lakmuang_305
Create successful ePaper yourself
Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.
เล็กยาวอัตโนมัติแบบ เอเค-๔๗ (AK-47)<br />
และจรวดต่อสู้รถถังแบบ อาร์พีจี-๗ (RPG-<br />
7) ซึ่งถือเป็นอาวุธมาตรฐานที่ทุกฝ่ายใช้ใน<br />
พื้นที่ทางตอนเหนือของซีเรีย ทั้งทหารฝ่าย<br />
รัฐบาลซีเรีย, นักรบกลุ่มไอเอส, นักรบของ<br />
“กองกำลังซีเรียประชาธิปไตย” (SDF :<br />
Syrian Democratic Forces) ที่มีพวก<br />
เคิร์ดเป็นกองกำลังหลัก และนักรบ<br />
ของกองทัพปลดปล่อยซีเรียหรือ “เอฟเอส<br />
เอ” (FSA : Free Syria Army) ทำให้<br />
สามารถหากระสุนได้ง่าย ปรนนิบัติซ่อม<br />
บำรุงได้สะดวก แตกต่างจากนักรบไอเอส<br />
บางกลุ่มจากโลกตะวันตกที่ใช้อาวุธ<br />
ประจำกายแบบ เอ็ม-๔ (M-4) ซึ่งแทบจะ<br />
ไม่มีนักรบของกองกำลังใดเลยที่ใช้อาวุธ<br />
ชนิดนี้ในพื้นที่ซีเรียทางตอนเหนือ จึงอาจ<br />
เกิดปัญหาเกี่ยวกับกระสุนและการส่งกำลัง<br />
บำรุงอื่นๆ ในภายหลัง<br />
ส่วนการแต่งกายนั้น นักรบ “เค<br />
เอ็น” จะแต่งกายด้วยชุดพรางที่แตกต่าง<br />
กันเหมือนนักรบกองโจร ไม่มีเครื่องแบบ<br />
หรือชุดยูนิฟอร์มที่เฉพาะเจาะจงเหมือน<br />
หน่วยไอเอสอื่นๆ โดยช่วงแรกของปี ๕๗<br />
นักรบ “เคเอ็น” จากมาเลเซียบางคน<br />
ยังคงใช้ชุดพรางของกองทัพมาเลเซีย แต่<br />
จากคลิปวิดีโอล่าสุดในปี ๕๙ นักรบ<br />
“เคเอ็น” ส่วนใหญ่เปลี่ยนมาใช้ชุดพราง<br />
ดิจิทัลที่หลากหลาย ทั้งจากสหรัฐฯ<br />
เยอรมนี และจอร์แดน รวมทั้งมีอุปกรณ์<br />
ประกอบเครื่องแบบ เช่น สายโยงบ่า เสื้อ<br />
ใส่ซองกระสุน เป้สนาม เข็มขัดกระสุน<br />
ถุงมือ แว่นตา รองเท้าบูต และวิทยุสื่อสาร<br />
ครบถ้วน อันเป็นการแสดงออกถึงการ<br />
เตรียมการและความพร้อมของหน่วยใน<br />
การเข้าสู่สนามรบได้เป็นอย่างดี เอกลักษณ์<br />
สำคัญของกลุ่ม “เคเอ็น” ก็คล้ายกับกลุ่ม<br />
“ไอเอส” ทั่วไปคือ การไม่สวมหมวกเหล็ก<br />
ทุกชนิด นอกจากสวมผ้าคลุมศีรษะเท่านั้น<br />
ที่น่าสังเกตอีกประการหนึ่งคือ กลุ่ม “เค<br />
เอ็น” จะเลือกภารกิจที่มีความท้าทายใน<br />
สนามรบมากกว่างานธุรการและงานส่ง<br />
กำลังบำรุงทั่วไป เช่น พวกเขาเลือกที่จะ<br />
ทำการรบในแนวหน้า เป็นพลซุ่มยิง หรือ<br />
แม้กระทั่งเป็นมือระเบิดพลีชีพก็ตาม สิ่ง<br />
เหล่านี้ทำให้ “เคเอ็น” ได้รับการยอมรับ<br />
จากกลุ่มไอเอสในระดับหนึ่งเลยทีเดียว<br />
ดังจะเห็นได้จากการโพสต์ข้อความทาง<br />
สื่อออนไลน์แสดงความชื่นชมเหล่านักรบ<br />
“เคเอ็น” ในนาม “มูจาฮิดีน มาเลเซีย”<br />
และ “มูจาฮิดีน อินโดนีเซีย” อย่างต่อเนื่อง<br />
ในเรื่องของจำนวนตัวเลขของ<br />
