ASA JOURNAL 12/2023

On the Roof 

2023.Mar-Apr 

The Architectural Journal of the Association of Siamese Architects under Royal Patronage

advertorial 

The Beauty of Nature 

SHERA 

Villa Lanta ส่วนต่อขยายของ Twin Lotus Resort Koh 

Lanta เป็นบ้านพักอาศัยริมทะเลที่ถูกออกแบบโดยคำนึงถึง 

ภูมิอากาศแบบร้อนชื้น และลักษณะสถาปัตยกรรมพื้นถิ่น 

ของภาคใต้ สู่ที่มาของการออกแบบตัวบ้านที่เน้นในเรื่อง 

ของความโดดเด่นของหลังคา ด้วยทรงจั่วขนาดใหญ่พิเศษ 

มีองศาการลาดเอียงของหลังคาที่ชัน และมีชายคาที่ยื่นยาว 

เพื่อตอบโจทย์การป้องกันแดดและฝน ไปจนถึงการเลือก 

ใช้วัสดุหลังคา เฌอร่า ซีดาร์ เชค ที่มีความทนทานสูงและ 

ยังมาพร้อมกับระบบ Inter-Lock ช่วยป้องกันการรั่วซึมของ 

น้ำ เหมาะกับสภาพภูมิอากาศแถบภาคใต้ที่ถูกขนานนามว่า 

ฝน 8 แดด 4 อีกทั้งสีสันของหลังคา เฌอร่า ซีดาร์ เชค ยังมี 

พื้นผิวที่สวยงามเสมือนไม้จริง และมีหน้ากว้างของผลิตภัณฑ์ 

ถึง 3 ขนาด ทำให้สามารถจัดเรียงแผ่นหลังคาได้อย่างอิสระ 

ช่วยให้สถาปัตยกรรมเกิดความกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับ 

ธรรมชาติยิ่งขึ้น 

“เราอยากให้บ้านมีลักษณะที่สะท้อนถึงสถาปัตยกรรมพื้นถิ่น 

ภาคใต้ และมีความกลมกลืนกับบริบทเดิมของโครงการ Villa 

Lanta ที่อาคารใช้กระเบื้องแป้นเกล็ด แต่ด้วยความที่งาน 

ออกแบบส่วนต่อขยายนี้เป็นการออกแบบบ้านเพื่อการใช้งาน 

ที่ไม่ต้องการดูแลรักษาบ่อยนัก เราจึงมองหาวัสดุมุงหลังคา 

ที่มีความทนทาน แต่ยังได้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติคล้ายกับ 

แป้นเกล็ดไม้จริง จนมาเจอ หลังคา เฌอร่า ซีดาร์ เชค ที่เข้า 

มาตอบโจทย์ความเป็นธรรมชาติได้ดี มีการคละสีที่ดูเป็น 

ธรรมชาติแผ่นคล้ายกับไม้จริงๆ โดยเราได้เลือกเฉดสีเป็น 

สีเมโทร เกรย์ (Metro Grey) มาใช้ เพราะอยากให้ส่วนของ 

พื้นที่หลังคาเป็นสีเทาเข้มตัดกับตัวบ้านที่เป็นสีขาวล้วน 

ตอบโจทย์กับแนวคิดในการออกแบบ” ศุภชัย เขียวงาม 

Associate จาก Somdoon Architects ขยายความถึงการ 

เลือกใช้วัสดุในการออกแบบครั้งนี้ 

Villa Lanta, the latest addition to The Twins Lotus Resort 

Koh Lanta, is a beachside villa generated with major 

climate conditions and southern indigenous design in 

focus. This is because the dwelling’s conceptual design 

meets the picture. The resort with an outstanding roof 

incorporates an expanse of gable roofs with an upward 

slope and an enlarged roof over an external wall for 

deeper rain and sun protection. The architect utilized 

SHERA Zedar Shake, an aesthetically pleasing alter 

native roof design material that is highly durable as well 

as having an Inter-Lock system for avoiding leakage of 

water. This is suggested for the climate of the southern 

region, which has been recognized for possessing a 

total of eight months of rain and four months of sun. 

Additionally, the texture of the SHERA Zedar Shake 

roof has an appealing surface that’s comparable to 

natural wood. With three sizes of product width selections, 

it allows the roofing sheets to be contributed 

randomly and naturally, enabling the architecture to 

be more accessible and in peace with nature. 

“We would like to design the house to reflect the southern 

vernacular architecture style and blend with the original 

context of the Villa Lanta project, where the building 

uses the teak wood roofing shingles or Paen Gled.” 

Vacation residences, adhering to the low-maintenance 

fundamental nature, should not require the same upkeep 

compared to conventional homes. We attempt durable 

roofing materials with a natural feel, which includes real 

wood. We rediscovered SHERA Zedar Shake, which 

complimented the natural response. There are plenty of 

colors that appear natural, similar to authentic wood.We 

chose Metro Gray as we projected the roofing to be dark 

gray to contrast with the white house. It is a wonderful 

option for our design concept, according to Suphachai 

Somdul, a professional architect who touched on the 

materials utilized in the design. 

shera.com 

05 

เป็นที่รู้กันดีว่าน้ำและความชื้นในอากาศคือหนึ่งในคู่ปรับของ 

วัสดุก่อสร้างหลายๆ ชนิด การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างสำหรับ 

งานสถาปัตยกรรมในประเทศไทยที่มีภูมิอากาศในลักษณะ 

แบบร้อนชื้น จึงจำเป็นต้องมองไปถึงเรื่องของความทนทาน 

ต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย ยิ่งไปกว่านั้น หากเป็น 

สภาพภูมิอากาศในแถบภาคใต้ของประเทศไทยหรือเป็น 

อาคารติดริมทะเล ที่ต้องเจอกับไอทะเลและฝนตกชุกตลอดปี 

ก็อาจส่งผลเสียต่อโครงสร้างและวัสดุอาคารให้เกิดการผุพัง 

เร็วกว่าเวลาอันควร 

Moisture and humidity in the atmosphere are considered 

to be key hazards to many materials for construction in 

our experience. When confronting turbulence in weather 

conditions, material selection over architecture work in 

a tropical region like Thailand requires to be brought 

out from a sustainability perspective. This is especially 

important in the southern portion of Thailand, where 

buildings have been raised with the coast close, impacting 

construction structures and materials and causing 

premature deterioration from heavy rain all year.

2023 

MAR-APR 

ON THE ROOF 

The Association 

of Siamese Architects 

under Royal Patronage 

248/1 Soi Soonvijai 4 (Soi 17) 

Rama IX Rd., Bangkapi, 

Huaykwang, Bangkok 10310 

T : +66 2319 6555 

F : +66 2319 6419 

W : asa.or.th 

E : asaisaoffice@gmail.com 

Subscribe to ASA Journal 

T : +662 319 6555 

Infinity Ground 

Thailand and Taiwan 

Contemporary Architecture 

Exhibition 

ASA JOURNAL 

COMMITTEE 

2022-2024 

Advisor 

Chana Sumpalung 

Chairperson of Committee 

Kulthida Songkittipakdee 

Committee 

Asst. Prof. Saithiwa 

Ramasoot, Ph.D. 

Vorapoj Tachaumnueysuk 

Padirmkiat Sukkan 

Prachya Sukkaew 

Namtip Yamali, Ph.D. 

Jenchieh Hung 

Secretary 

Theerarat Kaeojaikla 

Editor-in-Chief 

Mongkon Ponganutree 

Editor 

Supreeya Wungpatcharapon 

Managing Editor 

Kamolthip Kimaree 

Assistant Editor 

Pichapohn Singnimittrakul 

Contributors 

Korrakot Lordkam 

Kullaphut Senevong Na Ayudhaya 

Nuttawadee Suttanan 

Nawan Yudhanahas 

Patikorn Na Songkhla 

Peerapat Wimolrungkarat 

Rangsima Arunthanavut 

Xaroj Phrawong 

English Translators 

Tanakanya Changchaitum 

Pawit Wongnimmarn 

English Editors 

Daniel Cunningham 

Sheena Sophasawatsakul 

Advertising Executives 

Napharat Petchnoi 

Chatchakwan Fagon 

Napisit Woranaipinit 

Special Thanks 

Architects 49 

ASWA (Architectural Studio 

of Work - Aholic) 

DOF Sky|Ground 

Eco Architect 

Greenbox Design 

IDIN Architects 

Peerapat Wimolrungkarat 

(ADDCANDID) 

Phuttipan Aswakool 

S Pace Studio 

S.O.S Architects 

Tawichakorn Laochaiyong 

Print 

SUPERPIXEL 

Publisher 

The Association of 

Siamese Architects 

Under Royal Patronage 

Correction 

The photo of the cover on page 

8 of the Jan-Feb 2023 issue, - 

Concrete / Concept / Construction, 

was courtesy of Beer Singnoi. 

We apologise for the oversight. 

เครดิตภาพหน้าปก 

ที่หน้า 8 ของวารสารอาษา 

ฉบับเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2566 

Concrete / Concept / Construction 

ที่ถูกต้อง ได้รับการเอื้อเฟื ้ อโดย 

วีระพล สิงห์น้อย 

บทความหรือภาพที่ลงใน 

วารสารอาษาหรือสื่ อออนไลน์ 

สมาคมฯ ขอสงวนลิขสิทธิ ์ตาม 

กฎหมาย การนำาบทความ 

หรือภาพจากวารสารอาษา 

ไปตีพิมพ์ อ้างอิงหรือประโยชน์ 

ใดในสิ ่งพิมพ์หรือสื่ อออนไลน์ 

อื่น ต้องได้รับอนุญาตจาก 

สมาคมฯ ผู้เป็ นเจ้าของลิขสิทธิ์ 

ตามกฎหมายเท่านั้น 

Graphic Design 

art4d WORKS 

Wasawat Dechapirom 

Jitsomanus Kongsang 

Photographer 

Ketsiree Wongwan 

Production Manager 

Areewan Suwanmanee 

Account Director 

Rungladda Chakputra 

Copyright 2023 

No responsibility can be 

accepted for unsolicited 

manuscripts or photographs. 

ISSN 0857-3050 

Contact 

asajournal@asa.or.th 

Photo Credit: DOF Sky|Ground 

18 JUL - 6 AUG 2023 

Bangkok Art & Culture Centre 

(BACC), L Floor 

Hosts Co-Organizers Supporters 

More Information

์ 

10 

message from the president 

Infinity Ground 

รายนามคณะกรรมการ 

บริหาร สมาคมสถาปนิกสยาม 

ในพระบรมราชูปถัมภ์ 

ประจำปี 2565-2567 

นายกสมาคม 

ชนะ สัมพลัง 

Thailand and Taiwan 

Contemporary Architecture 

Exhibition 

Infinity Ground Dialogue 

18 JULY 2023, 14:30 - 16:45 

อุปนายก 

นิเวศน์ วะสีนนท์ 

จีรเวช หงสกุล 

ไพทยา บัญชากิตติกุล 

ชุตยาเวศ สินธุพันธุ์ 

ผศ.ดร.รัฐพงษ์ อังกสิทธิ 

รุ่งโรจน์ อ่วมแก้ว 

Architects 49 

Limited 

Behet Bondzio 

Lin Architekten 

Duangrit Bunnag 

Architect Limited 

MAYU architects 

เลขาธิการ 

พิพัฒน์ รุจิราโสภณ 

สารจากนายกสมาคม 

ขอขอบคุณทุกๆ ท่านอีกครั้งสำาหรับการติดตามเนื้อหาต่างๆ 

ของวารสารอาษา และก็ยังคงจะขอให้สมาชิกทุกๆ ท่าน 

ช่วยสนับสนุนหนังสื อของเราแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้เรามี 

หนังสื อที่จะได้ ใช้เผยแพร่ทั้งความรู้และกิจกรรมข่าวสารใน 

วงการของเรามาสู่สมาชิกและบุคคลทั่วไปต่อไป ขณะเดียวกัน 

ก็จะขอเชิญชวนผู้สนับสนุนอื่นๆ เช่น ซัพพลายเออร์ต่างๆ ที่ 

เห็นประโยชน์ของวารสารอาษา รวมถึงชุมชนสถาปนิกของเรา 

มาใช้พื้นที่ตรงนี้ในการประชาสัมพันธ์สิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่อง 

ในวิชาชีพสถาปั ตยกรรมและการออกแบบ เพื่อเผยแพร่เรื่อง 

ราวความน่าสนใจอื่นๆ นอกเหนือไปจากความรู้ของเนื้อหา 

ภายในหนังสื อ ตลอดจนทุกวันนี้สมาคมฯ ของเราเองก็ยัง 

มีหลากหลายช่องทางที่จะเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็ น 

ออนไลน์และออฟไลน์ ในรูปแบบสิ่งพิมพ์ ขณะเดียวกันก็ยังไป 

แตะที่สมาคมเพื่อนบ้านด้วย เพื่อช่วยกันผลักดันและกระจาย 

ข่าวสารในวงการสถาปั ตยกรรมให้เป็ นที่รู้จักทั้งเพื่อนบ้าน 

ใกล้เคียง ไปจนถึงภูมิภาคเอเชียต่อๆ ไป 

สำาหรับวารสารฉบับนี้ภายใต้หัวข้อ ON THE ROOF มีเนื้อหา 

เกี่ยวกับเรื่องของหลังคา ซึ ่งหลังคาก็เป็ นส่วนหนึ ่งของอาคาร 

ที่ทำาให้เกิดอัตลักษณ์ที่น่าสนใจของตัวงานสถาปั ตยกรรม ทั้งนี้ 

ก็ขอให้ทุกท่านเพลิดเพลินไปกับการอ่านเนื้อหาภายในวารสาร 

ฉบับนี้ ซึ ่งจะเป็ นเล่มสุดท้ายประจำาปี แต่หวังว่าจะไม่ใช่เป็ นท้าย 

ที่สุดที่สมาคมฯ จะพัฒนา ต่อยอด และทำาให้ส่วนนี้เป็ นหนึ ่งใน 

กิจกรรมของสมาคมต่อๆ ไปในอนาคต 

นายทะเบียน 

คมสัน สกุลอำนวยพงศา 

เหรัญญิก 

ไมเคิลปริพล ตั้งตรงจิตร 

ปฏิคม 

เฉลิมพล สมบัติยานุชิต 

ประชาสัมพันธ์ 

กุลธิดา ทรงกิตติภักดี 

กรรมการกลาง 

ศ.ดร.ต้นข้าว ปาณินท์ 

ดร.วสุ โปษยะนันทน์ 

เฉลิมพงษ์ เนตรพฤษรัตน์ 

อดุลย์ แก้วดี 

ผศ.ณธทัย จันเสน 

ธนพงษ์ วิชคำหาญ 

ประธานกรรมาธิการ 

สถาปนิกล้านนา 

ปราการ ชุณหพงษ์ 


สถาปนิกอีสาน 

วีรพล จงเจริญใจ 


สถาปนิกทักษิณ 

ดร.กาญจน์ เพียรเจริญ 


สถาปนิกบูรพา 

คมกฤต พานนสถิตย์ 

กรรมการที่ปรึกษา 

การบริการ 

สมิตร โอบายะวาทย์ 

Arsomsilp 

Community 

and Environment 

Architect 

Ambi Studio 

Bangkok Art 

& Culture Centre 

(BACC), Auditorium, 

5 th Floor 

Hosts Co-Organizers Supporters 

Department 

of ARCHITECTURE 

Registration 

Atelier Or 

Architecture as Dialogue for All (Lecture 1) 


Saowaruj 

Rattanakhamfu 

Vice President 

and Research Director 

Thailand Development 

Research Institute 

Linda Cheng 

Managing Director 

River City Bangkok 

Chun-Ming Huang 

Adjunct Associate Professor 

Department of Architecture, 

Chung Yuan Christian University 

Chairman 

Alliance for Architectural 

Modernity Taiwan 

Hsuan-Chen Chen 

Associate Professor 

Department of Architecture, 

Chung Yuan Christian 

University 

Principal Architect 

ArchiBlur Lab 

Architecture as Dialogue for All (Lecture 2) 


Apiradee 

Kasemsook 

Dean and Associate 

Professor 

Faculty of Architecture, 

Silpakorn University 

Komgrij 

Thanapet 

Assistant Professor 

Department of Urban 

and Regional Planning, 


Chulalongkorn University 

Prompt 

Udomdech 

Head of Department 

of Architecture and 

Design Intelligence 

School of Architecture, 

Art, and Design, 

King Mongkut’s Institute 

of Technology Ladkrabang 

M.L. Paskorn 

Abhakorn 

Head of Branding 

Division 

Office of Innovation 

and Value Creation, 

Department of 

International Trade 

Promotion 

Curators 

Jenchieh Hung 

& Kulthida 

Songkittipakdee


message from the president 

We would like to express our gratitude to all of you 

for following the content of the ASA Journal. We hope 

to receive your continued support in the future as 

we strive to promote knowledge and updates in our 

industry to both our fellow members and the general 

public. I would like to extend an invitation to any 

potential sponsors, including brands and product 

suppliers, who recognize the value of the ASA Journal 

and our community of architects. We welcome you 

to utilize this publication as a platform to share, 

promote, and distribute anything related to the 

architecture and design profession, in addition to 

the contents we have created for our readers. So far, 

the association has developed various channels for 

ASA Journal, whether it be in the form of an online 

platform or physical copies, to promote information 

and content we think will be beneficial to our fellow 

members. We have expanded our work to other 

professional associations in neighboring countries 

with the goal of promoting the latest developments 

and updates within the architecture industry to 

other nations in both the Southeast Asian and Asian 

regions. 

This issue, like its theme “ON THE ROOF” implies, 

looks at the roof, a fundamental architectural 

element that has played a significant role in shaping 

and developing different styles and designs of 

architecture. I sincerely hope you enjoy reading the 

content we have prepared. This ASA Journal marks 

the final issue of the year, but we hope it won’t 

be the last one. The association is committed to 

continuing to develop and include the ASA journal 

as a part of our future activities and contributions. 

ASA COMMITTEE 

2022-2024 

President 

Chana Sumpalung 

Vice President 

Nives Vaseenon 

Jeravej Hongsakul 

Phaithaya Banchakitikun 

Chutayaves Sinthuphan 

Asst. Prof. Rattapong Angkasith, Arch.D. 

Rungroth Aumkaew 

Secretary General 

Pipat Rujirasopon 

Honorary Registrar 

Khomsan Sakulamnuaypongsa 

Honorary Treasurer 

Michael Paripol Tangtrongchit 

Social Event Director 

Chalermpon Sombutyanuchit 

Public Relations Director 

Kulthida Songkittipakdee 

Executive Committee 

Prof. Tonkao Panin, Ph.D. 

Vasu Poshyanandana, Ph.D. 

Chalermphong Netplusarat 

Adul Kaewdee 

Asst. Prof. Nathatai Chansen 

Tanapong Witkhamhan 

Chairman of 

Northern Region (Lanna) 

Prakan Chunhapong 

Chairman of 

Northeastern Region (Esan) 

Werapol Chongjaroenjai 

Chairman of 

Southern Region (Taksin) 

Dr.Kam Phiancharoen 

Chairman of 

Eastern Region (Burapa) 

Komkrit Panonsatit 

Advisory Committee 

Smith Obayawat 

OUT 

NOW! 

Available at 

E: mail@art4d.com 

FB: art4dMagazine 

T: 02 260 2606-8 art4d.com

14 

foreword 

จากถ้ำาในธรรมชาติ เพิงหรือกระโจมกลางแจ้ง พัฒนามาจนเป็นอาคาร 

ที่อยู่อาศัยถาวร และสถาปัตยกรรมในรูปแบบต่างๆ นั้น ระนาบเหนือ 

ศีรษะที่ห่อหุ้มที่ว่างรอบตัวเราไว้ อาจไม่ใช่แค่เพียงการออกแบบเพื่อ 

การปกป้องร่างกายมนุษย์จากสภาพแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับ 

มนุษย์ในเชิงจิตวิทยา ทั้งในแง่การคุ้มครองตัวเราให้รู้สึกปลอดภัยทาง 

ใจ การหลบซ่อนจากภัยอันตราย หรือรวมไปถึงการเชิดชูคุณค่าที่เชื่อม 

โยงกับความเชื่อ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของยุคสมัยนั้นๆ ความหมายทั้งหมดนี้ถูก 

ถ่ายทอดผ่านรูปทรงของ “หลังคา” องค์ประกอบหนึ่งที่สำาคัญ และนับ 

ได้ว่าสร้างความโดดเด่น เป็นสัญลักษณ์ของงานสถาปัตยกรรมเสมอมา 

ตั้งแต่ยุคสมัยโบราณ จนกระทั่งในปัจจุบันที่ภาพจำาของระนาบหลังคาใน 

งานสถาปัตยกรรมเริ่มเปลี่ยนแปลงไป เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่สามารถเข้า 

ถึงได้มากขึ้น เป็นพื้นที่สาธารณะเชื่อมต่อกับบริบทของเมือง หรือทำ าให้ 

เกิดความคลุมเครือระหว่างความเป็นระนาบพื้นและระนาบหลังคา ที่ช่วย 

สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้ใช้ของอาคารและเมือง 

“Up On the Roof” วารสารอาษาฉบับนี้จึงนำาเสนอผลงานออกแบบของ 

สถาปนิกไทยที่น่าสนใจ ในการตีความ และนำาเสนอรูปทรงความหมาย 

ของหลังคาใหม่ รวมถึงเทคนิคการก่อสร้างและวัสดุที่หลากหลาย ด้วย 

ประเภทอาคารที่แตกต่างกัน ทั้งในระดับของอาคารสาธารณะ และบ้าน 

พักอาศัย ในส่วนของ ASA Professional เป็นบทสนทนากับคุณคำารณ 

สุทธิ จาก Eco Architect กับแนวทางการออกแบบสถาปัตยกรรมที่ 

คำานึงถึงสิ่งแวดล้อมและความน่าสบายของผู้ใช้งาน รวมทั้งแนะนำาสตูดิโอ 

SOS Architect 

ส่วนใน ASA Material นำาเสนอทางเลือกของวัสดุหลังคาโลหะที่น่าจะเป็น 

ประโยชน์ต่อการเลือกใช้ในการสร้างสรรค์งานสถาปัตยกรรม โดยเฉพาะ 

สำาหรับการออกแบบสถาปัตยกรรมแห่งช่วงเวลาที่ท้าทายในอนาคต 

ข้างหน้านี้ ที่สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่อาจรุนแรง 

ขึ้น การผสานกันมากกว่าขึ้นระหว่างเทคโนโลยีโลกเสมือนและโลกจริง 

ทางกายภาพ หรือนวัตกรรมการก่อสร้างที่ก้าวหน้า ล้วนน่าจะเป็นโจทย์ 

ใหม่ๆ สำาหรับสถาปนิกในการเลือกใช้วัสดุและรูปทรงของระนาบหลังคา 

ว่าจะสร้างสรรค์หน้าตาของสถาปัตยกรรมแบบใดให้กับบริบทใหม่ใน 

อนาคต และจะมีส่วนสร้างประสบการณ์ หรือความหมายในมิติใดอีกบ้าง 

ต่อมนุษย์ 

From natural caves and outdoor makeshift shelters to permanent 

residential buildings and all types and genres of architecture, 

the overhead roof planes of these structures serve purposes 

beyond shielding humans from their environment. The roof, a 

fundamental element of architecture, carries with it a range of 

psychological implications. It serves not only to provide a sense 

of mental security and protection from harm, but also to embody 

the values and sacred beliefs of diverse cultures throughout 

history. The diverse interpretations and embodiments of meaning 

are exemplified through the various sizes and forms of roofs. 

The roof, an essential component of architectural design, holds 

great significance in the symbolic representation of a structure. 

Throughout history, the roof has undergone its own evolution, 

and as time passes, people’s perception and memory of this 

crucial architectural element continues to evolve, shaping the 

way we view and appreciate it. No longer just a mere protective 

covering, the roof has now emerged as a dynamic space that 

is increasingly becoming accessible to the public. It has been 

designed as public space that seamlessly connects buildings 

to the various surroundings of towns and cities. There are times 

when an interplay between the roof plane and floor surface can 

evoke a sense of ambiguity, resulting in new experiences for both 

inhabitants and the surrounding urban environment. 

The latest issue of ASA Journal, themed “Up On the Roof,” brings 

you incredible works by Thai architects that showcase their 

unique interpretations and presentations of roofs, as well as a 

diverse range of construction techniques and materials that are 

tailored to suit the unique nature and physical characteristics of 

each building. This issue showcases a diverse range of projects 

that span across various scales, ranging from public structures 

to residential buildings. For ASA Professional, we talked with 

Khamron Sutthi, founder of Eco Architect, a design studio that 

values the environment and user comfort in its architectural 

approach. The issue additionally introduces SOS Architect. 

ASA Material selects metal roofing materials that offer architects 

and designers alternative solutions to the increasing threats posed 

by climate change. Greater integration of augmented reality technologies 

with the real physical world, as well as innovative building 

techniques, will create new challenges for architects and professionals 

in the industry. These challenges will span across various 

aspects of architectural design, including the selection of materials, 

the design of roofs, and the creation of architecture that is relevant 

to the future context of the world, as architects will be driven to 

consider and contemplate how their works can bring new meaning 

and dimensions of experiences to the human race.


MAR-APR 

ON THE ROOF 

around 

The Pritzker 

Architecture 

Prize 2023: 

David 

Chipperfield 

18 

RIBA Royal Gold 

Medal 2023: 

Yasmeen Lari 

22 

theme 

On the Roof 

Roof is such an influential 

architectural element that it can 

protect and, therefore, give life. 

Roof can even control the quality 

of the space underneath. Roof 

is a true mediator—one that 

negotiates between existing 

conditions for the good of 

humankind. But if so, why does 

roof sometimes receive less 

priority in contemporary design? 

In this article, we shall look back 

in history to celebrate the values 

of roof and look beyond to the 

new developments and what 

the future may bring. 

26 

Photo Credit: Jorge Royan 

46 

Photo Credit: DOF Sky |Ground 

theme / review 

Two In One 

In designing the Center 

of Excellence for Forest 

Conservation in Map Ta Phut, 

Architects 49 has developed 

an innovative solution to the 

brief with two types of roofs 

composed in a large circular 

structure. 


Pitch Perfect 

A new extension of the famous 

restaurant in the riverfront 

area of Kanchanaburi, designed 

by IDIN Architects, is a lofty and 

open concrete structure with a 

sophisticated gable roof serving 

as the key factor for the entire 

architecture. 

60 

Photo Credit: DOF Sky |Ground 


The Fifth 

Element 

S.Pace Studio has designed a 

house in Khon Kaen that offers 

a pool-villa-like experience, 

with the roof meticulously 

intended to strike a balance 

between fulfilling elementary 

functions and meeting the 

demands of the users. 

76 


Wrap It Up 

ASWA Architects has designed a 

new office for a manufacturer of 

innovative food wrapping film, 

with the roof form inspired by 

the look of a building covered in 

food wrapping film. 

90 

Photo Credit: Tawichakorn Laochaiyong 

Photo Credit: ASWA (Architectural Studio of Work - Aholic) 

roofventsaustralia.com.au 

shera.com 

material 

Metal Roofing 

Materials 

Metal roofing is an alternative 

roofing material that creates 

beauty, modernity, strength, 

is light weight, and can cover a 

large area without the need for 

many structural columns. In this 

issue, the ASA Journal examines 

some important factors to 

consider when selecting metal 

materials for metal roofing. 

104 

BEMO 

Sheets and 

Panels for Roofs 

116 

SHERA 

Zedar Shake 

Roof Materials 

117 

Onduline 

Roof Sheets 

118 

professional 

Between 

Architecture 

and Nature 

The founder and principal 

architect of Eco Architect, 

Kamron Sutthi, is a firm 

believer that architecture 

and ecology must be viewed 

as inseparable entities. 

Kamron has demonstrated 

an unchanging architectural 

identity and approach 

to architectural design 

throughout his career and via 

his expanding body of work. 

120 

professional 

S.O.S. Architects 

136 

chat 

Prakan 

Chunhapong 

The Chairman of the Northern 

Region (Lanna) of the Association 

of Siamese Architects under 

Royal Patronage discussed the 

growing and developing of the 

architecture profession in the 

North and their past activities. 

140 

Photo Courtesy of Eco Architect 

the last page 

144

18 

around 

The Pritzker Architecture Prize 2023 

19 

Sir David Alan Chipperfield, photo courtesy of Tom Welsh 

1 

The Pritzker 

Architecture 

Prize 2023: 

David Chipperfield 

Photo Courtesy of The Pritzker Architecture Prize except as noted 

01 

Sir David Alan 

Chipperfield 

02 

อาคารชมการแข่งขัน 

America’s Cup ในเมือง 

Valencia สเปน โดดเด่น 

ด้วยพื้นคอนกรีต ยื่นยาว 

กว่า 15 เมตร สำาหรับ 

จุดชมการแข่งขันแบบเปิด 

มุมมองกว้างสู่ริมทะเล 

02 

ผลงานการบูรณะ 

อาคาร Neues Museum, 

ออกแบบไว้โดย Friedrich 

August Stiiler ที่ได้รับ 

ความเสียหายจากระเบิด 

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 

Sir David Alan Chipperfield CH สถาปนิกชาวอังกฤษที่มี 

สำานักงานออกแบบในหลายเมืองของยุโรปและในเซี่ยงไฮ้ 

ได้รับเลือกให้เป็นผู้ได้รับรางวัล The Pritzker Architecture 

Prize 2023 ซึ่งถือเป็นรางวัลที่ได้รับการยกย่องในระดับ 

สากลว่าเป็นเกียรติสูงสุดทางด้านสถาปัตยกรรม ด้วยผลงาน 

มากกว่าหนึ่งร้อยชิ้นที่สร้างขึ้นของ David Chipperfield ใน 

กว่าสี่ทศวรรษที่ผ่านมานั้นหลากหลายทั้งในด้านประเภทของ 

สถาปัตยกรรม และที่ตั้งทั่วเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ 

โดยมีความครอบคลุมตั้งแต่อาคารสาธารณะ อาคารทาง 

วัฒนธรรม สถาบันวิชาการ สำานักงาน ไปจนถึงที่อยู่อาศัย 

และการวางผังเมือง 

รางวัล Pritzker Prize นี้มอบให้เพื่อการประกาศถึงพรสวรรค์ 

วิสัยทัศน์ และความมุ่งมั่นของสถาปนิก ซึ่งมีส่วนร่วมสําคัญ 

ต่อประโยชน์ของมนุษยชาติ และสภาพแวดล้อมที่สร้างขึ้น 

อย่างต่อเนื่องผ่านศิลปะแห่งสถาปัตยกรรม ผลงานของ 

Chipperfield ได้แสดงการคํานึงถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม 

และประวัติศาสตร์ ยอมรับในสิ่งที่มีอยู่ก่อนแล้ว การออกแบบ 

และแทรกแซงด้วยการสนทนากับเวลา และสถานที่ เพื่อนํา 

ไปประยุกต์ใช้ตามบริบทและการตีความใหม่ภาษาสถาปัตย- 

กรรมของแต่ละสถานที่ แทนที่จะออกแบบด้วยสถาปัตยกรรม 

สมัยใหม่ทั้งหมด ดังจะเห็นได้ในงานบูรณะหรือปรับปรุงอาคาร 

ที่มีอยู่ และผลงานชิ้นเอกทางสถาปัตยกรรม เช่น Berlin’s 

Museum Island หรือในกรณีของ Neue Nationalgalerie 

อันเป็นสัญลักษณ์ของ Mies van der Rohe ในเบอร์ลิน 

Sir David Alan Chipperfield CH, a British architect 

with design offices across multiple European cities 

as well as Shanghai, has been named the latest 

recipient of the Pritzker Architecture Prize 2023, the 

most prestigious international architectural award 

given to architectural professionals. Over the last 

four decades, Sir David Alan Chipperfield has created 

over a hundred projects encompassing various 

genres and locations, including Asia, Europe, and 

North America. His portfolio spans everything from 

public cultural and office buildings to educational 

institutions and residential and urban planning 

projects. 

The Pritzker Prize is awarded in recognition of each 

laureate’s talent, vision, and desire to better the lives 

of people and the evolution of the built environment 

through the art of architecture. Chipperfield’s works 

have demonstrated a strong understanding of environmental 

and historical implications, as well as the 

recognition and acceptance of pre-existing creations, 

both natural and manmade. Instead of replacing 

or constructing newly created modern architectural 

structures, his design and intervention through meaningful 

and thoughtful dialogues with time and places 

allow for the contextual applications and revival of 

architectural languages that genuinely correspond 

with their places of origin. His approach to design 

may be seen in many restoration and renovation 

projects of old, already-existing structures, such as 

Berlin’s Museum Island or the Neue Nationalgalerie, 

Mies van der Rohe’s last major project in Berlin. 

America’s Cup Building ‘Veles e Vents,’ photo courtesy of Christian Richters 

The Neues Museum, courtesy of SPK / David Chipperfield Architects, photo Joerg von Bruchhausen 

2 

3

around 

20 

The Pritzker Architecture Prize 2023 

21 

04 

ผลงานออกแบบอาคาร 

สำานักงานใหญ่ BBC ใน 

Scotland 

ผลงานของ David Chipperfield สะท้อนให้เห็นว่า ในฐานะ 

สถาปนิก เขาเป็นผู้พิทักษ์ความหมาย ความทรงจํา และ 

มรดก และเมื่อเมืองเป็นบันทึกทางประวัติศาสตร์ เช่นเดียว 

กับสถาปัตยกรรมในช่วงเวลาหนึ่งๆ เมืองยังมีพลวัต มี 

วิวัฒนาการของตัวเองอีกด้วย และในวิวัฒนาการนั้น หาก 

เรานําสิ่งปลูกสร้างหนึ่งออกไปและแทนที่ด้วยอาคารอื่นๆ 

แสดงว่าเราเลือกเพียงตัวเอง แต่ละเลยการปกป้องตัวละคร 

และคุณสมบัติที่สะท้อนถึงความร่ำารวยของวิวัฒนาการ 

ของเมืองนั้นๆ ด้วย ในผลงานอื่นๆ เช่น อาคารของรัฐหรือ 

เอกชน Chipperfield ยังเน้นถึงการสร้างโอกาสให้กับสังคม 

แห่งการอยู่ร่วมกัน ด้วยการปกป้องความเป็นปัจเจกบุคคล 

ไปพร้อมกับการส่งเสริมความรู้สึกเป็นเจ้าของทางสังคม 

ร่วมกัน โดย David Chipperfield เน้นย้ำาไว้ว่าในฐานะ 

สถาปนิก เราสามารถมีบทบาทที่โดดเด่นและมีส่วนร่วมใน 

การสร้างโลกที่สวยงามขึ้น และยังเป็นโลกที่ยุติธรรมและ 

ยั่งยืนมากขึ้น โดยเขามองว่าเราต้องช่วยสร้างแรงบันดาลใจ 

ให้คนรุ่นต่อไปยอมรับความรับผิดชอบนี้ด้วยวิสัยทัศน์และ 

ความกล้าหาญอีกด้วย 

David Chipperfield’s works highlight his role as an 

architect who is a preserver of meaning, memories, 

and heritage. A city serves as a historical archive, 

similar to how architecture documents a specific 

time period in history. A city has its own dynamic 

and evolution, and removing a built structure and 

replacing it with a new one could indicate that we put 

ourselves above certain characters or qualities that 

actually reflect the richness of the city’s evolution. 

Through his expanding body of work, from government-owned 

projects to private buildings, Chipperfield 

focuses on creating opportunities for every aspect 

of society to coexist by protecting individuality while 

encouraging a common sense of ownership. David 

Chipperfield emphasized that, as an architect, one 

can play a role in creating a better, more beautiful 

world as well as a more just and sustainable society. 

He believes that it is everyone’s job to inspire future 

generations to embrace such responsibility with 

vision and courage. 

pritzkerprize.com 

4 

BBC Scotland Headquarters, photo courtesy of Ute Zscharnt for David Chipperfield Architects 

ในเมืองต่างๆ เราอาจไม่เห็นอาคารของ David Chipperfield 

ที่เป็นที่รู้จักในทันที แต่อาคารของเขามักจะออกแบบมา 

แตกต่างกันไปโดยเฉพาะสําหรับแต่ละบริบท การปรากฏ 

ตัวของอาคารที่โดดเด่นโดยสร้างความสัมพันธ์ใหม่กับ 

พื้นที่ใกล้เคียงไปด้วย เรียกได้ว่าภาษาสถาปัตยกรรม 

ของเขาสร้างสมดุลระหว่างความสอดคล้องกับหลักการ 

ออกแบบพื้นฐานและความยืดหยุ่นต่อวัฒนธรรมท้องถิ่น 

David Chipperfield’s creations may not be easily 

recognized or distinguishable from their surroundings. 

They are intended to vary, with context being 

a crucial determining factor. They are buildings that 

reveal themselves through renewed connections 

with the places or neighborhoods of which they are 

a part. One can say that his architectural language 

strikes a balance between the integrity of core 

design principles and its flexibility and adaptability 

to local cultures. 

James-Simon-Galerie, photo courtesy of Ute Zscharnt for David Chipperfield Architects 

5 

Saint Louis Art Museum, photo courtesy of Simon Menges 

05 

การออกแบบส่วนทางเข้า 

ใหม่ของ Museum Island 

ในเมืองเบอร์ลิน โดยการ 

ออกแบบให้เห็นการอยู่ 

ด้วยกันของสถาปัตยกรรม 

เก่าและใหม่ 

06 

อาคารส่วนต่อขยายใหม่ 

ของ Saint Louis Art 

Museum ที่เชื่อมระหว่าง 

อาคารเก่ากับสวนที่ 

ปรับปรุงใหม่ 

6

22 

around 

RIBA Royal Gold Medal 2023 

23 

นับตั้งแต่เกษียณอย่างเป็นทางการในปี 2543 ความ 

สนใจของเธอเปลี่ยนไปที่การสร้างสรรค์การออกแบบและ 

เทคนิคการก่อสร้างที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ และเน้นความ 

เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยเหลือผู้คนที่อยู่ต่ำากว่า 

เส้นความยากจน รวมทั้งผู้ที่พลัดถิ่นจากภัยธรรมชาติ เช่น 

น้ำาท่วมใหญ่ที่กินพื้นที่หนึ่งในสามของประเทศในปี 2565 

ที่ผ่านมา 

Since her formal retirement in 2000, Lari’s concentration 

has shifted to the creation of ideas and 

building processes that the masses can access and 

utilize, as well as a focus on environmental awareness. 

She continues to strive to assist individuals 

living below the poverty threshold as well as those 

affected by natural disasters such as the 2022 

flood, which devastated one-third of Pakistan. 

