21.04.2023 Views

สามหอไตร เล่มที่ 3 : หอไตรวัดอัปสรสวรรค์

Create successful ePaper yourself

Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.

<strong>สามหอไตร</strong> <strong>เล่มที่</strong>ี่๑ <strong>เล่มที่</strong>ี่๓<br />

หอไตรวัดระฆังโฆสิตาราม<br />

<strong>หอไตรวัดอัปสรสวรรค์</strong><br />

การสานต่องานอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไทย<br />

ปฐมบทอาษา อาสา สถาปัตยกรรมไทย


<strong>สามหอไตร</strong> <strong>เล่มที่</strong>ี่๓<br />

<strong>หอไตรวัดอัปสรสวรรค์</strong><br />

การสานต่องานอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไทย<br />

สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์


สารจากนายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์<br />

ภารกิิจทางด้้านกิารอนุรักิษ์์มรด้กิสถาปััตยกิรรมถือเป็็นอีกิบทบาท<br />

หน่งทีสำคััญของสมาคัมสถาปน ิกิสยาม ในพระบรมราชููปถััมภ์ ทีมีกิาร<br />

ด้ำเนินกิารมาอย่างต่อเนืองจนถ่งปััจจุบัน โด้ยถูกิกิำหนด้ให้เป็็นพันธกิิจใน<br />

ด้้านงานอนุรักิษ์์ศิิลปัสถาปััตยกิรรมเพือมุ่งส่งเสริมกิารอนุรักิษ์์งาน<br />

สถาปััตยกิรรมอันทรงคุุณค่่าและมีคัวามสำคััญทางปัระวัติศิาสตร์<br />

สถาปััตยกิรรมในปัระเทศิไทย โด้ยเฉพาะอย่างยิงงานสถาปััตยกิรรมไทย<br />

ปัระเพณี อันเป็็นกิารสืบทอด้เจตนารมณ์ทางด้้านกิารอนุรักิษ์์ของสมาคัม<br />

สถาปน ิกิสยามฯ ทีมีมาตังแต่ก่่อตังสมาคัม<br />

สมาคัมสถาปน ิกิสยาม ในพระบรมราชููปถััมภ์ ได้้มีกิารแต่งตังคัณะ<br />

กิรรมาธิกิารซึ่่งปัระกิอบด้้วยบุคัลากิร ทังข้าราชูกิารและเอกิชูนทีมีคัวามรู้<br />

คัวามเชูียวชูาญด้้านกิารอนุรักิษ์์งานศิิลปักิรรมและสถาปััตยกิรรม เรียกว่่า<br />

กิรรมาธิกิารอนุรักิษ์์ศิิลปัสถาปััตยกิรรม ทำหน้าทีปัระสานคัวามร่วมมือ<br />

กัับองค์์กิรเคร ือข่ายกิารอนุรักิษ์์สถาปััตยกิรรม ในด้้านงานอนุรักิษ์์ศิิลปั<br />

สถาปััตยกิรรม ทังทีเป็็นงานสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณี สถาปััตยกิรรม<br />

พืนถิน และสถาปััตยกิรรมแบบสากิล อีกิทังยังส่งเสริมกิิจกิรรมในกิารบริหาร<br />

จัด้กิารข้อมูลมรด้กิสถาปััตยกิรรมและกิารอนุรักิษ์์ ทังในเรืองรางวัลอนุรักิษ์์<br />

ศิิลปัะสถาปััตยกิรรมดีีเด่่นทีริเริมมาตังแต่ พ.ศิ. ๒๕๒๕ มาจนถ่งเรืองราว<br />

ต่างๆ ตามกิระแสแนวคัวามคิิด้ของกิารอนุรักิษ์์ทีมีกิารเปัลียนแปัลงไปัตาม<br />

ยุคัสมัย ไม่ว่าจะเป็็นทางด้้านสถาปััตยกิรรมพืนถิน ด้้านกิารอนุรักิษ์์ชุุมชูน<br />

หรือสถาปััตยกิรรมแบบโมเดิิร์น ทีมีกิารจัดพ ิมพ์เอกิสารวิชูากิารเผยแพร่<br />

มาเป็็นระยะๆ<br />

เพือด้ำเนินกิารในส่วนทีเกิียวข้องกัับงานสถาปััตยกิรรมไทย<br />

ได้้มีกิารแต่งตั งคัณะกิรรมาธิกิารอนุรักิษ์์ด้้านสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณีข่น<br />

เป็็นกิารเฉพาะ จากิกิารด้ำเนินกิารทีผ่านมาโด้ยทัวไปัทีได้้เน้นทีกิารเผยแพร่<br />

ให้สาธารณะมีคัวามเข้าใจในคัวามสำคััญของศิิลปัสถาปััตยกิรรม เพือให้เกิิด้<br />

คัวามรักิ หวงแหน และช่่วยกัันรักิษ์าให้คังอยู่ต่อไปั มาสู่่การด้ำเนินกิาร<br />

อนุรักิษ์์สถาปััตยกิรรมไทยอย่างเป็็นรูปัธรรม หลังจากิทีสมาคัมสถาปนิิกิสยามฯ<br />

ได้้เคัยริเริมด้ำเนินกิารไว้ตังแต่ช่่วงเริมก่่อตังสมาคัมฯ ในโครงการ<br />

บูรณปฏิิสังขรณ์หอพระไตรปิฎก วััดระฆัังโฆสิิตารามวัรมหาวิิหาร<br />

ด้้วยกิารทำงานแบบอาสาสมัคัรในโครงการอนุรักษ์์หอพระไตรปิฎก<br />

วััดเทพธิิดารามวัรวิิหาร ต่อด้้วยงานล่าสุด้ที โครงการอนุรักษ์์หอพระไตรปิฎก<br />

วััดอัปสรสวัรรค์วัรวิิหาร<br />

ผลสำเร็จจากิกิารด้ำเนินกิารโคัรงกิารอนุรักิษ์์งานสถาปััตยกิรรมไทย<br />

ปัระเพณี ซึ่่งบังเอิญเป็็นหอพระไตรปิิฎกิทัง ๓ หลัง ตังแต่อดีีตมาจนถ่ง<br />

ในปััจจุบันนี ได้้นำไปัสู่กิารจัด้ทำหนังสือชุด “<strong>สามหอไตร</strong>” ชุุด้นีข่น<br />

เพือบอกิเล่าเรืองราว บทบาทของสมาคัมสถาปนิิกิสยามฯ ในด้้านกิารอนุรักิษ์์<br />

สถาปััตยกิรรม ตลอด้จนทีมาและกิระบวนกิารของกิารอนุรักิษ์์หอพระไตรปิิฎกิ<br />

และคัวามภาคภ ูมิใจในกิารเป็็นส่วนหน่งในกิารร่วมด้ำรงไว้ซึ่่งเอกล ักิษ์ณ์<br />

ทางสถาปััตยกิรรมของชูาติไทย<br />

นายชนะ สัมพลััง<br />

นายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชููปถัมภ์์<br />

2<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


สารจากอุปนายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมป์<br />

ประธิานกรรมาธิิการอนุรักษ์์ศิิลัปสถาปัตยกรรม ด้านสถาปัตยกรรมไทยประเพณี<br />

จากจุุด้เริมต้น ... “โคัรงกิารบูรณปัฏิิสังขรณ์หอพระไตรปิิฎกวััด้ระฆััง<br />

โฆสิิตารามวรมหาวิหาร” ซึ่่งถือเป็็นก้้าวแรกิของกิารด้ำเนินกิารด้้านกิารอนุรักิษ์์<br />

มรด้กิทางสถาปััตยกิรรมของสมาคัมสถาปน ิกิสยาม ในพระบรมราชููปถััมภ์<br />

ทีพิจารณาเห็นว่าได้้มีกิารรือถอนโบราณสถาน โด้ยเฉพาะอย่างยิงใน<br />

วัด้วาอารามกัันมากิข่ นจนเหลือกิำลังทีทางราชูกิารจะดููแลรักิษ์าให้ทัวถ่งได้้<br />

แต่เพียงฝ่่ายเดีียว กิลายเป็็นทีมาของคัณะกิรรมาธิกิารอนุรักิษ์์ศิิลปวััฒนธรรม<br />

ของสมาคัมสถาปน ิกิสยามฯ ในวันนี สมาคัมสถาปนิิกิสยามฯ ก็็ได้้มีกิาร<br />

ด้ำเนินกิารในรูปัแบบต่างๆ ทังกิารรณรงค์์ นำเสนอคัวามคิิด้เห็น ปัระชูาสัมพันธ์<br />

และให้รางวัลอนุรักิษ์์ศิิลปัสถาปััตยกิรรมดีีเด่่นเพือเป็็นกิารให้กิำลังใจ<br />

ในทุกิกิระบวนกิารของกิารอนุรักิษ์์มรด้กิทางสถาปััตยกิรรมเรือยมา<br />

สีสิบปีีผ่านไปั... จ่งได้้เกิิด้โคัรงกิารอนุรักิษ์์สถาปััตยกิรรมอย่างเป็็น<br />

รูปัธรรมข่นอีกครั ้ง โด้ยมุ่งให้เป็็นกิารนำเสนอบทบาทของวิชูาชีีพสถาปน ิกิ<br />

ต่อสังคัม ตามแนวคิิด้ทีว่า “สถาปนิกไทย มีหน้าทีอนุรักษ์์แลัะสืบสาน<br />

สถาปัตยกรรมไทย” ได้้มีกิารแต่งตัง “คัณะกิรรมาธิกิารอนุรักิษ์์ศิิลปั<br />

สถาปััตยกิรรม ด้้านสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณี” ข่นเป็็นพิเศิษ์ให้ทีมีหน้าที<br />

ดููแลงานสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณีโด้ยตรง และมีเป้้าหมายให้สมาชิิกิ<br />

ของสมาคัมฯ และสาธารณชูนมีส่วนร่วมในด้้านต่างๆ ของกิารอนุรักิษ์์<br />

สถาปััตยกิรรมไทยให้มากิทีสุด้ เกิิด้เป็็นโครงการ “อาษ์า อาสา สถาปัตยกรรมไทย”<br />

และนำมีกิารทำงานร่วมกัันใน “โคัรงกิารอนุรักิษ์์หอพระไตรปิิฎกว ัด้เทพธิด้า<br />

รามวรวิหาร” เป็็นโคัรงกิารแรกิ เพือทำกิารบูรณะให้ถูกต้้องคัรบถ้วนตาม<br />

ขันตอนของกิารอนุรักิษ์์ ให้เป็็นตัวอย่างของอาคัารทีมีกิารอนุรักิษ์์อย่างถูกต้้อง<br />

และมุ่งหวังให้ผู้้ประกิอบวิชูาชีีพสถาปนิิกิได้้มีส่วนร่วมในกิารบำเพ็ญ<br />

ปัระโยชน ์ในคัรังนี ผ่านกิระบวนกิารกิารเรียนรู้วิธีกิารในกิารทำแบบอนุรักิษ์์<br />

และกิารคุุมงานอนุรักิษ์์ จากิกิารลงมือปัฏิิบัติจริง ด้้วยเหตุผลทีโคัรงกิารนี<br />

มีกิารแสด้งออกิอย่างเด่่นชััด้ของกิารสนับสนุนของสาธารณชูนจากท ุกิ<br />

ภาคส ่วนของสังคัมไทย ฝ่่ายสงฆ์์ และชุุมชูนโด้ยรอบวัด้ เป็็นแบบอย่างของ<br />

กิารใช้้เทคนิิคัชู่างและวัสดุุตามปัระเพณีด้ังเดิิม สมกัับคุุณค่่าคัวามสำคััญของ<br />

คัวามเป็็นพระอารามหลวง ในกิระบวนกิารกิารอนุรักิษ์์ยังได้้มีกิารค้้นคว้้า<br />

ศิ่กิษ์าวิจัย และมีกิารเรียนรู้อย่างต่อเนืองตลอด้โคัรงกิารทำให้ทำให้ได้้รับ<br />

รางวัล UNESCO Asia-Pacific Heritage Award ใน พ.ศิ. ๒๕๕๔<br />

ล่าสุด้ ... หลังจากิคัวามสำเร็จทีได้้รับ สมาคัมสถาปน ิกิสยามฯ ได้้<br />

เดิินหน้าโคัรงกิารต่อไปัทีวัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหาร ในกิารจัด้ตังโคัรงกิาร<br />

อนุรักิษ์์งานสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณีอย่างต่อเนืองซึ่่งก็็บังเอิญว่าเป็็น<br />

อาคัารหอพระไตรปิิฎกอ ีกครั ้ง โด้ยคัรังนีเป็็นอาคัารไม้ทังหลังทีตังอยู่่กลาง<br />

สระนำ นอกิจากิคัวามงามทางสถาปััตยกิรรมทีจะได้้บันทึึกและนำไปสู่่<br />

กิารบูรณะ กิารศิ่กิษ์าเทคน ิคัเชิิงช่่างและวัสดุุทีแตกต่่างไปัจากิโคัรงกิารแรกิ<br />

ก็็เป็็นสิงทีได้้นำมาใช้้ในกิารพิจารณาเลือกิสถานทีในกิารทำโคัรงกิารนี นับจากิ<br />

จุด้เริมต้นก็็รวมได้้<strong>สามหอไตร</strong> อาคัารสามหลังทีสร้างข่นในพุทธสถานเพือใช้้<br />

เก็็บรักิษ์าพระไตรปิิฎกิสิงสำคััญทางพระพุทธศิาสนา และเป็็นตัวแทนของ<br />

ผลงานสถาปััตยกิรรมไทยทีทรงคุุณค่่า<br />

กิารรวบรวมข้อมูลจัด้ทำเป็็น หนังสือชุด “<strong>สามหอไตร</strong>” จ่งถือเป็็น<br />

บทสรุปัของโคัรงกิารอนุรักิษ์์หอพระไตรปิิฎกิทังสามหลัง และเป็็นตัวแทน<br />

ถ่ายทอด้เรืองราวของกิารด้ำเนินกิารอนุรักิษ์์ของสมาคัมสถาปนิิกิสยาม<br />

ในพระบรมราชููปถ ัมภ์ นับตังแต่ปัฐมบททีวัด้ระฆัังโฆส ิตาราม มาถ่งกิาร<br />

ฟื้้นฟืู้ข่นอีกครั ้งทีวัด้เทพธิด้าราม และกิารสานต่อมายังวัดอััปัสรสวรรค์์<br />

เป็็นกิารบอกิเล่ากิระบวนกิารอนุรักิษ์์ และรวบรวมวิธีกิารด้ำเนินกิารอนุรักิษ์์<br />

หอพระไตรปิิฎกิ ซึ่่งมีลักิษ์ณะแตกต่่างกัันทังสามหลังเพือให้ได้้เห็นถ่งคัวาม<br />

หลากิหลายของรูปัแบบสถาปััตยกิรรมไทยและในกิารอนุรักิษ์์โบราณสถาน<br />

หวังเป็็นอย่างยิงว่าจะได้้ช่่วยให้เป็็นกิารจุด้ปัระกิายนำไปัปัระยุกต์์ใช้้ เพือ<br />

สานต่อแนวคิิด้ในกิารอนุรักิษ์์งานสถาปััตยกิรรมไทยทีมีคุุณค่่าให้คังสืบต่อไปั<br />

ดร.วส ุ โปษ์ยะนันทน์<br />

อุุปนายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชููปถัมภ์์<br />

พ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๖๓<br />

ประธานกรรมาธิการอน ุรักษ์์ศิลปสถาปัตยกรรม<br />

ด้้านสถาปัตยกรรมไทยประเพณีี พ.ศ. ๒๕๕๑-๒๕๕๗<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย<br />

3


คำนำ<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์ การสานต่องานอนุรักษ์์สถาปัตยกรรมไทย<br />

วัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหาร เป็็นอารามหลวงชูั นตรี ชน ิด้วรวิหาร<br />

เป็็นวัด้เก่่าแก่่ตังอยู่บริเวณเส้นทางสัญจรทางนำสำคััญมาตั งแต่สมัยอยุธยา<br />

แต่ไม่ปัรากิฏิว่าสร้างมาตังแต่เมือใด้ มีชูือเดิิมว่า “วัด้หมู” มาจนในรัชูสมัย<br />

รัชูกิาลที ๓ เจ้าจอมน้อยในพระบาทสมเด็็จพระนังเกล้้าเจ้าอยู่หัว ใคร่่ทีจะ<br />

ปัฏิิสังขรณ์วัด้นีเพืออุทิศส่่วนกุุศิลแด่่เจ้าพระยาพลเทพ (ฉิม) ผู้เป็็นบิด้า<br />

จ่งกิราบบังคัมทูลพระกร ุณาต่อพระบาทสมเด็็จพระนั งเกล ้าเจ้าอยู่หัว<br />

พระองค์์จ่งทรงพระกรุุณาโปัรด้เกล้้าฯ พระราชูทานพระราชูทรัพย์ส่วนพระองค์์<br />

เพือสถาปันาใหม่ทังวัด้และพระราชูทานนามวัดว่่า “วัดอ ัปัสรสวรรค์์” ใน<br />

บริเวณวัดจึึงมีปููชนีียสถานสำคััญทีสร้างข่นในรูปัแบบตามพระราชนิิยมใน<br />

รัชูกิาลที ๓ ได้้แก่่ พระปัรางค์์ พระอุโบสถ และพระวิหาร แต่สถาปััตยกิรรม<br />

ทีมีคัวามโด้ด้เด่่นทีสุด้ของวัด้กิลับเป็็นอาคัารหอพระไตรปิิฎกิ ซึ่่งเป็็นอาคัาร<br />

ทรงไทยสร้างด้้วยไม้ทังหลัง ตังอยู่่กลางสระนำ ตามรูปัแบบทีสืบเนืองมาแต่<br />

คัรังกร ุงศร ีอยุธยาต่างจากิอาคัารหลังอืนๆ ในวัด้ อีกิทังยังมีสัดส่่วนทาง<br />

สถาปััตยกิรรมทีงด้งามเป็็นเลิศิ พร้อมด้้วยเอกลัักิษ์ณ์กิารตกิแต่งผนัง<br />

ภายนอกิด้้วยโมเสกิกิระจกส ีและงานปัระณีตศิิลป์์โลหะทีหาดููได้้ยากิ ถือเป็็น<br />

งานสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณีชูันคร ูทีมีคุุณค่่าในระดัับสูงทีต้องกิาร<br />

กิารอนุรักิษ์์โด้ยเร่งด่่วนเมือคัณะทำงานของโคัรงกิารเข้าไปัสำรวจ<br />

หลังจากิคัวามสำเร็จทีได้้รับจากิโคัรงกิารอนุรักิษ์์หอพระไตรปิิฎกิ<br />

วัด้เทพธิด้ารามวรวิหาร ทีได้้รับรางวัลแห่งคัวามภาคภ ูมิใจจากย ูเนสโกิใน<br />

ระดัับเอเชีียแปัซึ่ิฟื้ิกิ สมาคัมสถาปนิิกิสยามฯ ได้้เดิินหน้าโคัรงกิาร อาษ์า อาสา<br />

สถาปััตยกิรรมไทย ต่อไปัทีวัดอััปัสรสวรรค์์วรวิหารในทันที จัด้ตังโคัรงกิาร<br />

อนุรักิษ์์หอพระไตรปิิฎกว ัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหารข่น เพือทำนุบำรุงงาน<br />

สถาปััตยกิรรมไทยทีมีคุุณค่่ามิให้เสือมสลายไปัตามกิาลเวลา เป็็นโอกิาส<br />

อย่างดีีทีจะได้้ศิ่กิษ์าอาคัารไม้ และกิารปัระดัับกิระจกิบนผนังไม้ ทีมี<br />

รายละเอียด้ของกิารด้ำเนินกิารแตกต ่างไปัจากิปัระสบกิารณ์ทีได้้รับมาแล้ว<br />

จากวััด้เทพธิด้ารามวรวิหาร โด้ยใช้้แนวทางทีคัำน่งถ่งกิารแก้้ปััญหาและ<br />

กิารอนุรักิษ์์สภาพเดิิมของงานสถาปััตยกิรรมให้ถูกต้้องตามหลักวิิชูากิาร<br />

รวมทังกิารปร ับภูมิทัศน์์โด้ยรอบให้อยู่ในสภาพทีเหมาะสมสวยงาม ส่งเสริม<br />

คุุณค่่าของงานสถาปััตยกิรรม<br />

โคัรงกิารอนุรักิษ์์หอพระไตรปิิฎกว ัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหาร มุ่งเน้นให้<br />

คัรอบคลุุมทุกิขันตอนของกิารอนุรักิษ์์โบราณสถาน ซึ่่งมีวิชูาชีีพทาง<br />

สถาปััตยกิรรมเข้ามามีบทบาทสำคััญเป็็นหลักิ ทีจะต้องปัระสานงานกัับ<br />

สาขาวิชูาชีีพอืนปัระกิอบด้้วย ด้้านโบราณคัด้ี วิศิวกิรรม ศิิลปักิรรม และ<br />

ภูมิสถาปััตยกิรรม ทังยังมีคัวามต้องกิารทีจะเปิิด้โอกิาสให้สมาชิิกิของสมาคัมฯ<br />

รวมถ่งนักิเรียน นักิศิ่กิษ์า และปัระชูาชูนทัวไปัได้้เข้ามาเป็็นส่วนหน่งของ<br />

กิระบวนกิารกิารมีส่วนร่วมในรูปัแบบต่างๆ ด้้วยคัวามสำเร็จทังในกิารอนุรักิษ์์<br />

โบราณสถาน และกิารทีได้้ศิ่กิษ์าข้อมูลทางสถาปััตยกิรรมร่วมกััน<br />

คัณะกิรรมาธิกิารอนุรักิษ์์ศิิลปัสถาปััตยกิรรม ด้้านสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณี<br />

ขอขอบพระคุุณผู้มีส่วนร่วมในกิารอนุรักิษ์์หอพระไตรปิิฎกว ัดอ ัปัสรสวรรค์์ใน<br />

คัรังนี ทังสำหรับคัวามร่วมมือและกิารสนับสนุนงบปัระมาณจากิหลาย<br />

หน่วยงาน ได้้แก่่ กิรมศิิลปัากิร วัดอััปัสรสวรรค์์วรวิหาร และเงินผ้าป่่าอาษ์า<br />

สามัคัคัีเพือกิารอนุรักิษ์์ ทำให้กิารด้ำเนินงานด้้านต่างๆ เป็็นไปัอย่างถูกต ้อง<br />

ตามหลักิกิารอนุรักิษ์์ มีกิารเก็็บรวบรวมองค์์คัวามรู้เป็็นระบบ ซึ่่งหวังเป็็น<br />

อย่างยิงว่าจะเป็็นปัระโยชน์์ทางวิชูากิาร และเป็็นต้นแบบในกิารด้ำเนินกิาร<br />

อนุรักิษ์์งานสถาปััตยกิรรมทีมีคุุณค่่าในแหล่งอืนๆ ต่อไปัด้้วย<br />

4<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


สารบัญ<br />

๖<br />

บทนำ<br />

๘<br />

บทท่ ๑ จุุดเร่มต้น<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์กับการอนุรักษ์<br />

๕๒<br />

บทที่ ๒ การอนุรักษ์หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

๒๐๖<br />

บทที่ ๓ จุุดหมายแห่งค์วัามสำเร็จุ<br />

๒๓๖<br />

๒๓๘<br />

บรรณานุุกรม<br />

ภาคผนุวก


บทนำ<br />

เมือ พ.ศิ. ๒๔๗๖ สถาปนิิกิซึ่่งสำเร็จกิารศิ่กิษ์าจากต่่างปัระเทศิ<br />

จำนวนหน่งได้้ร่วมปัร่กิษ์าหารือในกิารด้ำเนินกิารจัด้ตังสมาคัม โด้ยมี<br />

วัตถุปัระสงค์์เพือช่่วยส่งเสริมวิชูาชีีพสถาปััตยกิรรมให้เจริญเป็็นทีรู้จักิแก่่<br />

คันทัวไปัและเพือแลกิเปัลียนคัวามรู้ในระหว่างสมาชิิกิด้้วยกััน สมาคัม<br />

สถาปน ิกิสยามฯ ในยุคัแรกิ มีสมาชิิกิทังสิน ๓๓ คัน มีสำนักิงานตังอยู่ที<br />

กิรมศิิลปัากิร คัณะกิรรมกิารในยุคัแรกิได้้ร่วมกัันร่างข้อบังคัับและระเบียบ<br />

กิารของสมาคัม จัด้ตังคัณะกิรรมกิาร เพือด้ำเนินงานปัระจำของสมาคัม ได้้แก่่<br />

ปัระเภทธนากิาร ปัระเภทธุรกิาร กิรรมกิารผังเมืองและผังปัระชูาชูาติ นอกิจากินี<br />

สมาคัมได้้ออกิจด้หมายเหตุสมาคัม เพือเป็็นกิารเผยแพร่คัวามรู้ด้้านวิชูาชีีพ<br />

สถาปััตยกิรรม ตลอด้จนเป็็นสือกิลางระหว่างสมาคัมกัับมวลสมาชิิกอ ีกิด้้วย<br />

กิารด้ำเนินกิารทางด้้านกิารอนุรักิษ์์ของสมาคัมสถาปนิิกิสยามฯ ได้้มี<br />

จุด้เริมต้นอย่างเป็็นรูปัธรรม ด้้วยกิารแต่งตังคัณะกิรรมาธิกิารวิชูากิาร สาขา<br />

อนุรักิษ์์ศิิลปักิรรมข่นเมือวันที ๖ มิถุนายน พ.ศิ. ๒๕๑๑ โด้ยกิรรมาธิกิารฯ<br />

ชุุด้แรกินี มีนายพินิจ สมบัติศิิริ เป็็นปัระธาน และมีคัณะกิรรมาธิกิารฯ ซึ่่ง<br />

ปัระกิอบด้้วย นายนิจ หิญชีีระนันทน์ (นายกิสมาคัมสถาปน ิกิสยามฯ ใน<br />

ขณะนัน) นายมยูร วิเศิษ์กิุล นายวทัญญูู ณ ถลาง นายวิลาศิ มณีวัต<br />

นายศิิริชััย นฤมิตรเรขกิาร นายสุลักิษ์ณ์ ศิิวรักิษ์์ ผศิ.แสงอรุณ รัตกสิิกิร<br />

นายโอภาส วัลลิภากิร นายสุเมธ ชุุมสาย ณ อยุธยา และนายอุรา สุนทรศิารทูล<br />

ส่วนทีปัร่กิษ์าของกิรรมาธิกิารวิชูากิาร สาขาอนุรักิษ์์ศิิลปักิรรมนัน ได้้รับ<br />

พระเกีียรติจากิพระวรวงศ์์เธอ พระองค์์เจ้าธานีนิวัต กิรมหมืนพิทยาลาภ<br />

พฤฒิยากิร ทรงรับเป็็นองค์์ปัระธานคัณะทีปัร่กิษ์า นอกิจากินีคัณะทีปัร่กิษ์าฯ<br />

ยังปัระกิอบด้้วย ด้ร.ป๋๋วย อ่งภากิรณ์ ม.จ.ยาใจ จิตรพงศ์์ ม.จ.สุภัทรดิิศิ<br />

ดิิศิกิุล นายสัญญา ธรรมศัักดิ์์ และพระยาอนุมานราชูธน นับเป็็นคัรังแรกิใน<br />

ปัระเทศิไทยทีมีกิารทำงานอนุรักิษ์์ภาคัปัระชูาชูน สืบเนืองจากิคัวามห่วงใย<br />

ในสภาพบ้านเมืองทีได้้เจริญเติบโตและเปัลียนแปัลงสภาพไปัเป็็นอันมากิ<br />

โด้ยเฉพาะอย่างยิ งกิารเปัลียนแปัลงที เป็็นกิารทำลายสิ งแวดล ้อมที ดีีงาม<br />

อาคัารสถานทีทีมีคัวามสำคััญทางด้้านศิิลปัะและสถาปััตยกิรรมซึ่่งเป็็น<br />

เคัรืองบ่งชูีปัระวัติของบ้านเมืองได้้ถูกิรือทำลายไปั ทำให้ปัระชูาชูนขาด้<br />

สิงแวดล้้อมทีจำเป็็นในกิารสร้างสรรค์์ คัวามนึึกคิิด้ทีลึึกซึ้้ง คัวามสงบ<br />

คัวามก้้าวหน้าทางวัฒนธรรม และกิารกิินดีีอยู่ด้ี<br />

กิารด้ำเนินงานของกิรรมาธิกิารฯ เน้นไปัทีกิารเผยแพร่ให้ปัระชูาชูน<br />

ภาคร ัฐและเยาวชูนให้เกิิด้คัวามเข้าใจในคัวามสำคััญของสิงแวดล้้อมทีดีีของ<br />

บ้านเมืองและเกิิด้คัวามคิิด้ คัวามกิระตือรือร้น ทีจะรักิษ์าสิงแวดล ้อมทีดีีงาม<br />

และมีคุุณค่่าทางศิิลปักิรรมหรือทางปัระวัติศิาสตร์ให้คังอยู่ต่อไปั<br />

งานชูินสำคััญทีเป็็นรูปัธรรมทีได้้ริเริมในช่่วงนี คืือ กิารบูรณะ<br />

หอพระไตรปิิฎกว ัด้ระฆัังโฆส ิตาราม กร ุงเทพมหานคัร ซึ่่งเป็็นนิวาสสถาน<br />

เดิิมของพระบาทสมเด็็จพระพุทธยอด้ฟื้้าจุฬาโลกิมหาราชู แต่เดิิมหอพระไตร<br />

แห่งนีตังอยู่่กลางสระนำ และมีสภาพทีทรุด้โทรมอย่างมากิ ทางเจ้าอาวาส<br />

ในขณะนัน จ่งได้้ขอคัวามร่วมมือจากิคัณะกิรรมาธิกิารฯ ในกิารบูรณะให้<br />

ถูกต้้องตามหลักิกิารอนุรักิษ์์ จ่งได้้มีกิารขอคัวามร่วมมือจากผู้้ทรงคุุณวุฒิ<br />

สาขาต่างๆ ในกิารอนุรักิษ์์ โด้ยมี อ.เฟื้้อ หริพิทักิษ์์ เป็็นผู้้ควบคุุมกิาร<br />

บูรณะ และใช้้เวลานานกว ่าจะบูรณะเสร็จทันกิารฉลองกร ุงรัตนโกส ินทร์คัรบ<br />

๒๐๐ ปีี ใน พ.ศิ. ๒๕๒๕ และในช่่วงระหว่างนัน มีกิารเสนอคัวามคิิด้เห็น<br />

และข้อเสนอโคัรงกิารต่างๆ หลายโคัรงกิาร เช่่น ข้อเสนอเกิียวกัับกิาร<br />

รักิษ์าศิิลปวััฒนธรรมเชีียงใหม่ และกิารจัด้ตังสภาอนุรักิษ์์ศิิลปักิรรม โคัรงกิาร<br />

ปร ับปร ุงสวนลุมพินี กิารอนุรักิษ์์แพร่งสรรพศิาสตร์ โคัรงกิารบูรณะโบราณ<br />

สถานพระนคัรศร ีอยุธยา กิารจัด้ทำบัญชีีอาคัารสถานทีทีสำคััญทาง<br />

สถาปััตยกิรรม โคัรงกิารสำรวจทำแผนที บันทึึกภาพอาคัารทีมีคุุณค่่าใน<br />

ด้้านสถาปััตยกิรรม เพือเสนอให้กิรมศิิลปัากิรปัระกิาศิข่นทะเบียน และงาน<br />

จัด้ทำรังวัด้ศิิลปัสถานต่างๆ ทีอาจจะถูกิรือไปัในเร็ววัน<br />

ใน พ.ศิ. ๒๕๕๑ มีแนวคิิดว่่า หลังจากิโคัรงกิารอนุรักิษ์์<br />

หอพระไตรปิิฎกวััด้ระฆัังโฆส ิตาราม ตังแต่ในช่่วงแรกิของกิารก่่อตัง<br />

กิรรมาธิกิารวิชูากิารสาขาอนุรักิษ์์ศิิลปักิรรม สมาคัมสถาปนิิกิสยามฯ ก็็ไม่ได้้<br />

มีโอกิาสทำงานอนุรักิษ์์มรด้กิสถาปััตยกิรรมโด้ยตรงแบบเป็็นรูปัธรรมอีกิเลย<br />

เมือนายทวีจิตร จันทรสาขา (ด้ำรงตำแหน่งนายกิสมาคัมฯ พ.ศิ. ๒๕๕๑-<br />

๒๕๕๕) ได้้มารับหน้าทีเป็็นนายกิสมาคัมสถาปนิิกิสยามฯ และมีนโยบายที<br />

ต้องกิารให้สมาคัมสถาปน ิกิสยามฯ ได้้แสด้งบทบาทต่อสังคัมในแบบทีสัมผัส<br />

ได้้เป็็นรูปัธรรม จ่งริเริมให้จัด้ตังคณะกรรมาธิิการอนุรักษ์์ศิิลัปสถาปัตยกรรม<br />

ด้านสถาปัตยกรรมไทยประเพณีข่น ด้้วยต้องกิารเน้นทีมรด้กิสถาปััตยกิรรม<br />

ทีเป็็นเอกล ักิษ์ณ์ของเราเองเป็็นอันดัับแรกิ ในกิารนีได้้มอบหมายให้<br />

ด้ร.วสุ โปัษ์ยะนันทน์ เป็็นปัระธานคัณะกิรรมาธิกิารชุุด้นี ซึ่่งปัระกิอบด้้วย<br />

คัณะโบราณคัด้ี มหาวิทยาลัยศิิลปัากิร นายศิิริชััย หวังเจริญตระกููล นายไพรัชู<br />

เล้าปัระเสริฐ ด้ร.พรธรรม ธรรมวิมล นายจมร ปัรปัักิษ์์ปัระลัย นายวทัญญูู<br />

เทพหัตถี นางสาวมนัชูญา วาจก์์วิศุุทธิ นายสุรยุทธ วิริยะด้ำรงค์์<br />

6<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


นางสาวหัทยา สิริพัฒนกุุล นายภาณุวัตร เลือด้ไทย นายจาริต เด้ชูะคุุปต ์<br />

และนายพีระพัฒน์ สำราญ นอกิจากินีได้้ร่วมกัันคิิด้และจัด้กิิจกิรรม “อาษ์า<br />

อาสา สถาปััตยกิรรมไทย” ข่น เป็็นกิารเปิิด้โอกิาสให้สมาชิิกิของสมาคัม<br />

สถาปน ิกิสยามฯ นิสิต นักิศิ่กิษ์าทีมีคัวามสนใจเรียนรู้งานด้้านกิารอนุรักิษ์์<br />

อาสาเข้ามาทำงานร่วมกัันตังแต่จุด้เริมต้น เช่่น กิารสำรวจเก็็บข้อมูลสภาพ<br />

ก่่อนกิารอนุรักิษ์์ของมรด้กิสถาปััตยกิรรม นำมาจัด้ทำเป็็นรูปัแบบบูรณะ<br />

โด้ยกิารคััด้เลือกิพืนทีเป้้าหมาย ซึ่่งจากิกิารหารือกัันก็็ได้้สรุปัทีหอพระไตรปิิฎกิ<br />

วัด้เทพธิด้ารามวรวิหาร กร ุงเทพมหานคัร เป็็นกิารกล ับมาทำงานกัับ<br />

หอพระไตรอีกครั ้งโด้ยบังเอิญ<br />

งานนีทำให้เราได้้เรียนรู้สถาปััตยกิรรมของหอไตรอย่างใกล้้ชิิด้ จนได้้<br />

แบบและปัระมาณกิารสำหรับกิารด้ำเนินกิารบูรณะ จ่งตังเป็็นกิองผ้าป่่าอาษ์า<br />

อนุรักิษ์์สามัคัคัี เพือกิารอนุรักิษ์์หอพระไตรปิิฎกวััด้เทพธิด้ารามข่น มาสมทบ<br />

กัับงบปัระมาณทีทางวัดม ีอยู่บางส่วน และเงินอุด้หนุนจากิกิรมศิิลปัากิร<br />

หลังจากินันแบบบูรณะจ่งได้้นำมาสู่่การปัฏิิบัติจริง โด้ยมีอาสาสมัคัรได้้มา<br />

ร่วมกัันจัด้ ในกิารนีได้้ศิาสตราจารย์เกีียรติคุุณ หม่อมราชูวงศ์์แน่งน้อย ศัักดิ์์ศรีี<br />

นาวาอากิาศิเอกิ อาวุธ เงินชููกิลิน ศิาสตราจารย์ปัระสงค์์ เอี ยมอนันต์<br />

รองศิาสรตาจารย์สมคิิด้ จิระทัศินกุุล และนายทวีจิตร จันทรสาขา มาเป็็นที<br />

ปัร่กิษ์าในกิารทำกิารสำรวจระหว่างกิารด้ำเนินกิาร ศิ่กิษ์าขันตอน รายละเอียด้<br />

ต่างๆ ของกิารทำงาน มีกิารบันทึึกเก็็บข้อมูลโด้ยละเอียด้ในทุกิขันตอน<br />

ปัระกิอบกัับคัวามร่วมมือทีได้้รับจากิบริษััทผู้้ดำเนินกิารบูรณะด้้วย<br />

คัวามตังใจให้เป็็นกิารทำงานด้้วยหลักิกิารอนุรักิษ์์ศิิลปัสถาปััตยกิรรม งานนี<br />

จ่งเป็็นตัวอย่างที ดีีของกิารทำงานบูรณะมรด้กิสถาปััตยกิรรมไทยทีได้้<br />

มาตรฐาน พร้อมด้้วยกิารมีส่วนร่วมของฝ่่ายต่างๆ ทีช่่วยสนับสนุน ทำให้<br />

โคัรงกิารนีได้้รับรางวัลระดัับ Award of Merit ของรางวัล UNESCO Asia<br />

–Pacifif ic Heritage Award ใน พ.ศิ. ๒๕๕๔ ซึ่่งนับเป็็นคัวามภาคภ ูมิใจ<br />

ของคัณะทำงาน และสมาคัมสถาปน ิกิสยามฯ อย่างทีสุด้<br />

ภายหลังคัวามสำเร็จของโคัรงกิารแรกิ กิิจกิรรม อาษ์า อาสา<br />

สถาปััตยกิรรมไทย ยังได้้มาด้ำเนินกิารต่อทีวัดอััปัสรสวรรค์์วรวิหาร<br />

กร ุงเทพมหานคัร โด้ยเป็็นโคัรงกิารหออนุรักิษ์์พระไตรปิิฎกอ ีกครั ้ง นอกิจากิ<br />

