Create successful ePaper yourself
Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.
<strong>สามหอไตร</strong> <strong>เล่มที่</strong>ี่๑ <strong>เล่มที่</strong>ี่๓<br />
หอไตรวัดระฆังโฆสิตาราม<br />
<strong>หอไตรวัดอัปสรสวรรค์</strong><br />
การสานต่องานอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไทย<br />
ปฐมบทอาษา อาสา สถาปัตยกรรมไทย
<strong>สามหอไตร</strong> <strong>เล่มที่</strong>ี่๓<br />
<strong>หอไตรวัดอัปสรสวรรค์</strong><br />
การสานต่องานอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไทย<br />
สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์
สารจากนายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์<br />
ภารกิิจทางด้้านกิารอนุรักิษ์์มรด้กิสถาปััตยกิรรมถือเป็็นอีกิบทบาท<br />
หน่งทีสำคััญของสมาคัมสถาปน ิกิสยาม ในพระบรมราชููปถััมภ์ ทีมีกิาร<br />
ด้ำเนินกิารมาอย่างต่อเนืองจนถ่งปััจจุบัน โด้ยถูกิกิำหนด้ให้เป็็นพันธกิิจใน<br />
ด้้านงานอนุรักิษ์์ศิิลปัสถาปััตยกิรรมเพือมุ่งส่งเสริมกิารอนุรักิษ์์งาน<br />
สถาปััตยกิรรมอันทรงคุุณค่่าและมีคัวามสำคััญทางปัระวัติศิาสตร์<br />
สถาปััตยกิรรมในปัระเทศิไทย โด้ยเฉพาะอย่างยิงงานสถาปััตยกิรรมไทย<br />
ปัระเพณี อันเป็็นกิารสืบทอด้เจตนารมณ์ทางด้้านกิารอนุรักิษ์์ของสมาคัม<br />
สถาปน ิกิสยามฯ ทีมีมาตังแต่ก่่อตังสมาคัม<br />
สมาคัมสถาปน ิกิสยาม ในพระบรมราชููปถััมภ์ ได้้มีกิารแต่งตังคัณะ<br />
กิรรมาธิกิารซึ่่งปัระกิอบด้้วยบุคัลากิร ทังข้าราชูกิารและเอกิชูนทีมีคัวามรู้<br />
คัวามเชูียวชูาญด้้านกิารอนุรักิษ์์งานศิิลปักิรรมและสถาปััตยกิรรม เรียกว่่า<br />
กิรรมาธิกิารอนุรักิษ์์ศิิลปัสถาปััตยกิรรม ทำหน้าทีปัระสานคัวามร่วมมือ<br />
กัับองค์์กิรเคร ือข่ายกิารอนุรักิษ์์สถาปััตยกิรรม ในด้้านงานอนุรักิษ์์ศิิลปั<br />
สถาปััตยกิรรม ทังทีเป็็นงานสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณี สถาปััตยกิรรม<br />
พืนถิน และสถาปััตยกิรรมแบบสากิล อีกิทังยังส่งเสริมกิิจกิรรมในกิารบริหาร<br />
จัด้กิารข้อมูลมรด้กิสถาปััตยกิรรมและกิารอนุรักิษ์์ ทังในเรืองรางวัลอนุรักิษ์์<br />
ศิิลปัะสถาปััตยกิรรมดีีเด่่นทีริเริมมาตังแต่ พ.ศิ. ๒๕๒๕ มาจนถ่งเรืองราว<br />
ต่างๆ ตามกิระแสแนวคัวามคิิด้ของกิารอนุรักิษ์์ทีมีกิารเปัลียนแปัลงไปัตาม<br />
ยุคัสมัย ไม่ว่าจะเป็็นทางด้้านสถาปััตยกิรรมพืนถิน ด้้านกิารอนุรักิษ์์ชุุมชูน<br />
หรือสถาปััตยกิรรมแบบโมเดิิร์น ทีมีกิารจัดพ ิมพ์เอกิสารวิชูากิารเผยแพร่<br />
มาเป็็นระยะๆ<br />
เพือด้ำเนินกิารในส่วนทีเกิียวข้องกัับงานสถาปััตยกิรรมไทย<br />
ได้้มีกิารแต่งตั งคัณะกิรรมาธิกิารอนุรักิษ์์ด้้านสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณีข่น<br />
เป็็นกิารเฉพาะ จากิกิารด้ำเนินกิารทีผ่านมาโด้ยทัวไปัทีได้้เน้นทีกิารเผยแพร่<br />
ให้สาธารณะมีคัวามเข้าใจในคัวามสำคััญของศิิลปัสถาปััตยกิรรม เพือให้เกิิด้<br />
คัวามรักิ หวงแหน และช่่วยกัันรักิษ์าให้คังอยู่ต่อไปั มาสู่่การด้ำเนินกิาร<br />
อนุรักิษ์์สถาปััตยกิรรมไทยอย่างเป็็นรูปัธรรม หลังจากิทีสมาคัมสถาปนิิกิสยามฯ<br />
ได้้เคัยริเริมด้ำเนินกิารไว้ตังแต่ช่่วงเริมก่่อตังสมาคัมฯ ในโครงการ<br />
บูรณปฏิิสังขรณ์หอพระไตรปิฎก วััดระฆัังโฆสิิตารามวัรมหาวิิหาร<br />
ด้้วยกิารทำงานแบบอาสาสมัคัรในโครงการอนุรักษ์์หอพระไตรปิฎก<br />
วััดเทพธิิดารามวัรวิิหาร ต่อด้้วยงานล่าสุด้ที โครงการอนุรักษ์์หอพระไตรปิฎก<br />
วััดอัปสรสวัรรค์วัรวิิหาร<br />
ผลสำเร็จจากิกิารด้ำเนินกิารโคัรงกิารอนุรักิษ์์งานสถาปััตยกิรรมไทย<br />
ปัระเพณี ซึ่่งบังเอิญเป็็นหอพระไตรปิิฎกิทัง ๓ หลัง ตังแต่อดีีตมาจนถ่ง<br />
ในปััจจุบันนี ได้้นำไปัสู่กิารจัด้ทำหนังสือชุด “<strong>สามหอไตร</strong>” ชุุด้นีข่น<br />
เพือบอกิเล่าเรืองราว บทบาทของสมาคัมสถาปนิิกิสยามฯ ในด้้านกิารอนุรักิษ์์<br />
สถาปััตยกิรรม ตลอด้จนทีมาและกิระบวนกิารของกิารอนุรักิษ์์หอพระไตรปิิฎกิ<br />
และคัวามภาคภ ูมิใจในกิารเป็็นส่วนหน่งในกิารร่วมด้ำรงไว้ซึ่่งเอกล ักิษ์ณ์<br />
ทางสถาปััตยกิรรมของชูาติไทย<br />
นายชนะ สัมพลััง<br />
นายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชููปถัมภ์์<br />
2<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
สารจากอุปนายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมป์<br />
ประธิานกรรมาธิิการอนุรักษ์์ศิิลัปสถาปัตยกรรม ด้านสถาปัตยกรรมไทยประเพณี<br />
จากจุุด้เริมต้น ... “โคัรงกิารบูรณปัฏิิสังขรณ์หอพระไตรปิิฎกวััด้ระฆััง<br />
โฆสิิตารามวรมหาวิหาร” ซึ่่งถือเป็็นก้้าวแรกิของกิารด้ำเนินกิารด้้านกิารอนุรักิษ์์<br />
มรด้กิทางสถาปััตยกิรรมของสมาคัมสถาปน ิกิสยาม ในพระบรมราชููปถััมภ์<br />
ทีพิจารณาเห็นว่าได้้มีกิารรือถอนโบราณสถาน โด้ยเฉพาะอย่างยิงใน<br />
วัด้วาอารามกัันมากิข่ นจนเหลือกิำลังทีทางราชูกิารจะดููแลรักิษ์าให้ทัวถ่งได้้<br />
แต่เพียงฝ่่ายเดีียว กิลายเป็็นทีมาของคัณะกิรรมาธิกิารอนุรักิษ์์ศิิลปวััฒนธรรม<br />
ของสมาคัมสถาปน ิกิสยามฯ ในวันนี สมาคัมสถาปนิิกิสยามฯ ก็็ได้้มีกิาร<br />
ด้ำเนินกิารในรูปัแบบต่างๆ ทังกิารรณรงค์์ นำเสนอคัวามคิิด้เห็น ปัระชูาสัมพันธ์<br />
และให้รางวัลอนุรักิษ์์ศิิลปัสถาปััตยกิรรมดีีเด่่นเพือเป็็นกิารให้กิำลังใจ<br />
ในทุกิกิระบวนกิารของกิารอนุรักิษ์์มรด้กิทางสถาปััตยกิรรมเรือยมา<br />
สีสิบปีีผ่านไปั... จ่งได้้เกิิด้โคัรงกิารอนุรักิษ์์สถาปััตยกิรรมอย่างเป็็น<br />
รูปัธรรมข่นอีกครั ้ง โด้ยมุ่งให้เป็็นกิารนำเสนอบทบาทของวิชูาชีีพสถาปน ิกิ<br />
ต่อสังคัม ตามแนวคิิด้ทีว่า “สถาปนิกไทย มีหน้าทีอนุรักษ์์แลัะสืบสาน<br />
สถาปัตยกรรมไทย” ได้้มีกิารแต่งตัง “คัณะกิรรมาธิกิารอนุรักิษ์์ศิิลปั<br />
สถาปััตยกิรรม ด้้านสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณี” ข่นเป็็นพิเศิษ์ให้ทีมีหน้าที<br />
ดููแลงานสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณีโด้ยตรง และมีเป้้าหมายให้สมาชิิกิ<br />
ของสมาคัมฯ และสาธารณชูนมีส่วนร่วมในด้้านต่างๆ ของกิารอนุรักิษ์์<br />
สถาปััตยกิรรมไทยให้มากิทีสุด้ เกิิด้เป็็นโครงการ “อาษ์า อาสา สถาปัตยกรรมไทย”<br />
และนำมีกิารทำงานร่วมกัันใน “โคัรงกิารอนุรักิษ์์หอพระไตรปิิฎกว ัด้เทพธิด้า<br />
รามวรวิหาร” เป็็นโคัรงกิารแรกิ เพือทำกิารบูรณะให้ถูกต้้องคัรบถ้วนตาม<br />
ขันตอนของกิารอนุรักิษ์์ ให้เป็็นตัวอย่างของอาคัารทีมีกิารอนุรักิษ์์อย่างถูกต้้อง<br />
และมุ่งหวังให้ผู้้ประกิอบวิชูาชีีพสถาปนิิกิได้้มีส่วนร่วมในกิารบำเพ็ญ<br />
ปัระโยชน ์ในคัรังนี ผ่านกิระบวนกิารกิารเรียนรู้วิธีกิารในกิารทำแบบอนุรักิษ์์<br />
และกิารคุุมงานอนุรักิษ์์ จากิกิารลงมือปัฏิิบัติจริง ด้้วยเหตุผลทีโคัรงกิารนี<br />
มีกิารแสด้งออกิอย่างเด่่นชััด้ของกิารสนับสนุนของสาธารณชูนจากท ุกิ<br />
ภาคส ่วนของสังคัมไทย ฝ่่ายสงฆ์์ และชุุมชูนโด้ยรอบวัด้ เป็็นแบบอย่างของ<br />
กิารใช้้เทคนิิคัชู่างและวัสดุุตามปัระเพณีด้ังเดิิม สมกัับคุุณค่่าคัวามสำคััญของ<br />
คัวามเป็็นพระอารามหลวง ในกิระบวนกิารกิารอนุรักิษ์์ยังได้้มีกิารค้้นคว้้า<br />
ศิ่กิษ์าวิจัย และมีกิารเรียนรู้อย่างต่อเนืองตลอด้โคัรงกิารทำให้ทำให้ได้้รับ<br />
รางวัล UNESCO Asia-Pacific Heritage Award ใน พ.ศิ. ๒๕๕๔<br />
ล่าสุด้ ... หลังจากิคัวามสำเร็จทีได้้รับ สมาคัมสถาปน ิกิสยามฯ ได้้<br />
เดิินหน้าโคัรงกิารต่อไปัทีวัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหาร ในกิารจัด้ตังโคัรงกิาร<br />
อนุรักิษ์์งานสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณีอย่างต่อเนืองซึ่่งก็็บังเอิญว่าเป็็น<br />
อาคัารหอพระไตรปิิฎกอ ีกครั ้ง โด้ยคัรังนีเป็็นอาคัารไม้ทังหลังทีตังอยู่่กลาง<br />
สระนำ นอกิจากิคัวามงามทางสถาปััตยกิรรมทีจะได้้บันทึึกและนำไปสู่่<br />
กิารบูรณะ กิารศิ่กิษ์าเทคน ิคัเชิิงช่่างและวัสดุุทีแตกต่่างไปัจากิโคัรงกิารแรกิ<br />
ก็็เป็็นสิงทีได้้นำมาใช้้ในกิารพิจารณาเลือกิสถานทีในกิารทำโคัรงกิารนี นับจากิ<br />
จุด้เริมต้นก็็รวมได้้<strong>สามหอไตร</strong> อาคัารสามหลังทีสร้างข่นในพุทธสถานเพือใช้้<br />
เก็็บรักิษ์าพระไตรปิิฎกิสิงสำคััญทางพระพุทธศิาสนา และเป็็นตัวแทนของ<br />
ผลงานสถาปััตยกิรรมไทยทีทรงคุุณค่่า<br />
กิารรวบรวมข้อมูลจัด้ทำเป็็น หนังสือชุด “<strong>สามหอไตร</strong>” จ่งถือเป็็น<br />
บทสรุปัของโคัรงกิารอนุรักิษ์์หอพระไตรปิิฎกิทังสามหลัง และเป็็นตัวแทน<br />
ถ่ายทอด้เรืองราวของกิารด้ำเนินกิารอนุรักิษ์์ของสมาคัมสถาปนิิกิสยาม<br />
ในพระบรมราชููปถ ัมภ์ นับตังแต่ปัฐมบททีวัด้ระฆัังโฆส ิตาราม มาถ่งกิาร<br />
ฟื้้นฟืู้ข่นอีกครั ้งทีวัด้เทพธิด้าราม และกิารสานต่อมายังวัดอััปัสรสวรรค์์<br />
เป็็นกิารบอกิเล่ากิระบวนกิารอนุรักิษ์์ และรวบรวมวิธีกิารด้ำเนินกิารอนุรักิษ์์<br />
หอพระไตรปิิฎกิ ซึ่่งมีลักิษ์ณะแตกต่่างกัันทังสามหลังเพือให้ได้้เห็นถ่งคัวาม<br />
หลากิหลายของรูปัแบบสถาปััตยกิรรมไทยและในกิารอนุรักิษ์์โบราณสถาน<br />
หวังเป็็นอย่างยิงว่าจะได้้ช่่วยให้เป็็นกิารจุด้ปัระกิายนำไปัปัระยุกต์์ใช้้ เพือ<br />
สานต่อแนวคิิด้ในกิารอนุรักิษ์์งานสถาปััตยกิรรมไทยทีมีคุุณค่่าให้คังสืบต่อไปั<br />
ดร.วส ุ โปษ์ยะนันทน์<br />
อุุปนายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชููปถัมภ์์<br />
พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๖๓<br />
ประธานกรรมาธิการอน ุรักษ์์ศิลปสถาปัตยกรรม<br />
ด้้านสถาปัตยกรรมไทยประเพณีี พ.ศ. ๒๕๕๑-๒๕๕๗<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย<br />
3
คำนำ<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์ การสานต่องานอนุรักษ์์สถาปัตยกรรมไทย<br />
วัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหาร เป็็นอารามหลวงชูั นตรี ชน ิด้วรวิหาร<br />
เป็็นวัด้เก่่าแก่่ตังอยู่บริเวณเส้นทางสัญจรทางนำสำคััญมาตั งแต่สมัยอยุธยา<br />
แต่ไม่ปัรากิฏิว่าสร้างมาตังแต่เมือใด้ มีชูือเดิิมว่า “วัด้หมู” มาจนในรัชูสมัย<br />
รัชูกิาลที ๓ เจ้าจอมน้อยในพระบาทสมเด็็จพระนังเกล้้าเจ้าอยู่หัว ใคร่่ทีจะ<br />
ปัฏิิสังขรณ์วัด้นีเพืออุทิศส่่วนกุุศิลแด่่เจ้าพระยาพลเทพ (ฉิม) ผู้เป็็นบิด้า<br />
จ่งกิราบบังคัมทูลพระกร ุณาต่อพระบาทสมเด็็จพระนั งเกล ้าเจ้าอยู่หัว<br />
พระองค์์จ่งทรงพระกรุุณาโปัรด้เกล้้าฯ พระราชูทานพระราชูทรัพย์ส่วนพระองค์์<br />
เพือสถาปันาใหม่ทังวัด้และพระราชูทานนามวัดว่่า “วัดอ ัปัสรสวรรค์์” ใน<br />
บริเวณวัดจึึงมีปููชนีียสถานสำคััญทีสร้างข่นในรูปัแบบตามพระราชนิิยมใน<br />
รัชูกิาลที ๓ ได้้แก่่ พระปัรางค์์ พระอุโบสถ และพระวิหาร แต่สถาปััตยกิรรม<br />
ทีมีคัวามโด้ด้เด่่นทีสุด้ของวัด้กิลับเป็็นอาคัารหอพระไตรปิิฎกิ ซึ่่งเป็็นอาคัาร<br />
ทรงไทยสร้างด้้วยไม้ทังหลัง ตังอยู่่กลางสระนำ ตามรูปัแบบทีสืบเนืองมาแต่<br />
คัรังกร ุงศร ีอยุธยาต่างจากิอาคัารหลังอืนๆ ในวัด้ อีกิทังยังมีสัดส่่วนทาง<br />
สถาปััตยกิรรมทีงด้งามเป็็นเลิศิ พร้อมด้้วยเอกลัักิษ์ณ์กิารตกิแต่งผนัง<br />
ภายนอกิด้้วยโมเสกิกิระจกส ีและงานปัระณีตศิิลป์์โลหะทีหาดููได้้ยากิ ถือเป็็น<br />
งานสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณีชูันคร ูทีมีคุุณค่่าในระดัับสูงทีต้องกิาร<br />
กิารอนุรักิษ์์โด้ยเร่งด่่วนเมือคัณะทำงานของโคัรงกิารเข้าไปัสำรวจ<br />
หลังจากิคัวามสำเร็จทีได้้รับจากิโคัรงกิารอนุรักิษ์์หอพระไตรปิิฎกิ<br />
วัด้เทพธิด้ารามวรวิหาร ทีได้้รับรางวัลแห่งคัวามภาคภ ูมิใจจากย ูเนสโกิใน<br />
ระดัับเอเชีียแปัซึ่ิฟื้ิกิ สมาคัมสถาปนิิกิสยามฯ ได้้เดิินหน้าโคัรงกิาร อาษ์า อาสา<br />
สถาปััตยกิรรมไทย ต่อไปัทีวัดอััปัสรสวรรค์์วรวิหารในทันที จัด้ตังโคัรงกิาร<br />
อนุรักิษ์์หอพระไตรปิิฎกว ัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหารข่น เพือทำนุบำรุงงาน<br />
สถาปััตยกิรรมไทยทีมีคุุณค่่ามิให้เสือมสลายไปัตามกิาลเวลา เป็็นโอกิาส<br />
อย่างดีีทีจะได้้ศิ่กิษ์าอาคัารไม้ และกิารปัระดัับกิระจกิบนผนังไม้ ทีมี<br />
รายละเอียด้ของกิารด้ำเนินกิารแตกต ่างไปัจากิปัระสบกิารณ์ทีได้้รับมาแล้ว<br />
จากวััด้เทพธิด้ารามวรวิหาร โด้ยใช้้แนวทางทีคัำน่งถ่งกิารแก้้ปััญหาและ<br />
กิารอนุรักิษ์์สภาพเดิิมของงานสถาปััตยกิรรมให้ถูกต้้องตามหลักวิิชูากิาร<br />
รวมทังกิารปร ับภูมิทัศน์์โด้ยรอบให้อยู่ในสภาพทีเหมาะสมสวยงาม ส่งเสริม<br />
คุุณค่่าของงานสถาปััตยกิรรม<br />
โคัรงกิารอนุรักิษ์์หอพระไตรปิิฎกว ัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหาร มุ่งเน้นให้<br />
คัรอบคลุุมทุกิขันตอนของกิารอนุรักิษ์์โบราณสถาน ซึ่่งมีวิชูาชีีพทาง<br />
สถาปััตยกิรรมเข้ามามีบทบาทสำคััญเป็็นหลักิ ทีจะต้องปัระสานงานกัับ<br />
สาขาวิชูาชีีพอืนปัระกิอบด้้วย ด้้านโบราณคัด้ี วิศิวกิรรม ศิิลปักิรรม และ<br />
ภูมิสถาปััตยกิรรม ทังยังมีคัวามต้องกิารทีจะเปิิด้โอกิาสให้สมาชิิกิของสมาคัมฯ<br />
รวมถ่งนักิเรียน นักิศิ่กิษ์า และปัระชูาชูนทัวไปัได้้เข้ามาเป็็นส่วนหน่งของ<br />
กิระบวนกิารกิารมีส่วนร่วมในรูปัแบบต่างๆ ด้้วยคัวามสำเร็จทังในกิารอนุรักิษ์์<br />
โบราณสถาน และกิารทีได้้ศิ่กิษ์าข้อมูลทางสถาปััตยกิรรมร่วมกััน<br />
คัณะกิรรมาธิกิารอนุรักิษ์์ศิิลปัสถาปััตยกิรรม ด้้านสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณี<br />
ขอขอบพระคุุณผู้มีส่วนร่วมในกิารอนุรักิษ์์หอพระไตรปิิฎกว ัดอ ัปัสรสวรรค์์ใน<br />
คัรังนี ทังสำหรับคัวามร่วมมือและกิารสนับสนุนงบปัระมาณจากิหลาย<br />
หน่วยงาน ได้้แก่่ กิรมศิิลปัากิร วัดอััปัสรสวรรค์์วรวิหาร และเงินผ้าป่่าอาษ์า<br />
สามัคัคัีเพือกิารอนุรักิษ์์ ทำให้กิารด้ำเนินงานด้้านต่างๆ เป็็นไปัอย่างถูกต ้อง<br />
ตามหลักิกิารอนุรักิษ์์ มีกิารเก็็บรวบรวมองค์์คัวามรู้เป็็นระบบ ซึ่่งหวังเป็็น<br />
อย่างยิงว่าจะเป็็นปัระโยชน์์ทางวิชูากิาร และเป็็นต้นแบบในกิารด้ำเนินกิาร<br />
อนุรักิษ์์งานสถาปััตยกิรรมทีมีคุุณค่่าในแหล่งอืนๆ ต่อไปัด้้วย<br />
4<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
สารบัญ<br />
๖<br />
บทนำ<br />
๘<br />
บทท่ ๑ จุุดเร่มต้น<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์กับการอนุรักษ์<br />
๕๒<br />
บทที่ ๒ การอนุรักษ์หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
๒๐๖<br />
บทที่ ๓ จุุดหมายแห่งค์วัามสำเร็จุ<br />
๒๓๖<br />
๒๓๘<br />
บรรณานุุกรม<br />
ภาคผนุวก
บทนำ<br />
เมือ พ.ศิ. ๒๔๗๖ สถาปนิิกิซึ่่งสำเร็จกิารศิ่กิษ์าจากต่่างปัระเทศิ<br />
จำนวนหน่งได้้ร่วมปัร่กิษ์าหารือในกิารด้ำเนินกิารจัด้ตังสมาคัม โด้ยมี<br />
วัตถุปัระสงค์์เพือช่่วยส่งเสริมวิชูาชีีพสถาปััตยกิรรมให้เจริญเป็็นทีรู้จักิแก่่<br />
คันทัวไปัและเพือแลกิเปัลียนคัวามรู้ในระหว่างสมาชิิกิด้้วยกััน สมาคัม<br />
สถาปน ิกิสยามฯ ในยุคัแรกิ มีสมาชิิกิทังสิน ๓๓ คัน มีสำนักิงานตังอยู่ที<br />
กิรมศิิลปัากิร คัณะกิรรมกิารในยุคัแรกิได้้ร่วมกัันร่างข้อบังคัับและระเบียบ<br />
กิารของสมาคัม จัด้ตังคัณะกิรรมกิาร เพือด้ำเนินงานปัระจำของสมาคัม ได้้แก่่<br />
ปัระเภทธนากิาร ปัระเภทธุรกิาร กิรรมกิารผังเมืองและผังปัระชูาชูาติ นอกิจากินี<br />
สมาคัมได้้ออกิจด้หมายเหตุสมาคัม เพือเป็็นกิารเผยแพร่คัวามรู้ด้้านวิชูาชีีพ<br />
สถาปััตยกิรรม ตลอด้จนเป็็นสือกิลางระหว่างสมาคัมกัับมวลสมาชิิกอ ีกิด้้วย<br />
กิารด้ำเนินกิารทางด้้านกิารอนุรักิษ์์ของสมาคัมสถาปนิิกิสยามฯ ได้้มี<br />
จุด้เริมต้นอย่างเป็็นรูปัธรรม ด้้วยกิารแต่งตังคัณะกิรรมาธิกิารวิชูากิาร สาขา<br />
อนุรักิษ์์ศิิลปักิรรมข่นเมือวันที ๖ มิถุนายน พ.ศิ. ๒๕๑๑ โด้ยกิรรมาธิกิารฯ<br />
ชุุด้แรกินี มีนายพินิจ สมบัติศิิริ เป็็นปัระธาน และมีคัณะกิรรมาธิกิารฯ ซึ่่ง<br />
ปัระกิอบด้้วย นายนิจ หิญชีีระนันทน์ (นายกิสมาคัมสถาปน ิกิสยามฯ ใน<br />
ขณะนัน) นายมยูร วิเศิษ์กิุล นายวทัญญูู ณ ถลาง นายวิลาศิ มณีวัต<br />
นายศิิริชััย นฤมิตรเรขกิาร นายสุลักิษ์ณ์ ศิิวรักิษ์์ ผศิ.แสงอรุณ รัตกสิิกิร<br />
นายโอภาส วัลลิภากิร นายสุเมธ ชุุมสาย ณ อยุธยา และนายอุรา สุนทรศิารทูล<br />
ส่วนทีปัร่กิษ์าของกิรรมาธิกิารวิชูากิาร สาขาอนุรักิษ์์ศิิลปักิรรมนัน ได้้รับ<br />
พระเกีียรติจากิพระวรวงศ์์เธอ พระองค์์เจ้าธานีนิวัต กิรมหมืนพิทยาลาภ<br />
พฤฒิยากิร ทรงรับเป็็นองค์์ปัระธานคัณะทีปัร่กิษ์า นอกิจากินีคัณะทีปัร่กิษ์าฯ<br />
ยังปัระกิอบด้้วย ด้ร.ป๋๋วย อ่งภากิรณ์ ม.จ.ยาใจ จิตรพงศ์์ ม.จ.สุภัทรดิิศิ<br />
ดิิศิกิุล นายสัญญา ธรรมศัักดิ์์ และพระยาอนุมานราชูธน นับเป็็นคัรังแรกิใน<br />
ปัระเทศิไทยทีมีกิารทำงานอนุรักิษ์์ภาคัปัระชูาชูน สืบเนืองจากิคัวามห่วงใย<br />
ในสภาพบ้านเมืองทีได้้เจริญเติบโตและเปัลียนแปัลงสภาพไปัเป็็นอันมากิ<br />
โด้ยเฉพาะอย่างยิ งกิารเปัลียนแปัลงที เป็็นกิารทำลายสิ งแวดล ้อมที ดีีงาม<br />
อาคัารสถานทีทีมีคัวามสำคััญทางด้้านศิิลปัะและสถาปััตยกิรรมซึ่่งเป็็น<br />
เคัรืองบ่งชูีปัระวัติของบ้านเมืองได้้ถูกิรือทำลายไปั ทำให้ปัระชูาชูนขาด้<br />
สิงแวดล้้อมทีจำเป็็นในกิารสร้างสรรค์์ คัวามนึึกคิิด้ทีลึึกซึ้้ง คัวามสงบ<br />
คัวามก้้าวหน้าทางวัฒนธรรม และกิารกิินดีีอยู่ด้ี<br />
กิารด้ำเนินงานของกิรรมาธิกิารฯ เน้นไปัทีกิารเผยแพร่ให้ปัระชูาชูน<br />
ภาคร ัฐและเยาวชูนให้เกิิด้คัวามเข้าใจในคัวามสำคััญของสิงแวดล้้อมทีดีีของ<br />
บ้านเมืองและเกิิด้คัวามคิิด้ คัวามกิระตือรือร้น ทีจะรักิษ์าสิงแวดล ้อมทีดีีงาม<br />
และมีคุุณค่่าทางศิิลปักิรรมหรือทางปัระวัติศิาสตร์ให้คังอยู่ต่อไปั<br />
งานชูินสำคััญทีเป็็นรูปัธรรมทีได้้ริเริมในช่่วงนี คืือ กิารบูรณะ<br />
หอพระไตรปิิฎกว ัด้ระฆัังโฆส ิตาราม กร ุงเทพมหานคัร ซึ่่งเป็็นนิวาสสถาน<br />
เดิิมของพระบาทสมเด็็จพระพุทธยอด้ฟื้้าจุฬาโลกิมหาราชู แต่เดิิมหอพระไตร<br />
แห่งนีตังอยู่่กลางสระนำ และมีสภาพทีทรุด้โทรมอย่างมากิ ทางเจ้าอาวาส<br />
ในขณะนัน จ่งได้้ขอคัวามร่วมมือจากิคัณะกิรรมาธิกิารฯ ในกิารบูรณะให้<br />
ถูกต้้องตามหลักิกิารอนุรักิษ์์ จ่งได้้มีกิารขอคัวามร่วมมือจากผู้้ทรงคุุณวุฒิ<br />
สาขาต่างๆ ในกิารอนุรักิษ์์ โด้ยมี อ.เฟื้้อ หริพิทักิษ์์ เป็็นผู้้ควบคุุมกิาร<br />
บูรณะ และใช้้เวลานานกว ่าจะบูรณะเสร็จทันกิารฉลองกร ุงรัตนโกส ินทร์คัรบ<br />
๒๐๐ ปีี ใน พ.ศิ. ๒๕๒๕ และในช่่วงระหว่างนัน มีกิารเสนอคัวามคิิด้เห็น<br />
และข้อเสนอโคัรงกิารต่างๆ หลายโคัรงกิาร เช่่น ข้อเสนอเกิียวกัับกิาร<br />
รักิษ์าศิิลปวััฒนธรรมเชีียงใหม่ และกิารจัด้ตังสภาอนุรักิษ์์ศิิลปักิรรม โคัรงกิาร<br />
ปร ับปร ุงสวนลุมพินี กิารอนุรักิษ์์แพร่งสรรพศิาสตร์ โคัรงกิารบูรณะโบราณ<br />
สถานพระนคัรศร ีอยุธยา กิารจัด้ทำบัญชีีอาคัารสถานทีทีสำคััญทาง<br />
สถาปััตยกิรรม โคัรงกิารสำรวจทำแผนที บันทึึกภาพอาคัารทีมีคุุณค่่าใน<br />
ด้้านสถาปััตยกิรรม เพือเสนอให้กิรมศิิลปัากิรปัระกิาศิข่นทะเบียน และงาน<br />
จัด้ทำรังวัด้ศิิลปัสถานต่างๆ ทีอาจจะถูกิรือไปัในเร็ววัน<br />
ใน พ.ศิ. ๒๕๕๑ มีแนวคิิดว่่า หลังจากิโคัรงกิารอนุรักิษ์์<br />
หอพระไตรปิิฎกวััด้ระฆัังโฆส ิตาราม ตังแต่ในช่่วงแรกิของกิารก่่อตัง<br />
กิรรมาธิกิารวิชูากิารสาขาอนุรักิษ์์ศิิลปักิรรม สมาคัมสถาปนิิกิสยามฯ ก็็ไม่ได้้<br />
มีโอกิาสทำงานอนุรักิษ์์มรด้กิสถาปััตยกิรรมโด้ยตรงแบบเป็็นรูปัธรรมอีกิเลย<br />
เมือนายทวีจิตร จันทรสาขา (ด้ำรงตำแหน่งนายกิสมาคัมฯ พ.ศิ. ๒๕๕๑-<br />
๒๕๕๕) ได้้มารับหน้าทีเป็็นนายกิสมาคัมสถาปนิิกิสยามฯ และมีนโยบายที<br />
ต้องกิารให้สมาคัมสถาปน ิกิสยามฯ ได้้แสด้งบทบาทต่อสังคัมในแบบทีสัมผัส<br />
ได้้เป็็นรูปัธรรม จ่งริเริมให้จัด้ตังคณะกรรมาธิิการอนุรักษ์์ศิิลัปสถาปัตยกรรม<br />
ด้านสถาปัตยกรรมไทยประเพณีข่น ด้้วยต้องกิารเน้นทีมรด้กิสถาปััตยกิรรม<br />
ทีเป็็นเอกล ักิษ์ณ์ของเราเองเป็็นอันดัับแรกิ ในกิารนีได้้มอบหมายให้<br />
ด้ร.วสุ โปัษ์ยะนันทน์ เป็็นปัระธานคัณะกิรรมาธิกิารชุุด้นี ซึ่่งปัระกิอบด้้วย<br />
คัณะโบราณคัด้ี มหาวิทยาลัยศิิลปัากิร นายศิิริชััย หวังเจริญตระกููล นายไพรัชู<br />
เล้าปัระเสริฐ ด้ร.พรธรรม ธรรมวิมล นายจมร ปัรปัักิษ์์ปัระลัย นายวทัญญูู<br />
เทพหัตถี นางสาวมนัชูญา วาจก์์วิศุุทธิ นายสุรยุทธ วิริยะด้ำรงค์์<br />
6<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
นางสาวหัทยา สิริพัฒนกุุล นายภาณุวัตร เลือด้ไทย นายจาริต เด้ชูะคุุปต ์<br />
และนายพีระพัฒน์ สำราญ นอกิจากินีได้้ร่วมกัันคิิด้และจัด้กิิจกิรรม “อาษ์า<br />
อาสา สถาปััตยกิรรมไทย” ข่น เป็็นกิารเปิิด้โอกิาสให้สมาชิิกิของสมาคัม<br />
สถาปน ิกิสยามฯ นิสิต นักิศิ่กิษ์าทีมีคัวามสนใจเรียนรู้งานด้้านกิารอนุรักิษ์์<br />
อาสาเข้ามาทำงานร่วมกัันตังแต่จุด้เริมต้น เช่่น กิารสำรวจเก็็บข้อมูลสภาพ<br />
ก่่อนกิารอนุรักิษ์์ของมรด้กิสถาปััตยกิรรม นำมาจัด้ทำเป็็นรูปัแบบบูรณะ<br />
โด้ยกิารคััด้เลือกิพืนทีเป้้าหมาย ซึ่่งจากิกิารหารือกัันก็็ได้้สรุปัทีหอพระไตรปิิฎกิ<br />
วัด้เทพธิด้ารามวรวิหาร กร ุงเทพมหานคัร เป็็นกิารกล ับมาทำงานกัับ<br />
หอพระไตรอีกครั ้งโด้ยบังเอิญ<br />
งานนีทำให้เราได้้เรียนรู้สถาปััตยกิรรมของหอไตรอย่างใกล้้ชิิด้ จนได้้<br />
แบบและปัระมาณกิารสำหรับกิารด้ำเนินกิารบูรณะ จ่งตังเป็็นกิองผ้าป่่าอาษ์า<br />
อนุรักิษ์์สามัคัคัี เพือกิารอนุรักิษ์์หอพระไตรปิิฎกวััด้เทพธิด้ารามข่น มาสมทบ<br />
กัับงบปัระมาณทีทางวัดม ีอยู่บางส่วน และเงินอุด้หนุนจากิกิรมศิิลปัากิร<br />
หลังจากินันแบบบูรณะจ่งได้้นำมาสู่่การปัฏิิบัติจริง โด้ยมีอาสาสมัคัรได้้มา<br />
ร่วมกัันจัด้ ในกิารนีได้้ศิาสตราจารย์เกีียรติคุุณ หม่อมราชูวงศ์์แน่งน้อย ศัักดิ์์ศรีี<br />
นาวาอากิาศิเอกิ อาวุธ เงินชููกิลิน ศิาสตราจารย์ปัระสงค์์ เอี ยมอนันต์<br />
รองศิาสรตาจารย์สมคิิด้ จิระทัศินกุุล และนายทวีจิตร จันทรสาขา มาเป็็นที<br />
ปัร่กิษ์าในกิารทำกิารสำรวจระหว่างกิารด้ำเนินกิาร ศิ่กิษ์าขันตอน รายละเอียด้<br />
ต่างๆ ของกิารทำงาน มีกิารบันทึึกเก็็บข้อมูลโด้ยละเอียด้ในทุกิขันตอน<br />
ปัระกิอบกัับคัวามร่วมมือทีได้้รับจากิบริษััทผู้้ดำเนินกิารบูรณะด้้วย<br />
คัวามตังใจให้เป็็นกิารทำงานด้้วยหลักิกิารอนุรักิษ์์ศิิลปัสถาปััตยกิรรม งานนี<br />
จ่งเป็็นตัวอย่างที ดีีของกิารทำงานบูรณะมรด้กิสถาปััตยกิรรมไทยทีได้้<br />
มาตรฐาน พร้อมด้้วยกิารมีส่วนร่วมของฝ่่ายต่างๆ ทีช่่วยสนับสนุน ทำให้<br />
โคัรงกิารนีได้้รับรางวัลระดัับ Award of Merit ของรางวัล UNESCO Asia<br />
–Pacifif ic Heritage Award ใน พ.ศิ. ๒๕๕๔ ซึ่่งนับเป็็นคัวามภาคภ ูมิใจ<br />
ของคัณะทำงาน และสมาคัมสถาปน ิกิสยามฯ อย่างทีสุด้<br />
ภายหลังคัวามสำเร็จของโคัรงกิารแรกิ กิิจกิรรม อาษ์า อาสา<br />
สถาปััตยกิรรมไทย ยังได้้มาด้ำเนินกิารต่อทีวัดอััปัสรสวรรค์์วรวิหาร<br />
กร ุงเทพมหานคัร โด้ยเป็็นโคัรงกิารหออนุรักิษ์์พระไตรปิิฎกอ ีกครั ้ง นอกิจากิ<br />
กิารเก็็บข้อมูลเพือกิารทำแบบบูรณะดัังเช่่นในโคัรงกิารแรกิ ยังได้้บูรณากิาร<br />
กัับเคร ือข่ายต่างๆ ของสมาคัมสถาปนิิกิสยามฯ เช่่นกิารเข้ามาร่วมเก็็บ<br />
ข้อมูลสถาปััตยกิรรมแบบ VERNADOC โด้ยกลุ่่มอาสาสมัคัร VERNADOC<br />
กิารจัด้งานวันศิิลปัะทีร่วมกัับกลุ่่ม Sketchers โด้ยเปิิด้โอกิาสให้เยาวชูน<br />
ในพืนทีเข้ามามีส่วนร่วมในกิารวาด้ภาพหอไตรร่วมกัับพีๆ นักิวาด้เพือเป็็น<br />
กิารรับรู้คัุณค่่าของมรด้กิสถาปััตยกิรรมชูินเอกิทีอยู่ใกล้้ตัวอีกิด้้วย งานบูรณะ<br />
หอพระไตรปิิฎกว ัดอ ัปัสรสวรรค์์นี จะด้ำเนินกิารแล้วเสร็จใน พ.ศิ. ๒๕๕๗<br />
ในวาระคัรบรอบ ๘๐ ปีีของสมาคัมสถาปนิิกิสยามฯ พอดีียังคัวามภาคภููมิใจ<br />
แก่่คัณะทำงานและสมาคัมสถาปน ิกิสยามฯ อีกครั ้ง<br />
กิรรมาธิกิารอนุรักิษ์์ฯ ทุกย ุคัสมัยได้้เสียสละแรงกิายแรงใจทำงานกััน<br />
อย่างหนักต่่อเนืองมาจากรุ่่นสู่รุ่นตลอดกึ่่งศิตวรรษ์ ด้้วยเห็นปัระโยชน์์สาธารณะ<br />
