127 ปี กระทรวงกลาโหม
You also want an ePaper? Increase the reach of your titles
YUMPU automatically turns print PDFs into web optimized ePapers that Google loves.
ครั้นถึง<strong>ปี</strong> ๒๔๓๐ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู ่หัวทรงมีพระราชปรารภว่า ตั้งแต่เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติมาแล้ว ได้ทรง<br />
พระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ทำนุบำรุงกรมทหารหน้าและกรมทหารปืนใหญ่ ซึ่งเป็นกรมทหารมีระเบียบยุทธวิธีอย่างใหม่ที่มีมาแต่ในรัชกาลที่<br />
๔ ให้รุ่งเรืองเจริญยิ่งขึ้นเป็นลำดับ โดยให้แก้ไขกรมทหารอย่างเก่า และจัดขึ้นเป็นกรมทหารอย่างใหม่ โดยทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้<br />
เลือกสรรพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการที่ไว้วางพระราชหฤทัยเป็นผู ้บังคับบัญชากรมทหารนั้น ๆ ถึงในสมัยนี้มีทหารอย่างใหม่ต่าง ๆ<br />
ทหารบกมีแล้ว ๗ กรม ทหารเรือมี ๒ กรม กล่าวคือ<br />
- กรมทหารบก ประกอบกำลังด้วย กรมทหารมหาดเล็ก กรมทหารรักษาพระองค์ กรมทหารล้อมวัง กรมทหารหน้า กรมทหาร<br />
ฝีพาย กรมทหารปืนใหญ่ และกรมทหารช้าง<br />
- กรมทหารเรือ ประกอบกำลังด้วย กรมทหารเรือพระที่นั่งเวสาตรี และกรมอรสุมพล<br />
อย่างไรก็ตาม การที่กรมทหารอย่างใหม่ทั้งบกและเรือแยกย้ายกันเป็นอิสระแก่กันอยู่เช่นนั้น การปกครองบังคับบัญชาก็ต่างกรม<br />
ต่างจัด ส่งผลให้กิจการในกรมทหารเหล่านั้นจึงผิดแปลกแตกต่างกันไปไม่ลงระเบียบแผนอันเดียวกันทำให้เป็นการก้าวก่ายกัน จึงทรงพระ<br />
กรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ปรึกษาหารือพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ และเสนาบดี ในเรื่องที่จะจัดการทหารบกทหารเรือให้มีแบบแผนดีและ<br />
เรียบร้อยเป็นอันเดียวกัน เหมือนอย่างประเพณีโบราณและเหมือนอย่างประเทศในทวีปยุโรป และเพื่อจะได้แก้ไขความเสียหายที่มีอยู่ใน<br />
สมัยนั้นให้หมดสิ้นไป จึงทรงมีพระราชดำริว่าจำจะต้องมีผู้บังคับบัญชาการทหารทั่วไปผู้หนึ่ง ซึ่งควรจะให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช<br />
สยามมกุฎราชกุมาร ทรงรับตำแหน่งนี้เพราะได้เลิกประเพณีเก่าที่มีกรมพระราชวังบวรสถานมงคลดำรงพระอิสริยยศพระมหาอุปราชอย่างแต่ก่อน<br />
กับได้ทรงสถาปนาสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ เป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ในตำแหน่งองค์<br />
รัชทายาทแล้ว<br />
ดังนั้น เมื่อทุกสิ่งเข้ารูปเข้ารอยเรียบร้อยแล้ว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศจัดการทหารขึ้นเมื่อวันศุกร์เดือน ๕ แรมค่ำ<br />
๑ <strong>ปี</strong>กุน อัฐศก จุลศักราช ๑๒๔๘ (คือ วันที่ ๘ เมษายน ๒๔๓๐) รวมทหารบกและทหารเรือตั้งเป็นกรมใหญ่เรียกว่า “กรมยุทธนาธิการ”<br />
สำหรับจัดการและบังคับบัญชาการทหารบกทหารเรืออย่างใหม่รวมกำลังเป็นปึกแผ่นอย่างกองทัพที่เป็นสากล พร้อมกับทรงดำริพระราช<br />
อิสริยยศตำแหน่งที่จอมทัพกับทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ สถาปนาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร ดำรงตำแหน่งเป็นผู ้บังคับ<br />
บัญชาทหารทั่วไปในกรมทหาร มีตำแหน่งเจ้าพนักงานใหญ่เป็นผู ้ช่วยทั้งฝ่ายทหารบก ทหารเรือ การยุทธภัณฑ์ และการใช้จ่าย แต่เนื่องจาก<br />
ในขณะนั้นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมารยังทรงพระเยาว์อยู่ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้จอมพล สมเด็จพระเจ้า<br />
บรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช แต่เมื่อยังดำรงพระยศเป็นสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ และ<br />
เป็นนายพันโทพิเศษกรมทหารมหาดเล็ก ซึ่งในขณะนั้นทรงเป็นอธิบดีกรมไปรษณีย์และโทรเลขมาเป็นผู้แทนบัญชีการกรมยุทธนาธิการ<br />
ไปพลางก่อน<br />
สำหรับศาลาว่าการกลาโหม ซึ่งเป็นอาคารที่ทำการของทหารในยุคใหม่นั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระ<br />
กรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้นายพันเอก เจ้าหมื่นไวยวรนาถ (เจิม แสง-ชูโต) ผู้บังคับการกรมทหารหน้า เป็นแม่กองก่อสร้างโรงทหารหน้าขึ้น<br />
โดยเริ่มจัดหาสถานที่และกำหนดรูปแบบอาคารใน<strong>ปี</strong>พุทธศักราช ๒๔๒๔<br />
17