กิารเก็็บข้อมูลเพือกิารทำแบบบูรณะดัังเช่่นในโคัรงกิารแรกิ ยังได้้บูรณากิาร<br />

กัับเคร ือข่ายต่างๆ ของสมาคัมสถาปนิิกิสยามฯ เช่่นกิารเข้ามาร่วมเก็็บ<br />

ข้อมูลสถาปััตยกิรรมแบบ VERNADOC โด้ยกลุ่่มอาสาสมัคัร VERNADOC<br />

กิารจัด้งานวันศิิลปัะทีร่วมกัับกลุ่่ม Sketchers โด้ยเปิิด้โอกิาสให้เยาวชูน<br />

ในพืนทีเข้ามามีส่วนร่วมในกิารวาด้ภาพหอไตรร่วมกัับพีๆ นักิวาด้เพือเป็็น<br />

กิารรับรู้คัุณค่่าของมรด้กิสถาปััตยกิรรมชูินเอกิทีอยู่ใกล้้ตัวอีกิด้้วย งานบูรณะ<br />

หอพระไตรปิิฎกว ัดอ ัปัสรสวรรค์์นี จะด้ำเนินกิารแล้วเสร็จใน พ.ศิ. ๒๕๕๗<br />

ในวาระคัรบรอบ ๘๐ ปีีของสมาคัมสถาปนิิกิสยามฯ พอดีียังคัวามภาคภููมิใจ<br />

แก่่คัณะทำงานและสมาคัมสถาปน ิกิสยามฯ อีกครั ้ง<br />

กิรรมาธิกิารอนุรักิษ์์ฯ ทุกย ุคัสมัยได้้เสียสละแรงกิายแรงใจทำงานกััน<br />

อย่างหนักต่่อเนืองมาจากรุ่่นสู่รุ่นตลอดกึ่่งศิตวรรษ์ ด้้วยเห็นปัระโยชน์์สาธารณะ<br />

ในกิารรักิษ์าคุุณค่่าของมรด้กิสถาปััตยกิรรมและสิงแวดล ้อมเมืองซึ่่งคันอืนๆ<br />

ในสังคัมอาจมองไม่เห็น แม้กิารทำงานจำต้องมีคัวามขัด้แย้งเกิิด้ข่นโด้ยเฉพาะ<br />

กัับทางภาครััฐเเละภาคัเอกิชูน หลายคันอาจมองว่าเราต้องไปต่่อสู้ มีแพ้มีชูนะ<br />

แต่ในทางกลัับกัันหากิมองว่าในฐานะทีเราเป็็นสถาปนิิกิทีมีองค์์คัวามรู้ใน<br />

เรืองคุุณค่่าของสิงต่างๆ ในสภาพแวดล้้อมทางกิายภาพ มีองค์์คัวามรู้ใน<br />

กิารบริหารจัด้กิาร และมีกิารนำเสนอทางออกิทีเป็็นรูปัธรรม กิารเข้าไปมีี<br />

ส่วนร่วมในกิารนำเสนอคุุณค่่าเหล่านันให้สังคัมได้้ตระหนักรู้และสร้าง<br />

กิระบวนกิารในกิารทำให้เกิิด้กิารเห็นคุุณค่่าร่วมกัันในทุกิภาคส่่วน และท้าย<br />

ทีสุด้เกิิด้กิารตัดสิินใจร่วมกัันในกิารรักิษ์าคุุณค่่าเหล่านันให้คังอยู่ เเละหากิ<br />

เราได้้ทำหน้าที ของเราได้้อย่างดีีทีสุด้แล้ว แม้มรด้กิสถาปััตยกิรรมหรือสิงที<br />

เราต้องกิารปักิปั้องมันจะต้องถูกิรือทำลายไปั ก็็ไม่ได้้หมายคัวามว่าเราล้มเหลว<br />

หรือเราแพ้ เพียงแต่เราไม่สามารถทำให้คันส่วนใหญ่เห็นคุุณค่่าร่วมกัับเราได้้<br />

สถาปน ิกน ักิอนุรักิษ์์จ่งไม่ใช่่นักต่่อสู้ แต่เราเป็็นนักิบริหารจัด้กิารองค์์คัวามรู้<br />

ทีจะต้องถ่ายทอด้องค์์คัวามรู้ในเรืองคุุณค่่าของมรด้กิสถาปััตยกิรรมและ<br />

สิงแวดล้้อมสร้างสรรค์์สู่่คนในวงกว้้างให้มากิทีสุด้ เพือให้เขาเหล่านันเห็นคุุณค่่า<br />

และต่อสู้ปักิปั้องมรด้กิของพวกิเขาเอง คัวามสำเร็จในกิารอนุรักิษ์์ไม่ได้้ข่นอยู่<br />

กัับคันใด้คันหน่งหากิแต่เป็็นเรืองของทุกิคัน ในกิารทำงานของเรา เราไม่<br />

เคัยแพ้ เราไม่เคัยล้มเหลว ถ้าเราได้้เริมทำแล้วและยังต้องทำหน้าทีนีต่อไปัให้<br />

ตอบสนองกัับวัตถุปัระสงค์์ข้อที ๑ ของสมาคัมสถาปน ิกิสยามฯ คืือ<br />

“มุ่งบำเพ็ญประโยชน์ในการสร้างสรรค์ควัามเจริญงดงามทาง<br />

สถาปัตยกรรมแลัะสิงแวัดล้้อม แลัะรักษ์าอารยธิรรมของชาติ ในฐานะ<br />

องค์กรทางชีพอิสระทางสถาปัตยกรรม”<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย<br />

7


๑<br />

จุุดเริ่มต้นหอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

กับการอนุรักษ์


ภาพถ่ายเก่่าวัดอ ัปัสรสวรรค์์ เมือ พ.ศิ. ๒๔๙๓<br />

ทีมา : LIFE magazine<br />

10<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


วััดอัปสรสวัรรค์วัรวิิหาร<br />

วัด้อัปัสรสวรรคั์วรวิหาร ตั ้งอยู่ที่แขวงปัากิคัลอง เขตภาษ์ีเจริญ<br />

กิรุงเทพมหานคัร เปั็นพระอารามหลวงชูั้นตรี ชูนิด้วรวิหาร เด้ิมเรียกิกิันว่า<br />

วัด้หมู ซึ่่งมีเรื่องเล่าว่าเกิิด้จากิชูาวจีนชูื่อ อู๋ ได้้ยกิพื ้นทีคัอกิหมูให้สร้าง<br />

เปั็นวัด้ ชูาวบ้านจึงเรียกิกิันว่า วัด้อู๋ ต่อมาเพี้ยนไปัเปั็น วัด้หมู แต่ไม่ทราบ<br />

ได้้ว่าวัด้หมูนี้สร้างมาตั้งแต่เมื่อใด้<br />

เมือราว พ.ศิ. ๒๓๘๘ สุนทรภู่ได้้เดิินทางไปย ังเพชูรบุรีผ่านทาง<br />

คัลองด่่าน และได้้แต่งนิราศิข่นจากิกิารเดิินทางคัรังนีชูือว่า นิราศิเมืองเพชูร<br />

ได้้มีกิารกล ่าวถ่งบริเวณปัากิคัลองด่่านดัังนี<br />

“ถึงบางหลวงล่อุงล่วงเข้าคลอุงเล็ก<br />

ล้วนบ้านเจ๊กขายหมูอุยู่อุักโข<br />

มีเมียขาวสวยมันรวยโป<br />

หัวอุกโอุ้อุายใจมิใชู่เล็ก”<br />

กิลอนบาทนี้ได้้กิล่าวถึงพื้นที่บริเวณคัลองที่เชูื่อมต่อกิับคัลองบางหลวง<br />

ซึ่่งกิ็คังหมายถึงคัลองด้่านว่าเปั็นบริเวณที่เต็มไปัด้้วยชูาวจีนที่มีอาชูีพ<br />

ขายหมูมาอาศิัยอยู่เปั็นจำนวนมากิ ซึ่่งอาจจะเกิี่ยวข้องกิับวัด้อัปัสรสวรรคั์<br />

เนื่องจากิวัด้อัปัสรสวรรคั์มีเรื่องเล่าว่าเด้ิมชูื่อวัด้หมู<br />

ผู้บูรณปัฏิิสังขรณ์วัด้หมู คืือ เจ้าจอมน้อย ธิด้าของพระยาพลเทพ<br />

(ฉิม) เพืออุทิศส่่วนกุุศิลแด่่ท่านเจ้าคุุณบิด้า จ่งกิราบบังคัมทูลพระกร ุณา<br />

ต่อพระบาทสมเด็็จพระนังเกล้้าเจ้าอยู่หัวเพือปัฏิิสังขรณ์วัด้ พระบาทสมเด็็จ<br />

พระนั งเกล ้าเจ้าอยู ่หัวได้้พระราชูทานทรัพย์ส่วนพระองค์์ให้สถาปันาวัด้ใหม่นี<br />

ทังหมด้ และพระราชูทานนามวัด้นีว่า วัดอััปัสรสวรรค์์ เพือเป็็นทีระลึึกแด่่<br />

เจ้าจอมน้อย ซึ่่งมีคัวามสามารถในกิารแสด้งละคัรอิเหนาเป็็นตัวสุหรานากิงได้้ดีี<br />

จนมีฉายาเรียกิกิันว่า เจ้าจอมน้อยสุหรานากิง นอกิจากินี พระบาทสมเด็็จ<br />

พระนั่งเกิล้าเจ้าอยู่หัว ยังทรงพระกิรุณาโปัรด้เกิล้าฯ พระราชูทานพระพุทธรูปั<br />

ปัางพระฉันสมอมาปัระด้ิษ์ฐานในพระวิหารที่วัด้อัปัสรสวรรคั์อีกิด้้วย<br />

แม้จะไม่มีหลักิฐานว่าวัด้อัปัสรสวรรคั์ได้้รับกิารบูรณปัฏิิสังขรณ์เมื่อ<br />

พ.ศิ. ใด้แน่ แต่จากิหมายรับสั่งของพระบาทสมเด้็จพระนั่งเกิล้าเจ้าอยู่หัว<br />

ทรงมีพระรับสั ่งให้มีพระราชูพิธีเฉลิมฉลองวัด้อัปัสรสวรรคั์ เมื ่อ จ.ศิ. ๑๑๙๓<br />

ตรงกัับ พ.ศิ. ๒๓๗๔ ดัังนันวัดอััปัสรสวรรค์์น่าจะได้้รับกิารบูรณปัฏิิสังขรณ์<br />

ในระหว่าง พ.ศิ. ๒๓๖๗–๒๓๗๔<br />

ต่อมาพระวชร ิกว ี (รอด้) เดิิมอยู่วัดส ุวรรณาราม คัลองบางกิอกน ้อย<br />

ย้ายมาเป็็นเจ้าอาวาสวัดอ ัปัสรสวรรค์์ ได้้จัด้กิารสร้างศิาลากิารเปร ียญข่น<br />

๑ หลัง หอพระไตรปิิฎกิ ๑ หลัง โด้ยหอพระไตรปิิฎกินี มีจาร่กิข้อคัวามดัังนี<br />

“พุทธศักราชูล่วงได้้สอุงพันสามร้อุยแปด้สิบสามพระวัสสาทายก<br />

ญาติโยมทั้งปวง มีพระวชูิรกวีเป็นประธานสร้างหอุไตรนี้ขึ้นไว้ในพระศาสนา<br />

สำเร็จแล้วปีฉลูจัตวาศก เด้ือุนยี่ สิริทรัพย์เป็นมูลค่าสิบสี่ชูั่งเศษ์ ขอุให้เป็น<br />

ปัจจัยแก่พระโพธิญาณี ในอุนาคตกาลโน้นเถิด้ นิพพาน ปัจจโย ตุ”<br />

จากิจาร่กินี กล่่าวไว้ว่า หอไตรวัดอััปัสรสวรรค์์สร้างข่นโด้ยพระวชิิรกวีี<br />

(รอด้) เมือ พ.ศิ. ๒๓๘๓ หลังจากินันก็็ได้้มีกิารบูรณะวัด้เล็กิๆ น้อยๆ<br />

เรือยมา จนกิระทังสมัยพระพุทธพยากิรณ์ (อุปต ิสฺโส เจริญ) เป็็นเจ้าอาวาส<br />

ได้้ปัฏิิสังขรณ์เสนาสนะหลายหลัง ระหว่างนีนายใย นางสุ่น ทังสุภูติ ได้้สร้าง<br />

โรงเรียนปริิยัติธรรมแบบคัอนกรีีตเสริมเหล็กิ และสร้างเขือนคัอนกรีีตหน้าวัด้<br />

พร้อมศิาลาหน้าพระวิหารด้้วยคัอนกร ีตอีกิ ๑ หลัง ในกิารปัฏิิสังขรณ์คัรังนี<br />

เจ้าจอมเพิม (ในพระบาทสมเด็็จพระจุลจอมเกล ้าเจ้าอยู่หัว) ช่่วยปัฏิิสังขรณ์<br />

ศิาลาหน้าพระอุโบสถ<br />

กิรมศิิลปัากิรได้้ปัระกิาศิข่นทะเบียนวัดอััปัสรสวรรค์์ในฐานะโบราณ<br />

สถานสำคััญของชูาติ ตังแต่วันที ๓๐ มิถุนายน พ.ศิ. ๒๕๒๐ โด้ยปัระกิาศิ<br />

ในราชูกิิจจานุเบกิษ์า เล่มที ๙๔ ตอนที ๗๕ วันที ๑๖ สิงหาคัม<br />

พ.ศิ. ๒๕๒๐<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

11<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


สิงก่อสร้างสำคัญภายในวััดอัปสรสวัรรค์วัรวิิหาร<br />

พืนทีวัด้แบ่งเขตออกิเป็็นเขตพุทธาวาสและสังฆัาวาส โด้ยเขต<br />

สังฆัาวาสได้้ออกิแบบเน้น ๓ แนวแกิน เช่่นเดีียวกัับวัด้เทพธิด้ารามและ<br />

วัด้ราชูโอรสาราม แต่มีคัวามแตกต ่างทีแนวกิลางของวัดอ ัปัสรสวรรค์์จะไม่มี<br />

อาคัารขนาด้ใหญ่ จะเน้นทีพระปัรางค์์ทีอยู่ด้้านหน้าแทนและมีมณฑปัอยู่ที<br />

ท้ายแนวแกินกิลางนีอีกิสองแนวแกินคืือพระอุโบสถและพระวิหาร ซึ่่งตั งอยู่<br />

ในวงล้อมของกิำแพงแก้้วทีมีลักิษ์ณะเสมาอย่างป้้อมกิำแพงเมืองและ<br />

มีเจดีีย์ย่อมุมไม้สิบสองอยู่ทีมุมกิำแพงทัง ๔ ด้้าน<br />

พระอุโบสถ<br />

เป็็นอาคัารก่่ออิฐถือปููน ทรงโรงหลังคัาจัว มีเสาพาไลรับหลังคัา<br />

ปีีกินกิโด้ยรอบอาคัาร หน้าบันปัระดัับลายปููนปัันและเคัรืองกิระเบืองเคล ือบ<br />

แบบจีน ไม่มีช่่อฟื้้า ใบระกิา หางหงส์ ตามแนวพระราชนิิยมในพระบาทสมเด็็จ<br />

พระนังเกล้้าเจ้าอยู่หัว ระหว่างเสาพาไลมีพนักิระเบียงปัระดัับด้้วยกิระเบืองปรุุ<br />

อย่างจีน บานปัระตูหน้าต่างปัระดัับด้้วยลายรดน ้ำ ภายนอกิทำเป็็นซึุ่้มปููน<br />

ปัันลายด้อกิไม้และพันธุ์พฤกิษ์า ภายในปัระดิิษ์ฐานพระปัระธาน ๒๘ องค์์<br />

เป็็นพระพุทธรูปัปัางมารวิชััยหล่อขนาด้หน้าตักิกิว้าง ๑ ศิอกิ สูง ๑ ศิอกิ<br />

๔ นิว เท่ากัันทุกิองค์์ ตังอยู่บนฐานชุุกิชูีเดีียวกัันลด้หลันเป็็นทรงจอมข่นไปั<br />

๙ ชูัน ทุกิองค์์มีจารึึกพระนามไว้ทีหน้าฐาน องค์์ทีปัระดิิษ์ฐานอยู่ยอด้จอมมี<br />

พระนามว่า พระพุทธตัณหังกิร และมีพระพุทธโคัด้มปัระดิิษ์ฐานอยู่ด้้าน<br />

หน้าสุด้ทีชูันล่าง สำหรับองค์์อืนๆ ปัระกิอบด้้วย พระพุทธเมธังกิร พระพุทธ<br />

สรณังกิร พระพุทธทีปัังกิร พระพุทธโกิณฑัญญะ พระพุทธมังคัละ พระพุทธ<br />

สุมนะ พระพุทธเรวตะ พระพุทธโสภิตะ พระพุทธอโนมทัสสี พระพุทธปท ุมะ<br />

พระพุทธนารทะ พระพุทธปท ุมมุตตระ พระพุทธสุเมธะ พระพุทธสุชูาตะ พระ<br />

พุทธปิิยทัสสี พระพุทธอัตถทัสสี พระพุทธธัมมทัสสี พระพุทธสิทธัตถะ<br />

พระพุทธติสสะ พระพุทธปุุสสะ พระพุทธวิปััสสี พระพุทธสิขี พระพุทธเวสภู<br />

พระพุทธกิกิุสนธะ พระพุทธโกินาคัมนะ และพระพุทธกััสสปัะ นอกิจากินียัง<br />

มีพระปัรางค์์เล็กิแกิะสลักิด้้วยไม้ลงรักิปัิด้ทองปัระดัับกิระจกิ ตังอยู่ที ฐานชุุกิชูี<br />

ชูันล่างอีกิ ๖ องค์์ น่าเสียด้ายว่าได้้ถูกิโจรกิรรมไปัพร้อมกัับพระบรมรูปัหล่อ<br />

รัชูกิาลที ๕ และตู้พระธรรม ทีเพด้านและท้องขือปัระดัับด้้วยจิตรกิรรมลาย<br />

ด้อกิไม้ทีงด้งาม ภายนอกิพระอุโบสถมีซึุ่้มเสมาหลังคัายอด้แหลมทัง ๘ ทิศิ<br />

ในปััจจุบันทางวัด้ได้้ต่อเติมหลังคัาอะลูมิเนียมออกิมาจากิหลังคัาปีีกินกิ<br />

คล ุมซึุ่้มเสมาไว้ทังหมด้ โด้ยขออนุญาตมายังกิรมศิิลปัากิรหลังจากิทีได้้<br />

ด้ำเนินกิารไปัแล้วว่าขอก่่อสร้างเพือกิารใช้้พืนทีรอบพระอุโบสถเป็็นกิาร<br />

ชูัวคัราวเท่านัน<br />

12<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

13<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


พระวิิหาร<br />

เป็็นอาคัารก่่ออิฐถือปููน ทรงโรงหลังคัาจัว ขนาด้เท่ากัันกัับอาคัาร<br />

พระอุโบสถ ตังอยู่ขนานคู่่กััน ภายในเขตกิำแพงแก้้ว โด้ยมีพระมณฑปัตังคััน<br />

อยู่ตรงกิลาง มีเสาพาไลรับหลังคัาปีีกินกิโด้ยรอบด้้วยเช่่นกััน แต่มีคัวาม<br />

แตกต่่างตรงทีมีกิารปัระดัับบัวหัวเสาเหลียมอย่างไทย หน้าบันเป็็นแบบ<br />

อิทธิพลจีนปัระดัับลายปููนปัันและเคัรืองกิระเบืองเคล ือบ ไม่มีช่่อฟื้้า ใบระกิา<br />

หางหงส์ เช่่นกััน ภายในแบ่งออกิเป็็นสองห้อง เป็็นทีปัระดิิษ์ฐานพระพุทธรูปั<br />

หล่อปัางมารวิชััยหน้าตักิกิว้าง ๓ ศิอกิ สูง ๓ ศิอกิคัืบองค์์หน่ง และ<br />

พระปููนปัันปัางมารวิชััย หน้าตักิกิว้าง ๔ ศิอกิคัืบ สูง ๕ ศิอกิ อีกิองค์์หน่ง<br />

และภายหลังได้้มีผู้มาสร้างรูปัหล่อนางสุชูาด้าถวายข้าวมธุปัายาสแก่่<br />

พระพุทธเจ้าอีกิด้้วย พระวิหารยังมีสิงทีน่าสนใจได้้แก่่ ภาพลายรดน ้ำที<br />

บานปัระตูทีทำเป็็นรูปันางฟื้้ากิำลังเพลิด้เพลินอยู่ในสระบัว ดููอ่อนช้้อย<br />

งด้งามสมชูือวัดอััปัสรสวรรค์์ ต่างจากว ัด้อืนๆ ทีมักิทำเป็็นรูปัทวารบาล<br />

ทีเป็็นเทวด้าหรือทหารทีดููข่งขัง<br />

14<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


พระปรางค์<br />

เป็็นเจดีีย์ทรงปัรางค์์ทีถือว่าเป็็นสิงก่่อสร้างปัระธานของวัด้ ตังอยู่บน<br />

ฐานไพทีด้้านหน้าต่อเนืองกัับกิำแพงแก้้ว อยู่ระหว่างพระอุโบสถและพระวิหาร<br />

กิารใช้้เจดีีย์ทรงปัรางค์์เป็็นปัระธานของวัดถ ือเป็็นรูปัแบบที มีคัวามนิยมใน<br />

สมัยรัตนโกส ินทร์ตอนต้น จนถ่งรัชูสมัยของพระบาทสมเด็็จพระนังเกล้้า<br />

เจ้าอยู่หัว เป็็นคัวามนิยมทีต่อเนืองมาตังแต่สมัยกร ุงศร ีอยุธยาตอนปัลายแต่<br />

ได้้มีกิารปรัับรูปัทรงให้เป็็นทรงฝัักข้้าวโพด้ทีชล ูด้ข่น พระปัรางค์์องค์์นีเป็็น<br />

สิงก่่อสร้างก่่ออิฐถือปููนปัระดัับเคัรืองกิระเบือง มีขนาด้ฐานโด้ยรอบ ๒๑ วา<br />

สูง ๑๕ วา มีผังแบบย่อมุมสีด้้านๆ ละเจ็ดมุุม มีบันได้ทางข่นบนฐานไพทีอยู่<br />

๓ ด้้าน พนักิระเบียงปัระดัับด้้วยกิระเบืองปร ุแบบจีน เคัยมีศิาลาปัระดิิษ์ฐาน<br />

พระพุทธรูปัตังอยู่ด้้านหน้าแต่ปััจจุบันได้้รือถอนออกิไปัแล้ว<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

15<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


พระมณฑป<br />

เป็็นอาคัารก่่ออิฐถือปููนยกิฐานสูงทรงปัราสาทยอด้เจดีีย์ ๕ ยอด้<br />

ตังอยู่ตรงกิลางระหว่างพระอุโบสถและพระวิหาร มีขนาดว ัด้ตามฐานโด้ย<br />

รอบได้้ ๑๒ วา ๓ ศิอกิ สูงปัระมาณ ๓ วา เป็็นทีปัระดิิษ์ฐานพระพุทธรูปั<br />

ปัางฉันสมอ ซึ่่งพระบาทสมเด็็จพระนังเกล้้าเจ้าอยู่หัวได้้พระราชูทานมา<br />

องค์์พระมีหน้าตักิกิว้าง ๑๕ นิว สูง ๒๐ นิว กล ่าวกัันว่าได้้อัญเชิิญมาจากิ<br />

เมืองเวียงจันทน์มากร ุงเทพฯ พร้อมๆ กัันกัับพระบรมธาตุ พระบาง และ<br />

พระแซึ่กิคัำ พระมณฑปัเป็็นอาคัารก่่ออิฐฉาบปููน หลังคัาก่่ออิฐฉาบปููนเป็็น<br />

ทรงเจดีีย์ โด้ยทีกิ่งกิลางเหนือหลังคัาซึุ่้มทิศิทังสีด้้านก่่อเป็็นเจดีีย์ขนาด้เล็กิ<br />

ปัระดัับอยู่ ยังมีกิารปัระดัับเสาซึุ่้มทิศิด้้วยเคัรืองถ้วยจีนอีกิด้้วย<br />

16<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


กำแพงแก้วัแลัะซุุ้้มประตู<br />

กิำแพงแก้้วเป็็นกิำแพงทีสร้างข่นเพือกิันพืนทีโด้ยรอบกลุ่มอาคัาร<br />

พระอุโบสถ พระมณฑปั และพระวิหาร มีลักิษ์ณะเป็็นกิำแพงก่่ออิฐถือปููนท่บ<br />

สันกิำแพงทำเป็็นรูปัใบเสมาป้้อมรูปัสีเหลียม มีซึุ่้มปัระตูเป็็นทางเข้าออกิทัง<br />

สีด้้าน ทางด้้านหน้ามี ๒ ซึุ่้ม ตังอยู่ตรงกัันกัับแนวแกินของอาคัารพระอุโบสถ<br />

และพระวิหาร ส่วนในด้้านทีเหลือจะมีเพียงด้้านละ ๑ ซึุ่้มอยู่ทีกิ่งกิลางของ<br />

กิำแพงแต่ละด้้าน รูปัแบบของหลังคัาซึุ่้มปัระตูทำเป็็นทรงโค้้งกิลมซึ่่งเป็็น<br />

แบบทีนิยมกัันมากิในสมัยรัตนโกส ินทร์นับแต่รัชูกิาลที ๓ เป็็นต้นมา เป็็น<br />

หลักิฐานของกิารได้้รับอิทธิพลมาจากิสถาปััตยกิรรมแบบตะวันตกิ ทีมุมทังสี<br />

ของกิำแพงแก้้วยังมีเจดีีย์ย่อมุมตังอยู่ เป็็นเจดีีย์ก่่ออิฐถือปููนมีรูปัแบบย่อมุม<br />

ไม้สิบสองทรงจอมแห มีกิารปัระดัับทีองค์์ระฆัังด้้วยเคัรืองถ้วยจีน ส่วนยอด้<br />

เป็็นบัวกลุ่มและปล ียอด้ปัูนปััน<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

17<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


ศิาลัาการเปรียญ<br />

เป็็นอาคัารไม้ยกิพืนสูงขนาด้ใหญ่ ตังอยู่ทางด้้านตะวันออกิของวัด้<br />

ใกล้้กัับคัลองด่่าน สร้างข่นพร้อมๆ กัันกัับหอพระไตรปิิฎกิเมือพระวชิิรกว ี<br />

(รอด้) ด้ำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส เป็็นอาคัารทรงโรงยกิพืนใต้ถุนสูง มีบันได้<br />

ทางข่นอยู่ทางทิศิใต้ หลังคัามุงกิระเบืองเคลืือบปัลายแหลมแต่สันนิษ์ฐานว่า<br />

เดิิมน่าจะใช้้กิระเบืองดิินเผาแบบไม่เคลืือบ ดัังทียังเหลือหลักิฐานอยู่ที หลังคัา<br />

ศิาลาขวางทีอยู่ด้้านหน้าของศิาลากิารเปร ียญ ผนังโด้ยรอบเป็็นฝ่าปัะกินไม้<br />

และช่่องหน้าต่าง มีเท้าแขนรับหลังคัาปีีกินกิเป็็นเหล็กิกิลมดััด้โค้้ง ภายใน<br />

อาคัารมีธรรมาสน์ทรงบุษ์บกิไม้แกิะสลักิลงรักิปัิด้ทองปัระดัับกิระจกิทีงด้งาม<br />

มากิตังอยู่ ทีส่วนคัอสองของศิาลาขวางด้้านหน้า ยังมีภาพจิตรกิรรมบนไม้<br />

ปัระดัับอยู่ด้้วย<br />

โรงเรียนพระปริยัติธิรรม<br />

เป็็นอาคัารคัอนกร ีตเสริมเหล็กส ูง ๒ ชูัน ตังอยู่ริมคัลองด่่านทาง<br />

ด้้านหน้าของพระวิหาร เป็็นอาคัารหลังคัาทรงปัันหยามีมุขยืนทางด้้านหน้า<br />

ตรงกิ่งกิลางอาคัาร ชูันสองทำเป็็นระเบียงทางเดิินหน้าห้องเรียน ช่่องแสง<br />

เหนือปัระตูหน้าต่างทำเป็็นรูปัโค้้งกิลม รวมทังรูปัแบบของราวพนักิระเบียง<br />

ทีต่อเนืองมาจนถ่งแนวรัวคัอนกรีีตเสริมเหล็กิทีใช้้กิันแบ่งพืนที แสด้งถ่ง<br />

อิทธิพลของสถาปััตยกิรรมตะวันตกิอย่างชััด้เจน ปััจจุบันมีกิารต่อเติมใช้้เป็็น<br />

ทีอยู่อาศััยไม่ได้้ใช้้เป็็นโรงเรียนพระปร ิยัติธรรมอีกต ่อไปั<br />

18<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอพระไตรปิฎกแลัะหอระฆััง<br />

ตังอยู่บริเวณด้้านทิศิเหนือของพระอุโบสถ โด้ยหอพระไตรปิิฎกิเป็็น<br />

อาคัารไม้ทังหลังตังอยู่่กลางสระนำรูปัสีเหลียม กิำแพงสระเป็็นงานก่่ออิฐ<br />

ฉาบปููน ส่วนหอระฆัังตังอยู่ถัด้ไปัทางด้้านทิศิเหนือ มีเรือนแถวไม้ปลููกิมาชูน<br />

ส่วนฐานของหอระฆัังและสร้างคร่่อมอยู่บนแนวกิำแพงสระ ในอดีีตทาง<br />

วัด้ได้้ยินยอมให้มีผู้มาอาศััยอยู่ ณ บริเวณนีได้้ กลุ่่มอาคัารหอพระไตรปิิฎกิ<br />

และหอระฆัังคืือพืนทีเป้้าหมายของกิารด้ำเนินกิารอนุรักิษ์์ในคัรังนี<br />

กุฏิิ<br />

พระปัระธานในพระอุโบสถ<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

19<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอพระไตรปิฎกวััดอัปสรสวัรรค์วัรวิิหาร<br />

หอพระไตรปิิฎกว ัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหาร ตังอยู่ทางทิศิเหนือของ<br />

พระอุโบสถ หันหน้าด้้านทิศิตะวันตกิซึ่่งเป็็นทีตังของหมู่กิุฏิิ ด้้านทิศิตะวันออกิ<br />

ติด้กิับเมรุซึ่่งถัด้ไปัเป็็นคัลองด่่าน ด้้านทิศิเหนือติด้กิับบ้านเรือนราษ์ฎร์ทีมา<br />

อยู่อาศััยในทีดิินของวัด้ สร้างข่นโด้ยพระวชิิรกว ี (รอด้) เจ้าอาวาสองค์์แรกิ<br />

ตังแต่ในสมัยรัชูกิาลที ๓ เมือ พ.ศิ. ๒๓๘๓ ตามข้อมูลจากิจารึึก<br />

ข้อคัวามเกิียวกัับกิารสร้างหอไตร<br />

รูปแบบสถาปัตยกรรมแลัะสภาพก่อนการบูรณะ<br />

หอพระไตรปิิฎกว ัดอััปัสรสวรรค์์วรวิหาร เป็็นอาคัารซึ่่งสร้างด้้วย<br />

ไม้ทังหลังนับตังแต่เสาจนถ่งชูันหลังคัา สร้างอยู่่กลางสระนำ ชูันล่างเป็็น<br />

ใต้ถุนโล่ง ชูันบนกิันเป็็นห้องตรงกิลางมีผนังไม้และระเบียงล้อมรอบ ปัระตู<br />

ทางเข้าห้องอยู่ทางทิศิตะวันตกิและมีช่่องหน้าต่างในฝ่ังตรงกัันข้ามเพียง<br />

ด้้านเดีียวทีผนังด้้านข้างด้้านทิศิเหนือและทิศิใต้ทำเป็็นหน้าต่างหลอกิด้้านละ<br />

๒ ชุุด้ หลังคัามุงกิระเบืองลักิษ์ณะเป็็นทรงโรง มีมุขลด้หน้าหลังตับสุดท้้าย<br />

ชัักิปัีกินกิกิันสาด้คัลุมระเบียงโด้ยรอบ ปัระดัับด้้วยเคัรืองลำยอง ช่่อฟื้้า<br />

ใบระกิา หางหงส์ ก่่อนกิารบูรณะในคัรังนี หลังคัามุงด้้วยกิระเบืองเคล ือบ<br />

สีเขียวซึ่่งเป็็นกิารเปัลียนแปัลงไปัจากส ีวัสดุุด้ังเดิิม ส่วนเคัรืองลำยองไม้มี<br />

ร่องรอยกิารปัระดัับกิระจกิ มีกิารเสือมสภาพอย่างมากิทังผิวของวัสดุุ<br />

และกิารตกิแต่ง รวมทังหลุด้ออกิจากิทีหรือสูญหายไปัในหลายส่วน หน้าบัน<br />

เป็็นงานลงรักิปัิด้ทองปัระดัับกิระจกิ ทองหลุดร่่อน กิระจกิหมองเสือมสภาพ<br />

โคัรงสร้างหลังคัาเสียหาย บางส่วนมีร่องรอยกิารรัวซึ่่ม สร้างคัวามเสียหาย<br />

กัับจิตรกิรรมทีฝ่าผนังและเสาซึ่่งอยู่ภายใน ส่วนเสาอาคัารมีกิารซึ่่อม<br />

เปัลียนจากิกิารบูรณะในอดีีต มีสภาพผุกร่่อนอย่างมากิ โด้ยเฉพาะอย่างยิง<br />

เสาส่วนรอบนอกิ คัันทวยปิิด้ทองปัระดัับกิระจกมีีกิารเสือมสภาพของทอง<br />

และกิระจกส่่วนตกิแต่ง ตัวอาคัารหอไตรปัระดัับลวด้ลายไม้แกิะสลักิและ<br />

ชูินส่วนโลหะตะกิัวหล่อลาย ฝ่าผนังไม้ภายนอกิปัระดัับโมเสกิกิระจกสีี ภายใน<br />

ปัระดัับจิตรกิรรมทังทีผนังและเสา ซึุ่้มปัระตูและหน้าต่างทรงมณฑปัปัระดัับ<br />

กิระจกิ บานปัระตูหน้าต่างปัระดัับลายรดน ้ำทียังมีสภาพค่่อนข้างดีี โด้ย<br />

ภาพรวมถือได้้ว่าเป็็นผลงานสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณีชูินเอกิของ<br />

กร ุงรัตนโกส ินทร์ โด้ยรูปัแบบของอาคัารหอไตรทีตังอยู่่กลางสระนำเช่่นนี<br />

ถือเป็็นรูปัแบบอาคัารทีสืบเนืองมาแต่คัรังกร ุงศร ีอยุธยา จ่งถือเป็็น<br />

หอไตรเคัรืองไม้ทีมีคุุณค่่าทียังเหลืออยู่ในรูปัแบบด้ั งเดิิมเพียงไม่กิีแห่งใน<br />

ปัระเทศิไทยทีคัวรค่่าแก่่กิารอนุรักิษ์์ไว้อย่างยิง<br />

ใน พ.ศิ. ๒๕๐๕ วัดอััปัสรสวรรค์์วรวิหารได้้รับพระราชูทานกฐิินหลวง<br />

โด้ยกิรมศิิลปัากิร ซึ่่งไม่มีบันทึึกลงรายละเอียด้กิารบูรณะ แต่ทีพอสันนิษ์ฐาน<br />

ได้้ว่าในช่่วงเวลานันน่าจะได้้มีกิารบูรณะหอไตรด้้วย ทังนีกิารบูรณะคัรังล่าสุด้<br />

ก่่อนกิารด้ำเนินกิารในคัรังนี คังเป็็นคัรังเมือ พ.ศิ. ๒๕๑๙ ทีมีกิารเทปููน<br />

ตอม่อหุ้มเสาหอไตรตามหลักิฐานภาพถ่ายเก่่า<br />

สระนำซึ่่งเป็็นทีตังของหอพระไตรปิิฎกิแห่งนียังมีนำอยู่อย่างสมำเสมอ<br />

ตลอด้ทังปีี มีลักิษ์ณะเป็็นสระนำรูปัสีเหลียมมีขอบสระเป็็นผนังก่่ออิฐฉาบปููน<br />

พืนรอบสระส่วนหน่งได้้ทำเป็็นพืนปููนซึ่ีเมนต์ทับไปับนโคัรงสร้างด้ังเดิิม<br />

ทีขอบสระด้้านหน่งยังมีร่องรอยของกิำแพงอิฐเตียๆ ซึ่่งสันนิษ์ฐานว่าน่าจะ<br />

เคัยมีอยู่โด้ยรอบทุกิด้้าน ส่วนขอบสระอีกิสองด้้านในปััจจุบันมีสิงก่่อสร้าง<br />

อืนกีีด้ขวางอยู่ ได้้แก่่ ส่วนต่อเติมจากิเรือนแถวไม้ รัว และพื นของศิาลา<br />

บำเพ็ญกุุศิล นอกิจากินีรัวทีกิันโด้ยรอบสระนำและหอพระไตรปิิฎกย ังมี<br />

รูปัแบบทีไม่ส่งเสริมคุุณค่่าของโบราณสถานแต่อย่างใด้<br />

20<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


ภาพถ่ายเก่่าวัดอ ัปัสรสวรรค์์ โด้ย น. ณ ปัากน ้ำ<br />

ทีมา: ศููนย์ข้อมูลเมืองโบราณ<br />

ภาพเปร ียบเทียบก่่อนมีตอม่อ เมือ พ.ศิ. ๒๕๕๕<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

21<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


ภาพถ่ายเก่่าวัดอ ัปัสรสวรรค์์ โด้ย น. ณ ปัากน ้ำ<br />

ทีมา : ศููนย์ข้อมูลเมืองโบราณ<br />

22<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

23<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


24<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย<br />

หอพระไตรปิิฎกว ัดอ ัปัสรสวรรค์์ สภาพภายนอกิกิ่อนกิารบูรณะ


หอพระไตรปิิฎกว ัดอ ัปัสรสวรรค์์ สภาพภายนอกิกิ่อนกิารบูรณะ<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

25<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอพระไตรปิิฎกว ัดอ ัปัสรสวรรค์์ สภาพจิตรกิรรมฝ่าผนังภายในอาคัารก่่อนกิารบูรณะ<br />

26<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


ตู้พระธรรมภายในหอพระไตรปิิฎกิและลายด้าวเพด้านภายในก่่อนกิารบูรณะ<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

27<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


สภาพเสาและคัันทวยของส่วนระเบียงรอบอาคัารกิ่อนกิารบูรณะ<br />

28<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


สภาพงานศิิลปักิรรมปัระด้ับอาคัารส่วนต่างๆ กิ่อนกิารบูรณะ<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

29<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


กำเนิดโครงการอนุรักษ์์หอไตร<br />

สืบเนื่องจากินโยบายของสมาคัมสถาปันิกิสยามฯ ที ่ต้องกิารแสด้ง<br />

บทบาทต่อสังคัมในแบบที่สัมผัสได้้เปั็นรูปัธรรม จึงริเริ่มให้จัด้ตั้งกิรรมาธิกิาร<br />

