรมะ ซึ่งเป็นไปตาม<br />
วัตถุประสงค์ของโครงการฯ ดังกล่าว จากแบบสอบถามพบว่า<br />
ผู้เข้าร่วมโครงการฯ ได้รับประโยชน์ในการเข้าร่วมโครงการฯ<br />
คิดเป็นร้อยละ ๙๘ อยู่ในเกณฑ์ดีมาก<br />
การประชุมคณะกรรมการกำลังพลสำรอง (คกส.)<br />
ประจำปี ๒๕๖๐<br />
จัดการประชุมคณะกรรมการกำลังพลสำรอง (คกส.)<br />
ประจำปี ๒๕๖๐ เมื่อ ๒๔ ก.ค.๖๐ ณ ห้องภาณุรังษี<br />
ภายในศาลาว่าการกลาโหม ผลการประชุมสรุปได้ ดังนี้<br />
- ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการเรื่อง การพิจารณา<br />
สิทธิประโยชน์ให้กับนายจ้างที่สนับสนุนให้ลูกจ้างซึ่งเป็น<br />
กำลังพลสำรองเข้ารับราชการทหาร ตามที่ กกส.กห./<br />
สำนักงานเลขานุการของ คกส. เสนอ รวม ๖ เรื่อง และ<br />
การพิจารณาสิทธิประโยชน์ให้กับกำลังพลสำรอง ตามที่<br />
กกส.กห./สำนักงานเลขานุการของ คกส. เสนอ รวม<br />
๑๒ เรื่อง โดยมอบให้คณะอนุกรรมการกำลังพลสำรอง<br />
ด้านสิทธิประโยชน์และการสวัสดิการ ไปศึกษาและพิจารณา<br />
ความเหมาะสมในแต่ละเรื่องให้ได้ข้อยุติ รวมถึงให้รับ<br />
ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการฯ ไปประกอบ<br />
การพิจารณาให้มีความรอบคอบ รวมทั้งมีมติเห็นชอบ<br />
ในหลักการเรื่อง การเสนอแนวทางการพัฒนากิจการกำลังพล<br />
สำรองของ กห. ในห้วงระยะเวลา ๕ - ๑๐ ปี รวม ๘ เรื่อง<br />
และมอบให้ กกส.กห./สำนักงานเลขานุการของ คกส. รับไป<br />
ประสานกับหน่วยที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการต่อไป รวมถึง<br />
ให้รับข้อคิดเห็นและข้อเสนอของคณะกรรมการฯ ไปประกอบ<br />
การพิจารณาให้มีความรอบคอบ<br />
การประชุมคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผล<br />
การพัฒนาระบบกำลังสำรองของ กห. ประจำปี ๒๕๖๐<br />
จัดการประชุมคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผล<br />
การพัฒนาระบบกำลังสำรองของ กห. ประจำปี ๒๕๖๐<br />
เมื่อ ๒๘ ส.ค.๖๐ ณ ห้องประชุม ชั้น ๖ อาคาร <strong>สป</strong>. (ศรีสมาน)<br />
สรุปผลการประชุม ดังนี้<br />
- ที่ประชุมรับทราบผลการปฏิบัติตามแผนระยะสั้น<br />
ปี ๒๕๖๐ ของ กกส.กห., บก.ทท., และเหล่าทัพ ตามที่กำหนด<br />
ไว้ในแผนแม่บทการพัฒนากิจการกำลังพลสำรองของ กห.<br />
พ.ศ.๒๕๖๐ - ๒๕๖๔<br />
- ที่ประชุมรับทราบผลการปฏิบัติในการเรียกเข้า<br />
รับราชการทหาร ปี ๒๕๖๐ ของ ทบ. และผลการปฏิบัติ<br />
ในการเรียกพลเพื่อตรวจสอบและฝึกวิชาทหาร ปี ๒๕๖๐<br />
ของ ทร. และ ทอ.<br />
- ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้คณะกรรมการฯ ได้เสนอ<br />
ข้อคิดเห็นในเรื่อง แนวทางการพัฒนากิจการกำลังพลสำรอง<br />
ของ กห. ในห้วงระยะเวลา ๕ - ๑๐ ปี ตามประเด็นที่กกส.กห./<br />
ฝ่ายเลขานุการฯ เสนอ ทั้ง ๘ ประเด็น โดยแจ้งผลการพิจารณา<br />
ให้ กกส.กห. เพื่อดำเนินการต่อไป<br />
- จก.กกส.กห./รองประธานกรรมการ ประธานการ<br />
ประชุมฯ ได้มอบแนวทางให้หน่วยที่เกี่ยวข้องกับกิจการ<br />
กำลังพลสำรอง พิจารณาดำเนินการดังนี้<br />
๑. ให้ บก.ทท., ทบ., ทร. และ ทอ. ดำเนินการ<br />
จัดทำแผนงานการพัฒนากิจการกำลังพลสำรอง ในห้วงแผน<br />
ระยะกลาง (ปีงบประมาณ ๖๑ - ๖๓) ให้มีผลการปฏิบัติ<br />
เป็นไปตามที่กำหนดไว้ในแผนแม่บทฯ<br />
๒. ให้ บก.ทท. และ มทบ. พิจารณาจัดตั้งกองร้อย<br />
บรรเทาสาธารณภัย เพื่อเป็นหน่วยนำร่องในการดำเนินการ<br />
ตามบทบัญญัติของมาตรา ๒๔ แห่ง พ.ร.บ.กำลังพลสำรอง<br />
พ.ศ.๒๕๕๘<br />
108
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์พ.ร.บ.กำลังพลสำรองให้กับ<br />
ทุกภาคส่วน และการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผล<br />
การเตรียมพลของเหล่าทัพ<br />
จัดชุดเจ้าหน้าที่เดินทางไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์<br />
พ.ร.บ.กำลังพลสำรองให้กับทุกภาคส่วน รวมทั้งติดตาม<br />
ตรวจสอบ และประเมินผลการเตรียมพลของเหล่าทัพ ในพื้นที่<br />
ทภ.๑ - ทภ.๔ ดังนี้<br />
๑. เมื่อ ๓๑ ม.ค. - ๓ ก.พ.๖๐ ณ พื้นที่ ทภ.๔ ประกอบ<br />
ด้วย มทบ.๔๕, มทบ.๔๒ และ มทบ.๔๑ โดยมีเจ้าหน้าที่<br />
สายงานกำลังสำรอง สายงานสัสดี และหน่วยรับการบรรจุ/<br />
หน่วยฝึกฯ ในพื้นที่เข้าร่วมรับฟัง จำนวน ๑๕๐ นาย<br />
๒. เมื่อ ๑๔ - ๑๗ ก.พ.๖๐ ณ พื้นที่ ทภ.๒ ประกอบด้วย<br />
มทบ.๒๒, มทบ.๒๕ และ มทบ.๒๖ โดยมีเจ้าหน้าที่สายงาน<br />
กำลังสำรอง สายงานสัสดี และหน่วยรับการบรรจุ/หน่วยฝึกฯ<br />
ในพื้นที่เข้าร่วมรับฟัง จำนวน ๑๕๑ นาย<br />
๓. เมื่อ ๑๖ - ๑๙ พ.ค.๖๐ ณ พื้นที่ ทภ.๓ ประกอบด้วย<br />
มทบ.๓๕, มทบ.๓๖ และ มทบ.๓๘ โดยมีเจ้าหน้าที่สายงาน<br />
กำลังสำรอง สายงานสัสดี และหน่วยรับการบรรจุ/หน่วยฝึกฯ<br />
ในพื้นที่เข้าร่วมรับฟัง จำนวน ๙๓ นาย<br />
๔. เมื่อ ๑ - ๔ ส.ค.๖๐ ณ รร.กสร.ศสร., พื้นที่ มทบ.๑๕<br />
มทบ.๑๖ และ มทบ.๑๗ โดยมีเจ้าหน้าที่สายงานกำลังสำรอง<br />
สายงานสัสดี และหน่วยรับการบรรจุ/หน่วยฝึกฯ ในพื ้นที่<br />
เข้าร่วมรับฟัง จำนวน ๑๓๙ นาย<br />
การตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานและเผยแพร่ความรู้<br />
ทางวิชาการสายงานสัสดี<br />
เดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานและเผยแพร่ความรู้<br />
ทางวิชาการสายงานสัสดี ในพื้นที่ ทภ. ๑ - ทภ. ๔ เพื่อศึกษา<br />
และรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานอื่นนอก กห. และ<br />
รวบรวมข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์นำมากำหนดกรอบ<br />
การดำเนินงานในเรื่องการจัดทำนโยบาย ปรับปรุงกฎหมาย<br />
ระเบียบ ข้อบังคับ คำสั่งที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของ<br />
สัสดีซึ่งเป็นไปตามข้อบังคับ กห.ว่าด้วยการกำหนดหน้าที่สัสดี<br />
พ.ศ.๒๕๕๓ ให้กับข้าราชการสายงานสัสดี, ผู้แทนหน่วยทหาร,<br />
ผู้แทนส่วนราชการพลเรือน, ผู้แทนสถานศึกษา, กำนัน และ<br />
ผู้ใหญ่บ้าน ดังนี้<br />
- พื ้นที่ ทภ.๑ จ.จันทบุรี, จ.ชลบุรี, จ.ปราจีนบุรี และ<br />
จ.สระแก้ว เมื่อ ๑๓ - ๑๖ ธ.ค.๕๙<br />
- พื้นที่ ทภ.๒ จ.ร้อยเอ็ด, จ.มหาสารคาม และ<br />
จ.ขอนแก่น เมื่อ ๒๐ - ๒๓ ธ.ค.๕๙<br />
- พื้นที่ ทภ.๓ จ.กำแพงเพชร, จ.พะเยา, และ จ.ลำปาง<br />
เมื่อ ๒๑ - ๒๔ ก.พ.๖๐<br />
- พื้นที่ ทภ.๔ จ.ชุมพร, จ.ระนอง, จ.สุราษฎร์ธานี และ<br />
จ.นครศรีธรรมราช เมื่อ ๒๖ - ๓๐ มิ.ย.๖๐<br />
ผลการดำเนินการ ผู้เข้ารับฟังมีความเข้าใจการปฏิบัติ<br />
ตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร ในเรื่องเกี่ยวกับการ<br />
ลงบัญชีทหารกองเกิน การรับหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร<br />
ขั้นตอนการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหาร<br />
109
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
เพื่อฝึกวิชาทหาร เพื่อปฏิบัติราชการ เพื่อทดลองความพร้อม<br />
และการระดมพล ซึ่งได้ชี้แจงรายละเอียด แนวทางการปฏิบัติ<br />
บทบาทหน้าที่กำลังพลสำรอง สิทธิประโยชน์ต่างๆ<br />
ให้ทราบแล้ว สมควรดำเนินการตรวจเยี่ยมและเผยแพร่<br />
ความรู้ฯ ให้ครอบคลุมทุกพื้นที่อย่างต่อเนื่อง<br />
การตรวจเยี่ยมการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้า<br />
รับราชการทหารกองประจำการ<br />
รมว.กห. ได้กรุณาอนุมัติให้ <strong>สป</strong>. (กกส.กห.) กำกับ<br />
ดูแลการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกอง<br />
ประจำการ ให้เป็นไปตามนโยบายของ กห. และข้อบังคับ กห.<br />
ว่าด้วยการกำหนดหน้าที่สัสดี พ.ศ.๒๕๕๓ โดย ปล.กห. ได้<br />
มอบหมายให้พล.อ.อ.ศิวเกียรติ์ชเยมะ รอง ปล.กห. พร้อมคณะ<br />
และข้าราชการ กกส.กห. ตรวจเยี่ยมการตรวจเลือกฯ เมื่อ<br />
๔ เม.ย.๖๐ ณ ศาลาการเปรียญวัดพรหมวงศาราม เขตดินแดง<br />
กทม. ซึ่ง รอง ปล.กห. ได้กรุณาให้คำแนะนำในเรื่องเกี่ยวกับ<br />
สถานที่ตรวจเลือกฯ และอุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ สำหรับ<br />
การตรวจเลือกฯ ควรต้องมีความทันสมัย และเดินทางไป<br />
กองประจำการ การดำเนินการขอยกเว้นหรือผ่อนผัน<br />
การพ้นจากฐานะยกเว้นหรือผ่อนผัน การตรวจโรคก่อน<br />
การตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหารกอง<br />
ประจำการ การขึ้นทะเบียนกองประจำการ การแก้ไขทะเบียน<br />
กองประจำการ รวมถึงแนวทางการปฏิบัติในเรื่องดังกล่าว<br />
เพิ่มขึ้นหลังจากรับฟังการบรรยายแล้ว ซึ่งการเดินทางไป<br />
ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานและเผยแพร่ความรู้ทางวิชาการ<br />
สายงานสัสดี ประจำปี ๒๕๖๐ เป็นไปตามวัตถุประสงค์<br />
ที่ทางราชการกำหนดไว้ ผู้ที่ได้เข้ารับฟังมีความเข้าใจถึง<br />
หลักเกณฑ์ ขั้นตอน วิธีการปฏิบัติ ตาม พ.ร.บ.รับราชการ<br />
ทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ ที่มีการปรับปรุงพัฒนา เพิ่มเติมขึ้น<br />
ในแต่ละปี ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องสามารถนำแนวทาง<br />
การชี้แจงจากคณะตรวจเยี่ยมฯ ไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง<br />
นอกจากนี้มีการสอบถามการปฏิบัติเกี่ยวกับ พ.ร.บ.<br />
กำลังพลสำรอง พ.ศ.๒๕๕๘ เรื่องเรียกพลเพื่อตรวจสอบ<br />
สังเกตการณ์ตรวจเลือกฯ ระหว่าง ๗ - ๑๐ เม.ย.๖๐ ในพื้นที่<br />
ทภ.๑ อ.หนองแค จ.สระบุรี, อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี,<br />
อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา และพื้นที่ ทภ.๒<br />
อ.เมืองชัยภูมิ จ.ชัยภูมิ, อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น, อ.พล<br />
จ.ขอนแก่น, อ.คง จ.นครราชสีมา, อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา<br />
คณะกรรมการตรวจเลือกฯ ปฏิบัติตามกฎกระทรวง<br />
ฉบับที่ ๓๗ (พ.ศ.๒๕๑๖) ออกตามความในพระราชบัญญัติ<br />
รับราชการทหาร พ.ศ.๒๔๙๗ ที่กำหนดไว้ได้อย่างถูกต้อง<br />
โดยมีปัญหา ข้อขัดข้อง ข้อเสนอแนะ สรุปได้ดังนี้<br />
๑. ทหารกองเกินที่มีความประสงค์จะร้องขอความ<br />
เป็นธรรมต่อคณะกรรมการชั้นสูง สามารถดำเนินการได้<br />
ภายใน ๓๐ เม.ย. ของปีที่ตรวจเลือกฯ ซึ่งเป็นเวลาหลังจาก<br />
วันตรวจเลือกฯ อาจนานเกินไปทำให้มีการปรับเปลี่ยน<br />
สภาพร่างกายได้ ควรกำหนดให้ร้องขอความเป็นธรรมทันที<br />
ในวันตรวจเลือกฯ<br />
110
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
๒. ทหารกองเกินที่มีโรคขัดต่อการรับราชการทหาร<br />
ไม่ตรวจโรคก่อนการตรวจเลือกฯ ทำให้คณะกรรมการตรวจ<br />
เลือกฯ ต้องใช้เวลาในการวินิจฉัยโรคเป็นเวลานาน เกิดความ<br />
ล่าช้า ควรมีการประชาสัมพันธ์โรงพยาบาลในสังกัด ทบ.<br />
ที่ตรวจโรคก่อนการตรวจเลือกฯ ให้ทหารกองเกินทราบ<br />
อย่างทั่วถึง<br />
๓. การจัดเป็นคนจำพวกที่ ๒ (ภาวะเพศสภาพไม่ตรง<br />
กับเพศกำเนิด) ควรพิจารณาจากใบรับรองแพทย์ จาก<br />
โรงพยาบาลสังกัดกองทัพบกเท่านั้น ไม่ควรให้ใช้ดุลพินิจ<br />
ของคณะกรรมการตรวจเลือกฯ<br />
๔. การพิสูจน์ตัวบุคคลกรณีบัตรประจำตัวประชาชน<br />
สูญหาย ต้องให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รับรองตัวบุคคล เกิด<br />
ความล่าช้า ควรเพิ่มโปรแกรมการพิสูจน์ตัวบุคคลโดยผ่าน<br />
ระบบคอมพิวเตอร์ เลขประจำตัวประชาชน ๑๓ หลัก<br />
๕. ทหารกองเกินที่ร้องขอ (สมัคร) มีความต้องการที่จะ<br />
บรรจุลงหน่วยที่ใกล้กับภูมิลำเนาทหาร หรือปฏิบัติงาน<br />
ตรงตามคุณวุฒิ และต้องการได้รับการดูแลที่ดีจากกองทัพ<br />
เมื่อเข้าไปเป็นทหารกองประจำการ<br />
๖. การบันทึกหลักฐานการตรวจเลือกฯ ที่ต้องใช้กระดาษ<br />
คาร์บอน เกิดข้อผิดพลาดกรณีกระดาษคาร์บอนหลุดหาย<br />
ควรให้มีกระดาษคาร์บอนในตัว และการใช้กระดาษเทปกาว<br />
เขียนลำดับหมายเลขผู้เข้ารับการตรวจเลือกฯ ลอกหลุดง่าย<br />
เกิดความล่าช้าเนื่องจากต้องตรวจสอบลำดับหมายเลขใหม่<br />
ควรนำเทคโนโลยีแบบสายรัดข้อมือมาใช้แทน ซึ่งต้องเพิ่ม<br />
งบประมาณให้ ทบ. จัดหาสำหรับการตรวจเลือกฯ ในปีต่อไป<br />
๗. สิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่เหล่าทัพกำหนดและทหาร<br />
กองเกินจะได้รับ จะเป็นแรงจูงใจที่มีส่วนสำคัญให้ทหาร<br />
กองเกินร้องขอ (สมัคร) เข้ารับราชการทหารกองประจำการ<br />
มากขึ้น<br />
๘. การเรียกและส่งคนเข้าเป็นทหารและตำรวจ<br />
กองประจำการ ที่ได้ดำเนินการแบ่งเฉลี่ยคนที่จะเรียกเข้า<br />
กองประจำการแล้วในแต่ละปี ตามคำสั่ง กห. (เฉพาะ) ลับ<br />
ที่ ๑๖๘/๕๓ ลง ๗ มิ.ย.๕๓ เรื่อง การเรียกและส่งคนเข้าเป็น<br />
ทหารและตำรวจกองประจำการ มีเพียงบางเหล่าทัพแจ้งยอด<br />
ความต้องการขอเรียกเกณฑ์ (ทหารกองประจำการ) ให้<br />
<strong>สป</strong>. (กกส.กห.) ทราบ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลที่สำคัญ<br />
สำหรับตรวจเยี่ยมการตรวจเลือกฯ ของผู้บังคับบัญชาชั้นสูง<br />
ทุกเหล่าทัพ จึงสมควรแจ้งให้ทราบด้วยเช่นเดียวกัน<br />
ทั้งนี้ การตรวจเลือกทหารกองเกินเข้ารับราชการทหาร<br />
กองประจำการ ทหารกองเกินที่มาเข้ารับการตรวจเลือกฯ<br />
ส่วนใหญ่ต้องการสมัครเข้าเป็นทหารกองประจำการหากมี<br />
แรงจูงใจที่ดี เช่น การสมัครเข้าศึกษาต่อในโรงเรียนทหาร<br />
ได้รับราชการในหน่วยที่ไม่ไกลจากภูมิลำเนาของตน ประสงค์<br />
จะอยู่ในหน่วยที่มีลักษณะการทำงานตามคุณวุฒิที่ได้ศึกษามา<br />
และได้รับการดูแลที่ดีจากกองทัพ หากกองทัพพิจารณาเพิ่ม<br />
เรื่องสิทธิประโยชน์ต่างๆ ประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องจะเป็น<br />
แรงจูงใจให้ทหารกองเกินสมัครเข้ากองประจำการมากขึ้น<br />
ซึ่ง กกส.กห. จะกำกับดูแลการตรวจเลือกฯ ให้เป็นไปตาม<br />
นโยบายของ กห. ตั้งแต่การแบ่งเฉลี่ยยอดความต้องการ<br />
ขอเรียกเกณฑ์ (ทหารกองประจำการ) ในพื้นที่แต่ละ ทภ.<br />
ให้เป็นไปตามคำสั่ง กห. (เฉพาะ) ลับ ที่ ๑๖๘/๕๓ ลง<br />
๗ มิ.ย.๕๓ เรื่อง การเรียกและส่งคนเข้าเป็นทหารและตำรวจ<br />
กองประจำการ และการบรรจุทหารกองประจำการลงหน่วย<br />
ตำแหน่งที่มีความเหมาะสมกับคุณวุฒิทางการศึกษา หรือ<br />
ความสามารถพิเศษ โดยให้ผู้ที่มีหน้าที่ปกครองบังคับบัญชา<br />
111
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
ปฏิบัติต่อทหารกองประจำการอย่างดีที่สุด เนื่องจากเป็น<br />
บุคคลที่มีเกียรติ เสียสละเพื่อเข้ามารับราชการ<br />
การประสานงานด้านการประชาสัมพันธ์เพื่อสนับสนุน<br />
การสรรพกำลังกลาโหม<br />
ได้จัดข้าราชการเดินทางไปราชการ เพื่อประสานงาน<br />
ด้านการประชาสัมพันธ์ จำนวน ๒ ครั้ง ในพื้นที่ ทภ.๒<br />
และ ทภ.๓ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประสานงานด้านการ<br />
ประชาสัมพันธ์และเสริมสร้างความเข้าใจในงานการ<br />
ระดมสรรพกำลัง เสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน<br />
และเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างส่วนราชการทหาร<br />
ส่วนราชการพลเรือน รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชน ตาม<br />
ยุทธศาสตร์การเตรียมพร้อมแห่งชาติและแผนผนึกกำลัง<br />
และทรัพยากรเพื่อการป้องกันประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อม<br />
ในการสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของฝ่ายทหารตั้งแต่<br />
ภาวะปกติ ดังนี้<br />
- ครั้งที่ ๑ (ไตรมาสที่ ๑) เมื่อ ๒๘ พ.ย. - ๒ ธ.ค.๕๙<br />
เดินทางประสานงานด้านการประชาสัมพันธ์ ในพื้นที่ ทภ.๓<br />
รวม ๔ จังหวัด ได้แก่ จ.อุทัยธานี, จ.ตาก, จ.แม่ฮ่องสอน และ<br />
จ.ลำปาง<br />
- ครั้งที่ ๒ (ไตรมาสที่ ๒) เมื่อ ๒๐ - ๒๔ มี.ค.๖๐<br />
เดินทางประสานงานด้านการประชาสัมพันธ์เพื่อสนับสนุน<br />
การสรรพกำลังกลาโหม ในพื้นที่ ทภ.๒ รวม ๕ จังหวัด<br />
ได้แก่ จ.อำนาจเจริญ, จ.ยโสธร, จ.ศรีสะเกษ, จ.สุรินทร์<br />
และ จ.บุรีรัมย์<br />
112
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
กรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม (วท.กห.)<br />
ภารกิจ : มีหน้าที่พิจารณาเสนอความเห็น วางแผน อำนวยการ ประสานงาน<br />
กำกับการ และดำเนินการเกี่ยวกับกิจการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี<br />
ป้องกันประเทศ ตลอดจนบริหารจัดการเกี่ยวกับนโยบาย แผนงาน โครงการ และ<br />
งบประมาณให้เป็นไปตามนโยบายด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีป้องกัน<br />
ประเทศของกระทรวงกลาโหม และปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย<br />
มีเจ้ากรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ<br />
พลโท ศิรศักดิ์ ยุทธประเวศน์<br />
เจ้ากรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหม<br />
สรุปผลการปฏิบัติงานที ่สำคัญ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
๑. งานตามประเด็นยุทธศาสตร์ของ <strong>สป</strong>.<br />
๑.๑ งานด้านนโยบายและยุทธศาสตร์<br />
การจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาวิทยาศาสตร์และ<br />
เทคโนโลยีป้องกันประเทศ พ.ศ.๒๕๖๐ - ๒๕๗๙ รมว.กห.<br />
ได้กรุณาอนุมัติให้ประกาศใช้ เมื่อ ๕ ก.พ.๖๐ โดยได้จัดทำให้<br />
สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี นโยบายและยุทธศาสตร์<br />
การวิจัยแห่งชาติ ฉบับที่ ๙ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและ<br />
สังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ ยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศ<br />
กระทรวงกลาโหม แผนพัฒนาขีดความสามารถกระทรวง<br />
กลาโหม และแผนแม่บทอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ<br />
โดยยุทธศาสตร์ฉบับใหม่นี้จะเป็นแผนหลักในการบริหาร<br />
จัดการงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีป้องกันประเทศ<br />
ให้มีการบูรณาการกับทุกภาคส่วนทั้งภายในและภายนอก<br />
กห. สอดคล้องความต้องการใช้งาน หรือการใช้ประโยชน์<br />
ของกองทัพ และนำไปสู่อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เพื่อ<br />
การพึ่งพาตนเองได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป<br />
๑.๒ งานด้านการประสานความร่วมมือกับเครือข่าย<br />
การวิจัย<br />
๑.๒.๑ หน่วยงานวิจัยวิจัยของเหล่าทัพ ได้ทำ<br />
การทดสอบต้นแบบรองเท้าลดอันตรายจากทุ่นระเบิด<br />
113
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
สังหารบุคคล โดยการมอบต้นแบบรองเท้าฯ จำนวน ๓๘ คู่<br />
ให้กับ สวพ.ทบ., สวพ.ทร. และ ศวอ.ทอ. เพื่อนำไปทดลองใช้งาน<br />
และประเมินผล ก่อนที่จะนำเข้าสู่การผลิตในอุตสาหกรรม<br />
ป้องกันประเทศต่อไป<br />
๑.๒.๒ หน่วยงานวิจัยวิจัยในประเทศ<br />
๑.๒.๒.๑ ได้แสวงความร่วมมือกับสถาบัน<br />
การศึกษาภายในประเทศที่มีศักยภาพในการวิจัยและพัฒนา<br />
ผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำมาใช้งานทางด้านความมั่นคง โดยเมื่อ<br />
๒๙ มิ.ย.๖๐ ได้เข้าพบ ศ. ดร.สุชาติ เซี่ยงฉิน อธิการบดี<br />
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.)<br />
เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือด้านการวิจัย โดยที่ผ่านมา<br />