ในกิารรักิษ์าคุุณค่่าของมรด้กิสถาปััตยกิรรมและสิงแวดล ้อมเมืองซึ่่งคันอืนๆ<br />
ในสังคัมอาจมองไม่เห็น แม้กิารทำงานจำต้องมีคัวามขัด้แย้งเกิิด้ข่นโด้ยเฉพาะ<br />
กัับทางภาครััฐเเละภาคัเอกิชูน หลายคันอาจมองว่าเราต้องไปต่่อสู้ มีแพ้มีชูนะ<br />
แต่ในทางกลัับกัันหากิมองว่าในฐานะทีเราเป็็นสถาปนิิกิทีมีองค์์คัวามรู้ใน<br />
เรืองคุุณค่่าของสิงต่างๆ ในสภาพแวดล้้อมทางกิายภาพ มีองค์์คัวามรู้ใน<br />
กิารบริหารจัด้กิาร และมีกิารนำเสนอทางออกิทีเป็็นรูปัธรรม กิารเข้าไปมีี<br />
ส่วนร่วมในกิารนำเสนอคุุณค่่าเหล่านันให้สังคัมได้้ตระหนักรู้และสร้าง<br />
กิระบวนกิารในกิารทำให้เกิิด้กิารเห็นคุุณค่่าร่วมกัันในทุกิภาคส่่วน และท้าย<br />
ทีสุด้เกิิด้กิารตัดสิินใจร่วมกัันในกิารรักิษ์าคุุณค่่าเหล่านันให้คังอยู่ เเละหากิ<br />
เราได้้ทำหน้าที ของเราได้้อย่างดีีทีสุด้แล้ว แม้มรด้กิสถาปััตยกิรรมหรือสิงที<br />
เราต้องกิารปักิปั้องมันจะต้องถูกิรือทำลายไปั ก็็ไม่ได้้หมายคัวามว่าเราล้มเหลว<br />
หรือเราแพ้ เพียงแต่เราไม่สามารถทำให้คันส่วนใหญ่เห็นคุุณค่่าร่วมกัับเราได้้<br />
สถาปน ิกน ักิอนุรักิษ์์จ่งไม่ใช่่นักต่่อสู้ แต่เราเป็็นนักิบริหารจัด้กิารองค์์คัวามรู้<br />
ทีจะต้องถ่ายทอด้องค์์คัวามรู้ในเรืองคุุณค่่าของมรด้กิสถาปััตยกิรรมและ<br />
สิงแวดล้้อมสร้างสรรค์์สู่่คนในวงกว้้างให้มากิทีสุด้ เพือให้เขาเหล่านันเห็นคุุณค่่า<br />
และต่อสู้ปักิปั้องมรด้กิของพวกิเขาเอง คัวามสำเร็จในกิารอนุรักิษ์์ไม่ได้้ข่นอยู่<br />
กัับคันใด้คันหน่งหากิแต่เป็็นเรืองของทุกิคัน ในกิารทำงานของเรา เราไม่<br />
เคัยแพ้ เราไม่เคัยล้มเหลว ถ้าเราได้้เริมทำแล้วและยังต้องทำหน้าทีนีต่อไปัให้<br />
ตอบสนองกัับวัตถุปัระสงค์์ข้อที ๑ ของสมาคัมสถาปน ิกิสยามฯ คืือ<br />
“มุ่งบำเพ็ญประโยชน์ในการสร้างสรรค์ควัามเจริญงดงามทาง<br />
สถาปัตยกรรมแลัะสิงแวัดล้้อม แลัะรักษ์าอารยธิรรมของชาติ ในฐานะ<br />
องค์กรทางชีพอิสระทางสถาปัตยกรรม”<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย<br />
7
๑<br />
จุุดเริ่มต้นหอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
กับการอนุรักษ์
ภาพถ่ายเก่่าวัดอ ัปัสรสวรรค์์ เมือ พ.ศิ. ๒๔๙๓<br />
ทีมา : LIFE magazine<br />
10<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
วััดอัปสรสวัรรค์วัรวิิหาร<br />
วัด้อัปัสรสวรรคั์วรวิหาร ตั ้งอยู่ที่แขวงปัากิคัลอง เขตภาษ์ีเจริญ<br />
กิรุงเทพมหานคัร เปั็นพระอารามหลวงชูั้นตรี ชูนิด้วรวิหาร เด้ิมเรียกิกิันว่า<br />
วัด้หมู ซึ่่งมีเรื่องเล่าว่าเกิิด้จากิชูาวจีนชูื่อ อู๋ ได้้ยกิพื ้นทีคัอกิหมูให้สร้าง<br />
เปั็นวัด้ ชูาวบ้านจึงเรียกิกิันว่า วัด้อู๋ ต่อมาเพี้ยนไปัเปั็น วัด้หมู แต่ไม่ทราบ<br />
ได้้ว่าวัด้หมูนี้สร้างมาตั้งแต่เมื่อใด้<br />
เมือราว พ.ศิ. ๒๓๘๘ สุนทรภู่ได้้เดิินทางไปย ังเพชูรบุรีผ่านทาง<br />
คัลองด่่าน และได้้แต่งนิราศิข่นจากิกิารเดิินทางคัรังนีชูือว่า นิราศิเมืองเพชูร<br />
ได้้มีกิารกล ่าวถ่งบริเวณปัากิคัลองด่่านดัังนี<br />
“ถึงบางหลวงล่อุงล่วงเข้าคลอุงเล็ก<br />
ล้วนบ้านเจ๊กขายหมูอุยู่อุักโข<br />
มีเมียขาวสวยมันรวยโป<br />
หัวอุกโอุ้อุายใจมิใชู่เล็ก”<br />
กิลอนบาทนี้ได้้กิล่าวถึงพื้นที่บริเวณคัลองที่เชูื่อมต่อกิับคัลองบางหลวง<br />
ซึ่่งกิ็คังหมายถึงคัลองด้่านว่าเปั็นบริเวณที่เต็มไปัด้้วยชูาวจีนที่มีอาชูีพ<br />
ขายหมูมาอาศิัยอยู่เปั็นจำนวนมากิ ซึ่่งอาจจะเกิี่ยวข้องกิับวัด้อัปัสรสวรรคั์<br />
เนื่องจากิวัด้อัปัสรสวรรคั์มีเรื่องเล่าว่าเด้ิมชูื่อวัด้หมู<br />
ผู้บูรณปัฏิิสังขรณ์วัด้หมู คืือ เจ้าจอมน้อย ธิด้าของพระยาพลเทพ<br />
(ฉิม) เพืออุทิศส่่วนกุุศิลแด่่ท่านเจ้าคุุณบิด้า จ่งกิราบบังคัมทูลพระกร ุณา<br />
ต่อพระบาทสมเด็็จพระนังเกล้้าเจ้าอยู่หัวเพือปัฏิิสังขรณ์วัด้ พระบาทสมเด็็จ<br />
พระนั งเกล ้าเจ้าอยู ่หัวได้้พระราชูทานทรัพย์ส่วนพระองค์์ให้สถาปันาวัด้ใหม่นี<br />
ทังหมด้ และพระราชูทานนามวัด้นีว่า วัดอััปัสรสวรรค์์ เพือเป็็นทีระลึึกแด่่<br />
เจ้าจอมน้อย ซึ่่งมีคัวามสามารถในกิารแสด้งละคัรอิเหนาเป็็นตัวสุหรานากิงได้้ดีี<br />
จนมีฉายาเรียกิกิันว่า เจ้าจอมน้อยสุหรานากิง นอกิจากินี พระบาทสมเด็็จ<br />
พระนั่งเกิล้าเจ้าอยู่หัว ยังทรงพระกิรุณาโปัรด้เกิล้าฯ พระราชูทานพระพุทธรูปั<br />
ปัางพระฉันสมอมาปัระด้ิษ์ฐานในพระวิหารที่วัด้อัปัสรสวรรคั์อีกิด้้วย<br />
แม้จะไม่มีหลักิฐานว่าวัด้อัปัสรสวรรคั์ได้้รับกิารบูรณปัฏิิสังขรณ์เมื่อ<br />
พ.ศิ. ใด้แน่ แต่จากิหมายรับสั่งของพระบาทสมเด้็จพระนั่งเกิล้าเจ้าอยู่หัว<br />
ทรงมีพระรับสั ่งให้มีพระราชูพิธีเฉลิมฉลองวัด้อัปัสรสวรรคั์ เมื ่อ จ.ศิ. ๑๑๙๓<br />
ตรงกัับ พ.ศิ. ๒๓๗๔ ดัังนันวัดอััปัสรสวรรค์์น่าจะได้้รับกิารบูรณปัฏิิสังขรณ์<br />
ในระหว่าง พ.ศิ. ๒๓๖๗–๒๓๗๔<br />
ต่อมาพระวชร ิกว ี (รอด้) เดิิมอยู่วัดส ุวรรณาราม คัลองบางกิอกน ้อย<br />
ย้ายมาเป็็นเจ้าอาวาสวัดอ ัปัสรสวรรค์์ ได้้จัด้กิารสร้างศิาลากิารเปร ียญข่น<br />
๑ หลัง หอพระไตรปิิฎกิ ๑ หลัง โด้ยหอพระไตรปิิฎกินี มีจาร่กิข้อคัวามดัังนี<br />
“พุทธศักราชูล่วงได้้สอุงพันสามร้อุยแปด้สิบสามพระวัสสาทายก<br />
ญาติโยมทั้งปวง มีพระวชูิรกวีเป็นประธานสร้างหอุไตรนี้ขึ้นไว้ในพระศาสนา<br />
สำเร็จแล้วปีฉลูจัตวาศก เด้ือุนยี่ สิริทรัพย์เป็นมูลค่าสิบสี่ชูั่งเศษ์ ขอุให้เป็น<br />
ปัจจัยแก่พระโพธิญาณี ในอุนาคตกาลโน้นเถิด้ นิพพาน ปัจจโย ตุ”<br />
จากิจาร่กินี กล่่าวไว้ว่า หอไตรวัดอััปัสรสวรรค์์สร้างข่นโด้ยพระวชิิรกวีี<br />
(รอด้) เมือ พ.ศิ. ๒๓๘๓ หลังจากินันก็็ได้้มีกิารบูรณะวัด้เล็กิๆ น้อยๆ<br />
เรือยมา จนกิระทังสมัยพระพุทธพยากิรณ์ (อุปต ิสฺโส เจริญ) เป็็นเจ้าอาวาส<br />
ได้้ปัฏิิสังขรณ์เสนาสนะหลายหลัง ระหว่างนีนายใย นางสุ่น ทังสุภูติ ได้้สร้าง<br />
โรงเรียนปริิยัติธรรมแบบคัอนกรีีตเสริมเหล็กิ และสร้างเขือนคัอนกรีีตหน้าวัด้<br />
พร้อมศิาลาหน้าพระวิหารด้้วยคัอนกร ีตอีกิ ๑ หลัง ในกิารปัฏิิสังขรณ์คัรังนี<br />
เจ้าจอมเพิม (ในพระบาทสมเด็็จพระจุลจอมเกล ้าเจ้าอยู่หัว) ช่่วยปัฏิิสังขรณ์<br />
ศิาลาหน้าพระอุโบสถ<br />
กิรมศิิลปัากิรได้้ปัระกิาศิข่นทะเบียนวัดอััปัสรสวรรค์์ในฐานะโบราณ<br />
สถานสำคััญของชูาติ ตังแต่วันที ๓๐ มิถุนายน พ.ศิ. ๒๕๒๐ โด้ยปัระกิาศิ<br />
ในราชูกิิจจานุเบกิษ์า เล่มที ๙๔ ตอนที ๗๕ วันที ๑๖ สิงหาคัม<br />
พ.ศิ. ๒๕๒๐<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
11<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
สิงก่อสร้างสำคัญภายในวััดอัปสรสวัรรค์วัรวิิหาร<br />
พืนทีวัด้แบ่งเขตออกิเป็็นเขตพุทธาวาสและสังฆัาวาส โด้ยเขต<br />
สังฆัาวาสได้้ออกิแบบเน้น ๓ แนวแกิน เช่่นเดีียวกัับวัด้เทพธิด้ารามและ<br />
วัด้ราชูโอรสาราม แต่มีคัวามแตกต ่างทีแนวกิลางของวัดอ ัปัสรสวรรค์์จะไม่มี<br />
อาคัารขนาด้ใหญ่ จะเน้นทีพระปัรางค์์ทีอยู่ด้้านหน้าแทนและมีมณฑปัอยู่ที<br />
ท้ายแนวแกินกิลางนีอีกิสองแนวแกินคืือพระอุโบสถและพระวิหาร ซึ่่งตั งอยู่<br />
ในวงล้อมของกิำแพงแก้้วทีมีลักิษ์ณะเสมาอย่างป้้อมกิำแพงเมืองและ<br />
มีเจดีีย์ย่อมุมไม้สิบสองอยู่ทีมุมกิำแพงทัง ๔ ด้้าน<br />
พระอุโบสถ<br />
เป็็นอาคัารก่่ออิฐถือปููน ทรงโรงหลังคัาจัว มีเสาพาไลรับหลังคัา<br />
ปีีกินกิโด้ยรอบอาคัาร หน้าบันปัระดัับลายปููนปัันและเคัรืองกิระเบืองเคล ือบ<br />
แบบจีน ไม่มีช่่อฟื้้า ใบระกิา หางหงส์ ตามแนวพระราชนิิยมในพระบาทสมเด็็จ<br />
พระนังเกล้้าเจ้าอยู่หัว ระหว่างเสาพาไลมีพนักิระเบียงปัระดัับด้้วยกิระเบืองปรุุ<br />
อย่างจีน บานปัระตูหน้าต่างปัระดัับด้้วยลายรดน ้ำ ภายนอกิทำเป็็นซึุ่้มปููน<br />
ปัันลายด้อกิไม้และพันธุ์พฤกิษ์า ภายในปัระดิิษ์ฐานพระปัระธาน ๒๘ องค์์<br />
เป็็นพระพุทธรูปัปัางมารวิชััยหล่อขนาด้หน้าตักิกิว้าง ๑ ศิอกิ สูง ๑ ศิอกิ<br />
๔ นิว เท่ากัันทุกิองค์์ ตังอยู่บนฐานชุุกิชูีเดีียวกัันลด้หลันเป็็นทรงจอมข่นไปั<br />
๙ ชูัน ทุกิองค์์มีจารึึกพระนามไว้ทีหน้าฐาน องค์์ทีปัระดิิษ์ฐานอยู่ยอด้จอมมี<br />
พระนามว่า พระพุทธตัณหังกิร และมีพระพุทธโคัด้มปัระดิิษ์ฐานอยู่ด้้าน<br />
หน้าสุด้ทีชูันล่าง สำหรับองค์์อืนๆ ปัระกิอบด้้วย พระพุทธเมธังกิร พระพุทธ<br />
สรณังกิร พระพุทธทีปัังกิร พระพุทธโกิณฑัญญะ พระพุทธมังคัละ พระพุทธ<br />
สุมนะ พระพุทธเรวตะ พระพุทธโสภิตะ พระพุทธอโนมทัสสี พระพุทธปท ุมะ<br />
พระพุทธนารทะ พระพุทธปท ุมมุตตระ พระพุทธสุเมธะ พระพุทธสุชูาตะ พระ<br />
พุทธปิิยทัสสี พระพุทธอัตถทัสสี พระพุทธธัมมทัสสี พระพุทธสิทธัตถะ<br />
พระพุทธติสสะ พระพุทธปุุสสะ พระพุทธวิปััสสี พระพุทธสิขี พระพุทธเวสภู<br />
พระพุทธกิกิุสนธะ พระพุทธโกินาคัมนะ และพระพุทธกััสสปัะ นอกิจากินียัง<br />
มีพระปัรางค์์เล็กิแกิะสลักิด้้วยไม้ลงรักิปัิด้ทองปัระดัับกิระจกิ ตังอยู่ที ฐานชุุกิชูี<br />
ชูันล่างอีกิ ๖ องค์์ น่าเสียด้ายว่าได้้ถูกิโจรกิรรมไปัพร้อมกัับพระบรมรูปัหล่อ<br />
รัชูกิาลที ๕ และตู้พระธรรม ทีเพด้านและท้องขือปัระดัับด้้วยจิตรกิรรมลาย<br />
ด้อกิไม้ทีงด้งาม ภายนอกิพระอุโบสถมีซึุ่้มเสมาหลังคัายอด้แหลมทัง ๘ ทิศิ<br />
ในปััจจุบันทางวัด้ได้้ต่อเติมหลังคัาอะลูมิเนียมออกิมาจากิหลังคัาปีีกินกิ<br />
คล ุมซึุ่้มเสมาไว้ทังหมด้ โด้ยขออนุญาตมายังกิรมศิิลปัากิรหลังจากิทีได้้<br />
ด้ำเนินกิารไปัแล้วว่าขอก่่อสร้างเพือกิารใช้้พืนทีรอบพระอุโบสถเป็็นกิาร<br />
ชูัวคัราวเท่านัน<br />
12<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
13<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
พระวิิหาร<br />
เป็็นอาคัารก่่ออิฐถือปููน ทรงโรงหลังคัาจัว ขนาด้เท่ากัันกัับอาคัาร<br />
พระอุโบสถ ตังอยู่ขนานคู่่กััน ภายในเขตกิำแพงแก้้ว โด้ยมีพระมณฑปัตังคััน<br />
อยู่ตรงกิลาง มีเสาพาไลรับหลังคัาปีีกินกิโด้ยรอบด้้วยเช่่นกััน แต่มีคัวาม<br />
แตกต่่างตรงทีมีกิารปัระดัับบัวหัวเสาเหลียมอย่างไทย หน้าบันเป็็นแบบ<br />
อิทธิพลจีนปัระดัับลายปููนปัันและเคัรืองกิระเบืองเคล ือบ ไม่มีช่่อฟื้้า ใบระกิา<br />
หางหงส์ เช่่นกััน ภายในแบ่งออกิเป็็นสองห้อง เป็็นทีปัระดิิษ์ฐานพระพุทธรูปั<br />
หล่อปัางมารวิชััยหน้าตักิกิว้าง ๓ ศิอกิ สูง ๓ ศิอกิคัืบองค์์หน่ง และ<br />
พระปููนปัันปัางมารวิชััย หน้าตักิกิว้าง ๔ ศิอกิคัืบ สูง ๕ ศิอกิ อีกิองค์์หน่ง<br />
และภายหลังได้้มีผู้มาสร้างรูปัหล่อนางสุชูาด้าถวายข้าวมธุปัายาสแก่่<br />
พระพุทธเจ้าอีกิด้้วย พระวิหารยังมีสิงทีน่าสนใจได้้แก่่ ภาพลายรดน ้ำที<br />
บานปัระตูทีทำเป็็นรูปันางฟื้้ากิำลังเพลิด้เพลินอยู่ในสระบัว ดููอ่อนช้้อย<br />
งด้งามสมชูือวัดอััปัสรสวรรค์์ ต่างจากว ัด้อืนๆ ทีมักิทำเป็็นรูปัทวารบาล<br />
ทีเป็็นเทวด้าหรือทหารทีดููข่งขัง<br />
14<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
พระปรางค์<br />
เป็็นเจดีีย์ทรงปัรางค์์ทีถือว่าเป็็นสิงก่่อสร้างปัระธานของวัด้ ตังอยู่บน<br />
ฐานไพทีด้้านหน้าต่อเนืองกัับกิำแพงแก้้ว อยู่ระหว่างพระอุโบสถและพระวิหาร<br />
กิารใช้้เจดีีย์ทรงปัรางค์์เป็็นปัระธานของวัดถ ือเป็็นรูปัแบบที มีคัวามนิยมใน<br />
สมัยรัตนโกส ินทร์ตอนต้น จนถ่งรัชูสมัยของพระบาทสมเด็็จพระนังเกล้้า<br />
เจ้าอยู่หัว เป็็นคัวามนิยมทีต่อเนืองมาตังแต่สมัยกร ุงศร ีอยุธยาตอนปัลายแต่<br />
ได้้มีกิารปรัับรูปัทรงให้เป็็นทรงฝัักข้้าวโพด้ทีชล ูด้ข่น พระปัรางค์์องค์์นีเป็็น<br />
สิงก่่อสร้างก่่ออิฐถือปููนปัระดัับเคัรืองกิระเบือง มีขนาด้ฐานโด้ยรอบ ๒๑ วา<br />
สูง ๑๕ วา มีผังแบบย่อมุมสีด้้านๆ ละเจ็ดมุุม มีบันได้ทางข่นบนฐานไพทีอยู่<br />
๓ ด้้าน พนักิระเบียงปัระดัับด้้วยกิระเบืองปร ุแบบจีน เคัยมีศิาลาปัระดิิษ์ฐาน<br />
พระพุทธรูปัตังอยู่ด้้านหน้าแต่ปััจจุบันได้้รือถอนออกิไปัแล้ว<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
15<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
พระมณฑป<br />
เป็็นอาคัารก่่ออิฐถือปููนยกิฐานสูงทรงปัราสาทยอด้เจดีีย์ ๕ ยอด้<br />
ตังอยู่ตรงกิลางระหว่างพระอุโบสถและพระวิหาร มีขนาดว ัด้ตามฐานโด้ย<br />
รอบได้้ ๑๒ วา ๓ ศิอกิ สูงปัระมาณ ๓ วา เป็็นทีปัระดิิษ์ฐานพระพุทธรูปั<br />
ปัางฉันสมอ ซึ่่งพระบาทสมเด็็จพระนังเกล้้าเจ้าอยู่หัวได้้พระราชูทานมา<br />
องค์์พระมีหน้าตักิกิว้าง ๑๕ นิว สูง ๒๐ นิว กล ่าวกัันว่าได้้อัญเชิิญมาจากิ<br />
เมืองเวียงจันทน์มากร ุงเทพฯ พร้อมๆ กัันกัับพระบรมธาตุ พระบาง และ<br />
พระแซึ่กิคัำ พระมณฑปัเป็็นอาคัารก่่ออิฐฉาบปููน หลังคัาก่่ออิฐฉาบปููนเป็็น<br />
ทรงเจดีีย์ โด้ยทีกิ่งกิลางเหนือหลังคัาซึุ่้มทิศิทังสีด้้านก่่อเป็็นเจดีีย์ขนาด้เล็กิ<br />
ปัระดัับอยู่ ยังมีกิารปัระดัับเสาซึุ่้มทิศิด้้วยเคัรืองถ้วยจีนอีกิด้้วย<br />
16<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
กำแพงแก้วัแลัะซุุ้้มประตู<br />
กิำแพงแก้้วเป็็นกิำแพงทีสร้างข่นเพือกิันพืนทีโด้ยรอบกลุ่มอาคัาร<br />
พระอุโบสถ พระมณฑปั และพระวิหาร มีลักิษ์ณะเป็็นกิำแพงก่่ออิฐถือปููนท่บ<br />
สันกิำแพงทำเป็็นรูปัใบเสมาป้้อมรูปัสีเหลียม มีซึุ่้มปัระตูเป็็นทางเข้าออกิทัง<br />
สีด้้าน ทางด้้านหน้ามี ๒ ซึุ่้ม ตังอยู่ตรงกัันกัับแนวแกินของอาคัารพระอุโบสถ<br />
และพระวิหาร ส่วนในด้้านทีเหลือจะมีเพียงด้้านละ ๑ ซึุ่้มอยู่ทีกิ่งกิลางของ<br />
กิำแพงแต่ละด้้าน รูปัแบบของหลังคัาซึุ่้มปัระตูทำเป็็นทรงโค้้งกิลมซึ่่งเป็็น<br />
แบบทีนิยมกัันมากิในสมัยรัตนโกส ินทร์นับแต่รัชูกิาลที ๓ เป็็นต้นมา เป็็น<br />
หลักิฐานของกิารได้้รับอิทธิพลมาจากิสถาปััตยกิรรมแบบตะวันตกิ ทีมุมทังสี<br />
ของกิำแพงแก้้วยังมีเจดีีย์ย่อมุมตังอยู่ เป็็นเจดีีย์ก่่ออิฐถือปููนมีรูปัแบบย่อมุม<br />
ไม้สิบสองทรงจอมแห มีกิารปัระดัับทีองค์์ระฆัังด้้วยเคัรืองถ้วยจีน ส่วนยอด้<br />
เป็็นบัวกลุ่มและปล ียอด้ปัูนปััน<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
17<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
ศิาลัาการเปรียญ<br />
เป็็นอาคัารไม้ยกิพืนสูงขนาด้ใหญ่ ตังอยู่ทางด้้านตะวันออกิของวัด้<br />
ใกล้้กัับคัลองด่่าน สร้างข่นพร้อมๆ กัันกัับหอพระไตรปิิฎกิเมือพระวชิิรกว ี<br />
(รอด้) ด้ำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส เป็็นอาคัารทรงโรงยกิพืนใต้ถุนสูง มีบันได้<br />
ทางข่นอยู่ทางทิศิใต้ หลังคัามุงกิระเบืองเคลืือบปัลายแหลมแต่สันนิษ์ฐานว่า<br />
เดิิมน่าจะใช้้กิระเบืองดิินเผาแบบไม่เคลืือบ ดัังทียังเหลือหลักิฐานอยู่ที หลังคัา<br />
ศิาลาขวางทีอยู่ด้้านหน้าของศิาลากิารเปร ียญ ผนังโด้ยรอบเป็็นฝ่าปัะกินไม้<br />
และช่่องหน้าต่าง มีเท้าแขนรับหลังคัาปีีกินกิเป็็นเหล็กิกิลมดััด้โค้้ง ภายใน<br />
อาคัารมีธรรมาสน์ทรงบุษ์บกิไม้แกิะสลักิลงรักิปัิด้ทองปัระดัับกิระจกิทีงด้งาม<br />
มากิตังอยู่ ทีส่วนคัอสองของศิาลาขวางด้้านหน้า ยังมีภาพจิตรกิรรมบนไม้<br />
ปัระดัับอยู่ด้้วย<br />
โรงเรียนพระปริยัติธิรรม<br />
เป็็นอาคัารคัอนกร ีตเสริมเหล็กส ูง ๒ ชูัน ตังอยู่ริมคัลองด่่านทาง<br />
ด้้านหน้าของพระวิหาร เป็็นอาคัารหลังคัาทรงปัันหยามีมุขยืนทางด้้านหน้า<br />
ตรงกิ่งกิลางอาคัาร ชูันสองทำเป็็นระเบียงทางเดิินหน้าห้องเรียน ช่่องแสง<br />
เหนือปัระตูหน้าต่างทำเป็็นรูปัโค้้งกิลม รวมทังรูปัแบบของราวพนักิระเบียง<br />
ทีต่อเนืองมาจนถ่งแนวรัวคัอนกรีีตเสริมเหล็กิทีใช้้กิันแบ่งพืนที แสด้งถ่ง<br />
อิทธิพลของสถาปััตยกิรรมตะวันตกิอย่างชััด้เจน ปััจจุบันมีกิารต่อเติมใช้้เป็็น<br />
ทีอยู่อาศััยไม่ได้้ใช้้เป็็นโรงเรียนพระปร ิยัติธรรมอีกต ่อไปั<br />
18<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอพระไตรปิฎกแลัะหอระฆััง<br />
ตังอยู่บริเวณด้้านทิศิเหนือของพระอุโบสถ โด้ยหอพระไตรปิิฎกิเป็็น<br />
อาคัารไม้ทังหลังตังอยู่่กลางสระนำรูปัสีเหลียม กิำแพงสระเป็็นงานก่่ออิฐ<br />
ฉาบปููน ส่วนหอระฆัังตังอยู่ถัด้ไปัทางด้้านทิศิเหนือ มีเรือนแถวไม้ปลููกิมาชูน<br />
ส่วนฐานของหอระฆัังและสร้างคร่่อมอยู่บนแนวกิำแพงสระ ในอดีีตทาง<br />
วัด้ได้้ยินยอมให้มีผู้มาอาศััยอยู่ ณ บริเวณนีได้้ กลุ่่มอาคัารหอพระไตรปิิฎกิ<br />
และหอระฆัังคืือพืนทีเป้้าหมายของกิารด้ำเนินกิารอนุรักิษ์์ในคัรังนี<br />
กุฏิิ<br />
พระปัระธานในพระอุโบสถ<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
19<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอพระไตรปิฎกวััดอัปสรสวัรรค์วัรวิิหาร<br />
หอพระไตรปิิฎกว ัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหาร ตังอยู่ทางทิศิเหนือของ<br />
พระอุโบสถ หันหน้าด้้านทิศิตะวันตกิซึ่่งเป็็นทีตังของหมู่กิุฏิิ ด้้านทิศิตะวันออกิ<br />
ติด้กิับเมรุซึ่่งถัด้ไปัเป็็นคัลองด่่าน ด้้านทิศิเหนือติด้กิับบ้านเรือนราษ์ฎร์ทีมา<br />
อยู่อาศััยในทีดิินของวัด้ สร้างข่นโด้ยพระวชิิรกว ี (รอด้) เจ้าอาวาสองค์์แรกิ<br />
ตังแต่ในสมัยรัชูกิาลที ๓ เมือ พ.ศิ. ๒๓๘๓ ตามข้อมูลจากิจารึึก<br />
ข้อคัวามเกิียวกัับกิารสร้างหอไตร<br />
รูปแบบสถาปัตยกรรมแลัะสภาพก่อนการบูรณะ<br />
หอพระไตรปิิฎกว ัดอััปัสรสวรรค์์วรวิหาร เป็็นอาคัารซึ่่งสร้างด้้วย<br />
ไม้ทังหลังนับตังแต่เสาจนถ่งชูันหลังคัา สร้างอยู่่กลางสระนำ ชูันล่างเป็็น<br />
ใต้ถุนโล่ง ชูันบนกิันเป็็นห้องตรงกิลางมีผนังไม้และระเบียงล้อมรอบ ปัระตู<br />
ทางเข้าห้องอยู่ทางทิศิตะวันตกิและมีช่่องหน้าต่างในฝ่ังตรงกัันข้ามเพียง<br />
ด้้านเดีียวทีผนังด้้านข้างด้้านทิศิเหนือและทิศิใต้ทำเป็็นหน้าต่างหลอกิด้้านละ<br />
๒ ชุุด้ หลังคัามุงกิระเบืองลักิษ์ณะเป็็นทรงโรง มีมุขลด้หน้าหลังตับสุดท้้าย<br />
ชัักิปัีกินกิกิันสาด้คัลุมระเบียงโด้ยรอบ ปัระดัับด้้วยเคัรืองลำยอง ช่่อฟื้้า<br />
ใบระกิา หางหงส์ ก่่อนกิารบูรณะในคัรังนี หลังคัามุงด้้วยกิระเบืองเคล ือบ<br />
สีเขียวซึ่่งเป็็นกิารเปัลียนแปัลงไปัจากส ีวัสดุุด้ังเดิิม ส่วนเคัรืองลำยองไม้มี<br />
ร่องรอยกิารปัระดัับกิระจกิ มีกิารเสือมสภาพอย่างมากิทังผิวของวัสดุุ<br />
และกิารตกิแต่ง รวมทังหลุด้ออกิจากิทีหรือสูญหายไปัในหลายส่วน หน้าบัน<br />
เป็็นงานลงรักิปัิด้ทองปัระดัับกิระจกิ ทองหลุดร่่อน กิระจกิหมองเสือมสภาพ<br />
โคัรงสร้างหลังคัาเสียหาย บางส่วนมีร่องรอยกิารรัวซึ่่ม สร้างคัวามเสียหาย<br />
กัับจิตรกิรรมทีฝ่าผนังและเสาซึ่่งอยู่ภายใน ส่วนเสาอาคัารมีกิารซึ่่อม<br />
เปัลียนจากิกิารบูรณะในอดีีต มีสภาพผุกร่่อนอย่างมากิ โด้ยเฉพาะอย่างยิง<br />
เสาส่วนรอบนอกิ คัันทวยปิิด้ทองปัระดัับกิระจกมีีกิารเสือมสภาพของทอง<br />
และกิระจกส่่วนตกิแต่ง ตัวอาคัารหอไตรปัระดัับลวด้ลายไม้แกิะสลักิและ<br />
ชูินส่วนโลหะตะกิัวหล่อลาย ฝ่าผนังไม้ภายนอกิปัระดัับโมเสกิกิระจกสีี ภายใน<br />
ปัระดัับจิตรกิรรมทังทีผนังและเสา ซึุ่้มปัระตูและหน้าต่างทรงมณฑปัปัระดัับ<br />
กิระจกิ บานปัระตูหน้าต่างปัระดัับลายรดน ้ำทียังมีสภาพค่่อนข้างดีี โด้ย<br />
ภาพรวมถือได้้ว่าเป็็นผลงานสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณีชูินเอกิของ<br />
กร ุงรัตนโกส ินทร์ โด้ยรูปัแบบของอาคัารหอไตรทีตังอยู่่กลางสระนำเช่่นนี<br />
ถือเป็็นรูปัแบบอาคัารทีสืบเนืองมาแต่คัรังกร ุงศร ีอยุธยา จ่งถือเป็็น<br />
หอไตรเคัรืองไม้ทีมีคุุณค่่าทียังเหลืออยู่ในรูปัแบบด้ั งเดิิมเพียงไม่กิีแห่งใน<br />
ปัระเทศิไทยทีคัวรค่่าแก่่กิารอนุรักิษ์์ไว้อย่างยิง<br />
ใน พ.ศิ. ๒๕๐๕ วัดอััปัสรสวรรค์์วรวิหารได้้รับพระราชูทานกฐิินหลวง<br />
โด้ยกิรมศิิลปัากิร ซึ่่งไม่มีบันทึึกลงรายละเอียด้กิารบูรณะ แต่ทีพอสันนิษ์ฐาน<br />
ได้้ว่าในช่่วงเวลานันน่าจะได้้มีกิารบูรณะหอไตรด้้วย ทังนีกิารบูรณะคัรังล่าสุด้<br />
ก่่อนกิารด้ำเนินกิารในคัรังนี คังเป็็นคัรังเมือ พ.ศิ. ๒๕๑๙ ทีมีกิารเทปููน<br />
ตอม่อหุ้มเสาหอไตรตามหลักิฐานภาพถ่ายเก่่า<br />
สระนำซึ่่งเป็็นทีตังของหอพระไตรปิิฎกิแห่งนียังมีนำอยู่อย่างสมำเสมอ<br />
ตลอด้ทังปีี มีลักิษ์ณะเป็็นสระนำรูปัสีเหลียมมีขอบสระเป็็นผนังก่่ออิฐฉาบปููน<br />
พืนรอบสระส่วนหน่งได้้ทำเป็็นพืนปููนซึ่ีเมนต์ทับไปับนโคัรงสร้างด้ังเดิิม<br />
ทีขอบสระด้้านหน่งยังมีร่องรอยของกิำแพงอิฐเตียๆ ซึ่่งสันนิษ์ฐานว่าน่าจะ<br />
เคัยมีอยู่โด้ยรอบทุกิด้้าน ส่วนขอบสระอีกิสองด้้านในปััจจุบันมีสิงก่่อสร้าง<br />
อืนกีีด้ขวางอยู่ ได้้แก่่ ส่วนต่อเติมจากิเรือนแถวไม้ รัว และพื นของศิาลา<br />
บำเพ็ญกุุศิล นอกิจากินีรัวทีกิันโด้ยรอบสระนำและหอพระไตรปิิฎกย ังมี<br />
รูปัแบบทีไม่ส่งเสริมคุุณค่่าของโบราณสถานแต่อย่างใด้<br />
20<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
ภาพถ่ายเก่่าวัดอ ัปัสรสวรรค์์ โด้ย น. ณ ปัากน ้ำ<br />
ทีมา: ศููนย์ข้อมูลเมืองโบราณ<br />
ภาพเปร ียบเทียบก่่อนมีตอม่อ เมือ พ.ศิ. ๒๕๕๕<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
21<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
ภาพถ่ายเก่่าวัดอ ัปัสรสวรรค์์ โด้ย น. ณ ปัากน ้ำ<br />
ทีมา : ศููนย์ข้อมูลเมืองโบราณ<br />
22<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
23<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
24<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย<br />
หอพระไตรปิิฎกว ัดอ ัปัสรสวรรค์์ สภาพภายนอกิกิ่อนกิารบูรณะ
หอพระไตรปิิฎกว ัดอ ัปัสรสวรรค์์ สภาพภายนอกิกิ่อนกิารบูรณะ<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
25<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอพระไตรปิิฎกว ัดอ ัปัสรสวรรค์์ สภาพจิตรกิรรมฝ่าผนังภายในอาคัารก่่อนกิารบูรณะ<br />
26<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
ตู้พระธรรมภายในหอพระไตรปิิฎกิและลายด้าวเพด้านภายในก่่อนกิารบูรณะ<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
27<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
สภาพเสาและคัันทวยของส่วนระเบียงรอบอาคัารกิ่อนกิารบูรณะ<br />
28<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
สภาพงานศิิลปักิรรมปัระด้ับอาคัารส่วนต่างๆ กิ่อนกิารบูรณะ<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
29<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
กำเนิดโครงการอนุรักษ์์หอไตร<br />
สืบเนื่องจากินโยบายของสมาคัมสถาปันิกิสยามฯ ที ่ต้องกิารแสด้ง<br />
บทบาทต่อสังคัมในแบบที่สัมผัสได้้เปั็นรูปัธรรม จึงริเริ่มให้จัด้ตั้งกิรรมาธิกิาร<br />
อนุรักิษ์์ศิิลปัสถาปััตยกิรรม ด้้านสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณีขึ้น และได้้จัด้<br />
กิิจกิรรม “อาษ์า อาสา สถาปััตยกิรรมไทย” เพื่อเปั็นกิารเปัิด้โอกิาสให้<br />
สมาชูิกิของสมาคัมฯ นิสิต นักิศิ่กิษ์า ที่มีคัวามสนใจเรียนรู้งานด้้านกิารอนุรักิษ์์<br />
อาสาเข้ามาทำงานร่วมกิันตั้งแต่จุด้เริ่มต้น ได้้แกิ่ กิารสำรวจเกิ็บข้อมูล<br />
สภาพกิ่อนกิารอนุรักิษ์์ของมรด้กิสถาปััตยกิรรม นำมาจัดทำำเปั็นแบบบูรณะ<br />
โด้ยกิารคััด้เลือกิพื้นที่เปั้าหมายใชู้เกิณฑ์สามปัระกิาร ได้้แกิ่ เปั็นมรด้กิ<br />
สถาปััตยกิรรมที่มีคัุณคั่า เปั็นกิรณีที่มีคัวามจำเปั็นในกิารบูรณะ และ<br />
เป็็นคัวามสมัคัรใจของผู้ทีคัรอบคัรองดููแลมรด้กิแห่งนันอยู่ และได้้สรุปัที<br />
หอพระไตรปิิฎกวััด้เทพธิด้ารามวรวิหาร เป็็นกิารทำงานของโคัรงกิารเป็็น<br />
คัรั้งแรกิ<br />
จากิกิารทำงานในแบบอาสาสมัคัรนอกิเวลาทำงาน ทำให้ได้้เรียนรู้<br />
สถาปััตยกิรรมของหอไตรอย่างใกล้้ชิิด้ พร้อมด้้วยแบบและปัระมาณกิาร<br />
สำหรับกิารด้ำเนินกิารบูรณะซึ่่งได้้นำมาบอกบ ุญเชิิญร่วมบริจาคัสำหรับ<br />
กิารอนุรักิษ์์อาคัารตามแบบ ตังเป็็นกิองผ้าป่่าอาษ์าสามัคัคัีมาสมทบกัับ<br />
งบปัระมาณเงินอุด้หนุนจากิกิรมศิิลปัากิรจนคัรบถ้วน จากิแบบบูรณะได้้<br />
นำมาสู่่การปัฏิิบัติจริง โด้ยอาสาสมัคัรได้้มาร่วมกัันจัด้ทำรายงาน ทำกิาร<br />
สำรวจเพิมเติมระหว่างด้ำเนินกิาร ศิ่กิษ์าขันตอน รายละเอียดต่่างๆ ของ<br />
กิารทำงาน มีกิารบันทึึกเก็็บข้อมูลโด้ยละเอียด้ในทุกิขันตอน เป็็นตัวอย่างทีดีี<br />