อนุรักิษ์์ศิิลปัสถาปััตยกิรรม ด้้านสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณีขึ้น และได้้จัด้<br />

กิิจกิรรม “อาษ์า อาสา สถาปััตยกิรรมไทย” เพื่อเปั็นกิารเปัิด้โอกิาสให้<br />

สมาชูิกิของสมาคัมฯ นิสิต นักิศิ่กิษ์า ที่มีคัวามสนใจเรียนรู้งานด้้านกิารอนุรักิษ์์<br />

อาสาเข้ามาทำงานร่วมกิันตั้งแต่จุด้เริ่มต้น ได้้แกิ่ กิารสำรวจเกิ็บข้อมูล<br />

สภาพกิ่อนกิารอนุรักิษ์์ของมรด้กิสถาปััตยกิรรม นำมาจัดทำำเปั็นแบบบูรณะ<br />

โด้ยกิารคััด้เลือกิพื้นที่เปั้าหมายใชู้เกิณฑ์สามปัระกิาร ได้้แกิ่ เปั็นมรด้กิ<br />

สถาปััตยกิรรมที่มีคัุณคั่า เปั็นกิรณีที่มีคัวามจำเปั็นในกิารบูรณะ และ<br />

เป็็นคัวามสมัคัรใจของผู้ทีคัรอบคัรองดููแลมรด้กิแห่งนันอยู่ และได้้สรุปัที<br />

หอพระไตรปิิฎกวััด้เทพธิด้ารามวรวิหาร เป็็นกิารทำงานของโคัรงกิารเป็็น<br />

คัรั้งแรกิ<br />

จากิกิารทำงานในแบบอาสาสมัคัรนอกิเวลาทำงาน ทำให้ได้้เรียนรู้<br />

สถาปััตยกิรรมของหอไตรอย่างใกล้้ชิิด้ พร้อมด้้วยแบบและปัระมาณกิาร<br />

สำหรับกิารด้ำเนินกิารบูรณะซึ่่งได้้นำมาบอกบ ุญเชิิญร่วมบริจาคัสำหรับ<br />

กิารอนุรักิษ์์อาคัารตามแบบ ตังเป็็นกิองผ้าป่่าอาษ์าสามัคัคัีมาสมทบกัับ<br />

งบปัระมาณเงินอุด้หนุนจากิกิรมศิิลปัากิรจนคัรบถ้วน จากิแบบบูรณะได้้<br />

นำมาสู่่การปัฏิิบัติจริง โด้ยอาสาสมัคัรได้้มาร่วมกัันจัด้ทำรายงาน ทำกิาร<br />

สำรวจเพิมเติมระหว่างด้ำเนินกิาร ศิ่กิษ์าขันตอน รายละเอียดต่่างๆ ของ<br />

กิารทำงาน มีกิารบันทึึกเก็็บข้อมูลโด้ยละเอียด้ในทุกิขันตอน เป็็นตัวอย่างทีดีี<br />

ของกิารทำงานบูรณะมรด้กิสถาปััตยกิรรมไทยที ได้้มาตรฐาน พร้อมด้้วย<br />

กิารมีส่วนร่วมของฝ่่ายต่างๆ ทีช่่วยสนับสนุน ทำให้โคัรงกิารนีได้้รับรางวัล<br />

ระดัับ Award of Merit ของรางวัล UNESCO Asia–Pacif ic Heritage<br />

Award ใน พ.ศิ. ๒๕๕๔<br />

ภายหลังจากิคัวามสำเร็จในโคัรงกิารแรกิ กิิจกิรรม อาษ์า อาสา<br />

สถาปััตยกิรรมไทย ได้้มาด้ำเนินกิารต่อทีวัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหาร โด้ยเป็็น<br />

โคัรงกิารอนุรักิษ์์หอพระไตรปิิฎกอีีกครั ้ง แต่มีรูปัแบบ รายละเอียด้ทาง<br />

สถาปััตยกิรรมและกิารตกิแต่งทีวิจิตร มีคัวามแตกต่่างไปัจากิโคัรงกิารแรกิ<br />

เป็็นผลงานชูินเอกิทางสถาปััตยกิรรมทีมีคุุณค่่าสูง ดัังนันนอกิจากิกิารเก็็บ<br />

ข้อมูลเพือกิารทำแบบบูรณะดัังเช่่นเคัย ยังได้้บูรณากิารกัับโคัรงกิารกิิจกิรรม<br />

อืนๆ ให้หลายภาคส่่วนเข้ามาร่วมด้้วย เช่่น กิารเก็็บข้อมูลสถาปััตยกิรรม<br />

แบบ VERNADOC กิารจัด้งานวันศิิลปัะทีเปิิด้โอกิาสให้นักิเรียนในพืนที<br />

กลุ่่มศิิลปิินต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมในกิารรับรู้คัุณค่่าของมรด้กิสถาปััตยกิรรม<br />

แห่งนีด้้วย ภายใต้กิารกิำกัับดููแลของคัณะกิรรมาธิกิารอนุรักิษ์์ศิิลปัสถาปััตยกิรรม<br />

ด้้านสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณี โด้ยมีหอพระไตรปิิฎกิ ตังอยู่ทีด้้านข้าง<br />

พระอุโบสถ เป็็นหอพระไตรปิิฎกิไม้ตังอยู่ในสระนำ ทีมีรูปัแบบศิิลปัะสืบเนือง<br />

มาตังแต่กรุุงศรีีอยุธยา<br />

30<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


แนวัควัามคิดของโครงการ<br />

๑. รือฟื้้นรูปัแบบด้ังเดิิมทีสมบูรณ์ แก้้ไขเหตุปััจจัยแห่งกิารเสือมสภาพ<br />

ทังหมด้ ให้อาคัารกล ับมามีคัวามงด้งามดัังเดิิมตามเจตนารมณ์ในกิาร<br />

ก่่อสร้าง<br />

๒. เพื่อเปั็นพุทธบูชูาให้สามารถสื ่อคัวามหมายถึงคัวามเปั็นหอ<br />

พระไตรปัิฎกิ ที่มีคัวามสาคััญอย่างยิ่งในส่วนสังฆัาวาสของวัด้<br />

๓. เพื่อให้คังคัุณคั่าแบบอย่างสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณีที ่งด้งาม<br />

ในสมัยรัชูกิาลที่ ๓ โด้ยรักิษ์ารูปัทรงทางสถาปััตยกิรรม กิารปัระด้ับปัระด้า<br />

และกิารใชู้วัสดุ้แบบด้ั้งเด้ิมไว้ รักิษ์าฝ่ีมือชู่างด้ั้งเด้ิมไว้ให้มากิที่สุด้<br />

๔. ในขณะที่ส่วนศิิลปักิรรมทีจำเปั็นต้องทำใหม่ จะเปั็นกิารสืบสาน<br />

งานชู่างไทยให้คังอยู่ต่อไปั จากิของเกิ่าที ่เปั็นแบบอย่าง ไม่ให้ฝ่ีมือด้้อยเสื ่อมลง<br />

ตลอด้จนรักิษ์าสภาพโด้ยรอบให้ใกิล้เคัียงและกิลมกิลืนกิับคัวามเปั็น<br />

โบราณสถานทีมีคัวามสำคััญไว้อย่างดีีทีสุด้ ทังด้้วยกิารรือฟื้้นรูปัแบบของ<br />

สระนำแบบด้ังเดิิมให้กล ับคืืนมา คัำน่งถ่งกิารใช้้งาน กิารเปิิดมุุมมองให้กัับ<br />

โบราณสถานและคัวามสะด้วกิในกิารบำรุงรักิษ์าในปััจจุบันและต่อไปั<br />

ในอนาคัต<br />

กิารดำำเนินงานเริ ่มต้นจากิกิารปัระชูุมของคัณะทำงานเพื ่อกำำหนด้<br />

แนวคัวามคิิด้ในกิารอนุรักิษ์์ดัังกล่่าวข้างต้นร่วมกััน ซึ่่งจำเป็็นต้องศิ่กิษ์าข้อมูล<br />

ด้้านต่างๆ ให้คัรอบคลุุม ทังทางปัระวัติศิาสตร์ เอกิสาร และภาพถ่ายโบราณ<br />

จากินันจ่งปัระกิาศิเชิิญชูวนสมาชิิกิและผู้สนใจเข้าร่วมเป็็นอาสาสมัคัรใน<br />

โคัรงกิาร เพือกิารสำรวจ คััด้ลอกิ สภาพปััจจุบัน จัด้ทำแบบบูรณะโบราณสถาน<br />

แห่งนี ซึ่่งถือเป็็นขันตอนสำคััญของกิารทำงานด้้านกิารอนุรักิษ์์ อันเป็็นภารกิิจ<br />

ทีสำคััญของสถาปนิิกิ ทังยังได้้เรียนรู้งานในศิาสตร์แขนงอืนๆ เช่่น วิศิวกิรรม<br />

วิทยาศิาสตร์ โบราณคัด้ี และกิารทำงานร่วมกัับผู้อื นทีจะได้้มาเรียนรู้้การทำงาน<br />

ด้้านกิารอนุรักิษ์์สถาปััตยกิรรมตามแนวทางกิารอนุรักิษ์์ซึ่่งถือเป็็นกิารทำงาน<br />

แบบสหวิชูากิาร นอกิจากินียังเป็็นกิารสละแรงงานและเวลาเพือกิารกุุศิลด้้วย<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

31<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


พิธิีเปิดโครงการ<br />

วันที ๒๑ มกิราคัม พ.ศิ. ๒๕๕๕ เป็็นพิธีเปิิด้โคัรงกิารอย่างเป็็นทางกิาร ด้ร.วสุ โปัษ์ยะนันทน์ ปัระธานกิรรมาธิกิารอนุรักิษ์์ฯ ด้้านไทยปัระเพณี ได้้รับมอบหมายจากินายกิสมาคัม<br />

สถาปนิิกิสยามฯ ให้ทำหน้าทีเป็็นผู้เริมทำพิธีสักิกิาระสิงศัักดิ์์สิทธิภายใน พระอุโบสถ มีกิารกล่่าวรายงานเจตนารมย์ของนายกิสมาคัมสถาปนิิกิสยามฯ ในอันทีจะให้สมาคัมได้้แสด้งบทบาทเพือสังคัม<br />

อย่างเป็็นรูปัธรรมและเปิิด้โอกิาสให้สมาชิิกิได้้มีส่วนร่วมในกิิจกิรรมนี เสร็จพิธีด้้วยกิารรับโอวาทและนำพระพุทธมนต์จากิพระคร ูพิศิาลพัฒนคุุณ ผู้ชู่วยเจ้าอาวาส (ในขณะนัน) ซึ่่งได้้อำนวยพรให้<br />

โคัรงกิารสำเร็จลุล่วงด้้วยดีี ทีปัร่กิษ์าโคัรงกิารได้้ให้คัำแนะนำ ข้อคิิด้ในกิารทำงาน ก่่อนทีจะได้้ปัฏิิบัติงานกัันต่อในบริเวณหอไตร<br />

32<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


กิจกรรม ASA Art & VERNADOC day<br />

วันที ๒๔ มีนาคัม พ.ศิ. ๒๕๕๖ ได้้จัด้กิิจกิรรม ASA Art & VERNADOC day ข่นเพือเป็็นกิิจกิรรมกิารมีส่วนร่วมทางด้้านศิิลปัะและกิารเก็็บข้อมูลแบบ Vernadoc เพือกิารอนุรักิษ์์<br />

หอไตรวัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหาร โด้ยได้้รับคัวามร่วมมือจากิโรงเรียนสตรีวัดอ ัปัสรสวรรค์์และกลุ่่ม Bangkok Sketchers<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

33<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


34<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

35<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


36<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

37<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


38<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

39<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


40<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

41<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


42<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

43<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


44<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

45<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


46<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

47<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


นำเสนอผลังานในงานสถาปนิก ๕๕<br />

นำเสนอผลงานของอาสาสมัคัรและกิารทำงานทีผ่านมาในงานสถาปนิิกิ ๕๕ ทีอาคัารชูาแลนเจอร์ ศููนย์กิารแสด้งสินค้้า อิมแพคั เมืองทองธานี ตังแต่วันที ๒๔–๒๙ เมษ์ายน<br />

พ.ศิ. ๒๕๕๕ ในนิทรรศิกิาร “อาษ์า อาสา สถาปััตยกิรรมไทย” ในส่วนของกิิจกิรรมด้้านกิารอนุรักิษ์์งานสถาปััตยกิรรมของสมาคัมสถาปน ิกิสยามฯ นิทรรศิกิารได้้จำลองแบบหอไตรมาให้ชูม<br />

ข้อมูลเกิียวกัับกิิจกิรรมต่างๆ ในโคัรงกิารและนำรายได้้สมทบทุนในกิารบูรณะหอไตรอีกิด้้วย นอกิจากินี ในงานนิทรรศิกิารยังมีกิารจำหน่ายเสือยึึดซึ่่งเป็็นภาพจากิงานศิิลปัะในกิิจกิรรม<br />

ASA Art & VERNADOC day เพือเป็็นทีระลึึก<br />

48<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


ผ้าป่าอาษ์าสามัคคี<br />

พิธีทอดผ ้าป่่าอาษ์าสามัคัคัีเพือสมทบทุนกิารบูรณะหอพระไตรปิิฎกว ัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหาร กร ุงเทพมหานคัร เพือถวายเป็็นพุทธบูชูาและอนุรักิษ์์สืบสานงานสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณี<br />

ได้้จัด้ข่นในวันอาทิตย์ที ๑๖ ธันวาคัม พ.ศิ. ๒๕๕๕ กิิจกิรรมเริมต้นข่น เวลา ๑๓.๐๐ น. ผู้เข้าร่วมกิิจกิรรมอันได้้แก่่ คัณะกิรรมกิาร สถาปนิิกิอาวุโส คัณะกิรรมกิารบริหารฯ สมาชิิกิสมาคัม<br />

สถาปนิิกิสยามฯ ทุกท่่าน รวมทังเครืือข่ายผู้ที ให้กิารสนับสนุนสมาคัมสถาปนิิกิสยามฯ และเครืือข่ายกิารอนุรักิษ์์ ผู้ที มีคัวามสนใจในเรืองของกิารอนุรักิษ์์มรด้กิวัฒนธรรม ร่วมกัันถวายภัตาตาหารเพล<br />

แก่่พระสงฆ์์ หลังจากินันตังขบวนผ้าป่่าไปย ังพระอุโบสถ เพือปัระกิอบพิธีถวายผ้าป่่า นำโด้ยนายสมิตร โอบายะวาทย์ เป็็นปัระธานฝ่่ายฆัราวาส นายวสุ โปัษ์ยะนันทน์ ปัระธานกิรรมาธิกิาร<br />

อนุรักิษ์์ฯ ด้้านสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณี กล ่าวรายงานปัระวัติคัวามเป็็นมาของโคัรงกิาร จากินันได้้ถวายผ้าป่่าแด่่พระคร ูพิศิาลพัฒนคุุณ ปัระธานฝ่่ายสงฆ์์ และรับโอวาทและนำพระพุทธมนต์<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

49<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


กิจกรรมล่่องเรือคลัองด่าน คลัองบางหลัวัง<br />

สมาคัมสถาปนิิกิสยาม ในพระบรมราชููปถััมภ์ โด้ยคัณะกิรรมาธิกิารอนุรักิษ์์สถาปััตยกิรรม ด้้านสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณี ด้้วยคัวามร่วมมือกัับสมาคัมอิโคัโมสไทย ได้้จัด้กิิจกิรรมล่องเรือ<br />

คัลองด่่าน คัลองบางหลวงในวันอาทิตย์ที ๒๐ พฤษ์ภาคัม พ.ศิ. ๒๕๕๗ เพือนำชูมโคัรงกิารอนุรักิษ์์หอพระไตรปิิฎกวััดอััปัสรสวรรค์์วรวิหารและวัด้อืนๆ ในบริเวณใกล้้เคีียง และเผยแพร่คัวามรู้<br />

ด้้านปัระวัติศิาสตร์ท้องถินและศิิลปัสถาปััตยกิรรมไทยให้แก่่คัณะทำงานโคัรงกิาร อาสาสมัคัรโคัรงกิาร และผู้สนใจทัวไปั โด้ยมีวิทยากิร ปัระกิอบด้้วย อ.บุณยกิร วชิิรเธียรชััย คัณะสถาปััตยกิรรมศิาสตร์<br />

มหาวิทยาลัยศิิลปัากิร ด้ร.รุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกููล คัณะศิิลปัะศิาสตร์และวิทยาศิาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิิจบัณฑิตย์ ด้ร.วสุ โปัษ์ยนันทน์ กิรมศิิลปัากิร อ.กิรรณิกิาร์ สุธีรัตนาภิรมย์ และคุุณชุุมพล<br />

อักพ ันธานนท์ บ้านศิิลปิิน<br />

50<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


นำเสนอผลังานในงานสถาปนิก ๕๗<br />

นำเสนอผลงานของอาสาสมัคัรและกิารทำงานทีผ่านมาในกิารด้ำเนินกิารอนุรักิษ์์ทีหอพระไตรปิิฎกวััดอััปัสรสวรรค์์วรวิหาร ในงานสถาปนิิกิ ๕๗ ทีอาคัารชูาแลนเจอร์ ศููนย์กิารแสด้งสินค้้า<br />

อิมแพคั เมืองทองธานี ตังแต่วันที ๒๙ เมษ์ายน-๔ พฤษ์ภาคัม พ.ศิ. ๒๕๕๗ เพือนำเสนอผลงานกิารด้ำเนินกิารข้อมูลต่างๆ ทีศิ่กิษ์าได้้จากิกิารอนุรักิษ์์ อาทิ องค์์คัวามรู้ภูมิปััญญาช่่างไม้<br />

แบบโบราณ<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

51<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


๒<br />

การอนุรักษ์หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์


การอนุรักษ์์หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์<br />

กิารอนุรักิษ์์ในคัรังนีเป็็นกิารสานต่อแนวคิิด้ทีใช้้มาตังแต่โคัรงกิาร<br />

อนุรักิษ์์หอไตรวัด้เทพธิด้าราม กล ่าวคืือ ต้องกิารรักิษ์ารูปัแบบสถาปััตยกิรรม<br />

ด้ังเดิิมทีสมบูรณ์ของอาคัารหอพระไตรปิิฎกิ รวมทังกิารตกิแต่งขององค์์ปัระกิอบ<br />

สถาปััตยกิรรมทีมีเอกลัักิษ์ณ์ไว้ แก้้ไขเหตุและปััจจัยแห่งกิารเสือมสภาพ<br />

ทังหมด้ ให้อาคัารกลัับมามีคัวามงด้งามดัังเดิิมตามเจตนารมณ์ในกิารก่่อสร้าง<br />

เพือเป็็นพุทธบูชูา ให้สามารถสือคัวามหมายถ่งคัวามเป็็นหอพระไตรปิิฎกิ<br />

เพือให้คังคุุณค่่าแบบอย่างสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณีทีงด้งาม โด้ยรักิษ์า<br />

รูปัทรงทางสถาปััตยกิรรม กิารปัระดัับปัระด้า และกิารใช้้วัสดุุแบบด้ังเดิิมไว้<br />

รักิษ์าฝีีมือช่่างด้ังเดิิมไว้ให้มากิทีสุด้ โด้ยเฉพาะอย่างยิงงานจิตรกิรรมฝ่าผนัง<br />

ขันตอนการดำเนินงานโครงการ<br />

โคัรงกิารอนุรักิษ์์หอพระไตรปิิฎกว ัดอััปัสรสวรรค์์วรวิหาร มีขันตอน<br />

กิารทำงานดัังนี<br />

๑. กิารศิ่กิษ์ารวบรวมข้อมูลเบื้องต้นเพื่อกิารอนุรักิษ์์<br />

๒. กิารสำรวจสภาพทางกิายภาพของโบราณสถาน ปัระกิอบด้้วย<br />

กิารสำรวจทำผังบริเวณทังวัด้และสภาพก่่อนกิารอนุรักิษ์์ของหอพระไตรปิิฎกิ<br />

และบริเวณโด้ยรอบ โด้ยกิารเปิิด้โอกิาสให้สมาชิิกิได้้เข้ามามีส่วนร่วมในกิาร<br />

สำรวจบันทึึกสภาพในลักิษ์ณะอาสาสมัคัรและด้ำเนินกิารจัดจ้้างช่่างสำรวจ<br />

และชู่างเขียนแบบ<br />

๓. งานวิเคัราะห์ศิ่กิษ์าเปัรียบเทียบและจัดทำำแบบวิเคัราะห์<br />

๔. กิิจกิรรมนำชูมกิารทำงาน (งานสำรวจทำแบบ) เปิิด้โอกิาสให้<br />

สมาชิิกิ หรือบุคัคัลทัวไปัทีมีคัวามสนใจเกิียวกัับมรด้กิสถาปััตยกิรรมและ<br />

กิารอนุรักิษ์์เข้าชูมกิารด้ำเนินกิาร เพือเผยแพร่คัวามรู้และปัระชูาสัมพันธ์<br />

กิารทำงานของสมาคัมสถาปันิกิสยามฯ ในกิารอนุรักิษ์์งานสถาปััตยกิรรมไทย<br />

๕. กิารออกิแบบอนุรักิษ์์หอพระไตรปัิฎกิและบริเวณโด้ยรอบ พร้อม<br />

ด้้วยกิารปัระมาณราคัา กำำหนด้แนวทางในกิารอนุรักิษ์์ ดำำเนินกิารจัด้จ้าง<br />

ชู่างเขียนแบบและปัระมาณกิาร<br />

และงานปัระดัับกิระจกิทีผนังอาคัารซึ่่งมีคัวามโด้ด้เด่่นทีสุด้ ในขณะทีส่วน<br />

ศิิลปักิรรมอืนๆ ทีจำเป็็นต้องทำใหม่จะเป็็นกิารสืบสานงานช่่างไทยให้คังอยู่<br />

ต่อไปัจากิของเก่่าทีเป็็นแบบอย่างไม่ให้ฝีีมือด้้อยเสือมลง ตลอด้จนรักิษ์าสภาพ<br />

โด้ยรอบให้ใกล ้เคีียงและกิลมกลืืนกัับคัวามเป็็นโบราณสถานทีมีคัวามสำคััญ<br />

ไว้อย่างดีีทีสุด้ ทังด้้วยกิารรือฟื้้นรูปัแบบของสระนำแบบด้ังเดิิมให้กล ับคืืนมา<br />

และกิารปรัับปรุุงใหม่ทีคัำน่งถ่งกิารใช้้งาน กิารเปิิดมุุมมองให้กัับโบราณสถาน<br />

และคัวามสะด้วกิในกิารบำรุงรักิษ์าต่อไปัในอนาคัต<br />

๖. งานโบราณคัด้ีเพื่อกิารอนุรักิษ์์ ได้้แกิ่ กิารขุด้ตรวจหาข้อมูลเพิ่ม<br />

เติมของโบราณสถาน<br />

๗. ด้ำเนินกิารบูรณะและมีกิารคัวบคุุมงาน ซึ่่งจะต้องมีกิารขอคัวาม<br />

ร่วมมือบริษััททีปัร่กิษ์าหรือกิรมศิิลปัากิร โด้ยมีคัณะกิรรมาธิกิารอนุรักิษ์์ฯ<br />

ด้้านสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณี เป็็นกิรรมกิารตรวจกิารจ้างร่วมกัับตัวแทน<br />

ของกิรมศิิลปัากิร สมาคัมสถาปน ิกิสยามฯ และวัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหาร<br />

๘. กิารทำ As-Built Drawing เพือใช้้เป็็นหลักิฐานของกิารอนุรักิษ์์<br />

ในคัรังนี ทีเปิิด้โอกิาสให้สมาชิิกิเข้ามามีส่วนร่วม พร้อมด้้วยกิารจัดจ้้าง<br />

ช่่างเขียนแบบหรือให้เป็็นส่วนหน่งในสัญญาว่าจ้างกิารอนุรักิษ์์<br />

๙. กิารจัด้ทำรายงานกิารด้ำเนินกิาร สรุปข้้อมูลทางวิชูากิารทังหมด้<br />

เพือจัด้ทำต้นฉบับเอกิสารวิชูากิารด้้านกิารอนุรักิษ์์สถาปััตยกิรรมสำหรับ<br />

กิารจัดพ ิมพ์เผยแพร่ต่อไปั<br />

กิารจัด้ทำรายงานกิารด้ำเนินกิาร สรุปข้้อมูลทางวิชูากิารทังหมด้<br />

เพือจัด้ทำต้นฉบับเอกิสารวิชูากิารด้้านกิารอนุรักิษ์์สถาปััตยกิรรมสำหรับ<br />

กิารจัดพ ิมพ์เผยแพร่ต่อไปั<br />

54<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


นอกิจากินันยังมีงานออกิแบบปร ับปร ุงภูมิทัศน์์ ทำกิารศิ่กิษ์าข้อมูล<br />

สำรวจสภาพปััจจุบันของสภาพโด้ยรอบของวัด้ จัด้ทำแบบวิเคัราะห์สภาพ<br />

ภูมิทัศน์์ด้ังเดิิม และจัด้ทำแบบปร ับปร ุงภูมิทัศน์์โด้ยรอบหอพระไตรปิิฎกิ<br />

พร้อมด้้วยข้อเสนอแนะในกิารปรัับปรุุงภูมิทัศน์์ของทังวัด้เพือส่งเสริมคุุณค่่า<br />

ของโบราณสถานและมีงานปัระชูาสัมพันธ์โคัรงกิารตลอด้ชู่วงเวลาของกิาร<br />

ด้ำเนินกิาร ได้้แก่่<br />

๑. นำเสนอผลงานด้ำเนินกิารในงานสถาปน ิกิปัี ๒๕๕๓ เพือ<br />

ปัระชูาสัมพันธ์กิารทำงานของสมาคัมสถาปน ิกิสยามฯ และเพือ<br />

ระด้มทุนในด้ำเนินกิารอนุรักิษ์์<br />

๒. ปัระชูาสัมพันธ์ผลงานกิารด้ำเนินโคัรงกิารผ่านสือต่างๆ<br />

๓. จัด้กิิจกิรรมนำชูมกิารทำงานภาคัสนามของโคัรงกิารแก่่สมาชิิกิ<br />

สมาคัมสถาปน ิกิสยามฯ และบุคัคัลทัวไปัทีมีคัวามสนใจเกิียวกัับ<br />

มรด้กิสถาปััตยกิรรมและกิารอนุรักิษ์์<br />

การศึึกษ์ารวับรวัมข้อมูลัเบืองต้น<br />

กิารด้ำเนินกิารตามโคัรงกิารของคัณะทำงานเริมต้นด้้วยกิารรวบรวม<br />

ข้อมูลพืนฐานทังหมด้ของวัดอััปัสรสวรรค์์วรวิหารและหอพระไตรปิิฎกิ<br />

เกิียวกัับปัระวัติคัวามเป็็นมา ปัระวัติกิารบูรณะปร ับเปัลียนรูปัแบบ ตลอด้จน<br />

กิารอนุรักิษ์์ทีมีมาในอดีีตก่่อนหน้านีจากิเอกิสาร แผนทีเก่่า ข้อมูลกิาร<br />

ข่นทะเบียนโบราณสถานโด้ยกิรมศิิลปัากิร และภาพถ่ายเก่่าในยุคัสมัยต่างๆ<br />

ทีทำให้เห็นพัฒนากิารของพืนที บรรยากิาศิสภาพแวดล้้อมของบริเวณ<br />

โด้ยรอบ และรูปัแบบในอดีีตของหอพระไตรปิิฎกิ ทำให้สามารถนำมา<br />

เป็็นปัระโยชน์์ในกิารวิเคัราะห์รูปัแบบและวัสดุุด้ังเดิิมของหอพระไตรปิิฎกิ<br />

เป็็นข้อมูลทีสำคััญในกิารพิจารณากิำหนด้แบบอนุรักิษ์์<br />

ภาพถ่ายเก่่าวัดอ ัปัสรสวรรค์์ โด้ย น. ณ ปัากน ้ำ ทีมา : ศููนย์ข้อมูลเมืองโบราณ<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

55<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


การสำรวัจสภาพทางกายภาพ<br />

คัณะทำงานเข้าสำรวจพืนภายในบริเวณวัด้ทังภายในเขตพุทธาวาส<br />

และเขตสังฆัาวาส เขียนแผนทีภูมิปัระเทศิแสด้งสภาพปััจจุบันของพืนที<br />

เพือใช้้เป็็นข้อมูลในกิารออกิแบบทางด้้นวิศิวกิรรมและสถาปััตยกิรรม โด้ยวัด้คั่า<br />

ระดัับพืนอาคัารทุกิหลังและระดัับพืนลาน ทางเดิิน ถนนภายในบริเวณวัด้<br />

ตำแหน่งเสาไฟื้ฟื้้า และตำแหน่งต้นไม้เดิิมทีมีอยู่ในพืนที โด้ยได้้รับกิาร<br />

สนับสนุนกิารจัด้ทำผังบริเวณจากิบริษััทซึ่ีบี กิารสำรวจ จำกััด้ โด้ยมี<br />

ขอบเขตในกิารด้ำเนินดัังนี<br />

สำรวัจเขตพุทธิาวัาสแลัะสังฆัาวัาสโดยรวัม<br />

๑. สำรวจตำแหน่งเสาไฟื้ฟื้้า<br />

๒. สำรวจเกิ็บรายละเอียด้ต้นไม้ภายในผังบริเวณวัด้ ที ่มีขนาด้<br />

เส้นผ่าศิูนย์กิลางลำต้นตั้งแต่ ๖ นิ้วขึ้นไปั และชูนิด้ของต้นไม้<br />

๓. สำรวจเส้นรอบรูปัอาคัารทุกิหลัง แนวถนน แนวรางนา บ่อพักน้า<br />

กำำแพงวัด้<br />

๔. สำรวจเก็็บค่่าระดัับพืนที (โด้ยเฉลีย N grid ๑๐ เมตร) และ<br />

ค่่าค่่าระดัับพืนภายในอาคัารหลังหลักิๆ (ตามทีกิำหนด้ในแบบ)<br />

๕. สำรวจเกิ็บตำแหน่ง ขนาด้ และคัวามล่กิของบ่อพักน้า และ<br />

รางระบายนา<br />

สำรวัจบริเวัณพื้นที่หอพระไตรปิฎก<br />

๑. สำรวจเส้นรอบรูปัอาคัาร แนวถนน แนวรางนา บ่อพักน้า รั ้ว<br />

โด้ยรอบ ลาน และกิระถางต้นไม้ให้ละเอียด้ทุกิหลัง<br />

๒. สำรวจเกิ็บคั่าระด้ับพื้นทางเด้ิน ถนนภายในโด้ยละเอียด้<br />

๓. ค่่าระดัับพืนภายในอาคัารทุกิหลัง (อย่างน้อย ๖ จุด้ ภายในห้อง<br />

ซึ่่งบอกิได้้ว่าอาคัารทรุดต ัวไปัในทิศิทางใด้ เอียง (slope) เท่าไร และคัวาม<br />

ลาด้เอียงเพื่อระบายนาเปั็นไปัในทิศิทางใด้)<br />

๔. สำรวจเกิ็บรายละเอียด้ต้นไม้เด้ิมในพื ้นที่โด้ยละเอียด้ เฉพาะต้นไม้<br />

ที่มีขนาด้เส้นผ่าศิูนย์ลางลำต้นตั้งแต่ ๖ นิ้วขึ้นไปั และชูนิด้ของต้นไม้<br />

๕. สำรวจเกิ็บตำแหน่ง ขนาด้ และคัวามล่กิของบ่อพักน้า บ่อนา<br />

และทางระบายนา (โด้ยละเอียด้) บริเวณทางเด้ินโด้ยรอบ<br />

56<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


ผังบริเวณโด้ยรอบวัดอ ัปัสรสวรรค์์ ด้ำเนินกิารสำรวจโด้ย บริษััทบีซึ่ี กิารสำรวจ จำกััด้<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

57<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


การสำรวัจสภาพทางกายภาพ-ทำแบบสภาพปัจจุบัน<br />

หลังจากิได้้ศิ่กิษ์ารวบรวมข้อมูลเบืองต้นพร้อมทังรับสมัคัรอาสา<br />

สมัคัรเข้าร่วมโคัรงกิารเรียบร้อยแล้วนัน ในวันที ๔ เมษ์ายน พ.ศิ. ๒๕๕๕<br />

จ่งได้้เริมปัฏิิบัติงานภาคัสนามทีวัด้ในทุกว ันเสาร์และวันอาทิตย์ ตังแต่เวลา<br />

๙.๐๐ น. จนถ่ง ๑๕.๐๐ น. คัณะทำงานซึ่่งปัระกิอบด้้วยคัณะกิรรมาธิกิาร<br />

อนุรักิษ์์ของสมาคัมฯ ได้้นัด้พบอาสาสมัคัรจากิสถาบันกิารศิ่กิษ์าต่างๆ<br />

มีกิารแนะนำตัว ชูีแจงทีมาของโคัรงกิาร และวางแผนกิารทำงานร่วมกััน<br />

พร้อมทังได้้เริมลงมือปัฏิิบัติกิารสำรวจ ทำแบบสภาพปััจจุบันของอาคัารหอไตร<br />

และบริเวณโด้ยรอบ เขียนแบบหอพระไตรปิิฎกิอย่างละเอียด้ เขียนแบบสภาพ<br />

ปััจจุบันของอาคัารทุกิหลัง คััด้ลอกิลวด้ลายของปัระตูและหน้าต่างทุกิบาน<br />

เพือนำไปัใช้้ในขันตอนกิารออกิแบบบูรณะต่อไปั<br />

58<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


กิิจกิรรมอาษ์า อาสา สถาปััตยกิรรมไทย ในกิารสำรวจรังวัด้อาคัาร<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

59<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


แบบคััด้ลอกิลายเส้นบานปัระตู โด้ยอาสาสมัคัรในโคัรงกิาร อาษ์า อาสา สถาปััตยกิรรมไทย<br />

60<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์ การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย<br />

แบบคััด้ลอกิลายเส้นบานปัระตูและหน้าต่าง โด้ยอาสาสมัคัรในโคัรงกิาร อาษ์า อาสา สถาปััตยกิรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

61<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


62<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

63<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


64<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

65<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


66<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

67<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


68<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

69<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


70<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

71<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


72<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

73<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


74<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

75<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


แบบวิิเคราะห์สถาปัตยกรรม<br />

76<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

77<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


การออกแบบแลัะกำหนดรูปแบบรายการบูรณะ<br />

จากิกิารทำงานร่วมกิันในลักิษ์ณะสหวิทยากิาร เปั็นหน้าที ่ของ<br />

สถาปันิกิในกิารนำข้อมูลเบื้องต้นจากิสายวิชูาชูีพต่างๆ มาพิจารณาจัดทำำ<br />

แบบบูรณะ โด้ย ด้ร.วสุ โปัษ์ยะนันทน์ ได้้นำข้อสรุปัมาจัด้ทำเป็็นรายกิาร<br />

ปัระกิอบแบบ เพือนำไปัสู่กิารทำปัระมาณราคัาและเข้าสู่่กระบวนกิารใน<br />

กิารขออนุญาตดำำเนินกิารจากิกิรมศิิลปัากิรด้ังนี้<br />

รายการประกอบแบบงานบูรณะหอพระไตรปิฎก<br />

วััดอัปสรสวัรรค์วัรวิิหาร<br />

ในโคัรงกิารอนุรักิษ์์วัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหาร กร ุงเทพมหานคัร<br />

กิรรมาธิกิารอนุรักิษ์์ศิิลปัสถาปััตยกิรรม ด้้านสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณี<br />

ปีี ๒๕๕๕–๒๕๕๗ สมาคัมสถาปน ิกิสยาม ในพระบรมราชููปถ ัมภ์<br />

ทีตัง<br />

วัดอััปัสรสวรรค์์วรวิหาร ตังอยู่ที แขวงปัากิคัลอง เขตภาษีีเจริญ<br />

กร ุงเทพมหานคัร<br />

ประวััติควัามเป็นมา<br />

เด้ิมมีชูื่อว่า วัด้หมู กิล่าวกิันว่าได้้สร้างในทีด้ินที่เคัยใชู้เลี้ยงหมู เมื ่อ<br />

สร้างวัด้แล้วกิ็ยังมีหมูเด้ินไปัมาในวัด้จึงเรียกิว่า วัด้หมู บ้างกิ็ว่าเศิรษ์ฐีจีน<br />

ชูื่อ “อู๋” เปั็นผู้สร้างวัด้ ชูาวบ้านจึงเรียกิว่า วัด้อู๋บ้าง วัด้จีนอู๋บ้าง แล้วเพี้ยน<br />

ไปัจนติด้ปัากิว่า วัด้หมู แต่จะสร้างขึ้นเมื่อใด้ไม่ปัรากิฏิหลักิฐานแน่ชูัด้ คัรั้น<br />

ในสมัยรัชูกิาลที่ ๓ เจ้าจอมน้อย ผู้เปั็นธิด้าของเจ้าพระยาพลเทพ (ฉิม) ใคัร่<br />

จะปฎิิสังขรณ์เพืออุทิศส่่วนกุุศิลแด่่บิด้า พระบาทสมเด็็จพระนังเกล้้าเจ้าอยู่หัว<br />

จ่งทรงพระกร ุณาโปัรด้เกล้้าฯ พระราชูทานพระราชูทรัพย์ส่วนพระองค์์ให้<br />

สถาปันาใหม่ทังวัด้ และพระราชูทานนามว่า วัดอััปัสรสวรรค์์ เพือเป็็นทีระลึึก<br />

แด้่เจ้าจอมน้อย ซึ่่งมีคัวามสามารถในกิารแสด้งละคัรเรื่องอิเหนา เปั็นตัว<br />

สุหรานากิงได้้ดีี จนมีฉายาเรียกิกิันว่า เจ้าจอมน้อยสุหรานากิง นอกิจากินี<br />

ยังได้้พระราชูทานพระพุทธรูปัปัางฉันสมอมาปัระดิิษ์ฐานอยู่ทีวัด้นีด้้วย<br />

และทีด้้านข้างพระอุโบสถยังมีหอพระไตรปัิฎกิไม้ตั้งอยู่ในสระนา ที ่มี<br />

รูปัแบบศิิลปัะสืบเนืองมาตังแต่กรุุงศรีีอยุธยา เป็็นหอไตรทีมีทรวด้ทรงงด้งาม<br />

สมเด็็จเจ้าฟื้้าบริพัตรสุขุมพันธ์ กิรมพระนคัรสวรรค์์วรพินิต เคัยเสด็็จ<br />

ทอด้พระเนตรแล้วนำไปัเป็็นแบบอย่างเพือจัดร ูปัหอเขียนสมัยอยุธยาที<br />

วังสวนผักิกิาด้<br />

กิรมศิิลปัากิรได้้ปัระกิาศิขึ้นทะเบียนเปั็นโบราณสถานที ่มีคัวาม<br />

สาคััญระด้ับชูาติตั้งแต่วันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศิ. ๒๕๒๐ บันท่กิในราชูกิิจ<br />