Yasmeen Lari 

RIBA Royal 

Gold Medal 2023: 

Yasmeen Lari 

Photo Courtesy of RIBA Architecture except as noted 

1 

01 

Yasmeen Lari สถาปนิก 

หญิงจากปากีสถาน ผู้ได้รับ 

รางวัล RIBA Royal Gold 

Medal 2023 

02 

พื้นที่เรียนรู้ทางวัฒนธรรม 

ของผู้หญิงและเด็กที่ 

Heritage Foundation 

ใน Maki สร้างด้วยไผ่ 

Royal Institute of British Architects (RIBA) ประกาศ 

มอบรางวัล Royal Gold Medal ประจำาปี 2566 สาขา 

สถาปัตยกรรม ให้แก่ Yasmeen Lari สถาปนิกหญิงคนแรก 

ของปากีสถาน โดยรางวัลนี้เป็นหนึ่งในรางวัลเกียรติยศ 

สูงสุดสำาหรับสถาปัตยกรรม และเป็นรางวัลแรกที่พระเจ้า- 

ชาร์ลส์ที่ 3 ทรงอนุมัติเป็นการส่วนตัว ซึ่งเป็นการยกย่อง 

ผลงานของ Yasmeen Lari ในการสนับสนุนแนวคิดการ 

ก่อสร้างด้วยตนเอง โดยเฉพาะการเน้นงานออกแบบด้วย 

แนวคิดคาร์บอนเป็นศูนย์สำาหรับประชากรที่พลัดถิ่น 

Yasmeen Lari เกิดในปี 2484 ที่ประเทศปากีสถาน และ 

ย้ายไปลอนดอนกับครอบครัวเมื่ออายุได้ 15 ปี ที่ซึ่งเธอได้ 

ศึกษาศิลปะก่อนที่จะได้รับการตอบรับเข้าเรียนที่ School 

of Architecture Oxford Brookes University และ Oxford 

Polytechnic เมื่ออายุได้ 23 ปี เธอกลับไปปากีสถานพร้อม 

กับสามีเพื่อก่อตั้งบริษัทสถาปัตยกรรม Lari Associates 

The Royal Institute of British Architects (RIBA) recently 

awarded Yasmeen Lari the 2023 Royal Gold 

Medal in the field of architecture, making her the 

first Pakistani female architect to receive the honor. 

The RIBA Royal Gold Medal, one of the most prestigious 

architectural awards and the first award 

personally approved by King Charles III, recognizes 

Yasmeen Lari’s body of work and its advocacy 

of zero-carbon self-build concepts for displaced 

populations. 

Born in Pakistan in 1941, Yasmeen Lari moved to 

London with her family at the age of fifteen. It was 

here that she studied art and was later accepted 

into the School of Architecture at Oxford Brookes 

University and Oxford Polytechnic when she was 

23 years old. She then moved back to Pakistan with 

her husband and established her own architecture 

practice, Lari Associates. 

Zero Carbon Cultural Centre, © Heritage Foundation of Pakistan 

2

around 

24 

RIBA Royal Gold Medal 2023 

25 

Angoori Bagh, © Heritage Foundation of Pakistan 

4 

5 

Yasmeen Lari outside Women’s Centre, Pakistan, ©Heritage Foundation of Pakistan 

04 

อาคารพักอาศัยที่ออกแบบ 

โดย Lari ใน Lahore ช่วง 

ปี 1973 

05 

ภาพถ่ายของ Yasmeen 

Lari หน้าศูนย์ชุมชนใน 

ปากีสถาน ที่เธอออกแบบ 

สำาหรับพื้นที่ทางสังคมของ 

สตรีในหมู่บ้าน 

จากผลงานสถาปัตยกรรมและงานด้านมนุษยธรรมของ 

Yasmeen Lari นับได้ว่าเป็นหนึ่งเสียงที่ทรงพลังที่สุดใน 

วงการสถาปัตยกรรมปากีสถานและทั่วโลก ด้วยการ 

ออกแบบที่เน้นประเด็นผลกระทบของการตัดไม้ทำาลายป่า 

มลพิษ และอันตรายต่อสุขภาพที่ผู้หญิงในพื้นที่ชนบทต้อง 

เผชิญ มีการนิยามการทำางานของเธอไว้ว่าเป็น ”นักสตรี 

นิยมเชิงนิเวศ” ด้วยมุมมองของการวิเคราะห์ สำารวจ 

แนวทางการคงอยู่คู่กันระหว่างผู้หญิงกับธรรมชาติ ใน 

วัฒนธรรม เศรษฐกิจ ศาสนา และการเมือง ที่ตอบสนอง 

ความต้องการของผู้หญิงและโลกใบนี้ไปพร้อมๆ กัน 

Yasmeen Lari’s architectural initiatives and humanitarian 

efforts have taken her to the forefront of the 

Pakistani and worldwide architectural communities. 

Her design centers around the effects of deforestation, 

pollution, and health risks that women living 

in rural regions confront. Some refer to her architectural 

work as eco-feminism because of the way 

she analyzes and navigates various approaches for 

women and the environment to coexist, whether in 

cultural, economic, religious, or political aspects, 

all of which strive to meet the needs of both women 

and the world. 

03 

บ้านพักในศูนย์ชุมชน 

ที่สร้างโดยได้รับอิทธิพล 

จากแนวคิดโมเดลแบบ 

“Barefoot Enterpreneur” 

โดย Yasmeen Lari 

LOG Shelter, © Heritage Foundation of Pakistan 

3 

จะเห็นได้ว่า ผลรางวัล Royal Gold Medal ทั้งจากในปีที่ 

ผ่านมาซึ่งมอบให้แก่ Balkrishna Doshi สถาปนิกชาวอินเดีย 

ผู้ล่วงลับ และผลรางวัลในปีนี้แก่ Yasmeen Lari ช่วยเน้นย้ำา 

ถึงทิศทางใหม่ของ RIBA ที่สนับสนุนให้สถาปนิกไม่เพียง 

ทำางานให้กับผู้คน 1% ที่มีอำานาจเท่านั้น แต่ยังควรให้ความ 

สำาคัญกับมนุษยชาติโดยรวม และผู้ที่ต้องทุกข์ทรมานจาก 

ความเหลื่อมล้ำา ความขัดแย้ง และการเปลี่ยนแปลงสภาพ- 

ภูมิอากาศอีกด้วย 

From last year’s Royal Gold Medal winner, the late 

Indian architect Balkrishna Doshi, to this year’s 

winner, Yasmeen Lari, it’s an interesting manifestation 

of the RIBA’s new direction and the support it 

gives to architects. From now on, more architects 

will be recognized not for the works they did for 

the 1% of the world with all the money and power, 

but for the contribution of their knowledge and 

ability to help the human race, especially those 

who are suffering from inequality, disparity, and 

catastrophic natural disasters caused by climate 

change. 

architecture.com

26 

theme 

OnThe 

Roof 

Roof is such an influential architectural element 

that it can protect and, therefore, give life. 

Roof can even control the quality of the space 

underneath. Roof is a true mediator—one that 

negotiates between existing conditions for the 

good of humankind. But if so, why does roof 

sometimes receive less priority in contemporary 

design? In this article, we shall look back in 

history to celebrate the values of roof and look 

beyond to the new developments and what the 

future may bring. 

Text: Nawanwaj Yudhanahas 

1 

Photo Credit: Jorge Royan via Wikimedia Commons 

01 

หลังคาโครงสร้างTensile 

ของ Olympic Park โดย 

Frei Otto

28 

theme 

ON THE ROOF 

29 

“ในการสร้างที่อยู่อาศัยของเรา ก่อนอื่นเราต้องสร้างร่ม 

เพื่อทอดเงาลงบนพื้นโลก และภายใต้แสงเงาอ่อนๆ นั้น 

เราจึงสร้างบ้านขึ้นมา” Junichiro Tanizaki นักเขียนชาว 

ญี่ปุ่นที่มีชื่อเสียง ได้เขียนไว้ในหนังสือคลาสสิกเกี่ยวกับ 

สุนทรียศาสตร์ของญี่ปุ่น “In Praise of Shadows” เมื่อปี 

1933 ในบทความที่มีชื่อเสียงนี้ Tanizaki สังเกตค่านิยม 

ดั้งเดิมของญี่ปุ่นผ่านสิ่งของและสิ่งแวดล้อมในชีวิตประจำ าวัน 

อย่างห้องพักในโรงแรม ห้องสุขา แสงไฟ เครื่องใช้บนโต๊ะ 

อาหาร อาหาร และอื่นๆ Tanizaki ไม่ใช่สถาปนิก แต่การ 

สังเกตของเขาสามารถให้มุมมองใหม่ๆ แก่สถาปนิกในการ 

มองสถาปัตยกรรม บทนำานี้อาจเป็นเครื่องเตือนเราว่า บางที 

ทุกอย่างอาจเริ่มต้นขึ้นที่ “หลังคา” หลังคาก่อกำาเนิดและ 

กำาหนดทุกสิ่งที่ตามมา หากไม่มีหลังคากั้นกลางระหว่าง 

เรากับดวงอาทิตย์ ก็จะไม่มีร่มเงาบนโลกและไม่มีสิ่งมีชีวิต 

ที่สามารถอาศัยอยู่ได้ 

Tanizaki ยังเขียนบันทึกเปรียบเทียบสุนทรียศาสตร์ของ 

ญี่ปุ่นกับของตะวันตก ตัวอย่างเช่น เขาพูดถึงหลังคาของ 

อาสนวิหารโกธิคและวัดญี่ปุ่น Tanizaki กล่าวว่า “ความ 

งามพิเศษ” ของอาสนวิหารแบบโกธิคอยู่ที่หลังคาทรงสูง 

และแหลม โดยยอดของมหาวิหารนั้น “สูงขึ้นไปบนสวรรค์ 

ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” ตรงกันข้ามกับลักษณะที่ 

โดดเด่นของวัดญี่ปุ่นคือหลังคาหนาพร้อมชายคาที่สร้างเงา 

ที่ “ทอดไกลและกินพื้นที่กว้างขวาง” 

สิ่งนี้เตือนเราว่าการออกแบบหลังคามักแฝงไปด้วยนัยสำ าคัญ 

อาสนวิหารโกธิคนิยมสร้างหลังคาแหลมสูงเพื่อเป็นสื่อกลาง 

ระหว่างเรากับสวรรค์ และเพราะความต้องการอยู่ภายใต้ 

ร่มเงาของแสงแดดและแสงภายในอาคารที่นุ่มนวล วัดญี่ปุ่น 

จึงนิยมสร้างหลังคาในลักษณะที่ชายคายื่นออกมา 

หลังคาจึงเป็นองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมที่มีอิทธิพลซึ่ง 

สามารถปกป้องและให้ชีวิตได้ หลังคายังสามารถควบคุม 

คุณภาพของพื้นที่ที่อยู่เบื้องล่าง หลังคานับเป็นสื่อกลางที่อยู่ 

“ระหว่าง” อย่างแท้จริง โดยเป็นสื่อกลางที่คอย “เจรจา” 

ระหว่างสภาพที่เป็นอยู่เพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ แต่ถ้า 

เป็นเช่นนั้น ทำาไมบางครั้งหลังคาถึงมีความสำาคัญน้อยกว่า 

ในการออกแบบร่วมสมัย? ในบทความนี้ เราจะมองย้อน 

กลับไปในประวัติศาสตร์เพื่อเชิดชูคุณค่าของหลังคาและ 

มองออกไปให้ไกลยังการพัฒนาใหม่ๆ และสิ่งที่จะเกิดขึ้น 

ในอนาคต 

ระหว่างเรากับสภาพภูมิอากาศ 

จากข้อสังเกตของ Tanizaki เขาชี้ให้เห็นว่า "ถ้าหลังคาของ 

บ้านญี่ปุ่นเป็นเหมือนร่ม หลังคาของบ้านแบบตะวันตกก็ 

คงเป็นเหมือนฝาครอบ" เขาอธิบายเพิ่มเติมว่าเป็นเพราะ 

หลังคาของบ้านตะวันตกถูกสร้างขึ้นเพื่อกำาบังลมและน้ำาค้าง 

“In making for ourselves a place to live, we first 

spread a parasol to throw a shadow on the earth, 

and in the pale light of the shadow we put together 

a house.”—wrote Junichiro Tanizaki, a renowned 

Japanese author in 1933 in the classic book on 

Japanese aesthetics In Praise of Shadows. In this 

famous essay, Tanizaki observes traditional Japanese 

values through everyday things: hotel rooms, toilets, 

lighting, tableware, food and so on. Tanizaki was 

not an architect. But his observation provides a 

fresh eye for architects to look at architecture. 

This introduction quote reminds us that perhaps, 

it all started with a roof. Roof gives rise to and 

prescribes everything that follows. Without a roof 

mediating between us and the sun, there will be 

no shadows on the earth and no life underneath. 

Tanizaki also makes a note comparing Japanese 

aesthetics to that of the Western. For instance, 

he talks about the roofs of Gothic cathedrals and 

Japanese temples. Tanizaki says the ‘special beauty’ 

of the Gothic cathedral lies in the tall, pointed roof, 

with its top ‘as high in the heavens as possible’. On 

the contrary, the striking characteristic of Japanese 

temples is the heavy roof with eaves that create 

‘deep, spacious’ shadows. 

This reminds us that the design of the roof carries 

great significance. We yearn for heaven. And 

so Gothic cathedrals favour high pointed roof to 

mediate between us and heaven. We seek protection 

from the sun and diffused interior lighting. 

So, Japanese temples favour a roof with extended 

overhanging eaves. 

Roof is such an influential architectural element 

that can protect and, therefore, give life. Roof can 

even control the quality of space underneath. Roof 

is a true mediator—one that negotiates between 

existing conditions for the good of humankind. But 

if so, why does roof sometimes receive less priority 

in contemporary design? In this article, we shall 

look back in history to celebrate the values of roof 

and look beyond to the new developments and 

what the future may bring. 

Between us and the climate 

Among his observation, Tanizaki points out that 

"if the roof of a Japanese house is a parasol, the 

roof of a Western house is no more than a cap". 

He further elaborates that this is because the roof 

of the Western house is built to shelter from the 

wind and dew but maximises the amount of sun 

reaching the interior. The roof of the Japanese 

อีกทั้งเพิ่มปริมาณแสงแดดให้สามารถส่องถึงพื้นที่ภายใน 

ในทางกลับกัน หลังคาของบ้านญี่ปุ่นมีชายคายื่นยาวออกไป 

เพื่อป้องกันแสงแดดและเพื่อให้ร่มเงาแก่พื้นที่ภายใน 

อันที่จริงแล้ว เราสามารถทราบถึงสภาพอากาศของภูมิภาคใด 

ภูมิภาคหนึ่งได้จากการออกแบบหลังคาของสถาปัตยกรรม 

พื้นถิ่นในพื้นที่นั้นๆ หลังคาจั่วสูงชันสำ าหรับเอเชียตะวันออก- 

เฉียงใต้นั้นเป็นองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมที่ยอดเยี่ยม 

สำาหรับกำาบังฝนที่ตกหนักและป้องกันแสงแดด ส่วนชายคา 

ที่ยื่นออกมาหนาทึบของญี่ปุ่นนั้นก็ยอดเยี่ยมสำ าหรับกำาบัง 

แสงแดดในฤดูร้อนและหิมะในฤดูหนาว 

หลังคาของ Naoshima Hall ใน Honmura โดย Hiroshi 

Sambuichi มีชายคายื่นออกมาไกล กลุ่มอาคารประกอบ 

ด้วยอาคารสองหลัง คือศูนย์ชุมชน และห้องโถงที่เป็นทั้ง 

โรงยิม รวมถึงโรงละครหุ่นกระบอก เมื่อมองแวบแรก 

อาคารทั้งสองหลังจะดูคล้ายกับหลังคาปั้นหยาผสมกับ 

หลังคาจั่วซึ่งเป็นหลังคาในรูปแบบดั้งเดิมของภูมิภาคนี้ 

หากแต่หลังคานี้ได้มีการดัดแปลงเล็กน้อย 

house, on the other hand, has deep overhanging 

eaves to keep off the sun; and to keep the interior 

in shadows. 

Indeed, we can get a clue about the climate of a 

particular region from the design of the roof of its 

vernacular architecture. The steep gabled roof for 

Southeast Asia is great for sheltering from heavy 

rain and sun, and the thick overhanging eave of 

Japan is great for sheltering the hot summer sun 

and winter snow. 

The roof of Naoshima Hall in Honmura by Hiroshi 

Sambuichi features a typical deep overhanging 

eave. The complex consists of two buildings: the 

community centre and the hall that doubles as a 

gymnasium and a puppet theatre. At first glance, 

the two buildings resemble the traditional hip-andgable 

roof of the region. But there is a twist. 

Photo Credit: Sambuichi Architects / Downloaded from dezeen.com 

2 

02 

อาคารหลังใหญ่ 

ของ Naoshima Hall

30 

theme 

ON THE ROOF 

31 

Tanizaki points out that "if the roof of a Japanese house is a 

parasol, the roof of a Western house is no more than a cap". 

This is because the roof of the Western house is built to shelter 

from the wind and dew but maximises the amount of sun 

reaching the interior, while the roof of the Japanese house has 

deep overhanging eaves to keep off the sun, and to keep the 

interior in shadows. 

05-06 

ตลาด Santa Caterina 

อาคารที่อยู่ติดกันคือห้องโถงซึ่งตั้งอยู่บนเนินดินขนาดเล็ก 

ที่ปกคลุมด้วยหญ้ามอส ชายคายื่นออกไปจนเกือบจรดพื้น 

ดิน และความชันของหลังคาก็เป็นองศาเดียวกันกับความชัน 

ของเนินดิน ทำาให้รู้สึกว่าอาคารได้เติบโตขึ้นมาจากผืนดิน 

ลักษณะเด่นของอาคารนี้ อยู่ที่หลังคาด้านบน เนื่องจาก 

ห้องโถงรองรับผู้มาใช้งานได้ถึง 300 คน อากาศที่ถ่ายเทจึง 

เป็นสิ่งจำาเป็นสำาหรับความสบาย สถาปนิกวางแนวอาคารรับ 

ลมใต้-เหนือ ช่องสามเหลี่ยมขนาดใหญ่ใต้จั่วช่วยให้อากาศ 

ผ่านเข้าออกได้ แต่อีกหนึ่งกิจกรรมที่สำาคัญ คือห้องโถงนี้ 

ถูกใช้เล่นแบดมินตันอยู่บ่อยครั้ง ดังนั้นอากาศจึงจะต้องไม่ 

เคลื่อนที่เร็วมากจนเกินไป มิฉะนั้นจะส่งผลต่อลูกขนไก่ที่ไว 

ต่อแรงลม จึงมีช่องเปิดบนสันหลังคาทำาหน้าที่เป็นปล่อง 

ทำางานร่วมกับช่องระบายอากาศบนพื้นและโครงข่ายท่อ 

ใต้ดินที่ช่วยลดอุณหภูมิของอาคารลง ชายคาที่ทอดต่ำา 

ยังสามารถป้องกันแสงแดดที่อาจจะแยงตารบกวนผู้เล่น 

แบดมินตัน แต่เพื่อยังให้มีแสงสว่างภายในอย่างเพียงพอ 

ปูนขาวแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมได้ถูกฉาบคลุมพื้นผิวภายในทั้งหมด 

ของหลังคา ซึ่งช่วยในการสะท้อนและกระจายแสงจาก 

ธรรมชาติ 

An adjacent building is the hall which sits on a 

small moss-covered mound. The eaves extend 

close to the ground. And the slope of the roof 

echoes the slope of the mound. This gives an 

impression that the building is rising out of the 

landscape. The distinctive feature lies at the top 

of the roof. Since the hall accommodates up to 

300 audeience, fresh air is essential for comfort. 

The building orientation captures the south-north 

wind. A large triangular hollow underneath the 

gable allows air to pass through. But the hall is 

also frequently used for playing badminton. Therefore, 

the air must not move too fast, otherwise it 

will affect the wind-sensitive shuttlecock. A hole 

in the roof ridge acts as a funnel. This works in 

conjunction with vents in the floor and a network 

of underground ducts that help cool down the 

building. The low eaves also prevent glare that 

may disturb the badminton players. But to provide 

ample lighting, traditional Japanese white plaster 

covers the entire interior surface of the roof, bouncing 

and distributing natural light. 

Sambuichi เรียกสายลมและแสงแดดว่า “วัสดุจากธรรมชาติ 

ที่เคลื่อนไหว” และที่ Naoshima Hall หลังคาก็กลายเป็น 

เครื่องมือของเขาในการทำางานร่วมกับ “วัสดุจากธรรมชาติ 

ที่เคลื่อนไหว” เหล่านี้ 

The architect, Sambuichi, calls the wind and the 

sun ‘moving materials of nature’. And at Naoshima 

Hall, roof becomes his means to work with these 

‘moving materials of nature’. 

3 

Photo Credit: Sambuichi Architects / Downloaded from dezeen.com 

4 

03 

ภายในอาคารหลังใหญ่ 

ของ Naoshima Hall 

04 

รูปตัดอาคารใหญ่ 

ของ Naoshima Hall 

ส่วนที่เป็นศูนย์ชุมชนเป็นอาคารขนาดเล็กที่มีหลังคาเล็ก 

ซ้อนอยู่ภายใต้หลังคาใหญ่ อาคารประกอบด้วยห้องสี่ห้อง 

ที่แยกออกจากกัน โดยแต่ละห้องมีหลังคาของตัวเอง หลังคา 

สูงชันอีกหลังคาหนึ่งปกคลุมหลังคาทั้งสี่นี้ไว้ และตัวหลังคา 

เองถูกหุ้มด้วยบานเกล็ดไม้ทั้งด้านในและด้านนอก โดย 

ด้านบนมีช่องเปิดซึ่งสามารถรับแสงแดดและให้อากาศ 

ระบายเข้าออกได้ 

The community centre is the smaller building with 

roofs within a roof. It consists of four separate 

room, each with its own roof. Another steep roof, 

clad with timber louvres on both sides, covers 

these four roofs. At the top is an opening which 

lets in sunlight and allows air to ventilate. 

Photo Credit: Duccio Malagamba / 

Downloaded from arquitecturaviva.com 

5 

Photo Credit: Duccio Malagamba / 

Downloaded from arquitecturaviva.com 

6

32 

theme 

ON THE ROOF 

33 

8 

Photo Credit: Scottish Parliamentary Corporate Body-2012 / Downloaded from archdaily.com 

Photo Credit: Duccio Malagamba / Downloaded from arquitecturaviva.com 

7 

ระหว่างภายในและภายนอก 

นอกจากให้ความสะดวกสบายแก่เราแล้ว หลังคายังสามารถ 

เป็นองค์ประกอบที่ช่วยทำาให้พื้นที่ละแวกใกล้เคียงมีชีวิตชีวา 

ได้อีกด้วย โดยการสร้างความประทับใจแรกและเป็นหนึ่งใน 

สิ่งที่ต้อนรับและเชื้อเชิญให้เราก้าวเข้าไปด้านใน 

เมื่อปี 1997 ได้มีการประกวดแบบเพื่อฟื้นฟูตลาดเก่า Santa 

Caterina ในย่านเมืองเก่าของบาร์เซโลนา แบบโครงการ 

ที่ประกวดชนะเป็นของสถาปนิกชาวสเปน Enric Miralles 

และ Benedetta Tagliabue (EMBT) ซึ่งเสนอหลังคาของ 

ตลาด Santa Caterina ที่มีรูปทรงโดดเด่น แตกต่างกับ 

หลังคาที่เรียบง่าย ของ Naoshima Hall ที่ได้กล่าวถึงก่อน 

หน้านี้ แบบโครงการนี้ยังคงส่วน façade เดิมของอาคาร 

สไตล์นีโอคลาสสิกเอาไว้ และนำาเสนอหลังคาใหม่ที่เสมือน 

ลอยอยู่ด้านบน หลังคารองรับด้วยโครงสร้างเหล็กและไม้ 

ซึ่งปูคลุมด้วยกระเบื้องหลังคาจำานวน 325,000 ชิ้น ที่มี 

สีสันมากมายถึง 67 สี หลังคาครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ 

กว่า 5,500 ตารางเมตร จากมุมมองภายนอก โครงการ 

หลังคาใหม่ที่อยู่เหนือส่วน façade ได้ช่วยขยายพื้นที่ 

สาธารณะในร่มสามารถให้ผู้คนมารวมตัวและใช้ประโยชน์ 

ด้านนอกตลาด และเมื่อมองจากอาคารที่สูงกว่าที่อยู่รายรอบ 

ตลาดแห่งนี้ หลังคานี้ก็ดูเหมือนผืนผ้าใบสีสันสดใส และ 

สำาหรับมุมมองจากพื้นที่ภายในนั้น ผู้ซื้อก็จะเพลิดเพลินไป 

กับประสบการณ์การจับจ่ายที่น่าพึงพอใจ มีความโปร่งโล่ง 

สบายและได้รับการปกป้องเป็นอย่างดีภายใต้หลังคาสูงนี้ี้ 

แต่นอกเหนือจากหลังคาที่ใหญ่และแผ่ตัวปกคลุมอาคาร 

แล้ว หลังคาของอาคารอาจประกอบด้วยชิ้นส่วนเล็กๆ ใน 

หลายส่วน อีกหนึ่งโครงการระดับตำานานของ EMBT คือ 

อาคารรัฐสภาสกอตแลนด์ ในเอดินเบอระ อันประกอบด้วย 

รูปแบบที่ซับซ้อนมากมาย มีหลังคาหลากหลายประเภทใน 

พื้นที่เดียว ทั้งหลังคา Flat slab หลังคากระจกที่เอียงเล็กน้อย 

หลังคาเขียว (Green roof) หลังคาเมทัลชีทที่ลาดเอียงใน 

องศาและทิศทางที่สลับกันไปอย่างต่อเนื่อง หลังคาที่โดดเด่น 

ที่สุดอาจเป็นหลังคาที่อยู่เหนือส่วนโถงรับรองจากทางเข้า 

ด้านสวน (Garden lobby) โถงรับรองมีหลังคาหลายชิ้น แต่ 

ละชิ้นมีรูปร่างเหมือนเรือที่เรียงตัวไปในทิศทางต่างๆ กัน 

พื้นที่ภายในสว่างไสวจากแสงธรรมชาติ และด้วยโครงสร้าง 

รับหลังคาที่ซับซ้อน ประกอบด้วยชิ้นส่วนโครงสร้างที่สั้น- 

ยาวต่างๆ กันไป และแต่ละชิ้นยื่นลงมาในพื้นที่ภายในด้าน 

ล่าง ทำาให้บรรยากาศของพื้นที่โถงรับรองนี้ น่าตื่นตาตื่นใจ 

ไม่น้อย 

9 

Photo Credit: Scottish Parliamentary Corporate Body-2012 / 

Downloaded from archdaily.com 

Between inside and outside 

More than giving us comfort, roof can be the 

element that uplifts the neighbourhood—the first 

impression and the one that welcomes and invites 

us to step inside. 

A competition was held in 1997 to restore the 

old Santa Caterina market in the old quarter of 

Barcelona. The winning proposal went to Spanish 

architects Enric Miralles and Benedetta Tagliabue 

(EMBT). Contrasting to the modest roof of Naoshima 

Hall, Santa Caterina Market is bold. The 

proposal retains the old neoclassical façade and 

introduces a new roof hovering above. Supported 

by a composite structure of steel and wood and 

clad in 325,000 pieces and 67 colours of ceramic 

tiles, the roof covers a large area of 5,500 square 

metres. From the outside, the new roof projects 

beyond the façade extending the shaded public 

space for people to gather and utilize. From buildings 

surrounding the market, the roof appears like 

a colourful canvas. And from the inside, shoppers 

enjoy a pleasant shopping experience, airy and 

protected under the high roof. 

But apart from being large and overarching, roof 

of a building may consist of many smaller parts. 

The Scottish Parliament in Edinburgh, another 

legendary project by EMBT, is composed of many 

complex forms. Its roofs come in various types: flat 

roofs, a gently-inclined glazed roof, green roofs, 

arched and sloping steel roofs that intersect one 

another and so on. The most striking roof is perhaps 

one over the Garden Lobby. The lobby is topped 

with several roofs in a jagged manner. Each roof is 

shaped like a boat. Brightly lit, the interior space is 

a complex and exciting sight as structure extend at 

varying length from the roof above. 

07 

ตลาด Santa Caterina 

08-09 

รัฐสภาแห่งสกอตแลนด์

34 35 

11 

รัฐสภาแห่งสกอตแลนด์ 

10 

Duccio Malagamba downloaded from arquitecturaviva.com

36 

theme 

ON THE ROOF 

37 

ระหว่างเรากับเมือง 

ใน Google Arts and Culture ได้มีคอลัมน์โดยเฉพาะสำาหรับ 

Milan Duomo Rooftops หรือหลังคาของอาสนวิหารเมือง 

มิลาน ไม่ใช่แค่ตัวสถาปัตยกรรมของอาสนวิหารเท่านั้น แต่ 

คือส่วนหลังคาเลย โดยตั้งชื่อว่า “A Walk on Milan Duomo 

Rooftops” Google เน้นว่านี่คือ “อาสนวิหารโกธิคแห่งเดียว 

ที่สามารถขึ้นไปบนหลังคาได้” และประสบการณ์นั้น 

“ไม่เหมือนใคร” เพราะใครๆ ก็สามารถตื่นตาตื่นใจไปกับ 

รูปปั้น ยอดแหลม การ์กอยล์ และรายละเอียดหินอ่อนทั้งหมด 

ได้ในระยะใกล้มาก และไม่เพียงเท่านั้น หลังคา Duomo 

ยังเป็นพื้นที่สำาหรับชมเมืองใหม่ที่ทันสมัยของมิลานอีกด้วย 

Between us and the city 

A page on Google Arts and Culture is dedicated 

to Milan Duomo Rooftops. Not just the cathedral, 

but its rooftops. Simply titled ‘A Walk on Milan 

Duomo Rooftops’, Google stresses that this is 

‘the only Gothic cathedral with accessible terraces’. 

And that the experience is ‘unique’ because one 

can marvel at the statues, spires, gargoyles, and 

all the marble details in close-up. Not only that, the 

Duomo rooftops also provide a platform to see the 

modern city of Milan. 


มุมมองไปยังเมืองใหม่ 

ของมิลานจากหลังคาของ 

อาสนวิหารเมืองมิลาน 

13 

หลังคาของอาสนวิหาร 

เมืองมิลาน 

Photo Credit: Filip Šlapal / Downloaded from dezeen.com 

11 

Photo Credit: Duomo di Milano 


11 

โรงเรียนอนุบาล 

Větrník 

ในงานออกแบบโรงเรียนอนุบาล Větrník ในสาธารณรัฐเช็ก 

มีการเลือกใช้กลุ่มของหลังคาขนาดเล็กหลายชิ้นเช่นกัน 

และเช่นเดียวกับสองโครงการที่กล่าวถึงไปก่อนหน้านี้ของ 

EMBT รูปทรงหลังคาของโรงเรียนอนุบาลแห่งนี้ ก่อให้เกิด 

พื้นที่ภายในอาคารที่น่าสนใจ โดยจากบริเวณภายนอกเรา 

ก็พอจะบอกได้ว่าพื้นที่ภายในนั้นจะน่าตื่นเต้นเพียงใด ที่ 

โรงเรียนอนุบาล Větrník บล็อกหลากสีสันมีหลังคารูปทรง 

พีระมิดทั้งหมดสี่บล็อกติดอยู่กับบล็อกสีขาวที่มีหลังคา 

Flat slab โครงสร้างเหล็กและไม้รองรับส่วนหลังคาทรง 

พีระมิด ในบางห้องเรียน จันทันเหล็กที่มองเห็นได้จากใน 

ห้องจะถูกทาด้วยสีสันสดใสให้สอดคล้องกันกับสีของหลังคา 

นั้นๆ โดยสถาปนิกกล่าวว่าแรงบันดาลใจเบื้องหลังรูปทรง 

เรขาคณิตของอาคารคือความเป็นธรรมชาติและความขี้เล่น 

ของเด็กๆ แต่ไม่ใช่เพียงการสร้างลูกเล่นกับรูปทรงเรขาคณิต 

เท่านั้น พื้นที่ที่เกิดขึ้นตรงจุดเชื่อมระหว่างบล็อกหลังคา 

Flat slab และบล็อกยอดพีระมิดนั้นก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว 

หลังคาพีระมิดลาดเอียง มีการเจาะช่องหน้าต่างรูปสามเหลี่ยม 

ที่ด้านข้างและช่องรับแสงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ปลายยอด เกิด 

เป็นเวิ้งพื้นที่เล่นซึ่งยื่นขยายออกมาจากห้องเรียน 

Větrník Kindergarten, in the Czech Republic also 

opts for a cluster of different roofs. Like the previous 

two projects by EMBT, the design of the roof gives 

rise to the interior space. And so from the outside, 

we are given a glimpse on how exciting the space 

would be inside. At Větrník Kindergarten, four colourful 

blocks with pyramidical roofs are attached to 

a flat-roofed white block. Steel frame and timber 

rafters provide support for the pyramidical roofs. 

In some classrooms, the steel frames are exposed 

and painted in corresponding bright colours. The 

architects say the inspiration behind the building 

geometry is the spontaneity and playfulness of 

children. But not only a play on geometry, the 

space created at the junction between the plain 

flat-roofed block and the pyramid-topped blocks 

is unique. The sloping pyramidical roof, pierced 

with triangular-shaped windows on the sides and 

rectangular skylight at its apex, provides a niche 

for play area that extends from the classroom. 

Photo Credit: Daniel Case via Wikimedia Commons 

13

38 

theme 

ON THE ROOF 

39 

โรงอุปรากรออสโลซึ่งออกแบบโดย Snøhetta เป็นโรงอุปรากร 

ที่ปูด้วยหินอ่อนเหมือนกันกับอาสนวิหารเมืองมิลาน แต่มี 

อายุที่ห่างกันหลายศตวรรษ โรงอุปรากรแห่งนี้ ได้บอกกับ 

ผู้มาเยือนว่า “กรุณาเดินบนหลังคา” หลังคาที่ปูด้วยหินอ่อน 

สีขาวได้ลาดเอียงลงมายังบริเวณพื้นที่ลานริมอ่าว เชื่อม 

ส่วนลานกว้างและอาคารเข้าไว้ให้เป็นส่วนเดียวกัน ผู้เข้าชม 

สามารถเดินเหนือโรงอุปรากรได้ รวมถึงหัวใจของอาคาร 

อย่างตัวโรงละครและเวทีการแสดง นอกจากการเดินแล้ว 

เว็บไซต์ Visit Norway ยังแนะนำาผู้เข้าชมว่าหลังคายังเป็น 

ที่ที่เหมาะสำาหรับการนั่งชมทิวทัศน์ของเมืองอีกด้วย จาก 

หลังคานี้ เราสามารถชื่นชมหมู่เกาะฟยอร์ด บ้านฤดูร้อนแบบ 

ดั้งเดิมของนอร์เวย์ เนินเขาของนอร์เวย์ และเมืองออสโลที่ 

ทันสมัย การแสดงยังไม่ได้จำากัดอยู่แค่ในอาคาร หรือเฉพาะ 

ผู้ชมที่จ่ายค่าบัตรเท่านั้น แต่หลังคาและลานริมน้ำ ายังเป็น 

สถานที่จัดกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การแสดงละครและ 

คอนเสิร์ต หลังคาได้กลายเป็นสื่อกลางสำาหรับผู้อยู่อาศัยใน 

เมืองออสโล รวมถึงนักท่องเที่ยวเพื่อชื่นชมเมือง ไม่ใช่ทุกคน 

ที่จะจ่ายเงินเข้าไปดูการแสดง แต่หลังคาเป็นส่วนของอาคาร 

ที่ทำาให้อาคารสาธารณะแห่งนี้สามารถเข้าถึงได้สำ าหรับทุกคน 

ไม่ว่าจะจ่ายเงินหรือไม่ก็ตาม 

เมื่อเร็วๆ นี้ Sou Fujimoto เสนอไอเดีย ศูนย์ชุมชนใน 

เมืองฮิดะ ประเทศญี่ปุ่น โดยอาคารมีพื้นที่ทั้งหมด 21,300 

ตารางเมตร และตั้งอยู่ติดกับสถานีรถไฟหลักของเมือง 

ตัวอาคารมีผังพื้นเป็นวงกลม ส่วนบนเป็นหลังคาวงกลม 

อันโดดเด่น อาคารนี้หลากหลายด้วยฟังก์ชันต่างๆ ซึ่ง 

ประกอบด้วยสปา พื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ ศูนย์วิจัย และ 

ร้านค้า ซึ่งจะตั้งอยู่รอบๆ พื้นที่ศูนย์กลางที่เป็นลาน หลังคา 

ใช้รูปทรงเหมือนกับชาม ในลักษณะสูงขึ้นบริเวณขอบและ 

ลาดลงตรงกลางซึ่งเป็นที่ตั้งของลาน ด้านบนหลังคาเป็น 

สวนสาธารณะที่ปกคลุมด้วยหญ้าและเปิดให้ผู้คนเดินได้ 

เนื่องจากเมืองฮิดะเป็นภูมิภาคที่มีภูเขาอันงดงาม จึงหวังว่า 

สถาปัตยกรรมแห่งนี้จะทำาให้ “รับรู้ถึงธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ 

ของเมืองฮิดะ” ได้ดียิ่งขึ้น หลังคาจึงนับเป็นอีกวิธีหนึ่งใน 

การชื่นชมเมืองจากด้านบน 

A marble-clad counterpart but several centuries 

apart, Oslo Opera House designed by Snøhetta 

tells visitors to ‘Please walk on the roof’. The white 

marble-covered roof folds down to the waterfront 

plaza, connecting the plaza and the building into 

one. Visitors can walk above the Opera House, including 

the heart of the complex—the performance 

hall. Apart from walking, the Visit Norway website 

reminds visitors that the roof is also a great place 

to sit and take in the vista of the city. From here, 

one can admire the fjord archipelago, traditional 

Norwegian summer houses, the Norwegian hills, 

and the modern city of Oslo. Performance does 

not confine to inside the building—in other words, 

for only ticket-paying audience. But the roof, along 

with the waterfront plaza, also hosts outdoor events 

like plays and concerts. The roof becomes a medium 

for Oslo residents and tourists alike to admire the 

city. Not everyone will go in to see the performance. 

But its roof is a section of the building that makes 

this civic building accessible for all, whether they 

pay or not. 

Recently, Sou Fujimoto proposes a community 

centre in Hida, Japan. The building has a total area 

of 21,300 square metres and is located next to the 

main railway station of the town. The building is 

circular in plan, topped with a distinctive circular 

roof. Various functions which include a spa, exhibition 

spaces, research facilities and shops, will be 

located around the central plaza. The roof takes 

on a shape of a bowl, rising higher at the rim, and 

sags in the centre where the plaza is located. The 

roof will eventually be a grass-covered park and 

open for people to walk on. As Hida is a picturesque 

mountainous region, it is hoped that the architecture 

will give ‘a better awareness of the majestic nature 

of Hida’. Roof is once again a means for admiring the 

city from above. 

Photo Credit: Daniel Case via Wikimedia Commons 

14 

14 

โรงอุปรากรออสโล 

15-16 

ศูนย์ชุมชนในเมืองฮิดะ 

The roof, along with the waterfront plaza, hosts outdoor 

events like plays and concerts. The roof becomes a medium 

for the city residents and tourists alike to admire the city. 

Not everyone will go in to see the performance. But its roof 

is a section of the building that makes this civic building 

accessible for all, whether they pay or not. 