ของกิารทำงานบูรณะมรด้กิสถาปััตยกิรรมไทยที ได้้มาตรฐาน พร้อมด้้วย<br />
กิารมีส่วนร่วมของฝ่่ายต่างๆ ทีช่่วยสนับสนุน ทำให้โคัรงกิารนีได้้รับรางวัล<br />
ระดัับ Award of Merit ของรางวัล UNESCO Asia–Pacif ic Heritage<br />
Award ใน พ.ศิ. ๒๕๕๔<br />
ภายหลังจากิคัวามสำเร็จในโคัรงกิารแรกิ กิิจกิรรม อาษ์า อาสา<br />
สถาปััตยกิรรมไทย ได้้มาด้ำเนินกิารต่อทีวัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหาร โด้ยเป็็น<br />
โคัรงกิารอนุรักิษ์์หอพระไตรปิิฎกอีีกครั ้ง แต่มีรูปัแบบ รายละเอียด้ทาง<br />
สถาปััตยกิรรมและกิารตกิแต่งทีวิจิตร มีคัวามแตกต่่างไปัจากิโคัรงกิารแรกิ<br />
เป็็นผลงานชูินเอกิทางสถาปััตยกิรรมทีมีคุุณค่่าสูง ดัังนันนอกิจากิกิารเก็็บ<br />
ข้อมูลเพือกิารทำแบบบูรณะดัังเช่่นเคัย ยังได้้บูรณากิารกัับโคัรงกิารกิิจกิรรม<br />
อืนๆ ให้หลายภาคส่่วนเข้ามาร่วมด้้วย เช่่น กิารเก็็บข้อมูลสถาปััตยกิรรม<br />
แบบ VERNADOC กิารจัด้งานวันศิิลปัะทีเปิิด้โอกิาสให้นักิเรียนในพืนที<br />
กลุ่่มศิิลปิินต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมในกิารรับรู้คัุณค่่าของมรด้กิสถาปััตยกิรรม<br />
แห่งนีด้้วย ภายใต้กิารกิำกัับดููแลของคัณะกิรรมาธิกิารอนุรักิษ์์ศิิลปัสถาปััตยกิรรม<br />
ด้้านสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณี โด้ยมีหอพระไตรปิิฎกิ ตังอยู่ทีด้้านข้าง<br />
พระอุโบสถ เป็็นหอพระไตรปิิฎกิไม้ตังอยู่ในสระนำ ทีมีรูปัแบบศิิลปัะสืบเนือง<br />
มาตังแต่กรุุงศรีีอยุธยา<br />
30<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
แนวัควัามคิดของโครงการ<br />
๑. รือฟื้้นรูปัแบบด้ังเดิิมทีสมบูรณ์ แก้้ไขเหตุปััจจัยแห่งกิารเสือมสภาพ<br />
ทังหมด้ ให้อาคัารกล ับมามีคัวามงด้งามดัังเดิิมตามเจตนารมณ์ในกิาร<br />
ก่่อสร้าง<br />
๒. เพื่อเปั็นพุทธบูชูาให้สามารถสื ่อคัวามหมายถึงคัวามเปั็นหอ<br />
พระไตรปัิฎกิ ที่มีคัวามสาคััญอย่างยิ่งในส่วนสังฆัาวาสของวัด้<br />
๓. เพื่อให้คังคัุณคั่าแบบอย่างสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณีที ่งด้งาม<br />
ในสมัยรัชูกิาลที่ ๓ โด้ยรักิษ์ารูปัทรงทางสถาปััตยกิรรม กิารปัระด้ับปัระด้า<br />
และกิารใชู้วัสดุ้แบบด้ั้งเด้ิมไว้ รักิษ์าฝ่ีมือชู่างด้ั้งเด้ิมไว้ให้มากิที่สุด้<br />
๔. ในขณะที่ส่วนศิิลปักิรรมทีจำเปั็นต้องทำใหม่ จะเปั็นกิารสืบสาน<br />
งานชู่างไทยให้คังอยู่ต่อไปั จากิของเกิ่าที ่เปั็นแบบอย่าง ไม่ให้ฝ่ีมือด้้อยเสื ่อมลง<br />
ตลอด้จนรักิษ์าสภาพโด้ยรอบให้ใกิล้เคัียงและกิลมกิลืนกิับคัวามเปั็น<br />
โบราณสถานทีมีคัวามสำคััญไว้อย่างดีีทีสุด้ ทังด้้วยกิารรือฟื้้นรูปัแบบของ<br />
สระนำแบบด้ังเดิิมให้กล ับคืืนมา คัำน่งถ่งกิารใช้้งาน กิารเปิิดมุุมมองให้กัับ<br />
โบราณสถานและคัวามสะด้วกิในกิารบำรุงรักิษ์าในปััจจุบันและต่อไปั<br />
ในอนาคัต<br />
กิารดำำเนินงานเริ ่มต้นจากิกิารปัระชูุมของคัณะทำงานเพื ่อกำำหนด้<br />
แนวคัวามคิิด้ในกิารอนุรักิษ์์ดัังกล่่าวข้างต้นร่วมกััน ซึ่่งจำเป็็นต้องศิ่กิษ์าข้อมูล<br />
ด้้านต่างๆ ให้คัรอบคลุุม ทังทางปัระวัติศิาสตร์ เอกิสาร และภาพถ่ายโบราณ<br />
จากินันจ่งปัระกิาศิเชิิญชูวนสมาชิิกิและผู้สนใจเข้าร่วมเป็็นอาสาสมัคัรใน<br />
โคัรงกิาร เพือกิารสำรวจ คััด้ลอกิ สภาพปััจจุบัน จัด้ทำแบบบูรณะโบราณสถาน<br />
แห่งนี ซึ่่งถือเป็็นขันตอนสำคััญของกิารทำงานด้้านกิารอนุรักิษ์์ อันเป็็นภารกิิจ<br />
ทีสำคััญของสถาปนิิกิ ทังยังได้้เรียนรู้งานในศิาสตร์แขนงอืนๆ เช่่น วิศิวกิรรม<br />
วิทยาศิาสตร์ โบราณคัด้ี และกิารทำงานร่วมกัับผู้อื นทีจะได้้มาเรียนรู้้การทำงาน<br />
ด้้านกิารอนุรักิษ์์สถาปััตยกิรรมตามแนวทางกิารอนุรักิษ์์ซึ่่งถือเป็็นกิารทำงาน<br />
แบบสหวิชูากิาร นอกิจากินียังเป็็นกิารสละแรงงานและเวลาเพือกิารกุุศิลด้้วย<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
31<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
พิธิีเปิดโครงการ<br />
วันที ๒๑ มกิราคัม พ.ศิ. ๒๕๕๕ เป็็นพิธีเปิิด้โคัรงกิารอย่างเป็็นทางกิาร ด้ร.วสุ โปัษ์ยะนันทน์ ปัระธานกิรรมาธิกิารอนุรักิษ์์ฯ ด้้านไทยปัระเพณี ได้้รับมอบหมายจากินายกิสมาคัม<br />
สถาปนิิกิสยามฯ ให้ทำหน้าทีเป็็นผู้เริมทำพิธีสักิกิาระสิงศัักดิ์์สิทธิภายใน พระอุโบสถ มีกิารกล่่าวรายงานเจตนารมย์ของนายกิสมาคัมสถาปนิิกิสยามฯ ในอันทีจะให้สมาคัมได้้แสด้งบทบาทเพือสังคัม<br />
อย่างเป็็นรูปัธรรมและเปิิด้โอกิาสให้สมาชิิกิได้้มีส่วนร่วมในกิิจกิรรมนี เสร็จพิธีด้้วยกิารรับโอวาทและนำพระพุทธมนต์จากิพระคร ูพิศิาลพัฒนคุุณ ผู้ชู่วยเจ้าอาวาส (ในขณะนัน) ซึ่่งได้้อำนวยพรให้<br />
โคัรงกิารสำเร็จลุล่วงด้้วยดีี ทีปัร่กิษ์าโคัรงกิารได้้ให้คัำแนะนำ ข้อคิิด้ในกิารทำงาน ก่่อนทีจะได้้ปัฏิิบัติงานกัันต่อในบริเวณหอไตร<br />
32<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
กิจกรรม ASA Art & VERNADOC day<br />
วันที ๒๔ มีนาคัม พ.ศิ. ๒๕๕๖ ได้้จัด้กิิจกิรรม ASA Art & VERNADOC day ข่นเพือเป็็นกิิจกิรรมกิารมีส่วนร่วมทางด้้านศิิลปัะและกิารเก็็บข้อมูลแบบ Vernadoc เพือกิารอนุรักิษ์์<br />
หอไตรวัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหาร โด้ยได้้รับคัวามร่วมมือจากิโรงเรียนสตรีวัดอ ัปัสรสวรรค์์และกลุ่่ม Bangkok Sketchers<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
33<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
34<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
35<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
36<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
37<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
38<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
39<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
40<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
41<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
42<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
43<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
44<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
45<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
46<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
47<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
นำเสนอผลังานในงานสถาปนิก ๕๕<br />
นำเสนอผลงานของอาสาสมัคัรและกิารทำงานทีผ่านมาในงานสถาปนิิกิ ๕๕ ทีอาคัารชูาแลนเจอร์ ศููนย์กิารแสด้งสินค้้า อิมแพคั เมืองทองธานี ตังแต่วันที ๒๔–๒๙ เมษ์ายน<br />
พ.ศิ. ๒๕๕๕ ในนิทรรศิกิาร “อาษ์า อาสา สถาปััตยกิรรมไทย” ในส่วนของกิิจกิรรมด้้านกิารอนุรักิษ์์งานสถาปััตยกิรรมของสมาคัมสถาปน ิกิสยามฯ นิทรรศิกิารได้้จำลองแบบหอไตรมาให้ชูม<br />
ข้อมูลเกิียวกัับกิิจกิรรมต่างๆ ในโคัรงกิารและนำรายได้้สมทบทุนในกิารบูรณะหอไตรอีกิด้้วย นอกิจากินี ในงานนิทรรศิกิารยังมีกิารจำหน่ายเสือยึึดซึ่่งเป็็นภาพจากิงานศิิลปัะในกิิจกิรรม<br />
ASA Art & VERNADOC day เพือเป็็นทีระลึึก<br />
48<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
ผ้าป่าอาษ์าสามัคคี<br />
พิธีทอดผ ้าป่่าอาษ์าสามัคัคัีเพือสมทบทุนกิารบูรณะหอพระไตรปิิฎกว ัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหาร กร ุงเทพมหานคัร เพือถวายเป็็นพุทธบูชูาและอนุรักิษ์์สืบสานงานสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณี<br />
ได้้จัด้ข่นในวันอาทิตย์ที ๑๖ ธันวาคัม พ.ศิ. ๒๕๕๕ กิิจกิรรมเริมต้นข่น เวลา ๑๓.๐๐ น. ผู้เข้าร่วมกิิจกิรรมอันได้้แก่่ คัณะกิรรมกิาร สถาปนิิกิอาวุโส คัณะกิรรมกิารบริหารฯ สมาชิิกิสมาคัม<br />
สถาปนิิกิสยามฯ ทุกท่่าน รวมทังเครืือข่ายผู้ที ให้กิารสนับสนุนสมาคัมสถาปนิิกิสยามฯ และเครืือข่ายกิารอนุรักิษ์์ ผู้ที มีคัวามสนใจในเรืองของกิารอนุรักิษ์์มรด้กิวัฒนธรรม ร่วมกัันถวายภัตาตาหารเพล<br />
แก่่พระสงฆ์์ หลังจากินันตังขบวนผ้าป่่าไปย ังพระอุโบสถ เพือปัระกิอบพิธีถวายผ้าป่่า นำโด้ยนายสมิตร โอบายะวาทย์ เป็็นปัระธานฝ่่ายฆัราวาส นายวสุ โปัษ์ยะนันทน์ ปัระธานกิรรมาธิกิาร<br />
อนุรักิษ์์ฯ ด้้านสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณี กล ่าวรายงานปัระวัติคัวามเป็็นมาของโคัรงกิาร จากินันได้้ถวายผ้าป่่าแด่่พระคร ูพิศิาลพัฒนคุุณ ปัระธานฝ่่ายสงฆ์์ และรับโอวาทและนำพระพุทธมนต์<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
49<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
กิจกรรมล่่องเรือคลัองด่าน คลัองบางหลัวัง<br />
สมาคัมสถาปนิิกิสยาม ในพระบรมราชููปถััมภ์ โด้ยคัณะกิรรมาธิกิารอนุรักิษ์์สถาปััตยกิรรม ด้้านสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณี ด้้วยคัวามร่วมมือกัับสมาคัมอิโคัโมสไทย ได้้จัด้กิิจกิรรมล่องเรือ<br />
คัลองด่่าน คัลองบางหลวงในวันอาทิตย์ที ๒๐ พฤษ์ภาคัม พ.ศิ. ๒๕๕๗ เพือนำชูมโคัรงกิารอนุรักิษ์์หอพระไตรปิิฎกวััดอััปัสรสวรรค์์วรวิหารและวัด้อืนๆ ในบริเวณใกล้้เคีียง และเผยแพร่คัวามรู้<br />
ด้้านปัระวัติศิาสตร์ท้องถินและศิิลปัสถาปััตยกิรรมไทยให้แก่่คัณะทำงานโคัรงกิาร อาสาสมัคัรโคัรงกิาร และผู้สนใจทัวไปั โด้ยมีวิทยากิร ปัระกิอบด้้วย อ.บุณยกิร วชิิรเธียรชััย คัณะสถาปััตยกิรรมศิาสตร์<br />
มหาวิทยาลัยศิิลปัากิร ด้ร.รุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกููล คัณะศิิลปัะศิาสตร์และวิทยาศิาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิิจบัณฑิตย์ ด้ร.วสุ โปัษ์ยนันทน์ กิรมศิิลปัากิร อ.กิรรณิกิาร์ สุธีรัตนาภิรมย์ และคุุณชุุมพล<br />
อักพ ันธานนท์ บ้านศิิลปิิน<br />
50<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
นำเสนอผลังานในงานสถาปนิก ๕๗<br />
นำเสนอผลงานของอาสาสมัคัรและกิารทำงานทีผ่านมาในกิารด้ำเนินกิารอนุรักิษ์์ทีหอพระไตรปิิฎกวััดอััปัสรสวรรค์์วรวิหาร ในงานสถาปนิิกิ ๕๗ ทีอาคัารชูาแลนเจอร์ ศููนย์กิารแสด้งสินค้้า<br />
อิมแพคั เมืองทองธานี ตังแต่วันที ๒๙ เมษ์ายน-๔ พฤษ์ภาคัม พ.ศิ. ๒๕๕๗ เพือนำเสนอผลงานกิารด้ำเนินกิารข้อมูลต่างๆ ทีศิ่กิษ์าได้้จากิกิารอนุรักิษ์์ อาทิ องค์์คัวามรู้ภูมิปััญญาช่่างไม้<br />
แบบโบราณ<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
51<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
๒<br />
การอนุรักษ์หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์
การอนุรักษ์์หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์<br />
กิารอนุรักิษ์์ในคัรังนีเป็็นกิารสานต่อแนวคิิด้ทีใช้้มาตังแต่โคัรงกิาร<br />
อนุรักิษ์์หอไตรวัด้เทพธิด้าราม กล ่าวคืือ ต้องกิารรักิษ์ารูปัแบบสถาปััตยกิรรม<br />
ด้ังเดิิมทีสมบูรณ์ของอาคัารหอพระไตรปิิฎกิ รวมทังกิารตกิแต่งขององค์์ปัระกิอบ<br />
สถาปััตยกิรรมทีมีเอกลัักิษ์ณ์ไว้ แก้้ไขเหตุและปััจจัยแห่งกิารเสือมสภาพ<br />
ทังหมด้ ให้อาคัารกลัับมามีคัวามงด้งามดัังเดิิมตามเจตนารมณ์ในกิารก่่อสร้าง<br />
เพือเป็็นพุทธบูชูา ให้สามารถสือคัวามหมายถ่งคัวามเป็็นหอพระไตรปิิฎกิ<br />
เพือให้คังคุุณค่่าแบบอย่างสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณีทีงด้งาม โด้ยรักิษ์า<br />
รูปัทรงทางสถาปััตยกิรรม กิารปัระดัับปัระด้า และกิารใช้้วัสดุุแบบด้ังเดิิมไว้<br />
รักิษ์าฝีีมือช่่างด้ังเดิิมไว้ให้มากิทีสุด้ โด้ยเฉพาะอย่างยิงงานจิตรกิรรมฝ่าผนัง<br />
ขันตอนการดำเนินงานโครงการ<br />
โคัรงกิารอนุรักิษ์์หอพระไตรปิิฎกว ัดอััปัสรสวรรค์์วรวิหาร มีขันตอน<br />
กิารทำงานดัังนี<br />
๑. กิารศิ่กิษ์ารวบรวมข้อมูลเบื้องต้นเพื่อกิารอนุรักิษ์์<br />
๒. กิารสำรวจสภาพทางกิายภาพของโบราณสถาน ปัระกิอบด้้วย<br />
กิารสำรวจทำผังบริเวณทังวัด้และสภาพก่่อนกิารอนุรักิษ์์ของหอพระไตรปิิฎกิ<br />
และบริเวณโด้ยรอบ โด้ยกิารเปิิด้โอกิาสให้สมาชิิกิได้้เข้ามามีส่วนร่วมในกิาร<br />
สำรวจบันทึึกสภาพในลักิษ์ณะอาสาสมัคัรและด้ำเนินกิารจัดจ้้างช่่างสำรวจ<br />
และชู่างเขียนแบบ<br />
๓. งานวิเคัราะห์ศิ่กิษ์าเปัรียบเทียบและจัดทำำแบบวิเคัราะห์<br />
๔. กิิจกิรรมนำชูมกิารทำงาน (งานสำรวจทำแบบ) เปิิด้โอกิาสให้<br />
สมาชิิกิ หรือบุคัคัลทัวไปัทีมีคัวามสนใจเกิียวกัับมรด้กิสถาปััตยกิรรมและ<br />
กิารอนุรักิษ์์เข้าชูมกิารด้ำเนินกิาร เพือเผยแพร่คัวามรู้และปัระชูาสัมพันธ์<br />
กิารทำงานของสมาคัมสถาปันิกิสยามฯ ในกิารอนุรักิษ์์งานสถาปััตยกิรรมไทย<br />
๕. กิารออกิแบบอนุรักิษ์์หอพระไตรปัิฎกิและบริเวณโด้ยรอบ พร้อม<br />
ด้้วยกิารปัระมาณราคัา กำำหนด้แนวทางในกิารอนุรักิษ์์ ดำำเนินกิารจัด้จ้าง<br />
ชู่างเขียนแบบและปัระมาณกิาร<br />
และงานปัระดัับกิระจกิทีผนังอาคัารซึ่่งมีคัวามโด้ด้เด่่นทีสุด้ ในขณะทีส่วน<br />
ศิิลปักิรรมอืนๆ ทีจำเป็็นต้องทำใหม่จะเป็็นกิารสืบสานงานช่่างไทยให้คังอยู่<br />
ต่อไปัจากิของเก่่าทีเป็็นแบบอย่างไม่ให้ฝีีมือด้้อยเสือมลง ตลอด้จนรักิษ์าสภาพ<br />
โด้ยรอบให้ใกล ้เคีียงและกิลมกลืืนกัับคัวามเป็็นโบราณสถานทีมีคัวามสำคััญ<br />
ไว้อย่างดีีทีสุด้ ทังด้้วยกิารรือฟื้้นรูปัแบบของสระนำแบบด้ังเดิิมให้กล ับคืืนมา<br />
และกิารปรัับปรุุงใหม่ทีคัำน่งถ่งกิารใช้้งาน กิารเปิิดมุุมมองให้กัับโบราณสถาน<br />
และคัวามสะด้วกิในกิารบำรุงรักิษ์าต่อไปัในอนาคัต<br />
๖. งานโบราณคัด้ีเพื่อกิารอนุรักิษ์์ ได้้แกิ่ กิารขุด้ตรวจหาข้อมูลเพิ่ม<br />
เติมของโบราณสถาน<br />
๗. ด้ำเนินกิารบูรณะและมีกิารคัวบคุุมงาน ซึ่่งจะต้องมีกิารขอคัวาม<br />
ร่วมมือบริษััททีปัร่กิษ์าหรือกิรมศิิลปัากิร โด้ยมีคัณะกิรรมาธิกิารอนุรักิษ์์ฯ<br />
ด้้านสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณี เป็็นกิรรมกิารตรวจกิารจ้างร่วมกัับตัวแทน<br />
ของกิรมศิิลปัากิร สมาคัมสถาปน ิกิสยามฯ และวัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหาร<br />
๘. กิารทำ As-Built Drawing เพือใช้้เป็็นหลักิฐานของกิารอนุรักิษ์์<br />
ในคัรังนี ทีเปิิด้โอกิาสให้สมาชิิกิเข้ามามีส่วนร่วม พร้อมด้้วยกิารจัดจ้้าง<br />
ช่่างเขียนแบบหรือให้เป็็นส่วนหน่งในสัญญาว่าจ้างกิารอนุรักิษ์์<br />
๙. กิารจัด้ทำรายงานกิารด้ำเนินกิาร สรุปข้้อมูลทางวิชูากิารทังหมด้<br />
เพือจัด้ทำต้นฉบับเอกิสารวิชูากิารด้้านกิารอนุรักิษ์์สถาปััตยกิรรมสำหรับ<br />
กิารจัดพ ิมพ์เผยแพร่ต่อไปั<br />
กิารจัด้ทำรายงานกิารด้ำเนินกิาร สรุปข้้อมูลทางวิชูากิารทังหมด้<br />
เพือจัด้ทำต้นฉบับเอกิสารวิชูากิารด้้านกิารอนุรักิษ์์สถาปััตยกิรรมสำหรับ<br />
กิารจัดพ ิมพ์เผยแพร่ต่อไปั<br />
54<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
นอกิจากินันยังมีงานออกิแบบปร ับปร ุงภูมิทัศน์์ ทำกิารศิ่กิษ์าข้อมูล<br />
สำรวจสภาพปััจจุบันของสภาพโด้ยรอบของวัด้ จัด้ทำแบบวิเคัราะห์สภาพ<br />
ภูมิทัศน์์ด้ังเดิิม และจัด้ทำแบบปร ับปร ุงภูมิทัศน์์โด้ยรอบหอพระไตรปิิฎกิ<br />
พร้อมด้้วยข้อเสนอแนะในกิารปรัับปรุุงภูมิทัศน์์ของทังวัด้เพือส่งเสริมคุุณค่่า<br />
ของโบราณสถานและมีงานปัระชูาสัมพันธ์โคัรงกิารตลอด้ชู่วงเวลาของกิาร<br />
ด้ำเนินกิาร ได้้แก่่<br />
๑. นำเสนอผลงานด้ำเนินกิารในงานสถาปน ิกิปัี ๒๕๕๓ เพือ<br />
ปัระชูาสัมพันธ์กิารทำงานของสมาคัมสถาปน ิกิสยามฯ และเพือ<br />
ระด้มทุนในด้ำเนินกิารอนุรักิษ์์<br />
๒. ปัระชูาสัมพันธ์ผลงานกิารด้ำเนินโคัรงกิารผ่านสือต่างๆ<br />
๓. จัด้กิิจกิรรมนำชูมกิารทำงานภาคัสนามของโคัรงกิารแก่่สมาชิิกิ<br />
สมาคัมสถาปน ิกิสยามฯ และบุคัคัลทัวไปัทีมีคัวามสนใจเกิียวกัับ<br />
มรด้กิสถาปััตยกิรรมและกิารอนุรักิษ์์<br />
การศึึกษ์ารวับรวัมข้อมูลัเบืองต้น<br />
กิารด้ำเนินกิารตามโคัรงกิารของคัณะทำงานเริมต้นด้้วยกิารรวบรวม<br />
ข้อมูลพืนฐานทังหมด้ของวัดอััปัสรสวรรค์์วรวิหารและหอพระไตรปิิฎกิ<br />
เกิียวกัับปัระวัติคัวามเป็็นมา ปัระวัติกิารบูรณะปร ับเปัลียนรูปัแบบ ตลอด้จน<br />
กิารอนุรักิษ์์ทีมีมาในอดีีตก่่อนหน้านีจากิเอกิสาร แผนทีเก่่า ข้อมูลกิาร<br />
ข่นทะเบียนโบราณสถานโด้ยกิรมศิิลปัากิร และภาพถ่ายเก่่าในยุคัสมัยต่างๆ<br />
ทีทำให้เห็นพัฒนากิารของพืนที บรรยากิาศิสภาพแวดล้้อมของบริเวณ<br />
โด้ยรอบ และรูปัแบบในอดีีตของหอพระไตรปิิฎกิ ทำให้สามารถนำมา<br />
เป็็นปัระโยชน์์ในกิารวิเคัราะห์รูปัแบบและวัสดุุด้ังเดิิมของหอพระไตรปิิฎกิ<br />
เป็็นข้อมูลทีสำคััญในกิารพิจารณากิำหนด้แบบอนุรักิษ์์<br />
ภาพถ่ายเก่่าวัดอ ัปัสรสวรรค์์ โด้ย น. ณ ปัากน ้ำ ทีมา : ศููนย์ข้อมูลเมืองโบราณ<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
55<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
การสำรวัจสภาพทางกายภาพ<br />
คัณะทำงานเข้าสำรวจพืนภายในบริเวณวัด้ทังภายในเขตพุทธาวาส<br />
และเขตสังฆัาวาส เขียนแผนทีภูมิปัระเทศิแสด้งสภาพปััจจุบันของพืนที<br />
เพือใช้้เป็็นข้อมูลในกิารออกิแบบทางด้้นวิศิวกิรรมและสถาปััตยกิรรม โด้ยวัด้คั่า<br />
ระดัับพืนอาคัารทุกิหลังและระดัับพืนลาน ทางเดิิน ถนนภายในบริเวณวัด้<br />
ตำแหน่งเสาไฟื้ฟื้้า และตำแหน่งต้นไม้เดิิมทีมีอยู่ในพืนที โด้ยได้้รับกิาร<br />
สนับสนุนกิารจัด้ทำผังบริเวณจากิบริษััทซึ่ีบี กิารสำรวจ จำกััด้ โด้ยมี<br />
ขอบเขตในกิารด้ำเนินดัังนี<br />
สำรวัจเขตพุทธิาวัาสแลัะสังฆัาวัาสโดยรวัม<br />
๑. สำรวจตำแหน่งเสาไฟื้ฟื้้า<br />
๒. สำรวจเกิ็บรายละเอียด้ต้นไม้ภายในผังบริเวณวัด้ ที ่มีขนาด้<br />
เส้นผ่าศิูนย์กิลางลำต้นตั้งแต่ ๖ นิ้วขึ้นไปั และชูนิด้ของต้นไม้<br />
๓. สำรวจเส้นรอบรูปัอาคัารทุกิหลัง แนวถนน แนวรางนา บ่อพักน้า<br />
กำำแพงวัด้<br />
๔. สำรวจเก็็บค่่าระดัับพืนที (โด้ยเฉลีย N grid ๑๐ เมตร) และ<br />
ค่่าค่่าระดัับพืนภายในอาคัารหลังหลักิๆ (ตามทีกิำหนด้ในแบบ)<br />
๕. สำรวจเกิ็บตำแหน่ง ขนาด้ และคัวามล่กิของบ่อพักน้า และ<br />
รางระบายนา<br />
สำรวัจบริเวัณพื้นที่หอพระไตรปิฎก<br />
๑. สำรวจเส้นรอบรูปัอาคัาร แนวถนน แนวรางนา บ่อพักน้า รั ้ว<br />
โด้ยรอบ ลาน และกิระถางต้นไม้ให้ละเอียด้ทุกิหลัง<br />
๒. สำรวจเกิ็บคั่าระด้ับพื้นทางเด้ิน ถนนภายในโด้ยละเอียด้<br />
๓. ค่่าระดัับพืนภายในอาคัารทุกิหลัง (อย่างน้อย ๖ จุด้ ภายในห้อง<br />
ซึ่่งบอกิได้้ว่าอาคัารทรุดต ัวไปัในทิศิทางใด้ เอียง (slope) เท่าไร และคัวาม<br />
ลาด้เอียงเพื่อระบายนาเปั็นไปัในทิศิทางใด้)<br />
๔. สำรวจเกิ็บรายละเอียด้ต้นไม้เด้ิมในพื ้นที่โด้ยละเอียด้ เฉพาะต้นไม้<br />
ที่มีขนาด้เส้นผ่าศิูนย์ลางลำต้นตั้งแต่ ๖ นิ้วขึ้นไปั และชูนิด้ของต้นไม้<br />
๕. สำรวจเกิ็บตำแหน่ง ขนาด้ และคัวามล่กิของบ่อพักน้า บ่อนา<br />
และทางระบายนา (โด้ยละเอียด้) บริเวณทางเด้ินโด้ยรอบ<br />
56<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
ผังบริเวณโด้ยรอบวัดอ ัปัสรสวรรค์์ ด้ำเนินกิารสำรวจโด้ย บริษััทบีซึ่ี กิารสำรวจ จำกััด้<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
57<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
การสำรวัจสภาพทางกายภาพ-ทำแบบสภาพปัจจุบัน<br />
หลังจากิได้้ศิ่กิษ์ารวบรวมข้อมูลเบืองต้นพร้อมทังรับสมัคัรอาสา<br />
สมัคัรเข้าร่วมโคัรงกิารเรียบร้อยแล้วนัน ในวันที ๔ เมษ์ายน พ.ศิ. ๒๕๕๕<br />
จ่งได้้เริมปัฏิิบัติงานภาคัสนามทีวัด้ในทุกว ันเสาร์และวันอาทิตย์ ตังแต่เวลา<br />
๙.๐๐ น. จนถ่ง ๑๕.๐๐ น. คัณะทำงานซึ่่งปัระกิอบด้้วยคัณะกิรรมาธิกิาร<br />
อนุรักิษ์์ของสมาคัมฯ ได้้นัด้พบอาสาสมัคัรจากิสถาบันกิารศิ่กิษ์าต่างๆ<br />
มีกิารแนะนำตัว ชูีแจงทีมาของโคัรงกิาร และวางแผนกิารทำงานร่วมกััน<br />
พร้อมทังได้้เริมลงมือปัฏิิบัติกิารสำรวจ ทำแบบสภาพปััจจุบันของอาคัารหอไตร<br />
และบริเวณโด้ยรอบ เขียนแบบหอพระไตรปิิฎกิอย่างละเอียด้ เขียนแบบสภาพ<br />
ปััจจุบันของอาคัารทุกิหลัง คััด้ลอกิลวด้ลายของปัระตูและหน้าต่างทุกิบาน<br />
เพือนำไปัใช้้ในขันตอนกิารออกิแบบบูรณะต่อไปั<br />
58<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
กิิจกิรรมอาษ์า อาสา สถาปััตยกิรรมไทย ในกิารสำรวจรังวัด้อาคัาร<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
59<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
แบบคััด้ลอกิลายเส้นบานปัระตู โด้ยอาสาสมัคัรในโคัรงกิาร อาษ์า อาสา สถาปััตยกิรรมไทย<br />
60<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์ การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย<br />
แบบคััด้ลอกิลายเส้นบานปัระตูและหน้าต่าง โด้ยอาสาสมัคัรในโคัรงกิาร อาษ์า อาสา สถาปััตยกิรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
61<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
62<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
63<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
64<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
65<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
66<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
67<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
68<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
69<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
70<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
71<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
72<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
73<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
74<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
75<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
แบบวิิเคราะห์สถาปัตยกรรม<br />
76<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
77<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
การออกแบบแลัะกำหนดรูปแบบรายการบูรณะ<br />
จากิกิารทำงานร่วมกิันในลักิษ์ณะสหวิทยากิาร เปั็นหน้าที ่ของ<br />
สถาปันิกิในกิารนำข้อมูลเบื้องต้นจากิสายวิชูาชูีพต่างๆ มาพิจารณาจัดทำำ<br />
แบบบูรณะ โด้ย ด้ร.วสุ โปัษ์ยะนันทน์ ได้้นำข้อสรุปัมาจัด้ทำเป็็นรายกิาร<br />
ปัระกิอบแบบ เพือนำไปัสู่กิารทำปัระมาณราคัาและเข้าสู่่กระบวนกิารใน<br />
กิารขออนุญาตดำำเนินกิารจากิกิรมศิิลปัากิรด้ังนี้<br />
รายการประกอบแบบงานบูรณะหอพระไตรปิฎก<br />
วััดอัปสรสวัรรค์วัรวิิหาร<br />
ในโคัรงกิารอนุรักิษ์์วัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหาร กร ุงเทพมหานคัร<br />
กิรรมาธิกิารอนุรักิษ์์ศิิลปัสถาปััตยกิรรม ด้้านสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณี<br />
ปีี ๒๕๕๕–๒๕๕๗ สมาคัมสถาปน ิกิสยาม ในพระบรมราชููปถ ัมภ์<br />
ทีตัง<br />
วัดอััปัสรสวรรค์์วรวิหาร ตังอยู่ที แขวงปัากิคัลอง เขตภาษีีเจริญ<br />
กร ุงเทพมหานคัร<br />
ประวััติควัามเป็นมา<br />
เด้ิมมีชูื่อว่า วัด้หมู กิล่าวกิันว่าได้้สร้างในทีด้ินที่เคัยใชู้เลี้ยงหมู เมื ่อ<br />
สร้างวัด้แล้วกิ็ยังมีหมูเด้ินไปัมาในวัด้จึงเรียกิว่า วัด้หมู บ้างกิ็ว่าเศิรษ์ฐีจีน<br />
ชูื่อ “อู๋” เปั็นผู้สร้างวัด้ ชูาวบ้านจึงเรียกิว่า วัด้อู๋บ้าง วัด้จีนอู๋บ้าง แล้วเพี้ยน<br />
ไปัจนติด้ปัากิว่า วัด้หมู แต่จะสร้างขึ้นเมื่อใด้ไม่ปัรากิฏิหลักิฐานแน่ชูัด้ คัรั้น<br />
ในสมัยรัชูกิาลที่ ๓ เจ้าจอมน้อย ผู้เปั็นธิด้าของเจ้าพระยาพลเทพ (ฉิม) ใคัร่<br />
จะปฎิิสังขรณ์เพืออุทิศส่่วนกุุศิลแด่่บิด้า พระบาทสมเด็็จพระนังเกล้้าเจ้าอยู่หัว<br />
จ่งทรงพระกร ุณาโปัรด้เกล้้าฯ พระราชูทานพระราชูทรัพย์ส่วนพระองค์์ให้<br />
สถาปันาใหม่ทังวัด้ และพระราชูทานนามว่า วัดอััปัสรสวรรค์์ เพือเป็็นทีระลึึก<br />
แด้่เจ้าจอมน้อย ซึ่่งมีคัวามสามารถในกิารแสด้งละคัรเรื่องอิเหนา เปั็นตัว<br />
สุหรานากิงได้้ดีี จนมีฉายาเรียกิกิันว่า เจ้าจอมน้อยสุหรานากิง นอกิจากินี<br />
ยังได้้พระราชูทานพระพุทธรูปัปัางฉันสมอมาปัระดิิษ์ฐานอยู่ทีวัด้นีด้้วย<br />
และทีด้้านข้างพระอุโบสถยังมีหอพระไตรปัิฎกิไม้ตั้งอยู่ในสระนา ที ่มี<br />
