Create successful ePaper yourself
Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.
วัตถุดิบอื่นๆ<br />
เอกสารประกอบการเรียนเคมี ม.6 ของ คุณครูเบญจวรรณ โชติกุล ปี 2554<br />
� แร่โดโลไมต์ แร่หรือหินตะกอนที ่ประกอบด้วย [CaMg(CO3)2] เป็ นส่วนใหญ่ ลักษณะคล้ายหินปูน<br />
ผสมเล็กน้อยในเนื ้อดิน ลดจุดหลอมเหลวของวัตถุดิบ และผสมในน ้าเคลือบ<br />
� สารประกอบออกไซด์<br />
� BeO Al2 O3 ผสมในผลิตภัณฑ์ที่ทนไฟสูง<br />
SiO2 B2O3 ผสมเพื่อท<br />
าให้ผลิตภัณฑ์เป็ นเนื ้อแก้ว<br />
SnO2 ZnO ใช้เคลือบเพื่อท<br />
าให้ทึบแสง<br />
� ดิกไคต์ องค์ประกอบเหมือนดิน แต่มีโครงสร้างผลึกต่างกัน<br />
อะลูมินาร้อยละ 28-32 โดยมวล จะเป็ นหินแข็ง น ามาแกะสลักเป็ นรูปต่างๆ ไว้ประดับตกแต่ง<br />
อะลูมินาร้อยละ 11-28 โดยมวล ใช้ท าวัสดุทนไฟ ท ากระเบื ้องปูพื ้น<br />
อะลูมินาร้อยละต ่ากว่าข้างต้น ใช้ท าปูนซีเมนต์ขาว<br />
วัตถุดิบทุกชนิดที่ใช้ผลิตเซรามิกส์<br />
จะต้องท าให้บริสุทธิ ์ และบดให้มีความละเอียดตามต้องการ จากนั ้นจึงน ้า<br />
มาผสมกับน ้าและสารอื่นๆ<br />
ท าให้เนื ้อดินอยู่ในสภาพที่เหมาะสมในการขึ<br />
้นรูป<br />
2.2.2 การขึ้นรูปผลิตภัณฑ์<br />
การขึ ้นรูปผลิตภัณฑ์เซรามิกส์มีหลายวิธีด้วยกัน ดังต่อไปนี ้<br />
1.การเทแบบ โดยผสมดินกับน ้าจนได้ที่แล้วเทลงในแบบซึ<br />
่งมีรูปร่างต่างๆ ปล่อยไว้จนแข็งตัว<br />
จากนั ้นจึงแกะแบบและตกแต่งผลิตภัณฑ์ให้เรียบร้อยการขึ ้นรูปด้วยวิธีนี ้ ใช้ในการผลิตแจกัน ขวด และ<br />
เครื่องสุขภัณฑ์ต่างๆ<br />
2.การใช้แป้ นหมุน จะปั ้ นได้เฉพาะภาชนะที่มีลักษณะกลม<br />
ทรงกลมหรือทรงกระบอก เช่น การปั ้ น<br />
ไห โอ่ง อ่าง กระถาง แจกัน การปั ้ นต้องใช้ความช านาญเป็ นพิเศษจึงจะได้เป็ นรูปทรงตามต้องการ<br />
3.การหลอมเหลว โดยหลอมเหลวเนื ้อผลิตภัณฑ์ด้วยความร้อนแล้วเทลงในแบบโลหะหรือแบบ<br />
ทราย จากนั ้นปล่อยให้เย็นตัวลง ผลิตภัณฑ์ที่ได้จะมีเนื<br />
้อแน่นมากและทนต่อการกัดกร่อนสูง<br />
4.การอัดเนื ้อดินผ่านหัวแบบ เป็ นวิธีการขึ ้นรูปที่นิยมใช้ในระบบอุตสาหกรรมเช่น<br />
การท าผลิตภัณฑ์<br />
วัสดุทนไฟ กระเบื ้อง<br />
5.การอัดผงเนื ้อดินลงในแบบโลหะ เป็ นวิธีการขึ ้นรูปที่นิยมใช้ในระบบอุตสาหกรรมเช่นเดียวกัน<br />
ผลิตภัณฑ์ที่ขึ<br />
้นรูปเสร็จแล้ว ควรเก็บในที่ร่มให้เนื<br />
้อดินแห้งอย่างช้าๆ แล้วน ามาตกแต่งให้ผิวเรียบ จากนั ้นจึง<br />
น าไปตากหรืออบที่อุณหภูมิประมาณ<br />
40-60 องศาเซลเซียส<br />
กลุ ่มสาระการเรียนรู ้วิทยาศาสตร์โรงเรียนสตรีสิริเกศ