16 

Photo Credit: Sou Fujimoto Architects / Downloaded from dezeen.com 

12

40 

theme 

ON THE ROOF 

41 

17-18 

ห้องสมุด Maya Somaiya 

19-20 

โรงงาน Lingotto ใกล้กับ 

เมืองตูริน ประเทศอิตาลี 

18 

Photo Credit: Sou Fujimoto Architects / Downloaded from dezeen.com 

ระหว่างปั จจุบันกับอนาคต 

หลังคานับว่าได้เข้ามามีส่วนร่วมในช่วงเวลาสำาคัญมากมาย 

ในประวัติศาสตร์ของเรา ในช่วงเวลาแห่งการบุกเบิกและ 

การก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงของสังคม ในปี 1923 Fiat 

บริษัทรถยนต์สัญชาติอิตาลีได้เปิดโรงงาน Lingotto ใกล้กับ 

เมืองตูริน ประเทศอิตาลี เมื่อเดินทางผ่านอาคารทั้ง 5 ชั้น 

ที่ออกแบบโดย Giacomo Matté-Trucco ผู้ที่เข้ามาเยี่ยม 

เยือนอาคารแห่งนี้ จะได้เห็นขั้นตอนการผลิตรถยนต์ ตั้งแต่ 

วัตถุดิบไปจนถึงรถยนต์ที่ประกอบแล้วเสร็จ โดยรถยนต์ที่ 

ประกอบพร้อมใช้จะได้รับการทดสอบที่สนามทดสอบบน 

ชั้นดาดฟ้าขนาด 1680x260 ฟุต นอกเหนือจากการเป็น 

โรงงานผลิตรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ณ เวลานั้น หลังคา 

ของโรงงานผลิตรถยนต์ที่เป็นสนามทดสอบรถด้วยจะต้อง 

เป็นเรื่องแปลกใหม่มาก ๆ เมื่อแรกเปิดตัวอย่างแน่นอน 

ในปี 1972 เยอรมนีเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาครั้ง 

แรกหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ดังนั้นจึงเป็นโอกาสในการนำา 

เสนอภาพลักษณ์หลังสงครามของประเทศสู่สายตาชาว 

โลก การออกแบบที่ชนะเลิศสำาหรับ Olympic Park ในมิ 

วนิกเป็นของ Behnisch and Partners (B+P) ซึ่งเสนอ 

แบบโครงการอาคารที่ผสมผสานกับภูมิทัศน์ โดยสิ่งอำานวย 

ความสะดวกทางด้านกีฬาอยู่ร่วมกับลำาธารและทะเลสาบ 

องค์ประกอบที่โดดเด่นคือหลังคาลักษณะโครงสร้าง Tensile 

ที่ครอบคลุมพื้นที่เกือบ 75,000 ตารางเมตร ซึ่งช่วย 

บังแดดสำาหรับส่วนพื้นที่สนามกีฬาหลักและเชื่อมต่อพื้นที่ 

ต่าง ๆ ของ Olympic Park เข้าด้วยกัน B+P ทำางานร่วม 

กับ Frei Otto ทำาให้เกิดผลงานชิ้นเอกทางด้านวิศวกรรม 

จากสายเคเบิลเหล็กและแผ่นอะคริลิก นวัตกรรมนี้แสดง 

ภาพลักษณ์สมัยใหม่ที่ประเทศต้องการสื่อ ลองคิดดูว่าเมื่อ 

โอลิมปิกเกมเริ่มต้นขึ้นในปี 1972 ผู้ชมจะรู้สึกว่าสิ่งนี้น่าตื่น 

เต้นและเป็นการก้าวเข้าสู่อนาคตแค่ไหน 

Between now and the future 

Roof has played a part in many important moments 

in our history—a moment of pioneering, and of 

optimism. In 1923, Fiat, the Italian automobile company, 

opened the Lingotto factory near Turin, Italy. 

As one journeys through the five storeys designed 

by Giacomo Matté-Trucco, one practically follows 

a manufacturing process of a car, from the raw 

materials to a finished car. And the finished cars 

were to be tested at the 1680x260 feet rooftop 

test track. Apart from being the largest car factory 

in the world at the time, how ground-breaking this 

must have been for a car factory with a banked 

reinforced concrete racetrack on its roof? 

In 1972, it was Germany's first time to host the 

Games after the Second World War so it was an 

opportunity to present the country's post-War 

image to the world. The winning design for the 

Olympic Park in Munich went to Behnisch and 

Partners (B+P) who proposed a scheme with buildings 

blending with the landscape. Sport facilities 

coexist with streams and lakes. The distinctive element 

was the tensile roof covering almost 75,000 

square metres, shading the main stadium and tying 

different area of the Olympic Park together. B+P 

collaborated with Frei Otto, resulting in an engineering 

masterpiece from steel cables and acrylic panels. 

Most importantly, it signifies the modern image 

that the country wants to portray. When the Games 

opened in 1972, how exciting and forward-looking 

this must have felt for spectators? 

แต่หลังคาที่มอบความเพลิดเพลินในการมองจากด้านบน 

อาจไม่จำาเป็นว่าจะทำาได้เฉพาะกับอาคารสาธารณะขนาดใหญ่ 

เท่านั้น อาคารขนาดเล็กเองก็สามารถมอบประสบการณ์บน 

ชั้นดาดฟ้าได้เช่นกัน ในเมืองเล็กๆ ทางตะวันออกของมุมไบ 

Sameep Padora + Associates (sP+a) ออกแบบห้องสมุด 

โรงเรียนซึ่งมีหลังคาที่สามารถเดินด้านบนได้ ห้องสมุด 

Maya Somaiya มีรูปทรงที่โดดเด่น โดยใช้รูปแบบหลังคาโค้ง 

แบบคาตาลัน ซึ่งก่อสร้างจากกระเบื้องอิฐ 20 มม. จำานวน 

สามชั้นวางซ้อนตั้งฉากเรียงต่อเนื่องและยึดเข้าด้วยปูน 

เส้นทางของหลังคายกขึ้นสูงและทอดลงสู่พื้นทำาให้สามารถ 

ใช้หลังคาของห้องสมุดเป็นสะพานเชื่อมจากส่วนหนึ่งของ 

โรงเรียนไปยังอีกที่หนึ่งได้ 

But a roof that allows for the pleasure of looking 

from above may not necessarily be restricted to 

large civic buildings. A small building can offer a 

rooftop experience, too. In a small town east of 

Mumbai, Sameep Padora + Associates (sP+a) 

designs a school library featuring a walkable roof. 

Maya Somaiya Library has a distinctive shape. 

It employs the Catalan vault, a construction from 

three layers of 20mm brick tiles laid perpendicular 

to each other and held together by mortar. The 

way the roof rises, and falls back to the ground 

makes it possible to use the roof of the library 

as a bridge to go from one part of the school to 

another. 

Uploaded by Dgtmedia - Simone at Italian Wikipedia 

19 20 

Photo Credit: www.atlasofplaces.com

42 

theme 

ON THE ROOF 

43 

21-22 

หลังคาโครงสร้าง Tensile 

ของ Olympic Park โดย 

Frei Otto 

Photo Credit: Timothy Schenck / 

Downloaded from www.archdaily.com 

23 

Photo Credit: Iwan Baan / Downloaded from www.archdaily.com 

24 

22 

There are so many things that a roof can be. The next time 

we start designing a building, perhaps we can also start 

with the roof—just like what Junichiro Tanizaki wrote that 

we first spread a parasol, and under the parasol's shadow, 

we built a house. 

Photo Credit: M(e)ister Eiskalt / Downloaded from www.archdaily.com 

Photo Credit: Jorge Royan via Wikimedia Commons 

21 

23 

The Shed พื้นที่ที่เพิ่มขึ้น 

จากการเลื่อนออกมาของ 

หลังคา 

24 

The Shed โดย Diller 

Scofidio + Renfro 

และ Rockwell Group 

หลังคาได้เข้ามามีส่วนในประวัติศาสตร์ของเรา แล้วอนาคต 

ละจะเป็นอย่างไร? 

จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหลังคาเคลื่อนที่ได้? Diller Scofidio + 

Renfro และ Rockwell Group ออกแบบศูนย์วัฒนธรรม 

ขนาด 18,500 ตารางเมตรในนครนิวยอร์กที่เรียกว่า 

The Shed สร้างแล้วเสร็จในปี 2019 หลังคาขนาดมหึมาที่ 

ห่อหุ้มด้วยวัสดุ ETFE โปร่งแสง ครอบคลุมส่วนหนึ่งของ 

อาคาร แต่ก็สามารถเลื่อนออกไปยังบริเวณลานกลางแจ้งได้ 

และด้วยการทำาเช่นนั้น จึงทำาให้ลานกลางแจ้งได้กลายเป็น 

พื้นที่พิเศษสำาหรับการแสดงและศิลปะในรูปแบบอื่นๆ ได้ 

อีกด้วย 

หรือจะเป็นอย่างไรถ้าหลังคาไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็มีส่วน 

สร้างพื้นที่สีเขียวให้กับเมืองของเราได้? Hayhurst and Co 

เสนอหลังคาเขียว (Green roof) รูปแบบใหม่ให้กับบ้าน 

สองชั้นในลอนดอน หลังคาที่พุ่งสอบขึ้น โดยมีชั้นสแตนเลส 

ซึ่งทำาหน้าที่เป็นที่ปลูกต้นไม้สำ าหรับพืชกว่า 800 ต้น สถาปนิก 

ผู้ออกแบบเรียกสิ่งนี้ว่า “หลังคาตะกร้าแขวน” สำาหรับเมือง 

ที่มีพื้นที่ทำาสวนจำากัดอย่างลอนดอน จะช่วยให้เจ้าของมี 

พื้นที่เพิ่มเติมในการทำาสวนและนำาเสนอภูมิทัศน์หลังคาใหม่ 

ที่น่าตื่นเต้นให้กับย่านที่พักอาศัยของเมืองอีกด้วย 

ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ NL Architects ได้ออกแบบบ้าน 

จัดสรรจำานวนสิบยูนิตที่มีหลังคาในรูปแบบที่บิดและพลิ้ว 

การจัดเรียงแต่ละยูนิตก็น่าสนใจเพราะไม่มียูนิตใดเลยที่มี 

ลักษณะเหมือนกัน โดยแตกต่างกันไปตามพื้นที่และจำานวน 

ชั้น อย่างไรก็ตาม ทุกยูนิตมีปริมาตรที่เท่ากันและสามารถ 

เข้าถึงหลังคาสีเขียวได้ อาคารหลังนี้เสมือนคืนพื้นที่สีเขียว 

ให้กับพื้นที่ใกล้เคียง และทำาให้ผู้อยู่อาศัยได้ใกล้ชิดกับพื้นที่ 

สีเขียวมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้อีกด้วย 

Roof played a part in our history. So what can the 

future be? 

What if roof itself could move? In 2019, Diller Scofidio 

+ Renfro and Rockwell Group completed a 

18,500-square metre cultural centre in New York 

City called the Shed. The gigantic roof clad in 

translucent ETFE covers part of the building. But 

it can slide out to cover an outdoor plaza. And by 

doing so, converting the outdoor plaza into an 

extra space for performance and other imaginable 

forms of art. 

Or what if a roof, big or small, can contribute some 

green area to our city? Hayhurst and Co introduces 

a new type of green roof to a two-storey house in 

London. The pitched roof features stainless-steel 

tiers which act as planters for over 800 plants. The 

studio called this a ‘hanging-basket roof’. For a city 

with limited gardening space like London, it gives the 

owners some extra space to garden and presents 

an exciting new roofscape to the residential part of 

the city. 

In the Netherlands, NL Architects designs a housing 

block for 10 units with a wavy rooftop. The unit 

arrangement is interesting as none of the units is 

identical. They vary in floor area and the number of 

storeys. However, all units get the same volume of 

space and access to the green roof. This building 

is giving some green back to the neighbourhood 

and getting its residents as close to the greenery 

as possible.

ON THE ROOF 

44 45 

25 

Garden House 

โดย Hayhurst and Co. 

26 

Funen Blok K 

โดย NL Architects 

ข้อคิดจากหลังคา 

การออกแบบหลังคาสามารถกลายมาเป็นสัญลักษณ์ได้ และ 

หลังคาก็สามารถเป็นเครื่องมือในการควบคุมสภาพอากาศ 

ให้เย็นสบาย หลังคานั้นยังสามารถเป็นเหมือนประติมากรรม 

ขนาดใหญ่และมีสีสันสะดุดตา หลังคาอาจมีโครงสร้างที่ 

ซับซ้อน หรือประกอบด้วยกลุ่มของหลังคารวมกัน หลังคา 

สามารถเป็นเวทีให้เราได้ดื่มด่ำากับทัศนียภาพอันกว้างไกล 

สามารถเป็นส่วนที่ติดกับที่ หดได้ หรือเคลื่อนย้ายได้ก็ได้ 

การออกแบบหลังคายังสามารถมีหน้าตาที่บุกเบิกรูปแบบ 

ใหม่ๆ จนนับว่าเป็นสัญลักษณ์ว่าเรากำาลังเข้าสู่ยุคใหม่ 

และการออกแบบหลังคาก็อาจเป็นก้าวเล็กๆ ของเราใน 

การก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ 

หลังคาสามารถเป็นได้ ในครั้งต่อไปที่เราเริ่มออกแบบ 

อาคาร บางทีเราอาจจะเริ่มด้วยหลังคาก็ได้ เหมือนกับที่ 

Junichiro Tanizaki เขียนไว้ว่าเรากางร่มก่อน และภายใต้ 

เงาของร่มนั ้น เราจึงสร้างบ้านขึ้นมา 

Reflecting on the roof 

The design of a roof can be symbolic. A roof can 

be instrumental in controlling the climatic comfort. 

A roof can be bold and colourful. It can be complex 

in structure. It can be playful in its form. It can be a 

platform for us to absorb a panoramic view. It can 

be fixed, or retractable, or moveable. The design of 

a roof can be so pioneering that it symbolises that 

we are entering a new era. And the design of a roof 

can be our little step towards a more sustainable 

future. There are so many things that a roof can be. 

The next time we start designing a building, perhaps 

we can also start with the roof—just like what 

Junichiro Tanizaki wrote that we first spread a 

parasol, and under the parasol's shadow, we built 

a house. 

นวันวัจน์ ยุธานหัส 

จบการศึกษาระดับ 

ปริญญาตรีและปริญญาโท 

จากคณะสถาปั ตยกรรม- 

ศาสตร์ที่ Bartlett School 

of Architecture, University 

College London 

และเป็ นภัณฑารักษ์ผู้ช่วย 

ของ Thai Pavilion ใน 

งาน Venice Architecture 

Biennale ครั้งที่ 17 เมื่อ 

ปี ค.ศ. 2021 นอกจาก 

งานหลักที่เกี่ยวข้องกับ 

จุดร่วมของสถาปั ตยกรรม 

วัฒนธรรมและศิลปะแล้ว 

นวันวัจน์เป็ นอดีตอาจารย์ 

พิเศษที่คณะสถาปั ตย- 

กรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย 

ศิลปากร และปั จจุบัน 

นวันวัจน์แชร์ความสนใจ 

ในการบอกเล่าเรื่องราวที่มี 

ค่าผ่านงานสถาปั ตยกรรม 

กับนักออกแบบรุ่นใหม่ที่ 

International Programme 

in Communication 

Design (CommDe) 

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 

Nawanwaj 

Yudhanahas 

studied her Bachelor’s 

and Master’s degrees 

in Architecture at the 

Bartlett School of 

Architecture in London. 

She was an assistant 

curator for the Thai 

Pavilion at the 17th 

Venice Architecture 

Biennale in 2021. Her 

full-time job lies at the 

intersection of architecture, 

culture, and 

contemporary art. She 

also taught critical 

thinking in architectural 

design at Silpakorn 

University. Currently, 

she shares her passion 

for telling meaningful 

stories via architecture 

with students at the 

International Programme 

in Communication 

Design (CommDe), 

Chulalongkorn University. 

Photo Credit: Raoul Kramer / Downloaded from www.archdaily.com 

26 

25 

Photo Credit: Kilian O’Sullivan / Downloaded from www.archdaily.com 

Bibliography 

Tanizaki, Junichiro. In Praise of Shadows. Vintage Books, 2001. Japan in Architecture: Genealogies of Its Transformation. Mori Art Museum, 2018.

46 


Two 

In 

One 

1 

In designing the Center of 

Excellence for Forest Conservation 

in Map Ta Phut, 

Architects 49 has developed 

an innovative solution to 

the brief with two types of 

roofs composed in a large 

circular structure. 

Text: Xaroj Phrawong 

Photo Courtesy of Architects 49 Limited 

and DOF Sky|Ground except as noted 

2 

01 

มุมมองในเวลากลางคืน 

เงาในน้ำาสะท้อนรูปด้าน 

ช่วยบรรยากาศได้ดี 

02 

ภายใน Climatic 

Dome มุมมองจากชั้นที่ 1


TWO IN ONE 

48 49 

องค์ประกอบสถาปัตยกรรมมีประโยชน์ตาม 

การใช้สอย ตามระบบที่เราคุ้นชินกัน เสามี 

หน้าที่รับน้ำาหนักจากคาน ผนังมีหน้าที่แบ่ง 

พื้นที่ใช้สอย หลังคามีหน้าที่กันแดดกันฝน แต่ 

ในโลกยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีก้าวไกลมากขึ้น 

หลังคาไม่จำาเป็นต้องทำาหน้าที่แบบเดิมเพียง 

อย่างเดียว แต่ยังขยายหน้าที่ของมันเองไปอีก 

ยังพรมแดนของอรรถประโยชน์ใช้สอย หลังคา 

ในงานสถาปัตยกรรมร่วมสมัยได้ถูกปรับ 

บทบาทไปตามเทคโนโลยี วัสดุ และวิธีการ 

อาคารสำานักงาน Center of Excellence for 

Forest Conservation ที่ตำาบลมาบตาพุด จังหวัด 

ระยอง ชี้ชวนให้เห็นถึงหลังคาในอีกนิยามใหม่ 

จากการสำารวจความเป็นไปได้โดยทีมสถาปนิก 

Architects 49 ที่มีส่วนร่วมในโครงการนี้ โดย 

เริ่มจากการประกวดแบบจนได้รับการคัดเลือก 

สถาปนิกได้สำารวจถึงกิจกรรมภายในโครงการ 

ที่กำาลังจะเกิดขึ้น โดยโครงการนี้เป็นอาคาร 

สำานักงานที่รองรับกิจกรรมจาก Nong Fab 

LNG Receiving Terminal ซึ่งทำาหน้าที่กักเก็บ 

LNG หรือ Liquified Natural Gas คือก๊าซ 

ธรรมชาติเหลวเป็นแหล่งพลังงานทางเลือกใน 

หลายประเทศ ในการสำารวจนี้ สถาปนิกมองเห็น 

โอกาสที่จะได้ใช้ความเย็นอันเป็นผลพลอยได้ 

มาเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโครงการ 

เมื่อสถาปนิกมีโอกาสเข้าสำารวจภายในถังที่เก็บ 

LNG จึงเกิดความสนใจในรูปทรงกระบอกที่ดู 

มหึมาภายใน ที่จะได้เห็นเพียงแค่ช่วงก่อนใช้งาน 

เท่านั้น จึงประยุกต์รูปทรงกระบอกของถัง LNG 

มาออกแบบเป็นรูปทรงภายในอาคาร จากภาพ 

จำาที่ติดตา จึงพัฒนาสู่รูปทรงโดยรวม แต่เมื่อ 

มองจากภายนอกโดยรวมไม่ได้สื่อถึงภาพของ 

ถังเก็บแก๊ส เนื่องด้วยสถาปนิกออกแบบด้วย 

แนวคิดให้มีความสัมพันธ์กับชุมชนโดยรอบ จึง 

สร้างเนินดินบางส่วน เพื่อลดขนาดสัดส่วนอาคาร 

และลดความแรงของรูปทรงภายนอกที่จะกลาย 

เป็นถังขนาดใหญ่อีกใบ เป็นการลดผลกระทบ 

ทางสายตา เมื่อมีการสร้างสถาปัตยกรรมใหม่ 

จนอาจเกิดการเบียดเบียนสภาพของธรรมชาติที่ 

มีอยู่เดิม จึงออกแบบให้มีสภาพแวดล้อมที่ดีมา 

ทดแทน นำามาสู่การสร้างภูมิทัศน์รองรับระบบ 

การไหลของน้ำาตามธรรมชาติขึ้นใหม่ ส่งผลให้ 

ระบบนิเวศน์ และสิ่งแวดล้อมฟื้นคืนสู่สภาพเดิม 

ส่วนหนึ่งของระบบน้ำาเป็นสระน้ำาขนาดใหญ่ทำา 

หน้าที่เป็นที่เก็บน้ำ าสำาหรับพื้นที่โดยรอบแทน 

ในส่วนของการใช้สอยพื้นที่ภายใน ครึ่งหนึ่ง 

เป็นระบบนิเวศไม้เมืองหนาว และสำานักงาน 

พนักงานสามารถเดินเข้ามาชมสวนได้ โดย 

ส่วนสำานักงานจัดวางให้อยู่ในชั้น 2 และ 3 ส่วน 

พื้นที่ชั้น 1 เปิดเป็นสวนสาธารณะเข้าชมไม้ 

เมืองหนาว ที่บุคคลภายนอกเข้ามาเยี่ยมชม 

พันธุ์ไม้ได้ เป็นการแยกทางสัญจรเพื่อการ 

เข้าถึงพื้นที่สาธารณะและพื้นที่ส่วนตัว 

เนื่องจากขั้นตอนการจากกระบวนการแปร- 

สภาพก๊าซ LNG กลับคืนสู่สถานะก๊าซ ถูก 

นำามาใช้แทนการทิ้งลงทะเลตามปกติ ซึ่งวิธี 

นี้ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม อากาศเย็นที่เป็น 

ผลพลอยได้จากกระบวนการแปรสภาพก๊าซนี้ 

ทำาให้เกิดความเย็น -162 องศาเซลเซียส จึง 

นำาน้ำามาหล่อความเย็น ดึงความเย็นที่เกิดขึ้น 

มาใช้ภายในโดมกระจกไม้เมืองหนาว เป็นการ 

นำาความเย็นที่เหลือมาใช้ในงานสถาปัตยกรรม 

ให้เป็นพลังงานเย็นที่เป็นผลพลอยได้ และถูก 

นำามาใช้ใหม่เพื่อควบคุมอุณหภูมิภายในอาคาร 

สำาหรับการเพาะปลูกพืชในสภาพอากาศหนาว 

เย็นนั้นยังสร้างผลกำาไรให้กับโครงการปีละ 2-3 

ร้อยล้านบาท จากขายดอกไม้ในโครงการไป 

ต่างประเทศ แล้วยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้กับ 

จังหวัดระยองด้วยเช่นกัน 

หลังคาจึงเป็นส่วนหลักของโครงการนี้ โดย 

หลังคามี 2 ส่วนหลังคาทึบที่เป็นพื้นท่ีสีเขียว 

และ Climatic Dome เป็นเอเทรียมกระจกสูง 

3 ชั้น รูปทรงของหลังคามาจากการแบ่งครึ่ง 

การใช้สอย เนื่องจากภายในโดมกระจกต้อง 

รักษาอุณหภูมิที่ต่ำากว่าภายนอก 10 องศา 

เซลเซียส ทำาให้เกิดปรากฏการณ์การควบแน่น 

(Condensation) ลักษณะรูปทรงเป็นแบบรวม 

เข้าหาศูนย์กลาง ด้วยโครงสร้างแบบ surface 

structure เนื่องจากรูปทรงมีความลื่นไหล การ 

ประกอบเข้าของรูปทรงจึงเป็นโพลีกอนที่มี 

ขนาดไม่สม่ำาเสมอ โครงหลังคาเป็นลักษณะ 

สี่เหลี่ยมข้าวหลามตัดแล้วคั่นด้วยเหล็กท่อ 

แนวนอน การแบ่งโครงเป็นรูปสามเหลี่ยม 

ทำาให้เกิดความโค้งยืดหยุ่นได้ง่าย Climatic 

Dome เป็นโดมกระจกทรงกระบอกไม่มีเสารับ 

แผงหลังคา รัศมีโดมมีรัศมี 32 เมตร ตัวโดม 

มีจุดรับแรงที่คานด้านล่าง และคานคอนกรีต 

ที่ด้านบนตรงช่องระหว่างหลังคาเหล็กและ 

หลังคากรีนรูฟ การปะทะกันของ 2 หลังคา 

ถูกออกแบบเป็นช่องระบายอากาศด้วยเช่นกัน 

สำาหรับการระบายอากาศแบบเร่งด่วนในกรณี 

เกิดเพลิงไหม้ 

การก่อสร้าง Climatic Dome ผลิตจากโรงงาน 

เป็นชุดโครงถัก จากนั้นจึงนำามาติดตั้งที่หน้างาน 

ภายหลัง เมื่อติดตั้งโครงถักเสร็จ จึงมาวัดขนาด 

ช่องสามเหลี่ยมแต่ละช่องที่หน้างาน เพื่อนำาไป 

ประกอบการตัดกระจกที่จะมาติดเป็นเปลือก 

อีกครั้งหนึ่ง เพราะ surface เป็นโค้งสามมิติ 

ทำาให้มีขนาดสามเหลี่ยมที่หลากหลายขนาด 

มาก การออกแบบรายละเอียดของโครงสร้าง 

โดม ถูกออกแบบให้ตัวยึดแผ่นกระจกยื่นออก 

จากเมมบอร์เหล็กกลม เพื่อทำาการยึดเปลือก 

ภายนอกที่เป็นกระจกลามิเนต ซึ่งการออกแบบ 

รายละเอียดส่วนนี้จะเป็นลักษณะ free end 

ให้มีความยืดหยุ่นเพื่อการขยายตัวของวัสดุ 

เนื่องจากอุณหภูมิภายในโดมถูกรักษาไว้ที่ 15 

องศาเซลเซียส สิ่งที่ผู้ออกแบบต้องคำานึงถึงคือ 

ป้องกันการควบแน่นจากอุณหภูมิที่ต่างกันของ 

ภายนอกและภายใน วิธีแก้ไขคือการออกแบบ 

รายละเอียดของรอยต่อกระจกให้แต่ละวัสดุที่ 

มีอุณหภูมิต่างกัน ไม่เชื่อมต่อกัน จนเกิดการ 

ควบแน่นในอากาศได้ง่าย 

นอกจากหลังคาที่โปร่งใส ส่วนที่ต้องการความ 

ทึบตามการใช้งานเป็นสวนบนหลังคาที่สามารถ 

ขึ้นไปใช้งานได้ ซึ่งสร้างความสัมพันธ์กับเนิน 

ดินที่หุ้มภายนอกจากสาเหตุลดความแรงของ 

ทรงกระบอกคล้ายถัง LNG การเลือกพืชมา 

คลุมหลังคาจึงสัมพันธ์ไปกับสภาพแวดล้อม 

โดยรอบ ทั้งจากพืชที่มีในท้องถิ่น ทำาให้บาง 

ช่วงของหน้าแล้ง อาจจะมีหญ้าตายบ้าง จึง 

ต้องออกแบบให้สวนบนหลังคาที่เป็นคอนกรีต 

ป้องกันรั่วซึมด้วยการใช้เมมเบรน ออกแบบ 

ให้มีส่วนป้องกันดินไหล เพิ่มจุดพ่นน้ำาป้องกัน 

อัคคีภัยให้กับหลังคาส่วนนี้ด้วย 

โลกของสถาปัตยกรรมก่อนยุคสมัยใหม่ต่างถูก 

ควบคุมด้วยเงื่อนไขทางโครงสร้างที่ส่วนใหญ่ 

ที่เป็นผนังรับน้ำาหนัก เมื่อเทคโนโลยีได้พัฒนา 

ต่อยอดจนสลายรวมผนัง หลังคาในงานสถา- 

ปัตกรรมได้ แล้วยังดึงแสงธรรมชาติเข้ามา 

สังสรรค์ในพื้นที่ได้แบบที่เปลี่ยนไปจากดั้งเดิม 

การตั้งคำาถามถึงการออกแบบสถาปัตยกรรม 

ร่วมสมัยในทุกวันนี้ จึงเป็นส่วนผสมของการ 

คำานึงถึงเทคโนโลยี และพฤติกรรม อย่างหลีก 

เลี่ยงไม่ได้ 

03 

มุมมองภายนอก 

สู่ทางเข้าหลัก 

04 

ผังบริเวณ 

4 

MASTER PLAN 

10 M 

3

5 

05 

ภายใน Climatic Dome 

มุมมองจากชั้นที่ 4 จาก 

มุมสูง ทำาให้ภาพรวม 

ภายในโดม


TWO IN ONE 

52 53 

7 

1st FLOOR PLAN 

3 M 

1. AUDITORIUM 

2. HALL 

3. EXHIBITION 

4. ENTRANCE DECK 

5. PUBLIC ENTRANCE 

6. CANTEEN 

7. COFFEE BOOTH 

8. MAIN LOBBY 

9. CLIMATIC ATRIUM 

10. MEETING ROOM 

11. MEP ROOM 

12. WATER POND 

6 

06 

หลังคาเป็นโครงสร้าง 

Surface Structure 

เมื่อดูใกล้เข้าไป จะเห็น 

ความค่อยกลายรูปทรง 

07 

ผังพื้นชั้นที่ 1 

Each of the architectural components possesses 

its own functional merits. Standard architectural 

systems typically consist of columns that support a 

load of beams, walls that divide and define spaces, 

and roofs that provide shelter from rain and sunlight. 

In today’s modern world, technology has advanced 

significantly, and as a result, the roof has been given 

additional roles beyond its conventional functions. 

These expanded roles go beyond the utilitarian 

realm. The role of roofs in contemporary architecture 

has been adapted to keep up with advancements in 

technology, materials, and construction methods.


TWO IN ONE 

54 55 

SECTION A 

8 

The architecture team at A49 came up with a 

distinctive roof design for the architecture of the 

Center of Excellence for Forest Conservation in 

Thailand’s Map Ta Phut district. Their innovative 

approach to exploring possibilities has resulted 

in a new definition of what a roof can be. Upon 

winning the design competition, the architects 

conducted a site survey to analyze the activities 

that would be carried out on the project. This office 

space is intended to support the operational activities 

of the Nong Fab LNG Receiving Terminal. 

The terminal primarily functions as a storage 

facility for liquefied natural gas (LNG), which has 

become an increasingly popular alternative energy 

source in a number of countries. The survey led to 

the architecture team recognizing an opportunity 

to incorporate the cold temperature, which is a 

byproduct of the process, into the design. 

The enormous cylindrical shape of an LNG 

storage tank piqued the design team’s interest as 

they examined its interior. The tanks are normally 

accessible only prior to being opened and put into 

operation. One idea is to integrate the physical 

features of the LNG tanks into the interior design 

of the building. The overall architectural design was 

developed based on the visual impression it creates. 

The building’s design does not overtly reference 

the tank and natural gas from its exterior. Instead, 

the architect aimed to create a design that would 

reflect the local community’s surroundings. The 

hilly landscape has been designed in a way that 

reduces the dominant presence of the structure, 

thereby preventing it from appearing like a massive 

tank and minimizing any unfavorable visual impact. 

Constructing a new architectural structure can 

have environmental impacts. Therefore, the design 

team realized that it was important to create a welldesigned 

and constructed new environment. The 

landscape architecture was conceived to accommodate 

the natural water flow system, which has 

enabled the ecosystem and environment to revive. 

The waterscape features a large pool that serves 

as an irrigation system for the nearby region. 

The interior functional program consists of an office 

space and a winter forest ecosystem, each making 

up half of the spatial program. The landscape is 

accessible for both employees and visitors to enjoy. 

The second and third floors of the building house 

the office spaces. On the first floor, there is a 

garden open for public access where winter plants 

and flowers are grown. The design incorporates 

a separation of circulation, which allows for accessibility 

to both public and private areas. 

08 

รูปตัดขวาง แสดง Space 

ที่ลื่นไหลภายในโดม 

10 

09 

ภายใน Dome เมื่อมอง 

จากชั้นที่ 3 

10 

ภาพภายในส่วนสำานักงาน 

9


TWO IN ONE 

56 57 

The project’s main component is 

the roof, which consists of two 

sections: the green roof and the 

climatic dome. The climatic dome 

is a three-story- high glass atrium 

whose roof is determined by the 

separated functional programs. 

The elements of the roof’s surface 

structure converge towards 

the center, creating a centralized 

form. 

The process of converting LNG gas back into 

its gaseous form has been implemented instead 

of releasing it into the sea, which would have 

had harmful impacts on the environment. The 

gas conversion process produces cool air at a 

temperature of -162 degrees Celsius. This cool 

air is utilized to evaporate water and create a cool 

environment inside the glass house where winter 

plants are cultivated. The gas conversion process 

produces excess coldness, which has been used 

to maintain the appropriate temperature inside 

the architectural structure and the interior temperature 

control of the area where winter plants 

and flowers are being grown. While the company 

has generated profits of two to three hundred 

million Thai Baht per year through the export of 

these winter flowers and plants, the center has 

grown to become one of Rayong’s popular tourist 

destinations. 


11 

ภายในห้องประชุมใหญ่ 


มุมมองจากทางเดิน 

ยกระดับสู่อาคาร 

11 

The project’s primary element is the roof, which 

consists of two parts: the green roof and the 

climatic dome. The climatic dome is a three-story 

glass atrium. The divided functional programs 

determine the shape of the roof. The interior of 

the dome must maintain a temperature that is 10 

degrees Celsius lower than the outside temperature, 

which results in condensation. By directing 

the elements of the surface structure towards the 

center, the design achieves its ‘centralized’ form, 

while a calculated assembly of various polygonal 

shapes allows for the architecture’s fluidity to be 

achieved. The roof structure, shaped like a diamond, 

is divided into sections using vertically installed 

steel pipes. By dividing the structure into two 

triangles, it becomes more flexible and allows 

for the construction of curving attributes to be 

achieved. The Climatic Dome is a cylindrical dome 

with a radius of 32 meters. In the absence of 

columns, the load-bearing points of the structure 

are located at the lower beams and the concrete 

beams at the top, the latter of which span between 

the steel roof and the green roof. The point where 

the two roof structures meet has been intentionally 

designed to serve as a vent for emergency ventilation 

in the event of a fire. 

The Climatic Dome was constructed using a prefabricated 

truss structure that was installed on site. 

The triangular openings were measured on-site after 

the truss installation was completed. This was done 

to ensure the most accurate measurements were 

obtained for cutting the glass that would be used 

as the building’s skin. The curved nature of threedimensional 

surfaces requires the triangular glass 

pieces to come in various sizes in order to deliver 

the intended appearance. The structural details of 

the dome’s design include parts that are developed 

and utilized to fasten the protruding glasses onto 

the circular steel member. The mechanism is responsible 

for holding together the laminated glass 

components that make up the outer layer of the 

building. The free-end details provide sufficient 

flexibility to accommodate the expansion and 

shrinkage of the material. To maintain a consistent 

interior temperature of 15 degrees Celsius within 

the dome, the design team had to devise a solution 

to prevent condensation resulting from the temperature 

difference between the inside and outside of the 

structure. To prevent such scenarios, extra attention 

was paid to the details of the glass panels’ joineries 

to ensure that materials with different temperatures 

are not installed adjacent to each other.


TWO IN ONE 

58 59 

13 

ภาพจากมุมมองแบบสูง 

เห็นการเชื่อมต่อของหลังคา 

ทั้ง 2 ระบบ ทั้ง Green 

Roof และ Climatic Dome 

The green roof section, which requires both opacity 

and transparency, is designed to blend in with 

the hilly landscape surrounding the structure while 

providing access for maintenance. The design was 

developed with the intention of toning down the 

intimidating appearance of the cylindrical structure, 

inspired by an LNG tank. The selection of plants, 

including indigenous plants that cover the roof, is in 

line with the context of the site, hence the inevitable 

case of dead grass during the drought season. To 

prevent leakage and provide extra protection against 

landslides and fires, a membrane is used in conjunction 

with the concrete part of the green roof. 

The prevalent load-bearing wall system came with 

a number of structural limitations that governed 

architecture in the pre-modern era. Since then, 

technological advancements have enabled the 

seamless integration of walls and roofs while effectively 

incorporating natural light into functional 

spaces in unprecedented ways. It is therefore 

inescapable for questions that have been raised 

about contemporary architectural design to revolve 

around a combination of constantly evolving 

technologies and ever-changing user behaviors. 

a49.com 

สาโรช พระวงค์ 

เป็ นสถาปนิก นักเขียน 

สนใจในสถาปั ตยกรรม 

สมัยใหม่ถึงสถาปั ตยกรรม 

ร่วมสมัย ปั จจุบันเป็ น 

อาจารย์ประจำาคณะ 

สถาปั ตยกรรมศาสตร์ 

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยี 

ราชมงคลธัญบุรี 

Project: Center of Excellence for Forest Conservation Building Type: Office Building Project Stage: Completed Location: Map Ta Phut, Mueng 

Rayong Owner: PTT LNG Company Limited Area: 13,500 sq.m. Site: 67,200 sq.m. Design: NOV 2016 Construction: DEC 2017 Completed: 

DEC 2021 Architect: Architects 49 Limited Structural Engineer: Architectural Engineering 49 Limited System Engineer: M&E Engineering 49 

Limited Interior Architect: Interior Architects 49 Limited Landscape Architect: TK Studio Company Limited Lighting Designer: 49 Lighting Design 

Consultants Limited Graphic Designer: G49 Limited Construction Manager: Consulting &Management 49 under TGES Contractor: Christiani & 

Nielsen (Thai ) Public Company Limited under SPCC joint venture 

13 

Xaroj Phrawong 

Architect and writer 

who is interested in 

modern an contem 

porary architecture 

now he is a lecturer 

at Faculty of Architecture, 

RMUTT.

60 


Pitch 

Perfect 

A new extension of the famous restaurant in the riverfront area of 

Kanchanaburi, designed by IDIN Architects, is a lofty and open concrete 

structure with a sophisticated gable roof serving as the key factor for 

the entire architecture. 