รูปัแบบศิิลปัะสืบเนืองมาตังแต่กรุุงศรีีอยุธยา เป็็นหอไตรทีมีทรวด้ทรงงด้งาม<br />
สมเด็็จเจ้าฟื้้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กิรมพระนคัรสวรรค์์วรพินิต เคัยเสด็็จ<br />
ทอด้พระเนตรแล้วนำไปัเป็็นแบบอย่างเพือจัดร ูปัหอเขียนสมัยอยุธยาที<br />
วังสวนผักิกิาด้<br />
กิรมศิิลปัากิรได้้ปัระกิาศิขึ้นทะเบียนเปั็นโบราณสถานที ่มีคัวาม<br />
สาคััญระด้ับชูาติตั้งแต่วันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศิ. ๒๕๒๐ บันท่กิในราชูกิิจ<br />
จานุเบกิษ์า เล่ม ๙๔ ตอนที่พิเศิษ์ ๗๕ วันที่ ๑๖ สิงหาคัม พ.ศิ. ๒๕๒๐<br />
รายลัะเอียดการอนุรักษ์์<br />
การเตรียมสถานที<br />
๑. จัด้เตรียมแรงงาน เคัรืองมือ และอุปักิรณ์ทำคัวามสะอาด้สถานที<br />
ตลอด้ระยะเวลาทีด้ำเนินกิาร<br />
๒. จัด้เตรียมสถานที่ทิ้งเศิษ์วัสดุ้และกิองเกิ็บอุปักิรณ์ซึ่่งรื้อถอน<br />
ออกิจากิสถานทีกิ่อสร้าง ทั้งนี้เพื่อให้สามารถขนย้ายออกิได้้ทั้งหมด้ ไม่มี<br />
กิารกิองเกิ็บไว้ในสถานทีกิ่อสร้างภายหลังกิารรื้อถอน<br />
๓. จัด้ทำระบบป้้องกัันฝุ่่นและอุปักิรณ์ป้้องกัันอันตราย ตามมาตรกิาร<br />
ป้้องกัันอันตรายและเหตุเดืือดร้้อนรำคัาญในระหว่างกิารก่่อสร้างตามที<br />
กิฎหมายกำำหนด้โด้ยเคัร่งคัรัด้<br />
๔. จัด้เตรียมสำนักิงานชูัวคัราวสำหรับใช้้ในกิารปัระชุุมหารือ<br />
ปัระสานงาน ติด้ตามผลกิารดำำเนินกิารของคัณะทำงานฯและคัณะกิรรมกิาร<br />
ตรวจกิารจ้าง ตลอด้ระยะเวลาของกิารดำำเนินกิารโคัรงกิาร เคัลื่อนย้ายตู้<br />
พระธรรมและพระไตรปัิฎกิทั้งหมด้ไปัจัด้เกิ็บไว้ในสถานทีปัลอด้ภัย โด้ยให้มี<br />
กิารปัระสานหารือขออนุญาตจากิทางวัด้กิ่อน<br />
๕. รื้อถอนสิ่งปัลูกิสร้างในส่วนที่มีผลกิระทบต่อกิารดำำเนินตรวจ<br />
สอบข้อมูลด้ั้งเด้ิมของขอบสระนาโด้ยรอบ<br />
78<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
๖. ทำหลังคัาคล ุมส่วนทำงานทีอยู่ภายนอกิอาคัารและติด้ตังนังร้าน<br />
โด้ยไม่ให้กีีด้ขวางกิารจราจรภายในวัด้<br />
งานตรวัจสอบข้อมูลัเบืองต้นก่อนการบูรณะ<br />
๑. ให้ด้ำเนินกิารสกััด้พืนซึ่ีเมนต์รอบสระนำออกิในขอบเขตเพือ<br />
กิารตรวจสอบรูปัแบบด้ังเดิิมของสระนำ จัด้ทำเป็็นแบบ shop drawing<br />
เสนอแนวทางในกิารพื นฟืู้รูปัแบบด้ั งเดิิมและกิารปร ับปรุุงส่วนขอบสระ<br />
ให้สอด้คัล้องกิับแนวคัิด้ของแบบภูมิทัศิน์ที่ได้้ออกิแบบไว้แล้ว<br />
๒. ให้มีกิารตรวจสอบข้อมูลของสระนำและระบบฐานรากิอาคัาร<br />
ที่อยู่ใต้ระด้ับนา โด้ยผู้รับจ้างจะต้องนำเสนอแนวทางในกิารดำำเนินกิารที่จะ<br />
ไม่ส่งผลกิระทบกิับโคัรงสร้างของโบราณสถานและไม่เปั็นอันตรายกิับสัตว์<br />
นาที่อาศิัยอยู่ในสระ ให้คัณะกิรรมกิารตรวจกิารจ้างพิจารณาอนุมัติกิ่อน<br />
รวมทั้งให้จัดทำำรายงานผลกิารดำำเนินกิารอย่างคัรบถ้วน<br />
งานบูรณะ<br />
๑. งานหลังคัา<br />
๑.๑ บันท่กิภาพถ่ายโด้ยละเอียด้กิ่อนเริ่มงานบูรณะ<br />
๑.๒ สำรวจตรวจสอบ สรุปัข้อมูลกิารเสื่อมสภาพ และชูนิด้ของ<br />
ไม้ขององคั์ปัระกิอบต่างๆ<br />
๑.๓ คัลุมแผ่นพลาสติกิทับบริเวณหน้าบันทั ้ง ๒ ด้้าน เพื ่อปั้องกิัน<br />
คัวามเสียหายขณะทากิารบูรณะงานหลังคัา<br />
๑.๔ ตรวจสอบและจัดทำำแบบแสด้งคัวามเสียหายกิ่อนกิารบูรณะ<br />
พร้อมจัด้เกิ็บตัวอย่างวัสดุ้ทีจำเปั็น<br />
๑.๕ รือถอนกิระเบืองหลังคัาเดิิมออกิทั งหมด้และขนออกิไปั<br />
นอกิพื้นทีกิ่อสร้าง<br />
๑.๖ บันทึึกภาพถ่าย ตรวจสอบโคัรงสร้างหลังคัาภายหลังรือ<br />
กิระเบืองหลังคัา จัด้ทำเป็็นแบบ shop drawing สำหรับกิารด้ำเนินกิาร<br />
จริงตามสภาพทีสำรวจพบ พร้อมออกิแบบปรัับปร ุงงานระบบไฟื้ฟื้้าใหม่<br />
สำหรับอาคัาร<br />
๑.๗ ทาคัวามสะอาด้พื ้นที่ใต้หลังคัาและเหนือฝ่้าเพด้านทั ้งหมด้<br />
ขนย้ายเศิษ์ขยะและเศิษ์วัสดุ้ออกิไปันอกิพื้นทีกิ่อสร้าง<br />
๑.๘ ซึ่่อมแซึ่มโคัรงสร้างหลังคัาไม้ส่วนที ่ชำำรุด้แต่ยังพอใชู้กิารได้้<br />
โด้ยให้คังสภาพกิลอนสับของเดิิมไว้ ทำกิารซึ่่อมเปัลียนเฉพาะส่วนทีชูำรุด้<br />
ตามแบบ shop drawing<br />
๑.๙ เปัลียนชูินส่วนโคัรงสร้างหลังคัาไม้ส่วนทีชูำรุด้จนหมด้<br />
สภาพกิารใช้้งาน โด้ยใช้้ไม้สักิขนาด้และรูปัแบบตามแบบด้ังเดิิม โด้ยให้<br />
เปัลียนไม้ระแนง เชิิงชูาย และสะพานหนูใหม่ทังหมด้ ทานำยากัันปัลวกิและ<br />
รักิษ์าเนือไม้ ส่วนเชิิงชูายให้ทาด้้วยสีอะคร ิลิกิสำหรับทาไม้ตามสีด้ังเดิิมที<br />
ตรวจพบ (นำเสนอตัวอย่างสีให้สถาปน ิกผู้ออกิแบบพิจารณาก่่อน)<br />
๑.๑๐ ติด้ตังงานระบบใหม่สำหรับส่วนทีเกิียวข้องกัับหลังคัา<br />
๑.๑๑ มุงกิระเบื้องหลังคัา โด้ยมุงด้้วยกิระเบื ้องเคัลือบด้ินเผา<br />
ตามลักิษ์ณะที่เห็นในหลักิฐานภาพถ่ายเกิ่า พร้อมจัดทำาคัรอบปัูนปัั้นทับแนว<br />
กิระเบื้องฉาบด้้วยปัูนหมักิขัด้ผิวปัูนตำ<br />
๑.๑๒ ให้จัดทำำระบบกิันซึ่่มหลังคัา โด้ยใชู้แผ่นสังกิะสีสอด้ไว้ใต้<br />
กิระเบื้องในแต่ละชูั้น<br />
๒. งานหน้าบัน เคัรื่องลำยอง และส่วนปัระกิอบหลังคัา<br />
๒.๑ บันท่กิภาพถ่ายโด้ยละเอียด้กิ่อนเริ่มงานบูรณะ<br />
๒.๒ ทำแบบขยายสภาพปััจจุบันให้คัรบทุกิองคั์ปัระกิอบ<br />
๒.๓ ตรวจสอบและจัดทำำแบบแสด้งคัวามเสียหายกิ่อนกิาร<br />
บูรณะ พร้อมจัด้เกิ็บตัวอย่างวัสดุ้ทีจำเปั็น<br />
๒.๔ ทำ shop drawing แบบบูรณะของหน้าบันและเคัรืองลำยอง<br />
ทั้งหมด้ แสด้งรายละเอียด้สัด้ส่วน ลวด้ลายและกิารปัระด้ับกิระจกิสีตามแบบ<br />
ด้ั้งเด้ิมที่สมบูรณ์ กิะสวนทำแบบเท่าจริง<br />
๒.๕ ถอด้เกิ็บชู่อฟื้้าเคัรื่องลำยองเด้ิมไว้ เพื ่อนำไปัจัด้แสด้ง<br />
นิทรรศิกิารภายหลัง<br />
๒.๖ ฟื้ันช่่อฟื้้าใหม่ทัง ๔ ตัวรวมทังเคัรืองลำยองทังหมด้ โด้ยใช้้<br />
ไม้สักิปัระดัับตกิแต่งด้้วยกิระจกสีีตาม shop drawing<br />
๒.๗ ทำคัวามสะอาด้ตามกิรรมวิธีของกลุ่ ่มอนุรักิษ์์จิตรกิรรมและ<br />
ปัระติมากิรรม โด้ยใช้้นำสะอาด้และแอมโมเนียมคัาร์บอเนต และบันทึึกภาพถ่าย<br />
สภาพหน้าบันก่่อนกิารด้ำเนินกิารซึ่่อมแซึ่ม<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
79<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
๒.๘ ซึ่่อมแซึ่มงานไม้ของกิระจังฐานพระ คัันทวยทังหมด้ในส่วน<br />
ทีชูำรุด้<br />
๒.๙ ซึ่่อมแซึ่มกิระจกส ีตกิแต่งหน้าบัน และองค์์ปัระกิอบต่างๆ ที<br />
ยังอยู่ในสภาพดีี<br />
๒.๑๐ ปัระด้ับกิระจกิสีเพิ ่มเติมในส่วนที กิระจกิเด้ิมสูญหายไปัตามแบบ<br />
๒.๑๑ ส่วนงานปัิด้ทองลงรักิปัิด้ทองใหม่ทั้งหมด้<br />
การอุนุรักษ์์ส่วนหน้าบันและคันทวยจะดำำเนินการภ์ายใต้การกำกับดู้แล<br />
โด้ยชู่างฝีมือุจากกลุ่มอุนุรักษ์์จิตรกรรมและประติมากรรม สำนักโบราณีคด้ี<br />
๓. งานฝ้้าเพด้านภายนอกิ-ภายใน และไขราหน้าจัว<br />
๓.๑ บันท่กิภาพถ่ายโด้ยละเอียด้กิ่อนเริ่มงานบูรณะ<br />
๓.๒ ตรวจสอบข้อมูลสภาพและจัด้ทำแบบแสด้งคัวามเสียหาย<br />
กิ่อนกิารบูรณะ พร้อมจัด้เกิ็บตัวอย่างวัสดุ้ทีจำเปั็น จัดทำำแบบขยายคััด้ลอกิ<br />
ลายเท่าจริงตามสภาพกิ่อนกิารบูรณะ ขูด้ลอกิชูั้นสีตรวจหาลวด้ลายด้ั้งเด้ิม<br />
และข้อเสนอในกิารปัรับแกิ้ไข (ถ้ามี)<br />
๓.๓ ด้ำเนินกิารซึ่่อมแซึ่มเปัลียนไม้ตามแบบ shop drawing<br />
ตามหลักิฐานที่พบจากิกิารตรวจสอบ<br />
๓.๔ ขัด้แต่งผิว ทาสีรองพืน ทาสี และปิิด้ทองตามแบบ<br />
การอุนุรักษ์์ฝ้าเพด้านจะดำำเนินการภ์ายใต้การกำกับดู้แลโด้ยชู่างฝีมือุ<br />
จากกลุ่มอุนุรักษ์์จิตรกรรมและประติมากรรม สำนักโบราณีคด้ี<br />
๔. งานผนังและเสา<br />
๔.๑ บันท่กิภาพถ่ายโด้ยละเอียด้กิ่อนเริ่มงานบูรณะ<br />
๔.๒ ตรวจสอบและจัดทำำแบบแสด้งคัวามเสียหายกิ่อนกิารบูรณะ<br />
โด้ยละเอียด้ พร้อมจัด้เกิ็บตัวอย่างวัสดุ้ทีจำเปั็น<br />
๔.๓ ซึ่่อมเปัลียนผนัง–เสาไม้ส่วนทีเสือมสภาพด้้วยไม้สักิ โด้ย<br />
ในส่วนทีเป็็นงานแกิะสลักิไม้ให้ด้ำเนินกิารรูปัแบบด้ังเดิิมให้สมบูรณ์<br />
๔.๔ ผนังภายใน ด้ำเนินกิารอนุรักิษ์์จิตรกิรรมฝ่าผนัง เริมจากิ<br />
กิารทำคัวามสะอาด้ด้้วยนำสะอาด้และแอมโมเนียมคัาร์บอเนต ฉีด้ ทากิาว<br />
พาราลอยด์์ บี ๗๒ แล้วผนึึกให้แนบสนิทกัับผนัง ถมชูั นรองพืนในรอย<br />
ชูำรุด้ด้้วยดิินสอพองผสมกิาวเม็ด้มะขาม และเติมสีตามหลักิกิารอนุรักิษ์์<br />
๔.๕ ผนังภายนอกิให้ดำำเนินกิารอนุรักิษ์์ชูั้นรักิและกิระจกิสี ให้<br />
ดำำเนินกิารจัด้เกิ็บกิระจกิสีที ่หลุด้ร่วงอยู่ นำมาทาคัวามสะอาด้เพื่อเตรียมนำ<br />
กิลับมาใชู้ใหม่ ทาคัวามสะอาด้ชูั้นรักิและกิระจกิสีด้้วยนาสะอาด้และ<br />
แอมโมเนียมคัาร์บอเนต เสริมคัวามมั่นคังให้กิับชูั้นรักิด้้วยกิารอุด้ เติมรักิสมุกิ<br />
ในส่วนที่ชำำรุด้ นากิระจกิสีมาปัระด้ับให้คัรบถ้วนสมบูรณ์<br />
๔.๖ ตรวจสอบและจัดทำำแบบแสด้งคัวามเสียหายของเสาไม้<br />
ทั้งหมด้ โด้ยหลักิกิารเบื้องต้นให้เปัลี่ยนเสาแถวในจำนวน ๖ ต้น ตั ้งแต่จากิ<br />
ส่วนตอม่อขึ้นมาจนถึงพื้น โด้ยให้ใชู้เสาไม้สักิหรือไม้เนื ้อแข็ง (ไม้เกิ่า) ขนาด้<br />
๑๐ นิ้ว และเสารอบนอกจำำนวน ๑๔ ต้น ให้เปัลี่ยนใหม่ทั้งหมด้ โด้ยให้ใชู้<br />
เสาไม้สักิหรือไม้เนื้อแข็ง (ไม้เกิ่า) ขนาด้ ๘ นิ้ว<br />
๔.๗ ส่วนเสารอบนอกิให้ดำำเนินกิารอนุรักิษ์์ลายทองให้สมบูรณ์<br />
ให้คััด้ลอกิลวด้ลายเด้ิมไว้อย่างคัรบถ้วน เพื่อนำมาเขียนใหม่ตามรูปัแบบ<br />
และวิธีกิารด้ั้งเด้ิมแบบโบราณ ด้้วยกิารลงพื้นด้้วยรักิสมุกิ ขัด้ผิวให้เรียบ<br />
ลอกิฉลุลายตามแบบเด้ิม เชู็ด้รักิและปัิด้ทองตามลวด้ลายเด้ิมให้สมบูรณ์<br />
๔.๘ งานอนุรักิษ์์บันได้และพนักิระเบียง บันได้ไม้แกิะสลักิลวด้ลาย<br />
ให้ทำคัวามสะอาด้ ขัด้แต่งผิวไม้ขันบันได้ให้เรียบร้อย แล้วทาด้้วยนำยา<br />
รักิษ์าเนือไม้ ส่วนพนักิระเบียงไม้ให้ซึ่่อมปัะด้าม เปัลียนไม้ทีชูำรุด้<br />
เสือมสภาพโด้ยใช้้ไม้สักิ เสร็จแล้วทำคัวามสะอาดข ัด้แต่งผิว และทาด้้วย<br />
นำยารักิษ์าเนือไม้ด้้วยเช่่นเดีียวกััน<br />
การอุนุรักษ์์จิตรกรรมฝาผนังและงานด้้านศิลปกรรมต่างๆ จะดำำเนินการ<br />
ภ์ายใต้การกำกับดู้แลโด้ยชู่างฝีมือุจากกลุ่มอุนุรักษ์์จิตรกรรมและประติมากรรม<br />
สำนักโบราณีคด้ี<br />
80<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
๕. งานปัระตู หน้าต่าง และหน้าต่างหลอกิ<br />
๕.๑ บันท่กิภาพถ่ายโด้ยละเอียด้กิ่อนเริ่มงานบูรณะ<br />
๕.๒ ตรวจสอบและจัดทำำแบบแสด้งคัวามเสียหายกิ่อนกิาร<br />
บูรณะ ข้อมูลชูั้นสีด้ั้งเด้ิม พร้อมจัด้เกิ็บตัวอย่างวัสดุ้ทีจำเปั็น<br />
๕.๓ ส่วนบานปัระตู หน้าต่าง และหน้าต่างหลอกิ ให้ดำำเนินกิาร<br />
อนุรักิษ์์ลายรดน้้ำำด้านนอกิด้้วยวิธีสงวนรักิษ์า โด้ยให้ทาคัวามสะอาด้ด้้วย<br />
นาสะอาด้และแอมโมเนียมคัาร์บอเนต เขียนต่อเติมลายเฉพาะที่ลบเลือน<br />
เช็็ดร ักิและปิิด้ทองตามกิรรมวิธีกิารทำลายรดน ้ำ เขียนลวด้ลายเสริมส่วนที<br />
ชูำรุด้ด้้วยหอระด้าน เช็็ดรัักิ และปิิด้ทองลวด้ลายส่วนทีชูำรุด้ให้สมบูรณ์<br />
๕.๔ ด้ำเนินกิารซึ่่อมแซึ่มงานไม้ และงานลงรักิปัิด้ทองของบาน<br />
ปัระตู หน้าต่าง และกิรอบเช็็ด้หน้า (วงกิบ) ทีชูำรุด้<br />
๕.๕ ติด้ตั้งบานปัระตูและหน้าต่างกิลับเข้ายังตำแหน่งเด้ิม<br />
ภายหลังกิารซึ่่อมแซึ่มงานไม้เรียบร้อยแล้ว<br />
๕.๖ ติด้ตังอุปักิรณ์มือจับ กิลอน และกุุญแจตามแบบด้ังเดิิม<br />
๕.๗ ส่วนซึุ่้มปัระตูและหน้าต่าง ให้ตรวจสอบแบบขยายสภาพ<br />
ปััจจุบันของลวด้ลายทุกิซึุ่้ม และวิเคัราะห์ต่อเติมลายงานสลักิไม้และงาน<br />
ตะกิั่วให้คัรบถ้วนสมบูรณ์<br />
๕.๘ ทาคัวามสะอาด้ลวด้ลายด้้วยนาสะอาด้และแอมโมเนียม<br />
คัาร์บอเนต ต่อเติมไม้แกิะสลักิทีชูำรุด้หลุด้หาย เติมลวด้ลายทีทำจากิตะกิัว<br />
ให้คัรบถ้วนตามแบบวิเคัราะห์ ปัระดัับกิระจกิ ทารักิ และปิิด้ทองให้สมบูรณ์<br />
ดัังเดิิม<br />
การอุนุรักษ์์งานศิลปกรรมจะดำำเนินการภ์ายใต้การกำกับดู้แลโด้ยชู่าง<br />
ฝีมือุจากกลุ่มอุนุรักษ์์จิตรกรรมและประติมากรรม สำนักโบราณีคด้ี<br />
๖. งานพื้น<br />
๖.๑ บันท่กิภาพถ่ายโด้ยละเอียด้กิ่อนเริ่มงานบูรณะ<br />
๖.๒ ตรวจสอบและจัดทำำแบบไม้พื้นและโคัรงสร้างไม้พื้น แสด้ง<br />
คัวามเสียหายของไม้เด้ิม<br />
๖.๓ ปัะด้าม ซึ่่อมเปัลียนไม้พืนและไม้รอดส่่วนทีชูำรุด้ โด้ยใช้้ไม้สักิ<br />
ขัด้แต่งผิวพืนไม้ ทานำยากัันปัลวกิและรักิษ์าเนือไม้ทีพิจารณาเลือกิหลัง<br />
จากิกิารศิ่กิษ์าเปร ียบเทียบผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในท้องตลาด้ และวิธีกิารด้ังเดิิม<br />
๗. งานฐานรากิ ตอม่อ และสระนา<br />
๗.๑ จัด้ทำผนังกิันนำโด้ยแบ่งคัร่งของสระแล้วสูบนำพร้อมย้าย<br />
สัตว์นำต่างๆ ออกิ ตักส่่วนทีเป็็นโคัลนเลนออกินำไปัทิงในสถานทีซึ่่งทาง<br />
วัด้กิำหนด้ (ให้ด้ำเนินกิารตรวจสอบข้อมูลทางโบราณคัด้ีและวิศิวกิรรมของ<br />
ฐานรากิอาคัารและผนังขอบสระในขันตอนนี)<br />
๗.๒ เขียนแบบบันท่กิข้อมูลทีได้้สำรวจพบ จัด้ทำเป็็น shop<br />
drawing แบบบูรณะฐานรากิ ตอม่อ และสระนำ<br />
๗.๓ ค้ายันอาคัารไว้ตลอด้กิารดำำเนินกิารจัดทำำฐานรากิ ตอม่อ<br />
และเปัลี่ยนเสาไม้<br />
๗.๔ ให้ทุบตอม่อปููนเดิิมออกิ แล้วทำฐานรากิและตอม่อ คั.ส.ล. ใหม่<br />
โด้ยทำให้เป็็นเสารูปัแปัด้เหลียมตามรูปัเสาไม้ จำนวน ๒๐ ต้น<br />
๗.๕ บูรณะสระนาให้มีคัวามสมบูรณ์ด้ังเด้ิม โด้ยกิ่อเปั็นกำำแพง<br />
ขอบสระกิ่ออิฐฉาบปัูนขาวหมักิทาสีอะคัริลิกิสีขาวปัระเภทระบายคัวามชูื้นได้้<br />
หรือสีซึ่ีเมนต์<br />
๘. งานปัรับปัรุงภูมิทัศิน์โด้ยรอบ<br />
๘.๑ งานเคัลือนย้ายเจดีีย์บรรจุอัฐิองค์์ทีตังอยู่ตรงจุด้ทีเป็็น<br />
ทางข่นของหอพระไตรปิิฎกิให้หลบไปัอยู่ในบริเวณด้้านข้าง หรือบริเวณอืน<br />
ทีทางวัด้ให้กิารเห็นชูอบ<br />
๘.๒ ให้ทำกิารรือถอนกิำแพงรัวทีมีอยู่ในปััจจุบันออกิ เตรียมพืนที<br />
สำหรับกิารปร ับปรุุงพืนลาน และแทนทีด้้วยเสาเตียเพือกัันเขตถนนตาม<br />
รูปัแบบทีกิำหนด้<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
81<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
๘.๓ ให้ทุบพืนผิวลานคัอนกร ีตในปััจจุบันออกิ เปัลียนเป็็นพืนปูู<br />
หินแกิรนิตผิวหยาบ หรือให้เป็็นไปัตามแบบ shop drawing งาน<br />
ภูมิสถาปััตยกิรรม<br />
๙. งานระบบอาคัาร<br />
๙.๑ ระบบไฟื้ฟื้้าแสงสว่างและเต้าเสียบ แกิ้ไขกิารเด้ินสายไฟื้<br />
และตำแหน่งมิเตอร์ไฟื้ฟื้้า ในปััจจุบันที ่ไม่เปั็นระเบียบเรียบร้อย รวมทั ้ง<br />
ออกิแบบเพิมเติมใหม่ในส่วนทีมีคัวามจำเป็็นสำหรับงานภูมิทัศน์์ด้้วย โด้ย<br />
จัด้ทำ shop drawing ขออนุมัติก่่อน<br />
๙.๒ ระบบปั้องกิันอัคัคัีภัย จัด้หาอุปักิรณ์ด้ับเพลิง<br />
ข้อปฏิิบัติในระหวั่างดำเนินการ<br />
๑. เนืองจากิโบราณสถานทีจะด้ำเนินกิารบูรณะเป็็นโบราณสถานที<br />
สำคััญ ดัังนัน ผู้รับจ้างจะต้องจัด้หาช่่างทีมีฝีีมือดีีและมีคัวามชูำนาญตรงกัับ<br />
หน้าทีของงานในแต่ละส่วน แต่ละปัระเภททีจำเป็็นและเพียงพอต่อกิาร<br />
ปัฏิิบัติงาน<br />
๒. กิ่อนกิารดำำเนินงานและในระหว่างกิารปัฏิิบัติงาน ผู้รับจ้างจะต้อง<br />
ถ่ายภาพเกิ็บรายละเอียด้ทุกิขั้นตอนด้้วยภาพสี และภาพถ่ายเหล่านี้จะต้อง<br />
พร้อมนำเสนอผู้คัวบคัุมงาน และ/หรือ ผู้ออกิแบบตรวจสอบได้้ตลอด้เวลา<br />
รวมทั้งจะต้องเกิ็บไว้ปัระกิอบรายงานกิารปัฏิิบัติงาน ซึ่่งจะต้องนำส่งผู้ว่าจ้าง<br />
เมื่องานเสร็จ<br />
๓. สิ่งใด้ทีปัรากิฏิในรูปัแบบต่อรูปัแบบ หรือรายกิารต่อรายกิาร<br />
ขัด้แย้งกััน ให้ย่ด้ถือตามเงือนไขทีกิำหนด้ไว้เฉพาะงานหรือสิงทีดีีกว่่าเป็็น<br />
หลักิในกิารปัฏิิบัติ สิงใด้ทีปัรากิฏิในรูปัแบบขัด้แย้งกัับรายกิารให้ถือตาม<br />
รายกิารเป็็นหลักิในกิารปัฏิิบัติ หากิสงสัยว่าจะมีกิารคัลาด้เคัลือน ผู้รับจ้าง<br />
ต้องเสนอขอรับคัวามเห็นชูอบจากิผู้ว่าจ้าง หรือผู้ออกิแบบรายกิารเปั็น<br />
ผู้วินิจฉัยให้ โด้ยผู้ว่าจ้างหรือผู้ออกิแบบรายกิารจะถือเอาคัวามถูกิต้องใน<br />
วิชูาชู่างและคัวามเหมาะสมเปั็นหลักิในกิารปัฏิิบัติ ทั้งนี้จะต้องย่ด้ถือสภาพ<br />
หลักิฐานเด้ิมให้มากิที่สุด้<br />
๔. สิ่งใด้ที่กำำหนด้ไว้ในรูปัแบบหรือรายกิารแล้ว แต่ในทางปัฏิิบัติงาน<br />
ชู่างไม่อาจระบุไว้ได้้คัรบถ้วน เชู่น รูปัร่าง ลักิษ์ณะขนาด้ปัลีกิย่อยต่างๆ<br />
ตลอด้จนภาพขยายรายละเอียด้ ผู้ออกิแบบรายกิาร จะชูี้แจงอธิบาย<br />
รายละเอียด้ให้ขณะพาดู้สถานที่ หรือขณะทากิารกิ่อสร้าง กิารชูี้แจง<br />
รายละเอียด้ ถือเป็็นส่วนปัระกิอบของรูปัแบบและรายกิารบูรณะ ซึ่่งไม่ถือว่า<br />
เป็็นกิารเพิม–ลด้ หรือเปัลียนแปัลงรายละเอียด้ปัริมาณงานแต่อย่างใด้<br />
๕. กิ่อนที ่ผู้รับจ้างจะปัฏิิบัติงานในส่วนใด้ๆ ผู้รับจ้างจะต้องสอบถาม<br />
ผู้คัวบคัุมงานให้เข้าใจเสียกิ่อน หากิผู้รับจ้างปัฏิิบัติงานไม่ถูกิต้องตามแบบ<br />
และรายกิาร หรือขาด้คัวามมันคังแข็งแรงในส่วนนันๆ ผู้้ควบคุุมงานมี<br />
อำนาจสังแก้้ไข โด้ยให้ทำข่นใหม่หรือถูกต ้อง ซึ่่งผู้รับจ้างจะต้องปัฏิิบัติตาม<br />
และจะไม่คัิด้มูลคั่าเพิ่มแต่อย่างใด้<br />
๖. ในระหว่างปัฏิิบัติงานหากิเกิิด้คัวามเสียหายใด้ๆ ซึ่่งเกิี่ยวกิับ<br />
ทรัพย์สิน ไม่ว่าทรัพย์สินนั้นจะอยู่ในรูปัแบบรายกิารที่ผู้ว่าจ้างจะต้องทำหรือ<br />
ไม่กิ็ตาม ผู้รับจ้างจะต้องใชู้คั่าเสียหายนั้นๆ ให้แกิ่ผู้ว่าจ้าง<br />
๗. ผู้ว่าจ้างหรือผู้คัวบคัุมงานมีสิทธิที่จะห้ามชู่างหรือคันงาน<br />
ผู้รับจ้างคันใด้คันหนึ่งหรือหลายคันไม่ให้มาปัฏิิบัติงานได้้ หากิว่าเปั็นผล<br />
เสียหายแกิ่ผู้ว่าจ้างหรือปัระพฤติไม่ด้ีต่อผู้คัวบคัุมงาน ผู้รับจ้างจะต้องปัฏิิบัติ<br />
ตามเสมอ<br />
๘. ผู้รับจ้างจะต้องแต่งตั ้งหัวหน้างานอยู่ปัระจำ ณ สถานที ปัฏิิบัติ<br />
งานเพื่อเจ้าหน้าที่ผู้รับผิด้ชูอบงานฝ่่ายผู้ว่าจ้างจะได้้สั่งงานได้้สะด้วกิ และ<br />
ให้ถือว่าหัวหน้างานได้้รับรู้ในเรื่องที่สั่งนั้นแทนผู้รับจ้าง<br />
๙. กิารจัดทำำโคัรงสร้างนั่งร้าน ผู้รับจ้างต้องทำให้มั่นคังแข็งแรง<br />
และสามารถให้เจ้าหน้าที ่ของฝ่่ายผู้ว่าจ้างขึ้นตรวจงานหรือปัฏิิบัติงานได้้<br />
สะด้วกิและปัลอด้ภัย<br />
๑๐. เมือผู้รับจ้างจะส่งมอบงานงวดส ุดท้้ายจะต้องทำคัวามสะอาด้<br />
บริเวณทีปัฏิิบัติงานและใกิล้เคัียงให้สะอาด้เรียบร้อยกิ่อนกิารส่งมอบงาน<br />
๑๑. ผู้รับจ้างจะต้องจัดทำำรายงานกิารปัฏิิบัติงาน ซึ่่งมีรายละเอียด้<br />
กิารดำำเนินงานคัรบถ้วน ตั ้งแต่เริ ่มตรวจสอบสถานที่จนส่งมอบงานของแต่ละ<br />
แหล่งที่ได้้ดำำเนินกิาร โด้ยจะต้องผ่านผู้คัวบคัุมงานตรวจสอบคัวามถูกิต้อง<br />
และนำเสนอผู้ว่าจ้างตรวจสอบ กิ่อนส่งมอบงานงวด้สุด้ท้าย ส่งฉบับร่างที่<br />
แกิ้ไขแล้วพร้อมกิารส่งมอบงานงวด้สุด้ท้าย และจะต้องนำส่งรายงานเปั็น<br />
รูปั<strong>เล่มที่</strong>สมบูรณ์ พร้อมภาพถ่ายปัระกิอบ ๑๐ ชูุด้ และสำเนาบันท่กิใน<br />
แผ่นซึ่ีด้ี ๑๐ ชูุด้ ภายใน ๑๐ วัน หลังจากิส่งมอบงานงวด้สุด้ท้าย<br />
82<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
่<br />
จัดทำแบบอนุรักษ์์อาคารแลัะภาพจาลัอง ๓ มิติ<br />
เมื่อกิารเกิ็บข้อมูลทางสถาปััตยกิรรมและศิิลปักิรรมเสร็จสิ้น<br />
ลงแล้ว จึงไปัสู่กิารนำแบบบันท่กิสภาพที่อาสาสมัคัรได้้จัดทำำไว้<br />
นำไปัจัดทำำแบบอนุรักิษ์์อันเปั็นหนึ่งในกิระบวนกิารกิารอนุรักิษ์์ที<br />
สาคััญขั้นตอนหนึ่งของสถาปันิกิ เพื ่อกิารบันท่กิสภาพและเปั็น<br />
หลักิฐานของกิารบูรณะอย่างเปั็นระบบ รวมทั ้งกิารนำเสนอแบบ<br />
บูรณะเพื่อขออนุญาตดำำเนินกิารจากิกิรมศิิลปัากิร เนื ่องจากิเปั็น<br />
โบราณสถานของชูาติ นอกิจากินี ้ยังจัดทำำภาพจำลองสามมิติ เพื่อ<br />
เปัรียบเทียบระหว่างตัวอาคัารในสภาพกิ่อนกิารบูรณะและสภาพ<br />
เมื่อดำำเนินกิารบูรณะเสร็จสมบูรณ์แล้วเพื่อให้เข้าง่าย และทากิาร<br />
ปัระชูาสัมพันธ์เพื ่อเชูิญชูวนให้สาธารณชูนจากิทุกิวิชูาชูีพเข้ามา<br />
มีส่วนร่วมในโคัรงกิารนีด้้วยกิารทำบุญบริจาคัเงินเข้ามาสมทบ<br />
ในกิารทำนุบำรุงพระพุทธศิาสนา ร่วมอนุรักิษ์์และสืบสานงาน<br />
สถาปััตยกิรรมไทย<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
83<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
การทำแบบอนุรักษ์์<br />
แบบบูรณะหอไตรวััดอัปสรสวัรรค์<br />
84<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
85<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
86<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
87<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
88<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
89<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
90<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
91<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
92<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
การขุดตรวัจทางโบราณคดี<br />
งานขุดตรวัจทางโบราณคดี<br />
เนืองด้้วยโคัรงกิารอนุรักิษ์์หอพระไตรปิิฎกวััดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหาร<br />
กร ุงเทพมหานคัร ได้้มีขันตอนก่่อนกิารด้ำเนินงานบูรณะคืือกิำหนด้ให้มีกิาร<br />
ขุด้ตรวจทางโบราณคัด้ีเพือศิ่กิษ์ารูปัแบบและเทคนิิคว ิธีกิารก่่อสร้างส่วน<br />
ฐานรากิของอาคัารหอไตร ศิ่กิษ์าคัวามเป็็นมาโบราณวัตถุทีพบจากิกิาร<br />
ด้ำเนินงาน รวมถ่งกิารรวบรวมเอกิสารทีเกิียวข้องกัับกิารใช้้พืนทีบริเวณ<br />
วัด้เพือปัระกิอบกิารจัด้ทำแบบบูรณะเพือให้หอไตรกล ับมามีสภาพมั นคังและ<br />
ยังคังเอกล ักิษ์ณ์ด้ังเดิิมของตัวอาคัารไว้ จ่งเป็็นทีมาของกิารด้ำเนินงาน<br />
ขุด้คั้นฐานรากิเสาอาคัารหอพระไตรปิิฎกิ ซึ่่งมีระยะเวลากิารด้ำเนินตังแต่<br />
วันที ๖ มิถุนายน–๓๐ มิถุนายน พ.ศิ. ๒๕๕๖ จุด้ปัระสงค์์หลักิ<br />
เพือศิ่กิษ์ารูปัแบบ โคัรงสร้าง (ส่วนฐานรากิ) และองค์์ปัระกิอบทางด้้าน<br />
สถาปััตยกิรรมของโบราณสถานแห่งนี้ และนำข้อมูลและหลักิฐานทาง<br />
โบราณคัด้ีทีคั้นพบไปัวิเคัราะห์และตีคัวามทางโบราณคัด้ี อันจะนำไปัสู่กิาร<br />
กำำหนด้แนวทางในกิารบูรณะและอนุรักิษ์์โบราณสถานแห่งนี้ต่อไปั<br />
วััตถุประสงค์ในการขุดตรวัจทางโบราณคดี มีดังต่อไปนี<br />
เพือศิ่กิษ์าเกิียวกัับกิารเตรียมฐานรากิและวิธีกิารก่่อสร้างหอ<br />
พระไตรปิิฎกว ัดอััปัสรสวรรค์์วรวิหาร<br />
เพื่อศิ่กิษ์าเกิี่ยวกิับลาด้ับกิารทับถมของชูั้นด้ินทางโบราณคัด้ีภายใน<br />
สระนา<br />
เพื่อศิ่กิษ์าเกิี่ยวกิับกิารกิ่อสร้างกำำแพงกิันด้ินภายในสระนา ทั้งกิารเต<br />
รียมฐานรากิ วิธีกิารกิ่อสร้าง<br />
เพื่อศิ่กิษ์าเกิี่ยวกิับกิารบูรณปัฏิิสังขรณ์หอพระไตรปัิฎกิ<br />
การวัางผังหลุุมขุดตรวัจทางโบราณคดี<br />
กิารวางผังใช้้ระบบแบบตารางสีเหลียมจัตุรัส (grid system) ตาม<br />
แนวแกินทิศิเหนือใต้ ขนาด้กิริด้ละ ๒ ตารางเมตร คัรอบคัลุมพื ้นที่ในสระนา<br />
หอไตร ขนาด้พื้นทีปัระมาณ ๑๕๐ ตารางเมตร กิารเรียกิชูื่อตารางกิริด้<br />
ต่างๆ เรียกชื่่อตามทิศิและระยะทาง โด้ยเริมต้นเรียกชื่่อจากจ ุดต ัด้ของแกิน<br />
เหนือ-ใต้ บริเวณกิลางสระนำหอไตร ขนาด้หลุมขุด้ตรวจกว้้าง ๑ x ๑ เมตร<br />
หรือ ๑ x ๒ เมตร คัวามลึึกไม่เกิิน ๑ เมตรจากิกิ้นสระ หรือจนกว่่าจะไม่พบ<br />
หลักิฐานทางโบราณคัด้ี กิำหนดจ ุดข ุด้ตรวจทีฐานกิำแพง ๑ จุด้ และจุด้<br />
ขุด้ตรวจทีฐานเสาหอไตร ๔ จุด้ มีจำนวนหลุมขุด้ตรวจทังสิน ๗ หลุม<br />
ส่วนชูือหลุมขุด้ตรวจนันเนืองจากมีีกิารขุด้ตรวจตามแนวของฐานรากิ<br />
เสาหอไตรและฐานกิำแพงอิฐ ทำให้หลุมขุด้ตรวจมีหลายหลุมตามแนวของ<br />
หลักิฐาน อาจก่่อให้เกิิด้กิารสับสนในกิารเก็็บโบราณวัตถุและกิารบันท่กิข้อมูล<br />
ใหญ่กิำหนดชื่่อหลุมขุด้ตรวจเป็็น “TP.” (test pit) ทำกิารขุด้ตรวจทังสิน<br />
๗ หลุมขุด้ตรวจ ดัังนี<br />
- หลุมขุด้ตรวจ TP. 1, 2 ขนาด้ ๑ x ๓ เมตร ขุด้ตรวจฐานเสา<br />
หอไตรตำแหน่งที 4C และฐานกิำแพงด้้านทิศิใต้<br />
- หลุมขุด้ตรวจ TP. 3, 4 ขนาด้ ๒ x ๕ เมตร ขุด้ตรวจเสาหอไตร<br />
ตำแหน่งที 3A และ 3B และเสาบันได้ไม้หอไตร<br />
- หลุมขุด้ตรวจ TP. 5, 6 ขนาด้ ๒ x ๒ เมตร มี ขุด้ตรวจเสา<br />
หอไตรตำแหน่งที 3C<br />
- หลุมขุด้ตรวจ TP. 7 ขนาด้ ๑ x ๑ เมตร ขุด้ตรวจเสาหอไตร<br />
ตำแหน่งที 4C<br />
นอกิจากินีในกิารวางแผนผังหลุมขุด้ตรวจจะใช้้กิารกิำหนด้เส้น<br />