ได้มีการโครงการวิจัยร่วมกับ ทบ. เช่น แขนกลหุ่นยนต์<br />
ติดปืนฉีดน้ำแรงดันสูงทำลายวงจรระเบิด เสื้อเกราะกันกระสุน<br />
เครื่องผลิตไฟฟ้าแบบพกพา ประกับรองปืนกล M16 เป็นต้น<br />
สำหรับแนวทางการร่วมมือด้านการวิจัยกับ<br />
มหาวิทยาลัยดังกล่าว จะทำให้สามารถต่อยอดผลงานวิจัย<br />
ด้านความมั่นคงนำมาใช้งานทางทหาร ซึ่งจะประหยัดเวลา<br />
และงบประมาณในการทำวิจัยเอง รวมทั้งยังเป็นการช่วย<br />
ให้งานวิจัยของสถาบันการศึกษานำมาขยายผลสู่การนำไป<br />
ใช้งานจริง ทั้งนี้ จะได้จัดทำร่างบันทึกความเข้าใจระหว่าง<br />
กห. กับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ<br />
และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง<br />
เพื่อร่วมมือด้านการวิจัยและบุคลากรต่อไป<br />
๑.๒.๒.๓ ดำเนินโครงการวิจัยร่วมกับ<br />
วิทยาลัยนวัตกรรมการผลิตขั้นสูง สถาบันเทคโนโลยี<br />
พระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เกี่ยวกับงานวิจัยและ<br />
พัฒนากล้องส่องกลางคืน (Night Vision Device)<br />
๑.๒.๒.๒ หารือแนวทางความร่วมมือ<br />
ด้านการวิจัยกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหาร<br />
ลาดกระบัง (สจล.) โดยทาง สจล. ยินดีรับโจทย์งานวิจัย<br />
ทางด้านความมั่นคงไปให้คณะอาจารย์และนักศึกษาจัดทำ<br />
โครงการวิจัยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานของ กห. ซึ่งได้มี<br />
การจัดทำโครงการวิจัยด้านความมั่นคงเพื่อนำไปใช้ประโยชน์<br />
กับกองทัพ เช่น โครงการวิจัยและพัฒนาชุดอุปกรณ์ถ่ายทอด<br />
สัญญาณภาพและเสียง และรถลาดตระเวนดัดแปลงจาก<br />
โครงรถที่ผลิตในประเทศ<br />
๑.๒.๓ หน่วยงานวิจัยต่างประเทศ<br />
๑.๒.๓.๑ การแสวงความร่วมมือระหว่าง<br />
กห. และ กห.สาธารณรัฐเกาหลี(กล.ต.) ในงานด้านการมาตรฐาน<br />
ทางทหารและผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ<br />
โดยคณะได้ประชุมหารือกับหน่วย DTaQ ซึ่งเป็นหน่วยงาน<br />
ในสังกัดของ กห.กล.ต. มีหน้าที่รับผิดชอบด้านการจัดการ<br />
มาตรฐานทางทหาร และการประกันคุณภาพยุทโธปกรณ์<br />
ของ กห.กล.ต. โดยจะแบ่งความร่วมมือเป็น ๒ ระดับ คือ<br />
ระดับที่๑ การแลกเปลี่ยนข้อมูลและผู้เชี่ยวชาญ ทั้งนี้อาจจัดขึ้น<br />
ในรูปแบบการฝึกอบรมหลักสูตรระยะสั้นที่ประเทศไทย<br />
ระดับที่ ๒ ขั้นการทดสอบเทคโนโลยีร่วมกัน ทาง กห.กล.ต.<br />
(โดย DTaQ) ให้ความสนใจที่จะส่งยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยี<br />
ทางทหารของ กล.ต. มาเข้าร่วมทดสอบเทคโนโลยีร่วมกัน<br />
114
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
ในโครงการสาธิตและทดสอบเทคโนโลยีทางทหารประจำปี<br />
ภายใต้รหัส Crimson Viper ในอนาคต<br />
๑.๒.๓.๒ การเข้าร่วมประชุม Japan-<br />
ASEAN Multilateral Conference on Defense<br />
Equipment and Technology Cooperation and<br />
Mast Asia 2017 ระหว่างวันที่ ๑๒ - ๑๖ มิ.ย.๖๐ ณ ศูนย์<br />
การประชุม Makahari จ.ชิบะ ประเทศญี่ปุ่น ทำให้ทราบถึง<br />
แนวทางการกำหนดนโยบายและยุทธศาสตร์การพัฒนา<br />
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ภายใต้กรอบ<br />
ความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาด้านการป้องกันประเทศ<br />
ระหว่าง กห.ญี่ปุ่น และ กห.มิตรประเทศ ทั้งนี้ ฝ่ายญี่ปุ่นเสนอ<br />
ให้มีการจัดทำบันทึกข้อตกลงระหว่าง กห. กับ กห.ญี ่ปุ่น<br />
ว่าด้วยความร่วมมือทางทหาร และข้อตกลงว่าด้วยการถ่ายโอน<br />
ยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีป้องกันประเทศระหว่างรัฐบาลไทย<br />
และรัฐบาลญี่ปุ่นในอนาคต<br />
๑.๒.๔ การจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ<br />
ในการพัฒนาศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้านความมั่นคง<br />
ปล.กห. ลงนามในบันทึกข้อตกลง<br />
ความร่วมมือระหว่าง กห. สำนักงานคณะกรรมการวิจัย<br />
แห่งชาติ และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เพื่อร่วมกัน<br />
บูรณาการด้านการวิจัยและพัฒนาร่วมกันในการพัฒนา<br />
ศักยภาพ “ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้านความมั่นคง”<br />
เมื่อ ๒๐ ก.ค.๖๐ ณ บางกอก คอนเวนชัน เซ็นเตอร์<br />
เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ โดยมุ่งเพิ่มขีดความสามารถ<br />
ในการบริหารจัดการ และการบูรณาการด้านการวิจัยและ<br />
พัฒนาร่วมกัน การแลกเปลี่ยนความรู้ ทรัพยากรและบุคลากร<br />
ตลอดจนการผลิต หรือพัฒนาบุคลากรให้มีคุณภาพ มาตรฐาน<br />
และปริมาณ สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ<br />
๑.๓ งานด้านการบริหารจัดการงานวิจัยและพัฒนา<br />
การทหาร<br />
๑.๓.๑ การประชุมคณะกรรมการวิจัยและพัฒนา<br />
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการทหารกระทรวงกลาโหม<br />
(กวท.กห.) และคณะอนุกรรมการต่างๆ มีรายละเอียดดังนี้<br />
๑.๓.๑.๑ ครั้งที่ ๑/๒๕๕๙ เมื่อ ๘ พ.ย.๕๙<br />
เพื่อให้ความเห็นชอบยุทธศาสตร์การพัฒนาวิทยาศาสตร์<br />
และเทคโนโลยีป้องกันประเทศ กระทรวงกลาโหม พ.ศ.๒๕๖๐ -<br />
๒๕๗๙ และให้ความเห็นชอบการจัดสรรงบประมาณโครงการ<br />
วิจัยและพัฒนาการทหารของ กห. ประจำปีงบประมาณ<br />
๒๕๖๐ วงเงิน ๕๕,๐๗๔,๑๐๐ บาท<br />
๑.๓.๑.๒ ครั้งที่๑/๒๕๖๐ เมื่อ ๒๔ ก.ค.๖๐<br />
เพื่อให้ความเห็นชอบโครงการวิจัยและพัฒนาการทหาร<br />
เริ่มใหม่ (งบบูรณาการ) ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๑<br />
และให้ความเห็นชอบโครงการวิจัยและพัฒนาการทหาร<br />
เริ่มใหม่(งบเงินอุดหนุนการวิจัยและพัฒนาการทหารของ กห.)<br />
และให้ความเห็นชอบการจัดสรรงบประมาณโครงการวิจัย<br />
และพัฒนาการทหารของ กห. ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๑<br />
วงเงิน ๔๙,๐๗๔,๑๐๐ บาท<br />
๑.๓.๑.๓ การประชุมคณะอนุกรรมการ<br />
บริหารงานวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี<br />
การทหาร กระทรวงกลาโหม (อกวท.กห.บริหาร) ครั้งที่<br />
๑/๒๕๖๐ เมื่อ ๓๐ ม.ค.๖๐ เพื่อเห็นชอบโครงการวิจัย<br />
และพัฒนาการทหารของ กห. ประจำปี ๖๑ เริ่มใหม่ ๒<br />
โครงการ ยกเลิก ๑ โครงการ ชะลอ ๑ โครงการ เปลี่ยนแปลง<br />
หน่วยงาน ๑ โครงการ และเปลี่ยนแปลงนายทหารโครงการ<br />
๓ โครงการ<br />
115
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
๑.๓.๑.๔ ครั้งที่๒/๒๕๖๐ เมื่อ ๒๙ มี.ค.๖๐<br />
เพื่อเห็นชอบโครงการวิจัยและพัฒนาการทหารของ กห.<br />
ประจำปี ๖๑ เริ่มใหม่ (งบบูรณาการ) ๑ โครงการ คือ<br />
โครงการวิจัยและพัฒนาสร้างเรือดำน้ำขนาดเล็กของ ทร.<br />
(Midget Submarine) ขอความเห็นชอบการปรับเปลี่ยน<br />
แผนการดำเนินงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ จำนวน<br />
๑ โครงการ<br />
๑.๓.๑.๕ ครั้งที่๓/๒๕๖๐ เมื่อ ๒๖ พ.ค.๖๐<br />
เพื่อเห็นชอบหลักการจัดสรรงบประมาณให้โครงการวิจัย<br />
และพัฒนาการทหารของ กห. (งบเงินอุดหนุน) ประจำปี<br />
งบประมาณ ๒๕๖๑ จำนวน ๑๓ โครงการ วงเงิน<br />
๕๑,๐๗๔,๑๐๐ บาท และเห็นชอบให้โครงการเฉลิมพระเกียรติ<br />
การศึกษา ความหลากหลายทางชีวภาพของตัวไรอ่อน<br />
พาหะนำโรคสครับไทฟัส ในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา<br />
และไทย-กัมพูชา ของ ศวพท. เป็นโครงการย่อยภายใต้<br />
โครงการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทางทหาร เพื่อเทิดทูน<br />
สถาบันพระมหากษัตริย์ โดยใช้งบประมาณปี ๖๐<br />
๑.๓.๑.๖ การประชุมคณะอนุกรรมการ<br />
บริหารชุดโครงการวิจัยและพัฒนา สนับสนุนการดำรง<br />
สภาพ และ/หรือเพิ่มประสิทธิภาพยุทโธปกรณ์ของกองทัพ<br />
(อกวท.กห.ดำรงสภาพ) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๐ เมื่อ ๓ มี.ค.๖๐<br />
เพื่อให้ความเห็นชอบในการดำเนินการโครงการย่อยเริ่มใหม่<br />
ปี ๖๐ จำนวน ๓ โครงการ และติดตามความก้าวหน้า<br />
สถานภาพการดำเนินโครงการย่อย จำนวน ๑๒ โครงการ<br />
๑.๓.๑.๗ การประชุมคณะอนุกรรมการ<br />
วัดผลและประเมินผลโครงการวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์<br />
และเทคโนโลยีการทหาร กระทรวงกลาโหม (อกวท.กห.<br />
วัดผลและประเมินผล) ครั้งที ่ ๔/๒๕๖๐ เมื่อ ๕ มิ.ย.๖๐<br />
เพื่อการประเมินโครงการวิจัยและพัฒนาการทหารของ กห.<br />
ที่ดำเนินโครงการเสร็จสิ้นและรายงานขออนุมัติปิดโครงการ<br />
แล้ว พร้อมให้ความเห็นชอบในการปิดโครงการ จำนวน<br />
๔ โครงการ<br />
๑.๓.๑.๘ ครั้งที่ ๕/๒๕๖๐ เมื่อ ๑๓<br />
ก.ค.๖๐ เพื่อการประเมินสถานภาพโครงการวิจัยฯ ประจำ<br />
ไตรมาสที่ ๒/๖๐ ผลการประเมินโครงการวิจัยที่ดำเนิน<br />
โครงการเสร็จสิ้นและรายงานขออนุมัติปิดโครงการแล้ว พร้อม<br />
ให้ความเห็นชอบในการปิดโครงการ จำนวน ๒ โครงการ<br />
๑.๓.๑.๙ ครั้งที่ ๖/๒๕๖๐ เมื่อ ๒๔<br />
ส.ค.๖๐ เพื่อการประเมินโครงการวิจัยและพัฒนาการทหาร<br />
ของ กห. ที่ดำเนินโครงการเสร็จสิ้นและรายงานขออนุมัติ<br />
ปิดโครงการแล้ว พร้อมให้ความเห็นชอบในการปิดโครงการ<br />
จำนวน ๓ โครงการ<br />
๑.๓.๑.๑๐ ครั้งที่ ๗/๒๕๖๐ เมื่อ ๒๑<br />
ก.ย.๖๐ เพื่อการประเมินสถานภาพโครงการวิจัยฯ ประจำ<br />
ไตรมาสที่ ๓/๖๐<br />
๑.๓.๑.๑๑ การประชุมคณะอนุกรรมการ<br />
บริหารชุดโครงการขยายผลงานวิจัยและพัฒนาการทหาร<br />
สู่การใช้งาน (อกวท.กห.ขยายผล) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๐ เมื่อ<br />
๑๕ ธ.ค.๕๙ เพื่อรับทราบผลการดำเนินงานของโครงการย่อย<br />
ภายใต้โครงการขยายผลฯ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๘<br />
และงบประมาณ ๒๕๕๙ พิจารณากลั่นกรองโครงการย่อย/<br />
กิจกรรมภายใต้โครงการขยายผลฯ ประจำปีงบประมาณ<br />
๒๕๖๐ จำนวน ๔ โครงการ<br />
๑.๓.๑.๑๒ การประชุมคณะอนุกรรมการ<br />
บริหารงานด้านการมาตรฐานกระทรวงกลาโหม (อกมท.กห.<br />
บริหาร) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๐ เมื่อ ๒๑ เม.ย.๖๐ เพื่อพิจารณา<br />
หลักเกณฑ์การรับรองมาตรฐานกระสุนฝึก ขนาด ๓๐ มม.<br />
ของ สทป. การปรับปรุงคณะอนุกรรมการภายใต้กมย.กห. และ<br />
116
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
การรับรองมาตรฐานเสื้อเกราะกันกระสุน ระดับ 3A และ<br />
ระดับ ๓ ของบริษัท โกลแฟ็บ จำกัด<br />
๑.๓.๑.๑๓ ครั้งที่ ๒/๒๕๖๐ เมื่อ ๒๙<br />
ส.ค.๖๐ เพื่อพิจารณาในเรื่องเกี่ยวกับร่างมาตรฐานยุทโธปกรณ์<br />
กห.ว่าด้วยกระสุนฝึก ขนาด ๓๐ มม. และการรับรอง<br />
มาตรฐานกระสุนฝึก ขนาด ๓๐ x ๑๗๓ มม. ของ สพ.ทร.<br />
๑.๓.๒ การติดตามประเมินผลโครงการวิจัย<br />
ในปีงบประมาณ ๒๕๖๐ มีโครงการวิจัยและ<br />
พัฒนาที่อยู่ระหว่างดำเนินการทั้งสิ้น จำนวน ๒๕ โครงการ<br />
เป็นโครงการต่อเนื่อง ๑๓ โครงการ และโครงการเริ่มใหม่ ๑๒<br />
โครงการ โดยมีการเดินทางเพื่อติดตามความก้าวหน้าโครงการ<br />
วิจัยและพัฒนาสร้างลำตัวอากาศยานด้วยวัสดุผสมของ ศวอ.<br />
ทอ. เมื่อ ๑๗ ส.ค.๖๐ โดยผลการทดสอบต้นแบบ ทำการบิน<br />
ทดสอบโดยไม่ได้ติดตั้งระบบบรรทุก (Pay Load) ผลการ<br />
ทดสอบพบว่า สามารถนำอากาศยานขึ้นบินและสามารถบิน<br />
อยู่ในอากาศด้วยความเสถียร สามารถปฏิบัติการบินได้เป็นไป<br />
ตามแผนการบินที่กำหนดและสามารถนำอากาศยานต้นแบบ<br />
ลงสู่พื้นดินได้อย่างสมบูรณ์แบบ<br />
๑.๔ การปิดโครงการวิจัย<br />
โครงการ/กิจกรรมที่อยู่ระหว่างดำเนินการในปี ๖๐<br />
มีจำนวนทั้งสิ้น ๑๑๘ โครงการ/กิจกรรม แบ่งออกเป็น<br />
โครงการปกติ จำนวน ๖๑ โครงการ และโครงการย่อย/<br />
กิจกรรม จำนวน ๕๗ โครงการ/กิจกรรม ใน ๑๑๘ โครงการ<br />
มีโครงการที่ดำเนินการแล้วเสร็จ และปิดโครงการแล้ว<br />
จำนวน ๑๗ โครงการ ได้แก่<br />
๑) โครงการพัฒนาอากาศยานไร้คนขับแบบ<br />
ขึ้น-ลงทางดิ่ง สำหรับแก้ปัญหาการก่อความรุนแรง<br />
๒) โครงการวิจัยและพัฒนากล้องมองกลางคืน<br />
๓) โครงการพัฒนาและผลิตเกราะใส<br />
๔) โครงการพัฒนาเสื้อเกราะกระสุน ระดับ ๓<br />
จากวัสดุคอมโพสิต<br />
๕) โครงการพัฒนาระบบสื่อสารสำหรับชุด<br />
เฝ้าตรวจทางอากาศ<br />
๖) โครงการพัฒนาเครื่องมือวัดสัญญาณเครื่อง<br />
ป้องกันการจุดระเบิดสนับสนุนจังหวัดชายแดนภาคใต้<br />
๗) โครงการศึกษาเปรียบเทียบอัตราการตั้งท้อง<br />
ในแม่ม้าระหว่างน้ำเชื้อพ่อลาแบบสดและแบบแช่แข็งด้วยการ<br />
ผสมเทียม<br />
๘) โครงการศึกษาเปรียบเทียบอัตราการเจริญ<br />
เติบโตของลูกม้าที่เกิดจากการผสมเทียมด้วยน้ำเชื้อสด<br />
และน้ำเชื้อแช่แข็ง<br />
๙) โครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการวิจัย<br />
โครงการรักษาความปลอดภัยระบบสื่อสารไร้สายและ<br />
อินเทอร์เน็ต<br />
๑๐) โครงการวิจัยและพัฒนาอุปกรณ์ระบุพิกัด<br />
หน่วยทหารขนาดเล็กด้วยดาวเทียมโดยใช้เครือข่ายวิทยุ<br />
สื่อสาร<br />
๑๑) โครงการวิจัยและพัฒนาระบบสารสนเทศ<br />
ภูมิศาสตร์เพื่องานด้านความมั่นคงของประเทศ<br />
๑๒) โครงการวิจัยและพัฒนาระบบการตั้งหลัก<br />
ฐานยิงอัตโนมัติสำหรับปืนใหญ่สนาม<br />
๑๓) โครงการการรับรู้ของประชาชนต่อกิจกรรม<br />
เทิดทูนพระมหากษัตริย์ของ ทบ. ในเขตกรุงเทพฯ และ<br />
ปริมณฑล<br />
๑๔) โครงการวิจัยนำร่องการแก้ไขปัญหาการบุกรุก<br />
ที่ดินในความครอบครองของ ทบ. ด้วยระบบภูมิสารสนเทศ<br />
กรณีศึกษาเฉพาะในพื้นที่ จทบ.ก.จ.<br />
๑๕) โครงการวิจัยและพัฒนาหุ่นยนต์ Independent<br />
สำหรับเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด<br />
๑๖) โครงการความพร้อมและสมรรถนะพยาบาล<br />
สำหรับการปฏิบัติงานในสถานการณ์ความไม่สงบ ๓ จังหวัด<br />
ชายแดนภาคใต้ของประเทศ<br />
๑๗) โครงการวิจัยและพัฒนาโปรแกรมการแปล<br />
สำนวนภาษาไทยเป็นภาษามลายูถิ่นเพื่อภารกิจด้าน<br />
ความมั่นคง<br />
๑.๕ การขยายผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์<br />
ดำเนินการส่งมอบยุทโธปกรณ์พิเศษผลงานวิจัย<br />
และพัฒนาสนับสนุนการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่<br />
จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปี ๖๐ ระหว่างวันที่ ๑๘ - ๒๐<br />
ก.ย.๖๐ ณ ห้องประชุม บก.มทบ.๔๒ ค่ายเสนาณรงค์<br />
อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จำนวน ๘ ผลงาน ได้แก่<br />
๑) เสื้อเกราะกันกระสุน ระดับ ๓ จำนวน ๗๒ ตัว<br />
๒) การ์ดเข้ารหัสวิทยุสื่อสาร (ว.มือถือ ICOM V82)<br />
จำนวน ๒๐๐ การ์ด<br />
๓) ระเบิดขว้างเสียง จำนวน ๒๐๐ ลูก<br />
๔) เครื่องแปลภาษามลายูถิ่น จำนวน ๙ ชุด<br />
๕) ผงโรยป้องกันอาการคันในร่มผ้า (DPF<br />
POWDER) จำนวน ๕,๐๐๐ ชุด<br />
๖) สเปรย์ป้องกันกลิ่นเท้าจากสมุนไพรมะกรูด<br />
จำนวน ๕,๐๐๐ ชุด<br />
117
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
๗) แบตเตอรี่สำหรับอากาศยานไร้นักบินแบบ<br />
นารายณ์ จำนวน ๑๐ ชุด<br />
๘) ยากันยุง จำนวน ๓,๐๐๐ ชุด<br />
๑.๖ งานด้านการส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยของ<br />
กห.<br />
๑.๖.๑ การจัดแสดงนิทรรศการผลงานวิจัย<br />
ในโอกาสต่างๆ<br />
๑.๖.๑.๑ ร่วมจัดแสดงผลงานวิจัย<br />
ในงาน “วันนิทรรศการวิชาการ รร.จปร. ๒๕๕๙” ระหว่างวันที่<br />
๙ - ๑๑ พ.ย.๕๙ ณ รร.จปร. อ.เมือง จ.นครนายก โดยมี<br />
วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลงานวิจัย<br />
และการสร้างความร่วมมือของสถาบันการศึกษาในระดับ<br />
อุดมศึกษาทั้งในและนอก กห. มีหน่วยงาน/สถาบันฯ<br />
เสนอผลงานเข้าร่วมจัดงานฯ จำนวน ๓๗ ผลงาน<br />
โดยขอพระราชทานพระราชานุญาตกราบบังคมทูลเชิญ<br />
พล.อ.หญิง สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี<br />
ทรงเป็นประธานพิธีเปิดงาน และพระราชทานของที่ระลึก<br />
ให้แก่หน่วยงาน/สถาบันการศึกษาต่างๆ ที่ร่วมจัดงาน<br />
เมื่อ ๑๑ พ.ย.๕๙ ซึ่งมีผลงานวิจัยเข้าร่วมจัดนิทรรศการ<br />
จำนวน ๔ ผลงาน<br />
118
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
๑.๖.๑.๒ นำผลงานวิจัยและสิ่งประดิษฐ์<br />
คิดค้นทางทหารเข้าร่วมจัดแสดงนิทรรศการกับสำนักงาน<br />
คณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ในงาน “วันนักประดิษฐ์”<br />
ประจำปี ๒๕๖๐ ระหว่าง ๒ - ๖ ก.พ.๖๐ ณ Event<br />
Hall 102 - 103 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา<br />
กรุงเทพฯ การจัดงานมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติ<br />
แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช<br />
บรมนาถบพิตร ในการที่ได้ทรงประดิษฐ์คิดค้น “เครื่องกล<br />
เติมอากาศที่ผิวน้ำหมุนช้า แบบทุ่นลอย” หรือ “กังหันน้ำ<br />
ชัยพัฒนา” และทรงได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายสิทธิบัตร<br />
การประดิษฐ์แด่พระมหากษัตริย์เป็นพระองค์แรกของโลก<br />
เมื่อ ๒ ก.พ.๓๖ และทรงได้รับสมัญญานาม “พระบิดา<br />
แห่งการประดิษฐ์ไทย”<br />
๑.๖.๑.๓ นำผลงานวิจัยและพัฒนาการ<br />
ทหารเข้าร่วมจัดแสดงนิทรรศการ ในงานมหกรรมวิจัย<br />
แห่งชาติ ๒๕๖๐ (Thailand Research Expo 2017)<br />
จัดโดย วช. ระหว่าง ๒๓ - ๒๗ ส.ค.๖๐ ณ โรงแรมเซ็นทารา<br />
แกรนด์ และบางกอก คอนเวนชัน เซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์<br />
กรุงเทพฯ ซึ่ง วท.กห. ได้รับรางวัล Silver award<br />
จากการประกวดผลงานวิจัยที่นำมาเข้าร่วมจัดแสดง<br />
โดยผลการตัดสินจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจาก วช.<br />
๑.๖.๑.๔ ร่วมกับ นขต.<strong>สป</strong>., บก.ทท.,<br />
เหล่าทัพ และ สทป. นำผลงานวิจัยและพัฒนาการทหาร<br />
ของ กห. หรือสิ่งประดิษฐ์ทางทหารของภูมิปัญญานักรบไทย<br />
ไปร่วมจัดแสดงนิทรรศการ ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์<br />
ประจำปี ๒๕๖๐ ณ ฮอลล์ ๘ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม<br />
อิมแพ็ค เมืองทองธานี จ.นนทบุรี ระหว่าง ๑๗ - ๒๗ ส.ค.๖๐<br />
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเทิดพระเกียรติพระมหากษัตริย์ไทย<br />
ผู้ทรงเป็น “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” เพื่อเผยแพร่<br />
ผลงานวิจัยและพัฒนาความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์<br />
และเทคโนโลยี ทั้งในประเทศและนานาชาติ เพื่อกระตุ้น<br />
ความสนใจด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของคนไทย<br />
และเพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจด้านวิทยาศาสตร์และ<br />
เทคโนโลยี และอาชีพด้านวิทยาศาสตร์แก่เยาวชนและ<br />
ประชาชนทั่วไป มีหน่วยงานที่เข้าร่วม จำนวน ๗ กระทรวง<br />
รวมทั้งสถาบันการศึกษาผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน<br />
สมาคม และอีก ๑๘ หน่วยงาน<br />
๑.๖.๒ การประกวดผลงานนวัตกรรมของ กห.<br />
ประจำปี ๒๕๖๐<br />
ได้จัดการประกวดผลงานนวัตกรรมของ<br />
กห. ประจำปี ๒๕๖๐ เมื่อ ๒๓ ส.ค.๖๐ มีผลงานเข้าร่วม<br />
การประกวด รวมทั้งสิ้น ๓๕ ผลงาน โดยแบ่งผลงาน<br />
นวัตกรรมออกเป็น ๖ กลุ่ม คือ ผลงานนวัตกรรมด้านหลักการ<br />