กำลังพลกลุ่ม “เคเอ็น” นั้นมีจำนวนที่<br />
ไม่แน่นอน โดยสำนักงานต่อต้านการ<br />
ก่อการร้ายแห่งชาติของอินโดนีเซีย<br />
(National Counterterrorism Agency)<br />
คาดว่ามีชาวอินโดนีเซียมากกว่า ๕๐๐ คน<br />
หรืออาจจะถึง ๗๐๐ คน เข้าร่วมกลุ่ม แต่<br />
ตัวเลขดังกล่าวของทางการอินโดนีเซียนั้น<br />
เป็นการคาดการณ์ที่รวมชาวอินโดนีเซียซึ่ง<br />
เดินทางไปโดยจุดประสงค์อื่น เช่น การเดิน<br />
ทางเพื่อไปเป็นอาสาสมัครในการปฏิบัติ<br />
งานด้านมนุษยธรรมเพื่อช่วยเหลือชาว<br />
ซีเรียที ่ได้รับบาดเจ็บจากการทิ้งระเบิด<br />
และการโจมตีของรัฐบาลซีเรีย รัสเซีย และ<br />
ฝ่ายพันธมิตรตะวันตก ซึ่งไม่ถือว่าเป็น<br />
นักรบของกลุ่มไอเอส จึงไม่สามารถนับรวม<br />
บุคคลเหล่านี้เข้าในจำนวนนักรบได้ อีกทั้ง<br />
ตัวเลขก็ยังคงสับสน เพราะนักรบ “เคเอ็น”<br />
บางคนได้ลักลอบเดินทางกลับมายัง<br />
ประเทศของตนแล้ว ดังนั้นคาดว่าตัวเลข<br />
ของนักรบจากอินโดนีเซียที่แท้จริง น่าจะมี<br />
อยู่ประมาณ ๒๐๐ ถึง ๓๐๐ คนเท่านั้น โดย<br />
ตัวเลขที่ระบุจำนวนชัดเจนอยู่ที่ ๒๐๒ คน<br />
ในจำนวนนี้มีสตรีซึ่งเดินทางร่วมกับสามี<br />
เข้าสู่พื้นที่อีกด้วย กลุ่มสตรีเหล่านี ้ได้รับ<br />
หน้าที่พิเศษในกลุ่ม “เคเอ็น” เช่น เป็นครู<br />
หรือมีหน้าที่รับผิดชอบในการโฆษณา<br />
ชวนเชื่อผ่านเครือข่ายสังคมออนไลน์เพื่อ<br />
โน้มน้าวให้บุคคลอื่นๆ เข้าร่วมกับพวกตน<br />
ปัจจุบันผู้ที่ดำเนินการโฆษณาชวนเชื่อทาง<br />
เครือข่ายออนไลน์ของกลุ่ม “เคเอ็น” เป็น<br />
สตรีชาวอินโดนีเซีย ซึ่งสามีของเธอได้เสีย<br />
ชีวิตจากการสู้รบเมื่อเดือน เม.ย.๕๘<br />
กล่าวกันว่าจุดเริ่มต้นของ “กาติ<br />
บะห์ นูซันตารา” เกิดในกลางปี ๕๖ ที่เมือง<br />
“อัล ชาดาดี” (al Shadadi) จังหวัด “ฮา<br />
ซาก้า” (Hasaka) ประเทศซีเรีย (ปัจจุบัน<br />
ถูกยึดครองโดยกลุ่ม “เคิร์ด” (Kurds) โดย<br />
นายรูไซดัน อับดุล ฮาดี (Rusydan Abdul<br />
Hadi) นักศึกษาชาวอินโดนีเซียกับเพื่อน<br />
รวม ๔ คน ซึ ่งศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัย<br />
อิสลามนานาชาติ (the International<br />
Islamic University) ในกรุงอิสลามาบัด<br />
ประเทศปากีสถาน ได้เข้าร่วมกลุ่มต่อต้าน<br />
ติดอาวุธในซีเรียที่มีชื่อว่า “อัจนัด อัล-ฌาม”<br />
(Ajnad al-Sham) ซึ่งกลุ่มดังกล่าวนี้ต่อมา<br />
ได้เข้าร่วมกับกลุ่ม “ไอเอส” เขาเป็นบุคคล<br />
แรกๆ ที่นำแนวคิดการสร้างรัฐอิสลาม<br />
บริสุทธิ์มาเผยแพร่ในอินโดนีเซีย โดยผ่าน<br />
มาทางนายอาบู บัคการ์ บาร์เซียร์<br />
22<br />
พันเอก ศนิโรจน์ ธรรมยศ