จานุเบกิษ์า เล่ม ๙๔ ตอนที่พิเศิษ์ ๗๕ วันที่ ๑๖ สิงหาคัม พ.ศิ. ๒๕๒๐<br />

รายลัะเอียดการอนุรักษ์์<br />

การเตรียมสถานที<br />

๑. จัด้เตรียมแรงงาน เคัรืองมือ และอุปักิรณ์ทำคัวามสะอาด้สถานที<br />

ตลอด้ระยะเวลาทีด้ำเนินกิาร<br />

๒. จัด้เตรียมสถานที่ทิ้งเศิษ์วัสดุ้และกิองเกิ็บอุปักิรณ์ซึ่่งรื้อถอน<br />

ออกิจากิสถานทีกิ่อสร้าง ทั้งนี้เพื่อให้สามารถขนย้ายออกิได้้ทั้งหมด้ ไม่มี<br />

กิารกิองเกิ็บไว้ในสถานทีกิ่อสร้างภายหลังกิารรื้อถอน<br />

๓. จัด้ทำระบบป้้องกัันฝุ่่นและอุปักิรณ์ป้้องกัันอันตราย ตามมาตรกิาร<br />

ป้้องกัันอันตรายและเหตุเดืือดร้้อนรำคัาญในระหว่างกิารก่่อสร้างตามที<br />

กิฎหมายกำำหนด้โด้ยเคัร่งคัรัด้<br />

๔. จัด้เตรียมสำนักิงานชูัวคัราวสำหรับใช้้ในกิารปัระชุุมหารือ<br />

ปัระสานงาน ติด้ตามผลกิารดำำเนินกิารของคัณะทำงานฯและคัณะกิรรมกิาร<br />

ตรวจกิารจ้าง ตลอด้ระยะเวลาของกิารดำำเนินกิารโคัรงกิาร เคัลื่อนย้ายตู้<br />

พระธรรมและพระไตรปัิฎกิทั้งหมด้ไปัจัด้เกิ็บไว้ในสถานทีปัลอด้ภัย โด้ยให้มี<br />

กิารปัระสานหารือขออนุญาตจากิทางวัด้กิ่อน<br />

๕. รื้อถอนสิ่งปัลูกิสร้างในส่วนที่มีผลกิระทบต่อกิารดำำเนินตรวจ<br />

สอบข้อมูลด้ั้งเด้ิมของขอบสระนาโด้ยรอบ<br />

78<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


๖. ทำหลังคัาคล ุมส่วนทำงานทีอยู่ภายนอกิอาคัารและติด้ตังนังร้าน<br />

โด้ยไม่ให้กีีด้ขวางกิารจราจรภายในวัด้<br />

งานตรวัจสอบข้อมูลัเบืองต้นก่อนการบูรณะ<br />

๑. ให้ด้ำเนินกิารสกััด้พืนซึ่ีเมนต์รอบสระนำออกิในขอบเขตเพือ<br />

กิารตรวจสอบรูปัแบบด้ังเดิิมของสระนำ จัด้ทำเป็็นแบบ shop drawing<br />

เสนอแนวทางในกิารพื นฟืู้รูปัแบบด้ั งเดิิมและกิารปร ับปรุุงส่วนขอบสระ<br />

ให้สอด้คัล้องกิับแนวคัิด้ของแบบภูมิทัศิน์ที่ได้้ออกิแบบไว้แล้ว<br />

๒. ให้มีกิารตรวจสอบข้อมูลของสระนำและระบบฐานรากิอาคัาร<br />

ที่อยู่ใต้ระด้ับนา โด้ยผู้รับจ้างจะต้องนำเสนอแนวทางในกิารดำำเนินกิารที่จะ<br />

ไม่ส่งผลกิระทบกิับโคัรงสร้างของโบราณสถานและไม่เปั็นอันตรายกิับสัตว์<br />

นาที่อาศิัยอยู่ในสระ ให้คัณะกิรรมกิารตรวจกิารจ้างพิจารณาอนุมัติกิ่อน<br />

รวมทั้งให้จัดทำำรายงานผลกิารดำำเนินกิารอย่างคัรบถ้วน<br />

งานบูรณะ<br />

๑. งานหลังคัา<br />

๑.๑ บันท่กิภาพถ่ายโด้ยละเอียด้กิ่อนเริ่มงานบูรณะ<br />

๑.๒ สำรวจตรวจสอบ สรุปัข้อมูลกิารเสื่อมสภาพ และชูนิด้ของ<br />

ไม้ขององคั์ปัระกิอบต่างๆ<br />

๑.๓ คัลุมแผ่นพลาสติกิทับบริเวณหน้าบันทั ้ง ๒ ด้้าน เพื ่อปั้องกิัน<br />

คัวามเสียหายขณะทากิารบูรณะงานหลังคัา<br />

๑.๔ ตรวจสอบและจัดทำำแบบแสด้งคัวามเสียหายกิ่อนกิารบูรณะ<br />

พร้อมจัด้เกิ็บตัวอย่างวัสดุ้ทีจำเปั็น<br />

๑.๕ รือถอนกิระเบืองหลังคัาเดิิมออกิทั งหมด้และขนออกิไปั<br />

นอกิพื้นทีกิ่อสร้าง<br />

๑.๖ บันทึึกภาพถ่าย ตรวจสอบโคัรงสร้างหลังคัาภายหลังรือ<br />

กิระเบืองหลังคัา จัด้ทำเป็็นแบบ shop drawing สำหรับกิารด้ำเนินกิาร<br />

จริงตามสภาพทีสำรวจพบ พร้อมออกิแบบปรัับปร ุงงานระบบไฟื้ฟื้้าใหม่<br />

สำหรับอาคัาร<br />

๑.๗ ทาคัวามสะอาด้พื ้นที่ใต้หลังคัาและเหนือฝ่้าเพด้านทั ้งหมด้<br />

ขนย้ายเศิษ์ขยะและเศิษ์วัสดุ้ออกิไปันอกิพื้นทีกิ่อสร้าง<br />

๑.๘ ซึ่่อมแซึ่มโคัรงสร้างหลังคัาไม้ส่วนที ่ชำำรุด้แต่ยังพอใชู้กิารได้้<br />

โด้ยให้คังสภาพกิลอนสับของเดิิมไว้ ทำกิารซึ่่อมเปัลียนเฉพาะส่วนทีชูำรุด้<br />

ตามแบบ shop drawing<br />

๑.๙ เปัลียนชูินส่วนโคัรงสร้างหลังคัาไม้ส่วนทีชูำรุด้จนหมด้<br />

สภาพกิารใช้้งาน โด้ยใช้้ไม้สักิขนาด้และรูปัแบบตามแบบด้ังเดิิม โด้ยให้<br />

เปัลียนไม้ระแนง เชิิงชูาย และสะพานหนูใหม่ทังหมด้ ทานำยากัันปัลวกิและ<br />

รักิษ์าเนือไม้ ส่วนเชิิงชูายให้ทาด้้วยสีอะคร ิลิกิสำหรับทาไม้ตามสีด้ังเดิิมที<br />

ตรวจพบ (นำเสนอตัวอย่างสีให้สถาปน ิกผู้ออกิแบบพิจารณาก่่อน)<br />

๑.๑๐ ติด้ตังงานระบบใหม่สำหรับส่วนทีเกิียวข้องกัับหลังคัา<br />

๑.๑๑ มุงกิระเบื้องหลังคัา โด้ยมุงด้้วยกิระเบื ้องเคัลือบด้ินเผา<br />

ตามลักิษ์ณะที่เห็นในหลักิฐานภาพถ่ายเกิ่า พร้อมจัดทำาคัรอบปัูนปัั้นทับแนว<br />

กิระเบื้องฉาบด้้วยปัูนหมักิขัด้ผิวปัูนตำ<br />

๑.๑๒ ให้จัดทำำระบบกิันซึ่่มหลังคัา โด้ยใชู้แผ่นสังกิะสีสอด้ไว้ใต้<br />

กิระเบื้องในแต่ละชูั้น<br />

๒. งานหน้าบัน เคัรื่องลำยอง และส่วนปัระกิอบหลังคัา<br />

๒.๑ บันท่กิภาพถ่ายโด้ยละเอียด้กิ่อนเริ่มงานบูรณะ<br />

๒.๒ ทำแบบขยายสภาพปััจจุบันให้คัรบทุกิองคั์ปัระกิอบ<br />

๒.๓ ตรวจสอบและจัดทำำแบบแสด้งคัวามเสียหายกิ่อนกิาร<br />

บูรณะ พร้อมจัด้เกิ็บตัวอย่างวัสดุ้ทีจำเปั็น<br />

๒.๔ ทำ shop drawing แบบบูรณะของหน้าบันและเคัรืองลำยอง<br />

ทั้งหมด้ แสด้งรายละเอียด้สัด้ส่วน ลวด้ลายและกิารปัระด้ับกิระจกิสีตามแบบ<br />

ด้ั้งเด้ิมที่สมบูรณ์ กิะสวนทำแบบเท่าจริง<br />

๒.๕ ถอด้เกิ็บชู่อฟื้้าเคัรื่องลำยองเด้ิมไว้ เพื ่อนำไปัจัด้แสด้ง<br />

นิทรรศิกิารภายหลัง<br />

๒.๖ ฟื้ันช่่อฟื้้าใหม่ทัง ๔ ตัวรวมทังเคัรืองลำยองทังหมด้ โด้ยใช้้<br />

ไม้สักิปัระดัับตกิแต่งด้้วยกิระจกสีีตาม shop drawing<br />

๒.๗ ทำคัวามสะอาด้ตามกิรรมวิธีของกลุ่ ่มอนุรักิษ์์จิตรกิรรมและ<br />

ปัระติมากิรรม โด้ยใช้้นำสะอาด้และแอมโมเนียมคัาร์บอเนต และบันทึึกภาพถ่าย<br />

สภาพหน้าบันก่่อนกิารด้ำเนินกิารซึ่่อมแซึ่ม<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

79<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


๒.๘ ซึ่่อมแซึ่มงานไม้ของกิระจังฐานพระ คัันทวยทังหมด้ในส่วน<br />

ทีชูำรุด้<br />

๒.๙ ซึ่่อมแซึ่มกิระจกส ีตกิแต่งหน้าบัน และองค์์ปัระกิอบต่างๆ ที<br />

ยังอยู่ในสภาพดีี<br />

๒.๑๐ ปัระด้ับกิระจกิสีเพิ ่มเติมในส่วนที กิระจกิเด้ิมสูญหายไปัตามแบบ<br />

๒.๑๑ ส่วนงานปัิด้ทองลงรักิปัิด้ทองใหม่ทั้งหมด้<br />

การอุนุรักษ์์ส่วนหน้าบันและคันทวยจะดำำเนินการภ์ายใต้การกำกับดู้แล<br />

โด้ยชู่างฝีมือุจากกลุ่มอุนุรักษ์์จิตรกรรมและประติมากรรม สำนักโบราณีคด้ี<br />

๓. งานฝ้้าเพด้านภายนอกิ-ภายใน และไขราหน้าจัว<br />

๓.๑ บันท่กิภาพถ่ายโด้ยละเอียด้กิ่อนเริ่มงานบูรณะ<br />

๓.๒ ตรวจสอบข้อมูลสภาพและจัด้ทำแบบแสด้งคัวามเสียหาย<br />

กิ่อนกิารบูรณะ พร้อมจัด้เกิ็บตัวอย่างวัสดุ้ทีจำเปั็น จัดทำำแบบขยายคััด้ลอกิ<br />

ลายเท่าจริงตามสภาพกิ่อนกิารบูรณะ ขูด้ลอกิชูั้นสีตรวจหาลวด้ลายด้ั้งเด้ิม<br />

และข้อเสนอในกิารปัรับแกิ้ไข (ถ้ามี)<br />

๓.๓ ด้ำเนินกิารซึ่่อมแซึ่มเปัลียนไม้ตามแบบ shop drawing<br />

ตามหลักิฐานที่พบจากิกิารตรวจสอบ<br />

๓.๔ ขัด้แต่งผิว ทาสีรองพืน ทาสี และปิิด้ทองตามแบบ<br />

การอุนุรักษ์์ฝ้าเพด้านจะดำำเนินการภ์ายใต้การกำกับดู้แลโด้ยชู่างฝีมือุ<br />

จากกลุ่มอุนุรักษ์์จิตรกรรมและประติมากรรม สำนักโบราณีคด้ี<br />

๔. งานผนังและเสา<br />

๔.๑ บันท่กิภาพถ่ายโด้ยละเอียด้กิ่อนเริ่มงานบูรณะ<br />

๔.๒ ตรวจสอบและจัดทำำแบบแสด้งคัวามเสียหายกิ่อนกิารบูรณะ<br />

โด้ยละเอียด้ พร้อมจัด้เกิ็บตัวอย่างวัสดุ้ทีจำเปั็น<br />

๔.๓ ซึ่่อมเปัลียนผนัง–เสาไม้ส่วนทีเสือมสภาพด้้วยไม้สักิ โด้ย<br />

ในส่วนทีเป็็นงานแกิะสลักิไม้ให้ด้ำเนินกิารรูปัแบบด้ังเดิิมให้สมบูรณ์<br />

๔.๔ ผนังภายใน ด้ำเนินกิารอนุรักิษ์์จิตรกิรรมฝ่าผนัง เริมจากิ<br />

กิารทำคัวามสะอาด้ด้้วยนำสะอาด้และแอมโมเนียมคัาร์บอเนต ฉีด้ ทากิาว<br />

พาราลอยด์์ บี ๗๒ แล้วผนึึกให้แนบสนิทกัับผนัง ถมชูั นรองพืนในรอย<br />

ชูำรุด้ด้้วยดิินสอพองผสมกิาวเม็ด้มะขาม และเติมสีตามหลักิกิารอนุรักิษ์์<br />

๔.๕ ผนังภายนอกิให้ดำำเนินกิารอนุรักิษ์์ชูั้นรักิและกิระจกิสี ให้<br />

ดำำเนินกิารจัด้เกิ็บกิระจกิสีที ่หลุด้ร่วงอยู่ นำมาทาคัวามสะอาด้เพื่อเตรียมนำ<br />

กิลับมาใชู้ใหม่ ทาคัวามสะอาด้ชูั้นรักิและกิระจกิสีด้้วยนาสะอาด้และ<br />

แอมโมเนียมคัาร์บอเนต เสริมคัวามมั่นคังให้กิับชูั้นรักิด้้วยกิารอุด้ เติมรักิสมุกิ<br />

ในส่วนที่ชำำรุด้ นากิระจกิสีมาปัระด้ับให้คัรบถ้วนสมบูรณ์<br />

๔.๖ ตรวจสอบและจัดทำำแบบแสด้งคัวามเสียหายของเสาไม้<br />

ทั้งหมด้ โด้ยหลักิกิารเบื้องต้นให้เปัลี่ยนเสาแถวในจำนวน ๖ ต้น ตั ้งแต่จากิ<br />

ส่วนตอม่อขึ้นมาจนถึงพื้น โด้ยให้ใชู้เสาไม้สักิหรือไม้เนื ้อแข็ง (ไม้เกิ่า) ขนาด้<br />

๑๐ นิ้ว และเสารอบนอกจำำนวน ๑๔ ต้น ให้เปัลี่ยนใหม่ทั้งหมด้ โด้ยให้ใชู้<br />

เสาไม้สักิหรือไม้เนื้อแข็ง (ไม้เกิ่า) ขนาด้ ๘ นิ้ว<br />

๔.๗ ส่วนเสารอบนอกิให้ดำำเนินกิารอนุรักิษ์์ลายทองให้สมบูรณ์<br />

ให้คััด้ลอกิลวด้ลายเด้ิมไว้อย่างคัรบถ้วน เพื่อนำมาเขียนใหม่ตามรูปัแบบ<br />

และวิธีกิารด้ั้งเด้ิมแบบโบราณ ด้้วยกิารลงพื้นด้้วยรักิสมุกิ ขัด้ผิวให้เรียบ<br />

ลอกิฉลุลายตามแบบเด้ิม เชู็ด้รักิและปัิด้ทองตามลวด้ลายเด้ิมให้สมบูรณ์<br />

๔.๘ งานอนุรักิษ์์บันได้และพนักิระเบียง บันได้ไม้แกิะสลักิลวด้ลาย<br />

ให้ทำคัวามสะอาด้ ขัด้แต่งผิวไม้ขันบันได้ให้เรียบร้อย แล้วทาด้้วยนำยา<br />

รักิษ์าเนือไม้ ส่วนพนักิระเบียงไม้ให้ซึ่่อมปัะด้าม เปัลียนไม้ทีชูำรุด้<br />

เสือมสภาพโด้ยใช้้ไม้สักิ เสร็จแล้วทำคัวามสะอาดข ัด้แต่งผิว และทาด้้วย<br />

นำยารักิษ์าเนือไม้ด้้วยเช่่นเดีียวกััน<br />

การอุนุรักษ์์จิตรกรรมฝาผนังและงานด้้านศิลปกรรมต่างๆ จะดำำเนินการ<br />

ภ์ายใต้การกำกับดู้แลโด้ยชู่างฝีมือุจากกลุ่มอุนุรักษ์์จิตรกรรมและประติมากรรม<br />

สำนักโบราณีคด้ี<br />

80<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


๕. งานปัระตู หน้าต่าง และหน้าต่างหลอกิ<br />

๕.๑ บันท่กิภาพถ่ายโด้ยละเอียด้กิ่อนเริ่มงานบูรณะ<br />

๕.๒ ตรวจสอบและจัดทำำแบบแสด้งคัวามเสียหายกิ่อนกิาร<br />

บูรณะ ข้อมูลชูั้นสีด้ั้งเด้ิม พร้อมจัด้เกิ็บตัวอย่างวัสดุ้ทีจำเปั็น<br />

๕.๓ ส่วนบานปัระตู หน้าต่าง และหน้าต่างหลอกิ ให้ดำำเนินกิาร<br />

อนุรักิษ์์ลายรดน้้ำำด้านนอกิด้้วยวิธีสงวนรักิษ์า โด้ยให้ทาคัวามสะอาด้ด้้วย<br />

นาสะอาด้และแอมโมเนียมคัาร์บอเนต เขียนต่อเติมลายเฉพาะที่ลบเลือน<br />

เช็็ดร ักิและปิิด้ทองตามกิรรมวิธีกิารทำลายรดน ้ำ เขียนลวด้ลายเสริมส่วนที<br />

ชูำรุด้ด้้วยหอระด้าน เช็็ดรัักิ และปิิด้ทองลวด้ลายส่วนทีชูำรุด้ให้สมบูรณ์<br />

๕.๔ ด้ำเนินกิารซึ่่อมแซึ่มงานไม้ และงานลงรักิปัิด้ทองของบาน<br />

ปัระตู หน้าต่าง และกิรอบเช็็ด้หน้า (วงกิบ) ทีชูำรุด้<br />

๕.๕ ติด้ตั้งบานปัระตูและหน้าต่างกิลับเข้ายังตำแหน่งเด้ิม<br />

ภายหลังกิารซึ่่อมแซึ่มงานไม้เรียบร้อยแล้ว<br />

๕.๖ ติด้ตังอุปักิรณ์มือจับ กิลอน และกุุญแจตามแบบด้ังเดิิม<br />

๕.๗ ส่วนซึุ่้มปัระตูและหน้าต่าง ให้ตรวจสอบแบบขยายสภาพ<br />

ปััจจุบันของลวด้ลายทุกิซึุ่้ม และวิเคัราะห์ต่อเติมลายงานสลักิไม้และงาน<br />

ตะกิั่วให้คัรบถ้วนสมบูรณ์<br />

๕.๘ ทาคัวามสะอาด้ลวด้ลายด้้วยนาสะอาด้และแอมโมเนียม<br />

คัาร์บอเนต ต่อเติมไม้แกิะสลักิทีชูำรุด้หลุด้หาย เติมลวด้ลายทีทำจากิตะกิัว<br />

ให้คัรบถ้วนตามแบบวิเคัราะห์ ปัระดัับกิระจกิ ทารักิ และปิิด้ทองให้สมบูรณ์<br />

ดัังเดิิม<br />

การอุนุรักษ์์งานศิลปกรรมจะดำำเนินการภ์ายใต้การกำกับดู้แลโด้ยชู่าง<br />

ฝีมือุจากกลุ่มอุนุรักษ์์จิตรกรรมและประติมากรรม สำนักโบราณีคด้ี<br />

๖. งานพื้น<br />

๖.๑ บันท่กิภาพถ่ายโด้ยละเอียด้กิ่อนเริ่มงานบูรณะ<br />

๖.๒ ตรวจสอบและจัดทำำแบบไม้พื้นและโคัรงสร้างไม้พื้น แสด้ง<br />

คัวามเสียหายของไม้เด้ิม<br />

๖.๓ ปัะด้าม ซึ่่อมเปัลียนไม้พืนและไม้รอดส่่วนทีชูำรุด้ โด้ยใช้้ไม้สักิ<br />

ขัด้แต่งผิวพืนไม้ ทานำยากัันปัลวกิและรักิษ์าเนือไม้ทีพิจารณาเลือกิหลัง<br />

จากิกิารศิ่กิษ์าเปร ียบเทียบผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในท้องตลาด้ และวิธีกิารด้ังเดิิม<br />

๗. งานฐานรากิ ตอม่อ และสระนา<br />

๗.๑ จัด้ทำผนังกิันนำโด้ยแบ่งคัร่งของสระแล้วสูบนำพร้อมย้าย<br />

สัตว์นำต่างๆ ออกิ ตักส่่วนทีเป็็นโคัลนเลนออกินำไปัทิงในสถานทีซึ่่งทาง<br />

วัด้กิำหนด้ (ให้ด้ำเนินกิารตรวจสอบข้อมูลทางโบราณคัด้ีและวิศิวกิรรมของ<br />

ฐานรากิอาคัารและผนังขอบสระในขันตอนนี)<br />

๗.๒ เขียนแบบบันท่กิข้อมูลทีได้้สำรวจพบ จัด้ทำเป็็น shop<br />

drawing แบบบูรณะฐานรากิ ตอม่อ และสระนำ<br />

๗.๓ ค้ายันอาคัารไว้ตลอด้กิารดำำเนินกิารจัดทำำฐานรากิ ตอม่อ<br />

และเปัลี่ยนเสาไม้<br />

๗.๔ ให้ทุบตอม่อปููนเดิิมออกิ แล้วทำฐานรากิและตอม่อ คั.ส.ล. ใหม่<br />

โด้ยทำให้เป็็นเสารูปัแปัด้เหลียมตามรูปัเสาไม้ จำนวน ๒๐ ต้น<br />

๗.๕ บูรณะสระนาให้มีคัวามสมบูรณ์ด้ังเด้ิม โด้ยกิ่อเปั็นกำำแพง<br />

ขอบสระกิ่ออิฐฉาบปัูนขาวหมักิทาสีอะคัริลิกิสีขาวปัระเภทระบายคัวามชูื้นได้้<br />

หรือสีซึ่ีเมนต์<br />

๘. งานปัรับปัรุงภูมิทัศิน์โด้ยรอบ<br />

๘.๑ งานเคัลือนย้ายเจดีีย์บรรจุอัฐิองค์์ทีตังอยู่ตรงจุด้ทีเป็็น<br />

ทางข่นของหอพระไตรปิิฎกิให้หลบไปัอยู่ในบริเวณด้้านข้าง หรือบริเวณอืน<br />

ทีทางวัด้ให้กิารเห็นชูอบ<br />

๘.๒ ให้ทำกิารรือถอนกิำแพงรัวทีมีอยู่ในปััจจุบันออกิ เตรียมพืนที<br />

สำหรับกิารปร ับปรุุงพืนลาน และแทนทีด้้วยเสาเตียเพือกัันเขตถนนตาม<br />

รูปัแบบทีกิำหนด้<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

81<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


๘.๓ ให้ทุบพืนผิวลานคัอนกร ีตในปััจจุบันออกิ เปัลียนเป็็นพืนปูู<br />

หินแกิรนิตผิวหยาบ หรือให้เป็็นไปัตามแบบ shop drawing งาน<br />

ภูมิสถาปััตยกิรรม<br />

๙. งานระบบอาคัาร<br />

๙.๑ ระบบไฟื้ฟื้้าแสงสว่างและเต้าเสียบ แกิ้ไขกิารเด้ินสายไฟื้<br />

และตำแหน่งมิเตอร์ไฟื้ฟื้้า ในปััจจุบันที ่ไม่เปั็นระเบียบเรียบร้อย รวมทั ้ง<br />

ออกิแบบเพิมเติมใหม่ในส่วนทีมีคัวามจำเป็็นสำหรับงานภูมิทัศน์์ด้้วย โด้ย<br />

จัด้ทำ shop drawing ขออนุมัติก่่อน<br />

๙.๒ ระบบปั้องกิันอัคัคัีภัย จัด้หาอุปักิรณ์ด้ับเพลิง<br />

ข้อปฏิิบัติในระหวั่างดำเนินการ<br />

๑. เนืองจากิโบราณสถานทีจะด้ำเนินกิารบูรณะเป็็นโบราณสถานที<br />

สำคััญ ดัังนัน ผู้รับจ้างจะต้องจัด้หาช่่างทีมีฝีีมือดีีและมีคัวามชูำนาญตรงกัับ<br />

หน้าทีของงานในแต่ละส่วน แต่ละปัระเภททีจำเป็็นและเพียงพอต่อกิาร<br />

ปัฏิิบัติงาน<br />

๒. กิ่อนกิารดำำเนินงานและในระหว่างกิารปัฏิิบัติงาน ผู้รับจ้างจะต้อง<br />

ถ่ายภาพเกิ็บรายละเอียด้ทุกิขั้นตอนด้้วยภาพสี และภาพถ่ายเหล่านี้จะต้อง<br />

พร้อมนำเสนอผู้คัวบคัุมงาน และ/หรือ ผู้ออกิแบบตรวจสอบได้้ตลอด้เวลา<br />

รวมทั้งจะต้องเกิ็บไว้ปัระกิอบรายงานกิารปัฏิิบัติงาน ซึ่่งจะต้องนำส่งผู้ว่าจ้าง<br />

เมื่องานเสร็จ<br />

๓. สิ่งใด้ทีปัรากิฏิในรูปัแบบต่อรูปัแบบ หรือรายกิารต่อรายกิาร<br />

ขัด้แย้งกััน ให้ย่ด้ถือตามเงือนไขทีกิำหนด้ไว้เฉพาะงานหรือสิงทีดีีกว่่าเป็็น<br />

หลักิในกิารปัฏิิบัติ สิงใด้ทีปัรากิฏิในรูปัแบบขัด้แย้งกัับรายกิารให้ถือตาม<br />

รายกิารเป็็นหลักิในกิารปัฏิิบัติ หากิสงสัยว่าจะมีกิารคัลาด้เคัลือน ผู้รับจ้าง<br />

ต้องเสนอขอรับคัวามเห็นชูอบจากิผู้ว่าจ้าง หรือผู้ออกิแบบรายกิารเปั็น<br />

ผู้วินิจฉัยให้ โด้ยผู้ว่าจ้างหรือผู้ออกิแบบรายกิารจะถือเอาคัวามถูกิต้องใน<br />

วิชูาชู่างและคัวามเหมาะสมเปั็นหลักิในกิารปัฏิิบัติ ทั้งนี้จะต้องย่ด้ถือสภาพ<br />

หลักิฐานเด้ิมให้มากิที่สุด้<br />

๔. สิ่งใด้ที่กำำหนด้ไว้ในรูปัแบบหรือรายกิารแล้ว แต่ในทางปัฏิิบัติงาน<br />

ชู่างไม่อาจระบุไว้ได้้คัรบถ้วน เชู่น รูปัร่าง ลักิษ์ณะขนาด้ปัลีกิย่อยต่างๆ<br />

ตลอด้จนภาพขยายรายละเอียด้ ผู้ออกิแบบรายกิาร จะชูี้แจงอธิบาย<br />

รายละเอียด้ให้ขณะพาดู้สถานที่ หรือขณะทากิารกิ่อสร้าง กิารชูี้แจง<br />

รายละเอียด้ ถือเป็็นส่วนปัระกิอบของรูปัแบบและรายกิารบูรณะ ซึ่่งไม่ถือว่า<br />

เป็็นกิารเพิม–ลด้ หรือเปัลียนแปัลงรายละเอียด้ปัริมาณงานแต่อย่างใด้<br />

๕. กิ่อนที ่ผู้รับจ้างจะปัฏิิบัติงานในส่วนใด้ๆ ผู้รับจ้างจะต้องสอบถาม<br />

ผู้คัวบคัุมงานให้เข้าใจเสียกิ่อน หากิผู้รับจ้างปัฏิิบัติงานไม่ถูกิต้องตามแบบ<br />

และรายกิาร หรือขาด้คัวามมันคังแข็งแรงในส่วนนันๆ ผู้้ควบคุุมงานมี<br />

อำนาจสังแก้้ไข โด้ยให้ทำข่นใหม่หรือถูกต ้อง ซึ่่งผู้รับจ้างจะต้องปัฏิิบัติตาม<br />

และจะไม่คัิด้มูลคั่าเพิ่มแต่อย่างใด้<br />

๖. ในระหว่างปัฏิิบัติงานหากิเกิิด้คัวามเสียหายใด้ๆ ซึ่่งเกิี่ยวกิับ<br />

ทรัพย์สิน ไม่ว่าทรัพย์สินนั้นจะอยู่ในรูปัแบบรายกิารที่ผู้ว่าจ้างจะต้องทำหรือ<br />

ไม่กิ็ตาม ผู้รับจ้างจะต้องใชู้คั่าเสียหายนั้นๆ ให้แกิ่ผู้ว่าจ้าง<br />

๗. ผู้ว่าจ้างหรือผู้คัวบคัุมงานมีสิทธิที่จะห้ามชู่างหรือคันงาน<br />

ผู้รับจ้างคันใด้คันหนึ่งหรือหลายคันไม่ให้มาปัฏิิบัติงานได้้ หากิว่าเปั็นผล<br />

เสียหายแกิ่ผู้ว่าจ้างหรือปัระพฤติไม่ด้ีต่อผู้คัวบคัุมงาน ผู้รับจ้างจะต้องปัฏิิบัติ<br />

ตามเสมอ<br />

๘. ผู้รับจ้างจะต้องแต่งตั ้งหัวหน้างานอยู่ปัระจำ ณ สถานที ปัฏิิบัติ<br />

งานเพื่อเจ้าหน้าที่ผู้รับผิด้ชูอบงานฝ่่ายผู้ว่าจ้างจะได้้สั่งงานได้้สะด้วกิ และ<br />

ให้ถือว่าหัวหน้างานได้้รับรู้ในเรื่องที่สั่งนั้นแทนผู้รับจ้าง<br />

๙. กิารจัดทำำโคัรงสร้างนั่งร้าน ผู้รับจ้างต้องทำให้มั่นคังแข็งแรง<br />

และสามารถให้เจ้าหน้าที ่ของฝ่่ายผู้ว่าจ้างขึ้นตรวจงานหรือปัฏิิบัติงานได้้<br />

สะด้วกิและปัลอด้ภัย<br />

๑๐. เมือผู้รับจ้างจะส่งมอบงานงวดส ุดท้้ายจะต้องทำคัวามสะอาด้<br />

บริเวณทีปัฏิิบัติงานและใกิล้เคัียงให้สะอาด้เรียบร้อยกิ่อนกิารส่งมอบงาน<br />

๑๑. ผู้รับจ้างจะต้องจัดทำำรายงานกิารปัฏิิบัติงาน ซึ่่งมีรายละเอียด้<br />

กิารดำำเนินงานคัรบถ้วน ตั ้งแต่เริ ่มตรวจสอบสถานที่จนส่งมอบงานของแต่ละ<br />

แหล่งที่ได้้ดำำเนินกิาร โด้ยจะต้องผ่านผู้คัวบคัุมงานตรวจสอบคัวามถูกิต้อง<br />

และนำเสนอผู้ว่าจ้างตรวจสอบ กิ่อนส่งมอบงานงวด้สุด้ท้าย ส่งฉบับร่างที่<br />

แกิ้ไขแล้วพร้อมกิารส่งมอบงานงวด้สุด้ท้าย และจะต้องนำส่งรายงานเปั็น<br />

รูปั<strong>เล่มที่</strong>สมบูรณ์ พร้อมภาพถ่ายปัระกิอบ ๑๐ ชูุด้ และสำเนาบันท่กิใน<br />

แผ่นซึ่ีด้ี ๑๐ ชูุด้ ภายใน ๑๐ วัน หลังจากิส่งมอบงานงวด้สุด้ท้าย<br />

82<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


่<br />

จัดทำแบบอนุรักษ์์อาคารแลัะภาพจาลัอง ๓ มิติ<br />

เมื่อกิารเกิ็บข้อมูลทางสถาปััตยกิรรมและศิิลปักิรรมเสร็จสิ้น<br />

ลงแล้ว จึงไปัสู่กิารนำแบบบันท่กิสภาพที่อาสาสมัคัรได้้จัดทำำไว้<br />

นำไปัจัดทำำแบบอนุรักิษ์์อันเปั็นหนึ่งในกิระบวนกิารกิารอนุรักิษ์์ที<br />

สาคััญขั้นตอนหนึ่งของสถาปันิกิ เพื ่อกิารบันท่กิสภาพและเปั็น<br />

หลักิฐานของกิารบูรณะอย่างเปั็นระบบ รวมทั ้งกิารนำเสนอแบบ<br />

บูรณะเพื่อขออนุญาตดำำเนินกิารจากิกิรมศิิลปัากิร เนื ่องจากิเปั็น<br />

โบราณสถานของชูาติ นอกิจากินี ้ยังจัดทำำภาพจำลองสามมิติ เพื่อ<br />

เปัรียบเทียบระหว่างตัวอาคัารในสภาพกิ่อนกิารบูรณะและสภาพ<br />

เมื่อดำำเนินกิารบูรณะเสร็จสมบูรณ์แล้วเพื่อให้เข้าง่าย และทากิาร<br />

ปัระชูาสัมพันธ์เพื ่อเชูิญชูวนให้สาธารณชูนจากิทุกิวิชูาชูีพเข้ามา<br />

มีส่วนร่วมในโคัรงกิารนีด้้วยกิารทำบุญบริจาคัเงินเข้ามาสมทบ<br />

ในกิารทำนุบำรุงพระพุทธศิาสนา ร่วมอนุรักิษ์์และสืบสานงาน<br />

สถาปััตยกิรรมไทย<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

83<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


การทำแบบอนุรักษ์์<br />

แบบบูรณะหอไตรวััดอัปสรสวัรรค์<br />

84<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

85<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


86<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

87<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


88<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

89<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


90<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

91<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


92<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


การขุดตรวัจทางโบราณคดี<br />

งานขุดตรวัจทางโบราณคดี<br />

เนืองด้้วยโคัรงกิารอนุรักิษ์์หอพระไตรปิิฎกวััดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหาร<br />

กร ุงเทพมหานคัร ได้้มีขันตอนก่่อนกิารด้ำเนินงานบูรณะคืือกิำหนด้ให้มีกิาร<br />

ขุด้ตรวจทางโบราณคัด้ีเพือศิ่กิษ์ารูปัแบบและเทคนิิคว ิธีกิารก่่อสร้างส่วน<br />

ฐานรากิของอาคัารหอไตร ศิ่กิษ์าคัวามเป็็นมาโบราณวัตถุทีพบจากิกิาร<br />

ด้ำเนินงาน รวมถ่งกิารรวบรวมเอกิสารทีเกิียวข้องกัับกิารใช้้พืนทีบริเวณ<br />

วัด้เพือปัระกิอบกิารจัด้ทำแบบบูรณะเพือให้หอไตรกล ับมามีสภาพมั นคังและ<br />

ยังคังเอกล ักิษ์ณ์ด้ังเดิิมของตัวอาคัารไว้ จ่งเป็็นทีมาของกิารด้ำเนินงาน<br />

ขุด้คั้นฐานรากิเสาอาคัารหอพระไตรปิิฎกิ ซึ่่งมีระยะเวลากิารด้ำเนินตังแต่<br />

วันที ๖ มิถุนายน–๓๐ มิถุนายน พ.ศิ. ๒๕๕๖ จุด้ปัระสงค์์หลักิ<br />

เพือศิ่กิษ์ารูปัแบบ โคัรงสร้าง (ส่วนฐานรากิ) และองค์์ปัระกิอบทางด้้าน<br />

สถาปััตยกิรรมของโบราณสถานแห่งนี้ และนำข้อมูลและหลักิฐานทาง<br />

โบราณคัด้ีทีคั้นพบไปัวิเคัราะห์และตีคัวามทางโบราณคัด้ี อันจะนำไปัสู่กิาร<br />

กำำหนด้แนวทางในกิารบูรณะและอนุรักิษ์์โบราณสถานแห่งนี้ต่อไปั<br />

วััตถุประสงค์ในการขุดตรวัจทางโบราณคดี มีดังต่อไปนี<br />

เพือศิ่กิษ์าเกิียวกัับกิารเตรียมฐานรากิและวิธีกิารก่่อสร้างหอ<br />

พระไตรปิิฎกว ัดอััปัสรสวรรค์์วรวิหาร<br />

เพื่อศิ่กิษ์าเกิี่ยวกิับลาด้ับกิารทับถมของชูั้นด้ินทางโบราณคัด้ีภายใน<br />

สระนา<br />

เพื่อศิ่กิษ์าเกิี่ยวกิับกิารกิ่อสร้างกำำแพงกิันด้ินภายในสระนา ทั้งกิารเต<br />

รียมฐานรากิ วิธีกิารกิ่อสร้าง<br />

เพื่อศิ่กิษ์าเกิี่ยวกิับกิารบูรณปัฏิิสังขรณ์หอพระไตรปัิฎกิ<br />

การวัางผังหลุุมขุดตรวัจทางโบราณคดี<br />

กิารวางผังใช้้ระบบแบบตารางสีเหลียมจัตุรัส (grid system) ตาม<br />

แนวแกินทิศิเหนือใต้ ขนาด้กิริด้ละ ๒ ตารางเมตร คัรอบคัลุมพื ้นที่ในสระนา<br />

หอไตร ขนาด้พื้นทีปัระมาณ ๑๕๐ ตารางเมตร กิารเรียกิชูื่อตารางกิริด้<br />

ต่างๆ เรียกชื่่อตามทิศิและระยะทาง โด้ยเริมต้นเรียกชื่่อจากจ ุดต ัด้ของแกิน<br />

เหนือ-ใต้ บริเวณกิลางสระนำหอไตร ขนาด้หลุมขุด้ตรวจกว้้าง ๑ x ๑ เมตร<br />

หรือ ๑ x ๒ เมตร คัวามลึึกไม่เกิิน ๑ เมตรจากิกิ้นสระ หรือจนกว่่าจะไม่พบ<br />

หลักิฐานทางโบราณคัด้ี กิำหนดจ ุดข ุด้ตรวจทีฐานกิำแพง ๑ จุด้ และจุด้<br />

ขุด้ตรวจทีฐานเสาหอไตร ๔ จุด้ มีจำนวนหลุมขุด้ตรวจทังสิน ๗ หลุม<br />

ส่วนชูือหลุมขุด้ตรวจนันเนืองจากมีีกิารขุด้ตรวจตามแนวของฐานรากิ<br />

เสาหอไตรและฐานกิำแพงอิฐ ทำให้หลุมขุด้ตรวจมีหลายหลุมตามแนวของ<br />

หลักิฐาน อาจก่่อให้เกิิด้กิารสับสนในกิารเก็็บโบราณวัตถุและกิารบันท่กิข้อมูล<br />