จำนวน ๑ กลุ่ม และผลงานนวัตกรรมด้านยุทโธปกรณ์<br />
119
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
จำนวน ๕ กลุ่ม ผลการตัดสิน มีผลงานที่ได้รับรางวัล<br />
จำนวนทั้งสิ้น ๒๐ ผลงาน แบ่งเป็นรางวัลชนะเลิศ จำนวน<br />
๒ ผลงาน, รางวัลรองชนะเลิศ จำนวน ๖ ผลงาน และ<br />
รางวัลชมเชย จำนวน ๑๒ ผลงาน ซึ่งผลงานนวัตกรรม<br />
ที่ได้รับรางวัลจะส่งเข้าร่วมการประกวดรางวัลนวัตกรรม<br />
แห่งชาติ ที่จัดขึ้นโดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กระทรวง<br />
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำหรับการมอบรางวัล<br />
ผลงานนวัตกรรมของ กห. ประจำปี ๒๕๖๐ ได้จัดขึ้น<br />
เมื่อ ๒๕ ก.ย.๖๐ ณ ห้องพินิตประชานาถ ในศาลาว่าการ<br />
กลาโหม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแรงจูงใจในการคิดค้น<br />
สร้างผลงานวิจัยและนวัตกรรมใหม่ๆ ของข้าราชการและ<br />
บุคลากรในสังกัด กห. และเป็นโอกาสในการนำเสนอ<br />
เผยแพร่ผลงานนวัตกรรมสู่สาธารณชน สร้างความเชื่อมโยง<br />
กับเครือข่ายหน่วยงานวิจัยต่างๆ ทั้งภายในและภายนอก<br />
กห. รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนผลงานนวัตกรรมของ กห.<br />
ให้มุ่งสู่การพึ่งพาตนเอง และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ<br />
ต่อไป<br />
๑.๖.๓ การพัฒนากำลังพลด้านการวิจัยพัฒนา<br />
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี<br />
๑.๖.๓.๑ การฝึกอบรมหัวหน้างานเป็นเลิศ<br />
ระหว่าง ๒๒ - ๒๓ ธ.ค.๕๙ ณ โรงแรมบัดดี้ โอเรียนทอล<br />
ริเวอร์ไซด์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึก<br />
อบรมมีความรู้และเข้าใจในทักษะที่จำเป็นสำหรับการ<br />
เป็นหัวหน้างานที่ดีขององค์กร และเพื่อให้บุคลากรสามารถ<br />
นำความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการฝึกอบรมไปประยุกต์<br />
ใช้ให้เกิดประโยชน์ในการปฏิบัติงาน<br />
๑.๗ ด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางการวิจัย<br />
โครงการจัดหาและพัฒนาขีดความสามารถ<br />
ห้องปฏิบัติการอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องกลตามแผน<br />
พัฒนาขีดความสามารถ กห. พ.ศ.๒๕๖๐ - ๒๕๗๙<br />
(Modernization Plan: Vision 2026)<br />
ได้จัดทำแผนพัฒนาห้องปฏิบัติการวิจัยและ<br />
พัฒนาการผลิตต้นแบบยุทโธปกรณ์เพื่อใช้ในราชการ<br />
ที่ตอบสนองตามความต้องการของเหล่าทัพ รวมทั้ง<br />
การเพิ่มประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานยุทโธปกรณ์ที่มี<br />
อยู่เดิม โดยสร้างความเชื่อมโยงงานวิจัยและพัฒนากับงาน<br />
อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ การพัฒนาบุคลากรด้านการวิจัย<br />
การพัฒนาหลักสูตรที่เกี่ยวข้องร่วมกับเครือข่ายด้านการวิจัย<br />
การสร้างระบบเชื่อมโยงงานมาตรฐานทางทหารในระดับ กห.<br />
รวมถึงการคิดค้นและสร้างสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมใหม่ๆ<br />
เพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจของ<br />
ประเทศไปสู่ “Value - Based Economy” หรือ “เศรษฐกิจ<br />
ที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม” ตามนโยบายการพัฒนา<br />
“Thailand 4.0” ของรัฐบาล<br />
๑.๘ งานด้านการมาตรฐานทางทหารของ กห.<br />
๑.๘.๑ การจัดตั้งสำนักมาตรฐานทางทหาร<br />
ตามแผนแม่บทการปฏิรูปการบริหาร<br />
จัดการและการปรับปรุงโครงสร้าง กห. พ.ศ.๒๕๖๐ - ๒๕๖๙<br />
กำหนดให้มีการจัดตั้งสำนักมาตรฐานทางทหาร เป็น นขต.<br />
วท.กห. ตั้งแต่ปีงบประมาณ ๖๑ ปล.กห. ได้กรุณาอนุมัติ<br />
การจัดตั้งสำนักมาตรฐานทางทหาร กรมวิทยาศาสตร์และ<br />
เทคโนโลยีกลาโหม (สมท.วท.กห.) เป็นอัตราเพื่อพลาง เมื่อ<br />
๘ ก.พ.๖๐ โดยมีภารกิจเกี่ยวกับการกำหนดมาตรฐาน การ<br />
ตรวจสอบและประเมินผลการทดสอบและรับรองมาตรฐาน<br />
ด้านยุทโธปกรณ์ ผลงานวิจัยพัฒนา และสิ่งประดิษฐ์ทาง<br />
ทหารของ กห. ประกอบด้วย ๓ กองงาน และได้เริ่มทดลอง<br />
ปฏิบัติงาน ตั้งแต่ ๑ ก.พ.๖๐ และเมื่อ ๒๕ ส.ค.๖๐ รมว.กห.<br />
ได้กรุณาอนุมัติการแก้ไขอัตราเฉพาะกิจของ วท.กห. และ<br />
ศวพท.วท.กห. รวมเป็นอัตราเดียวกัน พร้อมการจัดตั้ง สมท.<br />
วท.กห. เป็นอัตราถาวร มีกำลังพล ๖๑ อัตรา มีผลตั้งแต่<br />
๑ ต.ค.๖๐ เป็นต้นไป<br />
๑.๘.๒ การพัฒนาบุคลากรด้านการมาตรฐาน<br />
๑.๘.๒.๑ การบรรยายการถ่ายทอดความรู้<br />
เรื่อง “การรับรองมาตรฐานทางทหารเพื่อสู่การผลิต”<br />
เมื่อ ๒๑ ก.ค.๖๐ ณ ห้องรับรองแขกต่างประเทศ ชั้น M<br />
120
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
อาคาร <strong>สป</strong>. (ศรีสมาน) ซึ่งถือเป็นหัวข้อการจัดการความรู้<br />
ของ วท.กห. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐ ประโยชน์<br />
ที่ได้รับจากการบรรยาย เป็นการเพิ่มพูนความรู้ด้านการรับรอง<br />
มาตรฐานทางทหารให้แก่กำลังพล และเพื่อให้หน่วยงาน<br />
ที่เกี่ยวข้องสามารถนำองค์ความรู้ไปใช้ประโยชน์ด้านการ<br />
มาตรฐานทางทหารได้ต่อไป<br />
๑.๘.๒.๒ การอบรมความรู้เรื่อง “ความรู้<br />
พื้นด้านการมาตรฐาน” ได้ส่งข้าราชการเข้ารับการอบรม<br />
หลักสูตรระยะสั ้นที่เกี่ยวข้องกับงานด้านการมาตรฐาน<br />
ของสำนักมาตรฐานอุตสาหกรรม และสถาบันมาตรวิทยา<br />
ในหลักสูตรต่างๆ ได้แก่<br />
๑) หลักสูตรผู้ตรวจสอบการทำ<br />
ผลิตภัณฑ์ เมื่อ ๑๓ - ๑๔ ก.ค.๖๐ ณ สำนักงานมาตรฐาน<br />
อุตสาหกรรม (สมอ.) เนื้อหาสาระสำคัญในการอบรมเป็น<br />
เรื่องเกี่ยวกับกระบวนการการตรวจสอบในการขอรับรอง<br />
มาตรฐานอุตสาหกรรมของผลิตภัณฑ์<br />
๒) หลักสูตรข้อกำหนดและ<br />
การประยุกต์ใช้ISO/IEC 17025 : 2005 เมื่อ ๒๕ - ๒๖ ก.ค.๖๐<br />
ณ โรงแรมเซ็นจูรี่ ปาร์ค เนื้อหาของการอบรมเป็นเรื่อง<br />
เกี่ยวกับกระบวนการในการรับรองมาตรฐานห้องปฏิบัติการ<br />
และเป็นการรับรองระบบการบริหารงานคุณภาพ ทำให้<br />
สามารถเลือกใช้ห้องปฏิบัติการในการทดสอบมาตรฐาน<br />
ผลงานวิจัยได้<br />
๓) หลักสูตรการตรวจสอบ<br />
ความใช้ได้ของวิธีวัดทางเคมี เมื่อ ๓ - ๔ ส.ค.๖๐ จัดโดย<br />
สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ ผลที่ได้คือความรู้ในการเลือกใช้<br />
เครื่องมือและวิธีทดสอบทางเคมี เพื่อตรวจวัดสารที่สนใจ<br />
ที่อยู่ในตัวกลางต่างๆ ที่มีความเหมาะสมกับสารที่ทดสอบ<br />
โดยมีความละเอียดของผลการตรวจวัดตามที่ต้องการและ<br />
ค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม<br />
๑.๘.๓ การประชุมคณะกรรมการกำหนดมาตรฐาน<br />
ยุทโธปกรณ์ กห. (กมย.กห.) มีดังนี้<br />
๑.๘.๓.๑ ครั้งที่๑/๒๕๖๐ เมื่อ ๑๕ ก.พ.๖๐<br />
ณ ห้องสยามปฐพีพิทักษ์ (ชั้น ๑๐) อาคาร สทป. เป็น<br />
การชี้แจงให้คณะกรรมการฯ รับทราบบทบาทหน้าที่และ<br />
การดำเนินงาน รวมทั้งพิจารณาให้ความเห็นชอบการปรับปรุง<br />
คำสั่ง และคณะอนุกรรมการที่๓ คณะ ได้แก่คณะอนุกรรมการ<br />
บริหารงานมาตรฐานยุทโธปกรณ์ กห. ทำหน้าที่ในการ<br />
พิจารณากลั่นกรองรายการยุทโธปกรณ์ หรือผลงานวิจัย<br />
และพัฒนาการทหารที่จะนำเข้าสู่กระบวนการมาตรฐาน<br />
รวมทั้งพิจารณากำหนดมาตรฐาน และการรับรองมาตรฐาน<br />
คณะอนุกรรมการตรวจสอบทดสอบและประเมินมาตรฐาน<br />
ทางทหาร ทำหน้าที่ดำเนินตรวจสอบ ทดสอบ และประเมิน<br />
ยุทโธปกรณ์ หรือผลงานวิจัยและพัฒนาการทหาร รวมถึง<br />
ห้องปฏิบัติการที่ทำการทดสอบ และคณะอนุกรรมการ<br />
ตรวจสอบโรงงาน ตาม พ.ร.บ.โรงงานผลิตอาวุธเอกชน พ.ศ.<br />
๒๕๕๐<br />
๑.๘.๓.๒ ครั้งที่๒/๒๕๖๐ เมื่อ ๑๔ ก.ย.๖๐<br />
ณ ห้องประชุม ชั้น ๖ อาคาร <strong>สป</strong>. (ศรีสมาน) ที่ประชุมมีมติ<br />
เห็นชอบการร่างคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการมาตรฐาน<br />
ยุทโธปกรณ์ กห., ร่างมาตรฐานยุทโธปกรณ์ กห. ว่าด้วย<br />
กระสุนฝึก ขนาด ๓๐ มม. และเห็นชอบการรับรองมาตรฐาน<br />
กระสุนฝึก ขนาด ๓๐ x ๑๗๓ มม. ของ สพ.ทร.<br />
121
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
จำกัด เป็น ๑ ใน ๔ บริษัทที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการ<br />
ดังกล่าว ให้เข้าร่วมโครงการวิจัยการพัฒนาและผลิตเสื้อเกราะ<br />
กันกระสุนน้ำหนักเบา ระดับ NIJ III และในการนี้ บริษัท<br />
โกลแฟ็บฯ ได้ส่งเสื้อเกราะกันกระสุนเข้าทดสอบ ณ ห้องปฏิบัติ<br />
การทดสอบของ HP White Laboratory, Inc. สหรัฐอเมริกา<br />
ตามมาตรฐาน NIJ Standard - 0101.04 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่<br />
กห. ใช้อ้างอิงในการกำหนดมาตรฐานยุทโธปกรณ์ กห. ว่าด้วย<br />
เสื้อเกราะกันกระสุน (กมย.กห.๑/๒๕๔๗) โดยผลการทดสอบ<br />
เสื้อเกราะผ่านตามมาตรฐานที่กำหนด<br />
๑.๘.๔ การรับรองมาตรฐานกระสุนฝึก ขนาด<br />
๓๐ มม.<br />
ได้จัดทำร่างมาตรฐานยุทโธปกรณ์ กห.<br />
ว่าด้วยกระสุนฝึก ขนาด ๓๐ มม. เพื่อใช้เป็นข้อกำหนด<br />
สำหรับการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ดังกล่าว โดยได้<br />
ดำเนินการทดสอบเพื่อรับรองมาตรฐาน ได้แก่ กระสุนฝึก<br />
ขนาด ๓๐ x ๑๗๓ มม. ซึ่งได้ผ่านการทดสอบเรียบร้อยแล้ว<br />
และนำผลการทดสอบเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการ<br />
กำหนดมาตรฐานยุทโธปกรณ์กระทรวงกลาโหม (กมย.กห.)<br />
ครั้งที่ ๒/๒๕๖๐ เมื่อ ๑๒ ก.ย.๖๐ ซึ่งที่ประชุมให้ความ<br />
เห็นชอบร่างมาตรฐานยุทโธปกรณ์ กห. ว่าด้วยกระสุนฝึก<br />
ขนาด ๓๐ มม. และรับรองมาตรฐานกระสุนฝึก ขนาด<br />
๓๐ x ๑๗๓ มม. ของ สพ.ทร. ในขั้นตอนต่อไปจะได้นำเรียน<br />
รมว.กห. กรุณาลงนามในคำสั่ง กมย.กห. เพื่อกำหนด<br />
และรับรองมาตรฐานกระสุนฝึก ขนาด ๓๐ มม. ดังกล่าวต่อไป<br />
๒. งานตามภารกิจหน่วย<br />
๒.๑ งานด้านถ่ายทอดเทคโนโลยี<br />
๒.๑.๑ การจัดสาธิตและทดลองเทคโนโลยี<br />
ทางทหาร ประจำปี๒๕๖๐ ภายใต้รหัส Crimson Viper 2017<br />
(CV17)<br />
๑.๘.๕ การรับรองมาตรฐานเสื้อเกราะกันกระสุน<br />
ระดับ 3A และ 3 ของบริษัท โกลแฟ็บ จำกัด<br />
รมว.กห. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อน<br />
การบูรณาการการวิจัยเสื้อเกราะกันกระสุน เมื่อ ๒ ธ.ค.๔๘<br />
เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานการพัฒนาเสื้อเกราะกันกระสุน<br />
ที่ได้มาตรฐานสากล และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยมี<br />
จก.วท.กห. เป็นประธานกรรมการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง<br />
จากใน กห. และนอก กห. ร่วมเป็นกรรมการ บริษัท โกลแฟ็บ<br />
การจัดสาธิตและทดลองเทคโนโลยี<br />
ทางทหาร ภายใต้การดำเนินงานโครงการ Crimson Viper<br />
เป็นโครงการภายใต้ความร่วมมือระหว่าง กห. โดย วท.กห. และ<br />
กห.สรอ. โดยศูนย์ทดลองเทคโนโลยีทางทหาร กองบัญชาการ<br />
สหรัฐอเมริกา ประจำภาคพื้นแปซิฟิก รัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา<br />
หรือ TEC จัดขึ้นระหว่าง ๓๑ ก.ค. - ๔ ส.ค.๖๐ ณ พื้นที่<br />
รร.ชุมพลทหารเรือ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งเทคโนโลยีที่นำมา<br />
จัดแสดงรวมผลงาน ๖ รายการ และนอกเหนือไปจากนั้น<br />
ยังถือเป็นครั้งแรกที่ กห.ญี ่ปุ่น ได้แสดงความประสงค์<br />
ที่จะนำอากาศยานไร้คนขับ Fixed-wing UAVs Type B-5<br />
122
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
(ระยะปฏิบัติการ ๗๒๐ กม.) และ Drone Deterrence<br />
System มาเข้าร่วมการสาธิต/ทดลองด้วย<br />
๒.๑.๒ การถ่ายทอดองค์ความรู้งานวิจัย<br />
๒.๑.๒.๑ ระหว่าง ๑๘ - ๒๑ ก.ค.๖๐<br />
ได้จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตรระบบประมวลผลสัญญาณ<br />
ดิจิทัลสำหรับนักวิจัย ครั้งที่ ๔ (DSP for Researcher IV) ให้<br />
กับข้าราชการในสังกัด กห.<br />
๒.๑.๒.๒ ระหว่าง ๒๙ พ.ค. - ๑ มิ.ย.๖๐<br />
ได้จัดอบรมเชิงปฏิบัติการ หลักสูตรเทคโนโลยีทางแสง<br />
ครั้งที่ ๔ (Photonics Technology IV) ให้กับข้าราชการ<br />
ในสังกัด กห.<br />
๒.๑.๒.๓ ระหว่าง ๕ - ๖ มิ.ย.๖๐ ได้<br />
ดำเนินการจัดการอบรมหลักสูตรระยะสั้น เรื่อง “การเขียนแบบ<br />
สำหรับงานควบคุมเครื่องจักรอัตโนมัติ (CNC)” ให้กับ<br />
ข้าราชการที่ปฏิบัติงานด้านงานวิจัย โดยได้เชิญวิทยากร<br />
ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการควบคุมเครื่องจักร CNC มาเป็น<br />
วิทยากรบรรยาย ทำให้ผู้เข้ารับการอบรมได้ทราบถึงการใช้งาน<br />
ขอบเขต และขีดความสามารถของโปรแกรมที่สามารถ<br />
แปลงข้อมูลแบบทางวิศวกรรม (Engineering Drawing)<br />
ให้เป็นโปรแกรมสำหรับเครื่องจักรอัตโนมัติ ตลอดจนเทคนิค<br />
การทำงานต่างๆ ของเครื่องจักรอัตโนมัติ (CNC) รวมถึง<br />
การเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมแก่ชิ้นงานต้นแบบ<br />
เป็นสื่อกลางระหว่างผู้บริหารระดับสูงและผู้ปฏิบัติ อันจะนำ<br />
ไปสู่การสร้างสื่อนำเสนอข้อมูลด้วยรูปภาพ Infographic<br />
ที่มีประสิทธิภาพต่อไป รวมถึงจัดอบรมและฝึกปฏิบัติให้กับ<br />
ข้าราชการ นขต.<strong>สป</strong>. และสำหรับผู้ปฏิบัติให้ผู้เข้ารับการอบรม<br />
มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถสั่งการในการสร้างสื่อ<br />
นำเสนอข้อมูลด้วยรูปภาพ Infographic ให้กับผู้ปฏิบัติ<br />
ได้อย่างถูกต้องเหมาะสม<br />
๒.๒ งานด้านการวิจัยและพัฒนา<br />
๒.๒.๑ อุปกรณ์ระบุพิกัดหน่วยทหารขนาดเล็ก<br />
ด้วยดาวเทียม โดยใช้เครือข่ายวิทยุสื่อสาร เป็นผลงานวิจัย<br />
ที่ดำเนินการเสร็จเมื่อปี งป.๕๘ ได้ต้นแบบอุปกรณ์ระบุพิกัด<br />
หน่วยทหารขนาดเล็กด้วยดาวเทียมโดยใช้เครือข่ายวิทยุ<br />
สื่อสารที่สามารถแจ้งพิกัดตามเวลาที่กำหนด มีการแจ้งเตือน<br />
เมื่อมีความผิดปกติ และไปให้หน่วยผู้ใช้ในเหล่าทัพ เช่น ศร.,<br />
ศม., นย. และหน่วยทหารที่ปฏิบัติงานใน ๓ จชต. ได้ทดลอง<br />
ใช้งานจริง เพื่อประเมินผลการใช้งานก่อนที่จะพัฒนาต้นแบบ<br />
ระบบฯ ไปสู่ขั้นการผลิตใช้ในราชการต่อไป<br />
๒.๑.๒.๔ การอบรมบุคลากรด้านสารสนเทศ<br />
๑) การอบรมเรื่องการสร้าง<br />
ความตระหนักต่อการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์เรื่อง “แนวทาง<br />
การปฏิบัติการใช้งานสื่อสังคมออนไลน์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ<br />
สถาบันพระมหากษัตริย์” ให้กับข้าราชการ เมื่อ ๑๙ ธ.ค.๕๙<br />
ณ ห้องอเนกประสงค์ กง.กห. ชั้น ๒ อาคาร <strong>สป</strong>. (ศรีสมาน)<br />
๒) ดำเนินการการอบรม<br />
“การสร้างสื่อนำเสนอข้อมูลด้วยรูปภาพ Infographic”<br />
ให้กับผู้บริหารระดับกลางและระดับสูง ข้าราชการ ลูกจ้าง<br />
และพนักงานราชการ ทำให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความเข้าใจ<br />
วิธีการนำเสนอข้อมูลด้วยรูปภาพ Infographic สามารถ<br />
๒.๒.๒ รองเท้าลดอันตรายจากทุ่นระเบิดสังหาร<br />
บุคคล ผลงานวิจัยนี้สามารถลดอันตรายจากทุ่นระเบิดสังหาร<br />
บุคคลประเภทแรงระเบิดแบบ MI4 ได้โดยอาศัยหลักการ<br />
ของรูปทรง V-Shape และคุณสมบัติของวัสดุคอมโพสิต<br />
โดยพื้นรองเท้าจะมีลักษณะเป็น V-Shape เพื่อเบี่ยงเบน<br />
แรงระเบิด<br />
ในห้วงที่ผ่านมาได้ส่งมอบผลงานวิจัยฯ<br />
ไปให้หน่วยผู้ใช้ในเหล่าทัพ เช่น ศวอ.ทอ., สวพ.ทบ., สวพ.ทร.<br />
และ กปช.จต. ได้ทดลองใช้งาน เพื่อนำผลการประเมิน<br />
ประสิทธิภาพมาปรับปรุงพัฒนาต้นแบบฯ ให้มีความปลอดภัย<br />
สูงสุด<br />
123
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
๒.๒.๓ ชุดโครงการวิจัยรูปแบบกำลังพลสำรอง<br />
รองรับพระราชบัญญัติกำลังพลสำรอง พ.ศ.๒๕๕๘ เป็น<br />
โครงการวิจัยที่ดำเนินการดำเนินเสร็จสมบูรณ์เมื่อเดือน<br />
มี.ค.๖๐ และได้นำเสนอผลงานวิจัยดังกล่าวให้กับหน่วยที่<br />
เกี่ยวข้องต่างๆ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไปเรียบร้อยแล้ว<br />
ได้แก่ กกส.กห. และ นรด.<br />
๒.๒.๔ โครงการพัฒนาต่อยอดโล่กันกระสุน<br />
ระดับ ๓ จากวัสดุคอมโพสิต มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนา<br />
โล่กันกระสุน ระดับ ๓ ตามมาตรฐาน<br />
NU001.06 ให้สามารถต้านทาน<br />
กระสุนอาวุธสงคราม ปลย. ๕.๕๖ มม.<br />
และ ปลย. ๗.๖๒ มม. (เจาะเกราะ)<br />
จะแล้วเสร็จใน ก.ย.๖๑<br />
๒.๒.๕ โครงการวิจัยและพัฒนาระบบสั่งการ<br />
ทางทหารจากสมาร์ทโฟน (Smart phone) มีวัตถุประสงค์<br />
เพื่อพัฒนาระบบการสื่อสารทางวิทยุทหารให้มีความปลอดภัย<br />
สูงขึ้นด้วยวิธีส่งข้อความและตำแหน่ง GPS จากสมาร์ทโฟน<br />
ผ่านวิทยุสื่อสารทหาร ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสร้างวงจร<br />
เข้ารหัสสัญญาณดิจิทัล และเขียนโปรแกรมสื่อสารข้อมูล<br />
กำหนดวิจัยเสร็จสมบูรณ์ ใน ก.ย.๖๐ โดยส่งมอบต้นแบบ<br />
ระบบสื่อสารฯ จำนวน ๖ ชุด ให้กับหน่วยผู้ใช้ใน ๓ จชต.<br />
นำไปทดลองใช้งานและทำการประเมินผล<br />
๒.๓.๒ การจัดอบรมหลักสูตรภาษาอังกฤษ<br />
ระยะสั้นต่างๆ อาทิ หลักสูตรภาษาอังกฤษสัญจร (English<br />
Mobile Team) สำหรับ นขต.<strong>สป</strong>. นอกพื้นที่กรุงเทพมหานคร<br />
และปริมณฑล หลักสูตรภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร<br />
ในชีวิตประจำวัน (กลุ่มที่ ๒) และหลักสูตรค่ายภาษา<br />
ภาคฤดูร้อน (Summer Camp)<br />
๒.๒.๖ กิจกรรมการประเมินการปฏิบัติงานของ<br />
ศูนย์ประสานงานมวลชน ทบ. มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา<br />
แนวทางการพัฒนากิจการด้านมวลชนของ ศปช.ทบ. โดย<br />
สนับสนุนการวิจัยให้กับ ทบ. (กร.ทบ.) ปัจจุบันอยู่ระหว่าง<br />
การเก็บรวบรวมข้อมูลการปฏิบัติงานด้านมวลชนจาก มทบ.<br />
ทั่วประเทศ ภายใน ก.ย.๖๐<br />
๒.๓ งานด้านการฝึกอบรมภาษาต่างประเทศ<br />
๒.๓.๑ การจัดอบรมหลักสูตรภาษาเมียนมา<br />
เบื้องต้นให้แก่ข้าราชการ <strong>สป</strong>. ระหว่าง ๑๕ พ.ค. - ๕ มิ.ย.๖๐<br />
ณ ห้องปฏิบัติการทางภาษา วท.กห. ชั้น ๓ อาคาร <strong>สป</strong>.<br />
(ศรีสมาน)<br />
124
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
กรมเทคโนโลยีสารสนเทศและอวกาศกลาโหม (ทสอ.กห.)<br />
ภารกิจ : มีหน้าที่พิจารณา เสนอความเห็น วางแผน อำนวยการ ประสานงาน<br />
กำกับดูแล และดำเนินการเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร<br />
เพื่อการบริหารราชการทั่วไป คลื่นความถี่ กิจการอวกาศ และภาพถ่าย<br />
ดาวเทียมเพื่อความมั่นคงของกระทรวงกลาโหม และปฏิบัติงานอื่นตามที่<br />
ได้รับมอบหมาย มีเจ้ากรมเทคโนโลยีสารสนเทศและอวกาศกลาโหม<br />
เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ<br />
พลโท มโน นุชเกษม<br />
เจ้ากรมเทคโนโลยีสารสนเทศและอวกาศกลาโหม<br />
สรุปผลการปฏิบัติงานที ่สำคัญ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
๑. งานด้านการสื่อสาร<br />
๑.๑ ให้บริการระบบโทรศัพท์พื้นฐานให้กับ นขต.<strong>สป</strong>.<br />
ณ อาคาร <strong>สป</strong>. (ศรีสมาน) ในปี ๖๐ โดยแบ่งการให้บริการ<br />
ออกเป็น ๓ ระบบ ดังนี้<br />
๑.๑.๑ ระบบโทรศัพท์องค์การ<br />
จำนวน ๓๒๐ เลขหมาย<br />
๑.๑.๒ ระบบโทรศัพท์ ๔ ตัว<br />
