03.08.2016 Views

LM July

You also want an ePaper? Increase the reach of your titles

YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.

ฮัมวี่ (HMMWV : Humvee) และรถยนต์<br />

บรรทุกทหารจำนวน ๓,๐๐๐ ถึง ๔,๐๐๐ คัน<br />

มีปืนใหญ่ประมาณ ๑,๐๐๐ ถึง ๑,๕๐๐ กระบอก<br />

ในจำนวนนี้มีปืนใหญ่ของสหรัฐอเมริกาขนาด<br />

๑๕๕ มิลลิเมตร ซึ่งมีระยะยิงไกลถึง ๒๒<br />

กิโลเมตรรวมอยู่ด้วยจำนวนหนึ่ง นอกจากนี้<br />

กลุ่มไอเอสยังมีระบบจรวดนำวิถีต่อสู้รถถัง<br />

และระบบการสื่อสารที่ดีเยี่ยม ล่าสุดพบว่ากลุ่ม<br />

ไอเอสมีจรวดต่อสู้อากาศยานแบบประทับบ่า<br />

ชนิด "สเตรล่า-๓” (Strela-3) ซึ่งมีระยะยิงไกล<br />

๔ กิโลเมตร, จรวด "อิกล่า" (Igla) , “สติงเกอร์”<br />

(Stinger) และ "คอบร้า" (Cobra)<br />

อีกจำนวนหนึ่ง ด้วยจรวดต่อสู้อากาศยาน<br />

อันทรงอานุภาพเหล่านี้เอง ทำให้กลุ่มไอเอส<br />

สามารถเด็ดปีกอากาศยานของกองทัพอิรัก<br />

ซีเรียและชาติพันธมิตรได้สำเร็จเป็นจำนวน<br />

หลายครั้ง<br />

กลุ่มไอเอสยังมีอาวุธเคมีในความครอบ<br />

ครอง โดยยึดมาจากคลังอาวุธของกองทัพอิรัก<br />

ในเมือง "มูธานนา” (muthanna) เมื่อเดือน<br />

มิถุนายน ค.ศ.๒๐๑๔ รวมทั้งยึดบางส่วนมา<br />

จากคลังอาวุธของซีเรีย และมีการใช้อาวุธ<br />

เคมีดังกล่าวอย่างน้อย ๒ ครั้ง ครั้งแรกใช้ใน<br />

การต่อสู้กับกลุ่มเคิร์ดในประเทศซีเรีย ที่เมือง<br />

“อาฟดิโก” (avdiko) ซึ่งอยู่ทางตะวันออก<br />

ของเมือง “โคบานี” (kobane) เมื่อวันที่ ๑๒<br />

กรกฎาคม ค.ศ.๒๐๑๔ ส่วนการโจมตีด้วยอาวุธ<br />

เคมีอีกครั้งหนึ่งเป็นการต่อสู้กับทหารอิรักที่<br />

เมือง “ซัคลาวิยา” (Saqlawiya) ในจังหวัด<br />

“อันบาร์” (Anbar) เมื่อเดือนกันยายน ค.ศ.<br />

๒๐๑๔ การโจมตีทั้งสองครั้งดังกล่าว กลุ่มไอเอส<br />

ใช้แก๊สมัสตาร์ดและคลอรีนในการโจมตี<br />

ปัจจุบันเชื่อว่าคลังเก็บอาวุธเคมีของกลุ่มไอเอส<br />

24<br />

ตั้งอยู่ที ่เมือง “รัคคา” (raqqa) ซึ่งได้ชื่อว่าเป็น<br />

เมืองหลวงของกลุ่มไอเอสในประเทศซีเรีย<br />

นอกจากนี้กลุ่มไอเอสยังสามารถยึด<br />

เครื่องบินขับไล่แบบ “มิค-๒๑” (MIG-21)<br />

จำนวน ๓ ลำจากกองทัพซีเรีย แม้ว่าจะยัง<br />

ไม่เคยใช้เครื่องบินเหล่านี้เข้าการรบ เพราะ<br />

กลุ่มไอเอสตระหนักดีว่ามันอาจจะตกเป็นเป้า<br />

หมายของเครื่องบินสหรัฐฯ ได้อย่างง่ายดาย<br />

แต่อย่างไรก็ตามก็เป็นสิ่งบอกเหตุว่ากลุ่มไอเอส<br />

มีเครื่องบินรบประจำการอยู่และใช้ในการฝึก<br />

นักบินของตน โดยมีครูฝึกจากกองทัพอิรัก<br />

สมัยอดีตประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซนเป็น<br />

ผู้ฝึกสอน<br />

เป้าหมายหลักในการโจมตีของกลุ่ม<br />

ไอเอสส่วนใหญ่จะเป็น ถนนสายหลัก เช่น ไฮเวย์<br />

เชื่อมต่อระหว่างเมือง บ่อน้ำมัน เขื่อนและ<br />

โรงงานผลิตกระแสไฟฟ้า ทั้งนี้เพราะกลุ่มไอเอส<br />

ตระหนักดีว่า ตนเองไม่มีกำลังเพียงพอที่จะยึด<br />

ครองพื้นที่ขนาดใหญ่ได้ พวกเขาจึงทำการยึด<br />

สิ่งสาธารณูปโภคพื้นฐานหรือจุดยุทธศาสตร์<br />

ที่สำคัญ เพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองและสร้างพลัง<br />