Text: Korrakot Lordkam 

Photo Courtesy of IDIN Architects and DOF Sky|Ground except as noted 

1 

01 

จุดทางเข้าของอาคาร 

เห็นการเชื่อมต่อระดับพื้น


PITCH PERFECT 

62 63 

02-03 

จุดทางเข้าของร้านอาหาร 

ที่มีจุดเด่นด้วยบันไดและ 

หลังคาจั่วขนาดใหญ่ 

ดึงสายตาของผู้ใช้เข้าไป 

ภายในอาคารและพื้นที่ 

ริมน้ำาด้านหลัง 

04 

รูปตัดของอาคาร 

3 

2 

4 

หนึ่งในร้านอาหารที่มีชื่อเสียงมายาวนานที่สุด 

ร้านหนึ่งบริเวณสะพานข้ามแม่น้ำาแคว อำาเภอ 

เมือง จังหวัดกาญจนบุรี “คีรีธารา” ให้บริการ 

อาหารไทยในร้านอาหารออกแบบตกแต่งสไตล์ 

“บาหลี” อันอาจเป็นกระแสความนิยมสร้าง 

บรรยากาศพักผ่อนของร้านอาหารในช่วงเวลา 

หลายสิบปีก่อน จวบจนปัจจุบัน คีรีธาราได้ 

โอกาสขยายพื้นที่ให้บริการให้กว้างใหญ่ขึ้น 

โดยได้จับจองที่ดินริมแม่น้ำาแควในบริเวณ 

ไม่ใกล้ไม่ไกลจากตำาแหน่งเดิม เปิดเป็นร้าน 

อาหารแห่งใหม่ในนาม “คีรีธารา ริเวอร์ไซด์” 

โดยบรรดาเมนูอาหารไทยที่ยังคงเอกลักษณ์ 

รสชาติเดิมไว้ได้ถูกเสิร์ฟบนจานใหม่ ในสถา- 

ปัตยกรรมคอนกรีตสูงโปร่งที่คงความเป็น 

ตะวันออกไว้ด้วยผืนหลังคาจั่วขนาดใหญ่ ที่ให้ 

ทั้งความรู้สึกแตกต่างและคุ้นเคยในเวลาเดียวกัน 

จีรเวช หงสกุล สถาปนิกจาก IDIN Architects 

ผู้รับหน้าที่ออกแบบอาคารของร้านอาหาร 

แห่งใหม่นี้เล่าให้ฟังถึงที่มาที่ไปของอาคารว่า 

ที่ดินที่ตั้งริมแม่น้ำาแห่งนี้แม้จะมีขนาดไม่เล็ก 

แต่ความต้องการพื้นที่ใช้สอยจำานวนมากเกิน 

กว่าขนาดผืนดินหลายเท่าเป็นความท้าทาย 

แรกสุดที่พวกเขาต้องเผชิญ โดยในเบื้องต้น 

โจทย์จากทางร้านอาหารคือต้องการพื้นที่ครัว 

ขนาดใหญ่มากถึงราว 1,000 ตารางเมตร 

อันจะถูกใช้เป็นครัวส่วนกลางสำาหรับบริการ 

ทั้งร้านอาหารนี้ และบริการธุรกิจอาหารและ 

เครื่องดื่มร้านอื่นๆ ของเจ้าของเดียวในละแวก 

ด้วย เพื่อความสะดวกในการบริการและรับส่ง 

ทรัพยากรและสินค้า ครัวทั้งหมดจึงต้องอยู่บน 

ชั้นพื้นดินชั้นเดียวกัน เมื่อได้จัดวางพื้นที่ใช้สอย 

นั้นรวมกับที่จอดรถที่ต้องเพียงพอสำาหรับ 

รองรับผู้มาใช้บริการที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวแล้ว 

นั้น ทำาให้เต็มพื้นที่ของที่ดินจนแทบไม่เหลือ 

พื้นที่ให้สำาหรับที่นั่งของร้านอาหารได้อีก 

จีรเวชเล่าว่า ส่วนใช้สอยของร้านอาหารทั้งหมด 

จึงต้องถูกยกขึ้นไปยังชั้นบน ด้วยวิธีการใดก็ได้ 

ไม่ให้ผู้ใช้สอยรู้สึกลำาบากในเข้าถึงร้านอาหาร 

หรือไม่ให้รู้สึกว่าส่วนหลักของร้านอาหารอยู่ 

ห่างไกลจากพื้นดินมากเกินไป และในขณะ 

เดียวกันก็ต้องซ่อนพื้นที่ใช้สอยหลังบ้านขนาด 

มโหฬารให้แนบเนียนจากการรับรู้จากภายนอก 

ด้วย สถาปนิกจัดการประเด็นทั้งหมดที่ว่านั้น 

ด้วยการออกแบบทางเข้าด้านหน้าให้เป็นลาน 

กว้างพร้อมผืนบันไดขนาดใหญ่นำาเส้นทาง 

ของผู้ใช้สอยขึ้นไปยังส่วนใช้งานหลักเบื้องบน 

สถาปนิกเปรียบลานนี้ว่าเป็นดัง “พลาซ่า” 

อันจะช่วยลดความรู้สึกว่าร้านอาหารอยู่สูง 

หรือลึกเกินไป และช่วยให้ดึงความสนใจของ 

ผู้คนออกจากพื้นที่ใช้สอยหลังบ้านที่ซ่อนอยู่ 

เบื้องล่างทั้งหมดด้วย 

ประเด็นต่อมาคือการออกแบบพื้นที่ร้านอาหาร 

โดยมีสองโจทย์หลักคือต้องเอื้อให้มีที่นั่งรับชม 

ทัศนียภาพของโค้งน้ำาแควให้มากที่สุดเท่าที่ 

จะทำาได้ รวมถึงต้องประกอบด้วยพื้นที่ใช้สอย 

สำาคัญอีกส่วนคือห้องจัดเลี้ยงเอนกประสงค์ 

ในขนาดรองรับจำานวน 1,000 คนด้วย พื้นที่ 

ใช้สอยขนาดใหญ่ทั้งหมดที่ว่ามานั้นถูกซ้อน 

ชั้นขึ้นไป ทำาให้ในทางเทคนิคเมื่อรวมครัวที่ 

ชั้นล่างอาคารจะประกอบด้วยทั้งหมด 3 ชั้น 

แต่พื้นที่ใช้สอยสำาหรับร้านจริงๆ คือพื้นที่ 

รับประทานอาหารจะเริ่มที่ชั้น 2 พร้อมมีส่วน 

ที่นั่งที่ลดหลั่นลงไปติดริมแม่น้ำา และมีห้อง 

เอนกประสงค์อยู่ที่ชั้น 3 ที่มีส่วนที่นั่งยื่นออก 

มารับทัศนียภาพของแม่น้ำาเช่นกัน ที่สำาคัญ 

สถาปนิกยังได้ออกแบบพื้นที่ใช้สอยเหนือห้อง 

เอนกประสงค์ให้เป็นดาดฟ้าเพื่อให้ร้านอาหาร 

ได้มีพื้นที่รับบรรยากาศริมแม่น้ำาให้มากขึ้น 

เท่าที่จะทำาได้ด้วย 

เมื่อได้เริ่มต้นวางลักษณะพื้นที่ใช้สอยทั้งหมด 

อันเป็นพื้นฐานของการใช้งานอาคารดังที่ว่ามา 

แล้ว องค์ประกอบสำาคัญที่จะมัดรวมทุกพื้นที่ 

ใช้สอยพร้อมกับนำาเสนอทั้งเรื่องราวและความ 

งามในเชิงสถาปัตยกรรม คือผืนหลังคาขนาด 

ใหญ่ที่สร้างความโดดเด่นตั้งแต่ด้านหน้า พื้นที่ 

ใช้สอยด้านใน และที่พื้นที่ปลายสุดด้านติดริม 

แม่น้ำา 

แนวความคิดที่นำามาซึ่งผืนหลังคาดังกล่าวมา 

จากอีกโจทย์ของเจ้าของโครงการ คือความ 

ต้องการเชื่อมโยงวัฒนธรรมความเป็นไทยของ 

ร้านสู่ตัวสถาปัตยกรรม จีรเวชกล่าวว่า แม้ 

ร้านอาหารแห่งนี้จะมีพื้นที่ใช้สอยมากจนนับ 

ได้ว่าเป็นอาคารขนาดใหญ่ แต่เขาก็ต้องการ 

หยิบเอาลักษณะทางสถาปัตยกรรมไทยจาก 

อาคารขนาดเล็กอย่างบ้านพักอาศัยมาใช้ 

มากกว่าการนำาองค์ประกอบจากอาคารขนาด 

ใหญ่อย่างวัดหรือวังมาออกแบบ การตีโจทย์ 

“ความเป็นไทย” ในที่นี้ สถาปนิกกล่าวว่าจึง 

เป็นเรื่องของการนำา “ความรู้สึก” ในอาคาร 

มาใช้มากกว่านำาสัดส่วนหรือรายละเอียดของ 

องค์ประกอบใดๆ มาใช้อย่างตรงไปตรงมา 

อย่างไรก็ตาม ท้ายที่สุดอาคารก็ได้ผืนหลังคา 

ขนาดใหญ่ที่คลุมยาวตั้งแต่ส่วนต้อนรับด้านหน้า 

ไปจนถึงพื้นที่รับประทานอาหารด้านหลัง เป็น 

องค์ประกอบตามแนวคิดที่สถาปนิกกล่าวว่า 

ต้องการให้ผืนหลังคานี้สร้างเอกลักษณ์ของ 

ภาพลักษณ์อาคารที่ภายนอก รวมถึงจะได้ 

มอบพื้นที่ใต้หลังคาอันจะสร้างความรู้สึกและ 

บรรยากาศแบบ “ตะวันออก” อันคุ้นเคยทั่ว 

ทั้งภายในร้านอาหาร โดยเพื่อให้อาคารยังคง 

รูปลักษณ์ที่ดูทันสมัยในปัจจุบัน รวมถึงไม่ให้ 

ขนาดส่วนของหลังคาใหญ่โตเกินความเหมาะสม 

สถาปนิกได้ออกแบบและย้ายตำาแหน่งอกไก่ 

จากที่ควรอยู่กึ่งกลางอาคาร เยื้องมาสู่ฝั่งซ้าย 

มือในตำาแหน่งเดียวกับบันไดและทางเดินเข้า 

สู่ร้าน แล้วปรับสัดส่วนองศารวมถึงความแอ่น 

โค้งของมุมหลังคาในด้านต่างๆ ให้ร่วมสมัยขึ้น 

วิธีนี้จะทำาให้ได้รูปลักษณ์ของอาคารภายนอก 

ที่โดดเด่น โดยหลังคาก็ได้ถูกออกแบบให้ 

มีสัดส่วนความลาดชันโค้งรับกับขนาดของ 

อาคารโดยรวมไม่ให้ดูใหญ่โตเกินไป ในขณะ 

เดียวกันก็ได้สร้างมุมมองด้านทางเข้าสู่อาคาร 

ที่ใหญ่โตโอ่อ่า แต่ยังรักษาเอกลักษณ์และ 

กลิ ่นอายความนุ่มนวลแบบ “ตะวันออก” ไว้ได้ 

มากกว่านั้น การยักย้าย ปรับและบิดองศา 

หลังคาดังว่า ยังส่งผลให้เกิดลูกเล่นด้าน 

สถาปัตยกรรมในหลายจุดที่พบได้ในอาคาร 

ตัวอย่างเช่น การบิดเส้นสายของผืนหลังคา 

เอื้อให้สถาปนิกสามารถออกแบบช่องแสง 

เหนือบริเวณอกไก่ที่ลากยาวจากด้านหน้าสู่ด้าน 

หลัง อันเป็นช่องนำาแสงที่สร้างเทคนิคพิเศษ 

ทางสถาปัตยกรรมที่น่าสนใจได้ นอกจากนั้น 

การเยื้องไปของหลังคายังทำาให้บนบริเวณชั้น 3 

เกิดองศาการลาดของหลังคาที่จรดพอดีกับพื ้น 

เป็นโอกาสที่เอื้อให้สถาปนิกได้ออกแบบบันได 

พาดทับไปบนหลังคา ที่นำาไปสู่พื้นที่ดาดฟ้า 

สร้างความรู้สึกราวกับว่าผู้ใช้งานได้เดินไต่ 

หลังคาขึ้นสู่ชั้นถัดไป 

ทั้งหมดนี้ สำาเร็จได้จากวิธีการออกแบบที่มี 

หลังคาเป็นปัจจัยหลัก ที่นอกจากจะสร้างความ 

เป็นองค์รวมให้อาคาร ยังตอบคำาถามเรื่องนัย 

และความหมาย อีกทั้งยังสร้างลูกเล่นและความ 

น่าสนใจให้กับอาคารได้ภายในเวลาเดียวกัน

5 

The new restaurant serves its signature dishes in a new 

presentational style, while the architecture boasts a lofty 

and open concrete structure with the familiar hip roof that 

keeps the oriental spirit intact while also providing a sense 

of familiarity to its clientele and the general public. 

05 

ส่วนช่องแสงจากหลังคา 

ของอาอาร ที่เกิดจากการ 

ปรับย้าย การวางอกไก่ 

ออกจากกึ่งกลางของอาคาร


PITCH PERFECT 

66 67 

06 

การวางตำาแหน่งบันได 

พาดทับไปบนหลังคาสู่ 

ชั้นดาดฟ้าทำาให้เหมือน 

เดินไต่หลังคา 

07 

มุมมองริมแม่น้ำาแคว 

08 

Diagram แสดงแนวคิด 

และการพัฒนาแบบทาง 

สถาปัตยกรรม 

Jeravej Hongsakul, the architect from IDIN Architects 

who was responsible for the design of the 

project, explains how the building came to be. 

While the riverside land on which the new building 

would be built is not small, functional requirements 

far exceed the size of the land. This presented the 

first challenge for him and the rest of the design 

team. The initial brief called for a kitchen space 

of 1,000 square meters. This area was intended to 

serve as the center for the restaurant’s operations, 

as well as other establishments owned by the same 

owner located within the vicinity. The goal was to 

provide maximum convenience in terms of service 

and logistics for all resources, products, and operations 

while following the owner’s request for the 

kitchen to be located on the ground floor. During 

the development of the layout, the parking space 

was taken into consideration to ensure that it would 

be spacious enough to accommodate the prospective 

patrons, the majority of whom travel to the 

restaurant by personal vehicles. The main functional 

space, such as the back-of-house area and parking 

space, would therefore take up the entire first floor 

of the property, leaving no room for the dining areas. 

Jeravej stated that in order to meet the aforementioned 

demands, the seating areas needed to be 

situated on the upper level. This had to be done 

in a way that wouldn’t make male patrons feel that 

accessing the restaurant’s dining area is much 

of a hassle, nor should it make them feel like the 

dining area is too far away from the ground floor. 

Simultaneously, it was necessary to prevent patrons 

from seeing the massive back-of-house operation 

area as they approached the building. The architect 

successfully met all of the challenging requirements 

by creating an entryway that opens up into 

a large, open space. This was achieved through 

the use of a set of wide, low-rise steps that guide 

visitors up to the dining areas located above the 

ground floor. The area, which the architect referred 

to as the “plaza,” makes access to the dining area 

easier and more pleasant. It doesn’t feel too high 

or far away to get there. The plaza also serves as 

a distraction for visitors, diverting their attention 

from the hidden back-of-house area situated on 

the ground floor. 

6 

7 

Keeree Tara is a highly acclaimed and well-established 

restaurant located in the riverfront area of 

Kanchanaburi. The location is famous for its picturesque 

view of the iconic bridge over the River 

Kwai. The restaurant provides a diverse selection 

of Thai dishes that are presented within Balinese 

inspired architecture and decoration, once a 

popular design trend several decades ago. Keeree 

Tara has recently expanded its enterprise by 

acquiring a new plot of riverfront land that is not 

too far from its original location. The brand’s new 

restaurant, Keeree Tara Riverside, serves its signature 

dishes in a new presentational style, while 

the architecture boasts a lofty and open concrete 

structure with the familiar gable roof that keeps the 

oriental spirit intact while also providing a sense 

of familiarity to its clientele and the general public. 

8

68 69 

9 

09 

จากการซ้อนชั้นของอาคาร 

สถาปนิกใช้การออกแบบ 

ที่เล่นระดับพื้นทำาให้เกิด 

การลดหลั่นกันของระดับ 

ชั้นที่ยังเชื่อมโยงกันทาง 

สายตา


PITCH PERFECT 

70 71 

11 

พื้นที่ Semi-Outdoor 

ที่ออกแบบให้เปิดรับและ 

เชื่อมต่อกับวิวแม่น้ำา 

1ST FLOOR PLAN 

2 M 

2ND FLOOR PLAN 

2 M 

3RD FLOOR PLAN 

2 M 

11 

10 

ROOF PLAN 

2 M 

10 

ผังพื้นทุกชั้นและหลังคา 

ของอาคาร 

The next step involves designing the main dining 

area, which has to fulfill two requirements. Firstly, 

the design was expected to maximize the number of 

tables with access to the view of the meandering 

course of the Kwai River. Secondly, the design 

should be able to accommodate a multifunctional 

room with a capacity of 1,000 people. The project 

features a total of three stories of functional spaces, 

including a kitchen on the ground floor. These 

spaces are stacked and overlapped to create 

a large-scale terrace. The second floor of the 

building houses the primary dining area, which 

extends down the slope towards the riverside zone. 

On the third floor, there is a multifunctional room 

with its own seating area that has been designed 

to provide an unobstructed view of the river. The 

architect intended to design the functional space 

above the multifunctional room as a rooftop that 

would increase the overall usable space of the 

restaurant.


PITCH PERFECT 

72 73 


มุมมองจากส่วน 

รับประทานอาหาร 

เห็นความเชื่อมต่อของ 

ระนาบพื้นและต่อเนื่อง 

ไปกับผืนหลังคา 


13 

มุมมองทางเข้าของ 

ร้านอาหาร 

14 

บรรยากาศภายนอก 

ของร้านอาหาร 

The spatial location is based on the key functional 

necessities. The roof structure is an essential 

element that intertwines the brand’s story and 

architectural aesthetics. It is massive and visually 

striking, with a prominent presence that is visible 

from the front, interior functional spaces, and the 

dining zone by the river. 

The owner’s expressed intention for the architectural 

design to incorporate characteristics of Thai culture 

led to the conceptualization of the roof. Jeravej 

elaborated that although the diversity and quantity 

of the restaurant’s functional spaces make it a largescale 

building, he opted to incorporate certain architectural 

elements of small-scale structures, such as 

traditional Thai houses, instead of larger ones such 

as temples or palaces. Jeravej’s interpretation of 

traditional Thai identity and characteristics revolves 

around the “sentiment” rather than simply focusing 

on the physical proportions of specific architectural 

components. 

However, the design ultimately resulted in a colossal 

roof structure that covers the front of the restaurant, 

from the reception area to the main dining areas 

located further towards the river. The roof design 

aligns with the architect’s vision to enhance the 

overall architectural style of the building. The roof 

structure creates a spatial program beneath its 

majestic presence that is imbued with oriental 

aesthetics. To maintain the building’s contemporary 

appearance, the architect is well aware that the scale 

of the roof must be maintained so that it does not 

appear too big and imposing. The architect relocated 

the ridges, which are typically situated at the center 

of the building, to the left side, causing them to align 

on the same axis as the stairs and main entrance. 

The roof’s angles and curvatures are specifically 

designed to render an overall appearance that is 

more modern in nature. Together, these efforts 

created a unique architectural structure. The inclined 

angle of the roof is intentionally calculated to correspond 

with the building’s scale while keeping it 

from appearing too imposing. Although the entryway 

may appear grand and spacious, there are intricate 

features and details that contribute to the delicate 

oriental aesthetics of the overall architecture. 

Everything has been 

achieved with the design, 

where the roof serves as 

the key factor, creating 

visual harmony for the 

entire architectural structure, 

all the while hold ing 

meaning, implications and 

delivering gimmicks and 

interesting details to the 

building simultaneously. 

14 

13


PITCH PERFECT 

74 75 

กรกฎ หลอดคำ 

ศึกษาจบปริญญาตรีสาขา 


มหาวิทยาลัยศิลปากร 

ปริญญาโทสาขา Architectural 

History จาก 

The Bartlett School 

of Architecture, UCL 

ทำางานเขียนเรื่องบ้าน 

งานออกแบบ และ 

สถาปั ตยกรรมเป็ นหลัก 

15 

Korrakot Lordkam 

is a Silpakorn University 

architecture graduate 

with a master’s 

degree in architectural 

history from the 

Bartlett School of 

Architecture, UCL, 

who writes primarily 

about houses, design, 

and architecture 

15 

รูปด้านอาคาร 3 ชั้นที่ 

ออกแบบให้เกิดพื้นที่ 

ระเบียงภายนอกของ 

ส่วนทานอาหารสำาหรับ 

การชมวิวริมแม่น้ำา และ 

ช่วยลดทอนขนาดของ 

อาคาร 

16 

วิวมุมสูงของอาคารกับ 

ทิวทัศน์แม่น้ำาแคว 

Furthermore, the manipulation of the roof’s angles 

and details creates a number of interesting architectural 

features in the building. For instance, 

the roof’s divergent plane enables the architect 

to incorporate a skylight above the ridge that 

extends from the front to the back, enhancing the 

design with another special architectural element. 

The building mass deviation resulted in the third 

floor’s roof inclining at an angle that correctly 

descends towards the ground. This feature allows 

the architect to design a stairway that gives users 

the sensation of climbing up to the upper floor as 

they access the rooftop area. 

Everything has been achieved with the design, 

where the roof serves as the key factor, creating 

visual harmony for the entire architectural structure, 

all the while holding meaning, implications 

and delivering gimmicks and interesting details to 

the building simultaneously. 

idin-architects.com 

16 

Project: Keeree Tara Riverside Completion: 2013-2022 Location: Kanchanaburi, Thailand Functional Space: 2.290 Square Meter Owner: Pramote Kamolpantip 

Architect: IDIN Architects Interior Architect: Pramote Kamolpantip Structural Engineering: C-Insight Co., Ltd. Contractor: Pramote Kamolpantip

76 


The 

Fifth 

Ele- 

ment 

S.Pace Studio has designed a house in Khon Kaen that offers a pool-villalike 

experience, with the roof meticulously intended to strike a balance 

between fulfilling elementary functions and meeting the demands of 

the users. 

Text: Kullaphut Seneevong Na Ayudhaya 

Photo Courtesy of S Pace Studio and Tawichakorn Laochaiyong except as noted 

1 

01 

ทัศนียภาพด้านหน้าของ 

บ้านที่สถาปัตยกรรม 

ออกแบบมาให้มีกลิ่นอาย 

ของความเป็นสถาปัตย- 

กรรมท้องถิ่นด้วยผนัง 

ตีโครงคร่าวไม้ สอด 

ประสานกับการออกแบบ 

ภูมิสถาปัตยกรรมด้วย 

พรรณไม้ท้องถิ่น


THE FIFTH ELEMENT 

78 79 

“หลังคาเป็นองค์ประกอบแห่งความเปลี่ยนแปลง 

เพราะมันสามารถสร้างประสบการณ์และมี 

พลังในการสร้างนิยามการรับรู้เชิงพื้นที่ให้เกิด 

ขึ้นกับสถาปัตยกรรม ซึ่งเราสามารถเรียกได้ว่า 

หลังคาคือเปลือกอาคารในมิติที่ห้า “fifth façade” 

สร้างความเป็นไปได้ใหม่ ให้เกิดปฏิสัมพันธ์ต่อ 

สภาพแวดล้อมสรรค์สร้าง” ข้อความดังกล่าว 

คือคำาจำากัดความที่มีต่อคุณลักษณะของหลังคา 

ผ่านทัศนะของ Rem Koolhaas สถาปนิกชาว 

ดัตช์ ในหนังสือ “S, M, L, XL” หนังสือทฤษฎี 

ทางสถาปัตยกรรมที่มีชื่อเสียง 

หลังคาคือองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรม 

สำาคัญที่มีไว้เพื่อการกันแดด กันฝน และปกป้อง 

พื้นที่ภายในของอาคาร นิยามดังกล่าว เป็นความ 

หมายพื้นฐานของหลังคาที่ถูกอธิบายผ่านมิติ 

ด้านอัตถประโยชน์ อย่างไรก็ตามหลังคากลับ 

ครอบคลุมนิยามความหมายที่หลากหลายมาก 

เกินกว่าจะอธิบายได้ด้วยมิติของอัตถประโยชน์ 

ใช้สอย พรมแดนความหมายของหลังคาได้ 

ครอบครองความหมายทางสัญวิทยา ภาพ- 

สะท้อนทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิต ส่งผลให้ 

หลังคาได้กลายเป็นหนึ่งในหัวใจสำาคัญของ 

องค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมที่มีส่วนช่วย 

สร้างมิติอาคาร เฉกเช่น มิติที่ห้าของเปลือก 

อาคาร “fifth façade” ที่ช่วยเชื่อมโยง เปิดรับ 

และปกคลุมพื้นที่ว่างระหว่างสถาปัตยกรรมกับ 

บริบทรอบข้างกลายมาเป็นบทสนทนาระหว่าง 

พื้นที่ว่าง และบริบทพื้นที่ตั้งแวดล้อม และหนึ่ง 

ในกรณีศึกษาของการออกแบบหลังคาที่มี 

ความน่าสนใจ ต่อการออกแบบสถาปัตยกรรม 

ร่วมสมัย คือ โครงการบ้านมักม่วน ที่อำาเภอ 

สีชมพู จังหวัดขอนแก่น 

เนื่องด้วยตัวโครงการตั้งอยู่ในพื้นที่ห่างไกล 

ชุมชน และเจ้าของโครงการต้องการที่พักอาศัย 

ที่ให้ความรู้สึกพักผ่อน ปรับสมดุลให้กับชีวิต 

แก่เจ้าของบ้าน “อยากให้บ้านหลังนี้ให้ความ 

รู้สึกเหมือนกับอยู่ในพูลวิลล่า” คุณทวิชากร 

เหล่าไชยยงค์ สถาปนิกแห่ง S.Pace.Studio 

กล่าวถึงจุดเริ่มต้นของโครงการ ด้วยเงื่อนไขที่ 

บ้านจำาเป็นจะต้องตอบสนองต่อความต้องการ 

ของผู้ใช้ที่มีสมาชิกของครอบครัวเป็นผู้สูงอายุ 

ผู้ออกแบบจึงออกแบบบ้านชั้นเดียว ที่มีรูปแบบ 

ผังพื้นกึ่งปิดล้อม ด้วยลักษณะผังรูปตัว L โอบ 

ล้อมพื้นที่ฝั่งทิศตะวันตกที่เป็นส่วนสระว่ายน้ำา 

รับกับวิวพระอาทิตย์ตกดิน ประกอบกับพื้นที่ 

ตั้งโครงการอยู่ห่างจากพื้นที่ชุมชน และแวดล้อม 

ไปด้วยพื้นที่สวนและป่า ภาษาของการออกแบบ 

ทางสถาปัตยกรรมจึงจำาเป็นต้องให้ความรู้สึก 

ปลอดภัยไปในเวลาเดียวกัน 

หลังคาทรงจั่วขนาดใหญ่ถูกเลือกนำามาใช้เป็น 

หัวใจของโครงการด้วยเงื่อนไขหลายประการ 

เช่น การเป็นตัวแทนของสัญลักษณ์ของความ 

เป็นบ้าน หลังคาคือภาพสะท้อนของความเป็น 

บ้านหากแต่หลังคานั้นถูกออกแบบให้ปกคลุม 

พื้นที่ทั้งหมดของบ้าน กลายมาเป็นจั่วที่พัฒนา 

ขยายพื้นที่ครอบคลุมพื้นที่ใช้สอยภายใน 

ทั้งหมด “เราตกลงเลือกหลังคาจั่ว เพื่อสร้าง 

ระนาบหลังคาขนาดใหญ่ชักชายคาออกมา 

ปกคลุมโดยรอบ ซึ่งมันสร้างความรู้สึกที่เข้าถึง 

ได้ง่ายและอบอุ่นในทางเดียวกัน ซึ่งกว่าจะมา 

สู่รูปแบบนี้เราก็ศึกษาความเป็นไปได้ในหลาย 

รูปแบบมาก่อนจนในที่สุดมาจบที่รูปแบบ 

ดังกล่าว” คุณทวิชากรกล่าวเสริมถึงการเลือก 

ใช้หลังคาในงานออกแบบ 

ถึงแม้ว่าปริมาตรของระนาบหลังคาจะมีสัดส่วน 

ขนาดใหญ่ (สัดส่วนระหว่างพื้นที่ความสูง 

ผนังต่อความสูงของรูปด้านหลังคาอยู่ที่ราวๆ 

1:2 ส่วน) แต่ผู้ออกแบบกลับสามารถใช้ความ 

แตกต่างของการเลือกใช้วัสดุมุงให้เป็นประโยชน์ 

ต่อการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ได้อย่าง 

แยบคาย กล่าวคือผืนหลังคาในฝั่งที่ประชิดกับ 

พื้นที่ด้านหน้าของบ้านที่ปกคลุมส่วนด้านหน้า 

ของบ้านและส่วนโรงรถเป็นหลังคาที่ปิดทึบส่วน 

พื้นที่หลังคาที่ปกคลุมส่วนเชื ่อมต่อกับสวนและ 

สระว่ายน้ำาถูกออกแบบให้มีความโปร่งด้วยแนว 

ระแนงอลูมิเนียมสีเทาเข้มที่สร้างคุณลักษณะ 

กึ่งปิดให้กับพื้นที่ว่างบริเวณส่วนเชื่อมต่อของ 

สวน ทำาให้หลังคาจั่วฝั่งนี้เชื่อมโยงความสัมพันธ์ 

ระหว่างพื้นที่กึ่งพักอาศัยจากชานไปยังสวนท่าม 

กลางภูมิทัศน์ที่แวดล้อมไปด้วยป่าต้นพะยูง ต้น 

มะค่าโมง และต้นสัก ในขณะที่จั่วหลังคาอีกฝั่ง 

กลับทำาหน้าที่ปกป้องพื้นที่ส่วนพักอาศัย สร้าง 

คุณลักษณะของการสร้างพื้นที่ความเป็นส่วนตัว 

และทำาการกรุด้วยฝ้าไม้ตามความชันของ 

หลังคาจั่วที่ลาดลงในพื้นที่ด้านใน เพื่อสร้าความ 

เชื่อมต่อระหว่างหลังคากับพื้นที่อยู่อาศัยภายใน 

ในมิติของความเชื่อมโยงระหว่างพื้นที่ ผู้ออกแบบ 

ได้ออกแบบให้ส่วนจอดรถด้านหน้าถูกปกคลุม 

ด้วยแนวหลังคาปิดทึบ ก่อนที่จะเข้ามาสู่พื้นที่ 

ทางเดินและส่วนของห้องอเนกประสงค์ที่ใช้เป็น 

พื้นที่ส่วนกลางในการรับแขกและรับประทาน 

อาหาร พื้นที่ส่วนนี้เปรียบเสมือนจุดศูนย์กลาง 

ที่เชื่อมต่อพื้นที่กึ่งสาธารณะภายนอกเข้ากับ 

พื้นที่อยู่อาศัยภายในและเชื่อมต่อไปยังชาน 

ด้านในที่เป็นส่วนของสระว่ายน้ำาและสวน พื้นที่ 

ส่วนนี้ได้รับการออกแบบให้มีการเชื่อมต่อทาง 

สายตาผ่านผนังกระจกบานกว้าง และเมื่อเดิน 

ไปทางส่วนของปีกอาคารทิศตะวันตก จะเข้าถึง 

พื้นที่พักอาศัยในส่วนห้องนอน ซึ่งเชื่อมโยงด้วย 

ทางเดินภายใน พื้นที่ส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ได้รับ 

การออกแบบให้เป็นส่วนตัวมากที่สุดแต่ยัง 

เชื่อมต่อกับพื้นที่ธรรมชาติด้วยผังพื้นตัว L 

ที่หันฝั่งทางเดินเข้าสู่พื้นที่ชานด้านใน และวิว 

ด้านทิศเหนือของห้องนอนทั้งหมดหันออกไป 

สู่พื้นที่ภูมิทัศน์ด้านทิศเหนือเพื่อหลบเลี่ยง 

แสงแดดและความร้อนจากฝั่งทิศตะวันตก 

พื้นที่ฝั่งทิศตะวันตกได้รับการลดความร้อน 

ด้วยระนาบของแนวผืนหลังคาระแนวอลูมิเนียม 

ขนาดใหญ่ แนวระแนงนี้สร้างสภาวะกึ่งโปร่ง 

ให้เกิดขึ้นกับพื้นที่ว่างบริเวณชานและสวนของ 

courtyard ภายในบ้าน 

ในมิติของการออกแบบภูมิสถาปัตยกรรมจะ 

พบว่าผู้ออกแบบใส่ใจต่อการออกแบบภูมิทัศน์ 

ให้สอดคล้องกับปริมาตรของตัวอาคาร ด้วย 

การออกแบบแนวของไม้พุ่มที่กลมกลืนกันกับ 

จุดนำาสายตาของพื้นที่ใช้สอยภายใน โดยจาก 

แนวของไม้พุ่มที่ออกแบบให้สัมพันธ์กับพื้นที่ 

ใช้สอยของบ้านไปสู่ตัวของสระว่ายน้ำากลาง 

ผู้ออกแบบได้ออกแบบประสบการณ์จากการ 

ว่ายน้ำาให้เกิดความรู้สึกที่แตกต่าง จากการ 

ว่ายในพื้นที่ชานจะพบความรู้สึกของการเป็น 

ส่วนหนึ่งเดียวกับบ้าน ในขณะที่เมื่อว่ายออกไป 

ตามแนวแกนทางทิศใต้ จะค่อยๆ พ้นระยะขอบ- 

เขตของตัวบ้านไปสู่พื้นที่ว่างโล่งกว้างของสวนที่ 

สายตานำาไปสู่ป่าด้านนอก สร้างประสบการณ์ 

ในอีกระดับให้แก่การสัมผัสพื้นที่ใช้สอย 

ในส่วนของการเลือกใช้วัสดุ ผู้ออกแบบจงใจ 

เลือกสร้างบทสนทนาที่มีไวยกรณ์จากวัสดุ 

ท้องถิ่นเช่น อิฐ และไม้ เพื่อคงกลิ่นอายของ 

ความเป็นชนบทไปพร้อมกันกับการออกแบบ 

ร่วมสมัย ผ่านการออกแบบผนังในส่วนต่างๆ 

เช่นการออกแบบผนังไม้แบบแสดงโครงคร่าว 

เข้าลิ้น ซึ่งเป็นเอกลักษณ์หนึ่งที่พบได้โดยทั่วไป 

ของผนังยุ้งข้าวอีสาน โดยในส่วนของผนัง 

ภายนอกผู้ออกแบบเลือกใช้โครงเหล็กยึดเส้น 

ตั้งเพื่อเสริมแรงและใช้วัสดุปิดผิวสำาเร็จรูปเพื่อ 

สร้างผนังคร่าว ในขณะที่ในส่วนของผนังที่กั้น 

ระหว่างโรงรถกับพื้นที่ทางเดินด้านในได้เลือกใช้ 

ผนังก่ออิฐ เว้นร่อง เพื่อสร้างผนังที่มีคุณลักษณะ 

กึ่งโปร่งเพื่อระบายอากาศ และสร้างความเชื่อม 

ต่อแบบกึ่งสาธารณะไปพร้อมกัน 

เมื่อเราพิจารณาถึงเงื่อนไขและข้อจำ ากัด ไม่ว่า 

จะเป็นด้านงบประมาณ ความต้องการของผู้ใช้ 

อาคารที่ต้องการความปลอดภัย อบอุ่น และได้ 

รับประสบการณ์คล้ายกับการพักผ่อนในพูลวิลล่า 

การคำานึงถึงภูมิทัศน์และบริบทแวดล้อมของ 

โครงการ โครงการบ้านมักม่วนถือว่าเป็นหนึ่งใน 

โครงการที่มีความน่าสนใจต่อการใช้การออกแบบ 

สถาปัตยกรรม ผ่านการใช้ไวยกรณ์ของการ 

ออกแบบหลังคาเพื่อผสานประโยชน์ใช้สอยให้ 

สอดรับกันกับความต้องการได้อย่างสมดุล 

“ทุกวันนี้แม้ว่าโครงการจะแล้วเสร็จไปร่วมปีแล้ว 

แต่ภาพถ่ายที่ได้รับมาหลังการอยู่อาศัยยังพบว่า 

เหมือนวันแรกที่เราก่อสร้างเสร็จ ภาพของบ้าน 

2 

ที่เห็นยังคงแทบไม่แตกต่างจากเดิม เหมือนครั้ง 

ที่เราถ่ายลงวารสารสถาปัตยกรรม เพราะเจ้าของ 

รักและมีความสุขที่ได้อยู่อาศัยในบ้านหลังนี้” 

คุณทวิชากรกล่าวทิ้งท้าย ถึงบทสรุปของบท 

สนทนาของสถาปัตยกรรมที่ยังคงไม่สิ้นสุด ณ 

บ้านมักม่วนแห่งนี้ 

02 

หลังคาขนาดใหญ่ได้สร้าง 

ระนาบปกคลุมพื้นที่อยู่ 

อาศัยเพื่อทอนความร้อน 

ที่เข้าสู่ระนาบผนัง อำานวย 

ให้เกิดสภาวะน่าสบาย 

แก่พื้นที่ใช้สอยภายใน 

03 

พื้นที่ทางเข้าที่หลังคา 

ปกคลุมลงมาครอบคลุม 

พื้นที่จอดรถของบ้าน 

ในขณะเดียวกันผู้ออกแบบ 

ได้ใช้การออกแบบภูมิทัศน์ 

ด้วยการปลูกพืชเพื่อ 

สร้างความเป็นส่วนตัว 

ทางสายตาให้กับพื้นที่ 

ส่วนพักอาศัย 

3



80 81 

The roof has emerged as a significant architectural element 

in shaping and diversifying the form and scope of architecture. 

It serves as the “fifth façade,” linking, exposing, and enveloping 

the space that exists between architecture and its surrounding 

environment, thereby facilitating a dialogue between the empty 

space and the contextual setting of the site. 

6 

5 

4 

04 

ผังพื้นของโครงการเป็น 

รูปตัว L กึ่งปิดล้อมส่วน 

สระว่ายน้ำาทางทิศตะวันตก 

สอดรับกับภูมิทัศน์โดยรอบ 

05 

รูปด้านหน้าของโครงการ 

แสดงให้เห็นสัดส่วนระหว่าง 

ความสูงผนังต่อความสูง 

หลังคา ในอัตราส่วนราว 1:2 

06 

ทัศนียภาพจากพื้นที่สวน 

ฝั่งทิศตะวันตกหันเข้า 

สู่พื้นที่หลังคาระแนง 

ขนาดใหญ่ 

“The roof is a transformative element. It has the 

power to redefine our perception of space and 

create unique experiences within architecture. 

It can act as a fifth façade, opening up new possibilities 

for interaction with the built environment.” 

The quoted statement is attributed to Dutch architect 

Rem Koolhaas, who defines the architectural 

element in his renowned book on theories of architecture, 

“S, M, L, XL.” 

The roof constitutes a fundamental architectural 

element. Its contributions to a built structure include 

providing protection from sunlight and rain to its 

interiors. The roof has traditionally been defined 

based on its functional dimension, which has been 

considered a fundamental aspect of its meaning. 

However, the concept of the roof encompasses a 

multitude of meanings and definitions that extend 

beyond its utilitarian merits and cannot be completely 

explained solely from this perspective. The boundaries 

in regards to possible definitions of a roof 

have expanded to encompass symbolic interpretation, 

cultural reflection, and ways of life. The roof 

has emerged as a significant architectural element, 

playing a crucial role in shaping and diversifying 

the form and scope of architecture. It serves as the 

“fifth façade,” linking, exposing, and enveloping 

the space that exists between architecture and its 

surrounding environment, thereby facilitating a dialogue 

between the empty space and the contextual 

setting of the site. The Makmuan House, located in 

the Sri Chom Phu district of Thailand’s Khon Kaen 

province, presents an intriguing case study on the 

influence of roof design in contemporary architectural 

works.

7 

07 

ทัศนียภาพส่วนชานบ้าน 

และพื้นที่สระว่ายน้ำา 

ที่ออกแบบให้สัมพันธ์ 

กับงานภูมิสถาปัตยกรรม



84 85 

09 

รูปตัดของโครงการ 

แสดงให้เห็นการออกแบบ 

ภูมิทัศน์ที่สอดรับกับ 

ตัวสถาปัตยกรรม และ 

แสดงให้เห็นความต่อเนื่อง 

ของพื้นที่ว่างระหว่าง 

พื้นที่ภายใน กับพื้นที่ว่าง 

ภายนอก 

Due to its remote location and distance from 

the nearest community, the owner desires for the 

project to be like an escape—a safe haven for one 

to come to rest and readjust the balance in their 

life. “They want the place to be like a pool villa,” 

Tawichakorn Lhaochaiyong, the architect behind 

S.Pace Studio, said about the conceptualization 

that served as the inception of the project. The 

architect worked on the given requirements in 

response to the wishes of elderly family members 

and devised a single-level dwelling featuring a 

partially enclosed floor plan. The layout of the 

house’s interior is designed into an L-shape, encompassing 

the west-facing part of the property, 

where the swimming pool is situated, thereby 

granting a picturesque view of the sunset. Given 

the proximity of the site to the nearest community 

and its surrounding orchards and forestland, it is 

essential that the architectural language of the 

house conveys a sense of security that fosters a 

feeling of safety and protection among residents. 