จำนวน ๗๐๐ เลขหมาย<br />
๑.๑.๓ ระบบโทรศัพท์โทรคมนาคมทหาร<br />
จำนวน ๔๐๐ เลขหมาย<br />
๑.๒ งานระบบเครือข่ายการสื่อสารหลัก (Backbone)<br />
ของ กห.<br />
ได้ดำเนินงานตามยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้าง<br />
พื้นฐานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของประเทศ<br />
ตามแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศ กห.ปี ๕๑ - ๕๖<br />
เพื่อเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนามุ่งสู่การยกระดับ<br />
เป็น กห. อิเล็กทรอนิกส์ (e-Defense) ให้ประสบ<br />
ความสำเร็จและบรรลุเป้าประสงค์อย่างเป็นรูปธรรม ดังนั้น<br />
จึงได้ดำเนินงานจัดทำเครือข่ายข้อมูลของ กห. ประกอบด้วย<br />
๓ โครงการ ได้แก่ โครงการพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพ<br />
125
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
เครือข่ายข้อมูล กห. ปี ๕๑ - ๕๓ (พื้นที่กรุงเทพฯ และ<br />
ปริมณฑล), โครงการวางระบบเครือข่ายการสื่อสารหลัก<br />
(Backbone) ของ กห. ปี ๕๑ - ๕๓ (พื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง<br />
และภาคใต้) และโครงการวางระบบเครือข่ายการสื่อสารหลัก<br />
(Backbone) ส่วนเพิ่มเติมของ กห. ระยะที่ ๑ ปี ๕๔ - ๕๖<br />
พื้นที่ภาคตะวันออก, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และ<br />
ภาคกลางบางส่วน โดยคำนึงถึงความประหยัดงบประมาณ<br />
ในการดำเนินงาน จึงได้จัดทำบันทึกความตกลง (MOU)<br />
ร่วมกับ กฟภ. ในการเช่าใช้ประโยชน์สายใยแก้วนำแสง<br />
ระยะทาง ๘,๖๒๘ กม. โดยวางสายใยแก้วนำแสงจาก<br />
สถานีไฟฟ้าเข้าหน่วยทหาร ระยะทาง ๑,๔๓๒ กม. และ<br />
ติดตั้งอุปกรณ์เชื่อมโยงเครือข่ายความเร็วสูง (SDH) ชนิด<br />
STM-64 จำนวน ๑๖ ชุด (รองรับการใช้งานช่องสัญญาณ<br />
ขนาด 10 Gbps), STM-16 จำนวน ๙๙ ชุด (รองรับการใช้งาน<br />
ช่องสัญญาณ ขนาด 2.5 Gbps), STM-4 จำนวน ๗๑ ชุด<br />
(รองรับการใช้งานช่องสัญญาณ ขนาด 622 Mbps),<br />
STM-1 จำนวน ๑ ชุด (รองรับการใช้งานช่องสัญญาณ ขนาด<br />
155 Mbps), อุปกรณ์กระจายสัญญาณชนิด L3 จำนวน<br />
๑๗๖ ชุด, ชนิด L2 จำนวน ๑๖๘ ชุด สนับสนุนหน่วยทหาร<br />
ในระดับ มทบ., กองพล, กองบิน, ทัพเรือภาค และกองทัพภาค<br />
จำนวน ๑๘๐ หน่วย และเมื่อ ๑๐ พ.ย.๕๘ ได้ทำบันทึก<br />
ความร่วมมือระหว่าง กห. กับบริษัท กสท.โทรคมนาคม จำกัด<br />
(มหาชน) “ว่าด้วยการใช้งานช่องการสื่อสารผ่านเคเบิ้ล<br />
ใต้น้ำ สนับสนุนภารกิจด้านความมั่นคงในจังหวัดชายแดน<br />
ภาคใต้” ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและ<br />
ทรัพย์สินของประชาชนเป็นส่วนรวม รวมทั้งต้องสูญเสีย<br />
กำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพเป็นจำนวน<br />
มากด้วย ซึ่งกองทัพไทยถือเป็นภารกิจสำคัญยิ่งที่จะต้อง<br />
นำความสงบสุขกลับมาสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้จงได้<br />
ความร่วมมือร่วมใจและการได้รับการสนับสนุนจาก<br />
ทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นส่วนราชการ พลเรือน ภาคประชาชน<br />
ตลอดจนหน่วยงานภาคเอกชน นับว่ามีความจำเป็นและ<br />
มีความสำคัญอย่างยิ่งในการที่จะเพิ่มขีดความสามารถ<br />
ทางทหารให้สามารถบรรลุภารกิจดังกล่าว ขีดความ<br />
สามารถหนึ่งที่มีความสำคัญและมีความจำเป็นอย่างยิ่ง<br />
ต้องการการประกันความมีประสิทธิภาพให้ได้ ก็คือ<br />
ขีดความสามารถในการดำรงการติดต่อสื่อสาร เพื่อให้การ<br />
ควบคุมบังคับบัญชาสั่งการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว<br />
และทันเวลา จึงได้ดำเนินการวางเครือข่ายการสื่อสารหลัก<br />
(Backbone) ของ กห. ทั่วประเทศ ผ่านสายใยแก้วนำแสง<br />
และเพื่อลดจุดอ่อนทางภูมิศาสตร์ของพื้นที่ภาคใต้ที่มีระยะ<br />
ทางยาวและเป็นแนวแคบ ไม่สามารถวางเส้นทางการสื่อสาร<br />
สำรองในพื้นที่ภาคใต้ได้ กห. และบริษัท กสท โทรคมนาคม<br />
จำกัด (มหาชน) เห็นว่า หากสามารถเพิ่มช่องทางการสื่อสาร<br />
จากศูนย์บัญชาการทางทหารในส่วนกลาง ลงไปยังหน่วย<br />
บังคับบัญชาต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งหน่วยงาน<br />
ทางทหาร และหน่วยงานพลเรือนได้ โดยใช้ศักยภาพช่องทาง<br />
การสื่อสารผ่านเคเบิ้ลใต้น้ำ จะเป็นคุณูปการอย่างยิ่งต่อภารกิจ<br />
ดังกล่าว<br />
ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ได้สนับสนุนการใช้งาน<br />
ให้กับ นขต.เหล่าทัพ ซึ่งมีการใช้งานหลักดังนี้<br />
๑.๒.๑ <strong>สป</strong>. ใช้งานระบบประชุมทางไกล (VTC),<br />
ระบบงานสารบรรณ, ระบบงานกำลังพล กห., ระบบงาน<br />
สรรพกำลัง กห., การฝึกระดมสรรพกำลัง กห. ของทุกปี<br />
ระบบรายงานประเมินผลการปฏิบัติงานตามคำรับรองของ<br />
นขต.กห., สพร.กห. และบริการอินเทอร์เน็ตให้กับ นขต.<strong>สป</strong>.<br />
และเหล่าทัพ<br />
๑.๒.๒ บก.ทท. ใช้งานระบบ C 4 I, การฝึกร่วม<br />
กองทัพไทย (กฝร.), การฝึก รร.สธ. เหล่าทัพ (วสท.<strong>สป</strong>ท.<br />
ระบบ JATIL), การฝึกร่วมผสม คอบบร้าโกลด์, ระบบงาน<br />
กำลังพล, ระบบรายงานสถานภาพสิ่งอุปกรณ์ ของ กบ.ทหาร,<br />
การเชื่อมตู้ระบบชุมสายโทรศัพท์สื่อสารทหาร และการใช้งาน<br />
อินเทอร์เน็ต<br />
๑.๒.๓ ทบ. ใช้งานระบบประชุมทางไกล (VTC),<br />
ระบบกล้องวงจรปิด, การเชื่อมตู้ชุมสายของ ทบ. (PABX),<br />
ระบบงาน E-Army, ระบบส่งกำลังบำรุงอัตโนมัติของ<br />
บชร.๒, การเชื่อมต่อภายใน (Intranet) ของ นขต.ทบ.,<br />
ระบบงานกำลังพล, การฝึกกองพันทหารสื่อสารร่วม การฝึก<br />
แผนป้องกันประเทศ การฝึก รร.สธ.ทบ. (วสท.<strong>สป</strong>ท.<br />
ระบบ JATIL) และอินเทอร์เน็ต รวมถึงสถานการณ์เร่งด่วน<br />
เช่น สนับสนุนช่องการสื่อสารสำหรับหน่วยทหารในพื้นที่<br />
ภารกิจเขาพระวิหาร จาก กกล.สุรนารี - ทภ.๒ - ศปก.ทบ.<br />
ในการใช้งานระบบประชุมทางไกล (VTC) ระบบกล้องวงจรปิด<br />
(CCTV) เป็นต้น<br />
๑.๒.๔ ทร. ใช้งานระบบประชุมทางไกล (VCS),<br />
ระบบ C 3 I, การเชื่อมต่อระบบตู้ชุมสายของ ทร. (PABX),<br />
ระบบงานกำลังพล, การฝึก รร.สธ.ทร. (วสท.<strong>สป</strong>ท.ระบบ<br />
JATIL) และการใช้งานอินเทอร์เน็ต รวมถึงสถานการณ์<br />
เร่งด่วน เช่น สนับสนุนช่องการสื่อสารสำหรับ ฉก.นย. กรณี<br />
ถูกผู้ก่อการร้ายโจมตี จาก ฉก.นย. - ศปก.ทร. - ศปก.ทบ.<br />
ในการใช้งานระบบประชุมทางไกล (VTC) เป็นต้น<br />
126
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
๑.๒.๕ ทอ. ใช้งานระบบ ACCS, LMIS, Tactical<br />
Data Link, GIS ทอ., การถ่ายทอดสัญญาณภาพการลาดตระเวน<br />
ทางอากาศ (Video Downlink) และการบริการข้อมูล<br />
ภาพถ่ายทางอากาศและข้อมูลสารสนเทศให้แก่หน่วยต่างๆ<br />
ในพื้นที่ จชต., การเชื่อมต่อภายใน (Intranet), ระบบงาน<br />
กำลังพล การฝึก รร.สธ.ทอ. (วสท.<strong>สป</strong>ท.ระบบ JATIL)<br />
และการใช้งานอินเทอร์เน็ต รวมถึงสถานการณ์เร่งด่วน เช่น<br />
สนับสนุนช่องการสื่อสารสำหรับหน่วยทหารในพื้นที่ ภารกิจ<br />
เขาพระวิหาร จาก บน.๑ - ศสอต.๒ ในการใช้งานระบบสื่อสาร<br />
ข้อมูล เป็นต้น<br />
๑.๒.๖ รอ. ใช้งานการเชื่อมตู้ชุมสาย (PABX),<br />
ระบบงานการอบรมผู้เข้าราชองครักษ์เวร ระหว่างพระตำหนัก<br />
จิตรลดารโหฐานและพระราชวังไกลกังวล การเชื่อมต่อภายใน<br />
(Intranet) ระบบงานกำลังพล และการใช้งานอินเทอร์เน็ต<br />
๑.๒.๗ กอ.รมน. ใช้งานระบบงานการส่งกำลัง<br />
บำรุงของ ทบ. และงานระบบประชุมทางไกล (VCS)<br />
สนับสนุนภารกิจ จชต. และการเชื่อมระบบตู้ชุมสายโทรศัพท์<br />
(PABX)<br />
๑.๒.๘ มท. ใช้งานระบบประชุมทางไกล ครม.<br />
สัญจร ในการเชื่อมต่อมายัง กห. เพื่อให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง<br />
นขต.กห. หน่วยเจ้าของเรื่องชี้แจงต่อที่ประชุม ครม.<br />
๑.๒.๙ ในระดับ กห. สนับสนุนระบบประชุม<br />
ทางไกล สำหรับศูนย์แก้ไขปัญหาความมั่นคงแบบบูรณาการ<br />
(ศมบ.) และสำนักงานคณะกรรมขับเคลื่อนการแก้ไข<br />
ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (คปต.) บก.พล.ร.๑๕ มายัง<br />
ศปก.กห. สำหรับ รมว.กห. และ รมช.กห.<br />
เนื่องจากปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๘ มีข้อจำกัด<br />
ด้านงบประมาณ จึงมีการปรับลดเส้นทางเช่าใช้สายใยแก้ว<br />
นำแสงของ กฟภ. จากเดิม ปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๗<br />
เช่าใช้งานอยู่ประมาณ ๘,๘๘๙ กม. ใช้งบประมาณค่าเช่าใช้<br />
๕๓.๕ ล้านบาท/ปี ในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๘ ปรับลด<br />
ระยะทางไปทั้งสิ้น ๔,๓๓๒.๘๘ กม. คงเหลือเช่าใช้งาน<br />
จำนวน ๔,๕๕๖.๒๒ กม. จนถึงปัจจุบัน<br />
ปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐ ได้จัดทำโครงการ<br />
ดำรงสถานภาพระบบเครือข่ายการสื่อสารหลัก (Backbone)<br />
ของ กห. โดยมีลักษณะการดำเนินงานเหมือนปีงบประมาณ<br />
พ.ศ.๒๕๕๙ แต่เพิ่มเติมโดยการจัดฝึกอบรมเพิ่มพูนความรู้<br />
ความสามารถให้กับผู้ใช้งานของหน่วยงานในแต่ละพื้นที่<br />
จำนวน ๕ ครั้ง ได้แก่ พื้นที่ ทภ.๑ จัดที่ มทบ.๑๒ พื้นที่,<br />
ทภ.๒ จัดที่มทบ.๒๓, พื้นที่ทภ.๓ จัดที่มทบ.๓๓, พื้นที่ทภ.๔<br />
จัดที่ มทบ.๔๒ และพื้นที่ส่วนกลาง จัดที่ ทสอ.กห. ปัจจุบัน<br />
ดำเนินการแล้วใน ๓ พื้นที่ ในการประชุมคณะกรรมการ<br />
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กห. ครั้งที่ ๑/๖๐<br />
ให้ ทสอ.กห. เป็นเจ้าภาพจัดประชุมสัมมนาเพื่อบูรณาการ<br />
เครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารภายใน<br />
กห. เมื่อ ๙ - ๑๐ มี.ค.๖๐ โดยมี นขต.กห. และเหล่าทัพ<br />
เข้าร่วมการประชุม พร้อมสนับสนุนข้อมูลด้านเครือข่าย<br />
การสื่อสารที่มีอยู่ปัจจุบันและที่มีแผนจะพัฒนา โดยมี<br />
แนวทางในการสนับสนุนการใช้งานร่วมกัน พร้อมทั้งเสนอ<br />
ให้ตั้งคณะอนุกรรมการบูรณาการเครือข่ายการสื่อสารของ กห.<br />
ภายใต้คณะกรรมการเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร<br />
กห. เพื่อผลักดันและร่วมมือให้การบูรณาการเครือข่าย<br />
เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารภายใน กห. เกิดเป็น<br />
รูปธรรมและภาพเครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและ<br />
การสื่อสารภายใน กห. มุ่งสู่เครือข่ายเป็นแบบพื้นที่สามารถ<br />
ใช้งานร่วมกันได้อย่างสมบูรณ์ในอนาคตต่อไป<br />
๑.๓ งานระบบการประชุมทางไกล (Video Conference<br />
System)<br />
เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี ๔๕ เพื่อสนับสนุน สนผ.กห.<br />
สำหรับบรรยายสรุปสถานการณ์ด้านการข่าวตอนเช้า<br />
(Morning Brief) ผ่านระบบประชุมทางไกล ระหว่าง<br />
ห้องสุรศักดิ์มนตรี ในศาลาว่าการกลาโหม กับอาคาร <strong>สป</strong>.<br />
(แจ้งวัฒนะ) และหน่วยที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ พท.ศอพท.,<br />
อท.ศอพท., รภท.ศอพท., ศอว.ศอพท., รวท.อท.ศอพท.,<br />
ศพปน.พท.ศอพท., ศวพท., สสน.<strong>สป</strong>. และ รภท.ศอพท.<br />
โดยปัจจุบันเป็นระบบกล้องแบบรายละเอียดสูง (Full High<br />
Definition) อีกทั้งระบบเครือข่ายเป็นระบบเครือข่าย<br />
ความเร็วสูง ทำให้ระบบการประชุมทางไกลเป็นไปอย่างมี<br />
ประสิทธิภาพ<br />
127
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา มีการใช้งานระบบ<br />
ประชุมทางไกลที่สำคัญ ดังนี้<br />
๑.๓.๑ การบรรยายสรุปสถานการณ์ด้านการข่าว<br />
ทุกวันจันทร์และวันพฤหัสบดี หรือตามที่ ปล.กห. ดำริ<br />
๑.๓.๒ การประชุม นขต.<strong>สป</strong>. ประจำเดือน<br />
๑.๓.๓ การประชุมของ นขต.ศอพท. ประจำเดือน<br />
๑.๓.๔ การประชุม ศปก.นรม. กับ ศปก.กห.<br />
และเหล่าทัพ<br />
๑.๓.๕ การประชุม คปต.ส่วนหน้า (คณะกรรมการ<br />
ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้) โดย<br />
รมช.กห. เป็นหัวหน้าคณะฯ จาก บก.พล.ร.๑๕ - ศปก.กห.<br />
ทุกวันอังคาร<br />
๑.๓.๖ การบรรยายเนื่องในโอกาสพิเศษต่างๆ<br />
*** รวมการใช้งาน ทั้งสิ้น ๑๒๐ ครั้ง/ปี ประมาณ<br />
๑๐ ครั้ง/เดือน ***<br />
ปัญหาและข้อเสนอแนะ<br />
เนื่องจากอุปกรณ์ชุดประชุมทางไกลที่ใช้งาน<br />
ในปัจจุบันได้จัดหามาตั้งแต่ปี ๕๓ ได้มีการชำรุดตามอายุ<br />
การใช้งานไปตามลำดับ ดังนั้นเพื่อให้การใช้งานประชุมทางไกล<br />
เป็นไปอย่างต่อเนื่อง อุปกรณ์ควบคุมทางไกลแบบหลายจุด<br />
(MCU) จัดตั้งแต่ปี ๕๒ มีความจำเป็นต้องจัดหาอุปกรณ์ใหม่<br />
ขึ้นทดแทนต่อไป<br />
๑.๔ งานบริการระบบจานดาวเทียม UBC ได้มีการเช่า<br />
ใช้งาน ๒ แบบ ดังนี้<br />
๑.๔.๑ แบบโกลด์แพคเก็จ จะมีช่องรายการตาม<br />
มาตรฐาน ๗๕ ช่องรายการ ติดตั้งสนับสนุนให้กับผู้บังคับบัญชา<br />
ระดับสูงในศาลาว่าการกลาโหม จำนวน ๑๖ จุด ได้แก่<br />
ปล.กห., รอง ปล.กห. ๑ - ๔ และ หน.สน.ปล.กห.<br />
๑.๔.๒ แบบกำหนดช่องตามความต้องการ จำนวน<br />
๕ ช่องรายการ ได้แก่ ช่อง CNN, FOX MOVIES PREMIUM,<br />
DISCOVERY, FOX SPORT, TRUE SPORT 2 พร้อมระบบ<br />
ช่องสัญญาณโทรทัศน์พื้นฐาน (๓,๕,๗,๙,๑๑ และ Thai PBS)<br />
ติดตั้งให้กับ นขต.<strong>สป</strong>. ในพื้นที่ศาลาว่าการกลาโหม จำนวน<br />
๑๙๐ จุด และอาคาร <strong>สป</strong>.ศรีสมาน จำนวน ๒๖๙ จุด<br />
ปัญหาและข้อเสนอแนะ<br />
ปัจจุบันระบบสายนำสัญญาณและอุปกรณ์ขยาย<br />
สัญญาณ ระบบสัญญาณโทรทัศน์ รวมที่ติดตั้งให้บริการ<br />
กับ นขต.<strong>สป</strong>. ในพื้นที่ศาลาว่าการกลาโหม ได้ติดตั้งใช้งาน<br />
มาเป็นระยะเวลานานแล้ว ทำให้คุณภาพของสัญญาณไม่ดี<br />
เท่าที่ควร หากได้รับการปรับปรุงจะทำให้สามารถรองรับ<br />
การใช้งานสัญญาณโทรทัศน์ระบบดิจิทัลได้<br />
๒. งานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ<br />
๒.๑ งานเครือข่ายสารสนเทศของ <strong>สป</strong>.<br />
ได้เริ่มพัฒนาเครือข่ายสารสนเทศของ <strong>สป</strong>.<br />
ตามโครงการแผนแม่บทระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ กห.<br />
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๔๓ จากนั้นได้มีการปรับปรุง<br />
เครือข่ายสารสนเทศตามโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพ<br />
เครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ <strong>สป</strong>. ในปีงบประมาณ<br />
พ.ศ.๒๕๕o ได้ขยายเครือข่ายสารสนเทศเพื่อให้หน่วยงาน<br />
ภายใน <strong>สป</strong>. และ นขต.กห. สามารถเชื่อมโยงเพื่อสื่อสาร<br />
และแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกันได้ตามโครงการพัฒนาและ<br />
ปรับปรุงประสิทธิภาพเครือข่ายข้อมูลของ กห. ประจำปี<br />
งบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๑ - ๒๕๕๓ ได้มีการพัฒนาและ<br />
ปรับปรุงประสิทธิภาพเครือข่ายสารสนเทศให้บริการแก่<br />
นขต.<strong>สป</strong>. และ นขต.กห. โดยการเชื่อมโยงเครือข่ายสารสนเทศ<br />
ในปัจจุบันมีห้องควบคุมระบบสารสนเทศและการสื่อสาร<br />
กลาโหม ชั้น ๖ อาคาร <strong>สป</strong>. (ศรีสมาน) เป็นศูนย์บริการ<br />
เครือข่ายหลักมีการเชื่อมโยงไป นขต.<strong>สป</strong>. ดังนี้<br />
๒.๑.๑ การเชื่อมโยงเครือข่ายสารสนเทศไปยัง<br />
ศาลาว่าการกลาโหม โดยใช้เครือข่ายสื ่อสารข้อมูลหลัก<br />
(Backbone) เส้นใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) ขนาด<br />
Bandwidth 1 Gbps เป็นเครือข่ายหลัก และใช้เครือข่าย<br />
วงจรเช่าของ บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)<br />
ขนาด Bandwidth 350 Mbps เป็นเครือข่ายสำรอง<br />
๒.๑.๒ การเชื่อมโยงเครือข่ายสารสนเทศไปยัง ธน.<br />
(อาคาร <strong>สป</strong>.แจ้งวัฒนะ) โดยใช้เส้นใยแก้วนำแสง (Fiber<br />
Optic) ขนาด Bandwidth 1 Gbps เป็นเครือข่ายหลัก และ<br />
ใช้เครือข่ายวงจรเช่าของบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด<br />
(มหาชน) ขนาด Bandwidth 20 Mbps เป็นเครือข่ายสำรอง<br />
๒.๑.๓ การเชื่อมโยงเครือข่ายสารสนเทศไปยัง<br />
นขต.<strong>สป</strong>. พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยใช้เครือข่ายสื่อสาร<br />
ข้อมูลหลัก (Backbone) เส้นใยแก้วนำแสง (Fiber Optic)<br />
128
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
ขนาด Bandwidth 45 Mbps เป็นเครือข่ายหลักไปยัง<br />
พท.ศอพท., อท.ศอพท. และ สยธ.สสน.<strong>สป</strong>. และใช้เครือข่าย<br />
วงจรเช่าของบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)<br />
ขนาด Bandwidth 40 Mbps เป็นเครือข่ายสำรองสำหรับ<br />
ศวพท.วท.กห. และ รภท.ศอพท. ใช้เครือข่ายวงจรเช่าของ<br />
บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ขนาด Bandwidth<br />
<strong>60</strong> Mbps และ พัน สห.<strong>สป</strong>.(คูนายกิม) 20 Mbps เป็น<br />
เครือข่ายหลักโดยไม่มีเครือข่ายสำรอง<br />
๒.๑.๔ การเชื่อมโยงเครือข่ายสารสนเทศไปยัง<br />
นขต.<strong>สป</strong>. ต่างจังหวัด (ศอว.ศอพท., รวท.อท.ศอพท. และ<br />
ศพปน.พท.ศอพท.) โดยใช้เครือข่ายสื่อสารข้อมูลหลัก<br />
(Backbone) เส้นใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) ขนาด<br />
Bandwidth 45 Mbps เป็นเครือข่ายหลัก และใช้เครือข่าย<br />
วงจรเช่าของบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)<br />
เป็นเครือข่ายสำรองสำหรับ ศอว.ศอพท. ขนาด Bandwidth<br />
40 Mbps และสำหรับ รวท.อท.ศอพท., ศพปน.พท.ศอพท.<br />
ขนาด Bandwidth 20 Mbps โดยเป็นการเชื่อมโยงไปยัง<br />
ส่วนบังคับบัญชาเท่านั้น<br />
๒.๒ การให้บริการเครือข่ายสารสนเทศแบบไร้สาย<br />
(Wireless LAN) ของ <strong>สป</strong>.<br />
ได้ดำเนินการให้บริการเครือข่ายสารสนเทศ<br />
แบบไร้สาย ตามโครงการสื่อสารข้อมูลแบบไร้สายของ <strong>สป</strong>.<br />
เพื่อให้บริการเครือข่ายสารสนเทศแบบไร้สายให้กับข้าราชการ<br />
ของ <strong>สป</strong>. ที่ทำงานในพื้นที่ศาลาว่าการกลาโหมและอาคาร ธน.<br />
ในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๖ และในพื้นที่อาคาร <strong>สป</strong>.<br />
(ศรีสมาน) ในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๕๗ โดยมีการวาง<br />
อุปกรณ์กระจายสัญญาณเครือข่ายไร้สาย (Access Point)<br />
เพื่อใช้ในการรับ-ส่งสัญญาณเครือข่ายไร้สายเพื่อให้ครอบคลุม<br />
พื้นที่ดังกล่าว รวมเป็นจำนวน ๒๕๙ ตัว (ที่ศาลาว่าการ<br />
กลาโหมและอาคาร ธน. จำนวน ๑๒๖ ตัว และพื้นที่อาคาร <strong>สป</strong>.<br />
(ศรีสมาน) จำนวน ๑๓๓ ตัว)<br />
๒.๓ การให้บริการอินเทอร์เน็ต <strong>สป</strong>.<br />
ดำเนินการให้บริการอินเทอร์เน็ต <strong>สป</strong>. ให้กับ<br />
ผู้ใช้บริการ ประกอบด้วย ข้าราชการ ของ <strong>สป</strong>. และข้าราชการ กห.<br />
ตามสัญญาจ้างให้บริการสื่อสารข้อมูลอินเทอร์เน็ต (สัญญาจ้าง<br />
เลขที่๓/๒๕๖๐ ลง ๑๕ ธ.ค.๕๙) ซึ่งการให้บริการอินเทอร์เน็ต<br />