สมมุติข่นตามขนาด้ของหลุมขุด้ตรวจแต่ละหลุม เนืองจากิพืนทีขุด้ตรวจตังอยู่<br />
ในสระนำลักิษ์ณะเป็็นดิินเลนทำให้ไม่สามารถปัักิหมุด้เหล็กิและตร่งเส้นเชืือกิได้้<br />
ดัังนันนักิโบราณคัด้ีจ่งต้องจด้จำขอบเขตของหลุมขุด้ตรวจและจดบัันทึึก<br />
หมายเหตุเอาไว้เพือป้้องกัันกิารสับสนในระหว่างกิารด้ำเนินงานขุด้ตรวจ<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
93<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
ผังหลุมขุด้ตรวจหอไตรวัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหาร<br />
94<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
วิิธีีการขุดตรวัจทางโบราณคดี<br />
ในด้ำเนินกิารขุด้ตรวจทางโบราณคัด้ีคัรังนีเป็็นกิารขุด้ตรวจในเบืองต้น<br />
เพือค้้นหาและเก็็บข้อมูลหลักิฐานทางโบราณคัด้ี โด้ยเฉพาะระบบฐานรากิ<br />
เสาหอไตร ฐานกิำแพงสระนำ เศิษ์ชูินส่วนองค์์ปัระกิอบสถาปััตยกิรรม<br />
ชูันทับถมทางโบราณคัด้ี และหลักิฐานทางโบราณคัด้ีปัระเภทอืนๆ เช่่น<br />
เศิษ์ภาชูนะดิินเผาหรือนิเวศวััตถุ เป็็นต้น กิารขุด้ตรวจในลักิษ์ณะดัังกล่่าวจะมี<br />
ระยะเวลากิารด้ำเนินงานขุด้ตรวจทีสันและจำกััด้ นักิโบราณคัด้ีจ่งต้องพิจารณา<br />
เลือกิพืนทีทีจะทำกิารขุด้ตรวจเพือให้สอด้คัล้องกัับระยะเวลาด้ำเนินงาน<br />
งบปัระมาณ แรงงาน และกิารได้้มาซึ่่งหลักิฐานทางโบราณคัด้ีทีเพียงพอต่อ<br />
กิารใช้้เป็็นข้อมูลปัระกิอบกิารกิำหนด้แนวทางกิารอนุรักิษ์์หอไตรแห่งนีต่อไปั<br />
วิธีกิารขุด้ตรวจทางโบราณคัด้ีมีกิารผสมผสานหลายรูปัแบบกล่่าวคืือ<br />
ขุด้ตรวจเป็็นระดัับสมมุติ (arbitrary level) คัวามลึึกระดัับละ ๒๐<br />
เซึ่นติเมตร ในหลุมขุด้ตรวจ TP. 1, 2<br />
ขุด้ลอกิตามชูันดิินหรือชูันหลักิฐาน (natural level) เพือตาม<br />
หลักิฐานทางโบราณคัด้ีทีพบในแนวนอน ในหลุมขุด้ตรวจ TP. 1, 2 (บางส่วน)<br />
TP. 3, 4 TP. 5, 6 และ TP. 7<br />
ขุด้ในแนวด้ิ งเมือต้องกิารตรวจสอบหลักิฐานและชูันดิิน (test pit)<br />
ในระดัับลึึก ซึ่่งจะใช้้วิธีนีในบางจุด้ของหลุมขุด้ตรวจ TP. 1, 2 (กริิด้ S3W1<br />
บริเวณกิำแพงอิฐขอบสระนำหอไตร) และ TP. 3, 4<br />
ในกิารกิำหนด้ระดัับชูันสมมุติและกิารวัด้ระดัับคัวามลึึกในทุกิหลุม<br />
ขุด้ตรวจ ใช้้กิารอ้างอิงจากิระดัับ datum line โด้ยถ่ายระดัับมาจากจ ุด้<br />
อ้างอิงหลักิ (f ix point) ส่วนจุดอ้้างอิงสมมุติ ±๐.๐๐ cm.dt. (datum<br />
point) เป็็นจุด้เดีียวกัันกัับจุดอ ้างอิงหลักิ ซึ่่งอยู่บริเวณมุมกิำแพงปููนซึ่ีเมนต์<br />
ขอบสระนำหอไตรด้้านทิศิตะวันตกิเฉียงใต้ กร ิด้ S3W4 สูงจากิพืนลานปููน<br />
ปัระมาณ ๓๐ เซึ่นติเมตร ดัังรูปั<br />
นอกิจากินีเพือให้ง่ายต่อกิารวัด้ระดัับในทุกิหลุมขุด้ตรวจ ยังได้้ถ่าย<br />
ระดัับจุดอ้้างอิงสมมุติลงไปย ังกิำแพงอิฐอีกิ ๒ จุด้คัือ กิำแพงอิฐด้้านทิศิใต้<br />
ทีระดัับคัวามลึึก ๒๐๙ cm.dt. และด้้านบนสุด้ของกิำแพงอิฐด้้าน<br />
ทิศิตะวันตกิ ทีระดัับคัวามลึึก ๗๕ cm.dt.<br />
๓๐ cm<br />
จุดอ ้างอิงหลักิ (f ix point)<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
95<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
การเก็บหลัักฐานแลัะการบันทึกข้อมูลั<br />
หลักิฐานทางโบราณคัด้ีทีได้้จากิกิารขุด้ตรวจ ได้้จัด้เก็็บตามพืนทีตาราง<br />
สีเหลียม (grid system) ทีได้้กิำหนด้ไว้ข้างต้น จัด้ทำทะเบียนโบราณวัตถุ<br />
ในแต่ละพืนทีในระดัับคัวามลึึก (level) ทีแตกต่่างกััน เพือทีจะได้้จำแนกิ<br />
(classified) โบราณวัตถุแต่ละปัระเภท โด้ยมีกิารจัด้ทำบัญชีีรายกิารโบราณ<br />
วัตถุ (bag list) และ โบราณวัตถุสำคััญ (small f ind list) โบราณวัตถุจะ<br />
จัด้เก็็บในบรรจุภัณฑ์ทีเหมาะสม<br />
สำหรับกิารบันท่กิข้อมูลทีสำคััญที สุด้คัือกิารบันท่กิข้อมูลปัระจำวัน<br />
ในภาคัสนาม (diary report) เป็็นกิารเขียนรายงานทีบันทึึกเกิียวกัับ<br />
หลักิฐานทีตรวจพบในแต่ละวัน นอกิจากินียังมีกิารเก็็บข้อมูลโด้ยกิารบันทึึก<br />
ภาพถ่ายจากิกิล้องดิิจิทัล กิารวาด้แผนผังหลุมขุด้และแผนผังชูันดิิน เป็็นต้น<br />
หลังจากิกิารด้ำเนินกิารขุด้ตรวจเรียบร้อยแล้วจะมีกิารทำรังวัด้และ<br />
เขียนแบบ (measuring & shop drawing) เป็็นกิารจัด้ทำแผนผังโบราณสถาน<br />
หลังกิารขุด้ตรวจ ปัระกิอบด้้านผังด้้านราบ รูปัด้้านทังสีด้้าน ตามสภาพและ<br />
สัดส่่วนจริง เพือบันทึึกหลักิฐานทีพบจากิกิารขุด้ตรวจ รวมไปถ ึงกิารทำ<br />
ค่่าระดัับคัวามลึึกของสิ งปล ูกิสร้างทีขุด้ตรวจเมือเทียบกัับระดัับคัวามลึึก<br />
ในปััจจุบัน<br />
กิารจัด้เกิ็บหลักิฐานทางโบราณคัด้ีเพื่อนำไปัจัดจำำแนกิปัระเภทและจัด้ระเบียนต่อไปั<br />
96<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หลัักฐานที่พบจากการขุด<br />
การก่อสร้างส่วันรากฐาน<br />
จากิกิารด้ำเนินงานขุด้ตรวจทางโบราณคัด้ี ทำให้พบว่าลักิษ์ณะ<br />
กิารก่่อสร้างส่วนฐานรากิของหอพระไตรปิิฎกว ัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหาร เป็็น<br />
อาคัารไม้ตังอยู่ในสระนำ โด้ยตัวอาคัารหอไตรตั งอยู่บนเสาไม้ ๒๐ ต้น<br />
ซึ่่งมีหน้าทีรับนำหนักิ ระบบฐานเสาหอพระไตรปิิฎกิแต่ละต้นเป็็นแบบ<br />
ฐานรากิเด้ียว (pad foundation) มีลักิษ์ณะกิารก่่อสร้างคืือ มีกิารเตรียม<br />
ดิินก้้นบ่ออัด้ให้แน่นเพือรองรับส่วนโคันเสาให้วางตัวได้้อย่างมันคัง เสาทัง<br />
๒๐ ต้น ทำหน้าทีรองรับตัวอาคัารหอไตร มีกิารวางไม้งัวเป็็นลำดัับล่างสุด้<br />
(งัวคัู่ล่าง) โด้ยวางตามแนวแกินทิศิเหนือ-ใต้ มีหน้าทีหนีบเสาอาคัารแต่ละ<br />
เสาไว้เป็็นชูันแรกิเป็็นคู่่ๆ ถัด้ข่นเป็็นเป็็นงัวคู่่บน วางตัวตามแนวแกิน<br />
ทิศิตะวันออกิ-ทิศิตะวันตกิ ทำหน้าทีหนีบเสาไว้อีกชั้้นหน่ง ถัด้จากิชูุดง ัว<br />
เป็็นตัวกิงพัด้ ซึ่่งเจาะทะลุตัวเสาแปัด้เหลียมวางตัวตามแนวแกินทิศิเหนือ-ใต้<br />
ปัระกิบตัวเสาเอาไว้โด้ยมีนอตยึึดระหว่างกิงพัด้และงัว พบไม้หมอนวางรอง<br />
โด้ยทีปัลายของไม้หมอนพบว่ามีกิารตอกิลิมลงไปัทีงัวคู่บนจนถ่งงัวคัู่ล่าง<br />
เพือกัันกิารเคัลือนตัว<br />
เนืองจากิเสามีกิารบูรณะเสริมคัวามมันคังส่วนฐานรากิ โด้ยกิารเท<br />
ตอม่อสีเหลียมจัตุรัสบริเวณเหนือส่วนกิงพัด้เล็กน้้อย เหนือตอม่อข่นไปั<br />
มีกิารเทปููนหุ้มฐานเสาไม้เป็็นทรงกิระบอกิ โด้ยกิารทำตอม่อและหุ้มเสาอาจ<br />
จะทำให้ชู่วงกิารบูรณะราว พ.ศิ. ๒๕๑๙<br />
เสาไม้<br />
ไม้หมอนรองกิงพัด้<br />
งัวคัู่บน<br />
กิงพัด้<br />
ลิ่มกิันไม้หมอนเคัลือนตัว<br />
งัวคัู่ล่าง<br />
ภาพสามมิติแสด้งฐานรากิทีพบจากิกิารขุด้ตรวจทางโบราณคัด้ี<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
97<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
98<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
99<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
100<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
101<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
102<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
103<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
104<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
ภาพแสด้งลักิษ์ณะกิารก่่อสร้างส่วนฐานรากิหอไตรวัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหารทีพบจากิกิารขุด้ตรวจทางโบราณคัด้ี<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
105<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
ภาพแสด้งลักิษ์ณะกิารก่่อสร้างส่วนฐานรากิหอไตรวัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหารทีพบจากิกิารขุด้ตรวจทางโบราณคัด้ี<br />
106<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
107<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
การก่อสร้างกำแพงสระนา<br />
หอพระไตรปิิฎกินั นตังอยู่ในสระนำที ขอบสระก่่อสร้างด้้วยอิฐถือปููน<br />
ผนังสระนำมีกิารเรียงอิฐแบบ f lemish bound และ English bound มี<br />
ระบบฐานรากิแบบขันบันได้ โด้ยทีชูันล่างสุด้จะมีคัวามกว้้างมากิทีสุด้แล้ว<br />
เรียงตัวลด้หลันกัันข่นไปั มีลักิษ์ณะคล้้ายขันบันได้ อันเป็็นระบบฐานรากิ<br />
แบบโบราณทีใช้้ตัวผนังรองรับและถ่ายเทนำหนักิของสิ งก่่อสร้างไปัทีพืนดิิน<br />
โด้ยตรง ด้้านในสระมีกิารปัักิไม้ปีีกิเพือป้้องกัันผนังอิฐเคัลือนตัว โด้ยใช้้ไม้ปีีกิ<br />
ขนาด้คัวามกว้้างปัระมาณ ๑๘-๒๐ เซึ่นติเมตร และบริเวณผนังอิฐ<br />
ด้้านล่าง (อิฐก้้อนล่างสุด้) มีท่อนไม้วางขวางอยู่ด้้านนอกิไม้ปีีกอ ีกชั้้นหน่ง<br />
ภาพแสด้งลักิษ์ณะกิารก่่อสร้างส่วนฐานรากิสระนำล้อมรอบอาคัารหอไตร<br />
วัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหารทีพบจากิกิารขุด้ตรวจทางโบราณคัด้ี<br />
108<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
โบราณวััตถุ<br />
โบราณวัตถุทีพบจากิกิารขุด้ตรวจทางโบราณคัด้ี ส่วนมากิเป็็นชูินส่วน<br />
วัตถุในปััจจุบัน เช่่น ชูินส่วนถ้วย ชูาม ของเล่นพลาสติกิ ตะปูู สิงของเคัรือง<br />
ใช้้ต่างๆ ทังทีผลิตจากว ัสดุุปัระเภทดิินเผา พลาสติกิ สังกิะสี เหล็กิ เป็็นต้น<br />
ซึ่่งพบร่วมกัับโบราณวัตถุ ได้้แก่่ กิระเบืองดิินเผา ทังแบบเคลืือบและไม่เคลืือบ<br />
ชูินส่วนแกินหอยมุกิ เศิษ์ภาชูนะดิินเผาปัระเภทเนือดิินซึ่่งอาจจะผลิตข่น<br />
อย่างง่ายๆ ในท้องถิน และเศิษ์ภาชูนะดิินเผาเนืองแกร่่ง โบราณวัตถุทีพบ<br />
อาจจะมีบางชูินทีมีคัวามสัมพันธ์กัับตัวหอไตร ได้้แก่่ ชูินส่วนเสาไม้ ชูินส่วน<br />
กิระเบืองมุงหลังคัา ซึ่่งอาจเป็็นส่วนทีชูำรุดห ักพ ังลงมาในสระนำ ในส่วน<br />
ชูินส่วนเสาไม้อาจจะเป็็นส่วนทีเสียหายและทิงลงในสระนำเมือคัราว<br />
ซึ่่อมแซึ่มหอไตรสามารถจัด้ปัระเภทออกิเป็็นกลุ่มๆ ได้้ ๓ ปัระเภทได้้แก่่<br />
๑. โบราณวัตถุปัระเภทเศิษ์ภาชูนะดิินเผาแบ่งได้้เป็็นเศิษ์ภาชูนะดิิน<br />
เผาเนือดิิน (earthenware) เศิษ์ภาชูนะดิินเผาเนือแกร ่ง (stoneware)<br />
๒. โบราณวัตถุปัระเภทส่วนปัระกิอบสถาปััตยกิรรม<br />
๓. โบราณวัตถุปัระเภทอื่นๆ<br />
โบราณวัตถุทีค้้นพบภายในบริเวณพืนทีกิารขุด้ตรวจ<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
109<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
กิระเบืองดิินเผาแบบเคล ือบและแบบไม่เคล ือบทีพบจากิกิารขุด้ตรวจ<br />
110<br />
<strong>หอไตรวัดอัปสรสวรรค์</strong><br />
กิารสานต่องานอนุรักิษ์์สถาปััตยกิรรมไทย
เริมต้นการบูรณะอาคาร<br />
หลังจากิทีกิรรมาธิกิารอนุรักิษ์์ฯ ด้้านสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณี<br />
รับมอบหมายจากิทางวัด้อัปัสรสวรรคั์ให้ดำำเนินกิารสรรหาผู้รับจ้างเพื ่อมา<br />
ด้ำเนินงานบูรณะตามแบบและแผนกิารด้ำเนินกิารทีกิำหนด้ ได้้แก่่ ห้างหุ้นส่วน<br />
จำกััด้ ฐานอนุรักิษ์์ กิารด้ำเนินกิารเริมต้นเมือ วันที ๒๐ เมษ์ายน พ.ศิ. ๒๕๕๕<br />
ด้้วยกิารติด้ตังนังร้านและกิันรัวสังกิะสีรอบอาคัารเพือกิำหนด้ขอบเขตพืนที<br />
ทำงานและจัด้ทำหลังคัาคล ุมมุงด้้วยสังกิะสี พร้อมทังจัด้ทำแบบแสด้ง<br />
คัวามเสียหายก่่อนบูรณะ และ shop drawing แบบบูรณะ<br />
การสร้างโรงเรือนสำหรับจัดเก็บชิ้นส่วัน<br />
จากการรื้อถอดแลัะสำหรับผึ่งไม้<br />
ตามกิระบวนกิารขั ้นตอนกิารอนุรักิษ์์โบราณสถานจะต้องทากิารรื ้อ<br />
ชูินส่วนองค์์ปัระกิอบตัวอาคัารออกิเป็็นบางส่วนก่่อนเพือกิารบูรณะ<br />
ซึ่่อมแซึ่มโคัรงสร้างอาคัารให้มีคัวามมั นคังแข็งแรงซึ่่งเมือได้้กิำหนด้รหัสและ<br />
รือถอด้ออกิมาแล้วต้องนำมาจัด้เก็็บไว้ในโรงเรือนเพือหลีกิเลียงผลกิระทบ<br />
จากิฝ่นและแสงแด้ด้ โด้ยจัด้กิารเก็็บไว้เป็็นหมวด้หมู่เพือรอกิารซึ่่อมแซึ่มให้<br />
สมบูรณ์ และบางชูินส่วนจัด้เก็็บไว้เป็็นตัวอย่างหลักิฐานในกิารจัด้ทำข่นใหม่<br />
จากิกิารสำรวจตรวจสอบสภาพคัวามเสียหายของไม้และกิารพิจารณา<br />
เลือกิปัระเภทของไม้ทีจะนำมาใช้้ในกิารบูรณะซึ่่อมแซึ่มแล้วจ่งทำกิารสั งไม้<br />
ตามขนาด้และจำนวนทีได้้ตรวจสอบจากิสภาพจริงซึ่่งเป็็นไม้ ทีผ่านกิารอบแห้ง<br />
จากิโรงเลือยมาแล้ว ระยะกิารอบแห้งปัระมาณ ๑ เดืือน จากินันได้้นำไม้<br />
ทังหมด้มาทำกิารผ่งแห้งโด้ยวิธีธรรมชูาติภายในโรงเรือนอีกิระยะหน่ง ไม่น้อย<br />
กว ่า ๓ เดืือน<br />
โรงเรือนหลังคัาทรงจั่ว สำหรับผึ่งไม้และจัด้เกิ็บชูิ้นส่วนไม้จากิกิารรื้อถอน<br />
จัด้ตั้งนั่งร้านเหล็กิเพื่อรองรับชูิ้นส่วนไม้จากิกิารรื้อถอด้<br />
และไม้ใหม่ที่จะนำมาผึ่งตามวิธีธรรมชูาติสำหรับกิารซึ่่อมเปัลี่ยน<br />
จัด้ซึ่ื้อไม้สักิอบแห้งจากิโรงเลื่อย และจัด้เกิ็บในโรงเรือนโด้ยใชู้ไม้หมอนหนุนรองเปั็นชูั้นๆ<br />
และคัอยย่ด้ไม้เพื่อปั้องกิันกิารโกิ่งตัว<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
111<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
เนืองจากิหอพระไตรปิิฎกวััดอ ัปัสรสวรรค์์ ตังอยู่่กลางสระนำทีมี<br />
สิงมีชีีวิตอาศััยอยู่จำนวนมากิ เช่่น ปัลาสวาย เต่า เป็็นต้น ในขันตอนงาน<br />
เตรียมกิารจ่งต้องทำกิารย้ายสัตว์นำออกิเพือสูบนำและติด้ตั งนั งร้านเพือ<br />
คัวามสะด้วกิในกิารทำงาน โด้ยนำสัตว์นาทั้งหมด้ไปัไว้ในสระนาสำรองที่<br />
ขุด้เตรียมไว้ ในขณะที่ย้ายปัลาขนาด้ใหญ่ออกิจากิสระต้องใชู้วิธีอุ้มปัลา<br />
ใส่แขนและปัล่อยลงสู่สระนาสำรองอย่างระมัด้ระวังเพื ่อปั้องกิันกิารบาด้เจ็บ<br />
ของปัลาจากิแรงกิระแทกิและเสียด้สีให้น้อยที่สุด้<br />
หลังจากิย้ายสัตว์นาเรียบร้อยแล้ว จึงเริ่มติด้ตั้งนั่งร้านและหลังคัาคัลุม<br />
จัด้ทำรัวสังกิะสีล้อมรอบพืนทีทำงานและจัด้ทำป้้ายโคัรงกิารเพือ<br />
ปัระชูาสัมพันธ์โคัรงกิาร และเริมสูบนำออกิจากิสระเพือเข้าสู่่กระบวนกิาร<br />
ขันตอนกิารอนุรักิษ์์หอพระไตรปิิฎกิตามหลักว ิชูากิาร<br />
ดำำเนินกิารย้ายสัตว์นาทั้งหมด้ไปัไว้ในสระนาสำรองที่เตรียมไว้<br />
จัด้ตั้งนั่งร้านและหลังคัาคัลุม ล้อมรัวสังกิะสีและจัด้ทำป้้ายปัระชูาสัมพันธ์โคัรงกิาร<br />
112<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
งานเคลัื่อนย้ายตู้พระธิรรม<br />
ภายในหอพระไตรปัิฎกิ จัด้เกิ็บตู้พระธรรมและสิ ่งของอื่นๆ รวมทั้งหมด้<br />
๒๒ ชูุด้ เปั็นตู้พระธรรม จำนวน ๙ หลัง และสิ ่งของอื่นๆ เชู่น บาน<br />
หน้าต่าง กิล่องเกิ็บคััมภีร์ เปั็นต้น อีกิ ๑๓ ชูุด้ เมื่อต้องทากิารซึ่่อมแซึ่ม<br />
หอพระไตรปัิฎกิ จึงทากิารเคัลื่อนย้ายสิ ่งของเหล่านี ้ออกิ โด้ยทากิารกำำหนด้<br />
รหัส และเขียนแบบระบุตำแหน่งเด้ิมไว้ จากินั้นจึงนำมาเกิ็บข้อมูลโด้ยกิาร<br />
ถ่ายรูปัทีละชูิ้น และขนย้ายไปัไว้ในกิุฏิิพระคัรูพิศิาลพัฒนคัุณ ฝ่ั่งตรงข้ามกิับ<br />
หอระฆััง<br />
สภาพตู้พระธรรมส่วนใหญ่อยู่ในสภาพดีี ภายในจัด้เก็็บคััมภีร์ใบลาน<br />
ซึ่่งบางส่วนเริมถูกิแมลงและปัลวกิกิัด้กิินแล้ว ลายตู้พระธรรมเป็็นลายรดน ้ำ<br />
สมัยรัตนโกส ินทร์ มีฝุ่่นเกิาะและเลือนลางเล็กน้้อย ส่วนกล่่องเก็็บคััมภีร์ทำ<br />
จากิไม้ คััมภีร์ภายในส่วนใหญ่ถูกิปัลวกิกิัด้กิินจนหมด้<br />
ภายในหอพระไตรปัิฎกิกิ่อนกิารขนย้ายตู่พระธรรม<br />
ดำำเนินกิารขนย้ายตู้พระธรรมจากิหอพระไตรปัิฎกิสู่กิุฏิิพระคัรูพิศิาลพัฒนคัุณ<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
113<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
114<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
115<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
งานฐานรากอาคาร<br />
งานโบราณคดีเพือตรวัจสอบระบบโครงสร้างฐานราก<br />
เมือได้้ทำกิารเคัลือนย้ายสัตว์นำและสูบนำในสระออกิพร้อมดููด้<br />
โคัลนตมก้้นสระออกิหมด้แล้ว จ่งเริมด้ำเนินกิารขุด้คั้นทางโบราณคัด้ีเพือ<br />
ตรวจสอบรูปัแบบโคัรงสร้างและสภาพของฐานรากิเดิิม โด้ยกิำหนด้หลุมขุด้<br />
ตรวจบริเวณทีเชูือมต่อระหว่างเสารอบนอกิกิับเสารอบใน จำนวน ๒ หลุม<br />
ผลจากิกิารขุด้ตรวจทางโบราณคัด้ีได้้ตรวจพบระบบฐานรากิเดิิม<br />
ปัระกิอบด้้วยเสาไม้จะฝัังล่กิผ่านระดัับดิินก้้นบ่อลงไปัและมีไม้กิงพัด้ขนาบ<br />
ข้างเสา ใต้ไม้กิงพัด้รองรับด้้วยไม้งัวทีทำด้้วยไม้ซึุ่งขนาด้ใหญ่ มีขนาด้ตังแต่<br />
๘-๑๐ นิว วางคู่่ขนานขนาบข้างเสาโด้ยวางซึ่้อนสลับแนวกััน ๒ ชูัน<br />
กล ่าวคืือ ชูันแรกิวางตามแนวขวางของตัวอาคัาร ส่วนชูันทีสองจะวางตาม<br />
แนวยาวของตัวอาคัารและมีเสาบางต้นได้้จัด้วางไม้งัวพาด้ยาวไปถ ึงเสาอีกิ<br />
ต้นหน่ง และจากิกิารตรวจสอบค่่าระดัับโด้ยรอบอาคัารพบว่า ตัวอาคัารมีค่่า<br />
กิารทรุดตััวทีต่างกัันเพียงเล็กน้้อย จ่งสรุปัได้้ว่า ระบบโคัรงสร้างฐานรากิเดิิม<br />
มีสภาพมันคังแข็งแรงสมบูรณ์ดีี สำหรับฐานรากต้้นอืนทีไม่ได้้ขุด้ตรวจสอบ<br />
ใช้้วิธีสุ่มตรวจโด้ยใช้้แท่งเหล็กิหยังหาแนวไปัตามคัวามยาวของไม้ซึุ่ง<br />
แบบแสด้งตำแหน่งขุด้ตรวจสอบฐานรากิ<br />
116<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
ติด้ตังเหล็กิตะแกิรงฐานรากิ<br />
กิารติด้ตังแล้วเสร็จ<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
117<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
งานซุ้่อมแซุ้มเสาอาคาร<br />
หอพระไตรปิิฎกว ัดอััปัสรสวรรค์์เป็็นอาคัารไม้กิลางนำซึ่่งมีเสาอาคัาร<br />
ทังสิน ๒ ชุุด้ ได้้แก่่ เสารอบ ๑๔ ต้น เสาร่วมใน ๖ ต้น รวมเป็็น ๒๐ ต้น<br />
โด้ยมีลักิษ์ณะเป็็นเสาแปัด้เหลียม ทีในสระนำเป็็นเสาตอม่อปููนซึ่ีเมนต์ซึ่่ง<br />
หล่อข่นเมือคัราวบูรณะอาคัารเมือ พ.ศิ. ๒๕๑๙ จากิกิารสำรวจสภาพพบว่า<br />
เสารอบนอกินันมีกิารเสือมสภาพเป็็นอย่างมากิโด้ยเฉพาะตังแต่บริเวณ<br />
เหนือเสาตอม่อยาวไปถึึงส่วนทีเป็็นอาคัาร จ่งด้ำเนินกิารเปัลียนเสารอบนอกิ<br />
ทังหมด้ใหม่โด้ยใช้้ไม้แด้ง ซึ่่งด้ำเนินกิารตามอย่างเทคน ิคัและวิธีกิารของช่่าง<br />
แบบโบราณ ซึ่่งจากิกิารถอด้รือเสานันพบว่า เสาทุกต้้นมีกิารต่อไม้บริเวณ<br />
ช่่วงกิลางของตัวเสา แต่ยังไม่ทราบแน่ชััดว่่าเป็็นเพราะเหตุใด้ และวิธีกิารต่อไม้<br />
ทีใช้้เรียกว่่า วิธีกิารเข้าเดืือยเข็ม โด้ยนำไม้สองส่วนมาปัระกิบกัันแล้วตอกิเดืือย<br />
เข้าไปั และเนืองจากตััวอาคัารเป็็นอาคัารไม้ทีมีกิารปัระดัับกิระจกิ และภายใน<br />
มีกิารเขียนภาพจิตรกิรรมฝ่าผนังจ่งไม่สามารถทำกิารถอด้รืออาคัารทังหลังได้้<br />
ดัังนั นวิธีกิารเปัลียนเสาไม้จ่งจำเป็็นต้องด้ำเนินกิารจากิด้้านล่างข่ นสู่ตัวบน<br />
ด้้วยกิารตังนังร้านแล้วตัด้ยกตััวอาคัารหล่อตอม่อปููนซึ่ีเมนต์ใหม่รูปัทรง<br />
แปัด้เหลียมตามขนาด้เสาไม้ เพือป้้องกัันตัวเสาผุกร่่อนในอนาคัต แล้วจ่งติด้ตัง<br />
เสาอาคัารโด้ยยังคังรอยต่อของอาคัารทีพบในบริเวณเดิิมไว้ ส่วนเสาร่วม<br />
ในสภาพไม่ผุกร ่อนมากน ักจ ึงทำกิารซึ่่อมปัะด้ามไม้ให้คังสภาพเดิิม<br />
สภาพเสาไม้ก่อนบูรณะ<br />
เสาไม้หอพระไตรปิิฎกิแห่งนี เป็็นเสาแปัด้เหลียมมีกิารตัดต่่อไม้เข้า<br />
เดืือยแบบ “เดืือยเข็น” บริเวณเหนือพืนหอพระไตรปิิฎกิข่นมาปัระมาณ<br />
๕๐ เซึ่นติเมตร ทีโคันเสาเทคัอนกร ีตหุ้มเป็็นทรงกิระบอกิ คัวามสูงเหนือ<br />
ระดัับนำในสระข่นมาปัระมาณ ๓๐ เซึ่นติเมตร บริเวณเสาไม้ทีอยู่เหนือ<br />
คัอนกร ีตทีเทหุ้มไว้ ส่วนใหญ่เนือไม้มีสภาพผุกร่่อนเนืองจากิคัวามชูืน<br />
เสาไม้แบ่งออกิเป็็น ๒ ปัระเภทและมีขนาดต่่างกััน ได้้แก่่ เสาไม้ภายนอกิ<br />
(ส่วนทีรองรับระเบียง) และเสาไม้ภายใน (ส่วนทีรองรับห้องพระไตรปิิฎกิ)<br />
เสาไม้รอบนอกเป็็นเสาไมรััง (ข้อมูลจากิกิารส่งพิสูจน์ชูินไม้ให้<br />
กิรมป่่าไม้) ส่วนทีมีกิารตัดต่่อไม้เหนือพืนข่นไปัเป็็นเสาไม้แด้ง จำนวน ๑๔ ต้น<br />
ขนาด้เสาโด้ยปัระมาณ ส่วนโคัน ๐.๒๐ ม. และส่วนปัลาย ๐.๒๐ ม. มี<br />
สภาพชูำรุด้เสียหายทุกต้้น<br />
เสาไม้รอบในเป็็นเสาไม้มะหาด้ จำนวน ๖ ต้น ขนาด้เสาโด้ย<br />
ปัระมาณ ส่วนโคัน ๐.๒๗๕ ม. และส่วนปัลายØ ๐.๒๕ ม. มีสภาพผิวไม้<br />
ผุกร ่อนโด้ยทัวไปัทังต้น มีจำนวน ๑ ต้น คืือต้นมุมด้้านทิศิตะวันตกิเฉียงใต้<br />
ส่วนอีกิ ๕ ต้น เนือไม้ผุกร ่อนบริเวณโคันเสาทีต่อจากิตอม่อคัอนกร ีตกิลม<br />
สำรวัจตรวัจสอบสภาพควัามชำรุดเสียหาย พร้อมเขียนแบบ<br />
หลังจากผ่่านขันตอนงานโบราณคัด้ี เพือตรวจสอบฐานรากิได้้<br />
ทำกิารกิลบดิินหลุมขุด้ตรวจกลัับคืืน จากินันจ่งเริมทำกิารทุบสกััด้คัอนกร ีต<br />
ทีเทห่อหุ้มเสาไม้ออกท ุกต้้น รวมทังตอม่อคัอนกร ีตทีวางอยู่บนฐานรากิเดิิม<br />
พบว่า เสารอบนอกิทังหมด้ จำนวน ๑๖ ต้น มีสภาพผุกร่่อนมากทุุกต้้น<br />
โด้ยเฉพาะบริเวณทีมีเสาปููนหุ้มตรงระดัับเหนือผิวนำจะผุกร ่อนมากิทีสุด้และ<br />
บางต้นพบว่าผุกร่่อนบริเวณทีเจาะเสียบไม้รอด้ ด้้วยเนืองจากิเสารอบนอกิได้้<br />
รับผลกิระทบจากน ้ำฝ่นและแสงแด้ด้อยู่ตลอด้ระยะเวลา<br />
จากิกิารตรวจสอบไม้เสายังพบว่า เสารอบนอกิทังหมด้เป็็นเสาที มี<br />
กิารตัดต่่อไม้บริเวณเหนือระดัับพืนทุกต้้น เมือตรวจสอบเนือไม้พบว่า<br />
ไม้ท่อนบนเป็็นไม้เต็งรัง ส่วนไม้ท่อนล่างเป็็นไม้แด้ง กิารตัดต่่อไม้ใช้้วิธีกิารต่อไม้<br />
แบบเดืือยเข็นแบบโบราณ<br />
สำหรับเสารอบใน จำนวน ๖ ต้น ตรวจสอบพบว่ามีสภาพชูำรุด้<br />
ผุกร่่อนบริเวณผิวไม้เพียงเล็กน้้อย ยกิเว้นต้นมุมด้้านทิศิตะวันตกิเฉียงใต้<br />
มีสภาพผุกร่่อนมากิ และจากิกิารตรวจสอบเนือไม้แล้วเป็็นไม้มะหาด้<br />
(ซึ่่งสอด้คัล้องกัับปััจจุบันทีภายในวัดยัังมีต้นมะหาด้ ขนาด้ใหญ่เหลืออยู่ ๑ ต้น)<br />
และเมือตรวจสอบเสาไม้ทีอยู่ภายในผนังของหอไตรก็็พบว่า บริเวณส่วนปัลาย<br />
ไม้ก็็มีกิารตัดต่่อด้้วยวิธีกิารต่อไม้แบบเดืือยเข็นเช่่นกััน แต่ยังอยู่ในสภาพ<br />
สมบูรณ์ดีีทุกต้้น<br />
118<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
สภาพเสาไม้กิ่อนบูรณะ สภาพเสารอบนอกิเนื้อไม้ผุกิร่อนบริเวณที่มีเสาปัูนหุ้มเหนือระด้ับผิวนา<br />
สภาพเสาไม้กิ่อนบูรณะ<br />
สภาพเสาไม้ด้้านล่างกิ่อนบูรณะ<br />
สภาพเสาไม้รอบนอกิด้้านบนกิ่อนบูรณะ รูปัแบบกิารตัด้ต่อเด้ือยเสาไม้ สภาพเสาเนื้อไม้ชำำรุด้มากิ<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
119<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
120<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
121<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
เสาไม้รอบนอก<br />
เสาไม้รอบนอกิเป็็นเสาไม้รูปัแปัด้เหลียม ขนาด้ ๘ นิว ส่วนปัลาย<br />
ของเสาไม้ได้้มีกิารบากิเข้าเดืือยฝัังย่ด้ติด้กิับไม้แปหััวเสาและไม้จันทัน ซึ่่งตาม<br />
แผนงานกิารบูรณะในคัรั้งนี้จะไม่รื้อถอด้ไม้โคัรงสร้างหลังคัา โด้ยเฉพาะ<br />
ไม้จันทันทีฝัังย่ด้ติด้กิับผนังไม้เพราะเกิรงว่าจะส่งผลให้กิระจกส ีปัระดัับผนัง<br />
ของเดิิมเกิิด้กิารหลุดร่่วงเพิมมากิข่นจากิเดิิม ดัังนันกิารซึ่่อมเปัลียนเสาไม้<br />
แต่ละต้น จ่งต้องจัด้ทำค้้ำยันเพือรองรับไม้โคัรงสร้างหลังคัาและโคัรงสร้างพืน<br />
จากินั้นจึงทากิารตัด้โคันเสาไม้เหนือไม้กิงพัด้สูงปัระมาณ ๐.๒๐ เมตร<br />
โผล่ไว้สำหรับฝ่ังในตอม่อคัอนกิรีตที ่จะหล่อขึ้นใหม่ แล้วด้่งเสาไม้เด้ิมออกิจากิ<br />
โคัรงสร้างหลังคัา พร้อมนำเสาไม้เด้ิมไปัเปั็นแบบอย่างในกิารจัดทำำเด้ือยที่<br />
ปัลายเสาไม้เพื ่อต้องกิารให้ได้้ขนาด้เท่าของเด้ิม ไม้เสาที ่จะนำมาทากิารซึ่่อม<br />
เปัลี่ยนใชู้เสาไม้แด้ง ขนาด้ ๘ นิ้ว มาทากิารไสปัรับให้ได้้เสาไม้แปัด้เหลี่ยม<br />
ตามของเด้ิม เมื ่อทากิารบากิเด้ือยไม้ทีปัลายเสาและเจาะรูเด้ือยสำหรับสอด้<br />
ไม้รอด้ ก่่อนนำไปติิด้ตังให้เจาะรูเดืือย ขนาด้ ๖ หุน จำนวน ๑ รู ทีโคันเสาไม้<br />
เพือไว้สำหรับเสียบแกินสเตนเลสกัับเสาคัอนกร ีต จากินันจ่งนำเสาไม้ใหม่<br />
ข่นไปัปัระกิอบเข้าทีแทนเสาไม้เดิิม<br />
กิารซึ่่อมเปัลียนเสาไม้รอบนอกิ จำนวน ๑๖ ต้น ตามขั นตอน<br />
ดัังกล่่าวข้างต้นนัน ในกิารด้ำเนินงานจะทำกิารซึ่่อมเปัลียนเสาทีละต้น<br />
จนแล้วเสร็จ และเมือจะเริมต้นทีสองจะต้องย้ายไปต้้นทีอยู่ฝ่ังตรงข้ามใน<br />
มุมทแยง ด้้วยเนืองจากิเสาต้นแรกินันตอม่อคัอนกร ีตยังไม่คัรบกิำหนด้<br />
ระยะกิารบ่มคัอนกร ีตและเพือหลีกิเลียงผลกิระทบต่อระบบโคัรงสร้าง<br />
คัอนกิรีต สำหรับกิารซึ่่อมเปัลี่ยนเสาต้นที่ ๓-๑๖ จะทากิารซึ่่อมเปัลี่ยน<br />
