à¹à¸à¸£à¹à¸à¹à¸à¸à¸´à¸ - à¸à¸²à¸à¸à¹à¸à¸¡à¸¹à¸¥à¸à¸²à¸£à¹à¸à¸à¸¢à¹à¸à¸²à¸à¹à¸¥à¸·à¸à¸
à¹à¸à¸£à¹à¸à¹à¸à¸à¸´à¸ - à¸à¸²à¸à¸à¹à¸à¸¡à¸¹à¸¥à¸à¸²à¸£à¹à¸à¸à¸¢à¹à¸à¸²à¸à¹à¸¥à¸·à¸à¸
à¹à¸à¸£à¹à¸à¹à¸à¸à¸´à¸ - à¸à¸²à¸à¸à¹à¸à¸¡à¸¹à¸¥à¸à¸²à¸£à¹à¸à¸à¸¢à¹à¸à¸²à¸à¹à¸¥à¸·à¸à¸
Create successful ePaper yourself
Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.
PROBIOTICS : Alternative Microoganisms for Health<br />
โพรไบโอติก : จุลินทรีย์ทางเลือกเพื่อสุขภาพ<br />
ตารางที่ 3.1 ตัวอย่างชนิดจุลินทรีย์โพรไบโอติกที่มีรายงานความปลอดภัยต่อ<br />
การใช้ (ดัดแปลงจาก Salminen and von Wright, 1998 เอกสารอ้างอิงหมายเลข 7)<br />
ชนิดจุลินทรีย์<br />
รายงานความปลอดภัย<br />
แบคทีเรีย Lactobacillus ส่วนใหญ่ไม่เป็นเชื้อก่อโรค แต่มีโอกาสพบเป็นเชื้อฉวย<br />
โอกาสก่อโรค ซึ่งมักพบในผู้ป่วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง<br />
แบคทีเรีย Lactococcus ส่วนใหญ่ไม่เป็นเชื้อก่อโรค<br />
แบคทีเรีย Leuconostoc ส่วนใหญ่ไม่เป็นเชื้อก่อโรค แต่มีโอกาสพบในผู้ป่วย<br />
ติดเชื้อ ซึ่งมักพบในผู้ป่วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง<br />
แบคทีเรีย Enterococcus บางสายพันธุ์เป็นเชื้อฉวยโอกาสก่อโรคซึ่งเป็นสาเหตุ<br />
ทำให้เม็ดเลือดแดงแตกและดื้อต่อยาปฏิชีวนะ<br />
แบคทีเรีย Bifidobacterium ส่วนใหญ่ไม่เป็นเชื้อก่อโรค แต่มีโอกาสพบในผู้ป่วย<br />
ติดเชื้อ ซึ่งมักพบในผู้ป่วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง<br />
ยีสต์ Saccharomyces ส่วนใหญ่ไม่เป็นเชื้อก่อโรค แต่มีโอกาสพบในผู้ป่วย<br />
ติดเชื้อ<br />
ตัวอย่างการประเมินความปลอดภัยของโพรไบโอติกแบคทีเรีย L. plantarum<br />
SS2 (Duangjitcharoen et al., 2009) ที่แยกได้จากน้ำหมักชีวภาพมะเฟืองที่ผลิต<br />
ในภาคอีสานตอนล่างของประเทศไทย เพื่อคัดเลือกสายพันธุ์โพรไบโอติกที่จะน ำไปใช้<br />
กับผลิตภัณฑ์อาหารหมักที่ได้จากพืช โดยศึกษาผลของแบคทีเรียสายพันธุ์นี้ โดยการป้อน<br />
ในหนูขาวที่ความเข้มข้น 2 ระดับ คือ 10 12 เซลล์ต่อหนู และ 10 9 เซลล์ต่อหนู<br />
โดยให้แบคทีเรียเป็นเวลา 14 วัน และตรวจติดตามการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม<br />
สัตว์ทดลอง น้ำหนักตัว น้ำหนักของตับและม้าม และเพาะเชื้อจากตัวอย่างเลือด<br />
เพื่อประเมินว่าโพรไบโอติกสามารถแพร่เข้าสู่กระแสเลือดหรือไม่ โดยเปรียบเทียบ<br />
กับชุดควบคุม (control) ที่ไม่ได้รับการป้อนแบคทีเรีย L. plantarum SS2 ซึ่งหนูกลุ่ม<br />
ที่ถูกป้อนด้วยแบคทีเรียโพรไบโอติกนั้นยังคงมีพฤติกรรมการกินอาหาร การดื่มน้ ำ<br />
การขับถ่าย การนอนหลับ การอยู่ร่วมกัน และการตอบสนองที่ปกติ รวมทั้งยังคงมี<br />
ลักษณะทางสัณฐานวิทยา เช่น ลักษณะขน สีของเท้า ที่ปกติเช่นกัน แต่มีน้ ำหนักตัว<br />
โดยรวมต่ำกว่าในกลุ่มควบคุม ซึ่งอาจเป็นไปได้ที่โพรไบโอติกจะสามารถช่วยควบคุม<br />
น้ำหนักได้ อาจเนื่องจากการช่วยลดการดูดซึมกลูโคสจากล ำไส้หรือช่วยเพิ่มเมแทบอลิซึม<br />
ของกลูโคส เป็นต้น นอกจากนี้ยังตรวจไม่พบแบคทีเรียจากการน ำเลือดมาเพาะเชื้อ<br />
และไม่พบความแตกต่างของน้ำหนักของตับและม้ามระหว่างหนูกลุ่มทดสอบกับ<br />
กลุ่มควบคุม ดังนั้น โพรไบโอติกแบคทีเรียสายพันธุ์นี้จึงมีความปลอดภัย ผลการศึกษา<br />
แสดงดังรูปที่ 3.1 และ 3.2<br />
body weight gain (g)<br />
30<br />
20<br />
10<br />
0<br />
u<br />
control<br />
10 12 lactobacili / mouse<br />
10 9 lactobacili / mouse<br />
Time (days)<br />
10 12 14<br />
รูปที่ 3.1 แสดงผลรวมการเปลี่ยนแปลงน้ำหนักอวัยวะของสัตว์ทดลองกลุ่ม<br />
ควบคุมและกลุ่มทดลองที่ได้รับการป้อนแบคทีเรียโพรไบโอติก Lactobacillus<br />
plantarum SS2 เป็นเวลา 14 วัน (ดัดแปลงจาก ไชยวัฒน์ ไชยสุต และคณะใน<br />
Duangjitcharoen Y, et al. 2009 เอกสารอ้างอิงหมายเลข 2)<br />
42 สำนักการแพทย์ทางเลือก http://www.thaicam.go.th<br />
สำนักการแพทย์ทางเลือก http://www.thaicam.go.th 43