<strong>สป</strong>. ได้มีการพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการอย่างต่อเนื่อง<br />
โดยปัจจุบันมีความกว้างของช่องสัญญาณ (Bandwidth)<br />
ในการรับส่งข้อมูลเพื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไปยังเว็บไซต์<br />
ภายในประเทศ ขนาด 1 Gbps (Giga Bit Per Second)<br />
และระหว่างประเทศ ขนาด 700 Mbps (Mega Bit per<br />
Second) และได้ทำการจัดเก็บข้อมูลการจราจรตาม พ.ร.บ.<br />
ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๖o<br />
ต้องมีการบันทึกเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ของ<br />
ผู้ใช้งานไว้ไม่น้อยกว่า ๙๐ วัน เพื่อให้สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการ<br />
และการใช้งานได้<br />
ภาพแสดงกราฟปริมาณข้อมูลบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต <strong>สป</strong>.<br />
๒.๔ การพัฒนาและการบริหารจัดการข้อมูลบนเว็บไซต์<br />
ได้พัฒนาและดูแลหน้าแรกเว็บไซต์ กห., <strong>สป</strong>.,<br />
ทสอ.กห. และสมาคมภริยาข้าราชการ <strong>สป</strong>. ให้มีข้อมูลที่ทันสมัย<br />
รวมทั้งให้คำแนะนำการดำเนินงานด้านเว็บไซต์และเนื้อหา<br />
เกี่ยวกับการจัดเก็บเว็บไซต์ให้กับ นขต.<strong>สป</strong>. ดังนี้<br />
ภาพแสดงหน้าเว็บไซต์ กห. (www.mod.go.th.)<br />
ภาพแสดงหน้าเว็บไซต์ <strong>สป</strong>. (www.opsd.mod.go.th.)<br />
129
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
ภาพแสดงหน้าเว็บไซต์ กห. (www.dist.mod.go.th.)<br />
๒.๔.๑ เว็บไซต์กห. ดำเนินการเพิ่มกิจกรรม รมว.กห.<br />
๕๐ กิจกรรม และข่าวประชาสัมพันธ์ ๔ ข่าว<br />
๒.๔.๒ เว็บไซต์<strong>สป</strong>. ดำเนินการเพิ่มกิจกรรม ปล.กห.<br />
๗๒ กิจกรรม<br />
๒.๔.๓ เว็บไซต์ ทสอ.กห. ดำเนินการเพิ่มกิจกรรม<br />
จก.ทสอ.กห. ๗๘ กิจกรรม และข่าวประกวดราคา ๒๒ ข่าว<br />
๒.๔.๔ เว็บไซต์สมาคมภริยาข้าราชการ <strong>สป</strong>.<br />
ดำเนินการเพิ่มกิจกรรม ๙๕ กิจกรรม<br />
ภาพแสดงหน้าเว็บไซต์ <strong>สป</strong>. (www.wives.mod.go.th.)<br />
๒.๕ การให้บริการจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail)<br />
ของ <strong>สป</strong>.<br />
ได้จัดหาระบบการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์<br />
โดยกำหนดให้มีชื่อโดเมน @mod.go.th และมีการพัฒนา<br />
ประสิทธิภาพระบบการให้บริการจดหมายอิเล็กทรอนิกส์<br />
ตามลำดับ ระบบจดหมายมีพื้นที่สำหรับเก็บข้อมูล (inbox)<br />
ขนาด 5 GB สามารถสืบค้นรายชื่อผู้ใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์<br />
ทั้งหมดได้รวมทั้งมีMail gateway สำหรับการคัดกรองสแปม<br />
พร้อมทั้งสามารถเลือกการส่งจดหมายแบบเข้ารหัสได้<br />
ภาพแสดงระบบจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ของ กห.<br />
130
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
๒.๖ การให้บริการด้านสารสนเทศ และซ่อมบำรุง<br />
อุปกรณ์สารสนเทศ<br />
จัดให้มีบริการด้านสารสนเทศแก่ผู้บังคับบัญชา<br />
ข้าราชการ และพนักงานราชการ ในกรณีที่มีปัญหาด้าน<br />
การใช้งานและแก้ปัญหาข้อขัดข้องในเบื้องต้น เพื่อให้ผู้ใช้<br />
สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องมีประสิทธิภาพ โดยผู้ใช้<br />
สามารถขอคำแนะนำหรือแจ้งข้อขัดข้องในการใช้งานเครือข่าย<br />
สารสนเทศ <strong>สป</strong>. ได้ที่หมายเลข ๐ ๒๕๐๑ ๖๖๖๐ ต่อ ๕๕๑๕<br />
โทร. ทหาร ๕๗ ๕๒๙๙๐ และโทร. ภายใน ๕๕๑๕<br />
๒.๗ การกำกับดูแลและพัฒนาระบบสารสนเทศ ให้แก่<br />
นขต.<strong>สป</strong>. ดังนี้<br />
๒.๗.๑ พัฒนาระบบตามคำร้องของ นขต.<strong>สป</strong>. ได้แก่<br />
๒.๗.๑.๑ ระบบข้อมูลผู้ป่วยกายภาพบำบัด<br />
(สนพ.สสน.<strong>สป</strong>.)<br />
๒.๗.๑.๒ ระบบจัดเก็บข้อมูลบุตรที่มี<br />
ความต้องการพิเศษ (สมาคมภริยาฯ)<br />
๒.๗.๑.๓ ระบบบริหารจัดการข้อมูลสมาชิก<br />
และกิจกรรม สคภ.<strong>สป</strong>. (สมาคมภริยาฯ)<br />
๒.๗.๒ พัฒนาระบบสารสนเทศ ใช้ภายในหน่วยงาน<br />
ได้แก่<br />
๒.๗.๒.๑ ระบบจองห้องประชุม ทสอ.กห.<br />
๒.๗.๒.๒ ระบบจัดเก็บสืบค้นเอกสาร<br />
(กำลังพัฒนา)<br />
๒.๗.๒.๓ ระบบสืบค้นหมายเลขโทรศัพท์<br />
ภายใน (กำลังพัฒนา)<br />
๒.๗.๓ กำกับดูแลระบบสารสนเทศ ดังนี้<br />
๒.๗.๓.๑ ระบบสารสนเทศด้านงาน<br />
สารบรรณ <strong>สป</strong>. (ทร. เป็นผู้พัฒนา)<br />
๒.๗.๓.๒ ระบบรับส่งเอกสารอิเล็กทรอนิกส์<br />
(กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเป็นผู้พัฒนา)<br />
๒.๗.๓.๓ ระบบฐานข้อมูลงานด้านการ<br />
ส่งกำลังบำรุง <strong>สป</strong>. (สนผ.กห.)<br />
๒.๗.๓.๔ ศูนย์การเรียนรู้ด้านกิจการอวกาศ<br />
(กกอ.ทสอ.กห.)<br />
๒.๗.๓.๕ ระบบจัดการตารางปฏิบัติงาน<br />
ราชการกำลังพล กกส.กห. (กกส.กห.)<br />
๒.๘ การบริหารอบรมสัมมนาหลักสูตรด้านเทคโนโลยี<br />
สารสนเทศ<br />
๒.๘.๑ เปิดการฝึกอบรมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ<br />
ให้กับบุตรหลานในภาคฤดูร้อน ตามโครงการรณรงค์ป้องกัน<br />
ยาเสพติด โดยเปิดอบรมหลักสูตรการอบรมคอมพิวเตอร์<br />
สำหรับบุตรหลานข้าราชการ <strong>สป</strong>. จำนวน ๒ รุ่น ณ ห้องฝึกอบรม<br />
คอมพิวเตอร์ ทสอ.กห. ชั้น ๖ อาคาร <strong>สป</strong>. (ศรีสมาน)<br />
๒.๘.๒ ให้การสนับสนุนห้องฝึกอบรมคอมพิวเตอร์<br />
ทสอ.กห. ชั้น ๖ อาคาร <strong>สป</strong>. (ศรีสมาน) ให้กับ นขต.<strong>สป</strong>.<br />
ได้แก่ สงป.กห., สตน.กห., สยธ.สสน.<strong>สป</strong>., และ สพร.กห.<br />
๒.๙ การป้องกันและการรักษาความปลอดภัยระบบ<br />
สารสนเทศภายใน <strong>สป</strong>.<br />
๒.๙.๑ ดำเนินการติดตั้งระบบตรวจสอบตัวตน<br />
การเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ต <strong>สป</strong>. ให้กับ นขต.<strong>สป</strong>. ซึ่ง<br />
สามารถกำหนดนโยบายความปลอดภัยจากข้อมูลของเครื่อง<br />
ผู้ใช้งานโดยคัดกรองเครื่องที่มีความเสี่ยงออกจากการใช้งาน<br />
อินเทอร์เน็ต ทำให้สามารถตรวจสอบข้อมูลเครื่องคอมพิวเตอร์<br />
ผู้ใช้งานเครือข่ายสารสนเทศของ <strong>สป</strong>. ได้อย่างมีประสิทธิภาพ<br />
๒.๙.๒ ดำเนินการนำมาตรฐาน IEEE 802.1X<br />
และการเข้ารหัสแบบ WPA2 มาใช้ในระบบเครือข่ายไร้สาย<br />
(Wireless) <strong>สป</strong>. เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย<br />
และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น<br />
๒.๙.๓ กำหนดให้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งระบบ<br />
ปฏิบัติการ Windows XP และ Windows Vista ไม่สามารถ<br />
เข้าใช้งานบนเครือข่าย <strong>สป</strong>. ได้ เนื่องจากบริษัท Microsoft<br />
Corporation เจ้าของผลิตภัณฑ์ ได้ประกาศยุติการปรับปรุง<br />
ความปลอดภัยให้กับระบบปฏิบัติการดังกล่าว ทำให้อาจจะเกิด<br />
ภัยคุกคามจากการบุกรุกและเจาะข้อมูลระบบ, ขโมยรหัสผ่าน,<br />
<strong>สป</strong>ายแวร์, และซอฟต์แวร์ไม่พึงประสงค์ในรูปแบบต่างๆ<br />
เข้ามาในระบบเครือข่ายสารสนเทศของ <strong>สป</strong>. เพื่อให้เกิดความ<br />
ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น<br />
๒.๙.๔ กำหนดมาตรการเพื่อป้องกันการโจมตี<br />
และแพร่กระจาย Ransomware และ Malware เนื่องด้วย<br />
มีเหตุการณ์การแพร่กระจาย Ransomware: Wannacry<br />
เมื่อ พ.ค.๖๐ และ Malware เรียกค่าไถ่ Petya สายพันธุ์ใหม่<br />
พร้อมแนะนำวิธีการป้องกันสำหรับผู้ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์<br />
และผู้ดูแลเครือข่ายสารสนเทศของ นขต.<strong>สป</strong>.<br />
๒.๙.๕ ดำเนินการตรวจสอบประเมินความเพียงพอ<br />
และความมีประสิทธิผลของมาตรการควบคุมการปฏิบัติงาน<br />
สารสนเทศทำให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยบนระบบเครือข่าย<br />
สารสนเทศ <strong>สป</strong>.<br />
๒.๙.๖ ดำเนินการตรวจสอบและป้องกันภัยคุกคาม<br />
การโจมตีเครือข่ายสารสนเทศของ <strong>สป</strong>., เว็บไซต์ กห.,<br />
เว็บไซต์<strong>สป</strong>., อีเมล (@mod.go.th) และไวรัสคอมพิวเตอร์ทั้งที่<br />
มีการโจมตีทั้งจากเครือข่ายภายในและภายนอก เพื่อให้เกิด<br />
ความมั่นคงปลอดภัยบนระบบเครือข่ายสารสนเทศ <strong>สป</strong>.,<br />
131
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
ทำให้เว็บไซต์ปลอดภัยและมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น, ป้องกัน<br />
อีเมลก่อกวน ปลอมแปลงตัวตน และไวรัสคอมพิวเตอร์<br />
ที่แฝงมากับอีเมล ทำให้ระบบเมลมีเสถียรภาพยิ่งขึ้น<br />
๓. การดำเนินงานด้านกิจการอวกาศและภาพถ่าย<br />
ดาวเทียมเพื่อความมั่นคง<br />
ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ดังนี้<br />
๓.๑ รมว.กห. ได้กรุณาอนุมัติให้ความเห็นชอบร่างบันทึก<br />
ความร่วมมือระหว่าง วท. กับ กห. ว่าด้วยความร่วมมือด้าน<br />
เทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ ซึ่งมีการจัดพิธีลงนาม<br />
ในร่างบันทึกความร่วมมือฯ เมื่อ ๒๖ ก.ย.๖๐ โดยมี ปล.กห.<br />
เป็นประธานในพิธีลงนามฯ และเป็นผู้แทน กห. ลงนาม<br />
ในร่างบันทึกความร่วมมือฯ มี จก.ทสอ.กห. ร่วมลงนาม<br />
ในส่วนของ วท. มี ปล.วท. เป็นผู้ลงนามในร่างบันทึก<br />
ความร่วมมือฯ ซึ่งมี ผอ.สทอภ. ร่วมลงนาม<br />
๓.๒ การฝึกอบรมหลักสูตรการข่าวกรองและ<br />
ภูมิสารสนเทศของ ทสอ.กห. (ระดับต้น) ระหว่าง ๒๑ ส.ค.๖๐ -<br />
๑ ก.ย.๖๐ ณ ห้องฝึกอบรม กกอ.ทสอ.กห. ชั้น ๖ อาคาร <strong>สป</strong>.<br />
(ศรีสมาน) มีผู้รับการฝึกอบรมฯ ประกอบด้วย ขว.ทหาร,<br />
ศรภ., ขว.ทบ., ขกท., ขว.ทอ. และ ศลภ.คปอ. จำนวน<br />
๑๐ นาย การฝึกอบรมฯ แบ่งเป็น ๒ ส่วน ได้แก่ ด้านวิชาการ<br />
เป็นการบรรยายเกี่ยวกับทฤษฎีการสำรวจระยะไกล, ระบบ<br />
การบันทึกภาพถ่ายดาวเทียมระบบ OPTICAL และ RADAR<br />
และการตีความภาพถ่ายดาวเทียมในภารกิจทางทหาร<br />
และการฝึกปฏิบัติการ เป็นการฝึกเรียนรู้และใช้งานกับ<br />
เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งโปรแกรมสำหรับงานข่าวกรอง<br />
ภูมิสารสนเทศ และงานข่าวกรองการภาพ การนำเข้า<br />
การแสดงผลภาพถ่ายดาวเทียม และการวิเคราะห์ภาพถ่าย<br />
ดาวเทียมในกิจทางทหาร<br />
๓.๓ การสนับสนุนงานด้านข่าวกรองการภาพแก่เหล่าทัพ<br />
๓.๓.๑ สนับสนุนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พร้อม<br />
โปรแกรมด้านข่าวกรองการภาพ (Image Intellgence:<br />
IMINT) จำนวน ๑ ระบบ แก่ ขว.ทหาร<br />
๓.๓.๒ สนับสนุนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พร้อม<br />
โปรแกรมด้านข่าวกรองภูมิสารสนเทศ (Geospatial<br />
Intelligence: GEOINT) จำนวน ๑ ระบบ และอุปกรณ์<br />
คอมพิวเตอร์พร้อมโปรแกรมด้านข่าวกรองการภาพ (Image<br />
Intelligence: IMINT) จำนวน ๑ ระบบ ให้กับ ขว.ทบ.<br />
๓.๓.๓ สนับสนุนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พร้อม<br />
โปรแกรมด้านข่าวกรองภูมิสารสนเทศ (Geospatial<br />
Intelligence: IMINT) จำนวน ๑ ระบบ แก่ ขว.ทอ.<br />
๓.๓.๔ สนับสนุนอุปกรณ์คอมพิวเตอร์พร้อม<br />
โปรแกรมด้านข่าวกรองการภาพ (Image Intelligence)<br />
จำนวน ๑ ระบบ ให้กับ คปอ.<br />
๓.๔ การเข้าร่วมประชุมและสัมมนา<br />
๓.๔.๑ ร่วมประชุมวิชาการ 1 ST Thailand<br />
Conference Situational Awareness ซึ่งเป็นความร่วมมือ<br />
ระหว่าง รร.นนก. กับศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์โลกและ<br />
ดาราศาสตร์ (LESA: Learning model on Earth Science<br />
and Astronomy) ภายใต้การสนับสนุนของ ทอ. เมื่อ ๒๐ ก.ค.๖๐<br />
ณ ห้องนภัศวิน อาคารสโมสรนักเรียนนายเรืออากาศ<br />
รร.นนก. โดยมี พล.อ.อ.จอม รุ่งสว่าง ผบ.ทอ. เป็นประธาน<br />
ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่และแลกเปลี่ยนความรู้<br />
ประสบการณ์ รวมทั้งการเสริมสร้างความร่วมมือและเครือข่าย<br />
ด้านการเฝ้าระวังทางอวกาศในระดับประเทศและนานาชาติ<br />
๓.๔.๒ ร่วมประชุมคณะกรรมการภูมิสารสนเทศ<br />
แห่งชาติ เพื่อติดตามการดำเนินงานตามแผนแม่บท<br />
ภูมิสารสนเทศแห่งชาติ, การจัดทำแผนแม่บท IT และ<br />
แผนปฏิบัติการด้านความปลอดภัยระบบและบริการ<br />
ภูมิสารสนเทศกลางของประเทศ และการจัดทำแผนงาน<br />
บูรณาการงบประมาณด้านภูมิสารสนเทศของประเทศ<br />
๓.๔.๓ ร่วมสัมมนา “โครงการวิจัยเพื่อการศึกษา<br />
แนวทางร่างกฎหมายอวกาศและกิจการดาวเทียม” เมื่อ<br />
๗ เม.ย.๖๐ ณ หอประชุม ชั้น ๑ กทช. โดยมีรองเลขาธิการ<br />
กสทช. เป็นประธาน ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงความคิดเห็น<br />
เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติกำกับกิจการอวกาศ พ.ศ....<br />
ให้คณะวิจัยไปปรับปรุงแก้ไขร่างฯ หลายประเด็น เช่น<br />
การให้ความหมายของคำจำกัดความต่างๆ ความชัดเจนของ<br />
อำนาจหน้าที่ของหน่วยที่เกี่ยวข้อง และความครอบคลุม<br />
ด้านกิจการอวกาศ เป็นต้น ในส่วนเกี่ยวข้องกับ กห. กกอ.ฯ<br />
จะได้ติดตามความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อจะได้นำมาใช้<br />
ประโยชน์ต่อทางราชการต่อไป<br />
๔. การดำเนินงานด้านกิจการกระจายเสียง กิจการ<br />
โทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม<br />
ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ดังนี้<br />
๔.๑ จัดเจ้าหน้าที่เป็นผู้แทน ปล.กห. เพื่อเข้าร่วมประชุม<br />
คณะอนุกรรมการที่สนับสนุนการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ<br />
บริหารกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการ<br />
โทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ<br />
จำนวน ๓ คณะ ดังนี้<br />
132
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
๔.๑.๑ คณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการและ<br />
งบประมาณที่ใช้จ่ายจากเงินกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการ<br />
กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม<br />
เพื่อประโยชน์สาธารณะ<br />
๔.๑.๒ คณะอนุกรรมการติดตามและประเมินผล<br />
โครงการกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการ<br />
โทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ<br />
๔.๑.๓ คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและ<br />
แผนยุทธศาสตร์กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง<br />
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์<br />
สาธารณะ<br />
๔.๒ ติดตามงานที่เกี่ยวข้องกับคลื่นความถี่ กิจการวิทยุ<br />
กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมของ<br />
ทหาร, ประสานการปฏิบัติกับองค์กรในระดับชาติทั้งภาครัฐ<br />
และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาแก้ไขข้อกฎหมาย<br />
ต่างๆ เพื่อให้ทหารมีคลื่นความถี่ทางทหารใช้งานได้อย่าง<br />
เพียงพอ รวมทั้งทำให้การดำเนินการของสถานีวิทยุกระจายเสียง<br />
ของทหารและสถานีโทรทัศน์ของทหารสามารถดำรง<br />
การใช้งานด้านประชาสัมพันธ์เชิงรุกและสงครามจิตวิทยา<br />
ได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเสนอความเห็นในการรักษา<br />
ผลประโยชน์ของ กห. เกี่ยวกับสถานีวิทยุและสถานีโทรทัศน์<br />
ที่ทหารมีอยู่ เพื่อให้ กห. สามารถดำเนินกิจการต่อไป<br />
ได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ ทั้งนี ้ ในปีงบประมาณ<br />
๒๕๖๐ สง.กสท.กห. ได้จัดเจ้าหน้าที่ดำเนินการในส่วนที่<br />
เกี่ยวข้องร่วมกับสำนักงาน กสทช. ที่สำคัญ อาทิ<br />
๔.๒.๑ เข้าร่วมการอบรม เรื่อง “การประชุมเชิง<br />
ปฏิบัติการ การดำเนินการตามประกาศคณะกรรมการ<br />
กิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม<br />
แห่งชาติ (กสทช.) เกี่ยวกับมาตรฐานทางเทคนิคของ<br />
สถานีวิทยุกระจายเสียงที่ได้รับการจัดสรรคลื่นความถี่”<br />
๔.๒.๒ เข้าร่วมประชุมรับฟังความคิดเห็น<br />
สาธารณะต่อ (ร่าง) ประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง<br />
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)<br />
เรื่อง “แผนความถี่วิทยุกิจการกระจายเสียงระบบดิจิทัล<br />
เพื่อการทดลองหรือทดสอบ”<br />
๔.๒.๓ เข้าร่วมประชุมการกำหนดแนวทาง<br />
การดำเนินงานของสถานีวิทยุกระจายเสียงระบบ เอฟ.เอ็ม.<br />
๔.๒.๔ จัดการอบรม เรื่อง “การบริหารคลื่นความถี่<br />
เบื้องต้น” ให้กับเจ้าหน้าที่ บก.ทท., เหล่าทัพ และ นขต.<strong>สป</strong>.<br />
โดยเชิญผู้ทรงคุณวุฒิจาก กสทช. และกรมประชาสัมพันธ์<br />
เป็นวิทยากรพิเศษ<br />
๕. การดำเนินงานด้านการรักษาความปลอดภัย<br />
ระบบสารสนเทศและสงครามไซเบอร์<br />
ผลการดำเนินงานที่สำคัญ ดังนี้<br />
๕.๑ เข้าร่วมการประชุมแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญ<br />
ด้านไซเบอร์ ครั้งที่ ๑ ประจำปี ๒๕๖๐ Cyber Subject<br />
Matter Expert Exchange (SMEE) 17-1 เมื่อ ๑ - ๓ มี.ค.๖๐,<br />
๐๙๐๐ - ๑๖๐๐ ณ ห้องประชุม ชั้น ๓ อาคารกองข่าวอากาศ<br />
ทสส.ทอ. โดยมีน.อ.วิเชียร เรืองพระยา รอง ผอ.สบค.ทสส.ทอ.<br />
เป็นประธาน บรรยายในหัวข้อด้านการป้องกันภัยคุกคาม<br />
ไซเบอร์ที่มีต่อระบบควบคุมเครื่องจักรอัตโนมัติซึ่งเป็นพื้นฐาน<br />
สำคัญของระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานวิกฤติ<br />
๕.๒ ได้ดำเนินงานพัฒนาทักษะการปฏิบัติงานของ<br />
กำลังพลภายในหน่วย (Unit School) ให้กับกำลังพลของ<br />
ศซบ.ทสอ.กห. รวมถึงกำลังพลที่ปรับย้ายและบรรจุใหม่<br />
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับพื้นฐานความรู้ที่จำเป็นให้พร้อม<br />
ปฏิบัติภารกิจด้านไซเบอร์ ซึ่งเป็นการวางรากฐานที่สำคัญ<br />
สำหรับการปฏิบัติการไซเบอร์เชิงรุก มีการอบรมทั้งภาคทฤษฎี<br />
และภาคปฏิบัติ โดยมีหัวข้อการอบรมที่สำคัญ ดังนี้<br />
๕.๒.๑ ระบบเครือข่ายการสื่อสารหลัก (Backbone)<br />
ของ กห.<br />
๕.๒.๒ เครือข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ <strong>สป</strong>.<br />
๕.๒.๓ การรักษาความปลอดภัยเครือข่ายจาก<br />
ภัยคุกคามผ่านช่องโหว่ (CompTIA Security+)<br />
133
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
๕.๒.๔ รปจ.ทสอ.กห. ว่าด้วยการปฏิบัติงาน<br />
ประจำห้องปฏิบัติการไซเบอร์ ทสอ.กห. พ.ศ.๒๕๕๙<br />
๕.๒.๕ การใช้ระบบเฝ้าระวังข้อมูลในสังคม<br />
ออนไลน์ (โปรแกรม Th3re)<br />
๕.๒.๖ การใช้งานระบบวิเคราะห์ภัยคุกคาม<br />
ในเครือข่ายสารสนเทศ <strong>สป</strong>. (Security and Event<br />
Management: SIEM)<br />
๕.๒.๗ การใช้งานระบบตรวจประเมินช่องโหว่<br />
ในระบบสารสนเทศ (โปรแกรม Acunetix)<br />
๕.๒.๘ การใช้งานระบบทดสอบความมั่นคง<br />
ปลอดภัยสารสนเทศ (โปรแกรม Metasploit)<br />
๕.๒.๙ การปิดบังตัวตนในมิติไซเบอร์ด้วยเครื่อง<br />
แม่ข่ายส่วนตัวแบบเสมือน (Virtual Private Server: VPS)<br />