9 

8 

08 

ภาพทัศนียภาพบริเวณ 

ชานด้านในที่ถูกปกคลุม 

ด้วยหลังคาระแนง 

อลูมิเนียม เชื่อมความ 

สัมพันธ์ทางสายตา 

ระหว่างสวนภายนอก 

กับพื้นที่สระว่ายน้ำาและ 

ส่วนชานของบ้าน



86 87 

“The gable roof was decided as it was deemed suitable for 

creating an expansive plane and projecting eaves that provide 

protection for the living areas. It emanates a perception 

of both approachability and warmth. A range of possibilities 

were explored prior to arriving at this conclusion and finalizing 

the design,” 

10 

10 

ห้องอเนกประสงค์ที่ 

ใช้เป็นพื้นที่ส่วนกลาง 

ในการรับแขกและ 

รับประทานอาหาร 

11 

รูปทรงของหลังคา 

ส่งผลต่อเส้นขอบของ 

พื้นที่ใช้สอยภายใน 

เช่น ส่วนของห้องนอน 

The primary element of the project is the large 

gable roof, due to a number of different reasons. 

The roof serves as a symbol of domesticity and is 

intended to encompass all of the house’s functional 

spaces. “The gable design of the roof was decided 

as it was deemed suitable for creating an expansive 

plane and projecting eaves that provide protection 

for the living areas. It emanates a perception of both 

approachability and warmth. A range of possibilities 

were explored prior to arriving at this conclusion and 

finalizing the design,” Tawichakorn elaborated on 

the rationale behind the implementation of the roof. 

The roof exhibits a significant volume, with a 1:2 

ratio between the wall height and the roof elevation. 

The architect effectively leveraged the distinctions 

in the roofing materials to optimize spatial connectivity 

in a resourceful manner. To clarify, the segment 

of the roof is oriented towards the front of the house 

and provides complete coverage for both the front 

section of the house and the garage. 

The roofing section that spans across the area connecting 

the garden and swimming pool is designed 

to be more open, which is achieved through the 

incorporation of dark gray aluminum laths. This 

feature serves to imbue the area with a semi-open 

quality. The gable roof situated on this particular 

side of the house serves as a connecting element 

between another living space and the garden, which 

boasts landscape architecture comprising a forest 

of Siamese rosewood, teak wood, and Makha. The 

opposite side of the roof functions as a protective 

barrier for the living quarter, affording inhabitants 

a sense of seclusion. The wooden ceiling features 

are in accordance with the sloping angle of the 

roof, which descends towards the interior space, 

thereby promoting a seamless connection between 

the roof and the living areas within. 


ผนังก่ออิฐ เว้นร่อง 

บริเวณพื้นที่ทางเดิน 

ด้านใน สร้างให้เกิดการใช้ 

ประโยชน์จากคุณลักษณะ 

กึ่งโปร่งของผนังเพื่อการ 

ระบายอากาศ และการ 

สร้างสภาวะกึ่งส่วนตัว 

11 

12



88 89 

13 

พื้นที่สระว่ายน้ำาที่ 

ถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่ 

เชื่อมต่อระหว่างชานกับ 

สวนภายนอกในแนวแกน 

ทิศเหนือ-ใต้ 

14 

การจัดแสงแก่ระนาบ 

ผนังโครงคร่าวไม้ตัดกับ 

แนวเส้นระนาบของไม้พุ่ม 

ด้านหน้า 

Regarding spatial connectivity, the architect has 

designed the garage to be situated at the front 

of the structure and fully covered by the roof. The 

circulation subsequently leads to a walkway that 

provides access to a multifunctional room, which 

has been designed to cater to visitors and serve as 

a dining area. The area in question also functions 

as the central hub of the abode, connecting the 

semi-common outdoor area to the internal living 

quarters. Furthermore, it establishes a connection 

with the deck situated deeper within the house, 

adjacent to the pool and the garden area. This 

particular section of the spatial program features 

expansive curtain walls that facilitate visual connectivity. 

The western wing of the house provides 

access to the sleeping quarters through an interior 

walkway. The living space has been intentionally 

designed to optimize privacy through an L-shaped 

layout that seamlessly integrates natural elements, 

thereby enhancing the overall living experience. 

The layout positions the pathway towards the deck 

while orienting all the bedrooms towards the north 

to avoid the effects of excessive heat and sunlight 

from the west. 

The west wing features a large aluminum lath wall 

designed to minimize solar heat gain. Despite being 

an integral component of the interior program, the 

laths effectively contribute to the semi-open space 

of both the deck and courtyard. The design of the 

landscape architecture necessitates a correspondence 

with the architectural mass and volume of the 

house. The placement of shrubs in rows is intended 

to complement the main contours that define the 

interior spaces. The woody plants have been strategically 

positioned in accordance with the functional 

spatial arrangement of the home and the adjacent 

swimming pool. The pool is designed to provide 

diverse user experiences. The closest part of the 

swimming pool is next to the deck. It gives users 

a sense of connection with the home. Swimming 

towards the southern axis would result in a spatial 

transition from the house’s periphery to the vast 

expanse of the garden and forestland beyond, 

consequently offering one a distinct level of spatial 

encounter. 

14 

13 

กุลพัชร์ เสนีวงศ์ 

ณ อยุธยา 

ปั จจุบันเป็ นหัวหน้านัก 

วิจัยสำารวจภาคสนาม 

ให้กับ Maritime Asia 

Heritage Survey Thailand 

Project มหาวิทยา 

ลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ ่ น 

และนักศึกษาปริญญา 

เอกสาขาสถาปั ตยกรรม 

พื้นถิ ่น คณะ 


มหาวิทยาลัยศิลปากร 

สนใจศึกษามรดกทาง 

วัฒนธรรมและขณะนี้ 

กำาลังทำาวิจัยเกี่ยวกับ 

สภาพแวดล้อมสรรค์สร้าง 

ในพื้นที่ภูมิทัศน์วัฒนธรรม 

มลายู 

Kullaphut Seneevong 

Na Ayudhaya 

is a Field Team Leader 

of the Maritime Asia 

Heritage Survey Thailand 

Project, Kyoto 

University, Japan, and 

a vernacular architecture 

Ph.D. candidate 

at Silpakorn University. 

His research on 

the built environment 

of the Malay cultural 

landscape is being 

done out of a passion 

for cultural heritage. 

The selection of materials is intended to articulate 

an architectural dialogue with local accents. The 

combination of local materials, such as wood and 

brick, helps preserve rural sentiment within the 

context of contemporary architectural design. This 

is achieved through the incorporation of various 

wall components and the use of tongue and groove 

details in the wooden wall frame, which are typical 

features of the vernacular architecture of rice barns 

in Thailand’s northeastern region, or Isan. The construction 

of the wall frames involves the utilization 

of steel frames with vertical reinforcement and prefabricated 

cladding materials for the exterior walls. 

The wall that separates the garage and the interior 

walkway is constructed using bricks that feature 

apertures, which serve to augment air circulation 

and enable a semi-public connection for the area. 

The MakMuan House is a noteworthy example of 

how architectural design can effectively address 

and overcome various limitations and conditions, 

including budget constraints, users’ requirements 

for safety and comfort, and the desire for a poolvilla-like 

experience. Additionally, the design doesn’t 

fail to take the project’s surrounding context and 

landscape into account. The house’s roof components 

were meticulously designed to strike a balance 

between fulfilling elemental functions and meeting 

the demands of the users, making it an interesting 

work of architecture. 

“Despite the fact that the project was completed 

more than a year ago, the pictures I’ve seen after 

the house had been lived in show how the place 

remains just the same as when the construction was 

finalized. The living spaces look just like when they 

were photographed to be featured in an architectural 

magazine,” Tawichakorn concluded the architectural 

conversations that seem to be continuing at Makmuan 

House. 

fb.com/spacestudiodesign 

Project: Makmuan House Location: Sri Chom Phu District, Khon Kaen Province Architect: S.pace.studio Project Team: S.pace.studio 

Interior Designer: S.pace.studio Contractor: K. Kijrungrueang Company Land Area: 6 Rai Limited Building Area: 330 sq.m. Completion: 2021 

Materials: Cotto,Vista Flooring, Wilsonart Sanitary Ware: Cotto, American Standard Basin: Cotto, American Standard

90 


Wrap 

It 

Up 

1 

ASWA Architects has designed a new office for a manufacturer of 

innovative food wrapping film, with the roof form inspired by the look 

of a building covered in food wrapping film. 

Text: Rangsima Arunthanavut 

Photo Courtesy of ASWA (Architectural Studio of Work - Aholic) and Phuttipan Aswakool except as noted 

2 

01-02 

รูปภาพมุมสูงของอาคาร 

เห็นทรงหลังคารูปทรง 

โดดเด่น


WRAP IT UP 

92 93 

เมื่อถึงคราวขยับขยาย บริษัทนวัตกรรมฟิล์ม 

ถนอมอาหารอย่าง Sevenlakes ก็ถึงเวลาพา 

พนักงานหลายชีวิตย้ายมาอยู่อาคารสำานักงาน 

แห่งใหม่ในย่านลาดกระบังที่ได้ทีมสถาปนิก 

ASWA Architects มาออกแบบรังสรรค์ให้ 

สำานักงานแห่งใหม่เต็มไปด้วยบรรยากาศที่น่า 

ทำางานตลอดวัน ภายใต้อาคารทรงสี่เหลี่ยม 

คางหมูที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรูปทรงของ 

การห่อหุ้มอาหารด้วยฟิล์ม 

“เวลาซื้อแพ็กเกจหมูแฮม หรือไส้กรอก จะมี 

ฟิล์มขุ่นๆ ห่อหุ้มวัตถุดิบเหล่านั้นอยู่ นั่นคือ 

ผลิตภัณฑ์ของ Sevenlakes สิ่งที่เราพยายาม 

ตีความ จึงเป็นการทำาอย่างไรให้อาคารสื่อสาร 

ถึงตัวโปรดักต์นี้ได้มากที่สุด เรามองคุณสมบัติ 

ที่น่าสนใจของฟิล์มนี้อย่างหนึ่ง ซึ่งคือการเปลี่ยน 

แปลงไปตามรูปฟอร์มในการห่อหุ้มอาหารที่อยู่ 

ด้านใน” สถาปนิกเล่า 

จากแนวคิดดังกล่าว ทำาให้อาคารที่เราเห็นมี 

รูปทรงคล้ายสี่เหลี่ยมคางหมูที่ออกแบบขอบ 

มุมดัดโค้ง ลดเหลี่ยมมุมที่เกิดขึ้นให้มากที่สุด 

เพื่อให้อาคารล้อไปกับผลิตภัณฑ์ซึ่งไม่มีรูปทรง 

ที่ชัดเจน แต่เกิดจากการห่อหุ้มวัตถุดิบที่ซ่อน 

อยู่ภายใต้ฟิล์ม 

เมื่อได้ภาพแนวคิดหลักคร่าวๆ นำามาสู่การ 

จัดวางพื้นที่ใช้สอยภายใน โดยทางเจ้าของ 

ต้องการพื้นที่สำานักงานขนาดไม่ใหญ่ที่ประกอบ 

ไปด้วยส่วนทำางานสำาหรับพนักงาน 6-8 ที่ 

ห้องทำางาน 2 ที่นั่งของเจ้าของสามีภรรยา และ 

สระว่ายน้ำาขนาดพอดีที่ทั้งคู่สามารถพาลูกมา 

พักผ่อนได้ในวันหยุดสุดสัปดาห์ 

แต่เมื่อนำาพื้นที่ใช้สอยต่างๆ เหล่านี้มาอ้างอิง 

กับบริบทที่รายล้อมซึ่งเป็นพื้นที่โล่งกว้าง 

รอการพัฒนาในอนาคต ทำาให้ทีมออกแบบและ 

เจ้าของไม่สามารถรู้ได้เลยว่าพื้นที่ที่จะเกิดขึ้น 

โดยรอบจะมีลักษณะเป็นอย่างไร กลายเป็นที่มา 

ของการปิดล้อมของอาคารให้เกิดความเป็น 

ส่วนตัวในแง่ของมุมมอง แต่ในขณะเดียวกัน 

ก็มีการออกแบบคอร์ทยาร์ดจำานวน 2 ส่วน 

โดยแบ่งเป็นคอร์ทพื้นที่สีเขียว และสระว่ายน้ำา 

ที่ซ่อนอยู่ ราวกับเป็นโอเอซิสให้กับผู้ใช้งาน 

ภายใน 

เริ่มจากทางเข้าบริเวณใจกลางอาคาร เราจะ 

พบคอร์ทสีเขียวตั้งอยู่ที่อยู่มุมซ้าย ซึ่งจะมอง 

เห็นได้จากส่วนทำางานของพนักงานและจาก 

ห้องประชุม ส่วนทางด้านขวาจะเป็นห้องทำางาน 

ของสองเจ้าของเชื่อมเข้าสู่คอร์ทสระว่ายน้ำาที่ 

ปลายอีกด้านของอาคาร 

“คอร์ทพื้นที่สีเขียว เป็นจุดที่เราอยากให้เขาได้ 

แชร์สเปซกัน ซึ่งก็เติมบรรยากาศการทำางานไป 

ด้วย และอยากให้บรรยากาศสดชื่นจากพื้นที่ 

สีเขียวภายในเป็น Surprise Space ที่แตกต่าง 

จากบรรยากาศภายนอกอาคารอย่างสิ้นเชิง” 

โจทย์ตั้งต้น คือความต้องการที่อยากให้พนักงาน 

ทำางานอย่างมีความสุขและอยู่ในบรรยากาศ 

ผ่อนคลาย คอร์ทสีเขียวจึงเปรียบเสมือนพื้นที่ 

หลัก โดยสถาปนิกออกแบบให้มีความสูง 6 เมตร 

ซึ่งเป็นความสูงในระยะที่แสงธรรมชาติส่องถึง 

ได้อย่างพอดี สร้างภาวะอยู่สบายสำาหรับการ 

ทำางานได้จริง โดยความสูงของคอร์ทสีเขียวนี้ 

จะเป็นจุดสูงสุดของอาคาร ก่อนจะไล่ไปถึงพื้นที่ 

ต่ำาสุดอย่างคอร์ทสระว่ายน้ำา รูปทรงของหลังคา 

ที่ค่อยๆ ไล่ระดับจากสูงไปต่ำ า จึงล้อไปกับแนว- 

คิดการห่อหุ้มของฟิล์มห่ออาหารที่ผู้ออกแบบ 

ตั้งใจไว้ตั้งแต่ต้น 

เพื่อให้อาคารดูไล่ระดับเป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมด 

คล้ายการหุ้ม ประกอบกับแนวคิดภาษาการ 

ออกแบบสถาปัตยกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของ 

ASWA ทางผู้ออกแบบจึงมองหาวัสดุหลักหนึ่ง 

ชนิดที่สามารถห่อหุ้มอาคารเป็นเนื้อเดียวกันได้ 

ตั้งแต่หลังคาไล่มาจนถึงผนังอาคารภายนอก 

เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ทำ าให้เห็นแนวคิดโดดเด่น 

ออกมาอย่างชัดเจน ก่อนจะมาเจอกับวัสดุ 

ที่ตอบโจทย์อย่าง อะลูมิเนียมคอมโพสิตสีดำา 

เมทัลลิก ที่ให้โทนสีเข้มในแบบที่เจ้าของต้องการ 

สามารถดัดโค้งได้ และยังมีคุณสมบัติความ 

สะท้อน (Reflective) คล้ายฟิล์มถนอมอาหาร 

แต่การเลือกใช้อะลูมิเนียมคอมโพสิตทั้งหมด 

ก็ตามมาด้วยข้อจำากัดของวัสดุที่ไม่สามารถ 

ป้องกันอากาศ หรือน้ำารั่วซึมได้เนื่องจากแผ่น 

ต่อแผ่นของวัสดุต้องเชื่อมเข้าหากันด้วยการ 

ใช้ซิลิโคน สถาปนิกจึงออกแบบซ้อนโครงสร้าง 

หลังคาสองชั้นในลักษณะ Double Roof เพื่อ 

ให้อะลูมิเนียมคอมโพสิตเป็นเพียงผิวชั้นนอก 

ของอาคาร (Secondary Skin) ในขณะที่ด้าน 

ในดีไซน์ซ่อนโครงสร้างเหล็กของอาคารเอาไว้ 

ทั้งหมด เช่นเดียวกับส่วนหลังคาที่มีการซ้อน 

โครงสร้างหลักอย่างวัสดุเมทัลชีทเอาไว้ภายใน 

ก่อนจะใช้อะลูมิเนียมคอมโพสิตเป็นเพียงวัสดุ 

ห่อหุ้มที่เปลือกชั้นนอกของอาคาร 

แน่นอนว่า การออกแบบอาคารที่ลดเหลี่ยมมุม 

ให้โค้ง ทำาให้การก่อสร้างยากขึ้น สถาปนิกจึง 

ต้องเลือกวัสดุให้เหมาะกับพื้นที่ที่ควรจะเป็น ซึ่ง 

อะลูมิเนียมคอมโพสิตตอบโจทย์เพราะสามารถ 

ดัดโค้งได้ไม่ยาก แต่มีข้อจำ ากัดเรื่องรัศมีความ 

โค้ง จึงเป็นที่มาของเส้นสาย รูปลักษณ์ของมุม 

อาคาร รวมถึงหลังคา 

ส่วนในขั้นตอนการก่อสร้าง การเชื่อมอะลูมิเนียม- 

คอมโพสิตแต่ละชิ้นเข้าด้วยกันไม่เหมือนอาคาร 

ทั่วไปเพราะต้องไล่เรียงตั้งแต่หลังคาสู่ผนัง ทำ าให้ 

ทางสถาปนิกต้องมีการถอดแพทเทิร์นของวัสดุ 

แต่ละชิ้นให้มีขนาดที่พอดีทั้งในด้านประโยชน์ 

ใช้สอย และการออกแบบ ก่อนจะส่งต่อให้กับทีม 

ผู้รับเหมาและเหล่าช่างหน้างาน 

“เราพยายามดีไซน์แพทเทิร์นเหล่านี้ให้มัน 

เป็นเส้นที่ต่อเนื่องตรงกันทั้งหมดตั้งแต่หลังคา 

ลงมาสู่ผนังอาคารภายนอก ซึ่งในรายละเอียด 

ของเส้นเชื่อม เรายังต่อรองกับทางผู้รับเหมา 

โดยขอเป็นเส้น Joint ซิลิโคนขนาดร่องบาง 

ที่สุดเท่าที่เขาจะทำาได้ เพื่อให้งานออกแบบดู 

กลมกล่อมเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งหมด” 

สถาปนิกทิ้งท้ายด้วยความประทับใจว่า ที่ 

โครงการรูปทรงสะดุดตานี้ประสบความสำาเร็จ 

เป็นเพราะได้ทีมที่มองเห็นภาพตรงกันทั้งผู้- 

ออกแบบ เจ้าของโครงการ รวมถึงผู้รับเหมา 

ที่ต่างก็มีส่วนช่วยทำาให้แนวคิดตั้งต้นเดินทาง 

มาถึงขั้นตอนสุดท้ายได้อย่างลุล่วง นำามาสู่ 

ภาพอาคารรูปลักษณ์จัดจ้านที่ชัดเจนในแนวคิด 

ตั้งแต่หลังคาจรดพื้น และยังสามารถถ่ายทอด 

เรื่องราว ความเป็นธุรกิจแบรนด์ฟิล์มถนอม 

อาคารของสองเจ้าของสามี-ภรรยาผ่านการ 

ตีความสถาปัตยกรรมไว้อย่างน่าสนใจ 

03-04 

รูปทรงหลังคาคล้าย 

สี่เหลี่ยมคางหมูยกสูง 

พร้อมช่องเปิดสูง 6 เมตร 

ตรงจุดสูงสุดและไล่ระดับ 

ลงมาปรากฎเป็นรูปด้าน 

ของอาคาร 

4 

3


WRAP IT UP 

94 95 

“What we attempted to decipher was how to construct 

a structure that would reflect the company’s product. 

We had a look at all of the interesting qualities of the film, 

and the one that stood out to us is its ability to adapt to 

the shape of whatever type of food it wraps around” 

05 

รูปด้านทั้ง 4 ด้านของ 

อาคาร แสดงการห่อหุ้ม 

ด้วยอลูมิเนียมคอมโพสิต 

สีเข้มตั้งแต่หลังคาจรด 

ผนังเป็นชิ้นเดียว 

6 

The architect developed interior functional spaces 

by following the owners’ brief to build a moderatesized 

office space that would be enough to accommodate 

6–8 employees, including a private office 

for the two owners, who are a married couple. A 

medium-sized swimming pool for their children to 

play in on weekends was an additional request. 

However, with the site’s surrounding context being 

a vast empty land, the owner and the design team 

initially had no knowledge of what it would be developed 

into but developing a functional program 

in reference to that led to the idea of creating an 

enclosure to provide the building’s users with the 

best possible privacy. Meanwhile, the design includes 

two courtyards, which house green areas 

and the swimming pool, serving as the project’s 

oasis. 

When the time for an expansion came around, 

Sevenlakes, a manufacturer of innovative food 

wrapping film, chose to relocate its staff to a new 

location in Bangkok’s Lad Krabang area. The new 

office was designed by ASWA Architects, who 

created a high-quality workspace with a pleasant 

working atmosphere inside a trapezoidal architecture 

inspired by the look of a building covered in 

a layer of food wrapping film. 

06-07 

มุมอาคารที่ตัดขอบโค้งลด 

ความเหลี่ยมมุมของอาคาร 

“When you buy a pack of ham or sausage, there’s 

usually a piece of translucent film wrapping each 

of the ingredients, and that film is what Sevenlakes 

is known for. What we attempted to decipher was 

how to construct a structure that would reflect the 

company’s product. We had a look at all of the 

interesting qualities of the film, and the one of the 

purposes that stood out to us is its ability to adapt 

to the shape of whatever type of food it wraps 

around,” the architect explained. 

5 

From that concept, the building’s trapezoidal shape 

is developed to have twisted, curved corners with 

sharpness eliminated, corresponding with the very 

flexible physical property of the product, whose 

form is defined by the ingredient beneath which it 

envelops. 

7

8 

08 

การเปิดช่องเปิดสู่คอร์ท 

2 พื้นที่แทรกสวนต้นไม้ 

สีเขียวและสระว่ายน้ำา 

ติดกับอาคารและพื้นที่ 

ภายนอกที่ออกแบบไว้ 

เป็นสีเข้ม


WRAP IT UP 

98 99 

09 

ผังพื้นอาคารชั้นล่าง 

และผังหลังคา 

10 

รูปตัดอาคาร 

“These patterns are designed as 

continuous lines running from 

the roof to the exterior walls. 

The joineries’ intricacies were 

obtained by working with the 

contractor to keep the joints as 

thin as possible to get an illusion 

of a cohesive, unified mass.” 

Walking through the door leading into the center 

of the building, one will see a green space in the 

form of a courtyard to the left. The area is visible 

from the office and the conference room. To the 

right is the private office of the two owners, which 

leads to the swimming pool courtyard situated at 

the opposite end of the building. 

“The courtyard with green space is intended for 

everyone to share and enjoy. It adds a pleasant 

atmosphere to the workspace since we want the 

lush courtyard to be the surprise space that sets 

the atmosphere of the interior program apart from 

the outside environment.” 

The basic requirement for the design is an office 

space with a pleasant and relaxing environment 

for the employees’ happiness and well-being. This 

courtyard functions as the heart of the program 

with its 6-meter height, which brings ample natural 

light and thermal comfort to the workspace. The 

height of the court is the building’s highest point, 

with the swimming pool court being the project’s 

lowest plane. The roof’s shape descends from 

higher to lower levels, conforming to the design’s 

food wrapping film concept. 

11 

สถาปนิกดีไซน์ซ้อน 

โครงสร้างหลังคาสองชั้น 

เป็น Double Roof เพื่อ 

ป้องกันอากาศหรือน้ำา 

รั่วซึม 

9 

10 11

WRAP IT UP 

101 

13 



ช่องเปิดสู่พื้นที่ส่วนกลาง 

อาคาร 

13 

ที่มุมหนึ่งของพื้นที่ภายใน 

มีคอร์ดพื้นที่สีเขียวเป็น 

หัวใจสำาคัญ ช่วยสร้าง 

บรรยากาศการทำางานให้ 

กับเหล่าพนักงาน 

ASWA demonstrates its unique architectural 

language through the use of a principal material 

that would render the look of beautifully wrapped 

masses on the building’s roof structure and external 

walls. The design results in the building’s 

appearance as a single, unified architectural form, 

with everything wrapped together under one layer. 

The endeavor yields a final look that precisely 

represents the design concept. The metallic black 

aluminum composite was the chosen principal 

material due to its ability to provide the desired 

dark color tone while also being flexible and reflective, 

comparable to the physical properties of the 

company’s food packaging film. 

The use of aluminum composite panels for the 

entire construction of the building’s skin came 

with certain disadvantages, the most significant 

of which is the inability to prevent air and water 

leakage owing to the joineries between panels, 

which had to be bonded together using silicone. 

The architect devised a double roof structure so 

that the material would only serve as a secondary 

skin, with the underlying steel structure hidden 

beneath. The roof is likewise coated with metal 

sheets, while the building’s shell is constructed 

using aluminum composite panels.


WRAP IT UP 

102 103 

14 

อีกฝั่งหนึ่งของอาคาร 

เป็นคอร์ทสระว่ายน้ำา 

สำาหรับสองเจ้าของเพื่อ 

การพักผ่อนสุดสัปดาห์ 

รังสิมา อรุณธนาวุฒิ 

จบการศึกษาภูมิสถาปั ตย- 

กรรม จากมหาวิทยาลัย 

เกษตรศาสตร์ ปั จจุบัน 

เป็ นนักเขียนเกี่ยวกับงาน 

ออกแบบในสื่อสถาปั ตย- 

กรรม 

Rangsima 

Arunthanavut 

graduated from the 

Department of Landscape 

Architecture, 

Kasetsart University. 

She is currently a 

writer on design in 

architectural media. 

A building with tapering corners was certainly 

challenging to create. The design team needed to 

find the right materials to achieve such a difficult 

design, and aluminum composite fits the bill for its 

bendable characteristics, but with limits regarding 

the curving angles. This resulted in the lines, corners, 

and roof structure of the completed building. 

Because the material must cover the roof all the 

way to the walls, installing aluminum composite 

panels into the specified shape differs from how it 

is generally done with other structures. The design 

team was responsible for creating working drawings 

for the contractor team and builders to work 

with, detailing the varied patterns of the panels 

in order for them to be in the proper dimensions 

and sizes to deliver the required function and 

aesthetics. 

“We attempted to design these patterns as continuous 

lines running from the roof to the exterior 

walls. The joineries’ intricacies were obtained by 

working with the contractor to keep the silicone 

joints as thin as possible so that we could get the 

illusion of a cohesive, unified mass.” 

The architectural team expressed their admiration 

for this project and attributed its success to the 

shared vision of the owners, the design team, and 

the contractor, all of whom contributed to the idea 

being transformed into reality in the most beautiful 

way. The ultimate result of this combined endeavor 

is a structure with a distinct and visually arresting 

look and architectural interpretation that captures 

not just the design concept but also the story of 

the food wrapping film brand that this couple has 

created together. 

aswarchitect.com 

Project: SLOT Office Location: Bangkok, Thailand Type: Office Building Area: 230 sq.m. Total Floor Area: 230 sq.m. Landscape Area: 900 sq.m. Bldg. 

Coverage Ratio: 25 Gross Floor Ratio: 27 Structure: Steel Structure Exterior Finish: Metallic Black Aluminum Composite Cladding Interior Finish: Plaster 

Design Period: 6 months Construction Period: 12 months Project Architect: Phuttipan Aswakool Team: Phuttipan Aswakool, Chotiros Techamongklapiwat, 

Prassapol Suguanwattanaraksa Collaborator: LAAB (Landscape Design) Construction: CCK 

14

104 

materials 

METAL ROOFING MATERIALS 

105 

Metal 

Roofing 

Materials 

Metal roofing is an alternative 

roofing material that creates beauty, 

modernity, strength, is light weight, 

and can cover a large area without 

the need for many structural columns. 

In this issue, the ASA Journal examines 

some important factors to consider 

when selecting metal materials for 

metal roofing. 

Metal roofing is an alternative roofing material 

that is an architectural design element that 

creates beauty, modernity, strength, is light 

weight, and can cover a large area without the 

need for many structural columns. There are 

many alternative thin sheet metal materials 

used in the building and construction industries 

today, such as coated steel, stainless steel, 

aluminum, copper, zinc alloy, titanium, etc. 

These are in the form of corrugated, smooth 

corrugated sheets with high ridges (standing 

seam), sheet stamping forming tiles (roof tile), 

and flat tiles of various forms overlaid (shingle). 

In Thailand, the most popular and widely used 

are the rust-proof, color-coated steel sheets, 

which can be used in both large public buildings 

and small homes, with corrugated sheet products 

installed on top of the side sheets, which 

will reduce the joints of the sheets and reduce 

the chance of leakage. 

หลังคาโลหะเป็ นทางเลือกวัสดุหลังคาซึ ่งเป็ นองค์ประกอบงานออกแบบสถาปั ตยกรรม 

ที่สร้างความสวยงาม ทันสมัย แข็งแรง มีน ้ำหนักเบา สามารถครอบคลุมพื้นที่ได้กว้าง 

ขวางโดยไม่ต้องมีเสาโครงสร้างมารองรับมากมาย มาเกะกะในพื้นที่ใช้สอย วัสดุโลหะ 

แผ่นบางที่เป็ นทางเลือกนำมาใช้ ในงานอาคารมีหลากหลาย ได้แก่ เหล็กเคลือบโลหะ 

กันสนิม เหล็กสเตนเลส อะลูมิเนียม ทองแดง สังกะสีผสมไททาเนียม เป็ นต้น รูปแบบ 

ที่นำมาใช้งานมีทั้งเป็ นแบบแผ่นรีดลอนยาว (Corrugated) แผ่นท้องลอนเรียบมีสัน 

ลอนสูง (Standing Seam) แผ่นปั ๊ มขึ ้นรูปแบบกระเบื้อง (Roof Tile) แผ่นกระเบื้อง 

แบนรูปแบบต่างๆ วางซ้อนทับ (Shingle) ที่เห็นใช้กันแพร่หลายในบ้านเราวันนี้ส่วนใหญ่ 

จะเป็ นแผ่นเหล็กเคลือบกันสนิม เคลือบสี ใช้ทั้งงานอาคารสาธารณะขนาดใหญ่จนถึง 

บ้านพักอาศัยขนาดเล็ก ผลิตภัณฑ์ลักษณะแผ่นยาวรีดลอนติดตั้งซ้อนทับแผ่นด้านข้าง 

จะลดรอยต่อแผ่นวัสดุ ลดโอกาสที่จะเกิดการรั่วซึม 

Text: Patikorn Na Songkhla

106 

materials 


107 

ปัจจัยในการพิจารณาเลือกใช้งานหลังคาโลหะนอกเหนือจากเรื่องความ 

สวยงาม ราคา รายละเอียดในการติดตั้งแล้ว ยังมีเรื่องอื่นๆ ที่จะต้อง 

พิจารณาให้ความสำาคัญ ได้แก่ อายุการใช้งาน ความหนาของโลหะ 

การเกิดสนิม วัสดุเคลือบช่วยป้องกันการกัดกร่อน ระบบเคลือบสี การ 

เข้ากันของวัสดุ (Compatibility) การป้องกันการรั่วซึม การเลือกฉนวน 

กันความร้อน ค่าการป้องกันเสียง งานติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ บนหลังคา 

มาตรฐานการทดสอบ การรับประกันทั้งผลิตภัณฑ์และการติดตั้ง 

การติดตั้งหลังคาโลหะแต่ละประเภทจะมีรายละเอียดการติดตั้งแตกต่าง 

กันไป สถาปนิกจะต้องศึกษา ทำางานออกแบบ กำาหนดรายละเอียดให้ 

สอดคล้องกับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ การทดสอบตามมาตรฐานสากล เพื่อ 

ให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด มีความสวยงาม แข็งแรง ป้องกันการรั่วซึม 

ของน้ำา ลดปัญหาความเสียหายอันอาจจะเกิดขึ้นได้หลังการติดตั้งและ 

ใช้งาน 

หลังคาเหล็ก 

หลังคาโลหะที่มีการใช้งานแพร่หลายในบ้านเรามากที่สุดเป็นหลังคา 

เหล็ก ซึ่งเหล็กจะมีประเด็นปัญหาหลักเป็นเรื่องของการเกิดสนิม 

กัดกร่อนเจาะทะลุจนเกิดเป็นความเสียหายกับอาคารและทรัพย์สิน 

ที่อยู่ภายใน จนในปัจจุบันได้มีการพัฒนาวัสดุเคลือบผิวคุณภาพสูงทำา 

ให้สามารถยืดระยะเวลาอายุการใช้งานหลังคาเหล็ก เช่น การใช้โลหะ 

อะลูมิเนียมผสมสังกะสีหรือโลหะอื่นที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมา เป็นต้น 

หลังคาเหล็กเคลือบโลหะกันการกัดกร่อนหรือกันสนิมอาจมีการเคลือบ 

สีช่วยให้ความสวยงาม และเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันการกัดกร่อน 

ยืดอายุการใช้งาน นอกจากนั้นยังช่วยการลดอุณหภูมิพื้นผิวหลังคา 

ช่วยประหยัดการใช้พลังงานด้วยการลดความร้อนที่จะส่งผ่านหลังคา 

เข้าสู่ภายในตัวอาคาร 

หลังคาเหล็กสเตนเลส 

สถาปนิกไทยอาจไม่ค่อยคุ้นเคยกับหลังคาเหล็กสเตนเลสหรือเหล็กกล้า 

ไร้สนิม Website www.worldstainless.org ให้ข้อมูลของเหตุผลในการ 

เลือกใช้งานหลังคาเหล็กสเตนเลสเป็นเรื่องของความสวยงาม แข็งแรง 

คงทน อายุการใช้งานยาวนาน ลดการดูแลบำารุงรักษา ระบบหลังคา 

โดยรวมมีน้ำาหนักเบา ตัวอย่างอาคารที่มีอายุอยู่มาอย่างยาวนาน ได้แก่ 

ตึกไครส์เลอร์ในมหานครนิวยอร์ก ซึ่งสร้างเสร็จมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1931 

ใช้เหล็กสเตนเลสคุณภาพสูงประกอบด้วยโครเมียม 18% และนิกเกิล 

8% ยังมีตัวอย่างสถาปัตยกรรมสมัยใหม่ออกแบบโดยสถาปนิกชาว 

อเมริกัน Frank Gehry ที่รังสรรค์งานโดยการใช้วัสดุเหล็กสเตนเลส 

มาหุ้มอาคารสร้างความแตกต่างแปลกตาน่าสนใจ เช่น Walt Disney 

Concert Hall ที่ Los Angeles เป็นต้น 

There are many factors to consider when selecting materials 

for roofing besides aesthetics, price, and installation details: 

service life, thickness of metal, rust, coating material to prevent 

corrosion, coating system, material compatibility, waterproofing, 

selection of insulation, and sound protection value. 

Installation of equipment on the roof, testing standards, and 

a warranty for both the product and the installation. 

Each type of metal roof installation comes with different details. 

Architects and designers need to study, work on designs, and 

determine details in accordance with product standards. What 

is also important is testing certification according to international 

standards to get the highest efficiency, be beautiful, 

strong, prevent water leakage, and reduce problems that may 

occur after installation and use. 

Steel roof 

Metal roofs that are widely used in Thailand are steel ones. 

The main problem with steel roofs is rust, corrosion, and 

penetrating, causing damage to the building and its properties. 

Until now, high-quality coating materials have been developed 

to extend the life of steel roofs, such as zinc-aluminum alloy or 

other metals. Corrosion-resistant metal roofing may have a 

special coating to help make it beautiful, enhance anticorrosion 

performance, and prolong service life. It also helps to 

reduce the temperature of the roof surface and helps conserve 

energy by reducing heat transmitted through the roof into the 

building. 

Stainless steel roof 

In Thailand, architects and designers may not be familiar 

with stainless steel roofing. This interesting website, 

www.worldstainless.org, provides some good reasons for 

choosing stainless steel roofing for beauty, strength, durability, 

and long service life. It also helps reduce maintenance costs, 

and the roof system is lightweight. The Chrysler Building in 

New York City is an example of a long-standing building. It 

was completed in 1931 and used high-quality stainless steel 

containing 18% chromium and 8% nickel. It also features a 

modern architectural example, the Walt Disney Concert Hall 

in Los Angeles, designed by American architect Frank Gehry. 

In this world-renowned project, stainless steel is used distinctively 

to cover the building, creating an extraordinary and 

dramatic difference. 

1 2 3 

5 

6 

4 

Photo Reference 

1. atas.com / 2. zappone.com / 3. roof-experts.ca 

4. lawnstarter.com / 5-6. tatabluescopesteel.com 

7. roofventsaustralia.com.au 

7

108 

materials 


109 

หลังคาอะลูมิเนียม 

หลังคาอะลูมิเนียมใช้โลหะอะลูมิเนียมคุณภาพสูง มีความแข็งแรง คงทน 

ต่อสภาวะอากาศ มีน้ำาหนักเบา ช่วยตอบสนองสุนทรียะงานออกแบบ 

เป็นวัสดุทางเลือกสามารถนำาไปใช้กับงานประเภทสนามบิน งานชายฝั่ง 

ทะเล ย่านอุตสาหกรรม รวมถึงพื้นที่ต่างๆ ที่มีสภาวะการกัดกร่อนสูง 

การออกแบบเพื่อการใช้งานอย่างเป็นระบบยังช่วยในการป้องกันความ 

ร้อน ให้ค่าการกันความร้อนตั้งแต่ 0.11 W/m2K ป้องกันเสียงรบกวน 

ได้เป็นอย่างดีสามารถให้ค่าการกันเสียง Rw 31-75 dB 

วัสดุอะลูมิเนียมมีความยืดหยุ่นตอบสนองในหลากหลายลักษณะงาน 

ออกแบบสมัยใหม่ สามารถดัดโค้งได้เรียบร้อยให้ความสวยงาม สร้าง 

งานในรูปแบบที่หลังคาเหล็กไม่สามารถทำาได้ อายุการใช้งานยาวนาน 

มากกว่า 30 ปี มีระบบเคลือบผิวคุณภาพสูงเฉดสีต่างๆ ให้พิจารณาเลือก 

11 

Aluminum roof 

Aluminum roofs usually use high-quality aluminum metal that 

is strong, resistant to weather conditions, and light-weight, 

helping to meet the aesthetics of the design. It is an alternative 

material that can be used in particular building types and 

projects, such as airports, coastal work, industrial districts, and 

areas with highly corrosive conditions. The design, with its practical 

systematics, also helps to prevent overheating, providing 

heat protection from 0.11 W/m2K, good noise prevention, and 

being able to provide sound protection from 31–75 dB. 

