Create successful ePaper yourself
Turn your PDF publications into a flip-book with our unique Google optimized e-Paper software.
งานซุ้่อมแซุ้มเสาอาคาร<br />
หอพระไตรปิิฎกว ัดอััปัสรสวรรค์์เป็็นอาคัารไม้กิลางนำซึ่่งมีเสาอาคัาร<br />
ทังสิน ๒ ชุุด้ ได้้แก่่ เสารอบ ๑๔ ต้น เสาร่วมใน ๖ ต้น รวมเป็็น ๒๐ ต้น<br />
โด้ยมีลักิษ์ณะเป็็นเสาแปัด้เหลียม ทีในสระนำเป็็นเสาตอม่อปููนซึ่ีเมนต์ซึ่่ง<br />
หล่อข่นเมือคัราวบูรณะอาคัารเมือ พ.ศิ. ๒๕๑๙ จากิกิารสำรวจสภาพพบว่า<br />
เสารอบนอกินันมีกิารเสือมสภาพเป็็นอย่างมากิโด้ยเฉพาะตังแต่บริเวณ<br />
เหนือเสาตอม่อยาวไปถึึงส่วนทีเป็็นอาคัาร จ่งด้ำเนินกิารเปัลียนเสารอบนอกิ<br />
ทังหมด้ใหม่โด้ยใช้้ไม้แด้ง ซึ่่งด้ำเนินกิารตามอย่างเทคน ิคัและวิธีกิารของช่่าง<br />
แบบโบราณ ซึ่่งจากิกิารถอด้รือเสานันพบว่า เสาทุกต้้นมีกิารต่อไม้บริเวณ<br />
ช่่วงกิลางของตัวเสา แต่ยังไม่ทราบแน่ชััดว่่าเป็็นเพราะเหตุใด้ และวิธีกิารต่อไม้<br />
ทีใช้้เรียกว่่า วิธีกิารเข้าเดืือยเข็ม โด้ยนำไม้สองส่วนมาปัระกิบกัันแล้วตอกิเดืือย<br />
เข้าไปั และเนืองจากตััวอาคัารเป็็นอาคัารไม้ทีมีกิารปัระดัับกิระจกิ และภายใน<br />
มีกิารเขียนภาพจิตรกิรรมฝ่าผนังจ่งไม่สามารถทำกิารถอด้รืออาคัารทังหลังได้้<br />
ดัังนั นวิธีกิารเปัลียนเสาไม้จ่งจำเป็็นต้องด้ำเนินกิารจากิด้้านล่างข่ นสู่ตัวบน<br />
ด้้วยกิารตังนังร้านแล้วตัด้ยกตััวอาคัารหล่อตอม่อปููนซึ่ีเมนต์ใหม่รูปัทรง<br />
แปัด้เหลียมตามขนาด้เสาไม้ เพือป้้องกัันตัวเสาผุกร่่อนในอนาคัต แล้วจ่งติด้ตัง<br />
เสาอาคัารโด้ยยังคังรอยต่อของอาคัารทีพบในบริเวณเดิิมไว้ ส่วนเสาร่วม<br />
ในสภาพไม่ผุกร ่อนมากน ักจ ึงทำกิารซึ่่อมปัะด้ามไม้ให้คังสภาพเดิิม<br />
สภาพเสาไม้ก่อนบูรณะ<br />
เสาไม้หอพระไตรปิิฎกิแห่งนี เป็็นเสาแปัด้เหลียมมีกิารตัดต่่อไม้เข้า<br />
เดืือยแบบ “เดืือยเข็น” บริเวณเหนือพืนหอพระไตรปิิฎกิข่นมาปัระมาณ<br />
๕๐ เซึ่นติเมตร ทีโคันเสาเทคัอนกร ีตหุ้มเป็็นทรงกิระบอกิ คัวามสูงเหนือ<br />
ระดัับนำในสระข่นมาปัระมาณ ๓๐ เซึ่นติเมตร บริเวณเสาไม้ทีอยู่เหนือ<br />
คัอนกร ีตทีเทหุ้มไว้ ส่วนใหญ่เนือไม้มีสภาพผุกร่่อนเนืองจากิคัวามชูืน<br />
เสาไม้แบ่งออกิเป็็น ๒ ปัระเภทและมีขนาดต่่างกััน ได้้แก่่ เสาไม้ภายนอกิ<br />