๕.๓ การฝึกการบริหารวิกฤติการณ์ระดับชาติ ประจำปี<br />
๒๕๖๐ (C-MEX 17)<br />
ได้เข้าร่วมการฝึกการบริหารวิกฤติการณ์ระดับชาติ<br />
ประจำปี ๒๕๖๐ (Crisis Management Exercise: C-MEX<br />
17) เมื่อ ๓ - ๕ เม.ย.๖๐ ณ ห้องประชุมวายุภักษ์ ๓ โรงแรม<br />
เซ็นทรา บายเซ็นทารา ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์<br />
แจ้งวัฒนะ โดยมี รมช.กห. เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึก<br />
โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อทดสอบ เฝ้าระวังสถานการณ์<br />
ทางไซเบอร์ การตรวจสอบและป้องกันการโจมตี ระบบ<br />
คอมพิวเตอร์ กลไกการจัดการข่าวสารทางสื่อสังคมออนไลน์<br />
การบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินจากการถูกโจมตีทางไซเบอร์<br />
การสร้างความตระหนักและเข้าใจถึงบทบาทหน้าที่การรับมือ<br />
ภัยทางไซเบอร์ โดยผู้เข้าร่วมการฝึกฯ ในประเด็นการฝึก<br />
การบริหารจัดการภัยความมั่นคงไซเบอร์จัดจากผู้แทน<br />
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ดศ. และหน่วยงานในสังกัด<br />
ดศ., สพธอ., ทสอ.กห., ศซบ.ทบ., สสท.ทร., ปอท., สรอ.,<br />
กฟผ., บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) และ<br />
บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)<br />
๕.๔ ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญด้านสารสนเทศเข้าบรรยาย<br />
ให้ความรู้ สร้างความตระหนักด้านการรักษาความปลอดภัย<br />
ไซเบอร์ โดยปฏิบัติร่วมกับการตรวจสอบสารสนเทศกับ<br />
สตน.กห. ประจำปีงบประมาณ ๖๐ ตามประกาศ <strong>สป</strong>.<br />
เรื่อง นโยบายและแนวปฏิบัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัย<br />
ด้านสารสนเทศ ระหว่าง พ.ค. - มิ.ย.๖๐ โดยได้เข้าตรวจสอบ<br />
สารสนเทศกับ นขต.<strong>สป</strong>. และ สร. จำนวน ๒๔ หน่วย ซึ่งผล<br />
การตรวจจะนำมาสรุปเพื่อพัฒนาการรักษาความปลอดภัย<br />
สารสนเทศต่อไป<br />
๕.๕ เข้าร่วมการฝึกป้องกันและการเจาะระบบเครือข่าย<br />
การปฏิบัติงานสงครามไซเบอร์แบบเป็นหน่วย ระหว่าง<br />
๓๑ พ.ค. - ๒ มิ.ย.๖๐ และการฝึกภาคสนามระหว่าง ๖ - ๘<br />
มิ.ย.๖๐ ณ ห้องประชุม ยก.ทหาร โดยมี จก.ยก.ทหาร<br />
เป็นประธาน<br />
๕.๖ ร่วมเป็นวิทยากรในงานสัมมนา Thailand<br />
Cybersecurity Week 2017 เมื่อ ๒๘ มิ.ย.๖๐ ณ หอประชุม<br />
ทบ. โดยมี รอง.นรม. เป็นประธาน โดยมีวัตถุประสงค์<br />
เพื่อเป็นการตระหนักถึงภัยคุกคามรูปแบบใหม่ เผยแพร่ข้อมูล<br />
ข่าวสารเกี่ยวกับวิธีการประเมินความเสี่ยงต่อภัยคุกคามฯ<br />
ตลอดจนแนวทางการจัดการที่เป็นมาตรฐานให้แก่หน่วยงาน<br />
ภาครัฐ<br />
ส่งผู้ปฏิบัติงานด้านไซเบอร์ จำนวน ๕ นาย<br />
เข้าร่วมสังเกตการณ์ในการออกแบบและการพัฒนาระบบ<br />
จำลองการฝึกด้านไซเบอร์ (Cyber Range) ระหว่าง<br />
๑๙ - ๒๘ ก.ค.๖๐ ณ ห้องบรรยาย ชั้น ๔ อาคารกองข่าว<br />
อากาศ<br />
134
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
กห.ฟป. และ กห.นิวซีแลนด์ เป็นเจ้าภาพจัดการ<br />
ประชุมฯ ระหว่าง ๑๖ - ๒๐ ก.ค.๖๐ โดยมีวัตถุประสงค์<br />
เพื่อสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศต่างๆ ในกรอบงาน<br />
ด้านความมั่นคงไซเบอร์ รวมทั้งรับทราบนโยบาย และ<br />
ขีดความสามารถของประเทศสมาชิก ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนา<br />
ความร่วมมือในด้านไซเบอร์ให้มีประสิทธิภาพ และ<br />
เป็นรูปธรรมต่อไป<br />
๕.๙ การประชุม ADMM - Plus EWG on Cyber<br />
Security ครั้งที่ ๑ ณ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ โดยหารือ<br />
ร่วมกับผู้แทน กห.สหรัฐฯ ในการจัดตั้งระบบ COMSEC<br />
โดยได้ดำเนินการจัดเตรียมห้องสำหรับติดตั้ง COMSEC<br />
ดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว โดยในครั้งนี้เป็นการประเมินความ<br />
ปลอดภัยสำหรับเตรียมการติดตั้งอุปกรณ์ COMSEC ตาม<br />
มาตรฐาน กห.สหรัฐฯ เมื่อ ๔ ส.ค.๖๐ ณ ศซบ.ทสอ.กห.<br />
๕.๑๐ Mr. Dan Carmel ผชท.ทหารอิสราเอล และ<br />
Mr. Paul Friedberg รองผู้อำนวยการกรมส่งออกและ<br />
ความร่วมมือทางทหาร กห.อิสราเอล เข้าหารือในความ<br />
ร่วมมือด้านความมั ่นคงปลอดภัยไซเบอร์ กับ จก.ทสอ.กห.<br />
เมื่อ ๘ ส.ค.๖๐<br />
๕.๗ จัดการฝึกอบรมหลักสูตรเทคนิคด้านการตรวจ/ยึด<br />
และตรวจพิสูจน์หลักฐาน โดยมีผู้เข้าอบรม จำนวน ๒๐ คน<br />
ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ ศซบ.ทสอ.กห. และสมาชิกเครือข่าย<br />
เพื่อดำเนินการเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ระหว่างวันที่<br />
๓๑ ก.ค. - ๒ ส.ค.๖๐ ณ ห้องประชุม ศซบ.ทสอ.กห. ชั้น ๕<br />
อาคาร <strong>สป</strong>. (ศรีสมาน)<br />
๕.๘ การประชุม ADMM - Plus EWG on Cyber<br />
Security ครั้งที่ ๑ ณ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์<br />
๕.๑๑ การประชุมความร่วมมือด้านไซเบอร์ ในการประชุม<br />
คณะกรรมการสั่งการและควบคุมร่วม ไทย - สหรัฐฯ ครั้งที่๕๓<br />
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรับทราบความก้าวหน้า และติดตาม<br />
โครงการความร่วมมือด้านระบบสื่อสารและสารสนเทศ<br />
ระหว่างไทย - สหรัฐฯ โดยผู้เข้าร่วมประชุมฯ ฝ่ายไทย<br />
ประกอบด้วย ผู้แทนหน่วยงานด้านสื่อสารของ บก.ทท. และ<br />
เหล่าทัพ รวมทั้งผู้แทน สนผ.กห. และ ทสอ.กห. ในฐานะ<br />
ผู้แทนหน่วยงานรับผิดชอบด้านไซเบอร์ของ กห. ในส่วน<br />
ผู้เข้าร่วมประชุมฯ ฝ่ายสหรัฐฯ ประกอบด้วย ผู้แทนหน่วยงาน<br />
ด้านสื่อสารกองกำลังกองทัพสหรัฐฯ ประจำภาคพื้นแปซิฟิก<br />
(US Pacific Command: PACOM J65), กองทัพอากาศ<br />
กองกำลังป้องกันชาติรัฐวอชิงตัน (Washington Air National<br />
Guard: WA ANG) และผู้แทน JUSMAGTHAI/PACAP<br />
135
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
ระหว่าง ๖ - ๑๓ ส.ค.๖๐ ณ เมืองทาโคมา รัฐวอชิงตัน<br />
สหรัฐอเมริกา<br />
๕.๑๒ ส่งข้าราชการ จำนวน ๔ นาย เข้าร่วมการแข่งขัน<br />
ทักษะทางไซเบอร์ ทท. ระหว่าง ๑๖ - ๑๗ ส.ค.๖๐<br />
ณ ศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์กองทัพไทย แหลมแท่น จ.ชลบุรี<br />
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาบุคลากรทางไซเบอร์ให้มีทักษะ<br />
และความสามารถในการปฏิบัติการทางไซเบอร์ ตลอดจน<br />
เพื่อสร้างความสามัคคีระหว่างผู้เข้าร่วมการแข่งขันฯ โดยมี<br />
ทีมเข้าร่วมการแข่งขันทั้งสิ้น จำนวน ๑๐ ทีม ประกอบด้วย<br />
<strong>สป</strong>. ๑ ทีม, บก.ทท. ๒ ทีม, ทบ. ๑ ทีม, ทร. ๒ ทีม, ทอ. ๒ ทีม,<br />
สทป. ๑ ทีม และ จปร. ๑ ทีม ทั้งนี้ผลการแข่งขันทีม <strong>สป</strong>.<br />
(ทสอ.กห.) ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ ๔<br />
๕.๑๓ ปล.กห. กรุณาให้ความเห็นชอบสิทธิ์การใช้งาน<br />
ระบบเฝ้าระวังข้อมูลในสังคมออนไลน์ให้กับหน่วยงานต่างๆ<br />
จำนวน ๑๑๑ บัญชีประกอบด้วย หน่วยงานภายใน <strong>สป</strong>. จำนวน<br />
๘๕ บัญชี และหน่วยงานภายนอก <strong>สป</strong>. จำนวน ๒๖ บัญชี<br />
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้กำลังพลของหน่วยต่างๆ ที่ได้รับ<br />
สิทธิ์การใช้งานระบบฯ ทำหน้าที่เฝ้าตรวจการล่วงละเมิด<br />
สถาบันพระมหากษัตริย์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และจัดทำ<br />
รายงานให้รวบรวมข้อมูลเพื่อดำเนินการต่อไป รวมทั้ง ทสอ.กห.<br />
เป็นหน่วยรับผิดชอบดูแลระบบ โดยสามารถบริหารจัดการ<br />
ฐานข้อมูลและประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานของผู้ร่วมใช้งาน<br />
ระบบฯ ได้โดยตรง ในการเพิ่ม เปลี่ยนแปลง ระงับ ยกเลิก<br />
สิทธิ์การใช้งานได้ตามความเหมาะสมหากไม่มีการเข้าใช้งาน<br />
๕.๑๔ การวางแผน เตรียมการ และตรวจสอบข้อมูล<br />
ทางเทคนิค เพื่อรองรับการจัดทำร่างขอบเขตงาน (TOR)<br />
สำหรับงานพัฒนาขีดความสามารถการปฏิบัติการไซเบอร์<br />
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๑<br />
ได้ดำเนินการพิสูจน์แนวคิด (Proof of Concept:<br />
POC) สำหรับงานพัฒนาขีดความสามารถการปฏิบัติการ<br />
ไซเบอร์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๑ โดยได้เชิญ<br />
บริษัทต่างๆ เข้าร่วมทดสอบการทำงานจริงของผลิตภัณฑ์<br />
ในห้วง ๑๒ ก.ค. - ๒๘ ส.ค.๖๐ ณ ทสอ.กห. เพื่อให้ทราบถึง<br />
คุณลักษณะและขีดความสามารถของผลิตภัณฑ์ ทั้งนี้<br />
ผลจากการพิสูจน์แนวคิด (POC) ดังกล่าว จะเป็นประโยชน์<br />
ต่อการปรับปรุงร่างขอบเขตของงาน (TOR) สำหรับงานพัฒนา<br />
ขีดความสามารถการปฏิบัติการไซเบอร์ ประจำปีงบประมาณ<br />
พ.ศ.๒๕๖๑ ให้มีความทันสมัยและเป็นประโยชน์สูงสุดต่อ<br />
ทางราชการต่อไป<br />
136
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
สำนักงานสนับสนุน สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (สสน.<strong>สป</strong>.)<br />
ภารกิจ : มีหน้าที่สนับสนุนทางการส่งกำลังและซ่อมบำรุง การขนส่ง<br />
การบริการทางการแพทย์ การบริการ การโยธาธิการ การควบคุมดูแล<br />
อสังหาริมทรัพย์ กิจการดุริยางค์ กิจการโรงพิมพ์ของสำนักงานปลัดกระทรวง<br />
กลาโหม ตลอดจนดำเนินการเกี่ยวกับการที่ดินของกระทรวงกลาโหม และ<br />
ปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย โดยมีผู้อำนวยการสำนักงานสนับสนุน<br />
สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ<br />
พลโท อภิชาต อุ่นอ่อน<br />
ผู้อำนวยการสำนักงานสนับสนุน สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
สรุปผลการปฏิบัติงานที ่สำคัญ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
๑. ให้การสนับสนุน นถปภ.รอ.<br />
ด้านการส่งกำลังบำรุง ทั้งการสนับสนุนยานพาหนะ<br />
ดำเนินกรรมวิธีในการจัดหาเครื่องแบบทหาร เครื่องประกอบ<br />
๑.๑ การดำเนินกรรมวิธีในการจัดหาเครื่องแบบทหาร เครื่องประกอบการแต่งกาย<br />
การแต่งกาย และการสนับสนุนอื่นๆ ตามที่ รอ.นถปภ.รอ.<br />
ร้องขออย่างต่อเนื่อง สรุปได้ดังนี้<br />
137
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
๑.๒ การขนส่ง<br />
๑.๒.๑ ได้รับโอนรถยนต์จาก รอ.นถปภ.รอ.<br />
จำนวน ๒๘๒ คัน และดำเนินการดังนี้<br />
- รอ.นถปภ.รอ. ขอรับการสนับสนุน จำนวน<br />
๑๓๓ คัน<br />
- สสน.<strong>สป</strong>. รับผิดชอบ จำนวน ๓๖ คัน<br />
- โอนให้ สร. และ นขต.<strong>สป</strong>. จำนวน<br />
๕๗ คัน<br />
- จำหน่ายด้วยวิธีการแลกเปลี่ยนหรือ<br />
วิธีการขาย จำนวน ๕๖ คัน<br />
๑.๒.๒ ดำเนินการจดทะเบียนยานพาหนะ<br />
ซ่อมบำรุงยานยนต์ ควบคุมการใช้รถยนต์ในการสนับสนุนการ<br />
ปฏิบัติภารกิจพิเศษ และปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย<br />
๒. การดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง<br />
การดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างให้กับ <strong>สป</strong>. (ส่วนบังคับบัญชา,<br />
สพร.กห., สสน.<strong>สป</strong>., สยธ.สสน.<strong>สป</strong>., สนพ.สสน.<strong>สป</strong>. และ<br />
รอ.นภปภ.รอ.) ซึ่งผลการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างในห้วง<br />
ปีงบประมาณ ๖๐ มีโครงการงานที่สำคัญ ดังนี้<br />
๒.๑ โครงการก่อสร้างอาคารที่พักอาศัย พร้อม<br />
สิ่งอำนวยความสะดวก (พื้นที่ศรีสมาน) เป็นโครงการผูกพัน<br />
ข้ามปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐ - ๒๕๖๓ วงเงินตามสัญญา<br />
๙๔๙,๐๐๐,๐๐๐ บาท ลงนามในสัญญาเมื่อ ๒๙ มี.ค.๖๐<br />
๒.๒ โครงการพัฒนาและปรับปรุงอาคารพักอาศัยและ<br />
สิ่งอำนวยความสะดวกของ <strong>สป</strong>. แบ่งออกเป็น<br />
๒.๒.๑ งานปรับปรุงอาคารพักอาศัยนายทหาร<br />
ประทวน <strong>สป</strong>. (พื้นที่แจ้งวัฒนะ) วงเงินตามสัญญา<br />
๑๗,๘๗๕,๐๐๐ บาท ลงนามในสัญญาเมื่อ ๑๕ ก.พ.๖๐<br />
๒.๒.๒ งานปรับปรุงอาคารพักอาศัยนายทหาร<br />
สัญญาบัตร <strong>สป</strong>. (พื้นที่แจ้งวัฒนะ) วงเงินตามสัญญา<br />
๑๘,๙๘๐,๐๐๐ บาท ลงนามในสัญญาเมื่อ ๑๕ ก.พ.๖๐<br />
๒.๒.๓ งานปรับปรุงอาคารพักอาศัย <strong>สป</strong>. (พื้นที่<br />
บางจาก) วงเงินตามสัญญา ๑๗,๒๘๐,๐๐๐ บาท ลงนาม<br />
ในสัญญาเมื่อ ๑๕ ก.พ.๖๐<br />
๒.๓ โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานและที่พักอาศัย<br />
พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก พัน สห.<strong>สป</strong>. (ระยะที่ ๘) วงเงิน<br />
ตามสัญญา ๖,๓๐๐,๐๐๐ บาท ลงนามในสัญญาเมื่อ<br />
๒๙ ธ.ค.๕๙<br />
๒.๔ งานปรับปรุงอาคารศาลาว่าการกลาโหม วงเงิน<br />
ในสัญญา ๗,๙๑๐,๐๐๐ บาท ลงนามในสัญญาเมื่อ<br />
๒๙ ธ.ค.๕๙<br />
๒.๕ งานปรับปรุงอาคารพักอาศัย <strong>สป</strong>. (พื้นที่ศรีสมาน)<br />
วงเงินในสัญญา ๒,๓๕๐,๐๐๐ บาท ลงนามในสัญญาเมื่อ<br />
๒๙ ธ.ค.๕๙<br />
๒.๖ งานปรับปรุงอาคารพักอาศัย <strong>สป</strong>. (พื้นที่พระราม ๕)<br />
วงเงินในสัญญา ๓,๑๕๐,๐๐๐ บาท ลงนามในสัญญาเมื่อ<br />
๒๙ ธ.ค.๕๙<br />
๒.๗ งานปรับปรุงอาคารพักอาศัย (พื้นที่ประชาชื่น)<br />
วงเงินในสัญญา ๖,๘๙๕,๐๐๐ บาท ลงนามในสัญญาเมื่อ<br />
๒๙ ธ.ค.๕๙<br />
๒.๘ งานปรับปรุงอาคารสำนักงาน และระบบจ่าย<br />
กระแสไฟฟ้าภายนอก (พื้นที่ประชาชื่น) วงเงินในสัญญา<br />
๓,๘๙๙,๐๐๐ บาท ลงนามในสัญญาเมื่อ ๒๙ ธ.ค.๕๙<br />
๒.๙ งานเสริมสร้างปรับปรุงอาคารและสิ่งก่อสร้าง <strong>สป</strong>.<br />
แบ่งออกเป็น<br />
๒.๙.๑ งานก่อสร้างหลังคาคลุมทางเดิน พื้นที่<br />
ศรีสมาน (เพิ่มเติม) วงเงินในสัญญา ๙๔๐,๐๐๐ บาท ลงนาม<br />
ในสัญญาเมื่อ ๒๘ ธ.ค.๕๙<br />
๒.๙.๒ งานปรับปรุงอาคาร กบก.สสน.<strong>สป</strong>. เป็น<br />
อาคารอเนกประสงค์ พื้นที่ประชาชื่น วงเงินในสัญญา<br />
๑,๙๘๕,๐๐๐ บาท ลงนามในสัญญาเมื่อ ๒๘ ธ.ค.๕๙<br />
๒.๙.๓ งานปรับปรุงห้องตัดผม, คลัง สลก.<strong>สป</strong>., สยธ.<br />
สสน.<strong>สป</strong>. (ส่วนหน้า) และห้องแถลงข่าว ชั้น ๑ ศาลาว่าการ<br />
กลาโหม วงเงินในสัญญา ๑,๒๙๗,๐๐๐ บาท ลงนามในสัญญา<br />
เมื่อ ๒๙ ธ.ค.๕๙<br />
๒.๙.๔ งานปรับปรุงภูมิทัศน์และระบบไฟฟ้า<br />
แสงสว่างภายในศาลาว่าการกลาโหม วงเงินในสัญญา<br />
๑,๘๘๐,๐๐๐ บาท ลงนามในสัญญาเมื่อ ๒๘ ธ.ค.๕๙<br />
๒.๙.๕ งานปรับปรุงซ่อมแซมอาคารศาลาว่าการ<br />
กลาโหม วงเงินในสัญญา ๑,๙๓๐,๐๐๐ บาท ลงนามในสัญญา<br />
๒๘ ธ.ค.๕๙<br />
๒.๙.๖ งานปรับปรุง พัน สห.<strong>สป</strong>. วงเงินในสัญญา<br />
๔๗๔,๐๐๐ บาท ลงนามในสัญญาเมื่อ ๒๘ ธ.ค.๕๙<br />
๒.๙.๗ งานปรับปรุงห้อง ปษ.ปล.กห., ห้อง หน.สนง.<br />
รอง ปล.กห.๔ และกองรักษาการณ์ ศาลาว่าการกลาโหม<br />
วงเงินในสัญญา ๕๐๐,๐๐๐ บาท ลงนามในสัญญาเมื่อ<br />
๒๙ ธ.ค.๕๙<br />
๒.๙.๘ งานปรับปรุงพื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย และ<br />
ทาสีเส้นจราจร ศาลาว่าการกลาโหม วงเงินในสัญญา<br />
๓๗๖,๐๐๐ บาท ลงนามในสัญญาเมื่อ ๒๙ ธ.ค.๕๙<br />
138
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
๒.๙.๙ งานปรับปรุง สง.ปล.กห. ชั้น ๒ และต่อเติม<br />
ห้องเวร ศปก.กห.ชั้น ๓ ศาลาว่าการกลาโหม วงเงินในสัญญา<br />
๓๖๑,๐๐๐ บาท ลงนามในสัญญาเมื่อ ๒๙ ธ.ค.๕๙<br />
๒.๑๐ งานจ้างเหมาบริการต่อเนื่อง จำนวน ๓๔ รายการ<br />
๒.๑๑ การจัดหาเครื่องแบบและเครื่องประกอบเครื่อง<br />
แต่งกายของนายทหารชั้นนายพล<br />
๒.๑๒ การจัดหาเครื่องแบบและเครื่องประกอบเครื่อง<br />
แต่งกายของ <strong>สป</strong>. (ส่วนบังคับบัญชา), สพร.กห., สสน.<strong>สป</strong>.,<br />
สยธ.สสน.<strong>สป</strong>. และ สนพ.สสน.<strong>สป</strong>.<br />
๒.๑๓ การจัดหาเครื่องแบบและเครื่องประกอบเครื่อง<br />
แต่งกายของ รอ.นภปภ.รอ.<br />
๒.๑๔ การจัดหาพัสดุ ครุภัณฑ์สนับสนุนตามภารกิจ<br />
ของหน่วย<br />
๓. การดำเนินการด้านพัสดุ<br />
มีงานที่สำคัญ ดังนี้<br />
๓.๑ จำหน่วยยานพาหนะโดยการขายทอดตลาด จำนวน<br />
๗ รายการ<br />
๓.๒ จำหน่ายสิ่งปลูกสร้างออกจากทะเบียนที่ราชพัสดุ<br />
๓.๓ จำหน่วยวัสดุที่ได้จากการรื้อถอน ๔ พื้นที่<br />
๔. การดำเนินการด้านการบริการ<br />
๔.๑ การขนส่ง<br />
- จัดรถยนต์สนับสนุนเป็นส่วนรวมให้กับ <strong>สป</strong>.<br />
(ส่วนบังคับบัญชา) และ นขต.<strong>สป</strong>. ตามที่ได้รับการร้องขอ<br />
- จัดรถยนต์โดยสารขนาดใหญ่ สำหรับสวัสดิการ<br />
รับ - ส่งข้าราชการและลูกจ้างที่พักอาศัยในอาคารที่พักอาศัย<br />
ของ <strong>สป</strong>. ในพื้นที่ต่างๆ มายังสถานที่ปฏิบัติงาน จำนวน<br />
๙ คัน เป็นประจำทุกวันราชการ<br />
๔.๒ การโภชนาการ<br />
- ดำเนินการจัดเลี้ยงเนื่องในโอกาสต่างๆ เช่น<br />
การประชุม สภากลาโหม, การประชุม หน.นขต.<strong>สป</strong>. และ<br />
งานพิธีต่างๆ ตามที่ได้รับการร้องขอ<br />
๔.๓ การบริการ<br />
- ดำเนินการเกี่ยวกับการบริการ การจัดสถานที่<br />
และการรักษาความสะอาดของอาคารสถานที่ที่อยู่ใน<br />
ความรับผิดชอบ<br />
๔.๔ กิจการโรงพิมพ์<br />
- ดำเนินการจัดพิมพ์เอกสารให้กับ นขต.<strong>สป</strong>. โดย<br />
สามารถประหยัดงบประมาณของทางราชการในการจ้างพิมพ์<br />
จากภายนอก สำหรับงานพิมพ์ที่สำคัญ เช่น หนังสือที่ระลึก<br />
งานถวายผ้าพระกฐินพระราชทานของ กห. เป็นต้น<br />
139
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.๒๕๖๐” เมื่อ ๒๙ มิ.ย.๖๐,<br />
๐๘๓๐ - ๑๕๐๐ ณ ห้องประชาชื่น ชั้น ๖ อาคาร สสน.<strong>สป</strong>.<br />
๕.๔ สสน.<strong>สป</strong>. ได้รับการคัดเลือกให้เป็นหน่วยงานที่ได้รับ<br />
คะแนน สูงสุดในการดำเนินกิจกรรม ๕ ส “ระดับดีมาก”<br />
โดยมีผลคะแนนรวม ๑๐๐ คะแนน เป็นลำดับที่ ๑ ของ <strong>สป</strong>.<br />
๔.๕ กิจการดุริยางค์<br />
- จัดวงโยธวาทิต สำหรับเดินนำแถวทหารใน<br />
โอกาสต่างๆ เช่น พิธีเปิด - ปิดกีฬาภายใน <strong>สป</strong>. และงานพิธี<br />
สำคัญต่างๆ (พิธีรับ - ส่งหน้าที่, พิธีวางศิลาฤกษ์) เป็นต้น<br />
- จัดวงหัสดนตรี บรรเลงในงานเลี้ยงต่างๆ ให้กับ<br />
หน่วยที่ขอรับการสนับสนุน<br />
๕. การดำเนินงานอื่นๆ<br />
๕.๑ การจัดเตรียมความพร้อมในการบรรเทาภัยพิบัติ<br />
ต่างๆ โดยการจัดเตรียมชุดปฏิบัติการ จำนวน ๒ ชุด คือ<br />
ชุดเข้าช่วยเหลือกู้ภัยจาก สยธ.สสน.<strong>สป</strong>. และชุดรักษา<br />
พยาบาลจาก สนพ.สสน.<strong>สป</strong>.<br />
๕.๒ การศึกษาดูงานด้านการบริการอาหาร, เครื่องดื่ม<br />
และเทคนิคการให้บริการด้านอื่นๆ ณ โรงเรียนการโรงแรม<br />
และท่องเที่ยว รีเจ้นท์ ชะอำ จ.เพชรบุรี ระหว่าง ๒๓ - ๒๔<br />
มี.ค.๖๐<br />
๕.๓ การสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การดำเนินการ<br />
ด้านการจัดซื้อจัดจ้าง ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้าง<br />
๕.๕ จัดทำองค์ความรู้ของหน่วย เรื่อง การดำเนินการ<br />
ด้านการจัดซื้อจัดจ้าง ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัด<br />
จ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.๒๕๖๐ โดย สสน.<strong>สป</strong>.<br />