One advantage is that aluminum is flexible enough to respond 

to many modern designs. It can be bent neatly to give beauty 

and create works in ways that metal roofs cannot do. It also 

has a more than 30-year service life and a high-quality coating 

system with various shades of color. 

หลังคาโลหะอื่นๆ 

หลังคาทองแดง หลังคาสังกะสีผสมไททาเนียม หลังคาไททาเนียม เป็น 

หลังคาที่ให้ความสวยงามทรงคุณค่าด้วยสัจจะของวัสดุ มีคุณลักษณะ 

เฉพาะเฉพาะแตกต่างจากหลังคาโลหะที่ใช้กันทั่วไป มีความคงทนต่อ 

สภาวะอากาศ ทนการกัดกร่อนสูง ลดภาระการดูแลรักษา แต่ก็จะมีราคา 

ค่อนข้างสูงต้องอาศัยผู้ติดตั้งที่มีประสบการณ์เฉพาะเข้ามาดำาเนินการ 

การใช้งานหลังคาทองแดงในต่างประเทศได้รับการพิสูจน์ยืนยันโดยมี 

อายุการใช้งานยาวนานนับร้อยปี ทนทานสภาวะอากาศ ทนสภาพการ 

กัดกร่อนได้อย่างดีเยี่ยม ให้ความสวยงามร่วมสมัย มีลักษณะเฉพาะ 

แตกต่างจากวัสดุหลังคาอื่นๆ จนมีการพัฒนาวัสดุโลหะทางเลือกเพื่อ 

การใช้งานหลังคาให้มีประสิทธิภาพ อายุการใช้งานไม่ด้อยไปกว่าหลังคา 

ทองแดง 

9 

8 


13 

Copper roof 

Copper roofs, zinc alloy roofs, and titanium roofs are a few 

examples of metal roofing that provide beauty and natural 

value with the truth of the material. Some unique features of 

these materials that are different from other metal roofs commonly 

used are their resistance to weather conditions, high 

corrosion resistance, and reduced maintenance burden. But 

these qualities come at a relatively high price and usually 

require an experienced installer to perform them. 

Copper roofs abroad have been proven to last hundreds of 

years, with great weather and excellent corrosion resistance, 

providing contemporary beauty. These roofs are unique and 

distinctive. Recently, there has been an effort to develop 

alternative metal materials for practical roofing with a longlasting 

service life that is equally effective as conventional 

copper roofing. 

Problems with metal roofing 

The website www.sheffieldmetals.com has listed seven 

issues with metal roofing in addition to the noise that rain 

causes: 

14 

The oil canning effect is a phenomenon that occurs when 

metal hits light and the surface appears wavy and reflected. 

These reflections are uneven, thus creating effects that are 

not neat and beautiful. This is a typical feature of thin, smooth 

metal with a wide face, where when the metal is subjected to 

too much stress, it cannot maintain a flat shape, resulting in 

a visible wavy surface. This may be caused by the production 

section, sheet cutting, insufficient space for stretching or contracting, 

modifying the original structural form that causes 

stress or improper handling, and storage by the contractor. 

10 


8. skyscrapercenter.com 

9. californiathroughmylens.com 

10. brabbu.com 

11-13. Picture Credit: Kingspan 

14. mainichi.jp

110 

materials 


111 

ปั ญหาหลังคาโลหะ 

นอกจากเรื่องของเสียงรบกวนที่เกิดจากฝนตกกระทบแผ่นหลังคาโลหะ 

แล้ว Website www.sheffieldmetals.com ได้กล่าวถึง 7 ปัญหาของ 

หลังคาโลหะ 

โลหะหย่อน (Oil Canning Effect) เป็นอาการที่เกิดขึ้นเมื่อโลหะกระทบ 

แสงแล้วพื้นผิวปรากฏเงาสะท้อนดูพลิ้วเป็นคลื่น สะท้อนแสงจะไม่ 

สม่ำาเสมอกัน แลดูไม่เรียบร้อยสวยงาม ซึ่งเป็นลักษณะทั่วไปของโลหะ 

ผิวเรียบบางและมีหน้ากว้าง ที่เมื่อโลหะรับแรงเค้นมากเกินไปจนไม่ 

สามารถคงรูปแบนราบจึงทำาให้เกิดพื้นผิวคลื่นที่มองเห็นได้ โดยอาจมี 

สาเหตุมาจากส่วนการผลิต การตัดแผ่น การที่พื้นที่ในการยืดหรือหดตัว 

ไม่เพียงพอ การปรับเปลี่ยนรูปแบบโครงสร้างเดิมที่ทำ าให้เกิดความเครียด 

หรือมีการจัดการ การจัดเก็บ ที่ไม่เหมาะสมโดยผู้ติดตั้ง แนวทางที่จะ 

ลดปัญหาโลหะหย่อนอาจทำาได้โดยการเพิ่มความหนาแผ่นโลหะ ใช้ 

ลักษณะรูปลอนที่ลดขนาดพื้นผิวเรียบ เลือกใช้แผ่นวัสดุที่มีค่าการสะท้อน 

แสงต่ำาหรือมีลักษณะพื้นผิวแบบด้าน การเลือกซื้อแผ่นโลหะที่มีการปรับ 

สภาพความตึงผิวเพื่อจะได้ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงสู่สภาพเดิม ติดตั้งบน 

แผ่นรองรับหลังคาแบบเรียบ และสิ่งที่สำาคัญมากที่สุด คือ เลือกผู้ติดตั้ง 

ที่มีทักษะและประสบการณ์ มีความรู้ในการจัดการเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา 

โลหะหย่อน 

การรั่วซึม (Leaking) เป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น นอกจากจะ 

เกิดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมแล้ว ยังสามารถทำาให้เกิดความเสียหาย 

กับสิ่งของมีค่าในอาคาร การรั่วซึมมีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอ ในบางกรณี 

เกิดจากธรรมชาติกระทำาซึ่งนอกเหนือการควบคุมของเรา หรือบ่อยครั้ง 

ก็เกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ สาเหตุที่นำาไปสู่การรั่วซึมของหลังคา 

ได้แก่ ภาวะฝนตกหนัก แรงลม ความเสียหายของโครงสร้าง สภาพ- 

อากาศลักษณะอื่นๆ รวมถึงการติดตั้งที่ผิดพลาด การใช้วัสดุอุปกรณ์ 

ไม่ถูกต้องเหมาะสม 

The solution to reducing the problem of metal slack could be 

to increase the thickness of the metal sheet, use a corrugated 

appearance that reduces the size of a smooth surface, select 

a sheet profile with low reflectivity or a matt finish, or those 

that have been adjusted to the surface tension so that it will 

not change to the original condition, or install them on a flat 

roof support plate. The most important thing is choosing 

skilled and experienced builders with management skills and 

knowledge to avoid metal slack problems. 

Leaking is a common problem that causes damage to valuables 

and incurs repair costs, but it is always possible. In 

some cases, natural actions are beyond control, often due to 

human error. Causes that lead to roof leakage include heavy 

rain, strong winds, structural damage, and other weather 

conditions, including faulty installations or improper use of 

equipment. 

Scuffing and scratching can occur in the same way on painted 

or coated materials. Such marks can appear at all stages, 

from slitting, coiling, and transportation to installation at the 

construction site or trampling on the roof. Contractors and roof 

installers must pay attention to management and care to avoid 

damage to the surface of the roof sheet material that may occur. 

However, if the damage causes a deep groove in the material, 

it may be necessary to replace the sheet immediately. 

Corrosion can occur with different types of roofing materials. 

The appropriate materials and coatings will help prevent 

corrosion. In general environments and those that are highly 

corrosive, such as industrial areas, the area near the sea has 

high salinity. Additional considerations include the protective 

coating on the back surface of the metal roof, dissimilar metal 

corrosion, and prevention of corrosion around the cutting edge. 

15 

16 

การขูดขีดจากวัตถุเกิดเป็นรอย (Scuffing & Scratching) สามารถเกิด 

ขึ้นได้ลักษณะเดียวกันกับวัสดุที่มีการเคลือบสี การเกิดรอยดังกล่าวเกิด 

ได้ในทุกขั้นตอนตั้งแต่การตัดแบ่งแผ่น การม้วนแผ่น การขนส่ง จนถึง 

การติดตั้งที่สถานที่ก่อสร้าง การเหยียบย่ำาบนหลังคา ผู้รับเหมา ผู้ติดตั้ง 

งานหลังคาจึงต้องให้ความสำาคัญในการจัดการดูแล เพื่อไม่ให้ผิวหน้า 

วัสดุแผ่นหลังคาเกิดความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้หากความเสีย 

หายนั้นกินเข้าไปในเนื้อวัสดุมากอาจเป็นความจำาเป็นต้องเปลี่ยนแผ่น 

โดยทันที 

Dissimilar metals and materials that come into contact can 

cause deterioration. For example, aluminum-zinc-coated steel 

roofing performs better when not exposed to copper, brick, 

lumber, steel, or concrete. Contact with such materials will 

cause galvanic corrosion. Therefore, the suitability of using 

all materials in the roof installation must be overseen and 

checked. 

17 

การกัดกร่อน (Corrosion) สามารถเกิดขึ้นได้กับวัสดุหลังคาประเภท 

ต่างๆ วัสดุและระบบเคลือบผิวที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันการกัดกร่อน 

ในสภาวะแวดล้อมทั่วไป สภาวะแวดล้อมที่จะมีการกัดกร่อนสูง เช่น 

ย่านอุตสาหกรรม พื้นที่ใกล้ทะเลมีความเค็มสูง นอกจากนั้นเรื่องที่ต้อง 

พิจารณาเพิ่มเติม ได้แก่ การเคลือบป้องกันพื้นผิวด้านหลังของหลังคา 

โลหะ การกัดกร่อนจากการสัมผัสของโลหะต่างชนิดกัน (Dissimilar 

metal corrosion) การป้องกันการกัดกร่อนบริเวณขอบแผ่นตัด 


15. kme.com 

16. rheinzink.com 

17. stylepark.com 

18. rheinzink.com 

19-20. sheffieldmetals.com 

18 

19 

20

112 

materials 


113 

23 

21 

22 

24 

โลหะและวัสดุต่างชนิด (Dissimilar Metals & Materials) ที่สัมผัสกัน 

อาจทำาให้เกิดการเสื่อมสภาพ ตัวอย่างเช่น หลังคาเหล็กเคลือบอะลูมิเนียม 

ผสมสังกะสีจะทำาหน้าที่ได้ดีเมื่อไม่ได้สัมผัสกับวัสดุทองแดง อิฐ ไม้ 

แปรรูป เหล็ก และคอนกรีต โดยที่เมื่อได้สัมผัสกับวัสดุดังกล่าวจะเกิด 

การกัดกร่อนอันเนื่องจากความต่างศักย์ (Galvanic Corrosion) ดังนั้น 

จึงต้องมีการตรวจสอบความเหมาะสมของการใช้วัสดุอุปกรณ์ทุกส่วน 

ในการติดตั้งงานหลังคา 

สีเกิดเป็นฝุ่นผง ซีดจาง (Chalking & Fading) สามารถเกิดขึ้นได้กับ 

งานหลังคาโลหะเคลือบสี การเกิดฝุ่นขาวบนพื้นผิวเคลือบสีเกิดจากการ 

เสื่อมสภาพของเรซินเมื่อสัมผัสรังสี UV การซีดจางเกิดเมื่อเม็ดสีที่ใช้ 

กับพื้นผิวโลหะสลายตัวเนื่องจากรังสี UV น้ำา มลภาวะ สารเคมี ซึ่งส่ง 

ผลให้สีเปลี่ยนแปลงไป สีที่ซีดจางอาจเกิดขึ้นไม่เท่ากันเนื่องจากหลังคา 

ไม่ได้ถูกแสงแดดและสารอื่นๆ อย่างสม่ำาเสมอ การใช้หลังคาโลหะเป็น 

เนื้อวัสดุที่มีความคงทน ไม่ต้องมีการเคลือบสีจะช่วยไม่ให้เกิดปัญหาใน 

เรื่องนี้ ในกรณีจำาเป็นต้องมีสีเคลือบควรพิจารณาเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มี 

ระบบเคลือบสีคุณภาพสูง มีการทดสอบยืนยันประสิทธิภาพการใช้งาน 

ในระยะเวลานาน 

ความผิดพลาดจากการติดตั้ง (Other Installation Error) เป็นเรื่องที่ 

ไม่สามารถจะคาดเดาได้ เช่น ชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ติดตั้งหายไป สกรู 

หลวมเกินไป การติดตั้งครอบกันน้ำาหลังคาไม่ดี เป็นต้น การเลือกใช้ 

ผู้ติดตั้งที่ถูกต้องเหมาะสมจะช่วยลดปัญหาอันอาจจะเกิดขึ้นได้ดังที่กล่าว 

มาข้างต้นอาจกล่าวได้ว่า ผู้ติดตั้งเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักของปัญหาต่างๆ 

ในงานหลังคาโลหะ ดังนั้นการเลือกใช้ผู้ติดตั้งที่มีทักษะ มีประสบการณ์ 

ความรู้ สามารถจัดการกับโจทย์ที่มีได้เป็นอย่างดี นับได้ว่าเป็นเรื่อง 

สำาคัญมาก นอกจากการกำาหนดผลิตภัณฑ์ที่จะนำามาใช้งานแล้ว 

สถาปนิกควรระบุชื่อผู้ติดตั้งไว้ด้วยโดยสามารถตรวจสอบกับทาง 

ผลิตภัณฑ์ ซึ่งยังต่อเนื่องไปถึงการรับประกันที่ไม่ใช่เป็นเรื่องแต่เฉพาะ 

ผลิตภัณฑ์เท่านั้น ยังต้องให้ครอบคลุมไปถึงเรื่องของการติดตั้งด้วย 

หากพูดถึงเรื่องของการรับประกันหลังคาโลหะจะมีเงื่อนไขที่สถาปนิก 

ควรจะรู้ด้วยว่า อาจมีบางสิ่งที่ทำาให้ไม่ถือว่าอยู่ภายใต้การรับประกัน 

ผลิตภัณฑ์แผ่นหลังคาเหล็ก Lysaght กล่าวถึงกรณีการไม่รับประกัน 

การผุกร่อน เช่น ความเสียหายที่เกิดจากการใช้เครื่องมือ สารเคมี หรือ 

ความเสียหายอื่นๆ ที่เกิดขึ้นก่อน ระหว่าง หรือภายหลังการติดตั้ง การ 

สัมผัสกับตัวทำาปฏิกิริยานอกเหนือจากฝนตกตามธรรมชาติ การขาด 

การทำาความสะอาดในบริเวณที่ไม่ถูกฝนชะล้างตามธรรมชาติ พื้นที่ 

ผลิตภัณฑ์สัมผัสกับโลหะที่ไม่เข้ากัน หรือพื้นที่ที่รองรับของเหลวที่ไหล 

มาจากบริเวณที่มีวัสดุดังกล่าว การขาดการกำาจัดเศษเหล็ก ฝุ่นเหล็ก การ 

จัดการเพื่อให้เกิดการระบายน้ำาได้โดยสะดวก การผุกร่อนของผลิตภัณฑ์ 

อันเกิดจากการสัมผัสกับเศษไม้ กิ่งไม้สด หรือไม้ที่ผ่านกรรมวิธีทางเคมี 

การติดตั้งในบริเวณที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรง ติดทะเล เขตอุตสาหกรรม 

หรือสภาพที่มีการกัดกร่อนสูง เป็นต้น 

Chalking and fading can occur with color-coated metal roofing. 

The degradation of the resin when exposed to UV rays is what 

causes white dust formation on painted surfaces. Fading 

occurs when pigments applied to metal surfaces deteriorate 

due to UV rays, water, pollution, and chemicals, which results in 

color discoloration. Color fading may occur unevenly because 

the roof is not consistently exposed to sunlight and other substances. 

The use of metal roofing as a durable material with 

no paint will avoid this problem. It is advisable to consider 

using a high-quality coating system if a coating is required. 

There is a test to confirm the effectiveness of long-term use 

and durability. 

Other unpredictable installation errors are, for example, missing 

parts or accessories, screws too loose, poor roof waterproofing 

installation, etc. Choosing the right contractors will help reduce 

such problems. 

As mentioned earlier, contractors are one of the main factors 

in metal roofing problems. Therefore, choosing a contractor 

that is skilled, knowledgeable, experienced, and able to deal 

with onsite or preconstruction problems very well is very 

important. In addition to determining the products that will be 

used, it is recommended that architects specify the contractor’s 

name as well. This can be checked with the suppliers, and 

the non-product-specific warranty must also cover the matter 

of installation. 

Concerning the warranty of metal roofs, architects should know 

that some conditions and issues are not covered under warranty. 

For example, the Lysaght steel roofing sheet mentioned cases 

where corrosion is not warranted, such as damage caused by 

the use of tools, chemicals, or other damage that occurs before, 

during, or after installation; exposure to reagents other than 

natural rain; lack of cleaning in areas that are not naturally 

washed away by rain; places where the product is in contact 

with incompatible metals, or areas that support liquids flowing 

from where such material is located; lack of removal of iron 

scraps and iron dust; management for drainage; product corrosion 

caused by exposure to wood chips, fresh twigs, or chemically 

treated wood; installation in harsh environments, near the 

sea; industrial areas; highly corrosive conditions, etc. 

25 


21. facebook.com/photo?fbid=134219708704253&set=pb.100063486732747.-2207520000 

22-25. sheffieldmetals.com

114 

materials 


115 

มาตรฐานอ้างอิง 

มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมของไทยในปัจจุบันมีการกำาหนด 

มาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับงานหลังคาโลหะ ได้แก่ มอก. 1128-2562 

แผ่นเหล็กมุงหลังคา มอก. 1038-2535 กระเบื้องแผ่นเหล็กเคลือบ 

มุงหลังคา มอก. 2132-2564 เหล็กแผ่นเคลือบสังกะสีโดยกรรมวิธี 

จุ่มร้อน และเคลือบสี: แผ่นลอน มอก. 3059-2563 เหล็กกล้าทรงแบน 

เคลือบสังกะสีผสมอะลูมิเนียม 0.5% ถึง 6% และแมกนีเซียม 0.4% 

ถึง 4% โดยกรรมวิธีจุ่มร้อน มอก. 2753-2559 เหล็กกล้าทรงแบน 

รีดเย็น เคลือบอะลูมิเนียม 55% ผสมสังกะสี โดยกรรมวิธีจุ่มร้อน และ 

เคลือบสี มอก. 50-2565 เหล็กกล้าทรงแบนรีดเย็นเคลือบสังกะสี โดย 

กรรมวิธีจุ่มร้อน แผ่นม้วน แผ่นแถบ แผ่นตัด และแผ่นลูกฟูก สถาปนิก 

ผู้ออกแบบสามารถนำาไปใช้อ้างอิงในการทำาข้อกำาหนดวัสดุอาคารได้ 

ส่วนมาตรฐานสากลทางด้านความปลอดภัยก็สามารถนำามาอ้างอิงเพื่อ 

ยืนยันประสิทธิภาพมาตรฐานผลิตภัณฑ์ได้ เช่น FM 4471 Panel Roofs 

UL 580 Safety Testing for Uplift Resistance of Roof Assemblies, 

BS 476 Fire test on building materials and structures เป็นต้น ทั้งนี้ 

ต้องตรวจสอบก่อนว่าผลิตภัณฑ์ที่จะระบุใช้งานนั้นได้ผ่านการรับรอง 

ตามมาตรฐานเหล่านั้นแล้วหรือไม่ 

หลังคาโลหะสามารถนาวัสดุกลับมาใช้ใหม่ เป็ นมิตรกับสิ ่งแวดล้อม 

มีการสะท้อนความร้อนได้ดีขึ ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์และระบบสีที่เลือก 

ใช้ งานหลังคาโลหะก็เช่นเดียวกันกับงานหลังคาทั่วไปที่มีเรื่องต้อง 

พิจารณาอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็ นการออกแบบเพื่อใช้งานในสภาวะแวดล้อม 

ที่แตกต่าง การระบายน้ำา การทา Overflow การทาช่องแสงบน 

หลังคา (Skylight) การเจาะทะลุของงานระบบอาคาร งานติดตั้ง 

อุปกรณ์ต่างๆ บนหลังคา การติดตั้งแผง Solar Cell ซึ ่งจะต้อง 

คานึงถึงการบารุงรักษา การซ่อมแซม ในบางกรณีอาจต้องให้ความ 

ปลอดภัยมีค่าการกันไฟในกรณีเกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้ด้วย ทั้งนี้ 

เพื่อไม่ให้เป็ นปั ญหานามาซึ ่งความเสียหายในชีวิตและทรัพย์สินอันที่ 

สามารถจะเกิดขึ ้นได้ ในอนาคต 

27 

28 

Reference standards 

Currently, Thai industrial product standards have established 

standards related to metal roofing, including TIS 1128-2562 

Roofing steel sheet, TIS 1038-2535 Coated steel sheet 

roofing tiles, TIS 2132-2564 Prepainted hot-dip zinc-coated 

steel: corrugated, TIS 3059-2563 Hot-dip zinc 0.5% to 6% 

aluminium 0.4% to 4% magnesium alloy-coated flat steel, TIS 

2753-2559 Prepainted Hot-DIP 55% Aluminium/Zinc-Coated 

Cold-Reduced flat steel, TIS 50-2565 Hot-dip zinc-coated 

cold reduced flat steel strips, sheets and corrugated sheets. 

Architects and designers can use these standards to prepare 

building material specifications. 

The international safety standards can also be referenced to 

confirm product performance, such as FM 4471 Panel Roofs, 

UL 580 Safety Testing for Uplift Resistance of Roof Assemblies, 

BS 476 Fire Test on Building Materials and Structures, etc. 

It is essential to check beforehand if the intended product is 

certified to those standards. 

Metal roofs are reusable and environmentally 

friendly. It has good heat reflection, depending on 

the product and paint system. Metal roofing is no 

different than other roofing materials in that it has 

to be considered in many areas, such as designing 

for use in different environments, drainage, overflow, 

skylights, penetration of building systems, 

installation of various equipment on the roof, 

and installation of solar cell panels, which must 

take into account maintenance, repairs. In some 

cases, we may have to provide safety with a fire 

protection value in the event of a fire so as not to 

be a problem that will cause damage to life and 

property in the future. 

อนุเคราะห์ข้อมูลและรูปภาพ: BLUESCOPE, KINGSPAN 

29 


26-27. ppa-europe.eu 

28. csereport2005.bluescopesteel.com 

29. greenstarcoatings.com 

26 

ปฏิกร ณ สงขลา 

เป็ นสถาปนิกอาวุโส 

บริษัท สถาปนิก 49 จำากัด 

มีประสบการณ์ทำางาน 

มากกว่า 35 ปี ปั จจุบัน 

ยังเป็ นหัวหน้าโครงการ 

ISA Material Info Series 

กิจกรรมส่งเสริมข้อมูล 

ความรู้เกี่ยวกับวัสดุและ 

เทคโนโลยีการก่อสร้าง 

ของสมาคมสถาปนิกสยาม 

ในพระบรมราชูปถัมภ์ 

Patikorn Na Songkhla 

is a Senior Architect at 

Architects 49 Limited, 

with more than 35 years 

of work experience. 

Currently he Also serves 

as Head of ISA Material 

Info Series, activities to 

promote information 

and knowledge about 

construction materials 

and technology of the 

Association of Siamese 

Architects under royal 

patronage.

116 117 

BEMO 

Sheets and Panels for Roofs 

materials 

อาคารศูนย์ศิลปะแห่งชาติไต้หวัน ออกแบบ 

โดยทีมสถาปนิก Mecanoo จากเนเธอร์แลนด์ 

ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์ศิลปะการแสดงที่ใหญ่ที่สุดใน 

โลกที่อยู่ภายในอาคารเดียว อาคารขนาดกว้าง 

116 เมตร ยาว 225 เมตรนี้ มีพื้นที่ใช้งาน 

มากกว่า 140,000 ตารางเมตรมีลักษณะทาง 

สถาปัตยกรรมเด่นที่หลังคา ที่เป็นพื้นต่อเนื่อง 

ชิ้นเดียวในลักษณะรูปทรงอิสระตามสเปซ 

ตามฟังก์ชันการใช้งานด้านล่าง หลังคาขนาด 

มหึมานี้มีพื้นที่ประมาณ 35,000 ตารางเมตร 

BEMO ผู้ผลิตระบบหลังคาจากเยอรมนี เป็นทีม 

ดูแลงานก่อสร้างระบบหลังคาตั้งแต่ต้น ทำาให้ 

แนวคิดในการออกแบบของสถาปนิกเป็นไปได้ 

ด้วยความสามารถรูปแบบอิสระของ BEMO- 

MONRO ที่สามารถทำาชิ้นส่วนที่รองรับหลังคา 

รูปทรงพิเศษ 

การปรับความคลาดเคลื่อนทั้ง 4 ชั้นในโครงสร้าง 

หลังคาหนา 800 มม. ได้รับการออกแบบด้วย 

ระบบสแกน 3 มิติ และใช้แผ่นโลหะผลิตใน 

สถานที่ด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของ BEMO 

ระบบ BEMO MONRO ช่วยให้สถาปนิก 

สามารถออกแบบได้อย่างอิสระโดยสมบูรณ์ 

ในการสร้างชิ้นส่วนโลหะรูปทรงต่างๆ การติด 

ตั้งวัสดุปิดทับทำาด้วยโปรไฟล์เสริมแรงที่ยึด 

หลังคากันน้ำาแบบตะเข็บรอยต่อของ BEMO 

โดยไม่ต้องเจาะแผ่น และวางตำาแหน่งแผง 

ภายนอกได้ง่ายแม้ในที่ที่มีรูปทรงซับซ้อน 

The National Kaohsiung Center for 

the Arts in Taiwan, designed by leading 

Dutch architecture practice Mecanoo, 

is known as the world’s largest performing 

arts center under one roof. This 

116-meter-wide and 225-meter-long 

building has a usable area of more 

than 140,000 square meters, covered 

by a single, continuous, flowing roof 

according to the functions underneath. 

This gigantic roof covers an area of 

about 35,000 square meters. 

BEMO, a roofing system manufacturer 

from Germany, was involved from an 

early stage, making the architect’s 

design intent feasible with its unique 

BEMO-MONRO free-form competence, 

created to support a specially shaped 

roof. BEMO-engineered tolerance 

adjustments over the 4 layers in the 

800mm roof build-up are based on 

3D scans of the as-built structure. 

The roof panels were produced onsite 

with BEMO mobile technology. 

The BEMO MONRO systems allow 

the architect to design with complete 

freedom, creating multiple shapes of 

metal envelopes. The covering materials 

are installed with reinforcement profiles 

that clamp the BEMO standing seam 

watertight roof without any drilling 

of the sheets. The system offers easy 

positioning of external panels, even in 

the presence of complex shapes. 

bemo.com 

SHERA Zedar Shake 

Roof Materials 

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน หลังคา 

กระเบื้องแป้นเกล็ดก็ยังได้รับความนิยมจาก 

คนที่ชื่นชอบสถาปัตยกรรมที่มีกลิ่นอายพื้นถิ่น 

หรือความงามธรรมชาติแบบรีสอร์ท ผู้ผลิต 

ไฟเบอร์คอมโพสิตชั้นนำาอย่างเฌอร่า จึงเสนอ 

ผลิตภัณฑ์หลังคาเฌอร่า ซีดาร์ เชค เพื่อเข้า 

มาตอบสนองความต้องการนี้ พร้อมๆ กับนำา 

เสนอการแก้ปัญหาเรื่องความทนทาน ทั้งจาก 

สภาพดินฟ้าอากาศต่างๆ และจากการกัดกิน 

ของปลวก มีระบบอินเตอร์ล็อค ที่ช่วยป้องกัน 

ปัญหาเรื่องการรั่วซึมของงานอีกด้วย 

เช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของเฌอร่า 

วัสดุหลังคาซีดาร์ เชค ได้รับการพัฒนาให้มี 

พื้นผิวและสีสันที่สวยงามเสมือนไม้ธรรมชาติ 

ด้วยเทคโนโลยีผสมสีเนื้อผลิตภัณฑ์ (Color 

Through) ผ่านทางสีเปลือกไม้สามระดับ 

ที่มีเฉดสีต่างๆ ให้เลือก และมีหน้ากว้างของ 

ผลิตภัณฑ์ 3 ขนาด ทำาให้สถาปนิกสามารถ 

ออกแบบจัดเรียงแผ่นหลังคาได้ตามดีไซน์ 

อย่างหลากหลายและอิสระ 

Traditional roof tiles made from teak 

wood, Paen Gled, and other shingle 

roofs have long been popular with 

people who love vernacular architecture 

or natural beauty like those tropical 

or resort-style buildings. SHERA, the 

leading fiber-composite material manufacturer, 

has created SHERA Zedar 

Shake roofing products that meet this 

need and offer solutions for durability, 

both from various weather conditions 

and from termites. There is an interlock 

system. That helps prevent the problem 

of leakage from the work as well. 

Like other SHERA products, Cedar 

Shake roofing material has been developed 

to have a beautiful texture and 

color similar to natural wood with Color 

Through technology through three 

levels of bark color. There are various 

shades to choose from, and there are 

3 sizes of product widths, allowing 

architects to design and arrange roofing 

sheets according to their design 

with variety and freedom. 

shera.com

118 

materials 

119 

Onduline 

Roof Sheets 

วัสดุมุงหลังคาที่มีลักษณะคล้ายกระเบื้องลอนนี้ 

ถูกคิดค้นขึ้นในฝรั่งเศส เมื่อเกือบร้อยปีก่อน 

และได้รับการพัฒนาต่อมาในรัสเซีย ทำาให้ 

Onduline เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายใน 

ยุโรป คุณสมบัติเด่นคือมีระยะลอนที่สวยงาม 

ขนาดแผ่นใหญ่ ประมาณ 0.95x200 ซม. 

หนา 3 มม. โดยมีความสูงของลอน 36 มม. 

และมีน้ำาหนักที่เบาเพียง 6 กก. 

คุณลักษณะเฉพาะตัวของ Onduline คือเป็น 

ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตขึ้นจากเส้นใยเซลลูโลส ซึ่ง 

ผ่านกระบวนการให้ความร้อน การกดและสร้าง 

ลอน ที่อุณหภูมิประมาณ 120 องศา แล้วจึง 

เคลือบด้วยสีและชุบด้วยสารประกอบบิทูมินัส 

ซึ่งเป็นส่วนประกอบของแอสฟัลท์ หรือยาง 

มะตอย ซึ่งทั้งหมดนี้ทำาให้ Onduline มีข้อดี 

ในเรื่องความเบา การกันเสียง และการเป็น 

มิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากเรื่องของน้ำาหนัก 

ความยืดหยุ่นและรูปลักษณ์ที่สวยงาม ในขณะ 

ที่ข้อเสียที่ควรพิจารณา คือเรื่องของการทนไฟ 

วัสดุมีความปลอดภัยจากอัคคีภัยในระดับต่ำา 

เนื่องจากประกอบด้วยน้ำามันดิน และยังมี 

โอกาสที่จะเกิดกลิ่นซึ่งก็มาจากองค์ประกอบ 

ของวัสดุอย่างบิทูมิเมนที่นำามาใช้ผลิตนั่นเอง 

Onduline corrugated sheet was initially 

invented in France almost a hundred 

years ago. It was later developed in 

Russia, making Onduline widely popular 

in Europe. The outstanding features are 

its beautiful corrugation, strength, and 

lightweight. The sheet size is large, about 

0.95 x 200 cm, with a thickness of 3 mm, 

a corrugation height of 36 mm, and only 

6 kg per sheet. 

The unique feature of Onduline is that 

it is made from cellulose fibers, which 

undergo a heat treatment process of 

pressing and curling at a temperature 

of about 120 degrees, then are coated 

with paint and moistened with bituminous 

compounds, a component of 

asphalt or bitumen, all of which give 

Onduline advantages in terms of lightness, 

soundproofing, and environmental 

friendliness, in addition to its weight, 

flexibility, and beautiful appearance. 

While the disadvantage to consider is a 

matter of fire resistance, the material 

has a low level of fire safety since it 

contains bitumen. There is also a chance 

that there will be a smell when exposed 

to extreme heat, which comes from the 

bitumen used to produce it. 

onduline.com

120 

PROFESSIONAL 

Between 

Architecture 

and 

Nature 

The founder and principal architect 

of Eco Architect, Khamron Sutthi, 

is a firm believer that 

architecture and ecology must be 

viewed as inseparable entities. 

Kamron has demonstrated an 

unchanging architectural identity 

and approach to architectural 

design throughout his career and 

via his expanding body of work. 

Text: Nuttawadee Suttanan 

Photo Courtesy of Eco Architect 

01 

The Motifs Eco Hotel 

จันทบุรี 1

professional 

ECO ARCHITECT 

122 123 

02 

สมาชิก Eco Architect 

Khamron Sutthi, the founder and principal architect of Eco Architect, is a firm 

believer that architecture and ecology must be viewed as inseparable entities. 

Khamron has demonstrated an unchanging architectural identity and approach 

to architectural design throughout his career and via his expanding body of work. 

3 

Experiences outside of textbooks 

Since his first year as an architecture student at Khon Kaen University, Khamron Sutthi’s 

summer breaks have consisted of him traveling into the jungle, spending time with himself, 

and interning. He used his internship to enhance and expand his abilities, knowing what he 

was still lacking in the career path he chose. At the time, there were just a few architecture 

firms in Khon Kaen where he could pursue an internship. Throughout his first three years of 

college, he chose Bangkok-based studios to do his internship. As he began his fourth year of 

studies, Khamron discovered that the Bangkok lifestyle wasn’t right for him. He began looking 

for studios outside of the capital city before settling on an internship with a Phuket-based 

firm. This internship was a watershed moment for him, propelling him to launch and pursue 

a career as a professional architect on this southern island in the Andaman Sea. 

Eco Architect ก่อตั้งโดย “แก้ว คำรน สุทธิ” สถาปนิก 

ผู้ยึดมั่นว่าสถาปั ตยกรรมกับธรรมชาติต้องเป็ นเรื่อง 

เดียวกัน และตลอดระยะเวลาการทำงานที่ผ่านมา เขา 

ก็ได้ ใช้ผลงานมากมายอธิบายตัวตนและแนวทางการ 

ออกแบบของเขาได้เป็ นอย่างดี 

ประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากตำรา 

ตั้งแต่ปีแรกของการเป็นนักศึกษาคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ 

มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทุกปิดเทอมภาคฤดูร้อน แก้ว คำรณ 

สุทธิ จะใช้เวลาที่เหลือจากการเข้าป่า อยู่กับธรรมชาติและ 

ตัวเอง ไปกับการฝึกงาน เพราะรู้สึกว่าตัวเองยังไม่เก่งพอ 

เขาจึงใช้การฝึกงานมาเพิ่มทักษะให้ตัวเอง ด้วยยุคสมัยนั้น 

ตัวเลือกบริษัทสถาปนิกสำหรับเข้ามาฝึกงานในขอนแก่นไม่ 

ค่อยมีมากเท่าไหร่ คำรณจึงเข้ามาฝึกงานที่กรุงเทพมหานคร 

ตั้งแต่ปี 1 จนถึง ปี 3 จนเข้าปีที่ 4 ค ำรณเริ่มรู้สึกว่าการใช้ 

ชีวิตที่กรุงเทพมหานครไม่เหมาะกับเขา เขาจึงหาที่ฝึกงานที่ 

อยู่นอกกรุงเทพมหานคร ในที่สุดเขาก็ได้ที่ฝึกงานที่จังหวัด 

ภูเก็ต และการฝึกงานครั้งนี้ก็เป็นจุดเปลี่ยนส ำคัญที่ทำให้เขา 

เกิดความมุ่งมั่นที่จะเริ่มต้นชีวิตการเป็นสถาปนิกเต็มตัวที่ 

จังหวัดภูเก็ตแห่งนี้ 

หลังจากใช้ชีวิตเป็นสถาปนิกในบริษัทที่ภูเก็ตอยู่ 2 ปี ค ำรณ 

ก็ตัดสินใจออกมารับงานอิสระ ซึ่งถือว่าเป็นอีกจุดเปลี่ยนส ำคัญ 

ที่ทำให้เกิด Eco Architect ขึ้นในอีกหลายปีต่อมา เพราะ 

ระหว่างที่รับงานอิสระ เขาได้มีโอกาสออกแบบบ้านให้ลูกค้า 

ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ภายในจังหวัดภูเก็ต ด้วยความคุ้นเคย 

กับงานร่วมสมัย จึงออกแบบบ้านเป็นรูปทรงร่วมสมัยซึ่งเป็น 

ที่นิยมในช่วงเวลานั้น แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นอย่างที่คิดเพราะ 

เมื่อบ้านสร้างเสร็จแล้วกลับอยู่อาศัยไม่ได้เลย บ้านแสนเท่ 

ในความคิดของเขาก็กลายเป็นเตาอบลมร้อนของผู้อยู่อาศัย 

และปัญหาจากการออกแบบในครั้งนั้น ทำให้เขาต้องย้อนกลับ 

มามองเรื่องแก่นของการออกแบบใหม่ทั้งหมด ผนวกกับ 

ภูมิประเทศของจังหวัดภูเก็ตที่ที่ดินส่วนมากเป็นเนินเขาท ำ 

ให้เขาเริ่มมีความเชี่ยวชาญการออกแบบบ้านบนที่สูง ซึ่งมี 

รายละเอียด ความซับซ้อนที่ต้องใช้ความรู้ ความเข้าใจเป็น 

อย่างสูงและการที่มีโอกาสได้ออกแบบบ้านให้ชาวต่างชาติ 

จำนวนมาก รูปแบบที่เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติ คือ 

“เรือนไทยภาคกลาง” ทำให้จากที่แก้วเคยตั้งคำถามกับ 

การสร้างบ้านโดยเอารูปแบบของเรือนไทยภาคกลางมา 

เป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบบ้านที่ภาคใต้เมื่อเวลาผ่านไป 

เขาก็ได้ค้นพบว่า รูปแบบของเรือนไทยภาคกลาง เมื่อน ำมา 

ประยุกต์เข้ากับบริบทของพื้นที่จังหวัดภูเก็ต กลับมีความ 

ลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ ประสบการณ์การท ำงานที่ใช้เวลาเรียนรู้ 

และสั่งสมกว่า 7 ปี ทำให้เขาเริ่มตกผลึก และเห็นทิศทางงาน 

ออกแบบของตัวเองได้ชัดเจนขึ้น คำรณตัดสินใจไปเรียนต่อ 

ระดับปริญญาโท สาขานวัตกรรมการออกแบบนิเวศน์สถาปัตย์ 

ที่ทำให้ได้เรียนรู้ว่า จริงๆ ธรรมชาติมีสิ่งที่เราไม่รู้และมี 

ประโยชน์กับเราเต็มไปหมด แต่เรามักจะมองข้าม และเป็น 

ที่มาของการก่อตั้งบริษัท Eco Architect หลังจากเรียนจบ 

2 

03 

คารน สุทธิ ผู้ก่อตั้ง 

Eco Architect 

04 

บรรยากาศการทางาน 

ของ Eco Architect 

4 

Khamron decided to leave his job as an architect at a Phuket-based firm after two years 

and work as a freelancer. The choice was yet another turning point in his life, eventually 

leading to the establishment of Eco Architect years later. He was offered the opportunity 

to design a house for a foreigner living in Phuket during his freelance days. Because of 

his expertise in contemporary architectural design, Khamron created a structure that was 

contemporary both in form and component, an aesthetic that was considered popular at the 

time. But the ultimate outcome was far from what he had hoped for. The completed building 

was nearly unlivable. The cool-looking abode he imagined became a living oven packed with 

scorching hot air. The project’s unsatisfactory end fundamentally altered his perspective and 

way of thinking about architectural design. Because of this realization, as well as the fact 

that the majority of Phuket’s geographical landscape is comprised of hillside and sloped 

lands, Khamron developed expertise in working with cliff-top landscapes and sites located 

high above ground level, which involve elaborate details and complications and necessitate 

extensive and in-depth knowledge and understanding. After designing multiple homes for 

foreign clients, the most preferred architectural style among this group of clients is the 

‘traditional Thai house from the central area of Thailand.’ Khamron, who used to wonder 

whether the architectural elements of a traditional Thai house from the central region would 

fit clients’ functional requirements and the context of the sites on an island in the south, 

eventually realized over time that the style and components of a traditional Thai house from 

central Thailand can be applied to the local context of Phuket and produce surprisingly 

ideal results. 