ใหญ่กิำหนดชื่่อหลุมขุด้ตรวจเป็็น “TP.” (test pit) ทำกิารขุด้ตรวจทังสิน<br />

๗ หลุมขุด้ตรวจ ดัังนี<br />

- หลุมขุด้ตรวจ TP. 1, 2 ขนาด้ ๑ x ๓ เมตร ขุด้ตรวจฐานเสา<br />

หอไตรตำแหน่งที 4C และฐานกิำแพงด้้านทิศิใต้<br />

- หลุมขุด้ตรวจ TP. 3, 4 ขนาด้ ๒ x ๕ เมตร ขุด้ตรวจเสาหอไตร<br />

ตำแหน่งที 3A และ 3B และเสาบันได้ไม้หอไตร<br />

- หลุมขุด้ตรวจ TP. 5, 6 ขนาด้ ๒ x ๒ เมตร มี ขุด้ตรวจเสา<br />

หอไตรตำแหน่งที 3C<br />

- หลุมขุด้ตรวจ TP. 7 ขนาด้ ๑ x ๑ เมตร ขุด้ตรวจเสาหอไตร<br />

ตำแหน่งที 4C<br />

นอกิจากินีในกิารวางแผนผังหลุมขุด้ตรวจจะใช้้กิารกิำหนด้เส้น<br />

สมมุติข่นตามขนาด้ของหลุมขุด้ตรวจแต่ละหลุม เนืองจากิพืนทีขุด้ตรวจตังอยู่<br />

ในสระนำลักิษ์ณะเป็็นดิินเลนทำให้ไม่สามารถปัักิหมุด้เหล็กิและตร่งเส้นเชืือกิได้้<br />

ดัังนันนักิโบราณคัด้ีจ่งต้องจด้จำขอบเขตของหลุมขุด้ตรวจและจดบัันทึึก<br />

หมายเหตุเอาไว้เพือป้้องกัันกิารสับสนในระหว่างกิารด้ำเนินงานขุด้ตรวจ<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

93<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


ผังหลุมขุด้ตรวจหอไตรวัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหาร<br />

94<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


วิิธีีการขุดตรวัจทางโบราณคดี<br />

ในด้ำเนินกิารขุด้ตรวจทางโบราณคัด้ีคัรังนีเป็็นกิารขุด้ตรวจในเบืองต้น<br />

เพือค้้นหาและเก็็บข้อมูลหลักิฐานทางโบราณคัด้ี โด้ยเฉพาะระบบฐานรากิ<br />

เสาหอไตร ฐานกิำแพงสระนำ เศิษ์ชูินส่วนองค์์ปัระกิอบสถาปััตยกิรรม<br />

ชูันทับถมทางโบราณคัด้ี และหลักิฐานทางโบราณคัด้ีปัระเภทอืนๆ เช่่น<br />

เศิษ์ภาชูนะดิินเผาหรือนิเวศวััตถุ เป็็นต้น กิารขุด้ตรวจในลักิษ์ณะดัังกล่่าวจะมี<br />

ระยะเวลากิารด้ำเนินงานขุด้ตรวจทีสันและจำกััด้ นักิโบราณคัด้ีจ่งต้องพิจารณา<br />

เลือกิพืนทีทีจะทำกิารขุด้ตรวจเพือให้สอด้คัล้องกัับระยะเวลาด้ำเนินงาน<br />

งบปัระมาณ แรงงาน และกิารได้้มาซึ่่งหลักิฐานทางโบราณคัด้ีทีเพียงพอต่อ<br />

กิารใช้้เป็็นข้อมูลปัระกิอบกิารกิำหนด้แนวทางกิารอนุรักิษ์์หอไตรแห่งนีต่อไปั<br />

วิธีกิารขุด้ตรวจทางโบราณคัด้ีมีกิารผสมผสานหลายรูปัแบบกล่่าวคืือ<br />

ขุด้ตรวจเป็็นระดัับสมมุติ (arbitrary level) คัวามลึึกระดัับละ ๒๐<br />

เซึ่นติเมตร ในหลุมขุด้ตรวจ TP. 1, 2<br />

ขุด้ลอกิตามชูันดิินหรือชูันหลักิฐาน (natural level) เพือตาม<br />

หลักิฐานทางโบราณคัด้ีทีพบในแนวนอน ในหลุมขุด้ตรวจ TP. 1, 2 (บางส่วน)<br />

TP. 3, 4 TP. 5, 6 และ TP. 7<br />

ขุด้ในแนวด้ิ งเมือต้องกิารตรวจสอบหลักิฐานและชูันดิิน (test pit)<br />

ในระดัับลึึก ซึ่่งจะใช้้วิธีนีในบางจุด้ของหลุมขุด้ตรวจ TP. 1, 2 (กริิด้ S3W1<br />

บริเวณกิำแพงอิฐขอบสระนำหอไตร) และ TP. 3, 4<br />

ในกิารกิำหนด้ระดัับชูันสมมุติและกิารวัด้ระดัับคัวามลึึกในทุกิหลุม<br />

ขุด้ตรวจ ใช้้กิารอ้างอิงจากิระดัับ datum line โด้ยถ่ายระดัับมาจากจ ุด้<br />

อ้างอิงหลักิ (f ix point) ส่วนจุดอ้้างอิงสมมุติ ±๐.๐๐ cm.dt. (datum<br />

point) เป็็นจุด้เดีียวกัันกัับจุดอ ้างอิงหลักิ ซึ่่งอยู่บริเวณมุมกิำแพงปููนซึ่ีเมนต์<br />

ขอบสระนำหอไตรด้้านทิศิตะวันตกิเฉียงใต้ กร ิด้ S3W4 สูงจากิพืนลานปููน<br />

ปัระมาณ ๓๐ เซึ่นติเมตร ดัังรูปั<br />

นอกิจากินีเพือให้ง่ายต่อกิารวัด้ระดัับในทุกิหลุมขุด้ตรวจ ยังได้้ถ่าย<br />

ระดัับจุดอ้้างอิงสมมุติลงไปย ังกิำแพงอิฐอีกิ ๒ จุด้คัือ กิำแพงอิฐด้้านทิศิใต้<br />

ทีระดัับคัวามลึึก ๒๐๙ cm.dt. และด้้านบนสุด้ของกิำแพงอิฐด้้าน<br />

ทิศิตะวันตกิ ทีระดัับคัวามลึึก ๗๕ cm.dt.<br />

๓๐ cm<br />

จุดอ ้างอิงหลักิ (f ix point)<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

95<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


การเก็บหลัักฐานแลัะการบันทึกข้อมูลั<br />

หลักิฐานทางโบราณคัด้ีทีได้้จากิกิารขุด้ตรวจ ได้้จัด้เก็็บตามพืนทีตาราง<br />

สีเหลียม (grid system) ทีได้้กิำหนด้ไว้ข้างต้น จัด้ทำทะเบียนโบราณวัตถุ<br />

ในแต่ละพืนทีในระดัับคัวามลึึก (level) ทีแตกต่่างกััน เพือทีจะได้้จำแนกิ<br />

(classified) โบราณวัตถุแต่ละปัระเภท โด้ยมีกิารจัด้ทำบัญชีีรายกิารโบราณ<br />

วัตถุ (bag list) และ โบราณวัตถุสำคััญ (small f ind list) โบราณวัตถุจะ<br />

จัด้เก็็บในบรรจุภัณฑ์ทีเหมาะสม<br />

สำหรับกิารบันท่กิข้อมูลทีสำคััญที สุด้คัือกิารบันท่กิข้อมูลปัระจำวัน<br />

ในภาคัสนาม (diary report) เป็็นกิารเขียนรายงานทีบันทึึกเกิียวกัับ<br />

หลักิฐานทีตรวจพบในแต่ละวัน นอกิจากินียังมีกิารเก็็บข้อมูลโด้ยกิารบันทึึก<br />

ภาพถ่ายจากิกิล้องดิิจิทัล กิารวาด้แผนผังหลุมขุด้และแผนผังชูันดิิน เป็็นต้น<br />

หลังจากิกิารด้ำเนินกิารขุด้ตรวจเรียบร้อยแล้วจะมีกิารทำรังวัด้และ<br />

เขียนแบบ (measuring & shop drawing) เป็็นกิารจัด้ทำแผนผังโบราณสถาน<br />

หลังกิารขุด้ตรวจ ปัระกิอบด้้านผังด้้านราบ รูปัด้้านทังสีด้้าน ตามสภาพและ<br />

สัดส่่วนจริง เพือบันทึึกหลักิฐานทีพบจากิกิารขุด้ตรวจ รวมไปถ ึงกิารทำ<br />

ค่่าระดัับคัวามลึึกของสิ งปล ูกิสร้างทีขุด้ตรวจเมือเทียบกัับระดัับคัวามลึึก<br />

ในปััจจุบัน<br />

กิารจัด้เกิ็บหลักิฐานทางโบราณคัด้ีเพื่อนำไปัจัดจำำแนกิปัระเภทและจัด้ระเบียนต่อไปั<br />

96<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หลัักฐานที่พบจากการขุด<br />

การก่อสร้างส่วันรากฐาน<br />

จากิกิารด้ำเนินงานขุด้ตรวจทางโบราณคัด้ี ทำให้พบว่าลักิษ์ณะ<br />

กิารก่่อสร้างส่วนฐานรากิของหอพระไตรปิิฎกว ัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหาร เป็็น<br />

อาคัารไม้ตังอยู่ในสระนำ โด้ยตัวอาคัารหอไตรตั งอยู่บนเสาไม้ ๒๐ ต้น<br />

ซึ่่งมีหน้าทีรับนำหนักิ ระบบฐานเสาหอพระไตรปิิฎกิแต่ละต้นเป็็นแบบ<br />

ฐานรากิเด้ียว (pad foundation) มีลักิษ์ณะกิารก่่อสร้างคืือ มีกิารเตรียม<br />

ดิินก้้นบ่ออัด้ให้แน่นเพือรองรับส่วนโคันเสาให้วางตัวได้้อย่างมันคัง เสาทัง<br />

๒๐ ต้น ทำหน้าทีรองรับตัวอาคัารหอไตร มีกิารวางไม้งัวเป็็นลำดัับล่างสุด้<br />

(งัวคัู่ล่าง) โด้ยวางตามแนวแกินทิศิเหนือ-ใต้ มีหน้าทีหนีบเสาอาคัารแต่ละ<br />

เสาไว้เป็็นชูันแรกิเป็็นคู่่ๆ ถัด้ข่นเป็็นเป็็นงัวคู่่บน วางตัวตามแนวแกิน<br />

ทิศิตะวันออกิ-ทิศิตะวันตกิ ทำหน้าทีหนีบเสาไว้อีกชั้้นหน่ง ถัด้จากิชูุดง ัว<br />

เป็็นตัวกิงพัด้ ซึ่่งเจาะทะลุตัวเสาแปัด้เหลียมวางตัวตามแนวแกินทิศิเหนือ-ใต้<br />

ปัระกิบตัวเสาเอาไว้โด้ยมีนอตยึึดระหว่างกิงพัด้และงัว พบไม้หมอนวางรอง<br />

โด้ยทีปัลายของไม้หมอนพบว่ามีกิารตอกิลิมลงไปัทีงัวคู่บนจนถ่งงัวคัู่ล่าง<br />

เพือกัันกิารเคัลือนตัว<br />

เนืองจากิเสามีกิารบูรณะเสริมคัวามมันคังส่วนฐานรากิ โด้ยกิารเท<br />

ตอม่อสีเหลียมจัตุรัสบริเวณเหนือส่วนกิงพัด้เล็กน้้อย เหนือตอม่อข่นไปั<br />

มีกิารเทปููนหุ้มฐานเสาไม้เป็็นทรงกิระบอกิ โด้ยกิารทำตอม่อและหุ้มเสาอาจ<br />

จะทำให้ชู่วงกิารบูรณะราว พ.ศิ. ๒๕๑๙<br />

เสาไม้<br />

ไม้หมอนรองกิงพัด้<br />

งัวคัู่บน<br />

กิงพัด้<br />

ลิ่มกิันไม้หมอนเคัลือนตัว<br />

งัวคัู่ล่าง<br />

ภาพสามมิติแสด้งฐานรากิทีพบจากิกิารขุด้ตรวจทางโบราณคัด้ี<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

97<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


98<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

99<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


100<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

101<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


102<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

103<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


104<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


ภาพแสด้งลักิษ์ณะกิารก่่อสร้างส่วนฐานรากิหอไตรวัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหารทีพบจากิกิารขุด้ตรวจทางโบราณคัด้ี<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

105<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


ภาพแสด้งลักิษ์ณะกิารก่่อสร้างส่วนฐานรากิหอไตรวัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหารทีพบจากิกิารขุด้ตรวจทางโบราณคัด้ี<br />

106<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

107<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


การก่อสร้างกำแพงสระนา<br />

หอพระไตรปิิฎกินั นตังอยู่ในสระนำที ขอบสระก่่อสร้างด้้วยอิฐถือปููน<br />

ผนังสระนำมีกิารเรียงอิฐแบบ f lemish bound และ English bound มี<br />

ระบบฐานรากิแบบขันบันได้ โด้ยทีชูันล่างสุด้จะมีคัวามกว้้างมากิทีสุด้แล้ว<br />

เรียงตัวลด้หลันกัันข่นไปั มีลักิษ์ณะคล้้ายขันบันได้ อันเป็็นระบบฐานรากิ<br />

แบบโบราณทีใช้้ตัวผนังรองรับและถ่ายเทนำหนักิของสิ งก่่อสร้างไปัทีพืนดิิน<br />

โด้ยตรง ด้้านในสระมีกิารปัักิไม้ปีีกิเพือป้้องกัันผนังอิฐเคัลือนตัว โด้ยใช้้ไม้ปีีกิ<br />

ขนาด้คัวามกว้้างปัระมาณ ๑๘-๒๐ เซึ่นติเมตร และบริเวณผนังอิฐ<br />

ด้้านล่าง (อิฐก้้อนล่างสุด้) มีท่อนไม้วางขวางอยู่ด้้านนอกิไม้ปีีกอ ีกชั้้นหน่ง<br />

ภาพแสด้งลักิษ์ณะกิารก่่อสร้างส่วนฐานรากิสระนำล้อมรอบอาคัารหอไตร<br />

วัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหารทีพบจากิกิารขุด้ตรวจทางโบราณคัด้ี<br />

108<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


โบราณวััตถุ<br />

โบราณวัตถุทีพบจากิกิารขุด้ตรวจทางโบราณคัด้ี ส่วนมากิเป็็นชูินส่วน<br />

วัตถุในปััจจุบัน เช่่น ชูินส่วนถ้วย ชูาม ของเล่นพลาสติกิ ตะปูู สิงของเคัรือง<br />

ใช้้ต่างๆ ทังทีผลิตจากว ัสดุุปัระเภทดิินเผา พลาสติกิ สังกิะสี เหล็กิ เป็็นต้น<br />

ซึ่่งพบร่วมกัับโบราณวัตถุ ได้้แก่่ กิระเบืองดิินเผา ทังแบบเคลืือบและไม่เคลืือบ<br />

ชูินส่วนแกินหอยมุกิ เศิษ์ภาชูนะดิินเผาปัระเภทเนือดิินซึ่่งอาจจะผลิตข่น<br />

อย่างง่ายๆ ในท้องถิน และเศิษ์ภาชูนะดิินเผาเนืองแกร่่ง โบราณวัตถุทีพบ<br />

อาจจะมีบางชูินทีมีคัวามสัมพันธ์กัับตัวหอไตร ได้้แก่่ ชูินส่วนเสาไม้ ชูินส่วน<br />

กิระเบืองมุงหลังคัา ซึ่่งอาจเป็็นส่วนทีชูำรุดห ักพ ังลงมาในสระนำ ในส่วน<br />

ชูินส่วนเสาไม้อาจจะเป็็นส่วนทีเสียหายและทิงลงในสระนำเมือคัราว<br />

ซึ่่อมแซึ่มหอไตรสามารถจัด้ปัระเภทออกิเป็็นกลุ่มๆ ได้้ ๓ ปัระเภทได้้แก่่<br />

๑. โบราณวัตถุปัระเภทเศิษ์ภาชูนะดิินเผาแบ่งได้้เป็็นเศิษ์ภาชูนะดิิน<br />

เผาเนือดิิน (earthenware) เศิษ์ภาชูนะดิินเผาเนือแกร ่ง (stoneware)<br />

๒. โบราณวัตถุปัระเภทส่วนปัระกิอบสถาปััตยกิรรม<br />

๓. โบราณวัตถุปัระเภทอื่นๆ<br />

โบราณวัตถุทีค้้นพบภายในบริเวณพืนทีกิารขุด้ตรวจ<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

109<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


กิระเบืองดิินเผาแบบเคล ือบและแบบไม่เคล ือบทีพบจากิกิารขุด้ตรวจ<br />

110<br />

<strong>หอไตรวัดอัปสรสวรรค์</strong><br />

กิารสานต่องานอนุรักิษ์์สถาปััตยกิรรมไทย


เริมต้นการบูรณะอาคาร<br />

หลังจากิทีกิรรมาธิกิารอนุรักิษ์์ฯ ด้้านสถาปััตยกิรรมไทยปัระเพณี<br />

รับมอบหมายจากิทางวัด้อัปัสรสวรรคั์ให้ดำำเนินกิารสรรหาผู้รับจ้างเพื ่อมา<br />

ด้ำเนินงานบูรณะตามแบบและแผนกิารด้ำเนินกิารทีกิำหนด้ ได้้แก่่ ห้างหุ้นส่วน<br />

จำกััด้ ฐานอนุรักิษ์์ กิารด้ำเนินกิารเริมต้นเมือ วันที ๒๐ เมษ์ายน พ.ศิ. ๒๕๕๕<br />

ด้้วยกิารติด้ตังนังร้านและกิันรัวสังกิะสีรอบอาคัารเพือกิำหนด้ขอบเขตพืนที<br />

ทำงานและจัด้ทำหลังคัาคล ุมมุงด้้วยสังกิะสี พร้อมทังจัด้ทำแบบแสด้ง<br />

คัวามเสียหายก่่อนบูรณะ และ shop drawing แบบบูรณะ<br />

การสร้างโรงเรือนสำหรับจัดเก็บชิ้นส่วัน<br />

จากการรื้อถอดแลัะสำหรับผึ่งไม้<br />

ตามกิระบวนกิารขั ้นตอนกิารอนุรักิษ์์โบราณสถานจะต้องทากิารรื ้อ<br />

ชูินส่วนองค์์ปัระกิอบตัวอาคัารออกิเป็็นบางส่วนก่่อนเพือกิารบูรณะ<br />

ซึ่่อมแซึ่มโคัรงสร้างอาคัารให้มีคัวามมั นคังแข็งแรงซึ่่งเมือได้้กิำหนด้รหัสและ<br />

รือถอด้ออกิมาแล้วต้องนำมาจัด้เก็็บไว้ในโรงเรือนเพือหลีกิเลียงผลกิระทบ<br />

จากิฝ่นและแสงแด้ด้ โด้ยจัด้กิารเก็็บไว้เป็็นหมวด้หมู่เพือรอกิารซึ่่อมแซึ่มให้<br />

สมบูรณ์ และบางชูินส่วนจัด้เก็็บไว้เป็็นตัวอย่างหลักิฐานในกิารจัด้ทำข่นใหม่<br />

จากิกิารสำรวจตรวจสอบสภาพคัวามเสียหายของไม้และกิารพิจารณา<br />

เลือกิปัระเภทของไม้ทีจะนำมาใช้้ในกิารบูรณะซึ่่อมแซึ่มแล้วจ่งทำกิารสั งไม้<br />

ตามขนาด้และจำนวนทีได้้ตรวจสอบจากิสภาพจริงซึ่่งเป็็นไม้ ทีผ่านกิารอบแห้ง<br />

จากิโรงเลือยมาแล้ว ระยะกิารอบแห้งปัระมาณ ๑ เดืือน จากินันได้้นำไม้<br />

ทังหมด้มาทำกิารผ่งแห้งโด้ยวิธีธรรมชูาติภายในโรงเรือนอีกิระยะหน่ง ไม่น้อย<br />

กว ่า ๓ เดืือน<br />

โรงเรือนหลังคัาทรงจั่ว สำหรับผึ่งไม้และจัด้เกิ็บชูิ้นส่วนไม้จากิกิารรื้อถอน<br />

จัด้ตั้งนั่งร้านเหล็กิเพื่อรองรับชูิ้นส่วนไม้จากิกิารรื้อถอด้<br />

และไม้ใหม่ที่จะนำมาผึ่งตามวิธีธรรมชูาติสำหรับกิารซึ่่อมเปัลี่ยน<br />

จัด้ซึ่ื้อไม้สักิอบแห้งจากิโรงเลื่อย และจัด้เกิ็บในโรงเรือนโด้ยใชู้ไม้หมอนหนุนรองเปั็นชูั้นๆ<br />

และคัอยย่ด้ไม้เพื่อปั้องกิันกิารโกิ่งตัว<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

111<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


เนืองจากิหอพระไตรปิิฎกวััดอ ัปัสรสวรรค์์ ตังอยู่่กลางสระนำทีมี<br />

สิงมีชีีวิตอาศััยอยู่จำนวนมากิ เช่่น ปัลาสวาย เต่า เป็็นต้น ในขันตอนงาน<br />

เตรียมกิารจ่งต้องทำกิารย้ายสัตว์นำออกิเพือสูบนำและติด้ตั งนั งร้านเพือ<br />

คัวามสะด้วกิในกิารทำงาน โด้ยนำสัตว์นาทั้งหมด้ไปัไว้ในสระนาสำรองที่<br />

ขุด้เตรียมไว้ ในขณะที่ย้ายปัลาขนาด้ใหญ่ออกิจากิสระต้องใชู้วิธีอุ้มปัลา<br />

ใส่แขนและปัล่อยลงสู่สระนาสำรองอย่างระมัด้ระวังเพื ่อปั้องกิันกิารบาด้เจ็บ<br />

ของปัลาจากิแรงกิระแทกิและเสียด้สีให้น้อยที่สุด้<br />

หลังจากิย้ายสัตว์นาเรียบร้อยแล้ว จึงเริ่มติด้ตั้งนั่งร้านและหลังคัาคัลุม<br />

จัด้ทำรัวสังกิะสีล้อมรอบพืนทีทำงานและจัด้ทำป้้ายโคัรงกิารเพือ<br />

ปัระชูาสัมพันธ์โคัรงกิาร และเริมสูบนำออกิจากิสระเพือเข้าสู่่กระบวนกิาร<br />

ขันตอนกิารอนุรักิษ์์หอพระไตรปิิฎกิตามหลักว ิชูากิาร<br />

ดำำเนินกิารย้ายสัตว์นาทั้งหมด้ไปัไว้ในสระนาสำรองที่เตรียมไว้<br />

จัด้ตั้งนั่งร้านและหลังคัาคัลุม ล้อมรัวสังกิะสีและจัด้ทำป้้ายปัระชูาสัมพันธ์โคัรงกิาร<br />

112<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


งานเคลัื่อนย้ายตู้พระธิรรม<br />

ภายในหอพระไตรปัิฎกิ จัด้เกิ็บตู้พระธรรมและสิ ่งของอื่นๆ รวมทั้งหมด้<br />

๒๒ ชูุด้ เปั็นตู้พระธรรม จำนวน ๙ หลัง และสิ ่งของอื่นๆ เชู่น บาน<br />

หน้าต่าง กิล่องเกิ็บคััมภีร์ เปั็นต้น อีกิ ๑๓ ชูุด้ เมื่อต้องทากิารซึ่่อมแซึ่ม<br />

หอพระไตรปัิฎกิ จึงทากิารเคัลื่อนย้ายสิ ่งของเหล่านี ้ออกิ โด้ยทากิารกำำหนด้<br />

รหัส และเขียนแบบระบุตำแหน่งเด้ิมไว้ จากินั้นจึงนำมาเกิ็บข้อมูลโด้ยกิาร<br />

ถ่ายรูปัทีละชูิ้น และขนย้ายไปัไว้ในกิุฏิิพระคัรูพิศิาลพัฒนคัุณ ฝ่ั่งตรงข้ามกิับ<br />

หอระฆััง<br />

สภาพตู้พระธรรมส่วนใหญ่อยู่ในสภาพดีี ภายในจัด้เก็็บคััมภีร์ใบลาน<br />

ซึ่่งบางส่วนเริมถูกิแมลงและปัลวกิกิัด้กิินแล้ว ลายตู้พระธรรมเป็็นลายรดน ้ำ<br />

สมัยรัตนโกส ินทร์ มีฝุ่่นเกิาะและเลือนลางเล็กน้้อย ส่วนกล่่องเก็็บคััมภีร์ทำ<br />

จากิไม้ คััมภีร์ภายในส่วนใหญ่ถูกิปัลวกิกิัด้กิินจนหมด้<br />

ภายในหอพระไตรปัิฎกิกิ่อนกิารขนย้ายตู่พระธรรม<br />

ดำำเนินกิารขนย้ายตู้พระธรรมจากิหอพระไตรปัิฎกิสู่กิุฏิิพระคัรูพิศิาลพัฒนคัุณ<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

113<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


114<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

115<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


งานฐานรากอาคาร<br />

งานโบราณคดีเพือตรวัจสอบระบบโครงสร้างฐานราก<br />

เมือได้้ทำกิารเคัลือนย้ายสัตว์นำและสูบนำในสระออกิพร้อมดููด้<br />

โคัลนตมก้้นสระออกิหมด้แล้ว จ่งเริมด้ำเนินกิารขุด้คั้นทางโบราณคัด้ีเพือ<br />

ตรวจสอบรูปัแบบโคัรงสร้างและสภาพของฐานรากิเดิิม โด้ยกิำหนด้หลุมขุด้<br />

ตรวจบริเวณทีเชูือมต่อระหว่างเสารอบนอกิกิับเสารอบใน จำนวน ๒ หลุม<br />

ผลจากิกิารขุด้ตรวจทางโบราณคัด้ีได้้ตรวจพบระบบฐานรากิเดิิม<br />

ปัระกิอบด้้วยเสาไม้จะฝัังล่กิผ่านระดัับดิินก้้นบ่อลงไปัและมีไม้กิงพัด้ขนาบ<br />

ข้างเสา ใต้ไม้กิงพัด้รองรับด้้วยไม้งัวทีทำด้้วยไม้ซึุ่งขนาด้ใหญ่ มีขนาด้ตังแต่<br />

๘-๑๐ นิว วางคู่่ขนานขนาบข้างเสาโด้ยวางซึ่้อนสลับแนวกััน ๒ ชูัน<br />

กล ่าวคืือ ชูันแรกิวางตามแนวขวางของตัวอาคัาร ส่วนชูันทีสองจะวางตาม<br />

แนวยาวของตัวอาคัารและมีเสาบางต้นได้้จัด้วางไม้งัวพาด้ยาวไปถ ึงเสาอีกิ<br />

ต้นหน่ง และจากิกิารตรวจสอบค่่าระดัับโด้ยรอบอาคัารพบว่า ตัวอาคัารมีค่่า<br />

กิารทรุดตััวทีต่างกัันเพียงเล็กน้้อย จ่งสรุปัได้้ว่า ระบบโคัรงสร้างฐานรากิเดิิม<br />

มีสภาพมันคังแข็งแรงสมบูรณ์ดีี สำหรับฐานรากต้้นอืนทีไม่ได้้ขุด้ตรวจสอบ<br />

ใช้้วิธีสุ่มตรวจโด้ยใช้้แท่งเหล็กิหยังหาแนวไปัตามคัวามยาวของไม้ซึุ่ง<br />

แบบแสด้งตำแหน่งขุด้ตรวจสอบฐานรากิ<br />

116<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


ติด้ตังเหล็กิตะแกิรงฐานรากิ<br />

กิารติด้ตังแล้วเสร็จ<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

117<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


งานซุ้่อมแซุ้มเสาอาคาร<br />

หอพระไตรปิิฎกว ัดอััปัสรสวรรค์์เป็็นอาคัารไม้กิลางนำซึ่่งมีเสาอาคัาร<br />

ทังสิน ๒ ชุุด้ ได้้แก่่ เสารอบ ๑๔ ต้น เสาร่วมใน ๖ ต้น รวมเป็็น ๒๐ ต้น<br />

โด้ยมีลักิษ์ณะเป็็นเสาแปัด้เหลียม ทีในสระนำเป็็นเสาตอม่อปููนซึ่ีเมนต์ซึ่่ง<br />

หล่อข่นเมือคัราวบูรณะอาคัารเมือ พ.ศิ. ๒๕๑๙ จากิกิารสำรวจสภาพพบว่า<br />

เสารอบนอกินันมีกิารเสือมสภาพเป็็นอย่างมากิโด้ยเฉพาะตังแต่บริเวณ<br />

เหนือเสาตอม่อยาวไปถึึงส่วนทีเป็็นอาคัาร จ่งด้ำเนินกิารเปัลียนเสารอบนอกิ<br />

ทังหมด้ใหม่โด้ยใช้้ไม้แด้ง ซึ่่งด้ำเนินกิารตามอย่างเทคน ิคัและวิธีกิารของช่่าง<br />

แบบโบราณ ซึ่่งจากิกิารถอด้รือเสานันพบว่า เสาทุกต้้นมีกิารต่อไม้บริเวณ<br />

ช่่วงกิลางของตัวเสา แต่ยังไม่ทราบแน่ชััดว่่าเป็็นเพราะเหตุใด้ และวิธีกิารต่อไม้<br />

ทีใช้้เรียกว่่า วิธีกิารเข้าเดืือยเข็ม โด้ยนำไม้สองส่วนมาปัระกิบกัันแล้วตอกิเดืือย<br />

เข้าไปั และเนืองจากตััวอาคัารเป็็นอาคัารไม้ทีมีกิารปัระดัับกิระจกิ และภายใน<br />

มีกิารเขียนภาพจิตรกิรรมฝ่าผนังจ่งไม่สามารถทำกิารถอด้รืออาคัารทังหลังได้้<br />

ดัังนั นวิธีกิารเปัลียนเสาไม้จ่งจำเป็็นต้องด้ำเนินกิารจากิด้้านล่างข่ นสู่ตัวบน<br />

ด้้วยกิารตังนังร้านแล้วตัด้ยกตััวอาคัารหล่อตอม่อปููนซึ่ีเมนต์ใหม่รูปัทรง<br />

แปัด้เหลียมตามขนาด้เสาไม้ เพือป้้องกัันตัวเสาผุกร่่อนในอนาคัต แล้วจ่งติด้ตัง<br />

เสาอาคัารโด้ยยังคังรอยต่อของอาคัารทีพบในบริเวณเดิิมไว้ ส่วนเสาร่วม<br />

ในสภาพไม่ผุกร ่อนมากน ักจ ึงทำกิารซึ่่อมปัะด้ามไม้ให้คังสภาพเดิิม<br />

สภาพเสาไม้ก่อนบูรณะ<br />

เสาไม้หอพระไตรปิิฎกิแห่งนี เป็็นเสาแปัด้เหลียมมีกิารตัดต่่อไม้เข้า<br />

เดืือยแบบ “เดืือยเข็น” บริเวณเหนือพืนหอพระไตรปิิฎกิข่นมาปัระมาณ<br />

๕๐ เซึ่นติเมตร ทีโคันเสาเทคัอนกร ีตหุ้มเป็็นทรงกิระบอกิ คัวามสูงเหนือ<br />

ระดัับนำในสระข่นมาปัระมาณ ๓๐ เซึ่นติเมตร บริเวณเสาไม้ทีอยู่เหนือ<br />

คัอนกร ีตทีเทหุ้มไว้ ส่วนใหญ่เนือไม้มีสภาพผุกร่่อนเนืองจากิคัวามชูืน<br />

เสาไม้แบ่งออกิเป็็น ๒ ปัระเภทและมีขนาดต่่างกััน ได้้แก่่ เสาไม้ภายนอกิ<br />

(ส่วนทีรองรับระเบียง) และเสาไม้ภายใน (ส่วนทีรองรับห้องพระไตรปิิฎกิ)<br />

เสาไม้รอบนอกเป็็นเสาไมรััง (ข้อมูลจากิกิารส่งพิสูจน์ชูินไม้ให้<br />

กิรมป่่าไม้) ส่วนทีมีกิารตัดต่่อไม้เหนือพืนข่นไปัเป็็นเสาไม้แด้ง จำนวน ๑๔ ต้น<br />

ขนาด้เสาโด้ยปัระมาณ ส่วนโคัน ๐.๒๐ ม. และส่วนปัลาย ๐.๒๐ ม. มี<br />

สภาพชูำรุด้เสียหายทุกต้้น<br />

เสาไม้รอบในเป็็นเสาไม้มะหาด้ จำนวน ๖ ต้น ขนาด้เสาโด้ย<br />

ปัระมาณ ส่วนโคัน ๐.๒๗๕ ม. และส่วนปัลายØ ๐.๒๕ ม. มีสภาพผิวไม้<br />

ผุกร ่อนโด้ยทัวไปัทังต้น มีจำนวน ๑ ต้น คืือต้นมุมด้้านทิศิตะวันตกิเฉียงใต้<br />

ส่วนอีกิ ๕ ต้น เนือไม้ผุกร ่อนบริเวณโคันเสาทีต่อจากิตอม่อคัอนกร ีตกิลม<br />

สำรวัจตรวัจสอบสภาพควัามชำรุดเสียหาย พร้อมเขียนแบบ<br />

หลังจากผ่่านขันตอนงานโบราณคัด้ี เพือตรวจสอบฐานรากิได้้<br />

ทำกิารกิลบดิินหลุมขุด้ตรวจกลัับคืืน จากินันจ่งเริมทำกิารทุบสกััด้คัอนกร ีต<br />

ทีเทห่อหุ้มเสาไม้ออกท ุกต้้น รวมทังตอม่อคัอนกร ีตทีวางอยู่บนฐานรากิเดิิม<br />

พบว่า เสารอบนอกิทังหมด้ จำนวน ๑๖ ต้น มีสภาพผุกร่่อนมากทุุกต้้น<br />

โด้ยเฉพาะบริเวณทีมีเสาปููนหุ้มตรงระดัับเหนือผิวนำจะผุกร ่อนมากิทีสุด้และ<br />

บางต้นพบว่าผุกร่่อนบริเวณทีเจาะเสียบไม้รอด้ ด้้วยเนืองจากิเสารอบนอกิได้้<br />

รับผลกิระทบจากน ้ำฝ่นและแสงแด้ด้อยู่ตลอด้ระยะเวลา<br />

จากิกิารตรวจสอบไม้เสายังพบว่า เสารอบนอกิทังหมด้เป็็นเสาที มี<br />

กิารตัดต่่อไม้บริเวณเหนือระดัับพืนทุกต้้น เมือตรวจสอบเนือไม้พบว่า<br />

ไม้ท่อนบนเป็็นไม้เต็งรัง ส่วนไม้ท่อนล่างเป็็นไม้แด้ง กิารตัดต่่อไม้ใช้้วิธีกิารต่อไม้<br />

แบบเดืือยเข็นแบบโบราณ<br />

สำหรับเสารอบใน จำนวน ๖ ต้น ตรวจสอบพบว่ามีสภาพชูำรุด้<br />

ผุกร่่อนบริเวณผิวไม้เพียงเล็กน้้อย ยกิเว้นต้นมุมด้้านทิศิตะวันตกิเฉียงใต้<br />

มีสภาพผุกร่่อนมากิ และจากิกิารตรวจสอบเนือไม้แล้วเป็็นไม้มะหาด้<br />

(ซึ่่งสอด้คัล้องกัับปััจจุบันทีภายในวัดยัังมีต้นมะหาด้ ขนาด้ใหญ่เหลืออยู่ ๑ ต้น)<br />

และเมือตรวจสอบเสาไม้ทีอยู่ภายในผนังของหอไตรก็็พบว่า บริเวณส่วนปัลาย<br />

ไม้ก็็มีกิารตัดต่่อด้้วยวิธีกิารต่อไม้แบบเดืือยเข็นเช่่นกััน แต่ยังอยู่ในสภาพ<br />

สมบูรณ์ดีีทุกต้้น<br />

118<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


สภาพเสาไม้กิ่อนบูรณะ สภาพเสารอบนอกิเนื้อไม้ผุกิร่อนบริเวณที่มีเสาปัูนหุ้มเหนือระด้ับผิวนา<br />

สภาพเสาไม้กิ่อนบูรณะ<br />

สภาพเสาไม้ด้้านล่างกิ่อนบูรณะ<br />

สภาพเสาไม้รอบนอกิด้้านบนกิ่อนบูรณะ รูปัแบบกิารตัด้ต่อเด้ือยเสาไม้ สภาพเสาเนื้อไม้ชำำรุด้มากิ<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

119<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


120<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

121<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


เสาไม้รอบนอก<br />

เสาไม้รอบนอกิเป็็นเสาไม้รูปัแปัด้เหลียม ขนาด้ ๘ นิว ส่วนปัลาย<br />

ของเสาไม้ได้้มีกิารบากิเข้าเดืือยฝัังย่ด้ติด้กิับไม้แปหััวเสาและไม้จันทัน ซึ่่งตาม<br />

แผนงานกิารบูรณะในคัรั้งนี้จะไม่รื้อถอด้ไม้โคัรงสร้างหลังคัา โด้ยเฉพาะ<br />

ไม้จันทันทีฝัังย่ด้ติด้กิับผนังไม้เพราะเกิรงว่าจะส่งผลให้กิระจกส ีปัระดัับผนัง<br />

ของเดิิมเกิิด้กิารหลุดร่่วงเพิมมากิข่นจากิเดิิม ดัังนันกิารซึ่่อมเปัลียนเสาไม้<br />

แต่ละต้น จ่งต้องจัด้ทำค้้ำยันเพือรองรับไม้โคัรงสร้างหลังคัาและโคัรงสร้างพืน<br />

จากินั้นจึงทากิารตัด้โคันเสาไม้เหนือไม้กิงพัด้สูงปัระมาณ ๐.๒๐ เมตร<br />

โผล่ไว้สำหรับฝ่ังในตอม่อคัอนกิรีตที ่จะหล่อขึ้นใหม่ แล้วด้่งเสาไม้เด้ิมออกิจากิ<br />