ได้รับรางวัลรองชนะเลิศ อันดับ ๒ ในการประกวดการจัดการ<br />
ความรู้ของ <strong>สป</strong>. ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
รายละเอียดผลการดำเนินงานที่สำคัญ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
การจัดซื้อจัดจ้าง<br />
ลำดับ วิธีการจัดซื้อจัดจ้าง รวมจำนวนเรื่อง รวมวงเงิน (บาท) หมายเหตุ<br />
๑ ตกลงราคา ซื้อ ๔๐๗ ๒๐,๕๑๙,๖๒๐.๘๖<br />
จ้าง ๒๑๐ ๑๗,๔๕๑,๐๑๗.๙๘<br />
เช่า ๙ ๑,๖๘๕,๐๖๕.๐๐<br />
๒ สอบราคา ซื้อ ๒ ๒,๗๙๗,๑๒๙.๐๐<br />
จ้าง ๘ ๑๐,๓๓๘,๕๒๖.๐๐ ตั้งแต่ ๑ ต.ค.๕๙<br />
เช่า ๐ ๐.๐๐ ถึง ๒๒ ส.ค.๖๐<br />
๓ e-Bidding ซื้อ ๐ ๐.๐๐<br />
จ้าง ๑๒ ๑,๐๔๓,๓๖๑,๐๗๕.๘๔<br />
เช่า ๐ ๐.๐๐<br />
140
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
การจัดซื้อจัดจ้าง (ต่อ)<br />
ลำดับ วิธีการจัดซื้อจัดจ้าง รวมจำนวนเรื่อง รวมวงเงิน (บาท) หมายเหตุ<br />
๔ วิธีพิเศษ ซื้อ ๖ ๔๘,๘๑๒,๐๗๔.๑๑<br />
จ้าง ๑๕ ๕๖,๕๓๙,๑๙๔.๐๐<br />
เช่า ๐ ๐.๐๐ ตั้งแต่ ๑ ต.ค.๕๙<br />
๕ วิธีกรณีพิเศษ ซื้อ ๑๙ ๓๑๖,๖๐๙.๘๗ ถึง ๒๒ ส.ค.๖๐<br />
จ้าง ๑ ๑,๘๕๔,๙๑๒.๐๐<br />
เช่า ๐ ๐.๐๐<br />
รวมทั้งสิ้น ๖๘๙ ๑,๒๐๑,๖๗๕,๒๒๔.๖๖<br />
รวมทั้งสิ้น ๖๘๙ ๑,๒๐๑,๖๗๕,๒๒๔.๖๖<br />
การจัดซื้อจัดจ้างหลัง พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
(มีผลบังคับใช้ วันที่ ๒๓ ส.ค.๖๐)<br />
ลำดับ วิธีการจัดซื้อจัดจ้าง รวมจำนวนเรื่อง รวมวงเงิน (บาท) หมายเหตุ<br />
๑ e-Bidding ซื้อ ๐ ๐.๐๐<br />
จ้าง ๐ ๐.๐๐<br />
เช่า ๐ ๐.๐๐<br />
๒ คัดเลือก ซื้อ ๓ ๒,๙๙๘,๒๐๐.๐๐<br />
จ้าง ๐ ๐.๐๐ ตั้งแต่ ๒๓ ส.ค.๖๐<br />
เช่า ๐ ๐.๐๐ ถึง ๒๒ ก.ย.๖๐<br />
๓ เฉพาะเจาะจง ซื้อ ๘๖ ๒,๗๔๒,๙๓๘.๗๒<br />
จ้าง ๓๓ ๘,๖๗๙,๕๗๙.๖๓<br />
เช่า ๐ ๐.๐๐<br />
รวมทั้งสิ้น ๑๒๒ ๑๔,๔๒๐,๗๑๘.๓๕<br />
ตารางสรุปการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง<br />
141
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
สำนักโยธาธิการ<br />
สำนักงานสนับสนุน สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (สยธ.สสน.<strong>สป</strong>.)<br />
ภารกิจ : มีหน้าที่เสนอความเห็น วางแผน อำนวยการ ประสานงาน กำกับดูแล<br />
และดำเนินการเกี่ยวกับการโยธาธิการ การควบคุมดูแลอสังหาริมทรัพย์ของ<br />
สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ดำเนินการสำรวจออกแบบก่อสร้างและ<br />
ประมาณการ จัดสร้างและซ่อมบำรุงสิ่งก่อสร้างและงานสาธารณูปโภค<br />
ของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ดำเนินการเกี่ยวกับการที่ดินของ<br />
กระทรวงกลาโหม ในการสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจพิเศษ และปฏิบัติงาน<br />
อื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย มีผู้อำนวยการสำนักโยธาธิการ สำนักงาน<br />
สนับสนุน สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ<br />
พลตรี พุฒิประสิทธิ์ จิระมะกร<br />
ผู้อำนวยการสำนักโยธาธิการ<br />
สำนักงานสนับสนุน สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
สรุปผลการปฏิบัติงานที ่สำคัญ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
งานก่อสร้างและปรับปรุงอาคารสถานที่<br />
๑. งานก่อสร้างและปรับปรุงอาคารสำนักงาน<br />
๑.๑ งบประมาณต่อเนื่อง<br />
๑.๑.๑ โครงการก่อสร้างอาคารบริการพร้อม<br />
สิ่งอำนวยความสะดวกของ <strong>สป</strong>. (พื้นที่ศรีสมาน) (งบลงทุนฯ)<br />
งบผูกพัน ๔ ปี (๕๘ - ๖๑) รวม ๙๔๗,๙๙๕,๐๐๐ บาท<br />
ปี ๕๘ จำนวน ๑๔๒,๕๐๐,๐๐๐ บาท<br />
ปี ๕๙ จำนวน ๒๖๓,๕๐๐,๐๐๐ บาท<br />
ปี ๖๐ จำนวน ๓๒๘,๖๙๖,๒๐๐ บาท<br />
ปี ๖๑ จำนวน ๒๑๓,๒๙๘,๘๐๐ บาท<br />
(กำหนดแล้วเสร็จ ๑๒ ม.ค.๖๑)<br />
142
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
๑.๑.๒. โครงการก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์<br />
พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกของ <strong>สป</strong>. (พื้นที่ศรีสมาน)(งบลงทุนฯ)<br />
งบผูกพัน ๔ ปี (๕๙ - ๖๒) รวม ๘๔๕,๐๐๐,๐๐๐ บาท<br />
ปี ๕๙ จำนวน ๑๖๙,๒๘๐,๙๐๐ บาท<br />
ปี ๖๐ จำนวน ๒๘๘,๑๐๒,๑๐๐ บาท<br />
ปี ๖๑ จำนวน ๓๔๒,๗๒๖,๔๐๐ บาท<br />
ปี ๖๒ จำนวน ๔๔,๘๙๐,๖๐๐ บาท<br />
(กำหนดแล้วเสร็จ ๑๗ ก.ย.๖๑)<br />
๑.๒ งบประมาณปีเดียว<br />
๑.๒.๑ โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานและ<br />
ที่พักอาศัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก พัน สห.<strong>สป</strong>. (ระยะ<br />
ที่ ๘) วงเงิน ๖,๓๐๐,๐๐๐ บาท ผลการดำเนินงานแล้วเสร็จ<br />
- ก่อสร้างระบบสาธารณูปโภคภายนอก<br />
ส่วนที่เหลือ (ถนนพร้อมทางเท้า, ท่อระบายน้ำ, รั้วและ<br />
ไฟฟ้าแสงสว่างสำหรับถนนส่วนที่เหลือ)<br />
๑.๒.๒ งานปรับปรุงอาคารศาลาว่าการกลาโหม<br />
วงเงิน ๗,๙๑๐,๐๐๐ บาท ผลการดำเนินงานแล้วเสร็จ<br />
๑.๒.๓ งานก่อสร้างหลังคาคลุมทางเดินพื้นที่<br />
ศรีสมาน (เพิ่มเติม) วงเงิน ๙๔๐,๐๐๐ บาท<br />
๑.๒.๔ งานตกแต่งภายในอาคาร <strong>สป</strong>. พื้นที่ศรีสมาน<br />
ชั้น ๑ - ๗ วงเงิน ๕๓,๗๖๔,๒๐๐ บาท<br />
๑.๒.๕ งานปรับปรุงซ่อมแซมอาคารศาลาว่าการ<br />
กลาโหม วงเงิน ๑,๙๓๐,๐๐๐ บาท<br />
๑.๒.๖ งานปรับปรุงหอพระ <strong>สป</strong>. (พื้นที่ศรีสมาน)<br />
วงเงิน ๙๘๘,๐๐๐ บาท<br />
๒.๒ งบประมาณปีเดียว<br />
๒.๒.๑ งานปรับปรุงอาคารที่พักอาศัยนายทหาร<br />
สัญญาบัตร <strong>สป</strong>. (พื้นที่แจ้งวัฒนะ) วงเงิน ๑๘,๙๘๐,๐๐๐ บาท<br />
(กำหนดแล้วเสร็จ ๑๒ พ.ย.๖๐)<br />
๒.๒.๒ งานปรับปรุงอาคารที่พักอาศัยนายทหาร<br />
ประทวน <strong>สป</strong>. (พื้นที่แจ้งวัฒนะ) วงเงิน ๑๗,๘๗๕,๐๐๐ บาท<br />
(กำหนดแล้วเสร็จ ๑๒ ธ.ค.๖๐)<br />
๒.๒.๓ งานปรับปรุงอาคารที่พักอาศัย <strong>สป</strong>. (พื้นที่<br />
บางจาก) วงเงิน ๑๗,๒๘๐,๐๐๐ บาท (กำหนดแล้วเสร็จ<br />
๑๒ พ.ย.๖๐)<br />
๒.๒.๔ งานปรับปรุงอาคารพักอาศัย <strong>สป</strong>. (พื้นที่<br />
ประชาชื่น) วงเงิน ๖,๘๙๕,๐๐๐ บาท<br />
๒.๒.๕ งานปรับปรุงอาคารที่พักราชองครักษ์<br />
(อาคาร ๑/๔) พระตำหนักจิตรลดา วงเงิน ๒,๒๒๕,๐๐๐ บาท<br />
(กำหนดแล้วเสร็จ ๒๑ ก.ย.๖๐)<br />
การสนับสนุนงานของ <strong>สป</strong>.<br />
๑. จัดทำซุ้มถวายพระเกียรติและแสดงความอาลัย<br />
แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช<br />
บรมนาถบพิตร เมื่อ ๕ ธ.ค.๕๙ พื้นที่ศาลาว่าการกลาโหม<br />
พื้นที่ถนนประชาชื่น และพื้นที่ศรีสมาน<br />
๒. งานก่อสร้างและปรับปรุงที่พักอาศัย<br />
๒.๑ งบประมาณต่อเนื่อง<br />
- โครงการก่อสร้างอาคารพักอาศัย พร้อมสิ่ง<br />
อำนวยความสะดวกของ <strong>สป</strong>. (พื้นที่ศรีสมาน) (งบลงทุนฯ)<br />
วงเงินรวม ๙๔๙,๐๐๐,๐๐๐ บาท ผูกพัน ๔ ปี ( ปี ๖๐ - ๖๓ )<br />
ปี ๖๐ จำนวน ๑๙๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท<br />
ปี ๖๑ จำนวน ๒๓๔,๖๗๗,๕๐๐ บาท<br />
ปี ๖๒ จำนวน ๓๘๓,๑๕๘,๗๕๐ บาท<br />
ปี ๖๓ จำนวน ๑๔๑,๑๖๓,๗๕๐ บาท<br />
(กำหนดแล้วเสร็จ ๑๓ มี.ค.๖๓)<br />
143
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
๒. ประดับธงเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตน<br />
ราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวันคล้ายวันพระราช<br />
สมภพ ๒ เม.ย.๖๐ และสนับสนุนการจัดพิธีวางพวงมาลา<br />
ถวายราชสักการะพระบรมราชานุสรณ์พระบาทสมเด็จ<br />
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ เนื่องในวันปิยมหาราช<br />
วันที่ ๒๓ ต.ค.๕๙ ณ อาคาร <strong>สป</strong>. (พื้นที่ศรีสมาน)<br />
๓. การจัดงานรวมพลังแห่งความภักดี เมื่อ ๒๒ พ.ย.๕๙<br />
ณ ถนนสนามไชย หน้าอาคารศาลาว่าการกลาโหม<br />
๔. งานพิธีทางศาสนา<br />
- พิธีถวายผ้าพระกฐินพระราชทานของ กห. ประจำปี<br />
๒๕๕๙ เมื่อ ๓ พ.ย.๕๙ ณ วัดชิโนรสรามวรวิหาร<br />
- งานกิจกรรมพัฒนาวัด พัฒนาจิต เทิดทูนสถาบัน<br />
พระมหากษัตริย์ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จ<br />
พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เมื่อ ๒๔<br />
พ.ย.๕๙ ณ วัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร<br />
- โครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อนเพื่อถวายเป็น<br />
พระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล<br />
อดุลยเดช บรมนาถบพิตร และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จ<br />
พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาส<br />
วันคล้ายวันพระราชสมภพ ระหว่าง ๑๕ - ๒๑ มี.ค.๖๐<br />
ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร<br />
- พิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระพรชัยมงคล, พิธี<br />
ทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ<br />
พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ ๙ เนื่องในโอกาสวันเฉลิม<br />
พระชนมพรรษา ๘๕ พรรษา (๑๒ ส.ค.๖๐) และพิธีลงนาม<br />
ถวายพระพร เมื่อ ๑๑ ส.ค.๖๐ ณ ศาลาว่าการกลาโหม<br />
๕. พิธีเททองหล่อและพิธีพุทธาภิเษก “พระพุทธไตร<br />
เสนากลาโหมพิทักษ์” เมื่อ ๒๒ ก.พ.๖๐ ณ วัดปริวาส<br />
ราชสงคราม และพิธีสมโภช “พระพุทธไตรเสนากลาโหมพิทักษ์”<br />
เมื่อ ๓๐ พ.ค.๖๐ พื้นที่ศรีสมาน<br />
๖. สนับสนุน สนผ.กห. ซ่อมและเปลี่ยนกล้องโทรทัศน์<br />
วงจรปิด ภายในอาคารศาลาว่าการกลาโหม เมื่อ ๒๑ ม.ค.๖๐<br />
งานที่ดินและอสังหาริมทรัพย์<br />
๑. รอง ปล.กห.(๓)/หัวหน้าคณะทำงานแก้ไขปัญหา<br />
การบุกรุกที่ดินในความครอบครอง ดูแล ใช้ประโยชน์ ของ<br />
หน่วยงานทางทหาร และคณะทำงานฯ เดินทางตรวจพื้นที่<br />
บุกรุกที่ดินภาคเหนือ สถานีวิทยุ เอ.เอ็ม.เชียงใหม่ ต.ดอนแก้ว<br />
อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ซึ่งปัจจุบันได้ยุติปัญหาการบุกรุกที่ดิน<br />
ดังกล่าวแล้ว โดยมีการบันทึกข้อตกลงระหว่างสถานีวิทยุ<br />
เอ.เอ็ม.เชียงใหม่ (<strong>สป</strong>.) กับคณะกรรมการหมู่บ้าน<br />
พระเจ้านั่งโก๋น เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาการรุกล้ำที่ดิน<br />
ของสถานีวิทยุ เอ.เอ็ม.เชียงใหม่ และทั้งสองฝ่ายได้<br />
ลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐานรับทราบบันทึกข้อตกลง ปัจจุบัน<br />
สถานีวิทยุ เอ.เอ็ม.เชียงใหม่ ได้รับงบประมาณในการก่อสร้าง<br />
รั้วเรียบร้อยแล้ว<br />
144
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
๒. รอง ปล.กห.(๑)/หัวหน้าคณะทำงานแก้ไขปัญหา<br />
การบุกรุกที่ดินในความครอบครอง ดูแล ใช้ประโยชน์<br />
ของหน่วยงานทางทหาร และคณะทำงานฯ เดินทางเพื่อติดตาม<br />
และประเมินผลการบุกรุกที่ดินทางทหาร พื้นที่ภาคใต้ จว.ร.น.<br />
(ร.๒๕ พัน.๒ ค่ายรัตนรังสรรค์), (ทรภ.๓ เกาะพยาม) และ<br />
ฐานทัพเรือพังงา ซึ่งคณะทำงานได้ร่วมกับหน่วยทหารในพื้นที่<br />
ตรวจพื้นที่การบุกรุกและร่วมประชุมหารือกับหน่วยทหารและ<br />
ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เพื่อหาข้อยุติและแนวทาง<br />
การแก้ไขปัญหาการบุกรุกให้หน่วยดำเนินการต่อไป<br />
๓. การจัดทำร่างคู่มือการปฏิบัติตามแนวทางการแก้ไข<br />
ปัญหาการบุกรุกที่ดินในความครอบครอง ดูแล ใช้ประโยชน์<br />
ของหน่วยงานทางทหาร โดยมีการจัดประชุมย่อย ๓ ครั้ง<br />
และสัมมนา ๑ ครั้ง ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น<br />
กรุงเทพฯ มีผู้เข้าร่วมสัมมนาจากหน่วยงาน บก.ทท., ทบ.,<br />
ทร., ทอ., อผศ. และ <strong>สป</strong>. เพื่อให้หน่วยทหารของ กห. ร่วมกัน<br />
แสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการจัดทำร่างคู่มือ<br />
การแก้ไขปัญหาฯ ตามแนวทางและมาตรการการแก้ไขปัญหา<br />
การบุกรุกที่ดินของ กห. ที่ รมว.กห. ได้อนุมัติไว้<br />
145
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
สำนักงานแพทย์<br />
สำนักงานสนับสนุน สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม (สนพ.สสน.<strong>สป</strong>.)<br />
ภารกิจ : มีหน้าที่ให้บริการทางการแพทย์ ครอบคลุมถึงการตรวจรักษา<br />
ส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค รวมถึงการบริการทางทันตกรรม กายภาพบำบัด<br />
แพทย์ทางเลือก ให้กำลังพลของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และ<br />
ครอบครัว รวมถึงประชาชนทั่วไป และเป็นฝ่ายอำนวยการด้านการแพทย์<br />
ให้กับปลัดกระทรวงกลาโหม มีผู้อำนวยการสำนักงานแพทย์ สำนักงาน<br />
สนับสนุน สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ<br />
พลตรี ต่างแดน พิศาลพงศ์<br />
ผู้อำนวยการสำนักงานแพทย์<br />
สำนักงานสนับสนุน สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
สรุปผลการปฏิบัติงานที ่สำคัญ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
๑. การให้บริการทางการแพทย์<br />
ณ ที่ตั้งหน่วยในศาลาว่าการกลาโหม และอาคาร <strong>สป</strong>. (ศรีสมาน)<br />
146
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
๒. สถิติการให้บริการทางการแพทย์โดยแยกประเภทผู้ป่วย ดังนี้<br />
สถิติการให้บริการทางการแพทย์โดยแยกประเภทการเข้ารับการรักษา ดังนี้<br />
๓. การจัดหน่วยแพทย์และทันตกรรมเคลื่อนที่<br />
๓.๑ การบริการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่และการบริการ<br />
หน่วยทันตกรรมเคลื่อนที่ ณ นขต.<strong>สป</strong>.<br />
147<br />
๔. ดำเนินกิจกรรมด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหา<br />
เอดส์ของ <strong>สป</strong>.<br />
๔.๑ การสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “แนวทางการให้<br />
คำปรึกษา และแนะนำการปฏิบัติตัวให้ห่างไกลเอดส์สำหรับ<br />
กำลังพลสายแพทย์” ณ บ้านอ้อมกอดขุนเขา อ.สวนผึ้ง<br />
จ.ราชบุรี เมื่อ ๔ - ๕ ก.พ.๖๐
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
๕. กิจกรรมส่งเสริมสุขภาพแก่กำลังพล <strong>สป</strong>.<br />
๔.๒ การฝึกอบรมให้ความรู้ในการป้องกันและแก้ไข<br />
ปัญหาเอดส์ให้กับบุคลากรของ <strong>สป</strong>. พื้นที่ศรีสมาน ณ ห้องรับรอง<br />
แขกต่างประเทศ อาคาร <strong>สป</strong>. (ศรีสมาน) เมื่อ ๒๘ มี.ค.๖๐<br />
และอาคารศาลาว่าการกลาโหม ณ ห้องพินิตประชานาถ<br />
เมื่อ ๒๓ มิ.ย.๖๐<br />
๔.๓ การสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การลดความเสี่ยง<br />
การติดเชื้อเอชไอวีในกำลังพล <strong>สป</strong>. ที่ปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือ<br />
ประชาชน” ณ ห้องหลักเมือง ๒ เมื่อ ๑๒ ก.ค.๖๐<br />
๔.๔ ดำเนินกิจกรรมตามแผนงานบูรณาการป้องกัน<br />
ปราบปรามและบำบัดผู้ติดยาเสพติด<br />
๕.๑ การตรวจสุขภาพประจำปี ๒๕๖๐ เมื่อ ๑๐ - ๒๔<br />
ก.พ.๖๐<br />
๕.๒ การตรวจสุขภาพประจำปีครอบครัวกำลังพล <strong>สป</strong>.<br />
ในโครงการ “ครอบครัวพอเพียง” ณ อาคารอเนกประสงค์<br />
บ้านพักข้าราชการ <strong>สป</strong>. (พื้นที่บางจาก) เมื่อ ๑๖ ก.ย.๖๐<br />
๕.๓ กิจกรรมสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “รู้โรค บริโภคดี<br />
มีวินัย ใส่ใจการออกกำลังกาย ต้านภัย NCDS” ณ ห้องพินิต<br />
ประชานาถ เมื่อ ๑๑ พ.ย.๕๙ และห้องประชุม ศอพท.<br />
อาคาร <strong>สป</strong>. (ศรีสมาน) เมื่อ ๓๑ ส.ค.๖๐ โดยมีวัตถุประสงค์<br />
เพื่อให้กำลังพลที่เข้าร่วมโครงการ “รู้โรค บริโภคดี มีวินัย<br />
ใส่ใจออกกำลังกาย ต้นภัย NCDS” ได้รับความรู้<br />
เพิ่มเติม และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทั้งด้านการบริโภค และ<br />
การออกกำลังกาย เพื ่อป้องกัน/แก้ไขปัญหาน้ำหนักเกิน,<br />
อ้วน/อ้วนลงพุง รวมถึงผ่อนคลายความเครียดจากการทำงาน<br />
โดยการเข้าร่วมการแข่งขันในกิจกรรมสร้างเสริมสุขภาพ<br />
และนำความรู้ไปถ่ายทอดให้กับเพื่อนร่วมงาน สมาชิก<br />
ในครอบครัวต่อไป<br />
๕.๔ กิจกรรม “องค์กรจอมขยับ” ออกกำลังกายต่อเนื่อง<br />
ทุกวันพุธ โดยจัดขึ้นใน ๓ พื้นที่ ได้แก่ ศาลาว่าการกลาโหม,<br />
รภท.ศอพท. และ อท.ศอพท.<br />
148
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
๖. ให้การดูแลสุขภาพทหารกองประจ ำการ พัน สห.<strong>สป</strong>.<br />
กิจกรรม “ดูแล ห่วงใย ใส่ใจ พัน สห.”<br />
๖.๑ การอบรมครูฝึกทหารใหม่<br />
และการตรวจคัดกรองทหารใหม่<br />
ผลัด ๑ ประจำปี ๒๕๖๐<br />
๖.๒ การตรวจคัดกรองทหาร<br />
ใหม่<br />
๗. สร้างเสริมสุขภาพแก่สมาชิกชมรมผู้สูงอายุ <strong>สป</strong>.<br />
ประชุมใหญ่สามัญประจำปี ๒๕๖๐ ของชมรมผู้สูงอายุ<br />
<strong>สป</strong>. และทัศนศึกษาเชิงสุขภาพ ณ ศูนย์ฝึกศึกษาบุคลากร<br />
ด้านปิโตรเลียมและพลังงานทหาร <strong>สป</strong>. หาดพลา จ.ระยอง<br />
เมื่อ ๒๗ - ๒๘ เม.ย.๖๐<br />
๘. ภารกิจสนับสนุน และอื่นๆ<br />
๘.๑ สนับสนุนการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย เพื่อ<br />
เลื่อนฐานะเป็นนายทหารสัญญาบัตร และนายทหารประทวน<br />
ประจำปี ๒๕๖๐<br />
๘.๒ สนับสนุนการทดสอบสมรรถภาพร่างกายข้าราชการ<br />
ลูกจ้าง และพนักงานราชการ สังกัด <strong>สป</strong>. ประจำปี ๒๕๖๐<br />
๘.๓ กิจกรรม “รณรงค์ลดอุบัติเหตุในช่วยเทศกาล<br />
สงกรานต์ ๒๕๖๐” รวท.ศอพท. เมื่อ ๑๑ - ๑๗ เม.ย.๖๐<br />
๘.๔ ตรวจสุขาภิบาลอาหาร ภายในสำนักงานปลัด<br />
กระทรวงกลาโหม ณ ศาลาว่าการกลาโหม<br />
๙. กิจกรรมตามนโยบายผู้บังคับบัญชา<br />
๙.๑ การให้บริการทางการแพทย์และช่วยเหลือประชาชน<br />
ที่มาแสดงความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทร<br />
มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร<br />
๙.๒ การให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้ที่มาร่วมพิธีถวาย<br />
ดอกไม้จันทน์ และพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ<br />
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช<br />
บรมนาถบพิตร<br />
๙.๓ โครงการรณรงค์สร้างภูมิคุ้มกันโรคปอดบวม<br />
และโรคไข้หวัดใหญ่ในผู้สูงอายุ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล<br />
แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช<br />
บรมนาถบพิตร<br />
๙.๔ กิจกรรมเนื่องในวันเด็กแห่งชาติของ <strong>สป</strong>. ประจำปี<br />
๒๕๖๐ เมื่อ ๑๔ ม.ค.๖๐<br />
๙.๕ การอบรม “การปฐมพยาบาลเบื้องต้นและ<br />
การจัดการเมื่อเกิดอัคคีภัย” ณ ศพปน.พท.ศอพท. เมื่อ<br />
๒๒ ก.พ.๖๐<br />
๙.๖ สนับสนุนทางการแพทย์ในกิจกรรม “สานสัมพันธ์<br />
จากใจ ทหารไทยกับประชาชน” ณ ชุมชนสามแพร่ง, หมู่บ้าน<br />
มิตรประชา, วัดมหรรณพารามวรวิหาร, พื้นที่ศรีสมาน และ<br />
หมู่บ้านมิตรประชา เมื่อ ๒๖ ก.ค.๖๐<br />
๙.๗. จัดกิจกรรม “สานสัมพันธ์จากใจ ทหารไทย<br />
กับประชาชน” ณ พื้นที่ศรีสมาน และหมู่บ้านมิตรประชา<br />
วัดมหรรณพารามวรวิหาร<br />
149
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
สำนักงานตรวจสอบภายในกลาโหม (สตน.กห.)<br />
ภารกิจ : มีหน้าที่ดำเนินการเกี่ยวกับการตรวจสอบภายในให้แก่<br />