The experiences he has gained over the course of his seven years of work have manifested, 

and he can now see a clearer picture of the direction of his architectural design and philosophy. 

Khamron chose to pursue a master’s degree in Eco Architecture Innovations and 

Design, which led him to understand that nature is full of mysteries he doesn’t know about 

that are valuable to this planet—things that people often ignore or take for granted. After 

graduating, he used his newly accumulated knowledge to launch his own architecture firm, 

Eco Architect. 

We wish to create a coexisting ecosystem and architecture. 

Eco Architect was created with the intention of incorporating ecosystems into architectural 

design. “Being at ease and in harmony with nature is at the heart of every design because 

we desire a healthy ecosystem and architecture that can coexist.” Since its inception, the 

goal of Eco Architect has remained the same.

professional 

ECO ARCHITECT 


“I’ve set myself the objective of designing houses that can genuinely 

breathe with nature. It’s not about us being able to survive, but about 

nature being able to continue existing--to keep on breathing. It’s a 

mutually beneficial relationship in which we take from nature and vice 

versa, all the while minimizing pollution and creating a truly comfortable 

living space.” 

เราอยากออกแบบระบบนิเวศควบคู่ไปกับสถาปั ตยกรรม 

Eco Architect เกิดขึ้นภายใต้ความตั้งใจที่จะออกแบบระบบ 

นิเวศควบคู่ไปกับสถาปัตยกรรม โดยการออกแบบทุกงาน 

จะมีหัวใจสำคัญคือ “ต้องอยู่สบายและต้องหายใจร่วมกับ 

ธรรมชาติ เพราะเราอยากออกแบบระบบนิเวศควบคู่ไปกับ 

สถาปัตยกรรม” และจากวันแรกจนถึงวันนี้ เป้าหมายของ 

Eco Architect ก็ยังคงเป็นเช่นเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง 

“เราเกิดเป้ าหมายที่จะสร้างบ้านที่หายใจร่วมกับ 

ธรรมชาติได้ คือไม่ใช่ว่าเราหายใจได้คนเดียว ธรรมชาติ 

ก็ต้องมีชีวิตที่ยืนยาวต่อไป ธรรมชาติก็หายใจร่วมกัน 

ไป เหมือนเราดูแลธรรมชาติ ธรรมชาติดูแลเรา สร้าง 

มลภาวะให้น้อย สร้างมลพิษให้น้อย แล้วก็ทำให้บ้าน 

อยู่สบายจริงๆ” 

ในช่วงแรก งานของ Eco Architect มักเป็นงานจากลูกค้า 

เก่าที่เคยทำงานร่วมกันก่อน แต่เมื่อเวลาผ่านไป ด้วยความ 

พยายามตั้งใจให้ทุกงานที่เกิดขึ้นของ Eco Architect พิสูจน์ 

ได้ว่า “อยู่สบาย” อย่างแท้จริงๆ” ผลงานทุกชิ้นจึงให้ความ 

รู้สึกถึงความเป็นบ้าน มีความสบาย มีความผ่อนคลาย แม้ 

กระทั่งสำนักงานที่ภูเก็ต ก็เป็นอีกตัวอย่างที่ท ำให้ทุกคนเห็น 

ว่า นอกจากออกแบบบ้านให้คนอื่นได้อยู่สบายแล้ว สมาชิก 

Eco Architect ก็ทำงานแบบ “อยู่สบาย” จากลูกค้าเดิม จึง 

เกิดคำแนะนำแบบปากต่อปาก จนเกิดการขยายฐานลูกค้า 

เป็นความพยายามในการใช้งานพิสูจน์ตัวเองที่ประสบความ 

สำเร็จอย่างงดงาม และทำให้“บ้านอยู่สบาย บ้านที่หายใจร่วม 

กับธรรมชาติ” เป็นเครื่องหมายการค้าและภาพจำของ Eco 

Architect ตลอดมา 

จนถึงตอนนี้เราก็ยังอยู่แบบครอบครัว 

Eco Architect เริ่มจากคำรณเพียงคนเดียว ต่อมาในปีที่สาม 

ของบริษัท พนักงานคนแรกก็เข้ามาในตำแหน่งพนักงาน 

เขียนแบบ ตามมาด้วยสถาปนิก และมัณฑนากรเป็นลำดับ 

และใน 5 ปีที่ผ่านมา Eco Architect ได้มีการขยายบริษัทมา 

เปิดที่กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันสมาชิกของ Eco Architect 

ทั้ง 2 ทีม มีจำนวนรวมกัน 12 คน โดยจำนวนสมาชิกทั้งทีม 

ภูเก็ตและกรุงเทพฯจะมีประมาณไม่เกิน 6 คนต่อทีม 

5 

แม้จะมีการขยายบริษัท แต่จำนวนสมาชิกกลับไม่ได้เพิ่มมาก 

ขึ้นนัก ด้วยเหตุผลที่ว่าขนาดของบริษัทที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ 

\ยังสามารถบริหารจัดการด้วยตัวคนเดียวได้ และสามารถ 

ทำให้ทุกคนทำงานได้อย่างมีความสุข 

“ปี แรกๆ บริหารแบบครอบครัว จนถึงตอนนี้เราก็ยังอยู่ 

แบบครอบครัว” 

จากวันแรกที่ก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน ำรณเป็นทั้งผู้ก่อตั้ง ค 

สถาปนิก 

ธุรการ บัญชี ฝ่ายบุคคล หรือแม้กระทั่งศูนย์กลางทางจิตใจ 

ของน้องๆ ในทีม เขามองว่าการทำงานอย่างที่ Eco Architect 

เป็นอยู่ จะทำให้ทุกคนในบริษัทรู้สึกว่าพวกเขาคือครอบครัว 

เดียวกัน และผลงานที่ดีก็จะเกิดจากการท ำงานที่ให้ใจกัน 

นั่นเอง 

ระบบบริหารจัดการของ Eco Architect มีกำหนดว่าหนึ่งต้อง 

ทำงานกี่ชั่วโมง แต่ไม่ได้มีก ำหนดเวลาในการเข้างานหรือ 

เลิกงาน สมาชิกทุกคนจะมีสมุดลงเวลาของตัวเอง ซึ่งต้องส่ง 

ให้คำรณทุกสิ้นเดือน โดยไม่จำกัดว่าจะเป็นการบันทึกลงใน 

คอมพิวเตอร์หรือสมุดบันทึก สิ่งที่บันทึกในสมุดลงเวลาเป็น 

เหมือนบันทึกประจำวันว่าแต่ละวันพวกเขาทำงานอะไรกัน 

นี่คือสิ่งที่ช่วยให้สามารถประเมินได้ว่า แต่ละคนในทีมท ำงาน 

อะไรอยู่บ้าง และเห็นจุดอ่อนหรืออุปสรรคของการท ำงาน และ 

ทำให้เขาสามารถให้คำแนะนำสมาชิกในทีมได้อย่างตรงจุด 

05-06 



07 

บ้านสุขใจดี 

กรุงเทพมหานคร 

6 

7 

The majority of Eco Architect’s first assignments were for former clients with whom Khamron 

had previously worked. As time passed, it became evident that all of Eco Architect’s efforts 

and ideas resulted in genuinely “livable” homes. Relaxing and thermally comfortable living 

spaces characterize their design, which simultaneously emanates a sense of warmth and 

belonging. Even their office in Phuket exemplifies the value of a comfortable work environment, 

which is something Kamrom prioritizes for Eco Architect’s employees, who are responsible for 

the studio’s renowned residential projects that feature high-quality living spaces. The studio’s 

clientele has increased due to the success of word-of-mouth among its existing clients. This 

development serves as proof of the studio’s success, which has been propelled by the quality 

of their work, and has made the expression “a comfortable home that shares the same breath 

with nature” not merely a catchphrase but a trademark and an integral part of Eco Architect’s 

identity. 

We were like a family back then, and we’re still like that now. 

Khamron was the one and only founder and staff member when Eco Architect began. In its 

third year, the studio employed its second team member to serve as a draftsman. An architect 

and an interior designer were eventually added to the studio. In the past five years, Eco 

Architect has expanded with a branch based in Bangkok. The studio presently has two 

teams and a total of 12 employees. The Bangkok and Phuket offices have no more than six 

working staff members due to Khamron’s desire to keep the firm small enough that he can 

run it alone and for his employees to maintain a happy working life. 

“We were like a family back then, and we’re still like that now.” 

Khamron has been the creator, principal architect, administration officer, accountant, human 

resource officer, and even the mentor—the go-to guy for his team members—since the 

company’s starting point. He believes that the present method by which Eco Architect is run 

will foster a sense that everyone at the organization is a family member and that exceptional 

works are the product of everyone’s mutual trust, understanding, and devotion. 

Kamrom runs Eco Architect on a flex time system, which outlines the daily working hours 

that each employee must meet without a set time signaling when to clock in and out. Each 

member of the staff has their own roster, which they must present to Khamron at the end of 

each month. The roster might be kept in a notebook or as a digital file. Each notebook contains 

daily updates on what each member of staff accomplishes on a daily basis. This method 

enables Khamron to evaluate the job that each staff member has done and is doing, as well 

as stay informed about the flaws or hurdles that each of his team members is dealing with, 

allowing him to give effective and relevant advice. 

“It’s almost as if they’re practicing keeping a journal. At the end of 

each month, I can assess their output as well as their workflow so 

that I may make the appropriate recommendations.”

PROFESSIONAL 

ECO ARCHITECT 


8 

08 


กรุงเทพมหานคร7

professional 

ECO ARCHITECT 


“เป็ นเหมือนการสอนให้ฝึ กจดบันทึก พอสิ ้นเดือน เราก็ 

จะสามารถประเมินได้ว่า คนนี้ทำงานอะไรบ้าง ความเร็ว 

ความช้าเป็ นแบบไหน เราก็จะได้แบบเข้าไปไปช่วยแนะนำ 

ไปช่วยเสริมได้” 

ด้วยแนวทางการบริหารจัดการที่อยู่กันแบบครอบครัว ท ำให้ 

Eco Architect ไม่มีการนัดหมายประชุมอย่างเป็นทางการ 

แต่เป็นการพูดคุยแลกเปลี่ยนความก้าวหน้าในการท ำงาน 

ระหว่างกันตามสถานการณ์ บางครั้งคำรณก็เหมือนหัวหน้า 

ครอบครัว ที่ต้องคอยสังเกตสมาชิกแต่ละคน และเมื่อเห็นว่า 

ใครเริ่มมีปัญหาในการทำงาน เขาก็สร้างบทสนทนาเพื่อลด 

ความกังวลในการทำงาน หรือสร้างบรรยากาศการทำงานให้ 

สนุกมากขึ้น 

การที่มีสมาชิก 2 ทีม อยู่กันคนละภูมิภาค ก็ไม่ได้ท ำให้การ 

ทำงานของ Eco Architect เกิดปัญหาหรือเป็นอุปสรรคใน 

การทำงานแต่อย่างใด คำรณวางจังหวะชีวิตในการทำงาน 

ของตนเองไว้ว่า ครึ่งเดือนแรกเขาจะอยู่ที่กรุงเทพฯ ส่วนครึ่ง 

เดือนหลังจะไปอยู่ที่ภูเก็ต ท ำให้เขาสามารถดูแลสมาชิกทั้ง 2 

ทีมได้อย่างครอบคลุม โดยอาจจะมีการปรับเปลี่ยนตามงาน 

ได้ในบางครั้ง และหากเกิดปัญหาในช่วงเวลาที่เขาไม่อยู่กับ 

ทีมจะใช้ระบบวิดีโอคอลกับสมาชิกในทีม ซึ่ง Eco Architect 

ใช้ระบบการทำงานเช่นนี้มาตั้งแต่ก่อนจะเกิดสถานการณ์ 

โควิด 19 ที่ทำให้การทำงานในหลายองค์กรเริ่มใช้การประชุม 

ผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น ดังนั้นในช่วงที่เกิดโควิดจึงแทบ 

ไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของพวกเขา 

นอกจากนี้ Group Chat on Facebook Messenger คืออีก 

รูปแบบหนึ่งของการทำงานร่วมกันของ Eco Architect ที่ 

น่าสนใจเป็นอย่างมาก คำรณใช้กลุ่มสนทนาออนไลน์นี้มา 

ตั้งแต่เริ่มแรกของการทำงาน 

เราจะพยายามสอนให้เด็กเรารู้ทุกเรื่อง 

คุณสมบัติสำคัญอย่างหนึ่งของการเป็นสมาชิกครอบครัว Eco 

Architect คือคำรณจะพยายามคัดเลือกสมาชิกที่เป็นคนใน 

พื้นที่นั้น ดังนั้นสมาชิกทีมภูเก็ตส่วนมากก็จะเป็นคนในภูเก็ต 

เช่นเดียวกับทีมกรุงเทพฯ ที่ถึงแม้จะมีความหลากหลาย 

มากกว่า แต่ส่วนมากจะเป็นคนกรุงเทพเช่นกัน สาเหตุของ 

การทำเช่นนี้ ส่วนหนึ่งก็เพราะความเชื่อว่า คนในพื้นที่นั้นๆ 

จะมีความรักในบ้านเกิดของพวกเขา แต่จะช่วยกันสร้างงาน 

ที่ทำให้เมืองของเขาเติบโตในแนวทางที่ดีได้ 

สำหรับการคัดเลือกสมาชิก นอกจากภูมิลำเนา สิ่งที่คำรณ 

ให้ความสำคัญอันแรกคือ “การคัดเลือกจากแฟ้มสะสมผลงาน 

เพราะการดูผลงานที่ผ่านมา จะทำให้รู้ว่าคนคนนั้นเป็นคนแบบ 

ไหน หรือชอบงานออกแบบประมาณไหน แต่การสัมภาษณ์ 

ก็เป็นหัวใจสำคัญที่สุดในการตัดสินใจรับสมาชิกคนใหม่ของ 

บ้านหลังนี้ 

09-10 


กรุงเทพมหานคร 

11 



10 

Eco Architect has never had an official planned meeting due to a management style that 

treats employees like family members. Meetings take the form of group talks in which everyone 

exchanges and shares progress on various projects as well as current issues. Khamron takes 

on the position of family head at times, monitoring each staff member. Whenever he observed 

one of his employees struggling, he would approach them with a conversation that would help 

ease their anxieties and worries, or even boost the mood and make the atmosphere lighter and 

more fun. 

Eco Architect’s operations are not hampered by having two teams working in two separate 

regions. Khamron arranges his month by spending the first half in Bangkok and the second 

half in Phuket. This enables him to keep an eye on the two teams. Changes can be applied 

in a variety of circumstances. If an issue arises while Khamron is not physically present in 

the Bangkok or Phuket offices, he will be on a video conference with the team members. 

Eco Architect employed this approach of working even before COVID-19, which prompted a 

revolution in the way corporations manage their businesses through the use of online meeting 

technology. This is one of the reasons why COVID-19 had so little of an impact on the studio’s 

production and efficacy. 

One of the methods utilized to facilitate Eco Architect’s internal operations is the group chat 

on Facebook Messenger. What’s particularly intriguing is how Khamron has used the platform 

since the very beginning of his studio, from accelerating duties and tasks to making comments 

and even amending works that require modification. “Online chats via our group chat keep 

everyone in the team informed and up to date on progress and obstacles and enable constructive 

problem-solving, especially when similar challenges are encountered, and one may apply 

previously presented solutions to their own work.” 

“I believe it is a good system in that it allows everyone to collaborate, 

learn, and grow together. For example, everyone in the team can 

benefit from a revision of a staff member’s work. When I make a suggestion, 

everyone can see the specifics and solutions I provide for a 

certain problem, and they can use that as a guideline to solve similar 

problems. It’s as though everyone is learning alongside one another, 

and there are no secrets since everyone can see everything.” 

ทั้งในการแบ่งงาน แนะนำ หรือแม้กระทั่งปรับแก้งานของ 

ทุกคนในทีม การคุยงานผ่านระบบสนทนาออนไลน์แบบกลุ่ม 

เช่นนี้ทำให้สมาชิกทุกคนในทีมรู้ว่าใครก ำลังทำอะไรอยู่ และ 

ใครติดขัดปัญหาอุปสรรคตรงไหน อย่างไร มีวิธีการแก้ไข 

ปัญหาอย่างไร และเมื่อเกิดปัญหาที่คล้ายคลึงกันกับตัวเอง 

ก็สามารถนำเอาแนวทางการทำงานไปใช้ร่วมกันได้ 

I teach my staff about every aspect of the job. 

One of the requirements for being a part of the Eco Architect family, or at least what Khamron 

looks for when hiring new employees, is that the individual has to be from the region where 

the offices are situated. Simply put, the bulk of the Phuket office’s employees hail from Phuket, 

and the same is true for the Bangkok office, where, although having a more diversified crew, 

the majority of them are still from Bangkok. This arises in part from his idea that people’s 

passion for their hometowns would become a driving force behind their desire to push their 

communities ahead towards a better path and future. 

“เรารู้สึกว่าระบบนี้ดี ตรงที่ว่ามันทำให้เราได้เรียนรู้ ไป 

ด้วยกันและเกิดพัฒนาการในการทำงานร่วมกัน เช่น 

คนนี้ทำงานนี้อยู่ ส่งงานมายังไม่เรียบร้อย เมื่อเราปรับ 

แก้กลับไป คนอื่นก็จะเห็นการแก้งานของเราไปด้วย เขา 

ก็จะจำได้ว่าถ้าเป็ นงานลักษณะนี้ รายละเอียดจะเป็ นแบบ 

นี้ ควรทำอย่างไร เหมือนการเรียนรู้ ไปด้วยกัน มันจะไม่ 

แบบไม่ได้มีความลับ ทุกคนก็จะเห็นด้วยกันทั้งหมด” 

9 

11 

In addition to their hometowns, Khamron’s first consideration when hiring a new team member 

is their “portfolio.” Each person’s work will help him understand their personality and preferred 

styles of work. Nonetheless, interviews are still an important part of Khamron’s decision to add 

a new member to this family of his.

professional 

ECO ARCHITECT 

130 131 

“When I interview someone, certain responses let me know whether the person 

shares the same vision and direction as me or not, which plays a significant role in 

my decision to ask them to join our team.” The work they have done serves as the 

initial filter, although it does not completely determine the choice I make. We may 

not be able to work effectively together even if someone has an excellent portfolio 

but has an altogether different attitude or philosophy, which is usually expressed 

during the interview.” 

Working on Eco Architect entails working closely with Khamron. One staff member will 

be in charge of three projects, each of which will take 1-2 years to complete. Seniority exists 

despite the flexibility of the work system, and everyone looks out for one another. While 

everyone has their own tasks and duties, the senior members of the team will show the 

younger ones the ropes. 



บ้านลอยลม ภูเก็ต 

“ตอนสัมภาษณ์ บางคำถามที่เราถามแล้วเขาตอบ แล้ว 

มันเป็ นแนวทางเดียวกับเรา เราก็จะรับเขาเข้ามาทำงาน 

ด้วยกัน ผลงานที่ผ่านมาคือเป็ นตัวคัดกรองด่านแรกให้ 

เรา แต่ว่าไม่ได้มีผลถึงขนาดว่าเราจะต้องรับ ถ้าสมมุติ 

ผลงานดี ประทับใจมาก แต่สัมภาษณ์ ไปแล้วอาจจะ 

คนละแนวทางกัน ก็อาจจะไม่ได้ทำงานด้วยกันอยู่ดี” 

เมื่อได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวEco Architect ทุกคน 

จะได้ทำงานร่วมกับคำรณโดยตรง โดย 1 คน จะได้รับผิดชอบ 

งานประมาณ 3 โครงการ ซึ่งระยะเวลาการทำงานมักจะ 

ยาวนานเป็นปีหรือสองปีและในความยืดหยุ่นของระบบการ 

ทำงาน ก็ยังมีระบบลำดับชั้นของรุ่นพี่-รุ่นน้อง ที่มีไว้เพื่อดูแล 

กันและกัน แม้ทุกคนจะได้รับผิดชอบโครงการของตัวเอง แต่ 

รุ่นน้องที่เข้ามาใหม่ก็จะมีรุ่นพี่คอยบอกรายละเอียดการท ำงาน 

หรือแนะนำว่าควรทำอย่างไร 

ระบบการทำงานของ Eco Architect แบ่งเป็นการทำงานของ 

ทีมนักออกแบบและทีมเขียนแบบ การทำงานจะเริ่มจากทีม 

ออกแบบ และส่งต่อให้ทีมเขียนแบบในการเก็บรายละเอียด 

ทุกอย่างจนพัฒนาเป็นแบบก่อสร้าง หลังจากนั้นทีมออกแบบ 

จะเข้ามาดูแลเรื่องการก่อสร้างจนกระทั่งสร้างเสร็จสมบูรณ์ 

สำหรับทีมนักออกแบบ สมาชิกในทีมจะต้องดูภาพรวมทั้ง 

ในส่วนของงานออกแบบสถาปัตยกรรมและออกแบบภายใน 

รวมถึงงานภูมิสถาปัตยกรรม แม้ว่าในทีมจะมีทั้งสถาปนิก 

และมัณฑนากร แต่ก็ไม่ได้มีการแบ่งขอบเขตการท ำงานกัน 

อย่างชัดเจน นักออกแบบ 1 คน จึงต้องทำงานทั้งออกแบบ 

สถาปัตยกรรม และออกแบบภายใน แล้วก็สามารถดูภาพรวม 

ของงานภูมิสถาปัตยกรรมได้ ในส่วนรายละเอียดที่ซับซ้อน 

หรือต้องการความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษจะเป็นการท ำงานร่วม 

กับภูมิสถาปนิกจากภายนอก ดังนั้นทีมออกแบบที่รับผิดชอบ 

แต่ละโครงการจึงต้องดูแลตั้งแต่ต้นจนจบโครงการ เริ่มตั้งแต่ 

การนำเสนอกับลูกค้า และจบงานเมื่อโครงการสร้างเรียบร้อย 

“เราจะพยายามสอนให้เด็กเรารู้ทุกเรื่อง เพราะว่าเรา 

ออกแบบสถาปั ตยกรรมกับระบบนิเวศ งานของเราจึง 

เป็ นเหมือนงานที่ต้องกลมกลืนและเป็ นเนื้อเดียวกัน” 

แม้จะแยกกันรับผิดชอบแต่ละโครงการ แต่ถ้าเกิดปัญหา 

ในการทำงาน ทุกคนในบริษัทก็จะมาช่วยกันจัดการงานให้ 

เรียบร้อยร่วมกัน ดังนั้นสมาชิก ทั้ง 2 ทีม จึงมีโอกาสได้พูด 

คุยกันเสมอแม้จะทำงานคนละที่ก็ตามสิ่งเหล่านี้ต่างหลอมรวม 

ให้ Eco Architect กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวเหมือนกับงาน 

ออกแบบที่พวกเขาเขาสร้างสรรค์ขึ้นมา 

13 

บ้านลอยลม ภูเก็ต 

14 

แบบจาลอง บ้านลอยลม 

ภูเก็ต 

13 

14 

Eco Architect’s work method splits employees into two teams: production and design. The 

design team starts the work process, while the production team works on all the details to 

develop working drawings. The building process begins with the design team supervising and 

ensuring that everything is done according to plan. Members of the design team must keep 

their eyes on a project’s complete overview, from architecture to interior and landscape design. 

Despite the fact that we have architects and interior designers on our team, no clear line is 

drawn between the scopes of work. The members of the design team must be able to work 

on the architecture and interior design while overseeing the overall look and feel of landscape 

architecture. Details that are more complicated or require special expertise typically involve 

collaborating with outsourced landscape architects. But each design team is responsible for 

a project from inception to completion, from client presentations to finishing and handing over 

the completed work. 

“I try to teach my staff about every aspect of the job because our approach encompasses the 

design of both architecture and the ecosystem, and the works are like these unified creations 

of these two components that are interconnected and inseparable.” Despite having their own 

tasks and duties, every team member helps ensure that the jobs get done properly. This implies 

that while working in different locations, members of the two teams will always be in the loop. 

These factors keep Eco Architect in unison, much like the great works they create. 

A house that breathes the same air as nature. 

Almost throughout their decade-long career, Eco Architect has built a client base, with half 

of their clients being in Phuket and the other half being owners with projects around the 

country and beyond. Their most distant project to date is a restaurant in Malta that they codesigned 

with another architect from New York, as well as a project in Seim Reap, Cambodia. 

While the quantity of their overseas projects has declined owing to a variety of constraints, 

the majority of their clientele in Phuket are predominantly expats. The Bangkok branch, on the 

other hand, only has Thai clients. As a result of this distinction, the portfolios of the two offices 

vary. Projects in Phuket and other areas outside of Bangkok where nature is still a dominant 

element and weather conditions are still relatively good tend to have styles that differ from 

those in Bangkok, where spaces, neighborhoods, and several limitations and factors must 

be considered. Nonetheless, 80% of Eco Architect’s projects are domestic, with the basic 

principle of the design being “a house that breathes the same air as nature.” Meanwhile, in 

other projects such as hotels, resorts, restaurants, and cafés, “comfort” remains at the center 

of every design, from living to dining and resting spaces. 

“We create works to improve people’s quality of life; to allow them to take a 

full breath of fresh air because we want to design a house that shares the same 

breath as nature. That is the area in which we wish to excel.”

professional 

ECO ARCHITECT 

132 133 

บ้านที่หายใจร่วมกับธรรมชาติ 

ตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปี ของ Eco Architect ลูกค้าครึ่งหนึ่ง 

อยู่ภูเก็ต ส่วนอีกครึ่งหนึ่งกระจายไปทั่วประเทศตั้งแต่เหนือ 

จรดใต้ รวมไปถึงต่างประเทศ ไกลสุดสำหรับ Eco Architectu 

คือการทำร้านอาหารที่หมู่เกาะมอลตาร่วมกับสถาปนิกจาก 

นิวยอร์ก นอกจากนี้ยังมีงานที่เสียมเรียบ กัมพูชา ซึ่งปัจจุบัน 

ในส่วนของงานต่างประเทศจะลดน้อยลง เนื่องจากข้อจำกัด 

ต่างๆ สำหรับลูกค้าที่สาขาภูเก็ตส่วนมากจะเป็นต่างชาติมาก 

กว่าคนไทย ส่วนที่สาขากรุงเทพฯ จะเป็นคนไทยล้วน ท ำให้ 

ลักษณะงานของทั้ง 2 พื้นที่มีความแตกต่างกัน งานที่ภูเก็ต 

หรือที่ต่างจังหวัดอื่นๆ ด้วยความที่ยังมีความเป็นธรรมชาติ 

อากาศยังดี รูปแบบงานก็จะเป็นรูปแบบที่แตกต่างจากงาน 

ที่กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความซับซ้อนมากกว่า 

และมีหลายปัจจัยที่ต้องคำนึง แต่ถึงอย่างไรผลงานของ Eco 

Architect ประมาณ 80% ก็จะเป็นการออกแบบบ้านซึ่งมี 

แนวคิด “บ้านที่หายใจร่วมกับธรรมชาติ” เป็นหัวใจการ 

ออกแบบ นอกจากนี้ งานที่เหลือก็เป็นโรงแรม รีสอร์ท ร้าน 

อาหารหรือร้านกาแฟ ทุกงานออกแบบจะต้อง “อยู่สบาย” 

ไม่ว่าจะเป็นอยู่บ้านสบาย กินอาหารสบาย หรือพักผ่อนสบาย 

“ไม่ใช่ว่าเราไปสร้างเพื่อเท่ๆ แต่ว่ามันต้องไปช่วยให้ 

คุณภาพชีวิตเขาดีขึ ้น หรือว่าให้เขาหายใจได้เต็มปอด 

เพราะเราอยากออกแบบบ้านที่หายใจร่วมกับธรรมขาติ 

เราอยากจะเป็ นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้” 

ขั้นตอนแรกของการทำงานและเป็นหัวใจที่ Eco Architect ให้ 

ความสำคัญ คือ การเก็บข้อมูลพื้นที่โครงการ โดยจะเริ่มจาก 

การศึกษาวิเคราะห์พื้นที่โดยรอบที่ตั้งโครงการ (Site surrounding) 

ทั้งการเก็บข้อมูลภาพรวมของที่ดิน และการเก็บ 

ข้อมูลความเร็วลม ทิศทางแดด ลม ข้อมูลฝน มาประกอบกัน 

ทั้งหมด เป็นการพยายามใช้ประโยชน์จากธรรมชาติที่มีอยู่ 

มาใช้ในการออกแบบให้มากที่สุด 

“เรื่องการเก็บข้อมูลสำคัญ เพราะว่าก่อนออกแบบแล้ว 

ต้องไปรู้ว่าข้อมูลที่อยู่รอบๆ มันเป็ น ทั้งแดดลมฝน น ้ำ 

ทุกอย่าง สำคัญหมด” 

อีกขั้นตอนหนึ่งของการทำงานที่อาจจะเรียกได้ว่าป็นความ 

พิเศษของ Eco Architect คือการทดลองจำลองการหันหน้า 

ของบ้านรูปทรงต่างๆ ในแต่ละทิศ เพื่อดูว่าทิศไหนที่เหมาะ 

กับบ้านทรงแบบนี้ ต้องวางบ้านในทิศไหน จะร้อนหรือไม่ 

แล้วก็ทำการบันทึกไว้ เป็น “คัมภีร์” ที่ส่งต่อให้สมาชิกในทีม 

ได้ใช้งาน ซึ่งเป็นนำความรู้จากการเรียนระดับปริญญาโท 

ของคำรณมาประยุกต์ใช้กับการทำงาน งานทุกหลังเขาจะ 

เป็นคนวางทิศให้ว่าบ้านหลังนี้ แสงเข้า ลมเข้า แต่ไม่จ ำเป็น 

ต้องทำการจำลองแบบนี้กับทุกหลัง ในกรณีที่งานไหนมี 

รูปแบบหรือบริบทที่คล้ายคลึงกัน ก็สามารถน ำ “คัมภีร์” 

นี้ไปปรับใช้งานได้ทันที 

“เราใช้หลายๆ อย่างมาประกอบในการทำงาน แต่เน้น 

เรื่องการนำองค์ความรู้เรื่องพลังงานที่มีมาประกอบ 

ด้วย มันจะไม่ใช่แค่สภาพแวดล้อมแบบนี้ สร้างแบบนี้ 

แต่เราก็ใช้องค์ความรู้เรื่องพลังงานที่เรามีมาประกอบ 

เพราะว่าเราจะอยู่สบายไม่ได้ ถ้าเราไม่เข้าใจบริบท” 

15 

แบบจาลอง The Motifs 

Eco Hotel จันทบุรี 

16-17 


จันทบุรี 

16 

The first and most important element in Eco Architect’s work process is data collection. 

From site surrounding study to overall site condition, to specifics of wind directions and 

speeds, sun trajectories, and seasonal rainfall, information on a site is diligently acquired 

and evaluated. Everything will be considered in the development of a design, allowing for 

the best use of natural surroundings and conditions. 

“Data collection is critical because we need to know about these surrounding 

factors before creating a design, whether it’s sunlight, wind, rain, or water.” 

Another phase, and maybe one of Eco Architect’s notable characteristics, is the creation 

of models to study variations of building orientation. The method aids the design team in 

researching and determining the best orientation for each type of house, as well as whether a 

certain orientation for a certain type of house would result in a higher interior temperature or 

not. The results have been collected and compiled into the studio’s “bible,” which everyone 

on the team may access. This methodology is an application of what Khamron learned 

throughout his post-graduate studies. For each project, Khamron would concentrate on 

building orientation, ensuring that each house or structure makes the maximum use of natural 

light and ventilation. Because of the ‘bible,’ any project with similar details or context to the 

previously documented issues and solutions might benefit from the collected data. 

“We incorporate a lot of elements and factors into our work process, but we 

particularly focus on the integration of our growing body of knowledge in 

energy, knowing that a comfortable living experience can never be achieved 

without a true understanding of the context.” 

17 

Bann Sook Jai Dee (Bangkok) transforms the owner’s lifestyle from one of spending most of 

each day in an air-conditioned room to one of relishing living in a house where an air conditioner 

is no longer essential. Bann Loi Lom (Phuket) demonstrates a superb use of nature’s 

enormous potential with a roof structure built to carry rainwater to a water tank placed 

beneath the elevated floor of the house, providing a year-round supply of rainwater to the 

residents. A drone was used to assist with data collection, which led to the conclusion that 

lifting the home 8 meters higher would eliminate the need for air conditioning. The design of 

Motif Eco Hotel produces a building that breathes in sync with nature. By building the rooms 

with a space in the middle that allows for each unit to open to the presence of nature, the 

work proves and verifies that a house that breathes the same air as nature is a viable notion 

that has been translated into practical architectural creations. 

We are who we are, and they are who they are, and we have all been brought together. The 

majority of the studio’s early clientele were foreigners who prioritized energy conservation 

and environmental concerns. Eco Architect has demonstrated significant understanding of 

these subjects through their work as they learn through each project that they produce. 

15 

“They value natural wind and the process of making a house accommodate 

and enhance natural airflow and ventilation. It taught me not to make functions 

overlap when designing a home and making what the purpose of this 

functional area is obvious, while being sure they don’t hinder each other’s 

airflow. Apart from that, in situations where they can, the eaves should extend 

as far as possible. It’s also vital to think about how to keep a structure and 

its inhabitants as sheltered from the sun as possible.”

professional 

ECO ARCHITECT 

134 135 

บ้านสุขใจดี (กรุงเทพมมหานคร) ที่สามารถเปลี่ยนวิถีชีวิต 

จากคนที่อยู่ห้องแอร์มาตลอดชีวิต ให้ไปอยู่แบบไม่เปิดแอร์ 

แล้วรู้สึกมีความสุขกว่า หรือ บ้านลอยลม (ภูเก็ต) ที่ดึง 

ศักยภาพของธรรมชาติมาใช้ในการออกแบบได้อย่างมาก 

ตัวอย่างเช่น การเลือกทำหลังคาเพื่อรับน้ำฝน แล้วเอาน้ำฝน 

มาเก็บไว้ใต้ถุนบ้าน ทำให้สามารถใช้น้ำฝนได้ทั้งปี หรือการ 

ใช้โดรนบินขึ้นไปเก็บข้อมูล แล้วได้ผลจากการวิเคราะห์ว่า 

ถ้ายกบ้านขึ้นประมาณ 8 เมตร บ้านหลังนี้จะไม่ต้องเปิด 

เครื่องปรับอากาศ และ The Motifs Eco Hotel ที่ออกแบบให้ 

เป็นโรงแรมที่หายใจร่วมกับธรรมชาติ ด้วยการออกแบบเป็น 

ห้องที่แทรกด้วยพื้นที่ตรงกลาง ท ำให้ทุกห้องสามารถเปิดหา 

ธรรมชาติได้ ล้วนเป็นบทพิสูจน์และยืนยันว่า “บ้านที่หายใจ 

ร่วมกับธรรมชาติ” ไม่ใช่แค่แนวคิดที่จับต้องไม่ได้ แต่ Eco 

Architect สามารถสทำให้สิ่งเหล่าเกิดขึ้นได้และมีอยู่จริง 

เราก็เป็ นเรา เขาก็เป็ นเขา แล้วเราก็มาเจอกัน 

ช่วงแรกของ Eco Architect ลูกค้าส่วนมากคือชาวต่างชาติ 

ซึ่งให้ความสำคัญกับเรื่องการประหยัดพลังงาน นอกจากจะ 

ได้เรียนรู้จากงานเหล่านี้ ยังท ำให้ Eco Architect ให้้ความ 

สำคัญกับเรื่องเหล่านี้ในงานออกแบบอยู่เสมอ 

18 

ณัฐวดี สัตนันท์ 

จบการศึกษาจากคณะ 

โบราณคดี มหาวิทยาลัย 

ศิลปากร ปั จจุบันกำาลัง 

ศึกษาต่อระดับปริญญา 

เอกสาขาสถาปั ตยกรรม 

พื้นถิ ่น ที่คณะสถาปั ตย- 

กรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย 

ศิลปากร พร้อมกับการ 

ทำาบริษัทชื่อ “สนใจ” ที่ 

ทำางานเรื่องการพัฒนา 

เมือง การให้คนเป็ นศูนย์- 

กลางและกระบวนการ 

มีส่วนร่วมในรูปแบบที่ 

หลากหลาย 

Nuttawadee Suttanan 

completed her bachelor’s 

degree in archaeology 

and is currently pursuing 

PhD in vernacular 

architecture at 


Silpakorn University. 

She is also a partner 

of “SONJAI”, a studio 

working on urban development, 

people-centered 

and participatory 

process in various 

means. 

In Khamron’s view, not only foreigners but also Thais are becoming increasingly aware of 

matters such as nature and the environment, pollution, natural disasters, and pandemics. 

Following the peak of COVID-19, individuals have prioritized their quality of life over the 

appearance of their homes. From having visual references of their ideal houses and current 

trends and designs in mind, the requirements are now being geared toward a “more comfortable 

living environment for a higher quality of life.” It is an architect’s responsibility to design 

and construct a house that is both visually appealing and pleasant to live in. 

“It used to be that clients wanted to build a modern-looking home with 

contemporary architectural style, but now they want to build a house with 

true livability—a house that corresponds with their lifestyles and quality of 

living; a house where they can breathe fresh air and have a good night’s sleep. 

People are becoming increasingly conscious of their quality of life.” 

Aside from changing customer needs, one of the visible changes among Eco Architect’s 

clients is a deeper knowledge of the studio’s design philosophy and approach. Such a shift 

gives them greater creative freedom when creating a work. Everyone is now being drawn to 

one another through their shared interests and tastes, as well as the vision and trajectory 

they are pursuing. 