โคัรงสร้างหลังคัา พร้อมนำเสาไม้เด้ิมไปัเปั็นแบบอย่างในกิารจัดทำำเด้ือยที่<br />

ปัลายเสาไม้เพื ่อต้องกิารให้ได้้ขนาด้เท่าของเด้ิม ไม้เสาที ่จะนำมาทากิารซึ่่อม<br />

เปัลี่ยนใชู้เสาไม้แด้ง ขนาด้ ๘ นิ้ว มาทากิารไสปัรับให้ได้้เสาไม้แปัด้เหลี่ยม<br />

ตามของเด้ิม เมื ่อทากิารบากิเด้ือยไม้ทีปัลายเสาและเจาะรูเด้ือยสำหรับสอด้<br />

ไม้รอด้ ก่่อนนำไปติิด้ตังให้เจาะรูเดืือย ขนาด้ ๖ หุน จำนวน ๑ รู ทีโคันเสาไม้<br />

เพือไว้สำหรับเสียบแกินสเตนเลสกัับเสาคัอนกร ีต จากินันจ่งนำเสาไม้ใหม่<br />

ข่นไปัปัระกิอบเข้าทีแทนเสาไม้เดิิม<br />

กิารซึ่่อมเปัลียนเสาไม้รอบนอกิ จำนวน ๑๖ ต้น ตามขั นตอน<br />

ดัังกล่่าวข้างต้นนัน ในกิารด้ำเนินงานจะทำกิารซึ่่อมเปัลียนเสาทีละต้น<br />

จนแล้วเสร็จ และเมือจะเริมต้นทีสองจะต้องย้ายไปต้้นทีอยู่ฝ่ังตรงข้ามใน<br />

มุมทแยง ด้้วยเนืองจากิเสาต้นแรกินันตอม่อคัอนกร ีตยังไม่คัรบกิำหนด้<br />

ระยะกิารบ่มคัอนกร ีตและเพือหลีกิเลียงผลกิระทบต่อระบบโคัรงสร้าง<br />

คัอนกิรีต สำหรับกิารซึ่่อมเปัลี่ยนเสาต้นที่ ๓-๑๖ จะทากิารซึ่่อมเปัลี่ยน<br />

โด้ยกิารสลับแนวด้ังกิล่าวจนคัรบ<br />

กิารจัดทำำเสาคัอนกิรีตเสริมเหล็กิหล่อสำเร็จรูปัแปัด้เหลี่ยมตาม<br />

ขนาด้เสาไม้เด้ิม ขั ้นตอนแรกิเตรียมจัดทำำแบบพิมพ์ไม้รูปัแปัด้เหลี่ยม ซึ่่งจะต้อง<br />

ไสปัรับผิวไม้ให้เรียบพร้อมนามันเคัลือบผิวไม้ทุกิคัรั้งกิ่อนเทคัอนกิรีต จากินั้น<br />

เตรียมผูกิเหล็กิแกินเสาโด้ยใชู้เหล็กิข้ออ้อย ขนาด้ ๔ หุน จำนวน ๔ เส้น<br />

งอปัลายเพือฝัังในตอม่อ เหล็กิปัลอกิใช้้เหล็กิกิลม ขนาด้ ๒ หุน ผูกิระยะ<br />

ห่าง ๐.๑๕ เมตร ทีปัลายเสาเชูือมแกินสเตนเลส ขนาด้ ๖ หุน ไว้สำหรับ<br />

เสียบต่อกิับเสาไม้ กิารวางเหล็กิเสริมในแบบพิมพ์จะต้องให้ได้้ระยะห่าง<br />

ไม่น้อยกิว่า ๓ เซึ่นติเมตร แล้วทากิารเทคัอนกิรีตเสาโด้ยใชู้อัตราส่วนผสม<br />

๑ : ๒ : ๓ (ปัูนซึ่ีเมนต์ ๑ ส่วน : ทราย ๒ ส่วน : หิน ๓ ส่วน) แล้วบ่ม<br />

คัอนกิรีตเสาโด้ยฉีดน้าให้ชูุ่มปัระมาณ ๗-๑๔ ต้น<br />

กิารติด้ตั้งเสาคัอนกิรีตหล่อสำเร็จและเทคัอนกิรีตตอม่อ ทากิารยกิ<br />

เสาคัอนกร ีตหล่อสำเร็จข่นไปัปัระกิอบกัับโคันเสาไม้ โด้ยกิารใช้้รอกิโซึ่่ดึึงเสา<br />

คัอนกรีีตข่น ก่่อนจะปัระกิอบเข้าที ทาเคลืือบผิวโคันเสาไม้และแกินสเตนเลส<br />

ด้้วย epoxy ให้ทัวพืนผิว เมือปัระกิอบเข้าทีแล้วได้้ตอกิย่ด้ไม้ปัระกิบข้างเสา<br />

ทั้งสี่ต้นเพื่อปัรับแกินเสาให้ได้้แนวตรงกิับเสาไม้ จากินั้นจึงติด้ตั้งแบบไม้<br />

พร้อมเทคัอนกิรีตตอม่อโด้ยวางอยู่บนฐานรากิเด้ิม<br />

122<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


ติด้ตั้งนั่งร้านเหล็กิเพื่อรองรับไม้โคัรงสร้างหลังคัา กิารปัรุงแต่งเสาไม้แปัด้เหลี่ยมตามขนาด้เสาเด้ิม<br />

ถอด้ไม้รอด้ออกิจากิเสา แล้วจ่งทำกิารถอด้เสาไม้ออกิโด้ยดึึงลงด้้านล่าง<br />

แล้วนำเดืือยหัวเสาไปัเป็็นแบบอย่างในกิารบากิเดืือยหัวเสาต้นใหม่<br />

กิารบากิเด้ือยหัวเสาตามขนาด้สัด้ส่วนของเด้ิม พร้อมเจาะรูเด้ือยไม้รอด้<br />

สภาพเสาไม้เด้ิมหลังกิารรื้อถอนและลักิษ์ณะเด้ือยหัวเสาต้นมุมซึ่่งจะนำไปัเปั็นตัวอย่าง<br />

สำหรับจัดทำำเสาไม้ใหม่ต่อไปั<br />

เจาะรูเดืือยสำหรับเสียบแกินสเตนเลส พร้อมทา epoxy โคันเสาไม้เพือป้้องกัันคัวามชูืน<br />

123<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์ การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


เตรียมติด้ตั้งเสาไม้ใหม่<br />

ทากิารด้่งเสาไม้ขึ้นไปัติด้ตั้งที่เด้ิม<br />

ปร ับไม้ให้เข้ากัับร่องเดืือยของเดิิม ปัระกิอบติด้ตั้งเสาไม้ใหม่แล้วเสร็จ<br />

124<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


ทา epoxy ทีเดืือยสเตนเลสก่่อนปัระกิอบติด้ตัง ติด้ตั้งเหล็กิตะแกิรงฐานรากิ<br />

ติด้ตั้งแบบพร้อมเทคัอนกิรีตฐานรากิ ซึ่่อมเปัลี่ยนเสารอบนอกิแล้วเสร็จ<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

125<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


เสาไม้รอบใน<br />

เปั็นเสาไม้รูปัแปัด้เหลี่ยม ขนาด้ ๑๐-๑๑ นิ้ว สภาพผุกิร่อนที ่ผิวไม้<br />

ตรงตำแหน่งเหนือผิวนาในสระ จำนวน ๕ ต้น ทากิารซึ่่อมแซึ่มโด้ยกิารขุด้<br />

เนือไม้ทีผุกร่่อนออกิจนถ่งเนือไม้เดิิมทีมีสภาพสมบูรณ์แข็งแรงดีี แล้วนำชูินไม้<br />

มาปัะด้ามแทนทีโด้ยปัระสานรอยต่อด้้วยกิาว epoxy พร้อมขัด้แต่งผิวไม้ให้<br />

กิลมกิลืนกิับเสาไม้เด้ิม สำหรับเสาต้นมุมด้้านทิศิตะวันตกิเฉียงใต้ จำนวน<br />

๑ ต้น มีสภาพกิารผุกิร่อนมากิเนื ้อไม้ผุกิร่อนถึงกิลางลำต้น จึงได้้ทากิาร<br />

ซึ่่อมโด้ยกิารตัด้เสาไม้ส่วนที่ชำำรุด้ บริเวณเหนือผิวนาในสระ ยาวปัระมาณ<br />

๐.๕๐ เมตร แล้วนำไม้ใหม่มาซึ่่อมเปัลียนแทนไม้เดิิม กิารเข้าบากิไม้ตรง<br />

รอยต่อจะบากิไม้ตามสภาพกิารผุกร่่อนของเนือไม้เดิิมออกิแล้วคังสภาพ<br />

ของเนื้อไม้ด้ีไว้เปั็นเด้ือย จากินั้นจึงบากิเด้ือยเสาไม้ใหม่ตามลักิษ์ณะรอย<br />

บากิไม้ของเสาไม้เดิิม แล้วนำเสาไม้ใหม่เสียบเข้าทางด้้านข้าง พร้อม<br />

ปัระสานรอยต่อด้้วยกิาว epoxy และขัด้แต่งผิวไม้ให้กิลมกลืืนกัับเสาเดิิม<br />

นำไม้ชูินใหม่มาปัะด้ามตามรอยบากิและปัระสานรอยต่อด้้วยกิาว epoxy<br />

ผิวไม้ทีผุกร ่อนบากิเนือไม้เดิิมตามสภาพกิารผุกร ่อนออกิแล้วคังสภาพไม้เนือดีีไว้เป็็นเดืือยเพือทำกิารปัะด้าม<br />

126<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


งานต่อไม้<br />

หอพระไตรปิิฎกวััดอ ัปัสรสวรรค์์ เป็็นอาคัารทีมีสัดส่่วนอันงด้งาม<br />

จากิกิารด้ำเนินงานบูรณะทำให้พบว่า อาคัารหลังนีใช้้กิารต่อไม้ในกิารยึึด<br />

โคัรงสร้างและส่วนต่างๆ ของอาคัารเข้าไว้ด้้วยกัันทังหมด้ ซึ่่งลักิษ์ณะงาน<br />

แบบนี ถือได้้ว่าเป็็นงานช่่างแบบโบราณชูันคร ูทีพบได้้ยากิในกิารก่่อสร้าง<br />

ทั่วไปั ทั้งยังแสด้งถึงคัวามละเอียด้อ่อนของงานชู่างสมัยโบราณ และทำให้<br />

ตัวอาคัารแข็งแรงและมั ่นคังมากิกิว่ากิารใชู้วัสดุ้ย่ด้อื่นๆ เชู่น ตะปัู ที ่จะผุกิร่อน<br />

และส่งผลต่อคัวามั่นคังแข็งแรงของอาคัารในอนาคัต เทคันิคักิารต่อไม้ที่พบ<br />

นอกิจากิในส่วนหลังคัากิ็ยังพบได้้ในทุกิส่วนของอาคัาร<br />

กิารเข้าไม้บริเวณหัวเสากิับจันทัน<br />

กิารเข้าไม้บริเวณเชูิงชูาย<br />

กิารเข้าไม้บริเวณแปัและจันทัน<br />

กิารเข้าไม้บริเวณหัวเสา<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

127<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


งานบูรณะกำแพงสระนำ<br />

สภาพก่อนบูรณะกำแพงสระนำ<br />

หอพระไตรปิิฎกิตั งอยู่ในสระนำที ขอบสระก่่อสร้างด้้วยกิารก่่ออิฐ<br />

ฉาบปููนหมักิ ผิวขัด้ปัูนตำ ระดัับนำในสระอยู่ตำกว่่าขอบตอม่อปููนทีหุ้ม<br />

เสาไม้ปัระมาณ ๐.๓๐ เมตร โด้ยรอบขอบสระเป็็นพืน คั.ส.ล. อยู่ ๓ ด้้าน<br />

สูงกว่่าระดัับขอบสระเดิิมปัระมาณ ๐.๓๐ เมตร แต่พบว่า ระดัับขอบสระเดิิม<br />

สูงสุด้อยู่บริเวณด้้านทิศิเหนือซึ่่งเป็็นส่วนทีบ้านแถวไม้สร้างคร่่อมอยู่ และ<br />

ด้้านทิศิตะวันออกิเป็็นด้้านทีขอบสระมีกิารโก่่งตัวมากิทีสุด้<br />

สภาพสระน้ำำก่อนกิารบูรณะ สภาพกำำแพงสระน้ำำก่ออิฐบริเวณด้้านทิศิเหนือ<br />

สภาพกำำแพงสระน้ำำก่ออิฐบริเวณด้้านทิศิตะวันออกิและทิศิใต้<br />

สภาพกำำแพงสระน้ำำก่ออิฐบริเวณด้้านทิศิตะวันตกิ<br />

128<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

129<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


130<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


ขันตอนการดำเนินงาน<br />

หลังจากิทีทำกิารย้ายสัตว์นำและสูบนำออกิแล้ว กิารด้ำเนินงาน<br />

ขุด้ตรวจทางโบราณคัด้ีเพือตรวจสอบฐานรากิของสระนำพบว่า สระนำแห่งนี<br />

มีระบบฐานรากิแบบขันบันได้ โด้ยทีชูันล่างสุด้จะมีคัวามกว้้างมากิทีสุด้แล้ว<br />

เรียงตัวลด้หลันกัันข่นไปั มีลักิษ์ณะคล้้ายขันบันได้ซึ่่งเป็็นระบบฐานรากิ<br />

แบบโบราณทีใช้้ตัวผนังรองรับและถ่ายเทนำหนักิของสิ งก่่อสร้างไปัทีพืนดิิน<br />

โด้ยตรง มีโคัรงสร้างป้้องกัันกิารเคัลือนตัวของอิฐโด้ยใช้้แผ่นไม้ ขนาด้หน้า<br />

กว้้างปัระมาณ ๐.๑๘-๐.๒๐ เมตร วางเรียงกัันโด้ยมีระยะห่างปัระมาณ<br />

๐.๑๕-๐.๒๐ เมตร มีคัานไม้วางขวางแผ่นไม้อีกชั้้นหน่ง และใต้คัานไม้มี<br />

เข็มไม้วางรองเพือเสริมคัวามแข็งแรง<br />

ภาพ panorama กิำแพงสระนำก่่ออิฐบริเวณด้้านทิศิเหนือก่่อนบูรณะ<br />

ภาพ panorama กิำแพงสระนำก่่ออิฐบริเวณด้้านทิศิใต้ก่่อนบูรณะ<br />

ภาพ panorama กิำแพงสระนำก่่ออิฐบริเวณด้้านทิศิตะวันออกิกิ่อนบูรณะ<br />

ภาพ panorama กิำแพงสระนำก่่ออิฐบริเวณด้้านทิศิตะวันตกิกิ่อนบูรณะ<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

131<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


ผนังบ่อน้ำำก่อด้้วยอิฐขนาด้ กิว้างปัระมาณ ๐.๑๒-๐.๑๓ เมตร<br />

ยาว ๐.๒๕ เมตร หนา ๐.๐๓-๐.๐๕ เมตร คัวามสูงจากอ ิฐก้้อนแรกถ ึง<br />

ขอบบ่อด้้านบนปัระมาณ ๒.๘๕ เมตร โด้ยส่วนฐานรากิทีมีลักิษ์ณะลด้หลัน<br />

เป็็นขันบันไดม ีคัวามสูง ๑.๔๕ เมตร และส่วนทีเป็็นผนังบ่อมีคัวามสูง ๑.๔<br />

เมตร ผนังบ่อนำด้้านทิศิเหนือพบท่อนำดิินเผาของด้ังเดิิม เส้นผ่านศููนย์กิลาง<br />

๐.๑๘ เมตร ยืนออกิมาจากิผนังก่่ออิฐปัระมาณ ๐.๕๐ เมตร<br />

ผนังก่่ออิฐมีร่องรอยกิารโก่่งตัวและอิฐชูำรุด้โด้ยทัวไปั ผนังสระนำ<br />

ด้้านทิศิตะวันออกิเกิิด้รอยแตกิตามแนวอิฐ เมือด้ำเนินกิารขุด้ตรวจทาง<br />

โบราณคัด้ีเพือศิ่กิษ์าฐานรากิกิำแพงสระและเก็็บข้อมูลเรียบร้อยแล้ว จ่งเริม<br />

ซึ่่อมแซึ่มอิฐทีชูำรุด้เสียหายโด้ยกิารรือถอดอ ิฐทีละก้้อนตามรอยแตกิ แล้ว<br />

ก่่ออิฐเสริมคัวามมันคังตามแนวเดิิม ส่วนขอบสระทีชูำรุด้เสียหายได้้ทำกิาร<br />

ซึ่่อมแซึ่มในแนวทางเด้ียวกิัน จากินั้นจึงทากิารฉาบปัูนหมักิและขัด้ผิวปัูนตำ<br />

ขณะดำำเนินกิารกิ่ออิฐสอปัูนเสริมคัวามมั่นคังกำำแพงสระนาส่วนที่ชำำรุด้โด้ยใชู้อิฐขนาด้เท่าของเด้ิมและสอด้้วยปัูนหมักิ<br />

ขณะดำำเนินงานกิารฉาบปัูนกำำแพงสระด้้วยปัูนหมักิ<br />

กิารบูรณะกำำแพงสระนา<br />

132<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


งานพืน<br />

โคัรงสร้างพืนหอพระไตรปิิฎกิปัระกิอบด้้วยไม้รอด้เป็็นไม้แด้ง ซึ่่งทำ<br />

หน้าทีเป็็นคัานสอด้ลอด้ไม้เสาตามแนวเสาไปัทางทิศิเหนือ-ใต้ และยังทำ<br />

หน้าทีเป็็นไม้ตงรองรับไม้พืนอีกิด้้วย ไม้พืนเป็็นไม้สักมีีขนาด้ใหญ่ หน้ากว้้าง<br />

โด้ยเฉลียตังแต่ ขนาด้ ๗ นิว ถ่ง ๒๐ นิว คัวามหนาโด้ยปัระมาณ ๔ ซึ่ม.<br />

บริเวณทีไม้พืนชูนกัับเสาไม้แปัด้เหลียมจะมีแผ่นไม้โค้้งตามมุมเสา เรียกว่่า<br />

ไม้ฝัักิมะขาม ทำหน้าทีรองรับไม้พืนในส่วนทีติด้กิับเสาไม้แปัด้เหลียม ตาม<br />

ลักิษ์ณะโคัรงสร้างพื้นแบบโบราณ<br />

สภาพก่อนการบูรณะ<br />

สภาพไม้รอด้ เนื้อไม้ชำำรุด้ผุกิร่อน โกิ่งบิด้งอ และมีรอยแตกิยาวทุกิท่อน<br />

และบางท่อนมีกิารตัด้ต่อไม้ตรงกิลางระหว่างเสาซึ่่งอาจทำให้โคัรงสร้างพื้น<br />

ไม่แข็งแรง ส่วนไม้ฝ่ักิมะขามเนื้อไม้ชำำรุด้ทุกิท่อน<br />

สภาพพืนไม้ภายในหอพระไตรปิิฎกมีีขนาด้ตังแต่ ๗ นิว ถ่ง ๒๐ นิว<br />

มีจำนวน ๘ แผ่น ผิวไม้ผุกิร่อนเล็กิน้อยโด้ยทั่วไปั บริเวณเสาต้นมุมทิศิ<br />

ตะวันตกิเฉียงใต้พื้นไม้แตกิชูำรุด้และมีกิารทรุด้ตัวเล็กิน้อย เนื่องจากิใต้พื้น<br />

ภายในไม่มีไม้ฝ่ักิมะขามรองรับอยู่<br />

สภาพพืนไม้ภายนอกิเป็็นไม้แผ่น ขนาด้หน้ากว้้าง ๑๓ นิว ถ่ง<br />

๑๖ นิว ยาว ๘ เมตร มีจำนวน ๖ แผ่น มีสภาพชูำรุดผ ุกร่่อน บิด้งอ<br />

มีรอยแตกิโด้ยทั่วไปั และมีไม้พื้นบางส่วนหลุด้หาย<br />

ไม้พืนทุกิแผ่นยึึดกัันด้้วยกิารฝัังสลักิเดืือยระหว่างแผ่น แบ่งออกิเป็็น<br />

๒ ปัระเภท ได้้แก่่ สลักิเดืือยแบบกิลมและสลักิเดืือยแบบแผ่น สลักิเดืือย<br />

แบบแผ่น ขนาด้ปัระมาณ ๒๑/๒” x ๑๑/๒” จะใชู้ย่ด้ระหว่างแผ่นไม้<br />

ขนาด้ยาว และสลักิเด้ือยแบบกิลม เส้นผ่านศิูนย์กิลาง ๑ ซึ่ม. ยาวปัระมาณ<br />

๒๑/๒” จะใชู้ย่ด้ระหว่างแผ่นไม้ขนาด้สั้น (รายละเอียด้ตามแบบ)<br />

สภาพคัวามชูำรุด้เสียหายของไม้รอด้และไม้ฝัักิมะขาม<br />

สภาพคัวามชำำรุด้เสียหายไม้ฝ่ักิมะขาม<br />

โคัรงสร้างพื้นบริเวณใต้ห้องเกิ็บพระไตรปัิฎกิ<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

133<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


งานซุ้่อมแซุ้มโครงสร้างพืน<br />

การซุ้่อมแซุ้มไม้รอด<br />

จากิกิารพิจารณาแนวทางกิารบูรณะให้ทำกิารเปัลี ยนไม้รอด้ที มี<br />

สภาพชูำรุด้ทังหมด้โด้ยใช้้ ไม้แด้งขนาด้ ๒” x ๖” ยาวต่อเนืองกัันไม่มีรอยต่อ<br />

ส่วนไม้ฝัักิมะขามให้เปัลียนใหม่ทังหมด้ตามขนาดส ัดส ่วนเท่าของเดิิมโด้ยใช้้<br />

ไม้แด้งเชู่นเด้ียวกิัน<br />

กิารติด้ตั้งไม้ฝ่ักิมะขาม<br />

134<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


การซุ้่อมแซุ้มไม้พื้น<br />

พืนไม้ภายในส่วนทีชูำรุด้เสียหายบริเวณเสาต้นมุมทิศิตะวันตกิ<br />

เฉียงใต้ให้เปัลียนไม้ใหม่เป็็นไม้สักิขนาดส ัดส่่วนเท่าของเดิิม ส่วนไม้พืนทีมี<br />

รอยแตกิและผิวไม้ชูำรุด้เล็กน ้อยได้้ทำกิารซึ่่อมอุด้โป๊๊รอยแตกิด้้วยขีเลือยไม้<br />

สักิผสมกิาวร้อน พร้อมขัด้แต่งผิวให้กิลมกล ืน<br />

พืนไม้ภายนอกิ ไม้ทีมีรอยแตกิใช้้วิธีกิารซึ่่อมปัะด้ามและปัระสาน<br />

รอยต่อด้้วยกิาวร้อนผสมขีเลือยไม้สักิ ส่วนไม้ทีชูำรุด้หลุด้หายซึ่่อมเปัลียน<br />

โด้ยใช้้ไม้สักิใหม่ตามขนาดสััดส่่วนเท่าของเดิิม<br />

กิารติด้ตั้งพื้นไม้ใชู้วิธีฝ่ังสลักิเด้ือยตามวิธีกิารด้ั้งเด้ิม<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

135<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


กิารซึ่่อมเปัลี่ยนพื้นไม้ภายในด้้วยไม้สักิ<br />

กิารซึ่่อมเปัลี่ยนพื้นไม้ภายในด้้วยไม้สักิ<br />

136<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย<br />

ปัระกิอบไม้พื้นเด้ิม พร้อมซึ่่อมเปัลี่ยนเด้ือยที่ชำำรุด้


ปัระกิอบไม้พื้นเด้ิม พร้อมซึ่่อมเปัลี่ยนเด้ือยที่ชำำรุด้<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

137<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


งานหลัังคา<br />

หลังคัาเป็็นส่วนปัระกิอบด้้านบนของอาคัารเพือกัันแด้ด้กิันฝ่น<br />

หอพระไตรปิิฎกว ัดอ ัปัสรสวรรค์์เป็็นอาคัารที มีหลังคัาทรงจั วแล้วมีชูายคัา<br />

ปัีกินกิโด้ยรอบ หลังคัาเปั็นเคัรื่องไม้มุงกิระเบื้องเกิล็ด้เต่า หน้าบันปัระด้ับ<br />

ลวด้ลายพันธุ์พฤกิษ์าปัระด้ับกิระจกิ หน้าบันปัระด้ับชู่อฟื้้า ใบระกิา หางหงส์<br />

นาคัสะดุ้้ง<br />

กิารดำำเนินงานบูรณะส่วนหลังคัานั้น ได้้ทากิารตรวจสอบสภาพและ<br />

ถอด้รื้อหลังคัาทั้งหมด้เพื่อดำำเนินกิารเกิ็บข้อมูล ซึ่่อมชำำรุด้ส่วนที่เสียหาย<br />

หรือซึ่่อมเปัลี่ยนในบริเวณที่เสื่อมสภาพจนไม่สามารถบูรณะให้กิลับมาสู่<br />

รูปัแบบด้ังเด้ิม โด้ยมีแนวคัิด้ในกิารอนุรักิษ์์ให้มีคัวามคัล้ายคัลึงกิับของเด้ิม<br />

ให้มากิที่สุด้ โด้ยทากิารรื้อถอนออกิแล้วจัดทำำแบบเพื่อแสด้งสภาพ และ<br />

เกิ็บเปั็นข้อมูลแล้วทากิารตรวจสอบ<br />

กิระเบืองดิินเผาไม่เคล ือบหางเหลียม (ปัลายแหลม) ทีใช้้ในกิารมุงหลังคัา<br />

มุงกิระเบื้องหลังคัาโด้ยใชู้แผ่นยางปัูรองเพื่อปั้องกิันน้ำำฝนรั่วเข้าสู่ภายในตัวอาคัาร<br />

138<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


สภาพหลัังคาก่อนบูรณะ<br />

จากิกิารสำรวจตรวสอบสภาพคัวามเสียหายเบืองต้นพบว่า หลังคัา<br />

มีรอยรัวซึ่่มอยู่หลายจุด้ สาเหตุเนืองมาจากิกิารเสือมสภาพของวัสดุุ<br />

มุงหลังคัาและโคัรงสร้างหลังคัาบางส่วนชูำรุด้ เช่่น กิระเบืองมุงหลังคัาเป็็น<br />

กิระเบืองดิินเผาเคล ือบสีมีสภาพแตกิชูำรุด้ และมีกิารเคัลือนตัวทำให้เกิิด้<br />

รอยแยกห่่างนำฝ่นรัวไหลซึ่่มได้้ ปููนทับสันหลังคัามีรอยแตกร้้าวก็็เป็็นอีกิ<br />

สาเหตุหน่งที เกิิด้กิารรัวซึ่่มจนส่งผลกิระทบให้ไม้โคัรงสร้างหลังคัา<br />

เสือมสภาพผุกร่่อนเป็็นบางแห่ง จนเกิิด้กิารทรุดต ัวส่งผลให้กิารระบายนำ<br />

บนหลังคัาไม่ได้้ปัระสิทธิภาพ<br />

กิารรื ้อถอด้วัสดุ้มุงหลังคัากิ่อนทากิารรื ้อถอด้ได้้ตัด้แยกิชูิ้นส่วน<br />

องคั์ปัระกิอบของปัูนทับสันหลังคัา ปัูนหลบกิระเบื้อง ปัูนปัั้นปัีกิผีเสื้อ และ<br />

ปัูนปัั้นสะพานหนู เพื่อจัด้เกิ็บไว้เปั็นตัวอย่างและเปั็นหลักิฐานในกิารบูรณะ<br />

ต่อไปั จากินั้นจึงเริ่มทากิารรื้อกิระเบื้องมุงหลังคัาเปั็นกิระเบื้องด้ินเผา<br />

เคัลือบสี พร้อมปัูนปัั้นทับสันและหลบข้างกิระเบื้องออกิทั้งหมด้<br />

กระเบือง<br />

จากิสภาพกิ่อนกิารบูรณะที่มีปััญหานารั่วซึ่่ม จึงมีกิารพิจารณากิาร<br />

แกิ้ปััญหากิารรั่วซึ่่มโด้ยใชู้กิารมุงหลังคัาใหม่ให้ได้้ระด้ับทีด้ีเปั็นสาคััญและ<br />

มีกิารป้้องกัันอีกชั้้น โด้ยกิารใช้้แผ่นสังกิะสีรองใต้กิระเบืองมุงหลังคัาและ<br />

ทำกิารเจาะรูเล็กิๆ ทีสะพานหนูปููนทีอยู่เหนือไม้เชิิงชูายเพือให้นำทีรัวไหล<br />

เข้ามาไหลออกิได้้<br />

จากิกิารขุด้ตรวจทางโบราณคัด้ีพบชูิ้นส่วนของกิระเบื้องมุงหลังคัา<br />

อยู่ ๒ ชูนิด้ คัือ กิระเบื้องด้ินเผาไม่เคัลือบสีและกิระเบื้องด้ินเผาเคัลือบ<br />

สีเขียวลักิษ์ณะใกล้้เคีียงกัับกิระเบืองมุงหลังคัาก่่อนด้ำเนินกิารบูรณะ และ<br />

ในขณะด้ำเนินงานฐานรากิ ก็็ไม่พบชูินส่วนกิระเบืองมุงหลังคัาเพิมเติม<br />

แต่อย่างใด้ แต่จากิกิารศิ่กิษ์าเปรีียบเทียบกัับภาพถ่ายเก่่าและกิารเปรีียบเทียบ<br />

กิระเบืองมุงหลังคัาที บริเวณศิาลากิารเปร ียญพบว่ามีกิารใช้้กิระเบืองดิินเผา<br />

แบบไม่เคล ือบ ดัังนันคัณะทำงานทำงานจ่งเลือกิกิระเบืองดิินเผาไม่เคล ือบ<br />

หางเหลียม (ปัลายแหลม) ในกิารมุงหลังคัา<br />

ลักิษ์ณะกิระเบื้องและกิารมุงหลังคัาทีศิาลากิารเปัรียญวัด้อัปัสรสวรรคั์ ซึ่่งเปั็นแบบด้ั้งเด้ิม<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

139<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


โครงหลัังคา<br />

สภาพก่อนการบูรณะ<br />

เมือรือถอด้ไม้ระแนงของเดิิมออกิทังหมด้แล้ว จ่งได้้ทำกิารสำรวจ<br />

ตรวจสอบสภาพ พร้อมเขียนแบบและกิำหนด้รหัสชูินไม้ทุกชิ้้นพบว่า ไม้กิลอน<br />

ของเดิิมเป็็นไม้สักิ ขนาด้กิว้าง ๔ นิว หนา ๖ หุน มีสภาพผุกร ่อนบริเวณ<br />

หัวไม้และปัลายไม้เปั็นส่วนใหญ่ กิารผุกิร่อนที่หัวไม้มีสาเหตุมาจากิกิาร<br />

แตกิร้าวของปัูนทับสันหลังคัาทำให้น้ำำฝนรั่วซึ่่มลงมา ส่วนกิารผุกิร่อนที่<br />

ปัลายไม้อาจเนื ่องจากิเปั็นส่วนที ่อยู่ใกิล้กิับเชูิงชูายซึ่่งมีสะพานหนูปัูน<br />

อยู่ด้้วย ซึ่่งอยู่ติด้สภาพแวด้ล้อมภายนอกิที่มีคัวามร้อนชูื้นตลอด้เวลา<br />

รูปัแบบไม้กิลอนแบ่งได้้เปั็นสามปัระเภท ปัระกิอบด้้วยไม้กิลอนแบบ<br />

งานชู่างโบราณ ได้้แกิ่ กิลอนสับ กิลอนเด้ือย และไม้กิลอนแบบที ่พบทั่วไปั<br />

ในปััจจุบัน ได้้แกิ่ กิลอนผิวเรียบ<br />

กลัอนสับ ใช้้ขวานสับเป็็นร่องเพือวางไม้ระแนงจะใช้้กัับหลังคัา<br />

พาไลและมีกิลอนผิวเรียบแทรกิอยู่<br />

กลัอนเดือย ไม้ทีเจาะเป็็นรูเพือใส่เดืือยไม้กิลมตามระยะห่างของ<br />

ไม้ระแนงพบว่า กิลอนเดืือยจะวางสลับกัับกิลอนสับบนหลังคัาจัวซึ่้อนชูัน<br />

กลัอนผิวัเรียบ เปั็นไม้ผิวเรียบใชู้ตะปัูตอกิย่ด้เหมือนในปััจจุบัน วาง<br />

แทรกิหรือซึ่่อมตัด้ต่ออยู่กิับกิลอนทั้งสองแบบข้างต้น แสด้งให้เห็นถึงกิาร<br />

ซึ่่อมแซึ่มไม้กิลอนแบบโบราณกิ่อนหน้านี้เปั็นเวลาไม่นาน<br />

ภายหลังจากิกิารรื ้อถอด้วัสดุ้มุงหลังคัาออกิทั ้งหมด้แล้วจึงได้้ทากิาร<br />

สำรวจตรวจสอบสภาพคัวามชำำรุด้เสียหายของไม้ระแนงซึ่่งพบว่าเปั็นไม้สักิ<br />

ขนาด้ ๑ x ๑ นิ้ว แต่มีสภาพชำำรุด้ผุกิร่อนเกิือบทั ้งหมด้ สาเหตุกิารผุกิร่อน<br />

เนื่องจากิเปั็นชูิ้นไม้ขนาด้เล็กิและอยู่ติด้กิับกิระเบื้องมุงหลังคัา ทำให้ได้้รับ<br />

คัวามร้อนและคัวามชูื้นจากิกิระเบื ้องทั ้งกิลางวันและกิลางคัืนอยู่ตลอด้เวลา<br />

และอีกิสาเหตุหนึ่งกิ็เกิิด้จากิกิารรั ่วซึ่่มของน้ำำฝนจึงทำให้เกิิด้กิารชำำรุด้<br />

ผุกิร่อนได้้มากิที่สุด้<br />

นอกิจากินี้ในส่วนฝ่้าไขราที่ยื่นออกิมาจากิหน้าบันยังใชู้ไม้กิลอน<br />

แบบกิลอนสับและกิลอนเด้ือยด้ัด้โคั้งเปั็นฝ่้าไขราไปัในตัวด้้วย ทั ้งหมด้นี้ถือเปั็น<br />

ข้อมูลงานชู่างโบราณที ่ได้้พบและคัวรคั่าแกิ่กิารรักิษ์า จึงซึ่่อมแซึ่มตามรูปัแบบ<br />

ด้ั้งเด้ิมทุกิปัระกิาร โด้ยกิารเข้าเด้ือยไม้ในส่วนต่างๆ ของหลังคัาจะไม่มีกิารใชู้<br />

ตะปัูเลย<br />

กิารเก็็บตัวอย่างตัด้แยกชิ้้นส่วนองค์์ปัระกิอบปููนทับสันหลังคัา<br />

140<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

141<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


142<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

143<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


144<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

145<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


146<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

147<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


เครืองลัำยอง<br />

เคัรืองปัระดัับบนหลังคัาหรือเคัรืองลำยอง เป็็นชูินส่วนของ<br />

สถาปััตยกิรรมไทย ใช้้ปัระดัับปิิดท้้ายขอบหลังคัาด้้านสกััด้ของอาคัาร<br />

ปัระกิอบด้้วย ช่่อฟื้้า ใบระกิา หางหงส์ และตัวลำยอง จากิเคัรืองลำยอง<br />

ของหอพระไตรปิิฎกว ัดอััปัสรสวรรค์์วรวิหารนัน มีสภาพชูำรุด้เสียหายมากิ<br />

จ่งต้องด้ำเนินกิารกิระสวนแบบและจัด้ทำข่นมาใหม่ เมือด้ำเนินกิารถอด้รือ<br />

เคัรืองปัระดัับหลังคัาแล้วพบว่า สัดส่่วนและลวด้ลายของเคัรืองปัระดัับ<br />

หลังคัานันมีลักิษ์ณ์แตกต ่างไปัจากิธรรมเนียมของกิารทำเคัรืองปัระดัับหลังคัา<br />

ทางคัณะทำงานได้้ด้ำเนินกิารจัด้ทำเคัรืองลำยองข่นมาใหม่ทังหมด้ โด้ยศิ่กิษ์า<br />

ข้อมูลเปร ียบเทียบ และได้้รับคัำแนะนำจากผู้้เชูียวชูาญในกิารจัด้ทำและ<br />

กิำหนด้ขนาด้ไม้ โด้ยทำกิารเปร ียบเทียบจากิภาพถ่ายเก่่าและเคัรืองปัระดัับ<br />

หลังคัาทีถอด้รือลงมามีคัวามแตกต ่างกัันพอสมคัวรทังในด้้านคัวามอ่อนช้้อย<br />

และสัดส่่วน คัณะทำงานจ่งด้ำเนินกิารกิระสวนแบบ และจัด้ทำเคัรืองปัระกิอบ<br />

หลังคัาข่นมาใหม่ตามคัำแนะนำของสถาปน ิกผู้เชูียวชูาญ<br />

เคัรืองปัระดัับหลังคัา ปัระกิอบด้้วย ช่่อฟื้้า ใบระกิา หางหงส์ ลำยอง และ<br />

หัวนาคัปัระดัับตะเฆ่่สัน เมือรือถอด้ลงมาได้้ทำกิารศิ่กิษ์ารูปัแบบโด้ยเปรีียบเทียบ<br />

จากิภาพถ่ายในอดีีตซึ่่งพบว่า ใบระกิามีจำนวนไม่ตรงกัับหลักิฐานทีปัรากิฏิ<br />

ในภาพถ่าย จากิกิารพิจารณาคัณะกิรรมกิารได้้มีคัวามเห็นให้ใช้้รูปัแบบตาม<br />

หลักิฐานทีปัรากิฏิในอดีีต อีกิทังยังได้้ศิ่กิษ์าเปร ียบเทียบกัับวัด้อืนทีก่่อสร้าง<br />

ในยุคัสมัยเดีียวกััน แล้วจ่งนำข้อมูลมาปัระกิอบเพือทำกิารเขียนแบบข่นใหม่<br />

กิารปัระดัับกิระจกส ีเคัรืองปัระดัับหลังคัา<br />

ภาพถ่าย พ.ศิ. ๒๕๕๕ หอพระไตรปิิฎกิ ก่่อนทำกิารบูรณะ<br />

ภาพถ่ายเก่่า หอพระไตรปิิฎกิ พ.ศิ. ๒๕๑๙<br />

148<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

149<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


150<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


ภาพชู่อฟื้้าและหางหงส์เด้ิมกิ่อนทากิารบูรณะ<br />

ส่วนหนึ่งของเคัรื่องลำยองเด้ิมถูกนำำมาปัระกิอบเพื่อวัด้สัด้ส่วน กิารแกิะสลักิหางหงส์<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