ส่วนราชการในสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมและสำนักงานรัฐมนตรี<br />
ตามคำสั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้เป็นไปตามระเบียบแบบแผน<br />
ของทางราชการ ตรวจสอบการปฏิบัติราชการของส่วนราชการในสำนักงาน<br />
ปลัดกระทรวงกลาโหม พิจารณาความรับผิดชอบของข้าราชการในทางแพ่ง<br />
และปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย มีผู้อำนวยการสำนักงานตรวจสอบ<br />
ภายในกลาโหม เป็นผู้บังคับบัญชารับผิดชอบ<br />
พลตรี ภราดร จินดาลัทธ<br />
ผู้อำนวยการสำนักงานตรวจสอบภายในกลาโหม<br />
สรุปผลการปฏิบัติงานที ่สำคัญ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐<br />
๑. งานตามภารกิจหน่วย<br />
การตรวจสอบภายใน, การตรวจการปฏิบัติราชการ<br />
และอาคารที่พักอาศัย, การตรวจสอบภายในระดับกระทรวง<br />
และการพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง ดังนี้<br />
๑.๑ การตรวจสอบภายใน ตามแผนการตรวจสอบภายใน<br />
ประจำปีงบประมาณ ๖๐ ของ สตน.กห. ให้แก่ส่วนราชการ<br />
ใน <strong>สป</strong>. และ สร. ดังนี้<br />
๑.๑.๑ ตรวจสังเกตการณ์การตรวจนับพัสดุ<br />
ประจำปีและตรวจนับสินค้าคงเหลือปลายปี ประจำปี<br />
งบประมาณ ๕๙ จำนวน ๒๐ หน่วย ใน ต.ค.๕๙<br />
150
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
๑.๒.๑ ตรวจการปฏิบัติราชการ ด้านการรักษา<br />
ความปลอดภัยเกี่ยวกับบุคคล เอกสาร และสถานที่,<br />
งานสารบรรณ, การป้องกันและระงับอัคคีภัย, สายกำลังพล,<br />
ยานพาหนะ และการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย<br />
จำนวน ๒๔ หน่วย ได้แก่ สม., ศอว.ศอพท., พท.ศอพท.,<br />
ศพปน.พท.ศอพท., สน.ปล.กห., ธน., สงป.กห., สลก.<strong>สป</strong>.,<br />
สนผ.กห., สร., อท.ศอพท., รวท.อท.ศอพท., สสน.<strong>สป</strong>.,<br />
สยธ.สสน.<strong>สป</strong>., สนพ.สสน.<strong>สป</strong>., ศวพท.วท.กห., รภท.ศอพท.,<br />
ทสอ.กห., วท.กห., กง.กห., ศอพท., กกส.กห., สพร.กห.<br />
และ สตน.กห.<br />
๑.๑.๒ ตรวจสอบด้านการเงิน การบัญชี การพัสดุ<br />
และทรัพย์สิน การควบคุมงบประมาณเฉพาะการเบิกจ่ายเงิน<br />
การปฏิบัติตามกฎ ระเบียบ ข้อบังคับ การสอบทานการประเมิน<br />
ความเพียงพอของระบบการควบคุมภายใน เงินทุนหมุนเวียน<br />
และเงินอุดหนุน ในครั้งที่ ๑ ให้แก่หน่วยรับตรวจ จำนวน<br />
๒๐ หน่วย ได้แก่ สร., สน.ปล.กห., สลก.<strong>สป</strong>., สนผ.กห.,<br />
สม., สงป.กห., ธน., ศอพท., พท.ศอพท., อท.ศอพท.,<br />
รวท.อท.ศอพท., รภท.ศอพท., ศอว.ศอพท., กง.กห., กกส.กห.,<br />
วท.กห., ศวพท.วท.กห., ทสอ.กห., สสน.<strong>สป</strong>. และ สตน.กห.<br />
และครั้งที่๒ ตรวจหัวข้อเดียวกับครั้งที่๑ (ยกเว้นการสอบทาน<br />
การประเมินความเพียงพอของระบบการควบคุมภายใน)<br />
๑.๑.๓ ตรวจสอบการดำเนินงานที่มีผลการประเมิน<br />
ความเสี่ยงสูงสุด ๒ ลำดับแรก จากโครงการทั้งหมด จำนวน<br />
๓๕ โครงการ/งาน ที่นำมาจัดลำดับความเสี่ยงตามแนวปฏิบัติ<br />
การตรวจสอบภายใน เรื่อง การประเมินความเสี่ยงเพื่อวางแผน<br />
การตรวจสอบของกรมบัญชีกลาง ดังนี้<br />
๑.๑.๓.๑ โครงการจัดหาเครื่องจักรเพื่อ<br />
ทดแทนและการขยายกำลังการผลิตของ รภท.ศอพท.<br />
๑.๑.๓.๒ โครงการขยายขีดความสามารถ<br />
ในการผลิตดินส่งลูกระเบิดจากเครื่องยิงลูกระเบิด (ระยะที่ ๒)<br />
ของ รวท.อท.ศอพท.<br />
๑.๑.๔ ตรวจสอบสารสนเทศ ในเรื่องการควบคุม<br />
ทั่วไป และตามประกาศ <strong>สป</strong>. ลง ๑๖ ก.พ.๕๙ เรื่อง นโยบาย<br />
และแนวปฏิบัติการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านสารสนเทศ<br />
โดยกรรมการตรวจสอบสารสนเทศของ สตน.กห. และ<br />
ผู้เชี่ยวชาญจาก ทสอ.กห. เข้าร่วมในการตรวจสอบฯ<br />
๑.๒ การตรวจการปฏิบัติราชการและอาคารที่พักอาศัย<br />
ตามแผนการตรวจการปฏิบัติราชการ ประจำปีงบประมาณ ๖๐<br />
มีดังนี้<br />
การรักษาความปลอดภัย<br />
งานสารบรรณ<br />
การป้องกันและระงับอัคคีภัย<br />
151
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
สายกำลังพล ยานพาหนะ การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย<br />
๑.๒.๒ ตรวจอาคารที่พักอาศัย ด้านการปฏิบัติตาม<br />
ระเบียบว่าด้วยการพักอาศัยในอาคารที่พักอาศัยของทาง<br />
ราชการ, การรักษาความปลอดภัยประจำอาคาร, การป้องกัน<br />
และระงับอัคคีภัยประจำอาคาร และเรื่องอื่นๆ จำนวน<br />
๘ หน่วย ๑๗ พื้นที่ได้แก่ สม. (๖ พื้นที่), สนผ.กห., อท.ศอพท.,<br />
รภท.ศอพท., กง.กห., รวท.อท.ศอพท., ศพปน.พท.ศอพท.<br />
(๒ พื้นที่), และ ศอว.ศอพท. (๔ พื้นที่)<br />
๑.๓ การตรวจสอบภายในระดับกระทรวง ดำเนินการ<br />
ตรวจสอบให้กับ นขต.กห., บก.ทท. และเหล่าทัพ ตามแผน<br />
การตรวจสอบภายในระดับกระทรวง ประจำปีงบประมาณ ๖๐<br />
โดยการประเมินผลการดำเนินงานตามแผนงาน/งาน/<br />
โครงการที่มีความสำคัญ หรือเป็นงาน/โครงการที่มีความ<br />
เสี่ยงสูง หรือเชื่อมโยงกับหลายส่วนราชการ หรือที่ได้รับ<br />
มอบหมายจากปลัดกระทรวง และ/หรือคณะกรรมการ<br />
ตรวจสอบและประเมินผลประจำ กห. ในภาพรวมของ กห.<br />
(ระดับกระทรวง) จำนวน ๖ งาน/โครงการ ดังนี้<br />
๑.๓.๑ โครงการพัฒนาและปรับปรุง รร.ตท.<strong>สป</strong>ท.<br />
ระยะที่ ๓ ของ บก.ทท.<br />
๑.๓.๒ โครงการจัดตั้ง กรม ร.๒ พล.นย. ของ ทร.<br />
๑.๓.๓ งานปรับปรุงท่าเทียบเรือ หมายเลข ๑๒<br />
ทลท.กทส.ฐท.สส. ของ ทร.<br />
๑.๓.๔ โครงการขยายขีดความสามารถในการ<br />
ผลิตดินส่งลูกระเบิดยิงจากเครื่องยิงลูกระเบิด (ระยะที่ ๒)<br />
ของ <strong>สป</strong>. (รวท.อท.ศอพท.)<br />
๑.๓.๕ โครงการปรับปรุงขีดความสามารถ บ.ข.<br />
๑๙/ก (ระยะที่ ๓) ช่วงที่ ๓ ของ ทอ.<br />
๑.๓.๖ โครงการปรับปรุงกองบิน และ รร.การบิน<br />
ของ ทอ.<br />
๑.๔ การพิจารณาความรับผิดทางแพ่ง<br />
โดยพิจารณากลั่นกรองเรื่องที่เกี่ยวกับการรายงาน<br />
ทรัพย์สินหรือเงินราชการเสียหาย สูญหาย ขาดบัญชี หรือ<br />
เจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริต รวมทั้งรายงานผลการสอบสวน<br />
ข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด เพื่อให้เป็นไปตามระเบียบ<br />
สำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับ<br />
ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่พ.ศ.๒๕๓๙ และข้อบังคับ<br />
กห. ว่าด้วยการปฏิบัติเมื่อเกิดความเสียหายแก่เงินราชการ<br />
หรือทรัพย์สินของทางราชการ อันเนื่องมาจากการกระทำ<br />
ละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.๒๕๔๒ (ขกล. ๔๒) นำเรียน<br />
152
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
รมว.กห. เพื่อกรุณาทราบ และแจ้งกระทรวงการคลังทราบ,<br />
การพิจารณานำเรียน รมว.กห. เพื่อพิจารณาอนุมัติการ<br />
ผ่อนชำระ และอนุมัติผู้ค้ำประกันการผ่อนชำระกรณีผิดสัญญา<br />
ลาศึกษา เพื่อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลัง<br />
กำหนด และการพิจารณาโต้ตอบหนังสือระหว่างกระทรวง<br />
หน่วย<br />
หน่วย<br />
เงิน/<br />
ทรัพย์สิน<br />
ราชการ<br />
เสียหาย<br />
สูญเสีย<br />
ทุจริต<br />
ยักยอก<br />
เงิน/<br />
ทรัพย์สิน<br />
ราชการ<br />
จำนวน/<br />
โครงการ<br />
ทุจริต<br />
จัดซื้อ<br />
จัดจ้าง<br />
ประเภทรายงาน (เรื่อง)<br />
ทุจริต<br />
ไม่ปฏิบัติ<br />
ยักยอก<br />
ตาม<br />
น้ำมัน<br />
กฎหมาย ลาศึกษา<br />
เชื้อเพลิง<br />
หรือ<br />
ระเบียบ<br />
การคลัง กรมบัญชีกลาง สำนักนายกรัฐมนตรี และสำนักงาน<br />
การตรวจเงินแผ่นดิน กับส่วนราชการในสังกัด กห. โดย<br />
สตน.กห. ได้รายงานทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย สูญหาย<br />
เงินขาดบัญชี หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริต จำนวน ๑๒๘ เรื่อง<br />
รวมมูลค่าความเสียหาย ๘๗๘,๗๔๘,๖๘๖ บาท ดังนี้<br />
เบิกค่า<br />
รักษา<br />
พยาบาล<br />
เท็จ<br />
การสอบทาน<br />
ณ ที่ตั้งงาน/โครงการ เชิญหน่วยมาชี้แจง<br />
เบิกค่า<br />
เช่าบ้าน<br />
เท็จ<br />
ณ ที่ตั้งงาน/โครงการ<br />
และเชิญหน่วยมาชี้แจง<br />
<strong>สป</strong>. ๓ - ๓ -<br />
บก.ทท. ๓ ๒ ๑ -<br />
ทบ. ๔ ๒ ๒ -<br />
ทร. ๓ ๒ - ๑<br />
ทอ. ๔ ๑ ๑ ๒<br />
รวม ๑๗ ๗ ๗ ๓<br />
รวมมูล<br />
ค่าความเสียหาย<br />
(บาท)<br />
บก.ทท. ๑๐ ๓ - - ๒ ๑ - - ๑๖ ๑๑,๖๕๒,๗๘๐<br />
ทบ. ๕๙ ๑๑ - ๒ - - ๑ - ๗๓ ๖๕๖,๙๘๐,๗๖๓<br />
ทร. ๑๒ - - - - - - - ๑๒ ๑๐,๔๐๔,๘๒๗<br />
ทอ. ๑๒ ๔ ๑ - ๕ ๑ ๑ - ๒๔ ๑๙๙,๓๙๖,๙๑๗<br />
<strong>สป</strong>. ๑ - - - ๑ ๑ - - ๓ ๓๑๓,๔๐๐<br />
รวม ๙๔ ๑๘ ๑ ๒ ๘ ๓ ๒ - ๑๒๘ ๘๗๘,๗๔๘,๖๘๖<br />
๒. งานสำคัญอื่นๆ<br />
๒.๑ สนับสนุนการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ<br />
ตรวจสอบและประเมินผลประจำ กห. (ค.ต.ป.ประจำ กห.) ซึ่งมี<br />
พล.ร.อ.ประเสริฐ บุญทรง ร.น. เป็นประธานกรรมการ และ<br />
ผอ.สตน.กห. เป็นกรรมการและเลขานุการ โดยจัดการประชุม<br />
เดือนละ ๑ ครั้ง และทำหน้าที่สอบทานและติดตาม ตรวจสอบ<br />
ประเมินผลโครงการ แนวทางการตรวจสอบและประเมินผล<br />
ชื่อแผนงาน<br />
การสอบทาน<br />
ณ ที่ตั้งงาน/โครงการ เชิญหน่วยมาชี้แจง<br />
แผนงานบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้<br />
(บก.ทท., ทบ., ทร., ทอ.)<br />
- ๑<br />
แผนงานบูรณาการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ๔ ๑<br />
รวม ๔ ๒<br />
รวม<br />
ภาคราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๐ ดังนี้<br />
๒.๑.๑ ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลโครงการ/<br />
งานของ นขต.กห., บก.ทท. และเหล่าทัพ จำนวนทั้งสิ้น ๑๗ งาน/<br />
โครงการ ซึ่งได้เชิญหน่วยที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง จำนวน ๗ งาน/<br />
โครงการ, เข้าทำการสอบทาน ณ ที่ตั้งโครงการ จำนวน ๗ งาน/<br />
โครงการ และได้เชิญหน่วยที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงและเข้าทำการ<br />
สอบทาน ณ ที่ตั้งโครงการ จำนวน ๓ งาน/โครงการ<br />
๒.๑.๒ ติดตาม ตรวจสอบการดำเนินงานภายใต้แผนงานบูรณาการ และแผนงานสำคัญตามที่ ค.ต.ป. ประจำ กห.<br />
กำหนด จำนวน ๒ แผนงาน<br />
153
ผลการดำเนินงานของสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
๒.๒ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม./ปฏิบัติ<br />
ราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้แต่งตั้ง พล.ต.ภราดร<br />
จินดาลัทธ ผอ.สตน.กห. เป็นผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการ<br />
สอบสวนข้อเท็จจริง กรณีการดำเนินงานโครงการของ<br />
ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.)<br />
๒.๓ จัดเจ้าหน้าที่ชุดตรวจ ตรวจสอบความถูกต้องและ<br />
ให้คำแนะนำกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการ<br />
ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ส่วนหน้า<br />
(สำนักงาน คปต.ส่วนหน้า) ตามที่รมว.กห. (ปล.กห. รับคำสั่งฯ)<br />
ได้กรุณาอนุมัติเมื่อ ๓ พ.ค.๖๐ ณ ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย<br />
อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ระหว่าง ๒๙ พ.ค. - ๒ มิ.ย.๖๐ เพื่อให้<br />
พร้อมรับการตรวจสอบจากหน่วยงานภายนอก ในประเด็น<br />
ของแผนการใช้จ่ายงบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้าง การเงิน<br />
การบัญชี และการเบิกจ่ายงบประมาณ รวมทั้งการสอบทาน<br />
ระบบการควบคุมภายในของหน่วยให้เกิดความถูกต้อง<br />
เป็นไปตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ<br />
๒.๔ การตรวจประเมินกิจกรรม ๕ส ให้นขต.<strong>สป</strong>. ในฐานะ<br />
คณะอนุกรรมการตรวจสอบและประเมินผลกิจกรรม ๕ส<br />
ระหว่าง ๒๘ ก.พ. - ๒๒ มี.ค.๖๐ โดย ปล.กห. ได้กรุณา<br />
แต่งตั้งคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการอำนวยการ<br />
ดำเนินกิจกรรมตามโครงการ ๕ส ของ <strong>สป</strong>. จำนวน ๔ คณะ<br />
ตามคำสั่ง <strong>สป</strong>. ที่ ๔๔/๒๕๔๔ ลง ๑๔ มิ.ย.๕๔ ดังนี้<br />
๒.๔.๑ คณะกรรมการอำนวยการดำเนินการ<br />
กิจกรรมตามโครงการ ๕ส ของ <strong>สป</strong>. โดยมี รอง ปล.กห.<br />
สายงานด้านกำลังพล เป็นประธาน<br />
๒.๔.๒ คณะอนุกรรมการส่งเสริมกิจกรรม ๕ส<br />
โดยมี รอง จก.สม. เป็นประธาน<br />
๒.๔.๓ คณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์กิจกรรม<br />
๕ส โดยมี ลก.<strong>สป</strong>. เป็นประธาน<br />
๒.๔.๔ คณะอนุกรรมการตรวจสอบและประเมินผล<br />
กิจกรรม ๕ส โดยมี ผอ.สตน.กห. เป็นประธาน และ ผอ.กตร.<br />
สตน.กห. เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ<br />
๒.๕ การรายงานความคืบหน้าการดำเนินคดี กรณีการ<br />
จัดซื้อเครื่องตรวจจับสารเสพติด อาวุธ วัตถุระเบิด (GT 200)<br />
ซึ่ง รมว.กห. ได้กรุณาอนุมัติให้สตน.กห. เป็นหน่วยรับผิดชอบ<br />
ในภาพรวมของ กห. ในการประสานกับส่วนราชการทั้งใน<br />
และนอก กห. ที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความคืบหน้าของ<br />
การดำเนินการทางคดีดังกล่าว และสรุปรายงานความคืบหน้า<br />
นำเรียน รมว.กห. ทราบตามห้วงระยะเวลาที่เหมาะสม โดย<br />
กำหนดห้วงเวลาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรายงานความคืบหน้า<br />
การดำเนินคดีฯ ทุกวงรอบ ๖ เดือน (ก.พ. และ ส.ค.) ซึ่ง สตน.กห.<br />
ได้สรุปรายงานความคืบหน้าการดำเนินคดีฯ ครั้งแรก นำเรียน<br />
รมว.กห. เมื่อ ๒๑ ต.ค.๕๙<br />
๒.๖ การบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับการดำเนินงาน<br />
และแนวทางการตรวจสอบตามคู่มือการจัดซื้อจัดจ้างของ <strong>สป</strong>.<br />
เมื่อ ๔ พ.ย.๕๙ ณ ห้องอเนกประสงค์ สตน.กห. ชั้น ๕ อาคาร<br />
<strong>สป</strong>. (ศรีสมาน)<br />
๒.๗ การจัดอบรมให้ความรู้แก่กำลังพล เรื่อง การ<br />
พัฒนาระบบสารสนเทศของ สตน.กห. เมื่อ ๑๗ พ.ค.๖๐<br />
ณ ห้องอเนกประสงค์ สตน.กห. ชั้น ๕ อาคาร <strong>สป</strong>. (ศรีสมาน)<br />
๒.๘ การฝึกอบรมระบบงานความรับผิดทางละเมิด<br />
และแพ่ง ระหว่าง ๕ - ๖ ก.ย.๖๐ ณ ห้องอบรมคอมพิวเตอร์<br />
ทสอ.กห. ชั้น ๖ อาคาร <strong>สป</strong>. (ศรีสมาน) โดยเชิญเจ้าหน้าที่<br />
จากกรมบัญชีกลางมาเป็นวิทยากรในการฝึกอบรมขั้นตอน<br />
การทำงานของระบบงานความรับผิดทางละเมิดและแพ่งให้<br />
กับข้าราชการของ นขต.<strong>สป</strong>. จำนวนทั้งสิ้น ๖๔ นาย โดยแบ่ง<br />
การฝึกอบรมออกเป็น ๒ รุ่น รุ่นละ ๑ วัน เพื่อให้ข้าราชการ<br />
ของ นขต.<strong>สป</strong>. ที่ปฏิบัติหน้าที่ในเรื่องดังกล่าว มีความรู้ความ<br />
เข้าใจขั้นตอน วิธีการใช้งาน ระบบงาน ความรับผิดทางละเมิด<br />
และแพ่ง และเพิ่มขีดความสามารถในการปฏิบัติงานให้มี<br />
ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น<br />
154<br />
๒.๙ การอบรมเพื่อพัฒนาขีดความสามารถในการ<br />
ปฏิบัติงานของบุคลากรด้านการตรวจสอบภายใน ระหว่าง<br />
๑๔ - ๑๕, ๑๘ - ๒๐ ก.ย.๖๐ ณ ห้องอเนกประสงค์
Office of the Permanent Secretary for Defence<br />
สตน.กห. ชั้น ๕ อาคาร <strong>สป</strong>. (ศรีสมาน) โดยให้ข้าราชการ<br />
ที่มีความรู้และประสบการณ์ด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ<br />
การตรวจสอบมาเป็นผู้บรรยาย<br />
๒.๑๐ กิจกรรมการสัมมนาการตรวจสอบภายในสัมพันธ์<br />
กห. ประจำปีงบประมาณ ๖๐ ระหว่าง ๒๘ - ๒๙ พ.ย.๕๙<br />
ณ โรงแรมชัยนาทธานี อ.เมือง จ.ชัยนาท โดยเชิญผู้ตรวจสอบ<br />
ภายในสังกัด กห. (ฝตส.รอ., สตน.ทหาร., สตน.ทบ., สตน.ทร.,<br />
สตน.ทอ. และ สตน.กห.) เข้าร่วมการสัมมนา เพื่อให้การ<br />
ประสานงานเกิดความแน่นแฟ้น และมีการแลกเปลี่ยน<br />
เรียนรู้ประสบการณ์ในการตรวจสอบภายในอย่างต่อเนื่อง<br />
รวมทั้งร่วมกันหาแนวทางการแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องจาก<br />
การตรวจสอบที่ผ่านมาอย่างบูรณาการ และยั่งยืน ก่อให้เกิด<br />
การพัฒนาปรับปรุงการปฏิบัติงานของหน่วยงานตรวจสอบ<br />
ภายในของ กห. ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และการปฏิบัติงาน<br />
เป็นไปในแนวทางและมาตรฐานเดียวกัน<br />
๒.๑๑ การจัดการเรียนการสอนภายในหน่วย (Unit<br />
School) ของ สตน.กห. ณ ห้องอเนกประสงค์ชั้น ๕ อาคาร <strong>สป</strong>.<br />
(ศรีสมาน) เป็นประจำทุกวันพุธ โดย หน.นขต.สตน.กห.<br />
(ระดับกอง) จะเป็นผู้พิจารณาคัดเลือกกำลังพล หรือ นตส.<br />
ประจำส่วนราชการใน <strong>สป</strong>. ที่มีความรู้ความสามารถในการ<br />
ตรวจด้านต่างๆ หรือกำลังพลที่ผ่านการอบรมหลักสูตร<br />
ต่างๆ จากภายนอก มาเป็นผู้บรรยาย เพื่อพัฒนาความรู้<br />
ความสามารถ และทักษะของกำลังพลให้ได้รับการศึกษา<br />
อบรม และเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง<br />
๒.๑๒ ส่งข้าราชการเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรต่างๆ<br />
ภายในประเทศที่เกี่ยวข้องกับงานด้านการตรวจสอบของ<br />
กรมบัญชีกลาง, สภาวิชาชีพบัญชี ในพระบรมราชูปถัมภ์,<br />
สมาคมผู้ตรวจสอบภายในแห่งประเทศไทย, โครงการอบรม<br />
หลักสูตรประกาศนียบัตรผู้ตรวจสอบภายในภาครัฐ (CGIA)<br />
ของกรมบัญชีกลาง และหลักสูตรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง<br />
๒.๑๓ ส่งข้าราชการเข้าศึกษาอบรมหลักสูตรต่างๆ<br />
ในต่างประเทศ เช่น หลักสูตรภาษาจีนของมหาวิทยาลัยหัวเฉียว<br />
เมืองเซียะเหมิน สาธารณรัฐประชาชนจีน และหลักสูตร<br />
ภาษาอังกฤษระยะสั้น ณ เมืองเมลเบิร์น เครือรัฐออสเตรเลีย<br />
๒.๑๔ ผอ.สตน.กห. นำคณะ รอง ผอ.สตน.กห. และ<br />
หน.นขต.สตน.กห. (ระดับกอง) เข้าพบ พล.อ.บุณยวัจน์<br />
เครือหงส์ กรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอทราบแนวทางการตรวจ<br />
และข้อเสนอแนะของสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อให้การปฏิบัติงาน<br />
มีความสอดคล้องและเป็นไปในแนวทางเดียวกันกับแนวทาง<br />
การปฏิบัติงานของสำนักงาน ป.ป.ช. เมื่อ ๓๑ ต.ค.๕๙<br />
ณ สำนักงาน ป.ป.ช. จ.นนทบุรี<br />
๒.๑๕ ได้จัดทำคู่มือนายทหารตรวจสอบภายในประจำ<br />
ส่วนราชการใน <strong>สป</strong>. พ.ศ.๒๕๖๐ เพื่อให้การปฏิบัติงานของ<br />
นายทหารตรวจสอบภายในประจำส่วนราชการใน <strong>สป</strong>. มีความ<br />
ถูกต้อง ครบถ้วน เป็นไปตามกฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง และมี<br />
แนวทางในการปฏิบัติงานที่ชัดเจนเป็นมาตรฐานเดียวกัน<br />
ซึ่งจะทำให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพเพิ ่มมากขึ้นและ<br />
เป็นที่ยอมรับของหน่วยรับตรวจ ซึ่ง ปล.กห. ได้กรุณาอนุมัติ<br />
ให้ใช้คู่มือดังกล่าวแล้ว เมื่อ ๔ พ.ค.๖๐<br />
155
พิมพ์ที่ หจก. อรุณการพิมพ์<br />
โทร. ๐-๒๒๘๒-๖๐๓๓-๔ โทรสาร ๐-๒๒๘๐-๒๑๘๗-๘
สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม<br />
ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ ๑๐๒๐๐<br />
http://opsd.mod.go.th