โด้ยกิารสลับแนวด้ังกิล่าวจนคัรบ<br />
กิารจัดทำำเสาคัอนกิรีตเสริมเหล็กิหล่อสำเร็จรูปัแปัด้เหลี่ยมตาม<br />
ขนาด้เสาไม้เด้ิม ขั ้นตอนแรกิเตรียมจัดทำำแบบพิมพ์ไม้รูปัแปัด้เหลี่ยม ซึ่่งจะต้อง<br />
ไสปัรับผิวไม้ให้เรียบพร้อมนามันเคัลือบผิวไม้ทุกิคัรั้งกิ่อนเทคัอนกิรีต จากินั้น<br />
เตรียมผูกิเหล็กิแกินเสาโด้ยใชู้เหล็กิข้ออ้อย ขนาด้ ๔ หุน จำนวน ๔ เส้น<br />
งอปัลายเพือฝัังในตอม่อ เหล็กิปัลอกิใช้้เหล็กิกิลม ขนาด้ ๒ หุน ผูกิระยะ<br />
ห่าง ๐.๑๕ เมตร ทีปัลายเสาเชูือมแกินสเตนเลส ขนาด้ ๖ หุน ไว้สำหรับ<br />
เสียบต่อกิับเสาไม้ กิารวางเหล็กิเสริมในแบบพิมพ์จะต้องให้ได้้ระยะห่าง<br />
ไม่น้อยกิว่า ๓ เซึ่นติเมตร แล้วทากิารเทคัอนกิรีตเสาโด้ยใชู้อัตราส่วนผสม<br />
๑ : ๒ : ๓ (ปัูนซึ่ีเมนต์ ๑ ส่วน : ทราย ๒ ส่วน : หิน ๓ ส่วน) แล้วบ่ม<br />
คัอนกิรีตเสาโด้ยฉีดน้าให้ชูุ่มปัระมาณ ๗-๑๔ ต้น<br />
กิารติด้ตั้งเสาคัอนกิรีตหล่อสำเร็จและเทคัอนกิรีตตอม่อ ทากิารยกิ<br />
เสาคัอนกร ีตหล่อสำเร็จข่นไปัปัระกิอบกัับโคันเสาไม้ โด้ยกิารใช้้รอกิโซึ่่ดึึงเสา<br />
คัอนกรีีตข่น ก่่อนจะปัระกิอบเข้าที ทาเคลืือบผิวโคันเสาไม้และแกินสเตนเลส<br />
ด้้วย epoxy ให้ทัวพืนผิว เมือปัระกิอบเข้าทีแล้วได้้ตอกิย่ด้ไม้ปัระกิบข้างเสา<br />
ทั้งสี่ต้นเพื่อปัรับแกินเสาให้ได้้แนวตรงกิับเสาไม้ จากินั้นจึงติด้ตั้งแบบไม้<br />
พร้อมเทคัอนกิรีตตอม่อโด้ยวางอยู่บนฐานรากิเด้ิม<br />
122<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
ติด้ตั้งนั่งร้านเหล็กิเพื่อรองรับไม้โคัรงสร้างหลังคัา กิารปัรุงแต่งเสาไม้แปัด้เหลี่ยมตามขนาด้เสาเด้ิม<br />
ถอด้ไม้รอด้ออกิจากิเสา แล้วจ่งทำกิารถอด้เสาไม้ออกิโด้ยดึึงลงด้้านล่าง<br />
แล้วนำเดืือยหัวเสาไปัเป็็นแบบอย่างในกิารบากิเดืือยหัวเสาต้นใหม่<br />
กิารบากิเด้ือยหัวเสาตามขนาด้สัด้ส่วนของเด้ิม พร้อมเจาะรูเด้ือยไม้รอด้<br />
สภาพเสาไม้เด้ิมหลังกิารรื้อถอนและลักิษ์ณะเด้ือยหัวเสาต้นมุมซึ่่งจะนำไปัเปั็นตัวอย่าง<br />
สำหรับจัดทำำเสาไม้ใหม่ต่อไปั<br />
เจาะรูเดืือยสำหรับเสียบแกินสเตนเลส พร้อมทา epoxy โคันเสาไม้เพือป้้องกัันคัวามชูืน<br />
123<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์ การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
เตรียมติด้ตั้งเสาไม้ใหม่<br />
ทากิารด้่งเสาไม้ขึ้นไปัติด้ตั้งที่เด้ิม<br />
ปร ับไม้ให้เข้ากัับร่องเดืือยของเดิิม ปัระกิอบติด้ตั้งเสาไม้ใหม่แล้วเสร็จ<br />
124<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
ทา epoxy ทีเดืือยสเตนเลสก่่อนปัระกิอบติด้ตัง ติด้ตั้งเหล็กิตะแกิรงฐานรากิ<br />
ติด้ตั้งแบบพร้อมเทคัอนกิรีตฐานรากิ ซึ่่อมเปัลี่ยนเสารอบนอกิแล้วเสร็จ<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
125<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
เสาไม้รอบใน<br />
เปั็นเสาไม้รูปัแปัด้เหลี่ยม ขนาด้ ๑๐-๑๑ นิ้ว สภาพผุกิร่อนที ่ผิวไม้<br />
ตรงตำแหน่งเหนือผิวนาในสระ จำนวน ๕ ต้น ทากิารซึ่่อมแซึ่มโด้ยกิารขุด้<br />
เนือไม้ทีผุกร่่อนออกิจนถ่งเนือไม้เดิิมทีมีสภาพสมบูรณ์แข็งแรงดีี แล้วนำชูินไม้<br />
มาปัะด้ามแทนทีโด้ยปัระสานรอยต่อด้้วยกิาว epoxy พร้อมขัด้แต่งผิวไม้ให้<br />
กิลมกิลืนกิับเสาไม้เด้ิม สำหรับเสาต้นมุมด้้านทิศิตะวันตกิเฉียงใต้ จำนวน<br />
๑ ต้น มีสภาพกิารผุกิร่อนมากิเนื ้อไม้ผุกิร่อนถึงกิลางลำต้น จึงได้้ทากิาร<br />
ซึ่่อมโด้ยกิารตัด้เสาไม้ส่วนที่ชำำรุด้ บริเวณเหนือผิวนาในสระ ยาวปัระมาณ<br />
๐.๕๐ เมตร แล้วนำไม้ใหม่มาซึ่่อมเปัลียนแทนไม้เดิิม กิารเข้าบากิไม้ตรง<br />
รอยต่อจะบากิไม้ตามสภาพกิารผุกร่่อนของเนือไม้เดิิมออกิแล้วคังสภาพ<br />
ของเนื้อไม้ด้ีไว้เปั็นเด้ือย จากินั้นจึงบากิเด้ือยเสาไม้ใหม่ตามลักิษ์ณะรอย<br />
บากิไม้ของเสาไม้เดิิม แล้วนำเสาไม้ใหม่เสียบเข้าทางด้้านข้าง พร้อม<br />
ปัระสานรอยต่อด้้วยกิาว epoxy และขัด้แต่งผิวไม้ให้กิลมกลืืนกัับเสาเดิิม<br />
นำไม้ชูินใหม่มาปัะด้ามตามรอยบากิและปัระสานรอยต่อด้้วยกิาว epoxy<br />
ผิวไม้ทีผุกร ่อนบากิเนือไม้เดิิมตามสภาพกิารผุกร ่อนออกิแล้วคังสภาพไม้เนือดีีไว้เป็็นเดืือยเพือทำกิารปัะด้าม<br />
126<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
งานต่อไม้<br />
หอพระไตรปิิฎกวััดอ ัปัสรสวรรค์์ เป็็นอาคัารทีมีสัดส่่วนอันงด้งาม<br />
จากิกิารด้ำเนินงานบูรณะทำให้พบว่า อาคัารหลังนีใช้้กิารต่อไม้ในกิารยึึด<br />
โคัรงสร้างและส่วนต่างๆ ของอาคัารเข้าไว้ด้้วยกัันทังหมด้ ซึ่่งลักิษ์ณะงาน<br />
แบบนี ถือได้้ว่าเป็็นงานช่่างแบบโบราณชูันคร ูทีพบได้้ยากิในกิารก่่อสร้าง<br />
ทั่วไปั ทั้งยังแสด้งถึงคัวามละเอียด้อ่อนของงานชู่างสมัยโบราณ และทำให้<br />
ตัวอาคัารแข็งแรงและมั ่นคังมากิกิว่ากิารใชู้วัสดุ้ย่ด้อื่นๆ เชู่น ตะปัู ที ่จะผุกิร่อน<br />
และส่งผลต่อคัวามั่นคังแข็งแรงของอาคัารในอนาคัต เทคันิคักิารต่อไม้ที่พบ<br />
นอกิจากิในส่วนหลังคัากิ็ยังพบได้้ในทุกิส่วนของอาคัาร<br />
กิารเข้าไม้บริเวณหัวเสากิับจันทัน<br />
กิารเข้าไม้บริเวณเชูิงชูาย<br />
กิารเข้าไม้บริเวณแปัและจันทัน<br />
กิารเข้าไม้บริเวณหัวเสา<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
127<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
งานบูรณะกำแพงสระนำ<br />
สภาพก่อนบูรณะกำแพงสระนำ<br />
หอพระไตรปิิฎกิตั งอยู่ในสระนำที ขอบสระก่่อสร้างด้้วยกิารก่่ออิฐ<br />
ฉาบปููนหมักิ ผิวขัด้ปัูนตำ ระดัับนำในสระอยู่ตำกว่่าขอบตอม่อปููนทีหุ้ม<br />
เสาไม้ปัระมาณ ๐.๓๐ เมตร โด้ยรอบขอบสระเป็็นพืน คั.ส.ล. อยู่ ๓ ด้้าน<br />
สูงกว่่าระดัับขอบสระเดิิมปัระมาณ ๐.๓๐ เมตร แต่พบว่า ระดัับขอบสระเดิิม<br />
สูงสุด้อยู่บริเวณด้้านทิศิเหนือซึ่่งเป็็นส่วนทีบ้านแถวไม้สร้างคร่่อมอยู่ และ<br />
ด้้านทิศิตะวันออกิเป็็นด้้านทีขอบสระมีกิารโก่่งตัวมากิทีสุด้<br />
สภาพสระน้ำำก่อนกิารบูรณะ สภาพกำำแพงสระน้ำำก่ออิฐบริเวณด้้านทิศิเหนือ<br />
สภาพกำำแพงสระน้ำำก่ออิฐบริเวณด้้านทิศิตะวันออกิและทิศิใต้<br />
สภาพกำำแพงสระน้ำำก่ออิฐบริเวณด้้านทิศิตะวันตกิ<br />
128<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
129<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
130<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
ขันตอนการดำเนินงาน<br />
หลังจากิทีทำกิารย้ายสัตว์นำและสูบนำออกิแล้ว กิารด้ำเนินงาน<br />
ขุด้ตรวจทางโบราณคัด้ีเพือตรวจสอบฐานรากิของสระนำพบว่า สระนำแห่งนี<br />
มีระบบฐานรากิแบบขันบันได้ โด้ยทีชูันล่างสุด้จะมีคัวามกว้้างมากิทีสุด้แล้ว<br />
เรียงตัวลด้หลันกัันข่นไปั มีลักิษ์ณะคล้้ายขันบันได้ซึ่่งเป็็นระบบฐานรากิ<br />
แบบโบราณทีใช้้ตัวผนังรองรับและถ่ายเทนำหนักิของสิ งก่่อสร้างไปัทีพืนดิิน<br />
โด้ยตรง มีโคัรงสร้างป้้องกัันกิารเคัลือนตัวของอิฐโด้ยใช้้แผ่นไม้ ขนาด้หน้า<br />
กว้้างปัระมาณ ๐.๑๘-๐.๒๐ เมตร วางเรียงกัันโด้ยมีระยะห่างปัระมาณ<br />
๐.๑๕-๐.๒๐ เมตร มีคัานไม้วางขวางแผ่นไม้อีกชั้้นหน่ง และใต้คัานไม้มี<br />
เข็มไม้วางรองเพือเสริมคัวามแข็งแรง<br />
ภาพ panorama กิำแพงสระนำก่่ออิฐบริเวณด้้านทิศิเหนือก่่อนบูรณะ<br />
ภาพ panorama กิำแพงสระนำก่่ออิฐบริเวณด้้านทิศิใต้ก่่อนบูรณะ<br />
ภาพ panorama กิำแพงสระนำก่่ออิฐบริเวณด้้านทิศิตะวันออกิกิ่อนบูรณะ<br />
ภาพ panorama กิำแพงสระนำก่่ออิฐบริเวณด้้านทิศิตะวันตกิกิ่อนบูรณะ<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
131<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
ผนังบ่อน้ำำก่อด้้วยอิฐขนาด้ กิว้างปัระมาณ ๐.๑๒-๐.๑๓ เมตร<br />
ยาว ๐.๒๕ เมตร หนา ๐.๐๓-๐.๐๕ เมตร คัวามสูงจากอ ิฐก้้อนแรกถ ึง<br />
ขอบบ่อด้้านบนปัระมาณ ๒.๘๕ เมตร โด้ยส่วนฐานรากิทีมีลักิษ์ณะลด้หลัน<br />
เป็็นขันบันไดม ีคัวามสูง ๑.๔๕ เมตร และส่วนทีเป็็นผนังบ่อมีคัวามสูง ๑.๔<br />
เมตร ผนังบ่อนำด้้านทิศิเหนือพบท่อนำดิินเผาของด้ังเดิิม เส้นผ่านศููนย์กิลาง<br />
๐.๑๘ เมตร ยืนออกิมาจากิผนังก่่ออิฐปัระมาณ ๐.๕๐ เมตร<br />
ผนังก่่ออิฐมีร่องรอยกิารโก่่งตัวและอิฐชูำรุด้โด้ยทัวไปั ผนังสระนำ<br />
ด้้านทิศิตะวันออกิเกิิด้รอยแตกิตามแนวอิฐ เมือด้ำเนินกิารขุด้ตรวจทาง<br />
โบราณคัด้ีเพือศิ่กิษ์าฐานรากิกิำแพงสระและเก็็บข้อมูลเรียบร้อยแล้ว จ่งเริม<br />
ซึ่่อมแซึ่มอิฐทีชูำรุด้เสียหายโด้ยกิารรือถอดอ ิฐทีละก้้อนตามรอยแตกิ แล้ว<br />
ก่่ออิฐเสริมคัวามมันคังตามแนวเดิิม ส่วนขอบสระทีชูำรุด้เสียหายได้้ทำกิาร<br />
ซึ่่อมแซึ่มในแนวทางเด้ียวกิัน จากินั้นจึงทากิารฉาบปัูนหมักิและขัด้ผิวปัูนตำ<br />
ขณะดำำเนินกิารกิ่ออิฐสอปัูนเสริมคัวามมั่นคังกำำแพงสระนาส่วนที่ชำำรุด้โด้ยใชู้อิฐขนาด้เท่าของเด้ิมและสอด้้วยปัูนหมักิ<br />
ขณะดำำเนินงานกิารฉาบปัูนกำำแพงสระด้้วยปัูนหมักิ<br />
กิารบูรณะกำำแพงสระนา<br />
132<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
งานพืน<br />
โคัรงสร้างพืนหอพระไตรปิิฎกิปัระกิอบด้้วยไม้รอด้เป็็นไม้แด้ง ซึ่่งทำ<br />
หน้าทีเป็็นคัานสอด้ลอด้ไม้เสาตามแนวเสาไปัทางทิศิเหนือ-ใต้ และยังทำ<br />
หน้าทีเป็็นไม้ตงรองรับไม้พืนอีกิด้้วย ไม้พืนเป็็นไม้สักมีีขนาด้ใหญ่ หน้ากว้้าง<br />
โด้ยเฉลียตังแต่ ขนาด้ ๗ นิว ถ่ง ๒๐ นิว คัวามหนาโด้ยปัระมาณ ๔ ซึ่ม.<br />
บริเวณทีไม้พืนชูนกัับเสาไม้แปัด้เหลียมจะมีแผ่นไม้โค้้งตามมุมเสา เรียกว่่า<br />
ไม้ฝัักิมะขาม ทำหน้าทีรองรับไม้พืนในส่วนทีติด้กิับเสาไม้แปัด้เหลียม ตาม<br />
ลักิษ์ณะโคัรงสร้างพื้นแบบโบราณ<br />
สภาพก่อนการบูรณะ<br />
สภาพไม้รอด้ เนื้อไม้ชำำรุด้ผุกิร่อน โกิ่งบิด้งอ และมีรอยแตกิยาวทุกิท่อน<br />
และบางท่อนมีกิารตัด้ต่อไม้ตรงกิลางระหว่างเสาซึ่่งอาจทำให้โคัรงสร้างพื้น<br />
ไม่แข็งแรง ส่วนไม้ฝ่ักิมะขามเนื้อไม้ชำำรุด้ทุกิท่อน<br />
สภาพพืนไม้ภายในหอพระไตรปิิฎกมีีขนาด้ตังแต่ ๗ นิว ถ่ง ๒๐ นิว<br />
มีจำนวน ๘ แผ่น ผิวไม้ผุกิร่อนเล็กิน้อยโด้ยทั่วไปั บริเวณเสาต้นมุมทิศิ<br />
ตะวันตกิเฉียงใต้พื้นไม้แตกิชูำรุด้และมีกิารทรุด้ตัวเล็กิน้อย เนื่องจากิใต้พื้น<br />
ภายในไม่มีไม้ฝ่ักิมะขามรองรับอยู่<br />
สภาพพืนไม้ภายนอกิเป็็นไม้แผ่น ขนาด้หน้ากว้้าง ๑๓ นิว ถ่ง<br />
๑๖ นิว ยาว ๘ เมตร มีจำนวน ๖ แผ่น มีสภาพชูำรุดผ ุกร่่อน บิด้งอ<br />
มีรอยแตกิโด้ยทั่วไปั และมีไม้พื้นบางส่วนหลุด้หาย<br />
ไม้พืนทุกิแผ่นยึึดกัันด้้วยกิารฝัังสลักิเดืือยระหว่างแผ่น แบ่งออกิเป็็น<br />
๒ ปัระเภท ได้้แก่่ สลักิเดืือยแบบกิลมและสลักิเดืือยแบบแผ่น สลักิเดืือย<br />
แบบแผ่น ขนาด้ปัระมาณ ๒๑/๒” x ๑๑/๒” จะใชู้ย่ด้ระหว่างแผ่นไม้<br />
ขนาด้ยาว และสลักิเด้ือยแบบกิลม เส้นผ่านศิูนย์กิลาง ๑ ซึ่ม. ยาวปัระมาณ<br />
๒๑/๒” จะใชู้ย่ด้ระหว่างแผ่นไม้ขนาด้สั้น (รายละเอียด้ตามแบบ)<br />
สภาพคัวามชูำรุด้เสียหายของไม้รอด้และไม้ฝัักิมะขาม<br />
สภาพคัวามชำำรุด้เสียหายไม้ฝ่ักิมะขาม<br />
โคัรงสร้างพื้นบริเวณใต้ห้องเกิ็บพระไตรปัิฎกิ<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
133<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
งานซุ้่อมแซุ้มโครงสร้างพืน<br />
การซุ้่อมแซุ้มไม้รอด<br />
จากิกิารพิจารณาแนวทางกิารบูรณะให้ทำกิารเปัลี ยนไม้รอด้ที มี<br />
สภาพชูำรุด้ทังหมด้โด้ยใช้้ ไม้แด้งขนาด้ ๒” x ๖” ยาวต่อเนืองกัันไม่มีรอยต่อ<br />
ส่วนไม้ฝัักิมะขามให้เปัลียนใหม่ทังหมด้ตามขนาดส ัดส ่วนเท่าของเดิิมโด้ยใช้้<br />
ไม้แด้งเชู่นเด้ียวกิัน<br />
กิารติด้ตั้งไม้ฝ่ักิมะขาม<br />
134<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
การซุ้่อมแซุ้มไม้พื้น<br />
พืนไม้ภายในส่วนทีชูำรุด้เสียหายบริเวณเสาต้นมุมทิศิตะวันตกิ<br />
เฉียงใต้ให้เปัลียนไม้ใหม่เป็็นไม้สักิขนาดส ัดส่่วนเท่าของเดิิม ส่วนไม้พืนทีมี<br />
รอยแตกิและผิวไม้ชูำรุด้เล็กน ้อยได้้ทำกิารซึ่่อมอุด้โป๊๊รอยแตกิด้้วยขีเลือยไม้<br />
สักิผสมกิาวร้อน พร้อมขัด้แต่งผิวให้กิลมกล ืน<br />
พืนไม้ภายนอกิ ไม้ทีมีรอยแตกิใช้้วิธีกิารซึ่่อมปัะด้ามและปัระสาน<br />
รอยต่อด้้วยกิาวร้อนผสมขีเลือยไม้สักิ ส่วนไม้ทีชูำรุด้หลุด้หายซึ่่อมเปัลียน<br />
โด้ยใช้้ไม้สักิใหม่ตามขนาดสััดส่่วนเท่าของเดิิม<br />
กิารติด้ตั้งพื้นไม้ใชู้วิธีฝ่ังสลักิเด้ือยตามวิธีกิารด้ั้งเด้ิม<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
135<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
กิารซึ่่อมเปัลี่ยนพื้นไม้ภายในด้้วยไม้สักิ<br />
กิารซึ่่อมเปัลี่ยนพื้นไม้ภายในด้้วยไม้สักิ<br />
136<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย<br />
ปัระกิอบไม้พื้นเด้ิม พร้อมซึ่่อมเปัลี่ยนเด้ือยที่ชำำรุด้
ปัระกิอบไม้พื้นเด้ิม พร้อมซึ่่อมเปัลี่ยนเด้ือยที่ชำำรุด้<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
137<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
งานหลัังคา<br />
หลังคัาเป็็นส่วนปัระกิอบด้้านบนของอาคัารเพือกัันแด้ด้กิันฝ่น<br />
หอพระไตรปิิฎกว ัดอ ัปัสรสวรรค์์เป็็นอาคัารที มีหลังคัาทรงจั วแล้วมีชูายคัา<br />
ปัีกินกิโด้ยรอบ หลังคัาเปั็นเคัรื่องไม้มุงกิระเบื้องเกิล็ด้เต่า หน้าบันปัระด้ับ<br />
ลวด้ลายพันธุ์พฤกิษ์าปัระด้ับกิระจกิ หน้าบันปัระด้ับชู่อฟื้้า ใบระกิา หางหงส์<br />
นาคัสะดุ้้ง<br />
กิารดำำเนินงานบูรณะส่วนหลังคัานั้น ได้้ทากิารตรวจสอบสภาพและ<br />
ถอด้รื้อหลังคัาทั้งหมด้เพื่อดำำเนินกิารเกิ็บข้อมูล ซึ่่อมชำำรุด้ส่วนที่เสียหาย<br />
หรือซึ่่อมเปัลี่ยนในบริเวณที่เสื่อมสภาพจนไม่สามารถบูรณะให้กิลับมาสู่<br />
รูปัแบบด้ังเด้ิม โด้ยมีแนวคัิด้ในกิารอนุรักิษ์์ให้มีคัวามคัล้ายคัลึงกิับของเด้ิม<br />
ให้มากิที่สุด้ โด้ยทากิารรื้อถอนออกิแล้วจัดทำำแบบเพื่อแสด้งสภาพ และ<br />
เกิ็บเปั็นข้อมูลแล้วทากิารตรวจสอบ<br />
กิระเบืองดิินเผาไม่เคล ือบหางเหลียม (ปัลายแหลม) ทีใช้้ในกิารมุงหลังคัา<br />
มุงกิระเบื้องหลังคัาโด้ยใชู้แผ่นยางปัูรองเพื่อปั้องกิันน้ำำฝนรั่วเข้าสู่ภายในตัวอาคัาร<br />
138<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
สภาพหลัังคาก่อนบูรณะ<br />
จากิกิารสำรวจตรวสอบสภาพคัวามเสียหายเบืองต้นพบว่า หลังคัา<br />
มีรอยรัวซึ่่มอยู่หลายจุด้ สาเหตุเนืองมาจากิกิารเสือมสภาพของวัสดุุ<br />
มุงหลังคัาและโคัรงสร้างหลังคัาบางส่วนชูำรุด้ เช่่น กิระเบืองมุงหลังคัาเป็็น<br />
กิระเบืองดิินเผาเคล ือบสีมีสภาพแตกิชูำรุด้ และมีกิารเคัลือนตัวทำให้เกิิด้<br />
รอยแยกห่่างนำฝ่นรัวไหลซึ่่มได้้ ปููนทับสันหลังคัามีรอยแตกร้้าวก็็เป็็นอีกิ<br />
สาเหตุหน่งที เกิิด้กิารรัวซึ่่มจนส่งผลกิระทบให้ไม้โคัรงสร้างหลังคัา<br />
เสือมสภาพผุกร่่อนเป็็นบางแห่ง จนเกิิด้กิารทรุดต ัวส่งผลให้กิารระบายนำ<br />
บนหลังคัาไม่ได้้ปัระสิทธิภาพ<br />
กิารรื ้อถอด้วัสดุ้มุงหลังคัากิ่อนทากิารรื ้อถอด้ได้้ตัด้แยกิชูิ้นส่วน<br />
องคั์ปัระกิอบของปัูนทับสันหลังคัา ปัูนหลบกิระเบื้อง ปัูนปัั้นปัีกิผีเสื้อ และ<br />
ปัูนปัั้นสะพานหนู เพื่อจัด้เกิ็บไว้เปั็นตัวอย่างและเปั็นหลักิฐานในกิารบูรณะ<br />
ต่อไปั จากินั้นจึงเริ่มทากิารรื้อกิระเบื้องมุงหลังคัาเปั็นกิระเบื้องด้ินเผา<br />
เคัลือบสี พร้อมปัูนปัั้นทับสันและหลบข้างกิระเบื้องออกิทั้งหมด้<br />
กระเบือง<br />
จากิสภาพกิ่อนกิารบูรณะที่มีปััญหานารั่วซึ่่ม จึงมีกิารพิจารณากิาร<br />
แกิ้ปััญหากิารรั่วซึ่่มโด้ยใชู้กิารมุงหลังคัาใหม่ให้ได้้ระด้ับทีด้ีเปั็นสาคััญและ<br />
มีกิารป้้องกัันอีกชั้้น โด้ยกิารใช้้แผ่นสังกิะสีรองใต้กิระเบืองมุงหลังคัาและ<br />
ทำกิารเจาะรูเล็กิๆ ทีสะพานหนูปููนทีอยู่เหนือไม้เชิิงชูายเพือให้นำทีรัวไหล<br />
เข้ามาไหลออกิได้้<br />
จากิกิารขุด้ตรวจทางโบราณคัด้ีพบชูิ้นส่วนของกิระเบื้องมุงหลังคัา<br />
อยู่ ๒ ชูนิด้ คัือ กิระเบื้องด้ินเผาไม่เคัลือบสีและกิระเบื้องด้ินเผาเคัลือบ<br />
สีเขียวลักิษ์ณะใกล้้เคีียงกัับกิระเบืองมุงหลังคัาก่่อนด้ำเนินกิารบูรณะ และ<br />
ในขณะด้ำเนินงานฐานรากิ ก็็ไม่พบชูินส่วนกิระเบืองมุงหลังคัาเพิมเติม<br />
แต่อย่างใด้ แต่จากิกิารศิ่กิษ์าเปรีียบเทียบกัับภาพถ่ายเก่่าและกิารเปรีียบเทียบ<br />
กิระเบืองมุงหลังคัาที บริเวณศิาลากิารเปร ียญพบว่ามีกิารใช้้กิระเบืองดิินเผา<br />
แบบไม่เคล ือบ ดัังนันคัณะทำงานทำงานจ่งเลือกิกิระเบืองดิินเผาไม่เคล ือบ<br />
หางเหลียม (ปัลายแหลม) ในกิารมุงหลังคัา<br />
ลักิษ์ณะกิระเบื้องและกิารมุงหลังคัาทีศิาลากิารเปัรียญวัด้อัปัสรสวรรคั์ ซึ่่งเปั็นแบบด้ั้งเด้ิม<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
139<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
โครงหลัังคา<br />
สภาพก่อนการบูรณะ<br />
เมือรือถอด้ไม้ระแนงของเดิิมออกิทังหมด้แล้ว จ่งได้้ทำกิารสำรวจ<br />
ตรวจสอบสภาพ พร้อมเขียนแบบและกิำหนด้รหัสชูินไม้ทุกชิ้้นพบว่า ไม้กิลอน<br />
ของเดิิมเป็็นไม้สักิ ขนาด้กิว้าง ๔ นิว หนา ๖ หุน มีสภาพผุกร ่อนบริเวณ<br />
หัวไม้และปัลายไม้เปั็นส่วนใหญ่ กิารผุกิร่อนที่หัวไม้มีสาเหตุมาจากิกิาร<br />
แตกิร้าวของปัูนทับสันหลังคัาทำให้น้ำำฝนรั่วซึ่่มลงมา ส่วนกิารผุกิร่อนที่<br />
ปัลายไม้อาจเนื ่องจากิเปั็นส่วนที ่อยู่ใกิล้กิับเชูิงชูายซึ่่งมีสะพานหนูปัูน<br />
อยู่ด้้วย ซึ่่งอยู่ติด้สภาพแวด้ล้อมภายนอกิที่มีคัวามร้อนชูื้นตลอด้เวลา<br />
รูปัแบบไม้กิลอนแบ่งได้้เปั็นสามปัระเภท ปัระกิอบด้้วยไม้กิลอนแบบ<br />
งานชู่างโบราณ ได้้แกิ่ กิลอนสับ กิลอนเด้ือย และไม้กิลอนแบบที ่พบทั่วไปั<br />
ในปััจจุบัน ได้้แกิ่ กิลอนผิวเรียบ<br />
กลัอนสับ ใช้้ขวานสับเป็็นร่องเพือวางไม้ระแนงจะใช้้กัับหลังคัา<br />
พาไลและมีกิลอนผิวเรียบแทรกิอยู่<br />
กลัอนเดือย ไม้ทีเจาะเป็็นรูเพือใส่เดืือยไม้กิลมตามระยะห่างของ<br />
ไม้ระแนงพบว่า กิลอนเดืือยจะวางสลับกัับกิลอนสับบนหลังคัาจัวซึ่้อนชูัน<br />
กลัอนผิวัเรียบ เปั็นไม้ผิวเรียบใชู้ตะปัูตอกิย่ด้เหมือนในปััจจุบัน วาง<br />
แทรกิหรือซึ่่อมตัด้ต่ออยู่กิับกิลอนทั้งสองแบบข้างต้น แสด้งให้เห็นถึงกิาร<br />
ซึ่่อมแซึ่มไม้กิลอนแบบโบราณกิ่อนหน้านี้เปั็นเวลาไม่นาน<br />
ภายหลังจากิกิารรื ้อถอด้วัสดุ้มุงหลังคัาออกิทั ้งหมด้แล้วจึงได้้ทากิาร<br />
สำรวจตรวจสอบสภาพคัวามชำำรุด้เสียหายของไม้ระแนงซึ่่งพบว่าเปั็นไม้สักิ<br />
ขนาด้ ๑ x ๑ นิ้ว แต่มีสภาพชำำรุด้ผุกิร่อนเกิือบทั ้งหมด้ สาเหตุกิารผุกิร่อน<br />
เนื่องจากิเปั็นชูิ้นไม้ขนาด้เล็กิและอยู่ติด้กิับกิระเบื้องมุงหลังคัา ทำให้ได้้รับ<br />
คัวามร้อนและคัวามชูื้นจากิกิระเบื ้องทั ้งกิลางวันและกิลางคัืนอยู่ตลอด้เวลา<br />
และอีกิสาเหตุหนึ่งกิ็เกิิด้จากิกิารรั ่วซึ่่มของน้ำำฝนจึงทำให้เกิิด้กิารชำำรุด้<br />
ผุกิร่อนได้้มากิที่สุด้<br />
นอกิจากินี้ในส่วนฝ่้าไขราที่ยื่นออกิมาจากิหน้าบันยังใชู้ไม้กิลอน<br />
แบบกิลอนสับและกิลอนเด้ือยด้ัด้โคั้งเปั็นฝ่้าไขราไปัในตัวด้้วย ทั ้งหมด้นี้ถือเปั็น<br />
ข้อมูลงานชู่างโบราณที ่ได้้พบและคัวรคั่าแกิ่กิารรักิษ์า จึงซึ่่อมแซึ่มตามรูปัแบบ<br />
ด้ั้งเด้ิมทุกิปัระกิาร โด้ยกิารเข้าเด้ือยไม้ในส่วนต่างๆ ของหลังคัาจะไม่มีกิารใชู้<br />
ตะปัูเลย<br />
กิารเก็็บตัวอย่างตัด้แยกชิ้้นส่วนองค์์ปัระกิอบปููนทับสันหลังคัา<br />
140<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
141<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
142<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
143<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
144<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
145<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
146<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
147<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
เครืองลัำยอง<br />
เคัรืองปัระดัับบนหลังคัาหรือเคัรืองลำยอง เป็็นชูินส่วนของ<br />
สถาปััตยกิรรมไทย ใช้้ปัระดัับปิิดท้้ายขอบหลังคัาด้้านสกััด้ของอาคัาร<br />
ปัระกิอบด้้วย ช่่อฟื้้า ใบระกิา หางหงส์ และตัวลำยอง จากิเคัรืองลำยอง<br />
ของหอพระไตรปิิฎกว ัดอััปัสรสวรรค์์วรวิหารนัน มีสภาพชูำรุด้เสียหายมากิ<br />
จ่งต้องด้ำเนินกิารกิระสวนแบบและจัด้ทำข่นมาใหม่ เมือด้ำเนินกิารถอด้รือ<br />
เคัรืองปัระดัับหลังคัาแล้วพบว่า สัดส่่วนและลวด้ลายของเคัรืองปัระดัับ<br />
หลังคัานันมีลักิษ์ณ์แตกต ่างไปัจากิธรรมเนียมของกิารทำเคัรืองปัระดัับหลังคัา<br />
ทางคัณะทำงานได้้ด้ำเนินกิารจัด้ทำเคัรืองลำยองข่นมาใหม่ทังหมด้ โด้ยศิ่กิษ์า<br />
ข้อมูลเปร ียบเทียบ และได้้รับคัำแนะนำจากผู้้เชูียวชูาญในกิารจัด้ทำและ<br />
กิำหนด้ขนาด้ไม้ โด้ยทำกิารเปร ียบเทียบจากิภาพถ่ายเก่่าและเคัรืองปัระดัับ<br />
หลังคัาทีถอด้รือลงมามีคัวามแตกต ่างกัันพอสมคัวรทังในด้้านคัวามอ่อนช้้อย<br />
และสัดส่่วน คัณะทำงานจ่งด้ำเนินกิารกิระสวนแบบ และจัด้ทำเคัรืองปัระกิอบ<br />
หลังคัาข่นมาใหม่ตามคัำแนะนำของสถาปน ิกผู้เชูียวชูาญ<br />
เคัรืองปัระดัับหลังคัา ปัระกิอบด้้วย ช่่อฟื้้า ใบระกิา หางหงส์ ลำยอง และ<br />
หัวนาคัปัระดัับตะเฆ่่สัน เมือรือถอด้ลงมาได้้ทำกิารศิ่กิษ์ารูปัแบบโด้ยเปรีียบเทียบ<br />
จากิภาพถ่ายในอดีีตซึ่่งพบว่า ใบระกิามีจำนวนไม่ตรงกัับหลักิฐานทีปัรากิฏิ<br />
ในภาพถ่าย จากิกิารพิจารณาคัณะกิรรมกิารได้้มีคัวามเห็นให้ใช้้รูปัแบบตาม<br />
หลักิฐานทีปัรากิฏิในอดีีต อีกิทังยังได้้ศิ่กิษ์าเปร ียบเทียบกัับวัด้อืนทีก่่อสร้าง<br />
ในยุคัสมัยเดีียวกััน แล้วจ่งนำข้อมูลมาปัระกิอบเพือทำกิารเขียนแบบข่นใหม่<br />
กิารปัระดัับกิระจกส ีเคัรืองปัระดัับหลังคัา<br />
ภาพถ่าย พ.ศิ. ๒๕๕๕ หอพระไตรปิิฎกิ ก่่อนทำกิารบูรณะ<br />
ภาพถ่ายเก่่า หอพระไตรปิิฎกิ พ.ศิ. ๒๕๑๙<br />
148<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
149<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
150<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
ภาพชู่อฟื้้าและหางหงส์เด้ิมกิ่อนทากิารบูรณะ<br />
ส่วนหนึ่งของเคัรื่องลำยองเด้ิมถูกนำำมาปัระกิอบเพื่อวัด้สัด้ส่วน กิารแกิะสลักิหางหงส์<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
151<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
กิารปัระดัับกิระจกส ี รวยระกิาทีถูกิแกิะข่นใหม่<br />
กิารติด้ตังเคัรืองลำยอง<br />
152<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
งานบูรณะหน้าบัน<br />
หอพระไตรปิิฎกว ัดอ ัปัสรสวรรค์์มีหน้าบันจำนวน<br />
๒ ด้้าน คืือด้้านทิศิตะวันออกิและทิศิตะวันตกิ ทังสอง<br />
ด้้านปัระดัับลวด้ลายพันธุ์พฤกิษ์าปัระดัับกิระจกิ โด้ยด้้าน<br />
ทิศิจะวันออกิจะมีพืนลายเป็็นสีแด้ง แต่ด้้านทิศิตะวันออกิ<br />
พืนลายเป็็นสีนำเงิน<br />
จากิกิารสำรวจตรวจสอบสภาพหน้าบันทัง ๒ ด้้าน<br />
พบว่า กิระจกสีีเสือมสภาพหลุดร่่วงและแผ่นทองคัำเปัลว<br />
สีซึ่ีด้จาง เมือได้้บันทึึกหลักิฐานโด้ยกิารถ่ายภาพและ<br />
เขียนแบบ จ่งได้้ทำกิารกิะเทาะกิระจกส ีของเดิิมออกิ<br />
พบว่าได้้มีกิารบูรณะซึ่่อมแซึ่มปิิด้กิระจกิซึ่้อนทับออกิ<br />
ทังหมด้แล้วพบว่า ชูันกิระจกส ีของด้ังเดิิมมีเหลืออยู่<br />
ไม่มากิ แต่จากิหลักิฐานทีมีเหลืออยู่กิ็สามารถกิำหนด้<br />
รูปัแบบและสีของกิระจกิในส่วนต่างๆ ได้้<br />
กิารด้ำเนินกิารบูรณะได้้ทำกิารกิะเทาะกิระจกส ี<br />
ชูันด้ังเดิิมในส่วนทีเสือมสภาพกิารยึึดเกิาะไม่มันคัง<br />
แข็งแรงและสีซึ่ีด้จางออกิโด้ยยังคังเก็็บรักิษ์ากิระจกสีีชูัน<br />
ด้ังเดิิมทีมีสภาพสมบูรณ์ไว้เป็็นหลักิฐาน จากินันจ่งได้้<br />
ทำกิารขัดผ ิวชูันรักิสมุกิเดิิมออกิ พร้อมซึ่่อมแซึ่มผิวไม้ที<br />
ชูำรุด้ให้สมบูรณ์ รวมทังได้้ขัด้ลอกผ ิวทองเดิิมออกิ<br />
ทังหมด้ เมือได้้ทำคัวามสะอาด้พืนผิวแล้วจ่งได้้ทำกิาร<br />
ลงรักิปัระดัับกิระจกส ีและปิิด้ทองคัำเปัลวตามรูปัแบบ<br />
ทีได้้ผ่านกิารพิจารณาจากิคัณะกิรรมกิาร<br />
หน้าบันด้้านทิศิตะวันตกิ ก่่อนกิารบูรณะ<br />
หน้าบันด้้านทิศิตะวันออกิ ก่่อนกิารบูรณะ<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
