19.08.2020 Views

WorldOfRubber2

Create successful ePaper yourself

Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.

ปัจจุบันมีการผลิตยางธรรมชาติ12.67 ล้านตัน ประเทศไทยเป็นประเทศ

ผู้ผลิตยางธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดในโลกด้วยกำาลังการผลิต 4.46 ล้านตัน

คิดเป็นร้อยละ 36 ของกำาลังการผลิตทั่วโลก ตามมาด้วยอินโดนีเซีย ด้วยกำาลัง

การผลิต 3.2 ล้านตัน เวียดนามตามมาอันดับ 3 ด้วยกำาลังการผลิต 1 ล้านตัน

จีน 0.77 ล้านตัน มาเลเซียที่เคยเป็นผู้ผลิตยางอันดับหนึ่งตกลงไปอันดับที่ 5

ด้วยกำาลังการผลิตไล่เลี่ยกับจีน คือ 0.67 ล้านตัน อินเดีย 0.62 ล้านตัน

ปัจจุบัน Costa Rica มีกำาลังการผลิต 0.58 ล้านตัน และประเทศในแถบ

อเมริกาใต้ อุตสาหกรรมยางล้อรถยนต์ยังเป็นผู้ใช้ยางธรรมชาติรายใหญ่

(มากกว่าร้อยละ 75) ยกตัวอย่างบริษัทผู้ผลิตยางล้อรถยนต์รายใหญ่ตามลำ าดับ

Bridgestone, Michelin, Goodyear, Continental AG, Pirelli ตามมาด้วย

Sumitomo-Dunlop, Hankook และ Apollo

1.4 ยางสังเคราะห์

ยางสังเคราะห์ในยุคต้น

จุดเริ่มต้นการค้นคว้ายางสังเคราะห์ในเชิงพาณิชย์เกิดจาก คาร์ล

ดุยส์เบิร์ก (Carl Duisberg) มองเห็นช่องทางที่จะทำารายได้จากการสังเคราะห์ยาง

ให้เกิดขึ้นได้ทั้งนี้เพราะความต้องการยางธรรมชาติเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากการ

พัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ช่วงต้น ค.ศ. 1900 ทำาให้ราคายางธรรมชาติสูงขึ้น

ด้วยแรงกระตุ้นนี้ทำาให้เขาจัดตั้งนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งในห้องวิจัยไบเออร์

(Bayer) ในไอเบอร์เฟลด์ พวกเขาพยายามค้นคว้าหายางสังเคราะห์ขึ้นมาแทน

ยางธรรมชาติ บุคคลแรกที่สามารถสังเคราะห์ยางสังเคราะห์ขึ้นมาได้และพัฒนา

เป็นเชิงพาณิชย์คือ ดร.ฟริทซ์ ฮอฟมันน์ (Dr. Fritz Hofmann) เขาสามารถ

สังเคราะห์ K-Rubber แต่การวิจัยของฮอฟมันน์ จะสำาเร็จไม่ได้หากไม่มี

การค้นพบของนักวิทยาศาสตร์ก่อนหน้านี้คือ ฟรานซิส เอ็ดเวิร์ด แมตทิวส์

23

Hooray! Your file is uploaded and ready to be published.

Saved successfully!

Ooh no, something went wrong!