151<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


กิารปัระดัับกิระจกส ี รวยระกิาทีถูกิแกิะข่นใหม่<br />

กิารติด้ตังเคัรืองลำยอง<br />

152<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


งานบูรณะหน้าบัน<br />

หอพระไตรปิิฎกว ัดอ ัปัสรสวรรค์์มีหน้าบันจำนวน<br />

๒ ด้้าน คืือด้้านทิศิตะวันออกิและทิศิตะวันตกิ ทังสอง<br />

ด้้านปัระดัับลวด้ลายพันธุ์พฤกิษ์าปัระดัับกิระจกิ โด้ยด้้าน<br />

ทิศิจะวันออกิจะมีพืนลายเป็็นสีแด้ง แต่ด้้านทิศิตะวันออกิ<br />

พืนลายเป็็นสีนำเงิน<br />

จากิกิารสำรวจตรวจสอบสภาพหน้าบันทัง ๒ ด้้าน<br />

พบว่า กิระจกสีีเสือมสภาพหลุดร่่วงและแผ่นทองคัำเปัลว<br />

สีซึ่ีด้จาง เมือได้้บันทึึกหลักิฐานโด้ยกิารถ่ายภาพและ<br />

เขียนแบบ จ่งได้้ทำกิารกิะเทาะกิระจกส ีของเดิิมออกิ<br />

พบว่าได้้มีกิารบูรณะซึ่่อมแซึ่มปิิด้กิระจกิซึ่้อนทับออกิ<br />

ทังหมด้แล้วพบว่า ชูันกิระจกส ีของด้ังเดิิมมีเหลืออยู่<br />

ไม่มากิ แต่จากิหลักิฐานทีมีเหลืออยู่กิ็สามารถกิำหนด้<br />

รูปัแบบและสีของกิระจกิในส่วนต่างๆ ได้้<br />

กิารด้ำเนินกิารบูรณะได้้ทำกิารกิะเทาะกิระจกส ี<br />

ชูันด้ังเดิิมในส่วนทีเสือมสภาพกิารยึึดเกิาะไม่มันคัง<br />

แข็งแรงและสีซึ่ีด้จางออกิโด้ยยังคังเก็็บรักิษ์ากิระจกสีีชูัน<br />

ด้ังเดิิมทีมีสภาพสมบูรณ์ไว้เป็็นหลักิฐาน จากินันจ่งได้้<br />

ทำกิารขัดผ ิวชูันรักิสมุกิเดิิมออกิ พร้อมซึ่่อมแซึ่มผิวไม้ที<br />

ชูำรุด้ให้สมบูรณ์ รวมทังได้้ขัด้ลอกผ ิวทองเดิิมออกิ<br />

ทังหมด้ เมือได้้ทำคัวามสะอาด้พืนผิวแล้วจ่งได้้ทำกิาร<br />

ลงรักิปัระดัับกิระจกส ีและปิิด้ทองคัำเปัลวตามรูปัแบบ<br />

ทีได้้ผ่านกิารพิจารณาจากิคัณะกิรรมกิาร<br />

หน้าบันด้้านทิศิตะวันตกิ ก่่อนกิารบูรณะ<br />

หน้าบันด้้านทิศิตะวันออกิ ก่่อนกิารบูรณะ<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

153<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


154<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

155<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


งานฝ้้าเพดาน<br />

ฝ้้าไขรา<br />

เป็็นส่วนของหลังคัาทียืนจากิฝ่้าหรือจัวออกิไปัคัลุมรอบตัวอาคัาร<br />

จากิกิารสำรวจพบว่า ฝ้้าไขรามีสภาพผุกร่่อน มีรอยแตกิ และมีรอยตัดต่่อไม้<br />

เกืือบทุกิแผ่นโด้ยเฉพาะบริเวณส่วนปัลาย จ่งด้ำเนินกิารซึ่่อมปัะโด้ยปัระสาน<br />

ด้้วยกิาวไม้ในส่วนทีเป็็นฝ้้าไขราหลังคัาจัว และฝ้้าพาไลด้้านหลังให้ซึ่่อมปัะ<br />

ตามไม้สักิเดิิมโด้ยกิารนำไม้ฝ้้าพาไลด้้านหลัง และฝ้้าพาไลตับบนด้้าน<br />

ทิศิเหนือมาทำกิารปัะด้ามหลังไม้ฝ้้าเดิิมโด้ยปัระสานด้้วยกิาวติด้ไม้ชนิิด้<br />

ภายนอกิเสริมคัวามแข็งแรงให้กัับไม้ฝ้้าเดิิม นอกินันให้เปัลียนไม้ฝ้้าใหม่<br />

ทังหมด้<br />

สภาพคัวามชูำรุด้เสียหายฝ้้าไขรา<br />

156<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

157<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


ฝ้้าพาไลั<br />

จากิกิารสำรวจตรวจสอบสภาพพร้อมเขียนแบบกิำหนด้รหัสชูิ นไม้<br />

ทุกิแผ่นพบว่า ไม้ฝ้้าเพด้านด้้านทิศิตะวันตกิ (ด้้านหน้าของหอไตร) เป็็นไม้สักิ<br />

ทีมีคัวามยาวตลอด้แผ่นมีเพียง ๑-๒ แผ่นเท่านันทีมีร่องรอยกิารตัดต่่อไม้<br />

บริเวณมุมของผืนฝ้้าซึ่่งพอจะสรุปัเบืองต้นได้้ว่าน่าจะเป็็นฝ้้าด้ังเดิิม สำหรับ<br />

ฝ้้าด้้านทิศิใต้พบว่าเป็็นไม้สักิใหม่ทังหมด้ ส่วนฝ้้าด้้านทิศิตะวันออกิและทิศิ<br />

เหนือ พบว่ามีกิารตัดต่่อไม้ทุกิแผ่นและคัาดว่่าน่าจะนำไม้ฝ้้าของเดิิมจากท ิศิ<br />

ใต้มาตัดต่่อ เนืองจากิเป็็นไม้ทีมีขนาด้เดีียวกััน สภาพคัวามชูำรุด้เสียหาย<br />

ของไม้ฝ้้าส่วนใหญ่จะผุกร่่อนทีหัวไม้และปัลายไม้เกืือบทุกิแผ่น แต่สภาพโด้ย<br />

รวมแล้วไม้ฝ้้าเพด้านด้้านทิศิตะวันตกมีีสภาพทีค่่อนข้างสมบูรณ์มากิทีสุด้<br />

158<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

159<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


160<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

161<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


162<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

163<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


164<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

165<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


166<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

167<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


ในกิารซึ่่อมฝ่้าไขราและฝ่้าพาไล จึงคััด้เลือกิไม้ฝ่าเด้ิมจากิด้้านทิศิ<br />

ตะวันออกิและทิศิเหนือมีคัวามหนาไม่เกิิน ๖ มม. นำมาปัระกิบโด้ยใชู้<br />

กิาวลาเทกิซึ่์ชูนิด้พิเศิษ์ เมื่อทากิารลามิเนตไม้ฝ่้าด้้านทิศิตะวันตกิแล้ว จึงนำมา<br />

ติด้ตังกลัับคืืนตามตำแหน่งเดิิม สภาพไม้ฝ้้าเพด้านด้้านทิศิตะวันตกิหลัง<br />

กิารบูรณะยังคังรักิษ์าลายฉลุปิิด้ทองของเดิิมไว้<br />

168<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


ฝ้้าเพดานภายใน<br />

จากิกิารตรวจสอบสภาพพบว่ามีสภาพไม้สมบูรณ์แข็งแรง ส่วนสี<br />

เสือมสภาพหลุดร่่อนซึ่ีด้จาง ซึ่่อมโด้ยกิารขูด้ลอกส ีเดิิมออกิแล้วทำสีใหม่<br />

(ดููรายละเอียด้งานลายฉลุปิิด้ทองฝ้้าเพด้าน)<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

169<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


งานลัายฉลุุปิดทองฝ้้าเพดาน<br />

วิิธีีการอนุรักษ์์<br />

กิารอนุรักิษ์์ลวด้ลายฉลุปิิด้ทองหอพระไตรปิิฎกินันจะเป็็นกิารอนุรักิษ์์<br />

ใน ๒ รูปัแบบ คืือ กิารอนุรักิษ์์แบบรักิษ์าคุุณค่่าของงานเดิิม และกิารรักิษ์า<br />

รูปัแบบของงานของเดิิม ซึ่่งทัง ๒ รูปัแบบนี จะเป็็นกิารแยกิแยะแสด้งให้<br />

เห็นอย่างชััด้เจน คืือ กิารรักิษ์าคุุณค่่าหรือรักิษ์าสภาพร่องรอยของเดิิมนัน<br />

จะเป็็นเพียงกิารเพิมเติมเพียงเล็กน ้อยให้ชััด้เจนข่นบ้างเท่านัน<br />

ส่วนกิารอนุรักิษ์์รูปัแบบงานศิิลปักิรรมนันจะเป็็นกิารทำข่นใหม่<br />

ทุกิขันตอนและมีคัวามสมบูรณ์เต็มพืนที อาจจะมีกิารปร ับลด้คัวามโด้ด้เด่่น<br />

ของพืนและชูันทองลงบ้างตามสมคัวร<br />

170<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


ฝ้้าไขรา<br />

ฝ้้าไขรา ลายฉลุปิิด้ทองเป็็นลายพุ่มข้าวบิณฑ์ มีสภาพสีซึ่ีด้จาง<br />

เมือได้้ทำกิารบันทึึกหลักิฐานเรียบร้อยแล้ว จ่งทำกิารขูด้ลอกส ี ผลกิารขูด้<br />

ลอกส ีไม่พบลวด้ลายฉลุปิิด้ทองด้ังเดิิม กิารบูรณะจ่งให้เขียนลายฉลุปิิด้ทอง<br />

ข่นใหม่ทังหมด้<br />

ผ้าไขราทิศิตะวันออกิเฉียงใต้ ผ้าไขราทิศิตะวันตกิเฉียงใต้ ผ้าไขราทิศิตะวันตกิเฉียงเหนือ ผ้าไขราทิศิตะวันออกิเฉียงเหนือ<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

171<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


ฝ้้าเพดานพาไลั<br />

ฝ้้าเพด้านพาไล ลวด้ลายฉลุฝ้้าเพด้านก่่อนบูรณะเป็็นลายด้อกิไม้ร่วง<br />

สลับกัับผีเสือ ตามแบบอย่างลายฉลุทีนิยมเขียนสมัยรัตนโกส ินทร์ตอนต้น<br />

เมือได้้บันทึึกหลักิฐานเดิิมไว้แล้ว จ่งเริมทำกิารขูด้ลอกสีีด้้วยนำยาลอกสีี<br />

ซึ่่งพบลายฉลุเดิิมยังปัรากิฏิเหลืออยู่แต่ลายฉลุปิิด้ทองซึ่ีด้จาง จากิกิาร<br />

เปรีียบเทียบกัับลวด้ลายปััจจุบัน (ก่่อนบูรณะ) มีรูปัแบบทีคล้้ายกัันแต่ลายฉลุ<br />

ของเดิิมมีลายเส้นและกิารจัด้วางผีเสือทีอ่อนช้้อยและงด้งามกว ่า และยังพบ<br />

อีกว่่าสีเดิิมนันไม่ทำปัฏิิกิิริยากัับนำยาลอกส ี จ่งพอสรุปัได้้ว่าเป็็นชูันสีและ<br />

ลายฉลุปิิด้ทองของด้ังเดิิม และยังพบอีกว ่า กิารจัด้วางลายด้ังเดิิมนันมีกิาร<br />

จัด้วางลายทีแตกต่่างกััน โด้ยเฉพาะลายผีเสือไม่ได้้จัด้วางเป็็นแถวตรง<br />

เหมือนกัับปััจจุบัน<br />

ลายฉลุปิิด้ทองก่่อนบูรณะเป็็นลายด้อกิไม้ร่วงสลับกัับผีเสือ<br />

172<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


ผลัการขูดลัอกสีฝ้้าเพดานพาไลั<br />

ลวด้ลายฉลุปัิด้ทองฝ่้าเพด้านด้้านทิศิตะวันตกิ สภาพลวด้ลายที ่พบ<br />

ค่่อนข้างสมบูรณ์มากิทีสุด้ อีกิทังบางส่วนยังเหลือลายฉลุปิิด้ทองทีค่่อนข้าง<br />

ชััด้เจน มองเห็นอย่างเด่่นชััด้ จ่งได้้กิำหนด้ให้ทำกิารอนุรักิษ์์ลวด้ลายฉลุ<br />

ปิิด้ทองของด้ังเดิิมไว้ทังหมด้<br />

ลัวัดลัายฉลุุปิดทองฝ้้าเพดานด้านทิศิเหนือแลัะด้านทิศิตะวัันออก<br />

ผลจากิกิารขูด้ลอกิสีพบลายด้ั้งเด้ิมแต่มีกิารจัด้วางไม่เปั็นระเบียบ สืบเนื ่องจากิ<br />

ฝ่้าเพด้านทั้งสองด้้านได้้มีกิารซึ่่อมเปัลี่ยนไม้ฝ่้าโด้ยนำไม้ฝ่้าจากิด้้านทิศิใต้มา<br />

ซึ่่อมตัด้ต่อ จึงทำให้ลวด้ลายด้ั้งเด้ิมบางส่วนสูญหายไปั แต่ลายที ่มีเหลืออยู่<br />

เมื่อเปัรียบเทียบแล้วกิ็มีรูปัแบบที่เหมือนกิับลายด้้านทิศิตะวันตกิ<br />

ลัวัดลัายฉลัุปิดทองฝ้้าเพดานด้านทิศิใต้ ไม่พบลวด้ลายเด้ิม เนื ่องจากิ<br />

ได้้มีกิารซึ่่อมเปัลี่ยนไม้ใหม่ ด้ังนั้นแนวทางในกิารบูรณะจึงได้้กำำหนด้ให้เขียน<br />

ลายฉลุปัิด้ทองขึ้นใหม่ทั ้งสามด้้านโด้ยย่ด้ถือรูปัแบบกิารจัด้วางลายตาม<br />

แบบอย่างจากิด้้านทิศิตะวันตกิ แต่เนื่องจากิกิารจัด้วางระเบียบลายด้ั้งเด้ิม<br />

มิได้้วางลายเหมือนกิันทั้งผืน ด้ังนั้นเมื่อจะเริ่มวางลายของอีกิด้้านหนึ่งจะ<br />

ต้องย่ด้รูปัแบบลายในส่วนต่อเนื่องเปั็นรูปัแบบเริ่มต้น จากินั้นจึงจัด้วางลาย<br />

ตามแบบด้ั้งเด้ิม และอีกิจุดสำาคััญในกิารจัด้วางลายจะต้องปัรับระยะไม่ให้<br />

ลายทับตรงรอยต่อของแผ่นไม้ และลายด้อกิตรงขอบริมของทุกิด้้านจะต้อง<br />

มีลายด้อกิที่สมบูรณ์เต็มด้อกิ สำหรับสีที ่ใชู้ทาบนผิวไม้กิ่อนปัิด้ทอง ใชู้สีนามัน<br />

กิ่งเงากิ่งด้้าน<br />

ตัวอย่างกิารบันท่กิหลักิฐานลายฝ่้าเพด้าน กิ่อบูรณะคัรบทุกิด้้าน<br />

แล้วจึงทากิารขูด้ลอกิสีเปั็นขั้นตอนต่อไปั<br />

หลังกิารขูด้ลอกส ีพบว่า ฝ้้าเพด้านพาไลด้้านทิศิตะวันตกิเหลือลายด้ังเดิิมและสมบูรณ์ทีสุด้<br />

กิารขูด้ลอกส ีด้้วยนำยาลอกส ีพบลายฉลุปิิด้ทองด้ังเดิิมทำปัฏิิกิิริยากัับนำยา มีลวด้ลายอ่อนช้้อยสวยงาม<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

173<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


174<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


- ลวดลายที่ใช้เส้นอ่อน คือลวดลายดั้งเดิม<br />

ส่วนเส้นเข้มเป็นลวดลายที่เพิ่มเข้าไปใหม่<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

175<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


ฝ้้าเพดานภายใน<br />

ฝ่้าเพด้านภายในหอไตร เมื่อได้้ทากิารคััด้ลอกิลายเด้ิมไว้เปั็นหลักิฐาน<br />

แล้ว จึงเริ่มทากิารขูด้ลอกิสีออกิแต่ไม่พบร่องรอยของลวด้ลายด้ั้งเด้ิม ซึ่่ง<br />

คัาด้ว่าจะมีกิารซึ่่อมเปัลี่ยนไม้ฝ่้าเพด้าน ด้ังนั้นแนวทางในกิารอนุรักิษ์์จึงใชู้<br />

ลวด้ลายทีปัรากิฏิในปััจจุบันเปั็นต้นแบบ แต่เนื่องจากิกิารจัด้วางลายไม่<br />

สมบูรณ์ เชู่น คั้างคัาวมีไม่คัรบทุกิมุมและลายด้อกิจัด้วางไม่เปั็นระเบียบ<br />

จึงได้้ทากิารปัรับแบบกิารจัด้วางและเพิ่มเติมลายคั้างคัาวให้คัรบทุกิมุม และ<br />

ให้เปั็นไปัตามระเบียบกิารจัด้วางรูปัแบบลวด้ลายด้าวเพด้านที ่ได้้ศิ่กิษ์า<br />

เปัรียบเทียบจากิวัด้อื่นๆ ที่มีปัระวัติกิารสร้างในสมัยรัตนโกิสินทร์ตอนต้น<br />

เชู่นเด้ียวกิัน<br />

สภาพฝ่้าเพด้านภายในหลังขูด้ลองสีไม่พบลายด้ั้งเด้ิม<br />

ภาพด้าวเพด้านเด้ิมกิ่อกิารขูด้สี<br />

176<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


กิารดำำเนินงานฉลุลายปัิด้ทองฝ่้าเพด้านภายใน ในขั ้นแรกทำากิาร<br />

คััด้ลอกิลายเดิิมไว้ แล้วนำมาเขียนแต่งลายเส้นให้สมบูรณ์ จากินั นจ่ง<br />

ทำกิารปรุุแล้วไปติิด้ตามตำแหน่งเดิิมแล้วทำกิารปิิด้ทองด้้วยแผ่นทองคัำเปัลว<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

177<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


งานคันทวัย<br />

คัันทวย คัือชูิ้นส่วนของสถาปััตยกิรรมไทยทำหน้าที่ค้ายันชูายคัา<br />

โด้ยทัวไปม ักิเป็็นไม้แกิะสลักิหรือหล่อเป็็นลวด้ลายสวยงาม คัันทวยที<br />

หอพระไตรปิิฎกว ัดอััปัสรสวรรค์์เป็็นคัันทวยไม้ ปัระดัับอยู่ทีเสาทุกต้้น รวม<br />

ทังสินจำนวน ๒๒ ตัว ซึ่่งคัันทวยแต่ละตัวนันมีคัวามแตกต่่างกัันออกิไปั<br />

แต่สามารถจัด้จำแนกิออกิได้้ทังหมด้ ๑๒ แบบ ซึ่่งได้้ถอด้รือเพือนำมาศิ่กิษ์า<br />

ข้อมูลและด้ำเนินกิารบูรณะลงรักิปัิด้ทองปัระดัับกิระจกิใหม่ ส่วนบางตัวทีมี<br />

กิารชูำรุด้และเสือมสภาพจนไม่สามารถบูรณะได้้จะทำกิารจัด้ข่นมาใหม่<br />

สภาพคัวามชำำรุด้เสียหายคัันทวย คัันทวยหลุด้หาย ๑ ตัว และบางตัวหักิหาย<br />

เสามุมด้้านทิศิตะวันออกิเฉียงใต้ คัันทวยหลุด้หาย<br />

178<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

179<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


งานบูรณะคันทวัย<br />

คัันทวยของเดิิมเป็็นไม้สักิแกิะสลักิลวด้ลายปิิด้ทองปัระดัับกิระจกิ<br />

ตามตำแหน่งทีติด้ตังมีทังหมด้ ๒๒ ตัว จากิกิารสำรวจพบว่า คัันทวยของ<br />

เดิิมหลุด้หายไปั ๑ ตัว คืือตำแหน่งเสาด้้านมุมทิศิตะวันออกิเฉียงใต้ และ<br />

จากิกิารศิ่กิษ์ารูปัแบบคัันทวยแต่ละตัวมีกิารแกิะสลักิลวด้ลายทีเหมือนกััน<br />

อยู่ ๓ กลุ่่ม ส่วนทีเหลือมีลวด้ลายแตกต่่างกััน และสำหรับคัันทวยทีหลุด้<br />

หายไปั ได้้ใช้้รูปัแบบของคัันทวยทีอยู่ในกลุ่มเดีียวกัันเป็็นต้นแบบเพือทำกิาร<br />

แกิะสลักิขึ้นใหม่ ส่วนคัันทวยตัวอื่นๆ ที่มีสภาพของลวด้ลายแตกิชูำรุด้ได้้<br />

ทากิารซึ่่อมปัะด้ามไม้ พร้อมแกิะสลักิให้สมบูรณ์<br />

ติด้ตั้งคัันทวยและทาสีขอบไม้<br />

คัันทวยลงรักิปัิด้ทองปัระด้ับกิระจกิสีและติด้ตั้งกิลับคัืนแล้วเสร็จ<br />

180<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


งานอนุรักษ์์จิตรกรรมฝ้าผนัง<br />

ผนังภายในหอไตร เป็็นผนังไม้สักิเขียนภาพลายด้อกิไม้ มีสภาพ<br />

สีซึ่ีด้จางหลุดล่่อนเป็็นส่วนมากิโด้ยเฉพาะขอบด้้านบนของผนัง เนืองจากิ<br />

หลังคัารัวทำให้นำฝ่นไหลซึ่่มลงมาบนผนัง เป็็นเหตุให้ภาพเขียนสีซึ่ีด้จาง<br />

แต่ยังคังเห็นร่องรอยเค้้าโคัรงของภาพเขียน ดัังนันจ่งได้้ทำกิารอนุรักิษ์์ภาพ<br />

จิตรกิรรมฝ่าผนังภายในหอไตร เพือให้มีคุุณค่่าทางด้้านศิิลปัะ ปัระวัติศิาสตร์<br />

ทีสำคััญแห่งนีให้อยู่ในสภาพทีมันคังแข็งแรงสืบไปั เมือบันทึึกหลักิฐานด้้วย<br />

กิารถ่ายภาพแล้วจ่งได้้ทำกิารอนุรักิษ์์โด้ยกิารทำคัวามสะอาด้ด้้วยนำสะอาด้<br />

และแอมโมเนียมคัาร์บอเนต ฉีด้ทากิาวพาราลอยด์์ บี ๗๒ แล้วผนึึกให้<br />

แนบสนิทกัับผนัง จากินันถมชูันรองพืนในรอยชูำรุด้ด้้วยดิินสอพองผสม<br />

กิาวเม็ด้มะขามแล้วเติมสีในส่วนทีซึ่ีด้จางตามหลักิกิารอนุรักิษ์์ โด้ยให้มีสี<br />

ทีกิลมกลืืนกัับภาพเขียนสีของเดิิม<br />

สภาพจิตรกิรรมฝ่าผนังภายในหอพระไตรปิิฎกิกิ่อนกิารบูรณะ สีซึ่ีด้จางหลุดร ่อนเนืองจากิหลังคัารัว ทำให้นำฝ่นไหลซึ่่มลงมาบนผนัง<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

181<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


ภาพจิตรกิรรมฝ่าผนังภายในหอพระไตรปิิฎกิหลังกิารบูรณะ<br />

182<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


งานอนุรักษ์์ผนังประดับกระจกสี<br />

ผนังหอไตร เป็็นผนังไม้สักิหน้ากว้้างปัระมาณ ๑๖ นิว ตีตาม<br />

แนวนอน ภายนอกิปัระดัับกิระจกส ี สภาพก่่อนกิารบูรณะชูันกิระจกิกิะเทาะ<br />

หลุดล่่อน ชูันรักิเสือมสภาพ มีคัราบสกิปัรกิ ฝุ่่นละออง และมูลนกพิิราบ<br />

ข้อสังเกิตคืือกิระจกส ีด้้านทิศิเหนือมีขนาด้เล็กิกิว่าด้้านอืนๆ<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

183<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


184<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

185<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


การซุ้่อมแซุ้มกระจกสี<br />

กิระจกสีีทีปัระดัับผนังหอพระไตรปิิฎกินันเป็็นกิระจกิเกรีียบสีทีมี<br />

คัวามบางมากิเป็็นพิเศิษ์ซึ่่งปััจจุบันไม่ปัรากิฏิว่ามีกิารผลิตหรือนำเข้าแล้ว<br />

มีเพียงกิระจกิบางชูนิด้ที ่มีลักิษ์ณะใกิล้เคัียงซึ่่งมีกิารนาเข้ามาจำหน่ายและ<br />

ผลิตในปัระเทศิ แต่กิ็มีขนาด้ที่หนากิว่าและมีสีสันทีคั่อนข้างโด้ด้เด้่นกิว่าของ<br />

เด้ิมเปั็นอย่างมากิ<br />

จากลัักิษ์ณะทางกิายภาพของโบราณสถานส่วนทียังคังเหลืออยู่นัน<br />

มีสภาพทีคั่อนข้างสมบูรณ์ในคัวามเปั็นโบราณสถานที่ผ่านกิารเวลามา<br />

ยาวนานซึ่่งยังเหลือหลักิฐานร่องรอยและส่วนที่ยังคัวามสมบูรณ์ นับเปั็นสิ่ง<br />

ยืนยันถึงคัวามสาคััญซึ่่งแทบไม่ต้องมีคำำอธิบายใด้ๆ จากิลักิษ์ณะสภาพของ<br />

สถาปััตยกิรรม งานศิิลปักิรรมที่ทรงคัุณคั่านั้น<br />

กิารอนุรักิษ์์ซึ่่อมแซึ่มจึงให้คัวามสาคััญในด้้านกิารรักิษ์าและเสริม<br />

คัวามมั ่นคังในส่วนที คังเหลือมากิกิว่ากิารที ่จะต้องซึ่่อมเพื ่อให้สมบูรณ์เต็ม<br />

พื้นที่ เพราะจะเปั็นกิารทำให้สิ่งสาคััญทีคังเหลือนั้นด้้อยคั่าลง และกิลาย<br />

เปั็นสิ่งปัลูกิสร้างให้ซึ่่งจะไม่สามารถที ่จะอธิบายคัวามเปั็นมาอย่างเต็ม<br />

คัวามภาคัภูมิได้้ กิารรักิษ์าสภาพให้คังเด้ิมและมั ่นคังจึงเปั็นเหตุผลอันสาคััญ<br />

ในกิารทีจะต้องรักิษ์าไว้ให้ทรงคุุณค่่าและเป็็นปัระโยชน ์ต่อกิารศิ่กิษ์าค้้นคว ้า<br />

ด้้านศิิลปัะ ปัระวัติศิาสตร์ วัฒนธรรม และเศิรษ์ฐกิิจต่อไปั<br />

สภาพกิระจกิสีกิะเทาะหลุด้ล่อน และชูั้นรักิเสื่อมสภาพจนเห็นเนื้อไม้ ไม้ผนังบางส่วนมีรอยแยกิระหว่างแผ่นไม้<br />

186<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

187<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


งานอนุรักษ์์ลัายรดนำบานประตู-หน้าต่าง<br />

กิารซึ่่อมแซึ่มลายรดน้า จะพิจารณาจากิสภาพคัวามชำำรุด้ของลวด้ลาย<br />

ที่มีคัวามชำำรุด้ที่แทบจะไม่เหลือร่องรอยเด้ิมหรือมีร่องรอยเด้ิมแต่ชูั้นทอง<br />

หลุด้หายไปัเกิือบทั้งหมดทำำให้มีคัวามไม่กิลมกิลืนในคัวามชำำรุด้เล็กิน้อย<br />

ตามธรรมชูาติ คัือคัวามเลือนรางบ้างบางส่วนแต่ยังคังรูปัแบบลวด้ลายและ<br />

ชูั้นทองไม่น้อยกิว่า ๕๐%<br />

ในกิารซึ่่อมแซึ่มจะซึ่่อมเกิ็บในจุด้เล็กิที่ชำำรุด้ขาด้หายไปัและในส่วนที่<br />

เลือนหายเปั็นพื้นทีกิว้างเหลือเพียงร่องรอยของลายเส้น แต่ชูั้นปัิด้ทอง<br />

หลุด้หายไปัเกิือบหมด้เท่านั้น<br />

ในส่วนทีมีคัวามหมองและเลือนลางบ้างแต่ยังคังปัรากิฏิรูปัแบบของ<br />

ลวด้ลาย และชูันปิิด้ทองค่่อนข้างชััด้เจนและมีคัวามกิลมกล ืนสมำเสมอของ<br />

สภาพของเดิิมทีเกืือบสมบูรณ์ จะทำกิารเสริมคัวามมันคังชูันรักิและชูัน<br />

ปิิด้ทองให้คังสภาพดีีมันคังแข็งแรง<br />

188<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

189<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


วิิธีีการซุ้่อมแซุ้ม<br />

๑. กิารทำคัวามสะอาด้ ด้้วยกิารปัระคับดููด้ซึ่ับคัราบสกิปัรกิโด้ยกิาร<br />

ใช้้สำลีหรือกิระด้าษท ิชูชููชุุบนำปัระคับทิ งไว้พอปัระมาณให้คัราบสกิปัรกิ<br />

อ่อนตัวแล้วจ่งใช้้สำลีพันปัลายไม้เพือดููด้ซึ่ับคัราบสกิปัรกิหรือคัราบเขม่า<br />

ติด้แน่น ไม่สามารถทำคัวามสะอาด้ด้้วยนำเปล่่าได้้ จะใช้้นำเปล่่าผสมนำยาเคมีี<br />

ตามอัตราส่วนทีเหมาะสมและผ่านกิารทด้ลองในแต่ละสภาพคัวามสกิปัรกิ<br />

๒. กิารเสริมสภาพคัวามมันคังและปร ับพืนผิวทีชูำรุด้ กิารเสริม<br />

คัวามมันคังรอยชูำรุด้โด้ยใช้้รักิสมุกิ (รักิเงาผสมดิินสอพอง) อุด้ซึ่่อมในส่วน<br />

ทีชูำรุด้ของพืนผิวชูันรักิปัล่อยให้แห้งสนิท และขัด้ปัรับแต่งจนกว่่าพืนผิวจะ<br />

เรียบเสมอ<br />

๓. กิารเชู็ด้รักิ หลังกิารเสริมคัวามมั ่นคังและปัรับแต่งพื้นที่ชำำรุด้ให้<br />

เรียบเนียนแล้วจะรองพื้นรักิด้้วยกิารเชู็ด้ ๑-๓ คัรั้ง ให้มีคัวามหนาของ<br />

ชูั้นรักิและสมาเสมอของพื้นผิว ปัล่อยไว้ให้แห้งสนิท<br />

๔. กิารเขียนลวด้ลายซึ่่อม กิารเขียนลวด้ลายซึ่่อมจะใชู้วัสดุ้แบบ<br />

ด้ั้งเด้ิม คัือเขียนและถมร่องลายด้้วยนายาหรด้าน และเชู็ด้ด้้วยนารักิเกิลี้ยง<br />

หรือรักิเงาทิ้งไว้ให้แห้งพอเหมาะจึงปัิด้ทองคำำเปัลว ๑๐๐% โด้ยปัิด้ให้ทึบ<br />

เต็มพื้นที่ทีซึ่่อมแซึ่ม แล้วกิวด้ทองด้้วยกิารลูบให้ทองติด้ผิวรักิจนแห้งสนิท<br />

๕. กิารรด้หรือกิารล้างด้้วยนำ หลังกิารปิิด้ทองและกิวด้ทอง<br />

เรียบร้อยแล้ว จ่งใช้้กิระด้าษท ิชูชููหรือสำลีและเยือกิระด้าษ์ ชุุบนำปัระคับทิง<br />

ไว้เพือทำละลายหรด้าลทีเขียนให้หลุด้ออกง ่ายโด้ยให้สำลีชุุบนำลูบซึ่ับเบาๆ<br />

จนกิว่าจะสะอาด้และปัรากิฏิลวด้ลายทองชูัด้ปัล่อยให้แห้งแล้วปัรับแต่ง<br />

สภาพให้กิลมกิลืนกิับทองเด้ิม<br />

กิารทำคัวามสะอาด้คัราบสกิปัรกิลนลวด้ลายรดน ้ำด้้วยกิารใช้้กิระด้าษทิิชูชููเป็็นตัวชุุบนำปัระคับ<br />

บนพืนผิวลวด้ลายให้คัราบสกิปัรกอ ่อนตัวแล้วจ่งใช้้สำลีพันปัลายไม้ชุุบนำเช็็คัเพือดููด้คัราบ<br />

สกิปัรกิด้้วยคัวามระมัด้ระวัง<br />

190<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


ขั้นตอนการอนุรักษ์์<br />

การเขียน-ปิดทองซุ้่อมลัวัดลัายรดนำ<br />

หลังทำคัวามสะอาดต ้องถมพื นส่วนทีชูำรุด้ด้้วยรักิสมุกิให้พืนผิว<br />

เรียบเสมอกัับผิวเดิิมทีถมรักิสมุกิให้เรียบเนียนใกล้้เคีียงกัับพืนผิวเดิิมแล้ว<br />

จ่งเช็็ด้ด้้วยรักิเงาให้มีชูันรักิหนาพอปัระมาณ ทิงไว้ให้แห้งสนิท แล้วจ่ง<br />

เขียนลายเส้นด้้วยนำหรด้าลกิาวผสมกิาวกิระถินแล้วถมร่องลายด้้วย<br />

หรด้าล เช่่นเดีียวกัันหลังเขียนลายเส้นและถมร่องลายรอให้แห้งสนิทดีีแล้ว<br />

จ่งทำกิารเช็็ดตััวลาย รอให้แห้งสนิทดีีแล้วด้้วยรักน้้ำเกิลียงหรือรักิเงา ทิงให้<br />

พืนรักิแห้งพอเหมาะ จ่งปิิด้ทองทับทังพืนทีของลวด้ลายแล้วกิวด้แผ่นทอง<br />

ให้ติด้สนิทแน่นกัับผิวชูันรักิ ปล่่อยให้แห้งแล้วจ่งใช้้สำลีหรือกิระด้าษท ิชูชูู<br />

ชุุบนำสะอาด้ปัระคับแล้วค่่อยๆ ซึ่ับเอาหรด้าลทีเขียนลวด้ลายจนกว่่าจะ<br />

สะอาด้<br />

กิารเขียนลวด้ลายด้้วยหรด้าลและถมร่องแล้วจ่งปิิด้ทองซึ่่อมในส่วนทีชูำรุด้เสียหาย<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

191<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หลังกิารถมพืน เขียนลวด้ลาย เช็็ดร ักิแล้วเสร็จ จ่งทำกิารปิิด้<br />

ทองคัำเปัลวท่บเต็มพืนทีบริเวณทีซึ่่อมแซึ่มเพือให้ลวด้ลายเป็็นลวด้ลายทอง<br />

ทีสมบูรณ์แล้วจ่งซึ่ับล้างนำเอาชูันหรด้าลออกิจนกว ่าจะสะอาด้และเห็น<br />

คัวามชััด้เจนของลวด้ลายแล้วจ่งปรัับแต่งสภาพให้กิลมกลืืนกัับลวด้ลายของเดิิม<br />

กิารปิิด้ทองซึ่่อมลวด้ลายรดน ้ำ หลังกิารเขียนลวด้ลาย<br />

ถมร่องลายแล้วจ่งเช็็ดร ักิ-ปิิด้ทองซึ่่อมส่วนชูำรุด้<br />

ซึ่่อมแซึ่มลวด้ลายรดน ้ำซึุ่้มปัระตูและหน้าต่างแล้วเสร็จ<br />

192<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


งานอนุรักษ์์ลัวัดลัายไม้แกะสลัักแลัะเครืองไม้ต่างๆ<br />

เคัรืองไม้แกิะสลักิทีปัระดัับส่วนฐานเรือนหอพระไตรปิิฎกินัน ส่วนใหญ่<br />

ชูำรุด้หลุด้หายเกืือบทังหมด้ คังเหลือเพียงเล็กน้้อยทีพอให้เห็นและใช้้เป็็น<br />

ตัวอย่างในกิารแกิะสลักิ อีกิทังขนาด้ของชูินงานก็็มีขนาด้เล็กิและบอบบางมากิ<br />

ต้องใช้้คัวามปัระณีตและเวลาในกิารแกิะ อาจจะเป็็นเพราะคัวามบอบบางของ<br />

ตัวลายทีทำให้มีคัวามแตกห ักิชูำรุดง่่าย หลุด้หายไปัเป็็นจำนวนมากิ<br />

ขั้นตอนการซุ้่อมแซุ้มเครื่องไม้แกะสลััก<br />

๑. สำรวจตรวจสภาพคัวามมั ่งคังของโคัรงสร้างและลวด้ลาย<br />

ปัระด้ับของเด้ิม<br />

๒. เสริมคัวามมันคังโคัรงสร้างไม้และตัวลวด้ลายไม้<br />

๓. ทำคัวามสะอาด้คัราบฝุ่นละอองและสิงสกิปัรกิอืนๆ<br />

๔. ติด้ตั้งซึ่่อมลวด้ลายไม้แกิะสลักิซึ่่อมส่วนที่ชำำรุด้หลุด้หายไปั<br />

๕. ทานายารักิษ์าเนื้อไม้ ปัรับแต่งสีไม้ให้กิลมกิลืนของเด้ิม<br />

๖. ลงรักิ-ปัิด้ทองบางส่วนให้กิลมกิลืน<br />

กิารใช้้ลำลีพันปัลายไม้ชุุบนำผสมนำยาเคม ีเช็็ด้ทำคัวามสะอาด้สะอาด้ฝุ่่นและคัราบสกิปัรกิ<br />

เคัรื่องไม้โคัรงสร้างหรือลวด้ลายไม้แกิะสลักิของเด้ิมนั้นพื้นผิวของไม้<br />

จะมีกิารส่กิกิร่อนบ้างซึ่่งเปั็นเหตุให้ชูั้นปัิด้ทองเลือนหายไปัด้้วย กิรณีนี้จะยัง<br />

คังรักิษ์าสภาพร่องรอยปััจจุบันเท่านัน เพราะหากิซึ่่อมผิวปิิด้ทองใหม่จะทำให้<br />

เกิิด้คัวามขัด้แย้งต่อสภาพ และร่องรอยของเดิิมทีไม่สามารถอธิบาย<br />

คัวามสำคััญของหลักิฐานเดิิมทีปัรากิฏิอยู่ชูัด้เจนได้้<br />

ทำคัวามสะอาด้งานปัระดัับไม้สลักิแล้วเสร็จ<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

193<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


งานอนุรักษ์์ลัวัดลัายโลัหะประดับซุุ้้มประตู-หน้าต่าง<br />

ลวด้ลายโลหะตะกิัวส่วนทีปัระดัับซึุ่้มปัระตู-หน้าต่างนัน จะเป็็นรูปั<br />

กิรอบซึุ่้มหน้าบัน ช่่อฟื้้า ใบระกิา หางหงส์ และกิระจังขนาด้เล็กิปัระดัับอยู่<br />

