ความผันผวนของราคา SET50 Index Futures
ความผันผวนของราคา SET50 Index Futures
ความผันผวนของราคา SET50 Index Futures
Create successful ePaper yourself
Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.
98<br />
ตารางที่<br />
9 สมการถดถอย โดยที่<br />
์ ตัวแปร ค่าสัมประสิทธิ F-Statistics R-squared<br />
rs -0.2636<br />
(0.1366)<br />
0.8470 0.0000<br />
หมายเหตุ: *, **, *** หมายถึง มีนัยส�าคัญที่ระดับ<br />
10%, 5%, 1% ตามล�าดับ<br />
หมายถึง ผลตอบแทนของ <strong>SET50</strong> <strong>Index</strong> ณ เวลา t<br />
5. นัยส�าคัญของผลการศึกษา (Implications)<br />
การที่<strong>ความผันผวนของราคา</strong>ฟิวเจอร์มีแนวโน้มมากขึ้นเมื่อระยะเวลาครบก�าหนดน้อยลงตาม<br />
Samuelson Hypothesis ส่งผลให้ในการเลือกใช้ชุดของสัญญาฟิวเจอร์ (futures series) ในการบริหาร<br />
ความเสี่ยง<br />
ผู้บริหารความเสี่ยง<br />
(risk manager) จะต้องค�านึงว่า แม้สัญญาฟิวเจอร์ระยะสั้น<br />
(closest to<br />
maturity futures contract) จะมีสภาพคล่องสูงที่สุด<br />
แต่ก็มีข้อเสียคือ จะมีความผันผวนที่สูงกว่าสัญญาที่มี<br />
ระยะเวลาครบก�าหนดยาวนานกว่า ส่วนสัญญาที่มีระยะเวลาครบก�าหนดนาน<br />
(long maturity futures<br />
contract) แม้จะมีข้อเสียตรงที่ไม่ค่อยมีสภาพคล่อง<br />
แต่จะมีข้อดีตรงที่ว่า<br />
จะมีความผันผวนที่ต�่ากว่าสัญญา<br />
ระยะสั้น<br />
ดังนั้นในการเลือกใช้สัญญาฟิวเจอร์<br />
ผู้บริหารความเสี่ยงจะต้องค�านึงถึงข้อดีเปรียบเทียบกับข้อเสีย<br />
ดังกล่าว (tradeoff) ของสัญญาฟิวเจอร์ระยะสั้นและระยะยาวเพื่อให้สามารถเลือกใช้สัญญาได้อย่างเหมาะสม<br />
นอกจากนี้<br />
ผู้บริหารความเสี่ยงอาจจะต้องคอยปรับอัตราการประกันความเสี่ยง<br />
(hedge ratio)<br />
ให้เหมาะสมตามความผันผวนของสัญญาฟิวเจอร์ที่เปลี่ยนแปลงไปเมื่อระยะเวลาครบก�าหนดสั้นลงตามเวลา<br />
ที่ผ่านไปและความผันผวนเพิ่มสูงขึ้นตาม<br />
Samuelson Hypothesis<br />
6. สรุปผลการวิจัย (Conclusion)<br />
Samuelson (1965) เสนอทฤษฎีที่ท�านายว่า<br />
<strong>ความผันผวนของราคา</strong>ฟิวเจอร์ ควรจะเพิ่มมากขึ้น<br />
เมื่อสัญญาเข้าใกล้วันครบก�าหนด<br />
ค�าท�านายนี้ถูกเรียกต่อมาว่า<br />
Samuelson Hypothesis และผลของ<br />
ระยะเวลาครบก�าหนดของสัญญาฟิวเจอร์ (Time to Maturity) ที่มีต่อ<strong>ความผันผวนของราคา</strong>ฟิวเจอร์<br />
ถูกเรียกต่อมาว่า Maturity Effect ขณะที่<br />
Anderson and Danthine (1983) กล่าวเพิ่มเติมว่ารูปแบบ<br />
ความสัมพันธ์ระหว่าง<strong>ความผันผวนของราคา</strong>ฟิวเจอร์กับระยะเวลาครบก�าหนดของสัญญา จะเป็นรูปแบบ<br />
ใดนั้น<br />
ส่วนหนึ่งยังขึ้นอยู่กับการเกิดและการเข้ามาของข้อมูลข่าวสารในตลาด<br />
(Information Flow) ถ้าข้อมูล<br />
ข่าวสารเข้ามามากเมื่อใกล้เวลาครบก�าหนดของสัญญา<br />
ความผันผวนของสัญญาก็จะเพิ่มมากขึ้น<br />
ต่อมา<br />
Bessembinder et al. (1996) พิสูจน์ทางทฤษฎีว่า Samuelson Hypothesis จะเป็นจริงหรือไม่นั้น<br />
ไม่ได้<br />
ขึ้นอยู่กับการเข้ามาของข้อมูลข่าวสารในตลาดเพียงอย่างเดียว<br />
แต่ยังขึ้นอยู่กับความแปรปรวนร่วมของความ<br />
สัมพันธ์ที่ตรงกันข้ามกัน<br />
(Negative Covariance) ระหว่างการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าพื้นฐาน<br />
(Spot price)