(ส่วนทีรองรับระเบียง) และเสาไม้ภายใน (ส่วนทีรองรับห้องพระไตรปิิฎกิ)<br />
เสาไม้รอบนอกเป็็นเสาไมรััง (ข้อมูลจากิกิารส่งพิสูจน์ชูินไม้ให้<br />
กิรมป่่าไม้) ส่วนทีมีกิารตัดต่่อไม้เหนือพืนข่นไปัเป็็นเสาไม้แด้ง จำนวน ๑๔ ต้น<br />
ขนาด้เสาโด้ยปัระมาณ ส่วนโคัน ๐.๒๐ ม. และส่วนปัลาย ๐.๒๐ ม. มี<br />
สภาพชูำรุด้เสียหายทุกต้้น<br />
เสาไม้รอบในเป็็นเสาไม้มะหาด้ จำนวน ๖ ต้น ขนาด้เสาโด้ย<br />
ปัระมาณ ส่วนโคัน ๐.๒๗๕ ม. และส่วนปัลายØ ๐.๒๕ ม. มีสภาพผิวไม้<br />
ผุกร ่อนโด้ยทัวไปัทังต้น มีจำนวน ๑ ต้น คืือต้นมุมด้้านทิศิตะวันตกิเฉียงใต้<br />
ส่วนอีกิ ๕ ต้น เนือไม้ผุกร ่อนบริเวณโคันเสาทีต่อจากิตอม่อคัอนกร ีตกิลม<br />
สำรวัจตรวัจสอบสภาพควัามชำรุดเสียหาย พร้อมเขียนแบบ<br />
หลังจากผ่่านขันตอนงานโบราณคัด้ี เพือตรวจสอบฐานรากิได้้<br />
ทำกิารกิลบดิินหลุมขุด้ตรวจกลัับคืืน จากินันจ่งเริมทำกิารทุบสกััด้คัอนกร ีต<br />
ทีเทห่อหุ้มเสาไม้ออกท ุกต้้น รวมทังตอม่อคัอนกร ีตทีวางอยู่บนฐานรากิเดิิม<br />
พบว่า เสารอบนอกิทังหมด้ จำนวน ๑๖ ต้น มีสภาพผุกร่่อนมากทุุกต้้น<br />
โด้ยเฉพาะบริเวณทีมีเสาปููนหุ้มตรงระดัับเหนือผิวนำจะผุกร ่อนมากิทีสุด้และ<br />
บางต้นพบว่าผุกร่่อนบริเวณทีเจาะเสียบไม้รอด้ ด้้วยเนืองจากิเสารอบนอกิได้้<br />
รับผลกิระทบจากน ้ำฝ่นและแสงแด้ด้อยู่ตลอด้ระยะเวลา<br />
จากิกิารตรวจสอบไม้เสายังพบว่า เสารอบนอกิทังหมด้เป็็นเสาที มี<br />
กิารตัดต่่อไม้บริเวณเหนือระดัับพืนทุกต้้น เมือตรวจสอบเนือไม้พบว่า<br />
ไม้ท่อนบนเป็็นไม้เต็งรัง ส่วนไม้ท่อนล่างเป็็นไม้แด้ง กิารตัดต่่อไม้ใช้้วิธีกิารต่อไม้<br />
แบบเดืือยเข็นแบบโบราณ<br />
สำหรับเสารอบใน จำนวน ๖ ต้น ตรวจสอบพบว่ามีสภาพชูำรุด้<br />
ผุกร่่อนบริเวณผิวไม้เพียงเล็กน้้อย ยกิเว้นต้นมุมด้้านทิศิตะวันตกิเฉียงใต้<br />
มีสภาพผุกร่่อนมากิ และจากิกิารตรวจสอบเนือไม้แล้วเป็็นไม้มะหาด้<br />
(ซึ่่งสอด้คัล้องกัับปััจจุบันทีภายในวัดยัังมีต้นมะหาด้ ขนาด้ใหญ่เหลืออยู่ ๑ ต้น)<br />
และเมือตรวจสอบเสาไม้ทีอยู่ภายในผนังของหอไตรก็็พบว่า บริเวณส่วนปัลาย<br />
ไม้ก็็มีกิารตัดต่่อด้้วยวิธีกิารต่อไม้แบบเดืือยเข็นเช่่นกััน แต่ยังอยู่ในสภาพ<br />
สมบูรณ์ดีีทุกต้้น<br />
118<br />
หอไตรวััดอัปสรสวัรรค์์<br />
การสานต่่องานอนุรักษ์์สถาปััต่ยกรรมไทย