ระเบียงชูันต่างๆ ของซึุ่้ม ตังแต่ส่วนฐานจนถ่งส่วนยอด้ซึุ่้มซึ่่งของเดิิมได้้<br />

ชูำรุด้หลุด้หายไปัคั่อนข้างมากิ แต่ก็็ยังคังเหลือส่วนทียังคังรูปัแบบตัวลาย<br />

กัับตำแหน่งชูันทีปัระดัับส่วนหน่งให้เห็นเป็็นหลักิฐานและเป็็นแบบตัวอย่าง<br />

ในกิารปัระดิิษฐ ์ติด้ตังซึ่่อมแซึ่มให้สมบูรณ์และปร ับสภาพสีโลหะให้กิลมกล ืน<br />

กัับของเดิิมตามคัวามเหมาะสม<br />

สภาพหางหงส์ซึุ่้มปัระตูหลุด้หายทั้งสองข้าง<br />

สภาพคัวามชำำรุด้ของชูิ้นส่วนหล่อโลหะ<br />

194<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


ขั้นตอนการซุ้่อมแซุ้มโลัหะตะกัวั<br />

๑. สำรวจตรวจสภาพคัวามชำำรุด้เกิ็บแบบตัวอย่างลวด้ลายเพื ่อทำ<br />

เปั็นแบบพิมพ์ในกิารหล่อ<br />

๒. เสริมคัวามมั่นคังของโคัรงสร้างไม้ของซึุ่้มปัระตู-หน้าต่าง<br />

๓. หล่อลวด้ลายพร้อมตกิแต่งให้เรียบร้อยและปัรับสภาพสี<br />

๔. ติด้ตั้งลวด้ลายตามตำแหน่งระเบียบแต่ละชูั้น<br />

๕. ปัรับแต่งลวด้ลายของเด้ิมให้มีสภาพด้ี<br />

กิารนำตะกิั่วมาหล่อหลอมเปั็นตัวลวด้ลายนั้น สีของตะกิั่วอาจจะมี<br />

คัวามวาววับขาวโด้ด้เด้่นจึงต้องใชู้กิรด้บางตัวชู่วยในกิารปัรับสีของตะกิั่วให้<br />

ด้้านและดู้คล้าลงใกิล้เคัียงกิับสีของตะกิั่วของเด้ิม เพื่อให้กิลมกิลืนและไม่ให้<br />

เกิิด้คัวามแตกต่่างมากน ักิ อาจจะมีบางส่วนทีอาจโด้ด้เด่่นอยู่บ้าง แต่เมือ<br />

กิาลเวลาผ่านไปส ักิระยะหน่งก็็จะสามารถแปัรเปัลียนสภาพลด้คัวามโด้ด้เด่่น<br />

เป็็นไปัตามธรรมชูาติ<br />

กิารหล่อชูินงานตะกิัวเพือซึ่่อมแซึ่มจะใช้้ตะกิัวบริสุทธิเกิรด้ A จะมี<br />

คัวามเหนียวและหลอมได้้ง่ายในอุณหภูมิทีตำ โด้ยใช้้ต้นแบบชูินงานของเดิิม<br />

ทีมีอยู่นำมาถอดพิิมพ์ด้้วยวัสดุุทีแข็งแกร่่ง เช่่น ปัลาสเตอร์ซึ่ีเมนต์หรือพิมพ์<br />

โลหะเหล็กิ ใช้้แก๊๊สทีให้คัวามร้อนสูงหลอมละลายลงในแม่แบบปล่่อยให้เย็นลง<br />

และแข็งตัวแล้วนำออกิมาปัรับแต่งรูปัแบบให้สมบูรณ์กิ่อนนำไปัแชู่ใน<br />

กิรด้เกิลือเพื่อปัรับสี<br />

หลังกิารตกิแต่งเรียบร้อยแล้วนำมาแช่่ลงในกิรด้เกล ือเพือปรัับสีให้ใกล ้เคีียงกัับของเดิิม<br />

กิารหล่อชูินส่วนตะกิัว<br />

หล่อชูิ้นงานและปัรับแต่งให้เรียบร้อยโด้ยใชู้ชูิ้นงานของเด้ิมเปั็นแบบถอด้พิมพ์<br />

เพื่อซึ่่อมแซึ่มของเด้ิมที่ชำำรุด้เสียหาย<br />

กิารติด้ตังชูินงานโลหะบนโคัรงสร้างเคัรืองไม้โด้ยให้ตะปููโลหะแกร่่งกัันสนิม<br />

ในกิารยึึดลวด้ลายกัับโคัรงสร้างเคัรืองไม้<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

195<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


กิารติด้ตั้งลวด้ลายโลหะโด้ยปัรับแต่งรูปัแบบตามระเบียบของแต่ละชูิ้นและย่ด้ลวด้ลายกิับ<br />

โคัรงสร้างไม้ด้้วยโลหะแกิร่ง<br />

หลังกิารติด้ตั้งงานหล่อชูิ้นส่วนโลหะแล้วเสร็จ<br />

ติด้ตั้งหางหงส์ซึุ่้มปัระตูที่หลุด้หายไปัโด้ยใชู้สัด้ส่วนจากิหางหงส์ของหลังคัา<br />

กิารปัรับแต่งชูิ้นงานตามรูปัแบบระเบียบโคัรงสร้างไม้<br />

196<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

ลงรักิหางหงส์ซึุ่้มปัระตู<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย<br />

ปัิด้ทองหางหงส์ซึุ่้มปัระตูแล้วเสร็จ


งานสี<br />

จากิกิารด้ำเนินงานบูรณะและตรวจสอบหาชูันสีเดิิมพบว่า ฝ้้าเพด้าน<br />

และจันทันทาด้้วยโทนสีแด้ง แปัและตะเฆ่่สันทาด้้วยโทนสีฟื้้า พืนระเบียง<br />

ไม่พบหลักิฐานของสีเดิิมแต่ตรงมุมด้้านทิศิตะวันออกิเฉียงเหนือพบเห็น<br />

ลักิษ์ณะสีด้ำเหมือนรักิสมุกิแต่จุด้ทีพบเล็กิมากจ ึงไม่สามารถสรุปัได้้ว่า<br />

พืนทาด้้วยวัสดุุอะไร ส่วนพนักิระเบียงก็็เช่่นเดีียวกัันทีไม่ปัรากิฏิร่องรอย<br />

ของสีด้ังเดิิม เนืองจากิเป็็นส่วนทีได้รับผลกิระทบจากิแสงแด้ด้และลมฝ่นมากิ<br />

จึงเสื่อมสภาพหลุด้ร่อนหมด้จนถึงเนื้อไม้ส่วนเสาชูั้นล่างทั ้ง ๒๐ ต้น มีลักิษ์ณะ<br />

ของโทนมีแด้งแต่สีซึ่ีด้จางมากิเนื่องจากิได้้รับผลกิระทบจากิคัวามชูื้น<br />

หลักิฐานสีเด้ิมทีฝ่้าไขรา หลักิฐานสีเด้ิมทีฝ่้าเพด้าน แปั ตะเฆั่สัน จันทัน และเสาไม้<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

197<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


กิารพิจารณาเลือกิใช้้สี เริมจากส่่วนทีมีหลักิฐานเดิิมปัรากิฏิ ปัระกิอบ<br />

ด้้วยสีทาฝ้้าเพด้าน จันทัน และแปั เลือกิใช้้สีนำมันกิ่งเงากิ่งด้้าน ตามเฉดสีีเดิิม<br />

เนื่องจากิพื้นผิวในส่วนนี้จะต้องทำลายฉลุปัิด้ทองเพื่อกิารย่ด้เกิาะทีด้ีของ<br />

แผ่นทองคัำเปัลว ส่วนไม้เชิิงชูายซึ่่งอยู่ภายนอกิได้้เลือกิใช้้สีสูตรนำหรือสีนำ<br />

อะคร ิลิกิ<br />

เมือได้้ทาสีอาคัารทังหมด้แล้ว จ่งได้้ทำภาพจำลองเพือหาเฉดสีีทีจะ<br />

ใช้้ทาพนักิระเบียงไม้และเสาไม้ซึ่่งคัณะกิรรมกิารได้้เลือกิใช้้เฉดส ีแด้งเหมือน<br />

สีทีใช้้ทาเชิิงชูาย สำหรับพืนไม้สักิเลือกิใช้้สีย้อมพืนไม้<br />

กิารทด้ลองทาสีลงบนพืนไม้เพือพิจารณาเฉดส ีของโคัรงสร้างหลังคัาและฝ้้าเพด้าน<br />

ทาสีไม้โคัรงหลังคัาและฝ่้าเพด้านแล้วเสร็จ<br />

198<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


ภาพจำลองเพื่อกิารพิจารณาเฉด้สี<br />

ทาสีหอพระไตรปัิฎกิแล้วเสร็จ<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

199<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


งานปรับปรุงภูมิทัศน ์<br />

หอพระไตรปิิฎกิตังอยู่่กลางสระนำ กิำแพงสระก่่ออิฐแบบโบราณ<br />

ล้อมรอบทังสีด้้าน ด้้านทิศิเหนือมีบ้านพักิอาศััยเป็็นอาคัารไม้สองชูันได้้ปล ูกิ<br />

สร้างอยู่ชูิด้ขอบสระและบางส่วนรุกล้าเข้าไปัในสระนา ด้้านทิศิตะวันออกิ<br />

มีอาคัารเมรุสร้างชิิดต ิด้กิับขอบสระและมีกิารก่่อสร้างแนวรั วทับบนขอบสระ<br />

ด้้านทิศิใต้ ได้้มีกิารปร ับและกิารพืน คั.ส.ล. ทับบนขอบกิำแพงสระเดิิม<br />

ริมขอบถนนสร้างเป็็นรัวเหล็กิ ส่วนด้้านทิศิตะวันตกิได้้มีกิารก่่อสร้างโกิศิ<br />

บรรจุอัฐิ ลักิษ์ณะโกิฏิิสำเร็จรูปัพร้อมปรัับเทพืน คั.ส.ล. และสร้างรั วเหล็กิ<br />

ล้อมรอบ<br />

200<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


จากินั้นได้้ทากิารรื้อถอนสิ่งกิ่อสร้างใหม่ออกิทั้งหมด้ (ยกิเว้นบ้านพักิ<br />

อาศิัยสองหลัง) สำหรับโกิศิบรรจุอัฐิได้้ย้ายไปัไว้บริเวณสนามด้้านริมคัลอง<br />

หน้าวัด้ พร้อมสร้างแท่นฐานให้ใหม่<br />

เมือได้้รือถอนพืน คั.ส.ล. ออกิแล้วจ่งได้้ทำกิารศิ่กิษ์าหาหลักิฐาน<br />

คัวามสูงของกิำแพงสระเดิิมซึ่่งพบว่า บริเวณขอบสระด้้านทิศิเหนือซึ่่งมี<br />

ปููนฉาบทับขอบสระเหลืออยู่ จ่งได้้ย่ด้ถือระดัับคัวามสูงของขอบสระเดิิมเป็็น<br />

ค่่าระดัับทีจะนำมากิำหนด้ในกิารออกิแบบปร ับปร ุงภูมิทัศน์์ อีกิทังได้้ทำกิาร<br />

ขุด้ตรวจสอบบริเวณฐานของหอระฆััง พบพืนปููด้้วยอิฐอยู่ล่กิจากิระดัับ<br />

ผิวดิินหรือขอบสระปัระมาณ ๐.๓๕ เมตร แต่ระดัับดัังกล่่าวเป็็นระดัับที<br />

ตำมากิไม่สามารถระบายนำได้้จ่งได้้กิำหนด้คั่าระดัับพื นทีจะทำกิารปร ับปร ุง<br />

ใหม่ให้สูงกว ่าขอบสระเล็กน ้อย<br />

กิารปร ับปร ุงภูมิทัศน ์ตามรูปัแบบบูรณะได้้กิำหนด้ให้จัด้ทำพืน คั.ส.ล.<br />

ปููหินแกิรนิต ขนาด้ ๐.๔๐ x ๐.๔๐ เมตร ผิวพ่นไฟื้ ปููในแนวทแยงเดิิน<br />

ขอบด้้วยปููนทรายผิวขัดม ัน และเว้นขอบพืนห่างจากิขอบสระโด้ยเฉลีย<br />

๐.๕๐ เมตร โรยกิรวด้แม่นำเพือทำเป็็นร่องระบายนำพร้อมทังจัด้ทำระบบ<br />

ระบายนำโด้ยติด้ตังปัระตูนำทองเหลืองขนาด้ ๔ นิว เพือระบายนำเข้าและ<br />

ออกิลงสู่่คลอง ผนังริมทางเดิินก่่อสร้างเป็็น คั.ส.ล. ผิวฉาบปููนขัดมััน ยกิขอบ<br />

ข่นสูงกว่่าพืนทางเดิินเฉลีย ๕ ซึ่ม. เพือป้้องกัันนำจากิพืนถนนไหลลงในสระ<br />

พร้อมจัด้ทำราวกัันตกิและปัระตูเหล็กิ ด้้านทิศิตะวันออกิของพืนทีได้้ปลููกิ<br />

ต้นโมกิ ขนาดสููงปัระมาณ ๒ เมตร เพือบดบ ังอาคัารเมรุทำให้เกิิด้<br />

ทัศน ียภาพทีสวยงามมากิข่น สำหรับพืนทีด้้านหน้าหอระฆัังเมือได้้ทำกิาร<br />

ปร ับปร ุงขยายพืนหน้าบันได้ออกิมาเพือเปิิด้ให้เห็นขันบันได้ขันแรกิ ทำให้<br />

พืนทางเดิินสัญจรแคับลง จ่งได้้รือถอนรัวเดิิมออกิและปรัับเลือนแนวเพือเปิิด้<br />

ช่่องทางเดิินให้กว ้างข่น โด้ยกิารก่่อสร้างรัวปููนข่นใหม่ตามรูปัแบบรัวเดิิม<br />

กิารปล ูกต ้นโมกิลงดิินด้้านทิศิตะวันออกิ และปัระดัับกิระถางต้นจันทน์ผาบริเวณพืนลาน<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

201<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


พื้นทางเด้ินมุมหอระฆัังด้้านทิศิตะวันตกิเฉียงเหนือ ตัด้พื้นคัอนกิรีตทางเด้ินพร้อมขุด้ลอกิด้ินเพื่อขยายพื้นที่หน้าหอระฆััง<br />

ถมทรายปัรับระด้ับ วางตะแกิรงเหล็กิและเทคัอนกิรีตพื้นลาน<br />

202<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


กิารกิ่อสร้างแผงกิันด้ิน คัอนกิรีตเสริมเหล็กิ ผิวขัด้มัน พร้อมทำราวกิันตกิเหล็กิ<br />

เนืองจากว ัดอััปัสรสวรรค์์เป็็นวัด้ทีมีขนาด้เล็กิ ปัระกิอบกัับพืนทีรอบ<br />

บริเวณหอพระไตรปิิฎกว ัดอััปัสรสวรรค์์ มีอาคัารล้อมรอบทำให้พืนทีดููแออัด้<br />

กล่่าวคืือ ด้้านทิศิตะวันออกติิด้กิับทางเดิินทีสามารถทะลุไปยัังบ้านของชูาวบ้าน<br />

และวัด้อืนทีอยู่ใกล้้เคีียง เช่่น วัด้ปัากน ้ำภาษีีเจริญและวัดข ุนจันทร์<br />

ด้้านทิศิเหนือติด้กิับบ้านของปัระชูาชูนทีรุกล ้ำเข้ามาในบริเวณสระนำที<br />

หอพระไตรปิิฎกิตังอยู่ ด้้านทิศิตะวันตกต ิด้กิับเมรุและศิาลากิารเปร ียญ และ<br />

ด้้านทิศิใต้ติด้กิับทางสัญจรภายในวัด้ นอกิจากินีทางวัด้ได้้สร้างรัวล้อม<br />

รอบหอพระไตรปิิฎกิเพือคัวามปัลอดภ ัยในชีีวิตและทรัพย์สินของทางวัด้<br />

กิารปร ับปร ุงภูมิทัศน์์รอบบริเวณหอพระไตรปิิฎกินัน มีแนวคิิด้ในกิาร<br />

เปิิด้พืนทีให้โล่งเพือให้เกิิด้คัวามสวยงามและส่งเสริมให้หอพระไตรปิิฎกมีี<br />

คัวามสง่างาม รวมทังกิารวางผังและกิารออกิแบบใหม่ในพืนทีอนุรักิษ์์ ทีคัำน่งถ่ง<br />

กิารออกิแบบที ดีีเพือแก้้ปััญหาและรักิษ์าคุุณค่่าคัวามเป็็นโบราณสถานของที<br />

ตังด้้วยกิารปร ับปร ุงภูมิทัศน์์จ่งมีแนวคิิด้โด้ยรวม ดัังต่อไปันี<br />

ทุบสกััด้รัวและกิำแพงทีทางวัด้สร้างล้อมรอบไว้เพือเปิิดมุุมมองให้<br />

กัับพืนทีโด้ยรอบเพือรือฟื้้นสภาพพืนทีเดิิมในอดีีตเมือคัรังแรกครั ้งหอ<br />

พระไตรปิิฎกิให้กล ับมา<br />

ด้านทิศิตะวัันออก ฝ่ังทีติด้กิับทางเดิิน ด้ำเนินกิารเคัลือนย้ายโกิศิ<br />

บรรจุอัฐิไปัไว้ด้้านทิศิตะวันตกฉ ียงเหนือ และขยายทางเดิินโด้ยทุบสกััด้<br />

กิำแพงกุุฏิิเจ้าอาวาส (บริวเณแนวรัวอาคัารสุขา) ออกิเพือขยายทางเดิินให้<br />

กว ้างข่น<br />

ด้านทิศิใต้ ด้ำเนินกิารรือถอนบ้านเรือนของปัระชูาชูนทีรุกล ้ำเข้ามา<br />

ในเขตสระนำบริเวณหอพระไตรปิิฎกิ เพือเปิิดมุุมมองของหอพระไตรปิิฎกิและ<br />

จัด้ทำป้้ายเพือปัระชูาสัมพันธ์และสือคัวามหมายของอาคัาร<br />

ด้านทิศิตะวัันตก จัด้ทำรัวระแนงไม้เพือบังสายตาจากิเมรุทีตังอยู่<br />

ถัด้จากิหอพระไตรปิิฎกิ และศิาลากิารเปร ียญซึ่่งอยู่คั่อนข้างชิิดต ิด้กิับ<br />

หอพระไตรปิิฎกิ และจัด้ทำสวนแนวตั งด้้วยกิารจัด้หาต้นไม้แขวนเพือ<br />

คัวามสวยงาม<br />

ด้านทิศิใต้ หลังจากรืือถอนกิำแพงและรั วเหล็กิแล้ว จัด้ทำป้้ายเพือ<br />

ปัระชูาสัมพันธ์และสือคัวามหมายของอาคัาร<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

203<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


งานบูรณะหอระฆััง<br />

หอระฆัังตั งอยู่ทางด้้านทิศิตะวันตกิเฉียงเหนือของหอไตรสภาพโด้ย<br />

ทัวไปผิิวปููนฉาบเสือมสภาพหลุดร่่วง และมีบ้านพักิอาศััยปลููกิสร้างชิิดติิด้กิับ<br />

ฐานหอระฆัังอยู่สองด้้านคืือด้้านทิศิตะวันออกิและทิศิใต้ ในส่วนนี<br />

ไม่สามารถด้ำเนินกิารบูรณะได้้ เนืองจากบ้้านพักิอาศััยไม่ยอมย้ายออกิ<br />

ดัังนันจ่งทำกิารบูรณะในส่วนทีสามารถจะทำกิารบูรณะได้้ โด้ยกิารกิะเทาะ<br />

ปููนฉาบเดิิมออกิทังหมด้ตังแต่ส่วนฐานจนถ่งส่วนยอด้ ตรวจสอบและ<br />

ซึ่่อมแซึ่มอิฐก่่อทีชูำรุด้ โด้ยกิารก่่อเสริมด้้วยอิฐมอญขนาด้ใหญ่สอด้้วยปููนหมักิ<br />

แบบโบราณ<br />

จากินั นจ่งได้้ทำกิารฉาบปููนผนังเรียบและฉาบปููนลวดบ ัวกล ับคืืนสู่<br />

สภาพเดิิมโด้ยฉาบด้้วยปููนหมักิแบบโบราณและขัดผ ิวด้้วยปููนตำแบบโบราณ<br />

ตามหลักิฐานเดิิมทีปัรากิฏิ ส่วนพืนรอบฐานหอระฆัังได้้ขูด้ลอกิด้ินทีทับถมออกิ<br />

เพือเปิิด้ให้เห็นฐานหน้ากิระด้าน แต่ไม่สามารถเปิิดถ ึงระดัับพืนใช้้งานเดิิมได้้<br />

เนืองจากม ีผลกิระทบต่อระบบระบายนำ แล้วปููพืนรอบฐานด้้วยอิฐมอญ<br />

ขนาด้ใหญ่โด้ยปููบนพืนทรายถม ส่วนบันได้เดิิมเมือบูรณะแล้วบันได้ขันแรกิ<br />

จะอยู่ตำกว ่าพืนทางเดิินปััจจุบันอยู่่ประมาณ ๐.๔๐ เมตร เพือคัวามสะด้วกิ<br />

ต่อกิารใช้้สอย จ่งได้้จัด้ทำเป็็นพืนโคัรงสร้างเหล็กิวางพาด้ไปัสู่บันได้ขันทีสาม<br />

เพือให้เดิินข่นไปต ีระฆัังได้้<br />

สภาพกิ่อนบูรณะ หอระฆััง<br />

ฉาบปัูนหมักิ ผิวขัด้ปัูนตำแล้วเสร็จ<br />

204<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


ภาพจำลองเพือเสนอแนะให้มีกิารย้ายเมรุและศิาลาบำเพ็ญกุุศิลออกิไปัอยู่ในทีซึ่่งมีคัวามเหมาะสม จะสามารถเปิิดม ุมมองให้กัับหอไตรได้้เป็็นอย่างดีี<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

205<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


๓<br />

จุุดหมายแห่งค์วัามสาเร็จุ


208<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

209<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


210<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

211<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


212<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

213<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


214<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

215<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


216<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

217<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


218<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

219<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


220<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

221<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


222<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

223<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


224<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

225<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


226<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

227<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


228<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

229<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


230<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

231<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


232<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

233<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


234<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

235<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


บรรณานุกรม<br />

กิรมแผนที. แผนทีกรุงเทพฯ พ.ศิ. ๒๔๓๑-๒๔๗๓. กร ุงเทพฯ: กิองทัพบกิ, ๒๕๓๐.<br />

กิรมศิิลปัากิร. จดหมายเหตุการอนุรักษ์์กรุงรัตนโกสินทร์. กรุุงเทพฯ: ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคัคัล<br />

สหปัระชูาพาณิชย ์, ๒๕๒๕.<br />

. บันทึกเรืองสัมพันธิไมตรีระหว่่างประเทศิสยามกับนานาประเทศิในศิตวัรรษ์ที<br />

๑๗ เล่่ม ๑. กร ุงเทพฯ : คุุรุสภา ๒๕๒๑.<br />

. วััดสำคัญกรุงรัตนโกสินทร์ (กร ุงเทพฯ : โรงพิมพ์ยูไนเต็ด้โปัรดัักชั่่น, ๒๕๒๕).<br />

กิ่งนภา จันทร์ดีี และคัณะ. การศึึกษ์าสภาพแวัดล้้อมเพือการอนุรักษ์์โบราณสถานบริเวัณคลัอง<br />

ด่าน ธินบุรี (วััดหนัง วััดนางนอง วััดนางชี วััดราชโอรสาราม), สารนิพนธ์ศิิลปัศิาสตร์<br />

บัณฑิต (โบราณคัด้ี) ภาควิิชูาโบราณคัด้ี คัณะโบราณ คัด้ี มหาวิทยาลัยศิิลปัากิร, ๒๕๓๒.<br />

เกรีียงศัักดิ์์ โชต ิชููสกุุล. งานช่างประดับกระจก. ศิิลปว ัฒนธรรมไทย เล่ม ๖.<br />

ขรรค์์ชััย บุญปัาน. บางขุนเทียน ส่วันหนึงของแผ่นดินไทยแลัะกรุงรัตนโกสินทร์. กร ุงเทพฯ:<br />

โรงพิมพ์พิฆัเณศิ, ๒๕๓๐.<br />

เจ้าพระยาทิพากิรวงศิมหาโกิษ์าธิบดีี. พระราชพงศิาวัดาร กรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลัที ๓.<br />

กิรมศิิลปัากิร: พิมพ์คัรังที ๗ , ๒๕๔๗.<br />

ไจร์มา นวมารคั. ลัักษ์ณะการประดับกระจกในสถาปัตยกรรมสมัยต้นรัตนโกสินทร์. สารนิพนธ์<br />

ศิิลปัศิาสตร์บัณฑิต (โบราณคัด้ี) ภาคว ิชูาโบราณคัด้ี คัณะโบราณคัด้ี มหาวิทยาลัย<br />

ศิิลปัากิร, ๒๕๒๘.<br />

ฉันท์ ขำวิไล. ๑๐๐ ปี สุนทรภู่. กร ุงเทพฯ: มติชูน, ๒๕๓๒.<br />

ตวงทอง แก้้ววัชูระรังสี, การศึึกษ์าคติการสร้างรูปอดีตพุทธิเจ้าเป็นประธิาน ในพระอุโบสถ<br />

วััดอัปสรสวัรรค์วัรวิิหาร. สารนิพนธ์ศิิลปัะศิาสตร์บัณฑิต ภาควิิชูาโบราณคัด้ี<br />

คัณะโบราณคัด้ี มหาวิทยาลัยศิิลปัากิร, ๒๕๔๖.<br />

นิตยสารสิงศัักดิสิทธิิ. ปีีที ๑ ฉบับที ๑๖ วันที ๓๐ ตุลาคัม ๒๕๒๖.<br />

บุปัผา เจริญทรัพย์. หอไตร. สารนิพนธ์ ศิิลปัะศิาสตร์บัณฑิต (โบราณคัด้ี) ภาคว ิชูาโบราณคัด้ี<br />

คัณะโบราณคัด้ี มหาวิทยาลัยศิิลปัากิร, ๒๕๑๙.<br />

ประชุมหมายรับสังภาค ๔ ตอนที ๑ สมัยกร ุงรัตนโกส ินทร์ รัชูกิาลพระบาทสมเด็็จพระนังเกล ้า<br />

เจ้าอยู่หัว จ.ศิ. ๑๑๘๘-๑๒๐๓. กรุุงเทพฯ: รุ่งศิิลป์์กิารพิมพ์ (๑๙๗๗), ๒๕๓๖).<br />

ประวััติวััดอัปสรสวัรรค์วัรวิิหาร พร้อมด้้วยหมายรับสังในรัชูกิาลที ๓, พิมพ์ชูำร่วยในกิาร<br />

ทอด้กิระฐินพระราชูทานของกิรมศิิลปัากิร เมือวันที ๑ พฤศจ ิกิายน ๒๕๐๕.<br />

ผศิ. สมชูาติ จ่งสิริอารักิษ์์. การอนุรักษ์์สถาปัตยกรรม. เอกิสารปัระกิอบกิารสอนวิชูาอนุรักิษ์์<br />

สถาปััตยกิรรม คัณะสถาปััตยกิรรมศิาสตร์ มหาวิทยาลัยศิิลปัากิร, กรุุงเทพฯ.<br />

พัชร ี สาริกบ ุตร. เทคโนโลย ีสมัยโบราณ (Primitive Technology), เอกิสารปัระกิอบกิารสอน<br />

ภาคว ิชูาโบราณคัด้ีคัณะโบราณคัด้ีมหาวิทยาลัยศิิลปัากิร, ๒๕๒๓.<br />

รวิอร ชูิววงษ์์. สภาพควัามเปลัี ยนแปลังของคลัองด่านกับสภาพการดำเนินชีวิิตของชุมชน<br />

(ศึึกษ์าเฉพาะกรณีชุมชนริมคลัองด่านบริเวัณตังแต่วััดปากนำ-วััดนางนองวัรวิิหาร,<br />

สารนิพนธ์ศิิลปัะศิาสตร์บัณฑิต (มานุษ์ยวิทยา) ภาคว ิชูามานุษ์ยวิทยา คัณะโบราณคัด้ี<br />

มหาวิทยาลัยศิิลปัากิร, ๒๕๓๖.<br />

สุจิตต์ วงศ์์เทศิ. กรุงเทพฯ มาจากไหน?. กร ุงเทพ: มติชูน, ๒๕๔๘.<br />

ข้อมูลัทางอินเตอร์เน็ต<br />

http://dictionary.sanook.com/search/dict-th-th-royal-institute/%E0%B8%95%E0%<br />

B8%B0%E0%B8%9B%E0%B8% A5%E0%B8%B4%E0%B8%87<br />

http://kasetintree.com/5344.html<br />

http://www.thairath.co.th/column/edu/paperagriculturist/210671<br />

236<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


ภาคผนวัก<br />

แบบสำรวัจธิรรมาสน์ไม้ทรงบุษ์บก<br />

ภายในอาคารศิาลัาการเปรียญ<br />

วััดอัปสรสวัรรค์วัรวิิหาร


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

239<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


240<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

241<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


242<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

243<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


244<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

245<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


246<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


คณะทำงานแลัะอาสาสมัครในโครงการอนุรักษ์์หอพระไตรปิฎกวััดอัปสรสวัรรค์วัรวิิหาร<br />

ทีปรึกษ์าโครงการ ศิาสตราจารย์กิิตติคุุณ ม.ร.ว.แน่งน้อย ศัักดิ์์ศร ี<br />

พลอากิาศิตรีอาวุธ เงินชููกิลิน<br />

รองศิาสตราจารย์เสนอ นิลเด้ชู<br />

รองศิาสตราจารย์ ด้ร.ปัระสงค์์ เอียมอนันต์<br />

รองศิาสตราจารย์สมคิิด้ จิระทัศินะกุุล<br />

นายเผ่า สุวรรณศัักดิ์์ศร ี<br />

นายทวีจิตร จันทรสาขา<br />

์<br />

คณะทำงานโครงการ<br />

ด้ร.วสุ โปัษ์ยะนันทน์<br />

หัวหน้าคัณะทำงาน<br />

นายชูวลิต ตังมิตรเจริญ คัณะทำงาน<br />

ผู้ชู่วยศิาสตราจารย์สุดจ ิต สนันไหว คัณะทำงาน<br />

นายชย ุตม์ เกิษ์ร<br />

คัณะทำงาน<br />

นายจมร ปัรปัักิษ์์ปัระลัย คัณะทำงาน<br />

นายวทัญญูู เทพหัตถี<br />

คัณะทำงาน<br />

นายสุรยุทธ วิริยะด้ำรงค์์ คัณะทำงาน<br />

นายจาริต เด้ชูะคุุปต คัณะทำงาน<br />

นายภาณุวัตร เลือด้ไทย คัณะทำงาน<br />

นางสาวจิตตินาถ ดีีทรัพย์ คัณะทำงาน<br />

นายธิปั ศร ีสกุุลไชูยรักิ<br />

คัณะทำงาน<br />

นายปููรณ์ ขวัญสุวรรณ คัณะทำงาน<br />

นางสาวปิิยนุชู สุวรรณคีีรี คัณะทำงาน<br />

นายอาทิตย์ ลิมมัน คัณะทำงาน<br />

ผู้ชู่วยศิาสตราจารย์พงศิกิร ยิมสวัสด้ิ คัณะทำงาน<br />

นางวรางคัณา นิมเจริญ คัณะทำงาน<br />

นางสาวมนัชูญา วาจก์์วิสุทธิ คัณะทำงาน<br />

นายสัญชััย ลุงรุ่ง คัณะทำงาน และเลขานุกิาร<br />

ด้ร.พรธรรม ธรรมวิมล คัณะทำงานด้้านงานภูมิสถาปััตยกิรรม<br />

นางสาวหัทยา สิริพัฒนากุุล คัณะทำงานด้้านงานภูมิสถาปััตยกิรรม<br />

นางกิรรณิกิาร์ สุธีรันตาภิรมย์ คัณะทำงานด้้านงานโบราณคัด้ี<br />

นายสุวิชู ชูมชูืน คัณะทำงานด้้านงานอนุรักิษ์์ศิิลปักิรรม<br />

นายจุมภฏิ ตรัสศิิริ<br />

คัณะทำงานด้้านงานวิศิวกิรรม<br />

นายกิิตติพันธ์ พานสุวรรณ คัณะทำงานด้้านวิศิวกิรรม<br />

คณะกรรมการคัดเลืือกผู้เสนอราคาจ้าง พระคร ูพิศิาลพัฒนคุุณ เจ้าอาวาสวัดอ ัปัสรสวรรค์์วรวิหาร<br />

พระราชูปััญญาภรณ์ เจ้าอาวาสวัด้นางชีี<br />

พระวิสุทธิธีรพงศ์์ ผู้ชู่วยเจ้าอาวาสวัด้นางชีี<br />

ด้ร.วสุ โปัษ์ยะนันทน์<br />

คณะกรรมการตรวัจการจ้าง<br />

พระคร ูพิศิาลพัฒนคุุณ เจ้าอาวาส วัดอััปัสรสวรรค์์วรวิหาร<br />

พระราชูปััญญาภรณ์ เจ้าอาวาสวัด้นางชีี<br />

พระวิสุทธิธีรพงศ์์ ผู้ชู่วยเจ้าอาวาสวัด้นางชีี<br />

นายสมิตร โอบายะวาทย์<br />

นายวสุ โปัษ์ยะนันทน์<br />

นายสุรยุทธ วิริยะด้ำรงค์์<br />

ผู้ควับคุมงาน ผู้แทนจากิกิรมศิิลปัากิร<br />

นายวันชััย มงคัลปัระดิิษ์ฐ<br />

นายวทัญญูู เทพหัตถี<br />

นายสัญชััย ลุงรุ่ง<br />

คณะทำงานด้านการบูรณปฏิิสังขรณ์<br />

นายจุมภฏิ ตรัสศิิริ<br />

นายชััชูวาล ชูมโฉม<br />

นายบุญยงค์์ พานิชูกิุล<br />

นายธีระวุฒิ สิงขรณ์<br />

นางสาวชิิด้ชูนกิ โพธิแก้้ว<br />

คณะทำงานด้านสำรวัจรังวััด ผู้ชู่วยศิาสตราจารย์สุดจ ิต สนันไหว<br />

นายวสุ โปัษ์ยะนันทน์<br />

นายจมร ปัรปัักิษ์์ปัระลัย<br />

นายวทัญญูู เทพหัตถี<br />

นางสาวมนัชูญา วาจก์์วิศุุทธิ<br />

นายสุรยุทธ วิริยะด้ำรงค์์<br />

นางสาวหัทยา สิริพัฒนกุุล<br />

นายภาณุวัตร เลือด้ไทย<br />

นายศุุภฤกิษ์์ เอมโกิษ์า<br />

นายอนุรัตน์ พลอยเงิน<br />

นางสาวศรีีสุด้า วงษ์์ชุ่ม<br />

นายสุรศัักดิ์์ บำรุงเรือน<br />

บริษััท กุุฎาคัาร จำกััด้<br />

บริษััท ซึ่ี.บี. กิารสำรวจ จำกััด้<br />

บริษััท บานาน่า สตูดิิโอ จำกััด้<br />

คณะทำงานด้านงานโบราณคดี<br />

คณะทำงานด้านภูมิสถาปัตยกรรม<br />

นางสาวกิษ์มา เกิาไศิยานนท์<br />

นายกิิตติพงษ์์ ถาวรวงศ์์<br />

นายพลพยุหะ ไชูยรส<br />

นางสาวจิรชูฎา ตรีภาณุวรรณ<br />

นายชััยยศิ เจริญสันติพงศ์์<br />

ด้ร.พรธรรม ธรรมวิมล<br />

ด้ร.วิภากิร ธรรมวิมล<br />

คณะทำงานด้านคอมพิวัเตอร์ animation นายจาริต เด้ชูะคุุปต ์<br />

นายชูวลิต ตังมิตรเจริญ<br />

บริษััท เสาเอกิ สถาปน ิกิ จำกััด้<br />

คณะทำงานด้านเขียนแบบคอมพิวัเตอร์ นายสุรศัักดิ์์ บำรุงเรือน<br />

อาสาสมัครโครงการ<br />

เลัขานุการโครงการ<br />

คัณะสถาปััตยกิรรมศิาสตร์<br />

สถาบันเทคัโลโนโลยีพระจอมเกล ้าเจ้าคุุณทหารลาด้กิระบัง<br />

วิทยาลัยช่่างศิิลปั<br />

คัณะสถาปััตยกิรรมศิาสตร์และกิารออกิแบบ<br />

มหาวิทยาลัยเทคัโนโลยีราชูมงคัลพระนคัร วิทยาเขตศิาลายา<br />

นางสาววราภรณ์ ไทยานันท์<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

247<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


ชือหนังสือ <strong>สามหอไตร</strong> เล่มที ๓ :<br />

หอไตรวัดอ ัปัสรสวรรค์์ กิารสานต่องานอนุรักิษ์์สถาปััตยกิรรมไทย<br />

ISBN (e-book) ๙๗๘-๖๑๖-๗๓๘๔-๔๖-๗<br />

เจ้าของ<br />

สมาคัมสถาปน ิกิสยาม ในพระบรมราชููปถ ัมภ์<br />

บรรณาธิิการ / ผู้เขียน ด้ร.วสุ โปัษ์ยะนันทน์<br />

กองบรรณาธิิการ ณัฐวดีี สัตนันท์<br />

เนตรชูนกิ นาคัขำ<br />

วราภรณ์ ไทยานันท์<br />

ภัทรพร เสาวรส<br />

นารา ผุด้มากิ<br />

ถ่ายภาพ วีระพล สิงห์น้อย<br />

สุรยุทธ วิริยะด้ำรงค์์<br />

หจกิ.ฐานอนุรักิษ์์<br />

ศิิลัปกรรม วีระพล สิงห์น้อย<br />

กิล้วยไม้ วนพานิชู<br />

วรมันต์ โสภณปัฏิิมา<br />

พิสูจน์อักษ์ร นารา ผุด้มากิ<br />

ประสานงาน ลีนวัตร ธีระพงษ์์รามกุุล<br />

ดำเนินการผลิิต บริษััทบานาน่า สตูดิิโอ จำกััด้<br />

248<br />

หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />

การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย


หนังสือชุด<strong>สามหอไตร</strong> <strong>เล่มที่</strong> ๑ : หอไตรวัดระฆังโฆสิตาราม ปฐมบทอาษา อาสา สถาปัตยกรรมไทย<br />

สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์

Hooray! Your file is uploaded and ready to be published.

Saved successfully!

Ooh no, something went wrong!