153<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
154<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
155<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
งานฝ้้าเพดาน<br />
ฝ้้าไขรา<br />
เป็็นส่วนของหลังคัาทียืนจากิฝ่้าหรือจัวออกิไปัคัลุมรอบตัวอาคัาร<br />
จากิกิารสำรวจพบว่า ฝ้้าไขรามีสภาพผุกร่่อน มีรอยแตกิ และมีรอยตัดต่่อไม้<br />
เกืือบทุกิแผ่นโด้ยเฉพาะบริเวณส่วนปัลาย จ่งด้ำเนินกิารซึ่่อมปัะโด้ยปัระสาน<br />
ด้้วยกิาวไม้ในส่วนทีเป็็นฝ้้าไขราหลังคัาจัว และฝ้้าพาไลด้้านหลังให้ซึ่่อมปัะ<br />
ตามไม้สักิเดิิมโด้ยกิารนำไม้ฝ้้าพาไลด้้านหลัง และฝ้้าพาไลตับบนด้้าน<br />
ทิศิเหนือมาทำกิารปัะด้ามหลังไม้ฝ้้าเดิิมโด้ยปัระสานด้้วยกิาวติด้ไม้ชนิิด้<br />
ภายนอกิเสริมคัวามแข็งแรงให้กัับไม้ฝ้้าเดิิม นอกินันให้เปัลียนไม้ฝ้้าใหม่<br />
ทังหมด้<br />
สภาพคัวามชูำรุด้เสียหายฝ้้าไขรา<br />
156<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
157<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
ฝ้้าพาไลั<br />
จากิกิารสำรวจตรวจสอบสภาพพร้อมเขียนแบบกิำหนด้รหัสชูิ นไม้<br />
ทุกิแผ่นพบว่า ไม้ฝ้้าเพด้านด้้านทิศิตะวันตกิ (ด้้านหน้าของหอไตร) เป็็นไม้สักิ<br />
ทีมีคัวามยาวตลอด้แผ่นมีเพียง ๑-๒ แผ่นเท่านันทีมีร่องรอยกิารตัดต่่อไม้<br />
บริเวณมุมของผืนฝ้้าซึ่่งพอจะสรุปัเบืองต้นได้้ว่าน่าจะเป็็นฝ้้าด้ังเดิิม สำหรับ<br />
ฝ้้าด้้านทิศิใต้พบว่าเป็็นไม้สักิใหม่ทังหมด้ ส่วนฝ้้าด้้านทิศิตะวันออกิและทิศิ<br />
เหนือ พบว่ามีกิารตัดต่่อไม้ทุกิแผ่นและคัาดว่่าน่าจะนำไม้ฝ้้าของเดิิมจากท ิศิ<br />
ใต้มาตัดต่่อ เนืองจากิเป็็นไม้ทีมีขนาด้เดีียวกััน สภาพคัวามชูำรุด้เสียหาย<br />
ของไม้ฝ้้าส่วนใหญ่จะผุกร่่อนทีหัวไม้และปัลายไม้เกืือบทุกิแผ่น แต่สภาพโด้ย<br />
รวมแล้วไม้ฝ้้าเพด้านด้้านทิศิตะวันตกมีีสภาพทีค่่อนข้างสมบูรณ์มากิทีสุด้<br />
158<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
159<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
160<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
161<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
162<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
163<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
164<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
165<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
166<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
167<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
ในกิารซึ่่อมฝ่้าไขราและฝ่้าพาไล จึงคััด้เลือกิไม้ฝ่าเด้ิมจากิด้้านทิศิ<br />
ตะวันออกิและทิศิเหนือมีคัวามหนาไม่เกิิน ๖ มม. นำมาปัระกิบโด้ยใชู้<br />
กิาวลาเทกิซึ่์ชูนิด้พิเศิษ์ เมื่อทากิารลามิเนตไม้ฝ่้าด้้านทิศิตะวันตกิแล้ว จึงนำมา<br />
ติด้ตังกลัับคืืนตามตำแหน่งเดิิม สภาพไม้ฝ้้าเพด้านด้้านทิศิตะวันตกิหลัง<br />
กิารบูรณะยังคังรักิษ์าลายฉลุปิิด้ทองของเดิิมไว้<br />
168<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
ฝ้้าเพดานภายใน<br />
จากิกิารตรวจสอบสภาพพบว่ามีสภาพไม้สมบูรณ์แข็งแรง ส่วนสี<br />
เสือมสภาพหลุดร่่อนซึ่ีด้จาง ซึ่่อมโด้ยกิารขูด้ลอกส ีเดิิมออกิแล้วทำสีใหม่<br />
(ดููรายละเอียด้งานลายฉลุปิิด้ทองฝ้้าเพด้าน)<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
169<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
งานลัายฉลุุปิดทองฝ้้าเพดาน<br />
วิิธีีการอนุรักษ์์<br />
กิารอนุรักิษ์์ลวด้ลายฉลุปิิด้ทองหอพระไตรปิิฎกินันจะเป็็นกิารอนุรักิษ์์<br />
ใน ๒ รูปัแบบ คืือ กิารอนุรักิษ์์แบบรักิษ์าคุุณค่่าของงานเดิิม และกิารรักิษ์า<br />
รูปัแบบของงานของเดิิม ซึ่่งทัง ๒ รูปัแบบนี จะเป็็นกิารแยกิแยะแสด้งให้<br />
เห็นอย่างชััด้เจน คืือ กิารรักิษ์าคุุณค่่าหรือรักิษ์าสภาพร่องรอยของเดิิมนัน<br />
จะเป็็นเพียงกิารเพิมเติมเพียงเล็กน ้อยให้ชััด้เจนข่นบ้างเท่านัน<br />
ส่วนกิารอนุรักิษ์์รูปัแบบงานศิิลปักิรรมนันจะเป็็นกิารทำข่นใหม่<br />
ทุกิขันตอนและมีคัวามสมบูรณ์เต็มพืนที อาจจะมีกิารปร ับลด้คัวามโด้ด้เด่่น<br />
ของพืนและชูันทองลงบ้างตามสมคัวร<br />
170<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
ฝ้้าไขรา<br />
ฝ้้าไขรา ลายฉลุปิิด้ทองเป็็นลายพุ่มข้าวบิณฑ์ มีสภาพสีซึ่ีด้จาง<br />
เมือได้้ทำกิารบันทึึกหลักิฐานเรียบร้อยแล้ว จ่งทำกิารขูด้ลอกส ี ผลกิารขูด้<br />
ลอกส ีไม่พบลวด้ลายฉลุปิิด้ทองด้ังเดิิม กิารบูรณะจ่งให้เขียนลายฉลุปิิด้ทอง<br />
ข่นใหม่ทังหมด้<br />
ผ้าไขราทิศิตะวันออกิเฉียงใต้ ผ้าไขราทิศิตะวันตกิเฉียงใต้ ผ้าไขราทิศิตะวันตกิเฉียงเหนือ ผ้าไขราทิศิตะวันออกิเฉียงเหนือ<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
171<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
ฝ้้าเพดานพาไลั<br />
ฝ้้าเพด้านพาไล ลวด้ลายฉลุฝ้้าเพด้านก่่อนบูรณะเป็็นลายด้อกิไม้ร่วง<br />
สลับกัับผีเสือ ตามแบบอย่างลายฉลุทีนิยมเขียนสมัยรัตนโกส ินทร์ตอนต้น<br />
เมือได้้บันทึึกหลักิฐานเดิิมไว้แล้ว จ่งเริมทำกิารขูด้ลอกสีีด้้วยนำยาลอกสีี<br />
ซึ่่งพบลายฉลุเดิิมยังปัรากิฏิเหลืออยู่แต่ลายฉลุปิิด้ทองซึ่ีด้จาง จากิกิาร<br />
เปรีียบเทียบกัับลวด้ลายปััจจุบัน (ก่่อนบูรณะ) มีรูปัแบบทีคล้้ายกัันแต่ลายฉลุ<br />
ของเดิิมมีลายเส้นและกิารจัด้วางผีเสือทีอ่อนช้้อยและงด้งามกว ่า และยังพบ<br />
อีกว่่าสีเดิิมนันไม่ทำปัฏิิกิิริยากัับนำยาลอกส ี จ่งพอสรุปัได้้ว่าเป็็นชูันสีและ<br />
ลายฉลุปิิด้ทองของด้ังเดิิม และยังพบอีกว ่า กิารจัด้วางลายด้ังเดิิมนันมีกิาร<br />
จัด้วางลายทีแตกต่่างกััน โด้ยเฉพาะลายผีเสือไม่ได้้จัด้วางเป็็นแถวตรง<br />
เหมือนกัับปััจจุบัน<br />
ลายฉลุปิิด้ทองก่่อนบูรณะเป็็นลายด้อกิไม้ร่วงสลับกัับผีเสือ<br />
172<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
ผลัการขูดลัอกสีฝ้้าเพดานพาไลั<br />
ลวด้ลายฉลุปัิด้ทองฝ่้าเพด้านด้้านทิศิตะวันตกิ สภาพลวด้ลายที ่พบ<br />
ค่่อนข้างสมบูรณ์มากิทีสุด้ อีกิทังบางส่วนยังเหลือลายฉลุปิิด้ทองทีค่่อนข้าง<br />
ชััด้เจน มองเห็นอย่างเด่่นชััด้ จ่งได้้กิำหนด้ให้ทำกิารอนุรักิษ์์ลวด้ลายฉลุ<br />
ปิิด้ทองของด้ังเดิิมไว้ทังหมด้<br />
ลัวัดลัายฉลุุปิดทองฝ้้าเพดานด้านทิศิเหนือแลัะด้านทิศิตะวัันออก<br />
ผลจากิกิารขูด้ลอกิสีพบลายด้ั้งเด้ิมแต่มีกิารจัด้วางไม่เปั็นระเบียบ สืบเนื ่องจากิ<br />
ฝ่้าเพด้านทั้งสองด้้านได้้มีกิารซึ่่อมเปัลี่ยนไม้ฝ่้าโด้ยนำไม้ฝ่้าจากิด้้านทิศิใต้มา<br />
ซึ่่อมตัด้ต่อ จึงทำให้ลวด้ลายด้ั้งเด้ิมบางส่วนสูญหายไปั แต่ลายที ่มีเหลืออยู่<br />
เมื่อเปัรียบเทียบแล้วกิ็มีรูปัแบบที่เหมือนกิับลายด้้านทิศิตะวันตกิ<br />
ลัวัดลัายฉลัุปิดทองฝ้้าเพดานด้านทิศิใต้ ไม่พบลวด้ลายเด้ิม เนื ่องจากิ<br />
ได้้มีกิารซึ่่อมเปัลี่ยนไม้ใหม่ ด้ังนั้นแนวทางในกิารบูรณะจึงได้้กำำหนด้ให้เขียน<br />
ลายฉลุปัิด้ทองขึ้นใหม่ทั ้งสามด้้านโด้ยย่ด้ถือรูปัแบบกิารจัด้วางลายตาม<br />
แบบอย่างจากิด้้านทิศิตะวันตกิ แต่เนื่องจากิกิารจัด้วางระเบียบลายด้ั้งเด้ิม<br />
มิได้้วางลายเหมือนกิันทั้งผืน ด้ังนั้นเมื่อจะเริ่มวางลายของอีกิด้้านหนึ่งจะ<br />
ต้องย่ด้รูปัแบบลายในส่วนต่อเนื่องเปั็นรูปัแบบเริ่มต้น จากินั้นจึงจัด้วางลาย<br />
ตามแบบด้ั้งเด้ิม และอีกิจุดสำาคััญในกิารจัด้วางลายจะต้องปัรับระยะไม่ให้<br />
ลายทับตรงรอยต่อของแผ่นไม้ และลายด้อกิตรงขอบริมของทุกิด้้านจะต้อง<br />
มีลายด้อกิที่สมบูรณ์เต็มด้อกิ สำหรับสีที ่ใชู้ทาบนผิวไม้กิ่อนปัิด้ทอง ใชู้สีนามัน<br />
กิ่งเงากิ่งด้้าน<br />
ตัวอย่างกิารบันท่กิหลักิฐานลายฝ่้าเพด้าน กิ่อบูรณะคัรบทุกิด้้าน<br />
แล้วจึงทากิารขูด้ลอกิสีเปั็นขั้นตอนต่อไปั<br />
หลังกิารขูด้ลอกส ีพบว่า ฝ้้าเพด้านพาไลด้้านทิศิตะวันตกิเหลือลายด้ังเดิิมและสมบูรณ์ทีสุด้<br />
กิารขูด้ลอกส ีด้้วยนำยาลอกส ีพบลายฉลุปิิด้ทองด้ังเดิิมทำปัฏิิกิิริยากัับนำยา มีลวด้ลายอ่อนช้้อยสวยงาม<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
173<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
174<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
- ลวดลายที่ใช้เส้นอ่อน คือลวดลายดั้งเดิม<br />
ส่วนเส้นเข้มเป็นลวดลายที่เพิ่มเข้าไปใหม่<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
175<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
ฝ้้าเพดานภายใน<br />
ฝ่้าเพด้านภายในหอไตร เมื่อได้้ทากิารคััด้ลอกิลายเด้ิมไว้เปั็นหลักิฐาน<br />
แล้ว จึงเริ่มทากิารขูด้ลอกิสีออกิแต่ไม่พบร่องรอยของลวด้ลายด้ั้งเด้ิม ซึ่่ง<br />
คัาด้ว่าจะมีกิารซึ่่อมเปัลี่ยนไม้ฝ่้าเพด้าน ด้ังนั้นแนวทางในกิารอนุรักิษ์์จึงใชู้<br />
ลวด้ลายทีปัรากิฏิในปััจจุบันเปั็นต้นแบบ แต่เนื่องจากิกิารจัด้วางลายไม่<br />
สมบูรณ์ เชู่น คั้างคัาวมีไม่คัรบทุกิมุมและลายด้อกิจัด้วางไม่เปั็นระเบียบ<br />
จึงได้้ทากิารปัรับแบบกิารจัด้วางและเพิ่มเติมลายคั้างคัาวให้คัรบทุกิมุม และ<br />
ให้เปั็นไปัตามระเบียบกิารจัด้วางรูปัแบบลวด้ลายด้าวเพด้านที ่ได้้ศิ่กิษ์า<br />
เปัรียบเทียบจากิวัด้อื่นๆ ที่มีปัระวัติกิารสร้างในสมัยรัตนโกิสินทร์ตอนต้น<br />
เชู่นเด้ียวกิัน<br />
สภาพฝ่้าเพด้านภายในหลังขูด้ลองสีไม่พบลายด้ั้งเด้ิม<br />
ภาพด้าวเพด้านเด้ิมกิ่อกิารขูด้สี<br />
176<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
กิารดำำเนินงานฉลุลายปัิด้ทองฝ่้าเพด้านภายใน ในขั ้นแรกทำากิาร<br />
คััด้ลอกิลายเดิิมไว้ แล้วนำมาเขียนแต่งลายเส้นให้สมบูรณ์ จากินั นจ่ง<br />
ทำกิารปรุุแล้วไปติิด้ตามตำแหน่งเดิิมแล้วทำกิารปิิด้ทองด้้วยแผ่นทองคัำเปัลว<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
177<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
งานคันทวัย<br />
คัันทวย คัือชูิ้นส่วนของสถาปััตยกิรรมไทยทำหน้าที่ค้ายันชูายคัา<br />
โด้ยทัวไปม ักิเป็็นไม้แกิะสลักิหรือหล่อเป็็นลวด้ลายสวยงาม คัันทวยที<br />
หอพระไตรปิิฎกว ัดอััปัสรสวรรค์์เป็็นคัันทวยไม้ ปัระดัับอยู่ทีเสาทุกต้้น รวม<br />
ทังสินจำนวน ๒๒ ตัว ซึ่่งคัันทวยแต่ละตัวนันมีคัวามแตกต่่างกัันออกิไปั<br />
แต่สามารถจัด้จำแนกิออกิได้้ทังหมด้ ๑๒ แบบ ซึ่่งได้้ถอด้รือเพือนำมาศิ่กิษ์า<br />
ข้อมูลและด้ำเนินกิารบูรณะลงรักิปัิด้ทองปัระดัับกิระจกิใหม่ ส่วนบางตัวทีมี<br />
กิารชูำรุด้และเสือมสภาพจนไม่สามารถบูรณะได้้จะทำกิารจัด้ข่นมาใหม่<br />
สภาพคัวามชำำรุด้เสียหายคัันทวย คัันทวยหลุด้หาย ๑ ตัว และบางตัวหักิหาย<br />
เสามุมด้้านทิศิตะวันออกิเฉียงใต้ คัันทวยหลุด้หาย<br />
178<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
179<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
งานบูรณะคันทวัย<br />
คัันทวยของเดิิมเป็็นไม้สักิแกิะสลักิลวด้ลายปิิด้ทองปัระดัับกิระจกิ<br />
ตามตำแหน่งทีติด้ตังมีทังหมด้ ๒๒ ตัว จากิกิารสำรวจพบว่า คัันทวยของ<br />
เดิิมหลุด้หายไปั ๑ ตัว คืือตำแหน่งเสาด้้านมุมทิศิตะวันออกิเฉียงใต้ และ<br />
จากิกิารศิ่กิษ์ารูปัแบบคัันทวยแต่ละตัวมีกิารแกิะสลักิลวด้ลายทีเหมือนกััน<br />
อยู่ ๓ กลุ่่ม ส่วนทีเหลือมีลวด้ลายแตกต่่างกััน และสำหรับคัันทวยทีหลุด้<br />
หายไปั ได้้ใช้้รูปัแบบของคัันทวยทีอยู่ในกลุ่มเดีียวกัันเป็็นต้นแบบเพือทำกิาร<br />
แกิะสลักิขึ้นใหม่ ส่วนคัันทวยตัวอื่นๆ ที่มีสภาพของลวด้ลายแตกิชูำรุด้ได้้<br />
ทากิารซึ่่อมปัะด้ามไม้ พร้อมแกิะสลักิให้สมบูรณ์<br />
ติด้ตั้งคัันทวยและทาสีขอบไม้<br />
คัันทวยลงรักิปัิด้ทองปัระด้ับกิระจกิสีและติด้ตั้งกิลับคัืนแล้วเสร็จ<br />
180<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
งานอนุรักษ์์จิตรกรรมฝ้าผนัง<br />
ผนังภายในหอไตร เป็็นผนังไม้สักิเขียนภาพลายด้อกิไม้ มีสภาพ<br />
สีซึ่ีด้จางหลุดล่่อนเป็็นส่วนมากิโด้ยเฉพาะขอบด้้านบนของผนัง เนืองจากิ<br />
หลังคัารัวทำให้นำฝ่นไหลซึ่่มลงมาบนผนัง เป็็นเหตุให้ภาพเขียนสีซึ่ีด้จาง<br />
แต่ยังคังเห็นร่องรอยเค้้าโคัรงของภาพเขียน ดัังนันจ่งได้้ทำกิารอนุรักิษ์์ภาพ<br />
จิตรกิรรมฝ่าผนังภายในหอไตร เพือให้มีคุุณค่่าทางด้้านศิิลปัะ ปัระวัติศิาสตร์<br />
ทีสำคััญแห่งนีให้อยู่ในสภาพทีมันคังแข็งแรงสืบไปั เมือบันทึึกหลักิฐานด้้วย<br />
กิารถ่ายภาพแล้วจ่งได้้ทำกิารอนุรักิษ์์โด้ยกิารทำคัวามสะอาด้ด้้วยนำสะอาด้<br />
และแอมโมเนียมคัาร์บอเนต ฉีด้ทากิาวพาราลอยด์์ บี ๗๒ แล้วผนึึกให้<br />
แนบสนิทกัับผนัง จากินันถมชูันรองพืนในรอยชูำรุด้ด้้วยดิินสอพองผสม<br />
กิาวเม็ด้มะขามแล้วเติมสีในส่วนทีซึ่ีด้จางตามหลักิกิารอนุรักิษ์์ โด้ยให้มีสี<br />
ทีกิลมกลืืนกัับภาพเขียนสีของเดิิม<br />
สภาพจิตรกิรรมฝ่าผนังภายในหอพระไตรปิิฎกิกิ่อนกิารบูรณะ สีซึ่ีด้จางหลุดร ่อนเนืองจากิหลังคัารัว ทำให้นำฝ่นไหลซึ่่มลงมาบนผนัง<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
181<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
ภาพจิตรกิรรมฝ่าผนังภายในหอพระไตรปิิฎกิหลังกิารบูรณะ<br />
182<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
งานอนุรักษ์์ผนังประดับกระจกสี<br />
ผนังหอไตร เป็็นผนังไม้สักิหน้ากว้้างปัระมาณ ๑๖ นิว ตีตาม<br />
แนวนอน ภายนอกิปัระดัับกิระจกส ี สภาพก่่อนกิารบูรณะชูันกิระจกิกิะเทาะ<br />
หลุดล่่อน ชูันรักิเสือมสภาพ มีคัราบสกิปัรกิ ฝุ่่นละออง และมูลนกพิิราบ<br />
ข้อสังเกิตคืือกิระจกส ีด้้านทิศิเหนือมีขนาด้เล็กิกิว่าด้้านอืนๆ<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
183<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
184<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
185<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
การซุ้่อมแซุ้มกระจกสี<br />
กิระจกสีีทีปัระดัับผนังหอพระไตรปิิฎกินันเป็็นกิระจกิเกรีียบสีทีมี<br />
คัวามบางมากิเป็็นพิเศิษ์ซึ่่งปััจจุบันไม่ปัรากิฏิว่ามีกิารผลิตหรือนำเข้าแล้ว<br />
มีเพียงกิระจกิบางชูนิด้ที ่มีลักิษ์ณะใกิล้เคัียงซึ่่งมีกิารนาเข้ามาจำหน่ายและ<br />
ผลิตในปัระเทศิ แต่กิ็มีขนาด้ที่หนากิว่าและมีสีสันทีคั่อนข้างโด้ด้เด้่นกิว่าของ<br />
เด้ิมเปั็นอย่างมากิ<br />
จากลัักิษ์ณะทางกิายภาพของโบราณสถานส่วนทียังคังเหลืออยู่นัน<br />
มีสภาพทีคั่อนข้างสมบูรณ์ในคัวามเปั็นโบราณสถานที่ผ่านกิารเวลามา<br />
ยาวนานซึ่่งยังเหลือหลักิฐานร่องรอยและส่วนที่ยังคัวามสมบูรณ์ นับเปั็นสิ่ง<br />
ยืนยันถึงคัวามสาคััญซึ่่งแทบไม่ต้องมีคำำอธิบายใด้ๆ จากิลักิษ์ณะสภาพของ<br />
สถาปััตยกิรรม งานศิิลปักิรรมที่ทรงคัุณคั่านั้น<br />
กิารอนุรักิษ์์ซึ่่อมแซึ่มจึงให้คัวามสาคััญในด้้านกิารรักิษ์าและเสริม<br />
คัวามมั ่นคังในส่วนที คังเหลือมากิกิว่ากิารที ่จะต้องซึ่่อมเพื ่อให้สมบูรณ์เต็ม<br />
พื้นที่ เพราะจะเปั็นกิารทำให้สิ่งสาคััญทีคังเหลือนั้นด้้อยคั่าลง และกิลาย<br />
เปั็นสิ่งปัลูกิสร้างให้ซึ่่งจะไม่สามารถที ่จะอธิบายคัวามเปั็นมาอย่างเต็ม<br />
คัวามภาคัภูมิได้้ กิารรักิษ์าสภาพให้คังเด้ิมและมั ่นคังจึงเปั็นเหตุผลอันสาคััญ<br />
ในกิารทีจะต้องรักิษ์าไว้ให้ทรงคุุณค่่าและเป็็นปัระโยชน ์ต่อกิารศิ่กิษ์าค้้นคว ้า<br />
ด้้านศิิลปัะ ปัระวัติศิาสตร์ วัฒนธรรม และเศิรษ์ฐกิิจต่อไปั<br />
สภาพกิระจกิสีกิะเทาะหลุด้ล่อน และชูั้นรักิเสื่อมสภาพจนเห็นเนื้อไม้ ไม้ผนังบางส่วนมีรอยแยกิระหว่างแผ่นไม้<br />
186<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
187<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
งานอนุรักษ์์ลัายรดนำบานประตู-หน้าต่าง<br />
กิารซึ่่อมแซึ่มลายรดน้า จะพิจารณาจากิสภาพคัวามชำำรุด้ของลวด้ลาย<br />
ที่มีคัวามชำำรุด้ที่แทบจะไม่เหลือร่องรอยเด้ิมหรือมีร่องรอยเด้ิมแต่ชูั้นทอง<br />
หลุด้หายไปัเกิือบทั้งหมดทำำให้มีคัวามไม่กิลมกิลืนในคัวามชำำรุด้เล็กิน้อย<br />
ตามธรรมชูาติ คัือคัวามเลือนรางบ้างบางส่วนแต่ยังคังรูปัแบบลวด้ลายและ<br />
ชูั้นทองไม่น้อยกิว่า ๕๐%<br />
ในกิารซึ่่อมแซึ่มจะซึ่่อมเกิ็บในจุด้เล็กิที่ชำำรุด้ขาด้หายไปัและในส่วนที่<br />
เลือนหายเปั็นพื้นทีกิว้างเหลือเพียงร่องรอยของลายเส้น แต่ชูั้นปัิด้ทอง<br />
หลุด้หายไปัเกิือบหมด้เท่านั้น<br />
ในส่วนทีมีคัวามหมองและเลือนลางบ้างแต่ยังคังปัรากิฏิรูปัแบบของ<br />
ลวด้ลาย และชูันปิิด้ทองค่่อนข้างชััด้เจนและมีคัวามกิลมกล ืนสมำเสมอของ<br />
สภาพของเดิิมทีเกืือบสมบูรณ์ จะทำกิารเสริมคัวามมันคังชูันรักิและชูัน<br />
ปิิด้ทองให้คังสภาพดีีมันคังแข็งแรง<br />
188<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
189<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
วิิธีีการซุ้่อมแซุ้ม<br />
๑. กิารทำคัวามสะอาด้ ด้้วยกิารปัระคับดููด้ซึ่ับคัราบสกิปัรกิโด้ยกิาร<br />
ใช้้สำลีหรือกิระด้าษท ิชูชููชุุบนำปัระคับทิ งไว้พอปัระมาณให้คัราบสกิปัรกิ<br />
อ่อนตัวแล้วจ่งใช้้สำลีพันปัลายไม้เพือดููด้ซึ่ับคัราบสกิปัรกิหรือคัราบเขม่า<br />
ติด้แน่น ไม่สามารถทำคัวามสะอาด้ด้้วยนำเปล่่าได้้ จะใช้้นำเปล่่าผสมนำยาเคมีี<br />
ตามอัตราส่วนทีเหมาะสมและผ่านกิารทด้ลองในแต่ละสภาพคัวามสกิปัรกิ<br />
๒. กิารเสริมสภาพคัวามมันคังและปร ับพืนผิวทีชูำรุด้ กิารเสริม<br />
คัวามมันคังรอยชูำรุด้โด้ยใช้้รักิสมุกิ (รักิเงาผสมดิินสอพอง) อุด้ซึ่่อมในส่วน<br />
ทีชูำรุด้ของพืนผิวชูันรักิปัล่อยให้แห้งสนิท และขัด้ปัรับแต่งจนกว่่าพืนผิวจะ<br />
เรียบเสมอ<br />
๓. กิารเชู็ด้รักิ หลังกิารเสริมคัวามมั ่นคังและปัรับแต่งพื้นที่ชำำรุด้ให้<br />
เรียบเนียนแล้วจะรองพื้นรักิด้้วยกิารเชู็ด้ ๑-๓ คัรั้ง ให้มีคัวามหนาของ<br />
ชูั้นรักิและสมาเสมอของพื้นผิว ปัล่อยไว้ให้แห้งสนิท<br />
๔. กิารเขียนลวด้ลายซึ่่อม กิารเขียนลวด้ลายซึ่่อมจะใชู้วัสดุ้แบบ<br />
ด้ั้งเด้ิม คัือเขียนและถมร่องลายด้้วยนายาหรด้าน และเชู็ด้ด้้วยนารักิเกิลี้ยง<br />
หรือรักิเงาทิ้งไว้ให้แห้งพอเหมาะจึงปัิด้ทองคำำเปัลว ๑๐๐% โด้ยปัิด้ให้ทึบ<br />
เต็มพื้นที่ทีซึ่่อมแซึ่ม แล้วกิวด้ทองด้้วยกิารลูบให้ทองติด้ผิวรักิจนแห้งสนิท<br />
๕. กิารรด้หรือกิารล้างด้้วยนำ หลังกิารปิิด้ทองและกิวด้ทอง<br />
เรียบร้อยแล้ว จ่งใช้้กิระด้าษท ิชูชููหรือสำลีและเยือกิระด้าษ์ ชุุบนำปัระคับทิง<br />
ไว้เพือทำละลายหรด้าลทีเขียนให้หลุด้ออกง ่ายโด้ยให้สำลีชุุบนำลูบซึ่ับเบาๆ<br />
จนกิว่าจะสะอาด้และปัรากิฏิลวด้ลายทองชูัด้ปัล่อยให้แห้งแล้วปัรับแต่ง<br />
สภาพให้กิลมกิลืนกิับทองเด้ิม<br />
กิารทำคัวามสะอาด้คัราบสกิปัรกิลนลวด้ลายรดน ้ำด้้วยกิารใช้้กิระด้าษทิิชูชููเป็็นตัวชุุบนำปัระคับ<br />
บนพืนผิวลวด้ลายให้คัราบสกิปัรกอ ่อนตัวแล้วจ่งใช้้สำลีพันปัลายไม้ชุุบนำเช็็คัเพือดููด้คัราบ<br />
สกิปัรกิด้้วยคัวามระมัด้ระวัง<br />
190<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
ขั้นตอนการอนุรักษ์์<br />
การเขียน-ปิดทองซุ้่อมลัวัดลัายรดนำ<br />
หลังทำคัวามสะอาดต ้องถมพื นส่วนทีชูำรุด้ด้้วยรักิสมุกิให้พืนผิว<br />
เรียบเสมอกัับผิวเดิิมทีถมรักิสมุกิให้เรียบเนียนใกล้้เคีียงกัับพืนผิวเดิิมแล้ว<br />
จ่งเช็็ด้ด้้วยรักิเงาให้มีชูันรักิหนาพอปัระมาณ ทิงไว้ให้แห้งสนิท แล้วจ่ง<br />
เขียนลายเส้นด้้วยนำหรด้าลกิาวผสมกิาวกิระถินแล้วถมร่องลายด้้วย<br />
หรด้าล เช่่นเดีียวกัันหลังเขียนลายเส้นและถมร่องลายรอให้แห้งสนิทดีีแล้ว<br />
จ่งทำกิารเช็็ดตััวลาย รอให้แห้งสนิทดีีแล้วด้้วยรักน้้ำเกิลียงหรือรักิเงา ทิงให้<br />
พืนรักิแห้งพอเหมาะ จ่งปิิด้ทองทับทังพืนทีของลวด้ลายแล้วกิวด้แผ่นทอง<br />
ให้ติด้สนิทแน่นกัับผิวชูันรักิ ปล่่อยให้แห้งแล้วจ่งใช้้สำลีหรือกิระด้าษท ิชูชูู<br />
ชุุบนำสะอาด้ปัระคับแล้วค่่อยๆ ซึ่ับเอาหรด้าลทีเขียนลวด้ลายจนกว่่าจะ<br />
สะอาด้<br />
กิารเขียนลวด้ลายด้้วยหรด้าลและถมร่องแล้วจ่งปิิด้ทองซึ่่อมในส่วนทีชูำรุด้เสียหาย<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
191<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หลังกิารถมพืน เขียนลวด้ลาย เช็็ดร ักิแล้วเสร็จ จ่งทำกิารปิิด้<br />
ทองคัำเปัลวท่บเต็มพืนทีบริเวณทีซึ่่อมแซึ่มเพือให้ลวด้ลายเป็็นลวด้ลายทอง<br />
ทีสมบูรณ์แล้วจ่งซึ่ับล้างนำเอาชูันหรด้าลออกิจนกว ่าจะสะอาด้และเห็น<br />
คัวามชััด้เจนของลวด้ลายแล้วจ่งปรัับแต่งสภาพให้กิลมกลืืนกัับลวด้ลายของเดิิม<br />
กิารปิิด้ทองซึ่่อมลวด้ลายรดน ้ำ หลังกิารเขียนลวด้ลาย<br />
ถมร่องลายแล้วจ่งเช็็ดร ักิ-ปิิด้ทองซึ่่อมส่วนชูำรุด้<br />
ซึ่่อมแซึ่มลวด้ลายรดน ้ำซึุ่้มปัระตูและหน้าต่างแล้วเสร็จ<br />
192<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
งานอนุรักษ์์ลัวัดลัายไม้แกะสลัักแลัะเครืองไม้ต่างๆ<br />
เคัรืองไม้แกิะสลักิทีปัระดัับส่วนฐานเรือนหอพระไตรปิิฎกินัน ส่วนใหญ่<br />
ชูำรุด้หลุด้หายเกืือบทังหมด้ คังเหลือเพียงเล็กน้้อยทีพอให้เห็นและใช้้เป็็น<br />
ตัวอย่างในกิารแกิะสลักิ อีกิทังขนาด้ของชูินงานก็็มีขนาด้เล็กิและบอบบางมากิ<br />
ต้องใช้้คัวามปัระณีตและเวลาในกิารแกิะ อาจจะเป็็นเพราะคัวามบอบบางของ<br />
ตัวลายทีทำให้มีคัวามแตกห ักิชูำรุดง่่าย หลุด้หายไปัเป็็นจำนวนมากิ<br />
ขั้นตอนการซุ้่อมแซุ้มเครื่องไม้แกะสลััก<br />
๑. สำรวจตรวจสภาพคัวามมั ่งคังของโคัรงสร้างและลวด้ลาย<br />
ปัระด้ับของเด้ิม<br />
๒. เสริมคัวามมันคังโคัรงสร้างไม้และตัวลวด้ลายไม้<br />
๓. ทำคัวามสะอาด้คัราบฝุ่นละอองและสิงสกิปัรกิอืนๆ<br />
๔. ติด้ตั้งซึ่่อมลวด้ลายไม้แกิะสลักิซึ่่อมส่วนที่ชำำรุด้หลุด้หายไปั<br />
๕. ทานายารักิษ์าเนื้อไม้ ปัรับแต่งสีไม้ให้กิลมกิลืนของเด้ิม<br />
๖. ลงรักิ-ปัิด้ทองบางส่วนให้กิลมกิลืน<br />
กิารใช้้ลำลีพันปัลายไม้ชุุบนำผสมนำยาเคม ีเช็็ด้ทำคัวามสะอาด้สะอาด้ฝุ่่นและคัราบสกิปัรกิ<br />
เคัรื่องไม้โคัรงสร้างหรือลวด้ลายไม้แกิะสลักิของเด้ิมนั้นพื้นผิวของไม้<br />
จะมีกิารส่กิกิร่อนบ้างซึ่่งเปั็นเหตุให้ชูั้นปัิด้ทองเลือนหายไปัด้้วย กิรณีนี้จะยัง<br />
คังรักิษ์าสภาพร่องรอยปััจจุบันเท่านัน เพราะหากิซึ่่อมผิวปิิด้ทองใหม่จะทำให้<br />
เกิิด้คัวามขัด้แย้งต่อสภาพ และร่องรอยของเดิิมทีไม่สามารถอธิบาย<br />
คัวามสำคััญของหลักิฐานเดิิมทีปัรากิฏิอยู่ชูัด้เจนได้้<br />
ทำคัวามสะอาด้งานปัระดัับไม้สลักิแล้วเสร็จ<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
193<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
งานอนุรักษ์์ลัวัดลัายโลัหะประดับซุุ้้มประตู-หน้าต่าง<br />
ลวด้ลายโลหะตะกิัวส่วนทีปัระดัับซึุ่้มปัระตู-หน้าต่างนัน จะเป็็นรูปั<br />
กิรอบซึุ่้มหน้าบัน ช่่อฟื้้า ใบระกิา หางหงส์ และกิระจังขนาด้เล็กิปัระดัับอยู่<br />
ระเบียงชูันต่างๆ ของซึุ่้ม ตังแต่ส่วนฐานจนถ่งส่วนยอด้ซึุ่้มซึ่่งของเดิิมได้้<br />
ชูำรุด้หลุด้หายไปัคั่อนข้างมากิ แต่ก็็ยังคังเหลือส่วนทียังคังรูปัแบบตัวลาย<br />
กัับตำแหน่งชูันทีปัระดัับส่วนหน่งให้เห็นเป็็นหลักิฐานและเป็็นแบบตัวอย่าง<br />
ในกิารปัระดิิษฐ ์ติด้ตังซึ่่อมแซึ่มให้สมบูรณ์และปร ับสภาพสีโลหะให้กิลมกล ืน<br />
กัับของเดิิมตามคัวามเหมาะสม<br />
สภาพหางหงส์ซึุ่้มปัระตูหลุด้หายทั้งสองข้าง<br />
สภาพคัวามชำำรุด้ของชูิ้นส่วนหล่อโลหะ<br />
194<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
ขั้นตอนการซุ้่อมแซุ้มโลัหะตะกัวั<br />
๑. สำรวจตรวจสภาพคัวามชำำรุด้เกิ็บแบบตัวอย่างลวด้ลายเพื ่อทำ<br />
เปั็นแบบพิมพ์ในกิารหล่อ<br />
๒. เสริมคัวามมั่นคังของโคัรงสร้างไม้ของซึุ่้มปัระตู-หน้าต่าง<br />
๓. หล่อลวด้ลายพร้อมตกิแต่งให้เรียบร้อยและปัรับสภาพสี<br />
๔. ติด้ตั้งลวด้ลายตามตำแหน่งระเบียบแต่ละชูั้น<br />
๕. ปัรับแต่งลวด้ลายของเด้ิมให้มีสภาพด้ี<br />
กิารนำตะกิั่วมาหล่อหลอมเปั็นตัวลวด้ลายนั้น สีของตะกิั่วอาจจะมี<br />
คัวามวาววับขาวโด้ด้เด้่นจึงต้องใชู้กิรด้บางตัวชู่วยในกิารปัรับสีของตะกิั่วให้<br />
ด้้านและดู้คล้าลงใกิล้เคัียงกิับสีของตะกิั่วของเด้ิม เพื่อให้กิลมกิลืนและไม่ให้<br />