“เขาให้ความสำคัญเรื่องใช้ลมธรรมชาติ ทำอย่างไรให้ 

บ้านรับลมได้ดี ลมไหลเวียนได้ตลอด ทำให้แบบเรารู้ว่า 

การทำบ้านอย่าให้การใช้งานซ้อนทับกันเยอะ ให้ชัดเลย 

ว่าส่วนไหนเป็ นอะไร แล้วก็อย่าให้มันไปซ้อนบังลมกัน 

แล้วก็การยื่นชายคา ในทิศที่ควรยื่นก็ยื่นไปเยอะๆ เลย 

หรือทำยังไงให้ป้ องกันความร้อนจากแสงแดดได้มาก 

ที่สุ ดเท่ าที่ทำได้” 

ส่วนในปัจจุบัน คำรณวมองว่าไม่ใช่เพียงแค่ชาวต่างชาติ แต่ 

คนไทยก็เริ่มให้ความส ำคัญกับเรื่องธรรมชาติ มลพิษ ภัยพิบัติ 

โรคระบาด มากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงหลังจากโควิด คนให้ 

ความสำคัญกับเรื่องคุณภาพชีวิตมากกว่าเรื่องความสวยงาม 

จากเมื่อก่อนที่ลูกค้าจะมีภาพบ้านในใจ โดยเน้นไปที่รูปแบบ 

ที่ร่วมสมัยตามสมัยนิยม แต่ตอนนี้โจทย์กลับเป็น “อยู่สบาย 

ขึ้น และทำให้ใช้ชีวิตได้ดีขึ้น” ดังนั้น ในฐานะสถาปนิกหน้าที่ 

สำคัญก็คือการออกแบบให้สวยงามและอยู่สบายไปพร้อมกัน 

“แต่ก่อนก็อยากจะได้บ้านรูปทรงร่วมสมัย พอช่วงหลังๆ 

เขาไม่ได้สนใจเรื่องพวกนั้น เขาสนใจว่า บ้านต้องอยู่ 

สบายจริง ต้องแบบตอบโจทย์วิถีชีวิตของเขา คุณภาพ 

ชีวิตเขาต้องดีขึ ้น เขาได้หายใจได้เต็มปอด เขาจะนอน 

หลับสบาย เขามองเรื่องคุณภาพชีวิตเป็ นหลัก” 

มากยิ่งขึ้น ทำให้การทำงานของพวกเขาใส่ความเป็นตัวตน 

ของพวกเขาได้เต็มที่ เหมือนว่าพวกเขาต่างดึงดูดกันและกัน 

ด้วยความชอบ ความสนใจ ทีเป็นไปในทิศทางเดียวกัน 

“ช่วงแรกลูกค้าอาจจะเป็ นคนทั่วไปที่แค่อยากออกแบบ 

บ้านที่สวยงาม แต่ช่วงหลัง เขามาหาเราเพราะเขารู้จัก 

เรา ว่าเราออกแบบแนวนี้ เราถนัดด้านนี้ เขาเข้าใจเรา 

ว่าเราเป็ นอย่างนี้แหละ เราก็จะออกแบบงานออกมา 

ประมาณนี้ เมื่อเราก็เป็ นเรา เขาก็เป็ นเขา แล้วเราก็มา 

เจอกัน ชอบในสิ ่งที่คล้ายกัน ก็ทำให้คุยและเข้าใจอะไร 

บางอย่างได้ง่ายขึ ้น” 

ในปัจจุบันที่โลกเริ่มให้ความส ำคัญกับการออกแบบตาม 

สมัยนิยมลดน้อยลง แต่ให้ความสำคัญกับเรื่องธรรมชาติและ 

สิ่งแวดล้อมมากขึ้น สำหรับ Eco Architect นี่คือสัญญานที่ดี 

ดังนั้นเป้าหมายในอนาคตของ Eco Architect จึงเป็นการ 

ทำให้บริษัทเล็กๆ แห่งนี้ สร้างสรรค์ผลงานที่มีคุณภาพ มี 

ความสุขกับการงาน และมีส่วนในการสร้างเมืองและโลกที่ดี 

ไปพร้อมกัน 

18-19 


จันทบุรี 

“We used to have people who wanted to create a beautiful-looking home. 

However, clients have recently turned to us because they are familiar with 

our design philosophy and expertise. They understand our nature. They can 

anticipate how our design will turn out. We are who we are, they are who 

they are, and everyone is brought together because we like similar things, 

which allows us to communicate and grasp certain concepts more easily.” 

This is the world and the time when people are less concerned with popular design trends 

and more conscious of nature and the environment. This is undoubtedly a good sign for 

Eco Architect. The long-term ambition for Eco Architect is for their small design business 

to continue producing high-quality work, for every employee to love what they do, and to 

contribute to the creation of better communities and, ultimately, a better world. 

“I want us to be a small but high-quality studio capable of doing amazing 

things for people, cities, and the world. We want to do our jobs with happiness, 

and we want to continue to improve our work with each passing year.” 

นอกจากความต้องการของลูกค้าจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา 

ความเปลี่ยนแปลงอย่างหนึ่งคือลูกค้าของ Eco Architect จะ 

เริ่มเป็นกลุ่มลูกค้าที่เข้าใจแนวทางการออกแบบของพวกเขา 

“เราอยากได้บริษัทที่เล็กๆ แต่ว่ามีคุณภาพ สามารถ 

สร้างสิ่งดีๆ ให้กับผู้อยู่อาศัย ทั้งเมืองทั้งโลกของเรา 

เพราะเราอยากทำงานแบบมีความสุข อยากทำงานให้ 

ดีขึ ้น ในทุกๆ ปี ” 

19

136 

professional / studio 

S.O.S ARCHITECTS 

137 

S.O.S 

Architects 

The ASA Journal talks to S.O.S Architects, 

a Chiang Mai-based studio founded by 

Chaikla Dangboon and Tawanshine 

Intarachit. 

ทีมงาน S.O.S Architects 

ART FARMER 

จุดเริ ่มต้นของ S.O.S Architects เริ ่มขึ ้น 

ได้อย่างไร และชื่อสตูดิโอนี้มีที่มาจากอะไร 

ชัยกล้า แดงบุญ: หลังจากพวกเราเรียน 

จบจากที่ มช. เราก็สมัครงานประจำกันปกติ 

เหมือนคนอื่นๆ แต่ทุกอย่างเริ่มจากการมอง 

หางานเสริม เราก็เลยรับงานออกแบบมาทำ 

พาร์ทไทม์ควบคู่ไปกับงานประจำ โดยทุกเย็น 

จะมีผม ชัยกล้า แดงบุญ, ตะวันฉาย อินทรชิต 

และเพื่อนอีกคนหนึ่งที่ตอนนี้ออกไปทำอย่าง 

อื่นแล้วเรา 3 คนจะตกลงกันว่าหลังจากทุกคน 

เคลียร์ภารกิจของตัวเองเสร็จแล้วจะนัดกันมา 

รวมตัวทำงาน พอเราทำแบบนี้ไปได้สักพักจน 

มีงานเยอะขึ้น ต้องไปพบลูกค้า ต้องไปหน้างาน 

มากขึ้น ก็เลยตัดสินใจลาออกจากงานประจำ 

เพื่อมาดูแลแต่ละส่วน นับจากวันนั้นจนตอนนี้ 

น่าจะประมาณ 12 ปีได้แล้ว 

ส่วนชื่อ S.O.S จริงๆ น่าจะมีที่มาจากหนังสือ 

art4d ตอนนั้นเราตกลงชื่อสตูดิโอกันไม่ได้ 

ก็เลยเปิดนิตยสารมาหน้าหนึ่งถ้าเจออะไรก็ 

จะใช้ชื่อนั้นเลย (หัวเราะ) ในใจก็หวังว่าจะเปิด 

มาแล้วให้เจอหน้าที่เป็นงานสถาปัตยกรรม 

แต่ดันไปเปิดเจอหน้าที่เป็นโฆษณาหลอดไฟ 

รุ่น sense and simplicity ซึ่งถ้าย่อแล้วก็จะ 

เป็น SAS แต่เราว่ามันแปลกๆ ก็เลยเปลี่ยน 

เป็น SOS ที่เป็นรหัสมอสขอความช่วยเหลือ 

ก็เปรียบเปรยเหมือนกับว่าใครที่อยากออกแบบ 

หรือรีโนเวทก็ให้นึกถึงเราก่อนอะไรแบบนั้น 

งานออกแบบในเชียงใหม่ส่วนใหญ่เป็ นงาน 

สเกลประมาณไหน และ S.O.S Architects 

มีความสนใจงานประเภทใดเป็ นพิเศษ 

ชัยกล้า แดงบุญ: ทุกคนน่าจะรู้ดีว่าเชียงใหม่ 

ส่วนใหญ่งานประเภทบ้าน โรงเรม ร้านอาหาร 

และร้านกาแฟจะเยอะ ช่วงแรกที่รับงานเราก็ได้ 

งานประเภทนี้ตลอดแต่จะสเกลไม่ได้ใหญ่มาก 

ประมาณ 200-350 ตร.ม. พอมาปัจจุบันก็มี 

งานสเกลใหญ่ๆ เข้ามาเพิ่มขึ้น ทั้งบ้านขนาด 

ใหญ่หรือโรงแรม ถ้าถามถึงความสนใจก็คง 

สนใจอาคารทุกประเภททั้งที่เคยทำมาและยัง 

ไม่เคยทำ เพราะรู้สึกว่าแต่ละโปรเจ็คต์มันก็จะ 

มีความแตกต่างกันไปตามโจทย์และข้อจำกัด 

ดีไซน์หรือสไตล์ต่างๆ ก็ไม่เหมือนกัน แต่ที่ 

ผ่านมาผลงานของเราอาจจะหนักไปที่โรงแรม 

กับร้านกาแฟเยอะหน่อย เพราะโซนภาคเหนือ 

ไม่ว่าจะเป็นเชียงราย ลำปาง ลำพูน ซึ่งเป็น 

พื้นที่ท่องเที่ยวก็จะมีอาคารประเภทเหล่านี้เกิด 

ขึ้นเยอะ แต่พอทุกวันนี้ที่เราเริ่มโปรโมทงานลง 

โซเชียลที่ทำให้คนจากหลายๆ ที่มองเห็นผลงาน 

เรามากขึ้น เราก็ได้งานประเภทอื่นแทรกๆ เข้ามา 

รวมถึงงานในภาคอื่นๆ หรือจังหวัดอื่นๆ ด้วย 

ช่วยยกตัวอย่างผลงานที่รู้สึกประทับใจ 1-3 

ผลงาน 

ชัยกล้า แดงบุญ: จะมีบ้านหลังหนึ่งที่รู้สึกชอบ 

มาก เพราะโจทย์จากเจ้าของบ้านค่อนข้างน่าสนใจ 

คือเจ้าของบ้านหลังนี้เค้าจะค่อนข้างเก็บตัวไม่ชอบ 

สุงสิงกับใคร ดีไซน์รอบบ้านก็จะถูกออกแบบให้ 

ทึบและปิดกั้นจากภายนอกเยอะหน่อย แต่ภายใน 

ตัวบ้านก็ยังออกแบบให้รับแสงธรรมชาติได้ดี 

บวกกับตัวเค้าเองก็ชอบเรื่องวัสดุแปลกใหม่ด้วย 

มันก็เลยมีอะไรให้ได้ลองดีไซน์เยอะ ก็เป็นโจทย์ 

ที่สนุกดี แล้วก็มีอีกหลังอยู่แม่ก ำปอง ซึ่งไซต์ตรง 

นั้นอยู่ติดริมผา เราก็เลยต้องคิดโครงสร้างอาคาร 

ที่อยู่ใกล้กับผานั้น ซึ่งยังมีข้อจ ำกัดอื่นๆ และ 

ความท้าทายอีกเยอะมาก อันนี้ก็เป็นอีกโปรเจ็คต์ 

ที่รู้สึกประทับใจที่สามารถผ่านงานนี้มาได้ 

แนวทางการทำงานของสตูดิโอจากวันแรก 

จนวันนี้เป็ นอย่างไร 

ชัยกล้า แดงบุญ: จากการตั้งชื่อสตูโอแผลงๆ 

ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า simplicity ตรงนี้เราก็ 

รู้สึกชอบคำนี้ด้วย เพราะรู้สึกว่างานที่เราท ำเรา 

ก็เน้นมองกลับมาที่ความเรียบง่าย โดยความ 

เรียบง่ายในที่นี่อาจสะท้อนอยู่ในเรื่องใดเรื่อง 

หนึ่ง เช่น รูปลักษณ์ที่ออกมาอาจไม่ได้ดูเรียบ 

ง่ายแต่ฟังก์ชั่นเรียบง่าย หรือฟังก์ชั่นครบครัน 

แต่ดีไซน์ที่ออกมาดูเรียบๆ คลีนๆ ตรงนี้ก็อยู่ 

ที่โจทย์ ข้อจำกัด และการใช้งานของเจ้าของ 

ด้วย ผลงานของเราและงานที่เราทำมาก็เลย 

จะมีความหลากหลายอยู่พอสมควร เพราะ 

ช่วงแรกๆ เราก็รับงานหลายแนวเพื่อให้เรารู้ 

แนวทางการทำงานของเรา ซึ่งทุกวันนี้เราก็ 

เริ่มเข้าที่เข้าทางมากขึ้น มีความเป็นระบบและ 

เป็นบริษัทมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน อันนี้ก็น่าจะเป็น 

เรื่องของประสบการณ์ตามระยะเวลา เพราะเรา 

ก็เปิดมากัน 10 ปีกว่าแล้ว ในอนาคตก็เชื่อว่า 

คงจะรักษาสิ่งที่มีอยู่และปรับแนวทางบางอย่าง 

ให้เหมาะสมกับพวกเรามากขึ้นไปเรื่อยๆ เพราะ 

ไม่ว่าจะดีไซน์หรือการทำงานมันก็ต้องมีการ 

ปรับตัวตามยุคสมัยอยู่แล้ว 

MAR.CNX 

TARYN TARA Cafe and Stay 

The Concrete Cave 

The Concrete Cave

138 

professional / studio 

S.O.S ARCHITECTS 

139 

TARYN TARA Cafe and Stay 

For example, the appearance may not look simple, 

but the function is simple. Or the functions are 

complicated, but the design that comes out looks simple 

and clean. Here it also depends on the briefs, limitations, 

and requirements, or functional needs, of the client. 

How did S.O.S Architects start? 

And where does the name S.O.S 

Architects come from? 

Chaikla Dangboon: After we graduated 

from CMU, we applied for regular jobs, 

just like everyone else. But it all started 

with looking for a side job, so we accepted 

part-time design work along with regular 

work. Every evening there will be me, 

Tawanshine Intarachit, and another friend 

who has now gone out to do something 

else. Then three of us agreed that after 

one had cleared his own duties, we would 

come together to work. We did this for a 

while until we had more work; sometimes 

we needed to meet the clients, sometimes 

to do the site visit. These things were 

getting more and more. So I decided to 

quit my full-time job to take care of each 

part of the job. Now it has been probably 

about 12 years already. 

As for the studio name SOS, it came accidentally 

from the art4d magazine. At that 

time, we couldn’t agree on the name of the 

studio. So I opened one page of art4d, and 

we just thought that if we found something 

interesting on that page, we would use that 

for the name of the studio (laughs); hopefully, 

we would get some nice words! But the 

page turned out to be a light bulb advertisement 

with the title Sense and Simplicity, 

which could be abbreviated as S.A.S. But 

we think it’s strange. So we just switched 

to S.O.S., which is Morse code for help. It 

is likened to anyone who wants to design 

or renovate, think of us first—something 

like that. 

What scale is most of the design 

work in Chiang Mai, and what 

kind of work is S.O.S Architects 

particularly interested in? 

Chaikla Dangboon: As everyone knows, 

in Chiang Mai, most of the jobs are in the 

categories of houses, hotels, restaurants, 

and coffee shops. Initially, our studio got 

quite a few of this type of work, but the 

scale was not very big, about 200–350 

square meters. Only later do we have 

larger projects, like big houses or hotels. 

If you ask, I would say we are interested 

in all types of buildings, either those we 

have done before or those we have never 

had any chance to do. Because I feel that 

each project will be different according 

to the brief, problem, and limitations, and 

naturally, designs and styles are also 

different, But in the past, most of our work 

was in hotels and coffee shops since the 

north, whether it’s Chiang Rai, Lampang, 

or Lamphun, is a tourist area, and there are 

a lot of these types of buildings. Anyway, 

after we started to promote our work on 

social media, we got wider followers and 

drew more people to see more of our work, 

and we got other types of work coming in, 

including work in other parts of the country 

or other provinces as well. 

Would you share with us a few 

examples of works that impressed 

you? 

Chaikla Dangboon: There is a 

house that I really like. The briefs and 

requirements from the client are quite 

interesting. The owner is quite introverted 

and doesn’t socialize much, so the 

exterior, or outer walls, of the house were 

designed to be rather solid and look quite 

enclosed from the outside. But the inside 

was designed to get good natural light. 

Plus, the owner likes to try new materials, 

so there is a lot for us to try out and 

experiment with design. It’s a fun project. 

And then there is another house in Mae 

Kampong, whose site is next to the edge 

of the cliff. So we had to think of a building 

structure in that particular setting, which 

also has many other limitations and many 

more challenges. These are a few projects 

that I am impressed with, and I am glad we 

have been able to get through them. 

How has the studio worked from 

day one until today? 

Chaikla Dangboon: I would say we 

always come back to the word “simplicity” 

from the prank name of the studio, which 

is the origin of the practice. Here, we also 

like this word in the sense that we always 

focus on simplicity in the work that we do. 

The simplicity here may be reflected in one 

subject. For example, the appearance may 

not look simple, but the function is simple. 

Or the functions are complicated, but the 

design that comes out looks simple and 

clean. Here it also depends on the briefs, 

limitations, and requirements, or functional 

needs, of the client. Our works and the 

work that we have done, therefore, are 

quite diverse because, in the beginning, 

we got many types of jobs so that we 

know the way of our work. Now everything 

seems to fall more into place, be more 

organized, and be more systematic than 

ever before. I think this should be a matter 

of experience over time since we have 

been open for more than ten years now. 

And in the future, I believe that we will 

maintain what we have and rearrange 

some guidelines to suit us more and more. 

That is because, whether it’s design or 

work, it has to be adapted to the times. 

facebook.com/sosarchitect

140 

chat 

PRAKAN CHUNHAPONG 

141 

แนวทางของกรรมาธิการสถาปนิกล้านนา แตกต่างจากภูมิภาคอื่นๆ ตรงที่ภาคเหนือ 

มีจังหวัดใหญ่ก็คือเชียงใหม่ ที่มีจํานวนสมาชิกอยู่มากที่สุด และด้วยความที่จังหวัดใน 

แถบภาคเหนือ มักมาเรียนด้วยกันอยู่ที่เชียงใหม่ ทําให้สมาชิกส่วนใหญ่รู้จักกัน มีความ 

กลมเกลียวหรือความสนิทสนมของสถาปนิกล้านนามากเป็ นพิเศษ ตอนนี้สมาชิกของ 

เรามีร่วมพันกว่าคน ทําให้มีการจัดตั้งศูนย์อีกหนึ ่งศูนย์ขึ ้น คือศูนย์พิษณุโลก ซึ ่งเป็ น 

เมืองใหญ่ของภาคเหนือตอนล่าง ได้ช่วยกระจายข่าวสารต่างๆ รวมถึงการเข้าไปสร้าง 

กิจกรรมให้เกิดการพบปะมากขึ ้น 

ปราการ ชุณหพงษ์ 

ประธานกรรมาธิการสถาปนิกล้านนา 

อาษา: ช่วยเล่าย้อนกลับไปสั้นๆ ว่าคุณปราการ 

เข้ามาเป็ นส่วนหนึ ่งของกรรมาธิการสถาปนิก 

ล้านนาได้อย่างไร 

ปราการ ชุณหพงษ์: ผมเป็นประธานกรรมาธิการสถาปนิก 

ล้านนาน่าจะคนที่ 18 โดยสถาปนิกล้านนาเราก่อตั้งขึ้นมา 

น่าจะร่วม 10 กว่าปีแล้ว โดยมีประธานท่านแรกคืออาจารย์ 

องอาจ รัชเวทย์ ก่อนหน้านี้ก็มีโอกาสได้เข้ามาช่วยงานเป็น 

อนุกรรมการอยู่แล้ว ในฐานะสถาปนิกวิชาชีพคนหนึ่งแล้ว 

ก็เป็นลูกศิษย์ของอาจารย์องอาจด้วย ถ้าให้ย้อนกลับไปที่ 

ผ่านมาก็จะมีพี่ๆ ดึงมาช่วยงานอยู่ตลอด พอเข้ามาช่วยงาน 

บ่อยๆ ก็ได้มีโอกาสเข้ามาเป็นประธานกิจกรรมพิเศษ จน 

ดำาเนินการมาถึงปัจจุบันก็ได้มาเป็นประธานกรรมาธิการ 

ส่วนภูมิภาคล้านนา โดยเข้ามาในวาระที่แล้ว ตอนนี้ก็เข้าสู่ 

วาระที่ 2 สำาหรับตำาแหน่งตรงนี้ 

อาษา: แนวทางและการทำางานในส่วนของ 

กรรมาธิการสถาปนิกล้านนามีการดำาเนินงาน 

อย่างไรบ้าง 

ปราการ ชุณหพงษ์: แนวทางของกรรมาธิการสถาปนิก 

ล้านนา เราจะต่างจากภูมิภาคอื่นๆ ตรงที่ ภาคเหนือเราจะ 

มีจังหวัดใหญ่ก็คือเชียงใหม่ที่มีจำานวนสมาชิกอยู่มากที่สุด 

ก็เลยทำาให้ทุกคนกระจุกตัวอยู่ที่เชียงใหม่ และด้วยความที่ 

เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน หรือทุกๆ จังหวัดในแถบภาค- 

เหนือ ตอนเรียนเค้าก็มักมาเรียนด้วยกันอยู่ที่เชียงใหม่ ก็ 

เลยทำาให้ส่วนใหญ่เค้าจะรู้จักกัน ไม่ว่าจะอยู่จังหวัดไหนก็มัก 

จะมาเรียนอยู่เชียงใหม่มันเลยทำาให้ความกลมเกลียวหรือ 

ความสนิทสนมของฝั่งล้านนาจะมีมากเป็นพิเศษรวมถึง 

5 มหาวิทยาลัยในแถบภาคเหนือก็จะมีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 

มหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนา มหาวิทยาลัยแม่โจ้ มหา- 

วิทยาลัยนเรศวร และมหาวิทยาลัยพะเยา มักจะไปมาหาสู่ 

กันที่เชียงใหม่ตลอดอยู่แล้ว เพราะเดินทางกันง่ายไม่ได้ 

ไกลกันมาก เลยทำาให้การทำากิจกรรมต่างๆ ก็จะมารวม 

ศูนย์กลางกันที่เชียงใหม่เสมอ เลยเป็นที่มาด้วยว่าทำาไม 

ภูมิภาคล้านนาเราได้มีการก่อตั้งศูนย์กรรมาธิการสถาปนิก 

ล้านนามาร่วมสิบกว่าปีแล้ว 

อาษา: นอกจากการติดต่อกิจกรรมและ 

ข่าวสารผ่านความสนิทสนมหรือบอกต่อๆ กัน 

ไปแล้วในส่วนภูมิภาคล้านนา ทางกรรมาธิการ 

ยังมีการสื่ อสารผ่านช่องทางใดอีกไหมสำาหรับ 

สมาชิกกลุ่มอื่นๆ 

ปราการ ชุณหพงษ์: อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าพวกเรา 

มักจะเรียนมาด้วยกันเป็นส่วนใหญ่ บางคนจบปริญญาตรี 

อีกที่หนึ่งแล้วก็ไปต่อปริญญาโทอีกที่หนึ่งในภูมิภาคเดียวกัน 

ก็เลยทำาให้เราจะยิ่งสนิทสนมขยายกันไปเป็นวงกว้าง เวลา 

มีกิจกรรมอะไรก็จะบอกต่อๆ กันไปหรือส่งข้อมูลให้กันเป็น 

ทอดๆ ส่วนตอนนี้ภาพรวมของสมาชิกเราที่มีร่วม 1,000 

กว่าคน ก็เลยทำาให้มีการจัดตั้งศูนย์อีก 1 ศูนย์ขึ้นก็คือศูนย์ 

พิษณุโลก ซึ่งเป็นหัวเมืองใหญ่ของภาคเหนือตอนล่าง จะ 

ดูแลในส่วนของจังหวัดนครสวรรค์ สุโขทัย อุตรดิตถ์ แถบ 

ฝั่งโน้นได้ช่วยกระจายข่าวสารต่างๆ รวมถึงการเข้าไป 

สร้างกิจกรรมให้เกิดการพบปะมากขึ้น และเพิ่มการส่งเสริม 

กิจกรรมทางวิชาการและวิชาชีพให้กับศูนย์พิษณุโลก ได้ 

คอยผลักดันเนื้อหาเหล่านี้ไปสู่สมาชิกในแถบฝั่งนั้น

142 

chat 

PRAKAN CHUNHAPONG 

143 

อาษา: ในวาระของคุณปราการที่ผ่านมา 

มีกิจกรรมใดบ้างที่ดำาเนินการไปแล้วและ 

ได้รับการตอบรับจากสมาชิกออย่างไร 

ปราการ ชุณหพงษ์: ถ้าเป็นเรื่องกิจกรรมต้องแยกแบบนี้ 

คือสถาปนิกจะมีหลายคาแร็คเตอร์ บางคนก็ทำางานอย่าง 

เดียวไม่สนกิจกรรมอะไรเลย บางคนก็ชอบที่จะสนุกสนาน 

ถ้าเป็นงานวิชาการก็จะไม่ค่อยมาร่วม แต่ถ้าเป็นงานสังสรรค์ 

ก็จะมาบ่อยหน่อย หรือฝั่งที่ชอบกิจกรรมวิชาการหรือทาง 

วิชาชีพก็จะมาแต่ถ้ากิจกรรมประเภทสันทนาการก็จะไม่มา 

พอมายุคเราในฐานะที่เคยทำาด้านกิจกรรมพิเศษมาก่อน 

เราก็เลยค่อนข้างเข้าใจสถาปนิกแต่ละกลุ่ม เราก็เลยมาปรับ 

ให้มีความวาไรตี้มากขึ้น มีการจัดงานวิชาการโดยเชิญ 

วิทยากรชั้นนำา หรือสถาปนิกที่เป็นระดับบุคคลตัวอย่าง 

ในวงการมาร่วมพูดคุยกัน แล้วก็มีการแจกของที่ระลึก 

เป็นหนังสือด้านสถาปัตยกรรมต่างๆ แล้วก็ส่วนท้ายของ 

กิจกรรมเราก็จะแทรกสันทนาการเข้าไป อาจไม่ใช่กิจกรรม 

เพื่อการบันเทิงเสมอไป แต่จะเป็นกิจกรรมสเก็ตช์มือบ้าง 

ทานอาหารพูดคุยกัน หรือกิจกรรมร่วมสนุกกันในรูปแบบ 

และมิติใหม่ๆ มันก็จะทำาให้คนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่มาเชื่อม 

กันได้ เพราะช่วงวัยที่ต่างกันเหล่านี้มันจะเป็นโอกาสยาก 

แล้วที่เค้าจะได้เจอกัน แต่กิจกรรมของเราจะพยายามลด 

ช่องวางระหว่างวัยตรงนี้ ให้ได้มาพูดคุยทำาความรู้จักกัน 

ได้มองเห็นกันในมุมอื่นๆ นอกจากเรื่องงาน 

สําหรับงานสถาปนิกล้านนา แน่นอนว่าเป็ นงานใหญ่ 

ที่ผ่านมาเราก็จะจัดอยู่ที่เชียงใหม่มาโดยตลอด 

แต่เมื่อสองวาระที่แล้วก็ได้มีการทดลองจัดกิจกรรม 

นี้เป็ นครั้งแรกที่จังหวัดลําพู น ซึ ่งอยู่ห่างจากเชียงใหม่ 

แค่ 30 กิโลเมตร การไปจัดที่ลําพู น ก็เป็ นประโยชน์ 

กับเมืองรอง ทําให้เกิดการกระตุ้นและเพิ่มมุมมอง 

จินตภาพด้านสถาปั ตยกรรมให้กับคนในพื้นที่ ในภาย 

หลังก็มีการหารือกันว่าเราอาจมีการวางแผนจัดงาน 

สลับพื้นที่ไปตามความเหมาะสม 

อาษา: เร็วๆ นี้มีกิจกรรมอะไรที่กำาลังวางแผน 

อยู่และกำาลังจะจัดขึ ้นบ้าง 

ปราการ ชุณหพงษ์: ที่ผ่านมาในช่วงหลายปีที่ทำางานอยู่ 

ตรงนี้ เราก็จะเห็นว่ามีกิจกรรมสำาคัญๆ มากมายเลยที่ได้ 

สืบเนื่องต่อกันมา โดยเฉพาะกิจกรรมมอบรางวัลให้กับ 

อาคารประเภทต่างๆ ซึ่งหลังจากที่ได้มอบรางวัลให้แก่ 

อาคารนั้นๆ ไปแล้ว จะสังเกตว่าจะไม่ได้มีการเข้าไปมีส่วน 

ร่วมอะไรกับอาคารเหล่านั้นต่อ เราก็เลยพยายามที่จะสร้าง 

กิจกรรมเหล่านั้นให้เกิดการต่อเนื่อง เพื่อให้อาคารที่ได้ 

รับรางวัลไป รู้สึกเป็นอาคารที่มีคุณค่าจริงๆ และยังได้รับ 

ความสนใจโดยทั่วไปอยู่ เช่น กิจกรรมที่ผ่านมาเร็วๆ นี้ 

จะมีกิจกรรมออกแบบแสงให้กับสถาปัตยกรรมที่ถูกลืมไป 

หรือวัดที่มีคุณค่าด้านสถาปัตยกรรมต่างๆ ในแถบล้านนา 

ของเราให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง 

ตัวอย่างก็จะมีเจดีย์ดอยหลวงที่เชียงใหม่ เราก็สร้าง 

จินตภาพให้กับสถาปัตยกรรมเจดีย์หลวงซึ่งเป็นวัดที่สำาคัญ 

ของเมืองเชียงใหม่และยังมีการพังทลายของเจดีย์องค์ใหญ่ 

เราก็ใช้เทคนิคการออกแบบแสงเพื่อเติมยอดเจดีย์ เพื่อ 

สร้างจินตนาการให้กับผู้คนในชุมชนและนักท่องเที่ยวได้ 

เห็นภาพโครงสร้างเต็มๆ ของเจดีย์ อีกทั้งตรงนี้เราก็นำ าข้อมูล 

ไปส่งต่อให้กับคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัย 

เชียงใหม่ได้ไปดำาเนินงานต่อจนเกิดเป็นกิจกรรมต่อเนื่อง 

ขึ้นมา เพราะงบประมาณของสมาคมที่เรามีอยู่ในมือ 

ส่วนใหญ่มักจะจัดกิจกรรมได้เพียงช่วงสั้นๆ แต่พอเรามีภาคี 

เครือข่าย อย่าง ททท. องค์กรเอกชน และสถาบันการศึกษา 

มันก็สามารถทำาให้กิจกรรมสามารถจัดอย่างต่อเนื่องและ 

ขยายฐานการเข้าถึงกิจกรรมได้มากขึ้นในทุกๆ กลุ่ม 

อาษา: จากภาพรวมของกิจกรรมส่วนใหญ่ 

ที่เห็นมักจะถูกจัดขึ ้นที่เชียงใหม่เป็ นหลัก 

ในอนาคตจะมีการกระจายกิจกรรมไปยัง 

จังหวัดใกล้เคียงอื่นๆ บ้างไหม 

ปราการ ชุณหพงษ์: อย่างที่กล่าวไปข้างต้น การที่ 

กิจกรรมมักมากระจุกอยู่เชียงใหม่ เพราะสมาชิกส่วนใหญ่ 

จะอยู่ที่นี่ รวมการไปมาหาสู่ของสมาชิกในจังหวัดอื่นๆ ก็ 

มักจะแวะเวียนมาเชียงใหม่อยู่แล้ว การที่เรายกกิจกรรม 

ใหญ่ๆ ไปจัดที่จังหวัดอื่นและให้กลุ่มคนจำานวนมากเดินทาง 

ไปจังหวัดอื่นด้วยอาจเป็นเรื่องยาก เพราะภูมิประเทศ 

ของเราแถบภาคเหนือมักจะมีเส้นทางคดเคี้ยวอันตราย 

ตรงนี้เราก็เลยพยายามปักหมุดให้ที่เชียงใหม่เป็นพื้นที่จัด 

กิจกรรมหลัก ขณะที่ในส่วนของจังหวัดอื่นๆ เราก็ยกกลุ่ม 

คนของสมาคมเรา ซึ่งเป็นกลุ่มคนเล็กๆ เดินทางไปจัดงาน 

ให้เค้าเหมือนกัน เพื่อให้เค้าได้ซึมซับและเกิดการเผยแพร่ 

ด้านวิชาชีพของเรา รวมถึงสนับสนุนสมาชิกที่กระจายตัวอยู่ 

ในจังหวัดอื่นๆ ได้มีกิจกรรมในส่วนของจังหวัดตนเองด้วย 

สำาหรับงานสถาปนิกล้านนาแน่นอนว่าเป็นงานใหญ่ ที่ 

ผ่านมาเราก็จะจัดอยู่ที่เชียงใหม่มาโดยตลอดตามเหตุผล 

ข้างต้นที่กล่าวไป แต่เมื่อ 2 วาระที่แล้วก็ได้มีการจัด 

กิจกรรมนี้เป็นครั้งแรกที่จังหวัดลำาพูนเหมือนกัน ซึ่งลำาพูน 

อยู่ห่างจากเชียงใหม่แค่ 30 กิโลเมตร พอไปจัดที่ลำาพูน 

ก็เป็นประโยชน์กับเมืองรอง ทำาให้ได้มีการกระตุ้นและ 

เพิ่มมุมมองจินตภาพด้านสถาปัตยกรรมให้กับคนในพื้นที่ 

เหมือนกัน ในภายหลังก็เลยมีการหารือกันว่าเราอาจมี 

การวางแผนจัดงานสลับพื้นที่ไปตามความเหมาะสม 

อาษา: ความคาดหวังของกรรมาธิการ 

สถาปนิกล้านนาที่คาดหวังให้เกิดขึ ้นต่อสมาชิก 

รวมถึงภาคีเครือขายในส่วนภูมิภาคคืออะไร 

ปราการ ชุณหพงษ์: เวลาเราจัดกิจกรรมอะไรเราก็จะ 

แน่นอนเราก็จะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสมาคมของเรา 

อยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นด้านวิชาการหรือการให้ความร่วมมือกับ 

องค์กรอื่นๆ เช่น การเข้าไปช่วยแนะนำาด้านการออกแบบ 

ผังเมืองหรือการปรับปรุงอนุรักษ์สถาปัตยกรรมต่างๆ แต่ 

ขณะเดียวกันกิจกรรมสำาหรับสมาชิกที่มีหลายช่วงวัยเรา 

ก็ต้องมีการปรับให้เหมาะสมและดูไม่น่าเบื่อด้วย เช่น มี 

กิจกรรมถ่ายภาพ วาดภาพ หรือสัมมนาอะไรบางอย่าง 

ที่อาจไม่ได้วิชาการมาก เพื่อให้เกิดพื้นที่การแลกเปลี่ยน 

ความคิดและสานสัมพันธ์กันระหว่างสถาปนิกในส่วน 

ภูมิภาคของเรา สิ่งที่คาดหวังและมองเห็นจากสถานการณ์ 

ในปัจจุบันก็คือ เราจะเห็นว่ามีผู้คนมากมายที่เรียนจบจาก 

คณะสถาปัตยกรรมและการออกแบบแล้วไม่ได้ทำางานเป็น 

สถาปนิกต่อ หรือทำางานเป็นสถาปนิกไปแล้วเริ่มหันเหไป 

เปลี่ยนสาย เช่น เป็นผู้จัดออแกไนซ์ เป็น creator เป็นต้น 

ซึ่งในการจัดกิจกรรมของสมาคมแต่ละครั้งแน่นอนเรา 

ไม่ได้ต้องการแค่สถาปนิกมาร่วมงาน หรือไอเดียแค่คนที่ 

ประกอบวิชาชีพสถาปนิก แต่เรายังต้องการคนกลุ่มนี้เพื่อ 

มาผลักดันให้กิจกรรมสามารถลุล่วงไปด้วยดี ถ้าเรามีพี่- 

น้องที่เรียนสถาปัตย์มาแม้จะไปอยู่สายอื่น แต่ถ้าสามารถ 

มาร่วมกันจัดงาน หรือช่วยกันจัดงานตรงนี้ได้ ก็จะเป็น 

การช่วยกลับมาผลักดันให้กิจกรรมต่างๆ เกิดขึ้นได้อย่าง 

สมบูรณ์แบบมากขึ้น และเป็นการส่งเสริมให้กับวิชาชีพ 

สถาปนิกไม่ทางตรงก็ทางอ้อม

144 

the last page 

หลังจากได้รับหัวข้อ ‘On the Roof’ 

ในหัวก็มีภาพ pop up เร็วๆ ขึ้นมาทันที 

โดยการพ้องเสียง ‘On the Louvre’ 

ปิระมิดแก้วหรือหลังคากระจกใส 

ที่ออกแบบโดย I.M.Pei 

โดดเด่นเป็นสง่า ท่ามกลางกลุ่มอาคาร 

สถาปัตยกรรมคลาสสิก 

ความผิดที่ผิดทางในบางยุคบางสมัย 

กลับกลายมาเป็น iconic 

จนกลายมาเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่สำ าคัญ 

แห่งหนึ่งของกรุงปารีส 

Photo Courtesy of Peerapat Wimolrungkarat 

Upon receiving the title “On the Roof”, 

a quick image popped up in my head 

by rhyming ‘On the Louvre’. 

A glass pyramid, a clear glass roof, 

designed by I. M. Pei, 

that stands out elegantly among 

classical buildings 

seems to be idiosyncratic, 

but it has become iconic architecture 

that became one of the significant 

symbols of Paris. 

พีรพัฒน์ วิมลรังครัตน์ 

จบการศึกษาจาก คณะ 


ภาควิชาสถาปั ตยกรรมหลัก 

มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ 

เป็ นอดีตช่างภาพประจำาตัว 

คุณอภิสิทธิ ์ เวชชาชีวะ 

(นายกรัฐมนตรีคนที่ 27 

ของประเทศไทย), อดีต 

บรรณาธิการภาพถ่าย 

ของสำานักข่าวออนไลน์ 

The Momentum.co, 

อดีตบรรณาธิการภาพถ่าย 

ของสำานักข่าวออนไลน์ 

The Standard ปั จจุบัน 

เป็ น Leica Ambassador 

(Thailand), Member กลุ่ม 

สตรีทโฟโต้ ไทยแลนด์ และ 

ช่างภาพสถาปั ตยกรรม @ 

somethingarchitecture 

Peerapat 

Wimolrungkarat 

aka ADDCANDID, 

Peerapat graduated 

from the Department of 

Architecture, School of 

Architecture, Assumption 

University. He is a 

former personal photographer 

of Mr. Abhisit 

Vejjajiva (the 27th Prime 

Minister of Thailand), 

a former photo editor 

of online news agency 

Momentum.co, and a 

former photo editor 

of online news agency 

The Standard. Currently, 

he is the Leica Ambassador 

(Thailand), and 

he is also a member of 

Street Photo Thailand 

and Architectural 

Photographers @ 

somethingarchitecture.

ASA JOURNAL 12/2023

You also want an ePaper? Increase the reach of your titles

Delete template?

Save as template?