อำนาจด้านการเงินให้กับเขาได้<br />

สำหรับยุทธวิธีการรบของกลุ่มไอเอสนั้น<br />

จะเป็นการประสานกันของ "การรบตามแบบ"<br />

(Conventional Warfare) กับ "การก่อการร้าย"<br />

และ "การรบนอกแบบ" ด้วยการใช้ระเบิดแสวง<br />

เครื่องและระเบิดพลีชีพ ซึ่งกลุ่มไอเอสมักจะ<br />

โจมตีแนวหน้า จุดตรวจและกองบัญชาการ<br />

ของข้าศึกด้วยระเบิดพลีชีพ โดยการเข้าโจมตี<br />

พื้นที่แต่ละแห่ง กลุ่มไอเอสจะมอบอำนาจ<br />

เต็มให้กับผู้บังคับบัญชาในพื้นที่เป็นผู้ตัดสิน<br />

ใจว่า จะใช้ยุทธวิธีใดในการเข้าโจมตี พวกเขา<br />

จะแบ่งกำลังออกเป็นกลุ่มย่อย แม้จะมีการ<br />

จัดกำลังในระดับกองพันหรือกองร้อยตาม<br />

แบบตะวันตกก็ตาม การโจมตีจะเต็มไปด้วย<br />

ความรุนแรง รวดเร็วและคาดไม่ถึง (surprise<br />

attack) นักรบกลุ่มไอเอสจะมีความเชี่ยวชาญ<br />

ในการรบในเมืองเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการ<br />

เข้า "เคลียร์" หรือกวาดล้างข้าศึกในพื้นที่สิ่ง<br />

ปลูกสร้าง หรือในอาคาร และจากถนนหนึ่ง<br />

สู่อีกถนนหนึ่ง พวกเขาส่วนใหญ่จะแต่งกาย<br />

ด้วยชุดสีดำหรือสีเทาแบบอาหรับที่รัดกุม<br />

น่าเกรงขาม ใช้อาวุธประจำกายที่หลากหลาย<br />

ทั้งปืนเล็กยาวอัตโนมัติแบบ เอ็ม-๑๖ และ<br />

เอ็ม-๔ ที่ยึดได้จากคลังอาวุธของกองทัพอิรัก<br />

ทางตอนเหนือ ตลอดจนปืนเล็กยาวอัตโนมัติ<br />

ยอดนิยมในตะวันออกกลางคือ เอเค-๔๗ และ<br />

"ดรากูนอฟ เอสวีดี" (Dragunov SVD) ทั้ง<br />

ที่ผลิตในจีนและอดีตสหภาพโซเวียต นักรบ<br />

ไอเอสยังมีอุปกรณ์ทางทหารรอบกายครบครัน<br />

ไม่ต่างจากทหารโลกตะวันตก และส่วนมากไม่<br />

สวมหมวกเหล็กป้องกันศีรษะ แต่จะโพกศีรษะ<br />

หรือสวมผ้าคลุมสีดำแทน<br />

ก่อนการเปิดฉากโจมตี นักรบไอเอสจะ<br />

แทรกซึมเข้าสู่พื้นที่เป้าหมาย โดยเข้าไปปะปน<br />

อยู่กับฝูงชน ในระหว่างนี ้พวกเขาจะหลีกเลี่ยง<br />

การใช้โทรศัพท์มือถือหรือวิทยุสื่อสาร เพื่อ<br />

ป้องกันการสังเกตเห็นจากบุคคลทั่วไปและ<br />

เจ้าหน้าที่ฝ่ายข้าศึก จนเมื่อการโจมตีจากภายนอก<br />

เปิดฉากขึ้น กลุ่มไอเอสภายในเมืองจะทำการ<br />

จู่โจมจุดตรวจต่างๆ พร้อมกับชักธงสีดำ ซึ่งเป็น<br />

สัญลักษณ์ของกลุ่มไปทั่วพื้นที่ เพื่อสร้างความ<br />

สับสนให้กับข้าศึกว่ากลุ่มไอเอสอยู่ที่ไหนบ้าง<br />

การเคลื่อนที่ของกลุ่มไอเอสดังกล่าวจะเต็มไป<br />

ด้วยความรวดเร็ว เพราะเป็นการผสมผสานทั้ง<br />

การใช้รถยนต์บรรทุกขนาดเล็กติดปืนกลหนัก<br />

พันเอก ศนิโรจน์ ธรรมยศ

Hooray! Your file is uploaded and ready to be published.

Saved successfully!

Ooh no, something went wrong!