เกิิด้คัวามแตกต่่างมากน ักิ อาจจะมีบางส่วนทีอาจโด้ด้เด่่นอยู่บ้าง แต่เมือ<br />
กิาลเวลาผ่านไปส ักิระยะหน่งก็็จะสามารถแปัรเปัลียนสภาพลด้คัวามโด้ด้เด่่น<br />
เป็็นไปัตามธรรมชูาติ<br />
กิารหล่อชูินงานตะกิัวเพือซึ่่อมแซึ่มจะใช้้ตะกิัวบริสุทธิเกิรด้ A จะมี<br />
คัวามเหนียวและหลอมได้้ง่ายในอุณหภูมิทีตำ โด้ยใช้้ต้นแบบชูินงานของเดิิม<br />
ทีมีอยู่นำมาถอดพิิมพ์ด้้วยวัสดุุทีแข็งแกร่่ง เช่่น ปัลาสเตอร์ซึ่ีเมนต์หรือพิมพ์<br />
โลหะเหล็กิ ใช้้แก๊๊สทีให้คัวามร้อนสูงหลอมละลายลงในแม่แบบปล่่อยให้เย็นลง<br />
และแข็งตัวแล้วนำออกิมาปัรับแต่งรูปัแบบให้สมบูรณ์กิ่อนนำไปัแชู่ใน<br />
กิรด้เกิลือเพื่อปัรับสี<br />
หลังกิารตกิแต่งเรียบร้อยแล้วนำมาแช่่ลงในกิรด้เกล ือเพือปรัับสีให้ใกล ้เคีียงกัับของเดิิม<br />
กิารหล่อชูินส่วนตะกิัว<br />
หล่อชูิ้นงานและปัรับแต่งให้เรียบร้อยโด้ยใชู้ชูิ้นงานของเด้ิมเปั็นแบบถอด้พิมพ์<br />
เพื่อซึ่่อมแซึ่มของเด้ิมที่ชำำรุด้เสียหาย<br />
กิารติด้ตังชูินงานโลหะบนโคัรงสร้างเคัรืองไม้โด้ยให้ตะปููโลหะแกร่่งกัันสนิม<br />
ในกิารยึึดลวด้ลายกัับโคัรงสร้างเคัรืองไม้<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
195<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
กิารติด้ตั้งลวด้ลายโลหะโด้ยปัรับแต่งรูปัแบบตามระเบียบของแต่ละชูิ้นและย่ด้ลวด้ลายกิับ<br />
โคัรงสร้างไม้ด้้วยโลหะแกิร่ง<br />
หลังกิารติด้ตั้งงานหล่อชูิ้นส่วนโลหะแล้วเสร็จ<br />
ติด้ตั้งหางหงส์ซึุ่้มปัระตูที่หลุด้หายไปัโด้ยใชู้สัด้ส่วนจากิหางหงส์ของหลังคัา<br />
กิารปัรับแต่งชูิ้นงานตามรูปัแบบระเบียบโคัรงสร้างไม้<br />
196<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
ลงรักิหางหงส์ซึุ่้มปัระตู<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย<br />
ปัิด้ทองหางหงส์ซึุ่้มปัระตูแล้วเสร็จ
งานสี<br />
จากิกิารด้ำเนินงานบูรณะและตรวจสอบหาชูันสีเดิิมพบว่า ฝ้้าเพด้าน<br />
และจันทันทาด้้วยโทนสีแด้ง แปัและตะเฆ่่สันทาด้้วยโทนสีฟื้้า พืนระเบียง<br />
ไม่พบหลักิฐานของสีเดิิมแต่ตรงมุมด้้านทิศิตะวันออกิเฉียงเหนือพบเห็น<br />
ลักิษ์ณะสีด้ำเหมือนรักิสมุกิแต่จุด้ทีพบเล็กิมากจ ึงไม่สามารถสรุปัได้้ว่า<br />
พืนทาด้้วยวัสดุุอะไร ส่วนพนักิระเบียงก็็เช่่นเดีียวกัันทีไม่ปัรากิฏิร่องรอย<br />
ของสีด้ังเดิิม เนืองจากิเป็็นส่วนทีได้รับผลกิระทบจากิแสงแด้ด้และลมฝ่นมากิ<br />
จึงเสื่อมสภาพหลุด้ร่อนหมด้จนถึงเนื้อไม้ส่วนเสาชูั้นล่างทั ้ง ๒๐ ต้น มีลักิษ์ณะ<br />
ของโทนมีแด้งแต่สีซึ่ีด้จางมากิเนื่องจากิได้้รับผลกิระทบจากิคัวามชูื้น<br />
หลักิฐานสีเด้ิมทีฝ่้าไขรา หลักิฐานสีเด้ิมทีฝ่้าเพด้าน แปั ตะเฆั่สัน จันทัน และเสาไม้<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
197<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
กิารพิจารณาเลือกิใช้้สี เริมจากส่่วนทีมีหลักิฐานเดิิมปัรากิฏิ ปัระกิอบ<br />
ด้้วยสีทาฝ้้าเพด้าน จันทัน และแปั เลือกิใช้้สีนำมันกิ่งเงากิ่งด้้าน ตามเฉดสีีเดิิม<br />
เนื่องจากิพื้นผิวในส่วนนี้จะต้องทำลายฉลุปัิด้ทองเพื่อกิารย่ด้เกิาะทีด้ีของ<br />
แผ่นทองคัำเปัลว ส่วนไม้เชิิงชูายซึ่่งอยู่ภายนอกิได้้เลือกิใช้้สีสูตรนำหรือสีนำ<br />
อะคร ิลิกิ<br />
เมือได้้ทาสีอาคัารทังหมด้แล้ว จ่งได้้ทำภาพจำลองเพือหาเฉดสีีทีจะ<br />
ใช้้ทาพนักิระเบียงไม้และเสาไม้ซึ่่งคัณะกิรรมกิารได้้เลือกิใช้้เฉดส ีแด้งเหมือน<br />
สีทีใช้้ทาเชิิงชูาย สำหรับพืนไม้สักิเลือกิใช้้สีย้อมพืนไม้<br />
กิารทด้ลองทาสีลงบนพืนไม้เพือพิจารณาเฉดส ีของโคัรงสร้างหลังคัาและฝ้้าเพด้าน<br />
ทาสีไม้โคัรงหลังคัาและฝ่้าเพด้านแล้วเสร็จ<br />
198<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
ภาพจำลองเพื่อกิารพิจารณาเฉด้สี<br />
ทาสีหอพระไตรปัิฎกิแล้วเสร็จ<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
199<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
งานปรับปรุงภูมิทัศน ์<br />
หอพระไตรปิิฎกิตังอยู่่กลางสระนำ กิำแพงสระก่่ออิฐแบบโบราณ<br />
ล้อมรอบทังสีด้้าน ด้้านทิศิเหนือมีบ้านพักิอาศััยเป็็นอาคัารไม้สองชูันได้้ปล ูกิ<br />
สร้างอยู่ชูิด้ขอบสระและบางส่วนรุกล้าเข้าไปัในสระนา ด้้านทิศิตะวันออกิ<br />
มีอาคัารเมรุสร้างชิิดต ิด้กิับขอบสระและมีกิารก่่อสร้างแนวรั วทับบนขอบสระ<br />
ด้้านทิศิใต้ ได้้มีกิารปร ับและกิารพืน คั.ส.ล. ทับบนขอบกิำแพงสระเดิิม<br />
ริมขอบถนนสร้างเป็็นรัวเหล็กิ ส่วนด้้านทิศิตะวันตกิได้้มีกิารก่่อสร้างโกิศิ<br />
บรรจุอัฐิ ลักิษ์ณะโกิฏิิสำเร็จรูปัพร้อมปรัับเทพืน คั.ส.ล. และสร้างรั วเหล็กิ<br />
ล้อมรอบ<br />
200<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
จากินั้นได้้ทากิารรื้อถอนสิ่งกิ่อสร้างใหม่ออกิทั้งหมด้ (ยกิเว้นบ้านพักิ<br />
อาศิัยสองหลัง) สำหรับโกิศิบรรจุอัฐิได้้ย้ายไปัไว้บริเวณสนามด้้านริมคัลอง<br />
หน้าวัด้ พร้อมสร้างแท่นฐานให้ใหม่<br />
เมือได้้รือถอนพืน คั.ส.ล. ออกิแล้วจ่งได้้ทำกิารศิ่กิษ์าหาหลักิฐาน<br />
คัวามสูงของกิำแพงสระเดิิมซึ่่งพบว่า บริเวณขอบสระด้้านทิศิเหนือซึ่่งมี<br />
ปููนฉาบทับขอบสระเหลืออยู่ จ่งได้้ย่ด้ถือระดัับคัวามสูงของขอบสระเดิิมเป็็น<br />
ค่่าระดัับทีจะนำมากิำหนด้ในกิารออกิแบบปร ับปร ุงภูมิทัศน์์ อีกิทังได้้ทำกิาร<br />
ขุด้ตรวจสอบบริเวณฐานของหอระฆััง พบพืนปููด้้วยอิฐอยู่ล่กิจากิระดัับ<br />
ผิวดิินหรือขอบสระปัระมาณ ๐.๓๕ เมตร แต่ระดัับดัังกล่่าวเป็็นระดัับที<br />
ตำมากิไม่สามารถระบายนำได้้จ่งได้้กิำหนด้คั่าระดัับพื นทีจะทำกิารปร ับปร ุง<br />
ใหม่ให้สูงกว ่าขอบสระเล็กน ้อย<br />
กิารปร ับปร ุงภูมิทัศน ์ตามรูปัแบบบูรณะได้้กิำหนด้ให้จัด้ทำพืน คั.ส.ล.<br />
ปููหินแกิรนิต ขนาด้ ๐.๔๐ x ๐.๔๐ เมตร ผิวพ่นไฟื้ ปููในแนวทแยงเดิิน<br />
ขอบด้้วยปููนทรายผิวขัดม ัน และเว้นขอบพืนห่างจากิขอบสระโด้ยเฉลีย<br />
๐.๕๐ เมตร โรยกิรวด้แม่นำเพือทำเป็็นร่องระบายนำพร้อมทังจัด้ทำระบบ<br />
ระบายนำโด้ยติด้ตังปัระตูนำทองเหลืองขนาด้ ๔ นิว เพือระบายนำเข้าและ<br />
ออกิลงสู่่คลอง ผนังริมทางเดิินก่่อสร้างเป็็น คั.ส.ล. ผิวฉาบปููนขัดมััน ยกิขอบ<br />
ข่นสูงกว่่าพืนทางเดิินเฉลีย ๕ ซึ่ม. เพือป้้องกัันนำจากิพืนถนนไหลลงในสระ<br />
พร้อมจัด้ทำราวกัันตกิและปัระตูเหล็กิ ด้้านทิศิตะวันออกิของพืนทีได้้ปลููกิ<br />
ต้นโมกิ ขนาดสููงปัระมาณ ๒ เมตร เพือบดบ ังอาคัารเมรุทำให้เกิิด้<br />
ทัศน ียภาพทีสวยงามมากิข่น สำหรับพืนทีด้้านหน้าหอระฆัังเมือได้้ทำกิาร<br />
ปร ับปร ุงขยายพืนหน้าบันได้ออกิมาเพือเปิิด้ให้เห็นขันบันได้ขันแรกิ ทำให้<br />
พืนทางเดิินสัญจรแคับลง จ่งได้้รือถอนรัวเดิิมออกิและปรัับเลือนแนวเพือเปิิด้<br />
ช่่องทางเดิินให้กว ้างข่น โด้ยกิารก่่อสร้างรัวปููนข่นใหม่ตามรูปัแบบรัวเดิิม<br />
กิารปล ูกต ้นโมกิลงดิินด้้านทิศิตะวันออกิ และปัระดัับกิระถางต้นจันทน์ผาบริเวณพืนลาน<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
201<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
พื้นทางเด้ินมุมหอระฆัังด้้านทิศิตะวันตกิเฉียงเหนือ ตัด้พื้นคัอนกิรีตทางเด้ินพร้อมขุด้ลอกิด้ินเพื่อขยายพื้นที่หน้าหอระฆััง<br />
ถมทรายปัรับระด้ับ วางตะแกิรงเหล็กิและเทคัอนกิรีตพื้นลาน<br />
202<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
กิารกิ่อสร้างแผงกิันด้ิน คัอนกิรีตเสริมเหล็กิ ผิวขัด้มัน พร้อมทำราวกิันตกิเหล็กิ<br />
เนืองจากว ัดอััปัสรสวรรค์์เป็็นวัด้ทีมีขนาด้เล็กิ ปัระกิอบกัับพืนทีรอบ<br />
บริเวณหอพระไตรปิิฎกว ัดอััปัสรสวรรค์์ มีอาคัารล้อมรอบทำให้พืนทีดููแออัด้<br />
กล่่าวคืือ ด้้านทิศิตะวันออกติิด้กิับทางเดิินทีสามารถทะลุไปยัังบ้านของชูาวบ้าน<br />
และวัด้อืนทีอยู่ใกล้้เคีียง เช่่น วัด้ปัากน ้ำภาษีีเจริญและวัดข ุนจันทร์<br />
ด้้านทิศิเหนือติด้กิับบ้านของปัระชูาชูนทีรุกล ้ำเข้ามาในบริเวณสระนำที<br />
หอพระไตรปิิฎกิตังอยู่ ด้้านทิศิตะวันตกต ิด้กิับเมรุและศิาลากิารเปร ียญ และ<br />
ด้้านทิศิใต้ติด้กิับทางสัญจรภายในวัด้ นอกิจากินีทางวัด้ได้้สร้างรัวล้อม<br />
รอบหอพระไตรปิิฎกิเพือคัวามปัลอดภ ัยในชีีวิตและทรัพย์สินของทางวัด้<br />
กิารปร ับปร ุงภูมิทัศน์์รอบบริเวณหอพระไตรปิิฎกินัน มีแนวคิิด้ในกิาร<br />
เปิิด้พืนทีให้โล่งเพือให้เกิิด้คัวามสวยงามและส่งเสริมให้หอพระไตรปิิฎกมีี<br />
คัวามสง่างาม รวมทังกิารวางผังและกิารออกิแบบใหม่ในพืนทีอนุรักิษ์์ ทีคัำน่งถ่ง<br />
กิารออกิแบบที ดีีเพือแก้้ปััญหาและรักิษ์าคุุณค่่าคัวามเป็็นโบราณสถานของที<br />
ตังด้้วยกิารปร ับปร ุงภูมิทัศน์์จ่งมีแนวคิิด้โด้ยรวม ดัังต่อไปันี<br />
ทุบสกััด้รัวและกิำแพงทีทางวัด้สร้างล้อมรอบไว้เพือเปิิดมุุมมองให้<br />
กัับพืนทีโด้ยรอบเพือรือฟื้้นสภาพพืนทีเดิิมในอดีีตเมือคัรังแรกครั ้งหอ<br />
พระไตรปิิฎกิให้กล ับมา<br />
ด้านทิศิตะวัันออก ฝ่ังทีติด้กิับทางเดิิน ด้ำเนินกิารเคัลือนย้ายโกิศิ<br />
บรรจุอัฐิไปัไว้ด้้านทิศิตะวันตกฉ ียงเหนือ และขยายทางเดิินโด้ยทุบสกััด้<br />
กิำแพงกุุฏิิเจ้าอาวาส (บริวเณแนวรัวอาคัารสุขา) ออกิเพือขยายทางเดิินให้<br />
กว ้างข่น<br />
ด้านทิศิใต้ ด้ำเนินกิารรือถอนบ้านเรือนของปัระชูาชูนทีรุกล ้ำเข้ามา<br />
ในเขตสระนำบริเวณหอพระไตรปิิฎกิ เพือเปิิดมุุมมองของหอพระไตรปิิฎกิและ<br />
จัด้ทำป้้ายเพือปัระชูาสัมพันธ์และสือคัวามหมายของอาคัาร<br />
ด้านทิศิตะวัันตก จัด้ทำรัวระแนงไม้เพือบังสายตาจากิเมรุทีตังอยู่<br />
ถัด้จากิหอพระไตรปิิฎกิ และศิาลากิารเปร ียญซึ่่งอยู่คั่อนข้างชิิดต ิด้กิับ<br />
หอพระไตรปิิฎกิ และจัด้ทำสวนแนวตั งด้้วยกิารจัด้หาต้นไม้แขวนเพือ<br />
คัวามสวยงาม<br />
ด้านทิศิใต้ หลังจากรืือถอนกิำแพงและรั วเหล็กิแล้ว จัด้ทำป้้ายเพือ<br />
ปัระชูาสัมพันธ์และสือคัวามหมายของอาคัาร<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
203<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
งานบูรณะหอระฆััง<br />
หอระฆัังตั งอยู่ทางด้้านทิศิตะวันตกิเฉียงเหนือของหอไตรสภาพโด้ย<br />
ทัวไปผิิวปููนฉาบเสือมสภาพหลุดร่่วง และมีบ้านพักิอาศััยปลููกิสร้างชิิดติิด้กิับ<br />
ฐานหอระฆัังอยู่สองด้้านคืือด้้านทิศิตะวันออกิและทิศิใต้ ในส่วนนี<br />
ไม่สามารถด้ำเนินกิารบูรณะได้้ เนืองจากบ้้านพักิอาศััยไม่ยอมย้ายออกิ<br />
ดัังนันจ่งทำกิารบูรณะในส่วนทีสามารถจะทำกิารบูรณะได้้ โด้ยกิารกิะเทาะ<br />
ปููนฉาบเดิิมออกิทังหมด้ตังแต่ส่วนฐานจนถ่งส่วนยอด้ ตรวจสอบและ<br />
ซึ่่อมแซึ่มอิฐก่่อทีชูำรุด้ โด้ยกิารก่่อเสริมด้้วยอิฐมอญขนาด้ใหญ่สอด้้วยปููนหมักิ<br />
แบบโบราณ<br />
จากินั นจ่งได้้ทำกิารฉาบปููนผนังเรียบและฉาบปููนลวดบ ัวกล ับคืืนสู่<br />
สภาพเดิิมโด้ยฉาบด้้วยปููนหมักิแบบโบราณและขัดผ ิวด้้วยปููนตำแบบโบราณ<br />
ตามหลักิฐานเดิิมทีปัรากิฏิ ส่วนพืนรอบฐานหอระฆัังได้้ขูด้ลอกิด้ินทีทับถมออกิ<br />
เพือเปิิด้ให้เห็นฐานหน้ากิระด้าน แต่ไม่สามารถเปิิดถ ึงระดัับพืนใช้้งานเดิิมได้้<br />
เนืองจากม ีผลกิระทบต่อระบบระบายนำ แล้วปููพืนรอบฐานด้้วยอิฐมอญ<br />
ขนาด้ใหญ่โด้ยปููบนพืนทรายถม ส่วนบันได้เดิิมเมือบูรณะแล้วบันได้ขันแรกิ<br />
จะอยู่ตำกว ่าพืนทางเดิินปััจจุบันอยู่่ประมาณ ๐.๔๐ เมตร เพือคัวามสะด้วกิ<br />
ต่อกิารใช้้สอย จ่งได้้จัด้ทำเป็็นพืนโคัรงสร้างเหล็กิวางพาด้ไปัสู่บันได้ขันทีสาม<br />
เพือให้เดิินข่นไปต ีระฆัังได้้<br />
สภาพกิ่อนบูรณะ หอระฆััง<br />
ฉาบปัูนหมักิ ผิวขัด้ปัูนตำแล้วเสร็จ<br />
204<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
ภาพจำลองเพือเสนอแนะให้มีกิารย้ายเมรุและศิาลาบำเพ็ญกุุศิลออกิไปัอยู่ในทีซึ่่งมีคัวามเหมาะสม จะสามารถเปิิดม ุมมองให้กัับหอไตรได้้เป็็นอย่างดีี<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
205<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
๓<br />
จุุดหมายแห่งค์วัามสาเร็จุ
208<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
209<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
210<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
211<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
212<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
213<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
214<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
215<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
216<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
217<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
218<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
219<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
220<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
221<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
222<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
223<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
224<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
225<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
226<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
227<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
228<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
229<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
230<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
231<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
232<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
233<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
234<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
235<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
บรรณานุกรม<br />
กิรมแผนที. แผนทีกรุงเทพฯ พ.ศิ. ๒๔๓๑-๒๔๗๓. กร ุงเทพฯ: กิองทัพบกิ, ๒๕๓๐.<br />
กิรมศิิลปัากิร. จดหมายเหตุการอนุรักษ์์กรุงรัตนโกสินทร์. กรุุงเทพฯ: ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคัคัล<br />
สหปัระชูาพาณิชย ์, ๒๕๒๕.<br />
. บันทึกเรืองสัมพันธิไมตรีระหว่่างประเทศิสยามกับนานาประเทศิในศิตวัรรษ์ที<br />
๑๗ เล่่ม ๑. กร ุงเทพฯ : คุุรุสภา ๒๕๒๑.<br />
. วััดสำคัญกรุงรัตนโกสินทร์ (กร ุงเทพฯ : โรงพิมพ์ยูไนเต็ด้โปัรดัักชั่่น, ๒๕๒๕).<br />
กิ่งนภา จันทร์ดีี และคัณะ. การศึึกษ์าสภาพแวัดล้้อมเพือการอนุรักษ์์โบราณสถานบริเวัณคลัอง<br />
ด่าน ธินบุรี (วััดหนัง วััดนางนอง วััดนางชี วััดราชโอรสาราม), สารนิพนธ์ศิิลปัศิาสตร์<br />
บัณฑิต (โบราณคัด้ี) ภาควิิชูาโบราณคัด้ี คัณะโบราณ คัด้ี มหาวิทยาลัยศิิลปัากิร, ๒๕๓๒.<br />
เกรีียงศัักดิ์์ โชต ิชููสกุุล. งานช่างประดับกระจก. ศิิลปว ัฒนธรรมไทย เล่ม ๖.<br />
ขรรค์์ชััย บุญปัาน. บางขุนเทียน ส่วันหนึงของแผ่นดินไทยแลัะกรุงรัตนโกสินทร์. กร ุงเทพฯ:<br />
โรงพิมพ์พิฆัเณศิ, ๒๕๓๐.<br />
เจ้าพระยาทิพากิรวงศิมหาโกิษ์าธิบดีี. พระราชพงศิาวัดาร กรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลัที ๓.<br />
กิรมศิิลปัากิร: พิมพ์คัรังที ๗ , ๒๕๔๗.<br />
ไจร์มา นวมารคั. ลัักษ์ณะการประดับกระจกในสถาปัตยกรรมสมัยต้นรัตนโกสินทร์. สารนิพนธ์<br />
ศิิลปัศิาสตร์บัณฑิต (โบราณคัด้ี) ภาคว ิชูาโบราณคัด้ี คัณะโบราณคัด้ี มหาวิทยาลัย<br />
ศิิลปัากิร, ๒๕๒๘.<br />
ฉันท์ ขำวิไล. ๑๐๐ ปี สุนทรภู่. กร ุงเทพฯ: มติชูน, ๒๕๓๒.<br />
ตวงทอง แก้้ววัชูระรังสี, การศึึกษ์าคติการสร้างรูปอดีตพุทธิเจ้าเป็นประธิาน ในพระอุโบสถ<br />
วััดอัปสรสวัรรค์วัรวิิหาร. สารนิพนธ์ศิิลปัะศิาสตร์บัณฑิต ภาควิิชูาโบราณคัด้ี<br />
คัณะโบราณคัด้ี มหาวิทยาลัยศิิลปัากิร, ๒๕๔๖.<br />
นิตยสารสิงศัักดิสิทธิิ. ปีีที ๑ ฉบับที ๑๖ วันที ๓๐ ตุลาคัม ๒๕๒๖.<br />
บุปัผา เจริญทรัพย์. หอไตร. สารนิพนธ์ ศิิลปัะศิาสตร์บัณฑิต (โบราณคัด้ี) ภาคว ิชูาโบราณคัด้ี<br />
คัณะโบราณคัด้ี มหาวิทยาลัยศิิลปัากิร, ๒๕๑๙.<br />
ประชุมหมายรับสังภาค ๔ ตอนที ๑ สมัยกร ุงรัตนโกส ินทร์ รัชูกิาลพระบาทสมเด็็จพระนังเกล ้า<br />
เจ้าอยู่หัว จ.ศิ. ๑๑๘๘-๑๒๐๓. กรุุงเทพฯ: รุ่งศิิลป์์กิารพิมพ์ (๑๙๗๗), ๒๕๓๖).<br />
ประวััติวััดอัปสรสวัรรค์วัรวิิหาร พร้อมด้้วยหมายรับสังในรัชูกิาลที ๓, พิมพ์ชูำร่วยในกิาร<br />
ทอด้กิระฐินพระราชูทานของกิรมศิิลปัากิร เมือวันที ๑ พฤศจ ิกิายน ๒๕๐๕.<br />
ผศิ. สมชูาติ จ่งสิริอารักิษ์์. การอนุรักษ์์สถาปัตยกรรม. เอกิสารปัระกิอบกิารสอนวิชูาอนุรักิษ์์<br />
สถาปััตยกิรรม คัณะสถาปััตยกิรรมศิาสตร์ มหาวิทยาลัยศิิลปัากิร, กรุุงเทพฯ.<br />
พัชร ี สาริกบ ุตร. เทคโนโลย ีสมัยโบราณ (Primitive Technology), เอกิสารปัระกิอบกิารสอน<br />
ภาคว ิชูาโบราณคัด้ีคัณะโบราณคัด้ีมหาวิทยาลัยศิิลปัากิร, ๒๕๒๓.<br />
รวิอร ชูิววงษ์์. สภาพควัามเปลัี ยนแปลังของคลัองด่านกับสภาพการดำเนินชีวิิตของชุมชน<br />
(ศึึกษ์าเฉพาะกรณีชุมชนริมคลัองด่านบริเวัณตังแต่วััดปากนำ-วััดนางนองวัรวิิหาร,<br />
สารนิพนธ์ศิิลปัะศิาสตร์บัณฑิต (มานุษ์ยวิทยา) ภาคว ิชูามานุษ์ยวิทยา คัณะโบราณคัด้ี<br />
มหาวิทยาลัยศิิลปัากิร, ๒๕๓๖.<br />
สุจิตต์ วงศ์์เทศิ. กรุงเทพฯ มาจากไหน?. กร ุงเทพ: มติชูน, ๒๕๔๘.<br />
ข้อมูลัทางอินเตอร์เน็ต<br />
http://dictionary.sanook.com/search/dict-th-th-royal-institute/%E0%B8%95%E0%<br />
B8%B0%E0%B8%9B%E0%B8% A5%E0%B8%B4%E0%B8%87<br />
http://kasetintree.com/5344.html<br />
http://www.thairath.co.th/column/edu/paperagriculturist/210671<br />
236<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
ภาคผนวัก<br />
แบบสำรวัจธิรรมาสน์ไม้ทรงบุษ์บก<br />
ภายในอาคารศิาลัาการเปรียญ<br />
วััดอัปสรสวัรรค์วัรวิิหาร
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
239<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
240<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
241<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
242<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
243<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
244<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
245<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
246<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
คณะทำงานแลัะอาสาสมัครในโครงการอนุรักษ์์หอพระไตรปิฎกวััดอัปสรสวัรรค์วัรวิิหาร<br />
ทีปรึกษ์าโครงการ ศิาสตราจารย์กิิตติคุุณ ม.ร.ว.แน่งน้อย ศัักดิ์์ศร ี<br />
พลอากิาศิตรีอาวุธ เงินชููกิลิน<br />
รองศิาสตราจารย์เสนอ นิลเด้ชู<br />
รองศิาสตราจารย์ ด้ร.ปัระสงค์์ เอียมอนันต์<br />
รองศิาสตราจารย์สมคิิด้ จิระทัศินะกุุล<br />
นายเผ่า สุวรรณศัักดิ์์ศร ี<br />
นายทวีจิตร จันทรสาขา<br />
์<br />
คณะทำงานโครงการ<br />
ด้ร.วสุ โปัษ์ยะนันทน์<br />
หัวหน้าคัณะทำงาน<br />
นายชูวลิต ตังมิตรเจริญ คัณะทำงาน<br />
ผู้ชู่วยศิาสตราจารย์สุดจ ิต สนันไหว คัณะทำงาน<br />
นายชย ุตม์ เกิษ์ร<br />
คัณะทำงาน<br />
นายจมร ปัรปัักิษ์์ปัระลัย คัณะทำงาน<br />
นายวทัญญูู เทพหัตถี<br />
คัณะทำงาน<br />
นายสุรยุทธ วิริยะด้ำรงค์์ คัณะทำงาน<br />
นายจาริต เด้ชูะคุุปต คัณะทำงาน<br />
นายภาณุวัตร เลือด้ไทย คัณะทำงาน<br />
นางสาวจิตตินาถ ดีีทรัพย์ คัณะทำงาน<br />
นายธิปั ศร ีสกุุลไชูยรักิ<br />
คัณะทำงาน<br />
นายปููรณ์ ขวัญสุวรรณ คัณะทำงาน<br />
นางสาวปิิยนุชู สุวรรณคีีรี คัณะทำงาน<br />
นายอาทิตย์ ลิมมัน คัณะทำงาน<br />
ผู้ชู่วยศิาสตราจารย์พงศิกิร ยิมสวัสด้ิ คัณะทำงาน<br />
นางวรางคัณา นิมเจริญ คัณะทำงาน<br />
นางสาวมนัชูญา วาจก์์วิสุทธิ คัณะทำงาน<br />
นายสัญชััย ลุงรุ่ง คัณะทำงาน และเลขานุกิาร<br />
ด้ร.พรธรรม ธรรมวิมล คัณะทำงานด้้านงานภูมิสถาปััตยกิรรม<br />
นางสาวหัทยา สิริพัฒนากุุล คัณะทำงานด้้านงานภูมิสถาปััตยกิรรม<br />
นางกิรรณิกิาร์ สุธีรันตาภิรมย์ คัณะทำงานด้้านงานโบราณคัด้ี<br />
นายสุวิชู ชูมชูืน คัณะทำงานด้้านงานอนุรักิษ์์ศิิลปักิรรม<br />
นายจุมภฏิ ตรัสศิิริ<br />
คัณะทำงานด้้านงานวิศิวกิรรม<br />
นายกิิตติพันธ์ พานสุวรรณ คัณะทำงานด้้านวิศิวกิรรม<br />
คณะกรรมการคัดเลืือกผู้เสนอราคาจ้าง พระคร ูพิศิาลพัฒนคุุณ เจ้าอาวาสวัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหาร<br />
พระราชูปััญญาภรณ์ เจ้าอาวาสวัด้นางชีี<br />
พระวิสุทธิธีรพงศ์์ ผู้ชู่วยเจ้าอาวาสวัด้นางชีี<br />
ด้ร.วสุ โปัษ์ยะนันทน์<br />
คณะกรรมการตรวัจการจ้าง<br />
พระคร ูพิศิาลพัฒนคุุณ เจ้าอาวาส วัดอััปัสรสวรรค์์วรวิหาร<br />
พระราชูปััญญาภรณ์ เจ้าอาวาสวัด้นางชีี<br />
พระวิสุทธิธีรพงศ์์ ผู้ชู่วยเจ้าอาวาสวัด้นางชีี<br />
นายสมิตร โอบายะวาทย์<br />
นายวสุ โปัษ์ยะนันทน์<br />
นายสุรยุทธ วิริยะด้ำรงค์์<br />
ผู้ควับคุมงาน ผู้แทนจากิกิรมศิิลปัากิร<br />
นายวันชััย มงคัลปัระดิิษ์ฐ<br />
นายวทัญญูู เทพหัตถี<br />
นายสัญชััย ลุงรุ่ง<br />
คณะทำงานด้านการบูรณปฏิิสังขรณ์<br />
นายจุมภฏิ ตรัสศิิริ<br />
นายชััชูวาล ชูมโฉม<br />
นายบุญยงค์์ พานิชูกิุล<br />
นายธีระวุฒิ สิงขรณ์<br />
นางสาวชิิด้ชูนกิ โพธิแก้้ว<br />
คณะทำงานด้านสำรวัจรังวััด ผู้ชู่วยศิาสตราจารย์สุดจ ิต สนันไหว<br />
นายวสุ โปัษ์ยะนันทน์<br />
นายจมร ปัรปัักิษ์์ปัระลัย<br />
นายวทัญญูู เทพหัตถี<br />
นางสาวมนัชูญา วาจก์์วิศุุทธิ<br />
นายสุรยุทธ วิริยะด้ำรงค์์<br />
นางสาวหัทยา สิริพัฒนกุุล<br />
นายภาณุวัตร เลือด้ไทย<br />
นายศุุภฤกิษ์์ เอมโกิษ์า<br />
นายอนุรัตน์ พลอยเงิน<br />
นางสาวศรีีสุด้า วงษ์์ชุ่ม<br />
นายสุรศัักดิ์์ บำรุงเรือน<br />
บริษััท กุุฎาคัาร จำกััด้<br />
บริษััท ซึ่ี.บี. กิารสำรวจ จำกััด้<br />
บริษััท บานาน่า สตูดิิโอ จำกััด้<br />
คณะทำงานด้านงานโบราณคดี<br />
คณะทำงานด้านภูมิสถาปัตยกรรม<br />
นางสาวกิษ์มา เกิาไศิยานนท์<br />
นายกิิตติพงษ์์ ถาวรวงศ์์<br />
นายพลพยุหะ ไชูยรส<br />
นางสาวจิรชูฎา ตรีภาณุวรรณ<br />
นายชััยยศิ เจริญสันติพงศ์์<br />
ด้ร.พรธรรม ธรรมวิมล<br />
ด้ร.วิภากิร ธรรมวิมล<br />
คณะทำงานด้านคอมพิวัเตอร์ animation นายจาริต เด้ชูะคุุปต ์<br />
นายชูวลิต ตังมิตรเจริญ<br />
บริษััท เสาเอกิ สถาปน ิกิ จำกััด้<br />
คณะทำงานด้านเขียนแบบคอมพิวัเตอร์ นายสุรศัักดิ์์ บำรุงเรือน<br />
อาสาสมัครโครงการ<br />
เลัขานุการโครงการ<br />
คัณะสถาปััตยกิรรมศิาสตร์<br />
สถาบันเทคัโลโนโลยีพระจอมเกล ้าเจ้าคุุณทหารลาด้กิระบัง<br />
วิทยาลัยช่่างศิิลปั<br />
คัณะสถาปััตยกิรรมศิาสตร์และกิารออกิแบบ<br />
มหาวิทยาลัยเทคัโนโลยีราชูมงคัลพระนคัร วิทยาเขตศิาลายา<br />
นางสาววราภรณ์ ไทยานันท์<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
247<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
ชือหนังสือ <strong>สามหอไตร</strong> เล่มที ๓ :<br />
หอไตรวัดอ ัปัสรสวรรค์์ กิารสานต่องานอนุรักิษ์์สถาปััตยกิรรมไทย<br />
ISBN (e-book) ๙๗๘-๖๑๖-๗๓๘๔-๔๖-๗<br />
เจ้าของ<br />
สมาคัมสถาปน ิกิสยาม ในพระบรมราชููปถ ัมภ์<br />
บรรณาธิิการ / ผู้เขียน ด้ร.วสุ โปัษ์ยะนันทน์<br />
กองบรรณาธิิการ ณัฐวดีี สัตนันท์<br />
เนตรชูนกิ นาคัขำ<br />
วราภรณ์ ไทยานันท์<br />
ภัทรพร เสาวรส<br />
นารา ผุด้มากิ<br />
ถ่ายภาพ วีระพล สิงห์น้อย<br />
สุรยุทธ วิริยะด้ำรงค์์<br />
หจกิ.ฐานอนุรักิษ์์<br />
ศิิลัปกรรม วีระพล สิงห์น้อย<br />
กิล้วยไม้ วนพานิชู<br />
วรมันต์ โสภณปัฏิิมา<br />
พิสูจน์อักษ์ร นารา ผุด้มากิ<br />
ประสานงาน ลีนวัตร ธีระพงษ์์รามกุุล<br />
ดำเนินการผลิิต บริษััทบานาน่า สตูดิิโอ จำกััด้<br />
248<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย
หนังสือชุด<strong>สามหอไตร</strong> <strong>เล่มที่</strong> ๑ : หอไตรวัดระฆังโฆสิตาราม ปฐมบทอาษา อาสา สถาปัตยกรรมไทย<br />
สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์